ตอนที่ 28
(หมอ กูคุยกับเจ๊เอ๋ละนะ)
อั๋นไลน์มาหา หนึ่งชั่วโมงหลังจากมาส่งผมที่บ้านในเย็นวันอาทิตย์ ผมพิมพ์ข้อความตอบไปทันที
(เป็นไงวะ)
(เจ๊เฟลอะ ร้องไห้ด้วย)
ผมนึกสงสารเจ๊เอ๋ขึ้นมาจับใจ เค้าคงจะเสียใจมาก เจ๊เอ๋ที่ตลก ร่าเริงอยู่ตลอดเวลา กลับต้องมารู้สึกแย่
(เห้ย แล้วนี่เจ๊ทำไรอยู่)
(อยู่ในห้องอะ กูกำลังจะไปเรียกมากินข้าว)
(เออ ดูแลเจ๊ด้วยนะ บอกให้เค้าใจเย็นๆนะ)
(ขอบใจนะหมอ)
เจ๊เอ๋เหมือนเป็นพี่สาวของผมเช่นกัน ผมไม่อยากให้เค้าต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ผมจะช่วยอะไรได้บ้างนะ
(คอยบอกกูเรื่องเจ๊เอ๋ด้วยนะ)
(ครับผม)
อั๋นส่งสติ๊กเกอร์ตัวการ์ตูนขอบคุณตามมา
ผมยังไม่อยากถามต่อว่าเจ๊เอ๋จะทำอย่างไร จากนี้อะไรจะเกิดขึ้นก้คงต้องรอดูต่อไป
"พ่อ หมอถามไรหน่อยดิ"
ผมพูดขึ้นระหว่างที่กำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่กับพ่อ ขณะที่แม่กำลังล้างจานอยู่ในครัว
"ว่าไง"
"พ่อเคยมีกิ๊กปะ"
"เห้ย"
"มีอะไรรึป่าวคุณ" แม่ที่ได้ยินเสียงพ่อ ร้องถามมาจากหลังบ้าน
"ป่าวๆ ผมตกใจในทีวีน่ะ" พ่อตอบกลับไป ผมกลั้นหัวเราะไว้แทบตาย "ไอ้บ้า มาถามอะไรยังงี้"
"เหอะน่า หมอไม่บอกแม่หรอก"
"ไม่เคยๆ"
"จริงดิ"
"จริง พ่อจะโกหกแกทำไม"
"แล้วทำไมเมื่อกี้ต้องตกใจด้วย"
"เอ้า ตกใจสิ อยู่ๆมาถาม...ทำไมเหรอ" พ่อหรี่ตามองผมอย่างสงสัย
"ก้แฟนพี่สาวเพื่อนผมเค้ามีกิ๊กอะ"
"โธ่ นั่นมันวัยรุ่น"
"พ่อไม่เคยมีกิ๊กจริงดิ"
"เออสิ ถ้าแม่มาได้ยิน พ่อจะตัดค่าขนมแก"
ผมหัวเราะเอิ๊กอ๊าก ท่าทางพ่อลุกลี้ลุกลน กลัวแม่จะได้ยินแล้วเข้าใจผิดจริงๆครับ
"โห่ พ่อไม่ได้ทำผิดซะหน่อย กลัวไร"
"แกอยู่กับเรามา16ปีแล้วยังไม่รู้อีกเหรอว่าบ้านนี้ใครใหญ่"
ผมยิ้ม จะเรียกว่าพ่อผมกลัวเมียก้ไม่ถูกนัก แค่ว่าแม่สั่งอะไรแล้วพ่อกับผมต้องทำให้เป็นไปตามนั้น เพราะแม่ก้คือแม่ครับ- -
"แล้วพี่สาวเพื่อนแกทำยังไง"
"ผมก้ยังไม่รู้เลย ตอนนี้เค้าเสียใจมาก"
"ยังวัยรุ่นกันอยู่ก้งี้แหละ โอกาสจะเบื่อแฟนหรือไปเจอคนใหม่ๆที่ถูกใจกว่ามีตั้งเยอะ"
"แต่ผู้ใหญ่มีลูกมีเมียแล้วหลายคนยังมีเมียน้อยเลยนะ" ผมค้าน
"ใช่ พ่อหมายถึงวัยรุ่นมีโอกาสมากกว่าไง"
"แล้ว...พ่อไม่เคยถูกใจผู้หญิงคนอื่นมั่งเลยอ่อ หลังคบกับแม่ แบบ เคยแอบมองงี้ ต้องมีบ้างดิ"
"ก้...ยอมรับว่ามี"
"นั่นไง"
"ชู่วว เงียบเลยไอ้ตัวแสบ"
"มันเป็นสัญชาตญาณ แต่ก้แค่มอง พ่อไม่เคยมีคนอื่นเลยจริงๆ พ่อไม่อยากทำให้แม่เสียใจ"
"..."
"ยิ่งพอเรามีลูกด้วยแล้ว พ่อยิ่งทำแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด เพราะแกก้คงไม่อยากให้มี...ถ้าแกจะถามเหตุผลว่าทำไมพ่อไม่ทำแบบนั้นล่ะก้นะ"
ผมเงียบไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา รู้สึกโชคดีที่ผมโตมาด้วยความอบอุ่นและรู้สึกรักพ่อกับแม่มากขึ้นไปอีก
พ่อเองก้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ด้วยเหมือนกัน
"สองพ่อลูกคุยอะไรกันน่ะ เดี๋ยวจู่ๆก้เสียงดังขึ้นมา เดี๋ยวก้เบาลงเหมือนกระซิบกระซาบกัน มีความลับกับแม่เหรอ" แม่เดินออกมาจากห้องครัว ในมือถือจานผลไม้ที่หั่นแล้วมาด้วย
"ป่าวคร้าบบ" พ่อรีบตอบทันที แม่วางจานลงบนโต๊ะ
"ครับ" ผมเสริมเสียงใส
ถ้าเกิดว่าอั๋นมีใครอีกนอกจากผม ผมก้คงเสียใจมากเช่นกัน ไม่ต้องลองแทนความรู้สึกของเจ๊เอ๋มาคิดก้รู้เลย
เช้าวันต่อมา อั๋นเล่าให้ผมฟังว่าเจ๊เอ๋รู้สึกโอเคขึ้นแล้วและกำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะคุยกับพี่เหมาอย่างไร แต่จะรีบเคลียร์ให้เร็วที่สุด เมื่อผมถามต่อว่าเจ๊เอ๋มีท่าทางจะคบหรือเลิกกับพี่เหมา
"ไม่รู้ว่ะ กูไม่เคยเห็นเจ๊เป็นแบบนี้มาก่อนเลย...แต่กูอะอยากให้เจ๊เลิก ถ้าพี่เหมามีคนอื่น กูไม่โอเค"
"มึงบอกเจ๊เอ๋แบบนี้ด้วยปะ"
"ไม่ กูให้เจ๊ตัดสินใจ ถ้าเจ๊ไม่อยากเลิกหรือยังทำใจไม่ได้ก้ต้องแล้วแต่เค้า"
"แต่เจ๊เอ๋ต้องทนให้พี่เหมาทำงี้เนี่ยนะ"
"กูเข้าใจนะหมอ กูก้ไม่อยากให้เจ๊ต้องมาทน แต่เจ๊เอ๋ต้องเป็นคนเลือก กูทำได้แค่เตือน"
อั๋นสบตาผม ผมยังไม่ค่อยเข้าใจความคิดของมันนัก แต่ส่วนที่ว่าเจ๊เอ๋เป็นคนตัดสินใจก้เป็นเรื่องจริงอยู่
"กูจะไม่มีวันทรยศความรักของเรา กูจะไม่ทำให้มึงเสียใจด้วยการมีคนอื่น"
อั๋นจับมือผม ส่งยิ้มบางๆให้
"กูก้จะไม่ทำยังงั้นเหมือนกัน"
สัปดาห์สุดท้ายของงานกีฬาสีมาถึงในที่สุด ตลอดทั้ง4วันนี้ไม่มีการเรียนการสอน ช่วงบ่าย พวกผมไปดูการแข่งขันบาสเกตบอลรอบชิงชนะเลิศของมัธยมปลาย สีแดงพบกับสีเขียว มีนักเรียนและอาจารย์มาชมการแข่งนัดนี้แน่นสนาม
"กูบอกว่าให้ไปดูกีฬาอื่น นี่สีแดงชนะชัวร์ๆไม่ต้องลุ้นเลย พวกมึงจะลากกูมาดูนี่ทำไมวะ" ไอ้นนท์บ่น
"สีเขียวก้เล่นได้นะเว้ย" ผมพูด
"สีเขียวถ้าเจอไอ้อั๋นกับไอ้ต้าร์ก้แพ้แล้ว ไม่ต้องหลุดไปถึงสีแดงหรอก"
"เหอะน่า ดูมาตั้งแต่แมตช์คัดเลือกก้ดูให้จบดิวะ" ไอ้ต้าร์บอก
"ถ้าไม่มานี่ มึงจะไปดูไร ดูเด็กประถมแข่งเตะโฟมเหรอ" ไอ้เอกถาม เรียกเสียงฮาครืน
แม้ไอ้นนท์จะทำหน้าบูดเป็นตูดเป็ดตอนเดินเข้ามาในโรงยิม แต่เมื่อการแข่งเริ่มขึ้น มันกลับตื่นเต้นยกใหญ่
แน่นอนว่าสีแดงมีคะแนนนำสีเขียวอยู่มาก นักกีฬาสีเขียวเล่นสุดความสามารถ ทุกคนหอบตัวโยน
สีแดงเองก้เล่นเต็มที่เช่นกัน แม้จะเหนือกว่าทีมคู่ต่อสู้อย่างเห็นได้ชัด กองเชียร์สีแดงส่งเสียงดังทุกครั้งที่อาร์ตทำคะแนนได้ มีหลายครั้งที่ใช้เทคนิคตื่นตาตื่นใจ
"อาร์ตเล่นดีมาก" อั๋นพึมพำ ผมพยักหน้าเห็นด้วย
"ถ้าปีหน้าห้องเรากับห้องมันอยู่สีเดียวกันก้ดีดิ ฟอร์มทีมไปชนะสบายๆเลย"
"แต่กูอยากแข่งกับอาร์ตอีกนะ ยังไม่ได้ล้างแค้นเลย"
"เดี๋ยวก้แพ้อีกนะครับ" ผมแกล้งยั่ว
"เห้ย มึงพูดงี้ได้ไง" อั๋นละสายตาจากเกมส์ในสนามแล้วหันมาหาผมทันที
"เอ้า กูพูดผิดตรงไหน"
"นี่แฟนทั้งคนนะ มึงไม่เชียร์กูอ่อ"
"ไม่"
"เชียร์อาร์ตเหรอ"
"เออ อาร์ตเก่งกว่าอั๋นนิ"
"ไอ้หมอ"
อั๋นใช้แขนล็อคคอผม
"ปล่อย...โอ๊ย"
มันเขกหัวเข้าให้ทีหนึ่ง ตอนนี้หน้าผมซุกอยู่กับเสื้ออั๋น ผมปัดป่ายมืออย่างไร้ผล
"กูหายใจไม่ออก แค่กๆ" ผมแกล้งไอ อั๋นถึงยอมปล่อย เงยหน้าขึ้นมามองมัน หน้าบึ้งใหญ่เลยครับ
"กูน้อยใจจริงๆนะ"
"โอ๋ ไม่ร้องนะครับ กูแค่ล้อเล่น" ผมลูบหัวอั๋น
"ไม่เล่น"
"ขี้งอนว่ะ"
"..."
อั๋นยกแขนขึ้นกอดอก หันหน้ากลับไปมองในสนามฯ
"พวกมึงจะสวีทกันอีกนานมั้ยวะ" ไอ้นนท์แทรก
"มึงดูดิ อั๋นงอนกูเนี่ย" ผมหันไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆทันที
"อ้าว ง้อเลยเชี่ยหมอ" ไอ้ต้าร์หัวเราะ
"ใครทำมันงอนก้รับผิดชอบด้วย" ไอ้นนท์ยิ้มเยาะผม
"สัส ไม่ช่วยกันเลยนะ...เห้ย งอนกูจริงดิ" ประโยคหลังผมพูดกับไอ้คุณแฟนที่กำลังแก้มป่องอยู่
"..."
"อั๋นจ๋า~"
ผมขยับเข้าไปกอดอั๋น มันงอนผมจริงๆใช่มั้ยครับเนี่ย ไอ้สามตัวหันมาส่งยิ้มกวนตีนให้
"กูล้อเล่น กูก้ต้องเชียร์มึงดิ"
"ไม่ต้องเลย"
"อย่างอนเลยน่า"
"ไม่"
"หายงอนเหอะ นะๆ" ผมเขย่าแขนมันหลายๆที
"จุ๊บก่อน" อั๋นพูดหน้าตาย
ผมนิ่ง จะให้หอมแก้มกลางที่สาธารณะแบบนี้เนี่ยนะ
"เร็วดิวะหมอ เดี๋ยวอั๋นไม่หายงอนนะเว้ย" ไอ้เอกเร่ง
แต่อั๋นก้เป็นฝ่ายยื่นหน้ามาหอมแก้มผมซะก่อน หน้าผมเป็นสีแดงจัดทันที
"วีดวิ้ววว"
"พ่อมึงเป็นมโหรีเหรอสัส"
ผมด่าไอ้เพื่อนตัวแสบที่กำลังทำท่าล้อเลียนใส่
"ห้ามเชียร์คนอื่นรู้ปะ" อั๋นพูดขึ้นอีกครั้ง
"เออ...ไม่ได้งอนจริงนี่หว่า หลอกให้กูง้ออยู่ได้" ผมโวยวาย
"ก้มึงแหย่กูก่อนนี่" อั๋นยิ้มกว้าง ขยับข้ามตัวผมไปแท็คมือกับเพื่อนสามคน
"เออ ให้มันรู้ซะมั่งว่าใครกดใคร" ไอ้นนท์บอก
"ไอ้หมอมันต้องโดนกด" ไอ้เอกพูดอีกคน
อั๋นยิ้มมุมปากใส่ผม
เป็นไปตามคาด สีแดงเป็นผู้ชนะ คะแนนสุดท้ายทิ้งห่างสีเขียวไปขาดลอย ทุกคนที่มาชมการแข่งลุกขึ้นปรบมืออย่างพร้อมเพรียง
พี่สีแดงและกองเชียร์ล้อมกลุ่มนักกีฬาเป็นวงกลมแล้วบูมให้เสียงดังลั่นสนามฯ ใจกลางวงกลม ผมเห็นอาร์ตยิ้มกว้างอย่างภูมิใจ
"ยินดีด้วยนะเว้ย" ผมตบไหล่อาร์ต เดินเข้าไปหาพร้อมกับอั๋นหลังคนส่วนใหญ่ทยอยออกจากโรงยิมกันไปแล้ว
"ขอบใจนะหมอ" อาร์ตโชว์ลักยิ้มสวย
"เล่นดีจริงๆ" อั๋นชม
"ไว้มาเล่นด้วยกันอีกนะ" อาร์ตบอกก่อนขอตัวไปฉลองความสำเร็จกับเพื่อนในทีม
ตอนนั้นเอง พี่ก้องไลน์มาแจ้งผมว่าฝ่ายเชียร์มีนัดประชุมด่วนเย็นนี้ เรื่องการจัดสถานที่ครั้งสุดท้ายสำหรับวันจริง เฉพาะส่วนที่พี่เค้าสงสัย
"กูต้องไปประชุมกับฝ่ายเชียร์ว่ะ" ผมบอกอั๋น เงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์มือถือ
"อ่าวเหรอ เดี๋ยวกูรอนะ"
"อือ...ไม่รู้เสร็จกี่โมงว่ะ ถ้ากูนานมึงกลับก่อนก้ได้นะ เดี๋ยวกูกลับเองก้ได้" พรุ่งนี้ฝ่ายเชียร์จะต้องตกแต่งสแตนด้วยอุปกรณ์ทั้งหมดที่เตรียมไว้แล้ว ผมจึงคิดว่าการประชุมอาจใช้เวลานานอยู่
"กูรอได้ จะไม่รอแฟนได้ไงล่ะ" อั๋นหยิกแก้มผม
"เออ...งั้นเดี๋ยวเลิกแล้วโทรหานะ"
"ครับ เดี๋ยวไปส่ง"
ครึ่งชั่วโมงถัดมา อั๋นจับมือผมเดินไปยังห้องประชุมที่สีฟ้าใช้คุยงานกันเป็นประจำ ผมชินเสียแล้วที่อั๋นจับมือ แต่ก้รู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่มันทำอย่างนั้น และรู้สึกดีด้วยที่มันดูแลผมตลอดเวลา
ตอนนี้ยังไม่มีใครมาถึงเลยครับ เรานั่งรอบนที่นั่งยาวหน้าห้องประชุม
"ทำไมยังไม่มีใครมากันเลย" อั๋นเลิกคิ้ว มองผ่านบานหน้าต่างกระจกเข้าไปในห้อง
"พี่ก้องนัดแค่บางส่วนที่เค้าสงสัยน่ะ" ผมตอบ ชะเง้อมองไปรอบๆบริเวณนั้นบ้าง ไม่เห็นนักเรียนคนอื่นๆ อาจารย์หรือเจ้าหน้าที่สักคนก้ไม่เห็น
อั๋นผละจากหน้าต่างมานั่งลงข้างผม
"มึงช่วยส่วนของพี่เมฆไม่ใช่เหรอ ก้เสร็จหมดแล้วนิ"
"เออ กูก้งงอยู่ ถ้าไม่ต้องแก้ไขอะไรก้คงทวนกำหนดการมั้ง" ผมพูดตามที่คิด
อั๋นอยู่รอเป็นเพื่อนผมอีกเดี๋ยว นนท์ก้โทรมาหา ชวนพวกเราไปกินไอศกรีมหน้าโรงเรียน ผมเลยบอกให้อั๋นไปก่อนได้เลย
"ขอจุ๊บก่อนไปดิ"
"ไม่เอา ไปเลยมึง"
"น่า ทีเดียว"
"ไอ้บ้า เดี๋ยวใครมาเห็น"
แล้วผมก้โดนอั๋นหอมแก้มจนได้ มันหอมแก้มผมเร็วๆก่อนจะรีบวิ่งไป
"ไอ้บ้าเอ๊ย"
"น้องหมอ มาแล้วเหรอครับ" พี่ก้องเดินมาถึงหน้าห้องประชุมหลังอั๋นไปไม่ถึงห้านาที เค้าเดินมาคนเดียวพร้อมรอยยิ้มกว้าง "ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ"
"ครับ" ผมรับคำสั้นๆ เลิกประหลาดใจกับน้ำเสียงร่าเริงของพี่ก้องที่เหมือนญาติดีกับผมไปนานแล้ว
"วันนี้แฟนเราไม่มาเฝ้าเหรอ"
"คนอื่นไปไหนกันหมดอะพี่" ผมไม่สนใจคำถามเรื่องอั๋น
"เดี๋ยวก้มากันครับ พี่ไม่ได้เรียกมาทุกคน เข้าไปข้างในกันเถอะ" พี่ก้องตรงเข้ามาจะคว้ามือผม แต่ผมขยับหนีแล้วลุกไปที่ประตูก่อน
"รีบจังนะเรา" พี่ก้องยิ้มมุมปาก ไขกุญแจเปิดห้องประชุม
"พี่เรียกผมมามีไรครับ"
"เป็นการเป็นงานจริงๆ เดี๋ยวสิครับ รอคนอื่นก่อน"
ผมนั่งเก้าอี้ที่ห่างจากตัวที่พี่ก้องนั่งมากที่สุด พี่ก้องหยิบ แลปทอปออกมาเปิดและนั่งจ้องหน้าผม
ผมไม่อยากสบตาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น
"เอ ทำไมยังไม่มากันอีกนะ" พี่ก้องลุกเดินไปที่ประตู
นั่นสิ นี่มันก้เลยเวลามานานแล้ว ปกติสมาชิกของฝ่ายเชียร์ไม่เคยเข้าประชุมสายเลยสักครั้งเดียว โดยเฉพาะพี่เมฆที่จะมาก่อนเวลาเสมอ หรือนี่เป็นการเรียกประชุมด่วน ทุกคนเลยมาช้านะ
พี่ก้องกดล็อคประตูไม้ ผมหันไปทันทีที่ได้ยินเสียง
"ล็อคประตูทำไมอะ"
พี่ก้องหัวเราะในลำคอ ดวงตาหลังกรอบแว่นเป็นประกายฉายแววชั่วร้าย
"เรานี่มันหลอกง่ายจริงๆนะ งานทุกอย่างมันต้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว พรุ่งนี้ตกแต่งสแตนละนะ คิดว่าพี่เรียกเรามาทำไมล่ะ"
ผมตกใจ พึ่งตระหนักได้ว่าพี่ก้องกำลังจะทำอะไร
"หมอคิดว่าคบกับเพื่อนแล้วพี่จะอยู่เฉยๆเหรอ...พี่ยังอยากได้เราอยู่นะ"
พี่ก้องย่างสามขุมเข้ามาหา ผมรีบลุกจากเก้าอี้แล้ววิ่งไปที่มุมห้องอีกด้านหนึ่งทันที
"ยะ อย่านะ"
"คนอย่างพี่อยากได้อะไรแล้วต้องได้"
ผมกลัวจนทำอะไรไม่ถูก พี่ก้องตอนนี้เหมือนคนโรคจิตคนหนึ่งเลยทีเดียว ผมไม่มีทางคว่ำเค้าแล้วหนีออกไปจากห้องนี้ได้แน่
"หมอเคยลองรึยังล่ะ" พี่ก้องเดินตรงเข้ามาอีก มองผมหัวจดเท้า "พี่เดาว่ายัง ยังไม่เสร็จอั๋นใช่มั้ย" เค้าหัวเราะหึๆ
"อย่านะเว้ย" ผมร้อง
"อั๋นนี่แม่งโคตรโง่เลยว่ะ เป็นแฟนแล้วแท้ๆยังไม่ได้น้องอีก...ไม่ต้องกลัวหรอกน่า พี่ไม่ทำรุนแรงหรอก"
พี่ก้องหมุนหน้าจอแลปทอปให้ผมเห็น เค้าเปิดโปรแกรมบันทึกวิดีโอค้างไว้
"จะ จะทำไร"
"ถ่ายหนังสดไง พี่จะได้เราทั้งที ขอเก็บไว้เป็นที่ระลึกหน่อย"
ผมหายใจไม่ทั่วท้อง รู้สึกว่าตัวเองโง่เสียเต็มประดาที่โดนหลอกมา ถ้าพี่ก้องจะนัดประชุม เค้าก้น่าจะบอกทุกคนในไลน์กรุ๊ปฝ่ายเชียร์ ไม่จำเป็นต้องทักแชทแยกมาหาแต่ละคน แถมยังตอนที่ผมรออยู่ตั้งนานแต่ไม่มีคนมาสักที ทำไมผมไม่เอะใจนะ
"ยังไม่ได้บอกใช่มั้ยว่าพี่เองแหละที่ทำให้แฟนเราไม่ติดตัวจริงบาสฯสี สงสัยมั้ยว่าทำได้ไง"
"..."
"ไอ้ปอฝ่ายกีฬา มันติดหนี้บอลพี่อยู่ พี่ก้แค่ขู่มันนิดๆหน่อยๆ หมอรู้ใช่มั้ยว่าถ้าไอ้ปอมันยังให้อั๋นติดตัวจริงมันจะโดนอะไร"
ผมกำหมัดแน่น ไม่คิดฝันมาก่อนว่าพี่ก้องจะเลวได้สุดขั้วขนาดนี้
"ทำไงได้ล่ะ มันอยากมาจีบน้องแข่งกับพี่ แต่ตอนนี้มันก้ทำอะไรไม่ได้แล้ว มันแค่ได้เป็นแฟน แต่พี่กำลังจะได้หมอเป็นเมีย"
ผมกลืนน้ำลาย ภาพความทรงจำเลวร้ายที่ห้องน้ำร้านเหล้าหวนกลับเข้ามาในหัวอีกครั้ง
ครั้งนี้ผมคงไม่โชคดีรอดมาได้เหมือนครั้งก่อนสินะ
แล้วพี่ก้องก้ขยับตัวอย่างรวดเร็ว ปราดเดียวก้ถึงตัวผม ผมพยายามต่อสู้เต็มที่ ดิ้นสุดแรง ชกทุกส่วนของร่างกายพี่ก้องที่เอื้อมถึง แต่ทำร้ายอีกฝ่ายไม่ได้เลยสักนิด
"ปล่อยกูนะเว้ย ปล่อย" ผมตะโกนลั่นทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าเสียงไม่หลุดออกไปข้างนอกห้อง พี่ก้องยกตัวผมกระแทกลงบนโต๊ะประชุมเต็มแรงและขึ้นคร่อมทันที
"ปล่อย ปล่อยกู"
"ตะโกนไปก้ไม่มีใครได้ยินหรอก" พี่ก้องรวบแขนสองข้างของผมไว้ หันหน้าไปมองที่แลปทอปอย่างชั่วร้าย "หมอหันมายิ้มให้กล้องหน่อยสิครับ"
"ไอ้โรคจิต ปล่อย"
ผมยังแหกปากร้องและดิ้นเต็มที่ พี่ก้องต่อยเข้าที่ท้องจนจุก
ผมเจ็บมาก นั่นทำให้หมดเรี่ยวแรงขัดขืนไปโข
พี่ก้องยื่นหน้าเข้ามาจะจูบ แต่ผมหันหน้าหนี เค้าจึงไซร้ซอกคอผมอย่างหื่นกระหาย
"ปล่อย"
พี่เค้าปลดกระดุมเสื้อผมจนหมดอย่างรวดเร็ว ผมดิ้นพล่าน
ผมบอกตัวเองว่าต้องมีสติ ใช้เรี่ยวแรงเข้าสู้คงทำอะไรไม่ได้ ตัดสินใจพูดกับพี่ก้องดีๆ
"พะ พี่ก้อง อย่าทำผมเลยนะ"
"..."
"ผมขอร้อง นะครับ อย่าทำแบบนี้เลยนะ"
"ไม่ได้ครับ มาถึงนี่แล้ว พี่ไม่ยอมปล่อยหมอหนีไปง่ายๆหรอก"
พี่ก้องเลื่อนริมฝีปากลงมาสัมผัสท่อนบนของผมต่อ ผมตกใจจนแทบสิ้นสติ
ผมมองเห็นตัวเองกับพี่เค้าในหน้าจอแลปทอป เกลียดพี่ก้องจนอยากจะฆ่าเค้าให้ตายไปซะ ผมพยายามมองหาอะไรที่จะทุ่มใส่หัวพี่ก้องได้
แล้วประตูก้ถูกเปิดออก อั๋นยืนช็อคอยู่หน้าห้อง
พี่ก้องเงยหน้าขึ้นจากตัวผม อั๋นพุ่งปรี่เข้ามาซัดหมัดใส่หน้าพี่เค้าจนล้มลงไปกองกับพื้น
"ไอ้เชี่ยก้อง"
อั๋นโมโหจนหน้าเป็นสีเลือด กระชากคอพี่ก้องขึ้นมาต่อยซ้ำอีกครั้ง ผมรีบลุกขึ้นใส่เสื้อและเดินไปลบไฟล์วิดีโอในแลปทอปทันที
"หมอ มึงไม่เป็นไรนะ" อั๋นปล่อยพี่ก้องแล้วหันมาสำรวจตัวผม แววตาอั๋นสะท้อนความเจ็บปวดเหลือแสน
"ไม่เป็นไร" ผมหอบหายใจ ยังเจ็บที่หลังกับท้องอยู่ แต่นอกจาก นั้นก้ไม่มีส่วนอื่นที่ถูกทำร้าย
"เจ็บตรงไหนรึป่าว มันยังไม่ได้ทำอะไรมึงมากกว่านั้นใช่มั้ย" ผมเข้าใจสิ่งที่อั๋นหมายถึง อั๋นประคองตัวผมอย่างอ่อนโยน เสียงสั่นเหมือนคนจะร้องไห้
"มันยังไม่ได้ทำอะไร"
พี่ก้องลุกขึ้นยืน ใช้มือเช็ดเลือดบนจมูกออกก่อนจะวิ่งออกจากห้องไป ผมทุ่มแลปทอปลงบนพื้น ชิ้นส่วนมันแตกกระจาย
อั๋นเล่าให้ผมฟังว่าไม่ได้ไปหานนท์ที่ร้านไอศกรีม เพราะเห็นพี่ก้องเดินเข้าไปในห้องกับผมแค่สองคน พอจะเข้ามาหากลับเจอว่าประตูล็อค รู้แน่ว่าต้องมีอะไรแปลกๆเกิดขึ้น มันพยายามจะพังประตูเข้ามาแต่ไม่ไหว จึงวิ่งไปขอยืมกุญแจห้องประชุมที่หน่วยอาคารและสถานที่ เปิดออกมาก้เจอพี่ก้องกำลังจะข่มขืนผม
เวลานั้นแทบไม่มีใครอยู่ที่โรงเรียนแล้ว โชคดีมากที่อั๋นยังอยู่แถวห้องประชุมและมาช่วยผมได้ทันเวลา มิฉะนั้นผมอาจเสร็จพี่ก้องไปแล้ว
อั๋นสอบถามอาการซ้ำแล้วซ้ำเล่า เราไปนั่งกันอยู่ที่ม้าหินแถวลานจอดรถของโรงเรียน หน้าอั๋นยังซีดอยู่ตั้งแต่ตอนที่เข้าไปช่วยผม ความรู้สึกแย่ข้างในตัวผมเพราะเกือบโดนข่มขืนหายไปเป็นความรู้สึกดีที่เห็นอั๋นเป็นห่วงผมมากขนาดนี้ สองครั้งแล้วที่อั๋นช่วยให้ผมรอดจากเหตุการณ์เลวร้าย ผมซึ้งใจที่รู้ว่ามันรักผมแค่ไหน
"มึงจะไม่บอกครูเรื่องไอ้ก้องจริงๆเหรอ"
"ไม่อะ กูไม่อยากเจอหน้าไอ้พี่ก้องอีก" ผมตัดสินใจว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับทางโรงเรียน ให้เหตุผลกับอั๋นไปตามตรง ถ้าแจ้งคุณครู เรื่องจะใหญ่โต ผมต้องถูกเรียกไปคุยยืดยาวพร้อมกับพี่ก้อง และคนทั้งโรงเรียนก้ต้องรับรู้เรื่องนี้ด้วย ผมไม่อยากถูกพูดถึงเพราะเกือบโดนรุ่นพี่ทำมิดีมิร้ายด้วย
ผมแน่ใจว่าจะไม่ร้องเรียน ถึงแม้พี่ก้องจะไม่ถูกลงโทษ ไม่ว่าความผิดนี้มีผลทำให้ถึงขั้นถูกไล่ออกจากโรงเรียนหรือขึ้นโรงขึ้นศาลกันได้เลยทีเดียว
"ก้ได้ กูแล้วแต่มึง...แต่ต่อไปกูจะไม่ปล่อยให้มึงอยู่คนเดียว กูจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายมึงได้อีก" อั๋นดึงผมเข้ามากอด ผมรู้สึกได้ถึงความรักที่อั๋นส่งมาให้จากอ้อมแขน
"ขอบคุณนะ" ผมบอก ยิ้มออกมา
"...กูอยากฆ่าไอ้ก้อง"
"โดนไปขนาดนี้ มันคงไม่มายุ่งกับกูแล้วล่ะ" ผมหวังเหลือเกินว่าสิ่งที่พูดออกไปจะทำให้ทั้งอั๋นและตัวผมเองสบายใจขึ้น แต่ผมคิดว่าผมไม่กลัวอะไรอีกต่อไปเมื่อมีอั๋นคอยอยู่เคียงข้าง
"คืนนี้ให้กูอยู่กับมึงนะ"
"อือ"
อั๋นคลายกอด เราสองคนเดินไปขึ้นรถมอเตอร์ไซด์เตรียมจะกลับบ้าน
-จบตอน-
โอย เกือบไปแล้วนะหมอ อั๋นมาช่วยไว้ได้ พี่ก้องนี่มันชักจะเลวเกินไปนะ นักเขียนก้โกรธจนตัวสั่นเหมือนกัน ฮึ่มม
วันนี้ก้เอาประวัติของหมอมาฝากด้วยนะจ๊ะ

ชื่อ : หมอ
สถานะ : มีแฟนแล้ว - อั๋น
ชั้นเรียน : มัธยม4/12 สายศิลป์-คำนวณ โรงเรียนชายล้วน
วิชาที่ถนัด : ไม่มีสักวิชา- -
สีที่ชอบ : เขียว
อาหารที่ชอบ : ปีกไก่ทอด ของทอดทุกชนิด
กีฬาที่ชอบ : ปิงปอง
เวลาว่าง : เล่นเกมส์ออนไลน์ อ่านการ์ตูน
ลักษณะนิสัย : เป็นคนง่ายๆสบายๆ คำพูดติดปากจึงเป็นคำว่า 'ชิว' ขี้เกียจสุดๆ นอนดึกตื่นเที่ยงเป็นประจำ เป็นนักเรียนที่ไม่ควรเอาเป็นแบบอย่าง แต่ถึงอย่างนั้นก้เป็นเด็กดีของพ่อแม่ เป็นที่รักของเพื่อนๆ จึงมักเป็นฝ่ายถูกแกล้ง ให้เพื่อนเต็มร้อย ถึงไหนถึงกัน ใจเด็ด แม้จะเป็นเคะ แต่ไม่ได้อ่อนแอหรือง๊องแง๊งเหมือนผู้หญิง ฉลาดหัวไวกับเรื่องที่ไม่ใช่การเรียน เขินง่ายมาก ภูมิคุ้มกันเวลาโดนอั๋นจีบต่ำ
รูปร่างหน้าตา : หนุ่มหล่อหน้าอ่อน หน้ามึนๆง่วงๆตลอดเวลา ขอบตาคล้ำ ผิวขาว สูงแต่บอบบาง
ติดตามตอนต่อไปกันด้วยนะ