❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ [END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ [END]  (อ่าน 425948 ครั้ง)

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
สนับสนุนให้ยิมโดนพี่ปายกด :L2:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
รักไปได้ยังไงว่ะยัยนัตตี้อะไรเนี่ย นิสัยแม่งโคตรน่ารำคาญเลย

ออฟไลน์ EverGreen™

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-1
#ทีมโอ๊คเนม ได้มั้ย  :laugh:

ออฟไลน์ neverland

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
#ทีมปายยิม #ทีมโอ๊ตเนม
ชะนีแหนดตี้ได้อยู่คนเดียวแน่นอลลล
ยิมสมควรโดนกดอย่างยิ่ง 5555555555
ทำไมเรานึกถึงภาพเคะหมาน้อย(?)ล่ะ  :laugh:

ออฟไลน์ sangzaja122

  • บึนปากให้ทุกๆอย่าง
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
กรี้ดดดดทันออนแอร์ :ling1: :ling1:
#ทีมปายยิม #ทีมยิมปาย
เอาทั้ง2ค่ะแบบไหนก็ดรั้ย  :hao7: :hao7: แอบเบนไปทาง #ปายยิม นิดๆ  :-[

ออฟไลน์ nekochan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
คืออ่านเรื่องนี้แล้วมันใช่อะ แนวแบบจับไม่ถูกว่าใครจะเมะใครจะเคะให้ 555555 สนุกสนานกันละทีนี่ แต่้เห็นแววว่ายิมจะเคะ รึยังไงไม่แน่ใจ55555 ตอนนี้ก็ขอเชียร์น้องยิมเคะก่อนนะคะ อาจมีเปลี่ยนแปลงเมื่ออ่านตอนต่อไป
ฉะนั้นแล้ว มาต่อไวๆนะคะ เป็นกำลังใจให้อยู่นะจ๊ะ  :mew1::mew1:

ออฟไลน์ [Karnsaii]

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +523/-17




หลงที่ 3 : หมอปาย








         “จิ๊”

        ผมได้ยินเสียงดังอยู่ในลำคอตอนที่เปิดประตูห้องออกมาพอดีกับที่เพื่อนข้างห้องโผล่ออกมา ฝ่ายนั้นชักสีหน้าทันทีที่เห็นผม


         “ ซวยแต่เช้า”

         ฝ่ายนั้นพึมพำกับตัวเองแต่ผมบังเอิญหูดี จะว่าหูดีก็ไม่เชิงเพราะเหมือนว่าเขาจะจงใจให้ผมได้ยินด้วย ผมยิ้มขำก่อนจะคว้าถุงรองเท้าสตั๊ดติดมือออกมาจากห้องเพราะเย็นนี้มีแข่งฟุตบอลกระชับมิตรก่อนการแข่งกีฬาเฟรชชี่จริงๆ ผมเดินตามเพื่อนห้องข้างๆซึ่งเดินนำไปกดลิฟต์แล้วอย่างใช้ความคิดก่อนจะฮัมเพลงในลำคอ



***ลิ้นกับฟัน พบกันทีไรก็เรื่องใหญ่
น้ำกับไฟ ถ้าไกลกันได้ก็ดี
หมากับแมว มาเจอะกัน สู้กันทุกที
ต่างไม่เคยมีวิธี จะพูดจา***


เพลงคู่กัด : ศิลปิน เบิร์ด ธงไชย



        มันเหลือบตามองผมนิ่งแต่แววตาดูไม่สบอารมณ์

         “ หยุดร้องซะทีกูรำคาญ”

         “.....”

         ผมนิ่งไปก่อนจะยักไหล่แล้วเริ่มร้องต่อ

         “ พ่อมึงเป็นนกรึไงสัตว์”

         “.......”

         เราสบตากันนิ่ง

         “ เปล่าครับ” ผมถอนหายใจ “ คุณอยากรู้จักพ่อผมเหรอ”


         ผมตอบกลับหน้าตายนึกโมโหไม่น้อยที่คนตรงหน้าลามปามถึงบุพการีถึงจะรู้ว่ามันคงไม่ได้ตั้งใจแต่พูดจาไม่คิดแบบนี้ทำเอาเกิดอารมณ์เคืองไม่น้อย สงสัยว่าผมกับเขาคงพูดจากันดีๆไม่ได้หรอก

          “ ใครอยากรู้”

          ผมยืนมองมันนิ่งๆจนเหมือนว่าฝ่ายนั้นจะรู้ตัว

          “ ผมว่าคุณมีความผิดปกติทางอารมณ์” ผมวิจารณ์นิ่งๆ “ เป็นอะไรมากรึเปล่าครับถึงได้ทำหน้าทำตาโกรธคนมาทั้งโลกแบบนี้”

          “.......” มันอ้าปากค้างแววตาเริ่มดุดัน

          “ มันจะเป็นอะไรนักหนากับการพูดจากับคนอื่นให้มันดีๆ ทำไมชอบใช้อารมณ์ คุณเก็บกดรึไง”

           “ มึง”

           “ ทำไมครับ..” ผมยิ้มยียวน “ผมพูดแทงใจดำคุณรึไง”

           “ หุบปากมึงซะถ้ายังอยากแดกข้าวได้ปกติ”

           “ ถ้าไม่ล่ะ”


         ผมเอียงหน้าหลบเมื่อสัมผัสได้ถึงความรวดเร็วของหมัดที่เฉียดสันจมูกไปเพียงนิดเดียว

          “ โอ้ย”

         ผมเอี้ยวตัวหลบก่อนจะเบี่ยงตัวหันกลับไปล็อคคออีกฝ่าย มันโมโหสะบัดตัวแรงๆจนผมรู้สึกเจ็บแต่ไม่ยอมปล่อย ผมล็อคคอยืนซ้อนหลังคนขี้โมโหก่อนจะดันใบหน้าของมันให้ส่องกับกระจกในลิฟต์


         “ ไหนลองยิ้มสิ”

         มือข้างนึงล็อคคอส่วนอีกข้างผมบีบปากแล้วแยกริมฝีปากที่เม้มแน่นให้คลี่ออก มันสถบดังสั่นก่อนจะสะบัดตัวแรงๆอีกครั้ง ผมเลยเพิ่มแรงบีบปากมันจนคล้ายกับว่ามันกำลังแสยะยิ้ม

         “ ไอ้สัตว์”

         “ ก็ยิ้มได้นี่หน่า” แววตาผมที่สะท้อนจากกระจกบ่งบอกว่าคงแค้นผมน่าดู “ เห็นมั้ยว่ามันไม่ยาก เพราะรอยยิ้มนี่แหละที่เป็นวิธีแรกๆในการสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่น”

         “ ปล่อยกู”

         ใบหน้าฝ่ายนั้นแดงก่ำเนื้อตัวมันชุ่มไปด้วยเหงื่อแต่ยังพยายามขัดขืนเต็มกำลัง

         “ วันนี้ผมสอนให้คุณรู้จักยิ้ม” ผมกระซิบข้างหูมันอีกฝ่ายหันมาจ้องผมอย่างอาฆาต “ วันหน้าผมจะสอนให้คุณแทนตัวเองที่เพราะกว่านี้”

         “ เสือก”

         “......”

         ผมส่ายหน้าไปมาอย่างเมื่อยล้าเพราะการล็อคมันอยู่อย่างนี้ทำเอาหมดแรงไปเหมือนกันในเมื่อเราตัวเกือบจะเท่าๆกัน

         “ ปล่อย”

         “ ถ้าปล่อยแล้วคุณเกิดเอาคืนผมล่ะ”

         “ กูทำแน่” น้ำเสียงมันดุดันมาก

         “ ครับ”


         ผมแกล้งกระตุกมือมันทั้งสองข้างไขว้ไว้ด้านหลัง สีหน้าฝ่ายนั้นดูเจ็บไม่น้อยจนผมนึกตกใจก่อนจะค่อยๆปล่อยมือออก มันเซถอยหลังกุมข้อมือตัวแน่นขณะที่ผมกำลังจะก้าวเข้าไปดูอาการ ทุกอย่างเหมือนเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเพราะผมรู้สึกถึงแรงถีบที่สะโพกแบบเต็มเหนี่ยวจนเซถลาออกจากตัวลิฟต์


         “ โทษทีพอดีตีนกระตุก”

         นั่นเป็นเสียงสุดท้ายที่ผมได้ยินก่อนประตูลิฟต์ที่มีฝ่ายนั้นอยู่ด้านในจะปิดลง

         ผมยืนอึ้งไปพักนึงก่อนจะรู้สึกเจ็บบริเวณสะโพกที่ไอ้หมอนั่นฝากรอยเท้าเอาไว้เต็มๆ ตีนนักไม่ใช่เล่นจริงบวกกับอารมณ์โกรธด้วยผมถึงได้รู้สึกว่าตัวเองเอวเคล็ดแบบนี้ ผมค่อยๆเดินโขยกเขยกไปกดลิฟต์อีกรอบด้วยความเจ็บใจที่ถูกเอาถีบเต็มแรงแบบนี้

        “ ตีนหนักชิบหาย”

         ผมบ่นพึมพำไปจนถึงชั้นล่างพอดีว่าเพื่อนสนิทซึ่งผมขออาศัยติดรถมันไปมหาวิทยาลัยผุดลุกขึ้นทันทีเห็นว่าผมลงมาแล้ว ผมมองไปรอบๆเพื่อหาต้นเหตุของอาการบาดเจ็บก็ไร้วี่แววสงสัยว่าโดดหนีไปไกลแล้ว

        “ ทำไมเดินแปลกๆวะ”

        เนมมันถามอย่างสงสัย

        “ โดนถีบ”

        “ หา” มันทำหน้าตกใจรีบกระวีกระวาดมาดูอาการผม

        “ ไม่เป็นไรกูโอเค แค่รู้สึกยอกเฉยๆ”

        “ แล้วทำไมถึงเป็นแบบนี้วะ”

        “ กูไปสอนคนยิ้มมา”

        “ หา”

        “ ก็นั่นแหละ” ผมยักไหล่

        คราวนี้มันยิ่งงงหนักกว่าเก่าก่อนจะโบกมือไปมาราวกับว่ากำลังฟังเรื่องไร้สาระ “ โอ้ยพอ ถ้าไม่เป็นอะไรมากก็ไปเหอะ กูรีบ”

         “ ครับไอ้คุณเนม”

          เพราะไม่มีรถส่วนตัวเลยวันนี้เพื่อนสนิทจึงถ่อสังขารมารับถึงคอนโดแต่เช้าตรู่ ตอนแรกกะว่าจะใช้บริการขนส่งสาธารณะอย่างบีทีเอสแต่ด้วยความเป็นห่วงเพื่อนเนมมันเลยอาสามารับ แต่มันบอกว่าคงจะแค่อาทิตย์เดียวหลังจากนี้ผมคงต้องหาทางไปเอง ผมกะว่าพออยู่ตัวสักระยะน่าจะซื้อรถส่วนตัวใช้เพราะมันสะดวกกับการเดินทางไปนอกสถานที่อย่างบ้านสวนของคุณยายที่อยู่แถบปริมณฑล


        “ มึง”

        “ หืม” ผมหันไปรับคำมัน

        “ กูขอแวะที่คณะก่อนนะเอาของไปให้รุ่นพี่ก่อน เดี๋ยวค่อยไปส่งมึงต่อ”

        “ เอาสิ”

         คณะที่ว่านี่คือคณะของเนมมันครับ เห็นมันดูเรื่อยๆหงิมๆแบบนี้หัวสมองมันระดับเทพนะไม่งั้นคงไม่สามารถสอบติดคณะแพทย์ฯจนได้กลายเป็นนิสิตแพทย์น้องใหม่ป้ายแดง และเพราะสอบได้นี่แหละป๊าม๊ามันดีใจใหญ่ถึงขนาดออกรถให้ไว้ใช้มาเรียนมันเลยทำให้ผมเองก็พลอยได้อานิสงค์ไปด้วย

         “ กินข้าวคณะกูก่อนป่าว”

         “ อืม”

         เมื่อมันรถจอดสนิทแล้วผมจึงลงเดินตามมันไปภายในอาคารโรงอาหารของคณะแพทยศาสตร์ ตอนเช้าภายในโรงอาหารเต็มไปด้วยบุคลากรทางการแพทย์และบรรดานิสิตแพทย์จับจองที่นั่งกันเต็ม


        “ สั่งข้าวรอก่อนนะ เดี๋ยวเอาของไปให้พี่รหัสแป๊บ”

        “ เออ มึงเอาเหมือนเดิมป่ะ”

         “ อ่าหะ”


         เหมือนเดิมที่ว่าอาหารสิ้นคิดอย่างกระเพราไก่ไข่ดาวของโปรดเนมมัน มันหันมายิ้มให้ผมซะกว้างก่อนจะหอบถุงอะไรไม่รู้ในมือวิ่งดุ๊กๆไปตึกข้างๆนั่นทันที ผมส่ายหัวกับท่าทางไม่โตของมันนี่ขนาดเข้ามหาลัยแล้วยังทำตัวเด็กไม่เปลี่ยนแปลง คิดแล้วก็นึกสงสารคนไข้ในอนาคตของมันล่วงหน้า

         ระหว่างนั่งรออาหารที่สั่งไปผมก็เดินออกไปทำธุระส่วนตัวค่าเวลา แต่มันต้องผ่านโถงใต้ตึกอะไรสักอย่างซึ่งบริเวณนั้นเต็มไปด้วยบอร์ดให้ความรู้ตั้งเป็นซุ้มอยู่มากมาย และมีนิสิตแพทย์บางส่วนนั่งประจำแต่ละฐานบางส่วนก็เดินกันขวักไขว่ไปมาเหมือนว่ามีงานนิทรรศการให้ความรู้อะไรสักอย่าง ผมเลยลองเดินดูไปรอบๆและขณะที่หยุดสนใจอยู่ซุ้มนึงผมก็รู้สึกได้ว่ามีคนสองคนหยุดยืนอยู่เบื้องหลังผม


        “ ปายกินข้าวมารึยัง”

        “ ยังเลยว่ะ”

        “ หิวป่ะ เดี๋ยวกูไปหาไรให้กิน”

        “ ไม่เป็นไรเดี๋ยวรอกินพร้อมหยกก็ได้”

        “ จะไหวเหรอหยกมันเพิ่งออกจากบ้านเองนะ”

        “ ไหว” ปลายเสียงกลั้วหัวเราะ “กูไหวแค่นี้เอง”

        “ แน่นะ”

        “ เออดิ”


          ผมเงี่ยหัวฟังบทสนทนานั้นอย่างตั้งใจคงเป็นเพราะชื่อ ‘ปาย’ ที่หลุดออกจากปากหนึ่งในนั้น ชื่อที่ได้จากปากน้องสาวมาสองครั้งแล้ว

         อะไรจะบังเอิญขนาดนั้นอย่างกะว่าจะเป็นคนๆเดียวกัน

         ขณะที่ผมเอี้ยวตัวมองไปยังนิสิตแพทย์สองคนที่ยืนคุยกันอยู่ผมเห็นแต่เบื้องหลังทั้งคู่ที่ใส่เสื้อกาวน์แบบยาวแต่แขนสั้น


        “ เออกูมีบิสกิตติดมามึงกินรองท้องก่อนมั้ย”

        “ ไม่เป็นไรอั้ม” ฝ่ายที่ถูกคะยั้นคะยอโบกมือปฏิเสธ “ กูไม่เป็นไร เมื่อเช้ากินนมรองท้องมาแล้ว เก็บไว้เหอะบิสกิตอันนี้หยกมันชอบกิน”


        “ แต่ว่า”

        “ อั้ม”

        “ เฮ้ย”

         ท่าทางว่าคนชื่อ ‘อั้ม’ นี่ดูจะห่วงใยฝ่ายนั้นเป็นพิเศษเห็นได้จากใบหน้าคมคามขาวผ่องภายใต้แว่นกรอบหนาดูเป็นกังวลและใส่ใจคนที่ยืนข้างๆกันขนาดนี้ ดูจากสายตาก็รู้แล้วว่ามันเกินกว่าเพื่อนกันขนาดไหนเสียแต่ว่าไอ้สองคนนี่มันดันเป็นผู้ชายทั้งคู่นี่สิ


 
         “ ปายแม่งก็อย่างงี้ทุกที”

         “ ....”

         “ มึงเป็นโรคกระเพาะนะโว้ย กินข้าวให้ตรงเวลาซะบ้าง”

         “ ขี้บ่นวะ”

         “ เชี่ยหัวกู”


         ทั้งคู่หยอกล้อกันกันไปมามือของคนชื่ออั้มนั่นขยี้หัวอีกฝ่ายไม่เบานักจนฝ่ายนั้นหลบไปด่าไป จังหวะที่คนถูกกระทำหันเสี้ยวหน้ามาทางนี้ถึงกับทำให้ผมยืนตะลึง จะไม่ให้ตกใจยังไงไหวเมื่อเจ้าของชื่อปายคือคนๆเดียวกันไอ้เจ้าของห้องข้างกัน ที่สำคัญท่าทางตอนมันอยู่กับเพื่อนชายดูจะร่าเริงผิดลุคอันแสนฮาร์ดคอร์ที่มักแสดงออกให้ผมเห็น และผิดไปจากตอนที่ผู้หญิงมาหามันถึงคอนโด


          หรือ...ไอ้หมอนี่จะเป็นประเภทรักร่วมเพศ

          ‘ เป็นเกย์’ งั้นเหรอ

          ถึงว่ามันถึงดูผลักไสไล่ส่งผู้หญิงนักที่แท้มันเป็นประเภทชอบมองข้างหลังกันอย่างนี้นี่เอง ผมกระตุกยิ้มมุมปากลอบสังเกตตัวอักษรสีเขียวที่ปักชื่อบริเวณอกด้านขวา


          ...นศ.พ. ปารมี  วงษ์วรกาญจน์...


          เรียนหมอจริงๆด้วย ชัดเลย หึ ไอ้แสบน้องรักกะว่าพบชายในฝันที่ไหนได้ชายที่ว่าแม่งแดกกันเอง ผมกดยิ้มมุมปากอย่างขบขันไม่ใช่รู้สึกรังเกียจหรือเวทนาอะไรกันหรอก เพราะตอนที่เรียนไฮสคูลอยู่ต่างประเภทผมมีเพื่อนที่เป็นแบบนี้ค่อนข้างเยอะเลยไม่ได้รู้สึกตระหนกตกใจอะไร


          แต่ที่รู้สึกอยากจะขำเพราะท่าทางที่ไอ้หมอนี่ อืมสมควรเรียกหมอนี่จริงๆเพราะมันเรียนหมอ นั่นล่ะท่าทางมันที่แสดงออกว่าดิบๆเถื่อนๆที่แท้ต้องการปกปิดตัวตนที่แท้จริงของตัวเองว่ามันรักชอบผู้ชาย

          ...โธ่เอ้ยถ้าแสดงออกมาตรงๆใครมันจะไปว่าอะไรวะ ในเมื่อเป็นตัวของตัวเอง คิดแล้วก็ได้แต่นึกปลงนึกสงสารผู้หญิงคนนั้นนี่หล่อนจะรู้มั้ยว่าการเทียวไปอ่อยไอ้หมอนี่มันไม่ได้ผลหรอกในเมื่อนั่นไม่ใช่แบบที่มันชอบ

         “ พี่หมอปาย”

         “ พี่หมอปายคะ”

          ไอ้หมอนั่นหันไปมองหน้าเพื่อนมันก่อนจะเดินไปตามเสียงร้องเรียก

         “ มีอะไรเหรอ”

         “ คือ พวกหนูมีเรื่องให้พี่ช่วยค่ะ” สาวๆกลุ่มนั้นน่าจะเป็นนิสิตชั้นปีหนึ่งสังเกตจากกระโปรงพรีทที่ใส่ทั้งยังรองเท้าขาวนั่นอีก ผมยืนพิงเสาเงี่ยหูฟังบทสนทนาของทั้งหมดอย่างสนใจ

         “ อะไร”

         “ คือ”

         “ พวกน้องมีปัญหาอะไรกันรึเปล่า” คนที่ชื่ออั้มถามสาวๆพวกนั้น

         “ คืองี้นะคะ” สาวนางหนึ่งน่าจะเป็นหัวหน้ากลุ่มเอ่ยขึ้น “ คืออีกไม่กี่นาทีจะมีสาธิตวิธีการใช้ถุงยางที่ถูกวิธีที่ซุ้มค่ะ แล้วทีนี้เพื่อนผู้ชายเรายังไม่มาสักคน แล้วคือพวกเรา...” ทางอึกอักของสาวๆพร้อมกับใบหน้าแดงก่ำก็พอจะตีความหมายจากท่าทางนั้นไม่ยากคาดว่าพวกเธอคงจะอายที่จะสาธิตแน่ๆ


         “ พวกเราเลยจะขอให้พี่ช่วยเหลือ เอ่อ”

         “ ให้พวกพี่ช่วยสาธิต”

         ไอ้หมอนั่นพูดต่อให้ สาวๆพยักหน้าดีใจเมื่อรุ่นพี่ตรงหน้าพยักหน้ารับรู้ก่อนจะเดินเข้าไปในซุ้มเป็นการตีความหมายว่าสองคนนั่นกำลังตกลงใจช่วยสาวๆกลุ่มนั้นแน่นอน


         ผมเพิ่งสังเกตว่าตอนนี้บรรยากาศโดยรอบไม่ใช่มีแค่นิสิตแพทย์เท่านั้นแต่มันยังคึกคักไปด้วยบรรดาเด็กมัธยมในเครื่องแบบโรงเรียนต่างๆพาเดินกันให้ขวักไขว่ซ้ำประชาชนทั่วไปยังเดินปะปนอยู่โดยรอบเยอะพอสมควร ผมขมวดคิ้วมองไปรอบๆด้วยความแปลกใจก่อนจะถึงบางอ้อที่เงยหน้าขึ้นไปบนเวทีกลางที่มีป้ายประชาสัมพันธ์งานกิจกรรมแนะแนวของคณะแพทยศาสตร์

         มิน่าคนถึงเยอะขนาดนี้

         เมื่อนิสิตแพทย์ในชุดกาวน์ทั้งสองเดินไปประจำซุ้มดังกล่าวผู้คนที่เดินดูตามบอร์ดตามซุ้มอื่นก็ต่างมุ่งหน้าไปสนใจกิจกรรมที่กำลังใจเกิดขึ้นทันที แต่ผมยังยืนนิ่งพิงเสาที่ใหญ่พอจะกำบังกายตัวเองจากการสังเกตของคนโดยรอบถึงอย่างนั้นก็พอจะจับใจความและเสียงพูดคุยของคนเบื้องหน้าได้


         “ นั่นพี่หมอปายนี่”

         “ ไหนๆ”

         “ ที่ใส่กาวน์ยืนอยู่ข้างพี่หมอคนนั้นอ่ะ”

         “ จริงด้วย”

         “ โชคดีจังได้เจอตัวเป็นๆด้วย”

         “ นั่นสิ ไปขอพี่เค้าถ่ายรูปกัน”


        สองสาวในชุดนิสิตที่กำลังชี้ชวนดูภาพที่ผมกำลังให้ความสนใจ ท่าทางมันจะเป็นที่รู้จักของสาวๆพอสมควรเพราะตั้งแต่ได้ยินชื่อมันรู้สึกว่าผู้หญิงจะนิยมชมชอบเป็นพิเศษรวมถึงน้องสาวของผมด้วย ทำท่าทำทางอย่างกับมาดูสิ่งมหัศจรรย์ทั้งๆที่มันก็มีตา มีจมูก มีปากเหมือนกันมนุษย์โดยทั่วไป

         อ่อมีดีที่หนังหน้านิดหน่อยเท่านั้นเอง


         ผมลอบสังเกตอีกฝ่ายเงียบๆเอาจริงๆถ้าเจอกันข้างนอกโดยที่มันไม่ได้ใส่เสื้อกาวน์คงจะนึกว่าท่าทางแบบนี้น่าจะเรียนพวกช่าง หรือไม่ก็เรียนวิศวะฯเป็นแน่ เพราะบุคลิกภายนอกดูกวนๆมันใส่เสื้อนิสิตแขนยาวสีขาวแต่พับแขนเสื้อขึ้นถึงศอกถึงแม้ชายเสื้อจะอยู่ในกางเกงซึ่งเป็นกางเกงแสล็คขาเดฟสีดำสนิท ใบหน้าเรียบเฉยไม่ค่อยจะยิ้มสักเท่าไหร่ ทั้งติ่งหูทั้งสองข้างก็เจาะใส่ตุ้มหูอันเล็กสีดำ เรียกได้ว่ามีภาพลักษณ์ที่ค่อยข้างอันตรายสำหรับผู้ที่พบเห็น

         แต่แปลกพอสวมเสื้อกาวน์ทับไปมันดับกลบภาพเหล่านั้นเหลือเพียงว่าคุณหมอหนุ่มอนาคตไกลราวกับมีแสงบางอย่างส่องสว่างไปทั่ว การกระทำทุกอย่างตอนหยิบจับอุปกรณ์สาธิตดูอ่อนโยน สายตาที่จดจ้องอยู่กับภารกิจตรงหน้าดูมุ่งมั่นอย่างประหลาด

         และในเสี้ยววินาทีนั้นผมเห็นมันหันไปยิ้มมุมปากให้เพื่อนมัน ยิ้มที่ไม่ใช่การแสยะยิ้มเวลาเจอกันหน้าผม ยิ้มที่แสดงออกว่านี่คงจะเป็นตัวตนที่แท้จริงของมัน



        “ กรี๊ด”

       สองสองเจ้าเดิมแอบปิดปากทำเสียงในลำคอ

        “ คนอะไรยิ้มทีใจฉันแทบจะละลาย”

        “ โอ้ย ใจสั่นไปหมด”

        “ คนอะไรทั้งน่ารักและหล่อในเวลาเดียวกัน”

        “ ใช่ยิ้มโครตน่ารักเลย”


        ...‘ยิ้มน่ารัก’ งั้นเหรอ...

         หึ คงจะจริงมั้งถ้ามันตั้งใจจะยิ้มให้ใครสักคนอะนะ


         เรียกได้ว่าวันนี้ผมคงโชคดีอย่างประหลาดที่เห็นคนซึ่งชอบทำหน้าบึ้งตึงยิ้มออกมาง่ายๆแบบนี้ ผมส่ายหน้าขำก่อนจะคิ้วกระตุกเมื่อมองภาพการสาธิตเบื้องหน้า

        นั่นอะไร


         อุปกรณ์สาธิตที่อยู่ในมือไอ้หมอปายทำให้ผมหลุดขำออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ ตรงกันข้ามกับเสียงสาวๆที่สูดปากทำหน้าเขินอายแต่ใจยังสู้เขยิบเข้าไปใกล้ขึ้นทั้งยังถือโทรศัพท์ตั้งถ่ายวีดีโอซะด้วย

        เออเนอะเห็นแบบนี้แล้วดันนึกถึงเจ้าแสบแทบจะทันที


         ผมมองกล้วยในมือมันซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้แทนจุดยุทธศาสตร์ของผู้ชาย แอบได้ยินเสียงหัวเราะโดยรอบแต่นิสิตแพทย์ทั้งสองก็ยังทำหน้านิ่งเฉยราวกับไม่ได้ยิน เสียงอธิบายประกอบการบรรยายสลับกันไปมาอย่างมีจังหวะจะโคนระหว่างว่าที่หมอทั้งสองที่กำลังทำการสาธิตไปด้วย ถุงยางอนามัยซึ่งหยิบออกมาจากซองที่ฉีกพร้อมใช้งาน มือคู่นั้นบรรจงบีบจุกถุงยางเพื่อไล่อากาศภายในก่อนจะใช้มืออีกข้างรูดห่วงลงมาอย่างช้าๆให้แนบชิดไปกันอุปกรณ์สาธิต


        สิ้นสุดการทดลองก็มีคำอธิบายเพิ่มเติมพักนึงแล้วหมอนั่นก็เอ่ยปากให้ผู้ที่สนใจรอบข้างได้สอบถามข้อสงสัย ระหว่างนั้นแหละผมถึงได้เดินไปหยุดอยู่แถวหลังสุดแต่เพราะเป็นคนตัวสูงเลยมองเห็นภาพตรงหน้าได้ไม่ยาก

        ตอนที่ก้าวเดินนี่แหละถึงได้รู้สึกเจ็บๆตรงสะโพกที่ถูกถีบยิ่งเห็นตัวต้นเหตุอยู่เบื้องหน้าด้วยแล้วยิ่งรู้สึกนึกเจ็บใจไม่น้อย “ ผมมีคำถามครับ”


        “.......”

        หืม

        ใครยกมือถามวะ

        เสียงจ้อกแจ้กจอแจเบื้องหน้าพลันเงียบลงทุกสายตาหันมามองผมอย่างสนใจ


        อ้าวนี่ผมยกมือถามงั้นเหรอชิบหายแล้ว ผมเกาหัวงงๆจนผู้คนโดยรอบแอบขำ ต่างจากผู้นำการสาธิตทั้งสองด้วยโดยเฉพาะเพื่อนข้างห้องของผมที่ทำหน้าขมวดคิ้วอย่างคาดไม่ถึงว่าจะมาเจอกันที่นี่ แต่มันก็ยังมีสติที่จะปั้นหน้านิ่งก่อนจะพยักหน้ารับเมื่อเห็นว่ามีคนเอ่ยถาม


        “ ครับ”

        “ เอ่อ หมอคิดว่าสาธิตครั้งเดียวมันจำได้เหรอครับ”

        ไหนๆก็ไหนๆแล้วเอาคืนเรื่องเมื่อเช้าซะหน่อยละกัน


         ผมยิ้มมุมปากตอนที่ไอ้หมอปายหน้าตึงขึ้นมาทันที ส่วนเพื่อนมันนิ่วหน้าคล้ายๆกับว่าไม่พอใจต่างกับผู้คนโดยรอบที่ดันหัวเราะร่วนราวกับเห็นว่าเป็นเรื่องตลกขบขัน

         “ ผมเป็นแค่นิสิตแพทย์ ยังไม่ได้เป็นหมอ” ไอ้หมอนั่นกัดฟันแย้งเสียงเข้มสีหน้าแววตาดูโมโหผมไม่น้อย

         “ ครับคุณว่าที่หมอ”

         “.......”

         มันทำหน้านิ่งจ้องหน้าผม
 
         “ คุณมีปัญหาเรื่องความจำ ? ”

         “ ครับ” ผมยืดอกรับท่าทางกวนตีนไม่น้อย

         “ คุณ”

         “ ไม่เป็นไรอั้ม”


         มันกุมแขนเพื่อนหมอที่แสดงออกว่าไม่ค่อยพอใจผมเท่าไหร่ หมอปายเดินแหวกคนเหล่านั้นมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม มันสบตาผมนิ่งท่าทางยังเรียบเฉยไม่เปลี่ยนแปลง

         “ นี่จะต่อยผมรึเปล่าเนี่ย”

         “ ต้องการอะไร”

         “ ผมมันคนความจำไม่ดี”

         “ จะบอกว่าตัวเองโง่”

         ผมหุบยิ้มหน้าตึง

         “ งั้น..” หมอปายแสยะยิ้มอีกแล้ว “ กูจะสงเคราะห์ให้”

         “ ยังไงครับ” เล่นกับไอ้หมอนี่ซะหน่อย

        “เดี๋ยวคืนนี้กูจะสาธิตให้มึงดูอีกรอบ”

         “ หืม”


         เอาแล้วไงเกย์จะเล่นกูแล้วมั้ยล่ะ ผมนิ่งคิดเลิกคิ้วอย่างนึกไม่ถึงเหมือนว่าเรื่องที่ได้ยินก่อนหน้านี้เป็นเรื่องไม่คาดฝัน มันยักไหล่กระตุกยิ้มมุมปาก


         “ มึงไม่กล้า”

         โอ้โหหยามกันขนาดนี้ใครจะไปยอม

         “ ก็เอาสิ”


         เราจ้องหน้ากันถ้าคนนอกมองมาคงจะสัมผัสได้ถึงประกายไฟอะไรสักอย่างที่สะท้อนออกมาจากดวงตาของเราทั้งคู่ เสียแต่ว่าตอนนี้ผู้คนโดยรอบดันหันไปสนใจการสาธิตรายการต่อไปที่ซุ้มซะก่อน จะมีก็แค่สายตาของเพื่อนมันซึ่งยืนมองอยู่ไม่ไกลถึงอย่างนั้นก็ไกลเกินกว่าที่จะได้ยินประโยคสนทนาของเราทั้งสองคน


        “ ยิม”

        “....”

        “ พี่หมอปาย”

        ผมเอี้ยวหน้าไปตามเสียงเรียกของเพื่อนสนิทที่มายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เนมมันทำหน้างงๆมองผมกับไอ้หมอปายสลับกันไปมา

      “ นี่รู้จักกันด้วยเหรอครับ”

      เนมหันไปถามรุ่นพี่คณะมันอย่างงงๆ

       “ เปล่าหรอก” ไอ้หมอนั่นส่ายหน้าไปมา

       “ แล้วทำไม”

       เนมขมวดคิ้วกับท่าทางระหว่างผมกับมันก่อนจะยิ้มเผล่ตรงเข้าไปควงแขนไอ้หมอปายอย่างสนิทสนม

       “ ไม่เป็นไร ไม่รู้จักกันก็ไม่เป็นไรเดี๋ยวเนมแนะนำให้รู้จักกันเอง” เนมมันพูดเองเออเองทั้งยังเอาศีรษะไปไถแถวต้นแขนฝ่ายนั้น มันน่าแปลกที่ไอ้หมอนั่นไม่ยักกะผลักออกซ้ำยังทำท่าทำทางเหมือนว่าเอ็นดูเพื่อนผมไม่น้อย

       “ พี่หมอปายนี่ยิมเพื่อนเนมเองมันเรียนนิเทศฯภาคอินเตอร์อยู่ฝั่งโน้น”

       ‘โน้น’ ของเนมมันทำปากยื่นได้อย่างน่ารักน่าชังจนคนใส่เสื้อกาวน์ยิ้มน้อยๆ แต่พอเงยหน้าขึ้นมาสบตาผมมันกลับทำหน้าบึ้งตึงเช่นเดิม


        “ ยิม” เนมสะกิดแขนผมเบาๆก่อนจะชี้มือไปที่หมอนั่น “ นี่พี่หมอปายรุ่นพี่สายรหัสกูเอง”

        “ หืม”

        “ อะไรอ่ะ” เนมทำหนางง

        “ รุ่นพี่นี่แก่กว่ากี่ปีวะ” ผมชะโงกไปกระซิบถามเพื่อนสนิทแต่แววตายังจับจ้องอยู่กับนิสิตแพทย์หน้านิ่ง

        “ พี่มึงหลายปีแล้วกัน”


        คนตอบคือไอ้หมอปายที่สวนขึ้นมาทันที เนมมันชะงักไปเล็กน้อยคงจะพอเดาอะไรได้ลางๆมันขึ้นตวัดใส่ตาเป็นเชิงถามว่าผมไปกวนใจอะไรรุ่นพี่มัน ผมกดยิ้มมุมปากก่อนจะยักไหล่แล้วเดินถอยหลังไปพิงเสาอยู่ไม่ไกลนักเพราะสายตาเนมมันบังคับให้ผมออกไปไกลๆจากตรงนี้ก่อน

        “ พี่หมอ”

        “ ครับ”

        ...ครับ...ไอ้หมอนั่นพูดครับก็เป็นด้วยผมทำหน้าประหลาดใจเรียกได้ว่าตั้งแต่เช้ามานี่มันทำให้ผมประหลาดใจหลายอย่าง

        “ เนมเอาของฝากมาให้เมื่ออาทิตย์ก่อนไปเที่ยวมา กะว่าจะเอาไปให้พร้อมกันทั้งสายเลยแต่เจอพี่หมอก่อน”

        “ ครั้งนี้จะอ้อนเอาอะไรฮึเรา”

        มันพูดยิ้มๆมือก็ลูบหัวเพื่อนผม เนมมันยิ้มเผล่เอียงหัวหลบฝ่ามือรุ่นพี่มัน “ เอาเท็คอนาโตมีกับสรีวิทยาก็พอ”

        “ โอ้ย”

        หมอปายดีดหน้าผากเนมมันเบาๆ “ ก็พอน้อยไปสิ”

        “ แหง่ะ”

        “ ขี้ขอจริงๆไอ้นี่ น้องใครก็ไม่รู้”

        “ น้องพี่หมอปาย”

        ผมยิ้มขำกับภาพการหยอกล้อของรุ่นพี่รุ่นน้องเบื้องหน้า ไอ้หมอปายมันมีมุมแบบนี้ด้วยรึไงวะ หลังจากพี่น้องร่วมคณะคุยกันสักพักไอ้หมอนั่นก็ขอตัว แต่ก่อนไปมันหันมามองผมก่อนจะเดินมาหยุดยืนตรงหน้า


      “ คืนนี้มึงเจอกูแน่”

       เป็นอันรู้กัน

       มันพูดเสร็จแล้วก่อนเดินกลับไปหาเพื่อนมันที่คอยท่าอยู่


        “ เมื่อกี้พี่หมอพูดอะไรกับยิมอ่ะ” เนมถามสีหน้าใคร่รู้

        “ เรื่องของผู้ใหญ่”

        เนมมันหน้างอ “กูอายุเท่ามึงเหอะยิม”

        ผมหัวเราะก่อนจะโยกศีรษะมันเล่น มันเลยแกล้งกลับด้วยการฟาดแขนผมแรงๆถึงอย่างนั้นผมก็หลบไปมาให้มันเจ็บใจเล่น สุดท้ายเนมมันเลยทำแก้มพองใส่ผมแล้วค้อนให้อย่างไม่จริงจังนัก

        ว่าแต่...เหมือนลืมอะไรไปอย่างนะ

        หืม ชิบหายแล้วสั่งข้าวไว้นี่หว่า ผมตาเหลือกก่อนจะวิ่งลากแขนเพื่อนตัวเล็กที่แทบจะกลิ้งตาม เนมมันโวยวายเสียงดังจนคนอื่นมองแล้วได้แต่อมยิ้ม








แอร้ย อะไรยังคืนนี้มีสาธิตกันด้วย อุ๊บปิดตาแป๊บ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :hao6:
ตอนหน้าไปเกาะขอบหน้าต่างรอพี่หมอเค้าสาธิตละกันเนอะ  :z1:

สนุกไม่สนุกยังไงเม้นท์บอกกันด้วยเนอะ #ทีมปายยิม #ทีมยิมปาย แอบมีคนชูป้ายไฟทีมโอ๊คเนมด้วยแหนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-03-2016 23:32:27 โดย [Karnsaii] »

ออฟไลน์ KraTai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :-[  สาธิตด้วยวิธีไหนค่ะพี่หมอปาย
#ทีมปายยิม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
ขอสาธิตหลายๆรอบเลยพี่หมอ
 :haun5: :haun5:

ออฟไลน์ sangzaja122

  • บึนปากให้ทุกๆอย่าง
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
จะสาธิตวิธีไหนคะพี่หมออ แอร้ยยย  :oo1: :oo1:
#ทีมปายยิม หาจุดยืนพบแล้วค่ะ  :o8:ช

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
รอพี่หมอปายมาสาธิตการใส่ถุงยางด้วยคน :z1:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ตีกันบ่อยๆเขาว่าจะลูกดกนะ(?)

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
เตรียมตัวให้พร้อมนะยิม!

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ ssipra

  • นักอ่านมืออาชีพ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
เราให้สองคนผลัดกันก็ได้ 5555

ออฟไลน์ EverGreen™

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-1
อ่านตอนนี้ทำไมรู้สึกได้ถึง#ยิมปาย ล่ะ
หมอปายดูมีความเป็นราชินียังไงไม่รู้  :hao7:

ปล.รบกวนคนเขียนดูเรื่องการใช้คะ/ค่ะ ให้ถูกต้องหน่อยนะจ๊ะ เห็นว่ายังใช้สลับกันหลายที่เลย  :กอด1:

ออฟไลน์ [Karnsaii]

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +523/-17
อ้างถึง
ปล.รบกวนคนเขียนดูเรื่องการใช้คะ/ค่ะ ให้ถูกต้องหน่อยนะจ๊ะ เห็นว่ายังใช้สลับกันหลายที่เลย  :กอด1:

***แก้ไขให้แล้วนะคะ ขอบคุณมากจ้าสำหรับคำติชม ถ้าหากว่ามีจุดไหนที่ผิดพลาดอีกบอกได้น้า ยินดีแก้ไขให้จ้า  :impress2:***

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2

ออฟไลน์ april@tbl

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
เรื่องนี้ลุ้นมาก

#ยิมปาย  ปาย เคะราชินี
#ปายยิม  ยิม   เคะที่กวน.. มาก

ลุ้นต่อไป #ยิมปาย #ปายยิม

ออฟไลน์ Screen168

  • รับสกรีนเสื้อ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
    • สกรีนเสื้อ
 :hao5: :hao6: เด็ดมากเลย

ออฟไลน์ FonJuz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สนุกมากเลยยยยยย อยากอ่านต่อมากๆเลยค่ะ
รอดูว่าจะ ยิมปาย หรือปายยิม  :o8: :impress2:
แต่เชียร์ "ยิมปาย" ง่ะ 55555  :z1:
รอคนเขียนนะคะ สู้ๆๆ  :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ [Karnsaii]

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +523/-17


              หลงที่ 4 : การสาธิต(50%)







         “ เชี่ยเอ้ยวิ่งกันหน่อยดิ”

         “ เฮ้ยพวกมึงตามองลูกด้วย”

         “ ยิงไอ้ยิมยิงสิวะ”

         “ ยิงเลย”

         “ เหี้ยยิม”



         โอ้ย


         ผมแทบอยากจะตะโกนให้สุดเสียง ร้อนก็ร้อนเพราะวิ่งกลางแดดตอนสี่โมงเย็นมันเลยทั้งร้อนทั้งเหนื่อย ไอ้โอ๊คมันส่งลูกกลมๆมาเข้าเท้าผมพอดีในจังหวะนั้นผมเลยตัดสินใจเลี้ยงหลบหลีกทีมตรงข้ามที่ล้อมหน้าล้อมหลังอยู่แล้วตัดสินใจใช้แรงทั้งหมดเลี้ยงลูกฟุตบอลไปใกล้ประตูก่อนจะซัดเต็มข้อ สุดท้ายลูกกลมๆนั่นนก็แหวกอากาศทะลุเข้าไปในประตูผ่านมือผู้รักษาประตูเข้าไปได้อย่างสวยงาม

         “ เฮ้”

        เสียงโห่ร้องดังก้องไปทั่วสนามบรรดากองเชียร์คณะนิเทศศาสตร์ที่กำลังสันทนาการอย่างเมามันถึงกับลุกขึ้นตะโกนร้องอย่างดีใจ บ้างก็กระโดดโลดเต้น บางก็กรี๊ดจนเสียงดังกระหึ่ม ส่วนผมหลังจากซัดลูกเข้าไปประตูไปไม่ทันได้มองด้วยซ้ำว่ามันเข้าไปจริงๆรึเปล่าก็ล้มตัวนอนแผ่หราบนพื้นสนามหญ้าอย่างหมดแรง


       “ ไง”

       “ .....”


       ไอ้โอ๊คที่สวมชุดกีฬาทีมเดียวกันเดินมาฉุดแขนผมให้ลุกขึ้น

       “ ร้อนชิบหาย”

       “ ไม่รู้ใครอุตริคิดมาให้แข่งบอลตอนนี้เนี่ย เชี่ยเอ้ยแดดจะเผากูอยู่แล้ว”

       “ แดกน้ำก่อน”

         มันยื่นน้ำมาให้ขวดหนึ่งหลังจากผมและมันถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามในนาทีท้ายๆแล้ว รุ่นพี่ปีสี่ซึ่งเป็นทั้งพี่เลี้ยงและคนควบคุมทีมส่งผ้าเห็นให้ ผมเช็ดหน้าเช็ดตาและลำตัวให้คลายร้อนก่อนจะเปิดขวดน้ำแล้วเทใส่ศีรษะให้มันเย็นหัวสักหน่อย

       “ ไอ้ห่ายิมเมื่อกี้ทำพวกกูใจหายใจคว่ำ” รุ่นพี่คนหนึ่งพูดขึ้น

       “ เออพวกกูนี่นั่งลุ้นกันจนเยี่ยวเหนียว มึงสองตัวก็ทำชิ่งต่อบอลกันอยู่นั่นไม่ยิงสักที”

       “ มันไม่มีจังหวะไงพี่”

         โอ๊คมันพูดขำแต่จริงๆแล้วเป็นอันรู้กันว่าพวกผมต่อบอลกันไปมาตอนครึ่งแรกจนรุ่นพี่บ่นที่พวกผมไม่ตั้งใจทำประตูสักที จนเมื่อกี้นั่นแหละที่ทำประตูตีไข่แตกทั้งยังนำคณะรัฐศาสตร์คู่แข่งไปนาทีเกือบสุดท้าย

        “ เออ ลองพวกมึงยังเล่นๆกูจะส่งให้อีส้มโอจับพวกมึงส่งประกวดเดือนมหาลัยแน่”

         รุ่นพี่คนเดิมขู่สำทับทำเอาผมกับไอ้โอ๊คแทบจะสำลักน้ำ

        “ อย่าพี่พวกผมไหว้ล่ะ”

        “ พวกมึงกลัวมันขนาดนั้น”

        “แหะๆ”


         ผมยิ้มแห้งๆเมื่อนึกถึง ‘พี่ส้มโอ’ หรือเจ๊ส้มโอของน้องๆคือผู้ชายหัวใจสาวกิริยาอาการก็ออกไปทางผู้หญิงอย่างชัดเจน พี่แกเป็นพี่ปีสามที่กำลังมองหาเด็กปีหนึ่งเพื่อไปเป็นตัวแทนประกวดเดือนมหาลัย แล้วพอดีว่าความซวยดันมาตกที่ผมกับไอ้โอ๊คที่พี่แกเทียวไล้เทียวขื่อมาตั้งแต่ตอนสอบสัมภาษณ์เข้าแล้วว่าแกสนใจอยากให้ผมกับมันไปลองคัดตัวเพื่อประกวดเดือนมหาวิทยาลัย ซึ่งผมกับมันก็ปฏิเสธไปแต่พี่แกก็ยังตามตื้อไม่เลิก ทั้งขอร้องอ้อนวอนหนักข้อขึ้นทุกที สุดท้ายผมกับมันเลยโดดไปลงชื่อแข่งฟุตบอลเฟรชชี่เพื่อแลกกับการที่พวกพี่ๆนักบอลจะคอยกันไม่ให้พี่ส้มโอมายุ่งกับพวกผม



         “ ก็น่าเห็นใจมันไม่น้อยนะ ปีนี้ปีหนึ่งคณะอื่นแม่งเด็ดๆทั้งนั้น”

         “ แล้วยังไงอ่ะพี่”

         “ ก็ช่วงสามปีให้หลังนี่คณะเราได้ตำแหน่งเดือนมหาลัยติดต่อกันมาตลอด พวกรุ่นพี่ส่วนใหญ่เค้าเลยคาดหวังว่าไอ้ตำแหน่งนี้มันจะยังเป็นของคณะเราต่อไปไง”

         “ ขนาดนั้น” ผมทำหน้าไม่อยากเชื่อ

         “ เออดิ มึงอยู่ไปเรื่อยๆก็จะรู้ว่านิเทศฯเรานี่มันหล่อสัดหมาจริงๆ”

         หล่อเฉยๆก็ได้มั้งพี่ถึงกับสัดหมาเลยเหรอ ผมส่ายหน้าขำๆ


        “ พวกมึงไม่คิดจะใจอ่อนกันบ้างรึไงวะ กูเห็นมันมาเฝ้าพวกมึงตั้งนานแล้วนะ” ว่าแล้วพี่แกก็พยักพเยิดไปยังกองเชียร์ของคณะที่มีพี่ส้มโอและบรรดาเจ๊ๆเพื่อนแกนั่งปะปนส่งเสียงเชียร์อยู่ด้วย

        ผมส่ายหน้าหวืว


         “ ไม่ดีกว่ามั้งพี่ ส่งพวกผมไปเดี๋ยวก็ได้อายเอาปีบเดินคลุมหัวกันทั้งคณะหรอก”

         “ ใช่พี่ไม่ไหวว่ะ  ผมว่าขืนให้มีโชว์ความสามารถพวกผมไม่ไปตั้งโกลด์เตะบอลกันบนเวทีเลยเรอะ”

         ไอ้โอ๊คพูดเองยังขำเองจนรุ่นพี่ต่างพากันหัวเราะร่วน

         “ ไม่ขนาดนั้นหรอกแหมไอ้พวกห่า” พี่แกส่ายมือไปมา “ แค่พวกมึงเอาหน้าหล่อๆขึ้นยืนประดับบนเวทีแค่นี้สาวๆทุ่มซื้อกุหลาบแจกมึงชิบหายล่ะ”


         ผมยังส่ายหน้าไม่เห็นด้วยเท่าไหร่นัก แต่รุ่นพี่ตรงหน้ากลับทำหน้าเหม็นเบื่อพวกผมก่อนจะไสกองอะไรสักอย่างมาตรงหน้าพวกเขา

        “ เอ้า”

        “ อะไรอ่ะพี่”

        ผมกับโอ๊คสบตากันอย่างงงงวยก่อนจะผินหน้าหันไปมองของตรงหน้าซึ่งประกอบไปด้วยไปด้วยน้ำ ขนม ของกินต่างๆทั้งยังของใช้อีกจิปาถะจำนวนมากมายพอสมควร


        “ ของแฟนคลับพวกมึงไง”

        “หา”

        “ ไม่หาล่ะ” รุ่นพี่ทำหน้ายิ้มๆ “ กูว่าอิส้มโอคงเอารูปมึงไปให้แอดมินเพจคิวท์บอยลงรูปมึงแน่ ดูสิเนี่ยคนอื่นเลยพร้อมได้อานิสงค์ด้วยเลย”

        ผมทำหน้าอึ้งกวาดสายตาไปรอบๆเห็นทุกคนในทีมรวมถึงรุ่นพี่ก็มีขนมแบบเดียวกันด้วย


         “ เออพี่”

         “ อะไรวะ”

         “ ไอ้เพจคิ้วท์บอยที่มันคืออะไรวะ ได้ยินจากน้องสาวมาหลายครั้งแล้ว”

         รุ่นพี่มองผมแปลกๆก่อนจะยิ้มกว้าง


         “ มึงไม่รู้จัก”

         “ โธ่พี่ยิมมันเพิ่งกลับมาอยู่ไทยได้ไม่นาน” ไอ้โอ๊คมันแก้ตัวแทนผม “ เล่าให้พวกผมฟังหน่อยสิผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าไอ้เพจนี้มันคืออะไร”

         “ ตามที่กูเข้าใจอะนะ มันเป็นเพจที่อัพรูปไอ้พวกหน้าพรีเมี่ยมของนิสิตแต่ละคณะ เอาไว้เป็นแรงใจให้สาวๆกับเพศทางเลือกมั้ง” พี่แกอธิบายขำ “ขนาดแฟนกูยังเซฟรูปไอ้พวกห่านั่นมาลูบมาคลำทุกวัน นางบอกกูว่ามันคือแรงใจในการเรียน”


         “ หืม”

         “ ดูนี่สิ” รุ่นพี่ผมงัดมือถือขึ้นมา “ แฟนกูมันบังคับให้กูไปกดไลค์เพจด้วยเนี่ยมึงดูสิ” พี่แกกดเข้าไปในเพจแล้วภาพล่าสุดที่อัพคือภาพของผมกับไอ้โอ๊ค


‘อยากเป็นกล้องในมือน้องยิม’

น้องยิมของแอดมิน #ปี1 #นิเทศศาสตร์ #อินเตอร์



        “ ฮ่าๆ”

        ไอ้โอ๊คถึงกับหัวเราะร่วนตอนที่มันชะโงกหน้าไปดูภาพตรงหน้าโดยรูปดังกล่าวคือภาพที่ผมเงยหน้ามองอะไรสักอย่างแต่บังเอิญว่าในมือถือกล้องถ่ายรูปไว้ตัวหนึ่ง


         “ เหอะ”

         ผมเบ้หน้าใส่มัน “ รูปมึงก็มีเหอะไอ้ห่า”



        โอ๊คมันเหลือบตามองภาพมันแล้วยักไหล่ทำเฉย ผมเลยเลื่อนหน้าจอลงมาเรื่อยๆแล้วต้องมาสะดุดตาตรงรูปใบหน้าที่คุ้นเคยยอดคนกดไลค์หลายพันทั้งๆที่ดูจากระยะเวลาแล้วลงภาพมาไม่เกินสัปดาห์ ทั้งยอดคนแชร์ภาพมันก็อยู่ราวๆพันกว่า ผมพิจารณาภาพตรงหน้าอย่างสนใจ มันเป็นภาพเพื่อนข้างห้องผมซึ่งอยู่ในชุดกาวน์ในมือถือข้างหนึ่งมีแฟ้มเคทผู้ป่วย มืออีกข้างกำปากกาเหมือนเขียนอะไรบางอย่าง ในภาพมันกำลังโน้มตัวไปพูดอะไรสักอย่างกับคนไข้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม



         ...ยิ้มเหมือนที่มันยิ้มเคยให้เพื่อนมันนั่นแหละ...

         ...เวลาที่มันยิ้มให้คนไข้ดูโครตอ่อนโยน...



         ภาพนั้นเหมือนถ่ายในระยะไกลราวกับว่าแอบถ่ายยังไงยังงั้นเพราะเจ้าตัวเหมือนกำลังเผลอๆไม่ได้จับจ้องสิ่งใดนอกจากคนไข้ตรงหน้า ผมเลื่อนไปอ่านสเตตัสใต้ภาพนั้นอย่างสนใจ


‘อยากป่วยค่ะพี่หมอปาย’

#หมอปาย #ปี4 #แพทยศาสตร์ #หมอหล่อบอกต่อด้วย


        หึ ท่าทางมันจะเป็นขวัญใจของสมาชิกที่กดไลค์เพจนี้น่าดู ด้วยความใคร่รู้ผมเลยกดเข้าไปอ่านคอมเม้นท์ใต้ภาพที่ยาวเหยียดเกือบร้อยข้อความ


       ‘ แอร้ย ยอมแล้วทูลหัวอยากมีผัวเรียนหมอ’

       ‘ ได้สักครั้งจะตั้งใจเรียน’

       ‘ อยู่ๆก็อยากป่วยค่ะหมอขา  #หมอหล่อบอกต่อด้วย’

       ‘ผัวก็คือผัว’

       ‘นังหน้าด้านเค้าเป็นของฉันคนเดียว’

       ‘โอกาสของเราคือศูนย์ค่ะหมอขา 08X-XXX-XXXX // เนียนๆไป’

       ‘อยากเป็นปากกาในมือหมอ’

       ‘ #ทีมสะใภ้วงษ์วรกาญจน์’




        ผมไล่อ่านแต่ละความคิดเห็นแล้วได้แต่หัวเราะอย่างขบขัน ผู้หญิงสมัยนี้เค้าไปถึงขนาดนี้กันแล้วเหรอเนี่ยคอมเม้นท์แต่ละอันชวนขบขันจนแทบกลั้นยิ้มเอาไว้ไม่ไหว แต่ผมมาสะดุดกับคำๆหนึ่ง

        “ ว่าไปก็คุ้นๆนะ”


        “ หืม” ไอ้โอ๊คหันมามอง “ คุ้นอะไรวะ”

        ผมเงยหน้าจากมือถือของรุ่นพี่ “กูคุ้นๆว่าเคยได้ยินนามสกุลวงษ์วรกาญจน์ที่ไหนวะ”

        “ อ๋อ”

        “ มึงรู้จัก” ผมถามมัน

        “ อืม” โอ๊ครับคำ “นามสกุลผู้ดีเก่าที่เขาเป็นเจ้าของวังวรกาญจน์ไง  เจ้าของวังคนปัจจุบันชื่อหม่อมหลวงศิววงศ์ วงษ์วรกาญจน์เค้าเป็นคู่ค้าทางธุรกิจกับครอบครัวกู กูเลยได้ยินชื่อเค้าบ่อยๆ”

        “ เหรอ”

        เป็นเจ้าเลยเหรอถ้าหากเจ้าของนามสกุลนี้มีเชื้อสายแล้วเพื่อนข้างห้องผมที่ใช้นามสกุลเดียวกันจะมีความเกี่ยวข้องกันยังไงนะ

        “ เห็นว่าเค้ามีลูกชายคนนึง” ผมหูผึ่งขึ้นมาทันทีก่อนจะนิ่งฟังเงียบๆ “ ข่าวว่าเรียนหมออยู่มหาลัยเดียวกับเรานี่แหละ”


       ชัดเลย

       มีลูกชายเรียนหมอคงจะมีคนเดียวเท่านั้นล่ะมั้ง

       ผมเดาะลิ้นเล่นถึงว่าท่าทางไอ้หมอนั่นถึงได้ดูเก็กๆนิ่งๆทำหน้าเรียบเฉยอย่างอยู่แบบนั้นที่แท้มันคงเป็นมาดของคนชั้นสูงแบบมันซะละมั้ง

       “ ทำไมมึงรู้ลึกจังวะ”

       “ เค้ารู้กันทั้งเมืองไอ้ยิม”

       ผมทำหน้างง

       “ ก็เจ้าของวังคนนี้เคยมีข่าวโด่งดังเมื่อสามสี่ปีก่อนไง”

       “ ข่าวอะไรวะ”

      “ ข่าวที่ถูกกล่าวหาว่าเค้าฆ่าเมียตัวเองตายไง”


       ..ห่ะ..

       มันนั่งอึ้งคิดคาดไม่ถึงว่าจะได้ยินเรื่องราวอะไรแบบนี้ยังไม่ทันจะเปิดปากถามไอ้โอ๊คต่อมือถือในกระเป๋ากางเกงก็ร้องสั่นขึ้นมาอย่างขัดจังหวะพอดิบพอดี

       ผมเลยจ้องพับเก็บความสงสัยไว้ในใจเมื่อเห็นสายเรียกเข้าที่ปรากฏชื่อแฟนสาวที่อยู่ไกลกันคนละซีกโลก โอ๊คมันพยักหน้าเข้าใจเมื่อผมทำท่าว่าจะออกไปรับโทรศัพท์ข้างนอก ก่อนไปผมก็ยื่นโทรศัพท์มือถือเครื่องนั้นคืนให้รุ่นพี่

       ถึงอย่างนั้นเรื่องที่เพิ่งได้รับรู้มาก็ทำให้มันรู้สึกแปลกๆนี่หรือเปล่า เพราะสาเหตุนี้หรือเปล่าที่ทำให้หมอนั่นถึงชอบทำหน้าเคร่งเครียดราวกับมีเรื่องทุกข์ใจนักหนา

       ใบหน้านิ่งที่ชอบทำเฉยเวลาอยู่คนเดียวแต่แปลกพอสวมบทบาทว่าที่คุณหมอมันกลับมีบุคลิกที่น่าชื่นชมไม่น้อยเห็นได้จากภาพที่มันดูใส่ใจคนไข้แบบนั้น

       คนแบบนี้ท่าทางจะเป็นคนที่มีปมในใจซะละมั้ง

       บอกตรงๆว่าผมชักจะสนใจชีวิตความเป็นอยู่ของเพื่อนข้างห้องคนนี้ซะแล้ว และคาดว่าคืนนี้คงจะรู้อะไรเพิ่มเติม

       หึ คืนนี้มึงเจอกูแน่   

       อืม ผมเองก็รอเจอคุณอยู่เหมือนกัน...หมอปาย...







เอาไปครึ่งนึงก่อนเนอะ ไปทำใจร่มๆรอครึ่งหลังในส่วนของการสาธิตนั้น..... :hao6:
#ทีมยิมปาย #ทีมปายยิม #จะทีมไหนๆก็ได้กัน (เหรอ????)  :-[




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-05-2017 21:26:36 โดย [Karnsaii] »

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
รอชมการสาทิตค่ะ หึๆๆๆ

ออฟไลน์ ma-prang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
แฟนสาว? หืออออออออออ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
มานั่งรอหมอปายกับยิมเค้าเจอกัน

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
ไปปักหลักรอการสาธิตที่หน้าห้องหมอปายแล้วค่ะ
 :haun5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด