[[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [[เรื่องสั้น]] THE CAT...คุณเเมวของผม (END !!) ( พิเศษ ผู้บ่าวกินแมว 26/06/2016)  (อ่าน 68114 ครั้ง)

ออฟไลน์ littlegift

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
รอออออออออออออออออ

ออฟไลน์ hmmm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
มิน (ที่วิ่งกนีไปคนนั้น) มะลิสินะ? 5555

ออฟไลน์ JallolY

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ตอนที่ 7
[[ : Nin Part 1 : ]]

           “นิล กลับเข้าบ้านเดี๋ยวนี้นะ !!” เสียงตะโกนของแม่ดังไล่หลังมาขณะที่ผมกำลังวิ่งหนีออกไปทางประตูหน้าบ้าน แต่ไม่มีทางไล่ตามผมทันหรอกครับ หึหึ

          “ไม่ต้องห่วงนะครับ เย็นๆผมจะกลับมาครับ บ๊ายยยย”

          ผมในวัยผจญภัยวิ่งหลบออกจากซอกรั้วเล็กๆที่แอบมาเตรียมเอาไว้เพื่อการนี้โดยเฉพาะ ผมไม่ได้ตั้งใจจะหนีออกจากบ้านนะครับ แค่ขอออกไปเจอโลกภายนอกบ้าง เล่นกับเด็กคนอื่นๆในวัยเดียวกัน แป๊บๆ ไม่นาน ตอนเย็นผมก็จะรีบกลับ
แต่เหมือนเรื่องทุกอย่างมันไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะระหว่างที่ผมกำลังวิ่งจะข้ามถนนเพื่อเข้าไปในสวนสาธารณะที่อยู่ฝั่งตรงข้าม อาจจะเพราะความสะเพร่าหรือความรีบร้อนอยากเล่นของผมก็ตาม มันทำให้ผมวิ่งตัดหน้ารถ เสียงบีบแตรดังสนั่นหวั่นไหวและมันทำให้ผมตกใจจนแทบช็อค

            สำหรับเด็กที่ยังไม่สามารถควบคุมการแปลงร่างของตัวเองได้ดีพออย่างผมแล้ว พอเจอเรื่องที่ทำให้ตกใจขนาดนี้ก็ทำให้ผมกลายร่างเป็นแมวน้อยตัวจ้อยสีดำแทบจะทันที โชคดีที่ผมหลบเข้าพุ่มไม้ได้ทัน อย่างน้อยก็คงไม่มีใครทันเห็นผมเข้า

           ครับ...ไม่ผิดหรอก

           ผมกลายร่างเป็นแมวได้...

           ตระกูลของผมสืบเชื้อสายมาจากแมวโดยตรงหรือที่เรียกกันว่า แวร์แคท พวกเรามีกันอยู่ทั่วทุกมุมโลก สืบเชื้อสายกันมารุ่นต่อรุ่น ด้วยจำนวนที่ไม่มากนักของพวกเราทำให้พวกเราทั้งหมดรู้จักกัน หรือจะเรียกว่าเป็นต้นตระกูลเดียวกันก็ว่าได้ คอยช่วยเหลือซึ้งกันเละกันยามมีปัญหา แต่ส่วนมากก็ค่อยมีเรื่องจำเป็นให้ต้องติดต่อกันหรอก สาเหตุสำคัญคือพวกเรารักสันโดษ แต่ในขณะเดียวกันพวกเราก็พยายามใช้ชีวิตให้เหมือนมนุษย์ทั่วไปอย่างกลมกลืนที่สุด

           มันไม่ใช่เรื่องน่ากลัวหรือเรื่องแปลกอะไร ตราบใดที่มนุษย์ยังไม่รู้ตัวตนของพวกเรา เพราะพวกเราไม่ใช่พวกผีในตำนานเหมือนแวมไพร์ที่มีชีวิตยืนยาวเป็นอมตะ พวกเรามีอายุขัยเทียบเท่ามนุษย์เพราะฉะนั้นจึงไม่จำเป็นต้องย้ายที่อยู่บ่อยหรือปลอมตัวอะไรซึ่งผมก็ไม่เดือดร้อนอะไร ข้อเสียอย่างเดียวที่ผมไม่ชอบใจคือ...ผมไม่สามารถที่จะควบคุมการกลายร่างของตัวเองให้สมบูรณ์ได้จนกว่าอายุจะครบ 18 ปีเต็ม ! หรือถ้าแย่หน่อยอาจจะต้องใช้เวลานานกว่านั้น คล้ายกับเด็กทารกวัยหัดเดินนั่นแหละครับ

            พออยู่ในร่างแมวน้อยขนสีปุกปุยแล้วผมก็ชักหมดสนุก ในร่างแมวแบบนี้ยังไงก็ออกไปเล่นกับใครไม่ได้ ผมเลยจัดการคาบข้าวของเครื่องใช้เข้าไปหลบในพุ่มไม้ พอกลายเป็นคนได้เมื่อไหร่จะกลับมาเอาหรือไม่ก็คงให้ที่บ้านมาเอาให้อีกที หลังจากเตรียมทุกอย่างเสร็จสรรพผมก็เตรียมจะกลับบ้าน แต่อย่างที่บอกชีวิตไม่ง่ายครับ

            อันธพาลไม่ว่าที่ไหนก็มี แม้แต่แมวอันธพาลก็ยังมี ผมหันมาสำรวจเจ้าถิ่นที่สองตัวที่เข้ามายืนหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แถมขู่ฟ่อเหมือนจะถามผมว่าทำไมเข้ามาในถิ่นมัน ทุกคนอย่าเข้าใจผิดนะครับว่าพวกผมจะสามารถสื่อสารกับแมวธรรมดาที่ไม่ใช่พวกแวร์แคทได้...พวกผมทำแบบนั้นไม่ได้

            ผมถอยตั้งท่าพร้อมสู้แถมยังขู่กลับ ผมไม่กลัวครับเพราะพวกเราแข็งแรงกว่าแมวธรรมดาอยู่มากต่อให้ยังอยู่ในวัยเด็กก็เถอะ

           เมี๊ยววว !!!

           แล้วศึกแมวกัดกันก็เริ่มขึ้น อย่างที่บอกผมเป็นต่อเห็นๆ เจ้าสองตัวนี้ทำอะไรผมไม่ได้หรอก

          หลังจากที่กางเล็บตบกันอยู่นานเจ้าถิ่นง่อยก็เริ่มหมดแรงแต่ยังไม่ยอมหนีไปไหน ยังคงตั้งท่าจะฟัดผมอยู่ ก็เอาสิ อยากเจ็บหนักก็เข้ามา ผมตั้งท่าจะเข้าไปฟัดอีกครั้งตอนที่มันยังเป๋อยู่พลันหางตาเหลือบไปเห็นผู้ชมกิตติมศักดิ์ที่ยืนหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ ดวงตากลมโตเหมือนลูกกวางตัวน้อยมองมาที่ผมอย่างให้กำลังใจท่าทางเหมือนอยากจะเข้ามาช่วยแต่ก็ไม่กล้า

          เมี๊ยววว !!!

         เจ้าถิ่นพากันบุกเข้าใส่ผมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ผมกลับไม่ตอบโต้ ไม่รู้ทำไมผมถึงอยากจะวัดใจกับเจ้าของตากลมโตคู่นั้น
ผมยอมให้ไอ้แมวเจ้าถิ่นฟัดเล่นอยู่ไม่กี่อึดใจ คนตัวเล็กก็วิ่งออกมาจากหลังต้นไม้ แล้วขว้างก้อนหินมาทางที่พวกเราอยู่ เรียกว่าพยายามขว้างมั่วๆมากกว่า เห็นคว้าอะไรได้ก็ขว้างมาหมด ดีนะที่ผมหลบได้ แมวอีกสองตัวพอเจอคนที่ตัวใหญ่กว่าก็พากันวิ่งหนีกระจาย พอเห็นดังนั้นเจ้าของร่างเล็กนั่นเลยวิ่งเข้ามาหาผม

        “เจ็บไหม?” เสียงทุ้มเล็กๆทำให้ผมรู้ว่านี่คือเด็กผู้ชาย

         เด็กชายตัวน้อยในชุดนักเรียนมัธยมต้นโรงเรียนดังนั่งยองลงตรงหน้าผม ยื่นมือเข้ามาจะจับหัวผมแต่ก็เหมือนกล้าเลยได้แต่ค้างมือเอาไว้แบบนั้น จนผมต้องเอาหัวถูมือนุ่มนิ่มนั่นเสียเอง ใบหน้าหวานตื่นตกใจอยู่พักเดียวก่อนจะริมฝีปากเล็กจะยิ้มแย้มแล้วจับผมสำรวจไปมา

         “น่ารักจังเลย ^__^”

         อ่า...รอยยิ้มนั่นทำผมแสบตาชะมัด...

        เมี้ยวววว ~~
 
        นั่นเป็นเหตุการณ์ครั้งแรกที่ทำให้ผมเจอมิน...
   
        หลายปีผ่านไปเรื่องราวดีๆในวันนั้นก็กลายเป็นความทรงจำในวัยเด็กของผม ตอนนี้ผมควบคุมร่างตัวเองได้แล้ว และตอนนี้ผมก็กำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยรัฐชื่อดังคณะวิศวะกรรมศาสตร์ชั้นปีที่สาม หน้าที่ของพวกผมปีนี้คือทำการรับร้องปีหนึ่งที่กำลังจะเข้ามา เรียกง่ายๆ ก็พี่ว้ากนั่นแหละครับ

   “วันนี้เข้าห้องเชียร์ไหมมึง ?” ไอ้แม็คเพื่อนในกลุ่มของผมเอ่ยถาม

   “ขี้เกียจว่ะ”

   “ขี้เกียจหรือมึงนัดสาวไว้ เพลาๆบ้างนะ กูไม่อยากมีเพื่อนเป็นเอดส์ตาย”

   “สัส !” ผมด่ามันได้แค่นั้น ก็มันเรื่องจริงหนิครับ อาจจะเพราะตำแหน่งเดือนที่ผมได้มาตอนเข้าปีหนึ่ง หรือเพราะอะไรก็แล้วแต่ ยังไงก็ต้องขอบคุณเพราะมันทำให้ผมไม่เคยขัดสนเรื่องผู้หญิง อ่อ...มีผู้ชายด้วย นานๆครั้งน่ะครับ แต่ก็เท่านั้นแหละครับ ไม่ได้คบกันจริงจัง และทุกครั้งก็ป้องกันอย่างดี ความจริงก็ไม่อยากจะโทษสายพันธุ์ตัวเอง แต่ก็ยอมรับว่าเพราะความแตกต่างมันมีผลทำให้ผมต้องการมากกว่าคนอื่น หรือจริงๆมันอาจจะไม่เกี่ยวแต่พฤติกรรมแบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยสำหรับพวกเรา ยกเว้นคนที่มีคู่เป็นตัวเป็นตนน่ะนะ

   “ไม่ไปจริงเหรอวะ เมื่อวานกูไปมา เหี้ย เด็กปีหนึ่งแม่งอย่างเด็ด!” ไอ้ปืนทำหน้าหื่นกาม ผมเลยถีบมันไปที

   “ไปดูหน้าน้องรหัสมึงก็ยังดี เหี้ยหนิ ปี้แต่สาวงานการอ่ะทำบ้าง” ไอ้แม็ค มึงก็ว่ากูซะเสียหาย

   “เออๆ” แล้วผมก็รับปากไป ไม่ใช่เพราะขี้เกียจฟังมันบ่น แต่แอบไปดูเด็กๆหน่อยก็ดี หึหึ

   “นั่นๆคนนั้นน้องรหัสกู  หน้าตากวนตีนชิบหาย!” ไอ้ปืนชี้นิ้วไปทางไอ้เด็กหัวเกรียนที่ยืนหน้ามองตรงระเบียบเชียร์อยู่ในแถว หน้ามันกวนตีนจริงครับ ผมหันไปพยักหน้าเออออกับไอ้ปืนแล้วหันกลับมามองหาน้องตัวเองบ้างเผื่อเป็นผู้หญิงจะได้เตรียมการดูแลอย่างดี แต่ถ้าเป็นผู้ชายถึกๆก็ปล่อยมันดูแลตัวเองไป

   กึก!

   ยังครับ ยังไม่เจอน้องรหัสแต่ดันไปเจอกับดวงหน้าหวานใสที่ตรึงสายตาผมให้หยุดมอง ความทรงจำในวัยเด็กของผมไหลกลับมาอย่างรวดเร็ว ตัวเล็กๆขาวๆแบบนี้ ใบหน้าเรียวน่ารักแบบนี้ และดวงตากลมโตเหมือนลูกกวางแบบนี้ ใช่แน่ๆ ไม่ผิดแน่นอนครับ...ไอ้ตัวเล็ก

   หลังจากวันนั้นผมก็เข้าห้องเชียร์เป็นประจำไม่เคยขาด จนเพื่อนๆร้องทัก ส่วนไอ้ปืนกับไอ้แม็คมันก็คิดว่าผมเจอคนถูกใจ ซึ่งก็ใช่ครับ ไม่ได้ผิด ก็ผมเจอคนถูกใจจริงๆ

   ใช้เวลาไม่กี่เดือนในการเข้าห้องเชียร์เพื่อทำกิจกรรมน้องไม่นานก็จบลง ตอนนั้นแหละที่ผมเริ่มว้าวุ่นเพราะถ้าไม่มีห้องเชียร์โอกาสเจอหน้าใสๆนั่นก็น้อยเต็มที เรียนก็คนล่ะชั้นปีแล้วจะเอาเวลาไหนให้ไปเจอกัน แล้วมันก็เป็นเรื่องบังเอิญครับ เมื่อเพื่อนคนนึงในกลุ่มน้องมันดันเป็นน้องรหัสไอ้ปืน ก็ไอ้เด็กหัวเกรียนนั่นแหละครับ มันชื่อ ฟิวส์

   พอมีคนกลางเรื่องทุกอย่างก็ไม่ยากอย่างที่คิด ถึงจะโชคร้ายหน่อยที่น้องรหัสผมไม่ได้อยู่กลุ่มนี้ด้วย กลุ่มน้องมันมีกันสี่คนครับ ไอ้ฟิวส์ ออย น้องผึ้ง แล้วก็มิน ชื่อเจ้าตัวนั่นแหละ ผมเริ่มใช้ความเป็นเพื่อนพี่รหัสเข้าใกล้ชิดกับเด็กกลุ่มนี้โดยการบังคับ ? ไอ้ปืนให้พาน้องๆไปกินข้าวบ่อยๆ เดือนละสามสี่ครั้งได้ ส่วนใหญ่ผมจะเป็นคนเลี้ยงเองบางทีเจอข้างนอกก็กินข้าวด้วยกัน จนพวกเราเริ่มสนิทกัน

   มินดูเป็นคนแรงๆครับ แต่ไม่ได้หมายความว่ามันแรดนะ คนที่รู้จักผิวเผินก็มองมันในรูปแบบนั้นอาจจะเพราะคำพูดโผงผางดูเจนโลกของน้องมันที่ดูขัดกับใบหน้าน่ารักที่ผมชอบมองหรือพฤติกรรมการท่องเที่ยวยามราตรี แต่ถ้าได้ลองรู้จักหรือทำความสนิทสนมแล้วล่ะก็จะรู้ว่ามินไม่ใช่คนแบบนั้น แถมบางทียังใสกว่าที่คิดไว้มาก แล้วก็เพราะแบบนี้จึงทำให้น้องมันโดนเพื่อนๆในกลุ่มแกล้งหยอกเล่นอยู่เรื่อย สนุกพวกมันล่ะ แล้วก็สนุกผมด้วย ฮ่าๆ

   ผมชอบแกล้งกวนมินให้มันหงุดหงิดครับ พอน้องมันหงุดหงิดแก้มใสกลมๆนั่นจะพองขึ้นมาเล็กน้อยแบบที่เจ้าตัวเองก็คงไม่รู้ ปากเล็กๆจะเชิดขึ้นแล้วบ่นขมุบขมิบเมื่อสู้ไม่ได้ แล้วใบหน้าน่ารักนั่นจะเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อลามจนถึงใบหูเมื่อถูกแกล้งให้อาย เวลาจะด่าตอบก็จะเริ่มติดขัดเพราะคิดไม่ทัน สุดก็ได้กระทืบเท้าไปมาอยู่คนเดียวอย่างขัดใจ เห็นแล้วมันน่ารักดีครับผมเลยต้องแวะมาหยอกบ่อยๆ

   วันนี้ก็เช่นกัน...

   “โห...พี่นิล ขยันเลี้ยงน้องนะครับ” ไอ้ฟิวส์ทักผมที่เดินถือถุงจากร้านเจ็ดสิบเอ็ดถุงใหญ่เข้าไปที่โต๊ะประจำของพวกมัน เห็นว่าวันนี้มีงานครับเลยอยู่เย็น ผมก็ใจดีเลยซื้อเสบียงมาฝาก

   “นั่นน่ะสิ น้องรหัสรึก็ไม่ใช่” ออยพูด ส่งถุงขนมไปให้ไอ้ฟิวส์ที่กุลีกุจอมารับ มันค่อนข้างเกรงใจพวกผมมากกว่าเพื่อนในกลุ่มของมัน คงเพราะไอ้ปืนเป็นพี่รหัสมันด้วยมั้ง

   “กลัวเด็กแถวนี้หิวตายก่อนทำงานเสร็จ” ผมตอบยิ้มๆแล้วนั่งลงที่ว่างซึ่งอยู่ตรงข้ามกับไอ้ตัวเล็กของผมพอดี น้องมันเงยจากจอโน๊ตบุ๊คมามองผม ผมก็ยิ้มตอบ ^_______^

   “หูยยยพี่...เช้าถึงเย็นถึงแบบนี้เพื่อนผึ้งจะไปไหนรอด”

   “ระยะสร้างกรง” ผมตอบน้องผึ้งยิ้มๆ ไอ้คนโดนพาดพิงเริ่มหันซ้ายขวาทำตัวไม่ปกติแล้วครับ ฮ่าๆ

   “กรงบ้าอะไร ไม่ใช่หมาใช่แมว” พอเจอสายตาล้อเลียนเข้าหน่อยก็หันมาลงที่ผมแทน นั่นๆปากยื่นขมุบขมิบอีกแล้ว น่ารักจริงๆ

   “อ่ะ เอามาให้” ผมวางอมยิ้มรสสตอเบอร์รี่ตรงกลางโต๊ะ ไม่รู้หรอกว่ามันชอบหรือเปล่า แต่อยากให้มันกิน แก้มตุ่ยๆตอนอมอมยิ้มท่าจะน่ารักดี

   “ให้ผมหรอพี่กำลังอยากกินพอดีอ่ะ รู้ใจสุดๆ” เสือกละมึงไอ้ฟิวส์

   “คิดเอาเอง”

   “โอเคพี่ ไม่อยากกินแล้ว อ่ะเอาไปเลยมึง” เอาไปวางไว้ตรงหน้าไอ้ตัวเล็ก

   “หึหึ”

   “พวกมึงก็แดกๆไปสิ” เจ้าตัวว่า

   “ไม่ล่ะ พวกกูแพ้ลูกอม” เยี่ยมครับผมชอบเหตุผลออย เพราะมันทำให้เจ้าของตัวจริงปั้นหน้าไปไม่เป็นเลยทีเดียว

   “กูไม่แดก เดี๋ยวฟันผุ”หันไปบอกเพื่อนแล้วเอาวางไว้ที่เดิม

   “อ่ะ” ผมวางชุดแปรงสีฟัน ยาสีฟัน ที่พกติดกระเป๋าตลอดมาวางบนโต๊ะ บางครั้งเพราะงานทำให้ผมต้องค้างที่คณะบ้าง เลยทำให้มีของพวกนี้ติดตัว ไม่ได้คิดว่าจะต้องเอามาใช้แบบนี้เหมือนกัน ผิดคาดแฮะ แต่ผลตอบรับก็ดีเกินคาดเมื่อน้องมันหน้าเหวออ้าปากค้างเลย ฮ่าๆ

   “เหวอ !!”

   “ฮ่าๆๆๆๆๆ นี่ไงมึง คราวนี้แดกได้ละ” ออย

   “พี่นิลแม่งสุดยอดอ่ะ เพื่อนผมเอ๋อเลย”ไอ้ฟิวส์

   “ไม่รอดแน่เพื่อนกู”น้องผึ้ง

   “พี่นิล พี่ไม่มีงานมีการบ้างหรอ ถ้าว่างก็กลับบ้านไปนอนเลยไป๊” พอตัวเองถูกรุมก็มาพาลคนอื่น ดูสิครับ คนเรา

   “โอเค ตั้งใจทำงานนะครับ ^_____^” ผมบอกพร้อมกับยื่นมือไปจับหัวเล็กๆนั่นโยกไปมา เห็นแก้มขาวๆขึ้นสีแดงเป็นริ้วๆ
 
   “ฮิ้วววววววววววววว”

   วันนี้ได้เห็นไอ้ตัวเล็กทำหน้าบูดแล้ว...ถือว่า มิสชั่นคอมพลีส... ^^


TCB++++++++++++++++++++

TALK....
กลับมาเเล้วจ้าาาา.... หลังจากหนีไปรบกับข้อสอบมิดเทอมมา ซึ่งยังไม่รู้ผลเเพ้ชนะ  :hao5:
แต่ตอนนี้ทิ้งมันเอาไว้ข้างหลังก่อน ทิ้งทุกอย่างไว้เป็นภาระของไฟนอล คึคึ

วันนี้เเวะเอาพาทอีพี่นิลมาฝาก อาจจะย้อนไปนิดนึง ถือว่าเป็นการทำความรู้จักกับพี่มันให้มากขึ้น เพราะน้องมินเเทบไม่ได้เล่าอะไรให้รู้เรื่องเลย ซึ่งการเขียนตอนนี้ต้องขอบอกว่าพยายามอ่านทวนเเล้วทวนอีก เพราะกลัวจะหลุดคาเเรกเตอร์ของพี่มัน เเต่ก็เท่านั้น เพราะว่าอีพี่นิลมันไม่ใช่พระเอกสายเท่ห์เงียบขรึม เเต่เป็นพี่นิลที่เป็นพระเอกของเรื่องนี้ ฮ่าๆ ซึ่งพาทของพี่นิลจะมีประมาณ 2 พาท ไม่เกินนี้ ขอฝากทุกคนด้วยน๊าาาา  :mew1: :mew1:

ปล. จากตอนที่เเล้วมีคอมเม้นบอกว่าทำไมมีปอกคอตอนที่พี่นิลมันเเปลงร่างเป็นเเบล็คกะทันหันได้ ซึ่งเจลได้กลับไปอ่านดูเเล้ว
ก็ค้นพบว่า เห้ย !! จริงด้วย เพราะตอนเป็นคนพี่มันไม่ได้ใส่หนิ เพราะงั้นตอนกลายร่างก็ยังไม่น่ามีปอกคอสิ เลยจัดการเเก้ไขเเล้วจ้า ขอบคุณสำหรับคอมเม้นมากนะคะ  :pig4: :pig4: :pig4:

ปล. สุดท้ายท้ายสุด ถ้าคนอ่านทุกท่านเห็นตรงไหนมันพลาดมา ทักท้วงได้เลยนะคะ เจลจะจัดการไขทันที  :L2: :L2:

ปล.อีกนิด ฝากติดตามพี่นิลด้วยจ้าาาา

 


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-03-2016 17:09:50 โดย JallolY »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :hao6:   ขอคารวะพี่นิลแวร์แคท. ที่ไม่จับน้องมินกดตั้งแต่ปีหนึ่ง
เขาเล็งกันมานาน มีใจกันมาตลอด เอาอีกๆค่ะ. พี่นิลมาแฉตัวเองอีกว่ากระทำชำเราอะไรน้องบ้างตอนหลับ
ขอบคุณค่ะ คำหิด เสร็จสรรพ. กิตติมศักดิ์

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
กลืนน้ำลายรอตอนต่อปาย

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4

ออฟไลน์ Bb nale

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
หยอกๆอยู่อย่างนั้นน้องมันอาจจะไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้นเอาจริงเอาจับได้แล้วพี่นิลเดี๋ยวหมา(แมว)คาบมินไปกินไม่รู้ตัวนา
(-_-)

ออฟไลน์ Jadd

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ JallolY

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ตอนที่ 8


   [[ : Nin Part 2 : ]]

   “เมื่อไหร่ไอ้ฟิวส์จะมาวะ กูจะเมาละสัส!” ไอ้แม็คบ่น

   “มันบอกใกล้จะถึงละ”

   วันนี้ผมกับเพื่อนอีกสองคนอยู่ในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งแถวๆมหาวิทยาลัย ก็นั่นแหละครับจะให้เลี้ยงแต่ข้าวน้องมันก็ไม่ใช่วิสัย วันนี้เลยพาเด็กๆออกมาเปลี่ยนบรรยากาศ เพราะยังไม่เคยมีสักครั้งที่พวกผมจะเลี้ยงเหล้าพวกมัน แล้วนี่ก็เป็นวันสอบวันสุดท้ายเลยถือโอกาสฉลองให้ซะเลย แต่คราวนี้ผมไม่ได้จ่ายคนเดียวนะครับ

   “อีกนานไหมวะ ?” ผมถาม

   “ไม่นาน อีกแป๊บเดียวๆ” ไอ้ปืน

   “เออมึง กูเห็นมึงเต๊าะไอ้มินมันมาก็นานละ ถามจริงได้ยังวะ?” ไอ้แม็คยื่นหน้ามาถามผม ผมไม่โกรธหรอกนะเพราะมันเป็นเรื่องปกติที่ใครก็สงสัย คงไม่เคยเห็นผมตามใครด้วยล่ะมั้ง

   “ยังไม่ถึงเวลา”

   “เออกูรู้ ไม่งั้นมึงคงไม่ล่อคนอื่นไปทั่วแบบนี้หรอก” เอ่อ..ครับ ไม่เถียง เพราะผมก็ยังคงมีคนอื่นไปทั่วเหมือนเดิม แต่น้อยลงหน่อยเพราะเวลาว่างผมเอาไปไว้ไปแกล้งไอ้ตัวเล็กของผม

   “แล้วมึงจะถามทำไม?”

   “เออๆ กูแค่อยากรู้ น้องมันน่ารักขนาดนั้นรอดมึงมาได้ก็ใช่ว่าจะรอดคนอื่น” ผมยกแก้วตัวเองขึ้นจิบ ทำไมผมจะไม่รู้ล่ะครับว่าไอ้ตัวเล็กของผมมันฮอตขนาดไหน แต่ยังดีครับที่เรื่องพวกนี้มันพอทันและเอาตัวรอดได้ ถือว่าสบายใจไปเปราะแต่ก็อดหงุดหงิดไม่ได้อยู่ดี

   “พี่หวัดดีครับ” บทสนทนาก่อนหน้าเป็นอันจบลงเมื่อพวกน้องๆเดินเข้ามา ผมไม่สนใจมันแต่มองเลยไปทางเพื่อนมันที่อยู่ทางด้านหลัง วันนี้ไอ้ตัวเล็กใส่เสื้อยืดคอปาดสีขาวหม่นตัวใหญ่ๆกับกางเกงยีนส์รัดรูปสีดำขาดหัวเข่า อืม...กางกางจะรัดก้นไปไหน

   “เออๆ มาถึงแล้วก็นั่งๆ แม่งไอ้แม็คมันจะเมาหนีพวกมึงละ”

   “โทษทีพี่ รถมันติด” ผมไล่มองน้องๆที่เริ่มหาที่นั่งเป็นของตัวเอง วันนี้น้องผึ้งไม่มาครับเห็นว่าติดเลี้ยงสายเหมือนกัน

   “เออๆ บริการตัวเองนะมึง กูจ่ายตังค์อย่างเดียว”

   “เอ๋ ? วันนี้พี่ปืนเป็นคนจ่ายหรอครับ?” คำถามจากออยเลยครับ ผมนี่ยิ้มกริ่มเลยส่วนคนที่มีเอี่ยวนิดๆชะงักค้างกลางอากาศก่อนจะปรับตัวแล้วทิ้งลงนั่งฝั่งตรงข้ามกับผม ผมชอบนั่งตรงข้ามกับน้องมันนะ เวลามองแล้วไม่ต้องเอียงคอหรือหันหน้าดี แค่มองตรงๆก็เจอ เงยหน้าก็เจอ

   “อยากเลี้ยงเด็กๆบ้าง” พูดอย่างเดียวไม่พอ ส่งสายตาไปอีก

   “พี่ๆครับปล่อยเพื่อนผมไปสักคนเถอะครับ อย่าเก็บไว้กินเองหมดเลยครับ” ไอ้ฟิวส์มันคงรู้สึกเหมือนผม

   “สัสนี่ เอ้าแดกๆ” ผมยกยิ้มมุมปากให้ไอ้ปืนที่แกล้งเฉไฉไปเรื่อย คงคิดว่าไม่มีใครรู้ทันล่ะสิ

   “มองไร?” ผมจ้องหน้าคนตรงข้ามที่เอาแต่นั่งเงียบตั้งแต่มาถึง คงไม่อยากพูดเพราะเดียวจะโดนแซวแต่คงทนแรงกดดันจากสายตาผมไม่ไหวเลยถามออกมา

   “มองแรด”

   “O_O !”

   “หึหึ”

   กินกันไปก็เริ่มดึกดื่นจนใกล้เวลาจะกลับ มินมันคอแข็งใช่เล่นเลยครับนั่งชนกับพวกผมตั้งนานยังไม่มีทีท่าว่าจะเมา ในขณะที่ไอ้เฟิวส์เพื่อนมันหัวจะทิ่มโต๊ะอยู่แล้ว น้องออยก็เริ่มหน้าแดง แต่คนตรงหน้าผมนี่ยังนิ่งสนิทแต่รู้สึกว่าตาจะหวานขึ้นนะ ส่วนพวกผมยังปกติดีครับเมาไม่ได้ต้องดูน้องด้วย

   “เดี๋ยวกูมา เข้าห้องน้ำก่อน” ผมผละออกจากโต๊ะไปทำธุระในห้องน้ำ

   เสร็จแล้วก็ออกมายืนล้างมือ เช็คสภาพตัวเองในกระจกเล็กน้อยก่อนจะเดินออกมา แต่ก็โดนดักด้วยเสียงหวานอ้อแอ้ เอาไงดี ?

   “จะกลับกันแล้วหรอคะ ?”

   “หืม ?” ผมเลิกคิ้วใส่แม่สาวทรงโตหนองโพคัพดีที่เดินมาขวางทางเดินของผมเอาไว้

   “แจนนะคะ”

   “ครับ”

   “วันนี้พี่นิลมากลับเพื่อนหรอคะ?” ข้อมูลแน่นแฮะรู้จักผมด้วย มือผมถูกจับขึ้นไปวางบนสะโพกอวบๆนั่นแล้วจะให้ทำไงล่ะครับ ลูบสิ

   “อืม พาน้องมาเลี้ยงน่ะ”

   “ถ้าแจนขอเวลาสักเดี๋ยว จะรบกวนพี่นิลมากไหมคะ ?” ช้อนตามองยิ้มหวานยั่ว มือเล็กๆยกขึ้นมาลูบไล้แผงอกผม สะกิดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ดๆ ถ้าเปลี่ยนจากคนตรงหน้าเป็นไอ้ตัวเล็กหน้ายู่คงจะดีไม่น้อย

   “หึ”

   “อ๊ะ...อืม” ผมไม่รอให้ต้องพูดมาก มาง่ายก็ไปง่ายผมดึงน้องคัพดีนี่เข้ามาชิดอก น้องก็รู้หน้าที่ดีเหลือเกินคว้าคอผมลงไปจูบหมับ ผมเองก็ปล่อยเลยตามเลย ยอมรับเลยว่ามีอารมณ์ปกติผมเป็นคนกินเยอะกินจุอยู่แล้วยิ่งพอมีแอลกอฮอล์เข้าปากมันเลยจุดติดง่ายกว่าปกติ

   หลังจากลากกันไปซอกด้านหลังห้องน้ำจัดการภารกิจแบบเร่งด่วนเสร็จสรรพผมก็เดินออกมา แล้วเหมือนผมจะเจอแจ็คพ๊อต หน้าใสๆเจ้าของตาโตๆกำลังมองด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป ถ้าเดาไม่ผิดคงรู้สินะว่าผมไปทำอะไรมาแล้วไม่แน่ว่าอาจจะเห็นด้วยตาเลยก็ได้ แล้วไม่นานหลักฐานก็เดินตามออกมาในสภาพที่ยับเยินนิดๆ

   “แจนกลับก่อนนะคะ” ขยิบตาส่งจูบแล้วเดินนวยนาดจากไป

   “พี่ปืนให้มาตาม บอกว่าจะกลับแล้ว” ห้วนสั้นก่อนจะหันหลังเดินหนี แต่ผมไม่ยอมหรอก ลากแขนน้องมันให้ลับเข้าไปที่ซอกเดิม

   “จะไม่ติดต่อหลังจากนี้” ผมอธิบายด้วยประโยคสุดโง่ แต่ตอนนั้นคิดออกเท่านี้จริงๆ

   “ตามใจ ยังไงพี่ก็ของสาธารณะ”

   “ไม่ใช่”

   “ถึงจะใช่ก็ไม่เกี่ยวกับผม ปล่อย..”

   “คุยกันก่อน” ผมดันร่างเล็กๆนั่นให้ชิดกำแพงก่อนจะคร่อมเอาไว้ มินมองหน้าผมหน้าตาตื่นเหมือนตกใจเพราะผมไม่เคยใกล้ชิดเขาแบบนี้

   “ไม่มีอะไรต้องคุย ปะ...อ๊ะ !”

   อืมครับ ไม่มีอะไรต้องคุย งั้นก็ไม่ต้องคุย ผมแนบปากลงบนริมฝีปากเล็กๆของอีกคนจะด้วยอารมณ์ไหนก็ตามแต่มันเป็นสัมผัสที่ตราตรึง และทำผมหลงไปในรสสัมผัส ถึงจะไม่ใช่เวลาที่ดีหรือโอกาสที่เหมาะสม แต่นั่นแหละ
จูบแรกของเรา...


        หลังจากนั้นไอ้ตัวเล็กก็หลบหน้าผมเหมือนไม่อยากเจอ ผมเลยต้องปรับเปลี่ยนวิธีการเข้าหาอีกครั้ง จากที่เคยเข้าทางเพื่อนๆตอนนี้ก็เข้ามันตรงๆนี่แหละครับ ฉายเดี่ยวไปเลย แล้วก็นั่นแหละจากครั้งแรกก็ต้องมีครั้งที่สอง วิธีการเข้าหาใหม่ของผมก็คือการตอดเล็กตอดน้อยไอ้ตัวเล็กไปเรื่อยๆ แรกๆน้องมันโวยวายจนเกือบจะวางมวยกันหลายรอบ ไม่สิบางทีผมก็โดนมาแล้ว แต่หลังๆมาไอ้ตัวเล็กก็เริ่มจะคุ้นเคยกับสัมผัสของผมซึ่งผมชอบนะ

         จนเวลาผ่านไป ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่คำเรียกกันอย่าง ‘พี่นิล’ หรือคำแทนตัวว่า ‘ผม’ มันหายไปเหลือแต่กูมึงภาษาพ่อขุนเท่านั้นที่เข้ามาทักทาย ไม่ค่อยซีเรียสหรอกนะแต่ก็ไม่ได้ชอบ เพราะความจริงผมคิดว่าผมรู้นะว่าน้องมันคิดอะไรอยู่ หึหึ

         ถึงผมจะอยู่ในฐานะที่เหมือนจะเป็นเจ้าของแต่มันก็แค่เหมือน เพราะรอบตัวมินยังคงมีคนเข้ามายุ่มย่ามตลอด ยิ่งผมไม่ได้เข้าหาเหมือนเดิมไม่ได้ไปไหนมาไหนด้วยบ่อยๆ ไอ้คนที่เล็งๆไว้ตอนแรกก็เริ่มแสดงตัวพยายามสรรหานู้นนี่นั่นมาให้ไอ้ตัวเล็กของผม ล่าสุดเห็นหอบลูกแมวตัวเล็กมาบอกจะให้เอาไปเลี้ยงเพราะมินมันชอบแมว ดีครับที่ไอ้ฟิวส์มาบอกผมก่อน ผมเลยจัดการให้มันเอาแมวนั่นกลับไปเลี้ยงเอง

         เพราะมินมันมีแมวของตัวเองอยู่แล้ว...^^

         เย็นวันนั้นเป็นวันที่มินจอดรถหลังคณะซึ่งจะต้องเดินผ่านตึกหลังไปก่อน ผมในร่างแมวดำตัวใหญ่ทำตัวคลุกฝุ่นดูน่าสงสารยืนเตร็ดเตร่อยู่แถวนั้นเพื่อรอจังหวะ อาจจะดูเหมือนบ้าบิ่นไปหน่อยแต่เอาจริงผมก็ไม่รู้อะไรดลจิตดลใจให้ลงทุนทำเรื่องแบบนี้ คงต้องขอบคุณแผนเอาแมวมาล่อของไอ้คนก่อนหน้าที่มันทำให้ผมรู้ตัว...ว่าอยากมีเจ้าของ ^^

          ไม่นานร่างเล็กๆก็เดินมาพร้อมชีทเรียนและกระเป๋าสะพายใบเก่ง บางทีผมก็สงสัยนะครับ ว่าตัวเล็กแค่นั้นแต่ทำไมชอบหอบของอะไรเกินตัว หอบมาเหมือนเด็กไม่จัดตารางสอน

           เมี๊ยวววว

           ร้องเบาๆ แค่นั้น ไอ้ตัวเล็กก็หยุดชะงักหันรีหันขวาเหมือนไม่แน่ใจ ผมเลยร้องอีกครั้งและอีกครั้งจนเจ้าตัวเดินตามเสียงมาเรื่อยๆ และเจอผมที่นอนหมอบอยู่หน้าพุ่มไม้ ตากลมโตนั่นขยายจนมันโตมากกว่าเดิมด้วยความสงสัย ใบหน้าเล็กหันซ้ายหันขวาเหมือนมองหาบุคคลอื่นแถวนี้

          “มาทำอะไรแถวนี้ หืม ? เจ้าเหมียว” นั่งยองตรงหน้าผม ทำท่าเหมือนอยากจะจับแต่ก็ยังไม่กล้าจับ เหมือนตอนเป็นเด็กไม่มีผิด

         เมี๊ยววววว

        “หิวหรอ? กินนี่ไหม?” มือเล็กๆชูถุงลูกชิ้นปิ้งในมือให้ผมดู ก่อนหยิบมันออกมาให้ผม เอ่อ...ไม่ได้อยากกินเท่าไหร่แฮะ แต่ก็ต้องกินเอาใจคนให้

        “น่ารักจัง ^________^” รอยยิ้มสว่างจ้า ดาเมจรุนแรงมาอีกแล้ว

        ผมกินลูกชิ้นไปนิดหน่อยก่อนจะเดินเข้าไปคลอเคลียไอ้ตัวเล็ก กลิ่นหอมอ่อนของเจ้าตัวทำให้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นแมวหื่นกาม หลังจากคลอเคลียไปได้ไม่นานผมก็ได้ขยับขึ้นมานั่งตัก อ่า...เห็นไหม เป็นแมวมันดีกว่าเห็นๆ หึหึ

        “ไม่มีปอกคอ ไม่มีเจ้าของ งั้นมาเป็นของมินนะ จะแวะมาเล่นด้วยทุกวันเลย ^^”

        เมี๊ยวววว

        มาเป็นของมินงั้นเหรอ...ชอบประโยคนี้จังแฮะ

       “ขนสีดำแบบนี้ชื่อ แบล็ค ละกันนะ ตกลงไหม?”

      เมี๊ยวววว

       นั่นเป็นที่มาของชื่อใหม่ของผม มินจะแวะมาหาผมทุกวันเช้าบ้างเย็นบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นตอนเย็น ผมเลยต้องจัดเวลาตัวเองให้ดี เคลียธุระให้เรียบร้อยแล้วมารอเจ้าของในตอนเย็นทุกวัน ไอ้ตัวเล็กจะหาเรื่องอะไรมากมายมาเล่าให้ผมฟังทั้งๆที่เจ้าตัวไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมฟังรู้เรื่องหรือเปล่า แล้วส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องของผมในร่างคนที่ไอ้ตัวเล็กจะเอามาเล่าแล้วก็บ่นๆๆ น่าตลกไหมล่ะครับบ่นผมในร่างคนให้ผมในร่างแมวฟัง แต่ผมก็ชอบฟังนะ จะได้เอาไปปรับกลยุทธ์ในตอนเป็นคน หึหึ

        เวลาผ่านไปเกือบสองเดือนผมก็ได้เลื่อนขั้นจากแมวหลังคณะมาเป็นแมวในคอนโด แล้วผมก็เริ่มรับรู้ความลำบากที่แท้จริง ผมลงทุนซื้อห้องใหม่ใกล้ๆกับห้องมินแล้วย้ายของเข้ามาอยู่ทันทีเพื่อความสะดวก ผมต้องเร่งเวลาของตัวเองให้เร็วกว่าเดิม ต้องกลับห้องก่อนเจ้าของจะกลับมาซึ่งมันหนักหนาเอาการ แต่ก็มีความสุขดีครับ

       แม้จะมีเรื่องทรมานนิดหน่อย...

       การห้ามใจตัวเองไม่ให้ทำอะไรเกินขอบเขตกับคนที่สนใจนี่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยครับ แม้ผมจะทำการฝึกความอดทนของตัวเองโดยการเข้าไปอาบน้ำกับเจ้าของก็เถอะ ครั้งที่เห็นเรือนร่างขาวโพลน เนื้อแท้ใต้ร่มผ้านั้นขาวใส เรียบเนียนดูน่าสัมผัสกว่าที่คิดเอาไว้มาก นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องแอบรังแกเจ้าของตอนนอนหลับบ่อยๆ แรกๆเจ้าตัวก็งงๆ คิดว่าตัวเองโดนแมลงกัดบ้างแพ้อาหารบ้าง เห็นไหมครับ ผมบอกแล้วน้องมันใส

        จนวันนึงผมค้นพบความลับของเจ้าของห้องที่ผมมาอยู่ด้วย...

        วันนั้นผมมาส่งมินได้หอหลังจากที่บังเอิญเจอกันที่ห้างสรรพสินค้า และแลกจูบกันในรถ ผมก็รีบกลับขึ้นห้องทางบันได้หนีไฟ เกือบไปแล้วเหมือนกันครับ ดีที่วันนั้นมินเองไม่ได้สนใจอะไรผมนัก เพราะทันทีที่เข้าห้องเจ้าตัวก็พุ่งเข้าห้องนอนตัวเองทันที ผมเดินตามเข้าไปเมื่อได้ยินเสียงแปลกๆ และมันเป็นการกระทำที่ผิดมหันต์ !!!

        “อ๊ะ...อ๊าส์...”

        ร่างเล็กขาวโพลนนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงนอน สองขาคุกเข่ายันพื้นเตียงเอาไว้ทำให้สะโพกเล็กโก่งโค้งขึ้นจนเห็นช่องทางเด่นชัด และที่มากไปกว่านั้นคือสองนิ้วเล็กๆที่สอดรับอยู่ในช่องทางสีสด ขยับเข้าออกอย่าเร่งเร้าจนผมนึกอยากจะแทนที่ด้วยอะไรที่ใหญ่กว่า

         สี่เท้าของผมขยับเข้าไปใกล้เรื่อยๆโดยที่มินเองคงไม่ทันรู้ตัว ผมเผลอจ้องการกระทำที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าร่างเล็กจะมีมุมนี้อย่างรุ่มร้อน ความผิดชอบชั่วดีละลายหายไปหมด ผมบรรจงแตะลิ้นลงบนช่องทางสีสดที่มีนิ้วเล็กสอดเข้าออก

        “อ๊ะ...” กายเล็กชะงักไปก่อนจะหันกลับมามองที่ผม แต่ผมไม่หยุดไล้เลียอย่างหื่นกระหายทั้งจนทั้งร่องเปียกชื้นลามไปจนถึงนิ้วเล็กที่สอดส่ายเร็วขึ้น ผมคิดว่าเพราะความสากของลิ้นแมวทำให้ความเสียดเสียวเพิ่มมากขึ้น ไม่นานก็ปลดปล่อยออกมา
       
       ก่อนจะหลับเพราะความอ่อนเพลีย...

       ผมรอจนกระทั่งมั่นใจว่าไอ้ตัวเล็กหลับไปแล้ว ก่อนจะกลับมาอยู่ในร่างคนอีกครั้ง ปกติผมจะเอาอารมณ์ตัวเองไปลงที่อื่น แต่ตอนนี้ไม่ทันแล้วเพราะคนที่นอนหลับตาพริ้มอยู่นี้ทำให้ผมไม่อยากทนแล้ว
     
        ผมจัดการขึ้นคร่อมร่างเล็กก่อนจะประทับจูบอย่างร้อนแรงรุกเร้าจนอีกคนเผลอตอบกลับมาแม้จะไม่ได้สติก็ตาม สองมือผมลูบไล้ไปทั่วร่างเนียนอย่างย่ามใจ บีบขย้ำ ลูบไล้ไปทั่วทั้งตัวก่อนจะหยุดอยู่ที่จุกนมเม็ดเล็กทั้งสองข้าง บดคลึงจนติ่งเนื้อเล็กแข็งเป็นไตรับสัมผัส

        “อื้อ...” เสียงครางเล็กๆอย่างพอใจเล็ดรอดออกมาเมื่อผมผละริมฝีปากออกก่อนจะแตะลิ้นลงบนจุกนมข้างหนึ่ง ตวัดเลียอย่างหื่นกระหาย แต่ผมรู้สึกว่ามันยังไม่พอ มากกว่านี้ ผมอยากได้มากกว่านี้...

        “อ๊ะ...” ผมพลิกตัวคนใต้ร่างให้นอนคว่ำจัดการให้อยู่ในท่าเดิมก่อนหน้านี้ ก้นขาวกลมกลึงปรากฏเด่นท้าทายสายตาจนผมอดที่จะขย้ำแรงๆไม่ได้ มันเด้งสู่มือผมดีชะมัด ผมให้มือข้างหนึ่งเตรียมความพร้อมให้ร่างกายตัวเอง ตาจ้องมองช่องทางลับที่กำลังขมิบถี่จนอยากจะกระแทกกายให้จมมิด

       “อ่า....ส์” ผมจับขาเรียวชิดกันก่อนจะแทรกแกนกายผ่านเข้าไป ถึงต้องกัดฟันแต่ผมก็อยากให้ครั้งแรกของเราที่มีสติรับรู้ทั้งคู่ ซอกขานุ่มๆทำหน้าที่ได้ดีเกินคาดจนผมเผลอใส่แรงกระแทกกระทั้นจนเจ้าของร่างสั่นคลอนไปหมด ไม่นานไอ้ตัวเล็กของผมก็ชิงปลดปล่อยอีกครั้งก่อนที่ผมจะตามไปติดๆ ผมล้มตัวลงนอนรั้งร่างเล็กนั่นให้เข้ามาซุกอกก่อนจะหลับไป
การรังแกตัวเองที่แสนเร่าร้อนนี้ จะมีแค่ผมที่ได้เห็น...

        ชีวิตผมกลับมาปกติสุขอีกครั้งหลังจากผ่านเรื่องหวาดเสียวครั้งนั้นมา และเหตุการณ์ในครั้งนั้นก็ทำให้ผมตระหนักได้ว่าผมต้องการมินมากแค่ไหน และควรจะทำอะไรให้เป็นเรื่องเป็นราวเสียที อย่างแรกคงต้องเลิกกับคู่ควงชั่วคราวทั้งหมดก่อน แล้วเอามาลงที่ไอ้ตัวเล็กคนเดียว ( แบบไม่ให้รู้ตัวอ่ะนะ )ก็คงต้องรับศึกหนักกันหน่อย ส่วนอย่างอื่นก็ค่อยๆปรับการเข้าหาใหม่อีกครั้ง ไม่นานทุกอย่างคงลงตัว

        คิดเรื่องราววางแผนไว้ดิบดี แต่ผมก็ทำพลาดอีกครั้ง...

        เมื่อตอนต้นเดือนผมได้รับการติดต่อจากที่บ้านแล้วพบว่า ‘จัสมิน’ น้องชายของผมหนีออกจากบ้านไป ตอนแรกผมไม่ได้สนใจมากเพราะคิดว่าคงออกไปเที่ยวเล่น ไม่นานก็กลับเหมือนที่ผมเคยทำ แต่มันไม่ใช่ ! เพราะเมื่อวันที่มินพาผมไปสวนสาธารณะผมเจอจัสมินไปอาศัยอยู่กับมนุษย์ ! นั่นทำให้ผมอดโทษตัวเองไม่ได้ ทั้งๆที่เรียนที่เดียวกันถึงแม้จะคนละคณะแต่ผมก็สามารถหาทางติดต่อน้องได้ง่ายกว่าที่บ้าน แต่ผมกลับปล่อยปละละเลยน้อง

        สาเหตุที่ทั้งบ้านเป็นห่วงจัสมิน เพราะน้องชายผมไม่เหมือนแวร์แคทคนอื่นๆ ถึงแม้จะอยู่ครบ 18 ปีบริบูรณ์แล้ว แต่จัสมินยังไม่สามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้ดี เวลามีเรื่องตกใจหรือเกิดเหตุการณ์ที่มีผลต่อจิตใจ จัสมินจะกลายเป็นแมวและการเก็บหางและหูของตัวเองในร่างมนุษย์ก็ยังไม่ดีนัก ทำให้ถูกกักตัวไว้แต่ในบ้านเรียนหนังสือจนจบเทียบเท่ามัธยมปลายโดยการที่จ้างครูมาสอนพิเศษ และเพิ่งได้ออกมาเรียนมหาวิทยาลัยโดยใช้เส้นสายนิดหน่อย แต่ก็นับว่ายังต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะมันไม่ใช่เรื่องตลกเลยหากมนุษย์รู้เข้าว่ามีพวกเราปะปนอยู่

         ช่วงหลายวันมานี้ผมใช้เวลาในการตามหาจัสมินที่เหมือนจะพยายามหลบหน้าผม ไม่ว่าจะไปหาที่คณะ หรือโทรศัพท์ไปก็ไม่สามารถติดต่อได้ แต่ในที่สุดความพยายามของผมก็ประสบผลสำเร็จ วันนี้จัสมินมาเรียนน้องตกใจมากที่เจอผม เรายื้อยุดกันอยู่นานจนมาถึงบริเวณตึกหลัง

         “มึง...!”

         เสียงเรียกจากคนที่ผมไม่อยากเจอที่สุดในเวลานี้ดังเรียกผม ทำให้ผมเผลอปล่อยให้จัสมินหนีไปได้ เราเถียงกันเล็กน้อย ก่อนที่ร่างกายผมจะรู้สึกแปลกๆ ผมก้มหน้ามองนาฬิกา นึกทบทวนวันที่ในใจ บ้าชิบ !!

         วันนี้พระจันทร์เต็มดวง...!!

         ผมพยายามเดินหนีมินและบอกให้เขากลับไปก่อน แต่ไอ้ตัวเล็กของผมดื้อดึงกว่าที่คิดถึงจะดีใจที่ได้รับความเป็นห่วงเป็นใย แต่มันต้องไม่ใช่เวลานี้ เวลาที่ผมจะไม่สามารถควบคุมการกลายร่างของตัวเองได้

         ความลับของพวกเราแวร์แคทอีกอย่างคือ...พวกเราทุกคนจะกลับเข้าสู่ร่างแมวในคืนพระจันทร์เต็มดวงทันทีที่พระอาทิตย์ตกดินและจะสามารถกลับมาควบคุมตัวเองได้อีกครั้งในยามที่แสงแรกของวันโผล่พ้นขอบฟ้าขึ้นมา...

   ผมยังไม่คิดจะบอกเรื่องนี้กับมิน และยังไม่มีความคิดที่จะบอกมินถึงในสิ่งที่ผมเป็น เพราะผมไม่กล้าแม้แต่จะคาดเดาผลตอบรับที่ได้กลับมา มันเป็นเรื่องเดียวที่ผมกลัว และก็ถือเป็นข้ออ้างที่ทำให้ผมใช้ชีวิตเสเพลเมื่อก่อนเพราะผมยังไม่สามารถจริงจังกับใครได้ ยังไม่กล้าบอกเรื่องเหล่านี้กับใคร...

        ผมใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังมาโดยตลอด แต่วันนี้ผมพลาด...

[[ : The end Nin part : ]]

TBC+++++++++++++++

TALK...
จบพาทพี่นิลเเล้วจ้า ฮูเล่ ~~  :mc4: :mc4: ต่อไปก็จะกลับมาไปเจอกับน้องมัน เเละอาจจะกลับมาเจอกับพี่นิลอีกครั้งในตอนพิเศษ อิ้อิ้  :hao3: :hao3:


ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :z1:   แบล็คร้ายมาก
จริงๆน่าจะบอกกับน้องมะลิให้เข้าใจไปเลยนะไม่งั้นความลับแตกแน่นอน
พี่ซันต้องเจอมะลิร่างคนมาแล้วแน่นอน
ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
โอยยยย รอตอนต่อไปไม่ไหวววแล้ววว จิอยากตายยย

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
อยากร้องเพลงนี้ "ลงเร็วหน่อยได้ไหม... อย่าปล่อยให้ฉันต้องคอยกัน... เธอก็รู้ว่าพวกเราอ่านนิยายเธอหมดแล้ว ตอนนี้... อยากได้ยินคำว่าเสร็จแล้ว.... เรื่องนี้คนเขียนเองก็คงรู้ดี... วันนี้ฉันจะรอนิยายของเธอ...... ของเธออออออ~"

ออฟไลน์ JallolY

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ตอนที่ 9


          “อื้อ~~”
 
          สัมผัสยุกยิกที่รบกวนเวลานอนของผมทำให้ผมครางอืออย่างขัดใจ พยายามขยับตัวหนีจากสัมผัสนั้นเพื่อที่จะนอนต่ออย่างสงบ หลังจากปั่นงานเสร็จนี่เป็นวันหยุดของผมนะ ผมต้องได้นอนอย่างสบายๆสิ

           “แบล็ค อย่ากวนมินนะ” ผมครางบอกก่อนจะจับมือที่กำลังเลื้อยเข้ามาในเสื้อผม เอ๊ะ เดี๋ยวนะ !

            มือ !! นี่มัน มือคน !!

           “เฮ้ย !!!” ผมเด้งตัวลุกขึ้นจากที่นอนมองมือใหญ่ๆทั้งสองข้างที่ผมยังจับเอาไว้อยู่ นี่มันไม่ใช่ความฝันเหมือนทุกครั้งที่รู้สึกที่พอตื่นมามันก็จะหายไป

          “ตื่นสายนะ” เสียงทุ้มๆที่ดังมาจากข้างๆทำให้ผมชะงักค้างขนลุกซู่ ก่อนจะหันกลับไปมองอย่างรวดเร็ว

          “มึง !! ไอ้พี่นิล มึงมานอนอยู่นี่ได้ไง ?!!”

          “เอ๋อเหรอเรา ? ถ้ายังไม่ตื่นดีก็มานอนต่อ”

         พรึ่บ !

         ไม่พูดเปล่าพี่มันตวัดร่างผมให้กลับลงมานอนที่เตียงอีกครั้ง  ในท่านอนตะแคงทำให้หลังผมชนเข้ากับอกอุ่นๆของพี่มันที่นอนแบบไม่ใส่เสื้อ ขาหนักๆยกพาดบนตัวผม ในขยะที่มือเริ่มไล้กลับเข้ามาในเสื้อยืดใส่นอนของผม

         เดี๋ยวนะ เหมือนมันมีอะไรแปลกๆอยู่ ย้อนกลับไปเมื่อวานที่ผมแอบตามไปเสือกเรื่องของพี่มันแล้วหลังจากนั้นผมก็เจอกับเรื่องเหนือธรรมชาติชวนประหลาดใจ ใช่ !! แบล็ค !! ผมเจอแบล็ค ไม่สิต้องบอกว่าผมเจอพี่มันกลายเป็นแบล็คไอ้แมวยักษ์ของผม

         “แบล็ค!” ผมลุกขึ้นจากที่นอนอีกครั้ง คราวนี้ลงจากเตียงมองสำรวจไปทั่วห้อง ต้องมีแบล็คสิ ความจริงเมื่อคืนผมอาจจะเข้าใจอะไรผิด ผมอาจจะทำงานจนเหนื่อยจนทำให้มองอะไรพลาดไป จำได้ว่าเมื่อวานผมพาแบล็คกลับมาที่ห้องด้วยถึงจะยังงงๆ แต่ผมก็พามันกลับมาด้วย เพราะฉะนั้นตอนนี้มันต้องอยู่ที่ห้องสิ

          ผมเดินไล่หาไปทั่วห้องนอน อยากจะมุดใต้เตียงไปหาแต่ลืมไปว่าเตียงผมเป็นแบบทึบไม่มีใต้เตียง เลยเปลี่ยนออกไปหานอกห้อง เดินไปทั่วทั้งโซนครัว ห้องนั่งเล่น แม้แต่ห้องเก็บของก็ไม่มี

          “แบล็คอยู่ไหน ? เมี๊ยวๆ”

          “ฝันค้างเหรอ ?”

          “จ๊ากกกกกก !!”

          ผมตกใจตะโกน สองขาพาร่างตัวเองถอยกรูดไปยืนอยู่หน้าประตูห้อง เมื่อหันกลับมาเจอไอ้คนที่นอนอยู่บนเตียงกับผมกำลังนั่งถือรีโมทเปลี่ยนช่องทีวีอยู่บนโซฟา และผมคงจะไม่ตกใจขนาดนี้ถ้าร่างใหญ่ๆที่สวมเพียงกางเกงนอนขายาวสีเทานั้นไม่มีพร๊อพเสริมเป็นหูแมวสีดำและหางแมวสีเดียวกับหู นะ...นี่มันเกิดอะไรขึ้น !!

          “ก็กลัวไม่เชื่อ ขี้เกียจอธิบายยืดยาว” เสียงทุ้มพูดสบายๆ ผมหันซ้ายหันขวา ไม่ไหวๆแบบนี้ผมตั้งรับไม่ทันหรอก ผมพยายามเดินตัวลีบกะจะเข้าห้องนอนตัวเองที่ต้องเดินผ่านโซฟานั้นก่อนเพื่อไปสงบจิตสงบใจแต่ไม่ทันไอ้คนตัวใหญ่ที่ใช้หางสีดำตวัดรัดเอวผมให้เข้ามาใกล้

          “อ๊ะ !” ผมหลับตาปี๋เมื่อรู้สึกว่าร่างตัวเองถูกยกให้ขึ้นมานั่งบนตักแกร่งแบบหันหน้าเข้า สองมือใหญ่ที่โอบช่วงเอวของผมให้เข้ามาใกล้กว่าเดิมทำให้ช่องว่างระหว่างกันนั่นลดเหลือเพียงไม่กี่นิ้วไม้บรรทัดเท่านั้น

           “อย่าเข้าใจยากสิ” เสียงทุ้มกระซิบชิดริมหู ไม่พูดอย่างเดียวพี่มันจะใช้ริมฝีปากขบติ่งหูผมเล่นเบาๆจนผมนั่งตัวแข็งทื่อ

          “ถ้าไม่ลืมตาจะจูบแล้วนะ”

          “อ๊ะ” สัมผัสเปียกชื้นที่ไล้เลียริมฝีปากทำให้ผมลืมตาโดยอัตโนมัติแล้วก็เจอหน้าพี่มันที่อยู่ชิดกัน ก่อนจะขยับเข้ามาใกล้กว่าเดิม

          “อื้อออ” ผมหลับตาลงอีกครั้งเพื่อรับสัมผัสอุ่นร้อนที่แนบลงมาที่ริมฝีปากผม มันอ่อนโยนนุ่มละมุนเหมือนกำลังปลอบให้ผมสงบลง ผมเปิดปากรับลิ้นร้อนที่ไล้เลียอยู่ภายนอกอย่างขออนุญาตมันต่างจากทุกครั้งที่เราจูบกัน ผมโต้ตอบคนที่ชำนาญกว่าโดยการพลิกลิ้นสู้เท่าที่จะทำได้ แต่เหมือนผมจะทำอะไรพลาดเพราะมือใหญ่ที่ประคองเอวผมเปลี่ยนเป็นบีบแน่น แล้วย้ายลงไปที่สะโพกบีบคลึงเน้นๆจนผมสะดุ้ง

          “ยะ...อย่า อ๊ะ ~~~” ลิ้นร้อนที่เพิ่งผละออกจากปากผมเปลี่ยนจุดมุ่งหมายมาอยู่ที่จุกนมทั้งสองข้าง ดูดดุนสลับกันอย่างเร้าร้อนจนผมแอ่นอกรับโดยอัตโนมัติ ความรู้สึกสับสนก่อนหน้าถูกเปลี่ยนเป็นความเร้าร้อนอย่างรวดเร็วจนผมแทบทนไม่ไหว

          “จะทำอะไร?” ผมปล่อยมือที่โอบรอบคอแกร่งเอาไว้ แล้วเปลี่ยนมาหยุดมือข้างที่กำลังรั้งกางเกงนอนขาสั้นของผมลง
ไอ้แมวเถื่อนไม่ตอบผมนอกจากยกยิ้มมุมปากให้ ผมจึงก้มไปดูหมายจะปัดมือนั้นออกเพราะว่ามันเริ่มเลยเถิด แต่ก็ต้องเปลี่ยนใจรีบเงยหน้าขึ้นมาแล้วซุกลงบนบ่าของอีกคนทันที ก็พี่มันเล่นควักลูกแมวของตัวเองให้ออกมาชี้หน้าผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้แล้วยังมีของผมอีก พอเทียบกันขนาดของผมกลายเป็นลูกหนูไปเลย

           “หึหึ”

           ฟอดดดด ~~

           “อ๊า..ส์ ~~~” ผมกัดปากแน่นพยายามไม่ส่งเสียงเมื่อพี่มันรวบทั้งลูกหนูลูกแมวเข้าด้วยกันแล้วเริ่มรูดรั้งเป็นจังหวะจนผมกระดกก้นรับอย่างไม่ตั้งใจ มันรู้สึกดีต่างจากที่ผมเคยทำให้ตัวเองไปอีกแบบ

           “อ๊ะ ตรงนั้นไม่นะ”

           “ชู่ว”

            อึก !

           พี่มันไม่ฟังคำร้องห้ามของผมยังคงใช้นิ้วใหญ่นวดคลึงไปตามจีบเล็กที่ปิดสนิท บดคลึงอยู่แบบนั้นจนผมเริ่มนั่งไม่ติด ก่อนจะค่อยๆสอดลึกเข้ามาถึงจะเป็นแค่นิ้วและแค่นิ้วเดียวแต่มันก็ทำให้ผมเสียดจนเกือบจุกได้ ถึงผมจะเคยทำให้ตัวเองแต่ไม่เคยให้ใครมาทำให้หรอกนะ แล้ว...แล้วแบบนี้มันก็ทรมานเกินไป อ๊า ~~~

           “ชอบแบบนี้เหรอหนู หืม?”

          “มะ...อ๊ะๆ” ผมเริ่มเสียการควบคุมเมื่อถูกกระทำทั้งจากด้านหน้าและด้านหลัง ไหนจะเสียงทุ้มๆที่คอยกระซิบอยู่ข้างหูนั่นอีก นิ้วที่เพิ่มเป็นสองนิ้วขยับเข้าออกรัวเร็วสอดประสานกับจังหวะการขยับจากด้านหน้าทำให้ผมเผลอลงแรงจิกไปบนกล้ามแขนอย่างทนไม่ไหว

           “ชอบสินะ ถ้าไม่ชอบคงไม่ตอดดีแบบนี้ อืมมมม”

           “ยะ...หยุดพูดนะ”

           “ปิดปากสิ อื้มมม” ผมเงยหน้าจากไหล่ที่ซบอยู่แล้วประกบริมฝีปากหนาเพื่อปิดปากอย่างที่เจ้าตัวบอกทันที ไม่ไหวแล้ว ตอนนี้ผมใกล้จะไปเต็มทีแล้ว และเหมือนอีกคนจะรับรู้ได้ถึงได้เร่งจังหวะมากขึ้นจนในที่สุดผมก็ทนไม่ไหว
 
           “อ๊ะ อ๊า...ส์ ~~~~”

           “อืมมมม”

           ผมหมดแรงทิ้งตัวลงบนร่างหนาๆของไอ้พี่นิลแมวเถื่อนซึ่งพี่มันก็รู้หน้าที่ดีรับตัวผมเอาไว้พร้อมกับลูบหลังไปมาเหมือนปลอบ ยอมรับเลยว่าแม้แรกเริ่มจะตกใจเพราะไม่เคยทำอะไรเกินเลยมาถึงขั้นนี้แต่ส่วนลึกก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผมรู้สึกดี ถึงตอนนี้จะแทบหมดแรงก็เถอะ

           “ทีนี้ก็ตั้งใจฟัง...” เสียงพี่มันกระซิบชิดริมหูผมอีกแล้ว ท่าทางจะชอบนะแต่ตอนนี้ผมไม่มีแรงว่าอะไรแล้ว พี่มันจะทำอะไรก็ปล่อย

           หลังจากที่ผมเงียบ พี่มันก็เริ่มเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟัง พี่มันบอกว่าตระกูลพี่มันเป็นแวร์แคท หรือพวกแมวแปลงร่าง จังหวะนี้ผมอยากจะลุกขึ้นมาท้วงถามอะไรหน่อยแต่ติดที่มือและหางพี่มันทั้งรัดทั้งกดเอาไว้ ผมเลยได้แต่นิ่งฟังต่อพอเริ่มตั้งใจฟังมือผมก็อดที่จะจับหางสีดำๆของพี่มันที่เห็นแกว่งไปมาอยู่ด้านหลังไม่ได้แต่ยังไม่ทันได้จับพี่มันก็ขู่เตือน เชิงว่าถ้าไม่อยากต่อจากเมื่อกี้ก็อย่าจับก่อนจะเล่าต่อ ผมเลยได้แต่มองมันแกว่งไปมาเผลอคิดไปว่าถ้าเอากระดิ่งมาผูกคงจะน่ารักพิลึก

          “กลัวไหม?” พี่มันถามลังจากเล่าจบ ผมเลยผละออกมามองคนหน้าให้เต็มตาอีกครั้ง หูแมวสีดำขนาดใหญ่ดูจะตกไปเล็กน้อยเหมือนกำลังกังวลกับคำตอบผม นั่นทำให้ผมอมยิ้มถึงจริงๆจะอยากยิ้มมากๆก็เถอะ รู้จักกันมาตั้งนานทำไมเพิ่งมองเห็นว่าพี่มันก็มีมุมน่ารักวะ ฮ่าๆ

           “อะไร?” ไอ้พี่เถื่อนตีหน้าเข้มมองผมที่ยื่นมือเข้าไปจับหูสีดำบนหัวทั้งสองข้าง พอเห็นพี่มันทำหน้าเหมือนแมวกำลังจะถูกทิ้งก็อดจะแกล้งไม่ได้ไอ้พี่เถื่อนที่ผมรู้จักมันไม่เคยแสดงท่าทีแบบนี้ให้เห็นหรอก ตลอดมาคงจะใช้ชีวิตลำบากสินะที่ต้องคอยปิดบังคนอื่นๆ ถึงผมจะยังไม่ชินและคงบอกไม่ได้เต็มปากว่ารับได้หรือไม่กลัว แต่ผมก็ไม่อยากแสดงให้พี่มันเห็นว่าผมกลัวหรืออะไรหรอกนะ

           อ่า...อย่ามองด้วยแววตาจับผิดแบบนั้น ยอมรับก็ได้ว่าเป็นห่วงมันนิดเดียว แค่นิดเดียวนะ!

           “นุ่มนิ่มใช้ได้ ถึงจะใหญ่กว่าของแบล็คก็เถอะ” ผมลูบหูแมวที่ใหญ่กว่าของแบล็คมาก แล้วมันก็น่าขย้ำมากๆด้วยแถมยังกระดิกดิ๊กๆเหมือนของแมวทั่วไป ฮ่าๆ  ชอบว่ะ

           “ใหญ่กว่าหมดนั่นแหละ อยากลองไหม?” พี่มันยิ้มกรุ่มกริม จนผมต้องปล่อยมือจากหูก้มหน้าหลบ แล้วก็แทบช็อคเมื่อเห็นหลักฐานที่ยืนยันคำพูดเจ้าตัว นี่ผมลืมไปได้ยังไงว่าเราอยู่ในท่าล่อแหลมแค่ไหน แล้วเพิ่งผ่านกิจกรรมอะไรด้วยกันมา อ๊ากกกก

           “หึหึ”



           “จ้องหาแมวหรือไง !” ผมถามไอ้พวกเพื่อนตัวดีทั้งสามคนที่นั่งจ้องหน้าผมมาสักพักแล้ว ตอนนี้เป็นเวลาพักครับรอเรียนอีกทีช่วงบ่าย พวกผมเลยมานั่งที่โต๊ะหินอ่อนหน้าคณะที่ประจำ แล้วก็ไม่รู้อีพวกนี้เป็นบ้าอะไรนั่งจ้องหน้าผมอยู่นั่นแหละ

           “ไม่หาแมว แต่หาผัวเพื่อน” อีผึ้ง

           “ถามจริง มึงกับพี่นิลไปญาติดีกันตอนไหนวะ ?” ไอ้ฟิวส์ถาม ก็คิดไว้อยู่แล้วว่ามันจะต้องถามเพราะตั้งแต่วันนั้นที่ผมเจอความลับของพี่มัน จนวันนี้เหมือนอะไรๆจะไม่เหมือนเดิม อย่างเช่นพี่มันจะทำหน้าที่สารถีขับรถรับส่งผม ( ผมเพิ่งรู้อีกอย่างว่าพี่มันอยู่คอนโดที่เดียวกันกับผม ) เวลาพักกลางวันกินข้าวก็จะมานั่งกินกับผมแถมเพื่อนพี่มันห้อยท้ายมาด้วย พฤติกรรมเหมือนคนเป็นแฟนกันปกติ หยอดบ้างตอดบ้าง แถมยังมาสิงห้องผมอย่างกับเป็นห้องตัวเอง แต่ประเด็นคือ ผมกับไอ้พี่บ้านั่นยังไม่ได้เป็นอะไรกันนี่สิ !!!

            “หรือพวกมึงแอบไปแซ่บกันมาแล้ว” อีออยพูดซะผมเผลอสะดุ้ง

           “เหอะ อย่างพี่มันไม่มีทางได้เห็นขาอ่อนกูหรอก”

           “เหรอ ~~ กูเห็นเช้าถึงเย็นถึงหวานกันซะกูนึกว่าพวกผัวเมียข้าวใหม่ปลามัน”

            “ผัวเมียบ้านมึงสิ”

            “เล่นตัวมากๆ พี่มันหันไปหารูอื่นกูจะหัวเราะให้” เหี้ย ! ใช้ศัพท์ได้เหี้ยมาก

            “ฮ่าๆ ถูกใจกูว่ะ” ไอ้ฟิวส์กับอีผึ้งหัวเราะตบไม้ตบมือกันใหญ่แต่ผมนี่หน้ายุ่งไปแล้ว

            “สัส !”

            “ว่าเพื่อนทำไม?”

             “อ๊ะ” ผมสะดุ้งตกใจเพราะเสียงทุ้มๆที่ดังขึ้นข้างหูที่มาพร้อมกับวงแบนที่รัดเอาคอผมเอนไปด้านหลังจนชนอกเจ้าของเสียง เลยกลายเป็นว่าตอนนี้แก้มผมกับพี่มันแทบจะแนบกันอยู่แล้ว อีพวกเพื่อนตัวดีเลยส่งสายตาล้อเลียนมาให้ทำไมพวกมันไม่บอกผมว่าไอ้พี่นิลมา

            “หวัดดีพี่/หวัดดีค่ะพี่นิล” พวกเพื่อนๆผมเอ่ยทักทายคนมาใหม่

             "มาทำไม” ผมถามเสียงห้วน พยายามดันตัวออกจากพี่มัน คนอื่นน่ะไม่อายเท่าไหร่เพราะไม่รู้จักแต่พวกเพื่อนปากหมาของผมนี่สิ เดี๋ยวได้แซวกันไปอีกสิบวัน

            “เลิกเรียนแล้ว” พี่มันเคลื่อนตัวมานั่งลงที่ว่างข้างๆผม

            “เฝ้าขนาดนี้กลัวเมีย เอ้ย มินมันหายหรอพี่” ไอ้ฟิวส์ ไอ้ปากมอม

            “ไม่หายหรอก กรงจะเสร็จแล้ว หึหึ” พี่มันตอบยิ้มๆ แต่ผมนี่งงเต๊ก มันพูดถึงอะไร ?

             “ฮ่าๆ โคตรเจ๋งเลยพี่”

             “แล้วนี่ไม่เรียนกันหรอ จะบ่ายแล้วนะ”

             “เออใช่พี่ งั้นพวกผมไปก่อนนะ เอาไงมึงจะไปเรียนไหมหรือจะกลับไปกก ผะ...เหี้ย !” ผมยัดถุงขนมที่กินหมดแล้วเข้าปากอีกออยก่อนที่มันจะพูดจบประโยค

             “เรียนเสร็จรีบลงมา จะรอตรงนี้”

             “รอทำไม เสร็จก่อนก็ไม่กลับห้องไปก่อนล่ะ?”

             “อย่าเรื่องมาก”

             “เรื่องมากบ้านมึงสิ” ผมเริ่มชักสีหน้าใส่ ไอ้ห่านี่คนพูดด้วยดีๆ

             “รีบไปเรียน”

             “เออ !! เรื่องของมึงอยากรอก็รอไป รอจนรากงอกตายไปเลย” ผมสะบัดหน้าหนีพรืด ไอ้เราก็ไม่อยากให้รอเห็นว่าเพิ่งเรียนเสร็จแล้วผมยังเหลือเลยอยากให้กลับไปนอนก่อน ไอ้บ้านี่มาว่าผมเรื่องมากซะงั้น มันน่าไหมล่ะ ?!


             หลังเลิกเรียน ผมก็แยกย้ายกับเพื่อนตามปกติเพราะว่าพวกมันนัดไปดูหนังกัน ใจจริงผมก็แอบอยากไปนะถ้าไม่มีแมวบางตัวมาบอกว่าจะรอผมอ่ะ  ผมอมยิ้มกับเองนึกแล้วก็ขำอยากจะแกล้งให้รอนานๆเหมือนกัน แต่คิดอีกทีไม่เอาดีกว่า

             “มีความสุขจังนะ” น้ำเสียงเหยียดๆที่ดังขึ้นทำให้ผมชะงักเท้าก่อนจะหันหน้าไปมอง คนที่เหมือนจะทักทายผมเมื่อครู่

             “มีอะไร?” ผมยืนมองคนตรงหน้านิ่ง เป็นหนุ่มหน้าสวยประจำคณะรุ่นเดียวกันกับผมเคยเห็นหน้ากันบ้างแต่ไม่เคยคุยกันเพราะเรียนกันคนละสาขา รู้สึกว่าจะชื่อ’เค้ก’ นะ และผมค่อนข้างมั่นใจว่าเราไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว แล้วไอ้คำพูดที่เหมือนเหน็บแนมผมนี่มันคืออะไร ?

             “หึ ไม่มีอะไร แค่แวะมาดูสภาพเด็กใหม่พี่นิล เห็นคั่วนานเลยอยากเห็นหน้า”

              “...” ผมถึงกับพูดไม่ออกไปเลยครับ นี่มันละครหลังข่าวของช่องหลากสีหรือไง ถึงได้มีคนจำพวกนี้ออกมาเดินเพ่นพ่าน

              “ก็ถือว่าใช้ได้นะ แต่ใสๆแบบนี้คงจะอยู่ได้อีกไม่นาน เอ๊ะ ! ไม่สิ”

              “อะไร?”

              “หรือว่ายังไม่โดน...” น้ำเสียงที่ฟังดูเหยียดมากกว่าเดิมทำให้ผมกำมือแน่น ยอมรับครับว่าผมกับไอ้พี่นิลมันเรายังไม่เคยมีอะไรกันถึงขั้นนั้น ถึงแม้ว่าจะเคยช่วยกันในเรื่องทำนองนี้บ่อยๆแต่มันก็แค่ภายนอก

              “คงยังจริงๆสินะ..มิน่าล่ะพี่นิลถึงยังเล่นด้วย...”

              “....”

               “งั้นก็รักษาดีๆล่ะ อย่าไปยอมง่ายๆเพราะถ้ายอมปุ๊บนายก็จะถูกเขี่ยทิ้งปั๊บ กลายเป็นขยะเน่าๆทันทีเลยล่ะ”

               “เคยโดนมาก่อนสินะเลยพูดได้ แต่เสียใจด้วยนะเพราะเรามันคนละคนกัน...แต่ก็ขอบใจที่เตือน” ผมยิ้มเยาะเชิดหน้าตอบอย่างไม่ยอมแพ้

              “หึ ปากดีไปเถอะ” เค้กทำหน้าเหวอเล็กน้อยที่โดนผมตอกกลับก่อนจะปรับสีหน้ามาเป็นเหมือนเดิม

              “ถ้ามีธุระแค่นี้ ก็ลาล่ะ”

              พูดจบผมก็เดินออกมาไม่ได้เหลียวหลังกลับไปมองอีกว่าอีกคนจะแสดงท่าทางอะไรหรือจะพูดอะไรต่อไป ตอนนี้ผมรู้แค่ว่าผมกำลังโกรธ ไอ้ที่ปั้นหน้าเหนือตอบโต้ไปเมื่อกี้นะมันไม่ง่ายเลยสักนิด ตอนนี้ผมกำลังโมโห โมโหมากๆ คำพูดพวกนั้นยังดังก้องไปมาในหัวผม ยังไม่โดนหรอ? ขยะเน่าๆหรอ? เหอะ !!
 

TBC++++++++++++++++++++++++++++++++
TALK...
มาเเล้วจ้า เรื่อยๆมาเรียงๆ รู้สึกเริ่มจะมีมากตอนเกินไปละ ควรตัดจบซะที เเง่มมมม  :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
พี่นิลน่ารักอ่ะ ฟรุ้งฟริ้ง มินหากระดิ่งมาห้อยที่หางสิ โอ้ยยย น่ารักด

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
แล้วนี่น้องยังนอนกับพี่นิลอยู่หรือเปล่าน่ะ? 55555

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ตอกหน้ายัยเค้กอีก ยังไม่สะใจ อย่าเพิ่งรีบจบสิคะ   :z13: 
หนูกับแมวเพิ่งจะเริ่มเล่นกันเลย แล้วไหนจะคุณน้องมะลิอีก

รอแมวจับหนูกินนะคะ  :hao6:

ออฟไลน์ Chk~a

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 618
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-1
น่ารักกกก

พี่นิลแอบชอบมานาน รีบๆทำให้น้องมั่นใจเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
พี่นิลไ่ม่ทำแบบนั้นหรอกมิน~ เรื่องนี้สนุกมาก รออ่านน้า

ออฟไลน์ lazyishappy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เดี๋ยววววว  น้องยังไม่โดนเหรออก็ตอนนั้นงาย ฮ่าๆๆ เราหายไปนานเหมือนกันกว่าจะได้มาอ่าน รอติดตามต่อไปนะคะ สนุกและชอบมากๆค่ะ  :mew3:

ออฟไลน์ JallolY

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ตอนที่ 10

               “มึงไม่คิดจะกลับห้องบ้างไง?” ผมถามไอ้แมวยักษ์ที่นอนปล่อยหูปล่อยหางออกมา (เห็นพี่มันบอกร่างนี้สบายสุด) นอนเล่นดูทีวีในขณะที่ผมกำลังเทของกินที่ซื้อมาเป็นมื้อเย็น

                พักนี้ผมรู้สึกหงุดหงิดง่ายกว่าปกติ และจะเป็นหนักมากเมื่อเจอหน้าตาไม่ทุกข์ไม่ร้อนของแมวบ้านี่ คงเป็นเพราะตั้งแต่วันที่เจอเค้กวันนั้นวันต่อๆมาผมก็ยังคงเจออยู่ ไหนจะคำพูดและท่าทางแปลกๆเหล่านั้น ถึงจะไม่ได้เก็บมาใส่ใจ แต่มันก็ทำให้ผมหงุดหงิดไม่น้อย จนผมเริ่มเหมือนคนพาลเข้าไปทุกที

               “กลับก็ได้ งั้นป่ะ” พี่มันลุกขึ้นเดินเข้ามาจับข้อมือผมที่กำลังงงสุดขีด

               “อะไรของมึง?”

               “ก็มึงบอกให้กลับห้อง กูก็เอาของของกูกลับไปด้วยไง” พี่มันบอกมึนๆแถมยังตั้งท่าจะฉุดผมไปด้วยอีก ทำอะไรตามใจเหมือนเคย เอาอีกแล้วผมเริ่มที่จะหงุดหงิดอีกแล้ว ผมสะบัดมือพี่มันที่จับแขนผมอยู่ออกแรงๆจนพี่มันเลิกคิ้วมองผมอย่างแปลกใจ

                “ถามจริง ทำแบบนี้ต้องการอะไรกันแน่?” ผมถามเงยหน้าจ้องพี่มันอย่างสับสัน จนคิ้วเข้มนั่นตีกันยุ่งหนักกว่าเดิมจ้องตาผมตอบไม่แพ้กัน จู่ๆคำพูดของเค้กก็วนเข้ามาในหัวราวกับจะบอกว่าที่ผมบอกว่าไม่ใส่ใจนั้นมันเป็นเรื่องโกหก

                “อะไร?”

                “ก็ที่มึงมายุ่งกับกูแบบนี้ มาป้วนเปี้ยนใกล้ๆกู จนน่าอึดอัดแบบนี้ ทำทำไม? มันน่ารำคาญนะ !” ผมถามอย่างอัดอั้น แต่เหมือนรูปประโยคจะผิดไปหน่อย ใช่มันผิดจริงๆเพราะผมไม่ได้รู้สึกอึดอัดในความหมายนั้น แต่ผมแค่รู้สึกอึดอัดกับเรื่องที่เคยได้ยินมาตลอดเพราะมันทำให้ผมไม่มั่นใจอะไรเลยสักอย่าง ไม่มั่นใจแม้กระทั่งว่าตอนนี้ผมรู้สึกยังไง เราอยู่ด้วยกันในสถานะไหนไม่มีอะไรชัดเจนเลยสักอย่าง รู้สึกเหมือนตัวเองถูกตีจนรวนไปหมด
 
                “เพราะมึงยังไม่ได้กูใช่ไหม ? ที่ยังมาอยู่ด้วยกันเพราะเรื่องนี้ใช่ไหม?” ไม่นะ ไม่ๆ ทำไมจู่ๆถึงเอาเรื่องที่ไอ้เค้กเน่านั่นพูดมาคิดเล็กคิดน้อยแบบนี้ด้วยเล่า ไม่นะ ไม่ได้อยากจะพูดแบบนี้ !

                “มึงคิดแบบนี้เองหรอ...” หูและหางของไอ้พี่นิลถูกเก็บหายไป สองเท้าของพี่มันก้าวถอยห่างออกจากผมไปครึ่งก้าว แต่แค่นั้นมันก็ทำให้ใจของผมโหวงไปหมด น้ำเสียงตัดพ้อนั่นมันทำให้ผมรู้สึกแย่จนแทบทนไม่ไหว

                “หึ คิดแบบนี้มาตลอดเลยสินะ” นัยน์คมฉายแววผิดหวังออกมาชัดเจน รู้สึกเหมือนเห็นหูแมวสีดำที่ชอบจับกำลังลู่ตกลง ทั้งๆที่มันไม่มีแล้ว

                “คะ...คือ...กูสับสน” เหมือนสถานการณ์มันพลิกๆเพราะจากที่กำลังอารมณ์ขึ้นเพราะความไม่เข้าใจผสมกับความหงุดหงิดที่ยังไม่ได้ระบายออกมันเลยทำให้ผมพาล แต่ตอนนี้มันกลายเป็นว่าผมได้ทำเรื่องผิดพลาดลงไปแล้ว

               “ก็มึง...มึงไม่เห็นทำอะไร...” ผมพูดเสียงเบาเริ่มจับประเด็นที่ตัวเองเป็นคนเริ่มไม่ได้

               “อืม” พูดแค่นั้นแล้วพี่มันก็เดินออกจากห้องผมไป...


             
               1 สัปดาห์ผ่านไป

               บ้า !!!

              นี่มันเรื่องบ้าชัดๆ ตั้งแต่วันนั้นที่มันทำท่าเหมือนแมวหงอยแล้วเดินออกจากห้องผมไป จนตอนนี้ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์แล้วผมยังไม่ได้เจอพี่มันอีกเลย ไม่แม้แต่จะได้ยินข่าวว่าพี่มันควงใครคนไหนทั้งๆที่เมื่อก่อนเวลาพี่มันเปลี่ยนคู่ควงทีก็กลายเป็นเรื่องดังคนพูดถึงกันทั้งคณะเพราะเดือนเด่นเปลี่ยนคู่ควง แต่ตอนนี้ไม่มี !! ไม่มีอะไรเลย !! ขนาดเมื่อก่อนผมไม่อยากรับรู้เรื่องพี่มันผมยังรู้แต่ตอนนี้ทั้งที่ผมพยายามจะหาข่าวแต่เรื่องกลับเงียบฉี่ซะงั้น จะแอบไปดักหน้าห้องพี่มันก็ดันไม่รู้ว่าไอ้แมวบ้านั่นอยู่ห้องไหนทั้งที่อยู่คอนโดเดียวกันแท้ๆ

               “มึงเป็นบ้าอะไร กูเห็นทึ้งหัวตัวเองอยู่นานละ” ผมเงยหน้ามองเพื่อนๆที่กำลังส่งสายตาแปลกๆมาทางผม โดยเฉพาะอีออยที่มองผมด้วยสายเจ้าเล่ห์สุดๆ ตอนนี้พวกผมมานั่งกันที่โต๊ะหินอ่อนตัวเดิมเพื่อรอเรียนช่วงบ่าย และผมคงจะเอาแต่ทึ้งหัวตัวเองอย่างที่อีออยว่า ก็มันคิดไม่ออกมันหงุดหงิดหนิไม่รู้จะทำยังไง สับสนก็สับสน แม่ง !

               “เปล่า...” ผมตอบเสียงอ่อย ไอ้ถามก็อยากจะถามอยู่หรอกนะ แต่ผมก็ยังไม่รู้ว่าถ้ารู้แล้วผมจะเอาไงต่อ

               “เฮ้อ...มึงนี่นะ มีเรื่องอะไรก็เล่ามา กูเห็นมึงทำท่าแปลกๆเหมือนเจ้าของที่แมวหนีออกจากบ้านแล้วรำคาญว่ะ”

               อึก !

               กระแทกใจอ่ะ คำเปรียบอื่นมีตั้งเยอะทำไมมันเลือกเปรียบได้ตรงเผงแบบนี้วะ ผมจัดการประมวลความคิดเรียบเรียงคำพูดใหม่ บางทีแอบลองถามพวกมันอ้อมๆคงไม่มีใครรู้มั้ง เพื่อนก็มีไว้ปรึกษาในเวลาแบบนี้แหละนะ

                “คือ...แมวกูหนีไปจริงๆแหละ” ไม่ได้โกหกนะ ก็แมวหายไปจริงๆ

                “หืม ?...แบล็คอะนะ?”

                “อะ...เออก็ใช่” นั่นสิผมเคยเลี้ยงไอ้พี่นิลตอนเป็นแบล็คนี่นะ แล้วพอผมรู้ว่าเป็นคนเดียวกันถึงแบล็คจะหายไปแต่ก็ยังมีแมวตัวใหญ่มาอยู่ด้วย แต่ตอนนี้ห้องผมมันเงียบสนิทไม่มีทั้งแมวเล็กแมวใหญ่ กลับห้องไปเจอบรรยากาศเงียบๆแล้วมันโหวงๆยังไงไม่รู้...มันเหงา

                 “แล้วมันหนีไปทำไม?”

                 “คือกูทะเลาะกับมัน แบบว่าเอาข้าวให้ไม่ถูกใจแล้วมันก็หนีออกจากห้องกูไปเลย” ผมคิดว่าผมเนียนแล้วนะแต่ทำไม สายตาเจ้าเล่ห์ของอีออยและอีกสองคนถึงได้เพิ่มขึ้นหลายสิบระดับ

                 “เป็นห่วงแมวว่างั้น” ไอ้ฟิวส์

                “ก็...อื้ม มันหายไปนานแล้วหนิ ไม่รู้ไปอยู่ไหน ตามหาก็ไม่เจอ” บอกเสียงหงอย ถ้าผมรู้ข่าวพี่มันบ้างผมคงไม่เป็นแบบนี้

                “รักแมวมากสิมึง” ผึ้ง

                “ห๊ะ ?” รักหรอ ?...ผมยังไม่ทันได้คิดไปถึงคำๆนี้เลย เรื่องที่ทำให้ผมสับสนก็แค่เรื่องที่ผมใจเต้นแรงๆเวลาอยู่กับพี่มัน แล้วผมก็เผลอคิดไปว่าอาจจะรู้สึกดีๆด้วย...แต่ยังคงไม่ถึงขั้นนั้นหรอก เพราะพวกเราไม่ได้มีช่วงเวลาที่จะสร้างคำนั้นด้วยซ้ำ

                “ก็ไม่เห็นแปลก มึงอยู่กับมันมาก็นานจะรักจะเอ็นดูก็ไม่เห็นเป็นไร ถ้ามึงไม่รักไม่ชอบคงไม่เลี้ยงมาขนาดนี้จริงไหม?” ผึ้งพูดต่อ

               “แต่กูอยู่กับมันแป๊บเดียวเอง คงยังไม่ได้รักหรอกมั้ง...”

               “โอ๊ย ! พอๆเลิกแอ๊บ มึงรู้จักพี่นิลมาจนเกือบจะสามปีอยู่แล้วไม่นานบ้านมึงสิ แต่ถึงมึงจะรู้จักกันสามวันแล้วมึงบอกว่าชอบมันก็ไม่ได้ผิด แล้วถ้ามึงไม่รักไม่ชอบพี่มันมึงคงไม่มานั่งหงอยแบบนี้หรอก บอกความจริงพวกกูมา !”

               “ O.O !” ผมมองอีออยตาโต ตกใจที่พวกมันรู้ทัน แล้วทำไมมันไม่พูดมาตั้งแต่แรกวะ ! พอเรื่องมาถึงตรงนี้บวกกับสายตาคาดคั้นสามคู่ก็ทำให้ผมตัดสินใจเล่าความจริงให้ฟังแต่ตัดเรื่องที่พี่มันเป็นแบล็คออกไป รวมถึงฉาก 18 + ด้วย

               “มึงชอบพี่นิล !!” สามเสียงพูดพร้อมกันทันทีที่ผมเล่าจบ เสียงดังจนผมสะดุ้ง

               “จริงหรอวะ?”

                “จริงไม่จริงมึงรู้อยู่แก่ใจมึง มิน...มันไม่ผิดหรอกนะถ้ามึงจะยอมรับ” ผึ้ง

                “....”

                “ส่วนเรื่องที่มึงคิดว่าพี่เขาจะหลอกเอามึงอ่ะ ถ้าไม่คิดจริงจังคงไม่ทนเต๊าะไม่ทำอะไรมึงมาได้เกือบสองปี สู้มอมเหล้าแล้วจับล่อเลยไม่ง่ายกว่าหรอวะ ? อย่าละคร..! แล้วยิ่งพักหลังมานี้พี่มันไม่ได้ควงคนอื่นอีกตั้งแต่มาคลุกอยู่กับมึงแค่นี้มันก็น่าจะชัดแล้วนะว่าเขาจะเอามึงแบบจริงจังแบบเอาระยะยาวอ่ะ แล้วอีกเรื่องสุดท้ายเลยนะ เรื่องอีเค้กทำไมไม่บอกพวกกู !!” ผมนั่งฟังอีออยร่ายยาว คิดๆไปแล้วมันก็จริง แต่ขอขัดหน่อยเถอะตรงที่บอกว่าไอ้พี่นิลไม่ทำอะไรผมอ่ะ ไม่จริง ! นี่ถ้าผมเป็นไม้ทาสีนะ ป่านนี้สีผมคงหลุดลอกออกไปหมดแล้ว หื่นอย่างกับอะไรดี !

                 “....”

                  “แล้วอีกอย่างถึงมึงไม่ได้ชอบจริงแต่จะอยู่แบบนี้หรอ อีกไม่นานพี่นิลก็เรียนจบแล้วนะเว้ย พอถึงตอนนั้นมึงจะได้เจอพี่มันอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้ อยากจะจากกันทั้งๆที่เป็นแบบนี้หรอวะ” ไอ้ฟิวส์

                 จากกัน...ไม่เจอกันอีกงั้นหรอ...แล้วต้องทะเลาะแบบนี้หรอ...?

                  “ไม่ !” ผมเผลอตะโกนคำตอบที่คิดอยู่ในใจออกไป อีสามตัวที่เหมือนจะรู้ทางอยู่แล้วยิ้มล้อผมทันทีมีการส่งสายตาวิบวับๆด้วย มีแต่อีออยที่บึนปากไปมาเหมือนเหมือนหมั่นไส้ชักช้าไม่ทันใจ แต่แล้วไงล่ะก็คนมันเพิ่งจะเข้าใจหนิ !

                  “แล้วนี่จะนั่งบื้ออีกนานไหม ?” ผึ้ง

                  “รู้ตัวแล้วก็รีบไปสิ ไปทำเรื่องให้มันถูกต้อง” ไอ้ฟิวส์
       
                  “ไปๆ ชิ้วๆ” อีออย

                  “โอเค ขอบใจพวกมึงมาก ถึงจริงๆพวกมึงจะแค่อยากเสือกเรื่องของกูของเถอะ” เหน็บเบาๆ เรื่องธรรมดาครับ

                  “รู้ทันด้วยแฮะ”

                  “พวกเวร”

                  “ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” นั่นไง ผมคนเดียวจะไปสู้กับพวกมันสามคนได้ยังไง

                  “เดี๋ยว ! ไอ้มิน” เสียงอีออยตะโกนไล่หลังผมที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งออกจากโต๊ะไปแล้ว

                  “อะไร !”

                  “มึงรู้เลขห้องพี่มันเหรอวะ”

                  “กูจะไปถามผัวมึง”

                  “เหี้ยมิน !!”

                  “งั้นก็บอกมา อย่าลีลา”

                 “ห้อง....” เออเนอะคนเรา ไม่รู้หรอกครับว่าพวกนั้นไปถึงไหนกันแล้ว ก็คิดว่าก็คงมากอยู่ เพราะเวลาล้อมันเรื่องนี้ที่ไร อีออยปากหมาจะกลายเป็นปากแมวเลยทีเดียว น่ารักงุ้งงิ้ง เอ๊ะ แล้วทำไมมันถึงรู้เลขห้องไอ้พี่เถื่อนของผมล่ะ ?

                 “ขอบใจมาก เดี๋ยวกูบอกพี่ปืนตบรางวัลให้อย่างงาม”

                 “สัสมิน !!!” ผมวิ่งหนีอีออยที่ยืนโวยวายหน้าดำหน้าแดง ไม่รู้ว่าโกรธหรือเขินกันแน่จะมีก็แต่เรื่องนี้แหละครับที่ผมพอจะเถียงชนะมันได้ อีกหน่อยคงต้องไปสะกิดพี่ปืนมาอยู่ทีมเดียวกับผมซะแล้ว พวกมันจะได้เลิกรุมผมเสียที


                ผมเดินทางกลับมาถึงคอนโดก่อนจะนึกขึ้นได้ว่า ผมลืมเข้าเรียนคาบบ่าย -..- ไอ้พวกเพื่อนนั่นก็ไม่มีใครทักผมสักคน เอาเถอะฝากพวกมันเล็คเชอร์ไป แต่ก็ดีวันนี้ตอนบ่ายไอ้พี่นิลไม่มีเรียนก็คงจะอยู่ห้องนั่นแหละ หวังว่าคงไม่คึกจัดออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกหรอกนะ

                ผมมองเลขลิฟต์ที่กำลังเปลี่ยนไปตามชั้นที่เคลื่อนผ่านสูงขึ้นๆ ในใจก็คิดไปถึงคำพูดที่จะพูดกับพี่มัน คิดแล้วคิดอีกเจอหน้าพี่มันแล้วผมต้องบอกว่าอะไรก่อน แล้วถ้าพี่มันยังโกรธเรื่องที่ผมถามอะไรบ้าๆอยู่ล่ะ ผมจะต้องบอกว่ายังไงดี อ๊ากกก คิดแล้วก็คิดไม่ออกผมเลยกดลิฟต์แวะเข้าชั้นที่ห้องตัวเองอยู่ก่อน ลืมบอก ห้องไอ้พี่นิลมันอยู่สูงกว่าผมสองชั้นครับ รวยไม่ใช่เล่นแฮะ

                แต่ !!

               นี่มันไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องแบบนี้นะ ถึงจะยังยอมรับไม่ค่อยได้เท่าไหร่แต่ตอนนี้ผมกำลังหาวิธีง้อไอ้แมวดำนั่นอยู่ แล้วดูท่าจะเป็นแมวขี้งอนซะด้วยหรือจะเอาแซลม่อนไปง้อดี (?) ถ้าตอนเป็นแบล็คผมคงจะขู่เอาเรื่องอาบน้ำมาใช้เพราะมันได้ผลแทบทุกครั้ง แต่ตอนนี้คงไม่ได้แล้ว แว๊กกก คิดไปแล้วผมเคยอาบน้ำกับพี่มันด้วยนี่นาถึงตอนนั้นจะเป็นแมวก็เถอะ แล้วไหนจะเรื่องแบบนั้น แบบนั้น แล้วก็แบบนั้นอีก T^T น่าอายชะมัด

                แล้วตอนนี้ผมจะทำยังไงดี ผมเดินวนเวียนในห้องของตัวเอง วนไปนู้นมานี่ รวบรวมลมปราณสติและสมาธิที่กระเจิดกระเจิงเพราะเรื่องสมัยก่อนให้เข้าที่เข้าทางก่อนจะตัดสินใจเดินออกไปหาพี่มัน โดยไม่ลืมหยิบของสำคัญออกไปด้วย... เอาวะ ! ออกไปเจอก็คงดีกว่าฟุ้งซ่านตายอยู่ในห้อง !!

                ก๊อกๆๆๆ

                แกร๊ก

                หลังจากเคาะประตูผมก็ยืนก้มหน้าเตรียมตัวเตรียมใจ จนกระทั่งได้ยินเสียงเปิดประตูเบาๆ รู้สึกเหมือนมีเงาใหญ่ๆมายืนตรงหน้า มีปลายเท้าเข้ามาบังมดแมงที่ผมก้มมองหาอยู่บนพื้น ผมไล่ระดับสายตาขึ้นมาจากปลายเท้าขั้นมาถึงหน้าแข้ง น่องขา จนเจอกางเกงบ๊อกเซอร์สีน้ำเงินเข้ม ขึ้นมาอีกหน่อยก็เจอกล้ามท้องแน่นที่เห็นชัดเจนเพราะเจ้าของไม่ใส่เสื้อ ขึ้นมาอีกก็เจอหน้าอกที่มีจุกนมสีน้ำตาลเข้มๆอยู่ จนในที่สุดเราก็สบตากัน รู้สึกประหม่าจนไม่แทบไม่กล้าจะขยับตัว

                “.......”
 
                “อะ...” ผมยื่นปอกคอแมวสีส้มจี๊ดที่มีกระดิ่งสีเงินกรุ๊งกริ๊งเล็กๆไปตรงหน้าพี่มัน รู้สึกตัวเองมือสั่นยังไงไม่รู้ก็พี่มันเล่นจ้องหน้านิ่งๆซะจนเดาไม่ออกเลยว่ากำลังคิดอะไรอยู่หรือรู้สึกแบบไหน

                “เลิกโง่แล้ว ?”

               “อื้อ...”

               “หึ รู้ใช่ไหมว่าทำแบบนี้มันหมายความว่ายังไง?”

                “.....”

               “ให้โอกาสคิดใหม่ แน่ใจแล้วก็ค่อยมา”

               “ดะ...เดี๋ยวสิ” ผมรั้งแขนคนที่กำลังทำท่าเหมือนจะปิดประตูห้องใส่ผม ถึงตอนนี้ผมอาจจะพูดได้ไม่เต็มปากว่ารัก แต่ตั้งแต่ที่เรารู้จักกัน...พี่มันก็เป็นคนเดียวที่ผมมองหาตลอดเวลา ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ของเราจะเหมือนการเริ่มต้นใหม่อยู่บ่อยครั้งเพราะผมมักจะเจอมุมแปลกๆของตัวไอ้พี่นิล จากนั้นพี่มันก็เปลี่ยนไปเรื่อยจนบางครั้งผมเองก็ตั้งตัวแทบไม่ทัน แต่ถึงอย่างนั้น...ผมก็ไม่อยากให้พี่มันหายไปอีกแล้ว ไม่เอาแล้ว

                 “...”

                 “เข้าใจแล้ว...”

                 พรึ่บ !

                “อ๊ะ !!”

TBC+++++++++++++++++++++++
TALK...
ตัดดังฉับๆๆๆๆๆ เเวะเอาพี่นิลกับน้องมินมาฝากยามดึกจ้าาาาา :mew3: :mew3:


ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ Jadd

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
เอื้อก. ค้างมากมาย
เอาหูเอาหางออกมาจ้า ปลอกคอพร้อมอาหารมาเสิร์ฟแล้ว

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
กรี้ดดดดดด ทำไมน่ารักกกกกก ดิ้นพล่านนนนน ชอบมุกปลอกคอจังเลย

ออฟไลน์ miniminiXD

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 313
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-3
สนุกมากเลยยยย มาต่อไวๆน้า :impress2:

ออฟไลน์ supizpiz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 692
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด