หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.10 10/05/59 [P.6]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.10 10/05/59 [P.6]  (อ่าน 33227 ครั้ง)

ออฟไลน์ NAY_nay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



*********************************************************************************


นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องราวที่แต่งขึ้น เพื่อสนองความนีดของตัวเอง5555 ฝากติดตามนิยายเรื่องนี้ด้วยนะคะ กราบงามๆ U.U

คนเขียนมีเพจแล้วน๊าาาาาาา ใครชอบนิยายเรื่องนี้ก็ไปกดถูกใจได้เลยจ้า ตามจิกตามทวงนิยายเมื่อคนเขียนดองได้เลย5555





นิยายอีกเรื่องของ NAY
- [___หัวใจ ♥ พยัคฆ์___]





หัวใจ ไวต่อรัก




บทนำ






ในชีวิตของคนเราสักคนหนึ่งจะมีเรื่องที่ทำให้อับอายเกิดขึ้นได้มากมายแค่ไหนกันนะ?

สำหรับคนอื่นผมไม่รู้หรอกว่าชีวิตของพวกเขาเหล่านั้นต้อองผ่านกับความอับอายมามากน้อยแค่ไหน…

แต่สำหรับผม…ผมเจอกับมันมาตั้งแต่จำความได้…









สมัยอนุบาล…


“นี่รถของพลัมนะ! เติ้ลอย่ามามั่วสิ!”

“พลัมนั่นแหละอย่ามั่ว! นั่นมันของเติ้ลต่างหาก!” เสียงของเด็กทั้งสองคนทะเลาะกันดังมากจนทำให้เพื่อนๆที่อยู่บริเวณโดยรอบหยุดทำกิจกรรมต่างๆแล้วหันมามอง

“ทั้งสองคนเกิดอะไรขึ้นจ๊ะ? ทำไมถึงเถียงกันได้ล่ะ?” คุณครูผู้ดูแลเห็นท่าไม่ดีจึงรีบเข้ามาห้ามปรามเด็กทั้งสองคน

“เติ้ลเค้าหาว่าผมแย่งรถของเขาไปครับคุณครู”

“นั่นมันรถของเติ้ลต่างหาก!”

“ของพลัม!”

“ของเติ้ล!”

“ก็บอกว่าของพลัมยังไงล่ะ!”

“ของเติ้ลต่างหากไม่เชื่อดูที่ใต้รถได้เลย เติ้ลให้คุณแม่เขียนชื่อเติ้ลไว้!”

“ไหนน้องพลัมลองดูใต้รถสิค่ะว่ามีชื่อน้องเติ้ลอยู่ไหม?”

เด็กชายพลัมค่อยๆหงายรถขึ้นมาอย่างช้าๆ…

…ก่อนที่จะส่งยิ้มแหะๆกลับไปให้เด็กชายเติ้ลและคุณครู

“ของเติ้ลจริงๆด้วยครับ”

หลังจากเหตุการณนี้ก็ทำให้เด็กคนอื่นๆเล่นกับเด็กชายพลัมน้อยลง แถมเด็กชายพลัมยังได้ฉายาว่า ‘พลัมขี้มโน’ ไปจนจบชั้นอนุบาล








สมัยประถม…

“พลัม ตื่นๆๆ นี่มันชั่วโมงเรียนนะ อย่ามาหลับในห้องเรียนสิ” หัวหน้าห้องผมเปียแต่ไม่ได้ใส่แว่นที่นั่งข้างเด็กชายพลัมสะกิดเรียกให้เด็กชายพลัมตื่นเมื่อเห็นว่าเขากำลังจะแอบบหลับในชั่วโมงเรียน

“ขอแอบงีบหน่อยสิหัวหน้าห้อง อย่าบอกคุณครูนะ” ว่าแล้วเด็กชายพลัมก็หลับไปทันที





ในขณะที่หลับ





เด็กชายพลัมฝัน…






ฝันว่าตนเองกำลังเดินไปที่ชักโครก…





ถอดกางเกงแล้วขึ้นไปนั่งบนนั้น…





ปลดปล่อยของเหลวสีเหลืองที่เรียกว่า ‘ฉี่’ ออกมาอย่างเต็มที่…





‘อา…สบายจริงๆ’ เด็กชายพลัมคิดในความฝัน





“กรี๊ดดดดดด! คุณครูค่ะ! พลัมฉี่แตก! พลัมฉี่แตกกลางห้องเรียนค่า!!!”

หลังจากวันนั้นเด็กชายพลัมก็ได้ฉายาว่า ‘พลัมฉี่ราด’ ไปจนจบชั้นประถม…








สมัยมัธยมต้น…

เด็กชายพลัมได้เป็นคนนำร้องเพลงชาติ สวดมนต์ บลาๆ หน้าเสาธง…




แต่!




“ไอ้วัฒ…กูปวดขี้ว่ะ” เด็กชายพลัมสมัยหัวเกรียนกางเกงขาสั้นเอ่ยขึ้นมากับเพื่อนที่ทำหน้าที่เป็นคนชักธงขึ้นสู่ยอดเสาในเช้าวันหนึ่ง

“ไอ้ห่า! มาปวดอะไรตอนนี้ ไม่ทันแล้วมึง! อาจารย์หน้าเสาธงจ้องมายิกๆแล้วนั่น อั้นไว้ก่อนล่ะกัน”

เด็กชายพลัมและวัฒเดินขึ้นไปบนหน้าเสาธงพร้อมกับดาวที่เป็นคนชักธงผ่ายหญิง


เพลงชาติผ่านพ้นไปด้วยดี…


สวดมนต์ก็ผ่านไปได้ด้วยดี…


จนกระทั่ง…ยืนสงบนิ่ง


“ขอเชิญทุกคนยืนสงบนิ่งเป็นเวลาหนึ่งนาที ขอเชิญครับ”

เด็กชายพลัมปวดท้องขี้หนักขึ้นมาก แต่กว่าจะเสร็จจากหน้าเสาธงคงใช้เวลาอีกพักใหญ่ ทางเดียวที่จะช่วยให้อาการปวดขี้นี้เบาลงไปได้ก็คือ…

การตด…

ใช่แล้ว…การตดนั่นเอง

เด็กชายพลัมพยายามที่จะปล่อยลมออกมาให้เบาที่สุด และเงียบที่สุด…

แต่เด็กชายพลัมคงจะลืมไปว่าเมื่อเช้านี้ตนกินแกงสตอเป็นอาหารเช้า…

เด็กชายพลัมคงจะลืมไปแล้วว่าไมค์ที่ตนเองถืออยู่นั้นยังไม่ได้ปิด…

และเด็กชายพลัมคงจะลืมไปแล้วว่าท่ายืนสงบนิ่งนั้นจะต้องเอามือประสานกันไว้ด้านหน้า…





ปู้ด!!!






เสียงตดของเด็กชายพลัมดังลอดเข้าไปในไมค์จนกลายเป็นการกระจายเสียงไปทั่วทั้งโรงเรียน แถมกลิ่นตดที่ตามมานั้นก็ทำให้คุณครูสมศรีครูเวรหน้าเสาธงที่ยืนอยู่ข้างหลังเด็กชายพลัมพอดีถึงกับหมดสติไป

โอ้ไม่นะ...

...เด็กชายพลัมอยากจะหายตัวออกไปจากตรงนี้จริงๆ

จากตอนแรกที่เด็กชายพลัมตั้งใจจะผายลมให้เบาที่สุดกลับกลายเป็นว่าเป็นการผายลมที่ดังจนทุกคนในโรงเรียนพร้อมใจกันตั้งฉายาให้กับเด็กชายพลัมว่า ‘พลัมตดพิฆาต’ ไปจนเด็กชายพลัมจบมัธยมต้น…







สมัยมัธยมปลาย…

เด็กชายพลัม…ไม่สิ นายพลัมช่วงนี้กำลังแตกเนื้อหนุ่ม ด้วยความที่เป็นคนขาว หน้าตาก็หล่อน่ารักเกาหลีโอปป้าสไตล์ แถมยังสูงแค่อยู่ม.5ก็ปาไป 178 แล้ว ทำให้นายพลัมค่อนข้างที่จะป็อปในหมู่รุ่นพี่และรุ่นน้องอยู่พอสมควร

และด้วยความที่นายพลัมเป็นคนอารมณ์ดีคารมเป็นเลิศ ทำให้ให้นายพลัมสอยดาวโรงเรียนมาเป็นแฟนได้ ซึ่งนั่นทำให้ผู้ชายเกือบทั้งโรงเรียนอิจฉาและหมั่นไส้เขา

แต่ใครจะสนล่ะ...

ก็คนมันมีดีอ่ะนะ หึหึ

ทุกๆเย็นนายพลัมจะปั่นจักรยานให้นางสาวอิ้งดาวโรงเรียนซ้อนท้ายออกจากโรงเรียนทุกวันท่ามกลางสายตาอิจฉาของเหล่านักเรียนชายและคนที่ไม่มีคู่ทั้งหลาย

แต่นายพลัมก็หาได้แคร์อยู่ดีล่ะนะ

ดีซะอีกจะได้เป็นการอวดไปในตัวเลยด้วยว่าตนเองนั้นมีแฟนสวยขนาดไหน

แต่แล้วก็มีอยู่วันหนึ่ง...

ขณะที่นายพลัมกำลังปั่นจักยานให้นางสาวอิ้งคนสวยซ้อนท้ายออกจากโรงเรียน ทั้งสองคนคุยกันกระหนุงกระหนิง หยอกล้อกันอย่างน่ารักน่าชังโดยไม่ได้สนใจสายตาของนักเรียนมัธยมผมเปียทั้งหลายแหล่ที่มองมาเลยสักนิด

“พลัมอย่าแกล้งอิ้งสิ~” นางสาวอิ้งบอกเมื่อนายพลัมแกล้งส่ายรถจักรยานเป็นแผนให้นางสาวอิ้งเกาะเอวของตนแน่นมากขึ้น

“อิ้งก็เกาะผมเอาไว้สิจะได้ไม่หล่นลงไปในหัวใจของผม”

‘เสี่ยว’

นั่นเป็นความคิดของใครหลายๆคนที่ได้ยินประโยคโคตรน้ำเน่าของนายพลัม

“บ้าาาา พลัมอ่ะเล่นอะไรก็ไม่รู้ ไม่อยากให้อิ้งหล่นลงไปอยู่ในใจของพลัมเหรอ?”

‘นี่ก็พอกัน มิน่าล่ะถึงคบกันได้’

“อยากสิครับ แต่พลัมกลัวอิ้งกลับขึ้นมาไม่ได้” ไม่พูดเปล่านายพลัมยังหันกลัมมายักคิ้วจึกๆให้สาวเจ้าได้อายเล่นอีก

“พลัมล่ะก็~ อิ้งก็ไม่ได้อยากจะกลับขึ้น-”

โครม!!!

ครับ...ตอนนี้ทั้งนายพลัมและนางสาวอิ้งคงจะหล่นจริงๆแล้วล่ะ...



ไม่ใช่หล่นลงไปในหัวใจห่าเหวอะไรนั่นหรอกนะ...



แต่หล่นลงจากจักรยานต่างหาก...

เนื่องจากว่านายพลัมมัวแต่หันไปยักคิ้วหลิ่วตาใส่นางสาวอิ้งทำให้ไม่เห็นว่าข้างหน้านั้นเป็นฟุตบาท จักรยานที่ทั้งสองคนนั่งมาจึงเสยเข้าไปที่ฟุตบาทเต็มๆ

ท่ามกลางสายตานับร้อยคู่ที่กำลังเดินออกจากโรงเรียน...

นายพลัมน่ะไม่เท่าไรเพราะแค่ล้มลงไปหน้าทิ่มแค่นั้น

แต่นางสาวอิ้งนี่สิ...

ทันทีที่จักรยานชนเข้ากับฟุตบาทดังโครม นางสาวอิ้งก็เสียหลักหล่นลงจากจักรยานดัง พลั่ก! ล้มลงไปนอน เอาหน้าแนบกับพื้นถนนก้นโด่งขึ้นมา

เท่านั้นยังไม่พอ...

กระโปรงนักเรียนของเธอยังเปิดขึ้นมาจนเห็นกางในลายสตอเบอร์รี่ย้วยๆที่เธอใส่มาตั้งแต่สมันมัธยมต้น

นั่น... มีคนยกยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปด้วย

‘อับอาย...อับอายจนไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ตรงไหน’

นี่คือความในใจของนางสาวอิ้ง

“อิ้งเป็นอะไรหรือเปล่าครับ?” นายพลัมเข้ามาช่วยพยุงนางสาวอิ้งให้ลุกยืนขึ้นพร้อมกับสำรวจความเสียหายของร่างกายเจ้าหล่อน

เพี๊ยะ!

นางสาวอิ้งสะบัดมือใส่หน้าของนายพลัมเต็มแรงซะจนนายพลัมถึงกับหน้าหัน

นี่คงจะเป็นที่มาของคำว่า ‘ตบหน้าหัน’ สินะ...

“อิ้งตบหน้าผมทำไม?”

“ยังจะถามอีกเหรอ? ไม่เห็นหรือไงว่าพลัมทำให้อิ้งอับอายแค่ไหน!?”

“ผมไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย”

“ไม่ได้ตั้งใจ? เหอะ! แล้วถ้าพลัมไม่เอาแต่หันมาหยอดมุขปัญญาอ่อนๆนั่นเรื่องแบบนี้มันก็คงจะไม่เกิดขึ้นหรอก!”

“อิ้งพูดแบบนี้จะบอกว่าเป็นความผิดของพลัมคนเดียวอย่างงั้นเหรอ!?”

“เออดิ!”

“อิ้งเองก็ผิดที่รับมุขปัญญาอ่อนของผมเหมือนกันนั่นแหละ!”

“พลัมจะโทษว่าเป็นความผิดของอิ้งอย่างงั้นเหรอ?”

“เออ!”

“พลัม!!”

หลังจากนั้นทั้งสองคนก็ยืนทะเลาะกันอยู่นานจนฝ่ายปกครองต้องเข้ามาเคลียร์ให้


แน่นอนว่าทั้งสองเลิกกันทันที...


จากคู่รักที่ทั้งโรงเรียนต่างพากันอิจฉา...


กลายเป็นคู่รักที่ทั้งโรงเรียนลงความเห็นว่าปัญญาอ่อนที่สุด...

แล้วชีวิตช่วงมัธยมปลายที่เหลือของนายพลัมก็ไม่เคยมีแฟนอีกเลย...

พร้อมกับมีฉายาประจำตัวว่า ‘พลัมจั๊กดุ้ง’ ซึ่งเป็นฉายาที่ทำให้ไม่มีใครกล้ามาเป็นแฟนกับนายพลัมนั่นเอง...










ครับ...











เด็กชายนายพลัมอะไรนั่น...











มันคือผมเอง...


และตอนนี้ความอับอายในช่วงชีวิตมหาวิทยาลัยของผมกำลังจะเริ่มขึ้น...








“พี่เหมครับ!!! ผมชอบพี่! เป็นแฟนกับผมนะครับ!”






อยากจะถามเหลือเกิน...


...ไอ้พี่เหมที่ว่ามันเป็นครายยยยย???


กูไม่รู้จักมึงงงงงง


ฮือออออ แล้วทำไมกูต้องมาตะโกนบอกรักมึงท่ามกลางสายตาประชีเป็นร้อยด้วยว่ะเนี่ย!?





TBC. N.EP ------------------------------------------------------------------------->





TALKKKKKKKKKKKKK : เอาแค่บทนำไปก่อนเนอะ เดี๋ยวตอนที่ 1 จะตามาทีหลัง ขอเวลาปั่นแปป เจอกันตอนหน้าค่าาาา




Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-05-2016 19:42:52 โดย NAY_nay »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : บทนำ 18/03/59
«ตอบ #1 เมื่อ18-03-2016 21:01:50 »

วีรกรรมแต่ละอย่าง อ่านครบทุกอย่างแล้วต้องร้อง อื้อหือ เลยทีเดียว
แต่สงสัยว่าอันล่าสุดนี่จะทำให้ชีวิตเปลี่ยนเลยนะพลัม

ออฟไลน์ MaRiTt_TCL

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1511
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-6
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : บทนำ 18/03/59
«ตอบ #2 เมื่อ18-03-2016 21:11:33 »

อือหือ แต่ละอย่างสงสารนายพลัมเบาๆ5555555555555
พี่เหมมม พระเอกใช่ม้ายยยยย
ติดตามค่า

ออฟไลน์ poterdow

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 662
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : บทนำ 18/03/59
«ตอบ #3 เมื่อ18-03-2016 21:17:32 »

เว่ยๆๆๆๆๆๆๆๆ อินโทรสนุกอะ

ออฟไลน์ kamontipsaii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : บทนำ 18/03/59
«ตอบ #4 เมื่อ18-03-2016 21:38:13 »

สภาพไม่ไหวเลยนายพลัม 555
วีรกรรมแบบสุดๆอ่ะ กราบงามๆ 3 ที
รอค้ะ  :pig4:

ออฟไลน์ littlegift

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : บทนำ 18/03/59
«ตอบ #5 เมื่อ18-03-2016 22:24:13 »

ก๊ากกกกก ถ้านายพลัมจะมีช่วงชีวิตที่น่าจดจำเช่นนี้  :m20:

ออฟไลน์ NAY_nay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.1 19/03/59
«ตอบ #6 เมื่อ19-03-2016 13:00:10 »

มาแล้วจ้าาาาาาา ขอบคุณทุกคอมเม้นมากๆเลยนะคะ เป็นกำลังใจให้คนแต่งได้ดีมากๆ เลยปั่นคืนเดียวเสร็จเลย5555



EP.1






ก่อนที่ผมจะไปตะโกนแหกปากบอกรักใครก็ไม่รู้นั้นต้องย้อนเหตุการณ์กลับไปนีสสสนึง…











เอ่อ…ไม่นีสสสอ่ะ












ย้อนกลับไปสักเดือนก่อน…

วันนั้นรุ่นพี่ปีสองของคณะผมเรียกรวมปีหนึ่งทั้งหมด ซึ่งแม่งงงงง ก็ปาไปหลายร้อยคน เพราะคณะผมเป็นคณะที่รับน้องไม่โหดแต่คนโคตรรรรรเยอะเลยครับ

ถามว่าคณะอะไรน่ะเหรอ

คิดว่าคนหล่อหน้าตาดีอย่างผมคนนี้จะเรียนคณะอะไรได้บ้างล่ะครับ?

คณะแพทย์เหรอ?

โนวววววว เกรดมัธยมผมก็จบมาแบบเส้นยาฝ่าไฟแดงเลยล่ะครับ จะให้ไปเข้าคณะนั้นคงจะไม่ไหวหรอก

อะไรนะ วิศวะเหรอ?

บอกแล้วไงคร้าบบบบบ เกรดผมนี่หมายังเมินเลยน่ะ ไม่ไหวๆ

นิเทศ?

อยากจะเข้าอยู่ครับ แต่ที่บ้านไม่ชอบ กลัวเรียนจบไปแล้วถูกทาบทามให้ไปเป็นดารา


ถุย!


ว่าไงครับ? ยังมีคณะอื่นอีกไหม?

คณะเกษตร?

ที่บ้านผมขายข้าวราดแกงครับ ไม่ได้มีสวน มีไร่ จะเรียนไปทำมายยยยยย

บริหาร?

ทอนงินลูกค้าหลักสิบผมยังทอนผิดเลยยยยย ขืนเรียนจบคณะนี้ไปแล้วไปเข้าทำงานที่ไหนบริษัทนั้นคงได้ชิบหายวายวอดเพราะผมกันพอดี


วู้วววววว


ผมตอบให้ก็ได้…

คณะที่ผมเรียนอยู่นั้นก็คือคณะมนุษย์นั่นเองครับ

อ๊ะๆ อย่าเพิ่งบ่นผมนะครับ สำหรับผมมีปัญญาเข้าคณะนี้มาได้ก็ถือว่าบุญสุดๆแล้วล่ะครับ

โอเค เรานอกเรื่องกันไปไกลล่ะ กลับมาด่วน

คือวันนั้นพวกพี่ปีสองเรียกรวมปีหนึ่งทั้งหมด เพื่อที่จะแจกแจงให้ทราบเกี่ยวกับ…การล่าลายเซ็น

ใช่แล้วล่ะครับมันคือกิจกรรมที่โคตรหฤหรรษ์สำหรับรุ่นพี่แต่มันคือหฤโหดสำหรับรุ่นน้องตาดำๆอย่างพวกผม พี่ปีสองแกก็อธิบายว่าจนกว่าจะจบรับน้องซึ่งก็คืออีกหนึ่งเดือนข้างหน้าทุกคนจะต้องมีลายเซ็นรุ่นพี่ในคณะอย่างน้อย 200


WTF! มากครับ


200 ลายเซ็นใครมันจะไปทำได้ว่ะ? แต่ตอนนั้นรุ่นพี่ก็มิได้ฟังคำโอดครวญของเหล่ารุ่นน้องแต่อย่างใด แถมยังบอกอีกว่าพี่ในคณะมีเป็นพันคน 200 ลายเซ็นนี่น้อยไปด้วยซ้ำ

ครับ…เอาที่พี่สบายใจเถอะ…

หลังจากนั้นพี่แกก็โยนสมุดล่าลายเซ็นลงมาให้โครมใหญ่ ประกาศปาวๆว่าจะตรวจลายเซ็นทุกๆอาทิตย์และพวกผมก็ต้องมีลายเซ็นอยู่ในสมุดให้ได้ตามที่กำหนดของแต่ล่ะอาทิตย์ ใครที่มีไม่ถึงตามที่กำหนดก็จะโดนทำโทษไปตามระเบียบ ถ้าครบ 1 เดือนตามที่กำหนดแล้วพวกผมยังล่าลายเซ็นไม่ครบ 200 ลายเซ็นก็จะโดนทำโทษเช่นกัน

เป็นการทำโทษแบบไหนนั้นพี่เค้าไม่ได้บอก รู้แค่ว่าเป็นการทำโทษที่ดูจะร้ายแรงกว่าตอนตรวจลายเซ็นรายอาทิตย์ก็แค่นั้น

ไอ้ผมมันก็เป็นคนหน้าด้านหน้าทนมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วกับอิแค่โดนรุ่นพี่แกล้งนิดๆหน่อยๆก่อนให้ลายเซ็นถือว่าเป็นเรื่องจิ๊บๆ







อาทิตย์แรกตรวจแค่ 30 ลายเซ็น ปอกกล้วยเข้าปากมากเลยขอบอก









…ถึงแม้ว่าผมจะโดนสั่งให้ไปบอกรักถังขยะที่อยู่รอบคณะก็เถอะ








อาทิตย์ที่สอง 80 ลายเซ็น เหอะ! ง่ายดาย เบๆมากครับ









…ถึงแม้ว่าผมจะโดนสั่งให้ไปรำระบำชาวเกาะรอบหอประชุมของมหาวิทยาลัยท่ามกลางนักศึกษาหลากหลายคณะที่ไปเรียนที่ตึกนั่นก็เถอะ








อาทิตย์ที่สาม 130 ลายเซ็น หืดเริ่มขึ้นคอ แต่ก็ยังไหวอยู่









…ถึงแม่ว่าผมจะโดนสั่งให้ไปเรียกหาแม่ปลาบู่ที่สระน้ำของมหาวิทยาลัยจนคนที่ผ่านไปผ่านมาเค้านึกว่าผมเป็นบ้า!

เฮ้ย! ผมได้เป็นนนนนนน นี่มันแค่การแสดงโว้ย!

และแล้วมันก็ถึงจุดไคลแม็กซ์ในอาทิตย์ที่สี่หรือก็คืออาทิตย์สุดท้ายของการล่าลายเซ็น…

ช่วงนั้นผมกำลังติดเกมส์ครับ ติดชนิดที่ว่าติดเหี้ยๆติดแบบแทบจะไม่ได้ลุกออกจากหน้าจอคอมเลยก็ว่าได้

เลิกจากรับน้องตอนเย็นผมก็ตรงดิ่งไปที่ร้านเกมส์ทันที เล่นมันยันตีสองตีสาม กลับหอไปอาบน้ำนอนตอนตีสี่ ตื่นมาเรียนตอนแปดโมงเช้า เย็นก็เข้ารับน้องเหมือนเดิม เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆจนจะครบอาทิตย์

เรียกได้ว่าตอนนั้นผมใช้ชีวิตได้แบบสตรองมาก…

สตรองซะจนขอบตาดำคล้ำ หน้าโทรมเพราะไม่ค่อยได้กินข้าวแถมยังนอนไม่ค่อยพออีก ช่วงนั้นความหล่อของผมเลยหดหายไปตามสภาพการใช้ชีวิต

แล้วผมก็เพิ่งมาสำเหนียกได้ว่าพี่จะตรวจลายเซ็นในอีกสามวัน เลยลด ละ เลิกเกมส์ไปก่อน หันมาตั้งหน้าตั้งตาล่าลายเซ็นแบบเอาเป็นเอาตาย










แต่สุดท้าย…

ผมก็ล่ามาได้แค่ 167 ลายเซ็น…

“ทำไมถึงล่ามาได้แค่นี้!”

นี่คือประโยคแรกที่พี่วินพี่ประธานเชียร์ของคณะมนุษย์พูดขึ้นมาหลังจากที่พี่แกเปิดดูสมุดล่าลายเซ็นของผม

“ปกติคุณเป็นคนที่กระตือรือร้นในการล่าลายเซ็นของรุ่นพี่มากกว่าใครเลยไม่ใช่เหรอ…คุณพิชญะ?”

น่านนนนนน รู้จักชื่อจริงกูด้วยยยยยย

“เอ่อ คืออาทิตย์นี้ผมติดธุระนิดหน่อยน่ะครับ เลยทำให้ไม่ค่อยมีเวลาว่างสักเท่าไร”

“ธุระอะไรของคุณ!”

“เอ่อ…”

จะให้บอกว่าไรดีว่ะ?

‘ขอโทษครับพอดีผมติดเกมส์อย่างงั้นเหรอ?’ คงได้โดนพี่มันถีบเข้าให้

“คือ…”

อย่าจ้องมากดิว้า กดดันนะเว้ยยยยยย

“หึ สรุปว่าคุณไม่มีเหตุผลอันสมควรที่จะมาบอกผมสินะ”

ตามนั้นแหละครับ จนปัญญาจริงๆ

“ดี! งั้นคุณตามผมมา!”

“ห๊ะ!?”

“ตามผมมา!”

“เอ่อ พี่จะพาผมไปไหนงั้นเหรอ?” ผมถามขึ้นมาอย่างงงๆ เชื่อว่าปีหนึ่งอีกหลายร้อยชีวิตที่นั่งอยู่ก็คงสงสัยไม่แพ้ผม คือปกติถ้าลายเซ็นไม่ครบพี่วินแกจะทำโทษตรงนี้เลยครับ ไม่ได้พาไปทำโทษที่อื่นอย่างที่กำลังจะทำอยู่นี่

“ก็จะพาคุณไปทำโทษยังไงล่ะ”

“เอ่อคือ แล้วทำไมพี่ไม่ทำโทษผมตรงนี้เลยล่ะครับ?”

“นี่คุณลืมที่ผมบอกไปเมื่อวันแรกที่ผมแจกสมุดลายเซ็นให้ไปแล้วหรือไง!?”

ลืม? พี่มันบอกอะไรมาว่ะ? ตอนนั้นผมก็ฟังมั่งไม่ฟังมั่งซะด้วยสิ

“ทำหน้าแบบนี้คงจะลืมจริงๆด้วยสินะ ดีเลย! ผมจะได้ลงโทษคุณหนักๆ!”

“เฮ้ยไม่เอา!”

“คุณพิชญะ! ผมเป็นพี่คุณนะ พูดอะไรก็ระวังเอาไว้ด้วย!”

แม่งงงงง ทำไมต้องทำหน้าโหดด้วยเล่า แค่เผลออ่ะ แค่เผลอน่ะเข้าใจไห๊ม???

“ขอโทษครับ…”

หงอยเลยกู

“คราวหลังก็ระวังเอาไว้ด้วย ไปกันได้แล้ว”

ไอ้พี่วินมันพูดเสร็จก็เดินฉับๆออกไปเลย

เดี๋ยว รอกูด้วย ไอ้พี่วินนนนนน















“เอ่อ พี่วิน…ผมขอถามพี่สักคำถามจะได้ไหมครับ?”

“ว่ามา”

“คือเรามาทำอะไรกันที่คณะวิศวะแห่งนี้กันหรือครับ?”

ใช่แล้วครับ ตอนนี้กระผมนายพลัมคนหล่อและพี่วินคนโหดกับรุ่นพี่ปีสองอีกสามสี่คนกำลังมายืนหน้าเสร่อ เอ้ย! เสนอหน้าอยู่ที่หน้าคณะวิศวกรรมศาสตร์นั่นเอง

ถามว่าเดินไกลไหม?

ไม่ไกลหรอกครับ เพราะคณะมนุษย์กับคณะวิศวะมันอยู่ติดกัน เดินแปปเดียวก็ถึง

“เมื่อกี๊ผมก็บอกแล้วไงว่าจะพาคุณมาทำโทษ”

ขอบคุณสำหรับคำตอบ…

ถุย!

ส้นตีนสิไอ้พี่วิน! คำตอบของคุณมึงไม่ได้ช่วยให้ความสงสัยกูกระจ่างเลยสักนิดครับ

“เอาน่า เดี๋ยวคุณก็รู้เองแหละ แต่ตอนนี้ผมขอบอกเหตุผลที่ผมทำโทษคุณให้ฟังก่อนก็แล้วกัน อันดับแรกเลยคือคุณล่ารายเซ็นรุ่นพี่ไม่ครบถูกไหม?”

“ครับ”

“นั่นจึงเป็นเหตุผมว่าทำไมผมต้องลงโทษคุณ อันดับสองคุณลืมเรื่องที่ผมเคยเตือนไปแล้วเมื่อวันที่แจกสมุดลายเซ็น วันนั้นผมเตือนไปว่าถ้าใครลายเซ็นไม่ครบผมจะทำโทษหนักกว่าครั้งที่ผ่านมา”

อ่อ นึกออกแล้ว ก็ว่าคุ้นๆอยู่

“ที่จริงผมก็ไม่อยากจะลงโทษคุณด้วยเหตุผลแบบนี้หรอก แต่นี่ก็เพื่อให้คุณรู้ตัว แล้วมีความรับผิดชอบให้มากกว่านี้ ใส่ใจกับสิ่งรอบข้างให้มากขึ้น ไม่ใช่เอาแต่สนใจตนเอง ยังมีเพื่อนอีกหลายร้อยคนที่กำลังจะเป็นเพื่อนร่วมรุ่นของคุณนะ อย่าลืมซะล่ะ”

โอ้โห…

พูดซะกูรู้สึกผิดเลยวุ้ย!

“ขอโทษครับ”

“ทำผิดแล้วรู้จักขอโทษก็ดีอยู่หรอก แต่ตอนนี้ได้เวลาลงโทษคุณแล้วล่ะ ไม่ต้องห่วง ผมไม่ให้คุณทำอะไรที่มันอันตรายหรอก”

 “เอ่อพี่วิน แล้วคนอื่นที่รายเซ็นไม่ครบล่ะครับ ทำไมพี่ถึงไม่พามาลงโทษด้วย” ถามนี่เพราะความสงสัยล้วนๆ ก็จู่ๆเล่นให้เดินตามออกมาเดี่ยวๆแบบนี้ก็หัวเดียวกระเทียมลีบซิครับ อย่างน้อยมีเพื่อนให้อุ่นใจบ้างก็ยังดี

“พวกนั้นผมให้คนอื่นจัดการลงโทษแทนแล้วล่ะ”

“แล้วทำไมผม…”

“คุณน่ะกรณีพิเศษ”

บอกตรงๆ รู้สึกไม่ดีกับไอ้ ‘กรณีพิเศษ’ นี้โคตรๆ เห็นแววความซวยของตัวเองลอยมาแต่ไกล

ชิบหายเอ้ยยยยย

กูไม่น่าติดเกมส์เลยเว้ยยยยยยย!

คำคมประจำวันนี้…

‘ติดเกมส์นี้หนา พาชีวิตล่มจม’

จำเอาไว้ให้ดีนะครับ…แล้วอย่าทำตามผมล่ะ ด้วยความรักและปราถนาดี

อาเมน…

“เอาล่ะ การลงโทษของคุณไม่ใชเรื่องยาก ผมแค่จะให้คุณตะโกนบอกรักคนๆนึงตามที่ผมบอก”

“เอ่อ…”

พี่วินมันจะให้ผม…ตะโกนบอกรักใครก็ไม่รู้…

ตรงนี้เนี่ยนะ!?

ชิบหายวายปวงมากอ่ะบอกเลย ก็ตรงนี้น่ะมันหน้าลานวิศวะที่คนเดินผ่านไปมาตลอดเวลาแถมยังมีนักศึกษานั่งกันอยู่ใต้ตึกอีกตรึม

และที่สำคัญ…

ตอนนี้คณะวิศวะเค้าก็กำลังรับน้องกันอยู่เหมือนกับคณะผม…

ดังนั้นปีหนึ่งเกือบทั้งชั้นปีของขณะวิศวะจึงกำลังนั่งหน้าสล่อนกันอยู่เต็มลานวิศวะ...

พ่วงด้วยรุ่นพี่ที่คอยคุมน้องๆอีกกว่าสิบชีวิต…

แล้วจะให้ผมตะโกนบอกรักตรงนี้!?

เหี้ยมากกกกกกก ขอบอก

คือถึงผมจะพบเจอกับเรื่องน่าอับอายมาตั้งแต่ยังเด็กหรือหน้าด้านหน้าทนขนาดไหนก็เถอะ แต่จะให้มาตะโกนบอกรักตรงนี้คงไม่ไหวมั๊ง

กูก็อายเป็นนะครับ

ดูแล้วไม่แคล้วผมจะได้ฉายาใหม่เร็วๆนี้…

ส้นตีนนนนนน

ไม่เอานะเว้ยยยยย!

“ผมไม่ทำได้ไหมอ่ะพี่วิน ให้ผมลุกนั่ง ปั่นจิ้งหรีด เก้าอี้ลมอะไรก็ได้ แต่ไม่เอาแบบนี้อ่ะ” หันไปทำหน้าแบ็วๆใส่พี่วินเผื่อพี่มันจะใจอ่อน

“ไม่ได้ ถ้าไม่อยากทำโทษทำไมคุณไม่พยายายามล่ารายเซ็นให้ครบตั้งแต่แรกล่ะ”

โอ๊ยยยยยยย ถ้ารู้ว่าต้องถูกทำโทษแบบนี้นะ กูจะรีบล่าให้ครบแม่งตั้งแต่อาทิตย์แรกเลยครับพี่ท่าน

“นะๆพี่วิน ให้ผมทำอย่างอื่นเถอะ”

“ผมตัดสินใจไปแล้วว่าจะทำโทษคุณแบบไหน ดังนั้นจะไม่มีการเปลี่ยนการลงโทษเด็ดขาด เรียกแม่ปลาบู่คุณก็ทำมาแล้วไม่ใช่หรือไงแค่นี้คงไม่ยากอะไรสำหรับคุณหรอกใช่ไหม

มาทำเองไหมล่ะห่าพี่วิน!

ถ้ากูทำได้จะลงทุนอ้อนมึงแบบนี้เหรอครับ แม่งงงงง

“เอาล่ะ ฟังที่ผมกำลังจะบอกให้ดีๆ เพราะคุณจะต้องพูดตามที่ผมกำลังจะบอกต่อไปนี้”

ส่ายหน้าดิกๆ

ไม่เอา ผมยังไม่พร้อมมมมมม

“คุณต้องตะโกนออกไปว่า…”

ไอ้พี่วิน ไอ้หน้าเลือดดดดดด

“พี่เหมครับ ผมชอบพี่ เป็นแฟนกับผมนะครับ แบบนี้เข้าใจไหม”

“เฮ้ย! เดี๋ยวนะพี่! ไหนพี่บอกว่าแค่ตะโกนบอกรักไงแล้วจะขอเป็นแฟนทำซากอะไร!? แล้วเดี๋ยวนะ! ‘เหม’ นี่มันชื่อผู้ชายไม่ใช่เหรอพี่!?”

“คุณพิชญะ ระวังครับพูดหน่อย”

กูล่ะอยากจะสาดหมาในปากใส่หน้าไอ้พี่วินมากตอนนี้

เหี้ยยยยยย มันเป็นการทำโทษที่เลวร้ายสำหรับผมมากอ่ะ ให้ผมไปตะโกนบอกรักผู้ชายไม่พอ ยังจะให้ขอเป็นแฟนอีก

ฟัคยู้ววววววววว

ไอ้พี่วินแม่งคิดขึ้นมาได้ไงว่ะเนี่ย?

เกลียดพี่มันโว้ยยยยยยยยยยยย

“ทำหน้าแบบนั้นคงจะด่าผมอยู่ในใจสินะ”

เออ!

“จะด่าจะว่าผมก็ให้หมดรับน้องไปก่อนล่ะกัน แต่ตอนนี้คุณต้องทำหน้าที่ของคุณให้เสร็จเสียก่อนการรับน้องของวันนี้ยังไม่จบหรอกนะ เดี๋ยวเราต้องรีบกลับไปรวมตัวกับคนื่นๆที่คณะอีก”

“…”

เงียบใส่แม่ง!

“ถ้าคุณไม่ตอบผมจะลงโทษคุณให้หนักกว่านี้”

“คร้าบบบบบบ”

พอใจยังครับพี่ท่าน!

“เดี๋ยวผมจะไปยืนอยู่ตรงนู้น”

พี่มันชี้ไปที่ทางเชื่อมระหว่างคณะมนุษย์กับคณะวิศวะ

ส้นตีนนนนน

นั่นมันโคตรไกลเลยครับ นี่ก่ะจะให้ได้ยินไปถึงคณะมนุษย์เลยหรือไงครับพี่

“คุณจะต้องตะโกนมาให้ผมกับรุ่นพี่สี่คนนี้ได้ยิน”

ครับๆ ผมมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธด้วยเหรอ?

“แล้วก็…”

อะไรอี๊กกกกกกกกก

“คุณจะต้องตะโกนไปเรื่อย…จนกว่าคนชื่อเหมจะออกมาให้คำตอบกับคุณ”

เหี้ยยยยยย!

คือให้กูตะโกนบอกรักขอเป็นแฟนไม่พอ ยังต้องให้ไอ้ห่าเหมนี่ออกมาบอกคำตอบอีกอย่างงั้นเหรอ?

ดูปากนายพลัมนะครับ…

ฟัคยูว!

ไอ้พี่วินนี่มึงเกลียดกูมาแต่ชาติปางไหนหรือเปล่าเนี่ย!? จองล้างจองผลาญกูงจัง

“ถ้างั้นเดี๋ยวผมเดินไปถึงตรงนั้นคุณก็เริ่มตะโกนได้เลยนะ” พี่วินพูดทำท่าจะหันหลังเดินออกไป

“เดี๋ยวๆๆ เดี๋ยวครับพี่วิน” รีบเข้าไปเกาะแขนพี่มันแทบไม่ทัน

“มีอะไรอีกล่ะคุณ”

“แล้วผมจะรู้ได้ยังไงว่าคนที่ชื่อเหมเค้าจะได้ยินที่ผมตะโกนอ่ะ”

เกิดไอ้พี่เหมอะไรนั่นไม่ได้อยู่ที่นี่ตอนนี้ผมไม่ต้องตะโกนจนปากฉีกเลยเหรอ

“ไม่ต้องห่วง เหมมันเป็นหนึ่งในคนที่ยืนคุมน้องอยู่ตอนนี้นั่นแหละ”

หันไปมองทางพวกรุ่นพี่ที่ล้อมน้องปีหนึ่งอยู่

แม่งแต่ล่ะคนจะตีหน้าโหดไปไหนว่ะ!? แค่เห็นกูก็กลัวแล้วครับ

ไอ้พี่เหมอะไรนั่นก็เป็นหนึ่งในนั้นใช่ไหม?

นี่ถ้าผมตะโกนออกไปแล้วคงจะไม่โดนอัดสินะ

ฮืออออออ อยากจิร้องไห้

ไม่ทำได้ไหม๊!?

“อย่าลืมนะพอผมเดินไปถึงแล้วก็เริ่มตะโกนได้เลย”

ไอ้นี่ก็กำชับจังเลยวุ้ย! ขอเวลาทำใจแปปนึงเด้!

ไอ้พี่วินกับรุ่นพี่ปีสองอีกสี่คนเดินไปที่ทางเชื่อมระหว่างคณะ ทิ้งให้ผมโดดเดี่ยวเดียวดายอยู่คนเดียว

เคว้งเลยครับทีนี้

เอาไงดีๆ

นี่ผมต้องทำจริงๆใช่ไหม?

ชิ๊!

จำไว้เลยนะไอ้พี่วิน! แค้นนี้มันต้องชำระ!

ผมเหลือบไปมองไอ้พี่วินก็พบว่ามันกับรุ่นพี่ที่เหลือเดินไปถึงทางเชื่อมแล้วครับ

นั่น มีพยักหน้าสั่งให้ผมรีบทำอีก

เหอะ! ไอ้คนสั่งมันก็สั่งได้น่ะสิ ไม่มายืนอยู่จุดนี้ไม่เข้าใจหรอกเว้ยยยยยยยย

ยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองเพื่อเรียกความมั่นใจ ผ่านเหตุการณ์อันหน้าอับอายมาก็หลายครั้งแต่ครั้งนี้ดูจะเป็นครั้งที่หนักหนาสาหัสกับผมมากที่สุดแล้วล่ะ

เอาว่ะ!

ซูดดดดดดดดด










“พี่เหมครับ!!! ผมชอบพี่! เป็นแฟนกับผมนะครับ!”










กริบ…












ครับ…เงียบกริบกันทั้งบาง ไอ้พวกพี่ว๊ากที่กำลังตะคอกน้องอยู่ปาวๆถึงกับหยุด คนที่ที่เดินผ่านไปมาถึงกับชะงัก สายตาหลายร้อยคู่ต่างก็จับจ้องมาที่ผมเป็นตาเดียว

อย่ามองครับ กูอายยยยยยยย

สัมผัสได้เลยว่าหน้าตัวเองมันจะต้องแดงมากแน่ๆ ใครมาทำแบบผมแล้วไม่อายนี่นับถือมากๆเลยครับเพราะคนๆนั้นมันจะต้องหน้าด้านแบบเหี้ยๆเลยอ่ะ

“พี่เหมครับ!!! ผมชอบพี่! เป็นแฟนกับผมนะครับ!”

ต้องตะโกนต่อไปเพราะไอ้ห่าพี่เหมอะไรนั่นมันยังไม่โพล่หัวออกมาเลยครับ

ไอ้พี่เหมครับ มีงรีบออกมาเถอะ กูขอร้องงงงงง!












อีกด้านหนึ่ง

“เฮ้ยไอ้เหม ไอ้หน้าหล่อนั่นมันมาตะโกนบอกรักมึงอ่ะ” ต้นเพื่อนของเหมสะกิดบอกเหมที่กำลังมองไปทางเด็กปีหนึ่งตัวขาวที่กำลังตะโกนบอกรักเขาอยู่หน้าลานวิศวะ

คงจะโดนรุ่นพี่ที่ไหนแกล้งมานั่นแหละ

“พวกคุณมองอะไรกัน! ผมสั่งให้คุณหันไปมองอย่างงั้นเหรอ!? เค้าอยากแหกปากก็ปล่อยให้เค้าแหกปากต่อไป! ไม่ต้องไปสนใจ!”

ไก่ที่เป็นพี่ว๊ากตะคอกขึ้นมาเมื่อเห็นว่าปีหนึ่งหันไปสนใจทางพลัมกันเสียหมด เล่นเอาปีหนึ่งที่กำลังมองพลัมตะโกนบอกรักอยู่ถึงหันกลับมาแทบไม่ทัน

“พี่เหมคร้าบบบบบ!!! ผมชอบพี่! เป็นแฟนกับผมนะครับ!”

เสียงของพลัมยังคงดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจนกิจกรรมไม่ไปถึงไหนเพราะปีหนึ่งที่นั่งอยู่คอยแต่จะกันไปมองพลัม จนไก่ถึงกับต้องเดินมาบอกกับเหมที่ยืนอยู่ไม่ไกลกัน

“ไอ้เหมมึงไปจัดการหน่อยดิ๊ ขืนให้ไอ้เด็กนั่นมันตะโกนแบบนี้ต่อไปไอ้พวกเด็กปีหนึ่งนี่ได้สมาธิแตกกันหมดพอดี”

เหมไม่ตอบไก่ เพียงแต่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านดูข้อความจากไลน์ที่ส่งมาจากเพื่อนสนิทที่เรียนอยู่คณะข้างๆ



‘รุ่นน้องกูเอง กำลังทำโทษมันอยู่ รบกวนมึงหน่อยล่ะกัน’



เหมเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า เดินออกไปทางที่ไอ้เด็กตัวขาวนั่นกำลังตะโกนบอกรักเขาอยู่






ทุกสายตาต่างก็จดจ้องไปที่เหมที่กำลังเดินเข้าไปหาพลัม…


ไม่เว้นแม้แต่ไก่ที่เป็นพี่ว๊าก…


“พี่เหมคร้าบบบ!!! แค่ก ผมชอบพี่! รีบออกมาเถอะครับ! คอกูจะแตกอยู่แล้ว!”

พลัมตะโกนออกมาอย่างเหลืออด นี่เขายืนตะโกนบอกรักไอ้ห่าพี่เหมนั่นมาได้สักพักแล้วนะ ใจคอมันจะปล่อยให้เขาตะโกนแบบนี้ไปจนคอแตกเลยหรือไง?

เจ็บคอโว้ยยยยย!

ท่าทางของพลัมทำให้เหมหลุดขำ นับถือไอ้เด็กนี่จริงๆที่ยอมทำตามคำสั่งบ้าๆบอๆของเพื่อนเขา ยิ่งพอเดินเข้ามาใกล้ก็พบว่าไอ้เด็กที่กำลังตะโกนบอกรักเขาอยู่นั้นมันขาวจริงๆนั่นแหละ เพราะแบบนี้เลยเห็นใบหน้าที่ขึ้นสีแดงระเรื่อได้อย่างชัดเจน

มันคงจะทั้งโกธรทั้งอายล่ะนะ

“พะ-”

พลัมชะงักเสียงที่กำลังจะเปล่งออกมาเมื่อเห็นว่ามีผู้ชายคนนึงกำลังเดินตรงมาที่ตนเอง

เดี๋ยวนะ…

อย่าบอกนะว่าไอ้หน้าหล่อโคตรๆนี่คือไอ้พี่เหม?

เห็นชื่อเหมกูก็นึกว่าจะถึกๆ เถื่อนๆ ที่ไหนได้กลับเป็นไอ้หล่อหน้าใสกิ๊งเนี่ยนะ!?

ไม่สิ…

ไอ้นี่อาจจะไม่ใช่ไอ้พี่เหมอะไรนั่นก็ได้!

กำลังจะตะโกนเรียกไอ้พี่เหมอีกครั้งแต่ไอ้หน้าหล่อบรมนี่มันดันเดินมาถึงตัวผมก่อนเลยต้องชะงักแล้วเงยหน้ามองมัน

ใช้คำว่าเงยหน้าถูกแล้วครับ…

ก็ไอ้หล่อทำลายล้างนี่มันดันสูงกว่าผมที่สูงเกือบร้อยแปดสิบเซ็น…

คือมึงจะสูงไปไหน?

“พี่เป็นใคร?”

“แล้วมึงกำลังบอกรักใครอยู่ล่ะ?”

“พี่เหม…อย่างงั้นเหรอ…?”

พี่มันไม่ได้สนใจสีหน้าอันงงงวยของผมพูดต่อขึ้นมาว่า

“กูมาให้คำตอบมึง”

“ห๊ะ!?”

เดี๋ยวๆ สรุปคือมึงเป็นไอ้พี่เหมจริงๆใช่ไหม?

แล้วห่าเอ๊ย!

ไอ้พวกที่อยู่รอบๆนี่มึงไม่ต้องสนใจกูขนาดนั้นก็ได้ครับ ยืนอยู่ตรงนี้ยังรับรู้ได้ถึงสายตาอยากรู้อยากเห็นที่ทิ่มแทงมา








“กูตกลง”








“ห๊ะ!?” นี่วันนี้กูห๊ะไปกี่รอบแล้วว่ะเนี่ย?








“กูตกลงที่จะเป็นแฟนกับมึง”








บ้าไปแล้ววววววววววว!?








TBC. N.EP ------------------------------------------------------------------------->







TALKKKKKKKKKKKKK : เอาตอนที่หนึ่งมาเสิร์ฟแล้วค่าาาาาา ตอนต่อไปอาจจะอัพช้านิดนึงนะคะ งานท่วมหัวมากตอนนี้ สามสีงานที่พอกหางเอาไว้555 อยากจะบอกว่าเหตุการณ์ 'จั๊กดุ้ง' มันเกิดขึ้นจริงกับเพื่อนคนเขียนค่ะ ไม่ได้เห็นเองกับตาแต่เพื่อนมาเล่าให้ฟังอีกที เลยอดไม่ได้ที่จะเอามาดัดแปลงลงนิยาย อิพลัมเลยซวยไป5555 เจอกันตอนหน้าค่าาาา ^^




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-03-2016 00:27:25 โดย NAY_nay »

ออฟไลน์ 205arr

  • เราคงอยู่ไกลกันเป็นพันหมื่นลี้
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.1 19/03/59
«ตอบ #7 เมื่อ19-03-2016 13:15:28 »

โอ๊ย พี่เหม
อย่าแกล้งน้อง
 o18 :laugh:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.1 19/03/59
«ตอบ #8 เมื่อ19-03-2016 14:15:31 »

จากนั้นจะเป็นไงต่อนะ

ออฟไลน์ poterdow

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 662
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.1 19/03/59
«ตอบ #9 เมื่อ19-03-2016 14:53:21 »

ว๊ายยยยยย เขินแทนอ้ะะะะะะะะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.1 19/03/59
« ตอบ #9 เมื่อ: 19-03-2016 14:53:21 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ polkadot

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.1 19/03/59
«ตอบ #10 เมื่อ19-03-2016 16:16:44 »

นึกว่าจะเดินมาด่าซะอีก กลายเป็นตอบตกลงซะงั้น หักมุมนะเนี้ย 5555

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4982
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.1 19/03/59
«ตอบ #11 เมื่อ19-03-2016 16:21:21 »

 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ PandP

  • Déjame vivir esa fantasía.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-0
    • http://www.facebook.com/iAMpingPINGping
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.1 19/03/59
«ตอบ #12 เมื่อ19-03-2016 17:27:34 »

รอตอนต่อไป อยากรู้ว่าทำไมพี่เหมตกลงง่ายจัง หุหุ

ปล. ไม่ชอบชอบการรับน้องแบบนี้เลย โชคดีสมัยเรียนคณะเรารับน้องน่ารัก ไม่งั้นพวกรุ่นพี่เจอเราโหมดบิทชี่เหวี่ยงกลับแน่ๆ 555555

ออฟไลน์ panitanun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.1 19/03/59
«ตอบ #13 เมื่อ19-03-2016 19:02:39 »

ทำไมขำ555555

ออฟไลน์ ma-prang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.1 19/03/59
«ตอบ #14 เมื่อ19-03-2016 21:33:20 »

กลั้นขำทั้งตอน 5555555555555

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.1 19/03/59
«ตอบ #15 เมื่อ20-03-2016 00:23:50 »

โอ้ยยยยย ขำแรง
ขำวีรกรรมของน้องพลัมตั้งแต่สมัยอนุบาล กลายเป็นเด็กขี้มโน โผล่มาประถมดันนอนฉี่แตกในห้องเรียน ม. ต้น ตดพิฆาตหน้าเสาธง อ.ถึงกับหมดสติ มาม. ปลายก็ดันพาสาวไปวัดพื้น 5555+ น้องจะฮาไปไหน :laugh:  :laugh:

พอมหาลัยนี่ก็ยังไม่พ้น  :laugh3:
แต่แบบ พี่เหมตอบตกลงนี่สิ แอร๊ยยย ฟิน :haun5: :give2:

ออฟไลน์ magic-moon

  • mgKapleGD
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
    • Pretty Girls from your city for night
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.1 19/03/59
«ตอบ #16 เมื่อ20-03-2016 01:21:36 »

รอค่ะ น่ารักจัง

ออฟไลน์ NAY_nay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.2 20/03/59
«ตอบ #17 เมื่อ20-03-2016 22:33:42 »

ตอนแรกตั้งใจว่าจะยังไม่รีบแต่ง แต่พอดีเคลียร์งานเสร็จไปบ้างแล้วเลยมีเวลาว่างมาแต่งอิพลัมต่อ555 ฝากตอนที่ 2 ด้วยน๊าาาา




EP.2





“ไง เพื่อนพลัม”

เสียงไอ้เติ้ลทักผมขณะที่นั่งกินข้าวอยู่ที่โรงอาหารของคณะ

ทุกคนยังจำเติ้ลได้ไหมครับ?

ไอ้คนที่ผมไปแย่งของเล่นมันมาแล้วมโนว่าเป็นของตัวเองเมื่อสมันอนุบาลนั่นแหละ เป็นเพื่อนกับมันได้ยังไงผมยังงงอยู่เลย แต่จะเรียกว่าเพื่อนสมัยเด็กก็ได้มั๊ง เพราะว่าตั้งแต่อนุบาลยันมัธยมปลายไอ้ห่าเติ้ลมันก็เรียนที่เดียว ห้องเดียวกับผมมาตลอดจนกระทั่งมหาลัยมันก็ยังเข้าที่เดียวกับผม

อ่อ แล้วนอกจากไอ้เติ้ลแล้ว บุคคลในความทรงจำของผมทั้งหลายแหล่ต่างก็ยกขบวนมาเป็นเพื่อนผมหมดเลยครับ

ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าหน้าห้องที่เคยนั่งข้างผมเมื่อสมัยประถม ที่จริงเธอชื่อว่าพิมครับ แต่ผมติดเรียกเธอว่าหัวหน้าห้องมาตลอดจนกระทั่งขึ้นมหาลัยแล้วก็ยังเรียกอยู่แบบนี้ ส่วนอีกคนก็คือไอ้วัฒ ไอ้นี่มันลั่นวาจาเลยว่าจะติดตามผมไปตลอด ผมไปไหนมันไปด้วย เพราะงั้นตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัยไอ้วัฒมันก็เลยเลือกสอบที่เดียวกับผม

สรุปแล้วพวกเราสี่คนก็ดันสอบเข้ามหาลัยเดียวกันหมดซะงั้น

ผมถึงบอกไงว่าเป็นเพื่อนกับพวกมันได้ยังไงก็ไม่รู้

เพราะว่ารู้ตัวอีกที

…พวกมันก็อยู่เคียงข้างผมมาตลอด









เป็นไง ซึ้งม่ะ?









ซึ้งสัดๆอ่ะบอกเลย







อะไรนะ? แล้วอิ้งล่ะไปไหนงั้นเหรอ?

เธอก็ไปกับแฟนใหม่เธอโน่นนนนนน ไม่สนใจไอ้คนที่ทำเธออับอายขายหน้าคนทั้งโรงเรียนหรอก







“มึงมาหากูมีไร?”

“เมื่อวานนี้มึงใจกล้ามาก”

“สัด! อย่าพูด! เดี๋ยวข้าวมันไก่กูหมดความอร่อย”

พูดถึงเรื่องเมื่อวานแล้วอยากจะกระโดดขาคู่ใส่ไอ้พี่วินสักครั้งที่เป็นคนคิดการทำโทษแบบนั้น แล้วก็อยากจะแจดหมัดตรงให้ไอ้พี่เหมสักหมัดที่ดันตอบตกลงเป็นแฟนกับผมเฉยเลย

คืองี้ครับ

หลังจากที่บักพี่เหมมันพูดออกมาว่าตกลงจะเป็นแฟนกับผม รอบข้างก็มีเสียงซุบซิบต่างๆมากมายเกิดขึ้นทันที

ส่วนผมก็ได้แต่ อึ้ง มึน งงในหัวตอนนั้นคิดออกแค่ว่า ‘เหี้ยไรว่ะเนี่ย!?’

ก่อนที่จะได้สติ รีบหันไปด่าไอ้พี่เหม

‘ตกลงเหี้ยอะไร? กูไม่เป็นแฟนมึงโว้ยยยยย’

‘ก็มึงขอกูเป็นแฟนไม่ใช่เหรอ?’ ไอ้พี่เหมมันตีหน้ามึนถามกลับมา

ถามจริงเหอะ นี่พี่มันโง่หรือแกล้งไม่รู้ว่ะ

ว่านี่มันคือการทำโทษษษษ

‘กูโดนทำโทษให้มาบอกรักคุณมึงครับ ไม่ได้ชอบ ไม่ได้อยากเป็นแฟนกับคุณมึงเลยสักนิดเดียว’

‘งั้นเหรอ?’

‘เออดิ!’

‘แต่กูตอบตกลงเป็นแฟนกับมึงไปแล้ว’

‘แล้วไง?’

‘กูก็ต้องเป็นแฟนกับมึงดิ’

กูอยากจะบ้า!

‘ก็บอกแล้วไง! มันเป็นการทำโทษ! มันไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นจริงแล้วมึงจะมาเป็นแฟนกับกูทำไม!?’

‘พูดไม่เพราะ’

นี่พี่มันฟังกูบ้างไหมเนี่ย?

‘ทำไม? ก็พอใจที่จะพูดแบบนี้อ่ะ’

‘ถ้ายังพูดไม่เพราะอยู่แบบนี้ กูจะหอมแก้มมึงตรงนี้แหละ’

ฟวยยยยยยยยยยย

‘กูทำจริงนะ’

ว่าแล้วไอ้พี่เหมมันก็ขยับเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นเล่นเอาผมถอยหลังหนีแทบไม่ทัน

‘หนีทำไม?’

‘ก็มึง เอ้ย! พี่จะทำอะไรอ่ะ’

‘ก็ไม่ได้ทำอะไร แค่จะขยับเข้าไปหาเฉยๆ’

กูไม่เชื่ออออออ

‘ชิ๊ ช่างเหอะ เอาเป็นว่าเรื่องเมื่อกี๊ไม่เคยเกิดขึ้นล่ะกัน มันเป็นแค่การลงโทษ ตกลงตามนี้นะ บาย’

หลังจากนั้นผมก็เดินออกมาทันที ไม่ได้หันไปสนใจไอ้พี่เหมอีกเลย










จนกระทั่งเมื่อเช้า!!!










“นั่นไงแฟนพี่เหมวิศวะปีสองอ่ะ”

ไม่ใช่โว้ย!








“ได้ข่าวว่าไปบอกรักถึงคณะเลยนะ”

กูโดนทำโทษต่างหากล่ะครับ








“ไม่น่าเชื่อเลยเนอะว่าจะชอบผู้ชาย”

คือกูก็ไม่ได้ชอบผู้ชายอยู่แล้วครับ







“แต่ก็ดูเหมาะสมกันดีเนอะ”

ฟัคยูว!




และอีกมากมายกายกองของคำซุบซิบที่หาว่าผมไปสารภาพรักไอ้พี่เหมแล้วมันก็เสือกตอบตกลงจนตอนนี้ในสายตาคนอื่นเห็นว่าผมกับไอ้พี่เหมกลายเป็นแฟนกันไปเรียบร้อยแล้วครับ

เดินไปไหนก็เจอแต่คนซุบซิบชี้หน้าชี้ตา


‘นั่นไงแฟนพี่เหม’ บ้างล่ะ


‘นั่นใช่ไหมแฟนเหม’ บ้างล่ะ


อยากตะโกนให้ได้ยินกันทั่วทั้งมหาลัยเลยว่า







กูไม่ได้เป็นแฟนไอ้พี่เหมโว้ยยยยยย!!!!







“หึหึ เข้ามหาลัยมายังไม่ทันจะถึงเทอมก็รีบมีผัวเลยนะมึง”

“ผัวพ่อง! ถ้าจะมากวนตีนกูล่ะก็กลับไปเลยไป”

ไอ้เติ้ลหัวเราะก่อนที่จะนั่งลงตรงข้ามผม  ไอ้เติ้ลมันเรียนคณะวิศวะครับดังนั้นมันจึงเห็นเหตุการเมื่อวานทั้งหมดตั้งแต่ต้นยันจบ แต่ก็แปลกใจว่าทำไมมันถึงเพิ่งมาคุยกับผมเอาตอนนี้ ปกติถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นไอ้เติ้ลมันจะเป็นตัวนำในการเสือกแล้วก็จะได้ไอ้วัฒเป็นคู่ให้กับมัน

ผมกับหัวหน้าห้องเลยแอบตั้งฉายาให้ไอ้สองคนนี้ว่า

‘คู่หูคู่เสือก’

“แล้วทำไมมึงถึงเพิ่งโพล่หัวมาเนี่ย เมื่อวานกูนึกว่ามึงจะรีบมาหากูทันทีเพื่อเสือกเสียอีก”

“ตอนแรกกูก็ก่ะจะทำแบบนั้นอยู่หรอก แต่พอกูกลับถึงหอแล้วเสือกเผลอหลับอ่ะดิ รู้สึกตัวอีกทีก็เช้าเลย”

มิน่าล่ะ ก็ว่าอยู่เรื่องแบบนี้ไอ้เติ้ลมันไม่น่าพลาด

“มึง ไอ้พี่เหมมันเป็นเกย์เหรอว่ะ? ทำไมมันถึงยอมตกลงคบกับกูง่ายๆแบบนี้อ่ะ” ผมถามไอ้เติ้ล คิดว่ามันน่าจะพอรู้อะไรเกี่ยวกับไอ้พี่เหมบ้าง

“ไม่แน่ใจ แต่เท่าที่ได้ยินมารู้สึกว่าพี่แกจะได้ทั้งผู้หญิงแล้วก็ผู้ชายมั๊ง”

“แล้วทำไมมันถึงตกลงคบกับกูว่ะ กูดูน่ารักจนถึงขนาดอยากจะเป็นแฟนด้วยเลยหรือไง”

“อืมมมมมม ถ้าถามว่ามึงน่ารักไหมก็นิดนึงอ่ะนะ”

“กูหล่อครับ ไม่ใช่น่ารัก”

“เออๆ นั่นแหละ คือกูก็บอกไม่ถูกว่ะ แต่มึงมีเสน่ห์แบบแปลกๆอ่ะ”

“ยังไงว่ะ”

“อืมมมม ประมาณว่าเห็นแล้วอยากอยู่ใกล้ๆอะไรประมาณนี้มั๊ง ไม่งั้นทั้งกู ไอ้พิม ไอ้วัฒคงจะไม่มาเป็นเพื่อนกับมึงได้หรอก ก็มึงน่ะนิสัยหมาจะตายไป”

“สรุปนี่มึงชมหรือด่ากู?”

“ทั้งสอง”

“ฟวย!”

“แล้วนี่พิมกับไอ้วัฒรู้เรื่องยัง?” ไอ้เติ้ลถามขึ้นมา

“ไม่รู้ดิ แต่ก็อย่ารู้เลยมันไม่ใช่เรื่องจริงสักหน่อย เดี๋ยวคนเค้าเห็นว่าไม่มีอะไรก็เลิกเม้าท์กันไปเองนั่นแหละ”

“แล้วถ้ามันมีอะไรอ่ะ”

“อะไรของมึง?”

ไอ้เติ้ลไม่ตอบแต่บุ้ยปากไปทางข้างหลังผมแทน ผมก็เลยหันไปมองตาม








เหี้ยยยยยยยย!






นั่นมันไอ้พี่เหม!

มันมาทำไมที่นี่???

ขอร้องล่ะมึงอย่ามาหากูเลยนะ แค่นี้กูก็ชิบหายวายวอดพอแล้ว ฮืออออออ

ดูเหมือนว่าคำขอร้องของผมมันจะไม่เป็นผลเพราะไอ้พี่เหมมันเล่นเดินตรงมาที่ตะที่ผมนั่งอยู่เลย

“มึงพามันมาใช่ไหม๊!?” หันขวับไปถามไอ้เติ้ลทันที

“เฮ้ย! กูไม่รู้เรื่อง!”

“ถ้าไม่ใช่แล้วไอ้พี่เหมมันจะมาได้ไง มันไม่รู้ตารางเรียนสักหน่อย”

“มึงก็ถามพี่เค้าเอาล่ะกัน”

ไอ้เติ้ลพูดจบเป็นจังหวะเดียวกับที่ไอ้พี่เหมเดินมาถึงโต๊ะพอดี

ทุกสายตาส่วนใหญ่ในโรงอาหารต่างก็จับจ้องมาที่พวกผม ตามมาด้วยเสียงซุบซิบที่ผมโคตรเกลียด




‘นั่นพี่เหมนี่ มาหาพลัมด้วยล่ะ’




‘มาหากันแบบนี้แสดงว่าที่เค้าลือกันว่าสองคนนี้เป็นแฟนกันก็คือเรื่องจริงสินะ’




‘น่ารักเนอะ มีการมาหากันด้วย’





คือถ้าพวกคุณๆจะซุบซิบซะดังจนกูได้ยินแบบนี้ทำไมไม่พูดออกมาตรงๆเลยล่ะครับ จะมาซุบซิบกันทำไม?

“พี่มาทำอะไร?”

ไอ้พี่เหมไม่ตอบนั่งลงข้างผมแทน คือจะนั่งก็ไม่ได้ว่าหรอกนะ แต่ที่ว่างข้างไอ้เติ้ลก็มีทำไมไม่ไปนั่ง!? แล้วคุณมึงจำเป็นต้องนั่งซะชิดกูขนาดนี้ไหม? ถ้าจะนั่งใกล้ขนาดนี้นั่งตักไปเลยไหมล่ะ?



กูประชดนะ



อย่าเสือกทำจริงล่ะ!



“พี่เหมขยับออกไปหน่อย พี่นั่งใกล้ผมไปแล้วนะคนอื่นเค้าคิดว่าผมกับพี่เป็นแฟนกันไปหมดแล้วเนี่ย”

“แล้วเราไม่ได้เป็นแฟนกันเหรอ?”

“ก็ไม่ใช่น่ะสิ!”

“กูมีเรื่องจะถามมึง”

โอ๊ยยยยยยย ไอ้ห่าพี่เหมแม่งโคตรหน้ามึนเลย ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว พูดอะไรไปแม่งก็เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาตลอด คุยกับพี่มันแล้วโคตรปวดหัว แม่งแค่เรื่องเมื่อวานคนเค้าก็คิดว่าผมกับพี่มันเป็นแฟนกันพออยู่แล้ว แล้วนี่ไอ้พี่เหมเสือกมาหาผมถึงคณะแถมยังนั่งกันซะติดจนแทบจะเกยตักขนาดนี้คนเค้าคงจะเชื่อกันอย่างปักใจไปแล้วมั๊งว่าผมกับพี่มันเป็นแฟนกันจริงๆ

หมดกันภาพพจน์ที่ผมสั่งสมมา

ฮืออออ นี่กูจะยังหาเมียได้อยู่ไหม?

“แค่มีเรื่องจะถามผมถึงกับต้องถ่อมาหาถึงคณะเลยหรือไง!?”

“ถ้าไม่มาหามึงแล้วจะให้กูไปถามหมาที่ไหนล่ะ?”

กวนตีน!

“พี่กำลังกวนตีนผม”

“เปล่าสักหน่อย”

“ก็เห็นอยู่ ใช่ไหมไอ้เติ้ล!” หันไปหาแนวร่วมที่นั่งเงียบตั้งแต่ไอ้พี่เหมเดินมาถึงโต๊ะ มึงต้องเข้าข้างกูนะไอ้เติ้ล กูเป็นเพื่อนกับมึงมาตั้งแต่อนุบาลห้ามเสร่อไปเข้าข้างไอ้พี่เหมที่เพิ่งเจอกับมึงแค่ไม่กี่เดือนล่ะ

“เอ่อ…”

“ตอบมาสิ”

“จะไปบังคับเพื่อนทำไม?”

เรื่องของกูครับ

“ว่าไงไอ้เติ้ล มึงจะอยู่ข้างใคร?”

“คือ…”

“เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมเลี้ยงเหล้าคุณล่ะกันคุณไตรภพ” เฮ้ย! ติดสินบนนี่หว่าแบบนี้

“กูอยู่ข้างพี่เหม!”

“ไอ้เติ้ล!!”

ไอ้เพื่อนหะเรี่ย! นี่มึงเห็นเหล้าดีกว่าเพื่อนที่คบกันมาเป็นสิบปีเนี่ยนะ!? แล้วไอ้พี่เหมมึงก็เข้าใจจับจุดของไอ้เติ้ลเนอะ! ไอ้ห่านี่แม่งชอบของฟรี ยิ่งเหล้าฟรีมันยิ่งชอบใหญ่ไม่แปลกใจหรอกทำไมมันยอมง่ายๆ แต่คือมึงจะไม่หยุดคิดสักนิดเลยเหรอไอ้เพื่อนห่ารากกกกกกก

“กูขอตัวก่อนแล้วกัน เพิ่งนึกได้ว่านัดเพื่อนไว้ที่คณะ บาย”

บายพ่อง! นี่มึงจะทิ้งให้กูอยู่กับไอ้พี่เหมสองคนท่ามกลางสายคนทั้งโรงอาหารเหรอ? มึงทำได้ลงคอเหรอ? ความเป็นเพื่อนที่ผ่านมามันไม่มีค่าเลยใช่ไหม?

ไอ้เติ้ลมันหาได้สนใจคำตัดพอในใจของผม สะบัดตูดเดินหนีออกไปทันที

ฟวยยยยยยยยยยย



เคร้ง!

ไม่ดงไม่แดกมันแล้วข้าว โดนมองขนาดนี้ใครมันจะไปแดกลง ลุกขึ้นเอาจานไปเก็บแต่ไอ้พี่เหมมันก็ไม่วายเดินตามผมต้อยๆ
อะไรของพี่มันว่ะเนี่ย!?

“พี่ต้องการอะไร?” ถามขึ้นทันทีที่เดินออกมาจากโรงอาหารแล้วหามุมที่ไม่ค่อยมีคนเพื่อคุยกับไอ้พี่เหม

“กูมีเรื่องจะถามมึง”

“เรื่องอะไร?”

“มึงชื่ออะไร?”

ห๋าาาาาาาาา???

“นี่พี่ลงทุนมาหาผมถึงนี่…เพื่อมาถามชื่อผมเนี่ยนะ!?” แล้วคุยกันมาตั้งนานนี่แม่งยังไม่รู้จักชื่อผมอีก!?

“เออ”

“โอ๊ยยยยยย นี่พี่โง่หรือพี่บื้อหรือว่าอะไรว่าเนี่ย เรื่องแค่นี้ถามไอ้พี่วินเอาก็ได้ไม่ใช่เหรอ? พี่สองคนรู้จักกันไม่ใช่หรือไง? ทำไมต้องถ่อมาถึงนี่ให้เรื่องมันแย่ลงด้วยเล่า!”

ไม่ไหว หมดความอดทนกับพี่มันแล้วจริงๆ อะไรกันนักกันหนาก็ไม่รู้ ทำไมผมต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ด้วยว่ะเนี่ย!

“ใจเย็นๆสิ” ไอ้พี่เหมพูดขึ้นมาพร้อมกับเอนหลังพิงกำแพงตึกยกมือขึ้นมากอดอกมองมาทางผม




ชิ๊! คิดว่าหล่อมากไง๊?





เออหล่อ!





แต่กูหล่อกว่าโว้ย!





“กูแค่อยากได้ยินจากปากของมึงก็แค่นั้น”

“ได้ยินอะไร?”

“ชื่อไง”

นี่กูควรจะดีใจสินะที่คุณมึงให้ความสำคัญกับกูจนถึงกับต้องถ่อมาฟังชื่อกูจากปากแบบนี้

ฮ่วย! มันใช่เรื่องไหมนี่

“ผมชื่อพลัม พอใจยัง! ถ้าพอใจก็กลับไปได้แล้ว! ชิ๊วๆ”



เพี๊ยะ!



“โอ๊ย!”

ไอ้พี่เหมแม่งเอื้อมมือมาตีมือผมที่โบกขึ้นมาไล่มันชิ๊วๆเมื่อกี๊นี้

“กูไม่ใช่หมา”

“เอ้าเหรอ นึกว่าใช่มาตั้งนาน แหมๆ ต้องขอโทษด้วยนะครับ” ได้ทีต้องเอาคืนครับ การเอาคืนของผมก็คือการกวนตีนพี่มันกลับเนี่ยล่ะ ให้มันรู้ซะบ้างว่านี่ใคร นายพลัมเลยนะครับ นายพลัมผู้มีชื่อเสียงละบือไกลเรื่องความกวนตีนเป็นอันดับหนึ่ง

“เดี๋ยวมึงจะโดน”

“ทำไม! พี่จะต่อยผมเหรอ? เอาดี๊ มาเลยมาผมพร้อมเสมอ” ว่าแล้วก็ตั้งการ์ดเตรียมพร้อม แต่ไอ้พี่เหมนอกจากจะไม่มีท่าทีพร้อมสู้แล้วยังมองผมด้วยสายตาเอือมๆอีก

มองผมแบบนั้นหมายความว่าไงว่ะครับ?

อย่ามาดูถูกกันนะเว้ย! เห็นแบบนี้สมัยมัธยมผมก็มีประสบการณ์การชกต่อยพอสมควรเลยนะ!




“กูไม่ต่อยมึงหรอก” จู่ๆพี่มันก็พูดขึ้นมา




“…”




“แต่กูจะ…” ไอ้พี่เหมมันละไว้ซึ่งในคำพูดแล้วเดินตรงเข้ามาหาผม




“อะ…อะไร พี่จะทำไรผม?” เผลอก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว




“ก็ทำแบบนี้ยังไงล่ะ”

ควับ!

“เฮ้ย!”

ไอ้เหี้ยพี่เหมแม่งกระชากแขนผมเข้าหาตัวมันก่อนที่จะผลักผมจนถอยหลังไปชนเข้ากับกำแพง รวบมือทั้งสองข้างของผมขึ้นเหนือหัวไว้ด้วยมือข้างเดียว ส่วนมืออีกข้างก็ยกขึ้นมายันกำแพงเอาไว้ขยับใบหน้าเข้ามาใกล้กับผมจนระยะห่างระว่างใบหน้าของเราสองคนเหลือแค่ไม่กี่เซ็น


เดี๋ยวววววววว


สต๊อป!!!!


ท่านี้มันคืออัลไร???


ทำไมกูดูสาวขนาดเน้!!!   

“ทำอะไรของพี่เนี่ย!? ถอยไปเลยนะเว้ย!” พยายามดิ้นให้มือหลุดออกจากมือของไอ้พี่เหม แต่แม่งงงงงง นี่มือคนหรือคีมเหล็กว่ะเนี่ย แน่นชิบหาย ดิ้นไม่หลุดเลยวุ้ย! พอยกขาจะถีบ ไอ้พี่เหมแม่งเสือกรู้ทันรีบเอาขาเข้ามาแทรกกลางหว่างขาผม ทำให้ตอนนี้ผมกับไอ้พี่เหมแนบชิดกันยิ่งกว่าเดิมอีก

“ก็จะแสดงให้ดูไง ว่ากูจะทำอะไรกับมึงได้บ้าง”

“ปล่อยกูนะเว้ย! ไอ้เหี้ยพี่เหม!”

“พูดไม่เพราะแบบนี้ทำโทษซะเลยดีไหม?” ว่าแล้วไอ้เหี้ยพี่เหมมันก็ขยับหน้าเข้ามาใกล้มากขึ้นจนรู้สึกได้ถึงลมหายใจของพี่มัน

พอแล้วววววววววว กูกลัวแล้วคร้าบบบบบบบบ ปล่อยกูไปเถ๊อะ!

“โอเคผมผิดเอง! ขอโทษที่พูดไม่เพราะครับ!”

“หึหึ”

หึหึพ่อง!

ได้แต่ด่าอยู่ในใจ ฮืออออออ ทำไมไอ้พี่เหมมันแรงเยอะอย่างงี้ว่ะ? พอทำท่าจะดิ้นพี่มันก็บีบมือผมแรงขึ้นอีก


เจ็บข้อมือไปหมดแล้วสาดดดดดด


นี่กูยังเป็นผู้ชายอยู่ไหม?


ทำไมถึงได้ถูกผู้ชายจับกดง่ายขนาดนี้!?


“ผมยอมแล้วไง พี่ก็ปล่อยผมสักทีดิ”

พูดเตือนสติไอ้พี่เหม เผื่อพี่มันจะลืมว่าตอนนี้เราสองคนอยู่ในท่าทางที่ล่อแหลมขนาดไหน นี่ถ้ามีใครผ่านมาเห็นคงได้มีการเข้าใจผิดเกิดขึ้นกันบ้างล่ะ

“ตัวมึงหอมจัง” แม่งไม่ได้ฟังกูเล๊ยยยยยย! แล้วหอมเหี้ยไรของมึงไอ้พี่เหม! กูไม่ได้ใส่น้ำหอมสักหน่อยแล้วตัวกูจะหอมได้ยังง๊ายยยยย??




จุ๊บ!




เหี้ยยยยยยยยย!

ไอ้พี่เหมมันจุ๊บลงตรงซอกคอของผม! มันจุ๊บคอผมมมมมมมม เล่นเอาผมถึงกับขนลุกไปหมดเลย

ฮือออออออออ หมดกัน! เป็นเจ้าบ่าวไม่ได้แล้วกู

ใครก็ได้ช่วยกูด้วยยยยยย นี่กูคงจะไม่โดนไอ้พี่เหมมันข่มขืนกูตรงนี้ใช่ไหม?

“พะ…พี่เหม ปล่อยผมเถอะ” กูขอร้องล่ะนะ พลีสสสสสสส!!!

“คราวหลังห้ามพูดไม่เพราะกับกูอีกเข้าใจไหม?” ไอ้พี่เหมมันถอนหน้าออกไปแล้วเอ่ยถามผม



ซึ่งกูรีบพยักหน้าแทบไม่ทัน



ยังไงก็ได้อ่ะ ขอแค่ให้ตอนนี้ไอ้พี่แม่งปล่อยกูออกจากท่านี้สักทีเถอะ!

ไอ้พี่เหมมันก็ยอมปล่อยผมแต่โดยดี แล้วทันทีที่พี่มันปล่อยมือออกจากแขนของผม ผมก็รีบกระโดดออกห่างมายืนไกลๆมันเลย ไม่ไว้ใจมันสุด! เกิดมันโมโหผมจับผมปล้ำขึ้นมาตรงนี้จะทำไง?

“ไม่ต้องกลัวกูขนาดนั้นก็ได้”

ไม่ให้กลัวได้ไงล่ะสาดดดดด เผลอแปปเดียวก็ล็อคกูซะขยับตัวไม่ได้แล้ว

“เรื่องของผม แค่กๆ!”

“เป็นไร?”

ไอ้พี่เหมถามหลังจากที่จู่ๆผมก็ไอขึ้นมา

ที่ผมจู่ๆผมก็ไอขึ้นมานั่นก็เป็นเพราะว่ามีคนมาสูบบุหรี่อยู่ตรงหัวมุมตึกที่ผมกับไอ้พี่เหมยืนอยู่แล้วลมมันก็เลยพัดเอาควันบุหรีลอยมาทางนี้ ผมที่ไม่ทันได้ตั้งตัวเลยเผลอสูดหายใจเข้าไป คือผมแพ้บุหรี่น่ะครับ แค่เผลอสูดหายใจเข้าไปนิดเดียวก็ไอแล้ว

“ควัน แค่ก! บุหรี่…ผมแพ้”

ไอ้พี่เหมหันไปมองทางหัวมุมตึกที่มีควันบุหรี่มันลอยออกมา

ดีนะเนี่ยที่ไอ้พวกนั้นมันไม่ได้เดินมาสูบตรงนี้ไม่งั้นล่ะคงจะเห็นฉากที่ไอ้พี่เหมมันล็อคผมเมื่อกี๊แน่ๆ

“พี่จะไปไหน?”

ผมถามไอ้พี่เหมที่ทำท่าจะเดินไปที่มุมตึก

“ก็ไปบอกให้พวกนั้นเลิกสูบไง”

“เฮ้ยไม่ต้อง!”

“ก็มึงแพ้”

“เรื่องนั้นแค่เดินออกห่างควันบุหรี ปล่อยทิ้งไว้สักพักก็หายแล้ว แค่กๆ”

“งั้นเหรอ?”

“เออ เอ้ย! ครับ”

ไอ้พี่เหมมองหน้าผมก่อนที่จะควักเอาผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋ากางเกง หยิบขวดน้ำจากพื้นที่มีน้ำเหลืออยู่ประมาณครึ่งขวดออกมาเทน้ำลงบนผ้าเช็ดหน้าจนชุ่ม ก่อนที่จะยื่นผ้าเช็ดหน้ามาโปะลงบนจมูกผมจนผมรีบจับแทบไม่ทัน

“โปะเอาไว้ เผื่อมันจะช่วยได้” ไอ้พี่เหมมันก็จับข้อมือของผมแล้วจูงให้เดินออกห่างจากสิงห์รมควันที่นั่งดูดบุหรี่กันอยู่ตรงมุมตึก




คือผมควรจะขอบใจไอ้พี่เหมใช่ไหม? ที่พี่มันช่วยผมเอาไว้








แต่ไอ้พี่เหมครับ…








มึงเอาน้ำที่ใครก็ไม่รู้แดกทิ้งไว้มาใช้โปะหน้ากูเนี่ยนะ!?


ฟวยยยยยยยยยย!








แล้วนี่สรุปพี่มึงมาถึงนี่เพื่อมาถามชื่อกูจริงๆอ่ะนะ???


เพื่ออออออออออ?????






TBC. N.EP ------------------------------------------------------------------------->





TALKKKKKKKKKKKKK : อาจจะมีคำหลายเยอะไปบ้าง ต้องเข้าใจอิพลัมมันหน่อยเนอะ5555 ส่วนอิพี่เหมนี่ก็หน้ามึงจ๊างงงงงง หลังจากนี้จะอัพช้าลงจริงๆแล้วค่ะ มีงานใหญ่ที่อาจารย์นัดส่งอยู่ มัวแต่มาแต่งอิพลัมจนแทบจะไม่ได้ทำงาน555 ยังไงก็ฝากนิยายเรื่องนี้ด้วยนะคะ เจอกันตอนหน้าค่าาาาาา ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-03-2016 00:28:32 โดย NAY_nay »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.2 20/03/59
«ตอบ #18 เมื่อ20-03-2016 22:57:19 »

คุณพี่เหมมาสร้างกระแสสินะ

ออฟไลน์ panitanun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.2 20/03/59
«ตอบ #19 เมื่อ20-03-2016 23:27:21 »

กรี๊ดดดดมาเร็วเคลมเร็วค่ะดิชั้นชอบบ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.2 20/03/59
« ตอบ #19 เมื่อ: 20-03-2016 23:27:21 »





ออฟไลน์ daadaadaa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.2 20/03/59
«ตอบ #20 เมื่อ20-03-2016 23:30:47 »

พี่เหมมือไว 555
 :hao7:

ออฟไลน์ littlegift

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.2 20/03/59
«ตอบ #21 เมื่อ20-03-2016 23:51:17 »

5555 อ่านไปหัวเราะไป อยากอ่านต่อแล้วววว

ออฟไลน์ Jitsupa_milk

  • Just Milky('s) Way
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.2 20/03/59
«ตอบ #22 เมื่อ21-03-2016 00:27:05 »

พี่เขม อย่าแกล้งน้องงงงงง
น่ารักจัง

ออฟไลน์ poterdow

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 662
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.2 20/03/59
«ตอบ #23 เมื่อ21-03-2016 01:04:41 »

นึกว่าจะได้จ๊วบบบบน้องซะและ แหม่ะ เสียดาย

ออฟไลน์ mmello07

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.2 20/03/59
«ตอบ #24 เมื่อ21-03-2016 01:45:17 »

ต้องขนาดนั้นเลยรึพี่เหมมมมม :hao3:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.2 20/03/59
«ตอบ #25 เมื่อ21-03-2016 03:11:39 »

ไม่ค่อยจะเร็วเลยนะพี่เหม กลัวน้องพลัมหายเหรอครับ ^^

ออฟไลน์ 205arr

  • เราคงอยู่ไกลกันเป็นพันหมื่นลี้
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.2 20/03/59
«ตอบ #26 เมื่อ21-03-2016 10:50:31 »

โอ๊ย น้องพลัมกับพี่เหมน่ารักจัง
 :mew1: :L2: :-[

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4982
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.2 20/03/59
«ตอบ #27 เมื่อ21-03-2016 11:09:16 »

พี่เหมทำดี o13 o13

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.2 20/03/59
«ตอบ #28 เมื่อ21-03-2016 11:13:43 »

พี่เหมรุกเร็วใช่ย่อย  :o9:

ออฟไลน์ NAY_nay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.3 22/03/59
«ตอบ #29 เมื่อ22-03-2016 21:18:22 »

ตอนที่สามมาแล้วจ้าาาาาา ตอนนี้รีบแต่งมากไปหน่อยเวลาไม่ค่อยมี เลยอาจจะออกมาไม่ค่อยดีเท่าไร อย่าว่ากันนะคะ แล้วก็ขอบคุณทุกๆคอมเม้นมากเลยเน้ออออ เป็นกำลังใจได้ดีจริงๆ555 ไปอ่านตอนที่สามกันเล๊ยยยยย




EP.3




หลังจากที่ไอ้พี่เหมมันเล่นถ่อมาหาผมถึงที่คณะ เช้าวันรุ่งขึ้นก็เกิดทอล์กออฟเดอะทาวน์ขึ้นมาทันทีเมื่อมีคนเอารูปตอนที่ไอ้พี่เหมมันกำลังจูงข้อมือผมให้เดินออกห่างจากตรงที่มีควันบุหรี่ ส่วนผมก็กำลังยกผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำที่ไอ้พี่เหมมันให้ขึ้นมาปิดจมูกไปลงในเพจ ‘อยากให้ผู้ชายรักกัน’ อะไรก็ไม่รู้และเพราะว่าตอนนั้นผมไอจนน้ำหูน้ำตาไหลในรูปมันเลยออกมาเหมือนกับว่าผมกำลังร้องไห้แล้วเอาผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดน้ำตาอยู่

แถมคำแคปชั่นบรรยายรูปที่ผมเห็นมันดันเขียนเอาไว้ว่า

'อะไร? ยังไง? พี่เหมทำน้องพลัมร้องไห้?'

ทำไมมันกลายเป็นแบบนี้ไปได้!?

คอมเม้นใต้รูปก็ตามมาอย่างถล่มถลายจนไล่อ่านไม่หวัดไม่ไหว ซึ่งผมก็ทนอ่านไม่ไหวเหมือนกัน ก็แต่ละคอมเม้นแม่งงงงง




‘พี่เหมทำไรน้องพลัม? ไปง้อน้องเดี๋ยวนี้เลยนะ!’

กูไม่ได้เป็นไรไม่ต้องมาง้อกูวววววว





‘น้องพลัมเป็นอะไรค่ะ? พี่เหมแกล้งอะไรบอกเจ้มาได้เลย’

อิเจ้รูปโปรมึงหน้ากลัวกว่าไอ้พี่เหมอีก!





‘อย่าทะเลาะกันเลยนะ เป็นแฟนกันเราต้องพยายามทำความเข้าใจซึ่งกันและกันนะคะ’

กูไม่ได้เป็นแฟนกับไอ้พี่เหมวุ้ย! แล้วก็ไม่ได้ทะเลาะอะไรกับพี่มันด้วย!





และคอมเม้นอื่นๆอีกบลาๆๆ

น้องพลัมอย่างงู้น พี่เหมอย่างงี้

ฟวยยยยยยย

กูไปเป็นน้องของพวกคุณๆตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วอะไรคือการที่แม้แต่รุ่นเดียวกันก็ยังเรียกผมว่าน้อง!?

ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าไอ้คนที่เอารูปนี้ไปลงมันต้องการอะไรหรือว่าเป็นใคร

แต่ห่านเอ๊ย!

มันเล่นแท็กเฟชของผมลงไปในรูปนั้นด้วยอ่ะ! มันรู้เฟชผมได้ไงว่ะ? แม่งทำให้เฟชของผมเด้งแทบจะตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนใหม่เพื่อนเก่าหรือแม้แต่คนที่ไม่รู้จักที่ทักข้อความมาถามเกี่ยวกับรูปนั้นแถมยังมีคนแอดเฟชผมขึ้นมาตั้งหลายสิบคน ตอนที่เรียนอยู่ก็รู้สึกเหมือนโดนจ้องอยู่ตลอดเวลาเล่นเอาผมเรียนแทบไม่รู้เรื่องรีบเผ่นกลับห้องทันทีที่อาจารย์ปล่อยคลาส


แต่แปลกอยู่อย่างหนึ่ง...


คือผมก็ไม่ได้หลงตัวเองหรือว่าอะไรหรอกนะครับ แต่เรื่อง(เข้าใจผิด)ของผมกับไอ้พี่เหมตอนนี้ก็เรียนได้ว่าเป็นเรื่องที่คนแทบจะทั้งมหาลัยให้ความสนใจเลยก็ว่าได้

แต่ทำไมเพื่อนผมอีกสองคนซึ่งก็คือหัวหน้าห้องแล้วก็ไอ้วัฒถึงยังไม่ได้ติดต่อมาเสือก เอ้ย! มาสอบถามถึงความความสัมพันธ์ของผมกับไอ้พี่เหมก็ไม่รู้ อย่างที่ผมเคยบอกไปตั้งแต่ตอนแรกแล้วว่าถ้าเรื่องเสือกต้องยกนิ้วให้ไอ้เติ้ลกับไอ้วัฒ แล้วยิ่งเป็นเรื่องที่ผมดันไปมีแฟนเป็นผู้ชายอีก(ซึ่งจริงๆแล้วไม่ได้เป็นนะเว้ย!) มันไม่น่าจะพลาดได้ ไอ้เติ้ลมันมาแสดงตัวแล้วเมื่อวานแต่ไอ้วัฒกับหัวหน้าห้องนี่สิยังไม่เห็นหัว





ก็อกๆๆ

เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นในตอนเย็น ผมเลยละมือจากเกมส์ที่กำลังเล่นอยู่แล้วเดินไปเปิดประตู

“แฮร่!!!”

“เหี้ย!”

“ฮ่าๆๆๆ กูว่าแล้วมึงต้องตกใจ”

ไอ้เหี้ยวัฒ!

มันแอบอยู่ข้างประตูแล้วพอผมเปิดประตูมันก็พุ่งออกมาแฮร่ใส่

ผมจะไม่ตกใจเลยถ้าไอ้วัฒมันไม่ได้ใส่หน้ากากผีอยู่!

จุดอ่อนของผมอีกอย่างหนึ่งก็คือผมกลัวผีครับ กลัวแบบโคตรๆของโคตรๆอ่ะ ชีวิตนี้เคยดูหนังผีอยู่ไม่กี่ครั้งและทุกครั้งที่ดูก็หลอนนอนไม่หลับไปเป็นอาทิตย์ ลำบากพวกมันนี่ล่ะที่ต้องมานอนเป็นเพื่อนผม

“กูถ่ายวีดีโอเอาไว้เรียบร้อยแล้วไอ้วัฒ”

เสียงของหัวหน้าห้องดังขึ้นมาจากขอบประตูอีกข้างหนึ่งในมือถือโทรศัพท์เอาไว้อยู่ ดูแล้วมันท่าจะถ่ายวีดีโอเอาไว้จริงๆ

อ๋อออออ นี่มึงสองคนทำกันเป็นกระบวนการ!?

“เล่นเหี้ยอะไรของพวกมึง!”

“ฮ่าๆๆ พอดีกูได้ข่าวว่ามึงทะเลาะกับแฟนไง กลัวมึงคิดมากเครียดอยู่คนเดียวเลยมาช่วยคลายเครียดไง” ไอ้วัฒตอบพร้อมกับถอดหน้ากากผีออกแล้วยิ้มกวนตีนส่งมาให้

คลายเครียดห่าอะไรล่ะ!

ทำให้กูเครียดมากกว่าเดิมล่ะสิไม่ว่า

“แฟนห่าอะไรของมึง?” แกล้งมึนไปก่อนทั้งๆที่รู้แล้วล่ะว่ามันหมายถึงใคร

“ก็พี่ปีสองที่เรียนอยู่วิศวะไง ที่ชื่อเหมอ่ะ ตอนแรกที่พวกกูได้ยินข่าวนะตกใจม๊ากมาก ไม่คิดว่าเพื่อนตัวเองจะมีผัวเร็วขนาดนี้” ไอ้หัวหน้าห้องจีบปากจีบคอพูด

“ผัวบ้านมึงน่ะสิ! กูไม่ได้เป็นอะไรกับพี่มันสักหน่อย”

ด่าเสร็จก็หลีกทางให้พวกมันสองคนเข้ามาในห้อง หัวหน้าห้องกับไอ้วัฒเลยหันไปหยิบถุงซุปเปอร์มาเก็ตสี่ห้าถุงที่วางทิ้งไว้ข้างประตูเดินตามเข้ามา

“แต่กูได้ข่าวว่ามึงไปขอพี่เค้าเป็นแฟนถึงที่คณะเลยหนิ” ไอ้วัฒถามขณะที่เดินเอาของเข้าไปวางในครัว

ห้องนี้ที่ผมอยู่ค่อนข้างจะกว้างพอสมควร มีห้องครัวให้หนึ่งห้อง ห้องน้ำกับห้องนอนอีกอย่างละหนึ่งแล้วก็มีห้องนั่งเล่นตรงกลางซึ่งพวกมันสามตัวชอบมาสุมหัวสังสรรค์กันที่ห้องผมบ่อยๆ ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมพวกมันชอบมาที่ห้องของผมทั้งๆที่ห้องของไอ้เติ้ลแม่งหรูกว่าผมอีกหลายเท่าตัว

ส่วนเงินค่าเช่าห้องนี้พี่ชายผม พี่พีชเป็นคนออกเงินให้ พี่พีชเรียนจบนานแล้วครับตอนนี้ทำงานอยู่ในบริษัทแห่งหนึ่ง ด้วยความที่พี่ผมเป็นคนเก่งและขยันทำให้แค่ไม่กี่ปีก็สามารถก้าวขึ้นไปในตำแหน่งดีๆได้แล้ว

ผมมีพี่สาวอีกคนชื่อว่าพี่แพร์ตอนนี้ก็เปิดร้านเค้กเป็นของตัวเองอยู่ใจกลางเมือง ไม่อยากจะบอกเลยว่าฝีมือการทำเค้กของพี่แพร์นั้นสุดยอดของสุดยอดมากๆ อร่อยโคตรๆ ผมยังไม่เคยกินเค้กร้านไหนอร่อยไปกว่าที่พี่สาวผมทำเลย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมร้านของพี่แพร์ถึงได้เป็นที่ถูกอกถูกใจของลูกค้านัก ออกรายการโทรทัศน์ไปหลายรายการแล้วด้วย เคยมีคนลงทุนมาจากต่างหวัดเพื่อมาซื้อเค้กร้านพี่ผมก็เคยมาแล้ว แถมรู้สึกว่าพี่แพร์กำลังจะเปิดสาขาสองในอีกไม่นานนี้ด้วย

“นั่นกูโดนทำโทษต่างหากล่ะ” ตอบเสร็จก็กลับไปเล่นเกมส์ในห้องนอนต่อ

“แต่เมื่อวานพี่เค้าก็ไปหามึงถึงคณะเลยไม่ใช่เหรอ? แถมมีรูปที่เค้าทำมึงร้องไห้ออกมาด้วยหนิ ทะเลาะอะไรกันเหรอ?” ไอ้หัวหน้าห้องเดินตามมายืนข้างหลังผมสายตาก็มองมาที่ผมราวกับจะเค้นหาความจริง

“กูไม่ได้ร้องไห้สักหน่อย แล้วก็ไม่ได้เป็นแฟน ไม่ได้ทะเลาะอะไรกับพี่มันด้วย นั่นกูแพ้บุหรี่ต่างหาก มึงก็รู้นี่ว่าเวลากูแพ้บุหรี่ก็จะไอจนน้ำตาไหลแบบนั้นแหละ”

“งั้นเหรอ”

“เออดิ มึงอย่าเพิ่งกวนกูได้ไหมอ่ะ กำลังจะตีบอสแล้วเนี่ย”

“หืมมมมมม” ไอ้หัวหน้าห้องไม่ได้ตอบอะไร




แต่รู้สึกว่ามันจะเดินไปข้างๆโต๊ะคอม…




พรึ่บ!




สาดดดดดดดดดด!

ไอ้หัวหน้าห้องมันดึงปลั๊กคอมผมมมมมมมมมม!

 “ทำอะไรของมึงว่ะหัวหน้าห้อง!”

“ก็ปกติกูเห็นมึงเล่นแต่ที่ร้านเกมส์นี่ ก็เลยช่วยมึงประหยัดไฟไง”

“เหตุผลส้นตีน”

“เดี๋ยวกูตบปากแตก ออกมาข้างนอกได้แล้ว พวกกูอุตส่าห์มาหาทั้งทีจะปล่อยให้แขกนั่งกันอยู่สองคนแล้วเจ้าของห้องหมกตัวเล่นเกมส์อยู่แต่ในห้องเนี่ยนะ?”

“ปกติไม่จำเป็นต้องมีกูพวกมึงก็อยู่กันได้ไม่ใช่หรือไง แล้วอุตส่าห์มาหาอะไรของมึง? กูเห็นว่างทีไรก็มาหมกอยู่ห้องกูตลอด มาบ่อยซะจนกูคิดว่าพวกมึงเป็นเจ้าของห้องไปแล้วเนี่ย”

“อย่าบ่นๆ ก็วันนี้มันไม่ปกติไง วันนี้กูกับไอ้วัฒก่ะเมา”

“เมา?”

“เออ เหล้าพร้อมกับแกล้มพร้อมพวกกูแวะซื้อกันมาเรียบร้อยแล้ว”

นี่พวกมึงถามเจ้าของห้องอย่างกูสักคำหรือยังครับ?

แย้งอะไรไม่ได้หรอกครับ ได้แต่เดินตามเจ้แกไปต้อยๆ พอออกมาข้างนอกก็เห็นว่าไอ้วัฒมันเคลียร์พื้นที่เตรียมพร้อมแดกเรียบร้อย โต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กถูกนำออกมากางไว้ที่กลางห้อง บนโต๊ะเต็มไปด้วยเหล้าโซดาและกับแกล้มหลากหลายอย่าง

“นี่พวกมึงอดอยากมาจากไหน?”

“แหม นานๆทีน่ะมึง” ไอ้วัฒตอบ

“แล้วไอ้เติ้ลไปไหน?” ผมถามเพราะว่าเรื่องแดกเหล้าแบบนี้ไอ้เติ้ลมันไม่น่าพลาด ไอ้นี่มันสายแดก

“โทรชวนแล้ว แต่มันบอกว่าวันนี้รุ่นพี่ที่คณะเลี้ยงเหล้ามันเลยมาไม่ได้” ไอ้วัฒตอบ

รุ่นพี่ที่คณะเลี้ยงเหล้า?

หึ ไอ้พี่เหมแหงมๆ

ว่าแต่พี่มันเลี้ยงจริงๆเหรอว่ะ? นึกว่าแค่พูดไปงั้นๆซะอีก

“แล้วพวกมึงเป็นอะไร ทำไมจู่ๆก็อยากกินเหล้าเมาแต่หัววัน” เดินไปนั่งลงตรงโต๊ะญี่ปุ่นที่ไอ้วัฒเตรียมไว้ก่อนที่ไอ้หัวหน้าห้องจะเดินมานั่งด้วยกันอีกคน

“ก็ไม่มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษ ถ้ามีก็คงจะเป็นฉลองให้กับมึงที่จู่ๆก็มีแฟนล่ะนะ” ไอ้วัฒตอบพร้อมกับชงเหล้าแจกให้ไอ้หัวหน้าห้อง

“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ใช่แฟน มันไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ”

“งั้นเอานี่ไปดูป่ะ”

ไอ้หัวหน้าห้องยื่นโทรศัพท์ของมันมาให้ผมดู หน้าจอที่เปิดค้างเอาไว้ก็คือรูปของผมกับไอ้พี่เหมที่ถูกเอาไปลงเพจบ้าบอนั่นแหละครับ แต่ที่ไอ้หัวหน้าห้องมันให้ผมดูก็คือคอมเม้นคอมเม้นหนึ่ง



‘ตอนนี้ปรับความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้วครับ’



ไอ้พี่เหม!!!

ไอ้พี่ห่านั่นมันไปเม้นใต้รูป!

แล้วอะไรคือการปรับความเข้าใจกันแล้ว?

จนถึงตอนนี้กูยังงงในตัวคุณมึงอยู่เลยครับ

แล้วมาบอกว่าปรับความเข้าใจอะไรของมึงไม่ทราบบบบบบ?

“เหี้ยอะไรของพี่มันว่ะเนี่ย!?”

“มึงจะบอกว่ามึงไม่รู้เรื่องงั้นเหรอ?” ไอ้หัวหน้าห้องถาม

“เออดิ หลังจากนั้นก็ก็ไม่ได้คุยอะไรกับพี่มันอีก มันก็กลับคณะของมันไปส่วนกูก็กลับไปเรียนต่อยังไม่ได้คุยกันสักแอะ” พูดไปก็ไล่อ่านคอมเม้นที่มาเม้นตอบไอ้พี่เหมไป แม่งคนกดไลค์คอมเม้นมันโคตรเยอะ

“พี่เหมเค้าชอบมึงเหรอว่ะ?” ไอ้วัฒถามขึ้นบ้าง

“กูจะไปรู้เหรอ แม่งก็บอกไปแล้วว่ามันเป็นการลงโทษพี่มันก็ไม่ฟังทึกทักว่ากูเป็นแฟนมันอยู่นั่นแหละ แล้วทำไมมึงไม่ชงเหล้าให้กูบ้าง? มาแดกห้องกูแล้วยังจะให้กูชงเองอีกเหรอ” เงยหน้าขึ้นไปถามไอ้วัฒเพราะหลังจากที่มันยื่นเหล้าให้หัวหน้าห้องเสร็จก็หันไปชงให้ตัวเองทันที

แล้วของกูล่ะครับ?

“กูก็บอกไปแล้วไงว่าวันนี้กูกับไอ้วัฒจะเมา”

“แล้ว?”

“มึงยังอยากให้ห้องอยู่ในสภาพที่ดีหรือเปล่าล่ะ? ถ้าไม่ก็แดกกับพวกกูก็ได้ไม่ได้ว่าอะไร”

เหี้ยยยยย งั้นผมขอไม่แดกดีกว่า

หลายคนอาจจะสงสัยว่าที่ไอ้หัวหน้าห้องพูดมันหมายความว่าไง

เดี๋ยวอีกสักพักก็เห็นครับ แต่จะเล่าให้ฟังคร่าวๆก่อนก็ได้

คือในกลุ่มพวกเราสี่คนมีลำดับความคออ่อนไม่เท่ากันครับ คนที่แดกเหล้าได้เก่งและคอทองแดงมากที่สุดก็คือไอ้เติ้ล แม่งแดกจนชินไปแล้ว รองมาก็คือผม แม้ว่าผมจะไม่ค่อยได้กินเหล้าบ่อยแต่เมื่อสมัยมัธยมผมถูกพ่อจับกรอกปากฝึกให้กินบ่อยๆเลยกลายเป็นว่ามีภูมิต้านทานไปซะงั้น รองลงมาก็ไอ้หัวหน้าห้อง ไม่น่าเชื่อว่าไอ้วัฒจะคออ่อนกว่าไอ้หัวหน้าห้องที่เป็นผู้หญิง แต่มันก็เป็นเรื่องจริงครับ เพราะงั้นเวลาไปกินเหล้าด้วยกันทีไรไอ้วัฒจะถูกพวกผมสามคนมอมเหล้าบ่อยสุดแล้ว

แล้วก็เพราะไอ้วัฒกับไอ้หัวหน้าห้องที่มีความคออ่อนมากที่สุดในกลุ่มนี่แหละ พวกมันสองตัวจึงเมาบ่อยมาก และทุกครั้งที่พวกมันสองตัวเมาล่ะก็ไม่ว่าตอนนั้นจะแดกเหล้าอยู่ที่ไหนก็ตามมีเละเทะกันบ้างอ่ะ



เพราะพวกมันสองตัวจะร่วมมือกันรั่วแบบไม่เกรงใจใคร…



ลำบากใครล่ะครับ?



ถ้าไม่ใช่ผมกับไอ้เติ้ล

แล้วตอนนี้ไอ้เติ้ลก็ไม่อยู่ ดังนั้นขืนผมดื่มจนเมาไปด้วยล่ะก็ ห้องผมคงจะเละแบบไม่เหลือซาก

อาจจะหาว่าผมเวอร์ แต่รอดูอีกสักพักก็จะรู้เองครับ…

ปกติพวกผมไม่ค่อยจะมาดื่มเหล้าที่ห้องสักเท่าไร ที่บอกว่าชอบมาสังสรรค์ที่ห้องไปตอนแรกนั้นคือสังสรรค์พวกน้ำอัดลมขนบขบเคี้ยวธรรมดาต่างหาก ถ้าจะแดกเหล้าส่วนใหญ่จะไปที่ร้านนั่งชิลแทน เวลาพวกมันสองตัวเมาผมกับไอ้เติ้ลก็จะคอยคุมไม่ให้มันสองตัวไปทำข้าวของเค้าเสียหาย เป็นแบบนี้ซะเป็นส่วนใหญ่

แต่วันนี้ไอ้เติ้ลไม่อยู่ ผมต้องรับมือคนเดียวทางที่ดีไม่ดื่มจะดีสุดแล้วครับ







หลังจากนั้นพวกเราก็นั่งคุยกันไปเรื่อยเปื่อย เรื่องเรียนบ้าง อะไรบ้าง ไอ้วัฒกับหัวหน้าห้องก็ยกดื่มๆกันแบบไม่กลัวเมา จนกระทั่งสักประมาณสามทุ่ม ทั้งไอ้และหัวหน้าห้องก็เริ่มออกลายแล้วครับ ปกติไอ้วัฒจะเมาก่อนใครแต่วันนี้ส่วนใหญ่มันจะคุยมากกว่าอัตราการดื่มเลยน้อยกว่าหัวหน้าห้องนิดนึง คราวนี้พวกมันสองตัวจึงเมาพร้อมๆกัน







ชิบหายแน่กู…







“อ้ายพลัมมมมมมม กูหิวน้ามมมมมมม” ไอ้หัวหน้าห้องครับ

“เดี๋ยวกูลุกไปเอามาให้”

“ไม่ต้อง! เดี๋ยวกูลุกไปเอาเองงงงงงง กูยังหวายยยยยยยย”

นี่ขนาดมึงไหวเสียงมึงยังยานซะขนาดนี้ ถ้ามึงไม่ไหวแล้วนี่คงจะกลายเป็นสลอตเลยมั๊งห่า

“เออๆ เดินดีๆล่ะมึง”

“รับทราบค่าาาาา”

แล้วมันก็โงนเงนลุกขึ้นยืนเดินโซซัดโซเซไปทางห้องครัว ก็ยังถือว่าพอไหวอยู่ล่ะนะ

หันมาหาไอ้วัฒ ก่ะจะดูว่ามันเป็นยังไงบ้าง แต่พอหันมาเท่านั้นแหละ…

ไอ้วัฒแม่งไม่ได้นั่งอยู่ที่เดิมแล้ว!

หายไปไหนของมันว่ะ!?




จ๋อม!

เสียงเหมือนอะไรตกน้ำเลยหันไปมองทางตู้ปลาทองที่ผมลงทุนขนมาจากบ้านเอามาไว้ที่นี่ด้วยก็พบกับไอ้ห่าวัฒ







ซึ่งมัน…







มันกำลังพยายามจะจกปลาทองออกมาจากตู้!!







รีบลุกขึ้นไปห้ามมันเอาไว้แทบไม่ทัน

คือตู้ปลาทองผมมันไม่มีฝาปิดอ่ะ เอาแค่ออกซิเจนหย่อนลงไปแค่นั้น

“ทำห่าไรของมึงเนี่ยไอ้วัฒ!?”

“กูอยากแดกปลาย่างงงงงงงง เอิ๊ก”

พ่องมึงเซ่!!

ปลาทองมันแดกได้ที่ไหนกันเล่า!

แล้วนี่มึงคิดจะจกปลาทองกูออกมาเสียบไม้ย่างหรือไง!?

ฟวยยยยยยยยย

โครม!

เสียงดังโครมใหญ่ดังออกมาจากในครัวที่ไอ้หัวห้องมันเดินเข้าไป

กุมขมับเลยกู…

ไอ้หัวหน้าห้องมันทำอะไรอีกว่ะนั่น!?

แค่ไอ้วัฒจะจกปลาทองกูแดกนี่ก็รับมือแทบจะไม่ไหวแล้วนะโว้ยยยยยย!

“ไอ้วัฒมึงมานั่งนี่มา นั่งอยู่เฉยๆเข้าใจไหม?” พามันเดินมานั่งลงที่โซฟาแล้วสั่งกำชับให้มันนั่งอยู่กับที่

“คร้าบบบบบบบบ”

พอไอ้วัฒรับคำก็รีบวิ่งเข้าไปในครัวทันที และพอเข้าไปถึงก็ถึงกับต้องอ้าปากค้าง

ไอ้หัวหน้าห้องมันเดินชนจนเก้าอี้ที่ใช้นั่งกินข้าวล้มระเนราด!

แต่ที่ต้องอ้าปากค้างไม่ใช่เพราะเก้าอี้หรอก…



“อ้าววววว ไอ้พลัมมมมม มาพอดี ทำไมตู้เย็นมึงไม่เห็นเย็นเลยว๊า ไม่มีน้ำเลยซ๊ากกกกขวด”



มันจะไปเย็นหรือมีน้ำได้ยังไงกันล่ะห่าน!







ก็ที่มึงเปิดอยู่นั่นมันตู้ไมโครเวฟ!







มันคงจะมีน้ำให้มึงแดกหรอก







“หัวหน้าห้องมึงมานั่งนี่ก่อนมา เดี๋ยวกูหาน้ำให้มึงแดกเอง” หยิบเก้าอี้ที่ล้มอยู่ขึ้นมาแล้วไปลากไอ้หัวหน้าที่ยืนหน้าหงิกอยู่ตรงตู้ไมโครเวฟให้มันมานั่งตรงนี้ก่อน

พอจะหันไปเปิดตู้เย็นหยิบน้ำออกมาให้หัวหน้าห้องจู่ๆก็มีเสียงเพลงดังขึ้นมาจากห้องนั่งเล่น

‘อามี อามี กาฟรื้อ!! เดซิโก๊ะ เดจิ นาโบ กาโว๊ะ กาโว กาโว กาโว~~’

ไอ้วัฒ!!

แม่งเปิดเครื่องเล่นเพลงขึ้นมา! แล้วคือเพลงนี้มันเป็นเพลงที่พวกผมเคยไลท์ลงแผ่นแล้วเสียบแผ่นคาเครื่องเอาไว้ตั้งนานแล้ว พอมาอยู่มหาลัยก็ขนมันมาทั้งเครื่องเล่น แผ่นเพลงมันก็เลยติดมาด้วย

แล้วประเด็นคือมันเปิดดังมาก!

ไม่แคล้วว่าคนข้างห้องก็คงได้ยิน

ห่านเอ๊ยยยยยย!

“ไอ้พลัมมมมม น้ำกูอยู่หนายยยยยย?”

หันมาสนใจไอ้หัวหน้าห้องที่เริ่มเบะปากราวกับตัวเองเป็นเด็กตัวเล็กๆที่จะร้องไห้เวลาไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ

ผมรีบรินน้ำส่งให้ไอ้หัวหน้าห้องยื่นให้มันแล้วรีบเดินออกไปหาไอ้วัฒที่กำลังเต้นกาโวอยู่บนโซฟา

“อามี อามี กาฟรื้อออออออ เดซิโก๊วววววว เดจิ นาโบบบบบบบ กาโว๊ะ กาโววว กาโวว กาโว~~”

ไอ้วัฒแหกปากร้องเพลงไปด้วยเต้นไปด้วยจนผมรีบเดินไปปิดเครื่องเล่นแทบไม่ทัน คือเมื่อก่อนพวกผมสี่คนชอบเพลงนี้กันมากเลยฟังจนร้องตามได้อ่ะ

“ไอ้พลัมมมมม มึงปิดเพลงทำมายยยยย เปิดเดี๋ยวนี้เลยน๊า”

“เดี๋ยวข้างห้องเค้าก็ออกมาด่าหรอกมึง นั่งแดกเหล้าไปเงียบๆไม่ได้หรือไง?”

“ไม่ได้! กูจะเต้นกาโว มึงรีบเปิดให้กูววววว เลยนะ”



“ท่านนนนนน กามลาง เข้าสู่บริการรับฝากกกกกก หัวจายยยยยย~~”

เสียงไอ้หัวหน้าห้องร้องเพลงหญิงลีดังลั่นออกมาจากห้องครัว วิ่งเข้าไปดูก็พบว่ามันเอาขวดน้ำปลามาทำเป็นไมค์แล้วแหกปากร้องแบบไม่เกรงใจใคร

“โว้ยยยยยย ไมค์เสียงไม่ดีเลยยยยยย เปลี่ยนๆ” ว่าเสร็จไอ้หัวหน้าห้องก็ทำท่าจะเขวี้ยงขวดน้ำปลาในมือทิ้งจนต้องรีบเข้าไปขว้าเอาไว้ก่อนที่มันจะได้เขวี้ยง

อย่านะโว้ยยยยยยย!

ขืนมึงเขี้ยงขวดแตกล่ะก็ห้องกูต้องได้เหม็นเจ็ดวันเจ็ดคืนแน่ๆ   



“อ้ายยยยพลัม กูอยากดูแฮร์รี่คัดดดดดเตอร์!!” เสียงไอ้วัฒตะโกนออกมาจากห้องนั่งเล่น

พอตเตอร์โว้ย!

คัดเตอร์นั่นกูจะเอามาแทงมึงนั่นแหละห่าน!

โอ๊ยยยยยย แต่ละคน!

เล่นเอาซะกูปวดหัว!

ไอ้เติ้ลมึงอยู่ไหนรีบกลับมาช่วยกูด่วนเลย

กูจะบ้าตายแล้วสาดดดดดด!









ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนพอดี ไอ้หัวหน้าห้องกับไอ้วัฒสลบไปเรียบร้อยแล้ว แต่กว่าจะยอมสงบได้นี่ก็เล่นเอาซะผมวิ่งล่อกไปทั่วห้อง ผมให้หัวหน้าห้องนอนบนโซฟาดีๆส่วนไอ้วัฒก็ปล่อยให้มันนอนไปที่พื้นข้างโซฟานั่นแหละ เผื่อมันสองตัวอ้วกจะได้ไม่ลำบากในการเก็บซากมากนัก

ผมสัญญากับตัวเองแล้วว่าคราวหน้าจะไม่ยอมให้พวกมันสองตัวมาแดกเหล้าที่ห้องผมอีกเป็นอันขาด!

ไม่ไหวจริง จะบ้าตาย!


Rrrrrrr Rrrrrrr
เสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่ในห้องนอนดังขึ้นผมเลยละจากไอ้ขี้เมาสองตัวเดินไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูชื่อคนโทรเข้าก็พบว่าเป็นไอ้เติ้ล

(ฮัล-)

“ไม่ต้องมาฮัลลงฮัลโหลเลยสัด! มึงปล่อยให้กูรับมือกับไอ้สองตัวนั่นคนเดียว!”

(ฮ่าๆ ก่ะแล้วว่ามึงต้องด่ากู แต่ทำไงได้ว่ะก็พี่เหมเค้าเลี้ยงเหล้ากูอ่ะ กูก็ต้องเลือกเหล้าฟรีก่อนดิ)

“ฟวย!”

(น่าๆ กูก็ก่ะจะโทรมาถามนี่ล่ะว่าเป็นยังไงกันบ้าง)

“เละน่ะสิถามได้! ไอ้วัฒแม่งเกือบจะจกปลาทองกูออกมาเสียบไม้ย่างอยู่แล้วเนี่ย!”

(ฮ่าๆๆ มันหิวขนาดนั้นเลยหรือไง?)

“ไม่ต้องมาขำเลยมึง คราวหน้ากูจะปล่อยให้มึงรับมือกับมันสองตัวคนเดียวบ้าง!”

(เอาน่าๆ)

“ชิ๊”

(เออ แล้วที่กูโทรมาหามึงเนี่ยก็มีอีกเรื่องนึง)

“เรื่องอะไร?”

(มีคนอยากคุยกับมึง)

“ใคร?”

(เอาไปคุยเองก็แล้วกัน) หลังจากที่ไอ้เติ้ลพูดเสร็จก็ได้ยินเสียงเหมือนมันส่งโทรศัพท์ให้กับใครบางคน

“…”

(ไงคุณแฟน)

เหี้ย!

“ไอ้พี่เหม!”

(ไม่มี‘ไอ้’สิ)

ไม่สนเว้ย! มึงไม่ได้อยู่ใกล้กูตอนนี้ไม่กลัวหรอก

“พี่มีไรจะคุยรีบคุยมาเลยดีกว่าเดี๋ยวผมต้องไปดูแลเพื่อนอีก”

(เพื่อนเป็นไร?)

“เมา”

(แล้วมึงเมาด้วยหรือเปล่า?)

“ถ้าเมาจะมาคุยโทรศัพท์กับพี่ได้เสียงใสขนาดนี้เหรอ”

(กวนตีน)

“เปล่าสักหน่อย” จริงๆก็กวนตีนพี่มันนั่นแหละ

(งั้นเหรอ)

“เออ”

(หึหึ ก็ไม่มีไรหรอกแค่อยากคุยด้วยเฉยๆ)

“นี่พี่เหม ผมถามพี่จริงเลยนะ พี่ชอบผมหรือไงถึงได้มายุ่งวุ่นวายกับผม?”

(…)

“ว่าไงล่ะ?”

(ก็ไม่รู้สินะ)

“กวนตีน” เอาคำมันมาใช้แม่งเลย

(เปล่าสักหน่อย) น่านนนนน มีการก็อปประโยคมาเอาคืน

“ดูแลเพื่อนผมด้วยอย่าปล่อยให้มันเมาล่ะ”

(อื้ม พลัมเดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะ/เหมคุยกับใครอยู่เหรอ? ทำไมไม่สนใจโมนาเลยล่ะ?)

จู่ๆตอนท้ายคำพูดของไอ้พี่เหมก็มีเสียงผู้หญิงแทรกเข้ามาในสาย
 
“เสียงใคร-”

ตู๊ดๆๆ

กำลังจะถามว่าเสียงใครสายก็ตัดไปซะก่อน

อะไรอ่ะ? นี่ไอ้พี่เหมมันอยู่กับผู้หญิงอย่างงั้นเหรอ?   




“อ้ายพลัมมมมม กูจาอ้วกกกกกกกกกก อุ๊บ!” เสียงไอ้วัฒดังขึ้นมาจากห้องนั่งเล่นทำให้ผมต้อนหันไปสนใจตรงนั้นแทน

“เฮ้ย! ไอ้วัฒอย่าเพิ่งอ้วก!”

“อุ๊ แหว๊ะ!”







จบกัน…






คราวหลังมึงอย่ามาแดกเหล้าห้องกูอีกเลย…






ข้อร้องล่ะ





พลีสสสสสสส!








TBC. N.EP ------------------------------------------------------------------------->






TALKKKKKKKKKKKKK : คือตอนนี้รีบแต่งมากจริงๆค่ะ มันเลยอาจจะออกมาไม่ดีสักเท่าไร อาจมีคำผิดอยู่บ้าง ยังไงก็ต้องขอภัยไว้ ณ ที่นี้ คือคนเขียนก็ยังงานเยอะเหมือนเดิม แต่จิตใจมันอยากแต่งอิพลัมจนไม่เป็นอันทำงานสักเท่าไร5555 ยังไงก็ฝากนิยายเรื่องนี้ด้วยน๊าาาาา เจอกันตอนหน้าค่าาาาาา ^^


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด