คู่กัดฉบับรักเกินร้อย ตอนที่ 58 - END (19/10/2559)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คู่กัดฉบับรักเกินร้อย ตอนที่ 58 - END (19/10/2559)  (อ่าน 115202 ครั้ง)

ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
คู่กัดฉบับรักเกินร้อย

By matchty



กัดครั้งที่

- 56 -





                ดอกฟ้าไม่มีทางคู่กับหมาวัด.....



            ยกเว้นหมาวัดแบบเขาไว้ตัวหนึ่งละกัน...



                “นั่งยิ้มบ้าอะไรอยู่ตรงนั้น รีบมาช่วยจัดของเข้าห้องดิ๊” เสียงตวาดแหวที่ดังขึ้น ทำให้อาร์ตที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่บนปลายเตียง ต้องเงยขึ้นมองหน้าเจ้าของเสียงพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างส่งให้อย่างประจบ



                “ยังจะนั่งยิ้มอีก มาช่วยจัดของดิ๊” พีทเท้าเอวยืนตีหน้ายักษ์ใส่อาร์ต ปากก็ส่งเสียงบ่นไม่หยุดด้วยความเหนื่อย เพราะในขณะที่ตัวเองจัดของเข้าห้องจนหัวฟู อีกคนดันนั่งอมยิ้มมีความสุขอู้งานอยู่ได้



                “ยังไม่แก่ขี้บ่นจังวะดื้อ” อาร์ตลุกขึ้นเดินไปหาคนตรงหน้า สอดแขนเข้าไปกอดที่เอวบาง แล้วก้มลงหอมแก้มด้วยความมันเขี้ยว



                “ก็แทนที่จะรีบจัดของให้มันเสร็จ นั่งเล่นอยู่นั่นแหละ มันจะเสร็จสักทีไหมล่ะห๊ะ!!” พีทถลึงตาดุๆ ใส่อาร์ตที่เอาแต่ทำหน้าทะเล้นใส่ พร้อมกับยกมือดึงหูของอีกฝ่ายเต็มแรง



                “โอ๊ยๆ เบาดื้อ กลัวแล้วครับ” อาร์ตโอดครวญออกมาไม่หยุด ใบหูโน้มต่ำลงตามแรงดึงจากฝ่ามือเล็ก แต่ถึงจะเจ็บแค่ไหนอาร์ตก็ยังไม่ยอมปล่อยแขนออกจากเอวอีกฝ่าย แถมปากยังยิ้มกว้างไม่ยอมหุบ



                “หยุดยิ้มได้ไหมวะ หมั่นไส้!!” พีทปล่อยมือออกจากใบหูของอาร์ต แล้วเปลี่ยนเป็นยกมือขึ้นมาดันใบหน้าอีกฝ่ายให้ถอยห่างแทน



                “ดีใจก็ต้องยิ้มนะเมีย” อาร์ตยักคิ้วส่งให้กวนๆ แล้วอุ้มตัวอีกฝ่ายไปที่เตียง บังคับให้นั่งลงบนตักของตัวเอง วางคางเกยไว้บนไหล่เล็กพร้อมทั้งสอดแขนเข้าไปกอดที่เอว



                “ทำมายิ้ม แล้วเมื่อวานใครวะทำหน้าเหมือนหมาถูกเชือด” พีทกดปลายจมูกลงบนกลุ่มผมสีแดงตรงไหล่ พร้อมกับยกแขนกอดตอบอีกฝ่ายแน่น



                “ว่าแต่คนอื่น ทีตัวเองร้องไห้ไม่พูดถึง” อาร์ตเถียงงึมงำอยู่กับซอกคอขาว ขบเม้มสลับกับกดจูบไม่หยุด



                “ก็แม่งตกใจนี่หว่า นึกว่าจะตายแล้วนะเว้ย” พีทพึมพำออกมาหงอยๆ พร้อมกับใบหน้าที่สลดลงไปเมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อวาน หัวใจมันพาลเจ็บขึ้นมาอีกแล้ว ทั้งๆ ที่ก็รู้ว่ามันแค่บททดสอบบทหนึ่ง ที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปเท่านั้น



                “แต่เราก็ยังอยู่ด้วยกัน” อาร์ตดันตัวเองออกมาจากซอกคอขาว ใช้มือประคองใบหน้าเนียนให้หันมาสบตา ก่อนจะส่งรอยยิ้มอบอุ่นมอบให้



                “อือ...แล้วถ้าไม่ได้อยู่ด้วยกันพี่มึงจะทำไง” พีทโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ จนหน้าผากชิดกันกับหน้าผากของอีกฝ่าย



                “นึกไม่ออกเหมือนกัน” อาร์ตตอบออกไปตรงๆ เพราะเมื่อวานเขานึกอะไรไม่ออกจริงๆ สมองว่างเปล่าขาวโพลนเหมือนโดนลบข้อมูล ถึงกับเข้าขั้นเอ๋อไปชั่วคราวเหมือนคอมพิวเตอร์โดนไวรัสอย่างไรอย่างนั้น มันเจ็บที่ใจ หูมันอื้อ สมองมันชา ตาก็โฟกัสภาพอะไรไม่ได้ คล้ายๆ เหมือนจะเป็นวาระสุดท้ายของชีวิต แค่คิดถึงก็เจ็บจี๊ดขึ้นมาที่ใจอีกแล้ว



                “โคตรไร้ความหวังเลยว่ะอาร์ต ทำตัวเหมือนพระเอกหลังข่าวหน่อยดิวะ ลุกขึ้นมาโวยวาย ข่มขู่ อะไรแบบเนี่ย” พีทเบะปากและมองค้อนอาร์ต พร้อมทั้งถูไถหน้าผากไปมาอ้อนๆ



                “พระเอกหนังทำห่าอะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละเมีย แต่นี่ชีวิตจริงและผัวก็คนธรรมดานะครับ” อาร์ตยกมือขึ้นมาบิดปลายจมูกรั้นของพีทอย่างมันเขี้ยว ไม่รู้สมองบรรจุอะไรไว้บ้าง คิดอะไรแต่ละอย่างสร้างสรรค์จริงๆ



                “คนธรรมดามันก็ต้องทำอะไรป้ะวะ”



                “งั้นเก็บผ้าหนีตามกันไหมล่ะ”




                “โหย...ไม่ได้ดิ ทิ้งป๊าให้อยู่คนเดียวได้ที่ไหน”




                “ทีงี้ทำไมไม่ทำตัวเป็นนางเอกหลังข่าวบ้างล่ะ” อาร์ตย้อนกลับไปบ้าง เพราะที่พูดเมื่อกี้ไม่ได้จริงจังอะไร แค่อยากกวนประสาทคนเก่งก็เท่านั้น เก่งไปทุกเรื่องนั่นแหละ เอาเข้าจริงนั่งร้องไห้ขี้มูกโป่ง



                “งั้นพี่มึงก็แปลงร่างเป็นไอรอนแมนไปสู้กับป๊าดิ จะได้ไม่ธรรมดา” พีทยักคิ้วส่งให้อย่างยียวน




                “ถ้าดูหนังแล้วเพี้ยนพี่ว่าเลิกดูเหอะ”



                “เขาเรียกว่ามีจินตนาการ”



                “แล้วคนมีจินตนาการ มีวิธีแก้ปัญหายังไงครับ จะเอาอะไรไปสู้กับป๊า” อาร์ตถามกลับไปบ้างด้วยความอยากรู้ ว่าสมองมีจินตนาการตามที่เจ้าตัวบอกโม้ไว้ จะมีวิธีแก้ปัญหายังไงถ้าเรื่องมันจบไม่สวยแบบนี้



                “นั่งร้องไห้แม่งอย่างนั้นแหละ” พีทด้วยความรวดเร็วแบบไม่ต้องผ่านการประมาลผลอะไรเยอะให้เสียเวลา



                “ไอ้แสบเอ้ย” อาร์ตส่ายหัวด้วยความเหนื่อยใจ แล้วยื่นหน้าไปกัดแก้มนิ่มจนขึ้นรอยฟัน



                “เรื่องนี้พี่มึงมาถามความเห็นไม่ได้ดิ พี่มึงเป็นช้างเท้าหน้า พี่มึงต้องเป็นคนแก้ปัญหา”



                “ทีแบบนี้ละมาอ้างช้างเท้าหน้า เท้าหลัง” อาร์ตถึงกับยกกำปั้นเขกหัวของพีทด้วยความหมั่นไส้ ทุกทีไม่เห้นจะยอมอะไรง่ายๆ สักอย่าง พอเกิดเรื่องแล้วพักภาระทันที นี่มันเมียใครวะ



                “พี่มึงเป็นช้างเท้าหน้า ส่วนนี่เป็นควาญช้างไง” พีทจิ้มนิ้วลงไปบนอกอาร์ต และหันมาจิ้มที่ตัวเอง ก่อนจะยักคิ้วและส่งยิ้มทะเล้น พร้อมทั้งหัวเราะออกมาอย่างสะใจ



                “แบบนี้ก็ได้เหรอ” อาร์ตถามกลับพร้อมเสียงกลั้วหัวเราะในลำคอ



                “ได้ดิ นี่ใคร พี่พีทนะเฮ้ย!!” พีทยืดตัวตรงและยกมือตบลงบนหน้าอกตัวเองดังป้าบๆ



                “พี่พีทใช่ไหม” อาร์ตหรี่ตามองใบหน้าแสดงความยิ่งใหญ่ของพีทด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ ซึ่งเจ้าตัวก็พยักหน้ารับคำงึกงัก



                “งั้นพี่พีทต้องโดนแบบนี้” อาร์ตว่าแค่นั้นและใช้นิ้วมือจิ้มลงบนเอวของพีททันที



                “เฮ้ย!! ฮ่าๆ ไม่เอา พี่มึงแม่งจั๊กจี้นะเว้ย ฮ่าๆ หยุด!!” พีทถึงกับดิ้นเป็นเจ้าเข้า เมื่ออาร์ตส่งนิ้วมาจิ้มที่เอวไม่หยุด




                “ไม่หยุด” อาร์ตเองก็หัวเราะออกมาเสียงดัง ชอบใจที่เห็นพีทชักดิ้นชักงอ



                “โอ๊ย!! ฮ่าๆ มันปวดท้อง หยุดได้แล้ว” พีทโวยวายดังลั่น ยกมือนอนกุมท้อง แล้วดิ้นไปมาไม่หยุดอยู่บนที่นอน



                “หยุดก็ได้” อาร์ตเห็นสภาพของพีทแล้วก็ตัดสินใจเลิกแกล้ง ก่อนจะยกมือไปเกลี่ยนน้ำตาที่หางตาให้เจ้าตัว ที่มันไหลออกมาเพราะหัวเราะมากเกินไป



                “เล่นเหี้ยไรเนี่ย!!” พีทตวาดใส่พร้อมกับมองค้อนทำตาปะหลับปะเหลือกใส่อาร์ต นอนแผ่หลาหายใจหอบเหนื่อยอย่างหมดสภาพ เพราะใช้พลังงานในการดิ้นมากไป



                “พี่รักดื้อนะ”




                “อะไรเล่า” พีทใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย เมื่ออยู่ดีๆ อาร์ตก็บอกรักขึ้นมาซะเฉยๆ แถมยังมาทำตาหวานเยิ้มใส่



                “โคตรรักเลยว่ะ”




                “รู้แล้ว” พีทตอบรับเสียงแผ่ว พร้อมกับพยายามกลั้นยิ้มจนแก้มแทบแตก ใบหน้าเห่อร้อนจนกลัวว่ามันจะไหม้ในไม่ช้า ก่อนจะหลับตาพริ้มรอคอยสัมผัสจากคนบนตัว ที่กำลังโน้มลงมาใกล้เรื่อยๆ



                “อะแฮ่ม” เสียงกระแอมที่ดังขึ้นเบาๆ ทำเอาทั้งคู่ได้สติ หันออกไปมองทางหน้าประตูห้องด้วยความตกใจ ก่อนจะผละออกจากกันแทบไม่ทัน เมื่อรู้ว่าเจ้าของเสียงเมื่อกี้คือใคร



                “ป๊ามีอะไรหรือเปล่าครับ” อาร์ตที่เป็นฝ่ายได้สติก่อนถามออกไป พร้อมกับส่งยิ้มแห้งๆ ให้อย่างคนกลัวความผิด



                “เก็บของเสร็จแล้วเหรอ” เจ้าสัวพิชิตถามพร้อมกับปรายตามองไปรอบๆ ห้องนอน ที่ตอนนี้ยังคงมีของว่างระเกะระกะเต็มไปหมด



                “ยังครับ” พีทที่เพิ่งตั้งสติได้ตอบพ่อตัวเองเสียงแผ่ว แล้วเอาแต่นั่งก้มหน้าไม่กล้าสบตาเพราะความอาย



                “แล้วทำไม่รีบทำ” เสียงถามราบเรียบและสายตาที่มองมา ทำเอาทั้งอาร์ตและพีทได้แต่นั่งเงียบ ไม่รู้จะแก้ตัวยังไง ในเมื่อหลักฐานมัดตัวแน่นหนาขนาดนี้



                “รีบจัดได้แล้ว ใกล้จะได้เวลาข้าวเย็นละ”




                “ครับ” ทั้งอาร์ตและพีทตอบรับเสียงเบา แต่ก็ยังไม่มีใครกล้าสบตาเจ้าสัวพิชิตตรงๆ




                เจ้าสัวพิชิตยืนมองท่าทางของทั้งคู่และส่ายหัวไปมาอย่างอ่อนใจ เริ่มรู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองลงโทษเด็กทั้งคู่ ดูท่าทางจะใช้ไม่ได้ผลเท่าไหร่ เพราะขนาดนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะสลดกันเลยสักนิด ก้มหน้าก้มตาหลบสายตาท่านกันจ้าละหวั่น แต่เห็นนะว่าแอบกลั้นยิ้มกันอยู่



                “เดี๋ยวป๊ารอข้างล่าง” เจ้าสัวพิชิตถอนหายใจออกมา และหันหลังเตรียมเดินลงไปข้างล่าง ขี้เกียจจะถือสาอะไรมากมาย เพราะดูแล้วพูดไปก็คงจะไม่ได้ตามสั่ง 100% ไอ้ตัวว่าที่ลูกเขยท่านน่ะยังไม่เท่าไหร่ ปัญหามันอยู่ที่ลูกชายท่านต่างหาก ทั้งดื้อทั้งรั้นขนาดไหนทำไมท่านจะไม่รู้ พนันได้เลยว่าจะต้องหาทางแหกกฎแน่ๆ




                “อาร์ต” แต่ก่อนที่จะเดินไปเจ้าสัวพิชิตก็หันกลับมาส่งเสียงเรียกอาร์ต



                “ครับป๊า” อาร์ตเงยหน้าขึ้นมองทันควัน พร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย



                “ป๊าไว้ใจเราได้ใช่ไหม” คำถามที่ตอกย้ำข้อตกลงระหว่างเราของเจ้าสัวพิชิต ทำให้อาร์ตก้มหลบสายตาทันทีพร้อมกับกลั้นยิ้ม



                “ครับ” อาร์ตเงยหน้าขึ้นตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น หลังจากที่หุบยิ้มตัวเองได้แล้ว



                “โตกว่าน้อง ให้มันไว้ใจได้นะ” เจ้าสัวพิชิตย้ำอีกครั้งดุๆ ก่อนจะเดินจากไป




                อาร์ตยืดตัวมองตามหลังของเจ้าสัวพิชิต จนแน่ใจว่าอีกฝ่ายลงไปข้างล่างแล้วจริงๆ ถึงได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะหันไปหอมแก้มเนียนของพีทที่นั่งข้างกันเต็มแรง



                ฟอดดดด



                “ไหนบอกป๊าว่าไว้ใจได้ไง” พีทหน้ามาหาอาร์ตแล้วหรี่ตามอง ก่อนจะยกฝ่ามือตบลงไปเต็มๆ หน้าอีกฝ่ายด้วยความหมั่นไส้



                “แค่หอมไงดื้อ ไม่ได้ผิดข้อตกลงกับเลย” อาร์ตทำตีมึนใส่และลุกขึ้นไปยืนที่พื้น



                “เก็บห้องป้ะ ว่าแต่ขนมาหมดเลยเหรอวะเนี่ย” อาร์ตวนพีทให้กลับมาเก็บห้องต่อ พร้อมกับบ่นให้พีทเบาๆ เมื่อเห็นว่าคิตตี้ทุกตัวที่ซื้อมาเก็บไว้ในหอพัก โดนคนตัวเล็กขนมาจนเกลี้ยงไม่มีเหลือ



                “ก็พี่มึงบอกว่าให้ไง เอามาแล้วผิดตรงไหน” พีทเถียงกับและลุกลงไปจากเตียงบ้าง



                “จ้าๆ ไม่มีอะไรผิดเลย” อาร์ตทำเสียงกวนโอ๊ยใส่พีท แล้วลงมือเก็บของที่กระอยู่บนพื้นให้เข้าที่ โดยมีพีทที่คอยยืนชี้นิ้วสั่งอยู่ไม่ห่าง



                ...

                ...



                ข้อตกลงระหว่างเจ้าสัวพิชิตกับอาร์ตและพีท มันเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง หลังจากที่พีทปล่อยเสียงโฮออกมาอย่างเจ็บปวด และตัวอาร์ตเองที่นั่งซึมด้วยความเจ็บไม่แพ้กัน ท่ามกลางความเสียใจมากมายที่ไม่รู้จะหาทางออกยังไงของทั้งคู่ จู่ๆ เจ้าสัวพิชิตก็ยิ้มออกมาพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ




มันทำให้พีทที่ซุกอกอาร์ตและร้องไห้จนตัวโยน ต้องผละออกมาและมองหน้าพ่อของตัวเอง ด้วยดวงตาที่แดงช้ำอย่างน่ากลัว ส่วนอาร์ตเองก็หันใบหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด ที่แสดงออกว่ากำลังแย่เต็มทนไปหา ก่อนที่ทั้งคู่จะส่งสายตาไปให้ผู้สูงวัยกว่าด้วยความไม่เข้าใจ



เจ้าสัวพิชิตไม่ได้จะขัดขวางอะไร แต่ทุกอย่างก็เป็นไปตามที่ท่านพูด พีทต้องกลับมาอยู่บ้านและอาร์ตไม่ต้องดูแลพีทอีก ไม่ใช่ว่าจะให้ทั้งคู่เลิกคบหากัน แต่เพื่อเป็นการสอนให้รู้ว่าคนเราจะได้อะไรมามันไม่ใช่เรื่องง่าย ท่านเลยจับทั้งคู่แยกจากกัน




ท่านคิดเรื่องนี้มานานแล้ว ตั้งแต่ก่อนจะไปเห็นภาพในห้อง คิดว่าจะเรียกมาคุยกันให้รู้เรื่อง แต่บังเอิญว่าความดันมาแตกซะก่อนในความคิดของเด็กทั้งคู่ ท่านเลี้ยงลูกชายแบบตามใจมาตลอด ให้อิสระทั้งความคิด การใช้ชีวิต รวมถึงคนที่ลูกชายท่านจะรัก




แม้จะไม่เห็นด้วยและผิดหวังที่ลูกชายเพียงคนเดียว กลายเป็นคนผิดเพศและรักผู้ชายเหมือนกัน แถมยังอยู่ในตำแหน่ง...นั่นแหละ พูดไปก็ปวดใจเปล่าๆ แต่อย่างที่บอกว่าท่านตามใจลูก เรียกว่าตามใจจนพีทกลายเป็นเด็กเอาแต่ใจ ถ้าจะให้ไปขัดแม้ว่าจะอยากขัดท่านคงไม่ทำ




และอย่างน้อยในความแย่คนที่ลูกชายเลือก ก็ถือว่าใช้ได้ในระดับหนึ่ง แม้จะฐานะจะไม่ดี ชาติตระกูลไม่ได้สูงส่งก็ตาม ที่สำคัญถ้าลูกต้องเสียใจแล้วท่านต้องเสียลูกไปเหมือนที่เสียภรรยา ท่านยอมอับอายให้คนในสังคมนินทาว่าร้ายลับหลังในเรื่องนี้ยังดีเสียกว่า



แต่ว่าจะให้ยอมกันง่ายๆ โดยที่ไม่ทำอะไรเลยมันคงไม่ใช่ อะไรก็ตามที่ได้ไปง่ายๆ มันจะไม่มีค่ามากพอให้รักษา ถ้าวันใดวันหนึ่งมาที่เกิดอะไรขึ้นมันก็จะพังได้ง่ายดาย ยิ่งความสัมพันธ์ในรูปแบบนี้มันเปราะบาง และไม่ใช่เรื่องที่คนส่วนมากจะยอมรับได้




เพื่อพิสูจน์ความรักที่ว่าลูกเขยและลูกชายท่านพูด มันก็จำเป็นต้องใช้ความอดทนมาพิสูจน์กันหน่อย และเพราะท่านเป็นนักธุรกิจ คำพูดมันไม่มีหลักฐานและเป็นการลงทุนที่ไม่มากพอ มันต้องใช้การกระทำและเวลาต่างหาก  ถึงจะเรียกว่าการลงทุนอันสมน้ำสมเนื้อ ถ้าสำเร็จมันจะได้ผลกำไรที่งดงามตามมา



ท่านยื่นข้อเสนอให้ทั้งคู่ง่ายๆ 1 ข้อในคบหากันต่อ แค่ลูกชายท่านต้องกลับมาอยู่บ้าน และห้ามทั้งคู่ไม่ให้มีความสัมพันธ์ทางกายกันอีก ห้ามมีการนอกใจหรือนอกกายระหว่างที่อยู่ในข้อตกลง ไม่ว่าจะมีความต้องการมากขนาดไหนก็ห้าม ถ้าทั้งคู่ผิดข้อตกลงให้ทุกอย่างถือเป็นโมฆะ และจะไม่มีโอกาสให้อีก ร่วมทั้งจะไม่ได้เจอหน้ากันตลอดไป โดยที่ข้อตกลงนี้ไม่มีกำหนดเวลาขึ้นอยู่กับความพอใจของท่านล้วนๆ



เด็กทั้งคู่ก็ยอมรับข้อเสนอของท่านแบบไม่อิดออด เพราะรับรู้ได้ว่ามันคือโอกาสเดียวที่ท่านให้ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นข้อตกลงง่ายๆ แต่ทำได้ยากก็ตามที มันแค่บทพิสูจน์ความรักในรูปแบบง่ายๆ ที่ท่านอยากทดสอบ และถ้าทั้งคู่ทนไม่ได้ ทำอะไรที่มันผิดข้อตกลงขึ้นมา แสดงว่ามันไม่ใช่ความรักแต่มันคือความหลง เพราะถ้ารักกันจริง เด็กทั้งคู่จะไม่กล้าทำอะไรที่มันเสี่ยงให้ทุกอย่างพังเด็ดขาด และในระหว่างนี้ท่านเองก็จะได้ทำใจยอมรับความจริงไปพลางๆ



...

...



“ผมกลับแล้วนะครับป๊า” อาร์ตยกมือไหว้และขอตัวกลับก่อน หลังจากที่ช่วยพีทจัดของในห้องเรียบร้อย



“ไม่กินข้าวด้วยกันก่อนล่ะ” เจ้าสัวพิชิตเอ่ยปากชวน พร้อมกับมองนาฬิกาบนฝาผนัง ที่ตอนนี้เพิ่งจะ 5 โมงกว่าๆ




“พอดีผมต้องเตรียมตัวไปทำงานน่ะครับ” อาร์ตบอกออกไปอย่างเกรงใจ ซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่ได้ว่าอะไรนอกจากพยักหน้ารับรู้



“ป๊า...งั้นผมไปส่งไอ้พี่อาร์ต เดี๋ยวมานะ” พีทพูดขึ้นมาบ้าง พร้อมกับยิ้มแฉ่งส่งให้พ่อ



“พ่อบอกให้เรียกพี่เขาดีๆ ไง” เจ้าสัวพิชิตอดที่จะเอ่ยปากดุลูกชายตัวเองไม่ได้ เพราะเคยบอกกันไปหลายครั้งแล้วว่าให้เรียกอาร์ตดีๆ



“โธ่พ่อ!! ไอ้พี่อาร์ตมันยังไม่ว่าอะไรเลย ชิ ไปดีกว่า” พีทเถียงพร้อมกับทำหน้างอใส่พ่อ ก่อนจะสะบัดหน้าแล้วเดินนำออกไปก่อน



“ป๊าขอถามอีกครั้งนะอาร์ต แน่ใจนะว่าทนน้องได้” เจ้าสัวพิชิตมองตามหลังพีทด้วยสายตาเอือมๆ ก่อนจะหันกลับมาถามอาร์ต



“ทนได้ครับ” อาร์ตตอบกลับพร้อมอมยิ้มน้อยๆ



“จะรอดู ไปเถอะ” เจ้าสัวพิชิตยิ้มออกมาเล็กน้อย แล้วยกมือโบกไล่อาร์ต ซึ่งการก็ยกมือไหว้ลาอีกครั้ง ก่อนจะออกไปหาพีทที่ยืนรออยู่ข้างนอก



“คุยอะไรกับป๊า โคตรนาน” พีทถามหน้าบึ้ง เพราะออกมายืนรอตั้งนานอาร์ตเพิ่งจะเดินตามมา



“ป๊ายุให้เลิกกัน”อาร์ตตอบหน้าตาย และเดินไปคร่อมลงบนเบาะมอเตอร์ไซค์



“เลิกไหมล่ะ...อ่ะหมวก” พีทถามกลับกวนๆ และยื่นหมวกกันน็อกให้



“ไม่เลิก” อาร์ตรับหมวกมาถือไว้ ใช้แขนอีกข้างเกี่ยวเอวของพีทและดึงเข้ามาใกล้



“ขับรถดีๆ นะอาร์ต” พีทบอกและมองหน้าคนรักด้วยความเป็นห่วง ขัดใจไม่น้อยเลยที่บอกให้เอารถไปขับ อีกฝ่ายก็ไม่ยอมเอาไป



“ครับ” อาร์ตรับคำยิ้มและวางหมวกลงบนตะกร้ารถ กอดจะใช้แขนทั้งสองข้างกอดเอวบางไว้หลวมๆ



“ถึงร้านแล้วโทรมา ถ้าไม่รับก็ต้องโทรมาจนกว่าจะรับเข้าใจไหม”



“หึ ครับ” อาร์ตพยักหน้างึกงักและกลั้นขำให้กับท่าทางเป็นห่วงของพีท ที่เจ้าตัวสั่งซะเหมือนว่าเขาเป็นลูกไม่มีผิด ทำไมนับวันเมียเขามันถึงได้น่ารักแบบนี้วะ



“เลิกงานก็ต้องโทร ถึงห้องก็ต้องโทร เข้าใจไหม”



“โอเคครับ” อาร์ตยื่นหน้าไปหอมแก้มเนียน และผละออกมาพร้อมทำหน้าเหมือนคนใกล้จะตาย



“เป็นอะไร” พีทมองหน้าอาร์ตแล้วถามด้วยความแปลกใจ ก็ดูอีกฝ่ายสิทำหน้าตาซะน่าสงสารเลย



“พี่ตายแน่เลยว่ะดื้อ” อาร์ตโอดครวญออกมาและซบหน้าลงกับไหล่เล็กอย่างหมดสภาพ



“ป๊าฆ่าพี่ทางอ้อมชัดๆ” อาร์ตบ่นงึมงำกับไหล่ของพีท น้ำเสียงเหมือนคนใกล้จะตายในอีกไม่ช้า แขนสองข้างกระชับกอดพีทแน่น



“เพิ่งวันแรกนะอาร์ต” พีทถึงกับหลุดยิ้มขำให้กับท่าทางของคนรัก นี่แค่วันแรกเองนะยังเป็นขนาดนี้



“ก็พี่กอดของพี่ทุกวันป่ะวะ แล้วทีนี้เงี่ยนมาจะทำไง”




ปึก!!!



“เงี่ยนก็แม่นางทั้งห้าไง ถนัดข้างไหนก็ใช้ข้างนั้น” พีททุบหลังอาร์ตเต็มแรงด้วยความหมั่นไส้ ขนาดจะเป็นจะตาย หัวสมองก็ยังไม่เคยพ้นเรื่องใต้สะดือ



“กูต้องทนกี่ปีวะเนี่ย” อาร์ตบ่นไม่หยุดด้วยความหดหู่ใจ บอกเลยว่าข้อตกลงของป๊าตีโดนจุดยุทธศาสตร์ของเขาอย่างจัง ถ้าเป็นสงคราม ป๊าคือแม่ทัพฝ่ายศัตรูที่เก่งกาจมาก วางแผนการรบมาดี และฆ่ากองทัพของเขาได้ตายเรียบ



เขามันพวกเซ็กส์จัด ถึงจะไม่ได้มีเรื่องพวกนี้ทุกวันก็จริง แต่บอกเลยว่าขาดมันไม่ได้ วันไหนถ้าได้จัดมีเวลาว่างให้ทำ คู่นอนไม่สลบคาอก ฟ้าไม่เหลือง หรือไม่งั้นต้องคู่นอนไม่ไหวจริงๆ เขาถึงยอมหยุด




ก่อนจะมีน้องเป็นตัวเป็นตน เขานี่กอดคอไอ้กลอนสรรหาความจัญไรใส่ชีวิตออกจะบ่อย 3 คนมันดี 4 คน 5 คน เอากันมั่วฉิบหาย เสียบหน้าเสียบหลังรุมผู้หญิงคนเดียวก็ทำมาแล้ว แต่เพราะเขากับไอ้กลอนบ้ากามพอๆ กัน หลังๆ เลยเลิกทำ แยกกันเอาเด็กใครเด็กมัน ไม่งั้นคนโดนเสียบมันจะตายเอา



แล้วดูตอนนี้ มีเมียกับเขาคนเดียว แถมโคตรรักโคตรหลง เข้ากันได้แทบจะทุกอย่าง ดันถูกพ่อตาพรากออกจากอกง่ายๆ กอด จูบ ลูบ คลำ แต่เสียบไม่ได้ แม่งโคตรทรมาน ตกนรกทั้งเป็นชัดๆ จะให้ไปมั่วกับคนอื่นแก้ขัดก็ทำไม่ได้ มันไม่ได้เกี่ยวกับข้อตกลง หรือว่าเสื่อมจนเสียบใครนอกจากเมียไม่ได้แบบนั้นหรอก เหตุผลของเขาไม่ได้สวยหรูขนาดนั้น แค่เอากันไม่ใช่เมีย ให้เอาใครก็ทำได้เหมือนเดิมนั่นแหละ แต่เป็นเพราะถ้าทำไปแล้ว เมียเขาต้องร้องไห้ น้องต้องเสียใจต่าง...เขาถึงไม่ทำ



“โอ๋ๆ แค่นี้ไม่ตายหรอกไอ้หื่น” พีทลูบหัวที่ซุกกับไหล่ตัวเองเบาๆ พร้อมกับขำออกมาไม่หยุด สะใจไม่น้อยที่อาร์ตเป็นแบบนี้ แต่ถึงยังไงก็อดที่จะสงสารไม่ได้เหมือนกัน ก็พี่มันหื่นจะตาย



“อาจจะตาย” อาร์ตตอบแบบหมดแรง จนพีทได้แต่ก้มลงมองอย่างเห็นใจ ก่อนจะอมยิ้มมุมปากเมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้



“อาร์ต”



“หือ” อาร์ตคานรับในลำคอ พร้อมกับยอมเงยหน้าขึ้นมาตามแรงดึงของคนในอ้อมกอด



“.....................” พีทก้มลงกระซิบอะไรบางอย่างที่ข้างหูของอาร์ต ก่อนจะผละออกและส่งยิ้มน่ารักให้



“โอเค...พี่จะทนให้ได้ แต่ดื้อห้ามผิดคำพูด” อาร์ตยิ้มออกมาและเอ่ยกำชับคำพูดที่พีทกระซิบบอก



“เออ...ทำให้ได้ก่อนเหอะ” พีทตอบกลับเสียงแผ่ว พร้อมกับใบหน้าที่ขึ้นสีเล็กน้อย



“พี่ไปทำงานดีกว่า” อาร์ตผิวปากออกมาอย่างอารมณ์ดี ผิดกับก่อนหน้านี้ลิบลับ



“อือ...อย่าลืมโทรนะ” พีทว่าและยิ้มหมวกกันน็อกมาใส่ให้เอง เพราะกลัวว่าอาร์ตจะลืมใส่อีก



“ครับ” อาร์ตยื่นหน้าไปกดจูบที่ปากบาง และสตาร์ทก่อนจะขับออกไปอย่างอารมณ์ดี ทิ้งให้พีทมองตามหลังด้วยความหมั่นไส้



“หื่นเอ้ย” พีทพึมพำตามหลังแผ่วเบา ก่อนจะหันหลังเดินกลับเข้าบ้าน เพื่อไปกินข้าวกับพ่อและรอโทรศัพท์จากอาร์ต





2 Be Con...



+++++++++++++++

ดราม่าเป็นอะไรที่ไม่เหมาะกับอาร์ตพีท

เบาๆ สวยๆ ง่ายๆ หวานเลี่ยน มุ้งมิ้ง รถอ้อยคว่ำ

เนี่ยแหละคือตัวตนนิยายเรื่องนี้

ฟิลกู๊ด และ ฟิน  อันลิมิเต็ด

รักและขอบคุณคนอ่านจ้า

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อีพี่อาร์ตจะทนได้ไหมเนี่ยะ

ออฟไลน์ บีเวอร์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
อาร์ต ฉันไม่เชื่อว่าเธอทำได้ 555555555555 :hao7:

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
จะรอดไม๊  :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ Sorth

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อยากรู้จัง เขากระซิบไรกันนะ... :hao3:

ออฟไลน์ ashbyipcet

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
เฮียค่ะสู้ๆคะ น้องพีทก็เชื่อฟังป๊าและเช็คด้วยนะลูก  o18
คือฟิลกู๊ดมากคะ  :hao7:

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
คำว่าความลับไม่มีในโลกก็ยังคงเป็นความจริงอยู่นะ
ทั้งสองคนผ่านเรื่องร้ายๆคนร้ายๆมาก็พอสมควร
คราวนี้ถึงทีคุณป๊าบ้าง เอาความจริงใจเข้าแลกก็น่าจะโอ
อีกเรื่องคือ พ่อแม่คงไม่อยากเห็นลูกตัวเองลำบาก
นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่อยากให้พี่อาร์ตพิสูจน์ตัวเอง
ความฝันกับความจริงบางครั้งมันก็ไม่สามารถไปด้วยกันได้
ถ้าต้องเลือก เชื่อว่าพี่อาร์ตคงเลือกสิ่งที่ดีที่สุดกับน้อง
ระหว่างนี้ก็อดทนนะพี่อาร์ตอย่าเพิ่งลงแดงซะก่อนล่ะ :laugh:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
+1และเป็ดด้วยความคิดถึงค่ะ





ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
คู่กัดฉบับรักเกินร้อย

By matchty



กัดครั้งที่

- 57 -





รถยนต์ของอาร์ตพุ่งทะยานบนท้องถนน ด้วยความเร็วเท่าที่กฎจราจรจะอำนวย มุ่งตรงไปยังจุดหมายปลายทาง ที่ใครอีกคนเช็คอินลงบนหน้าโซเชี่ยล อย่างท้าทายคำสั่งห้ามแบบไม่กลัวเกรง



อารมณ์ของอาร์ตในตอนนี้ ต้องบอกว่าอยู่ในสภาวะก่ำกึ่ง ระหว่างโมโห และขบขัน ไม่รู้เหมือนกันว่าอารมณ์ด้านไหนที่มากกว่า รู้แค่ว่าถ้าเจอหน้าไอ้ตัวแสบ เขาจะจับฟาดก้นซะให้เข็ด โทษฐานพูดอะไรแล้วไม่ฟัง



และจากการขับรถราวกับเหาะของอาร์ต ใช้เวลาเพียงไม่นานนัก ในที่สุดเจ้าตัวก็มาถึงจุดหมายปลายทาง ซึ่งเป็นสถานบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่ง ที่เหล่าเซเลปคนดัง ลูกหลานไฮโซ รวมทั้งบุคคลสำคัญทางการเมือง นิยมมาพักผ่อน และเป็นที่ๆ อาร์ตคุ้นเคย เรียกว่ารู้จักค่อนข้างดี เนื่องจากเป็นหนึ่งในธุรกิจของครอบครัวเพื่อนสนิท และมีโอกาสได้มาเยือนบ่อยครั้ง เมื่อสมัยที่ยังเป็นนักศึกษา



“อ้าว...คุณอาร์ต สวัสดีครับ” เสียงทักทายด้วยความคุ้นเคยและสนิทสนม ดังขึ้นทันทีที่อาร์ตปรากฎตัวตรงหน้าทางเขา พร้อมกับรอยยิ้มที่ส่งออกมาจากใบหน้าดุดัน ของบอดี้การ์ดคนสำคัญ ที่มาทำหน้าที่ตรวจตราแทนเจ้านายในวันนี้



“หวัดดีครับพี่เอก” อาร์ตยกมือไหว้กลับ พร้อมเอ่ยทักทาย ลูกน้องคนสนิทของน้องชายเพื่อน



“มาเที่ยวเหรอครับ...น่าจะโทรมาบอกก่อน เราจะได้จัดที่ไว้ให้” เอกถามพร้อมกับหันหาลูกน้อง เพื่อที่จะได้สั่งให้เตรียมโต๊ะที่เป็นส่วนตัวให้อาร์ต ทำเอาอาร์ตรีบยกมือขึ้นโบกปฏิเสธเป็นพัลวัน



“เฮ้ย!! เปล่าพี่ ผมไม่ได้มาเที่ยว” อาร์ตบอกอีกด้วยน้ำเสียงที่ปนกลั้วหัวเราะในลำคอ อดที่จะขำไม่ได้กับท่าทางเป็นการเป็นงานของอีกฝ่าย ไม่รู้ว่าจะจริงจังในหน้าที่อะไรขนาดนั้น



“แล้ว…” เอกมองเพื่อนของเจ้านายอีกคนด้วยความสงสัย ไม่ได้มาเที่ยวแล้วอีกฝ่ายจะมาทำไม เพราะคุณปิงก็ไม่ได้เข้ามาวันนี้ และเจ้านายของเขาอย่างคุณปอนานๆ ถึงจะมาสักครั้ง



“มาตามเมียน่ะพี่” พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา อาร์ตก็ชักสีหน้าด้วยความเซ็ง



“เมีย? คุณพีทน่ะเหรอครับ” เอกอมยิ้มขำให้กับท่าทางของอาร์ต เขาเองก็พอจะเข้าใจอยู่บ้าง ว่าทำไมอีกฝ่ายถึงมีท่าทางแบบนั้น ก็ ‘เมีย’ ที่พูดถึง คือเพื่อนสนิทของนายหญิงเขาเอง นิสัยถือว่าซนและดื้อในระดับนึง



“ใช่พี่...เห็นบ้างไหม” อาร์ตพยักหน้างึกงัก และเอ่ยปากถามต่อ



“เหมือนผมจะเห็นแว๊บๆ นะครับ อยู่ตรงโซน A แต่ไม่แน่ใจว่าใช่ไหม”



“ผมว่าคงใช่แหละ ยังไงก็ขอบคุณนะครับ” อาร์ตเอ่ยปากบอกลา แล้วสาวเท้าเดินเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว วันนี้ถ้าไม่ได้ฟาดก้นคน อย่ามาเรียกเขาว่าไอ้อาร์ต



...

...



พีทนั่งมองโทรศัพท์ในมือของตัวเอง สลับกับสอดส่ายสายตามองไปรอบๆ ไม่หยุด เสียงดนตรีเร้าใจและบรรดาสาวสวยมากมาย ที่ต่างพากันยักย้ายส่ายสะโพกล่อตาล่อใจอยู่เบื้องหน้า ไม่ได้เรียกความสนใจใดๆ จากพีทได้ทั้งนั้น แถมภาพของคนเหล่านั้นยังสร้างความหงุดหงิดให้ จนใบหน้าน่ารักหงิกงอไปหมด



พีทกำโทรศัพท์ในมือของตัวเองแน่น ปากก็ขมุบขมิบด่าใครอีกคนไม่หยุด เพราะอุตส่าห์เช็คอินสถานที่หนีเที่ยวของตัวเองลงโซเชี่ยล เพื่อหวังจะหลอกล่อให้อีกฝ่ายนั่งไม่ติดและรีบมาหา แต่กลายเป็นว่าเขาเนี่ยแหละที่นั่งไม่ติดและเป็นฝ่ายรอคอยแทน ก็เล่นเช็คอินไปตั้งแต่ผับเพิ่งจะเปิด จนตอนนี้ผับจะปิด ไอ้บ้าบางตัวมันยังไม่โผล่หัวมาเลยน่ะสิ



สาเหตุที่พีทหนีมาเที่ยวคนเดียว ทั้งๆ ที่เคยโดนสั่งห้าม เพราะทะเลาะกับอาร์ตนิดหน่อยด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง แต่เป็นเรื่องที่ใหญ่มากสำหรับพีท พรุ่งนี้เป็นวันเกิดของเขา และอีกฝ่ายไม่ว่างจะมาฉลองด้วยเนื่องจากติดงาน เขาคงจะไม่โกรธหรอกถ้าไม่เป็นเพราะว่าเรานัดกันแล้ว อาร์ตจะต้องทำตัวให้ว่างในวันนั้น แต่กลายเป็นว่าอีกฝ่ายลืม และดันรับงานในวันที่ควรจะอยู่กับเขา แถมเขาขอรถคันนึงเป็นของขวัญวันเกิด และเป็นของขวัญปลอบใจที่โดนเบี้ยวนัด อีกฝ่ายดันเงียบไม่ตอบรับคำขอ เรียกง่ายๆ ว่าเมินหรือไม่ให้นั่นแหละ



ใน 2 ปีมานี้ เกิดอะไรขึ้นมากมายจนน่าเหลือเชื่อ อย่างแรกเพื่อนสนิทของพีท ‘เลิฟ’ ถูกคนขับรถชนอยู่หน้าคณะในเวลากลางวันแสกๆ เมื่อตอนเรียนอยู่ชั้นปีที่ 3 อาการในตอนนั้นเรียกว่าสาหัส แม้สุดท้ายจะรอดมาได้ แต่มันก็ต้องแลกกับขาหนึ่งข้าง ไม่ใช่ว่าขาขาดกลายเป็นคนพิการอะไรแบบนั้น เพียงแต่ว่าขาของเพื่อนเขามันใช้การไม่ได้ ต้องผ่าตัดอยู่หลายครั้งรวมทั้งกายภาพบำบัดไม่ขาด จนตอนนี้ก็ยังเดินไม่ได้ปกติเหมือนเดิม ทำให้ต้องดร็อปเรียนชั่วคราว เลยเหลือเขาคนเดียวที่ยังเรียนอยู่



แต่ในความเศร้าก็ยังมีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้น อาร์ตเรียนจบแล้ว และคว้าเอาเกียรตินิยมเหรียญทองได้ตามคาด แต่สิ่งที่ไม่ได้เป็นไปตามแผน คืออาร์ตไม่ได้เป็นครูอย่างที่ตั้งใจ แต่กลายเป็นศิลปินหน้าใหม่ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงมากในตอนนี้ ซึ่งทำเอาหลายคนแปลกใจ ตกใจ ไปพร้อมๆ กัน เพราะต่างก็พากันรู้ดี ว่าอาร์ตไม่อยากทำงานแบบนี้ ดูได้จากการที่ปฏิเสธแมวมองมาที่เข้ามาชักชวนตลอดหลายปี แต่เหมือนชีวิตคงถูกกำหนดมาแบบนี้ สุดท้ายอาร์ตก็หนีในสิ่งที่ตัวเองเลี่ยงมาตลอดไม่พ้น



อาร์ตเริ่มทำงานในวงการบันเทิงตอนเรียนอยู่ปี 5 ด้วยการถ่ายแบบลงนิตยสารวัยรุ่นเล่มหนึ่ง เพราะต้องการหาเงินไปช่วยบ้านพักเด็กกำพร้าที่เลี้ยงดูตัวเองมาอีกแรงหนึ่ง เนื่องจากตอนนั้นทางบ้านกำลังประสบปัญหาการเงิน จนแค่ลำพังเงินน้อยนิดจากอาชีพเสริมเป็นนักร้องกลางคืนมันไม่พอ และต่อให้เจ้าสัวพิชิตรวมทั้งพีทจะยื่นมือเข้าไปช่วย แต่คนแบบอาร์ตก็ไม่อยากอยู่เฉยๆ โดยที่ไม่ลงมือทำอะไร นั่นเลยกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมด



คนแรกที่อาร์ตนึกถึงในเวลานั้นก็คือ ‘วิว’ น้องรหัสของพีท ที่ตามตื้อชักชวนอาร์ตอย่างไม่ย่อท้อ และทันทีที่อาร์ตเอ่ยปากว่าอยากลองทำงานวงการบันเทิง เช้าวันรุ่งขึ้นงานถ้ายแบบก็มาวางอยู่ตรงหน้า พร้อมกับรอยยิ้มที่สุดแสนจะดีใจของวิว และหลังจากนั้นก็มีงานชิ้นอื่นๆ ทยอยตามมาเรื่อยๆ แต่ส่วนมากยังคงเป็นงานถ่ายแบบ และเดินแบบจากห้องเสื้อ โดยที่ตลอดระเวลาในการทำงาน วิวจะคอยพูดให้อาร์ตยอมเซ็นสัญญาเป็นศิลปินในสังกัดค่ายเพลง ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของครอบครัวตัวเองตลอดเวลา เรียกว่าไม่เคยยอมแพ้และมุ่งมั่น สมกับคำว่า ‘อยากได้’ ที่เจ้าตัวบอกมาจริงๆ



ถึงอย่างนั้นอาร์ตก็ยังไม่ยอมใจอ่อน และยังคงทำงานรับจ๊อบเป็นนายแบบโนเนมอย่างนั้นอยู่เกือบปี จนมีโอกาสได้คุยกับเจ้าสัวพิชิต ท่านเลยแนะนำอาร์ตให้ได้คิดตาม ว่าคนเราโอกาสดีๆ มันไม่ได้วิ่งเข้ามาในชีวิตบ่อยๆ ถ้าคว้าได้ให้รีบคว้า อย่าปล่อยให้มันผ่านไป จนต้องมานั่งคร่ำครวญเสียดายในภายหลัง และนั้นทำให้อาร์ตตัดสินใจก้าวขาเข้าสู่วงการบันเทิง เซ็นสัญญาเป็นศิลปินในช่วงใกล้จะเรียนจบ




ด้วยรูปร่าง หน้าตาที่โดดเด่น ผสมกับความสามารถที่มี ทำให้อาร์ตโด่งดังได้ภายในเวลารวดเร็ว มีงานวิ่งเข้าชนไม่ขาดสาย เพลงก็ฮิตจนขึ้นติดท็อปชาร์ต แม้กระทั่งช่องโทรทัศน์ที่คอยยื่นบทให้ไปแสดงละครไม่ขาด เรียกว่าเป็นขาขึ้นและช่วงเวลาโกยเงินอย่างแท้จริง



ส่วนพีทวินาทีแรกที่อาร์ตตัดสินใจ ก้าวเดินไปในเส้นทางวงการบันเทิง เจ้าตัวก็เกิดอาการไม่พอใจเล็กน้อย เพราะรู้สึกหวงคนรักที่ต้องมีคนมาตามกรี๊ด แต่พอเห็นรายได้ที่อีกฝ่ายได้รับในการทำงาน ที่นับวันจะยิ่งได้ค่าตัวเพิ่มขึ้น กลายเป็นพีทเองที่รวมหัวกับวิวยัดงานให้อาร์ตทำ แล้วตัวเองก็มานั่งรับเงินสบายๆ อยู่บ้าน แถมยังทำตัวเป็นคนรักที่ดี เก็บตัวอยู่เงียบๆ ไม่ให้ใครรู้ว่าตัวเองเป็นแฟนกับอีกฝ่าย เพราะกลัวอาร์ตจะชื่อเสียงเสียหาย ทำให้รายได้มันหดลง เรียกว่าเต็มใจทำทุกอย่าง โดยที่ไม่ต้องให้ใครมาบอกทั้งๆ ที่ความจริงไม่มีใครสั่งห้ามเลยสักนิด



“สนุกพอหรือยัง” เสียงเรียบนิ่งที่แฝงไปด้วยความตำหนิ ดังขึ้นฝ่าเสียงดนตรีอยู่ตรงหน้า ทำให้พีทที่กำลังจ้องโทรศัพท์อยู่จนตาแทบถลน ต้องเงยหน้าขึ้นมองในทันที พร้อมกับที่ชักสีหน้าใส่อย่างไม่พอใจ



“ยัง” พีทกระแทกเสียงตอบ และหยิบแก้วเครื่องดื่มขึ้นมาจิบ หันหน้าหนีทำเป็นไม่พอใจใส่อาร์ต



“อย่าทำแบบนี้ใส่พี่นะดื้อ ใครกันแน่ที่ผิด” อาร์ตแย่งแก้วออกจากมือพีท และส่งสายตามองอีกฝ่ายดุๆ



“ทำอะไร” พีทลอยหน้าลอยตาตอบแบบไม่สำนึก ว่าตัวเองกำลังทำอะไรผิดอยู่



“กลับบ้านเดี๋ยวนี้เลย” อาร์ตสายหัวอย่างอ่อนใจ และพยายามฉุดอีกฝ่ายให้ลุกขึ้นจากเก้าอี้ เพื่อที่จะได้พากลับบ้านด้วยกัน



“ไม่เอา...ไม่กลับ” พีทพยายามขืนตัวเต็มที่ และเอามือจับโต๊ะไว้แน่น



“กลับ” อาร์ตบอกเสียงแข็งและเอื้อมมือเข้าไปใกล้ ตั้งใจที่จะอุ้มอีกฝ่ายกลับ เพราะขี้เกียจจะเถียงด้วยแล้ว



“เฮ้ย!! ไม่เอา!! บอกว่าไม่กลับไง” พีทเอี้ยวตัวหลบและฟาดฝ่ามือไปที่แขนของอาร์ตไม่หยุด




“อย่าดิ้นดิ” อาร์ตเองก็ไม่ยอมแพ้ แม้จะเจ็บไม่น้อยกับฝ่ามือที่ระดมฟาดไม่ยั้ง แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาหยุดความตั้งใจลงได้



“อยากให้กลับ ก็ซื้อรถให้ก่อนดิ” พีทเองก็ไม่ยอมแพ้ ยื่นข้อต่อรองให้อีกฝ่ายทันที มือก็ยกขึ้นดันแผ่นอกกว้างเอาไว้ พร้อมทั้งยักส่งให้กวนๆ ไม่หยุด



“.............” แต่อาร์ตไม่ได้ตอบอะไร นอกจากจ้องหน้าอีกฝ่ายนิ่งๆ ส่วนพีทก็ยกยิ้มมุมปากอย่างคนเหนือกว่า



“ดื้อ...ตอนนี้คนกำลังมอง และพี่ว่าอีกไม่นานคนรู้แน่ว่าพี่เป็นใคร” จู่ๆ อาร์ตก็พูดในสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ขอ ทำเอาพีทขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่พอใจ แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็หันมองรอบข้างตามที่อีกฝ่ายบอก ซึ่งก็เห็นว่าหลายคนเริ่มมองมาทางนี้อย่างสนใจ



“ถ้าไม่อยากให้คนรู้ว่าเราเป็นอะไรกัน รับกลับบ้านดีไหมครับ” อาร์ตส่งยิ้มให้และพูดอย่างใจเย็น



“เออ!!! กลับก็ได้แม่ง!!” พีทกระแทกเสียงใส่อย่างไม่พอใจ ที่จู่ๆ เกมก็พลิกกลายเป็นตัวเองที่แพ้ ก่อนจะลุกขึ้นยืนอย่างว่าง่าย ไม่อยากให้คนจับได้จนกลายเป็นข่าว และกระทบต่อหน้าที่การงานของอาร์ต เพราะนั่นมันหมายถึงรายได้ที่จะลดลงแน่นอน



“ขี้งก” อาร์ตหลุดขำออกมาเบาๆ และยื่นมือไปบิดปลายจมูกรั้นด้วยความมันเขี้ยว ถ้าเป็นเรื่องที่จะกระทบต่อรายได้ของเขา ไม่ต้องทำอะไรมากให้เหนื่อยแรง พีทจะหยุดทุกอย่างและเชื่อฟังอย่างง่ายดายทันที ไม่รู้ว่าไปเอาไอ้นิสัยขี้งกกแบบนี้มาจากไหน ทั้งที่แต่ก่อนไม่เห็นเป็น สงสัยจะบ่มเพาะมาตั้งสมัยที่เขาไม่มีเงินเท่าไหร่



“เออ!! จะกลับไหมบ้านอ่ะ” พีทกระแทกเสียงใส่และมองอาร์ตตาขวาง แสดงความไม่พอใจออกมา จนอาร์ตได้แต่ถอนหายใจ ว่าคงไม่พ้นกลับบ้านไปได้ง้อกันยาว



“กลับครับ”




“เดินดิ...ชิ” พีทบอกด้วยใบหน้างอง้ำ ก่อนจะสะบัดตัวเป็นคนเดินนำออกไปแทน



“ขอโทษนะคะ” แต่ยังไม่ทันที่จะได้เดินไปไหนไกล ผู้หญิงคนหนึ่งก็เดินมาดักข้างหน้า และส่งยิ้มยั่วยวนไปให้อาร์ต โดยที่ไม่ได้สนใจพีทที่ยืนอยู่ด้วยเลยสัดนิด



“ครับ” อาร์ตจำเป็นต้องหยุดเดินและคุยด้วย เพราะโดนหญิงสาวแปลกหน้าขวางเอาไว้ไม่ให้เดิน



“มีนนะคะ...แล้วคุณ…” หญิงสาวแนะนำตัวเอง และส่งสายตาเชิญชวนให้แบบไม่ปิดบัง



“ครับ” แต่อาร์ตแค่ตอบรับสั้นๆ โดยที่ไม่พูดอะไรมากไปกว่านั้น ตามที่อีกฝ่ายได้เปิดทางมาก่อนหน้า



“แหม...ลึกลับซะด้วย แต่ไม่เป็นไรค่ะ มีนชอบ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” แต่แทนที่หญิงสาวจะรู้สึกเสียหน้า ในการโดนปฏิเสธแบบอ้อมๆ ครั้งนี้ เจ้าตัวกลับรู้สึกสนุกและสนใจอาร์ตมากขึ้น



“คุณนี่หน้าคุ้นๆ นะคะ เหมือนเคยเห็นที่ไหน” หญิงสาวยังคงพยายามชวนคุยต่อ พร้อมทั้งยื่นมือไปหา เพื่อที่จะลูบลงบนแผ่นอกกว้าง ที่เธอมั่นใจว่าถ้าถอดเสื้อผ้าออกมา มันคงจะมีอะไรให้ตื่นเต้นมากกว่าภายนอก



แต่ยังไม่ได้สัมผัสอย่างที่ใจปราถนา มือเรียวสวยก็ถูกมือปริศนากำเอาไว้แน่น เมื่อเลื่อนสายตามองตาม ก็เห็นว่าเป็นผู้ชายอีกคนที่สูงกว่าเธอเล็กน้อย และรูปร่างหน้าตาน่ารักชวนให้สนใจไม่น้อยเลย



“มีอะไรกับฉันหรือเปล่าค่ะ” หญิงสาวหันมาสนคนใหม่ตรงหน้า และส่งสายตายั่วยวนไปให้ ถ้าเธอพลาดจากคนแรก อย่างน้อยเธอก็ยังมีหนุ่มน้อยน่ารักนี่อีกคน



พีทมองการกระทำของหญิงสาวตรงหน้า แล้วก็ต้องกรอกตาไปมาด้วยความเซ็งขั้นสูงสุด ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่เรียกว่านานเป็นชาติมาแล้ว ไอ้ท่าทางเชิญชวนแบบนี้ของอีกฝ่าย รับรองว่าคนอย่างเขากินเบ็ดที่ยื่นมาแน่ๆ แต่ตอนนี้นอกจากเขาจะไม่กิน เขายังจะเขวี้ยงเบ็ดคืนใส่หน้าอีกฝ่ายด้วยซ้ำ อ่อยใครไม่อ่อย มาอ่อยคนของเขาทำไมวะ



“เปล่าครับ...แต่รบกวนคุณช่วยเอามือ และเอาตัวของคุณออกไปให้ห่างๆ ผู้ชายคนนี้ด้วยครับ” พีทส่งยิ้มหวานจนตาหยีไปให้ พร้อมกับแทรกตัวเองไปอยู่ตรงกลางระหว่างคนทั้งคู่



“คะ” หญิงสาวทำหน้างุนงง และมองการกระทำจองพีทอย่างไม่เข้าใจ



“ผมกับแฟนขอตัวกลับบ้านก่อนะครับ รบกวนช่วยหลีกทางด้วย” พีทยังคงฉีกยิ้มส่งให้ไม่หุบ แต่แววตาที่ใช้มองกลับเต็มไปด้วยความไม่พอใจ



“ฟะ...แฟน หมายความว่าไงคะ” หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก และมองหน้าอาร์ตกับพีทสลับกันไปมา ใบหน้าแสนเย้ายวนเริ่มซีดเผือด



“ก็ตามนั้นแหละครับ” อาร์ตอมยิ้มขำส่งให้หญิงสาว ก่อนจะสอดแขนเข้าไปกอดที่เอวบางและก้มลงจูบที่ข้างขมับของพีท เพื่อยืนยันทุกอย่างผ่านการกระทำ



“เป็นเกย์แล้วทำไมไม่บอกแต่แรกย่ะ!! เสียเวลาชะมัด” หญิงสาวกระแทกเสียงใส่ พร้อมกับชักสีหน้าหงุดหงิด ก่อนจะเดินจากไปด้วยความไม่พอใจ ทิ้งให้อาร์ตยืนมองตามด้วยความขำ ส่วนพีทยืนหน้าหงิกงอบอกบุญไม่รับ



“ปล่อย!!” พีทกระแทกเสียงใส่อาร์ตอย่างไม่พอใจ และหยิกลงบนแขนของอีกฝ่ายที่กอดอยู่เต็มแรง ก่อนจะเดินออกไปข้างนอกด้วยท่าทางฮึดฮัด จนอาร์ตได้แต่มองตามและส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ พร้อมกับขำในลำคอเบาๆ ให้กับท่าทางเหล่านั้น



“งอนอะไรดื้อ พี่ไม่ได้ผิดนะ” อาร์ตที่เดินตามหลังออกมา พูดกับพีทที่ยืนกอดอก ใบหน้างอง้ำยิ้มๆ เลยได้รับสายตามองค้แนกลับมาเต็มๆ



“เออ!! ไม่ผิดหรอก ไอ้คนหล่อ!!” พีทพูดประชดประชันใส่ด้วยความหมั่นไส้



“ไม่เถียงละกัน เพราะอันนี้เรื่องจริง” คำพูดของอาร์ตถึงกับทำให้พีทเบ้หน้า เบะปากใส่อีกฝ่ายทันที




“แต่บอกว่าแฟนกันแบบนั้น เขาคงไม่เอาไปบอกนักข่าวหรอกเนอะ น่าจะจำพี่ไม่ได้หรอก” อาร์ตลองพูดลอยๆ เพื่อแหย่พีท เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังหน้างอไม่เลิก และก็ได้ผลทันที เพราะใบหน้างอง้ำของพีทค่อยเปลี่ยนเป็นจืดเจื่อน พร้อมกับดวงตาที่เบิกโพรงขึ้นด้วยความตกใจ



“ลืมอ่ะ...ทำไงดี” พีทหันไปถามความเห็นอาร์ตอย่างร้อนรน ใบหน้าเนียนแสดงความกังวลออกมาแบบจริงจัง



“ไม่ทำ...เพราะพี่ชอบ คราวหลังก็ลืมบ่อยๆ นะ” อาร์ตตอบอย่างไม่สนใจ และผิวปากออกมาแบบอารมณ์ดี ก่อนจะเดินอ้อมไปอีกฝั่งของรถ และเปิดประตูเข้าไปนั่ง



“เฮ้ย!! ไม่ได้ดิ” พีทโวยวายดังลั่น และเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถบ้าง จากนั้นก็ส่งเสียงพูดไปมาเรื่องเดิมไม่หยุด จนอาร์ตได้แต่ส่ายหน้าไปมา ก่อนจะเลิกสนใจและขับรถกลับบ้านทันที เพราะอยากจะพักผ่อนบ้างแล้ว หลังจากที่ทำงานมาทั้งวัน









พีทยังคงใบหน้าบึ้งตึง แสดงความไม่พอใจใส่อาร์ตไม่หยุด ยิ่งอาร์ตเดินไปมารอบห้อง แบบที่ไม่สนใจอาการของตัวเอง ก็ยิ่งหงุดหงิดเพิ่มมากขึ้น



“นั่งหน้างอทำไม ไปอาบน้ำเร็ว จะได้นอน” อาร์ตที่ทำเหมือนไม่รู้ตัวว่าโดนโกรธ เอ่ยปากไล่พีทให้ไปอาบน้ำ ด้วยท่าทางที่เป็นปกติทุกอย่าง จนพีททนไม่ไหว คว้าเอาหมอนใบโตบนเตียง เขวี้ยงไปใส่อีกฝ่ายเต็มแรงด้วยความโมโห



“เฮ้ย!! เขวี้ยงมาทำไม” อาร์ตนับหมอนเอาไว้ได้ทัน และเอ่ยปากถามพีทด้วยใบหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาว ทำเอาความหงุดหงิดของพีทพุ่งขึ้นจนแทบจะทะลุหลังคา คว้าเอาหมอนอีกใบเขวี้ยงตามไปในทันที



“เขวี้ยงหมอนลงจากเตียงแบบนี้ อยากนอนที่พื้นเหรอ” อาร์ตยังคงแกล้งไขสือ ไม่รับรู้ความโกรธที่พีทแสดงออกมา แววตาสั่นระริกเต็มไปด้วยความสนุก



“ไอ้เหี้ย!!!” พีทตะโกนด่าอย่างเหลืออด ก่อนจะคว้าเอาโคมไฟตรงหัวเตียงขึ้นมา และง้างมือขึ้นสูงอย่างน่ากลัว



“เฮ้ยๆ เดี๋ยวๆ” อาร์ตร้องห้ามแทบไม่ทัน ก่อนจะเดินถือหมอนทั้งสองใบไปวางคืนบนเตียง และดึงโคมไฟออกจากมือพีทกลับไปวางที่เดิม



“กะเอาให้ตายเลยหรือไงแค่เนี่ย” อาร์ตบ่นอุบ ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนแผ่หลาบนเตียงอย่างหมดสภาพ วันนี้เขาทำงานตั้งแต่ 7 โมงเช้า จนถึง 4 ทุ่ม แถมยังต้องลากสังขารรีบบึ่งรถไปผับ เพื่อรับเด็กดื้อกลับบ้าน เรียกว่าตอนนี้พลังงานหมดก๊อกเลยทีเดียว



พีทปลายตามองอาร์ตเล็กน้อย นึกสงสารอีกฝ่ายอยู่เหมือนกัน แต่ความหมั่นไส้มีมากกว่า เพราะฉะนั้นเขาจะนั่งหน้างอ ทำงอนอยู่แบบนี้แหละใครจะทำไม



“ดูทำหน้า...จะไม่พูดกับพี่จริงดิ” อาร์ตขยับตัวมานอนหนุนตักพีท และโอบแขนไปรอบเอวบาง พร้อมกับซุกหน้าลงกับหน้าท้องแบนราบ



“หึ เที่ยงคืนยัง” อาร์ตงึมงำถามออกมา โดยที่ใบหน้ายังซุกกับหน้าท้อง แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความเงียบจากพีทเท่านั้น



“ดื้อ...เที่ยงคืนยัง” อาร์ตเองก็ไม่ยอมแพ้ ยังคงตั้งหน้าตั้งตาถามไม่หยุด



“เออ!!” พีทกระแทกเสียงตอบด้วยความรำคาญ ส่วนอาร์ตก็ลอบยิ้มอย่างพอใจ ที่ทำให้พีทพูดได้สำเร็จ



“แบมือ” อาร์ตเปลี่ยนเป็นนอนหงาย และส่งยิ้มให้พีท



“เร็วดิ” เพราะทนการรบเร้าของอาร์ตไม่ไหว สุดท้ายพีทเลยต้องยอมแบบมือออกตามสั่ง ก่อนจะทำหน้าฉงนคิ้วขมวด เมื่อเห็นว่าอาร์ตล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง



“สุขสันต์วันเกิด เลิกงอนพี่ได้แล้ว”




พีทมองกุญแจรถยนต์บนมือของตัวเองด้วยคสามตะลึง เพราะไม่คิดว่าอาร์ตจะซื้อให้จริงๆ ในเมื่ออีกฝ่ายไม่พูดเรื่องนี้เลย และเอาแต่เงียบใส่ท่าเดียว



รอยยิ้มแสนดีใจที่กระจายอยู่เต็มใยหน้าน่ารักของพีท ทำให้อาร์ตที่นอนมองอยู่ อดที่จะยิ้มตามได้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนคนแบบเขาคงให้ไม่ได้ แต่ว่าตอนนี้ถึงจะไม่ได้มีมากมายอะไร เขาก็สามารถให้ในสิ่งที่น้องขอได้ ถึงจะทำให้เครียดไม่น้อยตอนจ่ายตัง แต่ถ้าเป็นความสุขของคนที่เขารัก แค่นี้ก็ไม่ใช่ปัญหา ตราบใดที่น้องไม่ขอเครื่องบิน หรือยานอวกาศกับเขา



“เดี๋ยวพรุ่งนี้โชว์รูมจะขับรถมาให้ รอรับละกัน”




“อือ” พีทพยักหน้ารับคำงึกงัก มองกุญแจในมืออย่างชอบใจ



“รถบ้าอะไรก็ไม่รู้ โคตรแพง ขับแล้วแม่งจะเหาะได้หรือไง” อาร์ตบ่นงึมงำออกมาไม่หยุด ก่อนจะลุกขึ้นและเปลี่ยนไปนอนแผ่กลางเตียงตามเดิม



“ไม่กี่ล้านเอง” พีทเถียงเสียงเบา พร้อมกับขำในลำคอ



“ครับเมีย...นี่ทบต้นทบดอกที่แต่ก่อนไม่มีปัญญาซื้ออะไรให้หรือเปล่า”



“ไอ้บ้า...ไม่ใช่เหอะ” พีททุบลงบนอกอาร์ตเบาๆ ให้กับความช่างคิดของอีกฝ่าย ก่อนจะขยับตัวขึ้นไปนอนเกยบนตัวของอาร์ต



“เอาเหอะ ถ้าขอแบบนี้บ่อยๆ ไว้หมดตัว พี่จะมาเกาะเมียกิน” อาร์ตว่าและหลับตาลงช้าๆ มือก็ลูบแผ่นหลังเล็กที่มานอนอ้อนไปมา



“อาร์ต...ขอบคุณนะครับ” พีทดันตัวเองขึ้นแลกดจูบที่แก้มอาร์ตแผ่วเบา ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนตามเดิม



“หืม...แค่เนี่ย” อาร์ตลืมตาขึ้นมองและเอ่ยปากเย้า



จุ๊บ!!



พีทเลยดันตัวเองขึ้นอีกครั้ง และกดจูบลงไปที่แก้มอีกข้าง ก่อนจะผละถอยห่าง เมื่อเห็นสีหน้าที่ยังไม่พอใจของอาร์ต เลยกดจูบลงอีกครั้งที่ปลายคาง



“พอหรือยัง” พีทถามพร้อมกับกลั้นยิ้มเอาไว้




“ยัง” อาร์ตว่าและสบตากับพีทอย่างสื่อความหมาย



และไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ พีทจัดการแนบริมฝีปากของตัวเองเข้ากับปากของอีกฝ่ายทันที กดจูบดูดเม้มซ้ำๆ อยู่แบบนั้นจนพอใจ ก่อนจะแทรกลิ้นเข้าไปในโพรงปากที่เปิดรับอย่างว่าง่าย




ปลายลิ้นของทั้งคู่เกี่ยวกระหวัดหยอกล้อกันไปมา ดูดดึงรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนลิ้นแทบจะรวมกันเป็นอันเดียว ร่างกายบดเบียดเข้าหากันไม่หยุด มือเล็กลูบไล้ไปมาทั่วแผ่นอกหนา ในขณะที่มือหนาบีบเค้นรุนแรงไปทั่วลำตัวบอบบาง



“พอ” แต่ก่อนที่อะไรจะเลยเถิดไปมากกว่านี้ อาร์ตก็จัดการดันพีทออกห่าง และกดศีรษะเล็กแนบอก ยกมือกอดอีกฝ่ายแน่น พยายายข่มอารมณ์ที่กำลังเริ่มปะทุขึ้นมา



“แฮ่กๆๆ” พีทนอนหอบหายใจเสียงดัง เพราะเกือบจะขาดอากาศหายใจ จากจูบมาราธอนเมื่อครู่



“เมื่อไหร่ป๊ะจะเลิกทรมานพี่วะ” อาร์ตโอดครวญออกมาอย่างทรมาน เพราะตั้งแต่วันนั้นที่จนถึงตอนนี้ สองปีแล้วที่เขาไม่ได้มีอะไรกับน้องเลย นอกจากกอดจูบใสๆ แบบเด็กอนุบาล ถึงแม้ว่าตอนนี้ป๊าจะอนุญาตให้มานอนค้างคืนกับน้องบ้าง แต่ว่ายังห้ามเรื่องอย่างว่ากับเขาอยู่ ป๊าจะรู้บ้างไหมว่าเขาทรมาน และใกล้จะหมดความอดทนลงทุกวัน



“ไม่รู้” พีทตอบเสียงแผ่ว เพราะไม่ใช่แค่อาร์ตที่ทรมาน เขาเองก็เหมือนกัน อยากกลับไปแนบชิดกับอีกฝ่าย เหมือนที่เคยได้ทำก่อนนั้น



“นอนเถอะ” อาร์ตกดจูบที่กลุ่มผมนิ่ม และพลิกตัวอีกฝ่ายลงไปนอนที่เตียง



“ไม่อาบน้ำเหรอ” พีทช้อนตามองอาร์ตอย่างล้อเลียน ชอบใจที่เห็นว่าอาร์ตอยู่ในสภาพงุ่นง่าน



“อย่ายั่ว พี่ยังจำที่บอกวันนั้นได้นะ”



“ไว้ให้ป๊าใจอ่อนก่อนเหอะ ค่อยมาทวง” พีทยู่หน้าใส่เล็กน้อย ก่อนจะคว้าเอาผ้าห่มมาคลุมตัว



อาร์ตบีบปลายจมูกพีทอย่างมันเขี้ยว ก่อนจะเดินไปปิดไฟและกลับมาที่เตียง ทรุดตัวลงนอนแล้วแทรกตัวเองเข้าไปในผ้าห่มผืนหนา สอดแขนไปกอดที่เอวบางแล้วกอดแน่น พร้อมกับหบับตาลงช้าๆ เพื่อข่มอารมณ์ทุกอย่างให้สงบ เพราะอย่างน้อยก็ยังได้กลับมานอนกอดกัน บนเตียงเดียวกัน และตื่นนอนมาเห็นหน้ากัน





2 Be Con...



++++++++++++++++++

ขอโทษที่หายไปนานนะ

เนื่องจากช่วงต้นอาทิตย์ที่ผ่านมา คนเขียนค่อนข้างยุ่งกับงานประจำ

และประจวบเหมาะกับที่คนไทยทั้งประเทศได้รับข่าวร้ายที่สุด

นั่นคือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศทรงสวรรคต เมื่อวันที่ 13 ต.ค.2559 ที่ผ่านมา

ทำให้ตัวคนเขียนทำการหยุดอัพนิยายไป เพื่อน้อมถวายอาลัยแด่พระองค์ท่าน

หลังจากนี้จะกลับมาทำการอัพตามปกติค่ะ

ปล.ตอนหน้าจบแล้วนะคะ

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
หูย ป๊า  สองปีแล้วนะที่อาร์ตไม่ได้ชวนน้องพีทออกกำลังกายในร่มอ่ะ
ป๊ารีบๆใจอ่อนเถอะ สงสารลูกเขยเถอะนะป๊า :hao6: :hao6:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ ตัวไหมอ้วนกลม

  • สาว Y ไม่ใช่โรคติดต่อ แต่เป็นแล้วรักษาไม่หายนะคะ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-2
สงสารคนหื่นจะอกแตกตาย  ตอนหน้าขอให้ป๊ายกเลิกข้อตกลงนะอาร์ตนะ 55555 :laugh:  :laugh:  :laugh:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
อดทนดีเหมือนกันนะ

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
จะจบแล้วหราเนี้ย อาร์ตทำงานเลี้ยงเมียแล้วเนอะ เมื่อไหร่ป๊าจะเลิกทรมานอาร์ตนะ

ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
By matchty



กัดครั้งสุดท้าย

- You Are My Destiny –

( รัก...พรหมลิขิต )





                ในที่สุดพีทก็จบการศึกษากับเขาสักที ถึงแม้จะมีแอบเกเร เรียนๆ เล่นๆ สอบตก คะแนนห่วยบ้างเป็นบางวิชา แต่สุดท้ายก็เรียนจบมาจนได้ ถึงจะไม่ได้เกียรตินิยมตามที่หวัง เพราะโง่เกินที่จะคว้ามันมาครองได้ แต่เกรดเฉลี่ยที่จบออกมาบอกเลยว่างดงามพอควรอยู่เหมือนกัน



                เขาก็ไม่ได้อยากจะโม้อะไรให้มันมากความ เพราะคนมันเก่งตั้งแต่เกิด นี่ถ้าไม่เกรงใจเกียรตินิยมเขาก็ทำได้เหมือนกัน ติดที่ว่ากลัวพ่อจะดีใจจนเป็นลม เขาก็เลยยั้งๆ ความสามารถเอาไว้ เพราะแค่นี้เจ้าสัวพิชิตก็ยิ้มหน้าบานอยู่แล้วที่ลูกชายเรียนจบน่ะ ตื่นเต้นดีใจมากกว่าคนเรียนจบแบบเขาซะอีก



                แต่ถึงจะดีใจแค่ไหนมันก็มีแอบเหงาๆ อยู่บ้าง เพราะวันแห่งความสำเร็จในชีวิตของเขา ดันขาดคนสำคัญไปหลายคนพอสมควร คนแรกก็ไอ้เลิฟ ที่ได้แต่โทรมาแสดงความยินดีด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ เพราะมันเป้นคนเดียวในบรรดากลุ่มเขาที่เรียนไม่จบ และยังไม่หายดีพอที่จะมาแสดงความยินดีด้วยตัวเองได้ ส่วนไอ้นาวก็ยุ่งเรื่องเรียนจบเหมือนกัน เลยได้แต่สไกป์แสดงความยินดีกันไป ภาพร่วมเฟรมในชุดรับปริญญาวันนี้เลยมีแค่เขา ไอ้กั้ม ไอ้เนยแค่ 3 คน



                แต่ในความหงอยหงอยของชีวิตก็ดันมีเรื่องให้ช็อกสุดๆ อยู่เหมือนกัน เรียกว่าโคตรจะเซอร์ไพรซ์เลยล่ะ เพราะจู่ๆ ไอ้พี่วินอดีตเบ้ประจำตัวของเขา ดันหอบดอกไม้มาแสดงความยินดี พร้อมกับการ์ดเชิญไปงานแต่งน่ะสิ แถมเจ้าสาวนี่เขาบอกได้คำเดียวว่าสวยหยาดฟ้ามาดิน สวยแบบที่ไม่น่าตาต่ำมาคว้าไอ้พี่วินไปทำผัว ตอนนี้นอกจากที่คนรอบข้างจะแสดงความยินดีกับเขา ก็พากันแห่ไปอิจฉาไอ้พี่วินหมด




                ในระหว่างที่ทุกคนต่างพากันยิ้มแย้มอย่างมีความสุข พีทก็แอบถอนหายใจออกมาเบาๆ ด้วยความเหงา ก็อย่างที่บอกนั่นแหละว่าในวันนี้ ข้างกายเขาขาดคนสำคัญไปหลายคน หนึ่งในนั้นก็คือ...อาร์ต




                เขาไม่ได้โกรธที่อีกฝ่ายไม่ได้มา แต่มันก็มีน้อยใจบ้างเป็นธรรมดา เขารู้ว่าอีกฝ่ายพยายามแล้วที่จะยกเลิกงาน เพื่อที่จะแสดงความยินดีกับเขาในวันนี้ จะเป็นเขาเองที่ไม่อยากให้อีกฝ่ายเสียงาน ก็โชว์แมนไง สุดท้ายเลยมานั่งเหี่ยวอยู่แบบนี้



                กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด



                แต่แล้วความคิดของพีทก็ต้องหยุดชะงักลง เมื่อมีเสียงกรี๊ดดังขึ้นสนั่นตรงหน้าคณะ ก่อนที่หัวใจจะเต้นรัวแรงเมื่อเห็นเงาร่างคุ้นตาของใครบางคน ที่กำลังก้าวเดินตรงมาหาพร้อมกับคิตตี้ตัวใหญ่ในมือ



                “ดีใจด้วยนะครับบันฑิตใหม่” อาร์ตยื่นตุ๊กตาตัวโตในมือให้พีท พร้อมกับส่งยิ้มให้อย่างล้อเลียน



                “ทำไมมาได้ล่ะ” พีทถามเสียงแผ่วพร้อมกับใบหน้าเปื้อนยิ้ม มือก็ยื่นไปรับตุ๊กตาจากอีกฝ่ายมาถือไว้



                “หนีงานมา”



                “เฮ้ย!! จริงดิ” พีทถึงกับทำตาโตทันที



                “ล้อเล่น งานมันเสร็จเร็ว นึกว่าจะไม่ทันแล้วเหมือนกันนะเนี่ย” อาร์ตอมยิ้มขำแล้วยกมือยีหัวพีทด้วยความเอ็นดู



                “กวนตีน ตกใจหมด แม่ง!!” พีทว่าหน้างอแล้วยกตุ๊กตาฟาดอาร์ตด้วยความหมั่นไส้



                “ฮ่าๆ ว่าแต่ชอบป้ะ ของขวัญ” อาร์ตหัวเราะลั่นอย่างชอบใจ แล้วใช้ปลายนิ้วเกลี่ยแก้มใสเล่น



                “อืม” พีทยิ้มเขินแล้วเอาหน้าซุกเข้ากับตุ๊กตา ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน จู่ๆ ถึงได้เขินขึ้นมา



                “กอดป้ะ”



                “ห๊ะ!!” พีทเงยหน้ามองอาร์ตด้วยความไม่เข้าใจ ก่อนจะรู้ว่าตัวเองไม่ได้หูฟาด เมื่ออาร์ตค่อยๆ กางแขนออก และในวินาทีนั่นพีทก็โผเข้าหาอ้อมกอดของอีกฝ่ายทันที



                อาร์ตกดจูบลงที่กลุ่มผมนุ่มซ้ำๆ มือก็ลูบแผ่นหลังเล็กไปมาไม่หยุด รู้สึกดีใจและภูมิใจไม่น้อยเลยกับคนรัก ที่ได้เห็นอีกฝ่ายประสบความสำเร็จในชีวิตไปอีกขั้น



                ฟอดดดด



                “ขอบคุณนะอาร์ต” พีทเขย่งตัวขึ้นหอมแก้มอีกฝ่าย และส่งยิ้มไปให้อย่างน่ารัก ทำเอาอาร์ตถึงกับตาพร่าไปหมด



                “เฮ้ยๆ พอๆ จะหวานอะไรกัน ช่วยเกรงใจพวกกูด้วย” แต่แล้วบรรยากาศที่เริ้มเป็นสีชมพูก็ถูกขัดจนล่มไม่เป็นท่า ด้วยน้ำมือของอ้นที่ทนอิจฉาปนหมั่นไส้ทั้งคู่ไม่ไหว



                พีทที่เพิ่งจะรู้สึกตัวว่าเผลอทำอะไรลงไป ก็ได้แต่ยืนหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย ก่อนจะซุกหน้าลงกับแผ่นออกกว้างของอาร์ต เพื่อหนีสายตาทุกคนที่มองมาอย่างสนใจและล้อเลียน



                “กิ้วๆ เขินเหรอน้อง”



                “ฮิ้ววววววว สาบานว่าแสดงความยินดีรับปริญญา ไม่ใช่ขอแต่งงาน”



                “กรี๊ดดดดดดดดดดดดด”



                เสียงโห่ร้องตะโกนแซว และเสียงกรี๊ดสนั่นจากคนรอบข้าง ทำเอาพีทไม่กล้าที่จะเงยหน้าออกมาจากอก เพราะนี้มันเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ ที่เขาเผลอทำความแตกเองตลอดแบบนี้



                “พอๆ เลิกแซว เดี๋ยวกูซวยอีก” อาร์ตออกปากห้ามทุกคนอย่างไม่จริงจัง แขนก็กอดพีทไว้แน่น พร้อมกับมองหลายคนที่ยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปด้วยรอยยิ้ม พนันได้เลยไม่เกินคืนนี้หรอก รูปของเขากับพีทคงว่อนเน็ต ถือว่าเปิดตัวแฟนต่อสังคมได้แบบโด่งดังดีล่ะนะ



                ...

                ...



                “อ้าวป๊า...จะไปไหนอ่ะ” พีทที่เพิ่งจะกลับมาจากออกไปเที่ยวกับอาร์ต มองกระเป๋าเสื้อผ้าที่วางอยู่หน้าบ้าน สลับกับมองพ่อของตัวเอง ที่อยู่ในสภาพเตรียมตัวเดินทางด้วยความงุนงง



“ออสเตรีย” เจ้าสัวพิชิตส่งยิ้มให้เล็กน้อย ก่อนจะหันไปสั่งให้คนงาน ขนกระเป๋าขึ้นรถ



“ป๊าจะไปทำอะไรที่ออสเตรีย” คิ้วสองข้างขมวดเข้าหากันด้วยความฉงน เพราะพีทจำไม่เห็นจะได้ว่ามีคู่ค้าอยู่ที่ประเทศออสเตรียด้วย



“ป๊าว่าจะไปเที่ยวสักอาทิตย์” คำตอบของพ่อทำเอาพีทอ้าปากค้างด้วยความอึ้ง ไปเที่ยวเนี่ยนะ? ไปเที่ยวในวันที่ลูกชายเพิ่งจะเรียนจบ




“ป๊าทำงี้ได้ไงอ่ะ” พีทโวยวายขึ้นทันทีแบบไม่เสียเวลาคิดให้เยอะ ใบหน้าบึ้งตึงมองพ่อตัวเองอย่างไม่พอใจ



“ป๊าทำอะไร” เจ้าสัวพิชิตถามด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย ไม่ได้นำพากับท่าทางของลูกชายเท่าไหร่



“ก็ป๊าจะไปเที่ยวอ่ะ"



"ใช่...ป๊าจะไปเที่ยว แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเราล่ะ"



พีทถึงกับทำหน้างอง้ำ เมื่อเห็นว่าพ่อดูจะไม่สนใจตัวเองเท่าไหร่



"ก็ผมเพิ่งรับปริญญาอ่ะ ป๊าควรจะอยู่ฉลองกับผมดิ" พีทพูดอย่างเอาแต่ใจ และก็ออกอาการหัวเสียเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าพ่อจะทิ้งตัวเองไว้ และหนีไปเที่ยว ทั้งๆ ที่วันนี้เป็นวันสำคัญของเขาแท้ๆ



"วันนี้ป๊าอยู่บ้านทั้งวัน ไม่เห็นว่าเราจะอยากอยู่ด้วย ออกไปเที่ยวกับแฟนจนลืมป๊า ยังจะมีหน้ามาโกรธป๊าอีกเหรอ" เจ้าสัวพิชิตส่ายหัวไปมา และถอนหายใจอย่าเอือมระอา ให้กับความเอาแต่ใจของลูกชาย ที่นับวันจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ



“ก็ไอ้พี่อาร์ตมันชวน ป๊าก็ว่ามันดิ” คนที่อยู่ๆ ก็ถูกลากเข้าไปเกี่ยว และโดนโยนความผิดให้แบบอาร์ต ถึงกับต้องหันมองหน้าพีทด้วยความอึ้ง เพราะไม่คิดว่าจะกลายเป็นคนผิดซะได้



“หึๆ ว่าไงล่ะเรา” เจ้าสัวพิชิตหัวเราะเบาๆ ในลำคอ และเอ่ยเย้าอาร์ตอย่างขบขัน



“อ่า...ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ว่าผิดได้ยังไง” อาร์ตตอบเนือยๆ พร้อมกับทำหน้าเมื่อยส่งให้เจ้าสัวพิชิต ตอนเขาบอกว่าจะพาไปเที่ยว กระโดดโลดเต้นดีใจซะยกใหญ่ ทีตอนนี้โทษว่าเป็นความผิดเขาซะงั้น



“ความผิดพี่มึงนั่นแหละ...ว่าแต่ป๊าจะไปจริงดิ” พีทแยกเขี้ยวใส่อาร์ต แล้วเดินไปกอดแขนพ่อ แนบใบหน้าซุกกับอกและถูไถไปมา ทำท่าทางอ้อนจนเจ้าสัวพิชิตต้องหลุดหัวเราะออกมา



“จะอ้อนเอาอะไร” เจ้าสัวพิชิตยกมือลูบหัวลูกชายอย่างอ่อนโยน แล้วเอ่ยถามดักคออย่างรู้ทัน



“ฮี่...ของขวัญรับปริญญาอ่ะป๊า” พีทดันตัวเองออกมาจากอกและฉีกยิ้มกว้าง พร้อมกับแบมือไปตรงหน้าของพ่อทันที




“นี่สินะจุดประสงค์หลัก” เจ้าสัวพิชิตส่ายหัวอย่างอ่อนใจ ท่านคิดเอาไว้อยู่แล้วว่ามันแปลกๆ ปกติเวลาท่านจะไปไหน ไม่เคยเห็นพีทจะโวยวายสักที



“เปล่าสักหน่อย อยากให้ป๊าอยู่ด้วยจริงจริ๊ง” พีทปฏิเสธเสียงสูงเป็นพัลวัน ตาก็เสมองไปทางอื่นไม่ยอมสบตากลับใครทั้งนั้น ทำตัวไม่รู้ไม่ชี้ว่าตัวเองโดนจับได้



“เฮ้อ!!!” เจ้าสัวพิชิตถอนหายใจเสียงดัง และหันไปมองหน้ากับอาร์ตที่ยืนยื้มขำด้วยความเอือมระอา อยากจะหาตัวช่วยขัดใจลูกชาย แต่ดูแล้วคงจะไม่มีหวัง เพราะอาร์ตก็ชอบตามใจพีทแบบท่านนั่นแหละ เจ้าตัวถึงได้นับวันยิ่งเอาแต่ใจหนักข้อขึ้น



“ไปดีกว่า” เจ้าสัวพิชิตไม่ได้ตอบตกลงอะไรกับพีททั้งนั้น และเลือกที่จะเดินไปขึ้นรถทันที ไม่นำพาเสียงโวยวายดังลั่นที่ดังตามหลังมาติดๆ ของลูกชาย



“ป๊า!!! เดี๋ยวดิ ของขวัญผมอ่ะ” พีทยังโวยวายทวงของไม่หยุด แต่เจ้าสัวพิชิตก็ยังคงมองเมิน เจ้าตัวเลยออกอาการงอนสะบัดหน้าหนี



เจ้าสัวพิชิตมองตามหลังลูกชายที่งอนตุ๊บป่อง แล้วก็อดที่จะขำออกมาไม่ได้ นับวันอาการยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ นิดหน่อยงอน  นิดหน่อยไม่พอใจ จนท่านเริ่มคิดว่ามีลูกชายหรือลูกสาว ก่อนจะกวักมือเรียกอาร์ตให้เดินเข้ามาหาแทน



อาร์ตเลิกคิ้วมองผู้สูงวัยกว่าด้วยความฉงน ก่อนจะเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายอย่างว่าง่าย แม้จะยังไม่เข้าใจอะไรมากก็ตาม แต่คิดว่าคงไม่พ้นเรื่องฝากฝังพีทอีกตามเคนนั่นแหละ



“จำข้อตกลงของเราได้ไหม” คำถามที่ไม่คาดคิดว่าจะได้ยิน ทำเอาอาร์ตถึงกับมองเจ้าสัวพิชิตตาโต ก่อนจะพยักหน้างึกงักว่าจำได้ ถ้าเขาลืมสิแปลก



“ผ่านมากี่ปีแล้วนะ”



“2 ปี 4 เดือนครับ” อาร์ตตอบคำถามกลับไปแบบระบุวันชัดเจน เพราะเรียกว่านับวันในหัวทุกลมหายใจเข้าออกเลยทีเดียว



“เธอว่ามันนานไหม”



“นานครับ” อาร์ตตอบทันควันแบบไม่คิดเยอะ และตรงจนเจ้าสัวพิชิตหลุดขำ



“ระยะเวลาพอๆ กับที่เธอแอบคบลูกชายฉันเลยนะ ว่าไหม” เจ้าสัวพิชิตยังคงพูดเรื่อยๆ แต่ทำเอาใบหน้าของอาร์ตซีดลง และส่งยิ้มเจื่อนๆ ไปให้ผู้สูงวัยกว่า ในใจก็ภาวนาไม่ให้พ่อของคนรักแกล้งอะไรเพิ่ม



“เคยแหกกฎบ้างไหม”



“แค่เกือบๆ แต่ยังครับ” เมื่อโดนถามมา อาร์ตเองก็ตอบตรงๆ เพราะวินาทีนี้ เขาต้องเอาความจริงใจเข้าสู้อย่างเดียวเท่านั้น



“ขอบใจที่เธอไม่โกหก” เจ้าสัวพิชิตส่งยิ้มให้อาร์ตอย่างเอ็นดู ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่



“เอาเถอะ ถึงฉันจะยังขัดใจ และรู้สึกว่าควรจะทำโทษพวกเธออีกนิด แต่ในเมื่อเธอก็ทำตัวดีมาตลอดให้ฉันเห็น เจ้าลูกชายฉันก็เรียนจบแล้ว...ถือว่าฉันให้ของขวัญละกัน”



“มะ...หมายความว่า” อาร์ตถึงกับติดพูดติดอ่าง มองหน้าเจ้าสัวพิชิตจนตาแทบถลน หัวใจเต้นกระหน่ำรัวแรงอย่างบ้าคลั่ง




“อืม” เจ้าสัวพิชิตพยักหน้าลงเล็กน้อย ก่อนจะยื่นมือมาตบที่ไหล่อาร์ต



“เบามือหน่อยล่ะไอ้ลูกเขย เดี๋ยวลูกชายฉันช้ำหมด” คำพูดของเจ้าสัวพิชิตทำให้อาร์ตยิ้มกว้าง ดีใจจนอยากจะโห่ร้องตะโกนให้ลั่นบ้าน แต่ก็ต้องควบคุมมันเอาไว้ เพราะกลัวว่าถ้าดีใจออกนอกหน้าเกิน เจ้าสัวพิชิตท่านจะเปลี่ยนใจ



“พีท!!!” เจ้าสัวพิชิตหันไปตะโกนเรียกลูกชาย ที่เอาแต่ยืนงอนหันหลังให้ เมื่อเห็นว่าเจ้าตัวหันมามอง ท่านก็กวักมือเรียกให้เข้ามาหา



“อะไรอ่ะป๊า จะให้ของขวัญแล้วเหรอ” พีทที่เดินกระแทกเท้าปึงปัง ใบหน้างอง้ำเข้ามาหา เอ่ยถามขึ้นอย่างกวนโอ๊ย



“ใช่...ป๊าให้ของขวัญ” คำตอบของพ่อทำเอาพีทตาโต แววตาเป็นประกายวิบวับอย่างตื่นเต้น



“อะไรอ่ะป๊า”




“หึ ป๊าฝากอาร์ตไว้ ไปถามพี่เขาดู” พีทถึงกับขมวดคิ้วมุ่น หันมองหน้าอาร์ตทันที ก่อนจะส่งสายตาไปคาดคั้นขอคำตอบ แต่อีกฝ่ายไม่บอกอะไรนอกจากยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่พีทบอกเลยว่าเสียวสันหลีงแปลกๆ




“ป๊าไปแล้วนะ เดี๋ยวตกเครื่อง”



“ครับ...เดินทางปลอดภัยนะครับ” อาร์ตยกมือไหว้ลาอย่างนอบน้อมและส่งยิ้มให้



“ป๊า!! อย่าลืมของฝากนะ” ส่วนพีทเอ่ยทวงของฝากทันที เลยโดนเจ้าสัวพิชิตเขกกะโหลกด้วยคสามหมั่นไส้ ก่อนที่ท่านจะฝากฝังร่ำลาอีกเล็กน้อย และสั่งคนขับรถให้ออกเดินทางได้



พีทยืนมองรถของพ่อที่ขับออกจากบ้านไปจนลับสายตา ก่อนจะหันกลับมามองหน้าอาร์ตที่ยืนข้างๆ อีกครั้ง และหรี่ตามองอีกฝ่ายอย่างหาความผิดปกติ



“อาร์ต...ป๊าฝากของขวัญอะไรไว้อ่ะ” เมื่อพยายามมองแล้วแต่หาไม่เจอ พีทเลยตัดสินใจถามออกไปตรงๆ แทน



“อยากรู้” อาร์ตมองหน้าพีทแล้วยิ่มกริ่ม ส่วนพีทก็พยักหน้างึกงักแข็งขัน



“มันอยู่บนห้อง” อาร์ตว่าและยิ้มที่มุมปาก



“จริงดิ...งั้นต้องขึ้นไปดู” พีททำโนด้วยความตื่นเต้น และคว้าเอามืออาร์ต ดึงอีกฝ่ายให้กลับห้องนอนด้วยกัน เพราะอยากจะแกะของขวัญที่พ่อให้ต่อหน้าคนสำคัญ



“อาร์ตรู้ป้ะ ว่าป๊าให้อะไร” พีทถามเจื้อยแจ้วไม่หยุด ออกอาการตื่นเต้นแบบปิดไม่มิด



“มุก” คำตอบสั้นๆ ของอาร์ต ทำเอาพีทขมวดคิ้วมุ่นและหยุดฝีเท้าลง ก่อนจะหันกลับมามองอาร์ตด้วยความไม่เข้าใจ



“เข้าห้องไปเดี๋ยวก็รู้” อาร์ตบอกด้วยน้ำเสียงและท่าทางปกติ ก่อนจะเอื้อมมือไปประตูห้องนอน และดันหลังพีทให้เข้าไปข้างใน



“มุก...ทำไมป๊าให้มุกอ่ะ แน่ใจเหรออาร์ตว่าเป็นมุก เอามาแล้วใช่อะไรได้อ่ะ” พีทบ่นงึมงำพร้อมกับทำหน้าไม่พอใจเท่าไหร่ ที่ของขวัญเป็นมุก ก็เขาไม่ได้เป็นผู้หญิง จะเอามุกมาทำไม



อาร์ตได้ตอบคำถามอะไรพีท นอกจากยิ้มกริ่มและมองเจ้าตัว ที่ยังไม่รู้ตัวว่ากำลังจะถูกขย้ำด้วยสายตาวาววับ วันนี้สัญญาด้วยเกียรติของเขาเลย ถ้าพีทได้นอนก่อนฟ้าสว่าง เขาจะยอมงดกิจกรรมเข้าจังหวะอีก 2 ปี



“อาร์ต!!! ไหนมุกอ่ะ” เสียงตะโกนถามของพีท พร้อมกับร่างเล็กที่ก้มๆ เงยๆ อยู่ข้างเตียง ทำให้อาร์ตกระตุกยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์



“เดี๋ยวพี่หยิบให้ดูครับ” อาร์ตปิดประตูห้องนอนและจัดการล็อกเรียบร้อย พร้อมกับสาวเท้าเข้าไปหาพีทอย่างอารมณ์ดี ก็เขากำลังจะได้ทวงสัญญาที่น้องกระซิบบอกเมื่อ 2 ปีก่อนสักที

 

“อย่าหงุดหงิดสิไอ้หื่น ถ้าทนได้ สัญญาว่าจะตามใจทั้งคืน”

 

‘ชีวิตมันทำไมมีความสุขแบบนี้นะ เขาจะจัดเน้นๆ ทั้งคืน พร้อมกับบอกน้องด้วย ว่ามุกน่ะ... จะได้ใช้ทำอะไร’



ปัง!!!!!!



บานประตูที่ปิดลงในค่ำคืนนี้ ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับความรัก มันพร้อมที่จะปิดลงได้เสมอ และเปิดออกได้ในทุกๆ ครั้ง ในวันที่เราอยากจะก้าวเดินออกไป มันไม่เคยมีคำว่าจบบริบูรณ์ในสิ่งที่เรียกว่าความรัก และไม่มีความรักของใครบนโลกที่สมบูรณ์แบบ



แม้ชีวิตอาจจะไม่ได้รักกันจนวันตาย หรือเราอาจจาจต้องจากกันในสักใดวันหนึ่ง แต่ถึงอย่างนั้นสำหรับคนทั้งคู่ แค่ขอให้นาทีนี้ วินาทีนี้ ในทุกๆ ครั้งที่เปิดปิดประตู ยังคงได้เห็นใบหน้าของคนๆ เดิม คนที่หัวใจมอบคำว่ารัก คนที่หัวใจเชื่อว่ามันคือพรหมลิขิต คนที่ภาวนาในทุกๆ วัน ว่าขอให้เราได้อยู่เคียงข้างกันแบบนี้...ตลอดไป





- FIN -



+++++++++++++++++++

จบแล้วนะคะสำหรับเรื่องนี้

บอกเลยว่าแอบใจหายเหมือนกัน

บอกตรงๆ ว่าค่อนข้างผูกพันกับทั้งคู่ ไม่น้อยกว่าปอเลิฟเลย

แต่ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกลา

หากแม้นมีโอกาส และเหมาะสม

อาจจะได้เจอกันภาค 2 ล่ะมั้ง 555

ขอบคุณทุกคนที่ตามอ่านมาจนถึงตอนนี้

ขอบคุณที่ไม่ทิ้งกันไป

ขอบคุณที่รักอาร์ตพีท

ขอบคุณแทนตัวละครทุกตัวด้วยนะคะ

สุดท้ายแม้มันจะไม่ได้ออกมาสมบูรณ์แบบ

แต่ทุกตัวอักษรกลั่นมันมาจากหัวใจเสมอค่ะ

รักและขอบคุณนอ่านนะคะ

ปล.

ตอนพิเศษเจอกันในเล่มนะคะ ไม่แซ่บให้เอาไม้ตีหัว (ย้ายบ้านแพ่บ)

เรื่องต่อไป เจอกันใน ปอเลิฟ 2 ปอเลิฟ spin off และ แสนชังนะคะ

และอีกนิด อย่าทำร้ายเราเลย อาร์ตพีทมันกวนๆ จบมันก็ต้องกวนๆนั่นและ อิ อิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-10-2016 16:40:27 โดย matchty »

ออฟไลน์ pang_mingi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สนุกๆมากเลย อ่านทีเดียว50กว่าตอน เป็นกำลังใจให้สร้างสรรค์ผลงานดีๆต่อไปนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
พีท มุกที่พี่อาร์ตว่าพีทคงได้เห็นยันเช้าอ่ะงานนี้ :z1: :z1: :z1: :z1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ตัวไหมอ้วนกลม

  • สาว Y ไม่ใช่โรคติดต่อ แต่เป็นแล้วรักษาไม่หายนะคะ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-2
 :hao7:  พ่อใจดีเน๊อะให้ มุก

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
มุก จ้าาาาาา  :pig4: :pig4:

และแล้วก็จบ :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ allegiant1994

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
สนุกมากเลยค่ะ อ่ายรวดเดียวเลย55555555 o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:   ขอบคุณครับบบบบบบบ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ ShadeoftheMoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน ตามมาจากเรื่อง ปอเลิฟ ไม่รู้ว่าพลาดเรื่องนี้ไปได้ยังไง...พีทนี่นายเอกคนละแบบกับเลิฟเลย ตรงกันข้ามราว
หน้ามือกับหลังมือ บอกตามตรง งง เหมือนกันว่า อาร์ตมาหลงรักพีทได้ไง เอาแต่ใจ เหวี่ยง วีน แต่ก็นะเวลาเขาอยู่ด้วยกันมุ้งมิ้ง
น่ารักดี จะรอติดตามเรื่องต่อไป

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ถึงพีทจะแสนดื้น ขี้งอน เหวี่ยง วีนไปบ้างแต่อาร์ตก็รักพีทมาก อดทนและผ่านอุปสรรคด้วยกัน เสียดายอย่างเดียวตอนจบไม่ได้ดูมุกที่อาร์ตจะให้พีท :laugh:

ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆค่ะ รอเรื่องต่อไปนะคะ :pig4:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ ashbyipcet

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
แหมพีทมุกของ***เฮียไง 55555555 :hao6:

ออฟไลน์ Pramooknoi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
สนุกมากๆ. แม้เนื้อเรื่องจะไม่หวือหวา นะ แต่คำผิดเยอะไปหน่อย :mew1:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ isuloveU Soly

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อ่านรวดเดียว คือดีงามมากๆ อีพี่อาร์ตนี่ก็ตล๊อดตลอด น่ารักดีช๊อบชอบน้องพีท ตอนอ่านตอนจบแอบใจหายแบบ เห๊ยเราดูผูกพันกะตัวละครคิดถเพื่อนแก้งค์น้องพีท มันคงเหงาในวันที่เราไม่มีเพื่อนอยู่ข้างๆ ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆ ให้อ่านค่ะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ thyme812

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 313
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด