Chapter 34
กนธีขับรถถึงอลีนตา รีสอร์ทในปราณบุรีตอนใกล้เที่ยง ที่นี่ตั้งติดกับชายทะเลโดยไม่มีถนนเลียบหาดกั้น ที่พักที่เขาจองเอาไว้คือชบาวิลล่า เป็นบ้านหลังสีขาวสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนชั้นเดียว พื้นที่ตรงนี้แยกเป็นสัดส่วนไม่ปนกับแขกคนอื่น
ตอนแรกเด็กๆอยากได้ห้องที่ติดกับสระว่ายน้ำ แต่ดูแล้วถ้าจะต้องนอนรวมกัน ถึงเขาจะสะดวกแต่คุณยายก็คงไม่สะดวกเท่าไร อีกอย่างถึงจะจองแยกห้องชั้นบนกับชั้นล่างได้ก็คงดูแลทุกคนได้ไม่ดีนัก คนสูงอายุอยู่กับเด็กตามลำพัง เขานอนหลับไม่สนิทหรอก กลัวคุณยายหลับแล้วอ้นกับอุ้มเปิดประตูออกไปเล่นซน พุ่งลงสระแบบนี้ยิ่งอันตรายหนักกว่าเก่า
“เย้~ ทะเล” สองแสบลงจากรถได้ก็ตั้งท่าจะถลาไปที่หาด
กนธีหัวเราะในลำคอ เขาประคองคุณยายเข้าบ้าน งวดนี้มาเที่ยวกันตามลำพัง ไม่ได้ชวนคนอื่นมาด้วย ส่วนพยาบาลประจำตัว เขาให้ลาหยุดได้อาทิตย์หนึ่ง เรื่องดูแลคุณยาย เขากับโอ๊ตจะช่วยกันเอง
“หยุดเลยไอ้สองตัวนั้น” อินทัชเรียก “มาขนของตัวเองไปเก็บก่อน”
อ้นดึงตัวน้องอุ้มกลับมาตามคำสั่ง เด็กๆมีเป้คนละใบ อันนี้พี่กุนต์ซื้อให้ ของอ้นสีน้ำเงิน ของอุ้มสีเขียว ใช้ใส่เสื้อผ้า สัมภาระจุกจิกกับของเล่นอันโปรด
“เป็ดเหลืองใครวะ หอบมาทำไมก็ไม่รู้” อินทัชส่ายหัว แพเป็ดถูกปล่อยลมจนฟีบแล้วพับใส่ท้ายรถมาด้วย ขืนเอาลงทะเลสิ จะได้พัดไอ้อุ้มออกอ่าวไทย
“ขี้บ่นเป็นตาแก่เลยพี่โอ๊ต” กนธีหันมาแซว “พี่แก่กว่ายังไม่บ่นเลยเนอะน้องอุ้ม” ประโยคหลังเขาหันมาหาทีมช่วยซึ่งเด็กน้อยก็รีบพยักหน้ารัว
คุณยายหัวเราะ ค่อยๆเดินเข้าบ้าน สีหน้าแกดูสดชื่นเพราะเป็นครั้งแรกที่ได้มาทะเลเหมือนกัน หากไม่มีตาหนูของแกพามาก็คงจะไม่ได้เห็นแน่
“ตื่นเต้นจัง” แกยิ้มเห็นเหงือก “ถอดรองเท้าตรงไหนจ๊ะ”
“ตรงนี้ก็ได้ครับ ผมทำให้”
“พี่! ผมเอง” อินทัชรีบเข้ามาช่วยแต่ไม่ทันเสียแล้ว
กนธีก้มลงนั่งยองๆแล้วจับรองเท้าแตะคีบของแกถอดออกวางไว้หน้าประตูทางเข้าอย่างไม่ถือตัว คุณยายดูเกร็งๆที่เจ้านายของหลานถอดรองเท้าให้ แกได้แต่ยักแย่ยักยัน จะก้มจะเงยก็ดูติดขัดไปเสียหมดตามประสาคนแก่
“จอดไว้ตรงนี้ไม่น่าหาย” กนธีลุกยืน ยิ้มให้อีกฝ่าย “เข้าบ้านกันครับ..” เขาหันมามองคนด้านหลัง “พี่โอ๊ต เดี๋ยวพี่มาช่วย เอาของลงแล้วฝากล็อครถที”
อินทัชมองพี่กุนต์ที่ประคองยายเขาเข้าบ้านไป เด็กหนุ่มได้แต่ยิ้มบาง
“ใครรักผม ก็ต้องรักครอบครัวผมด้วย”..ไม่มีข้อสงสัยใดๆกับผู้ชายคนนี้..
กนธีประคองให้คุณยายนั่งตรงส่วนรับแขก แกหันมองไปรอบด้าน ร้องโอ้โหพอกับเด็กๆ ยิ่งได้เห็นทะเลอยู่แค่เอื้อมยิ่งดูตื่นเต้นกันใหญ่
“อ้นอุ้มดูแลคุณยายก่อนนะ พี่จะไปช่วยตาแก่ขี้บ่นขนของ” เขาบอก “เลือกห้องหรือยังครับ พี่ให้พวกหนูเลือกก่อนเลย เอาห้องติดทะเลไหม”
บ้านหลังนี้มีสองห้องนอน ห้องหนึ่งเห็นทะเล ส่วนอีกห้องอยู่ด้านใน กนธีได้เที่ยวบ่อยเลยสละให้น้องๆได้เห็นวิวชายหาดกันตลอดสามวันสองคืนนี้
“อยู่สักสี่คืนไม่ได้หรือครับพี่กุนต์” อ้นงุบงิบถาม “จะได้แลกห้องกันคนละสองคืน เดี๋ยวพี่กุนต์กับพี่โอ๊ตไม่ได้นอนมองทะเลนะ”
กนธีหัวเราะชอบใจ อินทัชที่ตามเข้ามาเลยเขกหัวน้อง
“ให้มันน้อยๆหน่อย มาจ่ายค่าที่พักเองไหม ได้แค่นี้ก็โชคดีแล้ว”
“พี่ไม่มีปัญหานะ” เขายิ้ม “ถ้ามีห้องว่าง และถ้าพี่โอ๊ตไม่รีบกลับไปทำงาน ลาหยุดกับเจ้านายได้ พี่ก็อยู่ต่อได้”
เด็กๆหันมองพี่ชายตาเป็นประกาย แต่พี่โอ๊ตส่ายหัวเลยได้แต่ร้องโอดด้วยความผิดหวังกันไป พี่กุนต์เลยก้มลงสัญญาว่าหลังจากนี้จะพาเที่ยวอีก
“งั้นคืนนี้พี่กุนต์นอนดูทะเลก่อน คืนที่สองอ้นค่อยขอมานอนนะครับ”
“ไม่เป็นไรครับ” กนธีกลั้นขำ “พี่ยกให้พวกหนูทั้งสองคืนเลย”
เก็บของเสร็จ พวกเขาสั่งอาหารให้มาส่งในบ้าน กินไปดูวิวทะเลไป พูดคุยเรื่องไร้สาระ เท่านี้ชีวิตก็มีความสุขมากแล้ว
หลังมื้อเที่ยง กนธีให้น้องๆรอแดดร่มกว่านี้ ไม่อย่างนั้นจะป่วยเอา ส่วนเขากับโอ๊ตช่วยกันใส่น้ำยาล้างไตให้คุณยาย นั่งเล่นคุยเล่น อ่านหนังสือให้ฟังจนบ่ายสาม อ้นกับอุ้มก็วิ่งออกมาด้วยกางเกงในตัวเดียว ท่าทางพร้อมรบกันเต็มที่
“เดี๋ยวก่อนครับ” กนธีกวักมือยิกๆ “มาเลย เรียงคนนั่งตรงนี้”
อ้นหันหลังให้พี่กุนต์ที่พกครีมกันแดดบานาน่าโบ๊ทมาด้วย เด็กชายจั๊กจี้จนต้องห่อไหล่ ทำคอยึกยักให้พี่โอ๊ตเขกกะโหลกด้วยความหมั่นไส้ไปหนหนึ่ง
“ยายจ๋ายาย ไปที่สนามกัน” ทาครีมเสร็จ อ้นกระตือรือร้นเข้ามาจูงยาย
“ช้าหน่อยๆไอ้หนู” ยายหัวเราะร่า ที่จริงแกเองก็อยากไปเต็มแก่แล้ว ถึงจะเล่นน้ำไม่ได้ แต่นั่งมองก็ยังดี ไว้รอเด็กๆมาจะลองเอาเท้าจุ่มทะเลดู
“ระวังพายายล้มนะไอ้ดื้อ” อินทัชปราม “เดี๋ยวพี่ตามไป”
กนธีมองยิ้มๆ เขานั่งขัดสมาธิ เรียกน้องอุ้มเข้ามาอีกคน
“ยื่นแขนมาเด็กดี พอกให้เหมือนทาน้ำมันหมูเลย เตรียมลงกระทะได้!”
น้องอุ้มหัวเราะคิกคัก พี่กุนต์เอาครีมกันแดดอีกหลอดทาหน้าให้ด้วย
“เดี๋ยวดำแล้วจะหมดหล่อ ให้พี่โอ๊ตดำคนเดียวดีกว่า”
“ผมผิวแทนครับ ไม่ได้ผิวดำ” อินทัชแก้ต่าง
“พี่โอ๊ตเขากลัวไม่หล่อน่ะ” กนธีกระซิบ น้องอุ้มยิ้มให้ ฉีกยิ้มกว้างแบบนั้นเขาเลยเห็นว่าช่องฟันหลอของน้องมีฟันแท้ขึ้นแล้ว “โอ้! รั้วใหม่!”
“อ้าว..ฟันขึ้นแล้วหรือ” อินทัชเข้ามานั่งยองๆ จับปากไอ้อุ้มให้หันมา
“อีกซี่ข้างในก็โยกด้วยฮะ” เด็กชายเอานิ้วเขี่ย “แต่หนูไม่กล้าดึง”
“อืม..สมัยเด็กๆ แม่พี่เอาด้ายผูกให้แล้วโยงกับประตูแหละ พอพ่อเปิดประตูก็ดึงฟันน้ำนมพี่หลุดตามไปด้วยเลย” กนธีกอดอก เล่าเรื่องด้วยท่าขึงขัง
อินทัชหัวเราะเพราะไอ้อุ้มทำตาโต คงกลัวพี่กุนต์เอาฟันไปผูกกับลูกบิด
“พี่แหย่เล่น” เขาลูบหัวน้อง “เดี๋ยวมันก็คงหลุดเองครับ แต่ถ้าอยากเอาออก พี่จะพาไปหาลุงหมอที่คลินิกหน้าปากซอยบ้านนะ”
น้องอุ้มพยักหน้าหงึกหงัก ได้ยินเสียงพี่อ้นเรียกเลยวิ่งไปหา
“โอ๊ตไปดูน้องเถอะ พี่อยู่กับคุณยายเอง” เขาเปลี่ยนชุดเป็นเสื้อยืดกับกางเกงเลขาสั้น สาละวนผูกเอววุ่นวายจนอินทัชต้องเข้ามาช่วย
“หันมาครับ” เด็กหนุ่มจับตัวอีกฝ่ายให้หันมาทางเขาแล้วก้มลงผูกเชือกให้ “ทำแบบนั้นเดี๋ยวก็หลุด เดินเปลือยให้คนอื่นมองหรอก”
“แต่ผูกเงื่อนตายมันก็เยอะไปนะเว้ย” แบบนี้จะแกะยังไงวะ
อินทัชขำ ถอดเสื้อที่ใส่เหลือแต่ท่อนบนเปลือยเปล่า ท่อนล่างเขาสวมกางเกงขาสั้นอยู่แล้ว วิ่งลงทะเลได้เลย “เก็บค่ามองนะครับ..เอามาสองพัน”
กนธียังไม่ได้มองเลยแค่ชำเลืองด้วยหางตาเอง “ไอ้งก! ล่มจมกันพอดี”
ร่างสูงใหญ่หัวเราะ อาศัยที่ว่ายายอยู่ตรงเก้าอี้ชายหาดที่สนามหญ้าหน้าบ้าน ส่วนน้องๆก็ลงไปเล่นที่หาดกันแล้ว เขาเลยดึงตัวพี่กุนต์เข้ามากอด
“ปล่อยๆ เดี๋ยวคุณยายเจอจะเป็นเรื่อง” เขาถีบแข้งมัน “แค่นอนห้องเดียวกันก็แปลกแล้ว ให้นอนกับคุณยาย เอาอ้นกับอุ้มมาอยู่กับพี่แทนก็งอแง”
“ผมชอบเวลาพี่บอกว่าผมงอแง..ไม่ใช่งี่เง่า” อินทัชหัวเราะ กดจูบลงข้างแก้ม “ไม่ทำอะไรหรอกครับ” ทำตอนนี้เวลาไม่พอหรอก อดไว้กลางดึกดีกว่า “แค่จะบอกว่า..ขอบคุณมากๆนะครับที่ดูแลพวกเราดีขนาดนี้..ขอบคุณครับพี่”
กนธียิ้มบาง ตบบ่ากว้างด้วยความเอ็นดูตามประสา
“ผมไม่รู้จะตอบแทนพี่ยังไงจริงๆกับเรื่องที่พี่ทำให้ครอบครัวของผม”
“ไม่เห็นต้องตอบแทนอะไรนี่ เป็นเด็กดีก็พอ” เขาแกะแขนเจ้าโอ๊ต “เออ หรือว่าจะขอของตอบแทนเป็นคืนนี้ไม่ทำ ‘ไอ้นั่น’ ได้ไหม..อยากนอนเฉยๆน่ะ”
“เรื่องนี้ให้ไม่ได้ครับ” อินทัชยิ้ม “สงสารผมเถอะ”
กนธีเลยหมดคำพูด ก็เขามันคนขี้สงสารนี่นา..
ช่วงบ่ายสาม แดดไม่ค่อยแรงนัก ทะเลปราณบุรีเงียบสงบ คลื่นน้อยจนราบเรียบ จากตรงนี้เห็นชายหาดทอดยาวออกไป เบื้องหน้าคือท้องน้ำมุมกว้าง มองได้ไกลจนสุดเส้นขอบฟ้า อีกไม่นานพระอาทิตย์ก็จะตก
แขกของทางรีสอร์ทน้อยมาก อาจจะเพราะเลือกมาวันธรรมดาและไม่ใช่ช่วงเทศกาล ดังนั้นทั้งหาดเลยแทบจะเป็นของพวกเขากลุ่มเดียว
อ้นได้มือถือใหม่จากพี่กุนต์ ถ่ายภาพออกมาได้สวยเช้ง เด็กชายเลยเอาออกมาใช้ที่นี่เป็นงานแรก ไล่ถ่ายมันตั้งแต่เม็ดทรายยันต้นไม้ใบหญ้าตามรายทาง พอเก็บได้ครบแล้วก็เริ่มถ่ายภาพทะเลและน้องอุ้มที่วิ่งโทงๆบนหาด
จังหวะหนึ่ง พี่กุนต์เดินเข้ามาในเฟรมและอ้นก็กดชัตเตอร์พอดี พี่กุนต์กำลังยืนมองทะเลด้วยรอยยิ้ม ลมพัดมาแผ่วเบาทำให้เส้นผมพันกันยุ่ง ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ทำให้ความดูดีของพี่ชายคนนี้ลดลงเลย
อ้นกดถ่ายไม่ยั้ง เสียงแชะๆๆดังรัว อุตส่าห์ได้นายแบบหล่อๆทั้งที
“เฮ้ย..ทำอะไรน่ะ” อินทัชเขกหัวน้อง พอมองไปข้างหน้าก็เห็นโฟกัสภาพของมัน “โอ้โห..เดี๋ยวนี้ริแอบถ่ายผู้ใหญ่หรือไอ้แสบ”
กนธีกำลังก้มเก็บรองเท้าแตะตอนที่น้องอ้นกดถ่ายอีกครั้ง พอได้ยินเสียงพี่โอ๊ตแกล้งน้อง เขาก็เดินมาสมทบ “ไหน..ใครแอบถ่ายใคร”
อ้นหน้าแดงก่ำ ไม่อยากให้พี่กุนต์ดูภาพ เด็กชายไม่ได้ถ่ายรูปเก่งหรอก แค่เห็นอะไรเข้ามาในมุมภาพก็กดแล้ว ดีแต่ว่ามือนิ่ง ภาพเลยไม่เบลอ
“โห! ใครเนี่ย ถ่ายออกมาโคตรหล่อ!” กนธียอตัวเอง น้องจะได้ไม่อาย
“พี่กุนต์อ่า..อ้นเขิน” อ้นบิดซ้ายบิดขวา ท่ามากจนถูกพี่ผลักหัวอีกรอบ
“ช่างภาพคนนี้เก่งจัง” ชายหนุ่มหัวเราะเอ็นดู “เอาอีกได้ไหม ขอให้พี่ได้เก๊กบ้าง เล่นทีเผลอมันออกมาตลกไปนะ” ว่าแล้วก็ถอยห่างออกไปตั้งหลัก
อินทัชได้แต่ส่ายหัว มองไอ้อ้นที่เอาจริงเอาจังกับพี่กุนต์ที่เป็นไปกับเด็ก
“เอาล่ะ..ระยะได้แล้วนะ” กนธียืนตัวตรงจากนั้นก็ชูนิ้วโป้งขึ้นมา
อ้นกดถ่ายแชะ เสร็จหนึ่งภาพ พี่กุนต์ก็เปลี่ยนท่าด้วยการยืนแบบเดิม เพียงแต่ชูนิ้วขึ้นมาสองนิ้ว ตามด้วยสามนิ้ว สี่นิ้ว และห้านิ้วเป็นลำดับไป
“กินยานี่ได้เขย่าขวดกันหรือเปล่าครับ” อินทัชเหนื่อยใจเหลือเกิน
กนธีหัวเราะลั่น เขายักไหล่ไม่แคร์ “คนหล่อ แอ๊คท่าไหนก็หล่อเว้ย”
“ใช่ๆ พี่กุนต์ทำท่าไหนก็หล่อ แต่พี่โอ๊ตเนี่ย เก๊กให้ตายก็..เหวอ~” อ้นวิ่งพรวดพราดเพราะพี่โอ๊ตพุ่งเข้าใส่ ลงท้ายเลยวิ่งไล่จับกันไปตลอดแนวหาด
กนธีกลั้นขำ เดินกลับเข้ามาคุยกับคุณยาย แกนั่งตากลมเล่นอยู่ที่ม้านั่งหวาย พอเห็นเขาก็ยิ้มให้ “ร้อนไหมครับ ถ้าร้อนบอกผมนะ”
“เย็นสบายเลยจ้ะ” แกบอก “ไปเดินเล่นเถอะลูก ยายอยู่คนเดียวได้”
“ไม่เป็นไรครับ ผมมาเที่ยวบ่อย คุยกับคุณยายดีกว่า” เขาสั่งเครื่องดื่ม ขนมกับผลไม้มากินหน้าบ้าน รอไม่นานเด็กของทางรีสอร์ทก็ยกมาให้
กนธีเอาส้อมเขี่ยเม็ดแตงโมให้แก เขาจิ้มชิ้นนั้นขึ้นส่องกับแดด เห็นว่าไม่เหลือเมล็ดแล้วก็ตัดให้พอดีคำใส่จานยกมาวางไว้ข้างหน้า
“พรุ่งนี้ก็ทานกันตรงนี้นะครับ ผมจะไปปลุกคุณยายเร็วหน่อย จะได้ดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วยกัน” เขาหั่นชมพู่ให้อีกจาน
“ได้จ้า ถ้าตื่นไม่ไหวจะบอกนะ” แกยิ้มเห็นเหงือกเหมือนน้องอุ้ม
อ้นที่วิ่งหนีพี่โอ๊ตจนเหนื่อยถลาเข้ามาหลบด้านหลังพี่กุนต์ เจ้าหนูหอบแฮ่กพอๆกับพี่โอ๊ต ส่วนน้องอุ้มนั่งก่อปราสาททรายอยู่หน้าหาด ไม่ได้วิ่งกับเขา
“พี่กุนต์ช่วยอ้นด้วย” ตัวแสบร้อง “พี่โอ๊ตจะโยนอ้นลงน้ำ”
“อ้าว! ใส่ร้ายกันซึ่งหน้า”
กนธีหัวเราะ ยื่นน้ำพั้นช์ในแก้วแล้วส่งให้น้องอ้นก่อนพี่โอ๊ตด้วยความลำเอียง “พักก่อนครับ ค่อยๆหายใจเดี๋ยวสำลัก” ว่าแล้วก็เช็ดเหงื่อให้น้อง
อินทัชเบะปาก หยิบแก้วมะพร้าวปั่นของพี่กุนต์ขึ้นมาดูดจากหลอดเดียวกัน กินทีหายไปครึ่งแก้วจนเจ้าของโวยวาย เขาก็ได้แต่ยืนขำ
“สั่งให้ใหม่ก็ได้ งกจังพี่เนี่ย” ได้ที เขาก็ดึงหูพี่กุนต์ไปที
ยายนั่งมองภาพตรงหน้า แปลกใจกับความสนิทสนมที่เกิดขึ้น
“พี่กุนต์ไปเล่นทรายกัน” อ้นชวน พลังเหลือเต็มเปี่ยม
“อ้นเล่นกับพี่โอ๊ตได้ไหมครับ พี่นั่งเป็นเพื่อนคุณยายดีกว่า”
“ไม่เป็นไรตาหนู” แกยิ้ม “ตามสบายเถอะ ยายนั่งรับลมตรงนี้แหละ”
“ได้เลยครับ” กนธีพยักหน้ารับแล้วลุกตามแรงดึงของน้องอ้นลงไปที่หาด น้องอุ้มที่กำลังก่อปราสาททรายฉีกยิ้มกว้าง ชวนเขาสร้างอุโมงค์ลอด
“ยายจะเอาอะไรก็เรียกผมนะ” อินทัชบอกก่อนตามไปสมทบกับทุกคน
ไอ้อ้นกับไอ้อุ้มเปลี่ยนจากการสร้างปราสาทเป็นการฝังพี่กุนต์ลงทราย เด็กๆช่วยกันขุดหลุมแล้วให้ผู้ใหญ่นอนโผล่มาแค่คอ จากนั้นก็เริ่มกลบทับ
“เฮ้ยๆ เล่นอะไรกัน” อินทัชเข้ามาห้าม
“อย่ากวนสิ พี่กำลังออกไข่” กนธีบอก
เด็กหนุ่มถอนหายใจพลางนั่งลงด้านข้าง ไอ้สองแสบหัวเราะครึกครื้นตอนที่ช่วยกันดันทรายมาทับตัวพี่กุนต์ที่นอนหงายนิ่งๆ
“พี่เล่นเป็นเต่าขึ้นมาวางไข่” เขาอมยิ้ม “พอกลบมิดก็จะเริ่มเบ่งแล้ว”
“เต่าเบ่งไข่นี่เป็นยังไงหรือครับ” เขาเท้าคางมอง
“ก็จะต้องร้อง..อึ้ดด อึ้ดดด”
อินทัชหลุดหัวเราะ เอื้อมมือไปเกลี่ยทรายที่เปรอะบนแนวแก้มให้อย่างเบามือ “ไอ้สองตัวนี้อย่าแกล้งพี่กุนต์มาก ลุงแก่แล้ว สงสารลุงหน่อย”
“ประโยคนั้นควรพูดกับใครบางคนที่งอแงอยากจะ ‘ทำ’ มากกว่านะ”
น้องอุ้มหูผึ่ง “ทำอะไรฮะ”
“ทำเป็นแมงกะพรุนครับ” กนธีหัวเราะเบาๆ “ว่าแต่..เริ่มหนักแล้วสิเนี่ย” เขากระดิกเท้าที่ถูกฝังไปมา ทรายแตกออก น้องอ้นเลยโปะทับใหม่ “โอ๊ะ..จั๊กจี้”
“อืม..ฝังแล้วก็ทิ้งไว้แบบนี้เลย เดี๋ยวดึกๆมาปล่อยนะครับ” อินทัชชวนน้องสองคนให้ไปเล่นน้ำ “รอเต่าออกไข่เสร็จเมื่อไรค่อยมา”
“เดี๋ยว~” กนธีโวยวาย โดนกลบแบบนี้เขาขยับไม่ได้จริงๆนะ
ใครอีกคนสนใจเสียที่ไหน บอกเจ้าอุ้มให้คว้าห่วงยางติดมือมาแล้วชวนน้องลงน้ำกันทั้งอย่างนั้น ปล่อยลุงเต่าขยับออกจากทรายเองด้วยความลำบาก
“ไอ้โอ๊ต~ ฮึ่ม!” กนธีดิ้นขลุกขลัก ที่จริงทรายแห้งก็ไม่เท่าไรหรอก แต่น้องอุ้มเอาน้ำมารดให้แน่นด้วยเนี่ยสิ “ออกไปได้นะ จะเตะให้ดิ้น!”
[ต่อด้านล่าง]