หลานคุณย่า ดื้อรัก ♥♥ คุณพ่อลูกติด(ชาร์ล♥บราวนี่) ตอน10 P.5[22/05/59]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หลานคุณย่า ดื้อรัก ♥♥ คุณพ่อลูกติด(ชาร์ล♥บราวนี่) ตอน10 P.5[22/05/59]  (อ่าน 33467 ครั้ง)

ออฟไลน์ padthaiyen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
สรุปว่าโชวาเป็นผู้ใหญ่สุด

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
เกือบไม่รู้ว่าเป็นเรื่องของบราวนี่แล้ว ไม่ขึ้นว่าหลานคุณย่าอ่ะ

ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
ดื้อรัก ♥♥ คุณพ่อลูกติด ตอน7



                                           

 

บราวนี่นั่งกดดันอยู่ในห้องทำงานของชาร์ล เพราะวันนี้เป็นกำหนดที่ร่างเล็กจะต้องย้ายมาอยู่ที่บ้านของชายหนุ่ม ส่วนคนที่โดนบังคับอย่างบราวนี่ก็ได้แต่นั่งถอนหายใจเฮือกใหญ่จนชาร์ลมองตามเสียหลายรอบ

 

ภายในห้องมีเพียงชาร์ลกับบราวนี่เท่านั้น ส่วนโชวาไปอยู่กับป้าภา เพราะเขาต้องการที่จะตกลงและทำความเข้าใจกับบราวนี่หลายๆ อย่างเกี่ยวกับการดูแลโชวาและการเข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหญ่ด้วยกัน

 

"ทำไมทำหน้ายังกับโดนบังคับ" ชาร์ลเอ่ยกับร่างเล็กหลังจากที่เขานั่งนิ่งดูปฏิกริยาของบราวนี่อยู่นาน

 

"ก็ผมไม่อยากย้ายมาอยู่ที่นี่" ร่างเล็กเอ่ยเสียงอ่อยๆ พร้อมๆ กับสีหน้าที่บ่งบอกได้ดีว่ารู้สึกเครียดกว่าทุกวัน

 

"การที่เธอต้องย้ายมาอยู่กับฉันและโชวามันทำให้เธออึดอัดมากนักหรือไง" ชาร์ลพยายามพูดเสียงนิ่งที่สุดทั้งๆ ที่ภายในใจตอนนี้เดือดจนแทบจะระเบิดเพราะท่าทางของคนตัวเล็ก

 

"ก็ไม่ได้ขนาดนั้น ผมแค่อยากอยู่บ้านตัวเองมากว่า คุณให้โชวาไปอยู่ที่บ้านผมไม่ได้เหรอ"

 

"ไม่ได้" ชาร์ลปฏิเสธเสียงดังขึ้นเล้กน้อย

 

"ทำไมล่ะ"

 

"บอกไม่ได้คือไม่ได้ ไม่ต้องถามเหตุผล" ชาร์ลขึ้นเสียงใส่ร่างเล็กที่นั่งฝั่งตรงข้าม พร้อมกับจ้องเขม็ง จนบราวนี่ตกใจถอยกรูดในทันที ตั้งแต่เด็กจนโตคนในครอบครัวของร่างเล็กไม่เคยที่จะตะคอกเสียงดังใส่เขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่นี่ชาร์ลเป็นคนอื่นแท้ๆ ทำไมถึงทำแบบนี้ บราวนี่นั่งก้มหน้านิ่งเพราะไม่กล้ามองคนที่กำลังกรุ่นโกรธราวกับพายุทะเลทราย ร่างเล็กพยายามกลั้นน้ำตาที่กำลังจะไหลเอ่อคลอเต็มหน่วยตาทั้งสองข้าง

 

ชาร์ลก็ตกใจไม่ต่างกันที่ตนเองเผลอตะคอกบราวนี่แรงขนาดนั้น ทั้งๆ ที่ร่างเล็กแค่ถามเขาเฉยๆ ทำไมเขาไม่ระงับอารมณ์ ชายหนุ่มได้แต่นั่งนิ่งคิดถึงการกระทำอันไร้เหตุผลของตนเอง ทั้งๆ ที่เขาสามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีเสมอ แต่ทำไมวันนี้เขาจึงระเบิดอารมณ์กับเรื่องเล็กน้อยแค่นี้

 

"เป็นอะไร" ชาร์ลเอ่ยถามคนที่เอาแต่ก้มหน้า ร่างเล็กเพียงแค่ส่ายหน้าให้อีกคนรับรู้ว่าไม่ได้เป็นอะไร

 

ชาร์ลลุกจากเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามของร่างเล็ก ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ขายาวๆ ก้าวเข้าไปหาอีกคนโดยไม่ทันสังเกตุว่าทำไมบราวนี่เงียบผิดปกติ ร่างสูงจับไหล่เล็กเบาๆ แรงสะท้านของบราวนี่ที่เกิดจาการกลั้นสะอื้นทำให้ชาร์ลต้องรีบยกมือหนาขึ้นจับคางเล็กให้เชิดขึ้น

 

"ร้องให้ทำไม" ชาร์ลดึงร่างเล็กที่น้ำตาไหลอาบแก้มเขาไปกอดด้วยความรู้สึกผิด

 

"ฮึก......"บราวนี่ร้องให้ออกมาเบาๆ เพราะพยายามกลั้นเอาไว้

 

"ขอโทษๆ ฉันขอโทษที่ตะคอกใส่เธอ ฉันไม่ได้ตั้งใจ อย่าร้องเลยนะ" นิ้วเรียวยาวยกขึ้นปาดน้ำตาคนตัวเล็กเบาๆ แต่ยิ่งเขาปลอบก็เหมือนกับว่าอีกคนยิ่งร้องหนักกว่าเดิม

 

"อะไรเนี่ย ทำไมร้องให้เยอะกว่าเดิมอีก ฉันไม่ว่าเธอแล้ว" ชาร์ลดึงบราวนี่ขึ้นก่อนจะพาเดินมานั่งที่โซฟาตัวยาว คนที่เอาแต่ร้องให้ก็เดินตามแต่โดยดี

 

"ฉันโมโหที่เธอทำเหมือนอึดอัดอะไรนักหนาที่อยู่กับฉันแล้วก็ลูก เธอไม่อยากมาอยู่ที่นี่ขนาดนั้นเลยเหรอ" ชาร์ลเอ่ยให้บราวนี่เข้าจความรู้สึกของตนเอง

 

"มันไม่..ฮึก..ใช่แบบนั้น..ฮือ..ซะหน่อย ผมคะ..แค่ไม่เคยไปอยู่ที่ไหน..ฮึก...นอกจากบ้านตัวเอง" บราวนี่ทั้งอธิบายทั้งสะอื้นจนชาร์ลที่นั่งกอดร่างเล็กไว้กับอกถึงกลับต้องขำพรืดออกมา

 

"หะ..หัวเราะอะไร"

 

"เธอนี่จะเกินไปแล้วนะบราวนี่ แค่นี้ถึงกับต้องร้องให้ ฉันให้เธอมาอยู่ที่นี่ ใช่ว่าจะไม่ให้กลับบ้านตัวเองซะหน่อย เธอจะกลับตอนไหนก็ได้ถ้าอยากกลับ" ชาร์ลอธิบายเสียยืดยาวเพื่อให้อีกคนเข้าใจ มือใหญ่ยังคงลูบหลังปลอบโยนบราวนี่ให้คลายสะอื้น

 

"ผมอยากอยู่บ้านบ้างนี่นา"

 

"งั้นพูดเพราะๆ กับฉันก่อน แล้วจะพิจารณาอีกที" ชาร์ลส่งสายตาเจ้าเล่ห์กับคนที่เงยหน้าขึ้นมองเขาทันที

 

"พะ..พูดเพราะๆ ยังไง ตอนนี้ผมพูดไม่เพราะหรือไง" ชาร์ลผลักร่างเล็กออกห่างเพื่อให้คุยกันได้ถนัดขึ้น

 

"อ่า..ไม่ใช่สิพูดหวานๆ แบบนี้ พี่ชาร์ลครับอนุญาตให้บราวไปนอนที่บ้านนะครับ" ชาร์ลพูดเสียงอ่อนเสียงหวาน ยิ้มกรุ้มกริ่มส่งให้ร่างเล็กที่ตอนนี้แก้มป่องๆเริ่มขึ้นสีแดงราวกับลูกตำลึงสุกก็ไม่ปาน

 

"ไม่เอา" บราวนี่ส่งเสียงกระเง้ากระงอดใส่อีกคน

 

"ถ้าอย่างนั้นก็ย้ายมาอยู่นี่แหละถาวร ไม่ให้กลับไปนอนบ้านนั้นซักวันเลยคอยดู" ชาร์ลขู่คนที่เริ่มจะทำหน้าบึ้งตึงเพราะความเอาแต่ใจของร่างสูง

 

"คนบ้าเผด็จการชัดๆ เลย"

 

"เผด็จการแล้วทำไม จะพูดหรือไม่พูดเร็วๆ เข้า ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีโอกาสต่อรองอีกแล้วนะ" ชาร์ลลอยหน้าลอยตาตอบ ไม่ได้สะทกสะท้านกับคำพูดประชดประชันของบราวนี่เลยแม้แต่น้อย

 

"พะ..พี่ชาร์ลครับอนุญาตให้บราวไปนอนบ้านนะครับ" พูดจบมือเล็กๆ ก็หยิกเข้าสีข้างของชาร์ลที่นั่งยิ้มพอใจอยู่ข้างๆ ด้วยความหมั่นใส้

 

"โอ้ย! น้องบราวหยิกพี่ทำไมเนี่ย"

 

"ทะ..ทำไมต้องพูดแบบนี้" บราวนี่ถึงกับทำหน้าไม่ถูกเพราะคำพูดหวานหูของคนข้างๆ มือปลาหมึกของคนตัวเริ่มจะทำงาน ลูบไล้ตามเอวเล็กก่อนจะขยับตัวเข้าไปไกล้บราวนี่ทันที

 

"ก็อยากพูดเพราะๆ บ้าง ต่อไปนี้เราจะพูดกันแบบนี้ดีไหม" คนเจ้าเล่ห์ยังคงพูดไปเรื่อยอย่างไม่อาย และไม่สนใจว่าอีกคนจะอายหรือไม่เช่นกัน

 

"ไม่เอา พูดแบบเดิมดีแล้ว แบบนี้มันขนลุกจะตายไป"

 

"น่ารักดีออก นะน้องบราวนะๆ" คนตัวโตทำเสียงอ้อนขัดกับใบหน้าหล่อโหดของตนเองยิ่งนัก

 

"ไม่ครับ"

 

"มีสิทธิ์ปฏิเสธหรือไง" แม้จะเป็นคำพูดขู่แต่กลับส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มให้กับคนในอ้อมกอดทันที

 

"ทำไมเล่า ก็ผมจะพูดแบบนี้มันผิดตรงไหน" บราวนี่แสร้งทำเสียงดังกลบเกลื่อนความเขินอายของตนเอง

 

"ผิดที่พี่ไม่ให้พูด" ชาร์ลไม่รู้ตัวเองเลยว่าทำไมเขาต้องมานั่งต่อปากต่อคำกับร่างเล็กราวกับเด็กๆ แบบนี้ รู้แต่เพียงว่าเขาชอบที่จะเห็นหน้างอๆ ของคนข้างกายจริงๆ เลย

 

"จะพูดๆ..อือ"  บราวนี่ยังคงไม่ยอมแพ้ จนชาร์ลหมั่นเขี้ยวคนที่เถียงไม่ลดละ ประกบจูบร่างเล็กทันทีโดยที่อีกคนไม่ทันตั้งตัว จนมือบางเผลอกอดคนตัวโตไว้ทันที สัมผัสแปลกใหม่ที่ร่างเล็กได้รับ ทำให้เผลอโต้ตอบจูบชาร์ล อย่างหลงไหล ใช่ว่าร่างเล็กจะไม่เคยจูบกับรางสูงอย่างชาร์ล แต่ครั้งนี้มันต่างออกไปจากครั้งแรก สัมผัสลึกซึ้งวาบหวามแบบที่ไม่เคยเป็น พร้อมๆ กับความรู้สึกสั่นไหวภายในใจ เลือดในกายเล็กสูบฉีดรุนแรงจนอวัยวะภายในอกข้างซ้ายเต้นโครมคราม จนกลัวอีกคนจะได้ยินมันและรับรู้ความรู้สึกของเขา

 

บราวนี่ตอบรับจูบวาบหวามด้วยท่าทีเงอะงะ แต่กลับทำให้ชาร์ลตื่นตัวเร็วกว่าที่เคย เพียงแค่ร่างเล็กสนองตอบด้วยท่าทางเต็มใจ แก่นกายใหญ่ก็กลับตั้งตระหง่านในทันที บราวนี่ทุบหลังชาร์ลเบาๆ อย่างไร้เรียวแรงเพราะตอนนี้เริ่มที่จะหายใจไม่ทัน ชาร์ลจำต้องถอนจูบด้วยความเสียดาย

 

“แฮกๆๆ..” เสียงหอบหายใจของบราวนี่ดังถี่ พร้อมกับโกยอากาศเข้าปอดจนเต็ม

 

“เด็กน้อยของฉัน อ่อนหัดเสียจริงเลย” ชาร์ลเอ่ยล้อด้วยสาตาเอื้อเอ็นดู ทำให้บราวนี่ถึงกับอายม้วนไปอีกรอบ

 

“น่ารักจริงๆ เลย” มือใหญ่ยกขึ้นจับแก้มป่องๆ ทั้งสองข้างประคองให้หันมาสบตาอีกครั้ง คราวนี้เขาจะเริ่มรุกอย่างจริงจังแล้ว ชาร์ลได้แต่ยิ้มกริ่มในใจ

 

“.......”  บราวนี่หลบสายตาคนที่เอาแต่จ้องมองเขาด้วยสายตาสื่อความหมายที่ยากจะคาดเดา ใจดวงน้อยๆ ของเขาเต้นโครมครามไม่หยุดจนกลัวว่าตัวเองจะหัวใจวายไปซะตอนนี้ด้วยซ้ำ

 

“ไม่พูดอะไรกับพี่รึไงครับ”

 

“หึ.......” บราวนี่ส่วยหัวแรงๆ จนชาร์ลกลัวว่าร่างเล็กจะคอเคล็ดเข้าให้สักวัน

 

“ทำไมหน้าแดงจัง อายรึไง”

 

“ผมเปล่า”

 

“บอกว่าให้พูดยังไง เอาดีๆ ถ้าไม่พูดตามที่พี่บอกจะจับจูบให้ปากเจ่อเลยคอยดู” ชาร์ลยังคงจ้องตากับร่างเล็กที่ทำหน้าไม่ถูกเพราะความเขินอายกับการกระทำของตนเองที่เผลอโต้ตอบจูบร้อนแรงของอีกคน

 

‘ทำไมไวไฟแบบนี้นะเรา ห้ามใจอ่อนอีกเข้าใจไหม’ บราวนี่ได้แต่เตือนตัวเองในใจเพราะกลัวว่าจะเผลอใจไปกับสัมผัสของร่างสูงจนถอนตัวไม่ขึ้น

 

“พี่ชาร์ลอย่าแกล้งบราวเลยนะ” เสียงเล็กเอ่ยเบาๆ ก่อนจะพยายามหลบสายตาคนตัวโต แต่ก็ทำไมาถนัดเพราะโดนอีกคนประคองใบหน้าน้อยๆ ไว้ตลอด แถมนิ้วยังไล้ตามพวงแก้มใสอยู่แทบจะตลอดเวลา

 

“พี่ไม่ได้แกล้งซะหน่อย พี่จริงจังนะรู้ไหม”

 

“แต่บราว...ขอเรียกแบบนี้เวลาอยู่กับพี่ตามลำพังได้ไหม” บราวนี่รู้สึกอายเกินไปที่จะต้องพูดคำหวานหูแบบนี้ต่อหน้าคนอื่น

 

“ทำไม บอกเหตุผลพี่มาก่อนไม่งั้นไม่อนุญาต เอาความจริงห้ามโกหกเข้าใจไหม”

 

“บราวอาย” เสียงอ้อมแอ้มอยู่ในลำคอ แต่ชาร์ลก็ยังคงได้ยินแม้ว่ามันจะไม่ได้ชัดเจนมากมายก็ตาม แต่กลับทำให้เขาพอใจกับคำตอบซื่อๆ ของคนตัวเล็ก

 

“ก็ได้ครับ แต่ถ้าเวลาเราอยู่สองคนแล้วน้องบราวไม่แทนตัวแบบวันนี้พี่จะจับจูบจริงๆ นะ”

 

“บ้าแล้ว อะไรๆ ก็จะจูบอย่างเดียวเลย บราวไม่อนุญาต” เสียงโวยวยของบราวนี่ทำให้ชารลถึงกับหลุดหัวเราะออกมา

 

“พี่ไม่ได้ถามว่าน้องบราวอนุญาตไหม แต่พี่บอกให้รับรู้ก็เท่านั้น”

 

“เผด็จการที่สุดเลย” เพราะไม่รู้ว่าจะทำยังไงบราวนี่จึงได้แต่ตัดพ้อเบาๆ อย่างหมดหนทาง

 

“พี่ได้ยินนะครับ” มือใหญ่จับปากเล็กบีบเบาๆ เพื่อเป็นการทำโทษเด็กปากไม่ดี ก่อนจะก้มลงจูบเบาๆ แล้วผละออกมาทันที

 

“อือ..ปล่อยนะ”

 

“ชอบว่าพี่แบบนี้จะไม่ไปนอนบ้านแล้วใช่ไหม”

 

“ไปสิครับ อย่าแกล้งบราวเลยนะ” ร่างเล็กเผลออ้อนคนตัวโตเหมือนที่เคยทำกับพี่ชายและคนในครอบครัวอย่างลืมตัว มือเล็กๆ จับแขนแกร่งเขย่าเบาๆ ส่งสายตาเว้าวอนจนชาร์ลเผลอมองตาค้าง

 

“พี่ชาร์ลตอบบราวมาสิ” ร่างเล็กยังคงเว้าวอนเสียงหวาน

 

“หือ...อะไรครับ”

 

“ก็ตอบบราวมาสิว่าจะให้ไปนอนบ้านอาทิตย์ละกี่วัน” ตอนนี้บราวนี่เริ่มขึ้นเสียงดังใส่ชาร์ล เพราะความท่ามากของคนตัวโต ยึกยักไม่ยอมตอบสักที

 

“แค่อาทิตย์ละวันก็พอ แต่พี่กับโชวาจะไปนอนด้วย”

 

“ไม่เอา ทำไมมันน้อยขนาดนี้ สามวันกำลังพอดี”

 

“เยอะไป พี่ต้องทำงานไม่มีเวลาเดินทางไกลๆ ไปกลับขนาดนั้น เต็มที่สองวันเสาร์กับอาทิตย์ แต่พี่กับโชวาจะไปนอนด้วย” ชาร์ลยื่นคำขาดกับร่างเล็ก

 

“ก็ได้ เดี๋ยวบราวบอกให้คนที่บ้านจัดห้องนอนให้” ในเมื่อไม่มีทางเลือกบราวจึงต้องยอมทำตามข้อเสนอของคนตัวโต

 

“ไม่ต้องจัดเพราะเราสามคนจะนอนห้องเดียวกัน”

 

“จะนอนด้วยกันได้ยังไงเล่า เบียดกันจะตายไป”

 

“เดี๋ยวพี่ซื้อเตียงให้ใหม่ เอาคิงส์ไซส์ หรือไม่ก็สั่งทำพิเศษไปเลย”

 

“ทำไมไม่ฟังความคิดเห็นบราวเลย อะไรๆ พี่ก็คิดเองเออเองหมด บราวไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจเลยใช่ไหม” บราวนี่ตัดพ้อก่อนจะหันหน้าไปอีกทาง เพราะไม่อยากจะเห็นหน้าคนที่เอาแต่ใจมากไปกว่านี้

 

“พี่แค่อยากจะนอนด้วยกันสามคนเหมือนที่เรานอนเมื่อคืนก็เท่านั้นเอง มันทำให้พี่หลับสนิทอย่างที่ไม่เคยเป็น บราวรู้ไหมว่าพี่เป็นโรคนอนไม่หลับ แต่พอได้นอนพร้อมบราวแล้วก็โชวาพี่กลับหลับสนิทตลอดทั้งคืนเลย” ที่จริงเขาไม่ได้เป็นโรคอะไรแบบนั้นหรอก แค่ต้องการให้ทุกอย่างมันสำเร็จตามที่คิดง่ายขึ้นเลยโกหกก็นั้น

 

“จริงเหรอครับ ถ้าอย่างนั้นนอนด้วยกันก็ได้” เพราะความขี้สงสารของคนตัวเล็กจึงลืมไตร่ตรองหลายๆ อย่าง จึงตอบตกลงไปอย่างไม่คิดว่าอีกคนแค่แสร้งทำ

 

“ถ้าอย่างนั้นเราก็ตกลงกันได้แล้วเนอะ” ชาร์ลดึงคนตัวเล็กเข้าไปกอดอีกครั้ง บราวนี่ก็ไม่ได้ขัดขืนอย่างที่เคยยอมให้คนตัวโตกอดได้ตามอำเภอใจ ริมฝีปากหนาก้มลงมาจุมพิตหน้าผากมนอย่างอ่อนโยน แม้แต่บราวนี่ยังไม่เข้าใจตัวเองว่ายอมให้ร่างใหญ่ทำอะไรๆ กับร่างกายของตนเองแบบนี้ได้อย่างไร

 

 

“ครับ” คำตอบตกลงถือเป็นข้อผูกมัดให้บราวนี่อยู่กับชาร์ลอย่างเลี่ยงไม่ได้ คนตัวโตยิ้มกับตัวเองที่สามารถแทรกซึมเข้าไปในความรู้สึกของอีกคนทีละนิด โดยที่ร่างเล็กไม่เอะใจเลยแม้แต่น้อย

                 
ข้อตกลงระหว่างบราวนี่และชาร์ลไม่ได้ทำให้ร่างเล็กรู้สึกสบายใจขึ้นเลยแม้แต่น้อย มันกลับสร้างความกดดันอย่างประหลาด เพราะนั่นเท่ากับว่าบราวนี่ต้องรับผิดชอบเด็กอีกคน ซึ่งเขาไม่มั่นใจเลยว่าจะทำมันได้หรือเปล่า แม้ว่าจำนวนเงินที่ชาร์ลจะเสนอให้จะค่อนข้างเยอะแต่บราวนี่กับรู้สึกอยากถอนตัวมันซะเดี๋ยวนี้ แต่พอหันไปเห็นสายตาของชาร์ลที่มองมาจึงได้แต่เก็บเอาไว้ในใจต่อไป

 

ข้อเสนอที่บราวนี่ได้จากการตกลงดูแลโชวาครั้งนี้ ชาร์ลจะโอนเงินเข้าบัญชีให้บราวนี่ทุกเดือนๆ ละแสน ซึ่งนั่นก็ถือว่าเยอะแล้ว แต่ยังมีบัตรเครดิตอีกหนึ่งใบทีไม่จำกัดวงเงิน ใช่ว่าบราวนี่จะไม่ชอบแต่มันดูจะเยอะเกินไปกับการที่ต้องดูแลเด็กแค่คนเดียว

 

“บราวว่ามันเยอะเกินไป พี่ชาร์ลเอาบัตรเครดิตไปเถอะครับ” บราวนี่ส่งบัตรคืนให้กับคนที่เอาแต่นั่งกอด นั่งหอมเขาอยู่อย่างนั้น ใช่ว่าร่างเล็กจะไม่ขัดขืน แต่ชาร์ลก็ไม่ยอมแพ้จนบราวนี่ต้องยอมให้เขาทำอย่างที่ใจต้องการ

 

“ไม่ครับ พี่ให้แล้วให้เลย สำหรับน้องบราวแค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ”

 

“หมายความว่ายังไงครับ” บราวนี่เริ่มที่จะสงสัยกับคำพูดที่ดูจะมีเลศนัยขึ้นทุกวันของร่างสูง

 

“เดี๋ยวก็รู้เองแหละ ป่ะเราออกไปข้างนอกกันดีกว่าจะได้ไปเก็บของใช้ของน้องบราวที่บ้านด้วย หรือว่าจะซื้อใหม่หมดเลย” ชาร์ลเสนอความคิดเห็นอย่างคนไม่คิดอะไรมาก

 

“ไม่ครับ กลับไปเอาที่บ้าน”

 

“ตกลงตามนั้น พี่ให้ร่างวัลกับคนน่ารัก” ชาร์ลขโมยหอมแก้มร่างเล็กในอ้อมกอดอีกฟอดใหญ่ จังหวะที่บราวนี่ยังตั้งรับไม่ทันเขาก็ฉกจูบริมผีปากบางอีกรอบ จูบนิ่งเนิ่นนานราวกับว่าเวลาหยุดเดิน บราวนี่ยังคงตอบรับสัมผัสอ่อนหวานที่ถูกคนตัวโตมอบให้ ร่างเล็กไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าเขาก็ชอบสัมผัสของชาร์ลเหมือนกัน มันอบอุ่นจนไม่อยากผลักไสอีกคนออกไป ลิ้นร้อนของคนที่เชี่ยวชาญกว่าเริ่มกวาดต้อนความหวานในโพรงปากเล็กอีกครั้ง เรียวลิ้นน้อยเกี่ยวกระหวัดตามลิ้นหนาของคนที่นำทาง สัมผัสอ่อนโยนทำให้เคลิบเคลิ้มและหลงไหล เหมือนยาเสพติดที่พอได้ลองครั้งหนึ่งแล้วก็ย่อมมีครั้งที่สองที่สาม บราวนี่ก็เช่นกัน ร่างเล็กยังคงเสพติดรสจูบหอมหวานจากคนที่มอบให้เข้าให้แล้ว จนเป็นชาร์ลเองที่จำใจต้องถอนจูบอย่างนึกเสียดาย

 

“ทะ..ทำไมหยุด” บราวนี่ที่สติยังไม่สมประดีเผลอถามออกไปอย่างไม่อาย

 

“หึๆ อยากให้พี่จูบอีกหรือไงครับ แต่พี่รับรองว่าถ้าจูบนานกว่านี้มันจะไม่จบแค่จูบน่ะสิ” ชาร์ลเอ่ยล้อคนตัวเล็กที่นั่งมองตาใสอยู่ข้างๆ ก่อนที่อีกคนจะเริ่มเข้าใจกับคำพูดของร่างสูง ถึงกับหน้าแดงมุดเข้ากับอกกว้างอย่างหาที่พึ่ง ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่ทำอย่างนี้ เพราะใจเจ้ากรรมกลับเต้นเสียงดังยิ่งกว่าจังหวะเพลงร็อคที่เคยฟัง อกข้างซ้ายแทบจะระเบิดเพราะความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับใคร

 

“ใจเต้นแรงจังนะ” ชาร์ลยังคงกอดบราวนี่ไว้แนบอก หัวใจที่เคยคิดว่าตายไปพร้อมกับรักครั้งเก่าเสียแล้ว กลับมีน้ำผึ้งหวานของคนในอ้อมกอดมาหล่อเลี้ยงให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง แม้ว่าความรู้สึกจะต่างออกไปกับรักครั้งแรก แต่มันกลับทำให้ชาร์ลตื่นเต้นเหมือนตนเองกลับมาเป็นวัยรุ่นอีกครั้ง

 

“ออกไปข้างนอกกันเถอะ ลูกรอแล้วหละมั้ง” ชาร์ลมักจะพูดกับบราวนี่แบบนี้เสมอ แทนชื่อโชวาด้วยคำว่าลูกกับบราวนี่ จนร่างเล็กคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติจึงไม่คิดจะแย้ง แต่กับชาร์ลการใช้คำพูดแบบนี้กับร่างเล็กมันมีอะไรที่ลึกซึ้งมากกว่านั้น มันเหมือนเป็นการสร้างความเคยชินให้อีกคนไปโดยปริยาย

 

มือใหญ่รั้งคนในอ้อมกอดให้ลุกขึ้นก่อนจะพาเดินออกมา แต่เขายังไมยอมคลายมือที่โอบกอดไหล่เล็กเลยแม้แต่น้อย

 

“พี่ชาร์ลปล่อยบราวเถอะครับ”

 

“ทำไมล่ะ”

 

“ทำไมต้องถามด้วยครับ ก็รู้ๆ อยู่ว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วจะมาทำแบบนี้ได้ยังไง” บราวนี่เอ่ยตัดพ้อคนตัวโต บางทีเขาก็รู้สึกน้อยใจที่ชาร์ลทำรุ่มร่ามกับตัวเอง แต่จะโทษอีกคนฝ่ายเดียวก็ไม่ได้เพราะว่าตัวของบราวนี่เองก็ชอบรับสัมผัสอบอุ่นของร่างสูงเหมือนกัน

 

“ถ้าอย่างนั้นก็เป็นสิครับ”

 

“อย่ามาพูดเล่นได้ไหมครับ” บราวนี่ส่งสายตาดุด้วยท่าทางจริงจัง ก่อนที่คนตัวโตจะยอมคลายอ้อมกอดแต่โดยดี แต่พอชายหนุ่มทำตามที่ร่างเล็กขอโดยง่าย บราวนี่กลับรู้สึกน้อยใจที่อีกคนไม่พยายามที่จะรั้งเขาไว้เหมือนทุกครั้ง ‘นี่เราคิดบ้าไปคนเดียวสินะ’

 

ทั้งสองคนเดินออกมาจากห้องทำงาน โดยที่ชาร์ลเดินนำหน้า ส่วนบราวยังคงก้มหน้าเดินตามร่างสูงต้อยๆ ไม่ได้สนใจว่าใครที่รออยู่หน้าห้องบ้าง

 

“แดดดี๊ทำไมนานจังเลย โชวารอน้านนานเลยรู้ไหม” เจ้าตัวน้อยที่ขึ้นมายืนรอหน้าประตูเป็นครึ่งชั่วโมงต่อว่าคนเป็นพ่อด้วยท่าทีกระเง้ากระงอด

 

“ก็คุยธุระสำคัญมันก็ต้องนานเป็นธรรมดา ใช่ไหมบราวนี่” ชาร์ลหันไปหาบราวนี่ที่ยืนอยูข้างหลังไม่ได้สนใจคำพูดของสองพ่อลูกเลยสักนิด

 

“บราวทำไมไม่ตอบอ่ะ” โชวาเดินไปจับแขนเล็กเขย่าเบาๆ ก่อนที่จะทำให้อีกคนหลุดจากภวังค์ ก้มลงมามองโชวาด้วยควมสงสัย

 

“อะไรเหรอ”

 

“บราวทำไมหน้าแดงๆ ปากก็แดงด้วย” คนที่ถูกทักได้แต่ทำหน้าเหรอหรา หันไปหาตัวช่วยอย่างชาร์ลก็ไม่ได้ช่วยทำอะไรให้มันดีขึ้นมาเลย ได้แต่ยืนอมยิ้มอยู่อย่างนั้น

 

“ไหนคะให้ป้าดูหน่อยไม่สบายรึเปล่าหน้าแดงมากเลย” ป้าภาที่ดูจะเป็นห่วงเกินเหตุไปอีกคนเอามือมาอังหน้าผาก อังแก้มร่างเล็กดูว่าตัวร้อนรึเปล่า

 

“ย่าภา..บราวไม่สบายเหรอครับ” โชวาทีหันไปถามคุณย่าด้วยท่าทีอยากรู้

 

“ย่าก็ไม่รู้เหมือนกันตัวก็ไม่ร้อนทำไมหน้าแดงเหมือนจะเป็นไข้แบบนี้” ทั้งสองคนที่ดูจะเป็นห่วงบราวนี่มากได้แต่ยืนคุยหงุงหงิงกันอยู่สองคน โดยไม่ได้สังเกตุท่าทีแปลกๆ ของทั้งชาร์ลและก็บราวนี่เลยด้วยซ้ำ

 

“มาให้โชวาจับดูหน่อย” มือน้อยๆ ดึงให้บราวนี่นั่งลง ยกหลังมือป้อมๆ อังหน้าผากมนของบราวนี่เลียนแบบที่ย่าภาทำก่อนหน้านี้ มืออีกข้างก็ยกขึ้นอังหน้าผากตัวเองราวกับผู้ใหญ่ พร้อมกับท่าทางครุ่นคิดด้วยความสงสัย

 

“เป็นยังไงบ้างครับลูก บราวตัวร้อนไหม” ชาร์ลที่ยินนิ่งอยู่นานหันไปถามคุณหมอตัวน้อยที่กำลังวินิจฉัยอาการของคนไข้

 

“ม่ายร้อนเลย”  โชวาส่ายหน้าน้อยๆ กับผู้เป็นพ่อ

 

“ข้างในห้องทำงานมันร้อนบราวก็เลยหน้าแดงแบบนี้แหละ ใช่ไหมครับคุณชาร์ล” หลังจากที่คิดอยู่นานว่าจะพูดยังไงไม่ให้คนอื่นสงสัยกับอาการประหลาดของตนเอง จนได้ข้อสรุปว่าพุดแบบนี้น่าจะดีสุดแล้ว ก่อนจะส่งสายตากดดันไปให้อีกคนที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม สายตาเจ้ากรรมก็ดันสบเข้ากับบอดี้การ์ดคนสนิทของชาร์ลเข้าอย่างจัง สองคนนั้นส่งยิ้มแปลกๆ มาให้ราวกับรู้เรื่องอะไรอย่างนั้นแหละ จนร่างเล็กต้องรีบหลบสายตาในทันที

 

“ใช่ครับ ห้องทำงานแอร์น่าจะเสียเพราะมันไม่เย็นเลย กฤตหรือไม่ก็เอกช่วยตามช่างให้หน่อยนะ” ชาร์ลหันไปพูดกับคนสนิทเพราะรู้ดีว่าทั้งสองคนต้องเข้าใจความหมายของตนเองแน่

 

“ครับนายรับรองว่าซ่อมเสร็จภายในวันนี้แน่นอนครับ”

 

“ดีมาก ถ้าอย่างนั้นเราไปขนของที่บ้านบราวกัน” โชวาเมื่อได้ยินดังนั้นถึงกับตาโตด้วยความดีใจ เด็กน้อยตื่นเต้นที่บราวนี่จะได้ย้ายมาอยู่ที่บ้านของตนเองแล้ว เพราะเป็นสิ่งโชวารอมาตลอดสัปดาห์ ในที่สุดก็ถึงวันนี้ซะที

 

“เย้ๆ ไปกันเลย” มือป้อมๆ ยกข้างซ้ายจับมือของพ่อตนเอง ส่วนอีกข้างก็ยกขึ้นจับบราวนี่ให้เดินลงบันไดไปพร้อมๆ กัน

 

การที่ทั้งสามคนเดินจูงมือกันไปแบบนี้ทำให้สัมผัสได้ถึงคำว่าครอบครัวทันที ป้าภามองตามด้วยสายตามีความสุข ทั้งคุณหนูคนโต คุณหนูคนเล็กของเธอคงจะเจอคนที่มาเติมเต็มให้ครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวนี้สมบูรณ์แล้วสินะ

 

ไม่ต่างจากบอดี้การ์ดทั้งสองที่ยืนมองตามหลังทั้งสามคนไปด้วยหัวใจที่เปี่ยมสุข หวังว่าเจ้านายของพวกเขาจะได้เจอความสุขจริงๆ สักที แม้ว่าอาจจะเป็นความสุขที่ต้องแลกมากับความวุ่นวายในแต่ละวันก็ตามที แต่ทุกคนก็ยังยิ้มเต็มหัวใจ

 

บราวนี่เก็บเสื้อผ้าของตนเองยัดใส่กระเป๋าแค่ไม่กี่ชุด เพราะเมื่อถึงเวลาที่ต้องออกจากบ้านตัวเองจริงๆ กลับไม่อยากจะก้าวขาเลยแม้แต่น้อย หันไปมองคุณย่าสุดที่รักก่อนที่น้ำตาหยดใสๆ จะเริ่มไหลรินรดอาบสองแก้ม จนผู้เป็นย่าต้องเข้ามากอดปลอบ

 

“ร้องให้ทำไมลูก ไม่ได้จากกันไปไหนซะหน่อย” คุณย่าลูบหลังหลานชายตัวน้อยที่ก้มหน้าร้องให้ซุกอกอุ่นไม่ยอมปล่อย เอาแต่ร้องให้ไม่พูดไม่จากับใคร จนย่าเพียงเพ็ญรู้สึกใจไม่ดี

 

“ไม่ได้ไปอยู่ตลอดซะหน่อย คิดถึงย่าก็กลับมาหาย่าได้ แค่ไปอยู่กับโชวาบ้านห่างกันไม่กี่กิโลเอง ไม่อายเจ้าโชวาหรือไงนั่น มองเราตาแป๋วเลยเห็นไหม โชวามาปลอบคนขี้แงหน่อยเร็ว” คุณย่ากวักมือเรียกโชวาให้มาปลอบบราวนี่ที่ไม่มีท่าทีจะหยุดร้องให้สักที

“บราวอย่าร้องสิ แดดดี๊บอกว่าเด็กคนไหนร้องให้เป็นเด็กไม่เก่งนะ” โชวาปลอบบราวนี่ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ขี้แงไม่ต่างกัน จนผู้ใหญ่ทั้งหลายพากันกลั้นหัวเราะกับคำพูดไร้เดียงสาของเด็กน้อยวัยสี่ขวบ มีเพียงบราวนี่ที่เงยหน้าขึ้นมาจากอกของย่าเพียงเพ็ญมองโชวาอย่างเคืองๆ

 

“บราวไม่ใช่..ฮึก..เด็ก..โชวาแหละเด็ก ร้องให้ขี้มูกโป่งบ่อยจะตายไป ฮึก” มือบางยกปาดน้ำตาตัวเองลวกๆ หันไปต่อว่าเด็กน้อยที่ปลอบคนอื่นราวกับตัวเองไม่เคยขี้แงเลยสักนิด

 

“ตอนนี้โชวาไม่ได้ร้องซะหน่อย บราวนั่นแหละร้องให้ขี้มูกโป่ง” โชวาลอยหน้าลอยตาเถียงกับบราวนี่เพราะตอนนี้เขาไม่ได้ร้องให้สักหน่อยนี่นา

 

“เอ๊ะ...” บราวนี่กำลังจะหันไปเหวี่ยงใส่โชวาแต่คุณย่าห้ามทัพไว้เสียก่อน

 

“พอๆ กันทั้งสองคน ชาร์ลพากลับไปได้แล้วทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ ป้าปวดหัวแล้วทะเลาะกันดีเหลือเกิน แต่ก็ยังจะอยู่ด้วยกัน”  คุณย่าเพียงเพ็ญส่ายหัวระอากับความเป็นเด็กไม่รู้จักโตของหลานชายคนเล็กของตัวเอง

 

“ครับคุณป้า” หลังจากสงบศึกได้แล้วชาร์ลจึงลาคุณย่าเพียงเพ็ญกลับบ้าน พร้อมกับหนึ่งเด็กและหนึ่งผู้ใหญ่ที่ตอนนี้กำลังทำท่าทางงอนเด็กน้อยวัยสี่ขวบอยู่ ตลอดทางโชวาชวนบราวนี่คุยตลอดแต่อีกคนก็แสร้งทำเป็นหลับจนถึงบ้าน

 

 
*****************************

จบตอนแล้ว รู้สึกว่านับวันจะยิ่งอัพแต่ละตอนยาวขึ้นๆ ยังไงไม่รู้ มันจบตอนไม่ลง 555 มือใหม่จริงๆ

ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่อ่านนิยายไแล้วชอบ ติชมได้เลยนะคะ บกพร่องตรงไหน จะได้ปรับปรุงให้ดี

ขึ้น อยากบอกว่าอ่านทุกคอมเม้น ขอบคุณทุกกำลังใจจร้า  :mew1: :mew3: :mew2:



                                   TBC.


ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
บราวจะโดนอีชาร์ลจับกินแล้วมั่งเนี่ยะ อิอิ

ออฟไลน์ milin03

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
สงสัยอีกไม่นานคงไม่พ้นโดนจับกินแน่ๆ บราว

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
พี่ชาร์ลของเราทั้งกอดทั้งหอมทั้งจูบน้องบราวไปตั้งหลายรอบแล้วเมื่อไหร่จะติดสถานะให้น้องสักที :katai1:

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
น้องบราวน์อีกไม่นานคงโดนพี่ชาร์ลจับกินแน่  เพราะคงไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมมาเฟียชาร์ลไปได้

ออฟไลน์ haemin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
คุณย่าเลี้ยงน้องบราวได้เด็กจริง 555555 น่าฟัด

ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
เกือบไม่รู้ว่าเป็นเรื่องของบราวนี่แล้ว ไม่ขึ้นว่าหลานคุณย่าอ่ะ


ขอโทษทีค่ะ ตอนแรกคิดว่าไม่เป็นไร ถ้าคนอ่านอ่านเนื้อเรื่องน่าจะรู้ คิดน้อยไปหน่อย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ neverland

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ชัดเจนกับน้องบราวหน่อย น้องขี้งอนนะ  :hao3:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
น้องบราวกลายเป็นเด็กน้อยไปเลยแบบนี้

ออฟไลน์ netich

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
หนูบราววันนี้เสียไปกี่จูบแล้วลูกเอ๊ยยย
จะรอดไปได้ถึงเมื่อไหร่เนี่ย 5555

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :L1:  บราวนี่จะกินให้อร่อยต้องอุ่นให้ร้อนนิดๆ

 :hao6:

ออฟไลน์ secretowl

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
ดื้อรัก♥♥คุณพ่อลูกติด ตอน8



 

บราวนี่กลับจากร้านพร้อมกับเด็กน้อยตัวแสบ โดยมีเอกบอดี้การ์ดคนสนิทของชาร์ลขับรถให้ วันนี้ชาร์ลติดงานสำคัญต้องเจรจาธุรกิจกับลูกค้ารายใหญ่ รายละเอียดการเจรจาค่อนข้างมากเลยยังตกลงกันไม่ได้ จึงให้เอกมารับทั้งสองคนกลับบ้านก่อน ส่วนเขาจะกลับพร้อมกับกฤตอีกที

 

พอลงจากรถปุ๊บโชวาก็วิ่งตรงไปยังจักยานคันโปรดแทบจะทันที วันนี้งอแงทั้งวันว่าอยากจะปั่นจักรยาน จะเอาไปปั่นเล่นที่ร้านให้ได้ บราวนี่จึงได้แต่ห้ามไว้ ไม่อย่างนั้นคงวุ่นวายน่าดูที่อยู่ๆ ก็มีเด็กแสบเอาจักรยานไปปั่นเล่นในร้านพื้นที่แคบๆ ไหนจะลูกค้าที่มาใช้บริการอีก

 

“โชวาจะรีบไปไหนเนี่ยระวังหน่อยสิ” บราวนี่พยายามทำตัวเป็นผู้ใหญ่ที่ดีคอยบอกคอยสอนโชวาหลายๆ อย่าง อดทนกับความกรุ่นโกรธที่เกิดขึ้นในใจหลายๆ ครั้ง เพราะความซนของเด็กแสบ ที่ผ่านมาร่างเล็กไม่เคยทำอะไรจริงจัง จึงไม่ค่อยที่จะใส่ใจกับอะไรมากนัก แต่พอคราวนี้ต้องมารับผิดชอบเด็กน้อยคนหนึ่ง บราวนี่จึงตั้งใจจะพยายามให้ถึงที่สุด แม้ว่ามันจะเกิดจากการตกกระไดพลอยโจนก็ตาม

 

บราวนี่โทรไปปรึกษาพี่ชายคนรองตั้งแต่ที่รู้ว่าต้องทำหน้าทีดูแลโชวา เพราะกลัวว่าเด็กคนหนึ่งจะโตมาแล้วเป็นคนไม่ดีเพราะว่าตัวเองเป็นคนสอน ร่างเล็กรู้ดีว่าตนเองเป็นคนไม่เอาไหน จะทำอะไรก็มักมีพี่ๆ คอยช่วยโอบอุ้มเสมอ เพราะความที่ทำอะไรไม่ได้เรื่องสักอย่างจึงไม่มั่นใจเลยสักนิด หลังจากที่ได้คุยปรึกษากับพี่ชายอยู่นาน บราวนี่ตั้งใจที่จะคอยบอกคอยสอนโชวาด้วยเหตุผลเหมือนกับที่พี่พายสอนเดม่อน แม้ว่าโชวาจะดื้อกว่าเดม่อนหลายเท่า

 

“ก็โชวาอยากปั่นจักรยาน ปั่นเร็วๆ แบบนี้” โชวาเร่งความเร็วจักรยานคันน้อยปั่นไปก็หัวเราะคิกคักไปด้วยความความสนุกสนาน

 

“อย่าปั่นเร็วสิเดี๋ยวจะล้ม” บราวนี่นั่งลงตรงม้าหินอ่อน คอยดูโชวาอยู่ไม่ไกล เพราะกลัวเหลือเกินว่าจะล้มหัวร้างข้างแตกกันพอดี

 

“บราวววว..มาเล่นกับโชวาเร็วๆ” เด็กแสบหันมาเรียกบราวนี่พร้อมๆ กับปั่นจักรยานด้วยความเร็ว จนบราวนี่ต้องร้องเตือนหลายครั้งหลายครา แต่เจ้าตัวน้อยก็ทำหูทวนลม บราวนี่เหนื่อยใจนั่งมองเด็กน้อยนิ่งๆ ไม่พูดและไม่เตือนอะไรแล้ว

 

“เหนื่อยหน่อยนะครับคุณบราว” บอดี้การ์ดหนุ่มเอ่ยกับบราวหลังจากที่แอบเห็นร่างเล็กถอนหายใจติดกันหลายครั้ง

 

“ไม่รู้ว่าบราวจะทำได้นานแค่ไหนนะครับ การดูแลเด็กนี่มันไม่ง่ายเลยจริงๆ”

 

“ผมว่าคุณบราวทำได้แน่นอนครับน้องโชวาเชื่อคุณบราวมากกว่าคุณชาร์ลซะอีก” คำพูดของเอกแม้จะดูเหมือนการให้กำลังใจร่างเล็ก แต่มันกลับไม่ทำให้บราวนี่รู้สึกดีขึ้นมาสักนิดเลย เพราะเขาไม่มีความเชื่อมั่นว่าจะทำมันสำเร็จ

 

“อย่างนั้นเหรอครับ พี่เอกเรียกบราวเฉยๆ เถอะครับ เรียกแบบนี้แล้วมันดูกระดากยังไงไม่รู้” บราวนี่ไม่ชอบให้ใครพูดราวกับว่าเขาเป็นเจ้านาย ไม่ชอบคำพูดที่เหมือนแบ่งชนชั้นวรรณะแบบนี้เท่าไหร่

 

“โอเคครับน้องบราว” เอกพูดล้อบราวนี่เหมือนที่ทุกๆ คนชอบเรียกร่างเล็กและมักจะแทนคำว่าน้องนำหน้าเสมอ

 

บราวนี่หันไปดูโชวาเป็นระยะ เพราะความเป็นห่วง ร่างเล็กตั้งใจจะให้เจ้าเด็กแสบปั่นจักรยานเล่นสักครึ่งชั่วโมงก็พอ หลังจากนั้นจะพาไปอาบน้ำและจะได้ทานข้าวกัน บราวนี่หันไปคุยกับเอกบ้างเป็นบางครั้ง เสียงรถยนต์แล่นจากหน้าบ้านไปยังลานจอดรถ เป็นจังหวะเดียวกับที่โชวาเอี้ยวตัวจากจักรยานคันน้อยหันไปมองรถยนต์ที่พ่อตนเองโดยสารมา ล้อหน้าจักรยานสะดุดเข้ากับหินประดับก้อนใหญ่ ก่อนที่ร่างน้อยๆ จะตกลงจากรถจักรยานเข่ากระแทกกับก้อนหินอย่างแรงจนเด็กน้อยล้มลงบนพื้นหญ้า ความตกใจบวกกับความเจ็บทำให้โชวาร้องให้จ้าออกมาทนที เข่าของเด็กน้อยถลอกและมีเลือดซึมออกมาเล็กน้อย

 

“โชวา....” บราวนี่รีบวิ่งเข้าไปประคองเด็กน้อยมาแนบอก

 

“ฮือ..โช..วาเจ็บ...ฮือๆๆๆๆ” เด็กน้อยซุกหน้ากับอกเล็กของบราวนี่ร้องให้งอแงไม่ยอมหยุด

 

“โชวาเป็นอะไรครับลูก” หลังจากที่เปิดประตูลงจากรถ ชายหนุ่มได้ยินเสียงร้องให้ของลูกชายตัวน้อยจึงรีบวิ่งกระหืดกะหอบเข้ามาหาทันทีด้วยความเป็นห่วง แม้ว่าโชวาจะงอแงประจำแต่ด็ไม่มีครั้งไหนร้องให้หนัเท่าครั้งนี้

 

“แดดดี๊..ฮึก..โฮ..มันเจ็บ..ฮือๆ” โชวาหันไปหาพ่อตนเองทันที ก่อนที่จะปล่อยโฮอีกรอบ

 

“ทำไมเป็นแบบนี้เกิดอะไรขึ้น ดูแลลูกฉันกันยังไงห๊ะ” ชาร์ลต่อว่าทั้งบราวนี่และเอกเสียงดัง ตาคมดุจ้องมองร่างเล็กอย่างหาคำตอบ

 

“จักรยานล้มครับ ผมดูแลไม่ดีเอง” บราวนี่ตอบเสียงอ่อยด้วยความรู้สึกผิด แค่วันแรกก็ทำให้ลูกชายสุดที่รักของร่างสูงเจ็บตัวเข้าให้แล้ว

 

“ฉันยังจะไว้ใจให้เธอดูแลลูกฉันได้อีกรึไง ฉันรู้ว่าเธอไม่อยากดูแลโชวา แต่ไมนึกว่าจะไม่ใส่ใจจนลูกชายฉันเจ็บตัวแบบนี้” ชาร์ลตวาดคนที่นั่งรู้สึกผิดอยู่ข้างๆ เสียงดัง

 

“ขอโทษ...ผมว่าพาโชวาไปทำแผลก่อนดีกว่าครับ เลือดไหลใหญ่แล้ว” เสียงแผ่วๆ ของร่างเล็กเอ่ยกับชาร์ล เพราะกลัวว่าโชวาจะเจ็บไปกว่านี้

 

“ไม่ต้องมาทำเป็นเหมือนห่วงหรอก ถ้าไม่อยากเลี้ยงโชวาขนาดนั้นก็กลับไปบ้านเธอได้เลย ฉันจะให้คนไปส่ง” ชาร์ลที่เหมือนคนขาดสติเพราะความโกรธ เขาเลี้ยงลูกอย่างดีมาตลอดไม่เคยให้เจ็บตัวแบบนี้เลยสักครั้ง ชายหนุ่มด่าทอร่างเล็กโดยไม่คิดจะถามเหตุผลเลยด้วยซ้ำ ก่อนที่จะอุ้มโชวาเข้าไปทำแผลในบ้าน

 

“บราว...ฮึก...ฮือออออ” โชวาหันไปร้องเรียกบราวนี่ทั้งๆ ที่ยังสะอื้นอยู่ แต่คนเป็นพ่อกับอุ้มเด็กน้อยเข้าบ้านโดยไม่สนไม่บราวนี่ที่นั่งซึมมองตามโชวาด้วยความสงสาร

 

บราวนี่ลุกขึ้นยืนกลั้นสะอื้นเอาไว้ ก่อนที่จะเดินตรงไปยังหน้าบ้าน ไม่หันกลับไปมองเด็กน้อยที่ร้องให้เรียกตัวเองเลยด้วยซ้ำ

 

“น้องบราวจะไปไหนครับ”

 

“บราวจะกลับบ้าน วานพี่เอกเอาเสื้อผ้าบราวกลับไปส่งที่บ้านด้วยนะครับ ดีนะที่บราวยังไม่ได้เอาออกจากกระเป๋า” บราวนี่พูดติดตลก ทั้งๆ ที่ตากลมโตกำลังสั่นระริกเพราะพยายามกลั้นหยดน้ำตาเอาไว้

 

 

“กลับเข้าไปข้างในเถอะครับ เจ้านายแค่โมโหเลยพูดไปแบบนั้นเอง ที่จริงเจ้านายไม่ได้คิดแบบที่พูดหรอกครับ” บอดี้การ์ดหนุ่มเกลี้ยกล่อมร่างเล็กที่ขายังคงก้าวเดินตรงไปข้างหน้าอย่างไม่ลดละ

 

"ขอบราวอยู่คนเดียวได้ไหมครับ" บราวนี่หันมาพูดกับคนที่เดินตามหลังไม่ไกล

 

"แล้วน้องบราวจะไปไหน"

 

"ขอไปนั่งคิดอะไรคนเดียวที่สวนสาธารณะใกล้ๆ นี่แหละครับ" รอยยิ้มจากร่างเล็กทำให้เอกใจชื้นขึ้นมาได้บ้าง แม้รอยยิ้มนั้นจะดูฝืนๆ ก็ตามที

 

"ให้พี่ไปเป็นเพื่อนดีไหม มันเย็นมากแล้ว ไปคนเดียวมันอันตราย"

 

"ไม่เป็นไรครับ ใครจะมาทำอะไรบราว บราวก็ผู้ชายนะครับ" ถึงแม้ว่าบราวนี่จะไม่ได้รูปร่างสูงใหญ่เหมือนคนอื่นๆ แต่เขาก็เป็นผู้ชาย ไม่จำเป็นที่ใครจะต้องมานั่งห่วงราวกับว่าเขาเป็นหญิงสาวอ่อนแอที่ไม่สามารถสู้รบปรบมือกับใครได้

 

"ก็ได้ครับแต่ถ้าน้องบราวไปนานพี่จะไปตามนะ แล้วอีกอย่าง น้องบราวจะไม่กลับบ้านแล้วใช่ไหม" เอกหันไปบอกด้วยความเป็นห่วง

 

"ครับ...บราวไปไม่นาน ส่วนเรื่องกลับบ้านหรือไม่กลับจะบอกอีกที" บราวนี่ตอบรับก่อนที่จะเดินไปตามทางเดิน

 

ถนนใหญที่ด้านข้างรายล้อมด้วยบ้านของเหล่ามหาเศรษฐี นักธุรกิจชั้นนำของเมืองไทยมากมาย หมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านของคนรวย บ้านแต่ละหลังไม่น่าจะต่ำกว่าห้าสิบล้าน ส่วนบ้านของชาร์ลน่าจะหลังใหญ่ที่สุดในโครงการ เพราะดูจากพื้นที่แล้วค่อนข้างกว้างกว่าหลังอื่นหลายเท่า บราวนี่พยายามลืมความน้อยใจ เดินดูบ้านแต่ล่ะหลังไปเรื่อย แต่ใครจะสามารถลืมเรื่องที่พึ่งเกิดขึ้นไม่ถึงสิบนาทีได้ล่ะ ทั้งๆ ที่พยายามแล้วแท้ๆ แต่กลับเละไม่เป็นท่าตั้งแต่วันแรก 

 

บราวนี่ได้แต่คิดว่าตัวเองไม่เอาไหนจริงๆ ทำอะไรก็ไม่เคยสำเร็จเหมือนคนอื่น แม้ว่าจะตั้งใจแค่ไหนแต่อีกคนกลับมองไม่เห็นมัน

 

ร่างเล็กนั่งเล่นที่ม้าหินอ่อนภายในสวนสุขภาพของหมู่บ้าน ตรงหน้าถูกขุดขึ้นเป็นบ่อน้ำขนาดใหญ่ ล้อมรอบด้วยต้นไม้น้อยใหญ่นานาพรรณ มีผู้คนผู้รักสุขภาพมาออกกำลังกายบ้างประปราย

 

บราวนี่พยายามทบทวนว่าตัวเองควรจะอยู่ที่นี่อีกต่อไปไหม เพราะคำพูดของชาร์ลมีผลต่อการตัดสินใจในครั้งนี้ของร่างเล็กเป็นอย่างมาก บราวนี่รู้ว่าตัวเองผิดที่ดูแลโชวาได้ไม่ดี แต่ความผิดครั้งนี้กลับทำให้เขาต้องมาเสียใจกับคำพูดของอีกคน ที่พูดจาว่าร้ายสารพัด ใช่ว่าร่างเล็กจะเกลียดเด็กแสบซะที่ไหน ตรงกันข้ามกับรักและรู้สึกผูกพันธ์กับเด็กชายตัวน้อยเหลือเกิน เพราะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน ทำอะไรด้วยกันหลายๆ อย่างมันทั้งสนุกและตื่นเต้น

 

บราวนี่รักโชวา อยากจะช่วยอยู่ดูแลเด็กน้อยคนนี้ให้ถึงที่สุด แต่ไม่นึกเลยว่าแค่วันแรกที่มาอยู่ด้วยกันกลับทำให้โชวาเจ็บตัวซะแล้ว ถ้ายังขืนอยู่ต่อไปเจ้าเด็กแสบคงเจ็บตัวไม่เว้นแต่ละวันเพราะความสะเพร่าของร่างเล็กแน่นอน

 

'คงต้องหยุดทำอะไรที่ไม่เหมาะกับตัวเองแล้วสินะ ตลกจริงๆ เลยกับความไม่ได้เรื่องนี่ บราวนี่เอ้ยเมื่อไหร่จะเป็นผู้ใหญ่เหมือนคนอื่นเขาซะที'

 

ร่างเล็กได้แต่กร่นด่าตัวเองในใจ ก่อนที่จะตัดสินใจลุกขึ้นเดินกลับไปยังบ้านหลังใหญ่อีกครั้ง หลังจากที่คิดทบทวนมาหลายรอบ จนมั่นใจว่าคิดด้วยความรอบคอบกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

                         

                                     
******************




        “ไปเอาชุดปฐมพยาบาลมา” ชาร์ลสั่งลูกน้องทันทีที่เดินเข้ามาถึงห้องรับแขก ก่อนที่จะวางลูกชายตัวน้อยลงนั่งบนโซฟา ร่างสูงนั่งคุกเข่าลงกับพื้นก้มลงดูแผลถลอกที่หัวเข่าด้านขวาของเจ้าตัวแสบ แผลไม่ได้ใหญ่อะไรมาก รอยถลอกไม่ได้ลึกอย่างที่ตนเองกลัว มีเพียงเลือดที่ซึมออกมาเล็กน้อยเท่านั้น ชาร์ลเป็นห่วงลูกมากเกินไปจนลืมนึกถึงความรู้สึกของอีกคน เขายอมรับว่าโมโหมากที่เห็นลูกชายต้องมาเจ็บตัว ด่ากราดไปทั่วโดยไม่นึกถึงจิตใจของคนฟังเลยด้วยซ้ำ

 

ชุดปฐมพยาบาลถูกนำมาวางลงตรงโต๊ะตัวเล็กหน้าโซฟา ก่อนที่ป้าภาจะเป็นคนอาสาทำแผลให้โชวาด้วยตนเอง เพราะถ้าให้คนเป็นพ่อทำคงได้เจ็บกว่าเดิมแน่ เจ้าตัวแสบยังคงร้องให้สะอึกสะอื้นแทบขาดใจ ปากเล็กๆ ก็ร้องเรียกหาแต่บราวนี่ จนชาร์ลเริ่มโมโหอีกรอบเพราะอารมณ์มันยังค้างอยู่

 

“พอเลยลูกจะร้องหาทำไมนักหนา ไม่เห็นเขาจะห่วงลูกเลยเห็นไหม ลูกเจ็บขนาดนี้ยังไม่มาดูดำดูดี” ชาร์ลเอ่ยอย่างหงุดหงิดที่อีกคนไม่ได้ตามเข้ามาในบ้านด้วย ไม่รู้ว่าหายไปไหนแล้ว

 

“ม่ายช่าย..ฮึก..บราวห่วง..ฮึก..โชวา..แต่โชวาดื้อเอง.. อึกไม่เชื่อฟังบราวเลย...ฮือ...บราวววว” เด็กน้อยพูดทั้งน้ำตานองหน้า เพราะรู้ตัวดีว่าตัวเองเป็นคนผิด ทั้งๆ ที่บราวนี่ห้ามไว้ตั้งหลายครั้งแต่เด็กแสบไม่เชื่อฟังเอง

 

“ห่วงประสาอะไรถึงทำให้เจ็บตัวแบบนี้ ไม่สนใจที่จะดูแลลูกมากกว่า”

 

“ฮึก..บราวรักโชวา ดูแลโชวาทั้งวันเลย..ฮืออออ” เพราะมัวแต่ทะเลาะกับคนเป็นพ่อโชวาเลยลืมที่จะงอแงเมื่อโดนแอลกอฮอลล้างแผล จนป้าภาทำแผลให้เสร็จเด็กน้อยกลับไม่สนใจความเจ็บเลยด้วยซ้ำ

 

“ไม่ต้องมาแก้ตัวแทนกันเลย คนผิดยังไงก็ผิดอยู่วันยังค่ำ”

 

“นายฟังผมพูดหน่อยได้ไหมครับ” หลังจากที่เอกเดินกลับมาจากที่ตามร่างเล็กไปได้สักพัก ขาของเขาก้าวยังไม่พ้นธรณีประตูกลับได้ยินทั้งเจ้านายคนโตและเจ้านายน้อยกำลังทะเลาะกัน

 

“มีอะไรเอก”  น้ำเสียงเข้มติดขุ่นเพราะชาร์ลยังโกรธอยู่มาก อีกคนที่มีความผิดไม่แพ้กันก็คือเอกนี่แหละ  แทนที่จะช่วยกันดูโชวาแต่กลับนั่งคุยหัวเราะต่อกระซิกกับร่างเล็กอย่างสนุกสนาน ชาร์ลที่นั่งอยู่ในรถตู้คันใหญ่ได้แต่แอบขุ่นเคืองในใจ แต่พอลงจากรถเท่านั้นแหละ ไม่นึกว่าเจ้าลูกชายตัวน้อยจะเจ็บตัวซะได้

 

“ผมขออนุญาตพูดนะครับเจ้านาย คุณบราวดูแลคุณหนูน้อยตลอดนะครับ ไม่ได้ละเลยอย่างที่เจ้านายว่า ผมอยู่ด้วยตลอดช่วงเย็น รับรู้ถึงความห่วงใยที่คุณบราวมีให้กับคุณหนู ก่อนที่คุณหนูจะเอาจักรยานออกมาปั่นคุณบราวก็เตือนแล้วว่าไม่ให้ปั่นเร็ว แต่คุณหนู..เอ่อ..ก็ดื้อไม่ฟังเลย คุณบราวร้องเตือนอยู่หลายครั้ง จนเจ้านายมาคุณหนูรีบหันไปตามเสียงรถจึงทำให้สะดุดเข้ากับก้อนหินครับ” เอกอธิบายเสียยืดยาว เพราะเขารับรู้ได้ถึงความจริงจังของร่างเล็กที่ดูแลโชวาในครั้งนี้

 

“โชวาดื้อเอง..บราวเตือนแล้ว..ฮือออ..โชวาเป็นเด็กไม่ดี” เด็กแสบนั่งร้องให้ฟูมฟายอยู่บนโซฟา รู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุทำให้บราวนี่โดนพ่อของตนดุ

 

“แดดดี๊เข้าใจแล้วครับ แล้วตอนนี้เขาไปไหนซะล่ะ” สายตาคมเริ่มสอดส่ายหาใครอีกคนที่เขาไม่เห็นเลยตั้งแต่เข้ามาในบ้าน

 

“ใครครับ..” เอกแสร้งทำเป็นไม่รู้ แกล้งกวนตี..เจ้านายก็เท่านั้น แม้ว่าจะเสี่ยงกับการถูกลงโทษแต่เพราะความหมั่นใส้ส่วนตัวที่ไม่ยอมฟังอะไรเลยเขาจึงทำเหมือนไม่เข้าใจ

 

“พูดดีๆ อย่ากวนให้มาก อยากโดนแบบวันนั้นรึไง” กฤตที่ยืนอยู่ข้างๆ กระซิบข้างหูเล็กเบาๆ ให้ได้ยินกันสองคน

 

“ไอ้บ้า” เอกอ้าปากพะงาบๆ ด่าอีกคนไม่มีเสียงเพราะมีเจ้านายอยู่

 

“ว่าไง..ฉันถามว่าบราวนี่ไปไหน” ชาร์ลถามบอดี้การ์ดคนสนิทเสียงเข้ม จ้องมองเขม็งเพราะรู้ดีว่าเอกอยู่กับบราวนี่ก่อนที่จะเข้ามา

 

“คุณบราวไม่อยู่ครับ เห็นบอกว่าจะไปหาที่นั่งเงียบๆ คิดอะไรหน่อย”

 

“ที่เงียบๆ น่ะที่ไหน อย่ามาเยอะนะเจ้าเอก” ชายหนุ่มรู้ว่าคนสนิทของเขาไม่มีทางปล่อยบราวนี่ไปทั้งๆ ที่ไม่รู้อะไรเลยหรอก เพราะทั้งเอกและกฤตคือคนที่รู้ใจเขามากที่สุด ไม่ว่าเขาต้องการอะไร ก็ไม่เคยทำพลาดเลยสักครั้ง

 

“ใครจะกล้าเยอะกับเจ้านายล่ะครับกลัวโดนแบบคุณบราว ป่านนี้คงน้อยใจหนีกลับบ้านไปแล้วมั้ง” คนที่บอกไม่กล้าเยอะกับเจ้านาย แต่ทุกคำพูดนี่โยกโย้กวนประสาทคนฟังยิ่งนัก

 

“จัดการซิกฤต” เอกถึงกับตาโตเมื่อหันไปมองกฤตที่ทำท่าเหมือนจะเข้ามาหาเขาอย่างนั้าแหละ

 

“บอกแล้วครับๆ คุณบราวขอไปนั่งเล่นที่สวนสุขภาพของหมู่บ้าน ก่อนที่จะมาเก็บของกลับบ้านครับ” ประโยคแรกน่ะเขาพูดจริงแต่ไอ้ประโยคหลังนี่แต่งเติมเพราะความหมั่นใส้ล้วนๆ

 

“ฉันจะออกไปตามเองพวกนายอยู่ดูแลโชวาที่บ้านนี่แหละ” ชาร์ลลุกขึ้นเต็มความสูง ขายาวๆ ก้าวออกไปจากห้องนั่งเล่นทันที ตอนนี้โชวาหลับไปแล้วเพราะทั้งร้องให้ทั้งเจ็บแผล ป้าภาจึงให้ทานยาแก้ปวดและแก้อักเสบเข้าไปจึงหลับสนิทในเวลาไม่นาน

 

ชาร์ลหยิบกุญแจรถมอเตอร์ไซส์คนใหญ่ออกมา ก่อนที่จะขับออกไปอย่างรวดเร็ว มอเตอร์ไซส์คันโปรดที่ผ่านการใช้งานมาไม่กี่ครั้ง แต่คราวนี้เขาเอาลูกรักออกมาใช้งานเพราะคนสำคัญของเขาที่ไม่รู้ว่าตอนนี้ยังอยู่ที่สวนสาธารณะรึเปล่า ถ้าจะขับรถเก๋งไปก็กลัวว่าจะช้าไม่สามารถซอกแซกเข้าซอยนั้นออกซอยนี้ได้ดั่งใจ

 

สปอร์ตบิ๊กไบค์คันโปรดคอยขับช้าๆ เพื่อให้เจ้าของๆ มันกวาดสายตาหาอีกคน ชาร์ลขับวนจนทั่วสวนสาธารณะแต่ก็ยังไม่พบ ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์โทรหาบอดี้การ์ดคนสนิทอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ แต่ก็ได้คำตอบเหมือนเดิม ชาร์ลเริ่มใจไม่ดีกลัวว่าร่างเล็กจะได้รับอันตราย หรือถ้ากลับบ้านไปแล้วก็ดีหน่อยแม้ว่าอาจจะต้องเจอปัญหาใหญ่ตามมาก็ยังพอที่จะรับมือไหว

 

ชาร์ลตัดสินใจขับวนดูอีกรอบ คราวนี้เห็นเงาตะคุ่มๆ ของคนหรืออะไรไม่แน่ใจอยู่ตรงพุ่มไม้ เขาตัดสินใจจอดรถ แล้วเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ว่าเป็นคนหรืออะไรกันแน่

 

“เหมี๊ยวๆๆๆ ออกมาสิเจ้าแมวน้อย” เสียงเล็กๆ เรียกแมวที่คงจะติดอยู่ตรงพุ่มไม้แล้วหาทางออกไม่ได้ เพราะมีรั้วเหล็กกั้นไว้อยู่ ชาร์ลจำได้ดีว่าเสียงของคนที่กำลังช่วยแมวตัวน้อยนั้นเป็นใคร จึงรีบตรงเข้าไปหาด้วยความร้อนรนเพราะรู้สึกผิดในใจ

 

“บราวนี่..” ชาร์ลตะโกนเสียงดังเรียกคนที่ก้มๆ เงยๆ หาทางช่วยเจ้าแมวเคราะห์ร้ายอยู่ ร่างเล็กได้ยินเสียงของอีกคนถึงกับชะงักไปชั่วครู่ ก่อนที่จะทำเป็นไม่สนใจก้มลงไปหาทางช่วยแมวน้อยต่อ

 

แขนเล็กๆ ยื่นผ่านรั้วเหล็กลงไปดึงเจ้าแมวตัวอ้วนขึ้นมา แต่กลับต้องมาติดตรงช่องของรั้วที่ดูจะเล็กเกินกว่าที่เจ้าแมวอ้วนจะออกมาได้ บราวนี่พยายามดันหัวเจ้าตัวอ้วนออกมาก่อน ก่อนที่จะค่อยๆ จับขาหน้าทั้งสองข้างรอดผ่านชองอย่างระวัง

 

“ให้พี่ช่วยไหม” บราวนี่ไม่ตอบยังคงก้มหน้าก้มตาช่วยเจ้าแมวน้อยต่อไป ชาร์ลได้แต่ยืนมองอยู่ใกล้ๆ ไม่กล้าทำอะไรมากไปกว่านั้น เพราะกลัวว่าเจ้าแมวตัวน้อยจะตกใจวิ่งเตลิดกลับเข้าไปข้างในอีก เสียงร้อง เหมียวๆ ของแมวตัวอ้วนดังระงมไปทั่ว  ร่างสูงยืนมองอยู่อย่างนั้นจนบราวนี่ดึงมันออกมาได้สำเร็จ

 

“ไม่เป็นไรนะเจ้าแมวน้อย แล้วเจ้าของแกไปไหนเนี่ย” บราวนี่พูดกับแมวน้อยเบาๆ ก่อนที่จะเดินกลับไปนั่งตรงมาหินอ่อนข้างๆ ชาร์ลเพียงแค่เดินตามไปเงียบๆ

 

“ไข่เจียวลูกแม่หายไปไหน เหมี๊ยว ๆ เสียงหญิงสาวดังขึ้นจากอีกทาง ทำให้เจ้าแมวตัวอ้วนร้องตอบรับในทันที บราวนี่ลุกขึ้นยืนเพื่อให้เห็นคนที่เดินมาได้ถนัด

 

“อยู่ทางนี้ครับ” บราวนี่ตะโกนเรียกเจ้าของแมวตัวอ้วนเพื่อให้หญิงสาวหันมาทางด้านที่เขายืนอยู่

 

“เจอแล้วลูกแม่ ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวรับแมวตัวอ้วน ก่อนที่จะหันไปขอบคุณชาร์ลที่ยืนนิ่งอยู่ข้างๆ พร้อมกับส่งยิ้มยั่วยวนให้ร่างสูงอย่างจงใจ บราวนี่ได้แต่ยืนงงกับการกระทำของหญิงสาวตรงหน้า ก่อนที่จะผละออกมาจากสองคนนั้นทันที ชาร์ลเรียกตามร่างเล็กแต่กลับถูกหญิงสาวถ่วงเวลาไว้ พูดนั่นพูดนี่จนชายหนุ่มหมดความอดทน

 

“ขอโทษนะครับคุณ ผมจะไปตามแฟนผม” คำพูดของชาร์ลทำเอาคนฟังหน้าชาไปเลยทีเดียว แต่ร่างสูงกลับไม่สนใจรีบวิ่งตามบราวนี่ไปทันที

 

บราวนี่รีบเดินจ้ำอ้าวออกจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด ไม่สนใจเสียงคนที่เรียกตามเลยแม้แต่น้อย จนกระทั่งร่างสูงวิ่งมาทันพร้อมกับกอดอีกคนเอาไว้จากด้านหลัง

 

“บราวพี่ขอโทษที่พูดไม่ดีกับบราว ยกโทษให้พี่นะ” ชาร์ลพูดกับคนที่ยืนหันหลังให้ตนเอง ไม่รู้ว่าอีกคนรู้สึกไม่ดีมากน้อยเพียงใดกับคำพูดพล่อยๆ ของตนเอง

 

“ปล่อยครับ...ผมจะกลับ"

 

"ไปสิ กลับบ้านเรา พี่ขับมอเตอร์ไซส์มากลับกับพี่นะ" ชาร์ลจับข้อมือเล็กทันที ก่อนที่จะดึงให้เดินตามมา

 

"ปล่อยครับ ผมไม่ไปกับคุณ ผมจะกลับบ้านของผม" บราวนี่เหวี่ยงแขนสุดแรงเพื่อให้หลุดจากการเกาะกุมของอีกคน แต่คนที่มีแรงเยอะกว่าอย่างชาร์ลกลับไม่สะทกสะท้าน เพียงเพราะการกระทำของมดตัวน้อยๆ อย่างบราวนี่เลยสักนิด

 

"พี่ขอโทษที่พูดไม่ดี ขอขอโทษที่ไม่ถามเหตุผลเลยสักนิด" ชาร์ลระล่ำระลัก ก่อนที่จะดึงอีกคนมาซบแนบอกแกร่ง

 

"คุณพูดถูกทุกอย่าง ไม่มีอะไรที่มันไม่ดีเลยสักนิด"

 

"อย่าประชดพี่ได้ไหมครับ พี่รู้ว่าผิดแล้วก็กำลังขอโอกาสแก้ตัวกับบราวอยู่นะ" ชาร์ลดึงร่างเล็กให้ขยับออกนิดหน่อย ก่อนที่จะก้มลงจุมพิตหน้าผากมนเบาๆ

 

"ผมไม่ได้ประชดแค่พูดความจริง แล้วคุณก็ไม่ต้องมาขอโทษผมหรอก เพราะผมไม่ได้โกรธคุณ"

 

"ไม่โกรธพี่จริงเหรอ ถ้าอย่างนั้นเราก็กลับบ้านกันเถอะนะโชวาเรียกหาแต่บราวจนหลับเลยนะ" ชาร์ลเอาเด็กตัวแสบที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเข้ามาล่อหวังให้บราวนี่ใจอ่อน แต่ร่างเล็กกลับทำเป็นไม่รับรู้อะไร ทั้งๆ ที่จริงๆ ในใจอยากจะรู้เหลือเกินว่าเจ้าเด็กแสบเจ็บมากรึเปล่า

 

"ถึงผมกลับไปก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอกครับ รังแต่จะสร้างปัญหา ไม่มีปัญญาดูแลใครหรอก"  บราวนี่ตัดพ้อด้วยความน้อยใจ พยายามกลั้นน้ำตาที่ทำท่าจะไหลออกมาให้ได้ คราวนี้ร่างเล็กไม่ได้ร้องให้สะอึกสะอื้น มีเพียงแค่หยดน้ำตาเม็ดเล็กที่เริ่มไหลรินเป็นสายธารให้อีกคนรู้สึกปวดใจเล่นก็เท่านั้น

 

"อย่าร้องให้เพราะคำพูดพล่อยๆ ของพี่เลยนะ จะทำโทษพี่ยังไงก็ได้ยอมหมดเลย ขอแค่บราวหยุดร้อง แล้วก็กลับบ้านกับพี่นะ"  แรงยื้อยุดฉุดกระชากของทั้งสองคนทำให้ผู้คนที่ออกกำลังกายอยู่รอบๆ บริเวณ ต่างพากันมองอย่างสงสัย แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่ง

 

"ปล่อย..."

 

"ไม่ปล่อย เอาอย่างนี้น้องบราวตบปากพี่เลย เอามือน้อยๆ ของน้องบราวตบพี่ให้เต็มที่เท่าที่บราวต้องการเลย" ไม่พูดเปล่ามือใหญ่คว้ามือเล็กเอาไว้บังคับให้เอามาตบปากตนเองรัวๆ ไม่หยุด แม้ว่าบราวนี่จะขืนมือไว้แต่ก็ทำไม่สำเร็จ 

 

"อยากให้ตบมากใช่ไหมได้เลย" บราวนี่ไม่ขืนแรงของร่างใหญ่แล้วปล่อยมือไปตามแรงที่คนตัวโตบังคับ พร้อมๆ กับแรงเหวี่ยงจากฝ่ามือตัวเองตบเข้าที่แก้มสากเต็มแรง จนคนตัวโตถึงกับหน้าหันไปตามแรงกระแทก

 

"เจ็บชะมัด..อ่าส์" มือหนายกขึ้นลูบแก้มสากตัวเองทันทีหลังจากที่ตั้งสติได้

 

"หายโกรธพี่แล้วใช่ไหม"

 

"ไม่" บราวนี่ตอบแบบไม่ต้องคิดเลยแม้แต่น้อย ก่อนที่จะหันหน้าเดินหนีไปอีกทาง

 

"ไม่หายก็ไม่เป็นไร กลับไปอยู่ด้วยกันให้พี่มีโอกาสง้อน้องบราวจนกว่าจะหายนะ" ชาร์ลทำท่ากระดี้กระด้าเพราะดูท่าทางร่างเล็กจะผ่อนคลายอารมณ์ลงบ้างแล้ว สงสัยจะซาดิสเป็นสาย sm ก็ไม่บอก พอทำให้ชายหนุ่มเจ็บแล้วก็หายโกรธลงไปเยอะเลย

 

"จะกลับก็ไปสิ มายืนทำหน้าบ้าบออะไรแบบนี้" ร่างเล็กตีสีหน้าเรียบเฉย แม่ว่าใจจะอ่อนไปกว่าครึ่งแล้วก็ตาม

 

"ครับๆ รถอยู่ทางนี้" ชาร์ลคว้าแขนเล็กก่อนจะจูงมือเดินข้างกันไป จนถึงรถบิ๊กไบค์คันใหญ่บราวนี่ถึงกับตกตะลึง นี่มันรถในฝันของเขาเลยนี่นา ดูคาติ 1299 พานิเกเล่ เอส รถสปอร์ตบิ๊กไบค์ที่ราคาเกือบสองล้านบาท     

  ร่างเล็กสะสมแต่โมเดลของรถรุ่นนี้เพราะคงซื้อไม่ไหวราคาแพงหูฉี่ อีกอย่างถ้าซื้อมาคงถูกเก็บไว้แค่ในโรงรถ เพราะถึงแม้ว่าอยากจะขับขนาดไหน แต่ขาก็ไม่ถึงอยู่ดี มือน้อยๆ ลูบไล้รถคันโปรดอย่างลืมตัว ตากลมโตพราวระยับเพราะความชอบใจ

 

"รถของคุณเหรอ ทำไมผมไม่เคยเห็น"

 

"หึๆ ชอบเหรอ พี่ไม่ค่อยได้ขับหรอกมันเป็นของสะสม แล้วยังเป็นรถคันโปรดอีกด้วย ไม่อยากให้มีรอยขีดข่วนเลยแม้แต่น้อย"  ชาร์ลภูมิใจกับลูกรักคันนี้มาก คิดไม่ผิดจริงๆ เลยที่ขับออกมา ทำให้บราวนี่ลืมความโกรธลงไปได้

 

"ผมรู้แล้ว...คุณบอกว่าถ้าผมหายโกรธคุณจะทำตามที่ผมบอกทุกอย่างใช่ไหม" บราวนี่เว้นระยะให้อีกคนได้ตอบพร้อมๆ กับสายตาสื่อความหมายแฝงบางอย่าง

 

"ครับ หายโกรธพี่รึยังล่ะ ถ้าหายแล้วก็ช่วยเรียกพี่ชาร์ลเพราะๆ ให้ชื่นใจหน่อยสิครับ" ร่างสูงออดอ้อนจนน่าหมั่นใส้

 

"ยังไม่หาย แต่ถ้ายอมยกคันนี้ให้รับรองหายแน่" ชาร์ลยืนนิ่งอยู่นาน เพราะมันเป็นของสะสมชิ้นเดียวที่เขาหวงที่สุด คนอื่นไม่มีสิทธิ์แตะต้องรถคันนี้ของเขาเลยสักคน จะมีก็แต่บราวนี่ที่มีอภิสิทธิ์เหนือใคร ทั้งลูบทั้งคลำทั้งๆ ที่เจ้าของอย่างชาร์ลยังไม่อนุญาตเลย

 

"ตามนั้นครับ พรุ่งนี้เดี๋ยวพี่จะจัดการโอนให้เลย" บราวนี่ไม่ได้ต้องการมันจริงๆ หรอก และรู้ด้วยว่าอีกคนหวงมันมากขนาดไหน แค่ต้องการแกล้งแล้วก็พิสูจน์อะไรเล็กๆ น้อยๆ ก็เท่านั้น

 

"หายโกรธแล้วเนอะ กลับบ้านกัน" ชาร์ลเสียบกุญแจรถก่อนจะขึ้นคร่อมทันที โดยไม่ลืมสวมหมวกกันน็อคให้กับอีกคนทันที

 

"แล้วพี่ไม่สวมหมวกเหรอ"

 

"เอามาแค่อันเดียว พี่รีบมากเลยลืมเอามาอีกใบ น้องบราวใส่ไว้น่ะดีแล้ว" ชาร์ลใส่หมวกให้ร่างเล็กก่อนที่จะตรวจสอบว่าแน่นดีรึยัง โดยมีสายตาของอีกคนมองอยู่ตลอดเวลา

 

"ขอบคุณครับ ส่วนเรื่องรถพี่ไม่ต้องโอนให้บราวหรอก บราวแค่ล้อเล่น"

 

"แต่พี่จะให้จริงๆ นะ"

 

"ไม่เอาหรอก ถ้าวันไหนอยากขี่เอาไว้ให้พี่ชาร์ลพาไปน่าจะดีกว่า"

 

"แล้ววันนี้อยากนั่งรถเล่นไหม เดี๋ยวพาขับเล่นสักรอบก่อนเข้าบ้าน" ร่างเล็กพยักหน้าหงึกหงักด้วยความพอใจ ก่อนที่จะกระโดดขึ้นซ้อนท้ายคนตัวโตทันที เรียวแขนเล็กกอดเข้ากับเอวสอบของคนขับอย่างไม่ลังเล ชาร์ลได้แต่ยิ้มให้กับความน่ารักของอีกคน ก่อนจะค่อยๆ  ขับไปอย่างไม่รีบร้อน เพราะเขาต้องการที่จะมีเวลาส่วนตัวกับคนสำคัญของหัวใจนานๆ

***************

จบตอนเชิญด่าชาร์ลได้ตามสบาย ส่วนน้องบราวหนูเป็นคนใจอ่อนมากนะขอบอก  :a5:  :a5:

                                  TBC.

ออฟไลน์ tawanna

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
เกือบตายเพราะปากเสียแล้วตาชาร์ล :เฮ้อ:

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
โมโหคุณชาร์ลจริงๆนะ ฮึ่ยๆๆๆ

แต่ไหงสุดท้ายยอมง่ายๆ ล่ะลูก 555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Kalamall

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 729
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
นึกว่าจะได้แมวไปป่วนด้วยอีกตัวแล้วนั่น

ออฟไลน์ neverland

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ช่วยงอนนานๆหน่อยน้องบราววว  :z3:
ขัดใจเจ้มากกก อย่าให้อิคุณชาร์ลมันได้ใจนักกก  :heaven

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
น้องบราวหายโกรธเร็วจัง 

ออฟไลน์ Faifull

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :mew1: :mew1:หายงอนเร็วเกินนนนน

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
บราวนี่ก็ใจอ่อนง่ายเกิน!

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ปากร้ายมากพี่ชาร์ล ว่าน้องขนาดนั้นได้ยังไง
ดีนะบราวไม่หนีกลับบ้านไปจริงๆ น่ะ

ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
 :เฮ้อ:.ใจอ่อนเกินไปแล้วน้องบราว

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

บลาวววจะถูกยั่วให้ใจแตกกก

ออฟไลน์ sunipum

  • ชีวิตต้องต่อสู้ ให้โลกรู้เราแน่แค่ไหน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
ชอบเรื่องนี้ๆ ขอบคุณนะค่ะ ^^

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด