Sins : Greed -- [SP.1 : Wedding Night] pg.146 -- 13/4/61
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Sins : Greed -- [SP.1 : Wedding Night] pg.146 -- 13/4/61  (อ่าน 1397691 ครั้ง)

ออฟไลน์ Fujoshi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.52] pg.129 -- 20/8/60
«ตอบ #3900 เมื่อ21-08-2017 21:28:59 »

ไม่ดราม่านี่ไม่ใช่คุณข้าวปั้นใช่มั้ยคะ
น้ำตามาาาาาา
ฮืออออออ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: Sins : Greed -- [Ch.52] pg.129 -- 20/8/60
«ตอบ #3901 เมื่อ21-08-2017 23:05:54 »

ดราม่าหนักเลย...

ออฟไลน์ smog09

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.52] pg.129 -- 20/8/60
«ตอบ #3902 เมื่อ22-08-2017 12:53:52 »

พึ่งอ่านเรื่องอื่นมา เรื่องนั้นก็อยู่ในช่วงดราม่า พอมาอ่านเรื่องนี้ก็อยู่ในช่วงดราม่าเหมือนกัน
นี่มันอารายกานนนนน  :sad4: :sad4:

 :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
Re: Sins : Greed -- [Ch.52] pg.129 -- 20/8/60
«ตอบ #3903 เมื่อ22-08-2017 13:35:36 »

เบื่อโอ๊ต เวลาแบบนี้ รู้นะว่าเสียใจ แต่พี่กุนต์ไม่เสียใจหรอ เสียใจเป็นคนเดียวหรอ

มีกุนต์ไม่ใช่ครอบครัวหรอ แล้วที่ทำทุกอย่างมาตลอดคืออะไรหรอ

โกธร โกธรมาก และน้อยใจแทนพี่กุนต์มาก


กอดพี่กุนต์แรงๆ พี่กุนต์ตัดสินใจเลย ทิ้งมันไปเลย โมโห

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
Re: Sins : Greed -- [Ch.52] pg.129 -- 20/8/60
«ตอบ #3904 เมื่อ22-08-2017 14:59:03 »

รู้นะว่าโอ๊ตรู้สึกยังไง แต่พูดงี้ได้งัย พี่กุนต์ทำทุกอย่างนี่ไม่ใช่เพราะคิดว่าเป็นครอบครัวเดียวกันหรา แล้วมาพูดงี้พี่กุนต์เสียใจนะ ยากที่จะเป็นเหมือนเดิม :monkeysad:

ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.52] pg.129 -- 20/8/60
«ตอบ #3905 เมื่อ22-08-2017 15:32:56 »

โอ้ยยยยยย นังโอ๊ต คิดก่อนพูดมั่งสิว้อยยยย
สงสารพี่กุนต์ เง้อออ

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.52] pg.129 -- 20/8/60
«ตอบ #3906 เมื่อ22-08-2017 19:33:01 »

ูแล้วแบบนี้ต่อไปจะเป็นยังงัยล่ะ

อยากกระโดดตบโอ๊ตกับนายผไท อยากตีพี่หนูกุนต์

คนเขียนรีบเอามาม่าชามนี้ออกไปเถอะนะ กินมากเราปวดท้อง ฮือๆๆๆๆๆๆ

 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.52] pg.129 -- 20/8/60
«ตอบ #3907 เมื่อ22-08-2017 20:05:11 »

หน่วงสุดๆเลยตอนนี้
ดีกันเถอะ

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13
Re: Sins : Greed -- [Ch.52] pg.129 -- 20/8/60
«ตอบ #3908 เมื่อ22-08-2017 21:32:56 »

 :mew4: :mew4:

ออฟไลน์ ╰Äρρłәßәѓѓÿ╮

  • There can be miracles When you believe
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
    • Twitter
Re: Sins : Greed -- [Ch.52] pg.129 -- 20/8/60
«ตอบ #3909 เมื่อ23-08-2017 00:59:21 »

เราเป็นคนเดียวหรือเปล่าที่อยากให้ผไทเป็นพระเอกตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนนี้ก็คิดอยู่ อย่างน้อยผไทก็ไม่เคยทำร้ายจิตใจพี่กุนต์ ผไทอยู่ทุกครั้งเวลาพี่กุนต์โดนไอ้เด็กนั้นทำร้ายจิตใจ(บทแบบพระรองคลาสสิคมาก55) แถมยังกวนตีนและอบอุ่นในเวลาเดียวกัน ทำใจไม่ได้ขอ3pเลยได้มะ อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน ส่วนไผ่ไปหาเรื่องใหม่เอา 5555

ปล.ดราม่าสาดมาให้เต็มที่เลยค่ะ อิชั้นพร้อมตั้งแต่เห็นชื่อนิยาย55

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sins : Greed -- [Ch.52] pg.129 -- 20/8/60
« ตอบ #3909 เมื่อ: 23-08-2017 00:59:21 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Rebtur

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 119
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.52] pg.129 -- 20/8/60
«ตอบ #3910 เมื่อ23-08-2017 06:48:59 »

เรื่องนู้นยังไม่เข้าใจ เรื่องนั้นเรื่องนี้ก็เพิ่มเข้ามา แล้วแกยังจะสร้างเรื่องเพิ่มอีกด้วยนะ!!
จะโง่หรืออะไรก็ให้มันมีที่สิ้นสุดหน่อยเถอะโอ๊ต
ถ้าคุณไผทได้พี่กุณฑ์ไปก็คงมีแต่สมนํ้าหน้าอ่ะ เก็บไว้สิคำว่ารักอ่ะ พอมาบอกตอนนี้เป็นไงล่ะ
เขาอินกับแกไหม รอโอกาสเหมาะๆ เหอะ โอ๊ย เยอะแยะ หงิด!!

ออฟไลน์ singalone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.52] pg.129 -- 20/8/60
«ตอบ #3911 เมื่อ24-08-2017 23:19:25 »

ฮือออออออออออ เศร้าาาาาา  :ling3:

ออฟไลน์ Seeetnott

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.52] pg.129 -- 20/8/60
«ตอบ #3912 เมื่อ02-09-2017 18:33:47 »

 :mew6: เศร้าอ่ะ โอ้ตใจร้ายยย

ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page
Re: Sins : Greed -- [Ch.53] pg.131 -- 4/9/60
«ตอบ #3913 เมื่อ04-09-2017 19:40:24 »





Chapter 53
   



นาฬิกาปลุกดัง กนธีที่หลับไปอย่างเหนื่อยอ่อนตั้งแต่หัวค่ำค่อยๆขยับตัวลุกขึ้น แขนซ้ายและขวามีน้องอ้นกับน้องอุ้มนอนหนุน ขดตัวซุกหาไออุ่นจากผ้าห่ม
   
กนธียิ้มบาง ไปจัดการธุระส่วนตัวจนเสร็จแล้วกลับมาปลุกน้องๆให้ตื่น

“ลูกชาย..” สายตาคู่นั้นอ่อนโยนและรักใคร่ “แปดโมงแล้วครับ”
   
เจ้าตัวเล็กสองคนยังงัวเงีย อ้นเป็นพี่เลยคลานลงจากเตียง หยิบเสื้อผ้าไปอาบน้ำแปรงฟัน ส่วนน้องอุ้มเพิ่งจะปรือตาลืมได้ข้างหนึ่ง น้องนั่งโงนเงน พิงอกพี่กุนต์ ปล่อยให้อีกฝ่ายสางผมที่พันกันจนยุ่งออกให้อย่างเบามือ
   
“พี่กุนต์จ๋า” อุ้มครางเหมือนลูกแมวเมื่อถูกจูบหัวเหม่ง
   
“ว่าไงคนดี” เขาก้มลงหอมแก้มยุ้ยเป็นพวง กลิ่นเต้าหู้หอมชื่นใจ
   
“เมื่อคืนหนูฝันถึงยายด้วย”
   
กนธีเงียบ น้องพูดจาประสาซื่อ เสียงเล็กๆบอกว่า ยายอยากกลับบ้าน
   
“ที่บ้านมีนาสีเขียวๆ” อุ้มเงยหน้ามองพี่กุนต์ “ลมเย้นเย็น ฟ้าก็สวยมากเลย เวลาฝนตก หนูกับพี่อ้นช่วยกันปิดหน้าต่าง ตอนกลางคืนช่วยพี่โอ๊ตกางมุ้ง”
   
กนธีกอดน้องอุ้มแน่น “คิดถึงบ้านกันหรือลูก”
   
อุ้มเบะปาก ยกมืออ้วนป้อมขึ้นเช็ดแถวดวงตา

“หนูคิดถึงยาย คิดถึงพี่โอ๊ต คิดถึงพี่อ้น คิดถึงพี่กุนต์ คิดถึงคุณอาไผ่ด้วย คิดถึงทุกๆคน อยากให้พวกเราอยู่ด้วยกันหมดเลย อยู่กันเยอะๆยิ่งดี”

“พี่เข้าใจครับ” เขาจูบไรผมอ่อน คลี่ปลายนิ้วนุ่มนิ่มมาแตะแก้ม “ตอนเด็กๆ พี่ก็อยากให้ทุกคนอยู่ด้วยกันหมดเลย อยู่กันให้พร้อมหน้าพร้อมตา”

แต่เมื่อเวลาผ่านไป ถึงได้รู้ว่าร้องขอจนเกินกำลัง

..คนเราพบกันเพื่อจากลา..

น้องอ้นเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เด็กชายเลียบเคียงเข้ามาหา เจ้าหนูได้ยินน้องอุ้มกับพี่กุนต์คุยกัน ในความกังวลของน้องอุ้มคือคนที่รักจะหายจากไป และในความกังวลของอ้น ก็คือการเผชิญหน้ากับสิ่งที่เรียกว่าความตายอีกครั้งหนึ่ง
   
..แต่อ้นไม่อยากร้องไห้ เดี๋ยวพี่ๆจะเป็นห่วง..
   
“น้องอุ้มไปอาบน้ำกัน” อ้นจูงมือน้องเล็กออกไป
   
กนธียิ้มตาม ลุกจากเตียงแล้วไปเตรียมข้าวเช้าให้เด็กๆ เป็นไข่เจียว ขนมปังกับผักสลัด น้ำเต้าหู้อีกคนละแก้ว เมื่อวานเขาไปรับน้องจากโรงพยาบาลมาค้างคืนด้วย วันนี้ตอนสายๆไผ่จะมาหา เขาฝากให้ช่วยดูแลน้องสองคน
   
“หนูอาบน้ำแล้ว” อุ้มเดินตุบตับมากอดรัดขาพี่กุนต์แล้วเอาแก้มแนบ    “สดชื่นไหมครับ” เขายิ้ม หันมองน้องอ้นที่เสื้อเปียกชุ่มอีกคนเพราะไปยืนรอน้องคนเล็ก “โธ่..เป็นลูกแมวตกน้ำเลยลูกชายพี่”
   
อ้นยิ้มตายิบหยี จับน้องอุ้มปีนขึ้นเก้าอี้ก่อนจะมาช่วยพี่กุนต์ยกจานช้อนส้อมท่าทางขยันขันแข็ง กนธีมองเด็กน้อยที่รินน้ำเย็นใส่แก้วให้ครบทุกใบ แล้วเอาผ้ามาเช็ดรอยน้ำที่หกบนโต๊ะ ชายหนุ่มยิ้มด้วยความเอ็นดู
   
..ทำไมถึงได้เข้มแข็งกันอย่างนี้..
   
“ไม่ต้องทำก็ได้ครับ พี่ทำเอง”
   
“อ้นอยากช่วยพี่กุนต์ ยายบอกว่าเราต้องช่วยคนในครอบครัวครับ”
   
กนธีข่มความรู้สึกตื้นตันที่มาพร้อมกับคำพูดใสซื่อบริสุทธิ์นั้น
   
..เขาเป็นคนในครอบครัวของอ้นกับอุ้มใช่ไหม..
   
เขาทรุดตัวลงนั่ง รวบร่างเล็กมากอดแนบอกและกดจูบลงสองข้างแก้ม

“พี่รักพวกหนูมากนะ” เขาลูบหัวน้อง “รักเหมือนลูกชายของพี่จริงๆ”
   
อ้นมองผู้ใหญ่ตรงหน้า หนูน้อยยกสองมือขึ้นจับแก้มพี่กุนต์
   
“อ้นเห็นพี่กุนต์ไม่ค่อยยิ้ม พี่กุนต์ดูเหนื่อยมากเลย อ้นอยากช่วยพี่กุนต์ ถ้ามีอะไรไม่ไหว พี่กุนต์บอกอ้นได้นะครับ อ้นจะทำให้พี่กุนต์ทุกอย่าง” น้องบอกหนักแน่น “อ้นทำได้หมดเลยครับ อ้นล้างจานได้ อ้นรีดผ้า อ้นซักผ้า รดน้ำต้นไม้ ตอนนี้อ้นยังทำกับข้าวไม่ได้ แต่ถ้าโตกว่านี้ อ้นจะทำให้พี่กุนต์กินเองนะ”
   
กนธีน้ำตารื้น กอดน้องแน่น “ขอบคุณครับลูก..ขอบคุณ”
   
น้องอุ้มเห็นภาพที่พี่กอดกับพี่กุนต์ น้องเลยกระโดดตุบลงมาจากเก้าอี้แล้วเดินมากอดทั้งสองคนเอาไว้บ้าง กนธียิ้มรับ ใช้สองแขนโอบประคองเด็กๆไว้
   
“พวกหนูสองคนเป็นหัวใจของพี่นะลูกนะ..ไม่ต้องทำอะไรให้พี่ พี่ก็รักอ้น รักอุ้มมากที่สุดแล้วครับ” เขาจูบหน้าผากเด็กน้อยคนละครั้ง
   
“พี่กุนต์รักอ้นรักน้องอุ้มเยอะๆนะครับ” อ้นเงยหน้ามอง
   
“รักครับลูก..รักมากเลย”
   
“รักแล้วสัญญากับอ้นได้ไหมครับ”
   
กนธีเอียงหน้ามอง จับจ้องดวงตาคู่ใสที่เอ่อคลอไปด้วยหยดน้ำ ตกใจไม่น้อยที่จู่ๆ น้องอ้นก็ยกสองมือคู่น้อยขึ้นมาพนม คล้ายอ้อนขอ วิงวอน
   
“พี่กุนต์อย่าทิ้งพวกเราได้ไหมครับ”
   
“ลูกชาย..” เขานิ่งอึ้ง
   
“อ้นรู้ว่ายายจะไม่อยู่เหมือนแม่เหมือนพ่อ” น้องน้ำตาร่วงเผาะ “อ้นกับอุ้มจะเหลือแค่พี่โอ๊ต ที่จริงเราอยู่กันได้ครับ แต่ถ้าพี่กุนต์อยู่ด้วยตลอดไป อ้นกับอุ้มจะมีความสุขมากๆ..พวกเราคุยกันว่าจะเป็นเด็กดี จะไม่รบกวนพี่กุนต์..”
   
กนธีกลั้นน้ำตาไม่อยู่กับคำร้องขอตามประสาเด็ก
   
“ให้อ้นกับน้องอุ้มกับพี่โอ๊ต อยู่กับพี่กุนต์ด้วยได้ไหมครับ”
   
“พี่กุนต์จ๋า..อย่าทิ้งหนู” น้องอุ้มสะอื้น “หนูจะไม่ดื้อไม่ซน..”
   
กนธีรวบตัวน้องสองคนไว้แนบแน่น ลูบหลังลูบหน้าปลอบประโลมขวัญ “พี่ไม่ทิ้งอยู่แล้วลูก..ไม่มีวันทิ้งพวกหนูหรอกนะ” เขาจูบข้างแก้ม “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเราจะเป็นครอบครัวกันตลอดไปนะครับ..เด็กดีของพี่”
   
เป็นธรรมชาติของเด็ก เมื่อคนที่รักห่างหายหรือตายจาก การเผชิญหน้ากับความสูญเสียย่อมสร้างความกังวลให้ไม่มากก็น้อย สิ่งที่ทำได้ คือให้ความมั่นใจว่าไม่ว่าอย่างไรก็ยังมีคนอยู่เคียงข้าง..และพร้อมจะให้ความรักอยู่เสมอ
   
“พี่รักอ้นกับอุ้มมาก..มากจนหมดหัวใจเลย เพราะฉะนั้นพวกหนูไม่ต้องกังวลไปนะลูก” เขายิ้มให้เด็กๆ “ถึงมีวันไหนที่พี่เหนื่อย พี่ล้า พี่ท้อไปบ้าง แต่รักที่พี่มีให้หนูสองคนยังเหมือนเดิมนะครับ..พี่ไม่เคยถอดใจที่จะรักพวกหนูนะ”
   
น้องอุ้มวางคางเกยบนบ่าลาด อ้นเองก็เข้ามากอดด้วย พี่กุนต์พูดอะไรยากๆ ฟังแล้วไม่ค่อยเข้าใจ แต่ในเมื่อยืนยันว่ารัก เด็กสองคนก็เบาใจลง
   
กนธีจัดแจงให้น้องกินข้าวเช้ากันจนเสร็จ ถามว่ามีการบ้านมาจากที่โรงเรียนไหม พอทำเรียบร้อยแล้วก็ช่วยสอนวิชาและทบทวนบทเรียนอีกครู่หนึ่ง
   
“อ้นสัญญาว่าจะเรียนให้เก่งครับ”
   
“หนูก็ด้วยฮะ” น้องอุ้มชูมือหรา
   
“พี่ขอบคุณสำหรับความตั้งใจครับ ความมุ่งมั่นเป็นสิ่งที่ดี แต่พี่ก็อยากให้หนูเรียนกันอย่างมีความสุข การสอบได้ที่ดีๆเป็นใบเบิกทางให้ชีวิต แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต” เขายิ้มให้ “พี่คงไม่ดีใจถ้าพวกหนูต้องเครียดกับการเรียนเพื่อเอาคะแนนดีๆกลับมาให้พี่ สำหรับพี่..พี่อยากให้พวกหนูเติบโตกันไปตามวัย เรียนบ้าง เล่นบ้าง เข้าสังคมได้ เท่านี้พี่ก็พอใจแล้ว”
   
“อ้นไม่อยากให้พี่กุนต์ผิดหวังในตัวอ้น”
   
“แค่เป็นอ้นกับอุ้มอย่างทุกวันนี้..พี่ก็ไม่เคยผิดหวังอยู่แล้วครับ”
   
น้องๆพยักหน้าหงึก จากนั้นก็ตั้งใจอ่านหนังสือเรียนกันต่อ กนธียิ้มระอา ส่ายหัวอย่างเอ็นดู ดูเหมือนว่าทั้งสองคนพยายามทำตัวให้ดียิ่งกว่าเดิมเพื่อจะได้มั่นใจว่าเขาจะไม่ผิดหวังและจะไม่ทอดทิ้งไปไหน
   
เป็นหน้าที่ของเขาที่จะต้องให้ความรักความอบอุ่น พูดให้น้องๆเชื่อมั่นจนกว่าจะคลายกังวลลง ว่าการเป็นคนในครอบครัว เราไม่จำเป็นต้องพยายามเพื่อให้อีกฝ่ายยังคงรักใคร่ในตัวเรา..แค่เราเป็นเรา เท่านั้นมันก็เพียงพอ
   
ใช่แล้ว..ถ้าเป็นคนในครอบครัว เราไม่ต้องพยายามให้ใครมารักหรอก
   
..เลิกพยายามสักที..

มีเสียงเคาะประตู ก่อนที่พสิษฐ์จะโผล่เข้ามาในห้องรับแขก ร่างสูงยิ้มให้ ซื้อของกินมาฝากเด็กๆเพียบ พอน้องอุ้มเห็นอาไผ่ก็ร้องดีใจ วิ่งเข้าไปหา

“วันนี้ดูหนังกัน คุณอาซื้อการ์ตูนมาใหม่หลายเรื่องเลย”
   
เด็กๆร้องไชโย บรรยากาศผ่อนคลาย สดใสร่าเริงตามวัยมากขึ้น กนธีเห็นแล้วนั่งยิ้ม เขาบอกให้อาหลานคุยกันไปก่อน ตัวเขาจะไปชงน้ำหวานให้
   
พสิษฐ์นั่งคุยกับสองหน่อ สักพักก็เอาขนมออกมาขุนแล้วเปิดการ์ตูนให้ พอน้องนั่งกันเพลินๆ เขาก็ผละออกมา เดินไปหาพี่กุนต์ที่ยืนเหม่ออยู่ในครัว
   
“เป็นไงบ้างพี่” เขาถาม มองแก้วน้ำหวานที่ถูกคนซ้ำๆ
   
กนธีหันมอง หลุดจากภวังค์ “อ๋อ..อืม..รอแป๊บนึงนะ”
   
“ไม่ใช่น้ำหวาน ผมหมายถึง..พี่กับเจ้าโอ๊ตน่ะ”
   
คืนวันศุกร์..กนธีกลับมาคอนโดด้วยสภาพที่ไม่ค่อยจะไหวนัก ช่วงนี้เขามานอนค้างกับพี่ ผลัดกันดูแลเด็กๆ แล้วก็เผื่อแผ่มาดูแลคนแก่ที่มักจะฝืนสภาพตัวเองอยู่เนืองๆ เลยทันได้เห็นว่าคุณไผทเป็นคนมาส่งกนธีถึงหน้าห้อง
   
รอให้พี่ใจเย็น เขาก็เค้นถาม ถึงได้รู้ว่าพี่กุนต์ทะเลาะกับอินทัช อันที่จริงจะเรียกว่าทะเลาะได้ไหมไม่รู้ เพราะลุงเป็นคนไม่ชอบทะเลาะ เป็นพวกเก็บเงียบและนิ่งไปเลยมากกว่า มันดีอยู่อย่างที่ไม่ต้องระเบิดอารมณ์ ใช้คำพูดคำจาสาดเสียเทเสียใส่กัน แต่ก็เป็นข้อเสียไม่น้อยที่ไม่เปิดโอกาสให้ได้เคลียร์
   
“ตอนนี้ยังโกรธน้องมันอยู่ไหม” พสิษฐ์ยืนพิงเคาน์เตอร์ “ดีกันหรือยัง”
   
“พี่ไม่ได้โกรธ” กนธีถอนหายใจ “แกเห็นพี่เป็นคนไม่มีเหตุผลหรือไง พี่เข้าใจว่าน้องมันหลุดปากเพราะมันกังวล มันโกรธเพราะพี่ทำอะไรโดยพลการ”
   
“มันก็จริงนะ หลายอย่างพี่กุนต์หวังดี แต่ไม่ได้ถามว่าคนรับเขาเข้าใจในความหวังดีด้วยไหม” พสิษฐ์ไม่ได้เข้าข้างพี่ชาย
   
“อือ..พี่คงต้องปรับปรุงตัวเองแล้ว” เขายอมรับอย่างง่ายดาย
   
“ถ้าอย่างนั้นก็ค่อยยังชั่ว กลับไปคืนดีกันได้แล้วสินะ”
   
“พี่ไม่ได้โกรธ แต่ก็ยอมรับว่าเสียใจ” กนธียิ้มบาง “พี่เข้าใจโอ๊ตว่าพูดออกมาเพราะความไม่ตั้งใจ อารมณ์น้องไม่คงที่ เด็กที่กำลังจะสูญเสียคนสำคัญ คุมตัวเองได้ในระดับหนึ่งก็เก่งแล้ว พี่ไม่ได้คาดหวังให้น้องจัดการได้ทุกเรื่อง”
   
เขายืนเหม่อ นัยน์ตาแห้งผาก ไม่มีน้ำตาหลงเหลืออีก
   
“แต่ที่พี่เสียใจ..คงเป็นเพราะว่า ลึกๆแล้ว พี่ยังเข้าไม่ถึงคำว่าครอบครัวของโอ๊ต” กนธีก้มหน้าต่ำ “และถึงพี่จะเข้าใจโอ๊ตยังไง พี่ก็รู้ดีนะไผ่..ถ้าคนเราไม่มีความคิดแบบนั้นอยู่ในหัว เราจะพูดมันออกมาได้ยังไงกัน”
   
พสิษฐ์แก้ตัวแทนอินทัชไม่ได้จริงๆ เพราะเขาเองก็เห็นด้วย
   
“ท้ายที่สุด..พอเกิดเรื่องคับขันหรือมีเรื่องกระทบใจขึ้นมา สิ่งที่โอ๊ตหลุดปากให้พี่ได้ยินมันก็บอกให้รู้ชัดเจน..” กนธีพึมพำ “โอ๊ตไม่ได้เข้าใจพี่เลย”
   
เขารู้ว่าตนก้าวก่ายไม่เข้าเรื่อง แต่ในสิ่งที่เกิดขึ้น ในความน่ารำคาญที่ทำลงไป อินทัชเข้าใจเขามากพอจนมองทะลุลงไปเห็นข้อความแฝงนั้นไหม
   
..มองเห็นความรัก ความหวังดี ความห่วงใย ที่เขามีให้ทุกคนไหม..
   
ในขณะเดียวกัน เมื่อน้องไม่พอใจ เขาเข้าใจว่าน้องกำลังเครียด
   
เมื่อน้องหงุดหงิด ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ เขาเข้าใจว่าน้องยังเด็ก
   
ความเข้าใจนี้ บางทีก็ไม่เกี่ยวข้องกับอายุ มันใช้เพียงแค่ ‘ใจต่อใจ’ 
   
..แล้วใจของอินทัช..ได้เข้ามาอยู่ในใจของเขามากน้อยแค่ไหนกัน..
   
“ไผ่..พี่เองก็เป็นแค่คนคนหนึ่ง เป็นมนุษย์ มีกิเลส ถึงผ่านโลกมามาก แต่พี่ก็ไม่ได้เข้มแข็งกับทุกๆเรื่อง ที่ผ่านมาพี่พยายามเพื่อเขา พยายามเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเขา พอเจอแบบนี้ ไผ่อนุญาตให้พี่เสียใจได้ไหม หรือเพราะว่าพี่อายุมากกว่า พี่ถึงเสียใจไม่ได้ ผิดหวังไม่ได้ ต้องรับมือให้ได้ทุกเรื่อง”
   
“ผมเข้าใจ..” พสิษฐ์เข้ามากอดบ่า “ถ้าเหนื่อยก็พักเถอะ..”
   
กนธียืนนิ่ง “พี่ยังเข้าใจในตัวโอ๊ตนะ และไม่ได้คาดหวังให้เขาต้องเป็นผู้ใหญ่เกินตัว ไม่ได้หวังให้เขาเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร หวังให้เขาเป็นเขา ส่วนพี่..จะรับได้ จะดำเนินต่อไหม ก็เป็นเรื่องของพี่”
   
ร่างสูงดึงตัวพี่ชายที่มีสีหน้าราบเรียบไปกอดแน่น
   
“สำหรับความรู้สึกที่มีให้เขา” กนธีหลับตาลง “พี่คงพอแค่นี้แล้ว..”
   
..จะไม่มีความพยายามใดๆอีกต่อไป..




…………………………………………………….




อินทัชหลับไปบนโซฟาทั้งที่ยังเปิดทีวีค้างอยู่ เมื่อคืนเขาหลับๆตื่นๆ กังวลหลายเรื่อง พอตีสามกำลังจะนอน ยายก็ละเมอเพ้อหาตา เขาต้องไปนั่งข้างเตียงและกุมมือแกไว้อยู่ตลอด ยายลืมตาขึ้นมอง แกเห็นว่าเป็นเขาก็หลับลงไปใหม่อีกหน
   
สุดท้ายกว่าจะได้นอนก็เกือบเช้า ถึงอย่างนั้นก็หลับได้ไม่สนิท ต้องตื่นบ่อยครั้งเวลาพยาบาลเข้ามาดูอาการ เพิ่งได้งีบสนิทดีเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วนี่เอง
   
ขนาดเด็กอย่างเขายังล้าจนแทบทนไม่ไหว แล้วพี่กุนต์ที่ต้องคอยดูแลยายติดต่อกันหลายวันเวลาเขาไปเรียนจะเหนื่อยแค่ไหน ญาติพี่น้องก็ไม่ใช่ ถ้าไม่มีใจห่วงใยกันเหมือนเป็นลูกหลาน ใครจะมาทำให้เล่า
   
..เขาพลาดไปแล้วจริงๆ..
   
อินทัชคิดหลายอย่างด้วยความกลัดกลุ้ม สักพักก็เคลิ้มหลับ มารู้สึกตัวอีกครั้งตอนที่เสียงทีวีในห้องเงียบลง เขากำลังสะลึมสะลือ ลืมตาไม่ขึ้น
   
สัมผัสอุ่นร้อนของใครบางคนค่อยๆดึงผ้าที่กองตรงปลายเท้าขึ้นมาห่มให้ถึงอก สักพัก..ฝ่ามือนุ่มละมุนข้างหนึ่งก็ลูบลงบนศีรษะของเขาอย่างอ่อนโยน
   
เด็กหนุ่มปรือตามอง พอเห็นว่าเป็นกนธี ฝ่ายนั้นก็ผละออกไป เจ้าตัวหันหลังให้แต่ช้ากว่าเขาที่รีบลุกไปคว้าข้อมือ
   
“พี่กุนต์” เขาเรียก ดึงแขนไว้แน่น
   
เมื่อวานตอนพี่กุนต์มารับอ้นกับอุ้ม เขาไม่ได้คุยอะไรเพราะปาลินอยู่ด้วย กนธีอยู่ไม่นานก็ขอตัวกลับไปพร้อมกับน้องของเขา
   
“พี่ครับ..” เขาลุกตาม เข้าไปโอบช่วงเอว
   
กนธีตบหลังมือคนด้านหลังเบาๆ “เมื่อคืนได้นอนหรือเปล่า ถ้าง่วงก็ไปงีบต่อเถอะ เดี๋ยวพี่คอยดูคุณยายให้เอง”
   
“ผมไม่เป็นไร” เขาพูดเนือยๆ ยอมรับว่าล้า การเฝ้าคนไข้อาการหนักที่มีแต่จะทรุดลงไปเรื่อยๆไม่ได้ง่ายเลย “พี่กินอะไรมาหรือยัง”
   
“เรียบร้อยแล้วครับ โอ๊ตล่ะ”
   
“มาม่า” เขาโคลงหัว “เบื่ออาหาร ไม่รู้จะกินอะไร”
   
กนธีหัวเราะ ไม่ได้พูดคุยเล่นหัวอย่างเคย “ไปพักไป”
   
“พี่กุนต์” อินทัชไม่ยอมให้อีกคนเดินหนี เขาขยับเข้าหาคนที่ยืนนิ่ง วางคางเกยบนไหล่ สองแขนโอบรัด ดึงร่างนั้นไว้แนบอก “ยังโกรธผมอยู่ไหม”
   
“ทำไมคิดว่าพี่โกรธ”
   
“ผมปากไม่ดี” เขาพูดเสียงอ่อน “ผมขอโทษ..”
   
“พี่ไม่ได้โกรธโอ๊ต” ชายหนุ่มหันมาเผชิญหน้า ลูบผมน้อง “ไม่เคยโกรธ”
   
“จริงหรือเปล่า”
   
“จะมีก็แต่..เสียใจเท่านั้น”
   
อินทัชเงียบกริบ คว้ามือกนธีมากุม “ผมขอโทษ”
   
“พี่สิต้องขอโทษ” เขาถอนหายใจ เลี่ยงไปนั่งที่โซฟา “หลายครั้งพี่ทำอะไรเอง ไม่ถามความเห็นเรา ไม่รอให้เราได้ตัดสินใจ พี่ไม่ทันคิดว่ามันก้าวก่าย”
   
..เผลอนึกไปว่าการคิดแทนคนในครอบครัวเป็นเรื่องที่ใครๆก็ทำ..
   
“พี่ไม่ได้ตั้งใจ..ขอโทษด้วยนะ”
   
“ไม่เป็นไรหรอกครับ” อินทัชพึมพำ “ผมเองก็ไม่ดีที่ต่อว่าพี่”
   
“นั่นก็เพราะโอ๊ตไม่ชอบที่พี่ทำใช่ไหมล่ะ”
   
เขานิ่งไป กระทั่งพี่กุนต์ถามย้ำถึงได้ตอบ ก็ดีเหมือนกัน ไหนๆไหนๆแล้ว ถือเสียว่าได้เคลียร์ ได้คุยเรื่องที่ค้างคาใจ “มันก็ใช่..ผม..ไม่ค่อยชอบนัก” เขายอมรับโดยดี “แต่ว่า..มันก็ไม่ได้หนักหนา แค่อยากให้ถามความเห็นกันบ้าง และกับเรื่องสำคัญ ผมอยากให้พี่บอกผม เคารพการตัดสินใจของผมด้วย”
   
คนฟังพยักหน้ารับ “มันจะไม่มีอีกแล้ว..รับรองได้”
   
อินทัชเงยหน้ามอง “เกลียดผมหรือยัง”
   
เขาเลิกคิ้ว “พี่น่ะหรือจะเกลียดเรา”
   
“ผมไม่รู้” พักนี้พี่กุนต์นิ่ง..นิ่งมากจนเขาหวั่นใจ และนึกกลัว
   
สำหรับเขา ความสัมพันธ์คือการสานต่อ ดำเนินต่อไปเรื่อยๆแม้มีอะไรง่อนแง่น หากมีส่วนไหนที่หักพัง เขาก็พร้อมที่จะซ่อม จะเยียวยาให้กลับมาใช้ได้ใหม่..ให้พวกเรากลับมาเป็นเหมือนเดิม

..ต่อให้เสียหาย ทรุดโทรมอีกกี่ร้อยครั้ง เขาก็ยังจะซ่อมแซมมัน..
   
แล้วพี่กุนต์ล่ะ พร้อมจะฟื้นฟูทุกความสัมพันธ์ไปด้วยกันกับเขาไหม
   
หรือจะวางมือ ผละถอย ทอดทิ้งมันไปแล้วสะบั้นทุกเรื่องราวให้จบลง
   
กนธีมองหน้าคนที่นั่งเงียบ “พี่ไม่เกลียดเราหรอกเด็กน้อย” เขายิ้มให้อย่างเคย “ความรู้สึกที่พี่มีให้เรา ตอนนี้มันก็ยังเหมือนเดิม”
   
..เพียงแต่..พี่ตัดสินใจจะไม่ปล่อยให้มันเพิ่มมากไปกว่านี้..
   
..ไม่ได้รักลดลง..แต่ก็ไม่ได้รักมากขึ้น..
   
หยุดเพื่อคิดทบทวน เผื่อว่าบางที..เขาอาจจะก้าวถอยไปทีละนิด
   
อินทัชมองตากนธี เขาควรจะดีใจที่พี่กุนต์บอกมา แต่ทำไม..ความรู้สึกนั้นกลับไม่ให้ความมั่นใจ มั่นคง หรืออบอุ่นอย่างเดิม มันวูบโหวง ว่างเปล่าสิ้นดี
   
“พี่กุนต์” เขาเรียกคนที่นั่งก้มหน้า ดึงปลายนิ้วไว้แน่น “ผม..รักพี่นะ”
   
กนธีเงยมอง ดวงตามีแววประหลาดใจวูบหนึ่ง..ก่อนกลับมาเป็นปกติ
   
“ไม่ได้พูดเพื่อให้ยายสบายใจหรอกหรือ”
   
อินทัชครางในลำคอ คิ้วเข้มขมวดแน่น “ไม่ใช่”
   
..เขาพลาดไปเสียแล้ว..พลาดมากจริงๆ..
   
..พลาดทุกอย่าง พลาดที่ใจเย็น ปล่อยเวลาไว้จนป่านนี้..
   
เขาประสานปลายนิ้วลงกอบกุมฝ่ามือของคนตรงหน้า “ผมเคยบอกรักพี่ไปแล้วครั้งหนึ่ง..คืนนั้นตอนที่เรา..” ปลายจมูกเขาเป็นสีแดงเข้ม “แต่ว่าพี่ไม่ได้ยิน” เด็กหนุ่มสารภาพหมดทุกอย่าง “ตอนเช้า..ผมตั้งใจบอกอีกที แต่ว่าผมไม่อยากให้พี่คิดไปว่าผมบอกรักเพราะเพิ่งได้รถเป็นของขวัญ”
   
กนธีบีบมือตัวเอง กระบอกตาร้อนผ่าว

“หลังจากนั้น ผมตั้งใจจะหาจังหวะดีๆบอกรักพี่แต่ก็ไม่สบโอกาสอยู่เรื่อย แต่ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหน ผมก็ขอยืนยันว่ารักพี่จริงๆ..”

กนธีพยักหน้ารับ ภาพเบื้องหน้าเลือนรางไปด้วยหยดน้ำที่เอ่อคลอ สิ่งที่กลั่นขึ้นในดวงตานั่น..มาจากความรู้สึกที่ผสมรวมกันไปอย่างสับสนปนเป

แต่ในความวุ่นวาย ความรู้สึกที่ชัดเจนที่สุด คือความตกใจ

..ตกใจที่ตัวเขา..ไม่รู้สึกรู้สากับคำว่า ‘รัก’ นั้นเลย..

กนธีหลับตาลง สัมผัสเสียงในอกที่เต้นเร่าด้วยความตื่นเต้นยินดีอยู่ชั่วอึดใจ จากนั้น..ทุกอย่างก็พลันหดหาย กลายเป็นความจืดจาง ชืดชาเข้ามาแทน
   
..ไม่ดีใจ..ไม่มีความสุข ไม่ได้มีความทุกข์ หรือยิ้มได้เพราะสมหวัง..
   
หัวใจเขา..มันนิ่งเย็น และเฉยเมย
   
คล้ายกับความเจ็บปวดที่เกาะเป็นตะกรัน..ทำให้ก้อนเนื้อนั่นด้านชาไป
   
น้ำตาหยดหนึ่งเอ่อล้นลงมา
   
..ไม่ได้ดีใจที่ได้เป็นที่รัก..
   
..แต่เสียใจ..ที่ไม่ได้รู้สึกยินดีกับการ ‘ได้เป็นที่รัก’ อีกแล้ว..
   
“พี่กุนต์..” อินทัชเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตานั้นให้ “เป็นอะไร”
   
กนธียิ้มเพียงน้อย เขากุมฝ่ามือใหญ่ไว้แนบแก้ม “ขอบคุณนะ” เขาจับจ้องใบหน้าอ่อนวัยของเด็กหนุ่ม ยิ้มให้น้องเหมือนที่ผ่านมา
   
วันแรกยิ้มให้ผู้ชายคนนี้อย่างไร วันนี้..เขายังยิ้มให้อย่างเคย
   
“ขอบคุณ..”
   
อินทัชนิ่งอึ้งเมื่อพี่กุนต์ลุกขึ้นและเดินออกไป เสี้ยววินาทีที่คนตรงหน้าผละจาก ความอบอุ่นที่ติดตรึงอยู่กับเขาก็จางหายไปเช่นกัน
   
ความรู้สึกของพวกเราสวนทางกัน..และมันคงสายเกินไป
   
..หรือเป็นเพราะคำว่า ‘รัก’ นั้น..มันยังไม่เพียงพอ..



…………………………………………………….





[ต่อด้านล่าง]






ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page
Re: Sins : Greed -- [Ch.53] pg.131 -- 4/9/60
«ตอบ #3914 เมื่อ04-09-2017 19:41:10 »






เรื่องของอินทัชกับกนธียังคาราคาซัง ทุกความสัมพันธ์ห่างเหิน หมางเมิน แต่ตอนนี้เขายังไม่มีแรงใจจะดิ้นรนเกี่ยวกับความรัก สิ่งที่ทำให้เขาเครียดจนถึงกับอาเจียนออกมาเป็นน้ำขมๆคืออาการของยาย
   
ร่างกายของยายไม่รับอาหารอีกแล้ว อวัยวะภายในค่อยๆถูกทำลาย เมื่อวานแกมีอาการหอบเหนื่อย หายใจลำบากเพราะภาวะของน้ำท่วมปอด แต่ละครั้งที่อ้าปากหายใจ ยายดูทรมาน เหมือนว่าอากาศผ่านเข้าไปไม่ได้
   
อินทัชตัดสินใจฝืนคำขอของยาย เขายอมรับการใส่ท่อช่วยหายใจ ไม่รู้ว่าคิดผิดหรือถูกที่ต้องทนมองยายเจ็บปวดจากการรักษาที่ฝืนธรรมชาติ เขารู้ว่ายายเจ็บ แต่แกไม่ร้อง ไม่ส่งเสียง มีเพียงน้ำตาที่ไหลลงเท่านั้น
   
“อดทนไว้นะยาย” เขากุมมือแกอยู่ข้างเตียง จับฝ่ามือที่เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เด็กๆ..ฝ่ามือที่หยาบกร้านและผอมแห้ง อ่อนแรงของหญิงชรา
   
ยายหลับตานิ่ง แต่เขารู้ว่าแกยังได้ยินเสียงทุกอย่าง ยังรับรู้สัมผัสได้ เขาถึงพยายามพูดคุย บอกกล่าวทุกอย่างเพื่อใช้ระยะเวลาสุดท้ายด้วยกัน
   
“ถ้าเป็นไปได้..ผมอยากให้ยายอยู่รอผมรับปริญญา” อินทัชร้องไห้ “แต่ผมรู้ว่าผมขอมากเกินไป ยายเจ็บใช่ไหม..ทรมานมากหรือเปล่า”
   
มือที่เขากุมไว้ บีบเข้ามาแผ่วเบาครั้งหนึ่ง แทนคำตอบว่า..เจ็บ
   
“รอผมสอบเสร็จก่อนได้ไหม” เขาร้องขอ
   
ยายบีบมือเขา และไม่ส่งสัญญาณพูดคุยอีกกระทั่งหมอเข้ามา
   
คุณหมอประเมินอาการ ตั้งแต่ใส่ท่อช่วยหายใจจนถึงตอนนี้ก็กินเวลามาสิบวันแล้ว ต้องระวังภาวะแทรกซ้อน ทั้งการอักเสบ ติดเชื้อของปอด เนื้อตายจากการกดทับในหลอดลมหรือทางเดินหายใจ อันตรายต่อกล่องเสียง ไม่นับรวมความอึดอัด เจ็บระคายในลำคอและความทุกข์ทรมานของผู้ป่วย 

ถ้าหากว่าการใช้ท่อช่วยหายใจกินช่วงเวลาเกินสองถึงสามอาทิตย์ ทางทีมจำเป็นจะต้องถอดท่อออกและเปลี่ยนเป็นการเจาะคอเพื่อให้อ็อกซิเจนแทน
   
“ผมมีทางเลือกอื่นไหม” เขาถามเสียงพร่า
   
แค่นี้..ยายก็ทรมานแล้ว ช่วงแรกที่แกตื่นขึ้นมากลางดึก ยังเคยจะดึงท่อออกจากปากเพราะความเจ็บและรำคาญ พยาบาลถึงกับต้องมัดมือไว้กับเตียง
   
ให้ทำร้ายยายต่อไป เขาเจ็บปวดในอกเหมือนจะตายเอาให้ได้
   
“กรณีนี้ คุณยายหายใจด้วยตัวเองค่อนข้างลำบาก” คุณหมอพูดอย่างเห็นใจ “แต่ถ้าผู้ป่วยต้องการและญาติยินยอมก็สามารถถอดเครื่องช่วยหายใจ..”
   
อินทัชเบือนหน้าหนี เขาต้องเลือก ระหว่างการเจาะคอยายเพื่อให้แกยังหายใจได้ต่อ เป็นการยืดระยะเวลาการมีชีวิตได้อีกกี่วัน กี่สัปดาห์ ยังไม่มีใครรู้ แต่ถ้าถอดออก อย่างมากก็คงไม่นาน และเขา..คงเป็นคนตัดสินใจฆ่ายายกับมือ
   
“ยังไงก็คงต้องเจาะคอ” เขาเลือกหนทางนี้
   
กนธีอยู่เฝ้าด้วยตอนที่อินทัชให้คำตอบ เขาหันมองไปทางอื่น พูดไม่ได้ทั้งที่อยากพูด แต่การตัดรอนครั้งนั้นบอกให้เขารู้สถานะและขอบเขตของตัวเอง
   
..ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร เขาจะทำหน้าที่หลานอีกคนให้ดีที่สุด..
   
ล่วงเข้าปลายสัปดาห์ที่สองหลังการใส่ท่อช่วยหายใจ ยายนอนหลับมากขึ้น และนอนนานต่อเนื่องคล้ายคนไม่รู้สึกตัว อินทัชกลับจากมหาวิทยาลัย เขาต้องปลุกอยู่นาน ซ้ำยังต้องเขย่าตัวเรียกซ้ำๆ ยายถึงจะลืมตามอง    

กนธีคอยอยู่ข้างเตียง เขาอ่านหนังสือธรรมะให้ฟัง ในเวลากลางคืน เขากุมมือท่านไว้ สวดมนต์จนจบบท กระซิบให้ท่านนึกถึงแต่เรื่องดีๆ
   
เช้าวันหนึ่ง ท่านลืมตามอง พูดอะไรไม่ได้ แต่ดวงตาหันมาทางเขา
   
กนธีร้องไห้ “ผมขอโทษ..” คำขอของท่านที่อยากจะกลับบ้านเป็นครั้งสุดท้าย เขาให้ไม่ได้ กระทั่งคำขอไม่ให้ยื้อชีวิต เขาก็ไร้ปัญญา
   
พรุ่งนี้ หมอตัดสินใจถอดท่อช่วยหายใจและเปลี่ยนเป็นการเจาะคอ 
   
ยายนอนน้ำตาไหล มือที่วางราบกับพื้นเตียงขยับแผ่ว ปลายนิ้วกระตุก เขาก้มลงมอง สอดมือเข้าไปกอบกุมไว้แน่น ท่านบีบอุ้งมือเขาแล้วกะพริบตา
   
“คุณยายอยากได้อะไรครับ” เขาเช็ดน้ำตาให้ ชวนคุยเพื่อไม่ให้เหงา
   
ยายไม่แสดงปฏิกิริยาโต้ตอบ เพียงแค่ใช้นัยน์ตาพร่าเลือนและฝ้าฟางจับจ้องเขาไม่วาง ริมฝีปากแห้งขยับคล้ายอยากจะพูด เขาต้องผละไปเอาวาสลีนมาทาให้ เพราะปากของยายแตกจนเลือดซิบ มุมปากเริ่มจะเป็นแผลขึ้นมาแล้ว
   
“คุณยาย..ทำใจให้สบายนะครับ ผมอยู่ตรงนี้ทุกวัน ทุกคืนนะ”
   
ยายน้ำตาไหลไม่หยุด ขยับนิ้วเพื่อกุมฝ่ามือของกนธี
   
“คุณยายขอบคุณผมหรือ” เขาถาม แล้วก็ต้องน้ำตาไหลเมื่อท่านบีบมือ “ไม่เป็นไรหรอกครับ..ไม่เป็นไรเลย” ทั้งที่พูดไม่ได้ ไร้เรี่ยวแรง ยายยังอุตส่าห์นึกถึง “คุณยายมีห่วงใช่ไหม ห่วงอ้น ห่วงอุ้ม ห่วงโอ๊ตสินะครับ ไม่ต้องกังวลนะครับ ผมพร้อมจะดูแลน้องๆทั้งสามคนให้สุขสบาย ให้เขาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว”
   
ยายบีบมืออีกครั้งก่อนจะหลับตาลง หยดน้ำที่คั่งค้างแห้งเหือดไป
   
ช่วงสี่โมงเย็น พสิษฐ์ไปรับอ้นกับอุ้มจากโรงเรียนและพามาเยี่ยมยายที่โรงพยาบาล แกลืมตาขึ้นมาได้เองโดยไม่ต้องเขย่าเรียก เด็กๆดีใจกันมาก
   
“อ้นขออ่านหนังสือให้ยายฟังนะครับ” น้องลากเก้าอี้ดังครืด จับน้องอุ้มมานั่งด้วยกัน และผลัดกันอ่านเวสสันดรชาดกที่ยายชอบ
   
ยายหลับๆตื่นๆ แต่ทุกครั้งที่ลืมตาแกจะมองหลานสองคนไม่หันไปไหน พออ้นกับอุ้มเอาหัวไปซุกที่มือ แกก็ขยับนิ้ว คล้ายจะลูบหัวเด็กๆด้วยความอาทร
   
ปาลินกับอินทัชมาถึงที่ห้องตอนห้าโมงเย็น และกนธีก็ผละออกมาเพื่อกินข้าวกล่องที่ซื้อจากเซเว่นกับน้องๆ หลายครั้งเขาก็ดูแลยายจนลืมตัวเอง
   
“พรุ่งนี้หมอจะเจาะคอยาย” อินทัชพึมพำกับเพื่อน “เราเองก็ไม่อยากทำให้แกเจ็บ แต่เราไม่มีทางเลือก อยู่หรือตาย เราเลือกได้แค่นี้..”
   
ปาลินนิ่งเงียบ เขาหันไปมองพี่กุนต์ ฝ่ายนั้นพยักหน้าให้ เขาเลยเริ่มเลียบเคียง พูดคำที่พี่กุนต์ขอมา “โอ๊ต..” เขาแตะแขนเพื่อน “คิดอีกทีดีไหม”
   
ร่างสูงหันมา สีหน้าอิดโรย เหนื่อยล้า เขามองกนธี แต่เจ้าตัวไม่ได้สนใจจะฟัง “สนจะให้เราคิดเรื่องอะไรอีก..แค่นี้เราก็คิดอะไรไม่ออกแล้ว”
   
“วันนั้น..เราอยู่ด้วย” ปาลินเล่า “ยายอยากกลับน่าน แต่ถ้ามันเป็นไปไม่ได้ รบกวนมากเกิน ยายขออย่างเดียว..อย่าทรมานยายไปมากกว่านี้”
   
อินทัชนั่งเงียบ ใจเขานึกไขว้เขว ช่วงเวลาครั้งแรกที่พี่กุนต์ขอ เขากำลังสับสน อารมณ์รุนแรงจนต่อต้านทุกคน ไม่อยากยอมรับความสูญเสีย แต่มาวันนี้ เขาค่อยๆสงบ ใจอ่อนล้า เจ็บปวดเพราะเห็นความทรมานของยาย
   
“แล้วจะให้เราทำยังไง” เขาเหม่อมอง จิตใจเลื่อนลอย
   
“เราอยากให้โอ๊ตทบทวนอีกครั้ง” ปาลินกุมมืออีกฝ่ายไว้ “เป็นไปได้ไหม ถ้าพวกเราจะพาคุณยายกลับน่านไปรักษาตัวต่อที่นั่น บางทีการได้อยู่ใกล้อะไรเดิมๆที่ทำให้ท่านสบายใจ กำลังใจท่านอาจจะดีขึ้น อยู่แบบนี้ก็ทรมาน พอใจเราไม่สู้ ร่างกายมันก็ท้อถอยลงเรื่อยนะโอ๊ต ลองคุยกับหมออีกทีดีไหม”
   
อินทัชไม่โต้ตอบ ปาลินหว่านล้อมอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
   
“เรารู้ว่าสนหมายถึงอะไร” เขาพูดเสียงพร่า “ขอบคุณนะ..ที่หวังดี”
   
ใครอีกคนที่อยู่ร่วมห้องนั่งนิ่ง กระบอกตาอุ่นวาบเพราะไอร้อนภายใน
   
..ยอมแพ้..

“เรา..จะคุยกับหมออีกที” อินทัชตอบรับก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วออกไป

กนธีเงยหน้ามอง ทันเห็นว่าน้องร้องไห้กับการตัดสินใจครั้งสุดท้าย เขาหันไปทางปาลิน ก้มหัวให้เล็กน้อยแทนคำขอบคุณที่เจ้าตัวช่วยเหลือ

“เวลาแบบนี้..โอ๊ตคงยอมฟังแต่สนคนเดียวเท่านั้น” เขายิ้มอย่างอ่อนแรง “ขอบคุณนะที่ช่วยพูด..ไม่ว่าผลจะเป็นยังไง พี่ก็ขอบคุณจริงๆ”

ปาลินยิ้มรับด้วยความกังวลใจไม่ต่าง เขาอยู่เป็นเพื่อนอีกร่วมชั่วโมงก็ขอตัวกลับ พสิษฐ์อาสาจะไปส่ง และจะพาอ้นกับอุ้มกลับไปนอนคอนโดด้วย

“คืนนี้หนูอยากนอนกับยาย” น้องอุ้มงอแง

“อ้นขออยู่ด้วยได้ไหมครับ” พี่ชายคนกลางอ้อนบ้าง

วันนี้เป็นวันธรรมดา รุ่งขึ้นยังต้องไปเรียน แต่กนธีคิดว่าอาจจะต้องลาหยุดให้เด็กๆ เพราะถ้าหากอินทัชพายายกลับบ้าน พวกเขาก็จะไปด้วยกันหมด

“ถ้าอย่างนั้น..ไผ่ช่วยไปส่งน้องสนทีได้ไหม” กนธีขอ เขาเอาเสื่อมาปูนอนกับพื้น เพราะโซฟามีที่พอสำหรับคนเดียว “คืนนี้พี่จะอยู่เฝ้าท่าน”

“ได้พี่” พสิษฐ์เต็มใจช่วยเหลือ เขาเดินไปลาคุณยายที่ครึ่งหลับครึ่งตื่น
   
แกลืมตามอง คล้ายกับจะยิ้มให้พสิษฐ์กับปาลิน
   
คืนนั้นอินทัชกลับมาตอนที่กนธีกับน้องๆหลับกันแล้ว เขาเดินออกไปดูวิวแม่น้ำเจ้าพระยาให้หายฟุ้งซ่าน คิดทบทวนและตัดสินใจครั้งแล้วครั้งเล่า
   
เขารู้ดี ไม่ว่าจะพูดให้สวยงามอย่างไร การพายายออกจากที่นี่ เท่ากับตกลงใจยุติการรักษา และตัดเส้นชีวิตที่พยายามเหนี่ยวรั้งเอาไว้เป็นหนสุดท้าย
   
..แต่ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วอย่างไร เวลาของการจากลาย่อมมาถึง..
   
..เขาเท่านั้น..ที่ต้องเป็นคนตัดสินใจ..
   
เด็กหนุ่มลากเก้าอี้มานั่งข้างเตียง จับมือยายไว้พร้อมพูดเสียงสั่นพร่า
   
“กลับบ้านกันนะยาย” เขากระซิบข้างหู “กลับน่าน..ไปหาตา ไปหาแม่”
   
ยายลืมตามอง หยดน้ำร้อนผ่าวไหลลงเชื่องช้า วันนี้แกดูดีขึ้น คล้ายกับว่ามีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ รู้สึกตัวตื่นได้ง่ายดายกว่าที่เคย
   
อินทัชร้องไห้ กอดแกไว้แน่น “กลับบ้านเรากันนะครับ..”
   
เขาก้มลงกราบแนบตักยาย เอามือที่อุ้มชูกันมาวางไว้บนหัว ยายลูบผมเขาอย่างอ่อนแรง แม้ไม่พูด ไม่โต้ตอบ แต่เขาสัมผัสได้ด้วยหัวใจ
   
“ขอบคุณยายที่เลี้ยงผมมาตลอด ขอบคุณที่เป็นเหมือนแม่ เหมือนพ่อ” เขาน้ำตาไหล จับปลายเท้าที่บวมและเย็น เนื้อของยายตอนนี้ กดแล้วยุบลง ไม่คืนเหมือนเคยจนเขารู้ดีแก่ใจ “ขอบคุณที่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้เด็กกำพร้าอย่างพวกเรา ผมจะไม่ลืมเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน..จะไม่ลืมเลย”
   
วันนี้มีโอกาส เขาจะพูดทุกอย่าง จะใช้เวลาให้คุ้มค่า จะบอกรัก ขอโทษ จัดการสะสางเรื่องที่ค้างคาไว้ในใจ ขออโหสิกรรมหากเคยทำตัวไม่ดีเอาไว้
   
อินทัชกราบลงที่ฝ่าเท้าของแก “ผมจะดูแลไอ้อ้นไอ้อุ้มอย่างดี สัญญาจะเป็นเด็กดี จะเข้มแข็ง จะเป็นตัวแทนของแม่ ตัวแทนของยาย”
   
ยายหลับตาลง น้ำตาไหลลงเรื่อย และยังคงไหลไม่หยุด
   
“พักผ่อนนะครับ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงอีกแล้ว” เขากุมมือแกแนบแก้ม “พรุ่งนี้..ผมจะพายายกลับบ้าน กลับไปอยู่ที่ของเรากัน”
   
คืนนั้น อินทัชไม่ยอมนอน เขาเฝ้ายายกระทั่งถึงรุ่งสางคล้ายกับจะนึกรู้
   
พอถึงแปดโมงเช้า ยายก็หายใจแผ่วลง ชีพจรเบา ความดันตกลงเรื่อยๆ
   
อ้นกับอุ้มถูกปลุกขึ้นมา เด็กๆยืนล้อมรอบเตียง อินทัชยืนนิ่ง กุมมือยายไว้ ตัดสินใจไม่ยื้อต่อ ไม่มีการกระตุ้นหัวใจ ไม่มีการถ่วงเวลา
   
กนธีกอดน้องเอาไว้ ทุกคนจับมือของแก เขาตั้งสติ เป็นคนกระซิบข้างหู บอกยายให้นึกถึงผ้าเหลือง ภาวนาคำว่าพุทโธ
   
สิบโมง ยายจากไปอย่างสงบ ไม่ทุรนทุราย ไม่ทรมาน ไม่ต้องทนทุกข์ หรือเจ็บปวดแสนสาหัส ร่างกายที่ผ่ายผอมเหลือเพียงปลอกเนื้อที่นอนแน่นิ่ง
   
น้องอุ้มร้องไห้โฮ อ้นเองก็สะอื้นจนตัวโยน กนธีต้องกอดปลอบใจเด็กๆไว้ ลูบหัวลูบหน้า ปลอบขวัญที่เสียไปอยู่หลายชั่วโมง
   
อินทัชให้น้องๆมากราบยายเป็นหนสุดท้ายก่อนที่จะมีการเคลื่อนย้ายร่าง เขาไม่ได้ร้องไห้ เพราะร้องจนหมดน้ำตาไปก่อนหน้านี้แล้ว
   
เขาทำเพียงหวีผมให้ยายเหมือนที่เคยทำ เลือกเสื้อตัวที่แกชอบ เลือกผ้าซิ่นลายน้ำไหลที่ซื้อไปฝากเมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมา และกระซิบบอกอีกครั้ง
   
“หลับให้สบายนะครับยาย..” อินทัชลูบผมแก “สักวัน..เราคงได้เจอกัน..”




...................................................................






Talk : สำหรับเค้า การเขียนฉากให้ตัวละครค่อยๆจากไป เป็นความดราม่าที่สุด

ช่วงนี้ ตั้งใจนำเสนอเกี่ยวกับการยึดรั้งของญาติ กับการตัดสินใจของผู้ป่วย ทุกวันนี้ก็ยังคงมีประเด็นที่ว่า แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะตัดสินใจกันได้ง่ายๆเลย

ส่วนเรื่องปฏิกิริยาของโอ๊ต ถ้ามองในแง่ทฤษฎี คนเราจะมีการโต้ตอบต่อเรื่องร้ายเป็น 5 ลำดับขั้น ตามแนวคิด 5 states of grief and loss คือ

1. Denial  : ปฏิเสธ ไม่ยอมรับความจริง

2. Anger : โกรธ ตีโพยตีพาย

3. Bargaining : ต่อรอง ไม่เป็นแบบนั้นได้ไหม

4. Depression : ทำอะไรไม่ได้แล้ว ได้แต่ซึมเศร้า เสียใจ

5. Acceptance : ยอมรับได้ในที่สุด สุดท้ายก็ต้องปล่อยและจำยอม

ไม่จำเป็นต้องเป๊ะๆ แต่คนทั่วไปก็น่าจะคล้ายๆแบบนี้ มันเลยเป็นที่มาของปฏิกิริยาของเจ้าโอ๊ตที่กระทำต่อสิ่งรอบข้าง

หลังจากนี้ก็จบเรื่องของยายแล้ว เหลือเรื่องค้างคาอีกเรื่องเดียว

ปล. 1 เรื่องมันก็จะเรื่อยๆมาเรียงๆ ช้าๆเฉื่อยๆแบบไดอารี่ชีวิตประจำวันล่ะน้อ เป็นสโลว์ไลฟ์ที่ชวนหลับ 555+ อดทนอีกนิดด เดี๋ยวก็จะจบล้าวว 555+ 

ปล. 2 หากมีข้อผิดพลาดเรื่องข้อมูลการแพทย์ ต้องขออภัยด้วยจ้าา TvT หาจนมึนงง 55+

ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นคร้าบบ

ใช้แท็ก #sinsgreed จ้า


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-09-2017 21:25:59 โดย nigiri-sushi »

ออฟไลน์ bradpitt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.53] pg.131 -- 4/9/60
«ตอบ #3915 เมื่อ04-09-2017 19:55:00 »

อ้างถึง
“พี่กุนต์อย่าทิ้งพวกเราได้ไหมครับ”
   
“ลูกชาย..” เขานิ่งอึ้ง
   
“อ้นรู้ว่ายายจะไม่อยู่เหมือนแม่เหมือนพ่อ” น้องน้ำตาร่วงเผาะ “อ้นกับอุ้มจะเหลือแค่พี่โอ๊ต ที่จริงเราอยู่กันได้ครับ แต่ถ้าพี่กุนต์อยู่ด้วยตลอดไป อ้นกับอุ้มจะมีความสุขมากๆ..พวกเราคุยกันว่าจะเป็นเด็กดี จะไม่รบกวนพี่กุนต์..”
   
กนธีกลั้นน้ำตาไม่อยู่กับคำร้องขอตามประสาเด็ก
   
“ให้อ้นกับน้องอุ้มกับพี่โอ๊ต อยู่กับพี่กุนต์ด้วยได้ไหมครับ”
   
“พี่กุนต์จ๋า..อย่าทิ้งหนู” น้องอุ้มสะอื้น “หนูจะไม่ดื้อไม่ซน..”
   
กนธีรวบตัวน้องสองคนไว้แนบแน่น ลูบหลังลูบหน้าปลอบประโลมขวัญ “พี่ไม่ทิ้งอยู่แล้วลูก..ไม่มีวันทิ้งพวกหนูหรอกนะ” เขาจูบข้างแก้ม “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเราจะเป็นครอบครัวกันตลอดไปนะครับ..เด็กดีของพี่”
   
เป็นธรรมชาติของเด็ก เมื่อคนที่รักห่างหายหรือตายจาก การเผชิญหน้ากับความสูญเสียย่อมสร้างความกังวลให้ไม่มากก็น้อย สิ่งที่ทำได้ คือให้ความมั่นใจว่าไม่ว่าอย่างไรก็ยังมีคนอยู่เคียงข้าง..และพร้อมจะให้ความรักอยู่เสมอ
   
“พี่รักอ้นกับอุ้มมาก..มากจนหมดหัวใจเลย เพราะฉะนั้นพวกหนูไม่ต้องกังวลไปนะลูก” เขายิ้มให้เด็กๆ “ถึงมีวันไหนที่พี่เหนื่อย พี่ล้า พี่ท้อไปบ้าง แต่รักที่พี่มีให้หนูสองคนยังเหมือนเดิมนะครับ..พี่ไม่เคยถอดใจที่จะรักพวกหนูนะ”
   
น้องอุ้มวางคางเกยบนบ่าลาด อ้นเองก็เข้ามากอดด้วย พี่กุนต์พูดอะไรยากๆ ฟังแล้วไม่ค่อยเข้าใจ แต่ในเมื่อยืนยันว่ารัก เด็กสองคนก็เบาใจลง
   
กนธีจัดแจงให้น้องกินข้าวเช้ากันจนเสร็จ ถามว่ามีการบ้านมาจากที่โรงเรียนไหม พอทำเรียบร้อยแล้วก็ช่วยสอนวิชาและทบทวนบทเรียนอีกครู่หนึ่ง
   
“อ้นสัญญาว่าจะเรียนให้เก่งครับ”
   
“หนูก็ด้วยฮะ” น้องอุ้มชูมือหรา

“พี่ขอบคุณสำหรับความตั้งใจครับ ความมุ่งมั่นเป็นสิ่งที่ดี แต่พี่ก็อยากให้หนูเรียนกันอย่างมีความสุข การสอบได้ที่ดีๆเป็นใบเบิกทางให้ชีวิต แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต” เขายิ้มให้ “พี่คงไม่ดีใจถ้าพวกหนูต้องเครียดกับการเรียนเพื่อเอาคะแนนดีๆกลับมาให้พี่ สำหรับพี่..พี่อยากให้พวกหนูเติบโตกันไปตามวัย เรียนบ้าง เล่นบ้าง เข้าสังคมได้ เท่านี้พี่ก็พอใจแล้ว”
   
“อ้นไม่อยากให้พี่กุนต์ผิดหวังในตัวอ้น”
   
“แค่เป็นอ้นกับอุ้มอย่างทุกวันนี้..พี่ก็ไม่เคยผิดหวังอยู่แล้วครับ”
   
น้องๆพยักหน้าหงึก จากนั้นก็ตั้งใจอ่านหนังสือเรียนกันต่อ กนธียิ้มระอา ส่ายหัวอย่างเอ็นดู ดูเหมือนว่าทั้งสองคนพยายามทำตัวให้ดียิ่งกว่าเดิมเพื่อจะได้มั่นใจว่าเขาจะไม่ผิดหวังและจะไม่ทอดทิ้งไปไหน
   
เป็นหน้าที่ของเขาที่จะต้องให้ความรักความอบอุ่น พูดให้น้องๆเชื่อมั่นจนกว่าจะคลายกังวลลง ว่าการเป็นคนในครอบครัว เราไม่จำเป็นต้องพยายามเพื่อให้อีกฝ่ายยังคงรักใคร่ในตัวเรา..แค่เราเป็นเรา เท่านั้นมันก็เพียงพอ
   
ใช่แล้ว..ถ้าเป็นคนในครอบครัว เราไม่ต้องพยายามให้ใครมารักหรอก   

ฮืออออออออออออ   พาร์ท อ้น อุ้ม คือดี และ น่ารักมากกกกกกก //ปาดน้ำตา

เราสงสาร และ เข้าใจ พี่กุนต์ ทำทุกอย่างเพื่อ ครอบครัวอ่ะ

ส่วน พาร์ตของไอ่โอ๊ต ก้อมุทะลุ ดื้อดึง ตามประสาหนุ่มๆๆ  ........ข้าวปั้น จะสื่อแบบนี้ ใช่ไหม   

 :เฮ้อ: สองคนนี้ เลย ไม่เข้าใจกันสักที



อ้างถึง
..แต่ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วอย่างไร เวลาของการจากลาย่อมมาถึง..
   
..เขาเท่านั้น..ที่ต้องเป็นคนตัดสินใจ..
   
เด็กหนุ่มลากเก้าอี้มานั่งข้างเตียง จับมือยายไว้พร้อมพูดเสียงสั่นพร่า
   
“กลับบ้านกันนะยาย” เขากระซิบข้างหู “กลับน่าน..ไปหาตา ไปหาแม่”


ความรัก ต้องใช้เวลา ในการเยียวยา บำบัดและ ทำใจ  :mew2:

คุณยายไปสบายแล้วสินะ   สู่สุคติครับ


 :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven

ออฟไลน์ jaja-jj

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
Re: Sins : Greed -- [Ch.53] pg.131 -- 4/9/60
«ตอบ #3916 เมื่อ04-09-2017 20:02:05 »

ฮือออ ไม่ทันแล้วเจ้าโอ๊ตตตตต
ไม่เป็นไรนะ จบได้ก็เริ่มใหม่ได้ ลดได้ก็เพิ่มได้

ออฟไลน์ ํYanika

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.53] pg.131 -- 4/9/60
«ตอบ #3917 เมื่อ04-09-2017 20:05:21 »

เราเข้าใจนะ เราเข้าใจความรู้สึกโอ๊ต เราก็เคยคิดว่าจะยื้อพ่อไว้ให้นานที่สุด อย่างน้อยมาเยี่ยมก็ยังได้เห็นพ่อนอนอยู่ ยังรับรู้ว่าแกยังอยู่ หมอก็บอกถ้าถอดเครื่องช่วยหายใจออกคือพ่อจะไปเลยเพราะหายใจด้วยตัวเองไม่ได้แล้ว สุดท้ายก็คือต้องปล่อยพ่อไป

ออฟไลน์ o4u0n7

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.53] pg.131 -- 4/9/60
«ตอบ #3918 เมื่อ04-09-2017 20:08:58 »

 :m15: อีกหน่อยเราคงตามยายไป หน่วงเหลือเกิน

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.53] pg.131 -- 4/9/60
«ตอบ #3919 เมื่อ04-09-2017 20:41:38 »

ตามtalk อ้างถึง 5stages of grief  ตามจิตวิทยา จะทำให้เข้าใจน้องโอ๊ตมากขึ้น

แต่นั่นก้อยังหมายถึง พี่กุนต์ยังมีอิทธิพลไม่มากพอที่จะทำให้น้องโอ๊ตฟัง

แล้วยังคำพูดที่พูดตอนนั้นมันมาจากใจที่คิดอยู่อย่างนั้น ยังไม่รับพี่กุนต์มาเป็นครอบครัว ยังหวงยายไว้อยู่คนเดียว

ส่วนพี่กุนต์ที่ใจมันชาๆไปแล้วนั้น จะอยู่กันอย่างไรต่อไปนะ

นักเขียนจะเขียนบทให้มีน้ำหนักในตอนจบได้อย่างไร

ยอมรับว่า อ่านทุก sins  หน่วงและลุ้นทุก sins แต่ sins greed นี้ หนักหน่วงสุดอ่ะ

ความหลัง ความในใจ ความเป็นไป  ติดตามกันยาวนาน

 :a5:   :a5:   :a5:   :a5:   :a5:   :a5:   :a5:

 :katai4:  :katai5:  :katai4:  :katai5:  :katai4:  :katai5:

...

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sins : Greed -- [Ch.53] pg.131 -- 4/9/60
« ตอบ #3919 เมื่อ: 04-09-2017 20:41:38 »





ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
Re: Sins : Greed -- [Ch.53] pg.131 -- 4/9/60
«ตอบ #3920 เมื่อ04-09-2017 20:48:47 »

พี่กุนต์น่ารักมากกก  ดูแลอ้น  อุ้มน่ารักที่สุด
เป็นคุณพ่อที่อบอุ่นมากกก
ส่วนโอ้ตนั้น  ตามใจพี่กุนต์เลย  ไม่สมหวังก็โอเคนะ
เราสงสารพี่กุนต์  ให้มามาก  นี่หรือคือผลตอบแทนที่ควรได้ของพี่กุนต์

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
Re: Sins : Greed -- [Ch.53] pg.131 -- 4/9/60
«ตอบ #3921 เมื่อ04-09-2017 20:51:03 »

เข้มแข็งไว้นะโอ๊ต

เข้าใจพี่กุนต์ และสงสารในความจังหวะนรกของโอ็ตมาก

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13
Re: Sins : Greed -- [Ch.53] pg.131 -- 4/9/60
«ตอบ #3922 เมื่อ04-09-2017 20:58:36 »

 :mew4: :mew6:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: Sins : Greed -- [Ch.53] pg.131 -- 4/9/60
«ตอบ #3923 เมื่อ04-09-2017 21:00:57 »

 :mew6: :mew6: :mew6:

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
Re: Sins : Greed -- [Ch.53] pg.131 -- 4/9/60
«ตอบ #3924 เมื่อ04-09-2017 21:08:40 »

น้ำตาร่วงเลย

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.53] pg.131 -- 4/9/60
«ตอบ #3925 เมื่อ04-09-2017 21:17:32 »

สงสารโอ้ตอ่ะ มันก็อยากจะเป็นหลักให้ครอบครัวไง ไม่อยากพึ่งพี่กุนต์เกินความจำเป็น แต่ด้วยเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นของโอ้ตกะสน บวกกับคำพูดที่โอ้ตพูดกะพี่กุนต์อย่างรุนแรงมันทำให้พี่กุนต์เสียใจ และผิดหวังกับโอ้ต นี่ยายก็มาจากไปอีก สู้ๆนะเจ้าโอ้ต :hao5:

ออฟไลน์ อ้วนน้อย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.53] pg.131 -- 4/9/60
«ตอบ #3926 เมื่อ04-09-2017 21:36:04 »

 :sad4: :o12: :hao5:โฮฮฮฮฮฮฮฮฮ

ออฟไลน์ torto

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.53] pg.131 -- 4/9/60
«ตอบ #3927 เมื่อ04-09-2017 21:39:13 »

อ่านแล้วความรู้สึกมันอึนๆ  เย็นชาอ่ะ แต่ก็สมเหตุสมผล
รอว่าความรักจะกลับมาได้อย่างไรมากกว่า  มันต้องกลับมาเป็นเหมือนเดิม  แต่แบบไหนกันนะ

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
Re: Sins : Greed -- [Ch.53] pg.131 -- 4/9/60
«ตอบ #3928 เมื่อ04-09-2017 21:47:33 »

คุณยาย TT แม้รู้ว่าวันนี้ต้องมาถึงแต่ก็เสียใจอยู่ดี น้ำตาร่วงแล้ว
ยายไปสบายแล้ว คนอยู่สู้ต่อไป โอ๊ตสู้ๆ นะ อ้นอุ้มลูก สงสารหนู
พี่กุนต์คนดีก็น่าสงสาร ทุกคนรักพี่กุนต์นะ

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
Re: Sins : Greed -- [Ch.53] pg.131 -- 4/9/60
«ตอบ #3929 เมื่อ04-09-2017 21:52:29 »

เป็นตอนที่เรียกน้ำตาได้ทั้งตอน  ตั้งแต่น้องอุ้ม น้องอ้น กับพี่กุนต์ในตอนแรก

ยิ่งการจากไปของยายทำเอาน้ำตาไหลเลย

สงสารทุกคนเลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด