ดื้อรัก ♥♥ คุณพ่อลูกติด ตอน5
ตอนนี้บราวนี่ตกอยู่ในสภาวะจำยอมกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะโดนสองพ่อลูกตั้งข้อแม้ว่าถ้าไม่ให้โชวาไปนอนที่บ้านด้วย บราวนี่ต้องไปส่งโชวาที่บ้าน เพื่อแลกเปลี่ยนกับความเป็นส่วนตัวในคืนนี้ ไม่ว่าจะทำอะไรก็เข้าทางสองพ่อลูกไปซะทุกอย่าง จนบราวนี่ต้องนั่งรถมาส่งโชวาอย่างหาทางปฏิเสธไม่ได้เลย คนตัวเล็กนั่งนิ่งราวกับไร้ความรู้สึก เพราะการที่โดนพ่อลูกคู่นี้ตามรังควานตลอดเวลาทำให้คนที่รักอิสระอย่างบราวนี่อึดอัดโดยไม่รู้ตัว จากที่เคยไปไหนมาไหนได้ดั่งใจตัวเอง ตอนนี้กลับต้องมาทำตามคำสั่งของเด็กน้อยวัยแค่สี่ขวบ กับมาเฟียเจ้าเล่ห์อีกหนึ่งคน
"บราวนี่ส่งโชวาแล้วอยู่เล่นกับโชวาก่อนนะ" เด็กชายตัวน้อยที่นั่งยิ้มหน้าบานอยู่บนรถตู้คันใหญ่หันมาพูดกับบราวนี่ที่กำลังนั่งใจลอยคิดไปเรื่อยเปื่อย
"ห๊ะ! อะไรนะ" บราวนี่ที่หลุดจากภวังค์หันขวับมามองโชวาโดยเร็ว
"บราวนี่อยู่เล่นกับโชวาก่อนค่อยกลับนะ" เด็กน้อยปีนข้ามเบาะนั่งแถวหน้าไปหาบราวนี่ที่นังอยู่ด้านหลังทันที
"ไม่เอา มันเย็นมากแล้วกว่าบราวจะกลับถึงบ้านอีก คงดึกพอดี"
"ถ้าดึกบราวก็นอนกับโชวาสิ" ชาร์ลเอ่ยขึ้นเมื่อสองคนไม่สามารถยุติข้อพิพาทระหว่างกันได้ ยังไงก็จะให้อยู่ด้วยกันให้ได้เลยใช่ไหม ทำไมไม่ให้เวลาเขาได้เตรียมใจบ้างเลย ทั้งสองพ่อลูกได้แต่ทำทุกอย่างตามอำเภอใจของตนเอง ไม่ให้ร่างเล็กตัดสินใจอะไรด้วยตัวเองเลยสักครั้ง
"ไม่ครับผมจะกลับเลย" บราวนี่เอ่ยปฏิเสธในทันที เพราะ แค่นี้ก็มากเกินไปแล้ว สำหรับคนที่ไม่เคยเกี่ยวข้องกัน
"บราวนอนบ้านโชวานะ" เด็กน้อยเริ่มส่งสายตาเป็นประกายราวกับมีความหวังว่าจะได้อยู่กับร่างเล็กอย่างแน่นอน
"อย่าพูดไม่รู้เรื่อง แค่นี้ก็เบื่อ รำคาญจะแย่" บราวนี่เอ่ยอย่างเหลืออดหลังจากที่พยายามระงับอารมณ์กรุ่นโกรธในใจมานาน
"ช่วยพูดกับโชวาดีๆ หน่อยได้ไหม เธอก็รู้ว่าโชวายังเด็ก เขาก็พูดไปตามความคิดของเขาเท่านั้น ถ้าเธอไม่อยากที่จะมานอนบ้านฉันก็ไม่ต้องนอน" ชาร์ลเอ่ยเสียงนิ่ง ใช่ว่าเขาอยากจะบังคับให้บราวนี่มานอนที่บ้าน แต่ในเมื่อลูกชายตัวน้อยของเขาก็แค่เด็กที่เวลารักใคร ก็คงอยากให้คนนั้นอยู่ด้วยตลอดเวลา
"เด็กผีน่ะสิ เอาแต่ใจชะมัด" บราวนี่ยังไม่เลิกแขวะเด็กน้อยที่ตอนนี้นั่งมองผู้ใหญ่ทั้งสองคนวิวาทกันอย่างไม่มีใครยอมใคร เด็กตัวน้อยมองด้วยความสงสัยที่ทั้งพ่อและบราวนี่ต่างทำท่าถมึงทึงใส่กัน
"จะมากเกินไปแล้วนะ" ชาร์ลตะคอกเสียงดังใส่ร่างเล็กที่นั่งเบาะหลังข้างๆ โชวา เขาหันมาเผชิญหน้ากับบราวนี่อีกครั้ง ดีที่เขามีคนสนิทขับรถให้ จึงไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุ
"อะไรของคุณ ไม่พอใจก็ปล่อยผมลง"
"หึ...ไม่มีทาง"
"อย่าทะเลาะกันเลยนะครับ โชวาไม่นอนกับบราวก็ได้" โชวาที่นิ่งอึ้งไปเพราะการกระทำของผู้ใหญ่ทั้งสองคนเอ่ยห้ามเสียงอ่อย
"เห็นไหมลูกคุณยังเข้าใจความอึดอัดของผม แต่คุณเป็นผู้ใหญ่ซะเปล่า" บราวนี่เอ่ยเยาะคนตัวโตที่ไม่มีท่าทีจะหายโมโหเลยสักนิด
"เหอะ! ว่าแต่คนอื่น" บรรยากาศในรถที่มาคุเพราะผู้ใหญ่ทั้งสอง กลับมาสู่ความสงบอีกครั้ง แต่เป็นความสงบที่แสนจะอึดอัด ภายในรถเงียบสนิทมีแค่เสียงถอนหายใจของบราวนี่เท่านั้นที่ดังแทรกขึ้นในบางครั้ง
โชวาที่ตอนนี้ได้แต่นิ่งเงียบเหมือนมีอะไรในใจ ส่วนคนเป็นพ่อก็ขุ่นเคืองหัวใจเพราะการต่อปากต่อคำของร่างเล็กที่ตอนนี้เอาแต่นั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง เหมือนไม่ใยดีที่จะเดินทางร่วมกันเลยสักนิด ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ว่าบราวนี่อึดอัด แต่เขาไม่ชอบให้ใครมาว่าลูกของเขาแบบนั้น ถ้าจะตักเตือนหรือสั่งสอนก็อยากให้ใช้คำดีๆ เพื่อไม่ให้เด็กได้จดจำไปเป็นแบบอย่าง เขารู้ว่าเขาตามใจเจ้าตัวแสบมากเกินไปจึงอยากให้มีอีกคนมาช่วยดูแล คอยห้าม คอยเตือน คอยสอนในสิ่งที่ถูกที่ควร แต่ไม่ใช่มาด่าปาวๆ แบบนี้
ทางฝั่งของบราวนี่ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้ว่าตนเองใช้คำไม่ดีกับเด็กน้อย แต่จะให้ทำอย่างไรในเมื่อมันพูดออกไปแล้ว จะให้มานั่งขอโทษเด็กสี่ขวบก็คงไม่เอาด้วยหรอก มันเสียศักดิ์ศรี คนอย่างบราวนี่ไม่เคยทำผิด
เพียงไม่นานรถตู้คันใหญ่ก็แล่นผ่านประตูรั้วอัตโนมัติเข้ามาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่ หรือจะให้เรียกว่าคฤหาสน์ก็คงไม่ผิด เนื้อที่บ้านที่ดูจะกว้างใหญ่หลายสิบไร่ ไม่รู้ว่าจะทำให้มันใหญ่โตขนาดนี้ทำไม สิ้นเปลืองหลายๆ อย่างโดยใช่เหตุบราวนี่ได้แต่มองอย่างทึ่งๆ นอกจากจะประหลาดใจกับขนาดและบริเวณบ้านแล้ว ยังต้องมีเหล่าบรรดาบอดี้การ์ดเดินกันให้ควักน่าอึดอึดจริงๆ
"กฤตช่วยขับรถไปส่งบราวนี่ด้วยนะ" ชาร์ลเอ่ยเสียงเรียบ ก่อนที่จะหันไปหาลูกชายตัวน้อยที่พอได้ยินคนเป็นพ่อพูดแบบนั้นก็ได้แต่นิ่ง ไม่ร้องให้โวยวายเหมือนทุกครั้ง ก่อนจะหันไปมองบราวนี่ด้วยท่าทางน่าสงสาร
"......." บราวนี่ที่ตอนนี้เริ่มกลับมาเผชิญหน้ากับคนตัวโตอีกครั้ง หลังจากที่นั่งนิ่งไปนาน
"ลงมาครับลูก" เสียงเข้มๆ ปนเฉียบขาดของชายหนุ่มสั่งให้ลูกชายตัวน้อยที่ตอนนี้นั่งนิ่งไม่ขยับไปไหน เอาแต่มองหน้าบราวนี่อยู่อย่างนั้น
"ลูกจะทำแบบนี้ไม่ได้นะครับ จะบังคับคนอื่นให้ทำตามที่เราต้องการตลอดไม่ได้หรอกนะ แค่นี้เขาก็อึดอัดกับเราสองพ่อลูกจะแย่" ชาร์ลเอ่ยกับลูกชายตัวน้อย แต่ก็ยังมิวายที่จะประชดบราวนี่ที่นั่งนิ่ง ราวกับไม่สนใจคำพูดของคนตัวโตเลยสักนิด ทั้งๆ ที่ได้ยินมันชัดเจน
ชาร์ลเดินมาอุ้มโชวาลงจากรถ ก่อนที่จะพากันเดินเข้าบ้าน บราวนี่มองตามทั้งสองพ่อลูกด้วยความสับสน เด็กน้อยซบหน้าลงกับไหล่แกร่งของพ่อ ดวงตาสีน้ำตาลสั่นไหวราวกับกำลังจะร้องให้ บราวนี่นั่งมองอย่างไม่รู้ว่าจะทำยังไง ก่อนที่กฤตจะเคลื่อนรถออกไป ร่างเล็กรีบลงจากรถแล้ววิ่งตามสองพ่อลูกเข้าไปในบ้านทันที สร้างความงุนงงให้กับกฤตที่นั่งอยู่ในรถ แต่ก็ไม่ทันที่จะได้ถามอะไรร่างเล็กก็วิ่งไปข้างในบ้านซะแล้ว
"รอก่อนสิ" บราวนี่ตะโกนตามหลังทั้งสองคน โชวาเงยหน้าขึ้นจากหลังของชาร์ลมองมายังบราวนี่ที่วิ่งตามหลังมา
"บราวนี่" โชวาตะโกนเสียงดัง ดิ้นลงจากอ้อมกอดของชาร์ล ก่อนที่ชายหนุ่มจะวางลูกชายลงแล้วหันมาเผชิญหน้ากับบราวนี่ด้วยสีหน้าเรียบเฉย ส่วนเจ้าเด็กตัวน้อยก็พุ่งเข้าไปกอดบราวนี่เต็มแรง
" จะให้นอนด้วยไม่ใช่เหรอ" บราวนี่ก้มลงถามโชวา แต่ก็ยังมิวายเหล่มองชาร์ลที่ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้า
"บราวจะนอนกับโชวา เย้ๆๆ" เด็กน้อยกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ
"ไม่จำเป็นลูกฉันๆ ดูแลเองได้"
"ไปกันดีกว่าเนอะโชวา ว่าแต่จะให้บราวนอนที่ไหน" บราวนี่ทำเป็นไม่สนใจชายหนุ่ม หันไปพูดกับโชวาก่อนที่เด็กน้อยจะจูงมือเขาเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสองของตัวบ้าน
"บราวนอนห้องโชวานะ นอนกับโชวา" เด็กน้อยกระดี๊กระด้าอย่างที่ไม่เคยเป็น จนชาร์ลที่เดินตามลูกชายตัวน้อยมาห่างๆ ยังรู็สึกแปลกใจ เขาไม่เคยเห็นลูกชายของเขาจะรักใครเท่านี้มาก่อน
"อืม..."
"แดดดี๊มาเร็วๆ สิครับ" โชวาหันไปเรียกชาร์ล
"รู้แล้วครับลูก"
"จะเรียกเขามาทำไม" บราวนี่ได้แต่บ่นเบาๆ อยู่คนเดียว เพราะยังเคืองที่โดนชาร์ลว่าไม่หาย เขาไม่ได้เป็นคนใจจืดใจดำขนาดนั้นซะหน่อย
"บราวว่าอะไร" โชวาเขย่ามือบราวนี่เบาๆ
"ไม่มีอะไร" ทั้งสองคนเปิดประตูเข้าห้องนอนของโชวา บราวนี่มองรอบห้องด้วยความตกใจ ทำไมบรรยากาศในห้องนอนของเด็กน้อยช่างเหมือนของเขาซะเหลือเกิน แม้ว่าจะไม่ได้เหมือนกันเป๊ะๆ แต่ทั้งการตกแต่ง ฟอนิเจอร์ รวมทั้งบรรดาของเล่นต่างๆ ที่ถูกจัดไว้ในตู้โชว์ รวมทั้งผ้าปูที่นอนลายการ์ตูนนี่อีก มิน่าล่ะชาร์ลถึงบอกว่าเขาเหมือนเด็ก ไม่ต่างจากโชวาเลยแม้แต่น้อย
"จะนอนได้รึไง ไม่อึดอัดที่อยู่กับลูกฉันแล้วเหรอ"
"นี่คุณ จะเอายังไง พอผมจะนอนด้วยก็พูดอย่างนั้นอย่างนี้ หรือจะให้ผมกลับเลยก็ได้นะ" บราวนี่หันมาตะคอกคนที่ยืนจังก้าอยู่หน้าประตู
"ไม่เอาๆ บราวนอนนี่นะ แดดดี๊ห้ามว่าบราว" เด็กน้อยหันไปขู่คนเป็นพ่อเสียงเขียว พร้อมกับทำไม้ทำมือห้ามคนตัวโตที่ทำหน้าตายอยู่หน้าห้อง
"จะเอายังไงครับ จะให้ผมกลับรึเปล่า" บราวนี่หันไปถามชาร์ลอีกครั้ง เพราะเขาก็ไม่ได้อยากอยู่ที่นี่นักหรอก ถ้าไม่ใช่เพราะสงสารเด็กน้อยที่ทำท่าทางเหมือนจะร้องไห้
"โชวาบอกให้อยู่เธอก็อยู่สิ จะมาถามอะไรฉัน"
"ก็คุณเป็นเจ้าของบ้าน ถ้าเจ้าของเขาไม่อยากให้อยู่แล้วเราจะหน้าด้านอยู่ก็ใช่ที่" บราวนี่ประชดประชันชายหนุ่มอย่างเจ็บแสบ
"เธอก็อยู่ตามที่โชวาบอกนั่นแหละน่า" ชาร์ลเอ่ยปัดๆ ออกมาเพราะความรู้สึกเขินๆ อย่างที่ไม่เคยเป็น
"แล้วผมจะนอนนี่ได้ยังไงเตียงเล็กนิดเดียว" เตียงนอนของโชวาเป็นเตียงเดี่ยว เป็นเตียงเด็กที่สามารถนอนได้แค่คนเดียว ถ้าขืนบราวนี่ลงไปนอนด้วยคงทับกันตาย
"ถ้าอย่างนั้นเราไปนอนห้องแดดดี๊กัน เพราะเตียงห้องแดดดี๊ใหญ๊ใหญ่" โชวาเสนอทางออก แต่มันช่างเป็นเหมือนหนทางที่เลวร้ายของบราวนี่ซะเหลือเกิน ต้องมานอนบ้านคนอื่น อีกทั้งยังต้องนอนห้องของไอ้มาเฟียแก่หื่นกามอีก
"ว่ายังไง ไปนอนห้องฉันไหม" ชาร์ลยิ้มเจ้าเล่ห์ หันมองร่างเล็กที่ทำท่ากระอักกระอ่วนใจไม่ใช่น้อย
"ไม่!" บราวนี่มองชาร์ลอย่างเคืองๆ
"โชวาว่าดีออก เราสามคนจะได้นอนด้วยกัน มีบราวนี่ แดดดี๊ แล้วก็โชวา" ดีกับผีล่ะซิบราวนี่ได้แต่คิดในใจ ดูสายตาพ่อของตัวเองหน่อยมองบราวนี่ราวกับจะกินเข้าไปทั้งตัวอย่างนั้นแหละ บราวนี่ได้แต่ค้อนคนตัวโตที่ยืนยิ้มหน้าบานกับคำพูดของลูกชายตัวน้อย
"ก็ดีนะ อบอุ่นดี"
"ผมจะนอนห้องนี้ หรือไม่ก็ต้องเปิดห้องใหม่ ที่เตียงใหญ่กว่านี้"
"ห้องอื่นไม่ได้ทำความสะอาด ฝุ่นเยอะ มีแค่ห้องฉันกับลูกเท่านั้นแหละที่สะอาดพอที่จะนอนได้"
"บ้านใหญ่โตขนาดนี้ไม่มีห้องที่ทำความสะอาดไว้รับรองแขกรึไง หรือไม่คุณก็เรียกแม่บ้านมาทำความสะอาดให้ผมสิ"
"ก็เธอมากระทันหัน แล้วนี่ก็เลยเวลางานของแม่บ้านแล้วด้วย เธอจะไม่ให้พวกเขาพักผ่อนเลยรึไง" ชาร์ลหาข้ออ้างมาจนได้ ที่จริงแม่บ้านที่บ้านของเขา ทำงานผลัดเปลี่ยนเวรกัน ถ้าเจ้านายมีธุระอะไรด่วน สามารถโทรตามได้ตลอดเวลา ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูดเลยสักนิด
"ถ้าอย่างนั้ผมนอนห้องโชวานี่แหละ"
"ไม่ได้/ม่ายได้" สองพ่อลูกประสานเสียงกันในทันที
"ทำไมจะไม่ได้"
"ก็โชวาอยากนอนด้วยกัน นะๆ บราว" เด็กน้อยเอ่ยเสียงออดอ้อน จนบราวนี่ได้แต่นิ่ง ตัดสินใจไม่ได้ว่าตัวเองต้องทำยังไง
"ว่าไง หรือว่าเธอกลัวฉัน" น้ำเสียงกดดันของชาร์ลเริ่มเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
"เรื่องอะไรผมต้องกลัวคุณด้วย แล้วเสื้อผ้าผมล่ะ จะเอาที่ไหนมาเปลี่ยน" การที่บราวนี่ไม่ตอบเปรียบเสมือนว่าร่างเล็กไม่ได้ปฏิเสธข้อเสนอ แต่เพราะความอายเลยแกล้งเลี่ยงไปพูดถึงเรื่องอื่นแทน
"ตกลงนอนที่ห้องฉันใช่ไหม" ชาร์ลแกล้งถามย้ำทั้งๆ ที่ก็รู้คำตอบดีแล้ว แต่เขาแค่ต้องการแกล้งร่างเล็กให้โมโหก็เท่านั้น
"อย่าถามมากได้ไหม นอนก็นอนสิจะอะไร" บราวนี่เอ่ยอย่างหัวเสีย
เมื่อตกลงเรื่องที่นอนได้แล้วทั้งหมดจึงเคลื่อนย้ายตัวเองมาที่ห้องทานอาหาร วันนี้โชวาทานข้าวเยอะกว่าทุกวัน ส่วนชาร์ลก็เจริญอาหารเป็นพิเศษ จะมีก็แต่บราวนี่ที่นั่งเขี่ยข้าวในจานไปมา การทานอาหารมื้อช่างแสนอึดอัดสำหรับร่างเล็ก สาเหตุไม่ใช่เพราะแค่สองพ่อลูกเท่านั้น แต่ในห้องทานอาหารยังมีเหล่าบรรดาสาวใช้สามคน รวมทั้งป้าภาหัวหน้าแม่บ้านยืนจ้องมองอยู่ ไม่รู้ว่าจะมายืนทำไมเยอะแยะ อีกทั้งยังมีเหลาบอดี้การ์ดที่ยืนทำหน้านิ่งประจำจุดต่างๆ ช่างเป็นการทานอาหารที่แสนจะกดดันจริงๆ
"ทำไมหนูบราวไม่ทานข้าวล่ะคะ หรือว่าอาหารไม่ถูกปาก" ป้าภาเอ่ยขึ้นหลังจากยืนสังเกตุบราวนี่มาสักพัก
"เปล่าหรอกครับ แค่บราวไม่ค่อยหิวเท่านั้นเอง" บราวนี่เอ่ยปฏิเสธทันที เพราะไม่อยากให้เสียน้ำใจของคนที่ทำอาหาร
"ถ้าอย่างนั้นก็ทานเยอะๆ สิคะ หนูบราวตัวเล็กจะแย่แล้ว" หัวหน้าแม่บ้านเอ่ยกับบราวนี่อีกครั้ง
"........" บราวนี่แค่เพียงยิ้มให้ แล้วก้มลงทานอาหารในจานของตัวเอง
"บราวทานนี่ดู อร้อย อร่อย" โชวาบรรจงตักหมูหวานของโปรดของตนเองให้กับบราวนี่ ก่อนที่จะส่งยิ้มให้จนตาหยี วันนี้เด็กน้อยมีความสุขกว่าทุกวัน
"ขอบใจ"
"บราวต้องทานเยอะๆ น๊ะ จะได้โตไวๆ" โชวายังคงเจื้อยแจ้วตามประสา มือป้อมๆ ก็สาละวนกับการตักนั่นตักนี่ให้กับบราวนี่
"คงไม่โตไปกว่านี้แล้วแหละครับลูก" ชาร์ลหันไปคุยกับโชวา แต่ก็แอบเหล่มองบราวนี่ที่นั่งทานข้าวเงียบๆ อยู่คนเดียว
"ทำไมล่ะ แดดดี๊ยังตัวใหญ๊ใหญ่เลย" ในเมื่อพ่อของเขาโตได้แล้วทำไมบราวนี่ถึงจะไม่โต โชวาเอ่ยด้วยความสงสัย
"ก็บราวนี่ของโชวาเขาเป็นพันธ์ุแคระ จะโตกว่านี้คงเป็นไปไม่ได้หรอก" บราวนี่หันมามองคนตัวโตอย่างเคืองๆ แต่ไม่ได้พูดอะไร
'ทำไมการที่เกิดมาตัวเตี้ยมันหนักส่วนไหนของนายกันห๊ะ ไอ้มาเฟียแก่' บราวนี่ได้แต่แอบด่าในใจ
"คุณชาร์ลจะแกล้งหนูบราวทำไมคะ นิสัยไม่ดีเลย" ป้าภาเตือนคนตัวโตที่นั่งเป็นทองไม่รู้ร้อนอยู่บนโต๊ะอาหาร
"ผมพูดความจริงนะครับป้า"
"แดดดี๊ห้ามว่าบราว" โชวาร้องเตือนพ่อของตนเองที่เอาแต่แกล้งบราวนี่ให้โมโห
"ครับๆ แดดดี๊ไม่ว่าแล้วครับ" มื้ออาหารเย็นจบลงด้วยความขุ่นเคืองใจของบราวนี่ สาเหตุเพราะไอ้มาเฟียแก่นั่นคนเดียว ที่แกล้งพูดแกล้งว่าเขาสารพัด
เสียงโชวาและบราวนี่ดังออกมาจากห้องดูหนังเป็นระยะ ไม่รู้ว่าเข้าขากันได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ พอทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่นิสัยเด็กตกลงกันได้ว่าจะเล่นเกมส์ก็พากันเข้าห้องไป ส่วนชาร์ลก็เข้าห้องทำงานเพื่อเคลียร์งานที่ยังค้างคาอยู่
"บราวโกงโชวา"
"ใครโกงอย่ามามั่ว
"โชวาเล่นกับอากฤตแล้วก็อาเอกยังชนะเลย"
"อันนั้นเขายอมแพ้โชวาหรอก ใครจะมาเล่นเกมส์แพ้เด็กสี่ขวบกัน" บราวนี่ตั้งหน้าตั้งตาทะเลาะกับโชวา สาเหตุก็เพราะทั้งสองเล่นเกมส์แข่งรถ แล้วบราวนี่ชนะตลอด จนทำใหโชวาคิดว่าเขาต้องโกงแน่นแนน
"ม่ายจริง"
"ถ้าอย่างนั้นเล่นตานี้เป็นตาสุดท้าย บราวจะไม่เล่นด้วยแล้ว"
"ทำไม" โชวาถามเสียงอ่อย ตาละห้อยจนน่าสงสาร แต่ไม่ใช่สำหรับบราวนี่
"เบื่อเด็กขี้แพ้แล้วไม่ยอมรับความจริง" พูดแค่นั้นแล้วลุกเดินหนีออกจากห้องไป
"บราวรอโชวาด้วย" เมื่อเด็กน้อยตั้งสติได้ก็รีบวิ่งตามแล้วร้องเรียกบราวนี่เสียงดัง ทำให้ชาร์ลที่ทำงานอยู่ในห้องต้องรีบออกมาดู
"ทะเลาะอะไรกันอีกล่ะเนี่ย" ชาร์ลที่เดินออกมาเจอกับเอกพอดีเอ่ยถามขึ้น
"โชวาเล่นเกมส์แพ้บราวนี่ครับ เลยหาว่าโกง แล้วบราวนี่ก็เลยโมโหเลิกเล่นแล้วหนีออกมาครับ" เมื่อชาร์ลได้ฟังคำตอบจากบอดี้การ์หนุ่ม ก็ถึงกับต้องส่ายหัวกับพฤติกรรมของทั้งสองคน
"ไม่รู้ว่าฉันคิดถูกหรือคิดผิดที่ให้สองคนอยู่ด้วยกัน"
"ไม่ผิดหรอกมั้งครับนาย เพราะนายก็ถูกใจบราวนี่ไม่น้อยเลยไม่ใช่เหรอครับ" เอกเอ่ยอย่างรู้ทันเจ้านาย
"อย่ามาทำเป็นรู้ใจหน่อยเลยน่า" พูดจบก็เดินตามลูกชายตัวน้อยที่วิ่งเข้าห้องตามบราวนี่ไปแล้ว
"บราวอ่ะ ไปเล่นกับโชวาต่อเลย" โชวาคะยั้นคะยอคนที่นั่งหน้าบึ้งอยู่บนเตียงนอน
"ไม่เล่นกับเด็กเอาแต่ใจเข้าใจไหม"
"ไม่ได้เอาแต่ใจซะหน่อย นะๆ บราว ไปเล่นกับโชวาต่อนะ" มือน้อยๆ เขย่าแขนบราวนี่ที่ก่อนที่จะทนไม่ไหวกระโดดขึ้นไปนั่งทำตาออดอ้อนข้างๆ บราวนี่แทน
"ดึกแล้วนอนดีกว่าครับโชวา พรุ่งนี้บราวก็ต้องไปทำงานด้วย" เสียงเปิดประตูของผู้มาใหม่ ดังมาพร้อมๆ กับเสียงห้ามเจ้าลูกชายตัวน้อย
"หึ..จะเล่นต่ออ่ะ จนกว่าจะชนะ"
"ถ้ายังพูดไม่รู้เรื่องบราวไม่สนใจแล้วนะ" บราวนี่ขู่โชวาด้วยน้ำเสียงจริงจัง จนเด็กน้อยที่ตั้งท่าจะงอแงเงียบในทันที
"ก็ได้" ชาร์ลชักเริ่มจะหมั่นใส้ลูกชายตัวน้อยของตนเองจริงๆ เวลาที่เขาบอกไม่เคยจะฟัง แต่พอบราวนี่พูดขู่คำเดียวเท่านั้นแหละยอมหมดทุกอย่าง
"ถ้าอย่างนั้นก็เตรียมตัวเข้านอนได้แล้วครับ แปรงฟันก่อนนอนรึยัง"
"แปรงแล้ว"
บราวนี่ที่ตอนนี้ยืนเก้ๆ กังๆ ไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องนอนตรงไหน ได้แต่ยืนมองสองพ่อลูกที่ทำท่ากระซิบกระซาบตกลงอะไรกันก็ไม่รู้
"ให้โชวานอนติดผนัง ส่วนเธอนอนตรงกลาง แล้วฉันจะนอนฝั่งนี้เอง" ชาร์ลหันไปพูดกับบราวนี่ที่ยังคงมองโชวาอยู่
"ไม่ครับผมจะนอนติดผนัง โชวานอนตรงกลาง"
"เดี๋ยวโชวาจะอึดอัด" ชาร์ลยังคงหาข้อแก้ต่างได้ในทันที แต่มีเหรอที่บราวนี่จะยอม ไม่มีทางที่เขาจะนอนติดกับไอ้มาเฟียแก่อย่างแน่นอน
"ถ้าคุณไม่ทำตามที่ผมบอก ผมก็จะไปนอนห้องอื่น"
"ถ้าอย่างนั้นบราวมานอนที่โชวาเลย" เด็กน้อยลุกพรวดขึ้นจากเตียงนอนดึงแขนบราวนี่ให้ลงไปนอนที่ของตนเองทันที
กว่าที่จะตกลงกันได้ก็ใช้เวลานานพอสมควร กลายเป็นว่าตอนนี้บราวนี่นอนติดผนัง ส่วนโชวานอนตรงกลาง ชาร์ลก็นอนถัดจากโชวาอีกที ช่างเป็นคืนที่แสนจะวุ่นวายสำหรับครอบครัวเล็กๆ ที่มีเพียงสองพ่อลูก ที่เพิ่มสมาชิกใหม่อีกคนคือบราวนี่จริงๆ เลย
*************
ขอโทษที่ช้านะคะ

เมื่อวานพิมพ์เกือบเสร็จหมดแล้ว ยังไม่ได้เซฟเลย อยู่ดีๆ ที่พิมพ์ไว้ก็หายหมด ท้อใจมาก หรือว่าจะรอจนกว่าคอมจะซ่อมเสร็จค่อยมาต่อดี ยังไม่ตรวจคำผิดนะคะ

TBC.