สะใภ้ขายาว : Chapter 21 รับผิดชอบ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: สะใภ้ขายาว : Chapter 21 รับผิดชอบ  (อ่าน 21426 ครั้ง)

ออฟไลน์ Natawan20

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 5 ดินเนอร์
«ตอบ #30 เมื่อ20-05-2016 22:22:38 »

ชอบค่ะ รอต่อนะคะ สะมีลูซ ภรรยาริว เอ้ย สามีริว ภรรยาลูซ  :mew1:

ออฟไลน์ Akikoneko17

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
6
เจ้าบ่าวในกำมือ


   
ใครจะไปคิดว่าลูซจะกล้าพูดจาที่ทำให้คนฟังทั้งสองนั้นอึ้งจนทำอะไรไม่ถูก คนที่อึ้งที่สุดก็คือริว เขากลืนน้ำลายลงคออย่างยาก
ลำบาก เห็นทีใช้ลูกไม้นี้ชักจะไม่ได้ผล เพราะไม่ได้ทำให้ศัตรูสะเทือน แต่กลับยิ่งไปเสริมสร้างความทนทานให้กับลูซแทนเสีย
อย่างนั้น

   “แล้วนั่งตักริวจังแบบนั้น ริวจังไม่หนักแย่เหรอ?”

   ลูซจีบปากจีบคอพูด เขาหรี่ตามองหญิงสาว จินนี่เอียงหน้ามาซบกับริว เธอหมั่นไส้ลูซอยู่ไม่ใช่น้อย

   “ริวไม่หนักใช่ไหมคะ”

   ถ้าให้พูดกันตามตรง ริวก็อยากจะบอกว่าหนักพอสมควร แต่ถ้าทำแบบนั้น มันก็เหมือนว่าเขากำลังแพ้พ่ายให้กับลูซ

   “ไม่หนักครับ”

   ลูซขมวดคิ้วเล็กน้อย จับแก้วน้ำเสียแน่น ดูก็รู้ว่าริวจังของเขากำลังหนัก เพราะริวก็ไม่ใช่ผู้ชายตัวใหญ่อะไรมากมายนัก แต่
นั่นก็ไม่สำคัญเท่ากับการที่เขาต้องมาทนมองคนของตัวเองโดนคนอื่นแตะต้อง
   …เขาสวยกว่า ดีกว่า เรื่องอะไรจะยอมยกริวจังให้กับคนอื่น…

   ความมั่นใจของลูซนั้นเรียกได้ว่าเกินร้อย ชายหนุ่มยันกายลุกขึ้น เขาเองก็ไม่คิดจะปล่อยให้ผู้หญิงหน้าไหนมาสัมผัสว่าที่
เจ้าบ่าวของเขาได้นานไปกว่านี้

   “อึก”

   คนกลางอย่างริวต่างหากที่จะลำบากใจเป็นที่สุด บนตักเขาก็มีร่างของจินนี่ แถมทางด้านข้างอีกฝั่งก็ดันมีร่างของชายตัว
สูงใหญ่มาขนาบ ยื่นหน้ามาคลอเคลียกับไหล่เล็ก
   “อยากให้ลูซโทรหาคุณป้าใช่ไหมริวจัง”


   ริวเบิกตากว้าง ไม่คิดว่าลูซจะมาไม้นี้ เขาหันขวับไปมองลูซ มองใบหน้างดงามนั้นอย่างไม่พอใจ แต่แทนที่ลูซจะเครียด
กลับคลี่ยิ้ม
   “นายขู่ฉันเหรอ?”

   “ลูซไม่ได้ขู่นะ ถ้าคุณป้ารู้ว่าริวจังสนใจคนอื่นมากกว่าลูซ เรื่องมันคงไม่จบง่ายๆแน่”

   “ฉันไม่กลัวหรอก”

   ถึงจะบอกไปแบบนี้ แต่ริวเองก็เริ่มคิดมาก เพราะเขาเองไม่อยากจะปัญหากับมารดา จินนี่มองริวและลูซสลับกัน

   “ริวกลัวหมอนี่เหรอคะ”

   “ผมไม่ได้กลัวนะ”

   “ไม่กลัวก็ดีริวจัง รู้ใช่ไหมว่าลูซมันบ้าบิ่นน่ะ”
   เสียงทุ้มนั้นกระซิบที่ข้างหู พร้อมกับมือร้อนที่เนียนสอดเข้าไปบีบก้นนิ่มของริว ชายหนุ่มสะดุ้งเฮือก หันไปมองลูซตาขวาง

   “ไอ้กะเทยโรคจิต”

   เขากัดพูด แต่ลูซก็ยังคงยิ่มร่ารับคำว่ากล่าว ปลายนิ้วร้อนเริ่มไล้ลงไปตามร่องก้น ริวตัวสั่นเกร็ง เพราะว่าร่างของลูซเคลื่อน
มายืนบังข้างหลัง ทำให้ไม่มีใครสังเกตเห็น

“ให้ยัยนั่นลงไปจากตักริวจังเดี๋ยวนี้เลยนะ”

   ลูซยังคงกระซิบบอก ริวพยายามกัดฟันทน เขาไม่อยากให้ใครมารู้สภาพที่น่าอับอายของตัวเอง
   “ก่อนที่ลูซ…จะหมดความอดทน”

   คำว่าหมดความอดทนนั้นไม่ใช่แค่ขู่ แต่มันคือคำเตือนครั้งสุดท้าย แม้ลูซจะเป็นคนที่ดูเหมือนไม่มีอะไรน่าเชื่อถือ ท่าทางก็

ไม่ได้ดูสุขุมจริงจัง แต่ริวก็สัมผัสได้ว่าลูซไม่ได้ล้อเล่นแน่ ท่าทางของผู้ชายตัวโตในยามนี้ไม่ต่างกับลูกหมาที่พร้อมจะกลายร่างเป็นหมาป่าเพื่อจะขย้ำเหยื่อ

   “เอ่อ จินนี่ ลงไปจากตักผมก่อนได้ไหมครับ”

   “ทำไมล่ะคะ?”

   “ก็ริวจังเมื่อย”

   ลูซตอบแทน รู้สึกพอใจขึ้นมา ที่อย่างน้อยริวก็เลือกที่จะทำตามเขา แทนที่จะดื้อดึงต่อไป เขาจึงยอมชักมือออกจากใต้
กางเกง แล้วเปลี่ยนมาจ้องหน้าจินนี่แทน

   “แต่จินนี่อยากนั่งตักริว”

   “หนาจังเลยแฮะ”

   “นี่แกว่าอะไรนะ!”

   จินนี่เริ่มสติแตก เธอเด้งกายลุกยืน แทบจะยกนิ้วชี้หน้าลูซ ทุกคนในร้านเริ่มหันมามอง ลูซทำหน้าเหมือนไม่รู้เรื่องอะไร
   “อย่าโวยวายสิครับ นี่ร้านอาหารนะครับ ไม่ใช่ ‘ตลาดสด’”


   รอยยิ้มสวยถูกส่งไป แต่ดวงตาคมกริบนั้นไม่ได้ยิ้มตาม จินนี่มองซ้ายมองขวา เธอรู้สึกหน้า จินนี่มองริว

   “ริวคะ คุณต้องเลือกนะคะ ระหว่างไอ้กะเทยนี่ กับจินนี่”

   …ไม่เลือกใครเลยได้ไหม?...

   ประโยคนี้ผุดขึ้นทันทีในสมอง จินนี่กอดแขนข้างหนึ่งของริว ในขณะที่แขนอีกข้างลูซก็ดึงไปจับ นี่เขากำลังกลายเป็น
ตุ๊กตาให้ผู้หญิงและกะเทยถึกแย่งอย่างนั้นหรือ แต่ไม่ว่ากับใคร เขาก็ไม่อยากได้ทั้งนั้น

   “เอ่อ…จินนี่ คุณกลับไปก่อนนะ”

   ถ้าให้เลือกระหว่างจินนี่กับลูซ คนที่น่าจะคุยง่ายที่สุดก็คงจะเป็นจินนี่ ถึงแม้จะไม่ง่ายเท่าไหร่ แต่ก็ดีกว่าการต้องเสวนา
เจรจากับลูซ

   “อะไรนะคะริว คุณเลือกอีกะเทยนี่เหรอคะ!”

   จินนี่สุดจะทน เธอไม่คิดว่าริวจะรสนิยมทางเพศเปลี่ยนไป ทุกในร้านต่างพุ่งสายตามามองที่โต๊ะของเขา ริวอายจนแทบจะ
แทรกแผ่นดินหนี

   “นะจินนี่ ผมขอล่ะ กลับไปก่อน”

   “ริว คุณมันน่ารังเกียจ น่าขยะแขยงจริงๆ”

   ท่าทีของเธอเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะเธอไม่คิดว่าริวจะเลือกผู้ชายมากกว่าผู้หญิง  ริวถอนหายใจ ในขณะที่จิ
นนี่หมุนกายจะเดินกลับ

   ตุบ!!!

   “โอ้ยยยย!!!”

   เสียงร้องนั้น ทำให้ทุกคนต่างสนใจ เพราะหญิงสาวตัวเล็กหน้าคว่ำลงไปกับพื้น    

   “แหม…เดินระวังหน่อยสิ เดี๋ยวของที่ทำมาแพงๆจะเสียหายเอานะ”
   ลูซเอ่ยพร้อมกับรอยยิ้ม มองหญิงสาวอย่างสมเพช ในขณะที่ประคองร่างของจินนี่ขึ้น หญิงสาวเจ็บจนพูดไม่ออก เธอรู้สึก
ได้ว่าเดินสะดุดอะไรบางอย่าง ถ้าเดาไม่ผิด ผู้ชายตัวสูงคนนี้น่าจะเป็นคนขัดขาเธอ

   “แก…แกแกล้งฉันใช่ไหม”

   ลูซหุบยิ้ม แล้วเคลื่อนหน้าเข้าไปเอ่ยใกล้กับหน้าของเธอ ดวงตาคมที่ฉายแววขี้เล่นตอนนี้เต็มไปด้วยความน่ากลัว

   “นี่มันยังน้อยไปด้วยซ้ำที่คนอย่างเธอมาว่าริวจังของฉันว่าน่ารังเกียจ น่าขยะแขยง”

   “อึก…”

   “ไสหัวไปซะ…แล้วอย่ามายุ่งกับคนของฉันอีก”

   จินนี่ได้แต่กลืนน้ำลายลงคอ เธอรีบเดินหนีอย่างไม่คิดจะสนสภาพร่างกายตัวเองว่าเจ็บที่สะดุดล้มมากแค่ไหน ริวได้แต่
มองตามหญิงสาวไปอย่างงงๆ ไม่มีใครรับรู้ว่ามีบทสนทนาอะไรเกิดขึ้นระหว่างทั้งคู่
   ลูซหันมาฉีกยิ้มหวานให้กับริว ทุกอย่างที่ดูน่ากลัวและป่าเถื่อนนั้นเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น ลูซขยับกายมานั่งลงตรงข้ามกับคน
รักของตัวเอง เขาส่งยิ้มให้กับริว
   “แล้วทุกอย่างก็จบลงด้วยดี”

   มือทั้งสองปรบเข้าหากันเพียงครั้ง พร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่ริวก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศแปลกๆ ผู้ชายตรงหน้าเขา
ไม่ใช่กะเทยติ๊งต๊องและหื่นกามเท่านั้น แต่มีบางอย่างที่แฝงอยู่ บางทีเขาก็ไม่อยากจะนึกถึงเลยว่ามันคืออะไร
   “เอ่อ ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
   เขารีบลุกจากเก้าอี้ ลูซหุบยิ้ม  ชายหนุ่มไม่ได้ห้ามว่าที่เจ้าบ่าว ได้แต่มองตามไปเท่านั้น เขาหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมากดเล่น


เพราะโดนยึดเอาไว้เลยไม่ได้ถ่ายภาพแห่งความประทับใจ
    ภาพหลายภาพถูกบันทึกเอาไว้ ถึงแม้จะมีแค่จานอาหารบนโต๊ะ แต่มันก็ทำให้คนสวยนั้นยิ้มไม่หยุด


   …นี่มันก็แค่การเริ่มต้นเท่านั้น…

   กึก กึก

   เวลาผ่านไปพักใหญ่ ริวก็ยังไม่กลับมา ลูซนั่งเคาะนิ้วอยู่ที่โต๊ะ ใบหน้าเริ่มบึ้งตึง เขาจ้องมองเวลา นี่ก็ผ่านไปเกือบครึ่ง
ชั่วโมง
   “เป็นอะไรหรือเปล่านะ”

   ความเป็นห่วง ทำให้ลูซไม่รอช้ารีบตรงไปยังห้องน้ำทันที เพื่อไปหาว่าที่เจ้าบ่าวของเขา แต่ไม่ว่าจะหายังไงก็ไม่เจอแม้แต่
เงา คิ้วทั้งสองเริ่มขมวดเข้าหากัน

   เขาหยิบโทรศัพท์มากดโทรหาริว แต่ดูเหมือนปลายสายจะปิดเครื่องหนีไปเสียแล้ว

   “คิดจะหนีลูซอย่างนั้นเหรอ…”
   ลูซกดเสียงต่ำ แต่เพียงครู่ก็แสยะยิ้มร้าย เขาเดินกลับเข้าไปในร้านอาหาร แล้วจ่ายค่าอาหาร

   “คุณแม่ครับ…ริวจังหายไปไหนไม่รู้”
   หากริวหาว่าลูซเป็นคนขี้ฟ้องก็คงใช่ แต่จริงๆแล้วเขากำลังต้องการความช่วยเหลือต่างหาก

   “ขอบคุณนะครับคุณแม่ ลูซรักคุณแม่ที่สุดเลย”

   เขาบอกกลับพร้อมกับส่งเสียงจุ๊บไปด้วย พอกดวางสายจากว่าที่แม่สามี มือใหญ่ก็กำเข้าหากันอย่างหลวมๆ

   “หนีลูซไม่พ้นหรอกนะริวจัง…ยังไงริวจังก็เป็นเจ้าบ่าวในกำมืออยู่ดี ลูซไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่ายๆหรอก”

   

-------+++++-------
   เรื่องของวันพรุ่งนี้ เอาไว้ถึงแล้วค่อยคิด ตอนนี้ริวขอแค่ทำยังไงก็ได้ให้รอดพ้นจากผู้ชายที่ชื่อว่า 'ลูซ'
   สถานที่ที่เขาหนีมาคือคลับแห่งหนึ่ง เขากะว่ามาดื่มสักแก้วสองแก้วแล้วค่อยขับรถกลับไปคอนโด แต่คงไม่คิดจะกลับบ้าน
เพราะไม่อยากมีเรื่องกับมารดา โทรศัพท์มือถือก็ปิดเครื่องหนีไปแล้ว เพราะไม่อยากจะติดต่อกับใครทั้งนั้น

   การดื่มนั้น ริวก็รู้ลิมิตของตัวเอง เขาไม่ได้ดื่มจนเมามาย ไม่อย่างนั้นอาจจะขับรถกลับคอนโดไม่ได้  ถ้าเมาแล้วขับ ก็มีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุ แน่นอนว่า ริวไม่อยากให้ชีวิตตัวเองต้องมาเสี่ยงตายเพียงเพราะเรื่องของกะเทยโรคจิตนั่นแน่นอน
   “เฮ้อ”

   พอมาถึงคอนโด ริวก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมา เขาเหนื่อยและอยากอาบน้ำนอนเต็มทน แต่ทันทีที่ปิดประตูห้อง และเปิดไฟเท่านั้น

   “เฮ้ย!!!”

   คนตัวเล็กสะดุ้งเฮือก ปล่อยคีย์การ์ดในมือจนล่วงหล่น เพราะเห็นร่างสูงใหญ่ของบางคนที่เขารู้จัก แม้จะไม่คุ้นเคย แต่ก็ลืมไม่ลง

   …ลูซ!!!...

   ความไวของลูซนั้นปานจรวด เขาไม่ปล่อยให้ริวได้หนี กายสูงก็พุ่งเข้ามากอดร่างเล็กเอาไว้แน่น

   “คิดจะวิ่งไล่จับกับลูซเหรอริวจัง”

   “ปล่อย! ไอ้กะเทยโรคจิต”
   “อื้อหือ…กลิ่นเหล้าหึ่งเชียว”

   จมูกโด่งนั้นฟุดฟิดดมกลิ่นกายของริว แม้ร่างที่ถูกโอบกอดนั้นรู้สึกร้อนที่หน้าขึ้นมา ริวพยายามดันร่างลูซออก แต่เขาก็สู้แรงอีกฝ่ายไม่ได้

   “นี่แกจะทำอะไร!”

   เขาโวยวายทันที เมื่อลูซดึงเขาให้เดินตามไปยังห้องน้ำ ชายหนุ่มพยายามจะไม่เดินตาม แต่ก็ทนแรงกระชากของลูซไม่ได้
   ตูม!!!!!!!

   “แคกๆๆ”
   ร่างของริวโดนจับโยนลงในอ่างน้ำที่มีน้ำอุ่นเต็มอ่าง เขาสำลักน้ำจนหน้าแดงก่ำ กำลังจะเงยหน้าขึ้นไปด่าคนที่บุกรุกที่ห้อง
ของเขา แต่พอเห็นใบหน้าสวยที่ปกติมักจะมีรอยยิ้มแต่ในยามนี้กลับเรียบนิ่ง นั่นทำให้ริวต้องเก็บเสียงตัวเองลงคอ

   “ริวจังเนี่ย ใจร้ายจังเลยนะ”
   คำพูดนั้นมาพร้อมกับน้ำเสียงนิ่งๆ แต่ปากสวยกลับคลี่ยิ้ม ริวเองก็รู้สึกกลัวลูซขึ้นมา เวลาอยู่กันสองต่อสอง เขาก็รู้สึกว่าลูซ
แปลกๆ

   “ออกไปจากห้องฉันเลยนะ!”

   “ไล่ว่าที่เจ้าสาวตัวเองน่ะ มันไม่โหดร้ายไปหน่อยเหรอริวจัง”

   ใบหน้างดงามเคลื่อนเข้ามาใกล้ ริวหายใจติดขัด เมินหน้าหนีใบหน้าของลูซ จะให้ยอมรับได้ยังไง ว่าเขาใจเต้นแรงกับ
ใบหน้าที่งดงามราวกับนางฟ้าแบบนี้

   “ริวจังน่ะ…หลงใหลใบหน้าของลูซใช่ไหมล่ะ”

   คำพูดนั้นเหมือนทิ่มใจของริวเต็มๆ

   “ไม่ อื้อ”
   ทันทีที่จะหันกลับมาปฏิเสธ ริมฝีปากก็กดจูบบดขยี้กับริมฝีปากของริวทันที เขาเบิกตากว้าง ตัวแข็งทื่อ สติก็เหมือนจะไม่
ค่อยสมบูรณ์สักเท่าไหร่นัก ไม่รู้ว่าเพราะเมาเหล้า หรือเพราะเมาความงดงามที่อยู่ตรงหน้า

   พลั่ก!

   ริวรวบรวมแรงที่มีผลักลูซให้ออกห่าง แต่ดูเหมือนลูซจะไม่สะทกสะท้าน เขากำลังโมโห และอารมณ์ไม่ดีมากพอสมควร
แม้จะปั้นหน้ายิ้มให้กับริวจังที่รักก็ตาม

   …แค่เห็นคนอื่นมาเกาะแกะริว เขาก็หงุดหงิดจะแย่ แต่นี่โดนปล่อยทิ้งไว้ที่ร้านอาหารคนเดียวอีก…มันทำให้เขาเคืองสุดๆ…

   รักแค่ไหน…แต่ก็ต้องลงโทษให้รู้กันบ้างว่าริวจังเป็นของเขาคนเดียว ห้ามมองคนอื่น และห้ามคิดแม้แต่จะทิ้งเขาด้วย

   “อย่าเข้ามานะไอ้บ้าเอ้ย ออกไปสิวะ!”

   แรงคนตัวเล็กหรือจะสู้คนตัวใหญ่กว่าได้ เพียงใช้เวลาไม่นาน ริวก็เปลือยแทบจะทั้งร่าง แต่ไม่ใช่แค่คนเปียกจะมีแค่ริวคน
เดียว เพราะลูซเองก็เปียกปอนเหมือนกัน ริวอาศัยจังหวะที่ลูซทำท่าจะก้าวลงมาในอ่าง ริวรีบลุกขึ้นเพื่อจะวิ่งออกจากห้องน้ำแล้ว
เขาจะได้ขังลูซเอาไว้ข้างใน
   แต่ดูเหมือนว่าริวจะคาดคะเนผิดไป เพราะลูซไม่ใช่คนโง่ที่จะปล่อยให้ว่าที่เจ้าบ่าวแสนหล่อของเขาหลุดมือไปง่ายๆ

   ตุบ! ซ่า!

   ริวเซล้มจนนั่งทับบนร่างของลูซไปเต็มๆ เขาหายใจติดขัดขึ้นมา หันกลับไปมองใบหน้างดงาม ร่างกายของลูซนั้นแข็งแกร่งสมชาย จนริวรู้สึกอายตัวเองขึ้นมา แต่นี่ก็ไม่ใช่เวลาที่จะมาครุ่นคิดให้ตัวเองต้องเจ็บช้ำน้ำใจ

   แขนยาวโอบกอดร่างตรงหน้าพร้อมกับใบหน้าสวยที่วางเกยไหล่เล็ก ริมฝีปากสวยกดจูบที่ต้นคอขาว
   “ริวจังใจร้าย”


   “ฉันใจร้าย งั้นก็เลิกยุ่งกับฉันสิ”

   “ไม่เอา”

   “นายมันบ้าจริงๆ”
   “ก็ลูซรักริวจัง”
   คำรักกระซิบผ่าน เรือนร่างแนบชิด แม้ลูซจะไม่ได้ถอดเสื้อผ้าออก แต่ริวก็รับรู้ได้ถึงความร้อนผ่าวที่ส่งมาถึง แต่นั่นก็ไม่ช้า
ไปกว่ามือปลาหมึกที่ลูบไล้เรือนร่างของเขาไปด้วย
   “วันนี้ลูซหงุดหงิดสุดๆเลยนะริวจัง”   

   “ละ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน”

   “เกี่ยวสิ…เพราะริวจังทำให้ลูซเสียใจ”

   “นั่นมันก็เรื่องของนาย”
   “ไม่ใช่สักหน่อย มันเรื่องของเราต่างหาก  ก็ลูซเป็นเจ้าสาวของริวจัง”
   ริวรู้สึกเหมือนมีลูกหมาตัวโตมากอดออดอ้อนเขา แต่ก็รู้สึกแปลกใจเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่ออกแรงขัดขืนให้มากกว่านี้
หรือว่าเขาเองก็รู้สึกพอใจ แต่ตอนนี้เขาก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ
   “นี่แกจับอะไรของแกฮะ!”

   เขาสะดุ้งแทบจะสุดตัว แต่ก็ลุกหนีไม่ได้ เพราะลูซใช้มือข้างหนึ่งกอดเอวเขาเอาไว้ ส่วนมืออีกข้างก็ทำงานหื่น จับริวน้อย
เอาไว้เสียเต็มมือแถมยังออกแรงรูดรั้ง

   “ยะ หยุด อย่ามาจับของฉัน”

   “ไม่ได้หรอก ก็ริวจังดื้อ ไปยุ่งกับคนอื่นนี่นา”

   “ยะ หยุดสิ ไม่งั้นมีเรื่องกันแน่”

   “ริวจังจะทำไมเหรอ?”

   น้ำเสียงนั้นไม่ได้สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย ร่างกายของริวเองก็เหมือนโอนอ่อนไปตามแรงสัมผัสอย่างที่ตัวเองก็ไม่
เข้าใจเหมือนกันว่าเพราะเหตุใด ทำไมมือผู้ชายถึงทำให้เขารู้สึกดีขนาดนี้

   “ริวจังเป็นของลูซคนเดียว…อย่าลืมสิ”

   “ฉันไม่ใช่ของนาย”

   “ใช่…ริวจังเป็นของลูซ”

   เขาคลายอ้อมกอด แล้วเริ่มใช้มืออีกข้างมาปรนเปรอยอดอกสวย ริวห่อตัว รู้สึกขนลุก แต่นั่นก็ไม่เท่ากับความเสียวซ่านที่

ได้รับ ยอดอกเล็กถูกบีบขยี้อย่างเอาแต่ใจ ส่วนแก่นกายนั้นก็โดนปรนเปรอจนมันแข็งตัวรับสัมผัส

   “อ๊ะ!”

   ริวสะดุ้งตัว เมื่อนิ้วร้อนเริ่มป้วนเปี้ยนที่ช่องทางด้านหลัง เขาจะยันกายขึ้นลุก แต่ก็โดนโอบกอดเอาไว้

   “ปะ ปล่อย”

   ร่างทั้งร่างสั่นระริก แก่นกายนั้นไม่ได้ปลดปล่อยความอึดอัด ลูซไม่ปล่อยให้ริวได้สติ เขารั้งใบหน้าเข้ามากดจูบ ในขณะที่
นิ้วเรียวยาวสอดเข้าไปในช่องทางที่คับแน่นอย่างรวดเร็ว

   !!!

   ดวงตาของริวเบิกกว้าง ร่างกายกระตุกเกร็ง พยายามจะถอยสะโพกหนี แต่ลูซไม่ยอมง่ายๆ ต้นขาแข็งแรงแทบจะเป็นการ
บีบบังคับให้กายเล็กไม่สามารถเคลื่อนหนีเขาไปได้เลยแม้แต่เล็กน้อย

   ริวอยากจะปฏิเสธสัมผัสที่เกิดขึ้น แต่ร่างกายของเขาก็ไม่เหลือเรี่ยวแรง ไม่เข้าใจตัวเองว่าแรงทั้งหมดที่เคยมีหายไปไหน

   ทั้งด้านหน้าและด้านหลังกำลังโดนปลุกเร้า เขาเป็นผู้ชาย แต่ทุกครั้งที่นิ้วเรียวนั้นสัมผัสโดนบางจุดข้างใน ร่างกายของเขา
ก็เสียวสะท้านเหมือนมีไฟฟ้าแล่นทั่วร่าง

   “อะ อื้อ อื้อ”

   สติที่มีเลือนหาย เมื่อได้รับการปรนเปรอจนเต็มที่ คิดไม่ออกด้วยซ้ำว่าจะเอามือใหญ่ให้ออกห่างต้องทำยังไง ลูซกดนิ้วย้ำๆ
ในช่องทางคับแน่น เขาสอดเข้าไปแค่นิ้วเดียว แต่ก็สร้างความสุขสมที่ริวไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน

   “อะ อา”

   ริมฝีปากเล็กเผยอครางร้องออกมาอย่างหมดรูป ดวงคู่สวยคลอไปด้วยหยาดน้ำ ทรมานและสุขสมเพราะฝ่ามือร้อนผ่าวที่
ขยับรูดรั้งไม่หยุดหย่อน ริมฝีปากงดงามก็พรมจูบไปตามลำคอขาว

   “อะ อ๊ะ อ๊า!”

   เพียงไม่นาน ก็มาถึงปลายทาง น้ำขาวขุ่นนั้นปะปนไปกับสายน้ำใสสะอาดในอ่างน้ำที่คับแคบเพราะคนสองคน ริวหอบ
หายใจ เขาฟุบหน้าลงกับไหล่ของลูซอย่างหมดแรงพร้อมกับนิ้วเรียวที่ถอนออกจากช่างทางร้อน ลูซโอบกอดริวเอาไว้อย่างรัก
ใคร่ เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานเหมือนอ้อนวอนแต่ก็แกมบังคับ

   “ริวจังเป็นของลูซ…เป็นของลูซคนเดียว...ต้องมองแค่ลูซคนเดียวนะริวจัง…”

   
100%
29/5/59

ฝากเพจด้วยค่ะ https://www.facebook.com/akikoneko17fiction/

ขอแปะลิ้งนิยาย -ของอากิ ที่อัพในเล้านะคะ

Play รักเล่น เล่นรัก (3P)
cr.ภาพ http://tsuru-tsurumi.exteen.com/images/Nase/Cigarette%20Kisses01.jpg


http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53773.msg3379996#msg3379996

 



'Royal tiger สามีผมเป็นเสือ' http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53735.msg3378586#msg3378586

 
คุณพ่อครับ...มาเป็นเมียผมเถอะ
  http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52889.msg3349707#msg3349707


สะใภ้ขายาว
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53223.msg3359687#msg3359687




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2016 19:40:34 โดย Akikoneko17 »

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
เหมือนเป็นการลงโทษไปในตัวสินะ

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ริวเนี่ยน้าาา ไหนก็มาขนาดนี้แล้ว ยอมๆลูซไปเถอะ เห้อออ พยศจริงๆ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
รู้กันไปว่าใครรเมียใครผัว อิอิ
เนอะน้องริว

ออฟไลน์ naya-devil

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
หนียากคะ งานนี้   555555

รอค่าาาาาาาา  :katai2-1:

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
ไม่รอดหรอก หุหุ  :hao7:

ออฟไลน์ Akikoneko17

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 7 สาวสวย
«ตอบ #38 เมื่อ01-06-2016 17:02:22 »

7
สาวสวย



   บอกใครใครเขาจะเชื่อ ว่าพ่อหนุ่มคาสโนวาอย่างริว ต้องหมดหนทางต่อสู้กับผู้ชายร่างใหญ่ แถมใจกล้า หน้าด้าน ทำเรื่อง
ลามกกับเขาได้อย่างไม่มีสำนึกของความเกรงกลัว

   ความแข็งแกร่งกดทับร่างเขาจนแทบจะจมไปกับอกนั้น  ริวอึดอัด พยายามดันร่างที่ใหญ่โตให้ออกห่าง ลูซยังคงงัวเงีย  ริว
ไม่รู้เลยว่าเขามานอนจมอยู่ในอ้อมกอดของคนที่เขาแสนเกลียดได้อย่างไร แต่นั่นคงไม่ใช่ประเด็นที่สำคัญในตอนนี้ เขาต้องหา
ทางหนีให้รอดจากอุ้งมือของว่าที่ภรรยาหน้าสวยนี่เสียก่อน

   ภาพความทรงจำที่แสนอับอายยังคงอยู่ไม่เลือนหาย ริวรู้ดีว่าร่างกายของเขาแปลกไป แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่คิดจะยอมรับได้
ง่ายๆ ใครมันจะไปยอมรับผู้ชายตัวโตให้มาสมรสเป็นภรรยาได้ลงคอ แค่คิดก็พาลให้อยากคลื่นไส้จนแทบจะอาเจียนออกมา

   ด้วยความที่ลูซนอนดิ้นอยู่บ้าง เขาพลิกกายออกห่างจากริวอย่างงัวเงีย ความสบายใจเกิดขึ้นแทบจะทันที อย่างน้อยตอนนี้
เขาก็ไม่ต้องตกอยู่ภายใต้ไออุ่นของลูซอีกต่อไป

   ทางเดียวที่ทำได้ในตอนนี้ คือต้องหนีไปจากที่นี่ แต่ริวก็คิดไม่ตกว่าเขาควรจะหนีไปที่ไหน ในเมื่อคอนโดแห่งนี้ก็เหมือน
ไม่ใช่หลบภัยของเขาเสียแล้ว หรือว่าเขาจะไปเช่าห้องที่ไหนสักแห่ง

   ทันทีที่เข้ามาในห้องน้ำ เพื่อทำธุระส่วนตัว ใบหน้าของเขาก็เห่อร้อนขึ้นมาแทบจะทันที ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะถูกทำเรื่อง
น่าอับอายในสถานที่แห่งนี้ แถมเขายังสลบไป ตื่นมาอีกทีก็อยู่ในชุดนอนสะอาดตาเสียแล้ว 
   …ก้น…

   ศักดิ์ศรีความเป็นชายเหมือนโดนล่วงล้ำ เขาโดนนิ้วเรียวยาวนั้นสอดเข้ามาในร่างกาย เหงื่อผุดขึ้นเต็มใบหน้า ดวงตาเขา
นั้นสั่นไหว ใจเต้นแรงจนแทบควบคุมสติตัวเองไม่อยู่

   “ริวจางงง”

   เสียงนั้นครางเรียกอย่างอ่อนหวาน แต่มันเหมือนเป็นมีดมากรีดใจเขา เขาเกลียดเสียงที่เต็มไปด้วยความเสน่หาและปรารถ
นาของลูซ  ริวรีบกดล็อกประตูห้องไม่ให้ลูซได้เข้ามาได้ง่ายๆ เขาไม่อยากเห็นหน้าคู่หมั้นของตัวเอง

   “ริวจังอยู่ในห้องน้ำเหรอ เปิดประตูให้ลูซทีน้า”

   ไม่มีวัน… เขาไม่มีวันเปิดประตูให้กับไอ้กะเทยโรคจิตนี่แน่นอน

   ไวกว่าความคิด ริวรีบเลื่อนมือไปปิดก้นตัวเอง เขากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก

   เขาจะไม่ยอมเสียความเป็นชาย

   เรื่องเมื่อคืนมันแค่ความฝัน เขาเมา ถ้าหากทำเป็นไม่รู้เรื่อง จำอะไรไม่ได้ มันน่าจะดีต่อตัวเขามากที่สุด เขาพูดได้ไม่เต็ม
ปากว่ารู้สึกเกลียดสัมผัสของลูซ เพราะถึงใจเขาจะสั่งให้ขยะแขยงมากแค่ไหน แต่ร่างกายเขากลับตอบสนองไปกับการปรนเปรอ
ที่อีกฝ่ายได้มอบให้

   “ริวจัง…เจ็บก้นเหรอ โกรธลูซเหรอ”


   อย่ามารื้อฟื้นได้ไหมเจ้าบ้า!

   ริวพยายามควบคุมสติของตัวเองไม่ให้แตกกระเจิงไปมากกว่านี้ เขากำลังรู้สึกแย่สุดๆ แถมเจ้าบ้านั่นยังมาย้ำเตือนความ
ทรงจำที่เขาน่าจะลืมไปมันแล้วแท้ๆ

   “ไปซะ!”

   นี่คือคำเดียวที่คิดออก ลูซเลิกคิ้ว ไม่อยากคิดว่าตัวเองจะได้ยินผิดไป แต่ชายหนุ่มก็ไม่คิดจะหยุดง่ายๆ เรื่องอะไรที่เขาจะ
ต้องหยุด ในเมื่อเขาเองก็รู้สึกต้องการริวจนแทบทนไม่ไหว เขาไม่อยากปล่อยคนที่เขารักเอาไว้คนเดียว

   “ริวจัง ออกมาหาลูซเถอะนะ”

   “ไม่! นายออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ”

   พอได้ยินแบบนั้น ลูซก็คอตก เขาแนบแก้มกับประตู้ห้องน้ำ ยกนิ้วเขี่ยพื้นประตูราวกับลูกแมวตัวโต

   “แต่ลูซอยากอยู่กับริวจังนี่นา”

   “แต่ฉันไม่อยากอยู่กับนาย”

   “ริวจังโกรธ ที่ลูซสอดนิ้วเข้าไปเหรอ?”

   ริ้วแห่งความเขินอายเกิดขึ้นบนใบหน้าของริวทันที ไม่คิดว่าลูซจะไม่ยอมหยุดพูดเรื่องเมื่อคืน

   “ออกไป!”

   เขาตะโกนไล่ เพราะไม่อาจจะทนรับความอับอายได้ ลูซขมวดคิ้วทันที เขาไม่คิดจะยอมให้ริวไล่เขาไปได้ง่ายๆแบบนี้

   “ลูซไม่ไป ลูซเป็นแฟนของริวจัง”

   “แกไม่ใช่แฟนฉัน!”

   แค่ปวดหัวเพราะเรื่องเมื่อคืนก็มากพอแล้ว เขายังจะต้องมาต่อปากต่อคำกับคนที่พูดไม่รู้เรื่องแบบนี้ ช่างเป็นอะไรที่แย่
สำหรับเขาเสียเหลือเกิน

   “ริวจัง”

   “ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้ ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทนกับแก”

   เขาไม่คิดจะนับญาติกับลูซตั้งแต่แรก ไม่ได้อยากรู้จัก แล้วถ้าจะต้องมาแต่งานเข้าหอด้วยกัน เขายิ่งทำใจยอมรับไม่ได้

   “ก็ได้…ริวจังคงอายลูซ”

   ชายหนุ่มพยายามคิดเข้าข้างตัวเอง ริวไม่ตอบกลับ ได้แต่เงี่ยหูฟังเสียงฝีเท้าที่ขยับเคลื่อนที่ห่างออกไป เพียงเท่านี้เขาก็
คลี่ยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ

   “เฮ้อ”

   เสียงถอนหายใจดังขึ้น มันเหมือนช่วยปลดปล่อยความเครียดที่สะสม เขาทำธุระส่วนตัวเพียงครู่ ไม่อยากจะจดจำภาพ
ความอัปยศของตัวเองอีกต่อไป เขาจะลืมมันให้หมด จะทำเป็นไม่สนใจลูซ

   “ริวจังจะไปไหนเหรอ?”

   พอเห็นว่าริวเดินออกมาหยิบชุดในตู้เสื้อผ้า เพื่อจะไปเปลี่ยนในห้องอาบน้ำ ลูซก็เด้งกายเดินเข้ามาถามริวทันที  ริวทำเป็น
ไม่สนใจ คิดเสียว่าลูซเป็นธาตุอากาศ ไม่จำเป็นต้องมองก็ได้

   ชายตัวสูงได้แต่คอตก อย่างกับคนซึมเศร้า แต่ก็แค่เพียงครู่เดียวเท่านั้น ลูซก็คลี่ยิ้มออกมาอย่างมีความหวัง

   …เขาจะรอริวจังออกมาจากห้องน้ำ…

   ความหวังของเขาไม่ไกลเกินเอื้อม เมื่อริวเปลี่ยนชุดเสร็จ เป็นชุดสูท ริวระบายยิ้มเมื่อเห็นชายหนุ่มนั้นดูภูมิฐาน หล่อเหลา

น่ามอง

   “ริวจังหล่อจังเลย”
   เขาพุ่งเข้ามากอดริวจากด้านข้าง ปฏิกิริยาของร่างกายตอบสนองได้รวดเร็ว ริวผลักลูซออกห่างอย่างรังเกียจ จึงทำให้ลูซ
แสดงใบหน้าที่ง้ำงอในทันที

   “อย่ามาเกะกะ”

   “ริวจังจะไปทำงานเหรอ ให้ลูซไปด้วยนะ”

   “นายจะมากับฉันทำไม นายทำงานที่บริษัทฉันหรือไง”

   แม้ไม่รู้จะหาทางรับมือกับว่าที่เจ้าสาวที่ทำตัวราวกับปลิงเกาะได้อย่างไร แต่ริวก็ไม่คิดจะหยุดความคิดที่จะสลัดลูซให้ออก
ห่างจากตัวของเขา

   “เปล่าหรอก แต่ลูซอยากไปให้กำลังใจ”

   ริวยกนิ้วชี้หน้าลูซ เมื่อร่างสูงจะขยับเข้ามาใกล้

   “หยุดเลยนะ! ถ้านายคิดจะก่อความวุ่นวายให้ฉัน โดยตามฉันไปที่บริษัทล่ะก็…ฉันจะไม่พูดกับนายอีกแม้แต่คำเดียว”


   ท่าทางไม่ได้ล้อเล่นนั้น ทำให้ลูซเงียบไป เขาได้แต่ยืนมองริวเดินออกจากห้อง ถึงแม้จะใจกล้าบ้าบิ่นขนาดไหน แต่ลูซก็พอจะรู้ขีดจำกัด เขาไม่อยากริวเกลียดเขา เขาอยากให้อีกฝ่ายรักเขามากกว่า


   “ไม่ว่ายังไง ริวจังก็เป็นของลูซ”

   

   -------+++++-------



   ไม่คิดว่าพูดแค่นั้น แล้วลูซจะยอมปล่อยเขาให้หลุดออกมาได้ง่ายๆแบบนี้      ริวอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจระบายความ
เหนื่อยล้า ที่ต้องมาต่อสู้กับคนที่เขาไม่อยากจะยุ่งด้วย

   “มาแล้วเหรอคะ”

   “ครับ”

   วันนี้เขาเข้าทำงานสาย แม้การดื่มเหล้ามันจะทำให้เขาพอจะลืมความทุกข์ได้บ้างแต่พอตื่นขึ้นมา ก็ดูเหมือนว่าทุกอย่าง
แทบจะเป็นเหมือนเดิม มันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น เขาก็ยังหาวิธีสลัดเจ้ากะเทยหน้าสวยให้ออกห่างไม่ได้

   “มีเอกสารอะไรที่ผมต้องดูบ้างครับ”

   เขาบอกกับเลขานุการ ในเมื่อเรื่องส่วนตัวมันพาให้รำคาญนัก ทางเดียวก็คงต้องพยายามทำงานจะได้ไม่มีเวลาไปคิดเรื่อง

อื่น ซึ่งเรื่องอื่นนั้นก็คงไม่พ้นผู้ชายที่ชื่อว่าลูซ
   “หมดสักที”

   แฟ้มงานกองใหญ่ถูกริวจัดการจนหมด เขาเหลือบตามองเวลาที่บอกเขาว่าใกล้จะเลิกงานแล้ว ริวเก็บของบนโต๊ะให้

เรียบร้อย

   ก๊อกๆๆ

   เสียงเคาะประตูดังขึ้น ริวละสายตาไปมอง เขาเอ่ยบอกคนที่เคาะประตูเป็นเชิงอนุญาต

   “เข้ามาได้เลยครับ”
   ชายหนุ่มไม่ทันได้มองคนที่เดินเข้ามา เพราะเขาคิดว่าคือเลขานุการ ชายกระโปรงสีขาวพลิ้วไสว ริวเริ่มใจเต้นแรงอย่างไม่
ทราบสาเหตุ บรรยากาศในห้องเริ่มแปลกไป เหมือนว่ามีกลีบดอกไม้อันบริสุทธิ์ตกร่วงลงมา

   ตุบ!


   สิ่งที่ตกไม่ใช่กลีบดอกไม้ แต่เป็นปากกาในมือของชายหนุ่ม ดวงตาเขาเบิกกว้างอย่างตกใจ พร้อมกับท่าทางพยายามจ้อง

มอง

   “นะ นี่นาย!”

   แม้ไม่อยากจะเชื่อสมองตัวเอง แต่ริวก็พยายามประคับประคองสมองของเขาไม่ได้ผิดไปจากความเป็นจริง เบื้องหน้าเขา
ไม่ใช่หญิงสาวแสนสวยเหมือนที่ความรู้สึกเขาสัมผัสได้

   “ริวจางงงง”

   ความกลัวเริ่มมาเยือน เมื่อสมองเขาฝังลึกกับเสียงนี้ได้แม่น ราวกับเป็นเสียงที่ได้ยินมาตลอดหลายปี
   ร่างกายใหญ่โต ถาโถมเข้ามาเข้าริวอย่างไม่ยั้งกำลังที่มี แต่ริวก็ไม่ปล่อยให้ลูซได้ลวนลามเขาไปมากกว่านี้ เขาออกแรง
ทั้งหมดที่มีผลักลูซให้ออกห่าง

   “ทำบ้าอะไรของนาย!”
   
เขาไม่ได้พูดเพราะแค่การกระทำของลูซเท่านั้น แต่การแต่งตัวของลูซก็ทำให้ริว ทั้งโมโห ทั้งหงุดหงิด

   “อะไรกัน ชุดนี้ไม่เข้าลูซเหรอริวจัง”

   ลูซคลี่ยิ้มร่า แล้วหมุนกาย จนกระโปรงที่ใส่ยาวคลุมเข่านั้นบานสะพรั่ง



   “ไม่เข้า! ทุเรศ”

   พูดไปก็รู้สึกว่าสมองมันสั่งทำงานตรงกันข้าม ลูซมาหาเขาในวันนี้ด้วยชุดกระโปรงลูกไม้สีขาวสวย เสื้อยืดแขนยาวสีฟ้า
อ่อน แถมยังใส่หมวกปีกกว้างสีครีมที่มีโบขนาดใหญ่ติดอยู่ที่หมวก  สิ้นสุดร่างของกายช่วงล่างด้วยรองเท้าหุ้มส้นสีครีม

   …ทั้งสวย ทั้งน่ารัก…
   จิตใต้สำนึกของริว บอกว่าคนตรงหน้าเขางดงามเหมือนนางฟ้า แต่พอใบหน้าสวยนั้นยื่นเข้ามาใกล้ สติของริวก็กลับมา

   “ออกไปห่างๆเลยเจ้าบ้า”

   เขายกมือดันใบหน้าสวยของลูซ ขนาดชายหนุ่มไม่ได้แต่งหน้า ยังสวยขนาดนี้ เขาไม่อยากจะคิดตอนที่เห็นอีกฝ่ายใช้
เครื่องสำอาง กลัวว่าจะเผลอไผลไปกับใบหน้าที่งดงามนี้

   “นึกบ้ายังไง ถึงได้เอาชุดผู้หญิงมาใส่”

   ถึงแม้ลูซจะตัวใหญ่ แต่ก็น่าแปลกที่ชุดที่เขาใส่มันกลับเข้ากับรูปร่างและส่งเสริมให้เจ้าของร่างดูงดงามเป็นที่สุด

   รอยยิ้มสวยถูกส่งมาให้ริว ก่อนจะเอ่ยตอบ

   “ก็ไปดินเนอร์ครั้งก่อน ริวจังดูเครียดๆนี่นา ก็เลยคิดว่าเป็นเพราะชุดที่ลูซใส่หรือเปล่า?”

   “บ้าเปล่าฮะ มันจะเป็นเพราะชุดได้ยังไง”

   “อ้าวเหรอ แล้วมันเป็นเพราะอะไรล่ะริวจัง”

   ไม่พูดเปล่า แต่ร่างสูงกลับเคลื่อนกายเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ริวกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ รีบลุกจากเก้าอี้ ถอยหลังราวกับหนีสิ่งชั่ว
ร้าย ทั้งๆที่คนที่กำลังใกล้เข้ามาคือลูซที่เป็นมนุษย์เหมือนกับเขาทุกอย่าง

   “ก็เพราะนายมันเป็นผู้ชายไงล่ะ!”

   พอได้ฟังจบ คิ้วก็ขมวดเข้าหากันทันที ใบหน้าสวยงามเริ่มบึ้งตึง เขาเดินเข้าไปใกล้กับริวให้มากขึ้น จนคนตัวเล็ก ตัวแนบ
ติดไปกับผนังห้อง

   “ผู้ชายแล้วมันทำไมเหรอริวจัง…”

   “ฉะ ฉันไม่ชอบผู้ชาย”

   “ทำไมล่ะริวจัง ผู้ชายน่ะดีออก”

   “แกจะบ้าหรือไง!ผู้ชายมันก็ต้องคู่กับผู้หญิง”
   ริวตอบกลับไปตามความจริงของโลกใบนี้ แต่นั่นกลับทำให้ลูซคลี่ยิ้มสวย  ขยับกายเข้าไปแนบชิดกับริวมากขึ้น

   “แต่ลูซดีกว่าผู้หญิงอีกนะริวจัง”

   “ดะ ดีกว่ายังไง”

   “ก็…”

   ภัยอันตรายเริ่มมาเยือน แต่เขาไม่สามารถหนีพ้นไปได้ ก้นเล็กโดนมือใหญ่นั้นจับกุม ลูซยิ้มหวาน ส่วนริวก็ตกใจจนตัวแข็ง
ทื่อ

   …เขาโดนลวนลาม…

   “ลูซเติมเต็มให้ริวจังได้ ทำให้ริวจังมีความสุข แบบที่ไม่เคยได้รับจากผู้หญิงคนไหนแน่ๆ”

   เขาไม่พูดเพียงอย่างเดียว แต่ฝ่ามือร้อนเริ่มไต่เข้ามาในกางเกง ริวสะดุ้งสุดตัว เขาบีบต้นแขนของลูซเอาไว้แน่น
   “ยะ หยุดนะเจ้าบ้า”
   “เอ๋…หยุดอะไรเหรอริวจัง”

   คนตัวสูงยิ้มกริ่ม ไล้นิ่วไปตามแก้มก้นเนียน ริวกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ออกแรงผลักลูซให้ออกห่างด้วยความโมโห ปน
อับอาย

   “ยะ อย่ามายุ่งกับก้นฉัน!”

   “แต่ตรงนั้น ทำให้ริวจังรู้สึกดีได้น้า”
   “บะ บ้า!”


   “คิคิ”


   “ออกไปจากห้องฉัน จะไปไหนก็ไป”

   “ทำไมต้องโกรธลูซด้วยล่ะริวจัง”

   “ก็นายมันทำเรื่องทุเรศได้ไม่เลือกที่ นี่มันห้องทำงานของฉันนะ ให้เกียรติกันบ้าง”

   “แหม ลูซก็นึกว่าริวจังจะชอบซะอีก”

   ลูซยิ้มเย็น ริวกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ เขาไม่รู้ว่าลูซไปได้ยินอะไรแปลกๆมาหรือเปล่า เพราะมันพาลให้เขานึกถึงเรื่องเก่าๆ
เขาเคยแอบพาสาวๆมานัวเนียในห้องทำงาน แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่โตอะไร เพราะมันเป็นนิสัยของผู้ชายที่เจ้าชู้อยู่แล้ว

   “เอาเถอะ ฉันจะถือว่าเรื่องวันนี้มันไม่เคยเกิดขึ้น นายกลับไปได้แล้ว”

   “เสียใจ ลูซไม่กลับ”

   “อะไรนะ…”

   เขากดเสียงต่ำ ทั้งสองมองหน้ากัน ริวสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เขาไม่อยากจะมีปัญหาตามมา แต่ดูเหมือนว่าลูซจะไม่
ยอมง่ายๆ

   “วันนี้ริวจังต้องไปเดทกับลูซ”

   “เดทบ้าอะไรของนาย”

   ริวไม่คิดจะยอมง่ายๆ แค่ไปดินเนอร์กับเจ้าบ้านี่ เขาก็ปวดหัวมากพออยู่แล้ว ลูซยักไหล่ เปิดกระเป๋าสะพายข้างสีขาวของตนเอง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมา

   “เราจะไปกินข้าว แล้วก็ไปดูหนังกัน”

   โทรศัพท์มือถือถูกยื่นไปตรงหน้าของริว เป็นตารางดูหนังของวันนี้

   “ลูซจองเอาไว้สองที่แล้วล่ะ รอบสี่ทุ่ม”

   “ห๊ะ!”

   เวลาตอนนี้ก็เกือบห้าโมงเย็น ใครจะไปคิดว่าตัวเองจะต้องไปดูหนังกับกะเทยโรคจิตดึกดื่นขนาดนั้น

   “ทำไมต้องไปดูดึกขนาดนั้น”

   “แสดงว่าริวจังจะไปกับลูซใช่ไหม คิคิ”

   “ฉันยังไมได้บอกว่าจะไป”

   “แต่คำถามริวจัง มันก็เหมือนบอกว่าจะไปอยู่แล้วล่ะน้า”

   พูดไปก็ยิ้มไปอย่างอารมณ์ดี ริวหายใจเข้าปอดลึกๆ เขาไม่อยากจะทะเลาะกับคนที่น่าปวดหัวแบบลูซ

   “ก็…รอบดึกมันไม่ตัดฉากนี่นา”

   “อะไรนะ!”

   เพราะลูซพูดเบาเกินไป ริวเลยไม่ได้ยิน ชายหนุ่มยักไหล่ ยิ้มอย่างอารมณ์ดี ไม่คิดจะไขข้อสงสัยของริว

   “ไปกันเถอะ เดี๋ยวรถติดน้า”

   แล้วสุดท้ายริวก็โดนลูซดึงตัวไปด้วยจนได้ ริวเองก็ไม่เข้าใจ ว่าทำไมเขาถึงได้ใจง่าย ปล่อยให้ผู้ชายตัวใหญ่แต่งหญิงลาก
เขาไปไหนมาไหนตามใจชอบ แถมเขายังบ้าขับรถพาลูซมาที่ห้างอีกด้วย

   “ริวอยากกินอะไรเหรอ?”

   “อะไรก็ได้ กินได้หมดนั่นล่ะ”

   เขาเหนื่อยเกินกว่าจะพูด แถมยังไม่ชอบสายตาของผู้คนที่มองเขาเหมือนตัวประหลาด ที่จริงเขาคงไม่ใช่ตัวประหลาด แต่
ที่มันประหลาด น่าจะเป็นผู้ชายตัวสูงหน้าสวยที่ใส่ชุดผู้หญิง แล้วเดินกอดแขนเขามากกว่า

   …อย่างกับปลิง…

   แค่คิดก็ปวดหัว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ พยายามจะสลัดเท่าไหร่ก็ไม่ยอมหลุด เขาจึงได้แต่ปล่อยให้อีกฝ่ายกอดแขนเขาไป
เรื่อยๆ

   “อ๊ะ แวะร้านหนังสือก่อนได้ไหมริวจัง ริวจังหิวมากไหม”

   จะบอกว่าเครียดจนหายหิวแล้วก็ได้ หรือเขาควรจะไปปล่อยลูซทิ้งไว้ที่ร้านหนังสือ แล้วแอบชิ่งหนี

   “อยากไปก็ไปสิ”

   เขาบอกอย่างเหนื่อยหน่ายใจ ปล่อยให้ลูซลากเขาเข้าไปในร้านหนังสือจนได้ ลูซเดินมาตรงโซนที่เป็นหนังสือทำอาหาร

   “มาทำไมแถวนี้”

   “ก็ลูซจะหาเมนูอร่อยๆ ทำให้ริวจังกินไง”

   “ใครว่าฉันอยากจะกินอาหารฝีมือนาย”

   “กลัวลูซใส่ยาพิษเหรอ?”

   รอยยิ้มสวยเผยให้เห็น ริวเผลอมองไปชั่วขณะ ก่อนที่จะดึงสติตัวเองให้กลับมา

   “ก็ทำนองนั้นล่ะมั้ง”

   ชายหนุ่มหมุนกายจะไปดูหนังสือในโซนอื่นบ้าง ลูซวางหนังสือทำอาหาร แล้วเดินตามชายหนุ่ม

   “ตามมาทำไม”

   “ลูซกลัวริวจังหนีนี่นา”

   “กลัวแล้วจะพามาทำไม?”

   “ก็อยากเดทกับริวจัง”

   “บ้าหรือไง”

   เขาบอกอย่างเซ็งจัด แต่สิ่งที่ได้รับก็ยังคงเป็นรอยยิ้มสวยจากลูซอยู่ดี ริวถอนหายใจ ไม่คิดว่าการที่ต้องอยู่ใกล้กับลูซจะ
น่าปวดหัวมากขนาดนี้

   “แล้วไม่ซื้ออะไรหรือไง?”

   “ยังไม่อยากซื้อ”

   ลูซตอบไปตามความจริง เขาเดินดูหนังสือไปเรื่อยๆ เท่านั้น ยังไม่คิดจะซื้อในวันนี้

   “ไปกินข้าวกันเถอะนะริวจัง”

   “อืม”

   แม้จะไม่อยากยอมทำตามลูซ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะเริ่มยอมรับชะตากรรม หนียังไง เขาก็คงจะหนีไม่พ้น แล้วถ้ากลับบ้าน
โดยไม่สนใจลูซหรือทิ้งลูซเอาไว้ ก็คงได้โดนมารดาต่อว่าไม่หยุดเหมือนในตอนกลางวันที่มารดาเขาโทรมาต่อว่าก่อนที่เขาทิ้ง
ลูซเอาไว้ที่ร้านอาหารคนเดียว

ริวได้แต่ปลง อย่างน้อยลูซในตอนนี้ก็เหมือนผู้หญิงตัวใหญ่ มากกว่าผู้ชาย

   “ฉันไม่ค่อยโอเค”

   “อะไรเหรอริวจัง”

   “กับการที่นายมาเกาะแขนฉันแบบนี้ ดูตัวนายสิ”

   “ทำไมเหรอริวจัง”

   ลูซได้แต่เลิกคิ้วกับสายตาของว่าที่เจ้าบ่าว เมื่อริวมองเขาเหมือนรู้เอือมระอาเต็มทน

   “หรือว่าคิดมากที่ลูซสูงกว่า ไม่เห็นจะแปลกเลยริวจัง ผู้ชายคบกับผู้หญิงตัวสูงกว่าตั้งเยอะแยะ วันนี้ลูซก็แต่งตัวเพื่อริวจัง
เลยนะ”

   “ไม่ใช่ว่าการแต่งหญิงมันเป็นงานอดิเรกของกะเทยอย่างนายหรือไง!”

   “ลูซไม่ใช่กะเทยสักหน่อยริวจัง”

   “อมพระมาพูด ฉันก็ไม่เชื่อนายหรอก ปล่อย!”

   เขาแกะมือใหญ่ออกจากแขน แล้วรีบเดินเข้าร้านอาหาร

   “รอลูซด้วยสิริวจัง”

   ลูซรีบเดินตามริวเข้าไปในร้านอาหาร เขามองริวสั่งอาหาร แล้วสั่งตาม

   “เอาเหมือนกับเขา”

   “ไม่มีความคิดหรือไง”

   เพราะความหงุดหงิดขั้นสุด ทำให้ริวพูดออกไป ลูซคลี่ยิ้ม

   “อย่าหงุดหงิดสิริวจัง วันนี้…ริวจังมาเดทกับสาวสวยทั้งทีน้า”

   ถ้าเขาไม่รู้ว่าคนตรงหน้าเขาเป็นผู้ชายมาตั้งแต่แรก ริวก็คงคิดว่าเขากำลังมาเดทกับสาวสวยจริงๆ

   …สวยยิ่งกว่าผู้หญิงคนไหนที่เขาเคยพบเจอ…

   ตึก ตึก

   ริวไม่อยากจะเชื่อว่าเขากำลังใจเต้นแรง เพียงเพราะมองใบหน้าของลูซที่กำลังเหม่อมองออกไปนอกร้าน

   “อึก”

   เพียงครู่ที่ลูซหันกลับมา ทำให้เขาได้สบตากับลูซ ริวรีบเบือนหน้าหนี เขาไม่อยากให้ลูซรู้ว่าเขากำลังรู้สึกแปลกๆ

   “อ๊ะ!”

   ริวสะดุ้ง เมื่อรับรู้สึกถึงสัมผัสบางอย่างที่อยู่ใต้โต๊ะอาหาร ดวงตาเขาเบิกกว้าง เหงื่อเริ่มชื้นขึ้นบนบริเวณใบหน้า เมื่อปลาย
เท้าสวยที่สวมถุงน่องสีขาวนั้นหลุดออกมาจากรองเท้า แล้วกำลังไล้เล่นตั้งแต่ปลายเท้าเล็กขึ้นมาเรื่อยๆจนถึงบริเวณต้นขา และ
มีทีท่าจะขึ้นมาเรื่อยๆที่บริเวณใจกลางลำตัวของเขา พอชายหนุ่มเงยหน้ามองใบหน้าสวย ก็ตัวค้างแข็งทื่อ เพราะพบเจอกับรอย
ยิ้มร้ายที่มุมปาก

   “รู้สึกไวจังเลยนะ…ริวจัง”

   
100%
1/6/59
ฝากเพจด้วยค่ะ https://www.facebook.com/akikoneko17fiction/

ออฟไลน์ Akikoneko17

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 8 หนังรัก
«ตอบ #39 เมื่อ01-06-2016 21:20:58 »

8
หนังรัก



   การกระทำของลูซ ทำให้ริวมองคู่หมั้นอย่างไม่ละสายตา ไม่ใช่ความพึงพอใจ แต่คือความขุ่นเคืองระคนอายอย่างมากล้น
ริวจับแก้วน้ำบนโต๊ะเอาไว้เสียแน่น ราวกับต้องการระบายความคับแค้นใจที่เกิดขึ้น

   “เป็นอะไรไปริวจัง”

   เขาถามเสียงอ่อนเสียงหวาน พร้อมกับปลายเท้าที่บดขยี้ส่วนกลางลำตัวของริวให้มากขึ้น ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าปอด
แล้วจ้องหน้าลูซ

   “เอาเท้าของนายหลบไปห่างๆ จากตัวฉัน”

   “อยากให้ทำแบบนั้นจริงเหรอ…”

   ท่าทางของลูซไม่มีความสะทกสะท้าน หรือตกใจแต่อย่างใด เขายกแก้วน้ำขึ้นยกจิบเพียงนิด ก่อนที่ปลายลิ้นสวยจะลาก
ไล้ไปตามขอบแก้ว พร้อมกับสายตาที่จ้องมองชายหนุ่มที่เหมือนกับว่าเขากำลังทำเรื่องลามกพวกนี้บนเรือนร่างของริวแทนที่จะ
เป็นขอบปากแก้วน้ำ

   “อึก”

   กลายเป็นว่าคนที่เริ่มทนไม่ได้ก่อน คือริวเสียเอง เขาได้แต่กลืนน้ำลายอึกใหญ่ เหงื่อเริ่มผุดเต็มใบหน้า เขาอยากจะ
โวยวายให้เสียงดังกว่านี้ แต่ก็กลัวทุกคนในร้านจะตกใจ

   ลูซกระตุกยิ้ม เขาขยับขาออกห่าง เมื่อมีพนักงานมาเสิร์ฟอาหารที่พวกเขาสั่งไว้ ริวมองลูซด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความ
แค้นเคือง

   “ถ้านายทำแบบนั้นกับฉันอีก ฉันจะไม่ไปดูหนังกับนาย”

   “ง่า…ริวจังอย่างโกรธลูซเลยน้า”

   ท่าทางประสานมือระหว่างอกเกิดขึ้น พร้อมกับสายตาที่ทอดมองอย่างออดอ้อน ยิ่งทำให้ใบหน้างดงามนั้นยิ่งน่ารัก

   ริวสะบัดความคิดฟุ้งซ่านและหลงใหลกับใบหน้างดงามนั้นทิ้ง เขาจะไม่ต้องหลงกลเจ้าปีศาจร้ายตนนี้

   “กินกันเถอะริวจัง”

   “!!!”

   ไม่รู้ว่าทำไม แค่ฟังแล้วถึงได้สะดุ้ง กลายเป็นว่าไม่ว่าอะไรที่หลุดออกมาจากปากของลูซ ริวก็คิดไปทางเลวร้ายเสียหมด

   เขากำลังตีความคำว่ากินกัน ไม่ใช่การทานอาหารเสียแล้ว…

   ลูซเลิกคิ้ว ราวกับว่าเขากำลังแปลกใจ พอเห็นริ้วแดงแห่งความอายเกิดขึ้นบนใบหน้าน่ารัก เขาก็พอเริ่มจะเข้าใจกับสิ่งที่
เกิดขึ้น

   ฝ่ามือร้อนเริ่มจับใบมีดแล้วหันเข้าที่ก้อนเนื้อราคาแพง ก่อนที่จะใช้ส้อมจิ้มเข้าไปยังเนื้อที่หั่นแล้ว เคลื่อนย้ายมาหยุดที่
บริเวณปาก เขาเหลือบตามองริว

   “หรือว่า…ริวจังอยากให้ลูซกินอย่างอื่นแทนเนื้อชิ้นนี้”

   “อึก”

   สภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเกิดขึ้น ริวไม่อยากจะคิดว่าตัวเองเป็นรอง แม้ในความจริงมันจะใกล้แค่ไหนก็ตาม

   “เนื้ออะไรน้า ที่ริวจังอยากให้ลูซกิน”

   ริมฝีปากสวยงับเม้มที่ชิ้นเนื้อ แต่สายตายังคงจับจ้องที่คนตัวเล็ก ริวสูดลมหายใจเข้าปอด เอ่ยบอกอย่างโมโห

   “รีบยัดเข้าปากไปเลยนะเจ้าบ้า”

   ลูซพยักหน้าอย่างเชื่องช้า แล้วรับชิ้นเนื้อที่หั่นไว้เข้าไปในปาก ริวรู้สึกเหนื่อยราวกับว่ากำลังเล่นสงครามประสาท ในขณะ
ที่ลูซลงมือทานอาหารตรงหน้าอย่างมีความสุข ส่วนริวก็หวาดระแวงและระวังตัวตลอดเวลา เขานั่งหุบขาชิดกัน ไม่คิดจะเปิดช่อง
ว่างให้ปลายเท้าของลูซเข้ามารุกรานอีกครั้ง แต่ทว่า ตลอดมื้ออาหารนี้ ก็ไม่มีปลายเท้าสวยยื่นมาสัมผัสกับร่างกายของเขาเป็น
ครั้งที่สอง

   “อ๊า…อิ่ม อร่อยจังเลย”

   ทั้งสองเดินออกมาจากร้านอาหาร ลูซกอดแขนริวแล้วซบหน้ากับไหล่เล็กอย่างออดอ้อน

   “ริวจังน่ารักที่สุด เลี้ยงลูซด้วย”

   “ฉันไม่ได้อยากเลี้ยงสักหน่อย แต่จ่ายแยกมันวุ่นวาย”

   เขาเมินหน้าหนีหันไปทางอื่น ลูซอมยิ้ม แล้วอาศัยจังหวะที่ริวเผลอ ยื่นหน้าเข้าไปกดหอมแก้มริว

   “นาย!”

   คนโดนลวนลามหันมามองตาขวาง ลูซทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ กอดแขนริว ให้รีบตรงไปยังโรงภาพยนตร์

   “ปล่อยได้แล้ว”

   เขาอายคนอื่นที่ต้องมาโดนผู้ชายตัวสูงควงแขนแบบนี้ ถึงแม้อีกฝ่ายจะอยู่ในชุดผู้หญิงก็ตามที

   “ให้มันน้อยๆหน่อยเจ้าบ้า”

   เขาเสหน้ามองไปทางอื่น ลูซคลี่ยิ้ม แต่ก็ไม่ได้ปล่อยมือจากแขนของริว จนคนตัวเล็กจ้องกลับด้วยสายตาที่ไม่พอใจอย่าง
มาก

   “ริวจังไม่เห็นต้องอายเลยนี่นา”

   “ปล่อย”
   “ลูซอยากกอดแขนริวจังนี่”

   ใบหน้าสวยง้ำงอ ริวหลับตาลงเพียงครู่ พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าปอด ก่อนจะลืมตาขึ้น

   “จะปล่อยหรือไม่ปล่อย”

   “แล้วถ้าไม่ปล่อย”

   “ฉันจะกลับ!”

   สายตาที่จริงจังของริว ทำให้ลูซเงียบไป เขาไม่ได้โง่จนดูไม่ออกว่าขีดจำกัดความอดทนของริวกำลังลดลงเรื่อยๆ ไม่แน่ว่า
ริวอาจจะหนีกลับไปก่อนจริงๆก็ได้ ลูซไม่อยากเสี่ยง

   “ก็ได้ แต่ริวจังต้องไปดูหนังกับลูซนะ”

   แทนคำตอบที่ควรจะเป็นคำพูด ริวกลับพยักหน้าส่งๆไป ชายตัวสูงได้แต่ก้มหน้าต่ำราวกับรู้สึกเสียใจ เพียงแค่เสี้ยววินาที
ที่ริวรู้สึกสงสาร แต่พอเห็นลูซยิ้มแย้มเหมือนเดิม ความรู้สึกผิดที่เหมือนเคยเกิดขึ้นก็พาลหายไปในทันที

   …เจ้ากะเทยโรคจิตนี่มันกะล่อนจะตาย ไม่เห็นจะต้องไปสงสารเห็นใจตรงไหนเลย…
   “ริวจัง อยากกินป๊อปครอนรสอะไรเหรอ เอาน้ำอะไรดี”

   คนถามก็ช่างกระตือรือร้นจนคนฟังรำคาญ ริวถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายไปหนึ่งที แล้วเอ่ยตอบ โดยที่ไม่หันไปมอง
เจ้าของคำถามเลยแม้แต่น้อย

   “อะไรก็ได้ เลือกๆมาเถอะ”

   “โอเค”

   ท่าทางลูซไม่ได้ดูโศกเศร้า หรือคิดมากกับการกระทำของเขา ทำให้ริวรู้สึกว่าสิ่งที่เขาทำมันไม่ได้เป็นการใจร้ายแต่อย่าง
ใด แต่มันคือเรื่องปกติที่ผู้ชายมักจะปฏิบัติต่อพวกกะเทย แต่ถึงอย่างนั้น ชั่วครู่หนึ่งเขาก็นึกขึ้นมาว่าลูซบอกเขาว่าไม่ใช่กะเทย
แต่ริวไล่ความคิดสับสนนั้นออก
   …จะกะเทย หรือเกย์ มันก็เหมือนๆกัน เป็นพวกผิดเพศ…

   เขาค่อนข้างที่จะมองเรื่องรักร่วมเพศในแง่ลบ เขาไม่ยอมรับพวกรักเพศเดียวกัน มีความเชื่อที่ว่าผู้ชายควรจะเกิดมาคู่กับผู้
หญิง ชายรักชายอะไรนั่น ช่างเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจจริงๆ

   …ทั้งๆที่เป็นอย่างนั้น แต่ทำไม เวลาที่ลูซสัมผัสเขา ร่างกายเขาถึงได้ตอบสนองอย่างน่าอาย…

   “ริวจัง!”

   เสียงเรียกซ้ำๆของลูซ เรียกริวออกมาจากความคิดที่สับสน เขาหันไปมองลูซที่ส่งยิ้มมาให้

   “อะไร! จะเรียกทำไม”

   เขากลบเกลื่อนด้วยการทำท่าทางโมโห ลูซยิ้ม แล้วเอ่ยขึ้น

   “เข้าไปดูหนังกันเถอะริวจัง”

   “อะ อืม”

   ริวหยิบแก้วน้ำและป๊อบคอนของตัวเอง แล้วเดินนำลูซไปทันที ลูซระบายยิ้มแล้วเดินตามคนตัวเล็ก
   “โรงไหนล่ะ”

   ริวหันมาถามลูซ  เขาไม่เอ่ยตอบอะไร แล้วรีบจูงมือคนตัวเล็กให้เดินตามมา ทำให้ริวไม่ทันได้มองด้วยซ้ำว่าเขาจะไปดูหนังเรื่องอะไร

   “ริวจังเข้าไปก่อนสิ”
   “รู้แล้วน่า”   

   เขาเข้าไปนั่งในที่นั่งตามตั๋วที่ลูซซื้อมา ริวยกนาฬิกาขึ้นมาดูเวลา ตอนนี้ในโรงภาพยนตร์ยังไม่ได้ดับไฟ

   “ดึกแบบนี้ จะมีคนมาดูไหมเนี่ย”
   “ริวจังอยากให้คนมาเยอะๆเหรอ”

   ลูซวางแก้วน้ำ แล้วเคลื่อนหน้าไปใกล้กับใบหน้าเล็ก ริวหันมามองลูซทันที เขาเริ่มรู้สึกแปลกๆเสียแล้ว

   “เปล่าสักหน่อย จะมาสักกี่คน ก็ไม่เห็นจะเกี่ยวเลยนี่”

   “นั่นสินะ เพราะไม่ว่ายังไง ก็ไม่มีใครมาหยุดลูซได้หรอก”

   “ห๊ะ!”

   เพราะไม่ได้ตั้งใจฟัง และการพูดของลูซเหมือนไม่ได้จริงจัง ทำให้ริวฟังไม่ทันว่าคนข้างๆพูดอะไรออกมากันแน่

   “ไม่มีอะไรหรอกริวจัง ลูซแค่คิดว่า ดึกแล้ว คนคงไม่ค่อยมาหรอก”

   “งั้นเหรอ”

   มันก็อาจจะจริงอย่างที่ลูซบอกเอาไว้ แต่นั่นก็ไม่ใช่ความจริงทั้งหมด เพราะถึงแม้จะเป็นเวลาดึกก็ตาม แต่คนจำนวนมากก็
เข้ามาในโรงหนังเยอะพอสมควร

   “ไม่มีใครเลยหรือไง?”

   ริวหันไปมองที่นั่งในแถวของตัวเอง ที่ยังไม่มีใครมานั่งสักคน

   “แถวนี้ คนคงไม่ค่อยชอบล่ะมั้ง”

   “เดี๋ยวก็คงมีคนอื่นมานั่งด้วย”ริวเอ่ยปลอบตัวเอง

   แถวที่ทั้งสองคนอยู่ ค่อนข้างจะสูงพอสมควร ริวเองก็ไม่ได้ชอบเข้ามาดูหนังในโรงภาพยนตร์สักเท่าไหร่ เขาไม่ค่อยรู้เรื่อง
พวกนี้ ในขณะที่ลูซเปิดกระเป๋า แง้มมองตั๋วอีกนับสิบกว่าใบที่เขาซื้อมา

   …เสียใจด้วยนะริวจัง…แต่เราสองคนจะได้อยู่กันสองต่อสองแน่นอน…

   ลูซปิดกระเป๋าของตัวเอง แล้วทำหน้าไม่รู้เรื่องอะไร เวลาผ่านไปจนโฆษณาจบลง ริวก็ยังไม่เห็นแม้แต่คนเดียวที่มานั่งที่
แถวเดียวกับเขา

   “ฉันว่ามันแปลกๆ”

   “โอ๊ะ หนังเริ่มแล้วริวจัง”


   ลูซเปลี่ยนความสนใจของริวไปที่จอขนาดใหญ่แทน ริวค่อนข้างเซ็ง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาไปให้ความสนใจกับหนังที่ฉายแทน

   เวลาผ่านไปพักใหญ่ ริวก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ เขาเริ่มกลืนน้ำลายลงคอ เพราะภาพที่แสดงอยู่บนจอนั้นคือฉากคลอเคลีย
ระหว่างชายหญิง  ริวหันไปมองลูซทันที

   “นะ นาย นายพาฉันมาดูหนังอะไรเนี่ย!”

   ริวแทบจะกัดฟันถาม ลูซยิ้มหวาน แล้วกระซิบข้างหูเสียงกระเส่า

   “หนัง(ทำ)รักไง ริวจัง”

   “นี่แก…”

   เขาจ้องหน้างดงามอย่างอาฆาตแค้น ลูซยกนิ้วชี้มาชิดริมฝีปากของริว

   “จุ๊ๆ อย่าเสียงดังรบกวนคนอื่นสิริวจัง ดูต่อเถอะนะ ก็แค่หนังเรท ไม่ใช่หนังโป๊สักหน่อยน้า”

   ถึงจะเป็นอย่างนั้นจริง แต่ริวเองก็รู้สึกเขินขึ้นมา เพราะเขาไม่ค่อยได้ดูอะไรแบบนี้สักเท่าไหร่ ผู้หญิงที่อยู่ในหนังก็สวยมาก
เสียด้วย ริวเริ่มตั้งใจดูภาพในจอโดยไม่คิดถึงอะไรทั้งนั้น ยังไงเสีย มองหน้าสวยๆของสาวๆในจอก็ดีกว่าต้องมามองเจ้ากะเทย
โรคจิต

   “อ่า…”

   ความรู้สึกร้อนผ่าวเกิดขึ้น เมื่อเขารับรู้ถึงอะไรบางอย่าง   

   “ฮะ เฮ้ อึก”

   ริมฝีปากของเขาถูกมือของลูซปิดปากเอาไว้อย่างรวดเร็ว ที่วางแขนถูกจับยกขึ้นตั้งแต่ตอนไหน แถมแก้วน้ำของลูซที่เคย
วางอยู่ ก็เลื่อนไปวางที่ช่องใส่แก้วของเก้าอี้ตัวถัดไปเสียแล้ว

   “อึก”

   คนตัวเล็กได้แต่เบิกตากว้างกับการจู่โจ่มอย่างรวดเร็วของริว ฉากนัวเนียในจอภาพนั้นแสดงให้เห็น ส่วนช่วงล่างของเขา
กำลังโดนริมฝีปากของลูซโลมเลีย

   “ยะ อย่า”

   ริวห้ามเสียงแผ่วในลำคอ เขาพยายามจะดันศีรษะของลูซให้ออกห่าง แต่ลูซก็เงยหน้าขึ้นมากระซิบเสียงแผ่ว

   “อยากให้คนอื่นรู้เหรอริวจัง”

   ถ้าชายหนุ่มไม่โวยวายตอนนี้ อาจจะไม่มีคนอื่นรู้ เพราะว่าในแถวของเขาไม่มีใครเลย แต่ถ้ามีคนจากแถวอื่นหันมามองแล้ว
ล่ะก็ แน่นอนว่าเรื่องน่าอายแบบนี้ ย่อมตกเป็นเป้าสายตาของคนอื่นอย่างแน่นอน

   “หยุดนะ ฉันบอกให้หยุดไง”
   ริวก้มลงไปกระซิบบอก ลูซประคองแก่นกายเล็กไว้ในมือ ปลายลิ้นแตะลงที่ส่วนยอดแล้วเลียมันเบาๆ

   “อยากให้หยุดจริงๆเหรอริวจัง”

   “อะ อะ อ๊ะ อ๊า อ๊า”

   เสียงครางกระเส่าจากภาพยนตร์ดังจนสร้างความกระสันให้กับริว เขาเบือนหน้าหนี ความร้อนรุ่มในกายเกิดขึ้นจนตัวเขาเอง
ยังตกใจ

   ความเป็นชายเริ่มตื่นตัวเต็มที่ ริวอยากจะผลักไสศีรษะของลูซให้ออกไปห่างๆ แต่เสียงทุ้มที่ดังขึ้นก็เขาหยุดชะงัก

   “อยากให้คนอื่นรู้เหรอริวจัง”

   ถึงน้ำเสียงนั้นจะดูสดใส ไม่ใช่คำขู่ แค่ริวก็รู้ได้ว่า เขาขัดขืนลูซตอนนี้ไม่ได้เลย อีกฝ่ายไม่ใช่คนปกติเสียด้วย ความหมาย
ที่ไม่ปกตินั้น ไม่ใช่ว่าเป็นคนพิเศษ แต่คงเป็นคนที่ยอมรับได้หน้าตาเฉย ว่าทำเรื่องลามกกับเขาในโรงภาพยนตร์ต่างหาก

   “อะ อื้อ อึก”

   เสียงครางทุ้มในลำคอ ดังพร้อมกับเสียงครางของนักแสดงในภาพยนตร์ ความเป็นชายตื่นตัวเต็มที่ภายในปากของลูซ
ก่อนที่จะพุ่งฉีดปลดปล่อยความอึดอัดทรมานจนหมดสิ้น

   “อึก อึก”

   เสียงกลืนน้ำลงคอนั้นทำให้ริวเบือนหน้าหนีด้วยความอาย เขาไม่คิดว่าลูซจะกล้าทำถึงเพียงนี้ ตัวเขาสั่นเทา มือเขาก็สั่น
ลูซเงยหน้ามา ส่งยิ้มให้โดยที่มุมปากยังมีน้ำขาวขุ่นเปรอะเปื้อน ก่อนที่ลิ้นสวยนั้นจะแลบเลียมันอย่างกระหาย

   ริวเม้มปากแน่น ดวงตาร้อนผ่าวขึ้นมา เขาผลักลูซออกอย่างแรง มือเขาลนลานรีบเก็บสิ่งสำคัญเข้าสู่ที่ที่มันควรจะอยู่ แล้ว
รีบลุกเพื่อเดินออกจากที่นี่โดยไม่คิดอะไรทั้งนั้น เขาไม่อาจจะทนอยู่ต่อได้อีกต่อไปแล้ว

   “ริวจัง!”

   ลูซตกใจที่อยู่ๆริวก็วิ่งออกไป เขารีบหยิบกระเป๋า แล้ววิ่งตามไปทันที เพียงไม่นานก็ตามทัน

   “ริวจัง”
   ลูซจับเข้าที่ไหล่เล็กที่เจ้าของร่างหันหลังให้เขาอยู่ ร่างของริวสั่นน้อยๆ ลูซเริ่มใจคอไม่ดี

   “ริวจัง ลูซขอทะ”

   พลั่วะ!!!

   ยังไม่ทันได้พูดคำขอโทษจบ กำปั้นเล็กก็ซัดใส่หน้าของลูซทันที ริวแสยะยิ้ม แล้วเอ่ยขึ้น

   “สมน้ำหน้า”

   “ระ ริวจังต่อยหน้าลูซทำไม”

   พอหันมาหน้าอีกที ก็มีรอยฟกช้ำที่มุมปาก ลูซยกมีกุมแก้ม ใบหน้าเสียใจ

   “แกทำอะไรกับฉันในโรงหนัง แค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ!”

   “เอ๋…”
   ลูซทำหน้าเหรอหรา ราวกับว่ามึนงงกับคำกล่าวของริว แต่เพียงครู่ก็ระบายยิ้มออกมา

   “แหม…ก็ริวจังมีอารมณ์ ลูซก็แค่ช่วยเท่านั้นเอง”

   “แก…แกตั้งใจพาฉันมาดูหนังทุเรศแบบนั้นใช่ไหม!”

   ริวกระชากคอเสื้อของลูซ ใบหน้าสวยก้มต่ำลงมา ทั้งคู่สบตากัน คนตัวสูงคลี่ยิ้มหวาน

   “ลูซไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ริวจังไม่พอใจเลยน้า…”

   “…”

   “ลูซแค่อยากพาริวจังมาดูหนังรักด้วยกันก็เท่านั้นเอง…จุ๊บ"

100%
1/6//59

ฝากเพจด้วยค่ะ https://www.facebook.com/akikoneko17fiction/

ขอแปะลิ้งนิยาย -ของอากิ ที่อัพในเล้านะคะ

Play รักเล่น เล่นรัก (3P)
cr.ภาพ http://tsuru-tsurumi.exteen.com/images/Nase/Cigarette%20Kisses01.jpg


http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53773.msg3379996#msg3379996

 



'Royal tiger สามีผมเป็นเสือ' http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53735.msg3378586#msg3378586

 
คุณพ่อครับ...มาเป็นเมียผมเถอะ
  http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52889.msg3349707#msg3349707


สะใภ้ขายาว
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53223.msg3359687#msg3359687





















CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 8 หนังรัก
« ตอบ #39 เมื่อ: 01-06-2016 21:20:58 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ naya-devil

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 8 หนังรัก
«ตอบ #40 เมื่อ01-06-2016 21:49:51 »

 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ lucifermafis

  • ชีวิตไม่มีไรทำ นั่งชิปนั่งจิ้นไปวันๆ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 8 หนังรัก
«ตอบ #41 เมื่อ08-06-2016 11:05:03 »

ภรรยาบริการดีขนาดนี้ สามีตัวซีดแน่  :hao3: :hao3: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ Akikoneko17

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 9 เลือกชุด
«ตอบ #42 เมื่อ09-06-2016 22:25:25 »

9
เลือกชุด
   “โถ่โว้ยย!!!”


   เสียงโวยวายดังลั่นห้อง ริวพลิกกายขยับไปมาบนเตียงนอน เขาหงุดหงิดเกินกว่าจะนอนสงบจิตใจ

   “ไอ้กะเทยบ้า ไอ้กะเทยเฮงซวย ไอ้กะเทยโรคจิต”

   ตุบ! ตุบ!

   ถ้าเปลี่ยนจากหมอนที่จับฟาดเตียงเป็นลูซได้ ริวคงมีความสุขและรู้สึกได้ปลดปล่อยอย่างง่ายดาย แต่ทุกอย่างในความเป็น
จริง เขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้ เพราะแค่ชกหน้าไอ้กะเทยโรคจิตไปหมัดเดียว พอกลับมาถึงบ้าน เรื่องก็วุ่นกันใหญ่ เพราะคุณ
แม่ของเขาทำใจไม่ได้ที่เขาเป็นลูกชายที่ใช้กำลังกับว่าที่ภรรยา

   …เขาไปรับไอ้กะเทยโรคจิตนั่นเป็นภรรยาตอนไหนกันวะ!...

   ริวถอนหายใจ เมื่อเขาเริ่มสงบสติของตัวเองได้แล้ว โชคดีวันนี้เป็นหยุดทำงาน เขาไม่ต้องไปทำงานก็จริง แต่ภายในบ้าน
หลังนี้ก็ยังมีสิ่งมีชีวิตที่เขาไม่อยากจะพบเจอเป็นที่สุด นั่นคือ ว่าที่สะใภ้ของบ้านหลังนี้

   “ไปข้างนอก!”

   หนทางที่นึกออก คือไม่ต้องอยู่ร่วมหายใจภายในบ้านหลังเดียวกับคนที่เขาเกลียด ริวเด้งกายลุกจากเตียงอย่างรวดเร็ว เขา
ต้องรีบออกไปข้างนอก จะได้ไปปลดปล่อยความทรมานที่เกิดขึ้น เขาต้องทำทุกวิธีเพื่อให้รอดพ้นจากเจ้ากะเทยตัวยักษ์นั่น

   แอ๊ด…

   หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ริวก็เปิดประตูห้องอย่างเบามือ เพื่อจะหลบหนีออกจากบ้าน ถ้าออกจากบ้านได้ก็รอดตัว เขาก็
ปิดมือถือ ถอดแบตไปเสีย ทุกคนจะได้ไม่สามารถติดต่อเขาได้

   เขาได้แต่หัวเราะอยู่ในใจ อีกไม่นาน เขาก็จะรอดพ้น ริวมองซ้ายแลขวา พอไม่เห็นลูซ เขาก็ก้าวเดินลงจากบันได

   “ริวจางงง”

   ริวสะดุ้งเฮือก เสียงดังมาจากชั้นสอง เขากลัวที่จะหันไปมอง ได้แต่รีบเดินลงบันได แต่ถึงกระนั้น เสียงเดินกึ่งวิ่งลงบันได
ก็ได้ยินเต็มสองหู

   “คิดถึงริวจัง จังเลยยย”

   “อึก”

   การจู่โจมเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะลูซพุ่งเข้ามากอดเขาจากด้านหลัง ใบหน้าสวยนั้นซบกับไหล่เล็ก

   “มันหนัก”
   กายเล็กพยายามขยับหนี แต่ลูซก็ขยับตาม ริวหลับตาแน่น พยายามสะกดกลั้น ไม่ให้ทำร้ายร่างกายของลูซ เขายังไม่
อยากโดนมารดาต่อว่าเหมือนครั้งก่อน เขาต้องตั้งสติ

   “กอดริวจังแล้วดีจังเลย”

   “!!!”

   ถึงปากจะบอกว่ากอด แต่ฝ่ามือร้อนกลับจับเข้าที่ใจกลางลำตัว จับเน้นๆที่ส่วนสำคัญ ริวหันขวับ ยกหมัดจะต่อยลูซ

   “ทำอะไรกันอยู่จ๊ะ”

   เสียงของราตรี ทำให้ริวชะงัก รีบลดหมัดลง ลูซอาศัยจังหวะนั้น รั้งริวมาโอบกอดอย่างรักใคร่ พร้อมกับส่งยิ้มให้กับราตรี

   “กำลังแสดงความรักกันอยู่ครับคุณแม่”

   “ต๊าย ตาย น่าดีจริงๆ แต่อย่ามากนักนะลูก รอเข้าหอกันก่อนนะจ๊ะ”

   “คุณแม่”

   ริวครางพร่า ไม่คิดว่ามารดา จะเข้าใจผิดได้ขนาดนี้

   “จริงสิ วันนี้แม่นัดคนที่ร้านแต่งงาน ให้เอาชุดมาให้พวกลูกเลือกด้วย”

   “จริงเหรอครับ”

   คนที่ดีใจจนเกินหน้าเกินตา คือลูซ เขาผละออกจากริว ทำให้ริวเริ่มโล่งใจ ลูซเข้าไปกอดราตรี

   “คุณแม่น่ารักที่สุดเลยค้าบ”

   “จ้า…”

   ริวได้แต่เบ้หน้า นี่เขายังเป็นลูกชายของราตรีอยู่หรือเปล่า นั่นคือสิ่งที่เขาสงสัย เพราะราตรี ทำเหมือนกับว่าลูซเป็นลูกคน
โปรดเสียอย่างนั้น

   “ผมไม่ว่าง”

   “อะไรนะ”

   ราตรีหันมามองริวทันที ไม่ใช่แค่ราตรี แต่ลูซก็ด้วย ทุกคนมองริวเหมือนกับจับผิด เขากลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ

   “เอ่อ ผมอยู่ดูชุดไม่ได้หรอกครับ ผมไม่ว่าง”

   “ไม่ว่าง? วันนี้มันวันหยุดไม่ใช่เหรอลูก จะไม่ว่างได้ยังไง”

   “ก็ผมไม่ว่างนี่ครับ ผมต้องออกไปข้างนอก”

   “ไปไหน?”

   ราตรีเริ่มถามเสียงเรียบ ริวยิ้มเจื่อน เอ่ยตอบเสียงแผ่ว

   “เอ่อ ไปหาไอ้โยครับแม่”

   “ไปทำอะไรกันเหรอจ๊ะ”
   “ไป เอ่อ ไปตีกอล์ฟครับ”

   ริวตอบเสียงตะกุกตะกัก ไม่รู้ว่ามารดาของเขาจะรู้หรือเปล่าว่าเขาโกหก ราตรีหันไปมองลูซ

   “หนูลูซจ๊ะ ช่วยไปหยิบโทรศัพท์ให้แม่ที่สิจ๊ะ”

   “ได้เลยครับ”

   ชายตัวสูงตอบอย่างขยันขันแข็ง รีบเดินไปหยิบโทรศัพท์ แล้วเดินกลับมาหาราตรีที่ยืนยิ้มพร้อมกับมองหน้าลูกชาย

   “คุณแม่จะโทรไปไหนเหรอครับ”

   “แม่ว่าจะโทรหาวาโยสักหน่อย”

   ดวงตาของริวเบิกกว้าง เขายังไม่ได้นัดแนะกับวาโยเรื่องที่เขากำลังโกหกมารดา ความซวยเริ่มมาเยือน

   “เอ่อ ผมว่า เดี๋ยวผมไปเลย”

   “จะไปไหนล่ะริวจัง รอคุณแม่คุยเสร็จก่อนสิ”

   คำพูดมาพร้อมกับการที่เข้ามากอดแขนราวกับล็อกตัวไม่ให้ไปไหน ลูซซบหน้ากับไหล่เล็ก คลี่ยิ้มอย่างมีความสุข ในขณะ
ที่ริวเหงื่อแตกที่ขมับ หัวใจก็เริ่มเต้นแรง ไม่อยากคาดคิด ได้แต่ภาวนาขอให้วาโยเพื่อนรักของเขารู้ทัน และช่วยเขาโกหก

   [สวัสดีครับ]

   เมื่อต่อสายไปแล้ว ไม่นานวาโยก็กดรับสาย ชายหนุ่มยังตื่นนอนไม่เต็มที่ งัวเงียอยู่บนเตียง

   “วาโยเหรอลูก นี่แม่ของตาริวนะ”

   [อ่า ครับ คุณแม่]

   วาโยงัวเงีย เขายันกายลุกนั่ง ขยี้ตาให้เขาตื่นจากความง่วง

   [มีอะไรหรือเปล่าครับคุณแม่]

   สติเขายังตื่นไม่เต็มที่ ในขณะที่ราตรีเอ่ยถามออกมา

   “วันนี้ วาโยนัดกับริวเหรอลูก”

   [เอ๋ ไม่ได้นัดนะครับ]

   “อย่างนั้นเหรอจ๊ะ”

   [ครับ]

   วาโยหลับตาลง แต่เพียงครู่ก็เบิกตากว้าง เมื่อคิดได้ว่า บางทีเขาอาจจะทำเรื่องเลวร้ายไปแล้วก็ได้

   “งั้นแค่นี้นะลูก”

   [เดี๋ยวก่อนครับ!]

   ไม่ทันเสียแล้ว เพราะราตรีวางสายไปแล้ว วาโยยกมือตบหน้าผากตัวเอง ใบหน้าเหยเก

   “ชิบหายแล้ว ไอ้ริวต้องไปโกหกอะไรไว้แน่ๆเลย”

   วาโยรู้สึกผิดต่อเพื่อน แต่ทุกอย่างก็ไม่สามารถแก้ไขได้อีกต่อไปแล้ว

   “ขอโทษด้วยว่ะ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”

   ทางด้านของราตรี เธอมองหน้าลูกชาย แล้วกระตุกยิ้ม ริวเริ่มเสียวสันหลัง เพราะไม่รู้ว่าราตรีคุยอะไรกับวาโยไปบ้าง

   “เอ่อ ไอ้โยมันว่ายังไงบ้างครับแม่”

   “วาโยบอกว่า วันนี้ไม่นัดแล้ว”

   “เห!!!”


   “ดีจังเลยน้า ริวจัง”

   ลูซยิ้มร่า ในขณะที่ริวแทบจะทรุด แต่ร่างเขาก็โดนลูซลากไปนั่ง
   “ริวจังนั่งก่อนน้า เดี๋ยวลูซไปเอาน้ำกับขนมมาให้ ริวจังอยากกินข้าวไหม เดี๋ยวลูซไปทำมาให้”

   …นี่วันนี้เขาต้องอยู่บ้าน นั่งเลือกชุดแต่งงานกับเจ้ากะเทยโรคจิตนี่จริงๆเหรอเนี่ย…

   แค่คิด น้ำตาก็แทบจะไหล ริวไม่คิดว่าตัวเองจะซวยมากขนาดนี้ ทำไมโชคชะตาถึงได้กลั่นแกล้งเขานัก หรือว่าเขาผิดที่
เจ้าชู้หลายใจ คบกับสาวไปทั่ว ไม่รักใครจริงสักคน

   “มาแล้ว”

   เสียงสดใสดังขึ้น พร้อมกับถาดขนมและน้ำหวานสีแดง ริวยิ้มเจื่อน ราตรียืนอยู่ไม่ห่าง

   “ดูแลน้องด้วยนะตาริว”
   “ครับ”

   เขาตอบรับอย่างเสียไม่ได้ ถ้าไม่ตอบรับ คงได้เห็นท่าทางบึ้งตึงของมารดา แล้วเขาก็จะโดนบิดาดุ ที่ทำให้มารดาต้อง
เสียใจ

   …เขาทำอะไรก็ผิด…

   ณ จุดนี้ เขาอยากจะกู่ก้อง ด่าฟ้า ด่าดินที่ทำให้เขาต้องมาพบเจอชีวิตที่แสนรันทดใจ

   “อ้าปากสิริวจัง”

   เหมือนความเครียดมากเกินไปจนริวคิดอะไรไม่ออก อ้าปากรักคุกกี้จากลูซ ทั้งที่ถ้าเป็นปกติคงจะผละกายถอยหนีไปแล้ว
แต่ตอนนี้เขาเหนื่อยเกินกว่าที่จะปฏิเสธ

   “ดูดน้ำด้วยน้า”   
   “อืม”

   ทุกอย่างง่ายดาย ราวกับสั่งได้ดังใจ ริวเอนกายพิงโซฟา ปิดเปลือกตาลง เพียงไม่นาน พนักงานจากร้านแต่งงาน ก็มา
พร้อมกับสมุดชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว

   “ริวจัง ตื่นได้แล้ว มาดูชุดกันเถอะ”

   คนที่กระตือรือร้น ยังคงเป็นลูซเหมือนเดิม ริวพยักหน้าอย่างเอือมๆ ไม่คิดว่าตัวเองจะต้องมาเลือกชุดแต่งงานกับเจ้าสาวที่
เป็นผู้ชาย

   “นายเลือกเองได้ไหม ฉันไม่อยากเลือก”

   “ไม่ได้ ริวจังต้องช่วยลูซเลือกสิ”

   คนตัวโตเริ่มออกอาการเบ้ปาก ราวกับงอน แต่ริวทำเป็นไม่สนใจ

   “ฉันจะไปเข้าห้องน้ำ เดี๋ยวมา”

   “ให้ลูซไปด้วยนะ”

   “ไม่ต้อง”

   ริวหันมามองตาขวาง ลูซจึงทำหน้าจ๋อย ริวไม่สนใจ เดินตรงไปที่ห้องน้ำ เขาอยากจะหนีออกจากบ้าน แต่มาถึงขนาดนี้แล้วก็คงจะหนีไปไหนไม่ได้

   “เซ็งโว้ย”


   ทันทีที่เข้ามาในห้องน้ำ ริวก็ระบายความหงุดหงิดทันที เขาหยิบมือถือมากดโทรหาเพื่อนรักตัวแสบ

   “หนอย ไอ้โย แกนะแก เพราะแกคนเดียวเลย”

   ริวยืนกัดฟันกรอดๆ รอเพื่อนตัวสูงรับสาย และในไม่นาน วาโยก็กดรับสาย

   [ว่าไงวะ]
   “แกทำบ้าอะไรของแกวะ แกตอบแม่ฉันไปว่าอะไรฮะ รู้ไหมว่าวันนี้ฉันต้องมาเลือกชุดแต่งงานกับไอ้กะเทยนั่น”

   [เฮ้ย ใจเย็นๆดิวะ]
   “แกจะให้ฉันใจเย็นเหรอวะ อีกไม่นาน ฉันก็ต้องแต่งงานกับมันแล้วนะโว้ย!”

   [เออ รู้แล้ว แต่โวยวายแบบนี้ มันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมาหรอกนะเว้ย]

   “แล้วแกมีแผนเด็ดๆอะไรมั่ง”

   [ฉันก็ยังคิดไม่ออกเลยว่ะ แกบอกแม่แกแบบจริงจังไม่ได้เหรอวะ ว่าไม่อยากแต่ง ไม่มีแม่คนไหนใจร้ายกับลูกได้ลงคอ
หรอก”

   “ก็แม่ฉันนี่ล่ะ ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ ถึงให้ฉันไปแต่งกับไอ้บ้านั่น”


   [เอาน่า มันต้องมีทางออกสิวะ ลองปรึกษาพี่แกดูหรือยัง]

   “พี่ฉันก็เหมือนยังไม่รู้ว่าจะช่วยยังไงเหมือนกันวะ ทุกคนกลัวคุณแม่กันหมด แถมยัยน้องสาวตัวดี ยังไปเข้าข้างไอ้กะเทย
โรคจิตนั่นอีก เซ็งว่ะ”

   [เอาน่า อย่าคิดมาก ฉันว่าบางที แกก็แต่งๆไปก่อน ดีไหมวะ แล้วค่อยไปหย่าทีหลัง]

   “แกมาแต่งแทนฉันไหมล่ะไอ้โย! แกไม่รู้หรอกว่าไอ้กะเทยนั่นมันน่ากลัวขนาดไหน”

   แค่คิด ริวก็ขนลุก เขาโดนลูซรุกรานมากมาย จนนับไม่ถ้วน แล้วจะให้ยอมแต่งงานเข้าไป ก็ไม่ต่างกับตกนรก
   ก๊อกๆๆๆ

   “ริวจังงง เข้าห้องน้ำนานจังเลย เป็นอะไรหรือเปล่า”

   “ชิบหายแล้ว ไอ้กะเทยนั่นมันเคาะประตูเรียกฉัน”


   ริวกระซิบใส่โทรศัพท์ ดวงตาก็มองไปทางประตู เขาไม่ได้ตะโกนตอบลูซกลับไป
   “ริวจัง ถ้าไม่เปิด ลูซจะพังประตูเข้าไปแล้วน้า ลูซเป็นห่วงริวจัง”

   “ไม่ต้องเลยนะ!!!”


   เขาตะโกนตอบกลับไปทันที เขาเชื่อว่าลูซต้องทำจริงแน่ กับการพังประตูห้องน้ำ ริวกลับมาคุยกับวาโยต่อ

   “แค่นี้ก่อนนะ แล้วฉันจะไปคุยกับแกใหม่ เรื่องที่บอกแม่ฉัน ฉันยังไม่หายเคือง แค่นี้ล่ะ”

   ริวตัดสายเพื่อนรัก เขาเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง แล้วเปิดประตูห้องน้ำ เห็นลูซยืนยิ้มหวาน หน้าระรื่น

   “ดูสิ เหงื่อเต็มเลย ริวจังไม่สบายหรือเปล่าน้า”

   ลูซยกมือจะเช็ดเหงื่อให้ แต่ริวก็ปัดมือทิ้งอย่างรำคาญ

   “อย่ามายุ่งกับฉัน”
   “ไม่ยุ่งไม่ได้หรอก ก็ริวจังเป็นว่าที่เจ้าบ่าวของลูซนี่นา”

   “ใครอยากจะไปเป็นเจ้าบ่าวของนาย”

   ริวบ่นเสียงเบา เหมือนพูดกับตัวเอง แล้วเดินไปโดยไม่คิดจะหันไปสนใจลูซ ลูซคลี่ยิ้ม เขาไม่ได้เอ่ยอะไร นอกจากเดิน
ตามไปเงียบๆ

   “ฉันไม่เลือก นายเลือกเองเลย”

   “ไม่ได้ งานแต่งของเรานะริวจัง ต้องช่วยกันเลือกสิ”

   ริวถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย รับหนังสือชุดแต่งงานมาเปิดดู เขามองไปเรื่อยเปื่อย เล่มที่เขาดูเป็นชุดเจ้าบ่าว

   “เอาชุดนี้”

   เขาชี้ไปมั่วๆ ไม่ค่อยอยากใส่ใจ

   “ตั้งใจหน่อยสิริวจัง”

   “อะไรอีกล่ะ”

   ริวเริ่มหงุดหงิด ลูซเอนศีรษะซบไหล่เล็ก ริวขยับกายหนี

   “ลูซอยากให้ริวจังใส่ชุดขาว ได้ไหมริวจัง”

   “เรื่องมาก งั้นนายเลือกเองเลยไป”

   เขาแทบจะโยนหนังสือใส่ลูซ ลูซเบะปากเล็กน้อย แล้วช้อนตามองริวอย่างออดอ้อน

   “น้าริวจัง เลือกเถอะน้า”

   ใบหน้าน่ารักช้อนตามอง ริวเผลอหันไปมอง ใจเขากระตุกแรง

   “งั้นริวจังเลือกชุดเจ้าสาวให้ลูซ เดี๋ยวลูซจะเลือกชุดเจ้าบ่าวให้ริวจังเอง”

   รอยยิ้มสวยส่งมาให้ ริวชะงักไป ใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อสบกับดวงตาคู่สวย ใบหน้าหล่อแกล้งมองไปทางอื่น
แล้วพูดกลับเสียงแผ่ว

   “ก็ได้…เอามาสิ”

100%
9/6/59

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 9 เลือกชุด
«ตอบ #43 เมื่อ10-06-2016 00:05:09 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 9 เลือกชุด
«ตอบ #44 เมื่อ11-06-2016 10:16:35 »

แหม. หมั่นไส้ตาริว.  อยากให้มีคนมาจีบลูซบ้างจัง.

เนื้อเรื่องสนุกแล้วลูซก็น่ารักมากกก. ขอบคุณนักเขียนนะคะ. มาต่อบ่อยๆ. นะคะ

ออฟไลน์ Akikoneko17

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
10
แต่งงานกันเถอะ

   ตึก ตึก ตึก


   นอนไม่หลับ ไม่ว่ายังไง ริวก็ข่มตานอนให้หลับไม่ได้เลย

   เหตุผลน่ะเหรอ….

   ก็เพราะเหลือเวลาอีกแค่ 7 วันเท่านั้น เขาจะต้องเข้าพิธีแต่งงานกับเจ้ากะเทยยักษ์นั่น

   …รับไม่ได้…

   “อ๊ากกกก!!!”
   ชายหนุ่มหวีดร้องท่ามกลางความมืด เขาเด้งตัวยันกายลุกนั่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเครียด แม้เครื่องปรับอากาศจะ
ทำงานจนทั้งห้องนอนเย็นฉ่ำ แต่ก็ไม่อาจจะทำให้ริวหลับลงได้

   “ทำยังไงดี”

   เขานั่งขัดสมาธิ ยกมือขยี้กลุ่มผมของตัวเอง นาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืนกว่า แต่ริวก็ยังหลับไม่ลง ยิ่งปล่อยเวลาผ่านไป ก็ยิ่ง
เข้าใกล้วันที่เขาจะต้องตกนรกเข้าไปทุกที เขาต้องทำอะไรสักอย่าง ไม่อย่างนั้น ชีวิตของเขาจะต้องแย่สุดๆอย่างที่คิดไม่ถึงเป็นแน่

   “คิดไม่ออกเลย หรือว่าจะหนีงานแต่งดี”

   ความร้อนรุ่มใจมากพอจนทำให้ริวตัดสินใจลุกจากเตียง เขาเดินวนไปในห้อง สมองครุ่นคิด

   ก๊อกๆๆๆ

   เสียงเคาะประตูห้อง ทำให้ริวสะดุ้ง ช่วงดึกขนาดนี้ เขาไม่อยากคิดว่าใครจะมาเคาะประตูห้อง ใจของริวเริ่มจะไม่ค่อยสู้ดีนัก

   “ใครน่ะ”

   ริวถามออกไป แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับแม้แต่น้อย เขาเองก็เป็นลูกผู้ชายมากพอ เรื่องแค่นี้ไม่ควรจะปอดแหกหรือว่าวิ่งหนี

   แกร็ก

   ทันทีที่เปิดประตู ดวงตาก็เบิกกว้างราวกับเห็นผี แม้จะไม่ใช่ผีที่แท้จริงก็ตามที แต่มันก็ทำให้ริวตกใจจนเผลอถอยกาย

   “ฮือออ ริวจางงงง”

   ร่างสูงใหญ่ถลาเข้ามากอดริวโดยที่ริวไม่ทันได้ตั้งตัว ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง ใบหน้างดงามซุกเข้าที่ไหล่เล็ก

   “ฮือๆๆ ริวจัง”

   “ปะ เป็นบ้าอะไรของแกห๊า”

   ปัง!

   ประตูห้องปิดลงอย่างรวดเร็ว เพียงเพราะเท้าใหญ่ยกขึ้นเตะปิด ริวพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอด แต่เขาก็สู้แรงของลูซ
ไม่ได้เลย

   “ปล่อยฉันสิวะ”

   แต่ลูซทำตัวไม่ต่างกับปลิง ทั้งเกาะ ทั้งกอดจนติดแน่นไปหมด ไม่อยากจะคิดสภาพของตัวเองเลยสักนิด ทำไมเขาจะต้อง
มาเจอกับเรื่องแบบนี้ด้วย

   “ฉันบอกให้ปล่อยไงเล่า!”

   บอกดีๆ แต่ก็ไม่ยอมทำตาม ริวตัดสินใจ กัดเข้าที่ไหล่ของลูซอย่างเต็มแรง จนเจ้าตัวเด้งกายถอยหนีด้วยความเจ็บ

   “โอ้ยๆๆ ริวจัง กัดลูซทำไม”

   ผู้ชายตัวใหญ่ ร้องครวญครางอย่างตัดพ้อ เขาเงยหน้ามองริว แล้วเบะปาก ใบหน้างดงามที่แสดงความเจ็บปวดนั้น ทำให้ริวชะงักไปเล็กน้อย

   “ก็ฉันบอกให้แกปล่อย ทำไมไม่ปล่อย”

   “ลูซกำลังเศร้าอยู่นะริวจัง”

   “เศร้า แกเศร้าอะไรของแกไม่ทราบ!”

   “ก็…”

   ชายตัวสูงไม่ตอบ แต่เนียนขยับไปนั่งที่ปลายเตียงของริว ริวยืดกอดอก มอง

ลูซอย่างไม่พอใจที่ขึ้นไปนั่งบนเตียงเขา แถมยังเนียนไปนอนบนเตียงจนได้

   “ลูซอยากนอนกับริวจัง”

   “แกจะบ้าหรือไง!”

   ลำพังความเครียดเดิมก็มากพออยู่แล้ว ไม่คิดว่าลูซจะกล้าเข้ามาหาเขาในห้องกลางดึกแบบนี้

   “นายไม่ควรจะมาที่ห้องฉัน”

   เขาพยายามสะกดกลั้นความหงุดหงิด ไม่อยากจะระบายใส่ลูซ เพราะกลัวว่าจะทำให้ทุกคนในบ้านแตกตื่นแล้วเข้ามาใน
ห้องของเขา

   “ไม่เอา ก็ลูซนอนไม่หลับ หลับไม่ลง”

   “เป็นบ้าอะไรอีกล่ะ”

   “ลูซฝันร้าย”

   “หา?”

   ริวอยากจะบ้าตาย ไม่คิดว่าเรื่องที่ลูซพุ่งมาหาเขาถึงห้อง เป็นเพราะเจ้าตัวฝันร้าย และถึงลูซจะฝันร้ายจริงๆ แต่ชายหนุ่มก็
ไม่ใช่เด็กๆแล้ว ที่พอฝันร้ายจะได้ให้ผู้ใหญ่คอยปลอบ
   ใบหน้าหล่อส่ายไปมาอย่างเอือมระอา เดินเข้าไปใกล้เตียง เขาเอ่ยสั่งเสียงเรียบอย่างเด็ดขาด

   “กลับห้องนายไปได้แล้ว”

   “ไม่อาววว”

   ไม่ได้มาแค่เสียง แต่ลูซพุ่งเข้ามากอดเอวของริว ชายหนุ่มกัดฟันกรอดๆ พยายามจะไม่ลงไม้ลงมือกับลูซ เขากำลังต่อสู้
กับจิตใจของตัวเอง

   “อยากให้ฉันลงมือหรือไงห๊ะ!”

   “ริวจังจะตบตีว่าที่ภรรยาได้ลงคอเลยเหรอ”

   ลูซช้อนตามอง ริวตัวสั่นเพราะความโกรธ เห็นแล้วหมั่นไส้ จนอยากจะจับร่างสูงเหวี่ยงลงพื้นแล้วกระทืบซ้ำให้ขาดใจตาย
ไปเลย

   “ริวจัง ให้ลูซนอนด้วยน้า ถ้าลูซได้นอนกอดริวจัง จะต้องไม่ฝันร้ายแน่ๆเลย”

   “แต่ฉันจะฝันร้ายแทนหรือไง!”

   “ริวจังอย่าเสียงดังสิ เดี๋ยวทุกคนในบ้านก็ตื่นหรอก”

   ไม่ดีแน่ ถ้าเกิดทุกคนในบ้านตื่นขึ้นมาแล้วมาที่ห้องของเขา ทุกคนต้องคิดว่าเขากับลูซมาแอบพลอดรักในยามวิกาล
แน่นอน
   “เฮ้อ ฉันบอกให้นายกลับไงเล่า”

   “ไม่เอา ก็ลูซอยากนอนกอดริวจัง”

   “นี่…ฉันถามอะไรหน่อย”

   เขาต้องพยายามใช้แผนหลอกล่อให้ลูซติดกับตัวเองแล้วกลับไปให้ได้ ชายหนุ่มเหยียดยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น

   “นายน่ะ จะเป็นเจ้าสาวของฉันใช่ไหม”
   “ใช่แล้วล่ะริวจัง”

   “ถ้าอย่างนั้น เจ้าสาวที่ดี ก็ไม่ควรมานอนกับเจ้าบ่าวก่อนแต่งงานไม่ใช่เหรอ”

   “ก็ใช่ แต่ตอนนี้เราอยู่บ้านเดียวกันแล้วนี่นา ลูซแค่นอนกอดริวจัง แต่เราไม่ได้ทำรักกันสักหน่อย”

   พูดไปก็เขินไปกับคำว่าทำรัก  แต่ริวไม่ได้รู้สึกเขิน หรือรู้สึกมีอารมณ์ร่วมกับการกระทำของลูซเลยแม้แต่น้อย

   “ฉันต้องทำยังไง นายถึงจะกลับห้องไปสักที”
   “อืม…ทำยังไงดีน้า”

   ท่าทางชี้นิ้วจิ้มคาง พลางเหลือบตาขึ้นราวกับครุ่นคิดอย่างหนัก ทำให้ริวอยากจะเบ้หน้าหนี

   “ลูซกลับก็ได้น้า”

   “งั้นก็กลับไปสิ”

   “ถ้าริวจังจูบปากลูซ แล้วบอกราตรีสวัสดิ์”

   ข้อแลกเปลี่ยนนั้น ทำให้ริวเบิกตากว้างแทบจะถลนออกมา ช่างเป็นข้อตกลงที่แสนทุเรศเสียจริง เขามองหน้าลูซ ความไม่
พอใจเผยให้เห็นอย่างชัดเจน แต่ลูซก็ไม่ได้สะทกสะท้านเช่นเดิม

   “ไม่มีวัน!”

   คำตอบนั้นช่างเด็ดขาด ลูซทำหน้าจ๋อยในทันที แต่ใช่ว่าริวจะเห็นใจ เขายืนกอดอก มองลูซเหมือนเป็นผู้บุกรุก

   “จะออกไปไหม”

   “ไม่!”

   “ไม่ไปใช่ไหม”

   ริวจ้องหน้า ลูซก็กอดอก แล้วจ้องหน้ากลับ

   “ไม่ไป”

   “ได้!”
   “…”

   “งั้นฉันไปเอง”

   เขาเองก็ไม่รู้จะสู้กลับยังไง ถ้าโวยวายเสียงดัง ก็จะมีปัญหาตามมาอีก ทางเดียวที่ทำได้ในตอนนี้ และน่าจะปลอดภัยที่สุด
ก็คือหนีออกจากห้อง

   “ไม่เอาน้าริวจัง”

   ความไวแทบจะเหนือแสง ริวโดนโอบรัดจากด้านหลัง ลูซเกาะติดแน่นราวกับปลิงเกาะ ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วย
ความเครียด อยากจะหันไปตบซ้ายต่อยขวาแต่ก็ทำไม่ได้

   “แล้วนายจะเอายังไง!”

   “ริวจังนอนกับลูซในห้องนี้นะ”

   “ไม่”

   “น้าๆๆๆ”

   ลูซพยายามอ้อนเต็มที่ แต่ริวไม่สนใจ เขาไม่ได้เห็นหน้าสวยๆนั่น แถมยังหลับตาแน่น ไม่ยอมมองหน้าสวย ทำให้ลูซที่ยื่น
หน้ามาอ้อนต้องเซ็งจัด

   “แล้วจะให้ลูซทำยังไง กลับไปลูซคงฝันร้าย”

   “ไม่ว่ายังไง นายก็จะนอนกับฉันให้ได้ใช่ไหม”

   ริวลืมตา ก็เห็นว่าลูซกำลังพยักหน้าหงึกๆ เห็นตาเศร้าๆนั่นแล้ว แว๊บหนึ่งริวก็ใจกระตุกขึ้นมา

   “ก็ได้”

   “เย้! ริวจังน่ารักที่สุดเลย”

   ความดีใจมาพร้อมกับอ้อมกอดที่รัดแน่นจนริวแทบจะหายใจไม่ออก

   “แต่นายต้องนอนที่โซฟา”

   “ไม่เอาอ่า ลูซอยากนอนเตียงกับริวจัง”

   “งั้นฉันก็จะไปข้างนอก เลือกเอาแล้วกัน”

   ทั้งๆที่ตอนแรกริวรู้สึกนอนไม่หลับ แต่ตอนนี้เขารู้สึกง่วงขึ้นมา เขารู้สึกเหนื่อยที่จะต้องมาโต้เถียงกับลูซ แค่เห็นหน้าก็ปวด
หัวจะแย่

   “ก็ได้”

   แม้จะอยากนอนบนเตียงด้วย แต่เขาก็รู้ว่าเรียกร้องมากกว่านี้ อาจจะไม่ได้อะไรเลยก็เป็นได้

   “งั้นก็ไปตรงนั้นเลยไป”

   น้ำเสียงนั้นเอือมระอาและรำคาญเต็มทน สุดท้ายลูซต้องยอมปล่อยริว แล้วเดินไปที่โซฟาตัวยาวแทน



-------+++++-------



กรุ้ง กริ้ง!

   เสียงกระดิ่งดังขึ้น พร้อมกับการสั่นไหวไปมา ราวกับต้องการบอกให้ทุกคนรับรู้ว่ายามนี้กำลังจะมีงานมงคล ดอกไม้
มากมายถูกประดับเอาไว้อย่างสวยงามภายในโบสถ์ ชายหนุ่มในชุดสีขาวสะอาดตายืนยิ้มหวานอย่างมีความสุข ใบหน้าหล่อน่ารัก
ของเจ้าของร่างในชุดเจ้าบ่าว ยืนกุมมือตัวเองแน่น วาดฝันถึงเจ้าสาวแสนสวยที่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานในไม่ช้า ภายในงานมี
แขกมาร่วมพิธีมากมาย

   ประตูโบสถ์เปิดออก พร้อมกับร่างร่างหนึ่งที่อยู่ในชุดเจ้าสาวที่เดินเข้ามา ใบหน้าที่สวยงามของนางฟ้าตัวน้อย ทั้งร่างกายและใบหน้าของนางฟ้าตัวน้อยยังเหมือนกับเด็กตัวเล็กที่เขาเคยขอแต่งงานในยามที่เขานั้นอายุเพียงแค่แปดขวบ

   …นางฟ้า…

   ความรู้สึกแห่งความสุขนี้มากล้นจนริวต้องคลี่ยิ้มราวกับเพ้อฝัน เขาจับจ้องใบหน้าสวยงามที่ราวกับสวรรค์ปั้นแต่งของเด็ก
ตรงหน้า

   “แต่งงานกันนะครับ นางฟ้า…”

   นั่นคือคำพูดที่ริวพูดย้ำอีกครั้ง ก่อนจะหลับตาลงเพื่อซึมซับความสุข แต่ทว่าเมื่อเขาลืมตาขึ้น….

   !!!

   นางฟ้าตัวน้อยที่เขาจะแต่งงานด้วยกลับแปรเปลี่ยนไป เป็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่กว่าเขาประมาณยี่สิบเซนติเมตรที่อยู่ในชุด
เจ้าสาว แต่ใบหน้าสวยงามนั้นยังคงเหมือนกับนางฟ้าของเขาไม่มีผิด แม้จะเปลี่ยนไป แต่เค้าโครงหน้านั้นก็ยังเหมือนกับในตอน
เด็ก

“ผม...ลูซ....ขอรับริวจังเป็นสามี...ผมจะเป็นภรรยาที่น่ารักและแสนดี...

ริวจังจะรับผมเป็นภรรยาใช่ไหม”

   ชายหนุ่มในชุดเจ้าสาวเอ่ยขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม ร่างกายใหญ่โตค่อยๆขยับเข้ามาใกล้กับริวมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่มือใหญ่นั้น
จะรั้งร่างที่เล็กกว่าตนเข้ามาใกล้

   “ริวจัง…ลูซเป็นเจ้าสาวของริวจัง ลูซดีใจที่สุดเลย”

   “อึก”

   ใบหน้าหล่ออยู่ในสภาวะที่อึ้งจนทำอะไรไม่ถูก ร่างกายถูกชักพาเข้าไปใกล้กับร่างที่สวมชุดเกาะอกสีขาวทั้งๆที่แผ่นอกนั้น
แบนราบ ผมสีทองนั้นเปล่งประกายงดงาม

จนคนมองต้องกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ

   …ผู้ชาย…นี่มันผู้ชายชัดๆ…

   “ริวจังตอบสิ…ว่าริวจังจะรับลูซเป็นภรรยา”

   ใบหน้าสวยหล่อขยับเคลื่อนเข้ามาใกล้ ริวถอนหน้าหนี ทั้งเกลียด ทั้งกลัว ทั้งหลอนกับสิ่งตรงหน้า

   …ไม่…ไม่เอา นี่มันผู้ชาย!!!!

   “รับสิริวจัง…แล้วเราจะได้จ๊วบกันไง จ๊วบๆๆ…”

   หนุ่มตัวสูงทำปากจู๋ หลับตาพริ้ม จะเข้าไปจูบปากกับริว เจ้าบ่าวหน้าหล่อผวาดิ้นพล่านด้วยความกลัว มือยกปัดป่ายเพื่อหนี
จากคนตรงหน้าราวกับเจอสิ่งที่น่าเกลียดน่ากลัว

   “มามะ…มาเป็นสามีของลูซ…ยอมรับลูซเป็นภรรยานะริวจัง จ๊วบๆๆๆ”

"ไม่รับโว้ยยย ยังไงก็ไม่ร๊าบบบ!!!!"

.

.

.

"ไม่รับโว้ยยย ยังไงก็ไม่ร๊าบบบ!!!!"

เสียงหวานแผดร้องดังลั่นห้องนอน พร้อมกับมือเล็กที่ปัดป่ายมา ร่างกายดิ้นพล่าน ก่อนที่จะสะดุ้งลืมตา

เฮือก!!!   

ชายหนุ่มวัยยี่สิบสี่ปีสะดุ้งเฮือกนั่งหลังตรง เหงื่อมากมายผุดขึ้นเต็มหน้า ดวงตาทั้งคู่สั่นไหว ใจเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมา
จากอก จนต้องยกมือทาบอกตนเอง

…ฝัน…

นี่เราฝันไปอย่างนั้นเหรอ…

   “ฮู่…”

   ริวยกมือลูบหน้าตัวเอง เมื่อรู้ว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางความมืด สติที่ขาดหายไปเริ่มจะกลับมา แล้วก็ระลึกได้ว่าตอนนี้เขาอยู่
บนเตียงในห้องนอนของตัวเอง

   “ริวจาง…อื้อๆๆ”

   …ฝัน…

   มันคือความฝันสินะ…เขาหลับตาลงแล้วลืมตาใหม่ก็พบว่าทุกอย่างมันอยู่ในความเงียบ ดังนั้น…มันต้องเป็นฝันแน่ๆ

หมับ!!!

แต่ทว่าสัมผัสจากมือหนาที่ล้วงเข้าไปใจกลางลำตัวก็ทำให้คนตัวเล็กสะดุ้งเฮือก ตาโตอย่างตกใจสุดขีด

   “ริวจังน้อยจับแล้วนุ่มนิ่มจังเลย  ลูซช๊อบชอบ”

   “อ๊ากกกกกกกกก!!!”

   ริวแหกปากร้องลั่น ลูซเองก็ตกใจ รีบจับใบหน้าหล่อมากดจูบปิดเสียงร้องที่โหยหวนอย่างรวดเร็ว

   “กะ แกทำบ้าอะไรฮะ! แล้วแกขึ้นมาบนเตียงฉันได้ยังไง”

   ลูซยิ้มเจื่อน ทั้งที่ตัวเองควรจะนอนอยู่บนโซฟาแต่ตอนนี้เขามาอยู่บนเตียงของริว นั่นเป็นเพราะ เขาเป็นคนพาร่างตัวเอง
มาที่เตียงนั่นเอง

   “มาให้ลูซจุ๊บๆปลอบอีกทีน้า”
   เขาทำปากจู๋แล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ริวเหยียดยิ้ม พอเดาทางหลายๆอย่างออก

   พลั่ก!!!

   เท้าเล็กยันเข้าเต็มแรงที่ท้องแกร่ง จนลูซกระเด็นตกเตียง ริวไม่หยุดแค่นั้น สติเขาหลุดไปหมดแล้ว เขาหยิบหมอนมา
เหวี่ยงฟาดใส่หน้าของลูซอย่างบ้าคลั่ง

   “ไปตายซะไอ้กะเทยโรคจิต ฉันจะฆ่าแก”

   “โอ้ยๆๆ ริวจังอย่าทำร้ายลูซเลยน้า”
   ลูซยันกายลุกขึ้น แล้วพยายามหลบสิ่งของที่ริวขว้างใส่ในยามมืด เขารู้ว่าตัวเองผิด แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกตรงไหน ใน
เมื่อคนที่เรารักอยู่ใกล้ๆ ทำไมเราจะต้อง อดทน ได้แตะนิด กอดหน่อยก็มีความสุข

   “ริวจังอย่าขว้างสิ”

   “ฉันจะขว้าง จนกว่าแกจะออกไป”

   “แต่อีกไม่นานเราก็จะแต่งงานกันแล้วน้าริวจัง”

   “ฉันไม่มีวันแต่งงานกับแก!!!!”





-------+++++-------



“โห…ฮี้ โห ฮี้ โห ฮี้ โห”

“ฮิ้ววววววว!!!”
เสียงโห่ขบวนขันหมากดังลั่นจนชายหนุ่มที่สวมชุดสีขาวสะอาดอย่างชุดเจ้าบ่าวถึงขั้นต้องยกนิ้วอุดหู

…นี่มันคือวันนรกสำหรับเขา…

   “คุณแม่ครับ”

   ริวในชุดเจ้าบ่าวหันไปหามารดาที่กำลังยิ้มร่าอย่างมีความสุข แตกต่างจากลูกชายที่มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก

   “คุณแม่ครับ ผมไม่แต่งได้ไหมครับ”

   “พูดอะไรนะตาริว”

   เพราะเสียงแห่หันหมากดังมาก เธอไม่ทันได้ฟังที่ลูกชายกล่าว ริวยู่หน้า เขามองสภาพตัวเองแล้ว เขากำลังจะไปแต่งงาน
กับไอ้กะเทยที่เขาแสนเกลียด

   “แม่ค้าบบบ”

   ริวจะหันไปกอดแขนมารดา แต่เธอเดินไปหาสามี คุยกันอย่างมีความสุข

   “พี่รันนน”

   อีกไม่นาน เขาก็จะใกล้ถึงบ้านของลูซแล้ว เขาไม่อยากแต่งงานกับเจ้ากะเทยนั่น วันนี้คือวันแต่งงานของเขา เขากำลังยก
ขบวนขันหมากไปสู่ขอ

   ตอนแรกเขาตั้งใจว่าจะหนี แต่กลายเป็นว่า มารดาของเขาจ้างคนมาเฝ้าหน้าห้อง บังคับให้เขาใส่ชุดเจ้าบ่าว

   “ทนเอาหน่อย”

   “พี่รัน ช่วยผมด้วย ผมไม่อยากไปแต่งงานกับมัน”

   “ใจเย็นๆสิ ตอนนี้เราทำอะไรไม่ได้แล้วนะ แขกก็ตั้งเยอะ แล้วไหนจะขบวนขันหมากอีก”

   พี่สาวแสนสวยก็อยากจะช่วยเหลือ แต่ว่าตอนนี้ไม่สามารถช่วยอะไรได้ นอกจากจะเอาใจช่วย ริวเบะปาก อยากจะร้องไห้โฮ แต่เขาก็ยังมีความอับอาย ไม่กล้าร้องไห้เสียงดัง ทั้งที่ในใจแทบจะสลาย

   “ยอมแต่งๆไปก่อน แล้วเราค่อยมาหาทางแก้”

   “แล้วถ้าผมเป็นอะไรไปก่อนจะได้เลิกกับมันล่ะ”

   ริวถามเสียงสั่น น้ำตาคลอเบ้า กลัวสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า รันตบไหล่น้องชาย ริวหันไปขอความช่วยเหลือจากวาโย

   “ไอ้โย  แกต้องช่วยฉัน”

   “ช่วยอะไรล่ะ อีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงประตูบ้านแล้วเนี่ย”

   “ฉันจะทำยังไงดี”

   เขาแทบจะเขย่าตัวเพื่อนรัก วาโยยิ้มเจื่อนๆ

   “ก็อย่างที่พี่แกบอก ว่าแต่งๆไปก่อน แล้วค่อยหาทางแก้”

   “แล้วทางแท้มันจะไม่หายากกว่าเดิมเหรอวะ”

   “เอาน่า…อย่างมากก็ได้ลองของแปลก อาจจะเป็นประสบการณ์ที่ดีก็ได้นะเว้ย”

   วาโยพยายามปลอบเพื่อนรัก แต่แทนที่ประโยคนั้นจะปลอบใจ กลับทำให้ริว อยากจะปล่อยโฮออกมาแทนเสียนี่



100%

ฝากเพจด้วยนะคะ https://www.facebook.com/akikoneko17fiction/

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
บางทีก็คิดว่าทำไมริวต้องเกลียดลูซขนาดนั้น
ลูซแค่ชอบลามดบางเวลาเอง

ออฟไลน์ noozzz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
ลูซน่าจะคาสโนว่าพอตัว ท่าทางเชี่ยวซะ คงฟันมาแล้วทั้งหญิงทั้งชาย

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
555555 ลูซตลกดี

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
เพิ่งมาตามอ่าน
สนุกมากค่าเรื่องนี้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ คนอ่าน

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-13
เราเดาว่าคนเขียนต้องอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นเยอะแน่ๆเลยใบ่ไหมทด
พล็อตเหมือนการ์ตูนญี่ปุ่น คำบรรยาย คำพูด
คาแรคเตอร์ตัวละครเหมือนการ์ตูนญี่ปุ่นเลยย

ออฟไลน์ Akikoneko17

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 11 พิธีแต่งงาน
«ตอบ #51 เมื่อ23-06-2016 13:01:43 »

11
พิธีแต่งงาน

   เพี๊ยะ!
   การกระทำของริวเหมือนกับคนโง่ เขายกมือตบแก้มตัวเองซ้ำๆ ราวกับต้องการเรียกตัวเองให้ออกมาสู่โลกความเป็นจริง
   …เขาไม่ได้กำลังจะแต่งงานกับลูซ…
   คิดยังไง ก็ไม่ใช่ความฝัน ทุกอย่างคือความจริงอย่างแน่นอน
   “ริวจางงง”
   เสียงของเจ้าสาวแสนสวยดังมาแต่ไกล ริวหลุดออกมาจากความคิดทั้งหมด เขาหันไปมองว่าที่เจ้าสาว
   …สวย…
   ลูซอยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์แบบผู้หญิง ใบหน้างดงามแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอาง ยิ่งเสริมให้ใบหน้านั้นสวยหยาดเยิ้มราวกับนางฟ้า
   “ยังไปไม่ได้นะลูซ”
   น้ำเพชรที่เห็นลูกชายวิ่งลงบันได จะพุ่งออกไปหาว่าที่เจ้าบ่าวที่ยังไม่ผ่านด่านประตูเงิน ประตูทอง เธอก็รีบเข้าไปขวาง
   “ลูซจะไปหาริวจัง ริวจังหล่อมากๆ ใส่ชุดเจ้าบ่าว”
   ลูซยิ้มกว้าง วันนี้คือวันที่เขามีความสุขที่สุดในโลก ในขณะที่ริวเริ่มมีสติกลับคืนมา เขาจะต้องไม่หลงใหลไปกับภาพมายาที่เกิดขึ้น
   “เฮ้ย ไอ้โย แกทำอะไรวะ”
   ริวโวยลั่น เมื่อเพื่อนรัก หยิบเข็มขัดเงินมากั้น เขาหันมามองมารดา ราตรีส่งยิ้มมาให้
   “อะไรกันตาริว ก็เอาซองให้ไปสิลูก”
   “ให้ทำไมครับ”
   “เอ้า ก็เป็นค่าผ่านทางไงวะ”วาโยตอบ
   “แกก็เอากับเขาด้วยเรอะ!”
   ริวแทบจะกุมขมับตัวเอง นี่มันคืองานนรก ชีวิตของเขากำลังจะไปสู่นรก แต่ไอ้เพื่อนเวรกลับสนุกสนาน มันน่ากระทืบให้ตายคาประตูเงินที่เจ้าตัวกั้นขวางไม่ให้เขาเข้ามาในบ้านเสียจริง
   “ริวจางง รีบผ่านประตูเข้ามาให้ได้น้า ลูซรออยู่น้า”
   เสียงทุ้มบอกอย่างสดใส แต่ริวยิ้มไม่ออก เขาอึกอักที่จะยื่นซองสีชมพูสวยให้เป็นค่าผ่านทาง ถ้าเลือกได้ คงจะไปจ้างคนมาขวางทางประตูให้มากขึ้นเสียมากกว่า
   “จบงานนี้ ฉันจะฆ่าแก”
   ริวกระซิบกับวาโย แต่แทนที่วาโยจะไม่พอใจ เขากลับหัวเราะเสียอย่างนั้น
   “อย่าเครียดสิวะ นี่มันงานแต่งงานครั้งแรกของแกนะโว้ย”
   “แล้วแกคิดว่าฉันอยากจะแต่งงานบ้าๆ นี่หรือไงฮะ”
   เขาตอบกลับ จ้องหน้าเพื่อนรัก วาโยตบไหล่อของริว
   “เอาน่า เดี๋ยวทุกอย่างก็ดีเอง ส่งซองมาเหอะ”
   ริวไม่อยากจะส่งซองให้ แต่พอมองซ้ายมองขวา เห็นสายตาของทุกคนที่มองเหมือนคะยั้นคะให้เขายอมจ่ายค่าผ่านทาง สุดท้ายเขาก็ต้องจ่ายในที่สุด
   “โอ๊ะ ยังเข้าไม่ได้น้าพี่ริว ต้องจ่ายให้รันด้วยสิ”
   พอได้ยินแบบนั้นจากน้องสาวร่วมสายเลือด ริวก็ทำหน้าเซ็งจัด เขาจ่ายค่าผ่านทางให้กับเจ้าเพื่อนตัวสูงไปแล้ว นี่เขายังจะต้องมาเสียเงินจ่ายให้กับน้องสาว เพื่อเข้าไปว่าที่เจ้าสาวที่เขาไม่อยากได้อีกหรือนี่
   “จ่ายเร็วสิตาริว”
   “แม่ครับ แค่เข้าไปแค่นี้ ต้องจ่ายด้วยเหรอครับ”
   เพี๊ยะ
   ราตรีตีมือบุตรชายอย่างไม่แรงมากนัก เธอมองลูกชายด้วยสายตาตำหนิเพียงนิดแล้วเอ่ยขึ้น
   “จะไปหาเจ้าสาวแสนสวยทั้งที แค่นี้จะไม่ลงทุนเลยรึตาริว”
   “แล้วใครว่าผมอยากไปหา”
   ริวบ่นเสียงเบา เพราะไม่อยากให้ผู้เป็นแม่ได้ยินแล้วลงโทษเขาอีก ริวตัดใจยื่นซองกระดาษที่มีเงินอยู่ให้กับคนที่กั้นประตู
   …เอาไปให้หมดเลยไป!...
   อยากจะกระแทกเสียงดังๆ แต่ก็ต้องข่มใจ เมื่อให้ค่าผ่านทางเรียบร้อยแล้ว เจ้าบ่าวรูปหล่อก็เดินด้วยความหมดอาลัยตายอยากเข้าไปในบ้าน
   “ริวจัง ริวจังมาหาลูซแล้ว”
   เจ้าสาวตัวสูงดีใจจนออกนอกหน้า ในขณะที่ริวเบ้หน้าหนี อยากจะร่ำไห้ ทำไมเขาต้องมาแต่งงานกับผู้ชายด้วยกัน
   ถึงชุดที่ใส่จะเป็นเกาะอกของผู้หญิง หรือใบหน้านี้จะงดงามราวกับนางฟ้ายังไง สุดท้ายมันก็คือผู้ชายอยู่ดี
   “อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ เดี๋ยวคนอื่นก็คิดว่าลูกไม่อยากแต่งงานกับน้องหรอก”
   ถ้าทำได้ เขาก็อยากจะตะโกนให้ลั่นในงานว่า เขาไม่เคยคิดอยากจะแต่งงานกับลูซแม้แต่น้อย ที่แต่งก็เพราะโดนบังคับ
แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากก้มหน้ารับชะตากรรม
   “ยิ้มเยอะๆสิตาริว”
   “ค้าบๆๆ”
   เขาตอบรับราวกับคนหมดแรง ลูซเข้ามากอดแขนกับริว  เจ้าสาวตัวสูงซบเข้ากับไหล่เล็ก ริวอยากจะถอยหนี แต่ทำได้เพียงยิ้มสู้
   “เดี๋ยวต่อไปจะเป็นพิธีสู่ขอนะจ๊ะ”
   “ริวจัง…ลูซดีใจนะ ที่ริวจังจะมาขอลูซ”
   เจ้าสาวคนสวยคลี่ยิ้มอย่างเอียงอาย ในขณะที่ริวเซ็งจัด แต่เขาก็ยอมเดินตามไปยังห้องที่ทำพิธีสู่ขอ
   ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาแต่งงานกับผู้ชายด้วยกันเลยจริงๆ ยิ่งคิดก็ยิ่งกลุ่ม ถ้าทำได้ก็อยากจะลาโลกหายไปเลยก็คงจะดี
   ถึงแม้จะเป็นงานแต่งของตัวเอง ริวก็ไม่ได้รู้สึกมีอารมณ์ หรือสนใจกิจกรรมต่างๆที่ต้องทำในพิธีการ เขาทำตามที่มารดาบอกให้ทำ ไม่ได้รู้สึกอยากทำแม้แต่น้อย ริวแทบไม่รู้เลยว่า การแต่งงานในวันนี้นั้นทำไปถึงขั้นไหนแล้ว
   “เอาล่ะ สวมแหวนให้กันได้”
   เพราะมัวแต่เหม่อลอย เลยไม่รับรู้ว่า ลูซยื่นมือใหญ่มาตรงหน้า แถมยังกางนิ้วรอเสียเต็มที่ ริวเองก็เพิ่งได้สติ มองซ้ายมองขวา แล้วหยิบแหวนมาสวมให้กับคนตัวสูงอย่างไม่เต็มใจ
   “ขอบคุณน้า ริวจัง ลูซรักริวจังที่สุดเลย”
   ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วจนริวคิดไม่ทัน เขาโดนลูซดึงเข้าไปจูบอย่างดูดดื่ม ทำได้แค่เพียงยกมือทาบกับของเจ้าสาวเอาไว้เท่านั้น  ในขณะที่แขกในงานต่างตะลึงกับเหตุการณ์ที่แสนน่ารักระหว่างคู่บ่าวสาว
   “ลูซดีใจที่สุด ที่ได้แต่งงานกับริวจัง”
   ตึก ตึก ตึก
   ใจของริวเต้นแรงขึ้นมา เขาเบือนหน้าหนี ไม่กล้าสบเข้ากับดวงตาคู่สวยสีฟ้าน้ำทะเล เขากำลังกลัวว่าจะถูกความงดงามนั้นหลอกให้หลงใหลจนเผลอใจไปจริงๆ เขาไม่ใช่เกย์ และเป็นผู้ชายแท้ๆ ทำไมเขาจะต้องไปชอบผู้ชายด้วยกัน ไม่มีวันที่เขาจะไปรักผู้ชายด้วยกันอย่างแน่นอน
   พิธีสู่ขอได้สิ้นสุดลงในเวลาอันรวดเร็ว ที่จริงก่อนหน้านี้ที่จะต้องแต่งงานกัน ก็ได้มีการเลือกว่าจะจัดพิธีแต่งงานแบบใด แต่ดูเหมือนว่าเจ้าสาวของเขาอยากจะจัดพิธีแต่งงานแบบไทย ดูท่าแล้วเจ้าตัวคงอยากให้เขามาสู่ขอ
   …ไม่ได้คิดถึงจิตใจฝั่งเจ้าบ่าวบ้างเลย…
   “อย่าทำน้องเสียใจนะริว รักน้องให้มากๆ ดูแลน้องให้ดีๆ”
   ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมบิดาเขาถึงได้ดูเป็นห่วงว่าที่สะใภ้คนนี้เสียเหลือเกิน หลงลืมไปแล้วหรืออย่างไรว่าลูซเป็นผู้ชาย แต่ก็ไม่ใช่แค่บิดาคนเดียวที่อวยพรให้เขาสุขสมหวังในความรักครั้งนี้ แต่ญาติพี่น้องทั้งหลายก็เช่นกัน
   …เข้าใจกันบ้างไหม ว่าไม่ได้อยากให้คำอวยพรที่ชวนให้ทรมาน…
   ในขณะที่เจ้าบ่าวกำลังคิดมาก ฝ่ายเจ้าสาวกลับยิ้มแย้มหน้าระรื่น นั่นยิ่งทำให้ริวเครียดหนัก
   “รักกันนานๆนะคะพี่ริว”
   เขาแทบอยากจะยกกำปั้นเขกศีรษะของน้องสาว ช่างเป็นคำอวยพรที่เหมือนคำสาปร้ายเสียมากกว่า เขาไม่ได้อยากอยู่กับเจ้าสาวที่นั่งรอรดน้ำสังข์อยู่ข้างๆเสียหน่อย
   “เอาล่ะ มาถ่ายรูปกันเถอะนะคะ”
   นอกจากจะต้องเข้าพิธีที่แสนทรมาน เขายังจะต้องมาถ่ายรูปเพื่อเก็บภาพความทรงจำที่เขาไม่เคยคิดอยากจะจดจำอีกด้วย แค่คิดก็เศร้า นี่เขาจะต้องมีหลักฐานที่เป็นการตอกย้ำให้ชีวิตนี้รับรู้ว่า ตัวเองเคยได้ใช้ชีวิตผิดพลาดไปแต่งงานกับผู้ชายด้วยกันอย่างนั้นหรือเนี่ย
   …คิดแล้วน้ำตามันก็พาลจะไหล…
   แชะ แชะ แชะ
   “ริวจัง ยิ้มเยอะๆสิ”
   เขาแทบจะหันไปแยกเขี้ยวใส่เจ้าสาวตัวดี คิดว่าเขามีความสุขหรือไง ถึงได้บอกให้เขายิ้มอยู่ได้ ริวหายใจอย่างเซ็งๆ รอยยิ้มของเขาก็ฝืนๆ ถ้าไม่ติดว่ามารดาคอยมองอยู่ตลอด เขาคงเบ้หน้าใส่กล้องถ่ายรูป เพราะไม่อยากจะทนถ่ายภาพที่เขาไม่เคยคิดอยากถ่าย
   สิ้นสุดการถ่ายภาพรวมกับญาติๆทั้งหลาย หายนะครั้งใหญ่ ก็เริ่มจะมาเยือนริวเข้าเสียแล้ว ชายหนุ่มเริ่มคิดได้ถึงอนาคตอันใกล้นี้
   …พิธีส่งตัวเข้าห้องหอ…
   ไม่…เขาไม่อยากเข้าห้องหอกับลูซ ชายหนุ่มหันขวับไปมองเจ้าสาวตัวดี นี่อยากแต่งงานแบบไทย คงหวังว่าจะได้ส่งตัวเข้าห้องหอแล้วทำเรื่องลามกกับเขาเป็นแน่ แค่เห็นรอยยิ้มของลูซ ริวก็เดาทางออก
   …เสร็จลูซแน่ ริวจัง…
   เขาอ่านทุกอย่างออกทางสายตา ริวถอยกายห่าง บางทีเขาน่าจะอาศัยช่วงเวลาก่อนเข้าหอ รีบชิ่งหนีไปให้ไกล จะได้ไม่ต้องมาเสียใจภายหลัง
   “ฮะ เฮ้ย”
   แต่ยังไม่ทันได้คิดออกว่าจะหนียังไง เขาก็ถูกว่าพี่เจ้าสาวชุ้มอุ้มเหนือพื้นอย่างรวดเร็ว ริวตกใจเบิกตากว้าง เขาไม่คิดว่าลูซจะทำแบบนี้ต่อหน้าผู้คนมากมาย
   “ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้”
   “ไม่ได้หรอกริวจัง นี่ได้เวลาแล้วนะ”
   “เวลาอะไร ฉันไม่รู้ ปล่อย!”
   เขากลัวจนลนลาน แต่ลูซก็ยังส่งยิ้มหวานมาให้ เหมือนเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องใหญ่เรื่องโตเลยแม้แต่น้อย
   “ไปกันเถอะริวจัง”
   “ไป? ไปไหน”
   “ก็พิธีส่งตัวเข้าห้องหอไง”   
   “ไม่เอา ไม่ไป”
   ริวโวยวาย แต่ดูเหมือนการโวยวายของเขาจะไม่ค่อยได้ผลสักเท่าไหร่นัก เพราะลูซรีบอุ้มเจ้าสาวขึ้นบันไดเพื่อพุ่งตรงไปยังห้องหอ ทั้งฝ่ายญาติของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวต่างก็หัวเราะอย่างเอ็นดู รีบตามขึ้นไปส่งตัวทั้งสองคนให้เข้าห้องหอ
   “ปล่อย ปล่อยสิโว้ย!”
   ลูซใช้ไหล่ดันประตูห้องหอ แล้วรีบเดินเข้าไป ในขณะที่ริวดิ้นไม่หยุด เขาจึงตัดปัญหาด้วยการปล่อยตัวริวให้ลงยืนกับพื้น ริวจ้องหน้าลูซอย่างอาฆาต
   “นี่แกทำบ้าอะไรฮะ!”
   บอกได้คำเดียวเลยว่า ตอนนี้ริวโกรธเอามากๆ เพราะเขาเหมือนถูกหยามต่อหน้าสาธารณะชน แล้วแบบนี้เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ที่ถูกเจ้าสาวอุ้มเข้าห้องหอมาแบบนี้
   “ริวจังโกรธทำไมเหรอ หรือว่าริวจังจะอุ้มลูซ”
   ลูซถามอย่างคนซื่อ เอียงคอน้อยๆ กระพริบตาปริบๆ ราวกับต้องการบอกว่าสิ่งที่เขาทำมันผิดตรงไหน ในขณะที่ริวอึ้งจนพูดไม่ออก
   “แต่ดูท่าแล้ว ริวจังจะอุ้มลูซไม่ไหว ลูซเลยอุ้มริวจังแทนไง คิคิ”
   …ไม่ได้สำนึกเลย…
   เขามองซ้ายมองขวา อยากจะหาของทุ่มใส่ว่าที่เจ้าสาวที่หัวเราะคิกคักอย่างมีความสุข แต่ทว่าทุกอย่างก็ต้องหยุดลง เพราะประตูห้องเปิดเข้ามาเสียก่อน
   “ทำอะไรกันอยู่เอ่ย”
   “เอ่อ”
   จะให้ตอบไปได้อย่างไร ว่ากำลังหาทางที่จะกำจัดเจ้าสาวให้พ้นทาง จนเกือบคิดจะฆ่าเจ้าสาวให้ตายคามือเพราะเจ้าตัวพูดจาไม่น่าฟัง จนเขาอยากจะฆ่าให้ตาย
   พิธีส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าห้องหอได้เริ่มขึ้น ริวแทบจะไม่มอง ไม่สนใจอีกตามเคย เหลือบตาไปมองก็เห็นว่ามารดาของเขาและมารดาของลูซ กำลังช่วยกันจัดหมอนบนเตียง ริวไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น
   “ยังไงแม่ก็ขอให้ชีวิตลูกทั้งสองมีความสุข”
   ราตรีเข้ามาเอ่ยกับลูซและริว เธอทั้งรักและเอ็นดูในตัวทั้งสองคนอย่างมาก ตอนนี้ลูซก็ได้เข้ามาเป็นสะใภ้ของเธออย่างเต็มตัว
   “งั้นพ่อกับแม่ไปกันก่อนนะ”
   คำกล่าวลาของทุกคนที่ได้เข้ามาในห้องหอ ไม่ได้ทำให้ริวรู้สึกดีใจทักเท่าไหร่นัก เขากลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ เมื่อได้ยินเสียงปิดประตูดังปัง
   “อ่า…ริวจัง”
   ริวรับรู้ได้ถึงสายตาที่หิวกระหายของลูซ ชายหนุ่มถอยกรูดจนไปติดประตู
   …เขาต้องหนี หนีไปให้ได้…
   กึก กึก กึก
   เหมือนโชคชะตาฟ้ากลั่นแกล้ง เพราะไม่ว่าจะพยายามเปิดประตูห้องเท่าไหร่ หรือบิดลูกบิดประตูมากแค่ไหน ก็ไม่มีทีท่ายว่าจะเปิดประตูห้องได้เลย
   …มันถูกล็อกจากด้านนอก…
   นอกจากจะส่งตัวเขาถวายพานให้กับเจ้ากะเทยโรคจิตแล้ว มารดาเขายังกะให้เขาไม่สามารถหลบหนีไปไหนได้ ริวพยายามตั้งสติ เขาต้องหนีไปให้พ้น
   “ริวจัง ทำอะไรเหรอ?”
   ลูซเดินเข้ามาถาม เขาค่อนข้างแปลกใจกับการกระทำของเจ้าบ่าวตัวเล็ก พี่พยายามไปเขย่าบานประตูกระจกขนาดใหญ่ด้วยแรงที่มี แต่มันก็เหมือนว่าจะเปิดไม่ออก พอเห็นเจ้าตัวทำแบบนั้นแล้ว ลูซก็อดใจไม่ไหว พุ่งกายเข้าไปสวมกอดริวจากด้านหลัง
   “ริวจัง ทำอะไรอยู่ น่ารักจังเลย”
   ไม่ว่าริวจะทำอะไร ในสายตาของลูซก็คือน่ารัก และน่ากอด แถมยังเท่ไปหมด เขารักทุกอย่างที่ริวเป็น แต่ชายตัวเล็กไม่ได้รู้สึกแบบนั้นด้วย ริวหันขวับมาหาลูซ
   “กระจกมันเปิดไม่ออก”
   บานประตูกระจกที่ริวพยายามออกแรงมหาศาล กลับแน่นิ่งเปิดเท่าไหร่ก็ไม่ออกเสียที
   “มันเปิดไม่ออก นายเปิดมันสิ”
   “เอ๋ เปิดไม่ออกอย่างนั้นเหรอ”
   ลูซทำท่าทางสงสัย แต่เพียงครู่ก็คลี่ยิ้มอย่างยิน เพราะเขาเริ่มเข้าใจอะไรบางอย่าง พวกผู้ใหญ่นี่ช่างรอบคอบเสียจริง
   “ถ้ามันเปิดไม่ออก แสดงว่าไม่อยากให้ริวจังเปิดไงล่ะ”
   “นี่แก…”
   “ไม่เอาน้า เราแต่งงานกันแล้ว ถ้าริวจังพูดจารุนแรงกับลูซแบบนี้ ลูซเสียใจนะ”
   ผลัก!
   ริวไม่คิดจะรอให้สมองต้องไตร่ตรองอะไรมากนัก เขาตัดสินใจ ผลักร่างของลูซให้ออกห่างอย่างรวดเร็ว เรื่องอะไรจะรอให้อีกฝ่ายเข้ามาลวนลามได้ตามใจ เขาต้องหาทางหยุดอะไรสักอย่าง
   “ริวจังงงง เรามาทำเรื่องที่เจ้าสาวเจ้าบ่าวเขาทำกันหลังเข้าห้องหอเถอะน้า”
   “ไม่!”
   ริวถอยห่างราวกับสุนัขที่ถอยหนีอันตราย เขาพร้อมจะแยกเขี้ยวขู่ แต่ลูซก็คงจะเป็นแมวยั่วสวาท ถึงได้กระพริบตา ทำปากเจ่อยั่วยวน จนริวรู้สึกขนลุก
   “มา มะ มาให้ลูซจุ๊บ”
   “ไม่โว้ยยยย!!!!”
   ลูซพุ่งเข้าไปจะตะปบร่างของริว แต่ชายหนุ่มก็รีบวิ่งหนีเอาตัวรอดอย่างไม่คิดชีวิต เจ้าสาวแสนสวยพยายามวิ่งไล่จับ ทั้งคู่วิ่งวนรอบเตียงจนหอบเหนื่อย จนกระทั่ง…
   ปัง!!!
   “โอ๊ย!”
   ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วจนลูซเองก็ไม่ทันตั้งตัว เพราะริววิ่งเข้าไปในห้องน้ำ แล้วลูซก็วิ่งตามเข้าไปอย่างฉิวเฉียด แต่ก็ไม่ทันอยู่ดี จึงทำให้หน้าผากสวยกระแทกเข้าที่หน้าประตูบานใหญ่เข้าเต็มๆ
   “อ่อย…เจ็บจังเลย”
   เจ้าสาวตัวใหญ่ได้แต่ร้องโอดโอย ทรุดกายนั่งกับพื้น ยกมือกุมหน้าผาก เขาเหลือบตามองบานประตูห้องน้ำด้วยสายตาที่จริงจัง
   “เข้าห้องน้ำแล้วคิดว่าจะหนีลูซพ้นเหรอริวจัง วันนี้มันวันแต่งงานของลูซกับริวจังนะ…ยังไงวันนี้ลูซก็จะเผด็จศึกให้ได้!”


100%

ฝากเพจด้วยนะจ๊ะ https://www.facebook.com/akikoneko17fiction/

ออฟไลน์ NaEZ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 11 พิธีแต่งงาน
«ตอบ #52 เมื่อ23-06-2016 16:14:14 »

พลิกสถานะการณ์ ตอนหน้าริวจังออกมาปล้ำลูซเอง ฮ่ะๆๆๆ

ออฟไลน์ naya-devil

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 11 พิธีแต่งงาน
«ตอบ #53 เมื่อ23-06-2016 18:47:26 »

จะสงสารหรือจะฮาดีละเนี่ย  :hao4: :hao4: :hao4:

บอกไม่ถูกแฮะ   แต่เอทำไมลูซดูยึดติดกับริวจัง   ถึงจะพูดเพราะเรื่องในอดีตก็เถอะ

แต่ก็ติดตามต่อไปปปปปปปปปป   :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ Akikoneko17

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 12 ห้องหอรอรัก
«ตอบ #54 เมื่อ26-06-2016 21:13:08 »

12
ห้องหอรอรัก

   ปัง ปัง ปัง
   เสียงทุบประตูห้องน้ำ ดังจนริวยกต้องมือขึ้นมาปิดหูของตัวเอง เขาไม่อยากจะได้ยินเสียงที่แสนน่ารำคาญใจ ชายหนุ่มกำลังคิดหาวิธีที่จะพาให้หลุดพ้นจากนรกขุมนี้ได้โดยไว
   “ทำไมห้องน้ำมันไม่มีทางออกบ้างวะ”
   ริวกำลังหัวเสียเป็นอย่างมาก เขาเดินไปมาราวกับหนูติดจั่น พยายามมองหาช่องทางที่จะพาตัวเองให้ออกไปจากห้องน้ำนี้ให้ได้ แต่ไม่ว่าจะมองยังไง ก็ดูเหมือนว่าเส้นทางหลบนี้มันช่างแสนริบหรี่เสียเหลือเกิน
   …แล้วแบบนี้ ทำยังไงถึงจะหนีพ้น…   
   “ริวจางงง รีบออกมาเถอะน้า”
   เสียงร้องเรียกไม่ได้ทำให้ริวสะดุ้งไปมากกว่าเดิม เขาผวาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แค่คิดว่าจะต้องไปพบเจอกับเจ้าสาวแสนถึกและหื่นกระหาย เขาก็ไม่อยากจะออกไปจากห้องน้ำเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะกลัวว่าถ้าออกไป สิ่งที่เจออาจจะทำให้เขาเครียดจนไม่รู้จะทำอย่างไรกับตัวเอง
   “ริวจางงง”
   ลูซยังคงเรียกเจ้าบ่าวแสนหล่อ มือใหญ่ทุบเข้าที่ประตูห้องน้ำอย่างไม่หยุดยั้ง
ริวกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เขาต้องหาวิธีเพื่อหนีให้พ้นจากเจ้าวายร้ายตัวนี้ให้จงได้
   …เขาไม่ยอมถูกไอ้กะเทยโรคจิตมันเขมือบอย่างแน่นอน…
   “ฉันไม่เปิด! ยังไงฉันก็ไม่เปิด”
   ความตั้งใจของเขาแน่วแน่ เขาไม่ยอมเปิดอย่างแน่นอน ถ้าเปิดออกไป ใครจะมารับรองความปลอดภัยในชีวิตของเขาได้บ้าง
   “ริวจัง จะเปิดไม่เปิดจริงๆเหรอ”
   เจ้าสาวแสนสวยถามย้ำ ดวงตาคมสวยหรี่มองประตูห้องน้ำ ราวกับต้องการมองผ่านไปให้ถึงข้างในเพื่อจะได้เห็นเจ้าบ่าวของตัวเอง
   “ไม่! ยังไงฉันก็ไม่เปิด”
   “อยู่ในนั้นนานๆมันร้อนน้าริวจัง”
   ลูซพยายามโน้มน้าว หวังว่าเจ้าบ่าวของเขาจะยอมเชื่อฟัง แต่ทุกอย่างก็ยังคงอยู่ในความเงียบ
   …ในเมื่อใช้ไม่อ่อนไม่ได้ผล เห็นทีต้องใช้ไม้แข็งกันเสียแล้ว…
   “ริวจัง จะออกหรือไม่ออก”
   น้ำเสียงที่ขี้เล่นเริ่มหายไป ความจริงจังเริ่มเข้ามาแทน ก็จะให้เขาจริงจังได้อย่างไร นี่มันเป็นวันเข้าห้องหอระหว่างเขากับริวที่เขาแสนรัก
   “ริวจัง ลูซจะถามเป็นครั้งสุดท้ายนะ”
   ริวพยายามทำใจสู้ เขาไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องกลัวเจ้าสาวโรคจิต เขาเป็นผู้ชาย เขามีความแมนเต็มร้อย
   “จะออกหรือไม่ออก”
   พอได้ฟังคำกล่าวที่ราบเรียบด้วยอารมณ์ที่ครุกรุ่น ริวก็กลืนน้ำลายลงคืออึกใหญ่ เขายืนพิงประตูในเต้นแรง
   “ลูซมีกุญแจนะ ลูซไขเข้าไปได้”
   ริวรีบหมุนกายไปมองประตู ถึงแม้จะมีกุญแจไขลูกบิดเข้ามา แต่ก็ยังมีกลอนประตูให้ล็อกจากด้านใน ริวเหยียดยิ้ม
   “ถึงนายจะไขกุญแจได้ แต่ฉันก็ล็อกจากข้างในได้เหมือนกัน นายเข้ามาไม่ได้หรอก”
   ชัยชนะเหมือนเป็นของริว เขาคิดว่าลูซคงจะยอมแพ้ไปแล้ว แต่ริวคงคิดผิด เพราะสิ่งที่ได้ยินต่อมามันไม่ใช่
   “นี่ริวจัง”
   “อะไร”
   “คิดว่าลูซใช้เป็นแต่กุญแจหรือไง”
   “หมายความว่าไง!”
   ริวไม่เข้าใจในสิ่งที่ลูซกำลังพูด ทุกอย่างเงียบไป เขาเอาหูแนบประตูห้องเพื่อรอฟังความเคลื่อนไหวจากด้านนอก
   “หรือว่าเจ้านั่นมันไปแล้ว”
   ชายหนุ่มได้แต่ถามกับตัวเอง เขาก็สามารถออกจากห้องน้ำไปได้ แต่ถ้าออกไปแล้วเจอลูซนั่งรอยิ้มหวานอยู่ เขาคงสติแตก
   …นี่อาจจะเป็นแผนที่ลูซทำให้เขาตายใจ…
   ริวส่ายหน้าไปมาอย่างคิดไม่ตก เขาต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อไม่ให้ทุกอย่างมันย่ำแย่ไปมากกว่านี้ บางทีเขาอาจจะต้องหาวิธีล่อลวงลูซให้ยุติเรื่องบ้าๆ แต่เขาจะทำมันได้อย่างไร ถ้าทำได้ ก็คงไม่ต้องมาแต่งงานกัน แล้วก็ต้องมาหลบซ่อนในห้องน้ำแบบนี้ แค่คิดริวก็เศร้าใจ
   “ริวจัง ถ้าริวจังไม่เปิด แล้วเวลาอาบน้ำ ต้องเปลือยให้ลูซเห็น ริวจังห้ามโวยวายน้า”
   เสียงที่ควรจะเงียบหายไป กลับโผล่ขึ้นมาใหม่ เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก ริวหันขวับไปมองประตูห้องน้ำ เขาเริ่มรู้สึกระแวงขึ้นมาทันที
   ปัง!
   เสียงที่ได้ยินไม่ใช่เสียงเคาะประตูอย่างแน่นอน เพราะมันเหมือนประตูห้องน้ำกำลังโดนแรงกระแทกอย่างรุนแรง
   “มันทำอะไรวะ”
   ริวเริ่มเครียด เขาเผลอถอยห่างไปจนแผ่นหลังติดกับกำแพงห้องน้ำ รับรู้ได้ถึงรอยนูนตรงกลางของประตู
   ปัง! ปัง! ปัง!
   “มะ ไม่จริงน่า”
   ดวงตาทั้งสองเบิกกว้างทันที เมื่อเสียงกระแทกครั้งสุดท้ายดังขึ้น พร้อมกับแผ่นประตูที่ร่วงดังสนั่น
   โครม!!!
   ประตูห้องน้ำต้องสิ้นชีพ ล้มไปอยู่ตรงหน้าของริว ในมือของลูซมีค้อนเหล็กอันใหญ่ เจ้าสาวแสนสวยคลี่ยิ้มหวาน ราวกับจะบอกว่าสิ่งที่ทำไปคือผลงานอันงดงาม ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวสักนิดเดียว ในขณะที่ริวกลืนน้ำลงคออย่างยากลำบาก
   “นะ นี่เอาค้อนทุบประตู”
   “ใช่แล้วริวจัง ลูซไปขอความช่วยเหลือจากคุณแม่”   
   ชายตัวสูงในชุดเกาะอกเอ่ยบอกอย่างอารมณ์ดี เขาเหวี่ยงค้อนอันใหญ่จนมันไถลเข้าไปใต้เตียง ริวถอยหลังหนีจนกระทั่งจนมุมไปไหนไม่ได้
   “จะบ้าหรือไงฮะ! เอาค้อนมาทุบประตู”
   ริวตะวาดเสียงดัง แต่แทนที่ลูซจะสำนึกหรือรู้สึกผิด เขากลับหัวเราะอย่างมีความสุขเสียเหลือเกิน
   “ก็ริวจังไม่ยอมเปิดประตูให้ลูซนี่นา จะมาโทษลูซไม่ได้หรอกนะ”
   ไม่คิดจะยอมรับว่าเป็นความผิดของตัวเอง เพราะลูซคิดว่าสิ่งที่เขาทำลงไปไม่ใช่เรื่องที่ผิดแม้แต่น้อย เขาก็แค่ทำในสิ่งที่คิดว่าควรจะทำ เพราะถ้าไม่ทำอย่างนี้ แล้วเขาจะได้เจอกับเจ้าบ่าวของเขาได้อย่างไร
   “นายมันบ้าไปแล้ว”
   “ถ้าบ้า ลูซก็คงจะบ้ารักริวจัง”
   ไม่เพียงแต่พูด แต่ลูซกำลังเดินเข้ามาหาริว ใบหน้าเต็มไปด้วยความต้องการ วงแขนแข็งแรงอ้าออก จะเข้าไปโอบกอดเจ้าบ่าวของตน
   “ให้ลูซกอดริวจังน้า”
   ไวกว่าที่จะคิด ร่างกายเขาตอบสนอง ด้วยการก้มตัว แล้ววิ่งมุดใต้วงแขนแข็งแกร่ง ทำให้หลุดจากอ้อมกอดของลูซไปได้ ริวพยายามคิดอย่างหนัก เขาควรจะรีบหาวิธี ไม่อย่างนั้น ชีวิตแห่งความสุขของเขาอาจจะมีอันต้องจบสิ้นลง
   เขาไม่ยอมแน่ เขาไม่อยากจะตกเป็นของไอ้กะเทยโรคจิต เขาต้องหาทางทำอะไรสักอย่าง เขาต้องคิดให้ออก
   “มามะ มาให้ลูซจ๊วบ”
   “เดี๋ยวก่อนนนน!!!!”
   ชายหนุ่มรีบยกมือห้าม เขาต้องใช้จุดอ่อนของลูซเพื่อหยุดทุกอย่างให้ได้
   “อะไรเหรอริวจัง”
   ลูซเลิกคิ้วมองอย่างสงสัย ริวสูดลมหายใจเข้าปอด อย่างน้อยลูซก็ยังยอมหยุด ไม่พุ่งเข้ามากอด
   “ไปคุยกันข้างนอก”
   เพราะรู้สึกว่าในห้องน้ำมันค่อนข้างคับแคบและใกล้ชิดกันเกินไป เขาถึงอยากออกไปข้างนอก ซึ่งลูซก็ยิ้มรับอย่างยินดี และยอมเดินตามริวออกไปนอกห้องน้ำอย่างว่าง่าย ริวกลืนน้ำลายลงคอ เขายืนใจกลางห้อง ไม่ยอมเข้าไปเฉียดเตียง
   “เราควรจะคุยกันก่อน”
   “คุย? คุยอะไรเหรอริวจัง”
   “ก็คุยอะไรก็ได้ เราควรสื่อสารกันด้วยภาษาให้เข้าใจ เพราะเราเป็นสัตว์ชั้นสูง เข้าใจไหม”
   พอได้ยินแบบนั้น ลูซก็ปล่อยเสียงหัวเราะออกมา
   “ริวจังนี่ตลกจังเลย”
   …เขาไม่ใช่ตัวตลกสักหน่อย เจ้าบ้า!...
   ชายหนุ่มได้แต่เบ้ปากแต่ก็ต้องพูดต่อ เขาต้องตกลงให้สำเร็จ
   “มีสิ่งหนึ่งที่ฉันอยากจะถามให้แน่ใจ”
   ความเคร่งเครียดนี้ดูเหมือนจะไม่มีผลให้ลูซรู้สึกว่าต้องจริงจัง แต่ถึงอย่างนั้น เจ้าสาวของเขาก็ยังมีมารยาทมากพอที่จะไม่ขัดขวางการสนทนาเพื่อเจรจาในครั้งนี้ นั่นทำให้ริวค่อยมีกำลังใจ
   “นายรักฉันใช่ไหม”
   ถามไปก็อายไป ไม่คิดว่าตัวเองจะกล้าถามอะไรแบบนี้ แต่ถ้าไม่ถาม เขาก็ดำเนินแผนการต่อไปไม่ได้
   “ใช่แล้วริวจัง ลูซรักริวจังที่สุดเลยยย”
   คำตอบไม่มาเพียงแต่เสียง แต่ร่างกายกลับถาโถมเข้ามา ริวขยับตัวหลบ ไวปานความเร็วแสง จนลูซถลาล้มไปบนเตียงแทน
   “ริวจังหลบลูซทำไม”
   “ฉันยังคุยกับนายไม่เสร็จเลยนะเจ้าบ้า”
   “มาคุยกันบนเตียงก็ได้นี่นา”
   แปะ แปะ แปะ
   ฝ่ามือใหญ่ตบลงบนเตียงนุ่ม ส่งสายตาเชิญชวนจนริวขนลุกขึ้นมาในทันที
   …สยองพิลึก…   
   เขาสะบัดความคิดสับสนทุกอย่างออกไปจากหัว ต้องรีบพูดออกไปเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้น ก็ไม่รู้ว่าเขาจะรอดได้ถึงตอนไหน
   “นี่นายฟังฉันนะ”
   “ริวจังมานั่งกับลูซสิ”
   “โว้ย!!! เป็นเด็กหรือไง บอกให้ฟังไงเล่า!”
   เขาเริ่มหมดความอดทน จนตะโกนออกไป แล้วสุดท้ายตัวเองก็เหนื่อย มีเพียงสายตาที่มองมาอย่างเอ็นดู แต่ริวไม่ได้ต้องการสายตาแบบนั้นจากลูซเลยแม้แต่นิดเดียว เขาไม่ได้อยากให้เจ้ากะเทยบ้านี่มามองเขา แต่ก็ช่างเถอะ ตอนนี้ถ้าทำอะไรได้ ก็ควรจะรีบทำ
   “ง่ะ ลูซเงียบแล้ว”
   พอเห็นลูซอยู่ในโอวาท ริวก็เริ่มยิ้มในใจ อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้เป็นรองเจ้าสาวตัวใหญ่ก็แล้วกัน
   “นายรักฉันใช่ไหม”
   คำตอบคือลูซพยักหน้าหงึกๆ ดูเหมือนลูกสุนัขตัวใหญ่ที่กำลังจ๋อยและเสียใจ
   “ถ้านายรักฉัน นายต้องฟังฉันนะ”
   ลูซพยักหน้า ริวจึงพูดต่อ
   “ถึงเราสองคนจะแต่งงานกันแล้ว แต่ก็ไม่ได้แปลว่านายจะทำอะไรกับฉันก็ได้ เข้าใจไหม”
   “ทำไมล่ะริวจัง”
   “หยุด ฉันยังไม่ได้ให้นายถามเลยนะ”
   ริวเดินเข้ามาใกล้ เขากอดอก จ้องมองลูซ ราวกับสามีที่กำลังตำหนิภรรยา ลูซช้อนตามองราวกับสุนัขตัวน้อยที่โดนเจ้าของดุ
   “ฉันเข้าใจว่านายต้องการแบบนั้น เพราะวันนี้เป็นวันเข้าหอของพวกเรา แต่นายก็ต้องเห็นใจฉันด้วย ฉันไม่พร้อม นายเองก็คงไม่อยากบังคับขืนใจคนที่นายรักหรอกใช่ไหม”
   “แต่ลูซอยากปล้ำริวจังนี่นา”
   ลูซเผลอคุยกับตัวเองเสียงแผ่ว นั่นทำให้ริวหันขวับ จ้องลูซราวกับจะฆ่าแกงเสียให้ตาย
   “เมื่อกี้นายว่าอะไรนะ”
   “เปล่า”ลูซโกหก
   “งั้นก็ดี คืนนี้เราจะไม่ทำอะไรกันในเชิงสามีภรรยาทั้งนั้น เพราะว่าฉันไม่พร้อม และฉันไม่เต็มใจ ถ้านายรักฉัน นายต้องทำตามนั้น โอเคไหม”
   ดูท่าทางแล้ว ลูซน่าจะรักเขาเสียเกิน ดังนั้น คำขอแบบนี้ คงไม่ได้มากเกินไป ถ้ารักกัน เรื่องแค่นี้ก็ต้องให้กันได้
   “แต่ลูซรอวันนี้มาตั้งนานเลยนะริวจัง เข้าเรือนหอแล้ว ก็ต้องทำรักกันสิริวจัง”
   เหมือนคนตัวโตจะไม่ยอมง่ายๆ ริวขมวดคิ้วฉับ เขากำลังนึกถึงวิธีต่างๆ ที่สาวๆมักจะทำให้เขาใจอ่อน แต่ว่าคนตรงหน้าเขาเป็นเจ้าสาว แต่ก็เป็นผู้ชายเหมือนกับเขา แล้วเขาควรจะใช้วิธีไหน  ริวเริ่มสับสนกับตัวเอง
   “นี่ลูซ นายบอกว่าฉัน นายก็ต้องเชื่อฟังฉันสิ”
   “แต่เพราะลูซรักริวจัง ลูซเลยอยากทำรักกับริวจัง”
   เขาแทบอยากจะยกมือมาตบหน้าผากตัวเอง เพราะว่ายิ่งฟังยิ่งเครียด การเจรจาในครั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่ แถมเขายังต้องมาคอยระแวงไม่ให้โดนจู่โจมในตอนเผลอ ริวสูดลมหายใจเข้าปอด เลือกจะใช้วิธีการที่สาวๆ เคยใช้กับเขา
   “นี่ลูซ! ที่นายทำไม่ได้ ก็เพราะว่าไม่ได้รักฉันจริงๆใช่ไหม! นายโกหกสินะ”
   “ไม่ใช่นะริวจัง ลูซรักริวจังจริงๆ ลูซไม่ได้โกหก”
   เหมือนว่าแผนนี้จะได้ผล เพราะลูซเข้ามากอดแขนของเขา ริวยิ้มอย่างพอใจ แบบนี้ต่อไปเขาก็คงมีเจ้าสาวที่เชื่อฟัง ถ้าทำให้เจ้ากะเทยตัวใหญ่รักหัวปักหัวปรำจนยอมทำทุกอย่างให้ ทุกอย่างอาจจะง่ายขึ้น เขาอาจจะเหมือนได้สุนัขตัวใหญ่มาเลี้ยงมากกว่าได้ภรรยาที่เป็นผู้ชาย
   …ทำไมอยู่ตั้งนานเขาคิดวิธีนี้ไม่ออก…   
   เพราะมัวเอาแต่หนี แต่ยิ่งหนีเท่าไหร่ก็เหมือนจะหนีไม่พ้น อย่างนั้นก็คงต้องหลอกล่อให้ลูซทำตามที่เขาต้องการ เพื่อความปลอดภัยของเขาเอง
   “งั้นนายก็ต้องหยุดคิดเรื่องหื่นๆ กับฉันเดี๋ยวนี้เลย”
   “ไม่ได้หรอกริวจัง ก็ลูซน่ะ”
   ริวขมวดคิ้วฉับ เขาผงะทันที เมื่อจู่ๆ เจ้าสาวแสนสวยก็เปิดกระโปรงอันฟูฟ่อง เผยให้เห็นซับในสีขาวสะอาดที่นูนพองจนน่ากลัว
   “ยะ อย่าบอกนะว่า”
   “ลูซไม่ไหวแล้วริวจัง”
   “อย่าเข้ามานะเว้ย!”
   การเจรจาเหมือนล้มเหลว กายสูงพุ่งเข้ามากอดรัดริว จนแล้วดึงร่างนั้นลงมาบนเตียงนุ่มจนล้มไม่เป็น
   “ปล่อย ! ปล่อยสิโว้ย”
   “ปล่อยไม่ได้หรอกริวจัง เพราะคืนนี้เป็นคืนเข้าหอของเราสองคนนี้นา”
   เขาได้แต่เบิกตากว้าง เมื่อจู่ๆ ตัวเองก็โดนเชือกมัดมือเอาไว้กับหัวเตียง ริวดิ้นไม่หยุด ไม่รู้เลยว่าเจ้าสาวตัวแสบนั้นไปเตรียมเชือกมาตั้งแต่ตอนไหน
   “ฉันไม่ยอมให้แกทำอะไรบ้าๆ กับฉันแน่ ไอ้กะเทยโรคจิต”
   ริวสติแตก ยกเท้าถีบไม่หยุด ลูซแตะนิ้วชี้กับปากของริว
   “ไม่เอาน้าริวจัง อย่าดิ้นสิ ลูซอยากให้ริวจังมีความสุข”
   “แกโกหก แกไม่ได้รักฉัน ถ้าแกรักฉันจริง แกต้องไม่ทำแบบนี้กับฉัน ฉันเกลียดแก”
   เขาแผดเสียงต่อว่าอย่างไม่คิดชีวิต เมื่อลูซเข้ามาปลดกระดุมเสื้อของเขา ลูซชะงัก มองหน้าริวทันที
   “ริวจังเกลียดลูซเหรอ”
   “เออ! แกมันแย่  ไม่ฟังอะไรฉันเลย แล้วแบบนี้เราจะอยู่ด้วยกันได้ยังไง คนอย่างแกไม่มีคุณสมบัติเป็นเมียฉัน!”
   พอได้พ่นคำตำหนิออกไป ริวก็เริ่มใจเย็นลง ท่าทางที่ลูซมีก็เหมือนจะเงียบสงบลงไปบ้างแล้ว
   “ริวจังยังไม่พร้อม”
   “ก็ใช่น่ะสิ! ฉันจะไปพร้อมได้ยังไง”
   “แต่ลูซรักริวจังจริงๆนะ”
   “ฉันไม่เชื่อ ถ้านายรักฉันจริง นายต้องรอได้สิ”
   ตอนนี้ริวพยายามใจเย็น เขาต้องมีสติ เขาต้องไม่ปล่อยให้ความโกรธครอบงำ ไม่อย่างนั้น แผนทุกอย่างที่เขาตั้งใจไว้ อาจจะพังลงมาก็เป็นได้
   “ก็ได้…ลูซจะรอริวจัง”
   ฟู่ววว
   ริวแอบพ่นลมหายใจอย่างโล่งอก ไม่คิดไม่ฝันว่าจะเจรจาเกลี่ยกล่อมได้สำเร็จ แต่เขาไม่ได้เห็นรอยยิ้มร้ายที่มุมปากของลูซ
   “ลูซไม่แตะตัวริวจังก็ได้น้า”
   “อ่า…ขอบใจ นายเป็นเจ้าสาวที่แสนดีจริงๆ”
   พอได้ฟังแบบนั้น เขาก็ฉีกยิ้มหวาน  ริวคิดว่าตัวเองปลอดภัยแล้วแน่นอน ลูซน่าจะปล่อยเขาจากการจับมัด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะคิดผิดเสียแล้ว
   “นายจะทำอะไร!”
   เขาโพล่งถามไปเสียงดัง เมื่อเห็นเจ้าสาวคนสวยกำลังถกกระโปรงราวกับไม่คิดว่าสภาพมันน่าอายแค่ไหน แถมกิริยาที่ช้อนตามองขึ้นมายังทำให้ริวขึ้นลุกซู่
   “อย่าคิดจะทำอะไรแปลกๆนะเฟ้ย!”
   “ใจเย็นๆน้าริวจัง ลูซจะไม่แตะตัวริวจัง ลูซสัญญา”
   “กะ ก็ปล่อยฉันสิวะ”
   “ปล่อยไม่ได้ ถ้าปล่อยริวจังก็ไม่อยู่ดูลูซน่ะสิ”
   “ดู ดูทำไม!”
   ริวลนลาน ไม่อยากจะคิดถึงเหตุการณ์ต่อไป
   “ริวจังต้องสัญญากับลูซมาก่อน ว่าริวจังจะไม่หลับตา จะไม่หันหน้าหนี ริวจังต้องมองลูซ”
   “ทำไมฉันจะต้องสัญญา”
   “ก็ถ้าริวจังไม่สัญญา ลูซก็ยกเลิกเรื่องที่พูดไปตอนแรก แล้วเราก็จะทำรักกันไง”
   ท่าทางของลูซบอกได้เลยว่าคงจะพูดจริงอย่างแน่นอน ริวคิดไม่ตก อย่างน้อย แค่ตาเห็น แต่ร่างกายไม่โดนกระทำ ก็น่าจะดีกว่าโดนทะลวงศักดิ์ศรีความเป็นชาย
   …เอาวะ! ต่อให้ไอ้บ้านี่เต้นรูดเสา เขาก็จะทนดูให้ได้!...   
   “ก็ได้! ฉันจะดู จะทำอะไรก็รีบทำ ฉันดูเสร็จแล้ว ก็แก้มัดให้ฉันด้วย”
   พอได้รับการตอบกลับแบบนั้น ลูซก็ฉีกยิ้มกว้าง ริวกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่กับสิ่งที่ลูซคิดจะทำ
   “นะ นี่จะทำอะไร!”
   “ก็ลูซปวดตรงนี้นี่นา”
   ท่าทางเหนียมอาย พร้อมกับชี้นิ้วลงที่ใจกลางลำตัว ชั้นในสีขาวสะอาด ถูกลูบไล้ด้วยมือใหญ่ แต่สายตากลับจับจ้องที่หน้าของริว
   “ก็ไปทำในห้องน้ำสิวะ”
   “ไม่เอาหรอก ริวจังอยู่ตรงหน้า ลูซจะไปได้ยังไง”
   “กูอยากจะบ้า!”
   “ริวจังว่าอะไรนะ”
   เจ้าบ่าวที่โดนจับกุม แต่ทำหน้าไม่พอใจ แต่ลูซก็ฉีกยิ้มส่งให้ เขากำลังจะทำเรื่องที่คนปกติเขาไม่ทำกัน
   “โรคจิต”
   “แหม…ก็ริวจังไม่ยอมให้ลูซทำนี่นา ลูซไม่มีทางเลือก”
   สัญญาเลยว่าหลังจากดูภารกิจแสนลามกของลูซเสร็จ ริวจะรีบไปล้างตาให้สะอาด เขากลัวว่าภาพที่แสนน่ากลัวนี้จะติดตาเขาจนลืมไม่ลง
   แค่เห็นแนวของแท่งเนื้อที่อยู่ใต้ชั้นใน ริวก็แทบจะหายใจไม่ออก ด้วยความที่ลูซเป็นลูกครึ่ง แน่นอนว่าร่างกายผู้ชายแถบตะวันตกนั้นมีโครงร่างที่สูงใหญ่ มันใหญ่ไปเสียทุกส่วน รวมถึงตรงนั้นด้วย
   …เขาไม่อยากให้เจ้าหนอนยักษ์นั้นออกมาเห็นโลกนี้…
   พรึบ!
   แต่เหมือนคำของริวจะไม่เป็นผล เพราะเพียงชั่วอึดใจ มือใหญ่ก็ควักล้วงหยิบออกมา ริวหายใจติดขัดกับความใหญ่และยาวของมัน
   …แทบจะเท่าแขนเขาอยู่แล้ว…
   ใครก็ได้ ช่วยเขาที ทำไมเขาต้องมาเจอภาพอะไรแบบนี้ นี่มันนรกชัดๆ อยากจะหลับตาก็ทำไม่ได้ ถ้าทำ…เชื่อเลยว่า เจ้าหนอนยักษ์สีชมพูต้องกระโจนเข้ามาหาเขาอย่างแน่นอน   
   …ทนมองหน่อยริว แกต้องไม่ตาย ตาแกต้องไม่พัง…
   ริวแทบจะร่ำไห้ ทำไมเขาต้องมาเห็นภาพผู้ชายใส่ชุดเจ้าสาว แล้วถกกระโปรงมาเห็นเจ้าช้างน้อยที่ชูงวงต้านแรงโน้มถ่วงของโลก ถึงใบหน้าของคนที่สวมชุดเจ้าสาวงดงามแค่ไหน แต่เมื่อเกาะอกร่นลงมาก็เห็นแผ่นอกแบนๆ แบบมัดกล้ามเนื้อผู้ชาย นี่สวรรค์ใจร้าย หรือนรกใจดี ส่งภาพแบบนี้มาให้เขาจดจำได้ฝังติดตา
   …ต้องล้างตากี่รอบถึงจะลืมได้…
   “ริวจัง”
   “อย่าเข้ามาใกล้นะ!”
   เขาแถบจะแผดเสียงร้องไปสุดเสียง ทำไมเขาไม่เกิดมาสายตาสั้น ทำไมเขาต้องเห็นทุกอย่างชัดเจนแจ่มแจ้งระดับ HD แต่ถึงกระนั้น ก็ไม่ควรให้ลูซเข้ามาใกล้มากจนเกินไป เพราะภาพมันจะชัดเจนจนเขากลัว
   …ของตัวเองก็เห็นจนเคยชิน แต่ให้มาเห็นของคนอื่นนี่มันไม่ไหวจริงๆ…
   ริวรู้สึกอยากจะเป็นลม ทั้งที่แอร์ในห้องเย็นฉ่ำ แต่เหงื่อเขากลับผุดเต็มใบหน้า
ลมหายใจติดขัด เมื่อเจ้าสาวของเขาเริ่มเล่นกับร่างกายตัวเอง แถมยังอ้าขาออกกว้างให้เขาได้เห็นเต็มตา
   “ริวจัง…อ่า”
   “ส่งเสียงอะไรเนี่ย”
   ได้แต่ถามเสียงสั่น เพราะเสียงลูซนั้นกระเส่า สายตาก็ฉ่ำหวาน มองเขาไม่วางตา แล้วแบบนี้ ริวควรจะทำอย่างไรดี
   “ก็ลูซเสียว อื้อ เห็นริวจังแล้วมันอดใจไม่ไหว”
   ไม่เพียงแค่พูด แต่มือใหญ่ก็กำรอบแท่งมหึมาของตัวเอง เขาขยับมือรูดชักขึ้นลงอย่างเชื่องช้า พร้อมกับเลียริมฝีปากอย่างกระหาย
   ใบหน้างดงามเต็มไปด้วยความปรารถนา จนริวที่มองอยู่ เริ่มจะเคลิ้มไปกับภาพตรงหน้า แต่พอเห็นสิ่งที่อยู่ในกำมือของลูซ เขาก็หลุดออกจากมนต์สะกด
   …หนอนยักษ์ อนาคอนด้า หรือจะอะไรก็แล้วแต่…เขารับไม่ได้ ทำไมเขาต้องมาดูผู้ชายด้วยกันช่วยตัวเอง…
   “อะ อื้อ ริวจัง ริวจัง ลูซจะไม่ไหวแล้ว”
   เสียงครางกระเส่าส่งมาเป็นระยะ พร้อมกับมือร้อนที่ชักส่วนใจกลางลำตัว ลูซรู้สึกดีจนแทบทนไม่ไหว ริวพยายามสะกดกลั้นตัวเอง เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมีอารมณ์ขึ้นมา
   …เย็นไว้ลูกพ่อ อย่าตื่นเชียวนะลูก…   
   เขาก้มมองใจกลางลำตัว พยายามกดไม่ให้มันตื่นขึ้นมา เขาไม่อยากโดนตราหน้าว่าเป็นไอ้โรคจิตที่มามีอารมณ์ เพียงเพราะเห็นผู้ชายช่วยตัวเอง
   “อะ อื้อ อ่า….”
   พรวดดดด!!!
   ราวกับจรวดที่ถูกยิง มันพุ่งไปเต็มหน้าของริว เขาหลับตาแน่น รับรู้ได้ถึงน้ำอุ่นๆ ลูซหายใจหอบอย่างมีความสุข มือใหญ่เลอะเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำรัก
   “นะ นี่มัน”
   คนที่พูดไม่ออก ได้แต่ตัวแข็งทื่อ ไม่คิดไม่ฝันว่าจะต้องมาเจออะไรแบบนี้ เขาโดนปล่อยใส่หน้า ถึงจะไม่ใช่อย่างนั้น ไอ้น้ำขาวขุ่นนั่นก็พุ่งมาเต็มหน้าเขา
   “ริวจังงง ลูซขอโทษ”
   ถึงจะบอกว่าขอโทษ แต่สายตาและท่าทางที่เห็นมันไม่ใช่เลยสักนิด ริวหลับตาแน่นแล้วแผดเสียงร้องดังลั่นราวกับคนเสียสติ
   “อ๊ากกก ไอ้กะเทยโรคจิต ฉันเกลียดแก!!!!!!”

100%

ฝากเพจด้วยจ้า  https://www.facebook.com/akikoneko17fiction/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-06-2016 21:54:22 โดย Akikoneko17 »

ออฟไลน์ cinnsin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 12 เรือนหอรอรัก
«ตอบ #55 เมื่อ26-06-2016 21:32:57 »

ทำไมรู้สึกสงสารริวจังขึ้นมา 5555555555555 ลูซซซซซ แกก็เพลาๆลงหน่อยเถ๊อะะะะะ  :laugh:

ออฟไลน์ aom2529

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 885
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 12 ห้องหอรอรัก
«ตอบ #56 เมื่อ26-06-2016 23:00:21 »

 :z13: :z13: :z13:

ออฟไลน์ แฟนตาเซีย

  • หืมม...?
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 12 ห้องหอรอรัก
«ตอบ #57 เมื่อ27-06-2016 21:03:27 »

 :jul1: :pighaun:

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 12 ห้องหอรอรัก
«ตอบ #58 เมื่อ27-06-2016 22:02:50 »

สงสารริวมาก

บางทีลูชก็เหมือนเป็นคนโรคจิตอย่างที่ริวว่าจริงๆ :mew5:

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 12 ห้องหอรอรัก
«ตอบ #59 เมื่อ28-06-2016 17:24:40 »

ชอบอ่ะ  หนุกหนานมากมาย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด