คู่กัดฉบับรักเกินร้อย ตอนที่ 58 - END (19/10/2559)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คู่กัดฉบับรักเกินร้อย ตอนที่ 58 - END (19/10/2559)  (อ่าน 115087 ครั้ง)

ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-10-2016 15:12:15 โดย matchty »

ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
ดีจ้า matchty หรือ แม่มณีเจ้าเก่าเอง

เรื่องนี้เป็นคู่ของอาร์ต x พีท

หนุ่มมาดกวนสไตล์ลูกทุ่ง ปะทะ ลูกคุณหนูที่ชีวิตไม่เคยเจอคำว่าลำบาก

หนึ่งในคู่เพื่อนจากเรื่อง >>> กับดักรักเกมหัวใจ

ยังไงก็ฝากติดตามอีกซักเรื่องนะคับ กราบบบบบ ^/\^

** นิยายปกติจะอัพวันเว้นวันนะคะ (ถ้าไม่ติดอะไรจริงๆ) **

มีอะไรสอบถามพูดคุยได้ในเพจเลยนะคะ


- MATCHTY-แม่มณี -

สารบัญ

- กัดครั้งที่ 1   - กัดครั้งที่ 2
- กัดครั้งที่ 3   - กัดครั้งที่ 4
- กัดครั้งที่ 5   - กัดครั้งที่ 6
- กัดครั้งที่ 7   - กัดครั้งที่ 8
- กัดครั้งที่ 9   - กัดครังที่ 10
- กัดครั้งที่ 11   - กัดครั้งที่ 12
- กัดครั้งที่ 13   - กัดครั้งที่ 14
- กัดครั้งที่ 15   - กัดครั้งที่ 16
- กัดครั้งที่ 17   - กัดครั้งที่ 18
- กัดครั้งที่ 19   - กัดครั้งที่ 20
- กัดครั้งที่ 21   - กัดครั้งที่ 22
- กัดครั้งที่ 23   - กัดครั้งที่ 24
- กัดครั้งที่ 25   - กัดครั้งที่ 26
- กัดครั้งที่ 27 Part ต้น   - กัดครั้งที่ 27 Part จบ
- กัดครั้งที่ 28 Part ต้น[/url   [url=http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52941.msg3416705#msg3416705]- กัดครั้งที่ 28 Part จบ[/size]
- กัดครั้งที่ 29 Part ต้น   - กัดครั้งที่ 29 Part จบ
- กัดครั้งที่ 30 Part ต้น   - กัดครั้งที่ 30 Part จบ
- กัดครั้งที่ 31 Part ต้น   - กัดครั้งที่ 31 Part จบ
- กัดครั้งที่ 32 Part ต้น   - กัดครั้งที่ 32 Part จบ
- กัดครั้งที่ 33   - กัดครั้งที่ 34
- กัดครั้งที่ 35 Part ต้น   - กัดครั้งที่ 35 Part จบ
- กัดครั้งที่ 36 Part ต้น   - กัดครั้งที่ 36 Part จบ
- กัดครั้งที่ 37 Part ต้น   - กัดครั้งที่ 37 Part จบ
- กัดครั้งที่ 38   - กัดครั้งที่ 39
- กัดครั้งที่ 40   - กัดครั้งที่ 41
- กัดครั้งที่ 42   - กัดครั้งที่ 43
- กัดครั้งที่ 44   - กัดครั้งที่ 45
- กัดครั้งที่ 46   - กัดครั้งที่ 47
- กัดครั้งที่ 48   - กัดครั้งที่ 49
- กัดครั้งที่ 50   - กัดครั้งที่ 51
- กัดครั้งที่ 52   - กัดครั้งที่ 53
- กัดครั้งที่ 54   - กัดครั้งที่55
- กัดครั้งที่ 56   - กัดครั้งที่ 57
- กัดครั้งสุดท้าย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-10-2016 15:27:49 โดย matchty »

ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
กัดครั้งที่
- 1 -
   


   รถมอเตอร์ไซค์ฟีโน่สีชมพูหวานแหววลายกราฟฟิคชายทะเล เคลื่อนตัวเข้ามาจอดช้าๆที่ลานจอดรถด้านหลังคณะวิศวะ โดยเจ้าของรถเลือกที่จะจอดเจ้าสองล้อคู่ใจไว้ที่ประจำซึ่งเป็นที่สำหรับจอดรถยนต์ แต่ไม่มีใครสักคนที่จะกล้าเอ่ยปากว่าหรือห้าม และปล่อยให้ไอ้สองล้อสีชมพูคันนี้ จอดอยู่ของมันมา 3 ปีแล้ว

   เมื่อดับเครื่องยนต์สนิทเจ้าของรถก็ถอดกุญแจออกและจัดการล็อกคอให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันไม่ให้คนมาขโมยลูกสาวสุดที่รักไปจากอก ก่อนจะถอดหมวกกันน็อกเต็มใบยี่ห้อดังที่ใช้สำหรับคนขับบิ๊กไบค์ออกจากหัว แล้วนำไปวางลงบนตระกร้ารถด้านหน้าอย่างหวงแหน เพราะมีความใฝ่ฝันว่าสักวันตัวเองจะได้ใช้มันกับบิ๊กไบค์คู่ใจในอนาคต (ถ้ามีปัญญาซื้อ)

   ใบหน้าที่ไร้การปกปิดจากหมวกกันน็อกใบโตก้มลงไปส่องกระจก แล้วลงมือจัดทรงผมตัวเองให้เข้าที่เข้าทาง ก่อนจะหันไปเปิดเบาะรถเพื่อหยิบเอาผ้าขึ้นมาเช็ดให้ลูกสาวสุดที่รัก ระหว่างที่เช็ดก็ผิวปากคลอไปอย่างอารมณ์ดี

   “พี่อาร์ต!!! แฮ่กๆๆ อยู่นี่เอง” เจ้าของชื่อชะงักมือตัวเองแล้วเงยหน้ามองคนเรียก ก่อนจะขมวดคิ้วเป็นปมด้วยความแปลกใจแล้วหันไปเก็บผ้าลงใต้เบาะรถเหมือนเดิม เพราะดูท่าแล้วเขาคงจะไม่ได้เช็ดรถต่อแน่ๆ

   “มีเหี้ยไร” อาร์ตถามด้วยความรำคาญก่อนจะนั่งลงบนเบาะรถ มองรุ่นน้องที่ยืนหอบเหมือนหมาอย่างไม่ใส่ใจ

   “กะ...เกิดเรื่องแล้วพี่ พวกไอ้ต้ากำลังจะตีกับพวกไอ้โชนหน้าคณะ” รุ่นน้องที่คาบข่าวมาบอกใบหน้าเต็มไปด้วยความวิตกอย่างเห็นได้ชัด

   “สัส!! หาเรื่องให้กูตั้งแต่วันแรก” อาร์ตสบถออกมาด้วยความหงุดหงิดยกมือขึ้นขยี้ผมจนยุ่ง ก่อนจะเดินไปหน้าคณะด้วยความเร็วเพราะขืนช้าพวกแม่งตีกัน คนซวยจะเป็นเขาขี้เกียจจะมีปัญหากับพวกใหญ่กว่า

   “พวกมึงมีเรื่องเหี้ยอะไรกัน” เสียงตะโกนดุดันที่ดังขึ้นท่ามกลางความตึงเครียด ทำให้ทั้งสองฝ่ายที่จ้องจะเปิดศึกต้องหยุดชะงัก ก่อนจะพากันยืนเงียบและถอยห่างจากกันเมื่อเห็นว่าใครมา

   “เป็นรุ่นพี่กันแล้วเสือกจะมากัดกันไม่อายน้องมันรึไงวะ” อาร์ตถามรุ่นน้องเสียงเข้มแล้วมองไปที่ทุกคนดุๆ ก่อนจะสะดุดเข้ากับเด็กเนิร์ดรูปร่างสูงใหญ่ที่ไม่คุ้นหน้าแต่มีบรรยากาศแปลกๆ

   “ขอโทษครับพี่” ฝุ่นที่ถือว่าเป็นคนใจเย็นที่สุดเอ่ยปากขอโทษออกมาพร้อมกับค้อมหัวให้นิดๆ ทำให้อาร์ตเลิกสนใจเด็กเนิร์ดตรงหน้าแล้วหันมาหารุ่นน้องแทน

   “อย่าสร้างปัญหาตั้งแต่วันแรกถือว่ากูขอ” อาร์ตบอกรุ่นน้องด้วยน้ำเสียงจริงจังแล้วโบกมือไล่ให้แยกย้าย ก่อนจะเดินกลับไปหาเพื่อนที่คงรวมตัวกันอยู่ที่ประจำซุ้มโต๊ะไม้ข้างคณะ

   “เป็นเหี้ยอะไรมึงหน้าเป็นส้นตีน” กลอนเงยหน้าขึ้นมาเจออาร์ตที่เดินเข้ามาด้วยใบถมึงทึงด้วยความแปลกใจ แต่อาร์ตไม่ได้ตอบคำถามอะไรเพื่อนออกไปนอกจากทำหน้าเซ็ง แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยความหงุดหงิด

   “บุหรี่ดิ๊” อาร์ตเอ่ยปากขอพร้อมกับกระดิกนิ้วยิกๆก่อนจะรับมาแล้วจุดสูบทันที

   “มาถึงก็อัดมะเร็ง” อ้นว่าด้วยความขำก่อนจะมองใบหน้าหล่อเหลาของเพื่อนสนิทอย่างระอา

   อาร์ตจัดว่าเป็นผู้ชายที่เรียกได้ว่าหล่อชนิดหาตัวจับได้ยากคนนึง กล้าพูดได้เลยว่าในมหา’ลัยตอนนี้ไม่มีใครหล่อเท่ายกเว้นเพื่อนในกลุ่มอีกคนที่อยู่คณะบริหาร อดีตเดือนมหา’ลัยที่เฉือนเอาชนะอาร์ตตอนประกวดไปแค่คะแนนเดียว

   ผมสีแดงเพลิงที่ตัดกับผิวสีขาวของเจ้าตัว เจาะที่หางคิ้วและระเบิดหูและรอยสักตัวอักษรทั้งแปดนิ้ว ข้างนึงสักคำว่า ‘KILL’ ส่วนอีกข้างสักเลขโรมัน ‘XVII’ ที่ไม่มีใครรู้ความหมายนอกจากเจ้าตัว และด้วยรูปร่างหน้าตาที่โดดเด่นบวกกับบุคลิกที่เรียกว่าเป็นเอกลักษณ์ ทำให้อาร์ตเป็นที่ดึงดูดและจดจำได้ง่าย ไหนจะความดังที่ขึ้นชื่อว่าโหด โฉด เหี้ย เถื่อน ผู้ชายที่มีคำนิยามเหมาะสมกับการเป็นเด็กช่างกล และเป็นคนคุมเด็กวิศวะทั้งหมดยิ่งทำให้เป็นที่รู้จักไปทั่ว

   “ว่าไงมึงตกลงมีเรื่องเหี้ยอะไร” กลอนตัดสินใจถามอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเพื่อนเริ่มหายหงุด และนั่งพ่นควันบุหรี่เล่นอย่างไม่ได้สนว่านี่คือสถานศึกษาแต่อย่างใด เพราะคนอย่างไอ้อาร์ตมันสะกดคำว่าสามัญสำนึกไม่เป็น

   “ไม่มีไร...แค่พวกไอ้น้องโชนคนสวยปีสองของไอ้อ้นแม่งจะตีกับไอ้เด็กแว่นปีหนึ่งเพื่อนไอ้กิง” อาร์ตตอบเนือยๆก่อนจะขยี้บุหรี่ลงบนโต๊ะ

   “เอ้า!! ไอ้เหี้ย ช่างบังอาจมายุ่งกับน้องโชนกู” อ้นทำหน้าตาขึงขังเอาเรื่อง จนอาร์ตขว้างก้นบุหรี่ในมือใส่เพราะหมั่นไส้

   “เห็นใครน่ารักเป็นไม่ได้ของมึงหมดว่างั้น” กลอนส่ายหัวหน่ายๆใส่เพื่อน ไอ้อ้นมันหน้าม่อเห็นใครสวยเห็นใครน่ารักเป็นไม่ได้มันม่อดะ โดยที่มันไม่ได้ดูหนังหน้ารูปร่างตัวเองเลยสักนิดไม่ใช่ว่าขี้ริ้วขี้เหร่ แต่มันเป็นคนที่ตัวบางหน้าหวานบางทีหวานกว่าไอ้คนที่มันไปจีบอีก จะดีหน่อยก็แค่มันสูงถึง 180 ซ.ม.กับเขานี่แหละ ถึงอย่างนั้นปัจจัยโดยรวมของมันก็ทำให้หาแฟนกับเขาไม่ได้สักทีเลยอยู่เป็นโสดไร้คู่จนทุกวันนี้ แต่ถ้ามันลองเปลี่ยนความคิดไปเป็นเมียชาวบ้านมันอาจจะเลิกโสดก็ได้นะ

   “แน่น้อน...แต่ว่านะไอ้อาร์ตทำไมมึงไม่ปล่อยให้มันตีกันวะ น้องโชนจะได้บาดเจ็บกูจะได้เข้าไปดูแล” อ้นบ่นงึมทำหน้าตาเสียดายอย่างสุดซึ้ง อาร์ตทนไม่ไหวล็อกคออีกฝ่ายแล้วตบลงไปบนหัวแรงๆหลายทีติดกัน จนอ้นได้แต่ดิ้นพล่านโวยวายดังลั่นพอหลุดออกมาได้ก็ยกมือขึ้นลูปหัวตัวเองมองค้อนอาร์ตตาคว่ำ

   “ไอ้สัส!! อย่ามาแต๋ว” แต่อาร์ตผู้รักเพื่อนยกตีนขึ้นถีบซ้ำจนอีกฝ่ายตกเก้าอี้

   “มึงแม่ง!! ทำร้ายร่างกายกู กลอนดูมันเดะ” อ้นทำท่าทางกระเง้ากระงอดใส่อาร์ตแล้วเดินไปเกาะแขนกลอนพร้อมกับเอาหัวถูไถไปมาอ้อนๆ

   “พอไอ้สัส” กลอนตบกะโหลกอ้นซ้ำอีกครั้งจนเจ้าตัวนั่งหน้างอ ด่าลมด่าฟ้าที่เพื่อนรุมทำร้าย

   “แล้วไง...มันจะตีกันเพราะอะไร” กลอนเลิกสนใจอ้นแล้วหันมาคุยกับอาร์ตแบบเป็นการเป็นงานแทน เป็นอันรู้กันดีทั้งคณะว่ากลุ่มของพวกไอ้ต้ากับไอ้น้องโชนไม่ถูกกัน จ้องจะกัดกันมาตั้งแต่ปีหนึ่งแต่ไม่ทำสักทีเพราะเกรงใจพวกเขา

   “กูก็ไม่รู้ว่าเรื่องเหี้ยอะไรขี้เกียจจะถามเลยให้พวกมันแยกย้าย” อาร์ตพูดไปแล้วชักสีหน้าไปด้วย

   “มึงน่าจะปล่อยให้ตี กูอยากดูแลน้องโชนนนน” อ้นที่เงียบได้ไม่นานหันมาแสดงความคิดเห็นอีกครั้ง

   “ดูแลพ่อง!!! หาเรื่องให้กูต้องเคลียร์ตั้งแต่วันแรกพอๆสัส! กูสละตำแหน่ง” อาร์ตสบถออกมาด้วยความเบื่อหน่าย เขาไม่ได้ชอบตำแหน่งหัวโขนที่โดนยัดเยียดให้เป็นเลยสักนิด อยากอยู่สงบๆเข้าวัด ฟังเทศน์ฟังธรรม ไปปลูกป่าชายเลน กูเป็นผู้ชายรักสงบ!!!

   “ทำใจว่ะ...มันไม่มีใครจะเอาเด็กวิศวะทั้งคณะอยู่เหมือนมึงแล้วไอ้อาร์ต” กลอนตบไหล่เพื่อนพร้อมกับยิ้มขำ เขารู้ว่าไอ้อาร์ตมันอึดอัดกับสิ่งที่เป็นแต่ขัดใจพวกรุ่นพี่ไม่ได้ เพราะมันเคยทำมาแล้วหลังจากนั้นชีวิตมันไม่เคยสงบสุข พวกพี่ฮิมที่จ้องจะสืบทอดทายาทอสูรให้มันตามหลอกตามหลอนจนมันต้องยอม ก็ช่วยไม่ได้ละนะตำนาน 10 ต่อ 1 ของมันทุกวันนี้คนก็ยังพูดถึง มีแต่งเติมไปบ้างแต่พื้นเรื่องคือของจริง

   “ว่าแต่เพื่อนไอ้กิงเป็นเด็กแว่นนี่คือยังไง” กลอนถามต่อด้วยความสงสัยไม่เห็นเคยได้ยินว่ากลุ่มของรุ่นน้องที่สนิทมีเพื่อนใส่แว่น

   “ก็ใส่แว่นแต่งตัวเรียบร้อยโคตรๆ ถอดแบบเด็กเรียนในตำนานเป๊ะ” อาร์ตพูดออกไปตามที่เห็น

   “อ้าว!!! งี้ถ้าตีกันไอ้โชนชนะใสๆดิวะ” กลอนพูดขึ้นตามความเข้าใจของตัวเอง

   “กูว่าไม่แน่ว่ะ...ถึงแม่งจะดูแว่นๆเนิร์ดแต่มันแปลกๆ อีกอย่างคบพวกไอ้กิงได้กูว่าไม่น่าจะธรรมดา” อาร์ตพูดต่อตามความรู้สึกลึกๆ เรียกว่าตามสัญชาตญาณสัตว์ป่าที่ตัวเองมีก็ว่าได้

   “ก็จริงของมึง” กลอนคิดตามแล้วพยักหน้าเห็นด้วย

   “ว่าแต่ที่มึงหงุดหงิดเรื่องพวกน้องมันแค่นั้นหรอวะ” อ้นถามขึ้นด้วยความสงสัยเพราะปกติคนอย่างไอ้อาร์ตมันหงุกหงุดยาก
 
   “ไม่ใช่!! แต่กูหงุดหงิดเพราะมันมาขัดขวางการแสดงความรักของกูต่อลูกสาว” อาร์ตพูดพร้อมทำหน้าเหวี่ยงอีกครั้งเมื่อนึกถึงฟีโน่คันเก่งพาหนะคู่ใจของตัวเอง

   “ว่าแล้วกูกลับไปเช็ดตัวให้บานชื่นลูกสาวสุดที่รักต่อดีกว่า” อาร์ตลุกขึ้นแล้วเดินกลับไปที่ลานจอดรถอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้กลอนกับอ้นมองหน้ากันด้วยความระอา พวกสาวๆกว่าครึ่งมหา’ลัยจะมีโอกาสรู้บ้างไหม ว่าผู้ชายเถื่อนๆแมนๆอย่างไอ้อาร์ตเพื่อนเขาเป็นคนแบบนี้ เป็นผู้ชายที่ชอบสีชมพูและมีของโปรดเป็นขนมหวานทุกชนิด...

...
...
   
   “ครับ...เดี๋ยวผมจะรีบไปหานะ...เอาที่ไหนมาพูด...รักส้มคนเดียว” เสียงออดอ้อนที่ดังขึ้นเป็นระยะทำให้นาวกับเลิฟเบ้หน้าอย่างหมั่นไส้กับความหน้าม่อไม่มีลิมิตของเพื่อน

   “อะไร...มองหน้ากูยังงี้ทำไม” พีทที่วางโทรศัพท์แล้วขมวดคิ้วเป็นปม เมื่อเห็นว่าเพื่อนรักทั้งสองกำลังจ้องตัวเองอยู่แถมยังทำหน้าตาเอื่อมระอาใส่

   “ไอ้หน้าม่อเอ้ยกูขอให้สักวันรถไฟมึงชนกัน” นาวเอ่ยปากแช่งออกมาอย่างหมั่นไส้พร้อมกับส่ายหัวให้ด้วยความเหนื่อยใจ

   “โว๊ะ...อยู่ดีๆมาแช่งกูทีไอ้กั้มมึงไม่เห็นไปว่ามันบ้าง” พีทพาดพิงไปถึงเพื่อนอีกคนในกลุ่มที่ขึ้นชื่อว่าเจ้าชู้และเป็นลูกคู่กับตัวเองในการไปจีบสาว

   “เออ!! ไอ้กั้มมันก็มีเยอะแต่ถึงมันจะเปลี่ยนบ่อย อย่างน้อยมันก็คบทีละคนไม่เหมือนมึงคบพร้อมกันเป็นสิบ” นาวหันมาเหวี่ยงพร้อมถลึงตาใส่จนพีททำหน้ามุ่ย

   “มึงๆ” แรงสะกิดเบาที่ไหล่ทำให้พีทต้องหันไปมอง ก็เห็นเพื่อนหน้าหวานมดไต่ผู้หญิงอายของไอ้เลิฟกำลังมองมาตาแป๋ว

   “อะไร” พีทถามด้วยความระแวงเพราะเล่นใช้สกิลตาแป๋วเตรียมอ้อนแบบนี้อันตรายสุดๆ

   “หาสาวให้กูบ้างดิ” เลิฟบอกด้วยท่าทางกระตือรือรนส่วนพีทกับนาวมองด้วยความอึ้ง

   “แล้วสาวคณะบริหารมึงล่ะ” นาวที่ตั้งสติได้ก่อนเอ่ยปากถามถึงบุคคลที่เพื่อนบอกว่าไปตามจีบ

   “เขาก็คุยกับกูดีแต่ว่ากูรู้สึกเหมือนเขากำลังแกล้งหยอกกูอ่ะ ไม่รู้ดิแม่งบอกไม่ถูกเอาเป็นว่าหาสาวให้กูหน่อยน๊าาาา” เลิฟหันมาเขย่าแขนพีทพร้อมกับช้อนตามองอ้อนๆ

   “อย่าเลยนะมึงกูขอเตือนอย่าไปทำท่าทางทำตาแบบนี้ใส่ตัวผู้ที่ไหน นอกจากพวกเราในกลุ่มเข้าใจไหม” พีทพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังขืนมันไปเผลอทำกับคนอื่นล่ะก็ ได้มีผัวเป็นตัวเป็นตนกับเขาจริงๆก็คราวนี้แหละ ก็เพราะไอ้ท่าทางแบบนี้ล่ะมั้งดาวคณะบริหารที่มันมาโม้นักโม้หนาว่าตามจีบ ถึงได้เอาแต่หยอกมันเล่นสนุกไปวันๆ แล้วนี่ยังมีหน้ามาบอกให้หาหญิงให้ทั้งๆที่แม่งทำตัวน่ารักกว่าผู้หญิง โคตรสงสัยเลยตอนที่มันมีแฟนเป็นผู้หญิงตั้งหลายคน พวกผู้หญิงแม่งไม่รู้สึกแปลกๆเหรอวะเขาละงง

   “เลิฟ...พี่ปอมา” นาวที่เหลือบไปเห็นคู่อริของเพื่อน (ที่มันคิดเอาเอง) รีบเอ่ยปากบอก เพราะเห็นหน้าตากลุ้มใจของพีทแล้วกลัวมันจะผูกคอตาย

   “ห๊ะ!! ไหน....มหาาาาา” เลิฟที่ได้ยินแบบนั้นก็รีบปล่อยแขนของพีทแล้วมองหา ก่อนจะร้องเรียกเสียงดังแล้ววิ่งแจ้นไปหาทันที

   “นี่คือยังไงวะมันไม่เอาสาวแล้ว” พีทมองตามหลังด้วยความอึ้ง ไม่ว่าจะคุยอะไรกันอยู่ก็ช่าง ถ้าบอกว่าพี่ปอมามันจะทิ้งทุกอย่างแล้ววิ่งแจ้นไปแบบนี้ทุกที

   “ช่างมันเถอะบางทีคนของมันคงถูกกำหนดมาแบบนี้” นาวพูดแล้วก้มลงไปอ่านหนังสือที่อ่านค้างไว้

   “อะไรของมึงวะ” พีทเป็นงงกับคำพูดลอยๆของนาวทันที เพื่อเขาคนนี้มันชอบพูดอะไรที่ชาวบ้านไม่เข้าใจแต่มันเข้าใจอยู่คนเดียว

   “เออน่ะ...มันต้องใช่เวลาเดี๋ยวมึงก็รู้” นาวพูดตัดบทไม่ให้เพื่อนถามต่อเอาเป็นว่าให้เธอเข้าใจคนเดียวพอ

   “เรื่องมึงเหอะ...งั้นกูไปละต้องไปรับหมิว” พีทลุกขึ้นเก็บของใส่เป้แล้วเดินไปหารถตัวเองอย่างรีบร้อน ทิ้งให้นาวมองตามด้วยความระอาเมื่อกี้มันพึ่งบอกรักส้ม ตอนนี้บอกจะไปรับหมิวเอากับความเจ้าชู้ของมันสิให้ตาย

...
...
   
   พีทขับรถออกมาจากคณะด้วยอารมณ์แจ่มใสเรียกว่าดีสุดๆ เพราะกำลังจะไปรับสาวในสต๊อกที่เขาพึ่งจีบมาได้เมื่อวาน และถ้าไม่มีอะไรพลาดคืนนี้คงจะได้ทำกิจกรรมเข้าจังหวะกันแน่ๆ แค่คิดก็อยากจะเหาะไปหาด้วยความเร็ว

   เพราะมัวแต่คิดอะไรเพลินๆจังหวะที่กำลังจะเลี้ยงรถออกจากหน้ามหา’ลัย ก็มีมอเตอร์ไซค์คันนึงกำลังขับสวนเข้ามาพอดี ทำให้พีทต้องหักหลบด้วยความตกใจจนรถขึ้นไปเกยบนฟุตบาท ส่วนมอเตอร์ไซค์ที่คู่กรณีก็หักหลบจนรถล้ม

   เอี๊ยด!!!

   พีทนั่งหายใจแรงตาค้างมือกำพวงมาลัยแน่นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นั่งกระพริบตาถี่ๆเพราะยังงงกับเรื่องที่เกิดอย่างกระทันหัน ยกมือตัวเองที่สั่นเล็กน้อยขึ้นมาลูบอกเบาๆ เมื่อตั้งสติได้ก็รับปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้วลงจากรถด้วยความเร็ว

   “เหี้ย!!! รถกู!!” พีทโวยออกมาดังลั่นเมื่อเห็นว่ามินิคูเปอร์คันเก่งของตัวเอง ที่พ่อพึ่งถอยให้เป็นของขวัญที่เอนติด ตอนนี้ด้านข้างของตัวรถมีรอยถลอกเป็นทางยาว

   “อ๊ากกก บานชื่นลูกพ่อ” และวินาทีต่อมาเสียงโวยวายของคู่กรณีก็ดังตามมาติดๆ

   พีทหันไปมองตามเสียงทันทีก็เห็นผู้ชายตัวสูงใหญ่พอสมควร สวมหมวกกันน็อกเต็มใบสีชมพูกำลังโวยวายคร่ำครวญเหมือนญาติเสีย พยุงรถมอเตอร์ไซค์สีชมพูไม่ต่างจากสีหมวกขึ้นมา แล้วเดินวนสำรวจรอบรถทำท่าจะเป็นจะตาย ทั้งๆที่รถมันไม่ได้เป็นอะไรเลยสักนิด

   พีทยืนมองท่าทางเหล่านั้นด้วยความโมโห เพราะมันแท้ๆลูกรักเขาถึงเป็นรอยขนาดนี้ แถมแทนที่มันจะสนใจความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเขา มันดันเอาแต่สนรถสังกะบ๊วยของมัน

   “เฮ้ย!! ไอ้แต๋ว” พีทเรียกออกไปเสียงดังเพื่อดึงให้อีกฝ่ายสนใจ และมันก็ได้ผลเพราะเจ้าตัวหยุดนิ่งเลิกคร่ำครวญแล้วหันมาหาเขาทันที

   “มึงว่าใครแต๋ว” เสียงที่ดังออกมาจากหมวกกันน๊อกถามขึ้นด้วยความไม่พอใจ ส่วนพีทกระตุกยิ้มน้อยๆที่มุมปากอย่างชอบใจ

   ‘สีชมพูทั้งตัวยันอุปกรณ์เสริมนี่มึงแมนสัสๆล่ะมั้ง’


2 Be Con...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-04-2016 02:53:20 โดย matchty »

ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
กัดครั้งที่
- 2 -

   


   ความเงียบโรยตัวปกคลุมทั่วบริเวณทันทีคนรอบข้างที่มุงดูต่างพากันมองหน้ากันเลิ่กลั่ก เพราะส่วนมากทุกคนพอจะรู้แล้วว่าใบหน้าภายใต้หมวกกันน๊อคคือใคร และด้วยกิตติศัพท์ดีเยี่ยมอันเป็นที่ล่ำลือของคนๆนี้ ทำให้หลายคนชักเป็นห่วงสวัสดิภาพของผู้ชายหน้าหวานอีกคนที่กำลังแกว่งเท้าหาเสี้ยน

   “เอ้ย!! ถามไม่ได้ยินหรอวะมึงว่าใครแต๋ว” เสียงอู้อี้ที่ดังออกมาจากหมวกกันน๊อคถามด้วยความฉุนเฉียว

   “ว่าหมาแถวๆนี้แหละ” พีทตอบอย่างยียวนกวนประสาทอีกฝ่าย

   “ไหนวะหมา” นอกจากกวนไม่สำเร็จอีกฝ่ายยังพาซื่อมองหาหมาเล่นเอาความดันของพีทเกือบขึ้น

   “มึงถอดหมวกออกมาคุยกับกูดีๆก่อนไหมไอ้นมเย็น” พีทบอกอีกฝ่ายด้วยความใจเย็นถึงแม้ในใจอยากจะบีบคอเต็มที่แล้วก็ตาม ถึงตัวใหญ่กว่าไม่ได้แปลว่าพีทจะกลัวนะเว้ย

   “เออว่ะ...กูว่าแล้วทำไมฟ้าแม่งมืดๆเหมือนฝนจะตก” คู่กรณีเหมือนจะพึ่งรู้ตัวว่าตัวเองใส่หมวกกันน๊อคอยู่ เลยจัดการถอดออกช้าๆเผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาและผมสีแดงเพลิง เอกลักษณ์ประจำตัวที่ผ่านมากี่ปีเจ้าตัวก็ย้อมอยู่สีเดียว

   พีทที่เห็นคู่กรณีชัดๆก็อึ้งไปนิดด้วยความตกใจหน้าเริ่มซีด ทำไมเขาโง่แบบนี่วะทุกอย่างที่ได้เห็นมันก็ชี้ชัดอยู่แล้ว ฟี่โน่สีชมพู หมวกกันน๊อคสีชมพูรอบๆตัวมีสีชมพูแบบนี้คือคนๆเดียวที่พี่รหัสเตือนมา ว่าต้องให้ความเคารพเพราะคือคนที่คุมวิศวะทั้งหมดตอนนี้ ยิ่งไอ้หน้าหล่อๆหัวสีแดงไม่ต้องถามให้มากความก็รู้นี่มันพี่อาร์ตปีสาม ไอ้พีทมึงซวยแล้ว

   “หน้ามึงคุ้นๆว่ะเราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนไหม” อาร์ตที่พอได้มองหน้าอีกฝ่ายชัดๆก็ถามขึ้นด้วยความสงสัย พยายามจะเข้าไปมองใกล้แต่อีกฝ่ายก็ถอยหลังหนีแถมก้มหน้าก้มตาหลบ เป็นอะไรของมันวะ

   “โว๊ย!! คุ้นห่าอะไรล่ะมุกจีบสาวรึไงวะ” พีทตวาดด่าอีกฝ่ายด้วยความลืมตัว เพราะรำคาญที่อีกคนพยายามจะจับหน้าตัวเองให้เงยขึ้น พอรู้ตัวก็ยกมือปิดปากตัวเองแน่นทันที ความรู้สึกตอนนี้คืออยากผ่าหมาออกจากปากตัวเองมาก

   “อะไรของมึงวะผีเข้าป่ะเนี่ย” อาร์ตที่จู่ๆก็โดนตวาดผงะถอยด้วยความตกใจ เมื่อกี้เห็นยืนเงียบเป็นหุ่นอยู่ดีๆก็เสือกแหกปากขึ้นมา

   “จะเอายังไงเรื่องรถ”” พีทรีบพูดธุระสำคัญของตัวเองเพราะอยากจะจบเรื่องแล้วแยกย้ายสักที

   “แล้วมึงจะเอายังไงล่ะ” อาร์ตเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าอีกฝ่ายจะรับผิดชอบต่อลูกสาวเขายังไง

   “สองหมื่นขาดตัวจ่ายสดงดเชื่อเบื่อทวง” พีทที่เข้าใจไปคนละอย่างกับอีกฝ่ายบอกตัวเลขความเสียหายทันที

   “อะไรคือสองหมื่นมึงจะให้กูเหรอเฮ้ย!!มันไม่ได้แพงขนาดนั้นสองพันก็พอ” อาร์ตที่เข้าใจว่าอีกฝ่ายจะจ่ายตังค่าซ่อมลูกรักให้รีบปฏิเสธทันที

   “ห๊ะ!! เดี๋ยวนะใครจะให้มึงวะ” พีทที่เริ่มจะสับสนถามย้ำกับอีกฝ่ายตกลงมันกับเขาคุยเรื่องเดียวกันไหม

   “ก็มึงไง” อาร์ตบอกอีกฝ่ายหน้าตายขับรถเหมือนเด็กอนุบาล จนทำเขารถล้มยังมาถามอีกว่าใครจ่าย

   “ห๊า!!! มึงมั่วแล้วมึงเว้ยต้องเป็นคนจ่ายให้กูเห็นไหมว่ารถกูถลอกเป็นแผลเนี่ย” พีทตะโกนขึ้นมาอย่างเหลืออดพร้อมกับชี้นิ้วไปที่รอยถลอกข้างตัวรถ ลืมสิ้นแล้วไอ้ความกลัวความเกรงใจที่โผล่มาแว๊บนึงเมื่อกี้

   “แล้วไงวะรอยแค่นั้นมึงจะเอาตั้งสองหมื่นกูไม่จ่าย” อาร์ตมองไปตามที่อีกฝ่ายชี้แล้วก็ยักไหล่ให้ไม่สนใจ

   “ก็นี่มันรถนอกมึงรู้จักไหมมินิคูเปอร์จะให้ซ่อมสองร้อยเหรอวะ” พีทว่าอีกฝ่ายด้วยความเดือดดาลอีกสักพักเขาจะเข้าไปบีบคอมันแล้วนะ

   “เออ...ถ้าสองร้อยก็คุยกันได้อยู่ราคาตกลงกันได้” อาร์ตพยักหน้างึกงักพร้อมกับควักเอาแบงค์สีแดงยู่ยี่ออกมาจากกระเป๋ากางเกงยีน

   “โว๊ย!!! กูประชดกูจะเอาสองหมื่น” พีทตะโกนหน้าดำหน้าแดงด้วยความโมโหเกิดมายังไม่เคยโมโหใครขนาดนี้เลย

   “กูมีให้มึงสองร้อยทั้งเนื้อทั้งตัวเนี่ย” อาร์ตทำหน้าตาจริงจังใส่อีกฝ่ายพร้อมกับชูเงินสองร้อยในมือให้ดู

   “ไอ้ยาจก” พีทด่าอย่างดูถูกทันทีไอ้คนแบบนี้ทำไมเด็กวิศวะถึงให้ความเคารพวะ

   “เฮ้ยๆอย่าเรียกกูยกจกเขาเรียกคนมีรายได้น้อย สองร้อยเนี่ยกูกินข้าวได้ตั้งสองวันนะมึง” อาร์ตบอกอีกฝ่ายอย่างไม่สบอารมณ์บังอาจมาดูถูกเงินสองร้อยของเขา

   “ถ้ามึงจะจนขนาดนี้นะมึงขับรถภาษาเหี้ยอะไรวะถึงให้ไอ้เศษเหล็กสองล้อมาเฉี่ยวรถกู” พีทยังคงด่าต่ออย่างไม่ยอมแพ้

   "มึงว่ารถใครเศษเหล็กแล้วมึงนั่นแหละขับรถภาษาเหี้ยอะไร" อาร์ตเองก็ไม่ยอมแพ้เหมือนกันแถมมันกล้าดียังไงมาว่าบานชื่นลูกสาวเขาเป็นเศษเหล็ก

   "มึงว่าใครเหี้ย" พีทถามกลับเหวี่ยงๆเพราะได้ยินอีกฝ่ายว่าตัวเอง

   "มึงกับกูยืนคุยกันสองคนไม่ใช่กูแน่ๆที่เป็นเหี้ยงั้นมึงคิดว่าใคร" อาร์ตถามกลับเสียงยียวนเอานิ้วมือแหย่หูตัวเองเล่น แม่งส่งเสียงแว๊ดๆดังแสบแก้วหูฉิบหาย

   "ไอ้สัส!!" พีทด่าด้วยความหมั่นไส้

   "เออดี...กูเป็นกระต่ายนะ" อาร์ตตอบอย่างไม่ใส่ใจเลือกได้ก็ต้องเลือก

   "ไอ้เหี้ย!!"

   "มึงนี่ยังไงวะกูพึ่งบอกว่าเป็นกระต่ายไปแหม่บๆฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง" อาร์ตหรี่ตามองคนตรงหน้าแล้วส่ายหัวให้หน่ายๆ คนอะไรวะเอาใจยากฉิบหายเดี๋ยวสัสเดี๋ยวเหี้ย

   พีทได้แต่ยืนอ้าปากพะงาบๆกับความกวนของอีกฝ่าย อยากจะถีบเข้าสักเปรี้ยงแต่ก็กลัวว่าจะโดนสวนกลับ เลยได้แต่ยืนฮึดฮัดคนเดียวอย่างฉุนเฉียว

   “ไหนกูขอดูใกล้ๆดิรอยเหี้ยอะไรเอาเงินตั้งสองหมื่น” อาร์ตเดินไปทางรถที่จอดอยู่เพื่อจะดูรอยถลอกเจ้าปัญหาที่ว่า แต่ไม่รู้ว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซัดหรือสวรรค์เล่นตลก จู่เขาก็สะดุดอะไรไม่รู้ทำให้หมวกกันน๊อคที่ตัวเองถือไว้หลุดมือ ปลิวขึ้นสูงลอยละล่องและตกไปกระแทกที่กระจกรถด้านหลังอย่างจัง

   เพล้ง!!!!

   ความเงียบสงัดปกคลุมรอบบริเวณทันที ทุกสายตาพุ่งไปมองที่เจ้าของรถเป็นตาเดียวเพื่อดูปฏิกิริยา แต่สิ่งที่แสดงออกมาจากใบหน้าหวานคือความเรียบเฉย กับอาการยืนนิ่งสายตาว่างเปล่ามองไปที่รถคันเก่ง ซึ่งตอนนี้กระจกด้านหลังแตกเป็นรูโหว่ขนาดใหญ่

   อาร์ตที่ตั้งสติได้จากเหตุการณ์ไม่คาดฝันเมื่อครู่รีบถลาเข้าไปที่รถด้วยความเร็วสูง ก่อนจะคว้าเอาหมวกกันน๊อคที่ตอนนี้ปลิวเข้าไปอยู่ที่เบาะหลังของรถออกมา จับหมวกในมือพลิกไปพลิกมาเพื่อหารอยขีดข่วน แล้วถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นว่าหมวกใบเก่งไม่เป็นอะไร

   หลังจากสำรวจข้าวของตัวเองจนพอใจแล้ว อาร์ตถึงนึกขึ้นมาได้ว่าหมวกใบเก่งปลิวไปกระแทกกับกระจกรถคู่กรณี เหลือบสายตากลับไปมองที่รถเล็กน้อยแล้วหันกลับไปมองอีกคนที่ยืนเงียบผิดปกติ

   “เอ่อ...มึงคืองี้นะ” อาร์ตอ้าปากคุยกับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน พร้อมกับส่งยิ้มแห้งๆเหมือนปลาขาดน้ำไปให้

   จึ่ก จึ่ก

   “มึง...” เมื่อลองเรียกไปแล้วครั้งแรกไม่เป็นผล เพราะอีกฝ่ายเอาแต่ยืนนิ่งเงียบไม่แม้แต่จะขยับตัว อาร์ตเลยเขยิบเข้าไปใกล้มากกว่าเดิมพร้อมกับเอานิ้วจิ้มบนตัวเบาๆ

   “เฮ้ย! มึง...กูเรียกได้ยินไหมเนี่ย” อาร์ตพูดด้วยเสียงที่ดังขึ้นกว่าเดิมพร้อมกับอารมณ์ที่เริ่มจะหงุดหงิด อุตส่าห์รู้สึกผิดพยายามจะไกล่เกลี่ยแต่เงียบใส่นี่คือไรวะ

   พรึ่บ!!

   พีทหันควับไปมองอาร์ตด้วยใบหน้าถมึงทึงพร้อมกับจ้องหน้าอีกฝ่ายเขม็ง อาร์ตที่เห็นท่าทางแบบนั้นของพีทก็ผงะไปเล็กน้อยด้วยความตกใจพร้อมกับขาที่ก้าวถอยหลังแบบอัตโนมัติ

   พีทหันไปเผชิญหน้ากับอาร์ตทั้งตัวตัวก่อนจะเดินเข้าหาช้าๆ ด้านอาร์ตพอพีทขยับเข้ามาใกล้เจ้าตัวก็ถอยหลังออกห่างและสุดท้ายก็โดนต้อนจนหลังชิดกับต้นไม้ หันซ้ายหันขวาเพื่อหาทางหนีทีไล่ก็ไม่เห็นว่าจะมีช่องว่างตรงไหนให้ชิ่ง เลยตัดสินใจหันมาเผชิญหน้าแทนพร้อมส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจไปให้

   เอื๊อก!!!

   “ใจเย็นๆนะมึงค่อยๆพูดค่อยๆจา” อาร์ตกลืนน้ำลายลงคอเสียงดังพร้อมพูดกับอีกฝ่ายเสียงหวาน มองแววตาที่จ้องตัวเองอย่างอาฆาตด้วยความระแวง เกิดมาไม่เคยรู้สึกกลัวอะไรแบบนี้ในชีวิตเลยนะให้ตาย หวังว่าไอ้หน้าหวานตรงหน้าเขามันจะไม่โกรธจนพุ่งเข้ามาบีบคอนะ

   หมับ!!

   พีทไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรแต่ไปคว้าหมวกกันน็อคในมืออาร์ต ก่อนจะกระชากออกมาด้วยความเร็ว จากนั้นก็หันหลังเดินตรงดิ่งไปหารถมอเตอร์ไซค์สีชมพูที่จอดหวานแหววอยู่ เงื้อมืข้างที่ถือหมวกกันน็อคขึ้นสูงเตรียมจะฟาดลงไปที่ตัวรถ

   “เฮ้ย!!! มึงอย่า!!!” อาร์ตแหกปากร้องเสียงหลงรีบวิ่งมากอดพีท แล้วดึงตัวให้ห่างจากลูกรักที่สุดมือก็พยายามยื้อเอาหมวกในมือเล็กคืน

   “มึงปล่อยกูเดี๋ยวนี้นะ แม่ง!! เหี้ย!! สัส!! ปล่อยกู!!” พีทโวยวายดังลั่นหลังจากที่เงียบมานาน ดิ้นรนขัดขืนสุดแรงเพื่อให้หลุดจากอ้อมกอดของอาร์ต

   “โอ๊ย!!!” อาร์ตแหกปากดังลั่นเพราะโดนมือของพีทที่ดิ้นไม่หยุดฟาดเข้าที่เบ้าตา จนเผลอปล่อยมือที่ล็อกตัวอีกฝ่ายไว้ เป็นจังหวะให้พีทมีโอกาสตรงดิ่งกลับไปหารถมอเตอร์ไซค์อีกครั้ง

   “อ๊ากกกก อย่า!!!” อาร์ตโวยวายตาเหลือกถลนวิ่งเอาตัวมากอดลูกรักที่กำลังจะถูกประทุษร้ายไว้แน่น ผลที่ได้คือหมวกกันน็อกที่พีทฟาดลงมาโดนเต็มๆกลางหลัง

   “มึงหลบเดี๋ยวนี้นะไอ้พี่เหี้ย” พีทว่าเสียงเกรี้ยวกราดตาเขียวปั๊ดจ้องมองอาร์ตอย่างอาฆาต วันนี้ถ้าเขาต้องทุบไอ้เศษเหล็กสองล้อนี่ให้แหลกคามือให้ได้คอยดูสิ

   “ไม่!!” อาร์ตปฏิเสธเสียงแข็งจ้องหน้าพีทเขม็ง เอาตัวบังรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจเอาไว้เหมือนนกกางปีกปกป้องลูกไม่มีผิด และท่าทีแบบนั้นยิ่งทำให้พีทนึกฉุนไปกันใหญ่

   “หลบ!!” พีทถามเสียงเหวี่ยงมือกำหมวกกันน็อกในมือแน่น

   “กูไม่หลบ!!” อาร์ตเองก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงฉะฉานไม่ยอมแพ้

   “หลบ!!” พีทแหกปากบอกเสียงดังลั่นจ้องหน้าอาร์ตแบบจะกินเลือดกินเนื้อ

   “ก็บอกว่าไม่หลบไงวะมึงนี่แม่งพูดไม่รู้เรื่อง ถ้าจะแตะบานชื่นลูกกูก็ข้ามศพกูไปก่อน” อาร์ตกางแขนออกกว้างเพื่อกันไม่ให้พีทเข้ามาใกล้รถสุดหวงพร้อมทั้งยิ้มมุมปากและยักคิ้วส่งไปให้

   ท่าทางกวนประสาทของอาร์ตที่แสดงออกมาทำเอาพีทอารมณ์ขึ้นอย่างฉุดไม่อยู่ มือข้างที่เงื้อหมวกกันน็อกขึ้นสูงถูกลดลงมาระดับหน้าอก แล้วใช้มือทั้งสองข้างของตัวเองกอดประคองเอาไว้เหมือนหวงแหนซะเต็มประดา

   “ต้องข้ามศพมึงก่อนใช่ไหม” พีทส่งยิ้มหวานไปให้อาร์ตพร้อมกับถามเสียงเย็น

   “อะ...เออ ข้ามศพกูไปก่อน” อาร์ตตอบตะกุกตะกักรู้สึกระแวงไอ้หน้าหวานตรงหน้าขึ้นมาทันที

   “งั้นมึงตาย!!!” พีทตะโกนสุดเสียงแล้วพุ่งเข้าหาอาร์ตทันที

   “เฮ้ย!! โอ๊ย!!” อาร์ตผงะด้วยความตกใจที่จู่ๆอีกฝ่ายก็พุ่งเข้าหา ก่อนจะยกมือกันอีกฝ่ายที่กระหน่ำทุบตีลงมาไม่ยั้งปากก็ร้องโอดโอยไม่หยุด

   “มึงได้ตายสมใจแน่ไอ้เหี้ย!!” พีทกระหน่ำเอาหมวกกันน็อกในมือฟาดลงไปตามตัวอาร์ตไม่ยั้ง ชนิดที่ว่าแรงมีเท่าไหร่ใส่ลงไปให้หมดด้วยความแค้น

   ปึ่ก!!!

   หมวกกันน็อกใบเก่งของอาร์ตลงไปกลิ้งอยู่บนพื้นถนนด้วยฝีมือของเจ้าตัว เพราะจงใจปัดออกก่อนที่หัวหรือส่วนใดส่วนหนึ่งในร่างกายจะแตกหักบุบสลายจากการที่โดนทุบลงมาไม่ยั้ง เขายืนหายใจหอบเหนื่อยจ้องคู่กรณีหน้าหวานของตัวเองเขม็ง พร้อมทั้งบีบนวดไปตามตัวเพราะตอนนี้รู้สึกปวดไปหมด ไม่รู้ว่าตัวเท่าลูกหมาแค่นี้ไปเอาแรงมาจากไหนมือหนักฉิบหาย

   พีทเองก็หอบหายใจเหนื่อยไม่แพ้กันเพราะต้องลงแรงฟาด ไหนจะต้องวิ่งไล่ตามเพราะอีกฝ่ายเอาแต่วิ่งหนี แต่ถึงจะเหนื่อยแค่ไหนสายตาที่ใช้มองไปก็ยังไม่ลดความเกรี้ยวกราดลง

   “มึงตาย!!” พีทตะโกนออกมาอีกครั้งพร้อมทั้งกระโดดเกาะหลังของอาร์ตแน่น มือก็ฟาดลงไปตามตัวของอีกฝ่ายไม่หยุด

   “โอ๊ย!!! หูกู!!!” อาร์ตร้องเสียงหลงเพราะโดนคนบนหลังงับเข้าที่ใบหูเต็มแรง ที่ร้ายยิ่งกว่านั้นคือไอ้คนบนหลังเขามัน
พยายามจะกระชากหูข้างที่เข้าระเบิดเอาไว้ ด้วยความที่กลัวว่าหูตัวเองจะขาดอาร์ตเลยจัดการเหวี่ยงอีกฝ่ายลงพื้นเต็มแรง มือก็ลูบที่หูตัวเองไปมาเพราะความเจ็บ นอกจากจะมือหนักชาติที่แล้วมันต้องเป็นหมาด้วยแน่ๆ

   “มึงหยุด!!!” อาร์ตตะคอกเสียงเข้มแล้วชี้หน้าอีกฝ่ายที่กำลังจะพุ่งเข้าใส่เขาอีกครั้งให้หยุด แววตาและน้ำเสียงที่ใช้ตอนนี้ไม่เหลือเค้าความขี้เล่นแบบก่อนหน้าเลยสักนิด

   พีทลุกขึ้นยืนสบตากับคนตัวโตกว่าเขม็ง ก่อนจะเม้มปากแน่นมือสองข้างถูกกำเข้าหากัน แววตาไหววูบก่อนที่จะมีน้ำใสๆเอ่อคลอและไหลลงมาในที่สุด

   อาร์ตที่กำลังอยู่ในโหมดโมโหถึงกับอารมณ์ดับสนิท มองใบหน้าหวานที่แดงก่ำและน้ำตานองหน้าด้วยความเหวอ เริ่มที่จะทำตัวไม่ถูกเพราะเกิดมาไม่เคยเผชิญสถานการณ์อะไรแบบนี้

   ‘ว่าแต่ผู้ชายร้องไห้เขาควรทำยังไงดีล่ะวะ’


2 Be Con...

ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
กัดครั้งที่
- 3 -



   "เอ่อ...มึง...คือ..." อาร์ตพยายามจะพูดกับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก เริ่มจะทำตัวไม่ถูกมือไม้มันดูเกะกะเก้งก้างไปหมด เพราะอันที่จริงแล้วถึงแม้ว่าอาร์ตจะชอบสีชมพูแต่เขาก็คือผู้ชายแมนๆคนนึง ที่แข็งกระด้างไม่ได้มีความละเอียดอ่อนอะไรเลยสักนิด พอมาเจอกับอะไรแบบนี้ยอมรับเลยว่าทำตัวไม่ถูก ยื่นมือเข้าไปหาคนตรงหน้าแบบกล้าๆกลัวๆ

   หมับ!!

   สัมผัสแผ่วเบาตรงไหล่ทำให้พีททึ่ยืนก้มหน้าน้ำตาซึมอยู่ ตวัดสายตาขึ้นไปมองอย่างขุ่นมัว ยิ่งพอเห็นว่าใครที่เป็นคนมาแตะ ดวงตาฉ่ำวาวด้วยน้ำใสๆยิ่งแสดงความไม่พอใจออกมาเด่นชัด

   อาร์ตชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้สบตากับคนตรงหน้า ยิ่งมองใบหน้านี้ชัดๆก็ยิ่งรู้สึกคุ้นแบบประหลาด มันเหมือนกับ...

   "โอ๊ย!!!!" อาร์ตแหกปากดังลั่นยืนกระโดดขาเดียวเหยงๆหน้าตาบิดเบี้ยวด้วความเจ็บปวด จากการที่โดนอีกฝ่ายกระทืบลงบนฝ่าเท้าเต็มแรง หลังจากที่ความเจ็บเริ่มคลายอาร์ตก็หันมามองหน้ากลับอย่าเอาเรื่อง พีทเองก็ถลึงตามองกลับไม่ยอมแพ้

   "ฮึก...ไอ้เหี้ย...ไอ้หน้าหมา...ฮึก" พีทยืนน้ำตาไหลพรากร้องไห้สะอึกสะอื้นปากก็ด่าอาร์ตไม่หยุด ที่ร้องไห้ไม่ใช่ว่าอ่อนไหวสาวแตกทนความสะเทือนใจไม่ได้ แต่เป็นเพราะโกรธแล้วทำอะไรไม่ได้จนน้ำตาไหลต่างหาก มันเป็นนิสัยที่พยายามจะแก้แล้วแก้ไม่หายสักที เวลาโกรธใครมากๆแล้วทำอะไรไม่ได้เขาจะร้องไห้ออกมาแบบนี้ทุกครั้ง

   "เฮ้ย! มึงอย่าร้องดิวะอายคนบ้างไหมเนี่ย" อาร์ตพยายามปลอบพีทด้วยความลนลาน แต่ยิ่งปลอบอีกฝ่ายยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม จนอาร์ตต้องยกมือขยี้หัวตัวเองแรงๆอย่างทำอะไรไม่ถูก เขาไม่ชอบสถานการณ์แบบนี้และไม่เคยชิน เพราะเขาเป็นประเภทแพ้น้ำตายิ่งมันมาจากอะไรน่ารักๆแบบคนตรงหน้ายิ่งแล้วใหญ่

   ยอมรับเลยว่าผู้ชายตรงหน้าน่ารักน่าฟัดพอสมควร ถึงจะดูสูงแต่ตัวบางอุ้มมือเดียวยังได้เลยมั้ง ตัวก็ขาวปากนิดจมูกหน่อย ทำอะไรแรงๆนิดหน่อยเอวคงหัก แต่ถ้าได้เห็นใบหน้าเปื้อนน้ำตานี้อยู่ใต้ร่างคงสนุกพิลึก...เฮ้ย!! นี่เขาคิดอะไรวะ

   "มองหน้าแล้วทำสายตาหื่นๆคืออะไรวะ" พีทตวาดถามแล้วถอยหลังออกไป ตามองไปที่อาร์ตด้วยความระแวง น้ำตาที่ไหลอยู่หยุดไหลโดยอัตโนมัติ

   "ใคร...ใครทำวะ" อาร์ตทำตีมึนไม่รู้เรื่องใส่อีกฝ่าย ทั้งๆที่ในใจรู้สึกสะอึกไม่น้อยนี่เขาเผลอแสดงออกทางสีหน้าเลยเหรอ

   "ก็มึงและทำ" พีทยกมือชี้หน้าอีกฝ่ายก่อนจะเอาแขนสองข้างกอดตัวเองแน่น เพราะรู้สึกเหมือนตัวเองจะโดนทำมิดีมิร้ายยังไงยังงั้น เขาว่าเขาไม่ได้คิดไปเองแน่ๆเมื่อกี้ไอ้บ้านี่มันทำตาหื่นมองเขา

   "กูไม่ได้ทำ...แล้วเรื่องรถมึงจะเคลียร์ไหม" อาร์ตทำหน้านิ่งเสียงแข็งจ้องอีกฝ่ายดุๆ เพื่อกลบเกลื่อนความจริง

   "อะ...เออ...แล้วมึงจะรับผิดชอบยังไงเรื่องรถ" พีทเอามือที่กอดตัวเองลงแล้วยืนในท่าทางปกติ แต่ก็ยังไม่ยอมขยับเข้าไปใกล้อาร์ตตาก็ยังมองอย่างระแวง ก็มันไม่น่าไว้ใจนี่หว่าถึงตอนนี้จะดูไม่ทีอะไรผิดปกติก็เหอะ

   "ดูแล้วก็คงต้องซ่อมมั้ง" อาร์ตเหลือบไปมองรถเจ้าปัญหาด้วยความเซ็ง นี่แม่งวันซวยอะไรของเขาวะ โดนเฉี่ยวจนรถล้มไม่พอเสือกสะดุดจนหมวกไปกระแทกกระจกจนเกิดเรื่อง...เห็นไหมหมวกแม่งเป็นรอยหมด

   "มันไม่คงแต่มันต้องซ่อมไอ้เหี้ย!!" พีทตวาดสุดเสียงรู้สึกโมโหขึ้นมาอีกครั้ง เส้นเลือดข้างขมับนี่เต้นตุบๆ เกิดมาไม่เคยเจอใครกวนตีนบวกกวนประสาทแบบนี้เลย

   "แค่นี้เองมึงจะโมโหทำไมเนี่ย" อาร์ตมองพีทอย่างเอือมระอาพร้อมส่ายหัวให้น้อยๆ แค่นี้ทำมาเป็นขึ้นของเขาทั้งรถเป็นรอย ทั้งหมวกเกือบพัง แถมร่างกายยังโดนประทุษร้ายยังไม่บ่นสักคำ โวยวายมากเดี๋ยวจับเอาแม่งให้หายซ่า...เฮ้ย! คิดเหี้ยอะไรวะ

   "มึงทำหน้าหื่นทำไมอีกแล้วเนี่ย" พีทโวยวายชี้หน้าอาร์ตแล้วถอยหลังออกไปไกลกว่าเดิม

   "ก็กูบอกว่าไม่ได้ทำไงวะ แล้วมึงจะถอยไปทำเหี้ยอะไรนักหนาขี้เกียจแหกปากคุย" อาร์ตทำเสียงเข้มตาดุใส่อีกฝ่าย พยายามทำตัวให้นิ่งที่สุดเดี๋ยวไก่ตื่น...เฮ้ย!! นี่กูเป็นไรของกูวะเนี่ย

   "กูก็ไม่ได้อยากแหกปากแต่หน้าตามึงแม่งไม่น่าไว้ใจ และที่สำคัญรถกูต้องส่งซ่อม" พีทถลึงตาใส่อีกฝ่ายพยายามทำให้ดุที่สุด แล้วเขยิบเข้าไปใกล้อีกนิดย้ำว่าแค่นิดเดียวเท่านั้น

   "เออ...ซ่อมก็ซ่อมดิวะแค่เนี่ย มึงจะโวยวายทำเหี้ยอะไร" อาร์ตทำหน้าเหนื่อยหน่ายใส่อย่างรำคาญ จนพีทที่เห็นท่าทางแบบนั้นถึงกับเกิดอาการหมั่นไส้ทันที ก็หมาตัวไหนละวะโวยวายตอนบอกว่าเสียสองหมื่นน่ะ

   "สำหรับมึงอาจจะมองว่าแค่นี้ แต่มึงรู้ไหมว่ากว่ากูจะได้รถมาก็ต้องทำอะไรบ้าง ต้องอ่านหนังสือหนักแค่ไหนมึงแม่งพูดง่าย ไอ้เหี้ย สัน..."

   "พอๆ" อาร์ตยกมือขึ้นเบรกพีทที่บ่นไม่หยุด อีกข้างก็กุมขมับตัวเองเอาไว้ หน้าตาน่ารักไหงบ่นเหมือนตาแก่เลยวะ แบบนี้ต่อให้อยากเอาก็ต้องคิดกันก่อนแล้วว่ะ

   "เออ!!" พีทกระแทกเสียงใส่อย่างหงุดหงิดที่โดนขัด ยกแขนกอดอกแล้วสะบัดหน้าหนีอย่าขัดใจ

   "แล้วรถมึงจะส่งซ่อมที่ไหน" อาร์ตถามเข้าเรื่องหลังจากที่ออกทะเลออกอ่าวกันไปนาน ส่วนบรรดาไทยมุงพอเห็นว่าทั้งคู่คุยกันได้ด้วยดี ก็สลายตัวออกไปทิ้งแค่คู่กรณีเอาไว้เคลียร์กัน

   "มีเบอร์ช่าง" พีทเองก็หันมาพูดเข้าเรื่องเหมือนกัน

   "งั้นก็โทรตาม" อาร์ตสั่งแล้วเดินไปนั่งบนเบาะรถเพื่อรอ ตาก็สำรวจบานชื่นสุดที่รักไปด้วย เขาเอวก็ต้องไปซ่อมนิดหน่อยเหมือนกันนะเนี่ย

   พีทที่เห็นว่าอาร์ตไม่พูดอะไรต่อก็เดินเลี่ยงไปโทรเรียกช่างมารับรถ ก่อนจะโทรไปหาหญิงสาวที่ตัวเองจะไปรับ และแน่นอนโดนด่าจนหูชาเพราะไอ้นมเย็นนั้นคนเดียวเลย ไอ้รุ่นพี่เหี้ย!!

   "อะไร" อาร์ตถามคนตรงหน้าด้วยความสงสัย อยู่ดีๆก็เดินทำหน้าบึ้งตึงมาหาเขา แถมจ้องแบบจะกินเลือดกินเนื้อ คือก็รับผิดชอบแล้วไงมีปัญหาอะไรอีกวะ

   "ช่างบอกอีกครึ่งชั่วโมงจะมาลากรถไป" พีทกระเสียงบอกห้วนๆ ซึ่งอาร์ตก็พยักหน้ารับไม่ได้ต่อปากต่อคำอะไร

   "ว่าแต่มึงมีจังจ่ายแน่นะ" พีทถามต่อด้วยความไม่ไว้ใจ ก็ดูสภาพแล้วแม่งไม่น่าจะมีตัง

   "เออ!!" อาร์ตตอบด้วยความรำคาญ มองมาด้วยสายตาแบบนั้นคืออะไรวะ

   "ให้แน่นะ" พีทย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

   "ก็บอกว่าเออไงวะ รับผิดชอบให้แล้วจะเอาอะไรอีกเนี่ย" อาร์ตหันมาถามพร้อมกับกรอกตาขึ้นฟ้า

   "ก็จะรู้ไหมล่ะเมื่อกี้สองหมื่นยังบอกว่ามีสองร้อยอยู่เลย" พีททำหน้าเหวี่ยงใส่

   "จะซ่อมไหม" อาร์ตถามเสียงเรียบจ้องหน้าอีกฝ่ายดุๆ

   "ซ่อม!!" พีทว่าแค่นั้นแล้วหันหน้าหนี

   หลังจากนั้นทุกอย่างก็เข้าสู้ความเงียบ ไม่มีการพูดคุยอะไรอีกระหว่างทั้งคู่จนกระทั่งช่างมา พีทเดินไปคุยอะไรด้วยนิดหน่อยยืนมองช่างลากรถไป แล้วเดินกับมาหาอาร์ตหน้ามุ่ย

   "ช่างบอกให้ตามไปที่อู่" อาร์ตพยักหน้ารับรู้แล้วขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์ พีทเห็นแบบนั้นก็เตรียมหันหลังจะเดินไปโบกแท็กซี่ แต่ก็ต้องชะงักเพราะถูกดึงแขนเอาไว้

   "มึงจะไปไหน" อาร์ตเอ่ยปากถาม

   "ไปโบกแท็กซี่ไง" พีทขมวดคิ้วมองอีกฝ่าย

   "โบกทำไมไปด้วยนี่แหละ" อาร์ตพยักหน้าไปที่เบาะรถเล็กน้อย ส่วนพีทก็มองมอเตอร์ไซค์ด้วยใบหน้าแหยงๆ

   "ไม่เอาอ่ะ" พีทส่ายหัวปฏิเสธเป็นพัลวัน สายตาที่มองไปยังรถบ่งบอกว่าชาตินี้ จะไม่เอาก้นไปสัมผัสลงบนเบาะเด็ดขาด

   "ขึ้นมา" อาร์ตบอกแกมบังคับ มือตบลงบนเบาะด้านหลังเบาๆ

   "ไม่เอากูจะไปแท็กซี่" พีทว่าหน้ามุ่ยหันหลังเดินหนี แต่ก็ไปไหนไม่ได้เพราะโดนดึงไว้

   "อะไรอีกล่ะ" พีทหันมาถามพร้อมชักสีหน้าเตรียมเหวี่ยงเต็มที่

   "ก็บอกว่าไปพร้อมกันไง" อาร์ตบอกเสียงยานคางมือก็ดึงแขนพีทให้เข้ามาใกล้ๆ

   "ไม่เอา!! กูจะไปแท็กซี่ปล่อย!!" พีทว่าด้วยความหงุดหงิดพยายามสะบัดแขนตัวเองออก

   "ไม่ได้...มึงลืมรึเปล่าว่ากูไปอู่ซ่อมรถมึงไม่ถูก" คำพูดของอาร์ตทำเอาพีทกรอกตาไปมาด้วยความเซ็ง

   "มึงก็เปิดกูเกิ้ลแม็บดิ...เรียนวิศวะไม่น่าโง่" พีทบอกอีกฝ่ายโดยท้ายประโยคพึมพำเสียงเบา

   "กูได้ยินและกูไม่ได้โง่" อาร์ตว่าดุๆแล้วควักโทรศัพท์มาให้พีทดู

   พอพีทได้เห็นโทรศัพท์ที่ว่าก็แทบลมใส่ มันจะมีปัญญาจ่ายค่่าซ่อมรถให้เขาแน่หรอวะ ถ้าขนาดโทรศัพท์มันยังพกซัมซุงฮีโร่เนี่ย

   "ทีนี้เข้าใจแล้วนะว่ากูเปิดกูเกิ้ลแม็บไม่ได้" อาร์ตว่าหน้าตายแล้วเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า

   "งั้นก็ไปแท็กซี่ด้วยกัน" พีทยื่นทางเลือกของตัวเองไปให้ เพราะยังไงเขาก็ไม่ยอมขึ้นไอ้เศษเหล็กสองล้อนี่ ไม่รู้ขับๆไปจะล้อหลุดออกมาไหม ที่สำคัญสีชมพูหวานแหววแบบนี้ ให้ตายก็ไม่ยอมนั่งให้อายชาวบ้านแน่ๆ

   "รถกูก็มีจะไปนั่งแท็กซี่ให้เปลืองตังทำไม" อาร์ตถามด้วยความไม่เข้าใจ

   "เดี๋ยวกูจ่ายเอง" พีทบอกอย่างใจป้ำแต่อาร์ตส่ายหัวปฏิเสธทันควัน

   "ไม่เอากูไม่ทิ้งลูกสาวกูไว้โดดเดี่ยวหรอก" อาร์ตบอกพีทด้วยน้ำเสียงจริงจัง

   "งั้นก็แยกกันไป" พีทตัดบทและหันหลังเดินหนี แล้วก็ต้องเซถอยหลังเล็กน้อยเพราะโดนดึงไว้

   "อะไรของมึงเนี่ย" พีทถามเสียงเหวี่ยงหน้าตาบ่งบอกความหงุดหงิดเต็มที่

   "กูก็บอกอยู่ว่าไปเองไม่ถูก" อาร์ตว่าด้วยสีหน้ายุ่งเหยิงไม่แพ้กัน

   "ก็แล้วจะเอายังไงล่ะวะ บอกให้ไปแท็กซี่มึงก็ไม่เอา" พีทพูดเสียงดังด้วยอารมณ์ที่เริ่มจะโมโหอีกครั้ง จ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่องเตรียมตัวเปิดศึกน้ำลายเต็มที่

   "กูต่างหากที่ต้องถามว่ามึงจะเอายังไงไปกับกูก็จบ หรือมึงมีปัญหาอะไร" อาร์ตถามกลับด้ววน้ำเสียงชวนหาเรื่องไม่แพ้กัน หรี่ตามองอีกฝ่ายแล้วยิ้มมุมปาก

   "อ๋อออ กูลืมไปมึงมันคนมีเงินขับรถคันเป็นล้าน คงนั่งมอ'ไซค์กับสามัญชนไม่ได้" อาร์ตพูดน้ำเสียงยานคางทำหน้าเข้าอกเข้าใจ แต่มันกวนประสาทเป็นที่สุดในสายตาพีท จนเจ้าตัวต้องกัดฟันกรามกรอดๆเพราะหงุดหงิด

   "รู้ก็ดีไฮโซแบบกูไม่ลดตัวลงไปนั่งซ้อนท้ายไอ้เศษเหล็กสองล้อ ซังกะบ้วยสีโคตรตุ๊ดของมึงแน่ๆ" พีทมองทั้งรถทั้งเจ้าของด้วยสายตาดูถูก ปกติเขาไม่ใช่คนแบบนี้แต่ในเมื่ออีกฝ่ายเริ่มก่อน เขาก็เลยต้องสนองตามความต้องการซะหน่อย ถึงเรื่องให้ไปตีรันฟันแทงจะไม่เก่งกาจแต่เรื่องปะทะฝีปาก รับรองไม่เป็นสองรองใครคอนเฟิร์มด้วยเกียรติไอ้พีทเลยเอ้า

   "มึงว่าใครตุ๊ด" อาร์ตจ้องหน้าอีกฝ่ายเขม็ง ซึ่งพีทก็อมยิ้มชอบใจที่กวนกลับได้

   "ก็ไม่รู้สินะ" พีทยักไหล่ให้อย่างกวนประสาทแถมยักคิ้วให้พร้อมสรรพ

อาร์ตยืนมองท่าทางกวนๆนั่นจนคิ้วกระตุก สูดลมหายใจเข้าปอดแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา และมันทำให้พีทหุบยิ้มลงทันทีอย่างขัดใจ ที่ตัวเองกวนประสาทไม่สำเร็จ

   "มึงว่ากูตุ๊ดใช่ไหม" อาร์ตถามพร้อมกับส่งยิ้มหวานบาดใจ

   "เออ...ทำไม" พีทเชิดหน้าใส่อย่างท้าทาย

   "กูยอมรับว่าตุ๊ดก็ได้" อาร์ตพูดด้วยน้ำเสียงเป็นมิตรและขยับเข้าหา แล้วเอื้อมมือไปคว้าเอวอีกฝ่ายเข้ามากอด

   "อะ...ไอ้เหี้ย มึงจะทำอะไรปล่อยนะเว้ย!!" พีทตกใจกับการกระทำของอาร์ตไม่น้อย ก่อนจะพยายามดิ้นขลุกขลักให้หลุดจากอ้อมแขน

   "แต่กูเป็นตุ๊ดรุกนะ" อาร์ตก้มลงกระซิบที่ข้างหูแล้วหอมแก้มเนียนเต็มแรง

   "ไอ้เหี้ย!!!" พีทที่ตั้งสติจากการโดนจู่โจมกะทันหันได้ ก็เงื้อมือขึ้นสูงหมายจะชกหน้าอีกฝ่าย

   หมับ!!

   ฟอดดดดด

   อาร์ตที่มีปฏิกิริยาค่อนข้างไวกับเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว หันไปคว้ามืออีกฝ่ายไว้ได้ทันก่อนจะก้มลงหอมแก้มเนียนอีกข้าง

   "อ๊ากกกกก ปล่อยกู!!" พีทโวยวายดังลั่นดิ้นรนขัดขืนหน้าตาตื่น

   "หยุด!!" อาร์ตบอกเสียงเข้มพร้อมกับเก็กหน้านิ่งใส่

   "ถ้ามึงไม่หยุดดิ้นกูจะเปลี่ยนจากหอมแก้มเป็นจูบ แล้วถ้ามึงโวยวายไม่เลิกกูจะลากมึงไปเอา" คำขู่ของอาร์ตทำเอาพีทหับปากสนิทหยุดดิ้น พยักหน้ารับคำสั่งหงึกหงัก

   "ดีมาก...เดินไปขึ้นรถ" อาร์ตสั่งออกมาอีกครั้งซึ่งพีทก็รีบทำตามโดยเร็ว จนอาร์ตได้แต่ยืนยิ้มขำอย่างชอบใจ

   "อะ...ใส่หมวก" อาร์ตคว้าเอาหมวกมาสวมลงบนหันให้พีท ก่อนตัวเองจะขึ้นคร่อมรถแล้วสตาร์ทเครื่อง แต่ก่อนจะออกตัวก็ไม่วายดึงมือคนข้างหลังมาโอบเอว ซึ่งก็มีแรงขัดขืนจากคนข้างหลังบ้างแต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะสุดท้ายเขาก็บังคับอีกฝ่ายสำเร็จอยู่ดี

   'ดูๆไปไอ้หน้าอ่อนข้างหลังนี่ก็น่ารักเหมือนกันนะ'



2 Be Con...

ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
กัดครั้งที่
- 4 -
   


   หลังจากออกแรงบังคับขู่เข็ญกันได้เป็นผลสำเร็จ อาร์ตก็แว๊นลูกสาวสุดที่รักพาอีกคนมาถึงอู่ซ่อมรถในเวลาไม่นาน ซึ่งระหว่างทางก็มีเสียงโวยวายดังขึ้นเป็นระยะ

   ทันทีที่รถจอดนิ่งสนิทภายในอู่ซ่อมรถ พีทก็ก้าวขาลงจากรถอย่างไม่รอช้าจัดการถอดหมวกกันน็อคออก แล้วเขวี้ยงใส่คนตรงหน้าด้วยแรงทั้งหมดที่มี ตวัดตามองด้วยความไม่พอใจ

   "อูยยยยย" อาร์ตครางออกมาเสียงเบาเพราะเจ็บและจุกไม่น้อย ขมวดคิ้วมุ่นมองใบหน้าหวานที้หน้างอง้ำด้วยความขำ ไม่รู้ว่าภายในไม่กี่ชั่วโมงทึ่ผ่านมา เขาโดนคนตรงหน้าประทุษร้ายร่างกายไปกี่ครั้งแล้ว แถมเขาก็ยอมให้ทำซะด้วยสิ

   "เฮ้ย!! ยะ...อย่าเข้ามานะมึง" พีทร้องเสียงหลงพูดติดอ่าง เมื่อเห็นว่าอาร์ตเงยหน้าขึ้นมามองตัวเอง ก่อนจะยกมือขึ้นตั้งการ์ดมวยใส่ด้วยท่าทีขึงขัง

   อาร์ตเหล่สายตามองเล็กน้อยแล้วอมยิ้มขำ หันหลังเอาหมวกไปวางใส่ตะกร้ารถ ก่อนจะหันหลังกลับมาเผชิญหน้ากับพีท พร้อมขยับเข้าหาโดยที่ไม่พูดอะไร

   "ฮะ...เฮ้ย...กะ...กูบอกว่าอย่าเข้ามาไงวะ" พีทพูดตะกุกตะกักถอยหลังหนีอีกฝ่ายที่รุกคืบเข้าหาโดยอัตโนมัติ มือที่ยกตั้งการ์ดไว้เปลี่ยนเป็นมาผลักอกร่างสูงให้ถอยห่างแทน

   ปึ่ก!!!

   เสียงฝ่ามือที่กระทบผนังดังขึ้น พร้อมกับแผ่นหลังของพีทที่สัมผัสความเย็นของผนัง ใบหน้าหวานแสดงอาการแตกตื่นอย่างเห็นได้ชัด หันซ้ายหันขวามองหาทางหนีทีไล่เลิ่กลั่ก เห็นว่าอีกฝั่งไม่มีแขนกันเอาไว้ เลยเบี่ยงตัวหมายจะเดินหนีออกทางนั้นแทน

   ปึ่ก!!!

   แต่ก็ต้องผงะถอยหละงแทบไม่ทัน เพราะอาร์ตยกแขนอีกข้างขึ้นมากันไว้ ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าพีทตกอยู่ในวงแขนของอาร์ตแทน

   อันที่จริงอาร์ตไม่ได้กะว่าจะทำอะไรพีทแล้ว แต่พอเห็นอีกฝ่ายทำหน้าตื่นกลัว ระแวงเขาซะขนาดนั้นมันเลยอดแกล้งไม่ได้

   อาร์ตโน้มใบหน้าเข้าหาพีทช้าๆ ยิ่งทำให้พีทออกอาการแตกตื่นมากกว่าเดิม ตาสองข้างหลับปี๋มือก็ยกขึ้นมาดันอกอีกฝ่ายไว้

   "เอ่อ...ขอโทษนะครับ" เสียงเรียกจากด้านข้างที่ดังขึ้นขัดจังหวะ ทำให้อาร์ตหยุดการกระทำของตัวเอง ส่วนพีทได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ที่ตัวเองรอดพ้นจากสถานการณ์ล่อแหลม

   อาร์ตกับพีทสบตากันเล็กน้อย ก่อนที่พีทจะผลักอาร์ตให้ถอยห่าง ซึ่งอีกฝ่ายก็ขยับให้แต่โดยดี แล้วทั้งคู่ก็หันไปมองบุคคลที่สามพร้อมกัน

   "อะ...เอ่อ...เถ้าแก่ให้มาเชิญเข้าไปรอด้านในครับ" บุคคลผู้มาใหม่ที่น่าจะเป็นช่างในร้านบอกด้วยน้ำเสียงอึกอัก มองใบหน้าของพีทกับอาร์ตสลับกันไปมา

   "คะ...ครับ" พีทเองก็ตอบรับเสียงอึกอักไม่แพ้กัน รู้สึกขัดเขินกระอักกระอวนใจไม่น้อยเหมือนกัน ไม่รู้ว่าป่านนี้คิดกันไปไหนถึงไหนแล้ว

   ท่ามกลางความกังวลใจและความอายของพีท อาร์ตกลับอมยิ้มมุมปากอย่างมีความสุข ใครจะมองหรือคิดอะไรยังไงเขาไม่สนใจหรอก ที่เขาสนคือใบหน้าแหยๆขึ้นสีแดงนิดๆนี่ต่างหาก ยิ่งแกล้งก็ยิ่งสนุก

   "งั้นตามผมเข้าไปด้านในเลยครับ" ช่างว่าแค่นั้นแล้วหันหลังเดินนำ แต่ก่อนหันก็ไม่วายส่งสายตาเคลือบแคลงมามองทั้งคู่

   พีทถลึงตาใส่อาร์ตดุๆพร้อมกับแยกเขี้ยวใส่ แล้วรีบเดินตามช่างเข้าไปในร้าน ทิ้งให้อาร์ตยืนขำกับการโดนขู่ที่แสนน่ารัก ก่อนที่เจ้าตัวเองจะเดินตามหลังเข้าไปข้างในเป็นคนสุดท้าย

   ระหว่างที่ทั้งคู่ถูกทิ้งให้นั่งรออยู่ในห้องรับรองแขก พีทขยับถอยห่างไปนั่งอีกฝั่งของโซฟา นั่งเบียดกับผนังห้องแนบสนิทจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน ตาก็เหลือบมองอาร์ตที่นั่งอีกฝั่งอย่างระแวง

   อาร์ตมองท่าทางแบบนั้นแล้วอยากขำออกมาดังๆ นี่ขนาดแค่หอมยังออกอาการกลัวขนาดนั้น ถ้าจับไปเอาจริงๆจะเป็นยังไงวะเนี่ย

   "เฮ้ย!!" อาร์ตส่งเสียงทักไปอย่างนึกสนุก และก็ได้ผลเพราะพีทสะดุ้งเฮือก หันมามองอาร์ตหน้าตาตื่น

   "อะไร!!!" พีทตวาดถามกลับเสียงดังเพื่อข่มความกลัวของตัวเอง ร่างกายเบียดสนิทแนบชิดไปหากำแพงมากกว่าเก่า
   "มึงชื่ออะไร" อาร์ตถามด้วยท่าทีสบายๆ ไม่ได้มีท่าทางคุกคามแต่อย่างใด

   "ทำไมกูต้องบอกมึง" พีทถามกลับยียวนตามนิสัย อาร์ตหันไปสบตาแล้วยกยิ้ม ก่อนจะทำท่าพุ่งถลาเข้าใส่

   "อ๊ากกกก ไอ้เหี้ย!! กูชื่อพีท!! ชื่อพีท!! อย่าเข้ามาแม่ง!!" พีทโวยวายดังลั่นยกทั้งมือทั้งเท้าขึ้นมากัน

   "ก็แค่นั้น" อาร์ตยักไหล่ขึ้นแล้วก็กลับไปนั่งที่เดิม ในใจก็เริ่มนึกสนุกกับการแกล้งพีท

   "ชื่อพีท...ลูกพีชน่ะเหรอ"
 
   "ลูกพีชพ่อง!!!" พีทแยกเขี้ยวด่ากลีบทันที ตามนิสัยปากไวของตัวเอง

   "หืม" อาร์ตปรายตามองแล้วทำท่าจะลุกไปหา พีทเห็นแบบนั้นก็ตาเหลือกโวยวายเสียงดัง

   "อ๊ากกกก สัส!! อย่าเข้ามา" พีทรีบลุกขึ้นยืนทันที

   "นั่งลง!!" อาร์ตออกคำสั่งแต่พีทยังไม่ยอมนั่งลง จนอาร์ตต้องส่งสายตากดดันไปให้ เจ้าตัวถึงได้ยอมนั่งลงดีๆแต่ก็พร้อมที่จะกระโจนหนี ถ้าหากสมมุติว่าอาร์ตเข้ามาใกล้ตัวเอง

   "เรียนคณะไหน" อาร์ตถามเรื่อยๆเหมือนไมีมีอะไร แต่ในใจกำลังวางแผนการบางอย่าง

   "เรียน..."

   "อย่าโกหกนะมึง ถ้ากูจับได้ทีหลังมึงจะโดนไม่ใช่น้อย" อาร์ตพูดดักคอขึ้นมาอย่างรู้ทัน จนพีทออกอาการหน้างอออกมาอย่างขัดใจ

   "ปีหนึ่ง...วิ..." พีทอ้อมแอ้มตอบเสียงเบา

   "อะไรนะ" อาร์ตขมวดคิ้วพันกันยุ่งเพราะไม่ได้ยิน

   "ปีหนึ่ง วิศวะ" พีทกระแทกเสียงตอบอย่างจำยอม

   "หืม...ปีหนึ่งวิศวะ" อาร์ตทวนคำพร้อมกับจ้องอีกฝ่ายเขม็ง

   "แล้วน้องพีทไม่รู้จักพี่เหรอครับ" อาร์ตส่งยิ้มบางๆไปให้ แต่พีทกลับรู้สึกเสียวสันหลังกับรอยยิ้มนั่น กลืนน้ำลายลงคอเสียงดังรอรับบทลงโทษที่ต้องเกิดแน่ๆ เพราะระบบโซตัสของวิศวะขึ้นชื่อลือชาอยู่แล้ว รุ่นน้องต้องเคารพรุ่นพี่ยิ่งกับคนตรงหน้าเขายิ่งต้องเคารพ

   อาร์ตมองใบหน้าหวานที่ซีดเผือดอย่างชอบใจพยายามกลั้นขำสุดชีวิต ไอ้เด็กบ้านี่ตลกฉิบหายไม่ต้องให้เจ้าตัวบอกเขาก็เดาได้ ว่าอีกฝ่ายรู้จักเขาแน่ๆและดูท่าจะรู้ดีพอสมควรเลยล่ะ ไม่อย่างนั้นคงไม่หน้าซีดปากสั่นหลบหน้าหลบตาขนาดนี้

   แล้วมันก็แปลกเผลอๆอาจจะเข้าขั้นบ้า ทั้งๆที่รู้ทั้งๆที่กลัวก็ยังกล้า แถมยังจะหาวิธีแถเอาตัวรอดอีก แต่บอกเลยงานนี่ไม่รอดไม่มีการปล่อย ไม่มีอนุโลมอะไรทั้งนั้นไม่งั้นเสียชื่อไอ้อาร์ตขาโหดแย่

   "เอ่อ...คือ...เอ่อ..." พีทอึกอักในการตอบคำถามไม่กล้าแม้แต่จะสบตาอีกฝ่าย กรอกตาลอกแลกไปมาสมองประมวลผลอย่างหนักเพื่อหาทางรอด ก่อนจะตัดสินใจเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย

   "หืม" อาร์ตส่งเสียงในลำคอเมื่ออีกฝ่ายเงยหน้าขึ้รมาสบตา

   แต่พีทที่ทันเห็นรอยยิ้มกวนๆของอาร์ตก็หน้าตึง ความโมโหเริ่มเกิดอีกครั้งอารมณ์อยากเหวี่ยงเริ่มมา เพราะรู้สึกไม่ชอบใจที่อีกฝ่ายทำเหมือนล้อเล่นกับตัวเองอยู่

   "มึงจะเอายังไงกับกูก็ว่ามา" พีทกระชากเสียงถามจ้องอีกฝ่ายตาเขียว ทำให้อาร์ตยกคิ้วขึ้นแล้วมองท่าทีที่เปลี่ยนไปของเจ้าตัวด้วยความแปลกใจ

   "พูดจาไม่เพราะเลยนะน้องพีท กูมึงกับใครครับ" อาร์ตถามเสียงหวานที่จงใจดัดเพื่อกวนประสาท แถมยังส่งยิ้มกว้างจนตาแทบปิดไปให้

   "กับมึงนั่นแหละ" พีทเชิดหน้าใส่อีกฝ่ายอย่างท้าท้าย

   "ไม่เอาไม่พูด ไหนพูดกับพี่ดีๆซิ" อาร์ตขยับเข้าไปใกล้แล้วแกว่งนิ้วชี้ไปมาตรงหน้าพีท พร้อมกับดัดเสียงเล็กเสียงน้อยใส่ จนพีทรำคาญยกมือขึ้นมาจับนิ้วของอาร์ตแล้วบีบเต็มแรง

   "กูจะพูดดีเฉพาะคนที่คู่ควรโว๊ย!!!" พีทตะโกนใส่หน้าอาร์ตสุดเสียงบฃ แล้วใช้มือผลักอกอาร์ตให้ถอยห่าง เผลอแป๊บเดียวไอ้บ้านี่ขยับเข้ามาใกล้เขาอีกแล้วให้ตายสิ แต่ไม่ว่าจะออกแรงทุบออกแรงผลักขนาดไหน อีกฝ่ายก็ไม่ขยับแถมยังนั่งเฉยเหมือนไม่รู้สึกอะไร กลายเป็นเขาเองที่หอบเหนื่อยจากการออกแรง

   "จะพูดดีๆไหม" อาร์ตหรี่ตามองพีทเล็กน้อย

   "ไม่" พีทเองก็ตอบเสียงแข็งจ้องหน้าอย่างเอาเรื่อง

   "แน่ใจนะ" อาร์ตถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงและสีหน้าเจ้าเล่ห์

   "อะ...เออ!!" พีทพยามบังคับตัวเองให้ตอบอีกฝ่ายเสียงแข็ง ทั้งๆที่ในใจเริ่มฝ่อแลัว

   กร๊อบ! กร๊อบ!

   อาร์ตหักนิ้วตัวเองพร้อมกับบิดคอไปมาจนได้ยินเสียงกระดูกลั่น แสยะยิ้มข่มขวัญพีทจนเจ้าตัวตาโตเกิดอาการผวาอีกครั้ง

   "รุ่นน้องที่ไม่เคารพรุ่นพี่มันก็ต้องจัดการจริงไหม" อาร์ตพูดเสียงเย็นแล้วกำหมัดแน่น

   "อยากทำอะไรก็ทำ กูไม่กลัวสึงหรอก" พีทก็ปากเก่งไปแบบนั้นเอง ทั้งที่ในใจตอนนี้กลัวจนอยากจะร้องไห้ ก่อนจะรีบก้มหน้าหลับตาปึ๋เมื่อเห็นอีกฝ่ายเงื้อหมัดขึ้นสูง

   ฟอดดดดด

   แต่แทนที่จะกลายเป็นหมัดหนักๆที่ลอยมากระทบหน้า กลับกลายเป็นสัมผัสนุ่มนิ่ม พอค่อยๆลืมตามองก็เห็นว่าเป็นปลายจมูกโด่งของอาร์ตที่หอมแก้มตัวเองอยู่

   "อ๊ากกกกกก ไอ้เหี้ย!! ออกไป!!" พีทตาเหลือกโวยวายดังลั่นด้วยความตกใจ เงื้อฝ่ามือขึ้นสูงหมายจะฝาดมันลงบนหน้าของอาร์ต แต่เจ้าตัวดันรู้ทันยื่นมือมาจับแขนทั้งสองข้างของพีทไว้แน่น

   "อ๊ากกก ปล่อยมือกูเดี๋ยวนี้นะ" พีทถลึงตาใส่ดุๆพยายามสะบัดมือให้หลุดจากกานถูกจับ

   "พูดดีๆ" อาร์ตกระชับมือแน่นกว่าเก่าแล้วบอกพีทอย่างใจเย็น

   "พ่อง!!!" แต่แทนที่จะทำตามสั่งพีทด่าอาร์ตกลับทันที

   ฟอดดดดดด

   "อี๋...ไอ้เหี้ย!! ไอ้ตุ๊ด!! สัส!!" พีทให้พรอาร์ตไฟแล่บพรัอมกับทำหน้าขยะแขยงเต็มที่

   "ยังไม่หยุดใช่ไหม ฟอดดดด" อาร์ตยิ้มมุมปากแล้วก้มลงหอมแก้มพีทอีกข้าง ก่อนจะผละออกมามองหน้าแดงก่ำที่แสดงความรังเกียจด้วยความขำ

   "ไอ้หน้าหมา!! ไอ้ควาย!! ไอ้โรคจิต!!" พีทยังคงด่าออกมาต่อเนื่องไม่หยุด จนอาร์ตต้องส่ายหน้าเพร่ะแต่ละคำที่เจ้าตัวพ่นออกมา เรียกว่าสรรหามาด่าได้จริงๆ

   "ปากดีจริงๆแค่แก้มคงไม่พอแล้วมั้ง" อาร์ตยิ้มหวานแล้วยื่นหน้าเข้าไปหาพีท โดยมีจุดมุ่งหมายอยู่ที่ปากอิ่มสีแดงตรงหน้า

   "อย่านะมึง ถอยออกไปไอ้หน้าปลาบู่" พีทพยายามดิ้นรนหดคอหนีแต่ก็ไม่เป็นผล เพราะปากของคนตรงหน้าใกล้จะถึงปากเขาอยู่แลัว

   "อะ...เอ่อ...ขอโทษนะครับ" แต่แล้วก็มีเสียงคนเรียกขัดจังหวะขึ้น ทำให้พีทถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก และอาศัยจังหวะที่อาร์ตเผลอผลักอีกคนออกเต็มแรง แล้วรีบลุกไปยืนอยู่อีกมุมนึงของห้อง

   "สัส! มีอะไร!!" อาร์ตสบถในลำคออย่างขัดใจ ก่อนจะหันไปมองช่างซ่อมรถตาขวาง ถามอีกฝ่ายเสียงเข้ม

   "คือ...ผมมาแจ้งค่าซ่อมรถน่ะครับ" ช่างตอบคำถามออกไปกล้าๆกลัวๆ เพราะไม่รู้ว่าจะโดนอีกฝ่ายทำอะไรรึเปล่า ที่ดันเข้ามาขัดจังหวะ

   "เท่าไหร่" อาร์ตถามด้วยเสียงที่ยังหวุดหงิดอยู่

   "4x,xxx ครับ" อาร์ตพยักหนัารับรู้เล็กน้อยแล้วรวักกระเป๋าตังออกมาจากกางเกง

   "แล้วจะได้รถตอนไหน" อาร์ตถามต่อส่วนมือก็เปิดกระเป๋าตังออกเพื่อหยิบเงิน ส่วนพีทได้แต่ยืนจ้องอาร์ตตาโต ไหนมันบอกไม่มีตังวะทำไมตอนนี้มันดูไม่เดือดร้อนที่จะจ่าย

   แต่เหมือนอาร์ตจะรู้ตัวว่าโดนมองอยู่ เลยชะงักมือลงแล้วเก็บกระเป๋าเข้ากางเกงเหมือนเดิม ก่อนจะเงยหน้ามองพีทด้วยสายตาเจ้าเล่ห์

   "อะไร!!!" พีทถามเสียงแข็งเริ่มไม่ไว้ใจท่าทีของอีกฝ่าย แต่อาร์ตไม่ตอบอะไรพุ่งเข้ามาล็อกตัวพีทไว้ทันที

   "เฮ้ย!! มึงจะทำอะไร" พีทดิ้นขลุกขลักไปมาหลบมืออาร์ตที่ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงอย่างทุลักทุเล ก่อนจะตาแทบหลุดออกจากเบ้าเมื่อเห็นว่าอาร์ตทำอะไร

   "เอากระเป๋าตังกูมา" พีทพยายามแย่งกระเป๋าตังของตัวเองในมืออาร์ตคืน แต่ก็าำไม่ได้เพราะอาร์ตหันหลังให้ ประกอบกับอีกฝ่ายตัวใหญ่และสูงกว่าเขาพอสมควร ตอนนี้เลยไม่ต่างจากเด็กแย่งของกับผู้ใหญ่เลยสักนิด

   "อะพี่" อาร์ตหยิบเอาบัตรเครดิตในกระเป๋าตังพีทมายื่นให้ช่างซ่อม แต่ช่างลังเลที่จะรับจนอาร์ตต้องมองดุๆอีกฝ่ายถึงยอมรับไว้ แล้วรีบเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว

   "เฮ้ยพี่เดี๋ยว!!" พีทเรียกช่างเสียงหลงจะวิ่งตามไป แต่ก็ไปไม่ได้เพราะโดนอาร์ตดึงคอเสื้อไว้

   "แค่กๆ มึงทำเหี้ยอะไรเนี่ย" พีทไอออกมาเล็กน้อยเพราะโดนเสื้อรัดคอ ก่อนจะถามอาร์ตเสียงเข้มใบหน้าเอาเรื่อง

   อาร์ตไม่พูดอะไรออกมาทั้งนั้น นอกจากหยิบเงินแบงค์ห้าร้อยออกมาจากกระเป๋าตังพีท แล้วยัดเงินลงในกระเป๋าเสื้ออีกฝ่าย

   "ห้าร้อยน่าจะพอค่าแท็กซี่เนาะ" อาร์ตบอกพร้อมยิ้ม

   "เดี๋ยวน้องพีทรอรับบัตรคืนจากทางร้านก่อนนะ อย่าลืมถามวันมารับรถด้วยล่ะพี่จะพามา" พีทได้แต่ทำหน้างงใส่เพราะไม่รู้อีกฝ่ายจะเล่นอะไรอีก

   "ส่วนกุญแจรถกับกระเป๋าตัง ไว้น้องพีทพูดเพราะๆได้เมื่อไหร่พี่จะคืนให้" อาร์ตกระตุกยิ้มมุมปากแล้วหยิกแก้มพีทเล่นเบาๆ ก่อนจะเดินตัวปลิวไปหามอเตอร์ไซค์แล้วขับออกไปทันที ทิ้งให้พีทยืนเอ๋อพร้อมกับประสบการณ์ใหม่ในชีวิตที่จำจนวันตาย

   'เขาโดนไอ้รุ่นพี่นมเย็นนั่นขโมยของ!!'



2 Be Con...

ออฟไลน์ ma-prang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
น่ารักกกกกกกกกก
 :impress2:

ออฟไลน์ kajeaw

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 529
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
    • กาเจี๊ยว
น่าติดตาม เนื้อหาเข้มข้น

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
คู่นี้ดูน่ารักดีนะ

ออฟไลน์ oumpatta

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-43
สรุปคือตัวเองทำรถเค้ามีรอยแต่เจ้าของรถต้องมาจ่ายเอง????
คืออะไรอ่ะ หน้าด้านไปนะ เป็นรุ่นพี่แล้วทำแบบนี่ได้?

ไม่มีเหตุผลซักนิด แล้วจะไปกลัวมันทำไมอ่ะพีท ในเมื่อตัวเองก็ไม่ได้ผิด
อ่านแล้วได้แต่เซ็ง คือออ?

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ดุเดือด

ออฟไลน์ saotome

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
พีทน่ารัก ชอบๆ

ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
กัดครั้งที่
- 5 -
   


   "มึงเป็นอะไรของมึงวะ" กลอนขมวดคิ้วถามเพื่อนสนิทด้วยความสงสัยกับพฤติกรรมแปลกประหลาด ที่เจ้าตัวแสดงออกมาได้สักพักแล้ว

   "เออใช่...กูเห็นมึงนั่งส่องกระจกนานละนะ" อ้นเองก็ถามขึ้นมาบ้างเพราะเห็นอาร์ต เอาแต่หันซ้ายหันขวาใส่กระจกในมือไม่พูดไม่จานานแล้ว

   "ห้องมึงนี่เข้ามาทีไรขนลุกทุกทีว่ะแม่ง" ในเมื่อไม่ได้คำตอบอ้นเลยเบนสายตาไปมองรอบๆห้องของอาร์ตแทน ห้องที่เขากล้าพูดได้เต็มปากว่าเป็นห้องที่โคตรไม่น่าเข้ามาเหยียบ ถ้าไม่ใช่ว่าเป็นห้องเพื่อนเขาไม่มีทางเข้ามานั่งแช่ในนี้นานๆแน่

   "มึงว่าความหล่อกูลดลงป่ะวะ" อาร์ตพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง สายตายังจ้องกระจกอย่างเอาเป็นเอาตาย

   "ถามเหี้ยอะไรของมึง" กลอนถึงกับหน้าเหวอหันมามองอาร์ต

   "เออน่า...ตอบกูมาเหอะ" อาร์ตขมวดคิ้วใส่เพื่อน แล้วหันกลับไปส่องกระจกอีกครั้ง

   "นอกจากหน้ามึงที่เหลือก็ไม่มีอะไรดีแล้วล่ะ" อ้นตอบคำถามแล้วมองอาร์ตอย่างเอือมระอา เพราะไม่รู้ว่าเจ้าตัวจะนึกเพี้ยนอะไรขึ้นมาอีก

   "แล้วทำไมถามขึ้นมาวะ ปกติไม่เห็นมึงจะสนใจ" กลอนเอื้อมมือไปคว้าเอากระจกจากอาร์ตมาถือไว้ เพราะเริ่มจะรำคาญท่าทางชวนเข้าใจผิดของเพื่อน ถ้าไม่เคยไล่กระทืบกันมาก่อนเขาคิดว่ามันเป็นกระเทยควายแน่ๆ

   "มีคนด่าว่ากูหน้าปลาบู่" อาร์ตตอบหน้าเครียด

   "ก๊ากกกก ไอ้เหี้ยใครพูดวะถูกใจฉิบหาย" อ้นหัวเราะออกมาอย่างสะใจ เมื่อรู้สาเหตุที่ทำให้เพื่อนตัวเองมีท่าทางประหลาด มันไม่ง่ายเลยนะที่คนอย่างไอ้อาร์ตจะหมดความมั่นใจ เพราะทั้งชีวิตมันตอนนี้ก็มีแค่เรื่องรูปร่างหน้าตาเนี่ยแหละ ที่โดดเด่นกลบความยาจกไส้แห้งของมัน

   "สัส!!" อาร์ตหันไปแยกเขี้ยวใส่อ้นก่อนจะเอื้อมมือไปล็อคคออีกฝ่าย  แล้วระดมตบกะโหลกลงไปไม่ยั้งมือ

   "โอ๊ย!! กูเจ็บ!! ปล่อยกู!!" อ้นดิ้นพรวดพลาดไปมามือก็ฟาดตามตัวอาร์ตไปเรื่อยเพื่อให้ปล่อย ทั้งๆที่ก็ตัวไม่ได้ใหญ่กว่ากันอะไรมากมาย แต่ถ้าหันมาเรื่องใช้กำลังทีไรเป็นได้แพ้แรงทุกที

   "พอๆมึงอย่าไปแกล้งมัน" กลอนที่เห็นสภาพชวนสังเวชของเพื่อนไม่ไหว ตัดสินใจเอ่ยปากบอกให้อาร์ตหยุดมือ ไม่งั้นไอ้อ้นได้โวยวายแหกปากไม่หยุดแน่

   "ไอ้อาร์ต ไอ้เหี้ย!!" พออาร์ตปล่อยมืออ้นก็ค้อนอีกฝ่ายตาคว่ำ แล้วเดินไปหลบหลังกลอนเพื่อใช้เป็นกันชน

   "เดี๊ยะๆมึงโดนอีก" อาร์ตชี้นิ้วไปที่หน้าเพื่อนอย่างคาดโทษ

   "กลอน...มันจะแกล้งกู" อ้นรีบฟ้องกลอนทันทีเหมือนทุกครั้งที่ทำ จนเจ้าตัวได้แต่ส่ายหัวด้วยความเหนื่อยใจ มีเพื่อนเหมือนมีลูกโตแต่ตัวสมองไม่ค่อยพกมาทั้งคู่ สตินี่ไม่ต้องถามหาไม่มีทางมี อยากจะให้พวกรุ่นน้องมันได้มาเห็นสภาพรุ่นพี่ที่พวกมันกลัวหัวหดจริงๆ โดยเฉพาะห้องนอนสุดสะพรึงของไอ้อาร์ต

   "เวลามึงเอากับเด็กเคยพามาที่ห้องป่ะ" กลอนมองไปรอบห้องด้วยสายตาหนักใจ

   "โรงแรม…พามาห้องวุ่นวายฉิบหาย" อาร์ตตอบอย่างไม่ใส่ใจลุกขึ้นเปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะต้องเตรียมตัวไปทำงานแล้ว

   "เออดีละอย่าให้เขามาเจอห้องซานริโอมึงเลยว่ะ" อ้นพูดแทรกขึ้นมาและจับตุ๊กตาคิตตี้บนเตียงมามองด้วยสายตาปลงๆ

   "ซานริโอกูไม่ดียังไง" อาร์ตหันมาถามเพื่อนอย่างเอาเรื่อง

   "กูสิต้องถามว่ามึงพิศวาสไปแมวชมพูนี่ตรงไหน" อ้นสวนกลับเสียงดังในสิ่งที่ตัวเองสงสัยมาตลอด เพราะห้องทั้งห้องของไอ้อาร์ตมองไปมุมไหน เจอตุ๊กตาคิตตี้กับพองเพื่อนซานริโอแทบทุกตารางนิ้ว มีกันทุกคอลเลกชั่นเลยมั้งถ้าเป็นห้องของสาวน้อยคงน่าเอ็นดูไม่หยอก แต่นี่มันห้องผู้ชายตัวควายๆเรียนวิศวะ

   "คิตตี้ไม่ใช่แมวเป็นเด็กผู้หญิงต่างหาก" อาร์ตตอบในสิ่งที่อ้นไม่ได้สงสัย ก่อนจะหันกลับไปแต่งตัวตามเดิม

   "กูต้องรู้ไหมว่ามันไม่ใช่แมว" อ้นพูดออกมาอย่างปลงตก ซึ่งอาร์ตก็ยักไหล่ให้เล็กน้อย

   ถามว่าพิศวาสอะไรคิตตี้อาร์ตเองก็ตอบไม่ได้ ไม่ได้ชอบหรือคลั่งไคล้เหมือนที่ผู้หญิงเป็นหรอก แต่รู้ตัวอีกทีเขาก็มีไอ้ตัวสีชมพูนี่เต็มห้อง มันเริ่มจากจุดเล็กๆที่ทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนจนทุกวันนี้เลยล่ะ

   "เฮ้ยอาร์ตมึงแดกป๊อกกี้ด้วยเหรอวะ" กลอนมองไปที่กล่องขนมบนหัวเตียงจำนวนหนึ่ง แล้วหันกับมามองหน้าเพื่อนอย่างสงสัย เพราะเท่าที่จำได้ไอ้อาร์มันไม่กินขนมหวานๆแบบนี้ ถึงมันจะมีความชอบส่วนตัวแปลกๆแต่ไม่ได้รวมไปถึงของกินนะ

   "เปล่า...ของเด็ก" อาร์ตหันมาตอบพร้อมกับยกยิ้มเจ้าเล่ห์

   "เด็กไหนวะ" เป็นอ้นที่ถามขึ้นมาเพราะความอยากรู้ จนกลอนที่เป็นคนเปิดประเด็นต้องส่ายหัว เรื่องเสือกต้องยกให้ไอ้อ้นมันจริงๆ เดี๋ยวมันจะเสือกจนได้เรื่องเข้าสักวัน

   "ไม่บอกเว้ย!! แต่น่ารักสัส ตัวเล็ก ขาว ตาโต แก้มป่อง พูดทีนี่เสียงหวานเหี้ยๆ" อาร์ตทำหน้าเคลิ้มออกมาอย่างไม่ปิดบัง พูดไปก็จินตนาการถึงคนที่ตัวเองตามจีบอยู่

   "ใครวะ" อ้นพึมพำด้วยความงง สมองก็คิดตามว่ามีผู้หญิงคนไหนที่เข้าข่ายบ้าง

   "เรื่องของมึงแค่ไม่จีบคนเดียวกันกับกูพอ" กลอนว่าอย่างไม่ใส่ใจและไม่คิดจะถามต่อ ถึงลักษณะคนที่ไอ้อาร์ตว่าจะเหมือนคนที่เขาจีบ แต่โลกมันคงไม่กลมขนาดนั้นหรอกมั้ง

   "รับรองว่าคนละคน" อาร์ตบอกเพื่อนอย่างมั่นใจ ก็ที่เขาตามจีบอยู่มันเด็กผู้ชายไม่ใช่เด็กผู้หญิงนี่หว่า

   "อาร์ตมึงไปเอากุญแจรถมินิมาจากไหน" อ้นที่ตาดีเหลือบไปเห็นกุญแจรถมินิคูเปอร์วางอยู่ รีบหยิบมันขึ้นมาถามด้วยความสงสัย หวังว่าเพื่อนเขามันจะไม่ได้ไปขโมยใครมานะ

   "เสือก!!" อาร์ตรีบแย่งมาจากมืออ้นแล้วยัดใส่กระเป๋ากางเกงตัวเองทันที

   "มึงคงไม่ได้ขโมยใครมานะ" อ้นมองหน้าอาร์ตด้วยความไม่ไว้ใจ

   "สัส!! ไม่ใช่...แค่ยึดมาจากเด็กปากเสียคนนึง" อาร์ตพูดขึ้นมาเบาๆพร้อมกับนึกถึงหน้าพีทไปด้วย

   "กูไปทำงานละ...อย่าลืมล็อกห้องให้กูนะ" อาร์ตสั่งเพื่อนแค่นั้นแล้วรีบเดินออกจากห้องไปเพราะกลัวเข้างานสาย โดยที่ไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิดว่าตอนที่ตัวเองพูดถึงเจ้าของกุญแจรถ หน้าตามันมีความสุขยิ่งกว่าตอนที่พูดถึงคนที่ตัวเองตามจีบตอนนี้ซะอีก

...
...

   "เป็นเหี้ยไรมึงนั่งหน้าเป็นตูด" นาวอดที่จะถามขึ้นมาไม่ได้หลังจากเห็นพีทนั่งหน้าบึ้ง ชะเงัอคอมองออกไปหน้าคณะเหมือนหาใคร แล้วก็กลับมาพ่นลมหายใจฟึดฟัดอยู่แบบนั้น

   "แล้วนี่มึงก็อีกคนเป็นเหี้ยไร" นาวหันมามองเลิฟที่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด บึ้งตึงไม่แพ้กันด้วยความสงสัย

   "เรื่องกูเหอะ...ว่าแต่มึงเป็นไรวะ" พีทว่าแล้วหันมามองเลิฟด้วยความสงสัยเหมือนกัน เพราะถ้านาวไม่ทักขึ้นมาเขาก็คงไม่รู้ว่าไอ้เลิฟมันมีอาการไม่ต่างจากเขา

   "เรื่องของกูเหมือนกัน" เลิฟย้อนคำที่พีทพูดกับนาวด้วยน้ำเสียงกวนๆพร้อมยักคิ้วใหั

   "สัส!!" พีทหันมาด่าทันควันที่โดนยอกย้อน พร้อมกับหยิกแก้มป่องๆของเลิฟอย่างหมันเขี้ยว

   "โอ๊ย!! มึงแม่ง!! บอกกี่รอบแล้วอย่าหยิกแก้ม" เลิฟถลึงตาใส่พีทดุๆ

   "ทำไม? กูหยิกไม่ได้ หวงไว้ให้ว่าที่ผัวมึงเหรอ" พีทได้ทีกวนประสาทกลับไปบ้าง และได้ผลทันควันเพราะเลิฟหน้าบึ้งไปแล้ว

   "ผัวพ่อง!!!" เลิฟเอ่ยปากให้พรเพื่อนทันทีเพราะคำพูดไม่เข้าหู แต่เรียกเสียงหัวเราะสะใจจากพีทได้ดังลั่น

   พีทก็จงใจพูดแหย่เพื่อนไปแบบนั้นเอง เพราะถึงเพื่อนเขามันจะหน้าตาน่ารัก กระเดียดไปทางหวานๆเหมือนพวกเกย์รับไปบ้าง แต่ที่รู้จักกันมาจนถึงทุกวันนี้เลิฟมันก็มีแฟนผู้หญิงตลอด แถมแฟนมันแต่ละคนสวยๆทั้งนั้น เขาเลยค่อนข้างมั่นใจว่าเพื่อนจะไม่หันไปเป็นเมียใคร...ล่ะมั้ง

   "ตกลงพวกมึงจะไม่มีใครตอบกูใช่ไหมว่าเป็นอะไรกัน" นาวถามขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่ปล่อยให้เพื่อนปะทะริมฝีปากกันไปนานพอดู

   "ไม่มีไรกูแค่คิดหาวิธีแกล้งไอ้ปออยู่" เลิฟพูดด้วยสีหน้าท่าทางขึงขัง เอาจริงเอาจังยิ่งกว่าตอนอ่านหนังสือสอบ จนนาวกับพีทได้แต่ส่ายหัวระอาใจ

   ผวัะ!!!

   "โอ๊ย!!! ตบหัวกูไมเนี่ย" เลิฟลูบหัวตัวเองเบาๆแล้วมองค้อนนาวที่เป็นคนลงมือไปด้วย พยายามส่งสายตากดดันไปให้เจ้าตัวสำนึกผิด แต่อีกกลับไม่ใส่ใจแค่ชำเลืองสายตามามองแล้วกดโทรศัพท์เล่นต่อ

   "แล้วมึงล่ะเป็นไรทำหน้าเป็นส้นตีนกว่าไอ้เลิฟอีก" นาวหันมาถามพีทบ้างพร้อมส่งสายตากดดันเล็กน้อย จนพีทต้องถอนหายใจออกมาเบาๆเพราะถ้านาวส่งสายตาแบบนี้มา แล้วยังไม่ยอมตอบคำถามล่ะก็ชีวิตจะไร้ความสงบสุขทันที

   "ไม่มีไรแค่หงุดหงิดที่มีคนมากวนตีน" พีทตอบคำถามแบบขอไปที เพราะขี้เกียจอธิบายอะไรมากมาย อีกอย่างถ้าไอ้นาวรู้ว่าเขามีเรื่องกับไอ้พี่อาร์ตละก็มันได้บ่นเขาหูชาแน่ๆ เพื่อเป็นการเซฟตัวเองเขาจะไม่เล่ามากไปกว่านี้เด็ดขาด ให้มันด่าไอ้เลิฟไปคนเดียวก็พอ

   "นี่กูว่านะเลิฟมึงเลิกไปยุ่งกับพี่ปอเหอะว่ะ เขาไม่ใช่ธรรมดานะเว้ยระวังเขาทนไม่ไหวมึงจะซวยเอา" พีทเปลี่ยนเรื่องด้วยการพูดเรื่องของเลิฟขึ้นมาแทน

   นาวเลยได้แต่หรี่ตามองอย่างจับผิดแล้วก็ถอนหายใจ เธอรู้แหละว่าเพื่อนพยายามปิดอะไรตัวเองอยู่ แต่เอาเถอะไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยพีทก็ดูแลตัวเองได้ดีกว่าเลิฟกับเอยแน่ๆ

   "กูเห็นด้วยกับไอ้พีทนะ มึงเลิกยุ่งกับเขาเหอะ กูสังหรณ์ใจยังไงไม่รู้" นาวสนับสนุนคำพูดของพีทอย่างเห็นด้วย

   "พวกมึงอ่ะคิดมากไม่มีอะไรหรอก" เลิฟทำหน้าระรื่นเถียงเพื่อนอย่างไม่ได้ฟังคำเตือน

   "เออ!! ไอ้คนเก่งระวังเถอะมึง" นาวจิ้มนิ้วลงบนหน้าผากเลิฟแรงๆด้วยความหมั่นไส้

   "ระวังเหี้ยไร" เลิฟทำหน้างงใส่

   "ระวังจะได้ผัว!!" พีทพูดเน้นคำใส่หูเลิฟ

   "ผัวเหี้ยไรเล่า" เลิฟโวยวายออกมาเสียงดัง ใบหน้าแดงก่ำไปหมดเพราะความเขิน

   "แน่ะๆ หน้าแดงแบบนี้แอบคิดอะไรกับพี่เขาใช่ไหมมึง" พีทได้ทีพูดแซวเลิฟไม่เลิกจนเจ้าตัวต้องก้มหน้าฟุบลงไปกับโต๊ะ พีทเลยหันไปหานาวแล้วยื่นมือไปไฮไฟว์กันด้วยความสะใจ

   การแกล้งไอ้้เลิฟเป็นงานสนุกของกลุ่มเขาจริงๆ เพราะให้ไปแกล้งไอ้กั้มไอ้นั่นมันก็ไม่สะทกสะท้าน แกล้งไอ้เอยนั่นก็เอ๋อจนไม่รู้ว่าโดนแกล้ง มีแต่ไอ้เลิฟนี่แหละที่แกล้งแล้วมีความสุขที่สุด

   "พวกมึงแม่ง!! เป็นเหี้ยไรชอบแกล้งกูวะ" หลังจากตั้งสติได้เลิฟก็เงยหน้าขึ้นมาตวาดเพื่อนเสียงดัง แต่ใบหน้ายังคงแดงก่ำเพราะความเขินที่ไม่รู้ว่าเขินอะไร แต่เขินทุกครั้งที่เพื่อนแซวแบบนี้แล้วก็เถียงไม่เคยออก

   "โวยวายเพื่อ? หรือมึงคิดงั้นกับพี่เขาจริง" พีทหันมาหรี่ตาจับผิดเลิฟ และอีกฝ่ายก็ชะงักไปก่อนจะขมุบขมิบปากไปมา แล้วฟุบหน้าลงกับโต๊ะไม่พูดอะไรอีก

   พีทได้แต่มองปฏิกิริยาทั้งหมดด้วยความอึ้ง หันไปมองหน้านาวดูเจ้าตัวก็อึ้งไม่แพ้กัน มันคงจะไม่เป็นแบบที่เขาคิดใช่ไหม ขอแค่ให้เขาคิดมากทีเถอะ เขาไม่อยากเห็นเพื่อนเสียใจ

   "อะ...เออ เดี๋ยวกูไปร้านค้าพวกมึงเอาอะไรไหม" พีทพยามพูดเปลี่ยนเรื่องหลังจากบรรยากาศเริ่มจะแปลกๆไป

   "เอาน้ำส้ม...เลี้ยงกูด้วย" นาวสั่งของที่ตัวเองต้องการ

   "เลี้ยงไม่ได้ตอนนี้กูจน" พีทแบบมือไปตรงหน้าเพื่อนซึ่งนาวก็เงยหน้ามองกลับงง ก่อนจะเปิดกระเป๋าแล้วควักเงินส่งให้

   "พึ่งต้นเดือนไปทำเหี้ยอะไรมาวะ" นาวถามด้วยความสงสัย เพราะปกติถ้าบอกให้เลี้ยงคุณหนูแบบไอ้พีทไม่เคยเกี่ยง มันจะอาสาทำตัวเป็นป๋าควักจ่ายไม่อิดออดตลอด นี่ครั้งแรกเลยตั้งแต่รู้จักกันมาที่ได้ยินคำว่าจนจากปากอีกฝ่าย

   "เออน่าอย่าถามมากได้ป่ะ" พีทพยายามเลี่ยงที่จะตอบคำถามนาว จะให้บอกได้ไงล่ะว่าตอนนี้ทั้งตัวเหลือเงินแค่สองพัน เพราะไอ้รุ่นพี่เหี้ยนั่นคนเดียวเลย นี่ถ้าพ่อรู้ว่าไปทำรถพังแถมรูดบัตรเกินกำหนด ไม่รู้จะซวยอะไรอีกให้ตายสิ

   "มึงเอาอะไรป่ะเลิฟ" พีทหันมาถามเลิฟที่เอาแต่มุดหน้าอยู่กับโต๊ะ ซึ่งเจ้าตัวก็ส่ายหัวปฏิเสธไปมาเบาๆ

   "เออๆงั้นเดี๋ยวกูมา" พีทลุกขึ้นและเดินตรงไปร้านค้าแต่ก็ไม่วายหันมามองเพื่อนด้วยความสงสัย พยายามคิดว่าที่เพื่อนเป็นแบบนี้เพราะโกรธที่เขาแซว ไม่ใช่เพราะมันไปจี้ใจดำอะไรแบบนั้น ไม่งั้นล่ะเรื่องยุ่งแน่ๆ

   พีทสะบัดหัวตัวเองไปมาเพื่อไบ่ความฟุ้งซ่าน เขาก็แค่คิดมากไปเพื่อนเขามันไม่มีทางชอบผู้ชายด้วยกันหรอก รักระหว่างเพศเดียวกันมันมีแต่ความเจ็บปวด ยังไงผู้ชายก็คู่กับผู้หญิงวันยังค่ำนั่นแหละ

   เพราะมัวแต่คิดวุ่นวายอยู่ในหัว เลยทำให้พีทไม่ได้สังเกตุเลยสักนิด ว่าคู่กรณีที่ทำให้ตัวเองอารมณ์เสีย และตามหามาตลอดอาทิตย์กำลังเดินสวนกันไป


2 Be Con...

ออฟไลน์ ma-prang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
อาร์ตจีบใครอยู่หืมมมมมมมม
มาจีบน้องพีทดีกว่ามา

ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
กัดครั้งที่
- 6 -
   


   พีทก้มลงมองถุงของกินในมือแล้วก็ถอนหายใจออกมา ทั้งที่ตั้งใจว่าไม่ซื้ออะไรเยอะเพราะจะประหยัดเงินที่มีอยู่ตอนนี้  เก็บไว้ใช้จนกว่าจะเจอคนขโมยกระเป๋าตัง สุดท้ายเขาก็แพ้ให้กับความอยากในส่วนลึกของหัวใจ คว้าเอาของกินในร้านมาชนิดที่ไม่สนเงินในกระเป๋าเลยสักนิด

   หลังจากจ่ายเงินเป็นที่เรียบร้อยพีทก็หอบหิ้วทุกอย่างเดินกลับไปที่โต๊ะ แต่ยังไม่ทันได้ถึงที่ดีสายตาก็มองเห็นร่างคุ้นตาของใครบางคนมานั่งแทนที่อยู่ และมันก็คงจะแค่คุ้นเท่านั้นถ้าหากไอ้คนที่นั่งมันไม่ได้หัวสีแดง

   พีทจ้องแผ่นหลังใหญ่นั้นเขม็งราวกับกลัวว่ามันจะหายไปอีก เพราะตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาทั้งๆที่เรียนคณะเดียวกันแท้ๆ แต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงไม่เคยเจอตัวอีกฝ่ายเลย จะไปถามหากับพวกรุ่นพี่ก็ไม่กล้าเพราะไม่รู้จะตอบว่ายังไงถ้าสมมุติว่าโดนถามกลับมา ขาสองข้างก็พยายามรีบเดินแต่ดูเหมือนจะไม่ทันใจ จนต้องเปลี่ยนมาวิ่งในที่สุด

   ปึ่ก!!!

   เสียงกระแทกหนักบนโต๊ะทำให้ทุกสายตาหันกลับมามอง ยกเว้นคู่กรณีของพีทที่ไม่คิดจะสนใจและยังคงตั้งหน้าตั้งตาหยอกล้อเพื่อนของเขาอยู่

   “นอกจากป๊อกกี้น้องเลิฟยังชอบกินอะไรอีกไหม” เสียงทุ้มติดทะเล้นเอ่ยถามอย่างใจดี

   “บอกพี่ได้นะวันหลังพี่ซื้อมาฝาก” เจ้าของเสียงยังคงพูดต่อเนื่องโดยไม่คิดจะสนใจคนรอบตัวเลยสักนิด จนพีทที่ยืนอยู่ด้านหลังเกิดอาการขุ่นเคืองจ้องแผ่นหลังอีกฝ่ายเขม็ง ชนิดที่ถ้าสายตาเป็นปืนอาร์ตก็ตัวพรุนไปหมดแล้ว

   “ผมว่าพี่เก็บเงินพี่ไว้ซื้อข้าวกินดีกว่าไหมครับ” พีทพูดเสียงลอดไรฟันด้วยความหมั่นไส้

   เสียงที่ดังขึ้นทางด้านหลังทำให้อาร์ตตัดสินใจหันกลับไปมอง ก่อนจะกระตุกยิ้มนิดๆเมื่อเห็นว่าเป็นใคร ใบหน้าบึ้งตึงของอีกฝ่ายที่แสดงออกมาทำให้อาร์ตอยากขำดังๆ ดูท่าแล้วเจ้าตัวคงจะโมโหเขาไม่น้อยเลยนะเนี่ย

   “อ่า...นี่ใครครับเนี่ยพี่ไม่เคยเห็นเลย” อาร์ตแกล้งทำท่าทางแปลงใจและทำเหมือนไม่รู้จักพีท แถมยังส่งยิ้มทำตัวเป็นรุ่นพี่แสนดีให้พีท

   พีทมองการกระทำของอาร์ตแล้วความโมโหก็วิ่งพล่านไปหมด อยากจะเอากำปั้นไปชกเบ้าตาอีกฝ่ายให้รู้แล้วรู้รอดที่โดนกวนประสาทเข้าให้อีกแล้ว ทั้งๆที่ทำกับเขาไว้ขนาดนั้นยังมาตีหน้าซื่อทำเป็นไม่รู้จักได้อีก

   อาร์ตพยายามเก๊กหน้าใสซื่อสุดชีวิต พยายามที่จะไม่หลุดเสียงหัวเราะหรือท่าทางแปลกๆอะไรออก เห็นอีกฝ่ายทำท่าฮึดฮัดจ้องตัวเองตาแทบถลนแล้วยิ่งสนุก ไอ้ท่าทางแบบนี้มันยิ่งทำให้โคตรอยากแกล้ง เขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าอีกฝ่ายจะอาละวาดใส่เขาแบบไหน

   พีทที่ถึงแม้จะรู้จักคนตรงหน้าได้ไม่นานแต่ก็พอจะเดาออกว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร คิดจะกวนประสาทให้เขาอาละวาดงั้นเหรอ ฝันไปเหอะ!! คนเรามันต้องไม่โง่ซ้ำโง่ซากกับเรื่องเดิมๆโว๊ย!!!!

   พีทสูดลมหายใจเข้าลึกๆพยายามตั้งสติและไม่สนใจสายตาท้าทายของอีกฝ่าย ก่อนจะนั้งลงข้างๆและหันมาส่งยิ้มที่บังคับให้น่ารักไปให้

   “สวัสดีครับพี่อาร์ต” พีททักทายอีกฝ่ายด้วยเสียงนอบน้อม ทั้งๆที่ในใจอยากจะลุกเตะก้านคอให้หัก

   “หึ สวัสดีครับรู้จักพี่ด้วยเหรอ” อาร์ตเกือบหลุดขำกับการตอบโต้ไม่ยอมแพ้ของอีกฝ่าย ก็เพราะแบบนี้ไงไอ้เด็กนี่มันถึงน่าแกล้ง

   “รู้จักสิครับ...ใครจะไม่รู้จักพี่อาร์ตสุดโฉด เอ้ย แสนดีล่ะครับ” พีทส่งยิ้มหวานและแอบจิกกัดอีกฝ่ายไปในตัว

   “พี่ก็ไม่ได้ดีขนาดนั้นหรอกครับว่าแต่เราชื่ออะไรเอ่ย” อาร์ตเล่นไปตามน้ำในเมื่ออีกฝ่ายอยากเล่น เขาก็เล่นด้วยหน่อยจะเป็นไรไป

   ‘กูรู้โว๊ยว่ามึงไม่ใช่คนดีไม่ต้องบอกกู!!’ พีทตะโกนด่าอีกฝ่ายในใจแต่ปากยังส่งยิ้มที่แทบจะกลายเป็นแสยะ ส่วนตาก็ถลึงใส่ดุๆแบบจ้องจะกินเลือดกินเนื้อ

   “นี่พี่อาร์ตกับไอ้พีทรู้จักกันมาก่อนเหรอคะ” นาวที่นั่งมองอยู่นานเอ่ยถามด้วยความสงสัย ถึงการพูดจาจะเหมือนไม่รู้จักกันแต่ท่าทางมันรู้จักกันชัดๆ

   “ใครจะไปรู้จักคนแบบนี้วะ” พีทตวัดหันมาหานาวด้วยใบหน้างอง้ำ

   “หึ ไม่รู้จักหรอกครับ” อาร์ตเองก็ตอบแบบเดียวกันพร้อมกับอมยิ้มขำ ส่วนพีทพอได้ยินคำตอบแบบนั้นจากอีกฝ่ายก็หันกลับมามองด้วยความขุ่นเคือง กล้าพูดได้ไงว่าไม่รู้จักกันทั้งๆที่ทำกับเขาขนาดนั้นเนี่ยนะ

   “เอาเป็นว่าพี่ไปดีกว่า...เดี๋ยววันหลังพี่มาหาใหม่นะครับ” อาร์ตลุกขึ้นยืนยักคิ้วส่งให้พีทด้วยท่าทางกวนประสาท และหันไปบอกลาเลิฟด้วยท่าทางใจดี ก่อนจะเดินออกไปอย่างใจเย็นเพราะคิดว่าอีกไม่กี่นาที ข้างหน้าพีทต้องลุกตามมาแน่ๆ

   พีทมองตามหลังอาร์ตด้วยท่าทางหงุดหงิดอย่างปิดไม่มิด ปากก็พึมพำแช่งชักหักกระดูกอีกฝ่ายไปในตัว อยากจะลุกตามไปเดี๋ยวนี้แต่ก็ไม่กล้าเพราะกลัวเพื่อนจะสงสัย เลยต้องนั่งอยู่เฉยๆทั้งๆที่ใจมันเดินตามอีกฝ่ายออกไปแล้ว

   “เป็นไรของมึง” นาวถามขึ้นด้วยความรำคาญเพราะเห็นอีกฝ่ายกระสับกระส่ายอยู่ไม่สุข

   “ถ้าปวดขี้ก็ไปขี้ก่อนไหม” นาวพูดกัดออกมาด้วยความหมั่นไส้

   “เออ...กูปวดขี้เดียวกูมานะ” คำพูดของนาวเหมือนชี้ทางให้ไม่มีผิด พีทรับเออออรับคำแล้วลุกวิ่งออกไปด้วยความเร็ว ทิ้งให้เลิฟกับนามมองตามด้วยความงง

   “นี่มันปวดจริงๆเหรอวะ” นาวหันไปถามเลิฟเพื่อขอความเห็น เมื่อกี้เธอก็ประชดไปงั้นเองไม่ได้จริงจัง เลิฟเลยหันมายักไหล่ส่งให้ก่อนจะแกะป๊อกกี้ที่อาร์ตเอามาฝากกิน ส่วนนาวเมื่อได้คำตอบจากเลิฟก็คว้าเอาถุงขนมที่พีททิ้งไว้มาแกะกินอย่างสบายใจ

...
...
   
   “ไอ้เหี้ยพี่อาร์ต!!!” พีทตะโกนเรียกคนข้างหน้าสุดเสียง แต่เจ้าตัวไม่ได้สนใจยังตั้งหน้าตั้งตาเดินต่อ ทำให้พีทต้องออกแรงวิ่งตามด้วยความเร็วเพราะกลัวไม่ทัน

   “แม่ง!!! เรียกไม่มีหูรึไงวะ แฮ่กๆ” พีทวิ่งมาดักหน้าอาร์ตในสภาพกระหืดกระหอบ  เอามือเท้าเอวแล้วถลึงตามองอีกฝ่ายอย่างโมโห

   “หูน่ะพี่มีครับ...แต่พอดีคนเรียก เรียกไม่เข้าหู” อาร์ตยืนกอดอกส่งยิ้มยียวนให้อีกฝ่าย ทำไมเขาจะไม่ได้ยินล่ะเล่นเหี้ยซะชัดเจนเต็มสองรูหูขนาดนั้น อยากจะบอกไปเหมือนกันนะว่าถ้าจะเรียกเขาเหี้ยแล้วอย่าเรียกว่าพี่ด้วยเลยดูไม่ค่อยจะเคารพกันสักเท่าไหร่

   “พี่จำได้ว่าเคยบอกให้น้องพีทพูดกับพี่เพราะๆนะครับ” อาร์ตส่งยิ้มยียวนไปให้และมองสภาพหอบเหนื่อยของคนตรงหน้าด้วยความสนุก คนอะไรทำไมมันน่าแกล้งได้ขนาดนี้ก็ไม่รู้สิ ปกติเขาไม่เคยเจอหรอกนะไอ้พวกที่รู้ว่าเขาเป็นใครแล้วยังปากดีใส่แบบนี้ แต่เล่นมาตะโกนเรียกเขาเหี้ยแบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน ขืนไอ้พวกที่มันบูชาเขามากๆมาได้ยินเข้าไอ้เด็กนี่จะซวยเอา

   “กูก็จำได้ว่ากูบอกไปแล้วเหมือนกันว่าจะพูดดีๆกับคนที่คู่ควร” พีทตวาดใส่ไม่ยอมแพ้แล้วยืนประจันหน้าแบบไม่กลัว แนกๆน่ะเขากลัวคนตรงหน้าแต่ตอนนี้ไม่กลัวแล้วโว๊ย!!!

   “งั้นไว้น้องพีทเคารพพี่เมื่อไหร่เราค่อยคุยกันเนาะ” อาร์ตยักไหล่ให้แล้วหันหลังเดินหนีทันที ทำให้พีทต้องรีบคว้าตัวอีกฝ่ายเอาไว้เพราะกว่าจะเจอตัวไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

   “เฮ้ย!! เดี๋ยว!!” พีทออกแรงดึงแล้วอ้อมไปข้างหน้า ก่อนจะดันตัวอีกฝ่ายไปชิดกับต้นไม้แถวนั้น

   อาร์ตเองก็ยอมให้ดันไปง่ายๆแบบไม่ขัดขืน เพราะเขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าเด็กพยศแบบพีทจะทำอะไรเขาได้ แล้วไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ถึงได้ดันหลังเขาจนติดต้นไม้แบบนี้

   ปึ่ก! ปึ่ก!

   พีทเท้ามือคร่อมตัวของอาร์ตไว้ทั้งสองข้างเพื่อกันไม่ให้อีกฝ่ายหนี แล้วเงยหน้ามองคนตัวสูงกว่าอย่างข่มขู่ตาเรียวๆเบิกกว้างถลึงใส่จนแทบถลนออกมา แต่มันเป็นภาพที่ชวนน่าเอ็นดูมากกว่าน่ากลัวในสายตาอาร์ต เจ้าตัวคงคิดว่าไอ้ท่าทางน่ารักๆนี้มันจะทำให้เขากลัวได้ล่ะมั้ง

   “ว่าไงครับ” อาร์ตมองคนตัวเล็กแล้วเม้มปากแน่นกลั้นขำ แต่ในสายตาพีทเหมือนโดนยิ้มเยาะไม่มีผิด

   “เอาของคืนมา” พีททำหน้างอเสียงเหวี่ยงใส่อย่างไม่พอใจ

   “หือ...ที่พี่รับฝากมาน่ะเหรอ” อาร์ตตีหน้าซื่อใส่เหมือนว่าพีทเป็นคนฝากเอาไว้เอง

   “ใครฝากวะ!!! มึงขโมยไป!! แม่ง!!!” พีทตวาดใส่ด้วยความฉุนมือก็ยังคร่อมตัวอีกฝ่ายเอาไว้

   “อ่า...นี่พี่ขโมยมาเหรอไม่รู้ตัวเลยนะเนี่ย” อาร์ตทำตาโตยกมือทาบอกตัวเองสร้างความหมั่นไส้ให้พีทอย่างถึงที่สุด จนเจ้าตัวทนไม่ไหวกำหมัดแน่นแล้วง้างขึ้นฟาดไปข้างหน้าเต็มแรง

   อาร์ตที่มีปฏิกิริยาเร็วมากอยู่แล้วเรื่องพวกนี้เพราะไล่กระทืบคนเป็นประจำเมื่อก่อน ยกมือขึ้นมารับกำปั้นของอีกฝ่ายอย่างง่ายดายจับเอาไว้แน่น ก่อนจะหักข้อมือลงไปไขว้หลังและม้วนตัวอีกฝ่ายเข้ามาในอ้อมกอดด้วยความเร็ว

   พีทที่โดนพลิกสถานการณ์กลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบแถมยังโดนกอดจากทางด้านหลังทั้งตัว ตัดสินใจยกแขนอีกข้างขึ้นหมายจะกระทุ้งศอกใส่ แต่อาร์ตก็รู้ทันใช้มืออีกข้างจับไว้ทันแล้วกอดพีทแน่น

   “ปล่อยไอ้เหี้ย!!” พีทตะคอกใส่พยายามดิ้นให้หลุดแต่ยิ่งดิ้นก็ยิ่งโดนกอดแน่น

   “โอ๊ย!! แม่งเจ็บ...เหี้ย!!” พีทหยุดดิ้นแล้วตะโกนด่าแทนเพราะอีกฝ่ายเล่นกอดแน่นจนเหมือนกระดูกจะหัก

   “ปากเนี่ยนะ...มันน่านัก” อาร์ตพูดออกมาด้วยความเหนื่อยใจบอกให้พูดดีๆทำไมไม่เคยฟัง

   “ปากกูมันทำไม!!” พีทที่อยู่ในอารมณ์โมโหเพราะทำอะไรไม่ได้หันหน้ากลับมาตวาดถาม

   “มันน่า...” อาร์ตพูดแค่นั้นแล้วประกบปากลงที่ปากของพีททันทีแบบไม่ให้ตั้งตัว และใช้จังหวะที่อีกฝ่ายมัวตะลึงสอดลิ้นเข้าไปข้างใน กวาดต้อนหยอกล้อลิ้นเล็กเพื่อชิมความหวาน

   พีทเมื่อได้สติก็กัดลงเต็มแรงตั้งใจให้โดนลิ้นของอีกฝ่าย แต่เจ้าตัวที่เหมือนรู้ทันเขาไปหมดทุกอย่าง ถอนลิ้นออกไปก่อนในเสี้ยววินาที

   “จูบ” อาร์ตพูดต่อในสิ่งที่ค้างไว้พร้อมกับเลียริมฝีปากตัวเองเบาๆ ทำให้พีทสั่นเป็นเจ้าเข้าด้วยความโกรธ

   “มึงมาจูบกูทำไมไอ้ตุ๊ด!!” พีทตะโกนด่าด้วยใบหน้าแดงก่ำทั้งโกรธทั้งอายที่โดนผู้ชายด้วยกันจูบ แถมยังโดนแบบดีพคิสช่ำชองจนชวนหมั่นไส้อีกต่างหาก

   “งั้นลองมีผัวเป็นตุ๊ดดูไหมน้องพีท” อาร์ตถามด้วยน้ำเสียงยียวน

   “ทะ...ถ้ามึงทำอะไรกู...กูจะบอกไอ้เลิฟ” พีทยกชื่อเพื่อนสนิทขึ้นมาอ้างเสียงสั่น

   “น้องเลิฟเกี่ยวอะไร” อาร์ตถามกลับด้วยความสงสัย

   “กะ...ก็มึงจีบเพื่อนกูอยู่ไม่ใช่รึไง” พีทถามเสียงสั่นตาก็มองไปรอบๆเพื่อหาทางหนี ใจก็ภาวนาให้มีคนเดินผ่านมาทางนี้บ้าง แต่ไม่รู้ว่านี้ป่าช้าหรือมหา’ลัยหาสิ่งมีชีวิตนอกจากเขากับไอ้คนที่กอดอยู่ไม่เจอเลย

   “ถ้ามึงทำอะไรกูนะ...กูจะฟ้องไอ้เลิฟ กูจะไปยุไม่ให้มันคุยกับมึง” คำพูดต่อมาของพีททำเอาอาร์ตมองด้วยความอึ้งก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาเสียงดัง

   “ฮ่าๆๆๆๆๆ” อาร์ตหัวเราะอย่างเอาเป็นเอาตายปล่อยมือที่กอดพีทแล้วเอามากุมท้องตัวเอง ทางด้านพีทที่เป็นอิสระก็รีบถอยห่างทันที

   “หัวเราะเหี้ยไร” พีทถามด้วยความฉุน มีอะไรตลกจนต้องหัวเราะขนาดนั้นด้วยวะ

   “เด็กน้อยเอ้ย!!” อาร์ตส่ายหัวให้เบาๆก่อนจะเดินมายกมือขยี้ผมอีกฝ่ายจนยุ่งด้วยความเอ็นดู คิดได้ไงจะเอาเรื่องนี้มาขู่เขากับน้องเลิหก็แค่จีบ จีบไม่ติดก็จบกันไปไม่ใช่แฟนซะหน่อยต้องกลัวอะไรขนาดนั้น จะขู่เขาทั้งทีก็หาเรื่องขู่ซะน่ารักเดี๋ยวพ่อก็จับเอาแม่งตรงนี้ดีไหม

   “แก่กว่าปีสองปีอย่ามาทำเป็นโตกว่านะ” พีททำหน้างอใส่ด้วยความไม่ชอบใจ

   “โอเคๆ” อาร์ตยกมือขึ้นสองข้างอย่างยอมแพ้เพราะเดี๋ยวแกล้งไปมากกว่านี้ อีกฝ่ายจะโกรธจริงจัง ขี้เกียจไปตามง้อทีหลัง
 
   ‘แล้วทำไมกูต้องง้อวะ’ อาร์ตสะดุดกับความคิดของตัวเองไม่น้อย ก่อนเลิกคิดและหันมาสนใจคนตรงหน้าแทน

   “อยากได้ของคืนป่ะ” พีทรีบพยักหน้าขึ้นลงรัวๆให้กับคำถามของอาร์ต

   “งั้นเอางี้” อาร์ตเขยิบเข้าไปใกล้อีกฝ่ายมากกว่าเดิมแต่พีทก็ถอยหลังหนีเพราะระแวง อาร์ตเลยต้องคว้าเอวอีกฝ่ายไว้แล้วดึงเข้ามาใกล้ๆ

   “คืนนี้มาหาพี่ที่ร้านxyz แล้วเรามาคุยเรื่องของที่พี่ยึดไว้กัน” อาร์ตกระซิบที่ข้างหูแผ่วเบาแล้วฉวยโอกาสหอมที่แก้มอีกฝ่ายไปหนึ่งที ก่อนจะผละออกมาด้วยความเร็วหันหลังเดินกลับไปในทางที่หลอกให้อีกคนเดินตามมา

   “@#^%$%&(#%)_&@^!!&$*)(++$*&#*@*!” เสียงตะโกนด่าไล่หลังที่ตามมาของพีททำให้อาร์ตยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นโบกไปมาส่งให้อีกฝ่ายทั้งๆที่หันหลัง

   พีทตะโกนแหกปากด่าจนอีกฝ่ายเดินลับตาไป เขาไม่ได้อยากจะไปตามที่อีกฝ่ายนัดเลยสักนิด แต่ถ้าไม่ไปเขาก็ไม่มีตังจะกินข้าวแล้วเหมือนกัน

   ‘เอาไงดีวะ’ พีทเอามือขยี้หัวตัวเองจนยุ่งไปหมดด้วยความโมโห ก่อนจะตัดสินใจเดินกลับไปหาเพื่อที่โต๊ะ ไว้ค่อยคิดละกันอีกตั้งนานกว่าจะค่ำ

...
...
   
   พีทเดินหน้านิ่วคิ้วขมวดเข้าบ้านด้วยความคิดไม่ตก ตั้งแต่เมื่อกลางวันจนถึงตอนนี้หกโมงเย็นเข้าไปแล้ว เขาก็ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะไปตามที่อีกฝ่ายบอกดีรึเปล่า เพราะถ้าไปก็ไม่รู้ว่าจะเจออะไรบ้างแต่ถ้าไม่ไปก็ไม่จะเอาของคืนยังไงดี ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว

   “เอาไงดีวะ” พีทพึมพำกับตัวเองด้วยความเครียด

   “อาตี๋!!!!” เสียงเรียกดังกังวานทำให้ขาที่กำลังจะก้าวขึ้นบันไดของพีทชะงักลง ก่อนจะหันไปมองคนเรียกด้วยท่าทางเหรอหรา

   “อะ...อะไรครับป๊า” พีทถามพ่อที่ยืนทำหน้าถมึงทึงด้วยเสียงตะกุกตะกัก

   “นี่มันหมายความว่ายังไง” พ่อของพีทถามเสียงเข้มพร้อมกับโบกกระดาษในมือไปมา

   พีทเพ่งสายตามองกระดาษในมือของพ่อเพื่อมองว่ามันคืออะไร ก่อนจะตาเบิกกว้างแทบถลนออกนอกเบ้าเมื่อรู้แล้วว่าในมือที่พ่อถือคืออะไร แล้วทำไมพ่อถึงต้องโมโหขนาดนั้น ก็นั่นมันใบแจ้งยอดชำระบัตรเครดิตน่ะสิ

   ‘ซวยแล้วมึงไอ้พีท’


2 Be Con...

ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
กัดครั้งที่
- 7 -
   


   พีทเดินลากขาไปตามถนนของหมู่บ้านในสภาพหมดอาลัยตายอยาก ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนฟุตบาตข้างทางแถวนั้น ตาก็มองไปรอบๆข้างที่เงียบสงบไร้ผู้คน มองขึ้นไปบนฟ้าก็เห็นว่ากำลังเปลี่ยนสีบ่งบอกว่าจะมืดลงในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า

   "โว๊ย!!!" พีทตะโกนออกมาสุดเสียงพร้อมกับเอามือขยี้หัวตัวเองแรงๆด้วยความหงุดหงิด ที่เขาต้องมาเจออะไรแบบนี้เพราะไอ้เหี้ยพี่อาร์ตคนเดียวเลย เพราะมันนั่นแหละเขาถึงต้องเจอแต่เรื่องซวยๆแบบนี้

   ก่อนหน้าที่จะต้องออกมาเดินเตร็ดเตร่อยู่นอกบ้าน เขาพึ่งโดนพ่อเทศนาสั่งสอนจนหูชามา แต่แค่นั้นมันไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตอะไรเลย ถ้าพ่อจะไม่ยื่นคำขาดที่เหมือนฆ่าเขาให้ตายทั้งเป็นออกมา

   พ่อตัดเงินค่าขนมเขาจากวันละพันเหลือวันละสองร้อย เสาร์อาทิตย์และวันไหนที่ไม่มีเรียนงดจ่ายเบี้ยเลี้ยง ตอนแรกเขาก็โดนพ่อลงโทษแค่ตัดเงินนั่นแหละ เพราะเขาตกลงกับพ่อว่าจะไม่รูดบัตรเกินเดือนละสองหมื่น แต่ใบแจ้งยอดที่มาส่งโชว์ยอดว่าเขารูดบัตรไปเกือบแสน ซึ่งมันความผิดเขาที่ไหนกันล่ะมันเหตุสุดวิสัย เขาโดนยัดเยียดให้จ่ายค่าซ่อมรถต่างหาก

   คิดว่าเรื่องคงจะจบแค่นั้นแต่ฟ้าคงไม่สะใจเท่าไหร่ ร้านซ่อมรถดันโทรเข้ามาเบอร์บ้านบอกให้เขาไปรับรถอาทิตย์หน้า เขาเลยโดนพ่อยึดรถเพิ่มแถมด้วยการยกเลิกสัญญาเช่าคอนโดนที่เขาอยู่ตอนนี้ สั่งให้เขากลับมาอยู่บ้านเวลาจะไปเรียนก็ให้คนขับรถไปรับไปส่ง ถ้าจะไปไหนนอกเหนือจากมหา'ลัยให้เขาหาทางไปเอง

   แล้วมันเรื่องอะไรที่เขาจะต้องมาเจอแบบนี้ ทั้งๆที่มันไม่ใช่ความผิดของเขาเลยสักนิด ทุกอย่างเพราะไอ้เหี้ยพี่อาร์ตคนเดียวเลย ไอ้นมเย็น ไอ้หื่นกาม ไอ้หน้าม่อ ไอ้โรคจิต!

   พีทพึมพำดาอาร์ตในใจไม่หยุด ยิ่งด่ามากเท่าไหรหน้าอาร์ตกับรอยยิ้มกวนประสาทยิ่งฉายภาพเด่นชัด ชัดจนทำให้ความหงุดหงิดเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว

   "พีท" เสียงเรียกที่ดังขึ้นเหนือหัว ทำให้พีทต้องเงยหน้าขึ้นไปมองอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนที่ตาจะเบิกโพลงขึ้นด้วยความตกใจ

   "พี่หมอ" พีทครางออกมาเสียงแผ่วเบามองคนตรงหน้าด้วยความตะลึง เพราะไม่คิดว่าจะได้เจออีกฝ่ายหลังจากที่พยายามหลบหน้ามานาน

   "ทำไมถึงมานั่งหน้าบ้านพี่ละ" ชายหนุ่มตรงหน้าหรือพี่หมอตามที่พีทเรียก ถามออกมาด้วยความแปลกใจแล้วยื่นมือไปหา ตั้งใจว่าจะช่วยดึงอีกฝ่ายให้ลุกขึ้นยืน

   เพี๊ยะ!!!

   พีทปัดมือที่ยื่นมาตรงหน้าเต็มแรง ก่อนจะรีบลุกขึ้นยืนแล้วขยับถอยห่างอีกฝ่่าย ตาก็มองไปรอบๆอีกครั้งถึงได้รู้สึกตัว ว่าตัวเองเดินใจลอยมาไกลถึงหน้าบ้านของอีกฝ่ายจริงๆ

   พีทเม้มปากแน่นอย่างขัดใจที่เผลอเรอเดินมาถึงนี่ ทั้งๆที่สาบานว่าจะไม่มีทางกลับมาเหยียบอีก และการที่เขาเดินมาที่นี่เพราะรู้สึกไม่สบายใจ เหมือนกับแต่ก่อนที่ชอบมาเวลาที่เกิดเรื่องแย่ๆแบบนี้ แสดงว่าเขาไม่เคยลืมเรื่องในอดีตได้เลยสักนิด

   "พีท" เสียงเรียกชื่ออย่างอ้อนวอนและโหยหา พร้อมกับยื่นมือมาหาทำให้พีทถอยหลังหนีอัตโนมัติ

   "อย่าเข้ามา" พีทพูดเสียงแข็งแววตาที่ใช้มองคนตรงหน้าสั่นระริกและเจ็บปวดอย่างปิดไม่มิด

   "พีท" แต่อีกฝ่ายยังคงส่งเสียงเรียกด้วยความเว้าวอน

   "บอกว่าอย่าเข้ามาไง!!!" พีทตวาดออกไปเสียงดังเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าพยายามเขยิบเข้ามาใกล้

   "อย่าทำแบบนี้ได้ไหมพีท" อีกฝ่ายยอมหยุดอยู่กับที่โดยดี แต่ยังคงใช้น้ำเสียงที่บ่งบอกความเสียใจเพื่อคุยกับพีท

   "ผมว่าพี่ต่างหากที่ต้องเลิกทำแบบนี้" พีทพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่บังคับให้แข็งกร้าว

   "เราจะคุยกันดีๆไม่ได้แล้วเหรอ พีทจะโกรธพี่แบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน" น้ำเสียงที่อีกฝ่ายพูดออกมาชวนให้นึกถึงเรื่องในอดีต ที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนมันก็ยังอยู่ในความทรงจำ...จนถึงทุกวันนี้

...
...
   
   "ฮัดชิ่ว! ฮะ...ฮะ...ฮัดชิ่ว" อาร์ตใช้นิ้วถูที่ปลายจมูกตัวเองไปมาแรงๆ แล้วหันไปตั้งสายกีตาร์ในมือต่อเพราะใกล้เวลาที่ต้องขึ้นเวทีแล้ว
   "เป็นไรว่ะมึงหวัดแดกไงหรือมีคนด่า" ตองรุ่นพี่ที่คณะและเจ้าของร้านเหล้าที่อาร์ตทำงานเอ่ยแซวขึ้น เพราะตั้งแต่อาร์ตเข้ามาจนถึงตอนนี้เขาก็เห็นอีกฝ่ายจามไม่หยุด

   "คงไม่หรอกพี่แต่ถ้าคนด่าก็ไม่แน่" อาร์ตตอบพร้อมกับนึกถึงหน้าเหวี่ยงของพีทไปด้วย รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงเจ้าตัวโวยวายอยู่ข้างๆ จนหลุดขำออกมาในที่สุด

   "ขำอะไรของมึงวะแล้วดูทำหน้าทำตามีความสุข...อย่าบอกนะว่ามึงซ่อนสาวไว้แล้วเก็บเงียบ" ตองหรี่ตามองอย่างจับผิด

   "เฮ้ย!! ยังพี่คงโสดอีกนานว่ะ" อาร์ตยกมือขึ้นโบกไปมาเป็นพัลวัน

   "ให้มันแน่เหอะสัส! กูเห็นมาเยอะละพวกที่บอกว่าโสดอีกนานเนี่ย แป๊บเดียวควงเมียมาเย้ยกูละแม่ง!!" ตองทำหน้าเซ็งออกมา

   "พี่จะหงุดหงิดทำไมวะทุกวันนี้ก็มีเฮียฮิมให้ควงนี่หว่า" อาร์ตแซวด้วยน้ำเสียงกวนประสาท เลยได้ลูกถีบจากตองที่บรรจงประเคนให้เน้นๆด้วยความรัก

   "ขนลุกไอ้สัส!!" ตองทำหน้าสยองขวัญพร้อมกับลูบแขนตัวเองไปมา เรียกเสียงหัวเราะจากอาร์ตได้ดังลั่น

   เป็นอันรู้กันดีอยู่แล้วว่าตองกับฮิมคู่หูสุดโฉดประจำคณะวิศวะวีรกรรมความเหี้ยเยอะขนาดไหน แถมยังตัวควายๆหน้าตาหล่อสัสทั้งคู่ขืนมาเอากันเองนี่คิดภาพไม่ออกเลยว่ะครับ สยองฉิบหายเอากันทีเตียงแม่งคงพัง แถมเดาไม่ออกด้วยว่าใครแม่งจะเสียบใคร หรือจะพลัดกันเสียบวะ? แล้วนี่กูคิดอะไร

   "เป็นเหี้ยไรมึง" ตองมองหน้าอาร์ตอย่างสงสัย เพราะเจ้าตัวเอาแต่ทำหน้าตาประหลาด

   "ตอง...กูมีเรื่องจะคุยด้วย" แต่ยังไม่ทันที่อาร์ตจะตอบอะไรออกไป เสียงทุ้มดุอันคุ้นเคยก็ดังขัดขึ้นจากหน้าประตู ทำให้ทั้งอาร์ตและตองหันไปมองพร้อมกัน

   "ดีเฮีย" อาร์ตทักทายรุ่นพี่คนที่ตัวเองพึ่งนินทาไปอย่างสนิทสนม ซึ่งอีกฝ่ายก็แค่พยักหน้าทักทายกลับ

   "มีไรวะ" ตองมองหน้าเพื่อนสนิทที่ดูเครียดๆอย่างแปลกใจ

   "อาร์ตกูฝากร้านแป๊บนะ...ถ้าถึงเวลาปิดร้านกูยังไม่กลับมึงสั่งเด็กปิดร้านเลย" ตองหันมาสั่งอาร์ตแล้วเดินตามฮิมออกไปทันที

   "อะไรวะ" อาร์ตมองตามหลังทั้งคู่จนลับสายตา แล้วกลับมาสนใจกีตาร์ในมือตัวเองต่อ ก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้เลยหยิบโทรศัพท์ออกมา พิมพ์ข้อความแล้วกดส่งออกไปยังเบอร์ที่พึ่งได้มาตอนเย็น พร้อมกับกระตุกยิ้มมุมปากอย่างชอบใจ

...
...
   
   พีทหยุดยืนหันรีหันขวางอยู่หน้าร้านเหล้ากึ่งเอาท์ดอร์ เงยหน้าขึ้นอ่านป้ายชื่อร้านเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง มองเข้าไปในร้านเพื่อมองหาใครบางคนที่นัดตัวเองมา ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปด้านในด้วยความลังเลเล็กน้อย

   “กี่ที่ครับ” พนักงานร้านเอ่ยปากทักทายพีทอย่างยิ้มแย้มทันทีที่เจ้าตัวก้าวขาเข้ามาด้านใน

   “เอ่อ...คนเดียวครับ” พีทตอบออกไปด้วยเสียงอึกอักเล็กน้อย พร้อมกับกวาดตามองไปรอบๆด้วยความระแวง ไม่ใช่ว่าตัวเองไม่เคยไปเที่ยวสถานที่อโคจรแบบนี้ แต่เพราะที่นี่เป็นที่ๆอาร์ตนัดมาต่างหากเขาถึงได้ระแวง เพราะไม่รู้จะโดนอีกฝ่ายแกล้งอะไรอีกไหม

   “งั้นตามมาทางนี้เลยครับ” พนักงานเดินนำพีทเข้าไปด้านในเล็กน้อย จนถึงโต๊ะว่างตัวหนึ่งที่ค่อนข้างจะเป็นส่วนตัวพอสมควร

   พีทนั่งลงที่โต๊ะตามที่พนักงานนำทางมาช้าๆ สายตาก็ยังคงมองไปรอบๆด้วยความระแวง พร้อมกับหาทางหนีทีไล่ไปในตัวเผื่อเกิดดรณีไม่คาดฝันขึ้น อาจจะดูเหมือนคิดมากไปแต่ด้วยกิตติศัพท์ของอีกฝ่ายที่ได้ยินมา รวมทั้งความกวนประสาทที่เขารับรู้มาแล้วด้วยตัวเอง เพราะฉะนั้นกันไว้ดีกว่าแก้จะเป็นอะไรที่แน่นอนสุด

   “รับอะไรดีครับ” เสียงพนักงานที่ดังขึ้นทำให้พีทเลิกสนใจรอบข้าง แล้วหันมาให้ความสนใจกับคนตรงหน้าแทน

   “มาการิต้า” พีทเลือกสั่งเครื่องดื่มประเภทค๊อกเทลดีกรีอ่อนๆแทนการสั่งเครื่องดื่มที่ดีกรีหนักๆ ใจจริงไม่ได้อยากสั่งด้วยซ้ำแต่ในเมื่อเข้ามานั่งแล้วมันก็ต้องสั่ง

   “รอสักครู่นะครับ” พนักงานจดออเดอร์เรียบร้อยและหันหลังเพื่อไปส่งออเดอร์ที่บาร์

   “เอ่อ...เดี๋ยวก่อนครับ” พีทรีบเรียกเอาไว้ทันทีก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินไป

   “จะรับอะไรเพิ่มครับ” พนักงานหันกลับมาถามพร้อมรอยยิ้ม

   “คือ...พอจะรู้จักคนชื่ออาร์ตไหมครับ” พีทตัดสินใจถามออกไป ถึงจะไม่แน่ใจว่าพนักงานจะรู้จักคนที่เขาถามหาหรือเปล่า แต่มันก็คงดีกว่าให้เขานั่งรอเฉยๆแบบไม่รู้อะไรอย่างนี้

   “อ้อ...พี่อาร์ตมีธุระอะไรรึเปล่าครับ” นับว่าเป็นโชคดีของพีทที่พนักงานคนนี้รู้จักอาร์ต เจ้าตัวเลยหลุดยิ้มกว้างออกมาอย่างโล่งอก

   “เขาอยู่ที่ไหนเหรอครับ...รบกวนช่วยบอดเขาให้ทีนะครับว่าพีทมาหา” พีทรีบขอความช่วยเหลือเหลือทันทีเพราะเขาอยากกลับบ้านจะแย่อยู่แล้ว วันนี้รู้สึกว่าชีวิตเขาจะเจออะไรเยอะแยะไปหมด ถ้าต้องมารองรับความกวนประสาทของไอ้พี่อาร์ตอีกเห็นทีจะไม่ไหว

   “งั้นเดี๋ยวผมตามให้นะครับ” พนักงานค้อมหัวให้เล็กน้อยก่อนจะผละออกไป

   “ถึงจะเป็นต้นเหตุทำให้เจอเรื่องซวยๆ แต่ก็ช่วยไว้เหมือนกันละนะ” พีทหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดูข้อความที่อีกฝ่ายส่งมาให้พร้อมกับยิ้มออกมาจางๆ

   - อย่าลืมนัดของเรานะดาร์ลิ้ง จุ๊บๆ -

   เพราะข้อความบ้าๆบอๆที่จงใจจะกวนประสาทของอาร์ต ทำให้เขาได้สติและไหวตัวทันก่อนที่จะต้องเสียอะไรๆมากไปกว่านี้ให้กับผู้ชายคนนั้น โดยเฉพาะคำว่าความรู้สึกที่โดนทำพังไม่มีชิ้นดี

   “มาการิต้าครับ...พี่อาร์ตฝากมาบอกว่าให้คุณรอแป๊บนึง เดี๋ยวออกมาหานะครับ” หลังจากนั่งใจลอยไปได้สักพัก พนักงานคนเดิมก็กลับมาพร้อมแก้วเครื่องดื่มในมือ และข้อความจากอาร์ตที่ฝากมาให้

   “ขอบคุณนะครับ” พีทเอ่ยขอบคุณเบาๆแล้วหยิบเครื่องดื่มมาจิบเรื่อยๆ สายตาก็มองไปทั่วร้านเพื่อสำรวจโดยรอบอีกครั้ง แต่รอบนี้ไม่ใช่เพื่อหาทางหนีทีไล่อะไรแค่อยากจะดูบรรยากาศในร้านบ้าง

   ร้านที่เขากำลังนั่งอยู่ตอนนี้เป็นร้านขนาดกลางตั้งอยู่หลังมหา’ลัย ถึงจะบอกว่าเป็นร้านเหล้าแต่ก็ไม่ได้ดูน่ากลัวหรือไม่น่าเข้าแบบนั้น กลับกันร้านนี้ให้บรรยากาศที่ดีและน่าเข้ามามากกว่าที่คิดไว้ซะอีก ด้วยตัวร้านตกแต่งในสไตล์วินเทจสีขาวดำไฟรอบร้านก็เป็นสีส้มนวลตา รวมทั้งตัวร้านค่อนข้างโล่งไม่อุดอู้หรือคับแคบเหมือนในผับ แถมยังเป็นร้านกึ่งเอาท์ดอร์ที่ชั้นสองสามารถไปนั่งดื่มชิวๆรับลมเย็นได้ เครื่องดื่มก็รสชาติโอเคใช้ได้พอสมควร
 
   ‘ไว้วันหลังชวนพวกไอ้เลิฟมาบ้างดีกว่า’ พีทนึกถึงกลุ่มเพื่อของตัวเองขึ้นมาทันที ตาก็ยังคงมองรอบๆร้านเหมือนเดิมและพอสังเกตุดีๆ ลูกค้าในร้านแทบจะทั้งหมดเป็นเด็กมหา’ลัยเดียวกันกับเขาทั้งนั้น และถ้าจำไม่ผิดเป็นเด็กวิศวะซะส่วนใหญ่แถมยังมีแต่ตัวเป้งๆของคณะทั้งนั้น

   “นั่งด้วยคนได้ไหมครับ” เสียงเรียกจากด้านข้างทำให้พีทต้องหัดกลับมามอง ก่อนจะขมวดคิ้วมุ่นมองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ ถึงโต๊ะจะมีน้อยแต่มันก็ยังมีโต๊ะว่างทำไมไม่ไปนั่งโต๊ะอื่นวะ

   “มาร้านนี้ครั้งแรกเหรอพึ่งเคยเห็นหน้า” ผู้ชายตรงหน้านั่งลงที่โต๊ะฝั่งตรงข้ามของพีทโดยที่ไม่รอคำอนุญาตและพยายามชวนคุย แต่พีทแค่ปรายตามองแล้วหันหนีอย่างไม่ใส่ใจทำเหมือนอีกฝ่ายไม่มีตัวตน

   “หึ กินมาการิต้าแสดงว่าคออ่อนใช่ไหมเนี่ย” ผู้ชายคนเดิมยิ้มออกมาอย่างพอใจในท่าทางของพีท พร้อมกับเอ่ยแซวออกมาเมื่อสังเกตุเห็นแก้วเครื่องดื่มที่พีทถืออยู่ แต่พีทยังคงนั่งนิ่งไม่สนใจเหมือนเดิม

   “พูดด้วยก็ไม่พูดใจร้ายจัง” เสียงอีกฝ่ายพูดตัดพ้อพีทออกมาจนเจ้าตัวต้องกรอกตาไปมาด้วยความรำคาญ จะหันไปด่าก็กลัวจะได้ตีกันอย่างที่บอกไปเขาไม่ถนัดเรื่องใช้กำลัง เลยต้องทนเงียบฟังผู้ชายด้วยกันมาจีบอยู่แบบนี้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจอหรอกแต่บอกเลยว่าไม่บ่อยนานๆทีจะมีมา ส่วนมากจะเป็นไอ้เลิฟกับไอ้เอยที่เจอ อาจจะเพราะไอ้สองตัวนั้นน่ารักเกินไปละมั้งเขาเลยรอด

   “แล้วนี่มานั่งรอใครรึเปล่าหรือมาคนเดียว” อีกฝ่ายยังคงพูดไม่หยุดและคำถามนี้ที่ทำให้พีทหันมาหาและจ้องอีกฝ่ายนิ่งๆ

   “มารอคน” พีทตอบเสียงเรียบแล้ววางแก้วในมือลง

   “ใครเอ่ย...ผมรู้จักไหมน๊าาาา” คนตรงหน้าส่งยิ้มหวานให้พีท

   “ชื่ออาร์ตน่ะ” พีทเองก็ส่งยิ้มกลับไป

   “อาร์ต...อาร์ตไหน” อีกฝ่ายชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินชื่อที่พีทพูดออกมา
 
   “อาร์ตปีสามวิศวะ รู้จักไหม” คราวนี้พีทตอบออกไปด้วยสีหน้าบึ้งตึง คนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ยังมาขายขนมจีบอยู่ได้

   “เฮียอาร์ตน่ะเหรอ...อย่าบอกนะว่าเป็นเด็กเฮียอาร์ต” อีกฝ่ายตาโตและถามพีทกลับเสียงตะกุกตะกัก

   “เออ!!! ถ้ารู้แล้วก็ไปให้พ้นๆหน้ากู รำคาญ!!” พีทกระแทกเสียงตอบอย่างหงุดหงิดพร้อมเอ่ยปากไล่ ซึ่งอีกฝ่ายก็รีบลุกออกไปทันทีเหมือนกัน ถ้ารู้ว่าอ้างไอ้พี่อาร์ตแล้วจะไล่มันไปได้เร็มขนาดนี้เขาอ้างไปนานละ

   “เป็นอะไรน้องพีททำไมหน้าบึ้ง” เสียงทุ้มกวนประสาทดังขึ้นจาทางด้านหลัง ก่อนที่เจ้าของเสียงจะอ้อมมาด้านหน้าแล้วนั่งลงพร้อมส่งยิ้มทะเล้นมาให้

   “ช้า!!!” พีทกระแทกเสียงเหวี่ยงใส่อาร์ตจนเจ้าตัวถึงกับเหวอไปด้วยความตกใจ

   “เฮ้ย!! อะไรเนี่ยไปโมโหอะไรมา” อาร์ตถามกลั้วเสียงหัวเราะ เขายังไม่ได้กวนประสาทหรือแกล้งอะไรอีกฝายเลยนะ ไหงเหวี่ยงใส่เขาซะแล้วล่ะวะ

   “เอาของมา” พีทยื่นมือไปข้างหน้าและของตัวเองคืนทันทีไม่อยากเสียเวลากับอีกฝ่ายมากนัก เขาหงุดหงิดจนเกินกว่าจะต่อล้อต่อเถียงด้วยและอยากกลับบ้านเต็มแก่แล้ว

   “ถ้าพี่บอกว่ายังไม่ให้ล่ะ” อาร์ตทำเสียงยียวนใส่เพื่อหวังแกล้งอีกฝ่ายเหมือนเดิม แต่ผลที่ได้คือพีทที่นั่งเงียบและมองเขาด้วยท่าทางเฉยสนิท

   “งั้นผมกลับ” พีทพูดแค่นั้นแล้วลุกขึ้นยืนทันทีพร้อมกับควักเงินมาวางลงบนโต๊ะ ก่อนจะเดินออกไปโดยไม่สนใจอาร์ตอีก กลายเป็นตัวอาร์ตเองที่มองพีทอย่างตกใจและรีบวิ่งไปคว้าแขนอีกฝ่ายเอาไว้

   “เดี๋ยว!!” อาร์ตดึงแขนพีทไว้ได้ทันก่อนที่เจ้าตัวจะเดินพ้นหน้าร้าน

   “ปล่อย!!” พีทพูดเสียงแข็งและพยายามแกะมืออาร์ตที่จับแขนตัวเองออก

   “เป็นอะไร” อาร์ตถามออกไปด้วยความเป็นห่วงถึงจะรู้จักกันไม่นาน แต่ไอ้เด็กนี่ต้องเป็นอะไรแน่ๆไม่งั้นคงไม่มีท่าทางแบบนี้

   อาร์ตจับแขนพีทแน่นกว่าเดิมแล้วใช้มืออีกข้างจับหน้าพีทที่ก้มอยู่ให้เงยขึ้น ทันทีที่เห็นหน้าอีกฝ่ายชัดๆอาร์ตก็ไม่พูดอะไรออกมาอีก ก่อนจะลากจูงแขนให้เดินไปกับตัวเองโดยไม่สนอาการฮึดฮัดของเจ้าตัว

   “เฮ้ยพวกมึงถ้าพวกเฮียฮิมยังไม่กลับมาก็ปิดร้านเลยนะกูไปทำธุระก่อน” อาร์ตตะโกนสั่งเด็กในร้านแล้วเดินไปหยิบกระเป๋าเป้ขึ้นมาสะพาย ก่อนจะพาพีทเดินมาที่มอเตอร์ไซค์คันโปรดจองตัวเองซึ่งจอดอยู่หลังร้าน

   “อะไร” พีทมองอาร์ตด้วยความไม่เข้าใจเพราะไม่รู้อีกฝ่ายจะกวนประสาทอะไรเขาอีก แต่อาร์ตไม่ตอบอะไรหยิบหมวกกันน็อคมาสวมลงบนหัวของพีท ซึ่งเจ้าตัวก็ขัดขืนเอามือปัดออกอย่างไม่ยอมทำตาม

   “อยู่นิ่งๆ” อาร์ตเลยต้องพูดเสียงเข้มและมองดุๆพีทถึงยอมอยู่เฉยๆให้อีกฝ่ายสวมหมวกให้ตัวเอง

   อาร์ตยิ้มอย่างพอใจก่อนจะสวมหมวกให้อีกฝ่ายแล้วเดินไปนั่งคร่มบนรถ พร้อมกับตบลงไปที่เบาะหลังแปะๆเพื่อบอกให้พีทเดินลงมานั่ง พีทมองอาร์ตแล้วทำหน้ามุ่ยออกมาก่อนจะเดินไปนั่งลงข้างลงอย่างไม่พอ ซึ่งเรียกรอยยิ้มขำจากอาร์ตได้ไม่น้อย

   “เกาะดีๆนะ” อาร์ตจับมือพีทให้มากอดที่เอวตัวเองแล้วสตาร์ทรถ ก่อนจะบิดสองสามทีและพาพีทขับออกจากร้านไป โดยที่พีทได้แต่เงียบและเก็บความสงสัยไว้กับตัวว่าอีกฝ่ายจะพาไปไหน



2 Be Con...

ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
กัดครั้งที่
- 8 -
   


   รถมอเตอร์ไซค์สีชมพูขับไปเรื่อยๆตามท้องถนนยามราตรี แสงไฟสาดส่องให้เห็นอยู่เป็นระยะพร้อมกับสายลมเย็นที่ปะทะผิวกายเอื่อยๆ ท่ามกลางความเงียบของคนสองคนที่โดยสารมันอยู่

   พีทมองรอบข้างอย่างเหม่อลอยสายตาไม่ได้โฟกัสต่ออะไร ก่อนจะตัดสินใจถอดหมวกกันน็อกออก เพราะอยากให้หน้าได้สัมผัสกับลมยามค่ำคืน เผื่อว่าความเย็นของมันจะช่วยไล่ความหม่นหมอง ที่ตกเป็นตะกอนอยู่ภายในใจตอนนี้ออกไปได้บ้าง

   สัมผัสอุ่นๆที่แนบลงมาบนแผ่นหลังกับความหนักที่กดทับ ทำให้อาร์ตต้องละสายตาจากถนนแล้วหันกลับมามองด้านหลัง ถึงได้เห็นว่าพีทเอนตัวซบอยู่กับหลังของตัวเอง

   อาร์ตหันกลับไปมองถนนแล้วเผลออมยิ้มออกมา ก่อนจะใช้มืออีกข้างเลื่อนลงมากุมมือของพีท ที่เกาะเอวตัวเองไว้แล้วออกแรงบีบลงไปเบาๆ

   แรงบีบที่มือทำให้พีทหลุดจากภวังค์ความคิดของตัวเองแล้วรีบผละตัวออกมาด้วยความตกใจ พร้อมกับใบหน้าที่ขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างเขินอายที่ตัวเองเผลอลืมตัวทำอะไรแปลกๆลงไป

   ดวงตาเรียวสวยมองไปยังแผ่นหลังกว้างอย่างตะหนก คิดในใจว่าจะต้องโดนอีกฝ่ายเอ่ยแซวกวนประสาทมาแน่ๆ แต่ทุกอย่างกับผิดคาดไปหมดเพราะนอกจากจะไม่โดนแซวให้อารมณ์เสีย เจ้าตัวยังทำแค่ขับรถต่อไปเงียบๆและมือที่จับมือเขาไว้หลวมๆ

   พีทเม้มปากแน่นอย่างขัดใจแต่ก็ไม่ได้ดึงมือของตัวเองออกมา ก่อนจะเอาหัวโขกลงไปที่หลังของอาร์ตไม่เบาแต่ก็ไม่ได้แรงมากนัก

   "เฮ้ย!! อะไรเนี่ย...นั่งดีๆอย่าซนดิวะพี่ขับรถอยู่" อาร์ตส่งเสียงโวยวายออกมาพร้อมกับพยายามหันหลังกลับมามองอีกฝ่าย ที่ตั้งหน้าตั้งตาเอาหัวโขกเขาอยู่แบบนั้น

   "หันมาไม...ขับรถไปดิ" พีทงึมงำในลำคอแล้วเอามือดันหน้าอีกฝ่ายให้หันกลับไป พอเห็นว่าหันไปอย่างที่บอกพีทก็เริ่มเอาหัวโขกหลังอาร์ตอีกครั้ง

   "ทำไมซนงี้วะ...แล้วหมวกใส่ให้ก็ดันถอดออก" อาร์ตส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจแล้วเลิกสนใจเด็กดื้อด้านหลัง หันไปตั้งใจขับรถต่อปล่อยให้พีทเอาหัวโขกหลังตัวเองอยู่แบบนั้น

   ในที่สุดหลังจากใช้เวลาขับรถนานพอสมควร บานชื่นลูกสาวสุดรักของอารต์ก็พาเจ้าของมัน พร้อมกับเพื่อนร่วมทางหน้าหวานมาถึงจุดหมาย

   "ถึงละ" อาร์ตจัดการดับเครื่องยนต์แล้วล็อกคอรถให้เรียบร้อย ก่อนจะหันกลับไปรับหมวกกันน็อกจากมือพีท หยิบกระเป๋าเป้ออกมาจากตะกร้ารถแล้ววางหมวกกันน็อกลงไปแทนที่

   พีทยืนมองไปรอบๆด้วยความสงสัย เสียงเพลงลูกทุ่งที่ดังให้ได้ยินแว่วๆกับชิงช้าสวรรค์ที่เห็นไกลๆ ทำเอาคิ้วสวยขมวดกันเป็นปมยุ่งเหยิง

   "อะไร" พีททำหน้ามุยใส่อาร์ตทันทีที่เจ้าตัวมายืนอยู่ข้างๆ

   "งานวัดไง...ไม่รู้จัก?" อาร์ตมองหน้าพีทอย่างเหลือเชื่อ อย่าบอกนะว่าไอ้เด็กนี่ไม่รู้จักจริงๆ

   "รู้จักเว้ย!! แต่พามาทำไมเล่า!!" พีททำหน้าเหวี่ยงใส่อย่างไม่พอใจ ที่เห็นอาร์ตใช้สายตามองตัวเองเหมือนมองเด็กสามสี่ขวบไม่มีผิด ถึงจะไม่เคยมาสถานที่แบบนี้แต่ก็ไม่ได้โง่จนไม่รู้จักหรอกนะ

   "พามาเที่ยวไง" อาร์ตอมยิ้มพร้อมกับยักคิ้วข้างนึงส่งให้กวนๆ

   "งานวัดเนี่ยนะ" พีทถามอาร์ตเสียงสูงซึ่งเจ้าตัวก็พยักหน้ารับส่งให้เป็นคำตอบ

   "งั้นกลับ" พีทตอบกลับทันทีอย่างไม่คิดเยอะ ก่อนจะหันหลังกลับไปหามอเตอร์ไซค์

   "เดี๋ยว!! จะรีบกลับไปไหนยังไม่ได้เดินเที่ยวงานเลย" อาร์ตคว้าคอเสื้อพีทเอาไว้แทบไม่ทัน ก่อนจะจัดการลากเจ้าตัวให้ถอยห่างจากรถ

   "อะไรเล่า!! บอกว่าไม่อยากเดินไงวะ!! จะกลับบ้าน!!" พีทโวยวายออกมาตามนิสัยพยายามดิ้นรนกลับไปหารถที่จอดอยู่ เดือดร้อนอาร์ตต้องเปลี่ยนจากดึงคอเสื้อเป็นล็อกคออีกฝ่ายให้อยู่นิ่งๆ

   "ได้ไงละอุตส่าห์พามาตั้งไกล เดินเที่ยวด้วยกันก่อน" อาร์ตพูดอย่างไม่สนใจท่าทีฮึดฮัดของพีท แถมยังบังคับลากอีกฝ่ายให้เข้าไปใกล้บริเวณงานเรื่อยๆ

   "ปล่อยดิวะ!! บอกว่าไม่ไปไง...จะกลับบ้าน!!" พีทพยายามสะบัดตัวออกจากการแขนของอาร์ตอย่างเต็มที่ แต่ไม่ว่าจะพยายามยังไงก็ดิ้นไม่หลุดสักที ถึงอีกฝ่ายจะตัวใหญ่กว่าพอสมควรแต่ก็ไม่น่าจะเรี่ยวแรงต่างกันได้ขนาดนี้

   "ไม่ให้กลับ" อาร์ตพูดออกมาอย่าเอาแต่ใจ และจับตัวพีทให้หันมาเผชิญหน้ากันตรงๆ

   "ทำไมชอบบังคับวะ" พีทออกอาการหัวเสียไม่น้อยเลยที่ต้องดจออะไรแบบนี้

   "ก็บอกดีๆน้องพีทฟังไหมล่ะ" อาร์ตใช้สายตาดุพีทกลายๆจนเจ้าตัวหน้างอง้ำอย่างขัดใจ

   "ฮึ่ย...แม่ง!!" พีทสะบัดหน้าหนีไปอีกทางด้วยความไม่พอใจ ส่วนอาร์ตก็ได้แต่ยืนอมยิ้มขำกับท่าทางของอีกฝ่าย

   “เอาน่า...ลองเดินดูก่อนสัญญาถ้าไม่ชอบจะรีบพากลับ” อาร์ตพยายามเกลี่ยกล่อมซึ่งพีทก็ได้แต่ทำหน้ามุ่ยออกมา

   "เฮ้ย!! ทำไรวะ" พีทร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆอาร์ตก็จับแขนเขาออก ก่อนที่อีกฝ่ายจะสอดสายกระเป๋าเป้เข้ามาในแขน และเปลี่ยนให้เขาเป็นคนสะพายแทน

   "ฝากหน่อย" อาร์ตว่าแค่นั้นแล้วลากพีทให้เดินเข้าไปในงาน โดยที่ไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้โต้เถียง

   อาร์ตจูงมือพีทเดินไปจนทั่วงาน เข้าออกร้านค้าร้านนั้นร้านนี้เป็นว่าเล่น จากตอนแรกพีทที่เดินเที่ยวงานด้วยใบหน้าบึ้งตึง ตอนนี้กลายเป็นว่าเจ้าตัวยิ้มกว้างออกมาอย่างมีความสุข ดวงตาเรียวมองไปรอบๆงานอย่างสนใจและตื่นเต้นอย่างไม่คิดจะเก๊กฟอร์มอะไรอีก

   จนกระทั่งทั้งคู่เดินมาถึงโซนเกมรางวัล พีทก็มองไปยังร้านปาลูกโป่งไม่วางตา แสดงความสนใจออกมาจนแม้แต่อาร์ตยังสังเกตเห็น

   "อยากเล่นเหรอ" อาร์ตตัดสินใจลองถามดู เพราะเห็นพีทเอาแต่ยืนจ้องไม่ขยับไปไหน

   "ใครบอก...แค่ดูเฉยๆเหอะ" พีทรีบปฏิเสธออกมาเพราะกลัวเสียฟอร์ม พร้อมกับหันหลังหนีทำเหมือนตัวเองไม่ได้สนใจ ทั้งๆที่ในใจอยากลองเล่นดูบ้างเพราะเคยเห็นในรายการทีวี แต่เรื่องอะไรเขาจะยอมรับล่ะโดยเฉพาะกับไอ้พี่อาร์ต ไม่มีทางเหอะ

   อาร์ตเลิกคิ้วขึ้นสูงและหรี่ตามองแผ่นหลังเล็ก ก่อนจะส่ายหัวและอมยิ้มขำออกมา ก็เห็นอยู่ชัดๆว่าอยากลองเล่นดูใจจะขาด จ้องซะขนลูกโป่งจะแตกเพราะสายตาอยู่แล้ว ยังจะมาฟอร์มจัดปากแข็งไม่ยอมรับอีก

   "พี่ครับขอชุดนึง" อาร์ตตัดสินใจเรียกเจ้าของร้านเพื่อขอซื้อลูกดอกมาปาซะเอง เพราะถ้ารอให้อีกคนเอ่ยปากยอมรับว่าอยากเล่น ไม่รู้คืนนี้ทั้งคืนจะยอมพูดไหม

   "อะไรอ่ะ...ไอ้พี่อาร์ตจะเล่นเหรอ" พีทที่ได้ยินอาร์ตพูดรีบหันกลับมาหาทันที พร้อมกับขยับเข้าไปใกล้อีกฝ่ายตาก็มองลูกดอกในมืออาร์ตไม่วางตา แต่พยายามทำเป็นว่าตัวเองไม่ได้สนใจ ส่วนอาร์ตที่เห็นทุกอย่างก็ได้แต่นึกขำในใจ ให้กับการวางมาดไม่สนใจของพีท

   "จะปาเลยเหรอ" พีทเอ่ยทักขึ้นมาเมื่อเห็นว่าอาร์ตง้างแขนเตรียมปาลูกดอก ซึ่งอาร์ตก็แค่เหลือบมองนิดๆไม่ได้พูดอะไร

   "มันก็น่าจะไม่ยากเนาะระยะแค่นี้เอง" เสียงของพีทเอ่ยขัดขึ้นมาอีกในจังหวะที่อาร์ตกำลังจะปา เลยทำให้อาร์ตต้องหยุดมือลงอีกครั้งแล้วเหลือบสายตากลับมามอง

   "เวลาปาก็คงจะคล้ายๆตอนเราเขวี้ยงของแหละเนอะ" เสียงของพีทที่ดังขัดขึ้นมาอีกครั้งทำให้อาร์ตหยุดการกระทำทุกอย่าง แล้วหันมาหรี่ตามองอีกฝ่ายอย่างจับผิด ซึ่งเจ้าตัวก็แกล้งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ใส่

   "อะไร...มองไม...ปาไปดิ" พีทแกล้งทำไม่พอใจใส่อาร์ตที่หันมามองหน้าตัวเอง ก่อนจะเม้มปากตัวเองแน่นแล้วก้มหน้าหลบตาอีกฝ่าย

   "น้องพีทลองปาดูไหม" อาร์ตยื่นลูกดอกทั้งหมดในมือไปให้พีท ซึ่งอีกฝ่ายก็ตาลุกวาวขึ้นมาทันที

   "ไม่เอาหรอก...ไร้สาระ" พีทปฏิเสธเสียงแข็งแล้วทำเป็นเมินไม่สนใจ ทั้งๆที่ในใจอยากจะคว้ามันมาลองปาเล่นใจจะขาด
   อาร์ตละอยากหัวเราะออกมาดังๆให้กับอาการฟอร์มจัดของพีท อะไรมันจะไปปากแข็งกันได้ขนาดนั้น ดูก็รู้ว่าอยากจะลองใจจะขาดอยู่แล้วแท้ๆ

   "เล่นเหอะ" อาร์ตพูดออกมาอีกครั้งแล้วยื่นลูกดอกไปหาพีท พร้อมกับจ้องหน้าเจ้าตัวนิ่งๆ

   "บังคับอีกละ" พีทแกล้งพูดออกมาด้วยความไม่พอใจแต่คว้าเอาลูกดอกมาไว้ในมือทันที ส่วนแววตาก็สั่นน้อยๆอย่างมีความสุขต่างจากใบหน้าที่ทำเป็นเฉยชาไม่สนใจ แล้วหันกลับไปมองลูกโปงที่วางเรียงรายอยู่ตรงหน้า

   อาร์ตได้แต่ส่ายหัวให้กลับท่าทางเด็กน้อยยังไม่โตของพีท ยืนกอดอกมองอีกฝ่ายที่หยิบลูกดอกขึ้นมาเล็งจะปาแล้วยิ้มเอ็นดู นี่มันเจ้าหญิงในหอคอยรึเปล่าวะเนี่ย

   “รู้ป่ะ...ถ้าปาลูกดอกในมือโดนลูกโป่งแตกหมดเลือกตุ๊กตาตัวไหนในร้านก็ได้ตัวนึงนะ” อาร์ตเดินไปเอามือพาดลงบนไหล่พีทแล้วก้มลงบอกเจ้าตัว

   “ตัวไหนก็ได้เหรอ” พีททำตาโตออกมาอย่างสนใจ อาร์ตเลยพยักหน้ารับเบาๆ

   “งั้นปาเอาแม่งทั้งร้านเลย” พีทพูดอย่างหมายมาดแววตาลุกโชน

   “ปาให้โดนซักดอกก่อนเหอะ” อาร์ตอดที่จะเอ่ยขัดออกมาไม่ได้ เลยโดนเจ้าตัวมองค้อนมาวงใหญ่

   แล้วทุกอย่างก็เป็นไปตามคำพูดของอาร์ตเป๊ะๆ เพราะยืนปากันรวมครึ่งชั่วโมงยังไม่เฉียดคำว่าเข้าใกล้ความจริงเลยสักครั้ง เพราะลูกดอกที่ปาออกไปไม่เคยทำให้ลูกโป่งแตกได้เลย จนคนปาเริ่มหน้าหงิกงอออกอาการฮึดฮัดไม่พอใจ

   “ไม่ปาแล้วแม่ง!!!” ในที่สุดความอดทนก็หมดพร้อมกับลูกดอกลูกสุดท้ายในมือ พีทหันหลังแล้วเดินหนีออกจากร้านไปทันทีด้วยความไม่พอใจ เขาอุตส่าห์ยืนปาตั้งนานไม่เห็นลูกโป่งมันจะแตกเลยร้านมันต้องโกงเขาแน่ๆ คิดว่าอยากได้นักรึไงไอ้ตุ๊กตาถูกๆนั่นอ่ะไปซื้อในห้างเอาก็ได้

   พีทเดินไปเรื่อยๆโดยที่ไม่ได้สนใจอาร์ตเลยสักนิด จนเวลาผ่านไปพอ สมควรถึงได้พึ่งรู้สึกตัวว่าอีกฝ่ายไม่ได้อยู่ด้วย เริ่มหันรีหันขวางมองหาอาร์ตด้วยความร้อนรน

   “อ่ะ” พีทสะดุ้งออกมาเล็กน้อยเมื่อมีสัมผัสเย็นเจี๊ยบมาโดนแก้ม พอหันกลับไปมองก็เห็นว่าเป็นอาร์ตที่ยืนอยู่ แล้วเป็นคนเอากระป๋องน้ำมาแตะลงบนแก้มพร้อมรอยยิ้ม

   “เดินไม่ดูทางเล้ย...เดี๋ยวก็หลงหรอกพี่บอกว่าอย่าซนไง” อาร์ตดุออกไปเบาๆพร้อมเสียงหัวเราะ มือก็ยื่นกระป๋องน้ำไปให้พีทที่รับไปแบบงงๆก่อนจะขยี้หัวอีกฝ่ายจนผมยุ่งไปหมด แล้วจูงพีทให้เดินฝ่าฝูงชนไปข้างหน้าจนมาหยุดอยู่ที่หน้าชิงช้าสวรรค์ในงาน

   “อะไร” พีทมองอาร์ตกับกระเช้าชิงช้าอย่างระแวง คงไม่คิดอะไรบ้าๆอย่างลากเขาขึ้นไปนั่งหรอกนะ

   “ชิงช้าไง” อาร์ตทำหน้ามึงใส่จนพีทหน้างออย่างขัดใจ อะไรมันจะกวนประสาทกันได้ตลอดแบบนี้วะ

   “ขึ้นไปชมวิวกัน” อาร์ตพูดพร้อมกับรอยยิ้มกว้างแล้วลากแขนพีทเดินไปต่อแถวทันที

   “เฮ้ย!!! ไม่เอา...ไม่ขึ้น!!!” พีทโวยวายดังลั่นพยายามขัดขืนเต็มที่ มันใช่เรื่องที่ไหนล่ะผู้ชายสองคนขึ้นไปนั่งชิงช้าสวรรค์เนี่ย

   “อย่าโวยวายสิน้องพีทคนมองหมดแล้วเห็นไหม” อาร์ตก้มลงไปกระซิบบอกข้างหูพร้อมกับพยักเพยิดให้อีกฝ่ายมองรอบข้าง ซึ่งพีทก็รีบหันมองตามและก็อย่างที่อาร์ตบอกจริงๆคนมองพวกเขาเป็นตาเดียว พีทเลยยืนเงียบแล้วก้มหน้ามองพื้นด้วยความอาย

   “สองคนครับ” อาร์ตจ่ายตังให้กับพนักงานแล้วลากพีทขึ้นไปนั่งบนกระเช้าที่มาจอดตรงหน้าพอดี

   กระเช้าชิงช้าเคลื่อนตัวขึ้นไปด้านบนเรื่อยๆลมเย็นๆจากที่สูงที่เริ่มปะทะเข้ามา พร้อมกับวิวทิวทัศน์ด้านล่างที่เริ่มเล็กลงทุกขณะ เสียงดนตรีในงานและเสียงผู้คนจอแจเริ่มหายไป กลายเป็นความเงียบเข้ามาแทนพร้อมกับกระเช้าที่เคลื่อนตัวมาหยุดนิ่งเมื่อถึงจุดสูงสุด

   “เป็นไงชอบไหม” เสียงเรียกจากอาร์ตทำให้พีทที่กำลังมองวิวรอบๆหันกลับหาทันที

   “ก็งั้นๆ” พีททำทียักไหล่ส่งให้อย่างไม่สนใจ จนอาร์ตหลุดขำออกมาให้กับเด็กปากแข็ง

   “ขำไร” พีทถลึงตาใส่อาร์ตอย่างหงุดหงิด จนอาร์ตต้องโบกมือปฏเสธไปมา

   “งั้นๆก็แปลว่าไม่ได้แย่ใช่ไหมล่ะ” อาร์ตเอ่ยแซวพร้อมรอยยิ้มรู้ทันจนพีทหน้าแดงขึ้นมาด้วยความเขิน

   “แย่!!!” พีทปฏิเสธเสียงแข็งอย่างไม่ยอมรับพร้อมกับกำหมัดแน่นง้างขึ้นตั้งใจจะทุบลงบนตัวของอีกฝ่าย

   “เฮ้ยๆ งดใช้กำลังพี่เป็นผู้ชายบอบบางห้ามๆ” อาร์ตทำหน้าตื่นกลัวออกมาอย่างเกินจริง พร้อมกับยกแขนกอดตัวเองสะดีดสะดิ้งเหมือนสาวน้อยจะเสียตัว

   “ไอ้เหี้ยพี่อาร์ต!!!” พีทตะโกนออกมาอย่างสุดทนแล้วจัดการฟาดลงไปบนตัวอาร์ตเต็มแรง

   “โอ๊ย!! ฮ่าๆ ทำไมขี้หงุดหงิดจังหวะขาดแคลเซียมเหรอ” อาร์ตหัวเราะออกมาดังลั่นที่แกล้งพีทได้สำเร็จ

   “แต่ก็ดีกว่าทำหน้าเศร้าละเนอะ” ประโยคต่อมาของอาร์ตทำให้พีทต้องมองอีกฝ่ายด้วยความตะลึง

   “พี่ไม่รู้หรอกนะเมื่อตอนกลางวันเราไปเจออะไรมา...แต่พี่ว่าหน้าเหวี่ยงๆแบบเนี่ยมันเหมาะกับเรามากกว่า” อาร์ตยังคงพูดออกไปเรื่อยๆพร้อมรอยยิ้ม

   “คราวหลังอย่าทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อีกนะน้องพีท” อาร์ตยื่นมือไปบีบปลายจมูกรั้นๆของพีท แล้วก็บิดมันไปมาอย่างหมันเขี้ยว พร้อมกับส่งยิ้มกว้างอย่างเอ็นดูไปให้

   พีทได้แต่มองหน้าอาร์ตอย่างตะลึงงั้นที่อีกฝ่ายตั้งใจกวนประสาทเขามา ทั้งหมดเพื่อทำให้เขาหายเศร้าอย่างนั้นน่ะเหรอ ซึ่งมันก็ได้ผลจริงๆเขาลืมเรื่องแย่ๆที่ตัวเองเจอมาทั้งหมด ไม่ได้คิดถึงมันเลยด้วยซ้ำแถมยังสนุกกับงานวัดบ้านๆนี่ ทั้งๆที่ตอนแรกโดนบังคับพามาอย่างไม่เต็มใจ

   พีทก้มหน้าลงมองที่พื้นโดยไม่พูดอะไรรู้สึกสับสนกับอะไรบ้างอย่าง ที่แม้แต่ตัวเองก็อธิบายมันไม่ถูกเหมือนกัน ก่อนจะสัมผัสได้ถึงฝ่ามือหนาที่ลูบลงมาบนหัวแผ่วเบา พร้อมกับเสียงหัวใจที่เต้นดังออกมาไม่เป็นจังหวะ โดยที่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมมันถึงเต้นได้ขนาดนั้น



2 Be Con...

ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
กัดครั้งที่
- 9 -
   


   "เดี๋ยวพี่มานะรออยู่ตรงนี้ก่อน อย่าซนนะเว้ย" อาร์ตบอกพีทพร้อมกับขยี้หัวอีกฝ่ายเบาๆ ก่อนจะคว้ากระเป๋าเป้กับพีทมาสะพานเอง แล้ววิ่งกลับเข้าไปในงาน

   พีทพยักหน้ารับคำเนือยๆแล้วมองตามแผ่นหลังที่วิ่งหายไปกับฝูงชน ตั้งแต่ลงจากชิงช้ามาจนเดินกลับมาที่รถเขาก็ยังไม่ได้พูดอะไรกับอีกฝ่ายสักคำ อยู่ดีๆก็รู้สึกแปลกๆทำตัวไม่ถูกมือไม้ก็ดูเกะกะเก้งก้างไปหมด ในขณะที่คนที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้กลับดูสบายๆ ไม่ทุกข์ร้อนอะไรจนน่าหมั่นไส้

   "เฮ้อ!!!" พีทถอนหายใจออกมากลุ้มๆ แล้วนั่งลงบนเบาะรถ มือข้างนึงยกมาลูบลงบนอกตัวเองไปมา

   "เต้นทำเหี้ยไรเนี่ย มึงทะลุออกมาเลยไหมเต้นขนาดนั้น" พีทตบลงบนอกตัวเองปากก็พึมพำไปด้วย

   "เอ้าๆเป็นอะไรเจ็บหน้าอกเหรอ" อาร์ตที่เดินกลับมาเจอพีทฟาดอกตัวเองอยู่ รีบเดินเข้าไปหาด้วยควาทเป็นห่วง เพราะนอกจากจะฟาดเจ้าตัวยังทำหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วย

   "ปะ...เปล่าไม่เป็นไรปล่อยดิ" พีทพูดตะกุกตะกักตกใจกับการโผล่มาไม่ทันตั้งตัวของอาร์ต

   "ได้ไง...ให้ดูก่อน" อาร์ตเองก็ไม่ยอมถอยเหมือนกัน จับมือพีทไว้แน่นและทาบฝ่ามือตัวเองลงไปบนอกอีกฝ่าย

   ตึก! ตึก! ตึก!

   เสียงหัวใจเต้นกับสัมผัสที่ฝ่ามือทำให้อาร์ตหลุดยิ้มออกมา พอมองหน้าอีกฝ่ายก็เห็นแก้มสองข้างกำลังแดงระเรื่อ พร้อมกับที่เจ้าตัวหันหน้าหลบสายตา ชัดเจนทุกอย่างแบบไม่ต้องถาม ไอ้เด็กนี่กำลังเขินเขา

   "ดังเนาะ" อาร์ตทำหน้ากรุ้มกริ้มใส่พีท ตาเป็นประกายวิบวับ

   "อะ...อะไร" พีทหันมาถลึงตาใส่อาร์ตแล้วรีบหันหนี เพราะจู่ๆก็เขินหนักกว่าเดิม

   "นี่...พี่อุตส่าห์พามาเที่ยวขอรางวัลหน่อยดิ" อาร์ตแบมือไปตรงหน้าพีทพร้อมกับกระดิกนิ้วมือยิกๆ

   "ไม่ได้ขอร้องเลย ถอยไปห่างๆดิ๊" พีทขึ้นเสียงใส่อาร์ตเพื่อกลบเกลื่อนอาการเขิน ก่อนจะเอามือดันหน้าอาร์ตที่โน้มเข้ามาใกล้ให้ถอยห่าง

   "ใจร้ายยยยย" อาร์ตลากหางเสียงยาวๆพร้อมกับทำหน้าทะเล้นใส่

   "ฮึ่ย..." พีทสะบัดหน้าหนีทำแก้มพองลมอย่างขัดใจที่โดนล้อเลียน

   "อ้าว...งอนอีกละ" อาร์ตขำออกมาเบาๆไร้วี่แววสำนึกผิด จนพีทที่กำลังทำแก้มป่องหน้าบึ้งแก้มพองยิ่งกว่าเดิม

   "โอ๋ๆ พี่ขอโทษไม่งอนเนอะ" อาร์ตเดินไปมองหน้าพีทพร้อมส่งสายตาสำนึกผิดให้ แต่พีทแค่หรี่ตามองแล้วหันหนีไปอีกด้าน

   "โอเค...หายงอนแล้วนะ" อาร์ตจับนิ้วก้อยของพีทมาเกี่ยวกับนิ้วก้อยตัวเอง แล้วพยักหน้าหงึกหงักพูดเองเออเองว่าพีทหายงอน ก่อนจะหันไปหยิบหมวกกันน๊อกและแขวนเป้ไว้หน้ารถ

   พีทได้แต่อ้าปากพะงาบๆตามองอาร์ตที่ตีมึนด้วยความเหลือเชื่อ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นหน้าบึ้งกำหมัดแน่นแล้วทุบลงกลางหลังอีกฝ่ายเต็มแรง

   "โอ๊ย!!!" อาร์ตแหกปากออกมาดังลั่นด่วยความเจ็บแบบที่ไม่ได้แกล้งสำออยเหมืิอนทุกที

   พีทกระตุกยิ้มออกมาอย่างสะใจกับเสียงร้องโอดโอยของอาร์ต ไม่เจ็บสิแปลกเขาทุบลงไปเต็มแรงไม่ยั้งขนาดนั้น สมน้ำหน้าชอบกวนประสาทดีนัก คงคิดว่าเขาไม่กล้าทำละมั้งแต่จากที่คลุกคลีกันพอสมควร ไอ้พี่อาร์ตมันไม่ได้น่ากลัวแบบที่คนเขาลือเลยสักนิด ระหว่างกลัวมันกระทืบกลัวมันลวนลามน่าจะใช่กว่า

   "เล่นแรงนะน้องพีทเดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย" อาร์ตชี้นิ้วคาดโทษแต่พีทเบะปากยักไหล่ใส่อย่างไม่กลัว

   อาร์ตหรี่ตามองอย่างเจ้าเล่ห์แล้วก้มลงหอทแก้มพีทอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหยิบหมวกกันน็อกมาสวมให้พีท พร้อมกับเสียงกุญแจสตาร์ทรถและขับออกไปทันที ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ทิ้งให้พีทหน้าเห่อร้อนอยู่ภายใต้หมวกคนเดียว

...
...

   อาร์ตมองบ้านที่ตัวเองขับรถมาจอดเทียบด้วยความตะลึง สลับกับมองหน้าพีทที่ลงมายืนอยู่ข้างๆไปมา ก่อนจะเกาหัวตัวเองเบาๆและยื่นมือไปรับหมวกที่พีทส่งมาให้

   "อะไร มองหน้าทำไม" พีทถามหาเรื่องเพราะอาร์ตเอาแต่มองหน้า ไม่ยอมพูดอะไรออกมาสักคำ

   "เปล่า...ว่าแต่พรุ่งนี้ไปเรียนไง" อาร์ตตอบปัดไปเพราะขี้เกียจจะเถียงด้วย

   "ไม่รู้เว้ย...อย่าถามได้ป่ะ" พีทชักสีหน้าใส่อย่างหงุดหงิด

   "ให้มารับไหม" อาร์ตตบมือลงบนเบาะรถแล้วยักคิ้วส่งให้กวนๆ ยิ่งทำให้พีทหน้างอกว่าเดิมเข้าไปอีก จนอาร์ตต้องขำก๊ากออกมาอย่างชอบใจ พีทเลยทุบเข้าให้เต็มแรงหลายทีรัวๆเพื่อระบายความโกรธ

   "โอ๊ย!!! ฮ่าๆๆๆ" อาร์ตยกมือขึ้นปัดป้องกำปั้นของพีทที่ระดมทุบลงมาไม่ยั้ง ทั้งเจ็บทั้งขำที่แกล้งอีกฝ่ายได้

   ระหว่างทางที่ขับรถมาส่งไอ้ตัวแสบเขาลองถามเรื่องรถไปเพราะเห็นเจ้าตัวเงียบไม่พูดถึง เท่านั้นแหละเสียงแว๊ดๆก็ด่าเขายับมาตลอดทาง พร้อมกับบ่นกระปอดกระแปดไม่หยุดว่าไม่มีรถไปรับสาวเที่ยว ต้องเหมือนเด็กม.ต้นที่พ่อให้รถไปรับส่งเวลาไปเรียน จะไปเองก็กลัวว่าเงินสองร้อยที่ได้จะไม่พอกิน

   "เฮ้ย!! พอได้แล้วชอบทุบจังหวะ" ในที่สุดอาร์ตก็ทนไม่ไหวจับแขนของพีทไว้แน่น เขาเองก็ไม่ใช่คนเหล็กทุบลงมาไม่ยั้งแบบนี้ก็เจ็บเป็นเหมือนกัน แถมอีกฝ่ายก็ไม่ใช่สาวน้อยรูปร่างอรชรอ่อนแอ้น ถึงจะตัวเล็กกว่าพอสมควรแต่ยังไงก็ผู้ชายฟาดมาทีกระดูกจะหลุด

   "ทุบได้แบบเนี่ยแล้วพี่ไม่สวนกลับมีแค่สองคนนะเว้ย" อาร์ตจับแขนที่สะบัดไปมาของพีทแน่นกว่าเก่าแล้วสบตากับพีทนิ่ง

   "แค่แม่กับเมียนะที่ยอม แม่น่ะมีแล้วแต่ตำแหน่งเมียยังว่างนะ" คำพูดของอาร์ตกับรอยยิ้มกรุ้มกริ่มที่ส่งให้ ทำเอาพีทตาโตแก้มแดงปลั่งใบหน้าเห่อร้อน

   "ไปบอกไอ้เลิฟเหอะ" พีทพูดเสียงแข็งแก้อาการเขินที่เกิดขึ้นกระทันหัน แล้วหันหลังจะเดินเข้าบ้านเพราะเริ่มไม่อยากอยู่ตรงนี้นาน

   "เดี๋ยว" อาร์ตรีบคว้าแขนของพีทไว้แล้วจับตัวอีกฝ่ายให้หันมาหา เลยได้สายตาเหวี่ยงงามๆกับใบหน้าบึ้งตึงแดงก่ำเป็นของแถม

   "อะ...พี่ให้" อาร์ตหยิบเอาตุ๊กตาคิตตี้ตัวเล็กในเป้มาส่งให้พีท

   "ที่ระทึกในเดทแรกของเรา" อาร์ตส่งรอยยิ้มกว้างอบอุ่นที่เป็นเอกลักษณ์ประจำตัวไปให้

   พีทรับตุ๊กตามาถือไว้พร้อมกับมองรอยยิ้มของด้วยความเบลอ แล้วละสายตามามองตุ๊กตาในมือของตัวเองด้วยแววตาสับสน พร้อมกับหัวใจที่กลับมาเต้นแรงและส่งเสียงดังอีกครั้ง

   ใบหน้าที่แดงอยู่แล้วแดงขึ้นไปกว่าเก่าพร้อมกับปากที่พยายามกลั้นยิ้มดีใจ เพราะตุ๊กตาในมือตัวนี้คือตัวที่เขาปาลูกโป่งเอาเป็นเอาตายให้ได้มัน เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายรู้ได้ยังไงถึงไปเอามาให้ แต่ที่แน่ๆเขาพอจะรู้แล้วล่ะว่าทำไมผู้หญิงในมหา'ลัยถึงได้ปลื้มผู้ชายคนนี้

   "ขอบคุณที่มาส่ง" พีทยกมือขึ้นไหว้และเอ่ยปากขอบคุณเสียงเบา แล้วหันหลังเดินเข้าบ้านโดยไม่ได้สนใจหน้าเหวอๆของอาร์ต ที่มองมาอย่างประหลาดใจในความนอบน้อมที่ไม่น่าจะมีของตัวเอง

   พีทเดินเข้าห้องนอนด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มมองตุ๊กตาในมืออย่างมีความสุข เขาเป็นแฟนตัวยงของซานริโอเลยล่ะ โดยเฉพาะตุ๊กตาสีชมพูที่รู้จักกันดีในชื่อคิตตี้ ซึ่งเขาชื่นชอบมันเป็นพิเศษทั้งๆที่ตัวเองเกลียดสีชมพู ไม่รู้เหมือนกันว่าเริ่มชอบตอนไหนเพราะลืมไปแล้ว จำได้แค่ว่าซื้อมาเก็บสะสมเอาไว้ตั้งแต่ประถมจนตอนมีเต็มบ้านไปหมด ส่วนคนที่รู้เรื่องนี้ก็มีแค่กลุ่มเพือนสนิทกับคนที่บ้านเท่านั้น

   พีทวางตุ๊กตาลงบนเตียงเพื่อจะเปลี่ยนเสื้อผ้าไปอาบน้ำเตรียมเข้านอน พอมองไปที่เตียงแล้วเหมือนมีแรงดึงดูดประหลาดทำให้ตาหรี่ปรือด้วยความง่วงงุน เหลือบมองนาฬิกาก็เห็นว่าเกือบจะตีสองแล้ว

   Tru...Tru...Tru...

   เสียงโทรศัพท์ที่ตัวเองพึ่งวางลงบนโต๊ะดังขึ้นมาเบาๆ ทำให้พีทชะงักมือที่กำลังจะปลดกระดุมเสื้อแล้วเดินไปหยิบขึ้นมาดู มองเบอร์ที่โชว์บนจอก็ได้แต่ขมวดคิ้วเพราะไม่คุ้น ก่อนจะตัดสินใจกดรับสาย

   "ฮัลโหล"

   "(ยังไม่นอนอีกเหรอ)" เสียงคุ้นหูตอบกลับมาตามสาย

   "ยัง...ว่าแต่ใคร"

   "(อ้าว...ก็พึ่งจะคุยกันอยู่เมื่อกี้ลืมกันซะแล้วน้อยใจว่ะ)" เสียงทะเล้นที่ตอบกลับมาทำเอาพีทตาเบิกกว้าง

   "ไอ้พี่อาร์ต!!!" พีทเสียงดังด้วยความตกใจแล้วรีบวิ่งออกไปที่ระเบียงหน้าห้อง ซึ่งอยู่ด้านหน้าบ้านพอดี

   "(เออพี่เองแล้วเสียงดังทำไมเนี่ยดึกแล้วนะเว้ย)" อาร์ตหัวเราะออกมาเบาๆแล้วเงยหน้ามองไปทางระเบียง ก่อนจะโบกมือส่งให้พีทเล็กน้อย

   "ก็รู้ว่ามันดึกทำไมยังไม่กลับล่ะวะ" พีทว่าเสียงสะบัดไม่พอใจที่เหมือนโดนอีกฝ่ายดุกลายๆ

   "(ทำเสียงแบบนี้งอนอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย)"

   "ใครงอน...อย่ามั่วนะไอ้พี่อาร์ต"

   "(โอเคๆไม่งอนก็ไม่งอน...ว่าแต่เมมเบอร์พี่ไว้ด้วยนะคราวหลังโทรหาจะได้ไม่ถามอีกว่าใคร)"

   "ใครจะให้โทรมาวะ"

   "(ฮ่าๆไปนอนเหอะพี่ไม่กวนแล้ว)"

   "อือ...แล้วโทรมาทำไม อย่าบอกนะว่าแค่จะให้เมมเบอร์"

   "(เปล่า...พี่แค่ลืมว่ายังไม่ได้บอกราตรีสวัสดิ์เราน่ะ)"

   "..........."

   "(ฝันดีนะน้องพีท)" เสียงทุ้มใจดีสิ้นสุดลงแค่นั้นพร้อมกับสายที่ถูกวางไป ก่อนที่รถมอเตอร์ไซต์สีชมพูจะเคลื่อนตัวออกไปจากหน้าบ้านหลังใหญ่

   พีทมองตามหลังรถจนกระทั่งหายลับไปจากสายตา ก้มลงมองโทรศัพท์ในมือที่วางสายไปแล้วอย่างสับสน ก่อนจะถอนหายใจออกมาพร้อมกับพึมพำเบาๆผ่านสายลม

   "ฝันดี"
   
...
...

   พีทหันไปสบตากับนาวอย่างกระอักกระอ่วน ก่อนจะหันกลับมามองเลิฟที่นั่งซึมตาแดงเหมือนจะร้องไห้อย่างเห็นใจ แต่ก็จนปัญญาที่จะหาคำมาพูดปลอบเพื่อนเหมือนกัน เขาเลยได้แต่นั่งส่งกำลังใจให้เงียบๆ

   เกือบเดือนที่ผ่านมาชีวิตเขาเหมือนนั่งเรือออกไปกลางทะเลแล้วเจอพายุไม่มีผิด โดนสาวๆในสต๊อกทิ้งไปทีละคนสองคนจนไม่เหลือ สาเหตุเพราะเขาไม่ไปหาและไม่พาเที่ยวเหมือนก่อน ก็จะให้ไปหาได้ยังไงละลำพังเงินสองร้อยที่ได้มาแต่ละวัน เขาเองยังแทบไม่พอใช้เลยจะเอาปัญญาที่ไหนไปเลี้ยงสาว ชีวิตเข้าสู่สภาวะวิกฤตทางการเงินอย่างแท้จริง

   ไหนจะเรื่องรถที่อุตส่าห์เกลี่ยกล่อมพ่อจนยอมให้ขับรถเหมือนเดิมถ้าซ่อมเสร็จ ก็เกิดปัญหาขึ้นมาจนได้เพราะทางอู่ซ่อมดันโทรมาบอกว่างานไม่เสร็จตามกำหนด แถมยังมีค่าใช่จ่ายเพิ่มขึ้นเกือบสองหมื่นเพราะต้องใช้สีทำรถใหม่ เนื่องจากเขาไปขอให้เปลี่ยนสีทั้งคัน (ก็ไม่ได้คิดว่าจะแพงขนาดนั้นแค่อยากเปลี่ยนสีสะเดาะเคราะห์)

   พ่อนี่แทบจะฆ่าเขาตายตอนได้บิลรายจ่ายรอบสอง ดีนะที่พ่อยังปราณีไม่หักค่าเบี้ยเลี้ยงเขาให้เหลือแค่ร้อยเดียวต่อวัน ขืนเป็นแบบนั้นจริงเขาได้ตายแน่ๆ และเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินอันน้อยนิดของตัวเอง เขาเลยตัดสินใจไม่พูดเรื่องรถอีกรวมทั้งอยู่เงียบๆไม่โวยวายอะไรทั้งนั้น  ก้มหน้ายอมรับชะตากรรมทรหดของตัวเองไป

   แต่แค่นั้นเหมือนมันจะไม่ปวดหัวมากพอ ฟ้าถึงได้ส่งผู้ชายสองคนเข้ามาวุ่นวายในชีวิตเขา จนเกือบจะได้กินยาระงับประสาท

   คนนึงเคยหายออกไปจากชีวิตเขาเกือบสี่ปีแบบไม่รู้เหตุผล และตอนนี้ก็พยายามจะกลับเข้ามาในชีวิตเขาอีกครั้ง

   ส่วนอีกคนต้องเรียกว่าน่าจะเป็นเวรกรรมตั้งแต่ชาติปางก่อน เพราะตั้งแต่มีเหตุครั้งนั้นจนถึงทุกวันนี้ ต้องมีอันได้พบได้เจอได้วนเวียนมาใกล้กันตลอด

   คนแรกมีวิธีแก้ปัญหาแสนจะง่ายแค่หลบหน้าซะไม่ต้องให้เจอก็จบ แต่กับอีกคนมันไม่ง่ายแบบนั้นนะสิ โผล่มากวนประสาทได้ตลอดเวลา แค่นั้นยังไม่พอนอกจากโผล่หน้ามาให้เห็น ยังขยันโทรขยันส่งข้อความมาหาเป็นว่าเล่น ชนิดที่ว่าเช้าสายเที่ยงบ่ายยันเย็นได้เจอกันตลอด ยิ่งไปกว่านั้นตอนเช้าก่อนมาเรียนและเย็นหลังเลิกเรียน เขาจะมีราชรถสองล้อสีชมพูคอยรับคอยส่งทุกวัน

   พูดเรื่องรถก็ต้องพูดเรื่องเงิน เขาเคยเอ่ยปากทวงเงินค่าซ่อมรถกับไอ้พี่อาร์ตไป แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือการตีมึนไม่รับรู้จากเจ้าตัว เข้าตำราไม่หนีไม่จ่ายเป๊ะๆเขาเลยไม่รู้ว่าที่ไม่ยอมจ่าย เป็นเพราะไม่มีเงินหรือจงใจจะไม่ให้กันแน่

   ถ้าคิดว่านี่คือเรื่ิองปวดหัววุ่นวายชวนตกใจในชีวิตเขาช่วงนี้ล่ะก็ บอกกันตรงนี้เลยว่ายังมีเรื่ิองให้ตกใจกว่านั้นอีก เป็นเรื่องใหญ่มากพอที่ทำเอาทั้งกลุ่มอึ้งกิมกี่ไปเลย เรื่องของไอ้เลิฟกับพี่ปอ...

   ไม่รู้เหมือนกันว่าสองคนนี้เขาไปแอบอะไรยังไงกันตอนไหน มารู้กันอีกทีก็ตอนที่เขาได้กันไปแล้วและน่าจะได้กันไปเยอะพอสมควร ก็ถึงกับไอ้เลิฟย้ายสำมะโนครัวไปอยู่คอนโดพี่ปอ ไหนจะคอแดงสภาพอิดโรยเหมือนคนอดนอนมาเรียนเกือบทุกวันอีก แต่สิ่งที่ตามมานอกจากไอ้เรื่องชวนช็อกที่ว่า คือเพื่อนเขาที่ดูเศร้าลงทุกวันตั้งแต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เปลี่ยน

   เขาเคยถามว่าระหว่างเลิฟกับพี่ปอคืออะไร แต่ที่เพื่อนเขาตอบกลับมาคือการส่ายหัว กับคำว่าไม่รู้พร้อมกับใบหน้าหมองเศร้า และมันก็มีให้เห็นเป็นระยะตลอดตั้งแต่เจ้าตัวไปอยู่กับพี่ปอ วันนี้ก็เหมือนกันไม่รู้ว่าทะเลาะอะไรกันอีกเพื่อนเขาถึงทำหน้าเหมือนจะตายแบบนี้

   เขาสงสารเพื่อนแต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองจะช่วยอะไรได้ และสามารถเข้าไปยุ่งได้ขนาดไหนเพราะเจ้าตัวไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังเลย ทั้งที่เขากับเพื่อนคนอื่นในกลุ่มเห็นกันตลอดว่าพี่ปอทำอะไรไปมั่วกับใครบ้าง แต่ในเมื่อไอ้เลิฟมันไม่เคยพูดไม่แม้แต่จะด่าพี่ปอให้ฟัง แล้วพวกเขาจะไปทำอะไรได้ยิ่งคิดยิ่งกลุ้ม เครียดเรื่องไอ้เลิฟหนักกว่าเรื่องของตัวเองอีก

   ติ๊ด! ติ๊ด!

   เสียงแจ้งเตือนของโทรศัพท์ที่ดังขึ้นพอให้ได้ยิน ทำให้พีทหยุดความคิดวุ่นวายของตัวเองลง แล้วล้วงเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดดู ก่อนจะกรอกตาไปมาด้วยความเซ็งเมื่อเห็นว่ามีข้อความเข้า จากคนที่เขาปวดประสาทด้วยมากที่สุด


   - มาหาที่ห้องน้ำหลังตึกด่วน...ถ้ามาช้าจับหอมแก้ม -
                    The Boss วิศวะ


   พีทถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายกับข้อความที่ตัวเองพึ่งเปิดอ่าน ก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าไว้อย่างเดิม แล้วหันมาหาเพื่อนเพื่อขอตัวไปธุระที่โคตรจะไม่สำคัญ แต่ขัดขืนและปฏิเสธไม่ได้

   “ไปห้องน้ำแป๊บนะเดี๋ยวมา” พีทบอกเพื่อนแค่นั้นแล้วลุกเดินออกไปทันที จุดหมายปลายทางที่มุ่งหน้าไปคือห้องน้ำหลังตึก ที่โคตรจะเงียบและวังเวงเป็นที่สุด

...
...
   
   “ช้านะน้องพีท...อยากโดนหอมแก้มใช่ไหม” เสียงทะเล้นกับคำพูดกวนประสาทดังขึ้นให้ได้ยินทันทีที่พีทก้าวขาเข้ามาด้านใน

   “ช้าไรวะห้านาทียังไม่ถึงเลยเนี่ย” พีทชักสีหน้าใส่อย่างหงุดหงิด

   “ห้านาทีจริงดิพี่นึกว่าเป็นชั่วโมง” อาร์ตยืนกอดอกพิงขอบอ่างล้างมือ แล้วยักคิ้วใส่พีทเพื่อจงใจก่อกวนให้หงุดหงิดเต็มที่

   “ชั่วโมงเหี้....”

   แกร่ก....

   ยังไม่ทันที่พีทจะได้ด่าอาร์ตอย่างใจนึกเสียงเปิดประตูห้องน้ำก็ดังขึ้น เรียกความสนใจจากทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี เพราะตอนเย็นๆแบบนี้ไม่ค่อยมีใครมาใช้ห้องน้ำหลังตึกกันหรอก ขนาดกลางวันแดดเปรี้ยงๆคนยังไม่ค่อยจะมาเข้ากันเลย

   “ปอ....” เสียงหวานสั่นเครือคุ้นหูที่ดังขึ้นจากอีกฝากของห้องน้ำ พร้อมกับชื่อของคนที่ทั้งอาร์ตและพีทรู้จักดีที่ได้ยิน ทำให้ทั้งสองหันมามองหน้ากันก่อนที่คิ้วจะขมวดเป็นปมพันกันยุ่งเหยิง

   ‘ว่าแต่สองคนนี้ที่รู้กันทั้งคณะว่าไม่ถูกกัน ทำมาถึงมาอยู่ในห้องน้ำหลังคณะพร้อมกันทั้งคู่ล่ะ’ อาร์ตได้แต่ยืนสงสัยกับสิ่งที่ตัวเองได้เจอพร้อมกับคำถามมากมายที่วิ่งพล่านในหัว



2 Be Con...

ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
กัดครั้งที่
- 10 -
   


   ปึก! ปึก! ปึก!

   "อ๊ะๆๆ อ๊าาาาา"

   เสียงกระแทกหนักๆและเสียงร้องครวญครางที่ดังให้ไดยินจากอีกฝั่งของห้องน้ำ ทำเอาใบหน้าขาวของพีทที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำอีกห้อง แดงก่ำและลามไปทั่วทั้งใบหูและลำคอ

   ไม่รู้ว่าเป็นเวรเป็นกรรมอะไรของเขาช่วงนี้ถึงต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้ แล้วที่ทางในมหา'ลัยก็ตั้งกว้างห้องน้ำก็มีเป็นสิบๆที่ ทำไมต้องมาแจ็กพ๊อตเอาที่นี่และวันนี้พอดี

   เสียงครางระงมและเสียงกระแทกหนักๆยังคงดังเข้ามาในโสตประสาทให้ได้ยินเป็นระยะ แค่เสียงที่ได้ยินไม่ต้องเห็นภาพเขาก็พอจะเดาออกแล้ว ว่าอีกใากของห้องน้ำจะร้อนแรงกันแค่ไหน ก็เพื่อนเขามันเล่นครางซะดังลั่นแบบไม่กลัวเจ็บคอขนาดนั้น

   พีทตัดสินใจหันไปมองอีกคนที่เขาเผลอลากติดมือเข้ามาแอบด้วย เพราะตกใจที่จู่ๆพี่ปอกับไอ้เลิฟก็เข้ามาแถมยังเหมือนจะทะเลาะกันอีก แต่เรื่องกลับตาลปัตรกลายเป็นแบบนี้ไปซะได้

   แล้วไอ้คนที่อยู่ด้านหลังเขาแทนที่จะตกใจหรือมีปฏิกิริยาอะไรออกมาบ้าง ดันทำตัวไม่ทุกข์ไม่ร้อนสบายๆเหมือนเดินเล่นชมวิว ปากขยับฮัมเพลงออกมาเบาๆเหมือนตนนี้มันมีอะไรให้สุนทรีย์ซะเต็มประดา พอเห็นว่าเขาหันมามองตัวเองอยู่ เจ้าตัวก็ยกยิ้มพร้อมกับตาเป็นประกายวิบวับส่งให้

   พีทที่เห็นท่าทางของอาร์ตก็เกิดอาการหมั่นไส้อย่างถึงที่สุด กำหมัดเงื้อขึ้นสูงตั้งใจจะทุบฝ่ายแรงที่ขนาดเจอเหตุการณ์แบบนี้ เจ้าตัวยังมีอารมณ์มากวนประสาทได้อีก

   อาร์ตใช้มือรับมือที่กำลังจะฟาดลงมาได้ทัน แล่วเปลี่ยนไปจับข้อมือของพีทไว้แน่น แล้วชี้้มือข้ามหัวไปทางห้องน้ำอีกฝั่ง ก่อนจะเอามาจุ๊ปากตัวเองเพื่อบอกให้พีทเงียบๆ

   "เบาๆสิน้องพีทอยากให้สองคนนั้นรู้รึไงว่าเราอยู่นี่" อาร์ตกระซิบบอกพีทเสียงเบาพร้อมกับทำหน้าใสซื่อ ทั้งๆที่เมื่อกี้ยังทำหน้าระรื่นสบายอกสบายใขอยู่เลย

   "ก็จะกวนประสาททำไมล่ะ" พีทเองก็กระซิบเถียงกลับไปพร้อมกับถลึงตาใส่อีกฝ่ายดุๆ

   "พี่ไม่ได้กวนอะไรเราเลยนะ" อาร์ตตีหน้าซื่อตอบพีทเหมือนตัวเองโดนใส่ร้าย ทั้งที่ตั้งใจจะกวนประสาทอย่างที่อีกฝ่ายว่าจริงๆ

   "ไอ้เหี้ยพี่อาร์ต" พีทถลึงตาใส่อย่างเหลืออด ซึ่งอาร์ตก็ทำหน้าตายียวนใส่

   "ชู่ว์...อยากให้เขาได้ยินเหรอ" อาร์ตทำเป็นขึงขังดุพีทจนเจ้าตัวต้องถลึงตามองยิ่งกว่าเดิม พร้อมกับแสดงอาการฮึดฮัดไม่พอใจออกมา

   "ไอ้..."

   "อื้อ...ปอ...อ๊ะ...บะ...เบา...อ๊า"

   พีทชะงักปากที่กำลังอ้าเพื่อจะด่าอาร์ตลง แล้วเม้มแน่นทันที เมื่อได้ยินเสียงกระเส่าที่ดังสวนขึ้นมา พร้อมกับใบหน้าที่กลับมาแดงก่ำอีกครั้งหลังจากลืมไปชั่วขณะนึง

   อาร์ตถึงกับหลุดเสียงขำออกมาเล็กน้อย กับท่าทางตื่นตูมและใบหน้าที่ขึ้นสีเพราัความเขินอายของพีท ก่อนจะได้รับสายตาที่มองค้อนมาจากเจ้าตัว

   พีทได้แต่ยืนก้มหน้ามองเท้าตัวเองพร้อมกับใบหน้าที่เห่อร้อน ไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าอาร์ตที่อยู่ด้วยกันเพราะความเขินจัด สุดท้ายเลยตัดสินใจยืนอยู่เงียบๆไม่พูดอะไรออกมาอีก

   เสียงครางสุขสมของเลิฟที่ดังให้ได้ยินตลอด ทำเอาพีทเม้มปากแน่นยิ่งกว่าเดิม หัวใจเต้นระรัวกระหน่ำจนเหมือนจะพุ่งทะลุอก ขนทุกเส่นในกายลุกชันพร่อมกับความวูบโหวงที่ท้องน้อย

   'ครางเหี้ยอะไรของมึงขนาดนั้นวะไอ้เลิฟ' พีทก่นด่าเลิฟในใจอย่างหงุดหงิด ที่ต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้เป็นเพราะไอ้เหี้ยพี่อาร์คนเดียวเลย ดันทะลึ่งนัดมาทำบ้าอะไรไม่รู้ที่ห้องน้ำ พี่ปอก็เหมือนลากเพื่ิอนเขากลับเอาที่ห้องดีๆไม่ได้รึไงกัน

   พีทไม่ใช่หนุ่มน้อยบริสุทธิ์ผุดผ่องอะไร ไม่ใช่ว่าไร้เดียงสาเรื่องเซ็กซ์ขนาดนั้น เขาเองก็เคยมีอะไรกับผู้หญิงมาบ้าง ถึงจะไม่ได้เชี่ยวชาญแต่ก็ไม่ใช่ไม่เคย แต่ที่เขาเขินเพราะต้องมามีส่วนรับรู้ในเซ็กซ์เร้าร้อนของเพื่อนสนิทต่างหาก นี่ยังคิดไม่ออกเลยว่าพรุ่งนี้จะทำหน้ายังไงตอนเจอไอ้เลิฟ

   "เป็นอะไร" อาร์ตถามขึ้นเสียงเบาเมื่อเห็นว่าพีทเอาแต่ก้มหน้า ซึ่งพีทก็ส่ายหัวไปมาเบาๆเป็นคำตอบ

   "ไหนดูดิ๊" อาร์ตช้อนปลายคางของพีทขึ้นเพรสะหวังจะดูหน้า พีทเองก็ขัดขืนเล็กน้อยไม่กล้าทำอะไรเสียงดัง

   และวินาทีที่สายตาของทั้งคู่ประสานกันก็เกิดความรู้สึกบางอย่าง พร้อมกับแรงดึงดูดมหาศาลที่ทำให้ใบหน้าของทั้งสองเคลื่อนหากันช้าๆ

   "อย่า" พีทยกมือขึ้นดันอกของอาร์ตเอาไว้แล้วหันหน้าหนี ในจังหวะที่ริมฝีปากของทัเงคู่กำลังจะแตะกัน พร้อมกับแววตาสั่นไหวเต็มไปด้วยความรู้สึกที่เป็นตะกอนในใจ

   "ไม่มีใครเคยบอกรึไงว่าอย่าทำหน้าแบบนี้" อาร์ตกระซิบที่ข้างหูพร้อมกับงับลงบนใบหูนิ่ม แล้วเปลี่ยนมากดจูบลงที้ข้างแก้ม แขนข้างนึงโอบไปที่เอวบางแล้วกอดแน่นเข้าหาตัว ส่วนมือข้างที่ยังว่างก็จับใบหน้าของพีทให้หันมา ก่อนจะประกบปากทาบทับลงเป็นปากนิ่ม

   พีทที่โดนจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัวได้แต่ตาเบิกกว้าง เผยอปากออกด้วยความตกใจ ซึ่งกลายเป็นเปิดโอกาสให้อาร์ตส่งลิ้นเข้าไปสำรวจภายในอย่างง่ายดาย

   ลิ้นร้อนเลาะเล็มไปทั่วในโพรงปาก กวาดลิ้มชิ้มรสชาติหอมหวานภายใน ไล่ต้อนลิ้นเล็กที่พยายามหดตัวหนี ก่อนที่ลิ้นของผู้รุกล้ำจะเป็นฝ่ายชนะ เกี่ยวกระหวัดหยอกล้อลิ้นเล็กได้สำเร็จ

   ฝ่ามือเล็กที่ผลักดันแผ่นอกกว้างให้ถอยห่างในครั้งแรก เปลี่ยนเป็นขยุ้มลงบนเสื้อเต็มแรงจนยับยู่ยี่คามือ ใบหน้าเนียนแดงก่ำพร้อมกับลมหายใจที่ถูกพ่ออกจมูกอย่างหอบเหนื่อย รู้สึกได้ว่าตัวเองอาจจะขาดอากาศหายใจในไม่กี่วินาทีข้างหน้าแน่

   "อ๊ะ" พีทหลุดเสียงครางออกมาอย่างลืมตัว เมื่อริมฝีปากของอีกฝ่ายเคลื่อนตัวลงมาขบเม้มที่ซอกคอ พร้อมกับมือซุกซนที่ไม่รู้ว่าเข้ามาในเสื้อตั้งแต่เมื่อไหร่ กำลังลูบไล้ไปทั่วผิวกายใต้ร่มผ้าแล้วตอนนี้กำลังส่งนิ้วมาหยอกล้อกับหยอดอกเล็ก

   พีทลมหายใจหอบฮั่กเหมือนคนวิ่งมาเป็นกิโล ใบหน้าหวานเต็มไปด้วยแรงอารมณ์ที่ถูกปลุกปั่น ดวงตาเรียวปรือปรอยมือสองข้างขยุ้มลงบนเสื้อแน่นกว่าเก่า

   "พะ...พี่อาร์ต...ไม่เอา...ไม่" พีทเอ่ยปากห้ามอาร์ตเสียงกระท่อนกระแท่น สติที่กำลังหลุดลอยเริ่มกลับมาอีกครั้ง เมื่อร่างกายสัมผัสได้ถึงความเย็นชืดของริมฝีปากที่นาบมาตามแผ่นอก รวมทั้งแรงบีบหนักๆที่สะโพกและปลายนิ้วที่กำลังแตะอยู่ด้านหลัง

   คำพูดของพีทและอาการสั่นน้อยๆของเจ้าตัว ทำให้อาร์ตที่อารมณ์กำลังเตลิดไปไกลได้สติ หยุดการกระทำทุกอย่างของตัวเองลงทันที

   "แม่งเอ้ย" อาร์ตสบถออกมาเบาๆด้วยความฉุน กดจูบลงบนปากบางแรงๆ ก่อนจะนั่งลงบนชักโครกแล้วดึงอีกคนลงมานั่งบนตัก

   "แต่งตัวเร็ว" อาร์ตบอกอีกฝ่ายดุๆ และนั้นถึงทำให้พีทรู้ตัวว่าตอนนี้อยู่ในสภาพล่อแหลมแค่ไหน

มือทั้งสองข้างของพีทพยายามติดกระดุมเสื้อที่โดนปลดออกจนเกลี้ยง แต่ก็ติดผิดติดถูกมือไม้สั่นไปหมด จนอาร์ตต้องเป็นคนมาช่วยติดแทน

   "พี่ขอโทษครับ...ขอโทษนะ" อาร์ตพูดออกมาด้วยเสียงสำนึกผิดแบบไม่เสแสร้ง แขนสองข้่างกอดเอวของพีทเอาไว้หลวมๆ หน้าซบลงบนไล่เล็กแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก

   อาร์ตพ้นลมหายใจเข้าออกหนักๆพยายามปรับอารมณ์ให้เข้าที่เข้าทาง นึกด่าตัวเองใจใจไม่น้อยที่เผลอทำอะไรโง่ๆ ทั้งที่อดทนมาได้ตั้งนานแล้วแบบนี้คนบนตักเขา ไม่กลัวหรือขยาดเขาไปแล้วรึไง ยิ่งคิดยิ่งอยากเอามือทึ้งกบาลตัวเองแรงๆ

   พีทได้แต่นั่งตัวแข็งทื่อไม่กล้ากระดุกกระดิกร่างกายหรือแม้กระทั่งเสียง หัวใจเต้นโครมครามกระเด้นกระดอนภายในอกกับเหตุการณ์เฉียดเสียตัวที่เกิด ก่อนจะหน้าร้อนขึ้นจนแทบไหม้เมื่อสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่ดุนดันสะโพก

   ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

   เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำเอาพีทลืมทุกอย่าง แล้วหันไปมองหน้าอาร์ตด้วยสีหน้าแตกตื่น ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรนอกจากทำหน้านิ่งๆ

   ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

   เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นอีกครั้งทำเอาพีทสะดุ้งเฮือก มองไปยังบานประตูด้วยความระแวง ก่อนจะหันกลับมามองอาร์ตเลิ่กลั่ก ใครมันมาเคาะอะไรตอนนี้หวังว่าคงจะไม่ใช่พี่ปอหรือไอ้เลิฟหรอกนะ แต่พอเงี่ยหูฟังดีๆเสียงจากฝั่งตรงข้ามก็เงียบไปแล้วเหมือนกัน

   "เดี๋ยวพี่ออกไปเอง" อาร์ตอุ้มพีทลงจากตักแล้วยืนขึ้นก่อนจะเปิดประตูออกไปข้างนอก ถ้าจะเคาะเรียกกันขนาดนี้คนเคาะคงมีเรื่องจะคุยด้วยแหละ พีทได้แต่มองตามหลังอาร์ตที่เดินออกจากห้องน้ำไปตาปริบๆ จะเรียกเอาไว้ก็ไม่ทันจะออกไปด้วยก็ไม่กล้า

   อาร์ตหันไปปิดประตูห้องน้ำทีีตัวเองพึ่งออกมาให้สนิท ก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับคนที่เคาะประตูเรียกใก้ออกมา ก่อนจะยืนเงียบแล้วสบตากันเป็นการหยั่งเชิง

   อาร์ตไล่สายตามองคนตรงหน้าอย่างพิจารณา ร่างสูงไล่เรี่ยกับเขาตอนนี้ไม่มีเหลือเค้าของไอ้มหาคนดังของคณะเลยสักนิด เหลือแค่หนุ่มหล่อท่าทางเลวคนนึงเท่านั้น ลองกวาดสายตามองบริเวณรอบๆก็ไม่เห็นใครอีก

   "มีอะไร" อาร์ตตัดสินใจเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อน เพราะถ้ารอให้อีกฝ่ายพูดก่อนไม่รู้ชาตินี้มันจะพูดไหม

   ปอละสายตาจากประตูห้องน้ำแล้วหันกลับมามองอาร์ต พร้อมกับกระตุกยิ้มที่มุมปาก สบตาอาร์ตอย่างรู้ทัน

   "พี่ก็น่าจะรู้ว่าผมจะพูดอะไร" ปอพูดขึ้นด้วยเสียงราบเรียบอันเป็นเอกลักษณ์

   "แล้วไง...มึงจะบอกให้กูเลิกยุ่ง" อาร์ตถามกลับด้วยท่าทีสบายๆไม่ได้กลัวอะไรกับคนตรงหน้า

   "........" ปอเลือกที่จะเงียบและมองอาร์ตด้วยสายตานิ่งๆแทน พร้อมกับแสดงท่าทีคุกคามอย่างไม่ปิดบัง

   "มึงจริงจัง?" อาร์ตลองถามออกไปเพราะอยากรู้ ยอมรับว่าค่อนข้างงเหมือนกันที่ปอกับเลิฟมีความสัมพันกันแบบนี้ ก็รู้กันทั้งคณะว่าไม่ถูกกันแต่ดูแล้วคงจะไม่ใช่

   "เรื่องนั้นพี่คงไม่จำเป็นต้องรู้...ผมแค่อยากได้คำตอบ" ปอไม่ตอบอะไรแบะยังคงแสดงท่าทีนิ่งเฉย

   "ถ้ากูบอกว่าไม่ล่ะ" อาร์ตลองหยั่งเชิงเพื่อดูปฏิกิริยา

   "ผมไม่อยากมีปัญหา" ปอยังคงตอบเรื่อยๆแต่อาร์ตสัมผัสได้ชัดถึงความหงุดหงิดที่แผ่ออกมา

   "มึงขู่กู" อาร์ตเลิกคิ้วขึ้นแล้วมองปอกลับอย่างกดดัน จะมาโดนรุ่นน้องขู่มันก็คงไม่ใช่เรื่องหรอกมั้ง

   "พี่คิดว่าไง" ปอตอบกลับอย่างไม่สะทกสะท้านกับท่าทางของอาร์ต แล้วเดินออกไปจากห้องน้ำโดยไม่คิดจะรอคำตอบ

   ท่าทางของปอที่แสดงออกมาทำให้อาร์ตชอบใจไม่น้อย มันมีไม่บ่อยหรอกนะที่จะได้เจอคนจริงแบบนี้ พวกที่ไม่ใช่เก่งแต่ปากหรือเห่าไปวันๆ เหมือนที่มีให้เห็นบ่อยๆเกลื่อนคณะ

   แบบนี้เขาก็ไม่มีปัญหาเรื่องหาคนสืบทอดตำแหน่งต่อแล้วล่ะ ถึงจะข้ามรุ่นข้ามหัวใครไปบ้างก็ช่างมัน เพราะเขาเองก็ได้มาแบบข้ามรุ่นเหมือนกัน เขาคิดว่าดูคนไม่ผิดหรอกไอ้ปอเนี่ยของจริง ถ้าจะมีปัญหาคงจะเป็นที่ทำยังไงให้มันยอมตกลงต่างหาก คิดแล้วก็กลุ้ม

   อาร์ตตัดสินใจเดินตามหลังปอออกไป เพื่อจะดูให้แน่ใจว่าไปแล้วจริงๆ ถึงจะกลับมาเรียกพีทออกจากห้องน้ำ ป้องกันไม่ให้พีทออกมาเจอเลิฟไม่งั้นคงทำหน้าใส่กันไม่ถูก

   อาร์ตยื่นมองตามหลังของทั้งคู่ไปเรื่อยๆ เห็นน้องเลิฟเดินแทบจะขาขวิดกันกัน ก่อนที่ไอ้ปอจะเป็นคนอุ้มน้องเดินต่อ เขาละอยากรู้จริงๆว่าไอ้พวกที่จีบๆน้องเหมือนเขา มาเห็นแบบที่เขาเห็นมันจะทำหน้ายังไงกัน

...
...

   หลังจากมองปอกับเลิฟขนหลับสายตา อาร์ตก็หันหลังกลับตั้งใจจะไปเรียกพีทออกมา แต่สิ่งที่เห็นคือพีทที่เดินออกมาจากห้องน้ำ และเดินห่างจากเขาไปไกลพอสมควรแล้ว

   พีทที่ตั้งใจจะย่องหนีกลับบ้านเงียบๆ ถึงกับสะดุ้งสุดตัวเมื่ออาร์ตหันกลับมาเจอพอดี และไม่ต้องพูดอะไรให้มากความพีทก็ออกตัววิ่งหนีอาร์ต ที่กำลังเดินเข้ามาหาอย่างไม่คิดชีวิต

   เพราะเขาไม่รู้จะทำหน้ายังไงใส่อีกฝ่ายจริงๆ หลังจากเกิดเหตุการณ์แบบนั้นในห้องน้ำ พีทวิ่งมาเรื่อยๆอย่างไม่คิดจะผ่อนแรงจนกลับมาถึงโต๊ะในที่สุด

   ปึ่ก!!

   เสียงกระแทกโต๊ะหนักๆที่ดังขึ้น ทำให้นาวที่นั่งเฝ้าโต๊ะเงยหน้ามองอย่างตกใจ ก่อนจะอ้าปากตั้งใจจะด่าพีทเต็มที่

   "ไอ้เลิฟอ่ะ แฮ่กๆ" พีทหอบหายใจเหนื่อยๆและถามหาเพื่อนอีกคน

   "มันโทรมาบอกว่ากลับกับพี่ปอแล้ว ว่าแต่มึงเหอะเป็นเหี้ยไร...หนีไรมา" นาวมองพีทด้วยความสงสัยก่อนจะมองไปรอบๆข้าง

   "แล้วมึงจะกลับยัง" พีทหยิบกระเป๋าขึ้นมาถือแล้วถามนาวด้วยท่าทางร้อนรน

   "กำลังจะกลับ"

   "งั้นกลับเลย...กูไปนอนบ้านมึงนะ" พีทพูดแค่นั้นแล้วกวาดของทุกอย่างบนโต๊ะของนาวมาถือให้ ก่อนจะจัดการลากอีกฝ่ายให้กลับไปที่รถ

   "เร็วๆดิมึง" พีทเร่งเร้านาวอย่างร้อนรนอยู่ไม่สุข

   "มึงเป็นเหี้ยอะไรเนี่ย" นาวหันมาตวาดแว๊ดใส่เพื่อนแต่ก็ยอมทำทุกอย่างเร็วอย่างที่พีทต้องการ

...
...
   
   "พีท!!!!" อาร์ตที่วิ่งตามไล่หลังมาตะโกนเรียกเสียงดัง เมื่อเห็นรถที่มีเจ้าตัวนั่งอยู่เคลื่ินออกไป

   อาร์ตย่อตัวลงหอบแฮ่กด้วยความเหนื่อยที่วิ่งตาม รู้สึกเจ็บบริเวณแผลที่ท้องไม่น้อยไม่รู้ว่าแผลฉีกรึเปล่า ถ้าไม่เป็นเพราะแผลวิ่งด้วยความเร็วแค่นี้ทำไมเขาจะตามอีกฝ่ายไม่ทัน

   "โธ่โว๊ย!!!" อาร์ตจะโกนออกมาสุดเสียงอย่างเดือดดาล โมโหตัวเองที่เสือกมาสำออยเจ็บอะไรเอาตอนนี้ โมโหที่ทำอะไรไม่คิด

   "มึงทำเหี้ยอะไรของมึงว่ะเนี่ย" อาร์ตเอามือทึ้งหัวตัวเองแรงๆอย่างหงุดหงิด พร้อมกับความหนักใจที่ไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อ



2 Be Con...

ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
กัดครั้งที่
- 11 -
   


   Tru...Tru...Tru...

   ติ๊ด ติ๊ด

   "เหี้ยพีท!! มึงช่วยทำอะไรสักอย่างกับโทรศัพท์มึงเดี๋ยวนี้เลย ถ้าจะไม่รับสายมึงก็ปิดเครื่องไป" นาวตวาดออกมาด้วยความฉุน หลังจากต้องทนนั่งฟังเสียงโทรศัพท์ของพีทดังอยู่เป็นชั่วโมง โดยที่เจ้าตัวก็หยิบมันขึ้นมาดูแต่ไม่ยอมกดรับซะที

   "ปิดไม่ได้ดิ" พีทหันมาทำหน้ายุ่งเหยิง

   "งั้นมึงก็รับสายซะ" นาวหันไปมองดุๆ

   "กูไม่อยากรับอ่ะ" พีททำหน้าหงอย

   "โว๊ย!!! งั้นเอามากูรับเอง" นาวตะโกนขึ้นสุดเสียงแล้วยื่นมือไปขอโทรศัพท์จากพีท

   "ไม่เอา!!" พีทปฏิเสธเสียงแข็งแล้วเอาโทรศัพท์ไปไว้ด้านหลัง

   "เอามา!!" นาวสั่งเสียงเข้มแล้วจ้องพีทนิ่งๆเพื่อกดดัน ซึ่งพีทก็ส่ายหน้าไปมาไม่ยอมท่าเดียว

   "ถ้ามึงไม่เอามา...ออกจากบ้านกูไปเลย" นาวยื่นคำขาดพร้อมกับยักคิ้วอย่างคนถือไพ่เหนือกว่า

   พีทเม้มปากตัวเองแน่นแล้วช้อนตามองนาวเพื่ออ้อน แต่นาวไม่ใจอ่อนยังคงส่งสายตาบังคับ สุดท้ายพีทเลยต้องวางโทรศัพท์ตัวเองลงบนมือของนาว

   "ก็แค่นั้น" นาวมองโทรศัพท์ในมือที่ส่งเสียงไม่หยุดแล้วขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ ก่อนจะเงยหน้ามองพีทเพื่อขอคำตอบ แต่เจ้าตัวก็เอาแต่ก้มหน้าหลบตา

   "เดี๋ยวมึงได้ตอบคำถามกูเยอะแน่ไอ้พีท" นาวว่าเสียงเย็นแล้วกดรับโทรศัพท์

   "(พีทอยู่ไหน)" เสียงร้อนรนดังขึ้นทันทีที่นาวกดรับสาย

   "เอ่อ...พี่อาร์ตนี่นาวนะคะ" นาวบอกคนในสายให้รู้ก่อนจะตวัดตามองพีทอย่างเอาเรื่อง

   "(น้องนาวเหรอ...พีทล่ะอยู่แถวนั้นรึเปล่า)"

   "อยู่ค่ะพี่...แต่มันกำลังยุ่งๆพี่มีอะไรรึเปล่าคะ" นาวเลือกที่จะไม่พูดความจริงทั้งหมดออกไป เพราะเธอเองก็ไม่รู้แน่ชัดว่าพีทกับพี่อาร์ตมีเรื่องอะไรกัน และเกี่ยวข้องกันยังไงถึงได้โทรหากันเป็นสิบๆสายแบบนี้

   "(ยุ่งมากรึเปล่าพี่ขอคุยด้วยได้ไหม)" น้ำเสียงที่อ้อนวอนของอาร์ตทำให้นาวลังเล พร้อมกับความไม่ชอบมาพากลที่ทำให้สงสัย เกิดคำถามวุ่นวายเต็มหัวไปหมดยิ่งกว่่าเรื่องของเลิฟซะอีก

   "ได้ค่ะ" นาวตัดสินใจยื่นโทรศัพท์ให้พีทคุย ซึ่งพีทก็ส่ายหัวเป็นพัลวันพร้อมกับดันโทรศัพท์ให้ถอยห่าง จนนาวต้องจ้องดุๆแกมบังคับพีทถึงได้รับโทรศัพท์มาถือไว้

   พีทมองโทรศัพท์ในมืออย่างชั่งใจลังเลที่จะคุยกับคนในสาย เพราะไม่รู้จริงๆว่าจะต้องทำตัวแบบไหน เคยคุยกับอีกฝ่ายยังไงใช้น้ำเสียงแบบไหน มันดูขัดเขินและสับสนในความรู้สึกไปหมด

   "(พีท...ได้ยินพี่ไหม)" น้ำเสียงอ่อนแรงที่ดังขึ้นในสาย ทำเอาพีทใจกระตุกไม่น้อยเหมือนกัน ก่อนจะขานรับอีกฝ่ายเสียงแผ่วเบา

   "ได้ยิน"

   "(ฮ่าๆพี่นึกว่าเราจะไม่ยอมคุยกับพี่ซะอีก)" เสียงหัวเราะฝืนๆของอาร์ตทำให้พีทรู้สึกผิดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

   "คุยดิ...ทำไมจะไม่คุยล่ะ" พีทงึมงำตอบแทบไม่เป็นคำ

   "(ก็เราวิ่งหนีพี่ขนาดนั้น...ก็นึกว่ากลัวจนไม่อยากคุยด้วยแล้ว)"

   "ใครกลัววะ...ไม่มีเหอะ" พีททำหน้าบึ้งเสียงแข็งใส่คนในสายอย่างไม่พอใจ

   "(แล้ววิ่งหนีทำไม)"

   "กะ...ก็มันตกใจนี่หว่า" พีทอ้อมแอ้มตอบไม่เต็มเสียง

   "(ไม่กลัวก็ดีแล้ว...อย่าหนีพี่แบบนี้อีกนะใจไม่ดีเลยว่ะ)"

   "อืม"

   "(แล้วนี่พีทอยู่ไหน)"

   "บ้านไอ้นาว...แล้วไอ้พี่อาร์ตอยู่ไหน" พอได้คุยกันจริงๆจากที่คิดไม่ออกว่าจะคุยยังไง พีทก็สามารถกลับมาคุยกับอีกฝ่ายได้ปกติเหมือนไม่เคยเกิดอะไร

   "(อยู่หน้าบ้านพีทเนี่ย)"

   "ไปทำอะไรอ่ะ" พีทถามด้วยความแปลกใจ

   "(ก็เห็นคนบางคนงอนเลยว่าจะมาง้อ...แต่เจ้าตัวเขาดันไม่อยู่)"

   "ง้ออะไรล่ะ...ไม่ได้โกรธสักหน่อย" พีทงึมงำตอบอีกฝ่าย เขาไม่ได้โกรธจริงๆนะแค่ตกใจจนทำตัวไม่ถูกเอง

   "(พีท...)"

   "อะไร"

   "(อยากเจอ)"

   "อยากเจอทำไม...พรุ่งนี้เดี๋ยวก็เจอ"

   "(อยากเจอตอนนี้...นะ...)" เสียงอ้อนๆที่ดังให้ได้ยินทำเอาพีทใจเต้นรัว หน้าแดงก่ำด้วยความเขิน เกิดมาพึ่งจะเคยโดนผู้ชายด้วยกันอ้อนเป็นครั้งแรกเนี่ยแหละ

   "(พีท...นะครับ)" ปลายสายส่งเสียงอ้อนออกมาอีกครั้งเมื่อเห็นว่าพีทเงียบ ก่อนที่เจ้าตัวจะเม้มปากแน่นใช้ความคิดอย่างหนัก

   "อีกชั่วโมง" พีทอ้อมแอ้มตอบเสียงเบาแล้วกัดปากแน่น รู้สึกเหมือนตัวเองคิดผิดที่ตอบออกไปแบบนั้น

   "(พี่รอนะ)"

   สายถูกวางไปแล้วแต่พีทยังคงมองโทรศัพท์ในมือตัวเองนิ่ง พร้อมกับกระพริบตาปริบๆแล้วถอนหายใจออกมา ก่อนจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อเงยหน้าขึ้นมาเจอนาว ที่ยืนกอดอกมองมาพร้อมรอยยิ้มล้อเลียน

   "คุยโทรศัพท์กับใครวะ นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่" นาวหรี่ตามองจับผิดแล้วขยับเข้าไปใกล้เรื่อยๆ

   "ใครยิ้ม" พีทเถียงเสียงแข็งทำหน้าตาขึงขังใส่

   "หราาาาาา หน้ามึงนี่บานเป็นจานดาวเทียมแล้วไอ้พีท" นาวมองค้อนเพื่อนอย่างหมั่นไส้ก่อนจะนั่งลงข้างๆ

   "ตกลงยังไงวะมึงกับพี่อาร์ตเนี่ย" นาวถามยิ้มๆซึ่งพีทก็สบจาเพื่อนแล้วก้มหลบตา ก่อนจะส่ายหน้าแล้วบีบมือตัวเองแน่น
   "เอาเหอะไม่อยากบอกก็ช่าง ว่าแต่มึงจะไปหาพี่เขาไม่ใช่เหรอ รีบไปดิเดี๋ยวเขารอนานดึกแล้วด้วย" พีทเงยหน้ามองนาวตาโต ซึ่งอีกฝ่ายกำลังอมยิ้มขำมองมาด้วยสายตาล้อเลียน

   "เฮ้อ!! เพื่อนกูมีพงมีผัวกันหม้ดดด" นาวแกล้งพูดแซวออกมาลอยๆเสียงดัง ก่อนจะเดินขึ้นบันไดบ้านไป ส่วนพีทได้แต่ทำปากขมุบขมิบใบหน้าแดงซ่านด้วยความอาย

...
...
   
   แสงไฟหน้ารถที่แล่นเข้ามาในซอยตอนกลางคืน สาดกระทบเข้าเต็มหน้าของอาร์ตที่นั่งอยู่ ก่อนที่รถคันนั้นจะจอดสนิทตรงหน้า พร้อมกับร่างเล็กคุ้นตาที่ก้าวลงมาจากรถ

   เจ้าของร่างบางเดินมาหยุดตรงหน้าอาร์ตที่ยืนขึ้นพอดี แล้วแบมือยื่นไปหาพร้อมกับทำหน้ามุ่ย อาร์ตมองด้วยความไม่เข้าใจก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นสูงเป็นเชิงถาม ยิ่งทำให้พีทใบหน้างอง้ำมากกว่าเก่าแสดงท่าทางฮึดฮัดขัดใจ

   “ค่ารถ!!” พีทกระแทกเสียงใส่เพื่อกลบเกลื่อนอาการเขินอาย ปกติเงินค่ารถแค่ร้อยสองร้อยเขาไม่ต้องมาแบบมือขอคนอื่นแบบนี้หรอก

   “อ๋อ...เดี๋ยวพี่ไปจ่ายให้” อาร์ตหลุดยิ้มขำออกมาอย่างเอ็นดู ยกมือขึ้นยีผมอีกฝ่ายจนยุ่งก่อนจะเดินไปจ่ายค่ารถให้ ส่วนพีทก็ได้แต่ยืนเม้มปากแน่นยกมือขึ้นลูบหัวตัวเอง

   “พี่นึกว่าจะต้องรอเก้อแล้วนะเนี่ย” หลังจากจ่ายเงินเสร็จอาร์ตก็เดินกลับมาหาพีท

   “ก็ใครบอกอยากเห็นหน้าวะ เห็นแล้วก็กลับไปดิ” พีทมองค้อนด้วยความหมั่นไส้ที่เห็นอาร์ตยิ้มไม่หุบ

   “เฮ้ย!! มาถึงก็ไล่เลยนั่งรอตั้งนานใจร้ายว่ะ” อาร์ตทำหน้าน้อยใจแล้วพูดตัดพ้อพีทออกมา

   “เออ!!! กลับไปได้ละ” พีทพูดด้วยความหมั่นไส้ในท่าทางสำออยของอาร์ต ก่อนจะหมุนตัวเพื่อเปิดประตูเข้าบ้าน

   “เดี๋ยว!!!!” อาร์ตร้องเสียงหลงแล้วคว้าแขนพีทเอาไว้ แต่เป็นเพราะรีบร้อนเกินไปทำให้กะแรงพลาด กลายเป็นกระชากอีกฝ่ายเข้าหาตัวเต็มแรง

   “โอ๊ย!!!!” เสียงร้องด้วยความเจ็บที่ดังออกมาจากปากอาร์ต ทำเอาพีทที่โดนกระชากมองหน้าเจ้าตัวเหลอหรา ก่อนจะค่อยๆดันตัวเองออกมาและมองหน้าตาเหยเก ที่แสดงความเจ็บปวดแบบไม่เสแสร้งเหมือนทุกทีของอาร์ตด้วยความกังวล

   “ไอ้พี่อาร์ตเป็นไรอ่ะ” พีทถามเสียงตะกุกตะกัก มองอาร์ตที่เอามือกุมท้องตัวเองด้วยความเป็นห่วง

   “ไม่เป็นไรหรอกโดนแผลเก่าน่ะ” อาร์ตส่งยิ้มแหยๆแล้วบอกอีกฝ่ายให้คลายกังวัล เมื่อกี้เพราะตัวเองดึงอีกฝ่ายแรงเกินจนเกือบล้มเลยเอาตัวเข้าไปรับ มันเลยกระแทกโดนแผลที่ท้องเข้าอย่างจัง

   “ไม่เป็นไรแล้วไมทำหน้างั้นอ่ะ” พีทถามออกไปอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่อีกฝ่ายบอก ตาก็มองที่ท้องของอาร์ตเขม็ง

   “เอามาดูดิ๊” พีทตรงเข้าไปพยายามจับมือที่กุมท้องของอาร์ตออก ซึ่งเจ้าเองก็ไม่ยอมง่ายๆเหมือนกันเบื้องตัวหลบ และเอามือกันพีทไว้ไม่ให้เข้ามาใกล้ตัวเอง

   “ถ้าไม่ให้ดูไม่ต้องมาให้เห็นหน้าเลยนะ” พีทพูดออกมาด้วยความฉุนพร้อมกับทำหน้าบึ้งตึงใส่ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงเลือกขู่อีกฝ่ายด้วยเหตุผลติ๊งต๊องแบบนี้ แต่มันก็ดันหลุดปากไปแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นเลยมีแต่ความเงียบ

   ตาสองคู่จ้องกันอย่างไม่มีใครยอมใคร จนสุดท้ายดวงตาของคนตัวโตกว่าก็อ่อนแสงลง พร้อมกับที่เจ้าตัวถอนหายใจออกมาเบาๆ และค่อยๆเอามือที่กุมท้องตัวเองออก

   “ไหนบอกไม่เป็นไรวะ” พีทพูดด้วยน้ำเสียงโมโหและมองอาร์ตด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะกลับมามองที่ท้องซึ่งมีเลือดสีแดงซึมผ่านเนื้อผ้าออกมา

   “ไปหาหมอไหมอ่ะ” พีทถามด้วยน้ำเสียงอ่อนลง สีหน้าแสดงความเป็นห่วงออกมาอย่างไม่ปิดบัง

   “ไม่เป็นไรแค่เลือดซึมทำแผลก็พอ” อาร์ตบอกพร้อมกับลูบแก้มพีทให้สบายใจ

   “งั้นเข้าบ้านกัน” พีทพูดแค่นั้นแล้วจูงมืออาร์ตเดินเข้าบ้านตัวเอง พอเข้ามาถึงด้านในก็หันมองรอบๆเผื่อจะเจอใครบ้าง แต่สิ่งที่เห็นก็มีแค่ความมืดสนิทกับแสงไฟที่เปิดไว้ตรงบันไดเท่านั้น ก้มลงมองนาฬิกาที่ข้อมือถึงได้รู้ว่าตอนนี้ค่อนข้างดึกมากแล้ว

   พีทหันกลับมามองหน้าอาร์ตแว๊บนึงอย่างใช้ความคิด ก่อนจะตัดสินใจพออีกฝ่ายไปที่ห้องนอนของตัวเอง เพราะจะเรียกแม่บ้านให้ตื่นตอนนี้ก็เกรงใจจะปล่อยให้อีกฝ่ายกลับก็ทำไม่ลง

   “ไอ้พี่อาร์ตเข้าไปรอข้างในก่อนนะ” พีทเปิดประตูห้องแล้วดันอาร์ตเข้าไปข้างใน ก่อนที่ตัวเองจะเดินลงไปข้างล่างอีกครั้งเพื่อหาอุปกรณ์ทำแผล

   อาร์ตมองตามประตูห้องที่ถูกปิดลงแล้วหันกลับมามองสำรวจรอบๆ ก่อนจะหลุดยิ้มออกมากับสิ่งที่ได้เห็น เหมือนเจอภาพเดจาวูไม่มีผิดตุ๊กตาคิดตี้ที่มีอยู่เต็มห้อง มันทำให้เขานึกถึงห้องนอนตัวเองขึ้นมาทันที

   ขณะที่มองไปเรื่อยๆสายตาก็ไปสะดุดเข้ากับตุ๊กตาตัวนึงที่วางอยู่บนหัวเตียง เมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆก็ต้องยิ้มออกมาอย่างชอบใจ เพราะมันคือตุ๊กตาตัวเดียวกันกับที่เขาให้ไอ้เด็กดื้อไว้เมื่อตอนนั้น

   หลังจากสำรวจห้องอีกฝ่ายจนพอใจอาร์ตก็ถอดเสื้อของตัวเองออก มองเสื้อสีขาวที่มีเลือดเปื้อนอยู่ด้วยความเซ็ง ก่อนจะทิ้งมันไปกองกับพื้นแล้วนั่งลงบนเตียง ตาก็ก้มมองแผลที่ท้องซึ่งปริออกมาเล็กน้อย

   แผลนี้เขาได้มาเมื่อวานก่อนหลังจากที่ร้องเพลงเสร็จและกำลังจะกลับบ้าน ดันซวยมาเจอคู่อริที่มันอริกับเขาไปเองของมันคนเดียว ดักรอหาเรื่องเขาอยู่ที่ลานจอดรถพอเขาไม่สนใจ มันเลยเรียกร้องความสนใจจากเขาด้วยการถีบบานชื่นลูกสาวสุดรักเขาโครมเบอเร่อ และนั้นก็เลยทำให้เขากับมันตีกันอตลุดแต่เขาดนซวยหน่อย เพราะอีกฝ่ายเล่นไม่ซื่อควักมีดออกมาจะแทงเขา โชคดีที่ไหวตัวทันก็เลยโดนไปแบบถากๆแต่ก็ลึกเอาการ ส่วนไอ้นั้นเขาก็ส่งมันให้ไปนอนจีบพยาบาลอยู่ ถ้าพยาบาลจะตาต่ำเอามันล่ะนะ

   แกร่ก!!

   เสียงประตูเปิดออกอีกครั้งพร้อมกับพีทที่ถือกล่องพยาบาลกับถาดใส่แก้วนมขึ้นมา ก่อนที่เจ้าตัวจะใช้เท้าดับประตูปิดและล๊อกห้องด้วยท่าทางเก้ๆกังๆ แล้วหอมหิ้วของทุกอย่างมาหาอาร์ตในสภาพทุลักทุเลพอควร

   “อะ...ถอดเสื้อไมอ่ะ” พีทยื่นแก้วนมไปให้อาร์ตแล้วมองอาร์ต ที่ถอดเสื้อโชว์กล้ามสวยๆของตัวเองด้วยความไม่เข้าใจ

   “ทำแผลก็ต้องถอดเสื้อสิ” อาร์ตรับแก้วนมจากพีทมาแล้วยกขึ้นจิบนิดๆ รสชาติของนมทำเอาเจ้าตัวเบ้หน้าออกมาเล็กน้อย ก็ปกติซัดแต่เหล้าเคล้าแต่เบียร์มั่วนารีนมก็กินจากเต้า ไอ้นมในแก้วนี่ไม่ได้กินหรอก สิ่งที่คิดได้คือคนตรงหน้าเขาลูกคุณหนูตัวจริงเสียงจริงเลยล่ะ

   พีทพยักหน้ารับรู้ในสิ่งที่อาร์ตตอบก่อนจะยื่นกล่องพยาบาลไปให้ อาร์ตเหลือบตามองหน้าพีทเล็กน้อยแต่ไม่ยอมรับกล่องพยาบาลมา แล้วมองหน้าพีทกับของในมือเจ้าตัวสลับไปมาแต่ไม่พูดอะไร สุดท้ายพีทก็เป็นฝ่ายถอนหายใจออกมาด้วยความเซ็ง แล้วนั่งลงที่พีทเพื่อทำแผลให้อีกฝ่ายแต่โดยดี โดยมีอาร์ตยิ้มกริ่มด้วยความพอใจ

   พีทนั่งทำแผลให้อาร์ตไปเงียบๆโดยที่ไม่ถามอะไร ส่วนอาร์ตก็จิบนมในแก้วไปเรื่อยๆก้มมองพีทไม่วางตา สักพักพีททำแผลให้อีกฝ่ายเสร็จแล้วเก็บอุปกรณ์ลงที่เดิม แต่ก็ยังไม่ยอมลุกออกไปไหนจนอาร์ตต้องมองด้วยความสงสัย

   ใบหน้าหวานแสดงอาการลังเลออกมากับสิ่งที่ตัวเองคิด เหลือบตามองอาร์ตเล็กน้อยแล้วกลั้นใจถามในสิ่งที่ตัวเองอยากรู้ออกมา

   “ไอ้พี่อาร์ต...เรื่องเมื่อตอนเย็นไม่เป็นไรนะ” พีทถามเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน ห่วงความรู้สึกของคนตรงหน้าไม่น้อยก็อีกฝ่ายจีบเพื่อนเขาอยู่แต่ต้องไปเจออะไรแบบนั้น และเขาเองก็รู้สึกผิดในใจเหมือนกันที่รู้อยู่ก่อนแต่ไม่ยอมบอก

   “เรื่องน้องเลิฟเหรอ” อาร์ตมองเสี้ยวหน้าหงอยๆของพีทแล้วยิ้มออกมา

   “อือ...ไม่เป็นไรนะ” พีทส่งสายตามองอาร์ตอย่างเห็นใจและจับมืออีกฝายมากุมไว้ พร้อมกับลูบหลังมือเบาๆเพื่อปลอบ
 
   “ถ้าพี่อกหักพีทจะปลอบพี่ไหมล่ะ” อาร์ตช้อนคางของพีทขึ้นมาให้เงยหน้าสบตาตัวเอง

   “เกี่ยวไรวะ” พีทขมวดคิ้วมุ่น

   “ตอบก่อน...จะปลอบพี่ป่ะ” อาร์ตถามด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์

   “ปลอบไงอ่ะ” พีทถามออกไปด้วยความซื่อ เพราะคิดว่าอาร์ตคงเสียใจมากเลยต้องการคนปลอบใจ

   “เป็นแฟนพี่ดิ๊” อาร์ตพูดต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง

   “ห๊ะ!!!” พีทส่งเสียงออกมาในลำคอด้วยความไม่เชื่อหู

   “งั้น...รับพี่ไว้พิจารณาก่อนก็ได้” อาร์ตพลิกฝ่ามือแล้วเป็นฝ่ายกุมมือพีทเอาไว้เอง ก่อนที่จะบีบลงไปบนมือนิ่มเบาๆ

   “พี่มึงบ้าแล้ว...เมาเหรอวะ” พีทพูดเสียงอึกอักในลำคอพยายามดึงมือตัวเองออกมา แต่อีกฝ่ายก็จับเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

   “นี่ดูไม่ออกหรือแกล้งไม่รู้ว่าพี่เลิกจีบน้องเลิฟนานแล้ว แต่กำลังจีบเพื่อนน้องเลิฟอยู่ต่างหาก” อาร์ตพูดด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เขาค่อนข้างมั่นใจว่าคนตัวเล็กตรงหน้าเขารู้ว่าเขากำลังจีบ แต่มันเหมือนมีอะไรบางอย่างทำให้อีกฝ่ายพยายามขีดเส้นกั้น มันเลยทำให้เขาตอดเล็กตอดน้อยไปวันๆไม่ทำอะไรบุ่มบ่าม

   แต่ด้วยเหตุการณ์เมื่อตอนเย็นที่เกิดขึ้นมันทำให้เขาตัดสินใจรุกอีกฝ่ายทันที ก็เล่นทำไปขนาดนั้นจะให้กลับไปทำหน้าแบบเดิมมันคงจะไม่เข้าท่า ในเมื่อมันหลุดไปแล้ววิธีเดียวเขาก้ต้องรุกเร็วเท่านั้นแหละ

   “.................”

   “ถามจริงไม่หวั่นไหวเลยเหรอ” คำพูดต่อมาของอาร์ตทำเอาพีทรู้สึกร้อนหน้าและหัวใจเต้นแรงจนหนวกหู ก่อนจะกระชากมือตัวเองออกมาแรงๆลัลุกขึ้นยืนหันหลังให้ พยายามที่จะไม่สบตาอีกฝ่ายและทำหูทวนลมกับสิ่งที่ได้ยิน

   “มันดึกแล้วค่อยกลับพรุ่งนี้แล้วกันหาที่นอนเอาเองเลยนะ เดี๋ยวขอไปอาบน้ำก่อน” พีทบอกตะกุกตะกักลิ้นพันกันแล้วเดินตรงดิ่งเข้าไปในห้องน้ำด้วยความเร็ว ทิ้งให้อาร์ตมองตามท่าทางเขินอายนั้นอย่างมีความสุข

...
...
   
   พีทยืนผิงประตูห้องน้ำด้วยใบหน้าแดงก่ำยกมือขึ้นถามออกตัวเองแล้วลูบไปมา พยายามสงบจิตสงบใจและอาการตื่นเต้นที่มีมากจนหงุดหงิด เมื่อตั้งสติได้แล้วก็ค่อยๆถอดเสื้อผ้าออกเพื่ออาบน้ำ เปิดฝักบัวแล้วเข้าไปยืนใต้สายน้ำเพื่อหวังให้ความเย็นทำให้ตัวเองสงบ แต่เป็นเพราะสติยังมาไม่ครบถ้วนดีทำให้ก้าวพลาดและลื่นลงกระแทกพื้นอย่างจัง

   “โอ๊ย!!!!” เสียงร้องที่ดังออกมาจากห้องน้ำทำให้อาร์ตที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ หันไปมองด้วยความตกใจก่อนจะลุกเดินไปที่ประตู แล้วเคาะลงแรงๆด้วยความเป็นห่วง

   ก๊อกๆๆๆ

   “พีทเป็นอะไรรึเปล่า” อาร์ตตะโกนถามเสียงดังด้วยความเป็นห่วง

   “มะ...ไม่...โอ๊ย!!!!” พีทตอบออกไปก่อนจะร้องออกมาด้วยความเจ็บอีกครั้ง เพราะพยายามพยุงตัวเองขึ้นแต่ดันลื่นแล้วล้มลงมาอีกรอบ

   “เฮ้ย!!! พี่เข้าไปนะ” อาร์ตพูดด้วยความตกใจและลองหมุนลูกบิดดู ปรากฎว่าไม่ได้ล็อกเขาเลยถือวิสาสะเข้าไปด้วยความเป็นห่วง

   “เดี๋ยว!!...ไม่ต้อง!!!” พีทรีบห้ามเสียงหลงเพราะว่าตัวเองโป๊และนึกขึ้นได้ว่าเมื่อกี้ลืมล็อกประตู แต่ก็ไม่ทันเพราะอาร์ตเดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าแล้ว

   “เป็นไร...ล้มเหรอ? เจ็บตรงไหนไหม? ทำไมไม่ระวังเลยวะบอกแล้วว่าอย่าซน” อาร์ตว่าพีทดุๆเอื้อมมือไปปิดก๊อกน้ำแล้วช้อนตัวพีทขึ้น อุ้มเดินออกจากห้องน้ำแล้ววางเจ้าตัวลงบนเตียงอย่างเบามือ

   “ดีนะไม่มีตรงไหนเป็นแผล ต้องรอดูพรุ่งนี้ว่าจะช้ำรึเปล่า” อาร์ตมองสำรวจไปทั่วมือก็จับไปเพื่อพลิกดู ก่อนที่จะรู้สึกผิดสังเกตุว่าอีกฝ่ายเงียบผิดปกติไม่โวยวายหรือเถียงออกมา แบบที่เจ้าตัวชอบทำเป็นประจำ พอเลื่อนสายตาไปมองหน้าก็เห็นเจ้าตัวหน้าแดงก่ำไปหมด

   พอความเป็นห่วงหายไปอาร์ตก็พึงรู้สึกตัวและกวาดตามองไปทั่วตัวคนบนเตียง ถึงได้เห็นว่าเจ้าตัวกำลังนั่งเปลือยเปล่าตัวขาวเนียนขึ้นสีชมพูทั่วทั้งตัว โดยมีเขากำลังจับขาเล็กทั้งสองข้างอ้าออกว้างในท่าทางล่อแหลมสุดๆ

   “ปะ...ปะ...ปล่อยได้แล้ว” พีทพูดออกมาแทบไม่เป็นคำพยายามหุบขาตัวเองลง แต่ก็โดนอีกฝ่ายกำข้อเท้าเอาไว้แน่น เกิดมาในชีวิตไม่เคยจะได้อยู่ในสภาพน่าอายแบบนี้เลย พอจะเข้าใจความรู้สึกพวกผู้หญิงที่เขาเคยมีอะไรด้วยแล้ว ว่าทำไมถึงได้อายกันนักเวลาต้องอยู่ในสภาพนี้

   พีทเอามือสองข้างลงมาปิดตรงกลางลำตัวให้พ้นจายสายตาอาร์ต ที่ตอนนี้เจ้าตัวกำลังกวาดสายตามองไปทั่ว ก่อนจะช้อนสายตาขึ้นมองอีกฝ่ายเพื่อขอร้องให้ปล่อยตัวเองสักที รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่ส่งผ่านมากับสายตาของอาร์ต

   อาร์ตสบตาอ้อนของพีทนิ่งพร้อมกับเสียงที่ตีกันในหัวยุ่งเหยิงไปหมด ก่อนที่อธรรมจะชนะธรรมมะในใจ อาร์ตจัดการดันตัวพีทให้ลงไปนอนราบกับที่นอนแล้วขยับเข้าไปแทรกตรงกลาง

   “อะ” พีทส่งเสียงออกมาเบาๆในลำคอด้วยความตกใจเพราะจู่ๆก็โดนผลักให้นอนลง ก่อนจะออกอาการแต่ตื่นเมื่ออาร์ตขยับมาคร่อมทับตัวเองไว้ อ้าปากเตรียมจะโวยวายก็ทำไม่สำเร็จเพราะอาร์ตประกบจูบลงมาทันที และส่งลิ้นเข้ามาหยอกล้อดูดดึงกับลิ้นตัวเองจนรู้สึกเจ็บไปหมด

   ปลายลิ้นที่ถูกดูดดึงรู้สึกเจ็บจนชาพร้อมกับอากาศหายใจที่ใกล้จะหมดลง เพราะถูกพรากไปกับจูบเร้าร้อนที่อีกฝ่ายบรรจงมอบให้ เสียงน้ำลายที่เกิดจากการแลกลิ้นดังขึ้นให้ได้ยินอยู่ในหู แผ่นอกบางแอ่นขึ้นเพราะความเสียวซ่านเมื่อมือหนาสะกิดลงมาบนยอดอก ก่อนที่ริมฝีปากร้อนจะจูบไล่ลงมาที่ซอกคอเนียนระหงและดูดเม้มเป็นระยะ

   “สัส!!!” อาร์ตสบถขึ้นมาในลำคอเบาๆพยายามบังคับตัวเองให้หยุดและซุกหน้าลงกับอกของพีทนิ่ง สมองส่วนดีที่มีอยู่น้อยนิดของเขามันท้วงขึ้นมาว่าไม่ให้ทำ เพราะทำแบบนี้ไม่ต่างจากเขาบังคับข่มขืนอีกฝ่ายเลยสักนิด

   “หยุดพี่พีทขอร้อง” อาร์ตเงยหน้าสบตากับพีทแล้วพูดออกมาด้วยลมหายใจหอบ พยายามข่มกลั้นความรู้สึกของตัวเองเต็มที่ถ้าขืนเป็นแบบนี้ได้เลยเถิดแน่ๆ เขาไม่ได้เป้นสุภาพบุรุษหรอกแต่อยากได้แบบเต็มใจไม่ใช่ฉวยโอกาส

   พีทนอนหายใจรวยรินด้วยความรู้สึกที่หมุนวนอยู่ในช่องท้องไม่ต่างกัน ปรือตาขึ้นมองอาร์ตเบลอๆกรอกตาไปมาด้วยความสับสน ความคิดในหัวกำลังตีกันวุ่นวายสมองมันห้ามแต่ร่างกายกลับชอบสัมผัสที่ได้รับ ก่อนจะเม้มปากตัวเองแน่นแล้วตัดสินใจทำบางอย่างที่คิดว่าบ้าและเสี่ยงที่สุดในชีวิตลงไป

   พีทเลื่อนมือของตัวเองมาบีบที่แขนอาร์ตและจิกเล็บลงไปเต็มแรง ก่อนจะดันตัวเองขึ้นและจูบลงบนปากอีกฝ่ายแผ่วเบา แล้วทิ้งตัวลงนอนพร้อมกับหันหน้าหนีด้วยความเขินอาย พร้อมกับอาร์ตที่ชะค้างด้วยความตะลึงและเสียงบางอย่างในหัวที่ขาดลง



2 Be Con...

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
กัดครั้งที่
- 12 -
   


   อาร์ตมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของคนใต้ร่างที่แดงก่ำก็หลุดยิ้มออกมา ใช้ปลายนิ้วเกลี่ยเบาๆบนแก้มใสแล้วยื่นมือไปจับที่ปลายคาง บังคับให้เจ้าตัวหันกลับมาสบตา

   ริมฝีปากของอาร์ตก้มลงประกบจูบบดขยี้ปากบางอีกครั้ง ตามด้วยลิ้นที่แทรกเข้าไปชิมความหวานในโพรงปากนิ่ม ลิ้นร้อนสำรวจไปตามไรฟันที่เรียงตัวสวยก่อนเกี่ยวกระหวัดหยอกล้อกับลิ้นเล็ก ที่ให้ความร่วมมือแลกลิ้นตอบสนองดูดดึงอย่างไม่ยอมแพ้
 
   ฝ่ามือหนาฟ้อนเฟ้นบีบเค่นหนักๆไปทั่วกายบาง จนผิวขาวจัดขึ้นรอยมือจนทั้ว ก่อนที่ริมฝีปากจะผละออกห่างแล้วไล่ขบเม้มลงมาที่ซอกคอ ดูดดึงสร้างรอยรัก กระจายไปทั่วเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ

   แผ่นหลังของพีทแอนขึ้นจนตัวลอยจากพื้น เพราะสัมผัสของปลายลิ้นที่ละเลงอยู่บนยอดอก และนิ้วซุกซนที่บดขยี้ปลายยอดอีกข้างอย่างรุนแรง ความเสียวซ่านเริ่มแผ่กระจายไปทั่วร่าง แขนเรียวทั้งสองยกขึ้นโอบกอดอีกฝ่ายแน่น
 
   ปลายเล็บจิกลงไปบนแผ่นหลังกว้างเต็มแรง เพื่อระบายความรู้สึกบางอย่างภายในที่กำลังพุ่งขึ้นสูง ยอดอกสองข้างแดงช้ำบวมเป่งและเปียกชุ่มไปด้วยน้ำลาย จากปลายลิ้นร้อนที่ละเลงดูดกินอย่างเอร็ดอร่อยสลับไปมาทั้งสองข้าง

   "ซี๊ด...อ๊ะ" พีทหลุดเสียงครางออกมาด้วยความเสียว เมื่อฟันคมกัดลงมาที่จุกนมและเลียซ้ำจนมันแข็งเป็นไต แผ่นหลังบางแอ่นขึ้นอย่างเชิญชวนเพื่อให้ลิ้นร้อนหยอกล้อยอดอกได้ถนัดขึ้น

   อาร์ตละริมฝีปากจากยอดอกสีสวยอย่างเชื่องช้า แล้วดูดเม้มสร้างรอยไล่ลงมาจนถึงหน้าท้องแบนราบ อ้าปากงับลงไปและส่งปลายลิ้นเลียวนรอบสะดือสวย แล้วไล่ริมฝีปากต่ำลงไปกว่าเดิมจนถึงกลางลำตัว

   อาร์ตกระตุกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เมื่อเห็นสีหน้าและท่าทางคาดหวังจากคนใต้ร่าง ก่อนจะจงใจแนบริมฝีปากลงใกล้ๆแก่นกายน่ารัก ที่กำลังเริ่มชูชันและมีน้ำใสๆปริ่มตรงส่วนปลาย กดจูบดูดเม้มหนักๆไปทั่วบริเวณโคนขาอ่อนแต่ไม่ยอมสัมผัสจุดอ่อนไหว

   "ไอ้เหี้ยพี่อาร์ต!! แม่ง!!" พีทตวาดตวาดเสียงดังพร้อมกับแสดงอาการฮึดฮัดออกมา เพราะขัดใจที่อีกฝ่ายเอาแต่แกล้งทั้งที่ในเวลาแบบนี้ ดันตัวเองขึ้นจากที่นอนแล้วยกมือทึ้งหัวอาร์ตแรงๆด้วยความโมโห

   "อ๊าาาาา" พีทครางออกมาอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อแก่นกายของตัวเองโดนอาร์ตกำเอาไว้แน่น แถมเจ้าตัวยังใช้นิ้วมืิอขยี้ลงที่ส่วนปลายและขยับขึ้นลงรัวเร็ว

   "อึ่ก...พะ...พี่อาร์ต" พีทครางเรียกชื่อเสียงหวานฟันคมกัดลงบนปากตัวเองแน่น ปรือตามองอาร์ตอย่างออดอ้อนขอร้องให้ช่วยตัวเอง

   "ไม่ได้...รอพี่ก่อนสิ" อาร์ตกระซิบลงที่ข้างหูและกดจูบแก้มนิ่ม ส่วนมือที่กำแก่นกายของพีทไว้ก็หยุดนิ่ง พร้อมทั้งใช้นิ้วมือกดส่วนปลายเอาไว้ไม่ให้ปลดปล่อย จนพีทได้แต่ใบหน้าแดงก่ำบิดเบี้ยวด้วยความทรมาน

   อาร์ตดันพีทให้ลงไปนอนที่เดิมก่อนจะจัดการรูดซิบกางเกงลง และควักเอาท่อนลำบวมเป่งที่ขยายขนาดดีดผึงขึ้นทันทีที่เป็นอิสระ แล้วขยับตัวเข้าไปใกล้พีทมากกว่าเดิม จัดการรวบท่อนลำของตัวเองและแก่นกายของพีทเข้าด้วยกัน จากนั้นก็ขยับส่วนอ่อนไหวขึ้นลงรัวเร็วรุนแรงไปพร้อมๆกัน ก่อนที่พีทจะกระตุกเกร็งและปลดหยาดน้ำสีขาวขุ่นออกมา

   อาร์ตยิ้มพอใจให้กับสภาพหอบเหนื่อยและเย้ายวนของพีท ก่อนจะโน้มตัวลงไปประกบจูบอย่างเร่าร้อน พร้อมทั้งส่งนิ้วมือชำแรกเข้าไปที่ด้านหลังช้าๆเพื่อเปิดทาง

   "อึ่ก" พีทสะดุ้งออกมาเล็กน้อยเมื่อสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่แทรกเข้ามาภายใน ก่อนที่ด้านในเริ่มตอดรัดอย่างรุนแรงทันที ราวกับจะต่อต้านสิ่งแปลกปลอมไม่ให้ลุกล้ำเข้ามามากกว่าเดิม

   อาร์ตยังคงวนเวียนประกบจูบไม่ห่าง นิ้วมือที่สอดแทรกเข้าไปเริ่มขยับออกช้าๆเพื่อให้อีกฝ่ายปรับสภาพ ก่อนจะค่อยๆเพิ่มจำนวนนิ้วเข้าไปและขยับรัวเร็วขึ้น พร้อมทั้งภายในของพีทที่ตอดรัดนิ้วทั้งสามระรัว

   "อ๊าาาาาาา" พีทครางออกมาเสียงหลงเมื่อนิ้วแทงเข้าไปโดนจุดกระสันอย่างจัง อาร์ตที่เห็นแบบนั้นก็กระตุกยิ้มชอบใจ ขยับนิ้วแทงเข้าไปด้านในที่จุดเดิมซ้ำๆ จนพีทถึงกลับบิดเร้าเกร็งมือจิกผ้าปูที่นอนแน่น ปลดปล่อยเสียงครางดังต่อเนื่องพร้อมทั้งสะโพกบางที่ขยับรับนิ้วมือ รวมทั้งแก่นกายที่กลับมาขยายขนาดอีกครั้ง

   "อื้อ...ไอ้พี่อาร์ต" พีทประท้วงเสียงสั่นอย่างขัดใจที่จู่ๆอาร์ตก็ดึงนิ้วทั้งหมดออก ทำเอาสวรรค์ที่กำลังเห็นอยู่รำไรล่มลงไม่เป็นท่า

   "ใจเย็นๆคนดี" อาร์ตบอกพีทเสียงแหบพร่าอย่างอดกลั้น จับขาของพีทให้อ้าออกกว้างยิ่งกว่า แล้วจับเอาท่อนลำที่ขยายขนาดจนแทบระเบิดของตัวเองถูไถวนเวียนไปมาตรงปากทางเข้า ตาก็จ้องช่องทางสีสดที่ขมิบถี่รัวรอคอยอย่างหื่นกระหาย

   "มีเจลหรืออะไรที่ล่อลื่นได้บ้างไหม" อาร์ตถามออกมาจนแทบไม่เป็นคำ มือข้างนึงยังคงจับท่อนลำถูไถช่องทางรักอย่างยั่วเย้า ส่วนมืออีกข้างก็ส่งไปบดบี้ยอดอกเพื่อกระตุ้นอีกทาง

   พีทส่ายหัวจนผมกระจายบนปรือตามองอาร์ตอย่างอ้อนวอน เขาไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายจะให้ไปหาเจลมาจากไหนล่ะ

   "สัส!!" อาร์ตสบถออกมาในลำคอด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะโน้มตัวลงไปหาพีทอีกครั้งเพื่อบอกบางอย่าง

   "ครั้งแรกใช่ไหม" อาร์ตถามออกมาด้วยเสียงจริงจัง ส่วนพีทก็ได้แต่พยักหน้าตอบด้วยสมองที่ค่อนข้างเบลอ

   "งั้นพีทต้องทนเจ็บหน่อยนะ" อาร์ตกระซิบบอกข้างหูพร้อมทั้งขบเม้มหยอกล้อไปด้วย

   "และพี่ไม่มีถุงยางเราคงต้องสด" พอได้ยินคำว่าสดออกจากปากของอาร์ต พีทถึงกับตาโตสติหวนคืนในทันที

   "มะ...ไม่เอาสดนะไอ้พี่อาร์ต" พีทรีบกระถดตัวถอยห่างมือก็ดันตัวอาร์ตไปด้วย ต้องเป็นฝ่ายรับแถมยังต้องโดนเสียบสด มีอารมณ์แค่ไหนเขาก็คงไม่เสี่ยงเหมือนกัน ยิ่งไอ้พี่อาร์ตขึ้นชื่อเรื่องพวกนี้อีกด้วย เขาไม่ยอมเสี่ยงแน่ๆให้ตายก็ไม่เอา

   "อื้อ...ปล่อยนะ" พีทส่งเสียงครางประท้วงผะแผ่ว พยายามดิ้นให้หลุดจากมืออาร์ตที่จับเอาไว้แน่น

   "ไม่ได้แล้วคนดี...พี่หยุดไม่ได้แล้ว" อาร์ตพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่ไร้การล้อเล่น ก่อนจะเริ่มจู่โจมปลุกเร้าอารมณ์คนใต้ร่างอีกครั้ง เมื่อเห็นอีกฝ่ายเริ่มโอนอ่อนก็จับขาเรียวให้อ้ากว้าง และเอาท่อนลำมาจ่อทางเข้าก่อนจะดันเข้าไป

   "เจ็บ" พีทครางเสียงแผ่วพร่อมกับหยาดน้ำใสคลอบริเวณหางตา

   "หัวเข้าไปก็ไม่เจ็บแล้ว" อาร์ตบอกเสียงพร่ายกมือลูบแก้มพีทเบาๆเพื่อปลอบ พยายามบังคับตัวเองเต็มที่ให้ค่อยๆเข้าไปช้าๆ

   เพราะเห็นว่าอาร์ตเหงื่อซึมออกมาทั่วทั้งตัวและเกร็งจนเห็นเส้นเลือด รวมทั้งการสอดใส่ที่อีกฝ่ายดูระมัดระวังจนผิดปกติ พีทเลยตัดสินใจดันตัวเองขึ้นไปดูด้วยความสงสัย ก่อนจะตาเบิกโพรงกับสิ่งที่ได้เจอและออกแรงดิ้นอย่างรุนแรง จนท่อนลำที่พึ่งเข้าไปได้แค่ส่วนปลายหลุดออกมา

   พีทดันอาร์ตออกเต็มแรงและพลิกตัวคลานหนีด้วยความกลัว ให้เขารับไอ้ท่อนใหญ่ๆนั้นเข้ามาในตัวก็พอทนแล้ว แต่นี่ไอ้พี่อาร์ตมันยังซาดิสต์ฝังมุกลงไปอีกขืนรับเข้ามาเขาได้ตายแน่ๆ ทีนี้ก็เข้าใจเลยทำไมเจ้าตัวถึงออกอาการหงุดหงิดตอนรู้ว่าไม่มีเจล แบบนี้ต่อให้มีเจลมันก็ต้องเจ็บมากแน่ๆ

   อาร์ตคว้าเอาข้อเท้าของพีทไว้ได้ทันก่อนจะกระชากทีเดียว คนตัวเล็กก็ไถลกลับมานอนใต้ร่างเหมือนเดิม จัดการพลิกพีทให้นอนคว่ำแล้วรวบแขนเล็กสองข้างมาไขว้ไว้ด้านหลัง กดตัวอีกฝ่ายเอาไว้แน่นจับสะโพกให้ยกสูงขึ้น ขยับไปซ้อนด้านหลังเอาเข่าของตัวเองสอดเข้าไป เพื่ออ้าขาพีทให้แยกออกกว้าง

   "ไอ้พี่อาร์ตไม่เอานะ...กูกลัว...แม่ง!!" พีทพยายามส่งเสียงประท้วงพร้อมกับส่ายหัวไปมา

   "พีทผิดเองที่ยั่วพี่" อาร์ตพูดแค่นั้นก่อนจะโน้มตัวดูดเม้มทั่วแผ่นหลังเนียน มือข้างที่ว่างก็ส่งไปหยอกล้อยอดอกทางด้านหน้า แล้วเลื่อนลงมาหาแก่นกายน่ารักเพื่อปลุกเร้า

   "อ๊ะ...อ๊าาาาา" พีทขยับสะโพกตามแรงชักนำที่รุนแรง ก่อนจะปลดปล่อยออกมาจนเต็มฝ่ามือหนา
อาร์ตใช้นิ้วมือที่เปียกชุ่มด้วยน้ำรักของพีทป้ายลงไปที่ด้านหลัง ก่อนจะแทงนิ้วมือทั้งสามเข่าไปพร้อมๆกันก่อนจะขยับเข้าออกรุนแรง เพื่อขยายให้สามารถรับอะไรที่ใหญ่กว่านั้นได้

   "อย่าเกร็งนะ" อาร์ตกระซิบบอกพร้อมทั้งดึงนิ้วมือออก และจับท่อนลำพร้อมรบไปจ่อทางด้านหลัง

   "ไม่เอ...อ๊าาาาาาา...ฮึก...เจ็บ" พีทครางออกมาดังลั่นพร้อมกับหยาดน้ำตาที่ไหลออกมา รู้สึกเจ็บไปหมดตรงช่องทางรักจุกไปทั่วบริเวณท้องน้อย เพราะอีกฝ่ายเข้ามาครั้งเดียวแบบไม่ทันตั้งตัว

   "อึ่ก...แน่นฉิบ" อาร์ตพึมพำในลำคอพยายามแช่ตัวเองนิ่งๆไม่ให้ขยับเพื่อรอให้อีกฝ่่ายปรับตัว ทั้งที่ภายในกำลังตอดรัดตัวตนของเขาอย่างบ้าคลั่ง จนมันแทบจะแตกคารูรัดๆนี่อยู่แล้ว

   "ฮึก...มันเจ็บ...ฮึก...ปล่อยนะ...เอาออกไป...ฮึก..." พีทร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่หยุดอย่างน่าสงสาร พยายามดิ้นรนให้อาร์ตปล่อยตัวเองเพราะความเจ็บที่ได้รับมันทำให้กลัว แต่ยิ่งเจ้าตัวดิ้นมากเท่าไหร่ภายในก็ยิ่งตอดรัดมากเท่านั้น

   "พีทอย่าดิ้น!!" อาร์ตพูดเสียงเข้มจนเกือบกลายเป็นตะคอก เพราะกลัวว่าจะทนไม่ไหวแล้วทำอะไรที่มันรุนแรงมากกว่านี้ลงไป

   "ฮึก...พี่อาร์ตใจร้าย" พีทตัดพ้อออกมาด้วยความน้อยใจที่อาร์ตไม่ฟังคำขอ แถมยังตะคอกใส่เหมืิอนไม่พอใจ เม้มปากตัวเองแน่นร้องไห้ออกมาเงียบๆ

   "ชู่...ไม่ร้องนะครับคนดี...พี่ขอโทษ" อาร์ตปล่อยมือที่จับแขนของพีทออก แล้วโน้มตัวลงไปจูบซับแผ่นหลังเพื่อปลอบใจ มือก็เลื่อนไปกอบกุมแก่นกายอีกฝ่ายที่หดตัวลงไปเพื่อปลุกเร้าอีกครั้ง ส่วนมืออีกข้างก็หยอกล้อหน้าอกช่วยอีกทาง

   "อื้อ...แต่มันเจ็บ" พีทกำผ้าปูที่นอนแน่นเมื่อความเสียวซ่านเริ่มกลับมาอีกครั้ง

   "เดี๋ยวก็ดี" อาร์ตจับหน้าของพีทให้หันมารับจูบ พร้อมทั้งขยับสะโพกถอนแก่นกายออกเกือบหมด และกระแทกกลับเข้าไปอีกครั้งอย่างรุนแรง

   "อ๊าาาาาาาาา" พีทครางออกมาดังลั่นไม่ขาดสายกับความเจ็บปนเสียวทีีได้รับ ตัวของพีทเริ่มโยกคลอนน้อยๆตามแรงขยับเข้าออกอันเชื่องช้า แต่เน้นหนักทุกจังหวะจนรู้สึกจุกไปทั้งท้องน้อย

   พั่บ พั่บ พั่บ

   "อ๊ะๆๆๆๆ"

   เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังคลอกับเสียงครางหวานๆระงมลั่นห้อง จังหวะการสอดใส่ที่เนิบช้าเปลี่ยนเป็นรัวเร็ว

   "อ๊ะ...อื้อ...พี่อาร์ต...อ๊าาาาาา..." พีทครางเสียงสั่นพร้อมกับตัวที่โยกคลอนอย่างรุนแรงตามแรงกระแทกกระทั้น รู้สึกสุขสมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนทั้งเจ็บทั้งเสียวจนแทบขาดใจ

   "อย่างนั้นแหละคนดี...รัดแน่นๆครางเรียกพี่ดังๆ" อาร์ตพูดด้วยเสียงแหบพร่าโน้มตัวลงกัดไหล่เนียนจนเลือดซึม มือจับสะโพกบางเอาไว้แน่นและกระแทกกระทั้นท่อนลำเข้าออกช่องทางรักอย่างรุนแรง ยิ่งภายในตอดรัดมากเท่าไหร่อาร์ตยิ่งตั้งหน้าตั้งตาอัดกระแทกเข้าไปมากเท่านั้น

   "อ๊ะๆๆๆ...อึ่ก" พีทสะบัดหน้าถูไถไปมากับหมอนมือกำผ้าปูที่นอนแน่นเพื่อระบายอารมณ์ ช่องทางรักเจ็บแสบทุกครั้งที่ตัวตนอีกฝ่ายขยับเข้าออก ผนังนุ่มภายในสัมผัสได้ถึงความใหญ่โตและขรุขระที่สอดแทรก

   "อ๊าาาาาา" พีทครางลั่นอีกครั้งเมื่อจู่ๆอาร์ตก็จับพลิกตัวให้หันมานอนหงายทั้งที่ยังเชื่อมต่อกันอยู่ ก่อนที่อาร์ตจะจับขาเรียวให้อ้าออกกว้างและดันขึ้นสูงจนสะโพกลอยเหนือพื้น  จากนั้นก็อัดกระแทกเข้าไปอย่างรุนแรง

   "อ๊ะๆๆๆๆๆๆ" อาร์ตบดสะโพกกระแทกกระทั้นเข้าออกรุนแรง ซอยถี่ยิบอย่างไม่คิดผ่อนแรงหมุนควงสะโพกสลับไปมา จนคนโดนกระทำแบบพีทได้แต่นอนดิ้นพล่านส่งเสียงคราง

   อาร์ตตั้งหน้าตั้งตากระแทกเข้าไปไม่หยุด สอดรับกับสะโพกบางที่ส่ายร่อนและช่องทางที่ตอดรัดอย่างบ้าคลั่ง ก่อนเน้นหนักในครั้งสุดท้ายแล้วปลดปล่อยออกมาจนล้น พร้อมกันกับพีทที่ปลดปล่อยออกมาเต็มหน้าท้องเนียน

   "อ๊าาาาาาา"

   อาร์ตก้มมองพีทที่นอนหายใจกระเส่าด้วยสายตาร้อนแรง ใช้นิ้วมือป้ายน้ำรักที่หน้าท้องขึ้นมาก่อนจะส่งเข้าไปในโพรงปากนุ่ม พร้อมกับมืออีกข้างที่ขยี้ยอดอกอีกฝ่ายอย่างรุนแรง ก่อนจะยกยิ้มมุมปากออกมาอย่างชอบใจ เมื่อพีทอ้าปากดูดดึงนิ้วมือของตัวเองและส่งลิ้นไล่เลียไปทั่ว รวมทั้งช่องทางรักที่กลับมาตอดรัดอีกครั้ง

   อาร์ตดึงนิ้วมือออกมาจากโพรงปากนุ่ม ก่อนจะก้มลงประกบจูบแลกลิ้นอย่างเร่าร้อน พร้อมกับสะโพกที่ขยับเข้าออกเพื่อเริ่มยกต่อไปอีกครั้ง

   นอกจากจะถูกตาถูกใจดูแล้วเรื่องบนเตียงก็คงจะเข้ากันได้ดีและคงจะดีมากเป็นพิเศษ เขาว่าคืนนี้คงได้ศึกษาจังหวะกับคนตัวเล็กทั้งคืน ก็ถ้าเด็กมันจะยั่วเขาได้ขนาดนี้ล่ะนะ

   "อ๊าาา...พี่อาร์ต" เสียงหวานครางลั่นขึ้นมาอีกครั้งและคงจะดังแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าอาร์ตจะพอใจ



2 Be Con...
+++++++++++
คุยกันซักนิดนะยูว์

ตอนนี้นิยายลงครบทุกตอนที่มีในสต๊อกแล้วนะคะ
หลังจากนี้จะอัพเฉลี่ยอาทิตย์ละสองตอน
เรื่องนี้เป็นแนวเบา เกรียนๆ ฮาๆ ไม่เน้นดราม่า
อาจจะมีมาให้เห็นบ้างเพื่อไม่ขาดอรรถรส
รักคนอ่านจ้า ^^

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
อะจ๊า ฝังมุกซะด้วย  :ling1:
พีทถึงดิ้นหนี  :heaven
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
อิย๊ะะะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ฟ้าเหลืองแน่ๆ

ออฟไลน์ matchty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
    • MATCHTY-แมตตี้
คู่กัดฉบับรักเกินร้อย

By matchty



กัดครั้งที่

- 13 -



            อาร์ตสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาในช่วงสายของอีกวัน เพราะไอร้อนจากคนในอ้อมกอดที่แผ่ออกมาจนรู้ทำให้รู้สึกตัว อาร์ตลุกขึ้นนั่งในสภาพที่ยังตื่นไม่เต็มตาเท่าไหร่ เหลือบตามองคนข้างกายด้วยความเป็นห่วงลองเอาฝ่ามือไปสัมผัสดู ถึงได้แน่ใจว่าอีกคนไม่สบายไปแล้วจริงๆไม่ใช่ว่าตัวเองละเมอ



            อาร์ตคว้าเอากางเกงที่เขวี้ยงทิ้งเมื่อคืนขึ้นมามาใส่ หยิบโทรศัพท์มาดูเวลาถึงได้รู้ว่าตอนนี้พึ่งจะเที่ยงเท่านั้้นเอง หันหลังก้าวขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างหน้า สะบัดหัวไปมาเล็กน้อยเพื่อไล่ความง่วงงุน



            เขาจะมีสภาพแบบนี้ก็คงไม่แปลกจำได้ลางๆ ว่าตัวเองปล่อยให้อีกคนได้นอนตอนพระอาทิตย์โผล่มาให้เห็นเข้าไปแล้ว และนี้พึ่งจะเที่ยงแสดงว่าเขาได้นอนแค่ไม่กี่ชั่วโมง ตากวาดมองไปรอบๆห้องน้ำก่อนจะเดินไปหยิบกะละมังใบเล็กมาลองน้ำ พร้อมกับหยิบผ้าผืนเล็กเพื่อออกไปเช็ดตัวให้คนที่นอนซมอยู่



            อาร์ตวางกะละมังในมือลงที่หัวเตียง เดินไปปิดแอร์และเปิดประตูระเบียงเพื่อให้อากาศถ่ายเท ก่อนจะกลับมานั่งลงที่ข้างเตียงหยิบผ้าชุบน้ำแล้วบิดจนหมาด เลิกผ้าห่มออกจากร่างบางที่นอนกระสับกระส่าย แล้วลงมือเช็ดไปตามลำตัวทีละจุดช้าๆเพื่อไล่ความร้อนในร่างกาย

            “อื้อ” พีทส่งเสียงครางประท้วงในลำคอ มือเล็กพยายามปัดสิ่งที่มาวุ่นวายบนตัวพร้อมทั้งพลิกตัวหนีด้วยความรำคาญ



            อาร์ตได้แต่ส่ายหน้าให้กับท่าทางของพีท คนมันดื้อขนาดไม่รู้สึกตัวก็ยังดื้อ ตั้งหน้าตั้งตาเช็ดลงไปบนลำตัวขาวผ่องที่ตอนนี้มีรอยแดงกระจายไปทั่วต่อไป จนกระทั่งถึงขาเรียวยาวที่เปื้อนคราบอารยธรรมเมื่อคืน เช็ดทำความสะอาดไปเรื่อยพร้อมกับสมองที่นึกขึ้นมาได้ ว่าหลังจบศึกรักกันไปคนตัวเล็กไม่ได้ทำความสะอาดข้างในแน่ๆ



            เมื่อคิดได้แบบนั้นอาร์ตก็หยุดมือตัวเองลงจัดการอุ้มอีกฝ่ายขึ้นเพื่อพาไปห้องน้ำ เข้ามาด้านในก็พาตัวเองนั่งลงบนฝาชักโครกโดยที่ให้พีทนั่งบนตัก เอื้อมมือไปเปิดฝักบัวแล้วดันนิ้วชี้เข้าไปในช่องทางรัก ก่อนจะควานนิ้วเพื่อล้วงเอาสิ่งที่ตัวเองปลดปล่อยภายในออกมา



            “อ่ะ...อื้อ…พี่อาร์ต” พีทปรือตาขึ้นมามองเพราะความเจ็บแสบที่ได้รับทำให้รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา สมองเบลอไปหมดทำให้สิ่งที่เห็นค่อนข้างพร่ามัวแต่มองออกว่าเงาลางๆตรงหน้าคือใคร ร่างกายมันหนักอึ้งเหมือนโดนถ่วงด้วยหินหัวมันปวดจนแทบจะระเบิดเอกสาร



            “หนาว...พีทปวดหัว” พีทพึมพำออกมาเสียงแผ่วยกแขนโอบคออาร์ต พร้อมทั้งถูไถหัวไปมาที่แผ่นอกอ้อนๆ



            อาการหนาวสั่นและท่าทางออดอ้อนที่แสดงออกของพีท ทำเอาอาร์ตได้แต่นั่งอมยิ้มชอบใจเหมือนคนบ้า ทั้งที่ในใจก็รู้สึกสงสารที่เป็นสาเหตุทำให้อีกฝ่ายเป็นขนาดนี้  แต่ลึกๆข้างในมันโคตรจะมีความสุขยิ่งเห็นทั่วผิวขาวๆ เป็นรอยแดงที่เกิดจากฝีมือตัวเองแล้วยิ่งมีความสุข ก็มันเป็นหลักฐานว่าคนในอ้อมกอดตอนนี้เป็นของเขา




            หลังจากแน่ใจว่าทำความสะอาดให้เรียบร้อย อาร์ตก็จัดการอุ้มพีทขึ้นและเดินไปวางเจ้าตัวลงบนที่นอนอย่างเบามือ แล้วเดินไปหาเสื้อผ้ามาใส่ให้คนป่วยแต่ก่อนจะลงมือก็จับขาเรียวแยกออกกว้าง เพื่อดูช่องทางรักของอีกฝ่ายด้วยความเป็นห่วงเพราะเมื่อคืนเขาเองก็รุนแรงไม่น้อย



            อาร์ตพ้นลมหายใจออกมาหนักๆเมื่อเห็นในสิ่งที่ต้องการ ช่องทางรักสีสดตอนนี้ค่อนข้างบวมและแดงช้ำ ปากทางเข้าเผยอออกเล็กน้อยและมีร่องรอยฉีกขาดแต่ไม่ได้รุนแรงอะไร มือหนาถูกยกขึ้นมาขยี้หัวตัวเองแรงๆด้วยความหงุดหงิด ปากก็สบถด่าตัวเองไปมาไม่หยุด ก่อนจะลงมือใส่เสื้อผ้าให้คนตัวเล็กและโน้มตัวไปกดจูบลงบนหน้าผากแผ่วเบา




            “พารา...กินได้ป่ะวะ” อาร์ตขมวดคิ้วมุ่นมองแผงยาในมือที่คุ้ยออกมาจากกล่องยาเมื่อคืน ลังเลใจไม่น้อยเพราะไม่รู้ว่าจะเอาให้คนตัวเล็กกินดีไหม แต่ทั้งกล่องก็ไม่มียาอะไรแล้วเหมือนกันนอกจากพาราในมือ แต่ก็อีกนั้นแหละอีกฝ่ายยังไม่มีอะไรรองท้องเลยด้วยซ้ำให้กินยาไปมันจะกัดกระเพาะรึเปล่าก็ไม่รู้ เห็นเขาเป็นแบบนี้จริงๆไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้เท่าไหร่หรอกนะ



            “เอาวะ” อาร์ตมองยาในมืออย่างชั่งใจเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินไปรินน้ำใส่แก้ว แล้วถือของทั้งสองอย่างไปหาคนที่นอนซมอยู่



            “พีทครับ...ตื่นมากินยาเร็ว” อาร์ตวางแก้วน้ำลงบนหัวเตียง ก่อนจะเขย่าตัวอีกฝ่ายเบาๆเพื่อปลุกให้ตื่น



            “อื้อ...” พีทส่งเสียงครางประท้วงในลำคอแผ่วเบาแต่ไม่มีท่าทีที่จะตื่นขึ้นมาแต่อย่างใด อาร์ตเลยตัดสินใจส่งยาในมือเข้าปากตัวเองและตามด้วยน้ำ ก่อนจะก้มลงประกบจูบอีกฝ่ายเพื่อป้อนยาแทน



            อาร์ตผละออกมามองใบหน้าที่นอนไม่รู้สึกตัวด้วยความเป็นห่วง เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไอ้ยาพาราที่ป้อนไปนั้นจะช่วยได้แค่ไหน แต่มันก็คงดีกว่าปล่อยอีกฝ่ายให้นอนซมอยู่แบบนี้




            จากนั้นอาร์ตก็ลุกขึ้นมายืนข้างเตียงยกมือลูบแก้มเนียนที่แดงปลั่งเพราะพิษไข้แล้วผละออกห่างก่อนจะเดินไปอาบน้ำเพราะตัดสินใจแล้วว่าจะออกไปข้างนอก เพื่อหาซื้อยารวมถึงข้าวมาให้คนป่วยกินและถ้ายังไม่หายคงต้องหอบกันไปหาหมอ



            ...

            ...



            หลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวรวมทั้งเช็ดตัวให้พีทอีกรอบเสร็จเรียบร้อย อาร์ตก็เดินลงมาข้างล่างเงียบๆพร้อมกับระลึกขึ้นมาได้ว่าตอนนี้ ตัวเองไม่ได้อยู่ที่หอพักแต่มานอนที่บ้านของพีท ระหว่างทางสายตาก็มองไปรอบๆบ้านอย่างสนใจ



            “เหี้ย!! บ้านใหญ่อย่างกับวัง ดอกฟ้ากับหมาวัดชัดๆ” อาร์ตพึมพำแผ่วเบาพร้อมส่ายหัวและขำให้กับความคิดตัวเอง สิ่งที่เปรียบไม่ได้เกินจริงเลยสักนิดและเขาก็เป็นหมาวัดที่กำลังเด็ดดอกฟ้ามาชม แถมข้ามขั้นเด็ดไปไกลเพราะเล่นสอยลงมากอดไปแล้วด้วย ได้แค่หวังว่าผู้ปกครองของดอกฟ้าจะไม่ดุล่ะนะ



            “อุ้ย!! เข้ามาได้ไงคะ” เสียงทักอย่างตกใจที่ดังขึ้น ทำให้อาร์ตหลุดจากความคิดทั้งหมดแล้วหันไปมองคนทักด้วยความสนใจ ก่อนจะส่งรอยยิ้มละมุนอันเป็นเอกลักษณ์ไปให้คนตรงหน้า



            “มากับน้องพีทน่ะครับ...เมื่อคืน” อาร์ตยังคงส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจไปให้หญิงวัยกลางคนตรงหน้าที่มองมาด้วยความไม่ไว้ใจ



            “อ้อ...เพื่อนคุณหนูเหรอคะ” เมื่อได้รับคำตอบอีกฝ่ายก็แสดงท่าทีเป็นมิตรขึ้น พร้อมส่งยิ้มกลับมาให้



            “ครับ” อาร์ตตอบพร้อมกับพยักหน้าน้อยๆเพื่อยืนยัน ในใจอยากจะตอบออกไปว่าไม่ใช่เพื่อแต่เป็นผัวก็กลัวว่าคนตรงหน้าจะเป็นลมเอา



            “งั้นคุณจะทานเช้าเลยไหมคะป้าจะได้สั่งให้เด็กตั้งโต๊ะ” หญิงวัยกลางคนหรือหัวหน้าแม่บ้านที่พ่วงตำแหน่งพี่เลี้ยงของพีท เอ่ยปากถามอาร์ตด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและเอ็นดู ไม่รู้ทำไมเหมือนกันทั้งๆที่เจอกันครั้งแรก เธอถึงได้รู้สึกถูกชะตาพ่อรูปหล่อที่เป็นเพื่อนคุณหนูคนนี้นัก



            อาร์ตที่เกิดมาพึ่งเคยเจอคนแสดงความนอบน้อมในลักษณะนี้เป็นครั้งแรกใส่ ก็เกิดอาการกระอักกระอ่วนในใจแปลกๆเลยได้แต่ส่งยิ้มแหยไปให้




            “เอ่อ...ไม่ดีกว่าครับ” อาร์ตปฎิเสธออกไปด้วยความเกรงใจ เกิดมาโตจนหมาเลียก้นไม่ถึงเวลาหิวก็หากินเองตลอด ไม่เคยมีหรอกคนจะมาถามแล้วหาข้าวให้กินแบบนี้ เห็นแบบนี้ยิ่งเห็นความต่างในชีวิตตัวเองกับว่าที่เมียชัดเจน น้องพีทของเขานี่ลูกคุณหนูตัวจริงเสียงจริงแบบไม่ต้องแอ๊บแน่นอน



            “งั้นป้าขอตัวก่อนนะคะ” หัวหน้าแม่บ้านส่งยิ้มให้อาร์ตเล็กน้อยก่อนจะเดินเลี่ยงไปทางหลังบ้าน เพื่อจะไปจัดการงานบ้านที่ยังทำค้างเอาไว้



            “เอ่อ...ป้าครับ” อาร์ตส่งเสียงเรียกอีกฝ่ายเอาไว้ ซึ่งเจ้าตัวก็หันกลับมาส่งยิ้มเป็นคำถาม



            “ป้าพอจะบอกได้ไหมครับว่าร้านขายยาอยู่ตรงไหน” อาร์ตเอ่ยถามในสิ่งที่ต้องการออกไป เพราะมันคงจะดีกว่ามานั่งเดาสุ่มงมโข่งหาเองให้เสียเวลา



            “ปากซอยทางเข้าหมู่บ้านค่ะ...ว่าแต่คุณไม่สบายเหรอคะ” หัวหน้าแม่บ้านถามด้วยความเป็นห่วง




            “ไม่ใช่ผมหรอกครับ...แต่เป็นน้องพีท”




            “ตายแล้ว...ไปหาหมอดีกว่าไหมคะ” อีกฝ่ายถามอาร์ตด้วยสีหน้าท่าทางตกใจและเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด



            “เอ่อ...ไม่ต้องหรอกครับแค่หวัดธรรมดา” อาร์ตตอบกลับไม่เต็มเสียงและหลบตาคนสูงวัยกว่าอย่างคนมีความผิด ขืนหิ้วกันไปโรง’บาลมีหวังรู้หมดว่าป่วยเพราะอะไร แล้วเขาคงไม่แคล้วเข้าตะรางข้อหาพรากผู้เยาว์ ว่าที่เมียจะกำพร้าผัวเอาได้เลยนะ...ไม่ดีๆ



            “แน่ใจนะคะ คุณหนูเธอยิ่งเป็นเด็กป่วยง่ายๆอยู่” อีกฝ่ายยังคงถามด้วยใบหน้ากังวล



            “แน่ใจครับ ผมคิดว่าเช็ดตัวกินยานอนพักผ่อนคงดีขึ้น” อาร์ตยืนยันเสียงแข็ง



            “ถ้าคุณยืนยันแบบนั้นป้าก็โล่งอกค่ะ ยังไงให้ป้าดูคุณหนูเองก็ได้นะคะเกรงใจคุณ”




            “ไม่เป็นไรครับไม่รบกวนเลยผมเต็มใจ แต่ฝากป้าทำอะไรอ่อนๆไว้ให้คนป่วยกินหน่อยได้ไหมครับ”



            “ได้ค่ะ ยังไงถ้าคุณจะออกไป เอารถมอเตอร์ไซค์ของหลานชายป้าขับไปก็ได้นะคะ”



            “ขอบคุณนะครับ” อาร์ตยกมือไหว้นอมน้อมเรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากคนสูงวัยได้ไม่ยาก



            “ขับรถระวังๆนะคะ งั้นป้าขอตัวไปทำข้าวต้มเสร็จแล้วจะให้เด็กยกขึ้นไปให้ข้างบนนะคะ”




            “ขอบคุณนะครับ” อาร์ตยกมือไหว้อีกครั้งพร้อมกับมองตามอีกฝ่ายที่เดินจากไป ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกแล้วรีบออกไปซื้อยาทันที



            ...

            ...



            แกร๊ก!!



            อาร์ตเปิดประตูกลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้งหลังจากหายไปซื้อยาพักใหญ่ และก็ต้องเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจไม่น้อยที่เห็นคนป่วยลุกขึ้นมานั่ง และมองมาที่เขาเขม็งใบหน้าหวานงอง้ำแสดงความไม่พอใจออกมา



            “ไปไหนมา” พีทถามด้วยเสียงค่อนข้างแหบพร่าแต่แฝงความไม่พอใจ เขารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะป้าอุ่นเอาข้าวมาให้ พอมองไปรอบๆแล้วไม่เห็นใครอีกคนอยู่ในห้อง เลยรู้สึกหงุดหงิดโมโหขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก



            “ซื้อยา” อาร์ตยกถุงยาในมือขึ้นแล้วแกว่งไปมา พีทมองตามแล้วพยักหน้ารับรู้แต่ไม่พูดอะไร ก่อนจะนอนลงไปตามเดิมพร้อมทั้งหันหน้าหนีไปอีกทาง



            อาร์ตมองท่าทางแบบนั้นด้วยความงงก่อนจะยิ้มออกมาและส่ายหัวเบาๆ เดินเอายามาวางไว้บนหัวเตียงพร้อมทั้งเอามือมาอังหน้าผากอีกฝ่ายเพื่อวัดไข้ ก่อนจะแกะเอาเจลลดไข้ไปแปะไว้บนหัวคนตัวเล็ก



            “ทำอะไร” พีทเค้นเสียงถามด้วยความตกใจเพราะจู่ๆอีกฝ่ายก็จับขาเขาอ้าออกกว้าง แถมยังถอดกางเกงออกอีกจะดิ้นจะขัดขืนก็ไม่มีแรง หวังว่าไอ้พี่อาร์ตมันคงไม่อุตริทำอะไรบ้าๆนะ



            “ไม่ทำอะไรน่าจะทายาให้” อาร์ตแกว่งหลอดยาในมือให้พีทดู ก่อนจะเปิดฝาบีบยาออกมาแล้วป้ายลงไปที่ด้านหลัง



            “อะ...อื้อ” พีทครางออกมาแผ่วเบาด้วยความเจ็บปนแสบ สัมผัสได้ถึงความเย็นของตัวยาและนิ้วมือที่บรรจงทาให้



            “อ่ะ...เสร็จแล้ว” อาร์ตส่งยิ้มและส่งสายตาวิบวับไปให้พีท จนเจ้าตัวต้องหลบสายตาด้วยความเขิน ใจอยากจะอ้าปากด่าแบบที่ชอบทำ แต่ตอนนี้นอนเฉยๆยังเหนื่อยเลย




            จุ๊บบบบบ



          อาร์ตยืดตัวขึ้นไปจูบปากพีทด้วยความหมันเขี้ยว และสิ่งที่ได้กลับมาคือสายตาเอาเรื่องของอีกฝ่าย ที่จ้องมองมาแบบกินเลือดกินเนื้อตาแทบจะถลนออกจากเบ้า อาร์ตเลยก้มลงไปหอมแก้มซ้ำอีกครั้งเป็นของแถม



            “ฮ่าๆๆๆ” อาร์ตหัวเราะออกมาอย่างชอบใจก่อนจะเดินเลี่ยงไปล้างมือในห้องน้ำ ทิ้งให้พีทนอนฮึดฮัดใบหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอยู่คนเดียว



            อาร์ตกลับออกมาอีกครั้งพร้อมกับมองชามข้าวต้มบนโต๊ะสลับกับใบหน้าของพีทไปมา ก่อนจะเดินไปถือขึ้นมาไว้ในมือแล้วเดินไปนั่งลงข้างเตียง



            “พีท...ทำไมไม่กินข้าวล่ะเย็นหมดแล้วนะ” อาร์ตยกมือลูบหัวอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน ซึ่งเจ้าตัวไม่ตอบอะไรนอกจากนอนหันหลังให้ เป็นอาการที่แสดงออกให้รู้ว่ากำลังงอนเขาอีกแน่นอน



            “พีท” ส่งเสียงเรียกอีกครั้งแต่เจ้าตัวก็ยังทำเฉย



            "พีทครับอย่าดื้อ...ลุกมากินข้าวกินยาเร็ว" อาร์ตยังคงไม่ละความพยายามส่งเสียงเรียกต่อไป



            "..........." พีททำเป็นหูทวนลมไม่สนใจต่อไป เรียกได้เรียกไปสิไม่สนใจซะอย่างจะทำอะไรเขาได้



            "เราไม่สบายอยู่นะอย่าดื้อลุกเร็ว" อาร์ตบอกอย่างอ่อนใจอะไรมันจะช่างต่อต้านและขยันดื้อกับเขาได้ขนาดนั้น นี่ทั้งๆที่ไม่สบายอยู่นะยังจะซ่าอีก



            "ก็ที่เป็นแบบนี้มันเพราะใครล่ะ" พีทเถียงออกมาเสียงเบาแต่อาร์ตก็ได้ยิน แถมยังจับน้ำเสียงได้ด้วยว่ากำลังไม่พอใจสุดๆ



            "เพราะพีทเลย...ใครใช้ให้น่ารัก น่าฟัด น่าเอ..." อาร์ตโยนความผิดให้พีททันทีแบบไม่คิดเยอะ



            "พอๆๆเลยแม่ง!!" พีทที่โดนกวนประสาทเค้นเสียงโวยวายออกมา



            "นี่พี่จริงจังนะ" อาร์ตทำเสียงขึงขังเพื่อยืนยันขำพูดของตัวเอง



            "ไอ้เหี้ยพี่อาร์ต!!!" พีทหันกลับมาตวาดใส่ด้วยใบหน้าแดงก่ำเพราะความเขิน ก่อนจะสะบัดหน้าหนีนอนหันหลังให้แบบเดิม



            "อ้าว...งอนอีกละ อย่างอนพี่เลยนะครับคนดี พี่ขอโทษดีกันนะ" อาร์ตส่งเสียงอ้อนพร้อมกับยื่นนิ้วก้อยแล้วแกว่งไปมา



            "........." พีทที่เห็นอารืตทำแบบนั้นก็นอนอมยิ้มชอบใจ แต่แกล้งทำเป็นไม่สนใจ



            "ไม่หายงอนจับจูบนะ" อาร์ตลองเปลี่ยนมาขู่บ้างแต่พีทก็ยังคงเงียบเหมือนเดิม



            ".........."



            "ไม่มองหน้าก็จับจูบ" อาร์ตยังคงขู่ต่อไปแต่ก็เหมือนเดิมพีทยังคงเงียบ



            "............"



            "ไม่พูดด้วยพี่ก็จับจูบ" อาร์ตลองขู่ไปอีกครั้งและรอบนี้ก็ได้ผล เพราะพีทยอมพลิกตัวหันกลับมาเผชิญหน้ากับเขาสักที



            "นี่จะจูบให้ได้เลยใช่ไหม คิดอย่างอื่นบ้างป่ะถามจริง" พีทถามอาร์ตด้วยใบหน้าบึ้งตึง มองใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มทะเล้นของอารืตด้วยความหมั่นไส้



            "คิดดิ....แต่มันต้องรอให้เด็กดื้อหายป่วยก่อน...เนาะ" อาร์ตอมยิ้มกวนแล้วตอบแบบสองงาสองง่าม



            "ไอ้เหี้ย..." พีทหน้าแดงขึ้นอีกครั้งทันทีกับคำตอบของอาร์ต พร้อมกับอ้าปากเรียกขานสรรพนามที่สองของอาร์ตไปด้วย



            "ต่อไปนี้เหี้ยคำนึงต่อหนึ่งยกนะ" อาร์ตหรี่ตามองแล้วขู่ออกไปถึงจะไม่ได้คิดอะไรมากมาย แต่ให้เมียมาเรียกเหี้ยเช้าเหี้ยเย็นแบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน สู้ครางเสียงหวานๆเรียกพี่อาร์ตจะดีกว่า



            "อะ อะ ไอ้เหี้ย" พีทมองอาร์ตตาโตและด่าออกไปด้วยความชิน



            "นั่นไงบวกหนึ่ง" อาร์ตยักคิ้วกวนประสาทส่งให้ มาลองดูกันเขายังไงก็ได้ให้เรียกเหี้ยทั้งชีวิตยังได้ แต่ก็เป็นไปตามเงื่อนไขแล้วกันนะ

            "ไอ้เหี...ฮึ่ย...แม่ง!!" พีทที่อ้าปากจะด่าอีกครั้งยอมหยุดลง แล้วฮึดฮัดออกมาอย่างหงุดหงิด



            "หึ หึ กินข้าวกินยาเร็วรีบๆหาย พี่จะได้ทำในสิ่งที่คิด" อาร์ตขำออกมาในลำคออย่างพอใจแต่ก็ไม่วายแหย่พีททิ้งท้าย ก่อนจะพยุงเจ้าตัวให้ลุกขึ้นนั่งแล้วลงมือป้อนข้าวและส่งยาให้กินเป็นการปิดท้าย



            Tru…Tru…Tru…



          เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นมาทำให้ทั้งพีทและอาร์ตหันไปมองอย่างสนใจ ก่อนจะเป็นอาร์ตที่เดินไปรับสายเมื่อเห็นว่าเป็นของตัวเอง



            “ครับพี่” อาร์ตส่งเสียงทักทายปลายสายเมื่อรู้ว่าใครโทรมา



            “(เอออาร์ตวันนี้มึงเข้าร้านเร็วหน่อยได้ไหมวะ)”



            “ได้พี่...แล้วจะให้เข้ากี่โมง” อาร์ตตอบตกลงทันทีพร้อมกับเดินเอาชามข้าวไปวางที่โต๊ะมุมห้อง



            “(หกโมงได้ไหมวะ)”



            “หกโมง...ดะ...” อารืตที่กำลังจะตอบตกลงอีกครั้งหันไปสบตากับพีทที่มองมาพอดี เล่นเอาชะงักคำพูดของตัวเองแทบไม่ทัน เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะรู้ตัวไหมว่ามองเขาด้วยสายตาแบบไหน แต่เขานี่ใจสั่นไปหมดกับไอ้สายตาอ้อนและท่าทางหงอยๆของเจ้าตัว



            “(อาร์ต...ไอ้อาร์ต)”



            “โทษทีว่ะพี่...วันนี้ผมขอหยุดงานได้ป่ะวะ” อาร์ตตัดสินใจเปลี่ยนเป็นหยุดงานแทนเพราะนอกจากโดนอ้อนทางสายตาแล้ว ในใจเขาก็ไม่อยากทิ้งคนตัวเล็กไว้ทั้งๆที่ยังป่วยเหมือนกัน



            พีทที่ได้ยินแบบนั้นแววตาที่กำลังเศร้าก็เปลี่ยนมาเป็นประกายทันที พร้อมทั้งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างพอใจ



            “(อ้าว ไม่ว่างเหรอวะมีอะไรรึเปล่า)”



            “เปล่าพี่...พอดีต้องเฝ้าเด็กป่วยว่ะ เห็นหน้าหงอยแล้วไม่อยากทิ้ง”



            “(ห๊ะ...นี่มึงไปติดเด็กที่ไหนวะ)”



            “เอาน่า...เจอหน้าเดี๋ยวเล่าให้ฟังแค่นี้นะพี่” อาร์ตว่าแค่นั้นแล้วรีบวางสายไป หันมาสบตากับคนบนเตียงที่นอนยิ้มพอใจ เห็นแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมาด้วยความขำปนเอ็นดู ก่อนจะถอดเสื้อยืดตัวใหญ่ของพีทที่ไปค้นมาใส่เมื่อเช้าออก แล้วเดินกลับไปหาพร้อมทั้งล้มตัวนอนข้างๆและดึงอีกฝ่ายมากอด



            "มองไม" พีทถามอีกฝ่ายอย่างหาเรื่องกลบเกลื่อนความเขินของตัวเอง



            "มองเมีย" อาร์ตตอบหน้าตายพร้อมทั้งยักคิ้วให้



            "ใครเมีย...ไม่มีเหอะ" พีทอ้อมแอ้มปฏิเสธเสียงเบา พร้อมกับก้มหน้างุดหลบสายตาวิบวับของอีกฝ่าย



            "อ้าว...งั้น...พี่มองหน้าแฟนก็ได้" อาร์ตทำตีมึนเล่นตามน้ำไป



            "ตลก...โสดเว้ย!! ไม่มีแฟน" พีทโวยวายออกมาอย่างไม่ยอมรับ



            "เฮ้ย!! อย่าบอกนะแค่กิ๊กกันน่ะ" อาร์ตก้มลงมองพีทตาโต



            "เออ!! หน้าแบบนี้ให้เป็นกิ๊กก็ดีละ" พีทยักคิ้วส่งคืนให้บ้างแล้วเอามือไปบิดจมูกอาร์ตแรงๆ



            "โหยยย ใจร้ายว่ะได้เราแล้วก็ทิ้งๆขว้างๆ แถมยังให้เป็นแค่กิ๊ก" อาร์ตแกล้งทำเสียงกระเง้ากระงอดใส่พีท พร้อมทั้งตีหน้าเศร้าที่เด็กอนุบาลเห็นก็รู้ว่าแกล้งทำ



            "ไอ้เหี้ยพี่อาร์ต!! ใครได้ใครกันแน่วะ พูดดีๆนะ แม่ง!!!" พีทโวยวายลั่นด้วยความโมโหปนเขินอาย พูดออกมาได้หน้าด้านๆคนที่เสียมันเขาต่างหากล่ะ



            "ฮ่าๆ จริงๆให้พี่อยู่ตำแหน่งไหนก็ได้นะ เป็นอะไรก็ได้" อาร์ตหัวเราะชอบใจและสบตาพีทด้วยแววตาจริงจังแต่อ่อนโยน



            "แต่ตรงนี้เป็นของพี่" อาร์ตพูดพร้อมกับกดจูบลงบนหน้าผาก



            "ตรงนี้ก็ของพี่" แล้วก็ย้ายมาจูบลงบนเปลือกตาทั้งสองข้าง



            "ตรงนี้ก็เป็นของพี่" เลื่อนมาจูบลงบนแก้มใส



            “ทั้งหมดนี้เป็นของพี่” ไล่จูบที่ริมฝีปาก ปลายจมูก ซอกคอขาว และหลังมือเล็กเป็นที่สุดท้าย



            "เป็นของพี่แล้วนะ...อะไรที่เราผ่านมาพี่จะไม่ถาม แต่ต่อไปนี้อย่าให้ใครแตะเราง่ายๆอีกนะครับ...พี่หวง" อาร์ตว่าพร้อมรอยยิ้มละมุน อบอุ่นและอ่อนโยน



            โดยที่พีทได้แต่ตาพร่าเขินอายไปกับสิ่งเหล่านั้น สายตามองไปยังใบหน้าหล่อเหลาอย่างสับสน พร้อมกับเสียงหัวใจที่เต้นดังยิ่งกว่าทุกครั้งที่เคยเต้นมา

 

2 Be Con...

+++++++++++++

คุยกันซักนิดนะยูว์

ไม่มีอะไรนอกจากจะบอกว่า

อิจอีนู๋พีท เกลียดนางแรง บอกเลย

ตั้งใจว่าหลังเรียบจบจะให้ไอ้พี่อาร์ต

ไปเป็นเจ้าของโรงงานน้ำตาลกับโรงงานน้ำมัน

ขยันหวาน ขยันเลี่ยนเหลือเกินพอคุณ

รักคนอ่านคับ ^^

ปล.ที่ช้าเพราะยุ่งเรื่องงาน มันใกล้วันหยุดยาว ขออภัย
[/color]

ออฟไลน์ ma-prang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
อ่านจบต้องกรีดร้องเรียกหาพี่อาร์ตตตตตตตตต
ดีงามม

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2
แวะมาปาดก่อนค่าา อ้ายย คู่นี้ ดีใจจังได้อ่านแล้ว
จะติดตามนะคะ  :mew1:

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2
พีทขี้ดื้ออออ ฮืออ แต่เด็กดื้อก็น่ารักกก
ว่าแต่พี่หมออะไรนั่นคือไรอะ
เคยรักกันมาก่อนหรอ ยังไงอะ คึคึ
รออ่านต่อค่า

ออฟไลน์ mmello07

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอ๊ยๆๆๆรถน้ำตาลก็มา
อิจน้องพีทจริงจัง :impress2:

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
รู้สึกว่าพี่อาร์ตน่ารัก  :o8:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด