ตอนที่สามมาแล้วจ้าาาาาา ตอนนี้รีบแต่งมากไปหน่อยเวลาไม่ค่อยมี เลยอาจจะออกมาไม่ค่อยดีเท่าไร อย่าว่ากันนะคะ แล้วก็ขอบคุณทุกๆคอมเม้นมากเลยเน้ออออ เป็นกำลังใจได้ดีจริงๆ555 ไปอ่านตอนที่สามกันเล๊ยยยยยEP.3
หลังจากที่ไอ้พี่เหมมันเล่นถ่อมาหาผมถึงที่คณะ เช้าวันรุ่งขึ้นก็เกิดทอล์กออฟเดอะทาวน์ขึ้นมาทันทีเมื่อมีคนเอารูปตอนที่ไอ้พี่เหมมันกำลังจูงข้อมือผมให้เดินออกห่างจากตรงที่มีควันบุหรี่ ส่วนผมก็กำลังยกผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำที่ไอ้พี่เหมมันให้ขึ้นมาปิดจมูกไปลงในเพจ ‘อยากให้ผู้ชายรักกัน’ อะไรก็ไม่รู้และเพราะว่าตอนนั้นผมไอจนน้ำหูน้ำตาไหลในรูปมันเลยออกมาเหมือนกับว่าผมกำลังร้องไห้แล้วเอาผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดน้ำตาอยู่
แถมคำแคปชั่นบรรยายรูปที่ผมเห็นมันดันเขียนเอาไว้ว่า
'อะไร? ยังไง? พี่เหมทำน้องพลัมร้องไห้?'ทำไมมันกลายเป็นแบบนี้ไปได้!?
คอมเม้นใต้รูปก็ตามมาอย่างถล่มถลายจนไล่อ่านไม่หวัดไม่ไหว ซึ่งผมก็ทนอ่านไม่ไหวเหมือนกัน ก็แต่ละคอมเม้นแม่งงงงง
‘พี่เหมทำไรน้องพลัม? ไปง้อน้องเดี๋ยวนี้เลยนะ!’กูไม่ได้เป็นไรไม่ต้องมาง้อกูวววววว
‘น้องพลัมเป็นอะไรค่ะ? พี่เหมแกล้งอะไรบอกเจ้มาได้เลย’อิเจ้รูปโปรมึงหน้ากลัวกว่าไอ้พี่เหมอีก!
‘อย่าทะเลาะกันเลยนะ เป็นแฟนกันเราต้องพยายามทำความเข้าใจซึ่งกันและกันนะคะ’กูไม่ได้เป็นแฟนกับไอ้พี่เหมวุ้ย! แล้วก็ไม่ได้ทะเลาะอะไรกับพี่มันด้วย!
และคอมเม้นอื่นๆอีกบลาๆๆ
น้องพลัมอย่างงู้น พี่เหมอย่างงี้
ฟวยยยยยยย
กูไปเป็นน้องของพวกคุณๆตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วอะไรคือการที่แม้แต่รุ่นเดียวกันก็ยังเรียกผมว่าน้อง!?
ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าไอ้คนที่เอารูปนี้ไปลงมันต้องการอะไรหรือว่าเป็นใคร
แต่ห่านเอ๊ย!
มันเล่นแท็กเฟชของผมลงไปในรูปนั้นด้วยอ่ะ! มันรู้เฟชผมได้ไงว่ะ? แม่งทำให้เฟชของผมเด้งแทบจะตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนใหม่เพื่อนเก่าหรือแม้แต่คนที่ไม่รู้จักที่ทักข้อความมาถามเกี่ยวกับรูปนั้นแถมยังมีคนแอดเฟชผมขึ้นมาตั้งหลายสิบคน ตอนที่เรียนอยู่ก็รู้สึกเหมือนโดนจ้องอยู่ตลอดเวลาเล่นเอาผมเรียนแทบไม่รู้เรื่องรีบเผ่นกลับห้องทันทีที่อาจารย์ปล่อยคลาส
แต่แปลกอยู่อย่างหนึ่ง...
คือผมก็ไม่ได้หลงตัวเองหรือว่าอะไรหรอกนะครับ แต่เรื่อง(เข้าใจผิด)ของผมกับไอ้พี่เหมตอนนี้ก็เรียนได้ว่าเป็นเรื่องที่คนแทบจะทั้งมหาลัยให้ความสนใจเลยก็ว่าได้
แต่ทำไมเพื่อนผมอีกสองคนซึ่งก็คือหัวหน้าห้องแล้วก็ไอ้วัฒถึงยังไม่ได้ติดต่อมาเสือก เอ้ย! มาสอบถามถึงความความสัมพันธ์ของผมกับไอ้พี่เหมก็ไม่รู้ อย่างที่ผมเคยบอกไปตั้งแต่ตอนแรกแล้วว่าถ้าเรื่องเสือกต้องยกนิ้วให้ไอ้เติ้ลกับไอ้วัฒ แล้วยิ่งเป็นเรื่องที่ผมดันไปมีแฟนเป็นผู้ชายอีก(ซึ่งจริงๆแล้วไม่ได้เป็นนะเว้ย!) มันไม่น่าจะพลาดได้ ไอ้เติ้ลมันมาแสดงตัวแล้วเมื่อวานแต่ไอ้วัฒกับหัวหน้าห้องนี่สิยังไม่เห็นหัว
ก็อกๆๆ
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นในตอนเย็น ผมเลยละมือจากเกมส์ที่กำลังเล่นอยู่แล้วเดินไปเปิดประตู
“แฮร่!!!”
“เหี้ย!”
“ฮ่าๆๆๆ กูว่าแล้วมึงต้องตกใจ”
ไอ้เหี้ยวัฒ!
มันแอบอยู่ข้างประตูแล้วพอผมเปิดประตูมันก็พุ่งออกมาแฮร่ใส่
ผมจะไม่ตกใจเลยถ้าไอ้วัฒมันไม่ได้ใส่หน้ากากผีอยู่!
จุดอ่อนของผมอีกอย่างหนึ่งก็คือผมกลัวผีครับ กลัวแบบโคตรๆของโคตรๆอ่ะ ชีวิตนี้เคยดูหนังผีอยู่ไม่กี่ครั้งและทุกครั้งที่ดูก็หลอนนอนไม่หลับไปเป็นอาทิตย์ ลำบากพวกมันนี่ล่ะที่ต้องมานอนเป็นเพื่อนผม
“กูถ่ายวีดีโอเอาไว้เรียบร้อยแล้วไอ้วัฒ”
เสียงของหัวหน้าห้องดังขึ้นมาจากขอบประตูอีกข้างหนึ่งในมือถือโทรศัพท์เอาไว้อยู่ ดูแล้วมันท่าจะถ่ายวีดีโอเอาไว้จริงๆ
อ๋อออออ นี่มึงสองคนทำกันเป็นกระบวนการ!?
“เล่นเหี้ยอะไรของพวกมึง!”
“ฮ่าๆๆ พอดีกูได้ข่าวว่ามึงทะเลาะกับแฟนไง กลัวมึงคิดมากเครียดอยู่คนเดียวเลยมาช่วยคลายเครียดไง” ไอ้วัฒตอบพร้อมกับถอดหน้ากากผีออกแล้วยิ้มกวนตีนส่งมาให้
คลายเครียดห่าอะไรล่ะ!
ทำให้กูเครียดมากกว่าเดิมล่ะสิไม่ว่า
“แฟนห่าอะไรของมึง?” แกล้งมึนไปก่อนทั้งๆที่รู้แล้วล่ะว่ามันหมายถึงใคร
“ก็พี่ปีสองที่เรียนอยู่วิศวะไง ที่ชื่อเหมอ่ะ ตอนแรกที่พวกกูได้ยินข่าวนะตกใจม๊ากมาก ไม่คิดว่าเพื่อนตัวเองจะมีผัวเร็วขนาดนี้” ไอ้หัวหน้าห้องจีบปากจีบคอพูด
“ผัวบ้านมึงน่ะสิ! กูไม่ได้เป็นอะไรกับพี่มันสักหน่อย”
ด่าเสร็จก็หลีกทางให้พวกมันสองคนเข้ามาในห้อง หัวหน้าห้องกับไอ้วัฒเลยหันไปหยิบถุงซุปเปอร์มาเก็ตสี่ห้าถุงที่วางทิ้งไว้ข้างประตูเดินตามเข้ามา
“แต่กูได้ข่าวว่ามึงไปขอพี่เค้าเป็นแฟนถึงที่คณะเลยหนิ” ไอ้วัฒถามขณะที่เดินเอาของเข้าไปวางในครัว
ห้องนี้ที่ผมอยู่ค่อนข้างจะกว้างพอสมควร มีห้องครัวให้หนึ่งห้อง ห้องน้ำกับห้องนอนอีกอย่างละหนึ่งแล้วก็มีห้องนั่งเล่นตรงกลางซึ่งพวกมันสามตัวชอบมาสุมหัวสังสรรค์กันที่ห้องผมบ่อยๆ ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมพวกมันชอบมาที่ห้องของผมทั้งๆที่ห้องของไอ้เติ้ลแม่งหรูกว่าผมอีกหลายเท่าตัว
ส่วนเงินค่าเช่าห้องนี้พี่ชายผม พี่พีชเป็นคนออกเงินให้ พี่พีชเรียนจบนานแล้วครับตอนนี้ทำงานอยู่ในบริษัทแห่งหนึ่ง ด้วยความที่พี่ผมเป็นคนเก่งและขยันทำให้แค่ไม่กี่ปีก็สามารถก้าวขึ้นไปในตำแหน่งดีๆได้แล้ว
ผมมีพี่สาวอีกคนชื่อว่าพี่แพร์ตอนนี้ก็เปิดร้านเค้กเป็นของตัวเองอยู่ใจกลางเมือง ไม่อยากจะบอกเลยว่าฝีมือการทำเค้กของพี่แพร์นั้นสุดยอดของสุดยอดมากๆ อร่อยโคตรๆ ผมยังไม่เคยกินเค้กร้านไหนอร่อยไปกว่าที่พี่สาวผมทำเลย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมร้านของพี่แพร์ถึงได้เป็นที่ถูกอกถูกใจของลูกค้านัก ออกรายการโทรทัศน์ไปหลายรายการแล้วด้วย เคยมีคนลงทุนมาจากต่างหวัดเพื่อมาซื้อเค้กร้านพี่ผมก็เคยมาแล้ว แถมรู้สึกว่าพี่แพร์กำลังจะเปิดสาขาสองในอีกไม่นานนี้ด้วย
“นั่นกูโดนทำโทษต่างหากล่ะ” ตอบเสร็จก็กลับไปเล่นเกมส์ในห้องนอนต่อ
“แต่เมื่อวานพี่เค้าก็ไปหามึงถึงคณะเลยไม่ใช่เหรอ? แถมมีรูปที่เค้าทำมึงร้องไห้ออกมาด้วยหนิ ทะเลาะอะไรกันเหรอ?” ไอ้หัวหน้าห้องเดินตามมายืนข้างหลังผมสายตาก็มองมาที่ผมราวกับจะเค้นหาความจริง
“กูไม่ได้ร้องไห้สักหน่อย แล้วก็ไม่ได้เป็นแฟน ไม่ได้ทะเลาะอะไรกับพี่มันด้วย นั่นกูแพ้บุหรี่ต่างหาก มึงก็รู้นี่ว่าเวลากูแพ้บุหรี่ก็จะไอจนน้ำตาไหลแบบนั้นแหละ”
“งั้นเหรอ”
“เออดิ มึงอย่าเพิ่งกวนกูได้ไหมอ่ะ กำลังจะตีบอสแล้วเนี่ย”
“หืมมมมมม” ไอ้หัวหน้าห้องไม่ได้ตอบอะไร
แต่รู้สึกว่ามันจะเดินไปข้างๆโต๊ะคอม…
พรึ่บ!
สาดดดดดดดดดด!
ไอ้หัวหน้าห้องมันดึงปลั๊กคอมผมมมมมมมมมม!
“ทำอะไรของมึงว่ะหัวหน้าห้อง!”
“ก็ปกติกูเห็นมึงเล่นแต่ที่ร้านเกมส์นี่ ก็เลยช่วยมึงประหยัดไฟไง”
“เหตุผลส้นตีน”
“เดี๋ยวกูตบปากแตก ออกมาข้างนอกได้แล้ว พวกกูอุตส่าห์มาหาทั้งทีจะปล่อยให้แขกนั่งกันอยู่สองคนแล้วเจ้าของห้องหมกตัวเล่นเกมส์อยู่แต่ในห้องเนี่ยนะ?”
“ปกติไม่จำเป็นต้องมีกูพวกมึงก็อยู่กันได้ไม่ใช่หรือไง แล้วอุตส่าห์มาหาอะไรของมึง? กูเห็นว่างทีไรก็มาหมกอยู่ห้องกูตลอด มาบ่อยซะจนกูคิดว่าพวกมึงเป็นเจ้าของห้องไปแล้วเนี่ย”
“อย่าบ่นๆ ก็วันนี้มันไม่ปกติไง วันนี้กูกับไอ้วัฒก่ะเมา”
“เมา?”
“เออ เหล้าพร้อมกับแกล้มพร้อมพวกกูแวะซื้อกันมาเรียบร้อยแล้ว”
นี่พวกมึงถามเจ้าของห้องอย่างกูสักคำหรือยังครับ?
แย้งอะไรไม่ได้หรอกครับ ได้แต่เดินตามเจ้แกไปต้อยๆ พอออกมาข้างนอกก็เห็นว่าไอ้วัฒมันเคลียร์พื้นที่เตรียมพร้อมแดกเรียบร้อย โต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กถูกนำออกมากางไว้ที่กลางห้อง บนโต๊ะเต็มไปด้วยเหล้าโซดาและกับแกล้มหลากหลายอย่าง
“นี่พวกมึงอดอยากมาจากไหน?”
“แหม นานๆทีน่ะมึง” ไอ้วัฒตอบ
“แล้วไอ้เติ้ลไปไหน?” ผมถามเพราะว่าเรื่องแดกเหล้าแบบนี้ไอ้เติ้ลมันไม่น่าพลาด ไอ้นี่มันสายแดก
“โทรชวนแล้ว แต่มันบอกว่าวันนี้รุ่นพี่ที่คณะเลี้ยงเหล้ามันเลยมาไม่ได้” ไอ้วัฒตอบ
รุ่นพี่ที่คณะเลี้ยงเหล้า?
หึ ไอ้พี่เหมแหงมๆ
ว่าแต่พี่มันเลี้ยงจริงๆเหรอว่ะ? นึกว่าแค่พูดไปงั้นๆซะอีก
“แล้วพวกมึงเป็นอะไร ทำไมจู่ๆก็อยากกินเหล้าเมาแต่หัววัน” เดินไปนั่งลงตรงโต๊ะญี่ปุ่นที่ไอ้วัฒเตรียมไว้ก่อนที่ไอ้หัวหน้าห้องจะเดินมานั่งด้วยกันอีกคน
“ก็ไม่มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษ ถ้ามีก็คงจะเป็นฉลองให้กับมึงที่จู่ๆก็มีแฟนล่ะนะ” ไอ้วัฒตอบพร้อมกับชงเหล้าแจกให้ไอ้หัวหน้าห้อง
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ใช่แฟน มันไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ”
“งั้นเอานี่ไปดูป่ะ”
ไอ้หัวหน้าห้องยื่นโทรศัพท์ของมันมาให้ผมดู หน้าจอที่เปิดค้างเอาไว้ก็คือรูปของผมกับไอ้พี่เหมที่ถูกเอาไปลงเพจบ้าบอนั่นแหละครับ แต่ที่ไอ้หัวหน้าห้องมันให้ผมดูก็คือคอมเม้นคอมเม้นหนึ่ง
‘ตอนนี้ปรับความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้วครับ’ไอ้พี่เหม!!!
ไอ้พี่ห่านั่นมันไปเม้นใต้รูป!
แล้วอะไรคือการปรับความเข้าใจกันแล้ว?
จนถึงตอนนี้กูยังงงในตัวคุณมึงอยู่เลยครับ
แล้วมาบอกว่าปรับความเข้าใจอะไรของมึงไม่ทราบบบบบบ?
“เหี้ยอะไรของพี่มันว่ะเนี่ย!?”
“มึงจะบอกว่ามึงไม่รู้เรื่องงั้นเหรอ?” ไอ้หัวหน้าห้องถาม
“เออดิ หลังจากนั้นก็ก็ไม่ได้คุยอะไรกับพี่มันอีก มันก็กลับคณะของมันไปส่วนกูก็กลับไปเรียนต่อยังไม่ได้คุยกันสักแอะ” พูดไปก็ไล่อ่านคอมเม้นที่มาเม้นตอบไอ้พี่เหมไป แม่งคนกดไลค์คอมเม้นมันโคตรเยอะ
“พี่เหมเค้าชอบมึงเหรอว่ะ?” ไอ้วัฒถามขึ้นบ้าง
“กูจะไปรู้เหรอ แม่งก็บอกไปแล้วว่ามันเป็นการลงโทษพี่มันก็ไม่ฟังทึกทักว่ากูเป็นแฟนมันอยู่นั่นแหละ แล้วทำไมมึงไม่ชงเหล้าให้กูบ้าง? มาแดกห้องกูแล้วยังจะให้กูชงเองอีกเหรอ” เงยหน้าขึ้นไปถามไอ้วัฒเพราะหลังจากที่มันยื่นเหล้าให้หัวหน้าห้องเสร็จก็หันไปชงให้ตัวเองทันที
แล้วของกูล่ะครับ?
“กูก็บอกไปแล้วไงว่าวันนี้กูกับไอ้วัฒจะเมา”
“แล้ว?”
“มึงยังอยากให้ห้องอยู่ในสภาพที่ดีหรือเปล่าล่ะ? ถ้าไม่ก็แดกกับพวกกูก็ได้ไม่ได้ว่าอะไร”
เหี้ยยยยย งั้นผมขอไม่แดกดีกว่า
หลายคนอาจจะสงสัยว่าที่ไอ้หัวหน้าห้องพูดมันหมายความว่าไง
เดี๋ยวอีกสักพักก็เห็นครับ แต่จะเล่าให้ฟังคร่าวๆก่อนก็ได้
คือในกลุ่มพวกเราสี่คนมีลำดับความคออ่อนไม่เท่ากันครับ คนที่แดกเหล้าได้เก่งและคอทองแดงมากที่สุดก็คือไอ้เติ้ล แม่งแดกจนชินไปแล้ว รองมาก็คือผม แม้ว่าผมจะไม่ค่อยได้กินเหล้าบ่อยแต่เมื่อสมัยมัธยมผมถูกพ่อจับกรอกปากฝึกให้กินบ่อยๆเลยกลายเป็นว่ามีภูมิต้านทานไปซะงั้น รองลงมาก็ไอ้หัวหน้าห้อง ไม่น่าเชื่อว่าไอ้วัฒจะคออ่อนกว่าไอ้หัวหน้าห้องที่เป็นผู้หญิง แต่มันก็เป็นเรื่องจริงครับ เพราะงั้นเวลาไปกินเหล้าด้วยกันทีไรไอ้วัฒจะถูกพวกผมสามคนมอมเหล้าบ่อยสุดแล้ว
แล้วก็เพราะไอ้วัฒกับไอ้หัวหน้าห้องที่มีความคออ่อนมากที่สุดในกลุ่มนี่แหละ พวกมันสองตัวจึงเมาบ่อยมาก และทุกครั้งที่พวกมันสองตัวเมาล่ะก็ไม่ว่าตอนนั้นจะแดกเหล้าอยู่ที่ไหนก็ตามมีเละเทะกันบ้างอ่ะ
เพราะพวกมันสองตัวจะร่วมมือกันรั่วแบบไม่เกรงใจใคร…
ลำบากใครล่ะครับ?
ถ้าไม่ใช่ผมกับไอ้เติ้ล
แล้วตอนนี้ไอ้เติ้ลก็ไม่อยู่ ดังนั้นขืนผมดื่มจนเมาไปด้วยล่ะก็ ห้องผมคงจะเละแบบไม่เหลือซาก
อาจจะหาว่าผมเวอร์ แต่รอดูอีกสักพักก็จะรู้เองครับ…
ปกติพวกผมไม่ค่อยจะมาดื่มเหล้าที่ห้องสักเท่าไร ที่บอกว่าชอบมาสังสรรค์ที่ห้องไปตอนแรกนั้นคือสังสรรค์พวกน้ำอัดลมขนบขบเคี้ยวธรรมดาต่างหาก ถ้าจะแดกเหล้าส่วนใหญ่จะไปที่ร้านนั่งชิลแทน เวลาพวกมันสองตัวเมาผมกับไอ้เติ้ลก็จะคอยคุมไม่ให้มันสองตัวไปทำข้าวของเค้าเสียหาย เป็นแบบนี้ซะเป็นส่วนใหญ่
แต่วันนี้ไอ้เติ้ลไม่อยู่ ผมต้องรับมือคนเดียวทางที่ดีไม่ดื่มจะดีสุดแล้วครับ
หลังจากนั้นพวกเราก็นั่งคุยกันไปเรื่อยเปื่อย เรื่องเรียนบ้าง อะไรบ้าง ไอ้วัฒกับหัวหน้าห้องก็ยกดื่มๆกันแบบไม่กลัวเมา จนกระทั่งสักประมาณสามทุ่ม ทั้งไอ้และหัวหน้าห้องก็เริ่มออกลายแล้วครับ ปกติไอ้วัฒจะเมาก่อนใครแต่วันนี้ส่วนใหญ่มันจะคุยมากกว่าอัตราการดื่มเลยน้อยกว่าหัวหน้าห้องนิดนึง คราวนี้พวกมันสองตัวจึงเมาพร้อมๆกัน
ชิบหายแน่กู…
“อ้ายพลัมมมมมมม กูหิวน้ามมมมมมม” ไอ้หัวหน้าห้องครับ
“เดี๋ยวกูลุกไปเอามาให้”
“ไม่ต้อง! เดี๋ยวกูลุกไปเอาเองงงงงงง กูยังหวายยยยยยยย”
นี่ขนาดมึงไหวเสียงมึงยังยานซะขนาดนี้ ถ้ามึงไม่ไหวแล้วนี่คงจะกลายเป็นสลอตเลยมั๊งห่า
“เออๆ เดินดีๆล่ะมึง”
“รับทราบค่าาาาา”
แล้วมันก็โงนเงนลุกขึ้นยืนเดินโซซัดโซเซไปทางห้องครัว ก็ยังถือว่าพอไหวอยู่ล่ะนะ
หันมาหาไอ้วัฒ ก่ะจะดูว่ามันเป็นยังไงบ้าง แต่พอหันมาเท่านั้นแหละ…
ไอ้วัฒแม่งไม่ได้นั่งอยู่ที่เดิมแล้ว!
หายไปไหนของมันว่ะ!?
จ๋อม!
เสียงเหมือนอะไรตกน้ำเลยหันไปมองทางตู้ปลาทองที่ผมลงทุนขนมาจากบ้านเอามาไว้ที่นี่ด้วยก็พบกับไอ้ห่าวัฒ
ซึ่งมัน…
มันกำลังพยายามจะจกปลาทองออกมาจากตู้!!
รีบลุกขึ้นไปห้ามมันเอาไว้แทบไม่ทัน
คือตู้ปลาทองผมมันไม่มีฝาปิดอ่ะ เอาแค่ออกซิเจนหย่อนลงไปแค่นั้น
“ทำห่าไรของมึงเนี่ยไอ้วัฒ!?”
“กูอยากแดกปลาย่างงงงงงงง เอิ๊ก”
พ่องมึงเซ่!!
ปลาทองมันแดกได้ที่ไหนกันเล่า!
แล้วนี่มึงคิดจะจกปลาทองกูออกมาเสียบไม้ย่างหรือไง!?
ฟวยยยยยยยยย
โครม!
เสียงดังโครมใหญ่ดังออกมาจากในครัวที่ไอ้หัวห้องมันเดินเข้าไป
กุมขมับเลยกู…
ไอ้หัวหน้าห้องมันทำอะไรอีกว่ะนั่น!?
แค่ไอ้วัฒจะจกปลาทองกูแดกนี่ก็รับมือแทบจะไม่ไหวแล้วนะโว้ยยยยยย!
“ไอ้วัฒมึงมานั่งนี่มา นั่งอยู่เฉยๆเข้าใจไหม?” พามันเดินมานั่งลงที่โซฟาแล้วสั่งกำชับให้มันนั่งอยู่กับที่
“คร้าบบบบบบบบ”
พอไอ้วัฒรับคำก็รีบวิ่งเข้าไปในครัวทันที และพอเข้าไปถึงก็ถึงกับต้องอ้าปากค้าง
ไอ้หัวหน้าห้องมันเดินชนจนเก้าอี้ที่ใช้นั่งกินข้าวล้มระเนราด!
แต่ที่ต้องอ้าปากค้างไม่ใช่เพราะเก้าอี้หรอก…
“อ้าววววว ไอ้พลัมมมมม มาพอดี ทำไมตู้เย็นมึงไม่เห็นเย็นเลยว๊า ไม่มีน้ำเลยซ๊ากกกกขวด”
มันจะไปเย็นหรือมีน้ำได้ยังไงกันล่ะห่าน!
ก็ที่มึงเปิดอยู่นั่นมันตู้ไมโครเวฟ!
มันคงจะมีน้ำให้มึงแดกหรอก
“หัวหน้าห้องมึงมานั่งนี่ก่อนมา เดี๋ยวกูหาน้ำให้มึงแดกเอง” หยิบเก้าอี้ที่ล้มอยู่ขึ้นมาแล้วไปลากไอ้หัวหน้าที่ยืนหน้าหงิกอยู่ตรงตู้ไมโครเวฟให้มันมานั่งตรงนี้ก่อน
พอจะหันไปเปิดตู้เย็นหยิบน้ำออกมาให้หัวหน้าห้องจู่ๆก็มีเสียงเพลงดังขึ้นมาจากห้องนั่งเล่น
‘อามี อามี กาฟรื้อ!! เดซิโก๊ะ เดจิ นาโบ กาโว๊ะ กาโว กาโว กาโว~~’
ไอ้วัฒ!!
แม่งเปิดเครื่องเล่นเพลงขึ้นมา! แล้วคือเพลงนี้มันเป็นเพลงที่พวกผมเคยไลท์ลงแผ่นแล้วเสียบแผ่นคาเครื่องเอาไว้ตั้งนานแล้ว พอมาอยู่มหาลัยก็ขนมันมาทั้งเครื่องเล่น แผ่นเพลงมันก็เลยติดมาด้วย
แล้วประเด็นคือมันเปิดดังมาก!
ไม่แคล้วว่าคนข้างห้องก็คงได้ยิน
ห่านเอ๊ยยยยยย!
“ไอ้พลัมมมมม น้ำกูอยู่หนายยยยยย?”
หันมาสนใจไอ้หัวหน้าห้องที่เริ่มเบะปากราวกับตัวเองเป็นเด็กตัวเล็กๆที่จะร้องไห้เวลาไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ
ผมรีบรินน้ำส่งให้ไอ้หัวหน้าห้องยื่นให้มันแล้วรีบเดินออกไปหาไอ้วัฒที่กำลังเต้นกาโวอยู่บนโซฟา
“อามี อามี กาฟรื้อออออออ เดซิโก๊วววววว เดจิ นาโบบบบบบบ กาโว๊ะ กาโววว กาโวว กาโว~~”
ไอ้วัฒแหกปากร้องเพลงไปด้วยเต้นไปด้วยจนผมรีบเดินไปปิดเครื่องเล่นแทบไม่ทัน คือเมื่อก่อนพวกผมสี่คนชอบเพลงนี้กันมากเลยฟังจนร้องตามได้อ่ะ
“ไอ้พลัมมมมม มึงปิดเพลงทำมายยยยย เปิดเดี๋ยวนี้เลยน๊า”
“เดี๋ยวข้างห้องเค้าก็ออกมาด่าหรอกมึง นั่งแดกเหล้าไปเงียบๆไม่ได้หรือไง?”
“ไม่ได้! กูจะเต้นกาโว มึงรีบเปิดให้กูววววว เลยนะ”
“ท่านนนนนน กามลาง เข้าสู่บริการรับฝากกกกกก หัวจายยยยยย~~”
เสียงไอ้หัวหน้าห้องร้องเพลงหญิงลีดังลั่นออกมาจากห้องครัว วิ่งเข้าไปดูก็พบว่ามันเอาขวดน้ำปลามาทำเป็นไมค์แล้วแหกปากร้องแบบไม่เกรงใจใคร
“โว้ยยยยยย ไมค์เสียงไม่ดีเลยยยยยย เปลี่ยนๆ” ว่าเสร็จไอ้หัวหน้าห้องก็ทำท่าจะเขวี้ยงขวดน้ำปลาในมือทิ้งจนต้องรีบเข้าไปขว้าเอาไว้ก่อนที่มันจะได้เขวี้ยง
อย่านะโว้ยยยยยยย!
ขืนมึงเขี้ยงขวดแตกล่ะก็ห้องกูต้องได้เหม็นเจ็ดวันเจ็ดคืนแน่ๆ
“อ้ายยยยพลัม กูอยากดูแฮร์รี่คัดดดดดเตอร์!!” เสียงไอ้วัฒตะโกนออกมาจากห้องนั่งเล่น
พอตเตอร์โว้ย!
คัดเตอร์นั่นกูจะเอามาแทงมึงนั่นแหละห่าน!
โอ๊ยยยยยย แต่ละคน!
เล่นเอาซะกูปวดหัว!
ไอ้เติ้ลมึงอยู่ไหนรีบกลับมาช่วยกูด่วนเลย
กูจะบ้าตายแล้วสาดดดดดด!
ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนพอดี ไอ้หัวหน้าห้องกับไอ้วัฒสลบไปเรียบร้อยแล้ว แต่กว่าจะยอมสงบได้นี่ก็เล่นเอาซะผมวิ่งล่อกไปทั่วห้อง ผมให้หัวหน้าห้องนอนบนโซฟาดีๆส่วนไอ้วัฒก็ปล่อยให้มันนอนไปที่พื้นข้างโซฟานั่นแหละ เผื่อมันสองตัวอ้วกจะได้ไม่ลำบากในการเก็บซากมากนัก
ผมสัญญากับตัวเองแล้วว่าคราวหน้าจะไม่ยอมให้พวกมันสองตัวมาแดกเหล้าที่ห้องผมอีกเป็นอันขาด!
ไม่ไหวจริง จะบ้าตาย!
Rrrrrrr Rrrrrrr
เสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่ในห้องนอนดังขึ้นผมเลยละจากไอ้ขี้เมาสองตัวเดินไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูชื่อคนโทรเข้าก็พบว่าเป็นไอ้เติ้ล
(ฮัล-)
“ไม่ต้องมาฮัลลงฮัลโหลเลยสัด! มึงปล่อยให้กูรับมือกับไอ้สองตัวนั่นคนเดียว!”
(ฮ่าๆ ก่ะแล้วว่ามึงต้องด่ากู แต่ทำไงได้ว่ะก็พี่เหมเค้าเลี้ยงเหล้ากูอ่ะ กูก็ต้องเลือกเหล้าฟรีก่อนดิ)
“ฟวย!”
(น่าๆ กูก็ก่ะจะโทรมาถามนี่ล่ะว่าเป็นยังไงกันบ้าง)
“เละน่ะสิถามได้! ไอ้วัฒแม่งเกือบจะจกปลาทองกูออกมาเสียบไม้ย่างอยู่แล้วเนี่ย!”
(ฮ่าๆๆ มันหิวขนาดนั้นเลยหรือไง?)
“ไม่ต้องมาขำเลยมึง คราวหน้ากูจะปล่อยให้มึงรับมือกับมันสองตัวคนเดียวบ้าง!”
(เอาน่าๆ)
“ชิ๊”
(เออ แล้วที่กูโทรมาหามึงเนี่ยก็มีอีกเรื่องนึง)
“เรื่องอะไร?”
(มีคนอยากคุยกับมึง)
“ใคร?”
(เอาไปคุยเองก็แล้วกัน) หลังจากที่ไอ้เติ้ลพูดเสร็จก็ได้ยินเสียงเหมือนมันส่งโทรศัพท์ให้กับใครบางคน
“…”
(ไงคุณแฟน)
เหี้ย!
“ไอ้พี่เหม!”
(ไม่มี‘ไอ้’สิ)
ไม่สนเว้ย! มึงไม่ได้อยู่ใกล้กูตอนนี้ไม่กลัวหรอก
“พี่มีไรจะคุยรีบคุยมาเลยดีกว่าเดี๋ยวผมต้องไปดูแลเพื่อนอีก”
(เพื่อนเป็นไร?)
“เมา”
(แล้วมึงเมาด้วยหรือเปล่า?)
“ถ้าเมาจะมาคุยโทรศัพท์กับพี่ได้เสียงใสขนาดนี้เหรอ”
(กวนตีน)
“เปล่าสักหน่อย” จริงๆก็กวนตีนพี่มันนั่นแหละ
(งั้นเหรอ)
“เออ”
(หึหึ ก็ไม่มีไรหรอกแค่อยากคุยด้วยเฉยๆ)
“นี่พี่เหม ผมถามพี่จริงเลยนะ พี่ชอบผมหรือไงถึงได้มายุ่งวุ่นวายกับผม?”
(…)
“ว่าไงล่ะ?”
(ก็ไม่รู้สินะ)
“กวนตีน” เอาคำมันมาใช้แม่งเลย
(เปล่าสักหน่อย) น่านนนนน มีการก็อปประโยคมาเอาคืน
“ดูแลเพื่อนผมด้วยอย่าปล่อยให้มันเมาล่ะ”
(อื้ม พลัมเดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะ/เหมคุยกับใครอยู่เหรอ? ทำไมไม่สนใจโมนาเลยล่ะ?)
จู่ๆตอนท้ายคำพูดของไอ้พี่เหมก็มีเสียงผู้หญิงแทรกเข้ามาในสาย
“เสียงใคร-”
ตู๊ดๆๆ
กำลังจะถามว่าเสียงใครสายก็ตัดไปซะก่อน
อะไรอ่ะ? นี่ไอ้พี่เหมมันอยู่กับผู้หญิงอย่างงั้นเหรอ?
“อ้ายพลัมมมมม กูจาอ้วกกกกกกกกกก อุ๊บ!” เสียงไอ้วัฒดังขึ้นมาจากห้องนั่งเล่นทำให้ผมต้อนหันไปสนใจตรงนั้นแทน
“เฮ้ย! ไอ้วัฒอย่าเพิ่งอ้วก!”
“อุ๊ แหว๊ะ!”
จบกัน…
คราวหลังมึงอย่ามาแดกเหล้าห้องกูอีกเลย…
ข้อร้องล่ะ
พลีสสสสสสส!
TBC. N.EP
------------------------------------------------------------------------->TALKKKKKKKKKKKKK : คือตอนนี้รีบแต่งมากจริงๆค่ะ มันเลยอาจจะออกมาไม่ดีสักเท่าไร อาจมีคำผิดอยู่บ้าง ยังไงก็ต้องขอภัยไว้ ณ ที่นี้ คือคนเขียนก็ยังงานเยอะเหมือนเดิม แต่จิตใจมันอยากแต่งอิพลัมจนไม่เป็นอันทำงานสักเท่าไร5555 ยังไงก็ฝากนิยายเรื่องนี้ด้วยน๊าาาาา เจอกันตอนหน้าค่าาาาาา ^^