คิดถึงครั้งที่ 8
ไลน์!N-Ning น้องนายน์ ว่าไหม เดี๋ยวพี่เลี้ยงสายยย
พี่นิ้ง พี่รหัสแสนใจดีของนายน์ที่ตั้งแต่เปิดเรื่องมาเพิ่งจะมีบท
Napat_9 ว่างครับ กี่โมงดี
N-Ning นึกว่าคนดังจะไม่ว่างซะแล้ว 5555
ไปกันสองคนพอ ไอ้เด็กปีหนึ่งนั่นชั่งมัน
สายปีสองของเขาซิ่วไปเรียนที่อื่นทำให้สายขาด น้องปีหนึ่งก็ไปขอปีสองคนอื่นเป็นพี่รหัสแทน ทำให้สายเขาเหลือกันแค่สองคน
ส่วนปิง รายนั้นจริงๆเป็นน้องรหัสแจม แต่เพราะแจมไม่ค่อยซื้อขนมให้มัน มันเลยมาตามตื๊อขอเขาเป็นพี่เทค...
Napat_9 แล้วแต่คนเลี้ยงเลย
N-Ning ไปกินเหล้ากัน
ร้าน XXX 2 ทุ่มนะ
Napat_9 ครับๆ เจอกันครับ
N-Ning เจอกันจ้าาา มาแต่ตัวก็พอเดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง
Napat_9 คร้าบบ
นายน์เก็บโทรศัพท์แล้วเดินกลับหอไปอาบน้ำเตรียมตัวไปเลี้ยงสาย
ถามถึงเรื่องบนรถต่อจากวันนั้น?
บอกเลยว่าไม่มีอะไร
นั่งเงียบกันไปตลอดทาง พอถึงก็ลงรถ ซ้อมละครแล้วกลับ จบ...
19.55นายน์นั่งแท็กซี่มาถึงร้านที่พี่นิ้งนัดไว้ สายตาเหลือบไปเห็นรุ่นพี่สาวยืนอยู่ที่ทางเข้าร้านพอดีเลยเดินเข้าไปหา
“พี่นิ้ง สวัสดีครับ สวยขึ้นนะเนี่ย” นายน์ทักพี่รหัสที่สวยขึ้นผิดหูผิดตา
“พี่สวยอยู่แล้วเถอะ วันนี้มาเดทกับคนดังทั้งทีก็ต้องสวยหน่อย” นิ้งเดินนำเข้าร้านไป
“แล้วทำไมวันนี้กินร้านเหล้าอ่ะพี่” นายน์ถามเพราะปกติรุ่นพี่จะเลี้ยงข้าว เลี้ยงขนมมากกว่า
“ฉันทะเลาะกับแฟน อยากเมา เพื่อนก็กลับบ้านกันหมด เลยชวนมา ฉันจะเมา ดูแลฉันด้วย นายน์ห้ามดื่มเด็ดขาด!”
“ครับๆ” นิ้งหันไปสั่งเหล้ากับน้ำผลไม้ให้นายน์
บางทีนายน์ก็รู้สึกว่าร่างกายตัวเองขาดแอลกอฮอล์นานแล้ว คนรอบข้างไม่มีใครยอมให้เขาแตะมันเลย ครั้งล่าสุดคงเป็นตอนฉลองสอบไฟนอล...
“นายน์ ถ่ายรูปกัน” นิ้งยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปกับนายน์สองสามรูปแล้วโพสต์ลงเฟส
Ning Nuttaning เพื่อนทิ้งแล้วไง ฉันมีผู้ชายมาดูแล –กับ
Nine Napat‘แกกก หนีเที่ยวกับน้องนายน์ได้ไง ฮรือออ’
‘ไอ้เพื่อนบ้าา ฉันอุตส่าห์ซื้อของฝากมาเผื่อแก’
‘น้องนายน์อย่าเมานะลูก เดี๋ยวโดนเพื่อนพี่ปล้ำ ถ้าแกทำอะไรน้องฉันจะฆ่าแกอีนิ้ง’“คิกๆๆ” นิ้งยิ้มสะใจเมื่อเห็นคอมเม้นท์ของเพื่อนๆ
“สนุกหรอพี่”
“สนุกสิ สมน้ำหน้าพวกมัน ทิ้งฉันไว้คนเดียว แบร่~~” นิ้งแลบลิ้นให้โทรศัพท์
บางทีนายน์ก็คิดว่าพี่รหัสเขาไม่ค่อยปกติ - . -
“เออนายน์ แกเปลี่ยนไปป่ะ” พี่นิ้งเก็บโทรศัพท์แล้วจ้องหน้าเขา
“ยังไงครับ?”
“เมื่อก่อนแกไม่เคยแซวว่าฉันสวยเลยนะ”
“เพราะวันนี้พี่สวยขึ้นจริงๆไง ผมเลยบอก”
“แต่แกแสดงออกทางสีหน้ามากขึ้นนะ อึก” พี่นิ้งกระดกเหล้ารวดเดียวจนนายน์แสบคอแทน
“ยังไงหรอครับ?”
“เนี่ยแกดู แกต้องมีกระจก คิ้วแกขมวดด้วย เมื่อก่อนนะหน้านิ่งตลอดดด..” พูดแล้วก็จิบเหล้าอีก
“ขนาดนั้นเลยหรอพี่”
“ยัง.. ยังไม่หมด เนี่ยนะ เมื่อก่อนถ้าฉันพูดค้างอะไรไว้แกก็เงียบอย่างเดียวเลย นี่แกถามกระตุ้นให้ฉันพูดต่อด้วย ฮรือออ ฉันมีความสุข~”
“เวอร์ไปแล้วพี่นิ้ง ฮ่าๆๆ”
“แกกก!!! แกหัวเราะอ่าาาา น้องรหัสฉันเข้าใกล้ความเป็นมนุษย์แล้ววว” พี่นิ้งทำท่าปาดน้ำตา
“ผมว่าพี่เมาแล้วแหละ”
“ฉันยังไม่เมาเว้ยย อยากมาทำเหมือนฉานนน เป็นเด็กนะ อึก..”
นายน์หันไปมองปริมาณเหล้าที่หายไป เขาบอกรึยังว่าพี่นิ้งคออ่อน
แล้วเขาได้บอกไปรึยังว่าพี่นิ้งกินเพรียวๆตั้งแต่แก้วแรก...
“นายน์ แกรู้ป่ะ...”
“.....” นายน์จิบน้ำส้มที่พี่นิ้งสั่งให้แล้วฟังคนเมาพร่ำเพ้อต่อ
“อีเคน แฟนฉันอ่ะ แม่งมีแต่สาวๆมาตอมมม...” เหล้าแก้วที่สามหมดไป
“....” นิ้งเทเหล้าใส่แก้ว
“อีพวกแรดดด... ไม่มีปัญญาหาผัวเองรึไง....” จิบเหล้าเล็กน้อยแล้วพูดต่อ
“....”
“แล้วอีเคนนะแม่งโคตรเชี่ยยย... เป็นคนดีคุยกับคนอื่นไปทั่ววววว...” เหล้าแก้วที่สี่หมดแล้ว นิ้งเทเหล้าเพิ่มไปอีก
“....”
“ไอ้เคนแม่งซื่อชิบหายยย.. เข้าใจว่าเฟรนลี่.. อีดอกกกก... คนอื่นเขานึกว่ามึงอ่อย อีแฟนชั่ว...” นิ้งคีบน้ำแข็งใส่เพิ่ม
“.....”
“คนแบบนี้นะนายน์ แม่งชอบให้ความหวังคนอื่นโดยไม่รู้ตัว”
“...”
“ถ้าไม่บอกแม่งก็ไม่รู้ตัวว่าให้ความหวังเขาอยู่... พี่จะต้องพูดทุกครั้งเลยหรอวะ...” เหล้าหมดไปอีกแก้ว
“....”
“พี่รู้สึกโคตรแย่อ่ะ ก็รู้นะว่ามันไม่คิดอะไรกับใคร แต่อีใครที่ว่านั่นมันคิดไง..” นิ้งปล่อยมือจากขวดเหล้า เอามือมาเสยผมลวกๆ
“......”
“แม่งโคตรเซ็ง... เฮ้ย!นายน์เอาเหล้ามา!!” นายน์ที่จ้องขวดเหล้าอยู่นานถือโอกาสที่พี่นิ้งเผลอหยิบขวดเหล้ามาจากมือรุ่นพี่แล้วส่งให้โต๊ะข้างหลัง
“ผมว่าพี่เมาแล้วล่ะ กลับกันเถอะครับ” นายน์ลุกขึ้นแล้วดึงแขนนิ้งไปที่โต๊ะข้างหลัง
“ขอโทษที่รบกวนนะครับ” กล่าวขอโทษโต๊ะข้างหลังที่นายน์เอาเหล้าไปวางหนีพี่นิ้ง แล้วเดินไปจ่ายเงิน
“จ่ายส่วนของโต๊ะข้างหลังด้วย ไม่ต้องทอนนะครับ” นายน์ยื่นเงินให้พนักงานจำนวนหนึ่งแล้วประคองพี่นิ้งที่พอสงบแล้วก็หลับไปที่รถ
“พี่นิ้งผมขอโทษนะครับ” นายน์กล่าวขอโทษแล้วรื้อกระเป๋าพี่รหัสหากุญแจรถ
“ฮัลโหลเกด อยู่หอรึเปล่าอ่ะ...” นายน์โทรหาประธานชั้นปีที่อยู่หอเดียวกับพี่นิ้งเล่ารายละเอียดให้ฟังคร่าวๆแล้วขับรถไปส่งพี่รหัสที่หอ
“ฝากหน่อยนะ ขอบคุณมาก” ส่งตัวรุ่นพี่ให้กับเพื่อนก็เดินออกมาโบกแท็กซี่กลับหอตัวเองบ้าง
รู้สึกผิดเหมือนกันที่รบกวนเพื่อน แต่เขาเป็นผู้ชาย แค่เดินมาในหอหญิงยามก็มองแรงแล้ว...
******************************
เช้าถัดมานายน์ตื่นสาย เพราะกว่าจะกลับหอนาฬิกาก็เข้าสู่วันใหม่แล้ว
ดีที่มีซ้อมบ่าย
ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจไปซื้อกระดาษทำโมเดลก่อน
ที่ไม่พูดถึงเรื่องงานใช่ว่าจะไม่มี..
แต่ก่อนอื่นต้องหาข้าวกินก่อน...
ปากท้องเป็นเรื่องสำคัญ
ณภัทรไม่ได้เห็นแก่กิน...
“อ้าว?นายน์” พี่เกียร์ทักเขาที่เซเว่นหน้ามอ.
“พี่เกียร์สวัสดีครับ” นายน์ไหว้รุ่นพี่กลับไป
“หวัดดีครับ มาทำไรแถวนี้อ่ะ ซ้อมบ่ายไม่ใช่หรอ”
“มาหาข้าวกินน่ะครับ ว่าจะไปทำงานที่คณะรอเวลาซ้อมด้วย”
“เออ งั้นไปกินข้าวกัน พี่หิวพอดี” พี่เกียร์เดินนำเข้าร้านอาหารตามสั่งแถวนั้นที่นายน์ไม่เคยแวะกินมาก่อน
นายน์ไม่ค่อยชอบลองอะไรใหม่ๆ หากอะไรที่เขาคิดว่าดีแล้วเขาก็จะพอแค่นั้น
เพราะไม่ชอบอะไรใหม่ๆถึงได้ชอบแต่คนเดิมๆไง...
เขาจะลากไปเรื่องนี้เพื่อ?
“อ้าวพี่เกียร์ หวัดดีครับพี่ ผมนั่งด้วยสิ โต๊ะเต็มหมดแล้ว” คิดถึงสิงห์ สิงห์ก็มา แต่มาทักพี่เกียร์...
“หวัดดีสิงห์ นั่งสิ” พี่เกียร์เลื่อนเก้าอี้ตัวข้างๆให้สิงห์นั่ง
นายน์นั่งคนเดียว
ส่วนอีกฝั่งมีผู้ชายตัวโตๆสองคนนั่งเบียดกันอยู่...
เอาที่สบายใจเลย...
“รับอะไรดีครับ” พนักงานร้านเดินมาถาม
“ข้าวผัดพริกแกงหมูไข่ดาวครับ” นายน์สั่งเมนูโปรดตามความเคยชิน
“กระเพราทะเลครับ” พี่เกียร์
“หมูกระเทียมครับ” สิงห์
“เครื่องดื่มล่ะครับ”
“น้ำเปล่าครับ” พี่เกียร์
“น้ำเปล่าเหมือนกันครับ” นายน์
“น้ำแดงโซดากับน้ำเปล่าครับ” สิงห์
“ทั้งหมดมี.. ผัดพริกแกงหมูไข่ดาวหนึ่ง กระเพราทะเลหนึ่ง หมูกระเทียมหนึ่ง น้ำเปล่าสาม แดงโซดาหนึ่งนะครับ” พนักงานทวนรายการแล้วเดินออกไป
“....”
“...”
“...”
ทิ้งพวกเขาสามคนไว้กับความเงียบ..
พี่เกียร์กับสิงห์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น นายน์เลยต้องเอาขึ้นมาเล่นเหมือนกัน
สังคมก้มหน้าของแท้...
“อาหารได้แล้วครับ” พนักงานคนเดิมเอาอาหารมาเสิร์ฟ (จริงๆคือมีพนักงานคนเดียวไงไม่รวมแม่ครัว)
หลังจากนั้นทุกคนก็ละมือจากโทรศัพท์มาสนใจอาหารแทน
นายน์ตักพริกแกงเข้าปาก แค่คำแรกก็...
เผ็ดโว้ยยยยยย!!!!!แค่คำแรกก็เผ็ดแล้วอ่ะ เขากินน้ำแทบไม่ทัน
นายน์มองจานข้าวตัวเองแล้วกลืนน้ำลาย...
ถ้าเหลือขนาดนี้คนทำจะเสียใจไหมอ่ะ ขอโทษครับป้า T-T
แล้วทำไมป้าทำพริกแกงหมูคลุกข้าวล่ะ อย่างนี้มันก็เผ็ดทั้งหมดน่ะสิ..
Rrrr… Rrrrเสียงโทรศัพท์พี่เกียร์ดังขึ้นขณะที่นายน์กำลังกล่าวขอโทษหมูและคุณลุงที่ปลูกต้นพริก(?)
“ฮัลโหล... อยู่หน้ามอ.. ได้ๆ.... โอเคๆเดี๋ยวรีบไป”
“นายน์พี่ไปก่อนนะ ช่าโทรมาตามอ่ะ นี่เงิน ไปก่อนนะสิงห์” พี่เกียร์พูดแค่นี้ก็วางเงินไว้แล้ววิ่งออกจากร้าน...
นายน์หันกลับมาสนใจจานข้าวตัวเองต่อ..
เอาวะ กินก็กิน เห็นแก่วิญญาณหมูและเกษตรกรผู้ปลูกต้นพริก...
ไม่ไหวแล้ว...
กินไปได้อีกห้าคำน้ำตาก็จะไหลแล้ว T ^ T
“น้ำแดงโซดาได้แล้วครับ ขอโทษที่ช้านะครับ” พนักงานคนเดิมเอาน้ำมาเสิร์ฟ
นายน์มองน้ำแดงตาละห้อย...
เตรียมตัวจะสั่งเพิ่ม ถ้ามีน้ำเขาก็น่าจะกินไหวอยู่...
“กินไปสิ” เสียงคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามดังขึ้น
“ครับ?”
“ผมไม่อยากกินแล้ว คุณจะกินก็ได้”
“ขอบคุณครับ” นายน์ไม่สนใจอะไรแล้ว วินาทีนี้น้ำสำคัญสุดจริงๆ
“อืม..” สิงห์เลื่อนจานข้าวเขาไปหาตัว ตักข้าวในจานตัวเองมาใส่จานเขา แล้วตักข้าวจากจานเขาไป
นายน์เพิ่งสังเกตว่าข้าวในจานสิงห์ยังไม่ลดลงไปเลย
สิงห์เลื่อนจานเขากลับมา แล้วลงมือกินข้าวโดยไม่พูดอะไร
คิดเข้าข้างตัวเองได้ไหมสิงห์?
นายน์คิดเข้าข้างตัวเองได้ไหม...
“คุณจะไปไหนต่อ” นายน์ถามสิงห์หลังจากกินข้าวเสร็จ
“ไปทำงานกับเพื่อนที่คณะ... คุณล่ะ”
“ผมก็ไปทำงานที่คณะเหมือนกัน..”
“ทำโมเดลหรอ...”
“อืม...”
“...ให้ไปส่งไหม...”
“ฮะ?”
“ของเยอะนี่ ถ้าเดินหรือนั่งวินมอเตอร์ไซค์คงไม่สะดวก..” สิงห์ชี้มาที่บรรดาสารพัดอุปกรณ์ทำโมเดลของเขา
“อ่าาา.. นั่นสิ”
“จะไปด้วยกันไหม..”
“รบกวนรึเปล่า..”
“ไม่...ไม่หรอก คุณเดินไปเลยเดี๋ยวผมช่วยถือก็ได้” สิงห์หยิบถุงใส่ของของนายน์ทั้งหมดที่อยู่บนพื้น แล้วเดินไปที่รถ
“ให้ส่งตรงไหน”
“ตรงนี้เลยก็ได้” สิงห์จอดรถตรงป้ายหน้าคณะสถาปัต
“ขอบคุณที่มาส่ง”
“อืม..” นายน์หันหลังเดินถือของเข้าคณะ
“เดี๋ยว!!ณภัทร!!!” เสียงเรียกของสิงหาทำให้เจ้าของชื่อต้องหันกลับไปมอง
“ครับ?”
“ซ้อมละครตอนบ่ายสาม...” สิงห์เดินลงจากรถมาคุยกับเขา
“...ใช่ครับ..”
“เดี๋ยวบ่ายสองสี่สิบห้าผมมารับแล้วกัน คุณจะทำงานนานไหม”
“ไม่รู้ครับ ผมน่าจะทำเรื่อยๆ”
“งั้นถ้าคุณเสร็จก่อนแล้วจะไปไหนก็ไลน์มาแล้วกัน ผมไปแล้วนะครับ” สิงหาเดินกลับไปที่รถ
“เดี๋ยว! สิงหา!”
“ครับ?” สิงห์หันกลับมามองเขา
“ผมไม่มีไลน์คุณ...”
“อ่าา.. นั่นสิ...”
“ไม่เป็นไรผมอยู่ที่นี่ตลอดแหละ /
เอาไลน์คุณมาสิเดี๋ยวผมแอดไป” พวกเขาขึ้นพูดพร้อมกัน
“....”
“....” แล้วก็เงียบกันไปทั้งคู่
“เอาไลน์คุณมาสิ” สิงห์ยื่นโทรศัพท์ที่เข้าไลน์แล้วให้เขา
“อืม...” นายน์พิมพ์เบอร์ตัวเองลงไปในช่องกรอกไอดีเพื่อค้นหา
ตอนนั้นเขาขี้เกียจ เลยตั้งไอดีไลน์เป็นเบอร์โทรศัพท์ของตัวเอง...
“ขอบคุณ” สิงห์รับโทรศัพท์คืน เดินไปขึ้นรถจากนั้นก็ขับรถออกไป
ณภัทรรู้สึกพลาดมากๆ...
เขาพลาดไปจริงๆ...
แค่ไลน์ของอีกฝ่ายดูในกลุ่มนักแสดงเอาก็ได้แท้ๆ...
“นายน์? มาทำไรวะ” เพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งทักเขา
“ทำโมเดล”
“อ๋อ.. ถึงไหนแล้วอ่ะ”
“ไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ” ว่าแล้วก็ถอนหายใจแล้วหยิบของต่างๆขึ้นมาทำงาน
Singha อยู่ไหน
บ่ายสองสี่สิบ สิงห์ทักไลน์มา
Napat_9 ตึกคณะ
Singha อืม เดี๋ยวอีก 5 นาทีไปรับ
นายน์เก็บของลงไปรอสิงห์ข้างล่าง สักพักรถยนต์สีขาวตันเดิมก็เข้ามาจอดข้างหน้าเขา
“งานเสร็จแล้วหรอ” สิงห์ถามเขา
“ยัง เหลือเก็บรายละเอียดอีกหน่อย... แล้วคุณล่ะ... งานเป็นยังไงบ้าง...”
“เหลือตรวจคำผิดอีกนิดหน่อยก็เสร็จแล้ว..”
“อ๋อ..”
“.....”
“.....”
“เปิดเพลงไหม..”สิงห์ถามทำลายความเงียบ
“อืม...”
“....”
“....”
มีเพียงแค่เสียงเพลงที่ทำให้ทั้งรถไม่เงียบจนเกินไป
หากนึกดูแล้วตลอดเวลาที่เขาคุยกับสิงห์มักจะจบด้วยความเงียบเสมอ
ไม่ใช่ว่าณภัทรไม่อยากชวนคุย
แต่มันเหมือนมีอะไรสักอย่างที่ทำให้พวกเขาทั้งคู่ไม่กล้าคุยกัน
ถ้าถามว่าเขายังชอบสิงห์อยู่ไหม
ตอบได้เลยว่าชอบอยู่...
แต่ถ้าถามว่าอยากกลับไปไหม
เขาคงต้องคิดดูให้ดีก่อน...
นายน์กลัว...
กลัวว่าหนังสือเล่มเดิม อ่านอีกรอบ ยังไงฉากจบก็เหมือนเดิม...
สิงห์เองก็อาจจะคิดแบบเดียวกัน...
******************************
ตอนนี้ไม่รู้จะพูดอะไรดี
พี่เกียร์บทน้อยเพราะคนเขียนหมดเงินไปกับค่าตัวสิงห์แล้ว 5555
บอกนายน์ว่าหนังสือเล่มเดิมไม่เป็นไร เราเป็นคนเขียน เดี๋ยวเขียนภาคสองให้ ถถถ
-รักคนอ่าน-