พิมพ์หน้านี้ - My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) ตอนที่43 END (จบแล้ว)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: writerbeer ที่ 19-04-2016 22:56:43

หัวข้อ: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) ตอนที่43 END (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 19-04-2016 22:56:43
My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม


6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

-------------------------------------------------------------------------------
หวัดดีทุกๆคนในboardนะ เราwriterbeer(นามแฝงนะ) อ่านนิยายอยู่ในนี้มานาน วันนี้ตัดสินใจแต่งนิยายเป็นของตัวเองบ้าง ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ

ขอเกริ่นสักนิด เรื่องนี้มีเค้าโครงมาจากเรื่องจริงเล็กน้อย แล้วที่เหลือก้เสริมเติมแต่งให้มีอรรถรสนะ ส่วนแรงบันดาลใจนี่ก้มาจากหลายๆอย่างเลยล่ะ คนเขียนวางแพลนไว้ว่าน่าจะเขียนสัก20ตอน และจะไม่ดองนิยายนะจ๊ะ

^
^
ตอนแรกตั้งใจว่าจะเขียนสัก20ตอน แต่ตอนนี้ท่าจะยาวแล้วครับแหะๆ commentเป็นกำลังใจให้กันเยอะๆนะครับ (23/4/2016)
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ : My close friend (writerbeer ฝากตัวด้วยนะค้าบ^^) ตอนที่1
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 20-04-2016 19:09:21
ตอนที่1

7.20น.
"มึง กูถึงละนะ เสดยาง"
"เสดละ แปบๆ เดะกูเดินออกไป"

เช้าวันนี้ก้เหมือนอย่างทุกวันครับ ผมตื่นนอน อาบน้ำแต่งตัว แล้ว ก้เล่นโทรศัพท์รอซี้ผมขับมอเตอร์ไซด์มารับไปโรงเรียน ไอ้นี่มันบริการผมยังงี้ทุกวันแหละครับ พอมันมาถึงหน้าบ้าน มันก้จะโทรมาหาผม ตอนนี้ผมเปิดตู้เย็น จะหยิบนมไปกินครับ

"อย่าลืมเอาเค้กไปให้อั๋นด้วยนะลูก"
"แล้วของผมอะ"
"ของแกไม่มี เมื่อวานก้กินไปแล้ว ยังจะกินอีกหรอ ให้เพื่อนสิ- -"

แม่ผมเตือนให้หยิบเค้กไปให้ซี้ผมด้วยคับ มี2ชิ้น เมื่อวานผมกินไปชิ้นเดียวเอง อีกชิ้นแช่ตู้เย็นเก็บไว้ครับ นี่แม่จะให้เอาไปแบ่งให้อั๋นกินด้วย ที่แม่พูดเมื่อกี้สงสัยเป็นห่วงมันมากกว่าผมอีกมั้ง เนี่ย- -
"งั้นผมไปก่อนนะแม่"
"จ้าาา" ลากเสียงยาวเชียว

"ปะ ไปกัน"
"ครับเมีย"
"เมียพ่องง"
ผมบอกอั๋นเมื่อเดินมาถึงหน้าบ้าน พอขึ้นซ้อนเสร็จ มันก้ขับรถออกมาจากซอยทันที

ระหว่างทาง มันก้ชวนผมไปซื้อของเย็นนี้ครับ
"เลิกเรียนไปสยามเปนเพื่อนกูหน่อยดิ"
"ทำไรวะ"
"ซื้อรองเท้า"
"เหยด แม่มึงอนุมัติเงินแล้วหรอวะ"
"เออดิ พูดขออยู่ทุกวันเนี่ย ไปปะ"
"ไปดิ"
รองเท้าที่มันจะซื้อเนี่ย adidas รุ่น stan smith ที่เค้ากำลังฮิตๆกันอยู่น่ะครับ มันเห็นคนอื่นใส่แล้วอยากได้บ้าง บอกว่าเท่ดี เลยไปขอแม่มันซื้อ ตอนแรกแกบอกให้เก็บเงินซื้อเอง นี่ไม่ถึงเดือน คงไม่ใช่เงินเก็บไอ้อั๋นเองแน่ๆ สงสัยจะได้รับการสนับสนุนมาจากคุณแม่ครับ

สักพักรถก็เลี้ยวเข้ามาในบริเวณโรงเรียนครับ โรงเรียนผมเนี่ยใหญ่โคตร เช้าๆพวกนักเรียนก็เล่นกีฬาไม่ก็จับกลุ่มนั่งคุยกันที่โรงอาหาร รอเข้าแถวเคารพธงชาติ

อั๋นขับเลยโรงอาหารไปจอดที่ลานจอดรถ พอจอดเสร็จ ผมกับมันก็เดินย้อนกลับมาที่โรงอาหาร เตรียมจะกินข้าวเช้ากัน
"หมอมึงเอาไรมาแดกวะ"
"นม อะ แล้วนี่เค้กของมึง" ผมยื่นเค้กส่งให้มัน

มันรับไปแล้วเริ่มต้นกิน เมื่อกี้มันเรียกชื่อผมเอง ผมชื่อ"หมอ"ครับ ถามว่าทำไมถึงชื่อนี้ เพราะตอนผมเด็กๆ แม่อยากให้เป็นหมอครับ แต่พอโตมา แม่ก็รู้ว่าผมขี้เกียจเกินกว่าจะสอบติดแน่นอน เลยล้มเลิกความตั้งใจที่จะให้เป็นหมอไป- - อีกอย่าง ตอนนี้ผมเรียนสายศิลป์ คำนวณอยู่ด้วยครับ
"เห้ย เค้กอร่อยว่ะมึง ซื้อที่ไหนวะ"
"อร่อยสาด เมื่อคืนกูก้กินไป ร้านเปิดใหม่แถวบ้านกู"
"กูอยากกินเค้กกับนมอะ" อั๋นพูดพร้อมกับมองมาที่นมกล่องในมือผม มันทำตาปริบๆใส่ เตรียมจะแกล้งผมครับ
"เดินไปซื้อดิวะ"
"ใจร้ายสาด ขอกินด้วยดิ"
"ไม่โว้ย กูไม่อิ่ม"
ไม่ทันระวังตัว มันก็ฉวยนมที่ผมพึ่งดูดไปยังไม่ถึงครึ่งกล่องไปไว้ในมือ แล้วดูดทีเดียวแทบหมดกล่อง เรื่องแรงเนี่ย ผมสู้มันไม่ได้เลย
"เชี่ยอั๋น แย่งกูแดกนะมึง"
"5555"
มันหัวเราะชอบใจที่ได้แกล้งผม ผมก็บ่นไปงั้นแหละครับ เช้าๆยังไม่ค่อยหิวเท่าไร บางวันก็ไม่กินข้าวเช้าด้วยซ้ำ
แล้วผมก็หันไปเห็นกลุ่มนักเรียนโต๊ะข้างๆมองผมกับซี้ แล้วหันไปซุบซิบกันครับ เฮ้อ จิ้นพวกผมอีกดิ
"ยังไม่ชินอีกหรอวะ"
"เออดิ พวกนี้แม่งก้บ้าเนอะ จิ้นกูกับมึงเนี่ยนะ"
"อ้าว เค้าก้ถูกแล้วปะ ก้มึงเป็นเมียกูนิ" ดูมัน ไอ้นี่ก็พูดเล่นได้หน้าตาเฉย
"เมียมึงก้เหี้ยละ"
ผมกับไอ้อั๋นเนี่ยพึ่งเข้ามาเรียนที่นี่ตอนมัธยม4ครับ นักเรียนห้องผมก็มีแค่ผมกับมันนี่แหละครับที่เป็นเด็กใหม่ ก็เลยสนิทกับมันที่สุด แต่ตอนนี้ก็สนิทกับทุกคนในห้องแล้วครับ
ทีนี้ พอสนิทกันมาก ตัวติดกันตลอด แล้วไอ้อั๋นเนี่ยนิสัยขี้เล่น ชอบแกล้งผมตลอดเวลา คนอื่นเห็นเข้าเยอะๆ ก็เลยจิ้นผมกับมันคับ นอกจากนี้ ผมก็หล่อด้วยครับ คนเลยยิ่งสนใจใหญ่^^(ไอ้หมอหลงตัวเอง)

จริงๆแล้ว คนหล่อก็คือไอ้คนที่แย่งนมโฟร์โมสต์ไปกินแล้วยักคิ้วกวนตีนอยู่ตรงหน้าผมเนี่ยแหละครับ ขาวตี๋ หุ่นดี ตรงสเป็คสาวๆและเก้งกวางเลย ส่วนผม ผมก็หล่อไม่เบานะ55

"ปะ ไปเข้าแถวกัน"
ผมบอกไอ้อั๋นเมื่อได้ยินเสียงกริ่งเตือนให้มาเข้าแถวหน้าเสาธงตอนเช้า พอไอ้อั๋นมันจัดการกับนมและเค้กเสร็จ เราก้เดินไปที่สนามหญ้าด้วยกัน
-จบตอน-

หวัดดีครับ พอดีตั้งกระทู้เปิดเรื่องไว้เมื่อวาน แต่พึ่งเอาตอนแรกมาลงวันนี้ ขอโทดด้วยค้าบ ยังไงฝากอั๋นกับหมอไว้ในอ้อมอกอ้อมใจทุกคนด้วยนะครับ ฮิ้ววว ตอนต่อไปสนุกแน่นอน รอติดตามได้เลยยย
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ : My close friend (writerbeer ฝากตัวด้วยนะค้าบ^^) ตอนที่2
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 21-04-2016 20:56:12
ตอนที่2

หลังจากนักเรียนเคารพธงชาติและสวดมนต์เสร็จ ผอ.หรือคุณครูที่มีเรื่องจะชี้แจงก็จะมาพูดหน้าเสาธงครับ วันนี้เป็นผอ.มาพูดครับ และเวลาเฉลี่ยในการปราศัยของท่านคือ25นาที- -

"ง่วงว่ะ" ไอ้อั๋นที่นั่งอยู่ข้างหลังเอามือมาจับเอวผม ละกดหัวลงมาซบบนหลังผมครับ ทำไรของมันวะ
"ง่วงมากมั้ยมึง"
"ง่ะ กูจะนอน"  นอนกับหลังกูเนี่ยนะ- -
แล้วผมก็แอบหยิบมือถือขึ้นมาเล่นเกม ก็มันเบื่อนี่ครับ ฟังผอ.พูดมาตั้งนานแล้ว แถมยังไม่มีทีท่าว่าจะจบด้วย สักพักอั๋นก็ส่งเสียงเบาๆมา
"มึงอย่ายุกยิกดิหมอ"
"กูเล่นเกมอยู่คับมึง ไม่ยุกยิกได้ไง"  ผมตอบ
ทีนี้ซี้ผมเลยขยับตัวขึ้นมานั่ง ละสอดมืออ้อมแขนผมมาช่วยเล่นเกมด้วย มันกดมั่วรัวที่หน้าจอหลายๆที
"ไอ้สาด กูกำลังจะทำhigh score อย่านะมึง"
"5555"

แต่ด้วยความเก่งของผมครับ ผมก็ทำhigh scoreได้สำเร็จ ถึงแม้อั๋นจะมาก่อกวน ผมเลยหันไปยักคิ้วให้มัน
"จ้าพ่อคนเก่ง"

ในที่สุดผอ.ก็จบการปราศัยและบอกให้เด็กๆแยกย้ายเข้าห้องเรียนครับ

โต๊ะเรียนของผมอยู่แถวหลังสุดของห้องเลยครับ ในห้องก็มีนักเรียนประมาณ30คนได้ จัดเป็นโต๊ะ2ตัวติดกัน แล้วเว้นแถวไปเรื่อยๆ แน่นอนว่าผมกับไอ้อั๋นนั่งด้วยกันครับ
คาบแรกคือวิชาภาษาไทย พอผมไปถึงโต๊ะเรียนปุ๊บก็ฟุบหน้าลงไปทันที นี่ คนง่วงจริงมันต้องผมครับเพื่อนซี้
"โอ้โห หลับเลยหรอมึง"
"เออ อย่าแกล้งกูนะ กูขอนอนแปบ ถ้าจารย์ด่าก็ปลุกกูด้วย"
(น้องๆนักเรียนอย่าเอาหมอเป็นเยี่ยงอย่างนะครับ)

พอหมดคาบแรก ผมก็ตื่นครับ แล้วก็หยิบหนังสือการ์ตูนขึ้นมาอ่านใต้โต๊ะ
"ฟื้นมาก็เรียนต่อเลยนะครับ"  ไอ้อั๋นพูดไงจะใครล่ะ
"ครับ ตั้งใจจดเลกเชอร์ดีๆนะครับ ใกล้สอบแล้วมาสอนกูด้วย"
"ไอ้สาดดด" พูดพร้อมเพ่นกบาลผมทีนึง
"ตบหัวกูบ่อยๆกูถึงสอบไม่ผ่านซะที"
"ไม่ใช่กูเลย เพราะมึงไม่ตั้งใจเรียนต่างหาก55"  ผมหันไปแยกเขี้ยวใส่มัน
ไอ้อั๋นนี่เห็นมันกวนตีนงี้ เนิร์ดสุดเลยนะครับ ไม่เคยหลับในห้อง การบ้านไม่เคยลอก สอบออกมาคะแนนดีตลอด สอบmid-term ที่ผ่านมาก็มันเลยครับที่ช่วยชีวิตผม

พอหมดคาบเช้า ผม ไอ้อั๋น กับเพื่อนทั้งห้องก็ลงไปโรงอาหารครับ ห้องเรามีเอกลักษณ์อย่างหนึ่งก็คือ กินข้าวกลางวันโต๊ะเดียวกันครับ
"ไอ้หมอ วันนี้เอาone punch manมาปะวะ"
"เอามาดิ กูอ่านอยู่เมื่อกี้เลย"
"เฮ้ย งั้นเดี๋ยวคาบต่อไปกูขอยืมนะ"
"เออๆ"
ไอ้ต้าร์ครับ จะขอยืมหนังสือการ์ตูนผม
"เออสัสหมอ (ดูเพื่อนมันเรียกผม- -) ลูกพี่ลูกน้องกูอะเห็นเฟสมึงแล้วบอกว่ามึงหล่อ อยากรู้จัก รับแอดมันไปหน่อย"  ส่วนนี่ไอ้นนท์ครับ
"หือ แล้วญาติมึงมีเฟสกูได้ไงวะ"
"มันคงขึ้นmutual friendมั้ง แล้วน้องกูไปส่อง55"
"โห เอางี้เลยอ่อ"  มิน่า เมื่อคืนมีใครไม่รู้add friendมา ผมไม่ รู้จักก็เลยไม่รับครับ ถึงจะมีmutual friendก็เหอะ
"อรั๊ย เสน่ห์แรงใหญ่แล้วนะเรา"  เชี่ยอั๋นหันมาล้อผมทันที
"แน่นอน"
"บอกน้องมึงนะนนท์ว่าหมอมันมีแฟนแล้ว"  ไอ้ต้าร์พูด
"ใครวะ"
"ไอ้อั๋นไง"
"ฮิ้ววว"  คราวนี้ไม่ใช่ไอ้นนท์คนเดียวครับ ไอ้ต้าร์กับคนอื่นๆช่วยกันส่งเสียงแซวด้วย
นั่นไง โดนเลยกู
แล้วไอ้อั๋นที่นั่งติดกับผมก็แกล้งเอาหัวมาซบไหล่ผมทันที ผมเลยจั๊กจี้เอวมันกลับไป มันสะดุ้งละถอยหนีเลยครับ ไอ้นี่บ้าจี้มากๆ55
"ถ้ากูไม่รู้จักพวกมึงนะ กูคิดว่ามึงสองคนเป็นแฟนกันจริงๆ"  ไอ้เอกพูดขึ้น
"นี่มึงก็จิ้นกูกับไอ้หมออีกคนเหรอเนี่ย"  อั๋นหันไปถามยิ้มๆ
"เออสิวะ"
"ถ้าพวกกูแต่งเมื่อไร เดี๋ยวมาแจกการ์ดนะครับนะ"  ผมเลยประชดต่อ

หลังหมดพักเที่ยง พวกผมก็ขึ้นไปเรียนต่อครับ คาบบ่ายก็ไม่มีเหตุการณ์อะไร จนถึงเวลาเลิกเรียน ผมกับไอ้อั๋นบอกลาเพื่อนคนอื่นๆแล้วเดินมาเอามอเตอร์ไซด์ครับ
ไม่นานก็มาถึง siam center ผมกับไอ้อั๋นตรงไปยัง shop ของ adidas ทันทีครับ
"นั่นไง รุ่นที่มึงอยากได้"  ผมชี้ไปที่ stan smith สีกรม-ขาวที่วางเด่นอยู่บนชั้นวาง
ไอ้อั๋นยิ้มก่อนเดินเข้าไปหา มันหยิบรองเท้าขึ้นมาสำรวจ พลิกไปพลิกมาละก็ลูบอย่างพอใจ
"อั๋นมึงดูดิ สีเขียวก้สวยดีว่ะ"  ผมหันไปเห็นอีกคู่ที่วางอยู่ข้างกัน หยิบขึ้นมาเทียบกับคู่ที่อั๋นถืออยู่ในมือ
แล้วไอ้อั๋นก็บอกไซส์รองเท้าของมันกับพี่พนักงานผู้หญิงคนหนึ่งเพื่อเอามาลองครับ
"มึงชอบสีเขียวหรอ"
"เออ สีเขียวเฟี้ยวดีนะ สำหรับกูสีกรมมันดูเรียบๆไป"  ผมเสนอความเห็น
"เหรอ...."  มันกำลังลังเล
"เห้ย ถ้ามึงชอบสีกรมก็เอาเลย กูแค่เห็นว่าสีเขียวมันก็สวยดี"
"แต่มึงว่าสีเขียวสวยกว่าไม่ใช่เหรอ งั้นเอามาลองทั้ง2สีนั่นแหละ"
พูดจบเจ้าตัวก็รับรองเท้า2คู่มาจากพี่พนักงานที่พึ่งกลับมา แล้วเอามาสวม พอเห็นคู่สีเขียวอยู่กับเท้าของอั๋น ผมก็ยิ่งคิดว่าสีเขียวเหมาะกับมันมากกว่าสีกรมครับ
"มึงชอบอันไหนมากกว่ากัน"  ผมถาม
"กูเลือกไม่ถูกว่ะ ซื้อ2คู่เลยดีมะ55"  มันพูดติดตลก
"แหม่ พ่อคนรวย"
"มึงชอบสีเขียวใช่ปะ... งั้นผมเอาสีเขียวคับ"  มันหันมามองหน้าผมที่กำลังจ้องคู่สีเขียว แล้วหันไปบอกพี่พนักงาน
"เห้ย ไม่เอาสีกรมแล้วหรอ"  ผมรีบพูดขึ้นมา คือมันอะดูสีกรมมาตั้งแต่แรกเลย ผมอยากให้มันซื้อสีที่มันชอบ ไม่ใช่สีที่ผมชอบ เดี๋ยวจะเสียดายที่ซื้อไปอะครับ
"ไม่ๆ กูเปลี่ยนใจละ กูว่าเอาสีที่คนอื่นบอกว่าสวยดีกว่า กูตั้งใจพามึงมาช่วยเลือกเลยนะเว้ย"  อั๋นพูดพร้อมกับยิ้มกว้างให้ผม
"เอางั้นเหรอ"
"อือ"
แล้วพี่พนักงานที่รออยู่ก็รับ stan smith สีเขียว-ขาวที่อั๋นตัดสินใจซื้อไปคิดเงิน ผมเห็นพี่เค้ายิ้มกรุ้มกริ่มระหว่างเดินไป พอไปถึงโซนแคชเชียร์ พี่เค้าก็เล่าอะไรไม่รู้ให้พนักงานคนอื่นๆฟังครับ

รอสักพักพี่คนเดิมก็เดินกลับมาพร้อมพี่พนักงานผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ส่งถุงรองเท้าที่จัดใส่กล่องเรียบร้อยแล้วให้ไอ้อั๋น
"ขอบคุณมากนะคะลูกค้า"
"ครับผม"  อั๋นรับคำ
"น่ารักจังเลยนะคะ มีเพื่อนมาช่วยเลือกด้วย"  พี่อีกคนพูดขึ้นแล้วหันมาทางผม
อั๋นยิ้มมุมปากแล้วหันมาสบตาผมอีกคน ผมไม่รู้จะตอบไรเลยยิ้มตามมารยาทให้พี่เค้า นี่คงนึกจิ้นอั๋นกับผมชัวร์ เพราะหลังจากที่พวกผมเดินออกมาจากร้านแล้ว ผมยังเห็นซุบซิบกันพร้อมมองมาที่เราสองคนอยู่เลย
"ลูกพ่อ..." ไอ้คนข้างๆผมนี่ก้บ้าเนอะ พูดกับรองเท้า
"มึงนี่ก็เห่อของใหม่ชิบ"
"เดี๋ยวกูขอเปลี่ยนไปใส่คู่ใหม่แปบนึงนะ"
"เว่อสาด เอาที่มึงสบายใจเลอ"  ผมยิ้มขำกับท่าทางเห่อของของไอ้อั๋นครับ

"แต๊งกิ้วนะมึงที่ไปช่วยเลือก"  อั๋นพูดขึ้นเมื่อมาถึงหน้าบ้านผม
"เออ กลับถึงบ้านแล้วใส่ถ่ายรูปลงไอจีด้วยนะ"
"มากไป เห็นกูเป็นคนขี้อวดเหรอ"
"5555"
"งั้น กูไปละนะ"
"เออ ขับรถดีๆมึง"
"เดี๋ยวถึงบ้านแล้วไลน์มาบอกนะหมอ"
"จ้าาาา พรุ่งนี้อย่าลืมมารับกูด้วย"  ผมลากเสียงยาว
ไอ้อั๋นยิ้มแล้วเอามือมาขยี้หัวผมจนยุ่งก่อนจะขับรถออกไป

-จบตอน-

มาต่อแล้วนะค้าบ ขอบอกคุณผู้อ่านว่าเรื่องนี้ผมอยากให้momentของอั๋นกับหมอมันออกมาน่ารักๆ ชวนฟิน ส่วนตอนต่อๆไปเนี่ย รับรองว่ายังมีเรื่องอีกมากมายที่จะทดสอบความรักของสองคนนี้คับ อรั๊ยย ฝากติดตาม My close friend ด้วยนะฮ้าฟฟ
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ : My close friend (writerbeer ฝากตัวด้วยนะค้าบ^^) ตอนที่3
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 22-04-2016 22:27:53
ตอนที่3

"วันนี้กูไปนอนบ้านมึงนะ"
"เอาดิ"
ผมบอกอั๋นหลังเลิกเรียนวันศุกร์ นักเรียนกำลังเก็บหนังสือใส่กระเป๋าเตรียมรับวันหยุดสุดสัปดาห์ที่มาถึง
"ฮั่นแน่ ไอ้หมอไปนอนบ้านแฟนอีกแล้วหรอวะ"  ไอ้นนท์ที่นั่งอยู่ข้างหน้าผมหันมาแซว
"เออ"
"นี่พวกมึงได้กันจริงๆแล้วใช่ปะ"
"พ่อง"
ผมด่าไอ้นนท์ ในขณะที่คนอื่นๆส่งเสียงแซวกันยกใหญ่ ส่วนไอ้คนที่ถูกแซวร่วมกับผมเนี่ย ยืนยิ้มมุมปากไม่ได้รู้สึกทุกข์ร้อนอะไรเลยครับ
"มึงดูดิ เชี่ยอั๋นแม่งไม่เห็นแย้งเราสักคำ สงสัยจะเป็นเรื่องจริงว่ะ55"  ไอ้เอกก็เดินมาสมทบอีกคน
"พอเลยพวกมึง"  ในที่สุดไอ้อั๋นก็พูดขึ้น แต่ยังไม่หุบยิ้ม ผมล่ะไม่เข้าใจว่าทำไมมันต้องยิ้มทุกครั้งที่โดนล้อ
คือผมก็ไปนอนบ้านไอ้อั๋นมาหลายครั้งแล้วครับ มันก็มานอนบ้านผมบ่อยๆเหมือนกัน คนที่บ้านเราสองคนต่างรู้จักผมกับมันเป็นอย่างดี
"งั้นไปกัน"  อั๋นหันมาเรียกผม
แล้วเราก็เดินไปที่ลานจอดรถเพื่อไปเอามอเตอร์ไซด์ ระหว่างทางอั๋นก็ถามขึ้น
"เออหมอ มึงจะนอนคืนวันเสาร์ด้วยปะ"
"ไม่รู้ดิ ทำไมวะ"
"วันอาทิตย์พ่อกูจะพากูไปเจอเพื่อนเก่าเค้าว่ะ กูถามว่ากูต้องไปด้วยเหรอ เค้าบอกว่าต้องไป ไม่รู้ให้กูไปทำไม"
"อ่อ งั้นกูนอนคืนนี้คืนเดียวก็ได้"
"เห้ย มึงนอนอีกคืนก็ได้ แต่วันอาทิตย์มึงต้องตื่นเช้าแค่นั้นเอง"
"ได้หมด... แต่กูว่ากูนอนคืนเดียวแล้วกลับบ้านเย็นวันเสาร์ดีกว่า กูอยากนอนตื่นสาย"  ผมตัดสินใจ
"นั่นไง กูถึงถาม- -"
"แสนรู้นะเราอะ ไหนขอมือหน่อย"  ผมแบมือใส่มัน ทำท่าเหมือนเล่นกับหมาครับ
"สาด"

แล้วเราก็มาถึงบ้านอั๋นอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ไม่มีคนอยู่ครับ ผมเดินลงไปนั่งบนโซฟาสีดำในห้องนั่งเล่นอย่างคุ้นเคย
"โอ้โห นี่บ้านกูหรือบ้านมึงกันแน่วะ"
"บ้านกูไง"
ผมกวนตีน ไอ้อั๋นไม่ตอบอะไร แต่เดินหน้ายิ้มเข้าไปในครัว ก่อนจะหยิบนมกับน้ำเปล่าออกมาจากตู้เย็น
"มึงหิวปะ กินไรมั้ย"
"ไม่อะ มึงกินเถอะ"
"วันนี้แม่กูมีประชุม กลับดึก ต้องหาไรกินกันเองนะ"
"โหย เสียดายว่ะ อยากกินกับข้าวฝีมือแม่อร"  แม่ไอ้อั๋นครับ ทำกับข้าวอร่อยกว่าแม่ผมอีก อุ๊บ
"เดี๋ยวกูทำให้มึงกินก็ได้ อยากกินไร"
"ม่ายอาว แดกม่ายด้าย"  ลากเสียงยาวกวนตีนซี้ผมซะเลย
"ดูถูกกันว่ะ เดี๋ยวมึงรู้เลย"  อั๋นหัวเราะแล้วเดินเข้ามาขยี้หัวผมเบาๆ ก่อนจะนั่งลงข้างผมแล้วเริ่มดื่มนม จริงๆมันทำอาหารเก่งมากครับ คนอะไรไม่รู้เพอร์เฟคชะมัด ผมล่ะอิจฉา
"ขอนอนหน่อยนะ..."
พอซดนมหมด มันก็เอนตัวลงมานอนตักผมครับ
"ไรมึง มานอนตักกูทำไมเนี่ย ลุกเลยๆ"  ผมพูดพร้อมกับพยายามดันตัวมันขึ้น
"ไรว้า ขอนอนหน่อยก็ไม่ได้"
"กูเมื่อยคับไอ้อั๋น"
"กูง่วงคับไอ้หมอ"  ดูมัน- -
"จะลุกไม่ลุก"
"กูเจ้าของบ้านนะ อยู่นิ่งๆดิ"
ในที่สุดผมก้ยอมแพ้เงียบๆให้มันนอนหนุนตักผมไป ผมหยิบมือถือขึ้นมาเลื่อนดูนั่นนี่ไปเรื่อยเปื่อย ส่วนอั๋นมันก้นอนจริงจังมากครับ แบบหลับไปเลย

ผ่านไปจนหกโมงเย็นเกือบทุ่มหนึ่งได้ ผมค่อยๆรู้สึกตัว เห้ย แล้วตูหลับไปตอนไหนเนี่ย ก้มลงไปก็เห็นเจ้าของบ้านยังหลับปุ๋ยอยู่บนตักผมครับ แต่เปลี่ยนท่านอน มันหันหน้าเข้าหาตัวผม มือก็โอบเอวผมไว้ อื้อหือ ยังกับคู่เกย์แน่ะ ดีนะไม่มีใครเห็น

ผมชั่งใจอยู่พักนึงว่าจะปลุกมันดีมั้ย เพราะเราก้หลับกันมา2ชั่วโมงแล้ว แต่คิดไปคิดมาก้ให้มันนอนดีกว่าครับ ถ้าจะ
เพลียจริงๆ

ผมได้แต่ก้มมองมันนอนอยู่อย่างนั้น อั๋นผิวขาว ใบหน้าเห็นกรามชัด ผมรองทรง กล้ามใหญ่ เห้ย ละผมมานั่งสังเกตอะไรมันวะเนี่ย นี่ผมเป็นอะไร55 สักพักนึง อั๋นมันก็ค่อยๆขยับตัวครับ
"อื้อ... หมอ"  ครางซะด้วย
"หือ"
"นี่กี่โมงแล้วอะ"  มันพูดเสียงงัวเงีย
"หนึ่งทุ่มยี่สิบ"
"เห้ย งั้นมึงก็ยังไม่ได้กินข้าวอะดิ แล้วไมไม่ปลุกกูวะ"
พูดจบมันก็ลุกขึ้นตรงไปยังห้องครัวทันที
"เห้ย ชิว มึงไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้"
"นี่กูนอนหนุนตักมึงตั้งแต่กลับมาอะนะ"
"เออดิ เมื่อยชิบ"
"เมียกูน่ารักจัง ให้หนุนตักตั้งนาน"  อั๋นหันมายิ้มหน้าบานให้ผม ตื่นเต็มตาก็กวนตีนเลยนะครับ
"มึงเลย กูก็หลับไปด้วย"
"อ่าว มึงก็หลับหรอ55"
ผมเดินตามมันเข้าไปในห้องครัว อั๋นกำลังจะทำสุกี้ครับ
"มา กูช่วย"
"เห้ย ไม่ต้องๆ มึงไปรอหน้าบ้านไป เดี๋ยวครัวกูเละ"
"สาดด ไม่เคยให้กูช่วยเลยนะ"
"ไม่งอนนะจ๊ะ เดี๋ยวผัวทำให้กินเอง^^"  ว่าแล้วก็ยิ้มจนตาหยี
"ผัวเหี้ยไรล่ะ... บรึ๋ย อย่ายิ้มงั้นดิ กูขนลุก"
ผมก็เลยออกมานั่งเล่นมือถือรอหน้าบ้านแทน

ไม่นานนัก อั๋นก็ค่อยๆยกหม้อสุกี้ขนาดเล็กพร้อมถือช้อนส้อมมา2คู่
"เดี๋ยวกูไปหยิบชามนะ"  ผมบอกและกำลังจะลุกขึ้น
"ไม่ต้องๆ กินด้วยกันในหม้อเนี่ยแหละ กูหยิบช้อนมาด้วยละ"
โรแมนติคสัส- -
ก็ดูมันทำสิครับ ยกหม้อสุกี้มาวางตรงโต๊ะเล็กๆในห้องนั่งเล่น
แล้วก้นั่งลงข้างผม กินจากหม้อเดียวกัน
"กินๆๆ เดี๋ยวเย็นแล้วไม่อร่อยนะเว้ย"
"ครับๆ"
แล้วเราก้นั่งกินสุกี้กันไปเงียบๆ ผมสังเกตเห็นว่าอั๋นมันกำลังมองหน้าผมอยู่
"มองไรวะ ไม่เคยเห็นคนหล่อเหรอ"
"ไม่เคยเห็นของแปลกต่างหาก"
ผมยื่นมือไปจะเพ่นกบาลมัน แต่มันคว้ามือผมไว้ ผมเสียหลักเซไปหาไอ้อั๋นเล็กน้อย ก่อนที่จมูกเราสองคนจะชนกัน
...
ทั้งผมทั้งมันต่างอึ้งไปพักนึง พอรู้ตัว ผมรีบดีดตัวออกมาจากอั๋นเลยคับ เชี่ยย เกือบจูบกันแล้วมั้ยล่ะ
"หมออยากจูบกูก็บอกดีๆก้ได้"
"สัส อุบัติเหตุมั้ยอะ"
แล้วเราก็หันไปจัดการกับสุกี้ต่อจนหมด ผมเดินตามอั๋นกลับเข้าไปในครัวเพื่อช่วยล้างจาน

เสร็จภารกิจ มันก็ชวนผมขึ้นไปห้องมันครับ
"ปะ ไปห้องกูกัน"
"อือ"
ห้องไอ้อั๋นนี่เป็นระเบียบเรียบร้อยดูไม่เหมาะกับมันเลยครับ มันเปิดแอร์แล้วก้หย่อนตัวลงบนเตียง
"ทำไรดีวะ"
"มึงอยากทำไรอะ"  ผมถามกลับเพราะไม่รู้จะทำอะไร ก่อนเดินไปนั่งข้างๆมัน
"งั้น ดูหนังมั้ย"
"เออ เอาดิ"
"เจ๊เอ๋พึ่งซื้อหนังมาหลายเรื่องเลย..."  อั๋นหมายถึงพี่สาวมันครับ ตอนนี้คงยังทำงานอยู่ที่มหาวิทยาลัยมั้ง
"กูอยากดู love rosie ว่ะ"  เห็นอั๋นหยิบแผ่นหนังออกมาเรียง ผมก็ชี้เลย
"หืม มึงเนี่ยนะหมอ อยากดูหนังรัก"  มันยิ้มขำ
"เออ แล้วไงวะ"
"อะๆ ดูก้ดูค้าบ ไม่ขัดใจ เจ๊เอ๋ก็เรคคอมเมนมา แกบอกหนังดี ซึ้ง"
แล้วสองชั่วโมงกว่าๆหลังจากนั้น พวกผมก็นั่งนิ่งหน้าจอ ปรากฏว่าหนังดีอย่างที่เจ๊เอ๋บอกไว้จริงๆครับ โห โชคชะตามันจะเล่นกับคนเราได้ถึงขนาดนั้นเลยหรอ พอหนังจบ ผมก็หันไปเห็นคนข้างๆน้ำตาซึมเลยครับ มิน่า เงียบไปนานเชียว
"ไอ้อั๋นขี้แยว่ะ55"  ผมแซว
"แม่ง กูอินว่ะหมอ เชี่ย โคตรซึ้ง" (ใครอยากรู้ว่าจบยังไงต้องไปดูนะค้าบ ไม่อยากสปอยล์ อิอิ)
กลายเป็นผมที่อยากดูเรื่องนี้แต่แรกกลับไม่อินเท่าไอ้คนข้างๆ
เอ้า สูดจมูกด้วย
"โอ๋ๆ ไม่ร้องนะ มาหาป๋ามา"  ผมแกล้งขยับเข้าไปโอบตัวอั๋นมา
กอด
"ฮือออออ"   ไอ้อั๋นก้เล่นต่อ เข้ามากอดผมอีกคน
แล้วเสียงรถแม่อั๋นก้ดังขึ้น
"...ลงไปหาแม่กูกัน"
ผมกับมันผละจากกันแล้วเดินลงไปชั้นล่าง

-จบตอน-

หวัดดีค้าบ มาต่อแล้วเนอะ อ่านแล้วอยากให้เพื่อนๆเข้ามาcommentกันเยอะๆ ตอนนี้writerเหงามาก555 อยากรู้ว่านิยายเราเป็นยังไงบ้าง หรืออยากให้เป็นแบบไหน เขียนมาได้เลยนะ เราชอบอ่าน รู้สึกว่าแต่ละตอนเจ้าอั๋นเนี่ยรุกหมอหนักขึ้นเรื่อยๆเลยนะ
อย่าลืมมาcommentเป็นกำลังใจให้ My close friend กันเยอะๆน้าาา
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ : My close friend (writerbeer ฝากตัวด้วยนะค้าบ^^) ตอนที่4
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 23-04-2016 23:32:02
ตอนที่4

"หวัดดีครับพ่อ หวัดดีครับแม่" ลงมาผมก็ยกมือไหว้พ่อกับแม่อั๋นทันทีครับ
"หวัดดีลูก"
"หวัดดีจ้ะ คืนนี้น้องหมอนอนที่นี่เหรอจ๊ะ"
"ครับผม"
"แล้วนี่เอ๋กลับมารึยัง"
"ยังเลยครับ" ผมตอบ
"แม่ แล้วผมล่ะ ไม่เห็นถามถึงเลย" ไอ้อั๋นทำเสียงน้อยใจอ้อนแม่
"เอ้า ก็เห็นเรายืนอยู่ตรงนี้ ตัวก็ไม่ใช่เล็กๆแล้วนะ จะถามทำไม"
"แม่อะ คุยแต่กับไอ้หมอ" แม่หัวเราะ
"แล้วเมื่อเย็นนี่กินไรกัน" คราวนี้พ่อหันมาถามบ้าง
"ผมทำสุกี้ครับ เห็นมีของอยู่พอดี แล้วพ่อกินไรมารึยังครับ"
"พ่อกับแม่กินแล้ว... งั้นตามสบายเลยนะลูก เราไม่กวนแล้ว" คำหลังพ่อหันมาบอกผม ผมยิ้มรับ
"แล้วพรุ่งนี้เช้าพวกเราอยากกินไร เดี๋ยวแม่ทำให้"
"อะไรก็ได้ครับ แม่ทำก็อร่อยหมด" อั๋นพูดพร้อมเดินเข้าไปหอมแก้มแม่
"ขี้อ้อนจังนะเรา งั้นแม่ไปนอนละ"
ผมยกมือไหว้พ่อกับแม่อั๋นอีกครั้งก่อนทั้งสองคนจะเดินขึ้นห้องไป
สักพักอั๋นกับผมก้เดินกลับขึ้นไปข้างบน มันขอตัวไปอาบน้ำ ผมก้เลยนอนดูทีวีอยู่ในห้องมัน

"หมอ มึงไม่อาบน้ำเหรอ"
"ไม่อะ กูจะนอนทั้งยังงี้แหละ"
"อี๋ ไม่อาบน้ำกูไม่ให้นอนด้วยนะ"
"เค้าขอนอนด้วยนะเตงงง"
"ไปเลย ไปอาบน้ำ"
"ไรว้า"
ไอ้อั๋นอาบน้ำเสร็จแล้วเดินนุ่งผ้าขนหนูตัวเดียวกลับมา มันไล่ผมให้ไปอาบน้ำ ผมเลยแกล้งอิดออดไม่ยอมไปอาบครับ
"หุ่นกูดีอะดิ มองอยู่นั่น" อั๋นพูดไปเช็ดผมไป
"อย่าให้กูมีซิกแพคมั่งนะมึง"
"มึงอะต้องกินให้เยอะ จะได้มีกล้ามเนื้อ ไม่งั้นก้เป็นซอมบี้อยู่งี้ เป็นหมอแล้วไม่รู้เรื่องโภชนาการเลยนะมึง"
"สัส กูแค่ชื่อหมอโว้ย ไม่ได้เป็นหมอ"
ผมอะสูงพอๆกับอั๋นเลยนะครับ แต่ตัวผอม ไม่ค่อยมีกล้ามอกกล้ามท้องเหมือนมันหรอกครับ แถมยังนอนน้อยเป็นประจำ ขอบตาก้เลยดำครับ ไอ้อั๋นเลยเรียกผมว่าซอมบี้- - พูดไปก็อิจฉาไอ้คนตรงหน้าชะมัด
"ซอมบี้จ๋า~" ยัง ยังไม่หยุด
ผมปาหมอนใส่มัน แต่มันหลบได้ครับ
"ชอบใช้ความรุนแรงหรอเราอะ"
ไอ้อั๋นยิ้มมุมปากแล้วค่อยๆย่างสามขุมมาหาผม
"เห้ย มึงจะทำไร"
"หมอ มามะๆ"
ผมยังไม่ทันจะขยับตัว ไอ้อั๋นก้มาถึงแล้วรวบตัวผมไว้กับเตียง มันใช้แค่แขนเดียวก็รวบแขนผมได้ แรงเยอะไปไหนวะ ละก้ทับลงมาบนตัวผมจนขยับไปไหนไม่ได้
"ปล่อยกูนะเว้ย" ผมร้อง
"ชู่ววว อย่าเสียงดัง เดี๋ยวคนอื่นตกใจ" อั๋นกระซิบแล้วเอามืออีกข้างมาปิดปากผม
"อื้อออ" ผมได้แต่ดิ้นไปมากับร้องอยู่ในลำคอ
"อย่าดิ้นสิคับหมอ" พูดจบมันก็ไซร้ลงมาบนคอผม ไอ้สัส นี่มึงเล่นจริงเจ็บจริงไม่ใช้ตัวแสดงแทนเลยนะไอ้อั๋น เห้ย ปล่อยกู
ผมรู้สึกเสียวสันหลังวาบเมื่อริมฝีปากไอ้อั๋นสัมผัสตรงคอผมจริงๆ ถ้ามือผมไม่โดนรวบอยู่คงจี้เอวมันไปแล้ว แต่นี่ผมทำไรมันไม่ได้เลยครับ
ในที่สุดผมก้ตัดสินใจอ้าปากงับมือไอ้อั๋นเข้าไป
"โอ๊ยย เจ็บ"
ไอ้อั๋นปล่อยผมทันที ผมหัวเราะสะใจแล้ววิ่งไปยืนหลบที่พื้นข้างๆเตียง
"กูเจ็บนะโว้ย กัดเข้ามาได้ไงวะ" ไอ้อั๋นนั่งคลำมือตัวเอง
"ก็มึงอะ เล่นไรไม่รู้"
"ไอ้หมอซาดิสต์ ไอ้ซอมบี้- -" มันทำปากยื่น
"ไอ้อั๋นโรคจิต" เราด่ากันไปมาแบบเด็กๆ
"เอายามาทาให้กูเลย มึงต้องรับผิดชอบ"
"ทาเองดิค้าบ" ผมรีบคว้าผ้าเช็ดตัวอีกผืนที่พาดอยู่บนราวแล้ววิ่งออกจากห้องไปเลย
"ไอ้หมอ อาบน้ำเสร็จมึงโดนแน่..." ได้ยินเสียงคาดโทษจากไอ้อั๋นตามมาติดๆเลยครับ

ผมอาบน้ำเสร็จก็เดินกลับมาที่ห้อง ใจก็คิดว่าไอ้อั๋นมันจะทำไรผมป่าวหว่า ยิ่งขี้แกล้งอยู่ มันคงรอเอาคืนผมอยู่แน่ๆ ผมเลยค่อยๆบิดกลอนประตูออกครับ
มองเข้าไปก็เห็นมันกำลังทายาหม่องพร้อมนวดมืออยู่เงียบๆ เห็นแล้วผมก็รู้สึกผิดขึ้นมาหน่อยเลย
"อั๋น มึงเจ็บมากป่าววะ" ผมเรียกเบาๆ
"เจ็บดิ" มันตอบมาด้วยเสียงเรียบๆครับ เอาแล้ว มันงอนผมแน่เลย
"เห้ย กูขอโทษ" ผมเดินตรงไปหามัน ตั้งใจจะทายาให้ กำลังจะคว้ามือมันขึ้นมา มันก้รวบตัวผมไปบนเตียงอีกครั้ง นั่นไง ผมว่าแล้ว มันรอแกล้งผมอยู่ หลอกกันได้นะไอ้อั๋น
"เห้ยๆ เดี๋ยวผ้าเช็ดตัวกูหลุดด- -" ผมร้อง
"ทำกูไว้แสบนะมึง ยังงี้ต้องเอาคืน" ไอ้อั๋นยิ้มมุมปากอีกแล้ว มันยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผม
"อย่านะเว้ย..."
แล้วเสียงเคาะประตูก้ดังขึ้น อั๋นรีบปล่อยผมแล้วเดินไปเปิดประตู ในขณะที่ผมรีบลุกขึ้นจากเตียง
"เจ๊ซื้อขนมมาฝาก อ้าว หวัดดีจ้ะหมอ คืนนี้นอนนี่เหรอ แหม่ หุ่นแอบแซ่บเหมือนกันนะเนี่ย พึ่งอาบน้ำเสร็จหรอจ๊ะ" เจ๊เอ๋นั่นเอง เขินเลยครับ ผมก้เปลือยท่อนบน นุ่งผ้าเช็ดตัวอยู่ตัวเดียว
"หวัดดีคับเจ๊เอ๋ แหะๆ"
"เห้ย เจ๊อย่ามองเมียผมนะ"
"ไอ้อั๋น- -"
"จ้า ไปละ ชั้นไปนอนก่อน ง่วงมาก อดนอนมาหลายคืน ไนท์ๆจ้ะอั๋นหมอ"
"ไนท์โว้ย" อั๋นตอบพี่มันซะน่ารักเชียว
"ไนท์ค้าบ"
"อ้อ แล้วคืนนี้มีไรกันก้เบาๆหน่อยนะ เดี๋ยวพ่อกับแม่ตื่น อรั๊ย"
"เห้ย เจ๊เอ๋" ผมร้อง
"ค้าบพี่สาว" เสียงหวานเชียวนะไอ้อั๋น
อั๋นเดินไปล็อคประตูแล้วหันมาหาผม
"รอดไปนะหมอ"
"กลัวจางง" ผมยังกวนตีนมัน
"จะว่าไปมึงนี่ก้...น่าฟัดเหมือนกันนะ" พูดแล้วก้ยิ้มด้วยครับ ไอ้บ้าเอ๊ย
"อย่านะเว้ย" ผมเลยรีบหยิบเสื้อกล้ามกับบ๊อกเซอร์ของผมที่ทิ้งไว้ในตู้เสื้อผ้าไอ้อั๋นขึ้นมาใส่
"แต่เมื่อกี้กูเจ็บจริงๆนะหมอ มานวดให้กูเลย" มันเปลี่ยนท่าทีมาอ้อนผม
"เออๆ"
ผมเดินเข้าไปหาอั๋นอีกครั้งแล้วค่อยๆนวดมือให้มันเบาๆ
"หายเจ็บยัง"
"ดีขึ้นหน่อยละ"
ระหว่างที่ผมนวดมือให้ ผมสังเกตว่าอั๋นมันกำลังจ้องผมอีกแล้วครับ
"หมอ"
"หือ"
"นวดไหล่ให้กูด้วยดิ มึงนวดดีอะ"
"หันมาดิ"
มันหันหลังให้ผม ผมก็ค่อยๆนวดให้มันไปเรื่อยๆ ไม่ได้นวดไหล่ให้อย่างเดียวครับ แต่ไล่ลงไปจนถึงหลังเลย
"อือ... สบายจัง มึงไปหัดมาจากไหนวะ หรือว่าเป็นเด็กนวด"
"สัส เดี๋ยวก้ไม่นวดให้เลยนิ"
"นวดเสร็จแล้วนาบด้วยนะ55 โอ๊ย" ผมทุบไหล่มันไปทีหนึ่งตรงที่มันพูดว่านาบครับ
"เบาๆมือกะกูหน่อยดิ วันนี้มึงทำร้ายกูหลายครั้งอะ"
แล้วผมก็นวดต่อไปอีกพักใหญ่ แล้วเราก้คุยนู่นนี่นั่นกันไป หันไปมองนาฬิกาอีกทีก้ใกล้เที่ยงคืนแล้วครับ
"อะ ป๋าให้ตังหนูเอาไว้ใช้นะ" อั๋นโยนแบงค์ยี่สิบให้ผมหลังบริการนวดเสร็จ ไอ้นี่นี่กวนตีนได้ตลอดเวลาจริงๆ
"ไม่คืนนะเว้ย ให้แล้วให้เลย" ว่าแล้วก้ยัดแบงค์ใส่กระเป๋าสตางค์ผมทันที
"555 ขโมยตังกูซะเนียนเลยนะหมอ... มึง พรุ่งนี้ต้องทำการบ้านนะ"
"การบ้านไรวะ"
"เลขเสริม อังกฤษ"
"ลอกมึงละกันนะ"
"ไม่ๆ พรุ่งนี้กูจะสอนเลขมึง เสร็จแล้วมึงต้องทำเอง ละก้ต้องช่วยกูแปลงานคู่อังกฤษด้วย"
"โหย บังคับให้กูขยันขนาดนี้ มึงเป็นเพื่อนหรือพ่อกูกันแน่วะ"
"เป็นผัว"
"จวย- -"
นี่แหละครับไอ้อั๋น ไม่ทิ้งการเรียน เทียบกับมันแล้วผมดูเป็นเด็กไม่มีอนาคตไปเลย555
"แต่ตอนนี้เอาone pieceมาอ่านหน่อย"
"เออๆ"
ผมขอยืมหนังสือการ์ตูนอั๋นมาอ่านก่อนนอน ส่วนมันก็หันไปเล่นโทรศัพท์
"หมอมึงดูนี่ดิ" สักพักไอ้อั๋นเรียกผมพร้อมหันหน้าจอมือถือมาให้ดู
"เหยดด"
ไอ้ต้าร์ตั้ง in a relationship ใน facebook กับผู้หญิงคนหนึ่งครับ แจ่มเชียว
"ไอ้ต้าร์ไปจีบเค้าตั้งแต่เมื่อไรวะ ไม่เห็นเล่าให้พวกเราฟังเลย"
"นั่นดิ เก็บเงียบเลย"
"เดี๋ยวกูสืบซะหน่อย" ผมเลยวางone pieceแล้วหันไปหยิบมือถือมาเข้าไลน์กรุป topicที่กำลังคุยกันอยู่ก้เรื่องไอ้ต้าร์นี่แหละคับ ทุกคนด่ามันกันใหญ่
"ไอ้ต้าร์โดนด่าว่ะ55" ผมบอกอั๋น
"ไหนๆ" อั๋นขยับเข้ามาดูมือถือผมด้วย
แล้วผมก้ร่วมวงด่าไอ้ตาร์ด้วยอีกคน คุยกันยาวๆไป จนไอ้เอกพิมพ์มาในไลน์ว่า เมื่อไรไอ้อั๋นกับผมจะตั้ง in a relationship กันบ้าง
"สัส กูกะมึงอีกละ- -"
"555"
อั๋นยิ้มน้อยๆก่อนหาวฟอดใหญ่
"นอนมั้ย" มันชวน
"อืม"
มันลุกไปปิดไฟแล้วสอดตัวเข้ามาในผ้าห่ม
"พรุ่งนี้ไม่ปลุกกูนะ"
"ไม่ได้ ติวๆ"
"ขอกูนอนก่อน"
"ไม่ปลุกมีหวังมึงตื่นบ่ายชัวร์- -"
ผมยังไม่ค่อยง่วงเท่าไร ก้เลยนอนหันหลังให้ไอ้อั๋นแล้วหยิบมือถือมาเล่นต่อ มันจะได้ไม่เห็นไฟหน้าจอครับ
"ยังๆ ยังจะเล่นอีก นอนได้ละ" มันขยับตัวเอื้อมมือมาคว้ามือถือผมไปวางที่โต๊ะหัวเตียงฝั่งมันครับ
"ไรมึงเนี่ย... แล้วมืออะ เอาออกไปด้วย"
มันกอดผมด้วยแขนข้างขวาครับ
"อือ" เจ้าตัวส่งเสียงครางเบาๆอย่างขัดใจแล้วก้ไม่ยอมเอามือออกไปจากตัวผม
ผมขี้เกียจเถียงแล้วครับ ปล่อยให้มันนอนกอดอยู่อย่างนั้น

-จบตอน-

วันนี้หมอโดนอั๋นแกล้งหลายครั้งเลยนะครับ แล้วทุกครั้งก็แต๊ะอั๋งตลอด555 ร้ายชะมัด
อย่าลืมติดตาม My close friend ต่อไปนะครับ^^
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ : My close friend ตอนที5
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 24-04-2016 21:56:38
ตอนที่5 (อั๋น)

8.35น.
ผมค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างงัวเงีย หันไปก้เห็นหมอยังนอนหลับปุ๋ยอยู่ข้างๆ เมื่อคืนมันมานอนด้วย แล้วผมก้แกล้งมันเยอะมากครับ
จะให้ทำไงได้ล่ะ แค่เห็นหน้ามันก้อยากแกล้งแล้ว แถมท่าทางมันยังชวนให้แกล้งต่ออีก แต่เมื่อวานก้ไม่ใช่ว่าผมจะทำมันอยู่ฝ่ายเดียวนะครับ ผมก้โดนมันเล่นงานเหมือนกัน มือผมยังมีรอยกัดจางๆให้เห็นอยู่เลย
เราสองคนก้เป็นอย่างนี้แหละครับ กวนตีนกัน แกล้งกันไปมาประจำ ผมเองก้ไม่รู้เหมือนกันว่าสนิทกับหมอขนาดนี้ตั้งแต่ตอนไหน
แล้วไอ้การที่สนิทกันมากๆก้ทำให้คนอื่นจิ้นผมกับหมอขึ้นมา เวลาโดนล้อทีไร ไอ้หมอจะโวยวายทุกที ส่วนผม ผมไม่คิดอะไรนะ หลังๆนี่ชอบด้วยซ้ำ เพราะเวลามีใครพูดขึ้นมา ผมจะได้เห็นปฏิกิริยาของหมอมัน
ถ้าถามผมว่า ผมรู้สึกยังไงกับมัน ผมก้ตอบไม่ได้อีกเหมือนกัน...
ผมรู้แต่ว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ แม่งโคตรมีความสุขเลยครับ
นอนมองคนข้างๆสักพักผมก้ลุกขึ้นจากเตียง กะว่าจะให้มันนอนอีกสักหน่อยตามที่เจ้าตัวขอน่ะครับ ผมเลยอาบน้ำแล้วเดินลงไปข้างล่าง
พ่อกับแม่คงออกไปทำงานแล้ว ส่วนพี่สาวผมน่าจะยังไม่ตื่น ลงไปก้เห็นกับข้าวที่แม่ทำไว้ให้อยู่เต็มโต๊ะอาหาร ไอ้หมอต้องชอบแน่ๆ มีของโปรดมันอยู่หลายอย่างเลย
ผมเดินออกไปสูดอากาศที่สวนหน้าบ้าน วันนี้อากาศเย็นสยายแล้วก้มีแดดอ่อนๆด้วย จริงๆเดือนมกราคมควรจะเป็นหน้าหนาว แต่ถ้าคุณอยู่ไทย คุณก้จะรู้ว่าวันไหนไม่ร้อนนี่คือสวรรค์แล้วครับ
ผมรดน้ำต้นไม้ไปได้สักพัก เจ๊เอ๋ก้ลงมากินข้าวครับ แต่งตัวเตรียมจะออกไปข้างนอกแน่ๆ
"อั๋น เดี๋ยววันนี้เจ๊ไปทำงานบ้านเพื่อนนะ กลับไม่เกินเที่ยงคืน"
"หนีเที่ยวก้บอกมาเถอะ อั๋นไม่บอกพ่อแม่หรอก"
"นี่ ชั้นไปทำงานจริงๆย่ะ โทรถามเพื่อนชั้นเลยมะ"
"แซวเล่นน่า55"
"แล้วนี่หมอยังไม่ตื่นเหรอ"
"อือ"
"จริงๆชั้นว่าเพื่อนแกน่ารักดีนะ ทำไมยังไม่มีแฟนสักทีวะ"
"คนมาจีบมันเยอะนะเว้ย แต่อั๋นไม่เห็นมันสนใครเลย"
"วันๆอยู่แต่กับแกมันจะเอาเวลาที่ไหนไปคุยกับคนอื่น ชั้นว่า อ้อ แกก้ด้วย ไม่มีแฟนเหมือนกัน55"
"ย้ำจังนะ ตัวเองเถอะ เมื่อไรจะพาแฟนมาให้พ่อแม่รู้จักสักที"
"นี่ เดี๋ยวชั้นพร้อมเมื่อไรก้พามาเองแหละ"
"555"
ผมเคยเจอแฟนเจ๊เอ๋แล้วครับ แต่เจ๊บอกว่ายังไม่อยากบอกพ่อกับแม่ บอกผมว่าอย่าพึ่งบอกท่าน ผมก้เลยไม่ได้พูดอะไร รอเจ๊บอกเองครับ
"ไปละ ซียูว"
"ซียูว"
แล้วเจ๊เอ๋ก้ขับรถออกไป ผมว่าที่เจ๊พูดมามันก้จริงนะ ไอ้หมอเนี่ยหล่อเลย ผิวขาว หน้าคมๆ นานๆจะยิ้มที เอกลักษณ์ก้คือขอบตาดำ บวกกับท่าทางกวนตีนและเบื่อโลกของมันแล้ว แล้วมันก้ฮอตสุดๆเลย ไม่รู้เจ้าตัวรู้หรือเปล่า

รดน้ำต้นไม้เสร็จ ผมก้เดินกลับเข้ามาในบ้าน กะจะไปปลุกไอ้หมอครับ ขึ้นไปถึงห้องก้ตามคาด มันยังหลับไม่รู้เรื่องอยู่เลย
"ตื่นได้แล้วๆ" ผมพูดขึ้นพร้อมเขย่าตัวหมอเบาๆ
...
"ตื่นๆๆๆ"
"อือ..." หมอคราง ผมได้แต่ยิ้มกับท่าทางของคนขี้เซาตรงหน้า
"สิบโมงแล้ว ปะ ไปอาบน้ำ แม่กูทำกับข้าวไว้เต็มเลย"
"ขอนอนอีกหน่อยน่า" หมอพูดเสียงงัวเงียแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้า- - โคตรดื้อเลย
"จะตื่นไม่ตื่นครับ"
... เงียบ
"ได้ หมอ"
ผมเลยมุดตัวเข้าไปในผ้าห่มอย่างรวดเร็ว มันสะดุ้งเต็มแรง แต่ก้ไม่ทันแล้วล่ะ ผมคร่อมตัวมันไว้แล้ว
"มึงทำไรวะ ปล่อยกูนะ" หมอโวยวายขึ้นมาทันที
"บอกให้ตื่นดีๆไม่ตื่นนะ" ผมยิ้มก่อนจะใช้ปากเลิกชายเสื้อกล้ามของหมอขึ้น
"เชี่ยอั๋น หยุดนะเว้ย" มันร้องเสียงหลงเลยครับ55
ผมใช้มือยึดแขนมันไว้ทั้งสองข้าง ลำตัวก้ทับมันไปทั้งตัว หัวผมอยู่เหนือหน้าท้องแบนราบของมัน
คราวนี้มันกัดหรือทำอะไรผมไม่ได้แล้วครับ

ผมซุกหน้าลงไปบนหน้าท้องหมอแล้วไล้ริมฝีปากลงไปเบาๆช้าๆ อืม รู้สึกดีเหมือนกันนะเนี่ย
"ปล่อยยย" มันยิ่งดิ้นแรงขึ้น แถมยังร้องเสียงกระเส่าเชียว ผมชอบเสียงเมื่อสักครู่นี้จัง
"ไอ้อั๋นนนน อย่าให้กูหลุดไปได้นะมึงง"
"เสียงดังไปถึงบ้านข้างๆงี้แสดงว่าตื่นแล้วนะ"
"ตะ ตื่นแล้วโว้ย ปล่อยกูเหอะ"
"ดีมาก"
ผมปล่อยไอ้หมอออกจากพันธนาการ มันลุกขึ้นมาและดึงเสื้อกล้ามลง พร้อมกับค้อนใส่ผมหนึ่งที
"มึงอะ เล่นเชี่ยไร กูนึกว่ามึงจะปล้ำกูจริงๆ"
"ก้มึงไม่ยอมตื่นนิ กูเลยปลุก"
"ปลุกบ้านมึงเค้าทำกันงี้เหรอ"
"ไปอาบน้ำเลย เดี๋ยววันนี้ต้องทำการบ้านอีก"
"แต่กูหิวอะ กินข้าวก่อนได้มะ"
"ไม่! ไปอาบน้ำ"
"อั๋น กูขอกินข้าวก่อนนะ นะๆๆ" หมอเขย่าแขนผม
"เออๆ งั้นไปกินกัน" ในที่สุดผมก้ยอมมัน
"มึงยังไม่กินหรอ"
"เออ รอมึงไง"
หมอเกาหัวแล้วเดินตามผมลงบันไดมา
"โหหหห" ลงมาเห็นกับข้าวก้ตาโตแล้วร้องขึ้นอย่างดีใจเลยครับ
"แม่กูทำแต่ของโปรดมึงทั้งนั้น ปีกไก่ทอด ต้มยำกุ้ง บลาๆๆ"
"แม่อรน่าร้าก"
"น่ารักก้มาเปนลูกสะใภ้สิ จะได้กินยังงี้ทุกวัน"
"สัส ไม่เอา- -"
ผมยิ้มขำเมื่อเห็นหมอตักอาหารจากจานนู้นชามนี้ กินอย่างสบายใจ อาการง่วงนอนเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหายไปเป็นปลิดทิ้งเลยครับ
ไม่นานผมกับมันก้จัดการมื้อเช้าตอนสายเสร็จเรียบร้อย
"มึงไปอาบน้ำไป เดี๋ยวกูล้างจานเอง"
"ไม่เอา เดี๋ยวกูช่วย"
"เดี๋ยวกูจะสอนเลขมึง อาบน้ำเสร็จจะได้เริ่มเลย"
"มึงเป็นครูหรออั๋น ไม่เรียนโว้ย"
"ไม่เรียนเดี๋ยวจะเจอแบบเมื่อกี้"
"ไอ้โรคจิต- -" โดนด่าเลยกู

ผมล้างจานเสร็จก้หยิบหนังสือคณิตศาสตร์พร้อมอุปกรณ์เครื่องเขียนทั้งหมดไปรอที่โต๊ะยาวในห้องนั่งเล่น แล้วหมอก้เดินลงมาพอดี มันใส่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นสบายๆครับ
"มาคับนักเรียน ครูจะสอนแล้ว" ผมกวนตีนมันทันที
"ขอกูนอนก่อนได้ปะ ง่วงอีกแล้วอะ" มันทำปากยื่น
"มาเรียนเดี๋ยวนี้เลย- -"
แล้วผมก้ลากไอ้หมอมานั่งที่โต๊ะจนได้ อยากติวให้มันครับ จะได้เก่งๆ ที่จริงมันหัวดีนะ แต่ขี้เกียจไปหน่อย
ว่าแล้วก้เริ่มสอนเลยดีกว่า

"อะ มึงลองทำโจทย์ดูดิ" ผมพูดขึ้นเมื่ออธิบายเนื้อหายืดยาวเกี่ยวกับเรขาคณิตเสร็จ
"หือ"
"นี่ฟังกูสอนอยู่ปะเนี่ย"
"ฟังอยู่ค้าบ ดุกว่าพ่อกูอีก- -" หมอทำหน้ามุ่ยเลย
"งั้นลองทำข้อนี้" ผมชี้โจทย์ข้อที่เป็นโจทย์พื้นฐานให้มันทำก่อนครับ
"โห เชี่ยไรวะเนี่ย เมื่อกี้กูก้ตั้งใจฟังที่มึงสอนนะ ทำไมเหมือนไม่เคยเจอมาก่อน555"
"ค่อยๆคิด มันไม่ได้ยากขนาดนั้น"
ผ่านไปหลายนาที ไอ้หมอก้ทำข้อนี้เสร็จครับ แม้จะใช้เวลานานไปหน่อย แต่พึ่งเริ่มต้นก้โอเคแล้ว
"เห้ย กูทำถูกอ่อวะ"
"ถูก เห็นมะ ถ้าตั้งใจมึงก้ทำได้"
หมอหันมายักคิ้วให้ผมแล้วทำโจทย์ข้อต่อไปทันทีครับ พอทำได้ก้กวนตีนเลยนะ
ผมได้แต่นั่งมองมันใช้ความคิดอยู่อย่างนั้น เวลาที่ติดขัดขึ้นมาก้จะส่งเสียงรำคาญเล็กๆ คิ้วงี้ขมวดเข้าหากันเชียวครับ ตลกดี

สองชั่วโมงต่อมา ผมกับมันก้ทำโจทย์กันไปได้หลายข้อแล้วครับจนหมอพูดขึ้นมา
"ครูครับ ผมอยากเบรคอ่า"
"เสียงอ่อนเชียวนะมึง55 อะๆ พักได้" ผมขยี้หัวมันเบาๆอย่างเอ็นดู
"เย่" ไอ้หมอกระโดดลุกขึ้นทันที แล้วเดินไปหยิบมือถือที่วางอยู่บนชั้นวางของฝั่งตรงข้ามโต๊ะ (ผมให้มันเอาวางไว้ตรงนั้นคับ ไม่งั้นคงเล่นแต่มือถือแน่) ได้จับมือถือปุ๊บก้พิมพ์ยิกๆเลยครับ
"หายไปจากโซเชียลแปบเดียว หญิงไลน์มาเต็มเลยเหรอวะ"
มันไม่ตอบ แต่ยักไหล่ให้ผมทีนึง ไอ้ท่าทางกวนตีนแบบนี้ไปเอามาจากไหนวะครับ55
"หมดเวลาพักแล้วนักเรียน" ผมเรียก
"ครูจะรีบไปตายที่ไหนครับ"
"สัส- -"
"พูดกะนักเรียนเพราะๆหน่อยดิค้าบ" แล้วมันก้เดินกลับมานั่งข้างๆผม
"มึงต้องกลับไปทบทวนด้วยตัวเองละก้ทำโจทย์เพิ่มอีกนะ รู้ปะ"
"ครับๆ"
"ทีนี้มาทำอังกฤษต่อ"
"ง่ะ เหนื่อยจาง"
ผมกับหมอทำการบ้านวิชาภาษาอังกฤษต่อ เป็นงานแปลข่าวจากอินเตอร์เน็ตครับ ศัพท์ยากระดับหนึ่งเลยล่ะ แต่ส่วนใหญ่ผมทำครับ เพราะไอ้หมอมันมัวแต่เล่นกวนผมไปมา
"อั๋นจ๋า~"
ตอนนี้มันยืนอยู่บนขาเก้าอี้ผมครับ (ตัวไม่เบาทำไม่ได้เลยนะ) เอาตัวก่ายผมแล้วก้เอาคางมาวางบนหัวผมด้วยครับ- -
"หมอ มึงทำไรกูวะ"
'อั๋นไม่เล่นกะหมอเหยออ" เสียงแบ๊วสุดตีน
"น้องหมออยากเล่นกับพี่อั๋นใช่มั้ยครับ"
"เห้ย" ไอ้หมอรู้แล้วว่าผมกำลังจะเอาคืน มันรีบลงจากเก้าอี้แล้วพยายามจะวิ่งหนีผม แต่ผมเร็วกว่า มันถูกผมรัดไว้จากข้างหลังทันทีครับ
"เชี่ยอั๋นขี้โกง"
"มึงมันช้าเองต่างหาก"
"กูไม่เล่นแล้ว กูจะทำการบ้าน- -"
"ไม่ทันละเว้ย ไหนๆ เมื่อกี้ใครอยากเล่นน้า"
แล้วผมก้หันไปเห็นใครคนหนึ่งยืนอยู่ที่ประตูหน้าบ้าน มองผมที่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับไอ้หมออยู่พอดี...

-จบตอน-

ตอนนี้ส่งอั๋นมาให้คุณผู้อ่านเจอมั่ง มันก้ยังคงแกล้งหมอต่อไป แถมยังแกล้งรุนแรงขึ้นทุกทีๆ ส่วนน้องหมอพอจะแกล้งเค้าบ้าง กลับสู้อั๋นไม่ได้555 ตอนต่อไปจะเป็นยังไงต้องติดตามนะค้าบ
มา comment ให้กำลังใจ writer หน่อยน้าาา
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ : My close friend ตอนที6
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 27-04-2016 18:08:44
ตอนที่6

ผมหันไปมองที่ประตูหน้าบ้านตามไอ้อั๋น ก้เห็นพี่บุรุษไปรษณีย์ยืนเก้ๆกังๆอยู่ครับ
"เอ่อ คือ มีพัสดุมาส่งครับ"
อั๋นปล่อยผมแล้วเดินไปรับกล่องพัสดุแล้วเซ็นชื่อ พี่บุรุษไปรษณีย์ยังคงมองผมกับอั๋นสลับไปมา ดูจากท่าทางนี่คงนึกว่าพวกเรามีอะไรกันแน่ๆ
"ขอบคุณครับ" อั๋นบอก ก่อนพี่เค้าจะยิ้มเจื่อนๆออกไป
"ทำไมพี่เค้ามองเราแปลกๆวะ"
"เค้าก้นึกว่ากูกะมึงเปนแฟนกันอะดิ"
"เค้าอาจไม่ได้คิดงั้นก้ได้ หรือมึงอยากเป็นแฟนกับกู" ไอ้อั๋นยิ้ม
"ถุย ใครจะอยากเป็นแฟนกับมึงวะ"
"แล้วที่กอดกูเมื่อกี้คือไร"
"เล่นด้วยมั้ยล่ะ"
มันหัวเราะเบาๆ
แล้วผมกับมันก้กลับไปแปลงานต่อจนเสร็จ คราวนี้ทำงานกันจริงๆ ไม่เล่นแล้วครับ แหะๆ
"เฮ้อ เสร็จซะที" อั๋นถอยหายใจแล้วเดินไปนั่งเอนหลังบนโซฟา
"กูงีบได้แล้วใช่ปะ"
"เออๆ ทำไมขี้เซาจังวะ55"
ผมตามไปนั่งบนโซฟา เอนหัวเอียงกับเบาะ กำลังจะปิดตา แต่อั๋นขยับเข้ามาใกล้แล้วดึงผมให้นอนลงมาบนตักมันแทน
"นอนยังงั้นมันเมื่อยนะ" มันพูด
ทำไมมันทำอย่างนี้กับผมนะ คำถามแรกที่แล่นเข้ามาในหัวผมตอนที่มันแตะตัวผมๆเบาแล้วดึงให้ลงมา แต่อีกคำถามก้ตามมาติดๆ ทำไมผมถึงรู้สึกดีวะ...
"มึง ทำไร" คำพูดหลุดออกจากปากผมไปแค่นั้น
"ก้ง่วงไม่ใช่เหรอ ตรงนี้ไม่มีหมอน กูเลยเอาหมอนมาให้"
"สัส"
พูดไปอย่างนั้นแต่ผมก้ไม่ได้ขัดขืนอะไร ผมนอนนิ่งๆ เงยหน้าขึ้นไปก้สบตากับอั๋น มันยิ้มตาหยีให้ผมเลย
"นอนดิ"
มันเอามือข้างหนึ่งมาลูบผมของผม มืออีกข้างก้แตะสีข้างผมเบาๆ...
คำถามที่สามแล่นเข้ามา แล้วทำไมผมมานอนให้มันทำยังงี้นะ
มีอีกหลายคำถามที่กำลังผุดขึ้นมาพร้อมๆกันในสมองผม แต่ผมก้เลิกคิดหาคำตอบครับ ตอนนี้ง่วงเกินกว่าจะทำอะไรแล้ว
แต่ถึงอย่างนั้น ผมก้ยังจำความรู้สึกสุดท้ายก่อนหลับไปได้อยู่ดี... ก้รู้สึกดีสุดๆที่อั๋นมันกล่อมผมไง

ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมาพร้อมขยับตัวอย่างเกียจคร้าน
"ตื่นแล้วเหรอ"
อั๋นถาม ก้มลงมายิ้มให้ผม
"นี่มึง ไม่ได้ลุกไปไหนเลยอ่อ"
"อือ นอนสบายเลยนะมึง"
"กี่โมงแล้วอะ..." ผมหาวเอาอ๊อกซิเจนเข้าไปเต็มที่
"จะ5โมงเย็นละ"
ผมค่อยๆลุกขึ้นมานั่ง เกาหัวแกรกๆ ในใจก้สงสัยว่าทำไมไอ้อั๋นมานั่งให้ผมนอนหนุนตักมันได้ตั้งเกือบสามชั่วโมง แต่ก้ไม่รู้ว่าจะถามยังไง เลยไม่ได้พูดอะไรออกไป ผมรู้สึกได้ว่ามันก้กำลังคิดเรื่องเดียวกันกับผมอยู่ครับ
"หมอ มึงจะกลับกี่โมงอะ"
"เดี๋ยวจะไปละ"
"รีบไปไหน อยู่กินข้าวเย็นก่อนดิ พ่อกับแม่น่าจะซื้ออะไรเข้ามากิน"
"ก็ได้"
"ไอ้ซอมบี้เอ๊ย"
มันขยับเข้ามาขยี้หัวผมเบาๆ
"หิวปะ จะกินไรก่อนมั้ย"
"หิวว่ะ" ผมยอมรับตรงๆ ตื่นมาก้ท้องร้องเลยครับ อาจเพราะกินข้าวไปมื้อเดียวด้วย
"เอาไรอะ มาม่า ขนม เอ็ม150?"
"เอ็ม150พ่อง ยังไม่ใช่ช่วงโดปโว้ย"
"555"
"กินไรก้ได้"
"งั้นกูไปเอามาให้" มันเดินไปเปิดตู้เย็นทันที ทำไมบริการผมดีจัง
อั๋นกลับมาพร้อมแก้วนมชมพู ขนมปังกับแยมครับ แล้วพวกเราก้เริ่มกินกัน
"อั๋น"
"หือ"
"วันจันทร์ไปแดกเหล้ากัน"
"เรียนมั้ยครับ- -"
"ไปตอนกลางคืนมั้ยอะครับ- -"
"555 เอาดิ แล้วนึกไงชวนเนี่ย เสี้ยนอ่อ"
"เออ อยากแดก ไม่ได้กินนานแล้ว"
"ได้ข่าวว่าสองอาทิตย์ก่อน"
"อ่าวเหรอ555 เอาเหอะน่า สนองneedกูหน่อย"
"คับๆ ว่าแต่น้องหมอติดสุรามันจะไม่ดีนะครับ"
"พูดยังกะมึงไม่แดกงั้นแหละ"
ผมชอบไปร้านเหล้าร้านหนึ่งแถวข้าวสารครับ พอดีเป็นร้านของพี่ชายไอ้เอก พวกผมเลยเข้าออกได้สบาย (น้องๆนักเรียนไม่ควรเอาอย่างนะครับ)
"เดี๋ยวกูชวนไอ้เอกก่อน ถ้ามันไม่ว่างก้แย่เลย" ผมพูด
"ถึงมันไม่ไป พี่มันก้ให้พวกเราเข้าอยู่ละ"
"เออเนอะ แต่ถามพวกมันด้วย"
"ถ้าไม่มีใครไป มึงก้แดกกะกู2คนนะ"
"เออสิวะ"
"แดกเสร็จแล้วนอนบ้านใครอะ"
"บ้านกูปะ เบื่อบ้านมึงแล้ว55" ความจริงคือวันนี้ผมมารบกวนบ้านอั๋นแล้ว เปลี่ยนที่บ้างครับ
"สาดด ได้ๆ กูจะได้บอกแม่ว่าขอไปนอนบ้านมึง"
ที่พวกผมต้องตัดสินใจไปนอนบ้านใครคนหนึ่งเนี่ย จะได้มีข้ออ้างบอกที่บ้านได้ว่าอยู่กับเพื่อน โดยจะบอกว่าทำงานกลุ่ม มีกิจกรรมที่โรงเรียนหรืออะไรก็ตาม ต้องกลับดึก ส่วนอีกคนก็บอกที่บ้านได้ว่าวันนี้ขอไปนอนบ้านเพื่อน555 (ย้ำอีกครั้งว่าไม่ควรทำตามหมออย่างยิ่ง)

เกือบทุ่มนึงพ่อกับแม่อั๋นก้กลับมาบ้านครับ ซื้อกับข้าวมาเต็มเลย
"หมอกินเยอะๆนะลูก จะได้ตัวเท่าๆอั๋นมัน" พ่อบอกระหว่างทานอาหาร
"นั่นสิ แม่ว่าน้องหมอน่าจะกินเพิ่มอีกหน่อย"
"คับผม"
"มันกินเก่งนะคับ แต่น้ำหนักไม่ขึ้นเลย เป็นซอมบี้ครับ55"
ไอ้อั๋น- -
"แล้ววันนี้ทำอะไรกันเหรอจ๊ะ ไม่ได้ออกไปข้างนอก"
"ทำการบ้านครับแม่ หมอมันไม่ยอมตื่นเลย ผมต้องไปปลุก" พ่อกับแม่หัวเราะ
"แหะๆ"
"แล้วคุณแม่เราสบายดีมั้ยจ๊ะ"
"สบายดีครับ" ผมตอบพร้อมยิ้มให้พ่อกับแม่อั๋น ส่วนอั๋นมันก้มองผมยิ้มๆครับ

หลังกินข้าวเย็นเสร็จไอ้อั๋นก้ขับมอเตอร์ไซด์มาส่งผมที่บ้าน
"คืนนี้ไม่ได้นอนกะกู ไม่ต้องร้องไห้นะ" มันจอดรถหน้าบ้าน
"ร้องดิ แต่ร้องไห้ดีใจนะ เมื่อคืนมึงกอดกู แถมยังเอาขามาก่ายกูอีก"
"555 เจอกันอีกทีวันจันทร์ เดี๋ยวกูมารับแต่เช้าเลย"
"เออๆ แล้วอย่าลืมเอาชุดนักเรียนมาอีกชุดด้วย มึงต้องมานอนบ้านกู"
"เออ คืนพรุ่งนี้มึงไลน์เตือนกูด้วยดิ"
"อ่าฮะ"
"หมอ"
"หืม"
"วันนี้ตอนที่มึงนอนอะ... มึงละเมอด้วย" อยู่ๆไอ้อั๋นก้อึกอัก
"ละเมอว่าไรวะ"
"ก้ เรียกชื่อกู"
"ห๊ะ เรียกชื่อมึงเนี่ยนะ"
"จริงนะเว้ย เรียกอั๋นๆๆอยู่งี้"
ผมไม่รู้ว่ามันพูดจริงหรือโกหก รู้แต่ว่าตอนนี้ผมรู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา ผมละเมอเรียกชื่อมันทำไมกันนะ
"เขินอะดิ" แล้วอั๋นก้ค่อยๆคลี่ยิ้มออกมา
"เขินไร ไม่ได้เขินซะหน่อย" เถียงแล้วผมก้หันไปมองทางอื่น มันหัวเราะร่าเลยครับ
"แต่กู... กูชอบนะ"
"..."
"กูชอบที่มึงมานอนตักกูอะ"
เหมือนประโยคเมื่อกี้ของไอ้อั๋นยังลอยค้างอยู่ในหัวผม มันบอกว่ามันชอบที่ผมไปนอนตักมัน มันบอกว่าชอบ
"คือ กูหมายถึง กูชอบดูเวลามึงหลับอะ มึงพลิกไปพลิกมา หน้าตาก้ตลกดี" อั๋นพูดรัวเร็ว แก้มมันเป็นสีแดงเรื่อ
"แล้วมึงมาสังเกตการนอนของกูทำไมเนี่ย เอ้อ กลับบ้านไปได้ละ" ผมเปลี่ยนเรื่อง
"เดี๋ยวๆ อีกเรื่องนึง"
"ว่า"
"เดี๋ยวกูถึงบ้านแล้วไลน์มาบอกนะ"
"ค้าบบบ" ผมลากเสียงยาวตอบ
อั๋นยื่นมือมาขยี้หัวผม
"ไปละนะซอมบี้"
"ซอมบี้หน้ามึงดิ- -"
"555 จุ๊บๆ"
มันกลับไปขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซด์ ทำท่าส่งจูบสุดแสนจะน่าถีบมาให้ผม ก่อนจะหัวเราะอีกครั้ง แล้วขับรถออกไป
ผมยืนมองจนรถมันลับสายตาไป และพบว่าตัวเองหยุดยิ้มไม่ได้

พอเข้ามาข้างในบ้านตัวเองแล้ว เจอแม่กำลังนั่งดูซิทคอมเรื่องโปรดของแกอยู่ครับ
"อ้าว กลับมาแล้วเหรอ กินไรมายัง"
"กินมาจากบ้านอั๋นแล้วแม่ แล้วพ่อไปไหนอะ"
"งานเลี้ยง"
"แล้วแม่ไม่ไปด้วยเหรอ"
"ไม่อะ แม่ขี้เกียจ"
"ติดละครก้บอก"
"เอ๊ะ ก้บอกว่าแม่ขี้เกียจไป"
"555"
ผมกวนแม่เล็กน้อยก่อนจะขอตัวขึ้นห้อง

ขึ้นไปนอนเล่นอยู่บนเตียง เปิดเพลงฟังได้ไม่นาน ไอ้อั๋นก้ไลน์มาหา
(กูถึงบ้านละนะ)
(อ่าฮะ)
(มึงทำไรอยู่)
(หลับ) ผมกวนตีนมัน
(หลับแล้วจะตอบไลน์ได้ไง หรือผีพิมพ์ หรือนี่ซอมบี้555)
(สัส)
มันส่งสติ๊กเกอร์เด็กผู้ชายที่ขำหนักมากมาให้ ผมก้ส่งสติ๊กเกอร์โคนี่โกรธกลับไปให้มัน

หนึ่งชั่วโมงต่อมา ผมกำลังดู Youtube อยู่ อั๋นก้ไลน์มาอีก
(หมอออออ)
(ไร)
(พรุ่งนี้อะ พ่อกูจะพาไปรู้จักลูกสาวเพื่อนเค้า)
ผมกระตุกตรงคำว่าพาไปรู้จักลูกสาวเพื่อน แต่ก้พิมพ์ตอบไปทันที
(ดูตัวอ่อวะ)
(ดูตัวก้เหี้ยละ ไม่เอา นี่มันสมัยไหนแล้วค้าบบ)
(อยู่ดีๆก้มีหญิงมาถึงที่เลยนะเว้ย)
(ไม่เอา กูรักเมียกูคนเดียว หมอจ๋าาา)
ผมหลุดยิ้มออกมานิดนึงโดยไม่รู้ตัว เห้ย ผมเป็นอะไร
(ไม่เอา กูไม่เป็นเมียมึง ไปหาคนอื่นน)
(กลับมาพ่อเตือนว่าพรุ่งนี้ต้องไปกับพ่อ กูเลยถามว่าไปทำอะไร เค้าบอกกินข้าว แล้วเพื่อนพ่อก้พาลูกสาวมาด้วย กูนี่ช็อค)
(จะช็อคทำไมวะ ก้เหมือนไปเดท แค่มีผู้ใหญ่ไปด้วย55)
(เดทหน้ามึงอะ กูยังไม่รู้จักผู้หญิงเลย)
(แล้วมึงรู้ได้ไงว่าหญิงเค้าอยากมา เค้าอาจจะโดนบังคับไปเหมือนมึงก้ได้)
(แต่ถ้าเค้าเจอกู เค้าต้องปิ๊งกูแน่ เพราะกูหล่อ อิอิ)
มีใครมั่นหน้าเท่าไอ้อั๋นมั้ยครับ- -
(ถุย หลงตัวเองนะสัส)
(ยังไงกูก้ไม่อยากไปอะ)
(มึงก้คิดซะว่าไปแดกข้าว ขำๆ ถ้ามึงไม่โอ ก้ไม่ต้องคุยต่อปะ ใช่ว่าเค้าจะบังคับให้มึงคบกันซะเมื่อไร) ผมแนะนำ
(เออ ก้จริง ว่าแต่หมอไม่หึงผัวใช่มั้ยครับ)
(หึงพ่อง)
(5555)

แล้วคืนนั้นผมกับมันก้คุยกันต่ออีกยาว แต่ผมก้เกิดรู้สึกแปลกๆขึ้นมาเกี่ยวกับเรื่องที่อั๋นเล่า จะเป็นยังไงนะ ถ้าเกิดที่บ้านอั๋นต้องการให้มันแต่งงานกับลูกสาวของเพื่อนสนิท
ผมสะบัดหัวแรงๆไล่ความคิดฟุ้งซ่านนี้ไป มันไม่ใช่เรื่องของผมสักหน่อย ผมสงสัยตัวเองว่าทำไมต้องมาคิดเรื่องนี้ด้วยนะ
แต่ส่วนหนึ่งในใจลึกๆของผมมันบอกว่ารู้สึกไม่สบายใจ
แปลก...

-จบตอน-

เอาล่ะสิ อั๋นต้องไปทำความรู้จักกับใครเนี่ย
หมอเราคิดมากเลย...
Comment ให้ writer หน่อยน้าา
หัวข้อ: Re: My Close Friend : ตอนที่6 (updated 27/4/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 27-04-2016 22:14:13
เพื่อนอั๋น เพื่อนหมอ ณ ตอนนี้ยังไม่มีอะไรคืบหน้า เหมือนเริ่มจะชอบๆกันสินะคะ?

เอาวะ เวลาพิสูจน์ใจ คู่นี้ต้องได้ลงเอยแน่นอนนนนนน!!!  o13

หัวข้อ: Re: My Close Friend : ตอนที่6 (updated 27/4/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 27-04-2016 23:12:28
ชอบ สนุก  :katai2-1:
เพื่อนรัก รักเพื่อน
รอนะ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Close Friend : ตอนที่6 (updated 27/4/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 28-04-2016 11:31:04
ต้องตัวกระตุ้นไหมครับ น้องสองคนยังไม่รู้ใจตัวเองกันเลย
หัวข้อ: Re: My Close Friend : ตอนที่7
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 28-04-2016 21:57:17
ตอนที่7

เมื่อคืนผมนอนไม่ค่อยหลับ คิดแต่เรื่องพ่ออั๋นจะพาอั๋นไปรู้จักกับลูกสาวเพื่อนเค้า...
เกิดคำถามมากมายเหมือนตอนที่อั๋นให้ผมนอนหนุนตัก แต่มีอยู่ข้อหนึ่งที่โดดเด่นขึ้นมาในความคิดของผม และผมก้นึกสงสัยเป็นที่สุดด้วย

ผมหึงอั๋นหรอ?

ไอ้หมอ มึงต้องบ้าไปแล้วแน่ๆที่คิดแบบนี้!
ผมจะไปหึงมันได้ไง มันเป็นเพื่อนผม ไม่ใช่แฟน อีกอย่างหนึ่ง ผมไม่ได้ชอบผู้ชายนะ!

แล้วถ้าผมไม่ได้หึงมัน งั้นผมรู้สึกยังไงกับมันกันแน่?
ก้รักมันน่ะสิ รักแบบเพื่อน อั๋นเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของผม เป็นธรรมดาที่ผมต้องเป็นห่วงมันอยู่แล้ว
เฮ้อ เลิกคิดดีกว่า...

วันต่อมาผมตื่นตอนเที่ยงครึ่ง นี่ผมนอนกินบ้านกินเมืองขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ผมยังไม่ยอมลุกจากเตียง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก้เห็นอั๋นไลน์มาเมื่อชั่วโมงก่อน
(กูกำลังไปว่ะ)
ถ้างั้นตอนนี้มันคงเจอเพื่อนพ่อกับลูกสาวเค้าแล้วแน่ๆ
(เออ เปนไงมั่งวะ)
ผมพิมพ์ตอบกลับไป
มันยังไม่อ่าน ผมเลยเลื่อนดูนั่นนี่ต่อไปสักพักแล้วจึงลุกไปอาบน้ำ

"กว่าจะตื่นได้นะ นี่พ่อคิดว่าตายไปแล้ว" ลงมาข้างล่างปุ๊บก้ได้ยินเสียงพ่อปั๊บ ดูทักกันสิครับ- -
"โหพ่อ ก้เมื่อคืนนอนดึกอะ แล้วนี่ทำไรอยู่คับเนี่ย" ผมเห็นพ่อกำลังนั่งจ้องipad
"ดูบอล คู่เมื่อคืนน่ะสิ"
"เอ้อ แล้วเมื่อคืนงานเลี้ยงสนุกมั้ยคับ"
"น่าเบื่อว่ะ มีแต่คนแก่ๆ แล้วก้เอาเรื่องลูกหลานมาคุยอวดกัน"
"พ่อพูดเหมือนพ่อไม่แก่เลยเนอะ"
"ไอ้นี่"
"5555 แล้วพ่อได้อวดผมให้คนอื่นฟังป่าว"
"อวดอะไรล่ะ อวดว่าลูกพ่อตื่นเที่ยง เรียนก้ไม่เอาไหนรึไง55"
"พ่ออออ ว่าแต่พ่อกินข้าวยัง"
"พ่อกินละ วันนี้แม่ทำทอดมันกุ้งด้วย"
"ว้าว" ของโปรดผมเลย
แล้วผมก้นั่งกินข้าวไปดูทีวีไป
"แม่ไปไหนอะ"
"ไปช็อปปิ้งกับน้ามล(เพื่อนแม่ครับ) ทำเป็นสาวๆไปได้"
"เดี๋ยวแม่กลับมาผมจะฟ้องแม่"
"อย่าเชียว"
"555"
แล้วอั๋นก้ตอบไลน์ผม
(พ่อกูนั่งคุยกับเพื่อนอยู่ที่ร้าน ละให้กูพาลูกสาวเพื่อนเค้ามาเดินเล่นเนี่ย)
พร้อมสติ๊กเกอร์แสดงความเบื่อ
(หญิงแจ่มปะวะ)
แล้วมันก้capture facebook wall ของผู้หญิงคนนั้นมาให้ผมดู ชื่อฝน น่ารักโคตรๆเลยครับ
(ก้ดีนะ)
(แจ่มเลยเหอะสาด)
(หรอ มึงว่าแจ่มหรอ)
(เออ)
ผมพิมพ์ตอบไปแบบนั้น แต่ไม่รู้ว่าทำไมอยู่ๆก้รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา
(หมอ)
(ว่า)
(ไม่หึงกูนะ)
(หึงเหี้ยไรครับ)
(5555 งั้นกูจีบดีกว่า)
(เชิญคับ จีบให้ดีล่ะ อย่าให้หลุดมาถึงกูนะ)
(ไม่หลุดกูไปหรอก ระดับนี้)
(กูจะรอดูหน้ามึงตอนจีบไม่ติด)
(สาด ดูถูกกูนะ)
ผมไม่ได้พิมพ์อะไรต่อ ไม่รู้ว่ามันพูดจริงหรือเล่นว่าจะจีบฝน ผมชักแปลกใจตัวเองขึ้นมาจริงๆแล้วว่าทำไมต้องเก็บเรื่องนี้มาคิดด้วย อั๋นจะจีบใครก้ได้ที่มันอยากจีบ ไม่เกี่ยวกับผมสักหน่อย
หมอ เราว่านายควรไปพบหมอซะแล้วล่ะ...

ตั้งแต่บ่ายจนตอนนี้3ทุ่ม ผมก้ยังไม่ได้ทำอะไร นอกจากนั่งเล่นเกมออนไลน์ครับ มีลุกไปกินข้าวเย็นกับเข้าห้องน้ำครั้งหนึ่ง โคตรไร้สาระเลยครับ- -
(มึงอยู่บ้านใช่ปะ) อั๋นไลน์มา
(อ่าฮะ ทำไมวะ)
(กูไปหานะหมอ)
(หืม มาไม)
(เออน่า เดี๋ยวไป)
อั๋นจะมาหาผมครับ มันจะมาทำไมนะ
ครึ่งชั่วโมงต่อมามันก้ขับรถมาจอดหน้าบ้าน ผมเดินออกไปรับ
"คิดถึงมึงจัง" เห็นหน้าผมปุ๊บก้กวนตีนเลย
"มาทำไมเนี่ย" ผมถาม
"อยากมา"
- -
ผมชวนมันเข้าไปในบ้านครับ
"พ่อแม่หวัดดีค้าบ" อั๋นยกมือไหว้พ่อกับแม่ผมเมื่อเดินเข้ามา
"หวัดดีลูก"
"หวัดดีอั๋น มาซะมืดเชียว นอนที่นี่เหรอจ๊ะ"
"ป่าวคับ แวะมาหาไอ้หมอมันแปบนึง" พูดจบก้ส่งยิ้มหวานให้พ่อกับแม่ ก่อนจะเดินตามผมขึ้นมาบนห้อง
มาถึงก้ล้มตัวลงบนเตียงผมเลยครับ- -
"เห้ย เกรงใจเจ้าของห้องหน่อยมั้ย"
"ห้องเมียกู กูจะทำยังไงก้ได้" อั๋นยักคิ้วข้างเดียวให้ผม
"ตกลงจีบติดไม่ติดครับ น้องฝนของมึงเนี่ย"
"กูไม่ได้จีบเถอะ"
"ไหนบอกว่าจีบ สวยขนาดนั้นมึงไม่สนเหรอ"
"พูดเล่นเว้ย ไม่อะ สวยก้ไม่ได้หมายความว่าต้องจีบนิ"
"แล้วฝนเค้าอะไรยังไงกับมึงมั้ย"
"ก้ชวนกูคุย แต่กูไม่ได้คุยไรเยอะ ขอไลน์กูไปด้วย"
"โห ทำไมมึงไม่คุยกับเค้าวะ แล้วนี่ให้ไลน์ไปปะ"
"ก้ต้องให้ไปอะ นี่เค้าไลน์มาหากูแล้วเนี่ย แต่กูไม่ตอบ"
ผมคิดแล้วว่าอีกฝ่ายต้องถูกใจไอ้อั๋นแน่นอน มันหล่อซะขนาดนี้
"ว่าแต่ถามกูเยอะงี้ หึงกูอะดิ" อั๋นยิ้มกรุ้มกริ่ม
"ก้เหี้ยแล้ว"
"จริงๆแล้วที่กูมาเนี่ย... จะบอกมึงว่ากูไม่ได้จีบฝน กูไม่ได้อยากคุยกับเค้า"
ผมเงียบไปอึดใจหนึ่ง ไม่รู้ว่าอั๋นคิดอะไรอยู่ ไม่รู้แม้กระทั่งว่าตัวผมเองคิดอะไรอยู่ด้วย
"ต้องมาอธิบายให้กูฟังเลยอ่อ"
"เออดิ"
"กูไม่ได้อยากรู้ซะหน่อย"
"ก้อยากบอก"
มันตอบแล้วจ้องหน้าผม ผมเห็นว่าดวงตาอั๋นเป็นประกาย ยืนยันถึงสิ่งที่ตัวเองพูด นั่นทำให้ผมรู้สึกเขินขึ้นมา
บ้าเอ๊ย ผมไปเขินมันทำไมเนี่ย
ผมไม่รู้ตัวเลยว่ารู้สึกดีใจกับสิ่งที่มันเล่า...
อั๋นเหมือนจะชอบใจที่เห็นผมหน้าแดง มันไม่ได้พูดอะไร แต่หน้างี้ยิ้มทะเล้นเชียว
เราสองคนนั่งมองหน้ากันสักพักนึง ในที่สุด อั๋นก้ทำลายความเงียบลง
"สรุปพรุ่งนี้แดกเหล้าเนอะ ใครไปมั่งเนี่ย"
"เออ มีกู มึง ไอ้เอก ไอ้ต้าร์ แฟนไอ้ต้าร์ ไอ้นนท์ แล้วก้เพื่อนไอ้นนท์อีกคนนึง"
"อ่อ จะได้เห็นแฟนไอ้เชี่ยต้าร์ด้วย กูอยากเจอตัวจริงละ"
"นั่นดิ เออ แล้วมึงอย่าลืมเอาชุดนักเรียนมานอนบ้านกูด้วยพรุ่งนี้"
"ค้าบ"
"เล่นเพลย์กะกูปะ" ผมชวนอั๋น
"เอาดิ"
ผมเดินไปปิดคอมแล้วหันไปต่อ play station กับทีวีแทน
"เตะบอลนะ"
"เอาๆ"
ผมชวนมันเล่นเกมฟุตบอลครับ เรานั่งลงข้างเตียง ระหว่างเล่นก้โวยวายใส่กันไปมา

"เชี่ยอั๋นนน" ผมร้องออกมาเมื่อแพ้มันไปนิดเดียว อย่างเซ็ง
"กากเอ๊ย55" ผมตบหัวมันไปที
"อีกตาดิ๊ กูขอแก้ตัว"
"จัดมาเลยหมอ ว่าแต่คราวนี้คนแพ้ต้องโดนลงโทษนะเว้ย"
"เออ ได้ กูจะชนะมึงให้ดู"
เกมถัดมา ผมแพ้อีกแล้ว- -
"5555 ชนะอีกแล้วว่ะ" อั๋นหัวเราะอย่างสะใจ
ผมหันไปชูนิ้วกลางให้มัน
"เลิกเล่นละ มึงกลับบ้านไปเลย"
"เห้ย ไรอะ แพ้ก้ยอมรับว่าแพ้ดิ น้องหมอไม่มีน้ำใจนักกีฬาเลย" อั๋นพูดเสียงยานคางกวนตีนผม
ผมเลยยกเท้าถีบมันไปที มันไม่ทันระวังเลยเซไปนิดนึงครับ
"เชี่ยหมอ ถีบกูอ่อ"
"สมน้ำหน้า ล้อเลียนกูดีนัก"
"มึงจะเอาใช่มั้ย ได้..."
แล้วมันก้พุ่งตัวเข้ามาหาผมอย่างรวดเร็ว รัดผมแน่นจนขยับตัวไม่ได้
"ปล่อยกู" ผมร้อง
"ไม่ปล่อย มึงลืมแล้วอ่อ คนแพ้ต้องโดนทำโทษนะ"
"ทำโทษไร กูจำไม่ได้โว้ย- -"
แล้วอั๋นก้ลากผมไปที่เตียงทั้งอย่างนั้น มันรวบแขนผมทั้งสองข้างด้วยมือข้างเดียว แล้วก้ขึ้นคร่อมทับตัวผมไว้
"ปล่อยนะเว้ยย"
อั๋นยิ้มอย่างอันตราย
"อยู่นิ่งๆดิหมอ มึงต้องโดนทำโทษ..."
อั๋นใช้มือข้างที่ว่างอยู่สอดเข้าไปในเสื้อแล้วลูบไล้ไปมาบนลำตัวผม วันนี้ผมใส่เสื้อยืดอยู่บ้านครับ ล้วงเข้าไปได้ง่ายมาก โอย สัมผัสมันทำให้ผมเสียวจนขนลุกซู่
"เชี่ยอั๋น ปล่อยนะ"
"เสียวใหญ่เลยนะ" มันพูดเสียงหื่น
ตอนนี้มือมันลูบอยู่ที่ยอดอกผมครับ ผมก้ได้แต่ดิ้นอย่างเดียวเลย
"ไอ้อั๋นโรคจิต"
แล้วมันก้ปล่อยผมจนได้ มันยิ้มอย่างน่าหมั่นไส้ พอผมลุกขึ้นยืนได้ก้ยกเท้าขึ้นจะถีบมัน แต่มันรีบวิ่งหนีผมลงไปข้างล่างแล้ว
ผมวิ่งตามลงมา ได้ยินเสียงแม่พูดกับอั๋น
"จะไปแล้วเหรอลูก ขับกลับดีๆนะ"
"ค้าบผม"
"ไอ้อั๋น อย่าหนีนะเว้ย" ผมตะโกนเรียก มันกำลังจะหนีกลับบ้าน ไม่นะ ขอผมถีบมันให้ได้ก่อน- -
อั๋นหัวเราะแล้วรีบสตาร์ทมอเตอร์ไซด์ในขณะที่ผมพึ่งวิ่งไปถึงหน้าบ้าน
"เล่นอะไรกันเนี่ย" แม่ผมหัวเราะ
"กลับแล้วนะหมอ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผัวมารับนะจ๊ะ" อั๋นพูดเบาๆให้ผมได้ยินคนเดียว ก่อนจะขับรถออกไปพร้อมรอยยิ้มกว้าง
"สาด ฝากไว้ก่อนนะมึง"
แกล้งกันได้นะไอ้อั๋น

-จบตอน-

โฮฮฮ writerดีใจมาก ในที่สุดก็มีคนมา comment แล้ว ดีใจมาก น้ำตาจะไหล ขอบคุณมากๆเลยนะ
ขออนุญาตตอบรวมๆเลยละกันนะครับ พูดง่ายๆสองคนนี้ยังไม่รู้ใจตัวเองนั่นแหละ โดยเฉพาะเจ้าหมอเนี่ย ยังไม่รู้อีกว่าตัวเองหึงอั๋นแค่ไหน55 แต่ว่าต่อจากนี้ยังมีเรื่องราวอีกเยอะที่จะเกิดขึ้นระหว่างหมอกับอั๋นครับ
ยังไงอ่านแล้วก้มา comment เพิ่มกันอีกเยอะๆนะ
ตอนต่อไป ต้องรอติดตาม!
ปล. อั๋นนี่โคตรหื่นเลย5555
หัวข้อ: Re: My Close Friend : ตอนที่7 (updated 28/4/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 28-04-2016 22:07:46
 :mew1:ชอบอะ เพื่อนรัก รักเพื่อน
หัวข้อ: Re: My Close Friend : ตอนที่7 (updated 28/4/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: panitanun ที่ 29-04-2016 00:50:20
ค่อยๆรักกันเบาๆ555555
หัวข้อ: Re: My Close Friend : ตอนที่7 (updated 28/4/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 29-04-2016 03:51:53
มาต่ออีกไวๆ เยอะๆ นะไร้ท ชอบ :katai2-1:
อั๋น หื่นจริงๆ  :o8:
รอ อั๋นหื่นอีก เอ๊ย.... รอไร้ทมาต่อนะ :L1: :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Close Friend : ตอนที่7 (updated 28/4/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: magic-moon ที่ 29-04-2016 07:21:21
ให้กำลังใจค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: My Close Friend : ตอนที่7 (updated 28/4/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 29-04-2016 07:48:20
ป๊าดดดดดด

นึกว่าอั๋นรู้ใจตัวเองแล้ว

เด็กอนุบาลสองคน สู้ๆนะ :D
หัวข้อ: Re: My Close Friend : ตอนที่7 (updated 28/4/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: Walitya ที่ 29-04-2016 08:21:28
เมื่อไหร่จะรู้ใจตัวเองน้ออ อิอิ
หัวข้อ: Re: My Close Friend : ตอนที่7 (updated 28/4/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 29-04-2016 08:22:12
โอย น่าร๊ากกก
หัวข้อ: Re: My Close Friend : ตอนที่7 (updated 28/4/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 29-04-2016 09:16:55
น่ารักทั้งคู่อะ แต่คงไม่มาม่า ก่อนจะรู้ตัวว่ารักกันหรอกนะ  :serius2:
หัวข้อ: Re: My Close Friend : ตอนที่8
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 30-04-2016 22:48:21
ตอนที่8

เช้าวันจันทร์มาถึง ผมก้ไปโรงเรียนโดยที่อั๋นขับมอเตอร์ไซด์มารับตามปกติ แต่วันนี้ผมง่วงมาก เมื่อคืนหลังจากอั๋นกลับบ้านไป ผมขึ้นมาเล่น dota ต่อถึงตี2กว่าๆครับ
"ไปอดนอนมาจากไหนวะ" อั๋นถามขึ้นเมื่อผมเอาหน้าซบหลังมันระหว่างขับไปโรงเรียน
"กูขอนอนแปบ" ผมตอบอย่างงัวเงียก่อนจะงีบไปกับหลังมันจริงๆ
"หลับบนมอเตอร์ไซด์ได้ด้วยเว้ย"

พอเราไปถึงห้องเรียน ก่อนเข้าคาบแรก แน่นอนว่าไอ้ต้าร์กำลังโดนเพื่อนอีกหลายคนสอบสวนเรื่องที่มันมีแฟนแต่ไม่ยอมบอกเพื่อน ผมรีบเข้าไปร่วมวงด้วยทันที
"ไหนๆ ไปจีบเค้าตอนไหนวะ ทำไมพวกกูไม่รู้"
"กูพึ่งเล่าไปเมื่อกี้นี้เลยคับไอ้หมอ" ไอ้ต้าร์ตอบ
"งั้นเดี๋ยวเล่าอีกรอบนะ กูกับหมอยังไม่ได้ฟัง" อั๋นพูดบ้าง
"เดี๋ยวคืนนี้มึงเจอแฟนกูก้ถามเค้าเองแล้วกันนะคับ กูขี้เกียจเล่าละ- -"
"แหม่ รีบพามาเปิดตัวเลยนะมึง เออ คืนนี้เพื่อนกูขอติดไปด้วยคนนึงนะเว้ย กูบอกไอ้หมอละ" ไอ้นนท์บอก
"เออๆ เอกบอกพี่มึงยังวะว่าเราจะไป" ผมถาม
"บอกแล้ว มันฝากบอกมึงด้วยหมอว่าอยากเห็นมึงเรื้อน ครั้งที่แล้วมันไม่เห็น"
"สัส"
แล้วทุกคนก้หัวเราะขึ้นมา ครั้งล่าสุดที่ไป ผมเมามาก ไม่ได้โดนพวกมันมอมนะครับ กินเองเนี่ยแหละ พอผมเมาแล้วเรื้อนใหญ่เลย จำได้รางๆว่าทำอะไรลงไปบ้าง อายชะมัด เลยกลายเป็นเรื่องให้เพื่อนๆล้อผมมาจนถึงตอนนี้

แล้วคาบสุดท้ายของวันก้มาถึง วิชาวิทยาศาสตร์กายภาพ วันนี้เรียนเรื่องระบบนิเวศครับ ท้ายคาบอาจารย์ให้นั่งจดเนื้อหาบนกระดานลงสมุด ตอนนี้ไอ้อั๋นที่ลอกเสร็จแล้วกำลังก่อกวนผมไม่ให้เขียนลงไปบนสมุดได้ เดี๋ยวมันก้จี้เอวผมมั่ง ปิดสมุดผมมั่ง ดึงปากกาไปจากมือมั่ง
"ไอ้อั๋น มึงอยากโดนตีนมะ- -"
"5555"
ผมกำลังจะหันไปจั๊กจี้มันบ้าง ก้พอดีอาจารย์หันมา เลยโดนเอ็ดว่าอย่าเล่นกันในห้องเรียนครับ
"มึงเลยหมอ" ไอ้อั๋นพูดเมื่ออาจารย์กลับไปนั่ง
"มึงอะแกล้งกูก่อน"
"อย่าจีบกันดิ" ไอ้นนท์หันมาแซวเราทันที

หลังจบคาบพวกผมก้ไปเดินเล่นสยามกันจนถึงทุ่มกว่าๆ เปลี่ยนจากชุดนักเรียนเป็นชุดพร้อมhangout แล้วจึงนั่งแทกซี่ไปที่ร้าน ร้านอยู่แถวข้าวสารครับ เนื่องจากคนเยอะ เราเลยแบ่งเป็น2คัน คันผมมีผม อั๋น ต้าร์กับเมย์ แฟนสาวคู่ข้าวใหม่ปลามันด้วยครับ มุ้งมิ้งงุ้งงิ้งกันซะจนผมตาร้อนเชียว
ถึงร้านก้ประมาณสองทุ่มเศษ ไอ้เอกนำเราไปยังที่นั่งที่พี่มันจองไว้ให้พวกผม มันถามเด็กเสิร์ฟ
"แล้วพี่โอล่ะครับ"
"เห็นบอกว่าเดี๋ยวจะเข้ามาช้าหน่อยน่ะครับ"
"ครับ เห้ยพวกมึง สั่งเลย..."

เหล้ามาผมก้ไม่รอช้า ชงแล้วยกขึ้นดื่มทันที แล้วการสนทนาในวงก้เริ่มต้นขึ้นเมื่อไอ้นนท์แนะนำเพื่อนมันให้ทุกคนรู้จัก
"นี่ชื่อเม้ง เพื่อนกู จากชื่อก้รู้แล้วนะว่าลูกครึ่งอะไร"
"เกาหลีใต้" ไอ้เอกตอบกวนตีน
"จีนโว้ยจีน" ไอ้นนท์
"เม้งคับ" เจ้าตัวพูดยิ้มๆ
"นี่ก้ไอ้เอก ไอ้ต้าร์ เมย์แฟนไอ้ต้าร์ ไอ้อั๋น ไอ้หมอเมียไอ้อั๋น" ไอ้นนท์แนะนำพวกเราบ้าง ไล่ชื่อตามที่นั่งเรียงกันอยู่ พอถึงผมมันบอกว่าเป็นเมียอั๋น เรียกเสียงหาได้จากทุกคน
"เมียพ่อง" ผมด่า และแน่นอนว่าไอ้บ้าอั๋นก้นั่งอมยิ้มอย่างเดียว ไม่ช่วยผมปฏิเสธใดๆ- -
"เออ แล้วเพื่อนต้าร์ไม่แนะนำแฟนให้พวกเรารู้จักบ้างหรอครับ" ไอ้นนท์หันไปเล่นงานไอ้ต้าร์บ้าง แล้วเมย์ก้เริ่มแนะนำตัวอีกคน แล้วหัวข้อสนทนาก้เข้าสู่เรื่องที่ต้าร์กับเมย์ตกลงเป็นแฟนกันครับ

นั่งคุยไปกรึ้บเหล้าไป ผมก้โยกตัวเบาๆไปกับเพลงหรือร้องคลอไปด้วย บรรยากาศกำลังดีสุดๆ พวกเรากวนตีนกันไปมา ไอ้อั๋นนี่ตัวนำแกล้งผมในวงเหล้าเลยครับ
ผมสังเกตเห็นว่าเม้งมองผมอยู่บ่อยๆ มันนั่งตรงข้ามผมพอดีเลยคับ แต่ก้ไม่ได้สนใจอะไร

พักใหญ่ ผมเริ่มมึนๆขึ้นมาแล้วสิครับ เริ่มนั่งตัวไม่ตรง แต่ยังรับรู้ว่าคนอื่นคุยอะไรกันได้อยู่นะ อั๋นหันมามองผม
"เมาแล้วดิมึง" อั๋นพูดยิ้มๆ
"ยัง แค่มึนๆ"
"หน้ามึงแดงใหญ่แล้ว" มันพูดพร้อมเอามือมาแตะแก้มผม
"เห้ย ไหวนะ มึงตัวร้อนมาก"
"ไหวน่า สบาย"
"เออๆ เดี๋ยวกูจะรอดู อย่าให้เห็นว่าไปปีนเวทีขอขึ้นไปร้องเพลงอีกนะ555"
"สาดด"
จากนั้นอั๋นก้หันมามองผมอยู่เรื่อยๆ ท่าจะเป็นห่วงอาการผม
"มึงไหวปะเนี่ยหมอ" สักพักอั๋นถามผมขึ้นอีก
"ไหวดิ ชิว"
แล้วหัวข้อสนทนาก้มาถึงเรื่องของผม
"...ไอ้หมอเหรอ มันยังโสด คนมาจีบมันเยอะจะตาย แต่แม่งไม่
เห็นเอาใครสักคน" เอกตอบคำถามเมย์ครับ
"วันๆอยู่แต่กับไอ้อั๋นเนี่ย กูว่าอีกไม่นานแม่งต้องได้กันเอง55" ไอ้นนท์จุดประเด็นขึ้นมาอีก ทุกคนส่งเสียงแซวกันยกใหญ่
ตอนนี้ไม่รู้ว่าโลกหมุนหรือหัวผมเองที่หมุนกันแน่ สมองผมกำลังประมวลผลสิ่งที่เพื่อนๆพูดกันอย่างเชื่องช้า เมื่อสักครู่มันบอกว่าผมจะได้กับไอ้อั๋นใช่มั้ยนะ
"พ่อมึงเหอะะ" ผมตอบเสียงยานคาง
"โอ้โห มึงพึ่งด่ากูเรอะ กูล้อมึงจบไปนานแล้ว สงสัยจะไปแล้วว่ะ"
"นั่นดิ ไอ้หมอเมาแล้ว"
เมา ใครเมา ผมเหรอ
"ไม่เมาโว้ย" ผมตะโกนเสียงดัง ในขณะที่ทุกคนยกเว้นอั๋นหัวเราะ พวกมึงหัวเราะอะไรกันวะ ผมคิดอย่างหงุดหงิด อั๋นจับแขนผมเบาๆแล้วพูดขึ้น
"เห้ย กูว่ามันแย่แล้วว่ะ อีกเดี๋ยวกลับกันเหอะ"
"แหม่ เป็นห่วงแฟนขนาดนั้น จะรีบไปไหนค้าบเพื่อนอั๋น นานๆได้ออกมากินเหล้ากันซะที อยู่ยาวๆไปดิ" ไอ้เอกพูดขึ้น
"ไม่ได้ๆ วันนี้กูจะไปนอนบ้านหมอ มันบอกที่บ้านไว้แล้วด้วย เดี๋ยวอีกแปบนึงต้องกลับแล้ว"
"โห่ ไรว้า"
"เซงเลย" ไอ้นนท์พูดขึ้นอีกคน
นอน?
"มึงจะไปนอนบ้านกูเหรออั๋น" ผมถามขึ้น
"เออดิ เราคุยกันแล้วไง"
"เหรอ อืม นอนก้นอน แต่กูนอนที่นี่ก่อนได้ปะ ปวดหัวมากเลย" ตาผมเริ่มพร่าขึ้นมาเล็กน้อย หัวก้ปวดจนเหมือนจะแยกออกเป็นสองซีก ผมเอนหัวตัวไปทางอั๋น จะฟุบลง แต่มันรีบเอามือมาประคองผมให้หัวผมซบไหล่มัน
"เห้ยๆ ขนาดเมายังสวีทกันได้นะสาด"
"สวีทก้แย่ มึงดูดิ หมอมันพูดไม่รู้เรื่องละเนี่ย" อั๋นบอกเสียงจริงจัง
"นี่กี่นิ้วหมอ" ต้าร์เรียกผมพร้อมชูนิ้วขึ้นสองนิ้ว
"สองนิ้วสู้ตายยยย" ผมตอบ แม้จะช้าไปหน่อย ทุกคนหัวเราะอีกแล้ว
"แล้วของมึงอะกี่นิ้ว" ไอ้นนท์ถามบ้าง
มันถามผมว่าอะไรนะ อ้อ หมายถึงลูกชายผมใช่มั้ย
"เก้านิ้ว เรียกกูว่าหมอเก้านิ้ววว" ผมตอบอย่างคึกคะนอง เรียกเสียงฮาครืน คราวนี้โต๊ะข้างๆเริ่มหันมามองด้วยครับ
"ปวดฉี่ว่ะ กูขอฉี่นะ" พูดจบผมก้รูดซิปกางเกงยีนส์ลงก่อนจะ...
"เห้ย มึงฉี่ตรงนี้ไม่ได้นะ" ใครสักคนร้องขึ้นมา แล้วอั๋นก้มาจับมือผม
"เดี๋ยวกูพามึงไปห้องน้ำเอง"
"ทำไมอะ ฉี่ตรงนี้ไม่ได้หรอ"
"ไม่ได้"
"เดี๋ยวเราพาหมอไปเอง เรากำลังจะไปห้องน้ำพอดี" ผมหันไปก้เห็นว่าเม้งเป็นคนพูดขึ้น
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราพาไป" อั๋นบอก ดึงแขนผมให้ลุกขึ้น
"ไม่ต้องเป็นห่วงน่า อั๋นนั่งกินต่อเถอะ เดี๋ยวเราดูแลหมอให้"
"ไอ้เม้งมันดูแลคนเมามาเยอะ ให้มันพาไอ้หมอไปนั่นแหละ" นนท์พูด ส่วนอั๋นชะงักนิดหนึ่งแล้วตอบ
"ก้ได้"
เม้งเดินมาหาแล้วยกแขนผมข้างหนึ่งขึ้นพาดบ่า ก่อนพยุงผมเดินไป อั๋นมองตามหลังเรามา
"มึงจะพากูไปไหน"
"ห้องน้ำไง"
"ห้องน้ำ กูขอฉี่ที่โต๊ะไม่ได้เหรอ"
"ไม่ได้ๆ ต้องไปห้องน้ำ"
ในที่สุดเม้งพาผมมาถึง เกือบไม่ทันแน่ะครับ พอผมฉี่เสร็จ เม้งก้ขอยืมโทรศัพท์ผมครับ
"เออ เราขอยืมโทรศัพท์หมอหน่อยดิ"
"โทรศัพท์หรอ เออ เอาดิ" ผมล้วงมือถือออกจากกระเป๋ากางเกงแล้วส่งให้มัน
เม้งรับไปแล้วก้เอาไปพิมพ์อะไรไม่รู้ครับ ผมมองหน้ามัน เห็นมันยิ้มมุมปาก เออ มันเอาโทรศัพท์ผมไปทำไรน่ะ
"อะ ขอบใจนะ"
ผมพยักหน้าตอบ มองหน้ามันอย่างสงสัยอีกครั้ง
"กลับไปที่โต๊ะกันเถอะ"
แล้วมันก้จูงมือผม แต่ไปถึงหน้าห้องน้ำก้มีผู้ชายสี่คนมาขวางประตูไว้
"นี่ไง ไอ้เด็กนี่มันอยู่ในห้องน้ำ" ใครคนหนึ่งพูดขึ้น
"เห้ย นี่แฟนมันเหรอวะ"
"ไม่น่าใช่นะ"
"อะไรกันครับพี่ เห้ย..." เม้งร้อง แล้วผู้ชายสองคนก้ตรงเข้ามาล็อคไอ้เม้ง ส่วนอีกคนหนึ่งมาล็อคผม รัดแขนผมไว้ข้างหลังแน่นเลย
"เห้ย จะทำไรวะ" ผมได้ยินเสียงเม้งร้องขึ้นอีก และเห็นมันโดนต่อยท้องทีหนึ่งครับ
"กูเห็นไอ้เด็กนี่แล้วอยากได้ว่ะ มึงดูดิ" แล้วผู้ชายตัวโตคนที่ยืน
ว่างอยู่ก้เดินตรงเข้ามาหาผม มันพูดกับผมเหรอ
"ว่าไงนะ มึงอยากได้กูเหรอ กูเป็นผู้ชายโว้ย มึงบ้าป่าว" ผมตะโกนใส่หน้า
"หรอ เดี๋ยวกูเนี่ยแหละจะยัดเยียดความเป็นผัวให้มึง" ผู้ชายคนนั้นพูดอย่างหื่นกระหายแล้วก้จับเป้าผม ปากก้ซุกไซร้ลงมาบนคอผมทันที
"เห้ย ปล่อยเพื่อนกูนะเว้ย" เม้งพยายามสะบัดตัวให้หลุด
ผมรู้แล้วว่ากำลังจะถูกข่มขืน แต่ไม่มีเรี่ยวแรงจะขยับตัวเลยครับ หัวปวดร้าวขึ้นมาอีก แขนสองข้างก้โดนผู้ชายอีกคนล็อคไว้
"ปล่อยกูนะโว้ย" ผมร้องเสียงดัง

-จบตอน-

มาต่อแล้วค้าบ ขอบคุณทุกๆcommentเลย writerดีใจมากที่มีคนมาmentกันเยอะขึ้น ยอดอ่านก้เพิ่มขึ้นๆ เห็นแล้วปลื้มปริ่ม สำหรับนักเขียนมือใหม่ที่พึ่งเขียนเรื่องแรกอย่างเรา โอเคมากๆเลย
ปล.ตอนนี้หมอเรากำลังแย่แล้วล่ะ จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปเนี่ย??
ติดตามตอนต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: My Close Friend : ตอนที่8 (updated 30/4/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 30-04-2016 23:07:15
 :katai1:
หัวข้อ: Re: My Close Friend : ตอนที่8 (updated 30/4/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 30-04-2016 23:10:52
 :o8:

อุ๊ยตาย หนูเม้งทำอะไรกับมือถือ??

ปอลอ อั๋นน่าจะพาเพื่อนมารุมยำทีนนะ พวกนี้ต้องใช้กำลัง ไม่งั้นไม่หายซ่าส์

ปอลอ งดหมอเที่ยวกลางคืน 4 เดือน
หัวข้อ: Re: My Close Friend : ตอนที่8 (updated 30/4/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 30-04-2016 23:25:45
โอมมมม..ดราม่าจงมา
หุหุ

+1 เป็นกำลังใจให้คนแต่ง
 o13
หัวข้อ: Re: My Close Friend : ตอนที่9
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 02-05-2016 20:47:59
ตอนที่9 (อั๋น)

ผม นนท์ เอกออกมาตามหมอกับเม้งที่ห้องน้ำ เมื่อมาถึง ภาพที่เห็นก้ทำเอาผมโมโหจนเลือดขึ้นหน้า หมอกำลังโดนผู้ชายคนหนึ่งลวนลามและมีอีกคนล็อคแขนทั้งสองข้างไว้อยู่ สภาพหมอไม่มีแรงจะขัดขืนด้วยซ้ำ
ไม่ต้องคิดอะไรอีกแล้วครับ ผมปรี่เข้าไปกระชากไอ้สารเลวคนนั้นออกมาจากตัวหมอ แล้วซัดหมัดเข้าไปที่หน้ามันทันที มันล้มคะมำไป
ส่วนไอ้นนท์ก้กระโดดถีบคนที่จับแขนไอ้เม้งอยู่ ก่อนเข้าไปกระทืบซ้ำหลังจากที่อีกฝ่ายล้มไปแล้ว
ผู้ชายอีกคนที่จับไอ้เม้งก้ไม่ทันระวังตัว โดนไอ้เอกต่อยหน้าติดกันหลายๆที พอไอ้เม้งเป็นอิสระ มันก้หันไปซ้ำไอ้คนที่ลวนลามหมอ

"ปล่อยเพื่อนกูนะเว้ย" ผมขู่คนที่ล็อคแขนหมอไว้
ตอนนี้จำนวนคนเราเท่ากันแล้วครับ และอีกฝั่งก้กำลังเสียเปรียบอยู่ มันชั่งใจสักพักแล้วรีบปล่อยตัวหมอก่อนจะวิ่งออกจากห้องน้ำไป ผมรีบเข้าไปประคองตัวหมอไว้ทันที
"หมอ มึงไม่เป็นไรนะ" ผมถาม มันพยักหน้าเบาๆตอบผม ตัวมันกำลังจะทรุดลงบนพื้น ผมเลยรั้งแขนมันขึ้นแล้วกอดไว้ เมื่อสักครู่หัวใจผมเหมือนจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆตอนที่เห็นว่ามันโดนอะไร ผมโกรธจัด นึกอยากจะฆ่าไอ้พวกนั้นให้ตาย

ตอนนี้คนที่สู้กับไอ้เอกก้รีบวิ่งหนีตามไปอีกคน เหลือ2คนที่โดนเล่นงานอยู่ครับ พี่โอ เจ้าของร้านซึ่งเป็นพี่ชายไอ้เอกกับลูกน้องอีก2คนพึ่งวิ่งกระหืดกระหอบตามเข้ามาในห้องน้ำ
"เห้ย" พี่โอร้อง
"แจ้งตำรวจจับพวกมันเลยพี่" ไอ้เอกบอก
"ไม่ได้ๆ แจ้งตำรวจแล้วเราจะซวยกันหมด อย่าลืมสิ พวกมึงเป็นนักเรียน ยังเข้าร้านเหล้าไม่ได้" พี่โอพูดอย่างมีเหตุผล
"เออว่ะ"
ในที่สุดเราจำต้องยอมปล่อยไอ้สองคนที่เหลือไป แต่ก่อนจะปล่อยไป พี่โอให้พวกลูกน้องจัดการพวกนั้นต่ออีกนิดหน่อย
"เห้ย กูไม่คิดว่าไอ้หมอมันจะซวยขนาดนี้เลยว่ะ น่าสงสารมันชิบหาย" พี่โอพูดขึ้น มองสภาพหมอที่อยู่ในอ้อมแขนผม ตอนนี้มันเหมือนใกล้จะสลบเต็มที
"กูว่ามึงรีบพามันกลับบ้านเหอะ พวกเราแยกย้ายกัน" ไอ้นนท์บอก
"เออๆ...หมอ" ผมเรียกมันเบาๆ ค่อยๆพามันเดินออกจากร้าน ไอ้ต้าร์กับเมย์วิ่งตามมาครับ
"เห้ย เกิดอะไรขึ้นวะ" ต้าร์ถาม
"ไอ้หมอมันโดนลวนลามในห้องน้ำ ดีนะรีบไปช่วยทัน" ไอ้เอกตอบ

พวกเราเดินมาถึงหน้าร้าน ผมรีบโบกแทกซี่คันแรกที่วิ่งผ่านถนนทันที
"พวกมึงไม่ต้องเป็นห่วงหมอนะ เดี๋ยวกูดูแลมันเอง" ผมบอกเพื่อนๆก่อนจะพยุงร่างหมอขึ้นแทกซี่ แล้วขึ้นตามไป
"เออ ฝากดูมันด้วยล่ะ" ไอ้ต้าร์พูด
"แล้วไอ้พวกนั้น กูจะหาทางจัดการมันให้ได้ มึงไม่ต้องเป็นห่วง" พี่โอบอก คนอื่นๆพยักหน้า
"ขอบคุณคับพี่ แล้วก้ขอบคุณพวกมึงมาก ไม่งั้นกูไม่อยากคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น" คำหลังผมหันไปบอกเพื่อนๆผมทุกคน
"เห้ย เราเป็นเพื่อนกันนะเว้ย กูต้องช่วยดิ" ไอ้นนท์ตอบ ทุกคนเริ่มยิ้มออกมาได้ แม้ว่าจะยังมองมาที่ไอ้หมออย่างกังวล
"งั้นกูกลับก่อนนะ" ผมบอกลาเพื่อนๆ ทุกคนพยักหน้ารับ

"เดี๋ยวมึงไปนอนบ้านกูนะ มึงกลับบ้านสภาพนี้ไม่ได้หรอก มึงคุยกับที่บ้านมึงไหวมั้ย หรือให้กูโทรบอกให้" ถามหมอเสร็จ ผมก้หันไปบอกทางไปบ้านผมกับพี่คนขับ
"กูคุยเอง เดี๋ยวแม่กูสงสัย" หมอที่เริ่มจะสร่างเมาแล้วตอบช้าๆ แต่ตัวมันยังแดงก่ำเพราะเหล้าอยู่เลย ท่าทางอิดโรย ผมไม่รู้เลยว่าข้างในมันจะรู้สึกอย่างไรกับเรื่องที่พึ่งเจอมาเมื่อกี้ ความโกรธไอ้พวกนั้นค่อยๆระเหยไป เหลือแต่ความเป็นห่วงหมอครับ
"รออีกแปบค่อยโทรละกัน ตอนนี้ดูออกว่ามึงเมาอยู่"
หมอพยักหน้าตอบ ผมเห็นมันเอนหัวลงกับเบาะรถ เลยโอบมันมาซบที่ไหล่ผมแทน
"กูขอโทษ กูไม่น่าเมาขนาดนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย โง่สัส" หมอพูดขึ้น
"อย่าโทษตัวเองดิ มันไม่ใช่ความผิดมึงซะหน่อย" ผมตบบ่ามันเบาๆ

"ตอนนี้มึงโอเคขึ้นยัง" สักพักผมถามขึ้น
"ดีขึ้นละ กูไม่ได้โดนอะไรมาก มันพึ่งเริ่มพวกมึงก้ มาช่วยกูไว้พอดี แต่กูแม่ง เชี่ยเอ๊ย..."
ผมสงสารหมอมากครับ มันกำลังโทษตัวเอง
"ไม่เป็นไรนะ มันผ่านไปแล้ว" ผมปลอบ
"กู...ขอบคุณมึงมากนะ ถ้ามึงไม่มาช่วยกูคงแย่แน่"
หมอพูดเสียงเบา เงยหัวขึ้นมาสบตาผม ผมไม่ได้ตอบอะไร แต่ยิ้มให้มัน ไม่นานนักเราก้มาถึงบ้าน

ตอนนี้ห้าทุ่มกว่าแล้ว ผมค่อยๆพยุงหมอเดินเข้าบ้าน มันดีขึ้นนิดนึงแล้วครับ
โชคดีมากที่พ่อกับแม่ผมขึ้นนอนแล้ว เจอก้แต่เจ๊เอ๋นั่งดูทีวีอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น
"ไหนบอกว่าไปนอนบ้านหมอไง เห้ย น้องหมอทำไมตัวแดงขนาดนั้น"
"ชู่วว อย่าเสียงดังดิ ไปกินเหล้ามา คืนนี้ไอ้หมอนอนกับอั๋นนะ"
"เออๆ งั้นรีบขึ้นห้องไปเร็ว"
ผมรีบพาหมอเข้าห้องอย่างรวดเร็ว กลัวว่าพ่อกับแม่จะเจอครับ เข้าไปแล้วหมอก้นั่งลงบนเตียง ผมออกไปหยิบผ้าขนหนูกับถาดน้ำเล็กๆแล้วเดินกลับมาในห้อง
"เดี๋ยวกูเช็ดตัวให้ ถอดเสื้อดิ" ผมบอกก่อนจะขยับไปนั่งบนเตียงกับมัน มันถอดเสื้อเชิ้ตออก
ผมเอาผ้าขนหนูชุบน้ำ เริ่มเช็ดที่ใบหน้าไล่ลงไปถึงลำตัว ระหว่างนั้น หมอไม่พูดอะไรสักคำ ผมรู้สึกไม่ดีเลยที่เห็นมันเป็นแบบนี้
"ยังรู้สึกแย่อยู่เหรอ"
"อืม"
"มึงอย่าคิดมากนะ"
"กูไม่ได้คิดถึงไอ้พวกนั้น กูแค่เซงที่กูทำเหี้ยไรไม่ได้เลย"
"นั่นแหละ มันไม่ใช่ความผิดของมึงนะหมอ ตอนนั้นมึงเมาอยู่ มึงทำอะไรไม่ได้"
"เฮ้อ ช่างแม่ง กูขี้เกียจคิดละ...แต่ขอบคุณมึงอีกทีนะ"
"เออ"
มันยิ้มเพลียๆให้ผม แค่เห็นมันยิ้มออกมา ผมก้ใจชื้นแล้วครับ
อยู่ๆผมก้รู้สึกเขินไอ้หมอขึ้นมาระหว่างที่เช็ดตัวให้ ผมเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมองร่างกายคนตรงหน้าหมอร่างบาง มีกล้ามน้อยๆ ผิวขาวสะอาด ตัวมันน่าสัมผัสมากๆเลยครับ หมอมองผมอย่างสงสัย
"...กูไปอาบน้ำก่อนนะ มึงอย่าลืมโทรบอกที่บ้านด้วย ถ้าง่วงแล้วก้เปลี่ยนเสื้อผ้านอนก่อนได้เลย" ผมบอกเมื่อเช็ดตัวให้เสร็จ หมอพยักหน้ารับก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

ผมอดคิดไม่ได้เลยว่าทำไมผมถึงรู้สึกเป็นห่วงมันมากขนาดนี้?
เพราะมันคือคนที่ผมสนิทที่สุด ตัวติดกันตลอด ใช่ แต่มันมีอะไรมากกว่านั้นที่ทำให้ผมรู้สึกกับหมอมากๆ
สิ่งที่ผมรู้สึกอยู่ตอนนี้เค้าเรียกว่าอะไรนะ...

ผมกลับเข้าห้องไปอีกครั้งมันยังไม่หลับครับ แต่นอนนิ่งๆมองเพดานอยู่ มันหันมาสบตากับผม
"อั๋น"
"หือ"
"กูนอนไม่หลับอะ"
"ก้ยังไม่ต้องนอนดิ"
"กวนตีนปะ- -" เมื่อกี้คือผมพูดจริงๆนะครับ ไม่ได้กวนตีน กะจะชวนมันทำอะไรสักอย่างที่ช่วยผ่อนคลาย ผมสังเกตเห็นหน้าแบบที่มันชอบทำ หมอเริ่มอารมณ์ดีขึ้นแล้วครับ
"เห้ย ไม่ได้กวนนะเว้ย กูพูดจริงๆ มึงอยากทำอะไรล่ะ"
"ไม่รู้ว่ะ"
ผมแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก้ลงไปนั่งบนเตียงข้างมัน ลูบผมมันเบาๆ
"งั้นก้นอนเล่นไปก่อน"
แล้วความเงียบก้ครอบงำเรา หมอยังคงนอนมองเพดานอยู่อย่างนั้น ส่วนผมก้ยังคงลูบผมมันเล่น ผมสงสัยว่ามันกำลังคิดเรื่องอะไรอยู่

"อั๋น กูถามไรอย่างดิ" หมอพูดขึ้น
"อืม"
"ทำไมมึงถึงดีกับกูขนาดนี้วะ"
ผมเงียบไป ตกใจนิดหนึ่งกับสิ่งที่มันถาม มันกำลังนอนคิดเรื่องผมอยู่งั้นเหรอ
"เออ ก้มึงเป็นเมียกูนิ" ผมตอบกวนตีนซะเลย
"สัส เอาดีๆดิ"
นั่นสิ น่าแปลกที่คำถามของหมอก้คือสิ่งที่ผมพึ่งถามตัวเองอยู่เมื่อครู่ แล้วก้ยังหาคำตอบไม่ได้ด้วย
"ยังอยู่มั้ยวะ" มันเขย่าแขนผมเบาๆ
"กู...ไม่รู้ดิ" ผมตอบแล้วหันไปมองหน้ามัน
หมอไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่ก้จ้องหน้าผมกลับเหมือนต้องการคาดคั้นคำตอบ
"เพราะมึงเป็นเพื่อนสนิทกูไง" ในที่สุดผมก้ตอบไปแบบง่ายๆ
"มั้ง" มันตอบ
"...เออ มึงต้องกินน้ำเยอะๆนะ กลับมายังไม่ได้กินน้ำเลย" ผมนึกขึ้นได้ก่อนจะเดินไปหยิบน้ำเปล่ามาให้หมอ
"เห้ย เดี๋ยวกูเดินไปเอาเองก้ได้" ไม่ทันแล้วครับ ผมเทน้ำใส่แก้วมาเสิร์ฟให้มันถึงที่ มันขยับตัวลุกขึ้นมานั่งแล้วกินน้ำ

"กูว่าเรานอนกันเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องไปเรียนอีก"
ผมบอกเมื่อเห็นว่าดึกมากแล้ว หมอแทรกตัวกลับเข้าไปในผ้าห่ม ผมเดินไปปิดไฟก่อนจะตามมา

เช้าวันรุ่งขึ้น ผมตื่นตอนเจ็ดโมงกว่า สายแล้วครับ หมอนอนหันหลังให้ผม กำลังขดตัวอยู่ในผ้าห่ม ผมเดินอ้อมเตียงไปกะจะปลุกมันครับ
"หมอ เห้ย" ผมแตะตัวมัน ร้อนจี๋เลยครับ
"อือ..." มันคราง
"มึงไข้ขึ้นว่ะ"
ผมเอามือแตะหน้าผากมัน ร้อนจี๋เหมือนกันครับ
"ไหวมั้ยหมอ"
มันพยักหน้า แต่ดูท่าแล้วไปเรียนไม่ไหวแน่ครับ
"กูว่าวันนี้มึงหยุดเรียนเถอะ ยังงี้ไปไม่ไหวหรอก เดี๋ยวกูมานะ..."
ผมลงไปข้างล่าง พ่อกับแม่ออกไปทำงานแล้ว เจ๊เอ๋ก้ออกไปเรียนแล้ว กะจะบอกว่าหมอไม่สบาย และผมตัดสินใจว่าจะอยู่ดูแลมัน

-จบตอน-

โอ้เย ในที่สุดอั๋นก้มาช่วยทัน ดีจริงๆ แต่ว่าหมอป่วยซะแล้วสิ
ยังไงก้ตาม สองคนนี้เริ่มผูกพันกันไปอีกขั้นแล้วเนอะ
นอกจากเอาตอนใหม่มาลงแล้ว writerคิดว่าอยากให้ My close friend มีชื่อนิยายเป็นภาษาไทยด้วย ตอนเริ่มแต่งเราคิดว่า my close friend นี่แหละ ตรงที่สุดแล้ว ตอนนี้อยากได้ชื่อไทยด้วยแต่เราคิดคำได้ไม่เฟี้ยวเท่าไร55 ยังไงคุณผู้อ่าน อ่านแล้ว commentแล้ว ฝากช่วยคิดชื่อเรื่องไทยหน่อยนะ อิอิ
ติดตามตอนต่อไปกันด้วยนะ
หัวข้อ: Re: My Close Friend : ตอนที่9 (updated 2/5/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 02-05-2016 22:08:21
โชคดีไปที่ อั๋นช่วยทัน
หัวข้อ: Re: My Close Friend : ตอนที่9 (updated 2/5/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 03-05-2016 12:29:19
เริ่มรู้ตัวกันแล้วชิมิ๊คะ ทั้งอั๋น ทั้งหมอ  :o8:

*** ชื่อเรื่อง...ไม่มีหัวเลยจร้า เอาใจช่วยนักเขียนนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: My Close Friend : ตอนที่9 (updated 2/5/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 03-05-2016 14:37:55
เฮ้ออออออ

รอด

เม้งเหมาะเป็นเคะนะ อย่าไปกดใครเขาเลยหนู อิอิ

ปอลอ ณ บัดนาวยังไม่มีใครรู้ใจตัวเอง ........อีกละ ปั้ดธ่อวววววววววววว  :ling1:
หัวข้อ: Re: My Close Friend : ตอนที่10
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 04-05-2016 17:52:33
ตอนที่10

ผมตื่นขึ้นมาก้รู้สึกปวดหัวมาก ไข้ขึ้นเลย
เมื่อวานเมาแล้วเกือบโดนข่มขืน วันนี้ก้มาป่วยอีก เฮ้อ โคตรซวยครับ
"เดี๋ยวกูอยู่กับมึงนะ" ไม่นานอั๋นก้กลับเข้ามาในห้อง
"เห้ย มึงไปเรียนดิ ไม่ต้องอยู่หรอก" ผมรีบบอก
"ไม่ได้ๆ กูต้องดูแลมึง ถ้ามึงเป็นไรขึ้นมาจะทำไง"
"..."
"แล้วนี่ปวดหัวมากมั้ย จะไปโรงพยาบาลรึป่าว" หมอเดินเข้ามาแตะหน้าผากผมอีก
"ก้ปวด แต่ไม่ต้องไปโรงพยาบาลหรอก นอนพักเดี๋ยวก้หาย"
"เออๆ" มันหน้าเครียดเชียวครับ คำถามที่ผมถามมันไปเมื่อวานยังดังก้องอยู่ในหัวผม ทำไมอั๋นดีกับผมจังนะ
"เดี๋ยวกูลงไปหาอะไรให้มึงกินดีกว่า กินเสร็จแล้วจะได้กินยา" มันตั้งท่าจะเดินออกไป
"อั๋น อย่าพึ่งไป"
"ทำไมวะ"
"อยู่กับกูก่อนดิ" ไม่รู้ทำไม แต่ตอนนี้ผมไม่อยากอยู่คนเดียวเลย
มันเดินกลับมานั่งบนเตียง
"แล้วไม่หิวเหรอ"
"ยังอะ"
"ก้ได้ ป่วยแล้วขี้อ้อนนะมึงอะ" อั๋นยิ้มน้อยๆแล้วขยี้หัวผมเบาๆ
"อย่าแกล้งกูดิ กูป่วยอยู่นะคับ- -"
"ค้าบบบ"
หลังจากนั้นมันก้นั่งอยู่ข้างผม ยื่นมือมาจับไหล่ผมแล้วลูบเบาๆคล้ายกำลังปลอบประโลมอยู่ มันนี่ก้อ่อนโยนเหมือนกันนะ ผมคิด
ผมรู้ว่าสัมผัสจากอั๋นทำให้ผมรู้สึกดีมากแค่ไหน แล้วก้รู้สึกปลอดภัยด้วย แต่ผมไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าทำไมถึงรู้สึกแบบนั้น

หมอ หรือว่ามึงกำลังรู้สึกกับอั๋นเกินเพื่อน...

เสียงหนึ่งดังขึ้นในหัวผม
เห้ย มันจะเป็นไปได้ยังไง ผมเป็นผู้ชาย มันก้เป็นผู้ชาย เราแค่เป็นเพื่อนที่สนิทกันมากก้เท่านั้นเอง

ถ้ากลับกัน อั๋นถูกทำร้าย ผมก้ต้องเข้าไปช่วยมันแน่นอน หรือถ้าอั๋นนอนป่วยอยู่ ผมก้ต้องอยู่ดูแลมันแบบที่มันกำลังทำกับผมอย่างนี้

แล้วที่อั๋นชอบแกล้งผม สัมผัสตัวผม นอนตักกัน หรือแม้กระทั่งเคยนอนกอดผมล่ะ มันหมายความว่ายังไง...

เพื่อนผู้ชายก้เล่นถึงเนื้อถึงตัวกันแบบนี้ทั้งนั้นแหละ ถ้าโดนตัวกันไม่ได้จะเป็นเพื่อนกันได้ไง

แต่เมื่อทบทวนความรู้สึกตัวเองดีๆ ผมปฏิเสธไม่ได้ว่าชอบสิ่งที่อั๋นทำกับผม

ปวดหัวชิบหาย...ไอ้หมอ หยุดคิดเพ้อเจ้อได้แล้ว

อาการผมตอนนี้คือปวดหัว อยากลุกแต่ลุกไม่ไหวครับ รู้สึกหนาวๆร้อนๆสลับกัน เซง
"เป็นไรวะ" อั๋นถามขึ้น มันยังคงลูบไหล่ผมเบาๆอยู่
"เปล่า"
ผมเอื้อมมือไปวางบนตักอั๋น มันไม่ได้ทำอะไร ได้แต่ยิ้มให้ผม
ไม่คิดอะไรให้ปวดหัวอีกแล้วครับ ตอนนี้รู้สึกดีสุดๆที่มันอยู่กับผมแบบนี้

สักพักอั๋นบอกว่าถึงเวลาที่ผมต้องกินข้าว แล้วมันก้ลงไปข้างล่าง ผมได้ยินเสียงประตู แสดงว่ามันออกไปซื้อของข้างนอกครับ...
"กลับมาแล้วจ้า" อั๋นส่งเสียงเมื่อกลับมา มือถือถาดใส่โจ๊กมา2ชาม
"เชี่ย หอมว่ะ"
"อยากกินอะดิ๊"
"เออดิ"
"กูไม่ได้ซื้อมาให้มึง ของกู2ชามเลย" กวนตีนแล้วไอ้อั๋น
"ไม่แดกก้ได้"  ผมทำปากยื่น
"แค่นี้ทำเป็นงอน อะๆ เดี๋ยวแบ่งให้ก้ได้" อั๋นยิ้มทะเล้น วางถาดชามโจ๊กบนโต๊ะข้างเตียง
"หมอ ให้กูป้อนมั้ย"
"ไม่ต้องๆ กูเป็นไข้นะ ไม่ได้เป็นง่อย"
"สาด กูเป็นห่วง กลัวมึงจะลุกขึ้นมาตักกินเองไม่ไหว"
"555" ผมหัวเราะ อั๋นมันน่ารักจริงๆ
แต่พอผมขยับตัวลุกขึ้นมานั่ง ร่างกายก้สั่งให้ผมล้มตัวกลับไปนอนอีก โอย ปวดหัวโคตร วันนี้ผมบ่นว่าปวดหัวไปกี่ครั้งแล้วเนี่ย- -
"นั่นไง ไม่ไหวแล้วยังฝืน มานี่ กูป้อน"อั๋นละจากชามตัวเองมาหาผม มันจัดให้ผมนั่งพิงหัวเตียง ตักโจ๊กขึ้นมาหนึ่งคำ เป่าเบาๆ แล้วมาจ่อที่ปากผม
"เอ่อ" ผมอึกอัก รู้สึกแปลกที่ผู้ชายป้อนข้าวกัน แถมยังดูแลผมดีเหมือนเป็นคนรักมันยังไงยังงั้น
"กินดิ"
"อืม" เห้ย แล้วผมไปตอบตกลงมันได้ไงหว่า
ผมอ้าปาก แต่แทนที่มันจะป้อนผม มันกลับหันช้อนเข้าปากมันเองครับ
"สัส- -"
"555 หมออดแดก"
"ไอ้อั๋น"
"กูชอบหน้ามึงเมื่อกี้ว่ะ กำลังจะฟิน แต่เหวอไปเลย ทำให้ดูอีก
รอบดิ"
"ขำมากปะ"
"โอ๋ ไม่แกล้งละๆ555"
อั๋นหัวเราะชอบใจใหญ่ ก่อนที่จะตักโจ๊กขึ้นมาใหม่แล้วป้อนผมจริงๆ
"หืออ อร่อยสัส"
"ช่ายมะ โจ๊กหน้าปากซอยบ้านกูอร่อยที่สุดในโลก" มันบอกก่อนหันไปกินชามของตัวเองบ้าง แล้วก้สลับมาป้อนให้ผมเรื่อยๆ
"มึงนี่พิเศษสุดเลยนะเว้ย กูไม่เคยดูแลใครดีขนาดนี้ ป้อนข้าวให้มึงคนแรกเลย" อั๋นบอกเมื่อเราทั้งคู่จัดการกับอาหารเช้าเสร็จ
"เป็นเกียรติมากเลยครับเพื่อนรัก" ผมประชด
"อะ กินยา" ตามด้วยยาพาราเซตามอลและน้ำเปล่าอีก1แก้ว
"หมอ มึงนอนต่อดิ"
"ไม่อะ กูยังไม่ง่วง"
"มึงต้องนอนเยอะๆเว้ย จะได้หายไวๆ"
"พ่อกูยังไม่สั่งขนาดนี้เลยครับ"
"กูจริงจังนะมึง" มันพูดจริงครับ หน้าดุเชียว
"นอนก้ได้ ดุว่ะ"
"ดีมาก"
ผมกลับลงไปนอนอีกครั้ง อั๋นห่มผ้าให้ผมก่อนจะหยิบผ้าเช็ดตัวไปอาบน้ำ

ผมตื่นมาอีกทีก้เกือบเที่ยง หลับไปตอนไหนไม่รู้ตัวเลยครับ หันไปก้เห็นอั๋นนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงอีกฝั่ง
"ตื่นแล้วเหรอ กูกำลังคุยกับพวกไอ้นนท์อยู่ แจ้งข่าวว่ามึงป่วย พวกมันเป็นห่วงมึงมากนะ นึกว่ามึงอยู่โรงพยาบาลเลยจะออกมาเยี่ยมกัน แต่พอกู บอกว่าอยู่บ้านกู พวกนั้นก้ไม่ไร แล้วมันก้แซวกันใหญ่"
อั๋นส่งโทรศัพท์มาให้ผมดูที่คุยกันในไลน์กรุป จะว่าไปผมไม่ได้แตะโทรศัพท์อีกเลยหลังจากโทรไปบอกแม่ว่าจะนอนบ้านอั๋น
ผมซึ้งน้ำใจเพื่อนผมทุกคนจริงๆ ถามอาการผมกับหมอตั้งแต่เมื่อคืน แต่เลื่อนลงมาถึงข้อความล่าสุดก้เห็นว่ากำลังแซวผมกับอั๋นอีกแล้ว
"กูว่ามึงมาเป็นแฟนกับกูมั้ย จะได้สิ้นเรื่อง"
"เตงอยากคบกับเค้าเหยอ" อั๋นทำหน้าแบ๊วใส่ผม
"อี๋ ขนลุกไอ้สัส"
"555 ว่าแต่มึงนี่ละเมอตลอดเลยนะ"
"โม้ละ กูไม่นอนละเมอ" ผมแก้ตัว ที่จริงแล้วผมนอนละเมอเป็นประจำครับ
"หราา เมื่อกี้ก้ละเมอว่า อย่านะ กูจะถึงแล้ว อะไรของมึงก้ไม่รู้"
"จริงดิ- -" เมื่อกี้ผมละเมอเรื่องอะไรวะครับ
"เออดิ คราวหน้ามึงหลับกูจะอัดเสียงเก็บไว้ให้ฟัง"
"ไม่ต้องเลย"
ผมค่อยๆขยับตัวขึ้นมานั่ง รู้สึกดีขึ้นระดับนึงเลยครับ ตัวเย็นลง หัวก้ปวดน้อยลงแล้วด้วย
"มึงดีขึ้นนิ คนดูแลดีก้งี้" อั๋นหันมาหา เอามือมาแตะหน้าผากผมก่อนจะดีดเหม่งผมเบาๆแล้วกลับไปตอบไลน์ต่อ
ผมขยับไปนั่งข้างหลังอั๋น เอาคางเกยไหล่มัน จะอ่านข้อความที่มันกำลังคุยกับพวกเพื่อนๆอยู่
"มีแต่คนถามถึงมึงอะ"
"คุยไรกันวะ"
ผมกับอั๋นพูดขึ้นพร้อมกัน แล้วเราก็

จูบกัน...

ไม่ใช่ ต้องบอกว่าปากเราชนกันพอดี เพราะผมหันหน้าไปหามัน มันก้หันหน้ากลับมามองหน้าผม เราต่างก้อึ้งไปเสี้ยววินาที ก่อนที่ผมจะรีบขยับตัวออกมา

บังเอิญไปมั้ยวะ

"กู...ขอโทษ" ผมบอก ตกใจครับ ไม่รู้จะพูดอะไรดี ก้มหน้าลง
"เห้ย ไม่เป็นไร กูก้ขอโทษนะ" อั๋นบอก ยิ้มบางๆให้แล้วขยับไปวางโทรศัพท์บนโต๊ะข้างเตียง
จากนั้นเราต่างคนก้เงียบ อั๋นนั่งนิ่ง หันหลังให้ผม ผมก้ถอยไปนั่งพิงหัวเตียง

เมื่อกี้แม่งอย่างกับฉากรักในหนัง
และผมต้องบ้าไปแล้วแน่ๆที่รู้สึกดี...นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับผม

"หมอ หิวข้าวยัง" ในที่สุดอั๋นก้พูดขึ้น หันมามองหน้าผมปกติ เหมือนเมื่อกี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"ยัง มึงหิวก้กินก่อนเลยนะ"
"กูยัง เดี๋ยวรอกินพร้อมมึง ลงไปข้างล่างกันมั้ย"
"เอาดิ"
"ลุกไหวปะ" มันตรงเข้ามาหาผม แต่ผมลุกขึ้นเดินได้โดยไม่เวียนหัวแล้วครับ
"ไหวๆ"
แต่อั๋นก้เดินนำให้ผมเกาะแขนมันลงบันไดมาอยู่ดีครับ ดูแลดีโคตรๆเลย
ลงมาถึงข้างล่างเราก้ดูโทรทัศน์ครับ ผมโทรหาพ่อกับแม่ ตอนแรกตั้งใจจะบอกว่าไม่สบาย แต่คิดว่าเย็นนี้น่าจะหายดีแล้วเลยไม่ได้พูดเรื่องนี้ครับ บอกแค่ว่าเย็นนี้จะกลับบ้าน เมื่อคืนผมพยายามทำเสียงให้ราบเรียบ พูดคุยเหมือนปกติที่สุด พวกท่านก้ไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรครับ
บ่ายโมงกว่าๆ อั๋นก้เข้าครัวไปทำข้าวผัดหมูครับ ผมจะบอกว่ามันอร่อยมาก ฟินเลย กินเสร็จมันก้จัดยาพร้อมน้ำ1แก้วให้ผมเหมือนเคย
"บ่ายนี้มึงต้องนอนอีกนะ เย็นๆตื่นมาหายดีชัวร์"
"นอนอีกแล้วอ่อ กูพึ่งนอนเมื่อเช้าเองนะ"
"กูบอกแล้วไงว่าไม่สบายต้องนอนเยอะๆ" มันเดินเข้ามาขยี้หัวผม
"ครับๆ นอนก้นอน คืนนี้กูจะนอนหลับมั้ยเนี่ย- -"
ผมทำท่าจะเดินไปนอนที่โซฟา
"ไปนอนบนเตียงที่ห้องดิ จะได้สบายๆ"
"แล้วมึงจะไปบ้างบนกับกูมั้ยอะ"
"กูขอล้างจานก่อน แปบเดียวเอง คิดถึงผัวหรอ เดี๋ยวตามขึ้นไปนะ" อั๋นแกล้งยิ้มหวานให้ผม
"สัส จะอ้วก" ผมตอบ เดินกลับขึ้นไปที่ห้องอั๋น ได้ยินเสียงมันหัวเราะตามหลังมา

ผมตื่นขึ้นมาอีกทีก้ห้าโมงเย็นครับ แน่เสียยิ่งกว่าแน่ ไข้ผมหาย หัวก้ไม่ปวดแล้ว ลุกขึ้นมานั่งได้สบายๆเลยครับ
ส่วนคนที่ดูแลผมมาทั้งวันตอนนี้นั่งหันหลังให้ผม อยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือฝั่งตรงข้ามเตียง กำลังใส่หูฟังเล่นแลปทอปอยู่ ยังไม่เห็นว่าผมตื่นแล้ว
ผมนึกอยากแกล้งมันเลยเดินเข้าไปจิ้มที่เอวทั้งสองข้าง อั๋นที่ไม่ทันระวังตัวก้สะดุ้งเต็มแรง แถมตะโกนว่าเห้ยดังลั่นบ้านเลยครับ
"เชี่ยหมอ ตกใจสัส... มันถอดหูฟังแล้วหันมาหาผม"
"555"
"ตื่นมาก้แกล้งกูเลยอ่อ อาการดูดีขึ้นเยอะเลยนี่ หายปวดหัวยัง"
"หายแล้ว ไข้ก้ไม่มี" ผมตอบอย่างร่าเริง พลังงานกลับมาเต็มเปี่ยมเหมือนปกติ
"ถ้างั้น กูเอาคืนละนะ ตอนมึงป่วยนี่เซงชิบ แกล้งไม่ได้" อั๋นยิ้มเจ้าเล่ห์ ค่อยๆลุกขึ้น
"เห้ย จะทำไรกู กูป่วยอยู่นะ- -" ชิบหายแล้วครับ ผมไม่น่าไปเปิดทางให้มันเลย ผมเดินถอยกรูด
"หมอป่วยอยู่เหรอคับ มาหาอั๋นดีกว่ามา" คนตัวใหญ่ก้าวขาครั้งเดียวก้ถึงตัวผมแล้วครับ มันรัดผมทันที
"อั๋นนน หมอปวดหัว ตัวร้อน อย่าทำอะไรหมอเลย" ผมแกล้งทำท่าไม่สบายแล้วก้ร้องโวยวาย
"อั๋นไม่ใช่เด็กอนุบาลแล้วนะหมอ ไม่เชื่อหรอก มามะๆ..."
พูดจบอั๋นก้โยนผมลงบนเตียง ที่เดิมเลย ก่อนจะตามขึ้นมาทับร่างผมไว้ให้ไปไหนไม่ได้ มือก้ยึดแขนผมไว้
อั๋นยิ้มอย่างชั่วร้ายเมื่อผมตกอยู่ในพันธนาการ แล้วมันก้เข้าซุกไซร้ซอกคอผมทันที
"ไอ้เชี่ยอั๋น ไอ้โรคจิต ปล่อยกูนะโว้ย" ผมโวยวายเสียงดัง
มันไม่พูดอะไร แล้วรวบแขนผมสองข้างไว้ด้วยมือเดียว แล้วใช้อีกมือสอดเข้าไปในเสื้อผม ก่อนจะลูบไล้ไปทั่ว โอย เล่นเอาผมเสียวสุดๆ
"ซี้ดด" ผมเผลอครางออกมา ก้ผมเสียวนี่นา ดูมันเล่นดิครับ
"นี่มึงเสียวอ่อ" มันเงยหน้าจากคอผมขึ้นมามอง ก่อนจะยิ้มหื่นๆ แต่แทนที่จะหยุดมันกลับก้มลงไปไซร้คอผมต่อ
"ปล่อยกูนะเว้ยยย"ผมยังแหกปากร้องต่อไป
หลังจากเล่นกับคอและตัวผมจนพอใจ อั๋นก้ปล่อยผม มันหัวเราะเบาๆ
"จับนิดจับหน่อยมีครางด้วยนะ ดูดิ หน้าแดงเชียว"
"ไอ้บ้า มึงอะเล่นอะไรก้ไม่รู้" ผมบ่น ลุกขึ้นมาจัดการกับเสื้อผ้าตัวเอง
"ก้กูเหงาอะ ไม่ได้แกล้งมึงตั้งนาน" อั๋นทำเสียงแบ๊วใส่
"สาดด"
แล้วมันก้ชวนผมมาดูหนังกับมัน มันกำลังดูเรื่องลัดดาแลนด์อยู่ครับ บรึ๋ย เมื่อกี้ดูอยู่คนเดียวได้ไงวะ

-จบตอน-

อิจฉาหมอจัง ป่วยแล้วมีอั๋นดูแลอย่างดี ><
พอหมอหายไข้ อั๋นก้จัดหนักเลยนะ สงสัยจะอดทนรอแกล้งไว้นาน อิอิ
ติดตามตอนต่อไปกันด้วยนะ~~
ปล.ช่วงนี้writerกำลังสอบfinalอยู่ ใกล้ตายแล้วครับ- -
หัวข้อ: Re: My Close Friend : ตอนที่10 (updated 4/5/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 04-05-2016 18:08:23
คุณนักเขียนอย่างเพิ่งตายยยยยยย อย่าทิ้งเราไปปปปปปปปป  :ling1:
หัวข้อ: Re: My Close Friend : ตอนที่10 (updated 4/5/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 04-05-2016 18:47:28
ฟินเบาๆ กะคู่นี้  :hao7:
หัวข้อ: Re: My Close Friend : ตอนที่10 (updated 4/5/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 04-05-2016 21:03:24
คุณหลานคนแต่ง ไฟท์ติ้ง นะคะ เรื่องเรียนสำคัญนะคะ
หัวข้อ: Re: My Close Friend : ตอนที่10
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 04-05-2016 23:06:19
ขอบคุณมากค้าบ ตอนนี้เราตั้งใจอ่านหนังสือสอบฝุดๆ
+จะไม่หนีหายไปไหนแน่นอน
นิยายตอนหน้าจะมาลงในไม่ช้านี้คับ
รักอั๋น รักหมอ เป็นกำลังใจให้ My close friend ด้วยนะ อิอิ
:)
หัวข้อ: Re: My Close Friend : ตอนที่11
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 05-05-2016 23:15:24
ตอนที่11

อั๋นมาส่งผมที่บ้านตอนหนึ่งทุ่ม กลับมาพ่อกับแม่ก้แซวผมเลยครับว่าจำทางกลับบ้านไม่ได้หรือเปล่า นึกว่าลูกชายหาย เกือบจะไปประกาศตามหาตัวในอินเตอร์เน็ต- - แน่นอนว่าท่านไม่รู้ว่าผมเจออะไรมาบ้างในคืนหนึ่งที่ไม่ได้กลับมานอนบ้าน
นั่งกินข้าวเย็นพร้อมดูโทรทัศน์กับพ่อแม่ไปได้สักพัก อั๋นก้ไลน์มาหา
(ถึงบ้านแล้ววว)
(เออ)
(เห้ย ตอบกูแค่เออเนี่ยนะ โคตรสั้นเลย น้อยใจสัสๆ บลาๆๆๆ)
แล้วก้ตามด้วยสติ๊กเกอร์เรียกร้องความสนใจอีกเป็นชุด
อั๋นมันเล่นอะไรของมัน อยากให้ผมตอบยาวๆเหรอ
(ผมขอขอบพระคุณเพื่อนอั๋นที่มาส่ง และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เพื่อนเดินทางถึงบ้านโดยสวัสดิภาพครับ)
เอาดิ จัดให้เลย เอ้อ ผมก้บ้าไปเล่นตามมันเนอะ
(ดีมาก555 อย่าลืมแดกยาหลังข้าวเย็นด้วยนะหมอ)
(กูหายแล้ว ไม่ต้องกินก้ได้มั้ง)
(ไม่ได้ เดี๋ยวไข้กลับ ไปกินๆ แล้วคืนนี้นอนเร็วด้วย)
แค่เห็นข้อความที่พิมพ์มาก้นึกเสียงอั๋นออกเลยครับ มันเป็นห่วงผมขนาดนี้เลยเหรอ
(เออๆ ยอม กินยา นอนเร็ว โอเคนะ)
(เออ พรุ่งนี้เช้าถ้ากูเห็นมึงหลับบนรถ จะโดนไม่ใช่น้อย)
ผมส่งสติ๊กเกอร์ตัวการ์ตูนทำท่าทางกลัวไปให้
มันส่งสติ๊กเกอร์โคนี่ขำหนักมากกลับมา

"นี่ ติดมือถือนะเราอะ" แม่ผมพูดขึ้น
"ไม่ได้ติดซะหน่อยครับ"
"ยังงี้เค้าไม่เรียกติดมือถือนะคุณ เค้าเรียกว่าติดคนในมือถือ" พ่อผมพูดไงจะใครล่ะ
"หืมม ลูกชายแม่คุยกับใครเหรอ แฟนรึป่าว"
"ไอ้อั๋นคับ- -"
"โกหกรึป่าวเนี่ย อั๋นพึ่งมาส่งลูกเมื่อกี้ คุยกันในไลน์ต่อเหรอ"
"ใช่ค้าบ" ผมหันหน้าจอโทรศัพท์ให้พ่อกับแม่ดูเลยว่าผมคุยกับอั๋นอยู่จริงๆ
"เออ จริงด้วย"
"ลูกกับอั๋นนี่สนิทกันมากเลยนะเนี่ย"
"ถ้าลูกเป็นผู้หญิง แม่นึกว่าลูกกับอั๋นเป็นแฟนกัน"
"แบบนี้ก้ได้เหรอ- -" ผมตอบ พ่อกับแม่หัวเราะแล้วหันกลับไปดูโทรทัศน์ต่อ

สักพักเสียงไลน์แจ้งเตือนขึ้นมาอีก
คราวนี้เป็นใครก้ไม่รู้ครับ
(หวัดดีหมอ)
(ใครอะ)
(เราเม้งเอง)
(อ่อ)
ไอ้เม้งเพื่อนไอ้นนท์นั่นเอง เอ ว่าแต่มันมีไลน์ผมได้ไงหว่า
(เป็นไงมั่ง โอเคแล้วช่ายปะ)
(เออ โอๆ)
(เรื่องวันนั้นขอโทษด้วยนะ เราช่วยอะไรไม่ได้เลย)
(เห้ย ไม่เป็นไร)
(อือ อยากขอโทษ ไม่งั้นมันไม่สบายใจ)
(อ่าฮะ)
(นี่ทำไรอยู่อะ)
(กินข้าว)
(อ่อ งั้นไม่กวนแล้ว ไว้เจอกันๆ)
ผมส่งสติ๊กเกอร์โอเคตอบกลับไป
มันแปลกๆแฮะ ทำไมเม้งถึงไลน์มาหาผมนะ

ที่โรงเรียนวันต่อมา ไอ้ต้าร์ ไอ้นนท์ ไอ้เอกรีบเข้ามาหาเมื่อผมโผล่หน้าไปที่ห้อง พอเห็นว่าผมโอเค พวกนั้นก้มาแกล้งผมเลยครับ- -
ส่วนคนอื่นๆในห้องไม่มีใครรู้เรื่องที่ร้านเหล้ารู้แต่เรื่องผมเป็นไข้อย่างเดียวครับ ก้มาทักทายสอบถามอาการผมเล็กน้อย
ที่ขาดไม่ได้ก้คือทุกคนล้ออั๋นเรื่องที่มันไม่มาโรงเรียนแล้วอยู่กับผม เออ จนได้สินะ
"ทำไมเมื่อวานมึงก้หยุดเรียนวะอั๋น"
"มันก้อยู่ดูแลเมียมันอะดิ"
"อรั๊ยย"
"เออ ก้หมอเป็นเมียกูนิ" อั๋นไม่พูดเปล่า เข้ามากอดผมจากข้างหลัง โอบแขนรอบเอว ยื่นหน้ามาใกล้ผมด้วย
"สัส ปล่อยเลย" ผมแยกเขี้ยว
ทุกคนส่งเสียงล้อเลียนดังกว่าเดิม แทนที่อั๋นจะปฏิเสธ ไม่มีอะครับ แถมตอนนี้ยังยิ้มหน้าบานใส่ผมอีก- -

พักกลางวันผมกับเพื่อนๆไปกินข้าวเที่ยงที่โรงอาหารตามปกติ ลงไปก้เห็นพวกกรรมการนักเรียนกำลังประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับงานกีฬาสี ซึ่งจะจัดขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เมื่อสัปดาห์
ก่อนก้มีการจับฉลากสีของแต่ละห้องเรียนไปแล้ว ห้องผมได้สีฟ้า ผมสนใจเป็นพิเศษเพราะนี่เป็นกีฬาสีครั้งแรกของผมที่โรงเรียนนี้ครับ
"อั๋น มึงอยากทำไรงานกีฬาสีวะ" หันไปถามซี้ผม
"กูอยากลงบอลไม่ก้บาส มึงอะ"
"กูอยากทำสแตนเชียร์ว่ะ" ผมบอก นี่เป็นความฝันของผมตั้งแต่มัธยมต้นแล้วครับ ตอนอยู่โรงเรียนเก่า เห็นรุ่นพี่มัธยมปลายจัด อยากทำบ้าง ผมว่ามันดูยิ่งใหญ่
"แต่มันส่วนของมัธยม6ไม่ใช่เหรอ ตอนนี้มึงยังทำไม่ได้"
ผมคิดว่าอยากคุยกับพี่มัธยม6สักคนหนึ่ง ลองขอเข้าไปช่วยทำดู
"กูว่าจะไปคุยกับพี่สีสักคน ขอไปช่วยทำ ไม่รู้จะได้รึป่าว"
"ลองดูดิ ว่าแต่ไม่สนใจลงไปคัดตัวนักกีฬากะกูเหรอ"
"ไม่อะ"
"งั้นต้องมาเชียร์เค้าด้วยนะซอมบี้"
"พูดอย่างกะได้ลงแล้ว ไม่เชียร์โว้ย"
ผมหันไปแลบลิ้นใส่อั๋น มันเอามือมาขยี้หัวผมเล่นอย่างเอ็นดู
ระหว่างที่นั่งกินข้าวอยู่บนโต๊ะ ก้มีพี่มัธยม6กลุ่มหนึ่งมาคุยกับไอ้ต้าร์ ท่าทางสนิทสนมกัน
"ห้องมึงสีฟ้าใช่ปะต้าร์ ดีๆ พวกมึงอะมาลงกีฬากะกูให้หมด ปีนี้เราต้องชนะ" อ้อ พี่สีนี่เอง
"พวกผมลงแน่นอนพี่ จะคัดตัวเมื่อไรก้บอกแล้วกัน"
ผมกำลังคิดอยู่ว่าจะถามพี่สักคนเกี่ยวกับสแตนเชียร์ ก้พอดีมีพี่คนหนึ่ง ใส่แว่น ท่าทางดูเกเรขัดกับหน้าตา ตัวสูงโปร่ง กำลังสบตาผมพอดี เขาเดินตรงมาหาผมที่ปลายโต๊ะ
"หวัดดีครับน้อง พี่ชื่อก้องนะ เราอยู่ห้องเดียวกับต้าร์ใช่ปะ"
"ใช่ครับ" ผมยิ้มให้
"ดีเลย สีเดียวกัน เราสนใจอยากลงกีฬาเหรอ" พี่เค้าดูท่าทางใจดี เฟรนด์ลี่ด้วย
"ป่าวครับ ผมอยากทำสแตนเชียร์อะ คือจะขอไปช่วยพวกพี่ทำได้มั้ยครับ"
ผมไม่ได้สังเกตเลยว่าอั๋นกำลังมองผมกับพี่ก้องคุยกันอยู่ มันมองผมกับพี่เค้าสลับกันไปมา
"เห้ย จริงดิ ปกติไม่ค่อยมีคนสนใจทำสแตนเท่าไร ปีนี้พี่เป็นประธานฝ่ายเชียร์ของสีเราเอง...ว่าแต่เราชื่อไรเอ่ย"
"ชื่อหมอครับ"
"ชื่อหมอเหรอ ตลกดีแฮะ"
"ใช่คับ แหะๆ แล้วสรุปว่าผมไปช่วยพี่ทำได้ใช่มั้ย"
"ได้ดิ ดีใจนะเนี่ย งั้นพี่ขอเบอร์กับไลน์เราหน่อยดิ ไว้คุยกัน" พี่ก้องตอบอย่างใจดี
"ได้ครับ..." ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแลกเบอร์และไลน์ไอดีกับพี่ก้องเรียบร้อย
"เราเป็นเด็กใหม่เหรอ ทำไมพี่ไม่เคยเห็นเราเลย"
"ใช่พี่ ผมพึ่งเข้ามาเทอมที่แล้ว"
"อ้อ ก้ว่าไม่คุ้นเลย...งั้นเดี๋ยวพี่ไปก่อนนะ แล้วจะทักไลน์ไป"
"ครับ" ผมรับคำและยิ้มตอบพี่ก้องที่ยิ้มกว้างมาให้ผม ก่อนที่พี่เค้าจะเดินตามเพื่อนที่พึ่งคุยกับไอ้ต้าร์เสร็จไป
ผมดีใจสุดๆที่ได้ช่วยทำสแตนเชียร์ หันไปยักคิ้วให้ไอ้อั๋น
"กูเก่งปะ"
"เออ" มันตอบสั้นๆ แต่เสียงดูไม่ค่อยใช่มันเท่าไร สีหน้าเรียบนิ่ง แล้วก้หันไปกินข้าวต่อโดยไม่พูดอะไรอีก
ผมหันไปเล่นโทรศัพท์ต่อ เห็นว่าพี่ก้องทักไลน์มาด้วยสติ๊กเกอร์ครับ ผมก้ส่งตอบกลับไป
จากหางตาผมเห็นอั๋นยื่นหน้ามามองหน้าจอโทรศัพท์ผม ผมหันไปหามัน แต่มันก้หันหน้ากลับไปแทบจะทันทีครับ
"มองไรเห้ย"
"เปล่านิ" เสียงสูงเชียวนะไอ้อั๋น
"เผือกก้บอก55" ผมแซว
มันหันมามองผมดุๆก่อนจะหันไปเล่นโทรศัพท์ตัวเองบ้าง ผมสัมผัสได้ว่ามันไม่ได้กำลังเล่นกับผมอยู่ครับ รู้สึกว่ามันกำลังไม่สบอารมณ์ด้วยสาเหตุอะไรสักอย่าง
"เป็นไรหว่า" ผมถาม แต่ทำเสียงเหมือนไม่ได้ถามจริงจัง มันไม่ตอบ เอ้อ มันเป็นอะไรของมันเนี่ย
กินข้าวเสร็จพวกเราก้กลับขึ้นไปเรียนคาบบ่ายต่อ ผมนี่ง่วงสุดๆ คาบต่อไปยิ่งเรียนเลขนี่เหมือนโดนยานอนหลับเข้าไปเลยครับ
อั๋นก้เดินขึ้นห้องมาข้างๆผม แต่ไม่ได้พูดอะไรสักคำ มาถึงโต๊ะมันก้นั่งเงียบ แล้วผมก้นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ทำการบ้านเลยครับ ชิบหายแล้ว
"เชี่ย กูยังไม่ทำการบ้านเลยว่ะ อั๋นมึงทำยังวะ"
"ทำละ"
"กูขอลอกหน่อยดิ"
มันเปิดกระเป๋าแล้วส่งสมุดการบ้านเลขมาให้ผม ถ้าเป็นปกติมันจะแกล้งอิดออดให้ผมลอกเกือบไม่ทันเวลา หรือต้องกวนตีนผมก่อนจะให้ยืม แต่นี่มันไม่ได้อะไรเลย แปลกมากครับ มันต้องโกรธอะไรสักอย่างแน่ๆ
ผมรับสมุดมาจากมันแล้วลอกเสร็จเฉียดฉิวกับที่อาจารย์เดินเข้ามาในห้องพอดี แกสั่งให้หัวหน้าห้องรวบรวมสมุดการบ้านของทุกคนมาไว้ที่โต๊ะอาจารย์ก่อนจะเริ่มสอน
"อั๋น มึงเป็นอะไรวะ" ในที่สุดผมตัดสินใจถามไปตรงๆ
"เปล่า" มันตอบโดยไม่ยอมมองหน้าผม
นี่มันเล่นสงครามประสาทกับผมอยู่หรือเปล่านะ ตอนนี้สรุปได้ว่ามันกำลังไม่พอใจอยู่แน่ๆครับ แต่เรื่องอะไรนี่ไม่รู้เลย
"อั๋นๆ กูขอลอกไทยหน่อยดิ" ไอ้นนท์หันมายืมสมุดการบ้านวิชาภาษาไทยที่ต้องส่งชั่วโมงถัดไปครับ
"เอาดิ" อั๋นส่งสมุดไปให้นนท์ ท่าทาง น้ำเสียงก้ปกติดีครับ อย่างนี้แสดงว่ามันโกรธผมชัวร์ โกรธเรื่องอะไรวะ- -

แล้วคาบเลขก้ผ่านไปไวเหมือนโกหก ทั้งคาบ อั๋นไม่ได้หันมาคุยกับผมเลยสักคำ ผมก้ไม่ได้คุยครับ ชักจะรู้สึกไม่ดีแล้วสิ ตอนนั้น พี่ก้องก้ไลน์มาหาผมอีก
(น้องหมอ พรุ่งนี้ฝ่ายเชียร์มีนัดประชุมครั้งแรกนะครับ เรามาได้รึป่าว)
(ได้พี่)
(ดีเลย งั้นไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ)
(ค้าบผม)
(ว่าแต่พรุ่งนี้ประชุมเสร็จแล้ว อย่าพึ่งหนีพี่ไปทำส่วนอื่นนะ มีงานจะให้เราช่วยเยอะเลย555)
(ไม่หนีแน่นอนค้าบบ)
พี่ก้องส่งสติ๊กเกอร์โคนี่ซึ้งใจมาให้
อั๋นพูดขึ้นเบาๆ ทำนองว่าแปบเดียวก้คุยกัน ผมได้ยินเสียงไม่ชัดเลยหันไปถาม
"อะไรนะ"
มันไม่ตอบ แต่หันไปหาหนังสือภาษาไทยแล้ว เห้ย กวนตีนผมแล้วเนี่ย

จนจบคาบสุดท้าย อั๋นถึงหันมาหาผมครับ
"จะกลับกะกูปะ" น้ำเสียงเย็นชาด้วย
"ก้ กลับดิ" ผมตอบอย่างงงๆ ปกติผมก้กลับกับมันทุกวันอยู่แล้ว
"นึกว่าจะไปกับคนอื่นซะอีก" พูดจบเจ้าตัวก้แบกกระเป๋าขึ้นพาดบ่าแล้วเดินออกจากห้องเรียนไปโดยไม่รอผม ผมหันไปบอกลาเพื่อนๆก่อนจะรีบตามไอ้อั๋นไปที่จอดรถครับ
"เห้ย รีบไปไหนเนี่ย..."
มันไม่ตอบ ส่งหมวกกันน็อคมาให้ผม แล้วผมก้เห็นแววตาไม่พอใจของมันนิดหนึ่งครับ
ผมขึ้นซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์มันด้วยความสงสัย และอีกเช่นเคย ระหว่างทางมันก้ไม่ได้พูดอะไรกับผมเลย
จนมาถึงหน้าบ้านผม ผมตัดสินใจว่าต้องคุยกันแล้วครับว่ามันเป็นอะไร ไม่อยากปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ครับ ผมรู้สึกไม่ดีเลย
"อั๋น มึงเป็นไรวะ"
"กูไม่ได้เป็นไร" มันจ้องหน้าผมนิ่งๆ
"ไม่เป็นได้ไง ก้มึงไม่คุยกะกู กูพูดด้วยดีๆก้พูดอะไรกลับมาไม่รู้" ผมเริ่มโมโหขึ้นมานิดหน่อยแล้ว
"เปล่า ก้บอกแล้วไงว่าไม่ได้เป็นไร"
"ไม่พอใจเรื่องอะไรก้บอกมาตรงๆดิ"
"..."
"..."
"เออ...ไม่พอใจ" มันหลบตาผม
"เรื่องอะไรล่ะ"
"...ยุ่ง"
แล้วมันก้ขับมอเตอร์ไซด์ออกไปโดยที่ยังไม่ได้ตอบคำถามผมเลยครับ

-จบตอน-

แย่แล้วล่ะ งานงอก อั๋นงอนหมอซะแล้วสิ ทำไงดีครับเนี่ยคุณผู้อ่าน
ช่วงนี้ตัวละครใหม่ๆเริ่มมาแล้วนะครับ
ติดตาม My Close Friendตอนต่อไปด้วยนะ :-)
หัวข้อ: Re: My Close Friend : ตอนที่11 (updated 5/5/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 05-05-2016 23:33:55
หื้มมมมม เม้งกะรุ่นพี่นี่งอกมาได้ไงคะเนี่ย จีบเด็กของอั๋นเหรออออออออออออออออออออออ  :hao3:

ส่งไปคู่กันเองเลยงั้น
หัวข้อ: Re: My Close Friend : ตอนที่11 (updated 5/5/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 05-05-2016 23:46:46
คนเร่งปฏิกริยามาแว้ววว จะได้รู้ใจตัวเองสักที  :hao7:
หัวข้อ: Re: My Close Friend : ตอนที่11 (updated 5/5/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 06-05-2016 06:12:12
ชะรอย น้องหมอคงหน้าตาดึงดูด ผช. อั่นต้องทนๆหน่อยนะ
หัวข้อ: Re: My Close Friend : ตอนที่12
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 07-05-2016 23:20:01
ตอนที่12

ผมเดินเข้าบ้านอย่างสงสัย นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมอั๋นทำอย่างนี้กับผม มันไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ผมทั้งรู้สึกโกรธแล้วก้น้อยใจมันไปพร้อมกัน
นี่เป็นการทะเลาะกันจริงๆครั้งแรกของผมกับอั๋นตั้งแต่รู้จักกันเลยครับ ครั้งอื่นก้แค่งอนกันนิดหน่อย แล้วก้กลับมาเล่นกันได้อย่างรวดเร็ว
ผมขึ้นห้องแล้วก้เปิดเพลงจากแล็ปท็อป แล้วนอนหงายลงบนเตียงทันที เฮ้อ เซงโคตร

แต่เมื่อลองมาคิดดูดีๆแล้วว่าอั๋นมันโกรธผมเรื่องอะไร วันนี้ก้มีอยู่เรื่องเดียวที่น่าจะทำให้มันไม่พอใจ คือเรื่องที่ผมคุยกับพี่ก้อง

หมายความว่า อั๋นหึงผมงั้นเหรอ?
ผมรู้สึกแปลกประหลาด เราไม่ได้เป็นอะไรกันมากกว่าเพื่อน บ้าหรือเปล่าที่คิดว่ามันรู้สึกกับผมแบบนั้น แต่ก้ปฏิเสธไม่ได้ว่าใช่ เพราะมันดูอารมณ์ไม่ดีตั้งแต่ตอนนั้น และผมก้ไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นนอกจากนั้นอีกเลย

หรือว่าอั๋นก้กำลังรู้สึกแบบเดียวกันกับผม เมื่อตอนที่มันต้องไปกินข้าวกับเพื่อนพ่อและลูกสาวของเขา ผมยอมรับแล้วว่าตอนนั้นผมหงุดหงิด แม้จะพยายามบอกกับตัวเองอยู่หลายครั้งว่าไม่ได้คิดอะไร
แต่ผมก้ไม่ได้ทะเลาะกับมันเหมือนอย่างวันนี้

ผมอยากเลิกคิดถึงเรื่องอั๋น แต่ทำไม่ได้เลยครับ แม้ตอนนี้จะเปิดเพลงดังๆ นอนปิดตา พยายามขับไล่ความคิดหรือความรู้สึกแย่ๆที่เกิดจากเหตุการณ์เมื่อครู่

ถ้าผมไม่ได้เข้าข้างตัวเอง แสดงว่าอั๋นชอบผมสินะ

เหมือนภาพเหตุการณ์ต่างๆระหว่างผมกับอั๋นถูกนำมาฉายซ้ำในหัวผม ภาพอั๋นไปไหนมาไหนกับผมตลอด วันหนึ่งๆอยู่ด้วยกันเกือบทั้งวัน แกล้งกัน แหย่กัน ภาพที่มันไปช่วยผมในร้านเหล้า ภาพที่มันดูแลผมตอนป่วย

อีกอย่างหนึ่ง สิ่งที่ผมรู้สึกกับอั๋นล่ะ จะเรียกว่าชอบได้หรือเปล่า...
หงุดหงิดชะมัด

เกือบหนึ่งทุ่มได้ ผมลงไปกินข้าว เย็นนี้แม่ทำข้าวแกงกะหรี่ไก่ อร่อยมากเลยครับ
"หือ อร่อยมากเลย กับข้าวที่ไหนก้สู้ฝีมือคุณไม่ได้" พ่อพูดพร้อมส่งยิ้มหวานให้แม่
"ถ้างั้นก้กินเยอะๆนะคะ" แม่ยิ้มตอบ และตักให้พ่อเพิ่ม
"โอย มาสวีทกันให้ผมดู ไม่สงสารคนโสดบ้างเลยนะครับ"
"อิจฉาพ่อหรอ นี่ คนรักกันก้ต้องเติมความรักให้กันทุกวันสิ" พูดจบพ่อกัหันไปหอมแก้มแม่โชว์ผมซะเลย เอาเข้าไป- -
"เอ่อ ผมขึ้นข้างบนดีกว่า" ผมแกล้งทำท่าจะลุกขึ้น
"โอ๋ อย่าพึ่งหนีสิลูก" แม่พูดกลั้วหัวเราะ ส่วนพ่อก้หัวเราะลั่นเลย
"ถ้าไม่อยากโสดก้หาแฟนซะสิ" พ่อพูดต่อ
"ใช่ๆ หมอโตป่านนี้แล้วนะลูก เมื่อไรจะมีแฟนซะที"
"แม่คับ หมอพึ่ง16เองนะ ยังไม่ได้โตขนาดนั้นซะหน่อย"
พ่อกับแม่หัวเราะอีกครั้ง แล้วก้สวีทกันต่อไป ทำไมพักนี้ท่านถึงพูดเรื่องแฟนกับผมบ่อยๆนะ สงสัยอยากให้ผมมีแฟน555
แล้วอั๋นก้เป็นชื่อแรกที่ลอยเข้ามาในหัวผม เมื่อผมกำลังนึกถึงเรื่องแฟน เห้ย ไอ้หมอ ท่าจะอาการหนักนะมึงอะ มึงทะเลาะกับอั๋นอยู่นะเว้ย แล้วมึงก้เป็นผู้ชายโว้ย เป็นแฟนกับมันไม่ได้!

สามทุ่มกว่า ผมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนตัวเก่ง เสื้อกล้ามกับกางเกงบ๊อกเซอร์ ปกติเวลานี้ผมคงคุยเล่นกับอั๋นอยู่สินะ ไม่คุยผ่านไลน์ก้โทรศัพท์หากัน
"เฮ้อ เซงว่ะ"ผมโพล่งออกมาโดยไม่รู้ตัว
ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมจะเล่นโซเชียลก้พอดีมีคนโทรเข้ามา
อั๋น

อั๋นโทรมาหาผมเหรอ เอ่อ รับดีมั้ยวะ มันจะโทรมาตะคอกใส่ผมหรือเปล่า
แล้วเสียงกริ่งหน้าบ้านก้ดังขึ้น หรือว่า...

ผมเปิดผ้าม่านดูก้เห็นอั๋นยืนอยู่ข้างมอเตอร์ไซด์ของตัวเอง กำลังถือโทรศัพท์แนบหูไว้ รอผมรับ หน้าตาเครียดเขม็ง
ในที่สุดผมก้กดรับ
(ฮัลโหล)
(หมอ ตอนนี้กูอยู่หน้าบ้านมึง ออกมาหากูหน่อยได้มั้ย) อั๋นพูดช้าๆ
(อืม) ผมตอบก่อนจะลงไปเปิดประตูอั๋นยังคงยืนหันหลังให้ผม ท่าทางร้อนใจ
"หมอ" อั๋นได้ยินเสียงประตูเปิดมันก้หันหน้ากลับมา พอเห็นว่าเป็นผมมาเปิดประตู ก้ตรงเข้ามากอดผมทันที มันกอดผมแน่นราวกับกลัวว่าผมจะเดินหนีจากมันไป แนบหน้าลงซบกับบ่าผม ด้วยสัมผัสนั้น ผมรู้ทันทีว่าอั๋นใส่ความรู้สึกผิดและคำขอโทษลงมาให้
ผ่านไปนานเท่าไรก้ไม่รู้ ผมไม่ได้พูดอะไร แค่ยื่นมือออกมากอดตอบ อั๋นก้ยังคงกอดผมแน่นอยู่อย่างนั้น...

"เข้าบ้านก่อนมั้ย" ผมชวนเมื่อเราผละออกจากกัน
"อือ" มันตอบ ท่าทางกระอักกระอ่วน
"พ่อหวัดดีครับ แม่หวัดดีครับ" เข้ามาในบ้านอั๋นก้ไหว้พ่อแม่ก่อนจะตามผมขึ้นมาบนห้อง

ผมไม่รู้ว่าในสถานการณ์แบบนี้จะพูดหรือทำอะไรดี ผมเลยนั่งเงียบๆ ส่วนอั๋นก้ดูอึดอัดเช่นกันครับ แต่สักพักหนึ่งมันก้พูดขึ้น
"หมอ...ขอโทษนะ วันนี้กูแม่งโคตรเหี้ยเลย กู..." แล้วมันก้ไม่ได้พูดอะไรต่อ
"เออ ไม่เป็นไร กูไม่ได้โกรธแล้ว" ผมตอบตามจริง แปลกใจตัวเองมากว่าทำไมความโกรธถึงได้ระเหยไปหมดเมื่อมันมาหาผม
อั๋นมองหน้าผม สีหน้ายังแสดงความสับสน
"มึงไม่โกรธกูเลยหรอที่กูทำไม่ดี"
"โกรธ แต่ตอนนี้ไม่แล้ว"
"..."
"งั้น...กูถามมึงหน่อยดิ วันนี้มึงโกรธกูเรื่องอะไร"
ผมตัดสินใจถามออกไปตรงๆ อยากให้อั๋นอธิบายว่ามันโกรธผมเพราะเรื่องอะไร ผมจะได้ไม่ต้องนั่งคิดไปเองอยู่คนเดียว
"กู..." มันลังเล
"คือกู...กูรู้สึกแปลกๆยังไงก้ไม่รู้ตอนเห็นมึงคุยกับพี่ก้อง"
"เอ่อ รู้สึกยังไง"
"...หวง กูไม่ชอบที่มึงคุยกับพี่เค้า" อั๋นพูดจบก้หน้าแดงเรื่อขึ้นมาอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน แม้แต่เวลาที่เราโดนล้อ มันก้ไม่เคยเป็นแบบนี้เลยครับ แต่ปัญหาคือหน้าผมก้รู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาอีกคนด้วยสิ
หวงที่อั๋นบอกหมายถึงหึงผมใช่มั้ยนะ
"หวงเหรอ..."
"อือ" มันส่งเสียงตอบเบาๆ ตาก้มมองพื้น
ผมพูดอะไรไม่ออกเลยครับ ถ้าอย่างนั้นผมควรถามตรงๆเลยมั้ยครับว่าอั๋นคิดยังไงกับผมกันแน่
"หมอ กูขอโทษจริงๆนะ...กูไม่ดีเลยที่ทำกับมึงแบบนั้น กูแค่รู้สึกหวง ไม่อยากให้ใครมายุ่งกับมึง..."
"..."
"ยกโทษให้กูนะหมอ" มันเงยหน้าขึ้นมา สายตาวิงวอน
"อืม"
ผมตอบและยิ้มให้อั๋น เห็นสีหน้าดีใจและตกใจของอั๋นแวบหนึ่งก่อนที่มันจะเข้ามากอดผมอีกครั้ง
"โอ๊ย กอดอีกละ เบาๆหน่อยดิ" ผมพูด
"ขอโทษนะ" เสียงหัวใจอั๋นเต้นแรงมากจนผมสัมผัสได้
นี่แสดงว่าเราสองคนคืนดีกันแล้วใช่มั้ยเนี่ย

"ที่จริงไลน์หรือโทรมาก้ได้นะ ขับรถออกมาดึกๆแบบนี้อันตรายเหมือนกัน" ผมบอกเมื่อเดินมาส่งอั๋นที่หน้าบ้าน
"ก้กูอยากขอโทษมึงแบบเจอตัวนิ"
ทำไมมันพูดอะไรเหมือนคนเป็นแฟนกันพูดกันเลยวะครับ
"ไม่นอนนี่จริงเหรอ ดึกแล้วนะ" ผมถามซ้ำ
"ไม่เป็นไร ขับกลับได้ วันนี้..." ผมรู้ว่าอั๋นยังเกรงๆอยู่
"เออ งั้นขับดีๆนะมึง ถึงบ้านแล้วไลน์มาบอกกูด้วย"
"อืม แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้กูมารับ"
ผมพยักหน้า อั๋นยิ้มน้อยๆแล้วโบกมือให้ผม แต่ก่อนจะขับรถออกไป มันหันมาหาผมอีกครั้ง
"กูมันงี่เง่า แต่ที่ทำไป...กูหวงมึงจริงๆนะ"
ผมเดินกลับเข้าบ้านด้วยรอยยิ้มกว้าง

ที่โรงเรียนวันต่อมา ผมกับอั๋นกลับมาคุยกันเหมือนเดิม ในคาบบ่ายคาบหนึ่ง เรากำลังเล่นเกมมือถือด้วยกันอยู่ใต้โต๊ะ มันก้ชวนผมไปกินอาหารญี่ปุ่นตอนเย็นครับ เราคุยกันเบาๆแทบจะกระซิบ ไม่มีใครได้ยิน
"หมอไปกินกัน กูอยากกิน"
"ไม่เอาอะ" ผมก้อยากกินครับ แต่แกล้งมัน
"ไปกินเหอะ นะ นะๆๆ" อั๋นอ้อน เขย่าแขนผมใหญ่เลยครับ555
"เออๆ กิน"
"เย่ เมียกูน่ารักที่สุดเลย" มันซบหัวลงบนไหล่ผม
"พอเลยมึง- - ว่าแต่เลิกเรียนกูต้องไปประชุมกับฝ่ายเชียร์ก่อนนะ ครั้งแรกไม่น่าคุยนานมั้ง เสร็จแล้วจะรีบออกมา"
"ได้ เดี๋ยวกูไปวิ่งรอ"
"เอ่อ ประชุมกับพี่ก้อง แต่ไม่มีไรนะ" ไม่รู้ว่าอะไรทำให้ผมพูดออกไปแบบนั้น
"อือ" อั๋นตอบสั้นๆ ยิ้มให้ผม

หลังเลิกเรียน ฝ่ายเชียร์สีฟ้านัดคุยกันที่ห้องประชุม4ครับ อยู่ไม่ไกลจากห้องเรียนผมเท่าไร
แต่ผมบอกให้อั๋นเดินมาส่งผมก่อนจะไปวิ่งรอ และจงใจมาช้ากว่าเวลาเล็กน้อย เพราะคิดว่าจะให้อั๋นเห็นคนในห้องประชุมด้วย เพื่อความสบายใจของมัน อั๋นยิ้มกว้างก่อนจะไป
"ขอโทษนะครับที่มาช้า" ผมบอกคนอื่นๆ ทุกคนยิ้มให้
"ไม่เป็นไรครับน้องหมอ มานั่งนี่สิ พี่จองที่นั่งให้แล้ว"
พี่ก้องที่นั่งอยู่หัวโต๊ะด้านในสุดพูดขึ้น ยิ้มกว้างและเชิญให้ผมไปนั่งตรงเก้าอี้ว่างข้างๆพี่เค้า
"ขอบคุณครับ"
แล้วพี่ก้องก้แนะนำพี่คนอื่นๆให้ผมรู้จัก ก่อนจะเริ่มประชุมเนื้อหากัน ผมสังเกตว่าพี่ก้องดูจริงจังแล้วก้เป็นผู้นำที่ดีมากๆเลยครับ

"หมอมีอะไรสงสัยตรงไหนรึป่าว" พี่ก้องถามผมเมื่อจบการประชุมและสั่งให้แยกย้ายกันได้
"ไม่มีครับ"
"ถ้าสงสัยถามได้เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ"
"ค้าบ ว่าแต่พี่ก้องโคตรเก่งเลย ผมอยากทำได้แบบพี่บ้างจัง" เราเดินออกจากห้องประชุมมาด้วยกัน
"งั้นมาให้พี่สอนสิครับ เอ้อ เย็นนี้ไปหาอะไรกินกันมั้ย"
"เอ่อ คือ..."
"น่านะ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง กินเสร็จแล้วเดี๋ยวไปส่งที่บ้านด้วย"
"คือผมนัดกับเพื่อนไว้แล้วอะครับ ไปกับพี่ไม่ได้จริงๆ ขอโทษนะครับ" ผมบอกพี่ก้อง
"ใช่เพื่อนคนที่เดินมาส่งเรารึป่าว"
ผมยังไม่ทันตอบว่าใช่ ก้พอดีอั๋นเดินตรงเข้ามาหาผมกับพี่ก้อง มันอยู่ในชุดกีฬาครับ มันยกมือไหว้พี่ก้อง แล้วคว้าแขนผมขึ้นเบาๆ
"ปะ ไปกันหมอ"
ผมพยักหน้า เห็นสายตาพี่ก้องมองมาที่มืออั๋นกับมือผม
"งั้นไว้คราวหน้านะครับ พี่ไปก่อนนะ" พี่ก้องพูด โบกมือลา ตั้งท่าจะขยับเดิน
แต่อั๋นไม่หยุดแค่นั้น มันเอามือขึ้นมาโอบไหล่ผมแล้วพูดเสียงดังชัดเจนก่อนจะเดินออกไปก่อนพี่ก้องว่า
"คืนนี้ไปนอนบ้านกูนะหมอ"

-จบตอน-

อั๋นกับหมอคืนดีกันแล้ววว น่ารักสุดๆเลย
ว่าแต่สงครามกำลังจะเริ่มแล้วนะครับ555
Comment ให้ writer หน่อยน้าาา
หัวข้อ: Re: My Close Friend : ตอนที่12 (updated 7/5/2016)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 07-05-2016 23:25:07
ป๊าดดด

พี่ก้องจะแย่งน้องเหรอคะ

ขอให้อั๋นรู้ใจตัวเองไวๆ แล้วรุกจีบน้องได้แล้วเหวย เด๋ยวหมอโดนคาบไปแดกน้าาาา
หัวข้อ: Re: My Close Friend : ตอนที่13
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 09-05-2016 23:52:13
ตอนที่13

ผมเห็นแววตาคมของพี่ก้องแวบหนึ่งก่อนอั๋นจะเดินโอบผมออกมาจากตรงนั้น พอพ้นรัศมีพี่ก้องแล้ว ผมถามขึ้นทันที
"อั๋น ทำไรของมึงเนี่ย"
"ป่าวนิ ก้อยากเดินมารับมึงเฉยๆ"อั๋นตอบอย่างอารมณ์ดี เสียงงี้ระรื่นเชียว
"แล้วทำไมต้องไปพูดอะไรแบบนั้นกับพี่เค้าวะ"
"กูไม่ได้พูดกะพี่ก้อง กูบอกมึงต่างหาก" มันเถียง หันมายิ้มตาหยีให้ผม
"กูไม่ได้โง่นะ ดูก้รู้ว่ามึงบอกพี่เค้า...ไอ้บ้าเอ๊ย อยู่ๆก้ไปสร้างศัตรูเฉย"
"กูหวงมึงอะ" ดูมัน- -
"แล้วนี่ปล่อยกูได้ละ พี่ก้องไม่อยู่แล้ว"
"ม่าย" อั๋นยิ่งโอบผมไหล่ผมแน่นขึ้น แถมหน้าเราก้ใกล้จนจะชนกันอยู่แล้ว
"อี๋ เหม็นเหงื่อสัส" ผมแกล้งผลักมันเบาๆ
"รังเกียจผัวได้ไง"
ทันใดนั้น ผมหันไปเห็นน้องๆนักเรียนมัธยมต้นกลุ่มหนึ่งนั่งอยู่แถวสนามหญ้ากำลังส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดแล้วมองมาทางพวกเรา เอ่อ น้องเป็นผู้ชายไม่ใช่เหรอครับ ทำไมกรี๊ดกร๊าดล่ะ
"เหนมะ เราเป็นคู่จิ้น มีแฟนคลับด้วย"
"กูไปคู่กับมึงตั้งแต่เมื่อไรวะอั๋น คนเข้าใจผิดหมดล้าว- -"

เราเดินไปถึงห้องล็อคเกอร์ ผมไปนั่งรอที่หน้าห้อง ส่วนอั๋นเข้าไปอาบน้ำครับ
เสร็จแล้วมันก้เปลี่ยนเสื้อผ้ากลับเป็นชุดนักเรียน เราเดินต่อไปที่จอดรถเพื่อเอามอเตอร์ไซด์
"อาบนานสาด กูหิวแล้วเนี่ย" ผมบ่นทันที
"ขอโทษค้าบบ" อั๋นลากเสียงยาวอย่างกวนๆแล้วเอามือมาหยิกแก้มผมทั้งสองข้าง
"โอ๊ย เจ็บบ"
"555"
เราขับรถออกจากโรงเรียนมุ่งหน้าสู่central world ครับ อั๋นพูดระหว่างทางว่าวันนี้จะกินแซลมอนจนกว่าหน้าจะเหมือนปลาเลย เว่อร์สุดๆครับ- -
เข้าร้านปุ๊บ อั๋นก้สั่งอาหารอย่างคล่องแคล่วทันที
"เห้ย ใจเย็นดิ แดกไม่หมดกูไม่ช่วยจ่ายนะเว้ย"
"ไรว้า รับผิดชอบร่วมกันดิ...เออ กูว่าจะถามตั้งแต่เมื่อกี้ละ ที่ไอ้พี่ก้องพูดว่างั้นไว้คราวหน้า มันหมายถึงอะไรวะหมอ"
"อ๋อ พี่เค้าชวนกูไปกินข้าว แต่กูบอกว่ากูนัดกับมึงไว้แล้ว มึงก้เดินมาพอดี"
"อ้อ..."
ผมรู้ว่าอั๋นกำลังคิดอะไรอยู่
"ไม่มีไรหรอกน่า"
เมื่ออาหารมาเสิร์ฟ เราก้กินกันเต็มที่เหมือนไม่ได้กินอะไรมาทั้งวัน ผมเองกินทั้งปลาดิบกับซูชิหน้าต่างๆไปเยอะเลยครับ
"ไหนบอกกลัวไม่หมดไง แดกเยอะเชียวนะ"
"ก้กูหิวนี่หว่า"
"ดีละ จะได้โตไวๆนะซอมบี้"
"รอก่อน เดี๋ยวกูฟิตหุ่นสร้างซิกแพคขึ้นมาแล้วมึงจะหนาว" ผมยักคิ้วกวนๆ
"ผอมแห้งอย่างมึงน่าจะอีกนาน555"
"สาด"
จริงอย่างที่อั๋นพูดครับ ผมกินเท่าไรก้ไม่อ้วนเลย อยากจะมีกล้ามสวยๆแบบมันมั่ง อิจฉาชะมัด
ระหว่างรอจานต่อไปมาเสิร์ฟ ผมกับมันต่างหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นครับ
"เชี่ยยย" ผมร้องออกมา
"อะไรวะหมอ" อั๋นเงยหน้าขึ้นมามองผม
"มึงดูนี่..." ผมส่งโทรศัพท์ให้อั๋นดู มันรับไปแล้วอ่านนิ่งๆสักพักก่อนจะหัวเราะออกมา
ไอ้ต้าร์ capture โพสต์รูปคู่ผมกับอั๋นใน facebook page ของโรงเรียนมาให้ดูครับ เป็นรูปอั๋นกอดคอผมเดินที่สนามหญ้าเมื่อกี้นี้เองครับ ใครก้ไม่รู้ถ่ายแล้วส่งไปให้ admin ลง พร้อมติด #อั๋นหมอ ซะด้วย ยอด like และ comment เยอะมากครับ
มองดูดีๆแล้ว ในรูปก้ชวนคิดอยู่ เพราะมันกับผมเดินใกล้ชิดกันมาก แถมคุยกันจนหน้าแทบจะติดกันอยู่แล้ว
"ใครถ่ายวะ55"
"กูว่า น้องที่กรี๊ดกร๊าดพวกเราแน่เลย อยู่แถวนั้นพอดีด้วย สาด- -"ผมใช้ความคิด
"มีแต่คนเชียร์ให้เราคบกันจริงๆว่ะ" อั๋นเลื่อนอ่าน comment ยิ้มทะเล้น
"แบบนี้ก้ได้เหรอ ยังงี้คนอื่นจะเข้าใจว่าไรเนี่ย ทำไมคนถึงมา
จิ้นกูกับมึงวะ"
"เอ้า ถามอีกละ ก้เราเป็นแฟนกันนิ"
"- -"
"เอ้ย ไม่ใช่แฟน เป็นผัวเมียกันต่างหาก" อั๋นพูดหน้าระรื่น ผมส่ายหัวเบาๆ ยิ้มขำ ไอ้เรื่องคู่จิ้นนี่มีมาพักนึงแล้วครับ แต่พึ่งมีการถ่ายรูปพวกเราลงโซเชียลครั้งแรก แล้วผมก้ไม่รู้ด้วยว่าใครเป็น admin
เรานั่งกินอีกสักพักก้ไปจ่ายเงินก่อนจะออกมาเดินเล่นครับ
"มึงอยากดูไรปะ" อั๋นถาม
"ไปร้านหนังสือกัน กูอยากดูว่าการ์ตูนเล่มใหม่ออกรึยัง"
"เออๆ"
อั๋นเดินกอดคอผมอีกแล้วครับ ผมก้ปล่อยให้มันทำอย่างนั้น มันหันมายิ้มให้ผมเล็กน้อยก่อนจะผิวปากอย่างอารมณ์ดี
อยู่ๆผมก้ตระหนักได้ว่ารู้สึกแปลกๆที่อั๋นกอดคอผม ทั้งที่มันก้ทำอยู่บ่อยๆ แต่ทำไมวันนี้ผมถึงรู้สึกต่างออกไปนะ เกิดอะไรขึ้นเนี่ย

"เห้ย one punch man ออกแล้วว่ะ" ผมร้องอย่างดีใจก่อนจะตรงเข้าไปหาหนังสือการ์ตูนเรื่องโปรดที่กำลังติดตามอยู่ เรื่องนี้กำลังดังมากๆครับ
ผมคว้าขึ้นมา1เล่มแล้วเลื่อนตัวไปดูหนังสืออื่นๆที่ชั้นถัดไป อั๋นยืนอยู่ข้างหลังผม มองผมยิ้มๆ
"มึงไม่ซื้ออะไรเหรอ" ผมถาม
"ขอดูก่อน"
สักพักอั๋นเอื้อมแขนข้ามไหล่ผมมาหยิบหนังสือท่องเที่ยวที่อยู่ตรงหน้าผมพอดี มันขยับตัวเข้ามาประชิด วางคางเกยไหล่ผม สอดมือผ่านแขนผมแล้วพลิกหนังสืออ่าน
ตอนนี้มันกำลังกอดผมจากข้างหลังและอ่านหนังสืออยู่ด้วยครับ
"อั๋น ทำไรวะ"
"มึงดูนี่ดิ น่าไปเนอะ ปิดเทอมไปเที่ยวกัน" อั๋นไม่ตอบคำถามแต่พูดถึงเรื่องทะเล ชี้ผมให้ดูภาพในหนังสือ
"กอดกูเนียนเชียวนะ- -"
"อะไร ไม่ได้กอดซะหน่อย มึงยืนบังหนังสือที่กูจะหยิบอะ" มันเฉไฉ
"หราา" ผมขยับตัวจะออกมาจากอ้อมแขนไอ้อั๋น รู้สึกเขินครับ นี่เราอยู่ในร้านหนังสือนะ แต่อั๋นไม่ยอมปล่อยครับ คนอื่นเริ่มมองมาทางเรากันแล้ว
"ไอ้อั๋น ปล่อยนะ อายเค้า" ผมกระซิบ
"อายอ่อ อายทำไม คนเยอะแยะ"
"นั่นแหละถึงอายโว้ย- -"
มันหัวเราะเบาๆก่อนจะปล่อย แล้วขยี้หัวผมจนยุ่ง วางหนังสือท่องเที่ยวกลับลงบนชั้น ก่อนจะตามผมมาที่เคาน์เตอร์รับชำระเงิน
"เล่มเดียวนะคะ? 65บาทค่ะ" พี่พนักงานบอก มองผมกับอั๋นยิ้มๆ ไม่ใช่แค่คนนี้คนเดียวนะครับ พนักงานคนอื่นก้มองมาที่เราด้วย
อั๋นเหมือนจะรู้ มันยิ้มและเอามือมาโอบไหล่ผม ผมก้ดันหน้าแดงขึ้นมา เออ แทนที่จะช่วยกันแก้สถานการณ์นะมึง กลับยิ่งทำให้คนเข้าใจผิดไปอีก
"นี่ค่ะ" พี่พนักงานส่งเงินทอนมาให้ผม เรากำลังจะเดินออกจากร้านก้ได้ยินเสียงพี่พนักงานอีกคนถามขึ้น
"ขอโทษนะคะ น้องสองคนเป็นแฟนกันรึป่าวคะ" ถามเสร็จแล้วก้หันไปตีแขนเพื่อน เอ่อ สงสัยจะเป็นสาววาย
"ใช่ครับ" ไอ้บ้าอั๋น เห้ย ไปตอบเค้าอย่างนั้นได้ไงวะ
"มะ ไม่ใช่นะครับ" ผมรีบพูดขึ้น
"ไม่ต้องเขินน่าแฟน" อั๋นยังโอบไหล่ผมอยู่ แถมยังเอามือมาหยิกแก้มผมเบาๆ ตอนนี้พี่พนักงานทุกคนกำลังฟิน กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่เลยครับ
"ไอ้อั๋น" ผมร้องก่อนอั๋นจะพาผมเดินออกมาจากร้าน
"555"
"ไอ้บ้า ไม่ต้องมาหัวเราะเลย เล่นไรเนี่ย" ผมโวยวาย ต่อยแขนมันเบาๆ
"เออ ตกลงคืนนี้ไปนอนบ้านกูปะ"
"อ้าว ชวนจริงเหรอ นึกว่าพูดต่อหน้าพี่ก้องไปงั้น"
"ชวนจริงดิ แต่ก้ตั้งใจให้พี่เค้ารู้ด้วย" อั๋นยิ้มมุมปาก
"ร้ายนะมึงอะ"
"ไปดิ คิดถึง"
"จะอ้วก คิดถึงไร อยู่กับกูตั้งแต่เช้าเลยเนี่ย"
"ก้เดี๋ยวจะแยกกันแล้วก้คิดถึงไง นะๆ ไปนอนเถอะ"
"เออๆ"
"เย่ ง่ายนะเราอะ" อั๋นกระโดดโลดเต้น
"ไอ้สัส...งั้นต้องแวะบ้านกู เอาชุดนักเรียนก่อนนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้กูไม่มีใส่"
"ใส่ชุดกูก่อนก้ได้ จะได้ไม่ต้องแวะ"
"เออ ก็ได้..." ผมตกลงแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรบอกที่บ้านว่าคืนนี้ขอไปนอนบ้านอั๋น

มาถึงบ้านอั๋นก้สองทุ่มกว่าใกล้สามทุ่มแล้วครับ วันนี้ที่บ้านมันอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเลย พ่อแม่ เจ๊เอ๋ ทุกคนทักทายผมอย่างเป็นกันเอง
"หวัดดีลูก"
"หวัดดีจ้ะหมอ"
"หวัดดีน้องหมอ"
"หวัดดีค้าบ คืนนี้ขอรบกวนด้วยนะคับ"
"ตามสบายเลยลูก"
เห็นเจ๊เอ๋แล้วก้นึกขึ้นมาได้ว่าผมยังไม่ได้ขอบคุณแกที่ช่วยปิดเรื่องผมเมาแล้วอั๋นต้องพามานอนที่นี่เลย

เราอาบน้ำเสร็จก้นอนเล่นบนเตียงครับ ผมอ่าน one punch manที่พึ่งซื้อมา ส่วนไอ้อั๋นก้นอนเล่นมือถืออยู่ครับ
"เห้ย อีกแล้ว555"
"ไรวะ"
อั๋นยื่นมือถือมาให้ผมดู เอ่อ มีคนถ่ายรูปผมกับอั๋นที่ร้านหนังสือมาโพสต์ในเพจของโรงเรียนอีกแล้วครับ ต้องเป็นตอนที่มันกำลังยืนกอดผมแล้วอ่านหนังสืออยู่พอดีด้วยนะ ใครถ่ายฟะ อะไรจะจิ้นเราเบอร์นั้น- -
"สาดดด มึงเลย มากอดกู โดนอีกละเนี่ย"
"ขำๆน่า" อั๋นกับผมหัวเราะ พรุ่งนี้ไปโรงเรียนเราคงโดนพวกเพื่อนๆสอบสวนแน่ ไหนจะโดนจับตามองอีก เฮ้อ
ไม่อยากคิดเลย
เสียงเคาะประตูดังขึ้น
"เจ๊เอง"
อั๋นเดินไปเปิดประตู ผมเห็นเจ๊เอ๋ถือขนมติดมือมาด้วย
"เจ๊เอาขนมมาฝาก"
"ขอบคุณค้าบ"  อั๋นตอบเสียงใส
"ไม่ได้ให้แกย่ะอั๋น ให้หมอต่างหาก"
"โห ไรวะ"
"ล้อเล่น55 แบ่งกันกินสิ"
"ขอบคุณครับ เออ ขอบคุณเจ๊เอ๋เรื่องวันนั้นด้วยนะครับ ผมยังไม่ได้บอกเจ๊เลย"
"เหย สบายมาก ว่าแต่คราวหลังเพลาๆลงหน่อยก้ดี เห็นอั๋นแบกเรากลับมาโคตรน่ากลัวเลย ตัวแดงมาก"
"แหะๆ ขอโทษนะครับ"
"จ้า งั้นไม่กวนละ"
"มึงกินปะ" อั๋นถาม
"กูยังอิ่มอยู่เลย"
"เออ เหมือนกัน กินไปเยอะชิบ งั้นไว้กินพรุ่งนี้ละกัน"

แล้วเราก้คุยเล่นกันต่อจนเริ่มง่วง อั๋นเดินไปปิดไฟห้องครับ
"พรุ่งนี้ห้ามสายนะเว้ยหมอ" อั๋นเดินกลับมาขึ้นเตียง
"ปลุกกูละกัน"
ผมดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัว ขยับนอนตะแคงหันหลังให้อั๋น แต่มันขยับเข้ามาใกล้แล้วยื่นมือมากอดผมจากด้านหลัง
"ขอกอดหน่อยนะ" อั๋นพูด
"มากอดกูทำไมเนี่ย"
"ก้หนาวอะ กอดหน่อยไม่ได้หรอ"
"หนาวก้ไปปรับแอร์ดิ ห่มผ้าอยู่ด้วยไม่ใช่เหรอ"
"...กอดหมอมันอุ่นกว่านิ"
ผมหลุดยิ้มออกมา
"ขี้อ้อนนะมึงอะ"
ผมไม่ได้ขัดขืนอะไร คืนนั้นผมนอนหลับไปพร้อมรอยยิ้มอย่างมีความสุข

-จบตอน-

มาต่อแล้วนะค้าบ โอย ฟินกับโมเม้นอั๋นหมอ ดังใหญ่เลยนะ มีคนถ่ายรูปมาลงเพจโรงเรียนด้วย อิอิ
ตอนนี้writerเอาชื่อไทยมาฝากด้วยนะครับ เย่ๆ ต่อไปนี้ชื่อเรื่องว่า My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก นะครับนะ อรั๊ย
เพื่อนๆชอบโมเม้นอั๋นหมอรึป่าวเอ่ย ถ้าชอบ comment กันเยอะๆนะ^^
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่13 (updated 9/5/2559 23.55)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 10-05-2016 06:42:28
นึกว่าเจ๊เอ๋จะมาเคาะประตูคุยเรื่องรูปซะละ

หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่13 (updated 9/5/2559 23.55)
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 10-05-2016 08:02:46
รักคู่นี้จัง  :o8:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่13 (updated 9/5/2559 23.55)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 10-05-2016 15:05:29
อั๋น เนียนกอดหมอตลอด :o8:
อั๋นเริ่มรู้ใจตัวเองละ
พี่ก้อง ท่าจะชอบหมอนะ
รอตอนใหม่  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่13 (updated 9/5/2559 23.55)
เริ่มหัวข้อโดย: ~tai~ ที่ 10-05-2016 15:59:21
น่าร้ากกกกกอ่ะ ....อ่านแล้วยิ้มแก้มปริเลยทีเดียว  o13
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่14
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 11-05-2016 21:17:08
ตอนที่14

6.35
วันนี้ผมตื่นก่อนอั๋นได้ไงไม่รู้ รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเองเลย กำลังจะขยับตัวลุกขึ้น แต่อั๋นยังนอนกอดผมอยู่และซบหน้าลงมาบนบ่า
ผมมองอั๋นจากด้านข้าง มันหลับตาพริ้ม ท่าทางมีความสุข ผมค่อยๆเลื่อนมือลงไปสัมผัสมืออั๋นเบาๆ ไม่รู้ว่าอะไรสั่งให้ผมทำอย่างนั้น
ทันใดนั้นเสียงอู้อี้ก้ดังขึ้น
"อย่าลักหลับดิหมอ..."
ผมตกใจนิดหน่อย หันไปก้เห็นอั๋นยิ้มหวานให้ผม
"ไม่ได้ลักหลับเว้ย"
"แล้วจับมือกูทำไมอะ"
"ก้...เปล่านิ ไม่ได้จับซะหน่อย" ผมอึกอัก
"โกหกหน้าตายเลยนะ" ผมล่ะเกลียดน้ำเสียงรู้ทันของมันจริงๆ
"มึงตื่นตั้งนานแล้วแต่แกล้งหลับใช่ปะ ลุกเลยๆ" ผมเปลี่ยนเรื่อง เขินครับ พยายามผลักแขนมันออกจากตัว
"ตื่นตอนที่โดนจับมือนั่นแหละ...อือ อย่าพึ่งลุกสิ ขอกอดอีกแปบนึง" อั๋นยิ่งกอดแน่นขึ้นอีกและกระซิบข้างหูผม นั่นทำให้ผมขนลุกซู่เลยทีเดียว
"กูไม่ใช่หมอนข้างนะ" ผมบ่นอุบ
อั๋นยิ้ม ไม่ตอบอะไร เลื่อนมือข้างหนึ่งมาจับมือผมไว้ มืออีกข้างแตะตรงเอวผม และไล้ริมฝีปากผ่านต้นคอผมช้าๆ แผ่วเบา
"อ๊ะ ทำไรวะ อือ..." ผมเผลอร้องออกมาด้วยความเสียว แกล้งกันแต่เช้าเลยนะ อั๋นได้ยินอย่างนั้นก้ยิ่งได้ใจใหญ่ เล่นกับคอผมต่อไป ปลายจมูกของมันจดอยู่ที่ไรผม
ผมไม่รู้ตัวว่าหยุดดิ้นและนอนนิ่งให้มันทำอย่างนั้นไปตั้งแต่ตอนไหน สักพักอั๋นยอมปล่อยผมออกจากอ้อมแขน ใบหน้ายิ้มกรุ้มกริ่ม
"เคลิ้มเชียวนะหมอ"
"สาด" ผมทุบแขนมันเบาๆก่อนจะลุกขึ้น รีบคว้าผ้าเช็ดตัวแล้วเดินออกไปทันที ได้ยินเสียงอั๋นหัวเราะเบาๆอย่างถูกใจ

เมื่อผมกับอั๋นเดินเข้ามาในโรงอาหาร รอเวลาเข้าแถวเคารพธงชาติ ผมเห็นว่ามีนักเรียนหลายๆคนมองเราอย่างโจ่งแจ้ง ชี้มือมาที่เราแล้วก้หันไปคุยกัน สงสัยจะเป็นเรื่องภาพในเพจแหงๆ
"อย่าให้กูจับได้นะว่าใครเป็นadmin กูจะไปหักคอแม่ง" ผมพูดเบาๆกับอั๋น
"โหดว่ะ55 ขำๆน่ามึง คิดไรมาก"
"อ้อ แล้วคนที่ถ่ายรูปด้วย ยังงี้มันแอบถ่ายกันชัดๆ ดูผลงานดิ มีแต่คนมองเต็มไปหมด- -"
"ขี้บ่นนะเรา"
เรากินข้าวเช้ากันไปเงียบๆ วันนี้เตรียมกับข้าวมาจากบ้านครับ

"เห้ยๆ คู่จิ้นคนดังมาแล้วว่ะ"
"อรั๊ยย"
ไอ้นนท์พูดขึ้นทันทีเมื่อผมกับอั๋นเดินเข้ามาในห้องเรียน ตามด้วยเสียงแซวชุดใหญ่จากทุกคนในห้อง หลังเข้าแถวเสร็จเราสองคนเดินไปเข้าห้องน้ำกันก่อนขึ้นห้องครับ
"ไรมึง" ผมพูด
"พวกมึงหวานสาด ทุกคนเค้าเห็นรูปในเพจโรงเรียนกันหมดแล้ว" ไอ้เอกบอก
"รูปแรกอะไม่เท่าไร แต่รูปที่ไอ้อั๋นกอดไอ้หมอในร้านหนังสือนี่มันหมายความว่าไงวะ" ไอ้ต้าร์พูด คนอื่นๆยิ่งส่งเสียงดังไปอีก มึงจะขยี้ทำไมวะครับ- -
"ทำไม กูกอดมันไม่ได้รึไง" อั๋นอมยิ้ม
"ไอ้บ้าอั๋น- -"
"เห้ย นี่เมื่อคืนพวกมึงนอนด้วยกันอ่อ" ไอ้เอกถาม
"รู้ได้ไงวะ"
"ก้มึงใส่ชุดนักเรียนไอ้อั๋นมา ใครไม่รู้ก้บ้าแล้ว"
ตามด้วยเสียงล้อเลียนดังลั่น ผมจะไม่แปลกใจเลยถ้าอาจารย์ปกครองเดินมาด่า เออว่ะ ผมใส่ชุดนักเรียนอั๋นอยู่นี่หว่า ผมหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที
"ช่างสังเกตนักนะมึง" ไอ้อั๋นหันไปว่าไอ้เอก แต่หน้ายังยิ้มกว้าง
"เห้ยๆ ครูมาแล้ว" ใครคนหนึ่งพูดขึ้น แล้วทุกคนก้กลับไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง แต่ตลอดคาบเช้าเพื่อนๆก้ยังคงมองมาที่อั๋นกับผม ไม่ทำท่าล้อเลียนก้มองยิ้มๆ ไอ้พวกเวรเอ๊ย

พักกลางวัน ผมกำลังกินข้าวพร้อมคุยกับเพื่อนๆอยู่ ก้พอดีมีกลุ่มพี่มัธยม6มานั่งโต๊ะที่อยู่ติดกันครับ ในกลุ่มนั้นมีพี่ก้องอยู่ด้วย พอพี่เค้าเห็นผมนั่งอยู่ริมโต๊ะ ก้เดินมานั่งข้างๆผมทันทีครับ
"หวัดดีครับน้องหมอ" พี่ก้องทักทายผมเสียงใส
"หวัดดีครับพี่"
ไอ้อั๋นกำลังไปซื้อน้ำครับ ถ้ามันกลับมาเห็นพี่ก้องมันจะทำอะไรวะเนี่ย ชิบหายแล้ว
"เมื่อวานไม่ยอมบอกพี่ตรงๆนะว่านัดแฟนไว้" พี่ก้องคงจะเห็นรูปผมกับอั๋นในfacebookสินะ
"ไม่ใช่นะพี่ เพื่อนผมๆ"
"อ่าวเหรอ นึกว่าเป็นแฟนกัน"
"ไม่ใช่แฟนค้าบ"
"อ้อ ถ้างั้นเราก้โสดดิ"
"ใช่เลย" พี่ก้องยิ้มกว้างกับคำตอบของผม
"เดี๋ยวพี่มานะ"
"ครับ" พี่ก้องละจากจานอาหาร ลุกขึ้นไปไหนไม่รู้ ไม่ถึงนาที อั๋นกลับมานั่งฝั่งตรงข้างผม
"อะ ช็อคโกแลตร้อนของมึง จ่ายกูมาด้วย" ผมฝากอั๋นซื้อครับ ของโปรดของผมเลย
"อั๋นไม่เลี้ยงหมอเหยอ" ผมแกล้งอ้อน
"ไม่โว้ย เอามาเลย 20"อั๋นแบมือใส่ผม ยังไม่ส่งแก้วช็อคโกแลต มาให้
"ไรว้า งกว่ะ" ผมบ่นไปงั้น กำลังจะหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมา
"อะ พี่ซื้อน้ำมาฝากคับ" พี่ก้องกลับมาพร้อมวางแก้วน้ำเขียวลงตรงหน้า ผมหันไปมองอั๋น มันหน้าบึ้งขึ้นมาทันทีครับ แย่แล้ว
"เอ่อ ไม่เป็นไรครับพี่ ผมเกรงใจ พี่กินเถอะครับ" ผมรีบบอกพี่ก้อง
"ไม่เป็นไร แก้วนี้พี่เลี้ยง อยากซื้อมาให้เรา ถ้าเราไม่กินพี่คงเสียน้ำใจแย่" พี่ก้องพูดพร้อมหันไปมองหน้าอั๋นแวบหนึ่ง
"เอ่อ" ผมอึกอัก ไม่อยากให้พี่ก้องคิดว่าผมไม่รับน้ำใจเค้า แต่ถ้ารับมาก้กลัวอั๋นโกรธ
"หมอ มึงไม่ชอบกินน้ำเขียวไม่ใช่เหรอ อะ กินนี่ กูซื้อมาให้" อั๋นพูดเสียงเย็น เลื่อนแก้วช็อคโกแลตมาตรงหน้าผมอีกแก้ว
ตอนนี้ทั้งเพื่อนผมเพื่อนพี่ก้องหันมามองเราสามคนเป็นตาเดียว โอย ผมควรทำไงดีเนี่ย
"อ้าว หมอไม่ชอบน้ำเขียวเหรอ แล้วชอบกินอะไรล่ะ เดี๋ยวพี่ไปซื้อมาให้ใหม่"
"เห้ย ไม่ต้องครับพี่"
อั๋นจ้องพี่ก้องตาจะถลนแล้ว

ในที่สุดผมก้ตัดสินใจเลือกอั๋น
"พี่ก้องครับ ไม่เป็นไรจริงๆพี่ ผมมีน้ำแล้ว พี่กินเถอะ ไว้คราวหน้าค่อยเลี้ยงผมก้ได้" ผมพูดอย่างจริงจัง หันไปมองหน้าพี่ก้องตรงๆ อั๋นยิ้มออกมาอย่างผู้ชนะ
"เอ่อ งั้นก้ได้ครับ" พี่ก้องดูผงะไปนิดหนึ่ง หลังจากนั้นก้ไม่มีใครพูดอะไรต่อ แต่ก่อนพี่ก้องจะลุกไปเก็บจานอาหาร เค้าหันมาหาผมกับอั๋น
"คราวหน้าหมอต้องยอมให้พี่เลี้ยงนะ ไว้เจอกันครับ" พูดจบก้ยิ้มอย่างอันตราย
"หวัดดีครับพี่" อั๋นพูดเสียงใส ยกมือไหว้พี่ก้อง พี่เค้ามองตา ขวางอย่างน่ากลัวก่อนจะลุกไป

"เชี่ยอั๋น มึงเอาอีกแล้วนะ" ผมหันไปต่อว่าอั๋นทันทีหลังจากพายุสงบลง
"กูยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ" อั๋นตอบกวนๆ ทำท่าไม่รู้ไม่ชี้อย่างอารมณ์ดี
"ไอ้บ้า ไปบอกพี่เค้าได้ไงว่ากูไม่ชอบน้ำเขียว เดี๋ยวโดนตีนพี่เค้าขึ้นมากูไม่ช่วยนะเว้ย"
"มาดิ กูไม่กลัว"
"เฮ้อ" ผมถอนหายใจออกมา ต่อจากนี้คงต้องอยู่แบบหนาวๆร้อนๆแล้วมั้ง
"แต่เมื่อกี้ขอบใจนะ"
"ขอบใจไร"
"ที่มึงเลือกชอคโกแลตร้อนไง" อั๋นยิ้มน้อยๆ

หัวข้อที่เพื่อนๆห้องผมสนทนากันในคาบหลังพักเที่ยงหนีไม่พ้นเรื่องของผม อั๋น และพี่ก้อง แต่ไม่มีใครกล้าถามเรื่องนี้ตรงๆกับผมหรืออั๋นเลยครับ
เฮ้อ พี่ก้องเข้าหาผมเพราะจะจีบผมเหรอเนี่ย
แล้วที่อั๋นบอกว่าหวงผม ขัดขวางพี่ก้องอย่างนั้น แสดงว่ามันก้กำลังทำสิ่งเดียวกับที่พี่ก้องทำ

อั๋นชอบผม
...

"โอ๊ย" ผมหลุดจากภวังค์ ไอ้คนต้นเหตุที่ทำให้ผมนั่งคิดอยู่ใช้นิ้วดีดหน้าผากผมครับ
"เหม่ออะไรของมึงวะหมอ เรียนๆ"
"เจ็บนะเว้ย" ผมถูหน้าผากเบาๆ
"เจ็บหรอ มาๆ อั๋นเป่าให้ เพี้ยง" มันขยับเข้ามาเป่าหน้าผากผม
"ไปไกลๆเลย" ผมเอามือยันตัวมันไม่ให้ขยับเข้ามาใกล้ผมไปมากกว่านี้
"หลังห้องน่ะตั้งใจเรียนหน่อยสิ" อาจารย์หันมาดุครับ พวกเราหยุดคุยกันทันที
อั๋นชอบผม
ประโยคนั้นยังดังก้องอยู่ในหัวผมอีกหลายรอบ และไม่สามารถสลัดให้หลุดออกไปได้ ผมไม่ได้เข้าข้างตัวเองใช่มั้ย
มีอีกประโยคหนึ่งที่ชวนปวดหัวไม่แพ้กันก้คือ แล้วผมล่ะ ชอบอั๋นหรือเปล่า?
"หมอ ตารางแข่งคัดตัวออกแล้วว่ะ กูคัดอาทิตย์หน้า"
รู้ตัวอีกทีก้หมดคาบแล้ว เอ่อ นี่ผมเหม่อขนาดไม่รู้ว่าอาจารย์ออกไปตอนไหนเลยเหรอ อั๋นกำลังดูรูปตารางคัดตัวนักกีฬาในไลน์อยู่ มันตัดสินใจว่าจะไปคัดตัวกีฬาบาสเกตบอลครับ
"เหรอ กี่โมงวะ"
"ห้าโมงเย็นวันอังคาร มึงไปเชียร์กูด้วย"
"ไม่ไปเว้ย" ผมกวนตีน
"ไรว้า ไม่ไปเชียร์กูอ่อ"
"ไม่"
"เออ จำไว้" อั๋นทำแก้มป่องแล้วหันหน้าไปอีกทาง
"น่ารักตายแหละ555"
"ง้อเลย งอนอยู่"
"หืม ต้องง้อด้วยเหรอ" ผมยิ้ม
"สาด ง้อกูเลย"
"ง้อยังไงอะ"
"หอมแก้ม"
"พ่อง ไม่เอา"
"งั้นกูไม่หายงอน"
"มึงจะบ้าหรอ"
ผมกับอั๋นหัวเราะออกมาพร้อมกัน ไม่ทันสังเกตเลยว่าเพื่อนทั้งห้องกำลังจับตาดูเราอยู่ พอหันไปเห็นสายตาเพื่อนๆ เราหยุดหัวเราะเลยครับ
ทุกคนไม่พูดอะไร ได้แต่ยิ้มกรุ้มกริ่มแล้วก้หันไปทำอะไรก้ตามที่ตัวเองกำลังทำอยู่ ส่วนผมเขินจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนีอยู่แล้ว ดันมาเล่นกับไอ้อั๋นให้เพื่อนเห็นแบบนี้

หลังเลิกเรียน อั๋นมาส่งผมที่บ้านตามปกติ วันนี้ผมขอกลับบ้านเร็วหน่อยครับ เมื่อคืนไม่ได้นอนบ้าน แหะๆ
"เฮ้อ วันนี้เหงาจังไม่มีใครให้นอนกอด"
"ไอ้บ้า ก้กอดหมอนข้างไปดิ"
"กอดหมอนมันไม่เหมือนกอดหมอหรอกนะ"
...
นี่มันกำลังจีบผมอยู่ใช่มั้ย อ้อนขนาดนี้
"สรุปต้องไปดูกูคัดตัวนะ"
"เออๆ ไปดิ กูจะพลาดได้ไง"
"ดีมาก" พูดแล้วก้เอามือมาขยี้หัวผมเบาๆ
"อั๋น"
"หือ..."
ผมเกือบจะถามมันไปแล้วว่ามันชอบผมหรือเปล่า
"ว่าไงหมอ"
"...ขับกลับบ้านดีๆล่ะ"
"ค้าบบบ นึกว่ามีเรื่องอะไร" อั๋นยิ้มกว้าง ปล่อยมือจากหัวผม กลับไปขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซด์ ผมตัดสินใจไม่ถามออกไป ด้วยเหตุผลอะไรก้ไม่รู้
"หมอ"
"หืม"
"กูไม่ยอมแพ้พี่ก้องหรอกนะ"
อั๋นยิ้มมุมปากก่อนจะขับออกไป ทิ้งให้ผมตะลึงกับคำพูดของมันอยู่ตรงนั้น

-จบตอน-

ไม่ปล่อยให้คุณผู้อ่านรอนาน เรารู้ว่าทุกคนคิดถึงอั๋นหมอ อิอิ หลังจากนี้จะเป็นยังไงต่อไปน้าา
เป็นกำลังใจให้ My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก กันด้วยนะค้าบ :)
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่14 (updated 11/5/2559 21.20)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 11-05-2016 21:26:40
บร๊ะเจ้า

อั๋นไฟลุก!!!!!!!

:D ดีงาม
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่14 (updated 11/5/2559 21.20)
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 11-05-2016 21:36:43
อั๋นรุกแรงแล้วจร้า :laugh:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่14 (updated 11/5/2559 21.20)
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 11-05-2016 22:59:12
เหวยๆๆๆๆ อั๋นเผยความรู้สึกออกมาแล้ว
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่14 (updated 11/5/2559 21.20)
เริ่มหัวข้อโดย: panitanun ที่ 11-05-2016 23:24:26
งือออเค้าจีบกันนค่ะคุณ :hao7:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่14 (updated 11/5/2559 21.20)
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 12-05-2016 10:50:15
คำสุดท้ายนั่นมันอารายยยย
พลังทำลายล้างสูงเกิ๊น
อยากอ่านต่อแล้วคร่า
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่14 (updated 11/5/2559 21.20)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 12-05-2016 14:54:23
หมอยังสับสนไรอีก เรื่องชอบอั๋น
หมอรู้สึกไม่ดีตอนอั๋นไปพบหญิงลูกเพื่อนพ่ออั๋น
รู้สึกเสียใจ หงอยเหงา ที่อั๋นงอนโกรธ รู้สึกดีตอนอั่น มาง้อ
วาบหวิว ตอนอั๋นมากอด มาหอม
ยอมปฏิเสธพี่ก้อง เรื่องนัด เรื่องน้ำ
มันมากกว่าเพื่อนแล้วนะหมอ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่15
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 14-05-2016 15:18:09
ตอนที่15

'กูไม่ยอมแพ้พี่ก้องหรอกนะ'

อั๋นกำลังจีบผม ไม่มีอะไรชัดเจนมากไปกว่านี้แล้ว

หมอ มึงควรทำตัวยังไงดี
...ทำตัวปกติไง
จะปกติได้ไง อั๋นไม่ได้คิดกับมึงแค่เพื่อนแล้วนะเว้ย
...ปกติได้ดิ เราไม่ได้เลิกเป็นเพื่อนกันซะหน่อย
อั๋นอยากเป็นแฟนมึงโว้ย มันปกติไม่ได้

ผมกำลังสู้รบกับตัวเองในหัวอยู่บนโต๊ะอาหารมื้อเย็นที่บ้าน หัวจะระเบิดแล้วครับ
ที่น่าหนักใจยิ่งกว่าเรื่องมานั่งคิดว่าจะทำตัวยังไงต่อจากนี้คือ ผมรู้สึกยังไงกับมันมากกว่า

ชอบ...

ผมยอมรับตัวเองมาพักหนึ่งแล้วว่ารู้สึกดีกับอั๋น แต่ปัญหาหนึ่งก้ยังคงอยู่ ไอ้หมอ มึงเป็นผู้ชายนะโว้ย!

หรือว่า ผมเป็นเกย์...
"หมอ เป็นไรรึป่าวลูก" แม่ถามขึ้นเมื่อเห็นผมสะบัดหัวแรงๆ ราวกับทำอย่างนั้นแล้วจะขับไล่ความคิดออกไปได้
"ปะ ป่าวครับ"
"แม่เห็นนั่งเหม่อมองจานข้าวมาตั้งนานละ ไม่ยอมกินซะที"
ผมรีบตักข้าวเข้าปากไปหนึ่งคำ ชวนแม่คุยเรื่องอื่น
"แม่ พ่อจะกลับมาเมื่อไรอะ"
"เห็นบอกว่า2-3ทุ่มมั้ง นี่ ตกลงว่ามีเรื่องอะไรไม่สบายใจรึป่าวเนี่ย"
"ไม่มีค้าบ"
"จริงนะ"
"จริงดิ"
ผมโกหก ถ้าแม่รู้ว่าผมคิดอะไรอยู่ มันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ แม่ยังคงขมวดคิ้วพร้อมมองมาที่ผมอย่างสงสัย แต่ก้ไม่ได้ถามอะไรต่อ เฮ้อ ขอโทษนะครับ

(หมอออ)
อั๋นไลน์มาครับ
(ว่า)
(กินข้าวยัง)
(กำลังกินอยู่เลย มึงอะ)
(กินแล้ว)
ผมรู้สึกกระอักกระอ่วนขึ้นมานิดหน่อยแม้จะตอบอั๋นในไลน์ มันเงียบไป ผมก้เงียบ ไม่รู้จะคุยอะไรต่อ ปกติแล้วเรามีเรื่องคุยกันต่อเนื่องทุกวันเลยครับ
สักพักมันไลน์มาอีก
(พรุ่งนี้กูจะไปซ้อมบาสกับไอ้ต้าร์อะ ไปอยู่เป็นเพื่อนกูหน่อยดิ)
(ซ้อมไปแข่งคัดตัวอะนะ)
(อืม)
เอ่อ ให้ผมไปนั่งดูมันเฉยๆเหรอ
(ให้กูไปทำไรอะ)
(ก้มาดูกูไง)
(ดูไม)
(กวนปะ- -)
(เอ้า ถามจริงๆ)
(ก้ มาเฝ้าอะ มาดูกูเล่นหน่อยไม่ได้อ่ออ)
เหมือนได้ยินเสียงมันอ้อนมาจากในไลน์เลยครับ
(อะ ไปก้ไป)
(เย่ รักหมอที่สุดในโลกเยยย)
(จะอ้วกว่ะ)
(อุอิ ครุคริ)
(เป็นไรของมึง- -)
(5555)
รู้ครับว่ามันอยากให้ผมไปหา แต่แกล้งอึนใส่อั๋น555 ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นผู้หญิงไปนั่งรอแฟนเตะบอลยังไงก้ไม่รู้- -
(แล้วซ้อมกับพวกรุ่นพี่เหรอ)
(ช่าย)
(อือ)
(นี่กินข้าวเสร็จยัง)
(ยัง นั่งคิดไรเรื่อยเปื่อยอยู่ด้วย)
เห้ย ผมเผลอพิมพ์ออกไปได้ไง
(คิดไรหว่า)
(ไม่เสือกดิ55)
(สัส)
(แบร่)
แล้วอั๋นก้ส่งสติ๊กเกอร์ตัวการ์ตูนโกรธมารัวๆเลย กวนตีนมันสนุกดีครับ555
ระหว่างนั้น พี่ก้องก้ไลน์มาอีกคน
(หมอ กินข้าวยัง)
(กินอยู่ค้าบ)
พี่ก้องส่งรูปสปาเก็ตตี้ที่เค้าทำเองมาให้ดู ตั้งแต่วันที่เจอเค้า พี่ก้องไลน์มาหาบ่อยเหมือนกันครับ ถามว่าทำอะไรอยู่ หรือไม่ก้ส่งรูปตัวเองว่ากำลังทำอะไรอยู่มาให้ผมดู
(น่ากินป่าวว)
(อยากกิน)
(ไว้มาบ้านพี่ดิ เดี๋ยวจะทำให้กิน)
ผมไม่ได้พิมพ์ตอบ นี่ผมกำลังโดนผู้ชาย2คนตามจีบอยู่จริงๆสินะ

คาบคอมพิวเตอร์ที่โรงเรียนวันต่อมา แน่นอนว่าผมกำลังนั่งท่องเว็บอย่างสนุกสนาน ไม่ได้ฟังอาจารย์สอนเลย ส่วนไอ้อั๋นที่นั่งอยู่ข้างผม ตั้งใจเขียนภาษาซีที่อาจารย์สอนสุดๆ
"เล่นเน็ตอีกแล้วนะมึง" อั๋นหันมาดุผม
"กูเบื่ออะ เรียนไม่รู้เรื่อง"
"ก้มึงไม่ตั้งใจเรียนอะ"
"ดุว่ะ" ผมหน้ามุ่ย
"เรียนเดี๋ยวนี้เลย" แล้วอั๋นก้เอื้อมมือมาปิดgoogle chromeที่คอมฯผม เปิดหน้าโปรแกรมภาษาซีขึ้นมาแล้วจับมือผมให้พิมพ์บนคีย์บอร์ดตามอาจารย์
"อั๋น- -"
"มึงดื้ออะ"
"เรียนก้ได้ๆ เดี๋ยวกูพิมพ์เอง"
"ดีมาก" มันปล่อยมือผมแล้วขยี้หัวผมเบาๆหนึ่งที
ผมก้ตามไม่ทันอยู่ดีครับ นี่มันภาษาอะไรเนี่ย ยากโคตร ผมต้องเรียกอั๋นให้มาช่วยบ่อยๆ
ใกล้หมดคาบ อาจารย์ให้ทำงานส่ง อั๋นทำเสร็จแล้ว ผมก้เสร็จแล้วเพราะอั๋นช่วย55 มันโอบรอบเอวผมด้วยแขนสองข้างแล้วยกผมจากเก้าอี้ขึ้นไปนั่งตักมัน- -
"เชี่ยอั๋นน" ผมร้อง
อั๋นยิ้มร่า รัดผมแน่น
"ขอกอดหน่อย"
"กอดอีกละ"
"เมื่อคืนไม่ได้นอนกอดหมออะ คิดถึง" อั๋นกระซิบเบาๆข้างหูผม
"ไอ้บ้า"
อั๋นยิ้มจนตาหยี มันซุกหน้าลงมากับหลังผม ตัวผมแนบไปกับตัวมัน ผมรู้สึกเหมือนมีกระแสไฟฟ้าปริมาณมากกำลังไหลผ่านตัวผม
โชคดีที่เรานั่งกันอยู่แถวหลังสุดของห้องคอมพิวเตอร์ อาจารย์มองไม่เห็น ส่วนเพื่อนคนอื่นๆก้กำลังจดจ่อกับงานของตัวเองอยู่ครับ ไม่มีใครสนใจผมกับอั๋น
อั๋นเริ่มซนแล้วครับ มันใช้มือลูบสีข้างผมเบาๆ ลากขึ้นลงช้าๆ อือ...
"อั๋นน อย่านะ" ผมบอกเสียงสั่น
อั๋นไม่ยอมหยุดแกล้ง ในที่สุดผมก้เอื้อมมือไปถึงเอวมันแล้วจั๊กจี้อย่างแรงเลยครับ
"เห้ยยย" อั๋นสะดุ้งตัวอย่างแรงแล้วรีบปล่อยผมทันที เสียงอั๋นทำให้อาจารย์กับเพื่อนอีกหลายคนหันมามองหลังห้อง ผมรีบกลับไปนั่งเก้าอี้ตัวเองตามปกติ
"จีบกันอ่อพวกมึง" ไอ้ต้าร์หันมาแซว
พอทุกคนหันกลับไป อั๋นพูดขึ้น
"ฝากไว้ก่อนนะหมอ" มันชี้นิ้วใส่ ผมยักคิ้วตอบ

หลังเลิกเรียนผมเดินไปสนามบาสเกตบอลกับอั๋น ต้าร์
"ลงเล่นด้วยกันมั้ยหมอ" ต้าร์ชวน
"ไม่ดีกว่า วันนี้กูไม่ได้เอาชุดมาเปลี่ยน แล้วพวกมึงก้ซ้อมแข่งนิ ไว้เล่นกันหนุกๆวันหลัง"
"แล้ววันนี้มึงมาไมเนี่ย...อ้อ มาให้กำลังใจแฟนมึงสินะ" ต้าร์พยักเพยิดไปทางอั๋น
"มาดูพวกมึงเล่นเฉยๆโว้ย"
"หราา"
ไอ้อั๋นไม่ตอบอะไร แอบยิ้มกว้างให้ผมตอนที่ไอ้ต้าร์หันไปทางอื่นแล้ว
เมื่อไปถึงสนามบาสฯ ผมแยกไปนั่งตรงม้านั่งข้างสนาม อั๋นกับต้าร์วางสัมภาระทุกอย่างไว้ข้างผม
"ดีๆ มีเด็กมาเฝ้าของให้ด้วย55" ต้าร์พูด ผมชูนิ้วกลางให้ มันเดินเข้าไปทักทายพี่สีที่มาถึงสนามก่อนแล้ว
"เดี๋ยวมานะ จับตาดูกูเล่นให้ดีๆล่ะ" อั๋นยักคิ้วให้ผม
"ขี้อวดว่ะ เล่นเสร็จแล้วค่อยมาอวดดิ"
"สาด" อั๋นเอามือมาขยี้หัวผม เป็นอะไรกับหัวผมวะครับ ชอบเล่นจัง
แล้วอั๋นก้เดินลงสนามไปเป็นคนสุดท้าย ทุกคนยืดหยุ่นร่างกายสักพักก่อนเริ่มเล่น ผมมองอั๋น มันหุ่นดีมากครับ สูงโปร่งดูเป็นนักกีฬาจริงๆ หน้าคมๆของมันดูโดดเด่นออกมาจากคนอื่นมากเลย
เอ่อ นี่ผมสังเกตอะไรมันอยู่เนี่ย- -

จากนั้น พวกนักกีฬาก้เริ่มวิ่งรอบสนาม ผมนึกขึ้นได้ว่าน่าจะซื้อน้ำให้อั๋นกับต้าร์ตอนเบรคสักหน่อย เลยเดินออกไปที่ร้านขายของแถวสนาม
ผมเดินไปพิมพ์ไลน์ไปไม่ทันสังเกตคนที่เดินสวนมาจากอีกทาง ชนกันเลยครับ
"ขอโทษครับ" ผมรีบบอก โชคดีที่อีกฝ่ายแค่เซไปนิดๆเท่านั้น
"ไม่เป็นไรครับ" เขาเงยหน้าขึ้นมา ยิ้มอย่างมีมารยาท ผมจำได้ว่าเขาเป็นเด็กมัธยม4เหมือนกัน แต่อยู่สายวิทย์-คณิตครับ
"เอ่อ ขอโทษจริงๆนะ"
"เห้ย ไม่เป็นไร"
เขายิ้มให้ผมอีกครั้ง เดินจากไป ท่าทางเร่งรีบ

กลับมาถึงสนามพวกอั๋นก้เริ่มเล่นกันแล้ว อั๋นเล่นอยู่ฝั่งเดียวกับ ต้าร์ แล้วก้มีรุ่นพี่อีก5คนที่อยู่ในฝั่งด้วย
ตอนนี้ต้าร์กำลังเลี้ยงลูกบาสฯหลบฝั่งตรงข้าม มีหลอกด้วย แล้วส่งต่อให้อั๋นชู้ต อั๋นรับแล้วชู้ตลงห่วงอย่างสวยงาม
มันหันมาหาผมแล้วพยักหน้าให้นิดหนึ่ง ผมเข้าใจว่านั่นหมายความว่า เป็นไงล่ะ เชื่อฝีมือรึยัง
ผมอมยิ้มอยู่คนเดียว

หลายคะแนนถัดมาเป็นอั๋นทำบ้างครับ แต่ละลูกนี่น่าตื่นตาตื่นใจสุดๆ ผมไม่ได้ชมอั๋นเกินไปนะครับ มันเคลื่อนไหวรวดเร็วมาก เลี้ยงลูกบาสฯอย่างคล่องแคล่วแล้วเข้าไปทำคะแนนด้วยตัวเองบ้าง ชู้ต3คะแนนบ้าง มันเล่นเก่งจริงๆ
"อะ น้ำ ซื้อมาให้" ผมยื่นขวดเกลือแร่กับน้ำเปล่าส่งให้ทั้งอั๋นและต้าร์เมื่อถึงเวลาพัก
"แต๊งกิ้วมึง" ต้าร์ตอบ รับน้ำไปดื่มอึกใหญ่
"เป็นไง กูเก่งปะ" อั๋นถามยิ้มๆ รับน้ำไปจากมือผม
"ขี้เก๊ก" ผมตอบ ต้าร์หัวเราะ
"มึงโหดจริง ขนาดพึ่งเล่นกับพวกพี่เค้าครั้งแรก กูว่ามึงผ่านคัดตัวชัวร์ๆ" ต้าร์ตบไหล่อั๋นแล้วเดินกลับเข้าไปที่สนาม
อั๋นนั่งลงข้างๆ โอบไหล่ผม
"ไปไกลๆเลย เหม็นเหงื่อว่ะ" ผมแกล้งทำท่ารังเกียจ
"ไม่ไป จะนั่งตรงนี้อะ"
ผมส่งผ้าขนหนูผืนเล็กให้อั๋น มันส่ายหัว
"ไม่เช็ดหน้าอ่อ" ผมสงสัย
"เช็ดให้หน่อยดิ มือเปื้อนอะ"
"...มากไปละสาด"
"เร็ว เช็ดให้หน่อย เดี๋ยวจะเล่นต่อแล้ว"
"เช็ดเองดิ" ไอ้บ้าอั๋น มาจีบไรผมตรงนี้
"ไรว้า" มันยิ้มใหญ่ที่เห็นผมเขิน รับผ้าไปเช็ดหน้าเอง ก่อนจะลุกขึ้น
"ครึ่งหลังส่งเสียงเชียร์กูหน่อยนะ ไม่มีกำลังใจเลย"
"ป้ายไฟด้วยเลยมั้ย" ผมประชด
"เอาดิๆ"
"ไม่ต้องเชียร์ กูเห็นมึงก้ชู้ตเอาๆได้- -"
"กูชู้ตลงหลายลูกเพราะมึงมาเชียร์กูไงหมอ" มันเอื้อมมือมาจับหัวผม จ้องตาผมตรงๆ
ผมหน้าแดงขึ้นมาอีกครั้ง...

ครึ่งหลังอั๋นกับต้าร์ก้ยังคงท็อปฟอร์มเหมือนเดิม นี่พวกมันไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนกันนะ ระหว่างเล่น อั๋นก้ยังมองมาที่ผมบ่อยๆ
"น้องหมอ"
ผมหันไปตามเสียงเรียก พี่ก้องเดินเข้ามายืนข้างๆผม
"มาดูเพื่อนซ้อมเหรอ"
"ใช่ครับ พี่ก้องอะ มาทำอะไรเหรอครับ"
"พี่รอคุยงานกับเพื่อนหลังมันเล่นเสร็จเนี่ยแหละ ขอนั่งด้วยคนนะ"
"เอาเลยครับ" พี่ก้องนั่งลงบนม้านั่ง จากนั้นก้ชวนผมคุยเรื่อยเปื่อย
"เรียนเป็นไงมั่งอะ"
"ไม่ค่อยโอ ผมขี้เกียจอะพี่55"
"ต้องขยันๆนะเรา เสร็จแล้วจะไปไหนต่อปะ" พี่ก้องพูดแล้วเอามือมาจับไหล่ผม
"ยังไม่รู้เลยครับ"
"งั้นไปกินข้าวกับพี่มั้ย พี่ยังไม่ได้เลี้ยงเราตั้งแต่วันนั้นเลยนะ"
ผมยังไม่ทันตอบอะไร และถึงทันก้คงจะปฏิเสธไป ได้ยินเสียงอั๋นพูดขึ้นมาทันที
"เย็นนี้หมอจะไปกับผมแล้วครับ"
อั๋นกับต้าร์เดินมาหาผม ไม่รู้เลยว่าในสนามเลิกเล่นกันตั้งแต่เมื่อไร อั๋นคิ้วขมวดขึ้นมาทันที
"อ่าวเหรอ น้องถามหมอแล้วใช่มั้ยครับ" พี่ก้องหันไปพูดกับอั๋น มือยังคงวางอยู่บนไหล่ผม
"ถามแล้วครับ ใช่มั้ยหมอ" อั๋นหันมาจ้องผม
"เอ่อ คือ ใช่คับพี่ก้อง" ผมลังเลนิดหนึ่งก่อนหันไปตอบพี่ก้อง ตอบแบบนี้ไม่ใช่ว่าผมกลัวสายตาที่อั๋นมองมาหรอกนะ แต่ผมเลือกจะไปกับมันอยู่แล้ว
"...ว้า เสียดายจัง งั้นต้องเป็นคราวหน้าอีกแล้วสินะ" พี่ก้องตั้งตัวได้แทบจะในทันที ลุกขึ้นยืน
"พี่ไปก่อนนะครับ เดี๋ยวคืนนี้ไลน์คุยกันนะ" คำสุดท้ายพี่ก้องหันไปมองหน้าอั๋น ก่อนจะเดินออกไปพร้อมเพื่อนที่พึ่งเล่นบาสฯเสร็จ
ผมเห็นอั๋นจ้องพี่ก้องเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ คราวนี้น่ากลัวจริงๆครับ

-จบตอน-

อั๋นหยอดแรง555
ติดตามตอนต่อไปกันด้วยนะค้าบ
ขอcommentให้อั๋นหมอหน่อยเนอะะ
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่15 (updated 14/5/2559 15.20)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 14-05-2016 18:57:19
โว๊ะ พี่ก้องไม่ยอมแพ้

หาใครซักคนไปก่อกวนพี่ก้อง จะได้ไม่มาจีบน้องซะที  :hao3:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่15 (updated 14/5/2559 15.20)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 14-05-2016 19:49:03
คนที่หมอเดินชน จะเข้ามาอยู่ในวังวน หมอ อั๋น ก้อง หรือเปล่านะ
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่15 (updated 14/5/2559 15.20)
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 15-05-2016 22:57:22
อั๋นเอ๊งต้องรุกหนักแล้วล่ะ ฝ่ายข้าศึกรุกหนักมาก

หากไม่อยากเสียเมียรัก? จงอย่างยอมแพ้เป็นอันขาด 55 :hao7:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่15 (updated 14/5/2559 15.20)
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 16-05-2016 04:15:24
ต่างฝ่ายต่างรุกหนักขึ้นเรื่อยๆแล้วว
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่16
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 17-05-2016 22:02:41
ตอนที่16

"ปะ ไปแดกข้าวกัน" ผมพูดขึ้นเมื่อพวกเราเดินออกมาจากสนามบาสฯ
"วันนี้ไม่ได้ว่ะ กูนัดเมย์ไว้"
"แหม่ มีแฟนละไม่เอาเพื่อนเลยนะสัส" ผมแกล้งแหย่
"เว่อร์ กูไม่ได้หายตัวขนาดนั้น คราวหน้าๆ ไปละ..." ต้าร์วิ่งตรงไปทางหน้าโรงเรียน เตรียมจะขึ้นรถเมล์
"กลับดีๆมึง" อั๋นตะโกนบอก
"เจอกานน" ผมส่งเสียงบ้าง ต้าร์โบกมือให้เราโดยที่ไม่หันกลับมามอง
"กินไรดีอั๋น" ผมหันไปถามซี้ผม
"ไรก้ได้ มึงเลือกเลย"
"เอ่อ งั้น...ข้าวมันไก่อาม่ามั้ย"
"เอาดิ"
ผมนึกอยากกินข้าวมันไก่ขึ้นมาพอดีครับ เจ้านี้ดังมาก ร้านใหญ่โตสุดๆ อยู่ในซอยหลังโรงเรียนผมเอง เจ้าของเป็นอาม่า แกทำอร่อยมากครับ ไม่รู้ไปเอาไก่มาจากไหน ลูกๆหลานๆช่วยกันเสิร์ฟเต็มร้าน
"วันนี้อย่าอาบน้ำนานนะมึง กูโคตรหิว" ผมบอกเมื่อเราเดินมาถึงหน้าห้องอาบน้ำ
"หิวอ่อ งั้นเดี๋ยวอาบนานๆเลย" กวนตีนแล้วไอ้อั๋น
"เดี๋ยวกูทนไม่ไหว หนีไปแดกก่อนก้ได้" ผมแกล้งบอก
"หมอจะทิ้งให้อั๋นกินข้าวคนเดียวเหยออ" อั๋นแบ๊วใส่
"น่ารักมากดิ"
"เออ กูน่ารัก"
"ไปๆ รีบไปอาบเลย"
อั๋นหัวเราะก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำ ส่วนผมนั่งรออยู่ข้างนอก

ผมเล่นโทรศัพท์รอไอ้อั๋นไปได้เดี๋ยวเดียวเท่านั้น อยู่ๆก้มีเสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น
"มีใครอยู่แถวนี้มั้ย ช่วยด้วย"
ผมรีบลุกขึ้นเดินไปตามเสียงนั้นทันที แล้วก้พบนักเรียนคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่บนพื้น ประคองร่างอาจารย์กานดา อาจารย์วิชาสังคมศึกษาที่ดูเหมือนจะหมดสติไป บริเวณนี้ไม่มีใครอยู่เลยครับ
"เห้ย" ผมร้องอย่างตกใจ ทำอะไรไม่ถูกเลยครับ
นักเรียนคนนั้นเงยหน้าขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงผม เขาเป็นคนที่ผมเดินชนระหว่างไปซื้อน้ำเมื่อสักครู่นี้เองครับ
"มาช่วยเราหน่อยดิ"
"เออ" ผมรีบตรงเข้าไปหาอาจารย์กานดาอีกคน
"เดี๋ยวช่วยกันประคองอาจารย์ไปนั่งพักตรงม้าหินนะ" นักเรียนคนนั้นบอกผม
"อืม" ผมรับคำสั้นๆ เราช่วยกันยกแขนอาจารย์ขึ้นมาคนละข้าง ค่อยๆประคองอาจารย์ไปนั่งที่ม้าหินตัวที่ใกล้ที่สุด
"เดี๋ยวเราจะวิ่งไปตามอาจารย์สุชาตินะ นายอยู่ที่นี่ ดูแลอาจารย์กานดาไปก่อนนะ"
"เอ่อ ได้" นายคนนี้ดูมีสติดีเวลาเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินจนผมอดชื่นชมไม่ได้ ผมเห็นเขารีบวิ่งไปยังตึกห้องพักอาจารย์ที่อยู่ถัดไปอีกสองอาคาร อาจารย์สุชาติที่เขาพูดถึงเป็นสามีของอาจารย์กานดาครับ
ว่าแต่ผมต้องทำอย่างไรบ้างเนี่ย

ผมตัดสินใจเปิดกระเป๋าถือของอาจารย์ หยิบหลอดยาดมออกมา ในขณะที่อาจารย์กานดาค่อยๆได้สติขึ้นมาแล้ว
"อาจารย์ เป็นอะไรรึป่าวครับ"
"ครู...ครูหน้ามืดน่ะ" อาจารย์พูดพร้อมหายใจช้าๆ
ผมยื่นยาดมให้อาจารย์สูด อีกมือก้พัดให้อาจารย์
"รอเดี๋ยวนะครับ เพื่อนกำลังไปตามอาจารย์สุชาติ"
"จ้ะ" อาจารย์ดูอ่อนเพลียมากครับ
รอไม่นาน นักเรียนคนนั้นก้วิ่งกระหืดกระหอบกลับมา ตามด้วยอาจารย์สุชาติ สีหน้าอาจารย์ตกใจมาก รีบตรงเข้ามาหาภรรยา
"กานดา คุณไม่เป็นอะไรนะ"
"ไม่เป็นไรค่ะ ได้นักเรียนมาช่วยไว้พอดี" อาจารย์หันมายิ้มให้ผม
"เด็กคนนี้วิ่งไปตามผม บอกว่ากำลังจะกลับบ้าน อยู่ๆก้เห็นว่าคุณกำลังจะล้มไป มาช่วยรับไว้ทัน" อาจารย์สุชาติบอก หันไปทางนักเรียนคนนั้น
"ขอบใจมากนะจ๊ะ" อาจารย์กานดายังหน้าซีดอยู่ หันไปยิ้มให้นักเรียนคนนั้น
"ครูขอบใจพวกเธอมากนะ ถ้าไม่ได้พวกเธอช่วยไว้ ไม่รู้กานดาจะเป็นยังไงบ้าง" อาจารย์สุชาติพูดอย่างซึ้งน้ำใจ
"ยินดีครับอาจารย์" นักเรียนคนนั้นตอบ
"ไม่เป็นไรครับผม" ผมตอบ
"งั้นเดี๋ยวเราไปกันเถอะ ขอบใจพวกเธออีกครั้งนะ" อาจารย์สุชาติโอบไหล่อาจารย์กานดาแล้วพาเดินกลับไปยังตึกห้องพักครู ได้ยินเสียงท่านคุยกัน
"ไปหาหมอหน่อยมั้ย"
"ไม่เป็นไรค่ะคุณ แค่เป็นลมเอง ได้พักเดี๋ยวก้หาย"

"ขอบใจนายมากนะ" นักเรียนคนนั้นหันมายิ้มให้ผม
"ไม่เป็นไร สบายมาก" ผมยิ้มตอบ
"นายชื่อไร"
"หมอ"
"ห๊ะ" รู้จักกันครั้งแรก คนจะถามชื่อผมซ้ำสองครั้งทุกทีเลยครับ
"ชื่อหมอ"
"อ่อ เราชื่ออาร์ตนะ"
แล้วอั๋นก้เดินเข้ามา เปลี่ยนกลับเป็นชุดนักเรียนเรียบร้อย
"มึงหายไปไหนมาวะหมอ หาตั้งนาน"
"อาจารย์กานดาเป็นลมเว้ย กูเลยมาช่วย"
"เห้ย จริงดิ แล้วนี่อาจารย์ไปไหนอะ" อั๋นร้องถาม
"อาจารย์สุชาติมาพาไปแล้ว แกไม่เป็นไรละ"
"อ่อ แล้วนี่..." อั๋นมองไปทางอาร์ต
"นี่อาร์ต คนนี้มาช่วยอาจารย์คนแรกเลย อาร์ต นี่อั๋น เพื่อนเรา"
"หวัดดีอั๋น" อาร์ตยิ้มให้ซี้ผมอย่างมีมารยาท
"หวัดดีอาร์ต"
"เอ่อ งั้นเราไปก่อนนะหมอ อั๋น ไว้เจอกัน" อาร์ตบอก หยิบกระเป๋านักเรียนขึ้นถือแล้วเดินจากไป

ระหว่างทางไปร้านข้าวมันไก่อาม่า ผมเล่าเหตุการณ์เมื่อครู่ให้อั๋นฟัง
"โห โชคดีนะที่อาร์ตมันอยู่แถวนั้นพอดี"
"เออดิ กูช็อคเลย ทำอะไรไม่ถูก"
ถึงร้านปุ๊บ เราก้สั่งโดยไม่รีรอเลยครับ ลูกสาวอาม่าคนหนึ่งมารับออเดอร์
"ข้าวมันไก่พิเศษจานนึงครับ" ผมสั่ง
"ของผมพิเศษเหมือนกันครับ แต่ไม่เอาหนัง"
"หนังอร่อยนะมึง"
"ไม่เอาอะ กูไม่ชอบ...เออ กูมีไรจะถาม"
"หือ" ผมรู้สึกได้ว่าอั๋นกำลังจะพูดถึงพี่ก้อง
"คือ...นอกจากเรื่องงานฝ่ายเชียร์ ไอ้พี่ก้องมันคุยไลน์กะมึง
ตลอดเลยอ่อ"
"ก้ เค้าชอบทักมาบ่อยๆน่ะ"
"อ่อ" อั๋นเงียบไป สีหน้ามันตอนนี้อ่านไม่ออกเลย
"หวงกูอ่อ" ผมถามยิ้มๆ
"อะ เออดิ"
อั๋นหลบสายตา ผมเห็นอย่างนั้นเลยแกล้งซื่อ
"แล้วทำไมมึงต้องหวงกูด้วยอะ"
"ไม่รู้อะ...หวงเว้ย ไม่อยากให้คุย" อั๋นอึกๆอักๆ ยังคงไม่มองหน้าผม
"มึงเป็นไรกับกูวะ มาหวงกูได้ไง" ดูสิว่ามันจะตอบผมยังไง
"เออ...กูรู้ว่ากูไม่มีสิทธิห้ามมึงไม่ให้คุยกับใคร แต่..."
"แต่?"
"ถ้าเป็นไปได้...กูอยากให้มึงคุยกับกูคนเดียวนะหมอ"
อั๋นพูดจบก้หน้าแดงจัด เป็นอีกครั้งแล้วสินะที่ผมได้เห็นมันเขินขนาดนี้ แต่ประโยคเมื่อกี้ก้ไม่ได้เล่นงานคนพูดอย่างเดียวครับ มันทำให้ผมเขินขึ้นมาด้วยเช่นกัน เมื่อกี้ผมยังจะแกล้งอั๋นอยู่เลย หยุดเขินนะเว้ยไอ้หมอ!
ตอนที่แกล้งถามก้นึกว่ามันจะตอบกวนตีนผมมา ประมาณว่า 'ก็มึงเป็นเมียกู' ไม่คิดว่ามันจะแสดงความรู้สึกออกมาแบบนี้ ผิดคาดสุดๆ
ประโยคนั้นฟังดูแล้วเหมือนอั๋นเอาแต่ใจตัวเองนะครับ แต่ผมรู้สึกได้ว่ามันกำลังขอร้อง
แล้วผมก้สงสัยว่าคำขอร้องนั้นน่าจะได้ผลเสียด้วย
...
อั๋นยิ้มแก้มปริเมื่อเห็นว่าผมก้หน้าแดงก่ำอีกคน
"ไอ้บ้าอั๋น" ผมตอบ โชคดีที่ลูกสาวอาม่าคนที่มาบริการเราตอนแรกเดินมาเสิร์ฟข้าวมันไก่ที่โต๊ะเรา ช่วยกู้สถานการณ์เอาไว้พอดีครับ
"ได้แล้วค่ะ พิเศษกับพิเศษไม่หนังค่ะ"
"ขอบคุนครับ...กินข้าวกัน" อั๋นตอบ เลื่อนจานหนึ่งมาตรงหน้าผม
"อือ"

"เอออั๋น เสาร์อาทิตย์นี้มานอนบ้านกูมั้ย" กินข้าวกันไปสักพัก ผมนึกขึ้นมาได้ว่าสุดสัปดาห์นี้พ่อกับแม่ผมจะไม่อยู่บ้าน เลยชวนอั๋นมาอยู่เป็นเพื่อน
"เอาดิ"
"แต่เช้าวันเสาร์พ่อแม่กูจะพาไปทำบุญนะ เสร็จแล้วมาส่งเราที่บ้าน แล้วพวกเค้าจะไปทำธุระที่ต่างจังหวัดต่อ กลับวันอาทิตย์เย็นๆ"
"เออ ได้หมด ว่าแต่เหงาอ่อ ชวนกูไปนอนด้วยเนี่ย" อั๋นยิ้มอย่างรู้ทัน
"ป่าว ไม่เกี่ยวกับที่พ่อแม่กูไม่อยู่ซะหน่อย"
"โกหกไม่เนียนนะมึง หรือว่ากลัวผี"
"บ้าน่า กูไม่ได้กลัว"
"อ๋อ หรือว่า..." อั๋นยิ้มกรุ้มกริ่ม
"ไร"
"พ่อแม่ไม่อยู่ มึงมาชวนกูไปบ้าน อยากได้ผัวเหรอจ๊ะ" อั๋นทำหน้าหื่นใส่
"ผัวพ่อง" ผมทุบแขนมันไปทีหนึ่ง
"5555"
หายเขินแล้วก้กลับมากวนตีนผมทันทีเลยนะอั๋น
"งั้นกูไปนอนตั้งแต่คืนวันศุกร์เลยแล้วกัน"
"ถามกูยัง บ้านกูนะโว้ย"
"บ้านมึงก้เหมือนบ้านกูอะ จะถามทำไม"
"สัส"
แล้วผมก้ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักดังมาจากโต๊ะข้างๆ หันไปก้เห็นนักเรียนหญิงมัธยมปลายกำลังมองมาที่เราพร้อมซุบซิบกัน
"เค้าชอบมึงอะหมอ"
"ชอบก้เหี้ยละ เค้าจิ้นกูกะมึงอยู่ เห็นมั้ย"
"อ่าวเหรอ" อั๋นแกล้งงง
"ไม่ต้องทำเป็นไม่รู้เลยมึง- -"
"อิอิ"
ว่าแล้วอั๋นก้คว้าช้อนไปจากมือผม ตักข้าวขึ้นมา แล้วเอามาจ่อที่ปากผม
"เดี๋ยวป้อนนะ อ้ำ" มันเริ่มแกล้งให้คนอื่นเข้าใจว่าเราเป็นแฟนกันอีกแล้วครับ
"ไอ้อั๋น ทำไร"
"กินดิคับแฟนน"
"สัส เอาช้อนมาเลยนะเว้ย"
"ไม่ให้ อั๋นอยากป้อนหมอนิ"
"ไอ้บ้า เลิกเล่นได้แล้ว"
ไม่ทันแล้วครับ นักเรียนหญิงโต๊ะนั้นยิ่งฟินใหญ่ กรี๊ดกร๊าดเสียงดังขึ้นมา โต๊ะอื่นๆก้เริ่มมองมาทางเราบ้างแล้ว
"5555 แกล้งมึงนี่สนุกดีจัง" อั๋นส่งช้อนคืนให้ผม
"เชี่ย คนเข้าใจผิดหมด"
"เออหมอ...มาเล่นเกมกันดีกว่า" อั๋นหยุดหัวเราะแล้วพูด
"หือ เกมไรวะ"
"เป่ายิ้งฉุบแก้ผ้า"
"ตลกมากมั้ย- -"
"5555 ไม่ใช่ๆ เกม20คำถาม"
"20คำถามเหรอ คือไรวะ"
"เห้ย หมอไม่เคยเล่นอ่อ มึงไปอยู่ที่ไหนมาเนี่ย"
"สัส จะเล่นไม่เล่น- -" ผมรู้สึกว่าวันนี้ทำหน้าเบื่อใส่มันหลายรอบแล้วครับ
"ง่ายๆ กูจะถามอะไรมึงก้ได้ มึงต้องตอบตามความจริง แล้วมึงก้ถามกูมั่ง"
"มันเป็นเกมตรงไหนวะ แค่ถามคำถามเนี่ยนะ"
"เป็นเกมดิ"
"แล้วถ้ากูไม่ตอบเรื่องจริงล่ะ มึงจะรู้ได้ไง"
"วัดใจโว้ย" อั๋นเอามือตบหน้าอกเบาๆ และเมื่อผมไม่ถามต่อ มันก้พูดขึ้นอีกครั้ง
"เล่นกันๆ"
ผมสงสัยว่าอั๋นจะถามอะไรผมได้ตั้ง20ข้อนะ
"ใครเริ่มก่อนอะ"
"เดี๋ยวกูถามมึงก่อนหมอ...เออ กูว่าผลัดกันถามคนละข้อดีกว่า ตอนนี้กูคิดออกไม่ถึง20ข้อว่ะ- -"
"555 ไอ้บ้าอั๋น" ผมหัวเราะ อั๋นเกาหัวแกรกๆ
"อะ ถามเลยนะ...มึงชอบสีอะไร"
"ห๊ะ ถามสีที่กูชอบเนี่ยนะ"
"เออ ตอบมาเหอะน่า"
"รู้ไปทำไมวะ- -"
"ก้ กูอยากรู้จักมึงมากกว่านี้ไง"
"..."
"กูรู้จักมึงมาหลายเดือนแล้ว สนิทกันมากก้จริง แต่กูยังมีเรื่องที่สงสัยเกี่ยวกับมึงเยอะแยะ มึงไม่อยากรู้เรื่องของกูบ้างเหรอ"
"ไม่อะ กูไม่ชอบเสือก"
"จวย"
"5555 มาๆ เล่นต่อๆ"
นี่อั๋นมันอยากรู้เรื่องอะไรของผมนะ รู้สึกแปลกพิกลแฮะ
"สรุปมึงชอบสีไร"
"มึงเดาดิ"
"เอ่อ...เขียว" อั๋นหยุดคิดเดี๋ยวเดียวแล้วตอบ
"เห้ย" ผมร้องขึ้น
"ถูกใช่ปะ" อั๋นยิ้ม
"เออ มึงเดาถูกได้ไงวะ"
"วันที่กูชวนมึงไปซื้อรองเท้าอะ มึงเลือกสีเขียวให้กูนิ" เออ จริงด้วย ช่างสังเกตจังนะไอ้อั๋น
"อะ มึงถามมั่ง"
"เอ่อ แล้วมึงอะ ชอบสีอะไร"
"ห้ามลอกโว้ย" อั๋นโบกหัวผม
"เอ้า ทำไมวะ"
"ไม่งั้นมึงก้ถามกูกลับ ไม่ต้องคิดคำถามเองอะดิ เปลี่ยนๆ"
"งั้น...มึงชอบกินอะไรมากที่สุด"
"ข้าวกะเพราหมูกรอบกับปลาหมึก"
"จริงดิ" ผมพึ่งรู้เลยนะเนี่ย อั๋นพยักหน้า
"มึงชอบฟังเพลงของใคร วงโปรด" อั๋นถามต่อ
"Bodyslam กูมีทุกอัลบั้ม ฟังทุกวัน พี่ตูนแม่งโคตรเท่ ไอดอลสัสๆ"
"ว่าละ กูเห็นมึงใส่หูฟังทีไรมีเพลงพี่ตูนทุกที"
"แอบมองกูอ่อวะ" ถ้ามันจะสังเกตผมขนาดนี้- -
"ถามต่อดิ"
ผมเงียบไปสักพัก กำลังคิดคำถามอยู่ครับ แล้วก้...
"มึง เคยมีแฟนมาแล้วกี่คน"
อยู่ๆคำถามนี้ก้ผุดขึ้นมาในหัวผม
"ไม่มี" อั๋นตอบทันที
"โม้สัส"
"จริง"
"ไม่เชื่อ"
"เห้ย กูพูดจริงๆ"
"แล้วไม่เคยชอบใครเลยอ่อ"
"เคย"
อั๋นพูดจริงหรือเปล่าเนี่ย มันหล่อขนาดนี้ไม่เคยมีแฟนได้ไง ขนาดผม...
"มึงอะ เคยมีแฟนมาก่อนมั้ย"
"ไหนบอกห้ามถามคำถามซ้ำไง"
"คนละคำถามเว้ย มึงถามกูว่าเคยมีกี่คน แต่กูถามมึงว่าเคยมีมั้ย แล้วเมื่อกี้มึงก้ถามกูเกิน1คำถามด้วย" อั๋นยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
"ขี้โกงนะมึงอะ"
"โกงตรงไหนว้า...ตอบมา" อั๋นจ้องหน้าผมอย่างอยากรู้
"เออ เคย" มันยิ้มกว้างกับคำตอบของผม
"ฮั่นแน่"
"ถ้างั้นคนที่มึงเคยชอบเป็นใคร" ผมถามต่อทันทีเมื่อถึงตาผม อั๋นดูชะงักไปนิดหนึ่งกับคำถามก่อนตอบ
"...เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งตอนกูอยู่มัธยม2 อยู่ห้องเดียวกัน น่ารักเหี้ยๆ มีคนมาจีบเค้าเยอะมาก แล้วทายซิว่าเค้าคบกับใคร"
"ไม่ใช่มึงใช่มั้ย" ผมถามช้าๆ
"เออดิ เค้าตกลงเป็นแฟนกับรุ่นพี่ เดือนโรงเรียนอะมึง"
"..."
"ตอนนั้นเสียใจสัส แต่มาคิดดูตอนนี้แม่งตลกชิบ"
ผมไม่คิดว่าอั๋นจะเล่าเรื่องของมันให้ผมฟังแบบนี้
เรากินข้าวกันเสร็จแล้ว ตอนเรียกเก็บเงิน ลูกสาวอาม่าคนเดิมเดินมาหา
"100บาทค่ะ เอ่อ...อย่าหาว่าพี่งั้นงี้เลยนะ เราสองคนเป็นแฟนกันเหรอจ๊ะ" พี่เค้ามองเราตาเป็นประกาย- -
"ไม่ใช่ครับ"
"ใช่ครับ"
ไม่ต้องสืบเลยว่าใครเป็นคนตอบว่าใช่
"ไรอะเตง เราเป็นแฟนกันก้บอกพี่เค้าไปดิ จะอายทำไม"
"ไอ้บ้าอั๋น กูไม่ได้เป็นแฟนมึงโว้ย" อั๋นลากผมออกมาจากร้าน พี่คนนั้นยิ้มกว้างให้เราทั้งคู่

แล้วเราก้เล่น20คำถามกันต่อระหว่างขับมอเตอร์ไซด์กลับบ้าน
"หมอ เล่าเรื่องแฟนเก่ามึงให้ฟังหน่อย"
"ถามกว้างเชียวนะมึง"
"เล่าเลย"
"เออ...เค้าเป็นหลีดโรงเรียน แก่กว่ากู2ปี ตอนนั้นกูมัธยม2 จีบเค้าอยู่นาน ซื้อของไปให้ เค้าขออะไรก้ทำให้ทุกอย่าง แล้วก้ตกลงเป็นแฟนกัน"
"แล้ว ทำไมเลิกอะ"
"เค้าบอกกูดีเกินไป โง่สัสหมาเลยกู"
"หือ เหตุผลยอดนิยมว่ะ"
"จริงๆมันเป็นข้ออ้าง เพราะเค้าไปคบกับคนอื่น...เห้ย เชี่ยอั๋น มึงถามกู2คำถามนิ"
"5555 พลาดละไอ้หมอ"
"สัส ขี้โกงกู" นึกถึงอดีตแล้วก้อยากจะหัวเราะกับร้องไห้ออกมาพร้อมกันครับ เฮ้อ ผมนี่ก้บ้าเนอะ ไปรักเค้าได้ไง แล้วดูสิ่งที่เค้าทำกับผมสิ
"แล้วนี่หายเฮิร์ทยัง" น้ำเสียงอั๋นเมื่อถามคำถามต่อมาเหมือนมันรู้สึกผิดหน่อยๆที่ให้ผมเล่า
"หายละ ตอนนี้กูโอเคโคตรๆ"
แล้วเราก้มาถึงหน้าบ้านผม ไม่รู้ว่าเกมของเราเล่นผ่านไปกี่คำถามแล้ว ผมลงจากรถ เดินมายืนตรงหน้าอั๋น
"ตากู คำถามสุดท้ายก่อนแยกย้าย"
"แหม่ นึกว่าจะลืม"
"ระดับนี้ไม่ลืมหรอกเว้ย"
"อะ ถามมา"
ผมลังเลนิดหนึ่งก่อนถาม สิ่งที่ผมกำลังจะถามออกไป ผมคิดว่ารู้คำตอบมาพักหนึ่งแล้วล่ะครับ แต่ก้ไม่อยากคิดเองเออเอง อยากได้ยินจากปากเจ้าตัวจริงๆ

อั๋น มึงเป็นคนเริ่มเล่นเกมนี้ อย่าผิดกติกานะ

"อั๋น ตอนนี้มึงชอบใครอยู่"
ผมโพล่งออกไป อั๋นดูตกตะลึง
"อะไรนะ"
"กูถามว่า ตอนนี้มึงกำลังชอบใคร"
"..."
"..."
เงียบอยู่นาน เราสองคนมองหน้ากันอยู่ตรงนั้น

"ก้มึงไงหมอ ยังไม่รู้ตัวหรอ" อั๋นตอบช้าๆ แววตาแสดงความชัดเจนในคำตอบ ผมแทบหยุดหายใจ

-จบตอน-

มาต่อแล้วนะค้าบ writerพึ่งสอบเสร็จ เย่ๆ
ว่าแต่คุณผู้อ่านสนุกกับเกม20คำถามกันมั้ยครับ อิอิ
รักอั๋นหมอ ขอcommentเป็นกำลังใจหน่อยนะค้าบ^^
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่16 (updated 17/5/2559 22.00)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 17-05-2016 22:37:42
ในที่สุด โอ้ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ถ้าตอนนี้อั๋นไม่บอกนี่ก็ไม่รู้จะทำไงแล้วววววววว แสดงออกชัดเจนขนาดนี้  :m31:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่16 (updated 17/5/2559 22.00)
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 18-05-2016 06:07:03
เปิดเผยขนาดนี้หมอไม่รู้ก็บื่อมากและ
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่16 (updated 17/5/2559 22.00)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 18-05-2016 07:40:05
กรี๊ดดดดด ดีมากจ๊ะอั๋น เปิดเผยดีงาม >\\\\\<
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่16 (updated 17/5/2559 22.00)
เริ่มหัวข้อโดย: peaceminus1 ที่ 18-05-2016 09:24:37
เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ เรื่องนี้ดีงามต่อใจมาก 5555  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่16 (updated 17/5/2559 22.00)
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 19-05-2016 15:12:16
ขอบคุณคุณผู้อ่านทุกท่านมากเลยนะครับที่เข้ามาอ่าน
My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก และขอบคุณเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่มา comment เวลาเราอัพนิยายตอนใหม่ด้วย เราไล่อ่านทุก comment เลย อ่านแล้วก้รู้สึกปลื้มปริ่ม ตื้นตันสุดๆที่ทุกคนสนุกและลุ้นไปกับเรื่องราวของอั๋นและหมอ ขอบคุณจากใจจริงเลยนะ อยู่ติดตามกันอย่างนี้ไปนานๆนะครับ

สำหรับตอนนี้อั๋นก้บอกชอบหมออย่างเป็นทางการไปแล้วนะครับ55  :o8:  ตอนต่อไปจะมาลงเร็วๆนี้ ติดตามกันด้วยนะค้าบ
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่16 (updated 17/5/2559 22.00)
เริ่มหัวข้อโดย: lazysheep ที่ 19-05-2016 20:45:08
ในที่สุด ^^ น่ารักมากคู่นี้
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่17
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 20-05-2016 20:37:13
ตอนที่17(อั๋น)

ผมไม่รู้ตัวเลยว่าขับมอเตอร์ไซด์กลับมาถึงบ้านตั้งแต่เมื่อไร ในหัวตอนนี้มีแต่หน้าไอ้หมอวนเวียนอยู่ครับ
"อั๋น กินข้าวมารึยังลูก" แม่ร้องทักเมื่อเห็นผมเดินเข้ามาในบ้าน
"กินแล้วครับ...เดี๋ยวผมขึ้นห้องก่อนนะ" ตอนนี้ผมกำลังสับสนครับ ขอตัวขึ้นห้องก่อนเลย พ่อกับแม่มองผมอย่างสงสัยแต่ก้ไม่ได้พูดอะไร

ถ้าผมไม่ชวนหมอเล่น20คำถามตั้งแต่แรก มันก้คงไม่ถามเรื่องนั้น ผมก้ไม่ต้องบอกว่าผมชอบมัน
ผมคิดอะไรอยู่ถึงบอกมันไปตรงๆแบบนั้นนะ!

หลังจากนี้ผมควรจะทำยังไงดีล่ะ บอกชอบหมอไปแล้ว หมอมันจะคิดแบบเดียวกับผมหรือเปล่านะ

งั้นขอมันเป็นแฟนเลยดีมั้ย!

ถ้าหมอไม่ได้ชอบผม แล้วปฏิเสธผมล่ะ เราคงกลับมาสนิทกันเหมือนเดิมไม่ได้ มองหน้ากันไม่ติดแน่ๆ

แต่ถ้าผมไม่รีบขอมันเป็นแฟน มันอาจจะตกลงคบกับคนอื่นก้ได้ โดยเฉพาะไอ้พี่ก้องที่ผมโคตรเกลียดขี้หน้า

ผมยอมรับว่าผมรู้สึกดีกับมันมาตั้งนานแล้วครับ แต่ตอบไม่ได้ว่าชอบหมอตั้งแต่เมื่อไร รู้ตัวอีกทีก้ชอบแอบมองมันอยู่บ่อยๆ ชอบแกล้งมัน

รู้ตัวอีกทีก้ชอบมันไปแล้ว...

เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น
หมอ

(ฮัลโหล) ผมกดรับ
(อั๋น มึงถึงบ้านยังอะ)
(ถึงแล้ว มีไรอ่อ)
(มึงไม่ไลน์มาบอกกูว่าถึงแล้ว กูไลน์ไปก้ไม่ตอบ...เลยเป็นห่วง) ผมสัมผัสได้ว่าหมอขัดเขินเมื่อพูดท้ายประโยคครับ มันน่ารักจริงๆเลยนะ เป็นห่วงผมด้วย
(เห้ย โทษทีว่ะ)
จากนั้นต่างฝ่ายต่างก้เงียบไปพักหนึ่ง
(หมอ)
(หือ)
(เอ่อ...พรุ่งนี้ไปอยู่กับกูตอนซ้อมอีกนะ)
(อะ อือ) ผมอดยิ้มออกมาไม่ได้
(...)
(งั้น กูไปอาบน้ำก่อนนะ)
(เออ)
(พรุ่งนี้เช้าเจอกัน)
(ค้าบ เดี๋ยวไปรับนะ)
หลังวางสาย ผมเห็นข้อความที่หมอไลน์มาถาม

ถึงผมกำลังกังวลเรื่องที่บอกชอบมันไปก้เถอะ แต่2นาที4วินาทีที่เราคุยสายกันก้ทำให้ผมยังคงนอนยิ้มกว้างอยู่บนเตียงได้อีกเป็นชั่วโมง

แม้ยังไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ยังไม่รู้ว่าผมควรจะทำอย่างไรดี แต่อย่างน้อย ผมรู้ว่าตอนนี้ผมมีความสุขมากแค่ไหนที่ได้เจอหมอทุกวัน ได้คุยกัน
ได้มีมันเข้ามาอยู่ในชีวิต...

เช้าวันรุ่งขึ้นหมอเดินออกมาหาผมหน้าบ้าน ท่าทางง่วงงุน มือถือถุงใส่แซนวิชกล่องใหญ่มาด้วย
"นี่มื้อเช้ากูกะมึง แม่กูทำเองเลยนะ"
"ขอบคุณค้าบ"
"โคตรง่วงเลย วันนี้ถ้ากูหลับในห้อง ห้ามปลุกด้วย" หมอบอก ขึ้นซ้อนมอเตอร์ไซด์ผม
"เมื่อคืนเล่นเกมดึกอะดิ"
"ป่าว"
"อ้าว ละทำไร"
"กู...นอนไม่ค่อยหลับ"
เมื่อคืนผมก้นอนไม่เต็มอิ่มเหมือนกันครับ มีแต่หน้ามันลอยค้างอยู่ในหัว

ผมโล่งใจที่หมอทำตัวปกติ ไม่ได้เปลี่ยนท่าทีไปอย่างที่ผมกลัวว่าจะเกิด ผมมองหน้ามันแล้วถึงขั้นยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
"ยิ้มไร" หมอรับหมวกกันน็อคไปจากมือผม
"ป่าวนิ" ผมหันกลับไปหน้ารถ สวมหมอกกันน็อคบ้าง แล้วเริ่มขับออกมา
"เออหมอ..."
"หือ"
"เมื่อวานกูพูดจริงๆนะ คำถามข้อสุดท้ายอะ"
"...รู้แล้วน่า" หมอตอบช้าๆ น้ำเสียงบอกชัดเจนว่ากำลังรู้สึกเขินอยู่
"รู้ว่าไงอะ" แกล้งมันซะเลย
"กวนตีนปะ"
"เอ้า ถามจริง"
"ก้ รู้ว่า...มึงคิดยังไง" ตอบซะอ้อมเชียว555
"ถ้างั้น..."
"..."
"กูเริ่มจีบมึงเลยนะ"
"อะ ไอ้บ้า"
ผมยิ้มแก้มปริ คิดว่าคนที่นั่งซ้อนข้างหลังคงกำลังหน้าแดงจัดอยู่แน่ๆ

วันหนึ่ง มีคนเอารูปผมกับหมอไปลงในเพจโรงเรียนอีกแล้วครับ เป็นรูปเรากำลังเดินอยู่ด้วยกันที่สยามสแควร์ ผมกอดคอหมอ มันหันมาคุยกับผมอย่างร่าเริง
ผมยิ้มออกมาเมื่อเห็นรูป ส่วนคนที่ตกเป็นข่าวด้วยร้องออกมาว่า 'เชี่ยเอ๊ย...อีกแล้วอ่อ' แล้วก้ทำหน้ามุ่ย เห็นแล้วมันน่าหยิกชะมัด

หลังจากนั้นเราก้ยังคุยกัน เล่นกันตามปกติ ผมมีหยอดบ้างตามโอกาส55 หมอเขินแล้วมันน่ารักมากๆครับ

หมอมาดูผมซ้อมทุกเย็นเลยครับ ยกเว้นเย็นวันศุกร์ที่มันต้องไปประชุมกับฝ่ายเชียร์สีฟ้า งานกีฬาสีเริ่มใกล้เข้ามาทุกที หมอต้องไปเจอไอ้พี่ก้องอีกแล้วสินะ
"อั๋น เดินไปส่งกูหน่อยดิ" หมอบอกเมื่อหมดเวลาคาบสุดท้าย
"เออ..."
"วันนี้น่าจะยาวว่ะ มึงอาจจะซ้อมเสร็จก่อนกู รอกูก่อนนะ" หมอพูดขึ้นเมื่อเรามาถึงห้องประชุม4
"ค้าบ" ผมตอบ ยื่นมือไปขยี้ผมมันเล่น
"เห้ย เดี๋ยวผมเสียทรง" หมอทำหน้ามุ่ย เอามือจัดผมตัวเองให้มันเรียบครับ
"เว่อร์สาด" ผมได้แต่ยิ้ม "ถ้ากูเสร็จก่อน เดี๋ยวกูมารอหน้าห้องละกัน ถ้ามึงก่อน ไปเจอที่สนาม"
"อ่าฮะ"
ทันใดนั้นพี่ก้องกับเพื่อนอีก2คนก้เดินมาถึงหน้าห้องประชุม ผมเห็นหน้าเขาแล้วก้รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที
"หวัดดีครับหมอ" ทักไอ้หมอเสียงใสเชียวนะ อีกอย่าง ไอ้พี่ก้องทำเป็นไม่เห็นผมครับ
"หวัดดีครับพี่" หมอยิ้มตอบ หันไปไหว้เพื่อนพี่ก้องอีก2คนด้วย
"เข้าไปในห้องกันเลยมั้ย"
"คับ...อั๋น เดี๋ยวเจอกันนะ" หมอหันมาบอกผม
"อือ" ผมรับคำ เห็นว่าพี่ก้องยังทำเป็นมองไม่เห็นผม ผมเลยคว้ามือหมอขึ้นมาซะเลย
"อย่านานนะหมอ กูคิดถึง"
"เออน่า" หมอเขิน หลบตาผม ดูสิ น่ารักอีกแล้ว55
ไอ้พี่ก้องมองมาอย่างเย็นชาจนได้ ผมเดินออกมาจากตรงนั้นอย่างอารมณ์ดี
หกโมงเย็นแล้วเมื่อผมซ้อมเสร็จ หมอยังไม่มาเลย สงสัยยังประชุมไม่เสร็จ
"เห้ยต้าร์ เดี๋ยวกูไปก่อนนะ" ผมบอก หยิบกระเป๋าต่างๆกับชุดนักเรียนขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน
"เออ ไอ้หมอยังไม่เลิกอีกอ่อ"
"นั่นดิ"
ผมโบกมือลาไอ้ต้าร์ เดินกลับไปยังห้องประชุม4
ไปถึง พวกฝ่ายเชียร์ยังไม่ออกมาจากห้องเลยครับ ผมเลยนั่งเล่นมือถือรอหมอ

รอไม่นาน นักเรียนก้ทยอยออกมาจากห้องประชุม กลุ่มที่ออกมาสุดท้ายเป็นหมอกับไอ้พี่ก้องครับ ได้ยินเสียงสองคนคุยกัน
"เราเก่งจริงๆนะ พึ่งมาทำงานครั้งแรกก้เสนอไอเดียได้ตั้งเยอะแยะ"
"ไม่ขนาดนั้นพี่ ผมก้จำๆเขามาแหละ...อั๋น" หมอหันมาเห็นผม กำลังจะตรงมาหา แต่พี่ก้องจับมือมันไว้

ไอ้เชี่ยพี่ก้อง!

"มาเฝ้าไม่ให้หนีไปไหนได้เลยนะ" ไอ้พี่ก้องพูดกับหมอ แต่ชายตามองมาที่ผม
"เอ่อ" หมอตะกุกตะกัก
"งั้นพี่ไปก่อนนะครับ" พี่ก้องบอก ยอมปล่อยมือ มองหมอเหมือนจะกลืนกินทั้งตัวก่อนเดินจากไป ผมจะทนไม่ไหวแล้วนะ...
"ปะ ไปกันเถอะ" หมอบอก เดินนำผมออกมาจากอาคาร
"เย็นนี้กินไรกันดีวะหมอ"
"ที่บ้านกู กูบอกแม่แล้วว่ามึงจะมาอยู่เสาร์-อาทิตย์นี้ แกเลยทำกับข้าว"
"เย่"
ผมเดินกอดคอหมอตรงไปห้องอาบน้ำ

"พ่อแม่หวัดดีครับ" ผมยกมือไหว้พ่อกับแม่หมอทันทีเมื่อไปถึงบ้าน
"หวัดดีลูก"
"หวัดดีจ้ะ มาๆ กินข้าวกัน"
พ่อกับแม่นั่งฝั่งหนึ่งของโต๊ะอาหาร ผมกับหมอนั่งอีกฝั่ง ผมอาสาตักข้าวใส่จานให้กับทุกคน พ่อกับแม่มองผมยิ้มๆ
"พรุ่งนี้ออกเดินทางกี่โมงอะพ่อ" หมอถามขึ้น
"เจ็ดโมงเช้า ถึงวัดไม่น่าเกินแปดโมงครึ่ง"
"โหพ่อ เช้าขนาดนั้นผมจะตื่นไหวได้ไง" หมอร้อง ผมยิ้มกับท่าทางของมัน
"ต้องไหวสิ แกไม่ตื่นพ่อจะให้อั๋นปลุก"
"ได้ครับพ่อ" ผมรับคำ หันไปยักคิ้วให้หมอ พ่อยิ้ม
"แม่ ดูดิ พ่อกับไอ้อั๋นแกล้งผม"
"ไม่ต้องหาพวกเลย แกตื่นสายจริงๆนิ"
"โหแม่" หมอทำปากยื่น ผมกับพ่อแม่หัวเราะ

"อั๋นจ๊ะ หมออยู่ที่โรงเรียนเป็นไงบ้างลูก"
"อ๋อ ก้..."
หมอเอาเท้าเขี่ยผมใต้โต๊ะ
"เป็นเด็กดีครับ"
"หืม จริงหรอลูก" แม่ถาม
"ครับ มีหลับบ้างบางครั้งครับ" ผมหันไปยิ้มยิงฟันให้หมอ มันแยกเขี้ยวใส่ผม
"555 พ่อนึกแล้วว่าหมอมันต้องแอบหลับที่โรงเรียน"
"ก้มันง่วงนี่ครับ"
"ยังไงฝากอั๋นช่วยดูแลหมอหน่อยนะลูก เจ้าหมอนี่ขี้เกียจสุดๆ"
"ได้ครับแม่"
ผมรับคำยิ้มๆ หันไปมองหมอ หน้าบูดใหญ่เลยครับ

ขึ้นไปบนห้อง ผมก้นอนแผ่ลงบนเตียงมันทันที
"เห้ยๆ เตียงกู"
"มานอนข้างๆป๋ามา" ผมตบเตียงเรียกหมอ กวนตีนมันซะเลย
"ไม่โว้ย" มันเดินไปนั่งที่โต๊ะอ่านหนังสือแทน
"หมอจ๋าา"
"ไรมึง"
"งอนกูอ่อ"
"จำไว้นะมึง ไปบอกพ่อกับแม่ว่ากูหลับ กูอุตส่าห์ส่งซิกให้แล้ว"
"อ้าว ก้มึงหลับจริงๆนิ55"
"สัส" หมอทำแก้มป่อง
"โอ๋ๆ" ไม่รู้ว่างอนจริงหรือแกล้งงอน แต่น่ารักดีครับ ผมลุกขึ้นไปช้อนตัวมันจากเก้าอี้แล้วยกมานั่งบนเตียงกับผมแทน มันร้องแล้วดิ้น แต่สู้แรงผมไม่ได้หรอกครับ อิอิ
"ไม่งอนนะ เค้าขอโทษ"
"ไม่"
"คราวหน้าไม่พูดแล้ว" ผมยกมือ ชูนิ้วขึ้นสามนิ้ว
"ไม่ต้องเลย"
"งั้นให้กูทำไรอะ"
"กลับบ้านไปเลยมึงอะ"
"โห อย่าไล่กูดิ แล้วคืนนี้กูจะนอนกอดใครอะ" ผมอ้อน โอบรอบเอว ดึงตัวมันมานั่งใกล้ผมเข้าไปอีก
...ในอ้อมแขนผม
"เรื่องมึง"
"เย็นชานะเราอะ" ผมหยิกแก้มหมออย่างมันเขี้ยว
"โอ๊ย...ปล่อยเลย"
ผมจ้องหน้าหมอ ใจผมพองโตเพราะว่าได้อยู่กับหมอ ยิ้มหวานให้ เจ้าตัวเขินครับ หลบสายตาผม
"หมอ"
"อะไร"
"กูชอบมึงนะ"
"...รู้แล้ว บอกอีกละ- -"
"ก้อยากบอกอะ"
"..."
ผมกำลังจะถามออกไปแล้วว่ามันรู้สึกแบบเดียวกับผมหรือเปล่า ก้พอดีมันพูดขึ้นก่อน
"จีบกูเยอะไปละนะ..." หมอหน้าแดง ผมหัวเราะกับคำพูดของมัน
"ปล่อยได้แล้ว จะไปอาบน้ำ" หมอผลักอกผมเบาๆ
"เดี๋ยวดิ ตกลงว่าหายงอนยัง"
"ไม่หาย"
"งั้นไม่ปล่อย"
"ปล่อยเลย"
"หายงอนก่อนดิ"
"เออ หายก้หาย"
"จริงนะ"
"เออ" มันเน้นเสียง ตาโต ขยับหน้าเข้ามาใกล้

ตอนนั้นเองที่ผมเกือบอดใจไม่ไหว เกือบจูบมันไปแล้วครับ...

ผมนั่งนิ่ง พอหมอรู้ตัวว่าหน้าเราใกล้กันมาก มันรีบขยับห่างออกไป
ผมยอมปล่อยหมอออกจากอ้อมแขน มันรีบลุกขึ้น หยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินออกไป
"ไอ้บ้าเอ๊ย" ผมได้ยินประโยคที่มันชอบพูดบ่อยๆเวลาอาย ผมอมยิ้มอยู่คนเดียว

ผมที่อาบน้ำมาจากที่โรงเรียนแล้ว เปลี่ยนจากชุดนักเรียนเป็นเสื้อกล้ามกับกางเกงกีฬา ใส่สบายสุดๆ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง หมอกลับเข้ามาในห้อง นุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาผืนเดียว
หมอหันหลังให้ผม ผมมองมันใส่เสื้อผ้า ร่างบางกับผิวขาวเนียนของหมอชวนให้น่าสัมผัสจริงๆ
"มองไรมึง" หมอแต่งตัวเสร็จก้หันมาหาผม
"มองเมียกูไง"
"- -" หมอเดินมานั่งบนเตียงข้างผม
"นี่ พรุ่งนี้เราจะไปทำบุญที่ไหนเหรอ"
"ไม่รู้ว่ะ พ่อกับแม่กูยังไม่บอกที่...มึง พรุ่งนี้ทำไรกินกัน"
"หือ ทำเป็นอ่อมึงอะ"
"มึงก้ช่วยกูดิวะ"
"555 อยากกินไรอะ"
"อะไรก้ได้"
"งั้นเดี๋ยวทำให้กินละกัน" ผมยิ้ม
"เออ อีกอย่างนึง..."
"ไรวะ"
หมอกระซิบ
"...พรุ่งนี้กินเหล้ากัน"
"ไอ้หมอ- -"
"นะๆ กูอยากกินอะ...อย่าพึ่ง ฟังกูก่อน" หมอห้ามเมื่อเห็นว่าผมจะพูดแทรก
"ซื้อมากินที่บ้านไง แค่กูกับมึงสองคน"
"เช้าไปทำบุญ กลางคืนชวนกูกรึ้บเลยหรอครับ"
"น่า นะอั๋น กินที่บ้านก้ไม่ต้องกลัวว่าจะมีเรื่อง ถ้ากูเมา มึงก้ยังดูแลกูได้ นะๆ" มันเขย่าแขนผมใหญ่เลย
"มีเหตุมีผลเชียวนะมึง...เออๆ ก้ได้"
"เยส" ผมส่ายหัวกับท่าทางดีใจของมันครับ ท่าจะอยากเหล้าจริงๆ ถ้าพ่อแม่หมอรู้ต้องแย่แน่ๆ
"แต่ว่า..."
"แต่ไร"
"มึงจะให้ไรกูตอบแทน" ผมยิ้มกรุ้มกริ่ม
"ไม่มีโว้ย"
"ไม่งั้นกูไม่ให้มึงกิน"
"มึงห้ามกูไม่ได้หรอกไอ้อั๋น" หมอยิ้มมุมปาก ยักคิ้วใส่
"เออ ห้ามไม่ได้ แต่กูจะบอกพ่อกับแม่มึง"
"เห้ย อย่านะสัส- -"
"เอาดิ555"
"เออ ยอม จะให้กูทำไร"
"เชื่องเลยนะ"
หมอชูนิ้วกลางให้ผม
"คืนนี้กูขอ..."
"เหี้ย ไอ้โรคจิต" หมอด่าผม กระเถิบตัวหนีผมทันที
"อะไร"
"ไอ้หื่นเอ๊ย ไปไกลๆเลย"
ผมขยับตัวทีเดียวก้รวบหมอไว้ในอ้อมแขนได้
"ปล่อยนะไอ้อั๋น" หมอร้องเสียงดัง
"ชู่ว เบาๆ เดี๋ยวพ่อแม่ตกใจ" ผมรีบห้าม
"ก้มึงอะ เชี่ยอั๋น หื่นชิบหาย"
"กูยังไม่ได้บอกเลยว่าขออะไร โวยวายไปได้...กูแค่จะขอนอนกอดเฉยๆเอง" ผมยิ้ม มองหน้าหมอ มันหลบตาผม
"นอนกับมึงทีไร มึงก้กอดกูอยู่แล้ว จะขอไม" หมอบ่น ผมหัวเราะ
"ก้รู้ตัวนิว่าต้องโดนกอด"
"ถ้ากูไม่ให้กอดอะ"
"ก้กอดอยู่ดีอะ ไม่ปล่อยหรอก"
"ไอ้บ้า เอาแต่ใจ"
ผมผลักหมอลง ตรึงแขนมันกับเตียง คร่อมตัวมันไว้
"เห้ย จะทำไร"
"ถ้าจะขอมากกว่านี้ มึงจะให้กูมั้ยน้า..." ผมแกล้งพูดอย่างหื่นๆ
"ไม่โว้ย"
"หรอ มึงจะทำไรกูได้"
"อย่านะเว้ย" หมอดิ้น
ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ใกล้จนเห็นภาพตัวเองสะท้อนอยู่ในดวงตาของหมออย่างชัดเจน

หมอหลับตาปี๋ ตัวเกร็ง...

"วันนี้ทดไว้ก่อนแล้วกัน"
ผมกระซิบข้างหูหมอเบาๆก่อนจะปล่อยมัน

-จบตอน-

มาต่อแล้วนะครับ
โอ๊ย หมอโดนจีบหนักเชียว เขินแทนเลย^^
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่17 (updated 20/5/2559 20.40)
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 20-05-2016 20:53:33
อะหื้อ เนเล่นกับหมอแบบนี้ป้า ลุ้นนะ
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่17 (20/5/2559) +แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 23-05-2016 02:30:57
รับทราบจ้าาา เชียร์อั๋นเต็มที่เลยนะ
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่18
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 23-05-2016 21:55:42
ตอนที่18(อั๋น)

เมื่อคืนหมอยอมให้ผมกอดแต่โดยดี(ถึงมันขัดขืนผมก้จะกอดมันอยู่ดีครับ555) หมอนอนหงาย ผมนอนหันเข้าหาหมอ โอบแขนรอบตัวและซบหน้าลงบนไหล่มัน
เช้าวันนี้หมอตื่นขึ้นอย่างงัวเงีย หน้าบูดบึ้ง เหมือนเด็กที่กำลังไม่พอใจอะไรบางอย่าง เห็นแล้วตลกดีครับ
"ยังง่วงอยู่อ่อ" ผมถามพร้อมลูบหัวเบาๆ หมอหาวเต็มที่ก่อนพยักหน้า
"ไปอาบน้ำไปซอมบี้"
"ขอนอนต่อไม่ได้เหรอ..."
"ไม่ได้ๆ ไปเลย"
"ง่ะ" หมอทำปากยื่น ผมฉุดแขนมันให้ลุกขึ้น
"ไปเร็ว หรือจะให้กูอาบให้"
"มะ ไม่ต้องเลย" หมอลุกขึ้นแล้วหยิบผ้าเช็ดตัวเดินออกจากห้องไปทันที ผมหัวเราะไล่หลัง

เมื่อเราลงมาข้างล่าง ก้พบพ่อกับแม่รออยู่พร้อมออกเดินทางแล้ว
"ง่วงเชียวนะเจ้าหมอ" พ่อเอ่ยทัก
"ง่วงดิค้าบ" หมอตอบแล้วหาวอีกฟอดใหญ่
"นี่ตื่นเองหรืออั๋นปลุกเนี่ย" แม่ถาม
"ตื่นเองดิครับแม่"
"ผมปลุกค้าบ" ผมตอบตามความจริง ปลุกมันอยู่ตั้งนานแน่ะครับ
"ไอ้อั๋น- -"
"แน่ะ โกหกแต่เช้าเลยแกนี่" แม่ดุ ในขณะที่พ่อหัวเราะเสียงดัง
พอพ่อกับแม่เดินออกไปที่รถแล้ว ไอ้หมอหันมาหาผม
"ขี้ฟ้องอีกแล้วนะมึง"
ผมไม่ตอบอะไร ยักคิ้วกวนตีนไป นั่นทำให้หมอต่อยแขนผมหนึ่งที ผมแกล้งร้อง
"โอ๊ย เจ็บนะเว้ย"
"อะไรกันน่ะลูก" แม่ส่งเสียงมาจากข้างนอกบ้าน
"ป่าวครับแม่" หมอส่งเสียงตอบกลับไป ก่อนจะหันมาจ้องผมอย่างเอาเรื่อง ผมยิ้มตาหยีใส่
"เชี่ยอั๋น กวนตีนละนะสัส- -"
"กวนไรเหยอ อั๋นยังไม่ได้ทำไรเลยนะ" ผมทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
"คืนนี้กลับบ้านไปเลยนะมึง ไม่ต้องมานอนบ้านกูแล้ว"
"โห ไล่กันอีกแล้วอ่อ" หมอเดินจ้ำออกไปหน้าบ้าน ผมตามหลังไปอย่างอารมณ์ดี ได้แกล้งมันแต่เช้า

วัดที่เรากำลังจะไปทำบุญกันคือวัดใหญ่ชัยมงคล อยู่ที่อยุธยา ไม่ไกลจากกรุงเทพมากครับ ผมกับหมอนั่งกันอยู่ที่เบาะหลัง มันกำลังตอบไลน์ใครอยู่ก้ไม่รู้
หรือว่าจะเป็นไอ้พี่ก้องนะ...
"มองไร" หมอหันมาหาเมื่อเห็นว่าผมยื่นหน้าเข้าไป พยายามจะดูว่ามันคุยกับใครครับ
"ป๊าว"
"เสียงสูงเชียวนะ" หมอยิ้มล้อ หันด้านหลังมือถือให้ผม ทำให้ผมมองไม่เห็นหน้าจอเข้าไปใหญ่ ไอ้หมอ- -
ผมกำลังคิดว่าจะทำอย่างไรดี จะทำอะไรแผลงๆกับมันก้ไม่ได้ด้วยสิ พ่อแม่หมออยู่บนรถด้วย

แล้วก้นึกขึ้นได้ ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดไลน์ ส่งสติ๊กเกอร์รัวๆไปให้หมอครับ
ไอ้หมอชะงักไปนิดหนึ่งแล้วหันมาจ้องหน้าผม ขยับปากพูดแบบไม่มีเสียง
'อะไร'
ผมยิ้มยียวน ไม่ตอบ แต่พิมพ์ข้อความลงไปในไลน์แทน
(คุยกะใครเหยอ)
หมอพิมพ์ตอบมาอย่างว่องไว
(ไม่เสือกดิ)
ผมแกล้งทำหน้าดุ แต่มันไม่กลัวเลยครับ ทำหน้าเยาะเย้ยกลับมา- -
(อย่าให้รู้นะว่าคุยกับคนอื่นอยู่)
(แล้วไง มึงจะทำไรกู ไม่ได้เป็นไรกันซะหน่อย)
หันไปเห็นไอ้หมอยักคิ้วกวนตีน หนอย นี่ถ้าอยู่กับมันสองคน ผมจับมันขึ้นเตียงไปแล้ว!
(กูจะจับมึงทำเมีย ไม่ให้มึงไปยุ่งกับใคร)
หมออ่านแล้วสะดุ้งเล็กน้อย หน้ามันแดงเรื่อเลย
ผมหลุดหัวเราะออกมา แม่หมอหันมามอง ผมเลยทำเป็นหัวเราะสิ่งที่อยู่ในมือถือ จนแม่หันกลับไป
(ไอ้อั๋นบ้ากาม)
ตามด้วยสติ๊กเกอร์ตัวการ์ตูนโกรธอีกหลายตัวจากไอ้หมอครับ
(คืนนี้มึงเสร็จกูแน่) ผมแกล้งต่อ
(สัส- -)
(เตรียมตัวไว้เลย)
(กูจะโทรแจ้งตำรวจ)
(แจ้งจับข้อหาไรครับ)
(ล่วงละเมิดทางเพศ พรากผู้เยาว์)
(ผัวปล้ำเมียเค้าไม่ถือว่าเป็นความผิดนะหมอ แล้วกูก้เป็นผู้เยาว์เหมือนกัน)
(ไอ้บ้า ไม่คุยแล้ว)
ผมกลั้นขำ หมอหันหน้ามองข้างทาง ไม่ยอมหันมาหาผมเลยครับ เห็นเสี้ยวหน้าฝั่งหนึ่งยังเป็นสีแดงอยู่
ผมอมยิ้ม คนอะไรเขินได้โคตรน่ารัก...

เราไปถึงวัดกันเกือบเก้าโมงเช้า ใกล้เคียงกับที่พ่อบอกไว้ ผู้คนมาทำบุญกันเยอะมาก เราเริ่มต้นจากการกราบไหว้พระพุทธรูปที่เป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ก่อนครับ ผมสังเกตว่าหมอดูตั้งใจ นิ่งมาก
พอกราบพระเสร็จ มันกระซิบถามผม
"เมื่อกี้ทำไมต้องคุยในไลน์ด้วย"
"ก้ กูอยากจีบมึงนิ แต่ทำต่อหน้าพ่อแม่ไม่ได้" ผมกระซิบตอบพร้อมยิ้มกว้าง
หมอผลักไหล่ผมเบาๆ
จากนั้นเราก้เข้าไปในโบสถ์ กราบพระพุทธรูปข้างใน และฟังธรรมจากพระสงฆ์ต่อ
ผมมองหมอตลอดเวลา มันยังคงตั้งใจแน่วแน่ เวลามันอยู่นิ่งๆนี่ก้น่ารักไปอีกแบบหนึ่งครับ

ทำบุญเสร็จก้แวะทานข้าวเที่ยงกันแถวนั้นก่อนพ่อจะขับมาส่งผมกับหมอที่บ้าน
"ฝากบ้านด้วยนะอั๋น ฝากหมอคงไม่ได้เรื่อง" แม่พูด
"แม่" หมอลากเสียงยาว
ผมกับพ่อหัวเราะ

ถึงบ้านปุ๊บ หมอก้เดินตรงไปที่โซฟาในห้องนั่งเล่นก่อนจะล้มตัวลงนอนคว่ำทันที
"ของีบก่อนนะ โคตรง่วงเลย"
ผมเห็นอย่างนั้นก้นึกอยากแกล้งมันขึ้นมา เลยนอนคว่ำลงไปทับมันครับ
"เห้ย" หมอร้อง
ผมกางแขนรัดมัน
"ไอ้อั๋น กูง่วง อย่าพึ่งเล่นดิ๊"
"กูก้ง่วง ขอนอนด้วย"
"นอนบ้านมึงทับกันงี้อ่อ ลุกเลย"
ผมไม่ลุก แถมซุกหน้าลงไซร้ซอกคอหมอที่อยู่ตรงหน้าพอดี ลากริมฝีปากผ่านผิวหนังเบาๆ ตัวเราแนบชิดกัน
"ปะ ปล่อย" หมอบอกเสียงสั่น พยายามดิ้น
"อือ...รู้สึกดีจัง" ผมคราง
"ไอ้บ้า ปล่อยนะเว้ย"
ผมยังทำต่อไป ซอกคอหมอเนียนนุ่มมากเลยครับ สักพักผมหยุดแกล้ง ลุกขึ้นจากตัวหมอ
"สาด กูจะนอน" ตาหมอจะปิดอยู่แล้วครับ
"ไม่แกล้งละๆ มานี่มา" ผมค่อยๆดันตัวหมอให้มานอนบนตักผมแทน
"นอนตักเหรอ มึงไม่เมื่อยหรออั๋น"
"ไม่อะ นอนเหอะ" ผมยิ้ม
หมอทำท่าเหมือนจะพูดอะไร แต่ก้ไม่ได้พูด ผมลูบแขนหมอเบาๆจนมันหลับไปบนตักผม...

"อั๋น...อั๋น"
"อือ..." ผมขยับหัวขึ้นอย่างงัวเงีย นี่ผมก้หลับไปด้วยงั้นเหรอ หมอยืนอยู่ตรงหน้า ท่าทางสดชื่น
"มึงตื่นนานยัง"
"ชั่วโมงก่อน"
"นี่กี่โมงแล้วอะ" ผมอ้าปากหาวฟอดใหญ่
"ห้าโมงเย็น"
"ไหน มานี่ดิ" ผมดึงแขนหมอให้มานั่งบนโซฟากับผม
"อะไร"
"ปลุกกูไมเนี่ย"
"ก้ มึงสัญญาว่าจะทำไรให้กูกินนี่"
"อ้อ...แหม เรื่องกินนี่ไม่ลืมเลยนะ" ผมขยี้ผมหมออย่างเอ็นดู เมื่อคืนมันบอกผมไว้ว่าอยากทำอะไรกินกันเองครับ
"ทำไรดีวะ" หมอถาม
"นั่นดิ"
"อืม...ทำขนมมั้ย"  หมอหยุดคิดแล้วเสนอ
"ได้ มึงอยากกินไรอะ"
"โทสต์"
"ไป after you กะกูเหอะงั้น- -"
"ไม่เอาดิ อยากกินที่เราทำเองเว้ย...หรือว่ามึงทำไม่เป็น" หมอยิ้มกวน
"ดูถูกกันอีกละ ทำเป็นดิ"
"จริงดิ เย่"
ผมยิ้มกว้างกับท่าทางดีใจของหมอ
"เออ แล้วมึงไม่กินข้าวก่อนเหรอ" ผมถาม
"กินข้าวก่อน แล้วกินขนมต่อไง...งั้นเดี๋ยวกูโทรไปร้านอาหารตามสั่งแปบ"
"เออๆ"
เรื่องกินนี่ว่องไวเชียวนะหมอ

"มึงต้องให้กูช่วยด้วยนะ ไม่งั้นกูไม่ให้มึงทำ" หมอเดินตามผมเข้ามาในครัวหลังโทรไปสั่งอาหารเย็นเสร็จ
"เอ้า เป็นคนอยากกินเองไม่ใช่อ่อ"
"นั่นแหละ มึงไม่เคยให้กูช่วยทำเลยนี่หว่า"
"ก้มึงทำไม่เป็นอะ เดี๋ยวครัวเละ"
"ก้สอนกูดิครับ" หมอโบกหัวผม ดูมัน
"ไอ้หมอ- -"
"555" มันหัวเราะชอบใจ หลังจากได้นอนเต็มตื่น โหมดกวนตีน-ขี้เล่นทำงานแล้วครับ
"...บ้านมึงนี่ตุนของกินไว้เยอะเลยนะ ขนมปัง ไอศกรีม ผลไม้ มีทุกอย่างแล้ว ไม่ต้องซื้ออะไรเลย" ผมไล่ดูรายการของที่ต้องใช้ทำ Honey Toast แบบที่หมออยากกินครับ
เจ้าของบ้านยิ้มอย่างภูมิใจ
"ให้กูช่วยทำไร"
"เอ่อ...หั่นผลไม้ละกัน มึงอยากกินอะไรก้เลือกเลย"
หมอหยิบกล้วยมาปอกแล้วเริ่มหั่นเป็นชิ้นบางๆอย่างกระตือรือร้น ส่วนผมเอาขนมปังออกมาอบในเตาให้พออุ่น ขนมปังที่ใช้ทำไม่เหมือนกับที่กินที่ร้านขนาดนั้น แต่พอใช้แทนกันได้อยู่ครับ

ผลไม้ที่หมอเลือกมามีกล้วย ส้ม และกีวี่ เตรียมขนมปังและผลไม้เสร็จ ผมก้หันมาเลือกไอศกรีม มีไอศกรีมหลายรสเลยครับ
"หมอเอารสไร"
"ได้หมด"
"งั้นเอานมกับช็อคโกแลตแล้วกัน" ผมเลือก
ตอนนั้นเสียงกริ่งดังขึ้น สงสัยอาหารจะมาส่ง
"เดี๋ยวกูมา" หมอบอก เดินออกไปหน้าบ้าน ไม่ถึงนาทีก้กลับมา
"งั้นกูยังไม่ใส่ไอศกรีมนะ เดี๋ยวมันละลาย กินข้าวก่อน"
"เออ"

"สั่งไรมากินเนี่ย" ผมพึมพำ แกะกล่องโฟมออกมาก้ต้องยิ้มกว้าง หมอสั่งข้าวกระเพราหมูกรอบกับปลาหมึกให้ผมครับ
"ของชอบมึงไง" หมอตอบ หยิบช้อนส้อมมาแล้วนั่งลงที่โต๊ะอาหาร
"น่ารักสัส รู้ใจกูจริงๆ"
หมอเก๊กหน้านิ่ง ทำเป็นไม่สนใจผม มันเปิดอีกกล่องหนึ่ง เป็นข้าวหมูทอดกระเทียมพริกไทยครับ
"มองไร มีปัญหาอ่อ" หมอพูดเมื่อเห็นว่าผมเอาแต่มองหน้ามันระหว่างกินข้าวครับ
"มองนิดมองหน่อยไม่ได้อ่อ"
"แถวบ้านกูเรียกจ้อง- -"
"อ่าวเหรอ555" ผมเกาหัวแก้เขิน หมอมันทำอะไรก้น่ามองไปหมดนี่ครับ

แล้วก้ถึงเวลาของ Honey Toast ผมหยิบกล่องไอศกรีม2รสนั้นออกมาจากตู้เย็น แล้วตักออกมาเป็นลูกกลมๆใส่ลงบนจานขนมปังกับผลไม้ที่เตรียมรอไว้แล้ว
"น่ากินสาด" หมอร้องเมื่อผมเอาน้ำผึ้งมาเทราดขนมปัง
"แดกเสร็จแล้วต้องไปวิ่งหนักๆเลย- -" ผมบ่น
จากนั้นเราสองคนก้ช่วยกันจัดการ Honey Toast ตอนทำใช้เวลานาน แต่ตอนทานไม่ถึง5นาทีครับ ยิ่งเป็นผู้ชายสองคนกินแล้วด้วย
"อร่อยมั้ยมึง"
"โคตรๆ" หมอตอบ
"ไง จัดของหวานไปแล้ว ต่อด้วยไรอีกมั้ย"
หมอยิ้มอ่อนก่อนตอบ
"ก้เหล้าไง"

ผมถามหมอว่าจะไปซื้อเหล้ามากินยังไง หมอตอบแค่ว่า 'เดี๋ยวมึงก้รู้' จนสองทุ่มครึ่งผมก้ได้คำตอบ
มันฝากพี่วินมอเตอร์ไซด์หน้าหมู่บ้านไปซื้อเหล้ามาส่งที่บ้านครับ เหล้าถูกใส่รวมมากับถุงเสื้อผ้าชุดกีฬา มองจากข้างนอกไม่เห็นขวดเหล้าครับ
"ขอบคุณมากนะพี่" หมอส่งเงินค่าเหล้ากับค่าบริการขนส่งให้พี่วิน
"เห้ย ไม่เป็นไรไอ้หมอ" แล้วพี่เค้าก้ขับรถออกไป
"อยากได้คำอธิบายมะ" หมอหันมาหา เมื่อเห็นว่าผมทำหน้าฉงน เราเดินกลับเข้ามาข้างในบ้าน
"เออ ทำไมวะ"
"ก้เรายังอายุไม่ถึง ไปซื้อที่ไหนเค้าไม่ขายให้ กูเลยต้องฝากคนอื่นซื้อ กูสนิทกับพี่วินคนนี้ แล้วที่ต้องห่อรวมมากับของอย่างอื่น เพราะเดี๋ยวข้างบ้านเห็นแล้วมาบอกพ่อแม่กู- -"
"เชี่ย ล้ำสัส" ผมเริ่มเข้าใจ ทึ่งกับแผนการของไอ้หมอมันจริงๆครับ
"ถ้าคนอื่นเห็น ก้คงนึกว่าเอาของที่ลืมไว้มาส่งน่ะ"
"ทำไมเรื่องแบบนี้มึงฉลาดจังวะ"
"นี่ชมหรือด่ากู"
"ด่าอยู่"
"ไอ้สาดด"

ผมกับหมอนั่งกินกันในห้องนอนครับ เรานั่งเอาหลังชิดปลายเตียง
"คืนนี้อย่าเรื้อนนะมึง" ผมพูดยิ้มๆ
"ไม่เรื้อนโว้ย ระดับนี้ คอแข็ง"
"หรา เดี๋ยวก้เมาแล้วมึงอะ"
ไอ้หมอมันคออ่อน กินนิดหน่อยก้ไปแล้ว ที่น่ากลัวก้คือ ตามตัวมันจะเป็นสีแดงเข้มครับ ส่วนผมค่อนข้างคอแข็งนิดหนึ่ง ดูแลมันได้แน่นอน
"หมอ"
"หือ"
"สมมติว่าพ่อแม่มึงรู้ จะเป็นไงวะ"
"เอ่อ...กูว่าบ้านแตก แม่กูพูดอยู่บ่อยๆว่าห้ามลองเด็ดขาด ส่วนพ่อกูก้ไม่ชอบ"
"5555 ห้ามลอง ไม่ทันแล้ว"
"เออดิ กูแอบลองตั้งนานแล้ว"
"แล้วมึงกินครั้งแรกตอนไหน"
"ตอนที่เลิกกับแฟนกูอะ"
"อ่อ ยังงี้นี่เอง อกหักแล้วต้องดามใจอะดิ" ผมยิ้ม
"ก้เพื่อนกูชวนนี่หว่า"
"แล้วแดกที่ไหน"
"บ้านเพื่อน...ว่าแต่มึงเหอะ ไปฝึกแดกมาจากไหน"
"เจ๊เอ๋"
"นั่นไง"
"เค้าบอกให้กูลองกินเว้ย จะได้รู้ว่ามันเป็นยังไง มีภูมิคุ้มกัน"
"เหตุผลมึงมากกว่าเหตุผลเจ๊เอ๋ม้าง"
"จริงนะเว้ย ถามเจ๊เอ๋ได้" ผมพูดจริงครับ
เราดื่มกันไปคนละ3แก้วแล้ว ผมยังสบายๆอยู่ แต่ไอ้คนข้างๆผมเนี่ย ตัวเริ่มเป็นสีแดงแล้วครับ
"ใครก้ไม่รู้เมาแล้วว่ะมึง" ผมแซว
"ไหน ใครเมา ไม่มี" หมอยังสติสัมปชัญญะครบถ้วน แต่รออีกไม่นานครับ มันไปแน่นอน ตอนนี้แค่ตัวแดงเป็นสัญญาณเท่านั้น
"...เชี่ยหมอ"
"ไรวะ"
"มึงทำไรไว้"
"อ่อ 555 พึ่งเห็นหรอวะ"
ผมพึ่งหยิบมือถือขึ้นมาเปิด facebook ตั้งแต่กลับมาจากไปทำบุญ เห็นไอ้หมอ tag รูปผมนั่งหลับที่โซฟามา ตอนนั้นมันคงตื่นและลุกจากตักผมไปแล้วครับ
"แกล้งกูอ่อสาด..." โอ้โห ยอด like หลายร้อย comment จัดไปอีกเหยียบร้อยครับ- -
"5555" หมอยังคงหัวเราะสะใจ
"กูอุตส่าห์ให้มึงนอนตักนะ"
"ไม่เกี่ยวกันโว้ย"
ผมโบกหัวมันไปทีหนึ่ง
"อย่าให้มึงหลับมั่งนะ"

นั่งกินกันต่อไปอีกพักใหญ่ ไม่ได้นับจำนวนแก้วแล้วครับ หมอเริ่มนั่งตัวไม่ตรง เซไปเซมา พูดก้ช้าลงแล้ว แต่มือยังคงยกแก้วขึ้นดื่มไม่ขาด เหล้าใกล้หมดก้เทเติมอยู่เรื่อยๆ
"พอแล้วมั้งมึง" ผมเตือน
"กูยังไหวน่า" หมอตาเยิ้มเชียวครับ
เอาล่ะสิ ผมว่ามันแย่แล้วล่ะครับ
"เห้ยหมอ พอเหอะ" ผมตัดสินใจว่ามันควรเลิกกินได้แล้วครับ จับมือมันไว้ไม่ให้หยิบแก้วขึ้นดื่มอีก
"...อย่ามายุ่งน่า ชิว" เวลามันเมาแล้วตอบคำถามช้าครับ
"ชิวบ้านมึงดิ ถ้ากินเข้าไปอีก มึงไม่ไหวแน่"
"เห้ยยย" หมอร้อง พยายามแกะมือผมออก
"พอเหอะนะหมอ เชื่อกู เดี๋ยวมึงเป็นอะไรขึ้นมา กูจะทำยังไง" ผมเริ่มใช้ไม้อ่อน
"อั๋น...กูอยากกินอีก"
"อย่าเลย"
"อือ..."หมอส่งเสียงครางอย่างขัดใจ
"นะๆ เลิกกินเหอะ เดี๋ยวกูเลิกกินด้วย"
"กู ไม่ เลิก" หมอยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมแล้วพูดทีละคำ
"ดื้อนะมึงอะ" ผมแตะหน้ามัน ร้อนจี๋เลยครับ ตามตัวก้ด้วยเช่นกัน
"อั๋น...มึงชอบกูจริงๆอ่อ"
อยู่ๆหมอก้ถามขึ้น ผมชะงัก นี่มันถามเรื่องนี้ตอนนี้เนี่ยนะ
"เอ่อ มึงเมาแล้วหมอ เดี๋ยวกูพาไปอาบน้ำนอน" ผมพยายามดึงตัวหมอให้ลุกขึ้น แต่มันไม่ยอมลุกครับ
"...ม่ายอาว ตอบมาก่อน มึงชอบกูเหรอ"
"อะ เออ กูชอบมึง"
หมอเงียบไปนาน แต่ยังคงจ้องหน้าผมอยู่ ผมก้ไม่ได้ทำอะไร นั่งอยู่กับมันตรงนั้น
"...ไหนมึงเล่าให้กูฟังว่าเคยชอบเพื่อนผู้หญิง แล้วมึงจะมาชอบกูได้ไง กูเป็นผู้ชายนะเว้ย"
ผมอึ้งไปพักหนึ่ง นี่คือสิ่งที่หมอกำลังสงสัยอยู่งั้นเหรอ
"ใช่ กูเคยชอบ...แต่ตอนนี้กูชอบมึงแล้วนี่"
หมอยังคงมองหน้าผมอย่างค้นหาคำตอบ มันเอื้อมมือมาจับมือผม
"...ถ้ามึงชอบกูจริงๆ ไหน..."
"ไหนอะไร"
"จูบกูดิ"
...
คราวนี้ผมเงียบบ้าง สตั๊นกับคำพูดไอ้หมอไป10วินาทีเต็มๆครับ
"อะไรนะ"
"...มึงทำไม่เป็นหรอว้าอั๋น" ไอ้หมอเมามาก เมาจนเอาไม่อยู่แล้วครับ
ทันใดนั้นเอง หมอเอามือสองข้างมาจับหน้าผม แล้วขยับเข้ามาประกบปากกับผม

หมอจูบผม...

หมอกำลังจูบผม

ผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้ ในที่สุดผมก้รู้สึกตัว กลายเป็นว่าตอนนี้ผมเป็นฝ่ายจูบตอบมันอย่างดูดดื่ม ยกตัวมันขึ้นมานั่งบนตักผม มือกำลังสัมผัสตัวมันอย่างอันตราย...
ส่วนไอ้หมอนั่งนิ่งไม่ไหวติงอยู่บนตัวผม

ไม่ได้! ผมจะปล่อยให้มันเลยเถิดไปมากกว่านี้ไม่ได้ ถึงผมจะชอบมันก้เถอะ ผมจะฉวยโอกาส ทำกับหมอทั้งๆที่มันเมาไม่รู้เรื่องแบบนี้ไม่ได้

ผมรีบขยับตัวหมอออกจากอ้อมแขนผมอย่างรวดเร็ว
"อะ...อั๋น" หมอมองหน้าผม สีหน้ามันอ่านไม่ออกเลยครับว่ามันกำลังรู้สึกอย่างไรหรือกำลังคิดอะไรอยู่
"เลิกกินเถอะนะ นอนกัน" ผมบอก พยายามขับไล่อารมณ์ตัวเองที่พุ่งขึ้นมาอยู่ข้างใน
"...กูอยากกินต่อ"
"พอแล้ว" ผมดุ ฉุดแขนมันลุกขึ้นแล้วลากมันไปห้องน้ำครับ
"จะ...จะไปไหน"
"พาไปอาบน้ำไง"
ยังไปไม่ถึงห้องน้ำ หมอก้อาเจียนออกมาใส่เสื้อผมเต็มเลยครับ
"ไอ้หมอ- -"
"อะ...อือ"
"เออ ดีเหมือนกัน อ้วกออกมาจะได้ดีขึ้น"
ผมถอดเสื้อยืดออก พาหมอไปอาเจียนต่อในห้องน้ำ ช่วยตบหลังมันครับ มันอาเจียนออกมาอีกเยอะเลย
"เปนไงมึง ดีขึ้นปะ"
"ดี...กูปวดหัวอะอั๋น"
"ก้บอกแล้วให้หยุดกิน มานี่" ผมพยุงมันกลับไปที่ห้องนอน ท่าทางเจ้าตัวจะอาบน้ำไม่ไหวแล้วครับ ผมไปเตรียมถาดใส่น้ำกับผ้าขนหนูผืนเล็กมาเช็ดตัวให้มันแทน
"ถอดเสื้อ เดี๋ยวกูเช็ดตัวให้"
"...เห้ย แล้วมึงถอดเสื้อทำไมวะอั๋น...ไม่เอา กูไม่ถอด มึงจะปล้ำกูอ่อ"
ที่จริง ตอนที่เราจูบกันเมื่อครู่ ผมก้เกือบอดใจไม่ไหว เกือบเลยไปถึงขั้นนั้นแล้วเหมือนกันครับ
"ก้มึงอ้วกใส่เสื้อกูอะ...เอ้า ถอดเสื้อดิ กูไม่ปล้ำมึงหรอกน่า"
"...ถอดให้หน่อย กูถอดไม่ได้"
ดูมัน- -
ผมถอดเสื้อหมอออกแล้วเริ่มเช็ดตัวให้ พยายามไม่มองร่างกายคนตรงหน้า เหตุการณ์แบบนี้มันอันตรายจริงๆครับ...
"มึงจะไปไหนอะ" หมอถามขึ้นเมื่อผมเช็ดตัวให้เสร็จและจัดให้มันนอนลงบนเตียง ห่มผ้า
"กูจะไปอาบน้ำ"
"ไม่ไปไม่ได้เหรอ"
"เดี๋ยวกูกลับมา แปบเดียว"
"...ไม่เอา มาอยู่กะกูก่อน"
"เออๆ...อ้อนอีกแล้วนะมึงอะ" ผมเดินกลับไปนั่งข้างหมอบนเตียง
"...กูปวดหัวเหี้ยๆ"
"นอนเลย เดี๋ยวเช้าตื่นมาก้หาย"
แล้วผมก้ลูบแขนหมอเบาๆจนมันหลับไป ผมถึงเดินออกไปอาบน้ำ
เฮ้อ หมอเมาทีไรมีเรื่องทุกทีเลยครับ

-จบตอน-

มาแล้วค้าบ คิดถึงอั๋นหมอกันมั้ยคุณผู้อ่าน
เราจัดอั๋นให้อีกตอนหนึ่ง ให้หายคิดถึงพระเอกกันไปเลย~
เกือบไปแล้วนะตอนนี้ เฮ้อ สถานการณ์มันพาไปจริงๆ
ปล.วิธีแอบกินเหล้าของหมอมันฉลาดสุดๆเลยจริงมั้ย55
อ่านแล้ว comment ให้อั๋นหมอเยอะๆเลยน้า
ติดตามตอนต่อไปด้วยครับ
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่18 (updated 23/5/2559 22.00)
เริ่มหัวข้อโดย: Walitya ที่ 24-05-2016 13:53:35
เค้าจูบกันแล้วอะ เขิน  :-[
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่18 (updated 23/5/2559 22.00)
เริ่มหัวข้อโดย: panitanun ที่ 24-05-2016 19:27:25
เอ้าดิชั้นนึกว่าอั๋นจะหลอกล่อให้หมอจูบ55555555
น้องหมอจูบเค้าก่อนซะงั้นเลยลูก55555
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่18 (updated 23/5/2559 22.00)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 24-05-2016 22:03:22
หมอรุกแบบจัดหนัก!! #คนเมาทำอะไรก็ได้ 55555
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่19
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 26-05-2016 20:18:32
ตอนที่19

ผมถามอั๋นว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เพราะหลังจากตื่นมา ผมก้จำเหตุการณ์เมื่อคืนไม่ได้เลยสักนิดเดียว อั๋นบอกว่าผมอาเจียนใส่มัน มันเช็ดตัวให้ผม แล้วก้นอน
"แค่นั้นอ่อ" ผมไม่อยากเชื่อว่าผมจะแค่นั่งกินจนเมา แล้วก้อาเจียนใส่มัน มันน่าจะมีอะไรมากกว่านั้นสิ
"แค่นั้นแหละ"
ผมไม่เชื่อแน่นอน แต่ไม่ได้ซักต่อ ผมอาจจะเล่าเรื่องดราม่าของผมให้มันฟัง หรือทำอะไรทุเรศๆ น่าอาย มันเลยไม่อยากเล่านะ
ที่ทำให้ผมยิ่งเชื่อไม่ลงก้คือ อั๋นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่หลังจากที่ผมถามมัน แสดงว่าผมต้องทำอะไรสักอย่างแน่ๆ มันอัดคลิปผมตอนเมาไว้หรือเปล่าวะเนี่ย

แล้ววันอาทิตย์ก้ผ่านไปอย่างรวดเร็วจนเหลือเชื่อ ผมรู้สึกเหมือนพึ่งได้หยุด ก้ต้องกลับไปเรียนอีกแล้ว ตลอดทั้งวันที่เหลือ ผมเล่น play station กับไอ้อั๋น ด่ากันโหวกเหวกไปมา ส่วนใหญ่มันชนะผมครับ- -
"เชี่ย กูแพ้อีกแล้วอ่อ มึงโกงกูไอ้อั๋น"
"มึงกากเองไอ้หมอ ไอ้กากกก" อั๋นทำท่าทางล้อเลียนใส่ผม
ผมพยายามจะไล่จับมันมาโบกหัวให้ได้สักทีหนึ่ง วิ่งไล่มันรอบบ้านเหมือนเด็กเล่นกันเลยครับ แต่ไอ้อั๋นเร็วกว่า จับมันไม่ได้สักที
"อย่าหนีนะเว้ย" ผมร้องบอก ยืนหอบอยู่ข้างโซฟา
"ไอ้หมอกาก เล่นเกมก้แพ้ วิ่งไล่จับก้แพ้" อั๋นพูดอย่างเริงร่า
"สัส" ผมปาหมอนใบเล็กที่วางอยู่บนโซฟาใส่อั๋น มันไม่ทันระวัง โดนเข้าที่หน้าเต็มๆเลยครับ
ผมหัวเราะดังลั่น แต่อั๋นก้กระโจนข้ามมาถึงจุดที่ผมยืนอยู่ภายในพริบตาเดียว รัดผมทั้งตัวเหมือนท่ามวยปล้ำแล้วจับทุ่มลงบนโซฟา
"เห้ย เชี่ยอั๋น ปล่อยนะ" ผมเริ่มโวยวายเสียงดัง อั๋นกระเถิบตัวขึ้นมานั่งคร่อมร่างผมแล้ว
"หมอปาหมอนใส่หน้ากูอ่อ"
"เค้าขอโทษ เค้าไม่ได้ตั้งใจทำอั๋นนะ" ผมทำเสียงน่ารักใส่
"โอ้โห ปามาเต็มแรงขนาดนั้นบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ ไม่ต้องมาอ้อนเลย มาทำโทษซะดีๆ..."
"ม่าย"
อั๋นยิ้มหื่น รวบแขนทั้งสองข้างของผมขึ้นแล้วจับไว้ด้วยมือข้างเดียว ก่อนจะใช้อีกมือสอดเข้าไปในเสื้อผม
"ยะ อย่านะเว้ยไอ้อั๋น"
"อะไรนะหมอ"
"ปล่อยยย" ผมร้องเสียงหลง มือมันลูบไล้ไปมาบน อกเปลือยเปล่าของผม
"อย่าดิ้นดิ"
"ไอ้อั๋นบ้ากาม ไอ้โรคจิต"
"หึหึ" ตอนนี้มันเลื่อนมือลงไปแถวกางเกงฟุตบอลแล้ว
"เห้ย" ผมร้องเสียงดังขึ้นไปอีก
"ไหนขอดูหมอน้อยหน่อยดิ"
"ไอ้อั๋นนน"
อั๋นสัมผัสหมอน้อยผ่านกางเกง ลากวนไปมาตรงเป้าผมอยู่นาน จนอารมณ์ผมเริ่มมา...
"อะ...อือ" ผมคราง
อั๋นยอมปล่อยผมจนได้ ผมลุกขึ้นมาหายใจหอบ รีบจัดการกับเสื้อผ้าตัวเอง
"หมอน้อยสู้มือเชียวนะ" มันหัวเราะเบาๆ
"ไอ้บ้า"

เย็นวันนั้นอั๋นขอกลับไปกินข้าวกับที่บ้านครับ ผมเดินไปส่งมันหน้าบ้าน
"หมอ คือ..." อั๋นขึ้นซ้อนมอเตอร์ไซด์แล้ว แต่ไม่ยอมขับออกไป มันอึกอัก
"อะไรเหรอ"
"เรื่องเมื่อคืนน่ะ"
"เออ กูทำอะไรไว้ใช่ปะ เล่ามาดิ"
"มึง..."
"..."
"มึงถามกูว่า...กู...ชอบมึงจริงๆรึป่าว"
ผมหน้าร้อนผ่าว นี่ผมเผลอพูดสิ่งที่อยู่ในใจผมออกไปงั้นเหรอ
"...มึงบอกว่า กูเคยชอบเพื่อนผู้หญิง แล้วกูจะมาชอบมึงได้ยังไง"
"ละ แล้ว..."
"กูยังยืนยันคำเดิมนะหมอ กูชอบมึง"
อั๋นพูดพร้อมจ้องตาผมอย่างจริงจัง
"กูเคยชอบผู้หญิงก้จริง แต่ตอนนี้กูชอบมึง...กูไม่รู้ตัวว่าเริ่มชอบตั้งแต่ตอนไหน แต่ก้ชอบไปแล้ว"
ผมหน้าแดงจัดยิ่งกว่าครั้งไหนๆที่เคยเป็น อั๋นมาสารภาพรักรอบสองกับผม
เราเงียบกันอยู่ตรงนั้นตั้งนาน ผมยืนนิ่ง พยายามมองไปทางไหนก้ได้ที่ไม่ใช่หน้าอั๋น ส่วนมันก้ยิ้มแก้มปริอย่างเดียว
"มะ มึงพูดคำว่าชอบเยอะไปแล้ว"
อั๋นหัวเราะเบาๆเมื่อผมพูดขึ้นในที่สุด
"ไอ้บ้าเอ๊ย...กลับได้แล้ว เดี๋ยวรถก้ติดหรอก"
"อือ" อั๋นรับคำสั้นๆ ยิ้มหน้าบาน
"ขับรถดีๆล่ะ"
"ค้าบเมีย"

อั๋นตัดสินใจเล่าให้ผมฟังเพราะมันต้องการอธิบายว่ามันรู้สึกอย่างไรกับผมเหรอ...

ผมกลับมานั่งคิดถึงสิ่งที่อั๋นเล่า ใช่ครับ ผมยอมรับว่ากังวลเรื่องที่มันชอบผู้หญิงมาก่อน แต่ลืมไปเสียสนิทว่าผมเองก้ด้วย
เห้ย! ถ้าผมคิดได้ว่าผมเคยชอบผู้หญิง ก้หมายความว่า...ตอนนี้ผมชอบอั๋นน่ะสิ

ไอ้หมอ มึงชอบอั๋นเข้าแล้วงั้นเหรอ


"พ่อค้าบ แม่ค้าบ" ผมรีบวิ่งลงบันไดมาที่ห้องนั่งเล่นทันทีหลังจากนั่งคิดอยู่คนเดียวในห้อง
"ว่าไงหมอ ทำไมต้องรีบขนาดนั้นด้วย" พ่อขมวดคิ้วอย่างสงสัย กำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่
"นั่นสิ" แม่เดินออกมาจากห้องครัว นั่งลงบนโซฟาข้างพ่อ
"ผมมีเรื่องจะถามน่ะครับ"
"เรื่องอะไรลูก"
"คือ พ่อกับแม่ช่วยเล่าตอนที่จีบกันให้ผมฟังหน่อยได้มั้ย"
"หือ" พ่อร้อง
"อะไรนะ" แม่หรี่ตามองผม
"ผมอยากรู้อะ ว่าพ่อกะแม่ตกลงเป็นแฟนกันได้ยังไง ไม่ดิ เอาตั้งแต่ตอนเริ่มรู้จักกันเลยดีกว่า"
"อยู่ๆมาถามเรื่องนี้...แม่ไม่เล่าหรอก อายจะแย่" แม่หน้าแดงขึ้นมาทันทีเลยครับ
"คุณจะเขินไปทำไมน่ะ งั้นพ่อเล่าเอง มาๆ อยากรู้อะไรเดี๋ยวจะตอบทุกข้อเลย"
"ดีเลยพ่อ" ผมพูดกลั้วหัวเราะ พ่อนั่งยิ้มแฉ่ง ส่วนแม่เขินจนทำอะไรไม่ถูก
"แหม คุณก้..."
"นี่ ลูกเราเองนะที่ถาม ไม่ใช่คนอื่นซะหน่อย"
"เล่ามาเลยพ่อ อยากฟังแล้ว" แม่ตีแขนพ่อเบาๆ
"ยาวนะเจ้าหมอ"
"ได้ ชิว" ผมยิ้มกว้าง เตรียมฟัง
"ก้ อย่างที่แกรู้ แม่เป็นรุ่นน้องพ่อที่มหาวิทยาลัย ถึงจะเรียนคนละคณะกัน แต่ตึกเรียนเราก้ใกล้กัน พ่อเจอแม่เดินผ่านโรงอาหารใต้ตึกหรือสนามหญ้าหน้าคณะพ่อบ่อยๆ"
ผมสังเกตเห็นว่าแม่หน้าแดงขึ้นไปอีก พ่อเอื้อมมือไปจับมือแม่ระหว่างที่เล่าด้วย
"วันนึง พ่อคิดว่าต้องรีบคุยแล้ว ไม่งั้นคนอื่นอาจจะมาทำความรู้จักเพิ่ม เพราะว่าแม่สวยมากเลยนะ เอาวะ เข้าไปขอเบอร์โทรศัพท์ซะเลย"
"โหพ่อ เจ๋งว่ะ"
"เป็นไงล่ะ พ่อเก่งมั้ยล่ะ" พ่อยิ้มภูมิใจ หันไปมองหน้าแม่
"แล้วแม่ให้เบอร์พ่อเลยรึป่าวครับ"
"ยัง- -" พ่อตอบทันควัน
"ก้แหม ใครมันจะไปกล้าให้ล่ะ น่ากลัวจะตาย" แม่หัวเราะเบาๆ ส่วนผมหัวเราะเสียงก้องเลยครับ
"แต่แม่ก้ไม่ได้ให้เบอร์ใครเลยนะ ไม่ใช่ว่าไม่ให้พ่อเราคนเดียว" แม่รีบพูด
"แสดงว่าแม่ฮ็อตนะครับเนี่ย...แล้วทำไมไม่ให้อะ"
"ก้แม่กลัวนี่ ยายสอนว่าอย่าริรักในวัยเรียน"
"แม่" ผมร้องอย่างเสียดาย
"แต่พ่อก้เอาชนะยายได้นะ" พ่อพูดต่อทันที
"ยังไงอะๆ"
"พ่อก้พยายามซื้อของไปให้แม่ทุกวัน น้ำบ้าง ขนมบ้าง ตอนแรกแม่เราไม่รับ หลังๆมาถึงรับเพราะเริ่มรักพ่อแล้ว" พูดจบพ่อหันไปหอมแก้มแม่หนึ่งฟอด
"บ้าน่าคุณ เพราะชั้นกลัวเสียน้ำใจต่างหาก อีกอย่าง ได้กินของฟรีด้วย ใครจะไม่เอา" แม่รีบปฏิเสธอย่างขัดเขิน
"พ่อตื๊อแม่เก่งมาก มาชวนคุยทุกวัน อาสาเดินไปส่งที่หอพักด้วยนะ แรกๆแม่ไม่ไว้ใจ ไม่รับของที่พ่อเอามาให้ ไม่ให้เดินไปส่ง แต่ตอนหลังก้ยอมรับพ่อเรา..."
กลายเป็นว่าแม่มาช่วยเล่าเรื่องด้วยทั้งๆที่ยังเขินอยู่ ผมฟังไปก้อมยิ้มไป ทำไมความรักของพวกท่านถึงสวยงามจังนะ
"รู้มั้ย เรื่องอะไรที่ทำให้แม่เปิดใจให้พ่อ" พ่อถาม
"เรื่องอะไรเหรอครับ"
"วันนึงเลิกทำรายงานดึก แม่เดินกลับหอคนเดียว มีโจรมาวิ่งราวจะเอากระเป๋าสตางค์แม่ไป"
"เห้ย" ผมร้อง
"แม่กลัวมาก เขาพยายามกระชากไปจากมือแม่ แม่ก้ดึงยื้อไว้สุดแรง"
"แล้วไงต่อครับ"
"พ่อเรามาช่วยแม่ไว้ ชกต่อยกับผู้ชายคนนั้น เขามีมีดพก แต่พ่อเรามีแค่มือเปล่า"
"..."
"พ่อแย่งกระเป๋าแม่คืนมาได้ แต่ก้โดนฟันที่แขนไปทีหนึ่ง แผลใหญ่เหมือนกัน ต้องใส่ผ้าพันแผลตั้งนานแน่ะ สุดท้ายมีคนแถวนั้นเห็น ส่งเสียงดังกันใหญ่ โจรมันเลยวิ่งหนีไป" พ่อกลับมาเล่าบ้าง ยิ้มรำลึกถึงความหลัง
ผมรู้สึกซึ้งใจกับสิ่งที่พวกท่านเล่า พ่อช่วยชีวิตแม่ไว้ครั้งหนึ่งเลยเหรอเนี่ย หันไปเห็นแม่มีน้ำตาคลอหน่อยๆ
"หมอไปไหนมาไหนตอนกลางคืนต้องระวังด้วยนะลูก"
"ค้าบ...หมอสงสัย ทำไมพ่อถึงรู้ว่าแม่ตกอยู่ในอันตรายอะ"
"ก้พ่อตามแม่ไปน่ะสิ แม่ไม่เคยยอมให้พ่อไปส่งเลย ทุกครั้งที่แม่กลับดึกๆ พ่อจะแอบตามไปตลอด"
"โห..."
"แม่มารู้เอาทีหลังว่าพ่อเค้าแอบมาส่งน่ะ แต่ก้ยังน่ากลัวอยู่ดีนะคุณ" ประโยคหลังแม่หันไปพูดกับพ่อ
"ก้ทำไงได้ล่ะ ผมเป็นห่วงคุณนี่ คุณก้ใจแข็งมากเลยตอนนั้น ไม่ยอมให้ผมมายุ่งด้วยสักที" พ่อทำท่าน้อยใจ
เหมือนเด็กๆ
"หลังจากนั้นพ่อกับแม่ก้เริ่มคบกันเลยหรอครับ"
"ไม่เชิงจ้ะ แต่แม่ก้ยอมคุยกับพ่อแล้ว"
"คุยกันอีกไม่กี่เดือน พ่อก้ขอแม่เป็นแฟน"
"แม่ตอบตกลงแล้วอะดิ" ผมถามเสียงใส
"ยัง" พ่อตอบเสียงขุ่น แม่หัวเราะ
"ห๊ะ"
"แม่บอกแล้วไงว่ายายยังไม่อยากให้แม่มีแฟน แม่เลยบอกพ่อว่า คุยกันอย่างนี้ไปก่อน แต่ยังไม่เรียกว่าแฟน"
"พ่อก้เลยให้แม่เซ็นสัญญาว่าถ้าเรียนจบแล้วต้องมาคบกัน แล้วระหว่างนั้นก้ห้ามให้ผู้ชายคนอื่นนอกจากพ่อมาดูแลหรือเข้ามายุ่งด้วย"
"นั่นน่ะมันยิ่งกว่าแฟนอีกนะ- -" ผมบอก พ่อกับแม่หัวเราะพร้อมกัน
"ก้ใช่น่ะสิ" พ่อตอบ
"แม่ตกลงอ่อครับ"
"ตกลงสิจ๊ะ ก้พ่อเราทำเพื่อแม่ได้ทุกอย่าง ขนาดยอมตายแทนได้ แม่รับรักพ่อตั้งแต่ตอนนั้นแหละจ้ะ"
ผมยิ้มกว้างกับเรื่องราวของพ่อแม่ ท่านดูแลกันและกันมาตั้งนาน จนถึงตอนนี้ พอมีผมเพิ่มเข้ามา ความรักก้ไม่ได้บิดพลิ้วไปเลยแม้แต่น้อย
"แม่ขอถามเราบ้าง"
"ครับ?"
"ทำไมอยู่ๆมาถามเรื่องนี้ล่ะ"
"นั่นสิ พ่อสงสัยตั้งแต่แรกแล้ว แต่รอเล่าเรื่องให้แกฟังก่อน"
"เอ่อ...คือ" ผมตะกุกตะกักขึ้นมา ไม่ได้เตรียมตอบคำถามนี้ซะด้วยสิ พวกท่านจ้องผมเป็นตาเดียว
"ไปปิ๊งใครเข้าล่ะสิ" พ่อพูด
"หมอกำลังชอบใครอยู่ใช่มั้ยลูก" แม่ถาม
"มะ ไม่ใช่นะครับ ผมแค่ถามเฉยๆ"
"แน่ะ จริงเหรอ"
"โหพ่อ จริงดิ ผมแค่อยากรู้"
พ่อกับแม่สบตากันแล้วยิ้ม ไม่ได้ถามอะไรผมต่อ
"พามาเปิดตัวด้วยแล้วกัน แม่กับพ่อรอเจออยู่นะ"
"เฮ้อ นี่ผมกำลังจะได้ลูกสะใภ้แล้วสินะคุณ"
"ใช่ค่ะ"
"อีกไม่นานก้คงมีหลานตามมาให้อุ้มสิ"
ดูพ่อกับแม่ผมคุยกันสิครับ- -
ผมคิดไม่ตกกับเรื่องของตัวเอง เลยมาถามจุดเริ่มต้นความรักของพ่อแม่ผม รู้อย่างนี้น่าจะถามตั้งนานแล้ว
ว่าแต่ ถ้าพ่อแม่รู้ว่าผมไม่ได้หมายถึงลูกสะใภ้ล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น ไม่อยากจะคิดเลย

"เห้ยพวกมึง พรุ่งนี้ห้าโมงเย็น กูกับไอ้อั๋นมีคัดตัวบาสฯสี ต้องไปดูให้ครบนะเว้ย" ไอ้ต้าร์บอกทุกคนในห้องก่อนเข้าเรียนคาบแรกของวันต่อมา
"เออ ไปดูพวกกูด้วยนะ" อั๋นเสริม
"กูไม่ว่างว่ะ" ไอ้นนท์แกล้งพูดขึ้นมา ส่งผลให้ไอ้ต้าร์โบกหัวมันไปทีหนึ่ง
"ไม่ว่างไม่ได้ ต้องไปดูเว้ย"
"เออๆ พวกกูไปอยู่แล้วน่า" ไอ้เอกบอก
"ใครไม่ไปกูจะไล่กระทืบเรียงตัวเลย คอยดู" ไอ้ต้าร์พูดติดตลก
"เว่อร์ไปละมึง กูก้ไม่ไปดู" ผมแกล้งพูดอีกคน
"เห้ย" ไอ้ต้าร์ร้อง ส่วนไอ้อั๋นหันมามองผมตาเขียว ผมยักไหล่ ทำเป็นไม่สนใจมัน
ไอ้ต้าร์กำลังเอื้อมมือมาจะโบกหัวผมอีกคน แต่ไอ้นนท์ยื่นมือออกมาห้ามไว้
"เดี๋ยวๆ ไอ้หมอมันต้องให้ไอ้อั๋นเคลียร์"
ตามด้วยเสียงโห่ร้องเสียงดัง
"มึงจะไม่ไปดูกูอ่อหมอ" ไอ้อั๋นพูด
"เออ ไม่ไปเว้ย" ผมแกล้งต่อ ยิ้มยียวนใส่อั๋น
"หมอจ๋า ไปดูอั๋นเล่นเหอะ นะ นะๆๆๆ" อั๋นอ้อน ขยับเข้ามา กอดผม แถมทำหน้าแอ๊บแบ๊วสุดๆ
"สัส- - ปล่อยเลย" เพื่อนๆส่งเสียงแซวกันใหญ่เลยครับ
"จะไปดูกูมั้ย ตอบก่อน"
"ไม่" ผมยังคงไม่ยอมแพ้
"ไม่ไปหรอ ได้..." อั๋นยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมอีก หน้าเราห่างกันนิดเดียวแล้วครับ
"เห้ย มึงจะทำไรวะ"
"ไม่ไปกูหอมแก้ม"
"เชี่ย อย่านะเว้ย" ผมรีบเอามือมาบังหน้าอั๋น คนอื่นๆในห้องร้องว่า 'หอมเลยๆ' เสียงดังมากครับ ลงไปถึงใต้ตึกแล้วแน่ๆ
"จะไปไม่ไป"
"อะ เออ ไปแล้วก้ได้" ผมรีบบอก กลัวไอ้อั๋นมันจะหอมแก้มผมขึ้นมาจริงๆ ไม่น่าไปบอกว่าจะไม่ไปเลยครับ ยังไงผมก้ไปเชียร์มันอยู่แล้ว ไอ้บ้าเอ๊ย
อั๋นยิ้มตาหยี ยอมปล่อยผม เสียงโห่ฮายังดังสนั่นอยู่รอบห้อง
"ไรวะ กูก้นึกว่ามึงจะหอมแก้มมันจริงๆ" ไอ้เอกทำ ท่าเซ็ง เดินกลับไปนั่งที่โต๊ะตัวเอง เพื่อนคนอื่นหันมามองเราสองคนยิ้มๆแล้วก้แยกย้ายกลับไปที่นั่งของตัวเองบ้าง
"ไอ้บ้าอั๋น กูไปดูอยู่แล้วน่า เล่นเชี่ยไรเนี่ย" ผมหันไปเล่นงานไอ้อั๋นทันที เขินดิครับ มาเล่นกับผมแบบนี้ต่อหน้าเพื่อนทั้งห้อง
"ก้มึงดื้อนิ"
"สาด" ผมโบกหัวอั๋นไปทีหนึ่ง มันยังยิ้มไม่หุบจนอาจารย์เข้าสอน

เย็นนั้นอั๋นไม่ได้ไปซ้อมบาสฯ แต่ไปวิ่งรอบสนามแทน ผมถามว่าทำไมไม่ไปเล่นบาสฯ มันให้เหตุผลว่าวันนี้วิ่งให้ร่างกายเตรียมพร้อมอย่างเดียวพอ รอทดสอบพรุ่งนี้เลย จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องแข่ง
ผมวิ่งด้วยครับ ส่วนไอ้ต้าร์ไปหาเมย์ ตอนนี้เรากำลังยืดหยุ่นกล้ามเนื้อก่อนวิ่งกัน
"จะไหวมั้ยเนี่ยเราอะ" อั๋นถามยิ้มๆ
"ไหวดิ ดูถูกกูอีกละ" ผมตอบ อั๋นขยี้หัวผม
"10รอบนะ"
"พ่อง เยอะไป"
"พูดจริงนะ"
- -
แล้วเราก้เริ่มวิ่งครับ
"มีคนมาลงคัดตัวกี่คนวะมึง"
"ไม่รู้ว่ะ ที่เห็นมาซ้อมด้วยบ่อยๆก้สิบกว่าคน"
"อ่อ เอาแค่5คนใช่ปะ"
"เออ แต่ยังไม่รวมตัวสำรองนะ"
"มึงหัดเล่นมานานยัง"
"มัธยมต้น"
"ทำไมมึงแม่งเก่งไปหมดเลยวะ เรียนก้เก่ง กีฬาก้เก่ง ทำอาหารก้เป็น กูไม่เห็นเก่งอะไรสักอย่าง- -" ผมบ่น อั๋นหัวเราะเบาๆ
"มึงอยากเก่งแบบกูปะล่ะ"
"เออ ต้องทำไงอะ"
"มาเป็นเมียกูดิ เดี๋ยวกูสอนให้" พูดแล้วก้ยิ้มมุมปาก
"สัส ไม่เอา"
ระหว่างที่วิ่งไป เราก้คุยกันไปตลอด จนถึงรอบที่6ได้ ผมเริ่มหมดแรงแล้วครับ
"อั๋น...กูเหนื่อยว่ะ พักแปบดิ" ผมหอบหายใจ
"เหนื่อยแล้วเหรอ งั้นมึงไปนั่งรอกูก่อนนะ กูขออีกสัก2-3รอบ"
"เออๆ..."
ผมออกจากลู่ไปนั่งพักตรงสแตนเชียร์ข้างสนาม ไอ้อั๋นไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนกันนะ 1รอบสนามมีระยะทาง800เมตร นี่เราวิ่งกันไป5กิโลเมตรได้แล้ว มันยังวิ่งต่อได้สบายๆเลย คนหรือคนเหล็กวะเนี่ย
ผมกำลังนั่งพักอยู่ก้พอดีมีคนเดินมานั่งลงข้างๆครับ
"หวัดดีหมอ"
"อ้าว หวัดดีอาร์ต"
อาร์ตนั่นเองครับ ใส่ชุดกีฬามา สงสัยจะมาวิ่งออกกำลังกายเหมือนกัน
"มาวิ่งหรอ"
"เออ อาร์ตอะ"
"เหมือนกัน รุ่นพี่ให้มาวิ่งรอบสนามน่ะ"
"เป็นนักกีฬาอ่อ"
"อือ เราลงบาสฯสีแดง"
"เหมือนอั๋นเลย" ผมชี้มือไปทางอั๋นที่กำลังตั้งใจวิ่งอยู่อีกฝั่งหนึ่ง
"อ้อ ห้องหมอกะอั๋นอยู่สีไรอะ"
"ฟ้า คัดตัวพรุ่งนี้"
"ของเราคัดไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วน่ะ" แสดงว่าอาร์ตก้ผ่านการคัดตัวเป็นนักกีฬาแล้วสินะ
ผมพึ่งสังเกตรูปร่างหน้าตาของอาร์ตจริงๆจังๆครั้งแรก มันสูงกว่าผมกับอั๋น ผอม แต่ก้ดูเฟิร์ม ผิวแทนจัด หน้าคม จมูกโด่งเป็นสันครับ
"แล้วหมอล่ะ ลงกีฬาอะไร"
"ไม่ได้ลง เราช่วยพี่มัธยม6ทำสแตนเชียร์"
"ว้าว เก่งว่ะ"
"ไม่หรอก"
อั๋นเดินตรงมาหาพวกเรา คว้าขวดน้ำเปล่าไปจากมือผม
"เห้ยๆๆ ของกู ไม่ให้แดก"
อั๋นยกขึ้นดื่มรวดเดียวเกือบหมดขวดเลยครับ- -
"ของมึงก้เหมือนของกูแหละ หวัดดีอาร์ต" อั๋นหันไปทักทายอาร์ต
"หวัดดีอั๋น" อาร์ตยิ้มให้อย่างมีมารยาท
"อาร์ตก้ลงบาสนะมึง สีแดง" ผมหันไปบอกอั๋น
"จริงดิ สีเราจะคัดตัวพรุ่งนี้" อั๋นพูด
"เดี๋ยวไว้แข่งกันนะ"
"เห้ย เรายังไม่รู้ว่าจะคัดตัวผ่านรึป่าว"
"ไม่ผ่านหรอกมึงอะ" ผมหันไปกัดอั๋น มันบีบจมูกผม
"โอ๊ย เจ็บนะสัส" ผมต่อยท้องมันคืน
"5555"
อาร์ตมองผมกับอั๋นยิ้มๆ
"อั๋นกับหมอนี่เหมือนแฟนกันเลยเนอะ" นั่นไง โดนจิ้นอีกแล้วกู
"ไม่ใช่น่า" ผมรีบปฏิเสธ
"เรากำลังคบหาดูใจกันน่ะ" อั๋นพูดแล้วกอดคอผม
"พ่อง"
"555 งั้นเดี๋ยวเราไปวิ่งก่อนละกัน ไปพร้อมกันมะ" อาร์ตชวน
"ไปก่อนเลย เราขอพักเดี๋ยว" อั๋นตอบ อาร์ตพยักหน้าแล้วออกวิ่ง
"แค่นี้ก้เหนื่อยแล้วอ่อมึง"
"แค่นี้ก้แย่ 6รอบนะสาด ยังไม่หายเหนื่อยเลย กูจะหัวใจวายอยู่แล้ว"
อั๋นที่ยืนอยู่เอามือมาจับหัวผม
"พรุ่งนี้ห้าโมงเย็น สนามบาสฯ ห้ามสาย ห้ามขาด ห้ามลานะ"
"แสดงว่าโดดได้?"
"ห้ามโดดด้วย ห้ามไม่มาไม่ว่าเหตุผลใดๆโว้ย"
"กูไม่มาหรอก" ผมแหย่อั๋นอีก
"ไม่มาเดี๋ยวก้รู้ว่าจะโดนอะไร ลืมแล้วอ่อ" มันเลื่อนมือลงมาแตะแก้มผม
"เดี๋ยวก้จับหอมแก้มกลางสนามซะเลย"
"อย่านะไอ้บ้า" ผมหน้าแดง ปัดมืออั๋นออก
ห้าโมงเย็นวันต่อมา ผมกับเพื่อนเกือบทั้งห้องยกกันไปเชียร์อั๋นกับต้าร์ที่สนามบาสฯอย่างพร้อมเพรียง
"ทำได้อยู่แล้วพวกมึง" ไอ้นนท์มีเป่าหัวสองคนนั้นด้วยครับ
"กูว่ากูจะไม่ได้ลงก้เพราะมึงมาเป่าหัวกูเนี่ยแหละ" ไอ้ต้าร์บอกท่ามกลางเสียงหัวเราะ
"ไอ้หมอ มึงไม่เห็นพูดอะไรสักคำเลย" ไอ้นนท์หันมาหาผม
"พูดอะไรวะ"
"อ้าว ก้ให้กำลังใจไอ้อั๋นไง มันจะแข่งแล้ว" ทุกคนส่งเสียงแซว แล้วไอ้เอกก้ดันหลังผมเข้าไปหาอั๋น
"ไม่พูดอะไรกะกูหน่อยอ่อ" อั๋นพูดยิ้มๆ
"ก้มาเชียร์อยู่นี่ไง"
"กูอยากได้กำลังใจจากมึงนิ" มันยกมือผมขึ้นมาจับ ทุกคนผิวปากและส่งเสียงดังกว่าเดิม
"เว่อร์ละไอ้สัส" ผมเขิน พยายามแกะมือมันออกครับ
"เร็ว ไม่งั้นกูไม่ลงนะ"
"เรื่องมึงดิ"
"หมอ- -" มึงก้บ้าจี้ไปตามเพื่อนนะอั๋น
"ไอ้หมอ เร็วๆสิวะ มึงจะเขินไรนักหนา" ไอ้นนท์บอก
"เห้ยหมอ มึงหอมแก้มอั๋นดิ" ไอ้เชี่ยเอก พูดมาได้นะมึง
อั๋นจ้องตาผมอย่างจริงจัง
"เออ...งั้นก้ โชคดีนะมึง" ผมพูดจนได้ หลบสายตาอั๋น ทุกคนโห่ร้อง
"ก้แค่นั้นแหละ" อั๋นยิ้มกว้างให้ผมก่อนจะยอมปล่อยมือแล้วเดินเข้าสนามไปพร้อมกับต้าร์ ผมหันไปโบกหัวเพื่อนทุกคนที่อยู่ใกล้

ผมเห็นกลุ่มพี่สีที่มาคุยกับต้าร์บ่อยๆมาคุมการคัดตัวนักกีฬา ในกลุ่มนั้นมีพี่ก้องยืนอยู่ด้วย พี่เค้ายกมือทักทายผม ผมโบกมือกลับไป เค้าทำท่าจะเข้ามาคุยกับผมด้วย แต่พอเห็นว่าผมอยู่กับกลุ่มเพื่อนเยอะๆเลยไม่เข้ามา ผมสงสัยว่าพี่ก้องมาดูการคัดเลือกทำไมกันนะ

มีคนมาคัดตัวประมาณ20คนได้ครับ มีทุกระดับชั้นตั้งแต่มัธยม4-6 รอบแรกพี่สีให้ทุกคนลองเคลื่อนตัวไปรอบสนามพร้อมเลี้ยงลูกบาสฯก่อน เหมือนดูท่าทางว่าคล่องแคล่วแค่ไหน อั๋นกับต้าร์นี่สบายๆเลยครับ

รอบต่อมาเป็นการทดสอบทักษะที่สูงขึ้นครับ เช่น การชู้ตในตำแหน่งต่างๆ การlay up การเลี้ยงลูกบาสฯหลบหรือหลอกคู่ต่อสู้ เป็นรอบที่ใครมีของก้ได้โชว์ออกมาเต็มที่ แน่นอนว่าอั๋นทำได้ดีมากๆ ผมเชื่อว่าเป็นอันดับต้นๆของกลุ่มเลย

รอบสุดท้ายให้เล่นเป็นเกม นับคะแนน จับเวลาเหมือนแข่งขันจริงครับ นอกจากอั๋นกับต้าร์ที่ท็อปฟอร์มสุดๆแล้ว มีพี่อีก2คนที่เล่นดีมาก ผมเดาว่าพวกเขาน่าจะเป็นนักกีฬาโรงเรียนหรือไม่ก้ได้ลงแข่งกีฬาสีปีก่อนๆครับ

จบการคัดตัว พี่สีให้คนที่มาคัดตัวทุกคนนั่งรวมกันอยู่ตรงกลางสนาม ระหว่างที่กำลังคุยกันอย่างเคร่งเครียดที่อีกมุมหนึ่ง พี่ก้องก้มาคุยด้วย
อั๋นมองหาผม พอหันมาเห็นแล้วก้ส่งยิ้มให้ ผมทำเป็นมองไปทางอื่น มันหัวเราะใหญ่เลยครับ<br>

"เอาล่ะทุกคน ต่อไปจะประกาศชื่อคนที่ได้เป็นนักกีฬาบาสเกตบอลของสีฟ้านะ ตัวจริง5คน ตัวสำรอง3คน..."
พี่สีคนหนึ่งพูดขึ้นหลังจากนั้นพักหนึ่ง แล้วก้ประกาศชื่อเล่นทีละคน
"ตัวจริง...แน็ค เบิ้ม ปอง ริว ต้าร์"
ผมอึ้ง ไม่มีชื่ออั๋นอยู่ในนั้น ผมต้องฟังผิดแน่ๆ
"ตัวสำรอง เรียงตามลำดับนะ...อั๋น เกมส์ นัท"
เห้ย เป็นไปไม่ได้ อั๋นเนี่ยนะเป็นตัวสำรอง
ผมเห็นว่าพี่2คนที่ผมคิดว่าเล่นดีที่สุดติดตัวจริง อีกคนหนึ่งก้เป็นต้าร์ ส่วนอีก2คนที่เหลือเล่นไม่เก่งเท่าอั๋นแน่นอนครับ ให้ใครมาดูก้ต้องคิดแบบผมแน่
ผมหันไปหาเพื่อนคนอื่นๆ
"เห้ย เชี่ยอั๋นไม่ติดตัวจริงได้ไงวะ"
"ตัวสำรองเนี่ยนะ ก้เหี้ยแล้ว"
"ไอ้พี่ริวได้ได้ไงวะ ไอ้อั๋นเล่นดีกว่าตั้งเยอะ"

ผมมองอั๋น สีหน้าตกใจ ต้าร์ก้ด้วยครับ นี่มันต้องมีอะไรผิดพลาด
แล้วอะไรบางอย่างก้สั่งผมให้มองไปทางพี่ก้อง ผมเห็นพี่เค้ายิ้มมุมปาก ดูแปลกๆ แววตาเป็นประกาย...
หรือว่าพี่เค้ามีส่วนกับการคัดเลือกนักกีฬานะ
แต่มันไม่น่าเป็นไปได้นี่นา พี่ก้องรับผิดชอบแต่ฝ่ายเชียร์นี่ ผมไม่เห็นเค้ามาดูบาสฯที่สนามอีกเลยตั้งแต่วันที่อั๋นซ้อมวันแรก หรือเท่าที่รู้ ก้อยู่แต่กับฝ่ายเชียร์ตลอดเวลา
ตอนนี้พี่ก้องกำลังมองหน้าอั๋น ยิ้มเยาะ อั๋นจ้องกลับ
ไม่ต้องสงสัยอะไรอีกแล้ว พี่ก้องแทรกแซงการคัดเลือกไม่ให้อั๋นติดตัวจริง
ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วไลน์ไปหาพี่ก้องทันที...

-จบตอน-

อื้อหือ อั๋นนี่หื่นจริงๆนะครับ มีพัฒนาไปถึงขั้นหมอน้อยด้วย
ตอนท้าย หมอจะทำอะไรต่อไปนะ ติดตามด้วยค้าบ
Comment กันเยอะๆน้า :)
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่19 (updated 26/5/2559 20.20)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 29-05-2016 01:37:41
พี่ก้องนิสัยไม่ดี
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่19 (updated 26/5/2559 20.20)
เริ่มหัวข้อโดย: fightreblue ที่ 30-05-2016 01:56:09
กำลังสนุกเลย รอตอนต่อไป เฮ้ๆ
เป็นกำลังใจให้ครับ o13
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่20
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 30-05-2016 21:13:46
ตอนที่20

"เดี๋ยวกูมานะเว้ย"
ผมหันไปบอกไอ้นนท์ที่นั่งอยู่ข้างๆก่อนจะเดินออกจากสนามบาสฯไปยังตึก3ที่อยู่ถัดมา เห็นจากหางตาว่าพี่ก้องเดินตามมาอยู่ข้างหลัง

"น้องหมอมีอะไรหรอครับ" พี่ก้องถามขึ้นเมื่อเราอยู่กันตามลำพังด้านหลังตึก3 หน้าตายิ้มแย้ม
ผมทักไลน์ให้พี่เค้ามาเจอที่นี่เพราะอยากคุยเรื่องผลการตัดสินครับ
"พี่ก้อง...ผมถามตรงๆนะพี่"
"เรื่องอะไรครับ" ผมมองหน้าอีกฝ่าย รู้สึกว่าเค้ารู้แน่ๆว่าผมกำลังจะพูดเรื่องอะไร แต่ทำท่าทางเหมือนไม่รู้ได้อย่างแนบเนียน
"ที่คัดตัวนักบาสฯสีเมื่อกี้ พี่เป็นคนตัดสินด้วยรึป่าวครับ"
"ป่าวครับ พี่ไม่ได้ตัดสิน" พี่ก้องตอบทันทีโดยไม่ตะขิดตะขวงแม้แต่น้อย และผมรู้ทันทีว่าโกหก
"ถ้างั้น ทำไมพี่ถึงเข้าไปคุยกับพี่คนอื่นตอนก่อนประกาศผลล่ะครับ"
"ก้เพื่อนพี่ให้ช่วยคิดอะดิ ว่าจะเอาตัวสำรองกี่คนดี พี่เลยเข้าไปคุยด้วย แต่ตอนคัดเลือกนักกีฬา เพื่อนพี่เป็นคนเลือก พี่ไม่เกี่ยวครับ" พี่ก้องยังคงตอบคำถามด้วยท่าทางสบายๆ ชวนให้เชื่อสุดๆ แต่ผมก้ยังเชื่อไม่ลงอยู่ดี เพราะสายตาหลังกรอบแว่นตอนพี่ก้องมองอั๋นที่สนามฯมันบอกชัดเจนว่าพี่เค้าเป็นคนทำ
"คือ...ผมไม่เข้าใจว่า ทำไมอั๋นถึงไม่ติดตัวจริง พี่ก้เห็นว่าเพื่อนผมเล่นดีแค่ไหน ทำไมผลตัดสินออกมาเป็นงั้น"
"พี่ดูอยู่ครับ เพื่อนน้องเล่นดีจริง แต่น้องต้องยอมรับผลตัดสินนะ เพื่อนพี่เลือกแล้วนิ" พี่ก้องยิ้มยียวน
ผมไม่รู้จะพูดอะไรต่อเมื่อพี่ก้องพูดมาแบบนี้ ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้อีกฝ่ายยอมรับ การที่ผมเรียกออกมาถามตรงๆแบบนี้มันคงโง่เง่าน่าดู แต่ผมคิดวิธีอื่นไม่ออกแล้วจริงๆ
"หมอคิดว่าพี่เป็นคนตัดสินให้เพื่อนเราไม่ได้เหรอ"
"ใช่ดิครับ"
"ทำไมถึงคิดงั้นอะ" พี่ก้องยังพูดเสียงนุ่มอย่างน่าหงุดหงิด
"ก้ พี่ไม่ชอบเพื่อนผม"
"อะไรที่ทำให้คิดว่าพี่ไม่ชอบ" ผมเริ่มโมโหขึ้นมาแล้ว พี่ก้องทำท่าทางเหมือนไม่รู้เรื่องอะไรเลย ทั้งๆที่รู้ทุกอย่างอยู่เต็มอกเนี่ยนะ
"พี่ยังจะถามอีกอ่อ พี่กับอั๋นเกือบมีเรื่องกันทุกครั้ง"
"ก้พี่ชอบเรานี่ครับ เราน่าจะรู้นะ...แล้วพี่คิดว่าอั๋นก้ชอบเราเหมือนกัน นี่ไงที่ทำให้เพื่อนเราไม่ชอบหน้าพี่ แต่พี่ไม่ได้..."
"พี่เลยทำให้อั๋นไม่ติดตัวจริงใช่มั้ยครับ" ผมถามเสียงดัง
"พี่บอกแล้วไงว่าพี่ไม่ได้ทำ" พี่ก้องยิ้มอย่างชั่วร้าย
"ถึงตอนนี้พี่ยังโกหกอีกหรอ พี่ยิ้มเยาะใส่อั๋นตอนประกาศผล พี่นั่นแหละที่ตัดสิน"
"พี่จะทำไปเพื่ออะไรครับ หมอคิดแบบนั้นกับพี่ได้ไง" พี่ก้องตรงเข้ามาจับมือผม
"ปล่อยนะพี่" ผมพยายามสะบัดมือให้หลุด
"ไม่ หมอเชื่อพี่นะครับ พี่ไม่ได้ทำจริงๆ"
พี่ก้องจับมือผมแน่น ผมพยายามใช้มืออีกข้างที่ไม่ได้ถูกจับมาแกะมือพี่ก้อง แต่พี่เค้าก้จับมันไว้อีก
"ปล่อยผมเหอะ" ผมไม่ไหวแล้วครับ ไม่อยากจะเคลียร์ต่อแล้ว
"เดี๋ยวสิ หมออย่าเข้าใจพี่ผิดดิครับ" พี่ก้องยิ้มมุมปาก ยื่นหน้าเข้ามาใกล้หน้าผม
"ถอยไปนะ" ผมร้อง ทำไมแรงพี่ก้องมันเยอะจังนะ
"เอางี้มั้ย พี่มีวิธีที่จะช่วยให้เพื่อนเราเป็นตัวจริงได้นะ" พี่ก้องพูดจบก้เข้ามากอดรัดผมไว้
"วิธีไร ผมไม่เชื่อ ปล่อยนะเว้ย" ผมร้องโวยวาย

"หมอมานอนกับพี่ดิ...พี่ขอครั้งเดียว แล้วพี่จะบอกเพื่อนให้เอาอั๋นขึ้นเป็นตัวจริงให้"
ผมตะลึงงัน แทบไม่เชื่อหูตัวเอง โกรธพี่ก้องที่ทำกับอั๋นอย่างนั้น แต่ไม่เคยคิดเลยว่าพี่เค้าจะพูดอะไรทุเรศๆแบบนี้ออกมาได้
"ไอ้..."
"พี่อยากได้เรานะ...ไม่อยากให้เพื่อนได้เป็นตัวจริงหรอครับ" พี่ก้องเลื่อนริมฝีปากมาประทับแก้มผม
"ปล่อยนะเว้ย" ผมตะโกนสุดเสียง แถวนั้นไม่มีใครอยู่เลย
"นะครับ ครั้งเดียวเอง" ผมรู้สึกขยะแขยงจนทนไม่ไหว พี่ก้องขอเอาผมแล้วจะช่วยอั๋นเป็นการตอบแทนเนี่ยนะ เค้าคิดว่าผมเป็นเด็กขายบริการหรือไง
พี่ก้องเลื่อนมือข้างหนึ่งมาจับเป้าผม ทำให้แขนข้างหนึ่งของผมเป็นอิสระ ผมฉวยจังหวะนั้น รวบรวมกำลังสุดแรง ผลักเค้าออกไปจนเซถลา
แล้วตามเข้าไปซัดหมัดลุ่นๆเข้าที่หน้าพี่ก้องทันที เค้าล้มลงไปกับพื้น
ผมโมโหจนเลือดขึ้นหน้า กำลังจะตามเข้าไปต่อยซ้ำ ก้พอดีเสียงอั๋นดังขึ้นมาแต่ไกล
"เห้ย"
อั๋นวิ่งกระหืดกระหอบมาในชุดนักกีฬา มันอ้าปากค้างเมื่อเห็นว่าพี่ก้องโดนผมต่อยลงไปกองกับพื้น
"พี่แม่งโคตรเหี้ยเลย"
ผมพูด พี่ก้องยังคงยิ้มอยู่ แม้ว่ากำลังเช็ดเลือดที่ไหลออกจากมุมปาก
"ไปเหอะ" ผมบอกอั๋น ดึงแขนมันเเล้วเดินออกจากบริเวณนั้นทันที
อั๋นมองหน้าผม ยิ้มกว้าง
"นี่มึง..."
"กูต่อยแม่งไปทีนึง ไม่ไหวจริงๆว่ะ" ผมหายใจแรง ยังไม่หายเดือดเลยครับ
"มึงไม่เป็นไรนะ มันไม่ได้ทำไรมึงใช่มั้ย" อั๋นถามอย่างห่วงใย ยื่นมือมาจับแขนผม
"ไม่ ไม่เป็นไร" ก้ไม่ใช่เสียทีเดียวครับ ผมไม่เป็นอะไร แต่ก้โดนพี่ก้องลวนลามด้วย
เราเดินกลับไปที่สนามฯ ผมโดนไอ้นนท์เฉ่งก่อนเป็นอย่างแรกเลยครับ มันบอกว่าผมหายไปนานมาก พออั๋นรู้เลยรีบออกมา
ตามหาผมโดยที่ไม่รอเพื่อนคนอื่นเลย
บรรยากาศหลังการแข่งคัดตัวไม่เหมือนอย่างที่พวกเราคิดไว้ เพื่อนๆยินดีกับต้าร์ แต่ก้ไม่เต็มที่นัก เพราะเป็นห่วงความรู้สึกอั๋นด้วย
ทุกคนปลอบใจอั๋น รวมถึงก่นด่าพี่สีถึงความไม่ยุติธรรมในการตัดสิน แต่ไม่มีใครรู้สาเหตุที่แท้จริงว่าทั้งหมดเป็นเพราะพี่ก้อง แม้พี่ก้องจะไม่ยอมรับว่าทำก้ตาม แต่ทุกสิ่งที่เค้าแสดงออกมา โดยเฉพาะเรื่องที่ขอผมมีอะไรด้วย ก้บอกชัดว่าเค้าเป็นคนทำแน่นอน
อั๋นยิ้มรับและบอกทุกคนว่าไม่เป็นอะไร แต่ในใจมันจะรู้สึกแย่แค่ไหนกัน อั๋นทุ่มเทฝึกซ้อมเพื่อมาคัดตัว และมันก้ทำได้ดีมากๆด้วย แต่ผลกลับออกมาเป็นแบบนี้
ผมอยากตั๊นหน้าไอ้พี่ก้องอีกสักหมัดจริงๆ

"อั๋น มึงโอเคนะ" ผมถามขึ้นหลังจากที่เราแยกย้ายกับเพื่อนๆแล้ว เรานั่งกันอยู่ที่โต๊ะม้าหินตัวหนึ่งใกล้ห้องอาบน้ำ
"เห้ย กูโอเค"
ผมไม่รู้ว่าผมจะปลอบใจอั๋นอย่างไรดี
"จริงอ่อวะ"
"ก้ เซงๆอะ แต่ทำไงได้" อั๋นยิ้มให้ผม "กูรู้แหละว่าไอ้พี่ก้องมันทำให้กูไม่ติดตัวจริง...ที่มึงไปหามันก้เพราะเรื่องนี้ใช่ปะ"
"กูคิดว่าต้องเป็นฝีมือพี่เค้าแน่ๆ"
"ขอบใจนะเว้ยที่ทำเพื่อกู" อั๋นเอื้อมมือมาโอบไหล่ผม
"เออ" ผมตบหลังมันเบาๆ
เรานั่งเงียบๆอยู่อย่างนั้นอีกพักใหญ่ อั๋นยังคงโอบไหล่ผม
"เรื่องสแตนเชียร์ มึงจะทำไงอะ"
"ก้ยังทำอยู่เหมือนเดิมแหละ"
"แต่มึงต้องทำงานกับไอ้พี่ก้องนะเว้ย" อั๋นถาม สีหน้าแสดงความเป็นห่วง จริงสินะ ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลยแฮะ
"...ไม่เป็นไรหรอกน่า งานก้ส่วนงาน แล้วก้มีคนอื่นทำด้วยอีกหลายคน" ผมตอบตามที่คิดจริงๆ ผมอยากทำสแตนเชียร์มาก ทิ้งงานไปไม่ได้หรอกครับ แค่มีเรื่องกับพี่ก้อง ถ้าผมเลิกทำคงโดนหาว่าปอด
"งั้นมึงต้องระวังตัวนะเว้ย...แล้วคราวหลังอะ อย่าทำแบบนี้อีกนะ กูเป็นห่วง ถ้าไอ้พี่ก้องมันทำอะไรมึงขึ้นมาจะทำไง" น้ำเสียงอั๋นจริงจังขึ้นมา
"เออ ขอบใจนะ" ผมยิ้มออกมาเล็กน้อยที่มันบอกว่าเป็นห่วง นั่นทำให้ผมยิ่งไม่ควรเล่าเรื่องที่พี่ก้องทำเมื่อสักครู่ให้อั๋นฟังเลย แค่มันเครียดเรื่องผลการคัดตัวอย่างเดียวก้พอแล้วครับ ผมไม่อยากให้มันกังวลเรื่องผมเพิ่มอีก

ระหว่างทางกลับบ้าน อั๋นนิ่ง ไม่พูดอะไรสักคำเดียว ถ้าเป็นปกติมันคงชวนผมคุยจ้อหรือไม่ก้กวนตีนผมไปแล้วครับ
"อั๋น"
"หือ"
"มึง...อย่าเงียบดิวะ" ผมไม่รู้จะพูดว่าอะไรจริงๆครับ ผมแค่อยากทำให้มันรู้สึกดีขึ้น
อั๋นหัวเราะเบาๆ
"เอ้า ไม่เงียบก้ได้ งั้น...กลับไปทำอะไรกันดี"
"เอ่อ"
...
"คืนนี้ให้กูอยู่เป็นเพื่อนมั้ย" แล้วผมก้โพล่งออกไปก่อนที่จะยั้งตัวเองได้ทัน
อั๋นเงียบไป วันนี้รถติดมากเลยครับ เราอยู่บนถนนกันมาพักใหญ่
สักพักอั๋นหันหน้ามาข้างหลัง ยิ้มกว้าง
"ขอบใจนะเว้ยที่เป็นห่วง...กูโคตรรักมึงเลยว่ะหมอ"
ผมหน้าแดงก่ำกับคำพูดนั้น

ครึ่งชั่วโมงถัดมา เรามาถึงบ้านอั๋น ตอนนี้ยังไม่มีใครกลับมา
"ดีนะ เราซื้อข้าวก่อนเข้ามา" อั๋นพูด
ผมนั่งลงบนโซฟาที่ห้องนั่งเล่นอย่างคุ้นเคย หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรบอกที่บ้านว่าขอนอนบ้านอั๋น ก่อนจะเริ่มแกะข้าวกล่องที่ซื้อมาทันที
อั๋นเดินมาจับมือผม
"ไปล้างมือก่อนเลยมึง"
"ขี้เกียจลุก แดกเหอะ"
"ไม่ได้ กูบอกแล้วไง ก่อนกินข้าวต้องล้างมือ"
ในเมื่อผมยังทำหน้าบูดและไม่ยอมขยับตัว อั๋นดึงแขนผมให้ลุกขึ้นแล้วลากไปยังห้องครัว รักความสะอาดจริงๆนะซี้ผม
"อย่าดื้อดิ ไม่อนามัยเล้ย เสียชื่อหมอนะมึงอะ" มันบ่น เปิดน้ำจากก๊อกบนอ่างล้างจานใส่มือเราทั้งคู่ อั๋นยังจับมือผมไว้สองข้าง ล้างมือตัวเองไปพร้อมๆกับมือผมด้วย
"นี่"
"อะไร"
"หลอกจับมือกูปะเนี่ย เนียนเชียวนะสัส- -"
"พึ่งรู้หรอ" อั๋นพูดกลั้วหัวเราะ

รูปอั๋นจับมือผมก่อนลงแข่งคัดตัวถูกโพสต์ลงไปในเพจโรงเรียนตอนที่เรากำลังกินข้าวกัน อั๋นยิ้มน้อยๆเมื่อผมยื่นมือถือส่งให้ดู
"กูอยากรู้แล้วว่าใครเป็นfcเราสองคนวะ ตามถ่ายรูปทุกที่จริงๆ"
"กูว่ามันฟ้องละเมิดสิทธิส่วนบุคคลกันได้นะแบบนี้- -"
แต่ผมก้ชักจะเริ่มชินที่โดนจิ้นโดนแซวรายวันแบบนี้ซะแล้วสิ
"ซีเรียสอีกแล้วหมอ อีกหน่อยเราคบกันจริงๆเดี๋ยวก้เลิกจิ้นไปเองแหละ" อั๋นพูดหน้าตาย มันเริ่มกลับมาร่าเริงขึ้นแล้วครับ
"ไม่เอาโว้ย"
"ปากมึงเลอะอะ" อั๋นหยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดซอสมะเขือเทศที่มุมปากผม
"ดะ เดี๋ยวกูเช็ดเองก้ได้" ผมยกมือขึ้นจับมือมัน
"อยู่เฉยๆดิ กินเป็นเด็กเลยนะหมอ" มันไม่ยอมปล่อย เช็ดจนเสร็จ
แล้วอั๋นก้ยกมืออีกข้างขึ้นมาแตะแก้มผม พร้อมจ้องตาผมตรงๆ
"มึงน่ารักมากเลยรู้ปะ"
ผมพูดอะไรไม่ออก นาทีนั้นเหมือนโลกกำลังหยุดหมุน ผมโดนอั๋นจีบอีกแล้ว
ที่น่าเซ็งก้คือทำไมผมต้องเขินขึ้นมาทุกทีเลยนะ
อั๋นยิ้มหวานให้ผม สองมือยังคงจับมือกับแก้มผมอยู่อีกพัก ผมไม่ยอมมองสบตามัน
"ปล่อยได้แล้ว กินต่อเหอะ" ผมบอกในที่สุด อั๋นเอามือออกไป
แล้วอั๋นก้หันหน้าไปทางประตูบ้าน รอยยิ้มกรุ้มกริ่มหุบลง สีหน้าตกใจเล็กน้อย
"เจ๊เอ๋..."

ผมสะดุ้ง หันไปทางประตูตามอั๋น เห็นเจ๊เอ๋ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นก่อนจะค่อยๆเปิดประตูเข้ามา
ชิบหายแล้วครับ เจ๊เอ๋กลับมาถึงตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย อย่าบอกนะว่าเห็นผมกับอั๋นทั้งหมด
"ไงอั๋น หวัดดีจ้ะหมอ" เจ๊เอ๋ทักทายพวกเราแล้วก้หันไปจูงมือใครบางคนเข้ามาข้างในด้วย
"เอ่อ พี่เหมาหวัดดีครับ" อั๋นยกมือไหว้พี่ผู้ชายคนนั้น ผมยกมือไหว้ตาม เดาว่าน่าจะเป็นแฟนเจ๊เอ๋ครับ
"หวัดดีอั๋น หวัดดีเพื่อนอั๋น" พี่เหมายิ้มเจื่อนๆให้เราแล้วเดินตรงไปเข้าห้องน้ำ
"ทำไมวันนี้กลับเร็วอะ" อั๋นถามพี่สาว
"ก้วันนี้ส่งงาน เสร็จแล้วชั้นก้กลับเลย ให้เหมามาส่ง"
"อ่อ"
ผมเดาว่าป่านนี้ตัวเองคงหน้าซีดจนสังเกตได้ อั๋นหันมามองหน้าผม ยิ้มบางๆให้
สีหน้าเจ๊เอ๋อ่านไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่ เจ๊มองเราสองคนแล้วขมวดคิ้วน้อยๆ
"งั้นเราไปก่อนนะ" พี่เหมาเดินออกมาจากห้องน้ำ โบกมือลาผมกับอั๋น เจ๊เอ๋เดินกลับไปส่งหน้าบ้าน
"หมอ"
"หือ"
"มึงว่าเจ๊เอ๋เห็นปะวะ"
คำตอบชัดเจนอยู่บนสีหน้าผม

หลังจากเจ๊เอ๋ส่งแฟนเรียบร้อยก้เดินกลับเข้ามาในบ้าน ผมยังช็อคอยู่ ไม่กล้าพูดอะไรเลยครับ
"เอ่อ เจ๊กินข้าวมายังอะ"
"กินแล้ว พ่อกับแม่มีประชุมเหรอ"
"ไม่รู้ดิ เมื่อเช้าก้ไม่เห็นบอกว่าจะกลับค่ำ"
"อ้อ"
เจ๊เอ๋ดูท่าทางเงอะงะ ทำอะไรไม่ถูกอย่างเห็นได้ชัด แถมยังถามคำตอบคำซึ่งไม่ใช่ปกติวิสัยของเจ๊เค้าเลย โอย เจ๊เอ๋เห็นแน่ๆ ผมควรทำอย่างไรดี
"งั้น ชั้นไปอาบน้ำก่อนนะ..."

"อั๋น คือ..."
"อย่าคิดมากน่า เดี๋ยวกูจัดการเอง"
"เหรอ มึงจะทำยังไงวะ" ผมถามอย่างไม่แน่ใจ
"กูว่า...ถามเจ๊เอ๋ตรงๆเลย แต่รอเจ๊อาบน้ำเสร็จก่อน"
"เห้ย มึงจะไปถามเค้าว่าไง"
"ก้ เห็นอะไรบ้าง คิดยังไง ถ้าเจ๊ถามกลับก้ตอบไป" อั๋นตอบง่ายๆ หน้าตาดูไม่กังวลแล้ว
"มึง มันจะเวิร์คอ่อวะ"
"เวิร์คดิ กลัวไร"
"แต่..."
"เจ๊เอ๋ต้องเข้าใจ เชื่อกูดิ" แววตาอั๋นฉายความมั่นใจ

อั๋นให้ผมไปอาบน้ำและบอกว่าไม่ต้องกังวล มันจะไปคุยกับเจ๊เอ๋ตรงๆ ผมไม่รู้ว่าผมจะอยู่เพื่อช่วยอธิบายอะไรได้ แต่ก้ไม่อยากทิ้งอั๋นให้รับผิดชอบคนเดียว
"เรื่องเล็กๆไม่เห็นมีอะไรเลย มึงจะกลัวไปทำไม"
อั๋นยิ้ม ลูบหัวผมเหมือนกำลังปลอบโยนเด็ก
ผมจะไม่กังวลได้อย่างไร เจ๊เอ๋เห็นแน่ๆว่าเราสองคนทำอะไรกัน ตอนนี้เค้าคงคิดอะไรไปหลายอย่างแล้วแน่ๆ ถึงอย่างนั้น ผมก้พยักหน้ารับอั๋น
โชคดีที่พ่อกับแม่อั๋นยังไม่กลับมาจากที่ทำงานครับ อั๋นไปเคาะประตูห้องเจ๊เอ๋ ระหว่างที่ผมไปอาบน้ำ

ในหัวผมคิดแต่ว่าอั๋นกับเจ๊เอ๋คุยอะไรกัน เจ๊เอ๋จะรับเรื่องที่เราทำได้หรือเปล่า จะเกลียดน้องชายตัวเองมั้ย
แม้กำลังรู้สึกสับสน ผมค้นพบความจริงบางอย่าง เรื่องที่ผมกำลังคิดอยู่เป็นสิ่งยืนยันว่าผมเองก้รู้สึกแบบเดียวกับอั๋น เพราะผมจะไม่กังวลเลยว่าเจ๊เอ๋จะคิดอย่างไรเรื่องความสัมพันธ์ของเรา
ถ้าผมไม่ได้คิดอะไรกับอั๋น

ผมก้ชอบอั๋นเหมือนกัน...


"แล้วหมอว่าไงอะ"
"ก้ ไม่รู้ดิ"
"ห๊ะ ไม่รู้ได้ไงยะ แกบอกชอบหมอ แต่ไม่รู้ว่าเค้าคิดยังไงกับแกเนี่ยนะ"
"เอ้า หมอมันไม่ได้พูดอะไรตอนที่อั๋นบอกชอบนิ"
"แล้วตอนนั้นหมอทำอะไร แบบ ท่าทางเป็นไง"
"มันก้ตกใจ"
"หลังจากนั้นอะ หมอยังทำตัวปกติมั้ย คุยหรือเล่นกะแกเหมือนเดิมปะ"
"เหมือนเดิมนะ"
"อืม...ถ้าเราบอกชอบไป แล้วเค้าชอบเรา สองคนก้จะได้ตกลงเป็นแฟนกัน แต่ถ้าไม่ชอบ ก้จะไม่ได้คุยกันอีกเลย มีน้อยมากที่ยังคุยหรือสนิทได้เหมือนเดิม แต่ของแกนี่แปลกมาก บอกชอบไปแล้วเป็นงี้"
ผมอาบน้ำเสร็จแล้วเดินผ่านหน้าห้องเจ๊เอ๋ ได้ยินเสียงอั๋นกับเจ๊เอ๋คุยกัน ผมชั่งใจอยู่นานว่าจะแอบฟังดีหรือเปล่านะ ในที่สุดก้ห้ามใจตัวเองไม่ไหว ไม่ใช่ว่าผมอยากยุ่งเรื่องที่พี่น้องคุยกันหรอกนะ แต่ผมไม่สบายใจแล้วก้เป็นห่วงอั๋นจริงๆครับ
ก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าคุยอะไรกันไปบ้าง
"เจ๊เอ๋เหอะ ว่าไง"
"ว่าไงอะไรยะ"
"เจ๊เอ๋ไม่ว่าไรใช่ป่าว...เรื่องที่อั๋นชอบหมอ"
"ไม่ว่า แต่ก้นะ...ตอนแรกที่ชั้นกลับมาเห็นแกคุยกัน แกจับแก้มหมอ ช็อคเหมือนกัน"
"ไม่โกรธอั๋นใช่มั้ย หมอด้วย" เสียงอั๋นฟังดูกังวลมากครับ
"บ้าเหรอ ชั้นจะโกรธแกทำไม แกไม่ได้ทำอะไรผิดซะหน่อย"

คำตอบของเจ๊เอ๋ทำให้ผมโล่งใจ สิ่งที่ผมกังวลหายไปเป็นปลิดทิ้งครับ
"จริงเหรอ..."
"เออ ถ้าชั้นมีแฟนเป็นผู้หญิง แกจะโกรธชั้นปะ"
"บ้าดิ ไม่โกรธหรอก"
"เห็นมะ งั้นแกจะชอบใคร จะเป็นอะไร ชั้นรับได้"
"ขอบใจมากนะเว้ยเจ๊" อั๋นถอนหายใจ แล้วบอกด้วยน้ำเสียงร่าเริง
"จ้าาา ว่าแต่ชั้นเซอร์ไพร์สมาก เห็นตัวติดกันก็จริง ไม่คิดว่าแกสองคนจะมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งกันแบบนี้...ชั้นอยากรู้ว่าเวลาแกจีบกันเป็นไงวะ"
"ถามไรเนี่ย"
"แหม ถามแค่นี้ไม่ยอมบอกนะ"
"เออเจ๊ อั๋นขอไรอย่างดิ"
"อะไร"
"อย่าพึ่งบอกพ่อกับแม่นะ"
"เออ ชั้นไม่บอกหรอก แต่ยังไงวันนึงก้ต้องรู้นะ"
"เออ ไว้ถึงวันนั้นละค่อยว่ากัน"
"เจ๊ขออีกคำถาม"
"ว่า?"
"หมอมันทำไงเวลาแกจีบมัน"
"มันก้...เขิน"
"เขินหรอ"
"เออ ส่วนใหญ่"
"เหยยย งั้นชั้นว่ามันก้มีใจให้แกแหละ...จริงๆที่มันไม่เปลี่ยนไป ยังอยู่กับแกตั้งแต่บอกชอบ ก้แสดงว่าหมอมีใจให้แกอยู่นะ"
ผมเหมือนจะหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาในตอนนั้น
"อย่าพูดให้ดีใจเล่นดิ"
"เอ้า ชั้นพูดจริงๆ"
ผมยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เท่านี้ก้สบายใจแล้วครับ ตัดสินใจเดินเข้าห้องอั๋นไป ไม่เหลือความกังวลเหมือนเมื่อชั่วโมงก่อน

-จบตอน-

มาต่อแล้วนะค้าบ หายไป4วันแน่ะ แหะๆ
พี่ก้องเลวมาก ทำกับอั๋นหมอแบบนี้
ดีใจแทนพระ-นางที่เจ๊เอ๋เข้าใจและยอมรับได้
ว่าแต่คุณผู้อ่านคิดเห็นว่าไงกันบ้างครับ?

ติดตามตอนหน้าด้วยนะ
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่20 (updated 30/5/2559 21.18)
เริ่มหัวข้อโดย: fightreblue ที่ 30-05-2016 22:16:20
มารอติดตามตอนต่อไป ไรเทอร์ไฟติ้งครับ  :hao7:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่20 (updated 30/5/2559 21.18)
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 30-05-2016 23:41:28
 :o8:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่20 (updated 30/5/2559 21.18)
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 30-05-2016 23:54:38
เป็นแฟนกันเลยๆๆ ฟินขนาดดด
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่20 (updated 30/5/2559 21.18)
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 31-05-2016 19:12:03
ติดตามจ้า :mew2:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่20 (updated 30/5/2559 21.18)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 01-06-2016 07:56:38
เป็นแฟนกันๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่20 (updated 30/5/2559 21.18)
เริ่มหัวข้อโดย: fightreblue ที่ 03-06-2016 01:43:04
รออ่านอยู่นะครับ  :hao6:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่21
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 03-06-2016 21:09:43
ตอนที่21

อั๋นกลับเข้ามาในห้องไม่นานหลังจากนั้น ยิ้มหน้าบาน บอกว่าเจ๊เอ๋รู้ทุกอย่างแล้วและไม่ว่าอะไรเลย พอผมถามรายละเอียด อั๋นไม่ยอมเล่า ได้แต่ยิ้มอยู่อย่างนั้น
แต่คงไม่มีอะไรที่เกินความคาดหมายมั้ง เพราะผมก้ได้ยินบทสนทนาส่วนสำคัญไปแล้วนี่

"หมอ คืนนี้เหมือนเดิมนะ"
"เหมือนเดิมเชี่ยไรครับ"
"ขอนอนกอดมึงเหมือนเดิมไง หรือว่า...อยากให้ทำมากกว่านี้" อั๋นยิ้มเจ้าเล่ห์
"พ่อง ไม่ให้เว้ย ไม่ให้กอดด้วย"
"โห่ ไรวะ กอดก้ไม่ให้เหรอ"
"เออ ไม่ให้"
"ทำไมเดี๋ยวนี้ยากจัง เมื่อก่อนง๊าย...ง่าย" ผมชูนิ้วกลางให้มัน
"ถึงไม่ให้มึงก้กอดกูอยู่ดีอะ"
อั๋นหัวเราะเบาๆ ดึงผมมานั่งบนตักแล้วกอดจากข้างหลัง เอาหัววางบนไหล่ผม
"อยากกอดตั้งแต่ตอนนี้ละ กอดเลยนะ" พูดแล้วก้ยิ้มหน้าบาน
"ไอ้เผด็จการเอ๊ย"
"ดูทีวีกัน" อั๋นหยิบรีโมทมาเปิดโทรทัศน์
นี่ผมรู้สึกดีเวลาถูกอั๋นสัมผัสตั้งแต่เมื่อไรกันนะ เราโดนตัวหรือเล่นถึงเนื้อตัวกันมาตั้งนาน ตอนนั้นผมไม่เห็นรู้สึกอะไรเลย
หันไปมองหน้าไอ้คนขอกอด กำลังยิ้มระรื่นเชียวครับ
"ยิ้มไรวะ"
"มีความสุขไง ได้กอดเมีย"
- -
อั๋นไม่ได้นั่งเฉยๆด้วยนะครับ แต่โอบกอดผมซะแน่น หลังผมชิดติดกับตัวมัน
เรานั่งดูรายการเกมโชว์ยอดฮิตรายการหนึ่งกันท่านั้น ตลกมากๆครับ เราสองคนหัวเราะไม่หยุดเลย

"มึงดีขึ้นยังอะ" สักพักผมถามถึงเรื่องวันนี้ขึ้นมาอย่างเป็นห่วง
"เออ ดีขึ้นละ" อั๋นยิ้ม และผมดีใจเพราะเห็นแววตามันก้ยิ้มไปด้วย
"งั้น มาช่วยกูทำสแตนดิ"
"เห้ย ตัวสำรองก้ยังต้องไปซ้อมนะเว้ย"
"อ่าวเหรอ"
"เออดิ...แต่ยังไงกูก้จะแวะไปช่วยมึงทำมั่ง กูเป็นห่วงมึง...เรื่องพี่ก้องอะ"
ทำไมอั๋นเป็นคนดีขนาดนี้นะ วันนี้ผมหายไปมันก้ตามหา ถามและแนะนำผมเรื่องพี่ก้อง ทั้งๆที่ตัวเองก้กำลังมีเรื่องหนักใจมากกว่าผมด้วยซ้ำ แต่ก้ยังเป็นห่วงผม
"เออ มาดิ เป็นบอดี้การ์ดให้กูหน่อย" ผมพูดติดตลกซะเลย
"ไม่ต้องมั้ง กูเห็นเค้าร่วงลงไปกองกับพื้นยังงั้น" อั๋นยิ้มน้อยๆ
"ก้กูโมโหนี่หว่า เป็นมึงก้ต้องต่อยแม่ง...แต่ถ้ามึงไม่วิ่งมาเจอ พี่ก้องแม่งคงเล่นกูกลับ กูสู้มันไม่ได้หรอก" ผมพูดอย่างมีเหตุผล ตอนนั้นพี่ก้องไม่ได้ระวังตัว และถ้าวัดกันจริงๆผมไม่มีทางสู้แรงอีกฝ่ายได้แน่นอน
"เออ มึงอะ ตัวก้เล็กนิดเดียว จะไปทำไรใครเค้าได้" อั๋นแหย่
"สัส ให้มันน้อยๆหน่อย" ว่าแล้วก้ตบหัวไอ้คนที่กอดผมอยู่ซะเลย มันหัวเราะ
"ให้กูเป็นการ์ดก้จ่ายค่าจ้างมาด้วย"
"พี่อั๋นอยากได้เท่าไรครับ" ผมเล่นต่อ
"ไม่เอาเงินสด แต่ขอเป็น..." อั๋นจ้องตัวผมอย่างหื่นๆ
"เชี่ยยย หื่นชิบหาย" ผมโวยวาย อีกฝ่ายหัวเราะร่าและยิ่งกอดแน่นขึ้นไปอีก ไม่ปล่อยให้ผมหลุดจากอ้อมแขน
"จะหนีไปไหนหมอ"
"ไอ้บ้ากาม"
ผมหยุดดิ้น สู้แรงอั๋นไม่ได้เลยสักนิด
"กูล้อเล่นน่า"
"กูรู้ว่ามึงคิดจริง- -"
"แหะๆ รู้ทันอีก"
"ไอ้บ้าเอ๊ย"

เรานั่งกันอยู่ท่านั้นจนรายการเกมโชว์จบ ผมลุกออกไปเข้าห้องน้ำ เดินสวนกับเจ๊เอ๋
"ยังไม่นอนกันหรอจ๊ะ" เจ๊เอ๋ทักเสียงใส
"เอ่อ เดี๋ยวจะนอนแล้วครับ" ผมรู้สึกขัดเขิน ทำตัวไม่ถูก เพราะเรื่องที่เจ๊เอ๋เห็นเมื่อเย็นน่ะสิครับ
"อ๋อ จ้ะ เออหมอ"
"ครับ"
เจ๊เอ๋ขยับเข้ามาใกล้ๆแล้วลดเสียงลง
"น้องเจ๊รุกแกหนักปะ"
ผมหน้าแดงขึ้นมาทันที เจ๊เอ๋หัวเราะคิกคัก
"เขินขนาดนั้นเชียว อะๆ ไม่ถามก้ได้...ฝันดีจ้ะ"

"หมอออ" ผมเปิดประตูกลับเข้ามาก้ได้ยินเสียงยานคางเรียกทันที
"ไรมึง"
"มาเร็ว นอนได้แล้ว"
"เป็นพ่อกูเหรอ มาบอกให้นอนเร็วเนี่ย"
"เป็นผัว ผัวสั่งแล้วเมียต้องทำตามดิ"
บรรยากาศการคุยกันแบบกวนตีนกลับมาแล้วครับ
ผมปิดไฟ เดินไปขึ้นเตียง ล้มตัวลงนอนยังไม่ทันเรียบร้อยดี แขน อั๋นก้ปาดข้ามลำตัวมาแล้ว แถมยังขยับเข้ามาใกล้จนแทบจะทับกันอีก
"พึ่งกอดกูเมื่อกี้ไม่ใช่อ่อ"
"จะกอดอีกอะ" เสียงไอ้อั๋นร่าเริงจนน่าถีบ มันกลับมาเป็นอั๋นคนเดิมจากเมื่อตอนเย็นแล้ว
"ขอบใจมึงมากนะเว้ยที่อยู่กับกู" อั๋นพูดขึ้นอีก
"เออ" ผมหันไปตอบสั้นๆ เห็นรอยยิ้มกว้างผ่านแสงไฟที่ส่องลอดเข้ามาทางหน้าต่าง
ผมรู้สึกได้ว่าหน้าเราใกล้กันมาก ใกล้เกินไปแล้ว...

"หมอ" อั๋นเรียกชื่อผมเบาๆ
"อือ"

ไอ้คนกอดยังนอนมองผมอยู่นาน ผมเองก้เหมือนถูกสายตานั้นตรึงไว้ให้มองแต่หน้ามันที่เดียว ไม่ให้หันไปทางไหนได้

นี่กำลังจะเกิดอะไรขึ้นนะ...

"อะ...อั๋น"
ผมไม่รู้ตัวว่าพูดชื่อไอ้คนกอดออกไปทำไม แม้ในแสงสว่างที่มีอยู่เล็กน้อยนั้น ผมเห็นแววตาเป็นประกายของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน

ผมไม่คิดว่าหน้าเราจะสามารถใกล้กันไปมากกว่าที่เป็นอยู่ได้อีก แต่มันก้เป็นไปแล้ว
ตอนนี้ผมเห็นทุกอย่างบนใบหน้าคมของอั๋นได้ชัดที่สุดอย่างที่ไม่เคยใกล้ขนาดนี้มาก่อน
ใกล้...

แล้วในที่สุด อั๋นก้ประกบปากเข้ากับปากผม

อั๋นจูบผม

อั๋นจูบผมอย่างแผ่วเบาและอ่อนโยน สัมผัสนั้นทำให้ผมรู้สึกดีอย่างน่าประหลาด ผมหลับตาพริ้ม เต็มใจรับรสจูบนั้น

จูบกันมันหวานอย่างนี้นี่เอง

อั๋นเอื้อมมือข้างหนึ่งมาจับมือผมไว้แล้วบีบเบาๆ วางมืออีกข้างบนสะโพก ส่วนมืออีกข้างของผมยึดแขนอั๋นไว้แน่น

ผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้ อั๋นค่อยๆผละออกจากผม คลี่ยิ้มออกมา
"อะ อะไร" ผมถามเสียงสั่น ทำไมผมรู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงอย่างกับวิ่งแข่งอยู่เลยนะ
"ป่าวนิ"
"..."

อั๋นขยับคางมาเกยไหล่ผม ยังคงจ้องผมอยู่อย่างนั้น
"นอนได้แล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้สายนะเว้ย" ผมเคาะหน้าผากไอ้คนกอดไปทีหนึ่ง
"ไม่ง่วงแล้วอะ"
ผมก้ไม่ง่วงแล้ว เพราะไอ้คนตรงหน้านี่แหละ เริ่มจูบผมแท้ๆ ตื่นเต็มตาเลยครับ
"เมื่อกี้...กูรู้สึกดีมากเลย" อั๋นพูดต่อ พูดถึงเรื่องที่เราจูบกันเมื่อครู่เนี่ยนะ โชคดีมากที่ตอนนี้เราอยู่ในความมืด ไม่อย่างนั้นอั๋นคงเห็นหน้าแดงเรื่อของผม
"...ไอ้บ้า"
"แล้วมึงอะหมอ รู้สึกยังไง"
ไอ้บ้าเอ๊ย จะถามผมทำไมนะ ทำให้ผมเคลิ้มซะขนาดนั้น
"หือ? รู้สึกยังไง"
"ถามไรของมึงเนี่ย" ผมพูดอู้อี้ ไม่ยอมมองสบตา นั่นทำให้ไอ้คนกอดยิ้มได้ใจใหญ่
"ทำไมเขินง่ายจังวะ" อั๋นพูดกลั้วหัวเราะ
"มะ ไม่รู้โว้ย"
"หมอ"
อั๋นเงียบไปสักพักหนึ่งก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้ง
"มึงทำให้กูคลั่ง รู้มั้ย"
ผมไม่ได้ตอบอะไร นั่นเป็นประโยคสุดท้ายของเราในคืนนี้ อั๋นยังกอดผมอยู่อย่างนั้น

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ไอ้คนกอดหลับปุ๋ยสบายใจไปแล้วครับ แต่ผมยังนอนลืมตาโพลงอยู่เลย ทำกันได้นะไอ้อั๋น จูบกูแล้วช่วยรับผิดชอบที่ทำให้กูนอนไม่หลับด้วยดิ
ผมนอนมองหน้าคมได้รูปของไอ้คนกอด แล้วคำถามมากมายก้ผุดขึ้นในหัว
ทำไมเราถึงสนิทกันได้ขนาดนี้นะ?
อะไรที่ทำให้อั๋นชอบผม?
ถ้าเราคบกันเป็นแฟนขึ้นมา จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง?
...
เราดันมาจูบกัน ต่อไปเราจะทำอะไรกันต่อวะครับ?

คิดไปก้ปวดหัวเปล่าๆ บางอย่างผมถามมันตรงๆก้ได้นี่นา แต่ใครจะไปถามเรื่องแบบนี้กันเล่า น่าอายจะตาย

ว่าแต่ เมื่อไรผมจะนอนหลับเนี่ย- -

6.45
"ไอ้หมอ ตื่นนนนน"
"อือ...มึงจะเสียงดังทำไมวะ" ผมถามทั้งๆที่ตายังปิดอยู่
"ก้มึงไม่ยอมตื่นอะ ลุกๆๆ" อั๋นตรงเข้ามาดึงผมให้ลุกขึ้นนั่ง แต่ผมก้ล้มตัวกลับลงไปนอนใหม่
"เชี่ยหมอ ตื่นเลย เร็ว" ไม่เรียกอย่างเดียวครับ ไอ้อั๋นเอาหมอนข้างมาตีผมซ้อนๆกันหลายที
"โอ๊ย เจ็บนะเว้ย...ตื่นแล้วๆ" ผมลุกขึ้นมานั่ง ขยี้ตาแล้วทำหน้าบึ้งใส่อั๋น
"ไปอาบน้ำเลยหมอ"
"ครับพ่อ" ผมประชด
"เดี๋ยว"
"อะไรอีกอะ"
"อาบพร้อมกันปะ"  อั๋นถามหน้าตาย
"พ่องดิ ไม่เอา อาบพร้อมกันทำไม" ผมปฏิเสธเสียงแข็งทันที
"เจ๊เอ๋ใช้ห้องข้างล่างอยู่ อีกนานอะกว่าจะเสร็จ มึงอาบพร้อมกูดิ เดี๋ยวสายนะเว้ย" อั๋นยิ้มกริ่ม
"ไม่เอา ไอ้บ้า" อั๋นมาอารมณ์ไหนวะเนี่ย ชวนผมอาบน้ำเฉย บรึ๋ย
"จะเขินไรวะ ทำอย่างกะไม่เคยเห็นกัน...เดี๋ยวมึงต้องปั่นอาจารย์พงศ์อีกนะ เมื่อคืนมึงยังไม่ได้ลอกกูไม่ใช่เหรอ" เชี่ย จริงด้วย ผมยังไม่ได้ทำการบ้านวิชาของอาจารย์พงศ์ ผู้ได้ชื่อว่าโหดสัสที่สุดในโรงเรียน ใครอย่าได้โดนแกใช้ไม้เรียวตีก้นเชียวครับ นอนเจ็บสามวันสามคืนแน่นอน แกกำหนดให้เอาสมุดไปส่งที่โต๊ะแกก่อนเข้าแถวครับ
เมื่อคืนผมกะว่าจะขอลอกของไอ้อั๋นหลังดูเกมโชว์จบ แต่ก้เกิด
ขี้เกียจ อยากนอนขึ้นมาก่อน แล้วดูสิ ได้นอนที่ไหน ดันมาจูบกับไอ้อั๋น ยิ่งนอนไม่หลับเข้าไปใหญ่ กว่าจะหลับก้สักตี2ได้มั้งครับ ไม่น่าเลยกู
"เอ้า ไปอาบกัน" อั๋นส่งผ้าเช็ดตัวให้ มองผมตาปริบๆ
"อะ เอางั้นเหรอวะ" ผมถามอย่างไม่แน่ใจ อาบน้ำพร้อมกันเนี่ยนะ อั๋นมันจะไม่ทำอะไรผมใช่มั้ย- -
"เออ เดี๋ยวไม่ทันนะเว้ย"
มึงนี่เข้าใจหาเหตุผลมาชวนกูได้นะสาด เอาไงดีวะครับ
"เร็วดิ" อย่าเร่งกูดิโว้ย
ในที่สุดผมก้ตัดสินใจ
"เออๆ ก้ได้"
อั๋นยิ้มเจ้าเล่ห์
"ครั้งนี้ครั้งเดียวนะสาด กูกำลังวิกฤต...มึงห้ามเล่นอะไรแผลงๆด้วยนะเว้ย" ผมรีบเตือน
"ไม่เล่นหรอกน่า"
อย่างไรก้ตาม ผมไม่ไว้ใจแววตานั่นเลยจริงๆ ให้ตายเถอะ

ผมกับอั๋นใส่กางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียวอาบน้ำ ไม่กล้าเปลือยอาบจริงๆครับ- - ต่างคนต่างก้ทำภารกิจของตัวเองกันไป
ขณะที่ผมกำลังสระผมอยู่ อั๋นจ้องผมไม่วางตา
"มองไรมึง อาบไปดิ"
"มองนิดมองหน่อยไม่ได้อ่อ"
"เออ...อย่าทำหน้างั้นดิสัส กูขนลุก"
อั๋นหัวเราะเบาๆและหันไปฟอกสบู่ที่ตัวต่อ โอย ผมจะรอดออกไปจากห้องน้ำมั้ยเนี่ย ไม่น่าไปตกลงอาบน้ำพร้อมกันเลย
เมื่อผมล้างตัวเสร็จ กำลังจะนุ่งผ้าขนหนู อั๋นเดินเข้ามากอดผมจากข้างหลัง
"เชี่ยยย มึงจะทำไรไอ้อั๋น ปล่อยกูนะเว้ย" ผมร้องลั่น
"จะไปไหน" อั๋นพูดเสียงกระเส่าข้างหู
"ปล่อย ปล่อย"
"อย่าเสียงดังดิวะ" แล้วอั๋นก้คว้าผ้าขนหนูในมือผมมาพันรอบเอวให้และยอมปล่อยผม "กูแค่จะนุ่งผ้าให้เอง ไม่เห็นต้องร้องแหกปากเลย" ผมล่ะเกลียดหน้าหื่นๆของมันสุดตีน
"สัส ชอบแกล้งกูนะมึง" ผมหันไปตบหัวมันหนึ่งที ยังจะมาหัวเราะอีกแน่ะ

ออกมาจากห้องน้ำผมก้แต่งตัวด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่จะทำได้
"กูบอกให้ลอกตั้งแต่เมื่อคืนก้ไม่เชื่อ" ไอ้อั๋นเดินตามออกมา กำลังเช็ดผมอย่างสบายใจ ท่าทางน่าถีบชะมัด
"ไม่ต้องมาซ้ำเติมกูเลยสาด"
"มึงจะลอกที่นี่หรือที่โรงเรียน" อั๋นยิ้มขำ
"ที่นี่ละกัน หยิบสมุดให้กูหน่อยดิ"
"ได้ทีก้ใช้เลยนะครับ"
"เชี่ยอั๋น เร็วๆดิ๊"
"พูดดีๆก่อน"
"เหี้ย"
"งั้นไม่หยิบ"
"มึงอย่าพึ่งเล่นดิวะ เอามาให้กูเร็ว" ผมเร่ง อย่าพึ่งแกล้งกูเลยครับเพื่อนรัก กูกลัวไม้เรียว- -
"พูดดีๆ"
"ดีๆ" เออ เอาสิ กวนมากวนกลับไม่โกง
"พ่อง"
"ไอ้อั๋น มึงอยากเห็นกูโดนตีเหรอ" ผมลากเสียงยาว
"พูดตามกู ไม่งั้นกูไม่หยิบให้" อั๋นยังคงยิ้มร่า
"เอ้า จะให้กูพูดไร เร็ว" ผมยอมมันจนได้ กลัวไม่ทันจริงๆนะครับ
"ที่รักขาา หยิบสมุดให้เมียหน่อย" อั๋นดัดเสียงและทำท่าอ้อน(ตีน)สุดๆ
"ไอ้เหี้ยยย"
"จะพูดไม่พูด"
"ทะ ที่รักขา"
"หยิบสมุดให้เมียหน่อย"
"...หยิบสมุดให้เมียหน่อย- -"
"ก้แค่เนี้ย" อั๋นหัวเราะเสียงดังลั่นบ้านก่อนจะหยิบสมุดการบ้านของอาจารย์พงศ์มาให้
"จวย ถ้ากูส่งไม่ทัน กูจะถีบมึง" ผมไม่วายหันไปด่า เริ่มต้นลอกงานบนโต๊ะหนังสือของอั๋นทันที มันแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก้เดินมายืนข้างๆ
"จะลอกทันมั้ยเนี่ยไอ้หมอ"
"มึงเลย แกล้งกูอยู่นั่นแหละ"
เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนถูกเปิดออก
"เจ๊ไปเรียนก่อนนะ"
"เออ เดี๋ยวอั๋นล็อคบ้านเอง พ่อกับแม่ออกไปแล้วเหรอ"
"ออกไปละ เอ๊ะ นั่นทำอะไรกันน่ะ"
"ไอ้หมอมันลอกการบ้านอยู่"
"ใช่ค้าบ" ผมตอบโดยไม่ได้หันไปมองเจ๊เอ๋
"โถ น้องหมอ...เออ แล้วเมื่อกี้ทำอะไรกันในห้องน้ำน่ะ เสียงดังไปสามบ้าน"
"ป่าวนิ"
"ไอ้อั๋นมันแกล้งหมอครับเจ๊"
"แหม เมคเลิฟกันก้บอกมาเหอะ โฮะๆ เจ๊ไปละ" เจ๊เอ๋แซวอีกแล้ว
"บายโว้ย"
"บายค้าบ...สัสเอ๊ย เหลืออีกสองหน้าเต็มๆเลย กูจะลอกทันมั้ยเนี่ย" ประโยคหลังผมพูดกับอั๋น
"โห หน้าที่เขียนไปแล้วนี่อ่านไม่ออกเลยว่ะ" อั๋นยื่นหน้าเข้ามาดูสมุดใกล้ๆ
"เค้าเรียกลายมือหมอไง มึงไม่รู้จักอ่อ อั๋น กูจะเสร็จมั้ยวะ" ผมร้องอย่างร้อนรน นี่ก้ปาเข้าไป 7.20 แล้ว คราวนี้ตายแน่ๆไอ้หมอ
"มา กูช่วยลอก"
"เห้ย อย่าเลย" ผมรีบปฏิเสธ
"เดี๋ยวก้ไม่ทันหรอกมึง มานี่มา" แล้วอั๋นก้ลงนั่งข้างผม เริ่มต้นเขียนหน้าขวา
"เดี๋ยวมึง"
"ไม่ต้องเกรงใจน่า"
"ไม่ใช่ แล้วมึงรู้ได้ไงว่ากูจะเขียนหน้านี้จบถึงไหน"
"เออว่ะ"
"งั้น...จบที่บรรทัดนี้ละกัน มึงเริ่มตรงนี้" ผมเลือกให้ว่าอั๋นควรเริ่มเขียนตรงไหน
"เออๆ เรื่องแบบนี้เสือกหัวดีนะมึง" ไม่วายหันมากัดผมอีกแน่ะ
พอมีอั๋นมาช่วยลอกอีกหน้า งานก้เสร็จเร็วขึ้นเยอะเลยครับ ผมรู้สึกได้ถึงอะดรีนาลีนที่กำลังไหลหลั่งไปทั่วร่างกายจากความตื่นเต้น ตอนนี้ 7.38 แล้ว
"เชี่ย รีบไปกัน" ผมบอก

7.56
ไม่อยากจะเชื่อว่าเรามาถึงโรงเรียนทันเวลา โชคดีมากครับที่รถติดนิดเดียว และผมขอให้อั๋นขับมาด้วยความเร็วที่สูงที่สุดที่จะไม่โดนตำรวจเรียกจับกลางทาง
ลงจากรถได้ พวกเราก้ใส่เกียร์หมาวิ่งไปตึกที่อาจารย์พงศ์อยู่
ไอ้หมอ มึงจะส่งทันใช่มั้ย

7.59
ผมปวดขาโคตรๆแต่หยุดวิ่งไม่ได้ ไม่มีเวลาแล้วครับ
"ไอ้หมอ เลยห้องอาจารย์แล้วมึง" อั๋นส่งเสียงอยู่ข้างหลัง
"เหี้ย"
ผมสบถแล้ววิ่งย้อนกลับมา วิ่งไม่ได้ดูทางบ้างเลย

8.00
"อ้ากกก"
ผมกับอั๋นวางสมุดการบ้านลงบนกองสมุดหนาบนโต๊ะอาจารย์พงศ์ เชี่ยยย ผมส่งทันแล้วครับ ดีใจสัสๆ

"เหนื่อยชิบ" ผมหอบหายใจจนตัวโยน หันไปเห็นอั๋นแค่หายใจเร็วนิดหน่อยเท่านั้น ส่วนผมนี่ถึงกับทรุดลงไปนั่งกับพื้นห้องพักอาจารย์ ไม่เคยเหนื่อยขนาดนี้มาก่อนเลยครับ
"เห้ย ไหวปะมึง" อั๋นแตะไหล่ผม
"...ไหว"
อั๋นค่อยๆประคองร่างผมลุกขึ้นยืน กำลังจะเดินไปเข้าแถวเคารพธงชาติต่อ น่าจะโดนจับแถวสายครับ
อยู่ๆอั๋นก้หยุดเดิน กำลังจ้องใครบางคน ผมเงยหน้าขึ้นมองตาม
พี่ก้อง

-จบตอน-

มาต่อแล้วนะค้าบ อั๋นหมอจูบกันจริงจังแล้ว ไม่ใช่อุบัติเหตุตอนที่หมอป่วย แล้วก้ไม่ใช่ตอนที่หมอเมาด้วย ตอนนี้หมอมีสติรู้ตัว
แล้วก้สมยอม อิอิ writer คิดว่าคำว่า ไอ้คนกอด มันน่ารักดี ก้เลยใช้เป็นคำที่หมอไว้เรียกอั๋นในความคิดของตอนนี้ ส่วนเจ้าอั๋นนี่มันร้ายจริงๆ มีชวนอาบน้ำด้วยกันและยังไปแกล้งหมออีก เกือบส่งการบ้านไม่ทันแล้วมั้ยล่ะ555
ติดตามตอนต่อไปด้วยนะครับ งานกีฬาสีของโรงเรียนใกล้เข้ามาทุกทีแล้ววว
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่21 (updated 3/6/2559 21.10)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 03-06-2016 23:01:09
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่22
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 07-06-2016 21:07:21
ตอนที่22

"หมอมาทำอะไรเหรอครับ" พี่ก้องเอ่ยทักด้วยรอยยิ้ม ราวกับว่าเมื่อวานไม่ได้มีเรื่องกับผม
ผมไม่ตอบ มองหน้าพี่เค้าอย่างไม่เข้าใจ ส่วนอั๋นก้จ้องเขม็งใส่ก่อนจะโอบไหล่ผมเดินออกมาจากโต๊ะอาจารย์พงศ์
"เย็นนี้มีทำอุปกรณ์สแตนเชียร์ อย่าลืมนะครับ" พี่ก้องส่งเสียงตามหลังมา

เมื่อวานมีการนัดสตาฟฝ่ายเชียร์ให้มาทำอุปกรณ์สำหรับใช้บน
สแตนเชียร์ในกรุ๊ปไลน์ครับ
"มึงจะไปมั้ยหมอ" อั๋นถามผมทันทีเมื่อเดินลงจากตึก
"ไปดิ"
"งั้น วันนี้กูไปช่วยมึงทำนะ"
"เออ" ผมรู้สึกโล่งใจและปลอดภัยเมื่อมีมันอยู่ด้วย

ถึงแม้ว่าพวกผมจะส่งการบ้านอาจารย์พงศ์ทันเวลาพอดิบพอดี
ก้ตาม แต่นั่นหมายความว่าเราได้พลาดการเช็คชื่อเข้าแถวเคารพธงชาติของห้องเรียนไปเรียบร้อย เราเดินคอตกไปต่อหลังแถวนักเรียนที่มาสาย
"หนีทำโทษอาจารย์พงศ์ก้ต้องมาเจอนี่อยู่ดี คุ้มกันปะวะเนี่ย" ผมหันไปบ่นกับไอ้อั๋น
"เอาน่า อย่างน้อยลุกนั่งหรือวิดพื้นก้ดีกว่าโดนฟาดก้นแหละ ไม่ต้องนอนแสบนะเว้ย"
"จริงของมึง"
หลังเคารพธงชาติและสวดมนต์เสร็จ นักเรียนแถวปกติก้จะนั่งลงรอฟังปราศัยจากอาจารย์ บาทหลวง หรือใครก้ตามที่มีเรื่องจะแจ้ง ส่วนนักเรียนแถวมาสาย อาจารย์ก้จะเริ่มเดินจดชื่อทุกคนแล้วจึงสั่งทำโทษ
"เห้ย อาร์ต หวัดดี" อั๋นหันไปทักคนที่พึ่งวิ่งมาต่อแถวหลังมันล่าสุด
"หวัดดีอาร์ต" ผมหันไปทักบ้าง
"หวัดดีเว้ย...โห่ อุตส่าห์วิ่งมาก้ไม่ทันอยู่ดี เหนื่อยจะแย่" อาร์ตยิ้มทักทาย หอบหายใจไปด้วย
"มาสายด้วยอ่อ" ผมแซว
"ปกติไม่สาย วันนี้รถไฟฟ้าแม่งขัดข้องอะดิ จอดอยู่แปบนึง ซวยเลย"
"บ้านอยู่ไหนวะ" อั๋นถาม
"อยู่คอนโดอะ แถวรถไฟฟ้าช่องนนทรีเลย"
"เห้ย บ้านกูก้อยู่แถวนั้น" ผมร้อง
"อ่าวเหรอ ดีๆ ใกล้กันเลย"
"นี่ มาสายแล้วยังจับกลุ่มคุยกันอีกเหรอพวกเธอ" อาจารย์ประจำแถวมาสายขัดขึ้น ทำให้พวกผมหยุดคุยกันทันที
หลังจากอาร์ตไปก้ไม่มีใครมาสายอีก อาจารย์สั่งให้พวกเราวิดพื้นคนละ30ครั้ง
"โอย วันนี้ปวดแขนแน่ๆ" อาร์ตบ่น นักเรียนคนอื่นๆส่งเสียงร้องกันระงม
"ไม่ต้องมาโอดครวญเลย วิดพื้น30 ปฏิบัติ" อาจารย์หรือทหารวะครับเนี่ย

"งั้นเราไปห้องก่อนนะ" อาร์ตขยับขึ้นจากพื้นหลังวิดพื้นเสร็จ
"เจอกันๆ" ผมกับอั๋นบอก ขยับลุกขึ้นเหมือนกัน โอย ปวดตัวแต่เช้าเลยกู
"หมอ มึงเจ็บขาปะเนี่ย" อั๋นถาม น่าจะเป็นห่วงเพราะว่าเราพึ่งล้าจากการวิ่งแล้วยังต้องมาวิดพื้นต่อ
"ไม่เจ็บๆ กูไหวอยู่"
ผมกับมันเดินอย่างเชื่องช้าไปต่อแถวของห้องเรา ไอ้พริกที่ยืนอยู่หลังสุด หันมาหาทันที
"อ้าว ไหงวันนี้ผัวเมียมาสายกันล่ะ"
"กูปั่นอาจารย์พงศ์ไม่เสร็จดิสัส" ผมตอบ
"อ่อ แล้วไอ้อั๋นก้ไม่เสร็จด้วยเรอะ...ไม่ดิ มึงสองคนต้องมาพร้อมกันนี่หว่า"
"เมื่อคืนเค้าไปนอนด้วยกันมา เห็นมั้ยน่ะ" ไอ้เอกที่ยืนอยู่หน้าไอ้พริกหันมาแจม
"เออ ไอ้หมอใส่เสื้อไอ้อั๋นมาอีกละ" พูดจบแล้วไอ้พริกก้หันไปหัวเราะกับไอ้เอก นี่พวกมึงพูดเองแซวเอง ไม่เปิดโอกาสให้กูพูดสักคำเลยนะ

คาบแรกของวันนี้เป็นวิชาที่เมื่ออาจารย์สอนเสร็จก้จะให้นักเรียนนั่งทำงาน ไม่มีการบ้านที่ต้องเอากลับไปทำ พองานเสร็จอาจารย์จะให้ทำอะไรก้ได้ ไอ้อั๋นที่เก่งโคตรๆก้มักจะทำเสร็จก่อนหมดเวลาเรียนเสมอและได้นั่งเล่นสบายใจครับ
"ช้าจังวะ" มันหันมาแหย่ผม
"สัส มึงมาช่วยกูดิ"
"เรื่องไร ไม่ช่วยเว้ย"
"เอ๊ออ จำไว้นะมึง" ผมทำปากยื่น
"มาๆ กูช่วย" อั๋นหัวเราะ ขยับเข้ามาสอนผม

"...เห็นปะว่าข้อนี้ง่าย"
"เออ...แขนครับแขน" ไอ้อั๋นเอาแขนขึ้นมาโอบไหล่ผมตอนไหนเนี่ย เนียนนะมึง- -
มันยิ้มที่โดนจับได้ก่อนจะขยับแขนออกไป

"พงศกร เดี๋ยวช่วยยกสมุดไปวางที่โต๊ะครูด้วยจ้ะ"
"ครับผม"
อาจารย์สั่งไอ้อั๋นเมื่อเสียงกริ่งหมดเวลาคาบเรียนดังขึ้น มันหันมาหาผม
"หมอ ไปเป็นเพื่อนกูหน่อยดิ"
"ไม่เอาอะ ขี้เกียจ" ผมแกล้งอั๋น
"โห่ ไรวะ เมื่อกี้กูยังช่วยมึงทำการบ้านเลยนะ"
"ไม่เกี่ยวเว้ย นี่อาจารย์ใช้มึงนิ"
"เอ๊ออ จำไว้นะมึง" มันพูดเลียนแบบผม
ผมทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ สนุกดีครับ ได้แกล้งมันบ้าง
แต่ทันใดนั้นอั๋นก้คว้ามือผมขึ้นแล้วลากไปหน้าห้อง
"เห้ย เชี่ยอั๋น"
"ไม่ยอมลุกก้ต้องลากมายังงี้แหละ"
เพื่อนๆเริ่มส่งเสียงเซ็งแซ่ขึ้นมาทันที

สุดท้ายผมก้เดินไปห้องอาจารย์กับไอ้อั๋นอยู่ดี ไม่น่าไปเล่นตัวเลยครับ โดนจับมือเฉย- -
"มึงก้ยกคนเดียวไหวนิ"
"อยากให้มาเป็นเพื่อนอะ" ทำหน้าแอ๊บแบ๊วใส่ผมอีกแน่ะ
"ง๊องแง๊งสัส" ผมแกล้งบ่น
"เดี๋ยวจะโดนแบบเมื่อคืน" อั๋นยิ้มกริ่ม
"อะ อะไร"
"จูบไง"
"ไอ้สัส ทะลึ่งละ" ผมเขินขึ้นมา พูดเรื่องนี้ทำไมวะไอ้อั๋น
"ทะลึ่งไร เมื่อคืนใครก้ไม่รู้ เคลิ้มใหญ่เลย แถมยังจูบ..."
"พอเลยมึง" ผมห้าม หยุดพูดเรื่องนี้เลยนะโว้ย
อั๋นหัวเราะชอบใจ
"สัส เดี๋ยวคนอื่นมาได้ยิน"
"ได้ยินก้ดีดิ เค้าจะได้รู้ว่าเราจูบกันแล้ว" ยัง ยังไม่หยุด
ผมเอามือปิดปากไอ้อั๋นแน่น มันทำอะไรไม่ได้ครับ เพราะมือทั้งสองข้างถือกองสมุดไว้อยู่
"อืออ" มันส่งเสียง

"หมอจ๋า"
"ไรมึง"
ออกจากห้องพักอาจารย์มาไอ้อั๋นเข้ามากอดคอผม เราเดินกลับห้องเรียนเพื่อเรียนวิชาต่อไป มันเริ่มพูดเรื่องจูบขึ้นอีกครั้ง
"เมื่อคืน..."
"สาด พอ" ผมพยายามจะเอามือปิดปากไอ้อั๋นแต่ไม่สำเร็จ มือมันว่าง ไม่ได้ถือสมุดแล้วครับ "ใครสอนให้มึงเอาเรื่องนี้มาพูดที่โรงเรียนวะครับ ไม่อายคนอื่นบ้างอ่อ"
"ไม่อาย ก้มันเรื่องจริงนี่"
- -
อั๋นหัวเราะเสียงดัง
"โอ๋ๆ ไม่แกล้งละ...เมื่อคืนมึงยังไม่ตอบกูเลย กูถามจริงๆนะ"
"อะไรอะ"
"มึง รู้สึกยังไง"
อั๋นจ้องตาผมอย่างจริงจัง ท่าทีขี้เล่นหรือกวนตีนหายไปหมด ไหล่ผมอยู่ในอ้อมแขนมัน จะหนีไปไหนก้ไม่ได้ด้วยสิ
"ระ รู้สึกอะไร"
"ที่เราจูบกัน"
"เชี่ย เดี๋ยวใครก้มาได้ยินเข้าหรอก" ผมรีบเตือนอีกครั้ง
"ตอบมา"
"รู้สึก..."
ผมพูดไม่ออก จะพูดออกไปได้อย่างไรล่ะครับ
"..." อั๋นยังคงจ้องหน้าผมและเลิกคิ้วขึ้นเสมือนรอคำตอบ
"ดะ ดี"
แล้วหน้าผมก้แดงก่ำขึ้นมา ไอ้คนข้างๆยิ้มกว้างจนปากจะถึงหู ท่าทางดูไม่สามารถยินดีกับอะไรมากไปกว่านี้ได้แล้ว
"กูก้รู้สึกดีเหมือนกัน"
"อะไรของมึงเนี่ย ไปไกลๆเลย" ผมผลักมัน แต่มันไม่ยอมปล่อย แถมยังเอามืออีกข้างมาบีบจมูกผม
"ไว้มาจูบกันอีกนะหมอ..."

"ต้าร์วันนี้กูไม่ไปซ้อมนะ กูจะไปช่วยหมอทำอุปกรณ์สแตน" ไอ้อั๋นสะกิดไอ้ต้าร์ที่กำลังเล่นเกมในไอโฟนเมื่อหมดเวลาคาบเรียนสุดท้าย
"เออๆ"
"เห้ย งั้นพวกกูไปก่อนนะ" ผมบอกลาไอ้นนท์ ไอ้เอก แล้วทุกตัว เอ้ย คน ก้ส่งเสียงร้องเพลงว่า 'ไปเถิดทั้งคู่ ไปสู่ประตูสวรรค์' เพลงอะไรของพวกมันวะ เรื่องแบบนี้นี่พร้อมใจกันเชียวนะไอ้บ้า
"บอสครับ ตามผมมา" แล้วไอ้อั๋นก้เริ่มเล่นบทบอดี้การ์ด นำผมเดินไปยังโรงยิม2 สถานที่นัดทำอุปกรณ์ของสีฟ้าที่ตกลงกันไว้
"เล่นใหญ่สัส" ผมยิ้มขำ
"ผมจะไม่ให้ใครมาทำอะไรบอสเด็ดขาด อยู่ติดกับผมไว้นะครับ" ไม่พูดเปล่า ยังหันซ้ายขวา ทำท่าถือปืนเล็งไปมาอีก555
"มึงอาจจะเรียนหนักไปว่ะอั๋น"
"โห่ ก้มึงบอกให้กูเป็นบอดี้การ์ดนิ" อั๋นกลับมาเดินข้างผมอย่างปกติ เราหัวเราะด้วยกัน
"เอ้อ ขอบใจนะเว้ยที่มาเป็นเพื่อนอะ" ผมนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ขอบคุณอั๋นเลยที่มาอยู่กับผมวันนี้ มันต้องโดดซ้อมบาสฯมาด้วย
"เออ กูจะปล่อยให้มึงมาคนเดียวได้ไงล่ะ" มันยิ้มน้อยๆ ผมยิ้มตอบ
"ฝากด้วยนะเว้ยไอ้บอดี้การ์ด"
"ค้าบผม...ว่าแต่ จะฝากดูแลหัวใจด้วยก้ได้นะ"
มึงจะขยันจีบกูไปไหนนะ ผมยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

"พี่เมฆหวัดดีครับ" ผมทักทายพี่ฝ่ายเชียร์ที่กำลังพับกระดาษแข็งให้เป็นพัดเมื่อไปถึงโรงยิม
"อ้าว หวัดดีหมอ"
"วันนี้ผมพาเพื่อนมาช่วยทำด้วยนะ ไอ้อั๋นครับพี่ อั๋น นี่พี่เมฆ"
"หวัดดีครับ" อั๋นยิ้มสดใส
"หวัดดีน้อง มาๆ นั่งก่อน"
เรานั่งลงกับพื้น รับกระดาษแข็งสีฟ้าและสีขาวมาจากพี่เมฆ เริ่มต้นพับตาม มีอีกกลุ่มหนึ่งที่นั่งทำอุปกรณ์อื่นอยู่ด้วย
พัดนี้จะใช้ประกอบการแสดงเชียร์ในช่วงโชว์เดี่ยวของแต่ละสี จากการประชุมครั้งที่แล้ว พวกเราช่วยกันคิดว่าควรทำอุปกรณ์แบบไหนบ้าง และควรจะนำแต่ละอย่างมาใช้ช่วงไหน
ผมเป็นคนเสนอให้ใช้พัดแค่เฉพาะช่วงโชว์เดี่ยวครับ ไม่งั้นมีหวังพวกน้องๆเอามาตีเล่นกันจนเสียหายแน่
"แล้วนี่ พี่ก้องไปไหนเหรอครับ" ผมถามพี่เมฆ เมื่อมองไปโดยรอบแล้วก้ยังไม่เห็นท่านประธานฝ่ายเชียร์เลย
"เดี๋ยวมันมา เออ เมื่อวานไอ้ก้องมันปากแตก ไปโดนอะไรมาไม่รู้ ถามก้ไม่ยอมบอก"
"เหรอครับ" ผมยังนึกโกรธเค้าเรื่องนั้นไม่หาย พยายามไม่มองสบตาอั๋น
หลังจากทำพัดไปได้จำนวนหนึ่ง เราก้เปลี่ยนไปเตรียมพู่แทน ซึ่งเป็นสีฟ้าทั้งหมด
"หมอ กูไม่ชอบอันนี้เลยว่ะ"
"พู่อะเหรอ ทำไมวะ"
"ก้มันคันอะ" อั๋นทำอุปกรณ์ที่ใช้ทำพู่พันมือกันยุ่งเหยิงไปหมดเลยครับ
"มานี่มา" ผมหัวเราะ ขยับไปช่วยแกะพู่ออกจากมือ
มันมองผมยิ้มๆ
"ไอ้เมฆ โทษทีว่ะ" ผมหันไปเห็นพี่ก้องวิ่งมาถึง ส่งยิ้มให้ทุกคนในฝ่าย ก่อนสายตาจะมาหยุดอยู่ที่มือผมกับอั๋นที่กำลังจับกันอยู่
"หวัดดีทุกคน"
ผมเห็นว่าพี่มัธยม6หลายคนแอบมองหน้าพี่ก้องกับอั๋นสลับกันไปมา คงจะเคยเห็นสองคนนี้เขม่นกันสินะ ถ้าพวกเขารู้ว่าพี่ก้องเคยคิดจะทำอะไรกับผมล่ะก้ จะเชื่อมั้ยนะ

"หมอ"
"หือ"
"ก่อนกลับบ้านไปสยามกัน"
"ทำไรวะ"
"แม่กูให้ซื้อของที่gourmetนิดหน่อย" อั๋นเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์ กำลังพิมพ์ตอบไลน์กลุ่มครอบครัว
"เออ เอาดิ"
ระหว่างที่ทำพู่ ผมรู้สึกว่าโดนพี่ก้องจับตามองอยู่ตลอดเวลา ผมทำเป็นไม่สนใจเค้า
"ไอ้หมอ มึงมาดูผังที่นั่งบนสแตนกะพวกกูหน่อย ปีหน้ามึงทำจะได้ทำต่อ"
"ครับพี่" ผมเลื่อนตัวเข้าไปหาพี่เมฆกับเพื่อนอีก2คน ตั้งใจฟังการจัดตำแหน่งที่นั่ง ส่วนนี้สำคัญสำหรับการแปรอักษรมากๆครับ
"หมอ"
ผมสะดุ้ง อยู่ๆพี่ก้องก้มานั่งข้างหลังผม เเถมยังเอามือมาจับไหล่ผมด้วย
"พี่ขอโทษนะครับ อย่าโกรธเลยนะ" พี่ก้องพูดเบาๆข้างหู ผมไม่หลงเชื่อแน่นอน พยายามขยับตัวให้เค้าเอามือออกไปจากไหล่
อั๋นจ้องพี่ก้องเขม็ง มันกำลังจะขยับตัว แต่พี่ก้องก้ลุกออกไปหาเพื่อนเค้าที่กำลังทำอุปกรณ์อยู่อีกกลุ่มหนึ่งแล้ว
พี่ก้องรู้ว่าผมไม่เล่นด้วยแล้ว เค้าต้องการอะไรกันนะ

"ขอบคุณทุกคนมากที่มาช่วยกัน เราจะทำกันต่อพรุ่งนี้ หลังเลิกเรียนเหมือนเดิมนะ"
พี่ก้องบอกทุกคนให้แยกย้ายกันตอนหกโมงครึ่ง ผมกับอั๋นหันไปบอกลาพี่คนอื่นๆ กำลังจะเดินออกจากโรงยิม
"หมอ อั๋น อย่าพึ่งไปครับ" พี่ก้องเรียก
"มีไรครับ" ผมหยุดเดิน
"พี่ขอคุยด้วยหน่อยดิ"
พี่ก้องเดินเข้ามาหาเราสองคน รอจนคนอื่นๆเดินไปหมดแล้วจึงเริ่มพูดอีกครั้ง
"จะรีบไปไหนกันเหรอครับน้อง" พี่ก้องยิ้มมุมปาก
ผมกับอั๋นไม่ตอบ อั๋นเดินเข้ามายืนชิดผม
"พี่จะเอาไรครับ" ผมถามไปตรงๆ
"พี่แค่อยากรู้ว่าอั๋นมีอะไรดี ทำไมหมอถึงไม่สนใจพี่เลย"
ไอ้พี่ก้องมันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ผมไม่เข้าใจการกระทำของเค้าเลยสักนิด
ในเมื่อพวกผมไม่พูดอะไรสักคำ ได้แต่ยืนมองอีกฝ่ายกลับไปอย่างนั้น พี่ก้องพูดเสียงเย็นก่อนจะเดินออกไป
"ระวังตัวให้ดีก้แล้วกัน"

"มันไม่ได้ทำอะไรมึงใช่ปะ" อั๋นถามถึงตอนที่พี่ก้องมาพูดกับผมระหว่างฟังการจัดที่นั่งสแตน
"ป่าว เค้าแค่พูดขอโทษ กูไม่เข้าใจเค้าเลยว่ะ ทำถึงขนาดนั้นแล้วคิดว่ากูจะโอเคเหรอ" พี่ก้องทั้งทำให้อั๋นไม่ได้เป็นนักกีฬาตัวจริงและลวนลามผม เค้าคาดหวังว่าผมจะดีด้วยได้อย่างไร
"เออ แล้วไป กูนึกว่ามันมาทำอะไรมึง"
"เออ" ผมรับคำสั้นๆ รู้สึกไม่สบายใจนิดหน่อย พี่ก้องคิดจะทำอะไรต่อไปหรือเปล่านะ
"ไปกัน" อั๋นจูงมือผมเดินเข้าไปในสยามพารากอน มุ่งหน้าไปยังgourmet
"เดี๋ยวนะ"
"อะไร"
อั๋นหยุดเดิน หันกลับมามองผม
"มึงมาจับมือกูทำไมเนี่ย"
"เอ้า เดี๋ยวเราหากันไม่เจอ คนเยอะขนาดนี้ต้องจับไว้ดิ" อั๋นพูดหน้าตาย
"กลัวหายเนี่ยนะ เราไม่ใช่เด็กๆแล้วนะเว้ย- -"
"เออน่า กูเป็นบอดี้การ์ดมึงนะ ต้องดูแลดิ" แล้วอั๋นก้จูงมือผมเดินต่อไป ผมส่ายหัว จะขอจับมือก้ไม่ยอมบอกกันตรงๆ
"เนียน"
อั๋นไม่ตอบ ผมเดาว่ามันต้องกำลังยิ้มอยู่แน่ๆ
แน่นอนว่าหลายคนในห้างกำลังมองเด็กนักเรียนชายสองคนจูงมือกันเดินไปซื้อของด้วยความสงสัย บ้างก้มองยิ้มๆ บ้างก้หันไปคุยกับคนข้างๆ
"อั๋น"
"ครับ"
"อะไรของมึงเนี่ย พูดเพราะเชียว" ผมหัวเราะ "คนมองเต็มเลยสาด"
"ทำไมเหรอ"
"ทำเป็นไม่รู้อีกละ ก้มึงมาจับมือกูไงค้าบ" ผมลากเสียงยาว
"แฟนกันจับมือกันไม่ได้อ่อ" อั๋นทำหน้าทะเล้น
"...แฟนไร ไม่ได้เป็นซะหน่อย" ผมตอบช้าๆ อั๋นเงียบไป
อั๋นไม่ยอมปล่อยมือผม ผมก้เลยปล่อยให้มันจูงมือเดินไปอย่างนั้น

เรามาถึงgourmet อั๋นปล่อยมือผมไปลากตะกร้ารถเข็นมาใส่ของ
"เห้ย กูขอลาก มึงไปหยิบของเลย"
"เออๆ" อั๋นขยี้หัวผม ผมชอบเป็นคนลากรถเข็นเดินตามพ่อกับแม่เวลามาช็อปปิ้งครับ
"ซื้อเยอะอ่อวะ"
"ไม่เยอะนะ แต่กูขี้เกียจถือ"
ผมลากรถเข็นตามอั๋นไปทั่วgourmet มันซื้อโยเกิร์ต นม ผักสด กับเนื้อสัตว์อีกนิดหน่อย
"เอาไปทำไรวะ"
"เติมเสบียงไง ของที่บ้านจะหมดละ" อั๋นเดินต่อไป
"แกๆ ดูนั่นดิ เด็กผู้ชายสองคนมาซื้อของด้วยกัน"
"ว้าย ท่าทางเหมือนแฟนกันเลยนะ...เค้าอยู่ด้วยกันเหรอ"
"ชั้นว่าใช่แน่ๆ"
กลุ่มสาวออฟฟิศที่ยืนเลือกของอยู่ชั้นข้างๆผมซุบซิบกันถึงพวกผม เอ่อ ทำไมถึงคิดไปได้ขนาดนั้นล่ะ- -
"โอย ฟิน"
"หน้าตาน่ารักทั้งคู่เลยนะ"
"ว้า เสียดายเหมือนกันนะแก"
อั๋นเดินกลับมาตรงชั้นที่ผมยืนอยู่
"อั๋น ของครบยังวะ"
"ครบแล้ว"
"งั้นไปจ่ายตังกัน"
"เออ...รีบไปไหนเนี่ย" ผมรีบเข็นรถไปที่เคาน์เตอร์ชำระเงิน อั๋นเดินตามมา กลัวว่าถ้ามันได้ยินพี่ๆเค้าซุบซิบกันแล้วจะแกล้งอะไรขึ้นมาอีกครับ- -

ผมออกมายืนรออั๋นบริเวณด้านนอกgourmet มองนั่นนี่ไปเรื่อย แล้วก้เห็นอะไรบางอย่าง
พี่เหมากำลังเลือกซื้อคัพเค้กอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง ทั้งคู่ใส่ชุดนักศึกษา พี่เหมามาซื้อของกับใครวะเนี่ย
อาจจะเป็นน้องสาวหรือเพื่อนเค้าก้ได้น่า อย่าคิดมากดิหมอ ผมบอกตัวเอง
แต่แล้วพี่เหมาก้ยกมือขึ้นโอบไหล่ผู้หญิงคนนั้น คุยกันอย่างร่าเริง ก่อนจะพากันเดินขึ้นบันไดเลื่อนไปอีกชั้น
นี่มันไม่ใช่แค่พี่น้องแล้ว
"หมอ มองไรวะ"
"เอ้อ" อั๋นมาสะกิดแขน ผมร้องตกใจ "ป่าว"
"อยากกินขนมอะดิ" อั๋นยิ้มกว้าง เข้าใจว่าผมกำลังมองไปทางโซนร้านขนม
"ป่าวๆ ไปกันเหอะ" ผมยื่นมือออกไปช่วยถือถุงใส่ของที่ซื้อมา

จะว่าไปแล้ว ผมพึ่งรู้สึกว่าพี่เหมาหน้าตาคล้ายใครสักคนที่ผมรู้จัก...เอ ใครกันนะ

ผมควรจะบอกอั๋นดีมั้ยนะ
ผมนึกสงสารเจ๊เอ๋ขึ้นมา ถ้าเจ๊รู้ว่าพี่เหมามากับผู้หญิงคนอื่น เจ๊จะรู้สึกยังไง แต่ผมเห็นแค่นั้น จะไปสรุปว่าสองคนนั้นเป็นอะไรกันก้ไม่น่าเหมาะ
ถ้าบอกอั๋นไป ก้คงทำให้มันไม่สบายใจเปล่าๆ แต่ถ้าไม่บอก แล้วพี่เหมามีกิ๊กจริงๆ อั๋นกับเจ๊เอ๋มารู้ก้คงเสียใจ
ผมควรทำอย่างไรดีนะ

เฮ้อ ในที่สุดผมก้ตัดสินใจว่าจะยังไม่เล่าเรื่องนี้ให้อั๋นฟังครับ เพราะคิดว่าหลักฐานแค่นี้ยังไม่เพียงพอที่จะบอกว่าสองคนนั้นเป็นอย่างที่ผมคิด

"เออมึง พรุ่งนี้จะไปทำอุปกรณ์ต่อปะ"
"ทำดิ"
"งั้น กูไปด้วย"
"เห้ย มึงไปซ้อมเถอะ วันนี้ก้โดดมาหนึ่งวันละ"
ผมอยากให้อั๋นมาอยู่ก้จริง แต่ก้ไม่อยากให้มันขาดซ้อมอีกครับ
"ไม่เป็นไรหรอก กูเป็นห่วงมึงมากกว่า เดี๋ยวไอ้พี่ก้องมายุ่งกับมึงอีก"
"กูอยู่ได้น่า"
"ไม่เอาอะ"
"เออๆ" ดื้อจริงนะไอ้อั๋น
"อย่าลืมดิ กูเป็นบอดี้การ์ดมึงแล้วนะ" อั๋นยิ้มกว้างให้ผม แขวนถุงใส่ของกับแฮนด์รถมอเตอร์ไซด์
"บอดี้การ์ดไรวะ ไม่เห็นเท่เลย" ผมแกล้งพูด
"เอ้า กูเนี่ยแหละทั้งหล่อทั้งเท่ เหมาะที่สุดแล้ว"
"หลงตัวเองนะสัส"
อั๋นหัวเราะ
"แล้วเมื่อไรบอสจะเลื่อนขั้นให้ผมอะครับ"
"เลื่อนขั้นไรวะ"
"ก้เลื่อนให้เป็นคนรู้ใจไง"
"ไอ้บ้า"

-จบตอน-

มาต่อแล้วครับผม อั๋นเป็นบอดี้การ์ด เลยหลอกจับมือหมอซะเลย
น่ารักไปอีก ส่วนพี่เหมานี่ยังไงกันนะ
ติดตามตอนหน้าด้วยนะค้าบ
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่22 (updated 7/6/2559 21.10)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 09-06-2016 21:37:08
อิก้องโรคจิตปะวะ น่ากลัว บอร์ดีการ์ดคุ้มครองบอสดีๆนะ
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่22 (updated 7/6/2559 21.10)
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 10-06-2016 02:17:05
อิพี่ก้องตื้อไม่เลิก ต้องให้อั๋นจัดการ
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่22 (updated 7/6/2559 21.10)
เริ่มหัวข้อโดย: fightreblue ที่ 12-06-2016 00:21:31
รออ่านต่ออยู่นะค้าบบบ กำลังสนุกเลย  :hao6:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่23
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 13-06-2016 14:56:03
ตอนที่23

ผมกับอั๋นไปทำอุปกรณ์สำหรับสแตนเชียร์ต่อในวันถัดมา พี่เมฆตรวจสอบอุปกรณ์ที่ทำเสร็จแล้วทุกชิ้นอีกครั้งหนึ่งว่าแข็งแรงพอหรือไม่ มีตำหนิหรือเปล่า และยังสอนงานผมพร้อมกับพี่มัธยม6 คนอื่นๆเกี่ยวกับการจัดที่นั่งเพิ่มเติม

พี่ก้องก้ยังมาคุมงานตามปกติครับ จับตามองผมอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่ได้เข้ามาพูดหรือทำอะไรผมกับอั๋น เขานัดหมายให้ฝ่ายเชียร์มาพบกันอีกครั้งสัปดาห์หน้าเพื่อเริ่มซ้อมการแสดงเชียร์

ผมรู้สึกตื่นเต้นกับงานกีฬาสีที่ใกล้เข้ามาทุกขณะ ตอนนี้ก้เหลือแค่ซ้อมการแสดงบนสแตนเชียร์กับจัดสถานที่ก่อนวันจริงก้เท่านั้น อุปกรณ์ทุกอย่างที่จำเป็นต้องใช้สำหรับงานมีการเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว

เย็นวันศุกร์ ฝ่ายเชียร์ไม่มีนัด ผมจึงว่าง ส่วนอั๋นไปซ้อมบาสฯกับต้าร์ ผมเลยไปนั่งเล่นรอที่ห้องสมุด ห้องสมุดของโรงเรียนปิดเวลา19.30ครับ ให้นักเรียนค้นคว้าหาข้อมูลไปทำการบ้านหรือรายงานได้เต็มที่
ตอนนี้ข้างในมีคนน้อยมาก คงเพราะเป็นเวลาหลังเลิกเรียนแล้ว แถมยังเป็นเย็นวันศุกร์ด้วย ผมเลือกนั่งที่โต๊ะยาวด้านในสุด และหยิบโคนันมาอ่าน
อ่านไปได้สักพักก้มีคนนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับผม
"หมอ ขอนั่งด้วยคนดิ"
"อ้าว อาร์ต นั่งเลยๆ"
"มาทำไรเนี่ย"
"รอไอ้อั๋นซ้อมบาสฯ อาร์ตอะ"
"นัดเพื่อนไว้ จะแบ่งหัวข้อทำรายงาน แต่มันขอออกไปสยามแปบนึง นี่ยังไม่กลับมาเลย"
"ขยันจังวะ" สมเป็นเด็กสายวิทย์จริงๆ ถ้าเป็นนักเรียนส่วนใหญ่คงออกไปเที่ยวเล่นแล้วในเย็นวันนี้
"งานโคตรเยอะเลย ห้องหมองานเยอะปะ"
"เยอะ ยังไม่ได้ทำเลยด้วย" ผมบ่นบ้าง แบบฝึกหัด รายงาน โครงงาน อะไรก้ไม่รู้ครับ เยอะไปหมด
อาร์ตยิ้มแล้วหยิบหนังสือคณิตศาสตร์ของโรงเรียนกวดวิชาขึ้นมาอ่าน
"เรียนพิเศษด้วยอ่อ"
"อือ"
ผมเห็นอาร์ตขยันขนาดนี้แล้วรู้สึกละอายใจขึ้นมาหน่อยๆ อย่าว่าแต่เรียนพิเศษเลยครับ เรียนที่โรงเรียนปกติผมยังขี้เกียจ
การบ้านก้ลอกไอ้อั๋นซะเป็นส่วนใหญ่ เฮ้อ ต่อไปคงต้องพยายามขยันให้มากกว่านี้แล้วล่ะ
เรานั่งจดจ่อกับหนังสือของตัวเองไปเงียบๆ จนกระทั่งอาร์ตทำลายความเงียบลง
"เมื่อไรเพื่อนเราจะมาวะ" อาร์ตถอนหายใจแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อนดู
"โทรถามดิ ไม่ใช่ว่าเพื่อนชิ่งไปแล้วนะเว้ย" ผมยิ้มขำ
"เออ ไม่แน่ เดี๋ยวออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอกแปบนะ" ผมพยักหน้ารับ
ไม่ถึงนาทีอาร์ตก้กลับมาที่โต๊ะ
"เป็นไง"
"ยังไม่เสร็จธุระเลย มันบอกว่าถ้าอีกหนึ่งชั่วโมงมันไม่มา ค่อยskypeกัน มันขอโทษใหญ่เลย"
"อ่อ งั้นอยู่กะเราไปก่อนก้ได้"
"ขอบใจนะ" อาร์ตยิ้มให้ผมแล้วกลับไปอ่านหนังสือคณิตศาสตร์ต่อ ดูท่าทางสบายๆ ใจเย็น ถ้าเป็นผมคงโวยวายใส่เพื่อนคนนั้นไปแล้ว

เมื่อไรอั๋นจะซ้อมเสร็จนะ มันบอกว่าถ้าเสร็จแล้วให้ไปเจอกันที่ลานจอดรถ ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูบ้าง ให้แน่ใจว่าอั๋นไม่ได้โทรมา หรือไลน์มาหาว่าซ้อมเสร็จแล้ว ทั้งๆที่ผมแน่ใจว่าโทรศัพท์ไม่ได้สั่นเลยจนถึงตอนนี้
"สีฟ้าซ้อมหนักน่าดูเลยแฮะ เราเห็นซ้อมกันทุกเย็นเลย" อาร์ตเงยหน้าขึ้นจากหนังสือ คงสังเกตเห็นท่าทางของผม
"อ่าฮะ...เออ สีแดงไม่ไปซ้อมเหรอ" ผมถาม นึกขึ้นมาได้ว่าอาร์ตก้ลงแข่งบาสเกตบอลเหมือนกัน
"ซ้อมไปเมื่อวันอังคารกับเมื่อวานน่ะ วันนี้ไม่มีซ้อม"
"อ่อ"
"สีเราซ้อมน้อย น่าจะแพ้สีฟ้าแน่ๆ"
"แน่นอน" ผมยักคิ้วแสดงความมั่นใจ อาร์ตหัวเราะ

อาร์ตอ่านเนื้อหาแล้วทำโจทย์คณิตศาสตร์ไปได้หลายข้อ ในขณะที่ผมอ่านโคนันจบไป2เล่ม (ช่างแตกต่างกันเหลือเกิน- -) ผมวางหนังสือลงก่อนจะชวนอีกฝ่ายคุยครับ
"เออ ที่บอกว่าอยู่คอนโด ไม่ใช่คนกรุงเทพฯอ่อ"
"ใช่ เรามาจากชลบุรี" อาร์ตเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือ
"อ้อ งั้นก้เดินทางไกลเลยดิ"
"ไม่ไกลนะ จากนี่ไปบ้านเราก้ขับรถประมาณ2ชั่วโมง ถ้ารถไม่ติดนะ"
ความคิดแรกของผมคือชลบุรีต้องอยู่ไกลจากกรุงเทพฯมาก แต่นึกไปนึกมา ตอนไปบางแสนก้ไม่ไกลเท่าไรนี่หว่า
"ไว้พาไปเที่ยวบ้างดิ" ผมพูดติดตลก
"ได้เลยหมอ"
"เออ เรากวนอาร์ตอ่านหนังสือปะ" ผมถามอย่างเกรงใจ
"เห้ย ไม่กวน คุยได้ๆ"
ผมสังเกตว่าอาร์ตยิ้มเก่ง เหมือนใครบางคนที่ผมสนิทเลยครับ ยิ้มทั้งวัน แถมรายนั้นยิ้มได้หลายแบบด้วย ยิ้มกว้าง ยิ้มมุมปาก ยิ้มขำ ยิ้มอ่อน ยิ้มเจ้าเล่ห์ ยิ้มหื่น- -
"แล้วหมออะ เป็นคนกรุงเทพใช่ปะ"
"ใช่"
"อยู่แถวนี้ตั้งแต่เกิดเลยอ่อ"
"เออ เบื่อแล้วเนี่ย"
"อยู่นี่ก้ดีแล้ว ใกล้โรงเรียน ใจกลางกรุงฯด้วย ไปไหนมาไหนสะดวก เราดิ จะกลับบ้านทีก้เหนื่อย"
"นี่กลับบ้านบ่อยปะวะ"
"กลับทุกอาทิตย์เลย"
"งั้น ไม่กลับตั้งแต่วันนี้อ่อ"
"ยัง วันนี้รถติดอะ ไว้กลับเช้าพรุ่งนี้"
"อ่อ"
จากนั้นอาร์ตก้เป็นฝ่ายถามผมบ้าง เราคุยกันจนถึงหกโมงครึ่ง อั๋นก้โทรมาหาผม
"อั๋นเสร็จแล้วเหรอ"
"อือ เดี๋ยวเราต้องไปละ..." ผมเริ่มเก็บของใส่กระเป๋านักเรียน  "แล้วเพื่อนอาร์ตอะ"
"มันไลน์มาบอกว่าไม่มาแล้ว" อาร์ตหันหน้าจอโทรศัพท์มือถือให้ผมดู
"กำ"
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวค่อยคุยก้ได้...ไปทางไหนอะ เดี๋ยวเราเดินไปส่ง"
"เห้ย ไม่เป็นไร อาร์ตกลับเหอะ" ผมเกรงใจอีกฝ่ายจะแย่ มาอยู่คุยเป็นเพื่อนผมทั้งๆที่จะกลับไปตอนไหนก้ได้
"ไม่เอา หมออุตส่าห์อยู่เป็นเพื่อนเรา ให้เราเดินไปส่งนะ" อาร์ตยิ้มจนเห็นลักยิ้มสวย ยังคงยืนยันว่าจะไปส่งผม
"ก้ได้" ผมยิ้มให้น้ำใจของอาร์ต
เราเดินออกจากห้องสมุด มุ่งหน้าไปลานจอดรถ
"กลับบีทีเอสปะ"
"ช่าย"
"อาร์ตก้ต้องเดินย้อนไปหน้าโรงเรียนอีกดิ โห่" ผมร้องอย่างเกรงใจ
"ไม่เป็นไรๆ" อาร์ตนี่นิสัยดี เรียบร้อย สุภาพ ตรงกันข้ามกับผมโดยสิ้นเชิงเลย555
"หมอ อาร์ต" อั๋นที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าจากชุดกีฬากลับเป็นชุดนักเรียนเรียบร้อยแล้ว ยืนรออยู่ข้างมอเตอร์ไซด์อยู่แล้ว โบกมือเรียก
"ไอ้ต้าร์อะ"
"ไปกะเมย์ละ"
"ติดเมียนะมัน" ผมบ่นทันที
"เอ้า ไม่ให้ไปหาแฟนแล้วจะให้มันไปหาใครวะ" อั๋นหัวเราะ "แล้วอาร์ตมาเจอไอ้หมอได้ไงเนี่ย"
"เจอที่ห้องสมุดเมื่อกี้น่ะ จะกลับแล้วเหมือนกัน เลยเดินมาส่ง...งั้นไปก่อนนะเว้ย" อาร์ตยิ้มก่อนจะเดินย้อนกลับไปทางเดิม ไม่ลืมที่จะโบกมือให้ผมกับอั๋น พวกเราโบกตอบกลับไป
"ไปกัน" ผมตั้งท่าจะขึ้นนั่งมอเตอร์ไซด์
"เดี๋ยว"
"ไรวะ"
"มีเดินมาส่ง ไม่ใช่ว่าอาร์ตมาจีบมึงอีกคนนะ" อั๋นหรี่ตามองผมอย่างคาดโทษ
"ก้เหี้ยแล้ว แค่เดินมาส่งเฉยๆเว้ย เค้าเห็นว่ากูอยู่คุยเป็นเพื่อนที่ห้องสมุด"
"จริงนะ"
"เออสิครับ แล้วมาซักกูทำไมเนี่ย"
"หวงโว้ย ห้ามใครยุ่ง"
"ไอ้บ้า มีสิทธิอะไรมาหวงกู" ผมโบกหัวอั๋นไปทีหนึ่ง
"เดี๋ยวก้รู้"อั๋นทำหน้าเหมือนโดนยาเบื่อหนูเข้าไป ผมขึ้นซ้อนมอเตอร์ไซด์ หัวเราะอย่างอารมณ์ดี

"หมอ" อั๋นพูดขึ้นเมื่อรถมอเตอร์ไซด์มาถึงหน้าบ้านผม
"หือ"
"คืนนี้มึงเล่นเกมปะ"
"เล่นดิ"
"ให้ถึงสี่ทุ่มนะ"
"ทำไมวะ" ผมเลิกคิ้ว
"ก้...กูจะโทรหามึงอะ"
"คุยไลน์ก้ได้นิ"
"ไม่เอา ไม่ได้ยินเสียง"
"โห ไรเนี่ย วันนี้วันศุกร์ กูเล่นยาวอยู่แล้ว"
"ก้กูอยากคุยกะมึงนี่" อั๋นเปลี่ยนท่าทีเป็นอ้อน เอื้อมมือมาจับแขนผมเขย่าใหญ่เลย เรามาถึงจุดที่อั๋นสั่งไม่ให้ผมเล่นเกมเพราะจะโทรหาได้ไงเนี่ย
"กูก้อยากเล่นเกมนี่ค้าบบบ"
"มึงเห็นเกมสำคัญกว่ากูอ่อ"
"เออดิ" ผมนึกสนุก อยากแกล้งมันขึ้นมา
อั๋นมองค้อนและทำแก้มป่อง มันอาจจะคิดว่าน่ารัก แต่สำหรับผมมันดูน่าชกมากกว่า555
"ไม่รู้แหละ สี่ทุ่มมึงต้องคุยกะกู"
"ถ้ากูไม่คุยอะ"
"กูจะมาหาถึงบ้านเลย"
"มาดิ กูไม่ให้เข้า"
"จะทำตามที่บอกมั้ย" ไอ้อั๋นคิ้วขมวดเข้าหากันแล้ว
"ไม่เว้ย" ผมยิ้มยียวน
"ไม่เหรอ ได้..."
อั๋นยกแขนผมข้างที่จับอยู่ขึ้นมาแล้วประทับริมฝีปากลงบนมือผม
ผมตกใจจนชะงัก
นี่มึงจูบมือกูงั้นเหรอ!
"เชี่ยย ทำไรเนี่ย" ผมร้อง รีบชักมือออกจากปากอั๋น พยายามสะบัดให้หลุดจากมือที่แข็งแรงกว่า แต่อั๋นยังกุมมือผมไว้แน่น ไม่ยอมปล่อย
"ไง ตกลงจะคุยไม่คุย"  อั๋นยิ้มแก้มปริ
"ไม่คุยเว้ย"
"งั้นอีกทีนะ" อั๋นเตรียมจะดึงมือผมขึ้นอีก
"เห้ยๆ ยอมแล้ว"
"ยอมว่าไง"
"ก้คุยไง" ผมยอมแพ้
"ดีมาก" อั๋นยอมปล่อยมือผม
"เดี๋ยวคนอื่นก้มาเห็นหรอก" โชคดีที่พ่อกับแม่ผมยังไม่กลับมา หันซ้ายขวามองหาเพื่อนบ้าน ก้ไม่เห็นใครอยู่บริเวณนั้น
"กูอยากคุยกับมึงอะ"
"เออ รู้แล้ว" ผมหลบสายตา ยังอายไม่หายที่โดนอั๋นจูบมือ ผมก้ไม่ได้จะไม่คุยหรอกครับ แค่อยากแกล้งมันก่อน ไม่น่าเลยไอ้หมอ- -
"อย่าลืมล่ะ รับสายกูด้วย"
"เออ"
"กูไปก่อนนะ"
"เออ"
"ตอบเป็นอยู่คำเดียวรึไง"
"เออ"
"หรือจะให้จูบปากด้วย"
"เออ ไอ้..."
อั๋นหัวเราะเสียงดังที่ผมพลาด มันสตาร์ทมอเตอร์ไซด์ และไม่วายหันมาหยอดผมอีกดอก
"ขอจุ๊บอีกทีดิ"
ผมชูนิ้วกลางให้มัน หน้าอั๋นยังประดับด้วยรอยยิ้มกว้างจนรถออกจากซอยไป

สุดสัปดาห์ของผมเกือบจะผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์ ผมกิน เล่นเกม นอน แล้วก้กลับไปเริ่มต้นที่กินอีกครั้ง และหลังจากที่ผมคุยกับอั๋นคืนวันศุกร์ มันก้โทรมาในคืนวันเสาร์อีก นอกจากคุยเรื่องสัพเพเหระกันแล้ว อั๋นก้ยังถามถึงการบ้านกองเท่าภูเขาว่าได้ทำบ้างหรือเปล่า มันเฉ่งผมใหญ่เมื่อรู้ว่าผมไม่ได้ทำแม้แต่อย่างเดียว

เมื่อตื่นขึ้นในตอนบ่ายของวันอาทิตย์ ผมจึงเริ่มต้นจากงานที่คิดว่าง่ายและใช้เวลาน้อยที่สุดในการทำ แต่ก้ยังต้องขอความช่วยเหลือจากอั๋นผ่านทางไลน์อยู่ดี เฮ้อ ทำไมผมไม่ฉลาดแบบมันบ้างนะ

หกโมงเย็นแล้ว ผมยังนั่งเคลียร์การบ้านอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ที่ต้องส่งพรุ่งนี้ยังเหลืออีก2วิชาแน่ะครับ ถ้านับภาระงานทั้งหมด ดูเหมือนว่าใช้เวลาอีกสัปดาห์หนึ่งก้ไม่น่าจะเสร็จ
"โอ้โห อีกไม่นานบ้านเราต้องมีหิมะตกแน่ๆเลยคุณ"
"ทำไมเหรอคะ"
"ก้ลูกเรานั่งทำการบ้าน ดูสิ"
พ่อกับแม่ผมเอ่ยแซว พวกท่านพึ่งกลับมาจากข้างนอก
"โหพ่อ" ผมลากเสียง
"ลมอะไรพัดมาถึงขยันขนาดนี้ ไอ้ตัวแสบ"
"โถ่ ผมขยันอยู่แล้วต่างหาก"
"แม่ว่าการบ้านพวกนี้ใกล้ส่งแล้วแน่ๆ แกถึงมารีบทำ"
"แม่อะ รู้ได้ไง"
"รู้สิ ก้หมอเป็นแบบนี้ประจำ" แม่บ่น ในขณะที่พ่อหัวเราะหนักมาก
(ไง ไปถึงไหนละมึง)
อั๋นไลน์มาถามครับ
(สัส เหลืออีก2วิชา เหนื่อยเหี้ยๆ)
ตามด้วยกดสติ๊กเกอร์ระบายอารมณ์ไปรัวๆ
(5555 อยากดองไว้เอง)
(ไม่ต้องมาหัวเราะเยาะกูเลย มึงเสร็จหมดแล้วใช่ปะ)
(เสร็จเรียบร้อย นอนสบาย อิอิ)
(ขี้อวดเอ๊ย ไปไกลๆตีน)
(ไรว้า อย่าพึ่งไล่กันดิ)
"หมอคุยกับใครน่ะ ยิ้มใหญ่เลย"
"อ้อ เอ่อ ไอ้อั๋นอะครับ" ผมส่งเสียงตอบแม่
"อั๋นอีกแล้ว...อั๋นมาจีบลูกรึป่าวเนี่ย"
คำถามนั้นทำเอาผมสะดุ้ง โชคดีที่ไม่มีใครเห็นอาการของผม แม่กำลังเตรียมอาหารอยู่ในห้องครัว ส่วนพ่อก้เดินขึ้นไปข้างบน
"ป่าวแม่ เพื่อนกัน" ถ้าแม่รู้ว่าไอ้อั๋นมันกำลังจีบผมอยู่จริงๆล่ะก้ อะไรจะเกิดขึ้นนะ

เทศกาลกีฬาสีมาถึงในที่สุด โรงเรียนของผมให้เวลากับงานนี้ถึง3สัปดาห์เต็มๆ 2สัปดาห์แรกมีการเรียนการสอนพร้อมการแข่งขันกีฬาและกรีฑาต่างๆในรอบคัดเลือกและเป็นเวลาสำหรับซ้อมการแสดงเชียร์ด้วย

หน้าที่หลักของผมคือศึกษาวิธีการทำงาน ผมไม่เคยรู้เลยจนกระทั่งได้มาสัมผัสด้วยตัวเองว่าพี่ๆต้องทุ่มเทและเหนื่อยมากแค่ไหนในการเตรียมงาน อย่างน้อยผมก้ต้องยอมรับข้อเท็จจริงข้อหนึ่ง พี่ก้องเเละเพื่อนๆฝ่ายเชียร์เตรียมงานได้ดีจริงๆ

ผมแวะไปดูการซ้อมการแสดงเชียร์บนสแตนเกือบทุกวัน อาศัยเวลาของบางคาบเรียนที่โรงเรียนอนุญาตให้ซ้อมกีฬาสีหรือช่วงหลังเลิกเรียน ในความเห็นของผม ทุกอย่างผ่านไปได้ดี ค่อนข้างราบรื่นเมื่อเทียบกับสีอื่นๆ ปัญหาใหญ่อย่างการจัดสรรงบประมาณ อุปกรณ์สแตน การออกแบบโค้ดเชียร์ สีฟ้าไม่มีให้เห็นเลย จะมีก้แต่ปัญหาเล็กๆเท่านั้น อย่างนักเรียนโดดซ้อม ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้

อั๋นก้ไปซ้อมบาสฯเกือบทุกวันเช่นกัน ทำให้ช่วงนี้เราไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา แต่เราก้ยังกลับบ้านด้วยกันทุกวัน จะว่าไปผมกับอั๋นไม่เคยแยกกันช่วงหลังเลิกเรียนเลยตั้งแต่รู้จักกันมา

เย็นหนึ่งหลังจากที่ผมเสร็จงานและอั๋นเลิกซ้อม เราไปกินข้าวมันไก่อาม่ากันครับ ไอ้ต้าร์ ไอ้นนท์ก้มาด้วย ขาดก้แต่ไอ้เอกที่หาย หัวไปไหนไม่รู้
"แล้ววันนี้มึงมาด้วยได้ไงวะเนี่ย ไม่ไปหาเมย์เรอะ" ไอ้นนท์หันไปเล่นงานไอ้ต้าร์ทันทีเมื่อเรานั่งลงที่โต๊ะ
"เอ้า พอกูไปหาเมย์ก้ด่า พอมาอยู่กับพวกมึงก้ด่า ให้กูทำไงเนี่ย"
"ไม่ได้ด่าเว้ย ก้มันแปลกนี่หว่า"
"ใช่ๆ ปกติเลิกซ้อมทีไรมึงแวบทุกที" อั๋นเสริมทันที
"อย่าไปรุมมันน่า มันอุตส่าห์มาแดกข้าวกะพวกเรานะเว้ย" ผมพูดปนหัวเราะ สงสารไอ้ต้าร์มันตามที่พูดไปจริงๆนั่นแหละ
"โห หมอเพื่อนรัก มีมึงคนเดียวเนี่ยแหละที่เข้าใจกู มามะ มาจุ๊บทีดิ๊" ไอ้ต้าร์ทำปากจู๋ข้ามโต๊ะมาหาผม ไอ้อั๋นที่นั่งฝั่งเดียวกับผมขยับมาผลักหน้าต้าร์ออกไป
"เห้ยๆๆ เมียกู"
"ใครเมียมึง"
"แหมๆ แตะนิดนึงก้ไม่ได้เลยนะสาด" ไอ้นนท์กระหยิ่มยิ้มย่อง
"เออ มึงดูดิ อั๋นแม่งผลักหน้ากู"
"หมอของกูเว้ย ห้ามยุ่ง" อั๋นตอกย้ำคำพูดนั้นด้วยการโอบเอวผมและขยับหน้าเข้ามาใกล้
"สัส ถอยออกไปเลย" ผมร้อง พยายามดันตัวอั๋นออก
"มึงสองคนนี่เรียลเหี้ยๆ" ไอ้นนท์หัวเราะก่อนจะหันไปสั่งอาหารกับพี่พนักงานเสิร์ฟ ซึ่งเป็นลูกสาวอาม่าคนเดียวกับที่บริการผมเมื่อคราวที่แล้ว ดูท่าพี่เค้าน่าจะจำผมกับอั๋นได้ เพราะพอหันมาเห็นพวกเราก้อมยิ้มเล็กๆ
"เราแข่งแมทช์แรกวันไหนวะมึง" ต้าร์ถามอั๋น
"อังคารหน้า"
"กูว่านะ ยังไงตอนแข่งจริงไม่มีใครให้พี่ริวลงหรอก เลี้ยงลูกยังไม่ค่อยจะเป็นเลย ชูทก้ไม่แม่น สุดท้ายพวกพี่เค้าให้มึงลงชัวร์ๆ"
"ไม่หรอก กูตัวสำรองนะเว้ย"
"โห่ มีอย่างที่ไหน ตัวสำรองเล่นเก่งกว่าตัวจริงแบบเทียบไม่ติด...กูยังไม่เข้าใจจริงๆว่าพี่เค้าเลือกแบบนี้ได้ไงวะ"
"เออ ถ้าสีเราแพ้ตั้งแต่วันแรก กูจะหัวเราะให้ดู" ไอ้นนท์พูด
ผมกับอั๋นเงียบ เราสองคนรู้ดีว่าต้นเหตุจริงๆของเรื่องนี้มันมาจากอะไร
แล้วข้าวมันไก่4จานก้มาเสิร์ฟที่โต๊ะ วันนี้จัดหนักหน่อยครับ พวกผมสั่งพิเศษกันทุกคนเลยครับ
"แล้วฝ่ายเชียร์เป็นไงบ้างวะหมอ" นนท์หันมาถามผมบ้าง
"เหลือแต่จัดสแตนสำหรับวันจริง แล้วก้ต้องคอยคุมเด็กไม่ให้โดด มันจะแป้กก้ตรงนี้แหละมึง"
"ตอนเด็กกูก้โดด ร้อนชิบหาย แถมรุ่นพี่ให้แหกปากอีก" ต้าร์หัวเราะ ผมปาเศษกระดาษทิชชู่ใส่มัน
"สาด ไม่โดดดิวะ"
"เออ กูก้เคยโดดเหมือนกันนะหมอ" อั๋นยิ้มยิงฟันให้ผม
"มึงก้ด้วยหรอ เลวว่ะ" ผมหันไปด่า
"อ้าว ก้มันจริงอย่างที่ไอ้ต้าร์พูดนิ"
"กูว่ามันสนุกจะตาย" ไอ้นนท์แทรกขึ้นมา
"ช่ายปะ พวกมึงแม่งไม่ได้เรื่อง ดูไอ้นนท์ดิ๊ ไหนมาจุ๊บทีดิ๊เพื่อน" ผมทำปากจู๋ข้ามโต๊ะไปหาไอ้นนท์ เอาอย่างไอ้ต้าร์เมื่อสักครู่
"เห้ยๆ" อั๋นร้อง ยื่นแขนมากั้นตัวผม
"ป่าวไอ้หมอ กูหมายถึงโดดสีกลับบ้านอะ สนุกดี" ไอ้นนท์ตอบก่อนทุกคนจะหัวเราะเยาะผมพร้อมกัน
"ไอ้สัสเอ๊ย" ผมชูนิ้วกลางขึ้นสองมือใส่เพื่อนทั้งสามคน


"เออ ไหนๆวันนี้ก้เกือบครบแก๊งค์ละ กูขออัพเดตเรื่องพวกมึงหน่อย" ไอ้นนท์พูดขึ้นอีกครั้งเมื่อเรากินข้าวกันเสร็จแล้ว
"อะ อยากเสือก เอ้ย อัพเดตเรื่องอะไรก้ว่ามา" ผมกัด
"กูขอเริ่มที่มึงก่อนไอ้ต้าร์ ตามตัวยากสุดในพวกเราแล้ว"
"เว่อร์" ไอ้ต้าร์ทำเสียงหน่ายๆ
"เว่อร์เหี้ยไร นอกจากในห้องเรียนแล้วกูไม่เจอหน้ามึงเลยครับเพื่อนรัก" ไอ้นนท์พูดพร้อมเข้าไปกอดคอไอ้ต้าร์
"แล้วทำไมต้องมาอัพเดตเรื่องกูด้วยเนี่ย"
"เออน่า ตอบมา มึงกับเมย์เป็นไง ได้กันยัง"
"เหี้ย ได้พ่องดิ" ต้าร์โวยวายและโบกหัวไอ้คนถามไปหนึ่งที "มากสุดกูยังแค่จับมือเค้าเอง"
"หราา ไม่อยากจะเชื่อ"
"จริงนะเว้ย กูไม่เคยทำอะไรล่วงเกินเมย์เลยจริงๆ"
"จ้า ทะนุถนอมดีเชียว...เมย์เค้างี่เง่าปะวะ"
"ก้มีบ้าง"
"มึงเริ่มเบื่อยัง"
"จะเบื่อได้ไง แฟนนะเว้ย"
"กูยังเคยเบื่อแฟนกูเลย"
"แฟนมึงไปไหนแล้วอะ" อั๋นถามแทรก
"เลิกแล้วไงสัส" นนท์ตอบหน้ามุ่ย พวกเราที่เหลือหัวเราะก๊าก
"...อย่าพึ่งขัดดิ๊ มึงกะเมย์กำลังทะเลาะกันอยู่ใช่มั้ย"
"เห้ย" ต้าร์มีสีหน้าตกใจ
"นั่น ไม่ต้องมาปิดพวกกูเลย ดูก้รู้แล้วว่ามึงมีเรื่องกัน" ไอ้นนท์ยิ้มภูมิใจในความหยั่งรู้ของตัวเอง
"อะ เออ กูทะเลาะกัน"
"เห็นมั้ย มันถึงมาแดกข้าวกะพวกเราได้ โธ่เอ๊ย" ไอ้นนท์พูดต่ออย่างรวดเร็ว
"เออ กูมันเหี้ย" ต้าร์ประชด พยายามแกะมือไอ้นนท์ออกจากไหล่ตัวเอง อีกฝ่ายยิ่งรัดแน่นขึ้น
"โอ๋ๆ ไม่ร้องนะต้าร์ กูก้แค่อยากจับพิรุธ...ทำใจนะมึง ทะเลาะกันมันเรื่องธรรมดา" ไอ้นนท์ทำท่าเหมือนเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องรักๆใคร่ๆยังไงยังงั้น
"มึงนี่ขี้เสือกแล้วยังเดาเก่งอีกนะเชี่ยนนท์" ผมด่า
"ขอบคุณที่ชมครับ" ทำท่าทางไม่สะทกสะท้านก่อนจะหันมาถามผมเป็นรายต่อไป "มึงคนต่อไปไอ้หมอ"
"กูเหรอ ไม่เล่าเว้ย"
"กูถามไอ้อั๋นก้ได้ เรื่องมึงสองคนนั่นแหละ"
อั๋นคลี่ยิ้มออกมาทันที
"ถามมาดิ อยากรู้ไร"
"เชี่ยอั๋น" ผมโบกหัวไอ้คนข้างๆไปที ไม่ช่วยกันเลยนะ มันยังหันมาแลบลิ้นใส่ผมอีกแน่ะ
"กูถามจริงๆนะ...มึงสองคนจีบกันจริงๆหรอวะ" ไอ้นนท์เข้าเรื่องทันทีไม่มีอ้อมค้อม
เราทั้งคู่เงียบไปประเดี๋ยวก่อนอั๋นจะตอบช้าๆ
"เออ กูจีบหมออยู่"
ผมแทบสำลัก อั๋นนี่มันไม่คิดจะปิดบังไว้สักเรื่องเลยหรือไง ตอบตรงได้อีก
"เชี่ยยยย นั่นไง กูว่าแล้ว" ไอ้นนท์ตะโกนเสียงลั่น ทำเอาลูกค้าโต๊ะอื่นๆหันมามอง
"ถึงป่านนี้มึงยังจะถามอีกอ่อวะ" ต้าร์เสริมยิ้มๆ
"กูต้องการความชัดเจนจากปากพวกมันสองคนโว้ย กูอยากรู้ว่าพวกมันไม่ได้เล่นๆกัน...มึงแม่งคนจริงว่ะอั๋น" พูดแล้วก้คว้ามืออั๋นมาจับแล้วเขย่าแรงๆ
"เดี๋ยวนะ..." ผมขัดขึ้น
"มึงไม่ต้องไอ้หมอ ไอ้อั๋นมันยอมรับแล้ว" ไอ้ต้าร์ตัดบทผม
"เออ คำถามต่อมา"
"มีอีกอ่อวะ" ผมร้อง
"มึงได้กันยัง"
"เหี้ย" อั๋นกับผมพูดพร้อมกัน
"ได้กันแล้ว?"
"ยังโว้ย มึงนี่ก้คิดแต่เรื่องนี้นะสัส" อั๋นพูด
"เออ มึงแม่ง"
"แล้วเมื่อไรจะได้กันอะ"
"ก้เร็วๆนี้แหละ" อั๋นตอบ คว้ามือผมขึ้นมาจับ
"สัส เมื่อกี้มึงพึ่งว่าไอ้นนท์ไป ไอ้ลามกเอ๊ย" ผมหันไปโบกหัวอั๋นบ้าง ต้าร์กับนนท์หัวเราะใหญ่
"กูขออีกคำถาม เอาจริงๆละ..."
ไอ้นนท์เว้นจังหวะ ทำท่าทีเป็นการเป็นงานขึ้นมา
"มึงคบกันแล้วใช่มั้ย"
ผมตั้งใจจะชิงพูดก่อนไอ้คนข้างๆ อ้าปากจะตอบปฏิเสธแต่ก้ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมา
"ยัง" อั๋นตอบจนได้ "กูจีบหมออยู่...อยากรู้มากกว่าพวกมึงอีก"
"อยากรู้ไรวะ" ต้าร์ถาม
"อยากรู้ว่า กูจีบตึดรึยัง" อั๋นจ้องตาผมตรงๆ ไอ้นนท์กับไอ้ต้าร์อ้าปากค้าง
ผมหน้าแดงก่ำขึ้นมา

-จบตอน-

โอยย อั๋นชัดเจนขนาดนี้แล้ว หมอมัวชักช้าอะไรอยู่นะ นักเขียนชอบนนท์ตอนนี้มาก ซักเก่งยิ่งกว่าผงซักฟอกอีก อีกอย่างหนึ่ง อาร์ตนี่ก้มาแบบน่ารักๆ เรียบร้อยเลยนะ
ติดตามตอนต่อไปด้วยนะ อ่านแล้วcommentกันเยอะๆน้า^^
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่23 (updated 13/6/2559 15.00)
เริ่มหัวข้อโดย: fightreblue ที่ 14-06-2016 00:12:04
ตัดฉับกันเลยทีเดียว อยากรู้จัง หมอจะตอบว่าไง
รอติดตามตอนต่อไปอยู่นะครับ ไรเตอร์สู้ๆ  :hao6:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที24
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 16-06-2016 20:20:51
ตอนที่24

"มะ หมายความว่าไงวะ" ผมตะกุกตะกัก
"ก้หมายความตามนั้น" อั๋นเว้นจังหวะถาม ผมกลั้นหายใจ "ตอนนี้ถือว่ากูจีบมึงติดรึยัง"
ไอ้ต้าร์กับไอ้นนท์นั่งเงียบ จ้องพวกเราตาโต
"คะ..."
"อะไรนะ" อั๋นยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมขึ้นอีก
"คิด...คิดตังด้วยครับพี่" ผมร้องออกมา
ไอ้สองคนฝั่งตรงข้ามโต๊ะโวยวายเสียงดังขึ้นมาทันที ส่วนไอ้อั๋นที่ทำผมเขินจนแทบจะมุดหนีลงใต้ดิน ส่งเสียงหัวเราะชอบใจ
"อะไรของมึงเนี่ยเชี่ยหมอ" ไอ้นนท์ตะโกน
"เออ มาเรียกคิดเงินไรตอนนี้ พวกกูลุ้นเยี่ยวเหนียวเห็นมั้ยเนี่ย" ไอ้ต้าร์ต่อยต้นแขนผมเบาๆ
"กลับบ้านโว้ย ดึกแล้วเดี๋ยวพ่อแม่เป็นห่วง" ผมเฉไฉ กระโดดลุกขึ้นยืน
อั๋นยิ้มกว้าง ท่าทางขบขัน นั่นเป็นประโยคเดียวที่ผมนึกออกเพื่อให้หลุดจากเหตุการณ์ตรงนี้ไปได้ จะให้ผมตอบว่าจีบติดแล้วได้อย่างไรล่ะครับ
"ทั้งหมด200บาทครับ" ลูกชายอาม่าที่ได้ยินผมเรียกเดินมาเก็บเงิน

"ไปอั๋น กลับกัน" ผมฉุดแขนอั๋นให้ลุกขึ้นบ้าง เตรียมจะชิ่ง
"สัสหมอ มึงจะไปไหน มาตอบพวกกูให้รู้เรื่องก่อน" ไอ้นนท์พูด แต่ผมลากอั๋นเดินออกมาจากร้านแล้ว
"เห้ย จะไปไหน" ไอ้ต้าร์ร้อง วิ่งตามออกมา ไอ้นนท์ก้ด้วย
"กูกลับก่อนนะพวกมึง เจอกันพรุ่งนี้ จุ๊บๆ" ผมรีบพูด
"ไม่ให้กลับเว้ย" ไอ้ต้าร์วิ่งมาขวางหน้ารถมอเตอร์ไซด์ไว้
"เห้ย ถอยไป กูจะกลับบ้าน" ผมร้อง ขยับตัวไปหลบหลังอั๋น
"อะไรเนี่ย" อั๋นหัวเราะ
"ไม่ต้องหนีเลยสาดด" ไอ้นนท์ตามมาถึงพวกเรา
"ใจเย็นพวกมึง" อั๋นยังคงหัวเราะอยู่ ไอ้สองคนดูจะเค้นเอาคำตอบจากผมให้ได้
"ไหนมึงบอกอยากรู้มากกว่าพวกกูไง จับไอ้หมอไว้ดิ"
"เชี่ยนนท์...อย่าไปฟังมันเว้ยอั๋น" ผมดึงแขนเสื้อไอ้คนกำบังไว้
"เออ หมอมึงตอบมาเร็ว" ไอ้ต้าร์เสริม เรื่องแบบนี้พวกมึงนี่เข้าขากันดีจริงนะ
"เอาน่า เดี๋ยวคืนนี้กูจะเอาคำตอบจากไอ้หมอให้ได้" อั๋นพูดพร้อมหันมามองผมด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
"สัส"
"อ้อ...ดีๆ ได้คำตอบแล้วมาบอกพวกกูด้วยนะ" ไอ้นนท์มีท่าทีร่าเริงขึ้นมาทันที น่าถีบชะมัด
"ไอ้หมอมันต้องให้ไอ้อั๋นจัดการ" ไอ้ต้าร์พูดยิ้มๆ
"เออ อย่าเอาคำตอบอย่างเดียวนะเว้ยอั๋น เอาหมอด้วย" ไอ้นนท์ร้องซี๊ดซ๊าด
"เหี้ย"
"เออ กูจะเอาทั้งสองอย่างเลย" อั๋นตอบ
ต้าร์กับนนท์ส่งเสียงโห่ฮา ผมต่อยแขนไอ้คนกำบังจอมหื่นไปทีหนึ่ง สองคนนั้นโบกมือลาและเดินจากไปอีกทาง
"เจอกันมึง" อั๋นตะโกนตามหลัง
"ไม่ต้องเจอกันโว้ย" ผมตะโกนบ้าง

"กลับบ้านกัน"
"เดี๋ยวดิ" อั๋นคว้าแขนผม พักหลังๆมานี่ชักจะถือวิสาสะเป็นประจำ- -
"ไรมึง"
"จะรีบไปไหน อยู่กันสองคนแล้วไม่ต้องเขินน่า ตอบมาเถอะ" อั๋นยิ้มกว้าง
"ตอบเรื่องไร ไม่เห็นจะรู้เลย" ผมหันหน้าไปทางอื่น
"มึงนี่ปากแข็งจังนะ" มันดันตัวผมชิดรถมอเตอร์ไซด์ก่อนจะขยับเข้ามาประชิด
"ทำไรเห้ย"
"ต้องทำไงปากมึงถึงจะหายแข็งน้า"
"ถอยไปเลยนะ" ผมยืดแขนข้างที่ไม่ได้ถูกมือจับดันอกอั๋นไว้ ระยะห่างแค่นี้อันตรายครับ
"สงสัยต้องจูบซะหน่อย"
"ยะ อย่านะเว้ย"
"น่า ขอจูบหน่อย"
"เชี่ย ไม่เอา นี่ไม่ใช่ที่บ้านนะเว้ย" ผมร้อง
อั๋นชะงัก ก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา
"แสดงว่าทำที่บ้านได้ดิ งั้นรีบกลับบ้านกัน"
"ไอ้บ้าเอ๊ย" อั๋นปล่อยผม หยิบหมวกกันน็อคขึ้นสวมและส่งหมวกอีกใบให้
"ที่ถามเมื่อกี้อะ มึงยังไม่ต้องตอบกูก้ได้..."
ผมขึ้นนั่งซ้อนมอเตอร์ไซด์
"แต่ห้ามไปตอบตกลงเป็นแฟนคนอื่นนะ"
อั๋นหันมายิ้มหวานก่อนจะเริ่มขับรถกลับบ้าน
ให้ตายสิ...

"น้องครับ ได้ยินเสียงสีเขียวที่อยู่ข้างๆเรามั้ย ได้ยินมั้ยครับ"
พี่น้ำ ผู้คุมการซ้อมเชียร์ของสีฟ้ากำลังตะคอกน้องๆบนสแตนเชียร์ระหว่างการซ้อมในบ่ายวันจันทร์ ผมเห็นสีหน้าเบื่อหน่ายและเหน็ดเหนื่อยเต็มทีมองกลับมายังพวกเรา
"อีกรอบ พี่ขอดังกว่านี้...มาร์ชโรงเรียน 3 4"
"ผมว่าจบรอบนี้แล้วให้พักหน่อยเหอะพี่ ดูดิ หลายคนไม่ไหวแล้ว" ผมกระซิบบอกพี่เมฆที่ยืนอยู่ข้างๆผม
"เออ เดี๋ยวกูไปบอกไอ้น้ำแปบ"
แล้วพี่เมฆก้เดินไปพูดกับพี่น้ำ พี่น้ำตะคอกกลับมาทันที
"ไม่ได้ ร้องกันแค่นี้กูให้พักไม่ได้ กูจะให้ร้องจนกว่าเสียงมันจะดังกว่าสีเขียวนู่น"
"เห้ย มึงใจร้ายไปป่าววะน้ำ"
"นี่กูใจดีที่สุดแล้วนะ"
สถานการณ์เริ่มไม่ค่อยดี พี่ฝ่ายเชียร์คนอื่นๆได้แต่ยืนดูพี่น้ำกับพี่เมฆเถียงกัน ไม่เข้ามาทำอะไร น้องๆบนสแตนก้ยังคงร้องเพลงมาร์ชโรงเรียนอยู่อย่างนั้น ผมต้องเข้าไปช่วยพูดแล้ว
"พี่น้ำ ขอโทษนะพี่ ผมว่าให้น้องพักก่อนเถอะครับ"
"ไม่ต้องมายุ่งไอ้หมอ มึงไม่มีสิทธิมาตัดสินใจ"
"เห้ย พูดกะน้องดีๆดิวะ น้องมันอุตส่าห์มาช่วยเรานะเว้ย" พี่เมฆชักจะเดือดขึ้นมาบ้าง
"กูไม่สน กูเป็นคนจัดการสแตน กูสั่งอะไรทุกคนต้องทำ"
"เพราะพี่ทำงี้ไง น้องมันถึงไม่ฟัง"
ผมโพล่งออกไป น้องๆหยุดร้องเพลง ทุกคนหันมาจ้องผมเป็นตาเดียว
"มึงว่าไงนะไอ้หมอ" พี่น้ำตาถลน
"พี่ไม่ควรทำยังงี้ครับ พี่ต้องให้น้องพักบ้าง" ผมพูดต่อไปอย่างไม่เกรงกลัว
"เห้ย"
"ใจเย็นพวกมึง" พี่เมฆรีบเอาตัวมาขวางระหว่างผมกับพี่น้ำ พี่คนอื่นๆก้เข้ามาดึงตัวพี่น้ำไว้
"มึงคิดว่ามึงเป็นใครวะ มาสอนกู"
"ก้พี่ทำไม่ถูกไง" ผมตะคอกกลับ
"ไอ้เด็กเวร"
"มึงเอาน้องออกไปก่อนดิ๊" พี่คนหนึ่งพูดกับพี่เมฆ ฝ่ายหลังพยักหน้าแล้วรีบดึงแขนผมออกมาจากสแตนเชียร์ พี่น้ำยังตะโกนด่าผมตามมาไม่หยุด

"หมอ ใจเย็นๆเว้ย" พี่เมฆพาผมมานั่งที่ม้าหินหน้าอาคารที่อยู่ถัดจากสนามกีฬา
"จะใจเย็นได้ไงวะพี่ ดูพี่น้ำแม่งทำดิ"
"ไอ้น้ำมันก้เป็นคนแบบนี้แหละ มึงมาดูซ้อมหลายครั้งก้เห็นแล้วไม่ใช่เหรอ"
"แต่วันนี้มันเกินไป ไม่ไหวจริงๆพี่"
"กูรู้ แต่ทำไงได้ล่ะ"
พี่ก้องสินะที่เป็นคนแต่งตั้งพี่น้ำ เค้าใช้อะไรคิดถึงให้คนแบบนี้มาคุมการซ้อมนะ
"แล้วจะเอาไงต่ออะ"
"หมายถึงเรื่องอะไรวะหมอ"
"ก้น้องอะ แม่งไม่อยากซ้อมกันแล้ว"
"เอาน่า ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวน้องๆมันก้ตั้งใจกันเองแหละ ไม่ใช่ว่าพวกนั้นทำไม่ได้นะ มันแค่เหนื่อย อยากกลับบ้าน"
"..."
"เชื่อกูดิ กูทำกีฬาสีมา3ปีแล้วนะ เป็นงี้ทุกปี"
"แล้วพี่น้ำอะ"
"ปล่อยแม่งไป เดี๋ยวมันก้หายบ้าเองแหละ"
"ถ้าปีหน้าผมทำนะ ผมจะไม่ทำแบบพี่น้ำเด็ดขาด" ผมพูดกับพี่เมฆเหมือนเป็นการสัญญากับตัวเอง "ผมจะไม่บังคับให้น้องต้องเหนื่อยขนาดนี้"
"มึงคิดดีแล้วเว้ย แต่มันก้ต้องมีบังคับกันบ้าง น้องที่มาตรงนี้ก้ไม่ใช่ว่าเต็มใจมาทุกคนนะมึง" พี่เมฆสอน ตบบ่าผมเบาๆ
ผมนิ่งเงียบ
"เอ้า ใจเย็นลงแล้วใช่ปะ กลับสแตนกัน"
"ครับ"
กลับไปถึงสแตนเชียร์ก้เป็นช่วงพักซ้อม น้องๆกำลังดื่มน้ำและกินขนมกันอยู่ พี่น้ำหันมาจ้องผมตาเขียว ผมไม่สนใจ
"น้องหมอ เมื่อกี้มีอะไรกันเหรอครับ"
โอย ผมกำลังหัวเสียอยู่ ไอ้พี่ก้องก้มาได้ถูกเวลาจริงๆ ผมล่ะเกลียดท่าทีแสร้งเป็นคนดีของพี่เค้าชะมัด
"ป่าวครับ ไม่มีอะไร" ผมตอบเสียงขุ่น
"ใจเย็นๆนะ ไอ้น้ำมันเป็นคนผิด เดี๋ยวพี่จัดการให้" พูดแล้วก้เอามือมาแตะไหล่ผม ผมขยับออกห่าง
พี่ก้องหุบยิ้ม มองผมด้วยสายตาไม่พอใจก่อนจะเดินหันกลับไปหาพี่ฝ่ายเชียร์คนอื่น

เมื่อถึงเวลาสี่โมงครึ่ง พี่น้ำปล่อยน้องๆกลับบ้าน ผมช่วยฝ่ายเชียร์เก็บอุปกรณ์ซ้อมใส่ถุงดำเสร็จก้ขอตัวออกมาหาอั๋นที่สนามบาสฯ
"เมียมึงมาแล้วไอ้อั๋น" ไอ้ต้าร์พูดขึ้นเมื่อผมเดินผ่านประตูด้านหน้าของโรงยิมมาได้นิดเดียว อั๋นหันหน้ามา ยิ้มกว้าง
"เมียจ๋า"
ผมแทบสะดุด อั๋นเรียกผมโดยไม่พะวงที่จะลดเสียงลงสักนิด นักเรียนคนอื่นในสนามบาสฯหันมามองยิ้มๆ
"เมียพ่อง" ผมเดินมาถึงตัวมันแล้วโบกหัวไปทีหนึ่ง
"ซ้อมเสร็จแล้วใช่ปะ"
"เออ กลับกัน"
"เหนื่อยเหี้ยๆเลยวันนี้" ต้าร์เสริม บิดตัวไปมา
เราสามคนเดินออกมาจากโรงยิม ผมเล่าเรื่องพี่น้ำให้อีกสองคนฟัง ต้าร์ตกใจมากที่ผมพูดกับพี่เค้าอย่างนั้น
"เชี่ยหมอ มึงโหดจังวะ ไม่มีใครอยากมีเรื่องกับพี่น้ำหรอก แม่ง
อย่างกับหมาบ้า"
"ขนาดนั้นเลยอ่อวะ" อั๋นถาม
"เออดิ โคตรบ้าอำนาจ ตั้งแต่กูมัธยมต้นละ ไม่มีใครสักคนกล้าพูดกับเค้าตรงๆ แต่ไอ้หมอ มึง..."
"ไอ้สัส กูโมโหมันนี่หว่า"
"หมอ อย่าไปมีเรื่องอีกนะเว้ย" อั๋นพูดเสียงเครียด
"เออ"
"ถ้ามันทำอะไรมึงขึ้นมา แล้วกูไปช่วยไม่ทัน มึงจะทำยังไง"
"..."
"กูเป็นห่วงมึงรู้มั้ย" อั๋นจับมือผม
"อือ"
อั๋นสบตากับผมอยู่เดี๋ยวหนึ่ง ก่อนเราจะรู้สึกตัวว่าต้าร์อยู่ด้วย สายตามันจ้องอยู่ที่มือที่กุมกันของเราสองคน
"แหม พวกมึงนี่หวานกันจริงๆเลยนะ" ต้าร์ยิ้มล้อ "งั้นกูไปละ เจอกันพรุ่งนี้เว้ย"
"เออๆ"
"โชคดีมึง"
ต้าร์เดินแยกไปทางประตูหน้าของโรงเรียน ไปหาเมย์ มันเล่าให้ฟังเมื่อเช้านี้ว่าคืนดีกันแล้ว ในขณะที่ผมกับอั๋นเดินต่อไปทางลานจอดรถ
"พรุ่งนี้ยังไม่รู้เลยว่าจะได้ลงหรือเปล่า" อั๋นพูดอย่างเบื่อๆ
"เหรอ ชื่อนักกีฬาที่สีส่งไปต้องเหมือนกันทุกแมตช์เลยมั้ยวะ"
"ไม่ๆ ส่งใหม่ทุกครั้ง"
ถ้าอย่างนั้นก้หมายความว่าอั๋นมีโอกาสที่จะได้ลงแข่งเพิ่มมากขึ้น
"กูคิดเหมือนที่ไอ้ต้าร์บอกนะ ถ้าแมตช์แรกพี่เค้าเห็นว่าบางคนเล่นไม่ได้จริงๆ ก้ต้องเปลี่ยนตัวให้มึงมาเล่นแหละ ใครจะยอมให้สีแพ้วะ" ผมพูดตามที่คิดจริงๆ ตบหลังอั๋น
"ถ้าเป็นยังงั้นก้ดีดิ" อั๋นยิ้มบางๆ ยกแขนขึ้นโอบไหล่ผม
"แล้วพรุ่งนี้แข่งกับสีไร"
"เขียว"
"มีตัวเด็ดๆปะวะ"
"มีอยู่นะ ที่รุ่นพี่ไปสืบมา สีเขียวมีตัวนักกีฬาโรงเรียนอยู่คนหนึ่ง สีเหลืองดูท่าจะชนะได้ง่ายที่สุด ที่น่ากลัวก้คือสีแดง"
"อ่อ" ผมพยักหน้ารับ นึกถึงอาร์ตขึ้นมา ไม่รู้เลยว่ารายนั้นฝีมือเป็นอย่างไร ผมจินตนาการเอาเองว่าอาร์ตน่าจะเล่นเก่งเมื่อคำนึงถึงรูปร่างนักกีฬาของมันแล้ว
นอกจากนี้ อั๋นอธิบายเพิ่มเติมว่าการแข่งขันรอบคัดเลือกเป็นแบบทุกทีมพบกันหมด ไม่ใช่แบบทัวร์นาเม้นท์อย่างที่ผมเข้าใจ เนื่องจากมี4สี ดังนั้นแต่ละทีมจะต้องแข่ง 3 ครั้ง รวมจำนวน แมตช์ทั้งหมดในรอบคัดเลือกได้ 6 แมตช์
"พรุ่งนี้มึงว่างมั้ย"
"ว่าง"
"มาดูกูหน่อยดิ เผื่อได้ลง"
"เออ"
"ต้องยังงี้สิ" อั๋นเอื้อมมือมาบีบจมูกผม
"โอ๊ย เจ็บ"

บ่ายสองโมงวันต่อมา นักกีฬาบาสฯที่ได้รับเลือกเป็นตัวจริงทุกคนลงแข่งขัน จริงอย่างที่ต้าร์ทำนายไว้ แค่ครึ่งแรกพี่ริว นักกีฬาคนหนึ่งของสีฟ้าก้แสดงให้เห็นว่าตัวเองเป็นจุดอ่อนของทีม ตอนนี้สีเขียวมีคะแนนนำห่างสีฟ้าอยู่ค่อนข้างมาก รุ่นพี่สีฟ้าดูหัวเสียและสิ้นหวัง
"ต้าร์ กินน้ำก่อนมึง" ผมเห็นอั๋นส่งขวดน้ำให้และเดินอ้อมไปนวดไหล่ให้ต้าร์
"เชี่ยเอ๊ย กูบอกแล้วว่าอย่าเอาพี่ริวลง เป็นไงล่ะ สีเราจะแพ้ก้คราวนี้" นนท์ที่นั่งอยู่ข้างสนามฯกับผมบ่นอุบ
"มึงดูหน้าพวกรุ่นพี่ดิ เจื่อนเลย" ผมชี้มือไปทางกลุ่มรุ่นพี่ฝ่ายกีฬาของสีเรา
"มันเปลี่ยนเอาไอ้อั๋นลงครึ่งหลังได้มั้ยวะหมอ"
"ไม่ได้ว่ะ ส่งชื่อครั้งหนึ่งต่อหนึ่งแมตช์ เปลี่ยนตัวไม่ได้ถ้านักกีฬาไม่บาดเจ็บหรือมีเหตุให้เล่นต่อไม่ได้ ต้องรอแมตช์พรุ่งนี้เลย กูถามไอ้อั๋นมา"
"โธ่เอ๊ย"
"งั้นก้แพ้แล้วแหละมึง" ไอ้เอกบอก
"แพ้แน่ๆ ตามไม่ทันหรอกแบบนี้" ไอ้นนท์ส่ายหัว
"ไม่ใช่พี่ริวคนเดียวนะเว้ย พี่แน็คก้เล่นแย่ หลุดตั้งหลายลูกมึงเห็นปะ"
"อย่าพึ่งดิ รอดูให้จบก่อน" ผมบอก ยังคงหวังในแง่ดีอยู่

ครึ่งหลัง ต้าร์กับรุ่นพี่อีกคนที่ผมไม่รู้จักทุ่มกำลังเล่นเต็มที่ยิ่งกว่าครึ่งแรก ทำให้คะแนนของสีฟ้าขึ้นมาบ้าง ผมพึ่งเห็นต้าร์เหนื่อยขนาดนี้เป็นครั้งแรก มันวิ่งไปทั่วสนาม ทำหน้าที่ทั้งบุกทั้งรับเพื่อชดเชยนักกีฬาคนอื่นในทีมที่เล่นไม่สมบูรณ์ ระหว่างที่วิ่งก้หอบหายใจหนักๆไปด้วย
เมื่อกรรมการเป่านกหวีดให้สัญญาณสิ้นสุดการแข่งขัน แน่นอนว่าสีฟ้าไม่สามารถไล่ตามคะแนนสีเขียวได้ทัน แต่ผลออกมาไม่แย่นัก เพราะแพ้ห่างแค่4คะแนนเท่านั้น
ไอ้ต้าร์เดินออกจากสนามและทรุดลงนั่งกับพื้นทันที ผม เอก นนท์รีบวิ่งเข้าไปหามัน
"เชี่ย มึงเก่งมากต้าร์ แพ้ไปนิดเดียวเอง"
"สุดๆเลยมึง"
"เจ๋งสัส"
ต้าร์ยิ้มกว้างแม้เหนื่อยจนแทบนั่งไม่ไหว นนท์ขยี้ผมมันจนฟู
"อะ น้ำ" อั๋นเดินตามมาพร้อมขวดน้ำเปล่าอีกขวดก่อนจะโยนส่งให้ต้าร์
"ถ้าไอ้อั๋นได้ลงนะ มึงก้ไม่ต้องเหนื่อยขนาดนี้"
"เออ ไม่งั้นเราชนะไปแล้ว"
นนท์กับเอกพูด เราทุกคนหันไปมองพี่สีฝ่ายกีฬา ทุกคนมีสีหน้าบึ้งตึง คิ้วขมวด กำลังคุยกันอย่างเคร่งเครียด
"วันนี้มึงอยากแดกไร มา เดี๋ยวกูเลี้ยง" เอกถามต้าร์
"เหยด จริงหรอวะ มึงจะเลี้ยงพวกกูอ่อ" นนท์สอด
"ไม่ใช่มึง เลี้ยงไอ้ต้าร์คนเดียวเว้ย"
"โออิชิ แกรนด์" ต้าร์ตอบ
"พ่อง ตังไม่พอ กูช็อตโว้ย" เอกปฏิเสธ พวกเราที่เหลือหัวเราะเสียงดัง
"ล้อเล่น อะไรก้ได้ กูแดกได้หมดอะ"
"เย็นนี้อยู่กับเพื่อนวันนึง น้องเมย์คงไม่ว่าอะไรพี่ต้าร์ใช่มั้ยคะ" นนท์ทำเสียงเล็กแหลมเหมือนผู้หญิง
"กูจะไม่ไปก้เพราะมึงทำเสียงนี้ ไอ้สัส" ต้าร์ตบหัวนนท์ไปที
"อั๋น พี่ขอคุยด้วยหน่อยดิ" พี่สีที่เป็นคนประกาศชื่อนักกีฬาในวันคัดตัวเดินเข้ามาหาพวกเรา
"ได้ครับ" อั๋นหันมาสบตากับผมก่อนจะเดินตามพี่เค้าไป

แม้วันนี้สีฟ้าจะแพ้บาสฯไปอย่างน่าเสียดาย อย่างน้อยที่สุดก้มีเรื่องดีเรื่องหนึ่งเกิดขึ้น อั๋นเดินกลับมาหลังจากรุ่นพี่เรียกตัวไป แจ้งข่าวว่ารุ่นพี่มาขอให้มันลงแข่งแทนตำแหน่งพี่ริวในแมตช์คัดเลือกที่เหลืออีก2นัด ซึ่งเป็นวันพรุ่งนี้และวันมะรืน พี่สีทุกคนขอโทษและขอร้องให้มันมาแข่ง มันตอบตกลงไปทันที ท่าทางอั๋นมีความสุขมาก

เมื่ออั๋นกับต้าร์อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อย พวกเราห้าคนมุ่งหน้าไปยังร้านหมูกระทะที่อยู่ถัดจากโรงเรียนไปอีกหนึ่งป้ายรถประจำทาง ตกลงกันว่าเราสี่คนจะหารกัน ให้ต้าร์กินฟรี
เราคุยกันถึงการแข่งขันในวันนี้และคาดว่าพรุ่งนี้สีฟ้าจะต้องชนะสีเหลืองแน่นอน
สองทุ่มกว่า ไอ้ต้าร์ ไอ้นนท์ ไอ้เอกเดินย้อนกลับไปขึ้นรถไฟฟ้าด้วยกัน ส่วนผมกับอั๋นกลับมอเตอร์ไซด์คู่ใจคันเดิม

"ถ้าพรุ่งนี้กูชนะ มึงต้องให้รางวัลกูด้วยนะหมอ"
"รางวัลไรวะ"
"อะไรก้ได้ แล้วแต่มึงจะให้"
"แล้วทำไมกูต้องให้มึงด้วย"
"โห่ ทีไอ้ต้าร์แข่งเสร็จเรายังพามันไปเลี้ยงหมูกระทะเลย
แล้วกูอะ" อั๋นกระเง้ากระงอด
"ไม่ให้" ผมแกล้งทำเสียงเหี้ยม ขี้อ้อนจริงนะไอ้อั๋น
"เออ คนเรา ไม่มีน้ำใจว่ะ" อั๋นยกแขนขึ้นกอดอก หันหน้าไปอีกทาง
"อะๆ ให้ก้ได้" ผมขำกับท่าทางของมัน "แต่รอให้ชนะรอบชิงนะ"
"ได้ ถ้างั้น..." อั๋นเม้มปากพลางใช้ความคิด "มึงต้องให้ของที่กูขอนะ"
"เออ ได้" เห็นแววตาแสดงความมั่นใจเต็มร้อยของไอ้อั๋นแล้วชักกังวลขึ้นมาว่ามันจะขออะไรนะ
"พูดละนะ กูขออะไรมึงต้องให้นะเว้ย"
"เดี๋ยว มึงจะไม่ขออะไรพิเรนทร์ๆใช่มั้ย- -" ผมรู้สึกว่าจะโดนเอาเปรียบซะแล้วครับ
"ไม่รู้ มึงพูดแล้วไอ้หมอ" อั๋นยิ้มเจ้าเล่ห์
"สัส" พลาดแล้วผม ไม่น่าเลย
อั๋นหัวเราะก่อนจะหยิกแก้มผม
"ผัวกลับบ้านก่อนนะเมีย เดี๋ยวไลน์คุยกันนะจ๊ะ"

การแข่งขันรอบคัดเลือกแบบพบกันหมดจะเลือกสีที่มีคะแนนรวมสูงสุด 2 ทีมมาแข่งกันอีกครั้งในรอบชิง สีฟ้าจึงยังไม่หมดหวังเสียทีเดียว หากชนะสีเหลืองและสีแดงก้ยังมีลุ้นคะแนนรวมได้อยู่

เย็นวันพุธ ผลการแข่งขันเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ สีฟ้าชนะสีเหลืองแบบขาดลอย ผมดีใจที่เห็นอั๋นได้ลงแข่ง อั๋นกับต้าร์เล่นเข้าขากันดีมาก และเป็นสองคนหลักที่ทำคะแนนให้กับสีมากที่สุดด้วย ผมกับเพื่อนๆส่งเสียงเชียร์ลั่นสนามฯ

แมตช์สุดท้ายของรอบคัดเลือกในวันถัดมา ผมต้องแวะไปประชุมกับฝ่ายเชียร์ก่อนเวลาแข่งเดี๋ยวหนึ่ง เมื่อประชุมเสร็จ ผมกระหืดกระหอบวิ่งมาที่โรงยิมเร็วที่สุดเท่าที่จะวิ่งได้ มาถึงก้พบว่าเริ่มเกมไปแล้ว
"เป็นไงวะมึง" ผมนั่งลงข้างไอ้เอก หอบหายใจ
"เริ่มมาพักนึงละ ตามอยู่ตั้งแปดแต้มแน่ะ"
"เชี่ย" ผมอุทาน มองสกอร์บอร์ดแล้วรู้สึกใจคอไม่ดี ถ้าสีฟ้าแพ้ก้จะตกรอบ และสีแดงกับสีเขียวจะผ่านเข้ารอบไปชิงเหรียญทอง
ในสนามฯผมมองเห็นอั๋นชัดเจน ใบหน้าล้อมกรอบด้วยผมรองทรงต่ำสีดำสนิท ผิวขาวเนียน มัดกล้ามแข็งแกร่ง ทั้งตัวชุ่มไปด้วยเหงื่อ
อีกฝั่งหนึ่งของสนาม ผมเห็นนักกีฬาสีแดงคนหนึ่งโดดเด่นออกมาจากคนอื่นในทีม สูงโปร่ง ผิวแทน จมูกโด่งเป็นสันแม้จะมองจากที่ไกล อาร์ตนั่นเอง
ผมไขว้นิ้วไว้เพื่อสีฟ้า การแข่งครั้งนี้อั๋นจะต้องชนะ

-จบตอน-

หมอมันมีอุดมการณ์ฝ่ายเชียร์แรงกล้าจริงๆ
ผู้อ่านอยากรู้มั้ยครับว่าอั๋นจะขออะไรหมอเป็นรางวัล
และผลการแข่งขันจะเป็นยังไง
ต้องติดตามตอนหน้านะครับ (:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่24 (16/6/2559 20.20)
เริ่มหัวข้อโดย: fightreblue ที่ 17-06-2016 03:31:39
รอตอนต่อไป จะเป็นยังไงนะ หมอจะเสียตัวให้อั๋นหรือเปล่านะ 555555 :hao6:
เป็นกำลังใจไรเตอร์ครับ สู้สู้  o13
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่25
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 22-06-2016 20:25:39
ตอนที่25

นักกีฬาของสีแดงทุกคนแข็งแกร่งมาก นอกจากอาร์ตแล้วที่เหลือเป็นพี่มัธยม6และทั้งหมดเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลประจำโรงเรียนอยู่แล้ว

อั๋นกับต้าร์วิ่งหอบหายใจหนักยิ่งกว่าแมตช์ที่แข่งกับสีเขียว หลายครั้งที่อั๋นพยายามจะเข้าไปทำคะแนน โดยเลย์อัพบ้างหรือส่งต่อให้สมาชิกในทีมที่ไม่ถูกฝั่งตรงข้ามกำบังหรือคนที่มีโอกาสจะทำคะแนนแทนได้มากที่สุด แต่ก้สำเร็จเพียงไม่กี่ครั้ง

อาร์ตซึ่งเล่นตำแหน่งเดียวกับอั๋น ร่วมมือกับกัปตันทีมทำคะแนนให้สีได้เยอะมาก

ใกล้หมดเวลาครึ่งแรก ผมเห็นต้าร์กับอั๋นวิ่งสลับฟันปลาจากสนามฝั่งหนึ่งข้ามไปยังอีกฝั่งและรับส่งลูกกันอย่างว่องไว
นั่นทำให้ผู้ชมรอบๆส่งเสียงเชียร์อย่างตื่นเต้น
ในตอนนั้นเอง ฝั่งตรงข้ามมองกลยุทธ์นั้นออก นักกีฬาคนหนึ่งของสีแดงพุ่งตรงเข้ามาแย่งลูกบาสฯจากต้าร์และทะยานกลับไปอีกฝั่งเพื่อทำคะแนน
ต้าร์โดนกระแทกจึงเสียการทรงตัว ล้มลงไปทันที
"เห้ย" ผมกับไอ้นนท์ร้องขึ้นพร้อมกัน
อั๋นเปลี่ยนเส้นทางวิ่งตรงไปทางต้าร์แทน
สีแดงทำคะแนนได้ และกรรมการเป่านกหวีดให้สัญญาณว่าหมดเวลาการแข่งขันในครึ่งแรก

พวกผมไม่ได้ลุกจากที่นั่งไปดูอาการต้าร์ เนื่องจากนักกีฬาทั้งทีมและพี่ฝ่ายกีฬาห้อมล้อมตัวมันไว้จนมองเกือบไม่เห็น
"มันจะเป็นไรมากป่าววะมึง" นนท์ชะเง้อคอมองไปทางกลุ่มนั้น
"ไม่รู้ว่ะ จากตรงนี้มองไม่ชัดเลย" ผมตอบ
"มันจะเล่นต่อไหวมั้ยเนี่ย" เอกถามอีกคน พวกเราเป็นห่วงมันมากครับ
และอั๋นก้หันมาสบตากับผม มันผละจากบริเวณนั้นแล้วเดินมาหา
"ไอ้ต้าร์เป็นไงวะ"
"ไม่เป็นไรมาก หัวเข่าถลอกกับข้อเท้าบวมนิดหน่อย"
"แล้วมันเล่นต่อได้ปะ" นนท์ถามต่อ
"กูว่ามันน่าจะพัก แต่มันบอกรุ่นพี่ว่าเล่นไหว พี่เค้าก้รีบเออออ กลัวต้องเอาตัวสำรองลง ไม่ได้ห่วงร่างกายไอ้ต้าร์เลย" อั๋นพูดเสียงเครียด
"เชี่ย"
"กูว่าให้มันออกมาพักเหอะ" ผมบอก
"กูบอกมันแล้ว แต่มันยืนยันว่าจะเล่นต่อ"
"ทำไงดีวะ...เห้ยอั๋น เค้าเรียกมึงแล้ว" เอกชี้มือไปทางรุ่นพี่ที่ควักมือเรียกอั๋นให้กลับไปสำหรับครึ่งหลัง
"กูไปก่อนนะ เดี๋ยวกูช่วยดูไอ้ต้าร์ พวกมึงไม่ต้องห่วง"

ผมหันไปที่สกอร์บอร์ดอีกครั้งเมื่อการแข่งครึ่งหลังเริ่มขึ้น ตอนนี้สีแดงนำสีฟ้าอยู่ 6 คะแนน
"ยังได้อยู่นะเว้ย" ผมชี้นิ้วบอกนนท์กับเอก
"เออ ถ้าอึดๆหน่อยก้ไล่ทัน"
"แต่กูเป็นห่วงเชี่ยต้าร์ว่ะ"
พวกเราเฝ้าดูเกมอย่างใจคอไม่ดี ต้าร์วิ่งด้วยความเร็วที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด มีร้องซี้ดเบาๆสองครั้ง ผมคิดว่าเป็นเพราะเจ็บข้อเท้าแน่ๆ
อั๋นเองก้เล่นได้ไม่เต็มที่ เพราะคอยมองมาทางต้าร์บ่อยๆ สำรวจอาการของอีกฝ่ายอย่างเป็นห่วง

สีฟ้าทำเเต้มเพิ่มได้นิดหน่อยจากอั๋นและรุ่นพี่คนหนึ่ง ในขณะที่คะแนนสีแดงยิ่งทิ้งห่างออกไปอีก
"เชี่ยเอ๊ย ใกล้หมดเวลาแล้ว" เอกร้องอย่างร้อนรน
"สีเราจะแพ้ไม่ได้นะเว้ย" นนท์หันมาเขย่าแขนผม
ผมเองก้ลุ้น แต่ไม่ได้ตอบอะไร สายตาจดจ่ออยู่กับเหตุการณ์ในสนาม

ตอนนี้ทั้งอั๋นและต้าร์ทุ่มสุดตัว นักกีฬาคนอื่นๆของสีฟ้าเหนื่อยล้าจากการวิ่งเป็นเวลานาน แต่สีแดงยังวิ่งได้สบายๆอยู่และแทบไม่ปล่อยให้สีฟ้าทำคะแนนเพิ่มได้เลย

ในที่สุดเวลาก้หมดลง แมตช์นี้จบด้วยคะแนน 58 : 73 สีแดงเป็นฝ่ายชนะ ได้เข้ารอบชิงชนะเลิศกับสีเขียว ที่ชนะสีฟ้าและสีเหลืองมาเช่นเดียวกัน

นักกีฬาทั้งสองทีมจับมือกัน ผมเห็นอั๋นยิ้มให้ทีมฝั่งตรงข้ามอย่างจริงใจแม้จะเป็นฝ่ายแพ้ นักเรียนและอาจารย์ที่ดูการแข่งขันอยู่ตบมือเสียงดังก้องสนามฯ
อาร์ตและเพื่อนๆในทีมกอดกันเป็นวงกลม

พวกผมเดินลงไปหาอั๋นกับต้าร์ นนท์รีบเข้าไปประคองต้าร์เดินทันที
"เป็นไรมั้ยมึง"
"ไม่เป็นไร แค่นี้เล็กๆ" ต้าร์ยิ้มกว้าง
ทั้งอั๋นทั้งต้าร์เหงื่อชุ่มเต็มตัว อั๋นหอบหายใจระหว่างที่เดินไปด้วย
"มึงอะ โอเคใช่ปะ" ผมถาม
"โอเคดิครับ กูไม่ได้เป็นไรซะหน่อย" อั๋นยกยิ้มและเดินเข้ามาโอบไหล่ผม
"เป็นห่วงกันจังนะพวกมึง" ต้าร์แซว
"ขอบคุณที่เป็นห่วงนะ" อั๋นบีบจมูกผม
"ปล่อยเลยสัส ไม่ได้เป็นห่วงโว้ย"
"โอ้โห เป็นแฟนกันเลยเหอะมึง" นนท์เบะปาก
"อย่าล้อหมอดิ แฟนกูไม่ชอบให้แซวรู้ปะ" อั๋นพูดลอยหน้า
"นี่แน่ะ...มึงอะแหละ ตัวเริ่มเลย" ผมตบหัวไอ้อั๋นเกือบทิ่ม
"มันเจ็บนะ" พูดพร้อมทำหน้าแอ๊บแบ๊วใส่ ผมทำเป็นไม่สนใจ เรียกเสียงฮาครืนจากเพื่อนๆ
ผมนึกขึ้นมาได้ว่าเอกยังไม่รู้เรื่องที่อั๋นจีบผมจริงๆ ผมแอบลอบมองมัน หน้าตามันก้ดูปกติดี ไม่ติดใจสงสัยความสนิทสนมของผมกับอั๋นแต่อย่างใด มันคงชินกับสถานการณ์แบบนี้ไปแล้วสินะ
แต่ที่ทำให้ผมรำคาญใจอย่างประหลาดก้ไอ้เพื่อนตัวดีสองคนที่รู้เรื่องแล้วนั่นแหละครับ ต้าร์กับนนท์มองอย่างรู้ทัน ผมล่ะเกลียดสายตากับรอยยิ้มของพวกมันจริงๆ

เย็นนี้นนท์กับเอกไม่ว่าง พวกเราเลยตัดสินใจว่าจะเลี้ยงฉลองจบการแข่งขันให้อั๋นกับต้าร์วันหลัง เมื่อแยกย้ายกันแล้ว ผมเดินย้อนกลับไปที่ลานจอดรถกับอั๋น
"วันนี้มึงเล่นดีจริงๆ กูคารวะเลย ถ้าไม่มีมึงกับไอ้ต้าร์นะ กูว่าสีเราเละกว่านี้อีก"
"ไม่หรอก มีพี่อีกคนอยู่นะ" อั๋นกำลังถ่อมตัว
"นี่คือได้เหรียญทองแดงเลยใช่ปะ"
"เออ เพราะสีเหลืองไม่ชนะสีอื่นเลย สีเราชนะสีเหลืองครั้งหนึ่ง เท่ากับที่ 3"
เฮ้อ น่าเสียดาย ถ้าพี่สีให้อั๋นลงแข่งตั้งแต่แมตช์แรกที่สีฟ้าเจอกับสีเขียว ป่านนี้สีฟ้าคงเข้ารอบไปลุ้นเหรียญทองกับสีแดงแล้ว
"ปีหน้าลงใหม่นะมึง"
"เออ กูไม่พลาดแน่ๆ มึงก้อย่าลืมมาเชียร์ด้วยล่ะ"
"ไม่ต้องมาก้ได้มั้ง มึงเล่นเก่งอยู่แล้วอะ" ผมแกล้ง
"ใจร้าย"
เราเดินมาถึงที่จอดรถ
"ยังงี้กูก้อดได้รางวัลอะดิ"
อั๋นยิ้ม ผมตกใจเล็กน้อยเพราะว่ากำลังคิดถึงสิ่งที่อั๋นพูดไว้อยู่เหมือนกัน
"เออดิ อด"
"โห่ จะไม่ให้เลยอ่อ"
"ไม่ให้"
"รางวัลเล็กๆแบบรางวัลปลอบใจก้ได้"
"ไม่มีครับ"
"มึงแม่ง"
อั๋นทำหน้าอึนใส่
"คือ..."
ผมเริ่มต้นไม่ถูก เรื่องที่ผมจะบอกมัน ผมตั้งใจกับตัวเองไว้ตั้งแต่ตอนที่อั๋นขอรางวัลแล้ว ไม่ว่าผลการแข่งขันจะเป็นอย่างไรก้ตาม ผมก้จะให้สิ่งที่อั๋นขอ
"ว่าไงหมอ" มันกระตุ้นผม มองอย่างสงสัย
"อะๆ ไหนๆมึงก้อุตส่าห์ได้เหรียญทองแดง กูให้รางวัลก้ได้" ผมแสร้งทำท่าทางไม่ใส่ใจ
"เห้ย จริงดิ"
"เออ เดี๋ยวมึงหาว่ากูใจร้ายอีก"
"จริงนะ"
"เออ จะขอไรอะ"
"ก้..."
คราวนี้อั๋นเป็นฝ่ายตะกุกตะกักบ้างแล้ว
"รางวัลปลอบใจนะเว้ย ห้ามขอเงินด้วย กูช็อต"
"หมอ"
อั๋นยกฝ่ามือทั้งสองข้างขึ้นมาจับไหล่ผม ท่าทางจริงจังจนผมเสียวสันหลังวาบ
"กู..."
อย่าบอกนะ

"ขอเป็นแฟนได้ปะ"
"อะ...อะไรนะ"
"เป็นแฟนกันนะ"

ผมพึ่งเข้าใจคำว่าสตั๊น10วิก้วันนี้ ผมไม่ได้กำลังฝันอยู่ใช่มั้ย กินเวลานานทีเดียวกว่าผมจะพูดออกมาได้อีกครั้ง
"มะ มึง"
อั๋นไม่ยิ้ม ไม่มีท่าทีล้อเล่น แววตาอั๋นแสดงให้เห็นว่ามันกำลังรอคำตอบอย่างตื่นเต้น
"นี่รางวัลปลอบใจของมึงอ่อวะ"
"เออดิ...ว่าไง"

สาเหตุที่ผมไม่กล้าคิดถึงเรื่องแฟน เพราะผมยังไม่ได้บอกพ่อกับแม่ให้รู้ อั๋นก้เหมือนกัน คนในครอบครัวที่รู้ว่าอั๋นคิดยังไงกับผมก้มีแค่เจ๊เอ๋ ผมกังวลว่าพวกท่านจะยอมรับความสัมพันธ์แบบนี้ได้หรือไม่ จะรังเกียจเราหรือเปล่า

ไหนจะพวกเพื่อนๆอีกล่ะ ถ้าไม่นับไอ้ต้าร์กับไอ้นนท์ คนอื่นยังเข้าใจว่าพวกเราแค่เล่นๆกันเท่านั้นเอง แล้วพวกนั้นจะว่าอย่างไรเมื่อรู้ว่าเราสองคนรู้สึกอย่างไรต่อกันจริงๆ จะรับได้เหมือนต้าร์กับนนท์ไหม

ผมมองสบตาคมของอั๋น คำถามร้อยแปดเกี่ยวกับเรื่องแฟนที่ผุดขึ้นมาในหัวหลังจากวันที่อั๋นบอกชอบค่อยๆอันตรธานไป

ถ้าผมเลิกคิดเรื่องพวกนี้สักพัก
ถ้าผมทำตามสิ่งที่ตัวเองต้องการล่ะ

คำตอบนั้นง่ายนิดเดียว

ก้เอาดิ มึงจะปฏิเสธหัวใจตัวเองไปทำไมวะไอ้หมอ

ผมหน้าแดงเรื่อขึ้นไปจนถึงหู ก่อนจะพยักหน้าช้าๆ

อั๋นยืนนิ่ง มือยังวางอยู่บนไหล่ผม ปากอ้าน้อยๆ
"ปะ เป็นไรเนี่ย" ผมถาม
"หมายความว่า..."
"เออ ก้เป็นไง"
"หมอ พูดให้กูฟังชัดๆดิ เป็นไร"
"เอ้า จะเอาไรอีก ก้เป็นแฟนมึงไง" ผมสาบานเลยว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เคยโคตรของโคตรเขินขนาดนี้มาก่อน
"จะ จริงนะ"
"เออออ" มึงจะถามย้ำให้กูเขินอีกทำไมวะครับ
"มึงเป็นแฟนกูแล้วนะหมอ" แล้วอั๋นก้ดึงผมเข้ามากอดเต็มแรง
"โอ๊ย เจ็บ ปล่อยๆ..."
อั๋นปล่อยผม กระโดดโลดเต้นไปมาอยู่ตรงนั้น
"หมอเป็นแฟนกูแล้ววว"
"ตะโกนทำเชี่ยไรเนี่ย- -"
ผมตีแขนมัน โชคดีมากที่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ในลานจอดรถนอกจากเราสองคน อั๋นดีใจยิ่งกว่าครั้งไหนที่ผมเคยเห็น
"มึงไม่ได้ล้อเล่นใช่มั้ย"
"เออ เดี๋ยวกูก้เปลี่ยนใจหรอก"
"ไม่ทันแล้วเว้ย มึงตอบตกลงไปแล้ว"
"เป็นได้ก้เลิกได้ดิ"
"ไอ้สัส มึงพึ่งตกลงคบกับกูไม่ถึงนาที พูดเรื่องเลิกได้ไงห๊ะ"
อั๋นทำหน้ามุ่ย ผมหัวเราะ
"ล้อเล่นน่า โอ๋ๆ"
"ง้อก่อน"
"มึงพึ่งตกลงคบกับกูไม่ถึงนาที งอนกูแล้วอ่อ"
"เออ"
เราหัวเราะออกมาพร้อมกัน

"นี่ ต่อไปนี้เวลากูงอนอะ มึงต้องง้อด้วย เป็นแฟนกันเค้าต้องทำแบบนี้นะ"
"ง้อยังไง"
"จุ๊บแก้ม"
ผมพูดว่า 'พ่อง' โดยไม่ออกเสียง
"เออ...ไหนเมื่อกี้มึงบอกขอรางวัลเล็กๆไง ขอกูเป็นแฟนนี่คือรางวัลปลอบใจอ่อ"
"ใช่ดิ"
"งี้ถ้ามึงได้เหรียญทอง มึงไม่ขอกูแต่งงานเลยอ่อ"
"ไม่ใช่ กูจะขอปล้ำมึงต่างหาก" อั๋นทำหน้าหื่น
"สัส- -"
"ล้อเล่น555 กูกะว่ายังไงก้จะขอมึงเป็นแฟนหลังแข่งเสร็จอยู่  แล้วอะ...กูแพ้ แต่ไม่คิดว่ามึงจะใจดีนะเนี่ย"
ผมหน้าแดงที่อั๋นพูดออกมาตรงๆโดยไม่ตะขิดตะขวงสักนิด
"แล้วก้เลิกเขินได้แล้ว...กูจีบติดแล้วนะ ไม่ใช่พึ่งจีบ" ผมจะมุดหนีลงดินแล้วนะไอ้อั๋น "โอ๋ๆ ไม่แกล้งละๆ" อั๋นหัวเราะชอบใจ ไม่รู้ว่าหน้าผมตอนนี้กับมะเขือเทศอันไหนแดงกว่ากัน
อั๋นมองผมตลอด ยิ้มหวาน ท่าทางมีความสุขที่สุดในโลก
แต่ผมก้ไม่ปฏิเสธว่าผมเองก้มีความสุขที่สุดในโลกเหมือนกัน

ไอ้แฟนป้ายแดงขับมอเตอร์ไซด์มาส่งผมหน้าบ้านหลังจากนั้นไม่นาน มันยังยิ้มไม่หุบตั้งแต่ออกมาจากลานจอดรถ
"แฟนน"
"เรียกชื่อกูเหอะ ขนลุก"
"ไม่เอาอะ ก้เราเป็นแฟนกันแล้วนี่"
"ชู่วว" ผมเตือน กลัวพ่อกับแม่ที่นั่งอยู่ข้างในบ้านจะได้ยิน
"ก้ได้ๆ" อั๋นยิ้ม "งั้นเรียกที่รักนะ"
"สัส ไม่เอา เรียกหมอเหมือนเดิมนั่นแหละ"
"หรือจะให้เรียกเมียดี แล้วมึงก้เรียกกูว่าผัว ดีมะ"
"จวย"
อั๋นนี่กวนตีนผมได้ตลอดเวลาจริงๆ
"เรียกหมอก้ได้คร้าบบ"
"เออ กูเรียกมึงว่าหมานะ"
"เดี๋ยวนะ"
"น่ารักจะตาย หมอมีแฟนเป็นหมา"
- -
ผมหัวเราะ
"แสบนักนะมึงอะ เดี๋ยวจะโดน"
อั๋นเอื้อมมือมาจับมือผมแล้วยกขึ้นแนบแก้มตัวเอง
"เดี๋ยวคืนนี้โทรหานะ"
"เออ...กะ กลับได้แล้ว" ผมรีบพูดแก้เขิน

เมื่อคืนผมคุยโทรศัพท์กับอั๋นจนถึงตีหนึ่ง เช้าวันนี้ผมจึงเดินออกมาหาอั๋นอย่างง่วงงุน มันขับมอเตอร์ไซด์มาจอดรอหน้าบ้านเช่นเคย ท่าทางสดชื่น อารมณ์ดีสุดๆ
"โคตรคิดถึงมึงเลย"
"เดี๋ยวนะ มึงพึ่งวางสายจากกูไปหกชั่วโมง เว่อร์สัส"
อั๋นหัวเราะ
"กูซื้อนี่มาอะ เดี๋ยวกินด้วยกันนะ" อั๋นยกถุงใส่นมจืดยี่ห้อเมจิ 2 ขวดกับแซนด์วิชยี่ห้อโออิชิลงตรงหน้าผม เป็นไส้ปูอัดกับยำสาหร่าย ของโปรดของอั๋นที่กลายเป็นของโปรดของผมไปด้วย เราชอบกินเวลาเร่งรีบครับ

"มึงเอาไส้ไรอะ" อั๋นนั่งลงที่โต๊ะเรียนก่อนจะแกะห่อแซนด์วิชออก วันนี้พวกเรามาถึงโรงเรียนเร็วกว่าปกติ อีกนานกว่าจะถึงเวลาเข้าแถว เลยขึ้นมาที่ห้องเรียนก่อน นักเรียนห้องผมส่วนใหญ่มาเช้ากันเพื่อปั่นการบ้าน เวลาทองครับ
"มึงเลือกเลย กูไส้ไรก้ได้"
"กูรู้มึงชอบยำสาหร่าย อะ เอาไป เดี๋ยวกูกินปูอัดเอง"
อั๋นแยกแซนด์วิชออกเป็น2ชิ้น ผมเอื้อมมือจะหยิบชิ้นที่เป็นไส้ยำสาหร่ายจากอั๋น มันชักมือหนี
"เดี๋ยวกูป้อน"
เห้ย มึงเริ่มหวานตั้งแต่เช้าเลยหรอวะ ไอ้เอกที่กำลังคุยอยู่กับไอ้พี หัวหน้าห้อง ชี้มือมาทางพวกเรา
"กินดิ" มืออั๋นจ่อแซนด์วิชอยู่ที่ปากผมแล้ว
"เออ"
ผมอ้าปากและกัดไปคำหนึ่ง เริ่มรู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา
อั๋นยิ้มนิดๆ...ผมจะละลายแล้ว
"ขอบใจ มึงก้กินของมึงไปด้วยดิ" ผมบอก
"เออ ป้อนให้มั่งดิ"
"อะ อือ" เห้ย ผมไปตอบตกลงมันได้ไงน่ะ
ผมกำลังจะขยับ แต่อั๋นก้จับมือผมให้ป้อนแซนด์วิชเข้าปากมันเอง มันกัดเข้าไปเกือบหมดชิ้น
"ไอ้บ้า เดี๋ยวก้ติดคอหรอก"
อั๋นยิ้มกว้าง เคี้ยวแซนด์วิชแก้มตุ่ย หยิบนมขึ้นดื่มตาม
"เอาอีกๆ" อั๋นร้องแบบเด็กๆก่อนจะจับมือผมให้ป้อนอีกคำ
"มา กูป้อนมึงมั่ง"
กินเสร็จก้หันมาป้อนผมต่อ มืออีกข้างก้เอื้อมมาจับมือผมไว้
ผมจะเก๊กหน้านิ่งไม่ไหวแล้วนะ

คนอื่นๆในห้องเริ่มสังเกตเห็น นนท์กับต้าร์ที่กำลังลอกการบ้าน ไม่เงยหน้าขึ้นคุยหรือเล่นกับใครจนถึงตอนนี้ หันมามองเราสองคนพร้อมรอยยิ้มที่ผมทนมองไม่ได้
"อั๋น คนอื่นมองแล้วเนี่ย" ผมกระซิบบอก
"ไม่เห็นเป็นไรเลย" อั๋นตอบก่อนจะยื่นตัวเข้ามาเช็ดคราบนมที่มุมปากผม "ปากมึงเลอะอะ กินเป็นเด็กเลยนะไอ้หมอ"
ผมเห็นจากหางตาว่าเพื่อนทั้งห้องกำลังหยุดหายใจ
"ปะ ไปเข้าแถวกัน" ผมรีบลุกจากเก้าอี้ คว้าซองห่อแซนด์วิชที่กินหมดแล้วกับขวดนมเปล่าใส่ถุงก่อนจะเดินออกจากห้องเรียนอย่างรวดเร็ว
"เห้ย รอด้วยดิหมอ"
น้ำเสียงไอ้แฟนตัวดีร่าเริงเสียจนน่าถีบชะมัด ผมได้ยินเสียงโห่ฮาจากเพื่อนๆตามหลังมาทันที

แน่นอนว่าการแข่งบาสฯแมตช์เมื่อวานเป็นหัวข้อที่ถูกพูดถึงเรื่องแรกระหว่างรออาจารย์เข้าสอนในวันนี้ แม้ว่าทั้งห้องรู้ผลแล้ว แต่คนที่ไม่ได้อยู่เชียร์ก้ขอให้คนที่อยู่เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างละเอียด ทุกคนมีความเห็นไปในทางเดียวกันคือเสียดายเป็นที่สุดและก่นด่าพี่ฝ่ายกีฬาของสีเรื่องที่ไม่ให้อั๋นลงตั้งแต่นัดแรกกับเรื่องที่ให้ต้าร์เล่นต่อทั้งๆที่บาดเจ็บ

ช่วงพัก15นาทีของคาบเช้า ผมกับอั๋นเดินลงไปเข้าห้องน้ำที่ชั้นล่างของตึก
"หมอ คืนนี้ไปนอนบ้านกูดิ"
"เออ ไปดิ มีไรวะ"
"ป่าว ชวนเฉยๆ อยู่วันเสาร์อาทิตย์ด้วยเลยนะ"
"ได้"
"เย่ รักแฟนที่สุดเลยค้าบ" อั๋นเข้ามากอดจากข้างหลังแล้วทิ้งน้ำหนักตัวให้ผมพาเดิน
"หนักชิบ ตัวมึงไม่ได้เบาๆนะครับ" ผมเคาะหัวไอ้คนขี้เกียจ
"ผมไม่สบาย หมอดูอาการให้หน่อย" เริ่มอ้อนอีกแล้วไอ้นี่
"กูไม่ได้เป็นหมอเว้ย แค่ชื่อหมอ"
"เล่นกะกูหน่อยดิ"
"เออ...เเล้วคนไข้เป็นอะไรมาครับ"
"เจ็บขาอะครับหมอ"
"โดนไรมา"
"เดินตกหลุมรักคนแถวนี้มาอะ"
ผมแทบสะดุด
"สัส มุกเสี่ยว คนไข้แบบนี้ไม่รักษาโว้ย"
"ไรอะ หมอห้ามเลือกคนไข้ดิ"
"ออกไปเลย ตัวหนัก"

เสร็จภารกิจ ผมนึกอยากแกล้งไอ้อั๋นขึ้นมา พรมร้ำใส่มันตอนล้างมือซะเลย
"เห้ย" อั๋นสะบัดหัว "ได้ จะเล่นอ่อ"
"อย่านะเว้ย เดี๋ยวตัวเปียก โดนจารย์ด่าอีก"
"อ้าว แล้วที่มึงเล่นกับกูอะ"
"ไม่เกี่ยว" ผมแลบลิ้น เตรียมวิ่งหนี
"จะไปไหน" อั๋นดึงแขนผมกลับมา แล้วโดยไม่ทันตั้งตัว มันก้จุ๊บแก้มผมเร็วๆ

ผมชะงัก
มันหอมแก้มผมกลางโรงเรียนเนี่ยนะ

"อะ อั๋น"
"ครับ?" อั๋นเลิกคิ้วขึ้นอย่างกวนตีน
"มึงทำไรเนี่ย"
"หอมแก้มแฟนไง"
"ยังมีหน้ามาตอบอีก กูไม่ได้ให้มึงตอบโว้ย"
อั๋นหัวเราะชอบใจ ออกวิ่งนำไปแล้ว ผมวิ่งไล่ตาม หวังจะเตะก้นมันให้ได้
"กลับมานี่นะเว้ย"
"แบร่"
อั๋นหันกลับมาแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ หนอย รอให้จับได้ก่อนเถอะ
ผมพึ่งวิ่งเลี้ยวมุมตึก อั๋นก้ไปถึงชานบันไดชั้นล่างแล้ว จะวิ่งเร็วไปไหนวะครับ
แต่จู่ๆอั๋นก้หยุดวิ่ง ผมเห็นนักเรียนอีก2คนขวางทางอั๋นไว้
เมื่อผมเข้าไปใกล้มากขึ้น จึงรู้ว่าเป็นนนท์กับเอก สองคนนั้นตะโกนเสียงดังลั่นว่า

"หมอกับอั๋นเป็นแฟนกันแล้วโว้ยยยย"

-จบตอน-

โอ๊ยย ในที่สุด อั๋นกับหมอได้เป็นแฟนกันซะที อั๋นสมหวังแล้วนะครับคุณผู้อ่าน อิอิ คู่ข้าวใหม่ปลามันนี่มันดีจริงๆ มีผลัดกันป้อนแซนด์วิชด้วย น่ารักไปอีกก
นี่เพิ่งแค่เริ่มต้นนะครับ ยังมีเรื่องที่รอทดสอบสายสัมพันธ์ของทั้งคู่อยู่ ติดตามและเป็นกำลังใจให้อั๋นกับหมอด้วยนะครับ :)
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่25 (22/6/2559 20.25)
เริ่มหัวข้อโดย: lazysheep ที่ 22-06-2016 20:39:48
หวานทันที5555 หมอไปไม่เป็นเลย น่าร้ากกกก
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่25 (22/6/2559 20.25)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 23-06-2016 21:19:09
อุ๊ย...เป็นแฟนกันแล้ว ^^
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่25 (22/6/2559 20.25)
เริ่มหัวข้อโดย: fightreblue ที่ 23-06-2016 23:41:27
อุ๊ย เป็นแฟนกันแล้ว ..เมื่ิอไหร่จะได้เป็นผัวเมียกันนะ
รอติดตามตอนต่อไป ให้กำลังใจไรเทอร์ สู้สู้นะครับ  :hao6:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่26
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 26-06-2016 19:56:20
ตอนที่26

หลังจากไอ้นนท์กับไอ้เอกทำหน้าที่เป็นโทรโข่งกระจายข่าวว่าผมกับอั๋นตกลงคบกันเป็นแฟน เรื่องนี้ถูกเล่าต่อกันไปเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่าคนทั้งโรงเรียนจะรู้เรื่องนี้กันหมดแล้ว

ผมกับอั๋นถูกเพื่อนๆในห้องสอบสวน โดยไอ้นนท์เป็นคนยิงคำถามด้วยสกิลการเผือกขั้นเทพของมัน ตั้งแต่ว่าเริ่มจีบกันจริงๆตอนไหน ตกลงคบกันได้ยังไง มีอะไรกันหรือยัง- - จะหนีไปไหนก้ไม่ได้ซะด้วย เพราะทุกคนล้อมผมกับอั๋นไว้ในห้อง

แน่นอนว่าผมได้แต่เงียบและทำหน้าเบื่อโลกใส่ไอ้พวกขี้เสือกทั้งหลาย น่าแปลกที่อั๋นก้ขัดเขิน ไม่ค่อยได้ตอบอะไร ผมนึกว่าอั๋นจะสาธยายทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้พวกเพื่อนๆฟังซะอีก ปกติมันก้มักจะบ้าจี้ตามคำสั่งเพื่อนเพื่อแกล้งผม แต่ก้นึกขึ้นมาได้ว่าสถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว เราเป็นแฟนกันจริงๆ อั๋นคงอยากเก็บหลายเรื่องระหว่างเราสองคนไว้เป็นความลับ
ผมยิ้มมุมปาก

เมื่อถูกเพื่อนๆสัมภาษณ์จนเป็นที่พอใจแล้ว ผมกับอั๋นโดนเอกโบกหัวคนละทีโทษฐานที่ไม่ยอมบอกว่าอั๋นจีบผมมาได้ช่วงหนึ่งโดยที่ต้าร์กับนนท์รู้อยู่แล้ว

พักกลางวัน ผมกับอั๋นกลายเป็นจุดสนใจในโรงอาหาร นักเรียนเกือบทุกคนมองเราสองคน หลายคนถึงกับชี้มือมาทางเราและหันไปคุยกับเพื่อนต่อ
ผมกำลังมองหาโต๊ะว่างให้พอสำหรับคน30คนของห้อง ก้หันไปเห็นพี่ก้องกำลังมองมาทางผมด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร
ผมหันไปทางอื่นทันที และเลี่ยงโต๊ะยาวว่างตัวที่อยู่ใกล้กับโต๊ะที่พี่ก้องกับเพื่อนๆนั่งอยู่

"หมอกินไร" อั๋นสะกิดไหล่
"กูอยากกินก๋วยเตี๋ยวว่ะ ไปซื้อกัน"
"ไปดิ"
อั๋นเดินจูงมือผมตรงไปร้านก๋วยเตี๋ยวป้าบัวทันที ผมร้อง
"ไรเนี่ย"
อั๋นยิ้มจนตาหยี ไม่ตอบและไม่ยอมปล่อยมือ
เสียงแซวดังขึ้นมาเหมือนกดปุ่มสั่ง ไม่ได้มาจากเพื่อนในห้องที่เดินลงมาพร้อมกันเท่านั้น ยังมาจากนักเรียนคนอื่นที่อยู่ใกล้พวกผมแถวนั้นด้วย ให้มันได้อย่างนี้สิ

อั๋นขอปรุงรสก๋วยเตี๋ยวให้ผม
"มา กูปรุงให้"
"เห้ย เดี๋ยวๆ ไม่ใส่น้ำตาลกับ..."
"พริกครึ่งช้อน น้ำปลานิดหน่อย ไม่ใส่น้ำตาล ไม่เอาน้ำส้มสายชู กูรู้น่า"
ผมอึ้งจนพูดไม่ออก
"นี่มึง..."
ผมยิ้มกว้าง อั๋นสังเกตแม้แต่เวลาที่ผมปรุงรสก๋วยเตี๋ยวเลยเหรอเนี่ย
อั๋นดูพอใจในตัวเองเมื่อส่งชามก๋วยเตี๋ยวกลับมาใส่มือผม
เมื่อกลับไปที่โต๊ะ พี่ฝ่ายกีฬาของสีฟ้าที่เป็นคนประกาศรายชื่อนักกีฬาบาสฯตัวจริงเดินตรงเข้ามาหาอั๋น
"อั๋น พี่ขอโทษจริงๆว่ะ พี่น่าจะให้น้องลงตั้งแต่แรก" พี่เค้ามีท่าทางเสียใจตามที่พูดจริงๆ
"ไม่เป็นไรครับ" อั๋นยิ้มให้อย่างจริงใจ
"คือพี่..." พี่เค้าเงียบไป เหมือนไม่รู้ว่าจะอธิบายสิ่งที่ตัวเองกำลังคิดออกมาอย่างไรดี "พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้ตั้งใจ"
"ช่างเถอะครับ ผมไม่เป็นไร"
แล้วพี่เค้าก้จากไป ท่าทีสับสน
"ถึงกูจะเซ็งที่สีเราแพ้ แต่กูอดสมน้ำหน้าพวกรุ่นพี่ไม่ได้จริงๆว่ะ เป็นไงล่ะ" นนท์พูดขึ้นทันที
"มันผ่านไปแล้วน่ามึง" อั๋นนั่งลงและเริ่มกิน
"ปีหน้าคงไม่มีอะไรแบบนี้อีกนะ"
หัวข้อสนทนาเปลี่ยนไป คนอื่นดูจะไม่ติดใจสงสัยอะไรเกี่ยวกับเรื่องเมื่อสักครู่ แต่ผมอดสงสัยไม่ได้ว่าพี่ก้องทำอะไรกับพี่คนนั้นเพื่อไม่ให้อั๋นได้เป็นตัวจริง มันเกิดอะไรขึ้นนะ
"เย็นนี้ฝ่ายเชียร์ไม่มีซ้อมใช่ปะ" อั๋นถามผม
"อ่าฮะ"
"ดีเลย งั้นเลิกเรียนแล้วจะได้รีบกลับ"
"รีบกลับไปไหนวะมึง วันนี้วันศุกร์นะเว้ย" ต้าร์ถาม
"นั่นดิ อ้อ...ไม่ได้ๆ เพื่อนอั๋นกับเพื่อนหมอเค้ามีนัดกันแล้วพวกมึง" นนท์เสริม เสียงแซวดังขึ้นมาทั่วโต๊ะทันที
"เสือก" ผมด่านนท์ ทุกคนหัวเราะ
นนท์ทำท่าจะยื่นมือมาตบกบาลผม แต่เอกห้ามไว้
"อย่านะเว้ย เดี๋ยวมึงก้โดนตีนไอ้อั๋นหรอก ไปทำแฟนมันได้ไง"
"อรั๊ยย"
"อรั๊ยพ่อง" ผมโวยวาย เกลียดคำว่า'อรั๊ย'นี่ชะมัด ยิ่งบวกด้วยเสียงของไอ้นนท์ด้วยแล้ว
"เออ ห้ามทำไรแฟนกูนะเว้ย" อั๋นโอบไหล่ผม
ผมศอกใส่อั๋นอย่างหมั่นไส้
"เค้าเจ็บนะ"
"ไอ้เชี่ยอั๋นท่าจะกลัวเมียว่ะ" ต้าร์หัวเราะ
"อ่อน"
"ว้ายย อั๋นกลัวเมีย"
"พวกมึงก้ด้วย แซวอยู่นั่น ระวังจะโดนดี" ผมบอก ชี้นิ้วใส่เพื่อนทุกคน แต่พวกมันทำท่าล้อเลียนกลับมาและยังแซวต่อไปตลอดเวลาพักเที่ยง- -

คาบเรียนหลังพักเที่ยง ผมกับอั๋นถูกอาจารย์แซวด้วย
"ข้อนี้ครูถามพิสุทธิ์ อะ ตอบไรจ๊ะ" ชิบหายแล้ว อาจารย์ทำไมเรียกถามผมล่ะคร้าบ
"เอ่อ คือ..." ผมหันไปขอความช่วยเหลือจากอั๋น
"ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน" อั๋นกระซิบ
"เมดิเตอร์เรเนียนครับ" ผมรีบตอบ
"ถูกจ้ะ เอ ครูเห็นว่ามีพรายกระซิบนะ"
ผมกับอั๋นยิ้มแหยๆ
"เห็นสนิทกันมาก แต่ครูไม่คิดว่าเธอสองคนจะเป็นแฟนกันนะ น่ารักดี...ยังไงพงศกรก้ช่วยดูแลเรื่องเรียนให้พิสุทธิ์ด้วยนะจ๊ะ"
สิ้นเสียงอาจารย์ นักเรียนคนอื่นๆหันมามองหลังห้องเป็นตาเดียว แถมด้วยรอยยิ้มล้อเลียนที่ผมโดนทำใส่ประจำ
คนข้างๆผมก้ยิ้มกว้างด้วยเช่นกัน
"ให้พงศกรช่วยดูแลนะ"

รูปอั๋นจับมือผมเดินในโรงอาหารถูกโพสต์ลงในเพจของโรงเรียน พร้อมข้อความว่า 'กองอวยสมหวังแล้วน้า คู่นี้เค้าคบกันจริงๆแล้วจ้า โฮ ฟินนนน' และอวยพรให้อย่างกับว่าพวกผมแต่งงานกันยังไงยังงั้น
"มึงดู ทีนี้คนจะได้เลิกจิ้นเราซะทีเนอะ" ผมนอนอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่นที่บ้านอั๋น ส่วนเจ้าของบ้านนั่งบนพื้น ชิดหลังติดกับโซฟา กำลังเล่นเกมในไอโฟน ผมยื่นหน้าจอโทรศัพท์ให้ดู
"เลิกจิ้น แต่กูว่าเราจะยิ่งโดนจับตามองอะดิ" อั๋นพูดต่อไป "คนกระจ่ายข่าวเรื่องเราก้มีข้อดีอยู่นา"
"ยังไงวะ"
"คนที่คิดจะจีบมึงจะได้ไม่มายุ่งไง อย่างไอ้พี่ก้องงี้...มึงแม่งคนชอบเยอะ"
"เว่อร์ ใครอีกวะ"
"มีหลายคนที่สนใจมึงแต่ไม่ได้เข้าหา...นั่นแหละ เป็นเหตุผลที่กูรีบขอคบไง" เดี๋ยวนะ ผมไม่เห็นรู้เรื่องเลยสักนิด เท่าที่ผมรู้ก้มีแค่พี่ก้องคนเดียว
"กลัวว่าจะมีคนมาจีบกูเพิ่มเนี่ยนะ"
"เออดิ กูเลยคิดว่าต้องรีบขอมึงให้เร็วที่สุด"
ผมประหลาดใจกับข้อมูลใหม่นี้มาก ไม่รู้มาก่อนจริงๆว่ามีคนชอบผมอีก อั๋นไปรู้มาจากไหนเนี่ย
"ก้กูหล่อนิ ทำไงได้" ผมถอนหายใจ
"จ้าพ่อคนหล่อ แต่ก้ยังหล่อน้อยกว่ากูอยู่ดี"
"ใครบอกมึง กูหล่อกว่าเว้ย"
"มึงเป็นเมีย กูเป็นผัวนะหมอ กูก้ต้องหล่อกว่าดิ"
- -
"เออ ไหนๆก้พูดเรื่องนี้ขึ้นมาละ กูมีไรจะบอก" อั๋นวางมือจากไอโฟน ลุกขึ้นมานั่งบนโซฟาด้วย ยกตัวผมให้ขาวางบนตักมัน
"กูอะ กะจะขอมึงเป็นแฟนมาพักนึงแล้ว" อั๋นยิ้ม มองหน้าผมและเริ่มต้นเล่า "กูกลัวว่าถ้าไม่รีบขอมึงเป็นแฟน มึงอาจจะไปตกลงคบกับคนอื่นที่มาจีบ ยิ่งตอนที่พี่ก้องเข้าหามึง กูยิ่งคิดว่าต้องรีบแล้ว ถ้าจับปล้ำทำเมียได้ก้ทำ"
"สัส- - แล้วทำไมพึ่งมาขอเมื่อวานอะ"
"กูเขินนิ" อั๋นหยุดนิดหนึ่งก่อนตอบ
"ห๊ะ มึงเนี่ยนะ" ผมหัวเราะ ไม่อยากเชื่อว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกเขินได้ทั้งๆที่รุกจีบผมหนักขนาดนั้น
"จริงนะ กว่ากูจะรวบรวมความกล้าขอมึงเป็นแฟนได้"
"ไม่เชื่ออะ มึงหน้าด้านจะตาย หยอดกูทั้งวัน ทำไมตอนขอเป็นแฟนถึงไม่กล้า โอ๊ย..."
อั๋นบีบจมูกผมอย่างมันเขี้ยว
"มันไม่เหมือนกันนะหมอ จีบก้ส่วนจีบ แต่ตอนขอเป็นแฟนมันมีหลายความรู้สึก เขิน กลัว ตื่นเต้นด้วย ปนกันไปหมด...อีกอย่าง กูรอจังหวะให้มีเรื่องแข่งบาสฯด้วย"
แม้แต่ตอนที่กำลังอธิบายตัวเองอยู่นี้ อั๋นก้หน้าแดงขึ้นมานิดหน่อย ผมนึกถึงตัวเองในอดีต ตอนที่ไปขอผู้หญิงที่ชอบเป็นแฟน ผมก้รู้สึกปั่นป่วนในท้อง กล้าๆกลัวๆเหมือนกันนี่นา
"กูรู้สึกว่าหัวใจเต้นแรง อะดรีนาลีนไหลไปทั่วตัว...รู้มั้ยว่ากูรู้สึกยังไงที่สุด"
"ไม่รู้"
"กูกลัว กลัวว่ามึงจะปฏิเสธ ถ้ามึงไม่ได้ชอบกู..."
"ไอ้บ้า" ผมขัดขึ้น "ขนาดนี้ยังคิดว่ากูไม่ชอบมึงอีกเหรอ" พูดจบแล้วผมก้เป็นฝ่ายหน้าแดงบ้าง
"ใช่ดิ กูไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเอง มึงอาจจะไม่ได้ชอบกูก้ได้ หรือบางที..."อั๋นเงียบไป ก้มหน้าลงอย่างไม่แน่ใจว่าควรพูดสิ่งที่กำลังคิดออกมาหรือไม่
"อะไรวะ"
"คือ...มึงอาจจะไม่ได้ชอบผู้ชายก้ได้"
ผมนิ่ง นี่ก้เป็นหนึ่งในคำถามที่ผมถามตัวเองมาสักร้อยครั้งได้ ผมไม่รู้ว่าจะนิยามสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ว่าอะไร ผมเคยชอบผู้หญิง มีอารมณ์กับผู้หญิงเหมือนกับที่ผู้ชายทั่วๆไปรู้สึก แต่เมื่อผมรู้จักอั๋น ใช้เวลาอยู่กับมันนานพอที่จะเรียกได้ว่าเราสนิทกัน ผมรู้สึกดีกับมัน รู้สึกดีกับสิ่งที่มันทำให้ผม และยอมรับว่าทุกครั้งหลังๆมานี้ที่อั๋นจับมือ โอบไหล่ หรือนอนกอดผม มันรู้สึกดีจนไม่อาจโกหกตัวเองได้
จนถึงตอนนี้ ผมไม่รู้ว่าตัวเองชอบผู้ชายหรือไม่ ผมอาจจะชอบผู้ชายไปจริงๆแล้วก้ได้ แต่ถ้าถามว่าชอบอั๋นหรือไม่ ผมตอบได้เต็มปากเลยว่าใช่
และด้วยเหตุผลนั่น ทำให้ผมตอบตกลงเป็นแฟนอั๋นโดยไม่นึกอยากลังเลอะไรอีก
"คิดอะไรอยู่เหรอ" อั๋นถามเสียงเบา
ผมไม่รู้จะอธิบายอย่างไรให้อีกฝ่ายเข้าใจ
"กูเองก้สับสน" อั๋นพูดขึ้นก่อน "กูตอบไม่ได้ว่ากูชอบผู้ชายรึป่าว แต่กูไม่รู้สึกแบบนี้กับคนอื่นเลยถ้าไม่ใช่มึง" แววตาอั๋นยืนยันสิ่งที่มันพูดไป
"กูก้เหมือนกัน" ผมยิ้ม "กูรู้แค่ว่ากูชอบมึง" ประโยคหลังหลุดออกไปจากปากอย่างตะกุกตะกัก
อั๋นยิ้มกว้าง เอื้อมมาจับมือผมบีบเบาๆ
"บางทีความรักอาจไม่ได้จำกัดแค่คำว่าชอบผู้ชายหรือชอบผู้หญิงก้ได้มั้ง"
"..."
"เพราะสำหรับกูแล้ว กูก้ชอบมึงแค่คนเดียวนะหมอ"
เราจ้องตากันอยู่อย่างนั้น ยิ้มให้กัน ผมเขินเกินกว่าจะตอบคำพูดล่าสุดของคนตรงหน้า ผมดีใจที่อั๋นคิดเหมือนกันกับผม

"มึงใจร้ายมากรู้มั้ย" อั๋นกลับมาท่าทางกวนๆเหมือนเดิมเมื่อเวลาผ่านไปพักใหญ่ "กูบอกชอบมึงไปตั้งนานแล้ว แต่มึงไม่เห็นตอบอะไรกูเลย"
"...อะไรเนี่ย" ผมหัวเราะ "หมายความว่าไงวะ"
"จำตอนที่มึงถามกูว่ากูชอบใครอยู่ได้มั้ย" ผมต้องจำได้สิ จำได้ดีเลยล่ะ ไอ้เกม20คำถามที่ช่วยยืนยันให้ผมรู้ความรู้สึกจริงๆของอั๋น "กูคิดหนักเลยนะว่าจะบอกมึงเลยดีมั้ย"
"ต้องบอกดิวะ เราตกลงกันแล้วว่าจะไม่โกหกในเกมนั้น"
"ใช่ไง แต่กูก้ไม่คิดว่ามึงจะถามตรงๆแบบนี้ หมอนะหมอ"
ผมหัวเราะ
"พอกูบอกไป มึงไม่ตอบอะไรกูสักคำ กูกลับบ้านไปก้คิดมาก กลัวว่ามึงจะตีตัวออกห่าง แต่มึงก้ยังเหมือนเดิม"
"เห็นยังงั้นเลยเริ่มจีบกูใช่มะ"
"เออดิ กูดีใจสัสๆ ลึกๆก้คิดด้วยว่ามึงต้องชอบกูแน่ เพราะมึงไม่ต่อต้านแถมยังเขินด้วย" อั๋นคลี่ยิ้มออกมา
"หลงตัวเองนะมึงอะ"
"เอ้า ก้มึงให้ความหวังกูซะขนาดนี้"
"รู้งี้กูไม่น่าเล่นด้วยเลย น่าจะทำเป็นไม่คุยกับมึง" ผมแหย่
"โห่ มีอย่างที่ไหน กูบอกชอบแต่เฉยซะงั้น"
"กูก้เขินนะเว้ย มึงจะให้กูบอกว่า 'ชอบ' แล้วก้ถามว่า 'เป็นแฟนกันมั้ย' เลยอ่อ"
"นั่นแหละที่กูคิดไว้"
"ไอ้บ้าเอ๊ย...ตอนนั้นกูยังไม่แน่ใจด้วยว่าชอบมึงจริงๆรึป่าว"
"แต่ก้มีหวั่นไหวใช่ปะ" อั๋นยิ้มกรุ้มกริ่ม
"เออ ก้ดูที่มึงทำแต่ละอย่างดิค้าบ กูจะไม่หวั่นไหวได้ไง" ผมยอมรับ หน้ากลับมาเป็นสีแดงจัดอีกครั้ง
อั๋นหัวเราะเบาๆ โน้มตัวลงมา ยื่นหน้าเข้ามาใกล้หน้าผม
"ไม่งั้นเราคงเป็นแฟนกันเร็วกว่านี้เนอะ"
"อะ เออ"
"หมอ"
"อือ"
แล้วปลายจมูกของเราก้ชนกัน อั๋นประกบปากเข้ากับปากผม
ผมหลับตารับจูบนั้นอย่างเต็มใจ ริมฝีปากอุ่นๆของอั๋นสัมผัสริมฝีปากของผมอย่างนุ่มนวล
...
เราผละจากกัน แต่ผมยังอยู่ในอ้อมแขนอั๋น มันยิ้มร่า ผมเขินจึงรีบดันตัวลุกขึ้นและเดินไปทางห้องครัวทันที

"เห้ย จริงปะเนี่ย"
เจ๊เอ๋ถามเสียงดังระหว่างมื้อเย็น เมื่ออั๋นบอกว่าเราสองคนคบกันเป็นแฟนแล้ว วันนี้เจ๊เอ๋ซื้อกับข้าวมาเต็มโต๊ะเลยครับ ส่วนพ่อกับแม่อั๋นยังไม่กลับจากบริษัท
"จริงดิ อั๋นจะโม้ไม"
เจ๊เอ๋หันมาหาผมอย่างต้องการคำตอบ ท่าทางกระตือรือร้น
"ไม่จริงครับ"
"เห้ย" อั๋นร้องเสียงดัง หันมาจ้องผมตาโต
"โธ่ ขี้โม้ว่ะ"
"ไอ้หมอ ไอ้ซอมบี้" ไอ้แฟนตัวดีโวยวายใหญ่เลย ผมหัวเราะ "เราคบกันแล้วจริงๆนะ หมอแม่ง"
"ไม่ใช่ซะหน่อย กูโสด"
"หรา"
อั๋นขยับเข้ามากอดผมและหอมแก้มฟอดใหญ่
"เห้ย" คราวนี้ผมเป็นฝ่ายตกใจบ้าง ส่วนเจ๊เอ๋ดูเหมือนจะช็อคไปแล้ว
"จะบอกว่าโสดอีกมั้ย" อั๋นยิ่งรัดผมแน่นขึ้นอีก
"ปล่อยนะ"
"ยอมยัง"
"เออ ยอมแล้ว" ผมหน้าแดง
"ถ้างั้น...เราสองคนคบกันแล้วใช่มั้ย"
อั๋นจ้องผมอย่างเอาเรื่อง ผมพยักหน้าตอบ เจ๊เอ๋เห็นอย่างนั้นก้ส่งเสียงกรี๊ด
"...โอ๊ย คบกันตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย ทำไมพึ่งมาบอกชั้นยะ...ฟินอะ น้องชั้นมีแฟนเป็นตัวเป็นตนซะที"
"เป็นซอมบี้ แถมดื้อด้วย" อั๋นแลบลิ้นใส่ผม
"หมอ ต่อไปนี้เราเป็นน้องสะใภ้เจ๊ละนะ"
"คะ ครับ"
"โอ๊ย ไม่อยากจะเชื่อเลย เราสองคนเป็นแฟนกันจริงๆ"
หลังจากนั้นผมกับอั๋นก้โดนสัมภาษณ์แบบละเอียดยิบ ยิ่งเล่าไปเรื่อยๆ เจ๊เอ๋ก้ยิ่งยิ้มกว้างขึ้นทุกทีๆ
"หมอโชคดีนะ ได้น้องเจ๊เป็นแฟนเนี่ย"
"ใช่มะ" อั๋นยักคิ้ว
"ติดอย่างเดียวก้ตรงที่มันหื่นไปหน่อย ชอบแอบดูหนังโป๊ประจำเลย"
"เห้ย" อั๋นร้อง
ผมหันขวับก่อนจะหัวเราะออกมา
"ไม่ใช่ละ เจ๊เอ๋แม่งมั่ว"
"หมอระวังไว้ให้ดีนะจ๊ะ" เจ๊เอ๋ยิ้มกรุ้มกริ่ม เล่นเอาผมเสียวสันหลังขึ้นมาทันที
"อย่าไปฟังเว้ยหมอ"
ไอ้เรื่องชอบดูหนังโป๊จะจริงหรือเปล่าไม่รู้ แต่เรื่องหื่นนี่เห็นด้วยเต็มร้อยเลยครับ- -

เที่ยงคืนกว่าแล้ว ผมกำลังเล่นเกมส์ออนไลน์ด้วยคอมพิวเตอร์ของอั๋น ส่วนเจ้าของเครื่องนอนอ่านหนังสือแปลอยู่บนเตียง
"เชี่ย กากชิบหาย" ผมสบถ
"ใครวะ"
"ใครก้ไม่รู้ อยู่ทีมกูอะดิ สัสเอ๊ย จะชนะอยู่แล้วแม่งทำแพ้เฉย"
"มาเป็นชุดเลย ใจเย็นๆดิซอมบี้" อั๋นพูดปนหัวเราะ
"มึงมาดู เชี่ยต้าร์พิมพ์ด่ามันอยู่เนี่ย"
อั๋นลุกขึ้นเดินมา วางหัวบนไหล่ผม อ่านข้อความที่ต้าร์พิมพ์
"โห พิมพ์งี้ไม่โดนแบนหรอวะ"
"อาจโดนได้ แต่แม่งน่าด่าสัสๆ ไม่ไหวว่ะ"
"นี่ มึงเล่นมานานแล้วนะ"
"โห่ นี่พึ่งสามชั่วโมงเอง ปกติกูเล่นได้ตั้งห้าหกชั่วโมง โอ๊ย..." อั๋นเขกหัวผม
"เล่นติดกันนานๆมันเสียสุขภาพรู้มั้ย"
"รู้น่า"
"ยัง ยังจะเล่นต่ออีก มานี่"
"เห้ย..."
อั๋นช้อนแขนผมขึ้นจากเก้าอี้แล้วลากไปนั่งบนเตียง
"ทำไรเนี่ย กูเล่นอยู่" ผมโวยวาย
"มึงอะ เอาแต่เล่นเกม ไม่สนใจกูเลยนะ" อั๋นทำเสียงน้อยใจ
"เอ้า มึงก้อ่านหนังสืออยู่ไม่ใช่เหรอ"
"ไม่ต้องมาเถียงเลย มึงปล่อยให้แฟนเหงายังงี้ได้ไง"
"น่า ขอเล่นอีกแปบเดียว นะๆ" ผมทำท่าจะลุกกลับไปที่โต๊ะคอมพิวเตอร์
"ไม่ได้"
"ไอ้ต้าร์รอกูอยู่"
"เดี๋ยวกูบอกมันให้"
แล้วอั๋นก้เดินกลับไปส่งข้อความบอกต้าร์ในเกมส์ว่าวันนี้ผมเลิกเล่นแล้วก่อนจะปิดคอมฯ
"อั๋นนน" ผมลากเสียงยาวอย่างเซ็งๆ
"พักสายตาบ้าง"
"ข้ออ้างสัส จะให้กูเลิกเล่นมาอยู่กับมึงก้บอกมา" ผมทำหน้านิ่ว
"ก้ทั้งสองอย่างแหละ" อั๋นลูบหัวผมเบาๆ "เป็นแฟนกันต้องมีเวลาให้กันดิ ไม่ใช่เอาแต่เล่นเกม"
"กูก้อยู่กับมึงนี่ไง"
"เถียงเก่งงี้เดี๋ยวจูบปิดปากนะ"
นั่นทำให้ผมเงียบทันที อั๋นหัวเราะ
"นะๆ กูอยากกอดมึงแล้วอะ"
"มึงก้กอดไป กูเล่นเกมไปด้วยก้ได้"
"จะกอดยังไง- -"
"ไปเปิดคอมฯเร็วอั๋น" ผมสะบัดแขนอั๋น
"ไม่เอาซอมบี้ มานี่มา" อั๋นนั่งลงบนเตียง ยกตัวผมขึ้นมานั่งบนตักแล้วกอดจากข้างหลัง ท่าประจำของเฮียเค้าล่ะ- -
"อือ กูอยากเล่นเกม"  ผมคราง
"ไว้พรุ่งนี้นะ นะๆ นี่ดึกแล้ว"
"ไอ้อั๋น- -"
ผมหันไปมองดุๆ แต่ไอ้แฟนจอมเอาแต่ใจกลับทำหน้าระรื่นก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้งด้วยท่าทีจริงจัง
"กูไม่อยากให้มึงเล่นนานเกินไป พักบ้าง ตอนที่ไม่ได้อยู่กับกูก้ด้วย กูเป็นห่วงมึงจริงๆนะ"
"อือ" ผมตอบรับสั้นๆ รู้ว่าอั๋นเป็นห่วงผมจริงๆ
จากนั้นเราก้นั่งกันๆเงียบ ผมสัมผัสได้ว่าอั๋นกำลังมองผมอยู่จากข้างหลัง มันยังกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น
"อั๋น"
"หือ"
"ขอบคุณนะเว้ยที่ดีกับกู"
"ครับ"
อั๋นเหมือนรอฟังว่าผมจะพูดอะไรต่อไป ผมแค่รู้สึกอยากขอบคุณสิ่งดีๆทุกอย่างที่มันทำให้ผม แต่ไม่รู้จะพูดอย่างไร ผมอยากบอกมันด้วยว่าผมมีความสุขแค่ไหนตอนนี้
"ก้กูเป็นแฟนมึงนี่นา"

-จบตอน-

มาต่อแล้วครับผม มีสารภาพความในใจก่อนคบกันด้วยนะครับคู่นี้^^
ติดตามตอนต่อไปกันด้วยนะ
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่26 (26/6/2559 20.00)
เริ่มหัวข้อโดย: fightreblue ที่ 26-06-2016 23:17:18
อ่านตอนนี้แล้วฟิน เมื่อไหร่อั๋นจะแสดงความหื่นออกมากับหมอเยอะๆ นะ ..รอติดตามตอนต่อไปครับ
เป็นกำลังใจให้ไรเทอร์ด้วย สู้สู้ จะมารออ่านต่อครับ  :hao6:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่26 (26/6/2559 20.00)
เริ่มหัวข้อโดย: lazysheep ที่ 27-06-2016 16:08:59
น่ารักกกกกกกก พอเป็นคู่จริงก็ยังมุ้งมิ้งน่ารัก ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่27
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 03-07-2016 19:26:05
ตอนที่27

10.26
เช้าวันเสาร์ ผมลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่น ค่อยๆยันตัวลุกขึ้นนั่ง มองเห็นแสงแดดอ่อนๆส่องลอดเข้ามาทางหน้าต่าง
อั๋นไม่อยู่ในห้อง ผมคิดว่าน่าจะอยู่ข้างล่าง อาจจะกำลังทำอาหารหรือไม่ก้ยืนรดน้ำต้นไม้อยู่ในสวน เมื่อคืนไอ้แฟนตัวดีนอนกอดผมทั้งคืนเลยครับ
ผมเดินลงไปข้างล่างทั้งสภาพนั้น หัวฟู เสื้อยืดเก่าๆกับกางเกง
บ๊อกเซอร์ที่ใส่เป็นชุดนอน พร้อมด้วยท้องที่ร้องโครกคราก
"ตื่นแล้วอ่อ" อั๋นทักทายเสียงใส พึ่งเดินออกจากสวนกลับเข้ามาในบ้าน
"มีไรกินวะ" ผมอ้าปากหาวรับอากาศบริสุทธิ์เข้าไปเต็มที่
"ตื่นมาก้ถามหาของกินเลยนะ" มันตรงเข้ามาขยี้หัวผม
"ก้กูหิวนิ"
"คร้าบ ทำเสร็จแล้ว ไปกินไป" อั๋นดันหลังผมไปที่โต๊ะอาหาร
"เชี่ยย ไข่เจียวหอมว่ะ" ผมร้อง อั๋นทอดไข่เจียวสีเหลืองสวย น่ากินเชียวครับ มีแกงจืดเต้าหู้สาหร่ายอีกหนึ่งชามวางอยู่ข้างๆด้วย
พ่อครัวยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ตักข้าวใส่จานแล้วส่งให้ผม
"หิวก้กินเยอะๆนะครับ"
ผมเริ่มต้นกินทันที มือก้หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่นด้วย
"เออ คราวหลังอะ ถ้ามึงทำเสร็จแล้วก้กินเลยนะ ไม่ต้องรอกูก้ได้"
"รอกินพร้อมกันดิ"
"กว่ากูจะตื่น มึงไม่หิวแย่เหรอ"
"ถ้าหิวเดี๋ยวก้ไปปลุกมึงไง"
"ไม่เอา ไม่ต้องปลุก"
"จะนอนกินบ้านกินเมืองไปไหนวะ" อั๋นพูดกลั้วหัวเราะ ส่ายหัวเบาๆ
"หืออ อร่อยสัส...กูว่ามึงไปเรียนเป็นเชฟก้ดีนะ น่าจะรุ่ง" อาหารที่อั๋นทำรสชาติดีจริงๆครับ ไม่ได้อวยแฟนตัวเองนะ ทุกอย่างที่มันทำให้ผมกินไม่ว่าจะของคาวหรือของหวานก้อร่อยทั้งนั้น
"เคยคิดอยู่เหมือนกันนะ...แต่กูอยากเป็นอย่างอื่นมากกว่า"
"เป็นไรวะ"
"เป็นผัวหมอไง"
ผมสำลักน้ำแกงจืดทันที อั๋นเอื้อมตัวข้ามโต๊ะมาตบหลังผมและส่งกระดาษทิชชู่ให้
"เห้ย ขอโทษ กูหยอดรุนแรงขนาดนั้นเลยอ่อ" อั๋นหัวเราะเบาๆ
"ไอ้บ้าเอ๊ย" ผมไอ "เออ แล้วนี่คนอื่นออกจากบ้านกันหมดแล้ว  เหรอ"
"เออดิ นี่มันจะครึ่งวันแล้วนา"
ผมทำหน้ามุ่ย
"กินเสร็จแล้วก้ไปอาบน้ำ ดูดิ สายแล้วยังไม่อาบน้ำเลย" อั๋นแกล้งทำท่าปิดจมูก
"เออออ คราวหลังอย่ามาขอกูกอดก้แล้วกัน"
"โอ๋ อั๋นล้อเล่น..." อั๋นเดินอ้อมโต๊ะมากอดผมทันที
"ปล่อยเลย ไม่ให้กอดเว้ย"
"จะกอด มีไรปะ"
กอดแล้วแถมยังหอมแก้มผมหนึ่งทีด้วย หาจังหวะลวนลามเก่งชะมัด- -
"เนี่ย แฟนใครก้ไม่รู้ โคตรน่ารักเลย"
"เนียนนะไอ้สัส"
"ใครเนียน ไม่มี"
"จะกอดอีกนานมั้ยเนี่ย กินข้าวๆ" ผมผลักอั๋นออกแก้เก้อ

"เดี๋ยวออกไปข้างนอกกันมั้ย" อั๋นถามขึ้นระหว่างที่เรากำลังล้างจานกัน ผมเป็นคนล้างด้วยน้ำยาล้างจาน ส่วนอั๋นล้างน้ำเปล่าให้
"ไปไหนวะ"
อั๋นอมยิ้มก่อนตอบ
"ไปเดทไง"
จริงสินะ เรายังไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันเลยตั้งแต่ตกลงเป็นแฟนกัน
"มึงอยากไปไหนอะ"
"ไม่รู้ดิ มึงอะ"
"เอ้า มึงเป็นคนชวน มาถามกูซะงั้น" อยู่ๆมาให้คิดว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดีนี่ผมคิดไม่ออกแฮะ
"ไปไหนก้ได้ กูแค่อยากออกไปกับมึง" อั๋นตอบสบายๆ
"เอ่อ...เดินเล่นสยาม หาหนมกิน เอาปะ"
"ได้" อั๋นยิ้ม "จะได้ไปหาซื้อแหวนแต่งงานด้วย"
"กูไม่ใส่นะเว้ย"
"ใครว่าจะซื้อให้มึง กูจะซื้อให้คนอื่นต่างหาก"
ผมโดนไอ้อั๋นเล่นซะแล้ว มันหัวเราะใหญ่เลยครับ
"สัส- -"
อั๋นที่ยืนอยู่ข้างๆขยับเข้ามากอดผมจากข้างหลัง
"พูดเล่นน่า ถ้าไม่ให้มึงแล้วกูจะให้ใครล่ะคร้าบ แต่ตอนนี้ยังไม่มีเงินพอไปสู่ขอมึงนะ ขอเก็บเงินก่อน"
"กูขอเงินสดร้อยล้าน รถหรูๆสิบคัน แล้วก้พากูไปเที่ยวรอบโลกด้วย ไม่มีไม่ต้องมาขอนะ" ผมบอก
"ง่ะ ยังงั้นไม่ได้แต่งกันพอดี" อั๋นทำปากยื่น ผมหัวเราะ
"โห่ ไรวะ ป๋าหน่อยดิ"
"ไม่ไหวม้าง"
"งั้นกูไปแต่งกับคนอื่นนะ"
"ไม่ให้ กูไม่ยอมหรอก หมอของอั๋นคนเดียว..." แล้วอั๋นก้พลิกตัวผมให้หันหน้ามาหามันและดันตัวชิดกับอ่างล้างจาน
"จะ จะทำไร" อั๋นยื่นหน้าเข้ามาจนปลายจมูกเราชนกัน
"ถามได้ ก้ทำเมียไง มึงจะได้ไม่ไปแต่งงานกับคนอื่น"
"ไอ้บ้า ปล่อยนะ" ผมรีบดันตัวมันออก "ที่เหลือมึงล้างเองเลย     กูไปอาบน้ำละ" ผมรีบเดินหนีออกมาจากห้องครัว
"เห้ย เดี๋ยวดิ มาช่วยกันล้างก่อน" อั๋นส่งเสียงหัวเราะไล่หลังมา
ไอ้แฟนตัวดีนี่มันหื่นจริงๆ อีกไม่นานผมคงเสร็จมันแน่ๆ- -

เรานั่งรถไฟฟ้าแทนขับมอเตอร์ไซด์ออกมาเพราะหาที่จอดรถค่อนข้างยาก วันนี้คนเยอะมากครับ
อั๋นจับมือผมเดินตั้งแต่ขึ้นรถไฟฟ้ามาจนถึงตอนนี้และไม่มีท่าทีจะปล่อยง่ายๆ
เราเริ่มจากเดินเข้าออกซอยต่างๆในสยามสแควร์ ไม่ผมก้อั๋นที่แวะดูของตามร้านที่ตัวเองสนใจเมื่อเดินผ่าน แต่เราก้ไม่ได้ซื้ออะไรเลย แล้วผมก้เห็นกลุ่มนักศึกษาของมหาวิทยาลัยหนึ่งกำลังร้องเพลงและถือกล่องขอรับเงินบริจาคอยู่ตรงหัวมุมซอยหนึ่ง
"อั๋น ไปดูตรงนั้นแปบดิ"
ผมลากอั๋นไปใกล้ขึ้น อ่านข้อความจากป้ายฟิวเจอร์บอร์ดสีสวยที่พวกพี่ๆนักศึกษาทำได้ว่าขอรับบริจาคเงินเพื่อเป็นทุนค่าอาหารสำหรับเด็กนักเรียนยากไร้ในบางพื้นที่ของภาคเหนือ ผมหยิบแบงค์ร้อยออกมาหนึ่งใบแล้วหย่อนลงไปในกล่องบริจาคทันที อั๋นก้หยิบแบงค์ร้อยของตัวเองใส่ไปด้วย
"ขอบคุณนะน้อง" พี่ๆทุกคนที่ไม่ได้กำลังร้องเพลงบอกผมพร้อมกัน ผมยืนมองภาพเด็กๆยากไร้บนป้ายอย่างหดหู่อีกพักก่อนจะเดินจากมา
"เด็กๆพวกนั้นน่าสงสารว่ะ" ผมพูดกับอั๋น หันไปเห็นอั๋นยิ้มอย่างอ่อนโยน
"ใช่ น่าสงสารมาก เค้าลำบากกว่าเราเยอะเลย"
ผมยิ้มตอบ ทุกครั้งที่เห็นอะไรแบบนี้ผมไม่เคยลังเลที่จะช่วยเหลือเลย ถึงผมจะเรียนไม่เอาไหน ไม่ได้ทำตัวเป็นเด็กดีเท่าไร หรือไม่ค่อยมีเรื่องให้พ่อกับแม่ภูมิใจได้บ้าง แต่ผมก้รู้สึกเจ็บปวดเวลาที่คิดว่ามีนักเรียนอีกหลายคนที่ลำบากกว่าและสมควรได้รับโอกาสดีๆในชีวิตมากกว่าผมด้วยซ้ำ เมื่อคิดถึงสิ่งที่ผมมีแล้ว    ดังนั้นผมจึงเต็มใจช่วยเหลือ
อั๋นขยี้หัวผมเบาๆ
"มึงคนดีว่ะ น่ารักจริง"

เดินเล่นดูของในสยามสแควร์ต่ออีกเดี๋ยวหนึ่ง เราก้เปลี่ยนสถานที่ขึ้นมาเดินในห้างบ้าง
"อั๋น แวะshop CASIO กัน"
"เออ จะดูนาฬิกาอ่อ"
"ป่าว กูจะดูเครื่องซักผ้า"
"กวนตีนละ"
นาฬิกาเรือนที่ผมใส่อยู่นี้ก้เป็นยี่ห้อ CASIO รุ่นหนึ่ง แต่ตอนนี้ผมสนใจอยากซื้อรุ่น G-Shock ด้วย
"สีขาวสวยว่ะ" เรือนสีขาวล้วนสะดุดตาผมตั้งแต่เดินผ่านเข้ามาเลยครับ
"เออ สวย แต่เรือนที่มึงใส่อยู่ก้ยังใช้ได้ดีนิ"
"ก้กูอยากได้อะ"
"ประหยัดหน่อยพ่อคุณ"
"แหม่ ทีมึงซื้อรองเท้าอะ กูเห็นมีเป็นสิบคู่" ผมย้อน
"รองเท้ามันต้องมีหลายคู่ปะวะ ใส่เล่นกีฬา ใส่เที่ยว มึงก้มีหลายคู่"
"น้อยกว่ามึงอะ"
"เถียงเก่งจริงนะ" อั๋นหยิกแก้มผม ผมค้อนใส่
"ก้มันจริงนี่นา"
พี่พนักงานยืนมองพวกเรายิ้มๆ
"กูว่าสีน้ำเงินอันนั้นก้สวยนะ" อั๋นชี้ไปยังเรือนสีน้ำเงินล้วนที่อยู่ถัดไปอีกตู้
"เออ...มึงว่าอันไหนสวยกว่ากัน"
"มึงตัวขาวอะ ใส่ไรก้ขึ้น"
"พูดยังกะมึงไม่ขาว ไหนเลือกดิ๊"
"อืม...ดูไปดูมา สีขาวน่าจะดีกว่า มันเหมาะกับแขนหมออะ" อั๋นยกแขนผมขึ้นมา มองที่นาฬิกาทั้งสองสีสลับกับข้อมือผม ใช้ความคิดอย่างตั้งใจก่อนตอบ
"เห็นปะ" ผมยักคิ้ว "ขอบคุณครับพี่" ผมหันไปบอกพี่พนักงานก่อนจะจูงมืออั๋นเดินออกจากsiam center
"ยังไม่ซื้อเหรอ"
"ยังอะ เก็บตังก่อน กูว่าเรือนนี้จะใช้เงินเก็บตัวเอง กูขอพ่อแม่มาเยอะแล้ว"
อั๋นยิ้มภูมิใจกับคำพูดผม
"ดีแล้ว"

เรามานั่งร้าน WICKED ที่ siam square1 ก่อนกลับ ผมสังเกตว่าหลายโต๊ะเป็นคู่รักมากินขนมด้วยกันทั้งนั้น ผมกับอั๋นสั่งเค้กคนละหนึ่งชิ้น
"หมอ เดี๋ยวกลับไปมึงต้องทำการบ้านนะ"
"เห้ย รีบไปไหน พรุ่งนี้ค่อยทำก้ได้"
"ไม่เอา ทำวันนี้เลย กูจะสอน"
"กูขอเล่นเกมส์ก่อนดิ เมื่อวานมึงก้ให้กูเลิกเร็วอะ"
"ไม่ๆ ทำการบ้านเสร็จก่อนแล้วค่อยเล่นเกม"
"บังคับกูอีกละ"
"ก้มึงขี้เกียจอะ ดื้อ นอนตื่นสายด้วย"
อั๋นบ่นผมเป็นชุด ผมทำหน้าบูด มีแววว่าวันนี้จะไม่ได้เล่นเกมส์อีกแล้วครับ อั๋นคงไม่ยอมผมแน่ๆ
"ดุจังวะ...มึงดูดิ คนอื่นเค้าไม่เห็นดุแฟนเลย" ผมทำเป็นหันไปมองโต๊ะอื่นๆรอบร้าน อั๋นหัวเราะ
"แฟนเค้าไม่ดื้อเหมือนมึงอะดิ เลยไม่ต้องดุ"
"ดุขนาดนี้เป็นคนหรือหมาวะ"
"ว่าไงนะ"
"ป๊าวว"
"กูได้ยินนะ กลับไปมึงโดนแน่"
อั๋นทำหน้าหื่นใส่
"ไม่ต้องเลย ไม่เล่นโว้ย"
"นี่ก้ไม่เล่น เอาจริง"
"เอาไร"
"เอามึงไง"
"- -"
"ป้อนกูหน่อยดิ" อั๋นเอื้อมมาจับมือผม
"กลัวน้อยหน้าคู่อื่นอ่อวะ"
"ไม่ได้กลัวน้อยหน้า แค่อยากให้แฟนทำให้เหมือนคนอื่นเค้า มึงดูดิ"
"เลิกบ่นก่อนแล้วกูจะป้อน"
"ไม่บ่นแล้วคร้าบบบ"
"ให้มันจริง เดี๋ยวแดกเสร็จบ่นกูต่อแน่ๆ"
"ไม่บ่นแล้ว จริงๆนะ" อั๋นยกมือขึ้นชูสามนิ้วให้สัญญา
"เออๆ" ผมรับช้อนจากอั๋นมาตักเค้กชิ้นที่มันกินอยู่แล้วป้อน
อั๋นอมยิ้ม
"มึงแม่งน่ารักโคตรๆเลยว่ะ"
"ให้กูเล่นเกมดิ เดี๋ยวป้อนหมดชิ้นเลย"
"โห่ มากไปปะ"
"อะ ครึ่งชิ้นก้ได้"
"ไม่ได้หมายถึงเค้กโว้ย หมายถึงขอเล่นเกมอะ"
"มากไปตรงไหนวะ"
"กูพึ่งบอกมึงเมื่อคืนเองว่าไม่อยากให้เล่นเยอะ เสียสุขภาพ"
"ก้ได้ๆ"
"ดีมาก...เอ้า ป้อนอีกคำดิ"
"ไม่ป้อนแล้ว" ผมวางช้อนกลับใส่มืออั๋น
"ไรอะ ป้อนต่อดิ" อั๋นเขย่าแขนผม
"ไม่"
"กินเองก้ได้" อั๋นทำแก้มป่อง ตักเค้กใส่ปาก ผมทำเป็นไม่สนใจ
"แฟนใครวะ โคตรเย็นชาเลย กลับบ้านจะทำโทษซะให้เข็ด" อั๋นแกล้งพึมพำ
ตอนนั้นเอง ผมหันไปเห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน แล้วก้ต้องรีบหันกลับมาที่เดิมทันที
กลุ่มคนที่พึ่งเดินเข้ามาก้คือพี่เหมากับผู้หญิงที่อยู่กับพี่เค้าที่หน้า gourmet วันนั้น คุณลุงกับคุณป้าที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นพ่อแม่ของพี่เหมา และเม้ง เพื่อนไอ้นนท์ที่เจอกันที่ร้านเหล้าเมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อน
โชคดีที่อั๋นไม่ได้สังเกตเห็น เพราะมันกำลังมองไปอีกด้าน ทำท่าทางงอนผมเต็มที่
ผมตกใจ สมองทำงานอย่างว่องไวทันที สิ่งที่ผมเห็นเมื่อสักครู่ตอบคำถามของผมที่ว่าพี่เหมาหน้าตาคล้ายกับใครสักคนที่ผมรู้จัก ก้คือเม้งนั่นเอง สองคนนี้ต้องเป็นพี่น้องกันอย่างไม่ต้องสงสัย หน้าตี๋ถอดแบบกันมาชัดเจน
และปัญหาก้คือ พี่เหมาโอบไหล่ผู้หญิงคนนั้นแล้วพาไปนั่งที่โต๊ะด้วยท่าทางที่บ่งบอกว่าสองคนนี้ไม่ใช่แค่เพื่อนกันแน่นอน และพี่ผู้หญิงก้ไม่ใช่พี่สาวหรือน้องสาวของพี่เหมาแน่ๆ เพราะหน้าตาไม่ได้เหมือนคนในครอบครัวนี้ด้วย
พี่เหมาพาผู้หญิงคนนี้มาทานอาหารกับครอบครัว ไม่มีทางเข้าใจเป็นอย่างอื่นได้แล้ว
"มาๆ กูป้อนก้ได้ ขี้งอนนะมึงอะ" ผมรีบคว้าช้อนขึ้นมาป้อนอั๋น เพื่อมันจะได้มองมาที่ผมแค่คนเดียว กลัวว่ามันจะเห็นพี่ผู้หญิงกับครอบครัวนั้นซะก่อน
"มึงป้อนแล้วเค้กอร่อยขึ้นอีกนะ" อั๋นยิ้มหวานให้ผม
ผมตัดสินใจว่าตอนนี้ต้องรีบกินและออกจากร้านให้เร็วที่สุด และคราวนี้ผมต้องบอกอั๋นเรื่องพี่เหมาแล้ว แต่จะบอกอย่างไรดีล่ะ
"กูอิ่มแล้วอะ ห่อที่เหลือเอากลับไปกินที่บ้านกัน"
"เหรอ อิ่มเร็วจัง ป้อนชิ้นกูให้หมดก่อนดิ กูยังไม่อิ่มเลย"
โอย ไอ้คุณแฟนคร้าบ จะมาอ้อนอะไรตอนนี้
ผมตักเค้กคำใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมากแล้วป้อนใส่ปากอั๋นอย่างรวด เร็ว
ถ้าอั๋นเห็นตอนนี้ มันจะโกรธจนทำอะไรไม่ดีหรือเปล่านะ
เมื่อเค้กหมดชิ้น ผมรีบพูดขึ้น
"ปวดฉี่ว่ะ ไปห้องน้ำกัน"
ผมจูงมืออั๋นออกจากร้านทันที

หลังลงจากรถไฟฟ้า เราเดินเท้ากลับเข้าบ้านอั๋น ผมคิดหนักว่าควรจะบอกอั๋นอย่างไรดี
ทำไมพี่เหมาถึงทำแบบนี้นะ พี่เค้าคบกับเจ๊เอ๋พร้อมคนอื่นเนี่ยนะ ถ้าเจ๊เอ๋รู้เข้าจะเสียใจแค่ไหนกัน
แล้วเม้งมันรู้หรือเปล่าว่าพี่ชายมันกำลังคบเจ๊เอ๋อยู่ด้วย
"อั๋น"
"หือ"
"คือ...กูมีอะไรจะบอก" ผมเริ่มต้น อั๋นจะมีปฏิกิริยายังไงนะ
มันเงียบ หันมาจ้องหน้า รอให้ผมเล่าต่อไป
"จริงๆแล้วที่กูออกมาจากWICKEDเร็วอะ กูเห็น...เห็นพี่เหมาพาผู้หญิงคนนึงมากินที่ร้าน พ่อแม่พี่เหมาเค้าก้มาด้วย"
อั๋นชะงักนิดหนึ่งก่อนพูดขึ้น
"จริงเหรอ"
"จริงดิ กูแน่ใจว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ครอบครัวเค้า ท่าทางเหมือนพาแฟนมาให้ที่บ้านรู้จัก"
"..."
"แล้วกูก้เคยเห็นเค้าสองคนซื้อของอยู่ด้วยกัน วันที่มึงชวนกูไปgourmetหลังทำอุปกรณ์สแตนอะ จำได้ปะ"
อั๋นพยักหน้า
"กู...ขอโทษนะ กูน่าจะบอกมึงตั้งแต่ตอนนั้น แต่กูไม่แน่ใจว่าจะใช่รึป่าว...ถ้าเจ๊เอ๋รู้คง..."
อั๋นเอื้อมมาจับมือผม
"ไม่เป็นไรหรอก ขอบใจนะเว้ยที่บอก"
มันส่งยิ้มให้
"มึง...ไม่โกรธกูใช่ปะ"
"จะโกรธทำไมคร้าบ ดีซะอีกที่มึงมาบอก"
"แต่ นี่มันหลายวันมาแล้วที่กูเห็นพวกเค้าครั้งแรก..."
"มึงบอกว่าไม่แน่ใจไม่ใช่เหรอ ถ้าวันนั้นเป็นกูเห็น กูก้ยังไม่เอาไปบอกเจ๊เอ๋หรอก กูจะหาทางสืบก่อนว่าเข้าใจถูกมั้ย"
"กูขอโทษนะ"
"ไม่ต้องขอโทษ มึงไม่ได้ทำอะไรผิดนะหมอ"
อั๋นจูงมือผมเดินต่อ ผมโล่งอกที่อั๋นไม่โกรธ
"ว่าแต่ ทำไมไม่บอกตั้งแต่ตอนอยู่ในร้านอะ"
"กูกลัวว่ามึงจะโกรธแล้วเข้าไปคุยกับพี่เหมาที่โต๊ะเลยไง"
"กูไม่ทำยังงั้นน่า...โห่ มองกูเป็นคนแบบนั้นเหรอ" อั๋นตัดพ้อ
"ก้กูไม่รู้นี่"
"คราวหลังมีอะไรบอกได้เลยนะ อย่าคิดมาก รู้มั้ย"
"เออ...ขอบใจนะ"
อั๋นยิ้มกว้าง ลูบหัวผมอย่างอ่อนโยน
"แล้วมึงจะเอาไง"
"กูจะบอกเจ๊เอ๋ แต่ขอคิดก่อนว่าจะบอกยังไงดี"

คืนนั้น หลังจากผมทำการบ้านเสร็จแล้ว อั๋นไปอาบน้ำ มันยอมให้ผมเล่นเกมส์ได้เดี๋ยวหนึ่ง
"หิวไรมั้ยหมอ" อั๋นเดินนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวกลับเข้ามาในห้อง
"ไม่อะ มึงหิวเหรอ"
"ป่าว กูเห็นมึงกินข้าวเย็นไปน้อย นึกว่าอยากกินไร"
"มึงนี่ดูแลกูโคตรดีเลย" ผมตอบโดยไม่หันไปมอง สายตาจับจ้องอยู่ที่หน้าจอ ทีมผมกำลังจะชนะเลยครับ
"แต่มึงอะไม่ดูแลกูเลย มัวแต่เล่นเกม"
"บ่นกูอีกละนะ บอกแล้วไงว่าอย่าขี้บ่น"
"ก้มึงไม่สนใจกูอะ"
"เล่นอีกแปบเดียวเอง เดี๋ยวก้เลิกแล้ว"
"เออ ให้อีกแปบเดียวนะ"
"ครับๆ- -"
อั๋นเดินเข้ามาเกยคางบนไหล่ วางมือบนเอวผมทั้งสองข้าง
"เห้ย อย่าพึ่งดิ๊ กูเล่นอยู่"
"ไหนบอกว่ากอดไปเล่นไปได้ไง" อั๋นกระเง้ากระงอด
"ไม่ได้โว้ย เห็นมั้ย ทีมกูกำลังนำเลย อย่าพึ่งกอดดด" ผมโวยวายเสียงดัง
"อยากกอดตอนนี้อะ"
"ไอ้อั๋นครับ จะชนะอยู่แล้วเนี่ย ขอจบตานี้ก่อน แล้วมึงจะทำไรกูก้เชิญ"
"จริงนะ" อั๋นถามเสียงเจ้าเล่ห์
"เห้ย...กูหมายถึงกอด...กอดอย่างเดียวสาด" ผมตะกุกตะกักเพราะกำลังตั้งสมาธิอยู่กับเกมส์ พลาดแล้วผม ไปพูดอะไรแบบนั้นกับไอ้แฟนจอมหื่นได้ไง
"เย่ ชนะแล้วโว้ยยย" ผมร้องดีใจ ไอ้ต้าร์พิมพ์ข้อความเยาะเย้ยทีมคู่แข่งที่แพ้ทีมผมไปแค่เฉียดฉิวชุดใหญ่ ในโลกออนไลน์นี่เก่งจริงนะพ่อคุณ- -
"จบเกมแล้วใช่ปะ"
"เออ เห้ย..." อั๋นอุ้มผมขึ้นจากเก้าอี้แล้วโยนลงบนเตียง "มึงจะทำไร"
"เล่นเสร็จแล้วนิ มึงบอกว่ากูจะทำอะไรก้ได้" มันตรงเข้ามาทับตัวผมไว้ ยิ้มอย่างอันตราย
"กูจะเล่นอีกตา ปล่อยนะ"
อั๋นไม่ฟังที่ผมพูดสักนิด ยึดแขนผมตรึงไว้กับเตียง ก้มหน้าลงมาไซร้ซอกคอผม
"เห้ย ปล่อย"
ผมเสียวขึ้นมาทันที ทั้งตรงซอกคอที่จมูกกับริมฝีปากของอั๋นสัมผัส และมันยังอยู่ในผ้าขนหนูผืนเดียว ท่อนบนที่เปลือยเปล่าเสียดสีกับตัวผม
อั๋นเลื่อนขึ้นมาจูบปาก ผมครางในลำคอ รู้สึกอ่อนระทวยเมื่อถูกจู่โจมอย่างนุ่มนวล
เมื่อจูบจนพอใจ มันก้ลงไปเล่นกับซอกคอผมอีก ผมหยุดดิ้นขัดขืนแล้ว มันจึงปล่อยมือที่จับแขนไว้ และเริ่มลูบไล้ไปมาบนลำตัวผมเบาๆ ผมร้องออกมา
"อ๊ะ..."
อั๋นเลิกชายเสื้อกล้ามผมขึ้น หมายจะถอดออก ท่อนขาผมสัมผัสได้ถึงร่างกายอั๋นใต้ผ้าขนหนู...
"อะ...อั๋น"
ผมเรียกเสียงกระเส่า มือดันไหล่อั๋นไว้
อั๋นเงยหน้าขึ้นจากตัวผม เราสบตากัน แววตาอั๋นดูอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
ผมคิดได้ว่ายังไม่พร้อมจะให้อะไรมันเลยเถิดไปมากกว่านี้ อั๋นก้ดูเหมือนจะคิดแบบเดียวกันอยู่
"กู...กูขอโทษ กูไม่ได้ตั้งใจ" อั๋นพูดหอบๆ
"มะ ไม่เป็นไร" ผมหน้าแดงซ่าน
อั๋นลุกจากตัวผมไปใส่เสื้อผ้า ผมค่อยๆขยับตัวขึ้นนั่ง เอาหลังชิดหัวเตียง
อั๋นแต่งตัวเสร็จก้ลงนั่งข้างผม ยิ้มบางๆอย่างรู้สึกผิด
ผมจับมืออั๋นบีบเบาๆ ส่งยิ้มให้ เป็นเครื่องหมายว่าไม่ได้โกรธอะไร

"นอนมั้ย" ผมอ้าปากหาว อั๋นพยักหน้า เดินไปปิดไฟก่อนจะขยับตัวเก้ๆกังๆเข้ามาในผ้าห่ม
ผมเองก้ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน เมื่อสักครู่นี้เราสองคนเกือบมีอะไรกันไปแล้ว และถ้าตอนนั้นเราไม่หยุด ผมคิดว่าคงไม่มีอะไรมาหยุดเราได้อีกหลังจากนั้น
อั๋นนอนมองผม เมื่อผมหันไปมองบ้าง มันหันหน้าหนี
ดูเหมือนอั๋นไม่กล้ากอดผม
"มะ ไม่กอดกูเหรอ"
ผมถาม รู้สึกเขินขึ้นมาอีก อั๋นหันกลับมามองผมอย่างไม่แน่ใจ
ผมมองเข้าไปในตาคนที่นอนอยู่ข้างๆ รู้ได้ทันทีว่าเมื่อผมอยู่ในอ้อมแขนของอีกฝ่าย คืนนี้เราจะยังไม่ทำอะไรที่มากเกินกว่ากอดกันแล้วหลับไป
ดังนั้น ผมจึงขยับตัวเข้าไปหา วางหัวลงบนไหล่กว้างของอั๋น
อั๋นตกใจนิดหน่อย แล้วก้ยิ้มออกมา เข้าใจสิ่งที่ผมคิดอยู่ทั้งหมด มันยกแขนขึ้นโอบรอบลำตัวผม จูบหน้าผากผมเบาๆ
"ขอบคุณนะหมอ"
เราสบตากันอีกครั้งก่อนจะหลับไป ผมไม่แน่ใจว่าอั๋นบอกขอบคุณเรื่องอะไร จะเป็นเรื่องที่เราเข้าใจกันและกัน หรือเป็นเรื่องที่ผมให้กอดก้ไม่รู้
แต่ผมแน่ใจว่าต่อจากนี้ที่เรากอดกัน ผมจะรู้สึกดีมากขึ้นกว่าครั้งก่อนๆอีก

-จบตอน-

เกือบไปแล้วนะครับคุณผู้อ่าน อั๋นกับหมอนี่เกือบละ5555 ว่าแต่พี่เหมานี่ไม่ดีเลย เจ๊เอ๋รู้ขึ้นมาจะทำไงดี เรื่องเริ่มยุ่งขึ้นมาแล้วสิ
ก่อนจากกัน นักเขียนคิดว่าจะเอาประวัติของตัวละครแต่ละตัวมาลงท้ายตอนให้ด้วยนะครับ วันนี้ขอเริ่มจากพระเอกสุดหล่อของเราก่อนเลย

ชื่อ : อั๋น
สถานะ : มีแฟนแล้ว - หมอ
ชั้นเรียน : มัธยม4/12 สายศิลป์-คำนวณ โรงเรียนชายล้วน
วิชาที่ถนัด : คณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษ
สีที่ชอบ : ฟ้า ขาว
อาหารที่ชอบ : ข้าวผัดกะเพราหมูกรอบกับปลาหมึก
กีฬาที่ชอบ : ฟุตบอล บาสเกตบอล
เวลาว่าง : อ่านหนังสือที่มีประโยชน์
ลักษณะนิสัย : สุภาพเรียบร้อย ขรึม แต่ถ้าเป็นคนที่สนิทด้วยแล้วจะขี้เล่น ชอบแกล้ง โดยเฉพาะกับหมอ เป็นคนใจเย็น แต่ถ้าโมโหจะน่ากลัวมาก นอกจากนี้ยังชอบทำอาหาร ที่สำคัญเป็นนักเรียนที่ควรเอาเป็นตัวอย่างที่สุด เพราะทั้งขยัน เรียนดี เก่งกีฬา ไม่เคยสร้างปัญหาให้พ่อแม่หนักใจ
รูปร่างหน้าตา : หน้าคม กรามใหญ่เห็นชัดเจน ผิวขาว สูงโปร่ง กล้ามสวยพอดิบพอดีกับตัว

ติดตามตอนต่อไปกันด้วยน้าา
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่27 (3/7/2559 19.30)
เริ่มหัวข้อโดย: lazysheep ที่ 03-07-2016 20:26:20
ค่อยๆเป็นค่อยๆไปเนอะ คู่นี้น่ารักมากๆเหมือนเดิมเลย นี่เพิ่งม.4โตไปแล้วอั๋นจะหล่อขึ้นอีกแค่ไหนเนี่ย
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่28
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 09-07-2016 21:03:04
ตอนที่ 28

(หมอ กูคุยกับเจ๊เอ๋ละนะ)
อั๋นไลน์มาหา หนึ่งชั่วโมงหลังจากมาส่งผมที่บ้านในเย็นวันอาทิตย์ ผมพิมพ์ข้อความตอบไปทันที
(เป็นไงวะ)
(เจ๊เฟลอะ ร้องไห้ด้วย)
ผมนึกสงสารเจ๊เอ๋ขึ้นมาจับใจ เค้าคงจะเสียใจมาก เจ๊เอ๋ที่ตลก ร่าเริงอยู่ตลอดเวลา กลับต้องมารู้สึกแย่
(เห้ย แล้วนี่เจ๊ทำไรอยู่)
(อยู่ในห้องอะ กูกำลังจะไปเรียกมากินข้าว)
(เออ ดูแลเจ๊ด้วยนะ บอกให้เค้าใจเย็นๆนะ)
(ขอบใจนะหมอ)
เจ๊เอ๋เหมือนเป็นพี่สาวของผมเช่นกัน ผมไม่อยากให้เค้าต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ผมจะช่วยอะไรได้บ้างนะ
(คอยบอกกูเรื่องเจ๊เอ๋ด้วยนะ)
(ครับผม)
อั๋นส่งสติ๊กเกอร์ตัวการ์ตูนขอบคุณตามมา
ผมยังไม่อยากถามต่อว่าเจ๊เอ๋จะทำอย่างไร จากนี้อะไรจะเกิดขึ้นก้คงต้องรอดูต่อไป

"พ่อ หมอถามไรหน่อยดิ"
ผมพูดขึ้นระหว่างที่กำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่กับพ่อ ขณะที่แม่กำลังล้างจานอยู่ในครัว
"ว่าไง"
"พ่อเคยมีกิ๊กปะ"
"เห้ย"
"มีอะไรรึป่าวคุณ" แม่ที่ได้ยินเสียงพ่อ ร้องถามมาจากหลังบ้าน
"ป่าวๆ ผมตกใจในทีวีน่ะ" พ่อตอบกลับไป ผมกลั้นหัวเราะไว้แทบตาย "ไอ้บ้า มาถามอะไรยังงี้"
"เหอะน่า หมอไม่บอกแม่หรอก"
"ไม่เคยๆ"
"จริงดิ"
"จริง พ่อจะโกหกแกทำไม"
"แล้วทำไมเมื่อกี้ต้องตกใจด้วย"
"เอ้า ตกใจสิ อยู่ๆมาถาม...ทำไมเหรอ" พ่อหรี่ตามองผมอย่างสงสัย
"ก้แฟนพี่สาวเพื่อนผมเค้ามีกิ๊กอะ"
"โธ่ นั่นมันวัยรุ่น"
"พ่อไม่เคยมีกิ๊กจริงดิ"
"เออสิ ถ้าแม่มาได้ยิน พ่อจะตัดค่าขนมแก"
ผมหัวเราะเอิ๊กอ๊าก ท่าทางพ่อลุกลี้ลุกลน กลัวแม่จะได้ยินแล้วเข้าใจผิดจริงๆครับ
"โห่ พ่อไม่ได้ทำผิดซะหน่อย กลัวไร"
"แกอยู่กับเรามา16ปีแล้วยังไม่รู้อีกเหรอว่าบ้านนี้ใครใหญ่"
ผมยิ้ม จะเรียกว่าพ่อผมกลัวเมียก้ไม่ถูกนัก แค่ว่าแม่สั่งอะไรแล้วพ่อกับผมต้องทำให้เป็นไปตามนั้น เพราะแม่ก้คือแม่ครับ- -
"แล้วพี่สาวเพื่อนแกทำยังไง"
"ผมก้ยังไม่รู้เลย ตอนนี้เค้าเสียใจมาก"
"ยังวัยรุ่นกันอยู่ก้งี้แหละ โอกาสจะเบื่อแฟนหรือไปเจอคนใหม่ๆที่ถูกใจกว่ามีตั้งเยอะ"
"แต่ผู้ใหญ่มีลูกมีเมียแล้วหลายคนยังมีเมียน้อยเลยนะ" ผมค้าน
"ใช่ พ่อหมายถึงวัยรุ่นมีโอกาสมากกว่าไง"
"แล้ว...พ่อไม่เคยถูกใจผู้หญิงคนอื่นมั่งเลยอ่อ หลังคบกับแม่ แบบ เคยแอบมองงี้ ต้องมีบ้างดิ"
"ก้...ยอมรับว่ามี"
"นั่นไง"
"ชู่วว เงียบเลยไอ้ตัวแสบ"
"มันเป็นสัญชาตญาณ แต่ก้แค่มอง พ่อไม่เคยมีคนอื่นเลยจริงๆ พ่อไม่อยากทำให้แม่เสียใจ"
"..."
"ยิ่งพอเรามีลูกด้วยแล้ว พ่อยิ่งทำแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด เพราะแกก้คงไม่อยากให้มี...ถ้าแกจะถามเหตุผลว่าทำไมพ่อไม่ทำแบบนั้นล่ะก้นะ"
ผมเงียบไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา รู้สึกโชคดีที่ผมโตมาด้วยความอบอุ่นและรู้สึกรักพ่อกับแม่มากขึ้นไปอีก
พ่อเองก้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ด้วยเหมือนกัน
"สองพ่อลูกคุยอะไรกันน่ะ เดี๋ยวจู่ๆก้เสียงดังขึ้นมา เดี๋ยวก้เบาลงเหมือนกระซิบกระซาบกัน มีความลับกับแม่เหรอ" แม่เดินออกมาจากห้องครัว ในมือถือจานผลไม้ที่หั่นแล้วมาด้วย
"ป่าวคร้าบบ" พ่อรีบตอบทันที แม่วางจานลงบนโต๊ะ
"ครับ" ผมเสริมเสียงใส
ถ้าเกิดว่าอั๋นมีใครอีกนอกจากผม ผมก้คงเสียใจมากเช่นกัน ไม่ต้องลองแทนความรู้สึกของเจ๊เอ๋มาคิดก้รู้เลย

เช้าวันต่อมา อั๋นเล่าให้ผมฟังว่าเจ๊เอ๋รู้สึกโอเคขึ้นแล้วและกำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะคุยกับพี่เหมาอย่างไร แต่จะรีบเคลียร์ให้เร็วที่สุด เมื่อผมถามต่อว่าเจ๊เอ๋มีท่าทางจะคบหรือเลิกกับพี่เหมา
"ไม่รู้ว่ะ กูไม่เคยเห็นเจ๊เป็นแบบนี้มาก่อนเลย...แต่กูอะอยากให้เจ๊เลิก ถ้าพี่เหมามีคนอื่น กูไม่โอเค"
"มึงบอกเจ๊เอ๋แบบนี้ด้วยปะ"
"ไม่ กูให้เจ๊ตัดสินใจ ถ้าเจ๊ไม่อยากเลิกหรือยังทำใจไม่ได้ก้ต้องแล้วแต่เค้า"
"แต่เจ๊เอ๋ต้องทนให้พี่เหมาทำงี้เนี่ยนะ"
"กูเข้าใจนะหมอ กูก้ไม่อยากให้เจ๊ต้องมาทน แต่เจ๊เอ๋ต้องเป็นคนเลือก กูทำได้แค่เตือน"
อั๋นสบตาผม ผมยังไม่ค่อยเข้าใจความคิดของมันนัก แต่ส่วนที่ว่าเจ๊เอ๋เป็นคนตัดสินใจก้เป็นเรื่องจริงอยู่
"กูจะไม่มีวันทรยศความรักของเรา กูจะไม่ทำให้มึงเสียใจด้วยการมีคนอื่น"
อั๋นจับมือผม ส่งยิ้มบางๆให้
"กูก้จะไม่ทำยังงั้นเหมือนกัน"

สัปดาห์สุดท้ายของงานกีฬาสีมาถึงในที่สุด ตลอดทั้ง4วันนี้ไม่มีการเรียนการสอน ช่วงบ่าย พวกผมไปดูการแข่งขันบาสเกตบอลรอบชิงชนะเลิศของมัธยมปลาย สีแดงพบกับสีเขียว มีนักเรียนและอาจารย์มาชมการแข่งนัดนี้แน่นสนาม
"กูบอกว่าให้ไปดูกีฬาอื่น นี่สีแดงชนะชัวร์ๆไม่ต้องลุ้นเลย พวกมึงจะลากกูมาดูนี่ทำไมวะ" ไอ้นนท์บ่น
"สีเขียวก้เล่นได้นะเว้ย" ผมพูด
"สีเขียวถ้าเจอไอ้อั๋นกับไอ้ต้าร์ก้แพ้แล้ว ไม่ต้องหลุดไปถึงสีแดงหรอก"
"เหอะน่า ดูมาตั้งแต่แมตช์คัดเลือกก้ดูให้จบดิวะ" ไอ้ต้าร์บอก
"ถ้าไม่มานี่ มึงจะไปดูไร ดูเด็กประถมแข่งเตะโฟมเหรอ" ไอ้เอกถาม เรียกเสียงฮาครืน
แม้ไอ้นนท์จะทำหน้าบูดเป็นตูดเป็ดตอนเดินเข้ามาในโรงยิม แต่เมื่อการแข่งเริ่มขึ้น มันกลับตื่นเต้นยกใหญ่
แน่นอนว่าสีแดงมีคะแนนนำสีเขียวอยู่มาก นักกีฬาสีเขียวเล่นสุดความสามารถ ทุกคนหอบตัวโยน
สีแดงเองก้เล่นเต็มที่เช่นกัน แม้จะเหนือกว่าทีมคู่ต่อสู้อย่างเห็นได้ชัด กองเชียร์สีแดงส่งเสียงดังทุกครั้งที่อาร์ตทำคะแนนได้ มีหลายครั้งที่ใช้เทคนิคตื่นตาตื่นใจ
"อาร์ตเล่นดีมาก" อั๋นพึมพำ ผมพยักหน้าเห็นด้วย
"ถ้าปีหน้าห้องเรากับห้องมันอยู่สีเดียวกันก้ดีดิ ฟอร์มทีมไปชนะสบายๆเลย"
"แต่กูอยากแข่งกับอาร์ตอีกนะ ยังไม่ได้ล้างแค้นเลย"
"เดี๋ยวก้แพ้อีกนะครับ" ผมแกล้งยั่ว
"เห้ย มึงพูดงี้ได้ไง" อั๋นละสายตาจากเกมส์ในสนามแล้วหันมาหาผมทันที
"เอ้า กูพูดผิดตรงไหน"
"นี่แฟนทั้งคนนะ มึงไม่เชียร์กูอ่อ"
"ไม่"
"เชียร์อาร์ตเหรอ"
"เออ อาร์ตเก่งกว่าอั๋นนิ"
"ไอ้หมอ"
อั๋นใช้แขนล็อคคอผม
"ปล่อย...โอ๊ย"
มันเขกหัวเข้าให้ทีหนึ่ง ตอนนี้หน้าผมซุกอยู่กับเสื้ออั๋น ผมปัดป่ายมืออย่างไร้ผล
"กูหายใจไม่ออก แค่กๆ" ผมแกล้งไอ อั๋นถึงยอมปล่อย เงยหน้าขึ้นมามองมัน หน้าบึ้งใหญ่เลยครับ
"กูน้อยใจจริงๆนะ"
"โอ๋ ไม่ร้องนะครับ กูแค่ล้อเล่น" ผมลูบหัวอั๋น
"ไม่เล่น"
"ขี้งอนว่ะ"
"..."
อั๋นยกแขนขึ้นกอดอก หันหน้ากลับไปมองในสนามฯ
"พวกมึงจะสวีทกันอีกนานมั้ยวะ" ไอ้นนท์แทรก
"มึงดูดิ อั๋นงอนกูเนี่ย" ผมหันไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆทันที
"อ้าว ง้อเลยเชี่ยหมอ" ไอ้ต้าร์หัวเราะ
"ใครทำมันงอนก้รับผิดชอบด้วย" ไอ้นนท์ยิ้มเยาะผม
"สัส ไม่ช่วยกันเลยนะ...เห้ย งอนกูจริงดิ" ประโยคหลังผมพูดกับไอ้คุณแฟนที่กำลังแก้มป่องอยู่
"..."
"อั๋นจ๋า~"
ผมขยับเข้าไปกอดอั๋น มันงอนผมจริงๆใช่มั้ยครับเนี่ย ไอ้สามตัวหันมาส่งยิ้มกวนตีนให้
"กูล้อเล่น กูก้ต้องเชียร์มึงดิ"
"ไม่ต้องเลย"
"อย่างอนเลยน่า"
"ไม่"
"หายงอนเหอะ นะๆ" ผมเขย่าแขนมันหลายๆที
"จุ๊บก่อน" อั๋นพูดหน้าตาย
ผมนิ่ง จะให้หอมแก้มกลางที่สาธารณะแบบนี้เนี่ยนะ
"เร็วดิวะหมอ เดี๋ยวอั๋นไม่หายงอนนะเว้ย" ไอ้เอกเร่ง
แต่อั๋นก้เป็นฝ่ายยื่นหน้ามาหอมแก้มผมซะก่อน หน้าผมเป็นสีแดงจัดทันที
"วีดวิ้ววว"
"พ่อมึงเป็นมโหรีเหรอสัส"
ผมด่าไอ้เพื่อนตัวแสบที่กำลังทำท่าล้อเลียนใส่
"ห้ามเชียร์คนอื่นรู้ปะ" อั๋นพูดขึ้นอีกครั้ง
"เออ...ไม่ได้งอนจริงนี่หว่า หลอกให้กูง้ออยู่ได้" ผมโวยวาย
"ก้มึงแหย่กูก่อนนี่" อั๋นยิ้มกว้าง ขยับข้ามตัวผมไปแท็คมือกับเพื่อนสามคน
"เออ ให้มันรู้ซะมั่งว่าใครกดใคร" ไอ้นนท์บอก
"ไอ้หมอมันต้องโดนกด" ไอ้เอกพูดอีกคน
อั๋นยิ้มมุมปากใส่ผม
เป็นไปตามคาด สีแดงเป็นผู้ชนะ คะแนนสุดท้ายทิ้งห่างสีเขียวไปขาดลอย ทุกคนที่มาชมการแข่งลุกขึ้นปรบมืออย่างพร้อมเพรียง
พี่สีแดงและกองเชียร์ล้อมกลุ่มนักกีฬาเป็นวงกลมแล้วบูมให้เสียงดังลั่นสนามฯ ใจกลางวงกลม ผมเห็นอาร์ตยิ้มกว้างอย่างภูมิใจ

"ยินดีด้วยนะเว้ย" ผมตบไหล่อาร์ต เดินเข้าไปหาพร้อมกับอั๋นหลังคนส่วนใหญ่ทยอยออกจากโรงยิมกันไปแล้ว
"ขอบใจนะหมอ" อาร์ตโชว์ลักยิ้มสวย
"เล่นดีจริงๆ" อั๋นชม
"ไว้มาเล่นด้วยกันอีกนะ" อาร์ตบอกก่อนขอตัวไปฉลองความสำเร็จกับเพื่อนในทีม
ตอนนั้นเอง พี่ก้องไลน์มาแจ้งผมว่าฝ่ายเชียร์มีนัดประชุมด่วนเย็นนี้ เรื่องการจัดสถานที่ครั้งสุดท้ายสำหรับวันจริง เฉพาะส่วนที่พี่เค้าสงสัย
"กูต้องไปประชุมกับฝ่ายเชียร์ว่ะ" ผมบอกอั๋น เงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์มือถือ
"อ่าวเหรอ เดี๋ยวกูรอนะ"
"อือ...ไม่รู้เสร็จกี่โมงว่ะ ถ้ากูนานมึงกลับก่อนก้ได้นะ เดี๋ยวกูกลับเองก้ได้" พรุ่งนี้ฝ่ายเชียร์จะต้องตกแต่งสแตนด้วยอุปกรณ์ทั้งหมดที่เตรียมไว้แล้ว ผมจึงคิดว่าการประชุมอาจใช้เวลานานอยู่
"กูรอได้ จะไม่รอแฟนได้ไงล่ะ" อั๋นหยิกแก้มผม
"เออ...งั้นเดี๋ยวเลิกแล้วโทรหานะ"
"ครับ เดี๋ยวไปส่ง"

ครึ่งชั่วโมงถัดมา อั๋นจับมือผมเดินไปยังห้องประชุมที่สีฟ้าใช้คุยงานกันเป็นประจำ ผมชินเสียแล้วที่อั๋นจับมือ แต่ก้รู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่มันทำอย่างนั้น และรู้สึกดีด้วยที่มันดูแลผมตลอดเวลา
ตอนนี้ยังไม่มีใครมาถึงเลยครับ เรานั่งรอบนที่นั่งยาวหน้าห้องประชุม
"ทำไมยังไม่มีใครมากันเลย" อั๋นเลิกคิ้ว มองผ่านบานหน้าต่างกระจกเข้าไปในห้อง
"พี่ก้องนัดแค่บางส่วนที่เค้าสงสัยน่ะ" ผมตอบ ชะเง้อมองไปรอบๆบริเวณนั้นบ้าง ไม่เห็นนักเรียนคนอื่นๆ อาจารย์หรือเจ้าหน้าที่สักคนก้ไม่เห็น
อั๋นผละจากหน้าต่างมานั่งลงข้างผม
"มึงช่วยส่วนของพี่เมฆไม่ใช่เหรอ ก้เสร็จหมดแล้วนิ"
"เออ กูก้งงอยู่ ถ้าไม่ต้องแก้ไขอะไรก้คงทวนกำหนดการมั้ง" ผมพูดตามที่คิด
อั๋นอยู่รอเป็นเพื่อนผมอีกเดี๋ยว นนท์ก้โทรมาหา ชวนพวกเราไปกินไอศกรีมหน้าโรงเรียน ผมเลยบอกให้อั๋นไปก่อนได้เลย
"ขอจุ๊บก่อนไปดิ"
"ไม่เอา ไปเลยมึง"
"น่า ทีเดียว"
"ไอ้บ้า เดี๋ยวใครมาเห็น"
แล้วผมก้โดนอั๋นหอมแก้มจนได้ มันหอมแก้มผมเร็วๆก่อนจะรีบวิ่งไป
"ไอ้บ้าเอ๊ย"

"น้องหมอ มาแล้วเหรอครับ" พี่ก้องเดินมาถึงหน้าห้องประชุมหลังอั๋นไปไม่ถึงห้านาที เค้าเดินมาคนเดียวพร้อมรอยยิ้มกว้าง "ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ"
"ครับ" ผมรับคำสั้นๆ เลิกประหลาดใจกับน้ำเสียงร่าเริงของพี่ก้องที่เหมือนญาติดีกับผมไปนานแล้ว
"วันนี้แฟนเราไม่มาเฝ้าเหรอ"
"คนอื่นไปไหนกันหมดอะพี่" ผมไม่สนใจคำถามเรื่องอั๋น
"เดี๋ยวก้มากันครับ พี่ไม่ได้เรียกมาทุกคน เข้าไปข้างในกันเถอะ" พี่ก้องตรงเข้ามาจะคว้ามือผม แต่ผมขยับหนีแล้วลุกไปที่ประตูก่อน
"รีบจังนะเรา" พี่ก้องยิ้มมุมปาก ไขกุญแจเปิดห้องประชุม
"พี่เรียกผมมามีไรครับ"
"เป็นการเป็นงานจริงๆ เดี๋ยวสิครับ รอคนอื่นก่อน"
ผมนั่งเก้าอี้ที่ห่างจากตัวที่พี่ก้องนั่งมากที่สุด พี่ก้องหยิบ          แลปทอปออกมาเปิดและนั่งจ้องหน้าผม
ผมไม่อยากสบตาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น

"เอ ทำไมยังไม่มากันอีกนะ" พี่ก้องลุกเดินไปที่ประตู
นั่นสิ นี่มันก้เลยเวลามานานแล้ว ปกติสมาชิกของฝ่ายเชียร์ไม่เคยเข้าประชุมสายเลยสักครั้งเดียว โดยเฉพาะพี่เมฆที่จะมาก่อนเวลาเสมอ หรือนี่เป็นการเรียกประชุมด่วน ทุกคนเลยมาช้านะ
พี่ก้องกดล็อคประตูไม้ ผมหันไปทันทีที่ได้ยินเสียง
"ล็อคประตูทำไมอะ"
พี่ก้องหัวเราะในลำคอ ดวงตาหลังกรอบแว่นเป็นประกายฉายแววชั่วร้าย
"เรานี่มันหลอกง่ายจริงๆนะ งานทุกอย่างมันต้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว พรุ่งนี้ตกแต่งสแตนละนะ คิดว่าพี่เรียกเรามาทำไมล่ะ"
ผมตกใจ พึ่งตระหนักได้ว่าพี่ก้องกำลังจะทำอะไร
"หมอคิดว่าคบกับเพื่อนแล้วพี่จะอยู่เฉยๆเหรอ...พี่ยังอยากได้เราอยู่นะ"
พี่ก้องย่างสามขุมเข้ามาหา ผมรีบลุกจากเก้าอี้แล้ววิ่งไปที่มุมห้องอีกด้านหนึ่งทันที
"ยะ อย่านะ"
"คนอย่างพี่อยากได้อะไรแล้วต้องได้"
ผมกลัวจนทำอะไรไม่ถูก พี่ก้องตอนนี้เหมือนคนโรคจิตคนหนึ่งเลยทีเดียว ผมไม่มีทางคว่ำเค้าแล้วหนีออกไปจากห้องนี้ได้แน่
"หมอเคยลองรึยังล่ะ" พี่ก้องเดินตรงเข้ามาอีก มองผมหัวจดเท้า "พี่เดาว่ายัง ยังไม่เสร็จอั๋นใช่มั้ย" เค้าหัวเราะหึๆ
"อย่านะเว้ย" ผมร้อง
"อั๋นนี่แม่งโคตรโง่เลยว่ะ เป็นแฟนแล้วแท้ๆยังไม่ได้น้องอีก...ไม่ต้องกลัวหรอกน่า พี่ไม่ทำรุนแรงหรอก"
พี่ก้องหมุนหน้าจอแลปทอปให้ผมเห็น เค้าเปิดโปรแกรมบันทึกวิดีโอค้างไว้
"จะ จะทำไร"
"ถ่ายหนังสดไง พี่จะได้เราทั้งที ขอเก็บไว้เป็นที่ระลึกหน่อย"
ผมหายใจไม่ทั่วท้อง รู้สึกว่าตัวเองโง่เสียเต็มประดาที่โดนหลอกมา ถ้าพี่ก้องจะนัดประชุม เค้าก้น่าจะบอกทุกคนในไลน์กรุ๊ปฝ่ายเชียร์ ไม่จำเป็นต้องทักแชทแยกมาหาแต่ละคน แถมยังตอนที่ผมรออยู่ตั้งนานแต่ไม่มีคนมาสักที ทำไมผมไม่เอะใจนะ
"ยังไม่ได้บอกใช่มั้ยว่าพี่เองแหละที่ทำให้แฟนเราไม่ติดตัวจริงบาสฯสี สงสัยมั้ยว่าทำได้ไง"
"..."
"ไอ้ปอฝ่ายกีฬา มันติดหนี้บอลพี่อยู่ พี่ก้แค่ขู่มันนิดๆหน่อยๆ หมอรู้ใช่มั้ยว่าถ้าไอ้ปอมันยังให้อั๋นติดตัวจริงมันจะโดนอะไร"
ผมกำหมัดแน่น ไม่คิดฝันมาก่อนว่าพี่ก้องจะเลวได้สุดขั้วขนาดนี้
"ทำไงได้ล่ะ มันอยากมาจีบน้องแข่งกับพี่ แต่ตอนนี้มันก้ทำอะไรไม่ได้แล้ว มันแค่ได้เป็นแฟน แต่พี่กำลังจะได้หมอเป็นเมีย"
ผมกลืนน้ำลาย ภาพความทรงจำเลวร้ายที่ห้องน้ำร้านเหล้าหวนกลับเข้ามาในหัวอีกครั้ง
ครั้งนี้ผมคงไม่โชคดีรอดมาได้เหมือนครั้งก่อนสินะ
แล้วพี่ก้องก้ขยับตัวอย่างรวดเร็ว ปราดเดียวก้ถึงตัวผม ผมพยายามต่อสู้เต็มที่ ดิ้นสุดแรง ชกทุกส่วนของร่างกายพี่ก้องที่เอื้อมถึง แต่ทำร้ายอีกฝ่ายไม่ได้เลยสักนิด
"ปล่อยกูนะเว้ย ปล่อย" ผมตะโกนลั่นทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าเสียงไม่หลุดออกไปข้างนอกห้อง พี่ก้องยกตัวผมกระแทกลงบนโต๊ะประชุมเต็มแรงและขึ้นคร่อมทันที
"ปล่อย ปล่อยกู"
"ตะโกนไปก้ไม่มีใครได้ยินหรอก" พี่ก้องรวบแขนสองข้างของผมไว้ หันหน้าไปมองที่แลปทอปอย่างชั่วร้าย "หมอหันมายิ้มให้กล้องหน่อยสิครับ"
"ไอ้โรคจิต ปล่อย"
ผมยังแหกปากร้องและดิ้นเต็มที่ พี่ก้องต่อยเข้าที่ท้องจนจุก
ผมเจ็บมาก นั่นทำให้หมดเรี่ยวแรงขัดขืนไปโข
พี่ก้องยื่นหน้าเข้ามาจะจูบ แต่ผมหันหน้าหนี เค้าจึงไซร้ซอกคอผมอย่างหื่นกระหาย
"ปล่อย"
พี่เค้าปลดกระดุมเสื้อผมจนหมดอย่างรวดเร็ว ผมดิ้นพล่าน
ผมบอกตัวเองว่าต้องมีสติ ใช้เรี่ยวแรงเข้าสู้คงทำอะไรไม่ได้ ตัดสินใจพูดกับพี่ก้องดีๆ
"พะ พี่ก้อง อย่าทำผมเลยนะ"
"..."
"ผมขอร้อง นะครับ อย่าทำแบบนี้เลยนะ"
"ไม่ได้ครับ มาถึงนี่แล้ว พี่ไม่ยอมปล่อยหมอหนีไปง่ายๆหรอก"
พี่ก้องเลื่อนริมฝีปากลงมาสัมผัสท่อนบนของผมต่อ ผมตกใจจนแทบสิ้นสติ
ผมมองเห็นตัวเองกับพี่เค้าในหน้าจอแลปทอป เกลียดพี่ก้องจนอยากจะฆ่าเค้าให้ตายไปซะ ผมพยายามมองหาอะไรที่จะทุ่มใส่หัวพี่ก้องได้
แล้วประตูก้ถูกเปิดออก อั๋นยืนช็อคอยู่หน้าห้อง
พี่ก้องเงยหน้าขึ้นจากตัวผม อั๋นพุ่งปรี่เข้ามาซัดหมัดใส่หน้าพี่เค้าจนล้มลงไปกองกับพื้น
"ไอ้เชี่ยก้อง"
อั๋นโมโหจนหน้าเป็นสีเลือด กระชากคอพี่ก้องขึ้นมาต่อยซ้ำอีกครั้ง ผมรีบลุกขึ้นใส่เสื้อและเดินไปลบไฟล์วิดีโอในแลปทอปทันที
"หมอ มึงไม่เป็นไรนะ" อั๋นปล่อยพี่ก้องแล้วหันมาสำรวจตัวผม แววตาอั๋นสะท้อนความเจ็บปวดเหลือแสน
"ไม่เป็นไร" ผมหอบหายใจ ยังเจ็บที่หลังกับท้องอยู่ แต่นอกจาก นั้นก้ไม่มีส่วนอื่นที่ถูกทำร้าย
"เจ็บตรงไหนรึป่าว มันยังไม่ได้ทำอะไรมึงมากกว่านั้นใช่มั้ย" ผมเข้าใจสิ่งที่อั๋นหมายถึง อั๋นประคองตัวผมอย่างอ่อนโยน เสียงสั่นเหมือนคนจะร้องไห้
"มันยังไม่ได้ทำอะไร"
พี่ก้องลุกขึ้นยืน ใช้มือเช็ดเลือดบนจมูกออกก่อนจะวิ่งออกจากห้องไป ผมทุ่มแลปทอปลงบนพื้น ชิ้นส่วนมันแตกกระจาย

อั๋นเล่าให้ผมฟังว่าไม่ได้ไปหานนท์ที่ร้านไอศกรีม เพราะเห็นพี่ก้องเดินเข้าไปในห้องกับผมแค่สองคน พอจะเข้ามาหากลับเจอว่าประตูล็อค รู้แน่ว่าต้องมีอะไรแปลกๆเกิดขึ้น มันพยายามจะพังประตูเข้ามาแต่ไม่ไหว จึงวิ่งไปขอยืมกุญแจห้องประชุมที่หน่วยอาคารและสถานที่ เปิดออกมาก้เจอพี่ก้องกำลังจะข่มขืนผม
เวลานั้นแทบไม่มีใครอยู่ที่โรงเรียนแล้ว โชคดีมากที่อั๋นยังอยู่แถวห้องประชุมและมาช่วยผมได้ทันเวลา มิฉะนั้นผมอาจเสร็จพี่ก้องไปแล้ว
อั๋นสอบถามอาการซ้ำแล้วซ้ำเล่า เราไปนั่งกันอยู่ที่ม้าหินแถวลานจอดรถของโรงเรียน หน้าอั๋นยังซีดอยู่ตั้งแต่ตอนที่เข้าไปช่วยผม ความรู้สึกแย่ข้างในตัวผมเพราะเกือบโดนข่มขืนหายไปเป็นความรู้สึกดีที่เห็นอั๋นเป็นห่วงผมมากขนาดนี้ สองครั้งแล้วที่อั๋นช่วยให้ผมรอดจากเหตุการณ์เลวร้าย ผมซึ้งใจที่รู้ว่ามันรักผมแค่ไหน

"มึงจะไม่บอกครูเรื่องไอ้ก้องจริงๆเหรอ"
"ไม่อะ กูไม่อยากเจอหน้าไอ้พี่ก้องอีก" ผมตัดสินใจว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับทางโรงเรียน ให้เหตุผลกับอั๋นไปตามตรง ถ้าแจ้งคุณครู เรื่องจะใหญ่โต ผมต้องถูกเรียกไปคุยยืดยาวพร้อมกับพี่ก้อง และคนทั้งโรงเรียนก้ต้องรับรู้เรื่องนี้ด้วย ผมไม่อยากถูกพูดถึงเพราะเกือบโดนรุ่นพี่ทำมิดีมิร้ายด้วย
ผมแน่ใจว่าจะไม่ร้องเรียน ถึงแม้พี่ก้องจะไม่ถูกลงโทษ ไม่ว่าความผิดนี้มีผลทำให้ถึงขั้นถูกไล่ออกจากโรงเรียนหรือขึ้นโรงขึ้นศาลกันได้เลยทีเดียว
"ก้ได้ กูแล้วแต่มึง...แต่ต่อไปกูจะไม่ปล่อยให้มึงอยู่คนเดียว กูจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายมึงได้อีก" อั๋นดึงผมเข้ามากอด ผมรู้สึกได้ถึงความรักที่อั๋นส่งมาให้จากอ้อมแขน
"ขอบคุณนะ" ผมบอก ยิ้มออกมา
"...กูอยากฆ่าไอ้ก้อง"
"โดนไปขนาดนี้ มันคงไม่มายุ่งกับกูแล้วล่ะ" ผมหวังเหลือเกินว่าสิ่งที่พูดออกไปจะทำให้ทั้งอั๋นและตัวผมเองสบายใจขึ้น แต่ผมคิดว่าผมไม่กลัวอะไรอีกต่อไปเมื่อมีอั๋นคอยอยู่เคียงข้าง
"คืนนี้ให้กูอยู่กับมึงนะ"
"อือ"
อั๋นคลายกอด เราสองคนเดินไปขึ้นรถมอเตอร์ไซด์เตรียมจะกลับบ้าน

-จบตอน-

โอย เกือบไปแล้วนะหมอ อั๋นมาช่วยไว้ได้ พี่ก้องนี่มันชักจะเลวเกินไปนะ นักเขียนก้โกรธจนตัวสั่นเหมือนกัน ฮึ่มม
วันนี้ก้เอาประวัติของหมอมาฝากด้วยนะจ๊ะ :)

ชื่อ : หมอ
สถานะ : มีแฟนแล้ว - อั๋น
ชั้นเรียน : มัธยม4/12 สายศิลป์-คำนวณ โรงเรียนชายล้วน
วิชาที่ถนัด : ไม่มีสักวิชา- -
สีที่ชอบ : เขียว
อาหารที่ชอบ : ปีกไก่ทอด ของทอดทุกชนิด
กีฬาที่ชอบ : ปิงปอง
เวลาว่าง : เล่นเกมส์ออนไลน์ อ่านการ์ตูน
ลักษณะนิสัย : เป็นคนง่ายๆสบายๆ คำพูดติดปากจึงเป็นคำว่า 'ชิว' ขี้เกียจสุดๆ นอนดึกตื่นเที่ยงเป็นประจำ เป็นนักเรียนที่ไม่ควรเอาเป็นแบบอย่าง แต่ถึงอย่างนั้นก้เป็นเด็กดีของพ่อแม่ เป็นที่รักของเพื่อนๆ จึงมักเป็นฝ่ายถูกแกล้ง ให้เพื่อนเต็มร้อย ถึงไหนถึงกัน ใจเด็ด แม้จะเป็นเคะ แต่ไม่ได้อ่อนแอหรือง๊องแง๊งเหมือนผู้หญิง ฉลาดหัวไวกับเรื่องที่ไม่ใช่การเรียน เขินง่ายมาก ภูมิคุ้มกันเวลาโดนอั๋นจีบต่ำ
รูปร่างหน้าตา : หนุ่มหล่อหน้าอ่อน หน้ามึนๆง่วงๆตลอดเวลา ขอบตาคล้ำ ผิวขาว สูงแต่บอบบาง

ติดตามตอนต่อไปกันด้วยนะ
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่28 (9/7/2559 21.00)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 10-07-2016 00:09:18
น่าจะเอาเรื่องไอ้ก้องนะ ชั่วเกิ๊น
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่29
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 17-07-2016 20:02:11
ตอนที่29

เมื่อคิดถึงเรื่องที่พึ่งเกิดขึ้น อารมณ์ผมกลับมาเป็นปกติได้รวดเร็วทีเดียว เหตุผลไม่ใช่เพราะผมรอดมาได้อย่างเดียว แต่เป็นเพราะอั๋นมาอยู่กับผมที่บ้านในคืนนี้ด้วย
เราสองคนทานอาหารเย็นพร้อมกับพ่อแม่ผม โชคดีที่รอยช้ำอยู่ที่หน้าท้องกับหลังผม ไม่อย่างนั้นพวกท่านคงสังเกตเห็นและถูกถามได้
"พรุ่งนี้ต้องเริ่มจัดสแตนเชียร์แล้วใช่มั้ยลูก" แม่ถาม
"ครับ พรุ่งนี้หมอน่าจะกลับดึกนะ"
"จ้ะ อั๋นล่ะ ได้ทำกีฬาสีกับหมอมั้ย"
"ผมเล่นบาสฯน่ะครับ ไม่ได้ทำงานฝ่ายเชียร์เหมือนหมอ แต่ผมจะไปช่วยจัดสแตนด้วยครับ"
"อ๋อ ดีจังเลยนะ ทั้งเล่นกีฬาทั้งช่วยทำงาน"
"อย่าไปชมมันมากดิแม่"
"แกอย่าอิจฉาเพื่อนสิ" พ่อพูด แม่กับอั๋นหัวเราะ
"พ่อ- -"
"คืนพรุ่งนี้อั๋นก้มานอนบ้านเราอีกคืนสิลูก จะได้ไม่ต้องขับกลับบ้านตอนดึกๆ"
"ขอบคุณครับแม่ แต่พรุ่งนี้ผมต้องอยู่บ้านน่ะครับ" อั๋นยิ้มกว้าง มันบอกผมว่าพรุ่งนี้เจ๊เอ๋จะกลับบ้านเร็ว มันอยากอยู่เป็นเพื่อนเจ๊ครับ
"อ๋อ ไม่เป็นไรจ้ะ"

"ให้ผมช่วยล้างจานนะครับ" อั๋นเสนอ ลุกขึ้นเก็บรวบรวมจานชามที่ใช้แล้วขึ้นถือ
"โอ๊ย ไม่เป็นไรจ้ะ" แม่รีบคว้าจานชามไปจากมืออั๋น "ไม่ต้องช่วยแม่หรอก ขึ้นไปพักผ่อนเถอะ...ขนาดหมอมันยังไม่เคยช่วยแม่ล้างเลย"
"ไม่จริง ผมช่วยนะ"
พ่อ แม่ อั๋นหัวเราะ
"แม่ล้อเล่น ขึ้นไปข้างบนเถอะลูก เดี๋ยววันนี้แม่ทำเอง"
ผมจูงมืออั๋นที่ไม่ยอมละจากโต๊ะอาหารไปสักที พ่อกับแม่มองพวกเรา
"ผู้หญิงคนไหนได้อั๋นเป็นแฟนนี่โชคดีมากเลยนะ ดูสิ น่ารักมาก" แม่เอ่ยชม
"บ้านเราน่าจะมีลูกสาวนะ ไม่สิ หมอมันน่าจะเป็นผู้หญิงเนอะ" พ่อพูดยิ้มๆ
อั๋นยิ้มรับคำชมหน้าบาน

เมื่อเราขึ้นมาที่ห้องผม สีหน้าอั๋นกลับมาเครียดเหมือนเดิม
"หมอ มึงโอเครึยัง"
"โอเคแล้ว" ผมตอบพร้อมรอยยิ้มกว้าง รู้สึกดีขึ้นแล้วจริงๆครับ
"จริงเหรอ"
"จริงดิ"
"กูเป็นห่วงมึงมากรู้มั้ย ถ้ามึงยังไม่ดีขึ้น มึงต้องบอกกูตรงๆนะ"
"คร้าบบบ กูไม่ได้โกหกนะ กูโอเคแล้ว" ผมดึงแขนอั๋นให้มานั่งลงบนเตียงด้วยกัน
อั๋นจับมือผม
"มึงเจ็บตรงไหนรึป่าว"
"ก้ เจ็บที่ท้องกับหลังนิดหน่อยอะ"
"ไหนดูซิ"
ผมถอดเสื้อนักเรียนออก เผยให้เห็นรอยช้ำเป็นสีเขียวคล้ำอยู่ตรงหน้าท้องด้านซ้าย
"นี่ไอ้ก้องมันต่อยมึงยังงี้เลยหรอ" อั๋นคิ้วขมวดทันทีที่เห็น "ที่หลังล่ะ"
ผมหันหลังให้อั๋นสำรวจ
"มีรอยแดงอยู่กลางหลังเลย"
ผมกัดฟันกรอด ยิ่งคิดก้ยิ่งแค้นไอ้พี่ก้อง
อั๋นเงียบไปพักใหญ่ ท่าทางเศร้าโศก ผมเห็นอย่างนั้นจึงขยับเข้าไปกอดมัน
"อั๋น ขอบคุณมากนะ"
อั๋นกอดตอบและส่งเสียงอู้อี้กลับมา
"มึงเป็นคนที่กูรักมากที่สุดเลยรู้มั้ย ถ้าเจ็บแทนมึงได้กูก้จะทำ"
เราผละออกจากกันแต่มือยังประคองกันอยู่ตรงนั้น อั๋นยิ้มเศร้าๆ
"เพราะมึงกูถึงรู้สึกดีขึ้นนะอั๋น สบายใจได้แล้วนะ"
"อือ"
อั๋นทายาและนวดเบาๆให้หลังผมอาบน้ำเสร็จ เราใกล้กันจนผมรู้สึกได้ถึงทุกลมหายใจของอั๋น
"หมอเข้มแข็งมากเลยนะ"
ผมเอนตัวลงไปนอนบนตักอั๋น มันก้มหน้าลงมาสบสายตาและลูบเส้นผมเล่น
เราอยู่ในท่านั้นอีกสักพัก ไม่ได้พูดอะไรกัน แค่มองหน้ากัน นั่นทำให้ผมพบว่าเราสองคนเข้าใจกันและกันอย่างลึกซึ้งแค่ไหน ผมเคยคิดว่าผมโชคดีมากที่ได้รู้จักคนดีๆอย่างอั๋น แต่นั่นเทียบไม่ได้เลยเมื่อนึกถึงว่าอั๋นรักผมมากมายขนาดนี้ ผมเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลก

วันต่อมาเป็นการแข่งขันกีฬาในรอบชิงชนะเลิศอีกวันหนึ่ง นักเรียนที่ไม่ได้เป็นทั้งสตาฟจัดงานและนักกีฬาสามารถเลือกได้ว่าจะไปดูการแข่งขันชนิดอะไร หรือจะมาช่วยเตรียมงานให้กับสีตนเองก้ได้
ผมชวนอั๋น ต้าร์ เอก นนท์และเพื่อนในห้องคนอื่นอีก5-6คนมาช่วยจัดสแตนเชียร์ ระหว่างที่พวกเรากำลังเอาถุงใส่อุปกรณ์เชียร์ไปวางบนที่นั่งต่างๆให้ตรงกับผังการแปรอักษรที่จัดไว้ พี่ก้องเดินเข้ามาคุยกับพี่สี จมูกมีรอยแผลที่อั๋นฝากไว้เมื่อวาน ดูเจ็บหนัก พี่ก้องไม่แม้แต่จะชำเลืองมองมาที่ผมกับอั๋นสักนิด
"เห้ยๆ มึงดูดิ จมูกพี่ก้องไปโดนไรมาวะ" นนท์หันมากระซิบเบาๆ
"โดนต่อยมาอะดิ เป็นรอยยังงั้น" เอกตอบทันควัน
ผมกับอั๋นหลีกเลี่ยงไม่สบตากัน แต่ผมรู้สึกได้ว่าเมื่อผมมองไปทางอื่น อั๋นกำลังแอบมองผมอยู่อย่างเป็นห่วง
"พี่ก้องเค้าไปมีเรื่องกับใครบ่อยๆวะ วันนั้นก้ปากแตก วันนี้ก้จมูกแตกอีก"
"เออ กูก้สงสัยเหมือนกัน" ต้าร์พยักหน้า
ผมกับอั๋นไม่ตอบ หัวข้อนี้จึงถูกข้ามไป แน่นอนว่าผมไม่ได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ใครฟัง และผมยังมั่นใจด้วยว่าทำถูกที่ไม่ได้เอาเรื่องพี่ก้อง
"ไปทำตรงอื่นกันเถอะ กูทนเห็นหน้าพี่ก้องไม่ไหวจริงๆ" อั๋นพูดเบาๆให้ผมได้ยินคนเดียว
เราสองคนแยกออกมาช่วยตรวจสอบอุปกรณ์ที่จะใช้ในการเดินพาเหรดซึ่งไกลจากมุมที่พี่ก้องอยู่ เมื่ออยู่กันตามลำพังแล้ว อั๋นถามผมทันที
"มึงโอเคใช่มั้ย"
"กูโอเค" ผมตอบตามที่รู้สึกจริงๆ
"กูอยากเข้าไปต่อยมันอีก เมื่อวานยังไม่สมกับที่มันทำเลย"
อั๋นดูเหมือนต้องอดทนมากทีเดียวที่จะไม่ย้อนกลับไปแล้วพุ่งเข้าใส่พี่ก้อง ผมจับมือมันบีบเบาๆ
"ช่างมันเหอะ ไปยุ่งกับมันอีกเรื่องก้ไม่จบสักที...กูสบายใจแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง"
อั๋นมองมาอย่างไม่แน่ใจ
"เชื่อกูดิ แค่กูมีมึงอยู่ด้วยก้ไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว"

เราตรวจสอบอุปกรณ์ทุกชิ้นจนแน่ใจว่ามันพร้อมใช้งานในวันจริง อั๋นดูสบายใจขึ้นเมื่อเห็นว่าผมปกติดี<br>
กลับไปหาพวกไอ้นนท์กัน
งานจัดถุงอุปกรณ์สำหรับที่นั่งบนสแตนเชียร์เสร็จเรียบร้อย รวมถึงฉากและการตกแต่งทั้งหมด สแตนเชียร์ประกอบด้วยสีฟ้าและขาว สวยงามมากตอนนี้สตาฟกำลังเก็บขยะรอบๆบริเวณอยู่
"ไปแดกข้าวกันพวกมึง" นนท์บอกเมื่อผมกับอั๋นเดินเข้าไปหา
"เออ ร้านไรอะ" ผมถาม
"Bonchonมั้ย" ต้าร์เสนอ
"เอาดิๆ"
"เออ กูกำลังอยากอยู่พอดีเลย"
ทุกคนตกลงอย่างพร้อมใจกัน ผมจะไป siam center กับอั๋น ส่วนอีกสามคนจะนั่งรถประจำทางหน้าโรงเรียนไป
จังหวะที่ผมเดินเข้าไปบอกลาพี่เมฆกับพี่สตาฟคนอื่น พี่ก้องหันมามองผมแวบหนึ่งก่อนจะรีบหันไปอีกทางอย่างรวดเร็ว อั๋นที่ยืนอยู่ข้างผมจ้องเขม็ง
พี่ก้องไม่สนใจผมกับอั๋นเป็นเรื่องดีที่สุด ผมหวังว่าพี่เค้าจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับเราสองคนอีก

ผมจองคิวของร้านไก่ทอดชื่อดังผ่านแอพพลิเคชันในมือถือ เพื่อที่ว่าจะได้ไม่ต้องเสียเวลารออีกเมื่อไปถึง เราทั้ง5คนมาถึงที่ร้านในครึ่งชั่วโมงต่อมาและได้เข้ารับประทานอาหารทันที
"เดี๋ยวไอ้เม้งขอมาแดกด้วยนะ ที่มันเคยไปกินเหล้าร้านพี่โอ พวกมึงจำได้ปะ...วันนี้มันอยู่แถวนี้พอดี" นนท์พูดขึ้น วางโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะ
"เออ" เอกตอบ
ผมนึกถึงเรื่องพี่เหมาขึ้นมาเมื่อนนท์พูดถึงเม้ง แล้วผมก้นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้บอกอั๋นว่าเม้งเป็นน้องชายพี่เหมาด้วย

เม้งเดินเข้ามาในร้านพร้อมๆกับที่พนักงานนำอาหารมาเสิร์ฟ มันยิ้มทักทายทุกคนก่อนจะนั่งลงข้างนนท์ที่เว้นเก้าอี้ว่างไว้ให้
"ไม่เจอซะนานเลยมึง เป็นไงมั่งวะ"
"เรื่อยๆว่ะ มึงอะ"
"ช่วงนี้ชีวิตดี มีกีฬาสีว่ะ ไม่ต้องเรียนทั้งอาทิตย์555"
"โห"
เม้งตอบนนท์และหันมาสบตาผมเป็นครั้งแรก มันมองมาที่ไหล่ผมซึ่งชิดอยู่กับอั๋น
"พรุ่งนี้กะพฤหัสมีแข่งกรีฑากับประกวดสแตนเชียร์ มึงมาเที่ยวโรงเรียนกูป่าว" นนท์ชวน
"น่าสน...เอาดิ" เม้งคิดนิดนึงก่อนตอบ "กูไปวันพฤหัสละกัน เดี๋ยวโดดไป"
จากนั้นหัวข้อสนทนาก้เปลี่ยนไป ผมสังเกตว่าเม้งชำเลืองมาที่ผมบ่อยๆเหมือนเมื่อตอนเจอกันที่ร้านเหล้าครั้งก่อน
ต้าร์ระบายเรื่องแฟนให้พวกเราฟัง บอกว่าเมย์งี่เง่ามาก บังคับมันให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ พอมันไม่ทำ เมย์ก้จะงอนแถมยังประชดแดกดันกลับมา
"มึงก้มีกิ๊กประชดน้องมันบ้างดิ" เอกแนะนำ นั่นทำให้ผมตบหัวมันไปทีหนึ่ง
"โคตรเหี้ยเลยวิธีนี้"
"กูล้อเล่นนน ทำไมมึงโหดจังวะหมอ" เอกทำหน้าบูด
ผมแอบมองเม้งจากหางตาเมื่อพูดถึงเรื่องกิ๊ก แต่มันก้ไม่แสดงอาการใดๆ
"หมอไม่ชอบเรื่องนอกใจเว้ย" อั๋นยิ้มก่อนตอบ เอก ต้าร์ นนท์เริ่มแซวผมทันที
"อ้ออ ยังงี้นี่เอง...นี่ขนาดไอ้เอกแค่แนะนำให้กูมีกิ๊กยังโดนไอ้หมอตบหัวพุ่ง ถ้าไอ้อั๋นดันมีกิ๊กขึ้นมา มึงไม่โดนฆ่าปาดคอเลยหรอวะ" ต้าร์พูดกับอั๋น แต่มองหน้าผมอย่างล้อเลียน
"เออดิ กูโดนฆ่าแน่ๆ แต่กูไม่มีกิ๊กหรอก มีหมอคนเดียวก้พอแล้ว" อั๋นกอดเอวผมและยื่นหน้าเข้ามาใกล้
"ไปสวีทกันไกลๆตีนกูเลย นู่น ไปเลยไป" นนท์โวยวาย ผมกับอั๋นหัวเราะ "...เออ มึงยังไม่รู้นี่หว่าเม้ง ไอ้หมอกับไอ้อั๋นมันคบกันจริงๆละนะ"
เม้งเลิกคิ้วขึ้นแล้วก้ยิ้มออกมา
"ยินดีด้วยนะ"
ผมเห็นแววตาแปลกๆของเม้งวูบหนึ่งก่อนจะหายไปอย่างรวดเร็ว
"เอาไรอีกปะ" ผมถามอั๋น มันส่ายหน้า ตบหน้าท้องตัวเองเบาๆแสดงอาการว่าอิ่มแล้ว ก่อนจะหันมากอดเอวผมอีกครั้ง
"นั่นๆ สวีทกันอีกละ" เอกล้อ
"อย่าพึ่งเล่นดิค้าบ ขอกินก่อน" ผมดีดหน้าผากไอ้แฟนจอมขี้อ้อน มันทำหน้าแอ๊บแบ๊วใส่
"อยากกอดแฟนอะ"
"เดี๋ยวค่อยกอดดิ กินก่อน"
"ง่ะ" อั๋นยอมปล่อย เพื่อนๆหัวเราะ

ไม่นานหลังจากนั้น พวกเราแยกย้ายกันกลับ ระหว่างเดินไปที่รถมอเตอร์ไซด์ ผมเล่าเรื่องเม้งให้อั๋นฟัง
"เออ กูยังไม่ได้เล่าเรื่องเม้งให้มึงฟังเลย"
"เรื่องไรวะ"
"เม้งเป็นน้องชายพี่เหมา"
อั๋นชะงัก
"ห๊ะ...จริงดิ"
"จริง กูลืมไปสนิท"
"มึงรู้ได้ไง"
"เม้งมากินข้าวกับบ้านพี่เหมาด้วยวันนั้น สองคนนั่นหน้าเหมือนกันอย่างกับแกะ"
อั๋นเงียบไป กำลังใช้ความคิด
"...เออ จะว่าไปก้เหมือนกันจริงว่ะ ทำไมกูไม่สังเกตมาก่อนนะ"
"เราเจอเม้งครั้งล่าสุดก้นานแล้ว ตอนเห็นพี่เหมากูก้คิดว่าหน้าคุ้นๆเหมือนเคยเจอที่ไหน"
"แต่กูไม่ค่อยถูกชะตาไอ้เม้งเท่าไรเลย"
"ทำไมวะ"
"ก้มันชอบมองหมออะ"
ผมหัวเราะ นี่อั๋นก้เห็นว่าเม้งชอบมองหน้าผมเหรอเนี่ย
"กูก้ว่างั้น หันไปทีไรเห็นมันมองอยู่ทุกที"
"มันมองมึงตั้งแต่ที่ร้านเหล้าแล้ว กูรู้เลยว่ามันคิดอะไร" อั๋นทำหน้าเบี้ยว
"มันอาจจะไม่ได้คิดแบบนั้นก้ได้"
"ไม่อะ มันชอบมึง"
"หึงหรอ" ผมถามยิ้มๆ
"หึงดิ"
"หึงไร กูไม่ได้ไปยุ่งกับมันซะหน่อย"
"ใช่ แต่กูไม่ชอบให้ใครมามองมึงนิ"
"ไอ้บ้า คิดมากน่า"
"หมอของอั๋น อั๋นไม่ยอมให้คนอื่นมายุ่งหรอก" พูดแล้วก้จุ๊บแก้มผมด้วย
"เนียนอีกแล้วนะ"
"ไม่เนียน นี่หอมตรงๆเลย" อั๋นยิ้มกว้าง
"ชอบโชว์ความเป็นเจ้าของนอกสถานที่นะสัส" ผมไม่กล้าหันไปมองคนที่เดินอยู่รอบๆนั้นเลยว่ามีใครเห็นเราบ้าง
"ทำที่นี่ก้บ่น ทำที่บ้านก้บ่น เอาไงเนี่ย" อั๋นกระเง้ากระงอด
"ไม่ให้ทำเว้ย"
"ไรอะ ไม่ให้กูทำแล้วจะให้ใครทำ"
"คนอื่นไง" ผมแกล้งยั่ว
อั๋นมองตาเขียว ผมหัวเราะร่วน

รถมอเตอร์ไซด์มาถึงหน้าบ้าน ผมลงจากเบาะแล้วส่งหมวกกันน็อคให้อั๋น
"พรุ่งนี้มารับกูเช้าหน่อยดิ อยากแวะไปดูความเรียบร้อยที่สแตนก่อน"
"คร้าบบ หมอจะตื่นรึป่าวเหอะ"
"ตื่นดิ- - เดี๋ยวตั้งนาฬิกาปลุก"
"ไม่อยากจะเชื่อ5555"
ผมทำแก้มป่อง
"ให้กูโทรปลุกมั้ย"
"เออๆ" อั๋นขยี้หัวผม
"คืนนี้ไม่ได้นอนกอดหมออะ ขอกอดก่อนกลับดิ" อั๋นอ้อนอีกแล้ว
"เมื่อกี้ที่ร้านก้กอดแล้วนิ"
"โห่ นั่นแปบเดียวเอง มากอดๆ"
อั๋นดึงผมเข้ามากอดทั้งๆที่ตัวมันยังคร่อมมอเตอร์ไซด์อยู่
"แฟนใครเนี่ย โคตรน่ารักเลย"
ผมหน้าแดง
"ขอจุ๊บด้วยได้ปะ"
"เยอะไปละสาด พอเลย" ผมรีบยกมือห้าม ไม่ใช่ไม่อยากให้อั๋นทำ แต่กลัวพ่อกับแม่ผมออกมาเห็นครับ
"อะๆ ไม่จุ๊บก้ได้ แต่ทดไว้นะ"
ผมต่อยแขนมันเบาๆ

สองวันสุดท้ายของงานกีฬาสีโรงเรียนมาถึงในที่สุด นอกเหนือจากการแข่งขันกรีฑาทุกชนิดก้ยังมีแข่งขันประกวดสแตนเชียร์ด้วย
ผมเห็นพี่ก้องหลายครั้งในงานและคิดว่าเราคงไม่ต้องมาข้องเกี่ยวกันแล้ว เพราะทุกครั้งเขากำลังมองไปทางอื่นตลอด ผมแน่ใจว่าเขาทำเป็นมองไม่เห็น
พี่น้ำมาควบคุมการดำเนินการทุกอย่างบนสแตนสีฟ้า ถ้ามองดูโดยปราศจากอคติก้ถือว่าเขาทำได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ในสายตาของผม พี่น้ำก้อารมณ์ร้อนเกินไป
น้องๆบนสแตนเชียร์ค่อนข้างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในวันจริง มีส่วนน้อยที่โดดงาน ทุกคนที่อยู่ส่งเสียร์เชียร์ จัดแถว แปรอักษร ทำให้สแตนเชียร์สีฟ้าดูสวยงามมาก ผมประทับใจกับภาพที่เห็นตรงหน้า
"กูว่าสีเรามีลุ้นชนะสแตนเชียร์นะ" อั๋นบอก ยิ้มกว้างเมื่อเห็นผมมีความสุข
ผมตัดสินใจว่าจะยังคงทำงานกีฬาสีในฝ่ายเชียร์ต่อไปและบันทึกรายละเอียดที่อยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสำหรับงานปีหน้าเอาไว้

ช่วงบ่ายของวันพฤหัสบดี อั๋น ต้าร์ และนักกีฬาบาสเกตบอลสีฟ้าทั้งหมดขึ้นรับรางวัลเหรียญทองแดง ผมเฝ้ามองอย่างยินดีอยู่บนสแตนเชียร์กับเอก นนท์ และเม้ง ซึ่งโดดเรียนที่โรงเรียนตัวเองมา
และผมก้เห็นอาร์ตในหมู่นักกีฬาสีแดงที่กระโดดกอดกันหลังได้เหรียญทอง ใบหน้าอาร์ตเปื้อนรอยยิ้มสดใสเต็มเปี่ยม
ยังมีการมอบเหรียญรางวัลให้กับกีฬาประเภทอื่นๆระหว่างที่รออั๋นกลับมาหา โทรศัพท์ผมก้แจ้งเตือนว่ามีคนส่งข้อความผ่านทางไลน์มา
เม้งนั่นเอง
ผมมองข้ามเอกและนนท์ไปยังเม้ง มันกำลังนั่งจ้องหน้าจอมือถือ ไม่หันไปทางไหน
(ขอคุยด้วยหน่อยดิ)
เม้งต้องการคุยเรื่องอะไรกับผมนะ
(พูดเลยดิ ทำไมต้องคุยในไลน์ด้วย)
(เราไม่อยากให้คนอื่นรู้)
(มีไรอะ)
ผมหันไปมองอีกครั้ง แต่เม้งก้ยังตั้งหน้าตั้งตาพิมพ์ข้อความอย่างเดียว
(หมอบอกอั๋นเรื่องพี่เหมาใช่มั้ย)
ผมนิ่งอึ้ง เม้งรู้เรื่องนี้ได้อย่างไรกัน
เม้งค่อยๆหันมาทางผมในที่สุด สีหน้าเรียบนิ่ง อ่านไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่ แต่ผมสัมผัสได้ว่ามันจับอาการตกใจของผมได้
(กูไม่รู้เรื่อง)
ผมรีบพิมพ์ตอบกลับไป
(อย่าโกหกเลย เรารู้หมดแล้ว)
(กูไม่ได้โกหก)
(วันนั้นเราเห็นหมอนะ หมอเห็นว่าพี่เหมาพาผู้หญิงที่ไม่ใช่พี่เอ๋มากินข้าว และก้รู้แล้วว่าเรากับพี่เหมาเป็นพี่น้องกัน)
ผมเงียบไปพักใหญ่ เม้งรู้เรื่องแล้ว ผมไม่เห็นหนทางว่าจะโกหกหรือปิดบังอีกฝ่ายได้อย่างไร
(เออ กูเป็นคนบอกอั๋น ก้พี่มึงทำไม่ถูกนิ)
ผมตัดสินใจยอมรับไปตรงๆ
(ทำงี้ได้ไง ตอนนี้พี่เหมากับพี่เอ๋กำลังทะเลาะกันอยู่รู้มั้ย)
(ไม่ทะเลาะก้แปลกดิ พี่มึงคบผู้หญิงหลายคนพร้อมกันเนี่ยนะ)
ผมชักจะหงุดหงิดแล้ว เข้าใจนะครับว่าเม้งมันต้องเข้าข้างพี่ชายมัน แต่เรื่องนี้พี่เหมาผิดเต็มๆ
"หมออ"
อั๋นวิ่งกลับจากสนามมา ยกเหรียญทองแดงที่สวมคออยู่ให้เห็น ผมหยุดคุยไลน์ทันที
"แฟนหมอได้เหรียญแล้วนะครับ" อั๋นคว้ามือผมขึ้นมาจับ เพื่อนๆห้องผมที่นั่งอยู่ใกล้ส่งเสียงแซว
"ขี้อวดว่ะ" ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่ผมก้หยุดยิ้มไม่ได้
คนอื่นๆบนสแตนเชียร์ของสีฟ้าก้มองมาที่เราเช่นกัน
ผมเห็นเม้งมีสีหน้าเย็นชา แต่ผมไม่สนใจ

"และสีที่ชนะเลิศรางวัลสแตนเชียร์ดีเด่นได้แก่..." อั๋นนั่งกุมมือผมอยู่ ตอนนี้เหลือแค่สีฟ้ากับสีเขียวที่ยังไม่ถูกเรียกชื่อ สีที่พิธีกรกำลังจะประกาศเป็นสีที่ชนะเลิศ ส่วนอีกสีหนึ่งคือรางวัลที่สอง
"สี...ฟ้า"
สิ้นเสียงพิธีกร สมาชิกสีฟ้าทุกคนกระโดดลุกขึ้นยืนและตะโกนดีใจดังลั่น สตาฟห้องพี่ก้องทั้งหมดวิ่งลงจากสแตนเชียร์ไปกอดกันกลมบนสนามหญ้า
"เจ๋งว่ะ"
ผมพึมพำ อั๋นหันมาหาผม
"อีกสองปีพวกเราจะชนะแบบนี้มั่งนะ"
"กูจะทำให้ได้"

ผมไม่ได้เช็คการแจ้งเตือนในโทรศัพท์มือถืออีกเลยจนกระทั่งเป็นเวลาสามทุ่ม หลังแยกกับอั๋นแล้ว ผมเห็นเม้งส่งข้อความต่อมาอีก
(เราไม่อยากทำแบบนี้เลยหมอ แต่หมอทำให้พี่เรากับแฟนมีปัญหากัน
เราจะเอาเรื่องที่อั๋นกับหมอคบกันไปบอกพ่อแม่พวกนาย)
ผมตกใจจนเกือบทำมือถือตก เม้งจะทำอย่างนั้นไม่ได้นะ
(ถ้าไม่อยากให้ทำยังงั้น พรุ่งนี้สิบโมงออกมาหาเราที่สยาม
อย่าบอกอั๋นด้วย ไม่งั้นเรื่องถึงหูพ่อแม่อั๋นทันที)
ลำพังพ่อแม่ผมไม่เท่าไร แต่ถ้าพ่อแม่อั๋นรู้จะว่าอย่างไร พวกท่านจะรับสิ่งที่เราทำอยู่ได้หรือไม่
ผมโกรธจนมือสั่น เม้งมันเอาคืนผมด้วยวิธีสกปรกจริงๆ

-จบตอน-

พี่ก้องคงไม่มายุ่งกับอั๋นหมออีกแล้วใช่มั้ย ไม่ทันไรหมอก้งานเข้าทันที เม้งกำลังคิดอะไรอยู่และหมอจะทำยังไงต่อไปนะ
วันนี้เป็นคิวของพี่ก้องนาจา

ชื่อ : ก้อง
สถานะ : โสด
ชั้นเรียน : มัธยม6/5 สายวิทย์-คณิต โรงเรียนชายล้วน
วิชาที่ถนัด : คณิตศาสตร์
สีที่ชอบ : ดำ ขาว
อาหารที่ชอบ : fast food
กีฬาที่ชอบ : ฟุตบอล
เวลาว่าง : ออกกำลังกาย เที่ยว
ลักษณะนิสัย : มีมนุษยสัมพันธ์ดีมาก คารมเป็นต่อสุดๆ จึงมักจะได้เป็นผู้นำในกลุ่ม แสดงออกว่าตัวเองใจดี เป็นคนดี แต่ข้างในร้ายลึก เจ้าคิดเจ้าแค้น คิดอะไรอยู่ไม่มีใครรู้ จิตนิดๆ
รูปร่างหน้าตา : สวมแว่น หน้าอ่อน ดูเรียบร้อยคงแก่เรียน ผอมสูง

อย่าลืมติดตามตอนต่อไปกันด้วยน้า
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่29 (17/7/2559 20.00)
เริ่มหัวข้อโดย: lazysheep ที่ 17-07-2016 23:04:12
เฮ้ยยยยย เม้งไมทำงี้!! หมอระวังตัวนะ
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่29 (17/7/2559 20.00)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 18-07-2016 12:50:49
ถ้าหมอคิดซักหน่อย ก็คงไม่ออกไปหาเม้งหรอก

เม้งไม่ใช่คนดีอย่างที่เห็น หมอคงสังเกตุเห็นแล้ว

แต่เรื่องการคบกัน ครอบครัวรับได้หรือไม่ ก็ต้องปล่อยให้ครอบครัวตัดสิน ทางทีดีหมอควรชิงบอกครอบครัวไปก่อนเลย

ประสบการณ์เกือบโดนปล้ำ 3 ครั้ง  ถ้ามันแค่ทำให้หมอระแวง แต่ไม่คิดจะวางแผนป้องกันหรือหลีกเลี่ยง ก็คงต้องปล่อยหมอไปตามบุญตามกรรม



หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่29 (17/7/2559 20.00)
เริ่มหัวข้อโดย: ตัวไหมอ้วนกลม ที่ 18-07-2016 16:08:33
ถ้าหมอไม่บอกอั๋นนี่แสดงว่าหมอเป็นนายเอกนิยายที่ "โง่" สุด ๆ อ่ะ ประสบการณ์ที่ผ่านมาไม่ได้ทำให้ตัวละครตัวนี้ฉลาดขึ้นมาสักนิดเลยเหรอ  กี่ครั้งแล้วที่เกิดเรื่องเพราะการปิดบัง คือยังไม่เข็ด ?  แต่ยังไงนิยายก็คือนิยายอะนะเฮ่อ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่30
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 20-07-2016 21:52:14
ตอนที่30

ผมควรทำอย่างไรดี?

สิ่งที่ผมต้องการน้อยที่สุดในตอนนี้คือให้พ่อแม่อั๋นรับรู้เรื่องที่เราสองคนเป็นแฟนกัน
หมายความว่าผมต้องยอมทำตามเม้งอย่างนั้นหรือ

แต่ผมแน่ใจว่าการที่เม้งเรียกออกไปหาต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ มันจะทำอะไรกับผมก้ได้

ผมนอนคิดอยู่นานในห้อง แจกแจงทุกเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นหากผมตัดสินใจเลือกแต่ละทาง
ถ้าผมออกไปหาเม้งเท่ากับฆ่าตัวตายชัดๆ แถมยังไม่มีอะไรมารับประกันได้เลยว่าถ้าผมยอมออกไปและทำอะไรก้ตามที่เม้งต้อง การ แล้วมันจะไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกพ่อแม่พวกเรา
ผลสุดท้าย ไม่ว่าผมจะทำหรือไม่ทำตามที่เม้งขู่ ก้มีโอกาสที่พ่อแม่อั๋นจะรู้เรื่องอยู่ดี

และที่สำคัญ ผมนึกถึงอั๋น อั๋นจะรู้สึกอย่างไรถ้าผมออกไปหาเม้งโดยที่มันไม่รู้
ผมจะเอาตัวเองไปเสี่ยงให้คนที่รักผมเป็นห่วงไม่ได้
ผมกดโทรศัพท์หาอั๋น

อั๋นนั่งรถแท๊กซี่มาที่บ้านผม ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงหลังจากผมเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้ฟังผ่านโทรศัพท์ แม้ตอนนี้จะเป็นเวลาห้าทุ่มกว่าแล้วก้ตาม
"หมอ"
อั๋นดึงผมเข้ามากอดทันทีที่เดินออกไปรับหน้าบ้าน
"ไม่ต้องกลัวนะเว้ย กูอยู่กับมึงแล้ว กูจะไม่ให้เม้งมันทำอะไรมึงเด็ดขาด"
ผมยิ้มออกมา รู้สึกอุ่นใจเมื่อได้ยินน้ำเสียงหนักแน่นของอั๋น
"ดีแล้วนะที่หมอบอกอั๋น"
"กูไม่อยากปิดบัง กูเป็นห่วงความรู้สึกมึง"
อั๋นยิ้มกว้าง

"พรุ่งนี้กูจะออกไปหาเม้ง" ผมรีบบอกอั๋นเมื่ออาบน้ำเสร็จ ในที่สุดผมก้คิดวิธีแก้ปัญหาออก
"ห๊ะ ว่าไงนะ" อั๋นถามเสียงหลง
"ใจเย็นๆ ฟังก่อน...กูรู้แล้วว่าต้องทำไง คราวนี้กูจะเอาคืนมั่งล่ะ..."
ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่ผมคิด นอกจากเม้งจะโดนหนักแล้ว เรื่องผมกับอั๋นเป็นแฟนกันอาจจะไม่ถึงหูพ่อแม่พวกเราด้วย

ผมไลน์ไปตอบตกลงเม้ง เรานัดเจอกันที่ร้าน starbucks ในห้าง square one ตอนสิบโมงครึ่ง เม้งไม่ลืมย้ำว่าห้ามบอกอั๋น ผมเดาว่ามันกำลังมีความสุขเพราะคิดว่าผมอับจนหนทางและยอมทำตามมันแน่ๆ

ผมมาถึง starbucks ตรงเวลานัดพอดิบพอดี วันนี้มีคนมานั่งดื่มกาแฟเต็มทุกโต๊ะ ไม่อ่านหนังสือเงียบๆก้นั่งคุยกัน จะประชุมงานหรือเรื่องสัพเพเหระก้สุดแล้วแต่ ผมมองหาโต๊ะที่เม้งนั่ง
หาไม่นานก้เห็นไอ้ตัวก่อเรื่องนั่งอยู่ด้านในสุดทางฝั่งขวามือของร้าน ในมือกำลังถือโทรศัพท์
เม้งยิ้มน้อยๆ น่าซัดปากเป็นที่สุด ผมเดินตรงไปหา นั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
"ว่าแล้วว่าหมอต้องมา หมอไม่อยากให้พ่อแม่รู้ใช่มั้ย"
ผมไม่ตอบ อดทนอดกลั้นสุดชีวิตที่จะไม่ตั๊นหน้าเม้งสักหมัดในตอนนี้
"นัดกูมาทำไม"
"ใจเย็นดิ คุยกันก่อน สั่งอะไรกินมั้ย"
"มึงจะเอาไงว่ามา"
เม้งถอนหายใจ แต่หน้ายังยิ้มอยู่
"ก้ได้ วันนี้หมอต้องทำตามที่เราสั่งทุกอย่าง...รู้ใช่มั้ยว่าถ้าไม่ทำแล้วเราจะทำอะไร"
ผมกำมือแน่น
"เราสนใจหมอตั้งแต่ที่เจอกันนะ ตอนนายเมาเราก้แอบแอดไลน์ตัวเองให้"
อย่างนี้นี่เอง ผมถึงจำไม่ได้ว่าเม้งมีไลน์ผมได้อย่างไร
"แต่ดูก้รู้แล้วว่าหมอกับอั๋นเริ่มชอบกัน เราเลยคิดว่าเข้าไปจีบนายตอนนี้ไม่ติดแน่ๆ...ทักไลน์ไปนายก้ตอบเราสั้นๆ"
เม้งหยุดเหมือนรอว่าผมจะพูดอะไรกลับไปบ้าง แต่ผมไม่ มันจึงพูดต่อ
"เราอยากให้หมอมาเป็นแฟนเราวันนึง แค่นั้นแหละ"
ผมยังไม่พูดอะไรทั้งนั้น บอกตัวเองให้ใจเย็นๆไว้ก่อน เป็นแฟนมันหนึ่งวันเนี่ยนะ
"แปลว่าตกลงนะ" เม้งยิ้มกว้างอย่างชั่วร้าย "ต้องตกลงดิ ยอมออกมาหาเราตามนัดแล้ว"
ทำไมชีวิตผมถึงต้องมาเจอแต่คนเลวๆแบบนี้นะ
"ไม่สั่งอะไรจริงๆเหรอ"
"ไม่ เห็นหน้ามึงแล้วกูแดกไม่ลง"
เม้งหุบยิ้ม<br>
"นายต้องพูดดีๆกับเราด้วย แฟนกันเค้าไม่พูดแบบนี้ใส่กันหรอก..."
"เม้ง" ผมตัดบท
"อะไร"
"มึงทำแบบนี้เพื่อไรวะ"
มันเงียบไปเดี๋ยวเดียวก่อนตอบ
"ให้สมกับที่นายทำกับพี่เหมาไง"
"พี่มึงแม่งโคตรเหี้ยเลย"
"เห้ย"
ผมห้ามตัวเองไม่ให้โต้เถียงต่อ กลัวจะระงับอารมณ์ไว้ไม่อยู่ บอกตัวเองเป็นครั้งที่สองว่าต้องใจเย็น
"เออ ขอโทษ...ห้ามด่าพี่ชายมึงด้วยใช่มั้ย" ผมกัดฟันพูด "แล้วกูต้องทำไรอีก"
"ก้ ไปกับเรา ห้ามรับโทรศัพท์หรือว่าตอบไลน์อั๋น" เม้งยิ้มออกมาอีกครั้ง "ง่ายๆ ทำได้ใช่ปะ"
ผมขยะแขยงมันเต็มที ในหัวมีความคิดร้ายๆผุดขึ้นมาว่ามันจะพาผมไปทำอะไร อาจถึงขั้นที่พี่ก้องทำเสียด้วยซ้ำ
"เออ"
"นั่งกินกาแฟอีกเดี๋ยวแล้วไปกัน"
"ไปไหน"
"เดี๋ยวก้รู้"
"ถ้ากูไม่ไปอะ"
"ไม่น่าถามนะหมอ"
ผมทำหน้าบึ้งตึง ยอมให้เม้งเข้าใจว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่าไปสักพัก
ผมไม่อยากนั่งเฉยๆให้เม้งจ้องหน้า จึงลุกไปสั่งเครื่องดื่มมาหนึ่งแก้ว
"ชอบกินช็อคโกแลตร้อนเหรอ"
ผมไม่ตอบ ต้องการกวนโมโหอีกฝ่าย
เม้งยังนั่งมองหน้าผมอยู่อย่างนั้น ผมทำเป็นไม่ใส่ใจ มองผ่านกระจกออกไปข้างนอกร้าน
ในที่สุด ผมเป็นฝ่ายพูดขึ้น
"กูถามมึงหน่อยดิ"
เม้งพยักหน้า
"พี่เหมาคบผู้หญิงอีกคนนอกจากเจ๊เอ๋จริงๆใช่มั้ย"
"ทำไมเราต้องตอบด้วย"
ผมเบ้ปาก
"บอกมาเหอะ กูไม่กล้าเอาไปบอกคนอื่นหรอก กูไม่อยากให้มึงโพล่งเรื่องกู"
ผมทำท่าจนมุม เม้งยิ้มกริ่มอย่างสะใจ
"อะๆ บอกก้ได้...เออ พี่เหมาคบจริง กับพี่เอ๋เค้าแค่ควงเล่นๆเท่านั้นแหละ"
ผมเม้มปาก พูดมาได้ไม่อายหมาเลยนะมึง
"แค้นแทนพี่สาวแฟนเหรอหมอ" เม้งหัวเราะหึๆ "พี่เอ๋ก้โง่โดนหลอกอยู่ตั้งนาน"
เม้งเผยความจริงออกมาแล้วสินะ
"บ้านมึงนี่สอนลูกดีเนอะ เด็กๆเป็นคน โตขึ้นมาเป็นเหี้ยเฉย" ผมเน้นเสียงตรงชื่อสัตว์
"บอกแล้วไงว่าอย่าด่า" เม้งเริ่มเสียงดัง
"ใจเย็นๆดิ" ผมเป็นฝ่ายยิ้มยียวนบ้าง
"หมอ เราไม่ตลกด้วยนะ"
"เออ กูก้ไม่ตลก"
เม้งจ้องผมเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ
ผมมองนาฬิกาข้อมือ อดทนรอที่จะขยี้มันแทบไม่ไหวแล้ว
"ไม่ต้องดูเวลาหรอก วันนี้นายต้องอยู่กับเราอีกนาน" เม้งเข้าใจไปอีกทางหนึ่ง
"มึงอยากทำอะไรก้ทำ"
"ได้ เดี๋ยวเราจะทำอย่างที่อยากทำแน่" เม้งแสยะยิ้ม

ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ผมกังวลอยู่ ผมไม่รู้ว่าเม้งมาคนเดียวหรือเปล่า หรือไม่มันก้อาจมีพรรคพวกรออยู่ที่ที่มันจะพาผมไป อย่างไรก้ตามผมคิดเผื่อไว้แล้ว ผมจะไม่ยอมให้มันทำอะไรกับผมเด็ดขาด
"กินนานจังนะหมอ ถ้าจะถ่วงเวลา เราบอกเลยว่าไม่ได้ผล" เม้งนั่งจ้องแก้วกาแฟที่ผมดื่มไปได้ครึ่งเดียวเมื่อเวลาผ่านมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว
"กูจะถ่วงเวลาทำไม ยังไงมึงก้ไม่ปล่อยกูไปไหนอยู่แล้ว" ผมแกล้งหงุดหงิด
"ใช่ หมอก้รู้นิ...เราถามมั่งดิ ทำไมอั๋นไม่เห็นโทรหานายเลย" เม้งกำลังจับผิดผมหรือเปล่านะ
"ตอนนี้กูปิดมือถือ แล้วก้บอกอั๋นตั้งแต่เมื่อคืนว่าวันนี้จะออกไปข้างนอกกับที่บ้าน"
"อ้อ ยังงี้นี่เอง" มันยิ้มมุมปาก ท่าทางไม่รู้จริงๆว่าผมโกหก "ถ้าอั๋นรู้ว่าหมอมาหาเม้ง อั๋นจะว่าไงน้า"
"เสือก"
"ด่าได้ด่าไปเหอะ วันนี้อั๋นมันได้ขาดใจตายแน่"
ผมมองสายตาเม้งแล้วพอจะคิดออกว่ามันต้องการอะไรจากผม ผมคิดถูกแล้วจริงๆที่บอกความจริงกับอั๋น
"ไปเหอะ กูไม่กินแล้ว" ผมลุกขึ้นบิดขี้เกียจ
"อยากไปแล้วเหรอ" เม้งรีบลุกขึ้นยืนบ้างทันที
ผมเดินนำออกไปก่อน แต่เม้งฉุดแขนไว้
"เห้ย" ผมร้อง
"ปกติแฟนเดินด้วยกันต้องจับมือกันดิ"
ผมอยากสะบัดออกเดี๋ยวนั้น แต่ต้องยอมตามเม้งไปก่อน
"กูปฏิเสธมึงไม่ได้นิ"
เม้งยิ้ม นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่มันจะได้สัมผัสตัวผมแล้วล่ะ
"กูจะไปห้องน้ำ"
"จะคิดหนีเหรอ"
"กูยอมมึงขนาดนี้แล้วคิดว่ายังเล่นตุกติกอีกหรอ" ผมตะคอก
"งั้นมึงต้องให้กูเข้าไปด้วย"
"เออ เรื่องของมึง"
ผมจับมือเม้งตรงไปยังห้องน้ำที่ใกล้กับพวกเราที่สุด

สีหน้าเม้งซีดเผือดเมื่อผมเปิดประตูเข้าไปในห้องน้ำ ผมยิ้มออกมาอย่างผู้ชนะ
อั๋น เอก นนท์ ต้าร์ยืนรออยู่แล้วในห้องน้ำ ผมสะบัดมือเม้งออกแล้วผลักมันเข้าไปอยู่ตรงกลางห้อง เอกกดล็อคลูกบิดประตู
"กูไม่คิดเลยว่ามึงจะทำยังงี้" นนท์ส่ายหัว ผิดหวังที่พบว่าเพื่อนตัวเองไม่ใช่คนดี
"มะ มึงมาได้ไง"
"มึงคิดว่ากูจะยอมไปกับมึงง่ายๆหรอ" ผมพูด
"หมอวางแผนไว้แล้วงั้นเหรอ"
"ใช่ กูพาเพื่อนกูมาเองแหละ...อยากรู้มั้ยว่ากูทำอะไรอีก"
ผมยิ้มเหี้ยม
"กูแคปรูปที่มึงขู่ในไลน์ให้ทุกคนดู แล้วก้ขอให้มาช่วยกระทืบมึงหน่อย...โชคดีที่มึงเชื่อว่ากูมาคนเดียว"
ผมให้อั๋นกับเอกแอบอยู่แถวร้าน starbucks เผื่อว่าเม้งทำอะไรผมขึ้นมาจะได้เข้ามาช่วยทัน ส่วนต้าร์กับนนท์รออยู่แถวห้องน้ำ เมื่อผมบิดขี้เกียจเป็นการให้สัญญาณ อั๋นจะเตรียมไปที่ห้องน้ำและโทรหานนท์ให้เตรียมล็อคห้องน้ำไว้จนกว่าผมจะมา เพื่อให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปจากบริเวณนี้
"มึงทำงี้ได้ไงวะเม้ง" นนท์ถาม น้ำเสียงอดสู
"กู..." เม้งอึกอัก
ต้าร์กับเอกเข้ามายึดแขนสองข้างของเม้งไว้ มันเบิกตากว้างและร้องโวยวาย
"จะทำไร อย่านะเว้ย"
อั๋นซัดหมัดใส่หน้าเม้งเต็มแรง
"พี่มึงทำกับพี่กูยังไม่พอ มึงยังคิดจะทำอะไรหมออีก"
มีเลือดไหลออกจากมุมปากเม้ง ผมเดินเข้าไปใกล้มันอีกคน
"อีกอย่างนึง ที่มึงบอกว่าพี่เหมาคบเจ๊เอ๋เล่นๆอะ กูอัดเสียงไว้แล้วด้วย" ผมหยิบโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋ากางเกงยีนส์ แสดงให้เม้งเห็นไฟล์ ผมเปิด airplane mode ไว้เพื่อกันไม่ให้คนโทรเข้ามาระหว่างบันทึกเสียงและจะได้โกหกเม้งได้ด้วยว่าปิดมือถืออยู่ "ไม่ว่าพี่มึงจะบอกเจ๊เอ๋ยังไง เจ๊ก้ไม่มีวันเชื่อ"
ผมแน่ใจว่าจะให้เจ๊เอ๋ได้ฟังไฟล์เสียงนี้
"ปล่อย ปล่อย" เม้งดิ้น
ผมต่อยหน้าเม้งสุดแรง อีกด้านหนึ่งกับที่อั๋นต่อยเมื่อครู่
เม้งครางอย่างเจ็บปวด ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา
"เอาเลือดชั่วออกซะหน่อยนะมึง" ผมบอก
"ไอ้...ไอ้พวกหมาหมู่" เม้งพูดเสียงสั่น มุมปากอีกข้างมีเลือดไหลออกมาเช่นกัน
"มึงเล่นสกปรกกับกูก่อนนะ"
ผมซัดหน้ามันอีกครั้งหนึ่ง
"มึงจะเอาเรื่องกูกับอั๋นไปบอกใครก้ได้นะเว้ย แต่มึงโดนหนักกว่าวันนี้แน่...เมื่อกี้มึงว่ากูเป็นหมาใช่มั้ย ได้ กูจะกัดไม่ปล่อยเลย"
ทุกคนยกเว้นนนท์จ้องเขม็ง ส่วนนนท์มองหน้าเพื่อนอย่างเสียใจ
เอกกับต้าร์ปล่อยเม้งลงไปกองกับพื้นก่อนที่พวกเราทั้งหมดจะเดินออกมา

"กูไม่คิดว่าแม่งจะเลวขนาดนี้ รู้จักกันมาเกือบปี" นนท์บอกหน้าเศร้าระหว่างทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารญี่ปุ่นร้านหนึ่ง "ตอนหมอส่งรูปมากูยังแทบไม่อยากเชื่อ"
"กูกลัวว่ามันจะยังเอาเรื่องไปบอกพ่อแม่พวกมึงอะดิ" ต้าร์พูดอย่างไม่สบายใจ
"มันคงไม่กล้าทำแล้วล่ะ โดนขนาดนั้น"
"ไม่ต้องกังวลนะหมอ ถ้าเกิดพ่อแม่พวกเรารู้ขึ้นมาจริงๆ กูจะช่วยมึงเอง" อั๋นจับมือผมอย่างอ่อนโยน
"ขอบใจนะ" ผมยิ้มตอบ "แล้วก้ขอบใจพวกมึงทุกคนมากที่มาช่วยกู"
"เรื่องเล็กน้อยน่า" ต้าร์ตบไหล่ผม เอกกับนนท์พยักหน้า

เมื่อเรื่องวุ่นวายสิ้นสุดลง พวกเราแยกย้ายกันกลับ ผมกับอั๋นขึ้นรถไฟฟ้าและเดินต่อเข้าบ้าน
ตอนนี้ผมสบายใจขึ้นมากเมื่อเทียบกับเมื่อวาน แม้ไม่รู้ว่าเม้งจะทำอย่างไรต่อไป
"มึงจะให้เจ๊เอ๋ฟังไฟล์เสียงที่กูอัดปะ"
"เอาดิ กูอยากให้เจ๊รู้ความจริง แต่เจ๊จะตัดสินใจยังไงก้ต้องแล้วแต่เค้านะ" อั๋นถอนหายใจ
"อือ"
"เออ หมอ"
"หือ"
"กูว่าจะชวนมึงตั้งแต่เมื่อคืน แต่ดันมีเรื่องไอ้เม้งซะก่อน"
"ชวนไรวะ"
"ไปเที่ยวทะเลกัน"
"วันไหน"
"เย็นนี้เลย"
"ห๊ะ เร็วไปปะ"
"ไม่เห็นเร็ว เนี่ย เดี๋ยวก้เก็บของแล้วออกเดินทางได้เลย"
"ที่ไหนอะ"
"หัวหิน"
"ก้...ได้นะ แต่มันแค่กะทันหันไปหน่อย"
"สรุปไปนะ"
"ไป" ผมตัดสินใจทันที
"เย่" อั๋นทำท่าดีใจเหมือนเด็กๆ "ขอพ่อแม่เร็ว"
"ครับๆ เดี๋ยวบอก" ผมหัวเราะกับท่าทางร่าเริงของอั๋น
"กลับบ่ายวันอาทิตย์ละกันเนอะ นอนที่นู่น2คืน"
"อ่าฮะ วันจันทร์ต้องกลับมาเรียน...เอ หรือจะโดดดี" ผมแกล้งถาม
"ไม่ได้ ห้ามโดด" อั๋นโบกหัวผม กลับเข้าสู่โหมดจริงจังทันที
"แล้วนึกไงมาชวนไปเที่ยวเนี่ย"
"กูเคยบอกแล้วว่าอยากไปทะเลกับมึงตอนปิดเทอม แต่รอไม่ไหวแล้วอะ นี่ก้เสร็จงานกีฬาสีแล้วด้วย รีบชวนเลย"
"แล้วอีกสามอาทิตย์ก้จะสอบไฟนอลด้วยอะดิ"
"ถูกต้องนะคร้าบ เพราะงั้นเที่ยวอาทิตย์นี้แหละ เหมาะสุด"
"วางแผนเที่ยวเก่งนะมึงอะ...นี่ไปกันสองคนใช่มั้ย"
"เออดิ แค่กูกับมึง"
อั๋นยิ้มกว้าง

กลับไปถึง พ่อกับแม่กำลังดูโทรทัศน์อยู่ด้วยกันในห้องนั่งเล่น ผมขออนุญาตพวกท่าน ทั้งสองไม่ทักท้วงใดๆเมื่อรู้ว่าอั๋นไปกับผม
เราเตรียมเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นทุกอย่างใส่กระเป๋าเป้2ใบ อั๋นไม่ต้องแวะไปเอาเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวที่บ้านมัน เพราะมีบางอย่างไว้ที่บ้านผมอยู่แล้ว
"ผมไปก่อนนะพ่อ แม่" ผมลงมาจากห้อง ยกมือไหว้พ่อกับแม่
"จ้า ไปดีๆนะลูก"
"ระวังตัวนะหมอ อั๋นด้วย"
"ครับผม" อั๋นพูด
"แม่ฝากดูแลหมอด้วยนะอั๋น"
"ได้ครับ ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ"
อั๋นเรียกรถแท๊กซี่ให้มารับไปส่งที่ท่ารถตู้ เราจะไปหัวหินกันโดยรถตู้ครับ
พ่อกับแม่เดินออกมาส่งเราหน้าบ้าน
"ไม่ต้องเป็นห่วงนะคร้าบ" ผมส่งยิ้มให้พวกท่านก่อนขึ้นรถ
"ไปก่อนนะครับ" อั๋นเสริม ยกมือไหว้อีกครั้งแล้วขึ้นรถตามมา

-จบตอน-

นึกไม่ถึงเลยว่าหมอจะเอาคืนเม้งได้แสบขนาดนี้ ร้ายใช่เล่นเลยนะเนี่ย สะใจเหมือนผมมั้ยครับคุณผู้อ่าน
พอจบเรื่องยุ่งๆคู่นี้เค้าก้ชวนกันไปสวีทที่ทะเลเลยทีเดียว555 ตอนหน้าจะเป็นอย่างไรต้องติดตามนะครับ

ประวัติของเม้ง
ชื่อ : เม้ง
สถานะ : โสด
ชั้นเรียน : มัธยม4/1 สายศิลป์-คำนวณ โรงเรียนสหศึกษา
วิชาที่ถนัด : พลศึกษา
สีที่ชอบ : แดง ดำ
อาหารที่ชอบ : บะหมี่ต้มยำ
กีฬาที่ชอบ : วิ่ง
เวลาว่าง : เที่ยว
ลักษณะนิสัย : ง่ายๆสบายๆ พูดน้อย รักเพื่อน รักพี่น้อง ฉลาดแกมโกง ค่อนข้างขี้ขลาด
รูปร่างหน้าตา : มีเชื้อจีน ขาวตี๋แบบพิมพ์นิยม ตาตี่ รูปร่างสมส่วน

อ่านแล้ว comment กันด้วยน้า
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่30 (20/7/2559 21.55)
เริ่มหัวข้อโดย: lazysheep ที่ 20-07-2016 23:27:26
เม้งไม่น่าเลย แต่ดีใจที่หมอบอกอั๋นไม่โกหก อ่านแล้วแบบ..เอ้ย หมอ ฉลาดมาก!!
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่30 (20/7/2559 21.55)
เริ่มหัวข้อโดย: netich ที่ 21-07-2016 02:15:31
 :-[
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่30 (20/7/2559 21.55)
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 21-07-2016 06:12:55
 :hao3:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่31
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 26-07-2016 21:19:25
ตอนที่31
ตอนพิเศษ-ย้อนวันวาน

ผมวิ่งกระหืดกระหอบออกมาจากสถานีรถไฟฟ้าในเช้าวันปฐมนิเทศ โอย มึงตื่นสายวันสำคัญแบบนี้ได้ไงวะไอ้หมอ
ผมพึ่งย้ายเข้ามาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ครับ เหตุผลที่ย้ายมาน่ะเหรอ โรงเรียนเก่าผมรับนักเรียนชั้นมัธยมปลายแค่สายวิทย์-คณิตเท่านั้น ผมรู้ทันทีว่าตัวเองไปไม่รอดแน่ๆ ขอที่บ้านให้ย้ายที่เรียนทันที แล้วพ่อก้ฝากเข้าที่นี่ให้
โรงเรียนใหม่ของผมเป็นโรงเรียนชายล้วนมีชื่ออันดับต้นๆของประเทศเลยก้ว่าได้ เมื่อคืนพ่อกับแม่ย้ำว่าต่อไปนี้ผมต้องตั้งใจเรียนให้มากขึ้น เริ่มต้นจากการตั้งใจฟังปฐมนิเทศในวันนี้ แต่มันก้พังเพราะผมกำลังจะสาย- -

ในที่สุดก้มาถึง ผมรีบถามที่ตั้งหอประชุมใหญ่จากพี่รปภ.หน้าประตูโรงเรียนแล้วออกวิ่งต่อทันที
ผมรู้สึกเจ็บที่กล้ามเนื้อขา ขาทั้งสองข้างเริ่มประท้วงให้หยุดวิ่ง แต่ผมหยุดไม่ได้
ไปถึงหน้าประตูหอประชุมใหญ่แล้วก้ใจหายวาบ ผมได้ยินเสียงอาจารย์พูดออกไมโครโฟน แสดงว่าการปฐมนิเทศเริ่มแล้วสินะ ชิบหายแล้วไอ้หมอ มึงโดนทำโทษสายตั้งแต่วันแรกแน่
แน่นอนว่าแม้จะค่อยๆผลักประตูเข้าไป หวังไม่ให้ใครเห็นหรือได้ยิน แต่หลายร้อยสายตาของคนทั้งห้องก้หันมามองที่ผม
อาจารย์ผู้หญิงคนที่ยืนอยู่ใกล้กับประตูที่สุดตรงเข้ามาหา สีหน้าบึ้งตึง
"มาแล้วเหรอ นึกว่าเธอจะไม่เรียนที่นี่ซะแล้ว มาสายอยู่คนเดียวเลยรู้ตัวมั้ย"
อาจารย์ใส่ผมอย่างรวดเร็วจนอธิบายไม่ทัน ผมได้แต่ยืนหอบหนักๆอยู่อย่างนั้น
"มัธยม4/12อยู่ตรงนู้น รีบไปนั่ง"
"ครับ"
นักเรียนที่นั่งอยู่แถวหลังอีกส่วนหนึ่งยังคงมองมาที่ผม ผมรีบวิ่งไปยังแถวที่อาจารย์ผู้หญิงชี้มือและนั่งลงบนเก้าอี้ตัวริมสุด
ผมสำรวจสภาพตัวเอง ผมที่หวีมาให้เรียบก่อนออกจากบ้านยุ่งเหยิง เสื้อนักเรียนเปียกโชกด้วยเหงื่อจนเห็นไปถึงข้างใน ดูไม่ได้เลยไอ้หมอเอ๊ย
"หวัดดี" นักเรียนที่นั่งข้างผมทางขวามือหันมาทักทาย รอยยิ้มกว้างโดดเด่น ใบหน้านั้นเห็นกรามชัด คมเข้ม ผมสีดำสนิทแบบรองทรงเรียบร้อย ผิวขาว
"หวัดดีๆ" ผมตอบพร้อมหอบหายใจไปด้วย ยังไม่หายเหนื่อยเลยครับ
"ใจเย็นๆ" นักเรียนคนนั้นทำท่าพัดให้
"นี่เริ่มนานยังวะ" ผมพยักเพยิดไปทางอาจารย์ผู้ชายวัยสูงอายุที่กำลังพูดอยู่บนเวที
"แปบเดียวเอง นายไม่ได้สายขนาดนั้น"
ผมพยักหน้า ค่อยๆหายใจ อยากจมลงไปกับเบาะให้รู้แล้วรู้รอด นักเรียนคนอื่นจะได้เลิกมองผมสักที
"เชี่ย" ผมพึมพำ นักเรียนข้างผมยิ้มขำก่อนจะหันกลับไปสนใจการบรรยาย
"นักเรียนรู้มั้ยว่า ที่ผ่านมาโรงเรียนของเราได้รับการประเมินให้เป็นโรงเรียนที่มีคุณภาพระดับสูงในทุกๆด้านมา8ปีติดต่อกันแล้ว และปีนี้..."
ผมพึ่งรับรู้ว่าอาจารย์ผู้ชายกำลังพูดถึงเรื่องอะไร นักเรียนข้างผมก้หันมาหาอีกครั้ง
"นายชื่อไร"
"หมอ"
"ห๊ะ"
"หมอ" คนที่พึ่งรู้จักผมครั้งแรกจะต้องถามชื่อผมซ้ำอย่างน้อยหนึ่งรอบ เป็นธรรมดาไปแล้ว
"เราชื่ออั๋นนะ"
"เออ"
"ยินดีที่รู้จัก เราเป็นนักเรียนใหม่เหมือนกัน" อั๋นยิ้มให้อีก
"นายรู้ได้ไงว่าเราเป็นนักเรียนใหม่"
"ดูเลขประจำตัวนักเรียนน่ะ มันต่อจากของเรา" ผมมองหน้าอกอั๋น ที่เสื้อพิมพ์เลข50241 ของผม50242 เออ ช่างสังเกตแฮะ
หลังจากนั้นเราก้ฟังบรรยายต่อไปเงียบๆ ไม่ได้คุยอะไรกัน เมื่อร่างกายหายเหนื่อย ได้นั่งสบายบนเก้าอี้นวมนุ่มๆและสัมผัสอากาศเย็นจากเครื่องปรับอากาศในหอประชุม ผมก้ค่อยๆฟุบหลับลงบนเก้าอี้ไปโดยไม่รู้ตัว

"หมอ หมอ..."
ใครมาเขย่าตัวผมนะ
"ตื่นได้แล้วนะหมอ"
"อือ...เห้ย"
ผมค่อยๆขยับหัวขึ้นจากไหล่ใครสักคนก่อนจะสะดุ้งสุดตัว
"เชี่ย"
นี่ผมเผลอหลับไประหว่างการปฐมนิเทศเนี่ยนะ แถมยังไปซบไหล่อั๋นด้วย ดีนะน้ำลายไม่ไหล- -
"ไปพบครูประจำชั้นที่ห้องกัน" อั๋นท่าทางกลั้นหัวเราะไว้สุดชีวิต
"เออๆ"
ผมสำรวจตัวเองกับหน้าจอมือถือ สภาพเหมือนศพเดินได้ดีๆนี่เอง ก้ช่วงปิดเทอมที่ผ่านมาผมนอนไม่เคยต่ำกว่ารุ่งเช้าและตื่นมาอีกทีก้บ่ายจนเกือบจะเย็นแล้ว เมื่อคืนกว่าจะนอนหลับก้ตี3ได้ เฮ้อ
ผมเดินตามหลังอั๋นไปยังห้องมัธยม4/12 สังเกตเห็นว่าอั๋นก้ไม่ได้รู้ทาง เดินตามคนข้างหน้าไปเหมือนกันครับ
"นี่ๆ มึงรู้ป่าวว่าห้องเรามีเด็กใหม่กี่คน เอ้ย ขอโทษ นาย..."
"พูดมึงกูก้ได้" อั๋นหันมาพูดยิ้มๆ ไอ้นี่มันหน้ายิ้มตลอดเวลาเลยนะ
"เออ โทษทีว่ะ มันชินน่ะ" ผมเกาหัวแก้เก้อ ปกติพูดมึงกูกับเพื่อนผู้ชายมาแต่ไหนแต่ไร
"มีกูกับมึง2คนเนี่ยแหละ"
ผมพยักหน้า ว่าแต่เด็กเก่าจะยินดีเป็นเพื่อนกับเราไหมนะ
"เออ เมื่อกี้ขอโทษนะเว้ย หลับแล้วไปซบมึงเฉย"
"ไม่เป็นไรน่า...เมื่อคืนนอนดึกอะดิ"
"เออดิ จะเช้าแล้วด้วย" ผมบอกหน้ามุ่ย ฝ่ายหลังหัวเราะ
ท่าทางอั๋นดูจะเป็นเพื่อนที่ดีกับผมนะ

เมื่อไปถึงห้องเรียน นักเรียนคนอื่นก้รีบจับจองที่นั่งกับเพื่อนสนิทตัวเองทันที ผมกับอั๋นมองหน้ากันแหยๆก่อนจะพาตัวเองไปยังโต๊ะ2ตัวสุดท้ายที่ยังว่างอยู่แถวหลังสุดครับ
"หวัดดีเด็กใหม่ กูชื่อนนท์นะ" นักเรียนที่นั่งอยู่หน้าผมหันมาคุยกับพวกเรา
"หวัดดี กูหมอ นี่อั๋น" ผมยิ้มตอบ
"มีไรคุยกะกูได้เลยนะ นี่ไอ้ต้าร์ เพื่อนสนิทกู มันเป็นตุ๊ด"
"ตุ๊ดพ่อมึงดิ" นักเรียนที่นั่งหน้าอั๋นหันมายิ้มทักทายก่อนจะโบกหัวนนท์ไปหนึ่งครั้ง ผมกับอั๋นหัวเราะ
จากนั้นนนท์ก้ซักถามพวกเราว่าทำไมถึงย้ายมาเรียนที่นี่ ผมบอกเหตุผลของตัวเองไปตามตรง ส่วนอั๋นก้เล่าว่าย้ายมาเพราะใกล้บ้านกว่าโรงเรียนเก่า
"บ้านมึงอยู่ไหนวะ" ผมถาม
"แถวสะพานตากสิน"
"เห้ย ใกล้กูเลย กูอยู่แถวรถไฟฟ้าช่องนนทรี" ผมมีเพื่อนกลับบ้านแล้วทีนี้
แล้วคุณครูประจำชั้นของพวกเราก้เข้ามา ชื่ออาจารย์นัทครับ แกสอนพละ ดูทรงแล้วใจดีชัวร์ๆ
"...นี่ นักเรียนใหม่สองคน ลุกขึ้นแนะนำตัวหน่อยซิ"
ผมลุกขึ้นยืนก่อน
"หวัดดีครับ ชื่อพิสุทธิ์ครับ ชื่อเล่นชื่อหมอ"
"ทำไมชื่อหมอล่ะ" อาจารย์นัทถาม
"แม่อยากให้ผมเป็นหมอครับ"
"แล้วทำไมไม่เรียนสายวิทย์ล่ะ"
"ผมเป็นหมอไม่ได้หรอกครับจารย์ โง่เกิน" เพื่อนๆทั้งห้องหัวเราะ
"อย่าดูถูกตัวเองสิ คนเราถนัดไม่เหมือนกัน...อีกคนล่ะ"
อั๋นลุกขึ้นยืนบ้าง
"หวัดดีครับ ผมพงศกร ชื่อเล่นอั๋นครับ"
นักเรียนทุกคนหันมามองพวกเราอย่างสนใจ
"เอาล่ะ เด็กเก่าทั้งหลายก้ช่วยดูแลเพื่อนใหม่ด้วยนะ อะไรที่มันแย่ๆก้อย่าทำให้เพื่อนดู เป็นตัวอย่างที่ดีด้วย" อาจารย์นัทพูดขำๆก่อนจะเริ่มแจกหนังสือเรียนและอุปกรณ์การเรียนให้
"เมื่อกี้กูเห็นหมอหลับในห้องประชุมด้วย โหดสัส" นนท์หันมาคุยอีกครั้ง มันหัวเราะใหญ่
"เออ คนมองกันเต็ม" ต้าร์เสริม
ผมได้แต่ทำหน้าเบี้ยว โคตรอายเลย อั๋นก้หัวเราะด้วย
เราได้รับแจกเครื่องเขียน สมุด หนังสือ และตารางเรียน ผมเห็นว่านักเรียนเก่าหยิบกระเป๋าของตัวเองขึ้นมาใส่ข้าวของลงไป
"อั๋น มึงซื้อกระเป๋ายังวะ" ตอนพ่อพาผมมามอบตัวเข้าเรียนที่นี่ก้ซื้อแต่เครื่องแบบนักเรียนกลับไปครับ
"ยังเลย"
"เดี๋ยวลงไปซื้อกัน"
"เออ"
"เราต้องใช้อะไรอีกปะวะ"
"ไม่มีแล้วนะ"
"อ่าฮะ"
อั๋นยิ้มให้ผมแล้วก้หันไปพิจารณาสิ่งที่พึ่งได้มาใหม่
ดูๆแล้วอั๋นท่าจะเป็นเรียบร้อยอยู่ อย่างนี้จะเข้ากับผมได้หรือเปล่านะ ผมมันเด็กหลังห้องตัวจริง ไม่เรียนแถมยังชอบหลับอยู่บ่อยๆ

กิจกรรมทุกอย่างสิ้นสุดลงในเวลา11.30น. หลังจากนั้นโรงเรียนปล่อยนักเรียนทุกคนกลับบ้าน เราจะเริ่มเรียนกันในสัปดาห์หน้าครับ
ผมกับอั๋นบอกลาเพื่อนคนอื่นๆ ทุกคนดูเหมือนจะแยกย้ายกันไปตามกลุ่มเพื่อนสนิท
"ซื้อกระเป๋าเสร็จแล้วจะกลับเลยปะ" อั๋นจับไหล่ผม
"กินข้าวก่อน มึงไปกินกับกูมั้ย"
"เอาดิ"
เราสองคนเดินลงจากอาคารเรียนไปยังร้านสหกรณ์
"อยู่โรงเรียนเก่ามึงทำอะไรมามั่งวะ" ผมชวนคุย
"กูเคยเล่นบอลฯกับบาสฯให้โรงเรียน หมออะ"
"ไม่มีว่ะ หลับอย่างเดียว" อั๋นหัวเราะ

เมื่อผมกับอั๋นได้กระเป๋านักเรียนเรียบร้อยก้เดินออกไปหาข้าวกลางวันแถวโรงเรียนทานกัน ผมเลือกร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำที่คนมานั่งกันหนาแน่น
"งี้แสดงว่าอร่อยชัวร์" ผมพึมพำ อั๋นยิ้ม แดกปะ
"ได้ เอาเลย"
"มึงไม่อยากกินก้บอกได้นะ" ผมขมวดคิ้ว
"กูกินได้หมดแหละ ลองก่อน จะได้รู้ว่าอร่อยไม่อร่อย"
"เออ"
ผมกลัวว่าอั๋นจะเกรงใจไม่กล้าเลือกร้าน แต่พอมันพูดอย่างนี้ก้สบายใจได้ครับ
"เอาไร กูเขียนให้"
"อืม...เส้นเล็กต้มยำไม่งอก" อั๋นอ่านกระดาษเมนูอาหารก่อนตอบ
"กูเอา...บะหมี่ต้มยำเผ็ดน้อยละกัน" ผมเขียนอาหารที่เราจะสั่งแล้วส่งให้เด็กเสิร์ฟ
อั๋นกำลังมองหน้าผมอยู่
"มึงมารถไฟฟ้าใช่ปะ ดีๆ กูมีเพื่อนกลับละ"
"เปล่า กูจะขับมอเตอร์ไซด์มา แต่วันนี้ยังไม่รู้ทางเลยมารถไฟฟ้าก่อน"
"อ้อ"
"บ้านมึงอยู่ติดช่องนนทรีเลยใช่ปะ"
"เออ"
หลังจากนั้นเราก้คุยกันต่อไป อั๋นเล่าให้ฟังว่ามันอยู่กรุงเทพฯมาตั้งแต่เกิด มีพี่สาวอีกคนกำลังเรียนมหาวิทยาลัย ผมก้เล่าเรื่องของผมเองให้มันฟังเช่นกัน ผมรู้สึกว่าเราเข้ากันได้ดีทีเดียว ไม่รู้เพราะคิดว่าอั๋นเป็นคนดีหรือเพราะผมเข้ากับคนง่าย

ก่อนแยกกัน เราแลกเบอร์โทรศัพท์ line id และ facebookกัน
"กูไปก่อนนะ เจอกันจันทร์หน้า" ผมบอกลาอั๋นเพราะถึงสถานีที่ผมจะลงก่อน
"เจอกันเว้ยมึง" อั๋นโบกมือและส่งยิ้มให้
จากนั้นเราก้ไม่ได้เจอกันอีกจนถึงวันเปิดเทอม
------------

ผ่านมาสองเดือนนับจากวันที่ผมกับอั๋นเจอกันครั้งแรก ผมไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะเจอเพื่อนที่สนิทได้มากถึงขนาดนี้ อั๋นไม่ได้เงียบๆหรือติ๋มเหมือนวันแรกแล้ว แต่มันทั้งกวนตีนและชอบแกล้งผมชนิดที่ว่าน่าถีบที่สุด
พอเราสนิทกันมากขึ้น อั๋นก้อาสามารับส่งผมจากบ้านไปโรงเรียนทุกวัน มีผลัดกันไปนอนค้างบ้านอีกคนหนึ่งบ้าง
แล้วผมกับอั๋นก้ยังได้เพื่อนสนิทเพิ่มเป็นกลุ่มไอ้นนท์ ที่มีไอ้ต้าร์กับไอ้เอก ซึ่งอยู่ห้องเดียวกันมาตั้งแต่มัธยมต้นด้วย แต่ละคนเกรียนๆทั้งนั้น

ผมจำไม่ได้เลยว่าใครเป็นคนต้นคิดจิ้นผมกับอั๋นขึ้นมา เพื่อนในห้อง เพื่อนต่างห้อง รุ่นพี่หรือรุ่นน้องก้ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆคือเกือบทุกคนในโรงเรียนเห็นด้วย
ก้อั๋นมันชอบเล่นอะไรแผลงๆกับผมประจำ โดยเฉพาะกอดเนี่ย ชอบนัก
"มากอดหน่อยดิหมอ" อั๋นขยับเข้ามากอดผมในคาบว่างคาบหนึ่ง
"กอดอีกละ อะไรของมึงเนี่ย"
"กอดนิดกอดหน่อยหวงตัวอ่อ"
"เออ จะกอดกูไม่ใช่ง่ายๆนะครับ" ผมเคาะหัวไอ้คนขอกอดไปที
"เจ็บนะ"
"ไม่ต้องแบ๊วเลยสาด"
ถึงอย่างนั้นผมก้ไม่ได้ขัดขืนอะไร และอั๋นก้ไม่ยอมปล่อยอยู่ดี นั่นเรียกเสียงแซวจากเพื่อนๆได้ดังจนเลยไปถึงห้องเรียนอีกฝั่งหนึ่งของชั้น

-จบตอน-

พักเรื่องอั๋นกับหมอไปเที่ยวทะเลไว้ด้วยตอนพิเศษ1ตอนนะครับ เจอกันวันแรกก้หลับใส่อั๋นเลยนะหมอ5555

ชื่อ : ต้าร์
สถานะ : มีแฟนแล้ว - เมย์
ชั้นเรียน : มัธยม4/12 สายศิลป์-คำนวณ โรงเรียนชายล้วน
วิชาที่ถนัด : คณิตศาสตร์
สีที่ชอบ : ดำ
อาหารที่ชอบ : ข้าวไข่เจียว
กีฬาที่ชอบ : บาสเกตบอล
เวลาว่าง : เล่นเกมส์ออนไลน์
ลักษณะนิสัย : พูดน้อย ชอบเป็นผู้ตามมากกว่าผู้นำ มีความอดทนสูงมาก บางเวลาก้เดาอารมณ์ไม่ถูก ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
รูปร่างหน้าตา : จุดเด่นคือตาสีน้ำตาลกลมโต มีผิวสีแทน สูงผอมแต่แข็งแรง

ช่วย comment และติดตามกันต่อไปนะครับ
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่31 (26/7/2559 21.25)
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 26-07-2016 21:52:09
ยังตามอ่านอยู่นะ ^__^
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่31 (26/7/2559 21.25)
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 27-07-2016 00:18:49
 :hao7: :hao7: :hao7:
น่าร้ากกกกกก

น้องหมออกพี่อั๋นน่าซบชิมิ
 :hao3:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก : ตอนที่32
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 02-08-2016 19:53:38
ตอนที่32

ผมกับอั๋นมาถึงหัวหินในอีกสองชั่วโมงต่อมา เรารีบจัดแจงหาที่พักกันเป็นอันดับแรกหลังลงจากรถ
"มีห้องว่างมั้ยครับ" อั๋นถามจากโรงแรมเล็กๆแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กับทะเลและหาของกินได้สะดวก มันบอกว่าหาข้อมูลมาก่อนแล้ว
"มีค่ะ แต่เป็นห้องเตียงเดียวนะคะ ห้องสองเตียงเต็มหมดแล้ว" พี่พนักงานตรงล็อบบี้ค้นหาห้องว่างในคอมพิวเตอร์ก่อนตอบ
"ได้ครับ ไม่มีปัญหา"
อั๋นหันมากระซิบข้างหูผม
"โอเคมั้ยหมอ"
"ไม่อะ ไม่อยากนอนกับมึง แยกเตียงดิ" ผมแหย่
"ไม่เอา กูจะนอนกอดมึง ผัวเมียกันก้ต้องนอนเตียงเดียวกันดิ"
"มึงไปนอนพื้นเลยอั๋น กูจะนอนเตียง"
"พี่ครับ ทำไงดี แฟนผมไม่ยอมนอนเตียงเดียวกันอะครับ"
"เห้ย"
ผมร้อง อั๋นหันไปพูดกับพี่พนักงาน พี่เค้าชะงักแล้วยิ้มกว้าง
"เอ่อ...น้องสองคนเป็นแฟนกันเหรอคะ"
"ครับผม" อั๋นตอบหน้าทะเล้น ผมตีแขนมัน
"ห้องสองเตียงหมดแล้วจริงๆค่ะ ต้องรบกวนแขกให้พักห้องเตียงเดียวนะคะ"
"ได้ครับๆ" ผมรีบตอบก่อนจะหันไปเฉ่งไอ้แฟนตัวดี "ไอ้บ้า กูแค่ล้อเล่น"
ฝ่ายหลังได้แต่หัวเราะคิกคัก
"มึงดื้อนิ" อั๋นหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาจ่ายเงินและรับกุญแจห้องจากพี่พนักงาน
เมื่อผละจากบริเวณนั้นเพื่อตรงไปห้องพัก อั๋นก้พูดขึ้น
"ไม่ให้อั๋นนอนเตียงด้วย เดี๋ยวโดนจับปล้ำแน่"
ผมหน้าแดง

ห้องพักที่นี่ดีทีเดียว ค่อนข้างกว้างสำหรับ2คนแม้ว่าจะมีเตียงแค่เพียงเตียงเดียว ของใช้ที่จำเป็นก็มีบริการไว้ครบ ห้องน้ำสะอาดมากครับ
"ตรงตามรีวิวทุกอย่าง" อั๋นล้มตัวลงนอนบนเตียง ยิ้มแป้น "มานอนด้วยกันดิ"
ผมลงนอนหงายข้างอั๋น มันเข้ากอดผมทันที
"สบายจัง"
"แต่กูหนัก"
"โห่ แฟนกอดนิดหน่อยก้หนักแล้วอ่อ"
"เออ ตัวกูยิ่งเล็กๆอยู่ กระดูกหักไปทำไง" อั๋นทับตัวผมไว้ครึ่งหนึ่ง วางหน้าลงบนไหล่
"เว่อร์ อีกหน่อยโดนทับทั้งตัวจะไหวเหรอ"
"ทับทั้งตัวหมายความว่าไง- -"
อั๋นยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะลุกขึ้นมาคร่อมตัวผมไว้อย่างรวดเร็ว
"อยากรู้อ่อ"
"ไอ้บ้า ลุกไปเลยนะเว้ย" ผมโวยวายพร้อมกับพยายามผลักตัวอั๋นออก
อั๋นโน้มตัวลงมาใกล้ ผมหันหน้าหนี
"ทับทั้งตัวก้แบบนี้ไง"
ตอนนี้หน้าอั๋นหื่นเสียจนผมรู้สึกหวิว
"ยะ อย่านะ"
"ไม่แกล้งละๆ"
อั๋นหัวเราะเบาๆก่อนจะลงมากอดผมท่าเดิม
"เดี๋ยวออกไปหาอะไรกินกัน แล้วกลางคืนก้ไปนั่งที่ชายหาด ดีปะ"
"คร้าบ"

"มึงไม่แพ้อาหารทะเลนะ" อั๋นถามย้ำอีกครั้งเมื่อเรานั่งลงที่ร้านอาหารทะเลชื่อดังที่ใกล้กับห้องพัก
"เออ กูนี่ตัวแดกเลย"
"ปูที่ร้านนี้ขึ้นชื่อมาก ถ้าไม่ได้กินถือว่าพลาด"
"ขนาดนั้นเลย"
รอไม่นานนัก อาหารทะเลชุดใหญ่ก้มาวางตรงหน้าเราสองคน แน่นอนว่าอั๋นสั่งปูมาเยอะกว่าอย่างอื่น นอกนั้นก้มีกุ้งเผาอีกหลายตัว และหอยนางรมอีกนิดหน่อย
"หืออ กุ้งน่ากินสาด มึงดูดิ" ผมเห็นว่ากุ้งเป็นสีส้มสดทุกตัวแถมยังอวบอ้วนกว่าปกติด้วย
"มา เดี๋ยวกูแกะให้"
"ช่วยกันดิ"
ผมกับอั๋นช่วยกันแกะกุ้ง
"ผู้หญิงคนนั้นน่ารักเนอะ" อั๋นพยักเพยิดไปทางกลุ่มผู้หญิงโต๊ะข้างๆ ดูท่าทางน่าจะเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย ผมรู้ทันทีว่าหมายถึงคนไหน ในกลุ่มนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่งที่สวยน่ารักมากโดดเด่นออกมา พวกเขากำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน
"น่ารักก้ไปจีบดิ"
"จีบได้เหรอ"
"จีบได้ แค่แฟนมึงนั่งอยู่ตรงนี้เอง"
อั๋นหัวเราะ
"ล้อเล่นน่า"
"แต่เค้าก้น่ารักจริงๆนะ"
"งั้นอั๋นขอมีกิ๊กนะ" ผมจิ๊ปาก
"ไอ้สัส กิ๊กบ้านมึงดิ"
"โอ๋ๆ ไม่มองแล้วก้ได้...อั๋นไม่อยากมีกิ๊กหรอก มีหมอคนเดียวก้พอแล้ว" อั๋นหยุดแกะกุ้งแล้วมาจับมือผม
"ไม่" ผมทำแก้มป่อง
"งอนเหรอ"
"เออ ถ้ากูมองคนอื่นแล้วถูกใจ ขอมีกิ๊กบ้างมึงชอบปะล่ะ"
"อั๋นล้อเล่นนนน" ไอ้แฟนตัวดีลากเสียงยาว
"ไม่ต้องเลย"
"ไม่เชื่อเหรอ"
"เออ"
แล้วอั๋นก้เอื้อมตัวข้ามโต๊ะมาหอมแก้มผมฟอดใหญ่ ผมตาโต
ทุกคนที่นั่งโต๊ะใกล้กับโต๊ะเราหันมามองเป็นตาเดียว
"คราวนี้เชื่อยัง"
"อะ ไอ้บ้า" ผมรู้สึกเหมือนควันกำลังจะออกมาจากหู
"กูรักมึงคนเดียวแหละ เชื่อใจได้"
"อือ" ผมตอบเสียงเบา เขินคนอื่นจนอยากจะมุดลงใต้โต๊ะ
อั๋นยิ้มตาหยี
ผมเริ่มกินกุ้งเป็นอย่างแรก เนื้อหวานอร่อยมากครับ ไม่ผิดหวังเลย ปูก้เช่นกัน ทั้งสองอย่างสดจริงๆ
"อร่อยทุกอย่างเลย" ผมบอกอั๋น
"กินเยอะๆนะครับ"

ผมกินอิ่มจนแทบจะเดินไม่ไหวแต่อั๋นก้ลากออกมาเดินเที่ยวรอบบริเวณนั้นจนได้ ช่วงนี้นักท่องเที่ยวยังไม่เยอะเท่าไรครับ อาจเพราะยังไม่ถึงช่วง high season ด้วย
"ก่อนกลับมากินร้านเมื่อกี้อีกรอบดิ"
"เอาดิ" อั๋นพูดกลั้วหัวเราะ
อากาศตอนนี้กำลังเย็นสบายเลยครับ เหมาะกับการเดินเล่นเที่ยวชมสถานที่สุดๆ อั๋นจับมือผมเดินไปตามถนนที่ตัดระหว่างหมู่บ้านกับชายหาดเรื่อยๆ
"กูอยากอยู่ที่นี่ว่ะ มันเงียบสงบดี ได้เห็นทะเลทุกวันด้วย" ผมพูด
"งั้นจะพามาเที่ยวบ่อยๆนะ...หรือเราจะย้ายมาอยู่ที่นี่เลย"
"บ้า จะทำได้ไง"
"ได้ดิ ตอนเราแต่งงานกันก้มาสร้างเรือนหอแถวนี้"
ผมยิ้มกับคำพูดของอั๋น
"เพ้อเจ้อ"
"กูก้อยากอยู่กับมึงทุกวันแบบนี้นะ" อั๋นอ้อน
"อยู่ด้วยกันทุกวันกูต้องเบื่อมึงแน่"
"เดี๋ยวทำให้ไม่เบื่อเอง"
"กูรู้มึงคิดอะไรอยู่" ผมขัด
"แหะๆ โดนรู้ทันอีกละ"
"ไอ้ลามกเอ๊ย"
"หมออะ ไม่ยอมให้สวีทกันบ้างเลย"
"ยังงี้ไม่เรียกสวีท เค้าเรียกหื่น- -"

เกือบสองทุ่มแล้วเมื่อเรามานั่งกันอยู่ที่ชายหาด อั๋นดึงผมขึ้นมานั่งบนตักและกอดเอวจากข้างหลัง
"กูไม่เคยเห็นน้ำทะเลตอนกลางคืนเลย" ผมบอก มองเห็นสายน้ำข้างหน้าเคลื่อนไหวอย่างสงบ
"สวยปะ"
"สวย" อั๋นยิ้มกับคำตอบของผม
"ตอนเด็กๆ พ่อกับแม่ชอบพากูกับเจ๊เอ๋ออกมาเดินเล่นที่ทะเล กูเลยชอบดูน้ำ ดูท้องฟ้าตอนนี้...กูคิดว่าจะพามึงมาดูถ้าเราได้มาด้วยกัน"
"ขอบใจนะเว้ย" ผมเอนหัวซบลงบนไหล่อั๋น
"ครับผม"
นาทีนั้นเอง อยู่ๆผมก้รู้สึกอยากจูบอั๋นขึ้นมา
"อั๋น"
"หือ"
ผมหันไปประกบปากกับอั๋นเบาๆ อั๋นดูตกใจเล็กน้อยแต่ก้จูบตอบผมกลับมา แขนอั๋นกอดเอวผมแน่นขึ้น มือทั้งสองข้างวางอยู่บนไหล่อั๋น
ผมรู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นเร็วมาก ถึงเราจะจูบกันหลายครั้งแล้วก้เถอะ แต่ผมก้ย้งตื่นเต้นอยู่ทุกครั้ง
...

"หมอจำวันที่เราเจอกันครั้งแรกได้ปะ" อั๋นถามขึ้น เรายังนั่งกันอยู่อย่างนั้น ไม่ได้สนใจเลยว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร
"จำได้ดิ...วันแรกมึงโคตรเรียบร้อยเลย กูไม่คิดว่าจะกวนตีนได้ขนาดนี้"
อั๋นหัวเราะเบาๆ
"กูเป็นแบบนั้นเหรอ"
"เออ เงียบสัส ตอนนั้นกูคิดถูกป่าววะที่เลือกมึงเป็นเพื่อน"
"อ้าวเห้ย ทำไมพูดงี้อะ"
"โอ๋ เค้าล้อเล่น" ผมหัวเราะบ้าง หันไปหยิกแก้มอั๋นอย่างมันเขี้ยว
"กูจำได้ทุกอย่างเลย"
"ไหนว่ามาดิ"
"วันนั้นเป็นวันปฐมนิเทศ มึงมาสาย"
ใช่ ผมมาสายครับ- -
"มาถึงแปบเดียวก้หลับคาเก้าอี้เลย แถมยังมานอนเบียดกูอีก"
ผมหน้าแดง
"เว่อร์ แค่ซบเองโว้ย...มึงอะ หน้ายิ้มตลอดตั้งแต่วันแรกเลย"
มีสิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของแฟนผม นั่นก้คือหน้ายิ้มครับ คนอะไรไม่รู้ยิ้มได้ทั้งวัน
"เพราะมึงนั่นแหละ ชอบทำให้กูยิ้ม"
"ไอ้บ้า"
"หมอรู้ตัวมั้ยว่าตัวเองน่ารักแค่ไหน...มีแต่คนสนใจหมออะ"
"ที่บอกว่าสนใจนี่มีแต่ผู้ชายปะวะ- -"
"ผู้หญิงก้มีเหอะ แต่ส่วนใหญ่ก้ผู้ชาย"
"กูเหมือนขนาดนั้นเลยอ่อ"
"ถ้าหน้าตาก้ใช่ แต่นิสัยนี่ไม่เลย แมนทั้งแท่ง...จริงๆหน้ามึงก้ไม่ได้หวานหรือเหมือนผู้หญิงอะไรแบบนั้น แต่แค่มันดึงดูดให้ผู้ชายสนใจ"
"กูควรดีใจมั้ย- -"
"ดีใจดิ เพราะมันก้เป็นส่วนหนึ่งที่ดึงดูดกูนะ"
นี่อั๋นกำลังสรุปสาเหตุที่มันชอบผมอยู่หรือเปล่านะ
"แต่มึงก้มาเป็นแฟนกู กูชนะคนอีกสิบคน เย่"
ผมขบขันที่อั๋นทำท่าดีใจ จริงๆแล้วผมเป็นฝ่ายโชคดีมากกว่าที่ได้อั๋นเป็นแฟน มันทำทุกอย่างได้เพื่อผมและแทบไม่เคยทำให้ผมเสียใจ ผมเองที่มีแต่เรื่องยุ่งๆให้อั๋นต้องมาปวดหัว
ผมเริ่มขยับตัวเพราะความหนาว ลืมหยิบเสื้อแจ็คเกตติดตัวมาด้วยครับ
"หนาวเหรอ"
"อือ"
อั๋นกอดผมแน่นขึ้นอีก
"หายหนาวยัง"
"ดีขึ้น"
ผมไม่รู้ว่าความรู้สึกอบอุ่นที่เกิดขึ้นมาจากการที่ถูกอั๋นกอดเพื่อคลายความเย็นหรือมาจากข้างในกันแน่
อั๋นวางคางลงบนไหล่ผม
"กูมีความสุขมากเลย"
"กูก้เหมือนกัน"
"อยู่กันแบบนี้ไปนานๆนะหมอ"
ผมพยักหน้า ยิ้มให้ไอ้คนขี้อ้อนที่ส่งยิ้มกว้างกลับมาให้

"ง่วงยัง" อั๋นถามเมื่อเรากลับมาที่ห้องพัก ตอนนี้ข้างนอกอากาศเย็นเกินกว่าที่จะนั่งได้แล้ว
"ยังเลย" ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมานั่งเล่นบนเตียง เลื่อนดูนั่นนี่ไปเรื่อยเปื่อย
"หิวมั้ย"
"ไม่อะ อั๋นหิวอ่อ"
"ไม่เหมือนกัน" อั๋นนั่งลงข้างผม "นี่ พรุ่งนี้ตื่นเช้าไปดูท้องฟ้ากัน"
"กูจะตื่นไหวมั้ยเนี่ย"
"เดี๋ยวกูปลุก"
"ไปดูคนเดียวดิ กูจะนอน" ผมแกล้ง
"ม่ายอาว ไปดูด้วยกันดิ"
"ไม่เอา"
"เออ ไปดูคนเดียวก้ได้ เชอะ" อั๋นหันหน้าไปทางอื่น
อะๆ ไปดูด้วยก้ได้ ขี้งอนนะมึงอะ" ผมบีบจมูกอั๋น
"จุ๊บก่อน"
"อีกละ"
"จุ๊บเร็ว ไม่งั้นไม่หายงอน"
ผมขยับไปหอมแก้มอั๋นเร็วๆ
"พอใจยัง"
"ไม่ใช่จุ๊บแก้ม"
แล้วอั๋นก้หันมาจูบปากผม
ผมรู้สึกได้ว่าจูบครั้งนี้หนักหน่วงขึ้นนิดหน่อยจากครั้งก่อนๆ ผมจึงปลดปล่อยตัวเองเต็มที่...

"มะ หมอ"
ผมลืมตาขึ้นแล้วก้ต้องตกใจ รู้ตัวอีกทีก้ขยับเข้ามาใกล้อั๋นจนไม่เหลือระยะห่าง ผมยกแขนขึ้นโอบรอบคออั๋น มืออั๋นจับอยู่ที่เอวทั้งสองข้างของผม
"มึงกำลังยั่วกูอยู่รู้มั้ย"
ผมคิดว่าอั๋นจะผละออก แต่มันกลับขยับเข้ามาจูบผมอีกครั้ง
ครั้งนี้อั๋นบดขยี้ริมฝีปากผมเสียจนอ่อนระทวย สองมือก้ลากผ่านร่างกายผมไปทั่ว
สติผมกำลังเตลิด
ผมเองก้พึ่งรู้สึกตัวว่ากำลังทำสิ่งเดียวกับอั๋นเช่นกัน มือผมลูบไล้ไปตามร่างกายท่อนบนของอั๋น

อั๋นถอนจูบ แววตาเป็นประกายสะท้อนออกมา
ผมเม้มริมฝีปากอย่างขัดเขิน หลบสายตาที่อั๋นจ้องมองมา เจ้าตัวเหมือนรู้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่ ใช้มือเชยคางผมขึ้นมาสบตา
"หมอ"
"อั๋น"
ผมไม่รู้ว่าเราเรียกชื่ออีกฝ่ายไปทำไม แต่ผมรู้แน่ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น...
อั๋นจับไหล่ผมแล้วดันเบาๆให้นอนลงบนเตียง ผมขยับตามอย่างเต็มใจ
อั๋นโน้มตัวลงมา หน้าผมร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างรวดเร็วเมื่อคิดถึงสิ่งที่กำลังจะทำ เราจูบกันอีกครั้ง อั๋นค่อยๆบรรจงสอดลิ้นเข้ามา ผมทำอย่างเดียวกัน
เมื่อบดริมฝีปากผมจนพอใจ อั๋นเลื่อนลงไปไซร้ซอกคอผม
ผมรู้สึกดีจนไม่สามารถปฏิเสธอะไรได้อีก ได้แต่ขยับร่างกายอย่างเสียวกระสันเมื่อจมูกและริมฝีปากอั๋นลากผ่านกล้ามเนื้อ
แล้วอั๋นก้เลิกชายเสื้อยืดของผมขึ้นมา ใช้มือลูบไล้ไปตามลำตัวและสีข้างผมช้าๆ
"อา..."
ผมอายที่เผลอร้องออกมา จึงเม้มปากไว้เพื่อไม่ให้เสียงหลุดออกไปอีก อั๋นเงยหัวขึ้น กำลังยิ้มกว้าง ใบหน้าเป็นสีแดงจัดเช่นเดียวกัน
แล้วอั๋นก้ก้มลงอีกครั้ง ลงไปเล่นกับยอดอกผมทั้งสองข้าง...
อั๋นใช้ริมฝีปากเม้มสลับและตวัดลิ้นขึ้นลงเพื่อสัมผัส สลับกับใช้มือคลึงหน้าอกผม
"อ๊ะ...อา"
ผมทนกลั้นครางไม่ไหวอีกต่อไป แอ่นอกรับสัมผัสจากอั๋น
สายตาผมเหลือบมองเป้ากางเกงอั๋นโดยอัตโนมัติ...

ในที่สุดอั๋นก้ถอดเสื้อผม และถอดเสื้อตัวเองออกตาม
ผมกัดริมฝีปาก อารมณ์มากมายพลุ่งพล่านขึ้นมา ผมคิดว่าครั้งนี้คงไม่มีอะไรมาหยุดเราสองคนได้แล้ว
อั๋นพรมจูบไปทั่วท่อนบนผม นั่นทำให้ผมดิ้นพล่าน เมื่อลิ้นอั๋นแตะหน้าท้อง ผมครางออกมาอีก
จากนั้นอั๋นก้ขยับขึ้นมาจูบปากอีกครั้งก่อนจะเลื่อนลงไปหาจุดยุทธศาสตร์จนได้
อั๋นปลดตะขอกางเกงสามส่วนของผมและรูดซิปลง ในความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวลที่ผมกำลังได้รับ ผมรู้สึกได้ถึงความอาย
ก้อั๋นไม่เคยเห็นและสัมผัสส่วนนั้นของผมโดยตรงเลยนี่นา
อั๋นดึงกางเกงและกางเกงในของผมออก...
"อะ...อั๋น" ผมเรียกเสียวกระเส่า แต่คนถูกเรียกไม่ตอบ ใช้นิ้วกดส่วนหัวของหมอน้อย ก่อนจะกำรอบลำแล้วรูดขึ้นลง
"อ๊ะๆ...อา..."
ผมยิ่งเสียวขึ้นไปอีกเมื่ออั๋นครอบปากลงไปและดูดลำ มือผมจิกผ้าปูที่นอนแน่น

"หมอ...อั๋นไม่ไหวแล้ว"
อั๋นบอกเสียงอ่อน ลุกขึ้นถอดกางเกงของตัวเองออกบ้าง
"ให้อั๋นเข้าไปนะ..."
ผมพยักหน้า ตอนนี้เราทั้งคู่อยู่ในสภาพเปลือยเปล่า อั๋นจับขาผมแยกออก สอดนิ้วเข้าไปที่ช่องทางนั้น
ผมกัดริมฝีปาก...
จากนั้นจึงค่อยๆเพิ่มจำนวนนิ้ว และเมื่ออั๋นน้อยเริ่มเข้ามา ผมร้องออกมาทันที
"เจ็บ..."
"ทนนิดเดียวนะหมอ"
อั๋นค่อยๆเข้ามาทีละนิด เมื่อส่วนหัวเข้ามาได้แล้ว ผมดันไหล่อั๋นให้หยุด
"หมอเจ็บ"
"ทนอีกนิดนึงนะครับ"
อั๋นก้มลงมาจูบปากกับผมอีก สองแขนผมยกกอดอั๋นไว้แน่น ทั้งเจ็บทั้งกลัวขึ้นมาแล้วสิ
"อึก...อ๊ะ"
แล้วอั๋นน้อยก้เข้าไปได้ ผมรู้สึกเหมือนตัวจะฉีกขาดเป็นสองท่อน อั๋นหยุดประเดี๋ยวหนึ่งก่อนจะเริ่มขยับเข้าออกช้าๆ
"อา..."
อั๋นครางออกมา หลับตาเงยหน้าขึ้นทางเพดาน
ผมเองยังเจ็บและจุกอยู่ แต่ความเสียวก้เริ่มกลับมา
"ยะ อย่าเกร็งดิหมอ..."
อั๋นสูดปาก หน้าเหยเก เมื่อช่องทางผมตอดรัดอั๋นน้อยสุดชีวิต
"อ๊ะ..."
ผมบอกตัวเองให้หยุดคิดว่าจะเลิกครางได้แล้ว ในเมื่อเวลานี้ผมเสียวจนใจจะขาด อั๋นก้มลงมาไซร้ซอกคอและใช้มือตรึงแขนผมทั้งสองข้างไว้กับเตียง
ไม่มีช่องว่างระหว่างเราสองคนอีกแล้ว ลำตัวเราแนบชิดกัน ผมดิ้นอีกครั้งเมื่อกล้ามเนื้ออั๋นเสียดสีร่างกายผม
อั๋นเริ่มเพิ่มความเร็วและความหนักหน่วงขึ้น ผมจิกปลายเล็บลงบนหลังอั๋นแน่น

เราทั้งสองคนต่างครางไม่เป็นภาษา ผมไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้วตั้งแต่ที่เราเริ่ม
อั๋นท่าจะรู้สึกเสียวมาก เพราะหน้ามีสีแดงจัดลงไปถึงคออย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน และมีเหงื่อผุดขึ้นมาทั่วใบหน้า
ผมเองก้ไม่ต่างกัน ทุกครั้งที่อั๋นขยับเข้าออก ผมเหมือนแทบขาดใจ รสชาติของเซ็กส์ครั้งนี้มันมากเกินกว่าจะคาดคิดได้
"มา...แล้ว"
อั๋นรีบถอนอั๋นน้อยออกได้ทันเวลา ไม่นานหมอน้อยก้ตามไป ผมเสียวจัดจนหมอน้อยถึงที่หมายเอง
"...หมอเป็นเมียอั๋นแล้วนะ"
อั๋นยิ้มภูมิใจทั้งที่กำลังหอบหายใจหนัก ผมทุบไหล่มันเบาๆ
"อะ...ไอ้บ้า"
ผมเองก้หัวใจเต้นแรงจนเหมือนจะระเบิดออกมายังไงยั้งงั้น

-จบตอน-

คุณผู้อ่านคร้าบบบ ในที่สุดสองคนนี้ก้ได้เสียเป็นสามีภรรยากันสักที โอย ตอนนี้นักเขียนเขียนไปก้จิกหมอนไปเช่นกัน อะไรจะความรักอบอวลและเร่าร้อนได้ขนาดนั้น5555

วันนี้เป็นประวัติของนนท์นะจ๊ะ
ชื่อ : นนท์
สถานะ : โสด
ชั้นเรียน : มัธยม4/12 สายศิลป์-คำนวณ โรงเรียนชายล้วน
วิชาที่ถนัด : พลศึกษา
สีที่ชอบ : แดง
อาหารที่ชอบ : กินได้ทุกอย่าง ไม่เลือก
กีฬาที่ชอบ : ฟุตบอล
เวลาว่าง : ดูภาพยนตร์ ฟังเพลง
ลักษณะนิสัย : เป็นคนที่พูดมากที่สุดในกลุ่มของหมอแล้วก้ว่าได้555 มนุษยสัมพันธ์และอัธยาศัยดีเยี่ยม จึงมีเพื่อนมากมายและเป็นศูนย์รวมของเพื่อนๆ ถ้ามีตำแหน่งหัวหน้ากลุ่ม นนท์ก้เหมาะที่สุดแล้วในแง่ของการจัดการคน มีทักษะการติดตามและค้นหาความจริงระดับโคนัน จึงรู้ทุกเรื่องของเพื่อน รักเพื่อนมาก
รูปร่างหน้าตา : ตัวล่ำหนาแต่ไม่ได้มาจากการออกกำลังกาย? ผิวขาว มักจะตัดผมทรงใหม่ๆมาให้เพื่อนดูทุกครั้ง ดัดฟัน

Comment และติดตามตอนต่อไปกันด้วยน้า
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) : ตอนที่32 (2/8/59 19.55)
เริ่มหัวข้อโดย: ตัวไหมอ้วนกลม ที่ 02-08-2016 20:37:27
 :mc3: :mc2: :mc3: :mc2:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) : ตอนที่32 (2/8/59 19.55)
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 02-08-2016 22:26:37
สนุกอะชอบมากๆๆ :katai3:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) : ตอนที่33
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 23-10-2016 23:37:34
-Season2-

ตอนที่33

เราทั้งคู่หอบหายใจถี่ รู้สึกเหมือนวิ่งระยะไกลมานาน อั๋นยังอยู่บนตัวผม
"อะ ไอ้บ้า ยิ้มไร"ผมถามพร้อมชกแขนอั๋น เมื่ออีกฝ่ายมองมาด้วยสีหน้าทะเล้น
"สะ สุดยอดเลย เมื่อกี้"
"ทะลึ่ง"
"หมอนั่นแหละ บิดไปบิดมา ท่าทางนี่โคตรยั่วเลย"
"ไอ้บ้า"
อั๋นหอมแก้มผม
"มึงรู้มั้ย กูมีความสุขที่สุดเลย"
"กู...กูก้เหมือนกัน"
อั๋นค่อยๆขยับตัวออก ผมขยับตามและพบว่าตัวเองรู้สึกเจ็บมาก
"โอ๊ย"
"เห้ย" อั๋นเข้ามากอดทันทีเมื่อได้ยินเสียงผม
"หมอไหวปะ"
"ไหวๆ" ผมตอบแม้หน้าจะบูดเบี้ยว
อั๋นก้มลงสำรวจตัวผมอย่างไม่รังเกียจ ผมมองตาม นึกกลัวขึ้นมาเล็กน้อย แต่โชคดีที่ไม่มีเลือดออกมาจากบริเวณนั้น
"หมอเจ็บใช่มั้ย"
"อือ"
"กูขอโทษนะ" อั๋นมีสีหน้าไม่ดีขึ้นมา
"เห้ย ไม่เป็นไรน่า"
"อั๋นประคองผมลุกขึ้นแล้วพาไปล้างตัว ก่อนจะใส่เสื้อผ้าให้"
"ยังเจ็บอยู่ใช่ปะ ไปโรงพยาบาลมั้ย"
"ไม่ต้องๆ ไม่ได้เจ็บขนาดนั้น" ผมยิ้ม
"งั้นกินยาแก้ปวดไว้นะ" พูดแล้วอั๋นก้หยิบแผงยาแก้ปวดที่พกมาพร้อมน้ำเปล่าหนึ่งแก้วมาให้ผม ผมทำตามอย่างว่าง่าย
"ไม่ต้องทำหน้าเครียดเลย อั๋นไม่ได้ทำไรผิด"
"ก้หมอเจ็บอะ"
"ก้นี่...มันครั้งแรก" ผมตอบช้าๆ หน้าแดงจัด
อั๋นยิ้มออกมา
"นี่ก้ครั้งแรกเหมือนกัน"
"ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวก้หายแหละ" ผมยืนยัน
"อือ...ถ้างั้นขออีกรอบนะ"
"เห้ย" ผมร้อง
"ล้อเล่นน่า" อั๋นขำ
ผมล้มตัวลงนอนบนเตียง อั๋นดึงผมเข้ามากอด
"มึงรู้มั้ย เมื่อกี้มึงทำให้กูทนไม่ไหว"
"ก้มึงหื่นนิ ไอ้อั๋นจอมหื่น"
"ทำปากยื่นอีกละนะ ต้องจูบซะให้เข็ด..."
แล้วอั๋นก้จูบผมอีกครั้ง

"นะ นอนกันได้แล้ว พรุ่งนี้จะดูท้องฟ้าไม่ใช่เหรอ" ผมเปลี่ยนเรื่องเมื่ออั๋นถอนจูบแต่ยังคงจ้องหน้าผม
"บอกให้เลิกเขินได้แล้วหมอ เป็นเมียอั๋นแล้วนะ"
"คะ ใครเมียมึง"
"ก้มึงไง เมื่อกี้ สดๆร้อนๆเลย"
"ไอ้โรคจิต"
"หรือไม่จริง ให้พิสูจน์ความเป็นผัวเมียอีกทีมั้ย"
"พ่อง- -"
"อย่าด่าพ่อตาดิค้าบ"
"นอนเลย ไม่คุยแล้ว" ผมหันหลังหนี อั๋นยิ่งกอดแน่นขึ้น
"จะหนีไปไหนซอมบี้"
"เรียกซอมบี้อยู่นั่น ถ้ากูเป็นซอมบี้ขึ้นมาจริงๆ จะกัดมึงคนแรกเลยไอ้อั๋น"
"ใจร้ายว่ะ กัดกูลงหรอ"
"เออ"
"ได้ กูยอม ยอมเป็นซอมบี้ตามมึงเลยอะ"
"บ้า"
"ก้เดี๋ยวซอมบี้ตัวนี้เหงาไงครับ" อั๋นเอื้อมมือมาหยิกแก้มผม
"ไม่เหงา ซอมบี้อยู่ได้เว้ย"
"ไม่จริงอะ ถ้าซอมบี้ไม่มีแฟนก้ต้องเหงาดิ"
"เดี๋ยวนะ ซอมบี้นี่มีแฟนด้วยอ่อวะ"
"กูก้ไม่รู้ว่ะ"
เราสองคนหัวเราะออกมาก่อนจะหลับไปในอ้อมกอดของกันและกันอย่างมีความสุข

อั๋นปลุกผมตอนเจ็ดโมงเช้าของวันต่อมา ให้ผมไปล้างหน้าและแปรงฟัน(ยังไม่อาบน้ำ) แล้วลากไปที่ทะเล
"ง่วงชิบ ทำไมต้องปลุกเช้าขนาดนี้เนี่ย" ผมบ่นงึมงำ
"ไม่งั้นก้ไม่เห็นวิวสวยขนาดนี้สิค้าบ ดูดิ ฟ้าโปร่ง มีแดดอ่อนๆด้วย"
ผมสำรวจทัศนียภาพข้างหน้า เออ มันก้สวยอย่างที่อั๋นบอกจริงๆนั่นแหละ
"เดินเล่นกัน"
ผมพยักหน้า อั๋นกุมมือผมแล้วพาเดินบนหาดไล่ไปตามความยาวของทะเล
อากาศกำลังดีเลยครับ ไม่ร้อนไม่เย็นจนเกินไป น้ำทะเลมองเห็นเป็นสีสดใส
"นี่ หายเจ็บรึยังอะ เมื่อคืน..."อั๋นถามขึ้น
"หายละ" ผมตอบ ตื่นเช้ามาความรู้สึกเจ็บก็หายไปแล้วครับ "แต่ครั้งหน้าก้...เบาๆกับกูหน่อยนะ"
"ขอโทษค้าบแฟน" อั๋นลากเสียงยาว "ความผิดหมอเต็มๆเลยเมื่อคืน มายั่วอั๋นเอง"
"เดี๋ยวๆ มึงอะหื่นเอง มาโทษกูได้ไง"
"เถียงเก่งเดี๋ยวก้จับจูบตรงนี้ซะหรอก"
ผมหุบปากทันที
"ไอ้บ้ากาม" ผมพูดเบาๆ
"อะไรนะ"
"ป๊าว"
"ไอ้ตัวแสบ" อั๋นเอื้อมมืออีกข้างมาบีบจมูกผม
"ถ่ายรูปกัน" ผมบอก หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายเซลฟี่
"เอาดิ จะว่าไป เราไม่ค่อยได้ถ่ายรูปด้วยกันเลยเนอะ"
"นั่นดิ"
"เดี๋ยวลงรูปแล้วขึ้น relationship ใน facebook เลยแล้วกันนะ"
"ใจเย็นครับมึง เดี๋ยวพ่อแม่รู้ก้งานเข้า"
อั๋นหัวเราะ
เราสองคนขยับตัวเข้ามาใกล้กัน ผมยกแขนขึ้นโอบไหล่อั๋น ในขณะที่อั๋นโอบแขนรอบเอวผม
ผมกดถ่ายไปหลายรูป จากนั้นอั๋นบอกให้เปลี่ยนหลายๆท่า ทำปากจู๋บ้าง ชูสองนิ้วบ้าง ทำ mini heart บ้าง จนอั๋นหอมแก้มผมโดยไม่ทันตั้งตัว
ผมหน้าแดง
"เขินไร แฟนกันจะให้ถ่ายท่าไหนล่ะ"
"กูก้...ไม่ได้ว่าไรนิ"
"หน้ามึงแดงจนจะเป็นมะเขือเทศอยู่แล้ว"
"หยุดแซวน่า"
ผมศอกเข้าไปที่ท้องอั๋น เจ้าตัวแกล้งร้องโอดโอย
"อะๆ ไม่แกล้งละ ถ่ายต่อดิ"
เราถ่ายรูปกันอีกสักพัก ก่อนจะเดินต่อไปจนถึงอีกฝากหนึ่งของทะเลจากที่เดินมา
ผมกับอั๋นยังกุมมือกันอยู่
ผมรู้สึกอบอุ่นใจและปลอดภัยเมื่อมีอั๋นอยู่เคียงข้าง
"อยากอยู่เที่ยวต่ออีกสักอาทิตย์ว่ะ"
"อยากอยู่กับกูอะดิหมอ"
"ป่าว ขี้เกียจไปเรียน"
อั๋นดีดหน้าผากผม
"ห้ามขี้เกียจ"
ผมทำหน้ามุ่ย
เราเดินเล่นกันอีกสักพักก่อนจะกลับมาอาบน้ำ
"อาบด้วยกันมั้ยหมอ"
"ไอ้บ้า ไม่เอา"
"อายไรวะ ทำอย่างกับไม่เคยอาบด้วยกัน อีกอย่าง..." อั๋นยิ้มกรุ้มกริ่ม
"อีกอย่างอะไรมึง"
"เราก้เห็นกันทั้งตัวละนิ"
"เนี่ยแหละที่กูไม่อยากอาบกับมึง ไอ้หื่น- -"
"นี่มึงเรียกกูว่าไอ้หื่นหลายครั้งแล้วนะ"
"ก้มึงแม่งหื่นอะอั๋น"
"อยากให้กูหื่นอีกปะล่ะ"
ผมรีบวิ่งเข้าห้องน้ำแล้วล็อคประตูอย่างว่องไว ช้ากับไอ้อั๋นแม้แต่วินาทีเดียวนี่เสร็จมันได้เลยครับ
"เห้ย" อั๋นพูดกลั้วหัวเราะ "หมอแม่งรู้ทันว่ะ อย่าเผลอเชียว โดนแน่"

สิบโมงแล้วเมื่อเราออกมาหาอะไรรับประทานเป็นมื้อเช้า ผมค้นในอินเตอร์เน็ตแล้วพบร้านนมและเบอเกอรี่ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากที่พักของเรานัก เราต้องนั่งรถสองแถวคันเล็กๆข้ามไปยังอีกซอยหนึ่ง ทั้งผมทั้งอั๋นพึ่งเคยขึ้นครั้งแรกครับ
"รถเล็ก น่ารักดีว่ะ" ผมบอก อั๋นยิ้ม
ในรถมีคนนั่งอยู่แล้ว หลังจากผมกับอั๋นขึ้นไปไม่นาน ผมก้สังเกตเห็นว่าคุณป้าที่นั่งฝั่งตรงข้ามมองมาที่เราสองคน ซึ่งกำลังจับมือกันอยู่
แล้วป้าก้หันไปกระซิบกับผู้หญิงวัยรุ่นที่นั่งข้างๆ ผมเดาว่าน่าจะเป็นลูกสาวของแก
"หมอ ดูนั่นดิ" อั๋นสะกิดให้ผมหันออกไปมองบ้านหลายๆหลังข้างทาง "สวยเนอะ"
"อือ"
เมื่อผมละสายตากลับมา ก็ยังเห็นคุณป้าและผู้หญิงด้านข้างมองเราอยู่
"เดี๋ยวนี้ทำไมเด็กผู้ชายกลายเป็นตุ๊ดเป็นเกย์กันหมดก็ไม่รู้"
"นั่นสิแม่ ถ้าลูกหนูโตขึ้นมาเป็นแบบนี้นะ หนูอายเค้าตายแน่"
คราวนี้สองแม่ลูกพูดโดยไม่พะวงที่จะลดเสียง อั๋นหันจากข้างทางมาหาทั้งคู่บ้าง
ที่น่าประหลาดใจก็คือ เมื่อเรามองพวกเขาแล้ว พวกเขาจ้องหน้าเรากลับเหมือนคิดว่าสิ่งที่พูดไปเมื่อครู่นี้ไม่ได้ผิดอะไร แถมสีหน้าที่มองมายังแสดงถึงความรังเกียจอย่างชัดเจน
โชคดีที่รถสองแถวมาถึงที่หมายในห้านาทีถัดมา
เราสองคนลงจากรถ อั๋นเดินไปจ่ายเงิน10บาทให้ลุงคนขับ และก่อนรถจะออกวิ่งต่อไป ผมเห็นสองแม่ลูกมองมาที่เราแล้วส่ายหัวเบาๆ
"หมอ...รู้สึกยังไงบ้าง"
"กูโอเค อย่าไปสนใจพวกเขาเลย"
ผมยิ้มแสดงความมั่นใจให้อั๋น มองมือที่จับกันอยู่อีกครั้ง แน่นอนว่าเราทั้งคู่ไม่คิดที่จะปล่อยกันง่ายๆเพราะถูกใครรังเกียจ และเดินเข้าร้าน
"มึงไม่อายใช่มั้ย ที่กูจะขอจับมือมึงไปไหนๆแบบนี้"
"ไม่อาย...อั๋นล่ะ อายคนอื่นมั้ย" ผมถามกลับ
"อั๋นก้ไม่อายเหมือนกัน ไม่มีเหตุผลต้องอายเลย" อั๋นยิ้มกว้าง คำตอบของอั๋นก็ทำให้ผมยิ้มกว้างเช่นเดียวกัน
"กูแค่สงสัยว่าป้าคนนั้นกับลูกสาวเค้ารังเกียจพวกเราขนาดนั้นเลยเหรอ"
"คงงั้น...ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลยแฮะ" อั๋นถอนหายใจ ผมพยักหน้า ที่ผ่านมา ผมกับอั๋นเจอแต่คนจิ้น ฟินเวลาเห็นพวกเราอยู่ด้วยกัน ยังไม่เคยเจอคนเกลียดสิ่งที่พวกเราเป็นมาก่อน
"มากินของอร่อยๆกันดีกว่านะ" อั๋นจูงมือผมตรงไปยังเคาน์เตอร์ และสั่งนมร้อนกับชุดขนมปังปิ้ง

"นี่ ทำไมชวนมากินร้านนมวะ ปกติมึงกินแต่เหล้าไม่ใช่อ่อ" อั๋นแหย่
"ไอ้สัส ให้มันน้อยๆหน่อยครับ กูไม่ได้กินเหล้าอย่างเดียวนะ"
"ครับๆ แฟนว่าไงอั๋นก้ว่างั้น...ป้อนหนมปังหน่อยดิ"
"อ้อนอีกละ ไม่ป้อนเว้ย หาว่ากูแดกแต่เหล้าดีนัก"
"โถ่ ป้อนเถอะ นะๆ"
ผมเอาส้อมพลาสติกจิ้มขนมปังปิ้งคำเล็กแล้วบรรจงใส่ปากคนขี้อ้อนที่อมยิ้มแก้มตุ่ยหลังรับขนมปัง
"กูป้อนให้มึงมั่งนะ"
อั๋นจับมือผมแล้วส่งขนมปังอีกคำใส่ปากผมเอง
"อร่อยว่ะ" ผมบอก
"โชคดีเนอะ ทุกร้านที่เรามาตามรีวิวอร่อยหมดเลย"
"นั่นดิ ทริปนี้แม่งกลายเป็นทริปกินไปเฉย"
"มากับคนกินเก่งก้งี้แหละ"
"มึงอะนะอั๋น"
"มึงอะแหละหมอ ไม่รู้ตัวอีก" อั๋นหัวเราะ
"ถ้ากูกินเก่งงี้แล้วอ้วนขึ้นมา มึงจะทำยังไง"
"โห่หมอ มึงไม่อ้วนหรอก กินยังไงก้ตัวแค่นี้แหละ" อั๋นลูบหัวผมอย่างเอ็นดู ผมทำหน้าบึ้งที่โดนต่อว่า
"ถึงกูผอม แต่สูงนะเว้ย"
"คร้าบบ...แต่ถ้ามึงเกิดอ้วนขึ้นมาจริงๆ กูก้รักมึงเหมือนเดิมแหละ จะให้กูทำไงอะ"
"ดี แต่ถ้ามึงอ้วนขึ้นมา กูไม่รักนะ" ผมแกล้ง
"อะไรวะ ทีกูยังไม่เห็นเป็นไรเลย" ผมหัวเราะ "แต่กูก้ไม่อ้วนหรอก ดูกล้ามซะก่อน" อั๋นทำท่าเบ่งกล้าม
"ขี้อวด กล้ามใหญ่ บ้ากามด้วย"
"หือ คำหลังนี่พูดว่าอะไรนะ"
"บ้ากามไง"
"พูดงี้อยากโดนอีกอ่อ"
อั๋นหัวเราะคิกคัก
"ทำไมกูต้องมีแฟนหื่นขนาดนี้ด้วยนะ"

หลังทานเสร็จ เรานั่งรถสองแถวแบบเดิมกลับไปยังที่พักและเปลี่ยนชุดไปเล่นทะเล เราสองคนถอดเสื้อและใส่กางเกงว่ายน้ำ
"เร็วดิอั๋น ไปเล่นน้ำกันๆ" ผมบอกอย่างกระตือรือร้น เร่งอั๋นที่กำลังใส่โทรศัพท์มือถือ นาฬิกา กระเป๋าสตางค์ กล้อง ไม้เซลฟี่ลงในกระเป๋าเป้กันน้ำที่เตรียมมา
"ไปแล้วคร้าบ แฟนอยากเล่นน้ำขนาดนั้นเลยอ่อ"
"เออดิ มาเร็ว"
ผมลากอั๋นออกไปทะเล ตรงไปยังส่วนที่คนไม่ค่อยมาเล่น เมื่อไปถึง ผมกระโดดลงน้ำทันที
อั๋นหยิบกล้องออกมาถ่ายรูปผม ก่อนจะลงน้ำตามมาเหมือนกัน
เราว่ายน้ำทะเลแล้วแกล้งกันไปมา แน่นอนว่าส่วนใหญ่อั๋นเป็นคนแกล้งผมครับ- -
อย่างตอนนี้มันก้กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับผมในน้ำอยู่
"อะ ไอ้อั๋น ปล่อยนะเว้ย" ผมร้อง เอาหัวขึ้นมาจากน้ำ
"ไม่ปล่อยหรอก" อั๋นยิ้มกว้าง แต่ก็ปล่อยตัวผมทันทีเมื่อถูกจักจี้เอวกลับ
เราสาดน้ำทะเลใส่กันอีกพักใหญ่ก่อนจะกลับที่พัก
"เมื่อกี้จักจี้กูใช่ปะหมอ ได้ ทบยอดไว้ลงโทษมึงทีเดียวเลยคืนนี้"
"ทบยอดอ่อ ก่อนหน้านี้ผมไปทำไรคุณอั๋นครับ"
"ที่บอกว่ากูหื่น"
"แล้วมันจริงปะล่ะ"
"เสร็จแน่หมอคืนนี้"
อั๋นทำหน้าหื่นใส่ ผมขนลุกเมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
เรากลับไปล้างตัวที่ห้องพัก ระหว่างที่ผมกำลังเช็ดตัวหลังอาบเสร็จ โทรศัพท์มือถือผมดังขึ้น ผมเห็นว่าเป็นต้าร์โทรมา
"ว่าไงมึง"
(เป็นไง พวกมึงสองคนนี่หายหัวไปสวีทกันใช่ปะ ไม่ตอบไลน์กลุ่มเลยนะสาด)
ตั้งแต่เช้าผมกับอั๋นยังไม่มีใครจับโทรศัพท์เลยครับ
"เออ โทษทีว่ะ"
(ไม่มีไรหรอก กูแค่เป็นห่วง เห็นหายไปทั้งคู่เลย)
"ขอบใจมากมึง"
(แล้วไอ้อั๋นอยู่ไหนเนี่ย)
"อาบน้ำอยู่"
(ตอนบ่ายๆเนี่ยนะ)
"พวกกูพึ่งขึ้นจากทะเลมา"
(อ่อ มิน่า)
"แล้วมึงอยู่ไหนวะต้าร์"
(สยาม กำลังจะออกไปกินข้าวกับเมย์ งั้นเดี๋ยวกูไปละ)
"เคๆ แต๊งกิ้วนะมึง"
(เออๆ เดี๋ยวกูไลน์บอกในกรุ๊ปก่อนว่ามึงสองคนยังไม่ตาย แค่สวีทกันอยู่)
ผมหัวเราะ
(เออ ก่อนวาง...มึงสองคนได้กันยังวะ)
ผมสะดุ้ง
"สาดด นี่มึงเป็นไอ้นนท์สองรึไง วันๆถามแต่เรื่องได้กันรึยัง"
(เอ้า ก้พวกมึงหายไปตั้งแต่ดึกๆเมื่อวาน ละก้อยู่ที่ทะเล ไอ้นนท์มันเลยตั้งข้อสังเกตว่าพวกมึงกำลังเอากัน)
ผมอยากจะเชิญให้ไอ้นนท์ไปเป็นหมอดูจริงๆครับ ท่าจะแม่นขนาดนี้
"ไม่โว้ย ไปบอกแม่งว่าไม่ใช่" ผมรีบโกหก ใครจะยอมรับล่ะครับว่าผมเป็นเมียอั๋นแล้วเมื่อคืน
(เออๆ แค่นี้แหละ) ต้าร์หัวเราะก่อนกดวางสายไป
"คุยกับใครวะหมอ" อั๋นนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาจากห้องน้ำอีกคน
"ไอ้ต้าร์ มันบอกว่ากูกับมึงไม่ตอบไลน์กลุ่มตั้งแต่เมื่อคืน พวกมันเป็นห่วงเลยโทรหา...แล้วรู้มั้ยว่ามันถามอะไรอีก"
"ถามว่าไร"
"มันถามว่าพวกเราได้กันรึยัง"
อั๋นหัวเราะเสียงดัง
"แล้วหมอตอบว่าไง"
"ยัง ใครจะไปตอบว่าได้กันแล้ววะ...ยิ้มไร"
"ป๊าวว"
"ไอ้โรคจิต"
"อั๋นยังไม่ได้ทำไรเลย- -"
"ไม่รู้อะ หน้ามึงโรคจิต"
"หมอ..."
แล้วอั๋นก้เดินตรงเข้ามาหาผม
"อะไร"
แต่ผมคิดว่าผมรู้แล้วว่าอั๋นจะทำอะไร
"เราไม่ต้องรอถึงตอนกลางคืนแล้วได้มั้ย"
"มะ หมายถึงอะไร"
"อย่าเฉไฉน่า มึงก็รู้"
"แต่...เราพึ่งอาบน้ำเสร็จนะ"
"แล้วไงอะ" สีหน้าและแววตาอั๋นตอนนี้บอกชัดว่ามันไม่ปล่อยผมให้หลุดมือไปแน่ "มึงยั่วกูนะหมอ มายืนนุ่งผ้าตัวเดียวให้เห็นแบบนี้"
"พูดอย่างกับเห็นกูถอดเสื้อแล้วจะทำทุกครั้งยังงั้นอะ"
"งั้นเดี๋ยวจะทำทุกครั้งเลย"
"ไอ้บ้าเอ๊ย"
อั๋นยกมือทั้งสองข้างขึ้นประคองแก้มผม
"อั๋นทนไม่ไหวแล้วหมอ"
แล้วอั๋นก็ขยับเข้ามาจูบผม ผมยกสองมือขึ้นวางบนไหล่อั๋น และปลดปล่อยตัวเองเต็มที่

-จบตอน-

กลับมาอีกครั้งแล้วนะครับ หลังจากที่หายไปนานมากๆเลย อั๋นกลายเป็นคนหื่นขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย ไม่สิ หื่นมาตั้งแต่ต้นเรื่องแล้ว แต่แค่ยังไม่มีโอกาส555555
เราขอนำเนื้อเรื่องช่วงที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนที่33นี้เป็นseasonที่2นะครับ เพราะอยากแบ่งเรื่องราวของอั๋นกับหมอตามช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาขึ้น
จากตอนที่แล้ว (ตอนที่32) อั๋นกับหมอก็ได้เลื่อนจากเพื่อนสนิทมาเป็นแฟนกันในที่สุด แล้วก็เป็นสามีภรรยาสมใจผู้อ่านหลายๆคนไปเรียบร้อย อรั๊ย หลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับสองคนนี้บ้าง ต้องติดตามตอนต่อไปนะครับ<br>
ตอนหน้าจะมาในไม่ช้าพร้อมประวัติตัวละครที่เหลือเนอะ
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) Season2 : ตอนที่34
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 07-11-2016 21:38:55
ตอนที่34(อั๋น)

คืนที่สองที่หัวหินกำลังจะผ่านไปโดยที่ผมไม่ได้ทำอะไรหมอมากไปกว่านอนกอดแล้วซบหน้าลงกับบ่าของคนตัวเล็กกว่า ไม่ใช่เพราะอะไรหรอกครับ ผมเป็นห่วงมัน เรามีอะไรกันไป2ครั้งในช่วงเวลาไม่ถึง24ชั่วโมง ผมกลัวหมอจะเจ็บ
แต่นั่นก็ทำให้ผมต้องใช้ความอดทนอย่างมาก เพราะไม่ว่าแฟนผมจะทำอะไร มันก็ดูยั่วยวนทุกครั้ง ยอมรับที่หมอบอกก็ได้ว่าผมหื่น- -
ตั้งแต่ที่มีอะไรกันหลังขึ้นจากน้ำทะเล ตอนบ่ายเราก็นอนกลางวันกัน สักห้าโมงเย็นก็ออกไปหาอะไรทานข้างนอกและกลับมานั่งเล่นที่ชายหาด ดูท้องฟ้าและรับลมเย็นๆเหมือนคืนก่อน จนกลับมานอนบนเตียงในเวลานี้
ผมอดไม่ได้ที่จะใช้จมูกและริมฝีปากลากผ่านคอเนียนนุ่มของหมอ มันนอนขดตัวอยู่ในอ้อมกอดของผมเหมือนเด็กตัวเล็กๆ
"อือ...จั๊กจี้ นอนได้แล้วไอ้อั๋น" หมอดุเสียงเบา
"ก็คอมึงน่าไซร้นิ" พูดแล้วก็ขยับเข้าไปหอมแก้มหมออีกหนึ่งฟอดซะเลย
"หาโอกาสตลอดนะมึง...ง่วงแล้ว นอนเถอะ" หมอหันมามองหน้าผม ตาทั้งสองข้างใกล้ปิดเต็มที
"ครับๆ ไม่กวนแล้วก็ได้"
ผมหยุด ไม่อยากก่อกวนมันครับ
ผมคลายกอดให้แน่นน้อยลง เพื่อให้หมอนอนสบายขึ้น มือโอบรอบเอวมันอย่างหลวมๆ
ไม่นานนักผมก็หลับตามคนในอ้อมกอดไป

วันต่อมา หมอไม่พลาดที่จะกลับไปทานอาหารทะเลร้านที่เรามากินกันตั้งแต่วันแรกที่ไปถึงอีกครั้ง แถมสั่งบางส่วนกลับมากินที่บ้านอีกด้วย
"อดอยากอาหารทะเลมาจากไหนเนี่ย" ผมถามหมอตอนซื้อ พร้อมลูบหัวเบาๆอย่างเอ็นดู
"ก็มันอร่อยอะ" หมอยิ้ม เจ้าของร้านยิ่งยิ้มหน้าบานกับคำพูดของมัน และลดราคาให้นิดหน่อย
เรามาถึงกรุงเทพก็ตอนเที่ยงกว่าๆ ผมตั้งใจจะส่งหมอที่บ้านก่อนแล้วกลับบ้านผม แต่พ่อแม่หมอชวนให้ผมอยู่พักผ่อนที่บ้านให้หายเหนื่อยก่อนกลับ
ผมเดินตามหมอขึ้นไปห้องนอนของมัน เจ้าตัวล้มตัวลงไปบนเตียงนุ่มทันที ผมล้มตัวลงตาม
"พรุ่งนี้ขี้เกียจไปเรียนชิบ หยุดอยู่บ้านอีกสักวันดีกว่า"
"ไม่ได้ ต้องไปเรียน นี่หยุดมาตั้งหลายวัน"
"โห่ย กูพึ่งกลับจากไปเที่ยวกับมึงมานะ ยังไม่หายเหนื่อยเลย"
"เหนื่อยไรนักหนา เราไม่ได้เที่ยวหนักขนาดนั้นสักหน่อย นี่ก้เหลืออีกตั้งคืนนึงให้นอนพัก"
หมอย่นจมูกที่ผมดุ ประโยคถัดมาผมเลยพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนขึ้น
"ใกล้สอบแล้ว ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าขาดเรียนเลยนะ" ผมแสดงความหวังดี ยื่นมือออกไปลูบเส้นผมมันเล่น
"ไม่รู้อะ พรุ่งนี้กูจะนอนทั้งวันเลย คอยดู"
"อย่าดื้อดิเราอะ พรุ่งนี้จะมารับแต่เช้าเลย"
"อั๋น"
"หือ"
หมอหันมาหาผม พร้อมจุ๊บปากผมเบาๆ
"ขอบคุณที่พากูไปเที่ยวนะ แล้วก็ที่ดูแลกูด้วย"
"ไม่ต้องขอบคุณน่า กูเต็มใจ"
"มาคิดๆดูแล้ว กูไม่เคยทำอะไรให้มึงเลย มีแต่มึงที่ทำให้กูเกือบทุกอย่าง...กูเป็นแฟนที่แย่ว่ะ" สีหน้าแฟนผมหม่นลง ผมขยับเข้าไปกอด
"เป็นไรเนี่ย ทำไมอยู่ๆดราม่า" ผมพูดกลั้วหัวเราะ
"เอ้า ก็เรื่องจริงนี่หว่า"
"อย่าคิดมากน่า แค่มึงอยู่กับกูแบบนี้ ก็คือทำหน้าที่แฟนแล้ว"
"กูขอโทษนะ...ต่อไปมึงต้องให้กูเป็นฝ่ายดูแลมึงมั่งนะ"
"คร้าบ"
ผมยิ้ม ลูบหลังหมอเบาๆอย่างอ่อนโยน
หนึ่งชั่วโมงต่อมา หมอเดินมาส่งผมที่หน้าบ้าน ผมเรียกuber taxiให้มารับ

กลับถึงบ้าน ผมเห็นเจ๊เอ๋กำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ในห้องนั่งเล่น
"กลับมาแล้ว"
"เป็นไง ไปเที่ยวมาสนุกมั้ย"
"สนุกครับ"
"ชั้นไม่น่าถาม ก็ไปกับหมอสองคน จะไม่สนุกได้ไง"
เจ๊เอ๋คงสังเกตเห็นใบหน้าและท่าทางมีความสุขเต็มเปี่ยมของผม จึงพูดอย่างล้อๆ
"นี่อั๋นดูมีความสุขขนาดนั้นเลยอ่อ"
"ใช่ดิ ปากแกยิ้มกว้างจนจะถึงหูอยู่ละ"
แต่รอยยิ้มผมก็ตกลงเมื่อเห็นร่องรอยความเศร้าเจืออยู่บนสีหน้าและแววตาของพี่สาวคนเดียวของผม แม้ว่าจะพูดหยอกล้อกับผม แต่ข้างในเจ๊เอ๋กำลังรู้สึกอย่างไรอยู่นะ
"เจ๊...เรื่องนั้นอะ" ผมเกริ่น "เป็นยังไงบ้างครับ"
"ชั้นเลิกกับเหมาแล้ว...เห้ย สบาย ชั้นโอเคแล้ว" น้ำเสียงเจ๊เอ๋ดูสดใสแบบหลอกๆ
ผมนั่งลงบนโซฟาข้างๆเจ๊เอ๋ เอื้อมมือไปจับมือเจ๊ไว้
"อั๋นขอพูดอะไรหน่อยได้มั้ย"
"อือ"
"อั๋นเข้าใจนะว่าเจ๊กำลังรู้สึกแย่ แต่เจ๊ทำถูกแล้วล่ะ..." ผมพูดต่อไปไม่ถูก
"..."
สายตาเจ๊เอ๋ยังอยู่ที่โทรทัศน์ ซึ่งกำลังฉายซิทคอมเบาสมองเรื่องดัง ไม่มองหน้าผม
"เจ๊ เจ๊ต้องตัดใจให้ได้นะ" เจ๊เอ๋กับพี่เหมาคบกันมาตั้งหลายปี ไม่แปลกที่เจ๊ยังทำใจไม่ได้ง่ายๆ
ในที่สุดเจ๊เอ๋ก็ร้องไห้ออกมา ตัวสั่น และหันมากอดผม
ผมกระชับกอดให้แน่นขึ้นและลูบหลังพี่สาวเบาๆ
"ชั้นไม่รู้ว่าจะผ่านมันไปได้มั้ย...มัน เหมามันเป็นแฟนคนแรกของชั้น ชั้นคิดว่าจะคบกันจนเรียนจบแล้วก็อยู่ด้วยกัน ไม่คิดเลยว่ามันจะทำแบบนี้..."
"ผ่านไปได้ดิ เจ๊ยังมีเพื่อน มีอั๋น มีพ่อกับแม่อยู่นะ...ดีแล้วที่เจ๊เอ๋ตัดสินใจตั้งแต่ตอนนี้ ไม่งั้นถ้ายื้อไว้จะเสียใจมากกว่านี้อีกนะ"
เจ๊เอ๋สะอื้นบนบ่าผม ผมเกือบจะน้ำตาไหลออกมาที่เห็นอาการเจ๊ คนร่าเริงและแทบไม่เคยมีเรื่องเศร้ากับอะไรในชีวิตมาก่อนต้องโดนคนรักทรยศ

เมื่อเจ๊เอ๋หยุดร้องไห้แล้ว ผมเดินเข้าไปในครัว ชงชาร้อนๆหนึ่งแก้วให้เจ๊ อาจจะช่วยผ่อนคลายความเครียดลงได้เล็กน้อย
"จริงๆเหมาฝากขอโทษอั๋นมาด้วย"
"หือ ขอโทษอั๋นเหรอ" ผมส่งแก้วชาให้พี่สาวรับไปดื่ม
"ก็เรื่องที่เม้งไปขู่หมอไง"
"แล้วพี่เหมาไม่เข้าข้างน้องชายเค้าหรอครับ"
"เหมาบอกว่าเม้งทำไม่ถูก...แล้วก็สมควรแล้วที่โดนพวกแกซ้อมมา"
ผมไม่ตอบ คิดว่าพี่เหมาคงพูดไปอย่างนั้น แต่ไม่อยากพูดความคิดตัวเองให้เจ๊ได้ยิน
"เปลี่ยนเรื่องคุยกันเถอะ..." เจ๊บอก
"อือ"
"แกกับหมอ...ไปถึงไหนแล้ว"
เมื่อโดนถามถึงว่าความสัมพันธ์ของผมกับแฟนไปถึงไหน เรื่องนั้นที่ทะเลก็ผุดขึ้นมาทันที
ราวกับว่าเจ๊เอ๋อ่านใจผมออกอย่างไรอย่างนั้น เพราะคำถามต่อมาทำเอาผมเกือบสะดุ้ง
"ยังไม่ได้ทำอะไรกับหมอใช่มั้ย"
"เอ่อ..." ผมติดขัด เรื่องนี้ผมควรบอกเจ๊ตามจริงเลยไหมนะ
เจ๊เอ๋ยิ้มนิดๆ
"แกไม่ตอบชั้นมาทันที แสดงว่า มีอะไรกันแล้วสินะ"
ผมเงียบไปนิดนึงก่อนตัดสินใจพยักหน้าช้าๆ
"ชั้นไม่ได้ว่าอะไร แต่แกต้องป้องกันนะ"
"ครับ" ผมรู้สึกเขินที่ถูกจับได้ พูดอะไรมากกว่านี้ไม่ออก
"แล้วก็ดูแลน้องหมอให้ดีๆนะ ชั้นอยากให้แกสองคนรักกันนานๆ"
ผมยิ้มกว้างและพยักหน้ารับคำเจ๊เอ๋อีกครั้ง

เมื่อไปถึงโรงอาหารของโรงเรียนในเช้าวันรุ่งขึ้น ผมกับหมอยังไม่ทันนั่งลงที่โต๊ะดี ก็โดนประโยคที่ไอ้นนท์ชอบถามประจำพุ่งใส่ทันที
"พวกมึงสองคน ตอบกูมาก่อนเลย มึงได้กันยัง"
ผมหันไปมองหน้าหมอยิ้มๆ คนข้างๆผมดันหน้าแดงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
นั่นทำให้เพื่อนๆทั้งโต๊ะส่งเสียงแซวดังลั่น
"ยังโว้ย" หมอตะโกนตอบแข่งกับเสียงคนอื่นๆ
"ไม่จริงอะ มึงหน้าแดงซะขนาดนั้น" ไอ้เอกบอก
"ใช่ โกหกไม่ทันละมึง" ไอ้นนท์ยังคงทำท่าทางกวนตีน
"แล้วตอนกูโทรไปถามดันบอกว่ายังนะ" ไอ้ต้าร์พูดขึ้นอีกคน
"ดูเชี่ยหมอดิ ไม่เนียนว่ะ แล้วไอ้อั๋นก็ไม่เห็นจะปฏิเสธอะไร แสดงว่าพวกมันได้เสียเป็นเมียผัวกันเรียบร้อยแล้วเว้ยยย" ไอ้นนท์แหกปากต่อ
"ไอ้พวกเหี้ยยย" หมอเขินมากครับ มันไล่ตบกบาลพวกเพื่อนๆเรียงคน
"พวกมึงก็หยุดแซวได้แล้วน่า" ผมพูด
"สาด มึงพึ่งจะมาบอกพวกมันตอนนี้เนี่ยนะ" หมอหันมาโวยผมอีกคน
"ขอโทษคร้าบ" ผมพูดพร้อมเข้าไปกอดเอวหมอ "เลิกเลยพวกมึง เมียกูไม่ชอบ" ทุกคนหัวเราะหนักขึ้นไปอีก
"อ่าว สัสนี่" หมอหันขวับมา
"ผัว เอ้ย อั๋นล้อเล่นน่า" กำลังสนุกเลยครับ ขอแหย่หมอเพิ่มอีกแล้วกัน
"นี่ไม่มีใครอยู่ข้างกูเลยใช่มั้ยวะ" แฟนผมโวยวายต่อไป ก่อนเสียงกริ่งจะดังขึ้นมาเรียกพวกนักเรียนให้มาเข้าแถวเคารพธงชาติ

วิชาภาษาไทยคาบบ่าย อาจารย์ท่านติดไปสัมมนาครับ แล้วไม่มีอาจารย์ภาษาไทยท่านอื่นว่างมาสอนแทน ห้องผมก็เลยว่างหนึ่งชั่วโมง ทุกคนดีใจกันยกใหญ่เมื่อมีเจ้าหน้าที่เดินมาบอก หลังจากนั้นเกือบครึ่งห้องก็ฟุบหลับลงไปกับโต๊ะเรียนของตัวเอง ไอ้นนท์ก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ
ไอ้เอกที่นั่งข้างหน้าพวกเราไปอีก หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่นเกมแข่งกับไอ้พีทันที ไอ้ต้าร์ที่นั่งข้างไอ้นนท์เดินออกไปโทรศัพท์ข้างนอกห้อง น่าจะคุยกับเมย์
ส่วนไอ้แฟนขี้เซาของผมน่ะเหรอ มันพึ่งเงยหน้าขึ้นมาจากโต๊ะครับ นอนหลับคาบก่อนหน้าไปทั้งคาบ
"อ้าว จารย์ไม่เข้าหรอวะอั๋น"
"เออ ไปสัมมนา" ผมขยี้ผมหมอ "มึงน่าจะหลับคาบนี้แทน เมื่อกี้เลยไม่ได้เรียนเลย"
"ก็ง่วงนี่หว่า"
"ง่วงทั้งวันแหละเราอะ"
"บ่นอีกละ ทำไมขี้บ่นจังห๊ะ" หมอเอื้อมมือมาดึงแก้มผมสองข้าง "ขี้บ่นแก่เร็วนะเว้ย"
"จะแก่เร็วได้ไง กูก็ต้องแก่ไปพร้อมๆมึงดิวะ"
"ไม่อะ ถ้าบ่นแบบนี้กูไม่อยู่กับมึงไปจนแก่หรอก"
"เห้ย ว่าไงนะ"
"เห้ย ผัวเมียข้างหลังห้องอะ น้อยๆหน่อย มดขึ้นมาถึงโต๊ะพวกกูแล้วเนี่ย" ไอ้เอกตะโกนมา แต่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นจากมือถือ
"เสือก ไอ้สัส" หมอตะโกนตอบกลับไป เรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนที่ไม่ได้หลับหลายคน
"เมียมึงโหดจังวะอั๋น ทำให้เงียบๆดิ๊"
"ทำไงวะ" ผมแกล้งถามกลับไป
"ปิดปากด้วยจูบดีมั้ย" ไอ้ฟองที่นั่งอยู่แถวหน้าสุดร้องบอก
"เอาเลยๆ" หลายคนเชียร์
"อย่าเชียวนะไอ้อั๋น ไม่งั้นมึงโดนกระทืบ" หมอขู่ฟ่อ หน้าเป็นสีแดงจัดด้วยความเขิน คงกลัวว่าผมจะทำตามที่เพื่อนๆสั่ง
"ไม่ทำต่อหน้าเพื่อนก็ได้คร้าบ" ผมที่กำลังจะยื่นหน้าเข้าไปหาเลยหยุด ทุกคนร้องด่าว่าผมกลัวเมีย
"อ่อนว่ะ ไอ้อั๋นกลัวเมียเอ๊ย" ไอ้เอกตะโกนมาอีกครั้ง
ผมเห็นหมอจ้องตาเขียวใส่เพื่อนทุกคนแล้วก้ขำ

"นี่ ไหนๆก็ตื่นแล้ว มาลอกเลกเชอร์คาบที่แล้วดีกว่า"
"ขี้เกียจอะ ลอกให้กูหน่อยดิ" ไอ้คนขี้เกียจพูดแล้วก็ส่งสายตาปิ๊งๆมาให้ด้วย
"ไม่ต้องเลย ลอกเองดิ จะได้จำได้ด้วย"
"ไรว้า ไม่มีน้ำใจเลย ลอกเองก็ได้" หมอทำปากยื่นแล้วรับสมุดจดวิชาก่อนหน้าจากผมไปลอก
"มานั่งนี่มา" ผมยกตัวหมอมาอยู่บนเก้าอี้ตัวเดียวกัน ทำให้มันนั่งอยู่ระหว่างหว่างขาผม หลังมันติดชิดกับอกผม
"ไอ้บ้า ทำไร"
"อยากกอดหมออะ" ผมยิ้มยิงฟันให้ เจ้าตัวไม่ได้ปฏิเสธอะไร
เพื่อนในห้องล้อขึ้นมาอีก ผมเลยตะโกนบอก
"ขอเวลาครอบครัวด้วยคร้าบบบ"
หมอชกแขนผมเบาๆ
มันเริ่มต้นลอกงาน ผมโอบแขนสองข้างรอบเอวมัน และจูบเบาๆลงบนท้ายทอย
หมอกระตุกหน่อยๆ
"ทำงี้กูจะลอกงานเสร็จมั้ยเนี่ย"
"เสร็จดิ"
"เสร็จไรล่ะ เสียวนะเว้ย" คำหลังมันกระซิบเบาๆกับผม
"เสร็จกูไง" ผมกระซิบตอบที่หูมันด้วยเสียงกระเส่า นั่นทำให้หมอดิ้น
"ถ้างั้นมึงปล่อยกูเลย ไอ้หื่น ไอ้บ้ากาม"
"ไม่แกล้งแล้วๆ" ผมหัวเราะ หยุดเซ้าซี้และนั่งกอดหมอไว้เฉยๆ
ผ่านไปไม่นานหมอก็ลอกงานเสร็จ เจ้าตัวทำท่าจะขยับ
"ขอนั่งอยู่แบบนี้อีกแปบดิ" ผมบอก
"อือ" หมอตอบรับเบาๆ
ผมซบหน้าลงกับไหล่หมอและกระชับกอดให้แน่นขึ้นอีกหน่อย
"อยู่แบบนี้ก็อุ่นดีนะ" หมอบอก ทำให้ผมประหลาดใจมากๆ ผมยิ้มกว้างออกมา
"งั้นก็อยู่ให้กอดแบบนี้ไปนานๆนะครับ"

เรายิ้มให้กันและนั่งกันอยู่อย่างนั้นจนหมดคาบ
ผมไม่นึกเลยว่าวันหนึ่งเพื่อนที่สนิทที่สุดจะกลายมาเป็นคนที่ผมหลงรัก แอบมองอยู่ทุกวัน จนตอนนี้มันเป็นแฟนผม ผมรู้สึกโชคดีจริงๆ

เหลืออีกเพียง3สัปดาห์เท่านั้นก่อนสอบปลายภาค ผมตั้งใจจะเริ่มอ่านหนังสือสอบตั้งแต่เย็นวันนี้ไป แน่นอนว่าจะลากหมอมาอ่านด้วย กะติวให้มันทุกวันเลยครับ
เจ้าตัวบ่นกระปอดกระแปดว่าทำไมต้องเริ่มอ่านเร็ว ผมบอกเหตุผลว่าจะได้ไม่ไปหนักช่วงใกล้สอบทีเดียว
ดังนั้น เมื่อคาบเรียนสุดท้ายเลิก เราสองคนบอกลาเพื่อนๆ ก่อนจะเดินลงมาที่ลานจอดรถ
"มึงอยากอ่านที่ไหนอะ บ้านกูหรือบ้านมึง"
"ที่ไหนก็ได้ แต่กูไม่อ่านนะ กูจะเล่น" หมอหัวเราะ
"ไม่ได้ จะให้พูดอีกกี่ครั้งเนี่ย" ผมดีดหน้าผากคุณแฟนจอมดื้อ
"เออ อ่านก็ได้" หมอทำหน้าหงิก "แต่ไปถึงแล้วขอเล่นแปบนึงนะ"
"ได้ แค่แปบเดียวนะ"
"คร้าบ พ่อนักเรียนดีเด่น พ่ออนาคตของชาติ" หมอลากเสียงยาวประชดประชัน ผมหัวเราะ
ยังเดินไปไม่ถึงรถมอเตอร์ไซด์ของผม หมอก็ร้องขึ้น
"เห้ย"
"อะไรวะ"
ผมหันไปมองตามสายตาหมอ เห็นนักเรียนคนหนึ่งนั่งกองอยู่กับพื้น
นั่นมันอาร์ตนี่นา
ยังมีนักเรียนอีกคนยืนค้ำอยู่ ดูท่าแล้วน่าจะเป็นคนผลักอาร์ตล้มลง
"เลิกยุ่งกับเราได้แล้ว จะไปไหนก็ไป" นักเรียนคนนั้นตะคอกใส่อาร์ตก่อนจะเดินหันหลังกลับไปอย่างรวดเร็ว

-จบตอน-

มาต่อแล้วคร้าบ ตอนนี้จัดอั๋นให้หนึ่งตอน อั๋นนี่จริงจังกับการเรียนจริงๆ มีดุหมอเรื่องเรียนด้วย ช่วงติวหนังสือของอั๋นกับหมอมาถึงแล้วนะ ว่าแต่เกิดอะไรขึ้นกับอาร์ตเนี่ย
ติดตามตอนต่อไปกันด้วยนะครับ

ประวัติของเอก
ชื่อ : เอก
สถานะ : โสด
ชั้นเรียน : มัธยม4/12 สายศิลป์-คำนวณ โรงเรียนชายล้วน
วิชาที่ถนัด : คอมพิวเตอร์
สีที่ชอบ : ดำ
อาหารที่ชอบ : ไข่ตุ๋น
กีฬาที่ชอบ : ฟุตบอล
เวลาว่าง : เล่นเกมส์ออนไลน์ นอน (คล้ายๆหมอเลยนะ555)
ลักษณะนิสัย : เป็นคนรั่วๆ เฮฮา ถึงไหนถึงกัน ชอบปั่นชอบยุ ช่างสังเกต ละเอียดและใส่ใจในเรื่องเล็กๆน้อยๆ
รูปร่างหน้าตา : ตัวเล็กกว่าเมื่อเทียบกับเพื่อนๆ ท่าทางเหมือนนักเลงหัวโจก เพราะตัดผมสกินเฮด?
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) Season2 : ตอนที่34
เริ่มหัวข้อโดย: ~tOeY~ ที่ 08-11-2016 09:24:12
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) Season2 : ตอนที่34
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 08-11-2016 13:59:06
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) Season2 : ตอนที่35
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 12-11-2016 21:48:51
ตอนที่35

ผมกับอั๋นรีบตรงเข้าไปหาอาร์ตทันที
"อาร์ตเป็นไงมั่งวะ"
อาร์ตหันมาทางพวกเราช้าๆ มองสำรวจแล้วก็ไม่ได้บาดเจ็บตรงไหน
ข้างตัวอาร์ตมีขวดแก้วแตกที่ข้างในบรรจุกระดาษพับเป็นรูปหัวใจ น่าจะถูกปาใส่พื้นเต็มแรง
"เกิดไรขึ้นวะ" ผมถามอีก
"ไม่มีอะไรหรอก" อาร์ตหันมายิ้มเจื่อนๆให้
"เราเห็นคนเมื่อกี้ผลักนาย เค้าเป็นใคร"
"เรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อยน่ะ"
"เข้าใจผิดอะไร"
อั๋นจับข้อมือผมแล้วส่ายหัว เป็นสัญญาณว่าไม่ควรซักไซ้อะไรกับอาร์ตตอนนี้
ผมหยุดถาม เข้าไปช่วยฉุดแขนอาร์ตลุกขึ้น แต่อาร์ตก็นั่งลงไปเก็บเศษขวดแก้วกับกระดาษพับที่พื้น

"ขอบใจหมอกับอั๋นมากนะ" เมื่อเก็บเสร็จ อาร์ตลุกขึ้นสะพายกระเป๋าและทำท่าจะเดินต่อ
"ไม่เป็นไรน่า" อั๋นตอบ
"งั้นเดี๋ยวเรากลับก่อนนะ"
"อาร์ตโอเคแน่นะ" ผมถาม
"เห้ย เราโอเค" อาร์ตหันมายิ้มให้ แต่ผมสังเกตเห็นว่าดวงตาไม่ได้ยิ้มเลย
ผมไม่รู้จะพูดหรือทำอะไรเมื่ออาร์ตได้แต่โกหกว่าทุกอย่างกำลังปกติ มองเขาเดินย้อนกลับไปทางหน้าประตูโรงเรียน ทั้งรู้สึกสงสัยและเป็นห่วง

"เมื่อกี้มันอะไรวะอั๋น" ผมถาม รับหมวกกันน็อคจากมืออั๋นมาสวม
"ถ้าให้เดานะ...กูว่ามันเหมือนอาร์ตโดนบอกเลิกหรือไม่ก็ทะเลาะกับแฟนอยู่"
ผมอึ้ง อั๋นหมายความว่านักเรียนชายคนที่ผลักอาร์ตเป็นแฟนของอาร์ตอย่างนั้นเหรอ
"แล้วหมอคิดว่าไง"
"เออ...เป็นไปได้" ถ้าพิจารณาจากภาพเหตุการณ์ที่เห็น คำพูดของนักเรียนคนนั้น และขวดโหลบรรจุกระดาษรูปหัวใจ "กูสงสารอาร์ตว่ะ"
"นั่นดิ ถ้าเป็นอย่างที่พวกเราคิดจริงๆ อาร์ตมันจะรู้สึกยังไงวะ"
ผมขึ้นซ้อนมอเตอร์ไซด์กลับ ในหัวนึกถึงเรื่องนี้ไปตลอดทาง แม้พวกเราจะไม่ได้สนิทกันมาก แต่ผมก็รู้สึกเป็นห่วงอาร์ตครับ

เรามาอ่านหนังสือกันที่บ้านอั๋น มาถึงปุ๊บผมก็ลงนอนบนโซฟาตัวยาวในห้องนั่งเล่นแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่นเกมทันที
"นี่ มาถึงก็เริ่มอ่านหนังสือเลยนะ" แฟนผมไงจะใครล่ะ ประชดประชันกันจังนะ- -
"เออ กูขยันมั้ยล่ะ...เห้ย" อยู่ๆไอ้อั๋นก็ขึ้นมานั่งทับตัวผม "ลงไปเลยสาด กูเล่นเกมอยู่"
"ไม่ลง มีไรปะ"
"ไม่ได้ เดี๋ยวกูแพ้ ลงไปเลยมึง"
ถ้าไอ้อั๋นมันเชื่อแล้วทำตามที่ผมบอก วันนั้นคงเป็นวันที่ประเทศเรามีหิมะตกแน่ๆครับ นอกจากมันจะไม่ลงไปจากตัวผมแล้ว ยังจั๊กจี้เอวจนผมถือโทรศัพท์ไว้ไม่ได้
"พะ พอได้แล้ว...เห้ย...ไอ้บ้า" ผมหัวเราะไม่หยุดเหมือนคนบ้า ไอ้แฟนตัวดีก็หัวเราะไปด้วย "อย่าให้ถึงทีกูมั่งละ...ฮ่ะๆ...หยุด"
อั๋นแกล้งผมจนพอใจแล้วจึงหยุด
"นี่จะไม่ให้กูเล่นเกมเลยช้ะ"
"เออ มาเล่นกับกูดีกว่า"
"ไม่เอาอะ เบื่อมึงละ"
"เบื่อกูอ่อ ได้..."
อั๋นฉกโทรศัพท์ออกไปจากมือ แล้วรวบแขนทั้งสองข้างของผมด้วยมือข้างขวา
"เห้ย มึงจะทำไร"
ผมแหกปากโวยวายทันที ไอ้อั๋นใช้มือข้างซ้ายเริ่มปลดกระดุมเสื้อนักเรียนผม
"อย่านะเว้ย"
"เบื่อกูดีนัก เดี๋ยวจะทำให้ร้องลั่นบ้านเลย" อั๋นยิ้มกริ่ม สายตาเป็นประกายเหมือนสัตว์ป่าที่กำลังจ้องจะกินเหยื่อ
"เห้ย ไอ้ซาดิสม์ ไอ้บ้า" แค่มันถอดเสื้อผมก็ทำให้ผมร้องลั่นได้แล้ว ไม่ต้องรอจนถึงตอนที่... เอ่อ นั่นแหละครับ
"อย่าดิ้นน่า คนเคยๆกันอยู่" ผมล่ะเกลียดรอยยิ้มเหมือนพวกหื่นกามของแฟนตัวเองจริงๆ
เมื่อกระดุมเสื้อถูกปลดไปแล้ว3เม็ด อั๋นก้มหน้าลงมาซุกไซร้ที่คอและไล่ไปจนถึงหน้าอก ผมพยายามดิ้นให้เป็นอิสระ แต่ไม่เป็นผล (ใช่ว่าจะอยากดิ้นเท่าไรหรอกนะ)
"ซี้ดด" ผมกัดปากเมื่อมันกัดเบาๆที่อกข้างหนึ่ง
อั๋นกลับขึ้นไปไซร้ซอกคอผมอีกครั้ง เล่นเอาผมเสียวแทบขาดใจ
ผมหยุดดิ้นไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ นอนนิ่งให้อั๋นสัมผัสร่างกาย รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่อั๋นเงยหน้าขึ้นจากตัวแล้ว
"มึงแม่ง กูเห็นแล้วอดใจไม่ไหวว่ะ" อั๋นพูดเสียงนุ่ม
"พะ พ่อง" ผมด่ากลบเกลื่อนอาการเขินก่อนหันหน้าหนี ก็อั๋นมันเล่นมาจ้องหน้ากันตรงๆแล้วพูดอะไรชวนคิดแบบนี้
"ไปต่อข้างบนมั้ย"
"พอเลย อ่านหนังสือๆ" ผมรีบดันตัวอั๋นออก จะมาทำตอนนี้เลยงั้นเหรอ
อั๋นหัวเราะเบาๆก่อนจะขยับตัวลุกขึ้น ไม่วายเอื้อมมาติดกระดุมเสื้อนักเรียนผมกลับคืนให้
ผมรีบลุกขึ้นนั่งแล้วจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนไอ้อั๋นจะเปลี่ยนใจหื่นขึ้นมาอีก(รวมถึงตัวผมด้วย- -)

"กูไม่ได้เอาหนังสือเลขหลักมาว่ะ แหะๆ" ผมมานึกได้ว่าไม่ได้หยิบหนังสือคณิตศาสตร์พื้นฐานใส่กระเป๋ามาด้วย วันนี้ไม่มีเรียนวิชานี้ แต่อั๋นบอกไว้เมื่อคืนว่าให้เตรียมมาเพราะจะสอนผมครับ
"นี่แน่ะ บอกให้เอามา" อั๋นดีดหน้าผากผมหนึ่งที
"เจ็บบบ" ผมทำหน้ามุ่ย
"งั้นดูเล่มของกูก็ได้"
อั๋นหยิบเล่มของมันออกมาแล้วเริ่มอธิบายเรื่องเลขยกกำลัง
เอาจริงๆผมว่ามันอธิบายเข้าใจมากกว่าคุณครูอีกนะ อาจเพราะมันรู้ว่าจะพูดยังไงให้นักเรียนด้วยกันรู้เรื่องหรือไม่ก็เป็นเพราะมันเก่งไปเสียทุกอย่าง
ผมก็จดๆสิ่งที่อั๋นพูดบ้าง มันถามอยู่เรื่อยๆว่าทันไหม เข้าใจไหม ผมก็ถามเวลามีข้อสงสัยบางจุดครับ
ผมมองอั๋นที่ตั้งใจอธิบายอย่างจริงจังแล้วก็อมยิ้มอยู่คนเดียว แฟนใครวะ โคตรน่ารักเลย
"ฟังอยู่รึป่าวซอมบี้" อั๋นหรี่ตามอง เหมือนจะรู้ว่าผมไม่ได้จดจ่อกับเนื้อหามากเท่ากับตอนเริ่มแรก
"ฟังอยู่ค้าบ"
"ดี งั้นทำตัวอย่างนี้ซิ" อั๋นชี้ไปที่โจทย์ตัวอย่างข้อแรกสุดหลังจบส่วนทฤษฎี
"เอ่อ..."ผมเอ๋อไปเลยครับ ทำไงวะเนี่ย
"นั่นไง ไม่ได้ฟังสูตรแถวสุดท้ายใช่มั้ย"
"ขอเวลาคิดแปบนึงดิว้า" ผมถ่วงเวลา เมื่อกี้อั๋นมันสอนไว้ว่าไงนะ
"ไม่เนียนหมอ ตั้งใจฟังใหม่อีกรอบเลย..."
คราวนี้ผมตั้งใจฟังสิ่งที่อั๋นพูด ไม่วอกแวกไปชื่นชมความหล่อของมันแล้วครับ
พออั๋นสอนจบก็ให้ผมลองทำโจทย์ตัวอย่างด้วยตัวเอง ผมอิดออดทันที
พักแปบนึงดิอั๋น
"หือ ยังไม่ทันเริ่มโจทย์สักข้อเลย จะพักแล้วอ่อ"
"แปบเดียว นะๆ" ผมเขย่าแขนมันพร้อมส่งสายตาหวานเยิ้ม
"ก็ได้ 2นาทีนะ"
"โห กูคุยกับมึงก็1นาทีละ- -"
"อะๆ 5นาที"
"เย่ อั๋นใจดีที่สุดเลย" เมื่ออั๋นอนุญาตปุ๊บ ผมก้ฟุบหน้าลงกับโต๊ะพับที่เราใช้เรียนกันปั๊บ
อั๋นเอามือมาลูบหัวผมเบาๆ
"เหนื่อยเหรอ"
"เหนื่อย" ผมหันหน้าไปตอบ
"จริงๆยังเหลืออีกหลายเรื่องเลย หลายวิชาด้วย อดทนอีกหน่อยนะครับ" อั๋นพูดอย่างอ่อนโยน
"อือ" ผมยิ้มตอบและอั๋นยื่นหน้าเข้ามาจูบหน้าผากผมเบาๆ
"เดี๋ยวจะติวหมอให้เก่งเลย เอาให้ได้ท็อปห้องไปเลยดีมั้ย"
"โห่ย โง่ๆอย่างกูเนี่ยนะ ทำไม่ได้หรอก" ผมหัวเราะ
"อย่าคิดยังงั้นดิ หมอไม่ได้โง่ ถ้าขยันขึ้นต้องทำได้ดีแน่ๆ"
"ขอบใจนะเว้ย"
ความตั้งใจที่จะสอนและรอยยิ้มที่อบอุ่นของคนตรงหน้า ทำให้ผมมีกำลังใจที่จะทบทวนบทเรียนขึ้นอีกมาก

หนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น อั๋นตรวจคำตอบให้ ผลลัพธ์คือผมทำผิดไปแค่4ข้อจาก20ข้อครับ
"เห้ย มึงไม่ได้อำกูใช่มั้ยเนี่ย" ผมยังทึ่ง หัวขี้เลื่อยอย่างผมทำถูกมากกว่าผิดเหรอเนี่ย
"เออดิ เห็นปะ ถ้าหมอตั้งใจจริงก็ทำได้" อั๋นยิ้มภูมิใจ ย้ำประโยคที่มันชอบพูดบ่อยๆเวลากระตุ้นผมเรื่องเรียน "เก่งมาก เมียใครก็ไม่รู้"
"เดี๋ยวๆ ว่าไงนะ"
"เมียใครวะ โคตรเก่งเลย"
"พูดถึงใคร ไหนเมีย ไม่รู้เรื่อง" ผมทำเฉไฉ
"ก็คนนี้ไง เมียกู" อั๋นดึงมือผมไปจับ
"บ้า กูไปเป็นเมียมึงตอนไหน" ผมยังกวนตีนต่อ
"ก็ที่หัวหินไง อยากย้อนความทรงจำมั้ย"
"หยุดเลย ติวหนังสือๆ" ผมเอาสมุดฟาดแขนอั๋นเมื่อพี่แกทำท่าจะรุกเข้ามา มันหัวเราะชอบใจ
"ตอนนี้ติวหนังสือก่อน เสร็จแล้วค่อยทำละกันเนอะ"
ผมหน้าแดงก่ำ

อั๋นให้ผมมาอ่านวิชาสังคมฯหลังจบคณิตศาสตร์ ถ้ามีข้อสงสัยให้เรียกถาม มันบอกว่าสลับวิชาอ่านจะได้ไม่เบื่อ แต่สำหรับผม อ่านวิชาไหนก็เบื่อทั้งนั้นแหละครับ- -
อ่านไปได้ไม่กี่หน้า ผมก็เริ่มอยู่ไม่สุก หันไปก่อกวนคุณแฟนที่เข้าสู่โหมดเนิร์ด ทั้งจั๊กจี้เอวมัน ดึงแก้มมันเล่น เปิดหน้าหนังสือวิชาเดียวกันกับผมที่มันอ่านอยู่ไปหน้าอื่น
"ไอ้หมอ" อั๋นหรี่ตามอง
"ครับ มีอะไรกับหมอเหรอครับ" ผมทำเป็นไม่รู้เรื่อง แถมพูดเสียงใส
"จะเอา" อั๋นเลิกคิ้วถาม
"เอาไรครับ"
"กวนนักใช่มั้ย" แล้วอั๋นก็ปิดหนังสือก่อนจะรัดตัวผม บนพื้นนั่นแหละครับ
"หายใจไม่ออก ปล่อย" ผมร้อง รัวฝ่ามือลงบนพื้นแสดงว่ายอมแพ้ อั๋นรัดผมแน่นมากครับ
"ยอมยัง"
"ยอมแล้วๆ"
"พูดว่า เมียจะไม่แกล้งผัวแล้วครับ"
"เมียจะไม่แกล้งผัวแล้วครับ"
"ดี" อั๋นคลายแขนที่รัดผมออก ผมปัดฝุ่นออกจากเสื้อ
"รัดแน่นขนาดนี้ ถ้ากูเป็นไรไปมึงจะทำไง"
"ส่งโรงพยาบาลดิ ถามได้" อั๋นยิ้มกวน
ผมชูนิ้วกลางให้ มันหัวเราะร่วน

สองวันต่อมา ผมก็ยังคงเข้าคอร์สเตรียมสอบปลายภาคกับอั๋นเช่นเคย ติวเสร็จ สัก2-3ทุ่ม อั๋นก็ขับมอเตอร์ไซด์มาส่งผมที่บ้าน
ดูเหมือนว่าการเรียนกับอั๋นจะเข้มขึ้นเรื่อยๆครับ ถ้าเป็นวิชาคำนวณอย่างคณิตศาสตร์ มันจะให้ผมทำโจทย์หลังสอนเนื้อหาแต่ละเรื่องทุกครั้ง แถมยังบอกว่าสัปดาห์หน้าจะไปหาโจทย์จากหนังสือเล่มอื่นๆมาให้ทำเพิ่มอีก นี่มันจะฟิตไปไหนฟะ
ถ้าเป็นวิชาอ่าน อั๋นจะให้ผมนั่งอ่านเอง อ่านไปพร้อมกับมันเลย พักหนึ่งก็จะให้หยุดแล้วผลัดกันถามตอบสิ่งที่อ่านไป ผมทึ่งมากที่อั๋นตอบคำถามทุกข้อของผมได้ตรงเป๊ะเหมือนในหนังสือบอก ในขณะที่ผมตะกุกตะกัก ได้แต่นึกว่าพึ่งอ่านอะไรเข้าหัวไปบ้าง และอั๋นทวนให้ใหม่เสียเป็นส่วนใหญ่
ส่วนวิชาภาษาอังกฤษ จุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของผม อั๋นบอกว่าจะสอนเป็นวิชาต่อไป
"พรุ่งนี้อยากพักสักวันมั้ยหมอ"
"หือ มึงว่าไงนะ"
อั๋นยกยิ้ม แววตาดูมีเลศนัย
"กูเห็นว่าเราอ่านหนังสือหนักมาตั้ง3วัน ไม่อยากพักสักหน่อยเหรอ"
"ไม่อยากเชื่อว่ามึงจะใจดี" ผมพูดกลั้วหัวเราะ"เอาดิ มึงอยากทำไรอะ"
"งั้น...ไปกินข้าว แล้วก็ดูหนังหลังเลิกเรียนกัน ดีปะ"
"ครับ" ผมยิ้มกว้าง
ผมพึ่งนึกออกในตอนนั้นเองว่าพรุ่งนี้เป็นวันที่14กุมภาพันธ์...
จะชวนแฟนไปฉลองวาเลนไทน์ทั้งทีก็ไม่พูดตรงๆนะไอ้อั๋น

คืนนั้น เมื่ออั๋นมาส่งผมที่บ้านแล้ว ผมนอนคิดทั้งคืนว่าจะให้ของขวัญอะไรดี ครั้งนี้ผมอยากเซอร์ไพร์สมันด้วยครับ เป็นแฟนกันมา ไม่สิ ตั้งแต่ก่อนเป็นแฟนอีกด้วยซ้ำ มีแต่อั๋นที่ทำอะไรให้ผมมากมาย ผมยังไม่เคยทำอะไรให้มันบ้างเลย

ในที่สุดผมก็คิดออก

ผมโทรหาอั๋นแต่เช้าในวันรุ่งขึ้น บอกว่าจะเข้าโรงเรียนช่วงบ่ายเพราะจะไปทำธุระสำคัญกับพ่อ ไม่ต้องมารับ อั๋นดูตกใจนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมาก
นั่นเป็นแผนครับ จริงๆแล้วผมไม่ได้มีธุระอะไรหรอก
ผมออกจากบ้านไปซื้อสมุดเปล่าหนึ่งเล่มกับสติ๊กเกอร์รูปการ์ตูนหลายชุดแล้วเริ่มต้นทำงาน บรรจงติดรูปภาพของผมกับอั๋นลงไปในสมุดแต่ละหน้า มีทั้งรูปที่เราทำกิจกรรมด้วยกันที่โรงเรียนและรูปที่ไปเที่ยวหัวหินด้วยกัน
เมื่อติดทุกรูปที่ผมปริ้นต์มาเมื่อคืนเสร็จ ผมก็เอาสติ๊กเกอร์น่ารักๆติดตามลงไป และเขียนข้อความแทรกไว้ในบางหน้า

ผมตั้งใจจะมอบสมุดภาพที่เก็บเรื่องราวของเราตั้งแต่ที่รู้จักกันจนถึงตอนนี้ให้อั๋นครับ

ถึงจะตกแต่งออกมาไม่สวยเท่าไรเพราะผมห่วยศิลปะ แต่ก็คิดว่าพอใช้ได้อยู่ ผมยิ้มกับตัวเองเมื่อนึกสีหน้าอั๋นตอนเห็นสมุดเล่มนี้

เกือบเที่ยงแล้วเมื่อผมนั่งรถไฟฟ้ามาถึงสยามพารากอน ยังขาดองค์ประกอบสุดท้ายของแผนเซอร์ไพร์สวันวาเลนไทน์อยู่ ช็อคโกแลตครับ
เมื่อไม่กี่นาทีก่อน อั๋นโทรศัพท์มาหา แต่ผมตัดสินใจไม่รับครับ กลัวไม่แนบเนียน
ผมมุ่งตรงไปยังร้านRoyceและเลือกช็อคโกแลตรสชาติที่อั๋นชอบกินที่สุดมาหนึ่งกล่องและจ่ายเงินซื้อทันที
ถามว่าทำไมผมถึงกับต้องโดดเรียนช่วงเช้ามาเตรียมของให้มันขนาดนี้ ไม่งั้นก็ไม่เซอร์ไพร์สสิครับ
ผมกำลังจะเดินออกจากร้านก็หันไปเห็นอาร์ตมาต่อแถวซื้อช็อคโกแลตเช่นเดียวกัน
"อาร์ต" ผมทัก
"อ้าว หวัดดีหมอ" อาร์ตยิ้มให้
หรือว่าอาร์ตก็เป็นอีกคนหนึ่งที่กำลังเตรียมของขวัญให้แฟนนะ
ผมรอจนอาร์ตซื้อเสร็จแล้วเข้าไปชวนคุย
"มาทำไรเนี่ย"
"เอ่อ...ซื้อของไปง้อแฟนน่ะ" อาร์ตลังเลนิดนึงก่อนตอบ ผมยิ้ม เหลือบไปเห็นช่อดอกกุหลาบเล็กๆที่อาร์ตถืออยู่ในมืออีกข้าง
"สู้ๆนะเว้ย" ผมตบไหล่ให้กำลังใจ อีกฝ่ายส่งยิ้มกลับมาอีก
"ว่าแต่หมอเถอะ มาซื้อของให้อั๋นเหรอ"
"อ่าฮะ ก็โดดมาเหมือนอาร์ตนั่นแหละ" ผมกับอาร์ตหัวเราะออกมาก่อนจะเดินกลับไปยังรถไฟฟ้าอีกครั้งเพื่อกลับโรงเรียน
"เมื่อวันจันทร์ขอบคุณมากนะที่มาช่วยเรา"
"เห้ย สบายมาก" ผมไม่อยากซักไซ้เหตุการณ์วันนั้นก็เลยไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่อาร์ตกลับเป็นฝ่ายเริ่มต้นเล่าเอง
"คนที่หมอเห็นวันนั้นก็แฟนเรานั่นแหละ เรา...มีเรื่องทะเลาะกันนิดหน่อย" อาร์ตมีสีหน้าแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด
"ถ้าเราเป็นแฟนนายแล้วเห็นของที่นายจะให้เนี่ย เราหายโกรธแน่นอน" ผมตบไหล่อาร์ตอีกครั้ง
"ขอบใจนะหมอ"

ผมกับอาร์ตมาถึงโรงเรียนก่อนหมดเวลาพักเที่ยงเดี๋ยวเดียว ผมอวยพรให้อาร์ตง้อแฟนได้สำเร็จอีกครั้งก่อนจะแยกกันไปที่ห้องเรียนของตัวเอง ป่านนี้อั๋นกับพวกเพื่อนๆคงทานข้าวเสร็จและขึ้นห้องรอเรียนวิชาต่อไปแล้วครับ
ใจผมเต้นรัวเร็วด้วยความตื่นเต้น อั๋นจะทำยังไงเมื่อเห็นของขวัญของผมนะ
แต่ยังไม่ทันจะก้าวเข้าไปข้างในห้อง อั๋นลุกขึ้นจากโต๊ะแล้วตรงดิ่งเข้ามาหาผมทันที
"อั๋น" ผมเรียก
แต่รอยยิ้มของผมก็เลื่อนหลุดออกจากใบหน้าทันทีเมื่อเห็นสีหน้าเรียบนิ่งและแววตาแสดงความโกรธชัดเจนของอั๋น
เกิดอะไรขึ้นช่วงที่ผมไม่อยู่งั้นเหรอ
อั๋นยกโทรศัพท์มือถือให้ผมดู ภาพที่เห็นคือผมกำลังตบไหล่อาร์ตที่สยามพารากอนเมื่อชั่วโมงก่อน จากเพจของโรงเรียน
"นี่อะไร"

-จบตอน-

มาต่อแล้วคร้าบคุณผู้อ่าน อั๋นหัวร้อนเฉยเลย แล้วเซอร์ไพร์สของหมอล่ะ เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อ ติดตามตอนต่อไปนะครับ
comment เป็นกำลังใจให้คนเขียนหน่อยน้าา
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) Season2 : ตอนที่35
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 13-11-2016 00:15:13
ยังดีที่ถามก่อนนะอั๋น ไม่โวยวายใส่หมอทันที ถือว่า ยังมีสติ
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) Season2 : ตอนที่35
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 13-11-2016 08:31:31
เอ๋า...งานเข้าซะแระ เขาบังเอิญเจอกันค่ะคู้นนนนน
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) Season2 : ตอนที่36
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 16-11-2016 20:54:14
ตอนที่36

"นี่อะไร"
อั๋นถาม
"กูไปซื้อของที่พารากอน เจออาร์ต..." ผมกำลังจะพูดต่อแต่โดนตัดบท
"ไหนหมอบอกว่าไปธุระกับพ่อ"
"จริงๆแล้วไม่ได้ไปกับพ่อ กู..."
"แต่ไปกับอาร์ต" อั๋นแทรกขึ้นมาอีก ไม่เปิดโอกาสให้อธิบาย ผมมองหน้าอั๋น เห็นแววตาดุดันจ้องตอบกลับมา
"กูบอกแล้วไงว่าไม่ได้ไปกับอาร์ต แต่ไปเจอกันที่นั่น"
"เหรอ นัดเจอคนที่ไม่ใช่แฟนในวันวาเลนไทน์เนี่ยนะ" อั๋นจับข้อมือผม
"มึงฟังกูก่อนได้มั้ย" ผมเริ่มจะหงุดหงิดขึ้นมาแล้ว อั๋นไม่ยอมหยุดและฟังผมเลย ประโยคล่าสุดที่ออกมาจากอั๋นว่าผมไปนัดเจอคนอื่นในวันนี้ทำให้ผมไม่ค่อยสบอารมณ์
"หมอจะโกหกอะไรอั๋นอีก" อั๋นพูดด้วยเสียงเบา ไม่โหวกเหวก แต่ผมรู้ว่าข้างในมันโกรธมาก
"ที่กูโดดเมื่อเช้าเพราะกูทำของขวัญวันวาเลนไทน์อยู่ แล้วก็ไปซื้อช็อคโกแลตมาให้มึง" ผมตอบเสียงเย็น ใช้มือข้างที่ไม่ได้ถูกจับ หยิบสมุดภาพทำมือที่ห่อกระดาษของขวัญไว้ และชูถุงใส่ช็อคโกแลตRoyceให้อั๋นดู
อั๋นผงะ
"จะ...จริงเหรอ"
ผมยัดของทั้งสองชิ้นใส่มืออั๋นก่อนจะเดินเข้าห้องเรียนไปโดยไม่พูดอะไรอีก
เพื่อนทั้งห้องมองตามผมจนนั่งลงที่เก้าอี้ ไม่ถึงนาทีอั๋นเดินตามเข้ามาพร้อมกับของที่ผมให้ สีหน้าเสียใจอย่างสุดซึ้ง
ผมรู้สึกว่างเปล่า เหมือนความรู้สึกดีเมื่อหลายชั่วโมงก่อนอันตรธานไปหมด ผมหวังจะได้เห็นว่าอั๋นดีใจแค่ไหนเมื่อได้ของขวัญ แต่นี่มันกลับเข้าใจผิดแล้วไม่ฟังผมแบบนี้
"หมอ กู..." ในที่สุดอั๋นก็เดินมาถึงโต๊ะตัวข้างๆผม
ตอนนั้นอาจารย์เดินเข้ามาสอนพอดี ผมหยิบสมุดเลกเชอร์ขึ้นมาจดเมื่ออาจารย์เริ่มบรรยายสไลด์ที่ฉายผ่านกระดาน
อั๋นไม่สนใจอาจารย์แม้แต่นิดเดียว ได้แต่มองมาที่ผมอย่างรู้สึกผิด

ตลอดทั้งคาบผมไม่ได้พูดอะไรสักคำ และอั๋นก็ยังคงมองผมอยู่ นั่งนิ่ง ไม่จดงาน
ผมเห็นจากหางตาว่าข้างโต๊ะเรียนของอั๋นมีดอกกุหลาบช่อใหญ่พร้อมทั้งกล่องของขวัญหนึ่งกล่องวางอยู่...
เมื่อเสียงกริ่งหมดเวลาเรียนดัง ผมลุกขึ้นเตรียมจะออกไปนอกห้อง
"เห้ย หมอ"
ไม่ใช่อั๋น แต่เป็นนนท์ที่เรียกผม
"อะไร"
"มึง...จะไปไหน"
"ห้องน้ำ"
ผมเดินออกไป เสียใจมากครับ เซอร์ไพร์สที่ผมตั้งใจให้อั๋นพังไม่มีชิ้นดี
อั๋นวิ่งออกมาจนทัน มันคว้าข้อมือผมไว้
"หมอ"
ผมพยายามสะบัดให้หลุดแต่ทำไม่ได้ สู้แรงอั๋นไม่ได้สักนิด
"ปล่อย"
"เดี๋ยวก่อน กูขอโทษ"
"บอกให้ปล่อย" ผมขึ้นเสียง อั๋นยอมปล่อยมือออก
ผมเดินหนี แต่อั๋นก็ตามมาอีก
"หมอ กูขอโทษ"
ผมยังเดินต่อไป เงียบ ไม่ยอมพูด เพราะรู้ว่าถ้าพูดออกไปจะต้องโมโหมากขึ้นอีกแน่ๆ
"หมอ"
อั๋นโผเข้ากอดผมจากด้านหลัง แขนสองข้างรัดผ่านลำตัวผมไว้แน่น
"ยกโทษให้กูนะ กูโง่เอง กูน่าจะฟังมึงพูดก่อน" เสียงของอั๋นสั่นและร้อนรน เหมือนกลัวว่าผมจะไม่ยุ่งกับมันอีก
"ปล่อยก่อน"
"ถ้าปล่อยแล้วมึงจะเดินหนีกูอีกมั้ย"
"ปล่อยกูก่อน" ผมย้ำคำเดิม
อั๋นลังเลพักหนึ่งก่อนจะคลายกอดช้าๆ
"กูจะไปล้างหน้า ไม่ได้เดินหนี...แล้วไม่ต้องตามมาด้วย"
ผมเดินต่อไปที่ห้องน้ำ สาเหตุที่ผมต้องออกมาก็เพราะเมื่อครู่ผมอยากอยู่คนเดียวและคิดว่าทนนั่งในห้องเรียนให้อั๋นมองมาแบบนั้นไม่ได้
แต่ตอนนี้ เป็นเพราะผมไม่อยากให้อั๋นเห็นน้ำตาที่รื้นขึ้นมา...
ผมกลั้นไว้ไม่อยู่จริงๆ ทั้งๆที่ไม่มีเรื่องไหนทำให้ผมรู้สึกเสียใจถึงขนาดเสียน้ำตามาได้ตั้งหลายปี ครั้งล่าสุดที่ร้องไห้เพราะเรื่องอะไรก็ไม่รู้ นานแค่ไหนก็จำไม่ได้
ทำไมอั๋นถึงคิดว่าผมนอกใจมันได้ ผมอยู่กับมันทุกวัน แทบจะตลอดเวลาด้วยซ้ำ แค่เห็นรูปๆเดียวก็คิดไปไกล ทำไมมันไม่เชื่อใจผม
ผมรีบเปิดน้ำล้างหน้าทันที ล้างคราบน้ำตาออกให้เร็วที่สุด ผมเงยหน้าขึ้นมา แม้รอยน้ำตาจะหมดไป แต่ตาผมยังเป็นสีแดงก่ำให้เห็น
อั๋นไม่ทำตามที่ผมขอ มันยืนรออยู่หน้าห้องน้ำ

อั๋นเดินตามผมกลับมาที่ห้องเรียนอีกครั้ง ต่างคนต่างไม่พูดอะไร
ต้าร์ นนท์ เอกและเพื่อนๆเกือบทั้งห้องมองมาที่เราสองคน ทุกคนดูกระอักกระอ่วน
"หมอ" ไอ้นนท์เรียกเสียงเบา
"ไรวะ" ผมพยายามทำสีหน้าให้ดูปกติ เหมือนไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น
"มึง...โอเคนะ"
"กูโอเค"
อะไรบางอย่างบนใบหน้าของมันบอกว่าไม่เชื่อสิ่งที่ผมพูด
อั๋นหันไปสบตากับต้าร์ นนท์ ผมเห็นต้าร์พยักหน้าให้อั๋น เหมือนจะให้มันเคลียร์กับผม
แต่อั๋นไม่ได้พูดอะไรและยังคงแอบมองผมอยู่เรื่อยๆ

อั๋นสะกิดแขนผมเบาๆเมื่ออาจารย์เอ่ยเสียงปล่อยนักเรียนกลับบ้าน
ผมหันไปหา
"ไปที่รถกัน"
ท่าทางอั๋นดูกลัวๆผมอยู่ไม่น้อย ผมไม่ตอบอะไร ได้แต่เก็บอุปกรณ์การเรียนทุกชิ้นใส่กระเป๋าแล้วสะพายขึ้นบ่าก่อนเดินนำออกจากห้องไปก่อน
อั๋นรีบเก็บสัมภาระของตัวเองตามอย่างรวดเร็วแล้ววิ่งตามผมมาแทบจะในทันที
"ไป...ไปกันเลยมั้ย"
อั๋นถามถึงที่เราจะไปฉลองวาเลนไทน์กันวันนี้สินะ
"อย่าเลย กูอยากกลับบ้าน"
ผมคิดว่าผมไม่มีอารมณ์จะไปกินข้าวหรือดูหนังตอนนี้เลยสักนิด
"อะ...เอ่อ..."
"..."
"หมอจะไม่ไปจริงเหรอ" อั๋นถามเสียงอ่อย
"อือ" ผมก้มหน้าตอบ
อั๋นเงียบไปพักหนึ่งก่อนพูดขึ้น
"งั้นเดี๋ยวไปส่งนะ"

"อยากกินอะไรมั้ย เดี๋ยวแวะซื้อของกัน อั๋นจะทำให้หมอกินที่บ้าน" อั๋นถามก่อนขึ้นรถมอเตอร์ไซด์
"ไม่อยากกินอะไรเลย" ผมรู้สึกอย่างที่ตอบจริงๆ
"งั้น เดี๋ยวค่อยว่ากัน" อั๋นไปต่อไม่ถูก เริ่มขับรถออกมาจากบริเวณโรงเรียน

ผมไขกุญแจบ้าน วันนี้แม่ไม่อยู่ครับ ออกไปเยี่ยมเพื่อนตั้งแต่เช้า
ผมตั้งท่าจะเดินเข้าไปในบ้าน ไม่ร่ำลาอั๋น
"กูขอเข้าไปข้างในได้มั้ย" อั๋นโพล่งขึ้นมา
"มึง...กลับไปก่อนดีกว่า" ผมไม่อยากพูดคำนี้เลย แต่ตอนนี้ผมรู้สึกไม่ดีจริงๆ
"..." อั๋นตกใจจนพูดไม่ออก
"ขอโทษนะ" ผมพึมพำก่อนหันหลังให้อั๋น

ผมไม่รู้ว่าอั๋นกลับไปตอนไหน ไม่ได้ยินเสียงสตาร์ทรถมอเตอร์ไซด์ที่หน้าบ้านด้วยซ้ำ
ผมกำลังร้องไห้อยู่เงียบๆคนเดียวในห้อง...

หกโมงเย็นแล้วเมื่อผมโทรสั่งอาหารตามสั่งร้านหน้าปากซอยให้มาส่งที่บ้าน ในใจคิดว่าถ้าผมกับอั๋นไม่ได้ทะเลาะกัน ป่านนี้เราคงกำลังกินข้าวอยู่ด้วยกันแน่ๆ
เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เรียกผมให้ออกจากวังวนความคิด
ต้าร์
"ฮัลโหล"
(ฮัลโหลหมอ มึงว่างอยู่มั้ย)
"ว่าง มีไรวะ" ผมสังหรณ์ใจว่าต้าร์โทรมาเพื่อจะพูดเรื่องอั๋น
(คือ...มึงยังไม่คืนดีกับไอ้อั๋นใช่มั้ย)
นั่นไง ตรงกับที่ผมคิดไว้จริงๆ
"อือ"
(เมื่อกี้กูโทรไปหามันมา มันร้องไห้กับกู แล้วก็บอกกูว่ามันกลัวจะเสียมึงไป)
...อั๋นร้องไห้เลยเหรอ
(กูรู้ว่าวันนี้ไอ้อั๋นมันผิด ผิดเต็มๆเลยด้วย ไม่ใช่เพราะมึงสักนิด...แต่มึงอย่าโกรธมันเลย มันทำไปก็เพราะมันรักมึงมาก ตอนที่เห็นรูป มันโกรธมากเลยนะ มันหวงมึงจริงๆ)
ผมรู้ครับ
(หมอ ยังอยู่มั้ย)
"อยู่"
(กูไม่อยากให้พวกมึงสองคนเป็นแบบนี้ ดีกันเถอะนะ)
"เอ่อ"
(มึงจะยอมคุยกับอั๋นแล้วใช่มั้ย)
"กู..." ผมคิดไม่ออกจริงๆ
(นะหมอ ยกโทษให้ไอ้อั๋นสักครั้งนะ ครั้งหน้ามันคงไม่ทำอะไรแบบนี้อีกแล้ว)
"อือ"
(มึงลองกลับไปคิดดูนะ)
"เออ...ขอบใจมากนะต้าร์" ผมบอกขอบคุณจากใจจริง ไม่รู้ว่ามันโทรหาผมเพราะสงสารอั๋นหรือเปล่า แต่ก็แสดงให้เห็นว่ามันไม่อยากให้เราสองคนมีปัญหากัน

พักเดียวแม่ก็กลับมา ซื้อขนมมาเต็มมือ
"อ้าว ไหนบอกว่าจะกลับดึกไงลูก ทำไมกลับมาเร็วล่ะ" แม่เอ่ยทักเมื่อเห็นผมออกมาเปิดประตูบ้านให้
"เอ่อ...เสร็จแล้วก็กลับเลยน่ะแม่"
"แม่ก็นึกว่ามีนัดกับสาวที่ไหนวันนี้ ไหนดูสิ หมอได้อะไรวันวาเลนไทน์หรือเปล่า เอ...หรือว่าเอาอะไรไปให้คนอื่น" แม่ถามเสียงใส
"ไม่มีน่าแม่" ผมตอบเลี่ยงๆ รับถุงใส่ของจากมือแม่แล้วเดินไปวางบนโต๊ะในห้องครัว
"แล้วกินข้าวรึยัง"
"กินแล้วครับ แม่อะ"
"แม่กินมาก่อนกลับแล้ว"
"งั้นหมอขึ้นไปข้างบนก่อนน" ผมบอก หนีขึ้นไปอยู่ในห้องตัวเองก่อนที่แม่จะสงสัยว่าทำไมผมถึงไม่ร่าเริงเลย

ผมนอนลงบนเตียง จ้องเพดานอยู่นาน
ไลน์แจ้งเตือนข้อความล่าสุด
จากอั๋น

ผมกดปุ่มล็อคหน้าจอ ยังไม่กล้ากดอ่าน
อั๋นส่งอะไรมานะ

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป เสียงแม่เรียกผมดังมาจากข้างล่าง
"หมอ อั๋นมาหาน่ะลูก"
ผมสะดุ้ง เคลื่อนตัวจากเตียงช้าๆและลงบันไดไปชั้นล่าง

ผมเห็นสีหน้าเศร้าสลดของอั๋นมองมาเป็นอย่างแรก
แม่ยื่นถุงขนมให้อั๋น
"เอาไปกินกับหมอสิลูก แม่ซื้อมาเต็มเลย"
"ขอบคุณครับ" อั๋นรับมา มองมาที่ผมอย่างไม่แน่ใจ
"ตามสบายนะลูก" แม่ยิ้มให้อั๋นก่อนจะเดินกลับไปห้องนั่งเล่น
อั๋นยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ไม่ขยับไปไหน
"...ขึ้นมาข้างบนดิ" ผมเอ่ยชวนก่อนจะเดินนำขึ้นบันไดมาก่อน

ผมนั่งลงที่เตียง อั๋นนั่งเก้าอี้ที่โต๊ะคอมพิวเตอร์
ผมนึกถึงครั้งล่าสุดที่เราทะเลาะกัน ตอนนั้นอั๋นโกรธที่ผมคุยกับพี่ก้อง มันบอกว่ามันหวงผม...
ครั้งนี้ก็เพราะมันหึงผมเหมือนกันสินะ
เราต่างไม่มีใครพูดอะไรออกมา ผมเกลียดบรรยากาศชวนอึดอัดแบบนี้ชะมัด
เมื่ออั๋นเห็นว่าผมมองหน้ามันอยู่ มันก้มหน้าลงมองพื้น
ในที่สุดอั๋นก็หยิบของในกระเป๋าเป้ออกมา เป็นช่อดอกกุหลาบกับกล่องของขวัญที่ผมเห็นอยู่ข้างโต๊ะอั๋นตั้งแต่เมื่อตอนกลางวัน
"นี่...ของขวัญ"
อั๋นค่อยๆเดินมาหาผมและยื่นของให้
"อือ...ขอบใจนะ"
อั๋นยิ้มบางๆก่อนทำท่าจะเดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม ผมเม้มริมฝีปากก่อนเรียก
"นั่งนี่ก็ได้"
อั๋นชะงักก่อนเดินกลับมานั่งลงข้างผม
"กู...ดูสมุดภาพแล้วนะ สวยมากๆเลย ขอบคุณนะ" อั๋นบอก ผมเงียบ อั๋นจึงพูดต่อพร้อมหันมาจ้องหน้าผมตรงๆ
"รู้มั้ย หมอเป็นของขวัญวันวาเลนไทน์ที่ดีที่สุดของอั๋นเลยนะ"
เป็นคราวของผมที่ต้องก้มหน้ามองพื้นบ้าง
"อั๋นโชคดีมาก...เคยคิดด้วยว่าหมออาจจะไม่ตอบตกลงเป็นแฟนอั๋นก็ได้ แต่หมอก็ตกลง..."
ผมเริ่มรู้สึกว่ามีน้ำร้อนๆรื้นขึ้นมาในดวงตา
"อั๋นรักหมอ อั๋นอยากให้หมอมีความสุข แต่...วันนี้..."
"ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว"
ผมเงยหน้าขึ้นมองอั๋นและเห็นว่ามันก็มีน้ำตาไหลออกมาเหมือนกัน
"อั๋นโง่เองที่ไม่เชื่อใจหมอ แค่รูปๆเดียวก็ทำอะไรโง่ๆลงไป อั๋นทำทุกอย่างพังหมดเลย..."
อั๋นเริ่มสะอึกสะอื้น ผมผงะ
"อั๋นขอโทษนะหมอ"
แล้วอั๋นก็โผเข้ากอดผม ซบหน้าร้องไห้ลงบนไหล่
ผมเองก็ร้องไห้เช่นเดียวกัน

-จบตอน-

ฮือออออ ตอนนี้เศร้ามาก เศร้าสุดตั้งแต่ที่เขียนเรื่องนี้มาเลยครับ ยังไงนี่ก็ถือเป็นอุปสรรคหนึ่งของสองคนนี้เนอะ
ตอนที่แล้วลืมให้ประวัติตัวละครหลักตัวสุดท้ายไป อาร์ตนั่นเองครับ

ประวัติของอาร์ต
ชื่อ : อาร์ต
สถานะ : มีแฟนแล้ว
ชั้นเรียน : มัธยม4/1 สายวิทย์-คณิต โรงเรียนชายล้วน
วิชาที่ถนัด : คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี คอมพิวเตอร์
สีที่ชอบ : ขาว
อาหารที่ชอบ : เนื้อย่าง
กีฬาที่ชอบ : กรีฑา บาสเกตบอล วอลเลย์บอล
เวลาว่าง : เรียนพิเศษ เล่นกีฬา เที่ยวแบบแบ็คแพ็ค
ลักษณะนิสัย : เรียบร้อย นิ่ง ขรึม อ่อนโยน เข้ากับคนอื่นได้ง่าย มีระเบียบวินัย
รูปร่างหน้าตา : สูงโปร่ง หน้าคม ผิวสีแทน เอกลักษณ์คือลักยิ้มที่สวยมาก

ติดตามตอนต่อไปด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) Season2 : ตอนที่36
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 16-11-2016 22:20:08
พูดไม่คิด ไม่ยอมฟังไม่ยอมถามสุดท้ายก็ต้องมานั่งเสียใจนะอั๋น :เฮ้อ: :เฮ้อ:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) Season2 : ตอนที่37
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 28-11-2016 20:01:22
ตอนที่37

"กูขอโทษนะหมอ" อั๋นเงยหน้าขึ้นจากไหล่ผม เสียงสั่นพร่า
"อือ" ผมตอบ มองสบตาคมของอีกฝ่ายที่เต็มไปด้วยร่องรอยความเศร้า และเข้าใจว่าอั๋นเสียใจมากแค่ไหนที่ทำผิดกับผม
"หมอหายโกรธแล้วใช่มั้ย"
"อือ" ผมยังพูดได้ไม่เต็มปากว่าหายโกรธ แต่ผมก็ทนเห็นอั๋นเป็นแบบนี้ไม่ได้อีกต่อไป
อั๋นดูสงบลง แต่น้ำตายังไม่หยุดไหล
"หยุดร้องไห้ได้แล้ว" ผมบอก

เราทั้งคู่นั่งอยู่อย่างนั้นอีกพักใหญ่ อั๋นจับมือผมไว้
ผมมาคิดได้ว่าเรื่องที่อั๋นทำวันนี้ก็เป็นแค่ข้อผิดพลาดครั้งหนึ่ง เทียบไม่ได้เลยกับสิ่งต่างๆที่มันทำให้ผมมาตลอด แล้วผมจะไม่ให้อภัยมันได้ยังไง
"อั๋น ฟังกูนะ"
"..." อั๋นเงียบ เงยหน้าขึ้นจากไหล่ผมและยกมือขึ้นปาดน้ำตา
"กูไม่โกรธมึงแล้ว แต่...ครั้งหน้า ถ้ามีเรื่องไม่เข้าใจ...ต้องคุยกันดีๆนะ..." ผมอยากให้อั๋นเข้าใจว่าผมไม่ได้โกรธมันแล้วจริงๆและไม่อยากให้เกิดเรื่องที่ทำให้เราทั้งคู่ต้องมาเสียใจแบบนี้อีก
อั๋นพยักหน้า
"คืนนี้กูขอนอนที่นี่ได้มั้ย"
"...เอาดิ" ผมเงียบไปนิดนึงก่อนตอบ
อั๋นดึงผมเข้ามากอดอีกครั้ง ผมกอดตอบ

ผมกับอั๋นแกะขนมที่แม่ซื้อออกมากินด้วยกัน อั๋นนั่งมองผมเงียบๆ เหมือนเด็กที่ไม่กล้าพูดอะไรขึ้นมาหลังจากโดนผู้ปกครองดุ
"อร่อยปะ"
"อือ"
"นี่ โทรบอกที่บ้านยังว่าจะนอนบ้านกูอะ"
"อ้อ ยังเลย..." อั๋นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทันที
ระหว่างที่อั๋นคุยกับที่บ้าน ผมก็หยิบมือถือตัวเองขึ้นมาเหมือนกัน ไลน์บอกไอ้ต้าร์ว่าผมดีกับอั๋นแล้ว
"หมอ กูยืมชุดนอนมึงนะ"
"เออ"
อั๋นหลบสายตาเมื่อเห็นว่าผมกำลังจ้องมันอยู่
"อั๋น" ผมเรียกและเอื้อมมือไปจับไหล่อีกฝ่าย "เลิกคิดมากได้แล้วน่า...เรื่องมันผ่านไปแล้ว"
อั๋นยิ้มบางๆ สีหน้ายังแสดงความรู้สึกผิดอยู่เล็กน้อย
"ไหนเอาของขวัญมาดูหน่อยดิ" ผมพยักเพยิดไปทางกล่องของขวัญที่อยู่บนเตียง อั๋นกระเถิบตัวไปหยิบมาให้
"ให้อะไรหว่า" ผมเริ่มแกะกระดาษห่อออก อั๋นไม่ตอบ "โหห"
อั๋นซื้อนาฬิกาข้อมือเรือนสีขาวล้วน รุ่นที่เคยไปดูด้วยกันเมื่อไม่นานนี้ให้ครับ
"ขอบคุณนะ"
อั๋นยิ้มกว้างเมื่อเห็นสีหน้าผม
"กูเอาสมุดภาพมาด้วยนะ" อั๋นขยับอีกครั้ง หยิบสมุดภาพจากกระเป๋าเป้ "ขอบคุณที่ทำให้นะครับ"
ผมยิ้มรับ
"หมอ"
"หือ"
"ถ้า...พรุ่งนี้..."
"ทำไมอ่อ"
"มึง...อยากไปฉลองวาเลนไทน์ย้อนหลังมั้ย"
ที่อั๋นเงียบไปนานคงเพราะคิดเรื่องนี้อยู่สินะ
"ไปดิ กินข้าวดูหนังเหมือนแผนเดิมใช่มั้ย"
อั๋นยิ้มกว้างกว่าเมื่อสักครู่นี้อีก

"แม่ครับ เดี๋ยวคืนนี้อั๋นนอนนี่นะ" เราเดินลงไปข้างล่าง
"ขอรบกวนด้วยนะครับ" อั๋นบอก
"ได้สิจ๊ะ"
พ่อยังไม่กลับมาอีกเหรอครับ
"ยังเลย เห็นบอกว่ามีกินข้าวกับลูกค้าน่ะ"
"อ้อ"
"นี่ หมอกับอั๋น แม่ขอถามอะไรหน่อยสิ"
ผมที่กำลังจะเดินกลับขึ้นไปข้างบนถึงกับชะงัก อั๋นหันมาสบตากับผม
"ครับ"
"มานั่งนี่ลูก" แม่นั่งลงที่โซฟาตัวสั้น สีหน้าแม่ผมอ่านไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่
ผมกับอั๋นเดินไปนั่งด้วยกันที่โซฟาตัวยาวตรงกลาง แม่มองตามปฏิกิริยาของเราสองคนตลอด นั่นทำให้ผมไม่กล้าหันไปมองหน้าอั๋นเลย
แม่จะถามอะไรเรานะ
"เราสองคนมีเรื่องทะเลาะกันเหรอ"
"เอ่อ..." ผมติดขัด "ใช่ครับ"
"แล้วนี่เคลียร์กันแล้วใช่มั้ย"
"ครับ"
"ทะเลาะอะไรกัน บอกแม่ได้หรือเปล่า"
"คือ..."
"ผมผิดเองครับแม่" ผมหันขวับไปมอง อั๋นพูดออกมาหลังจากเงียบไปหลายนาที
แม่ละสายตาจากผมไปหาอั๋น
จะให้แม่รู้ไม่ได้นะอั๋น
"ผม...เข้าใจผิดว่าหมอโกหก แล้วผมโวยวายใส่ครับ"
"อ้อ..." แม่มีสีหน้าครุ่นคิด ผมกลัวที่สุดถ้าแม่จะถามว่าเข้าใจผิดเรื่องอะไร
"ผมรู้สึกไม่ดีก็เลยมาขอโทษหมอน่ะครับ" อั๋นพูดต่ออย่างรวดเร็ว ผมเข้าใจทันทีว่ามันต้องการให้แม่ไม่ถามเรื่องเดิมต่อ
"ตอนอั๋นมากดกริ่งหน้าบ้าน แม่เห็นหน้าเราก็รู้เลยว่าต้องกำลังไม่สบายใจแน่ๆ...แถมวันนี้เจ้าหมอก็ดูหงอยแปลกๆ แม่ก็เลยสงสัยน่ะ"
แม่จับอาการผมได้ยังงั้นเหรอ
"ดีกันก็ดีแล้วลูก...ว่าแต่แม่พึ่งเห็นหมอกับอั๋นทะเลาะกันครั้งแรกเลยนะเนี่ย"
บรรยากาศการพูดคุยดูผ่อนคลายลง ผมคิดเอาเองว่าแม่คงไม่ถามเรื่องน่าสงสัยอีกแล้ว
"ก่อนหน้านี้ก็เคยทะเลาะครับ"
"อ่าวเหรอ แต่หมอคงเป็นคนผิดสินะ"
"แม่" ผมลากเสียง แม่หัวเราะ "อั๋นต่างหาก ไม่ใช่หมอ"
ผมหันไปเห็นอั๋นยิ้มแหยๆ
"ผมเองแหละครับ"
"หือ อั๋นเนี่ยนะ แม่ไม่อยากเชื่อเลย อั๋นทำอะไรผิดอีกเนี่ย...หรือว่าเจ้าหมองี่เง่า งอนนานเกินไป"
"แม่พูดเหมือนผมเป็นผู้หญิงอะ" ผมทำหน้ามุ่ย
"อ้าว ก็ดูอั๋นวันนี้สิ เดินหน้าเครียดเข้ามาเชียว แล้วก็บอกแม่ว่า 'ขอคุยกับหมอหน่อยครับ' อย่างกับมาง้อแฟนแน่ะ"
คำหลังสุดของแม่เล่นเอาเราทั้งคู่แทบเก็บอาการไว้ไม่อยู่ แม่ไม่ได้สังเกตเห็นความสัมพันธ์ที่เกินเพื่อนของเราหรอกใช่ไหม
"ถ้าผมทำผิด ผมก็ต้องไปง้อมันแบบนี้แหละน่า"
"ใช่ครับ" อั๋นสนับสนุน
"จ้ะ ทะเลาะกันบ้างไม่แปลกอะไร คนอยู่ด้วยกันก็ต้องมีปัญหาเป็นธรรมดา" แม่พูดราวกับว่ากำลังสอนคู่รักคู่ใหม่ยังไงยังงั้น
"คร้าบ..."

"แม่ไม่ได้สงสัยกูกับมึงใช่มั้ย" ผมขอความเห็นอั๋นทันทีที่กลับเข้ามาในห้อง
"ไม่รู้ว่ะ แต่เมื่อกี้ตกใจแทบแย่แน่ะ"
"เออดิ นึกว่าแม่รู้ซะแล้ว"
คำตอบในใจผมคือ ใช่ แม่ต้องกำลังสงสัยอยู่เล็กๆ แต่ผมไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเลยสักนิด
เสียงโทรศัพท์มือถือผมดังขัดขึ้นมา
"ฮัลโหลต้าร์"
(ไอ้หมอ มึงดีกับไอ้อั๋นแล้วใช่ปะ) น้ำเสียงไอ้ต้าร์ร่าเริงเชียว โทรมาเพราะคงเห็นข้อความที่ผมส่งไปในไลน์
"เออ อั๋นอยู่ข้างๆกูเนี่ย"
(เปิดspeakerหน่อย)
"อะไรของมึงเนี่ย" ผมบ่น แต่ก็ทำตามที่มันบอก
(ไอ้อั๋น ไอ้ขี้แย) ผมหัวเราะ
"ไอ้สาดด" อั๋นด่า เขินจนหน้าเป็นสีแดง
(ผัวเมียคืนดีกันก็ดีแล้ว อย่าทะเลาะกันเลย กูเครียดแทน)
"ขอบใจนะเว้ยต้าร์" ผมยิ้ม
(เออ กูไม่กวนพวกมึงละ อั๋นมึงอย่าทำให้หมอโกรธอีกนะเว้ย)
"คร้าบบบ" อั๋นตอบเสียงอ่อน
(บายมึง)
"บาย" ผมกับอั๋นบอก
"นี่มันโทรมาแค่นี้เนี่ยนะ" ผมพูดกลั้วหัวเราะ
"ขอบใจนะหมอ" อั๋นโผเข้ากอดผม
"เออน่า กอดบ่อยไปแล้วนะวันนี้"
"แหะๆ"
"อะ ยอมให้กอดเยอะๆได้วันนี้วันเดียวนะ"
ผมกับอั๋นยิ้มให้กัน

คืนนั้น เมื่อผมแจ้งข่าวในไลน์กลุ่มเพื่อน ไม่มีใครเล่นใหญ่ดีใจได้เท่าไอ้นนท์อีกแล้ว แต่พอบอกว่าพรุ่งนี้ให้เลี้ยงฉลองหน่อยกลับหายตัวไปทันที
"ไอ้เชี่ยนนท์" ผมหัวเราะและพิมด่ามันเป็นชุด
ตอนนั้นเอง อาร์ตส่งข้อความมาหาทางfacebook
'หมอ วันนี้เราทำไม่สำเร็จว่ะ'
'แฟนเราบอกเลิก'
ผมอึ้ง พิมพ์ตอบอาร์ตไปทันที
ผมรู้สึกสงสารอาร์ตขึ้นมาจับใจ ตอนนี้มันกำลังทำอะไรอยู่นะ
อาร์ตไม่ตอบ
ผมเลี่ยงไม่พูดถึงอาร์ตเมื่ออั๋นเดินกลับมาจากห้องน้ำ ยังไม่อยากพูดถึงตอนนี้ครับ
อั๋นแต่งตัวเสร็จก็นั่งลงที่ปลายเตียง ผมดึงอั๋นให้ลงมานอนหนุนตัก อั๋นยิ้มและกุมมือผมไว้ข้างหนึ่ง

เช้าวันรุ่งขึ้น ผมกับอั๋นมาถึงโรงเรียนเร็วกว่าปกติเพราะตื่นเช้า(อั๋นตื่นก่อน ผมเลยตื่นตามไปด้วย- -)
เรานั่งกินข้าวเช้าที่เตรียมมาจากบ้านในโรงอาหาร
"แม่ยายน่ารักจริง มีแถมกับให้เพิ่มด้วย" อั๋นเลื่อนกล่องของตัวเองมาเทียบกับของผม เออ มีกับข้าวเยอะกว่ากล่องของผมจริงด้วย
"โห ไรวะ แม่ลำเอียงอะ รักมึงมากกว่ากูได้ไง"
"ได้มากกว่านิดเดียวน่า" อั๋นยักคิ้วกวน
"แบ่งมาเลยๆ"
"คร้าบ" อั๋นตักแบ่งมาให้จนกลายเป็นกล่องของผมมีกับข้าวเยอะกว่า
"เห้ย เยอะขนาดนี้กูกินไม่หมด ตักคืนไปๆ"
"ไม่เอา กูอยากให้มึงกินเยอะๆ"
อั๋นยิ้มแก้มตุ่ย เอาใจผมเต็มที่
"พี่อั๋นครับ"
เราสองคนหันไปตามเสียงเรียก เห็นเด็กมัธยมต้นคนหนึ่งยืนถือกล่องของขวัญอยู่ตรงหน้า ท่าทางกระสับกระส่าย แก้มเป็นสีแดงเรื่อ
น้องคนนี้เป็นใครกัน
"ครับ"
"คะ...คือ..."
"น้องมีอะไรกับพี่หรือเปล่าครับ" อั๋นถามอย่างสุภาพ
"คือผม...ผม..."
น้องเค้ามองมาทางผมอย่างไม่แน่ใจ
"ผมเอาของมาให้พี่อั๋นครับ"
"ให้พี่เหรอครับ" อั๋นเลิกคิ้วอย่างสงสัย ผมเองก็สงสัยเหมือนกัน
"ชะ...ใช่ครับ" น้องคนนั้นหน้าแดงไปจนถึงหู
"ให้พี่เพราะอะไรครับ ของน้องเองหรือว่าใครฝากมา"
"ของผมครับ...ผมชื่อแก้วครับ...ผม..." น้องแก้วตะกุกตะกักจนเริ่มจะฟังไม่รู้เรื่องแล้ว
"..."
"ผมชอบพี่อั๋นครับ...ชอบมาตั้งนานแล้ว"
น้องแก้วโพล่งออกมาทำเอาผมสะดุ้ง เดี๋ยวนะ...
อั๋นเองก็ดูตกใจมากเช่นกัน
"ผมรู้อยู่แล้วครับว่าพี่อั๋นมีพี่หมอเป็นแฟนแล้ว" น้องแก้วหันมามองผมแวบหนึ่งแล้วหันกลับไปหาอั๋นอย่างรวดเร็ว "แต่ผมชอบพี่จริงๆครับ ผมต้องบอก...ผมนึกว่า...เมื่อวาน"
"เมื่อวานทำไมหรือครับ" อั๋นหน้าบึ้งขึ้นมาทันที
"ปะ...ป่าวครับ ไปแล้วครับพี่" น้องแก้วชะงักเมื่อเห็นสายตาอั๋น วางกล่องของขวัญลงบนโต๊ะอาหาร ตั้งท่าจะเดินหนีไป
"เดี๋ยวก่อนน้อง" อั๋นเรียก
"คะ...ครับ"
"พี่รับไว้ไม่ได้จริงๆ ขอบคุณที่เอามาให้นะครับ" อั๋นหยิบกล่องใส่มือน้องแก้ว อีกฝ่ายดูเหมือนจะช็อคไปแล้ว
"แล้วก็ขอบคุณที่รู้สึกดีกับพี่ แต่พี่มีแฟนแล้ว และพี่ก็รักหมอมากด้วย" อั๋นพูดอย่างจริงจัง เอื้อมมาจับมือผม
ผมอดยิ้มออกมาไม่ได้ที่อั๋นพูดตรงๆแบบนี้ แม้จะไม่อยากยิ้มให้น้องแก้วเห็นตอนนี้เลยก็เถอะ
"ขะ...ขอโทษครับพี่" น้องแก้วหันหลังออกวิ่งอย่างรวดเร็ว

"นี่มันอะไรเนี่ย" อั๋นหันมาหาผม
"ไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอวะ"
ตอนแรกก็ว่าจะพูดปฏิเสธน้องเค้าดีๆ แต่น้องดันพูดถึงเรื่องเมื่อวาน...
ผมไม่ตอบ
"เค้าคิดว่าเราทะเลาะกัน แล้วก็เลยมาบอกชอบกูเนี่ยนะ"
"งั้นมั้ง" ผมเองก็ไม่เข้าใจการกระทำของน้องแก้วเช่นกัน มันแปลกมากที่มาสารภาพรักกับคนที่ชอบต่อหน้าแฟนเค้าด้วย "อั๋นไม่รู้จักน้องมาก่อนเลยดิ"
"อ่าฮะ พึ่งเห็นหน้าครั้งแรกด้วยซ้ำ...หมอ...ไม่หึงใช่มั้ย"
"บ้าน่า ไม่หึง แล้วมึงก็บอกน้องเค้าไปซะขนาดนั้น"
อั๋นหัวเราะเบาๆ

ปรากฏว่าพักเที่ยงวันนี้ไอ้นนท์เลี้ยงข้าวผมกับอั๋นจริงๆครับ มันบอกว่าให้เราสองคนซื้ออะไรก็ได้ เดี๋ยวมันจ่ายให้ เพื่อนดีๆอย่างผมก็เลยถือโอกาสถลุงมันเต็มที่
"ไอ้เชี่ยหมออออ มึงจะซื้อไปเปิดร้านขายแข่งกับเซเว่นหรอวะสาดดด" ไอ้นนท์ร้องเสียงหลงเมื่อผมหยิบขนมขบเคี้ยวมา8ถุงหลังจากที่กินข้าวไป2จาน อั๋นและทุกคนในห้องหัวเราะกันยกใหญ่
"ช่วยไม่ได้ไอ้นนท์ มึงบอกเองว่าจะเลี้ยงพวกกู" อั๋นโอบไหล่ผม
"มึงพลาดละเชี่ยนนท์" ไอ้ต้าร์ยังหัวเราะก๊าก
"มึงแม่งชั่วไอ้หมอ จำไว้ แค้นนี้ต้องชำระ" ผมยักไหล่อย่างไม่สะทกสะท้าน ส่งขนมแบ่งให้เพื่อนๆรอบโต๊ะ

เกือบหนึ่งทุ่มได้เมื่อผมกับอั๋นออกมาจากโรงหนัง เรื่องที่เรามาดูด้วยกันเป็นหนังรักที่กำลังถูกพูดถึงมากที่สุดในตอนนี้ครับ ผมประทับใจกับตอนจบมาก แต่คนข้างๆผมดูเหมือนจะรู้สึกตรงข้าม
"เซ็งว่ะหมอ ไม่หนุกเลย" อั๋นบ่น หน้าบูดเป็นตูดเป็ด
"ไรวะ หนุกจะตาย"
"ไม่หนุก ดูตอนจบดิ นางเอกทำยังงั้นได้ไง"
"จบแบบนั้นแหละดีแล้ว"
"แต่พระเอกรักนางเอกมากเลยนะ"
"ใช่ รักกันแต่ไม่ได้หมายความว่าต้องอยู่ด้วยกันนิ"
"โห่ ไม่ดีเลย"
ผมหัวเราะ
"ขำไร"
"ขำหน้ามึงอะ เซ็งขนาดนั้นเลยอ่อ"
"เออดิ ดีมาทั้งเรื่อง ตายตอนจบเฉย"
"เอาน่า ไปกินข้าวกันดีกว่า"
อั๋นจูงมือผมลงบันไดเลื่อน เตรียมเดินข้ามจาก siam paragon ไป siam center
"ไม่น่าชวนหมอมาดูเรื่องนี้เลย"
"เออ กูสนุก แต่มึงเฟล"
"ถ้าสมมติเราสองคนต้องแยกกันแบบในหนัง...กูทำใจไม่ได้หรอก"
"กูก็ทำใจไม่ได้เหมือนกัน"
ผมนึกภาพไม่ออกเลยว่าผมจะอยู่ได้อย่างไร
"งั้นอย่าทิ้งกันไปไหนนะ"
"ครับ" ผมตอบอั๋นด้วยรอยยิ้มกว้าง อั๋นเองก็ยิ้มจนตาหยี เรื่องเมื่อวานก็มีข้อดีอย่างหนึ่ง คือทำให้ผมรู้ว่าความสัมพันธ์ของเราสองคนมันเลยจุดเริ่มชอบกันมาไกลแล้ว ถึงแม้ว่าเราจะคบกันเป็นแฟนจริงจังได้ไม่นาน แต่เวลาทั้งหมดนับตั้งแต่ที่เรารู้จักกันก็นานพอที่จะยืนยันความรู้สึกของผม...
ว่าผมรักอั๋นเต็มหัวใจ
ผมมั่นใจว่านี่คือความรักอย่างแท้จริง

-จบตอน-

มาต่อแล้วคร้าบ ขอโทษด้วยที่หายไปนาน พอดีผมอยู่ในช่วงของการสอบfinalที่ม. สอบเสร็จแล้วจะมาลงให้จุใจไปเลยครับ
คุณผู้อ่านมาร่วมยินดีที่อั๋นกับหมอคืนดีกันได้แล้วด้วยนะ น้องแก้วนี่มปรากฏตัวซะงงเลย555
ติดตามตอนหน้าและ comment ให้กำลังใจอั๋นหมอหน่อยนะครับ
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) Season2 : ตอนที่37
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 28-11-2016 20:14:13
ค่อยยังชั่ว นึกว่าจะทะเลาะกันแบบต่อไม่ติดซะแล้วคราวหน้ามีอะไรคุยกันดีๆนะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) Season2 : ตอนที่38
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 04-12-2016 21:37:31
ตอนที่38

อั๋นให้ผมเป็นคนเลือกร้าน ผมเลยจูงมือมันมาที่บาร์บีคิวพลาซ่า จะกินหมูให้เต็มคราบเลยครับ
เราคุยเรื่องสัพเพเหระกันระหว่างที่พี่พนักงานมาตั้งเตาและรออาหารมาเสิร์ฟ
"หมอ อั๋น" เราหันไปตามเสียงเรียก อาร์ตนั่นเองครับ มันกำลังเดินตรงมาหา
อั๋นมีสีหน้าละอายใจขึ้นมาทันที
"หวัดดีอาร์ต มากินที่นี่เหมือนกันเหรอ" ผมเอ่ยทัก
"อือ เรามากับที่บ้าน" อาร์ตยังดูเศร้าอยู่ไม่หาย
"หวัดดีอาร์ต..." อั๋นทักบ้าง
"คือ...เราขอโทษอั๋นกับหมอด้วยนะ...เรื่องวันนั้น" อาร์ตเกาหัว
"เห้ย เราดิต้องเป็นฝ่ายขอโทษ เราเข้าใจผิดเอง" อั๋นพูดรัวเร็ว
"ไม่เป็นไรๆ" อาร์ตตอบ ทั้งอาร์ตและอั๋นหันมามองผมช้าๆ เหมือนจะสื่อว่าเรื่องนั้นน่าจะกระทบกับผมมากที่สุด
"ช่างมันเหอะน่า" ผมบอก ไม่อยากคิดถึงเรื่องนี้อีก "อาร์ต สรุปเรื่องนาย..." ผมเปลี่ยนไปถามเรื่องของอีกฝ่ายแทน มันยังไม่ได้ตอบที่ผมถามกลับไปใน facebook chat เลย
"เราเลิกกันแล้ว" อาร์ตยืนยันอีกครั้ง ผมรู้สึกว่าไม่น่าถามออกไปเลย
"เห้ย เรา..."
"เรากำลังทำใจอยู่ เดี๋ยวมันก็ผ่านไปแหละ" อาร์ตยิ้มอย่างขมขื่น
"สู้ๆนะเว้ย" ผมเอื้อมมือไปตบแขนอาร์ตเบาๆ
"ขอบใจนะหมอ งั้นเดี๋ยวเรากลับไปที่โต๊ะละ" อาร์ตโบกมือลาผมกับอั๋นก่อนเดินกลับไปที่นั่งด้านนอก
"อาร์ตทะเลาะกับแฟนน่ะ...ที่กูเจอวันนั้น มันไปซื้อของง้อแฟน นี่มันพึ่งโดนบอกเลิก" ผมอธิบาย
"อ่อ"
พี่พนักงานยกชุดอาหารมาเสิร์ฟ ผมย่างเนื้อหมูลงบนเตาโดยไม่รอช้า
"ป้อนหน่อยดิ" อั๋นส่งเสียงอ้อนมาจากที่นั่งฝั่งตรงข้าม แล้วอ้าปากรอ
ผมนึกอยากแกล้ง เอาตะเกียบคีบเนื้อหมูบนเตาจะส่งเข้าปากอั๋นเลย แต่มันรีบหุบลงซะก่อน
"เป่าก่อนดิคร้าบ จะให้กินร้อนๆเหรอ" มันพูดพร้อมนิ่วหน้า
ผมหัวเราะก่อนจะเป่าชิ้นหมูเบาๆ จุ่มน้ำจิ้มรสเด็ดที่เป็น signature ของร้าน แล้วบรรจงใส่ปากคนขี้อ้อน
"อือ...อร่อยจัง" อั๋นอมยิ้ม ผมกินบ้าง ฟินเลยครับ เนื้อนุ่มๆร้อนๆ
เราผลัดกันป้อนไปมา ชุดแรกหมดอย่างรวดเร็ว ผมสั่งชุดที่สองต่อทันที
"เดี๋ยวมื้อนี้อั๋นเลี้ยงนะ หมอสั่งเต็มที่เลย"
"เห้ย เลี้ยงทำไม หารกันดิ" ผมรีบปฏิเสธ
"กูเลี้ยงเอง อยากเลี้ยงขอโทษมึงอะ"
"ไม่ต้อง" ผมร้อง "ไม่เอา หารสอง จบนะ"
"ไม่ๆ งั้นคิดว่าแฟนเลี้ยงละกัน ผู้ชายต้องเป็นฝ่ายเลี้ยงผู้หญิงดิ"
"เดี๋ยวๆ กูไม่ใช่ผู้หญิง- -" อั๋นหัวเราะ
"แต่หมอเป็นเมีย ถือซะว่าผัวเลี้ยงละกัน นะๆ"
"ไม่ กูจะจ่ายตัง"
ผมไม่ยอมอั๋นง่ายๆแน่
"ครับๆ กินต่อดีกว่า ช้าระวังหมดนะมึง" อั๋นเลิกเถียง เราสองคนกลับมาสนใจอาหารกันต่อ

แน่นอนว่าตอนเรียกเก็บเงิน ผมคว้าใบเสร็จมาดูราคาแล้วเปิดแอพเครื่องคิดเลขในมือถือ จับหารสองทันที
"อั๋นบอกแล้วไงว่าเลี้ยงเอง" อั๋นส่งเสียงยานคาง
"หมอบอกแล้วไงคร้าบว่าหารกัน" ผมลากเสียงตาม
"ก็ได้ๆ ดื้อจริงนะเรา" อั๋นยอมแพ้ ผมยิ้มยิงฟันให้ก่อนเราจะหยิบเงินในกระเป๋ามารวมกันแล้วส่งให้พี่พนักงาน
"ไม่ต้องเลี้ยงกูหรอก ถ้าต่อไปนี้เรามากินข้าวข้างนอกด้วยกัน มึงไม่ต้องเป็นคนออกทุกครั้งเรอะ"
"ไม่ใช่ยังงั้น แค่วันนี้กูอยากเลี้ยง...ไม่รู้อะ คราวหน้ามึงต้องยอมให้กูเลี้ยง"
"ครับๆ" ผมตอบส่งๆ ยังไงก็ไม่ยอมให้อั๋นเลี้ยงผมฝ่ายเดียวแน่ๆ
พี่พนักงานกลับมาพร้อมเงินทอน
ขอบคุณนะคะลูกค้า
พี่เค้ายิ้มกว้างเมื่อเห็นอั๋นคว้ามือผมเดินออกมาจากร้าน

คืนนี้จนไปถึงวันสุดสัปดาห์ อั๋นขอมานอนบ้านผมครับ เมื่อออกจากสยามแล้วอั๋นมาส่งผม ก่อนย้อนกลับไปที่บ้านมันเองเพื่อเก็บของ แล้วกลับมาอีกครั้ง
"โห มึงจะมาอยู่เดือนนึงอ่อวะ หอบของมาเยอะขนาดนั้น" ผมเดินลงไปรับ เห็นอั๋นลากกระเป๋าเดินทางมา
"ก็เสื้อผ้าหลายชุดอะ มีพวกหนังสือด้วย"
"จริงๆมึงเอามาแค่หนังสือก็ได้นะ เสื้อผ้ามึงก็มีอยู่ที่นี่บ้าง ถ้าไม่พอก็ใส่ของกูก็ได้"
"ไม่เป็นไร ไหนๆกลับบ้านละก็เอามาเลย"
ตอนนี้ห้าทุ่ม พ่อกับแม่ผมขึ้นข้างบนไปแล้ว ผมจะเข้าไปช่วยอั๋นแบกกระเป๋า แต่มันกลับถือขึ้นบันไดเอง ดูเหมือนไม่ได้หนักอะไร
"หมอทำไรอยู่"
"เล่นเกมดิ ถามได้ ไม่ได้เล่นมาทั้งอาทิตย์"
"เล่นเกมอีกแล้วอ่อ ปิดเลยๆ"
"ทำไม- -"
จะให้แฟนเหงาอยู่คนเดียวรึไง
"ชู่วว" ผมเตือน กลัวพ่อกับแม่จะได้ยิน มาพูดตรงบันไดได้ไงฟะ
"ขอโทษ" อั๋นกระซิบ
เข้ามาในห้อง ผมเดินไปปิดเกมอย่างเชื่อฟัง
"ดีมาก"
"พรุ่งนี้มึงต้องให้กูเล่น"
"พรุ่งนี้ติวหนังสือ"
"มึงจะติวทั้งวันอ่อ ให้กูเล่นมั่งดิ"
"อะๆ ก็ได้ แต่ให้เล่นหลังติวเสร็จนะ"
"เออๆ เผด็จการชะมัด"
อั๋นหัวเราะที่ผมทำหน้ามุ่ย
"หมออาบน้ำยัง"
"ยัง จะไปอาบละเนี่ย"
"อาบด้วยดิ"
"ไอ้บ้า ไม่ต้องเลย" อั๋นยิ้มมุมปากทำเอาผมสยิว
"ไม่อาบพร้อมกันอ่อ" อั๋นยังทำหน้าระรื่น
"ไม่โว้ย มึงรอกูอาบก่อน" ผมคว้าผ้าเช็ดตัวแล้วรีบเดินออกไปจากห้อง ได้ยินเสียงหัวเราะถูกอกถูกใจของไอ้แฟนจอมหื่นตามมา ต่อให้อยู่กันในบ้านสองคนผมก็ไม่กล้าแน่ๆ

"หมอ" อั๋นสะกิดแขนผม ตอนนี้ผมนั่งอยู่บนตักมันแล้วให้กอดจากด้านหลัง เรากำลังดูโทรทัศน์กันอยู่
"หือ"
"นอนกัน"
"ง่วงแล้วอ่อ"
"อือ"
ผมรู้สึกง่วงนิดหน่อย แต่ถ้าตอนนี้อั๋นไม่ได้อยู่ด้วย ผมคงกำลังเล่นเกมอยู่แหงๆ
"แปบนึงดิ ใกล้จะจบแล้วเนี่ย"
"ครับ" อั๋นซบหน้าลงบนไหล่ผม
"ขี้อ้อนจังนะ"
เมื่อรายการฉายจบ ผมกดรีโมทปิดโทรทัศน์และลุกไปปิดไฟ
ล้มตัวลงนอนยังไม่ทันเรียบร้อยดี อั๋นก็พลิกตัวขึ้นมาคร่อมทับผม
ผมพึ่งรู้ตัวว่ามันชวนผมนอนทำไม
"ไอ้อั๋น"
"ครับ"
"ไหนบอกว่าง่วงไง"
อั๋นไม่ตอบ จากแสงไฟข้างนอกที่ส่องลอดผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง ผมเห็นแววตาเป็นประกายกับรอยยิ้มอันตรายของมัน
ผมนึกถึงเมื่อสัปดาห์ก่อน ครั้งล่าสุดของเรา...
"หมอหน้าแดงอีกแล้วอะ"
"อะ ไอ้บ้า"
"พร้อมยัง"
"ถามไรเนี่ย" ผมทุบไหล่มัน
"โดนแน่"
"ดะ เดี๋ยว..."
อั๋นกดจูบผมอย่างหนักหน่วง บดริมฝีปากจนคิดว่าพรุ่งนี้เช้ามันต้องเจ่อแน่ๆ
"อือ" ผมครางอยู่ในลำคอ
"มึงยั่วกูอีกแล้วนะหมอ" อั๋นเงยหน้าขึ้น
"ยั่วไร กูไม่ได้ทำอะไรซะหน่อย" ผมตอบเขินๆ หันหน้าหนีคนข้างบน
อั๋นก้มลงมาจูบอีกครั้ง คราวนี้สอดลิ้นเข้ามาด้วย
อั๋นผละออกหลังจูบกันอยู่นาน แล้วถอดเสื้อผมโยนไปที่พื้น
"อะ อั๋น"
"ขา" มันพูดคะขากับผม- -
"ถ้าพ่อแม่กูได้ยินทำไง"
"ก็อย่าร้องดังนักสิ"
"บ้า" จะไม่ร้องได้ไง ครั้งที่แล้วจำได้ว่าตัวเองร้องระงม ผมคิดในใจ
"ไม่ดังไปถึงห้องพ่อแม่หมอหรอก มึงเคยบอกกูนี่ว่าห้องในบ้านค่อนข้างเก็บเสียง"
"จำแม่นนักนะ" จริงครับ แต่ละห้องในบ้านผมค่อนข้างเก็บเสียงอยู่ ยกเว้นห้องนั่งเล่นหน้าบ้านกับห้องครัวที่ไม่ว่าใครทำอะไรจะได้ยินเสียงชัดเจน

อั๋นคลึงหน้าอกและเขี่ยยอดอกผมก่อนจะโน้มตัวลงมาใช้ลิ้นสัมผัส ทั้งลากเลียวนรอบบริเวณนั้นสลับกับดูด
"อ๊ะ อ้า...อั๋น อือ..."
อั๋นถอดเสื้อตัวเองออกแล้วจู่โจมผมที่เดิมอีกครั้ง ตัวผมกระตุกอยู่หลายครั้งเพราะความเสียว
อั๋นเลื่อนกลับขึ้นมาไซร้ซอกคอผม ผมยกแขนขึ้นโอบรอบคอมัน
สักพักผมดึงอั๋นมาจูบปากอีกครั้ง มันจูบตอบอย่างกระตือรือร้น
ผมรู้สึกว่าอยากรุกบ้าง จึงเลื่อนมือลงไปจับที่เป้ากางเกงอั๋น
"หมอ..." อั๋นเรียกชื่อผมเสียงกระเส่า "ร้ายนะ อยากเจออั๋นน้อยแล้วอ่อ"
ผมเขินเลยปล่อยมือ แต่ไอ้คนหื่นก็จับมือผมกลับไปวางที่เป้ามันอีก
"ทำให้อั๋นหน่อยนะ"
"มะ หมายถึง..."
"นั่นแหละ" อั๋นยิ้มตาหยี
"ไอ้บ้าเอ๊ย" มันจะให้ผมทำจริงๆเหรอ
"นะครับ ทำให้อั๋นหน่อยนะ...ถ้าหมอไม่รังเกียจ" ผมกลืนน้ำลาย ครั้งที่แล้วอั๋นยังทำให้ผมเลย
ผมสลับขึ้นมานั่ง ในขณะที่อั๋นล้มตัวลงนอนราบไปกับเตียง ผมยิ่งเขินใหญ่เมื่ออั๋นมองมาอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง
ผมค่อยๆรูดกางเกงบ็อกเซอร์และกางเกงในของอั๋นออก แล้วอั๋นน้อยก็ผงาดขึ้นมาให้เห็น
ผมเริ่มจากรูดลำขึ้นลงช้าๆแล้วใช้นิ้วกดส่วนหัวเบาๆ
"อาาา"
ผมไม่ได้รังเกียจเลยสักนิด แค่ผมอายที่จะทำ เล้าโลมอั๋นน้อยด้วยมือเปล่าอยู่นาน
ในที่สุดผมก็ตัดสินใจครอบปากลงไป...
ผมค่อยๆดูด พยายามทำช้าๆ
"หมอ...ระวังฟัน"
ในตอนแรกผมยังจับจังหวะไม่ถูก ผ่านไปก็รู้สึกว่ามันเริ่มเข้าที่
"ซี้ดด" ได้ยินเสียงอั๋นกัดปากผมถึงกับต้องมอง มันกำลังเสียวจัด
"พะ...พอก่อน" เดี๋ยวนึงอั๋นก้จับไหล่ผมแล้วดึงขึ้นมาจูบอีก ผมจับท้ายทอยมันยึดไว้
แล้วอั๋นก็จับผมถอดกางเกงออกบ้าง ก่อนจะพลิกให้ผมนอนลงแล้วลุกจากเตียงไปที่กระเป๋า
"อะไร" ผมถามด้วยความสงสัย แล้วก็เห็นอั๋นหยิบหลอดเจลหล่อลื่นกับถุงยางออกมา
"ขอโทษที่คราวที่แล้วไม่ได้ใช้นะ...ตอนนั้นไม่รู้ว่าจะมีอะไรกัน เลยไม่ได้เตรียม..." อั๋นพูดอย่างเขินอาย
"แล้ว...แสดงว่ามึงคิดว่าวันนี้จะได้ใช้...ทะลึ่ง" ผมเบี่ยงหน้าหนีเมื่อเห็นอั๋นสวมถุงยาง
"ก็เตรียมไว้ก่อนน่ะ" อั๋นเกาหัวแก้เก้อ
"คิดมาก่อนแล้วว่าจะทำก็ยอมรับมาเถอะ"
"ก็ได้ อั๋นอยากทำนี่" เออ ยอมรับออกมาจนได้ "แล้วยอมให้ทำรึป่าว"
"ไม่"
"โกหก ไม่อยากให้ทำจริงเหรอคะ" พูดคะขาอีกแล้ว
"ไอ้หื่น"
"หมอก็หื่นน่า ไม่ใช่อั๋นคนเดียว" ว่าแล้วก็ใส่นิ้วตรงเข้ามาที่ช่องทางนั้นของผม
"อย่าเกร็งดิ"
อั๋นเพิ่มจำนวนนิ้วจนถึงสามก่อนจะสอดใส่ของจริงเข้ามาช้าๆ
"อึก...อือ..." ผมทั้งเจ็บทั้งเสียวจนจิกเล็บลงบนหลังอั๋นแน่น มันกัดปากหน่อยๆ ท่าจะเจ็บแต่ก็อดทน
อั๋นค่อยๆขยับเข้าออก ผมเด้งตัวรับสัมผัสจากมัน
อั๋นก้มลงมาเล่นกับยอดอกผมอีกแล้ว พร้อมๆกับเริ่มเพิ่มความเร็วที่ส่วนล่าง
"อ๊ะๆๆ อา..."
"อาา..."
เราสองคนแข่งกันคราง อั๋นจับขาผมอ้าออกให้กว้างขึ้น แล้วใส่แรงเข้ามามากกว่าครั้งก่อนๆ
"หมอ..."
พักใหญ่อั๋นก็ถอนอั๋นน้อยออกแล้วดึงถุงยางออกตาม น้ำรักออกมาเต็มหน้าท้องน้อยผม
ผมรู้สึกว่าหมอน้อยแข็งจนปวด เอื้อมมือลงไปจะทำให้ถึงที่หมาย
"เดี๋ยวอั๋นทำให้บ้างนะ"
อั๋นที่ยังหอบหายใจตัวโยนพอๆกับผม ก้มลงไปหาหมอน้อย
"อือ...ซี้ดด" ผมสูดปาก อั๋นทั้งดูดและโลมเลียส่วนนั้น เดี๋ยวเดียวผมก็รู้สึกว่ามันกำลังจะเสร็จ
"อั๋น จะ...จะมาแล้ว ออก...เร็ว" ผมเตือน พยายามจะผลักอั๋นออก แต่มันไม่ยอมคายหมอน้อยออกจากปาก
ในที่สุดผมก็ทนไม่ไหว เสร็จทั้งอย่างนั้น
"อะ...อั๋น กูขอโทษ..." ผมบอกทั้งๆที่หอบ
"ไม่เป็นไร" อั๋นเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้ม "อั๋นอยากทำเอง"
"มึง...กลืนหรอ"
"ครับ"
อั๋นลุกขึ้นทำความสะอาดบริเวณท้องน้อยของผม
"ไปล้างตัวกัน"
"อั๋นไปก่อนดิ"
"ไปพร้อมกันเลย"
"มึงจะบ้าเหรอ"
อั๋นหัวเราะเบาๆ ลุกขึ้นสวมเสื้อผ้าและเดินออกไป

ผมล้างตัวเสร็จเรียบร้อยก็กลับมาขึ้นเตียง ตอนนี้ตี1แล้ว
"เมียใครก็ไม่รู้ โคตรเด็ดเลย" อั๋นคว้าผมมากอดและหอมแก้ม
"ไอ้ลามก โรคจิต"
"ยอมรับครับ...ว่าแต่ ต่อมั้ย"
"บ้า"

-จบตอน-

คือผมเขียนเอ็นซีไม่ค่อยเก่ง แต่รู้สึกว่าตอนนี้ฟีลมันให้อะครับ555 แบบพึ่งคืนดีกันใหม่ๆ เลยจัดให้หนึ่งตอน อั๋นมีพูดคะขาด้วย55 ติดตามต่อตอนหน้าครับ
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) Season2 : ตอนที่38
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 05-12-2016 07:07:46
 :-[ :-[ :-[ :haun4: :haun4: :haun4:

:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) Season2 : ตอนที่39
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 07-12-2016 21:19:59
ตอนที่39

ตลอดสามคืนที่อั๋นมาอยู่ด้วย เอ่อ ผมกับมันมีอะไรกันทุกคืนเลยครับ เมื่อผมตื่นมาในเช้าวันจันทร์(อั๋นปลุก) และสำรวจสภาพตัวเองตอนอาบน้ำ ผมพบร่องรอยตามตัวหลายจุด
รอยที่หน้าอกเป็นสีแดงเข้มที่สุด เพราะว่า...อั๋นพึ่งสารภาพเมื่อคืน มันชอบดูดนมผม มิน่าล่ะ ผมถึงรู้สึกว่าโดนเล่นงานบริเวณนั้นบ่อยจัง หื่นโคตรเลยแฟนผม- -
แต่นั่นไม่เป็นไรหรอกครับ ยังไงก็อยู่ใต้ร่มผ้า แต่ไอ้รอยดูดที่คอที่เห็นได้ชัดเจนนี่สิ ผมจะทำยังไง แดงเป็นจ้ำซะ ต้องมีคนสังเกตเห็นแน่ๆ
และสิ่งที่น่าอายที่สุดก็คือ ผมเดินตรงไม่ได้ครับ พยายามเดินให้เป็นปกติแล้วแต่ก็ทำไม่ได้ มันจะรู้สึกเจ็บร้าวตั้งแต่ช่วงเอวลงไปจนถึงหัวเข่าเลยทีเดียว แถมร่างกายก็รู้สึกอ่อนเพลีย มันเหมือนๆกับจะเป็นไข้อะครับ
ไม่แปลกใจเลย ก็อั๋นมันจัดผมหนักขนาดนั้น
ผมชี้รอยที่หน้าอก คอ และรอยแดงอื่นๆที่อยู่ตามลำตัวให้อั๋นดูเมื่อออกจากห้องน้ำ
"เอ่อ" อั๋นมองตาผม
"รอยที่คอนี่เห็นโคตรชัดเลย กูว่าคนเห็นแล้วรู้แน่ๆ"
"มะ...ไม่หรอกมั้ง ถ้าไม่ได้สังเกตดีๆก็คง..."
"หรา" ผมตัดบท "แล้วกูก็เดินกะเผลกด้วยนะ"
"ห๊ะ"
"เออ ปวดช่วงล่างชิบ" ขณะที่พูดอยู่ก็กำลังรู้สึกเจ็บแปลบๆด้วยครับ
"หมอ...โกรธอั๋นเหรอ"
"หือ" ผมเลิกคิ้ว ทำไมอั๋นมันตีความแบบนั้นไปได้
"ก็...อั๋นเป็นคนทำนิ"
"ไม่ได้โกรธมึง กูแค่เซ็งผลข้างเคียง" ผมบอกหน้าตาย เห็นอั๋นกลั้นขำ "ไม่ขำ" เท่านั้นแหละหยุดเลย ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครใหญ่
"มานี่มา อั๋นนวดให้" อั๋นดึงผมลงไปนั่งบนเตียง หยิบหลอดยานวดกล้ามเนื้อออกมาจากกล่องยาในห้อง
"เอ่อ กูยังไม่ได้ใส่กางเกงเลย" ผมห้าม ทั้งตัวมีผ้าขนหนูผืนเดียวห่อหุ้มส่วนล่าง อั๋นทำท่าจะเลิกผ้าขึ้นมาละทายาให้
"ไม่เห็นเป็นไร ทำยังกับอั๋นไม่เคยเห็นงั้นแหละ โอ๊ย..." อั๋นตอบก่อนจะถูกผมฟาดแขน
"ไอ้หื่นเอ๊ย"
อั๋นค่อยๆเปิดผ้าขนหนูออก ชะโลมยาลงไปที่ช่วงขาของผมและนวดเบาๆ
"เดี๋ยวเย็นนี้นวดให้อีก แล้วถ้าเจ็บขึ้นมาตอนไหนบอกกูนะ" อั๋นพูดอย่างอ่อนโยน
"อือ"
สัมผัสอั๋นกระตุ้นให้น้องชายผมตื่น โอย ขาอ่อนนะนั่น ใครมันจะไปทนไหว
"แข็งเชียวนะ" อั๋นบอกยิ้มๆ
ผมจิ๊ปากอย่างขัดใจ
"ทำไมกูเจ็บอยู่คนเดียววะ มึงไม่เป็นอะไรเลย ขี้โกงว่ะ" ผมทำเป็นโวยวาย
"อั๋นก็เจ็บเถอะ โดนหมอทึ้งผม จิกเล็บกลางหลังเป็นรอยเลยด้วย"
"เจ็บมากดิ กูปวดทั้งก้นทั้งขานี่ดูน้อยไปเลยเนอะ"
"ยอมแล้วครับ" อั๋นทำหน้าสลด ผมแอบยิ้มที่แกล้งว่ามัน

เราแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็ลงมาข้างล่าง วันนี้ต้องรีบออกเดินทางครับ เพราะอั๋นไม่ได้ขับมอเตอร์ไซด์มาตั้งแต่วันศุกร์ เราจะไปโรงเรียนด้วยรถไฟฟ้า
บอกลาแม่ผมแล้วก็เดินออกจากซอยบ้านผมไปขึ้นรถไฟฟ้า
"หมอ ถ้าเกิดเจ็บแผลหรือรู้สึกจะเป็นอะไรขึ้นมาต้องรีบบอกกูนะ" อั๋นบอกผมทันทีที่เดินออกมา
"คร้าบ" มันคอยเป็นห่วงเป็นใยผมอยู่ตลอดเวลาเลยนะ "แต่ถ้าวันนี้กูหลับในห้องก็เพราะมึงเลยนะครับ"
"โห่ ก็หมออะ"
"กูทำไม"
"มึงน่ารัก ยั่วยวน" พูดเหมือนผมเป็นผู้หญิงอีกแล้ว
"ไอ้สัส กูอยู่เฉยๆ"
"นั่นแหละ แค่เห็นมึงกูก็อดใจไม่ไหวละ" อั๋นพูดพร้อมมองผมด้วยสายตาหื่นๆ ผมผลักไหล่มัน
"เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ตี1 แล้วก็ปลุกกูตั้งแต่6โมง ยังงี้ต้องไปนอนชดเชยที่โรงเรียน" ผมนึกว่าเมื่อคืนอั๋นจะไม่ทำอะไรนะ แบบวันต่อมาต้องไปโรงเรียนไง แต่เปล่าเลย จัดผมตามปกติ
ไม่ใช่ว่าพวกผมจะทำแต่เรื่องนั้นอย่างเดียวนะครับ- - โครงการอ่านหนังสือเตรียมสอบปลายภาคของเราสองคนคืบหน้าไปเยอะแล้ว ระหว่างวันอั๋นจัดโปรแกรมให้ผมทบทวนบทเรียนได้เต็มที่ แบบที่ถ้าให้ผมอ่านด้วยตัวเองคงทำไม่ได้แน่ๆ
ผมชอบที่มันสอนอย่างใจเย็น แต่ในขณะเดียวกันก็จริงจัง เวลาอ่านคืออ่าน เวลาพักคือพัก อั๋นมันสุดยอดจริงๆครับ
"ข้ามถนนแล้วครับแฟน" อั๋นจูงมือผมข้ามทางม้าลายบนถนนใหญ่ขณะที่รถหยุดเคลื่อนเพราะสัญญาณไฟจราจร

รถไฟฟ้าคนเยอะมากครับ ผมกับอั๋นต้องยืนต่อแถวรอให้ผ่านไป3ขบวนก่อนถึงจะได้ขึ้น
เข้ามาก็ยืนเบียดเสียดกับคนอื่นๆ ทั้งนักเรียนทั้งคนทำงานเต็มแน่นขบวน
"หมอ เกาะอั๋นไว้" อั๋นเรียกเมื่อเห็นผมมองหาที่จับไม่เจอ เพราะผู้โดยสารคนอื่นใช้เต็มหมดแล้ว
อั๋นยกแขนข้างหนึ่งขึ้นจับราวของรถไฟฟ้า อีกข้างโอบรอบตัวผมให้เข้าไปชิดหน้าอกมัน
"ซบไหล่ได้นะ" มันพูดยิ้มๆ ผมหน้าแดง เรื่องอะไรจะทำอย่างที่มันบอกล่ะ คนมองเยอะแยะ แค่นี้ก็อายจะแย่อยู่แล้ว
อั๋นประคองผมไว้อย่างมั่นคง หลายคนในขบวนรถมองมาที่พวกเราสองคนอย่างโจ่งแจ้ง
ไม่กี่สถานีเราก็ลง ตอนนี้เจ็ดโมงครึ่งแล้วครับ เดินเข้าโรงเรียนก็คงถึงเวลาเข้าแถวเคารพธงชาติพอดี อดแดกข้าวเช้าเลย- -
"หิวอะ" ผมบอกอั๋น
"หลังเข้าแถวแวบไปโรงอาหารก่อนขึ้นห้องละกัน" ผมพยักหน้าตอบ

ระหว่างที่ผู้อำนวยการกำลังปราศัย ไอ้เชี่ยเอก (ขอเติมคำนำหน้าให้มันวันนี้- -) ดันเปิดประเด็นให้เพื่อนๆสังเกตท่าเดินกะเผลกๆของผม แถมยังชี้ให้ดูรอยแดงที่คออีก ช่างสังเกตจริงนะเพื่อนรัก
"อั๋นมึงทำอะไรหมอเนี่ย"
"เชี่ย แดงจริงๆด้วยว่ะ"
"สงสัยโดนหนัก มึงดูมันเดินดิ"
"ไอ้เหี้ยยยยย" ประโยคหลังสุดนั่นผมเองครับ แต่ไม่ได้ออกเสียง แค่ขยับปากใส่ไอ้พวกเพื่อนขี้เสือกทั้งหลาย ส่วนไอ้แฟนตัวดีก็ได้แต่ลูบหัวผมเบาๆและยิ้มรับคำชมหน้าบาน เรื่องว่ามันทำให้ผมเป็นหนักได้ขนาดนี้ เออ เอาเข้าไป

ในคาบแรก ระหว่างกำลังจดงานอยู่ ไอ้นนท์หันมาหาผมกับอั๋น
"เห้ย วีคก่อนกูได้ยินมาว่ามีเด็กมัธยม3มาบอกชอบมึงหรอวะไอ้อั๋น"
"เออ แล้วมึงไปรู้มาจากไหนเนี่ย" อั๋นถาม ดูตกใจเล็กน้อย
"เสือกมาไง ถามได้" ผมกวนตีน
"ปิดกูนะสาด กูมีแหล่งข่าวโว้ย เหยดดด ขนาดมีเมียเป็นตัวเป็นตนแล้วยังไม่ทิ้งลายนะครับไอ้อั๋น"
"ลายพ่อมึงดิ กูไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับน้องเค้าซะหน่อย พูดงี้เดี๋ยวเมียกูเข้าใจผิดนะเว้ย" อั๋นหันมาทำหน้าแอ๊บแบ๊วใส่ผม
"ที่ได้ยินมาอีกนะ น้องเค้าเสียใจน่าดูเลยว่ะ วิ่งร้องไห้หลังโดนมึงปฏิเสธมา เพื่อนๆเข้ามาปลอบกันใหญ่"
"เห้ย" ผมร้อง
"จริงดิ" อั๋นถาม
"เออสิวะ กูจะโม้ทำไม โถๆ น่าสงสารชิบหาย ดันมาหลงรักคนมีเจ้าของแล้ว"
"สงสารนักก็ไปเป็นแฟนน้องเค้าดิ" อั๋นบอก
"ก็เหี้ยแล้ว"
"เออ ไหนๆมึงก็โสดไม่ใช่รึไง" ต้าร์เสริม
"อ้าว ไอ้เชี่ยต้าร์ กูนึกว่ามึงไม่สนใจพวกกูคุยกัน เห็นนั่งจดงาน ที่แท้ก็แอบฟัง ขี้เสือกเหมือนกันนะเราเนี่ย" นนท์กระแหนะกระแหน
"ติดเชื้อมาจากมึงอะ" ต้าร์ย้อน เท่านั้นแหละผมกับอั๋นขำก๊ากเลย
"สัส เดี๋ยวมึง"
"เฮ้ หนุ่มๆข้างหลังห้องอะ คุยให้น้อยแล้วจดให้เยอะหน่อยสิ" อาจารย์ส่งเสียงมาจากหน้าห้อง ปิดการสนทนาของพวกเราทันที
ผมลืมเรื่องน้องแก้วไปสนิทเลยถ้าไอ้นนท์ไม่พูดขึ้นมา น่าสงสารเค้าเหมือนกันนะครับ

เป็นไปอย่างที่คาด คาบเรียนต่อมา ผมฟุบหลับไปทันที ง่วงรุนแรงมากครับ มารู้สึกตัวอีกครั้งก็ถึงเวลาพักเที่ยงพอดี
ลืมตาขึ้นมาก็เห็นอั๋นกำลังนั่งจ้องหน้าผมอยู่พอดี
"ตื่นแล้วอ่อ" มันลูบหัวผม
"นี่กูหลับไป3คาบติดเลยหรอวะ" ผมอ้าปากหาว
"เออดิ หลับลึกด้วย กูลองสะกิดกับเรียกมึงแล้วไม่ขยับเลย"
"เพราะมึงเลย ทำกูไม่ได้หลับได้นอน" ผมทำปากยื่น
"ขอโทษคร้าบ" อั๋นยิ้มเจื่อนๆ
"คนอื่นไปไหนกันหมดวะ" ตอนนี้มีแค่ผมกับอั๋นที่อยู่ในห้อง
"ลงไปกินข้าวกันหมดแล้ว กูรอมึงตื่นอยู่ ไปกัน"
"เอ้า แล้วทำไมไม่ปลุก"
"รอได้น่า"
"ถ้าเกิดกูหลับยาวไปถึงคาบบ่ายล่ะ"
"ตอนนั้นกูคงโทรเรียกรถพยาบาลมาดูมึงละว่ายังมีชีวิตอยู่มั้ย"
ผมชูนิ้วกลางใส่อั๋น มันหัวเราะร่วน
อั๋นยกมือขึ้นแตะหน้าผากผม
"อุณหภูมิปกติ นึกว่ามึงจะไม่สบาย"
เราเดินลงจากอาคารเรียนไปยังโรงอาหาร ยังไม่ทันนั่งลงที่โต๊ะกับเพื่อนๆในห้อง เสียงแซวก็ดังมาถึงหู
เราหันไปเห็นน้องแก้วจ้องมองมาที่พวกเราอย่างเสียใจ แล้วก็หันหน้าหนีไปอย่างรวดเร็ว

เย็นนี้เรามาติวหนังสือกันที่บ้านผมและอั๋นจะกลับบ้านตอนกลางคืน กลับไปถึงแม่ก็ทำน้ำผลไม้และเค้กรอไว้ให้อยู่แล้ว
"อั๋นมาติวหนังสือให้หมอมันทุกวัน หมอก็ขยันๆให้คุ้มกับที่อั๋นเค้าทำให้หน่อยนะลูก"
"คร้าบ" ผมตอบเนือยๆเมื่อแม่เดินผ่านมาตอนที่กำลังนั่งทำแบบฝึกหัดภาษาอังกฤษอยู่ ส่วนคนโดนชมก็นั่งยิ้มปากกว้างไปถึงหู
"อั๋น คำนี้แปลว่าไรวะ" ผมเลื่อนหนังสือไปใกล้อั๋น
"advocate แปลว่าสนับสนุน"
"advocate สนับสนุน" ผมทวนก่อนจะจดลงในสมุดคำศัพท์ที่อั๋นบังคับให้จด
"ดีมาก" อั๋นขยับเข้ามาโอบไหล่ผม
เราสบตากัน อะไรบางอย่างในสายตาของเราทั้งคู่บ่งบอกถึงความรักที่มีให้กันโดยไม่ต้องพูดออกมา

วันนี้พ่อกลับเร็วกว่าปกติครับ เมื่อแม่เรียกให้มาทานข้าวพร้อมกัน ผมกับอั๋นวางหนังสือลงแล้วเดินไปที่โต๊ะอาหาร
"โหหหห" ผมร้อง วันนี้แม่ทำแต่ของโปรดผมทั้งนั้นเลย ปีกไก่ทอด กุ้งชุบแป้งทอด ต้มยำปลา และอีกหลายอย่าง ผมเห็นอั๋นยิ้มขำเลยกระซิบถาม "อะไร"
"เห็นคนตะกละแล้วมันตลกดี" ผมถลึงตาใส่
"มาๆ กินข้าวกันลูก" พ่อเรียก
"รบกวนด้วยนะครับ" อั๋นบอกก่อนจะนั่งลงข้างๆผม
"เต็มที่เลยลูก..."
เมื่อทุกคนใกล้อิ่ม ผมเห็นพ่อกับแม่สบตากัน สีหน้าดูไม่ค่อยสบายใจเท่าไร แล้วพ่อก็พยักหน้าให้แม่
"หมอ อั๋น" แม่พูดขึ้น
"ครับ" เราสองคนตอบพร้อมกัน ผมรู้สึกว่าต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ
"แม่ถามตรงๆนะลูก เราสองคนเป็นอะไรกัน"
...
ผมอึ้ง แม่รู้เรื่องเราได้อย่างไร
ผมไม่กล้าหันไปมองอั๋น แต่สัมผัสได้ว่ามันก็นั่งนิ่งอยู่ด้วยเหมือนกัน
พ่อไม่พูดอะไร ได้แต่มองหน้าผมด้วยสีหน้าที่ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
"ว่าไงลูก" แม่กระตุ้น
"ผม...คือ..."
ผมตะกุกตะกัก ช้าไปแล้ว
"เราเป็นเพื่อนกันครับ"
"จริงเหรอลูก" แม่ขมวดคิ้ว
จะ...จริงครับ
"อย่าโกหกแม่นะหมอ" แม่พูดอย่างจริงจัง จ้องตาผมเหมือนกับจะค้นหาความจริง
"เพื่อนกันครับ" ผมยังโกหก
"เท่าที่แม่กับพ่อสังเกต เราสองคนไม่เหมือนเพื่อนกันเลย แม่เห็นอั๋นกอดหมอบ่อยๆเวลามาส่งที่บ้านหลังกลับจากโรงเรียน แล้ว...แม่ก็เคยเห็นอั๋นหอมแก้มหมอครั้งนึงด้วย" ผมแทบช็อค นี่แม่เห็นทุกอย่างมาตั้งนานแล้วอย่างนั้นหรือ
"แม่พึ่งเล่าให้พ่อฟังเมื่อวันก่อนว่าวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมาหมอกับอั๋นทะเลาะกัน แล้วอั๋นก็ตามมาง้อที่บ้าน...เห็นช่อดอกกุหลาบกับกล่องของขวัญในห้องหมอด้วย" พ่อพูดขึ้นบ้าง
"หมอบอกว่าเป็นเพื่อนกัน นี่มันเกินที่เพื่อนเค้าทำกันแล้วนะลูก" แม่เริ่มเสียงดังขึ้นเล็กน้อย
ท่านรู้แล้วสินะ
อั๋นเอื้อมมือมากุมมือผมอยู่ใต้โต๊ะ

ในที่สุดผมก็ยอมรับ
"ผมกับอั๋น...เป็นแฟนกันครับ"

-จบตอน-

โอววว ขุ่นพ่อกับขุ่นแม่รู้ซะแล้วคร้าบ ถามตรงได้อีก
อั๋นหมอจะเป็นอะไรหรือเปล่าเนี่ย ติดตามกันด้วยครับ
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) Season2 : ตอนที่39
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 07-12-2016 21:34:50
เอาล่ะซิพ่อกับแม่รู้เรื่องแล้วจะว่ายังไงยอมรับความรักของลูกได้ไหมนะ :katai1: :katai1: :katai1:



 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) Season2 : ตอนที่39
เริ่มหัวข้อโดย: ตัวไหมอ้วนกลม ที่ 08-12-2016 16:58:00
พ่อกับแม่จะว่าไงบ้างนะ ต่อ ต่อ ต่อ   :katai1:  :katai1:  :katai1:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) Season2 : ตอนที่40
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 15-12-2016 20:20:05
ตอนที่40

'ผมกับอั๋น...เป็นแฟนกันครับ'

ประโยคนั้นตามมาด้วยความเงียบที่นานที่สุดที่ผมเคยเจอ
"แม่...อย่างที่คิดจริงๆสินะ...เราสองคนไม่ได้เป็นแค่เพื่อนกัน" แม่พูดช้าๆ สีหน้าทั้งตกใจและผิดหวัง ใจผมตกวูบ
"แม่" ผมเรียกเบาๆ
"ทำไม...หมอถึงทำแบบนี้"
"คุณครับ" พ่อขัดขึ้น ใบหน้าเครียดเขม็ง
ผมหันไปหาอั๋น เราจะทำอย่างไรดี
"ตอบแม่มาสิ ทำไมถึงทำแบบนี้"
"หมอ..." ผมพูดไม่ออก ก้มหน้าลงเพราะไม่กล้าสบตาแม่
"แม่เลี้ยงหมอ อยากให้เป็นเด็กดี...แต่นี่หมอกลับ..." เสียงแม่เริ่มสั่น
"คุณ" พ่อเรียกอีก
"แม่ครับ พ่อครับ ฟังผมก่อนนะครับ" อั๋นพูดขึ้นมาในที่สุด
พ่อหันไปมองอั๋น
"ผมขอโทษ เรื่องทั้งหมดผมผิดเองครับ หมอไม่ผิด"
"ไม่ใช่นะอั๋น..." ผมกำลังจะพูด แต่แม่ตัดบท
"อั๋นก็ด้วย ทำแบบนี้ที่บ้านอั๋นก็เสียใจเหมือนแม่นะลูก"
เหมือนมีดกรีดลงบนหัวใจผม แม่แสดงออกชัดเจนแล้วว่าไม่ยอมรับความสัมพันธ์ของเรา
"เราสองคนคิดว่ากำลังทำอะไรอยู่ คิดว่ามันถูกแล้วเหรอ" แม่ร้องไห้ออกมา
"แม่"
"ผู้ชายกับผู้ชายจะรักกันได้ยังไง...แม่ไม่รู้ว่ามันจะเกิดกับหมอ..." แม่ปิดหน้าร้องไห้กับฝ่ามือ พ่อลุกจากเก้าอี้มาประคอง
"หมอกับอั๋นขึ้นไปข้างบนก่อนไปลูก..."
น้ำตาผมไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว อั๋นดึงผมเบาๆแล้วพาขึ้นบันไดไป

"อั๋น...สิ่งที่เราทำ...มันผิดขนาดนั้นเลยเหรอ" คำถามแรกหลุดออกจากปากผมทันทีที่เราอยู่กันตามลำพังในห้อง
"มันไม่ผิดหรอก"
"แต่แม่กู...แม่รับเราสองคนไม่ได้" น้ำตาผมไหลออกมาอีก
อั๋นขยับเข้ามาใกล้และโอบไหล่ผมไว้
"กูควรทำไงดี"
"ตอนนี้คงได้แค่รอแม่ใจเย็นลง แล้วค่อยเข้าไปคุยกับแม่ดีๆ"
"แล้วถ้าแม่บอกให้เราเลิกกันล่ะ" ผมพูดสิ่งที่กลัวที่สุดออกไป
อั๋นหน้าเสีย
"ถ้าแม่บอกให้เราเลิกกัน เราจะทำยังไง"
"ไม่...อั๋นไม่มีวันยอมเลิกกับหมอเด็ดขาด"
ผมมองสบตาคนที่ผมรักที่สุด แววตาอั๋นมีความกังวลแฝงอยู่
ตั้งแต่ผมจำความได้ ครั้งนี้เป็นครั้งที่2ที่ผมเห็นแม่ร้องไห้ ครั้งแรกเพราะผมมีเรื่องชกต่อยกับเพื่อนตอนมัธยมต้น กลับบ้านมาด้วยแผลและรอยฟกช้ำเต็มหน้า แม่ทั้งโกรธและเสียใจมาก
ผมกำลังทำให้แม่รู้สึกแบบนั้นอีกแล้ว
แล้วถ้าพ่อแม่อั๋นก็ไม่ยอมให้เราคบกันล่ะ

ผมซบหน้าร้องไห้กับไหล่อั๋น มันกอดและลูบหลังผมเบาๆเพื่อปลอบโยน
"อย่าพึ่งคิดมากนะหมอ มันต้องมีทางออก...แต่เราจะไม่เลิกกันแน่ๆ" อั๋นบอกอย่างหนักแน่น แต่ความกังวลของผมไม่ได้ลดลงไปเลยแม้แต่น้อย
เราทั้งคู่คิดเหมือนกันว่าคืนนี้อั๋นควรกลับบ้านไปก่อน พักหนึ่งผมเดินมาส่งอั๋นให้เรียกรถแท็กซี่กลับ
"เดี๋ยวสักสี่ทุ่มกูโทรหานะ"
ผมพยักหน้า อั๋นเอื้อมมาจับมือผมบีบเบาๆก่อนจะขึ้นรถไป
ผมกลัวว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้จับมือกัน

"หมอ มาหาพ่อหน่อยลูก" พ่อเรียกเมื่อผมเดินกลับเข้าไปในบ้าน ผมเห็นพ่อนั่งอยู่คนเดียวบนโซฟาในห้องนั่งเล่น และนั่งลงตามอย่างกล้าๆกลัวๆ
"แล้ว...แม่ล่ะครับ"
"แม่อยู่ข้างบน"
ผมไม่กล้าถามว่าแม่หยุดร้องไห้หรือยัง
"หมอ ฟังพ่อนะ" พ่อเริ่มด้วยน้ำเสียงจริงจัง มีไม่กี่ครั้งในชีวิตที่พ่อจะเรียกผมมาสอนหรือตักเตือน "พ่อกับแม่คุยกันมานานแล้วเรื่องลูกกับอั๋น...แม่มาเล่าให้ฟังหลายเรื่อง ว่าเห็นเราสองคนแปลกๆ...พ่อก็ไม่อยากเชื่อ พ่อไม่คิดว่าหมอจะเป็นแบบนั้นไปได้..."
ผมกลืนน้ำลาย เพราะเห็นว่าพ่อพูดประโยคสุดท้ายออกมาอย่างยากลำบาก
พ่อเองก็คงรับไม่ได้เหมือนกันสินะ
"เมื่อคืนพ่อคุยกับแม่ว่าถึงเวลาต้องคุยกับหมอให้รู้เรื่องแล้ว วันนี้ก็เลยถามหมอตรงๆ...หมอ พ่อรู้ว่าตอนนี้ลูกเสียใจมาก แต่หมอก็ต้องรู้ไว้ว่าพ่อกับแม่ก็เสียใจเหมือนกัน..."
ผมมองพ่อ ความเสียใจและผิดหวังสะท้อนออกมาจากใบหน้าให้เห็นเต็มๆ
"พ่อสารภาพว่าพ่อก็ทำใจไม่ได้...พ่อไม่อยากให้หมอเป็นเกย์ จะ...จะมีทางที่หมอกลับไปเป็นเหมือนเดิมมั้ย"
ผมเงียบไปนาน น้ำตาไหลออกมาอีกครั้งโดยไม่รู้ตัว ส่ายหน้าเบาๆแทนคำตอบ
ผมจับได้จากแววตาของพ่อว่าท่านตกใจ
"...หมอกับอั๋นคบกันจริงจังใช่มั้ย ไม่ใช่เล่นกันใช่มั้ย"
"ครับ"
"แล้วหมอมั่นใจเหรอว่ารักอั๋นจริงๆ"
"ผมมั่นใจ"
"แล้วอั๋นล่ะ อั๋นคิดแบบเดียวกับหมอหรือเปล่า"
"ครับ อั๋นรักผม จริงจังกับผม"
แม้อยู่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียด แต่ผมก็มั่นใจในคำตอบที่พ่อถาม ผมเชื่อว่าเราสองคนรักกันจริงๆ ไม่ใช่อารมณ์ชั่ววูบ หรือเพราะการที่เราอยู่ใกล้ชิดกันบ่อยๆแล้วหวั่นไหวอะไรทำนองนั้น

"ถ้าพ่อ...ขอให้เราเลิกกัน...หมอจะทำได้มั้ย" ผมตกใจ
"มะ...ไม่ครับ ผมทำไม่ได้"
พ่อเงียบไปพักใหญ่


"พ่อเข้าใจแล้ว...บอกตรงๆว่าพ่อไม่อยากให้หมอเป็นแฟนกับผู้ชาย...แต่ในเมื่อลูกยืนยันแบบนี้ พ่อคงต้องยอม..."

ผมเงยหน้าขึ้นมองพ่ออีกครั้ง
"พ่อจะพยายามเปิดใจก็แล้วกัน...แต่กับแม่ คงต้องใช้เวลาอีกหน่อยนะ แม่ยังทำใจไม่ได้หรอก"
คำพูดของพ่อเหมือนแสงไฟดวงเล็กๆที่จุดขึ้นมาท่ามกลางความมืดมิดในตัวของผมตอนนี้
"พ่อ...พ่อยอมให้หมอคบกับอั๋นใช่มั้ยครับ"
พ่อพยักหน้า
ผมโผเข้ากอดพ่อแล้วสะอื้น พ่อลูบหัวผมเบาๆ

"พรุ่งนี้เช้าลงมาจากห้องก็มาอ้อนแม่เค้าหน่อยก็แล้วกัน"
"ครับ"
"ยังไงพ่อจะช่วยพูดกับแม่ด้วย"
"ครับ"
"เอาน่า อย่าซึมไปเลย" พ่อยิ้มออกมา

ผมเล่าเรื่องพ่อให้อั๋นฟังทางโทรศัพท์ในคืนนั้น
(อย่าคิดมากนะเว้ย อย่างน้อยพ่อก็อนุญาตแล้ว)
"อือ"
(อั๋นรักหมอนะ เราจะผ่านมันไปให้ได้นะ)
"ครับ...พรุ่งนี้หลังเลิกเรียนไปบ้านมึงนะ"
(โอเค)

ผมลงมาข้างล่างตอนเจ็ดโมง เห็นแม่กำลังยืนปิ้งขนมปังอยู่ในครัว ผมเดินเข้าไป
"แม่ครับ...มีอะไรกินหรอครับ"
แม่สะดุ้ง หันมามองผมแวบหนึ่งแล้วหันกลับไปอย่างรวดเร็ว
"แม่ครับ" ผมเรียกซ้ำ
แม่ยังคงไม่ตอบ ใจผมกระตุก
แม่จะไม่ยอมพูดกับผมอย่างนั้นหรือ
"มีขนมปังปิ้งกับไส้กรอก ในจานนั่นไง แม่เค้าทำไว้ให้หมอแล้ว"
พ่อเดินจากห้องนั่งเล่นเข้ามาในห้องครัว ชี้ไปทางจานที่มีขนมปังปิ้งกับไส้กรอกวางไว้อยู่เต็ม ข้างจานมีน้ำส้มหนึ่งแก้ว
"เอ่อ ครับ" ผมเดินเข้าไปดื่มน้ำส้มและเทอาหารในจานใส่กล่องอาหารเตรียมไปโรงเรียน
"แล้ว...อั๋นใกล้ถึงรึยังลูก" พ่อถาม
"มันบอกว่าอีกไม่ถึงสิบนาทีนี้ครับ"
เมื่อพูดถึงอั๋น ผมกับพ่อแอบมองปฏิกิริยาของแม่ แต่แม่ไม่แสดงอาการอะไร
"คุณ ลูกจะไปโรงเรียนแล้วนะ"
แม่เงียบและไม่ยอมหันมามองผม
"หมอไปก่อนนะครับพ่อ แม่..."
ผมเดินออกมารออั๋นที่หน้าบ้าน ใจแป้วที่แม่ทำเหมือนผมไม่มีตัวตน
"เดินทางดีๆนะลูก" พ่อส่งเสียงตามหลังมา

"ไม่เป็นไรนะเว้ยมึง" นนท์ปลอบใจผมกับอั๋นเมื่อเราปรึกษาเรื่องที่พ่อแม่ผมรู้เรื่องเราคบกัน "ยังดีที่พ่อมึงโอเคนะหมอ กูว่าสักวันแม่มึงก็ต้องเข้าใจและยอมรับได้"
"เมื่อเช้าแม่ยังไม่ยอมพูดกับกูเลย" ผมบอก
"มึงก็เนียนๆเข้าไปกอด ไปง้อแม่ไรงี้ดิ เดี๋ยวเค้าก็ใจอ่อน"
"กูไม่กล้าว่ะ"
"แล้วนี่พ่อกับแม่มึงรู้ยังวะอั๋น" ต้าร์แทรก
"ยังไม่รู้"
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งความกังวลของทั้งผมและอั๋น ถ้าพ่อแม่อั๋นรู้ขึ้นมาบ้างจะเป็นอย่างไรนะ
"ตอนนี้ไม่มีประโยชน์ที่จะมากังวลเรื่องที่ยังไม่เกิดหรอก" ต้าร์พูดต่อไป "ถ้าพ่อแม่ไอ้อั๋นรู้เรื่องก็อาจจะรับได้ก็ได้...แต่ถึงรับไม่ได้ มันก็เหมือนกับที่พวกมึงกำลังเจออยู่ กูว่าสิ่งที่เราจะทำได้นะ...พวกมึงต้องพิสูจน์ให้เห็นว่ามึงสองคนรักกันจริงๆ ไม่ใช่เล่นกัน แล้วก็จะทำตัวดี ไม่สร้างปัญหาให้เค้าหนักใจ แบบคบกันแล้วพาไปทางที่ถูกน่ะ"
ผมอึ้งกับคำแนะนำของต้าร์ มันทั้งมีเหตุมีผลและเป็นความจริงเสียจนปฏิเสธไม่ได้
"เชี่ย นี่ใช่มึงจริงๆหรอวะต้าร์" นนท์จับหน้ากับตัวต้าร์
"เออ ให้กูมีสาระบ้างไม่ได้รึไง" นนท์หัวเราะเสียงลั่น
"จริงของมึง มานั่งห่วงเรื่องพ่อแม่กูจะรู้ไปก็ไม่ได้อะไร ตอนนี้ควรห่วงเรื่องแม่หมอก่อน" อั๋นเลื่อนมากุมมือผม
"แม่จะยอมเปิดใจแล้วให้โอกาสเราทำให้เห็นอย่างไอ้ต้าร์บอกมั้ย" ผมถามอย่างอับจนหนทาง
"กูจะพยายาม เราต้องทำให้ได้" อั๋นบอก

ที่ย้ายไปอ่านหนังสือสอบที่บ้านอั๋นแทนก็เพราะแม่ครับ ผมไม่แน่ใจว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าไปที่บ้านผม
"แล้วบอกแม่รึยัง" อั๋นถามหลังขับมอเตอร์ไซด์ออกมาจากบริเวณโรงเรียน
"ยังอะ ตอนแรกว่าจะบอก แต่พอเห็นแม่เป็นแบบนั้นเลยไม่กล้า"
"เดี๋ยวตอนไปส่งมึงกูขอเข้าไปในบ้านนะ"
"เอ่อ จะดีเหรอ"
"ไม่มีไรหรอก"
"มึงจะทำอะไร"
อั๋นไม่ตอบ
เมื่อเรามาถึงบ้านอั๋น อั๋นเดินตรงเข้าไปในครัวทันที
"หิวมั้ยหมอ"
"นิดหน่อย"
"แต่กูหิวมากเลย"
"จะทำไรกินปะ เดี๋ยวกูช่วย"
"ไม่ๆ มีผลไม้อยู่ในตู้เย็น...กินนิดเดียวพอ เดี๋ยวกินข้าวละ" อั๋นเดินกลับออกมาพร้อมกล่องผลไม้ ข้างในมีส้มกับแอปเปิ้ลที่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ
"มาๆ เริ่มกัน"
ผมตามไปนั่งลงที่โต๊ะตัวยาว หยิบส้มหนึ่งชิ้นเข้าปากแล้วก็ถูกตีมือ
"ไปล้างมือก่อนเลย"
ผมนิ่วหน้าก่อนจะทำตามที่อั๋นสั่ง
"อะ กินได้"
"ดุว่ะ"
อั๋นขยี้หัวผมจนยุ่ง ผมมองสบตามันแล้วเห็นอะไรหลายๆอย่างผ่านสายตาที่มองกลับมา
ผมขยับตัวเข้าไปหาอั๋น หยิบชิ้นแอปเปิ้ลในมือมันวางกลับไปไว้ในกล่อง และจูบมัน มันจูบตอบอย่างอ่อนโยน
"อ้อนอ่อ" อั๋นถาม ยิ้มน้อยๆหลังเราผละออกจากกัน
"ก็อยากจูบอะ" ผมรู้สึกเหมือนว่าเวลาที่ได้อยู่กับมันจะใช้ยังไงก็ไม่คุ้ม ผมไม่รู้ว่าเราจะมีความสุขแบบนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน
อั๋นดึงผมมานั่งบนตักและกอดเอว
"อยู่แบบนี้สักเดี๋ยวนึงนะ..." อั๋นกระซิบที่หู
ผมเข้าใจแล้วว่าเวลาที่เราลำบาก ท้อแท้ ผิดหวัง หรือรู้สึกไม่ดีกับเรื่องอะไรก็ตามในชีวิต กำลังใจจากคนรักเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เราก้าวต่อไปได้ แค่อั๋นปลอบประโลมผมด้วยสัมผัสก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นได้
ผมชอบถูกมันกอด
"ป้อนส้มหน่อยดิ"
ผมหยิบชิ้นส้มอีกชิ้นใส่ปากอั๋น
"อือ...ชิ้นนี้ไม่หวานเท่าชิ้นเมื่อกี้เลย" อั๋นจิ้มเบาๆที่ตัวผม ผมยิ้ม
"แน่นอน"
อั๋นหัวเราะ
"ป้อนกูมั่งดิ" ผมให้อั๋นป้อนแอปเปิ้ลให้บ้าง

อั๋นมาส่งผม ถึงบ้านตอนสามทุ่มครึ่งพอดี เรามองหน้ากันอย่างกล้าๆกลัวๆก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านช้าๆ
"คุณ ใจ..."
"หมอ"
แม่เรียกเสียงดังทันทีที่ผมเปิดประตูบ้าน ตัดบทพ่อ
"คะ...ครับ"
"ไปไหนมา"
"ไปบ้านอั๋นมาครับ" แม่จ้องผมตาดุ ผมหลบตาแม่
"แม่พึ่งบอกเมื่อวานไม่ใช่เหรอว่าแม่รับไม่ได้ แล้ววันนี้เรายังจะ..."
"แม่ครับ"
"หมอไม่ต้องพูด แล้วฟังแม่" แม่ตะคอก
แม่ไม่เคยตะคอกใส่ผมมาก่อนเลย
"คุณ ฟังลูกก่อน" พ่อขัด
ผมหันไปหาอั๋น อั๋นคว้ามือผมแล้วเดินเข้าไปหาแม่ ผมตกใจเบิกตากว้าง
"แม่ครับ เรารักกันจริงๆครับ...ขอโอกาสให้ผมกับหมอด้วยครับ"

-จบตอน-

โอย อั๋นมีความชัดเจนและกล้าหาญมาก ดีมากๆ ขุ่นพ่อไฟเขียวแล้ว แต่ขุ่นแม่นี่สิ ดราม่ามาอีกละค้าบ เป็นกำลังใจให้อั๋น-หมอต่อไปด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) Season2 : ตอนที่40
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 15-12-2016 21:34:40
 :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6:

คุณแม่ไม่สงสารลูกเหรอ คุณแม่น่าจะสังเกตดูบ้างว่าเวลาหมอกับอั๋นอยู่ด้วยกันแล้วเป็นยังไง
แล้วตอนที่คุณแม่รับไม่ได้หมอมีอาการเศร้าเสียใจแค่ไหน

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) Season2 : ตอนที่40
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 16-12-2016 15:51:21
ไรท์ เขียนดีมาก ไหลลื่น  เรื่องชวนติดตาม :mew1: :mew1: :mew1:
อ่านแล้วเหมือนเรื่องเล่าเลย มีเสน่ห์ ชอบบบ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
อั๋น หมอ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ทั้งคู่รักกัน ช่วยกันพยุงกันให้อีกฝ่ายดีขึ้น
จริงแล้ว อั๋น เป็นฝ่ายประคับประคอง
ฉุดให้หมอ กระเตื้องขึ้น ดีขึ้น
แม่ของหมอ รู้ทั้งรู้ว่าลูกตัวเอง
ปกติหมอ มีนิสัย การเรียนเป็นอย่างไร
คบกับอั๋น แล้วเป็นอย่างไร
กลับไปคิดแต่เรื่องรักเพศเดียวกัน
ควรให้เด็กพิสูจน์ตัวเองว่าคบกันแล้ว
พากันดีขึ้น หรือเลวลง
อย่าคิดแต่หน้าตา ความสุขของพ่อแม่ฝ่ายเดียว
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) Season2 : ตอนที่41
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 18-12-2016 15:27:58
ตอนที่41

อั๋นจับมือผมไว้แน่น
"ผมกับหมอ...เรารักกันจริงๆนะครับ"
แม่มองมาที่เราสองคนอย่างผิดหวัง
"ยังไงแม่ก็คิดว่าสิ่งที่พวกเราทำมันไม่ถูก ไหนจะที่ปิดเรื่องคบกันกับแม่อีก...พ่อแม่อั๋นก็คงยังไม่รู้เรื่องใช่มั้ย"
"ครับ แต่ผมตั้งใจจะบอกอีกไม่นานนี้" อั๋นตอบอย่างหนักแน่น
"คงไม่ต้องบอกแล้วล่ะ...เพราะแม่ไม่ยอมให้หมอเป็นแฟนกับอั๋น แม่ไม่อนุญาต"
ผมแทบล้มทั้งยืนกับคำขาดของแม่
อั๋นกับพ่อผมมีสีหน้าตื่นตะลึง
"คุณ..."
"ได้ยินที่แม่พูดแล้วนะ หมอ อั๋น...ตั้งแต่นี้ไป แม่ขอสั่งห้ามไม่ให้สองคนไปไหนมาไหนด้วยกันอีก"
"แม่" ผมร้อง
"แม่ครับ ขอโอกาส..." อั๋นกำลังจะพูดต่อแต่ถูกเสียงแม่ผมกลบหมด
"ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว แม่บอกว่าไม่ให้คบกันก็คือไม่"
ผมน้ำตาร่วง และพูดคำต่อไปออกมาโดยไม่รู้ตัว
ไม่
"หมอ" แม่ตวาด
"ไม่ หมอไม่เลิกกับอั๋น ไม่มีทาง"
"หมอ ไม่เชื่อที่แม่บอกเหรอ" แม่ร้องไห้ออกมาอีกคน จะตรงเข้ามาหาผมแต่พ่อฉุดแขนไว้
"อั๋นกลับบ้านไปก่อนนะลูก"
"เอ่อ..."
"พ่อ" ผมร้องอีก
"เชื่อพ่อ อั๋นกลับไปก่อน" พ่อสั่งเสียงเข้ม
"คะ ครับ" อั๋นรับคำ ผมหันไปหามัน เห็นน้ำตารื้นขึ้นมาที่ดวงตาของอีกฝ่าย ไม่อยากให้มันกลับไปเลย มันพยักหน้าให้ผมและค่อยๆเดินออกไป
ผมมองตามอั๋นไปจนเห็นมันขับมอเตอร์ไซด์ผ่านหน้าบ้านไปด้วยใจที่แตกสลาย

หันกลับมาเห็นพ่อยังคงรั้งแม่ไว้อยู่เช่นเดิม แม่สะอึกสะอื้น
"ทำไม ทำไมหมอถึงทำแบบนี้...หมอไม่เคยไม่เชื่อฟังแม่"
"คุณ"
"แม่" ผมรู้สึกทั้งโกรธทั้งเสียใจ ตะโกนลั่นอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ "หมอไม่ยอมเลิกกับอั๋นเด็ดขาด ไม่ว่าแม่จะว่ายังไง"
"หมอ" ทั้งพ่อและแม่ร้อง
ผมวิ่งขึ้นไปข้างบนบ้าน ปิดประตูห้องแล้วล็อคกลอนทันที

ผมร้องไห้อย่างไม่อาย ปลดปล่อยความเศร้าโศกเสียใจที่มีอยู่ออกมาเต็มที่
ผมรู้และเข้าใจว่ารักร่วมเพศไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะยอมรับ เข้าใจความคาดหวังของคนเป็นพ่อแม่ที่อยากให้ลูกชายแต่งงานมีครอบครัวที่ดี เข้าใจว่าถ้าตัวเองมีโอกาสเป็นพ่อคนก็คงต้องการแบบนั้น
ผมเองก็อยากเป็นลูกที่ดี ทำให้พ่อแม่ภูมิใจ
แต่กับเรื่องนี้ ผมทำให้ไม่ได้จริงๆ
เพราะผมรักอั๋นไปแล้ว
ผมเองเคยนึกสงสัยสิ่งที่ตัวเองเป็น ผมก็เติบโตมาเป็นผู้ชายตามปกติ ชอบผู้หญิง ตอนนี้ก็ยังมองผู้หญิงที่สวยหุ่นดีอยู่ปกติ และไม่รู้สึกกับผู้ชายคนอื่นเลย
ยกเว้นแต่อั๋น

ผมร้องไห้จนหลับไป รู้สึกตัวตื่นขึ้นเองก็ตีหนึ่งกว่าๆเกือบจะตีสอง สำรวจตัวเองกับกระจกก็พบตาที่แดงก่ำและคราบน้ำตาเต็มใบหน้า
ผมคว้าผ้าเช็ดตัวขึ้นพาดไหล่ เดินออกจากห้องเตรียมจะอาบน้ำ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นพ่อกับแม่นั่งคุยกันอยู่ที่โต๊ะอาหาร
ไม่ต้องสงสัยเลย พวกท่านกำลังคุยเรื่องผมอยู่แน่ๆ
ผมลังเลอยู่นานว่าจะแอบฟังหรือไม่ ประเด็นคือกลัวสิ่งที่จะได้ยิน แต่สุดท้ายผมก็ยืนหลบอยู่ในมุมมืดบริเวณปลายบันไดชั้นบน
ด้วยเป็นเวลาดึกมากแล้ว ไม่มีเสียงอื่นใดนอกเหนือจากเสียงพวกท่านคุยกันที่ได้ยินชัดเจน
"ลูกเสียใจมากนะ คุณก็เห็นนี่" พ่อพูด หรี่ตาเล็กลง จากตรงนี้ผมมองเห็นแววตาที่แฝงไปด้วยความเครียดได้ชัดเจนด้วยซ้ำ
"ใช่ค่ะ แล้วคุณจะให้ฉันทำยังไง...ฉันพูดไปกี่รอบแล้วว่าฉันยอมรับไม่ได้"
"คุณต้องยอมรับให้ได้ เรื่องแบบนี้ไม่ใช่ว่าเกิดขึ้นแล้วจะหายหรือเลิกได้"
"ฉันถามคุณหน่อยนะ" แม่พูดเสียงเรียบ ดูใจเย็นขึ้นมากจากตอนที่ทะเลาะกับผมเมื่อหลายชั่วโมงก่อน แต่ยังอยู่ในท่าทางที่พร้อมจะคัดค้าน "คุณไม่อยากให้หมอคบกับผู้หญิง มีอนาคตดีๆ มีหลานให้เราเลี้ยง เหมือนคนทั่วๆไปเหรอ"
"อยากสิ" พ่อตอบทันที ไม่ลังเล "ผมฝันมาตลอดตั้งแต่เจ้าหมอมันโตว่าอยากเห็นภาพแบบนั้น"
"แล้วทำไม..."
"แต่ลูกเราเป็นแบบนั้นไม่ได้ หมอไม่ได้ชอบผู้หญิง และคุณจะไปบังคับให้หมอทำยังงั้นไม่ได้"
"งั้นแสดงว่าคุณรับได้แล้วเหรอ"
"ผมตอบไม่ได้เต็มปากหรอกนะว่ารับได้ แต่ผมกำลังพยายาม..."
มาถึงตรงนี้ แม้ผมจะดีใจที่พ่อให้โอกาส แต่ก็เสียใจที่รู้ว่าท่านต้องอดทนมากแค่ไหนเพื่อผม
"ผมเล่าให้คุณฟังไปแล้วว่าคุยกับหมอ ถามลูกว่าให้เลิกคบกันได้มั้ย ลูกบอกว่าไม่ แล้วก็ยืนยันว่ารักอั๋น...เมื่อเย็นอั๋นก็พูดว่ารักลูกเรา...ถ้าเรายังไปกีดกันเขา พวกเขาก็ไม่มีความสุขน่ะสิ"
"..."
"ที่เราสองคนทำอยู่ตอนนี้ก็เพื่อหมอ เพื่อความสุขของหมอไม่ใช่หรือ"
"..."
"แล้วที่คุณบอกว่าอยากให้ลูกมีอนาคตที่ดี ใช่ ทำไมผมจะไม่อยากให้ลูกเป็นแบบนั้นล่ะ แต่คบกับผู้ชายก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีอนาคตนี่...อั๋นก็ช่วยหมอเรื่องเรียน ไปรับส่ง ดูแลลูกเราอย่างดี...ที่สำคัญ ลูกอยู่กับอั๋นแล้วก็มีความสุขด้วย"
"คุณ" แม่เรียกพ่อเสียงเบา
"ผมเข้าใจคุณทุกอย่าง...คุณจำได้มั้ยว่าหมอแทบไม่เคยมีเรื่องหรือทำอะไรให้เราเสียใจ มาคิดดูให้ดี เรื่องนี้หมอก็ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ...จะผิดก็แค่ที่โกหกปิดบังเรื่องนี้พวกเรานั่นแหละ"
"..."
"คุณจะลองเปิดใจได้มั้ย เพื่อลูกเรา..."

ผมไม่รู้ว่าคำตอบของแม่คืออะไร เพราะเดินเข้าห้องน้ำไปเงียบๆ หัวใจผมพองโตขึ้นจากที่ฟังคำพูดของพ่อ

เช้าวันต่อมา ผมตื่นขึ้นอย่างง่วงงุนด้วยเสียงนาฬิกาปลุกและเสียงโทรศัพท์จากอั๋น เมื่อคืนผมไม่ได้รับสายอั๋นเพราะเผลอหลับไป แต่ไลน์ไปหาตอนดึกหลังฟังพ่อกับแม่คุยกัน
ผมยังไม่ทันลุกจากเตียง อั๋นก็โทรศัพท์มา
"ฮัลโหล"
(หมอ ตื่นแล้วใช่มั้ย เป็นไงมั่ง กูเป็นห่วงมึงแทบแย่) ปลายสายพูดรัวเร็ว
"พึ่งตื่นเลย หาววว" ผมหยุดพักกลางประโยคเพราะหาว "เมื่อคืนกูหลับไปตอนมึงโทรมา"
"แม่หมอ...ว่าไงบ้าง" เสียงอั๋นยังแสดงความกังวลชัดเจน
"กู...เดี๋ยวเล่าให้ฟังระหว่างทางไปโรงเรียนนะ"
"ครับ แต่หมอไม่เป็นอะไรใช่มั้ย"
"อือ อีกเดี๋ยวออกมารับกูได้เลยนะ กูอาบน้ำแปบ..."

ผมลงมาข้างล่างก็ต้องแปลกใจ เพราะเห็นพ่อกับแม่จ้องมองมา สีหน้าแม่บ่งบอกความไม่มั่นใจ ทั้งคู่นั่งอยู่ด้วยกันที่โต๊ะอาหาร
ผมรู้สึกผิดเรื่องที่ตะโกนใส่พวกท่านเมื่อวาน เท้าจึงชะงักอยู่กลางบันได
"ลงมาสิลูก" พ่อเอ่ย
ผมพยักหน้ารับก่อนจะค่อยๆไต่บันไดลงมา เม้มริมฝีปากด้วยความกังวล
"เช้านี้แม่เค้าทำข้าวผัดให้ มี2กล่อง...อีกกล่องเอาให้อั๋นนะลูก" พ่อชี้ไปที่กล่องข้าวและขวดนมจืดที่ใส่ถุงผ้าเตรียมรอไว้เรียบร้อยแล้ว
"ขะ ขอบคุณครับ" ผมก้มหน้าลง รีบคว้าถุงผ้าแล้วเดินออกไปหน้าบ้านทันที ไม่กล้าสบตาแม่ เพราะเห็นเหมือนแม่กำลังจะพูดอะไรขึ้นมา
แต่พ่อก็เดินตามมาแล้วส่งเสียงมาจากประตู
"เย็นนี้กลับบ้านเร็วหน่อยนะลูก พ่อกับแม่มีเรื่องอยากคุยด้วย...ชวนอั๋นมาด้วยล่ะ"
ผมนิ่งอึ้ง หันไปมองก็เห็นรอยยิ้มสดใสของพ่อ พ่อพยักหน้าเบาๆให้แล้วเดินกลับเข้าไป
จะคุยด้วยอย่างนั้นหรือ

แล้วผมก็เล่าให้อั๋นฟังตั้งแต่ที่ขึ้นนั่งมอเตอร์ไซด์ว่าผมตะโกนใส่พ่อกับแม่ว่าผมไม่ยอมเลิกกับมัน และเรื่องที่ผมได้ยินพ่อกับแม่คุยกันกลางดึกด้วย อั๋นรับฟังอย่างเดียวไม่พูดอะไร จนนั่งลงที่โรงอาหารของโรงเรียน
"ขอบคุณนะที่บอกกับพ่อแม่ยังงั้น" อั๋นยิ้ม ซึ้งใจที่ผมยืนยันว่ายังไงผมก็จะคบกับมัน "แต่ทำแบบนั้นก็ไม่ถูก...อย่าไปตะโกนใส่พวกเค้าอีกนะ" อั๋นเสริมเสียงอ่อนโยน ลูบหัวผมเบาๆ
"อือ" ผมตอบรับเสียงค่อย "กูยังรู้สึกผิดอยู่เลย"
"เดี๋ยวหมอต้องไปขอโทษพ่อแม่นะ" ผมพยักหน้า
"เออ...แล้วเย็นนี้ พ่อบอกว่าอยากคุยด้วย ให้มึงมาด้วยนะอั๋น"
อั๋นตกใจเล็กน้อย
"เหรอ...อือ ได้สิ ดีเหมือนกัน"
เมื่อเห็นว่าผมยังไม่หายเครียด อั๋นจับมือผมมากุม
"ไม่ต้องกลัวนะหมอ กูอยู่ด้วย ยังไงกูจะช่วยมึงเต็มที่"

ต้าร์ นนท์ เอก รวมถึงเพื่อนคนอื่นๆในห้องไม่มีใครมีแก่ใจแหย่หรือแกล้งผมเลย ผมรู้สึกว่าวันนี้ตัวเองถอนหายใจไปหลายสิบครั้งได้ อั๋นคอยให้กำลังใจผมอยู่ตลอดเวลา ไม่ดึงมือผมมากุมก็ลูบหัวผมเบาๆด้วยความอ่อนโยน
ผมตัดสินใจว่าจะกลับถึงบ้านสักหนึ่งทุ่ม กะเวลาให้พ่อกลับจากบริษัทมาแล้วเพราะไม่กล้าเผชิญหน้ากับแม่คนเดียว
"งั้นเย็นนี้ไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดรอแล้วกัน หรือถ้าไม่อยากอ่านก็ได้นะ" อั๋นถามตอนเวลาพักสั้นๆช่วงบ่าย
"ได้ อ่านดิ" อ่านหนังสือเรียนผมจะได้เลิกคิดถึงเรื่องนี้บ้างสักที
"ถ้าวันนี้อยากพักก็บอกได้นะ ครูให้พักหนึ่งวัน" อั๋นยิ้มบางๆ ผมรู้ว่ามันเป็นห่วงความรู้สึกผม
"ไม่เป็นไร อ่านเถอะ"

หลังเสียงกริ่งหมดเวลาเรียนดัง ผมกับอั๋นร่ำลาเพื่อนพร้อมรับคำอวยพรให้โชคดีสำหรับเย็นนี้ แน่นอนว่าเราเล่าเรื่องทั้งหมดให้พวกมันรู้
เราสองคนตรงไปยังห้องสมุดและเลือกโต๊ะตัวยาวที่อยู่ด้านในสุดของห้อง ช่วงนี้คนมาใช้ห้องสมุดเยอะเนื่องจากใกล้สอบแล้ว แต่เดินไปถึงก็ต้องหยุดชะงัก
พี่ก้องที่กำลังอ่านหนังสืออยู่คนเดียวเงยหน้าขึ้นมาสบตาพวกเราพอดี อั๋นจ้องเขม็งไปทางพี่ก้องและขยับเข้ามาโอบไหล่ผม
ไม่ใช่เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของอย่างเดียว แต่เพื่อคุ้มกันผมด้วย
พี่ก้องก้มหน้าลงและเก็บของใส่กระเป๋าก่อนลุกขึ้นเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
อั๋นยกแขนออกจากไหล่และดึงผมนั่งฝั่งเดียวกัน
"จะว่าไป ไม่ได้เจอมันตั้งนานแน่ะ" ผมบอก
"ดีแล้ว เจอทีไรกูก็ยังอยากตะบันหน้ามันอยู่ดี ยังแค้นไม่หาย" อั๋นกัดฟันตอบและมองไปทางที่พี่ก้องเดินออกไป
"มาอ่านหนังสือกันดีกว่า" ผมหยิบหนังสือวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐานพร้อมสมุดโน้ตขึ้นมา เลิกสนใจพี่ก้อง เค้าไม่ได้มายุ่งอะไรกับผมอีกเลยตั้งแต่จบงานกีฬาสี ซึ่งดีกับผมที่สุด
ผมค้นพบวิชาที่ยากรองจากภาษาอังกฤษแล้ว ไม่เข้าใจว่าทำไมเด็กสายศิลป์-คำนวณอย่างผมต้องมาเรียนเรื่องตารางธาตุด้วย อั๋นอธิบายไปได้สักพักก็มีคนมานั่งลงที่โต๊ะอีกฝั่งหนึ่ง
น้องแก้ว
พอน้องเค้าเห็นว่าผมกับอั๋นนั่งอยู่ด้วยกัน น้องก็รีบลุกขึ้นแล้วย้ายไปนั่งที่โต๊ะตัวอื่นทันที หูน้องแก้วเป็นสีแดงจัด
"ทำไมวันนี้เจอแต่โจทก์ทั้งนั้นเลย" อั๋นกระซิบกับผม
"นั่นดิ" ผมกระซิบตอบกลับไปแล้วหันไปสนใจเนื้อหาต่อ
หรือว่าที่เจอทั้งพี่ก้องทั้งน้องแก้วจะเป็นลางบอกเหตุไม่ดีของเหตุการณ์เย็นนี้นะ
ผมต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ คิดได้ดังนั้นก็ไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไปจากหัว
เราลุกขึ้นเตรียมออกจากห้องสมุดตอนหกโมงครึ่ง ขณะที่กำลังเก็บของ ผมเห็นว่าน้องแก้วกำลังจ้องมองมา เค้าสะดุ้งเล็กน้อยแล้วยกมือไหว้เรา
ผมกับอั๋นพยักหน้าให้เล็กน้อยแล้วเดินออกมา

เวลาที่ผมกลัวที่สุดมาถึง อั๋นจอดรถมอเตอร์ไซด์หน้าบ้าน ดับเครื่องแล้วเดินเข้าไปในบ้านพร้อมกัน
มันโอบแขนผมเดินไปด้วย
ผมไม่รู้ว่าพ่อกับแม่มีอะไรจะบอก แต่ผมรู้สึกว่าเรื่องทุกอย่างกำลังจะคลี่คลายลงวันนี้ ไม่ว่าจะในแง่ไหนก็ตาม
รอยยิ้มของพ่อตอนเช้าสร้างความหวังเล็กๆในใจผมหวังว่าแม่จะตัดสินใจและทำอย่างที่พ่อบอกเมื่อคืน
พ่อกับแม่นั่งรออยู่แล้วในห้องนั่งเล่น ผมกับอั๋นยกมือไหว้และนั่งลงเบียดกันที่โซฟาตัวเล็กสำหรับนั่งคนเดียวเพราะพวกท่านนั่งอยู่บนโซฟาตัวยาวตรงกลาง
"หมอ" พ่อเริ่ม "อั๋นด้วย แม่เค้ามีอะไรจะบอกน่ะลูก" พ่อหันไปพยักหน้าให้แม่
"แม่..." แม่ดูเหมือนจะพูดไม่ออก "คือ..."
ทั้งผมและอั๋นเงียบรอฟัง ผ่านไปหนึ่งนาทีเต็มๆจนแม่พูดออกมา

"แม่ขอโทษ...ที่แม่ทำไป มันไม่ดีเลย...แม่ไปขัดขวางความรักของเราสองคน"
ผมอ้าปากน้อยๆ ตกใจ พ่อส่งยิ้มมาให้
"แม่ไม่น่าทำแบบนั้นเลย แม่ขอโทษ...แม่อนุญาตให้หมอกับอั๋นคบกันแล้ว"

ผมน้ำตาไหลออกมาเป็นครั้งที่เท่าไรไม่รู้ในช่วงไม่กี่วันนี้ แม่ยอมให้เราคบกันแล้ว...
"แม่" เสียงที่ผมพูดออกมาแหบเหมือนไม่ใช่เสียงตัวเอง หลายความรู้สึกปนเปกันข้างในตอนนี้ ทั้งโล่งใจ ดีใจที่แม่อนุญาตและเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน
"แม่เข้าใจแล้วว่าเราสองคนรักกันจริงๆ และหมอมีความสุขเวลาอยู่กับอั๋น...แม่ขอโทษนะลูก"
ผมเดินเข้าไปกอดแม่ เราทั้งคู่ร้องไห้สะอึกสะอื้น
"หมอขอโทษนะครับ...เมื่อวาน..."
"จ้ะ" แม่ตอบเสียงสั่นเครือ
"อั๋นมานี่มา" พ่อยิ้มสดใส เรียกอั๋นให้เข้ามาหา
"แม่ขอโทษอั๋นด้วยนะลูก"
ผมพึ่งเข้าใจว่าร้องไห้เพราะดีใจมันเป็นยังไง
ตอนนี้ผมมีความสุขที่สุด

-จบตอน-

ในที่สุดขุ่นแม่ก็อนุญาตแล้วคร้าบ โอย กว่าจะมาถึงตรงนี้ เสียน้ำตากันไปมาก
ผมมองว่าปัญหาเรื่องครอบครัวไม่ยอมรับเป็นอุปสรรคใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งเลยล่ะ ในฐานะคนเขียนหวังเป็นอย่างยิ่งให้ทุกครอบครัวยอมรับความรักของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหนก็ตามครับ
ติดตามตอนหน้าด้วยครับ
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) Season2 : ตอนที่42
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 21-12-2016 21:43:02
ตอนที่42

"แม่ซื้อบัวลอยไข่หวานไว้ให้จ้ะ" แม่ยกชามขนมหวานมาให้ผมกับอั๋นหลังเราสองคนกลับจากโรงเรียนมาอ่านหนังสือในวันต่อมา
"ขอบคุณครับ" ผมกับอั๋นตอบพร้อมกัน หัวใจผมยังรู้สึกอุ่นจากที่แม่อนุญาตเราเมื่อวานอยู่
"ตั้งใจอ่านกันนะลูก แม่ไม่กวนละ"
ผมหันกลับไปหาอั๋นอีกทีก็เห็นยิ้มแก้มปริ
"ยิ้มไร" ผมถามกวนๆ
"ดีใจดิ แม่ยายปลื้ม" ผมส่ายหัวกับคำตอบ
"แม่ยายอะไร ยังไม่ได้แต่งงานสักหน่อย"
"อะๆ ว่าที่แม่ยายก็ได้ ไว้เราแต่งงานกันเมื่อไรค่อยเรียกแม่ยายเนอะ"
"เอาสินสอดมาให้ดูก่อนเหอะ ไม่ถูกใจกูไม่แต่งด้วยนะ"
"โห่ ถ้าหมอเรียกเยอะเกินแล้วอั๋นจ่ายไม่ไหวทำไง"
"ก็ไม่แต่งไง" ผมแกล้งยั่ว
"ไม่แต่งได้ไง" อั๋นยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วพูดประโยคต่อมาด้วยเสียงกระซิบ "มึงเป็นของกูแล้วนะ"
ผมหน้าแดงเป็นลูกตำลึงขึ้นมาเดี๋ยวนั้น
"ไอ้บ้า"
"ไม่ต้องห่วงนะคะ เดี๋ยวอั๋นจะรับผิดชอบหมอเอง" ไอ้อั๋นแกล้งพูดต่อไปพร้อมลูบหัวผม
"พอเลย หยุดพูด...ว่าแต่ไปติดคำว่าคะขามาจากไหนเนี่ย"
"ไม่รู้อะ แค่อยากพูดกับมึงหวานๆ"
"หวานๆ"
"เกรียนแตกอีกละ" อั๋นโบกหัวผม
"เห็นกูเป็นผู้หญิงอ่อ"
"เออ"
"สัส ถึงกูจะเป็นเมียมึงแต่ก็เป็นผู้ชายนะเว้ย" ผมพูดออกไปแล้วก็ต้องหน้าแดงขึ้นไปอีก อั๋นเองก็จับสังเกตได้เพราะมันอึ้งไปแล้วตามด้วยหัวเราะชอบอกชอบใจ
ผมไม่เคยพูดออกมาตรงๆว่าเป็นเมียอั๋นน่ะสิ

"นี่ ถึงเวลาพักยังอะครับครู ผมเหนื่อยแล้วนะ" ผมอ้อนอั๋น มันให้ผมนั่งอ่านหนังสือและจดสรุปมาได้เกือบ2ชั่วโมงแล้ว
"หือ จะพักแล้วอ่อ ผ่านไปแปบเดียวเองนะ"
"แปบเดียวพ่อง จะทุ่มนึงแล้วโว้ย โอ๊ย" อั๋นตีแขนผม
"บอกว่าอย่าลามปามพ่อผัวไงครับ ทุ่มอะไร หกโมงครึ่ง"
"ก้ใกล้ทุ่มมั้ยล่ะ" ผมเถียง
"เออๆ พักก็ได้"
ผมกระโดดลุกขึ้นแล้วเดินไปห้องครัวทันที
"แหม่ หิวข้าวก็บอกมาตรงๆเหอะไอ้ตัวแสบ" อั๋นเดินตามเข้ามาขยี้หัวผม
"มีอะไรกินครับแม่" ผมถาม
"ผัดกะเพราหมูกรอบกับปลาหมึก แล้วก็ต้มยำกุ้งจ่ะ" แม่ที่กำลังยืนผัดกับข้าวอยู่หันมาตอบ
"โหแม่ นี่มันของโปรดไอ้อั๋นนี่ แล้วของผมล่ะ ไม่เห็นมีเลย" ผมแกล้งส่งเสียงโอดครวญ
"วันก่อนพึ่งทำไปเองไง วันนี้ทำให้อั๋นมั่งสิ"
"ขอบคุณนะครับแม่"
"โห่ย เอาใจไอ้อั๋น ลืมผมไปเลยนะแม่" อั๋นหัวเราะ
"เอ๊ะ มาน้อยใจอะไรเนี่ย...แม่อุตส่าห์ตั้งใจทำต้อนรับลูกเขยเลยนะ" คำหลังแม่หันมายิ้มล้อ
ผมก็หน้าแดงไปตามระเบียบสิครับ
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงกับข้าวก็เสร็จ ผมกับอั๋นช่วยจัดจานและยกทุกอย่างมาวางที่โต๊ะอาหาร ตอนนั้นพ่อก็กลับมาพอดี
"หวัดดีลูก" พ่อรับไหว้ผมกับอั๋นและนั่งลงที่โต๊ะ "เป็นไง วันนี้เจ้าหมอยังขี้เกียจอยู่มั้ย"
ผมกระแอมเสียงดัง แต่อั๋นตอบไปว่า
"ตัวเป็นขนเลยครับพ่อ"
"ไอ้สัส"
พ่อหัวเราะลั่น ผมวิ่งไล่เตะอั๋นพร้อมโวยวายไปด้วย
"ไม่จริงนะพ่อ ตั้งแต่กลับมาหมอก็อ่านหนังสือตลอดเลย ไอ้อั๋นมันพึ่งให้พักเมื่อกี้เนี่ย มึงนะมึง"
"พ่อครับ แม่ครับ หมอจะทำอั๋นอีกแล้ว"
"บอกพ่อใหม่ดิ๊ว่ากูขยันแล้ว"
"ไม่บอก ก็มึงขี้เกียจนี่นา"
"หนอย..."
วิ่งให้ตายยังไงก็จับไอ้อั๋นไม่ได้ พ่อกับแม่หัวเราะที่เห็นผมกับอั๋นวิ่งไล่กันไปรอบบ้านเหมือนเด็กๆ สุดท้ายผมก็ยอมแพ้มานั่งลงที่โต๊ะอีกคน
"แม่ครับ คราวหน้าให้อั๋นมาช่วยตอนเข้าครัวสิ มันทำอาหารอร่อยมากเลยนะ"
"ดีเลย เอาไว้แม่จะเรียกมาทำนะลูก"
"ยินดีครับ" อั๋นยิ้มกว้าง
"หมอตักผัดกะเพราให้อั๋นสิลูก" พ่อบอก
ผมแกล้งตักแต่ใบกะเพรากับน้ำมันให้
"แน่ะ ไอ้ลูกคนนี้" พ่อเอ็ด
"เจ้าหมอนี่" แม่เอ็ด
"โหพ่อ แม่" ผมลากเสียงยาว "อั๋นมันชอบกินแต่ใบกะเพราครับ มันไม่ชอบเนื้อสัตว์" ต้องรีบแกล้งมันครับ มันไม่กล้าทำอะไรผมต่อหน้าพ่อกับแม่แน่นอน ถ้าอยู่กับมันสองคนผมคงโดนเอาคืนไปแล้ว- -
"ใจร้าย ใจคอจะให้กูกินแต่ผักเหรอ" อั๋นแอ๊บแบ๊วใส่
"เออ"
"ตักให้อั๋นใหม่เลยลูก" แม่บอก อั๋นยิ้มใหญ่
"ครับๆ" ผมตักให้มันเสร็จก็แลบลิ้นใส่
"ขึ้นข้างบนเมื่อไรมึงเสร็จแน่" อั๋นกระซิบกับผมตอนที่พ่อกับแม่หันไปคุยกัน
ผมสะดุ้ง คืนนี้มันจะทำอะไรผมล่ะเนี่ย

"หมอเป่าผมให้อั๋นหน่อยดิ" อั๋นอาบน้ำเสร็จก็หยิบไดร์ของผมพร้อมยื่นผ้าขนหนูผืนเล็กส่งให้
"เป่าเองไม่เป็นรึไง" ผมกวน
"อยากให้แฟนทำให้นี่ค้าบ" ถึงพูดอย่างนั้นแต่ก็นั่งลงข้างๆ เปิดไดร์เป่าและใช้ผ้าเช็ดผมอั๋นไปพร้อมกัน "บริการดีงี้ เดี๋ยวคืนนี้จัดหนักๆให้ตอบแทนนะ"
"ไอ้หื่น ใครขอมึง"
"แน่ะ ไม่อยากได้อ่อ"
"ไม่"
"ไม่อยากแต่เห็นร้องครางทุกทีเลย โอ๊ย" ผมทุบไหล่ไอ้อั๋นไป
"วันนี้ง่วงครับ จะนอน" ผมเฉไฉ
"ไม่ให้นอน"
"เป่าผมเองเลยไป"
"โอ๋ๆ ให้นอนๆ เดี๋ยวทำตอนนี้เลยมั้ย จะได้นอนเร็ว" อั๋นจับข้อมือผมแล้วมองมาด้วยสายตาหื่นกามสุดๆ
"เดี๋ยวก่อน" ผมรีบห้าม อั๋นหัวเราะ
เรานอนคุยเล่นกันพักใหญ่หลังจากนั้น และก่อนนอนผมก็โดนอั๋นเล่นงานจนหมดแรง- -

"ยินดีด้วยนะไอ้หมอ" ต้าร์ยิ้ม เมื่อผมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานให้ฟัง
"งี้พวกมึงจะร่อนการ์ดเมื่อไรครับ ไปดูฤกษ์มาแล้วรึยัง" นนท์ล้อเลียน
"เพ้อเจ้อ ยังไม่แต่งโว้ย" ผมด่า
"จะแต่งวันไหนก็อย่าลืมเชิญพวกกูด้วยแล้วกัน"
"กูไม่เชิญมึงหรอกเชี่ยนนท์ กูกลัวงานกูพัง"
"ต้าร์ มึงดูไอ้หมอดิ มันจะไม่ให้พวกเราเข้างานอะ" นนท์ทำเป็นเขย่าแขนต้าร์แล้วทำหน้าอ้อน(ตีน)สุดๆ
"ไอ้หมอมันไม่ได้ห้ามกูซะหน่อย มันหมายถึงมึงคนเดียว"
"เออ" ผมสนับสนุน
"เห้ย ไรวะ พวกเชี่ยนี่"
"แล้วแขนอะ เอาออกไปได้ละ กูขนลุก" ต้าร์พยายามแกะมือนนท์ที่กอดรัดมันไว้ ดูฝ่ายหลังจะเหนียวมากเพราะไม่ยอมปล่อย
"พี่ต้าร์รังเกียจน้องนนท์เหรอคร้าบ"
"ไม่รังเกียจ แค่ขยะแขยง"
"ไอ้สัส" ผมกับต้าร์หัวเราะที่ได้แกล้งนนท์
"เอาจริงๆมึงสองคนนี่ก็น่ารักดีนะ ถ้าไอ้ต้าร์ไม่มีเมย์ไปซะก่อน กูเชียร์ให้เป็นแฟนกับไอ้นนท์เลยว่ะ" ผมแกล้งแหย่ ไอ้นนท์มันชอบทำตัวติ๊งต๊อง แหย่ไอ้ต้าร์ทั้งวัน ส่วนไอ้ต้าร์มันก็นิ่งๆขรึมๆ ชอบทำหน้าเบื่อๆ นานๆทีจะทำตัวบ้าบอกับเค้าบ้าง มันเป็นพันธมิตรด่าไอ้นนท์กับผมตลอด
"เชี่ย ไม่เอา ใครเอาไอ้นนท์ก็บ้าแล้วไอ้หมอ"
"แหวะ กูอยากคู่กับมึงมากครับ" นนท์ประชดประชัน ปล่อยมือจากตัวต้าร์
"เออ กูเห็นด้วยกับหมอนะ" อั๋นพูดกลั้วหัวเราะ เดินกลับเข้ามาในห้องเรียนและมายืนข้างหลัง วางมือบนไหล่ผม
"ไม่ต้องมาจิ้นกูอีกคนเลยไอ้อั๋น มึงกับไอ้หมอสองคนพอ" ต้าร์ขัด
"เอ้า ไม่จิ้นได้ไงวะ ทีพวกมึงยังจิ้นกูกับหมอมาตั้งแต่ต้นเลย" อั๋นบอก
"ก็พวกมึงสองคนมันผัวเมียกลับชาติมาเกิดชัดๆ" นนท์ย้อน พวกเราที่เหลือหัวเราะ
"ห้องเราจะมีใครคู่กันเพิ่มอีกวะ" เอกพึ่งมาถึงห้องเรียน นั่งลงและเริ่มต้นลอกการบ้านของอั๋นทันที
"ไอ้ต้าร์กับไอ้นนท์" ผมตอบ
"เออ กูเชียร์ให้พวกมึงได้กัน" เอกหัวเราะ มือปั่นงานยิกๆ
"สาด ไม่เอา พอๆ" นนท์ร้องโหยหวน เรียกเสียงหัวเราะให้ทุกคนในห้องอีกครั้ง "เมื่อกี้เรากำลังคุยเรื่องงานแต่งไอ้อั๋นไอ้หมออยู่โว้ย" มันรีบเปลี่ยนเรื่องหนีทันที
"ก็บอกแล้วไงว่ากูไม่ให้มึงเข้างาน"
"เรื่องมึง กูขอไอ้อั๋นก็ได้ อั๋นนน"
"ไม่ได้ว่ะ หมอว่าไงกูก็ว่างั้น" ผมหัวเราะกับคำตอบของอั๋น
"ไอ้พวกเพื่อนชั่ว"
"ไม่เป็นไรนะเว้ยนนท์" ต้าร์ทำเป็นตบหลังปลอบใจเพื่อน

ตั้งแต่นั้นอั๋นกับผมก็อ่านหนังสือด้วยกันทุกวัน ไม่อยู่บ้านผมก็บ้านอั๋น ผมรู้สึกว่าตัวเองรู้อะไรขึ้นมากกว่าตลอดชีวิตการเป็นนักเรียนที่ผ่านมาเสียอีก และมั่นใจว่าผลการสอบปลายภาคนี้ต้องออกมาทำให้พ่อกับแม่ภูมิใจแน่ๆ

เมื่อการสอบปลายภาคสิ้นสุดลง ผม อั๋น และเพื่อนๆเกือบทั้งห้องก็จัดทริปไปเที่ยวที่เกาะสมุยกันครับ เดินทางด้วยรถตู้3คัน ไอ้ฟองเป็นคนหามาให้ เพราะที่บ้านมันทำธุรกิจนำเที่ยว ติดต่อกับบริษัทรถตู้เป็นปกติ
ส่วนที่พักก็ได้รีสอร์ทหรูและวิวดีที่สุด อภินันทนาการจากบ้านไอ้พีครับ พ่อมันเป็นเจ้าของ และแน่นอนว่าพวกผมได้พักฟรีตลอดทั้งทริปสี่วันสามคืน เป็นหัวหน้าห้องที่โคตรรับผิดชอบแถมยังโคตรรวยอีกเพื่อนผม
สองวันแรกหมดไปกับกิจกรรมที่รีสอร์ทจัดให้ครับ ไม่พ้นแนว adventure อยู่ที่ทะเล เกาะ ในที่พักก็มีครับ สนุกมาก
วันที่สามมาถึง แต่แพลนกิจกรรมของพวกเราจบไปเรียบร้อยแล้ว วันนี้เลยได้แต่นั่งๆนอนๆคุยเล่นกันครับ มาพร้อมกันทุกคนก็บ่ายโมงเข้าไปแล้ว เมื่อคืนก๊งเหล้ากัน ได้ยินว่าไอ้นนท์ที่อยู่เป็นคนสุดท้ายกับไอ้พริกเลิกวงกันตอนตีสี่ ผมนี่สยอง ขนาดคอทองคำที่สุดอย่างไอ้เอกยังอยู่ไม่ถึง
ส่วนผมน่ะเหรอ ห้าทุ่มกว่าก็โดนอั๋นสั่งให้กลับห้องแล้วล่ะครับ- -
คืนนี้พวกเราก็ออกมาตั้งวงกันหน้ารีสอร์ทอีกเช่นเคย บรรยากาศดีสุดๆเพราะอยู่ริมทะเล อากาศเย็นสบายด้วยแอร์ธรรมชาติ ไอ้เอกเอากีต้าร์ออกมาดีดเพลงโดนใจวัยว้าวุ่น เห็นเถื่อนๆดิบๆอย่างมันก็มีอารมณ์ศิลปินนะครับ เล่นเก่งด้วย แต่ยังหาคนร้องเพลงเพราะไม่ได้สักคนในห้องผม
"อั๋น ว่ากูกินเยอะ มึงก้กินไม่น้อยนะ" ผมเอ็ด ก็แฟนผมมันเติมแล้วก็ยกแก้วดื่มเอาๆ
"ก็หมอคออ่อน เลยไม่อยากให้กินเยอะ แต่อั๋นกินเยอะไม่เป็นไรไงครับ" อั๋นตอบอย่างใจดี โอบไหล่ผม
"ขี้โกง ทำไมกูคออ่อนอยู่คนเดียว"
"ดีแล้ว ถ้าอั๋นคออ่อนอีกคน ใครจะดูแลหมอล่ะคะ"
"เออ" ผมยอมรับ
"แหม่ พูดกับเมียนี่พูดเพราะจังนะ ทีกับกูนะไอ้อั๋น" เอกกระแนะกระแหนก่อนที่จะขึ้นเพลงใหม่
"เอ้า พูดเพราะกะเมียก็ผิดอีก จะเอาไงกะผมครับคุณเอก" อั๋นตอบพร้อมยิ้มขำ
ไอ้หมอมึงไม่เห็นพูดดีกับไอ้อั๋นมั่งเลย
"อั๋นจ๋า รินให้หมอหน่อย" ผมยกแก้วเปล่าของผมยื่นให้ อั๋นไม่ทันนึกจึงเทเหล้าใส่ลงไป ผมรีบเทชเวปส์ลงไปเป็น mixer อย่างรวดเร็ว
"เห้ย หมอ อีกแก้วแล้วอ่อ"
แต่ไม่ทันแล้วครับ อั๋นกำลังจะดึงแก้วไป แต่ผมดื่มไปเกือบครึ่ง
"โดนเมียต้มซะตุ๋นเลยนะไอ้อั๋น" นนท์ว่าก่อนทุกคนจะหัวเราะ
"ไอ้ตัวแสบ" อั๋นมองผมตาเขียว "แก้วสุดท้ายนะหมอ"
"ก็ได้" ผมทำปากยื่น
"ทำไมวันนี้ไอ้หมอเป็นฝ่ายยอมวะ กูเห็นปกติกดไอ้อั๋นเอาๆ" ต้าร์ถามผม แต่อั๋นเป็นคนตอบ
"เมียดื้อผัวก็ต้องปราบมั่งดิ"
แล้วเอกก็ขึ้นคอร์ดเพลงที่ผมคุ้นเคย แค่ intro ผมก็รู้ทันทีว่ามันกำลังจะเล่นเพลงอะไร
"เห้ยเอก เพลงนี้กูชอบ"
เอกยิ้ม เหมือนมันจงใจเลือกเพลงนี้ให้ผมกับอั๋น

'อาจจะดูเหมือนไม่มีอะไรที่แปรผัน อาจจะดูเหมือนทุกวันที่ผ่านมา...'

"เพลงไรวะหมอ" อั๋นถาม
"ชื่อเพลง 'เพื่อน' ไง"
"ไม่เห็นเคยฟัง"
"ฟังดิ ความหมายดีนะเว้ย" ผมกุมมืออั๋น สื่อความรู้สึกออกไป ผมคิดว่าเพลงนี้มันตรงกับเราสองคนที่สุดแล้ว

'...ใช่มันจะน้อยลง แปลกตรงที่มันดันเพิ่ม ก่อตัวเกินกว่าเพื่อนจะคิดกัน

หากเธอนั้นได้รู้อะไรบางอย่าง ว่าคนที่เคยเคียงข้าง บางอย่างได้เปลี่ยนไป
อยากจะรู้ว่าเธอรับได้หรือไม่ และฉันต้องทำอย่างไร เมื่อเพื่อนคนนี้เปลี่ยนไปเป็นรักเธอ...'

ผมร้องท่อนพรีฮุคและฮุคตามเอก เพื่อนอีกหลายคนที่รู้จักเพลงนี้ก็ร้องคลอไปด้วย
เสียงปรบมือดังเปาะแปะเมื่อเพลงจบ
"หมอ" อั๋นกำลังยิ้มกว้าง
"มึงชอบเพลงนี้มั้ย" ผมถาม หน้าแดงก่ำเพราะถูกอั๋นจ้องมองใกล้ๆ
"ชอบสิ ชอบเสียงหมอร้องเพลงด้วย"
"บ้าดิ กูร้องเพี้ยนด้วยเมื่อกี้" ผมหลบตา
"นิดเดียวเอง...ไปตรงนู้นกันแปบนึงดิครับ" อั๋นดึงแขนผมลุกขึ้น เพื่อนๆส่งเสียงโห่แซว
"ไปไหน" ผมรู้สึกว่าหน้าร้อนผ่าวจนใกล้จะระเบิดโดยไม่เกี่ยวกับฤทธิ์แอลกอฮอล์แต่อย่างใด
"มาเหอะน่า"
"ไปไหนวะพวกมึง" นนท์ร้องถาม
"ให้เวลาครอบครัวเค้าหน่อยน่า" ต้าร์แทรก อั๋นหันไปพยักหน้าเป็นการบอกขอบใจ
"เดี๋ยวพวกกูมา" อั๋นตอบก่อนจะพาผมตรงไปยังต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ไกลจากบริเวณที่เราตั้งวงกันพอสมควร

"ที่ร้องเมื่อกี้จะบอกอะไรกูอ่อ" อั๋นถามทันทีเมื่อเรามายืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ จากตรงนี้มีแสงจากดวงจันทร์ส่องลงมาถึงน้อยๆ
"ป่าวนิ" ผมเขิน
"ไม่ต้องเขินน่า" อั๋นปล่อยมือผมแล้วยกขึ้นมาประคองแก้มทั้งสองข้างแทน "ไหนบอกมาดิ"
"กู...กูแค่จะบอกว่า...เพลงนี้มันตรงกับเราสองคนเท่านั้นแหละ"
"จริงๆมันตรงกับกูคนเดียวมากกว่านะ" อั๋นพูด
"ทำไมอะ"
"ก็กูแอบรักมึง กลัวว่ามึงจะคิดกับกูแค่เพื่อน กังวลทุกอย่าง"
"มึงคนเดียวที่ไหนล่ะ...กู...กูก็หวั่นไหวนะ..."
อั๋นตาโตกับคำพูดของผม
"กูถามตัวเองตลอดว่ากูคิดกับมึงเกินเพื่อนรึป่าว"
"จริงอ่อ...แอบรักเค้าแล้วก็ไม่บอกนะ" อั๋นยิ้มยั่ว
"บ้า ไม่ได้รักซะหน่อย ตอนนั้นแค่สงสัยเว้ย"
"ปากแข็งจริงนะแฟนอั๋น...แล้วตอนนี้ล่ะคะ รักรึยัง"
"ยัง" เรื่องอะไรผมจะพูดคำนั้นล่ะ กวนตีนมันซะเลย
"พูดใหม่ซิ"
"ยัง"
"งั้นทำไงให้หมอพูดดีน้า" อั๋นยื่นหน้าเข้ามาจะจูบ
"ดะ เดี๋ยว"
"ครับ"
"รักก็ได้"
"เอาคำว่าก็ได้ออกไปหน่อย เหมือนโดนบังคับไงไม่รู้" อั๋นกระเง้ากระงอด ผมหัวเราะ

"หมอรักอั๋น" ผมยื่นหน้าเข้าไปกระซิบที่หูมัน
"อั๋นก็รักหมอครับ" อั๋นขยับเข้ามาจะจูบอีก ผมดันไว้ "ทำไม"
"เดี๋ยวเพื่อนมาเห็น"
"ตรงนี้ไม่มีใครหรอกน่า เราเดินมาไกลแล้วนะ...นะครับ" ท้ายคำอั๋นส่งเสียงออดอ้อน
"ก็ได้"
แล้วอั๋นก็ประกบปากเข้ากับปากผมอย่างนุ่มนวล ผมรับสัมผัสนั้นอย่างอบอุ่น เราสองคนกอดกันอยู่ตรงนั้นโดยไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร

ผมไม่คิดเลยว่าในชีวิตจะมีโอกาสได้เจอเพื่อนดีๆแบบอั๋น และยิ่งไม่คิดเข้าไปใหญ่ว่าเพื่อนคนนี้จะกลายมาเป็นคนรัก คนที่ผมแน่ใจว่าต่อจากนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เขาจะอยู่เคียงข้างและดูแลผมไปตลอด
ผมให้สัญญากับตัวเองว่าผมก็จะทำอย่างนั้นเพื่ออั๋นเหมือนกัน

-จบตอน-

เรื่องราวดำเนินมาถึงโค้งสุดท้ายแล้วนะครับ ความรักที่สวยงามของอั๋นกับหมอ ติดตามตอนจบตอนหน้าด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) Season2 : ตอนที่42
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 21-12-2016 22:25:07
เหลือครอบครัวอั๋นจะว่ายังไง

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) Season2 : ตอนที่43 END
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 25-12-2016 22:54:01
ตอนที่43(อั๋น)
ตอนอวสาน

4ปีต่อมา

ใครหลายคนคงไม่อยากจะลุกจากเตียงในเช้าวันเสาร์เท่าไรนัก ยิ่งเป็นเช้าที่อากาศเชื้อเชิญให้นอนหลับต่ออย่างสบาย แต่สำหรับผมตื่นเวลานี้ไปจนชินเสียแล้ว
แค่ลืมตาขึ้นมาเห็นคนที่นอนอยู่ในอ้อมกอดก็ทำให้วันใหม่ของผมเริ่มต้นด้วยความสดชื่น
หมอขยับตัวตามผมเล็กน้อย แต่ยังหลับปุ๋ยไม่รู้เรื่อง ผมเปิดผมที่ยาวลงมาปรกหน้าของหมอขึ้นแล้วจูบเบาๆลงไปที่หน้าผาก กลัวจะทำให้เจ้าตัวตื่น แต่ก็อดไม่ได้ที่จะทำทุกเช้า
ผมเคยทั้งหอมแก้ม ทั้งจูบปาก แต่ก็ทำให้คนขี้เซาอย่างมันตื่นได้ เลยลองเปลี่ยนมาประทับริมฝีปากที่หน้าผากแทน
ผมค่อยๆลุกขึ้นบิดตัวและเปลี่ยนจากเสื้อกล้ามกับกางเกงบ๊อกเซอร์เป็นเสื้อยืดตัวบางกับกางเกงกีฬาขาสั้น พร้อมสวมรองเท้าวิ่งคู่ใจ เตรียมตัวไปวิ่งออกกำลังกายข้างนอก
ลงจากคอนโดที่ผมกับหมออยู่ มีสวนสาธารณะอยู่ไม่ไกล ผมใช้ทางนี้ในการวิ่งไป-กลับเกือบทุกวัน

กลับมาถึงห้องอีกครั้งก็เกือบเก้าโมง แน่นอนว่าหมอยังคงไม่ตื่น ผมอาบน้ำและออกมาเตรียมอาหารเช้าก่อนจะไปปลุกมัน
"ตื่นได้แล้วๆ"  ผมพูดขึ้นพร้อมเขย่าตัวหมอเบาๆ
"..."
"ตื่นๆๆๆ"
"อือ... " หมอคราง ผมได้แต่ยิ้มกับท่าทางของคนขี้เซาตรงหน้า
"ไปอาบน้ำ วันนี้เรามีนัดสำคัญกันนะครับ"
"ขอนอนอีกหน่อยน่า"  หมอพูดเสียงงัวเงียแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้า- - โคตรดื้อเลย
"จะตื่นไม่ตื่นครับ"
... เงียบ
แล้วผมก็นึกไปถึงวิธีปลุกที่ทำให้หมอตื่นชะงัดขึ้นมาได้อย่างแน่นอน
ผมมุดตัวเข้าไปในผ้าห่มแล้วขึ้นคร่อมทับตัวหมอไว้ มันสะดุ้งเต็มแรง
"เห้ย จะทำไร" หมอร้อง ผมใช้แขนทั้งสองข้างตรึงแขนหมอไว้กับเตียง
"บอกให้ตื่นดีๆไม่ตื่น" ผมถอยลงไปใช้ปากเลิกชายเสื้อยืดหมอขึ้น "แบบนี้ต้องทำโทษนะคะ"
"ทำโทษไร...เมื่อคืน...ก็เหนื่อยแล้วนะ"  หมอตอบอ้อมแอ้ม
"เมื่อคืนก็เมื่อคืนสิคะ ไม่เกี่ยวกับตอนนี้สักหน่อย"  อารมณ์ผมพลุ่งพล่าน อั๋นน้อยตื่นตัวเต็มที่เมื่อเห็นสภาพของหมอที่อยู่ใต้ตัวผม เสื้อถูกร่นขึ้นไปกองอยู่ที่คอ ร่างบางๆที่ผิวเป็นสีขาวเนียน ยอดอกสีชมพูชูชัน เอวคอดที่ผมยึดจับอยู่ประจำ กางเกงบ๊อกเซอร์ตัวสั้นจิ๋ว...
แบบนี้เป็นใครก็คงอดใจไม่ไหว
"ไหนบอกว่ารีบไม่ใช่เหรอ"
"ไม่เป็นไรหรอก ไหนๆก็มีคนตื่นสายแล้ว" ผมตอบแล้วถอดเสื้อผ้าตัวเองออก

"อ๊า...อือ..."
ผมซุกไซร้อยู่ที่คอและไหปลาร้าของหมอ เจ้าตัวครวญครางแล้วส่ายหน้าไปมา นั่นปลุกให้ผมยิ่งตอบสองความต้องการของเราทั้งคู่รุนแรงขึ้นไปอีก ผมเคยบอกหรือยังว่าเสียงร้องของหมอเป็นตัวกระตุ้นอารมณ์ มีหลายครั้งที่ผมได้ฟังเสียงนั้นเกือบทั้งคืน ท่าทางนั่นก็อีก ผมเห็นกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ
"อ๊ะๆ...อั๋น"
หมอหลุดเสียงครางชื่อผมออกมาจนได้ มือเล็กๆโน้มคอผมให้ลงมาจูบปากอย่างเร่าร้อน ลิ้นพันกันนัวเนีย
ละจากริมฝีปากอวบอิ่ม ผมก็ขยับเลื่อนไปเล่นกับยอดอก จุดที่ผมชอบที่สุด ใช้ลิ้นเลียวนรอบก่อนดูดส่วนนั้น
เล็บหมอจิกหลังผมจนเจ็บ
เล่นกับยอดอกสองข้างอยู่นาน ผมก็แทรกอั๋นน้อยที่แข็งจนปวดเข้าไปยังช่องทางนั้นช้าๆ มันตอดรัดอั๋นน้อยของผมจนต้องเงยหน้าร้องซี้ด
ผมเริ่มบรรเลงเพลงรัก ขยับสะโพกซอยเข้าออกเป็นจังหวะ
"อ๊ะๆ...อือ..."
"หมอ...อา..."
ผมก้มลงไปจู่โจมส่วนต่างๆของหมออีก เพิ่มความเร็วกับท่อนล่าง พักใหญ่ก็ปลดปล่อยออกมา
ผมก้มลงไปช่วยจัดการกับหมอน้อยต่อ นึกสนุกขึ้นมาจึงทำแล้วแกล้งหยุดเมื่อเห็นว่าหมอใกล้จะเสร็จ
"อื้ออ...ยะ...อย่าแกล้ง...ทำ...ต่อ"
ผมยิ้มร่าเมื่อเห็นแววตาฉ่ำเยิ้มกับสีหน้าอ้อนวอนของหมอ
"ให้ทำอะไรอ่อ"
"ไอ้...อั๋น..."  เสียงหมอแหบพร่าเหมือนกับกำลังจะขาดใจ
"ครับๆ ไม่แกล้งแล้ว"  ผมหัวเราะเบาๆแล้วกลับไปใช้ปากทำต่อจนหมอปล่อยตามมา

"ไปอาบน้ำได้แล้วครับ"
"ไม่ต้องเร่งเลย ใครเป็นคนทำให้เสียเวลาล่ะ"  หมอพูดหอบๆ ค้อนตาขวาง
"เดี๋ยวอาบอีกรอบดีกว่า ดูดิ เหงื่อออกเต็มเลย"  ผมชี้ตัวเองที่เปียกชุ่มด้วยเม็ดเหงื่อให้หมอดู
"รอกูอาบก่อนดิ"
"อาบพร้อมกันเนี่ยแหละ"
"จะ...ได้อาบเหรอ"  หมอตอบอายๆ
ผมหัวเราะลั่น
"อาบสิคะ เดี๋ยวสายไปกว่านี้อีก"
"เออๆ" หมอค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นจากเตียง  "กูหิวข้าวแล้วด้วย"
"เตรียมให้เมียแล้วคร้าบ"
"ดีมากไอ้น้อง" หมอบอกแล้วยีหัวผมเล่น หยิบผ้าขนหนูพันรอบเอวแล้วเดินเข้าห้องน้ำ
"รอกูด้วยดิ"
ผมตามเข้าไปในห้องน้ำได้เดี๋ยวเดียว หมอก็ส่งเสียงออกมา
"ไหนบอกว่าอาบอย่างเดียวไงไอ้อั๋นนน"

ผมขับรถออกจากคอนโดก็11โมงเข้าไปแล้ว คนที่นั่งอยู่ข้างๆบ่นเป็นหมีกินผึ้งว่าช้าเพราะผม ผมไม่เถียงเพราะถือคติว่ายังไงเมียก็ถูกเสมอครับ (ที่ไม่เถียงเพราะเป็นคนทำให้ช้าเองจริงๆนั่นแหละ อิอิ)
"แวะบ้านมึงก่อนใช่ปะ"
"ครับ"  ก่อนจะไปนัดสำคัญของเราสองคน ผมอยากแวะที่บ้านก่อน เจ๊เอ๋กลับมาบ้านเมื่อวานและจะไปทำธุระตอนเย็น เลยอยากกินข้าวเที่ยงกันพร้อมหน้าทั้งครอบครัวสักมื้อ
ตั้งแต่เจ๊เอ๋เรียนจบก็ไปทำงานที่เชียงใหม่ได้2ปีแล้วครับ กลับมาบ้านเดือนละครั้ง เจ๊เอ๋บอกว่าอยากไปหาประสบการณ์และงานที่นั่นก็ตอบโจทย์ ตั้งใจจะอยู่ถึง5ปีแล้วจะกลับมาอยู่ที่กรุงเทพ
ผมเองก็เข้าเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว วิทยาเขตของที่นี่อยู่ไกลจากบ้านมาก แม้จะอยู่ในกรุงเทพเหมือนกัน แต่ผมจะต้องตื่นตีห้าหากวันไหนมีเรียนเช้า เดินทางไปกลับทุกวันไม่ไหวครับ เลยตัดสินใจซื้อคอนโดอยู่กับหมอ มันก็สอบเข้าเรียนได้ที่เดียวกัน เจ้าตัวพูดขอบคุณอยู่เสมอว่าเพราะผมที่ทำให้มันเรียนดีขึ้น ขยันขึ้นจนสอบเข้าได้ แต่จริงๆแล้วเป็นเพราะความพยายามของหมอเองต่างหาก
ผมเรียนนิติศาสตร์ ส่วนหมอมันเรียนบริหารธุรกิจ แม้เราจะเรียนคนละคณะกัน แต่ไม่มีอุปสรรคใดๆเลย เรากินข้าวเที่ยงด้วยกันทุกวัน ไม่หมอเดินมากินที่คณะผม ผมก็เดินไปกินที่คณะมัน หลังเลิกเรียนก็รอกลับพร้อมกันครับ ใครเห็นก็อิจฉาคู่พวกเราทั้งนั้น (ขอพื้นที่อวดหน่อย)
ตอนนี้เราก็ชินกับชีวิตมหาวิทยาลัยแล้วครับ เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ รู้สึกว่ายังไม่ค่อยได้ทำอะไรเท่าไรก็เข้าสู่ปีที่2เสียแล้ว
"อยากกินกับข้าวฝีมือแม่อรเร็วๆแล้ว"  หมอพูดเสียงร่าเริง
"พึ่งกินข้าวก่อนออกมาเมื่อกี้พูดถึงอาหารแล้วอ่อ"  ผมบอกยิ้มๆ  "กูบอกแม่ให้ทำของทอดด้วย"
"แสนรู้ เอ้ย รู้ใจจังครับอั๋น" โดนเมียหาว่าเป็นหมาเฉยเลย
"เดี๋ยวจะโดน"  หมอหัวเราะ

"หวัดดีคร้าบบบ" หมอทักทายพ่อแม่ผมทันทีที่ไปถึง
"หวัดดีลูก เสียงหวานเชียว มีอะไรรึป่าว"  แม่ตอบขำๆ
"นั่นน่ะสิ รึว่าแกล้งอะไรลูกพ่อมา" พ่ออมยิ้ม
"ไม่ใช่นะครับ ดีใจจะได้กินอาหารฝีมือแม่ต่างหาก ไม่ได้กินตั้งนาน คิดถึ๊ง คิดถึง"
"นี่ จะอ้อนแม่เกินหน้าเกินตาลูกชายเค้าไปหน่อยแล้วมั้ง" ผมเดินตามเข้ามา แกล้งทำหน้าดุใส่หมอ แต่มันสนใจผมซะเมื่อไหร่ มีส่งยักคิ้วยียวนกลับมาอีกแน่ะ- -
"เจ๊เอ๋ล่ะครับ"  หมอถาม
"อยู่นี่จ้ะ" เจ๊เอ๋เดินถือกล่องขนมออกมาจากห้องครัว  "เจ๊ซื้อขนมมาฝากพวกแกด้วย"
"ขอบคุณครับ" หมอยิ้มหวาน
"เจ๊เอ๋อ้วนขึ้นปะเนี่ย"  ผมทัก พึ่งสังเกตว่าพี่สาวตัวเองมีน้ำมีนวลมากกว่าครั้งสุดท้ายที่เจอกัน
"นิดเดียวเองย่ะ แล้วใครให้แกมาทักผู้หญิงว่าอ้วนเนี่ย เดี๋ยวเถอะ" เจ๊เอ๋แหว ผมกับพ่อหัวเราะ
"ก่อนกินขนมมากินข้าวกับแม่ก่อน แม่ทำกุ้งชุบแป้งทอดกับไก่ทอดไว้ให้หมอด้วยลูก"
"แล้วของอั๋นไม่มีเหรอครับ" ผมทำตาปริบๆเดินเข้าไปหาแม่บ้าง เบียดคุณแฟนที่มาแย่งคะแนนนิยมจากแม่ผมไป
"มีสิจ๊ะ ก็ทำให้ทั้งสองคนนั่นแหละ ไม่ต้องมาแย่งกันอ้อนแม่หรอก"
ทุกคนหัวเราะ
ผมยืนมองภาพที่หมอเข้ากันได้ดีกับทุกคนในครอบครัวแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ นึกถึงช่วงเวลาที่ตัดสินใจจะมาบอกพ่อกับแม่ผมว่าเราคบกัน หมอมันกลัวมากกว่าผมเสียอีก เจ้าตัวแทบไม่กล้าสู้หน้ากับใครเลย แต่โชคดีมากครับที่พ่อแม่ผมยอมรับได้ แม้จะตกใจอยู่บ้าง จำได้ว่าตอนบ้านหมอรู้ความจริง กว่าจะเคลียร์ได้นี่เครียดไปหลายวัน

หลังมื้อเที่ยง ผมกับหมอรีบออกจากบ้านแล้วตรงไปยังสถานที่นัดที่เราตกลงกัน
"คิดถึงเนอะ ไม่ได้มาตั้งหลายเดือน"  ผมพูด
"นั่นดิ เป็นไง ไอเดียกูดีปะ"
"ดีคร้าบ" ผมหยิกแก้มหมอ
วันนี้เป็นวันครบรอบ4ปีที่เราเป็นแฟนกัน หมอเป็นคนเสนอให้ไปที่ๆเราพบกันครั้งแรก และเป็นที่ๆเต็มไปด้วยความทรงจำของเราสองคน

โรงเรียนมัธยมปลายของพวกเราครับ

แม้วันนี้จะเป็นวันหยุด แต่โรงเรียนของเราก็เปิดให้เข้าปกติ ใช้เวลาเดินทางไม่นานก็มาถึง
ผมคว้ามือหมอขึ้นมาจับ
"คุณพิสุทธ์อยากไปที่ไหนก่อนครับ"
"แล้วแต่คุณพงศกรเลยครับ" หมอยิ้มหวาน
"งั้น...ตามผมมาเลยครับ" ผมคิดนิดหนึ่งก่อนจูงมือมันมุ่งหน้าไปยังหอประชุมเป็นที่แรก
"จะไปไหนเนี่ย"
"เดี๋ยวก็รู้"
เดินอีกสักพัก หมอก็ตอบได้
"กูรู้ละ หอประชุมใช่ปะ"
"ถูกต้องนะคร้าบ"
หมอมีท่าทางเขินหน่อยๆ
"ทำไมต้องหอประชุมด้วย"
"หมอก็น่าจะรู้นิ เจอกันครั้งแรกก็มาซบไหล่เลย"  ผมนึกถึงความหลัง
"เพราะกูเผลอหลับต่างหาก"
"อยากซบกูก็บอกมาเหอะน่า" ผมยั่วแหย่
"หลงตัวเองชะมัด"
"วันนั้นเรานั่งตรงนี้" ผมลากหมอไปยังตำแหน่งที่ถูกต้อง
"โห มึงจำที่นั่งได้เลยอ่อ กูลืมไปแล้วนะเนี่ย"
"จำได้ดิครับ นั่งกับหมอทั้งคน"  ผมบีบจมูกหมออย่างมันเขี้ยว  "ไปนั่งด้วยกันอีกมั้ย"
หมอพยักหน้าเก้อๆก่อนจะถูกผมพาไปนั่ง
ภาพอดีตปรากฏขึ้นชัดเจนในใจ ผมเห็นเด็กนักเรียนชายคนหนึ่ง ผิวขาวใส ตัวสูงพอๆกับผมแต่ร่างผอมแห้ง ทำให้ดูตัวเล็ก ขอบตาคล้ำอย่างคนนอนน้อยเป็นปกติ ผมฟู วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาข้างในหอประชุมด้วยเสื้อที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ รู้ได้ทันทีว่าสาย
ผมมองนักเรียนคนนั้นโดยไม่รู้ตัวว่ากำลังยิ้มกว้าง
เมื่อมันนั่งลงข้างผม ผมจึงไม่พลาดที่จะทำความรู้จัก และตั้งแต่นั้นมา มันก็เป็นต้นเหตุที่ทำให้ผมยิ้มอยู่หลายครั้ง
"วันนั้นหมอหลับงี้เลย"  ผมเลียนท่านอนหลับคอพับคออ่อนบนเก้าอี้นวม แล้วก็โดนหมอฟาดแขน
"สัส ไม่ต้องมาเลียนแบบเลย"
"ไหนทำให้ดูหน่อยดิ"
"ไม่โว้ย"
"ถ้างั้นกูทำเองก็ได้"
ผมซบหัวลงที่ไหล่หมอ มือเรายังกุมกันอยู่
"วันนี้กูขอซบมึงคืนมั่งนะ" ผมหยอด แก้มหมอเป็นสีแดงเรื่อขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
เรานั่งอยู่ตรงนั้นกันอีกสักพัก ผมเห็นภาพอดีตอื่นๆระหว่างเราสองขึ้นอีก
และผมก็เชื่อว่าหมอกำลังเห็นแบบเดียวกันอยู่

"ไปที่อื่นกันต่อมั้ย" ผมชวน
"ไปดิ"
มีอีกหลายที่ที่ผมตั้งใจจะไป เพื่อบันทึกทุกอย่างลงในความทรงจำของเราทั้งคู่
"ไปที่ห้องเรียนพวกเรากัน" หมอบอก
"ครับ ห้องไหนอะ มัธยม4 5 หรือ6"
"ไปทุกห้องเลย" หมอตอบพร้อมรอยยิ้มสดใส
"จัดให้ครับคุณพิสุทธ์" ผมกับอั๋นเดินย้อนกลับไปทางที่เราเดินมาเพื่อจะไปอาคารเรียนของเด็กมัธยมปลาย
มือเราที่จับกันอยู่แน่นขึ้น
ผมไม่รู้หรอกว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่รู้ว่าตอนนี้ผมมีความสุขมากแค่ไหนที่มีหมออยู่ข้างๆ และผมเองก็จะรักษาความสุขนั้นไว้ให้นานจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต

แด่เพื่อนรักและคนที่ผมรักที่สุด

-จบ-

ขอบคุณคุณผู้อ่านทุกคนที่เข้ามาอ่านและอยู่ติดตามกันจนถึงตอนสุดท้ายตอนนี้ครับ ทั้งคนที่ comment หรือเข้ามาอ่านอย่างเดียวก็ตาม ขอบคุณจริงๆจากใจเลยครับ

ทุกตัวละครในเรื่อง My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก แต่ละคนต่างก็มีเหตุผลของการกระทำและเรื่องราวเป็นของตนเองทั้งนั้น ผมรักทุกตัวละคร โดยเฉพาะอั๋น พระเอกของเรื่อง อั๋นเป็นตัวที่ผมรักที่สุด (ถึงแม้จะเขียนโดยให้หมอเป็นหลักในการเดินเรื่องก็ตาม555) เพราะอั๋นเป็นภาพแทนของคนที่อ่อนโยน ใจดี และเป็นคนที่ผมรักที่สุดครับ

ผมเองก็เป็นแค่คนธรรมดาๆคนหนึ่งที่อยากเขียนเรื่องราวความรัก อย่างที่บอกตั้งแต่ตอนเปิดเรื่องว่าผมเขียนเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ถ้ามีอะไรที่ผิดพลาดก็ต้องขออภัยด้วย

สุดท้ายนี้ อยากขอให้ทุกคนเก็บเรื่องของอั๋นกับหมอเป็นความทรงจำที่สวยงามไว้ตลอดไปนะครับ เพราะผมเองก็จะทำเช่นเดียวกัน

พบกันอีกครั้งในโอกาสหน้าครับ
writerbeer
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) ตอนที่43 END (ย้ายได้)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 26-12-2016 01:56:27
 :L2:  :pig4:

ขอบคุณมากๆเลยที่ลงให่อ่าน
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) ตอนที่43 END (ย้ายได้)
เริ่มหัวข้อโดย: chaichan ที่ 26-12-2016 03:33:29
น่ารักมากค่ะ
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) ตอนที่43 END (ย้ายได้)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 26-12-2016 07:01:27
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) ตอนที่43 END (ย้ายได้)
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 28-12-2016 15:32:42
สนุกกกก ของคุณมากน้าาา อิอิ
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) ตอนที่43 END (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 16-01-2017 00:35:51
   เพิ่งเข้ามาอ่านคับ ชอบมากๆ อ่านรวดเดียวจบเลย ประทับใจทั้งบุคคลิกตัวละครและเนื้อเรื่องคับ ประทับใจอีกเรื่องหนึ่ง
  ขอบคุณผู้แต่งคับ
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) ตอนที่43 END (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: satiara ที่ 19-01-2017 21:09:34
อ่านจบแล้วว น่าร้ากก
ขอบคุณนะค้าา
#เป็นเรื่องที่มีบรรยากาศของความสบาย 5555
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) ตอนที่43 END (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 20-01-2017 22:47:54
จบได้ยอดเยี่ยมมาก  :mew1: :mew1: :mew1:
อ้๋น หมอ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
อั๋นอบอุ่น ใจเย็น  ดูแลปกป้องหมอได้ดีมาก
รักกันมั่นคง น่ารักมาก
ขอบคุณไรท์ เขียนเรื่องน่ารักๆ
คนอ่านมีความสุขมาก
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) ตอนที่43 END (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: somakimi ที่ 27-02-2017 11:01:18
 :mew1: :katai2-1: เรืีองน่ารักค่ะสดใส่ดราม่าเล็กมีฉากหวานให้พอกรุบๆกรอบๆสะมูชกันดีค่ะ
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) Season2 : ตอนที่36
เริ่มหัวข้อโดย: Azuryngel ที่ 01-03-2017 05:36:05
Aun and mau!!!! From friends to boyfriends. It's so cute seeing them ET closer and closer to each other while everyone around them already knew they would be good for each other.  :hao3:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) ตอนที่43 END (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: Persoulle ที่ 19-03-2017 01:12:52
ชอบมากๆเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับเรื่องที่แสนอบอุ่นของอั๋นดับหมอนะคะ ชอบทั้งการดำเนินเรื่องและความไม่ดราม่า ไม่มากไป และความมีเหตุผลของตัวละครค่ะ แบบมีสติและชอบน้องหมอที่สตรองมากค่ะ เมื่อมีปัญหาเรื่องเม้งน้องตัดสินใจไม่ทำอะไรลงไปเอง แต่บอกอั๋นเพื่อช่วยแก้ปัญหา ทำให้รู้สึกว่าสองคนนี้เข้าใจกันมากค่ะ เป็นทั้งเพื่อนทั้งคนรักและครอบครัว ช่วยดูแลกันได้ดีมากค่ะ รักกันไปนานๆนะคะ น้องอั๋น น้องหมอ

ป.ล. แอบอิจฉาอั๋น อยากให้หมอเป็นผู้ชายจริงในโลกจริงมากค่ะ แบบว่า ถ้าแฟนเรานิสัยเหมือนหมออ่ะ ฟินเลย...ชอบบ ชอบคนแบบหมอ... :hao7:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) ตอนที่43 END (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 22-03-2017 11:24:42
เรื่องน่ารักมาก ชอบอั๋นที่สุดนะ รักและดูแลหมออย่างดีตลอดเลย
เพื่อนๆก็รักกันช่วยเหลือกันดีจัง
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) ตอนที่43 END (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: akeins ที่ 22-03-2017 16:23:38
 :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) ตอนที่43 END (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: tear0313 ที่ 23-03-2017 16:39:01
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) ตอนที่43 END (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 27-03-2017 12:07:11
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) ตอนที่43 END (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: allmysecret ที่ 28-05-2017 22:15:15
สนุกค่ะ ช่วงนี้อินกับแนวนี้เลยมาตามอ่าน คืออั๋นน่ารักมากกกกกก 555555 ผช.แบบนี้หาได้ที่ไหน เราชอบความไปเรื่อยๆของเนื้อหา มีจุดพีคบ้างนิดหน่อย ชอบจุดเด่นที่เข้าใจกันตลอด ฟีลกู๊ดมาก อยากให้นนท์กับตาร์ 55555 ขอตอนพิเศษด้วยนะ
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) ตอนที่43 END (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: Legpptk ที่ 30-05-2017 21:21:14
ขอบคุณค่ะ เรื่องร้านประดับศก ชอบที่นายเอกไม่งี่เง่า ยิ่งตอนแก้ปัญหาเรื่องเม้ง เป็นอะไรที่ชอบมาก คือเจอเรื่องเเบบนี้ต้องรอบครอบ ดีใจที่ได้อ่าน
ขอบคุณมากนะคะ
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) ตอนที่43 END (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: SOMCHAREE ที่ 30-05-2017 23:09:04
อ่านรวดเดียวเลยค่ะ เข้ามาโดยบังเอิญ แต่เข้าแล้วไม่สามารถ หยุดอ่านได้เลยค่ะ สนุกมากค่ะ ขอบคุณนะค่ะ^^
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) ตอนที่43 END (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 08-06-2017 20:17:32
ขอบคุณทุกๆ comments เลยนะครับ ผมได้อ่านทั้งหมดเลย
1.ตอบเรื่อง character ของตัวละคร คือผมตั้งใจเขียนให้หมอเป็นนายเอกที่ไม่งี่เง่า ง้องแง้ง หรืออ่อนแอ มองว่าหมอก็เป็นผู้ชายทั่วๆไปที่เข้มแข็งและจิตใจเด็ดเดี่ยว ส่วน character ของอั๋นที่หลายๆคนชอบเพราะอบอุ่น แสนดี หาได้ในชีวิตจริงนะครับ555 เพราะได้แรงบันดาลใจมาจากเพื่อนรักของผมเอง
2.ตอบ feedback เรื่องที่หมอตลบหลังเม้ง นั่นก็เป็นตอนที่ผมเขียนจบแล้วชอบมากๆเหมือนกันครับ ผมรู้สึกว่าหมอควรเรียนรู้จากประสบการณ์ไม่ดีครั้งก่อนๆ และจะไม่ยอมตกเป็นเหยื่อ ซึ่งจริงๆแล้วหมอเป็นคนฉลาดนะครับ(ถึงจะขี้เกียจเรียนก็เถอะ555) จะสังเกตเห็นความฉลาดทางความคิดของหมอได้จากหลายๆตอนเลย
3.ตอบ feedback เรื่อง mood and tone ของนิยายที่มีความสบายๆ สดใส ไม่ดราม่า ขอบคุณที่ชอบนะครับ เพราะผมเองรู้สึกว่าชีวิตคนเรามันไม่จำเป็นต้องดราม่าหรือมีภูมิหลังอะไรขนาดนั้นก็ได้ อยากเขียนให้ตัวละครมีชีวิตประจำวันธรรมดามากกว่า เจอปัญหาบ้างบางครั้ง และการทะเลาะกันของอั๋นกับหมอมีน้อยมาก(นับให้เลยก็ได้ มีแค่2ครั้งทั้งเรื่อง5555 คือตอนที่อั๋นงอนหมอที่เจอกับพี่ก้องครั้งแรก กับตอนที่เข้าใจผิดเรื่องหมอกับอาร์ต) และสองคนนี้ไม่งอนกันนานครับ คือมีปัญหาแล้วจะเคลียร์กันทันที ซึ่งตรงนี้ก็มีฐานมาจากเรื่องจริงนั่นแหละ
และผมจะนำทุก comments ไปปรับปรุงการแต่งนิยายเรื่องต่อๆไป รอติดตามและเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ

writerbeer
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) ตอนที่43 END (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: Timber ที่ 20-11-2017 13:16:30
 :z3: :z2:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) ตอนที่43 END (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 09-07-2018 22:54:00

ตอนนี้ผมลงนิยายเรื่องใหม่แล้วนะคร้าบ
ชื่อเรื่อง : โทษทีครับ ผมไม่ได้ง่าย
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=67723.0#top

ฝากติดตามด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) ตอนที่43 END (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 14-07-2018 03:38:40
สนุกดีอ่ะ อ่านแล้วอ่านได้เรื่อยๆเลย ไม่มีน่าเบื่อ  :impress2:
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) ตอนที่43 END (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: Piiiimsen ที่ 15-02-2019 21:58:11
เป็นอีกเรื่องที่น่ารักและเป็นเรื่องสบายมากๆ ไม่เครียด ตลก ลุ้นได้ตลอด ขอบคุณมากนะคะ
หัวข้อ: Re: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก(อั๋น-หมอ) ตอนที่43 END (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 19-02-2019 09:10:56
 o13