ตอนที่ 25 สารภาพเช้าวันรุ่งขึ้น ผมตื่นแต่เช้าคนแรกในห้อง มองออกไปนอกหน้าต่างอากาศดีมากๆเลยครับ ไปเดินถ่ายรูปเล่นดีกว่า ว่าแล้วก็ล้างหน้าแปรงฟันแล้วคว้ากล้องออกนอกห้อง แต่ทิ้งโน๊ตไว้หน่อยเผื่อไอ้ตี๋กับแมนดี้ตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอผม
เดินไปทางสวนของโรงแรม มีดอกไม้สวยๆสีสันสวยงามออกดอกเต็มไปหมด ผมไล่ถ่ายรูปไปหลายสิบรูป ถ่ายไปสักพักก็นั่งพักที่ม้านั่งในสวน เลยมีเวลานั่งคิดทบทวนเรื่องต่างๆที่ผ่านมาเงียบๆ โดยไม่มีไอ้ตี๋หรือใครๆมาวุ่นวาย
คิดแล้ว....นี่ผมมาอเมริกาได้เจ็ดวันแล้วหรือนี่ ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นเจ็ดวันที่เปลี่ยนชีวิตผมไปได้ขนาดนี้
ได้รู้ความลับต่างๆตลอดสี่ปีที่ผ่านมาที่ไม่เคยรู้ ได้ถูกบอกรักจากเพื่อนสนิทที่สุดในชีวิตอย่างตี๋ ได้รู้ใจตัวเองว่าชอบผู้ชายด้วยกันซึ่งคือพี่แนท ได้มีประสบการณ์การจูบครั้งแรกในชีวิตแม้มันจะไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไหร่ ได้รู้จักความเจ็บปวดจี๊ดๆที่ใจเวลาถูกคนที่เราชอบเข้าใจผิด และที่สำคัญ....ตอนนี้ผมเริ่มไม่แน่ใจตัวเองแล้วว่า ผมอาจจะรักพี่แนทไปแล้วด้วยซ้ำ.....ไม่ใช่แค่ชอบเฉยๆ
แล้วจากวันนี้ไป....ชีวิตผมจะเป็นยังไงนะ ที่เคยคิดไว้ว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้พี่แนทมายืนเคียงข้างด้วยกัน ถึงขั้นทำท่ายั่วยวนพี่เขาก็ทำมาแล้ว แต่ตอนนี้ผมชักไม่มั่นใจแล้วว่าจะเป็นไปได้ ยิ่งเห็นภาพพี่แนทกับพี่น้ำเมื่อคืนแล้วยิ่งปวดใจ
ธรรมชาติยังไงก็สร้างผู้ชายให้คู่กับผู้หญิง ซึ่งก่อนหน้ารู้จักพี่แนทผมก็คิดอย่างนี้เหมือนกัน บางที่ความรักอาจจะผ่านเข้ามาให้ผมได้เรียนรู้ แต่ไม่ได้เพื่อให้ครอบครองก็ได้ (นี่หนูอาร์ม ยังไม่ทันไรก็ท้อซะแล้ว) คิดถึงตรงนี้ก็ต้องสะดุ้งเพราะเสียงใครบางคน
“อ้าวอาร์ม ตื่นเช้าเหมือนกันนะเรา” เสียงพี่แนทลอยมาก่อนตัว แล้วเดินลงมานั่งข้างๆ
ผมคิด....แน่นอน.....พี่จำไม่ได้เหรอ ผมตื่นก่อนพี่ทุกวันแหละ ไม่งั้นผมจะได้เห็นได้จับอะไรดีๆของพี่เหรอ
(นี่ขนาดเศร้าๆเซ็งๆ ตูยังมีอารมณ์คิดเรื่องลามกได้อีก)
“เป็นอะไรไปอาร์ม นั่งหน้าเครียดจัง หรือว่าเมื่อคืนหลับไม่สบาย” ใช่พี่....ผมเครียด.....ก็เรื่องพี่นี่แหละ
“เรื่องหลับไม่มีปัญหาหรอกครับ แต่มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย” ผมตอบเสียงเนือยๆ
“เรื่องตี๋หรือเรื่องไอ้ฟ้าล่ะ สงสัยเลือกไม่ถูกว่าจะเอาใคร” ย๊ากกก....นี่ปากหรือนี่
พี่จะหาเรื่องกวนประสาทชวนทะเลาะกันแต่เช้าเลยรึไง ผมหน้าเริ่มบูดแล้ว ไม่อยากตอบอะไรพี่แนท เดี๋ยวพูดอะไรแย่ๆออกไปมันจะไม่ดีซะเปล่าๆ
“แต่พี่นอนไม่ค่อยหลับนะ มีเรื่องให้คิดเยอะเหมือนกัน” พี่แนทพูดเรื่อยๆ เหมือนอยากเล่าให้ฟังเฉยๆ
“มีเรื่องให้คิดเยอะ....คงเรื่องพี่น้ำใช่มั้ยครับ รึว่าจะมีอีกหลายช้อยส์จนเลือกไม่ถูก” ปากหนอปาก....ตูว่าจะไม่พูดอะไรแล้วเชียว เพราะพูดแล้วเดี๋ยวกลายเป็นชวนทะเลาะ แล้วนี่ที่เพิ่งพูดไปเหมือนประชดประชันชัดๆ
“ใช่.....พี่คิดเรื่องน้ำ แต่ก็มีเรื่องอื่นด้วย” นี่พี่แนทคิดเรื่องพี่น้ำจริงๆด้วย ฟังแล้ว....จี๊ดๆที่ใจอีกแล้ว
“ถ้าพี่ชอบพี่น้ำ ผมว่าก็ไม่เห็นต้องคิดมาก พี่กับพี่น้ำเป็นแค่ญาติห่างๆ ผมเห็นบางคนเป็นลูกพี่ลูกน้องกันแต่งงานกันก็เยอะแยะไป” พูดไปแล้วยิ่งปวดหน่วงๆที่ใจ พี่โอมครับ....ผมอยากกลับไปร้องไห้กับพี่จังเลย
“อาร์มเห็นดีด้วยเหรอถ้าพี่จะชอบกับน้ำ พี่หมายถึง.....อาร์มรู้สึกยังไงถ้าพี่ลงเอยกับน้ำ หรือ......ผู้หญิงคนอื่นๆ” พี่แนทถามแล้วหันมาจ้องตาผม ผมได้แต่หลบตาก้มหน้าแล้วตอบ เพราะกลัวจะแสดงความรู้สึกจริงๆของตัวเองออกไป
“พี่จะให้ผมรู้สึกยังไง ก็พี่แนท.....ขอให้ผมเป็นน้องชายพี่นี่ครับ ผมก็ต้อง.....ก็ต้องยินดีกับพี่ชายอยู่แล้ว” ทำไมประโยคนี้มันช่างพูดยากเย็นเหลือเกิน พูดไปก็พยายามกลั้นน้ำตาตัวเองไม่ให้ไหลออกมาประจานความรู้สึกตัวเอง
“อาร์มรู้สึกอย่างนั้นจริงๆเหรอ.....” พี่แนทเอามือมาเชยคางผมขึ้น เพื่อให้หน้าผมที่ก้มอยู่เงยมามองหน้าพี่เขา พอมองแววตาของคนตรงหน้าแค่แวบเดียว ไอ้ที่พยายามกลั้นน้ำตาไว้ มันชักจะไม่ไหวแล้ว
“แต่แปลกนะ....พี่ไม่เห็นรู้สึกดีใจอะไรเลยที่มีน้ำมาอยู่ใกล้ๆ พี่อยากให้ใครบางคนมาอยู่ใกล้ๆพี่มากกว่า” พี่แนทพูดพร้อมเอามือมาจับแก้มไว้ทั้งสองข้างแล้วมองตาผม เอ๊ะ....ที่พี่พูดเมื่อกี้หมายความว่าไงนะ ผมได้แต่อึ้ง ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองแล้วเพราะกลัวจะหน้าแตกอีก ยิ่งมีคนชอบมาว่าผมว่า ชอบคิดไปเองบ้างล่ะ ชอบฝันกลางวันบ้างล่ะ แถมว่าผมบ๊องส์ๆ รั่วๆ สติแตก สาวแตกอีก คำว่าเหล่านี้ทำให้ผมเสียศูนย์ไปเหมือนกัน (ได้ที กัดคนอ่านซะเลย)
“แต่พี่ก็ไม่รู้ว่าคนๆนั้น เค้าอยากอยู่ใกล้ๆพี่หรือเปล่า” พี่แนทจ้องตาผมแบบมีความหมาย
“พี่ก็ถามไปตรงๆสิครับ ถ้าพี่ไม่บอกแล้วคนๆนั้นจะรู้มั้ยล่ะ” ที่จริงผมเริ่มรู้ลางๆแล้ว แต่ก็ต้องแอ๊บแบ๊วไว้ก่อน กันหน้าแตก
“งั้นเหรอ งั้นเดี๋ยวพี่ไปถามแซนดี้หลังจบทริปดีกว่า” หา..... ว่าไงนะไอ้พี่บ้า.....ไปตายซะเถอะ
แซนดี้นี่มันชื่อผู้หญิงที่พี่แดนเคยบอกว่าพี่แนทควงด้วยนานที่สุดนี่
แล้วนี่....พี่มาทำท่าทางให้ผมเข้าใจผิดอย่างนี้ทำไม สนุกมากเลยใช่มั้ย ไม่ไหวแล้วครับ......กลั้นน้ำตาไม่อยู่แล้ว
ผมหันหน้าหนีลุกขึ้นยืนทันที แล้วก้าวขาเดิน ต้องไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุดเพราะไม่อยากให้พี่แนทเห็นน้ำตาผม
“โอ๊ะ...โอ๊ะ... คนดีของพี่ ไม่ร้องนะครับ พี่ล้อเล่นนิดเดียวเอง ทำไมขี้แยจัง” พี่แนทรีบคว้ามือผมแล้วลุกขึ้นยืนตาม พร้อมโอบผมไว้ทั้งตัวจากด้านหลัง ผมพยายามดิ้นออกจากอ้อมกอดพี่แนท ส่วนมือก็ยกขึ้นมาป้ายน้ำตาป้อยๆ
“พี่กำลังจะถามอาร์มอยู่นี่ไง พี่อยากให้อาร์มมาอยู่ใกล้ๆพี่....จะได้มั้ยครับ” หัวใจผมจากแฟบๆเหี่ยวๆเมื่อกี้มันพองโตขึ้นมาทันที
“อาร์มว่าไงครับ” พี่แนทกระซิบข้างๆหูเบาๆ จั๊กกะจี้จังเลย
“ครับ” ผมตอบได้แค่คำเดียว ก็มันพูดอะไรไม่ออกแล้วนี่ครับ
“ตอนแรกๆพี่ก็สับสนตัวเองเหมือนกัน พี่ไม่ได้เป็นเกย์และไม่เคยชอบผู้ชายด้วยกัน แถมอาร์มยังเป็นน้องชายเพื่อนสนิทพี่อีก....” ผมได้แต่ยืนนิ่งๆในอ้อมกอดพี่แนท ฟังพี่เค้าพูดไปเรื่อยๆ
“ถึงตอนนี้พี่ก็ยังไม่อยากใช้คำว่ารักเพราะพี่ยังไม่แน่ใจ คำๆนี้พี่อยากพูดตอนที่พี่แน่ใจจริงๆและจะพูดกับคนๆเดียวในชีวิตเท่านั้น พี่หวังว่าอาร์มคงให้โอกาสพี่ ให้โอกาสเราสองคนค่อยๆเรียนรู้กันไปนะครับ”
“ครับ แต่ผมก็มีเรื่องอยากให้พี่รู้เหมือนกัน....ผมก็ไม่เคยคิดชอบผู้ชาย พี่เป็นคนแรกที่ทำให้ผมรู้สึกแบบนี้” ผมพูดพร้อมพลิกตัวหันเข้าหาพี่แนทพร้อมสบตาคนตรงหน้า โอ๊ยย.....เห็นหน้าพี่ใกล้ๆแบบนี้แล้วอยากจูบพี่จังเลยครับ
“พี่คงพอรู้ว่าตี๋มันรู้สึกกับผมเกินเพื่อน แต่ยังไงมันก็เป็นเพื่อนสนิทที่ผมรักมาก ที่จริงผมปฏิเสธมันไปแล้ว แต่มันขอร้อง...ขอเป็นแฟนผมจนจบทริปนี้ ผมสงสารมันเลยตอบตกลงไป หวังว่าพี่จะเข้าใจนะครับ” ผมพูดพร้อมทำตาละห้อยอ้อนๆพี่เขา
แต่พี่แนทหน้านิ่งๆเครียดๆยังไงไม่รู้
“พี่จะพยายามเข้าใจนะ แต่ว่าไอ้ขอเป็นแฟนนี่ มันแค่ไหน” พี่....ไม่ต้องทำเสียงเข้มแบบนี้ก็ได้
“ผมตกลงกับมันแล้วว่าจะไม่มีการเล่นเลยเถิด ไม่มีการจูบหรืออะไรที่มากกว่านั้นครับ” พอพูดจบ หน้าตาพี่แนทค่อยดูดีขึ้นหน่อย
โอ๋....พี่อย่าเครียดไปเลยนะ เดี๋ยวผมทำให้หายเครียดเอง อิ....อิ.... ตัวผมไปไวกว่าความคิด ว่าแล้วก็เขย่งตัวขึ้นไปหอมแก้มพี่แนทเหมือนเวลาพ่อแม่หอมแก้มลูกเพื่อปลอบใจ
“ปลอบใจพี่แค่นี้เองเหรอ พี่ยังไม่หายเคืองหรอกนะ” อ๊ะ....ยังไม่พอเหรอ โอเค.....เซอร์วิสพิเศษให้ก็ได้ นี่เห็นเป็นพี่หรอกนะ
ผมค่อยๆแตะริมฝีปากผมลงบนปากพี่แนทเบาๆสองสามทีแบบกล้ากลัวๆ พี่แนทคงรำคาญเต็มทีเลยเอามือจับท้ายทอยผมดันหน้าผมเข้าหาพี่เขา พร้อมบดเบียดปากลงมา หลังจากนั้นก็.......โอ๊ยยย.....เขินจัง
ขอไม่บรรยายแล้วกันครับ
*********************************************
กรี๊ดดดดด ตอนนี้ เขียนเองยังเขินเองเลยอ่ะ หวังว่าคงเป็นตอนที่หลายๆคนถูกใจนะคะ