(เรื่องสั้น) หนีร้อนมาเจอ...รัก END
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (เรื่องสั้น) หนีร้อนมาเจอ...รัก END  (อ่าน 5445 ครั้ง)

ออฟไลน์ Dreams of Flowers

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************



นิยายเรื่องอื่น
เรื่องสั้น จบแล้ว



นิยายเรื่องยาว





Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-02-2016 20:11:43 โดย Dreams of Flowers »

ออฟไลน์ Dreams of Flowers

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
   





                ความเหงา...

                ความเหงาคืออะไรกันแน่ ?

                และสิ่งที่ผมกำลังเป็นอยู่เรียกว่าเหงาหรือเปล่า ?

 

                ตั้งแต่เล็กจนโตผมไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองขาดความอบอุ่น หรือขาดความรักแต่อย่างใด แม้ตอนอายุสิบเอ็ดครอบครัวผมจะไม่ได้อยู่กันพร้อมหน้า เนื่องจากแม่ต้องไปทำงานต่างจังหวัดเพื่อหาเงินมาชำระหนี้การพนันซึ่งก็เป็นพวกเขาเองที่ร่วมกันสร้างไว้

 

                พ่อเริ่มเลี้ยงผมด้วยตัวคนเดียวนับตั้งแต่นั้น แม่โทรมาบ้าง ส่งเงินมาบางครั้งบางคราว ถึงพ่อจะเป็นคนพูดไม่ค่อยเก่ง อาจจะติดเหล้าไปเสียหน่อย ทว่าผมก็สัมผัสได้ถึงความรักที่มีอยู่ซึ่งมอบให้กับผม สิ่งที่ผมชอบกินท่านมักทำให้กินเมื่อมีโอกาส วันเกิดไม่เคยลืม มีแต่ผมเองเสียมากกว่าที่เป็นฝ่ายลืมวันเกิดของท่าน ถึงไม่มีแม่อยู่ด้วย ผมก็สามารถพูดได้เต็มปากว่าผมมีความสุขมาก

 

                แม้บางครั้งจะถูกตราหน้าว่าเป็นเด็กไม่มีแม่คอยสั่งสอนก็ตาม

 

 

                และเมื่อย่างอายุสิบหก ผมได้เข้าวิทยาลัยสายอาชีพแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ในตัวจังหวัดจากเคยได้เงินไปโรงเรียนวันล่ะยี่สิบบาท กลายเป็นหนึ่งร้อยแทน ความจริงผมก็เอ่ยขอไปเล่น ๆ แต่ท่านกลับให้จริง แน่นอนว่าผมดีใจใช้เงินเกือบหมดทุกวัน หนี้ก็ยังมีอยู่แต่พ่อผมได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกอบต.ของหมู่บ้านจึงพอมีเงินให้ผมใช้อย่างฟุ่มเฟือย แถมช่วงก่อนหน้านั้นผมกำลังติดเกมออนไลน์อีกต่างหาก เงินที่เหลือจากการซื้อของกินผมเอาลงไปที่เกมหมด

 

                 ติดเกมอย่างบ้างคลั่ง มีเท่าไหร่ก็เติมเกม เอาเงินไปร้านอินเตอร์เน็ตในวันหยุดจะไปตั้งแต่เช้ากลับอีกทีก็เย็น แต่พ่อผมก็ไม่ได้ว่าอะไร ถึงจะรู้ว่าผมเอาเงินไปทำอะไรก็เถอะ แม้จะมีคนด่าว่ามีลูกติดเกมท่านก็ยังยิ้มรับแถมขำออกมาราวกับว่ามันคือเรื่องตลก

 

                จุดเปลี่ยนของทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อปิดเทอมหน้าร้อนเดือนเมษาของวิทยาลัย ผมได้ขึ้นไปเที่ยวอยู่กับแม่ที่ต่างจังหวัด ก่อนมาผมเป็นห่วงพ่อของผมอยู่ลึก ๆ ว่าอยู่คนเดียวจะเป็นอะไรไหม จะกินข้าวครบทุกมื้อรึเปล่า หรือสนใจกินแต่เหล้าอย่างเดียว ทว่าผมก็คิดถึงแม่มากเหมือนกัน จึงเลือกที่จะไปหาแม่แทนที่จะอยู่เป็นเพื่อนพ่อ

 

                ตลอดห้าปีที่ผ่านมาผมไม่เคยได้สังเกตเลยว่าแท้ที่จริงแล้ว ภายนอกที่ดูเข้มแข็ง กลับมีความเหงาซึ่งซ่อนอยู่ภายใน ตั้งแต่ที่แม่ผมจากมาท่านคงจะเหงาเสมอ เหงาจนเริ่มหาใครสักคนมาคลายความรู้สึกเหล่านั้น ผมเองก็ไม่รู้ว่ามันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมไม่เคยสงสัยทุกครั้งที่พ่อกลับบ้านดึก หรือบางทีก็เกือบเช้า ผมไม่เคยสงสัยเลยสักครั้ง

 

                คุณเคยได้ยินคำนี้กันใช่ไหมว่าความลับมันไม่มีในโลก ผมเพิ่งรู้ ก็คราวนี้ว่ามันไม่มีในโลกจริง ๆ หรือบางทีความลับจะยังคงเป็นความลับต่อไป หากพ่อไม่พาผู้หญิงคนนั้นเข้ามาอยู่ในบ้านในจังหวะที่ผมไม่อยู่ และแม้ถึงตัวผมจะไม่อยู่ แต่ยายผมก็อยู่ด้วยถึงแม้บ้านจะคนละหลัง ทว่าระยะห่างไม่ถึงสามสิบเมตร ไม่ว่าผมหรือพ่อจะทำอะไรก็อยู่ในสายตาของยายหมด เรื่องครั้งนี้ก็เช่นกัน

 

                ยายไม่รอช้าที่จะรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้แก่แม่ของผมฟัง พร้อมกับตีไข่ใส่สีไปนิดหน่อย  พ่อเป็นผู้ชายทั่วไปที่มีความรู้สึกต้องย่อมมีเหงาเป็นธรรมดา กับผู้หญิงคนนั้นพ่อตั้งใจแค่จะเล่น ๆ ด้วย แต่ผู้หญิงคนนั้นสิกับตั้งใจจะจับพ่อผมแต่แรก จนเรื่องมันบานปลายจนไปถึงจุดซึ่งแตกหัก หากว่าไปตามความจริงพ่อผมก็เป็นฝ่ายผิดนั่นแหละ

 

                ผิดที่เอาเธอเข้ามาจนกลายเป็นแทรกระหว่างกลาง

 

                แน่นอน แม่ผมรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นและตั้งใจจะเลิกกับพ่อให้ได้ คาดคั้นให้ผมเลือกว่าจะอยู่กับใคร รับได้ไหมหากต้องอยู่ร่วมกับผู้หญิงหน้าไม่อายแบบนั้น ตามตรงเลยนะครับ ผมรับไม่ได้ รับไม่ได้เป็นอย่างมาก จะให้ไปอยู่ร่วมกับคนที่ทำให้ครอบครัวผมแตกแยก ใครมันจะไปรับได้กันล่ะ ถึงมีความลังเลเล็กน้อย

 

 

                ถึงพ่อจะผิดก็ตาม แต่ผมก็เชื่อว่าพ่อยังรักแม่อยู่และยังคงรักมาก อีกอย่างผมก็ยังเป็นห่วงท่านด้วย แต่ท้ายที่สุดเมื่อพ่อยังมีผู้หญิงคนนั้นอยู่ข้างกาย แต่แม่ไม่มีใคร ถ้าอย่างนั้นผมเลือกที่จะมาอยู่กับแม่ดีกว่า

 

                ทุกอย่างดูเหมือนเกิดขึ้นรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงที่เข้ามาจนผมตั้งตัวไม่ทัน ผมกลับไปยังบ้านซึ่งเคยอบอุ่น แสนคุ้นเคยนั่นอีกครั้ง เพื่อไปเก็บข้าวของส่วนตัวสิ่งที่คิดว่าสำคัญสำหรับผม

 

                และเป็นอย่างที่คิดเมื่อผมไปถึง ผมได้เจอกับผู้หญิงหน้าไม่อาย เธอยังคงลอยหน้าลอยตาอยู่ในบ้านแถมยังใส่เสื้อของผมที่แม่ซื้อให้แบบไม่สะทกสะท้านอีกต่างหาก กระตุ้นอารมณ์ผมไม่ใช่น้อย ระหว่างที่เดินสวนทางกับเธอผมได้ตำหนิเธอนิดหน่อย ว่าไม่มีปัญญาหาผู้ชายเองหรือไง ผมยอมรับว่าเป็นการกระทำที่โง่มาก แต่ตอนนั้นผมก็โกรธจริง ๆ โกรธจนไม่สนใจสิ่งถูกผิด

 

                หน้าร้อนเดือนเมษาของผมได้จบลงอย่างกับพล๊อตนิยายน้ำเน่า พ่อมีเมียน้อย ต้องย้ายโรงเรียน ย้ายบ้านออกจากบ้านที่เคยอยู่อย่างสงบสุขไปยังหอพักซึ่งแคบกว่าหลายเท่า ผมตัดสินใจเริ่มเรียนปวช.1ใหม่ ด้วยเหตุผลที่ว่าผมขี้เกียจเทียบโอนเพราะมันวุ่นวายต้องไปขอเอกสารวิทยาลัยเก่าต้องทำเรื่องเยอะ เริ่มเรียนใหม่เลยง่ายดี อีกอย่างผลการเรียนที่ผมเคยทำไว้มันก็ย่ำแย่มากด้วย

 

                เพราะต้องเริ่มต้นใหม่ทุกอย่างโดยเฉพาะการหาเพื่อน สถานที่ก็ไม่คุ้น จากที่เคยอยู่บ้านนอกเจอแต่ทุ่งนาป่าเขา ต้องมาอยู่ใจกลางเมืองที่ไม่เคยเงียบสงบเจอแต่แสงสีแสงไฟ ผมต้องปรับตัวให้ชินกับหลาย ๆ สิ่งที่อยู่รอบตัว แต่มันคงยากเกินไป จนกลายเป็นว่าผมเลือกจะอยู่แต่ในห้องดีกว่า เมืองที่แต่ความว้าวุ่นมองทางไหนก็ไม่รู้จักใครเลยสักคน กับบ้านนอกที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็พบแต่คนรู้จักอยู่เสมอ

 

                ผมอยู่ไปวัน ๆ ดูการ์ตูนบ้าง เล่นเกมบ้างสลับกันไป และไม่เคยออกไปไหน

 

                หากถามว่าผมเหงาไหม ? ไม่รู้สิภายในใจมันมีแต่ความรู้สึกเฉย ๆ อยู่เต็มไปหมด จะสนุกก็ไม่สนุก จะเบื่อก็ไม่เบื่อ แต่เหมือนขาดอะไรบางอย่าง ผมก็หวังว่าหากไปโรงเรียนอาจจะทำให้ความรู้พวกนี้หายไปก็ได้

 

                แต่พอเอาเข้าจริง กลับตาลปัตร เริ่มแรกก็มีเพื่อนอยู่บ้าง ทว่าพอนานเข้าแทบไม่มี ผมก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน บางทีคงเป็นที่นิสัยของผมเองที่ค่อนข้างแปลก ในวงสนทนาผมมักไม่มีเรื่องที่พูดคุย จุดที่ทำให้ผมอ่อนแอที่สุดก็คงจะเป็นปลายเทอมหนึ่ง จนไปถึงกลางเทอมสอง เรียกได้ว่าผมไม่มีเพื่อนเลย

 

                ไม่มีเลยจริง ๆ

 

                ผมยอมรับว่าทุกวันผมนั่งในห้องอย่างอึดอัด จนทำให้แทบจะไม่อยากมา แต่ก็ต้องมาเพื่ออนาคตของตัวเอง ผมเคยโทรไปร้องไห้กับเพื่อนสนิทเมื่อสมัยผมที่อยู่บ้านนอก ตอนนั้นผมไม่ไหวแล้ว มันทรมานมาก อยู่ในห้องซึ่งน้อยครั้งที่จะได้คุยกับใคร กินข้าวคนเดียว จากที่เคยมีเพื่อนอยู่รอบตัว กลับต้องมาทำอะไรต่าง ๆ คนเดียว มันทรมานเกินทน

 

                แต่แล้วเหมือนแสงสว่างนำพาหนึ่งเดือนก่อนปิดเทอมที่สอง ผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งเริ่มเข้ามาคุยกับผม ต่างสไตล์ ทว่าเราก็เข้ากันได้ดี เขามาพักบ้านผมหลายครั้งหลายคราว บางทีที่แม่ผมไม่อยู่เป็นอาทิตย์ผมมักจะชวนเขาให้มานอนเป็นเพื่อน เขาเป็นคนนิสัยดี แถมน่ารัก กับผมที่หน้าตาธรรมดาแทบไม่มีอะไรโดดเด่น แต่ก็ยังมาเป็นเพื่อนกัน เขาที่มีเพื่อนเยอะเป็นทุนเดิม

 

 

                พอนานวันเข้าเพื่อนของเขาก็กลายเป็นเพื่อนของผมเช่นกัน จากที่เคยอยู่คนเดียวผมได้มีเพื่อนอีกประมาณเจ็ดแปดคน เพราะสไตล์ต่างกันตั้งแต่แรกทำให้ต่อให้มีเพื่อนก็จริง ทว่าผมไม่เคยรู้สึกมีความสุขเลย แต่ยังดีที่ไม่ต้องกินข้าวคนเดียว สำหรับผมเท่านั้นก็พอ

 

                ผมอยู่แบบนั้นจนเกือบใกล้จะจบเทอมสอง ถึงเวลาที่ต้องเลือกสาขาที่จะไป ผมเลือกบัญชีแต่เขาเลือกภาษาต่างประเทศ ถึงเวลาที่ต้องแยกจากกัน แต่ยังไงในกลุ่มนอกจากผมก็ยังมีอีกสองที่เลือกเหมือนผม ค่อยเบาใจหน่อยเพราะอย่างน้อยผมไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ด้วยการหาเพื่อนใหม่อีกครั้ง ผมพูดไม่เก่ง ผมไม่มั่นใจว่าจะหาเพื่อนใหม่ได้อีกหรือเปล่า

 

                เริ่มปวช.2 ด้วยความราบรื่นไม่ค่อยมีอะไรให้หนักใจนอกเสียจากรายงานที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เพราะผมมักจะถูกขอร้องให้ทำให้ทุกที ผมปฏิเสธใครไม่เป็น สุดท้ายต้องจำยอมทั้งที่ไม่อยากเลยสักนิด ทว่าหากปฏิเสธไปก็กลัวว่าพวกเขาจะเกลียดผมอีก สอบเหมือนกันตรงไหนที่เขาทำไม่ได้มักจะถามผม แน่นอน ผมบอกคำตอบให้ตลอด เมื่อมีครั้งแรกย่อมมีครั้งต่อไปวนเวียนไปมาอยู่แบบนี้ กลายเป็นว่าทุกครั้งที่มีสอบพวกเขาจะไม่อ่านหนังสือกันเลยหวังพึ่งผมอย่างเดียว

 

                จนจบปวส.2 ผมรู้สึกว่าผมเป็นส่วนหนึ่งทำให้เขาเรียนจน และผมก็ดีใจที่เขาจบพร้อมพบเช่นกัน ถึงจะถูกเอาเปรียบไปในบางครั้ง หรือบางทีก็ทำอะไรซึ่งไม่นึกถึงความรู้สึกของผม แต่ผมก็ดีใจ ที่มีเพื่อนอย่างพวกเขา หากมองข้ามเรื่องที่เคยถูกเอาเปรียบพวกเขาก็เป็นคนดีคนหนึ่งนั่นแหละ คนเราไม่มีใครดีเด่ไปเสียหมดหรอก

 

                ทุกวันนี้ผมก็ยังรู้สึกขอบคุณเขาคนนั้น ที่ทำให้ผมมีเพื่อน แม้ตอนนี้เราทั้งคู่จะไม่ได้ต่างอะไรกับคนแปลกหน้าก็ตาม แต่ในบางครั้งผมก็คิดถึงและเคยฝันที่เขา และผมก็ถือว่าเขาคือผู้มีพระคุณของผมคนหนึ่งเลยล่ะ

 

                ในระหว่างที่ผมเรียนปวส.2 ผมได้เรียนปริญญาควบคู่ไปด้วย จนทำให้ผมจบปริญญาไปในคราวเดียวกัน ผมไม่อยากให้แม่เหนื่อยไปมากกว่านี้ อยากจะรีบเรียนให้จบและเราจะได้กลับไปยังบ้านเกิดกันเสียที ผมเหนื่อยกับสังคมเห็นแก่ตัว สังคมใส่กาก สังคมที่แต่ความวุ่นวายและผมก็รู้ว่าแม่ก็เหมือนกัน ผมอยากให้ท่านได้พักเสียบ้าง อีกอย่างผมก็ยังคิดถึงพ่อ..รักและเป็นห่วงอย่างไม่เสื่อมคลาย

 

                แม้นาน ๆ จะได้คุยกันทีและทุกครั้งที่คุยกันผมก็ได้รู้ว่าท่านรักและเป็นกังวลเรื่องผมมากแค่ไหน มักพูดเสมอว่า หากไม่ไหวก็กลับมานะ พ่อมีเงินไม่มากแต่พ่อก็เลี้ยงแกได้ แทบจะทำให้ผมน้ำตาไหล ผมก็ได้แต่ตอบครับ ๆ เมื่อผมเรียนจบก็จะกลับไปแน่นอน และแม่ก็จะกลับไปด้วย   

 

                เรียนจบแล้ว ตอนนี้ธุระของผมในเมืองก็คงมีแต่ต้องรอรับใบประกาศและวุฒิการศึกษาเท่านั้น ผมไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองมีปมด้อยหรือขาดความเอาใจใส่ เพราะไม่ว่าเมื่อไหร่ท่านทั้งสองมักจะใส่ใจผมคิดแต่เรื่องเป็นอันดับต้น ๆ เสมอ 

 

 

                แต่ผมกลับรู้สึกว่าตัวเองว่างเปล่า ขาดอะไรสักอย่างมาเติมเต็มซึ่งผมเองก็ไม่รู้ว่าคืออะไร ผมไม่เคยมีความรักสนใจเรื่องเรียนอย่างเดียว และหลายครั้งที่ผมคิดว่าความรักไม่จำเป็นต่อชีวิต คนรอบตัวมีแล้วส่วนมากล้วนแต่ประสบกับความเสียใจ ไม่เว้นแม่กับพ่อ จนทำให้ผมหมดศรัทธากับสิ่งเหล่านั้น มีคนเข้ามาผมเอาแต่เมินเฉย สุดท้ายเขาก็จากไป

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-02-2016 01:04:47 โดย Dreams of Flowers »

ออฟไลน์ Dreams of Flowers

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

                ความรักเป็นอะไรที่ไม่แน่นอน ใจคนก็ไม่แน่นอน แล้วทำไมผมต้องเอาหัวใจตัวเองไปผูกไว้กับความไม่แน่นอนนั่นด้วย ถ้าผมให้ไปแล้ว เกิดเสียใจขึ้นมาล่ะ ผมต้องทำยังไง ? ยอมรับว่าผมกลัว อคติเล็กน้อย ผมยังไม่เจอใครให้ใจเต้น ผมไม่เคยเจอใครที่ถูกชะตา อยู่แบบนี้บางทีก็มีความสุข ถึงบางครั้งจะรู้สึกเหมือนขาดอะไรบางอย่าง แต่ผมก็ยังมีชีวิตอยู่ได้

 

 

                ถึงเคยคิด ว่าอยากมีคู่ดั่งคนอื่นเขา อยากบอกรักใครสักคน

                ถึงเคยคิด ว่าอยากไปเที่ยวกับใครสักคนสองต่อสอง

                ถึงเคยคิด ว่าอยากจะลองคุยโทรศัพท์กับสักคนเป็นเวลานาน ๆ

                ถึงเคยคิด ว่าอยากเดินจับมือกันอย่างไม่อายสายตาผู้คน

                ถึงเคยคิด ว่าอยากลองกอดใครสักคนอย่างแนบแน่นจนรู้สึกอึดอัดกันไปข้าง

                ถึงเคยคิด ว่าอยากมีใครสักคนให้คิดถึง อยากถูกใครสักคนเป็นห่วงซึ่งนอกจากพ่อแม่

                ....จูบแรกผมอยากรู้ว่ามันเป็นแบบไหน ระหว่างที่จูบกันอยู่รู้สึกอย่างไร

 

 

                แต่โลกของคนรักกัน มันยากเกินกว่าผมจะเข้าไป ผมรู้ไม่แม้แต่วิธีที่จะเริ่มรักใครสักคน ไม่รู้แม้แต่ความรู้สึกที่ชอบใครสักคนมันเป็นยังไง พอเถอะถึงคิดไปรังแต่จะทำให้ปวดหัว หากโชคชะตาต้องการสักวันผมคงจะคนที่ทำให้ผมรู้สึกเช่นนั้นได้เอง ทว่าเมื่อไหร่ล่ะ ? หรือว่าต้องรอตลอดไป ?

 

                ถึงผมจะไม่อยากมี แต่ก็มีความอยากมีอยู่ส่วนลึก ก่อนที่ชีวิตวัยรุ่นของผมจะหมดไปอยากจะลองดูสักครั้ง หากผมจะมีจริง ๆ ขอให้เขาเป็นรักเดียว รักตลอดไปทีได้ไหม ผมไม่อยากจะเริ่มต้นใหม่ซ้ำซาก ผมไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นใหม่ได้อีกรึเปล่า หรือถ้าหากไม่มีก็ขอให้ไม่มีไปชั่วชีวิต ความคิดหัวโบราณมากใช่ไหม

 

 

                อยากจะรักแค่ใครสักคนไปตลอดชีวิต ใครสักคนที่จะเป็นทั้งครั้งแรกและครั้งสุดท้ายในชีวิตของผม คนที่จะทำลายอคติของผมได้และไขกุญแจเปิดใจผมออกมา อยากจะรู้ว่าบนโลกนี้ซึ่งมีผู้คนอยู่เป็นร้อยเป็นล้านล้านคนจะมีสักคนไหม

 

 

                และแล้วผมก็ได้กลับบ้านเกิดดั่งที่หวังไว้สักทีทุกอย่างเริ่มขึ้นที่เดือนเมษา และผมก็กำลังจะกลับช่วงเดือนเมษาทุกอย่างช่างประจวบเหมาะเสียจริง ในที่สุดผมก็ได้หนีจากเมืองความวุ่นวาย ซึ่งเต็มไปด้วยความร้อนไม่ว่าจะอากาศหรือใจคน หรือจากความคิดและภายในใจที่กำลังร้อนรุ่มไปหยุดพักผ่อนในสถานที่ซึ่งเคยจากมา สถานที่ที่ทำให้ผมสบายใจที่สุด

 

                ทุกอย่างย่อมมีการเปลี่ยนแปลง ยิ่งโต ยิ่งเจอผู้คนมากขึ้น ต่างคนก็ต่างมีสิ่งที่ต้องทำ ไม่แปลกที่จะสนใจสิ่งนั้นมากกว่า และเพื่อนที่ไม่ค่อยมีความน่าสนใจดั่งผมไม่แปลกอีกเช่นกันที่จะถูกลืมไป ก็นะ..แต่ผมก็ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ ผมคิดว่าความสัมพันธ์ที่มีด้วยกันมานานต่อให้เจอกันใหม่สักกี่รอบก็ยังสามารถสานความสัมพันธ์ได้อีก

 

                แต่มีเพียงคนเดียวที่ผมอยากจะให้เขาจำผมได้มากที่สุด เราไม่ได้ติดต่อกันนับตั้งแต่ผมโทรไปร้องไห้กับเขา ผมอายเกินกว่าที่จะติดต่อไป และเขาก็ไม่ได้ติดต่อมาเช่นกัน หรือบางทีเขาอาจจะลืมผมไปแล้วก็ได้ หรืออาจจะย้ายที่อยู่ไปแล้ว

 

                เขาเป็นคนเดียวที่สนิทกับผม ยอมรับนิสัยของผมได้ ผมสบายใจทุกครั้งที่อยู่กับเขา และบ้านเราก็ไม่ได้ไกลกันมาก ผมคิดถึงเขาอยู่ตลอด เวลาที่ผมท้อแท้ เหนื่อยใจเรื่องเพื่อนผมจะนึกถึงเขาเสมอ พร้อมกับปลอบใจตัวเองว่ายังไงผมยังมีเพื่อนดี ๆ กับเขาอยู่ จนตอนนี้ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ผมปลอบใจหรือกำลังหลอกตัวเองกันแน่

 

 

                รถประจำทางได้มาจอดยังทางเข้าหมู่บ้านของผม ซึ่งตอนนี้คงมีแต่รอให้ใครสักคนมารับเพราะกว่าจะถึงตัวหมู่บ้านของผมจริง ๆ ก็อีกประมาณสี่สิบกว่ากิโล แม่ผมดูกังวลไม่ใช่น้อยจะแยกทางกันทว่าพ่อกับแม่ยังไม่หย่ากัน แม้จะปากแข็งแต่ผมคิดว่าแม่ผมก็ยังรักพ่ออยู่ อย่างไรก็ตามเรื่องราวทั้งหมดได้ผ่านมานานขนาดนี้จะให้ไปคบกันอีกก็คงยาก มิหนำซ้ำพ่อยังคงมีผู้หญิงคนนั้นอยู่คงไม่ทางจะกลับมาคบกันอีก

 

 

                อากาศช่างร้อนจับขั้วเหงื่อไหลซึมไปตามไรผมและเสื้อผ้า ผมหยิบกระดาษทิชชู่จากในกระเป๋าเสื้อผ้าก่อนซับบนใบหน้าพลางส่งให้แม่ซึ่งดูท่าว่ากำลังร้อนไม่แพ้กัน

 

                “แม่โทรให้ยายมารับแล้วนะลูก”

 

                น้ำเสียงนิ่งเรียบของแม่กล่าวบอก ผมพยักหน้ารับเล็กน้อย ก่อนหันกลับไปยังถนนทางเข้า มองรถซึ่งแล่นสวนกันไปมา ทางซึ่งเคยเป็นลูกรังตอนนี้กลายเป็นลาดยาง ไม่ได้กลับมาตั้งนานไม่รู้ว่าอะไรจะเปลี่ยนไปอีกนะ

 

                ผ่านไปประมาณสิบนาที รถกระบะสี่ประตูสีควันบุหรี่ได้มาจอดเทียบข้างที่ผมยืนอยู่ กระจกติดฟิล์มทุกด้านดำทึบจนมองไม่เห็นบุคคลที่อยู่ภายใน เพียงชั่วครู่เขาได้เปิดประตูออกมาแทนที่จะเป็นยายมารับกลับกลายเป็นคนที่ไม่คาดคิด

 

 

                “ไง..ไม่เจอกันเสียนานนะ”

 

                ชายหนุ่มอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับผมกล่าวทักซึ่งอยู่ในชุดเสื้อยืดสีเทาธรรมดา กับกางเกงยีนส์สีน้ำเงินทรงกระบอกและรองเท้าแตะแบบหนีบยี่ห้อช้างดาว ทรงผมสีดำดั่งผู้ชายทั่วไป ผิวสีแทนดูแมนและกำยำกว่าเมื่อก่อน

 

                “คุณป้าสวัสดีครับ ของมีเท่านี้ใช่ไหมครับ” เขายกมือไหว้แม่ของผมก่อนจะยกสัมภาระทุกอย่างไว้ที่กระบะท้ายรถ

 

                “จ้ะ..โตขึ้นเยอะจนป้าจำไม่ได้เลยนะ”  ท่านกล่าวด้วยท่าทางกระหยิ่มยิ้มย่องจะบอกว่าหล่อขึ้นเยอะด้วยล่ะสินะ

 

                “แต่ป้าก็ยังสวยเหมือนเดิมเลยนะครับ” เขาระบายยิ้มอย่างหวานเยิ้มพลางเปิดประตูด้านหลังให้แม่ผมเข้าไปนั่ง

 

                “แหม..ขอบใจนะจ้ะ” ท่านกล่าวพร้อมกับขึ้นไปทันที

 

                “ลูกป้าก็เหมือนกัน สวยไม่เปลี่ยน” ชมแบบนี้อย่าคิดว่าผมจะดีใจนะ

 

                “ตาถั่วหรือไง มาชมผู้ชายว่าสวยเนี่ย” ไม่ดีใจมิหนำซ้ำจะมีความโกรธเป็นของแถม

 

                “ครับ ๆ เอ้า! ขึ้นไปได้แล้ว” เขาเปิดประตูพลางทำท่าเหมือนไล่หมูหมากาไก่เข้าคอก นาน ๆ จะได้เจอกันทียังกวนประสาทไม่เปลี่ยน เขาคือเพื่อนร่วมชั้นสมัยประถมจนถึงมัธยมเจอกันร้านเกมอยู่บ่อย ๆ

 

                ตลอดทางได้แแต่นั่งเงียบฟังแม่กับเขาคุยกันอย่างสนุกสนาน กลับมาทั้งทีเจอคนที่ทำให้ไม่สบอารมณ์ตั้งแต่แรกแบบนี้ถือว่าเป็นความซวยได้ไหมเนี่ย เขาดูเปลี่ยนไปมาก มากจนผมเองก็เกือบจำไม่ได้ ก็นะผ่านมาสี่ห้าปีจะไม่เปลี่ยนเลยก็คงแปลก แถมยังดูดีกว่าแต่ก่อนเยอะ ทว่าก็ค่อยยังชั่วหน่อยที่ยังมีคนจำผมได้ ถึงจะเป็นเขาก็เถอะ ก็ยังดี

 

                “จ้องทำไม หลงรักฉันแล้วรึไง”  คำถามกวนโอ๊ยดึงสติให้ผมรู้ตัวว่าผมกำลังจ้องเขานานเกินไปจริง ๆ

 

                “อ่ะ เปล่า แค่คิดว่าอย่างนายโตมาไม่น่าจะดูดีได้” ผมตอบไปด้วยอาการหวั่นใจอย่างประหลาด

 

                “งั้นเหรอ ฮึ..อย่างน้อยฉันก็หล่อกว่าคนที่นายนึกถึงแล้วกัน” คนที่ผมนึกถึงแล้วมันใครกันล่ะ ?

 

                “ก็อย่างนี้แหละ คุยกับคนไม่สมประกอบรังแต่จะทำให้ปวดหัว” ผมกล่าวแกมประชดสายตาหันมองสำรวจสองข้างทาง

 

                “นี่ว่าฉันบ้าเหรอ” เขากระชากเสียงถามราวกับว่ากำลังจะอารมณ์เสียอย่างไรอย่างนั้น

 

 

                “คิดเองเออเอง” ผมยังคงทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

 

                “นายนี่มันกวนโมโหได้ตลอด ถ้าเป็นหมอนั่นมารับคงดีกว่านี้สินะ แต่เสียใจด้วยหมอนั่นมาไม่ได้หรอก เพราะมันย้ายไปอยู่กับเมียตั้งนานแล้ว”

 

                “คนที่กวนก่อนนั่นมันนายนะ” หมอนั่น ? ใครกันล่ะหมอนั่นที่ว่า ?

 

                “คิคิ” แม่ที่นั่งมองเหตุการณ์อยู่เงียบ ๆ มาตลอดแอบขำออกมาเล็กน้อย

 

                “ชอบเถียงกันไม่เปลี่ยนเลยนะทั้งสองคน” ก่อนที่จะกล่าวด้วยอาการปนขำ

 

                “ก็ไอ้บ้า มันเริ่มก่อนนี่ครับแม่” ผมเถียง

 

                “นั่นไงว่าฉันบ้าอีกแล้ว” เขาพูดราวกับกำลังจับผิดผมอยู่

 

                “ฉันเอ่ยชื่อนายที่ไหนกัน อยากรับก็รับไป”  ฮึ่ย! น่าโมโหชะมัด

 

                “ก็ได้..ฉันยอมก็ได้ สามียอมภรรยาคงจะไม่แปลก” ผมหันไปมองหน้า คนที่เอ่ยขึ้นมาอย่างหน้าตาเฉย จะนึกคำด่า ก็นึกไม่ออกจนกลายเป็นว่าผมเงียบไปในที่สุด

 

                “จริงไหมครับ คุณป้า” เมื่อผมเงียบเขาจึงไปถามแม่ผมแทน

 

                “จ้า ๆ รักกันแม่ก็ไม่ว่าหรอก สมัยนี้สังคมเปิดกว้างกว่าเมื่อก่อนแล้ว”

 

                “แม่!” ท่านพูดอย่างเปิดใจยอมรับเต็มที่ แล้วความสมัครของลูกท่านเองล่ะ

 

                “ฮ่า ๆ” เสียงขำเปล่งออกมาอย่างสะใจจนผมไม่รู้ว่าจะโกรธเขาหรือแม่ดี

 

 

 

                ในที่สุดก็ถึงบ้านยาย ผมรีบลงจากรถ ไปยังท้ายกระบะ ยกของทีละอย่างลงทันที น่าโมโห น่าโมโหชะมัด คนบ้าที่พูดอะไรออกมาอย่างง่ายดาย โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมา แถมแม่ยังไปเห็นดีเห็นงามด้วย อารมณ์ดีกลายเป็นอารมณ์เสียเพราะไอ้บ้า ไอ้บ้า ไอ้บ้า นั่นคนเดียว

 

                “ภรรยาน่าจะอยู่เฉย ๆ รอสามีมายกให้ก็สิ้นเรื่อง” ยังจะพูดแบบนี้อยู่อีกเหรอ อยากจะต่อยปากสักเปรี้ยงเสียจริง ผมเมินทำเป็นไม่ได้ยินก่อนจะยกทุกอย่างไปหน้าบันไดบ้านไม้ซึ่งยกสูงกว่าพื้นมาไม่มากประมาณเมตรกว่า ๆ ได้

 

                “อุตส่าห์ไปรับทั้งทีไหนล่ะคำขอบคุณ” คนที่กำลังยกของเดินตามมาติด ๆ ทำหน้าทะเล้นอย่างไม่รู้สึกรู้สาว่าผมกำลังโกรธแค่ไหน

 

                “ขอบคุณ” อยากได้นักก็ได้พูดก็ได้ หากไม่กวนประสาทผมก็ตั้งใจจะขอบคุณอยู่แล้ว

 

                “ไหนรางวัล” รางวัลอะไรอีกล่ะ หรืออยากจะได้ค่าน้ำมันรถ ? เดินมาถึงหน้าบันไดพอดีจึงวางของลงและควักเงินในกระเป๋ากางเกงยีนส์ขาเดฟที่กำลังใส่อยู่ออกมาหนึ่งร้อยพลางยื่นให้

 

                “เอ้า! พอไหม ?” โครงหน้าอย่างไทยแท้ย่นคิ้วแทบจะติดกันผมเลยเพิ่มให้อีกร้อย

 

                “พอไหม” ถึงบอกไม่พอผมก็ไม่ให้อีกแล้วนะ

 

                “จะไปพอได้ยังไงเล่า” เขาวางของก่อนที่จะเดินเข้ามาใกล้

 

                “มันต้องแบบนี้” ไม่ทันขาดคำริมฝีปากกระจับสีชมพูออกคล้ำนิดหน่อยเข้ามาจุมพิตที่แก้มขวาของผมอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว

 

                “เฮ้ย!”

 

 

                ผมที่กำลังตกใจกับเหตุการณ์ พอรู้ตัวอีกทีเขาก็วิ่งหนีไปไกลเสียแล้ว แถมรถก็ยังคงจอดทิ้งไว้ ไอ้บ้าเอ้ย! ผมขอออกตัวไว้ก่อนว่าผมไม่ใช่เกย์นะครับ แต่ไอ้สิ่งที่กำลังเต้นตึกตักผมก็ไม่สามารถอธิบายได้เหมือนกัน ตกใจ.. อาจจะเป็นเพราะความตกใจแน่ ๆ

 

 

 

                ตกค่ำหลังจากทานอาหารเย็นเสร็จผมได้ออกมานอนเปลได้ต้นไม้หน้าบ้านพลางใช้เท้ายันพื้นแกว่งไปมาพร้อมกับมองบนฟ้าอย่างเพลิดเพลิน อยู่เมืองกรุงมองไม่เห็นดาว แต่ถ้าเป็นบ้านนอกมองเห็นดาวอย่างชัดเจน

 

 

                “ไง.. มานอนอะไรตรงนี้ เดี๋ยวยุงก็กัดหรอก” ไอ้ผมก็อยากจะดูดาวอย่างเงียบ ๆ

 

                “มาทำไม” ผมถามเสียงเรียบ

 

                “มาเอารถน่ะสิ ยังจำสัญญานั่นได้ไหม”  เขาถามพร้อมกับเดินมาหาผมที่เปล ก่อนจะหยุดยืนอยู่ตรงหน้า

 

                “สัญญาอะไร” ผมขมวดคิ้วพลางคิด

 

                “ก็สัญญาที่ว่าหากซื้อของในเกมให้นายจะแต่งงานกันฉันไง”

 

                “อ๋อ..นั่นน่ะเหรอฉันก็แต่งไปแล้วในเกม” ยังจะจำได้อีก

 

                “แล้วตอนนั้นฉันบอกนายตรงไหนว่าจะแต่งกันในเกม”

 

                “เรื่องนมนานปานนั้นใครจะไปจำได้” และไหงถึงมาบอกตอนนี้

 

                “แต่ฉันมีหลักฐาน”

 

                “อะไรนะ” ผมแทบจะไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

 

                “นี่ไง..ลายมือนายที่เขียนสัญญาว่าจะแต่งงานกับฉัน” กระดาษแผ่นเล็กที่ถูกส่งมาให้ ซึ่งดูท่าทางคงจะเก็บรักษาไว้อย่างดี

 

 

                “เป็นไงเถียงไม่ออกเลยล่ะสิ”  จะไปเถียงอะไรได้ในเมื่อนั่นลายมือผมชัด ๆ

 

                “เลิกเถียงมาเป็นของฉันเสียดี ๆ นายคงไม่รู้ใช่ไหมว่าฉันเป็นคนรักเดียวใจเดียว คิดว่าฉันรักนายมานานเท่าไหร่ คิดว่าฉันรอนายนานแค่ไหน ยอมรับแล้วมาหลงรักฉันได้แล้ว อย่าให้ต้องรอนานกว่านี้เลย”

 

                พูดมาเสียดิบดีผมก็นึกว่าเขาจะรอคำตอบจากผมแต่ใช่ที่ไหนกัน  ริมฝีปากของคนตรงหน้าซึ่งโน้มประกบลงมาอย่างอ่อนละมุนบนริมฝีปากของผม เริ่มแรกผมตกใจอีกทั้งโกรธหมัดกำแน่นทุบไปยังแผ่นอกของเขาหลายต่อหลายครั้ง โดยที่เขาไม่ได้ป้องกันแต่อย่างใดทั้งสิ้น การกระทำทะนุถนอมและนุ่มนวลราวกับกำลังลิ้มรสขนมหวานที่มีเพียงชิ้นเดียวในผืนโลก ทำให้ผมเคลิ้มไปกับสิ่งนั้นส่งผลทำให้ความโกรธในใจค่อย ๆ จางหายไปเหลือทิ้งไว้เพียงความรู้สึกแปลกใหม่ซึ่งเริ่มเพิ่มพูนเข้ามา

 

                 ความอบอุ่นจากส่วนที่สัมผัสชโลมก้อนเนื้ออันแสนด้านชาอย่างช้าช้าเสียงลมพัดผ่านเสียงต้นไม้เสียดสีกันไปมา เปลือกตาทยอยหย่อนลงจนกลายเป็นหลับพริ้มซึมซับความรู้สึกต่าง ๆ

 

 

            อ่า..จูบมันเป็นอย่างนี้เองสินะ

 

 

            ผมคงคิดถูกแล้วที่หนีความวุ่นวายของเมืองกรุงกลับยังบ้านเกิด ไม่งั้นผมไม่เจอผมคงจะไม่เจอสิ่งที่ผมตามหามาตลอดใครมันจะไปคิดล่ะว่าจะอยู่ใกล้ตัวขนาดนี้ หนีมาพักร้อนในหัวใจที่กำลังว่างเปล่าและร้อนรุ่ม ให้เย็นลง ในที่สุดผมก็มีอะไรมาเติมเต็มกับเขาสักที

 

 

 

 

 

 



-END-

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
รักนี้มีแต่ผมกับเขา

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
ไม่ใช่เพื่อนทโทรมาร้องไห้ด้วยใช่ไหม

ออฟไลน์ Dreams of Flowers

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ไม่ใช่เพื่อนทโทรมาร้องไห้ด้วยใช่ไหม


ไม่ใช่ค่ะ >< คนนั้นแต่งงานมีลูก และย้ายไปอยู่ที่อื่นไปแล้วค่ะ
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์นะคะ  :-[

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ถึงจะยังงงๆนิดๆ แต่ก็น่ารักดีนะคะ :mew4:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ ketekitty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
ขอบคุณค่ะ^^ :pig4:

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
ทะเลาะกันน่ารักอ่ะ   :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9

ออฟไลน์ NormalVee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
งงนิดหน่อย แต่น่ารักมากค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด