SWEET SURRENDER 1/11/60 พิเศษ SWEET DREAM P.42
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: SWEET SURRENDER 1/11/60 พิเศษ SWEET DREAM P.42  (อ่าน 321108 ครั้ง)

ออฟไลน์ inpurplethief

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0
Re: SWEET SURRENDER 4/6/59 CH.11 As Bright As the Darkness P.4
«ตอบ #120 เมื่อ04-06-2016 19:17:03 »

ทนไม่ไหวแล้วสิ พชร
ม่อนน่ารักเกินต้านทานจริงๆ
 

ออฟไลน์ gunghan

  • In the end, we must separate, that’s it
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: SWEET SURRENDER 4/6/59 CH.11 As Bright As the Darkness P.4
«ตอบ #121 เมื่อ04-06-2016 21:14:25 »

       
“แจกของ เร็วๆ แจกของแม่ง!”

ถ้าจะสงสัยแบบม่อนแจ่ม จะมีคนว่าโง่มั้ยเนี่ย
แจกของคืออะไรหว่าา?  :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ Jinn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: SWEET SURRENDER 4/6/59 CH.11 As Bright As the Darkness P.4
«ตอบ #122 เมื่อ04-06-2016 21:31:00 »

เข้ามาเฉลยแทนคนเขียนนะคะ

แจกของ คือ เวลาไฟดับตอนกลางคืนในมอ พวกหนุ่มๆหอใน จะมักจะแว้นมอเตอร์ไซด์ไปแจกของลับตามหน้าหอหญิง(หอใน) บ้างก็มีตะโกนเย้วๆๆแจกของกันหน้าหอหญิง เป็นที่สนุกสนานค่ะ ฝ่ายหอหญิงก็จะมีพวกออกมารอส่องกันตามระเบียงบ้าง
แต่พวกแจกของนี่ก็ต้องแล้วแต่ดวงด้วยนะคะ กำลังแจกอยู่ไฟมาพอดีโดนจับได้ว่าเป็นใครนี่ฮากันเลย

ตอนเรียนเคยมีหนุ่มมาแจกของแล้วไฟมาก่อนรถล้มหนีไม่ทัน โดนอาจารย์แม่บ้านทำโทษให้มานั่งรับโทรศัพท์เป็นโอปะเรเตอร์ที่หญิงมาแล้วค่ะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: SWEET SURRENDER 4/6/59 CH.11 As Bright As the Darkness P.4
«ตอบ #123 เมื่อ04-06-2016 21:33:56 »

โอย.....ม่อนแจ่มน่ารัก

“กูนอนก็ได้ แต่กูงอน กูจะไปแจกของก็ไม่ให้ไป มึงมันแล้งน้ำใจ กูงอนมึงแล้ว”
 
 “มึงเอาสิทธิ์อะไรมางอนกู แว่นแดง?”
“ก็แล้ว..” “มึงเอาสิทธิ์อะไรมาสั่งกูนอนล่ะ?”

“มึงไม่จำเป็นต้องทำตาม”
“กูจะทำ” “แล้วกูก็จะงอนด้วย..”
 :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1296
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
Re: SWEET SURRENDER 4/6/59 CH.11 As Bright As the Darkness P.4
«ตอบ #124 เมื่อ04-06-2016 21:44:23 »

ม่อนแจ่มช่างน่ารัก. ส่วนพชรก็อ่อนโยน :mew1:

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
Re: SWEET SURRENDER 4/6/59 CH.11 As Bright As the Darkness P.4
«ตอบ #125 เมื่อ04-06-2016 21:44:53 »

โอ๊ยยยยย ทำไมเขารู้สึกฟิน #สัมผัสได้ถึงสายใยบางๆ  ขุ่นแม่คะ พี่พชรเป็นห่วงน้องงงงง  :-[  น้องม่อนก็ไม่แคร์แล้วเรียกอะไรก็เรียกขอให้เรียกก็พอ แอร๊ยยยยย  :o8:  มีขอและให้กำลังใจกันด้วย ตายๆๆๆๆๆๆๆ ได้อีกไหมคะ? คุณเกรียนคนเขียน หวานได้อีกไหม? ขอชุดใหญ่ก่อนมาม่ามานะจ๊ะ ตะเองงงง  :mew1:

ออฟไลน์ treenature

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0
Re: SWEET SURRENDER 4/6/59 CH.11 As Bright As the Darkness P.4
«ตอบ #126 เมื่อ04-06-2016 23:32:08 »

ไฟดับ และ โรแมนติก

ออฟไลน์ diltosscap

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
Re: SWEET SURRENDER 4/6/59 CH.11 As Bright As the Darkness P.4
«ตอบ #127 เมื่อ05-06-2016 00:11:43 »

ม่อนแจ่ม สู้สู้ มีไอดิล ่ช่วย เพชร น่ารักอบอุ่น และน่าสงสาร  รอตอนต่อไปนะคะ สั้นแค่ไหนก็รอได้ค่ะ ขอบคุณที่มาต่อนะคะ

ออฟไลน์ ceylon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: SWEET SURRENDER 4/6/59 CH.11 As Bright As the Darkness P.4
«ตอบ #128 เมื่อ05-06-2016 00:37:08 »

ความอยากอ่านต่อที่ไม่มีที่สิ้นสุดนี้  :z3:

ออฟไลน์ kunkai

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3734
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-2
Re: SWEET SURRENDER 4/6/59 CH.11 As Bright As the Darkness P.4
«ตอบ #129 เมื่อ05-06-2016 09:23:00 »

 :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: SWEET SURRENDER 4/6/59 CH.11 As Bright As the Darkness P.4
« ตอบ #129 เมื่อ: 05-06-2016 09:23:00 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
Re: SWEET SURRENDER 4/6/59 CH.11 As Bright As the Darkness P.4
«ตอบ #130 เมื่อ05-06-2016 11:54:26 »

ม่อนแจ่มน่ารักกก งือออ
อยากได้กลับบ้านสักคน
เรื่องดราม่ายังไม่มาขอซึมซับความน่ารักไว้ก่อน
มาต่อไวๆนะคะคนเขียนนน


ออฟไลน์ Grey Twilight

  • Moderator
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-17
Re: SWEET SURRENDER 28/5/59 CH.10 You're Welcome P.4
«ตอบ #131 เมื่อ05-06-2016 13:09:41 »

ผมรู้สึกเหมือนดำเนินเรื่องกระชับฉับไวพอสมควร อยากให้เพิ่มการละเลียดอารมณ์เพิ่มขึ้นอีกนิดนึงนะครับ มันหวานน่ารักก็จริง แต่ว่าดูเหมือนความหวานตรงนี้มันไม่ค่อยมีน้ำหนักเท่าไหร่ คือเราเห็นคำพูดและตีความนัยยะการกระทำออกมาได้ละมุนนุ่มนวลก็จริง แต่มิติของการกระทำ ความคิดที่สับสนของตัวละคร อันนี้เรายังเห็นไม่ชัดมากเท่าไหร่น่ะครับ ผมเห็นบางทีมีแค่ประโยคสองประโยคจากทั้งตอน ซึ่งถ้าเราจะเล่นกับเรื่องความรู้สึกให้มันดราม่าต่อเนื่อง มิติของสิ่งพวกนี้จะต้องแสดงออกมาให้คนอ่านรับรู้ได้ชัดเจน เพื่อที่ว่ามันจะส่งอารมณ์ได้หนักหน่วงครับ ถ้าดราม่าก็สะเทือนจนต่อมน้ำตาเกือบแตก บีบหัวใจ ถ้าหวานก็ละมุนลึกซึ้ง

เข้าใจว่าแนวเขียนของคุณคนแต่งจะสบายๆไม่หนักมากครับ แต่ถ้าเราสร้างปมดราม่าก็อยากให้รัดกุมเรื่องอารมณ์นิดนึง ไม่งั้นมันจะกลายเป็นนิยายเกือบตลกไป ซึ่งหลุดโทนเรื่องครับ และอาจจะไม่เหมาะกับพล็อตสนับสนุนหนักๆหรือน่าติดตามที่เราวางไว้มาตั้งแต่ต้น

ส่วนอันนี้ขอตอบคุณป้ากิ่งนะครับ และขอเป็นข้อมูลเพิ่มเติมให้กับท่านอื่นด้วยครับ
คือถ้าแม่ไม่เจ็บปวด แล้วลูกจะมาแก้แค้นอะไร??? คิดตามประสาป้านะไม่ได้ชวนทะเลาะ สงสัยจริงๆค่ะ ถ้าแม่ไม่เจ็บปวดแล้ว การที่ให้ไปหาพ่อคือเพื่ออะไร???   แรกๆอุ้มท้องคนเดียวโดดเดี่ยว อ้างว้าง เจ็บช้ำ แน่นอนต้องเจ็บแค้น ลูกเกิดมาเห็นแม่ลำบาก ระทมทุกข์ ถามหา อยากเจอ อยากรู้จักพ่อ นาทีนั้นแม่คงไม่มีแรงจะบอกหรอกว่า อย่าไปโกรธพ่อเลย เข้าใจพ่อเถอะ พชรตอนนั้น คงเต็มไปด้วยความเคียดแค้นแสนสาหัส
แต่เมื่อเติบโตมากับธรรมชาติ เป็นผู้ใหญ่ทั้งสมองและหัวใจ ประกอบกับความรักที่แม่มอบให้ แม่ที่'ปล่อย'ความแค้นไปแล้ว แม่จะไม่เตรียมหัวใจพชรก่อนที่จะบอกให้ไปหาพ่อเลยหรอ??? เพราะหากแม่ปล่อยความแค้นไปแล้ว การให้ไปหาพ่อ น่าจะเพื่อไปรู้จัก ไปเปิดโอกาสให้พ่อ และเพราะอยากให้ลูกมีครอบครัวที่ครบสมบูรณ์  กับแค่คำถามว่า'ท้องพชรเมื่อไหร่ ทำไมมาแต่งกับแม่ม่อน' คำถามอื่นๆก็ตามมา พาให้บ้านแตกพอแล้ว แล้วถ้าปล่อยลูกไปหาพ่อทั้งๆที่ลูกโตมาด้วยความคิดว่า ถูกทอดทิ้ง และมีแต่ความเจ็บแค้น อยากจะไปทำลายความสุขที่ตนไม่เคยได้รับให้ย่อยยับ หากปล่อยไปทั้งๆที่พชรยังมีแต่ความรู้สึกเหล่านั้น ผลเสียที่จะตามมาระดับความรุนแรงมันคงจะไม่น่ารับไหว คือติดใจตรงนี้นิดเดียวจริงๆค่ะ

เข้าใจว่าคำถามแรกคือ ให้ไปหาพ่อเพื่ออะไรนะครับ ซึ่งอันนี้คุณป้าตอบได้ถูกต้องแล้ว ถ้าเราพิจารณากันเป็น General Case ของครอบครัวที่หย่ากันแล้วสามีภรรยามีวุฒิภาวะทางอารมณ์ทั้งคู่ การที่แม่จะให้ลูกไปหาพ่อบ้าง เราจะให้ไปหาเพื่อปรับความเข้าใจและพยายามจูนความสัมพันธ์ที่ขาดไปในวัยเด็กครับ พูดง่ายๆก็คือ เมื่อหย่ากันในวัยเด็ก แน่นอนว่าเด็กจะต้องซึมซับอารมณ์ทางลบของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แล้วก็อย่างที่ผมเคยบอกไปแล้วว่าสำหรับเด็ก รับอะไรมาก็จะเป็นอย่างนั้น (เพราะการปกปิด หลบซ่อนอารมณ์และตัวตนของเขายังไม่สูงเหมือนผู้ใหญ่)

ดังนั้นเมื่อโตขึ้นระดับหนึ่ง เราจะให้เด็กไปพบอีกฝ่าย แต่ข้อพึงระวังมากๆคือเราต้องปรับความคิดของเด็กก่อน ฝ่ายที่เอาเด็กมาเลี้ยงต้องคุยให้รู้เรื่อง เปิดใจไปว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความผิดพลาด เป็นเรื่องบังเอิญ หรือเป็นสิ่งที่เกิดจากจุดบกพร่องอะไรของมนุษย์ สำคัญมากคือ อย่า 'หา' คนผิดครับ การหาคนผิดจะไม่ทำให้เด็กเข้าใจเรื่องของผู้ใหญ่ การหาคนผิดจะทำให้เขาปะทุอารมณ์ด้านลบที่ซึมซับไว้แต่แรกออกมา แล้วมนุษย์จะโยนความเกลียด ความโกรธ อารมณ์ทางลบทั้งหมดไปยังเป้าหมายที่ 'เขาคิดว่าผิด' ซึ่งมันจะสร้างปัญหาต่อไปอย่างไม่รู้จบครับ

ซึ่งนำมาถึงคำถามที่สองของคุณป้า คือ คุณแม่ของพชรจะไม่เตรียมตัวพชรก่อนหรือ? คำถามอันนี้ตอบยากครับ อาจจะต้องให้ทางคุณคนแต่งพิจารณาร่วมด้วย เพราะเรามองได้สองมุมมอง

มุมมองแรกคือ คุณแม่พชรคิดว่าพชร 'โต' เป็นผู้ใหญ่ได้ด้วยตัวเองแล้วครับ และเค้าเชื่อใจว่าพชรคงละเลยความคิดแย่ๆแบบนั้นได้เอง และถ้าปล่อยไปหาพ่อ ก็คงจะไม่ไปทำอะไรแย่ๆให้อีกครอบครัวหรอก อันนี้คือมุมมองแรกครับ ซึ่งข้อบกพร่องของมุมมองนี้คือ การที่แม่จะเชื่อใจลูกมากมันก็ดีครับ แต่บางครั้ง มันอาจไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ อารมณ์ทางลบของมนุษย์มันไม่หายไปได้ด้วยตัวเองนะครับ (ถ้าคุณไม่ใช่ชาวพุุทธที่มักสงบสติ เจริญอารมณ์และกรรมฐานเพื่อตัดกิเลสอยู่เสมอ) มนุษย์ไม่สามารถต่อต้านอารมณ์หรือความคิดที่เลวร้ายได้ด้วยตัวเอง ความโดดเดี่ยวจะกัดกินจิตใจของมนุษย์ ต่อให้การแสดงออกเป็นไปด้วยความเข้มแข็งใดๆก็ตาม มันจะมีเสี้ยวหนึ่งในใจเสมอที่ถมไม่เต็ม ในทางจิตวิทยา เราเรียกตรงนี้ว่า หัวใจห้องที่ 'เรามองไม่เห็น และคนอื่นก็มองไม่เห็น' ครับ ซึ่งไอ้สิ่งที่อยู่ในหัวใจห้องนี้นี่อันตรายมาก มันก่อ catastrophe ได้

ดังนั้นมันจะเกิดอะไร? สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ถ้าคุณเชื่อใจและปล่อยพชรไปโดยที่ไม่ได้คุย เขาอาจจะคิดว่า แม่ 'โอเค' กับการกระทำใดๆก็ตามที่เขาจะทำ ซึ่งอันนี้ล่ะ คือจุดบกพร่องของมุมมองนี้ครับ เป็นความผิดพลาดทางการสื่อสารของมนุษย์ที่เกิดจากการที่คุณ 'ไม่ได้คุยกัน เพราะเชื่อใจ' ง่ายๆแค่นี้เอง แต่ปัญหาจะบานปลาย

มุมมองที่สองคือ คุณแม่พชรคุยแล้ว แต่พชรเก็บกักความรู้สึกอยากเอาชนะเอาไว้ภายในจิตใจครับ อันนี้จะอ้างอิงกับคอมเมนท์ที่แล้วของผมว่าเด็กผู้ชายจะมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ที่ต่ำมาก เมื่อมันมาถึงเรื่อง 'ความสุขของบุพการีใกล้ชิด' ดังนั้น ต่อให้แม่พชรพูดไปขนาดไหน พชรอาจจะคิดว่ามันเป็นการพูดเพียงเพราะแม่เขาเป็นคนดี เป็นคนที่ยอมให้โลกเอาเปรียบโดยไม่คิดแค้นเคือง แต่ยังไงแม่ก็ยังไม่ได้รับความยุติธรรมอยู่ดี และเขาเองนี่แหละ ที่จะเป็นคนทวงความยุติธรรมนี้เอง และโดยนิสัยของพชร เราไม่สามารถคาดเดาการกระทำของเขาได้ครับ เพราะเขาเป็นคนเงียบ

จุดบกพร่องของมุมมองนี้คือ สังเกตว่าเด็กกับผู้ใหญ่จะคิดคนละแบบ ซึ่งเด็กไม่เข้าใจครับ แม่พชรคุยกับพชรเพราะอยากให้เขามีครอบครัวที่สมบูรณ์ อยากให้เขาเอาชนะความแค้นเคือง เพราะแม่ปล่อยความโกรธและอารมณ์ด้านลบที่เกิดในตอนนั้นไปแล้ว ไม่ได้รู้สึกว่าถูกเอาเปรียบ เพราะมันผ่านไปแล้ว เธอไม่ได้ยอม แต่เธอปล่อยมันออกไปจากใจเพื่อไม่ให้เธอทุกข์ อย่างไรก็ตาม พชรจะคิดว่าแม่พูดเพราะ 'ยอม' คนอื่น 'ยอม' เรื่องที่เกิดขึ้น แม่น่ะก็มีอารมณ์ด้านลบ แต่เก็บมันเอาไว้ภายในเหมือนกันเขา แค่พูดอย่างนี้กับเขาเพราะไม่อยากให้คนอื่นเดือดร้อน มันถึงเข้าไม่ถึงส่วนลึกของจิตใจเขาครับ

จะเห็นว่าทั้งสองมุมมองต่างมีจุดบกพร่องด้วยกันทั้งคู่ ดังนั้นวิธีแก้ที่ง่ายที่สุดสำหรับเวลาเราจะให้ลูกไปพบอดีตสามีหรืออดีตภรรยา ต้องหมั่นสังเกตครับว่าเวลาเราพูดถึงอีกฝ่ายในเวลาทั่วไป ลูกมีปฏิกิริยายังไง เขาเกร็งมือไหม เขาเปลี่ยนเรื่องหรือเปล่า เขาพยายามกดอารมณ์อยู่รึเปล่า หรือเขาพร้อมจะเปิดใจคุยกับเรา

ถ้าเป็นสามปฏิกิริยาแรก แนะนำว่าควรต้องพาเค้าไปหานักจิตวิทยาครับ (นักจิตวิทยานะครับ ไม่ใช่จิตแพทย์ เพราะเขายังไม่ได้ป่วย เขาแค่มีสัญญาณบางอย่างที่ไม่ควรละเลย) เพราะสามปฏิกิริยาแรกนี้เป็นสัญญาณที่แสดงออกว่าเด็ก 'ต่อต้าน' การประณีประณอม หากเราให้เขาไปเจออดีตสามีหรือภรรยา มันอาจจุดชนวนและเปลี่ยนแปลงทัศนคติบางอย่างของตัวเด็ก ซึ่งมันอาจจะให้ผลดีหรือไม่ดีก็ได้ แต่อย่างไรก็ไม่ควรเสี่ยงครับ หากเด็กกลัวพบนักจิตวิทยา เราสามารถบอกเหตุผลง่ายๆได้ว่า เราไม่อยากให้เขาเครียด ที่เหลือปล่อยเป็นหน้าที่นักจิตวิทยาครับ เขาจะค้นเข้าไปในใจเด็กเอง และถ้าเราขยันคุยกับนักจิตวิทยา เราจะรู้ว่าเราจะเปลี่ยนมุมมองของเด็กได้ยังไงครับ

ออฟไลน์ magic-moon

  • magKapleVE
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
    • Freedom of meetups, no obligations
Re: SWEET SURRENDER 4/6/59 CH.11 As Bright As the Darkness P.4
«ตอบ #132 เมื่อ06-06-2016 13:46:33 »

ถ้า
เข้ามาเฉลยแทนคนเขียนนะคะ

แจกของ คือ เวลาไฟดับตอนกลางคืนในมอ พวกหนุ่มๆหอใน จะมักจะแว้นมอเตอร์ไซด์ไปแจกของลับตามหน้าหอหญิง(หอใน) บ้างก็มีตะโกนเย้วๆๆแจกของกันหน้าหอหญิง เป็นที่สนุกสนานค่ะ ฝ่ายหอหญิงก็จะมีพวกออกมารอส่องกันตามระเบียงบ้าง
แต่พวกแจกของนี่ก็ต้องแล้วแต่ดวงด้วยนะคะ กำลังแจกอยู่ไฟมาพอดีโดนจับได้ว่าเป็นใครนี่ฮากันเลย

ตอนเรียนเคยมีหนุ่มมาแจกของแล้วไฟมาก่อนรถล้มหนีไม่ทัน โดนอาจารย์แม่บ้านทำโทษให้มานั่งรับโทรศัพท์เป็นโอปะเรเตอร์ที่หญิงมาแล้วค่ะ

ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีค่ะ 555 ขอชัดๆได้ป่าว ไม่รู้จริงๆ ตอนอ่านนึกว่าเขาแจกเทียน ยังงงอยู่เลยว่าพชรห้ามทำไม

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
Re: SWEET SURRENDER 4/6/59 CH.11 As Bright As the Darkness P.4
«ตอบ #133 เมื่อ07-06-2016 07:04:48 »

ถ้า
เข้ามาเฉลยแทนคนเขียนนะคะ

แจกของ คือ เวลาไฟดับตอนกลางคืนในมอ พวกหนุ่มๆหอใน จะมักจะแว้นมอเตอร์ไซด์ไปแจกของลับตามหน้าหอหญิง(หอใน) บ้างก็มีตะโกนเย้วๆๆแจกของกันหน้าหอหญิง เป็นที่สนุกสนานค่ะ ฝ่ายหอหญิงก็จะมีพวกออกมารอส่องกันตามระเบียงบ้าง
แต่พวกแจกของนี่ก็ต้องแล้วแต่ดวงด้วยนะคะ กำลังแจกอยู่ไฟมาพอดีโดนจับได้ว่าเป็นใครนี่ฮากันเลย

ตอนเรียนเคยมีหนุ่มมาแจกของแล้วไฟมาก่อนรถล้มหนีไม่ทัน โดนอาจารย์แม่บ้านทำโทษให้มานั่งรับโทรศัพท์เป็นโอปะเรเตอร์ที่หญิงมาแล้วค่ะ

ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีค่ะ 555 ขอชัดๆได้ป่าว ไม่รู้จริงๆ ตอนอ่านนึกว่าเขาแจกเทียน ยังงงอยู่เลยว่าพชรห้ามทำไม
คำหยาบจำพวกเครื่องเพศของผู้ชายค่ะ  สมัยเราเป็นแบบนั้นนะ

ในส่วนของเนื้อเรื่องนั้นเราก็คิดว่าม่อนแจ่มไม่น่าจะเป็นลูกของพจน์  เพราะว่าม่อนแจ่มไม่เหมือนพ่อ  แล้วตามที่คนเขียนบรรยายมาก็คือระมิงค์ชอบมองหน้าของม่อนแจ่ม เราก็มโนตามว่าม่อนแจ่มน่าจะคล้ายคลึงไปทางพ่อแท้ๆหรือเปล่า?

ในส่วนของระมิงค์นั้นเราว่าน่าจะเลือกที่จะสารภาพกับพจน์มากกว่า    พจน์น่าจะไปหาแม่พชร   แต่เราว่าอาจจะไม่ได้กลับมาหากันเพราะว่าเวลาเกือบ 20 ปีมาแล้วนะคะที่ห่างกัน  ถึงจะมีคนสร้างสถาณการณ์แต่ก็เกิดอะไรต่อมิอะไรมากมายค่ะ   อาจจะกลับมาเริ่มต้นใหม่ในแง่ของพ่อกับลูกมากกว่าสามี-ภรรยา     อีกอย่างเราว่าครอบครัวพจน์-ระมิงค์ ม่อนแจ่มก็ไม่ได้แน่นแฟ้นเท่าที่คิด   ม่อนแจ่มเองก็สนิทกับป้าเพ็ญมากกว่าพ่อแม่ที่ไม่มีเวลาให้ตัวเอง    จริงอยู่ว่าม่อนแจ่มจะได้รับผลกระทบจากการแตกแยกของพ่อแม่ที่เห็นได้ชัด ไม่รู้สิเราว่าม่อนแจ่มทนทายาทมากกว่าที่คิดนะ พชรเองที่น่าจะเจ็บมากที่สุดเพราะว่าไหนตอนนี้ก็ surrender ไปเกือบหมดแล้ว

ป.ล  เชียงใหม่-ลำพูนไม่ได้ไกลขนาดที่จะไปหากันไม่ได้    เกือบ 20 ปี เป็นไปได้หรือที่พจน์จะไม่ไปตามหาเมีย   หรือว่าระมิงค์กับพ่อนางสร้างเรื่องทำนองว่าแม่พชรเห็นแก่เงินเลยรับเงินแล้วทิ้งพจน์?     
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-06-2016 08:17:57 โดย Freja »

ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
Re: SWEET SURRENDER 4/6/59 CH.11 As Bright As the Darkness P.4
«ตอบ #134 เมื่อ07-06-2016 08:04:26 »

มันหวานๆละมุนๆ  :กอด1:

ออฟไลน์ nekodollzz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: SWEET SURRENDER 4/6/59 CH.11 As Bright As the Darkness P.4
«ตอบ #135 เมื่อ07-06-2016 13:16:29 »

ชอบจังค่ะ

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: SWEET SURRENDER 4/6/59 CH.11 As Bright As the Darkness P.4
«ตอบ #136 เมื่อ08-06-2016 16:09:14 »

โอ๊ยยยยย อิป้าคาใจ อะไร อะไร ขยายๆๆ พชรทำอะไรม่อนแจ่ม #ใต้ไฟดับ #ใต้การมโน  :hao6:

ออฟไลน์ 205arr

  • เราคงอยู่ไกลกันเป็นพันหมื่นลี้
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: SWEET SURRENDER 4/6/59 CH.11 As Bright As the Darkness P.4
«ตอบ #137 เมื่อ08-06-2016 20:28:44 »

ตกหลุมรักม่อนแจ่มเข้าอย่างจังเลยค่ะ  :mew1:

ออฟไลน์ FHUNWHAN

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: SWEET SURRENDER 4/6/59 CH.11 As Bright As the Darkness P.4
«ตอบ #138 เมื่อ09-06-2016 05:48:26 »

ในที่สุดก็ตามทันแล้ววว

รู้สึกดีใจที่พี่เกรียนมาเรื่องใหม่มาให้หายคิดถึง
คิดถึงภาษานี้ กลิ่นอายนี้ (ความเกรียนนี้)
คราวนี้มาเหนือความคาดหมาย ตรงที่เคะเมะดูสลับคณะจากปกติ 555
แต่ก็ยังมีหมอกไอดิลโผล่มาให้หายคิดถึงด้วย แอบลุ้นว่าจะได้เจอคุณพ่อ2คนนั้นมั้ย > <

กลิ่นมาม่า เอ้ย! ความดราม่าลอยมา
ปมของรุ่นพ่อแม่ดูร้ายแรงมาก และไม่อยากคิดเลยว่าถ้าม่อนน้อยรับรู้เรื่องนี้จะเกิดอะไรขึ้น
ความรู้สึกที่มีต่อพ่อแม่ตัวเอง ความรู้สึกที่มีต่อพชร

ปล. เศร้าได้แต่อย่ามากนะพี่เกรียน เราจิตใจอ่อนแอ 5555555

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: SWEET SURRENDER 4/6/59 CH.11 As Bright As the Darkness P.4
«ตอบ #139 เมื่อ09-06-2016 19:31:16 »

พชรจะกล้าใจร้ายกับม่อนจริง ๆ เหรอ ออกจะหวงห่วงขนาดนั้น

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: SWEET SURRENDER 4/6/59 CH.11 As Bright As the Darkness P.4
« ตอบ #139 เมื่อ: 09-06-2016 19:31:16 »





ออฟไลน์ INDY-POET

  • อินดี้กวีเกรียน✍
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +918/-22
Re: SWEET SURRENDER 12/6/59 CH.12 Remember to Never Forget P.5
«ตอบ #140 เมื่อ12-06-2016 18:56:07 »

CHAPTER 12: Remember to Never Forget

           ‘Philosophy bakes no bread. 
โปรดบรรยายข้อความดังกล่าว  โดยประกอบด้วย ความหมายของข้อความ ความคิดเห็นของนักศึกษาต่อข้อความ และเหตุผลที่สนับสนุนและคัดค้านความคิดเห็นของนักศึกษา’ (10 คะแนน)

           ‘นักศึกษาโปรดลำดับเวลาการศึกษาปรัชญา ตามที่ได้เรียนมาหนึ่งภาคการศึกษา
โดยประกอบด้วย กำเนิดการศึกษาปรัชญา นักปรัชญาแต่ละยุคสมัยพร้อมแนวคิด และเปรียบเทียบวิวัฒนาการ แนวคิดทางปรัชญาของแต่ละท่านตามเงื่อนไขเวลา ตามด้วยความคิดความรู้สึกของนักศึกษาต่อทั้งวิชาปรัชญาและการศึกษาปรัชญา’ (10 คะแนน)

          ‘วิธีที่ดีที่สุดในการเข้าถึงวิชาปรัชญาสำหรับนักศึกษาคืออะไร โปรดอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง’
(10 คะแนน)

          ‘นักศึกษาคิดว่าปัจจัยใดทำให้หลงลืมการมีอยู่ของปรัชญา และในขณะเดียวกัน ปัจจัยใดทำให้ตระหนัก ถึงการมีอยู่ของปรัชญา โปรดอธิบายอย่างชัดเจนในแบบของนักศึกษา พร้อมสรุปด้วยว่า ปรัชญาคืออะไร’
(10 คะแนน)

          ‘หากนักศึกษามีชีวิตอยู่ในยุคกรีกโบราณ นักศึกษาต้องการฝากตัวเป็นศิษย์นักปรัชญาท่านใด เพราะเหตุใด’ (10 คะแนน)   


           พชรเลิกคิ้วใส่ข้อสอบ..  ข้อสอบที่ประกอบด้วยโจทย์สั้นบ้างยาวบ้างและสมุดคำตอบหนึ่งเล่มที่ซ้อนหลังอยู่
เจ้าของใบหน้าคม เชื้อสายเกษตรกรถอนหายใจเหยียดยาว เอนแผ่นหลังกำยำพิงพนักเก้าอี้ ดวงตาหลับลง
เมื่อคืนเขานอนน้อยเหลือเกิน เพราะกว่าเจ้าของแว่นแดงจะหลับสนิทแล้วลุกขึ้นไปถอดแว่นให้เจ้าตัวได้ก็ปาเข้าไปดึกสงัด 
พชรพยายามเรียกสติและดึงสมาธิกลับมาอยู่กับข้อสอบทั้งเปลือกตาปิดสนิท..

“ทำอะไร พชร?”
อาจารย์วัยใกล้เกษียนเดินผ่านมาเงียบเชียบ เอ่ยถามเบาๆด้วยน้ำเสียงชวนขนหัวลุก
“ทำสมาธิครับ” พชรพึมพำตอบ และคนถามก็ยักไหล่ก่อนเดินจากไป ทิ้งไว้เพียงคำย้ำเตือน
“อย่าทำจนหลับไปล่ะ มีตื่นมาไม่ทันทุกปี”

ตื่นมาไม่ทัน..
พชรได้ยินดังนั้นจึงลืมตาขึ้น ลงมือทำข้อสอบทันทีเพราะคิดว่าได้ทำสมาธิเพียงพอแล้ว สมองคิดให้วุ่นว่าจะทำอย่างไรกับโจทย์ทั้งห้าข้อและสมุดคำตอบว่างๆข้างตัว
เอาล่ะ..
   
“อาจารย์ครับ” พชรยกมือ
“ว่าไง พชร?”
เสียงเข้มถามเสียงดังฟังชัด เพื่อให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน
“ผมขีดหรือเขียนอะไรลงในกระดาษข้อสอบได้ใช่ไหมครับ”
“เอาแค่อย่าลามไปเขียนโต๊ะ”
“ขอบคุณครับอาจารย์”

โอเค..
พชรอ่านโจทย์ซ้ำอีกครั้ง และใช้ดินสอขีดลงไปในสิ่งโจทย์ต้องการเพื่อจะตอบให้ครบถ้วน และจัดการเขียนใหม่สั้นๆ

          ๑. ‘Philosophy bakes no bread.’ ความหมาย ความคิดเห็น เหตุผลที่สนับสนุน,คัดค้าน
          ๒. ลำดับเวลาการศึกษาปรัชญา: จุดกำเนิด, นักปรัชญาแต่ละยุค, แนวคิด, เปรียบเทียบวิวัฒนาการตามเงื่อนไขเวลา, ความคิด+ความรู้สึกต่อวิชาปรัชญาและการศึกษาปรัชญา
          ๓. วิธีที่ดีที่สุด อธิบาย+ตัวอย่าง
          ๔. ปัจจัยที่หลงลืม,ปัจจัยที่ตระหนัก อธิบาย+ตัวอย่าง (สรุป ปรัชญาคือ?)
          ๕. ต้องการเป็นศิษย์ท่านใด ทำไม


“อาจารย์ครับ” พชรยกมืออีกครั้ง
“ว่าไง พชร?”
“ไม่ต้องทำตามลำดับข้อก็ได้ใช่ไหมครับ”
“เอาแค่ทำมาให้ครบทุกข้อ”
“ขอบคุณครับอาจารย์”
“อ้อ..” อาจารย์เสริมเมื่อนึกขึ้นได้
“แต่ขอร้อง ช่วยระบุเลขข้อมาให้ชัดเจนด้วยนะ เพราะบ่อยครั้ง.. อาจารย์ไม่ทราบเลยว่านักศึกษากำลังตอบข้อไหนอยู่”

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

          “เกรียน เกรียน แบบเกรียนมาก!”
หนึ่งในนักศึกษาปรัชญาพ่นลมหายใจ ขณะกระซวกเส้นใหญ่เย็นตาโฟอย่างเมามัน
“ถามมาได้ว่าถ้ากูอยู่ในยุคโบราณ กูจะไปฝากตัวเป็นศิษย์นักปรัชญาคนไหน โอ้ว กูจะให้เหตุผลยังไงดี”
“กูทำข้อนั้นก่อนเลย กูว่าทำได้สุดแล้ว” อีกคนผสมโรง “กูเป็นศิษย์อริสโตเติล!”
“กูเป็นศิษย์เพลโต” อีกคนตอบบ้าง “ปล่อยกูอยู่ในโลกของแบบของกูไปแล้วกัน อย่ามายุ่งกับกูเลย”
ฮ่ะๆ! ทั้งโต๊ะฮาครืน
“แล้วมึงเป็นศิษย์ใคร พชร?” คนเดียวที่นั่งทานข้าวเงียบๆถูกดึงเข้าสู่วงสนทนาจนได้
พชรนึกขำผองเพื่อน ทว่าก็เพียงยักไหล่น้อยๆ ตอบสั้นๆ
“ธาเลส”
“ทำไมวะ?”
ทำไมหรือ..
“เพราะกูเชื่อว่าน้ำคือชีวิต”
เกษตรกรยังไงก็เป็นเกษตรกรล่ะน่า..

           ร่างสูงเดินแยกจากคณะพรรค
ปฏิเสธการไปเที่ยวฉลองสอบเสร็จ โดยให้เหตุผลตามตรงว่าจะรีบกลับบ้านไปทำงานต่อ ขายาวก้าวไปทางหอสามชาย
ผ่านภาคเรียนแรกของชั้นปีที่หนึ่งไปแล้วสินะ.. ใบหน้าที่ตามปกติเฉยชาอดจะมีรอยยิ้มน้อยๆไม่ได้ ขณะรู้สึกถึงกระดาษร่างคำตอบวิชาปรัชญาที่ม้วนอยู่ในมือ

          ภายในห้อง 338 ว่างเปล่าเมื่อเขาย่างเท้าเข้าไป รูมเมททั้งสองคงยังสอบอยู่ที่คณะ
พชรถอนหายใจน้อยๆ เอาดินสอปากกาและกระดาษร่างในมือไว้ในลิ้นชัก หยิบหมวกกันน็อคลงมาจากหลังตู้
สายตาอดไม่ได้ที่จะทอดมองเตียงล่างที่อยู่มุมห้องด้านติดระเบียง เตียงที่เป็นต้องลุกขึ้นไปทุกคืนเพื่อถอดแว่นให้เจ้าของซึ่งหลับปุ๋ยทั้งแว่นแดงคาตา
คนอะไร ..เหลือเกินจริง
ศีรษะส่ายน้อยๆ หยิบกุญแจรถจากบนโต๊ะขึ้นมา ตั้งท่าจะหันหลังออกจากห้อง ทว่า ก็ต้องหันกลับมาอีกครั้ง
สายตาทอดมองภาพการ์ตูนที่แปะอยู่บนผนัง พร้อมด้วยข้อความเล็กๆในภาพทั้งสองภาพ

‘กูคือม่อนแจ่มแห่งวิศวฯเครื่องกล’
‘กูไม่ชอบมึง’
‘มึงจะต่อยกับกูไหม!?’

คนอะไร ..ยิ่งกว่าเหลือเกินเสียอีก

          ‘พรุ่งนี้ กูสอบเสร็จบ่ายสาม กลับมาหอแล้ว ..จะได้เจอหรือไม่ได้เจอพชรเหรอ’

เสียงที่ได้ยินเมื่อคืนลอยเข้ามาในห้วงคำนึง
พชรสะบัดศีรษะนิดหนึ่ง นึกสงสัยว่านี่มันกี่โมงแล้ว
ไม่มีนาฬิกาตั้งโต๊ะหรือติดผนังในห้อง พชรเองก็ไม่ชอบใส่นาฬิกาข้อมือ อันที่จริง.. เขาไม่ชอบใส่อะไรบนข้อมือทั้งนั้น มันเกะกะเกินไปสำหรับคนที่มักจะมือเลอะเทอะเศษดินเศษหญ้าและต้องใส่ๆถอดๆถุงมือยาง
มือแกร่งจึงล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องเล็กขึ้นมาแทน

11.25

ใช่สินะ.. มันไม่มีทางเป็นบ่ายสามโมงไปได้หรอก
พชรใส่โทรศัพท์มือถือกลับลงในกระเป๋ากางเกง ห้ามสายตาจากการหันกลับไปมองเตียงล่างปูผ้าลายหมีพูห์ แล้วรีบก้าวยาวๆออกจากห้อง

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

            15. ไม้จัดเป็นวัสดุประเภทใด

“พอลิเมอร์” ปากเรียวขมุบขมิบพลางฝนคำตอบ

            22. เหล็กกล้าไร้สนิมเกรด 18-8 หมายถึง เหล็กกล้าที่ผสมโลหะชนิดใดเป็นปริมาณสูงสุดสองชนิดแรก

ดวงตาสีน้ำตาลกวาดมองตัวเลือก.. ก่อนจะฝนคำตอบ ‘ค. โครเมียม-นิเกิล’

            34. ข้อใดเป็นสิ่งที่สามารถทราบได้จากแผนภาพเฟส (Phase diagram)
อุณหภูมิที่โลหะผสมเริ่มแข็งตัวเป็นของแข็ง
สภาพการละลายได้ของธาตุหนึ่งในอีกธาตุหนึ่ง ณ สภาวะสมดุล
เฟสต่างๆ ที่มีอยู่ในเนื้อวัสดุ


มันก็รู้ได้หมดเลยนี่หว่า.. ถูกทุกข้อเถอะครับพี่น้อง..

            45. ข้อใดคือปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นในแผนภาพเฟสของ Fe-Fe3C ที่กำหนดให้

ห๊ะ? คราวนี้คิ้วเรียวขมวดมุ่น จ้องมองแผนภาพเฟส
“สติ ม่อน สติ!” พึมพำเตือนตัวเองเบาๆ ตัดทุกสิ่งทุกอย่างออกไปจากใจ โฟกัสเพียงแผนภาพเบื้องหน้า
แล้วจึงฝนคำตอบอย่างลังเล ‘ก. Peritectic, Eutectic, Eutectoid’

             50. เซรามิกสามารถรับแรงชนิดใดได้ดีที่สุด

โอเค.. กลับมามั่นใจอีกครั้ง ฝนคำตอบ ‘ง.แรงอัด (Compression)’

มือขาววางดินสอ สูดลมหายใจ ใช้ไม้บรรทัดเล็ก(ลายลาน้อยอียอร์ทำหน้างุนงงใส่พูห์)ทาบกระดาษคำตอบทีละข้ออีกครั้งว่าได้ตอบครบแล้ว จึงยกมือขึ้น เป็นสัญญาณให้กรรมการคุมสอบมาเก็บกระดาษคำตอบไปได้

           “อ้าว ไอ้ม่อน มาพอดี”
เสียงทักดังมาเมื่อม่อนแจ่มเดินผ่านโต๊ะม้าหินอ่อนที่ก๊วนสิ่งแวดล้อมของไอดิลมักจะนั่งอยู่
“ไอดิลมันยังทำข้อสอบไม่เสร็จเลย แม่งคงกะเอาท็อป มึงรอนี่ก่อน”
“หรือไม่ แม่งอาจจะคิดคำตอบยังไม่ออก”
ม่อนแจ่มให้ความเห็น ทำเอาพีระศิลป์เพื่อนสิ่งแวดล้อมของคู่ซี๊หัวเราะลงลูกคอ
“อ้าว แล้วนั่นมึงจะรีบไปไหน?”
ถามเพราะเห็นเพื่อนร่วมคณะรีบจ้ำอ้าวจากไปแล้ว ไม่นั่งที่โต๊ะด้วยกันอย่างทุกวัน
“บอกไอ้ดิ้ลด้วยว่ากูกลับหอก่อน”
“กูว่าจะชวนมึงไปชมรมอาร์ทติส วาดรูปกัน”
“ไว้วันหลัง!” ม่อนแจ่มตะโกนตอบ แล้วรีบวิ่งสุดฝีเท้ากลับหอสามชาย
เข้าประตูหน้าได้ก็รีบแจ้นขึ้นบันไดจนหอบแฮ่กๆ กระนั้นก็มาหยุดเอาเมื่อถึงหน้าประตูห้อง 338
มือสั่นๆ เร่งเสียบกุญแจแล้วเปิดผางเข้าไป..

.

.

ไม่มีใครอยู่ในห้อง ..เช่นที่ไม่น่าจะมี

โธ่..
ม่อนแจ่มถอนหายใจยาว จำต้องทรุดนั่งลงบนพื้นเพราะเหนื่อยจนหมดแรงจากการวิ่งไม่หยุด ทั้งที่ขาก็ไม่ใช่ว่าจะยาวอะไรนัก

เฮ้อ..
แม้จะคาดเอาไว้ว่าคงไม่เจอ แต่เขาก็ยังอยากรีบกลับมา และแม้จะไม่เจอจริงๆ เขาก็ยัง..
นั่งทั้งทีก็ขอนั่งใกล้ๆหน่อยแล้วกันวะ
ร่างเล็กขยับเข้าใกล้เตียงเดี่ยว เตียงที่นอนมองนอนจ้องทุกคืนจนหลับปุ๋ย พลางถอนหายใจอีกครั้งอย่างอ่อนล้า นั่งตะแคงข้างพิงเตียงเดี่ยวของรูมเมทปรัชญา ศีรษะเล็กซบลงบนผ้าปูที่นอนสีเข้ม
หลังจากที่นอนหลับไม่ค่อยสนิทนัก เพราะยิ่งใกล้ปิดเทอม น้ำหนักในช่องท้องยิ่งโหวงเหวงอย่างน่าประหลาด หลังจากวันอันยาวนานที่สอบติดๆกัน และหลังจากรีบวิ่งออกจากห้องสอบวัสดุวิศวกรรมกลับมาที่หอทันที ทำให้ร่างกายตระหนักได้ในตอนนี้ว่า..เขาหมดพลังแล้ว

งืม..
ม่อนแจ่มนั่งนิ่งๆจนลมหายใจค่อยๆเป็นปกติ ปกติจนแทบจะกลายเป็นสม่ำเสมอ
ไม่ไหวแล้ว.. ม่อนแจ่มง่วง ง ง ง..

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

           ให้ตายเถอะ.. นี่มันเกินไปแล้ว
พชรอุตส่าห์ไม่ถามตัวเองแล้วว่าขี่รถออกไปนอกมอแล้วจะวนกลับเข้ามาหอพักอีกทำไม
แล้วทำไมก่อนหน้าจะไปถึงได้รออยู่เป็นค่อนวัน แล้วนี่เขากลับเข้ามาเพื่อจะพบว่า..
ร่างสูงถอนหายใจยาว มือแกร่งกุมขมับ มองร่างเล็กที่หลับปุ๋ย ศีรษะเอนซบกับเตียงตัวเองอย่างทำอะไรไม่ถูก

เฮ้อ..
นอนอยู่ได้ยังไงแบบนี้ ประตูห้องก็ไม่เปิด จะหายใจหายคอออกได้อย่างไร
คิดได้ดังนั้น ขายาวจึงก้าวไปที่ประตูระเบียง หมุนลูกบิดเปิดรับอากาศจากภายนอก ไม่ให้คนภายในห้องอึดอัด แล้วจึงเดินมากดเปิดพัดลมหมุนโบกให้อากาศจะได้ถ่ายเท

จะปลุกไปนอนบนเตียงดีไหม ..พชรลังเล
ปลุกแล้วก็ต้องตื่น ..ตื่นแล้วก็คงถาม ..ยิ่งถามมากๆอยู่
ยิ่งถามก็ยิ่งหวั่นไหว เดี๋ยวเป็นได้ทำอะไรไม่สมควรอีก แย่จริง..
พชรส่ายศีรษะน้อยๆ ถึงอย่างไรก็ปล่อยให้นอนเมื่อยต้นคออยู่เช่นนี้ไม่ได้หรอก ยังไงก็ไม่ได้..
ร่างกำยำทรุดนั่งลงข้างๆเตียง ดวงตาสีเข้มพิจมองใบหน้าอีกฝ่าย ห้ามตัวเองไม่ไหวที่จะยื่นมือไปค่อยๆสัมผัสเรือนผมนุ่มนั้น

“เครื่องกล..”
“อือ..” เสียงน้อยๆในลำคอครางตอบ
พชรจำต้องหยุดตัวเองจากการโน้มหน้าเข้าไปในระยะอันตราย โดยการเรียกเสียงหนักขึ้น
“เครื่องกล ไปนอนที่เตียงเถอะ”
“อือ..” จำน้ำเสียงได้ คนหลับจึงพึมพำเรียกแผ่วๆ “พชร”
รู้สึกถึงสัมผัสบนเรือนผม แขนเล็กจึงยกขึ้นจับสัมผัสนั้นเอาไว้ สัมผัสจากฝ่ามือ ..มือพชร..
เอ๊ะ.. ดวงตาที่ปิดสนิทก่อนหน้าค่อยๆลืมขึ้น ยังงงๆอยู่กับสัมผัส  รู้สึกคล้ายเป็นความฝัน แต่..
“พชร!?” ม่อนแจ่มกระพริบตาปริบๆ พชรจริงๆด้วยนี่นา
..
“อืม”
ก็ไม่รู้จะว่ายังไง จะบอกว่า 'กูไม่ใช่พชร' ก็คงไม่ได้ เจ้าของชื่อจึงเพียงครางตอบรับเบาๆ แล้วละมือออกมา ค่อยๆหยัดตัวลุกขึ้น
“กูนึกว่ามึงกลับบ้านแล้วเสียอีก” ม่อนแจ่มค่อยๆลุกตาม ยิ้มกว้างอย่างดีใจ
จริงสินะ เขารีบวิ่งจนลืมสังเกตว่า Kawasaki D-tracker ดำ-เขียวยังจอดอยู่หน้าหอหรือเปล่า
“อืม”
ได้เพียงครางรับในลำคออีกครั้ง แล้วพชรจึงหยิบหมวกกันน็อคที่วางไว้บนเตียงก่อนหน้าขึ้นมาถือไว้ เตรียมออกจากห้องอย่างที่ทำซ้ำๆมาตลอดค่อนวัน
“เฮ้ยๆ เดี๋ยว!” ม่อนแจ่มรีบรั้งไว้อย่างงงๆ “จะกลับแล้วเหรอ?”
“อืม..”
เสียงตอบที่คาดได้..
“อะ” ม่อนแจ่มอึกอัก
อะไรวะ ตื่นก็เพิ่งตื่น อุตส่าห์ตื่นมาเจอ พชรจะไปแล้ว แล้วอีกตั้งหลายวันกว่าจะเปิดเทอม..
ฟันเฟืองในหัวหนุ่มเครื่องกลหมุนกันให้วุ่น ในที่สุด ม่อนแจ่มก็คิดว่า..
“สองนาที”

ห๊ะ?
พชรเลิกคิ้วกับถ้อยคำนั้น

“ขอสองนาที!”
ม่อนแจ่มย้ำ หมุนตัวกลับหลัง เพ่งมองบนโต๊ะที่อยู่ใกล้ที่สุด ..โต๊ะของพชร ..โต๊ะที่มีเอกสาร Introduction to Philosophy วางอยู่ ข้างกันมีสมุดบันทึกฉีกได้แบบไร้เส้นและดินสอด้วย พอดีเลย..

“ขอใบนึงได้ไหม?” หน้าเรียวหันกลับมาถาม

ห๊ะ?
พชรยังงงๆ..

“กระดาษ” ม่อนแจ่มย้ำอีก “ขอกระดาษใบนึงนะ”
ขอกระดาษใบนึง..
“อืม”
“ยืมแป๊ปด้วยนะ” มือเรียวชูดินสอไม้ขึ้นมา
“อืม”
“ขอเวลาสองนาทีนะ”
..
“อืม..”

ม่อนแจ่มยิ้มกว้างอีกครั้ง ดึงกระดาษออกจากสมุดบันทึก ตวัดดินสอจรดลงบนแผ่นกระดาษสีหม่นรวดเร็ว 
มือขาวนั้นลากเส้นไปมาอย่างคล่องแคล่วในแบบที่มือแกร่งสีแทนไม่มีทางทำได้
ไม่มีคำพูด ไม่มีอะไร มีแต่เสียงลมหายใจ เสียงลมพัดผ่าน เสียงขูดขีดของดินสอในมือม่อนแจ่ม
พชรมองเพลิน.. มองค้างอยู่อย่างนั้น..
ไม่รู้เลยว่ามันผ่านไปสองนาที หรือสิบนาที หรือกี่ชั่วโมง เมื่อคนที่นั่งเก้าอี้เขา ใช้กระดาษเขาและดินสอเขา (โดยขออนุญาตแล้ว) ลุกขึ้นยืนและหันกลับมายื่นแผ่นกระดาษให้..

.

.

มือแกร่งค่อยๆยกขึ้น ..รับแผ่นกระดาษที่ถูกยื่นมาตรงหน้า
ภาพการ์ตูนอีกแล้ว..
ภาพนักศึกษาชายคนหนึ่งอยู่บนมอเตอร์ไซค์โมตาร์ด สองมือจับแฮนด์ ศีรษะสวมหมวกกันน็อค
ลายเส้นแสดงให้เห็นว่ารถกำลังวิ่งอยู่บนถนน.. และป้ายข้างทางก็บ่งไว้ว่าเขากำลังไปไหน..

‘ลำพูน  35’

ข้างใต้มีข้อความเพิ่มนิดหนึ่งซึ่งเขาไม่เคยเห็นบนป้ายบอกทางไม่ว่าครั้งใดที่ขี่รถกลับบ้าน..

'Ride Carefully'

มุมล่างขวาของภาพมีลายเซ็นภาษาอังกฤษตัวเขียนติดกันเป็นพรืดกำกับเอาไว้ อ่านได้ว่า..
‘Mon Cham of  Mechanical Engineering’

..ชะงักนิ่งไปหลายอึดใจ
ก่อนที่คนถูกวาดจะเงยขึ้นมามองคนวาดให้เต็มๆตาอีกครั้ง..

“ปิดเทอมตั้งค่อนเดือน” ม่อนแจ่มอธิบาย ยิ้มตอบสายตาที่มองมา
..
“มึงจะได้ไม่ลืมกู..”

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

            กลับบ้านประดิษฐาพงศ์อีกครั้ง..
ม่อนแจ่มใส่เกียร์หมาและแมวพุ่งลงจาก Mercedes Benz เข้าไปสวมกอดป้าเพ็ญร่างอวบทันที
“โอ๊ยยย คุณม่อน!” แม่บ้านตีท่อนแขนเรียวเบาๆอย่างเอ็นดู “ทำอะไรเป็นเด็กๆไปได้คะ?”   
“แล้วใครบอกป้าเพ็ญว่าม่อนโตครับ” ม่อนแจ่มย้อนถามพลางหัวเราะ กระชับอ้อมแขนที่โอบไม่รอบให้แน่นขึ้นอีก
“คุณม่อนละก็!”
“แหม” ม่อนแจ่มละอ้อมแขนออกมา “ก็ม่อนไม่ได้เจอป้าเพ็ญตั้งนานแล้วนี่ครับ มีเรื่องมาเล่าให้ฟังตั้งเยอะแยะ”
เป็นต้นว่า.. ม่อนได้นั่งมอเตอร์ไซค์ครั้งแรก ซ้อนท้ายรูมเมทปรัชญาที่ไม่ชอบขี้หน้าม่อน
ม่อนเผชิญหน้ากับ ‘สิ่งที่ป้าเพ็ญรู้ดีว่าอะไร’ ในห้องน้ำและห้องนอน ซึ่งครั้งหลังนั้น เมทปรัชญาคนเดิมก็อุ้มม่อนด้วย
รุ่นพี่เล่าเรื่อง ‘สิ่งที่ป้าเพ็ญก็รู้อีกว่าอะไร’ ให้ม่อนฟัง จนม่อนขี้ขึ้นหมอง ไม่กล้าไปเข้าห้องน้ำ แต่ที่สุด ม่อนก็ทำได้ ด้วยความช่วยเหลือของรูมเมทปรัชญาคนเดียวกันนั้น
ม่อนเจอสถานการณ์ไฟดับครั้งที่สองและรูมเมทปรัชญาคนที่ดีที่สุดในโลกก็ไม่ยอมให้ม่อนไปแจกของ
ก็อย่างว่าแหละ เขาไม่รู้หรอกครับ ว่าม่อนน่ะมีคุกกี้ซุกไว้ใต้โต๊ะกี่ถุง!
แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะเขาอวยพรม่อนในการสอบเคมี ด้วยถ้อยคำที่ม่อนไม่มีวันลืม..

          “รอบนี้ยิ้มร่าเชียวนะคะคุณม่อน” ป้าเพ็ญหรี่ตา “ชีวิตหอในสดใสแล้วสิคะ”
ม่อนแจ่มพยักลำคอรัวๆ ใบหน้าขึ้นสีจัด ริมฝีปากร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ขณะนึกถึงความสดใสที่ว่า 

“ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะค่ะ ป้ามีบัวลอยไข่หวาน ของชอบของคุณม่อนด้วย”
บัวลอย บัวลอยไข่หวาน!
“เสื้อผ้ามิพักต้องเปลี่ยนดอกครับ!”
ม่อนแจ่มส่ายหน้าดิก ร่างเล็กรีบวิ่งเอาของไปเก็บ ก่อนกลับมาจัดการกับเจ้าบัวลอยอย่างสาสม พร้อมทั้งเม้าธ์มอยกับป้าเพ็ญอย่างสนุกสนาน
สาวใหญ่ร่างอวบหัวเราะน้อยๆ ขณะรับฟังเรื่องราวของคนคนนี้อีกครั้ง เรื่องราวของ ‘รูมเมทปรัชญาที่ไม่ชอบขี้หน้าคุณม่อน’

            ยามค่ำ ณ บ้านประดิษฐาพงศ์ สามสมาชิกหลักทานมื้อค่ำร่วมโต๊ะกันอย่างที่เคย
ไม่มีคำพูดมากนักระหว่างมื้ออาหารดังที่เป็นปกติ อย่างไรก็ตาม ม่อนแจ่มก็ยังพอใจกับคำถามแบบเดิมของบิดา แม้ว่า วันนี้ มารดาจะดูเครียดๆอยู่สักหน่อย ท่านคงจะเป็นกังวลเรื่องงานกระมัง

           “สอบเป็นอย่างไรบ้างล่ะม่อน?”
คำถาม ..คำถามที่ม่อนแจ่มคาดเดาได้ เขากำลังรออยู่เลยเชียว
บิดาถามคำถามทำนองนี้ตามสถานการณ์เสมอ
ไปเที่ยวกับเพื่อนสนุกไหมล่ะม่อน
เรียนเป็นอย่างไรบ้างล่ะม่อน
อยู่หอเป็นอย่างไรบ้างล่ะม่อน
เพราะฉะนั้น สอบเป็นอย่างไรบ้างล่ะม่อน ต้องมาแน่!

“ดีครับ” ม่อนแจ่มเขมือบทอดมันกุ้งแล้วเอ่ยตอบ “ม่อนว่าพอทำได้ครับคุณพ่อ”
นายพจน์พยักหน้าบางๆ ส่งเสียง ‘อืม’ ในลำคอ
แล้วก็แค่นั้น..
ม่อนแจ่มเกือบจะหลุดขำ บิดาเขาเป็นคนพูดน้อย ท่านถนัดแต่ทำงาน กลับบ้านก็อ่านหนังสือ เข้านอนแต่หัวค่ำ
ท่านพูดน้อยมากจริงๆ เพราะฉะนั้น ที่อุตส่าห์ถามนี่ เขาก็ต้องขอบคุณแล้ว!
ม่อนแจ่มเผลอมองใบหน้าคมนิ่งของบิดา สีหน้าเรียบเฉยนั้นไม่แสดงความรู้สึกใด ชั่งขัดกับดวงตาที่เปี่ยมความปราณีคู่นั้นได้อย่างน่าอัศจรรย์..

ม่อนแจ่มก้มหน้าลง ซ่อนรอยยิ้มน้อยๆเอาไว้
นี่ถ้าอยู่ที่หอ เขาก็ไม่สงสัยเลยว่าลักษณะท่าทางแบบนี้จะเป็นของใคร..
นั่นสินะ.. รู้แล้วว่าทำไมถึงคุ้น..

        ‘เราเคยเจอกันมาก่อนไหม’
        ‘ไม่’
        ‘จริงเหรอ’
       ‘กูไม่เคยโกหก’


ม่อนแจ่มไม่อยากเชื่อว่าในโลกนี้จะมีใครไม่เคยโกหก
เหตุผล สถานการณ์ ปัจจัยให้ต้องโกหกในแต่ละวันมีเยอะแยะไปหมด จะเป็นไปได้หรือที่ใครสักคนจะไม่เคยโกหกเลย
แต่ก็คงเหมือนความกล้าหาญ ในเมื่อคนบางคนมีความกล้าหาญมากพอที่จะไม่กลัวอะไรเลยได้ ก็คงมีความซื่อสัตย์มากพอที่จะไม่โกหกเลยได้เช่นกัน
อย่างน้อย ในเรื่องที่ไม่เคยเจอกัน เจ้าของเสียงเข้มนั้นก็ไม่ได้โกหก เพราะเราไม่เคยเจอกันจริงๆนั่นแหละ
 
“ม่อน..”
“ม่อน?”
“ม่อน!”

เย้ย!
“คะ..ครับ คุณพ่อ” คนถูกเรียกสะดุ้งโหยง หลุดจากห้วงความคิด
“เป็นอะไรไป?” นายพจน์เลิกคิ้วให้บุตรชายที่มองเขาค้างอยู่หลายนาที
“ปละ.. เปล่าครับ” ม่อนแจ่มส่ายหน้าดิก เพิ่งรู้สึกตัวว่ามองไปทางบิดานานเกินไปแล้ว
“มีปัญหาอะไรหรือเปล่า”
“แหะๆ ไม่มี ..ไม่มีครับคุณพ่อ”
ม่อนแจ่มหลบสายตา
บ้าจริง.. ไม่ถึงวันก็คิดถึงขนาดนี้เสียแล้ว

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

             “เพิ่งสอบเสร็จ ไม่พักผ่อนก่อนหรือพชร?”
เพชรลดาเอ่ยกับลูกชายอย่างห่วงใย พชรยิ้มตอบนิดหนึ่ง “ไม่เป็นไรครับ ผมกลับช้า”
ร่างกำยำจอดมอเตอร์ไซค์ใต้ถุนบ้าน กำกุญแจไว้หลวมๆ ก้าวยาวๆขึ้นมาบนบ้าน นั่งลงที่โต๊ะประจำเพื่อตรวจสอบบัญชีของเดือนนี้
“บิลของวันนี้ครับคุณพชร พอดีเพิ่งมาส่งตอนสี่โมง ผมเลยยังไม่ได้ใส่ไว้ในสมุด”
ชายร่างเล็กวางแผ่นกระดาษลงบนโต๊ะ พลางยิ้มให้เจ้านายหนุ่ม
“ขอบคุณครับ” พชรเงยหน้าขึ้น มองคนงานคนสนิทที่คุ้นเคย “..ลุงแสง”
หน้าเรียวทว่ากร้านแดดพยักรับ ใบหน้าที่แม้เหน็ดเหนื่อยกับงานมีรอยยิ้มเป็นนิจ ดวงตาภายในกรอบแว่นดำเป็นประกายอยู่ในทีเหมือนที่เห็นมาตั้งแต่เด็ก..

ดวงตาแบบนี้.. รอยยิ้มเช่นนี้..

“คุณพชร..”

“คุณพชรครับ?”

“ครับ ครับ!” คนถูกเรียกสะดุ้งน้อยๆ ขณะตอบรับ “ครับลุงแสง”
“คุณพชรเป็นอะไรหรือเปล่า” หนุ่มใหญ่เลิกคิ้ว “มีตรงไหนมีปัญหาหรือครับ”
“ไม่มีครับ” หน้าคมส่ายน้อยๆ ลอบถอนหายใจเครียดๆ ก้มลงพิจตัวเลขต่อไปจนแล้วเสร็จ..

            เวิ้งฟ้าสวนเพชรหละปูนดารดาษด้วยดวงดาวเช่นที่เป็นมาเสมอในคืนเดือนแรม
ร่างสูงนอนบนท่อนแขนตัวเองภายในเต็นท์ใหญ่ที่กางไว้บนระเบียงกว้าง แสงดาวลอดผ่านม่านตาข่ายโปร่ง
แขนอีกข้างยกขึ้น แผ่นกระดาษสีหม่นอยู่ในมือ สายตามองลายเส้นในภาพนั้น..
ภาพชายหนุ่มกำลังขี่มอเตอร์ไซค์ไปลำพูน ..ระยะทางอีก 35 กิโลเมตร ..ป้ายยังบอกให้ขี่ด้วยความระมัดระวังอีกด้วย
ภาพกำกับชื่อคนวาด ‘Mon Cham of Mechanical Engineering’

          ‘มึงจะได้ไม่ลืมกู..’

ถ้อยคำนั้นทวนซ้ำอยู่ในความคำนึง
ลืมอย่างนั้นหรือ? พชรถอนหายใจยาว เอาแค่เลิกคิดถึงตลอดเวลาให้ได้เสียก่อนเถอะ

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

เรื่อยๆ มาเรียงๆ
ขอบคุณสำหรับการติดตามเช่นเคยครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-06-2016 21:01:17 โดย INDY-POET »

ออฟไลน์ treenature

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0
Re: SWEET SURRENDER 12/6/59 CH.12 Remember to Never Forget P.5
«ตอบ #141 เมื่อ12-06-2016 19:22:16 »

ชอบอ่านมากเหมือนเดิมค่ะ ตอนนี้ยังหวานอยู่ยังไม่มีดราม่า เหมาะกับวันอาทิตย์แบบนี้ดีค่ะ การเฝ้าว้าวุ่นวนเวียนของพชรน่ารักจัง การห่างกันไม่ถึงวันเขียนออกมาให้ความรู้สึกคิดถึงตามไปด้วยเลย

ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
Re: SWEET SURRENDER 12/6/59 CH.12 Remember to Never Forget P.5
«ตอบ #142 เมื่อ12-06-2016 19:25:19 »

ม่อนน่ารัก วาดภาพไว้ให้คิดถึง  :กอด1:

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
Re: SWEET SURRENDER 12/6/59 CH.12 Remember to Never Forget P.5
«ตอบ #143 เมื่อ12-06-2016 19:31:32 »

กอดหนูม่อนนน
กอดคนแต่งงงง
เป็นกำลังใจให้ และรอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
Re: SWEET SURRENDER 12/6/59 CH.12 Remember to Never Forget P.5
«ตอบ #144 เมื่อ12-06-2016 19:33:42 »

ต่างคนต่างคิดถึง ปิดเทอมตั้งเดือนกลับไปเจอกันจะเป็นยังไงนี่

ออฟไลน์ 205arr

  • เราคงอยู่ไกลกันเป็นพันหมื่นลี้
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: SWEET SURRENDER 12/6/59 CH.12 Remember to Never Forget P.5
«ตอบ #145 เมื่อ12-06-2016 20:33:30 »

ถึงม่อนแจ่มจะไม่วาดภาพแทนใจให้
อีกคนเค้าก็ไม่ลืมหรอกค่ะ
่น่ารักกันจริงๆ เลย  :-[ :impress2:

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
Re: SWEET SURRENDER 12/6/59 CH.12 Remember to Never Forget P.5
«ตอบ #146 เมื่อ12-06-2016 21:47:56 »

"เอาแค่เลิกคิดถึงตลอดเวลาให้ได้ก่อน .. อย่าเพิ่งข้ามไปคิดว่าจะลืมกัน" แย่แล้ว..รูมเมทปรัชญาของม่อนแจ่ม  ... เหมือนพชร จะเริ่มรู้ตัวแล้วนะ ว่าแว่นแดง ชักมีอิทธิพลกับความรู้สึกของตัวเองมากเกินรูมเมทแล้ว มีแอบขับรถกลับมาด้วย แอร๊ยยยยย เขาอยากจะกรี๊ดดด น่ารักอ่ะ  :-[

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1960
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4
Re: SWEET SURRENDER 12/6/59 CH.12 Remember to Never Forget P.5
«ตอบ #147 เมื่อ12-06-2016 22:25:58 »

 :กอด1:


ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: SWEET SURRENDER 12/6/59 CH.12 Remember to Never Forget P.5
«ตอบ #148 เมื่อ12-06-2016 22:58:42 »

ลุงแสง มีรอยยิ้มเหมือน ม่อนแจ่ม แว่นแดงสินะ
 :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ceylon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: SWEET SURRENDER 12/6/59 CH.12 Remember to Never Forget P.5
«ตอบ #149 เมื่อ12-06-2016 23:13:56 »

เอฟซีม่อนม่อน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด