Sins : Greed -- [SP.1 : Wedding Night] pg.146 -- 13/4/61
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Sins : Greed -- [SP.1 : Wedding Night] pg.146 -- 13/4/61  (อ่าน 1446764 ครั้ง)

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: Sins : Greed -- [Ch.21] pg.38 -- 18/8/59
«ตอบ #1200 เมื่อ24-08-2016 20:10:22 »

 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
Re: Sins : Greed -- [Ch.21] pg.38 -- 18/8/59
«ตอบ #1201 เมื่อ24-08-2016 20:17:44 »

รักพี่กุนต์ 

ออฟไลน์ Vanillaเปรี้ยว

  • รักเด็กอายุยืนยาว กินเด็กชีวิตเป็นอมตะ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.21] pg.38 -- 18/8/59
«ตอบ #1202 เมื่อ24-08-2016 21:30:46 »

โถ่ะๆๆๆมีแต่คนรุมรังแกพี่หนูกุนต์~

ออฟไลน์ กุหลาบเดียวดาย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 812
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.21] pg.38 -- 18/8/59
«ตอบ #1203 เมื่อ24-08-2016 21:51:01 »

รักพี่กุนต์ด้วยคน ผลแห่งการเป็นเด็กดีของโอ๊ต

ออฟไลน์ boy_nonny

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.21] pg.38 -- 18/8/59
«ตอบ #1204 เมื่อ24-08-2016 21:57:30 »

 :L1: :L1: :L1:

ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
Re: Sins : Greed -- [Ch.21] pg.38 -- 18/8/59
«ตอบ #1205 เมื่อ25-08-2016 01:28:15 »

ไอ้ที่เตรียมไว้เมื่อไหร่จะได้ใช้เสียที

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: Sins : Greed -- [Ch.21] pg.38 -- 18/8/59
«ตอบ #1206 เมื่อ25-08-2016 02:06:08 »

โอ๊ยพี่กุนต์ของน้อง มาเป็นของน้องเถอะค่ะ

ออฟไลน์ ╰Äρρłәßәѓѓÿ╮

  • There can be miracles When you believe
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
    • Twitter
Re: Sins : Greed -- [Ch.21] pg.38 -- 18/8/59
«ตอบ #1207 เมื่อ25-08-2016 04:34:30 »

รีบเอาถุงยางมาใช้ได้แล้วนะน้องโอ๊ตเดี๋ยวมันจะหมดอายุ อิอิ :impress2:

ออฟไลน์ lukYRKM

  • Yesung ♥ Ryeowook | Kyuhyun ♥ Sungmin | FOREVER!
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.21] pg.38 -- 18/8/59
«ตอบ #1208 เมื่อ25-08-2016 08:21:47 »

เอ็นดูตาหนูกุนต์ของคุณยาย  :L2:

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.21] pg.38 -- 18/8/59
«ตอบ #1209 เมื่อ25-08-2016 10:12:39 »

ง่อวววว เขินตามพี่กุนต์เลย เด็กบ้าเอ้ย
นี่โอ๊ต จะทำอะไรก็รีบทำนะ
คนอ่านรออยู่555555555555
ที่เหลือเจอคุณเกลือเค็มใช่มะคะ
อะโห ถึงจะเคยคิดว่าคุณผไทดี
แต่ถ้ามาร้ายๆใส่โอ๊ต นี่ไม่เอานะฮะ
ชอบเข้าข้าวตัวเอกเสมอ55555

ปล.แต่ถ้าเป็นระหว่างโอ๊ตกับพี่กุนต์นี่
เลือกพี่กุนต์แบบไม่ต้องสงสัย
คึคึคึ รออ่านที่เหลือค่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sins : Greed -- [Ch.21] pg.38 -- 18/8/59
« ตอบ #1209 เมื่อ: 25-08-2016 10:12:39 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
Re: Sins : Greed -- [Ch.21] pg.38 -- 18/8/59
«ตอบ #1210 เมื่อ25-08-2016 11:28:59 »

หายไปนานจัง T T

ออฟไลน์ Pimjean

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.21] pg.38 -- 18/8/59
«ตอบ #1211 เมื่อ25-08-2016 12:58:52 »

คิดถึงค่ะ.. มารอ^^

ออฟไลน์ mokupirin

  • ความดีก็เหมือนกางเกงใน ใส่ติดตัวไว้แต่ไม่ต้องโชว์บ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.21] pg.38 -- 18/8/59
«ตอบ #1212 เมื่อ25-08-2016 15:21:21 »

รออีกห้าสิบ งื้อออออ ค้างค่ะอยากอ่านต่อ :katai1:

ออฟไลน์ penneeamoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 259
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.21] pg.38 -- 18/8/59
«ตอบ #1213 เมื่อ25-08-2016 17:11:34 »

เข้ามาดูทุกครั้งที่ว่าง มาเถ๊อะ คิดถึง

ออฟไลน์ DATAs

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.21] pg.38 -- 18/8/59
«ตอบ #1214 เมื่อ25-08-2016 17:52:14 »

มาต่อไวไวนะค่ะ  ชอบมากกกก  :katai4:

ออฟไลน์ G-NaF

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.21] pg.38 -- 18/8/59
«ตอบ #1215 เมื่อ25-08-2016 18:53:27 »

เอาแล้วว โอ๊ตมันเริ่มคิดไปนู้นแล้วนะพี่กุนต์
พี่กุนต์พร้อมยังคับเนี่ย 5555

ออฟไลน์ mefayysuju

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.21] pg.38 -- 18/8/59
«ตอบ #1216 เมื่อ25-08-2016 18:56:00 »

ไอ่โอ๊ตดูหมกมุ่นกว่าพี่กุนต์อี๊กกกก

ออฟไลน์ Ain

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.21] pg.38 -- 18/8/59
«ตอบ #1217 เมื่อ25-08-2016 20:18:40 »

มาสัปดาห์ละ 1 ตอนก็ยังดีค่ะ
จะได้มีกำลังใจรอตอนต่อไป
รอนานแล้วใจบ่ดี
ในเพจให้กดเลือกลุ้น <3 กับ :(
ใจก็เชียร์อยากให้ <3
แต่คิดว่าคงไม่ได้ต่อนยอน ต๊ะ ต่อนย้อนน ในตอนนี้
น่าจะเป็นตอนหน้า รออีก 50% ที่หลือค่ะ

ออฟไลน์ MooMiew

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 325
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.21] pg.38 -- 18/8/59
«ตอบ #1218 เมื่อ26-08-2016 01:14:08 »

อ้ากกกกกก มาต่อเร็วๆเลยยยยย

ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page
Re: Sins : Greed -- [Ch.22] pg.41 -- 26/8/59
«ตอบ #1219 เมื่อ26-08-2016 01:52:07 »





Chapter 22




เสียงเคาะประตูห้องหนังสือดังขึ้น กนธีเงยหน้าขึ้นจากเอกสารที่ดิน เอ่ยปากอนุญาตให้เข้ามาได้ อึดใจต่อมาอินทัชก็โผล่หน้า เขาหันมองลอดแว่น ยิ้มทักทายอีกฝ่าย
   
“คุณป้าแม่ครัวทำข้าวเหนียวมะม่วงเสร็จแล้ว ผมเลยมาถามว่าพี่กุนต์จะทานที่ไหน ให้ยกมาในห้องหรือไปที่สวนข้างสระดีครับ”
   
“กินข้างนอกดีกว่า ชมนกชมไม้บ้าง” เขาปิดคอมพิวเตอร์ บิดขี้เกียจจนกระดูกลั่นกร๊อบ “นั่งนานๆแล้วปวดเอว”
   
“ตอนผมเด็กๆ ยายชอบให้เหยียบหลัง” อินทัชพึมพำ
   
“หยุดเลย” กนธียกมือห้าม “ถ้าโอ๊ตขึ้นมาเหยียบ พี่คงนอนเป็นผัก อัมพาตรับประทาน”
   
คนฟังหัวเราะ เห็นลักยิ้มข้างแก้ม “ผมแค่เล่า ไม่ได้บอกว่าจะเหยียบให้สักหน่อย..จะบอกว่าถ้าแค่นวดล่ะก็ไม่น่าเป็นอะไร”
   
“ถ้าว่างก็ลองได้นะ แต่ขอพี่กินเหนียวมะม่วงก่อน รอให้ย่อยสักชั่วโมงสองชั่วโมงค่อยว่ากัน กลัวนวดแรงแล้วอกร่องจะพุ่งออกจากกระเพาะอาหาร”
   
อินทัชกุมขมับ พี่กุนต์พูดเสียเห็นภาพชัดเจนเลย
   
เขาเดินตามคนอายุมากกว่าออกมาที่สวน พยาบาลส่วนตัวพายายออกมานั่งรับลมได้สักพักแล้ว ส่วนสาวใช้ก็กำลังช่วยกันจัดโต๊ะที่ซุ้มไม้ ของว่างช่วงบ่ายเป็นข้าวเหนียวมะม่วงกับน้ำอัญชันปลูกเองตรงข้างรั้ว
   
“คุณยาย” กนธียิ้มทัก “ร้อนไหมครับ ถ้าร้อนผมจะให้เด็กเอาพัดลมมาเปิด”
   
ยายยิ้มร่า อวดฟันหลอเหมือนน้องอุ้ม “ลมเย็นแล้วจ้า”
   
ชายหนุ่มช่วยประคองให้แกมานั่งข้างกัน แม่บ้านเอาถ้วยมีฝาปิดมาเสิร์ฟ เขาเปิดออก ได้กลิ่นซุปลูกเดือยหอมอ่อนๆ “คุณยายทานสักหน่อยนะครับ ผมอ่านหนังสือมา ลูกเดือยมีประโยชน์หลายอย่างเลย บำรุงกระดูก ขับปัสสาวะ”
   
กนธีปรึกษากับคุณหมอเรื่องอาหารของผู้ป่วยไว้ล่วงหน้าแล้ว คุณหมอให้คำแนะนำมาว่าคนไข้ทานได้ตามปกติ เพียงแต่ให้ระวังและจำกัดบางตัว เขาเลยคุยกับพยาบาลและช่วยกันคิดเป็นเมนู พร้อมทั้งเขียนวิธีทำเอาไปให้แม่ครัว

อาหารของคุณยายจะต้องระวังจำพวกไขมัน เน้นพวกผักผลไม้ ลดการใช้เครื่องปรุงที่มีโซเดียม จำกัดปริมาณน้ำดื่มในแต่ละวันเพราะอาการบวมน้ำที่ท่านเป็น นอกจากนี้ คุณยายอาจจะทานได้น้อยลงในแต่ละครั้ง เขาเลยให้คอยสังเกต ปรับลดตามความเหมาะสม แต่ให้จัดเตรียมอาหารและของว่างไว้เป็นเวลาที่ถี่ขึ้น สักห้ามื้อในหนึ่งวัน
   
อย่างเมื่อเช้า เขาให้เตรียมข้าวต้มข้าวกล้องใส่เนื้อปลากะพง ใส่ขิงและขึ้นฉ่าย หลังจากนั้นก็เป็นน้ำเต้าหู้ ต่อด้วยมื้อเที่ยงเป็นข้าวกล้องกับอาหารประเภทผักกับปลา ลดเนื้อแดงลง ตามด้วยของว่างตอนบ่าย ก็คือซุปลูกเดือย ช่วงเย็นเป็นเมนูใกล้เคียงกัน ตบท้ายด้วยผลไม้เนื้ออ่อนที่ไม่หวานนัก
   
หากว่าได้รับผิดชอบความเป็นอยู่ของใครแล้ว กนธีก็อยากจะทำให้เต็มที่เหมือนกัน ยายของเขาเสียไปนานมากแล้ว ตอนนี้ยายของอินทัชจึงเหมือนญาติของเขาอีกคนไปโดยปริยาย 
   
อินทัชลอบมองคนตรงหน้าที่คอยดูแลญาติผู้ใหญ่ของเขาเหมือนเป็นครอบครัวตนเอง เขายิ้มบาง ดูพี่กุนต์เอาช้อนตักซุปขึ้นมา เลือกตรงผิวด้านบนที่พอจะคลายร้อนลงบ้าง
   
“ลองสักคำสองคำนะครับ” กนธีชักชวน ค่อยๆป้อนเข้าปากแก
   
“อร่อยจ้ะ” ยายพยักหน้า เคี้ยวเชื่องช้าด้วยฟันที่ยังเหลือ “นิ่มจัง ไม่แข็งเลยเนอะ”
   
“ให้เขาต้มนานหน่อยน่ะครับ ฟันผมเองก็ไม่ค่อยจะแข็งแรงนักเหมือนกัน”
   
แกหัวเราะ “พ่อคุณยังหนุ่ม ยังหล่อ ดูดีขนาดนี้”
   
“โธ่..อย่ายอเลยครับ ผมลอยขึ้นไปติดบนต้นปีปแล้ว” 
   
อ้นกับอุ้มตามมาทีหลัง พอได้ยินเข้าก็หัวเราะชอบใจ น้องอุ้มเพิ่งจะเล่นกับแกงส้มและลูกๆเสร็จ พี่โอ๊ตเลยสั่งให้ไปล้างมือแล้วค่อยมากินขนมด้วยกัน
   
“ถ้าทานเสร็จ คุณยายจะพักผ่อนต่อก็ตามสบายเลยนะครับ ถึงมื้อเย็น ผมจะไปปลุก” กนธีบอก “ห้องนั้นนอนกลางวันได้ ไม่ร้อนแน่นอน”
   
“นั่งๆนอนๆในบ้านคุณ เกรงใจเหลือเกินจ้ะ”

“อย่าเกรงใจเลยครับ คนกันเอง” เขายิ้ม

เมื่อคืน กนธีพาครอบครัวของอินทัชมาค้างที่บ้านใหญ่ หลังจากแนะนำคุณยายและเด็กๆให้กับแม่บ้านและคนสวนรู้จักแล้ว เขาก็พาท่านไปดูบริเวณโดยรอบเป็นการสร้างความคุ้นเคยให้กับหญิงชราที่ยังเกร็งๆอยู่จนไม่กล้าขยับตัว
   
เขาขอให้ท่านคิดเสียว่าที่นี่เป็นบ้านหลังที่สอง หากมีเรื่องติดขัด ต้องการความช่วยเหลือหรืออยากได้อะไร ก็ให้เรียกหาเด็กรับใช้ได้ตลอดเวลา นอกจากจะมีพยาบาลส่วนตัวคอยดูแลแล้ว เขายังจ้างสาวใช้อีกคนที่ขยันขันแข็งกว่าใครเพื่อนโดยให้เงินพิเศษกว่าคนอื่น เธอจะได้คอยช่วยเหลือ เผื่อจะเปลี่ยนเวรกับคุณพยาบาล หรือเป็นมือเป็นไม้ให้อีกแรง

คนของเขาทุกคนไม่มีใครคิดแย้งหรืออิดออดกับภาระหน้าที่ที่เขาสั่ง ทุกคนรู้งานของตัวเองดี ดังนั้นเมื่อครอบครัวของอินทัชมาถึงที่บ้านใหญ่ บรรยากาศแวดล้อมโดยรอบทั้งสถานที่และคนในบ้านจึงเป็นไปอย่างปกติสุข มีการต้อนรับที่นอบน้อมและอบอุ่น ไม่มีใครหันมามองแขกของเขาด้วยสายตาประหลาดใจหรือวิพากษ์วิจารณ์เรื่องที่ไม่ใช่ของตน..แม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกในรอบสามปี ที่เขาพาคนแปลกหน้าเข้ามาอยู่อาศัยที่บ้านแบบโจ่งแจ้งก็ตาม

“ผมลืมถามไป คุณยายบอกว่าห้องนอนหลับสบายดี แล้วห้องน้ำล่ะครับ สะดวกหรือเปล่า” กนธีป้อนซุปอีกคำให้แก “ผมว่าจะให้ช่างเอาราวมาติด เวลาลุกนั่งทำธุระจะได้ปลอดภัย ส่วนที่พื้น เดี๋ยวให้เด็กเอาแผ่นกันลื่นไปปูให้นะครับ”

“อย่าเดือดร้อนเลยจ้ะคุณ ฉันอยู่ได้ ไม่เป็นไรหรอกนะ” แกจับแขนเจ้านายของหลาน “อย่าให้ฉันทำให้คุณต้องเสียเงินเสียทองใช่เหตุเลย”

“ผมซื้อมาแล้วครับ” กนธียิ้ม “อนาคต ผมเองก็แก่ตัว ยังไงก็ต้องใช้เหมือนกัน เตรียมการไว้ก่อนไม่เสียหาย”

อินทัชกำลังตัดชิ้นมะม่วงอกร่องให้น้อง เขาไม่ได้เงยหน้ามองพี่กุนต์ แต่หูก็ได้ยินทุกอย่าง คำพูดแต่ละประโยคที่รับฟัง มันก่อให้เกิดความรู้สึกอุ่นอวลอยู่ในใจ

..คนๆนี้ ดีต่อครอบครัวของเขายิ่งกว่าใคร..

..แต่เขากลับตอบแทนความดีของพี่กุนต์ได้แค่นี้จริงๆ..

“ข้าวเหนียวมะม่วงอร่อยไหมเด็กๆ” กนธีหันมาชวนคุย “เคี้ยวตุ้ยแก้มบวมเลย”

อ้นฉีกยิ้ม เด็กชายขอให้พี่โอ๊ตเทน้ำกะทิเสียท่วมจาน “อร่อยมากเลยครับ”

น้องอุ้มปากไม่ว่างเพราะมัวแต่อมมะม่วงอยู่ อกร่องสุกกินกับข้าวเหนียวมูนใบเตยแล้วเข้ากันได้ดีจนน้องน้อยกินเพลิน ปกติแล้วของหวานก็พอจะได้กินกันอยู่บ้าง แต่เพราะว่าเป็นมื้อฟุ่มเฟือย ส่วนใหญ่เลยกินแต่อาหารหลักคือข้าวเสียมากกว่า นานๆทีได้กินขนม มันก็อร่อยและชื่นใจดี

“คุณกุนต์ไม่กินน้ำลูกเดือยหรือจ๊ะ กินกับยายสิ ยายกินไม่หมดหรอก” แกเปลี่ยนคำแทนตัวที่เรียกตนเอง

“เรียกกุนต์เฉยๆก็ได้ครับ มีคุณนำหน้าแล้วผมจั๊กจี้”

“งั้นยายเรียก..หนูกุนต์” แกยิ้ม “ตาหนูกุนต์..”

อินทัชแทบจะสำลัก เขามองพี่กุนต์ที่จมูกขึ้นสีแดงเรื่อเหมือนตัวโบโซ เขากลั้นขำ แต่หลุดหัวเราะออกมาหน่อยจนโดนพี่แกเตะขาอยู่ใต้โต๊ะ ดูเอาเถอะ ยายเขาเรียกเสียน่าเอ็นดูเลย

..หนูกุนต์?..หนูอะไร..ตัวใหญ่ขนาดนี้..

“คนแก่เวลาเอ็นดูลูกหลานจะชอบเรียกว่าตาหนูน่ะจ้ะ แต่เอ..ตอนนี้ก็ไม่เด็กแล้วนี่นะ หรือเปลี่ยนเป็น พ่อกุนต์..หลานกุนต์..”

“กุนต์เฉยๆแล้วกันครับคุณยาย” กนธียิ้มขัน “ผมหมดวัยน่าเอ็นดูแบบนั้นแล้ว จริงไหม..น้องข้าวโอ๊ต”

อินทัชรู้สึกว่าข้าวเหนียวมะม่วงจานนี้มันเฝื่อนคอสุดๆ “คุณหนูกุนต์ดื่มน้ำอัญชันสิครับ อร่อยดี”

“ไอ้ตัวแสบ..” คนอายุมากกว่ามองเขม่น

ยายหัวเราะชอบใจ “ดูเด็กๆสนิทกันจังเนอะ แบบนี้ยายก็เบาใจหายห่วง กลัวแต่ว่าเจ้าโอ๊ตจะไปรบกวนอะไรพี่เขา”

“ผมไม่กวนพี่กุนต์หรอกยาย หลานยายคนนี้เลี้ยงง่าย โตไว เชื่องด้วย”

“เชื่องนั่นใช้กับหมานะพี่โอ๊ต” อ้นกระซิบ

น้องอุ้มเงยหน้าขึ้น ปากเปรอะน้ำกะทิเป็นทาง “หนูว่ายน้ำท่าหมาเป็น!”

กนธีขบขัน ในเมื่อเรื่องเปลี่ยน เขาก็เปลี่ยนตามน้อง “พี่ว่ายท่ากบเป็นนะ แต่มันไม่เท่เลยเนี่ยสิ..”

“หนูกุนต์ว่ายท่ากบ..น่าดูพิลึกนะครับ” อินทัชแหย่ แล้วก็ต้องถูกเตะขาเป็นหนที่สอง

“อยากเล่นน้ำจังเลย” น้องอุ้มโอดครวญ มองสระตาละห้อย

“เอาสิครับ” กนธีอนุญาตอย่างใจดี “พี่จะได้หาฤกษ์เอาน้องเป็ดเหลืองมาลงน้ำเสียที”

อินทัชส่ายหัว สรุปว่าพี่กุนต์ไปสรรหาห่วงยางเป็ดเหลืองอันยักษ์มาจนได้ พอกินมื้อบ่ายกันเสร็จ กนธีก็ให้คนสวนเอาที่เป่าลมมาเป่าห่วงยางจนแข็งดีแล้วปล่อยลงน้ำ น้องอ้นน้องอุ้มไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นกางเกงขาสั้นตัวเดียว พอเห็นแพยางกับเจ้าเป็ดตัวใหญ่ก็ทำตาโต ร้องอู้หูกันทั้งคู่

“โอ๊ตลงว่ายกับน้องสิ” กนธีบอก “สระมันลึกอยู่นะ ให้เด็กๆเล่นกันตามลำพังมันอันตราย”

อินทัชก้มลงมองตัวเอง “ผมไม่มีชุดว่ายน้ำ”

“ชุดว่ายน้ำผู้ชายมันก็คือกางเกงในตัวเดียวไม่ใช่หรือ” กนธีลดเสียงลง

เด็กหนุ่มหรี่ตามอง สุดท้ายก็วกเข้าไปเปลี่ยนเสื้อแล้วใส่เป็นกางเกงชายหาดขาสั้นตัวเดียวมาแทน เขาไม่กล้านุ่งแต่ชั้นในโชว์คนอื่น ที่นี่มีสาวใช้กับแม่บ้านตั้งเยอะแยะ

“แล้วพี่กุนต์ล่ะ” เขาหันมาถามตอนที่เดินลงน้ำ “มาว่ายด้วยกันสิครับ อย่าอ้างว่าไม่มีชุดว่ายน้ำนะ เพราะมันก็คือกางเกงในตัวเดียวเหมือนกัน”

กนธีหัวเราะในลำคอ “ไม่ล่ะ..พี่เพิ่งกินอิ่ม แล้วก็อยากคุยกับคุณยายมากกว่า”

เขาประคองยายของอินทัชลงจากซุ้มไม้ก่อนพาไปนั่งข้างๆสระ ด้านบนเป็นแผงปลูกไม้เลื้อย ตอนนี้แดดอ่อนแรงเลยไม่ค่อยร้อนเท่าไรนัก

“หาข้ออ้าง” เด็กหนุ่มท้วง

“พูดมากน่า ลงน้ำไป” เขาเตะข้อพับคนที่เดินป้วนเปี้ยนอยู่ข้างๆ “เจาะยางเลย นี่แน่ะ”

อินทัชเข่าอ่อน เซตกลงน้ำดังตูมใหญ่ อ้นกับอุ้มที่ลอยคออยู่ที่ตื้นหัวเราะก๊าก ต่างฝ่ายต่างว่ายมาเกาะบ่าพี่โอ๊ต พอพี่ชายทะลึ่งพรวดจากน้ำได้ก็มองคนหาเรื่องอย่างหมายหัว

“ระวังตัวแล้วกัน” เขาขู่

กนธียักคิ้วกวนอารมณ์ คุณยายหัวเราะชอบใจกับท่าทีของเด็กๆ เขาเลยมานั่งคุยด้วย

“ขอบคุณมากนะจ๊ะที่เป็นธุระให้หลายเรื่อง ทั้งเรื่องยาย แล้วก็เรื่องเด็กๆ” แกจับแขนอีกฝ่ายไว้ “เห็นอย่างนี้ ยายก็นอนตายตาหลับ”

คนฟังนิ่งไปครู่หนึ่ง “อย่าพูดอย่างนั้นสิครับ คุณยายยังแข็งแรงดีอยู่เลย”

“ยายรู้ตัวเองดี” แกยิ้มจาง มองหลานสามคนเล่นกันในสระ “จะมีชีวิตอยู่ถึงสงกรานต์ปีหน้าหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ มันเหนื่อยเหลือเกินพ่อคุณ เจ็บออดๆแอดๆ เป็นเหมือนภาระ เป็นตัวถ่วงชีวิตหลาน แต่ยังไม่อยากไป เพราะยังห่วงพวกมัน แต่เห็นแบบนี้แล้วก็วางใจ..”

“คุณยาย..” กนธีลูบฝ่ามือเหี่ยวย่นคู่นั้น “คุณยายไม่เคยเป็นภาระของหลานๆนะครับ คุณยายเป็นกำลังใจของทุกคนต่างหาก เป็นเหมือนต้นไม้ใหญ่คอยคุ้มภัยให้พวกเขา จะสุขจะทุกข์ พวกนั้นก็ผ่านกันไปได้เพราะยังมีคุณยายเป็นร่มเงาให้ เป็นแรงใจให้พวกเด็กๆได้มีกำลังเดินต่อ พวกเขารู้และมั่นใจครับ ว่าถ้าล้มลงวันไหน ก็จะมีมือคู่นี้ของคุณยายคอยรอประคองเสมอ ความรักความผูกพันในครอบครัวน่ะ..เป็นพลังที่ยิ่งใหญ่มากเลยนะครับ”

แกน้ำตารื้น ยกมือขึ้นเช็ดหางตาลวกๆ

“เด็กๆพยายามเต็มที่เพื่อจะได้อยู่กับคุณยาย ตอนนี้มีโอกาสได้ใกล้กันแล้ว ใช้เวลาของครอบครัวร่วมกันให้คุ้มค่าดีกว่าครับ อย่าเพิ่งปล่อยมือจากสามคนนั้นเลยนะ”

ยายหันมามองคนตรงหน้า แกยิ้มทั้งน้ำตา มือหยาบกร้านจับปลายนิ้วอีกฝ่ายไว้

“คุณจ๋า..ขอบคุณมากที่ช่วยพูดปลอบคนแก่ ยายสัญญาว่าจะพยายามเพื่อพวกมันเหมือนกัน” แกพึมพำ “แต่ถ้าหากวันไหน ยายไม่ได้อยู่อีกต่อไปแล้ว คุณช่วยเหลือยายหน่อยได้ไหม ถือว่าเวทนาคนไร้เถอะนะ”

กนธีพยักหน้ารับอย่างไม่ต้องคิดซ้ำสอง

“ถ้ายายตายไป ยายขอฝากหลานสามคนไว้กับคุณด้วยได้ไหม ยายไม่ขอให้คุณรับเป็นภาระไปชั่วชีวิต จะไหว้วานไปจนกว่าพวกนี้จะเดินได้ด้วยตัวเองก็พอจ้ะ”

“ผมสัญญา..ด้วยเกียรติของตัวผมเอง” กนธีรับคำ คนอย่างเขาไม่เคยผิดสัญญากับใคร “ผมจะดูแลพวกเขาอย่างดี ทุกคนเป็นน้องชาย เป็นเหมือนครอบครัวของผม ต่อให้แยกจากกันไปไหน ผมก็จะคอยช่วยเหลือพวกเขาเสมอ”

ยายน้ำตาร่วง ยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณ แต่อีกคนรีบห้ามไว้ แกเลยได้แค่อวยพรประสาคนแก่

พยาบาลพิเศษเดินมา เธอกระซิบว่าได้เวลาพักผ่อนของคุณยายแล้ว กนธีเลยหันมาบอกให้

“ถึงมื้อเย็นจะให้เด็กไปปลุกนะครับ พักผ่อนเยอะๆ สุขภาพจะได้แข็งแรง คุณยายทำใจให้สบายนะ ไม่มีอะไรให้น่าห่วง มีผมอยู่ทั้งคน วางใจได้แน่นอน” เขาพูดให้ความมั่นใจ แกเองก็มีสีหน้าดีขึ้นอย่างชัดเจน

ชายหนุ่มมองตามพยาบาลสาวที่พาคุณยายกลับเข้าบ้าน เสียงเด็กน้อยเล่นน้ำกันเจี๊ยวจ๊าว เขาเงยมองพลางยิ้มตาม นานมาแล้วที่บ้านเขาไม่ได้มีบรรยากาศแบบนี้ ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าต่อให้มีบ้านหลังใหญ่ สวนกว้างขวาง บรรยากาศร่มรื่นแค่ไหน ก็เทียบกับความมีชีวิตชีวาและรอยยิ้มของสมาชิกในครอบครัวไม่ได้จริงๆ

พวกฝรั่งถึงมีคำว่า House กับ Home อย่างไรเล่า

เสียงมือถือที่วางไว้บนโต๊ะดังขึ้น กนธีหันไปหยิบขึ้นมาดู หน้าจอเป็นชื่อของคุณไผท ตั้งแต่แยกกันคราวสงกรานต์ คุณไผทก็กลับปากช่อง แต่ยังติดต่อกันมาทางไลน์เรื่อยๆ

“สวัสดีครับคุณไท” เขาออกปากทัก “โทรมาแบบนี้ แปลว่ามีธุระจะลงมากรุงเทพแน่เลย”

‘ถ้าผมไม่ไปกรุงเทพแล้วโทรหาคุณบ้างไม่ได้หรือ’

“ไม่คิดน่ะสิครับ เพราะมันเปลืองค่าโทร..” กนธีแซว ปลายสายหัวเราะเสียงดังเหมือนชอบอกชอบใจที่เขารู้ทันพฤติกรรม “ไม่ได้ว่าคุณงกนะครับ..รู้ว่าคุณประหยัดเฉยๆ”

‘พูดแบบนี้ผมเสียหายนะครับ ถ้ารู้กันไปทั่ว แล้วใครจะกล้ามาเป็นภรรยาผมล่ะนี่..ได้สามีขี้งก’

“ก็ต้องหาคนที่รับตัวตนของคุณได้ละครับ”

‘พูดเหมือนง่าย แต่ความเป็นจริง จะหาคนที่เข้าใจผมแบบคุณนี่ยากอยู่นา..’

กนธีหัวเราะ “มีความหมายแอบแฝงหรือเปล่า”

‘ไม่รู้สิครับ’ ทางนั้นพูดเสียงทีเล่นทีจริง ‘เอาล่ะ..เข้าเรื่องดีกว่า ตอนนี้ผมกำลังขับรถเข้ากรุงเทพ’

“มาดูร้านอาหารหรือครับ”

‘ผมอาจจะมาเพราะคิดถึงกรุงเทพก็ได้..’ ไผทหยอกเย้า

“ความคิดถึงของคุณนี่มีอิทธิพลมากกว่าค่าน้ำมันรถอีกหรือ”

‘โธ่..คุณกุนต์~’

กนธีหัวเราะ “โอเค..ไม่แหย่แล้ว เดี๋ยวคุณจะเปลืองค่าโทรเปล่าๆ โทรมาจะนัดเจอผมหรือครับ หรือว่ามีอะไรให้ช่วยก็บอกได้ เพียงสั่งเข้ามาตอนนี้ ผมจะเดลิเวอรี่ตัวเองถึงที่เลย”

‘ฮ่ะๆ งั้นเจอกันที่ร้านอาหารของผมก็แล้วกัน กินข้าวเป็นเพื่อนหนุ่มโสดไม่มีใครแลหน่อย’

“ถล่มตัวเองเกินไป” กนธียิ้ม “สักกี่โมงดีครับ”

‘ทุ่มครึ่งแล้วกัน’ ปลายสายตอบ แต่ก่อนที่จะวางไป อีกฝ่ายก็ทักขึ้น

“คุณไทจำเด็กที่ผมบอกว่าอยากจะฝากให้ร้องเพลงที่ร้านได้ไหมครับ” กนธีมองอินทัชที่ว่ายน้ำเล่นกับน้องๆ “ยังไงผมขอพาน้องเขาไปด้วยนะ”

‘แบบนี้ผมก็ไม่ได้กินข้าวกับคุณสองต่อสองน่ะสิ’

“ใช้คำได้เหมือนคู่เดทเลยครับ” กนธีขำ “ผู้ชายสองคนกินข้าวด้วยกัน ไม่สนุกหรอกคุณ ต้องไปเป็นแก๊ง”

‘พามาสิครับ เดี๋ยวลองให้เทสเสียงด้วยเลย ดูซิว่าจะร้องดีขนาดไหน’

คนฟังยิ้ม “แล้วเจอกันตอนทุ่มครึ่งครับ” เขากดวางสายแล้วทิ้งมือถือไว้บนโต๊ะ “โอ๊ต..”

เด็กหนุ่มหันมาตามเสียงเรียก เขาว่ายกลับมาที่ขอบสระ “ครับ?”

“เดี๋ยวเย็นนี้ไปด้วยกันหน่อยนะ คุณไผท เจ้าของร้านอาหารที่พี่เคยฝากโอ๊ตไว้ เขาชวนเราไปด้วย” กนธีก้มลงนั่งชันเข่าข้างหนึ่ง จะได้ไม่ยืนค้ำหัวเด็ก “โอ๊ตยังสนใจงานร้องเพลงอยู่ไหมล่ะ ถ้าไม่อยากทำแล้วก็บอกได้ ถ้าเอาแค่เรื่องเงิน พี่ว่าไม่จำเป็นนักหรอก แต่ถ้าอยากหาอะไรทำแก้เซ็ง พี่ก็จะให้อิสระตรงนี้”

“สนใจครับ” มีอะไรเขาก็ขอคว้าไว้ก่อน ถ้าเกิดว่าวันไหนไม่ได้อยู่กับพี่กุนต์แล้ว เขาจะได้มีหลักประกัน ไม่ว่าจะมีงานไหนเข้ามา เขาก็ตกลงทั้งนั้นแหละ

“โอเค..งั้นเล่นน้ำไปก่อนแล้วกัน พอใจแล้วค่อยไปเตรียมตัว” กนธีลุกขึ้นยืน ทำท่าจะเดินเข้าบ้าน

“พี่กุนต์..” อินทัชเรียก “ผมลืมบอกไปครับ”

“อะไรหรือ” เขาเดินเข้าไปหา

“......”

กนธีเลิกคิ้ว เจ้าโอ๊ตพูดอะไรงึมงำในคอ เขาได้ยินไม่ถนัด “ว่าอะไรนะ” ชายหนุ่มก้มลงไปใกล้ขึ้น

ตอนนั้นเองที่อินทัชจับแขนคนด้านบนแล้วเหนี่ยวตัวฝ่ายตรงข้ามลงมา พี่กุนต์หล่นตูมลงน้ำ เปียกม่อล่อกม่อแล่กจนหัวหูดูไม่จืด เจ้าตัวสำลักโขล่กเพราะไม่ทันได้กลั้นหายใจ

อินทัชหัวเราะ เห็นไอจนจมูกแดงก็นึกสงสาร แต่เขาไม่ปลอบหรอกนะ “บอกแล้วว่าให้ระวังเอาไว้”

“ไอ้ตัวแสบ” กนธีมองอย่างหมายหัว แต่ไม่ทันได้โต้ตอบอะไรออกไป น้องอ้นกับน้องอุ้มก็ตีน้ำท่าหมาเข้ามากอดก่ายเขาเสียก่อน

“พี่กุนต์ว่ายน้ำกับหนูน้า” น้องอุ้มแหงนคอให้พ้นน้ำ พุ้ยมือสองข้างลอยตุ๊บป่อง

“เรียงเป็นหัวปลาเลย” เด็กหนุ่มขำ “เสียบไม้ย่างทีเดียวได้แพ็คสาม”

“หาเรื่องกันใช่ไหม”

“แล้วไงล่ะครับ” อินทัชเดินเข้าไปหา ช่วงตัวสูงใหญ่ทำให้อีกคนต้องเงยหน้ามอง “จะตีผมหรือ”

กนธีรู้สึกถึงใจที่เต้นแรงกว่าปกติ เขาหันไปสนใจน้องอ้นที่พยายามจะขึ้นไปนอนบนแพยาง กำลังจะว่ายไปหา อินทัชก็ยกแขนขึ้นกั้นก่อน

“ไหนล่ะ ไม่เห็นตีเลย ยืนรอให้ตีอยู่” เด็กหนุ่มกระเซ้า แบมือรอ

“ไม่ตีเว้ย หนังหนาแบบนี้ เจ็บมือ” เขาว่ายหนีไปอีกทางแล้วช่วยอุ้มน้องอ้นขึ้นไปนอนบนแพได้สำเร็จ “ระวังคว่ำนะครับ”

กนธีหันหลังกลับ แต่ทั้งตัวปะทะเข้ากับแผ่นอกกว้างที่ยืนซ้อนอยู่เบื้องหลัง เขาหยุดนิ่ง สายตาเสมอเท่าปลายคางคนอ่อนวัยกว่าเท่านั้น จะให้เงยหน้ามองก็นึกกระดาก จะเดินถอย เดี๋ยวเด็กมันก็จับจุดติด เลยได้แต่เสมองทางอื่น ถึงอย่างนั้นก็ยังสัมผัสได้ถึงผิวกายเปียกชุ่มที่เย็นฉ่ำจากหยดน้ำ

อินทัชหลุบตามองคนตรงหน้า เขาขยับเข้าไปใกล้จนเกาะแพของเจ้าอ้นได้ เท่ากับเบียดคนที่อยู่ด้านในจนลำตัวแนบชิดกันมากขึ้นอีก เด็กหนุ่มมองปลายผมที่ชุ่มโชก น้ำหยดเล็กๆร่วงลงบ่าลาด ทั้งเนื้อทั้งตัวของพี่กุนต์เปียกปอน เสื้อยืดสีอ่อนที่สวมแนบลู่ไปกับผิวเนื้อขาว ทาบติดแทบเป็นส่วนเดียวกัน

คนๆนี้..ที่จริงก็เหมือนพี่ชายใจดี ถ้าเขาไม่ได้อยู่ในสถานะของเด็กที่ถูกรับเลี้ยง ก็คงไม่มีวันมองเป็นอื่นไปได้ แต่พอมาอยู่ใกล้กันอย่างที่เป็นแล้ว เขาคิดว่าสถานะ ‘พี่น้อง’ ที่ขวางกั้นไว้ มันก็ไม่ได้มั่นคงเสียทีเดียว

ใช่แล้วแหละ..ถ้าเขายังยึดติดคำว่า ‘พี่ชายกับน้องชาย’ เขาคงไม่ได้เป็นฝ่ายเตรียมการก่อนหรอก

..เซ็กซ์กับพี่กุนต์..จะเป็นอย่างไรนะ..

“อึดอัด..” กนธีขยับตัว “อย่าเอาพุงย้อยๆมาชนหลังสิ”

อินทัชถอนหายใจ เขายกมือขึ้นเสยผมที่ปรกหน้าผาก “หมดกัน”

“อะไรหมด”

“เปล่าครับ” เขาถอยหลังไปก้าวหนึ่ง

“คิดอะไรอยู่ บอกมา” กนธีมองอย่างจับผิด

“กำลังคิดว่า..” เขาหลุบตาลงต่ำก่อนจะยกยิ้ม “หนูกุนต์เตี้ยจัง อายุสี่สิบทำให้กระดูกหดหรือยังไงนะ”

“ไอ้โอ๊ต~”

.

.

.




[ต่อด้านล่าง]




CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sins : Greed -- [Ch.22] pg.41 -- 26/8/59
« ตอบ #1219 เมื่อ: 26-08-2016 01:52:07 »





ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page
Re: Sins : Greed -- [Ch.22] pg.41 -- 26/8/59
«ตอบ #1220 เมื่อ26-08-2016 01:52:49 »


.

.

.


หกโมงกว่า กนธีขับรถพาอินทัชไปที่ร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยาย่านเจริญกรุง ระหว่างทาง เขาเปิดเพลงของ Bee Gees ฟังไปด้วย และอินทัชก็ถือโอกาสฮัมตามอย่างอารมณ์ดี
   
“ชอบร้องเพลงจริงๆนะ” 
   
“หายเครียดดีครับ..ผมชอบเพลงนี้” อินทัชยิ้ม เคาะนิ้วกับประตูรถ “Smile an everlasting smile. A smile can bring you near to me. Don't ever let me find you gone. 'Cause that would bring a tear to me.”
   
กนธีฟังเสียงนุ่มรื่นหู เขานึกถูกใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ยิน ใครจะรู้เล่า ว่าหลังจากวันที่ได้เจอเด็กหนุ่มบนเวที อินทัชจะเข้ามาอยู่ใกล้ชิดเขาขนาดนี้
   
“Right now there'll be no other time. And I can show you how, my love” ร่างสูงร้องคลอ หันมามองคนด้านข้าง “Talk in everlasting words. And dedicate them all to me. And I will give you all my life. I'm here if you should call to me.”
   
กนธียอมรับว่าหวั่นไหวกับแววตาคู่สวยที่กึ่งเศร้าปนเว้าวอนของอินทัช แค่คำว่า My Love กับ I will give you all my life ก็ทำให้เขาแทบจะพ่ายแพ้ต่อน้ำเสียงออดอ้อนนั่นได้แล้ว

..ให้ตายเถอะ..เด็กมันก็แค่ร้องเพลง..

“You think that I don't even mean. A single word I say. It's only words, and words are all I have” อินทัชทอดเสียงลง “to take your heart away.”
   
คนอายุมากกว่าเสมองไปทางอื่น ปกติเขาก็ไม่ค่อยได้สนใจวิธีร้องเพลงจีบกันของวัยรุ่นอยู่แล้ว แต่มาเจอเข้าแบบนี้ เขาเป๋ไปชั่วขณะจริงๆ ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าอินทัชร้องอย่างซื่อๆ ไม่ได้มีความหมายแอบแฝง แต่ใจมันก็สั่นคลอนตามไปด้วยจนได้
   
..ไม่ได้เรื่องเลย..มาเสียคนเอาตอนสี่สิบนี่เอง..
   
“เป็นไงครับ เพราะไหม” อินทัชยิ้มแก้มบุ๋ม “ห่างเวทีมานาน พี่ว่าคุณไผทเขาจะโอเคกับผมหรือเปล่า”
   
“แน่นอนอยู่แล้ว” กนธียิ้มรับ กลับมาตั้งสมาธิกับการขับรถใหม่
   
“ลีลาผมโอเคไหม ท่อนนี้ดีพอหรือยัง” เขาถาม “It's only words, and words are all I have......to take your heart away.”
   
“เออ..เพราะแล้ว ดีแล้ว ใจพี่เกือบจะปลิวตาม” ชายหนุ่มพูดกลั้วหัวเราะ

“หืม” อินทัชเลิกคิ้ว “พี่กุนต์ของผมใจอ่อนง่ายขนาดนี้เลยหรือ..แบบนี้ก็จีบไม่ยากสิ”
   
กนธีกระแอมแก้เก้อ อันที่จริงเขาก็ไม่ได้จีบง่ายหรอก แต่บอกไปก่อนหน้าแล้วว่า ‘ชอบ’ ถ้าคนที่ชอบมาทำอะไรแบบนี้ใกล้กัน มันจะไม่รู้สึกอะไรเลยได้ยังไง
   
น้ำหยดลงหินทุกวัน หินมันยังกร่อน ประสาอะไรกับหัวใจอ่อนๆของคนเรา

อินทัชเข้ามาใกล้ชิด มาดูแล แสดงความจริงใจให้เห็น มาเปลี่ยนความหนาวเย็นให้กลายเป็นความอบอุ่น เปลี่ยนความจืดจางชืดชาให้กลายเป็นรสที่อ่อนหวานนุ่มนวลกว่าเก่า ด้วยเหตุนี้แล้ว เขาย่อมรู้สึกเอนเอียงตามไปเป็นธรรมดา

เขายอมรับจากใจจริงว่าชอบอินทัชมากกว่าเด็กคนอื่นๆที่เคยเลี้ยงดู..ชอบมากจนไม่รู้จะพูดอย่างไร

..ก็ได้แต่ปรามใจตัวเอง..

“ว่าไงล่ะครับ” อินทัชแหย่ “จีบง่ายหรือเปล่า”

“จีบไม่ยาก แต่ก็ไม่ได้ง่าย” กนธีว่ายิ้มๆ “ทำไม? เปลี่ยนใจจะจีบพี่หรือ”

อีกคนหัวเราะร่วน “แซวเล่นพี่”

เขาได้แต่ยิ้มขัน ผ่านไฟแดงข้างหน้าก็จะถึงแล้ว เลยบอกให้เด็กเลิกวอร์มเสียง เดี๋ยวจะแหบเสียก่อน

ตอนที่เลี้ยวรถเข้าไปจอด เขาเห็นคุณไผทยืนคอยอยู่ก่อนแล้ว พอดับเครื่องยนต์ได้สนิทดี ร่างสูงก็เข้ามาเปิดประตูรถให้ ไผทยิ้มกว้างอวดฟันขาววับตัดกับผิวเนื้อสีแทน ต่างหูแบบห่วงที่เคยใส่ ตอนนี้ดูเหมือนจะเปลี่ยนเป็นจิวสีดำ ให้บรรยากาศผู้ชายตัวร้ายที่ซุกซน

“เชิญครับคุณกุนต์” ชายหนุ่มผายมือ “โต๊ะของเราอยู่ริมน้ำ ผมสั่งอาหารเอาไว้ให้แล้ว”

อินทัชเดินตามมาทีหลัง เขาไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของบทสนทนาด้วยซ้ำ อันที่จริงคือไม่ได้ถูกทักทายเลยมากกว่า ดังนั้นมือที่เตรียมจะยกขึ้นไหว้คนเป็นผู้ใหญ่เลยถือค้าง

กนธีหันมามองคนด้านหลัง เขาชะลอฝีเท้าเพื่อให้เด็กหนุ่มตามทัน พออินทัชเข้ามาใกล้ เขาก็ยกมือขึ้นโอบบ่ากว้างเอาไว้พลางเรียกไผทและแนะนำตัวแทน

“นี่โอ๊ตครับคุณไท” เขาบอก “แล้วก็นี่คุณไผท เป็นเพื่อนของพี่เอง”

อินทัชยกมือไหว้ มองคุณไผทที่พยักหน้ารับแล้วยิ้มให้เล็กน้อย

“น้องเขาอยู่ปีหนึ่ง กำลังจะขึ้นปีสองครับ ที่ผมเคยเล่าให้ฟังว่าเขาจะเปลี่ยนงาน”

“พอจำได้” ไผทยิ้มบาง “มาสิไอ้หนู..กินข้าวด้วยกัน”

อินทัชเลิกคิ้ว..เขาโตขนาดนี้ยังเรียกว่า ‘ไอ้หนู’ อีกหรือ

ที่โต๊ะอาหาร ไผทเชิญให้กนธีเข้าไปนั่งด้านในสุด ตามด้วยตัวเขาอีกคน ส่วนอินทัชถูกจัดที่ให้นั่งตรงข้ามคนเดียว ระหว่างมื้อค่ำมีแต่การพูดคุยของคนสองคน คนที่อายุน้อยที่สุดเลยได้แต่เขี่ยกับข้าวไปมาแล้วก็กินเงียบๆตามลำพัง นานครั้งถึงจะมีคำถามเกี่ยวกับตัวเขา ซึ่งก็มักจะเกิดขึ้นเพราะพี่กุนต์เป็นคนเปิดประเด็นก่อน

ต่อให้มองในแง่ดีแค่ไหน อินทัชก็รู้สึกได้ว่าเขาไม่เป็นที่สนใจของเจ้าของร้านเท่าไรนัก

“รสชาติอาหารเป็นไงครับ” ไผทพาดมือไปที่เก้าอี้ของคนข้างกาย “พ่อครัวชุดเดิมนะ คิดว่ามีอะไรต้องปรับปรุงไหม”

“อร่อยดีครับ แค่ว่าบางจานอาจจะจืดไปบ้าง แต่ถ้าเน้นลูกค้าฝรั่ง ผมว่ารสนี้ก็กำลังดี” กนธียกน้ำขึ้นดื่ม พอหมดแก้ว คุณไทก็รับไปตักน้ำแข็งและรินน้ำเปล่าให้เสร็จสรรพ

“ทานของหวานไหมครับ” ไผทยื่นเมนูให้

“ไม่ไหวแล้วคุณไท ท้องจะระเบิด”

“ถ้าอย่างนั้นผมสั่งผลไม้ให้ก็แล้วกัน” ชายหนุ่มบอกก่อนหันมาทางเด็ก “เอาอะไรเพิ่มไหมไอ้หนู”

อินทัชส่ายหัว เขาตอบในใจว่า ถ้าจะขออะไรเพิ่ม ก็คือขอให้หมอนี่เลิกเรียกเขาว่าไอ้หนูเสียที

กนธีรับผลไม้จานใหญ่มาจากพนักงานเสิร์ฟ เขากินแตงโมเข้าไปชิ้นหนึ่งแล้วถึงพูดเข้าเรื่องเพราะเห็นว่าอินทัชเริ่มจะหันไปสนใจแต่วิวแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างเดียวแล้ว

“คุณไทบอกว่าสนใจเรื่องที่จะให้โอ๊ตมาช่วยร้องเพลงที่ร้านใช่ไหม” กนธีเกริ่น “น้องเขาเล่นดนตรีเก่งนะ เล่นกีต้าร์ได้ เปียโนก็ได้ เสียงเพราะมาก ปกติที่ผมเคยฟังจะเป็นเพลงฝรั่งยุคพวกเราเนี่ยแหละ”

“ยุคพวกเรานี่ยังไงหรือ”

“ยุคคนแก่” กนธีหัวเราะ

“ผมยังหนุ่มครับ” ไผทยักไหล่ “ใครจะไปยอมแก่..จริงไหมไอ้หนู”

อินทัชเคี้ยวเมล็ดแตงโมลงท้อง ที่จริงต้องคายออกมา แต่ถ้าเขาคาย เขากลัวจะกลายเป็นการพ่นทิ้ง

“เอาเป็นว่า เพราะหรือไม่เพราะ ต้องพิสูจน์” ไผทพยักพเยิด “เห็นเวทีตรงนั้นไหม ลองร้องเพลงโชว์หน่อย”

เด็กหนุ่มรับคำ เขาเดินตรงไปอย่างไม่อิดออด ตอนนี้มีแขกอยู่พอสมควร บางคนก็มองเขาว่าขึ้นไปทำอะไร พอเห็นว่าเขาลากเก้าอี้มานั่งด้านหน้า ยกไมค์ด้านข้างมาวางตามด้วยการหยิบกีต้าร์โปร่งขึ้นมาพาดตัก แต่ละคนก็หันมาให้ความสนใจ

อินทัชเคาะไมค์ดูว่าเสียงเข้า จากนั้นก็เทสเครื่องดนตรี ปรับสายให้เสียงไม่เพี้ยน

ปลายนิ้วยาวเริ่มดีดเป็นทำนองเพลง แขกคนอื่นที่กินข้าวละสายตาขึ้นมอง บางคนก็ปรบมือให้เมื่อจำเพลงได้

“It's late in the evening; she's wondering what clothes to wear.” เสียงทุ้มต่ำทอดอ่อนโยน ดวงตาหลับพริ้ม ปล่อยอารมณ์ตามเสียงเพลง “She puts on her make-up and brushes her long blonde hair.”    

กนธีนิ่งไปอึดใจ เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะร้องเพลงนี้

..เพลงเมื่อครั้งแรกที่ได้เจอกัน..

“And then she asks me, Do I look all right?” อินทัชยิ้มบาง เขาเงยหน้าขึ้น มองตรงมาที่ใครบางคน “And I say, Yes, you look wonderful tonight.”

ไผทกอดอก เหลือบมองเพื่อนใหม่ของเขาที่ยกน้ำขึ้นดื่ม หากสายตาไม่ละไปจากเด็กหนุ่มเลย

“We go to a party and everyone turns to see. This beautiful lady that’s walking around with me. And then she asks me, Do you feel alright?” เขายิ้มให้พี่กุนต์ “And I say, Yes, I feel wonderful tonight.”

กนธีรู้สึกร้อนบางๆที่หน้า หากถามว่าอะไรคือจุดเด่นในตัวอินทัช..ก็คงจะเป็นดวงตาคู่นั้นเอง

“I feel wonderful because I see the love light in your eyes. And the wonder of it all is that you just don’t realize....” นัยน์ตาสีเข้มดูคมปลาบ “....how much I love you”

ไผทเคาะนิ้วกับโต๊ะ สีหน้าเฉยเมย ผิดกับคนข้างตัว รู้สึกไม่สบอารมณ์เล็กน้อยที่คุณกุนต์สนใจเด็กคนนี้ชัดเจน จะว่าไป เจ้านั่นเล่นดี ร้องเพลงเพราะอยู่หรอก แต่เขาว่ามันขัดหูขัดตาพิกล

“I say, my darling, you were wonderful tonight.” อินทัชทอดเสียงอ้อน ละมือออกจากกีต้าร์ “Oh my darling.....you were wonderful tonight.”

มีเสียงปรบมือจากแขกในร้าน เขายิ้มรับ ก้มหัวให้และบอกขอบคุณ

ไผทลุกขึ้นยืน เขาเดินไปตรงเคาน์เตอร์เครื่องดื่ม กนธีเห็นเลยตามไป อีกฝ่ายสั่งค็อกเทลให้เขาและชวนนั่งตรงเก้าอี้บาร์ เจ้าตัวรับ Daiquiri เหล้ารัมผสมกับมะนาวและน้ำตาลมาจากบาร์เทนเดอร์ ลังเลเล็กน้อยแต่ก็ยกขึ้นดื่มเพื่อไม่ให้เสียมารยาท

อินทัชตามเข้ามาสมทบ คิดว่าอย่างไรเสียก็ไม่ได้ทำให้พี่กุนต์ขายหน้าแน่ หากยังไม่ทันได้เอ่ยปากถาม คุณเจ้าของร้านก็เปิดประเด็นขึ้นมาก่อนทันที

“นี่ร้องเพลงมานานแค่ไหนแล้ว”

เขานิ่งไปนิด “ประมาณปีกว่าครับ”

“นอกจากกีต้าร์ เปียโน มีอย่างอื่นอีกไหม” ไผทยกวิสกี้ขึ้นดื่ม

“สองอย่างครับ แต่ถ้ามีเวลาว่างก็ว่าจะหัดเพิ่ม”

“หัดเพิ่มก็ดีนะ จะได้มีความสามารถหลากหลาย ไม่น่าเบื่อจำเจ”

อินทัชมองพี่กุนต์ที่พยักหน้าให้ยิ้มๆ เขาเลยตอบรับในลำคอ อะไรที่พี่กุนต์เห็นด้วย เขาก็เห็นด้วยเหมือนกัน

“แล้วคืนนี้ผมร้องเป็นยังไงบ้างครับ” ว่ากันตามจริง เขามั่นใจในเสียงตัวเองอยู่ไม่น้อย แต่ที่ถามแบบนี้ไปก็เพื่อมารยาททางสังคม

“ก็ว่าจะพูดอยู่..” ไผทกอดอกมอง มือข้างหนึ่งโคลงแก้วไปมา “ร้องมาตั้งปี..ประสบการณ์ก็น่าจะพอควร แต่เสียงมีแค่นี้หรือ”

คนฟังชะงักค้าง หันไปมองพี่กุนต์ที่ดูงุนงงอยู่บ้าง

“พี่ว่ามันเบา ไม่มีพลัง เหมือนแมวตัวน้อยไปหน่อย” เขายักไหล่ “แต่ก็โอเคนะ พอฟังได้”

อินทัชนิ่งไปอึดใจ จากนั้นสีหน้าคาดไม่ถึงก็เปลี่ยนเป็นบึ้งตึง เขาน่ะหรือร้องเพลงเหมือนแมว? ร้องแล้วแค่พอฟังได้? อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยว่ะ ถ้าให้นึกย้อนขึ้นมา เขามั่นใจว่าเขาร้องเพราะกว่าไอ้หมอนี่ตอนงานสงกรานต์ก็แล้วกัน นั่นน่ะ..เสือคำรามตอนบาดเจ็บ ไม่ใช่การร้องเพลงหรอก

“เพลงไม่ใช่แนวร็อคนี่ครับ ผมจะตะเบ็งก็คงประหลาด” เด็กหนุ่มตอบกลับ “ตอนร้องที่เก่า ผมก็เน้นร้องแนวป็อป ส่วนใหญ่มีแต่เพลงช้า มันเข้ากับบรรยากาศดี”

กนธีหัวเราะเบาๆ “อันที่จริง ถ้าอยากให้มีพลัง คงต้องไปฟังพวกโอเปร่านะคุณไท ในร้านอาหาร โทนเสียงแบบนี้ ผมว่าฟังแล้วอยากกินข้าวมากกว่า”

ไผทขำตาม “ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก แค่คิดแล้วก็พูดตามความจริง”

อินทัชกดเสียง ‘หึ’ ให้อยู่แค่ในลำคอ

..เขาว่าไอ้หมอนี่ต้องไม่ชอบขี้หน้าเขาเป็นการส่วนตัวแน่นอน..

“โอเค..พี่อาจจะมีทัศนคติคับแคบไปหน่อย ขอโทษด้วยแล้วกัน” ร่างสูงยิ้ม ยกวิสกี้ขึ้นจิบอีก “ตกลงมาทำงานที่ร้านได้ ช่วงนี้ปิดเทอมสินะ มาทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ก็แล้วกัน ส่วนใหญ่แขกจะมีเวลาช่วงวันหยุด ร้องประมาณหกโมงถึงสี่ทุ่ม ไหวไหม”

“ไหวครับ..”

“ตรงกับวันสอนเด็กๆ ไหวแน่นะ” กนธีท้วงขึ้น ถึงจะเป็นตอนกลางวัน คนละเวลากับงานร้องเพลง แต่เขากลัวอินทัชจะหักโหมไปจนหมดแรงเสียก่อน

ไผทเลิกคิ้ว “ขยันขนาดนี้เชียวหรือ”

“น้องเป็นคนขยันจริงครับ” ชายหนุ่มยิ้ม “ที่คุยกัน ช่วงกลางวันของวันศุกร์จะมีสอนพละ ส่วนวันเสาร์อาทิตย์จะสอนว่ายน้ำ คือผมรับงานพิเศษจากเพื่อนมา ทางนั้นเขาขอคนที่ไว้ใจได้ไปช่วยหัดให้ลูกๆว่ายน้ำเป็น แล้วก็อีกงานเป็นครูสอนพละชั่วคราวที่โรงเรียนอนุบาล โอ๊ตเขาเรียนวิทย์กีฬา เซ้นส์ทางนี้เยี่ยมยอดทุกอย่าง ผมก็เลยขโมยตัวมาใช้งานหน่อย”

อินทัชยิ้มบาง พี่กุนต์มักใช้คำพูดที่ให้เกียรติเขาเสมอ จะว่าไปแล้ว เล่าว่าเขาถูกไล่ออกจากงาน จนตรอกสุดๆขนาดหางานทำไม่ได้เลยต้องมาพึ่งพาและให้อีกฝ่ายช่วยเหลือ มันดูจะตรงกับความเป็นจริงเสียมากกว่า

“วันเดียวกันดีแล้วครับ เหลืออีกสี่วัน จะได้ดูแลพี่ได้เต็มที่” เขาพูดตรงไปตรงมา เพราะยังต้องแบ่งเวลาให้อีกคนด้วย ถึงจะได้งานใหม่ แต่เขาไม่ควรลืมหน้าที่หลัก แน่นอนว่าเขาเต็มใจจะทำเพื่อกนธีเสียยิ่งกว่าอะไร

คนถูกพาดพิงหน้าร้อนวูบ ไม่ได้โต้ตอบอะไรออกมา

ไผทหรี่ตามอง เขาสนใจสายตาของคนคู่นี้ที่มองกันและกัน คิดว่ามีคำตอบบางอย่างในใจเรียบร้อยแล้ว

“งั้นก็ตามนี้นะ เริ่มอาทิตย์หน้า เข้างานห้าโมงครึ่ง ร้องหกโมงถึงสี่ทุ่ม” เขาสรุป “ส่วนเงินเดือน ไม่มีประจำให้เพราะเป็นงานพาร์ทไทม์..เอาเป็นว่า..ให้สามร้อย”

กนธีหันไปมองคนด้านข้างอย่างเผลอตัว เขาอ้ำอึ้ง พอมองอินทัช ก็เห็นว่าเด็กหนุ่มเปลี่ยนสีหน้ากลับไปไม่สบอารมณ์เหมือนตอนที่ถูกทักเรื่องเสียง

“สามร้อยที่ว่านี่ยังไงครับ” อินทัชคิดว่าเขารักษามารยาทมาพอแล้ว เงินแค่นี้ได้แค่น้ำมะนาวแก้เสียงแหบไม่กี่แก้วเอง

พูดกันตามตรง ถ้าไม่เต็มใจจะจ้าง ถ้าจะหาเรื่อง ถ้าจะมองเขาอย่างมีอคติ ไม่ได้สนใจเด็กเมื่อวานซืนอย่างเขาตั้งแต่แรก ก็ควรจะจบกันไป คุยมาตรงๆเลยดีกว่า ไม่ต้องเกรงใจพี่กุนต์แล้วค่อยมาไล่บี้เขาแบบนี้หรอก

..เป็นผู้ใหญ่ประสาอะไรวะ!..

“ใจเย็นไอ้หนู..ชั่วโมงละสามร้อยต่างหาก” ไผทรู้ทัน “ใครจะใจร้ายให้แค่วันละสามร้อยล่ะ”

อินทัชไม่ได้ขำไปด้วย

“คุณไทชอบแกล้งเด็กหรือครับ” กนธีส่ายหัว “น้องผมขี้ตกใจนะ”

ร่างสูงหัวเราะแล้วหันมาทางคนด้านข้าง ทอดเสียงอ่อนลง “คือผมก็รู้ตัวว่าให้น้อยครับ ขอโทษด้วยที่ต้องจำกัดค่าใช้จ่ายพนักงาน ตอนนี้เป็นช่วงเปลี่ยนเจ้าของ อะไรๆก็ยังไม่ลงตัว ถ้ากำไรขึ้นเมื่อไร รับรองว่าค่าแรงขึ้นตามแน่”

กนธีได้แต่ยิ้มรับ “อันที่จริง ตอนนี้โอ๊ตเขาก็ไม่ได้สนใจค่าจ้างเท่าไรแล้ว แค่อยากมีอะไรทำไม่ให้ว่างเฉยๆ การร้องเพลงเป็นงานที่เขารักน่ะครับ..”

“อย่างนั้นหรอกหรือ” คนฟังยักไหล่ หมุนแก้วให้น้ำแข็งละลาย “หายากนะ..คนทำอะไรไม่สนใจเงินเนี่ย”

กนธีลอบถอนหายใจ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เขาขีดเส้นให้ชัดเจนสักหน่อยก็น่าจะดี

“แน่นอนอยู่แล้วครับ” ชายหนุ่มยิ้มจาง จิบเครื่องดื่มในมือแล้วหันไปกระซิบเพื่อนใหม่ “คุณไทก็น่าจะรู้ ‘เด็กของผม’ ทุกคนไม่เคยมีใครเจอปัญหาเรื่องเงินอยู่แล้ว”

ไผทหรี่ตามองไอ้เด็กเมื่อวานซืน สถานะปัจจุบันของมันชัดเจนจากปากของกนธีก็ตอนนี้เอง

ก้าง!!!! มันน่ากระทืบทั้งก้างทั้งกระดูกนั่นแหละ!

“หึๆ” เขาหัวเราะในลำคอ “งั้นก็ดีเลย ถ้าผมลดค่าจ้างเหลือชั่วโมงละสองร้อยก็ได้ใช่ไหม” เขายิ้มใสซื่อ

คราวนี้กนธีอึ้งกว่าเดิม เขาอุตส่าห์หาประเด็นพูดอ้อมค้อมให้ไผทรู้ว่าอินทัชคือใคร จะได้ไม่รังแกเด็กของเขามากนัก แต่ดูเหมือนจะหนักกว่าเดิม

“โธ่..ทำไมทำหน้าตกใจแบบนั้น ล้อเล่นต่างหากครับ ผมเป็นคนขี้เล่น คุณกุนต์ก็น่าจะรู้” ไผทยิ้มโชว์เขี้ยว

อินทัชนึกด่าในใจ...เล่นขี้น่ะสิ!

“จริงๆอยากให้ชั่วโมงเป็นพันเลยนะครับ” ฝันไปเถอะวะ!

เด็กหนุ่มเหยียดปากอย่างรู้ทัน...เชื่อมันก็บ้าแล้ว

“แต่กำไรยังไม่เข้าที่เข้าทาง ผมกำลังพยายามอยู่ จะเจ๊งไม่เจ๊งแหล่ เวลาดูแลก็น้อย อะไรๆก็ลำบาก” ไผทเคี้ยวน้ำแข็งกรุบๆ “น่าสงสารใช่ไหมล่ะครับ ผมคิดว่าคุณเข้าใจผมนะ”

อินทัชหัวเราะหึ คร้านจะฟังเลยเดินมายืนด้านหลังพี่กุนต์

กนธียิ้ม “บอกแล้วไงครับ ว่าเรื่องเงินไม่เป็นปัญหากับผม..กับโอ๊ต”

“ผมรู้ เรื่องนั้นก็ถือว่าจบกันไป ผมก็แค่ชี้แจงความจำเป็นในส่วนของผมว่ามีอะไรติดขัดตรงไหนบ้าง..บริหารคนเดียวก็เป็นแบบนี้แหละครับ” เขาพึมพำก่อนจะปรายตามอง “จะว่าไป..ตอนนี้ผมก็กำลังมองหาคนที่วางใจได้อยู่”

กนธีเลิกคิ้วเมื่อไผทมองเขายิ้มๆ

“ผมอยากได้หุ้นส่วน จะได้มาช่วยดูแลแทนตอนผมไม่อยู่กรุงเทพ”

“อ้อ..” เขาพยักหน้ารับ “แล้วตอนนี้หาคนที่ว่าได้หรือยังล่ะครับ”

ร่างสูงเท้าแขนกับขอบเคาน์เตอร์ “นั่นสิ..หาได้หรือยังก็ไม่รู้” ปากพูดแบบนั้น หากสายตาไม่ได้ละไปจากอีกคนเลย “จะมีใครให้เกียรติมาร่วมทุนกับไอ้หนุ่มบ้านนอกอย่างผมหรือเปล่านะ”

กนธีนึกขำ คนๆนี้ทำอะไรอ้อมค้อม ถ้าอยากจะชวนให้เขาหุ้น พูดตรงๆแต่แรกก็หมดเรื่อง

จะว่าไปแล้ว การทำร้านอาหารก็น่าสนใจดี ถึงแม้กำไรจะไม่ได้มากมายเท่าอสังหาริมทรัพย์ แต่การตอบตกลงก็เป็นโอกาสในการขยายธุรกิจ ได้แสดงให้เห็นว่าเขาเองก็มีกำลังมากพอ ไม่ได้นึกขลาดกลัวต่อการทำอะไรใหม่ๆที่ยังไม่เคยลอง ซ้ำยังแสดงขอบเขตการปกครอง ‘เด็กของตน’ กลายๆ

..ถือเสียว่าฆ่าเวลาเล่น..

เขามองอีกฝ่าย ยิ้มบาง “ให้ผมช่วยหาไหม”

“กำลังรอคำนี้อยู่เลย” ไผทชูแก้วขึ้น “เรามาดื่มแล้วคุยเรื่องนี้กัน..ดีไหมครับ”

อินทัชที่ฟังอยู่สักพักขยับเข้ามา ใช้ปลายนิ้วแตะข้อศอกคนข้างกายเบาๆ “พี่กุนต์..”

กนธีหันไปมอง ยิ้มให้ ตบหลังมืออีกฝ่ายเป็นเชิงรับรู้

“ดื่มไม่เยอะหรอก ไม่ต้องห่วง”

เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว เขาไม่ได้กลัวเรื่องดื่มเยอะหรือไม่เยอะ แต่เขาไม่ค่อยสนับสนุนเรื่องการคุยธุรกิจกับไอ้หมอนี่เท่าไร แต่จะให้พูดอะไรได้ เขาก็แค่เด็กที่มีกฎระหว่างกันควบคุมอยู่ อะไรที่เป็นเรื่องส่วนตัว นั่นถือว่าเกินหน้าที่ของเขาแล้ว

“ไปนั่งรอก่อนแล้วกันนะ เสร็จธุระเมื่อไรจะปล่อยตัวพี่กุนต์ไปให้” ไผทยกยิ้ม

อินทัชได้แต่มองเขม็ง สบตากับคนที่ลอบยักคิ้วให้เขาแบบยียวน

.

.

.



ห้าทุ่ม..ไผทขับรถมาส่งกนธีกับเด็กอีกคนถึงคอนโด เขายืนยันไม่ให้คุณกุนต์ขับรถกลับมาเองคนเดียวเพราะอีกฝ่ายดื่มไปหลายแก้ว สำหรับคนคออ่อน การดื่มค็อกเทลมันแย่ตรงที่ว่ารสชาติอร่อยและไม่รู้สึกเหมือนกำลังดื่มแอลกอฮอล์เท่ากับเหล้าเพียวๆ กว่าจะรู้ตัวว่าไม่ค่อยไหวก็ตอนที่มึนไปแล้ว
   
“พาคุณกุนต์ขึ้นไปคนเดียวไหวหรือเปล่า” เขาถามคนด้านหลัง
   
อินทัชเปิดประตูรถฝั่งที่นั่งข้างคนขับ เขาประคองตัวพี่กุนต์ลงมาและดึงแขนเจ้าตัวมาพาดบ่า พูดเสียงเรียบกับอีกฝ่ายโดยไม่คิดจะยกมือไหว้เพราะรู้ดีว่าไหว้ไป หมอนี่ก็ไม่ได้สนใจอยู่แล้ว “ขอบคุณที่มาส่งครับ”
   
“พรุ่งนี้ค่อยไปเอารถคุณกุนต์กลับมาก็แล้วกัน จอดไว้ที่ร้านของพี่นั่นแหละ” ไผทบอก “แล้วเราน่ะ..อายุขนาดนี้แล้วก็หัดไปขับรถซะบ้างนะ เวลาคับขันขึ้นมาจะได้พึ่งพาได้บ้าง”
   
เด็กหนุ่มขบฟันแน่น มันไม่ใช่ความผิดของเขาที่ขับรถไม่เป็น ตั้งแต่เกิดมา เขาไม่ได้มีฐานะดีพอจะหารถเก๋งมาขับได้ และเขาก็ไม่เคยไปรับจ้างขับรถให้ใครที่ไหน ถึงจะต้องหัดเอาไว้ล่วงหน้า
   
แต่เขาก็เถียงไม่ออกที่ครั้งนี้ต้องพึ่งพาคนอื่นจริงๆ
   
อินทัชปิดประตูรถ เขาพาพี่กุนต์เข้าคอนโดโดยไม่สนใจด้วยซ้ำว่าคุณไผทจะขับออกไปตอนไหน แต่ก็ยังรับรู้ได้ว่าไอ้ลุงนั่นยังมองอยู่กระทั่งเขาเข้าไปถึงล็อบบี้
   
“โอ๊ต..” กนธีลูบหน้าตัวเอง “ขอโทษที..พี่เพลินไปหน่อย”
   
“คราวหน้าอย่าทำอะไรเกินตัวอีกนะครับ” เขาตำหนิอย่างตรงไปตรงมา “คืนนี้เราไม่ได้กลับบ้านใหญ่นะ ผมโทรไปบอกอ้นกับอุ้มแล้วว่าให้ไปนอนกับยาย”
   
“ขอโทษนะ”
   
อินทัชถอนหายใจ เขาพยุงตัวอีกฝ่ายมาใกล้กัน “ผมไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”
   
“ก็ว่าอยู่เมื่อกี๊”
   
กนธีหลับตานิ่ง รู้สึกเหมือนพื้นอ่อนยวบ “อยากนอนแล้ว..”
   
“ยังนอนไม่ได้ครับ ให้ถึงห้องก่อน” เขายืนรอลิฟท์ แต่กว่าจะได้ขึ้น พี่กุนต์ก็แทบจะยืนหลับคากำแพง
   
ร่างสูงส่ายหัว ตัดสินใจตวัดร่างกนธีขึ้นอุ้ม ถึงแม้จะเป็นผู้ชายเหมือนๆกัน ความสูงก็ไม่ได้ห่างกันมาก แต่เขาก็รับน้ำหนักพี่กุนต์ได้ไม่ยากนัก
   
“อื้อ..” กนธีปรือตามอง “ทำอะไร”
   
“อุ้มครับ” เขาพึมพำ มองคนแก่ขี้เมาอย่างนึกขัน
   
“หนักไหม”
   
“อายุสี่สิบ กระดูกพรุนไปแล้วล่ะมั้ง ผมเลยไม่หนักเท่าไร”
   
กนธีหัวเราะร่วน ตาปรือปรอยอีกครั้ง 
   
ตอนมาถึงห้อง พอเปิดประตูเข้ามาได้ พี่กุนต์ก็ดูเหมือนจะผล็อยหลับไปแล้ว อินทัชอุ้มคนอายุมากกว่ามาที่ห้อง ค่อยๆวางตัวลงบนเตียงแล้วผละไปเอาผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นมาเช็ดหน้าเช็ดตาให้
   
“ไม่เอา..” กนธีหันหนี “หนาว..จะนอนแล้ว”
   
“อย่าดื้อครับ” เขาเช็ดไล่มาที่คอ เจ้าตัวก็ทำคอย่นเหมือนจะหดหนี “ผู้ใหญ่เกเร”
   
มือกร้านไล่เนื้อผ้าลงมา ติดตรงเสื้อเชิ้ต เขาเลยผละมาปลดกระดุมออกทีละเม็ด พอแหวกสาบเสื้อออก แผ่นอกขาวก็เด่นชัดอยู่กลางแสงสลัวจากโคมไฟ
   
อินทัชนั่งนิ่ง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พี่กุนต์เมา แต่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นลึกเข้ามาถึงผิวเนื้อใต้ร่มผ้า อันที่จริง ถ้าเป็นก่อนหน้า เขาคงจะไม่ได้คิดอะไร แต่เพราะตอนนี้ สถานะของเขากับอีกฝ่ายมันเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม และในอนาคต..ไม่รู้ว่าวันไหน เขาก็จะต้องมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับอีกฝ่าย เขาเลยอดหยุดชะงักไม่ได้
   
ใบหน้าได้รูปเอียงซบหมอน ปอยผมสีดำตกระอยู่บนหน้าผาก ดวงตาคู่นั้นปิดสนิท เรียวปากสีเรื่อเผยอหายใจเล็กน้อย เห็นไรฟันขาวสะอาดเรียงเป็นระเบียบ
   
เขานั่งมองกนธีอย่างเลื่อนลอย 

พี่กุนต์เป็นคนที่ใครๆก็อยากเข้าหา ไม่ว่าจะด้วยหน้าตา นิสัย หรือสิ่งดึงดูดภายนอก คืนนี้ เขาคิดว่ามองสายตาของคุณไผทออก คนที่ตัดสินเขาด้วยอคติแต่แรก ถ้าไม่ใช่เพราะว่าไม่ชอบหน้ากัน ก็คงเพราะเห็นว่าเขาขัดขวางอะไรอยู่

ช่วยไม่ได้..ที่พี่กุนต์เลือกเขา

คนที่ใครๆก็นึกอยากได้คนนี้..ตัดสินใจเลือกเขา ให้เขาได้เข้ามาอยู่ใกล้ชิดกว่าใคร

อินทัชจ้องมองอยู่อย่างนั้น ในอกคับแน่นไปด้วยความรู้สึกวูบไหวก่อนที่อะไรบางอย่างจะดลใจให้ก้มลงอย่างเผลอตัว
   
กลิ่นหอมอ่อนๆตรงซอกคอนั้นทำให้เขาหลับตานิ่ง พยายามนึกทวนว่าได้กลิ่นนี้ที่ไหน ดูเหมือนว่าจะเป็นครีมโทฟุตัวเก่า เมื่อไล่ปลายจมูกขึ้นมาแถวริมฝีปาก เขาก็รับรู้ได้ถึงกลิ่นหวานของค็อกเทลผลไม้ที่พี่กุนต์ดื่ม
   
อินทัชเคยลักลอบหอมแก้มปาลินตอนเพื่อนสนิทหลับ แต่ไม่เคยล่วงล้ำเกินกว่านั้น เขาคิดว่าตนเองไม่กล้า ขลาดเขลาเกินกว่าจะก้าวข้ามคำว่าเพื่อนรัก
   
แต่กับพี่กุนต์..สถานะของเขากับอีกฝ่ายชัดเจนอยู่ก่อนแล้ว
   
ปากร้อนผ่าวโน้มลงใกล้กว่าเดิม ดวงตาคมกล้าเหลือบมองคนที่หลับสนิท ความอยากรู้อยากเห็นในตัวบวกรวมกับจินตนาการของวัยหนุ่มเป็นตัวเร่งเร้า ความคิดของเขาพรึงเพริดไปไกลเพียงแค่นึกถึงฉากรักที่จะเกิดขึ้นในสักวันหนึ่ง
   
..มันจะให้ความรู้สึกอย่างไรนะ..กับการมีเซ็กซ์ครั้งแรก..
   
อินทัชรับรู้ได้ว่าหัวใจเต้นแรงขึ้น เมื่อหลับตาลง..แล้วกดปากลงสัมผัสกับปากอุ่นๆเบื้องหน้า
   
..เพียงแค่นั้น เขาก็มีปฏิกิริยากับพี่กุนต์เสียแล้ว..
   
ความเชื่อและความคาดหวังที่อยากจะมีอะไรกับคนที่ตนรักถูกสั่นคลอน ในความเป็นจริง ผู้ชายคนหนึ่งสามารถมีอารมณ์และมีความสัมพันธ์ทางกายกับใครก็ได้ หากว่าอีกฝ่ายเป็นที่พึงพอใจ
   
แต่ความผูกพันที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้น เป็นเรื่องของความรู้สึกล้วนๆ
   
เขาเองก็อยากรู้เหมือนกัน หลังจาก ‘ร่วมรัก’ กับพี่กุนต์ ความรู้สึกของพวกเขาจะเปลี่ยนไปจากเดิมมากน้อยแค่ไหน
   
ร่างสูงหายใจติดขัดตอนที่วางฝ่ามือลงบนแผ่นอกตึงแน่น เขาเผลอไล้ปลายนิ้วไปตามแรงยุยงในหัว

ดวงตาสีเข้มหลุบต่ำ จับจ้องยอดอกสีเรื่อที่ดุนผ่านเนื้อผ้าที่ปิดบังผิวเผิน มือใหญ่สอดเข้าไป ค่อยๆกอบกุมและเคล้นคลึงแผ่วเบา ใช้ปลายนิ้วโลมไล้อย่างเผลอตัว 
   
“อืม..” กนธีคราง ขมวดคิ้วมุ่น “รัณย์อย่าซน..พี่จะนอน”

อินทัชชะงัก
   
..ศรัณย์?..
   
เผลอมองเงาสะท้อนเลือนรางของตนหน้าทีวี

..เขา..คล้ายคลึงกับคุณศรัณย์..

เด็กหนุ่มนิ่งเงียบ สติที่พลั้งไปเหมือนถูกกระชากกลับมา สุดท้ายก็ได้แต่ซบหน้าลงกับหมอนใบเดียวกัน ทอดถอนใจอยู่ตามลำพังในห้องกว้าง พี่กุนต์ขยับตัวเล็กน้อย เพราะเขาทาบแขนทับเอาไว้
   
อินทัชปรับลมหายใจให้เป็นปกติ ลุกขึ้นมาติดกระดุมเสื้อคนบนเตียงให้เรียบร้อยแล้วเข้าไปอาบน้ำ ใช้น้ำเย็นราดรดให้ตัวเองหายฟุ้งซ่านถึงจะกลับเข้ามาในห้อง
   
เขามองคนที่พลิกตัวนอนตะแคง จากนั้นก็ก้าวขึ้นเตียง สอดตัวลงใต้ผ้านวมก่อนดึงร่างพี่กุนต์เข้ามา ใบหน้าคมเข้มซบลงบนไหล่ลาดก่อนหลับไปด้วยกัน


   

.....................................................................................





 :hao6: ใครกดหัวใจ หื่นนะเราา 55555+


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-08-2016 01:57:06 โดย nigiri-sushi »

ออฟไลน์ ╰Äρρłәßәѓѓÿ╮

  • There can be miracles When you believe
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
    • Twitter
Re: Sins : Greed -- [Ch.22] pg.41 -- 26/8/59
«ตอบ #1221 เมื่อ26-08-2016 01:57:48 »

กรี๋ดดดดดด พี่กุนต์ไม่น่าเลยยยยยย เกือบได้ใช้ถุงยางแล้วเชียว  :katai4:
ขนาดว่ามาแค่สั้นๆยังไม่ Full NC ยังขนาดนี้  :impress2: เราเชื่อใจในฝีมือของพี่ข้าวปั้น อิอิ :oo1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-08-2016 02:17:15 โดย ╰Äρρłәßәѓѓÿ╮ »

ออฟไลน์ sincere13

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.22] pg.41 -- 26/8/59
«ตอบ #1222 เมื่อ26-08-2016 02:20:44 »

คุณไผทททททเผดจศึกเลยค่าาาาา  :katai4: อย่าไปยอมม กำจัดนังเสี้ยนหนามให้ได้

ออฟไลน์ G-NaF

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.22] pg.41 -- 26/8/59
«ตอบ #1223 เมื่อ26-08-2016 02:34:39 »

อะโห่พี่กุนนนนนนนนนนนนนต์อุตส่าห์ลุ้นเยี่ยวแทบเหนียว
หมดกันๆ ไอ้ที่ลุ้นมา อะโห่ๆๆๆๆๆจะได้อยู่แล้วอะ จิ๊
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:

ให้ไผ่มาเป็นหุ้นส่วนคุณผไทแทนเลยพี่กุนต์
จะได้มีเวลาจู๋จี้กับให้โอ๊ตป้อได้มากขึ้น 55555555
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-08-2016 02:38:27 โดย G-NaF »

ออฟไลน์ Fujoshi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.22] pg.41 -- 26/8/59
«ตอบ #1224 เมื่อ26-08-2016 02:38:17 »

ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ ฮืออออ
สงสารโอ๊ต  :katai1: :ling1:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: Sins : Greed -- [Ch.22] pg.41 -- 26/8/59
«ตอบ #1225 เมื่อ26-08-2016 02:59:50 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: Sins : Greed -- [Ch.22] pg.41 -- 26/8/59
«ตอบ #1226 เมื่อ26-08-2016 03:02:37 »

555ดีใจ พี่กุนต์เป็นของฉนย่โอ๊ต หล่อนยังไม่ได้แอ้มหรอก

ออฟไลน์ lukYRKM

  • Yesung ♥ Ryeowook | Kyuhyun ♥ Sungmin | FOREVER!
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.22] pg.41 -- 26/8/59
«ตอบ #1227 เมื่อ26-08-2016 03:30:34 »

พี่กุนตตตตตตต์  :ling1: :ling1: :ling1: เกือบแล้วเชียว  :mew5:

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
Re: Sins : Greed -- [Ch.22] pg.41 -- 26/8/59
«ตอบ #1228 เมื่อ26-08-2016 03:31:39 »

สยิวนิดๆ

เอาจริงๆพี่กุนต์กับโอ๊ตนี้เป็นเรื่องที่เกินเอื้อมมากเลยนะ

เด็ก19กับผู้ชายอายุ40 

ไม่แปลกที่พี่กุนต์จะหวั่นไหว  แต่โอ๊ตทำพี่กุนต์เจ็บแน่ๆ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.22] pg.41 -- 26/8/59
«ตอบ #1229 เมื่อ26-08-2016 03:36:47 »

กุนต์ๆๆๆๆๆๆ พลาดแรงค่ะ ไม่น่าเลย

โอ๊ตกำลังจะเข้าหา ได้ยินแบบนี้น้องยิ่งถอยหรือเปล่า
อย่าถอยเลยนะ โอ๊ตอย่านอยด์ด้วย

ช่วงสวีทกัน เค้าน่ารักเนาะ กุนต์มองออก ออกตัวป่องโอ๊ตขนาดนี้ ยกนิ้วให้เลยค่ะ

ไทคะ อยู่ห่างๆนะ อย่าล้ำเส้น

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด