My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) ตอนที่43 END (จบแล้ว)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) ตอนที่43 END (จบแล้ว)  (อ่าน 60039 ครั้ง)

ออฟไลน์ writerbeer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
ขอบคุณคุณผู้อ่านทุกท่านมากเลยนะครับที่เข้ามาอ่าน
My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก และขอบคุณเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่มา comment เวลาเราอัพนิยายตอนใหม่ด้วย เราไล่อ่านทุก comment เลย อ่านแล้วก้รู้สึกปลื้มปริ่ม ตื้นตันสุดๆที่ทุกคนสนุกและลุ้นไปกับเรื่องราวของอั๋นและหมอ ขอบคุณจากใจจริงเลยนะ อยู่ติดตามกันอย่างนี้ไปนานๆนะครับ

สำหรับตอนนี้อั๋นก้บอกชอบหมออย่างเป็นทางการไปแล้วนะครับ55  :o8:  ตอนต่อไปจะมาลงเร็วๆนี้ ติดตามกันด้วยนะค้าบ

ออฟไลน์ lazysheep

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-2
ในที่สุด ^^ น่ารักมากคู่นี้

ออฟไลน์ writerbeer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
ตอนที่17(อั๋น)

ผมไม่รู้ตัวเลยว่าขับมอเตอร์ไซด์กลับมาถึงบ้านตั้งแต่เมื่อไร ในหัวตอนนี้มีแต่หน้าไอ้หมอวนเวียนอยู่ครับ
"อั๋น กินข้าวมารึยังลูก" แม่ร้องทักเมื่อเห็นผมเดินเข้ามาในบ้าน
"กินแล้วครับ...เดี๋ยวผมขึ้นห้องก่อนนะ" ตอนนี้ผมกำลังสับสนครับ ขอตัวขึ้นห้องก่อนเลย พ่อกับแม่มองผมอย่างสงสัยแต่ก้ไม่ได้พูดอะไร

ถ้าผมไม่ชวนหมอเล่น20คำถามตั้งแต่แรก มันก้คงไม่ถามเรื่องนั้น ผมก้ไม่ต้องบอกว่าผมชอบมัน
ผมคิดอะไรอยู่ถึงบอกมันไปตรงๆแบบนั้นนะ!

หลังจากนี้ผมควรจะทำยังไงดีล่ะ บอกชอบหมอไปแล้ว หมอมันจะคิดแบบเดียวกับผมหรือเปล่านะ

งั้นขอมันเป็นแฟนเลยดีมั้ย!

ถ้าหมอไม่ได้ชอบผม แล้วปฏิเสธผมล่ะ เราคงกลับมาสนิทกันเหมือนเดิมไม่ได้ มองหน้ากันไม่ติดแน่ๆ

แต่ถ้าผมไม่รีบขอมันเป็นแฟน มันอาจจะตกลงคบกับคนอื่นก้ได้ โดยเฉพาะไอ้พี่ก้องที่ผมโคตรเกลียดขี้หน้า

ผมยอมรับว่าผมรู้สึกดีกับมันมาตั้งนานแล้วครับ แต่ตอบไม่ได้ว่าชอบหมอตั้งแต่เมื่อไร รู้ตัวอีกทีก้ชอบแอบมองมันอยู่บ่อยๆ ชอบแกล้งมัน

รู้ตัวอีกทีก้ชอบมันไปแล้ว...

เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น
หมอ

(ฮัลโหล) ผมกดรับ
(อั๋น มึงถึงบ้านยังอะ)
(ถึงแล้ว มีไรอ่อ)
(มึงไม่ไลน์มาบอกกูว่าถึงแล้ว กูไลน์ไปก้ไม่ตอบ...เลยเป็นห่วง) ผมสัมผัสได้ว่าหมอขัดเขินเมื่อพูดท้ายประโยคครับ มันน่ารักจริงๆเลยนะ เป็นห่วงผมด้วย
(เห้ย โทษทีว่ะ)
จากนั้นต่างฝ่ายต่างก้เงียบไปพักหนึ่ง
(หมอ)
(หือ)
(เอ่อ...พรุ่งนี้ไปอยู่กับกูตอนซ้อมอีกนะ)
(อะ อือ) ผมอดยิ้มออกมาไม่ได้
(...)
(งั้น กูไปอาบน้ำก่อนนะ)
(เออ)
(พรุ่งนี้เช้าเจอกัน)
(ค้าบ เดี๋ยวไปรับนะ)
หลังวางสาย ผมเห็นข้อความที่หมอไลน์มาถาม

ถึงผมกำลังกังวลเรื่องที่บอกชอบมันไปก้เถอะ แต่2นาที4วินาทีที่เราคุยสายกันก้ทำให้ผมยังคงนอนยิ้มกว้างอยู่บนเตียงได้อีกเป็นชั่วโมง

แม้ยังไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ยังไม่รู้ว่าผมควรจะทำอย่างไรดี แต่อย่างน้อย ผมรู้ว่าตอนนี้ผมมีความสุขมากแค่ไหนที่ได้เจอหมอทุกวัน ได้คุยกัน
ได้มีมันเข้ามาอยู่ในชีวิต...

เช้าวันรุ่งขึ้นหมอเดินออกมาหาผมหน้าบ้าน ท่าทางง่วงงุน มือถือถุงใส่แซนวิชกล่องใหญ่มาด้วย
"นี่มื้อเช้ากูกะมึง แม่กูทำเองเลยนะ"
"ขอบคุณค้าบ"
"โคตรง่วงเลย วันนี้ถ้ากูหลับในห้อง ห้ามปลุกด้วย" หมอบอก ขึ้นซ้อนมอเตอร์ไซด์ผม
"เมื่อคืนเล่นเกมดึกอะดิ"
"ป่าว"
"อ้าว ละทำไร"
"กู...นอนไม่ค่อยหลับ"
เมื่อคืนผมก้นอนไม่เต็มอิ่มเหมือนกันครับ มีแต่หน้ามันลอยค้างอยู่ในหัว

ผมโล่งใจที่หมอทำตัวปกติ ไม่ได้เปลี่ยนท่าทีไปอย่างที่ผมกลัวว่าจะเกิด ผมมองหน้ามันแล้วถึงขั้นยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
"ยิ้มไร" หมอรับหมวกกันน็อคไปจากมือผม
"ป่าวนิ" ผมหันกลับไปหน้ารถ สวมหมอกกันน็อคบ้าง แล้วเริ่มขับออกมา
"เออหมอ..."
"หือ"
"เมื่อวานกูพูดจริงๆนะ คำถามข้อสุดท้ายอะ"
"...รู้แล้วน่า" หมอตอบช้าๆ น้ำเสียงบอกชัดเจนว่ากำลังรู้สึกเขินอยู่
"รู้ว่าไงอะ" แกล้งมันซะเลย
"กวนตีนปะ"
"เอ้า ถามจริง"
"ก้ รู้ว่า...มึงคิดยังไง" ตอบซะอ้อมเชียว555
"ถ้างั้น..."
"..."
"กูเริ่มจีบมึงเลยนะ"
"อะ ไอ้บ้า"
ผมยิ้มแก้มปริ คิดว่าคนที่นั่งซ้อนข้างหลังคงกำลังหน้าแดงจัดอยู่แน่ๆ

วันหนึ่ง มีคนเอารูปผมกับหมอไปลงในเพจโรงเรียนอีกแล้วครับ เป็นรูปเรากำลังเดินอยู่ด้วยกันที่สยามสแควร์ ผมกอดคอหมอ มันหันมาคุยกับผมอย่างร่าเริง
ผมยิ้มออกมาเมื่อเห็นรูป ส่วนคนที่ตกเป็นข่าวด้วยร้องออกมาว่า 'เชี่ยเอ๊ย...อีกแล้วอ่อ' แล้วก้ทำหน้ามุ่ย เห็นแล้วมันน่าหยิกชะมัด

หลังจากนั้นเราก้ยังคุยกัน เล่นกันตามปกติ ผมมีหยอดบ้างตามโอกาส55 หมอเขินแล้วมันน่ารักมากๆครับ

หมอมาดูผมซ้อมทุกเย็นเลยครับ ยกเว้นเย็นวันศุกร์ที่มันต้องไปประชุมกับฝ่ายเชียร์สีฟ้า งานกีฬาสีเริ่มใกล้เข้ามาทุกที หมอต้องไปเจอไอ้พี่ก้องอีกแล้วสินะ
"อั๋น เดินไปส่งกูหน่อยดิ" หมอบอกเมื่อหมดเวลาคาบสุดท้าย
"เออ..."
"วันนี้น่าจะยาวว่ะ มึงอาจจะซ้อมเสร็จก่อนกู รอกูก่อนนะ" หมอพูดขึ้นเมื่อเรามาถึงห้องประชุม4
"ค้าบ" ผมตอบ ยื่นมือไปขยี้ผมมันเล่น
"เห้ย เดี๋ยวผมเสียทรง" หมอทำหน้ามุ่ย เอามือจัดผมตัวเองให้มันเรียบครับ
"เว่อร์สาด" ผมได้แต่ยิ้ม "ถ้ากูเสร็จก่อน เดี๋ยวกูมารอหน้าห้องละกัน ถ้ามึงก่อน ไปเจอที่สนาม"
"อ่าฮะ"
ทันใดนั้นพี่ก้องกับเพื่อนอีก2คนก้เดินมาถึงหน้าห้องประชุม ผมเห็นหน้าเขาแล้วก้รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที
"หวัดดีครับหมอ" ทักไอ้หมอเสียงใสเชียวนะ อีกอย่าง ไอ้พี่ก้องทำเป็นไม่เห็นผมครับ
"หวัดดีครับพี่" หมอยิ้มตอบ หันไปไหว้เพื่อนพี่ก้องอีก2คนด้วย
"เข้าไปในห้องกันเลยมั้ย"
"คับ...อั๋น เดี๋ยวเจอกันนะ" หมอหันมาบอกผม
"อือ" ผมรับคำ เห็นว่าพี่ก้องยังทำเป็นมองไม่เห็นผม ผมเลยคว้ามือหมอขึ้นมาซะเลย
"อย่านานนะหมอ กูคิดถึง"
"เออน่า" หมอเขิน หลบตาผม ดูสิ น่ารักอีกแล้ว55
ไอ้พี่ก้องมองมาอย่างเย็นชาจนได้ ผมเดินออกมาจากตรงนั้นอย่างอารมณ์ดี
หกโมงเย็นแล้วเมื่อผมซ้อมเสร็จ หมอยังไม่มาเลย สงสัยยังประชุมไม่เสร็จ
"เห้ยต้าร์ เดี๋ยวกูไปก่อนนะ" ผมบอก หยิบกระเป๋าต่างๆกับชุดนักเรียนขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน
"เออ ไอ้หมอยังไม่เลิกอีกอ่อ"
"นั่นดิ"
ผมโบกมือลาไอ้ต้าร์ เดินกลับไปยังห้องประชุม4
ไปถึง พวกฝ่ายเชียร์ยังไม่ออกมาจากห้องเลยครับ ผมเลยนั่งเล่นมือถือรอหมอ

รอไม่นาน นักเรียนก้ทยอยออกมาจากห้องประชุม กลุ่มที่ออกมาสุดท้ายเป็นหมอกับไอ้พี่ก้องครับ ได้ยินเสียงสองคนคุยกัน
"เราเก่งจริงๆนะ พึ่งมาทำงานครั้งแรกก้เสนอไอเดียได้ตั้งเยอะแยะ"
"ไม่ขนาดนั้นพี่ ผมก้จำๆเขามาแหละ...อั๋น" หมอหันมาเห็นผม กำลังจะตรงมาหา แต่พี่ก้องจับมือมันไว้

ไอ้เชี่ยพี่ก้อง!

"มาเฝ้าไม่ให้หนีไปไหนได้เลยนะ" ไอ้พี่ก้องพูดกับหมอ แต่ชายตามองมาที่ผม
"เอ่อ" หมอตะกุกตะกัก
"งั้นพี่ไปก่อนนะครับ" พี่ก้องบอก ยอมปล่อยมือ มองหมอเหมือนจะกลืนกินทั้งตัวก่อนเดินจากไป ผมจะทนไม่ไหวแล้วนะ...
"ปะ ไปกันเถอะ" หมอบอก เดินนำผมออกมาจากอาคาร
"เย็นนี้กินไรกันดีวะหมอ"
"ที่บ้านกู กูบอกแม่แล้วว่ามึงจะมาอยู่เสาร์-อาทิตย์นี้ แกเลยทำกับข้าว"
"เย่"
ผมเดินกอดคอหมอตรงไปห้องอาบน้ำ

"พ่อแม่หวัดดีครับ" ผมยกมือไหว้พ่อกับแม่หมอทันทีเมื่อไปถึงบ้าน
"หวัดดีลูก"
"หวัดดีจ้ะ มาๆ กินข้าวกัน"
พ่อกับแม่นั่งฝั่งหนึ่งของโต๊ะอาหาร ผมกับหมอนั่งอีกฝั่ง ผมอาสาตักข้าวใส่จานให้กับทุกคน พ่อกับแม่มองผมยิ้มๆ
"พรุ่งนี้ออกเดินทางกี่โมงอะพ่อ" หมอถามขึ้น
"เจ็ดโมงเช้า ถึงวัดไม่น่าเกินแปดโมงครึ่ง"
"โหพ่อ เช้าขนาดนั้นผมจะตื่นไหวได้ไง" หมอร้อง ผมยิ้มกับท่าทางของมัน
"ต้องไหวสิ แกไม่ตื่นพ่อจะให้อั๋นปลุก"
"ได้ครับพ่อ" ผมรับคำ หันไปยักคิ้วให้หมอ พ่อยิ้ม
"แม่ ดูดิ พ่อกับไอ้อั๋นแกล้งผม"
"ไม่ต้องหาพวกเลย แกตื่นสายจริงๆนิ"
"โหแม่" หมอทำปากยื่น ผมกับพ่อแม่หัวเราะ

"อั๋นจ๊ะ หมออยู่ที่โรงเรียนเป็นไงบ้างลูก"
"อ๋อ ก้..."
หมอเอาเท้าเขี่ยผมใต้โต๊ะ
"เป็นเด็กดีครับ"
"หืม จริงหรอลูก" แม่ถาม
"ครับ มีหลับบ้างบางครั้งครับ" ผมหันไปยิ้มยิงฟันให้หมอ มันแยกเขี้ยวใส่ผม
"555 พ่อนึกแล้วว่าหมอมันต้องแอบหลับที่โรงเรียน"
"ก้มันง่วงนี่ครับ"
"ยังไงฝากอั๋นช่วยดูแลหมอหน่อยนะลูก เจ้าหมอนี่ขี้เกียจสุดๆ"
"ได้ครับแม่"
ผมรับคำยิ้มๆ หันไปมองหมอ หน้าบูดใหญ่เลยครับ

ขึ้นไปบนห้อง ผมก้นอนแผ่ลงบนเตียงมันทันที
"เห้ยๆ เตียงกู"
"มานอนข้างๆป๋ามา" ผมตบเตียงเรียกหมอ กวนตีนมันซะเลย
"ไม่โว้ย" มันเดินไปนั่งที่โต๊ะอ่านหนังสือแทน
"หมอจ๋าา"
"ไรมึง"
"งอนกูอ่อ"
"จำไว้นะมึง ไปบอกพ่อกับแม่ว่ากูหลับ กูอุตส่าห์ส่งซิกให้แล้ว"
"อ้าว ก้มึงหลับจริงๆนิ55"
"สัส" หมอทำแก้มป่อง
"โอ๋ๆ" ไม่รู้ว่างอนจริงหรือแกล้งงอน แต่น่ารักดีครับ ผมลุกขึ้นไปช้อนตัวมันจากเก้าอี้แล้วยกมานั่งบนเตียงกับผมแทน มันร้องแล้วดิ้น แต่สู้แรงผมไม่ได้หรอกครับ อิอิ
"ไม่งอนนะ เค้าขอโทษ"
"ไม่"
"คราวหน้าไม่พูดแล้ว" ผมยกมือ ชูนิ้วขึ้นสามนิ้ว
"ไม่ต้องเลย"
"งั้นให้กูทำไรอะ"
"กลับบ้านไปเลยมึงอะ"
"โห อย่าไล่กูดิ แล้วคืนนี้กูจะนอนกอดใครอะ" ผมอ้อน โอบรอบเอว ดึงตัวมันมานั่งใกล้ผมเข้าไปอีก
...ในอ้อมแขนผม
"เรื่องมึง"
"เย็นชานะเราอะ" ผมหยิกแก้มหมออย่างมันเขี้ยว
"โอ๊ย...ปล่อยเลย"
ผมจ้องหน้าหมอ ใจผมพองโตเพราะว่าได้อยู่กับหมอ ยิ้มหวานให้ เจ้าตัวเขินครับ หลบสายตาผม
"หมอ"
"อะไร"
"กูชอบมึงนะ"
"...รู้แล้ว บอกอีกละ- -"
"ก้อยากบอกอะ"
"..."
ผมกำลังจะถามออกไปแล้วว่ามันรู้สึกแบบเดียวกับผมหรือเปล่า ก้พอดีมันพูดขึ้นก่อน
"จีบกูเยอะไปละนะ..." หมอหน้าแดง ผมหัวเราะกับคำพูดของมัน
"ปล่อยได้แล้ว จะไปอาบน้ำ" หมอผลักอกผมเบาๆ
"เดี๋ยวดิ ตกลงว่าหายงอนยัง"
"ไม่หาย"
"งั้นไม่ปล่อย"
"ปล่อยเลย"
"หายงอนก่อนดิ"
"เออ หายก้หาย"
"จริงนะ"
"เออ" มันเน้นเสียง ตาโต ขยับหน้าเข้ามาใกล้

ตอนนั้นเองที่ผมเกือบอดใจไม่ไหว เกือบจูบมันไปแล้วครับ...

ผมนั่งนิ่ง พอหมอรู้ตัวว่าหน้าเราใกล้กันมาก มันรีบขยับห่างออกไป
ผมยอมปล่อยหมอออกจากอ้อมแขน มันรีบลุกขึ้น หยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินออกไป
"ไอ้บ้าเอ๊ย" ผมได้ยินประโยคที่มันชอบพูดบ่อยๆเวลาอาย ผมอมยิ้มอยู่คนเดียว

ผมที่อาบน้ำมาจากที่โรงเรียนแล้ว เปลี่ยนจากชุดนักเรียนเป็นเสื้อกล้ามกับกางเกงกีฬา ใส่สบายสุดๆ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง หมอกลับเข้ามาในห้อง นุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาผืนเดียว
หมอหันหลังให้ผม ผมมองมันใส่เสื้อผ้า ร่างบางกับผิวขาวเนียนของหมอชวนให้น่าสัมผัสจริงๆ
"มองไรมึง" หมอแต่งตัวเสร็จก้หันมาหาผม
"มองเมียกูไง"
"- -" หมอเดินมานั่งบนเตียงข้างผม
"นี่ พรุ่งนี้เราจะไปทำบุญที่ไหนเหรอ"
"ไม่รู้ว่ะ พ่อกับแม่กูยังไม่บอกที่...มึง พรุ่งนี้ทำไรกินกัน"
"หือ ทำเป็นอ่อมึงอะ"
"มึงก้ช่วยกูดิวะ"
"555 อยากกินไรอะ"
"อะไรก้ได้"
"งั้นเดี๋ยวทำให้กินละกัน" ผมยิ้ม
"เออ อีกอย่างนึง..."
"ไรวะ"
หมอกระซิบ
"...พรุ่งนี้กินเหล้ากัน"
"ไอ้หมอ- -"
"นะๆ กูอยากกินอะ...อย่าพึ่ง ฟังกูก่อน" หมอห้ามเมื่อเห็นว่าผมจะพูดแทรก
"ซื้อมากินที่บ้านไง แค่กูกับมึงสองคน"
"เช้าไปทำบุญ กลางคืนชวนกูกรึ้บเลยหรอครับ"
"น่า นะอั๋น กินที่บ้านก้ไม่ต้องกลัวว่าจะมีเรื่อง ถ้ากูเมา มึงก้ยังดูแลกูได้ นะๆ" มันเขย่าแขนผมใหญ่เลย
"มีเหตุมีผลเชียวนะมึง...เออๆ ก้ได้"
"เยส" ผมส่ายหัวกับท่าทางดีใจของมันครับ ท่าจะอยากเหล้าจริงๆ ถ้าพ่อแม่หมอรู้ต้องแย่แน่ๆ
"แต่ว่า..."
"แต่ไร"
"มึงจะให้ไรกูตอบแทน" ผมยิ้มกรุ้มกริ่ม
"ไม่มีโว้ย"
"ไม่งั้นกูไม่ให้มึงกิน"
"มึงห้ามกูไม่ได้หรอกไอ้อั๋น" หมอยิ้มมุมปาก ยักคิ้วใส่
"เออ ห้ามไม่ได้ แต่กูจะบอกพ่อกับแม่มึง"
"เห้ย อย่านะสัส- -"
"เอาดิ555"
"เออ ยอม จะให้กูทำไร"
"เชื่องเลยนะ"
หมอชูนิ้วกลางให้ผม
"คืนนี้กูขอ..."
"เหี้ย ไอ้โรคจิต" หมอด่าผม กระเถิบตัวหนีผมทันที
"อะไร"
"ไอ้หื่นเอ๊ย ไปไกลๆเลย"
ผมขยับตัวทีเดียวก้รวบหมอไว้ในอ้อมแขนได้
"ปล่อยนะไอ้อั๋น" หมอร้องเสียงดัง
"ชู่ว เบาๆ เดี๋ยวพ่อแม่ตกใจ" ผมรีบห้าม
"ก้มึงอะ เชี่ยอั๋น หื่นชิบหาย"
"กูยังไม่ได้บอกเลยว่าขออะไร โวยวายไปได้...กูแค่จะขอนอนกอดเฉยๆเอง" ผมยิ้ม มองหน้าหมอ มันหลบตาผม
"นอนกับมึงทีไร มึงก้กอดกูอยู่แล้ว จะขอไม" หมอบ่น ผมหัวเราะ
"ก้รู้ตัวนิว่าต้องโดนกอด"
"ถ้ากูไม่ให้กอดอะ"
"ก้กอดอยู่ดีอะ ไม่ปล่อยหรอก"
"ไอ้บ้า เอาแต่ใจ"
ผมผลักหมอลง ตรึงแขนมันกับเตียง คร่อมตัวมันไว้
"เห้ย จะทำไร"
"ถ้าจะขอมากกว่านี้ มึงจะให้กูมั้ยน้า..." ผมแกล้งพูดอย่างหื่นๆ
"ไม่โว้ย"
"หรอ มึงจะทำไรกูได้"
"อย่านะเว้ย" หมอดิ้น
ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ใกล้จนเห็นภาพตัวเองสะท้อนอยู่ในดวงตาของหมออย่างชัดเจน

หมอหลับตาปี๋ ตัวเกร็ง...

"วันนี้ทดไว้ก่อนแล้วกัน"
ผมกระซิบข้างหูหมอเบาๆก่อนจะปล่อยมัน

-จบตอน-

มาต่อแล้วนะครับ
โอ๊ย หมอโดนจีบหนักเชียว เขินแทนเลย^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-05-2016 10:16:39 โดย writerbeer »

ออฟไลน์ haemin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
อะหื้อ เนเล่นกับหมอแบบนี้ป้า ลุ้นนะ

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
รับทราบจ้าาา เชียร์อั๋นเต็มที่เลยนะ

ออฟไลน์ writerbeer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
ตอนที่18(อั๋น)

เมื่อคืนหมอยอมให้ผมกอดแต่โดยดี(ถึงมันขัดขืนผมก้จะกอดมันอยู่ดีครับ555) หมอนอนหงาย ผมนอนหันเข้าหาหมอ โอบแขนรอบตัวและซบหน้าลงบนไหล่มัน
เช้าวันนี้หมอตื่นขึ้นอย่างงัวเงีย หน้าบูดบึ้ง เหมือนเด็กที่กำลังไม่พอใจอะไรบางอย่าง เห็นแล้วตลกดีครับ
"ยังง่วงอยู่อ่อ" ผมถามพร้อมลูบหัวเบาๆ หมอหาวเต็มที่ก่อนพยักหน้า
"ไปอาบน้ำไปซอมบี้"
"ขอนอนต่อไม่ได้เหรอ..."
"ไม่ได้ๆ ไปเลย"
"ง่ะ" หมอทำปากยื่น ผมฉุดแขนมันให้ลุกขึ้น
"ไปเร็ว หรือจะให้กูอาบให้"
"มะ ไม่ต้องเลย" หมอลุกขึ้นแล้วหยิบผ้าเช็ดตัวเดินออกจากห้องไปทันที ผมหัวเราะไล่หลัง

เมื่อเราลงมาข้างล่าง ก้พบพ่อกับแม่รออยู่พร้อมออกเดินทางแล้ว
"ง่วงเชียวนะเจ้าหมอ" พ่อเอ่ยทัก
"ง่วงดิค้าบ" หมอตอบแล้วหาวอีกฟอดใหญ่
"นี่ตื่นเองหรืออั๋นปลุกเนี่ย" แม่ถาม
"ตื่นเองดิครับแม่"
"ผมปลุกค้าบ" ผมตอบตามความจริง ปลุกมันอยู่ตั้งนานแน่ะครับ
"ไอ้อั๋น- -"
"แน่ะ โกหกแต่เช้าเลยแกนี่" แม่ดุ ในขณะที่พ่อหัวเราะเสียงดัง
พอพ่อกับแม่เดินออกไปที่รถแล้ว ไอ้หมอหันมาหาผม
"ขี้ฟ้องอีกแล้วนะมึง"
ผมไม่ตอบอะไร ยักคิ้วกวนตีนไป นั่นทำให้หมอต่อยแขนผมหนึ่งที ผมแกล้งร้อง
"โอ๊ย เจ็บนะเว้ย"
"อะไรกันน่ะลูก" แม่ส่งเสียงมาจากข้างนอกบ้าน
"ป่าวครับแม่" หมอส่งเสียงตอบกลับไป ก่อนจะหันมาจ้องผมอย่างเอาเรื่อง ผมยิ้มตาหยีใส่
"เชี่ยอั๋น กวนตีนละนะสัส- -"
"กวนไรเหยอ อั๋นยังไม่ได้ทำไรเลยนะ" ผมทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
"คืนนี้กลับบ้านไปเลยนะมึง ไม่ต้องมานอนบ้านกูแล้ว"
"โห ไล่กันอีกแล้วอ่อ" หมอเดินจ้ำออกไปหน้าบ้าน ผมตามหลังไปอย่างอารมณ์ดี ได้แกล้งมันแต่เช้า

วัดที่เรากำลังจะไปทำบุญกันคือวัดใหญ่ชัยมงคล อยู่ที่อยุธยา ไม่ไกลจากกรุงเทพมากครับ ผมกับหมอนั่งกันอยู่ที่เบาะหลัง มันกำลังตอบไลน์ใครอยู่ก้ไม่รู้
หรือว่าจะเป็นไอ้พี่ก้องนะ...
"มองไร" หมอหันมาหาเมื่อเห็นว่าผมยื่นหน้าเข้าไป พยายามจะดูว่ามันคุยกับใครครับ
"ป๊าว"
"เสียงสูงเชียวนะ" หมอยิ้มล้อ หันด้านหลังมือถือให้ผม ทำให้ผมมองไม่เห็นหน้าจอเข้าไปใหญ่ ไอ้หมอ- -
ผมกำลังคิดว่าจะทำอย่างไรดี จะทำอะไรแผลงๆกับมันก้ไม่ได้ด้วยสิ พ่อแม่หมออยู่บนรถด้วย

แล้วก้นึกขึ้นได้ ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดไลน์ ส่งสติ๊กเกอร์รัวๆไปให้หมอครับ
ไอ้หมอชะงักไปนิดหนึ่งแล้วหันมาจ้องหน้าผม ขยับปากพูดแบบไม่มีเสียง
'อะไร'
ผมยิ้มยียวน ไม่ตอบ แต่พิมพ์ข้อความลงไปในไลน์แทน
(คุยกะใครเหยอ)
หมอพิมพ์ตอบมาอย่างว่องไว
(ไม่เสือกดิ)
ผมแกล้งทำหน้าดุ แต่มันไม่กลัวเลยครับ ทำหน้าเยาะเย้ยกลับมา- -
(อย่าให้รู้นะว่าคุยกับคนอื่นอยู่)
(แล้วไง มึงจะทำไรกู ไม่ได้เป็นไรกันซะหน่อย)
หันไปเห็นไอ้หมอยักคิ้วกวนตีน หนอย นี่ถ้าอยู่กับมันสองคน ผมจับมันขึ้นเตียงไปแล้ว!
(กูจะจับมึงทำเมีย ไม่ให้มึงไปยุ่งกับใคร)
หมออ่านแล้วสะดุ้งเล็กน้อย หน้ามันแดงเรื่อเลย
ผมหลุดหัวเราะออกมา แม่หมอหันมามอง ผมเลยทำเป็นหัวเราะสิ่งที่อยู่ในมือถือ จนแม่หันกลับไป
(ไอ้อั๋นบ้ากาม)
ตามด้วยสติ๊กเกอร์ตัวการ์ตูนโกรธอีกหลายตัวจากไอ้หมอครับ
(คืนนี้มึงเสร็จกูแน่) ผมแกล้งต่อ
(สัส- -)
(เตรียมตัวไว้เลย)
(กูจะโทรแจ้งตำรวจ)
(แจ้งจับข้อหาไรครับ)
(ล่วงละเมิดทางเพศ พรากผู้เยาว์)
(ผัวปล้ำเมียเค้าไม่ถือว่าเป็นความผิดนะหมอ แล้วกูก้เป็นผู้เยาว์เหมือนกัน)
(ไอ้บ้า ไม่คุยแล้ว)
ผมกลั้นขำ หมอหันหน้ามองข้างทาง ไม่ยอมหันมาหาผมเลยครับ เห็นเสี้ยวหน้าฝั่งหนึ่งยังเป็นสีแดงอยู่
ผมอมยิ้ม คนอะไรเขินได้โคตรน่ารัก...

เราไปถึงวัดกันเกือบเก้าโมงเช้า ใกล้เคียงกับที่พ่อบอกไว้ ผู้คนมาทำบุญกันเยอะมาก เราเริ่มต้นจากการกราบไหว้พระพุทธรูปที่เป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ก่อนครับ ผมสังเกตว่าหมอดูตั้งใจ นิ่งมาก
พอกราบพระเสร็จ มันกระซิบถามผม
"เมื่อกี้ทำไมต้องคุยในไลน์ด้วย"
"ก้ กูอยากจีบมึงนิ แต่ทำต่อหน้าพ่อแม่ไม่ได้" ผมกระซิบตอบพร้อมยิ้มกว้าง
หมอผลักไหล่ผมเบาๆ
จากนั้นเราก้เข้าไปในโบสถ์ กราบพระพุทธรูปข้างใน และฟังธรรมจากพระสงฆ์ต่อ
ผมมองหมอตลอดเวลา มันยังคงตั้งใจแน่วแน่ เวลามันอยู่นิ่งๆนี่ก้น่ารักไปอีกแบบหนึ่งครับ

ทำบุญเสร็จก้แวะทานข้าวเที่ยงกันแถวนั้นก่อนพ่อจะขับมาส่งผมกับหมอที่บ้าน
"ฝากบ้านด้วยนะอั๋น ฝากหมอคงไม่ได้เรื่อง" แม่พูด
"แม่" หมอลากเสียงยาว
ผมกับพ่อหัวเราะ

ถึงบ้านปุ๊บ หมอก้เดินตรงไปที่โซฟาในห้องนั่งเล่นก่อนจะล้มตัวลงนอนคว่ำทันที
"ของีบก่อนนะ โคตรง่วงเลย"
ผมเห็นอย่างนั้นก้นึกอยากแกล้งมันขึ้นมา เลยนอนคว่ำลงไปทับมันครับ
"เห้ย" หมอร้อง
ผมกางแขนรัดมัน
"ไอ้อั๋น กูง่วง อย่าพึ่งเล่นดิ๊"
"กูก้ง่วง ขอนอนด้วย"
"นอนบ้านมึงทับกันงี้อ่อ ลุกเลย"
ผมไม่ลุก แถมซุกหน้าลงไซร้ซอกคอหมอที่อยู่ตรงหน้าพอดี ลากริมฝีปากผ่านผิวหนังเบาๆ ตัวเราแนบชิดกัน
"ปะ ปล่อย" หมอบอกเสียงสั่น พยายามดิ้น
"อือ...รู้สึกดีจัง" ผมคราง
"ไอ้บ้า ปล่อยนะเว้ย"
ผมยังทำต่อไป ซอกคอหมอเนียนนุ่มมากเลยครับ สักพักผมหยุดแกล้ง ลุกขึ้นจากตัวหมอ
"สาด กูจะนอน" ตาหมอจะปิดอยู่แล้วครับ
"ไม่แกล้งละๆ มานี่มา" ผมค่อยๆดันตัวหมอให้มานอนบนตักผมแทน
"นอนตักเหรอ มึงไม่เมื่อยหรออั๋น"
"ไม่อะ นอนเหอะ" ผมยิ้ม
หมอทำท่าเหมือนจะพูดอะไร แต่ก้ไม่ได้พูด ผมลูบแขนหมอเบาๆจนมันหลับไปบนตักผม...

"อั๋น...อั๋น"
"อือ..." ผมขยับหัวขึ้นอย่างงัวเงีย นี่ผมก้หลับไปด้วยงั้นเหรอ หมอยืนอยู่ตรงหน้า ท่าทางสดชื่น
"มึงตื่นนานยัง"
"ชั่วโมงก่อน"
"นี่กี่โมงแล้วอะ" ผมอ้าปากหาวฟอดใหญ่
"ห้าโมงเย็น"
"ไหน มานี่ดิ" ผมดึงแขนหมอให้มานั่งบนโซฟากับผม
"อะไร"
"ปลุกกูไมเนี่ย"
"ก้ มึงสัญญาว่าจะทำไรให้กูกินนี่"
"อ้อ...แหม เรื่องกินนี่ไม่ลืมเลยนะ" ผมขยี้ผมหมออย่างเอ็นดู เมื่อคืนมันบอกผมไว้ว่าอยากทำอะไรกินกันเองครับ
"ทำไรดีวะ" หมอถาม
"นั่นดิ"
"อืม...ทำขนมมั้ย"  หมอหยุดคิดแล้วเสนอ
"ได้ มึงอยากกินไรอะ"
"โทสต์"
"ไป after you กะกูเหอะงั้น- -"
"ไม่เอาดิ อยากกินที่เราทำเองเว้ย...หรือว่ามึงทำไม่เป็น" หมอยิ้มกวน
"ดูถูกกันอีกละ ทำเป็นดิ"
"จริงดิ เย่"
ผมยิ้มกว้างกับท่าทางดีใจของหมอ
"เออ แล้วมึงไม่กินข้าวก่อนเหรอ" ผมถาม
"กินข้าวก่อน แล้วกินขนมต่อไง...งั้นเดี๋ยวกูโทรไปร้านอาหารตามสั่งแปบ"
"เออๆ"
เรื่องกินนี่ว่องไวเชียวนะหมอ

"มึงต้องให้กูช่วยด้วยนะ ไม่งั้นกูไม่ให้มึงทำ" หมอเดินตามผมเข้ามาในครัวหลังโทรไปสั่งอาหารเย็นเสร็จ
"เอ้า เป็นคนอยากกินเองไม่ใช่อ่อ"
"นั่นแหละ มึงไม่เคยให้กูช่วยทำเลยนี่หว่า"
"ก้มึงทำไม่เป็นอะ เดี๋ยวครัวเละ"
"ก้สอนกูดิครับ" หมอโบกหัวผม ดูมัน
"ไอ้หมอ- -"
"555" มันหัวเราะชอบใจ หลังจากได้นอนเต็มตื่น โหมดกวนตีน-ขี้เล่นทำงานแล้วครับ
"...บ้านมึงนี่ตุนของกินไว้เยอะเลยนะ ขนมปัง ไอศกรีม ผลไม้ มีทุกอย่างแล้ว ไม่ต้องซื้ออะไรเลย" ผมไล่ดูรายการของที่ต้องใช้ทำ Honey Toast แบบที่หมออยากกินครับ
เจ้าของบ้านยิ้มอย่างภูมิใจ
"ให้กูช่วยทำไร"
"เอ่อ...หั่นผลไม้ละกัน มึงอยากกินอะไรก้เลือกเลย"
หมอหยิบกล้วยมาปอกแล้วเริ่มหั่นเป็นชิ้นบางๆอย่างกระตือรือร้น ส่วนผมเอาขนมปังออกมาอบในเตาให้พออุ่น ขนมปังที่ใช้ทำไม่เหมือนกับที่กินที่ร้านขนาดนั้น แต่พอใช้แทนกันได้อยู่ครับ

ผลไม้ที่หมอเลือกมามีกล้วย ส้ม และกีวี่ เตรียมขนมปังและผลไม้เสร็จ ผมก้หันมาเลือกไอศกรีม มีไอศกรีมหลายรสเลยครับ
"หมอเอารสไร"
"ได้หมด"
"งั้นเอานมกับช็อคโกแลตแล้วกัน" ผมเลือก
ตอนนั้นเสียงกริ่งดังขึ้น สงสัยอาหารจะมาส่ง
"เดี๋ยวกูมา" หมอบอก เดินออกไปหน้าบ้าน ไม่ถึงนาทีก้กลับมา
"งั้นกูยังไม่ใส่ไอศกรีมนะ เดี๋ยวมันละลาย กินข้าวก่อน"
"เออ"

"สั่งไรมากินเนี่ย" ผมพึมพำ แกะกล่องโฟมออกมาก้ต้องยิ้มกว้าง หมอสั่งข้าวกระเพราหมูกรอบกับปลาหมึกให้ผมครับ
"ของชอบมึงไง" หมอตอบ หยิบช้อนส้อมมาแล้วนั่งลงที่โต๊ะอาหาร
"น่ารักสัส รู้ใจกูจริงๆ"
หมอเก๊กหน้านิ่ง ทำเป็นไม่สนใจผม มันเปิดอีกกล่องหนึ่ง เป็นข้าวหมูทอดกระเทียมพริกไทยครับ
"มองไร มีปัญหาอ่อ" หมอพูดเมื่อเห็นว่าผมเอาแต่มองหน้ามันระหว่างกินข้าวครับ
"มองนิดมองหน่อยไม่ได้อ่อ"
"แถวบ้านกูเรียกจ้อง- -"
"อ่าวเหรอ555" ผมเกาหัวแก้เขิน หมอมันทำอะไรก้น่ามองไปหมดนี่ครับ

แล้วก้ถึงเวลาของ Honey Toast ผมหยิบกล่องไอศกรีม2รสนั้นออกมาจากตู้เย็น แล้วตักออกมาเป็นลูกกลมๆใส่ลงบนจานขนมปังกับผลไม้ที่เตรียมรอไว้แล้ว
"น่ากินสาด" หมอร้องเมื่อผมเอาน้ำผึ้งมาเทราดขนมปัง
"แดกเสร็จแล้วต้องไปวิ่งหนักๆเลย- -" ผมบ่น
จากนั้นเราสองคนก้ช่วยกันจัดการ Honey Toast ตอนทำใช้เวลานาน แต่ตอนทานไม่ถึง5นาทีครับ ยิ่งเป็นผู้ชายสองคนกินแล้วด้วย
"อร่อยมั้ยมึง"
"โคตรๆ" หมอตอบ
"ไง จัดของหวานไปแล้ว ต่อด้วยไรอีกมั้ย"
หมอยิ้มอ่อนก่อนตอบ
"ก้เหล้าไง"

ผมถามหมอว่าจะไปซื้อเหล้ามากินยังไง หมอตอบแค่ว่า 'เดี๋ยวมึงก้รู้' จนสองทุ่มครึ่งผมก้ได้คำตอบ
มันฝากพี่วินมอเตอร์ไซด์หน้าหมู่บ้านไปซื้อเหล้ามาส่งที่บ้านครับ เหล้าถูกใส่รวมมากับถุงเสื้อผ้าชุดกีฬา มองจากข้างนอกไม่เห็นขวดเหล้าครับ
"ขอบคุณมากนะพี่" หมอส่งเงินค่าเหล้ากับค่าบริการขนส่งให้พี่วิน
"เห้ย ไม่เป็นไรไอ้หมอ" แล้วพี่เค้าก้ขับรถออกไป
"อยากได้คำอธิบายมะ" หมอหันมาหา เมื่อเห็นว่าผมทำหน้าฉงน เราเดินกลับเข้ามาข้างในบ้าน
"เออ ทำไมวะ"
"ก้เรายังอายุไม่ถึง ไปซื้อที่ไหนเค้าไม่ขายให้ กูเลยต้องฝากคนอื่นซื้อ กูสนิทกับพี่วินคนนี้ แล้วที่ต้องห่อรวมมากับของอย่างอื่น เพราะเดี๋ยวข้างบ้านเห็นแล้วมาบอกพ่อแม่กู- -"
"เชี่ย ล้ำสัส" ผมเริ่มเข้าใจ ทึ่งกับแผนการของไอ้หมอมันจริงๆครับ
"ถ้าคนอื่นเห็น ก้คงนึกว่าเอาของที่ลืมไว้มาส่งน่ะ"
"ทำไมเรื่องแบบนี้มึงฉลาดจังวะ"
"นี่ชมหรือด่ากู"
"ด่าอยู่"
"ไอ้สาดด"

ผมกับหมอนั่งกินกันในห้องนอนครับ เรานั่งเอาหลังชิดปลายเตียง
"คืนนี้อย่าเรื้อนนะมึง" ผมพูดยิ้มๆ
"ไม่เรื้อนโว้ย ระดับนี้ คอแข็ง"
"หรา เดี๋ยวก้เมาแล้วมึงอะ"
ไอ้หมอมันคออ่อน กินนิดหน่อยก้ไปแล้ว ที่น่ากลัวก้คือ ตามตัวมันจะเป็นสีแดงเข้มครับ ส่วนผมค่อนข้างคอแข็งนิดหนึ่ง ดูแลมันได้แน่นอน
"หมอ"
"หือ"
"สมมติว่าพ่อแม่มึงรู้ จะเป็นไงวะ"
"เอ่อ...กูว่าบ้านแตก แม่กูพูดอยู่บ่อยๆว่าห้ามลองเด็ดขาด ส่วนพ่อกูก้ไม่ชอบ"
"5555 ห้ามลอง ไม่ทันแล้ว"
"เออดิ กูแอบลองตั้งนานแล้ว"
"แล้วมึงกินครั้งแรกตอนไหน"
"ตอนที่เลิกกับแฟนกูอะ"
"อ่อ ยังงี้นี่เอง อกหักแล้วต้องดามใจอะดิ" ผมยิ้ม
"ก้เพื่อนกูชวนนี่หว่า"
"แล้วแดกที่ไหน"
"บ้านเพื่อน...ว่าแต่มึงเหอะ ไปฝึกแดกมาจากไหน"
"เจ๊เอ๋"
"นั่นไง"
"เค้าบอกให้กูลองกินเว้ย จะได้รู้ว่ามันเป็นยังไง มีภูมิคุ้มกัน"
"เหตุผลมึงมากกว่าเหตุผลเจ๊เอ๋ม้าง"
"จริงนะเว้ย ถามเจ๊เอ๋ได้" ผมพูดจริงครับ
เราดื่มกันไปคนละ3แก้วแล้ว ผมยังสบายๆอยู่ แต่ไอ้คนข้างๆผมเนี่ย ตัวเริ่มเป็นสีแดงแล้วครับ
"ใครก้ไม่รู้เมาแล้วว่ะมึง" ผมแซว
"ไหน ใครเมา ไม่มี" หมอยังสติสัมปชัญญะครบถ้วน แต่รออีกไม่นานครับ มันไปแน่นอน ตอนนี้แค่ตัวแดงเป็นสัญญาณเท่านั้น
"...เชี่ยหมอ"
"ไรวะ"
"มึงทำไรไว้"
"อ่อ 555 พึ่งเห็นหรอวะ"
ผมพึ่งหยิบมือถือขึ้นมาเปิด facebook ตั้งแต่กลับมาจากไปทำบุญ เห็นไอ้หมอ tag รูปผมนั่งหลับที่โซฟามา ตอนนั้นมันคงตื่นและลุกจากตักผมไปแล้วครับ
"แกล้งกูอ่อสาด..." โอ้โห ยอด like หลายร้อย comment จัดไปอีกเหยียบร้อยครับ- -
"5555" หมอยังคงหัวเราะสะใจ
"กูอุตส่าห์ให้มึงนอนตักนะ"
"ไม่เกี่ยวกันโว้ย"
ผมโบกหัวมันไปทีหนึ่ง
"อย่าให้มึงหลับมั่งนะ"

นั่งกินกันต่อไปอีกพักใหญ่ ไม่ได้นับจำนวนแก้วแล้วครับ หมอเริ่มนั่งตัวไม่ตรง เซไปเซมา พูดก้ช้าลงแล้ว แต่มือยังคงยกแก้วขึ้นดื่มไม่ขาด เหล้าใกล้หมดก้เทเติมอยู่เรื่อยๆ
"พอแล้วมั้งมึง" ผมเตือน
"กูยังไหวน่า" หมอตาเยิ้มเชียวครับ
เอาล่ะสิ ผมว่ามันแย่แล้วล่ะครับ
"เห้ยหมอ พอเหอะ" ผมตัดสินใจว่ามันควรเลิกกินได้แล้วครับ จับมือมันไว้ไม่ให้หยิบแก้วขึ้นดื่มอีก
"...อย่ามายุ่งน่า ชิว" เวลามันเมาแล้วตอบคำถามช้าครับ
"ชิวบ้านมึงดิ ถ้ากินเข้าไปอีก มึงไม่ไหวแน่"
"เห้ยยย" หมอร้อง พยายามแกะมือผมออก
"พอเหอะนะหมอ เชื่อกู เดี๋ยวมึงเป็นอะไรขึ้นมา กูจะทำยังไง" ผมเริ่มใช้ไม้อ่อน
"อั๋น...กูอยากกินอีก"
"อย่าเลย"
"อือ..."หมอส่งเสียงครางอย่างขัดใจ
"นะๆ เลิกกินเหอะ เดี๋ยวกูเลิกกินด้วย"
"กู ไม่ เลิก" หมอยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมแล้วพูดทีละคำ
"ดื้อนะมึงอะ" ผมแตะหน้ามัน ร้อนจี๋เลยครับ ตามตัวก้ด้วยเช่นกัน
"อั๋น...มึงชอบกูจริงๆอ่อ"
อยู่ๆหมอก้ถามขึ้น ผมชะงัก นี่มันถามเรื่องนี้ตอนนี้เนี่ยนะ
"เอ่อ มึงเมาแล้วหมอ เดี๋ยวกูพาไปอาบน้ำนอน" ผมพยายามดึงตัวหมอให้ลุกขึ้น แต่มันไม่ยอมลุกครับ
"...ม่ายอาว ตอบมาก่อน มึงชอบกูเหรอ"
"อะ เออ กูชอบมึง"
หมอเงียบไปนาน แต่ยังคงจ้องหน้าผมอยู่ ผมก้ไม่ได้ทำอะไร นั่งอยู่กับมันตรงนั้น
"...ไหนมึงเล่าให้กูฟังว่าเคยชอบเพื่อนผู้หญิง แล้วมึงจะมาชอบกูได้ไง กูเป็นผู้ชายนะเว้ย"
ผมอึ้งไปพักหนึ่ง นี่คือสิ่งที่หมอกำลังสงสัยอยู่งั้นเหรอ
"ใช่ กูเคยชอบ...แต่ตอนนี้กูชอบมึงแล้วนี่"
หมอยังคงมองหน้าผมอย่างค้นหาคำตอบ มันเอื้อมมือมาจับมือผม
"...ถ้ามึงชอบกูจริงๆ ไหน..."
"ไหนอะไร"
"จูบกูดิ"
...
คราวนี้ผมเงียบบ้าง สตั๊นกับคำพูดไอ้หมอไป10วินาทีเต็มๆครับ
"อะไรนะ"
"...มึงทำไม่เป็นหรอว้าอั๋น" ไอ้หมอเมามาก เมาจนเอาไม่อยู่แล้วครับ
ทันใดนั้นเอง หมอเอามือสองข้างมาจับหน้าผม แล้วขยับเข้ามาประกบปากกับผม

หมอจูบผม...

หมอกำลังจูบผม

ผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้ ในที่สุดผมก้รู้สึกตัว กลายเป็นว่าตอนนี้ผมเป็นฝ่ายจูบตอบมันอย่างดูดดื่ม ยกตัวมันขึ้นมานั่งบนตักผม มือกำลังสัมผัสตัวมันอย่างอันตราย...
ส่วนไอ้หมอนั่งนิ่งไม่ไหวติงอยู่บนตัวผม

ไม่ได้! ผมจะปล่อยให้มันเลยเถิดไปมากกว่านี้ไม่ได้ ถึงผมจะชอบมันก้เถอะ ผมจะฉวยโอกาส ทำกับหมอทั้งๆที่มันเมาไม่รู้เรื่องแบบนี้ไม่ได้

ผมรีบขยับตัวหมอออกจากอ้อมแขนผมอย่างรวดเร็ว
"อะ...อั๋น" หมอมองหน้าผม สีหน้ามันอ่านไม่ออกเลยครับว่ามันกำลังรู้สึกอย่างไรหรือกำลังคิดอะไรอยู่
"เลิกกินเถอะนะ นอนกัน" ผมบอก พยายามขับไล่อารมณ์ตัวเองที่พุ่งขึ้นมาอยู่ข้างใน
"...กูอยากกินต่อ"
"พอแล้ว" ผมดุ ฉุดแขนมันลุกขึ้นแล้วลากมันไปห้องน้ำครับ
"จะ...จะไปไหน"
"พาไปอาบน้ำไง"
ยังไปไม่ถึงห้องน้ำ หมอก้อาเจียนออกมาใส่เสื้อผมเต็มเลยครับ
"ไอ้หมอ- -"
"อะ...อือ"
"เออ ดีเหมือนกัน อ้วกออกมาจะได้ดีขึ้น"
ผมถอดเสื้อยืดออก พาหมอไปอาเจียนต่อในห้องน้ำ ช่วยตบหลังมันครับ มันอาเจียนออกมาอีกเยอะเลย
"เปนไงมึง ดีขึ้นปะ"
"ดี...กูปวดหัวอะอั๋น"
"ก้บอกแล้วให้หยุดกิน มานี่" ผมพยุงมันกลับไปที่ห้องนอน ท่าทางเจ้าตัวจะอาบน้ำไม่ไหวแล้วครับ ผมไปเตรียมถาดใส่น้ำกับผ้าขนหนูผืนเล็กมาเช็ดตัวให้มันแทน
"ถอดเสื้อ เดี๋ยวกูเช็ดตัวให้"
"...เห้ย แล้วมึงถอดเสื้อทำไมวะอั๋น...ไม่เอา กูไม่ถอด มึงจะปล้ำกูอ่อ"
ที่จริง ตอนที่เราจูบกันเมื่อครู่ ผมก้เกือบอดใจไม่ไหว เกือบเลยไปถึงขั้นนั้นแล้วเหมือนกันครับ
"ก้มึงอ้วกใส่เสื้อกูอะ...เอ้า ถอดเสื้อดิ กูไม่ปล้ำมึงหรอกน่า"
"...ถอดให้หน่อย กูถอดไม่ได้"
ดูมัน- -
ผมถอดเสื้อหมอออกแล้วเริ่มเช็ดตัวให้ พยายามไม่มองร่างกายคนตรงหน้า เหตุการณ์แบบนี้มันอันตรายจริงๆครับ...
"มึงจะไปไหนอะ" หมอถามขึ้นเมื่อผมเช็ดตัวให้เสร็จและจัดให้มันนอนลงบนเตียง ห่มผ้า
"กูจะไปอาบน้ำ"
"ไม่ไปไม่ได้เหรอ"
"เดี๋ยวกูกลับมา แปบเดียว"
"...ไม่เอา มาอยู่กะกูก่อน"
"เออๆ...อ้อนอีกแล้วนะมึงอะ" ผมเดินกลับไปนั่งข้างหมอบนเตียง
"...กูปวดหัวเหี้ยๆ"
"นอนเลย เดี๋ยวเช้าตื่นมาก้หาย"
แล้วผมก้ลูบแขนหมอเบาๆจนมันหลับไป ผมถึงเดินออกไปอาบน้ำ
เฮ้อ หมอเมาทีไรมีเรื่องทุกทีเลยครับ

-จบตอน-

มาแล้วค้าบ คิดถึงอั๋นหมอกันมั้ยคุณผู้อ่าน
เราจัดอั๋นให้อีกตอนหนึ่ง ให้หายคิดถึงพระเอกกันไปเลย~
เกือบไปแล้วนะตอนนี้ เฮ้อ สถานการณ์มันพาไปจริงๆ
ปล.วิธีแอบกินเหล้าของหมอมันฉลาดสุดๆเลยจริงมั้ย55
อ่านแล้ว comment ให้อั๋นหมอเยอะๆเลยน้า
ติดตามตอนต่อไปด้วยครับ

ออฟไลน์ Walitya

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เค้าจูบกันแล้วอะ เขิน  :-[

ออฟไลน์ panitanun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
เอ้าดิชั้นนึกว่าอั๋นจะหลอกล่อให้หมอจูบ55555555
น้องหมอจูบเค้าก่อนซะงั้นเลยลูก55555

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
หมอรุกแบบจัดหนัก!! #คนเมาทำอะไรก็ได้ 55555

ออฟไลน์ writerbeer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
ตอนที่19

ผมถามอั๋นว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เพราะหลังจากตื่นมา ผมก้จำเหตุการณ์เมื่อคืนไม่ได้เลยสักนิดเดียว อั๋นบอกว่าผมอาเจียนใส่มัน มันเช็ดตัวให้ผม แล้วก้นอน
"แค่นั้นอ่อ" ผมไม่อยากเชื่อว่าผมจะแค่นั่งกินจนเมา แล้วก้อาเจียนใส่มัน มันน่าจะมีอะไรมากกว่านั้นสิ
"แค่นั้นแหละ"
ผมไม่เชื่อแน่นอน แต่ไม่ได้ซักต่อ ผมอาจจะเล่าเรื่องดราม่าของผมให้มันฟัง หรือทำอะไรทุเรศๆ น่าอาย มันเลยไม่อยากเล่านะ
ที่ทำให้ผมยิ่งเชื่อไม่ลงก้คือ อั๋นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่หลังจากที่ผมถามมัน แสดงว่าผมต้องทำอะไรสักอย่างแน่ๆ มันอัดคลิปผมตอนเมาไว้หรือเปล่าวะเนี่ย

แล้ววันอาทิตย์ก้ผ่านไปอย่างรวดเร็วจนเหลือเชื่อ ผมรู้สึกเหมือนพึ่งได้หยุด ก้ต้องกลับไปเรียนอีกแล้ว ตลอดทั้งวันที่เหลือ ผมเล่น play station กับไอ้อั๋น ด่ากันโหวกเหวกไปมา ส่วนใหญ่มันชนะผมครับ- -
"เชี่ย กูแพ้อีกแล้วอ่อ มึงโกงกูไอ้อั๋น"
"มึงกากเองไอ้หมอ ไอ้กากกก" อั๋นทำท่าทางล้อเลียนใส่ผม
ผมพยายามจะไล่จับมันมาโบกหัวให้ได้สักทีหนึ่ง วิ่งไล่มันรอบบ้านเหมือนเด็กเล่นกันเลยครับ แต่ไอ้อั๋นเร็วกว่า จับมันไม่ได้สักที
"อย่าหนีนะเว้ย" ผมร้องบอก ยืนหอบอยู่ข้างโซฟา
"ไอ้หมอกาก เล่นเกมก้แพ้ วิ่งไล่จับก้แพ้" อั๋นพูดอย่างเริงร่า
"สัส" ผมปาหมอนใบเล็กที่วางอยู่บนโซฟาใส่อั๋น มันไม่ทันระวัง โดนเข้าที่หน้าเต็มๆเลยครับ
ผมหัวเราะดังลั่น แต่อั๋นก้กระโจนข้ามมาถึงจุดที่ผมยืนอยู่ภายในพริบตาเดียว รัดผมทั้งตัวเหมือนท่ามวยปล้ำแล้วจับทุ่มลงบนโซฟา
"เห้ย เชี่ยอั๋น ปล่อยนะ" ผมเริ่มโวยวายเสียงดัง อั๋นกระเถิบตัวขึ้นมานั่งคร่อมร่างผมแล้ว
"หมอปาหมอนใส่หน้ากูอ่อ"
"เค้าขอโทษ เค้าไม่ได้ตั้งใจทำอั๋นนะ" ผมทำเสียงน่ารักใส่
"โอ้โห ปามาเต็มแรงขนาดนั้นบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ ไม่ต้องมาอ้อนเลย มาทำโทษซะดีๆ..."
"ม่าย"
อั๋นยิ้มหื่น รวบแขนทั้งสองข้างของผมขึ้นแล้วจับไว้ด้วยมือข้างเดียว ก่อนจะใช้อีกมือสอดเข้าไปในเสื้อผม
"ยะ อย่านะเว้ยไอ้อั๋น"
"อะไรนะหมอ"
"ปล่อยยย" ผมร้องเสียงหลง มือมันลูบไล้ไปมาบน อกเปลือยเปล่าของผม
"อย่าดิ้นดิ"
"ไอ้อั๋นบ้ากาม ไอ้โรคจิต"
"หึหึ" ตอนนี้มันเลื่อนมือลงไปแถวกางเกงฟุตบอลแล้ว
"เห้ย" ผมร้องเสียงดังขึ้นไปอีก
"ไหนขอดูหมอน้อยหน่อยดิ"
"ไอ้อั๋นนน"
อั๋นสัมผัสหมอน้อยผ่านกางเกง ลากวนไปมาตรงเป้าผมอยู่นาน จนอารมณ์ผมเริ่มมา...
"อะ...อือ" ผมคราง
อั๋นยอมปล่อยผมจนได้ ผมลุกขึ้นมาหายใจหอบ รีบจัดการกับเสื้อผ้าตัวเอง
"หมอน้อยสู้มือเชียวนะ" มันหัวเราะเบาๆ
"ไอ้บ้า"

เย็นวันนั้นอั๋นขอกลับไปกินข้าวกับที่บ้านครับ ผมเดินไปส่งมันหน้าบ้าน
"หมอ คือ..." อั๋นขึ้นซ้อนมอเตอร์ไซด์แล้ว แต่ไม่ยอมขับออกไป มันอึกอัก
"อะไรเหรอ"
"เรื่องเมื่อคืนน่ะ"
"เออ กูทำอะไรไว้ใช่ปะ เล่ามาดิ"
"มึง..."
"..."
"มึงถามกูว่า...กู...ชอบมึงจริงๆรึป่าว"
ผมหน้าร้อนผ่าว นี่ผมเผลอพูดสิ่งที่อยู่ในใจผมออกไปงั้นเหรอ
"...มึงบอกว่า กูเคยชอบเพื่อนผู้หญิง แล้วกูจะมาชอบมึงได้ยังไง"
"ละ แล้ว..."
"กูยังยืนยันคำเดิมนะหมอ กูชอบมึง"
อั๋นพูดพร้อมจ้องตาผมอย่างจริงจัง
"กูเคยชอบผู้หญิงก้จริง แต่ตอนนี้กูชอบมึง...กูไม่รู้ตัวว่าเริ่มชอบตั้งแต่ตอนไหน แต่ก้ชอบไปแล้ว"
ผมหน้าแดงจัดยิ่งกว่าครั้งไหนๆที่เคยเป็น อั๋นมาสารภาพรักรอบสองกับผม
เราเงียบกันอยู่ตรงนั้นตั้งนาน ผมยืนนิ่ง พยายามมองไปทางไหนก้ได้ที่ไม่ใช่หน้าอั๋น ส่วนมันก้ยิ้มแก้มปริอย่างเดียว
"มะ มึงพูดคำว่าชอบเยอะไปแล้ว"
อั๋นหัวเราะเบาๆเมื่อผมพูดขึ้นในที่สุด
"ไอ้บ้าเอ๊ย...กลับได้แล้ว เดี๋ยวรถก้ติดหรอก"
"อือ" อั๋นรับคำสั้นๆ ยิ้มหน้าบาน
"ขับรถดีๆล่ะ"
"ค้าบเมีย"

อั๋นตัดสินใจเล่าให้ผมฟังเพราะมันต้องการอธิบายว่ามันรู้สึกอย่างไรกับผมเหรอ...

ผมกลับมานั่งคิดถึงสิ่งที่อั๋นเล่า ใช่ครับ ผมยอมรับว่ากังวลเรื่องที่มันชอบผู้หญิงมาก่อน แต่ลืมไปเสียสนิทว่าผมเองก้ด้วย
เห้ย! ถ้าผมคิดได้ว่าผมเคยชอบผู้หญิง ก้หมายความว่า...ตอนนี้ผมชอบอั๋นน่ะสิ

ไอ้หมอ มึงชอบอั๋นเข้าแล้วงั้นเหรอ


"พ่อค้าบ แม่ค้าบ" ผมรีบวิ่งลงบันไดมาที่ห้องนั่งเล่นทันทีหลังจากนั่งคิดอยู่คนเดียวในห้อง
"ว่าไงหมอ ทำไมต้องรีบขนาดนั้นด้วย" พ่อขมวดคิ้วอย่างสงสัย กำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่
"นั่นสิ" แม่เดินออกมาจากห้องครัว นั่งลงบนโซฟาข้างพ่อ
"ผมมีเรื่องจะถามน่ะครับ"
"เรื่องอะไรลูก"
"คือ พ่อกับแม่ช่วยเล่าตอนที่จีบกันให้ผมฟังหน่อยได้มั้ย"
"หือ" พ่อร้อง
"อะไรนะ" แม่หรี่ตามองผม
"ผมอยากรู้อะ ว่าพ่อกะแม่ตกลงเป็นแฟนกันได้ยังไง ไม่ดิ เอาตั้งแต่ตอนเริ่มรู้จักกันเลยดีกว่า"
"อยู่ๆมาถามเรื่องนี้...แม่ไม่เล่าหรอก อายจะแย่" แม่หน้าแดงขึ้นมาทันทีเลยครับ
"คุณจะเขินไปทำไมน่ะ งั้นพ่อเล่าเอง มาๆ อยากรู้อะไรเดี๋ยวจะตอบทุกข้อเลย"
"ดีเลยพ่อ" ผมพูดกลั้วหัวเราะ พ่อนั่งยิ้มแฉ่ง ส่วนแม่เขินจนทำอะไรไม่ถูก
"แหม คุณก้..."
"นี่ ลูกเราเองนะที่ถาม ไม่ใช่คนอื่นซะหน่อย"
"เล่ามาเลยพ่อ อยากฟังแล้ว" แม่ตีแขนพ่อเบาๆ
"ยาวนะเจ้าหมอ"
"ได้ ชิว" ผมยิ้มกว้าง เตรียมฟัง
"ก้ อย่างที่แกรู้ แม่เป็นรุ่นน้องพ่อที่มหาวิทยาลัย ถึงจะเรียนคนละคณะกัน แต่ตึกเรียนเราก้ใกล้กัน พ่อเจอแม่เดินผ่านโรงอาหารใต้ตึกหรือสนามหญ้าหน้าคณะพ่อบ่อยๆ"
ผมสังเกตเห็นว่าแม่หน้าแดงขึ้นไปอีก พ่อเอื้อมมือไปจับมือแม่ระหว่างที่เล่าด้วย
"วันนึง พ่อคิดว่าต้องรีบคุยแล้ว ไม่งั้นคนอื่นอาจจะมาทำความรู้จักเพิ่ม เพราะว่าแม่สวยมากเลยนะ เอาวะ เข้าไปขอเบอร์โทรศัพท์ซะเลย"
"โหพ่อ เจ๋งว่ะ"
"เป็นไงล่ะ พ่อเก่งมั้ยล่ะ" พ่อยิ้มภูมิใจ หันไปมองหน้าแม่
"แล้วแม่ให้เบอร์พ่อเลยรึป่าวครับ"
"ยัง- -" พ่อตอบทันควัน
"ก้แหม ใครมันจะไปกล้าให้ล่ะ น่ากลัวจะตาย" แม่หัวเราะเบาๆ ส่วนผมหัวเราะเสียงก้องเลยครับ
"แต่แม่ก้ไม่ได้ให้เบอร์ใครเลยนะ ไม่ใช่ว่าไม่ให้พ่อเราคนเดียว" แม่รีบพูด
"แสดงว่าแม่ฮ็อตนะครับเนี่ย...แล้วทำไมไม่ให้อะ"
"ก้แม่กลัวนี่ ยายสอนว่าอย่าริรักในวัยเรียน"
"แม่" ผมร้องอย่างเสียดาย
"แต่พ่อก้เอาชนะยายได้นะ" พ่อพูดต่อทันที
"ยังไงอะๆ"
"พ่อก้พยายามซื้อของไปให้แม่ทุกวัน น้ำบ้าง ขนมบ้าง ตอนแรกแม่เราไม่รับ หลังๆมาถึงรับเพราะเริ่มรักพ่อแล้ว" พูดจบพ่อหันไปหอมแก้มแม่หนึ่งฟอด
"บ้าน่าคุณ เพราะชั้นกลัวเสียน้ำใจต่างหาก อีกอย่าง ได้กินของฟรีด้วย ใครจะไม่เอา" แม่รีบปฏิเสธอย่างขัดเขิน
"พ่อตื๊อแม่เก่งมาก มาชวนคุยทุกวัน อาสาเดินไปส่งที่หอพักด้วยนะ แรกๆแม่ไม่ไว้ใจ ไม่รับของที่พ่อเอามาให้ ไม่ให้เดินไปส่ง แต่ตอนหลังก้ยอมรับพ่อเรา..."
กลายเป็นว่าแม่มาช่วยเล่าเรื่องด้วยทั้งๆที่ยังเขินอยู่ ผมฟังไปก้อมยิ้มไป ทำไมความรักของพวกท่านถึงสวยงามจังนะ
"รู้มั้ย เรื่องอะไรที่ทำให้แม่เปิดใจให้พ่อ" พ่อถาม
"เรื่องอะไรเหรอครับ"
"วันนึงเลิกทำรายงานดึก แม่เดินกลับหอคนเดียว มีโจรมาวิ่งราวจะเอากระเป๋าสตางค์แม่ไป"
"เห้ย" ผมร้อง
"แม่กลัวมาก เขาพยายามกระชากไปจากมือแม่ แม่ก้ดึงยื้อไว้สุดแรง"
"แล้วไงต่อครับ"
"พ่อเรามาช่วยแม่ไว้ ชกต่อยกับผู้ชายคนนั้น เขามีมีดพก แต่พ่อเรามีแค่มือเปล่า"
"..."
"พ่อแย่งกระเป๋าแม่คืนมาได้ แต่ก้โดนฟันที่แขนไปทีหนึ่ง แผลใหญ่เหมือนกัน ต้องใส่ผ้าพันแผลตั้งนานแน่ะ สุดท้ายมีคนแถวนั้นเห็น ส่งเสียงดังกันใหญ่ โจรมันเลยวิ่งหนีไป" พ่อกลับมาเล่าบ้าง ยิ้มรำลึกถึงความหลัง
ผมรู้สึกซึ้งใจกับสิ่งที่พวกท่านเล่า พ่อช่วยชีวิตแม่ไว้ครั้งหนึ่งเลยเหรอเนี่ย หันไปเห็นแม่มีน้ำตาคลอหน่อยๆ
"หมอไปไหนมาไหนตอนกลางคืนต้องระวังด้วยนะลูก"
"ค้าบ...หมอสงสัย ทำไมพ่อถึงรู้ว่าแม่ตกอยู่ในอันตรายอะ"
"ก้พ่อตามแม่ไปน่ะสิ แม่ไม่เคยยอมให้พ่อไปส่งเลย ทุกครั้งที่แม่กลับดึกๆ พ่อจะแอบตามไปตลอด"
"โห..."
"แม่มารู้เอาทีหลังว่าพ่อเค้าแอบมาส่งน่ะ แต่ก้ยังน่ากลัวอยู่ดีนะคุณ" ประโยคหลังแม่หันไปพูดกับพ่อ
"ก้ทำไงได้ล่ะ ผมเป็นห่วงคุณนี่ คุณก้ใจแข็งมากเลยตอนนั้น ไม่ยอมให้ผมมายุ่งด้วยสักที" พ่อทำท่าน้อยใจ
เหมือนเด็กๆ
"หลังจากนั้นพ่อกับแม่ก้เริ่มคบกันเลยหรอครับ"
"ไม่เชิงจ้ะ แต่แม่ก้ยอมคุยกับพ่อแล้ว"
"คุยกันอีกไม่กี่เดือน พ่อก้ขอแม่เป็นแฟน"
"แม่ตอบตกลงแล้วอะดิ" ผมถามเสียงใส
"ยัง" พ่อตอบเสียงขุ่น แม่หัวเราะ
"ห๊ะ"
"แม่บอกแล้วไงว่ายายยังไม่อยากให้แม่มีแฟน แม่เลยบอกพ่อว่า คุยกันอย่างนี้ไปก่อน แต่ยังไม่เรียกว่าแฟน"
"พ่อก้เลยให้แม่เซ็นสัญญาว่าถ้าเรียนจบแล้วต้องมาคบกัน แล้วระหว่างนั้นก้ห้ามให้ผู้ชายคนอื่นนอกจากพ่อมาดูแลหรือเข้ามายุ่งด้วย"
"นั่นน่ะมันยิ่งกว่าแฟนอีกนะ- -" ผมบอก พ่อกับแม่หัวเราะพร้อมกัน
"ก้ใช่น่ะสิ" พ่อตอบ
"แม่ตกลงอ่อครับ"
"ตกลงสิจ๊ะ ก้พ่อเราทำเพื่อแม่ได้ทุกอย่าง ขนาดยอมตายแทนได้ แม่รับรักพ่อตั้งแต่ตอนนั้นแหละจ้ะ"
ผมยิ้มกว้างกับเรื่องราวของพ่อแม่ ท่านดูแลกันและกันมาตั้งนาน จนถึงตอนนี้ พอมีผมเพิ่มเข้ามา ความรักก้ไม่ได้บิดพลิ้วไปเลยแม้แต่น้อย
"แม่ขอถามเราบ้าง"
"ครับ?"
"ทำไมอยู่ๆมาถามเรื่องนี้ล่ะ"
"นั่นสิ พ่อสงสัยตั้งแต่แรกแล้ว แต่รอเล่าเรื่องให้แกฟังก่อน"
"เอ่อ...คือ" ผมตะกุกตะกักขึ้นมา ไม่ได้เตรียมตอบคำถามนี้ซะด้วยสิ พวกท่านจ้องผมเป็นตาเดียว
"ไปปิ๊งใครเข้าล่ะสิ" พ่อพูด
"หมอกำลังชอบใครอยู่ใช่มั้ยลูก" แม่ถาม
"มะ ไม่ใช่นะครับ ผมแค่ถามเฉยๆ"
"แน่ะ จริงเหรอ"
"โหพ่อ จริงดิ ผมแค่อยากรู้"
พ่อกับแม่สบตากันแล้วยิ้ม ไม่ได้ถามอะไรผมต่อ
"พามาเปิดตัวด้วยแล้วกัน แม่กับพ่อรอเจออยู่นะ"
"เฮ้อ นี่ผมกำลังจะได้ลูกสะใภ้แล้วสินะคุณ"
"ใช่ค่ะ"
"อีกไม่นานก้คงมีหลานตามมาให้อุ้มสิ"
ดูพ่อกับแม่ผมคุยกันสิครับ- -
ผมคิดไม่ตกกับเรื่องของตัวเอง เลยมาถามจุดเริ่มต้นความรักของพ่อแม่ผม รู้อย่างนี้น่าจะถามตั้งนานแล้ว
ว่าแต่ ถ้าพ่อแม่รู้ว่าผมไม่ได้หมายถึงลูกสะใภ้ล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น ไม่อยากจะคิดเลย

"เห้ยพวกมึง พรุ่งนี้ห้าโมงเย็น กูกับไอ้อั๋นมีคัดตัวบาสฯสี ต้องไปดูให้ครบนะเว้ย" ไอ้ต้าร์บอกทุกคนในห้องก่อนเข้าเรียนคาบแรกของวันต่อมา
"เออ ไปดูพวกกูด้วยนะ" อั๋นเสริม
"กูไม่ว่างว่ะ" ไอ้นนท์แกล้งพูดขึ้นมา ส่งผลให้ไอ้ต้าร์โบกหัวมันไปทีหนึ่ง
"ไม่ว่างไม่ได้ ต้องไปดูเว้ย"
"เออๆ พวกกูไปอยู่แล้วน่า" ไอ้เอกบอก
"ใครไม่ไปกูจะไล่กระทืบเรียงตัวเลย คอยดู" ไอ้ต้าร์พูดติดตลก
"เว่อร์ไปละมึง กูก้ไม่ไปดู" ผมแกล้งพูดอีกคน
"เห้ย" ไอ้ต้าร์ร้อง ส่วนไอ้อั๋นหันมามองผมตาเขียว ผมยักไหล่ ทำเป็นไม่สนใจมัน
ไอ้ต้าร์กำลังเอื้อมมือมาจะโบกหัวผมอีกคน แต่ไอ้นนท์ยื่นมือออกมาห้ามไว้
"เดี๋ยวๆ ไอ้หมอมันต้องให้ไอ้อั๋นเคลียร์"
ตามด้วยเสียงโห่ร้องเสียงดัง
"มึงจะไม่ไปดูกูอ่อหมอ" ไอ้อั๋นพูด
"เออ ไม่ไปเว้ย" ผมแกล้งต่อ ยิ้มยียวนใส่อั๋น
"หมอจ๋า ไปดูอั๋นเล่นเหอะ นะ นะๆๆๆ" อั๋นอ้อน ขยับเข้ามา กอดผม แถมทำหน้าแอ๊บแบ๊วสุดๆ
"สัส- - ปล่อยเลย" เพื่อนๆส่งเสียงแซวกันใหญ่เลยครับ
"จะไปดูกูมั้ย ตอบก่อน"
"ไม่" ผมยังคงไม่ยอมแพ้
"ไม่ไปหรอ ได้..." อั๋นยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมอีก หน้าเราห่างกันนิดเดียวแล้วครับ
"เห้ย มึงจะทำไรวะ"
"ไม่ไปกูหอมแก้ม"
"เชี่ย อย่านะเว้ย" ผมรีบเอามือมาบังหน้าอั๋น คนอื่นๆในห้องร้องว่า 'หอมเลยๆ' เสียงดังมากครับ ลงไปถึงใต้ตึกแล้วแน่ๆ
"จะไปไม่ไป"
"อะ เออ ไปแล้วก้ได้" ผมรีบบอก กลัวไอ้อั๋นมันจะหอมแก้มผมขึ้นมาจริงๆ ไม่น่าไปบอกว่าจะไม่ไปเลยครับ ยังไงผมก้ไปเชียร์มันอยู่แล้ว ไอ้บ้าเอ๊ย
อั๋นยิ้มตาหยี ยอมปล่อยผม เสียงโห่ฮายังดังสนั่นอยู่รอบห้อง
"ไรวะ กูก้นึกว่ามึงจะหอมแก้มมันจริงๆ" ไอ้เอกทำ ท่าเซ็ง เดินกลับไปนั่งที่โต๊ะตัวเอง เพื่อนคนอื่นหันมามองเราสองคนยิ้มๆแล้วก้แยกย้ายกลับไปที่นั่งของตัวเองบ้าง
"ไอ้บ้าอั๋น กูไปดูอยู่แล้วน่า เล่นเชี่ยไรเนี่ย" ผมหันไปเล่นงานไอ้อั๋นทันที เขินดิครับ มาเล่นกับผมแบบนี้ต่อหน้าเพื่อนทั้งห้อง
"ก้มึงดื้อนิ"
"สาด" ผมโบกหัวอั๋นไปทีหนึ่ง มันยังยิ้มไม่หุบจนอาจารย์เข้าสอน

เย็นนั้นอั๋นไม่ได้ไปซ้อมบาสฯ แต่ไปวิ่งรอบสนามแทน ผมถามว่าทำไมไม่ไปเล่นบาสฯ มันให้เหตุผลว่าวันนี้วิ่งให้ร่างกายเตรียมพร้อมอย่างเดียวพอ รอทดสอบพรุ่งนี้เลย จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องแข่ง
ผมวิ่งด้วยครับ ส่วนไอ้ต้าร์ไปหาเมย์ ตอนนี้เรากำลังยืดหยุ่นกล้ามเนื้อก่อนวิ่งกัน
"จะไหวมั้ยเนี่ยเราอะ" อั๋นถามยิ้มๆ
"ไหวดิ ดูถูกกูอีกละ" ผมตอบ อั๋นขยี้หัวผม
"10รอบนะ"
"พ่อง เยอะไป"
"พูดจริงนะ"
- -
แล้วเราก้เริ่มวิ่งครับ
"มีคนมาลงคัดตัวกี่คนวะมึง"
"ไม่รู้ว่ะ ที่เห็นมาซ้อมด้วยบ่อยๆก้สิบกว่าคน"
"อ่อ เอาแค่5คนใช่ปะ"
"เออ แต่ยังไม่รวมตัวสำรองนะ"
"มึงหัดเล่นมานานยัง"
"มัธยมต้น"
"ทำไมมึงแม่งเก่งไปหมดเลยวะ เรียนก้เก่ง กีฬาก้เก่ง ทำอาหารก้เป็น กูไม่เห็นเก่งอะไรสักอย่าง- -" ผมบ่น อั๋นหัวเราะเบาๆ
"มึงอยากเก่งแบบกูปะล่ะ"
"เออ ต้องทำไงอะ"
"มาเป็นเมียกูดิ เดี๋ยวกูสอนให้" พูดแล้วก้ยิ้มมุมปาก
"สัส ไม่เอา"
ระหว่างที่วิ่งไป เราก้คุยกันไปตลอด จนถึงรอบที่6ได้ ผมเริ่มหมดแรงแล้วครับ
"อั๋น...กูเหนื่อยว่ะ พักแปบดิ" ผมหอบหายใจ
"เหนื่อยแล้วเหรอ งั้นมึงไปนั่งรอกูก่อนนะ กูขออีกสัก2-3รอบ"
"เออๆ..."
ผมออกจากลู่ไปนั่งพักตรงสแตนเชียร์ข้างสนาม ไอ้อั๋นไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนกันนะ 1รอบสนามมีระยะทาง800เมตร นี่เราวิ่งกันไป5กิโลเมตรได้แล้ว มันยังวิ่งต่อได้สบายๆเลย คนหรือคนเหล็กวะเนี่ย
ผมกำลังนั่งพักอยู่ก้พอดีมีคนเดินมานั่งลงข้างๆครับ
"หวัดดีหมอ"
"อ้าว หวัดดีอาร์ต"
อาร์ตนั่นเองครับ ใส่ชุดกีฬามา สงสัยจะมาวิ่งออกกำลังกายเหมือนกัน
"มาวิ่งหรอ"
"เออ อาร์ตอะ"
"เหมือนกัน รุ่นพี่ให้มาวิ่งรอบสนามน่ะ"
"เป็นนักกีฬาอ่อ"
"อือ เราลงบาสฯสีแดง"
"เหมือนอั๋นเลย" ผมชี้มือไปทางอั๋นที่กำลังตั้งใจวิ่งอยู่อีกฝั่งหนึ่ง
"อ้อ ห้องหมอกะอั๋นอยู่สีไรอะ"
"ฟ้า คัดตัวพรุ่งนี้"
"ของเราคัดไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วน่ะ" แสดงว่าอาร์ตก้ผ่านการคัดตัวเป็นนักกีฬาแล้วสินะ
ผมพึ่งสังเกตรูปร่างหน้าตาของอาร์ตจริงๆจังๆครั้งแรก มันสูงกว่าผมกับอั๋น ผอม แต่ก้ดูเฟิร์ม ผิวแทนจัด หน้าคม จมูกโด่งเป็นสันครับ
"แล้วหมอล่ะ ลงกีฬาอะไร"
"ไม่ได้ลง เราช่วยพี่มัธยม6ทำสแตนเชียร์"
"ว้าว เก่งว่ะ"
"ไม่หรอก"
อั๋นเดินตรงมาหาพวกเรา คว้าขวดน้ำเปล่าไปจากมือผม
"เห้ยๆๆ ของกู ไม่ให้แดก"
อั๋นยกขึ้นดื่มรวดเดียวเกือบหมดขวดเลยครับ- -
"ของมึงก้เหมือนของกูแหละ หวัดดีอาร์ต" อั๋นหันไปทักทายอาร์ต
"หวัดดีอั๋น" อาร์ตยิ้มให้อย่างมีมารยาท
"อาร์ตก้ลงบาสนะมึง สีแดง" ผมหันไปบอกอั๋น
"จริงดิ สีเราจะคัดตัวพรุ่งนี้" อั๋นพูด
"เดี๋ยวไว้แข่งกันนะ"
"เห้ย เรายังไม่รู้ว่าจะคัดตัวผ่านรึป่าว"
"ไม่ผ่านหรอกมึงอะ" ผมหันไปกัดอั๋น มันบีบจมูกผม
"โอ๊ย เจ็บนะสัส" ผมต่อยท้องมันคืน
"5555"
อาร์ตมองผมกับอั๋นยิ้มๆ
"อั๋นกับหมอนี่เหมือนแฟนกันเลยเนอะ" นั่นไง โดนจิ้นอีกแล้วกู
"ไม่ใช่น่า" ผมรีบปฏิเสธ
"เรากำลังคบหาดูใจกันน่ะ" อั๋นพูดแล้วกอดคอผม
"พ่อง"
"555 งั้นเดี๋ยวเราไปวิ่งก่อนละกัน ไปพร้อมกันมะ" อาร์ตชวน
"ไปก่อนเลย เราขอพักเดี๋ยว" อั๋นตอบ อาร์ตพยักหน้าแล้วออกวิ่ง
"แค่นี้ก้เหนื่อยแล้วอ่อมึง"
"แค่นี้ก้แย่ 6รอบนะสาด ยังไม่หายเหนื่อยเลย กูจะหัวใจวายอยู่แล้ว"
อั๋นที่ยืนอยู่เอามือมาจับหัวผม
"พรุ่งนี้ห้าโมงเย็น สนามบาสฯ ห้ามสาย ห้ามขาด ห้ามลานะ"
"แสดงว่าโดดได้?"
"ห้ามโดดด้วย ห้ามไม่มาไม่ว่าเหตุผลใดๆโว้ย"
"กูไม่มาหรอก" ผมแหย่อั๋นอีก
"ไม่มาเดี๋ยวก้รู้ว่าจะโดนอะไร ลืมแล้วอ่อ" มันเลื่อนมือลงมาแตะแก้มผม
"เดี๋ยวก้จับหอมแก้มกลางสนามซะเลย"
"อย่านะไอ้บ้า" ผมหน้าแดง ปัดมืออั๋นออก
ห้าโมงเย็นวันต่อมา ผมกับเพื่อนเกือบทั้งห้องยกกันไปเชียร์อั๋นกับต้าร์ที่สนามบาสฯอย่างพร้อมเพรียง
"ทำได้อยู่แล้วพวกมึง" ไอ้นนท์มีเป่าหัวสองคนนั้นด้วยครับ
"กูว่ากูจะไม่ได้ลงก้เพราะมึงมาเป่าหัวกูเนี่ยแหละ" ไอ้ต้าร์บอกท่ามกลางเสียงหัวเราะ
"ไอ้หมอ มึงไม่เห็นพูดอะไรสักคำเลย" ไอ้นนท์หันมาหาผม
"พูดอะไรวะ"
"อ้าว ก้ให้กำลังใจไอ้อั๋นไง มันจะแข่งแล้ว" ทุกคนส่งเสียงแซว แล้วไอ้เอกก้ดันหลังผมเข้าไปหาอั๋น
"ไม่พูดอะไรกะกูหน่อยอ่อ" อั๋นพูดยิ้มๆ
"ก้มาเชียร์อยู่นี่ไง"
"กูอยากได้กำลังใจจากมึงนิ" มันยกมือผมขึ้นมาจับ ทุกคนผิวปากและส่งเสียงดังกว่าเดิม
"เว่อร์ละไอ้สัส" ผมเขิน พยายามแกะมือมันออกครับ
"เร็ว ไม่งั้นกูไม่ลงนะ"
"เรื่องมึงดิ"
"หมอ- -" มึงก้บ้าจี้ไปตามเพื่อนนะอั๋น
"ไอ้หมอ เร็วๆสิวะ มึงจะเขินไรนักหนา" ไอ้นนท์บอก
"เห้ยหมอ มึงหอมแก้มอั๋นดิ" ไอ้เชี่ยเอก พูดมาได้นะมึง
อั๋นจ้องตาผมอย่างจริงจัง
"เออ...งั้นก้ โชคดีนะมึง" ผมพูดจนได้ หลบสายตาอั๋น ทุกคนโห่ร้อง
"ก้แค่นั้นแหละ" อั๋นยิ้มกว้างให้ผมก่อนจะยอมปล่อยมือแล้วเดินเข้าสนามไปพร้อมกับต้าร์ ผมหันไปโบกหัวเพื่อนทุกคนที่อยู่ใกล้

ผมเห็นกลุ่มพี่สีที่มาคุยกับต้าร์บ่อยๆมาคุมการคัดตัวนักกีฬา ในกลุ่มนั้นมีพี่ก้องยืนอยู่ด้วย พี่เค้ายกมือทักทายผม ผมโบกมือกลับไป เค้าทำท่าจะเข้ามาคุยกับผมด้วย แต่พอเห็นว่าผมอยู่กับกลุ่มเพื่อนเยอะๆเลยไม่เข้ามา ผมสงสัยว่าพี่ก้องมาดูการคัดเลือกทำไมกันนะ

มีคนมาคัดตัวประมาณ20คนได้ครับ มีทุกระดับชั้นตั้งแต่มัธยม4-6 รอบแรกพี่สีให้ทุกคนลองเคลื่อนตัวไปรอบสนามพร้อมเลี้ยงลูกบาสฯก่อน เหมือนดูท่าทางว่าคล่องแคล่วแค่ไหน อั๋นกับต้าร์นี่สบายๆเลยครับ

รอบต่อมาเป็นการทดสอบทักษะที่สูงขึ้นครับ เช่น การชู้ตในตำแหน่งต่างๆ การlay up การเลี้ยงลูกบาสฯหลบหรือหลอกคู่ต่อสู้ เป็นรอบที่ใครมีของก้ได้โชว์ออกมาเต็มที่ แน่นอนว่าอั๋นทำได้ดีมากๆ ผมเชื่อว่าเป็นอันดับต้นๆของกลุ่มเลย

รอบสุดท้ายให้เล่นเป็นเกม นับคะแนน จับเวลาเหมือนแข่งขันจริงครับ นอกจากอั๋นกับต้าร์ที่ท็อปฟอร์มสุดๆแล้ว มีพี่อีก2คนที่เล่นดีมาก ผมเดาว่าพวกเขาน่าจะเป็นนักกีฬาโรงเรียนหรือไม่ก้ได้ลงแข่งกีฬาสีปีก่อนๆครับ

จบการคัดตัว พี่สีให้คนที่มาคัดตัวทุกคนนั่งรวมกันอยู่ตรงกลางสนาม ระหว่างที่กำลังคุยกันอย่างเคร่งเครียดที่อีกมุมหนึ่ง พี่ก้องก้มาคุยด้วย
อั๋นมองหาผม พอหันมาเห็นแล้วก้ส่งยิ้มให้ ผมทำเป็นมองไปทางอื่น มันหัวเราะใหญ่เลยครับ<br>

"เอาล่ะทุกคน ต่อไปจะประกาศชื่อคนที่ได้เป็นนักกีฬาบาสเกตบอลของสีฟ้านะ ตัวจริง5คน ตัวสำรอง3คน..."
พี่สีคนหนึ่งพูดขึ้นหลังจากนั้นพักหนึ่ง แล้วก้ประกาศชื่อเล่นทีละคน
"ตัวจริง...แน็ค เบิ้ม ปอง ริว ต้าร์"
ผมอึ้ง ไม่มีชื่ออั๋นอยู่ในนั้น ผมต้องฟังผิดแน่ๆ
"ตัวสำรอง เรียงตามลำดับนะ...อั๋น เกมส์ นัท"
เห้ย เป็นไปไม่ได้ อั๋นเนี่ยนะเป็นตัวสำรอง
ผมเห็นว่าพี่2คนที่ผมคิดว่าเล่นดีที่สุดติดตัวจริง อีกคนหนึ่งก้เป็นต้าร์ ส่วนอีก2คนที่เหลือเล่นไม่เก่งเท่าอั๋นแน่นอนครับ ให้ใครมาดูก้ต้องคิดแบบผมแน่
ผมหันไปหาเพื่อนคนอื่นๆ
"เห้ย เชี่ยอั๋นไม่ติดตัวจริงได้ไงวะ"
"ตัวสำรองเนี่ยนะ ก้เหี้ยแล้ว"
"ไอ้พี่ริวได้ได้ไงวะ ไอ้อั๋นเล่นดีกว่าตั้งเยอะ"

ผมมองอั๋น สีหน้าตกใจ ต้าร์ก้ด้วยครับ นี่มันต้องมีอะไรผิดพลาด
แล้วอะไรบางอย่างก้สั่งผมให้มองไปทางพี่ก้อง ผมเห็นพี่เค้ายิ้มมุมปาก ดูแปลกๆ แววตาเป็นประกาย...
หรือว่าพี่เค้ามีส่วนกับการคัดเลือกนักกีฬานะ
แต่มันไม่น่าเป็นไปได้นี่นา พี่ก้องรับผิดชอบแต่ฝ่ายเชียร์นี่ ผมไม่เห็นเค้ามาดูบาสฯที่สนามอีกเลยตั้งแต่วันที่อั๋นซ้อมวันแรก หรือเท่าที่รู้ ก้อยู่แต่กับฝ่ายเชียร์ตลอดเวลา
ตอนนี้พี่ก้องกำลังมองหน้าอั๋น ยิ้มเยาะ อั๋นจ้องกลับ
ไม่ต้องสงสัยอะไรอีกแล้ว พี่ก้องแทรกแซงการคัดเลือกไม่ให้อั๋นติดตัวจริง
ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วไลน์ไปหาพี่ก้องทันที...

-จบตอน-

อื้อหือ อั๋นนี่หื่นจริงๆนะครับ มีพัฒนาไปถึงขั้นหมอน้อยด้วย
ตอนท้าย หมอจะทำอะไรต่อไปนะ ติดตามด้วยค้าบ
Comment กันเยอะๆน้า :)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-05-2016 22:37:30 โดย writerbeer »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
พี่ก้องนิสัยไม่ดี

ออฟไลน์ fightreblue

  • FC นัดกับพี่นิว
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
กำลังสนุกเลย รอตอนต่อไป เฮ้ๆ
เป็นกำลังใจให้ครับ o13

ออฟไลน์ writerbeer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
ตอนที่20

"เดี๋ยวกูมานะเว้ย"
ผมหันไปบอกไอ้นนท์ที่นั่งอยู่ข้างๆก่อนจะเดินออกจากสนามบาสฯไปยังตึก3ที่อยู่ถัดมา เห็นจากหางตาว่าพี่ก้องเดินตามมาอยู่ข้างหลัง

"น้องหมอมีอะไรหรอครับ" พี่ก้องถามขึ้นเมื่อเราอยู่กันตามลำพังด้านหลังตึก3 หน้าตายิ้มแย้ม
ผมทักไลน์ให้พี่เค้ามาเจอที่นี่เพราะอยากคุยเรื่องผลการตัดสินครับ
"พี่ก้อง...ผมถามตรงๆนะพี่"
"เรื่องอะไรครับ" ผมมองหน้าอีกฝ่าย รู้สึกว่าเค้ารู้แน่ๆว่าผมกำลังจะพูดเรื่องอะไร แต่ทำท่าทางเหมือนไม่รู้ได้อย่างแนบเนียน
"ที่คัดตัวนักบาสฯสีเมื่อกี้ พี่เป็นคนตัดสินด้วยรึป่าวครับ"
"ป่าวครับ พี่ไม่ได้ตัดสิน" พี่ก้องตอบทันทีโดยไม่ตะขิดตะขวงแม้แต่น้อย และผมรู้ทันทีว่าโกหก
"ถ้างั้น ทำไมพี่ถึงเข้าไปคุยกับพี่คนอื่นตอนก่อนประกาศผลล่ะครับ"
"ก้เพื่อนพี่ให้ช่วยคิดอะดิ ว่าจะเอาตัวสำรองกี่คนดี พี่เลยเข้าไปคุยด้วย แต่ตอนคัดเลือกนักกีฬา เพื่อนพี่เป็นคนเลือก พี่ไม่เกี่ยวครับ" พี่ก้องยังคงตอบคำถามด้วยท่าทางสบายๆ ชวนให้เชื่อสุดๆ แต่ผมก้ยังเชื่อไม่ลงอยู่ดี เพราะสายตาหลังกรอบแว่นตอนพี่ก้องมองอั๋นที่สนามฯมันบอกชัดเจนว่าพี่เค้าเป็นคนทำ
"คือ...ผมไม่เข้าใจว่า ทำไมอั๋นถึงไม่ติดตัวจริง พี่ก้เห็นว่าเพื่อนผมเล่นดีแค่ไหน ทำไมผลตัดสินออกมาเป็นงั้น"
"พี่ดูอยู่ครับ เพื่อนน้องเล่นดีจริง แต่น้องต้องยอมรับผลตัดสินนะ เพื่อนพี่เลือกแล้วนิ" พี่ก้องยิ้มยียวน
ผมไม่รู้จะพูดอะไรต่อเมื่อพี่ก้องพูดมาแบบนี้ ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้อีกฝ่ายยอมรับ การที่ผมเรียกออกมาถามตรงๆแบบนี้มันคงโง่เง่าน่าดู แต่ผมคิดวิธีอื่นไม่ออกแล้วจริงๆ
"หมอคิดว่าพี่เป็นคนตัดสินให้เพื่อนเราไม่ได้เหรอ"
"ใช่ดิครับ"
"ทำไมถึงคิดงั้นอะ" พี่ก้องยังพูดเสียงนุ่มอย่างน่าหงุดหงิด
"ก้ พี่ไม่ชอบเพื่อนผม"
"อะไรที่ทำให้คิดว่าพี่ไม่ชอบ" ผมเริ่มโมโหขึ้นมาแล้ว พี่ก้องทำท่าทางเหมือนไม่รู้เรื่องอะไรเลย ทั้งๆที่รู้ทุกอย่างอยู่เต็มอกเนี่ยนะ
"พี่ยังจะถามอีกอ่อ พี่กับอั๋นเกือบมีเรื่องกันทุกครั้ง"
"ก้พี่ชอบเรานี่ครับ เราน่าจะรู้นะ...แล้วพี่คิดว่าอั๋นก้ชอบเราเหมือนกัน นี่ไงที่ทำให้เพื่อนเราไม่ชอบหน้าพี่ แต่พี่ไม่ได้..."
"พี่เลยทำให้อั๋นไม่ติดตัวจริงใช่มั้ยครับ" ผมถามเสียงดัง
"พี่บอกแล้วไงว่าพี่ไม่ได้ทำ" พี่ก้องยิ้มอย่างชั่วร้าย
"ถึงตอนนี้พี่ยังโกหกอีกหรอ พี่ยิ้มเยาะใส่อั๋นตอนประกาศผล พี่นั่นแหละที่ตัดสิน"
"พี่จะทำไปเพื่ออะไรครับ หมอคิดแบบนั้นกับพี่ได้ไง" พี่ก้องตรงเข้ามาจับมือผม
"ปล่อยนะพี่" ผมพยายามสะบัดมือให้หลุด
"ไม่ หมอเชื่อพี่นะครับ พี่ไม่ได้ทำจริงๆ"
พี่ก้องจับมือผมแน่น ผมพยายามใช้มืออีกข้างที่ไม่ได้ถูกจับมาแกะมือพี่ก้อง แต่พี่เค้าก้จับมันไว้อีก
"ปล่อยผมเหอะ" ผมไม่ไหวแล้วครับ ไม่อยากจะเคลียร์ต่อแล้ว
"เดี๋ยวสิ หมออย่าเข้าใจพี่ผิดดิครับ" พี่ก้องยิ้มมุมปาก ยื่นหน้าเข้ามาใกล้หน้าผม
"ถอยไปนะ" ผมร้อง ทำไมแรงพี่ก้องมันเยอะจังนะ
"เอางี้มั้ย พี่มีวิธีที่จะช่วยให้เพื่อนเราเป็นตัวจริงได้นะ" พี่ก้องพูดจบก้เข้ามากอดรัดผมไว้
"วิธีไร ผมไม่เชื่อ ปล่อยนะเว้ย" ผมร้องโวยวาย

"หมอมานอนกับพี่ดิ...พี่ขอครั้งเดียว แล้วพี่จะบอกเพื่อนให้เอาอั๋นขึ้นเป็นตัวจริงให้"
ผมตะลึงงัน แทบไม่เชื่อหูตัวเอง โกรธพี่ก้องที่ทำกับอั๋นอย่างนั้น แต่ไม่เคยคิดเลยว่าพี่เค้าจะพูดอะไรทุเรศๆแบบนี้ออกมาได้
"ไอ้..."
"พี่อยากได้เรานะ...ไม่อยากให้เพื่อนได้เป็นตัวจริงหรอครับ" พี่ก้องเลื่อนริมฝีปากมาประทับแก้มผม
"ปล่อยนะเว้ย" ผมตะโกนสุดเสียง แถวนั้นไม่มีใครอยู่เลย
"นะครับ ครั้งเดียวเอง" ผมรู้สึกขยะแขยงจนทนไม่ไหว พี่ก้องขอเอาผมแล้วจะช่วยอั๋นเป็นการตอบแทนเนี่ยนะ เค้าคิดว่าผมเป็นเด็กขายบริการหรือไง
พี่ก้องเลื่อนมือข้างหนึ่งมาจับเป้าผม ทำให้แขนข้างหนึ่งของผมเป็นอิสระ ผมฉวยจังหวะนั้น รวบรวมกำลังสุดแรง ผลักเค้าออกไปจนเซถลา
แล้วตามเข้าไปซัดหมัดลุ่นๆเข้าที่หน้าพี่ก้องทันที เค้าล้มลงไปกับพื้น
ผมโมโหจนเลือดขึ้นหน้า กำลังจะตามเข้าไปต่อยซ้ำ ก้พอดีเสียงอั๋นดังขึ้นมาแต่ไกล
"เห้ย"
อั๋นวิ่งกระหืดกระหอบมาในชุดนักกีฬา มันอ้าปากค้างเมื่อเห็นว่าพี่ก้องโดนผมต่อยลงไปกองกับพื้น
"พี่แม่งโคตรเหี้ยเลย"
ผมพูด พี่ก้องยังคงยิ้มอยู่ แม้ว่ากำลังเช็ดเลือดที่ไหลออกจากมุมปาก
"ไปเหอะ" ผมบอกอั๋น ดึงแขนมันเเล้วเดินออกจากบริเวณนั้นทันที
อั๋นมองหน้าผม ยิ้มกว้าง
"นี่มึง..."
"กูต่อยแม่งไปทีนึง ไม่ไหวจริงๆว่ะ" ผมหายใจแรง ยังไม่หายเดือดเลยครับ
"มึงไม่เป็นไรนะ มันไม่ได้ทำไรมึงใช่มั้ย" อั๋นถามอย่างห่วงใย ยื่นมือมาจับแขนผม
"ไม่ ไม่เป็นไร" ก้ไม่ใช่เสียทีเดียวครับ ผมไม่เป็นอะไร แต่ก้โดนพี่ก้องลวนลามด้วย
เราเดินกลับไปที่สนามฯ ผมโดนไอ้นนท์เฉ่งก่อนเป็นอย่างแรกเลยครับ มันบอกว่าผมหายไปนานมาก พออั๋นรู้เลยรีบออกมา
ตามหาผมโดยที่ไม่รอเพื่อนคนอื่นเลย
บรรยากาศหลังการแข่งคัดตัวไม่เหมือนอย่างที่พวกเราคิดไว้ เพื่อนๆยินดีกับต้าร์ แต่ก้ไม่เต็มที่นัก เพราะเป็นห่วงความรู้สึกอั๋นด้วย
ทุกคนปลอบใจอั๋น รวมถึงก่นด่าพี่สีถึงความไม่ยุติธรรมในการตัดสิน แต่ไม่มีใครรู้สาเหตุที่แท้จริงว่าทั้งหมดเป็นเพราะพี่ก้อง แม้พี่ก้องจะไม่ยอมรับว่าทำก้ตาม แต่ทุกสิ่งที่เค้าแสดงออกมา โดยเฉพาะเรื่องที่ขอผมมีอะไรด้วย ก้บอกชัดว่าเค้าเป็นคนทำแน่นอน
อั๋นยิ้มรับและบอกทุกคนว่าไม่เป็นอะไร แต่ในใจมันจะรู้สึกแย่แค่ไหนกัน อั๋นทุ่มเทฝึกซ้อมเพื่อมาคัดตัว และมันก้ทำได้ดีมากๆด้วย แต่ผลกลับออกมาเป็นแบบนี้
ผมอยากตั๊นหน้าไอ้พี่ก้องอีกสักหมัดจริงๆ

"อั๋น มึงโอเคนะ" ผมถามขึ้นหลังจากที่เราแยกย้ายกับเพื่อนๆแล้ว เรานั่งกันอยู่ที่โต๊ะม้าหินตัวหนึ่งใกล้ห้องอาบน้ำ
"เห้ย กูโอเค"
ผมไม่รู้ว่าผมจะปลอบใจอั๋นอย่างไรดี
"จริงอ่อวะ"
"ก้ เซงๆอะ แต่ทำไงได้" อั๋นยิ้มให้ผม "กูรู้แหละว่าไอ้พี่ก้องมันทำให้กูไม่ติดตัวจริง...ที่มึงไปหามันก้เพราะเรื่องนี้ใช่ปะ"
"กูคิดว่าต้องเป็นฝีมือพี่เค้าแน่ๆ"
"ขอบใจนะเว้ยที่ทำเพื่อกู" อั๋นเอื้อมมือมาโอบไหล่ผม
"เออ" ผมตบหลังมันเบาๆ
เรานั่งเงียบๆอยู่อย่างนั้นอีกพักใหญ่ อั๋นยังคงโอบไหล่ผม
"เรื่องสแตนเชียร์ มึงจะทำไงอะ"
"ก้ยังทำอยู่เหมือนเดิมแหละ"
"แต่มึงต้องทำงานกับไอ้พี่ก้องนะเว้ย" อั๋นถาม สีหน้าแสดงความเป็นห่วง จริงสินะ ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลยแฮะ
"...ไม่เป็นไรหรอกน่า งานก้ส่วนงาน แล้วก้มีคนอื่นทำด้วยอีกหลายคน" ผมตอบตามที่คิดจริงๆ ผมอยากทำสแตนเชียร์มาก ทิ้งงานไปไม่ได้หรอกครับ แค่มีเรื่องกับพี่ก้อง ถ้าผมเลิกทำคงโดนหาว่าปอด
"งั้นมึงต้องระวังตัวนะเว้ย...แล้วคราวหลังอะ อย่าทำแบบนี้อีกนะ กูเป็นห่วง ถ้าไอ้พี่ก้องมันทำอะไรมึงขึ้นมาจะทำไง" น้ำเสียงอั๋นจริงจังขึ้นมา
"เออ ขอบใจนะ" ผมยิ้มออกมาเล็กน้อยที่มันบอกว่าเป็นห่วง นั่นทำให้ผมยิ่งไม่ควรเล่าเรื่องที่พี่ก้องทำเมื่อสักครู่ให้อั๋นฟังเลย แค่มันเครียดเรื่องผลการคัดตัวอย่างเดียวก้พอแล้วครับ ผมไม่อยากให้มันกังวลเรื่องผมเพิ่มอีก

ระหว่างทางกลับบ้าน อั๋นนิ่ง ไม่พูดอะไรสักคำเดียว ถ้าเป็นปกติมันคงชวนผมคุยจ้อหรือไม่ก้กวนตีนผมไปแล้วครับ
"อั๋น"
"หือ"
"มึง...อย่าเงียบดิวะ" ผมไม่รู้จะพูดว่าอะไรจริงๆครับ ผมแค่อยากทำให้มันรู้สึกดีขึ้น
อั๋นหัวเราะเบาๆ
"เอ้า ไม่เงียบก้ได้ งั้น...กลับไปทำอะไรกันดี"
"เอ่อ"
...
"คืนนี้ให้กูอยู่เป็นเพื่อนมั้ย" แล้วผมก้โพล่งออกไปก่อนที่จะยั้งตัวเองได้ทัน
อั๋นเงียบไป วันนี้รถติดมากเลยครับ เราอยู่บนถนนกันมาพักใหญ่
สักพักอั๋นหันหน้ามาข้างหลัง ยิ้มกว้าง
"ขอบใจนะเว้ยที่เป็นห่วง...กูโคตรรักมึงเลยว่ะหมอ"
ผมหน้าแดงก่ำกับคำพูดนั้น

ครึ่งชั่วโมงถัดมา เรามาถึงบ้านอั๋น ตอนนี้ยังไม่มีใครกลับมา
"ดีนะ เราซื้อข้าวก่อนเข้ามา" อั๋นพูด
ผมนั่งลงบนโซฟาที่ห้องนั่งเล่นอย่างคุ้นเคย หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรบอกที่บ้านว่าขอนอนบ้านอั๋น ก่อนจะเริ่มแกะข้าวกล่องที่ซื้อมาทันที
อั๋นเดินมาจับมือผม
"ไปล้างมือก่อนเลยมึง"
"ขี้เกียจลุก แดกเหอะ"
"ไม่ได้ กูบอกแล้วไง ก่อนกินข้าวต้องล้างมือ"
ในเมื่อผมยังทำหน้าบูดและไม่ยอมขยับตัว อั๋นดึงแขนผมให้ลุกขึ้นแล้วลากไปยังห้องครัว รักความสะอาดจริงๆนะซี้ผม
"อย่าดื้อดิ ไม่อนามัยเล้ย เสียชื่อหมอนะมึงอะ" มันบ่น เปิดน้ำจากก๊อกบนอ่างล้างจานใส่มือเราทั้งคู่ อั๋นยังจับมือผมไว้สองข้าง ล้างมือตัวเองไปพร้อมๆกับมือผมด้วย
"นี่"
"อะไร"
"หลอกจับมือกูปะเนี่ย เนียนเชียวนะสัส- -"
"พึ่งรู้หรอ" อั๋นพูดกลั้วหัวเราะ

รูปอั๋นจับมือผมก่อนลงแข่งคัดตัวถูกโพสต์ลงไปในเพจโรงเรียนตอนที่เรากำลังกินข้าวกัน อั๋นยิ้มน้อยๆเมื่อผมยื่นมือถือส่งให้ดู
"กูอยากรู้แล้วว่าใครเป็นfcเราสองคนวะ ตามถ่ายรูปทุกที่จริงๆ"
"กูว่ามันฟ้องละเมิดสิทธิส่วนบุคคลกันได้นะแบบนี้- -"
แต่ผมก้ชักจะเริ่มชินที่โดนจิ้นโดนแซวรายวันแบบนี้ซะแล้วสิ
"ซีเรียสอีกแล้วหมอ อีกหน่อยเราคบกันจริงๆเดี๋ยวก้เลิกจิ้นไปเองแหละ" อั๋นพูดหน้าตาย มันเริ่มกลับมาร่าเริงขึ้นแล้วครับ
"ไม่เอาโว้ย"
"ปากมึงเลอะอะ" อั๋นหยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดซอสมะเขือเทศที่มุมปากผม
"ดะ เดี๋ยวกูเช็ดเองก้ได้" ผมยกมือขึ้นจับมือมัน
"อยู่เฉยๆดิ กินเป็นเด็กเลยนะหมอ" มันไม่ยอมปล่อย เช็ดจนเสร็จ
แล้วอั๋นก้ยกมืออีกข้างขึ้นมาแตะแก้มผม พร้อมจ้องตาผมตรงๆ
"มึงน่ารักมากเลยรู้ปะ"
ผมพูดอะไรไม่ออก นาทีนั้นเหมือนโลกกำลังหยุดหมุน ผมโดนอั๋นจีบอีกแล้ว
ที่น่าเซ็งก้คือทำไมผมต้องเขินขึ้นมาทุกทีเลยนะ
อั๋นยิ้มหวานให้ผม สองมือยังคงจับมือกับแก้มผมอยู่อีกพัก ผมไม่ยอมมองสบตามัน
"ปล่อยได้แล้ว กินต่อเหอะ" ผมบอกในที่สุด อั๋นเอามือออกไป
แล้วอั๋นก้หันหน้าไปทางประตูบ้าน รอยยิ้มกรุ้มกริ่มหุบลง สีหน้าตกใจเล็กน้อย
"เจ๊เอ๋..."

ผมสะดุ้ง หันไปทางประตูตามอั๋น เห็นเจ๊เอ๋ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นก่อนจะค่อยๆเปิดประตูเข้ามา
ชิบหายแล้วครับ เจ๊เอ๋กลับมาถึงตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย อย่าบอกนะว่าเห็นผมกับอั๋นทั้งหมด
"ไงอั๋น หวัดดีจ้ะหมอ" เจ๊เอ๋ทักทายพวกเราแล้วก้หันไปจูงมือใครบางคนเข้ามาข้างในด้วย
"เอ่อ พี่เหมาหวัดดีครับ" อั๋นยกมือไหว้พี่ผู้ชายคนนั้น ผมยกมือไหว้ตาม เดาว่าน่าจะเป็นแฟนเจ๊เอ๋ครับ
"หวัดดีอั๋น หวัดดีเพื่อนอั๋น" พี่เหมายิ้มเจื่อนๆให้เราแล้วเดินตรงไปเข้าห้องน้ำ
"ทำไมวันนี้กลับเร็วอะ" อั๋นถามพี่สาว
"ก้วันนี้ส่งงาน เสร็จแล้วชั้นก้กลับเลย ให้เหมามาส่ง"
"อ่อ"
ผมเดาว่าป่านนี้ตัวเองคงหน้าซีดจนสังเกตได้ อั๋นหันมามองหน้าผม ยิ้มบางๆให้
สีหน้าเจ๊เอ๋อ่านไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่ เจ๊มองเราสองคนแล้วขมวดคิ้วน้อยๆ
"งั้นเราไปก่อนนะ" พี่เหมาเดินออกมาจากห้องน้ำ โบกมือลาผมกับอั๋น เจ๊เอ๋เดินกลับไปส่งหน้าบ้าน
"หมอ"
"หือ"
"มึงว่าเจ๊เอ๋เห็นปะวะ"
คำตอบชัดเจนอยู่บนสีหน้าผม

หลังจากเจ๊เอ๋ส่งแฟนเรียบร้อยก้เดินกลับเข้ามาในบ้าน ผมยังช็อคอยู่ ไม่กล้าพูดอะไรเลยครับ
"เอ่อ เจ๊กินข้าวมายังอะ"
"กินแล้ว พ่อกับแม่มีประชุมเหรอ"
"ไม่รู้ดิ เมื่อเช้าก้ไม่เห็นบอกว่าจะกลับค่ำ"
"อ้อ"
เจ๊เอ๋ดูท่าทางเงอะงะ ทำอะไรไม่ถูกอย่างเห็นได้ชัด แถมยังถามคำตอบคำซึ่งไม่ใช่ปกติวิสัยของเจ๊เค้าเลย โอย เจ๊เอ๋เห็นแน่ๆ ผมควรทำอย่างไรดี
"งั้น ชั้นไปอาบน้ำก่อนนะ..."

"อั๋น คือ..."
"อย่าคิดมากน่า เดี๋ยวกูจัดการเอง"
"เหรอ มึงจะทำยังไงวะ" ผมถามอย่างไม่แน่ใจ
"กูว่า...ถามเจ๊เอ๋ตรงๆเลย แต่รอเจ๊อาบน้ำเสร็จก่อน"
"เห้ย มึงจะไปถามเค้าว่าไง"
"ก้ เห็นอะไรบ้าง คิดยังไง ถ้าเจ๊ถามกลับก้ตอบไป" อั๋นตอบง่ายๆ หน้าตาดูไม่กังวลแล้ว
"มึง มันจะเวิร์คอ่อวะ"
"เวิร์คดิ กลัวไร"
"แต่..."
"เจ๊เอ๋ต้องเข้าใจ เชื่อกูดิ" แววตาอั๋นฉายความมั่นใจ

อั๋นให้ผมไปอาบน้ำและบอกว่าไม่ต้องกังวล มันจะไปคุยกับเจ๊เอ๋ตรงๆ ผมไม่รู้ว่าผมจะอยู่เพื่อช่วยอธิบายอะไรได้ แต่ก้ไม่อยากทิ้งอั๋นให้รับผิดชอบคนเดียว
"เรื่องเล็กๆไม่เห็นมีอะไรเลย มึงจะกลัวไปทำไม"
อั๋นยิ้ม ลูบหัวผมเหมือนกำลังปลอบโยนเด็ก
ผมจะไม่กังวลได้อย่างไร เจ๊เอ๋เห็นแน่ๆว่าเราสองคนทำอะไรกัน ตอนนี้เค้าคงคิดอะไรไปหลายอย่างแล้วแน่ๆ ถึงอย่างนั้น ผมก้พยักหน้ารับอั๋น
โชคดีที่พ่อกับแม่อั๋นยังไม่กลับมาจากที่ทำงานครับ อั๋นไปเคาะประตูห้องเจ๊เอ๋ ระหว่างที่ผมไปอาบน้ำ

ในหัวผมคิดแต่ว่าอั๋นกับเจ๊เอ๋คุยอะไรกัน เจ๊เอ๋จะรับเรื่องที่เราทำได้หรือเปล่า จะเกลียดน้องชายตัวเองมั้ย
แม้กำลังรู้สึกสับสน ผมค้นพบความจริงบางอย่าง เรื่องที่ผมกำลังคิดอยู่เป็นสิ่งยืนยันว่าผมเองก้รู้สึกแบบเดียวกับอั๋น เพราะผมจะไม่กังวลเลยว่าเจ๊เอ๋จะคิดอย่างไรเรื่องความสัมพันธ์ของเรา
ถ้าผมไม่ได้คิดอะไรกับอั๋น

ผมก้ชอบอั๋นเหมือนกัน...


"แล้วหมอว่าไงอะ"
"ก้ ไม่รู้ดิ"
"ห๊ะ ไม่รู้ได้ไงยะ แกบอกชอบหมอ แต่ไม่รู้ว่าเค้าคิดยังไงกับแกเนี่ยนะ"
"เอ้า หมอมันไม่ได้พูดอะไรตอนที่อั๋นบอกชอบนิ"
"แล้วตอนนั้นหมอทำอะไร แบบ ท่าทางเป็นไง"
"มันก้ตกใจ"
"หลังจากนั้นอะ หมอยังทำตัวปกติมั้ย คุยหรือเล่นกะแกเหมือนเดิมปะ"
"เหมือนเดิมนะ"
"อืม...ถ้าเราบอกชอบไป แล้วเค้าชอบเรา สองคนก้จะได้ตกลงเป็นแฟนกัน แต่ถ้าไม่ชอบ ก้จะไม่ได้คุยกันอีกเลย มีน้อยมากที่ยังคุยหรือสนิทได้เหมือนเดิม แต่ของแกนี่แปลกมาก บอกชอบไปแล้วเป็นงี้"
ผมอาบน้ำเสร็จแล้วเดินผ่านหน้าห้องเจ๊เอ๋ ได้ยินเสียงอั๋นกับเจ๊เอ๋คุยกัน ผมชั่งใจอยู่นานว่าจะแอบฟังดีหรือเปล่านะ ในที่สุดก้ห้ามใจตัวเองไม่ไหว ไม่ใช่ว่าผมอยากยุ่งเรื่องที่พี่น้องคุยกันหรอกนะ แต่ผมไม่สบายใจแล้วก้เป็นห่วงอั๋นจริงๆครับ
ก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าคุยอะไรกันไปบ้าง
"เจ๊เอ๋เหอะ ว่าไง"
"ว่าไงอะไรยะ"
"เจ๊เอ๋ไม่ว่าไรใช่ป่าว...เรื่องที่อั๋นชอบหมอ"
"ไม่ว่า แต่ก้นะ...ตอนแรกที่ชั้นกลับมาเห็นแกคุยกัน แกจับแก้มหมอ ช็อคเหมือนกัน"
"ไม่โกรธอั๋นใช่มั้ย หมอด้วย" เสียงอั๋นฟังดูกังวลมากครับ
"บ้าเหรอ ชั้นจะโกรธแกทำไม แกไม่ได้ทำอะไรผิดซะหน่อย"

คำตอบของเจ๊เอ๋ทำให้ผมโล่งใจ สิ่งที่ผมกังวลหายไปเป็นปลิดทิ้งครับ
"จริงเหรอ..."
"เออ ถ้าชั้นมีแฟนเป็นผู้หญิง แกจะโกรธชั้นปะ"
"บ้าดิ ไม่โกรธหรอก"
"เห็นมะ งั้นแกจะชอบใคร จะเป็นอะไร ชั้นรับได้"
"ขอบใจมากนะเว้ยเจ๊" อั๋นถอนหายใจ แล้วบอกด้วยน้ำเสียงร่าเริง
"จ้าาา ว่าแต่ชั้นเซอร์ไพร์สมาก เห็นตัวติดกันก็จริง ไม่คิดว่าแกสองคนจะมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งกันแบบนี้...ชั้นอยากรู้ว่าเวลาแกจีบกันเป็นไงวะ"
"ถามไรเนี่ย"
"แหม ถามแค่นี้ไม่ยอมบอกนะ"
"เออเจ๊ อั๋นขอไรอย่างดิ"
"อะไร"
"อย่าพึ่งบอกพ่อกับแม่นะ"
"เออ ชั้นไม่บอกหรอก แต่ยังไงวันนึงก้ต้องรู้นะ"
"เออ ไว้ถึงวันนั้นละค่อยว่ากัน"
"เจ๊ขออีกคำถาม"
"ว่า?"
"หมอมันทำไงเวลาแกจีบมัน"
"มันก้...เขิน"
"เขินหรอ"
"เออ ส่วนใหญ่"
"เหยยย งั้นชั้นว่ามันก้มีใจให้แกแหละ...จริงๆที่มันไม่เปลี่ยนไป ยังอยู่กับแกตั้งแต่บอกชอบ ก้แสดงว่าหมอมีใจให้แกอยู่นะ"
ผมเหมือนจะหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาในตอนนั้น
"อย่าพูดให้ดีใจเล่นดิ"
"เอ้า ชั้นพูดจริงๆ"
ผมยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เท่านี้ก้สบายใจแล้วครับ ตัดสินใจเดินเข้าห้องอั๋นไป ไม่เหลือความกังวลเหมือนเมื่อชั่วโมงก่อน

-จบตอน-

มาต่อแล้วนะค้าบ หายไป4วันแน่ะ แหะๆ
พี่ก้องเลวมาก ทำกับอั๋นหมอแบบนี้
ดีใจแทนพระ-นางที่เจ๊เอ๋เข้าใจและยอมรับได้
ว่าแต่คุณผู้อ่านคิดเห็นว่าไงกันบ้างครับ?

ติดตามตอนหน้าด้วยนะ

ออฟไลน์ fightreblue

  • FC นัดกับพี่นิว
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มารอติดตามตอนต่อไป ไรเทอร์ไฟติ้งครับ  :hao7:

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
เป็นแฟนกันเลยๆๆ ฟินขนาดดด

ออฟไลน์ Pe_no

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 375
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
เป็นแฟนกันๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ fightreblue

  • FC นัดกับพี่นิว
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รออ่านอยู่นะครับ  :hao6:

ออฟไลน์ writerbeer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
ตอนที่21

อั๋นกลับเข้ามาในห้องไม่นานหลังจากนั้น ยิ้มหน้าบาน บอกว่าเจ๊เอ๋รู้ทุกอย่างแล้วและไม่ว่าอะไรเลย พอผมถามรายละเอียด อั๋นไม่ยอมเล่า ได้แต่ยิ้มอยู่อย่างนั้น
แต่คงไม่มีอะไรที่เกินความคาดหมายมั้ง เพราะผมก้ได้ยินบทสนทนาส่วนสำคัญไปแล้วนี่

"หมอ คืนนี้เหมือนเดิมนะ"
"เหมือนเดิมเชี่ยไรครับ"
"ขอนอนกอดมึงเหมือนเดิมไง หรือว่า...อยากให้ทำมากกว่านี้" อั๋นยิ้มเจ้าเล่ห์
"พ่อง ไม่ให้เว้ย ไม่ให้กอดด้วย"
"โห่ ไรวะ กอดก้ไม่ให้เหรอ"
"เออ ไม่ให้"
"ทำไมเดี๋ยวนี้ยากจัง เมื่อก่อนง๊าย...ง่าย" ผมชูนิ้วกลางให้มัน
"ถึงไม่ให้มึงก้กอดกูอยู่ดีอะ"
อั๋นหัวเราะเบาๆ ดึงผมมานั่งบนตักแล้วกอดจากข้างหลัง เอาหัววางบนไหล่ผม
"อยากกอดตั้งแต่ตอนนี้ละ กอดเลยนะ" พูดแล้วก้ยิ้มหน้าบาน
"ไอ้เผด็จการเอ๊ย"
"ดูทีวีกัน" อั๋นหยิบรีโมทมาเปิดโทรทัศน์
นี่ผมรู้สึกดีเวลาถูกอั๋นสัมผัสตั้งแต่เมื่อไรกันนะ เราโดนตัวหรือเล่นถึงเนื้อตัวกันมาตั้งนาน ตอนนั้นผมไม่เห็นรู้สึกอะไรเลย
หันไปมองหน้าไอ้คนขอกอด กำลังยิ้มระรื่นเชียวครับ
"ยิ้มไรวะ"
"มีความสุขไง ได้กอดเมีย"
- -
อั๋นไม่ได้นั่งเฉยๆด้วยนะครับ แต่โอบกอดผมซะแน่น หลังผมชิดติดกับตัวมัน
เรานั่งดูรายการเกมโชว์ยอดฮิตรายการหนึ่งกันท่านั้น ตลกมากๆครับ เราสองคนหัวเราะไม่หยุดเลย

"มึงดีขึ้นยังอะ" สักพักผมถามถึงเรื่องวันนี้ขึ้นมาอย่างเป็นห่วง
"เออ ดีขึ้นละ" อั๋นยิ้ม และผมดีใจเพราะเห็นแววตามันก้ยิ้มไปด้วย
"งั้น มาช่วยกูทำสแตนดิ"
"เห้ย ตัวสำรองก้ยังต้องไปซ้อมนะเว้ย"
"อ่าวเหรอ"
"เออดิ...แต่ยังไงกูก้จะแวะไปช่วยมึงทำมั่ง กูเป็นห่วงมึง...เรื่องพี่ก้องอะ"
ทำไมอั๋นเป็นคนดีขนาดนี้นะ วันนี้ผมหายไปมันก้ตามหา ถามและแนะนำผมเรื่องพี่ก้อง ทั้งๆที่ตัวเองก้กำลังมีเรื่องหนักใจมากกว่าผมด้วยซ้ำ แต่ก้ยังเป็นห่วงผม
"เออ มาดิ เป็นบอดี้การ์ดให้กูหน่อย" ผมพูดติดตลกซะเลย
"ไม่ต้องมั้ง กูเห็นเค้าร่วงลงไปกองกับพื้นยังงั้น" อั๋นยิ้มน้อยๆ
"ก้กูโมโหนี่หว่า เป็นมึงก้ต้องต่อยแม่ง...แต่ถ้ามึงไม่วิ่งมาเจอ พี่ก้องแม่งคงเล่นกูกลับ กูสู้มันไม่ได้หรอก" ผมพูดอย่างมีเหตุผล ตอนนั้นพี่ก้องไม่ได้ระวังตัว และถ้าวัดกันจริงๆผมไม่มีทางสู้แรงอีกฝ่ายได้แน่นอน
"เออ มึงอะ ตัวก้เล็กนิดเดียว จะไปทำไรใครเค้าได้" อั๋นแหย่
"สัส ให้มันน้อยๆหน่อย" ว่าแล้วก้ตบหัวไอ้คนที่กอดผมอยู่ซะเลย มันหัวเราะ
"ให้กูเป็นการ์ดก้จ่ายค่าจ้างมาด้วย"
"พี่อั๋นอยากได้เท่าไรครับ" ผมเล่นต่อ
"ไม่เอาเงินสด แต่ขอเป็น..." อั๋นจ้องตัวผมอย่างหื่นๆ
"เชี่ยยย หื่นชิบหาย" ผมโวยวาย อีกฝ่ายหัวเราะร่าและยิ่งกอดแน่นขึ้นไปอีก ไม่ปล่อยให้ผมหลุดจากอ้อมแขน
"จะหนีไปไหนหมอ"
"ไอ้บ้ากาม"
ผมหยุดดิ้น สู้แรงอั๋นไม่ได้เลยสักนิด
"กูล้อเล่นน่า"
"กูรู้ว่ามึงคิดจริง- -"
"แหะๆ รู้ทันอีก"
"ไอ้บ้าเอ๊ย"

เรานั่งกันอยู่ท่านั้นจนรายการเกมโชว์จบ ผมลุกออกไปเข้าห้องน้ำ เดินสวนกับเจ๊เอ๋
"ยังไม่นอนกันหรอจ๊ะ" เจ๊เอ๋ทักเสียงใส
"เอ่อ เดี๋ยวจะนอนแล้วครับ" ผมรู้สึกขัดเขิน ทำตัวไม่ถูก เพราะเรื่องที่เจ๊เอ๋เห็นเมื่อเย็นน่ะสิครับ
"อ๋อ จ้ะ เออหมอ"
"ครับ"
เจ๊เอ๋ขยับเข้ามาใกล้ๆแล้วลดเสียงลง
"น้องเจ๊รุกแกหนักปะ"
ผมหน้าแดงขึ้นมาทันที เจ๊เอ๋หัวเราะคิกคัก
"เขินขนาดนั้นเชียว อะๆ ไม่ถามก้ได้...ฝันดีจ้ะ"

"หมอออ" ผมเปิดประตูกลับเข้ามาก้ได้ยินเสียงยานคางเรียกทันที
"ไรมึง"
"มาเร็ว นอนได้แล้ว"
"เป็นพ่อกูเหรอ มาบอกให้นอนเร็วเนี่ย"
"เป็นผัว ผัวสั่งแล้วเมียต้องทำตามดิ"
บรรยากาศการคุยกันแบบกวนตีนกลับมาแล้วครับ
ผมปิดไฟ เดินไปขึ้นเตียง ล้มตัวลงนอนยังไม่ทันเรียบร้อยดี แขน อั๋นก้ปาดข้ามลำตัวมาแล้ว แถมยังขยับเข้ามาใกล้จนแทบจะทับกันอีก
"พึ่งกอดกูเมื่อกี้ไม่ใช่อ่อ"
"จะกอดอีกอะ" เสียงไอ้อั๋นร่าเริงจนน่าถีบ มันกลับมาเป็นอั๋นคนเดิมจากเมื่อตอนเย็นแล้ว
"ขอบใจมึงมากนะเว้ยที่อยู่กับกู" อั๋นพูดขึ้นอีก
"เออ" ผมหันไปตอบสั้นๆ เห็นรอยยิ้มกว้างผ่านแสงไฟที่ส่องลอดเข้ามาทางหน้าต่าง
ผมรู้สึกได้ว่าหน้าเราใกล้กันมาก ใกล้เกินไปแล้ว...

"หมอ" อั๋นเรียกชื่อผมเบาๆ
"อือ"

ไอ้คนกอดยังนอนมองผมอยู่นาน ผมเองก้เหมือนถูกสายตานั้นตรึงไว้ให้มองแต่หน้ามันที่เดียว ไม่ให้หันไปทางไหนได้

นี่กำลังจะเกิดอะไรขึ้นนะ...

"อะ...อั๋น"
ผมไม่รู้ตัวว่าพูดชื่อไอ้คนกอดออกไปทำไม แม้ในแสงสว่างที่มีอยู่เล็กน้อยนั้น ผมเห็นแววตาเป็นประกายของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน

ผมไม่คิดว่าหน้าเราจะสามารถใกล้กันไปมากกว่าที่เป็นอยู่ได้อีก แต่มันก้เป็นไปแล้ว
ตอนนี้ผมเห็นทุกอย่างบนใบหน้าคมของอั๋นได้ชัดที่สุดอย่างที่ไม่เคยใกล้ขนาดนี้มาก่อน
ใกล้...

แล้วในที่สุด อั๋นก้ประกบปากเข้ากับปากผม

อั๋นจูบผม

อั๋นจูบผมอย่างแผ่วเบาและอ่อนโยน สัมผัสนั้นทำให้ผมรู้สึกดีอย่างน่าประหลาด ผมหลับตาพริ้ม เต็มใจรับรสจูบนั้น

จูบกันมันหวานอย่างนี้นี่เอง

อั๋นเอื้อมมือข้างหนึ่งมาจับมือผมไว้แล้วบีบเบาๆ วางมืออีกข้างบนสะโพก ส่วนมืออีกข้างของผมยึดแขนอั๋นไว้แน่น

ผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้ อั๋นค่อยๆผละออกจากผม คลี่ยิ้มออกมา
"อะ อะไร" ผมถามเสียงสั่น ทำไมผมรู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงอย่างกับวิ่งแข่งอยู่เลยนะ
"ป่าวนิ"
"..."

อั๋นขยับคางมาเกยไหล่ผม ยังคงจ้องผมอยู่อย่างนั้น
"นอนได้แล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้สายนะเว้ย" ผมเคาะหน้าผากไอ้คนกอดไปทีหนึ่ง
"ไม่ง่วงแล้วอะ"
ผมก้ไม่ง่วงแล้ว เพราะไอ้คนตรงหน้านี่แหละ เริ่มจูบผมแท้ๆ ตื่นเต็มตาเลยครับ
"เมื่อกี้...กูรู้สึกดีมากเลย" อั๋นพูดต่อ พูดถึงเรื่องที่เราจูบกันเมื่อครู่เนี่ยนะ โชคดีมากที่ตอนนี้เราอยู่ในความมืด ไม่อย่างนั้นอั๋นคงเห็นหน้าแดงเรื่อของผม
"...ไอ้บ้า"
"แล้วมึงอะหมอ รู้สึกยังไง"
ไอ้บ้าเอ๊ย จะถามผมทำไมนะ ทำให้ผมเคลิ้มซะขนาดนั้น
"หือ? รู้สึกยังไง"
"ถามไรของมึงเนี่ย" ผมพูดอู้อี้ ไม่ยอมมองสบตา นั่นทำให้ไอ้คนกอดยิ้มได้ใจใหญ่
"ทำไมเขินง่ายจังวะ" อั๋นพูดกลั้วหัวเราะ
"มะ ไม่รู้โว้ย"
"หมอ"
อั๋นเงียบไปสักพักหนึ่งก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้ง
"มึงทำให้กูคลั่ง รู้มั้ย"
ผมไม่ได้ตอบอะไร นั่นเป็นประโยคสุดท้ายของเราในคืนนี้ อั๋นยังกอดผมอยู่อย่างนั้น

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ไอ้คนกอดหลับปุ๋ยสบายใจไปแล้วครับ แต่ผมยังนอนลืมตาโพลงอยู่เลย ทำกันได้นะไอ้อั๋น จูบกูแล้วช่วยรับผิดชอบที่ทำให้กูนอนไม่หลับด้วยดิ
ผมนอนมองหน้าคมได้รูปของไอ้คนกอด แล้วคำถามมากมายก้ผุดขึ้นในหัว
ทำไมเราถึงสนิทกันได้ขนาดนี้นะ?
อะไรที่ทำให้อั๋นชอบผม?
ถ้าเราคบกันเป็นแฟนขึ้นมา จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง?
...
เราดันมาจูบกัน ต่อไปเราจะทำอะไรกันต่อวะครับ?

คิดไปก้ปวดหัวเปล่าๆ บางอย่างผมถามมันตรงๆก้ได้นี่นา แต่ใครจะไปถามเรื่องแบบนี้กันเล่า น่าอายจะตาย

ว่าแต่ เมื่อไรผมจะนอนหลับเนี่ย- -

6.45
"ไอ้หมอ ตื่นนนนน"
"อือ...มึงจะเสียงดังทำไมวะ" ผมถามทั้งๆที่ตายังปิดอยู่
"ก้มึงไม่ยอมตื่นอะ ลุกๆๆ" อั๋นตรงเข้ามาดึงผมให้ลุกขึ้นนั่ง แต่ผมก้ล้มตัวกลับลงไปนอนใหม่
"เชี่ยหมอ ตื่นเลย เร็ว" ไม่เรียกอย่างเดียวครับ ไอ้อั๋นเอาหมอนข้างมาตีผมซ้อนๆกันหลายที
"โอ๊ย เจ็บนะเว้ย...ตื่นแล้วๆ" ผมลุกขึ้นมานั่ง ขยี้ตาแล้วทำหน้าบึ้งใส่อั๋น
"ไปอาบน้ำเลยหมอ"
"ครับพ่อ" ผมประชด
"เดี๋ยว"
"อะไรอีกอะ"
"อาบพร้อมกันปะ"  อั๋นถามหน้าตาย
"พ่องดิ ไม่เอา อาบพร้อมกันทำไม" ผมปฏิเสธเสียงแข็งทันที
"เจ๊เอ๋ใช้ห้องข้างล่างอยู่ อีกนานอะกว่าจะเสร็จ มึงอาบพร้อมกูดิ เดี๋ยวสายนะเว้ย" อั๋นยิ้มกริ่ม
"ไม่เอา ไอ้บ้า" อั๋นมาอารมณ์ไหนวะเนี่ย ชวนผมอาบน้ำเฉย บรึ๋ย
"จะเขินไรวะ ทำอย่างกะไม่เคยเห็นกัน...เดี๋ยวมึงต้องปั่นอาจารย์พงศ์อีกนะ เมื่อคืนมึงยังไม่ได้ลอกกูไม่ใช่เหรอ" เชี่ย จริงด้วย ผมยังไม่ได้ทำการบ้านวิชาของอาจารย์พงศ์ ผู้ได้ชื่อว่าโหดสัสที่สุดในโรงเรียน ใครอย่าได้โดนแกใช้ไม้เรียวตีก้นเชียวครับ นอนเจ็บสามวันสามคืนแน่นอน แกกำหนดให้เอาสมุดไปส่งที่โต๊ะแกก่อนเข้าแถวครับ
เมื่อคืนผมกะว่าจะขอลอกของไอ้อั๋นหลังดูเกมโชว์จบ แต่ก้เกิด
ขี้เกียจ อยากนอนขึ้นมาก่อน แล้วดูสิ ได้นอนที่ไหน ดันมาจูบกับไอ้อั๋น ยิ่งนอนไม่หลับเข้าไปใหญ่ กว่าจะหลับก้สักตี2ได้มั้งครับ ไม่น่าเลยกู
"เอ้า ไปอาบกัน" อั๋นส่งผ้าเช็ดตัวให้ มองผมตาปริบๆ
"อะ เอางั้นเหรอวะ" ผมถามอย่างไม่แน่ใจ อาบน้ำพร้อมกันเนี่ยนะ อั๋นมันจะไม่ทำอะไรผมใช่มั้ย- -
"เออ เดี๋ยวไม่ทันนะเว้ย"
มึงนี่เข้าใจหาเหตุผลมาชวนกูได้นะสาด เอาไงดีวะครับ
"เร็วดิ" อย่าเร่งกูดิโว้ย
ในที่สุดผมก้ตัดสินใจ
"เออๆ ก้ได้"
อั๋นยิ้มเจ้าเล่ห์
"ครั้งนี้ครั้งเดียวนะสาด กูกำลังวิกฤต...มึงห้ามเล่นอะไรแผลงๆด้วยนะเว้ย" ผมรีบเตือน
"ไม่เล่นหรอกน่า"
อย่างไรก้ตาม ผมไม่ไว้ใจแววตานั่นเลยจริงๆ ให้ตายเถอะ

ผมกับอั๋นใส่กางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียวอาบน้ำ ไม่กล้าเปลือยอาบจริงๆครับ- - ต่างคนต่างก้ทำภารกิจของตัวเองกันไป
ขณะที่ผมกำลังสระผมอยู่ อั๋นจ้องผมไม่วางตา
"มองไรมึง อาบไปดิ"
"มองนิดมองหน่อยไม่ได้อ่อ"
"เออ...อย่าทำหน้างั้นดิสัส กูขนลุก"
อั๋นหัวเราะเบาๆและหันไปฟอกสบู่ที่ตัวต่อ โอย ผมจะรอดออกไปจากห้องน้ำมั้ยเนี่ย ไม่น่าไปตกลงอาบน้ำพร้อมกันเลย
เมื่อผมล้างตัวเสร็จ กำลังจะนุ่งผ้าขนหนู อั๋นเดินเข้ามากอดผมจากข้างหลัง
"เชี่ยยย มึงจะทำไรไอ้อั๋น ปล่อยกูนะเว้ย" ผมร้องลั่น
"จะไปไหน" อั๋นพูดเสียงกระเส่าข้างหู
"ปล่อย ปล่อย"
"อย่าเสียงดังดิวะ" แล้วอั๋นก้คว้าผ้าขนหนูในมือผมมาพันรอบเอวให้และยอมปล่อยผม "กูแค่จะนุ่งผ้าให้เอง ไม่เห็นต้องร้องแหกปากเลย" ผมล่ะเกลียดหน้าหื่นๆของมันสุดตีน
"สัส ชอบแกล้งกูนะมึง" ผมหันไปตบหัวมันหนึ่งที ยังจะมาหัวเราะอีกแน่ะ

ออกมาจากห้องน้ำผมก้แต่งตัวด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่จะทำได้
"กูบอกให้ลอกตั้งแต่เมื่อคืนก้ไม่เชื่อ" ไอ้อั๋นเดินตามออกมา กำลังเช็ดผมอย่างสบายใจ ท่าทางน่าถีบชะมัด
"ไม่ต้องมาซ้ำเติมกูเลยสาด"
"มึงจะลอกที่นี่หรือที่โรงเรียน" อั๋นยิ้มขำ
"ที่นี่ละกัน หยิบสมุดให้กูหน่อยดิ"
"ได้ทีก้ใช้เลยนะครับ"
"เชี่ยอั๋น เร็วๆดิ๊"
"พูดดีๆก่อน"
"เหี้ย"
"งั้นไม่หยิบ"
"มึงอย่าพึ่งเล่นดิวะ เอามาให้กูเร็ว" ผมเร่ง อย่าพึ่งแกล้งกูเลยครับเพื่อนรัก กูกลัวไม้เรียว- -
"พูดดีๆ"
"ดีๆ" เออ เอาสิ กวนมากวนกลับไม่โกง
"พ่อง"
"ไอ้อั๋น มึงอยากเห็นกูโดนตีเหรอ" ผมลากเสียงยาว
"พูดตามกู ไม่งั้นกูไม่หยิบให้" อั๋นยังคงยิ้มร่า
"เอ้า จะให้กูพูดไร เร็ว" ผมยอมมันจนได้ กลัวไม่ทันจริงๆนะครับ
"ที่รักขาา หยิบสมุดให้เมียหน่อย" อั๋นดัดเสียงและทำท่าอ้อน(ตีน)สุดๆ
"ไอ้เหี้ยยย"
"จะพูดไม่พูด"
"ทะ ที่รักขา"
"หยิบสมุดให้เมียหน่อย"
"...หยิบสมุดให้เมียหน่อย- -"
"ก้แค่เนี้ย" อั๋นหัวเราะเสียงดังลั่นบ้านก่อนจะหยิบสมุดการบ้านของอาจารย์พงศ์มาให้
"จวย ถ้ากูส่งไม่ทัน กูจะถีบมึง" ผมไม่วายหันไปด่า เริ่มต้นลอกงานบนโต๊ะหนังสือของอั๋นทันที มันแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก้เดินมายืนข้างๆ
"จะลอกทันมั้ยเนี่ยไอ้หมอ"
"มึงเลย แกล้งกูอยู่นั่นแหละ"
เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนถูกเปิดออก
"เจ๊ไปเรียนก่อนนะ"
"เออ เดี๋ยวอั๋นล็อคบ้านเอง พ่อกับแม่ออกไปแล้วเหรอ"
"ออกไปละ เอ๊ะ นั่นทำอะไรกันน่ะ"
"ไอ้หมอมันลอกการบ้านอยู่"
"ใช่ค้าบ" ผมตอบโดยไม่ได้หันไปมองเจ๊เอ๋
"โถ น้องหมอ...เออ แล้วเมื่อกี้ทำอะไรกันในห้องน้ำน่ะ เสียงดังไปสามบ้าน"
"ป่าวนิ"
"ไอ้อั๋นมันแกล้งหมอครับเจ๊"
"แหม เมคเลิฟกันก้บอกมาเหอะ โฮะๆ เจ๊ไปละ" เจ๊เอ๋แซวอีกแล้ว
"บายโว้ย"
"บายค้าบ...สัสเอ๊ย เหลืออีกสองหน้าเต็มๆเลย กูจะลอกทันมั้ยเนี่ย" ประโยคหลังผมพูดกับอั๋น
"โห หน้าที่เขียนไปแล้วนี่อ่านไม่ออกเลยว่ะ" อั๋นยื่นหน้าเข้ามาดูสมุดใกล้ๆ
"เค้าเรียกลายมือหมอไง มึงไม่รู้จักอ่อ อั๋น กูจะเสร็จมั้ยวะ" ผมร้องอย่างร้อนรน นี่ก้ปาเข้าไป 7.20 แล้ว คราวนี้ตายแน่ๆไอ้หมอ
"มา กูช่วยลอก"
"เห้ย อย่าเลย" ผมรีบปฏิเสธ
"เดี๋ยวก้ไม่ทันหรอกมึง มานี่มา" แล้วอั๋นก้ลงนั่งข้างผม เริ่มต้นเขียนหน้าขวา
"เดี๋ยวมึง"
"ไม่ต้องเกรงใจน่า"
"ไม่ใช่ แล้วมึงรู้ได้ไงว่ากูจะเขียนหน้านี้จบถึงไหน"
"เออว่ะ"
"งั้น...จบที่บรรทัดนี้ละกัน มึงเริ่มตรงนี้" ผมเลือกให้ว่าอั๋นควรเริ่มเขียนตรงไหน
"เออๆ เรื่องแบบนี้เสือกหัวดีนะมึง" ไม่วายหันมากัดผมอีกแน่ะ
พอมีอั๋นมาช่วยลอกอีกหน้า งานก้เสร็จเร็วขึ้นเยอะเลยครับ ผมรู้สึกได้ถึงอะดรีนาลีนที่กำลังไหลหลั่งไปทั่วร่างกายจากความตื่นเต้น ตอนนี้ 7.38 แล้ว
"เชี่ย รีบไปกัน" ผมบอก

7.56
ไม่อยากจะเชื่อว่าเรามาถึงโรงเรียนทันเวลา โชคดีมากครับที่รถติดนิดเดียว และผมขอให้อั๋นขับมาด้วยความเร็วที่สูงที่สุดที่จะไม่โดนตำรวจเรียกจับกลางทาง
ลงจากรถได้ พวกเราก้ใส่เกียร์หมาวิ่งไปตึกที่อาจารย์พงศ์อยู่
ไอ้หมอ มึงจะส่งทันใช่มั้ย

7.59
ผมปวดขาโคตรๆแต่หยุดวิ่งไม่ได้ ไม่มีเวลาแล้วครับ
"ไอ้หมอ เลยห้องอาจารย์แล้วมึง" อั๋นส่งเสียงอยู่ข้างหลัง
"เหี้ย"
ผมสบถแล้ววิ่งย้อนกลับมา วิ่งไม่ได้ดูทางบ้างเลย

8.00
"อ้ากกก"
ผมกับอั๋นวางสมุดการบ้านลงบนกองสมุดหนาบนโต๊ะอาจารย์พงศ์ เชี่ยยย ผมส่งทันแล้วครับ ดีใจสัสๆ

"เหนื่อยชิบ" ผมหอบหายใจจนตัวโยน หันไปเห็นอั๋นแค่หายใจเร็วนิดหน่อยเท่านั้น ส่วนผมนี่ถึงกับทรุดลงไปนั่งกับพื้นห้องพักอาจารย์ ไม่เคยเหนื่อยขนาดนี้มาก่อนเลยครับ
"เห้ย ไหวปะมึง" อั๋นแตะไหล่ผม
"...ไหว"
อั๋นค่อยๆประคองร่างผมลุกขึ้นยืน กำลังจะเดินไปเข้าแถวเคารพธงชาติต่อ น่าจะโดนจับแถวสายครับ
อยู่ๆอั๋นก้หยุดเดิน กำลังจ้องใครบางคน ผมเงยหน้าขึ้นมองตาม
พี่ก้อง

-จบตอน-

มาต่อแล้วนะค้าบ อั๋นหมอจูบกันจริงจังแล้ว ไม่ใช่อุบัติเหตุตอนที่หมอป่วย แล้วก้ไม่ใช่ตอนที่หมอเมาด้วย ตอนนี้หมอมีสติรู้ตัว
แล้วก้สมยอม อิอิ writer คิดว่าคำว่า ไอ้คนกอด มันน่ารักดี ก้เลยใช้เป็นคำที่หมอไว้เรียกอั๋นในความคิดของตอนนี้ ส่วนเจ้าอั๋นนี่มันร้ายจริงๆ มีชวนอาบน้ำด้วยกันและยังไปแกล้งหมออีก เกือบส่งการบ้านไม่ทันแล้วมั้ยล่ะ555
ติดตามตอนต่อไปด้วยนะครับ งานกีฬาสีของโรงเรียนใกล้เข้ามาทุกทีแล้ววว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ writerbeer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
ตอนที่22

"หมอมาทำอะไรเหรอครับ" พี่ก้องเอ่ยทักด้วยรอยยิ้ม ราวกับว่าเมื่อวานไม่ได้มีเรื่องกับผม
ผมไม่ตอบ มองหน้าพี่เค้าอย่างไม่เข้าใจ ส่วนอั๋นก้จ้องเขม็งใส่ก่อนจะโอบไหล่ผมเดินออกมาจากโต๊ะอาจารย์พงศ์
"เย็นนี้มีทำอุปกรณ์สแตนเชียร์ อย่าลืมนะครับ" พี่ก้องส่งเสียงตามหลังมา

เมื่อวานมีการนัดสตาฟฝ่ายเชียร์ให้มาทำอุปกรณ์สำหรับใช้บน
สแตนเชียร์ในกรุ๊ปไลน์ครับ
"มึงจะไปมั้ยหมอ" อั๋นถามผมทันทีเมื่อเดินลงจากตึก
"ไปดิ"
"งั้น วันนี้กูไปช่วยมึงทำนะ"
"เออ" ผมรู้สึกโล่งใจและปลอดภัยเมื่อมีมันอยู่ด้วย

ถึงแม้ว่าพวกผมจะส่งการบ้านอาจารย์พงศ์ทันเวลาพอดิบพอดี
ก้ตาม แต่นั่นหมายความว่าเราได้พลาดการเช็คชื่อเข้าแถวเคารพธงชาติของห้องเรียนไปเรียบร้อย เราเดินคอตกไปต่อหลังแถวนักเรียนที่มาสาย
"หนีทำโทษอาจารย์พงศ์ก้ต้องมาเจอนี่อยู่ดี คุ้มกันปะวะเนี่ย" ผมหันไปบ่นกับไอ้อั๋น
"เอาน่า อย่างน้อยลุกนั่งหรือวิดพื้นก้ดีกว่าโดนฟาดก้นแหละ ไม่ต้องนอนแสบนะเว้ย"
"จริงของมึง"
หลังเคารพธงชาติและสวดมนต์เสร็จ นักเรียนแถวปกติก้จะนั่งลงรอฟังปราศัยจากอาจารย์ บาทหลวง หรือใครก้ตามที่มีเรื่องจะแจ้ง ส่วนนักเรียนแถวมาสาย อาจารย์ก้จะเริ่มเดินจดชื่อทุกคนแล้วจึงสั่งทำโทษ
"เห้ย อาร์ต หวัดดี" อั๋นหันไปทักคนที่พึ่งวิ่งมาต่อแถวหลังมันล่าสุด
"หวัดดีอาร์ต" ผมหันไปทักบ้าง
"หวัดดีเว้ย...โห่ อุตส่าห์วิ่งมาก้ไม่ทันอยู่ดี เหนื่อยจะแย่" อาร์ตยิ้มทักทาย หอบหายใจไปด้วย
"มาสายด้วยอ่อ" ผมแซว
"ปกติไม่สาย วันนี้รถไฟฟ้าแม่งขัดข้องอะดิ จอดอยู่แปบนึง ซวยเลย"
"บ้านอยู่ไหนวะ" อั๋นถาม
"อยู่คอนโดอะ แถวรถไฟฟ้าช่องนนทรีเลย"
"เห้ย บ้านกูก้อยู่แถวนั้น" ผมร้อง
"อ่าวเหรอ ดีๆ ใกล้กันเลย"
"นี่ มาสายแล้วยังจับกลุ่มคุยกันอีกเหรอพวกเธอ" อาจารย์ประจำแถวมาสายขัดขึ้น ทำให้พวกผมหยุดคุยกันทันที
หลังจากอาร์ตไปก้ไม่มีใครมาสายอีก อาจารย์สั่งให้พวกเราวิดพื้นคนละ30ครั้ง
"โอย วันนี้ปวดแขนแน่ๆ" อาร์ตบ่น นักเรียนคนอื่นๆส่งเสียงร้องกันระงม
"ไม่ต้องมาโอดครวญเลย วิดพื้น30 ปฏิบัติ" อาจารย์หรือทหารวะครับเนี่ย

"งั้นเราไปห้องก่อนนะ" อาร์ตขยับขึ้นจากพื้นหลังวิดพื้นเสร็จ
"เจอกันๆ" ผมกับอั๋นบอก ขยับลุกขึ้นเหมือนกัน โอย ปวดตัวแต่เช้าเลยกู
"หมอ มึงเจ็บขาปะเนี่ย" อั๋นถาม น่าจะเป็นห่วงเพราะว่าเราพึ่งล้าจากการวิ่งแล้วยังต้องมาวิดพื้นต่อ
"ไม่เจ็บๆ กูไหวอยู่"
ผมกับมันเดินอย่างเชื่องช้าไปต่อแถวของห้องเรา ไอ้พริกที่ยืนอยู่หลังสุด หันมาหาทันที
"อ้าว ไหงวันนี้ผัวเมียมาสายกันล่ะ"
"กูปั่นอาจารย์พงศ์ไม่เสร็จดิสัส" ผมตอบ
"อ่อ แล้วไอ้อั๋นก้ไม่เสร็จด้วยเรอะ...ไม่ดิ มึงสองคนต้องมาพร้อมกันนี่หว่า"
"เมื่อคืนเค้าไปนอนด้วยกันมา เห็นมั้ยน่ะ" ไอ้เอกที่ยืนอยู่หน้าไอ้พริกหันมาแจม
"เออ ไอ้หมอใส่เสื้อไอ้อั๋นมาอีกละ" พูดจบแล้วไอ้พริกก้หันไปหัวเราะกับไอ้เอก นี่พวกมึงพูดเองแซวเอง ไม่เปิดโอกาสให้กูพูดสักคำเลยนะ

คาบแรกของวันนี้เป็นวิชาที่เมื่ออาจารย์สอนเสร็จก้จะให้นักเรียนนั่งทำงาน ไม่มีการบ้านที่ต้องเอากลับไปทำ พองานเสร็จอาจารย์จะให้ทำอะไรก้ได้ ไอ้อั๋นที่เก่งโคตรๆก้มักจะทำเสร็จก่อนหมดเวลาเรียนเสมอและได้นั่งเล่นสบายใจครับ
"ช้าจังวะ" มันหันมาแหย่ผม
"สัส มึงมาช่วยกูดิ"
"เรื่องไร ไม่ช่วยเว้ย"
"เอ๊ออ จำไว้นะมึง" ผมทำปากยื่น
"มาๆ กูช่วย" อั๋นหัวเราะ ขยับเข้ามาสอนผม

"...เห็นปะว่าข้อนี้ง่าย"
"เออ...แขนครับแขน" ไอ้อั๋นเอาแขนขึ้นมาโอบไหล่ผมตอนไหนเนี่ย เนียนนะมึง- -
มันยิ้มที่โดนจับได้ก่อนจะขยับแขนออกไป

"พงศกร เดี๋ยวช่วยยกสมุดไปวางที่โต๊ะครูด้วยจ้ะ"
"ครับผม"
อาจารย์สั่งไอ้อั๋นเมื่อเสียงกริ่งหมดเวลาคาบเรียนดังขึ้น มันหันมาหาผม
"หมอ ไปเป็นเพื่อนกูหน่อยดิ"
"ไม่เอาอะ ขี้เกียจ" ผมแกล้งอั๋น
"โห่ ไรวะ เมื่อกี้กูยังช่วยมึงทำการบ้านเลยนะ"
"ไม่เกี่ยวเว้ย นี่อาจารย์ใช้มึงนิ"
"เอ๊ออ จำไว้นะมึง" มันพูดเลียนแบบผม
ผมทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ สนุกดีครับ ได้แกล้งมันบ้าง
แต่ทันใดนั้นอั๋นก้คว้ามือผมขึ้นแล้วลากไปหน้าห้อง
"เห้ย เชี่ยอั๋น"
"ไม่ยอมลุกก้ต้องลากมายังงี้แหละ"
เพื่อนๆเริ่มส่งเสียงเซ็งแซ่ขึ้นมาทันที

สุดท้ายผมก้เดินไปห้องอาจารย์กับไอ้อั๋นอยู่ดี ไม่น่าไปเล่นตัวเลยครับ โดนจับมือเฉย- -
"มึงก้ยกคนเดียวไหวนิ"
"อยากให้มาเป็นเพื่อนอะ" ทำหน้าแอ๊บแบ๊วใส่ผมอีกแน่ะ
"ง๊องแง๊งสัส" ผมแกล้งบ่น
"เดี๋ยวจะโดนแบบเมื่อคืน" อั๋นยิ้มกริ่ม
"อะ อะไร"
"จูบไง"
"ไอ้สัส ทะลึ่งละ" ผมเขินขึ้นมา พูดเรื่องนี้ทำไมวะไอ้อั๋น
"ทะลึ่งไร เมื่อคืนใครก้ไม่รู้ เคลิ้มใหญ่เลย แถมยังจูบ..."
"พอเลยมึง" ผมห้าม หยุดพูดเรื่องนี้เลยนะโว้ย
อั๋นหัวเราะชอบใจ
"สัส เดี๋ยวคนอื่นมาได้ยิน"
"ได้ยินก้ดีดิ เค้าจะได้รู้ว่าเราจูบกันแล้ว" ยัง ยังไม่หยุด
ผมเอามือปิดปากไอ้อั๋นแน่น มันทำอะไรไม่ได้ครับ เพราะมือทั้งสองข้างถือกองสมุดไว้อยู่
"อืออ" มันส่งเสียง

"หมอจ๋า"
"ไรมึง"
ออกจากห้องพักอาจารย์มาไอ้อั๋นเข้ามากอดคอผม เราเดินกลับห้องเรียนเพื่อเรียนวิชาต่อไป มันเริ่มพูดเรื่องจูบขึ้นอีกครั้ง
"เมื่อคืน..."
"สาด พอ" ผมพยายามจะเอามือปิดปากไอ้อั๋นแต่ไม่สำเร็จ มือมันว่าง ไม่ได้ถือสมุดแล้วครับ "ใครสอนให้มึงเอาเรื่องนี้มาพูดที่โรงเรียนวะครับ ไม่อายคนอื่นบ้างอ่อ"
"ไม่อาย ก้มันเรื่องจริงนี่"
- -
อั๋นหัวเราะเสียงดัง
"โอ๋ๆ ไม่แกล้งละ...เมื่อคืนมึงยังไม่ตอบกูเลย กูถามจริงๆนะ"
"อะไรอะ"
"มึง รู้สึกยังไง"
อั๋นจ้องตาผมอย่างจริงจัง ท่าทีขี้เล่นหรือกวนตีนหายไปหมด ไหล่ผมอยู่ในอ้อมแขนมัน จะหนีไปไหนก้ไม่ได้ด้วยสิ
"ระ รู้สึกอะไร"
"ที่เราจูบกัน"
"เชี่ย เดี๋ยวใครก้มาได้ยินเข้าหรอก" ผมรีบเตือนอีกครั้ง
"ตอบมา"
"รู้สึก..."
ผมพูดไม่ออก จะพูดออกไปได้อย่างไรล่ะครับ
"..." อั๋นยังคงจ้องหน้าผมและเลิกคิ้วขึ้นเสมือนรอคำตอบ
"ดะ ดี"
แล้วหน้าผมก้แดงก่ำขึ้นมา ไอ้คนข้างๆยิ้มกว้างจนปากจะถึงหู ท่าทางดูไม่สามารถยินดีกับอะไรมากไปกว่านี้ได้แล้ว
"กูก้รู้สึกดีเหมือนกัน"
"อะไรของมึงเนี่ย ไปไกลๆเลย" ผมผลักมัน แต่มันไม่ยอมปล่อย แถมยังเอามืออีกข้างมาบีบจมูกผม
"ไว้มาจูบกันอีกนะหมอ..."

"ต้าร์วันนี้กูไม่ไปซ้อมนะ กูจะไปช่วยหมอทำอุปกรณ์สแตน" ไอ้อั๋นสะกิดไอ้ต้าร์ที่กำลังเล่นเกมในไอโฟนเมื่อหมดเวลาคาบเรียนสุดท้าย
"เออๆ"
"เห้ย งั้นพวกกูไปก่อนนะ" ผมบอกลาไอ้นนท์ ไอ้เอก แล้วทุกตัว เอ้ย คน ก้ส่งเสียงร้องเพลงว่า 'ไปเถิดทั้งคู่ ไปสู่ประตูสวรรค์' เพลงอะไรของพวกมันวะ เรื่องแบบนี้นี่พร้อมใจกันเชียวนะไอ้บ้า
"บอสครับ ตามผมมา" แล้วไอ้อั๋นก้เริ่มเล่นบทบอดี้การ์ด นำผมเดินไปยังโรงยิม2 สถานที่นัดทำอุปกรณ์ของสีฟ้าที่ตกลงกันไว้
"เล่นใหญ่สัส" ผมยิ้มขำ
"ผมจะไม่ให้ใครมาทำอะไรบอสเด็ดขาด อยู่ติดกับผมไว้นะครับ" ไม่พูดเปล่า ยังหันซ้ายขวา ทำท่าถือปืนเล็งไปมาอีก555
"มึงอาจจะเรียนหนักไปว่ะอั๋น"
"โห่ ก้มึงบอกให้กูเป็นบอดี้การ์ดนิ" อั๋นกลับมาเดินข้างผมอย่างปกติ เราหัวเราะด้วยกัน
"เอ้อ ขอบใจนะเว้ยที่มาเป็นเพื่อนอะ" ผมนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ขอบคุณอั๋นเลยที่มาอยู่กับผมวันนี้ มันต้องโดดซ้อมบาสฯมาด้วย
"เออ กูจะปล่อยให้มึงมาคนเดียวได้ไงล่ะ" มันยิ้มน้อยๆ ผมยิ้มตอบ
"ฝากด้วยนะเว้ยไอ้บอดี้การ์ด"
"ค้าบผม...ว่าแต่ จะฝากดูแลหัวใจด้วยก้ได้นะ"
มึงจะขยันจีบกูไปไหนนะ ผมยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

"พี่เมฆหวัดดีครับ" ผมทักทายพี่ฝ่ายเชียร์ที่กำลังพับกระดาษแข็งให้เป็นพัดเมื่อไปถึงโรงยิม
"อ้าว หวัดดีหมอ"
"วันนี้ผมพาเพื่อนมาช่วยทำด้วยนะ ไอ้อั๋นครับพี่ อั๋น นี่พี่เมฆ"
"หวัดดีครับ" อั๋นยิ้มสดใส
"หวัดดีน้อง มาๆ นั่งก่อน"
เรานั่งลงกับพื้น รับกระดาษแข็งสีฟ้าและสีขาวมาจากพี่เมฆ เริ่มต้นพับตาม มีอีกกลุ่มหนึ่งที่นั่งทำอุปกรณ์อื่นอยู่ด้วย
พัดนี้จะใช้ประกอบการแสดงเชียร์ในช่วงโชว์เดี่ยวของแต่ละสี จากการประชุมครั้งที่แล้ว พวกเราช่วยกันคิดว่าควรทำอุปกรณ์แบบไหนบ้าง และควรจะนำแต่ละอย่างมาใช้ช่วงไหน
ผมเป็นคนเสนอให้ใช้พัดแค่เฉพาะช่วงโชว์เดี่ยวครับ ไม่งั้นมีหวังพวกน้องๆเอามาตีเล่นกันจนเสียหายแน่
"แล้วนี่ พี่ก้องไปไหนเหรอครับ" ผมถามพี่เมฆ เมื่อมองไปโดยรอบแล้วก้ยังไม่เห็นท่านประธานฝ่ายเชียร์เลย
"เดี๋ยวมันมา เออ เมื่อวานไอ้ก้องมันปากแตก ไปโดนอะไรมาไม่รู้ ถามก้ไม่ยอมบอก"
"เหรอครับ" ผมยังนึกโกรธเค้าเรื่องนั้นไม่หาย พยายามไม่มองสบตาอั๋น
หลังจากทำพัดไปได้จำนวนหนึ่ง เราก้เปลี่ยนไปเตรียมพู่แทน ซึ่งเป็นสีฟ้าทั้งหมด
"หมอ กูไม่ชอบอันนี้เลยว่ะ"
"พู่อะเหรอ ทำไมวะ"
"ก้มันคันอะ" อั๋นทำอุปกรณ์ที่ใช้ทำพู่พันมือกันยุ่งเหยิงไปหมดเลยครับ
"มานี่มา" ผมหัวเราะ ขยับไปช่วยแกะพู่ออกจากมือ
มันมองผมยิ้มๆ
"ไอ้เมฆ โทษทีว่ะ" ผมหันไปเห็นพี่ก้องวิ่งมาถึง ส่งยิ้มให้ทุกคนในฝ่าย ก่อนสายตาจะมาหยุดอยู่ที่มือผมกับอั๋นที่กำลังจับกันอยู่
"หวัดดีทุกคน"
ผมเห็นว่าพี่มัธยม6หลายคนแอบมองหน้าพี่ก้องกับอั๋นสลับกันไปมา คงจะเคยเห็นสองคนนี้เขม่นกันสินะ ถ้าพวกเขารู้ว่าพี่ก้องเคยคิดจะทำอะไรกับผมล่ะก้ จะเชื่อมั้ยนะ

"หมอ"
"หือ"
"ก่อนกลับบ้านไปสยามกัน"
"ทำไรวะ"
"แม่กูให้ซื้อของที่gourmetนิดหน่อย" อั๋นเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์ กำลังพิมพ์ตอบไลน์กลุ่มครอบครัว
"เออ เอาดิ"
ระหว่างที่ทำพู่ ผมรู้สึกว่าโดนพี่ก้องจับตามองอยู่ตลอดเวลา ผมทำเป็นไม่สนใจเค้า
"ไอ้หมอ มึงมาดูผังที่นั่งบนสแตนกะพวกกูหน่อย ปีหน้ามึงทำจะได้ทำต่อ"
"ครับพี่" ผมเลื่อนตัวเข้าไปหาพี่เมฆกับเพื่อนอีก2คน ตั้งใจฟังการจัดตำแหน่งที่นั่ง ส่วนนี้สำคัญสำหรับการแปรอักษรมากๆครับ
"หมอ"
ผมสะดุ้ง อยู่ๆพี่ก้องก้มานั่งข้างหลังผม เเถมยังเอามือมาจับไหล่ผมด้วย
"พี่ขอโทษนะครับ อย่าโกรธเลยนะ" พี่ก้องพูดเบาๆข้างหู ผมไม่หลงเชื่อแน่นอน พยายามขยับตัวให้เค้าเอามือออกไปจากไหล่
อั๋นจ้องพี่ก้องเขม็ง มันกำลังจะขยับตัว แต่พี่ก้องก้ลุกออกไปหาเพื่อนเค้าที่กำลังทำอุปกรณ์อยู่อีกกลุ่มหนึ่งแล้ว
พี่ก้องรู้ว่าผมไม่เล่นด้วยแล้ว เค้าต้องการอะไรกันนะ

"ขอบคุณทุกคนมากที่มาช่วยกัน เราจะทำกันต่อพรุ่งนี้ หลังเลิกเรียนเหมือนเดิมนะ"
พี่ก้องบอกทุกคนให้แยกย้ายกันตอนหกโมงครึ่ง ผมกับอั๋นหันไปบอกลาพี่คนอื่นๆ กำลังจะเดินออกจากโรงยิม
"หมอ อั๋น อย่าพึ่งไปครับ" พี่ก้องเรียก
"มีไรครับ" ผมหยุดเดิน
"พี่ขอคุยด้วยหน่อยดิ"
พี่ก้องเดินเข้ามาหาเราสองคน รอจนคนอื่นๆเดินไปหมดแล้วจึงเริ่มพูดอีกครั้ง
"จะรีบไปไหนกันเหรอครับน้อง" พี่ก้องยิ้มมุมปาก
ผมกับอั๋นไม่ตอบ อั๋นเดินเข้ามายืนชิดผม
"พี่จะเอาไรครับ" ผมถามไปตรงๆ
"พี่แค่อยากรู้ว่าอั๋นมีอะไรดี ทำไมหมอถึงไม่สนใจพี่เลย"
ไอ้พี่ก้องมันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ผมไม่เข้าใจการกระทำของเค้าเลยสักนิด
ในเมื่อพวกผมไม่พูดอะไรสักคำ ได้แต่ยืนมองอีกฝ่ายกลับไปอย่างนั้น พี่ก้องพูดเสียงเย็นก่อนจะเดินออกไป
"ระวังตัวให้ดีก้แล้วกัน"

"มันไม่ได้ทำอะไรมึงใช่ปะ" อั๋นถามถึงตอนที่พี่ก้องมาพูดกับผมระหว่างฟังการจัดที่นั่งสแตน
"ป่าว เค้าแค่พูดขอโทษ กูไม่เข้าใจเค้าเลยว่ะ ทำถึงขนาดนั้นแล้วคิดว่ากูจะโอเคเหรอ" พี่ก้องทั้งทำให้อั๋นไม่ได้เป็นนักกีฬาตัวจริงและลวนลามผม เค้าคาดหวังว่าผมจะดีด้วยได้อย่างไร
"เออ แล้วไป กูนึกว่ามันมาทำอะไรมึง"
"เออ" ผมรับคำสั้นๆ รู้สึกไม่สบายใจนิดหน่อย พี่ก้องคิดจะทำอะไรต่อไปหรือเปล่านะ
"ไปกัน" อั๋นจูงมือผมเดินเข้าไปในสยามพารากอน มุ่งหน้าไปยังgourmet
"เดี๋ยวนะ"
"อะไร"
อั๋นหยุดเดิน หันกลับมามองผม
"มึงมาจับมือกูทำไมเนี่ย"
"เอ้า เดี๋ยวเราหากันไม่เจอ คนเยอะขนาดนี้ต้องจับไว้ดิ" อั๋นพูดหน้าตาย
"กลัวหายเนี่ยนะ เราไม่ใช่เด็กๆแล้วนะเว้ย- -"
"เออน่า กูเป็นบอดี้การ์ดมึงนะ ต้องดูแลดิ" แล้วอั๋นก้จูงมือผมเดินต่อไป ผมส่ายหัว จะขอจับมือก้ไม่ยอมบอกกันตรงๆ
"เนียน"
อั๋นไม่ตอบ ผมเดาว่ามันต้องกำลังยิ้มอยู่แน่ๆ
แน่นอนว่าหลายคนในห้างกำลังมองเด็กนักเรียนชายสองคนจูงมือกันเดินไปซื้อของด้วยความสงสัย บ้างก้มองยิ้มๆ บ้างก้หันไปคุยกับคนข้างๆ
"อั๋น"
"ครับ"
"อะไรของมึงเนี่ย พูดเพราะเชียว" ผมหัวเราะ "คนมองเต็มเลยสาด"
"ทำไมเหรอ"
"ทำเป็นไม่รู้อีกละ ก้มึงมาจับมือกูไงค้าบ" ผมลากเสียงยาว
"แฟนกันจับมือกันไม่ได้อ่อ" อั๋นทำหน้าทะเล้น
"...แฟนไร ไม่ได้เป็นซะหน่อย" ผมตอบช้าๆ อั๋นเงียบไป
อั๋นไม่ยอมปล่อยมือผม ผมก้เลยปล่อยให้มันจูงมือเดินไปอย่างนั้น

เรามาถึงgourmet อั๋นปล่อยมือผมไปลากตะกร้ารถเข็นมาใส่ของ
"เห้ย กูขอลาก มึงไปหยิบของเลย"
"เออๆ" อั๋นขยี้หัวผม ผมชอบเป็นคนลากรถเข็นเดินตามพ่อกับแม่เวลามาช็อปปิ้งครับ
"ซื้อเยอะอ่อวะ"
"ไม่เยอะนะ แต่กูขี้เกียจถือ"
ผมลากรถเข็นตามอั๋นไปทั่วgourmet มันซื้อโยเกิร์ต นม ผักสด กับเนื้อสัตว์อีกนิดหน่อย
"เอาไปทำไรวะ"
"เติมเสบียงไง ของที่บ้านจะหมดละ" อั๋นเดินต่อไป
"แกๆ ดูนั่นดิ เด็กผู้ชายสองคนมาซื้อของด้วยกัน"
"ว้าย ท่าทางเหมือนแฟนกันเลยนะ...เค้าอยู่ด้วยกันเหรอ"
"ชั้นว่าใช่แน่ๆ"
กลุ่มสาวออฟฟิศที่ยืนเลือกของอยู่ชั้นข้างๆผมซุบซิบกันถึงพวกผม เอ่อ ทำไมถึงคิดไปได้ขนาดนั้นล่ะ- -
"โอย ฟิน"
"หน้าตาน่ารักทั้งคู่เลยนะ"
"ว้า เสียดายเหมือนกันนะแก"
อั๋นเดินกลับมาตรงชั้นที่ผมยืนอยู่
"อั๋น ของครบยังวะ"
"ครบแล้ว"
"งั้นไปจ่ายตังกัน"
"เออ...รีบไปไหนเนี่ย" ผมรีบเข็นรถไปที่เคาน์เตอร์ชำระเงิน อั๋นเดินตามมา กลัวว่าถ้ามันได้ยินพี่ๆเค้าซุบซิบกันแล้วจะแกล้งอะไรขึ้นมาอีกครับ- -

ผมออกมายืนรออั๋นบริเวณด้านนอกgourmet มองนั่นนี่ไปเรื่อย แล้วก้เห็นอะไรบางอย่าง
พี่เหมากำลังเลือกซื้อคัพเค้กอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง ทั้งคู่ใส่ชุดนักศึกษา พี่เหมามาซื้อของกับใครวะเนี่ย
อาจจะเป็นน้องสาวหรือเพื่อนเค้าก้ได้น่า อย่าคิดมากดิหมอ ผมบอกตัวเอง
แต่แล้วพี่เหมาก้ยกมือขึ้นโอบไหล่ผู้หญิงคนนั้น คุยกันอย่างร่าเริง ก่อนจะพากันเดินขึ้นบันไดเลื่อนไปอีกชั้น
นี่มันไม่ใช่แค่พี่น้องแล้ว
"หมอ มองไรวะ"
"เอ้อ" อั๋นมาสะกิดแขน ผมร้องตกใจ "ป่าว"
"อยากกินขนมอะดิ" อั๋นยิ้มกว้าง เข้าใจว่าผมกำลังมองไปทางโซนร้านขนม
"ป่าวๆ ไปกันเหอะ" ผมยื่นมือออกไปช่วยถือถุงใส่ของที่ซื้อมา

จะว่าไปแล้ว ผมพึ่งรู้สึกว่าพี่เหมาหน้าตาคล้ายใครสักคนที่ผมรู้จัก...เอ ใครกันนะ

ผมควรจะบอกอั๋นดีมั้ยนะ
ผมนึกสงสารเจ๊เอ๋ขึ้นมา ถ้าเจ๊รู้ว่าพี่เหมามากับผู้หญิงคนอื่น เจ๊จะรู้สึกยังไง แต่ผมเห็นแค่นั้น จะไปสรุปว่าสองคนนั้นเป็นอะไรกันก้ไม่น่าเหมาะ
ถ้าบอกอั๋นไป ก้คงทำให้มันไม่สบายใจเปล่าๆ แต่ถ้าไม่บอก แล้วพี่เหมามีกิ๊กจริงๆ อั๋นกับเจ๊เอ๋มารู้ก้คงเสียใจ
ผมควรทำอย่างไรดีนะ

เฮ้อ ในที่สุดผมก้ตัดสินใจว่าจะยังไม่เล่าเรื่องนี้ให้อั๋นฟังครับ เพราะคิดว่าหลักฐานแค่นี้ยังไม่เพียงพอที่จะบอกว่าสองคนนั้นเป็นอย่างที่ผมคิด

"เออมึง พรุ่งนี้จะไปทำอุปกรณ์ต่อปะ"
"ทำดิ"
"งั้น กูไปด้วย"
"เห้ย มึงไปซ้อมเถอะ วันนี้ก้โดดมาหนึ่งวันละ"
ผมอยากให้อั๋นมาอยู่ก้จริง แต่ก้ไม่อยากให้มันขาดซ้อมอีกครับ
"ไม่เป็นไรหรอก กูเป็นห่วงมึงมากกว่า เดี๋ยวไอ้พี่ก้องมายุ่งกับมึงอีก"
"กูอยู่ได้น่า"
"ไม่เอาอะ"
"เออๆ" ดื้อจริงนะไอ้อั๋น
"อย่าลืมดิ กูเป็นบอดี้การ์ดมึงแล้วนะ" อั๋นยิ้มกว้างให้ผม แขวนถุงใส่ของกับแฮนด์รถมอเตอร์ไซด์
"บอดี้การ์ดไรวะ ไม่เห็นเท่เลย" ผมแกล้งพูด
"เอ้า กูเนี่ยแหละทั้งหล่อทั้งเท่ เหมาะที่สุดแล้ว"
"หลงตัวเองนะสัส"
อั๋นหัวเราะ
"แล้วเมื่อไรบอสจะเลื่อนขั้นให้ผมอะครับ"
"เลื่อนขั้นไรวะ"
"ก้เลื่อนให้เป็นคนรู้ใจไง"
"ไอ้บ้า"

-จบตอน-

มาต่อแล้วครับผม อั๋นเป็นบอดี้การ์ด เลยหลอกจับมือหมอซะเลย
น่ารักไปอีก ส่วนพี่เหมานี่ยังไงกันนะ
ติดตามตอนหน้าด้วยนะค้าบ

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
อิก้องโรคจิตปะวะ น่ากลัว บอร์ดีการ์ดคุ้มครองบอสดีๆนะ

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
อิพี่ก้องตื้อไม่เลิก ต้องให้อั๋นจัดการ

ออฟไลน์ fightreblue

  • FC นัดกับพี่นิว
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รออ่านต่ออยู่นะค้าบบบ กำลังสนุกเลย  :hao6:

ออฟไลน์ writerbeer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
ตอนที่23

ผมกับอั๋นไปทำอุปกรณ์สำหรับสแตนเชียร์ต่อในวันถัดมา พี่เมฆตรวจสอบอุปกรณ์ที่ทำเสร็จแล้วทุกชิ้นอีกครั้งหนึ่งว่าแข็งแรงพอหรือไม่ มีตำหนิหรือเปล่า และยังสอนงานผมพร้อมกับพี่มัธยม6 คนอื่นๆเกี่ยวกับการจัดที่นั่งเพิ่มเติม

พี่ก้องก้ยังมาคุมงานตามปกติครับ จับตามองผมอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่ได้เข้ามาพูดหรือทำอะไรผมกับอั๋น เขานัดหมายให้ฝ่ายเชียร์มาพบกันอีกครั้งสัปดาห์หน้าเพื่อเริ่มซ้อมการแสดงเชียร์

ผมรู้สึกตื่นเต้นกับงานกีฬาสีที่ใกล้เข้ามาทุกขณะ ตอนนี้ก้เหลือแค่ซ้อมการแสดงบนสแตนเชียร์กับจัดสถานที่ก่อนวันจริงก้เท่านั้น อุปกรณ์ทุกอย่างที่จำเป็นต้องใช้สำหรับงานมีการเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว

เย็นวันศุกร์ ฝ่ายเชียร์ไม่มีนัด ผมจึงว่าง ส่วนอั๋นไปซ้อมบาสฯกับต้าร์ ผมเลยไปนั่งเล่นรอที่ห้องสมุด ห้องสมุดของโรงเรียนปิดเวลา19.30ครับ ให้นักเรียนค้นคว้าหาข้อมูลไปทำการบ้านหรือรายงานได้เต็มที่
ตอนนี้ข้างในมีคนน้อยมาก คงเพราะเป็นเวลาหลังเลิกเรียนแล้ว แถมยังเป็นเย็นวันศุกร์ด้วย ผมเลือกนั่งที่โต๊ะยาวด้านในสุด และหยิบโคนันมาอ่าน
อ่านไปได้สักพักก้มีคนนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับผม
"หมอ ขอนั่งด้วยคนดิ"
"อ้าว อาร์ต นั่งเลยๆ"
"มาทำไรเนี่ย"
"รอไอ้อั๋นซ้อมบาสฯ อาร์ตอะ"
"นัดเพื่อนไว้ จะแบ่งหัวข้อทำรายงาน แต่มันขอออกไปสยามแปบนึง นี่ยังไม่กลับมาเลย"
"ขยันจังวะ" สมเป็นเด็กสายวิทย์จริงๆ ถ้าเป็นนักเรียนส่วนใหญ่คงออกไปเที่ยวเล่นแล้วในเย็นวันนี้
"งานโคตรเยอะเลย ห้องหมองานเยอะปะ"
"เยอะ ยังไม่ได้ทำเลยด้วย" ผมบ่นบ้าง แบบฝึกหัด รายงาน โครงงาน อะไรก้ไม่รู้ครับ เยอะไปหมด
อาร์ตยิ้มแล้วหยิบหนังสือคณิตศาสตร์ของโรงเรียนกวดวิชาขึ้นมาอ่าน
"เรียนพิเศษด้วยอ่อ"
"อือ"
ผมเห็นอาร์ตขยันขนาดนี้แล้วรู้สึกละอายใจขึ้นมาหน่อยๆ อย่าว่าแต่เรียนพิเศษเลยครับ เรียนที่โรงเรียนปกติผมยังขี้เกียจ
การบ้านก้ลอกไอ้อั๋นซะเป็นส่วนใหญ่ เฮ้อ ต่อไปคงต้องพยายามขยันให้มากกว่านี้แล้วล่ะ
เรานั่งจดจ่อกับหนังสือของตัวเองไปเงียบๆ จนกระทั่งอาร์ตทำลายความเงียบลง
"เมื่อไรเพื่อนเราจะมาวะ" อาร์ตถอนหายใจแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อนดู
"โทรถามดิ ไม่ใช่ว่าเพื่อนชิ่งไปแล้วนะเว้ย" ผมยิ้มขำ
"เออ ไม่แน่ เดี๋ยวออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอกแปบนะ" ผมพยักหน้ารับ
ไม่ถึงนาทีอาร์ตก้กลับมาที่โต๊ะ
"เป็นไง"
"ยังไม่เสร็จธุระเลย มันบอกว่าถ้าอีกหนึ่งชั่วโมงมันไม่มา ค่อยskypeกัน มันขอโทษใหญ่เลย"
"อ่อ งั้นอยู่กะเราไปก่อนก้ได้"
"ขอบใจนะ" อาร์ตยิ้มให้ผมแล้วกลับไปอ่านหนังสือคณิตศาสตร์ต่อ ดูท่าทางสบายๆ ใจเย็น ถ้าเป็นผมคงโวยวายใส่เพื่อนคนนั้นไปแล้ว

เมื่อไรอั๋นจะซ้อมเสร็จนะ มันบอกว่าถ้าเสร็จแล้วให้ไปเจอกันที่ลานจอดรถ ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูบ้าง ให้แน่ใจว่าอั๋นไม่ได้โทรมา หรือไลน์มาหาว่าซ้อมเสร็จแล้ว ทั้งๆที่ผมแน่ใจว่าโทรศัพท์ไม่ได้สั่นเลยจนถึงตอนนี้
"สีฟ้าซ้อมหนักน่าดูเลยแฮะ เราเห็นซ้อมกันทุกเย็นเลย" อาร์ตเงยหน้าขึ้นจากหนังสือ คงสังเกตเห็นท่าทางของผม
"อ่าฮะ...เออ สีแดงไม่ไปซ้อมเหรอ" ผมถาม นึกขึ้นมาได้ว่าอาร์ตก้ลงแข่งบาสเกตบอลเหมือนกัน
"ซ้อมไปเมื่อวันอังคารกับเมื่อวานน่ะ วันนี้ไม่มีซ้อม"
"อ่อ"
"สีเราซ้อมน้อย น่าจะแพ้สีฟ้าแน่ๆ"
"แน่นอน" ผมยักคิ้วแสดงความมั่นใจ อาร์ตหัวเราะ

อาร์ตอ่านเนื้อหาแล้วทำโจทย์คณิตศาสตร์ไปได้หลายข้อ ในขณะที่ผมอ่านโคนันจบไป2เล่ม (ช่างแตกต่างกันเหลือเกิน- -) ผมวางหนังสือลงก่อนจะชวนอีกฝ่ายคุยครับ
"เออ ที่บอกว่าอยู่คอนโด ไม่ใช่คนกรุงเทพฯอ่อ"
"ใช่ เรามาจากชลบุรี" อาร์ตเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือ
"อ้อ งั้นก้เดินทางไกลเลยดิ"
"ไม่ไกลนะ จากนี่ไปบ้านเราก้ขับรถประมาณ2ชั่วโมง ถ้ารถไม่ติดนะ"
ความคิดแรกของผมคือชลบุรีต้องอยู่ไกลจากกรุงเทพฯมาก แต่นึกไปนึกมา ตอนไปบางแสนก้ไม่ไกลเท่าไรนี่หว่า
"ไว้พาไปเที่ยวบ้างดิ" ผมพูดติดตลก
"ได้เลยหมอ"
"เออ เรากวนอาร์ตอ่านหนังสือปะ" ผมถามอย่างเกรงใจ
"เห้ย ไม่กวน คุยได้ๆ"
ผมสังเกตว่าอาร์ตยิ้มเก่ง เหมือนใครบางคนที่ผมสนิทเลยครับ ยิ้มทั้งวัน แถมรายนั้นยิ้มได้หลายแบบด้วย ยิ้มกว้าง ยิ้มมุมปาก ยิ้มขำ ยิ้มอ่อน ยิ้มเจ้าเล่ห์ ยิ้มหื่น- -
"แล้วหมออะ เป็นคนกรุงเทพใช่ปะ"
"ใช่"
"อยู่แถวนี้ตั้งแต่เกิดเลยอ่อ"
"เออ เบื่อแล้วเนี่ย"
"อยู่นี่ก้ดีแล้ว ใกล้โรงเรียน ใจกลางกรุงฯด้วย ไปไหนมาไหนสะดวก เราดิ จะกลับบ้านทีก้เหนื่อย"
"นี่กลับบ้านบ่อยปะวะ"
"กลับทุกอาทิตย์เลย"
"งั้น ไม่กลับตั้งแต่วันนี้อ่อ"
"ยัง วันนี้รถติดอะ ไว้กลับเช้าพรุ่งนี้"
"อ่อ"
จากนั้นอาร์ตก้เป็นฝ่ายถามผมบ้าง เราคุยกันจนถึงหกโมงครึ่ง อั๋นก้โทรมาหาผม
"อั๋นเสร็จแล้วเหรอ"
"อือ เดี๋ยวเราต้องไปละ..." ผมเริ่มเก็บของใส่กระเป๋านักเรียน  "แล้วเพื่อนอาร์ตอะ"
"มันไลน์มาบอกว่าไม่มาแล้ว" อาร์ตหันหน้าจอโทรศัพท์มือถือให้ผมดู
"กำ"
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวค่อยคุยก้ได้...ไปทางไหนอะ เดี๋ยวเราเดินไปส่ง"
"เห้ย ไม่เป็นไร อาร์ตกลับเหอะ" ผมเกรงใจอีกฝ่ายจะแย่ มาอยู่คุยเป็นเพื่อนผมทั้งๆที่จะกลับไปตอนไหนก้ได้
"ไม่เอา หมออุตส่าห์อยู่เป็นเพื่อนเรา ให้เราเดินไปส่งนะ" อาร์ตยิ้มจนเห็นลักยิ้มสวย ยังคงยืนยันว่าจะไปส่งผม
"ก้ได้" ผมยิ้มให้น้ำใจของอาร์ต
เราเดินออกจากห้องสมุด มุ่งหน้าไปลานจอดรถ
"กลับบีทีเอสปะ"
"ช่าย"
"อาร์ตก้ต้องเดินย้อนไปหน้าโรงเรียนอีกดิ โห่" ผมร้องอย่างเกรงใจ
"ไม่เป็นไรๆ" อาร์ตนี่นิสัยดี เรียบร้อย สุภาพ ตรงกันข้ามกับผมโดยสิ้นเชิงเลย555
"หมอ อาร์ต" อั๋นที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าจากชุดกีฬากลับเป็นชุดนักเรียนเรียบร้อยแล้ว ยืนรออยู่ข้างมอเตอร์ไซด์อยู่แล้ว โบกมือเรียก
"ไอ้ต้าร์อะ"
"ไปกะเมย์ละ"
"ติดเมียนะมัน" ผมบ่นทันที
"เอ้า ไม่ให้ไปหาแฟนแล้วจะให้มันไปหาใครวะ" อั๋นหัวเราะ "แล้วอาร์ตมาเจอไอ้หมอได้ไงเนี่ย"
"เจอที่ห้องสมุดเมื่อกี้น่ะ จะกลับแล้วเหมือนกัน เลยเดินมาส่ง...งั้นไปก่อนนะเว้ย" อาร์ตยิ้มก่อนจะเดินย้อนกลับไปทางเดิม ไม่ลืมที่จะโบกมือให้ผมกับอั๋น พวกเราโบกตอบกลับไป
"ไปกัน" ผมตั้งท่าจะขึ้นนั่งมอเตอร์ไซด์
"เดี๋ยว"
"ไรวะ"
"มีเดินมาส่ง ไม่ใช่ว่าอาร์ตมาจีบมึงอีกคนนะ" อั๋นหรี่ตามองผมอย่างคาดโทษ
"ก้เหี้ยแล้ว แค่เดินมาส่งเฉยๆเว้ย เค้าเห็นว่ากูอยู่คุยเป็นเพื่อนที่ห้องสมุด"
"จริงนะ"
"เออสิครับ แล้วมาซักกูทำไมเนี่ย"
"หวงโว้ย ห้ามใครยุ่ง"
"ไอ้บ้า มีสิทธิอะไรมาหวงกู" ผมโบกหัวอั๋นไปทีหนึ่ง
"เดี๋ยวก้รู้"อั๋นทำหน้าเหมือนโดนยาเบื่อหนูเข้าไป ผมขึ้นซ้อนมอเตอร์ไซด์ หัวเราะอย่างอารมณ์ดี

"หมอ" อั๋นพูดขึ้นเมื่อรถมอเตอร์ไซด์มาถึงหน้าบ้านผม
"หือ"
"คืนนี้มึงเล่นเกมปะ"
"เล่นดิ"
"ให้ถึงสี่ทุ่มนะ"
"ทำไมวะ" ผมเลิกคิ้ว
"ก้...กูจะโทรหามึงอะ"
"คุยไลน์ก้ได้นิ"
"ไม่เอา ไม่ได้ยินเสียง"
"โห ไรเนี่ย วันนี้วันศุกร์ กูเล่นยาวอยู่แล้ว"
"ก้กูอยากคุยกะมึงนี่" อั๋นเปลี่ยนท่าทีเป็นอ้อน เอื้อมมือมาจับแขนผมเขย่าใหญ่เลย เรามาถึงจุดที่อั๋นสั่งไม่ให้ผมเล่นเกมเพราะจะโทรหาได้ไงเนี่ย
"กูก้อยากเล่นเกมนี่ค้าบบบ"
"มึงเห็นเกมสำคัญกว่ากูอ่อ"
"เออดิ" ผมนึกสนุก อยากแกล้งมันขึ้นมา
อั๋นมองค้อนและทำแก้มป่อง มันอาจจะคิดว่าน่ารัก แต่สำหรับผมมันดูน่าชกมากกว่า555
"ไม่รู้แหละ สี่ทุ่มมึงต้องคุยกะกู"
"ถ้ากูไม่คุยอะ"
"กูจะมาหาถึงบ้านเลย"
"มาดิ กูไม่ให้เข้า"
"จะทำตามที่บอกมั้ย" ไอ้อั๋นคิ้วขมวดเข้าหากันแล้ว
"ไม่เว้ย" ผมยิ้มยียวน
"ไม่เหรอ ได้..."
อั๋นยกแขนผมข้างที่จับอยู่ขึ้นมาแล้วประทับริมฝีปากลงบนมือผม
ผมตกใจจนชะงัก
นี่มึงจูบมือกูงั้นเหรอ!
"เชี่ยย ทำไรเนี่ย" ผมร้อง รีบชักมือออกจากปากอั๋น พยายามสะบัดให้หลุดจากมือที่แข็งแรงกว่า แต่อั๋นยังกุมมือผมไว้แน่น ไม่ยอมปล่อย
"ไง ตกลงจะคุยไม่คุย"  อั๋นยิ้มแก้มปริ
"ไม่คุยเว้ย"
"งั้นอีกทีนะ" อั๋นเตรียมจะดึงมือผมขึ้นอีก
"เห้ยๆ ยอมแล้ว"
"ยอมว่าไง"
"ก้คุยไง" ผมยอมแพ้
"ดีมาก" อั๋นยอมปล่อยมือผม
"เดี๋ยวคนอื่นก้มาเห็นหรอก" โชคดีที่พ่อกับแม่ผมยังไม่กลับมา หันซ้ายขวามองหาเพื่อนบ้าน ก้ไม่เห็นใครอยู่บริเวณนั้น
"กูอยากคุยกับมึงอะ"
"เออ รู้แล้ว" ผมหลบสายตา ยังอายไม่หายที่โดนอั๋นจูบมือ ผมก้ไม่ได้จะไม่คุยหรอกครับ แค่อยากแกล้งมันก่อน ไม่น่าเลยไอ้หมอ- -
"อย่าลืมล่ะ รับสายกูด้วย"
"เออ"
"กูไปก่อนนะ"
"เออ"
"ตอบเป็นอยู่คำเดียวรึไง"
"เออ"
"หรือจะให้จูบปากด้วย"
"เออ ไอ้..."
อั๋นหัวเราะเสียงดังที่ผมพลาด มันสตาร์ทมอเตอร์ไซด์ และไม่วายหันมาหยอดผมอีกดอก
"ขอจุ๊บอีกทีดิ"
ผมชูนิ้วกลางให้มัน หน้าอั๋นยังประดับด้วยรอยยิ้มกว้างจนรถออกจากซอยไป

สุดสัปดาห์ของผมเกือบจะผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์ ผมกิน เล่นเกม นอน แล้วก้กลับไปเริ่มต้นที่กินอีกครั้ง และหลังจากที่ผมคุยกับอั๋นคืนวันศุกร์ มันก้โทรมาในคืนวันเสาร์อีก นอกจากคุยเรื่องสัพเพเหระกันแล้ว อั๋นก้ยังถามถึงการบ้านกองเท่าภูเขาว่าได้ทำบ้างหรือเปล่า มันเฉ่งผมใหญ่เมื่อรู้ว่าผมไม่ได้ทำแม้แต่อย่างเดียว

เมื่อตื่นขึ้นในตอนบ่ายของวันอาทิตย์ ผมจึงเริ่มต้นจากงานที่คิดว่าง่ายและใช้เวลาน้อยที่สุดในการทำ แต่ก้ยังต้องขอความช่วยเหลือจากอั๋นผ่านทางไลน์อยู่ดี เฮ้อ ทำไมผมไม่ฉลาดแบบมันบ้างนะ

หกโมงเย็นแล้ว ผมยังนั่งเคลียร์การบ้านอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ที่ต้องส่งพรุ่งนี้ยังเหลืออีก2วิชาแน่ะครับ ถ้านับภาระงานทั้งหมด ดูเหมือนว่าใช้เวลาอีกสัปดาห์หนึ่งก้ไม่น่าจะเสร็จ
"โอ้โห อีกไม่นานบ้านเราต้องมีหิมะตกแน่ๆเลยคุณ"
"ทำไมเหรอคะ"
"ก้ลูกเรานั่งทำการบ้าน ดูสิ"
พ่อกับแม่ผมเอ่ยแซว พวกท่านพึ่งกลับมาจากข้างนอก
"โหพ่อ" ผมลากเสียง
"ลมอะไรพัดมาถึงขยันขนาดนี้ ไอ้ตัวแสบ"
"โถ่ ผมขยันอยู่แล้วต่างหาก"
"แม่ว่าการบ้านพวกนี้ใกล้ส่งแล้วแน่ๆ แกถึงมารีบทำ"
"แม่อะ รู้ได้ไง"
"รู้สิ ก้หมอเป็นแบบนี้ประจำ" แม่บ่น ในขณะที่พ่อหัวเราะหนักมาก
(ไง ไปถึงไหนละมึง)
อั๋นไลน์มาถามครับ
(สัส เหลืออีก2วิชา เหนื่อยเหี้ยๆ)
ตามด้วยกดสติ๊กเกอร์ระบายอารมณ์ไปรัวๆ
(5555 อยากดองไว้เอง)
(ไม่ต้องมาหัวเราะเยาะกูเลย มึงเสร็จหมดแล้วใช่ปะ)
(เสร็จเรียบร้อย นอนสบาย อิอิ)
(ขี้อวดเอ๊ย ไปไกลๆตีน)
(ไรว้า อย่าพึ่งไล่กันดิ)
"หมอคุยกับใครน่ะ ยิ้มใหญ่เลย"
"อ้อ เอ่อ ไอ้อั๋นอะครับ" ผมส่งเสียงตอบแม่
"อั๋นอีกแล้ว...อั๋นมาจีบลูกรึป่าวเนี่ย"
คำถามนั้นทำเอาผมสะดุ้ง โชคดีที่ไม่มีใครเห็นอาการของผม แม่กำลังเตรียมอาหารอยู่ในห้องครัว ส่วนพ่อก้เดินขึ้นไปข้างบน
"ป่าวแม่ เพื่อนกัน" ถ้าแม่รู้ว่าไอ้อั๋นมันกำลังจีบผมอยู่จริงๆล่ะก้ อะไรจะเกิดขึ้นนะ

เทศกาลกีฬาสีมาถึงในที่สุด โรงเรียนของผมให้เวลากับงานนี้ถึง3สัปดาห์เต็มๆ 2สัปดาห์แรกมีการเรียนการสอนพร้อมการแข่งขันกีฬาและกรีฑาต่างๆในรอบคัดเลือกและเป็นเวลาสำหรับซ้อมการแสดงเชียร์ด้วย

หน้าที่หลักของผมคือศึกษาวิธีการทำงาน ผมไม่เคยรู้เลยจนกระทั่งได้มาสัมผัสด้วยตัวเองว่าพี่ๆต้องทุ่มเทและเหนื่อยมากแค่ไหนในการเตรียมงาน อย่างน้อยผมก้ต้องยอมรับข้อเท็จจริงข้อหนึ่ง พี่ก้องเเละเพื่อนๆฝ่ายเชียร์เตรียมงานได้ดีจริงๆ

ผมแวะไปดูการซ้อมการแสดงเชียร์บนสแตนเกือบทุกวัน อาศัยเวลาของบางคาบเรียนที่โรงเรียนอนุญาตให้ซ้อมกีฬาสีหรือช่วงหลังเลิกเรียน ในความเห็นของผม ทุกอย่างผ่านไปได้ดี ค่อนข้างราบรื่นเมื่อเทียบกับสีอื่นๆ ปัญหาใหญ่อย่างการจัดสรรงบประมาณ อุปกรณ์สแตน การออกแบบโค้ดเชียร์ สีฟ้าไม่มีให้เห็นเลย จะมีก้แต่ปัญหาเล็กๆเท่านั้น อย่างนักเรียนโดดซ้อม ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้

อั๋นก้ไปซ้อมบาสฯเกือบทุกวันเช่นกัน ทำให้ช่วงนี้เราไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา แต่เราก้ยังกลับบ้านด้วยกันทุกวัน จะว่าไปผมกับอั๋นไม่เคยแยกกันช่วงหลังเลิกเรียนเลยตั้งแต่รู้จักกันมา

เย็นหนึ่งหลังจากที่ผมเสร็จงานและอั๋นเลิกซ้อม เราไปกินข้าวมันไก่อาม่ากันครับ ไอ้ต้าร์ ไอ้นนท์ก้มาด้วย ขาดก้แต่ไอ้เอกที่หาย หัวไปไหนไม่รู้
"แล้ววันนี้มึงมาด้วยได้ไงวะเนี่ย ไม่ไปหาเมย์เรอะ" ไอ้นนท์หันไปเล่นงานไอ้ต้าร์ทันทีเมื่อเรานั่งลงที่โต๊ะ
"เอ้า พอกูไปหาเมย์ก้ด่า พอมาอยู่กับพวกมึงก้ด่า ให้กูทำไงเนี่ย"
"ไม่ได้ด่าเว้ย ก้มันแปลกนี่หว่า"
"ใช่ๆ ปกติเลิกซ้อมทีไรมึงแวบทุกที" อั๋นเสริมทันที
"อย่าไปรุมมันน่า มันอุตส่าห์มาแดกข้าวกะพวกเรานะเว้ย" ผมพูดปนหัวเราะ สงสารไอ้ต้าร์มันตามที่พูดไปจริงๆนั่นแหละ
"โห หมอเพื่อนรัก มีมึงคนเดียวเนี่ยแหละที่เข้าใจกู มามะ มาจุ๊บทีดิ๊" ไอ้ต้าร์ทำปากจู๋ข้ามโต๊ะมาหาผม ไอ้อั๋นที่นั่งฝั่งเดียวกับผมขยับมาผลักหน้าต้าร์ออกไป
"เห้ยๆๆ เมียกู"
"ใครเมียมึง"
"แหมๆ แตะนิดนึงก้ไม่ได้เลยนะสาด" ไอ้นนท์กระหยิ่มยิ้มย่อง
"เออ มึงดูดิ อั๋นแม่งผลักหน้ากู"
"หมอของกูเว้ย ห้ามยุ่ง" อั๋นตอกย้ำคำพูดนั้นด้วยการโอบเอวผมและขยับหน้าเข้ามาใกล้
"สัส ถอยออกไปเลย" ผมร้อง พยายามดันตัวอั๋นออก
"มึงสองคนนี่เรียลเหี้ยๆ" ไอ้นนท์หัวเราะก่อนจะหันไปสั่งอาหารกับพี่พนักงานเสิร์ฟ ซึ่งเป็นลูกสาวอาม่าคนเดียวกับที่บริการผมเมื่อคราวที่แล้ว ดูท่าพี่เค้าน่าจะจำผมกับอั๋นได้ เพราะพอหันมาเห็นพวกเราก้อมยิ้มเล็กๆ
"เราแข่งแมทช์แรกวันไหนวะมึง" ต้าร์ถามอั๋น
"อังคารหน้า"
"กูว่านะ ยังไงตอนแข่งจริงไม่มีใครให้พี่ริวลงหรอก เลี้ยงลูกยังไม่ค่อยจะเป็นเลย ชูทก้ไม่แม่น สุดท้ายพวกพี่เค้าให้มึงลงชัวร์ๆ"
"ไม่หรอก กูตัวสำรองนะเว้ย"
"โห่ มีอย่างที่ไหน ตัวสำรองเล่นเก่งกว่าตัวจริงแบบเทียบไม่ติด...กูยังไม่เข้าใจจริงๆว่าพี่เค้าเลือกแบบนี้ได้ไงวะ"
"เออ ถ้าสีเราแพ้ตั้งแต่วันแรก กูจะหัวเราะให้ดู" ไอ้นนท์พูด
ผมกับอั๋นเงียบ เราสองคนรู้ดีว่าต้นเหตุจริงๆของเรื่องนี้มันมาจากอะไร
แล้วข้าวมันไก่4จานก้มาเสิร์ฟที่โต๊ะ วันนี้จัดหนักหน่อยครับ พวกผมสั่งพิเศษกันทุกคนเลยครับ
"แล้วฝ่ายเชียร์เป็นไงบ้างวะหมอ" นนท์หันมาถามผมบ้าง
"เหลือแต่จัดสแตนสำหรับวันจริง แล้วก้ต้องคอยคุมเด็กไม่ให้โดด มันจะแป้กก้ตรงนี้แหละมึง"
"ตอนเด็กกูก้โดด ร้อนชิบหาย แถมรุ่นพี่ให้แหกปากอีก" ต้าร์หัวเราะ ผมปาเศษกระดาษทิชชู่ใส่มัน
"สาด ไม่โดดดิวะ"
"เออ กูก้เคยโดดเหมือนกันนะหมอ" อั๋นยิ้มยิงฟันให้ผม
"มึงก้ด้วยหรอ เลวว่ะ" ผมหันไปด่า
"อ้าว ก้มันจริงอย่างที่ไอ้ต้าร์พูดนิ"
"กูว่ามันสนุกจะตาย" ไอ้นนท์แทรกขึ้นมา
"ช่ายปะ พวกมึงแม่งไม่ได้เรื่อง ดูไอ้นนท์ดิ๊ ไหนมาจุ๊บทีดิ๊เพื่อน" ผมทำปากจู๋ข้ามโต๊ะไปหาไอ้นนท์ เอาอย่างไอ้ต้าร์เมื่อสักครู่
"เห้ยๆ" อั๋นร้อง ยื่นแขนมากั้นตัวผม
"ป่าวไอ้หมอ กูหมายถึงโดดสีกลับบ้านอะ สนุกดี" ไอ้นนท์ตอบก่อนทุกคนจะหัวเราะเยาะผมพร้อมกัน
"ไอ้สัสเอ๊ย" ผมชูนิ้วกลางขึ้นสองมือใส่เพื่อนทั้งสามคน


"เออ ไหนๆวันนี้ก้เกือบครบแก๊งค์ละ กูขออัพเดตเรื่องพวกมึงหน่อย" ไอ้นนท์พูดขึ้นอีกครั้งเมื่อเรากินข้าวกันเสร็จแล้ว
"อะ อยากเสือก เอ้ย อัพเดตเรื่องอะไรก้ว่ามา" ผมกัด
"กูขอเริ่มที่มึงก่อนไอ้ต้าร์ ตามตัวยากสุดในพวกเราแล้ว"
"เว่อร์" ไอ้ต้าร์ทำเสียงหน่ายๆ
"เว่อร์เหี้ยไร นอกจากในห้องเรียนแล้วกูไม่เจอหน้ามึงเลยครับเพื่อนรัก" ไอ้นนท์พูดพร้อมเข้าไปกอดคอไอ้ต้าร์
"แล้วทำไมต้องมาอัพเดตเรื่องกูด้วยเนี่ย"
"เออน่า ตอบมา มึงกับเมย์เป็นไง ได้กันยัง"
"เหี้ย ได้พ่องดิ" ต้าร์โวยวายและโบกหัวไอ้คนถามไปหนึ่งที "มากสุดกูยังแค่จับมือเค้าเอง"
"หราา ไม่อยากจะเชื่อ"
"จริงนะเว้ย กูไม่เคยทำอะไรล่วงเกินเมย์เลยจริงๆ"
"จ้า ทะนุถนอมดีเชียว...เมย์เค้างี่เง่าปะวะ"
"ก้มีบ้าง"
"มึงเริ่มเบื่อยัง"
"จะเบื่อได้ไง แฟนนะเว้ย"
"กูยังเคยเบื่อแฟนกูเลย"
"แฟนมึงไปไหนแล้วอะ" อั๋นถามแทรก
"เลิกแล้วไงสัส" นนท์ตอบหน้ามุ่ย พวกเราที่เหลือหัวเราะก๊าก
"...อย่าพึ่งขัดดิ๊ มึงกะเมย์กำลังทะเลาะกันอยู่ใช่มั้ย"
"เห้ย" ต้าร์มีสีหน้าตกใจ
"นั่น ไม่ต้องมาปิดพวกกูเลย ดูก้รู้แล้วว่ามึงมีเรื่องกัน" ไอ้นนท์ยิ้มภูมิใจในความหยั่งรู้ของตัวเอง
"อะ เออ กูทะเลาะกัน"
"เห็นมั้ย มันถึงมาแดกข้าวกะพวกเราได้ โธ่เอ๊ย" ไอ้นนท์พูดต่ออย่างรวดเร็ว
"เออ กูมันเหี้ย" ต้าร์ประชด พยายามแกะมือไอ้นนท์ออกจากไหล่ตัวเอง อีกฝ่ายยิ่งรัดแน่นขึ้น
"โอ๋ๆ ไม่ร้องนะต้าร์ กูก้แค่อยากจับพิรุธ...ทำใจนะมึง ทะเลาะกันมันเรื่องธรรมดา" ไอ้นนท์ทำท่าเหมือนเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องรักๆใคร่ๆยังไงยังงั้น
"มึงนี่ขี้เสือกแล้วยังเดาเก่งอีกนะเชี่ยนนท์" ผมด่า
"ขอบคุณที่ชมครับ" ทำท่าทางไม่สะทกสะท้านก่อนจะหันมาถามผมเป็นรายต่อไป "มึงคนต่อไปไอ้หมอ"
"กูเหรอ ไม่เล่าเว้ย"
"กูถามไอ้อั๋นก้ได้ เรื่องมึงสองคนนั่นแหละ"
อั๋นคลี่ยิ้มออกมาทันที
"ถามมาดิ อยากรู้ไร"
"เชี่ยอั๋น" ผมโบกหัวไอ้คนข้างๆไปที ไม่ช่วยกันเลยนะ มันยังหันมาแลบลิ้นใส่ผมอีกแน่ะ
"กูถามจริงๆนะ...มึงสองคนจีบกันจริงๆหรอวะ" ไอ้นนท์เข้าเรื่องทันทีไม่มีอ้อมค้อม
เราทั้งคู่เงียบไปประเดี๋ยวก่อนอั๋นจะตอบช้าๆ
"เออ กูจีบหมออยู่"
ผมแทบสำลัก อั๋นนี่มันไม่คิดจะปิดบังไว้สักเรื่องเลยหรือไง ตอบตรงได้อีก
"เชี่ยยยย นั่นไง กูว่าแล้ว" ไอ้นนท์ตะโกนเสียงลั่น ทำเอาลูกค้าโต๊ะอื่นๆหันมามอง
"ถึงป่านนี้มึงยังจะถามอีกอ่อวะ" ต้าร์เสริมยิ้มๆ
"กูต้องการความชัดเจนจากปากพวกมันสองคนโว้ย กูอยากรู้ว่าพวกมันไม่ได้เล่นๆกัน...มึงแม่งคนจริงว่ะอั๋น" พูดแล้วก้คว้ามืออั๋นมาจับแล้วเขย่าแรงๆ
"เดี๋ยวนะ..." ผมขัดขึ้น
"มึงไม่ต้องไอ้หมอ ไอ้อั๋นมันยอมรับแล้ว" ไอ้ต้าร์ตัดบทผม
"เออ คำถามต่อมา"
"มีอีกอ่อวะ" ผมร้อง
"มึงได้กันยัง"
"เหี้ย" อั๋นกับผมพูดพร้อมกัน
"ได้กันแล้ว?"
"ยังโว้ย มึงนี่ก้คิดแต่เรื่องนี้นะสัส" อั๋นพูด
"เออ มึงแม่ง"
"แล้วเมื่อไรจะได้กันอะ"
"ก้เร็วๆนี้แหละ" อั๋นตอบ คว้ามือผมขึ้นมาจับ
"สัส เมื่อกี้มึงพึ่งว่าไอ้นนท์ไป ไอ้ลามกเอ๊ย" ผมหันไปโบกหัวอั๋นบ้าง ต้าร์กับนนท์หัวเราะใหญ่
"กูขออีกคำถาม เอาจริงๆละ..."
ไอ้นนท์เว้นจังหวะ ทำท่าทีเป็นการเป็นงานขึ้นมา
"มึงคบกันแล้วใช่มั้ย"
ผมตั้งใจจะชิงพูดก่อนไอ้คนข้างๆ อ้าปากจะตอบปฏิเสธแต่ก้ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมา
"ยัง" อั๋นตอบจนได้ "กูจีบหมออยู่...อยากรู้มากกว่าพวกมึงอีก"
"อยากรู้ไรวะ" ต้าร์ถาม
"อยากรู้ว่า กูจีบตึดรึยัง" อั๋นจ้องตาผมตรงๆ ไอ้นนท์กับไอ้ต้าร์อ้าปากค้าง
ผมหน้าแดงก่ำขึ้นมา

-จบตอน-

โอยย อั๋นชัดเจนขนาดนี้แล้ว หมอมัวชักช้าอะไรอยู่นะ นักเขียนชอบนนท์ตอนนี้มาก ซักเก่งยิ่งกว่าผงซักฟอกอีก อีกอย่างหนึ่ง อาร์ตนี่ก้มาแบบน่ารักๆ เรียบร้อยเลยนะ
ติดตามตอนต่อไปด้วยนะ อ่านแล้วcommentกันเยอะๆน้า^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-06-2016 16:25:59 โดย writerbeer »

ออฟไลน์ fightreblue

  • FC นัดกับพี่นิว
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตัดฉับกันเลยทีเดียว อยากรู้จัง หมอจะตอบว่าไง
รอติดตามตอนต่อไปอยู่นะครับ ไรเตอร์สู้ๆ  :hao6:

ออฟไลน์ writerbeer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
ตอนที่24

"มะ หมายความว่าไงวะ" ผมตะกุกตะกัก
"ก้หมายความตามนั้น" อั๋นเว้นจังหวะถาม ผมกลั้นหายใจ "ตอนนี้ถือว่ากูจีบมึงติดรึยัง"
ไอ้ต้าร์กับไอ้นนท์นั่งเงียบ จ้องพวกเราตาโต
"คะ..."
"อะไรนะ" อั๋นยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมขึ้นอีก
"คิด...คิดตังด้วยครับพี่" ผมร้องออกมา
ไอ้สองคนฝั่งตรงข้ามโต๊ะโวยวายเสียงดังขึ้นมาทันที ส่วนไอ้อั๋นที่ทำผมเขินจนแทบจะมุดหนีลงใต้ดิน ส่งเสียงหัวเราะชอบใจ
"อะไรของมึงเนี่ยเชี่ยหมอ" ไอ้นนท์ตะโกน
"เออ มาเรียกคิดเงินไรตอนนี้ พวกกูลุ้นเยี่ยวเหนียวเห็นมั้ยเนี่ย" ไอ้ต้าร์ต่อยต้นแขนผมเบาๆ
"กลับบ้านโว้ย ดึกแล้วเดี๋ยวพ่อแม่เป็นห่วง" ผมเฉไฉ กระโดดลุกขึ้นยืน
อั๋นยิ้มกว้าง ท่าทางขบขัน นั่นเป็นประโยคเดียวที่ผมนึกออกเพื่อให้หลุดจากเหตุการณ์ตรงนี้ไปได้ จะให้ผมตอบว่าจีบติดแล้วได้อย่างไรล่ะครับ
"ทั้งหมด200บาทครับ" ลูกชายอาม่าที่ได้ยินผมเรียกเดินมาเก็บเงิน

"ไปอั๋น กลับกัน" ผมฉุดแขนอั๋นให้ลุกขึ้นบ้าง เตรียมจะชิ่ง
"สัสหมอ มึงจะไปไหน มาตอบพวกกูให้รู้เรื่องก่อน" ไอ้นนท์พูด แต่ผมลากอั๋นเดินออกมาจากร้านแล้ว
"เห้ย จะไปไหน" ไอ้ต้าร์ร้อง วิ่งตามออกมา ไอ้นนท์ก้ด้วย
"กูกลับก่อนนะพวกมึง เจอกันพรุ่งนี้ จุ๊บๆ" ผมรีบพูด
"ไม่ให้กลับเว้ย" ไอ้ต้าร์วิ่งมาขวางหน้ารถมอเตอร์ไซด์ไว้
"เห้ย ถอยไป กูจะกลับบ้าน" ผมร้อง ขยับตัวไปหลบหลังอั๋น
"อะไรเนี่ย" อั๋นหัวเราะ
"ไม่ต้องหนีเลยสาดด" ไอ้นนท์ตามมาถึงพวกเรา
"ใจเย็นพวกมึง" อั๋นยังคงหัวเราะอยู่ ไอ้สองคนดูจะเค้นเอาคำตอบจากผมให้ได้
"ไหนมึงบอกอยากรู้มากกว่าพวกกูไง จับไอ้หมอไว้ดิ"
"เชี่ยนนท์...อย่าไปฟังมันเว้ยอั๋น" ผมดึงแขนเสื้อไอ้คนกำบังไว้
"เออ หมอมึงตอบมาเร็ว" ไอ้ต้าร์เสริม เรื่องแบบนี้พวกมึงนี่เข้าขากันดีจริงนะ
"เอาน่า เดี๋ยวคืนนี้กูจะเอาคำตอบจากไอ้หมอให้ได้" อั๋นพูดพร้อมหันมามองผมด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
"สัส"
"อ้อ...ดีๆ ได้คำตอบแล้วมาบอกพวกกูด้วยนะ" ไอ้นนท์มีท่าทีร่าเริงขึ้นมาทันที น่าถีบชะมัด
"ไอ้หมอมันต้องให้ไอ้อั๋นจัดการ" ไอ้ต้าร์พูดยิ้มๆ
"เออ อย่าเอาคำตอบอย่างเดียวนะเว้ยอั๋น เอาหมอด้วย" ไอ้นนท์ร้องซี๊ดซ๊าด
"เหี้ย"
"เออ กูจะเอาทั้งสองอย่างเลย" อั๋นตอบ
ต้าร์กับนนท์ส่งเสียงโห่ฮา ผมต่อยแขนไอ้คนกำบังจอมหื่นไปทีหนึ่ง สองคนนั้นโบกมือลาและเดินจากไปอีกทาง
"เจอกันมึง" อั๋นตะโกนตามหลัง
"ไม่ต้องเจอกันโว้ย" ผมตะโกนบ้าง

"กลับบ้านกัน"
"เดี๋ยวดิ" อั๋นคว้าแขนผม พักหลังๆมานี่ชักจะถือวิสาสะเป็นประจำ- -
"ไรมึง"
"จะรีบไปไหน อยู่กันสองคนแล้วไม่ต้องเขินน่า ตอบมาเถอะ" อั๋นยิ้มกว้าง
"ตอบเรื่องไร ไม่เห็นจะรู้เลย" ผมหันหน้าไปทางอื่น
"มึงนี่ปากแข็งจังนะ" มันดันตัวผมชิดรถมอเตอร์ไซด์ก่อนจะขยับเข้ามาประชิด
"ทำไรเห้ย"
"ต้องทำไงปากมึงถึงจะหายแข็งน้า"
"ถอยไปเลยนะ" ผมยืดแขนข้างที่ไม่ได้ถูกมือจับดันอกอั๋นไว้ ระยะห่างแค่นี้อันตรายครับ
"สงสัยต้องจูบซะหน่อย"
"ยะ อย่านะเว้ย"
"น่า ขอจูบหน่อย"
"เชี่ย ไม่เอา นี่ไม่ใช่ที่บ้านนะเว้ย" ผมร้อง
อั๋นชะงัก ก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา
"แสดงว่าทำที่บ้านได้ดิ งั้นรีบกลับบ้านกัน"
"ไอ้บ้าเอ๊ย" อั๋นปล่อยผม หยิบหมวกกันน็อคขึ้นสวมและส่งหมวกอีกใบให้
"ที่ถามเมื่อกี้อะ มึงยังไม่ต้องตอบกูก้ได้..."
ผมขึ้นนั่งซ้อนมอเตอร์ไซด์
"แต่ห้ามไปตอบตกลงเป็นแฟนคนอื่นนะ"
อั๋นหันมายิ้มหวานก่อนจะเริ่มขับรถกลับบ้าน
ให้ตายสิ...

"น้องครับ ได้ยินเสียงสีเขียวที่อยู่ข้างๆเรามั้ย ได้ยินมั้ยครับ"
พี่น้ำ ผู้คุมการซ้อมเชียร์ของสีฟ้ากำลังตะคอกน้องๆบนสแตนเชียร์ระหว่างการซ้อมในบ่ายวันจันทร์ ผมเห็นสีหน้าเบื่อหน่ายและเหน็ดเหนื่อยเต็มทีมองกลับมายังพวกเรา
"อีกรอบ พี่ขอดังกว่านี้...มาร์ชโรงเรียน 3 4"
"ผมว่าจบรอบนี้แล้วให้พักหน่อยเหอะพี่ ดูดิ หลายคนไม่ไหวแล้ว" ผมกระซิบบอกพี่เมฆที่ยืนอยู่ข้างๆผม
"เออ เดี๋ยวกูไปบอกไอ้น้ำแปบ"
แล้วพี่เมฆก้เดินไปพูดกับพี่น้ำ พี่น้ำตะคอกกลับมาทันที
"ไม่ได้ ร้องกันแค่นี้กูให้พักไม่ได้ กูจะให้ร้องจนกว่าเสียงมันจะดังกว่าสีเขียวนู่น"
"เห้ย มึงใจร้ายไปป่าววะน้ำ"
"นี่กูใจดีที่สุดแล้วนะ"
สถานการณ์เริ่มไม่ค่อยดี พี่ฝ่ายเชียร์คนอื่นๆได้แต่ยืนดูพี่น้ำกับพี่เมฆเถียงกัน ไม่เข้ามาทำอะไร น้องๆบนสแตนก้ยังคงร้องเพลงมาร์ชโรงเรียนอยู่อย่างนั้น ผมต้องเข้าไปช่วยพูดแล้ว
"พี่น้ำ ขอโทษนะพี่ ผมว่าให้น้องพักก่อนเถอะครับ"
"ไม่ต้องมายุ่งไอ้หมอ มึงไม่มีสิทธิมาตัดสินใจ"
"เห้ย พูดกะน้องดีๆดิวะ น้องมันอุตส่าห์มาช่วยเรานะเว้ย" พี่เมฆชักจะเดือดขึ้นมาบ้าง
"กูไม่สน กูเป็นคนจัดการสแตน กูสั่งอะไรทุกคนต้องทำ"
"เพราะพี่ทำงี้ไง น้องมันถึงไม่ฟัง"
ผมโพล่งออกไป น้องๆหยุดร้องเพลง ทุกคนหันมาจ้องผมเป็นตาเดียว
"มึงว่าไงนะไอ้หมอ" พี่น้ำตาถลน
"พี่ไม่ควรทำยังงี้ครับ พี่ต้องให้น้องพักบ้าง" ผมพูดต่อไปอย่างไม่เกรงกลัว
"เห้ย"
"ใจเย็นพวกมึง" พี่เมฆรีบเอาตัวมาขวางระหว่างผมกับพี่น้ำ พี่คนอื่นๆก้เข้ามาดึงตัวพี่น้ำไว้
"มึงคิดว่ามึงเป็นใครวะ มาสอนกู"
"ก้พี่ทำไม่ถูกไง" ผมตะคอกกลับ
"ไอ้เด็กเวร"
"มึงเอาน้องออกไปก่อนดิ๊" พี่คนหนึ่งพูดกับพี่เมฆ ฝ่ายหลังพยักหน้าแล้วรีบดึงแขนผมออกมาจากสแตนเชียร์ พี่น้ำยังตะโกนด่าผมตามมาไม่หยุด

"หมอ ใจเย็นๆเว้ย" พี่เมฆพาผมมานั่งที่ม้าหินหน้าอาคารที่อยู่ถัดจากสนามกีฬา
"จะใจเย็นได้ไงวะพี่ ดูพี่น้ำแม่งทำดิ"
"ไอ้น้ำมันก้เป็นคนแบบนี้แหละ มึงมาดูซ้อมหลายครั้งก้เห็นแล้วไม่ใช่เหรอ"
"แต่วันนี้มันเกินไป ไม่ไหวจริงๆพี่"
"กูรู้ แต่ทำไงได้ล่ะ"
พี่ก้องสินะที่เป็นคนแต่งตั้งพี่น้ำ เค้าใช้อะไรคิดถึงให้คนแบบนี้มาคุมการซ้อมนะ
"แล้วจะเอาไงต่ออะ"
"หมายถึงเรื่องอะไรวะหมอ"
"ก้น้องอะ แม่งไม่อยากซ้อมกันแล้ว"
"เอาน่า ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวน้องๆมันก้ตั้งใจกันเองแหละ ไม่ใช่ว่าพวกนั้นทำไม่ได้นะ มันแค่เหนื่อย อยากกลับบ้าน"
"..."
"เชื่อกูดิ กูทำกีฬาสีมา3ปีแล้วนะ เป็นงี้ทุกปี"
"แล้วพี่น้ำอะ"
"ปล่อยแม่งไป เดี๋ยวมันก้หายบ้าเองแหละ"
"ถ้าปีหน้าผมทำนะ ผมจะไม่ทำแบบพี่น้ำเด็ดขาด" ผมพูดกับพี่เมฆเหมือนเป็นการสัญญากับตัวเอง "ผมจะไม่บังคับให้น้องต้องเหนื่อยขนาดนี้"
"มึงคิดดีแล้วเว้ย แต่มันก้ต้องมีบังคับกันบ้าง น้องที่มาตรงนี้ก้ไม่ใช่ว่าเต็มใจมาทุกคนนะมึง" พี่เมฆสอน ตบบ่าผมเบาๆ
ผมนิ่งเงียบ
"เอ้า ใจเย็นลงแล้วใช่ปะ กลับสแตนกัน"
"ครับ"
กลับไปถึงสแตนเชียร์ก้เป็นช่วงพักซ้อม น้องๆกำลังดื่มน้ำและกินขนมกันอยู่ พี่น้ำหันมาจ้องผมตาเขียว ผมไม่สนใจ
"น้องหมอ เมื่อกี้มีอะไรกันเหรอครับ"
โอย ผมกำลังหัวเสียอยู่ ไอ้พี่ก้องก้มาได้ถูกเวลาจริงๆ ผมล่ะเกลียดท่าทีแสร้งเป็นคนดีของพี่เค้าชะมัด
"ป่าวครับ ไม่มีอะไร" ผมตอบเสียงขุ่น
"ใจเย็นๆนะ ไอ้น้ำมันเป็นคนผิด เดี๋ยวพี่จัดการให้" พูดแล้วก้เอามือมาแตะไหล่ผม ผมขยับออกห่าง
พี่ก้องหุบยิ้ม มองผมด้วยสายตาไม่พอใจก่อนจะเดินหันกลับไปหาพี่ฝ่ายเชียร์คนอื่น

เมื่อถึงเวลาสี่โมงครึ่ง พี่น้ำปล่อยน้องๆกลับบ้าน ผมช่วยฝ่ายเชียร์เก็บอุปกรณ์ซ้อมใส่ถุงดำเสร็จก้ขอตัวออกมาหาอั๋นที่สนามบาสฯ
"เมียมึงมาแล้วไอ้อั๋น" ไอ้ต้าร์พูดขึ้นเมื่อผมเดินผ่านประตูด้านหน้าของโรงยิมมาได้นิดเดียว อั๋นหันหน้ามา ยิ้มกว้าง
"เมียจ๋า"
ผมแทบสะดุด อั๋นเรียกผมโดยไม่พะวงที่จะลดเสียงลงสักนิด นักเรียนคนอื่นในสนามบาสฯหันมามองยิ้มๆ
"เมียพ่อง" ผมเดินมาถึงตัวมันแล้วโบกหัวไปทีหนึ่ง
"ซ้อมเสร็จแล้วใช่ปะ"
"เออ กลับกัน"
"เหนื่อยเหี้ยๆเลยวันนี้" ต้าร์เสริม บิดตัวไปมา
เราสามคนเดินออกมาจากโรงยิม ผมเล่าเรื่องพี่น้ำให้อีกสองคนฟัง ต้าร์ตกใจมากที่ผมพูดกับพี่เค้าอย่างนั้น
"เชี่ยหมอ มึงโหดจังวะ ไม่มีใครอยากมีเรื่องกับพี่น้ำหรอก แม่ง
อย่างกับหมาบ้า"
"ขนาดนั้นเลยอ่อวะ" อั๋นถาม
"เออดิ โคตรบ้าอำนาจ ตั้งแต่กูมัธยมต้นละ ไม่มีใครสักคนกล้าพูดกับเค้าตรงๆ แต่ไอ้หมอ มึง..."
"ไอ้สัส กูโมโหมันนี่หว่า"
"หมอ อย่าไปมีเรื่องอีกนะเว้ย" อั๋นพูดเสียงเครียด
"เออ"
"ถ้ามันทำอะไรมึงขึ้นมา แล้วกูไปช่วยไม่ทัน มึงจะทำยังไง"
"..."
"กูเป็นห่วงมึงรู้มั้ย" อั๋นจับมือผม
"อือ"
อั๋นสบตากับผมอยู่เดี๋ยวหนึ่ง ก่อนเราจะรู้สึกตัวว่าต้าร์อยู่ด้วย สายตามันจ้องอยู่ที่มือที่กุมกันของเราสองคน
"แหม พวกมึงนี่หวานกันจริงๆเลยนะ" ต้าร์ยิ้มล้อ "งั้นกูไปละ เจอกันพรุ่งนี้เว้ย"
"เออๆ"
"โชคดีมึง"
ต้าร์เดินแยกไปทางประตูหน้าของโรงเรียน ไปหาเมย์ มันเล่าให้ฟังเมื่อเช้านี้ว่าคืนดีกันแล้ว ในขณะที่ผมกับอั๋นเดินต่อไปทางลานจอดรถ
"พรุ่งนี้ยังไม่รู้เลยว่าจะได้ลงหรือเปล่า" อั๋นพูดอย่างเบื่อๆ
"เหรอ ชื่อนักกีฬาที่สีส่งไปต้องเหมือนกันทุกแมตช์เลยมั้ยวะ"
"ไม่ๆ ส่งใหม่ทุกครั้ง"
ถ้าอย่างนั้นก้หมายความว่าอั๋นมีโอกาสที่จะได้ลงแข่งเพิ่มมากขึ้น
"กูคิดเหมือนที่ไอ้ต้าร์บอกนะ ถ้าแมตช์แรกพี่เค้าเห็นว่าบางคนเล่นไม่ได้จริงๆ ก้ต้องเปลี่ยนตัวให้มึงมาเล่นแหละ ใครจะยอมให้สีแพ้วะ" ผมพูดตามที่คิดจริงๆ ตบหลังอั๋น
"ถ้าเป็นยังงั้นก้ดีดิ" อั๋นยิ้มบางๆ ยกแขนขึ้นโอบไหล่ผม
"แล้วพรุ่งนี้แข่งกับสีไร"
"เขียว"
"มีตัวเด็ดๆปะวะ"
"มีอยู่นะ ที่รุ่นพี่ไปสืบมา สีเขียวมีตัวนักกีฬาโรงเรียนอยู่คนหนึ่ง สีเหลืองดูท่าจะชนะได้ง่ายที่สุด ที่น่ากลัวก้คือสีแดง"
"อ่อ" ผมพยักหน้ารับ นึกถึงอาร์ตขึ้นมา ไม่รู้เลยว่ารายนั้นฝีมือเป็นอย่างไร ผมจินตนาการเอาเองว่าอาร์ตน่าจะเล่นเก่งเมื่อคำนึงถึงรูปร่างนักกีฬาของมันแล้ว
นอกจากนี้ อั๋นอธิบายเพิ่มเติมว่าการแข่งขันรอบคัดเลือกเป็นแบบทุกทีมพบกันหมด ไม่ใช่แบบทัวร์นาเม้นท์อย่างที่ผมเข้าใจ เนื่องจากมี4สี ดังนั้นแต่ละทีมจะต้องแข่ง 3 ครั้ง รวมจำนวน แมตช์ทั้งหมดในรอบคัดเลือกได้ 6 แมตช์
"พรุ่งนี้มึงว่างมั้ย"
"ว่าง"
"มาดูกูหน่อยดิ เผื่อได้ลง"
"เออ"
"ต้องยังงี้สิ" อั๋นเอื้อมมือมาบีบจมูกผม
"โอ๊ย เจ็บ"

บ่ายสองโมงวันต่อมา นักกีฬาบาสฯที่ได้รับเลือกเป็นตัวจริงทุกคนลงแข่งขัน จริงอย่างที่ต้าร์ทำนายไว้ แค่ครึ่งแรกพี่ริว นักกีฬาคนหนึ่งของสีฟ้าก้แสดงให้เห็นว่าตัวเองเป็นจุดอ่อนของทีม ตอนนี้สีเขียวมีคะแนนนำห่างสีฟ้าอยู่ค่อนข้างมาก รุ่นพี่สีฟ้าดูหัวเสียและสิ้นหวัง
"ต้าร์ กินน้ำก่อนมึง" ผมเห็นอั๋นส่งขวดน้ำให้และเดินอ้อมไปนวดไหล่ให้ต้าร์
"เชี่ยเอ๊ย กูบอกแล้วว่าอย่าเอาพี่ริวลง เป็นไงล่ะ สีเราจะแพ้ก้คราวนี้" นนท์ที่นั่งอยู่ข้างสนามฯกับผมบ่นอุบ
"มึงดูหน้าพวกรุ่นพี่ดิ เจื่อนเลย" ผมชี้มือไปทางกลุ่มรุ่นพี่ฝ่ายกีฬาของสีเรา
"มันเปลี่ยนเอาไอ้อั๋นลงครึ่งหลังได้มั้ยวะหมอ"
"ไม่ได้ว่ะ ส่งชื่อครั้งหนึ่งต่อหนึ่งแมตช์ เปลี่ยนตัวไม่ได้ถ้านักกีฬาไม่บาดเจ็บหรือมีเหตุให้เล่นต่อไม่ได้ ต้องรอแมตช์พรุ่งนี้เลย กูถามไอ้อั๋นมา"
"โธ่เอ๊ย"
"งั้นก้แพ้แล้วแหละมึง" ไอ้เอกบอก
"แพ้แน่ๆ ตามไม่ทันหรอกแบบนี้" ไอ้นนท์ส่ายหัว
"ไม่ใช่พี่ริวคนเดียวนะเว้ย พี่แน็คก้เล่นแย่ หลุดตั้งหลายลูกมึงเห็นปะ"
"อย่าพึ่งดิ รอดูให้จบก่อน" ผมบอก ยังคงหวังในแง่ดีอยู่

ครึ่งหลัง ต้าร์กับรุ่นพี่อีกคนที่ผมไม่รู้จักทุ่มกำลังเล่นเต็มที่ยิ่งกว่าครึ่งแรก ทำให้คะแนนของสีฟ้าขึ้นมาบ้าง ผมพึ่งเห็นต้าร์เหนื่อยขนาดนี้เป็นครั้งแรก มันวิ่งไปทั่วสนาม ทำหน้าที่ทั้งบุกทั้งรับเพื่อชดเชยนักกีฬาคนอื่นในทีมที่เล่นไม่สมบูรณ์ ระหว่างที่วิ่งก้หอบหายใจหนักๆไปด้วย
เมื่อกรรมการเป่านกหวีดให้สัญญาณสิ้นสุดการแข่งขัน แน่นอนว่าสีฟ้าไม่สามารถไล่ตามคะแนนสีเขียวได้ทัน แต่ผลออกมาไม่แย่นัก เพราะแพ้ห่างแค่4คะแนนเท่านั้น
ไอ้ต้าร์เดินออกจากสนามและทรุดลงนั่งกับพื้นทันที ผม เอก นนท์รีบวิ่งเข้าไปหามัน
"เชี่ย มึงเก่งมากต้าร์ แพ้ไปนิดเดียวเอง"
"สุดๆเลยมึง"
"เจ๋งสัส"
ต้าร์ยิ้มกว้างแม้เหนื่อยจนแทบนั่งไม่ไหว นนท์ขยี้ผมมันจนฟู
"อะ น้ำ" อั๋นเดินตามมาพร้อมขวดน้ำเปล่าอีกขวดก่อนจะโยนส่งให้ต้าร์
"ถ้าไอ้อั๋นได้ลงนะ มึงก้ไม่ต้องเหนื่อยขนาดนี้"
"เออ ไม่งั้นเราชนะไปแล้ว"
นนท์กับเอกพูด เราทุกคนหันไปมองพี่สีฝ่ายกีฬา ทุกคนมีสีหน้าบึ้งตึง คิ้วขมวด กำลังคุยกันอย่างเคร่งเครียด
"วันนี้มึงอยากแดกไร มา เดี๋ยวกูเลี้ยง" เอกถามต้าร์
"เหยด จริงหรอวะ มึงจะเลี้ยงพวกกูอ่อ" นนท์สอด
"ไม่ใช่มึง เลี้ยงไอ้ต้าร์คนเดียวเว้ย"
"โออิชิ แกรนด์" ต้าร์ตอบ
"พ่อง ตังไม่พอ กูช็อตโว้ย" เอกปฏิเสธ พวกเราที่เหลือหัวเราะเสียงดัง
"ล้อเล่น อะไรก้ได้ กูแดกได้หมดอะ"
"เย็นนี้อยู่กับเพื่อนวันนึง น้องเมย์คงไม่ว่าอะไรพี่ต้าร์ใช่มั้ยคะ" นนท์ทำเสียงเล็กแหลมเหมือนผู้หญิง
"กูจะไม่ไปก้เพราะมึงทำเสียงนี้ ไอ้สัส" ต้าร์ตบหัวนนท์ไปที
"อั๋น พี่ขอคุยด้วยหน่อยดิ" พี่สีที่เป็นคนประกาศชื่อนักกีฬาในวันคัดตัวเดินเข้ามาหาพวกเรา
"ได้ครับ" อั๋นหันมาสบตากับผมก่อนจะเดินตามพี่เค้าไป

แม้วันนี้สีฟ้าจะแพ้บาสฯไปอย่างน่าเสียดาย อย่างน้อยที่สุดก้มีเรื่องดีเรื่องหนึ่งเกิดขึ้น อั๋นเดินกลับมาหลังจากรุ่นพี่เรียกตัวไป แจ้งข่าวว่ารุ่นพี่มาขอให้มันลงแข่งแทนตำแหน่งพี่ริวในแมตช์คัดเลือกที่เหลืออีก2นัด ซึ่งเป็นวันพรุ่งนี้และวันมะรืน พี่สีทุกคนขอโทษและขอร้องให้มันมาแข่ง มันตอบตกลงไปทันที ท่าทางอั๋นมีความสุขมาก

เมื่ออั๋นกับต้าร์อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อย พวกเราห้าคนมุ่งหน้าไปยังร้านหมูกระทะที่อยู่ถัดจากโรงเรียนไปอีกหนึ่งป้ายรถประจำทาง ตกลงกันว่าเราสี่คนจะหารกัน ให้ต้าร์กินฟรี
เราคุยกันถึงการแข่งขันในวันนี้และคาดว่าพรุ่งนี้สีฟ้าจะต้องชนะสีเหลืองแน่นอน
สองทุ่มกว่า ไอ้ต้าร์ ไอ้นนท์ ไอ้เอกเดินย้อนกลับไปขึ้นรถไฟฟ้าด้วยกัน ส่วนผมกับอั๋นกลับมอเตอร์ไซด์คู่ใจคันเดิม

"ถ้าพรุ่งนี้กูชนะ มึงต้องให้รางวัลกูด้วยนะหมอ"
"รางวัลไรวะ"
"อะไรก้ได้ แล้วแต่มึงจะให้"
"แล้วทำไมกูต้องให้มึงด้วย"
"โห่ ทีไอ้ต้าร์แข่งเสร็จเรายังพามันไปเลี้ยงหมูกระทะเลย
แล้วกูอะ" อั๋นกระเง้ากระงอด
"ไม่ให้" ผมแกล้งทำเสียงเหี้ยม ขี้อ้อนจริงนะไอ้อั๋น
"เออ คนเรา ไม่มีน้ำใจว่ะ" อั๋นยกแขนขึ้นกอดอก หันหน้าไปอีกทาง
"อะๆ ให้ก้ได้" ผมขำกับท่าทางของมัน "แต่รอให้ชนะรอบชิงนะ"
"ได้ ถ้างั้น..." อั๋นเม้มปากพลางใช้ความคิด "มึงต้องให้ของที่กูขอนะ"
"เออ ได้" เห็นแววตาแสดงความมั่นใจเต็มร้อยของไอ้อั๋นแล้วชักกังวลขึ้นมาว่ามันจะขออะไรนะ
"พูดละนะ กูขออะไรมึงต้องให้นะเว้ย"
"เดี๋ยว มึงจะไม่ขออะไรพิเรนทร์ๆใช่มั้ย- -" ผมรู้สึกว่าจะโดนเอาเปรียบซะแล้วครับ
"ไม่รู้ มึงพูดแล้วไอ้หมอ" อั๋นยิ้มเจ้าเล่ห์
"สัส" พลาดแล้วผม ไม่น่าเลย
อั๋นหัวเราะก่อนจะหยิกแก้มผม
"ผัวกลับบ้านก่อนนะเมีย เดี๋ยวไลน์คุยกันนะจ๊ะ"

การแข่งขันรอบคัดเลือกแบบพบกันหมดจะเลือกสีที่มีคะแนนรวมสูงสุด 2 ทีมมาแข่งกันอีกครั้งในรอบชิง สีฟ้าจึงยังไม่หมดหวังเสียทีเดียว หากชนะสีเหลืองและสีแดงก้ยังมีลุ้นคะแนนรวมได้อยู่

เย็นวันพุธ ผลการแข่งขันเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ สีฟ้าชนะสีเหลืองแบบขาดลอย ผมดีใจที่เห็นอั๋นได้ลงแข่ง อั๋นกับต้าร์เล่นเข้าขากันดีมาก และเป็นสองคนหลักที่ทำคะแนนให้กับสีมากที่สุดด้วย ผมกับเพื่อนๆส่งเสียงเชียร์ลั่นสนามฯ

แมตช์สุดท้ายของรอบคัดเลือกในวันถัดมา ผมต้องแวะไปประชุมกับฝ่ายเชียร์ก่อนเวลาแข่งเดี๋ยวหนึ่ง เมื่อประชุมเสร็จ ผมกระหืดกระหอบวิ่งมาที่โรงยิมเร็วที่สุดเท่าที่จะวิ่งได้ มาถึงก้พบว่าเริ่มเกมไปแล้ว
"เป็นไงวะมึง" ผมนั่งลงข้างไอ้เอก หอบหายใจ
"เริ่มมาพักนึงละ ตามอยู่ตั้งแปดแต้มแน่ะ"
"เชี่ย" ผมอุทาน มองสกอร์บอร์ดแล้วรู้สึกใจคอไม่ดี ถ้าสีฟ้าแพ้ก้จะตกรอบ และสีแดงกับสีเขียวจะผ่านเข้ารอบไปชิงเหรียญทอง
ในสนามฯผมมองเห็นอั๋นชัดเจน ใบหน้าล้อมกรอบด้วยผมรองทรงต่ำสีดำสนิท ผิวขาวเนียน มัดกล้ามแข็งแกร่ง ทั้งตัวชุ่มไปด้วยเหงื่อ
อีกฝั่งหนึ่งของสนาม ผมเห็นนักกีฬาสีแดงคนหนึ่งโดดเด่นออกมาจากคนอื่นในทีม สูงโปร่ง ผิวแทน จมูกโด่งเป็นสันแม้จะมองจากที่ไกล อาร์ตนั่นเอง
ผมไขว้นิ้วไว้เพื่อสีฟ้า การแข่งครั้งนี้อั๋นจะต้องชนะ

-จบตอน-

หมอมันมีอุดมการณ์ฝ่ายเชียร์แรงกล้าจริงๆ
ผู้อ่านอยากรู้มั้ยครับว่าอั๋นจะขออะไรหมอเป็นรางวัล
และผลการแข่งขันจะเป็นยังไง
ต้องติดตามตอนหน้านะครับ (:

ออฟไลน์ fightreblue

  • FC นัดกับพี่นิว
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอตอนต่อไป จะเป็นยังไงนะ หมอจะเสียตัวให้อั๋นหรือเปล่านะ 555555 :hao6:
เป็นกำลังใจไรเตอร์ครับ สู้สู้  o13

ออฟไลน์ writerbeer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
ตอนที่25

นักกีฬาของสีแดงทุกคนแข็งแกร่งมาก นอกจากอาร์ตแล้วที่เหลือเป็นพี่มัธยม6และทั้งหมดเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลประจำโรงเรียนอยู่แล้ว

อั๋นกับต้าร์วิ่งหอบหายใจหนักยิ่งกว่าแมตช์ที่แข่งกับสีเขียว หลายครั้งที่อั๋นพยายามจะเข้าไปทำคะแนน โดยเลย์อัพบ้างหรือส่งต่อให้สมาชิกในทีมที่ไม่ถูกฝั่งตรงข้ามกำบังหรือคนที่มีโอกาสจะทำคะแนนแทนได้มากที่สุด แต่ก้สำเร็จเพียงไม่กี่ครั้ง

อาร์ตซึ่งเล่นตำแหน่งเดียวกับอั๋น ร่วมมือกับกัปตันทีมทำคะแนนให้สีได้เยอะมาก

ใกล้หมดเวลาครึ่งแรก ผมเห็นต้าร์กับอั๋นวิ่งสลับฟันปลาจากสนามฝั่งหนึ่งข้ามไปยังอีกฝั่งและรับส่งลูกกันอย่างว่องไว
นั่นทำให้ผู้ชมรอบๆส่งเสียงเชียร์อย่างตื่นเต้น
ในตอนนั้นเอง ฝั่งตรงข้ามมองกลยุทธ์นั้นออก นักกีฬาคนหนึ่งของสีแดงพุ่งตรงเข้ามาแย่งลูกบาสฯจากต้าร์และทะยานกลับไปอีกฝั่งเพื่อทำคะแนน
ต้าร์โดนกระแทกจึงเสียการทรงตัว ล้มลงไปทันที
"เห้ย" ผมกับไอ้นนท์ร้องขึ้นพร้อมกัน
อั๋นเปลี่ยนเส้นทางวิ่งตรงไปทางต้าร์แทน
สีแดงทำคะแนนได้ และกรรมการเป่านกหวีดให้สัญญาณว่าหมดเวลาการแข่งขันในครึ่งแรก

พวกผมไม่ได้ลุกจากที่นั่งไปดูอาการต้าร์ เนื่องจากนักกีฬาทั้งทีมและพี่ฝ่ายกีฬาห้อมล้อมตัวมันไว้จนมองเกือบไม่เห็น
"มันจะเป็นไรมากป่าววะมึง" นนท์ชะเง้อคอมองไปทางกลุ่มนั้น
"ไม่รู้ว่ะ จากตรงนี้มองไม่ชัดเลย" ผมตอบ
"มันจะเล่นต่อไหวมั้ยเนี่ย" เอกถามอีกคน พวกเราเป็นห่วงมันมากครับ
และอั๋นก้หันมาสบตากับผม มันผละจากบริเวณนั้นแล้วเดินมาหา
"ไอ้ต้าร์เป็นไงวะ"
"ไม่เป็นไรมาก หัวเข่าถลอกกับข้อเท้าบวมนิดหน่อย"
"แล้วมันเล่นต่อได้ปะ" นนท์ถามต่อ
"กูว่ามันน่าจะพัก แต่มันบอกรุ่นพี่ว่าเล่นไหว พี่เค้าก้รีบเออออ กลัวต้องเอาตัวสำรองลง ไม่ได้ห่วงร่างกายไอ้ต้าร์เลย" อั๋นพูดเสียงเครียด
"เชี่ย"
"กูว่าให้มันออกมาพักเหอะ" ผมบอก
"กูบอกมันแล้ว แต่มันยืนยันว่าจะเล่นต่อ"
"ทำไงดีวะ...เห้ยอั๋น เค้าเรียกมึงแล้ว" เอกชี้มือไปทางรุ่นพี่ที่ควักมือเรียกอั๋นให้กลับไปสำหรับครึ่งหลัง
"กูไปก่อนนะ เดี๋ยวกูช่วยดูไอ้ต้าร์ พวกมึงไม่ต้องห่วง"

ผมหันไปที่สกอร์บอร์ดอีกครั้งเมื่อการแข่งครึ่งหลังเริ่มขึ้น ตอนนี้สีแดงนำสีฟ้าอยู่ 6 คะแนน
"ยังได้อยู่นะเว้ย" ผมชี้นิ้วบอกนนท์กับเอก
"เออ ถ้าอึดๆหน่อยก้ไล่ทัน"
"แต่กูเป็นห่วงเชี่ยต้าร์ว่ะ"
พวกเราเฝ้าดูเกมอย่างใจคอไม่ดี ต้าร์วิ่งด้วยความเร็วที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด มีร้องซี้ดเบาๆสองครั้ง ผมคิดว่าเป็นเพราะเจ็บข้อเท้าแน่ๆ
อั๋นเองก้เล่นได้ไม่เต็มที่ เพราะคอยมองมาทางต้าร์บ่อยๆ สำรวจอาการของอีกฝ่ายอย่างเป็นห่วง

สีฟ้าทำเเต้มเพิ่มได้นิดหน่อยจากอั๋นและรุ่นพี่คนหนึ่ง ในขณะที่คะแนนสีแดงยิ่งทิ้งห่างออกไปอีก
"เชี่ยเอ๊ย ใกล้หมดเวลาแล้ว" เอกร้องอย่างร้อนรน
"สีเราจะแพ้ไม่ได้นะเว้ย" นนท์หันมาเขย่าแขนผม
ผมเองก้ลุ้น แต่ไม่ได้ตอบอะไร สายตาจดจ่ออยู่กับเหตุการณ์ในสนาม

ตอนนี้ทั้งอั๋นและต้าร์ทุ่มสุดตัว นักกีฬาคนอื่นๆของสีฟ้าเหนื่อยล้าจากการวิ่งเป็นเวลานาน แต่สีแดงยังวิ่งได้สบายๆอยู่และแทบไม่ปล่อยให้สีฟ้าทำคะแนนเพิ่มได้เลย

ในที่สุดเวลาก้หมดลง แมตช์นี้จบด้วยคะแนน 58 : 73 สีแดงเป็นฝ่ายชนะ ได้เข้ารอบชิงชนะเลิศกับสีเขียว ที่ชนะสีฟ้าและสีเหลืองมาเช่นเดียวกัน

นักกีฬาทั้งสองทีมจับมือกัน ผมเห็นอั๋นยิ้มให้ทีมฝั่งตรงข้ามอย่างจริงใจแม้จะเป็นฝ่ายแพ้ นักเรียนและอาจารย์ที่ดูการแข่งขันอยู่ตบมือเสียงดังก้องสนามฯ
อาร์ตและเพื่อนๆในทีมกอดกันเป็นวงกลม

พวกผมเดินลงไปหาอั๋นกับต้าร์ นนท์รีบเข้าไปประคองต้าร์เดินทันที
"เป็นไรมั้ยมึง"
"ไม่เป็นไร แค่นี้เล็กๆ" ต้าร์ยิ้มกว้าง
ทั้งอั๋นทั้งต้าร์เหงื่อชุ่มเต็มตัว อั๋นหอบหายใจระหว่างที่เดินไปด้วย
"มึงอะ โอเคใช่ปะ" ผมถาม
"โอเคดิครับ กูไม่ได้เป็นไรซะหน่อย" อั๋นยกยิ้มและเดินเข้ามาโอบไหล่ผม
"เป็นห่วงกันจังนะพวกมึง" ต้าร์แซว
"ขอบคุณที่เป็นห่วงนะ" อั๋นบีบจมูกผม
"ปล่อยเลยสัส ไม่ได้เป็นห่วงโว้ย"
"โอ้โห เป็นแฟนกันเลยเหอะมึง" นนท์เบะปาก
"อย่าล้อหมอดิ แฟนกูไม่ชอบให้แซวรู้ปะ" อั๋นพูดลอยหน้า
"นี่แน่ะ...มึงอะแหละ ตัวเริ่มเลย" ผมตบหัวไอ้อั๋นเกือบทิ่ม
"มันเจ็บนะ" พูดพร้อมทำหน้าแอ๊บแบ๊วใส่ ผมทำเป็นไม่สนใจ เรียกเสียงฮาครืนจากเพื่อนๆ
ผมนึกขึ้นมาได้ว่าเอกยังไม่รู้เรื่องที่อั๋นจีบผมจริงๆ ผมแอบลอบมองมัน หน้าตามันก้ดูปกติดี ไม่ติดใจสงสัยความสนิทสนมของผมกับอั๋นแต่อย่างใด มันคงชินกับสถานการณ์แบบนี้ไปแล้วสินะ
แต่ที่ทำให้ผมรำคาญใจอย่างประหลาดก้ไอ้เพื่อนตัวดีสองคนที่รู้เรื่องแล้วนั่นแหละครับ ต้าร์กับนนท์มองอย่างรู้ทัน ผมล่ะเกลียดสายตากับรอยยิ้มของพวกมันจริงๆ

เย็นนี้นนท์กับเอกไม่ว่าง พวกเราเลยตัดสินใจว่าจะเลี้ยงฉลองจบการแข่งขันให้อั๋นกับต้าร์วันหลัง เมื่อแยกย้ายกันแล้ว ผมเดินย้อนกลับไปที่ลานจอดรถกับอั๋น
"วันนี้มึงเล่นดีจริงๆ กูคารวะเลย ถ้าไม่มีมึงกับไอ้ต้าร์นะ กูว่าสีเราเละกว่านี้อีก"
"ไม่หรอก มีพี่อีกคนอยู่นะ" อั๋นกำลังถ่อมตัว
"นี่คือได้เหรียญทองแดงเลยใช่ปะ"
"เออ เพราะสีเหลืองไม่ชนะสีอื่นเลย สีเราชนะสีเหลืองครั้งหนึ่ง เท่ากับที่ 3"
เฮ้อ น่าเสียดาย ถ้าพี่สีให้อั๋นลงแข่งตั้งแต่แมตช์แรกที่สีฟ้าเจอกับสีเขียว ป่านนี้สีฟ้าคงเข้ารอบไปลุ้นเหรียญทองกับสีแดงแล้ว
"ปีหน้าลงใหม่นะมึง"
"เออ กูไม่พลาดแน่ๆ มึงก้อย่าลืมมาเชียร์ด้วยล่ะ"
"ไม่ต้องมาก้ได้มั้ง มึงเล่นเก่งอยู่แล้วอะ" ผมแกล้ง
"ใจร้าย"
เราเดินมาถึงที่จอดรถ
"ยังงี้กูก้อดได้รางวัลอะดิ"
อั๋นยิ้ม ผมตกใจเล็กน้อยเพราะว่ากำลังคิดถึงสิ่งที่อั๋นพูดไว้อยู่เหมือนกัน
"เออดิ อด"
"โห่ จะไม่ให้เลยอ่อ"
"ไม่ให้"
"รางวัลเล็กๆแบบรางวัลปลอบใจก้ได้"
"ไม่มีครับ"
"มึงแม่ง"
อั๋นทำหน้าอึนใส่
"คือ..."
ผมเริ่มต้นไม่ถูก เรื่องที่ผมจะบอกมัน ผมตั้งใจกับตัวเองไว้ตั้งแต่ตอนที่อั๋นขอรางวัลแล้ว ไม่ว่าผลการแข่งขันจะเป็นอย่างไรก้ตาม ผมก้จะให้สิ่งที่อั๋นขอ
"ว่าไงหมอ" มันกระตุ้นผม มองอย่างสงสัย
"อะๆ ไหนๆมึงก้อุตส่าห์ได้เหรียญทองแดง กูให้รางวัลก้ได้" ผมแสร้งทำท่าทางไม่ใส่ใจ
"เห้ย จริงดิ"
"เออ เดี๋ยวมึงหาว่ากูใจร้ายอีก"
"จริงนะ"
"เออ จะขอไรอะ"
"ก้..."
คราวนี้อั๋นเป็นฝ่ายตะกุกตะกักบ้างแล้ว
"รางวัลปลอบใจนะเว้ย ห้ามขอเงินด้วย กูช็อต"
"หมอ"
อั๋นยกฝ่ามือทั้งสองข้างขึ้นมาจับไหล่ผม ท่าทางจริงจังจนผมเสียวสันหลังวาบ
"กู..."
อย่าบอกนะ

"ขอเป็นแฟนได้ปะ"
"อะ...อะไรนะ"
"เป็นแฟนกันนะ"

ผมพึ่งเข้าใจคำว่าสตั๊น10วิก้วันนี้ ผมไม่ได้กำลังฝันอยู่ใช่มั้ย กินเวลานานทีเดียวกว่าผมจะพูดออกมาได้อีกครั้ง
"มะ มึง"
อั๋นไม่ยิ้ม ไม่มีท่าทีล้อเล่น แววตาอั๋นแสดงให้เห็นว่ามันกำลังรอคำตอบอย่างตื่นเต้น
"นี่รางวัลปลอบใจของมึงอ่อวะ"
"เออดิ...ว่าไง"

สาเหตุที่ผมไม่กล้าคิดถึงเรื่องแฟน เพราะผมยังไม่ได้บอกพ่อกับแม่ให้รู้ อั๋นก้เหมือนกัน คนในครอบครัวที่รู้ว่าอั๋นคิดยังไงกับผมก้มีแค่เจ๊เอ๋ ผมกังวลว่าพวกท่านจะยอมรับความสัมพันธ์แบบนี้ได้หรือไม่ จะรังเกียจเราหรือเปล่า

ไหนจะพวกเพื่อนๆอีกล่ะ ถ้าไม่นับไอ้ต้าร์กับไอ้นนท์ คนอื่นยังเข้าใจว่าพวกเราแค่เล่นๆกันเท่านั้นเอง แล้วพวกนั้นจะว่าอย่างไรเมื่อรู้ว่าเราสองคนรู้สึกอย่างไรต่อกันจริงๆ จะรับได้เหมือนต้าร์กับนนท์ไหม

ผมมองสบตาคมของอั๋น คำถามร้อยแปดเกี่ยวกับเรื่องแฟนที่ผุดขึ้นมาในหัวหลังจากวันที่อั๋นบอกชอบค่อยๆอันตรธานไป

ถ้าผมเลิกคิดเรื่องพวกนี้สักพัก
ถ้าผมทำตามสิ่งที่ตัวเองต้องการล่ะ

คำตอบนั้นง่ายนิดเดียว

ก้เอาดิ มึงจะปฏิเสธหัวใจตัวเองไปทำไมวะไอ้หมอ

ผมหน้าแดงเรื่อขึ้นไปจนถึงหู ก่อนจะพยักหน้าช้าๆ

อั๋นยืนนิ่ง มือยังวางอยู่บนไหล่ผม ปากอ้าน้อยๆ
"ปะ เป็นไรเนี่ย" ผมถาม
"หมายความว่า..."
"เออ ก้เป็นไง"
"หมอ พูดให้กูฟังชัดๆดิ เป็นไร"
"เอ้า จะเอาไรอีก ก้เป็นแฟนมึงไง" ผมสาบานเลยว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เคยโคตรของโคตรเขินขนาดนี้มาก่อน
"จะ จริงนะ"
"เออออ" มึงจะถามย้ำให้กูเขินอีกทำไมวะครับ
"มึงเป็นแฟนกูแล้วนะหมอ" แล้วอั๋นก้ดึงผมเข้ามากอดเต็มแรง
"โอ๊ย เจ็บ ปล่อยๆ..."
อั๋นปล่อยผม กระโดดโลดเต้นไปมาอยู่ตรงนั้น
"หมอเป็นแฟนกูแล้ววว"
"ตะโกนทำเชี่ยไรเนี่ย- -"
ผมตีแขนมัน โชคดีมากที่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ในลานจอดรถนอกจากเราสองคน อั๋นดีใจยิ่งกว่าครั้งไหนที่ผมเคยเห็น
"มึงไม่ได้ล้อเล่นใช่มั้ย"
"เออ เดี๋ยวกูก้เปลี่ยนใจหรอก"
"ไม่ทันแล้วเว้ย มึงตอบตกลงไปแล้ว"
"เป็นได้ก้เลิกได้ดิ"
"ไอ้สัส มึงพึ่งตกลงคบกับกูไม่ถึงนาที พูดเรื่องเลิกได้ไงห๊ะ"
อั๋นทำหน้ามุ่ย ผมหัวเราะ
"ล้อเล่นน่า โอ๋ๆ"
"ง้อก่อน"
"มึงพึ่งตกลงคบกับกูไม่ถึงนาที งอนกูแล้วอ่อ"
"เออ"
เราหัวเราะออกมาพร้อมกัน

"นี่ ต่อไปนี้เวลากูงอนอะ มึงต้องง้อด้วย เป็นแฟนกันเค้าต้องทำแบบนี้นะ"
"ง้อยังไง"
"จุ๊บแก้ม"
ผมพูดว่า 'พ่อง' โดยไม่ออกเสียง
"เออ...ไหนเมื่อกี้มึงบอกขอรางวัลเล็กๆไง ขอกูเป็นแฟนนี่คือรางวัลปลอบใจอ่อ"
"ใช่ดิ"
"งี้ถ้ามึงได้เหรียญทอง มึงไม่ขอกูแต่งงานเลยอ่อ"
"ไม่ใช่ กูจะขอปล้ำมึงต่างหาก" อั๋นทำหน้าหื่น
"สัส- -"
"ล้อเล่น555 กูกะว่ายังไงก้จะขอมึงเป็นแฟนหลังแข่งเสร็จอยู่  แล้วอะ...กูแพ้ แต่ไม่คิดว่ามึงจะใจดีนะเนี่ย"
ผมหน้าแดงที่อั๋นพูดออกมาตรงๆโดยไม่ตะขิดตะขวงสักนิด
"แล้วก้เลิกเขินได้แล้ว...กูจีบติดแล้วนะ ไม่ใช่พึ่งจีบ" ผมจะมุดหนีลงดินแล้วนะไอ้อั๋น "โอ๋ๆ ไม่แกล้งละๆ" อั๋นหัวเราะชอบใจ ไม่รู้ว่าหน้าผมตอนนี้กับมะเขือเทศอันไหนแดงกว่ากัน
อั๋นมองผมตลอด ยิ้มหวาน ท่าทางมีความสุขที่สุดในโลก
แต่ผมก้ไม่ปฏิเสธว่าผมเองก้มีความสุขที่สุดในโลกเหมือนกัน

ไอ้แฟนป้ายแดงขับมอเตอร์ไซด์มาส่งผมหน้าบ้านหลังจากนั้นไม่นาน มันยังยิ้มไม่หุบตั้งแต่ออกมาจากลานจอดรถ
"แฟนน"
"เรียกชื่อกูเหอะ ขนลุก"
"ไม่เอาอะ ก้เราเป็นแฟนกันแล้วนี่"
"ชู่วว" ผมเตือน กลัวพ่อกับแม่ที่นั่งอยู่ข้างในบ้านจะได้ยิน
"ก้ได้ๆ" อั๋นยิ้ม "งั้นเรียกที่รักนะ"
"สัส ไม่เอา เรียกหมอเหมือนเดิมนั่นแหละ"
"หรือจะให้เรียกเมียดี แล้วมึงก้เรียกกูว่าผัว ดีมะ"
"จวย"
อั๋นนี่กวนตีนผมได้ตลอดเวลาจริงๆ
"เรียกหมอก้ได้คร้าบบ"
"เออ กูเรียกมึงว่าหมานะ"
"เดี๋ยวนะ"
"น่ารักจะตาย หมอมีแฟนเป็นหมา"
- -
ผมหัวเราะ
"แสบนักนะมึงอะ เดี๋ยวจะโดน"
อั๋นเอื้อมมือมาจับมือผมแล้วยกขึ้นแนบแก้มตัวเอง
"เดี๋ยวคืนนี้โทรหานะ"
"เออ...กะ กลับได้แล้ว" ผมรีบพูดแก้เขิน

เมื่อคืนผมคุยโทรศัพท์กับอั๋นจนถึงตีหนึ่ง เช้าวันนี้ผมจึงเดินออกมาหาอั๋นอย่างง่วงงุน มันขับมอเตอร์ไซด์มาจอดรอหน้าบ้านเช่นเคย ท่าทางสดชื่น อารมณ์ดีสุดๆ
"โคตรคิดถึงมึงเลย"
"เดี๋ยวนะ มึงพึ่งวางสายจากกูไปหกชั่วโมง เว่อร์สัส"
อั๋นหัวเราะ
"กูซื้อนี่มาอะ เดี๋ยวกินด้วยกันนะ" อั๋นยกถุงใส่นมจืดยี่ห้อเมจิ 2 ขวดกับแซนด์วิชยี่ห้อโออิชิลงตรงหน้าผม เป็นไส้ปูอัดกับยำสาหร่าย ของโปรดของอั๋นที่กลายเป็นของโปรดของผมไปด้วย เราชอบกินเวลาเร่งรีบครับ

"มึงเอาไส้ไรอะ" อั๋นนั่งลงที่โต๊ะเรียนก่อนจะแกะห่อแซนด์วิชออก วันนี้พวกเรามาถึงโรงเรียนเร็วกว่าปกติ อีกนานกว่าจะถึงเวลาเข้าแถว เลยขึ้นมาที่ห้องเรียนก่อน นักเรียนห้องผมส่วนใหญ่มาเช้ากันเพื่อปั่นการบ้าน เวลาทองครับ
"มึงเลือกเลย กูไส้ไรก้ได้"
"กูรู้มึงชอบยำสาหร่าย อะ เอาไป เดี๋ยวกูกินปูอัดเอง"
อั๋นแยกแซนด์วิชออกเป็น2ชิ้น ผมเอื้อมมือจะหยิบชิ้นที่เป็นไส้ยำสาหร่ายจากอั๋น มันชักมือหนี
"เดี๋ยวกูป้อน"
เห้ย มึงเริ่มหวานตั้งแต่เช้าเลยหรอวะ ไอ้เอกที่กำลังคุยอยู่กับไอ้พี หัวหน้าห้อง ชี้มือมาทางพวกเรา
"กินดิ" มืออั๋นจ่อแซนด์วิชอยู่ที่ปากผมแล้ว
"เออ"
ผมอ้าปากและกัดไปคำหนึ่ง เริ่มรู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา
อั๋นยิ้มนิดๆ...ผมจะละลายแล้ว
"ขอบใจ มึงก้กินของมึงไปด้วยดิ" ผมบอก
"เออ ป้อนให้มั่งดิ"
"อะ อือ" เห้ย ผมไปตอบตกลงมันได้ไงน่ะ
ผมกำลังจะขยับ แต่อั๋นก้จับมือผมให้ป้อนแซนด์วิชเข้าปากมันเอง มันกัดเข้าไปเกือบหมดชิ้น
"ไอ้บ้า เดี๋ยวก้ติดคอหรอก"
อั๋นยิ้มกว้าง เคี้ยวแซนด์วิชแก้มตุ่ย หยิบนมขึ้นดื่มตาม
"เอาอีกๆ" อั๋นร้องแบบเด็กๆก่อนจะจับมือผมให้ป้อนอีกคำ
"มา กูป้อนมึงมั่ง"
กินเสร็จก้หันมาป้อนผมต่อ มืออีกข้างก้เอื้อมมาจับมือผมไว้
ผมจะเก๊กหน้านิ่งไม่ไหวแล้วนะ

คนอื่นๆในห้องเริ่มสังเกตเห็น นนท์กับต้าร์ที่กำลังลอกการบ้าน ไม่เงยหน้าขึ้นคุยหรือเล่นกับใครจนถึงตอนนี้ หันมามองเราสองคนพร้อมรอยยิ้มที่ผมทนมองไม่ได้
"อั๋น คนอื่นมองแล้วเนี่ย" ผมกระซิบบอก
"ไม่เห็นเป็นไรเลย" อั๋นตอบก่อนจะยื่นตัวเข้ามาเช็ดคราบนมที่มุมปากผม "ปากมึงเลอะอะ กินเป็นเด็กเลยนะไอ้หมอ"
ผมเห็นจากหางตาว่าเพื่อนทั้งห้องกำลังหยุดหายใจ
"ปะ ไปเข้าแถวกัน" ผมรีบลุกจากเก้าอี้ คว้าซองห่อแซนด์วิชที่กินหมดแล้วกับขวดนมเปล่าใส่ถุงก่อนจะเดินออกจากห้องเรียนอย่างรวดเร็ว
"เห้ย รอด้วยดิหมอ"
น้ำเสียงไอ้แฟนตัวดีร่าเริงเสียจนน่าถีบชะมัด ผมได้ยินเสียงโห่ฮาจากเพื่อนๆตามหลังมาทันที

แน่นอนว่าการแข่งบาสฯแมตช์เมื่อวานเป็นหัวข้อที่ถูกพูดถึงเรื่องแรกระหว่างรออาจารย์เข้าสอนในวันนี้ แม้ว่าทั้งห้องรู้ผลแล้ว แต่คนที่ไม่ได้อยู่เชียร์ก้ขอให้คนที่อยู่เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างละเอียด ทุกคนมีความเห็นไปในทางเดียวกันคือเสียดายเป็นที่สุดและก่นด่าพี่ฝ่ายกีฬาของสีเรื่องที่ไม่ให้อั๋นลงตั้งแต่นัดแรกกับเรื่องที่ให้ต้าร์เล่นต่อทั้งๆที่บาดเจ็บ

ช่วงพัก15นาทีของคาบเช้า ผมกับอั๋นเดินลงไปเข้าห้องน้ำที่ชั้นล่างของตึก
"หมอ คืนนี้ไปนอนบ้านกูดิ"
"เออ ไปดิ มีไรวะ"
"ป่าว ชวนเฉยๆ อยู่วันเสาร์อาทิตย์ด้วยเลยนะ"
"ได้"
"เย่ รักแฟนที่สุดเลยค้าบ" อั๋นเข้ามากอดจากข้างหลังแล้วทิ้งน้ำหนักตัวให้ผมพาเดิน
"หนักชิบ ตัวมึงไม่ได้เบาๆนะครับ" ผมเคาะหัวไอ้คนขี้เกียจ
"ผมไม่สบาย หมอดูอาการให้หน่อย" เริ่มอ้อนอีกแล้วไอ้นี่
"กูไม่ได้เป็นหมอเว้ย แค่ชื่อหมอ"
"เล่นกะกูหน่อยดิ"
"เออ...เเล้วคนไข้เป็นอะไรมาครับ"
"เจ็บขาอะครับหมอ"
"โดนไรมา"
"เดินตกหลุมรักคนแถวนี้มาอะ"
ผมแทบสะดุด
"สัส มุกเสี่ยว คนไข้แบบนี้ไม่รักษาโว้ย"
"ไรอะ หมอห้ามเลือกคนไข้ดิ"
"ออกไปเลย ตัวหนัก"

เสร็จภารกิจ ผมนึกอยากแกล้งไอ้อั๋นขึ้นมา พรมร้ำใส่มันตอนล้างมือซะเลย
"เห้ย" อั๋นสะบัดหัว "ได้ จะเล่นอ่อ"
"อย่านะเว้ย เดี๋ยวตัวเปียก โดนจารย์ด่าอีก"
"อ้าว แล้วที่มึงเล่นกับกูอะ"
"ไม่เกี่ยว" ผมแลบลิ้น เตรียมวิ่งหนี
"จะไปไหน" อั๋นดึงแขนผมกลับมา แล้วโดยไม่ทันตั้งตัว มันก้จุ๊บแก้มผมเร็วๆ

ผมชะงัก
มันหอมแก้มผมกลางโรงเรียนเนี่ยนะ

"อะ อั๋น"
"ครับ?" อั๋นเลิกคิ้วขึ้นอย่างกวนตีน
"มึงทำไรเนี่ย"
"หอมแก้มแฟนไง"
"ยังมีหน้ามาตอบอีก กูไม่ได้ให้มึงตอบโว้ย"
อั๋นหัวเราะชอบใจ ออกวิ่งนำไปแล้ว ผมวิ่งไล่ตาม หวังจะเตะก้นมันให้ได้
"กลับมานี่นะเว้ย"
"แบร่"
อั๋นหันกลับมาแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ หนอย รอให้จับได้ก่อนเถอะ
ผมพึ่งวิ่งเลี้ยวมุมตึก อั๋นก้ไปถึงชานบันไดชั้นล่างแล้ว จะวิ่งเร็วไปไหนวะครับ
แต่จู่ๆอั๋นก้หยุดวิ่ง ผมเห็นนักเรียนอีก2คนขวางทางอั๋นไว้
เมื่อผมเข้าไปใกล้มากขึ้น จึงรู้ว่าเป็นนนท์กับเอก สองคนนั้นตะโกนเสียงดังลั่นว่า

"หมอกับอั๋นเป็นแฟนกันแล้วโว้ยยยย"

-จบตอน-

โอ๊ยย ในที่สุด อั๋นกับหมอได้เป็นแฟนกันซะที อั๋นสมหวังแล้วนะครับคุณผู้อ่าน อิอิ คู่ข้าวใหม่ปลามันนี่มันดีจริงๆ มีผลัดกันป้อนแซนด์วิชด้วย น่ารักไปอีกก
นี่เพิ่งแค่เริ่มต้นนะครับ ยังมีเรื่องที่รอทดสอบสายสัมพันธ์ของทั้งคู่อยู่ ติดตามและเป็นกำลังใจให้อั๋นกับหมอด้วยนะครับ :)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-06-2016 23:00:31 โดย writerbeer »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด