สะใภ้ขายาว : Chapter 21 รับผิดชอบ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: สะใภ้ขายาว : Chapter 21 รับผิดชอบ  (อ่าน 21400 ครั้ง)

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :haun4:  อุ๊ยงง  :hao6:   ภรรยาทำหน้าที่เสียบได้ดีมากค่ะ
คุณสามีริวจังเลยต้องยอมตามใจตลอดๆ บทบาทเมียบนเตียงริวจังเอาไปเลย
ลงจากเตียงลูซเป็นภรรยาช่างปรนนิบัติต่อไป

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :mew2:

ทำไมรู้สึกเหมือนลูซข่มขืนริวจังอ่า  :ling1:

ออฟไลน์ puchi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 762
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
เหมือนจะรำคาณภรรยา แต่ไปๆมาๆก็เหมือนจะไม่รำคาณ

เอ....มันยังไงยังไงอยู่น๊าาาา คุณสามี

ออฟไลน์ แฟนตาเซีย

  • หืมม...?
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
 :jul1: :oo1:

ออฟไลน์ Akikoneko17

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 19 เพราะรัก
«ตอบ #94 เมื่อ15-08-2016 21:53:38 »


19

เพราะรัก

 

            หลังผ่านพ้นคืนฮันนีมูน ทั้งสองก็เดินทางกลับมาพักที่บ้านฝ่ายสามี ตั้งแต่กลับมาจากฮันนีมูน ลูซรับรู้ได้ว่าริวเหมือนกำลังหลบหน้าเขา แม้จะนอนห้องเดียวกัน แต่ริวก็มีท่าทีหมางเมิน พยายามไม่คุยด้วย ไม่พูดไม่จาอะไรทั้งนั้นถ้าไม่จำเป็น

                ทั้งที่คิดว่าสามีจะเริ่มเปิดใจให้ แต่บางทีลูซก็อาจจะคิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไป เพราะดูเหมือนว่าท่าทีของริวจะไม่แตกต่างจากเดิมมากนัก

                ลูซมักจะลงมาทำอาหารเช้าให้กับครอบครัวเสมอ วันนี้ทุกคนไม่อยู่บ้าน เพราะเดินทางไปข้างนอกตั้งแต่เมื่อตอนบ่าย แล้วจะกลับมาค่ำๆ เหลือเพียงแค่ริวและลูซเท่านั้น เมื่อเห็นสามีเดินเข้ามาในบ้านหลังจากเลิกงาน ทางลูซที่เตรียมอาหารเย็นไว้รอคนรักก็รีบออกมารีบเดินตามสามีทันที เมื่อเห็นอีกฝ่ายจะเดินไปทางบันได

                “ริวจางงง”

                “เฮ้ย!!!”

                ชายหนุ่มสะดุ้งเฮือก เมื่อโดนภรรยาตัวสูงบีบก้น เขาหันขวับไปมองลูซ เตรียมตัวจะต่อว่า แต่ทว่าก็ต้องเงียบไป เมื่อชายหนุ่มยื่นจานไก่มาตรงหน้า

                “หอมเนอะริวจัง”

                “นี่แต่งตัวบ้าอะไรของนายห๊ะ”

                ลูซใส่เพียงกางเกงขาสั้นและผ้ากันเปื้อน เสื้อก็ไม่ยอมใส่ ชายหนุ่มหัวเราะคิกคัก แล้ววางจานไก่อบลงบนโต๊ะ เข้ามากอดรัดริวเสียเต็มอ้อมกอด

                “ก็ลูซเตรียมอาหารไว้รอริวจังไง”

                ชายหนุ่มเบือนหน้าหนีอย่างรับไม่ได้ แต่ลูซก็ไม่ยอมแพ้ หอมแก้มนิ่มซ้ำๆ แถมมือยังคอยป้วนเปี้ยนบริเวณก้นอีกต่างหาก

                “มือน่ะมือ”

                ริวพยายามเตือน แต่ลูซทำไม่รู้ไม่เห็น เนียนเอนศีรษะซบเข้าที่ไหล่เล็ก

                “คิดถึงริวจังจังเลย ริวจังไม่อยู่ ลูซเหง้า เหงา”

                สายตานั้นออดอ้อนจนริวหมั่นไส้ เขาตีมือของลูซอย่างเต็มแรง ขืนปล่อยให้ทำตามใจชอบ คนที่เดือดร้อนก็คงเป็นเขาเอง

                ยังโชคดีที่เวลาที่ผ่านมา หลังจากกลับจากฮันนีมูน ถึงลูซจะเข้ามาลวนลามเขาแค่ไหน แต่ชายหนุ่มก็เชื่อฟัง เขาบอกว่าไม่ก็คือไม่ เลยทำให้ทั้งคู่ไม่ได้มีเซ็กด้วยกันอีก

                ริวรู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไป เขาเริ่มมองหาลูซบ่อยขึ้น และยังยอมให้ลูซมานอนด้วยบนเตียง พอดูไปดูมาแล้ว ลูซก็ไม่ใช่ผู้ชายเลวร้ายตรงไหน เพียงแต่ในสายตาของริว ลูซก็คือผู้ชายที่ไม่ควรมาเป็นภรรยาของเขา

                “ริวจังทำงานมาเหนื่อยๆ ต้องทานเยอะๆน้า”

                อาหารที่ลูซทำนั้นถูกปากจนริวรู้สึกหมั่นไส้ เขาเจริญอาหารขึ้น แต่ที่จะทำให้ความอยากอาหารน้อยลงก็คงเป็นสายตาที่จ้องมองเขาทานอย่างไม่กระพริบตา ดูมีความสุขเสียเหลือเกิน

                “นายจะจ้องฉันอีกนานไหม”

                “ก็ลูซมีความสุข เวลาที่เห็นริวจังมีความสุขนี่นา”

                “ฉันกินไม่ลง”

                “งั้นลูซป้อนนะ”

                จบคำก็รีบเด้งตัวมานั่งข้างๆริวทันที ริวเหลือบตามองลูซ

                “ไม่ต้องเลย ฉันไม่ได้พิการ ฉันกินเองได้”

                “แต่ลูซอยากป้อนให้นี่นา”

                “เฮ้อ จริงสิ แล้วทำไมไม่ใส่เสื้อ”

                “ก็มันร้อนนี่นาริวจัง แถมใส่แค่นี้ ก็เซ็กซี่ดีด้วย”

                ว่าพลางยู่ปาก ขยิบตายั่วยวนสามี ริวส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมๆ ตัวก็โตอย่างกับนายแบบต่างชาติ ยังจะมาทำตัวแอ๊บแบ๊วเป็นสาวน้อยไปได้

                “พอเลยๆ นายกลับไปนั่งที่ตัวเองเลยไป ไม่งั้นก็ไปที่ไหนก็ได้”

                “ไม่เอาหรอก ลูซอยากดูริวจังกินข้าวนี่นา”

                เมื่อเหนื่อยที่จะพูดโต้ตอบ ริวก็เลือกที่จะเงียบแล้วลงมือทานอาหารต่อ ในขณะที่ลูซก็นั่งมองสามีอย่างเพลินตา

                พอขึ้นมาถึงห้อง ลูซก็รีบร้อนที่จะเข้ามาช่วยริวอาบน้ำ ในตอนแรกๆ ที่อยู่ด้วยกัน ริวหนีอย่างเอาเป็นเอาตายไม่ยอมให้ลูซเข้ามาอาบด้วย แต่เมื่อวันหนึ่งเกิดพลาดให้เข้ามาด้วยกัน ก็พบว่าลูซแค่ช่วยอาบน้ำจริงๆ ถึงจะมีลวนลามบ้างแต่ก็ไม่ถึงขั้นเกินเลย

                “ริวจังเมื่อยไหม เดี๋ยวลูซนวดให้น้า”

                การบริการก็นับว่าดีเยี่ยม ฝ่ามือร้อนบีบคลึงบริเวณไหล่ของริวอย่างกำลังดี ริวแทบจะหลับตาเคลิ้ม ถ้าไม่ติดว่าชอบมีริมฝีปากมาป้วนเปี้ยนแถวต้นคอ

                “คิดจะทำอะไร”

                “ลูซแค่อยากขอรางวัลเองน้า”

                “ฮึ่ย ออกไปข้างนอกเลยไป”

                “ริวจังก็ ให้ลูซช่วยปลดปล่อยตรงนี้ก็ได้น้า รับรองต้องมีความสุขแน่ๆ”

                ไม่เพียงแค่พูด แต่ฝ่ามือร้อนก็เลื่อนมาสัมผัสจุดสำคัญ ริวอยากจะผลักไสมือใหญ่ แต่เมื่อโดนปลุกเร้าเข้าหนักๆ เจ้าตัวก็เผลอโอนอ่อนผ่อนปรนให้ลูซได้สัมผัสมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งสุขสม

                “ดีไหมริวจัง”

                ว่าพลางลูบไล้ครีมอาบน้ำไปตามลำตัวเล็กเหมือนนวดคลึงให้ผ่อนคลาย ริวเริ่มชินกับสัมผัสของลูซ เขาพยักหน้าเบาๆ

                “อืม”

                จะว่าแปลกก็แปลก ที่เขาไม่รู้ว่าเขายอมรับลูซให้เข้ามาในชีวิตตั้งแต่เมื่อไหร่ ริวไม่ทันได้สังเกตตัวเอง ว่าเขาไม่ค่อยวิ่งหนีลูซเหมือนเมื่อก่อน แล้วก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้รู้สึกดี เมื่อได้ยินเสียงทุ้มกระซิบข้างใบหูว่า

                “ลูซรักริวจัง”

 

-------+++++-------

 

                วันนี้เป็นอีกวันที่ริวกำลังจะออกจากบ้าน เพื่อไปทำงานเหมือนดังปกติ แต่ทว่ายังไม่ทันได้ออกจากบ้าน

                “ริวจังง อย่าเพิ่งไปสิ”

                ลูซเข้ามาหาคนรัก แล้วยื่นบางอย่างให้ มันคือสร้อยเงิน ที่มีตัวอักษรย่อของชื่อลูซและริว ริวเหลือบตามอง

                “อะไรของนาย”

                “ก็ลูซให้ริวจังนี่นา ทำไมริวจังลืมไว้ในห้องน้ำอีกแล้วล่ะ”

                “ฉันไม่อยากใส่ นายเอาเก็บไว้ในห้องเลยไป”

                “ไม่เอาอ่ะ ก็อยากให้ริวจังใส่นี่นา”ลูซทำหน้างอน

                “เอาไปเก็บ”

                “น้าๆๆ ริวจัง ใส่น้า เพื่อลูซไม่ได้เลยเหรอ แค่นี้ก็ทำให้ลูซไม่ได้เหรอ”

                สุดท้ายเขาก็แพ้ต่อสายตาที่เศร้าสร้อยของลูซจนได้ ริวยอมใส่สร้อยเพื่อตัดความรำคาญของตัวเอง  แต่ก็ทำให้ลูซยิ้มร่าอย่างมีความสุข

ริวเดินออกจากบ้านแล้วเขาก็เจอกับพี่สาวของตัวเองที่เหมือนยืนดักรอเขาอยู่

                “มีอะไรหรือเปล่าพี่ริน”

                “ฉันมีเรื่องจะคุยกับนายสักหน่อย”

                “พี่จะออกไปข้างนอกด้วยไหม ติดรถผมไปก็ได้นะ”

                “ก็ดี งั้นเดี๋ยวเราไปคุยกันบนรถ”

                ทั้งคู่เดินไปขึ้นรถ ลูซยืนมองสองพี่น้องที่ไปด้วยกัน เขาได้แต่ยิ้ม เพราะดีใจที่คนรักเข้ากับพี่สาวได้ดี แม้นานๆทีจะเจอรินก็ตาม เพราะหญิงสาวค่อนข้างที่จะเดินทางบ่อย ลูซเองก็รับรู้ได้ถึงความไม่ค่อยพอใจที่รินมีต่อเขาแต่เขาก็จะพยายามไม่ใส่ใจ

                “มีอะไรหรือเปล่าครับ ดูหน้าพี่เครียดๆ”

                “ดูท่าพวกนายจะไปกันได้ดีสินะ”

                “เอ๊ะ พี่รินหมายถึง”

                “ก็นายกับเจ้ากะเทยนั่นไงล่ะ”

                “อ่า…”

                ริวอึ้งไปกับคำกล่าวของพี่สาว เขากลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ รู้สึกพูดไม่ออก

                “หรือว่านายรักเจ้านั่นไปแล้ว”

                “ไม่ใช่นะครับ ผมไม่ใช่พวกผิดเพศ”

                เมื่อรถยนต์หยุดจอดตรงไฟแดง รินก็หันไปมองน้องชาย สายตาตำหนิเล็กน้อย

ริวเริ่มเหงื่อตก

                “จริงเหรอริว ไม่ใช่ว่านายรักเจ้านั่นไปแล้วนะ”

                “จริงแท้แน่นอนครับ ผมไม่ได้คิดเกินเลยอะไรกับเจ้าบ้านั่นแน่ๆ”

                ไม่รู้ว่าทำไมพูดไปเขาก็เจ็บแปลบที่หัวใจไปด้วย รินคลี่ยิ้มออกมาเมื่อเห็นน้องชายยืนยันหนักแน่น

                “งั้นก็ดีแล้ว”

                หลังจากที่ริวขับรถไปได้สักพัก รินก็บอกให้ริวจอดรถ เพราะเธอมีธุระที่จะไปทำต่อ และปล่อยให้ริวขับรถไปทำงานเหมือนทุกวัน

                ชายหนุ่มนั่งทำงานในห้อง ในหัวก็พาลคิดถึงเรื่องของภรรยาตัวโตที่อยู่ที่บ้าน เขาถอนหายใจออกมาหลายครั้ง ไม่รู้ทำไมถึงได้รู้สึกแย่เมื่อนึกถึงคำตอบที่ให้ไปกับพี่สาวของเขา

                Rrrr

                เบอร์โทรศัพท์ที่ปรากฏ ทำให้ริวขมวดคิ้วทันที เพราะมันคือเบอร์ของธิดา ชายหนุ่มกดรับสายแล้วกรอกเสียงลงไป

                “สวัสดีครับ”

                [ริวเองเหรอ นี่ดานะ]

                “อืม มีอะไรหรือเปล่า”

                [ดาอยากนัดริวมาทานข้าวด้วยกัน เย็นนี้ริวว่างไหม]

                “ได้สิ ที่ไหนดีล่ะ”

                หลังจากนัดสถานที่เสร็จแล้ว ริวก็กดวางสายแล้วทำงานของตัวเองต่อ จนกระทั่งเวลานัดมาถึง เขาจึงเก็บของและเตรียมตัวที่จะเดินทางไปยังร้านที่นัดกับธิดาเอาไว้

                ธิดามาถึงตามนัดก่อนที่ริวจะมาถึงเพียงไม่กี่นาที ชายหนุ่มเดินเข้ามาทักทายหญิงสาวราวกับเป็นเพื่อนคนหนึ่ง

                “ไม่น่าเชื่อเลยนะ ว่าดาจะนัดผมออกมาแบบนี้”

                “ก็ดาแค่อยากขอบคุณริวก็เท่านั้นเอง”

                เธอเองก็ไม่ค่อยมีเพื่อนที่ไหน ริวก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ถึงแม้จะเจ้าชู้ แต่ก็ดูอบอุ่น เมื่อเลิกกันแล้วก็ไม่ได้เกลียดแค้นเธอ และยังสามารถเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้

                “พูดอะไรอย่างนั้นล่ะ ดาก็เหมือนเพื่อนผมคนหนึ่งนะ”

                “นั่นสินะ แต่เพราะริวเลยทำให้ดาคิดได้”

                หลังจากกลับมาที่ต่างประเทศ ธิดาได้มาพักที่โรงแรมเดียวกับริว สาเหตุที่เธอไม่ยอมกลับบ้านเพราะเธอทะเลาะกับคนรักใหม่ที่ชอบหึงหวงเธอจนเกินเหตุ

                “ดาเป็นคนสวย ไม่แปลกหรอกที่แฟนดาจะหึงหวง”

                ริวไม่ได้พูดโกหก เขาพูดไปตามความจริง ธิดาเป็นผู้หญิงที่งามทั้งหน้าตาและจิตใจ ถึงเธอจะเป็นผู้หญิงหัวสมัยใหม่ แต่ก็ไม่เคยหลับนอนกับผู้ชายคนไหนถ้ายังไม่ได้แต่งงาน

                “แต่ก็ต้องขอบคุณริวจริงๆ ที่คำพูดของริวช่วยเตือนสติดา”

                ในวันนั้นที่ริวเดินลงมาจากห้องพัก เขาเจอธิดากำลังยืนเหม่อมองฟ้าในยามค่ำคืน ชายหนุ่มจึงเข้าไปทัก ทั้งคู่ได้พูดคุยกันถึงปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างเธอและคนรัก เขาแค่กอดปลอบเธอเพื่อปลอบใจ ไม่ได้มีอะไรเกินกว่าคำว่าเพื่อน

                “ริวสั่งอาหารก่อนสิ มื้อนี้ดาเลี้ยงเอง ถือว่าเป็นการขอบคุณ”

                “ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่เรื่องโตเสียหน่อย”

                ว่าพลางระบายยิ้มอย่างอ่อนโยน ริวมักจะใจดีกับผู้หญิง เขาเองก็ดีใจที่ธิดามีความรักใหม่กับคนที่รักเธอมากจนหึงหวงขนาดนี้

                “แล้วดาตัดสินใจแล้วใช่ไหม”

                “อื้อ ดาคิดว่าดาจะกลับไปคุยกับเขาให้รู้เรื่อง แล้วเราก็จะเริ่มต้นกันใหม่ ดาอยากมีความสุข”

                ทั้งคู่ยิ้มให้กัน ก่อนที่อาหารจะเริ่มมาเสิร์ฟ ทั้งคู่คุยกันเรื่องทั่วๆไป แล้วปิดท้ายด้วยการจากลา

                ธิดาเป็นคนเดินออกไปก่อน ในขณะที่ริวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรไปบอกที่บ้านว่าวันนี้เขาจะกลับช้ากว่าปกติ โดยที่ตัวเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าที่ต้องโทรไปบอก เพื่อให้มารดารับรู้ หรือเพราะมีใครบางคนกำลังรอเขากลับบ้าน

                “ริวจางงงง”

                เสียงที่คุ้นเคยทำให้ริวสะดุ้งเฮือก เขาตกใจที่เห็นลูซเดินเข้ามาจากทางด้านหลัง ชายหนุ่มขมวดคิ้วฉับทันที

                “นายมาได้ยังไง”

                “ก็ลูซคิดถึงริวจังม๊ากมาก ก็เลยจะมาหาริวจังที่บริษัท แต่คนที่บริษัทบอกว่าริวจังออกไปแล้ว”

                “แล้วนายรู้ได้ยังไง ว่าฉันอยู่ที่นี่”

                ลูซอมยิ้ม เขาไม่บอกกล่าวอะไรทั้งนั้น เพราะว่าสร้อยที่ริวใส่นั้นติด GPS ติดตามเอาไว้ทำให้ลูซสามารถรับรู้ได้ว่าสามีของเขาอยู่ที่ไหน และวันนี้เขาก็รู้ว่าริวจังสุดหล่อของเขามาพบกับผู้หญิงที่ชื่อธิดาอีกแล้ว นั่นทำให้ลูซค่อนข้างจะโกรธเคือง แต่ก็เก็บซ่อนอารมณ์หึงหวงนั้นไว้ในใจ

                “ริวจังกลับบ้านกันเถอะน้า ลูซอยากอาบน้ำกับริวจังจะแย่แล้ว”

                ถึงแม้จะไม่พอใจยังไง แต่ลูซก็เก็บซ่อนมันเอาไว้ เพราะเขาไม่อยากให้ริวคิดว่าเขาเป็นภรรยาที่นิสัยไม่ดี

                “นายก็อาบไปคนเดียวสิ”

                “ไม่เอาอ่า ก็ลูซอยากอาบกับริวจังนี่นา

                ริวเดินกลับไปที่รถยนต์ของตัวเอง โดยที่มีภรรยาตัวสูงรีบขึ้นรถมานั่งข้างๆ ริวขับรถยนต์เพื่อจะมุ่งตรงกลับไปที่บ้าน แต่ทว่าชายหนุ่มก็ไม่ได้ทันสังเกตว่ามีรถยนต์อีกคันที่ขับตามเขามา

                เอี๊ยดดด!!

                รถยนต์คันสีดำขับมาปาดหน้าแล้วหยุดจอด เมื่อริวเริ่มขับรถมาถึงเส้นทางที่รถยนต์ขับผ่านมาน้อยคัน ริวขมวดคิ้วทันที เขาเบรกรถแทบไม่ทัน

                “นี่มันอะไรกันครับ จงใจหาเรื่องกันเหรอครับ”

                ชายหนุ่มลงจากรถเพื่อไปถามคู่กรณี แต่สิ่งที่เขาได้รับกลับมาคือหมัดหนักๆ ที่ชกเข้าที่ท้อง ลูซเบิกตากว้างเมื่อเห็นคนรักโดนทำร้าย เขารีบลงไปจากรถยนต์ทันที

                “นี่มันเรื่องอะไรกัน”

                “อย่ามาเสือก มึงไม่เกี่ยว”

                ผู้ชายตัวใหญ่หันมาคุยกับลูซ ลูซอึ้งไปครู่เดียว ก็ผลักอกของชายคนนั้น

                “ไม่เกี่ยวตรงไหน ก็พวกแกทำร้ายริวจัง”

                “ไอ้นี่มันสมควรโดนแล้ว”

                พูดจบก็พุ่งเข้าไปต่อยหน้าของริวโดยที่เจ้าตัวไม่ได้ทันตั้งตัว ทำให้ริวเซล้มไป พร้อมกับเลือดกบปาก ลูซเบิกตากว้าง เข้าไปต่อยผู้ชายคนนั้นคืน แต่ทว่าก็มีผู้ชายอีกคนถือท่อโลหะยาวพอดีมือ พุ่งตรงมาจะทำร้ายริว

                “ริวจัง!!!”

                ลูซไวกว่า เขารีบเอาตัวไปขวาง ท่อนเหล็กฟาดเข้าศีรษะได้รูปอย่างเต็มแรง                “อ๊อก”

                ร่างสูงร้องอย่างเจ็บปวด เสียงรถตำรวจที่ขับผ่านมา ทำให้พวกมันทั้งสองคนรีบวิ่งขึ้นรถหนี แต่ก็ไม่วายจะตะโกนบอก

                “แล้วอย่ามายุ่งกับคุณธิดาอีก ไม่งั้นครั้งหน้า แกตาย!”

                ริวค่อยๆประคับประคองตัวเองให้ลุกขึ้น ค่อยๆดันร่างสูงใหญ่ที่นอนทับเขาให้ออกห่าง แล้วริวก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เมื่อผมสีทองสวยเริ่มเปื้อนเลือดสีแดงสด พร้อมกับหน้าสวยที่เปลือกตาค่อยๆปิดลง

                “ลูซ!!!”

                ริวได้รับความช่วยเหลือจากตำรวจที่ผ่านมา ลูซหมดสติไปแล้ว เขาเริ่มหวาดหวั่น ใจคอไม่ดีเอาเสียเลย  เขานั่งมองลูซที่นอนหมดสติศีรษะอาบไปด้วยเลือด เขาเองก็มีบาดแผล แต่เขากลับรู้สึกเจ็บแทนลูซขึ้นมาเสียอย่างนั้น

                ใบหน้าสวยที่มักจะยิ้มแย้มให้กับเขาเสมอในตอนนี้กลับหลับตาสนิท สีหน้าซีดเซียว ถึงแม้เขาจะนอนเตียงเดียวกับลูซ แต่เขาก็ไม่เคยคิดจะสนใจมองหน้าลูซในเวลานอน เขามักจะนอนหันหลังให้กับลูซเสมอ

                “นายต้องไม่เป็นไรนะ”

                เขาได้แต่บอกด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ  เลื่อนมือไปจับมือใหญ่ พลางลูบผมนิ่มอย่างปลอบโยน

                “ขอโทษ…ขอโทษ”

                ริวรู้สึกผิดมากมายเหลือเกิน เขารู้ว่าที่ลูซต้องมาเจ็บตัวนั้นเป็นเพราะเขา มันเกิดจากเรื่องระหว่างเขาและธิดา คนที่ส่งคนเหล่านั้นมา น่าจะเป็นแฟนหนุ่มของเธอที่หึงหวง  เพราะไม่อยากให้เธอไปยุ่งกับผู้ชายคนไหน

                “ฉันผิดเอง ฉันผิดเอง”

                เมื่อมาถึงโรงพยาบาล ริวก็รีบวิ่งตามเตียงของลูซที่ถูกเข็นเข้าห้องฉุกเฉิน เขาทรุดกายนั่งลงบนเก้าอี้ มีพยาบาลมาพาเขาไปทำแผล  ชายหนุ่มอยากจะอยู่รอดูอาการลูซ แต่ก็โดนรบเร้าจนต้องเดินตามพยาบาลไป

                “เสร็จแล้วค่ะ”

                หลังจากที่ทำแผลเสร็จ ริวก็รีบกลับมาหาลูซ เขานั่งรอที่หน้าห้องฉุกเฉิน เวลาผ่านไปไม่นานนัก มารดาและบิดาของเขาก็เดินทางมาถึง

                “ลูซเป็นยังไงบ้างลูก”

                “หมอบอกว่าปลอดภัยแล้วครับ”

                ลูซถูกย้ายมาที่ห้องพักพิเศษ ริวหย่อนกายนั่งลงบนเก้าอี้ใกล้กับเตียงนอน รอบศีรษะพันไปด้วยผ้าก๊อซ

                “ริว มันเกิดอะไรขึ้นลูก”

                ราตรีเอ่ยถามบุตรชาย เธอรู้สึกสงสารลูกสะใภ้เหลือเกิน ริวก้มหน้าต่ำลง เขารู้สึกผิดเกินกว่าที่จะเอ่ย แต่สุดท้ายก็ต้องพูดออกไป

                “มันผิดที่ผมเอง เพราะผมมันไม่ดีเองครับแม่”

                ชายหนุ่มกัดปากตัวเองแน่น ดวงตาสั่นไหว รู้สึกได้ถึงความร้อนผ่าวที่ดวงตา ริวได้แต่โทษตัวเอง ความผิดครั้งนี้เขาขอรับมันไว้แต่เพียงผู้เดียว ถ้าลูซเป็นอะไรไป เขาคงไม่คิดจะให้อภัยตัวเอง

               

 

               





100%

 

ขอบคุณทุกการติดตาม

 

แจ้งข่าวเปิดพรีออเดอร์ค่ะ

 

http://www.tunwalai.com/chapter/695333/%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C-10816-10916?page=1

 

 

 



 

 

 

 

 


ออฟไลน์ puchi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 762
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 19 เพราะรัก
«ตอบ #95 เมื่อ15-08-2016 22:03:23 »

 :hao5: :hao5:
เจ็บตัวซะแล้ว

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 19 เพราะรัก
«ตอบ #96 เมื่อ15-08-2016 22:04:42 »

 :mew6:     ถ้าไม่ใส่สร้อยก็ซวยไปคนเดียวแล้วริว. ถ้าเป็นแบบนั้นริวคงกลับกัน คนที่ร้องไห้จะเป็นลูซ
ก็ดีแล้วเพราะเราสงสารลูซอะ ไม่อยากให้ลูซต้องร้องไห้เลย
ริวจะสำนึกจริงๆไหมนะงานนี้.  :L2:   

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 19 เพราะรัก
«ตอบ #97 เมื่อ16-08-2016 16:13:21 »

ตื่นมาความจำเสื่อม หรือไม่รักริวแล้วทีเถอะ จะสมน้ำหน้าริวให้ เหอๆ

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 19 เพราะรัก
«ตอบ #98 เมื่อ16-08-2016 17:21:57 »

 :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ แฟนตาเซีย

  • หืมม...?
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 19 เพราะรัก
«ตอบ #99 เมื่อ18-08-2016 14:51:35 »

ค้างอ่ะ :sad4: :a5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 19 เพราะรัก
« ตอบ #99 เมื่อ: 18-08-2016 14:51:35 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Akikoneko17

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 20 คนปากหนัก
«ตอบ #100 เมื่อ29-08-2016 21:17:34 »

20

คนปากหนัก

 

 

                “แม่ว่าลูกกลับไปที่บ้านก่อนดีไหมจ๊ะ”

                ราตรีเห็นลูกชายเอาแต่นั่งเฝ้าภรรยา แล้วเธอก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ริวส่ายหน้าไปมา เขายังไม่รู้สึกสบายใจ ตราบใดที่ลูซยังไม่ฟื้น

                “คุณพ่อกับคุณแม่กลับบ้านไปก่อนเถอะนะครับ ผมขออยู่ที่นี่ต่อ”

                “แต่ว่านี่มันก็ดึกมากแล้วนะลูก ลูกเองก็ได้รับบาดเจ็บด้วย”

                “นั่นสิคะพี่ริว เดี๋ยวพี่ริวจะไม่สบายไปอีกคนนะคะ”

                รันผู้เป็นน้องสาวเข้ามาบอกพี่ชาย เห็นพี่สะใภ้ได้รับบาดเจ็บ เธอเองก็เป็นห่วง แต่เธอก็ห่วงพี่ชายของเธอเช่นกัน เธอไม่อยากให้ริวต้องล้มป่วยไปอีกคน แค่นี้ทั้งมารดาและบิดาก็ทุกข์ใจมากพออยู่แล้ว

                “ผมอยากอยู่ที่นี่ครับ ทุกคนกลับไปก่อนเถอะนะครับ”

                ริวหันมาบอกกับทุกคน สีหน้าของเขาดูอิดโรยและเต็มไปด้วยความเครียด ถึงจะบอกว่าลูซปลอดภัยแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ไว้ใจว่าอาการจะไม่แย่ลง

                “กลับก่อนเถอะที่รัก เขาเป็นสามีภรรยากัน ก็ต้องดูแลกัน”

                น้ำเสียงของผู้เป็นพ่อ ทำให้ริวยิ้มออกมาจางๆ เรียวขยับตัวไปประคองราตรีให้ลุกขึ้นเพื่อจะกลับบ้าน

                “จะเอาแบบนั้นจริงๆเหรอลูก แม่ให้พยาบาลมาเฝ้าน้องก่อนก็ได้นะ”

                “ไม่เป็นไรครับ ผมอยู่ได้”

                ราตรีมองหน้าสามี เธอพรูลมหายใจออกมาอย่างเป็นห่วง แล้วเอ่ยขึ้น

                “งั้นก็ได้ แต่เดี๋ยวแม่ให้คนขับรถ เอาชุดมาให้ลูกเปลี่ยนนะ ดูแลตัวเองด้วยนะลูก”

                “ไม่ต้องห่วงครับ สบายมาก”

                รอยยิ้มสวยส่งให้กับมารดา เขาพยายามยิ้ม เพราะไม่อยากให้ครอบครัวเป็นกังวล ลำพังแค่ลูซคนเดียวที่นอนสลบอยู่ก็มากเกินพอแล้ว เขาไม่อยากให้ทุกคนต้องเป็นห่วงเขาไปด้วย

                …ครั้งนี้คนที่ผิดคือตัวเขาจริงๆ…

                “งั้นพ่อกับแม่ไปก่อนนะ”

                “รันไปก่อนนะคะพี่ริว”

                เมื่อครอบครัวกลับไปแล้ว ริวถึงได้นั่งถอนหายใจ เรื่องที่ลูซได้รับบาดเจ็บนั้น พวกเขาได้โทรไปบอกกับครอบครัวของลูซแล้ว อีกไม่นานบิดาและมารดาของลูซคงจะรีบเดินทางมาหาลูกชาย

                เวลาผ่านไปพักใหญ่ ก็มีคนขับรถที่บ้านนำเสื้อผ้ามาส่งเปลี่ยนให้ริวพร้อมกับอาหารที่บรรจุใส่กล่องมา มารดาเขาคงเป็นคนให้จัดการเรื่องพวกนี้ ริวรับเสื้อผ้าเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำ โดยห้องพักพิเศษนี้จะมีห้องน้ำในตัว ริวรีบอาบน้ำแล้วแต่งตัวออกมาหาภรรยาของเขาที่ยังนอนไม่ได้สติ

                ทั้งที่เมื่อก่อนเคยคิดว่าตัวเองคงจะดีใจที่ได้ผลักไสลูซไปให้ห่างๆ แต่ในตอนนี้กลับไม่ใช่แบบนั้น เขารู้สึกแย่เหลือเกินที่ลูซนอนหมดสติแบบนี้ ไม่มีเสียงหัวเราะ ไม่มีรอยยิ้มที่คอยส่งมาให้กับเขา

                ริวไม่ยอมไปทำงาน เขาอยู่เฝ้าลูซจนผ่านไปหนึ่งวันเต็ม คืนนี้เป็นคืนที่สองที่เขาอยู่เฝ้าภรรยา

                “อึก”

                ริวรีบยันตัวลุกขึ้น เมื่อเห็นลูซเริ่มขยับตัว ชายหนุ่มรีบเดินไปหยิบน้ำแล้วใส่หลอดมาหาลูซ เขาวางแก้วน้ำไว้บนโต๊ะตัวเล็กหัวเตียง

                “เป็นยังไงบ้าง  เจ็บมากไหม”

                ลูซยังนิ่งเฉย แต่คิ้วสวยที่ขมวดเข้าหากัน บ่งบอกถึงความเจ็บปวด ริวรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาในใจ

                “ดื่มน้ำก่อนนะ”

                เขารีบส่งแก้วน้ำให้ลูซ ริวมองลูซดูดน้ำไปเพียงไม่กี่อึก แล้วจึงผละออก เพราะไม่อยากดื่มน้ำต่อ ลูซยกมือประคองศีรษะตัวเอง

                “นายเป็นยังไงบ้าง ฉันนึกว่านายจะตายซะแล้ว เลือดนายไหลออกเยอะมากเลยนะ”

                ริวรัวถามไปอย่างรวดเร็ว เขาร้อนใจ ไม่รู้ว่าลูซจะมีอาการอะไรบ้าง เพราะโดนของแข็งฟาดไปเต็มแรงแบบนั้น

                “คุณ…เป็นใคร”

                คำพูดที่ไม่เคยคิดว่าจะออกจากปากลูซดังขึ้น ริวตัวแข็งทื่อ ใจเหมือนหยุดเต้น

                “นะ นี่นายจำฉันไม่ได้เหรอ”

                “งั้นคุณก็บอกมาสิ ว่าคุณเป็นใคร”

                ไม่ได้มีท่าทางล้อเล่นออกมาจากตัวลูซ หรือเป็นเพราะว่าเจ้าตัวโดนทำร้ายร่างกายมารุนแรง เลยทำให้สมองได้รับการกระทบกระเทือน ริวทรุดกายนั่งลงบนเก้าอี้ เขารู้สึกเหมือนโดนบีบหัวใจอย่างแรง

                “ลูซนายเป็นภรรยาฉัน นายจำฉันไม่ได้เหรอ ว่าฉันเป็นสามีของนาย”

                หากเป็นเมื่อก่อน ริวจะไม่มีทางพูดอะไรแบบนี้ออกมาอย่างแน่นอน แต่ไม่รู้ทำไม ในตอนนี้หัวใจเขาถึงได้เรียกร้องให้เขาพูดเรื่องพวกนี้ออกมา เขารู้สึกกลัวถ้าลูซจะลืมเขา

                “จริงเหรอ”

                “จริงสิ นายคิดว่าฉันโกหกเหรอ!”

                ริวส่งเสียงดัง ลูซจากที่ทำหน้าสงสัยก็ค่อยๆ คลี่ยิ้มกว้าง แล้วโผเข้ากอดคนตัวเล็กไว้เสียแน่น

                “ลูซดีใจที่สุดในโลกเล้ยยย ที่ริวจังบอกว่าลูซเป็นภรรยา แล้วริวจังเป็นสามี คิคิ”

                ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนริวยืนอึ้ง เขาได้แต่กระพริบตาปริบๆ แล้วก็รับรู้ว่าตัวเองโดนหลอกเข้าเสียแล้ว

                “หนอย นี่แหน่ะ!”

                ริวยกมือฟาดแขนของลูซไปเต็มแรง ภรรยาตัวโตร้องเสียงดังลั่น

                “โอ๊ยยยยย!!!”

                เสียงร้องโหยหวนทำให้ริวตกใจ เขารีบดูอาการของลูซทันที

                “เจ็บมากเลยเหรอ หรือว่ายังไง”

                “เจ็บใจมากกว่าริวจัง”

                ว่าพลางขยิบตาให้ แถมยังส่งยิ้มหวานให้อีก ริวถอนหายใจอย่างเอือมระอา เพราะบาดแผลของลูซอยู่ที่ศีรษะแต่เจ้าตัวก็ทำเป็นเจ็บเกินเหตุจนน่าหมั่นไส้

                “แล้วแผลที่หัวเป็นไงบ้าง”

                “มันก็ปวดๆตุบ แต่พอเห็นหน้าริวจัง ลูซก็ดีขึ้นเยอะเลยล่ะ”

                ไม่พูดเปล่า แต่ขยับเข้ามากอดเอว ซบหน้าลงกับไหล่เล็ก ในตอนแรกริวทำท่าจะผลักชายหนุ่มให้ออกห่าง แต่ทว่าเขาก็ยืนให้ลูซโอบกอดเขาไว้แบบนั้น

                “ฉัน…ขอโทษนะ”

                ริวพูดขึ้นมา เสียงไม่ดังมากนัก แต่มันกลับดังก้องในใจของลูซ เขาคลี่ยิ้มอย่างมีความสุข แล้วกระชับอ้อมกอด

                “ไม่ต้องขอโทษหรอกริวจัง ลูซยินดีตายแทนริวจัง”

                “พอเลย ฉันไม่ได้อยากให้ใครมาตายแทนฉันสักหน่อย”

                “ลูซรักริวจังจริงๆนะ ลูซไม่อยากให้ริวจังต้องเจ็บตัว”

                ใจของเขาอ่อนยวบลงในทันตา ชายหนุ่มหันไปมองลูซที่ทำหน้าเป็นลูกหมาเหงาหงอย เขาถอนหายใจออกมา

                “นายควรจะนอนพักผ่อนเยอะๆ เข้าใจไหม”

                “นอนไม่หลับหรอกริวจัง”

                “ห๊ะ”

                ดวงตาของริวเบิกกว้างทันที เมื่อรับรู้ได้ถึงความร้อนผ่าวที่ส่งผ่านมาจากกางเกงคนไข้ เขาหันขวับไปมองลูซทันที

                “นะ นี่นาย”

                “ริวจัง เราไม่ได้ทำกันมาตั้งหลายวันแล้วน้า ลูซจะตายอยู่แล้ว”

                กายสูงใหญ่ขยับมาลูบไล้ตัวสามีอย่างรักใคร่ ริวสั่นเล็กน้อย เขาพยายามดันตัวลูซให้ออกห่าง

                “อย่าคิดจะทำอะไรทุเรศๆนะ ที่นี่มันโรงพยาบาล”

                “อะไรกันริวจัง คนรักกัน แสดงความรักกัน มันทุเรศตรงไหน คิคิ”

                เอ่ยจบก็ระดมจูบไปตามพวงแก้มนิ่ม ริวพยายามเบี่ยงตัวหลบหนี แต่ลูซไม่ลดละ จนริวยกมือดันใบหน้าสวยเอาไว้

                “เจ้าบ้า นายป่วยอยู่นะ”

                “ใช่ๆ ลูซป่วย ลูซน้อยก็ป่วยด้วยน้า”

                ช่างพูดออกมาได้ไม่อายปากเลยจริงๆ ริวถอนหายใจ เขาเบ้ปาก พยายามขยับกายหนี แต่ลูซก็เบียดเข้ามา แถมยังขยับสะโพกถูไถไปกับเอวของเขาอีก ความเป็นชายใต้ร่มผ้าดุนดันอย่างรุนแรงจนริวหน้าแดงด้วยความอาย

                “ยะ หยุดนะเจ้าบ้า”

                เขาได้แต่ห้ามเสียงแผ่ว แต่สุดท้าย ก็โดนจับให้หันหน้าเข้าหาเตียงคนไข้ มือเล็กกำผ้าปูเตียงเอาไว้แน่น ในขณะที่ลูซยืนซ้อนจากทางด้านหลัง ก้มหน้ามาคลอเคลียต้นคอขาวเนียน แล้วพรมจูบทำรอยรักด้วยความเสน่หา

                “นะ น้าริวจัง ลูซเกือบตาย พอรู้ว่ารอดแล้วก็ดีใจมากๆ ทำให้ลูซเชื่อว่ามันไม่ใช่แค่ความฝันเถอะน้า”

                มือใหญ่สอดเข้าไปใต้กางเกงนอนของริว เขาบีบเค้นก้นนิ่มไปมา แล้วรีบจัดการดึงกางเกงให้ต่ำลงจนถึงต้นขา เผยให้เห็นผิวขาว

                “อย่า”

                ริวพยายามห้าม แต่ลูซก็แบะก้นนิ่มออก แล้วก้มหน้าเข้าไปดูดเลียที่ช่องทางด้านหลังอย่างหิวกระหาย ริวเสียวจนตัวเกร็ง เขาเผลอแอ่นสะโพกให้ภรรยาตัวดีได้สัมผัสมากขึ้น ใบหน้าหล่อส่ายไปมาอย่างอึดอัด ความเป็นชายที่ด้านหน้าเริ่มตื่นตัว เพียงแค่โดนสัมผัสจากลิ้นร้อน

                “อะ อื้อ  มะ ไม่ หยุดนะ”

                เขาพยายามหันมาห้ามลูซ แต่เหมือนร่างกายกลับตอบสนองจนน่ากลัว ริวฟุบหน้าลงกับเตียงผู้ป่วย เสียงดูดจ๊วบจ๊าบ ทำให้เขาเขินจนหน้าแดงก่ำ

                “ลูซไม่ไหวแล้ว ลูซขอเข้าไปนะริวจัง ลูซอยากรักริวจังจะแย่แล้ว”

                ภรรยาคนสวยร้องขออย่างเห็นใจ เขาล้วงควักแก่นกายร้อนออกมา ถูไถไปตามร่องก้น ก่อนจะค่อยๆจับกดแทรกเข้าไปในร่างเล็กอย่างช้าๆ

                “อะ อ๊ะ อื้อ”

                ช่องทางคับแน่นได้รับการหล่อลื่นด้วยน้ำลายของลูซ อาวุธร้อนแทรกเข้าไปในช่องทางคับแน่นอย่างช้าๆ ลูซซูดปากอย่างสุขสม

                “โอ้วว ริวจัง ลูซเหมือนได้ขึ้นสวรรค์เลยล่ะ อ่า”

                ใบหน้าหล่อโดนลูซจับหันให้มาจูบ ริวใช้แขนข้างหนึ่งเกาะไหล่แกร่งเอาไว้ สัมผัสร้อนผ่าวเติมเต็มเข้ามาในตัวของเขา ทั้งที่ริวคิดว่าเขาไม่ต้องการที่จะมีเซ็กส์กับลูซเลยแม้แต่น้อย แต่เขากลับตอบสนองอย่างน่าอาย

                “ระ ริวจัง ลูซ อื้อ”

                สะโพกสอบเริ่มขยับ ในขณะที่มือก็เลื่อนไปด้านหน้าลำตัวบาง เพื่อช่วยรูดชักความเป็นชายของริวให้มากขึ้น ริวกัดฟันตัวเองเอาไว้แน่น เขาไม่กล้าปล่อยเสียงร้องออกมา

                “ริวจัง ครางสิ ลูซอยากฟังริวจังครางนะ อื้อ”

                “อะ อ๊ะ อื้อ”

                เมื่อโดนกระแทกกระทั้นจนไม่อาจจะทานทนต่อไปได้ ริวก็ปล่อยเสียงครางพร่าออกมาอย่างไม่อาจจะสะกดกลั้น เขาแอ่นสะโพกรับแรงกระแทก

                ความเสียวซ่านเกิดขึ้น จนกายเล็กต้องบิดเร้า เลื่อนมือลงไปช่วยรูดชักความเป็นชายของตัวเอง ในขณะที่ลูซเองก็เลื่อนมือมาขยี้ยอดอกผ่านเสื้อนอนตัวบาง เขาจูบซับไปตามลำคอ

                “อะ อื้อ”

                เมื่อสุดปลายทาง สายธารอุ่นร้อนก็พวยพุ่งเข้าในร่างกาย ลูซรู้สึกมึนงง แต่เขาก็มีความสุข  โน้มตัวไปโอบกอดคนรักที่เพิ่งปลดปล่อยจนเปรอะเปื้อนเต็มพื้น มีเพียงเสียงหอบหายใจที่ดังในห้องพักผู้ป่วย

                “รักนะริวจัง”

                คำหวานกระซิบข้างหู ริวหลับตาลงช้าๆ ปล่อยให้ความอิ่มเอิบชักพาให้การสานสัมพันธ์ร่างกายในครั้งต่อไปได้เริ่มเกิดขึ้นอีกครั้ง

               

ออฟไลน์ Akikoneko17

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 20 คนปากหนัก
«ตอบ #101 เมื่อ29-08-2016 21:20:56 »


-------+++++-------

 

                ก๊อกๆๆ

                ทั้งริวและลูซหันไปมองทางประตู ในช่วงเวลาพักกลางวัน ไม่รู้ว่าใครจะเข้ามาเยี่ยมพวกเขา เพราะบิดาและมารดาของลูซ จะเดินทางมาถึงในวันพรุ่งนี้เช้า

                “ดา”

                ริวค่อนข้างตกใจที่เห็นธิดาเดินเข้ามาในห้อง พร้อมกับผู้ชายตัวสูงอีกคน ใบหน้าหล่อคมนั้นค่อนข้างจะดื้อรั้นและเย่อหยิ่ง

                “ดาได้ข่าวว่าริวได้รับบาดเจ็บ ดาก็เลยมาเยี่ยม”

                ไม่รู้ว่าธิดาได้รับข่าวสารนั้นมาจากไหน แต่ก็รวดเร็วมากเหลือเกิน ริวเหลือบตามองชายที่อยู่ข้างๆ

                “คุณ…”ริวมองไปทางชายหนุ่ม

                “นี่ธวัช แฟนของดาเอง ที่ดาเคยเล่าให้ริวฟังไง”

                ลูซยังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียง เพราะเขาไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร จึงได้แต่ฟังบทสนทนา พอได้ยินว่าธิดามีแฟนใหม่แล้ว แถมยังพาแฟนใหม่มาเยี่ยมด้วย เขาก็รู้สึกโล่งใจเกี่ยวกับเรื่องของสามีตัวเอง

                “ดากับวัชจะมาขอโทษริวกับลูซน่ะ เรื่องที่เกิดขึ้น ริวก็คงพอจะรู้ว่าเพราะอะไร”

                “คงเป็นเรื่องที่ดาเคยเล่าใช่ไหม”

                ถ้าเดาไม่ผิดก็คงเป็นเพราะแฟนธิดาหึงหวงจนเกินเหตุแล้วคิดว่าเขาและธิดามีความสัมพันธ์เกินเลยกัน

                “ผมต้องขอโทษด้วยที่เข้าใจผิด ไม่รู้ว่าคุณแต่งงานแล้วแถมยังแต่งกับ เอ่อ…”

                ธวัชหยุดพูดไป ลูซเบะปาก แล้วยันกายลุกนั่ง

                “แต่งกับผู้ชายอย่างผม แล้วมันทำไมเหรอครับ”

                ดวงตาคู่สวยปราดมองทั้งธิดาและธวัชอย่างไม่พอใจ เพราะคนพวกนี้ถึงทำให้สามีสุดที่รักของเขาต้องเจ็บตัว

                “พวกเราขอโทษจริงๆค่ะ ดาเองก็ไม่คิดว่าวัชจะคิดมากจนทำแบบนี้ แต่ตอนนี้เราคุยกันเข้าใจแล้ว”

                “ถ้าผมไม่เข้าไปช่วยริวจังเอาไว้ ป่านนี้ริวจังของผมจะเป็นยังไง ถ้าจะให้ดี พวกคุณทั้งสองคน อย่ามายุ่งกับริวจังอีกเลยดีกว่า!”

                “ลูซ!”

                ริวพยายามเข้าไปปราม แต่ลูซก็สะบัดหน้าหนี ธิดาพรูลมหายใจอย่างเหนื่อยล้า เธอเองก็รู้สึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

                “ดาต้องขอโทษจริงๆค่ะ ต่อไปจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก พรุ่งนี้เราก็จะไปอังกฤษกันแล้ว ก็เลยอยากจะมาขอโทษพวกคุณก่อน”

                “ครับ ไม่เป็นไรครับ”

                ริวไม่อยากจะถือสา เพราะสุดท้ายเขาทั้งสองก็ปลอดภัย ทุกอย่างเกิดขึ้นก็เพียงเพราะว่าเป็นการเข้าใจผิดกันเท่านั้น

                “งั้นขอให้หายไวๆนะคะ”

                คนสวยยังคงไม่ยอมหันไปมองทั้งคู่ ลูซไม่อยากจะอาละวาดใส่ เขาทั้งโกรธทั้งเคือง เพราะคนพวกนี้ทำร้ายริวจังของเขา

                “ลูซ”

                “ชิ”

                กายสูงเอนตัวนอน แล้วหันหลังให้ริวเหมือนกับคนกำลังงอน ริวถอนหายใจแล้วเอ่ยขึ้น

                “เป็นอะไรไปอีกล่ะ”

                “ก็ริวจังเอาแต่สนใจคนอื่น”

                “ห๊ะ”

                “คนพวกนั้นทำริวจังเจ็บ แล้วริวจังยังไปปกป้องอีก ลูซไม่ชอบ”

                “อะไรของนาย”

                เขาหย่อนกายนั่งลงบนเก้าอี้ ลูซพลิกกายหันมามอง แล้วนอนกอดอก จ้องหน้าอย่างขุ่นเคืองแต่ก็ไม่มากนัก

                “เห็นผู้หญิงคนนั้นสำคัญกว่าลูซเหรอ”

                “ฉันกับดาเลิกกันตั้งนานแล้วนะ นายจะหาเรื่องทำไม”

                “ก็ริวไม่เคยสนใจลูซ”บอกอย่างน้อยใจ

                “แล้วไอ้ที่ฉันมานอนเฝ้านายที่นี่ มันคืออะไรฮะ! น่ารำคาญจริงๆ”

                ริวลุกขึ้น หมุนกายจะเดินออกจากห้อง แต่ลูซก็รีบคว้ามือเล็กเขาไว้ พูดเสียงแผ่ว

                “ริวจังเป็นห่วงลูซใช่ไหม”

                “เปล่าสักหน่อย”

                เขาเมินหน้าหนีไปทางอื่น ลูซยู่ปาก แล้วรั้งกายเล็กให้เข้ามาใกล้ ก่อนจะโอบกอดจากด้านหลัง

                “ลูซไม่เชื่อหรอก ริวจังเป็นห่วงลูซ”

                ลูซซบแก้มไปกับแผ่นหลังเล็ก ริวเม้มปากแน่น เขาสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ

                “นายควรจะพักผ่อนให้มากๆ ฉันจะกลับไปทำงาน เดี๋ยวตอนเย็น คุณแม่จะเข้ามาดูนาย”

                “อยู่กับลูซไม่ได้เหรอ ริวจังไม่ห่วงลูซเลยเหรอ”

                คนปากหนักไม่ยอมพูดออกไปว่าเป็นห่วง ริวหยิบโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง แล้วเดินไปจะเปิดประตู  แต่ก็ไม่วายหันมาพูด

                “นอนพักไปเลย มัวแต่พูดมากอยู่ได้”

                ลูซมองตามคนรักที่เดินออกจากห้องไปแล้ว ชายหนุ่มก็คลี่ยิ้มอย่างมีความสุข


-------+++++-------

 

                หลังจากพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลอยู่สามวัน ลูซก็ได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับมาพักที่บ้านได้ อาการของเขาดีขึ้นเรื่อยๆ จนเริ่มหายเป็นปกติ

                “นี่ริวจัง กลางวันนี้ ขอลูซไปหาริวจังได้ไหม”

                ภรรยาตัวสูงเข้ามาคลอเคลียสามีจากด้านหลัง ในขณะที่ริวกำลังใส่รองเท้าเพื่อจะเดินไปที่รถ

                “นายจะไปทำไม”

                ริวเริ่มชินกับการที่มีลูซตามติดเป็นเงา เมื่อคืนเขาทั้งสองก็จัดหนักมีอะไรกันไปตั้งหลายยก ในช่วงแรกริวรู้สึกขัดเขินและพยายามปฏิเสธ แต่สุดท้ายไปๆมาๆ ก็ปล่อยให้เจ้าสาวตัวสูงปลุกปล้ำจนสำเร็จแทบทุกครั้ง เขาโกหกไม่ได้เลยว่าการมีเซ็กส์กับลูซมันทำให้รู้สึกแย่ เพราะเขารู้สึกดีสุดๆ จนลืมไปแล้วว่าการมีเซ็กส์กับผู้หญิงมันเป็นยังไง

                แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่กล้ายอมรับว่าตัวเองได้ตกหลุมรักภรรยาตัวใหญ่ไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะไปชอบผู้ชายตัวใหญ่แบบลูซได้

                “ก็ลูซอยากให้ริวจังได้ทานมื้อเที่ยงที่ลูซทำนี่นา”

                “พอเลยๆ เสียเวลาเปล่าๆ”

                “งั้นเอาเป็นว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ลูซทำข้าวกล่องให้ริวจังไปด้วยดีไหม”

                “จะบ้าหรือไง ฉันไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ จะได้พกข้าวกล่อง”

                “งั้นริวจังก็ต้องเลือกแล้วล่ะ ว่าจะให้ลูซเอาข้าวไปส่ง หรือจะเอาข้าวกล่องไปตั้งแต่แรก”

                ริวนิ่งคิดไปพักหนึ่ง ไม่ว่าจะทางไหนเขาก็ไม่อยากจะทำทั้งนั้น ลูซก้มลงมาจูบปากอย่างรวดเร็วแล้วผละออก

“งั้นเอาเป็นว่า กลางวันลูซจะเอาข้าวไปให้ริวจังก็แล้วกันนะ เพราะลูซอยากจะเห็นหน้าริวจัง ลูซคิดถึงริวจัง”

ริวได้แต่มองอย่างเอือมๆ แล้วจะขึ้นรถ

“ลูซรักริวจังน้า”

“ฉันก็…”

เขารู้สึกเหมือนว่าตัวเองจะพูดตอบกลับไปในเชิงเดียวกัน แต่ทว่าก็ต้องหยุดลงเพื่อหักห้ามตัวเอง เขาไม่อยากจะคิดว่าเขากำลังรักเจ้ากะเทยตัวใหญ่หน้าสวยไปแล้วจริงๆ

“ฉันไปล่ะ”

ลูซมองคนรักที่ขึ้นรถ แล้วยกมือโบกไปมาเป็นเชิงบอกลา ริวเหลือบมองลูซจากกระจกหน้า รอยยิ้มสวยที่ส่งมาทำให้เขารู้สึกอุ่นใจอย่างประหลาด

“รักงั้นเหรอ…หรือว่าฉันจะตกหลุมรักนายแล้วจริงๆ…ไม่หรอก เป็นไปไม่ได้”

 



100%

 20

คนปากหนัก

 

 

                “แม่ว่าลูกกลับไปที่บ้านก่อนดีไหมจ๊ะ”

                ราตรีเห็นลูกชายเอาแต่นั่งเฝ้าภรรยา แล้วเธอก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ริวส่ายหน้าไปมา เขายังไม่รู้สึกสบายใจ ตราบใดที่ลูซยังไม่ฟื้น

                “คุณพ่อกับคุณแม่กลับบ้านไปก่อนเถอะนะครับ ผมขออยู่ที่นี่ต่อ”

                “แต่ว่านี่มันก็ดึกมากแล้วนะลูก ลูกเองก็ได้รับบาดเจ็บด้วย”

                “นั่นสิคะพี่ริว เดี๋ยวพี่ริวจะไม่สบายไปอีกคนนะคะ”

                รันผู้เป็นน้องสาวเข้ามาบอกพี่ชาย เห็นพี่สะใภ้ได้รับบาดเจ็บ เธอเองก็เป็นห่วง แต่เธอก็ห่วงพี่ชายของเธอเช่นกัน เธอไม่อยากให้ริวต้องล้มป่วยไปอีกคน แค่นี้ทั้งมารดาและบิดาก็ทุกข์ใจมากพออยู่แล้ว

                “ผมอยากอยู่ที่นี่ครับ ทุกคนกลับไปก่อนเถอะนะครับ”

                ริวหันมาบอกกับทุกคน สีหน้าของเขาดูอิดโรยและเต็มไปด้วยความเครียด ถึงจะบอกว่าลูซปลอดภัยแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ไว้ใจว่าอาการจะไม่แย่ลง

                “กลับก่อนเถอะที่รัก เขาเป็นสามีภรรยากัน ก็ต้องดูแลกัน”

                น้ำเสียงของผู้เป็นพ่อ ทำให้ริวยิ้มออกมาจางๆ เรียวขยับตัวไปประคองราตรีให้ลุกขึ้นเพื่อจะกลับบ้าน

                “จะเอาแบบนั้นจริงๆเหรอลูก แม่ให้พยาบาลมาเฝ้าน้องก่อนก็ได้นะ”

                “ไม่เป็นไรครับ ผมอยู่ได้”

                ราตรีมองหน้าสามี เธอพรูลมหายใจออกมาอย่างเป็นห่วง แล้วเอ่ยขึ้น

                “งั้นก็ได้ แต่เดี๋ยวแม่ให้คนขับรถ เอาชุดมาให้ลูกเปลี่ยนนะ ดูแลตัวเองด้วยนะลูก”

                “ไม่ต้องห่วงครับ สบายมาก”

                รอยยิ้มสวยส่งให้กับมารดา เขาพยายามยิ้ม เพราะไม่อยากให้ครอบครัวเป็นกังวล ลำพังแค่ลูซคนเดียวที่นอนสลบอยู่ก็มากเกินพอแล้ว เขาไม่อยากให้ทุกคนต้องเป็นห่วงเขาไปด้วย

                …ครั้งนี้คนที่ผิดคือตัวเขาจริงๆ…

                “งั้นพ่อกับแม่ไปก่อนนะ”

                “รันไปก่อนนะคะพี่ริว”

                เมื่อครอบครัวกลับไปแล้ว ริวถึงได้นั่งถอนหายใจ เรื่องที่ลูซได้รับบาดเจ็บนั้น พวกเขาได้โทรไปบอกกับครอบครัวของลูซแล้ว อีกไม่นานบิดาและมารดาของลูซคงจะรีบเดินทางมาหาลูกชาย

                เวลาผ่านไปพักใหญ่ ก็มีคนขับรถที่บ้านนำเสื้อผ้ามาส่งเปลี่ยนให้ริวพร้อมกับอาหารที่บรรจุใส่กล่องมา มารดาเขาคงเป็นคนให้จัดการเรื่องพวกนี้ ริวรับเสื้อผ้าเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำ โดยห้องพักพิเศษนี้จะมีห้องน้ำในตัว ริวรีบอาบน้ำแล้วแต่งตัวออกมาหาภรรยาของเขาที่ยังนอนไม่ได้สติ

                ทั้งที่เมื่อก่อนเคยคิดว่าตัวเองคงจะดีใจที่ได้ผลักไสลูซไปให้ห่างๆ แต่ในตอนนี้กลับไม่ใช่แบบนั้น เขารู้สึกแย่เหลือเกินที่ลูซนอนหมดสติแบบนี้ ไม่มีเสียงหัวเราะ ไม่มีรอยยิ้มที่คอยส่งมาให้กับเขา

                ริวไม่ยอมไปทำงาน เขาอยู่เฝ้าลูซจนผ่านไปหนึ่งวันเต็ม คืนนี้เป็นคืนที่สองที่เขาอยู่เฝ้าภรรยา

                “อึก”

                ริวรีบยันตัวลุกขึ้น เมื่อเห็นลูซเริ่มขยับตัว ชายหนุ่มรีบเดินไปหยิบน้ำแล้วใส่หลอดมาหาลูซ เขาวางแก้วน้ำไว้บนโต๊ะตัวเล็กหัวเตียง

                “เป็นยังไงบ้าง  เจ็บมากไหม”

                ลูซยังนิ่งเฉย แต่คิ้วสวยที่ขมวดเข้าหากัน บ่งบอกถึงความเจ็บปวด ริวรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาในใจ

                “ดื่มน้ำก่อนนะ”

                เขารีบส่งแก้วน้ำให้ลูซ ริวมองลูซดูดน้ำไปเพียงไม่กี่อึก แล้วจึงผละออก เพราะไม่อยากดื่มน้ำต่อ ลูซยกมือประคองศีรษะตัวเอง

                “นายเป็นยังไงบ้าง ฉันนึกว่านายจะตายซะแล้ว เลือดนายไหลออกเยอะมากเลยนะ”

                ริวรัวถามไปอย่างรวดเร็ว เขาร้อนใจ ไม่รู้ว่าลูซจะมีอาการอะไรบ้าง เพราะโดนของแข็งฟาดไปเต็มแรงแบบนั้น

                “คุณ…เป็นใคร”

                คำพูดที่ไม่เคยคิดว่าจะออกจากปากลูซดังขึ้น ริวตัวแข็งทื่อ ใจเหมือนหยุดเต้น

                “นะ นี่นายจำฉันไม่ได้เหรอ”

                “งั้นคุณก็บอกมาสิ ว่าคุณเป็นใคร”

                ไม่ได้มีท่าทางล้อเล่นออกมาจากตัวลูซ หรือเป็นเพราะว่าเจ้าตัวโดนทำร้ายร่างกายมารุนแรง เลยทำให้สมองได้รับการกระทบกระเทือน ริวทรุดกายนั่งลงบนเก้าอี้ เขารู้สึกเหมือนโดนบีบหัวใจอย่างแรง

                “ลูซนายเป็นภรรยาฉัน นายจำฉันไม่ได้เหรอ ว่าฉันเป็นสามีของนาย”

                หากเป็นเมื่อก่อน ริวจะไม่มีทางพูดอะไรแบบนี้ออกมาอย่างแน่นอน แต่ไม่รู้ทำไม ในตอนนี้หัวใจเขาถึงได้เรียกร้องให้เขาพูดเรื่องพวกนี้ออกมา เขารู้สึกกลัวถ้าลูซจะลืมเขา

                “จริงเหรอ”

                “จริงสิ นายคิดว่าฉันโกหกเหรอ!”

                ริวส่งเสียงดัง ลูซจากที่ทำหน้าสงสัยก็ค่อยๆ คลี่ยิ้มกว้าง แล้วโผเข้ากอดคนตัวเล็กไว้เสียแน่น

                “ลูซดีใจที่สุดในโลกเล้ยยย ที่ริวจังบอกว่าลูซเป็นภรรยา แล้วริวจังเป็นสามี คิคิ”

                ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนริวยืนอึ้ง เขาได้แต่กระพริบตาปริบๆ แล้วก็รับรู้ว่าตัวเองโดนหลอกเข้าเสียแล้ว

                “หนอย นี่แหน่ะ!”

                ริวยกมือฟาดแขนของลูซไปเต็มแรง ภรรยาตัวโตร้องเสียงดังลั่น

                “โอ๊ยยยยย!!!”

                เสียงร้องโหยหวนทำให้ริวตกใจ เขารีบดูอาการของลูซทันที

                “เจ็บมากเลยเหรอ หรือว่ายังไง”

                “เจ็บใจมากกว่าริวจัง”

                ว่าพลางขยิบตาให้ แถมยังส่งยิ้มหวานให้อีก ริวถอนหายใจอย่างเอือมระอา เพราะบาดแผลของลูซอยู่ที่ศีรษะแต่เจ้าตัวก็ทำเป็นเจ็บเกินเหตุจนน่าหมั่นไส้

                “แล้วแผลที่หัวเป็นไงบ้าง”

                “มันก็ปวดๆตุบ แต่พอเห็นหน้าริวจัง ลูซก็ดีขึ้นเยอะเลยล่ะ”

                ไม่พูดเปล่า แต่ขยับเข้ามากอดเอว ซบหน้าลงกับไหล่เล็ก ในตอนแรกริวทำท่าจะผลักชายหนุ่มให้ออกห่าง แต่ทว่าเขาก็ยืนให้ลูซโอบกอดเขาไว้แบบนั้น

                “ฉัน…ขอโทษนะ”

                ริวพูดขึ้นมา เสียงไม่ดังมากนัก แต่มันกลับดังก้องในใจของลูซ เขาคลี่ยิ้มอย่างมีความสุข แล้วกระชับอ้อมกอด

                “ไม่ต้องขอโทษหรอกริวจัง ลูซยินดีตายแทนริวจัง”

                “พอเลย ฉันไม่ได้อยากให้ใครมาตายแทนฉันสักหน่อย”

                “ลูซรักริวจังจริงๆนะ ลูซไม่อยากให้ริวจังต้องเจ็บตัว”

                ใจของเขาอ่อนยวบลงในทันตา ชายหนุ่มหันไปมองลูซที่ทำหน้าเป็นลูกหมาเหงาหงอย เขาถอนหายใจออกมา

                “นายควรจะนอนพักผ่อนเยอะๆ เข้าใจไหม”

                “นอนไม่หลับหรอกริวจัง”

                “ห๊ะ”

                ดวงตาของริวเบิกกว้างทันที เมื่อรับรู้ได้ถึงความร้อนผ่าวที่ส่งผ่านมาจากกางเกงคนไข้ เขาหันขวับไปมองลูซทันที

                “นะ นี่นาย”

                “ริวจัง เราไม่ได้ทำกันมาตั้งหลายวันแล้วน้า ลูซจะตายอยู่แล้ว”

                กายสูงใหญ่ขยับมาลูบไล้ตัวสามีอย่างรักใคร่ ริวสั่นเล็กน้อย เขาพยายามดันตัวลูซให้ออกห่าง

                “อย่าคิดจะทำอะไรทุเรศๆนะ ที่นี่มันโรงพยาบาล”

                “อะไรกันริวจัง คนรักกัน แสดงความรักกัน มันทุเรศตรงไหน คิคิ”

                เอ่ยจบก็ระดมจูบไปตามพวงแก้มนิ่ม ริวพยายามเบี่ยงตัวหลบหนี แต่ลูซไม่ลดละ จนริวยกมือดันใบหน้าสวยเอาไว้

                “เจ้าบ้า นายป่วยอยู่นะ”

                “ใช่ๆ ลูซป่วย ลูซน้อยก็ป่วยด้วยน้า”

                ช่างพูดออกมาได้ไม่อายปากเลยจริงๆ ริวถอนหายใจ เขาเบ้ปาก พยายามขยับกายหนี แต่ลูซก็เบียดเข้ามา แถมยังขยับสะโพกถูไถไปกับเอวของเขาอีก ความเป็นชายใต้ร่มผ้าดุนดันอย่างรุนแรงจนริวหน้าแดงด้วยความอาย

                “ยะ หยุดนะเจ้าบ้า”

                เขาได้แต่ห้ามเสียงแผ่ว แต่สุดท้าย ก็โดนจับให้หันหน้าเข้าหาเตียงคนไข้ มือเล็กกำผ้าปูเตียงเอาไว้แน่น ในขณะที่ลูซยืนซ้อนจากทางด้านหลัง ก้มหน้ามาคลอเคลียต้นคอขาวเนียน แล้วพรมจูบทำรอยรักด้วยความเสน่หา

                “นะ น้าริวจัง ลูซเกือบตาย พอรู้ว่ารอดแล้วก็ดีใจมากๆ ทำให้ลูซเชื่อว่ามันไม่ใช่แค่ความฝันเถอะน้า”

                มือใหญ่สอดเข้าไปใต้กางเกงนอนของริว เขาบีบเค้นก้นนิ่มไปมา แล้วรีบจัดการดึงกางเกงให้ต่ำลงจนถึงต้นขา เผยให้เห็นผิวขาว

                “อย่า”

                ริวพยายามห้าม แต่ลูซก็แบะก้นนิ่มออก แล้วก้มหน้าเข้าไปดูดเลียที่ช่องทางด้านหลังอย่างหิวกระหาย ริวเสียวจนตัวเกร็ง เขาเผลอแอ่นสะโพกให้ภรรยาตัวดีได้สัมผัสมากขึ้น ใบหน้าหล่อส่ายไปมาอย่างอึดอัด ความเป็นชายที่ด้านหน้าเริ่มตื่นตัว เพียงแค่โดนสัมผัสจากลิ้นร้อน

                “อะ อื้อ  มะ ไม่ หยุดนะ”

                เขาพยายามหันมาห้ามลูซ แต่เหมือนร่างกายกลับตอบสนองจนน่ากลัว ริวฟุบหน้าลงกับเตียงผู้ป่วย เสียงดูดจ๊วบจ๊าบ ทำให้เขาเขินจนหน้าแดงก่ำ

                “ลูซไม่ไหวแล้ว ลูซขอเข้าไปนะริวจัง ลูซอยากรักริวจังจะแย่แล้ว”

                ภรรยาคนสวยร้องขออย่างเห็นใจ เขาล้วงควักแก่นกายร้อนออกมา ถูไถไปตามร่องก้น ก่อนจะค่อยๆจับกดแทรกเข้าไปในร่างเล็กอย่างช้าๆ

                “อะ อ๊ะ อื้อ”

                ช่องทางคับแน่นได้รับการหล่อลื่นด้วยน้ำลายของลูซ อาวุธร้อนแทรกเข้าไปในช่องทางคับแน่นอย่างช้าๆ ลูซซูดปากอย่างสุขสม

                “โอ้วว ริวจัง ลูซเหมือนได้ขึ้นสวรรค์เลยล่ะ อ่า”

                ใบหน้าหล่อโดนลูซจับหันให้มาจูบ ริวใช้แขนข้างหนึ่งเกาะไหล่แกร่งเอาไว้ สัมผัสร้อนผ่าวเติมเต็มเข้ามาในตัวของเขา ทั้งที่ริวคิดว่าเขาไม่ต้องการที่จะมีเซ็กส์กับลูซเลยแม้แต่น้อย แต่เขากลับตอบสนองอย่างน่าอาย

                “ระ ริวจัง ลูซ อื้อ”

                สะโพกสอบเริ่มขยับ ในขณะที่มือก็เลื่อนไปด้านหน้าลำตัวบาง เพื่อช่วยรูดชักความเป็นชายของริวให้มากขึ้น ริวกัดฟันตัวเองเอาไว้แน่น เขาไม่กล้าปล่อยเสียงร้องออกมา

                “ริวจัง ครางสิ ลูซอยากฟังริวจังครางนะ อื้อ”

                “อะ อ๊ะ อื้อ”

                เมื่อโดนกระแทกกระทั้นจนไม่อาจจะทานทนต่อไปได้ ริวก็ปล่อยเสียงครางพร่าออกมาอย่างไม่อาจจะสะกดกลั้น เขาแอ่นสะโพกรับแรงกระแทก

                ความเสียวซ่านเกิดขึ้น จนกายเล็กต้องบิดเร้า เลื่อนมือลงไปช่วยรูดชักความเป็นชายของตัวเอง ในขณะที่ลูซเองก็เลื่อนมือมาขยี้ยอดอกผ่านเสื้อนอนตัวบาง เขาจูบซับไปตามลำคอ

                “อะ อื้อ”

                เมื่อสุดปลายทาง สายธารอุ่นร้อนก็พวยพุ่งเข้าในร่างกาย ลูซรู้สึกมึนงง แต่เขาก็มีความสุข  โน้มตัวไปโอบกอดคนรักที่เพิ่งปลดปล่อยจนเปรอะเปื้อนเต็มพื้น มีเพียงเสียงหอบหายใจที่ดังในห้องพักผู้ป่วย

                “รักนะริวจัง”

                คำหวานกระซิบข้างหู ริวหลับตาลงช้าๆ ปล่อยให้ความอิ่มเอิบชักพาให้การสานสัมพันธ์ร่างกายในครั้งต่อไปได้เริ่มเกิดขึ้นอีกครั้ง

               

ออฟไลน์ Akikoneko17

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 20 คนปากหนัก
«ตอบ #102 เมื่อ29-08-2016 21:21:42 »


-------+++++-------

 

                ก๊อกๆๆ

                ทั้งริวและลูซหันไปมองทางประตู ในช่วงเวลาพักกลางวัน ไม่รู้ว่าใครจะเข้ามาเยี่ยมพวกเขา เพราะบิดาและมารดาของลูซ จะเดินทางมาถึงในวันพรุ่งนี้เช้า

                “ดา”

                ริวค่อนข้างตกใจที่เห็นธิดาเดินเข้ามาในห้อง พร้อมกับผู้ชายตัวสูงอีกคน ใบหน้าหล่อคมนั้นค่อนข้างจะดื้อรั้นและเย่อหยิ่ง

                “ดาได้ข่าวว่าริวได้รับบาดเจ็บ ดาก็เลยมาเยี่ยม”

                ไม่รู้ว่าธิดาได้รับข่าวสารนั้นมาจากไหน แต่ก็รวดเร็วมากเหลือเกิน ริวเหลือบตามองชายที่อยู่ข้างๆ

                “คุณ…”ริวมองไปทางชายหนุ่ม

                “นี่ธวัช แฟนของดาเอง ที่ดาเคยเล่าให้ริวฟังไง”

                ลูซยังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียง เพราะเขาไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร จึงได้แต่ฟังบทสนทนา พอได้ยินว่าธิดามีแฟนใหม่แล้ว แถมยังพาแฟนใหม่มาเยี่ยมด้วย เขาก็รู้สึกโล่งใจเกี่ยวกับเรื่องของสามีตัวเอง

                “ดากับวัชจะมาขอโทษริวกับลูซน่ะ เรื่องที่เกิดขึ้น ริวก็คงพอจะรู้ว่าเพราะอะไร”

                “คงเป็นเรื่องที่ดาเคยเล่าใช่ไหม”

                ถ้าเดาไม่ผิดก็คงเป็นเพราะแฟนธิดาหึงหวงจนเกินเหตุแล้วคิดว่าเขาและธิดามีความสัมพันธ์เกินเลยกัน

                “ผมต้องขอโทษด้วยที่เข้าใจผิด ไม่รู้ว่าคุณแต่งงานแล้วแถมยังแต่งกับ เอ่อ…”

                ธวัชหยุดพูดไป ลูซเบะปาก แล้วยันกายลุกนั่ง

                “แต่งกับผู้ชายอย่างผม แล้วมันทำไมเหรอครับ”

                ดวงตาคู่สวยปราดมองทั้งธิดาและธวัชอย่างไม่พอใจ เพราะคนพวกนี้ถึงทำให้สามีสุดที่รักของเขาต้องเจ็บตัว

                “พวกเราขอโทษจริงๆค่ะ ดาเองก็ไม่คิดว่าวัชจะคิดมากจนทำแบบนี้ แต่ตอนนี้เราคุยกันเข้าใจแล้ว”

                “ถ้าผมไม่เข้าไปช่วยริวจังเอาไว้ ป่านนี้ริวจังของผมจะเป็นยังไง ถ้าจะให้ดี พวกคุณทั้งสองคน อย่ามายุ่งกับริวจังอีกเลยดีกว่า!”

                “ลูซ!”

                ริวพยายามเข้าไปปราม แต่ลูซก็สะบัดหน้าหนี ธิดาพรูลมหายใจอย่างเหนื่อยล้า เธอเองก็รู้สึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

                “ดาต้องขอโทษจริงๆค่ะ ต่อไปจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก พรุ่งนี้เราก็จะไปอังกฤษกันแล้ว ก็เลยอยากจะมาขอโทษพวกคุณก่อน”

                “ครับ ไม่เป็นไรครับ”

                ริวไม่อยากจะถือสา เพราะสุดท้ายเขาทั้งสองก็ปลอดภัย ทุกอย่างเกิดขึ้นก็เพียงเพราะว่าเป็นการเข้าใจผิดกันเท่านั้น

                “งั้นขอให้หายไวๆนะคะ”

                คนสวยยังคงไม่ยอมหันไปมองทั้งคู่ ลูซไม่อยากจะอาละวาดใส่ เขาทั้งโกรธทั้งเคือง เพราะคนพวกนี้ทำร้ายริวจังของเขา

                “ลูซ”

                “ชิ”

                กายสูงเอนตัวนอน แล้วหันหลังให้ริวเหมือนกับคนกำลังงอน ริวถอนหายใจแล้วเอ่ยขึ้น

                “เป็นอะไรไปอีกล่ะ”

                “ก็ริวจังเอาแต่สนใจคนอื่น”

                “ห๊ะ”

                “คนพวกนั้นทำริวจังเจ็บ แล้วริวจังยังไปปกป้องอีก ลูซไม่ชอบ”

                “อะไรของนาย”

                เขาหย่อนกายนั่งลงบนเก้าอี้ ลูซพลิกกายหันมามอง แล้วนอนกอดอก จ้องหน้าอย่างขุ่นเคืองแต่ก็ไม่มากนัก

                “เห็นผู้หญิงคนนั้นสำคัญกว่าลูซเหรอ”

                “ฉันกับดาเลิกกันตั้งนานแล้วนะ นายจะหาเรื่องทำไม”

                “ก็ริวไม่เคยสนใจลูซ”บอกอย่างน้อยใจ

                “แล้วไอ้ที่ฉันมานอนเฝ้านายที่นี่ มันคืออะไรฮะ! น่ารำคาญจริงๆ”

                ริวลุกขึ้น หมุนกายจะเดินออกจากห้อง แต่ลูซก็รีบคว้ามือเล็กเขาไว้ พูดเสียงแผ่ว

                “ริวจังเป็นห่วงลูซใช่ไหม”

                “เปล่าสักหน่อย”

                เขาเมินหน้าหนีไปทางอื่น ลูซยู่ปาก แล้วรั้งกายเล็กให้เข้ามาใกล้ ก่อนจะโอบกอดจากด้านหลัง

                “ลูซไม่เชื่อหรอก ริวจังเป็นห่วงลูซ”

                ลูซซบแก้มไปกับแผ่นหลังเล็ก ริวเม้มปากแน่น เขาสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ

                “นายควรจะพักผ่อนให้มากๆ ฉันจะกลับไปทำงาน เดี๋ยวตอนเย็น คุณแม่จะเข้ามาดูนาย”

                “อยู่กับลูซไม่ได้เหรอ ริวจังไม่ห่วงลูซเลยเหรอ”

                คนปากหนักไม่ยอมพูดออกไปว่าเป็นห่วง ริวหยิบโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง แล้วเดินไปจะเปิดประตู  แต่ก็ไม่วายหันมาพูด

                “นอนพักไปเลย มัวแต่พูดมากอยู่ได้”

                ลูซมองตามคนรักที่เดินออกจากห้องไปแล้ว ชายหนุ่มก็คลี่ยิ้มอย่างมีความสุข

 

-------+++++-------

 

                หลังจากพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลอยู่สามวัน ลูซก็ได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับมาพักที่บ้านได้ อาการของเขาดีขึ้นเรื่อยๆ จนเริ่มหายเป็นปกติ

                “นี่ริวจัง กลางวันนี้ ขอลูซไปหาริวจังได้ไหม”

                ภรรยาตัวสูงเข้ามาคลอเคลียสามีจากด้านหลัง ในขณะที่ริวกำลังใส่รองเท้าเพื่อจะเดินไปที่รถ

                “นายจะไปทำไม”

                ริวเริ่มชินกับการที่มีลูซตามติดเป็นเงา เมื่อคืนเขาทั้งสองก็จัดหนักมีอะไรกันไปตั้งหลายยก ในช่วงแรกริวรู้สึกขัดเขินและพยายามปฏิเสธ แต่สุดท้ายไปๆมาๆ ก็ปล่อยให้เจ้าสาวตัวสูงปลุกปล้ำจนสำเร็จแทบทุกครั้ง เขาโกหกไม่ได้เลยว่าการมีเซ็กส์กับลูซมันทำให้รู้สึกแย่ เพราะเขารู้สึกดีสุดๆ จนลืมไปแล้วว่าการมีเซ็กส์กับผู้หญิงมันเป็นยังไง

                แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่กล้ายอมรับว่าตัวเองได้ตกหลุมรักภรรยาตัวใหญ่ไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะไปชอบผู้ชายตัวใหญ่แบบลูซได้

                “ก็ลูซอยากให้ริวจังได้ทานมื้อเที่ยงที่ลูซทำนี่นา”

                “พอเลยๆ เสียเวลาเปล่าๆ”

                “งั้นเอาเป็นว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ลูซทำข้าวกล่องให้ริวจังไปด้วยดีไหม”

                “จะบ้าหรือไง ฉันไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ จะได้พกข้าวกล่อง”

                “งั้นริวจังก็ต้องเลือกแล้วล่ะ ว่าจะให้ลูซเอาข้าวไปส่ง หรือจะเอาข้าวกล่องไปตั้งแต่แรก”

                ริวนิ่งคิดไปพักหนึ่ง ไม่ว่าจะทางไหนเขาก็ไม่อยากจะทำทั้งนั้น ลูซก้มลงมาจูบปากอย่างรวดเร็วแล้วผละออก

“งั้นเอาเป็นว่า กลางวันลูซจะเอาข้าวไปให้ริวจังก็แล้วกันนะ เพราะลูซอยากจะเห็นหน้าริวจัง ลูซคิดถึงริวจัง”

ริวได้แต่มองอย่างเอือมๆ แล้วจะขึ้นรถ

“ลูซรักริวจังน้า”

“ฉันก็…”

เขารู้สึกเหมือนว่าตัวเองจะพูดตอบกลับไปในเชิงเดียวกัน แต่ทว่าก็ต้องหยุดลงเพื่อหักห้ามตัวเอง เขาไม่อยากจะคิดว่าเขากำลังรักเจ้ากะเทยตัวใหญ่หน้าสวยไปแล้วจริงๆ

“ฉันไปล่ะ”

ลูซมองคนรักที่ขึ้นรถ แล้วยกมือโบกไปมาเป็นเชิงบอกลา ริวเหลือบมองลูซจากกระจกหน้า รอยยิ้มสวยที่ส่งมาทำให้เขารู้สึกอุ่นใจอย่างประหลาด

“รักงั้นเหรอ…หรือว่าฉันจะตกหลุมรักนายแล้วจริงๆ…ไม่หรอก เป็นไปไม่ได้”

 



100%

 แจ้ง : จากนี้อากิจะไม่ได้เข้ามาอัพนิยายเท่าไหร่นะคะ

เพราะยุ่งเรื่องเรียน   กับการรวมเล่มและการจัดหน้า รวมทั้งตอนพิเศษที่แถมเฉพาะในเล่ม

ขอให้ผ่านช่วงยุ่งๆไปก่อนนะคะ

ติดตามความเคลื่อนไหวนิยาย ได้ที่เพจอากินะคะ  https://www.facebook.com/akikoneko17fiction/

แล้วเจอกันใหม่ค่ะ





ท่านใดที่ต้องการรวมเล่ม นิยาย สะใภ้ขายาว  , Play

จิ้มลิ้งด้านล่างได้เลยค่ะ



 

http://www.tunwalai.com/chapter/695333/%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C-10816-10916?page=1

 

 

 



 

 

 

 


 












               
 

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 20 คนปากหนัก
«ตอบ #103 เมื่อ29-08-2016 21:41:34 »

ตอนล่าสุดมันโพสต์ซ้ำกันอ่ะค่ะ ฝากดูด้วยน้า :)

(ริวจังนี่เริ่มอ่อนโอนแล้วสินะ อีกไม่ไกลแล้วลูซ สู้ๆ!!)

 :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 20 คนปากหนัก
«ตอบ #104 เมื่อ30-08-2016 01:33:12 »

ตอนแรกแอบเป็นห่วงลูชแต่พอๆื้นขึ้นมาแล้วทำตัวน่าหมั่นไส้จริงๆ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 20 คนปากหนัก
«ตอบ #105 เมื่อ30-08-2016 06:52:50 »

ในที่สุดก็เริ่มโอนอ่อนกับลูซเสียที ริว ลุ้นอยู่น้าา

ออฟไลน์ ราตรีสีน้ำเงิน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 20 คนปากหนัก
«ตอบ #106 เมื่อ30-08-2016 12:03:20 »


:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ แฟนตาเซีย

  • หืมม...?
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 20 คนปากหนัก
«ตอบ #107 เมื่อ31-08-2016 12:42:26 »

คนปากไม่ตรงกับใจ ริวจังยอมรับซะเถอะะะ :oo1:

ออฟไลน์ Akikoneko17

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 21 รับผิดชอบ
«ตอบ #108 เมื่อ08-01-2017 14:48:37 »

21

รับผิดชอบ

 

 

                เมื่อลูซบอกว่าจะเอาอาหารมาส่งตอนพักกลางวัน เจ้าตัวก็มาจริงๆ ภรรยาคนสวยบรรจงเปิดข้าวกล่องที่เตรียมมาให้กับสามี

                “ลูซทำซูชิมาให้ริวจัง แล้วก็ทำข้าวหน้าหมูด้วยน้า ริวจังน่าจะชอบ”

                “อ่า ก็ดี”

                แม้จะบอกแบบนั้น แต่กระเพาะของเขามันเริ่มทำงานอย่างรุนแรง เพียงแค่ได้กลิ่นอาหารและเห็นอาหารที่ลูซทำมา

                …นี่ล่ะ เสน่ห์ปลายจวักฉบับลูซ…

                ภรรยาคนสวยคลี่ยิ้มหวาน จัดเรียงอาหารในกล่องไว้ตรงหน้าริว

                “เดี๋ยวลูซป้อนให้น้า”

                “ไม่ต้องๆ ฉันตักกินเองได้น่า”

                ริวพยายามปัดมือลูซให้ออกห่าง แต่สุดท้ายก็แพ้ลูกตื้อของลูซ เขาคีบซูชิป้อนริวชายหนุ่มจำใจต้องอ้าปากรับ แต่ลึกๆแล้วก็อยากจะทานอยู่พอดี

                “อร่อยไหมริวจัง”

                สามีตัวเล็กยังคงเคี้ยวซูชิในปากตุ้ยๆ ลิ้มรสความอร่อยจากข้าวและปลาดิบ ฝีมือทำอาหารของลูซไม่ใช่ธรรมดา เรียกว่าเชฟชั้นเยี่ยมมาเองเลยก็เป็นได้ เขารู้สึกได้ว่าช่วงนี้เขาเจริญอาหารกว่าเมื่อก่อนมากพอสมควร

                “นี่น้ำ”

                ลูซดูแลริวไม่ต่างกับภรรยาที่แสนดีและรักเทิดทูนสามี ทุกวันที่เขากลับไป ลูซจะคอยมาช่วยเขาถือกระเป๋า นำสูทไปเก็บอยู่เสมอ

                จะว่าไปแล้ว ริวเองก็รู้สึกมีความสุขโดยที่ไม่รู้ตัว ความคิดที่จะเลิกรากับลูซเริ่มจะเลือนหายไปทีละน้อย เพราะความรักและความเอาใจใส่ของลูซส่งมาให้ริว จนชายหนุ่มสามารถรับรู้ได้ แต่ถึงกระนั้น ริวก็ไม่เคยแม้แต่จะบอกว่าชอบ หรือรักแม้แต่คำเดียว ความคิดในสมองของเขายังคงสั่งการว่าเขาไม่มีวันจะรักผู้ชายด้วยกันเด็ดขาด ส่วนเรื่องเซ็กที่เข้ากันได้ ก็คงเป็นเพียงเพราะความต้องการของร่างกายเท่านั้น

                “ฉันอิ่มแล้ว”

                ริวได้แต่ยกมือปรามไม่ให้ลูซป้อนอาหารเขาไปมากกว่านี้ ภรรยาคนสวยรีบหยิบน้ำชาเขียวส่งให้สามี

                “งั้นดื่มน้ำนะริวจัง”

                น้ำชาเขียวถูกดื่มไปเกือบหมดแก้ว พักนี้ริวรู้สึกว่าร่างกายเขาเหมือนจะมีเนื้อหนังมากกว่าแต่ก่อน นั่นอาจจะเป็นเพราะอาหารที่ลูซทำมาถูกปากจนเขาทานมากกว่าปกติ

                “กลับไปได้แล้วไป”

                “ขอลูซดูริวจังทำงานได้ไหม ลูซคิดถึงริวจังม๊ากมาก”

                พูดไปก็กางแขนออกกว้างๆ เป็นเชิงอธิบายให้เห็นภาพว่าเขาคิดถึงสามีมากจริงๆ ริวแอบขำกับท่าทางที่ไม่เข้ากับตัวโตๆ

                “ริวจังขำอะไร”

                “เปล่าสักหน่อย”

                ชายหนุ่มทำเป็นเฉไฉไปเรื่อย เขาลุกขึ้นจะเดินไปเข้าห้องน้ำ แต่ลูซก็เข้ามาขวาง ไม่ยอมให้ผ่านไปได้

                “ไม่ได้นะริวจัง ถ้าไม่บอก จะต้องถูกลงโทษ”

                “ลงโทษอะไร”

                ริวกอดอก เชิดหน้าเล็กน้อย เป็นเชิงถามว่าจะลงโทษยังไงกับเขา  ลูซคลี่ยิ้มหวานแล้วก้มหน้าลงไปหาคนตัวเล็ก

                “ก็แบบนี้ไงริวจัง”

                เอ่ยจบก็ใช้มือใหญ่ทั้งสองประกบเข้ากับแก้มนิ่ม กดจูบลงมาอย่างหวานซึ้ง ริวอึ้งไปชั่วขณะ ยกมือดันแผ่นอกแกร่ง ในคราแรกตั้งใจว่าจะผลักออกแต่มือเล็กทำได้แต่เพียงขยำเสื้อตัวบางที่ลูซใส่อยู่

                เขาหลับตาพริ้มรับจูบที่แสนหวานและเต็มไปด้วยความรัก หัวใจของริวเอิบอิ่มขึ้นมา โดยที่เจ้าตัวไม่อยากหาเหตุผล

                “ตั้งใจทำงานนะริวจัง แล้วลูซจะรอริวจังกลับบ้าน”

                เมื่อจูบเสร็จ ภรรยาคนสวยก็กระซิบบอกอย่างน่ารัก ริวได้แต่ยืนหน้าแดง ใจของเขาเต้นรัว ราวกับกลองที่ถูกรัวตี

                …ทำไมถึงได้คิดไปได้ว่าลูซน่ารักขึ้นมาเสียอย่างนั้น ทั้งๆที่เป็นผู้ชายตัวโต…

               

 

-------+++++-------

 

               

                วันนี้ก็เป็นเหมือนทุกวัน ที่ริวทำงานจนถึงเวลาเลิกงาน ทุกวันนี้เขาไม่ค่อยได้นัดไปสังสรรค์กับวาโยสักเท่าไหร่นัก จนโดนเพื่อนตัวดีโทรมาแซว

                [อะไรกันวะ พอมีเมียแล้วลืมเพื่อนเหรอ]

                “บ้าน่า จะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง”

                [ไม่ใช่หลงเมียไปแล้วเรอะ]

                ริวได้แต่หัวเราะขำขัน อย่างเขาเนี่ยนะจะไปหลงเสน่ห์ของลูซ ผู้ชายด้วยกัน ไม่เห็นจะมีอะไรน่าสนใจ แต่ทำไมช่วงนี้เวลาที่เขานึกถึงเรือนร่างของลูซทีไร เลือดลมในกายก็สูบฉีดเสียรุนแรง

                …เขาอาจจะบ้าไปแล้ว…

                [แล้วเย็นนี้ว่างหรือเปล่า ฉันว่าจะชวนแกออกมาดื่ม สาวๆที่นี่ แซ่บๆทั้งนั้นเลยนะเว้ย]

                “ไม่ไหวว่ะ วันนี้เหนื่อยมากเลย กว่าจะเคลียร์งานเสร็จ จะเป็นลมแล้วเนี่ย”

                [อะไรวะ เพื่อนชวนแล้วไม่สนใจเหรอ ใจร้ายจังเลยแฮะ]

                “ก็คนมันเหนื่อยจริงๆนี่หว่า”

                [เหนื่อยจริง หรือคิดถึงเมียวะ]

                วาโยเอ่ยปากแซวไม่หยุด ริวส่ายหน้าไปมาช้าๆ เรื่องอะไรที่เขาจะต้องไปยอมรับว่าเขาคิดอะไรกับผู้ชายด้วยกัน เรื่องแบบนั้น มันจะไปเกิดขึ้นได้ยังไง

                “แกนี่ท่าจะบ้า นั่นมันผู้ชายนะเว้ย! ฉันรู้สึกแย่จะตาย”

                [งั้นเหรอ งั้นทำไมไม่เลิกกันสักทีล่ะวะ]

                ริวเจ็บแปลบขึ้นมาที่ใจ เมื่อได้ยินคำว่าเลิก เขารู้สึกไม่ดีขึ้นมา แต่ก็ยังปั้นหน้า ทำเป็นไม่รู้สึกรู้สาอะไร

                “ก็มันยังไม่ได้โอกาสนี่หว่า”

                [ไม่ใช่ว่าอยากจะอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตหรอกนะ]

                ใบหน้าของลูซลอยขึ้นมาในความทรงจำ ทั้งรอยยิ้มสวย และท่าทางที่ดูบ้าๆบอๆแต่พอดูไปนานๆ กลับรู้สึกว่าน่ารัก ทำให้ริวเผลอยิ้มขึ้นมา

                [เฮ้ย ไอ้ริว นี่ตายไปแล้วเหรอวะ]

                เมื่อเห็นเพื่อนรักเงียบไปนาน วาโยก็รีบถามออกไปทันที ริวหลุดออกมาจากภวังค์ความคิดต่างๆ

                “เมื่อกี้แกว่าอะไรนะ”

                [ดูท่าแกจะเหนื่อยเอามากเลยนะเนี่ย]

                “ก็ประมาณนั้นล่ะ”

                [งั้นฉันไม่กวนแกดีกว่า รีบกลับบ้านไปพักผ่อนเลยไป ดูท่าจะเริ่มเบลอๆ พูดไม่รู้เรื่องแล้วเนี่ย]

                วาโยเป็นห่วงเพื่อนรักด้วยใจจริง ริวตอบกลับ

                “เออๆ ขอบใจว่ะ”

                หลังจากวางสายวาโยไปแล้ว ริวก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

                นี่เขากำลังเป็นอะไรกันแน่ ทำไมพักนี้ถึงได้ชอบคิดถึงแต่ใบหน้าสวยของลูซ แถมยังเผลอไปนึกถึงรูปร่างสมส่วนไปด้วยมัดกล้ามเนื้อน่ามอง ทั้งที่เป็นเพศเดียวกัน

                “ไม่ใช่ แกชอบนมอวบๆ ใหญ่ๆ เต็มมือต่างหาก”

                ถึงพยายามบอกกับตัวเองแบบนั้น แต่ริวก็ยังไม่วายคิดถึงใบหน้าสวยของลูซ เขารีบเก็บของแล้วออกจากห้องเพื่อตรงกลับไปที่บ้าน

                “กลับมาแล้วเหรอริวจัง”

                เสียงทุ้มดังเหมือนทุกวัน กายสูงใหญ่รีบเดินเข้ามาหาเขา ช่วยเขาถึงกระเป๋า และรับเสื้อสูท

                “อืม กลับมาแล้ว”

                พอริวตอบ ลูซก็ก้มลงมาหอมแก้มอย่างรวดเร็ว พลางหัวเราะคิกคักอย่างมีความสุข เดินควงแขนสามีเข้าไปในบ้าน

                “ริวจังหิวไหม เดี๋ยวนั่งก่อนนะ ลูซจะไปเอาน้ำกับขนมมาให้”

                ไม่ทันที่ริวได้เอ่ยปากบอกอะไรทั้งนั้น ลูซก็รีบเข้าครัว เพียงครู่ก็มาพร้อมทั้งขนมและน้ำ ริวมองอาหารตรงหน้า ยกแก้วน้ำขึ้นจิบ

                เขาคิดมากตั้งแต่ออกจากที่ทำงาน ว่าเขาคิดยังไงกับลูซกันแน่ ชายหนุ่มนั่งหน้าเครียด ลูซยื่นหน้าเข้าไปใกล้

                “มีอะไรหรือเปล่าริวจัง ดูเครียดจังเลย”

                ริวสะดุ้งเมื่อจู่ๆ ลูซก็ยื่นหน้ามา เขาส่ายหน้าไปมา           

                “ไม่มีอะไร นายเอาหน้าออกไปห่างๆหน่อย มันอึดอัด”

                “แต่ลูซชอบอยู่ใกล้ๆริวจังนี่นา”

                ลูซเข้ามานั่งเบียดริว พลางเอนศีรษะซบกับไหล่เล็กอย่างมีความสุข ริวแอบเหลือบมองลูซเป็นระยะ

                “อ้าว พี่ริน วันนี้กลับมาเร็วจังเลยนะครับ”

                เมื่อเห็นพี่สาวเดินเข้ามาในบ้าน ริวก็เอ่ยทักทันที รินเหลือบตามองน้องชายและน้องสะใภ้ เธอหย่อนกายนั่งลงบนโซฟา

                “หวานกันจังเลยนะ”

                “เปล่าสักหน่อยครับ”

                มือเล็กดันลูซให้ออกห่าง ลูซยู่หน้าเล็กน้อย แต่ก็คลี่ยิ้มอย่างมีความสุข เพราะคิดว่าริวจังของเขาอาจจะเขินอายก็เป็นได้

                “คุณริวคะ มีคนมาขอพบค่ะ”

                คนรับใช้ในบ้านวัยกลางคน เดินเข้ามาแจ้งให้ริวได้รับรู้ ชายหนุ่มขมวดคิ้วอย่างงุนงง เขาสงสัยว่าใครมา

                “ใครเหรอครับ”

                “ไม่ทราบค่ะ ดิฉันไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน”

                ดูท่าแล้วจะไม่ใช่เพื่อนสนิทของเขาเป็นแน่ ริวพยักหน้ารับรู้

                “แล้วผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะ”

                “ผู้หญิงค่ะ”

                ลูซที่ได้ยินคำตอบแบบนั้น ก็เริ่มหน้าบึ้งที่มีผู้หญิงมาหาริวถึงในบ้านแบบนี้ เขาหันขวับไปมองสามี ริวไม่พูดอะไร แต่ก็รู้สึกร้อนตัวขึ้นมาถึงความผิดของตัวเอง

                “ไปเชิญเธอเข้ามาเถอะ”

                รินเป็นคนตัดสินใจให้ เพราะริวไม่ยอมพูดอะไรสักที คนรับใช้จึงรับคำสั่ง แล้วออกไปเชิญให้แขกคนนี้เข้ามา

                “มาแล้วค่ะ”

                ทั้งสามที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกได้แต่หันไปมองหญิงสาวที่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่ตกใจ คนที่ตกใจมากที่สุดคงไม่พ้นริว เพราะเขาพอจะนึกออกว่าเคยหลับนอนกับเธอมาครั้งหนึ่ง แต่ที่สำคัญก็คือ ท้องของเธอใหญ่โตจนตกใจ

                “เอ่อ เธอมาได้ยังไง”

                ริวได้แต่ถามอย่างแปลกใจ เขาเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีนัก เหมือนรับรู้ถึงเรื่องราวเลวร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากนี้

                “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมีนา”

                เธอหันไปทักทายริน แล้วหันไปมองลูซที่นั่งขมวดคิ้ว ใบหน้าดูไม่ค่อยพอใจ เธอค่อยๆเหยียดยิ้ม ใบหน้าของเธอไม่ได้สวยเท่าลูซ แถมยังทำศัลยกรรมมาอีกด้วย

                “เอ่อ เธอท้องอย่างนั้นเหรอ”ริวถามอย่างแปลกใจ

                “ค่ะ ฉันท้อง ท้องมาหกเดือนแล้วค่ะ”

                “แล้วเธอมาที่นี่มีธุระอะไร”

                ลูซเป็นฝ่ายถามขึ้น เพราะทนกับความอึดอัดไม่ไหว มีนาเหยียดยิ้มหวาน แล้วเอ่ยขึ้นด้วยดวงตาที่แนวแน่

                “ฉันมาหาพ่อของเด็กค่ะ”

                พอได้ยินแบบนั้น ทุกคนก็ตาโต รินหันไปมองริว และลูซ

                “พ่อ เธอไม่ได้หมายถึง น้องชายฉันหรอกนะ”

                “ค่ะ ริวเป็นพ่อของเด็กในท้องฉัน ฉันมาที่นี่ก็เพื่อให้เขารับผิดชอบ”

                ริวแทบจะล้มตึง เขาหันไปมองลูซที่ทำหน้าไม่พอใจเป็นอย่างมาก ภรรยาคนสวยพูดเสียงเรียบ

                “ฉันไม่เชื่อ เธอโกหก”

                “งั้นก็ลองถามริวดูสิคะ ว่าฉันเคยนอนกับเขาไหม”

                ลูซหันขวับไปมองสามี ใบหน้าหวานง้ำงอ เต็มไปด้วยความสงสัย

                “ตกลงมันยังไงกันแน่ริวจัง ริวจังไม่เคยนอนกับเธอใช่ไหม”

                “เอ่อ”ริวอึกอัก

                “ก็พูดมาสิริว ว่าเด็กในท้องใช่ลูกของนายหรือเปล่า”รินเร่งเร้า ด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด

                “ฉันเคยนอนกับมีนา!”

                เมื่อทนต่อแรงกดดันจากพี่สาวและภรรยาไม่ไหว ชายหนุ่มก็โพล่งออกมา ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ราตรีและสามีได้เดินเข้ามาในบ้าน

                “นี่มันอะไรกัน”

                เธอค่อนข้างตกใจ หันไปมองลูกชาย ทุกคนคงคิดว่าลูซคงสติแตกไปแล้ว แต่ชายหนุ่มก็ยังเอ่ยต่อ

                “แล้วเด็กในท้องใช่ลูกของริวจังหรือเปล่า”

                “ฉันไม่รู้ แต่ฉันคิดว่าฉันป้องกันแล้ว”

                คืนนั้นที่นอนกับมีนา เขาเมามาก แต่เขาก็คิดว่าสวมถุงยางป้องกันทุกครั้งที่มีเซ็กกับคนแปลกหน้า

                “คุณริวไม่ได้สวมถุงยางค่ะ ฉันเองก็เมา ก็เลยไม่ได้ป้องกัน”

                “แล้วทำไม เธอถึงเพิ่งมาหาริวตอนนี้ เธอบอกว่าท้องหกเดือนแล้วนี่”ลูซถามต่อ

                “ค่ะ ตอนแรกฉันก็คิดว่าจะทำแท้ง แต่เพราะโดนเพื่อนๆห้ามเอาไว้ ก็เลยเก็บเด็กไว้ เมื่อก่อนฉันก็คิดว่าจะเลี้ยงลูกแค่คนเดียวก็ได้ แต่ฉันคนเดียวเลี้ยงไม่ไหวจริงๆค่ะ ค่าใช้จ่ายก็เยอะ ฉันเลยอยากให้เด็กคนนี้มีพ่อ ให้เขาได้รับสิ่งดีๆ ก็มาหาเขาที่นี่”

                คนที่หัวใจแทบจะหยุดเต้น ไม่ใช่แค่ลูซ แต่ราตรีฟังแล้วก็แทบจะเป็นลม ไม่คิดว่าลูกชายของเธอจะพลาดท่าเสียทีรุนแรงขนาดนี้

                “อย่างนั้นเหรอ…”

                ริวรู้สึกแปลกใจที่ลูซไม่ลุกขึ้นหนี แต่กลับนั่งสงบจนดูเหมือนว่าไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น

                “ถ้าทุกอย่างเป็นเรื่องจริง แสดงว่าเด็กในท้องของเธอก็คือลูกของริวจัง”

                คนที่พูดไม่ออกคือริว เขาเป็นห่วงทั้งความรู้สึกของมารดา และที่สำคัญในตอนนี้คือลูซ ที่ไม่เหมือนเดิม ทั้งสายตาท่าทางดูเย็นชาจนน่ากลัว แต่เพียงครู่ลูซก็คลี่ยิ้ม แต่ไม่ว่าจะมองยังไง มันก็ไม่ใช่รอยยิ้มแห่งความยินดี

                “แล้วเธอต้องการให้ริวจังรับผิดชอบยังไงล่ะ”

                ราตรีถูกประคองให้นั่งลง มีนาเอ่ยต่อ

                “ฉันอยากอยู่ที่ในฐานะภรรยาองคุณริว”

                ลูซหัวเราะในลำคอเบาๆ แล้วร้องเหอะ เขาหันไปมองราตรี

                “คุณแม่ครับ ลูซเป็นสะใภ้ของที่นี่ และได้แต่งงานกันแล้ว ลูซมีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจเรื่องนี้ไหมครับ”

                ราตรีมองลูกสะใภ้อย่างชื่นชม ลูซเป็นคนที่เข้มแข็ง และคงไม่คิดจะหนีปัญหา เธอพยักหน้าเบาๆ

                “ในฐานะภรรยาคงไม่ได้ เพราะฉันคือภรรยาของริวจัง เธอเองก็ไม่ได้คบกับเขา แล้วสิ่งที่เชื่อมเธอกับริวจังเอาไว้ก็คือลูก ในยุคนี้ มีลูกด้วยกันก็ไม่แปลว่าสามีภรรยาจะต้องแต่งงานกัน แล้วอยู่ด้วยกันเสมอไป”

                “แล้วคุณจะพรากแม่ พรากลูกหรือไง!”

                “ฉันให้เธออยู่ที่นี่ก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่ฐานะภรรยาของริวจัง เธอจะอยู่ฐานะแม่ของลูกริวจังเท่านั้น ไม่ว่ายังไง สะใภ้ของที่นี่ก็คือฉัน”

                “ริว แล้วนายจะเอายังไง”

                รินหันมาถามน้องชาย ริวสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เขารับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดจากลูซ ถึงแม้ชายหนุ่มจะไม่ได้บอกด้วยคำพูดก็ตามที แต่สีหน้าท่าทางที่ไม่เหมือนเดิม ก็ทำให้ริวได้เข้าใจ

                “ครับ ตามลูซบอกเลยครับ”

                “ไม่ได้นะคะ! แบบนี้มีนาไม่ยอม มีนาเป็นภรรยาของคุณนะคะริว”

                “ถ้าเธอไม่ยอม เมื่อเด็กเกิดมา คงได้มีขึ้นศาลกัน ก็เลือกเอาแล้วกันนะ ว่าจะให้ทำยังไง”

                คราวนี้รินเข้าข้างริว ท่าทางของเธอก็ไม่คิดที่จะยอมง่ายๆ มีนาจึงได้แต่หัวฟัดหัวเหวี่ยงอย่างไม่พอใจ

                “ก็ได้ค่ะ แต่พวกคุณต้องให้มีนาอยู่ที่นี่”

                “ได้…ช่วยไปจัดห้องให้เธอที”

                “ให้มีนาอยู่กับริวไม่ได้เหรอคะ มีนาท้องแก่แล้ว อยากมีคนดูแล”

                ลูซสูดลมหายใจช้าๆ เหมือนสะกดกลั้นอารมณ์ของตัวเอง แต่เพียงครู่เขาก็ระบายยิ้มหวาน

                “ทุกคนที่นี่จะช่วยดูแลเธอเอง รวมถึงฉันด้วย”

 

-------+++++-------

 

                “ลูซ เดี๋ยวก่อน”

                ริวรีบเดินตามลูซเข้ามาในห้องนอน เขาจับแขนของภรรยาเอาไว้ ลูซถอนหายใจเล็กน้อยแล้วหันมายิ้มให้กับคนรัก

                “มีอะไรเหรอริวจัง”

                “นายโกรธฉันใช่ไหม ที่ฉันทำผู้หญิงท้อง”

                “ควรโกรธดีไหมน้า ถ้าโกรธแล้ว ริวจังจะจูบแก้มลูซเป็นการง้อเหรอ”

                “อย่ามาทำตลกนะลูซ ฉันกำลังจริงจัง”

                “ลูซไม่โกรธริวจังหรอก ไม่ว่าจะยังไง ลูซก็รักริวจัง ลูซรอเวลาที่จะได้เป็นเจ้าสาวของริวจังมาตั้งหลายปี เรื่องอะไร ลูซจะต้องยอมแพ้ด้วยล่ะริวจัง”

                “จริงเหรอ”

                ลูซรั้งร่างเล็กเข้ามากอด ใบหน้าหล่อซบกับแผ่นอกกว้าง เขามองไม่เห็นหน้าของลูซ จึงไม่รับรู้ว่าในดวงตาคู่สวยฉายแววแห่งความเจ็บปวดมากแค่ไหน

                “จริงสิริวจัง ลูซจะไม่ยอมเลิกกับริวจังหรอก เพราะริวจังเป็นของลูซ และลูซก็เป็นภรรยาของริวจังนี่นา”

                “ฉันนึกว่านายอยากจะเลิกกับฉันเดี๋ยวนี้เลย”

                “แล้วริวจังอยากเลิกกับลูซเหรอ”

                เขาดันร่างเล็กออกห่างเพียงนิด ก้มลงมางับจมูกสวย ริวเบือนหน้าหนี แล้วเอ่ยเสียงแผ่ว

                “ไม่รู้สิ”

                “ว้า ไม่ใช่อยากจะบอกเร็วๆเหรอว่า เลิกกับฉันซะ เพราะฉันมีลูกแล้วน่ะ”

                ลูซเอ่ยติดตลก น้ำเสียงขบขัน ริวยกมือฟาดแขนลูซไปแรงๆหนึ่งทีราวกับหมั่นไส้

                “เงียบไปเลยเจ้าบ้า ฉันจะไปอาบน้ำแล้ว”

                ว่าจบก็รีบเดินเข้าไปในห้องน้ำทันที ริวปิดประตูห้องน้ำแล้วเอนกายหลังชนประตู เขายกมือลูบหน้า ความรู้สึกเครียดและกังวลมากล้นจนแสดงออกทางใบหน้าให้เห็น

                “นี่มันเรื่องอะไรกัน”

                ถ้าเป็นเมื่อก่อน ริวคงได้ร้องไชโย ที่เขาหาวิธีจะเลิกกับลูซได้แล้ว แต่ตอนนี้กลับไม่เป็นอย่างนั้น เขากลับเครียดและคิดมากจนไม่รู้จะทำอย่างไรดี

                “ยิ้มสิวะ แกอยากเลิกกับเจ้านั่นไม่ใช่เหรอ”

                ไม่รู้ว่าความรู้สึกของเขาเปลี่ยนไปตั้งแต่ตอนไหน แต่ริวก็ไม่คิดจะยอมรับความคิด ศักดิ์ศรีที่เขาเคยยึดถือเอาไว้มันค้ำคอ จนเขาไม่กล้าที่จะเชื่อว่าตัวเองได้ตกหลุมรักลูซไปแล้ว

                แล้วยิ่งมีเรื่องที่เขาทำผู้หญิงท้องอีก นั่นแสดงว่าเขากำลังจะกลายเป็นพ่อคน เขาควรจะสนใจเรื่องลูกมากกว่ามาสนใจความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้

                ชีวิตที่ปกติ คือมีครอบครัว พ่อแม่ลูก ผู้หญิงได้ครองรักกับผู้ชาย เขาได้แต่งงานกับเพศตรงข้ามและมีลูกด้วย แล้วจะได้เป็นครอบครัวสุขสันต์ ทั้งที่เมื่อก่อนเคยจิตนาการว่าต้องมีชีวิตแบบนั้น แต่ตอนนี้ในหัวเขา ภาพเหล่านั้นกลับเลือนราง ราวกับตัวเองไม่เคยได้ปรารถนาที่จะสร้างมันมาก่อน

               

100%



ท่านใดที่ต้องการซื้อเล่มนิยาย สามารถติดต่อได้ที่เพจจ้า https://web.facebook.com/akikoneko17fiction/


 

 

 

ออฟไลน์ แฟนตาเซีย

  • หืมม...?
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 21 รับผิดชอบ
«ตอบ #109 เมื่อ09-01-2017 19:48:37 »

เอิ่มง่ายไปรึเปล่าเนี่ยทำไมไม่ไปตรวจว่าเป็นลูกริวจริงรึเปล่า :fcuk: :fcuk:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 21 รับผิดชอบ
« ตอบ #109 เมื่อ: 09-01-2017 19:48:37 »





ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1006
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 21 รับผิดชอบ
«ตอบ #110 เมื่อ24-12-2017 19:48:05 »

ยังรอ  :call: :call: :call:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด