The Tutor Eng - พี่ครับช่วยติวรักให้ผมด้วย (special)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The Tutor Eng - พี่ครับช่วยติวรักให้ผมด้วย (special)  (อ่าน 21232 ครั้ง)

ออฟไลน์ SPNamfone

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
16
พิเศษใส่ไข่



กล้ามาก ...

ไอ้เด็กไจ๋กล้ามากที่มายืนดักรอไอ้แฝดคนโต แถมทำหน้ากวนตีนอยู่ที่หน้าคณะแพทย์ตอนเลิกเรียน เสื้อช็อบสีน้ำเงินเข้มๆ ตัดกับสีเสื้อกาวน์ขาวๆจนเป็นที่สังเกตของนักศึกษา เจ้าแฝดคนโตเดินหน้านิ่งเข้าไปหาอีกคนพร้อมถาม

“มึงมาทำอะไร?”

“ผมพาพี่ปิงปิงมาโรงพยาบาล เลยแวะมารอพี่ ฝากเค้กไปให้พี่ไซน์ด้วย” น้องไจ๋พูดจบก็ยื่นถุงเค้กไปให้คนตรงหน้าที่ทำหน้าดุ ขมวดคิ้วใส่

“แล้วทำไมมึงไม่เอาไปให้ไอ้ไซน์เอง แต่ก่อนแสล๋นไปหากันบ่อยนักนี่” วาจาเหน็บแนมเอื้อยเอ่ยมากระทบ

“วันนี้ผมอยู่โรงบาลทั้งวัน ไม่ได้มีเวลาออกไปหาพี่ไซน์ แต่เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะหาครับ”

“บอกกูทำไม?”

เอ้า

น้องไจ๋เป็นฝ่ายขมวดคิ้วใส่ไอ้แฝดคนโตบ้าง แต่ไม่ทันไรไอ้แฝดคนโตก็ดึงถุงเค้กในมือไปก่อนจะเดินออกไปอีกทาง ทิ้งให้น้องไจ๋ยืนงงๆกับคำถามของพี่แฝด

...ก็พี่ถามกูไม่ใช่หรอวะ กูก็ตอบ เอ๊ะ หรือนี่ตอบไม่ตรงคำถาม

.

.

.


“ถุงเค้กอยู่เบาะหลัง เด็กมึงเอามาให้”

“หืม?”

“น้องไจ๋หรอ”  ไอ้แทนขับรถมารับไอ้ไซน์กลับบ้านอย่างเช่นทุกวัน พอไอ้หมาขึ้นรถเรียบร้อยแฝดคนโตก็พยักเพยิดหน้าไปทางเบาะหลัง ไอ้คอสมีท่าทีแปลกใจนิดหน่อยก่อนจะเอ่ยถามแฝดพี่

“วันนี้กูไม่เห็นมันที่คณะ แล้วมึงไปเจอมันได้ไง”

“มันพาพี่ปิงปิงไปโรงบาล เลยฝากกูเอาเค้กมาให้ไอ้ไซน์” ไอ้ไซน์ที่นั่งอยู่เบาะหลังคนเดียวเปิดถุงเค้กออกมาก่อนจะพบการ์ดเล็กๆ เขียนด้วยลายมือตวัดๆที่คุ้นตา ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาทันทีที่อ่านจบ


‘ผมไม่รู้ว่าพี่แฝดชอบกินอะไร เลยบอกให้พี่ปิงเอามารวมๆกัน ฝากให้พี่แฝดพี่กินด้วยนะ ส่วนพี่ไซน์ไม่ต้องกินหรอก อ้วนนนนนน #คิดถึงจังครับ :p’ 


...น้องไจ๋ของมันน่ารักเสมอแหละหน่า

“เก็บอาการมั่งเถอะ ยิ้มจนปากจะฉีกถึงหูอยู่ละ” ไอ้แทนเหลือบมองกระจกหลังก่อนจะว่าเข้าให้

“อะไรเล่า”

“ป๊าววว ยิ้มให้ตลอดเถอะอย่าให้กูเห็นมึงมานั่งร้องไห้ งอแงน้ำตาตกใน กูจะสมน้ำหน้าให้”  ไอ้แทนพูดจบก็หันไปแท๊กมือกับไอ้คอสที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับ ส่วนไอ้หมาไซน์ได้แต่เบะปากใส่อยู่ด้านหลังเงียบๆคนเดียว

...เดี๋ยวรู้เลยยย




RRR

‘Jai EN’

“ฮัลโหลว อิสมี ไอ้ไซน์ไม่ว่าง แต่ถึงมันว่างกูก็ไม่ให้คุย” เจ้าคอสถือวิสาสะรับโทรศัพท์เครื่องสวย แล้วรัวคำพูดดักทางของคนปลายสายไว้

‘...พี่ไซน์ทำอะไรอยู่ครับ’

“กินขนม หน้างี้บานแข่งกับจานดาวเทียม อ้วนก็อ้วน นี่มึงชอบมันไปได้ไง โอ้ยยยย”

“อะไร รับโทรศัพท์เค้าแล้วก็มานินทาเค้า เอามานี่เลยนะ” เสียงเจื้อยแจ้วดังเข้ามา ปลายสายที่ฟังอยู่ถึงกับหลุดยิ้มออกมา

...อา ชักจะหนักขึ้นทุกวัน นี่แค่ได้ยินเสียงพี่ไซน์แม่งก็อารมณ์ดีละ

“ฮัลโหลๆ”

‘อ้าว ทะเลาะกันเสร็จแล้วหรอครับ ฮ่าๆๆ’

“เออ คอสแม่ง ชอบยุ่งกับของส่วนตัว ทำตัวจู้จี้อย่างกับผู้หญิง”

‘ไม่เอาหน่าพี่ไซน์ เค้าเป็นห่วงพี่ไง’

“กูโตแล้วววว”

‘โตแล้วก็อย่าทำตัวให้เป็นห่วงสิครับ’ เสียงทุ้มๆของน้องไจ๋ทำเอาไอ้ไซน์หน้าร้อนผ่าวขึ้นมาเสียดื้อๆ ยกมืออีกข้างขึ้นมาเกาแก้มอย่างเขินๆ ริมฝีปากบางๆนั่นก็กลั้นยิ้มเอาไว้ ทำหน้าตลกอะไรเบอร์นั้น

“มะ มึงก็จะเป็นพ่อกูอีกคนไง๊”

‘โอ้ยยย ไม่อยากมีลูกแบบพี่หรอก’

“ทำแมะ แบบกูมันทำแมะ”

‘อ้าว จับลูกทำเมียมันผิดนะพี่’

...ตึ้งโป๊ะ ไอ้ไซน์เหมือนจะเป็นลม มันเป็นวิ้งๆที่หัว เต็มไปหมดเลยครับ ฮืออออ

“...”

‘พี่ยิ้มอยู่แน่ๆ’

“เพ้อเจ้อ กูวางละ” บอกปลายสายเสียงดังพลางมือก็จับแก้มร้อนๆของตัวเองอีกครั้ง

‘เนี่ย พี่ก็เป็นแบบนี้ทุกที เขินแล้วชอบหนี’

“กูไม่ได้หนี กูง่วง มึงไม่รู้หรอว่ากูนอนไม่พอแล้วมันหงิด”

‘แล้วพอเขินหนักๆเข้าพี่ก็ชอบโวยวาย เฮ้อออ’ น้องไจ๋ยังคงพูดแกล้งอีกคนไม่เลิก พนันได้เลยว่าตอนนี้น้องมันต้องยิ้มปากกว้างอยู่แน่ๆ

“ฮื่อออออ วางไปเลยยย”

‘ฮ่าๆๆ ไม่แกล้งแล้ว งั้นผมวางละนะ’

“อื้อ บ๊ายบาย”

‘ฝันดีนะครับ’

“ฝันดีฮับ” บอกน้องไจ๋เสียงหวานก่อนจะวางสาย ยังไม่ทันไรเสียงข้อความจากแอพลิชันสีเขียวก็ดังตุ้งติ้ง เด้งขึ้นมา ไอ้ไซน์หยิบโทรศัพท์ก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟาแล้วเปิดดูข้อความ


Jaijira: พรุ่งนี้ไปกินข้าวกันนะ

SineZai: กูไม่แน่ใจว่าพวกแฝดจะให้ไปมั้ยนะ

Jaijira: งั้นไปกันหมดทั้งสามคนเลย เดี๋ยวผมก็จะพาพี่ปิงไปด้วย

SineZai: อือ เดี๋ยวชวนๆให้

Jaijira: แล้วพี่แพ้อาหารอะไรมั้ย?

SineZai: ไม่นะ กูก็กินได้เกือบหมด แต่กูเลือกกินอะ

Jaijira: งั้นพี่ชอบกินอะไร

SineZai: อืมม...ไข่เจียวก็ชอบ ข้าวต้ม ผัดผักบุ้งไฟแดงก็ชอบนะ พวกต้มยำงี้ก็ชอบนะ มาม่ากูยังชอบเลย ถ้ามันอร่อย 555

Jaijira: เอาที่ชอบเป็นพิเศษสิ



SineZai: ที่ชอบเป็นพิเศษหรอ .... ชอบมึงไง :)




03.12 น.

RRRR

‘Jai EN’

“อือ ไรวะ”

‘พี่ไซน์ ผมนอนไม่หลับอะ’

“เอ้า แต่กูหลับแล้ว”

‘พี่แม่ง หลับได้ไงวะ พี่มาวางระเบิดผมด้วยมุกกากๆแบบนั้นหรอ พี่คิดว่าผมจะเขินใช่มั้ย ผมแข็งแกร่ง ผมไม่สะทกสะท้าน ฮึ่ยยยย พี่รู้ปะใจผมมันพองจนจะแตกอยู่แล้วอะ ถ้าผมตายขึ้นมาพี่จะทำยังไงฮะ พี่ไซน์พี่ตื่นขึ้นมาคุยเป็นเพื่อนผมเดี๋ยวนี้เลยนะ’

“...”

‘พี่ซายยยยยยยยยยยยยยยยยยน์’

“อือ พูดจบแล้ว ก็ไปนอนไป๊”

‘พี่ไซน์อะ มารับผิดชอบเลยนะเว้ย’

ตู้ด ตู้ด ตู้ด ...

.

.

.


เจ้าน้องไจ๋ยอมรับเลยว่าตอนแรกที่บอกว่าจะพิสูจน์ตัวเอง จะดูแล ปกป้องพี่ไซน์ จะไม่ใช่ไอ้ไจ๋คนเดิมที่เมาเหล้าเอาแต่เที่ยว ที่บอกไว้กับพวกพี่แฝดนั้น พูดไปเพราะอารมณ์ล้วนๆ คือมีความตั้งใจจริงๆที่จะทำ แต่ดันลืมคิดไปเสียนี่ว่าจะทำโดยวิธีไหน ไอ้น้องไจ๋เลยต้องมานั่งแหง็กใช้สมองเล็กๆคิดอยู่เนี่ย  อาจงอาจารย์สอนอะไรก็ไม่เข้าหัวละตอนนี้

ช่วงนี้น้องไจ๋ไม่ได้เที่ยว ไม่ได้ฟันผู้หญิง ไม่ได้มีเรื่องทะเลาะ ชกต่อยกับใครแล้วแล้วก็จริง แต่มันก็ยังไม่มากพอที่จะทำให้พี่แฝดเห็นว่า น้องไจ๋มันจะดูแลพี่ไซน์ของมันได้ ถ้าจะทำดีกับพี่ไซน์ก็ทำได้ แต่ถ้าหลังจากนี้ ไม่มีเวลาให้พี่ไซน์ เดี๋ยวก็จะหาว่าตอแหล ทำดีแค่ช่วงโปรโมชั่นมั้ย? โอ้ย เนี่ย ยิ่งคิดยิ่งเครียด  ลักพาตัวพี่ไซน์หนีไปอยู่เกาะเหมือนหมอวรรษแม่งเลย
หน้าหล่อๆของน้องไจ๋ฟุบลงกับโต๊ะ พลางมือก็แอบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เปิดเข้าแอพลิเคชันสีเขียว แล้วกดเข้าไปดูข้อความเมื่อคืน

‘ที่ชอบเป็นพิเศษหรอ .... ชอบมึงไง :)

พอเห็นข้อความแล้วมุมปากหยักก็ยกยิ้มขึ้น ข้อความของพี่ไซน์ตัวดีที่ทำเอามันนอนไม่หลับ กลัวว่าพอลืมตาตื่นแล้วข้อความจะหายไป

...แล้วไอ้ความรู้สึกหัวใจพองโตนี่มันอะไร


Jaijira:  คิดถึงงงงงง

ส่งข้อความไปหาคนเป็นพี่ก็เลื่อนขึ้นไปดูบทสนทนาเก่าๆที่เคยคุยกัน  สักพักโทรศัพท์ก็สั่นครืดๆ ข้อความตอบกลับมา

SineZai:  กูคิดถึงมากกว่าอีก :p

น้องไจ๋ยิ้มกว้างออกมาอีกครั้ง

...โดนอีกหนึ่งดอก


“ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ มึงเลิกอกหักแล้วหรอ?” ไอ้ทีร์ เพื่อนที่นั่งอยู่ด้านข้างถามขณะที่มือก็จดตามสไลด์อาจารย์

“อือ”

“ถุ้ยย โถ่กูก็กะจะรอดูว่าเสืออย่างมึงจะเศร้าได้กี่วัน นี่ก็คนคุยใหม่ใช่มั้ยหละ”

“ป่าว คนเดิม”

“เหยดดดดดด แสดงว่าพี่ติวเตอร์คนนี้แม่งเด็ดจริง”

“สัส ลามปามพี่ไซน์กู”

“ฮั่นน่อววว ล้อไม่ได้ด้วยเว้ยเห้ย” ไอ้ทีร์พูดจบ น้องไจ๋ก็ทำท่าจะต่อยเข้าให้ จนอาจารย์ที่อยู่หน้าห้องหันมามองนั่นแหละ ทั้งสองถึงได้เลิกคุยกัน


พอหมดคาบเรียนน้องไจ๋ก็เก็บชีทเข้ากระเป๋า เหลือเวลาอีกตั้งสองชั่งโมงกว่าๆ พี่ไซน์ถึงจะเลิกเรียน  น้องไจ๋จึงใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์โดยเข้าห้องสมุด ไปตากแอร์ (?) เลือกนั่งมุมที่ชั้นหนังสือบังไว้ เวลานอนหลับ ได้ไม่มีคนเห็น อิอิ


“นี่ไง ไซน์มันส่งมาให้ดู”

“แล้วมันไปกับใคร”

“พี่เต๋าอะไรนั่นแหละ ที่ชอบซื้อขนมมาให้มันบ่อยๆ”

“แล้วไปนานแค่ไหน”

“ไม่รู้ มันฝึกงานช่วงปีสี่เทอมแรก สามเดือนกว่าๆมั้ง แต่มันบอกจะไปก่อน”  เสียงบทสนทนาเบาๆ แต่ก็ดังมากพอที่น้องไจ๋จะได้ยินดังขึ้น ภายในห้องสมุดที่เงียบกริบ น้องไจ๋ลุกออกจากโต๊ะที่ตัวเองนั่งอยู่ เดินมาอีกฝั่งที่ชั้นหนังสือกั้นไว้ ค่อยๆชะโงกหน้ามองดูบุคคลที่พูดคุยกันเมื่อครู่นี้

“นี่ไง มันโทรมาละ ว่าไงไซน์ มึงจะไปจริงๆหรอ”

...พี่คอส และพี่แทน

“สถานทูตอังกฤษเลยนะ มึงร้องไห้กลับบ้านกลางคันไม่ได้นะ”

...อะไร พี่ไซน์จะไปไหน แล้วทำไมต้องไปกับไอ้พี่รหัสอะไรนั่น

“แล้วนี่โทรไปบอกแม่ยัง เออๆ เดี๋ยวค่อยคุยกันอีกที” เจ้าแฝดคนโตกดวางโทรศัพท์แล้วก็หันหน้าไปคุยกับเจ้าคอสต่อ แต่น้องไจ๋ไม่ได้ยินเสียงอะไรแล้ว สติหลุดลอย เดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ มือก็หยิบโทรศัพท์ออกมาต่อสายหาอีกคนที่อยากคุยด้วยอย่างร้อนรน แต่เจ้าตัวกลับไม่รับโทรศัพท์


...ห่างกันสามเดือนอะไร  แค่สามวันก็จะบ้าตายอยู่แล้ว




----------------------------------
ฮัลโหวทุกคนนนนน เรากลับมาแล้วววววว
ไม่ได้เข้ามาตั้งนาน คิดถึงน้องไซน์กันมั่งมั้ย
ช่วงนี้คงได้อัพบ่อยขึ้นเพราะปิดเทอมแล้ว
ยังไงก็ฝากติดตามพวกสามแฝดและเป็นกำลังใจให้น้องไจ๋สู้ๆด้วยนะฮะ  เลิ้ฟฟฟฟ :katai3:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ SPNamfone

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
17
ไปละนะ



“ไม่อร่อยหรอ?”

“ป่าวครับ”  น้องไจ๋บอกปฏิเสธแล้วก็หยิบส้อมขึ้นมาเขี่ยๆข้าวในจานเหมือนเดิม  ไอ้ไซน์ที่วันนี้ไม่มีพวกพี่แฝดคอยตามประกบเห็นแล้วก็อดหงุดหงิดไม่ได้


...บอกป่าวๆ แต่หน้าอย่างกะเด็กถูกบังคับให้กิน


“ไม่รีบกินระวังกูแย่งนะ”

“อ้วน”

“เดี๊ยะๆ” ใช้ส้อมชี้หน้าอีกคนแล้วก็กินต่อ ในขณะที่น้องไจ๋ก็ยังคงเขี่ยข้าวในจานเล่นพลางมองคนที่กินข้าวท่าทางดูอร่อยนั่นเงียบๆ

อาทิตย์นึงผ่านไปแล้วหลังจากที่น้องไจ๋ได้ยินเรื่องไปฝึกงานที่ต่างประเทศของไอ้ไซน์  แต่เจ้าตัวกลับยังไม่ปริปากพูดออกมาให้ได้ยินสักคำ    

“พี่ไซน์...พี่มีอะไรจะบอกผมมั้ย?”

“หือ ? ไม่นี่” ไอ้ไซน์พูดเคี้ยวข้าวตุ้ยๆเต็มแก้ม น้องไจ๋ชะงักเล็กน้อย ก่อนจะแอบถอนหายใจออกมาเบาๆ 
กินข้าวเสร็จ  ไอ้ไซน์ก็ได้มานอนตีพุงอยู่บนโซฟาบ้านน้องไจ๋


...โถ่ น้องมันบอกให้มาดูหนังเป็นเพื่อน ก็ไม่ได้เต็มใจมาซะหน่อยยยย


“พี่ดูไปเลยนะ ผมไปแก้รายงานก่อน เดี๋ยวผมตามมา”  น้องไจ๋เดินเข้ามาบอกไอ้ไซน์ที่กำลังนั่งเลือกแผ่นหนังอยู่ แล้วเดินออกจากห้องดูหนังไป ไอ้ไซน์ขมวดคิ้วก่อนจะไม่สนใจ เลือกแผ่นหนังต่อ พอเลือกได้แล้วก็เปิดเข้าเครื่องสเตอริโอ


สิบนาทีผ่านไป
น้องไจ๋ก็ยังไม่เข้ามา



สิบห้านาทีผ่านไป
น้องไจ๋ก็ยังไม่เข้ามาอีก


ครึ่งชั่วโมงผ่านไป
ไอ้ไซน์กดปิดหนังแล้วเคลื่อนย้ายก้นกลมๆ ไปยังห้องข้างๆ  เคาะประตูสามทีพอเป็นมารยาทก่อนจะเปิดประตูเข้าไป  เห็นน้องไจ๋นั่งทำหน้าคร่ำเครียดอยู่หน้าจอโน๊ตบุ๊ค ไอ้ไซน์ก็เข้าไปบีบๆนวดๆหัวไหล่ให้

“พี่ไปดูหนังเลย เดี๋ยวผมก็แก้เสร็จแล้ว”

“กูปิดไปแล้ว”

“อ้าว หนังไม่สนุกหรอ งั้นผมไปส่งที่คอนโดปะ” น้องไจ๋กดเซฟงานก่อนจะลุกขึ้นหยิบกุญแจรถที่วางข้างโน๊ตบุ๊คขึ้นมา ไอ้ไซน์กดไหล่ของคนตัวสูงกว่าไว้ให้นั่งลงที่เดิม จับหน้าน้องไจ๋ไว้ไม่ให้หันหนี แล้วยื่นหน้าเข้าไป

“เป็นไรก็บอกดิ วันนี้ทั้งวันมึงไม่สนใจกูเลยอะ”

“ผมเหนื่อยๆหนะ ขอโทษนะ”  น้องไจ๋พูดจบ ไอ้ไซน์ก็หลับตา สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะกดริมฝีปากนิ่มลงไปที่เดียวกันของอีกคน  ง้างงับ ดูดคลึงริมฝีปากน้องไจ๋ แล้วค่อยๆรุกล้ำเข้าไปในโพรงปากอีกคนอย่างเก้ๆกังๆ  น้องไจ๋ โอบเอวคนเป็นพี่ไว้แน่นก่อนจะดึงลงมาให้นั่งตัก แล้วเป็นฝ่ายรุกกลับคืนบ้าง ลิ้นร้อนๆเกี่ยวตวัดช่วงชิงความหวาน ดูดเอาพลังงานจากอีกคนมาเป็นของตัวเอง พอรู้สึกว่าอีกฝ่ายหายใจไม่ทันก็ค่อยถอนริมฝีปากออกมาอย่างช้าๆ แล้วเลื่อนลงมาคลอเคลียยังซอกคอหอม

“พะ พอแล้ว ฮื่อ จะ ไจ๋”  ร้องครางเสียงกระเส่าเมื่อคนเป็นน้องลากริมฝีปากที่ร้อนผ่าวกลับขึ้นมายังใบหู  น้องไจ๋อุ้มไอ้ไซน์ ลุก
ขึ้นจากเก้าอี้เปลี่ยนมายังเตียงนอน ดันลงพี่ลงไปนอนด้านล่าง กดแขนทั้งสองข้างไว้เหนือหัว ก่อนจะเริ่มระดมจูบต่อ

“พี่มีอะไรจะบอกผมมั้ย?”

“มะ ไม่มี อ๊ะ ไม่มีนี่ อย่า...” ไอ้ไซน์บอก น้องไจ๋ก็กดจูบลงที่ปากอีกที จูบย้ำๆราวกับจะให้คนที่ร้องครวญครางอยู่ด้านล่างเปิดปากพูดออกมาซักที

“พี่จะไม่บอกผมใช่มั้ย?”

“แล้วมันเรื่องอะไรเล่า อ๊ะ หยุด แล้วมาคุยกันให้รู้เรื่องนะไจ๋”

“อีกเดือนนึง พี่จะไปฝึกงานที่อังกฤษ พี่คิดจะบอกผมตอนไหนพี่ไซน์” น้องไจ๋สบตามองคนตรงหน้าด้วยแววตาตัดพ้อ น้ำเสียงทุ้มๆเจือไปด้วยความผิดหวัง และเสียใจทำเอาไอ้ไซน์ใจหล่นวูบ

“...กู กูไปแปปเดียวเอง ปีสี่มันก็ต้องฝึกงานอยู่แล้ว กูก็เลยคิดว่าไม่สำคัญ”

“อะไรที่เกี่ยวกับพี่มันก็สำคัญหมดนั่นแหละ”

“ขอโทษ กูไม่คิดว่ามึงจะจริงจังขนาดนี้ กู ไปแค่สามเดือนเองไจ๋”

“แค่สามเดือน พี่ใช้คำว่าแค่หรอวะ แค่สามวันผมก็จะตายแล้วนะเว้ย แล้วนี่อะไร ไปกับไอ้พี่เต๋าอีก รู้ทั้งรู้ว่าพี่เต๋ามันชอบพี่ พี่ก็ยังจะไปกับมัน  พี่เป็นห่วงความรู้สึกผมบ้างปะ คิดว่าผมแค่เล่นๆหรอ หรือพี่กะจะปั่นหัวให้ผมหึง เหอะ งั้นมันก็ได้ผลแล้วหละพี่ไซน์”

“ไจ๋...”  เรียกชื่อคนเป็นน้องเสียงอ่อน


...รู้สึกผิดแล้ว พี่ไซน์รู้สึกผิดแล้วจ้า


“อธิบายมา ก่อนที่ผมจะโมโหหึงมากกว่านี้ แล้วจับพี่ปล้ำแม่งตอนนี้แหละ”

“แล้วนี่ใครเล่าให้มึงฟัง”

“อย่ามาเปลี่ยนเรื่องนะไซน์ อธิบายมา นับหนึ่ง”

“เออๆ ขอเวลาเรียบเรียงแปปนึงดิ”

“สอง”

“เออๆๆ ก็ปีสี่เทอมแรกกูไปฝึกงานที่สถานทูตที่อังกฤษสามเดือนกว่าๆ แต่ว่าจะไปก่อนประมาณสองอาทิตย์เพราะกูอยากไปเที่ยวด้วย กะว่าให้สอบไฟนอลเสร็จก่อนแล้วกูค่อยบอกมึง มึงจะได้ไม่ต้องมาคิดมากเรื่องกู พอใจยัง?”

“แล้วทำไมต้องไปกับพี่เต๋า”

“ก็ตอนส่งเรซูเม่ไป กูกับพี่มันสมัครกันแค่สองคน ก็เลยได้ไปกันสองคน”

“แน่ใจนะ”  น้องไจ๋ถามเสียงแข็ง มองคนเป็นพี่อย่างจับพิรุจน์  ไอ้ไซน์รีบพยักหน้าขึ้นลงดุ๊กดิ๊กก่อนบอก

“กูไปฝึกงานนนนนน ไม่ได้มีเวลาว่างไปสวีทกิ๊กกั๊กกันนะเว้ย”

“แสดงว่าถ้าว่างก็จะทำใช่ปะ”

“เพ้อเจ้อละไจ๋ กูรอให้มึงขอกูเป็นแฟนอยู่นะ กูจะไปทำกับคนอื่นทำไม แต่ไม่แน่นะ ถ้ามึงช้ากูอาจจะใช้เวลาสามเดือนเนี่ยสานสัมพันธ์กับพี่เต๋า จากคู่ฝึกงานจะกลายเป็นคู่ฮันนีมูนไม่รู้ อื้อออ” น้องไจ๋กดริมฝีปากลงมาอีกก่อนที่ไอ้ไซน์จะพูดจบ แอบขบเบาๆเป็นการลงโทษคนเป็นพี่ที่พูดจาไม่เข้าหู ง้างงับดูดดึงริมจนริมฝีปากอีกคนบวมเจ่อไปหมด ก่อนจะแปรเปลี่ยนมาเป็นไล่ต้อนลิ้นน้อยๆอย่างอ่อนละมุน แล้วค่อยละออกมามองตาคนที่นอนอยู่ใต้ร่างอย่างช้าๆ

“ลองดูสิ ผมจะตามไปเผาสถานทูตเลย”

“โห เก่งจังครับ อ๊ะ ไจ๋ มึง ยะ หยุดดดดด อ๊ะ อืมมม” แล้วไอ้ไซน์ก็โดนน้องไจ๋ระดมจูบซ้ำๆย้ำๆอีกหลายครั้ง ข้อหาปากเก่ง พูดจาน่าหมั่นเขี้ยว ท้าทายอำนาจเด็ก หรืออาจจะไม่มีข้อหาอะไรเลยก็ได้

ก็แค่...หาเรื่องจูบ


.

.

.

สัปดาห์สอบไฟนอลนรกผ่านไปแล้ว  สงครามจบ เก็บศพน้องไจ๋ด้วย  ช่วงนี้น้องไจ๋รู้สึกห่อเหี่ยวเหลือเกิน  ปิดเทอมอุตส่าห์จะได้มีเวลาว่างอยู่กับพี่ไซน์ของมัน แต่ไอ้หมาดันไม่ว่างซะนี่  วิ่งวุ่นอยู่กับเอกสารเดินทางต่างประเทศและเอกสารฝึกงานจากทางมหาลัย  แชทก็ไม่ตอบ โทรหาทีไรก็มีแต่พวกพี่แฝดรับแทนตลอด

...ห่อเหี่ยวละเกิ๊นนน


SineZai: ออกมาหน้าบ้านเร็ว

นั่น นึกถึงก็มาพอดี  ข้อความจากรุ่นพี่ตัวเล็กเด้งขึ้นเตือน  น้องไจ๋เปิดอ่านแล้วก็ยิ้มกว้างดีใจ ก่อนจะรีบวิ่งหน้าตั้งออกไปหน้าบ้าน  เห็นพี่ไซน์หัวเห็ดถือของพะรุงพะรังก็เข้าไปช่วยถือ ก่อนจะเดินหลบแดดร้อนๆเข้าบ้านกัน

“วันพี่นี้ว่างหรอ”

“อื้อ เอกสารครบหมดละ เหลือแค่เดินทาง” คนตัวเล็กว่า เดินเข้าไปในครัวแล้ววางถุงต่างๆลงบนเคาท์เตอร์  น้องไจ๋ก็วางถุงที่ถือมาช่วย ก่อนจะทำหน้าบูด เดินเข้าไปคลอเคลียใกล้ๆ

“ไม่ไปไม่ได้หรอ”

“อย่าพูดอะไรที่มันทำไม่ได้หน่า ถอยไป จะทำกับข้าว นี่ยังไม่อาบน้ำใช่มั้ย?” ว่าเสียงดุแล้วผลักอกคนเป็นน้องให้ถอยออกห่างๆ ก่อนจะค้นๆผ้ากันเปื้อนในถุงออกมาใส่ แล้วเดินไปล้างมือ

“ฮ่าๆ น่ารักหวะ เลือกลายเองหรอ”

“มันมีสีเดียวหรอกหน่า ไปอาบน้ำได้แล้ว”  ทำตาดุใส่คนเป็นน้องแล้วก็หันไปหยิบจับของที่ตัวเองซื้อออกมา

“จะทำอะไรกินอะ” น้องไจ๋ไม่ได้สนที่ไอ้ไซน์บอกสักนิด  หนำซ้ำยังยังมายืนซ้อนหลัง เอาหน้าเกยหัวไหล่อีกคนไว้

“ไข่เจียว แกงจืด ผัดเปรี้ยวหวานสับปะรด  มึงอยากกินอะไรเพิ่มมั้ย?”

“หึ พี่ทำอะไรมาผมก็กินได้หมดนั่นแหละ”

“หึหึ ให้มันแน่”

“เดี๋ยวๆ พี่ทำกับข้าวเป็นมั้ยเนี่ย”

“ระดับเทพ คอยดูเลย”



“ไจ๋!  กูพลิกไข่ไม่ได้ มันจะขาด เร็วดิ เดี๋ยวไหม้”

“ไจ๋! กูว่าแกงจืดมันเค็มไปอ่ะ ใส่น้ำตาลเพิ่มดีมั้ย?”

“ไจ๋! กูปอกสับปะรดไม่เป็น แหะๆ”



นั่นแหละ ใช้เวลาร่วมสองชั่วโมงกับการวิ่งวุ่นอยู่ในครัว แต่หากคนที่วิ่งวุ่นกลับเป็นน้องไจ๋  คอยดูพี่ไซน์ของมันว่าจะใส่อะไรแปลกๆ ลงไปในกระทะ อ้างว่าเป็นเมนูประยุกต์ เห็นอะไรพอมีเหลือในตู้เย็นนี่จะจับโยนลงกระทะหมดเลย


...เหนื่อยจังครับ อย่างกับเลี้ยงเด็กประถม


“ยืนนิ่งๆก่อน เดี๋ยวถอดผ้ากันเปื้อนออกให้” จับคนเป็นพี่ให้หันหน้าเข้ามาหาตัวเอง ก่อนจะเอื้อมมือโอบรอบเอวเล็กไปปลดเชือกออกให้

“มึงรู้มั้ย ที่จริง...กูก็ทำกับข้าวไม่ค่อยเป็นหรอก”

“หึ จากที่เห็นก็พอจะรู้อยู่แล้วครับ”

“แต่ก็อวดเก่งไปงั้น เพราะรู้ว่ามึงจะต้องเข้ามาช่วย”

“...”

“กูก็แค่เรียกร้องความสนใจ อยากให้มึงอยู่กับกูตลอดเวลา  แค่นั้นเอง”

“...”

“ชักไม่อยากไปฝึกงานแล้วอะ”  บอกคนเป็นน้องด้วยเสียงหงอยเหมือนลูกหมากำลังจะโดนทิ้ง น้องไจ๋ดึงไอ้ไซน์เข้ามากอด ลูบหัวลูบหลัง โยกตัวไปมาคล้ายกับจะปลอบคนเป็นพี่

...ไม่เป็นไรนะ พี่ไซน์ ไม่ต้องกังวล

“ผมอยู่กับพี่ตลอดเวลานั่นแหละพี่ไซน์” 


สองพี่น้องโอ๋กันเสร็จ ก็ได้ฤกษ์ได้ยามลองชิมอาหารที่ตัวเองทำซักที  ไอ้ไซน์เอาแต่โม้ว่ามันอร่อยเพราะตัวเองเป็นคนทำอย่างนั้นอย่างนี้  น้องไจ๋หละหมั่นไส้ อยากบีบแก้มย้วยๆนั่นสักที  คนที่ทำจริงนะมันเขาต่างหาก  พี่ไซน์หนะ แค่มีหน้าที่เอาวัตถุดิบออกมาจากถุงแล้วก็เรียกร้องหาแต่ไจ๋ๆ อยู่นั่น

แต่ก็นั่นแหละ น้องไจ๋มันชอบชื่อตัวเองมากๆก็วันนี้ เสียงหวานๆร้องเรียกชื่อไจ๋ตลอดทั้งวัน ไม่อยากจะคิดว่าเวลาร้องเรียกชื่อไจ๋บนเตียงมันจะน่าฟังยิ่งกว่านี้อีกมั้ย

....ให้ตาย  คิดอกุศลจนได้


.

.

.

ณ สนามบิน

สามแฝด น้องไจ๋ พี่เต๋า และเพื่อนอีกประมาณ 8-9 คน ต่างก็ยืนกอด ยืนบอกลาสั่งเสียไอ้ไซน์  โดยเฉพาะพวกพี่แฝด ที่จะย้ำนักย้ำหนาเรื่องทะเล่อทะล่า กลัวไอ้หมาไอ้หลง หายอยู่อังกฤษที่ไหน  หน้าหมาๆแบบนี้ยิ่งหายากอยู่  ไอ้ไซน์และพี่เต่าลากกระเป๋าใบโตประมาณสามสี่ใบไปโหลดใต้ท้องเครื่องก่อน จะขึ้นเครื่องอีกหนึ่งชั่วโมงข้างหน้านี้ไอ้ไจ๋ที่พ่วงมาด้วยยิ่งทำหน้าเครียดหนักเข้าไปใหญ่

...ก็ดูไอ้พี่เต๋านั่นสิ ทำอย่างกะสนิทกับพี่ไซน์มาเป็นสิบปี พี่ช่วยนะน้องไซน์ หิวมั้ย ไปห้องน้ำมั้ย ทำตัวติดกับพี่ไซน์ จนน่าหมั่นไส้  แต่ที่น่าโมโหยิ่งกว่าคือพวกพี่แฝดทำไมยังเฉยๆ อยู่ได้ ไม่ได้มีทีท่าว่าจะกีดกันเลย ทีเขาเข้าหาพี่ไซน์หน่อย ชวนคุยนิดเดียวมองอย่างกะจะฆ่ากันยังไงอย่างนั้น เหอะ!


“ไป เข้าเกทได้แล้วหละ”  เจ้าแฝดคนโตบอก ตบไหล่ไอ้ไซน์ปุๆ ไอ้หมานี่ก็ขยันทำหน้าหงอยใส่เหลือเกิน ใช่ว่าอยู่ห่างกันคนละซีกโลกลแล้วจะติดต่อกันไม่ได้เสียหน่อย

“พี่เต๋าครับ ฝากดูไอ้ไซน์ด้วยนะครับ”

“ครับ จะดูแลอย่างดีเลย”

“ไปนะ” ไอ้ไซน์บอกเสียงอ่อนพร้อมเดินเข้าไปกอดไอ้แฝดคนกลาง

“อื้อ ถึงแล้วก็บอกกูด้วย”  ไอ้หมาพยักหน้าหงึกๆ ผละออกก่อนเพื่อนที่มาส่งจะเข้ามากอดพร้อมบอกให้เดินทางดีๆ ครบทุกคนแล้วพี่เต๋าก็ถือวิสาสะขับข้อมือไอ้ไซน์กระตุกเบาเป็นเชิงบอกให้เข้าไปในเกทได้แล้ว  ไอ้ไซน์ค่อยๆบิดข้อมือออกไม่ให้ดูน่าเกลียดก่อนจะเดินเข้าไปหาน้องไจ๋ที่ยืนอยู่ด้านหลังกลุ่มเพื่อน

“กูไปแล้วนะ”

“ครับ เดินทางดีๆ อย่าไปหลงที่ไหนนะ ตั้งใจทำงานด้วยนะครับ”

“ไจ๋...กูไม่อยู่ก็อย่าทำตัวเกเรนะ”

“ครับ รีบๆกลับมานะ แล้วก็อย่าให้ไอ้พี่เต๋ามันเต๊าะมากนักหละ แค่นี้ผมก็หวงแทบไม่ไหวแล้ว” ประโยคหลังกระซิบบอกคนเป็นพี่ก่อนจะดึงเข้ามากอด  กอดอุ่นๆแชร์ความรู้สึกที่มีต่อกันให้อีกฝ่ายได้รับรู้ 

“ไปจริงๆละนะ” ผละออกแล้วก็เดินทำหน้าหงอยๆ โบกมือบ๊ายๆพวกพี่แฝด เพื่อนๆ และน้องไจ๋ แล้วเดินเข้าเกทพร้อมพี่เต๋าไป


เพื่อนๆที่มาส่งต่างก็ทยอยกลับหมดแล้ว  เหลือเพียงแค่พี่แฝด และน้องไจ๋ที่ยังยืนประจันหน้ากันอยู่

“มึงเล่นกีฬาอะไรเป็นบ้าง”  เจ้าแทนเปิดคำถามถามน้องไจ๋ด้วยท่าทางกวนๆ

“เทนนิส เทควันโด”

“หึ พรุ่งนี้สักสี่โมงเย็นเจอกันที่สนามเทนนิสหลังมอหน่อยมั้ย แข่งกันสักสองเกมส์เป็นไง”

“เอาสิครับ”

“เตรียมตัวมาดีๆนะไอ้น้อง กูอยากเล่นนานๆ”  เจ้าแฝดคนกลางพูดจบก็ตบไหล่น้อไจ๋แรงๆสองที ก่อนจะเดินออกไป พร้อมกับแฝดคนโตที่ยักคิ้วกวนประสาทส่งมาให้

เหมือนพวกแฝดจะมั่นใจเหลือกเกิน มั่นใจจนน้องไจ๋รู้สึกว่าถ้าแข่งกันครั้งนี้แล้วมันแพ้ มันจะไม่ได้รับการยอมรับ และเป็นครั้งแรกที่ทำให้รู้สึกว่า


อยากเอาชนะให้ได้




สู้เค้านะไจ๋  พี่ไซน์รอเป็นแฟนด้วยไม่ไหวแล้ววว

ฝากติดตามพวกแฝดด้วยนะคะะะ รักกกกก

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:
ดีใจที่กลับมา รออออออออพี่ไซน์

ออฟไลน์ 205arr

  • เราคงอยู่ไกลกันเป็นพันหมื่นลี้
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
เจ้าใจ๋จะทนไหวเร้อ
ตั้งสามดือนกะอีกสองอาทิตย์
คงได้มีคนลงแดง อิอิ  :mew1:

ออฟไลน์ SPNamfone

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
18
ยิ่งแข่ง ยิ่งแพ้ ภาค1



“40 - 15”



“เกมส์! ไอ้แทนนำ 2-1 เซต”


“เซตที่สามไอ้ไจ๋เป็นฝ่ายเสิร์ฟ”  ไอ้แทนบอกก่อนจะโยนลูกเทนนิสสีเขียวๆไปฝั่งทางน้องไจ๋ที่ยืนหอบแหกๆอยู่ท้ายคอร์ด น้องไจ๋รับลูกเทนนิสมา ก่อนจะตั้งท่าเสิร์ฟ


...เล่นเสียไปแล้วสองเซต ทั้งที่จริงพี่แทนก็ชนะแล้ว แต่พี่มันบอกอยากชนะขาดลอย ก็เลยต่ออีกเซตนึง  แม่ง โคตรหยามกัน
ลูกเทนนิสดังกระทบไม้ไปตกที่คอร์ดฝั่งของไอ้แทน ไอ้แทนก็รับ ตีโต้กลับไปหาน้องไจ๋ด้วยท่าทางสบายๆ ขณะที่น้องไจ๋วิ่งรับลูกไปมา ด้านซ้ายบ้าง ด้านขวาบ้างจนหอบแหกๆ วิ่งตามลูกไม่ทัน ปล่อยให้ลูกตกที่คอร์ดกลิ้งออกจากสนาม

“0 - 15”

“อ่อนหวะ มึงจะเสียเกมส์เสิร์ฟตัวเองหรอ” ไอ้แทนหัวเราะในลำคอ ก่อนจะล้วงลูกเทนนิสในกระเป๋ากางเกงของตัวเองโยนไปให้น้องไจ๋อีก น้องไจ๋รับมาก่อนจะเริ่มเสิร์ฟอีกครั้ง  เสียงลูกเทนนิสตกกระทบกับไม้แรกเกตและพื้นสนามดังขึ้นสลับกันไปมา  สองคนที่แข่งกันอยู่ผลัดกันได้แต้ม เสียแต้มบ้างจนกระทั่ง

“40 เท่า ดิวซ์สองลูก” น้องไจ๋ยกยิ้มมุมปากอย่างมีหวังว่าตัวเองจะได้เป็นผู้ชนะบ้าง แม้จะเซตเดียวก็ตาม ก่อนจะเริ่มโยนลูกเทนนิสขึ้นเสิร์ฟไปคอร์ดไอ้แทน

“มึงลองคิดดูดีๆไอ้ไจ๋ สิ่งที่มึงทำ มันชัดเจนพอรึยังที่จะทำให้กูเห็นว่ามึงจริงจังกับไอ้ไซน์มากแค่ไหน”

“...”

“ไอ้ไซน์มันก็เป็นแค่หมาโง่ๆ ใครพูดอะไรมันก็คล้อยตามไปหมด มึงอาจจะแค่สนุก ที่ได้เห็นมันเดินตามเกมส์มึง” 

ป๊อก!

“เอ้าท์! เสียเปรียบ 0-1” น้องไจ๋หายใจหอบหายใจแรง จากทั้งความเหนื่อยและแรงอารมณ์ที่คุกกรุ่นอยู่ในใจเมื่อแฝดคนโตพูดกระแทกแดกดันด้วยประโยคเมื่อกี้ขึ้นมาจนเผลอลงแรง ฟาดไม้แรกเกตกระทบลูกเทนนิสจนออกขอบสนามไป ไอ้คอสโยนลูกเทนนิสสีเขียวกลับเข้าไปในสนามให้น้องไจ๋เริ่มเสิร์ฟอีกครั้ง

...มากไปแล้ว  จะดูถูกความรู้สึกของมันที่มีให้กับพี่ไซน์มากเกินไปแล้ว

“เพราะถ้ามึงชัดเจนเมื่อไหร่ มึงก็จะรู้ ว่าควรรู้สึกยังไงต่อ” ไอ้แทนบอกพร้อมตบลูกเทนนิสลงไปฝั่งตรงข้ามอย่างแรงและเร็วจนน้องไจ๋รับไม่ทัน

ป๊อก!

“เกมส์ 3 – 0 เซต ไอ้แทนชนะ”

“มึงจะนัดล้างตากูก็ได้นะ กูพร้อมเสมอ”

“...”

“มึงเคยได้ยินคำนี้มั้ย? อ่อนแอก็แพ้ไป คนไหวเค้าจะยืน” ไอ้แทนบอกแล้วเดินเลี่ยงไปขอบสนาม หยิบน้ำขึ้นมาดื่มอึ้กๆ ก่อนจะเก็บไม้แร็กเกตใส่กระเป๋าและสะพายออกจากสนามไป  ส่วนไอ้คอสก็รีบลงมาจากนั่งร้าน  เดินเข้ามาหาน้องไจ๋ที่แสดงสีหน้าผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด ตบไหล่แรงๆสองที

“มึงแพ้ก็ไม่แปลกหรอก ไอ้แทนมันเป็นถึงนักกีฬามหาลัย อาทิตย์หน้าลองมาแข่งเทควันโดกับกูสักตั้งสิ มึงอาจจะชนะก็ได้”

“ครับ” น้องไจ๋รับคำเนือยๆ แล้วไอ้คอสก็เดินสะพายเป้ออกไป ปล่อยให้น้องไจ๋ยืนคอตกอยู่คนเดียว 

...อย่างน้อยก็มีเวลาเตรียมตัวอีกหนึ่งอาทิตย์หละว้า

.

.

.


‘ฮัลโหลวววว มึงจะโทรมาทำไม โทรข้ามประเทศมันเปลือง รวยหรออออ’ เสียงแหบๆขึ้นจมูกของคนปลายสายพอรับโทรศัพท์จากน้องไจ๋แล้วก็รีบบ่นให้ทันที น้องไจ๋ส่ายหน้าเบาๆ เสียงขึ้นจมูกแบบนี้คงจะโดนหวัดเล่นงานแล้วแน่ๆ อดคิดภาพตามไม่ได้ แก้มย้วยนั่นคงจะแดงเพราะอากาศที่เย็นจัด จมูกก็คงจะแดงไม่แพ้กัน เห้อ ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ทำตัวให้เป็นห่วงทุกทีสิน้า


“ก็พี่ไม่ตอบแชทไม่ตอบไลน์อะไรสักอย่างเลยอะ บอกว่าถ้าถึงแล้วก็ให้บอกด้วยก็ไม่บอกสักที ผมนี่คิดไปไกลแล้วนะ กลัวพี่จะเป็นอะไรไปอีกเนี่ย”

‘หูยยย ขอโทษ นี่กำลังสมัครสไกป์อยู่ เดี๋ยวลองก็สไกป์คุยกัน จะได้ไม่เปลืองเนอะ’

“ครับ”

‘เป็นไร เสียงฟังดูไม่ดีเลยอะ’

“ก็เป็นห่วงพี่ไง เป็นหวัดใช่มั้ยหละนั่น เสียงแหบเชียว”

‘มันหนาว น้ำมูกก็เลยไหล กำลังปรับตัว เดี๋ยวคงชินแหละ อย่าห่วงเล้ยยย กูเคยบอกแล้วไงว่ากูเป็นคนเหล็ก ฮ่าๆๆ’ ไอ้ไซน์บอกผ่านปลายสายมาอย่างอารมณ์ดี จนคนฟังเองก็อดที่ยิ้มตามไม่ได้ ...พลังความรักนี่มันมหาศาลจริงๆ แค่ได้ยินเสียงเค้ามีความสุข ตัวเองก็รู้สึกมีความสุขตามไปด้วยแล้ว

“คิดถึงจัง”

‘...อื้อ คิดถึงเหมือนกัน’

“...”

‘...’

“พี่ไซน์...พี่จะยังแข่งอยู่อีกมั้ย ในเมื่อก็รู้ว่าถึงแข่งไปก็จะแพ้อยู่ดี”

‘แข่งก็แพ้ ไม่แข่งก็แพ้ งั้นก็แข่งเหอะ จะได้ไม่ค้างคาใจ’

“...ผมกลัวหวะ”

‘ถ้ามึงแพ้กูก็จะดูแลมึงเอง จะกลัวอะไรอีก’

“...อือ เนอะ” น้องไจ๋ยิ้มออกมาเบาๆ

...อือ จะต้องกลัวอะไรอีก

.

.

.


“ไปไหนมาครับวันนี้”

‘เที่ยวภูเขา titlis มา สวยมากเลยไจ๋ แล้วก็ไปหัดเล่นสกีกับพี่เต๋า ล้มหน้าคว่ำไปตั้งหลายครั้งแหนะ ฟืด เสียอย่างเดียวเดินทางไกล ฟืด แปปนะ หยิบทิชชูก่อน’ คนตัวเล็กในเสื้อโค้ทตัวใหญ่พร้อมด้วยผ้าพันคอผืนหนาลุกขึ้นไปหยิบกล่องกระดาษทิชชูมาวางไว้ข้างๆโน้ตบุ๊ค น้องไจ๋แอบเบะปากใส่นิดหน่อยเมื่อคนเป็นพี่พูดถึงพี่เต๋าอีกละ
 
“พรุ่งนี้พี่ไม่ต้องออกไปไหนแล้วนะ นอนพักอยู่ห้องนั่นแหละ”

‘หูย อีกไม่กี่วันก็จะได้ไปทำงานแล้ว นี่ก็ต้องไปเที่ยวให้มันหนำใจดิ’ ทำปากยู่ส่งผ่านหน้าจอโน้ตบุ๊คมาให้ ก่อนจะหันไปหยิบอะไรอีกสักอย่างออกมาอวดคนเป็นน้อง

“?”

‘วันก่อนไปเดินเล่นแถวๆ South Kensington มา เดินเข้าร้านนึง เห็นมันน่ารักดี เลยซื้อมา’

“จิว?”

‘อื้อ กูเห็นมึงใส่สไตล์ประมาณนี้ ไม่รู้จะชอบรึเปล่า’

“พี่ซื้อให้ผมหรอ?”

‘อื้อ...ก็ รอก่อนนะ เดี๋ยวกลับไทยแล้วจะรีบเอาไปให้...จะได้ใส่คู่กัน’ บอกน้องไจ๋พร้อมกับเอามือทัดผมทรงเห็ด โชว์จิวสีเงินรูปค้อน เรียบๆง่ายๆ แต่ดูดีเมื่ออยู่บนใบหูนิ่มของคนตัวเล็ก น้องไจ๋ยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กใส่ใจกับรายละเอียดเล็กๆน้อยๆของมันแค่ไหน

“พี่ไซน์...”

‘อย่าทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ได้มั้ยหละ กูไปต่อไม่ถูกนะ...ชอบมั้ย’

“ชอบดิ แต่ว่า มันแพงรู้มั้ย จิวหูกลับมาซื้อที่กรุงเทพก็ด้ายยยยย”

‘ฮ่าๆๆ ไม่รู้แหละ กูคิดถึงมึงจนต้องหาอะไรมาเป็นตัวตายตัวแทนมึงแล้วเนี่ย’

“พี่แม่ง...”  คุยกันต่อสักพัก ไอ้ไซน์ก็ต้องไล่น้องไจ๋ให้ไปนอน เพราะเวลาที่ไทยมันดึกมากแล้ว น้องไจ๋อิดออด ก่อนจะกดปิดหน้าจอโน้ตบุ๊ก วันนี้มันเองก็เหนื่อยใจเหลือเกิน ที่แข่งเทนนิสกับพี่แฝดคนโตแพ้อีกแล้ว  และเดี๋ยวก็ต้องไปแข่ง ไม่สิ ต้องเรียกว่าคงต้องไปเป็นกระสอบทรายให้พี่แฝดคนกลางซ้อมเทควันโดอีก แต่ถึงยังไง พอกลับมาบ้านได้สไกป์คุยกับพี่ไซน์ เห็นหน้าหวานๆกับเสียงเจื้อยแจ้วที่คอยเล่าว่าวันนี้ไปเที่ยวไหนมา น้องไจ๋ก็แทบจะลืมความเหนื่อยล้าไปหมด พอได้มีแรงใจไปต่อสู้กับพวกพี่แฝดได้อีกวัน

...เชื่อสิ ต้องมีสักวันแหละที่น้องไจ๋มันจะต้องชนะบ้าง ต้องมีสักวัน ต้องมีสักวันนนน


.

.

.


ตุ้บ! พลั่ก! ตุ้บ! ตุ้บ! พลั่กกก!

“พอเหอะ ดูสภาพตัวเองมั่ง”  ไอ้คอสบอกแล้วโยนหน้ากากป้องกันออกทิ้งไปอย่างแรง มองดูสภาพน้องไจ๋ที่น้องล้มลงกับเบาะ หน้าช้ำๆที่ถึงแม้จะมีเครื่องป้องกันแต่เวลาโดนหมัดโดนเท้านี่ก็กระแทกได้แรงได้เจ็บกว่าเดิมอีก เรียกได้ว่าแข่งเทนนิสกับไอ้แทนนี่ดูเด็กๆไปเลยเมื่อเทียบกับความเจ็บที่ได้รับจากการแข่งเทควันโดกับไอ้คอส

...ครั้งที่สาม ครั้งที่สามที่แข่งเทควันโดกันแล้วไอ้ไจ๋มันแพ้

“พรุ่งนี้ พรุ่งนี้ผมจะมาแข่งใหม่”

“เหอะ! บอกตรงๆ กูไม่อยากรังแกเด็ก”

“ผมจะพยายามไปฝึกซ้อมมาใหม่ จะแข่งจนกว่าจะชนะ”

“ปากดี เอาสิ ถ้ามึงมากูก็มา” ไอ้แฝดคนกลางบอกพร้อมกระชับสายคาดเอวเส้นสีดำให้แน่นกว่าเดิมแล้วเดินจากไป

น้องไจ๋ลุกขึ้นจากเบาะ เดินไปเอากระเป๋าเป้ที่อยู่ด้านข้างมาสะพาย แล้วเข้าไปในห้องน้ำของยิม เห็นสภาพหน้าตัวเองแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ คิ้วแตก หน้าก็เริ่มช้ำขึ้นมา ถกเสื้อขึ้นดูสีข้างของตัวเองก็ยิ่งถอนหายใจหนักเข้าไปอีกเพราะมีรอยช้ำที่เริ่มขึ้นสีเขียวๆม่วงๆแล้ว น้องไจ๋เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้น รองเท้าผ้าใบ ออกมาจากยิมแล้วก็ขับรถตรงดิ่งไปที่สนามเทนนิส ถือไม้แรกเกตพร้อมลูกเทนนิสออกมาน็อคบอร์ดคนเดียว และนี่แหละ กิจวัตรประจำวันของน้องไจ๋ที่ทำมาได้เดือนกว่าๆแล้ว ตื่นเช้ามาก็ต้องออกไปวิ่ง เสร็จแล้วก็ไปเรียน กลับมาช่วงเย็นหน่อยออกมาซ้อมเทควันโดที่ยิม บางทีครูฝึกก็ให้แข่งกับเด็กที่อยู่ในชมรมเทควันโดเป็นการเพิ่มทักษะ แต่ถึงยังไง พอไปแข่งกับไอ้แฝดคนกลางก็แพ้อยู่ดี  บางวันก็จะเปลี่ยนจากยิมไปที่สนามเทนนิส น็อคบอร์ดคนเดียวบ้าง หรือขอแข่งกับรุ่นพี่ที่มีฝีมือดีๆบ้าง เพื่อจะได้แข่งกับแฝดคนโตให้ชนะ ให้พี่แฝดคนโตเห็นความพยายามในการฝึกซ้อมของมัน


‘ทำไมมันมืด?’

“ผมแต่งตัวอยู่ พี่อยากเห็นผมโป๊หรอ” น้องไจ๋โกหกคำโตออกไป

...ใครมันจะกล้าไปให้พี่ไซน์เห็นหน้าวะ หน้าช้ำๆบวมๆ ถ้าพี่ไซน์เห็นเดี๋ยวก็ได้เป็นเรื่องอีก ก็เลยต้องหาอะไรมาปิดกล้องโน๊ตบุ๊คไว้ ไม่ให้อีกฝ่ายเห็นหน้านี่ไง

‘กูอยากเห็นหน้ามึงอะ ช่วงนี้มึงไม่ค่อยรับสายกูเลย พอคุยกันก็เอาแต่บอกว่าแต่งตัวบ้าง จะนอนแล้วบ้าง มึงซ่อนอะไรไว้’

“เปล่า ช่วงนี้ผมเปิดเทอมแล้วนะ เรียนหนักหน้ามันเลยโทรม มันไม่หล่อ เลยไม่อยากให้พี่เห็น”

‘โกหก! ให้กูเห็นหน้าเดี๋ยวนี้เลยนะไจ๋’

“...ไม่ได้” น้องไจ๋บอกเสียงอ่อน พลางมองดูหน้าแดงๆของคนเป็นพี่ผ่านหน้าจอโน๊ตบุ๊ค

...อยู่อังกฤษยังไม่ทันไร แก้มย้วยขึ้นกว่าเดิมตั้งเยอะ น่าจับมาฟัดให้จมเขี้ยวเลยจริงๆ

‘อยู่ไกลกันขนาดนี้ กูคิดถึงมึงขนาดนี้ มึงยังไม่ยอมให้เห็นหน้าอีก ใจร้ายหวะ’

“พี่ไซน์...”

‘อือ’

“ช่วงนี้พี่ยังไม่ต้องโทรหาผมนะ...ไว้ถ้าผมพร้อมเมื่อไหร่ เดี๋ยวผมจะเป็นฝ่ายโทรหาพี่เอง”

‘...’

“...”

‘อือ’

.

.

.


“พรุ่งนี้ แฮกๆ พรุ่งนี้ผมจะมาแข่งใหม่”

“สัส  มึงจะมาให้ได้อะไร! ในเมื่อมึงยังพยายามไม่พอ แข่งไปเท่าไหร่มึงก็แพ้” ไอ้แฝดคนกลางผลักน้องไจ๋ให้ล้มลงกับพื้นเมื่อแข่งเทควันโดเสร็จ และน้องไจ๋แพ้อีก เป็นครั้งที่สี่

“ผมกำลังพยายามอยู่ พรุ่งนี้ ผมจะชนะ”

ผลั้วะ!

“ไอ้คอส! ทำอะไรของมึง” ไอ้แทนที่วันนี้ก็มาด้วยรีบเข้าไปห้าม ดึงไอ้คอสที่กำลังจะปล่อยหมัดใส่หน้าน้องไจ๋อีกหนึ่งหมัดออกมา

“ปล่อยกู! สักตั้งมั้ยมึง สัสแทน ปล่อย!”

“เหี้ยไจ๋ มึงรีบออกไปเลย อยากตายคาตีนมันหรอ”

“เอาดิพี่” น้องไจ๋เช็ดเลือดที่มุมปากออกลวก ลุกขึ้นจากพื้นตรงดิ่งเข้าไปหาไอ้คอส ไอ้คอสก็สะบัดตัวออกมาจากการเกาะกุมของไอ้แทน

ผลั้วะ!

ต่อยไปอีกหนึ่งหมัดที่หน้าของน้องไจ๋จนเซ น้องไจ๋ก็ไม่ยอมแพ้ ปล่อยหมัดใส่หนักๆใส่เข้าคางไอ้คอส  ต่างฝ่ายต่างแลกหมัดกัน ผลักกันล้ม ผลัดกันยืน ไอ้แทนที่คอยยืนดูอยู่ใกล้ๆ ถึงกับกุมขมับในความบ้าระห่ำของทั้งสองคน

...นี่คือแข่งเทควันโดมันตีกันไม่สะใจ ยังเหนื่อยไม่พอใช่มั้ย เลยต้องมาตีกันนอกรอบอีก

ทั้งไอ้คอสและทั้งน้องไจ๋ต่อยกัน ตีกันจนกระทั่งไอ้คอสฝากหมัดสุดท้ายลงบนใบหน้าของน้องไจ๋ ก่อนที่ทั้งสองจะนอนแผ่ลงไปกับพื้น แข่งกันหอบหายใจโกยเอาออกซิเจนเข้าปอด

...หมดสภาพทั้งคู่

“หน้ามึงช้ำงี้ มึงก็เอาไปฟ้องไอ้ไซน์ได้เลยว่าโดนกูเล่นงาน”

“ผมไม่ได้คุยกับพี่ไซน์เป็นเดือนแล้วพี่...ไม่ใช่จะเปลี่ยนใจนะ...แต่ไม่อยากให้พี่ไซน์เห็นหน้าบวมๆ ช้ำๆ ของผมอะ มันไม่หล่อเลยหวะ”

“หึ กูว่าแล้ว ไอ้ไซน์มันโทรมาง้องแง้งกับกูบอกอยากกลับไทยจะเป็นจะตาย ที่แท้มึงก็ไม่คุยกับมันนี่เอง”

“...” น้องไจ๋ยิ้มออกมาทันทีเมื่อไอ้แฝดคนกลางพูดจบ

...พี่ไซน์ง้องแง้งหรอ อยากเห็นชะมัด

“แม่ง มึงคิดว่ากูไม่เหนื่อยหรอ แข่งกับมึงทุกวันๆเนี่ย”

“...”

“ถ้าพรุ่งนี้มึงไม่ชนะ กูไม่แข่งกับมึงละนะ”

“...”

“...”

“ครับ”


.

.

.


“ชีจั๊ก!” สิ้นเสียงกรรมการบอกว่าเริ่มแข่งได้ ทั้งน้องไจ๋และไอ้คอสก็ตั้งท่า ไอ้คอสเริ่มรุกก่อน ขายาวๆเตะไปที่หน้าของน้องไจ๋ที่สวมเฮดการ์ดไว้ แต่น้องไจ๋หลบออกมาได้ แล้วเตะคืนไปที่สีข้าง ไอ้คอสผงะออกไปด้านข้างเล็กน้อย น้องไจ๋ได้นำไปก่อน 1 คะแนน ทั้งสองกลับมาตั้งหลักใหม่ ไอ้คอสเริ่มรุกอีกครั้งหนึ่ง ใช้ขาเตะไปที่สีข้าง น้องไจ๋เซไปด้านข้าง ไอ้คอสใช้ช่วงที่น้องไจ๋เซ เตะที่ใบหน้าอีกครั้ง จนน้องไจ๋ล้มลง ได้ไป 2 คะแนน

ช่วงที่สอง น้องไจ๋เริ่มรุกกลับบ้าง หมัดหนักๆต่อยเข้าไปที่ใบหน้าของไอ้คอส บวกกับใช้เท้าเตะซ้ำเข้าไปอีกทีนึง ไอ้คอสผงะถอยหลังล้มลงไป น้องไจ๋ได้คะแนนขึ้นนำไปอีก

ช่วงที่สาม ไอ้คอสกลับมารุก เตะเข้าที่ขาของน้องไจ๋ น้องไจ๋เตะคืนเข้าที่ช่วงลำตัว ไอ้คอสใช้เท้าเตะขึ้นมาระดับใบหน้า แต่น้องไจ๋หลบทัน เตะขาไอ้คอส ไอ้คอสหมุนตัวเข้าจะต่อยใบหน้า แต่น้องไจ๋ชิงเตะเข้าไปที่ช่วงตัวก่อน ไอ้คอสเซล้มลงไป

...และการแข่งครั้งที่ห้านี้ น้องไจ๋ชนะ

“กือมาน” กรรมการพูดจบ ทั้งสองคนก็ถอดเฮดการ์ดออก ก่อนจะหันหน้าเข้าหากัน โค้งให้กัน แล้วต่อด้วยโค้งให้กรรมการ

“กูอ่อนให้มึงเฉยๆหรอก” ไอ้คอสบอกหน้ามึน ปรับลมหายใจให้อยู่ในช่วงปกติ ก่อนจะตบไหล่น้องไจ๋ปุๆ พร้อมกับยิ้มให้

“โถ่พี่ ความพยายามของผมล้วนๆเถอะ” น้องไซน์ร้องโอดครวญบอก

“เย็นนี้ไปกินเหล้าฉลองกัน เดี๋ยวกูเลี้ยง”

“ไปไม่ได้ พรุ่งนี้ผมมีเรียน”

“เอ้าเรียนเสร็จแล้วค่อยไปไงไอ้ห่า”

“ผมต้องไปซ้อมเทนนิสอีก ผมไม่ได้แข่งกับพี่คนเดียวนะเว้ย นู่น พี่แทนขาโหดผมยังเคยชนะสักเกมส์เลย” บุ้ยปากไปทางพี่แฝดคนโตที่ยืนรอกำลังเดินเข้ามาจากหน้าโรงยิม  ไอ้คอสหัวเราะร่วนก่อนจะบอก

“อือ ขานั้นท่าจะชนะลำบาก พยายามเข้าละกัน”

“เดี๋ยวๆพี่คอส”

“?”

“...ผม ... ผมคบกับพี่ไซน์ได้ยัง”

“มึงฟังไว้ดีๆ และจำให้ขึ้นใจเลยนะไจ๋ พวกกูไม่เคยทำให้ไอ้ไซน์เสียใจ ไม่ว่าจะด้วยเรื่องอะไรก็ตาม ถ้ากูเห็นว่ามันคบกับมึงแล้วมีน้ำตาแม้แต่หยดเดียว วันนั้นแหละ ชะตามึงขาดแน่” พูดเสียงเข้มจริงจัง ตบไหล่น้องไจ๋อีกทีพร้อมกับเดินไปหาไอ้แฝดคนโตที่รออยู่ด้านหน้าโรงยิม  น้องไจ๋ชะงักคิดก่อนยิ้มกว้างออกมาพร้อมตะโกนบอกไล่หลัง

“ผมจะไม่ทำพี่ไซน์เสียใจแน่ ขอบคุณนะเว้ยพี่ !!!”



-------------------------
ผ่านด่านเจ้าคอสแล้วก็เหลือเจ้าแทน
เป็นกำลังใจให้น้องไจ๋ของเราด้วยยยย
ยังไงก็ฝากติดตามเจ้าพวกสามแฝดด้วยนะคะ คาดว่าอีกไม่นานก็คงจบแล้วหละ อิอิ
รักกกกกกกก

ออฟไลน์ 205arr

  • เราคงอยู่ไกลกันเป็นพันหมื่นลี้
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
น้องใจ๋สู้ๆ นะ
หมาไซน์คิดถึงแย่แล้วเนี่ย

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ SPNamfone

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
19
ยิ่งแข่ง ยิ่งแพ้ ภาค2



“เกมส์ 3-2 เซต ไอ้แทนชนะ”  น้องไจ๋ถอนหายใจแรง

...แพ้อีกแล้วววว แข่งกันกี่รอบๆก็แพ้พี่แทนมันอีกแล้ว

“เล่นดีขึ้นนี่ เอาซะกูเหงื่อท่วมเลย”

“ผมจะพยายามให้มากขึ้น”

“อ่อนหัด มีความพยายามแต่ก็ยังอ่อนหัด”

“พรุ่งนี้มาแข่งกันอีกนะครับ”  น้องไจ๋ตะโกนบอกไอ้แทนที่หันหลังเดินลิ่วๆออกจากสนาม ไอ้แทนหยุดเดิน ก่อนจะหันกลับมาบอก

“ช่วงนี้กูต้องอ่านหนังสือสอบ NL หวะ คงแข่งกับมึงไม่ได้”

“...”

“ถ้ากูสอบเสร็จแล้ว กูจะนัดมึงอีกทีละกัน”

“ขอบคุณครับ” จากที่ทำหน้าสลดๆเมื่อกี้ก็กลับมายิ้มกว้าง บอกขอบคุณเจ้าแฝดคนโต ก่อนที่ตัวเองจะเริ่มเดินไปยังน็อคบอร์ด เริ่มน็อคลูกเทนนิสคนเดียว  ไอ้แฝดคนกลางเดินตามมา ก่อนจะเริ่มน็อคบอร์ดอยู่ด้านข้างด้วย

“มึงรู้มั้ย มันสอบ NL เสร็จวันที่เท่าไหร่” พูดไปพลางมือก็ตีลูกเทนนิสเข้ากระแทกกับบอร์ดเขียวๆ

“ไม่รู้ครับ”

“อีกอาทิตย์นึง มึงมีเวลาซ้อมให้หนักกว่านี้ แล้วต้องแข่งให้ชนะ ก่อนที่มึงจะไม่มีโอกาสได้แข่งกับไอ้แทนอีก”

“ผมต้องชนะก่อนพี่ไซน์กลับมาให้ได้” พูดอย่างจริงจังแล้วก็ตั้งใจน็อคเทนนิส จนกระทั่งเหงื่อเริ่มท่วมตัว ไอ้คอสก็ชวนให้น้องไจ๋มาตีเทนนิสด้วยกัน ทั้งสองคนเล่นเทนนิสจนถึงค่ำจึงได้พากันกลับ น้องไจ๋อาบน้ำอาบท่าจนกลิ่นตัวหอมฉุยแล้วก็มานั่งเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง  มือใหญ่เช็คโซเชียลมีเดียต่างๆของตนเองเสร็จแล้วก็เข้าไปส่องเฟสบุ๊คของไอ้ไซน์บ้าง


‘อยู่ที่อังกฤษตอนนี้มันหน้าหนาว แต่อยู่กับน้องไซน์นี่มันหน้ารักชัดๆ’



แคปชันเสี่ยวๆที่มาโพสต์กับรูปไอไซน์กำลังนั่งยิ้มแป้นแล้น ด้านหน้ามีอาหารหน้าตาน่ารับประทานวางเต็มโต๊ะ ที่สำคัญ คนโพสต์ไม่ใช่ไอ้ไซน์ แต่กลับเป็นไอ้พี่เต๋าที่ได้ไปฝึกงานด้วยกันโพสต์ลงหน้าฟีดของเจ้าตัวพร้อมแท็กคนน่ารักนั่น

...อืม จำนวนคนกดไลค์ จำนวนคนมาคอมเมนต์แซวเยอะซะด้วย

น้องไจ๋เลื่อนลงไปดูไทม์ไลน์ของคนเป็นพี่ก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะมีโพสต์ของพี่เต๋าหยอดมาเยอะแค่ไหน แต่ก็ไม่เห็นว่าพี่ไซน์ของมันจะมากดไลค์หรือตอบโต้คืนสักโพสต์ อย่างน้อยมันก็ทำให้น้องไจ๋แอบคิดเข้าข้างตัวเองว่าพี่ไซน์ของมันไม่ได้หวั่นไหวไปกับพี่เต๋า แค่นี้น้องไจ๋มันก็สบายใจแล้วววววว



หนึ่งอาทิตย์ต่อมา
น้องไจ๋กำลังวอร์มร่างกายให้พร้อมที่จะลงแข่งเทนนิสนัดสำคัญกับพี่แฝดคนโตในอีกหนึ่งชั่วโมงข้างหน้านี้  กรรมการที่จะช่วยดูให้เป็นรุ่นพี่ในสนามที่เล่นมานานแล้วนั่นแหละ  ส่วนเจ้าแฝดคนกลางอย่างไอ้คอสก็มาให้กำลังใจน้องไจ๋ด้วย  น้องไจ๋น็อคบอร์ดอุ่นเครื่องได้สักพัก ไอ้แทนก็เดินเข้าสนามมา

“ใครชนะสองเซตก่อนก็ชนะไป เซตละหกเกมส์” เสียงทุ้มๆดังขึ้นบอกน้องไจ๋อย่างเรียบๆแต่สัมผัสได้ถึงความมีพลัง  น้องไจ๋พยักหน้ารับก่อนจะเลือกด้านแข่ง สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เตรียมพร้อมรับมือกับลูกเทนนิสสีเขียวๆที่จะลอยมาจากเจ้าแฝดคนโต
ลูกเทนนิสถูกโยนขึ้นกลางอากาศ และถูกตีให้ไปตกกระทบที่พื้นฝั่งตรงข้าม น้องไจ๋วิ่งมารับลูกเทนนิสแล้วตีโต้กลับ สลับกันไปมา

“เอาท์!15 - 0” กรรมการขานบอกคะแนนเมื่อลูกเทนนิสที่น้องไจ๋ตีกลับลอยลิ่วออกเขตสนามไป ไอ้แทนได้แต้มแรกไปก่อน

 
.

.

.


“จบเกมส์ไทรเบรก ไจ๋ชนะ”

“ไอ้เหี้ยยยย กว่าจะจบเกมส์ ทำกูเหนื่อยนะมึงวันนี้”  ไอ้แทนเดินยิ้มมาตบไหล่น้องไจ๋ ทั้งสองไหว้ขอบคุณกรรมการแล้วไอ้คอสก็เดินตามมาสมทบ

“เจ๋งงงง”  บอกพร้อมยกนิ้วโป้งให้ 

“ป่ะ ไปฉลองกันนนน”

“คืนนี้อีกยาวไกล เพื่อมึงเลยไอ้ไจ๋ ว่าที่น้องเขยกูวววว”

“เยอะไปๆ  แข่งชนะกูก็จริงก็ใช่ว่ามึงจะทำอะไรก็ได้นะ กูจะตามจิกพวกมึงทุกฝีก้าวอยู่ดีนั่นแหละ” ไอ้แทนหันไปตบหัสแฝดคนกลางเบาๆก่อนจะหันมาบอกน้องไจ๋หน้าดุ  น้องไจ๋พยักหน้ายิ้ม ไม่ตอบอะไร รู้สึกแค่ดีใจไปหมด ดีใจจนพูดอะไรไม่ออก ความพยายามของมันที่มันตั้งใจซ้อม ตั้งใจฝึก พวกพี่แฝดก็ได้เห็นแล้ว คราวนี้ก็หวังว่าจะมั่นใจในตัวมันให้ได้ดูและพี่ไซน์สักที

“ไม่ไปได้มั้ยพี่ ผมอยากนอนยาวๆสักวัน”

“...แล้วแต่ ถ้าอยากมาก็ตามมา สามทุ่มที่ร้านแฮงค์ละกัน”

“ครับ งั้นผมกลับละนะ หวัดดีพี่”  น้องไจ๋ยกมือไหว้ แล้วเดินออกจากสนาม ที่จริงมันไม่ได้ง่วงนอนอะไรหรอก เพียงแค่อยากคุย อยากสไกป์ อยากเห็นหน้าพี่ไซน์ของมันมากกว่า


...ไม่ได้คุยกันตั้งนาน ป่านนี้คนตัวเล็กนั่นจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ หรือจะบินไปเซอร์ไพรส์ดีวะ


ขับรถกลับมาถึงบ้านก็รีบอาบน้ำ เปลี่ยนชุด หยิบโน๊ตบุ๊คออกมาเปิด เช็คเวลาแล้วที่อังกฤษก็คงจะประมาณเที่ยงคืนนิดๆ  ว่าแล้วมือใหญ่ก็กดเข้าโปรแกรมแชทสีฟ้า รอเสียงสัญญาณไม่นานหน้าจอก็โชว์สีหน้าหงอยๆของคนเป็นพี่

“พี่ไซน์ ได้ยินมั้ยพี่” น้องไจ๋ถามออกไปแล้วก็รีบหยิบหูฟังมาต่อเข้ากับโน๊ตบุ๊ค ไอ้ไซน์พยักหน้าหงึกๆ ตาปรือ นั่นจะหลับเต็มที่แล้ว

“ไจ๋ มึงหายไปไหนมา”

“พี่ไซน์ขอโทษนะที่ ที่ผ่านมาไม่ค่อยได้คุยด้วยเลย ผมฝึกเล่นเทนนิส แข่งกับพี่แทน แข่งเทควันโดกับพี่คอส ชนะด้วยนะพี่  กลับไทยเมื่อไหร่พี่ต้องให้รางวัลผมด้วยนะ”  น้องไจ๋ยิ้มบอกอย่างดีใจ ไอ้ไซน์ก็ยิ้มตาม นึกดีใจที่อย่างน้อยน้องไจ๋ก็ไม่ได้ไปทำเรื่องไม่ดีอย่างที่มันแอบคิดไว้

“อยากได้อะไรหละ จะซื้อไปฝาก จะกลับอาทิตย์หน้านี้แล้วนะ”

“พี่กลับมาก่อนละกันผมค่อยขอ” 

“อือ อย่าขออะไรที่กูให้ไม่ได้หละมึง”

“พี่ให้ได้อยู่แล้ว อยู่ที่ว่าพี่จะให้รึเปล่า”  พูดจบก็ทำหน้าเจ้าเล่ห์ สื่อสายตาไปหาอีกคนที่อยู่กันคนละขั้วโลก ไอ้ไซน์เสตามองไปทางอื่น ขมุบขมิบปากบ่น

“ง่วงละ  จะคุยก็ไม่ดูเวล่ำเวลาเลยนะมึงอ่ะ”

“ฮ่าๆๆ ก็ไม่ได้คุยกันตั้งนาน คิดถึงหวะ”

“อือ...คิดถึงเหมือนกัน”

“อยากกอด อยากจูบด้วย”

“มึงก็คิดแต่เรื่องนี้อ่ะ ไอ้หื่น” โวยวายผ่านหน้าจอมาให้คนเป็นน้องแต่มีหรือที่น้องไจ๋จะสะทกสะท้าน เจ้าตัวหัวเราะร่า ก่อนจะทำปากจู๋ ส่งจูบเสียงจ๊วบๆอย่างตลกให้

“รีบกลับมานะพี่ไซน์ คิดถึงจริงๆ”

“อือ อยากได้อะไรเป็นพิเศษมั้ย จะซื้อไปฝาก”

“ให้พี่กลับมากอดผมแรงๆ ผมก็ดีใจแล้ว”

“ด้ายยยยยยย  กูวางละนะ ง่วงมากกก”

“ครับ ฝันดีนะพี่ไซน์”

“ไจ๋...”

“...?”

“ที่จริงมึงไม่ต้องไปแข่งอะไรกับใครก็ได้”

“...”

“เพราะแค่กูชอบมึง  มึงก็ชนะทุกคนแล้ว”


.

.

.


สามทุ่มประเทศไทย

“ไซน์ ทางนี้ๆ” พวกพี่แฝดโบกมือหยอยๆ เรียกคนตัวเล็กพี่เดินออกมาจากประตูผู้โดยสารขาเข้า ไอ้ไซน์เห็นก็รีบลากกระเป๋าใบโตวิ่งเข้ามาหา กระโดดกอดพวกพี่แฝดจนแน่น ก่อนจะโผเข้ากอดน้องไจ๋ 

“อ้วนขึ้นหวะ” น้องไจ๋พูดแซวคนเป็นพี่ก่อนจะกระชับอ้อมกอด ลูบหัวเล็กเบาๆ

“แน่หละ พี่เต๋าเลี้ยงดี”  พูดประชดน้องไจ๋ แต่ไม่ทันไรก็โดนน้องมันกอดรัดแน่นจนแทบจะหายใจไม่ออก ทุบหลังอั้กๆ จนน้องไจ๋ยอมปล่อย

“เดี๋ยวจะโดนๆ”

“หูยยยย อยากโดนจนตัวสั่นหมดแล้วเนี่ย” ไอ้ไซน์ว่าพร้อมทำท่าประกอบ น้องไจ๋ละได้แต่ส่ายหัว พี่ไซน์ของมันไปหัดพูดคำพวกนี้มาจากไหน ดูยั่ว ดูแก่นขึ้น

“พ่อกับแม่อยู่หน้าสนามบิน พึ่งมาถึง เดินออกไปด้วยเลยป่ะ”  เจ้าแทนบอก พวกสองแฝดน้องก็พยักหน้าแล้วลากกระเป๋าเดินตาม พอถึงหน้าสนามบิน คุณแม่เห็นไอ้ไซน์ก็เดินเข้ามาหากอดลูกชายสุดที่รัก หอมแก้มซ้ายขวาอย่างคิดถึง ไอ้ไซน์ผละตัวออกแล้วยกมือไหว้ทั้งสอง

“ขวัญเอ้ย ขวัญมานะลูก กลับบ้านเรากันนะ”

“ไหนของฝากพ่อ” คุณพ่อที่พึ่งเดินเข้ามาพูดติดตลก ถามหาของฝากก่อนเพื่อน ไอ้ไซน์ทำหน้ายู่ใส่ก่อนจะแกล้งบอกส่ายหัว

“ไม่เอาตังค์มาให้จะซื้อได้ไง ของทีมฟุตบอลราคาแพงอย่างงี้เลย” ขยายมือออกกว้างบอกราคาของฝาก

“นิสัยหวะ” คนเป็นพ่อบอกพลางตบหลังไอ้ไซน์ พอพูดคุยกันได้สักพัก คุณพ่อกับคุณแม่ก็บอกให้พวกสามแฝดรีบกลับบ้าน น้องไซน์จะได้พักผ่อน ส่วนคุณพ่อกับคุณแม่ก็จะกลับไปเตรียมการสอนอีกเหมือนกัน เมื่อล่ำล่าคุณพ่อกับคุณแม่เสร็จแล้ว ไอ้ไซน์ก็งอแง อ้อนพี่แฝดว่าอยากไปคุยกับน้องไจ๋ก่อน พี่แฝดก็ตามใจ  น้องไจ๋แอบดีใจที่อย่างน้อยพี่ไซน์มันก็ยังอยากอยู่ด้วยกันอีก

“พวกพี่กลับก่อนเลยก็ได้ เดี๋ยวผมไปส่งพี่ไซน์ที่คอนโดเองครับ” พวกพี่แฝดพยักหน้าตามนั้น ปล่อยให้เด็กสองคนได้คุยกันบ้าง ก่อนจะลากกระเป๋าของไอ้ตัวดีกลับไปให้ด้วย




“เราจะไปไหนดี”

“อยากไปเที่ยว ไม่รู้ดิ ไปไหนก็ได้ แค่มึงไปด้วย”  ไอ้ไซน์บอกขณะที่นั่งอยู่บนรถน้องไจ๋ พลางมือก็ค้นของในกระเป๋าใบเล็กไปด้วย

“หืม? ใครสอนให้พี่พูดคำแบบนี้เนี่ย”  น้องไจ๋มีโอกาสก็ถามคำถามที่ค้างคาใจ  ไอ้ไซน์ไม่ตอบเพียงแค่หัวเราะหน่อยๆ ก่อนจะเขยิบตัวให้เข้ามาใกล้ๆน้องไจ๋ที่กำลังขยับรถอยู่  เอื้อมมือไปถอดจิวอันเดิมที่น้องไจ๋ใส่อยู่ออกจากใบหู แล้วก็ใส่จิวอันใหม่กลับเข้าไปให้

“เจ็บปะ?” ถามน้องไจ๋ขณะที่ค่อยๆใส่จิวเข้าไป น้องไจ๋ส่ายหน้า แอบเกร็งนิดหน่อยที่ลมร้อนๆของพี่ไซน์โดนใบหู หน้าใกล้กันขนาดนี้ ถ้าไม่ติดว่าขับรถอยู่ พี่ไซน์ของมันก็คงไม่รอดอะ

...จิวรูปค้อนสีเงิน จิวคู่ที่อุตส่าห์ไปซื้อมาตอนอยู่อังกฤษ เอาไว้ใส่คู่กันนะไจ๋

ฟอดดดด


ใส่จิวให้เสร็จก็แอบขโมยหอมแก้มคนที่กำลังขับรถ แล้วก็กลับมานั่งที่ตัวเองดีๆ น้องไจ๋ยิ้มกว้าง ไม่นึกว่าพี่ไซน์ของมันจะกล้าเริ่มก่อน
 
“หอมแค่ข้างเดียว เดี๋ยวอีกข้างมันก็น้อยใจหรอก”

“บ้าแล้ว ขับรถไปเลยมึงอะ”  พูดแล้วก็หันหน้าหนี ทำเป็นดูลมชมวิวไม่สนใจเสียงหัวเราะหึหึของน้องไจ๋

“พี่ไซน์ ...”

“หื้ม?”

“เป็นแฟนกันนะ”

“...”

“...”


“กว่าจะพูดได้นะมึง กูนึกว่าต้องเป็นฝ่ายขอมึงเองซะแล้ว”

“เออหน่า ตอบมาดิ เขินนะเว้ย”

“ไอ้สัสไจ๋ ขอเป็นแฟนเหี้ยไร ไม่ได้โรแมนติกเลยหวะ”

“โห่ พี่ไซน์ ก็ผมขับรถอยู่อะ แล้วผมอยากเป็นแฟนกับพี่เร็วๆ ไม่ต้องโรแมนติกมากหรอก ยังไงพี่ก็ต้องตอบตกลงอยู่ดี” น้องไจ๋บอกพร้อมกับเอื้อมมือมากุมมือเล็กของไอ้ไซน์ แต่ไอ้ไซน์สะบัดออก

“หลงตัวเองหวะ”

“ตอบดิวะ”

“ไม่ตอบ”  พูดยักคิ้วยียวน น้องไจ๋หน้าหงอยไม่ได้พูดอะไรต่อ ก่อนจะขับรถไปให้ถึงบ้านของตัวเองเร็วๆ



พอถึงบ้านไม่พูดพร่ำทำเพลง น้องไจ๋เปิดประตูรถ ดึงคนตัวเล็กให้ลงมาจากรถ รีบไขกุญแจบ้านแล้วระดมจูบคนตัวเล็กรัวๆ

“เป็นแฟนกันนะ โรแมนติกพอยัง”

“ไม่”  พอไอ้ไซน์พูดจบน้องไจ๋ก็ปิดปาก จูบอีกที แต่คราวนี้เป็นจูบที่อ่อนโยน ลิ้นร้อนกวาดไล่ต้อนลิ้นเล็ก ดูดดุนลิ้นหยอกล้อไปมา มือน้องไจ๋ก็บีบเค้นเอวบางก่อนจะสอดเข้าไปสัมผัสกับผิวนุ่มๆ ลูบไล้วนขึ้นจนถึงตุ่มไต่เล็ก บีบขยี้จนมันเริ่มแข็ง

“เป็นแฟนกันนะพี่ไซน์” ละหน้าออกมาถามคนเป็นพี่อีกครั้ง ขณะที่มือก็ยังสอดเล่นกับตุ่มไตใต้เสื้อ

“หึ ไม่” ในเมื่อไอ้ไซน์ยังดึงดันที่จะบอกว่าไม่ น้องไจ๋ก็ผลักอีกคนให้ชิดผนังบ้าน ใช้เข่าแทรกเข้าไปหว่างขา แอบเสียดสีกับจุดสำคัญจนไอ้ไซน์สะดุ้งร้องครวญครางเสียงหวานออกมา

“คราวนี้ผมไม่หยุดแล้วนะ” กระซิบบอกแล้วก็จูบอีกที  พอคนเป็นพี่เริ่มใช้มือผลักออกบอกว่าหายใจไม่ทันน้องไจ๋ก็ผละออกมา ดูดเม้มลงมาแถวซอกคอ สูดกลิ่นหอมประจำตัวมือทั้งสองข้างก็เลิกเสื้อขึ้นจนถึงหน้าอก แล้วก็เริ่มชิม ไล้เลียตุ่มไตจนเกิดสีแดงเข้ม

“ไจ๋...ฮื่อ ยะ ...ยืน ไม่ไหว” ร้องบอกเสียงแผ่ว แต่น้องไจ๋กลับไม่ได้สนใจฟัง ลากลิ้นต่อลงมาจนถึงหน้าท้องที่แอบมีพุงกะทิน้อยๆอยู่ มือก็ถอดกระดุมกางเกง ปลดซิบ ดึงกางเกงพร้อมทั้งชั้นในสีขาวลงมาคาไว้ที่เข่า น้องไจ๋นั่งคุกเข่า ดูดเม้ม ทำรอยรักไว้ตามซอกขาขาว ก่อนจะมองส่วนอ่อนไหวที่ปริ่มน้ำใสๆของคนเป็นพี่

“ขอนะ”

“ขอ ขออะไร”

“ตรงนี้” พูดจบก็แกล้งแตะลิ้นไปที่แกนกายเล็กพอดีตัว

“ฮะ ฮื่อ”  ครางออกมา มือทั้งสองข้างก็ขยุ้มหัวไหล่น้องไจ๋ไว้แน่น น้องไจ๋มองใบหน้าแดงเถือกของไอ้ไซน์แล้วก็ก้มลงไปใช้ปากครอบครอง ดูดเล่นราวกับไอติม ไอ้ไซน์กัดปากแน่นกลั้นเสียงครางน่าอาย น้องไจ๋เห็นสีหน้าแบบนั้นก็ยิ่งอยากแกล้ง ละปากออกยืนขึ้นให้เสมอคนตัวเล็ก รีบถอดกางเกงของตัวเองออก ดันให้คนตัวเล็กนั่งลงแล้วจ่อแกนกายใหญ่ของตัวเองให้ตรงกับปากเล็ก

“ทำให้หน่อย”

“กูทำไม่เป็น”

“แค่ดูดแรงๆพี่ไซน์ อ่า เร็วๆอีก” ครางเสียงทุ้มเมื่อพี่ไซน์ของมันไล่เลียช้าๆตั้งแต่ส่วนโคนจนถึงส่วนปลายมน แถมยังดูดเน้นที่ส่วนปลายตามที่น้องไจ๋บอก

“อะ แคก แค่กๆ” ไอ้ไซน์สำลักเมื่อคนเป็นน้องเผลอดันของตัวเองเข้ามาลึกเกินกว่าที่ปากเล็กจะรับได้ น้องไจ๋ดึงแขนคนเป็นพี่ให้ลุกขึ้นมา ประกบจูบอีกรอบเพื่อปลอบโยน ผละจูบ เลื่อนลงมาแถวหน้าอกอีกครั้ง แล้วก็สอดนิ้วเรียวยาวของตัวเองเข้าปากคนเป็นพี่ ไอ้ไซน์ไล้เลียนิ้วอย่างที่ทำเมื่อสักครู่จนนิ้วฉ่ำเยิ้มน้องไจ๋ก็ถอนนิ้วออกจากปาก หมุนตัวไอ้ไซน์ให้หันหน้าเข้าหากำแพง กดเอวเล็กลงให้สะโพกกลมๆลอยเด่น  แล้วก็สอดนิ้วเข้าไปที่ช่องทางด้านหลังแทน

“ฮื่อ จะ ไจ๋...อื้อ ฮึก...”

“เจ็บหน่อยนะ”

“อ๊า อ๊ะ ฮึก ไจ๋ ...ไม่เอา ฮึก อ๊ะ” ร้องเสียงหลงเมื่อน้องไจ๋ถอนนิ้วยาวออกแล้วเอาแก่นกายของตัวเองสอดใส่เข้าไป  ช่องทางด้านหลังตอดรัดแน่นขณะที่เข้าไปได้เพียงครึ่งลำ น้องไจ๋เอื้อมมือไปบดขยี้ตุ่มไตของไอ้ไซน์เพื่อเบนความสนใจ พอช่องทางรักเริ่มคลายตัวน้องไจ๋จึงดันของตัวเองเข้าไปจนสุด

“อ่า...ซี้ดส์”

“อึก...จะ ไจ๋ เจ็บอะ ฮึก...” น้องไจ๋โน้มตัวไล่จูบลงตามแนวไขสันหลัง แล้วดันหน้าคนตัวเล็กให้หันมารับจูบ แช่แกนกายไว้สักพักก็เริ่มขยับตัวเข้าออกช้าๆเป็นจังหวะ

“พี่ไซน์”

“อ๊ะ อือ”

“เป็นแฟนกันได้ยัง” ถามพร้อมกับกระแทกเข้าที่จุดกระสันของคนตัวเล็ก

“อ๊า อ๊ะ หะ เหี้ยไจ๋ อ๊ะ อ๊ะ”

“ตอบเร็ว จะแตกอยู่แล้วเนี่ย” ไม่พูดเปล่า เริ่มเด้งเอวเข้าออกเร็วขึ้น

“เบาๆ อ๊ะ อ๊ะ ฮื่อ มึงรีบหรอ สัส กูยืนไม่ไหวแล้ว...จะ ไจ๋ อ๊ะ อื้อ”  น้องไจ๋ถอนแกนกายออกมาจนเกิดเสียง ก่อนจะจูงมือคนเป็นพี่มาที่โซฟา นั่งลงเสร็จก็รวบเอวไอ้ไซน์ให้นั่งตัก

“เอาใส่ให้ดูหน่อย” น้องไจ๋บอกพลางยกสะโพกไอ้ไซน์ขึ้น ไอ้ไซน์จับส่วนแข็งขืนของน้องไจ๋ไว้แล้วค่อยๆนั่งทับลงไป
 
“อื้อ อ๊ะ ฮึก”

“อ่า ลึกหวะ”  จับเอวคนเป็นพี่ให้ยกขึ้นลง พลางตัวเองก็กระแทกสวนขึ้นไป ไอ้ไซน์ร้องครางเสียงหวาน เชิดหน้าขึ้น แอ่นหน้าอกให้คนเป็นน้องได้ดูดชิมอีกครั้ง

“ไจ๋ ไม่ไหวแล้ว อ่า”

“เป็นแฟนกันนะครับ พี่ไซน์”

“อื้อ อ๊ะ อ๊า ...ไม่ไหวแล้ว อ๊ะ อื้อ”

“ฮืมมม” น้องไจ๋กอดคนเป็นพี่แน่น แล้วขยับเอวซอยเข้าออกถี่รัว ร้องครางต่ำในลำคอ มือก็คอยรูดรั้งส่วนหน้าของไอ้ไซน์เร็วๆ จนไอ้ไซน์หวีดเสียง กระตุก ปล่อยน้ำสีขาวขุ่นเลอะหน้าท้อง

“อ๊ะ อ๊า...”  น้องไจ๋รีบซอยสะโพกที่เต้นตุบๆอีกสองสามทีก่อนจะถอนแกนกายออกมาใช้มือรูดรั้ง แล้วปล่อยน้ำรักสีขาวขุ่นตามมา

“อืมมม อ่า...” ทั้งคู่หอบหายใจ มองหน้ากันด้วยสายตาหวานฉ่ำ  ทั้งคิดถึง ทั้งรัก ทั้งโหยหา  น้องไจ๋จูบคนเป็นพี่จนริมฝีปากเริ่มบวมแดง ไล่ลงมาทำรอยคิสมาร์กที่คอ  กอดตระกองไว้อย่างหวงแหนแล้วล้มตัวนอนลงบนโซฟา ดึงคนเป็นพี่ให้ลงมานอนทับอยู่ข้างบนตัวเอง ทั้งๆที่อะไรต่อมิอะไรก็ยังเสียดสีกันอยู่อย่างนั้น

“เจ็บ...” ไอ้ไซน์เบะปาก เริ่มงอแง พร้อมทั้งออดอ้อน น้องไจ๋ลูบสะโพกเบาๆ

“ขอโทษนะครับ แต่ถ้าทำบ่อยๆจะไม่เจ็บนะ  โอ้ยๆ ฮ่าๆๆ”  พูดยังไม่ทันขาดคำก็เจอฝ่ามือพิฆาตจากไอ้ไซน์เข้าที่ไหล่หนาๆของตัวเอง

“ทำบ่อยก็ได้แหกกันพอดี” บ่นอุบอิบ ซบแก้มลงกับอกกว้าง กอดเอวน้องไจ๋ไว้

“พี่ไซน์”

“อือ”

“ได้ผมแล้ว อย่าทิ้งผมนะ”

“หึหึ กูสิต้องพูดคำนั้น” เงยหน้ามายิ้มให้น้องไจ๋ แล้วจุ๊บเบาๆที่ปลายคาง ก่อนจะซบลงที่อกน้องไจ๋อีกครั้ง  หลับตาลงซึมซับความสุขที่สุขมากจนแทบจะลำสักออกมา อยากจะป่าวประกาศให้คนทั้งโลกได้รู้ว่าน้องไจ๋เป็นของไอ้ไซน์แค่คนเดียว

“ผมรักพี่” น้องไจ๋กระซิบบอกเบาๆ ไอ้ไซน์พยักหน้าหงึกหงักรับรู้ ยังไม่ทันที่น้องไจ๋จะได้ถามอะไรอีก ก็รู้สึกถึงลมหายใจที่เข้าออกอย่างสม่ำเสมอ บ่งบอกว่าคนตัวเล็กตรงหน้าได้หลับไปเรียบร้อยแล้ว  น้องไจ๋ยกยิ้มออกมาด้วยความสุขใจ  ก่อนจะหลับตาลง  หลับตามคนเป็นพี่ไปด้วยความเหนื่อยอ่อน






ใสย ใสย แต่งเอ็นซีไม่เป็น

อีกไม่กี่ตอนก็จบแล้ว ยังไงก็ฝากติดตามพวกสามแฝดเยอะๆนะค้า ให้ความรักกับน้องไจ๋ของเราด้วยยยย
เลิ้บบบบบ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ SPNamfone

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
20
มีแต่เรา โคตรจะดี



Jai’s part



วันเวลาผ่านไปอย่างเร็วมาก เร็วจนคิดว่าเวลาที่ผมอยู่กับพี่ไซน์มันไม่พอให้หายคิดถึง  ผมกับพี่ไซน์คบกันมาได้เกือบสามเดือนแล้ว  พี่ไซน์กำลังเร่งทำธีสิสจบ ส่วนผมก็ยังเรียนไปเรื่อยๆ  ปีสามเทอมสองนู่นแหละ กว่าจะได้ฝึกงาน  และช่วงนี้ผมลักพาตัวพี่ไซน์มานอนที่บ้านผมบ่อยๆ  แหงหละ  เวลาปกติ พวกพี่แฝดเคยอยู่ห่างจากพี่ไซน์ที่ไหน  เวลาที่จะสวีทกันก็ไม่ค่อยจะมี  ผมก็เลยต้องแอบบังคับ ขู่เข็ญ  อ้อนวอน ทำไปจนถึงลักพาตัวพี่ไซน์มานอนบ้านนี่แหละ  ฮ่าๆๆ 

“ไจ๋...”  นั่นพอนินทาก็เหมือนเจ้าตัวจะรู้  ขยับตัวที่นอนหนุนแขนผมอยู่ไปมายุกยิก  บิดขี้เกียจจนเสื้อนอนเลิกขึ้นโชว์เอวขาวๆ  ก่อนจะหันหลังให้ผมแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาห่อตัวเองไว้ ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ จนผมคิดว่าเจ้าตัวคงจะหลับต่ออีกรอบนั่นแหละ

“ตื่นได้แล้ว ไหนบอกอยากไปหาพี่ปิง”

“ฮื่อ...”

“ขี้เกียจตัวเป็นหมา”  ผมว่าให้คนตัวเล็กเบาๆ ก่อนจะรวบก้อนผ้าห่มมากอดก่ายทับไว้ กดจมูกลงไปยังต้นคอของคนตัวเล็กกว่า  แอบงับเบาๆ อย่างหมั่นเขี้ยว กวนคนตัวเล็กให้ตื่นสักที

“หมาไจ๋”

“หมาไซน์ อ้วน”

“ฮื่อ...สายๆค่อยไปไม่ได้หรอ”

“จะเอาสายแค่ไหนอีก นี่ก็สายแล้วนะครับบบ”  ผมพูดจบ พี่ไซน์ก็ยังคงนิ่งเงียบ นี่จะหลับให้ได้เลยใช่มั้ยเนี่ย  ผมแอบขำเบาๆ เป็นแบบนี้ทุกที  เมื่อคืนก่อนจะนอนก็ตกลงกันไว้เรียบร้อยแล้วแท้ๆว่าให้ปลุกเลย ปลุกจนกว่าจะตื่น แต่พอตอนเช้าขึ้นมาพอเขาปลุกพี่ไซน์ก็ชอบงัวเงีย ขอนอนต่ออีกห้านาที สามนาที ตลอด เล็กๆน้อยๆก็เอา ขอแค่ให้ได้นอน

“กอดหน่อย หนาว” นั่นลูกอ้อนเขาแหละครับ  พอรู้ว่าผมจะพูดมากเขาก็มาไม้นี้แหละ น้ำเสียงง่วงๆอ้อนๆนะใช้ได้ผลเสมอ และนี่แหละที่ให้ได้ไปเรียนสายกันตลอด  ผมดึงผ้าห่มที่ห่อพี่ไซน์ออก แล้วค่อยๆสอดมือเข้าไปใต้เสื้อ วนลูบเอวบางๆ ก่อนจะเลื่อนไปลูบหน้าท้องแบนๆ เขยิบตัวเข้าไปใกล้คนตัวเล็กที่ยังนอนนิ่ง แอบขบเม้มใบหูเบาๆก่อนจะกระซิบบอก

“ถ้าไม่ลุกจากเตียงตอนนี้ ก็ไม่ต้องลุกทั้งวันเลยนะ”  ที่จริงผมก็แกล้ง ผมก็ขู่ไปอย่างนั้นแหละครับ  ไม่ได้คิดจะทำจริงๆหรอก (แต่ถ้าได้ก็โอเค) แต่ผมพูดยังไม่ทันไร พี่ไซน์ก็พลิกตัวหันหน้าเข้าหาผม มือเล็กๆแสนซนนั่นก็สอดเข้ามาใต้เสื้อ ลูบซิกแพคอ่อนๆ เลียนแบบที่ผมกำลังทำกับเขาอยู่ตอนนี้พร้อมลืมตาปรือๆขึ้นบอก

“ทำเลย ยอมมม”

“หืม?  ใครสอนให้พูดจาแบบนี้ มือนี่ด้วย ซนมากระวังจะโดน” 

“ใครจะสอน กูก็ลอกเลียนแบบมาจากมึงนั่นแหละ”  ปากเล็กพูดเถียงปาวๆ  จนผมหมั่นไส้ โน้มหน้าเข้าไปจุ๊บเบาๆ พี่ไซน์ละมือออกจากหน้าท้องผมแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงใหม่ นี่แหละ พอเขินแล้วก็ชอบหนีทุกที  ยัยแมวยั่วสวาทปากดีเมื่อกี้หายไปไหนแล้วหละ 

ผมสังเกตมาหลายครั้งแล้วว่าเวลาผมพูดกวนตีน พูดขู่ บังคับ ทำอะไรฮาร์ดคอ แสดงออกแบบฮาร์ดคอ หยอกล้อ ถีบกัน เตะกัน จับมาจูบแรงๆ อะไรแบบนี้ พี่ไซน์จะไม่ค่อยกลัว ไม่ค่อยเขิน แถมยังเล่นกับผม ตอบสนองผม อารมณ์เหมือนชินแล้วอะไรประมาณนี้  แต่ถ้าผมทำอะไรหวานๆให้เมื่อไหร่  ทำอะไรที่โรแมนติก  แบบจุ๊บปาก จุ๊บแก้มเบาๆเหมือนเมื่อครู่นี้ เจ้าตัวจะเขิน แก้มนี่แดง หูแดง แล้วโวยวาย ชอบเปลี่ยนเรื่อง ชอบหนีทุกที ทั้งๆที่ไม่มีอะไรหวือหวา แต่ผมรู้ว่าพี่ไซน์ชอบให้ทำแบบนี้ ผมเลยเดาเอาว่า พี่ไซน์คงจะชินกับการที่อยู่กับพวกพี่แฝดแบบแมนๆ เล่นกันรุนแรง พอผมทำด้วยเลยชิน ไม่เขิน มีภูมิคุ้มกันเยอะ คงจะเหมือนเล่นกับพี่ตัวเองละมั้ง


“ไซน์ตื่น วันนี้จะพาไปหาปันปันด้วย เร็วๆ”

“จริงนะ! มึงอะชอบโกหก”

“อือ ไม่โกหกแล้ว ไปอาบน้ำเร็ว”

“ไจ๋ไปอาบก่อน เดี๋ยวพี่ไซน์จะอาบทีหลัง”

“อย่ามา ผมอาบเสร็จตั้งแต่เช้าแล้ว นอนมองหน้าพี่ได้เป็นชั่วโมงแล้วเนี่ย”

“โรคจิตหรอ”

“เอ้า มองหน้าแฟนตัวเองมันผิดตรงไหนครับ” ผมว่าให้ พี่ไซน์ลุกขึ้นเอาผ้าห่มมาคลุมผมไว้ ก่อนจะเอาหมอนมาปิดหน้าผม กระโดดลงมาทับตัวอีกที แล้วรีบลุกวิ่งหนีเข้าห้องน้ำไป มันน่าตีจริงๆเลย


น้องปันปันที่พูดถึงก็คือลูกสาวของพี่ปิงปิง  ไม่อยากจะโม้เลยว่าโคตรน่ารัก  ช่วงที่ผมไปโรงบาลแล้วเจอพี่แฝดคนโตนั่นแหละครับ คือพาพี่ปันปันไปตรวจครรภ์  แล้วน้องก็พึ่งคลอดช่วงที่พี่ไซน์ไปฝึกงานนี่เอง ตอนนี้ก็อายุประมาณห้าเดือนได้แล้ว  พี่ไซน์กับน้องนี่สนิทกันยิ่งกว่าอะไรดี ฟังไม่ผิดหรอกครับ สองคนนั่นนะสนิทกันยิ่งกว่าอะไรซะอีก  พอเจอหน้ากันเจ้าตัวเล็กเหมือนจะรู้ ยิ้มอารมณ์ดีตลอด  พี่ไซน์พาทำอะไร เล่นอะไรด้วยก็หัวเราะ น่ารัก น่าหยิก  ผมนี่กลายเป็นหมาเลยครับ


.

.

.


“ปันนนนนน ไซน์มาแล้ววว” เสียงคนตัวเล็กร้องเรียกหาน้องปันปันตั้งแต่หน้าประตูบ้าน  ช่วงนี้พี่ปิงปิงไม่ค่อยได้เข้าร้านเพราะต้องอยู่ดูและเจ้าตัวเล็กก่อน  แต่ก็ยังทำขนมไปให้พนักงานที่ขายอยู่เหมือนเดิม  ที่บ้านผมรู้เรื่องที่ผมคบกับพี่ไซน์แล้ว  ตอนแรกพ่อกับแม่เฉยๆ  ออกแนวโกรธผมด้วยซ้ำ แต่ก็ได้พี่ปิงปิงนี่แหละ สารธยายความดี ความน่ารักของพี่ไซน์ กล่อมหูให้พ่อกับแม่ผมฟังทุกวัน จนตอนนี้ท่านทั้งสองก็เริ่มเปิดใจมากขึ้นแล้ว  ส่วนพ่อกับแม่ของพี่ไซน์รายนั้นตอนแรกผมคิดว่าน่าจะหนักอยู่เหมือนกัน  แต่พอได้พูดคุยกันจริงๆแล้วกลับกลายเป็นว่าท่านทั้งสองสนับสนุนด้วยซ้ำ บอกเหตุผลกับผมอีกว่า ถ้าผ่านเจ้าพี่แฝดทั้งสองมาได้ พ่อกับแม่ก็ไม่จำเป็นต้องทดสอบอะไรอีกแล้วหละ ฮ่าๆ ผมนี่โล่งเลยครับ 

“แอ๊ะ แอ๊ะ”  นั่นไง เจ้าตัวเล็กพอได้ยินเสียงแจ๋วๆ ก็ยกตัว คลานกระดึ๊บๆมาหา ส่งเสียงร้องอ้อแอ้ อยู่ ชูไม้ชูมือ อยากให้อุ้ม
“พี่ปิง หวัดดีครับ วันนี้ไจ๋พามาหาเจ้าตัวเล็ก คิดถึง”  บอกพร้อมกับอุ้มน้องขึ้นมากอด มาหอม ฟัดแก้มย้วยๆนั่น เจ้าตัวเล็กก็ชอบใจ ยิ้มร่าเชียว

“ไจ๋นี่ ถ้าน้องไซน์ไม่อยากก็จะไม่กลับบ้านเลยใช่มั้ย น่าตีจริงๆเจ้าเด็กคนนี้”

“โถ่ เรียนหนักไง วันนี้ว่างก็มาแล้วนี่”

“ก็อ้างเรียนหนักตลอดนั่นแหละ ไม่ใช่ว่าไปเถลไถลที่ไหนใช่มั้ยน้องไซน์”

“ช่วงนี้ออกไปกับเพื่อนบ่อยมากพี่ปิง  จัดการเจ้าไจ๋เลยเนอะปันปัน”  หันไปตอบพี่ปิงปิง แล้วหาแนวร่วม เนาะเนอะกับเจ้าตัวเล็ก รุมเลยยยย รุมผมเลยครับ

“ฮ่าๆ แล้วน้องไซน์เป็นไงมั่ง ทำไมผอมลงตั้งเยอะ”

“ไซน์ทำธีสิสอยู่ อดข้าวด้วยแหละ ผอมลงจริงหรอพี่ปิง ทำไมไจ๋ยังบอกอ้วนตลอดเลย”  พี่ไซน์ปล่อยเจ้าตัวเล็กลงกับเบาะ  นั่งลงคุยกับพี่ปิงปิง  ผมค่อนข้างจะตกใจนิดหน่อย พึ่งรู้ว่าพี่ไซน์ไม่ค่อยกินข้าว งั้นแสดงว่าที่บอกว่าไม่หิว กินไม่ลงนี่คือพี่ไซน์อดอาหาร ลดความอ้วนแค่เพราะผมเรียกว่าอ้วนหรอ?  อยากจับคนตัวเล็กนั่นมาถาม แต่ก็ต้องเก็บเงียบไว้ก่อน พี่ไซน์ยังคงไม่นึกว่าผมได้ยินมั้งเนี่ย  เดี๋ยวคอยดูนะ จะจับมาขุนให้อ้วนเหมือนเดิมเลย

“เจ้าไจ๋มันก็แกล้งไปอย่างนั้น อย่าอดข้าวนะ แก้มตอบลงตั้งเยอะเนี่ย” 

“เจ้าไจ๋นี่นิสัยไม่ดีเลยเนอะปันปัน ชอบแกล้งคนอื่นอยู่ได้ ปันปันโตขึ้นมาแล้วต้องจัดการเจ้าไจ๋ให้ไซน์นะ ตีแรงๆให้เจ็บๆเลย”

“แอ้!”

“ฮ่าๆ เอ้อ สองคนไม่รีบกลับใช่มั้ย พี่ว่าจะเข้าไปดูที่ร้านสักแปปนึง ไม่ได้เข้าไปนานแล้ว อยากฝากเจ้าตัวเล็กไว้หน่อยหนะ”

“ได้ครับบบบ ปันปัน อยู่กับไซน์นะ เล่นด้วยกันสองคนเนอะ”

“พี่ให้นมก่อนพวกเราจะมาแล้ว เดี๋ยวอีกสักหน่อยก็นอนแล้วหละ ยังไงพี่ฝากด้วยนะ”

“อือ ให้ผมไปส่งมั้ย หรือยังไง”

“ไม่ต้องๆ เดี๋ยวแฟนมารับ จะไปซื้อของให้ลูกด้วย ฝากด้วยนะน้องไซน์ ฝากด้วยนะไจ๋”

“คร้าบบบบ”  พี่ไซน์ยิ้มบอกอย่างอารมณ์ดี  หันหน้าไปเล่นไปคุยกับเจ้าตัวเล็กอยู่  เดี๋ยวก็หัวเราะตลกเมื่อเจ้าตัวเล็กพลิกคว่ำ พยายามจะคลานโชว์  พี่ปิงปิงคว้ากระเป๋าสะพาย พร้อมบอกถ้าน้องจะนอนก็พาขึ้นไปนอนบนห้องก็ได้ เพราะเจ้าตัวเล็กติดแอร์ ต้องนอนที่เย็นๆ ก่อนจะเดินออกจากบ้านไป  เอาหละ ถึงเวลาที่ผมจะต้องคุยกับพี่ไซน์สักที


“พี่ไซน์...อดข้าวทำไม”

“หะ หือ?...ไม่ได้อด มันกินไม่ลง”

“ก็พี่บอกเมื่อกี้ว่าอดข้าว อย่าบอกนะว่าลดความอ้วน”  คนตัวเล็กทั้งสองที่หัวเราะคิกๆคักๆกันอยู่เมื่อกี้ก็เงียบทันทีที่ผมเริ่มทำเสียงดุ

“ไจ๋...อือ”

“ลดทำไม? แล้วทำไมต้องอดข้าว วิธีอื่นไม่มีหรอครับ”

“แอะ แอ๊!”

“ไม่ต้องเข้าข้างกันเลยนะปันปัน”  ผมบอกเหมือนเจ้าตัวเล็กจะฟังรู้เรื่อง  แต่เพราะน้ำเสียงผมมันดังมั้งเลยทำให้ปันปันเริ่มเบะปาก

“อย่าดุสิ”

“ว่าไงพี่ไซน์ ทำไมต้องอดข้าว”

“...ก็ไจ๋ชอบเรียกเราว่าอ้วน แถมช่วงนี้ยังออกไปกับเพื่อนบ่อยๆ เรากลัวไจ๋ไม่ชอบที่อ้วน ก็เลยอดข้าว...”  ผมถอนหายใจยกใหญ่  นึกขำที่คนตัวเล็กดูจะคิดมากไปรึเปล่า พยายามเรียบเรียงคำพูดมาอธิบายให้คนตัวเล็กฟัง


“...”

“...”

“แง๊ แง้”

“ฮึก โกรธหรอ”

 “เอ้า ร้องไห้ทำไม ทั้งสองคนเลย”  ยังไม่ทันจะได้อธิบายอะไร เจ้าตัวเล็กก็ร้องงอแง เบะปากคว่ำ  พี่ไซน์ก็เหมือนกัน น้ำตาเม็ดโตร่วงหล่นจากดวงตาเล็กๆ  ร้องไห้เบะปากตามเจ้าตัวเล็กไปอีกคน

“ก็ไจ๋ดุทำไม ฮึก”

“ไม่ได้ดุ ชู่ว ปันปัน หยุดร้อง เดี๋ยวพาขึ้นไปนอน เปิดแอร์เย็นๆเนอะ”  ผมอุ้มเจ้าตัวเล็กขึ้นมา หยิบจุกของเล่นติดมือมาด้วย  พร้อมกับเอื้อมมือไปจับพี่ไซน์ที่เช็ดน้ำตาป้อยๆให้ลุกขึ้น จูงมือเดินขึ้นชั้นสองของบ้าน  เข้าไปในห้องตัวเอง เปิดแอร์เอาใจคุณหนูตัวน้อย ก่อนจะวางลงบนเตียง  ยื่นจุกนมให้เจ้าตัวเล็กดูดเล่น จนผล็อยหลับไป  แล้วก็หันมาดูคนตัวเล็กอีกคนที่ร้องไห้เงียบๆอยู่ข้างง 


“โกรธพี่ไซน์รึเปล่า”

“โกรธ...โกรธที่ทำไมพี่ไซน์ไม่ห่วงตัวเอง อดข้าวแบบนั้นถ้าเป็นลมไปจะทำยังไง อีกอย่างที่ผมออกไปกับเพื่อน ผมไม่ได้เถลไถล ผมไปคุยงาน เราคุยกันแล้วไม่ใช่หรอเรื่องนี้...”

“...”

“พี่ไซน์ ที่ผมเรียกพี่ว่าอ้วน ผมมองว่ามันน่ารัก เห็นคนอื่นเรียกแฟนตัวเองว่าอ้วน มันก็น่ารักดี ผมเลยเรียกบ้าง ... ถ้าผมจะไม่ชอบพี่เพราะพี่อ้วน ผมก็คงจะไม่ชอบตั้งนานแล้วปะ?”

“ฮืออ ไจ๋...ไอ้บ้า หลอกด่ากันนี่”

“ฮ่าๆๆๆ อ้วนๆก็น่ารัก มีแต่คนมาจีบจนผมหึงไม่ไหวแล้ว อย่าผอมเลยนะ”  ผมบอก เอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้พี่ไซน์  ก่อนจะดึงเข้ามากอด

“อือ”

“หรือถ้าจะลดก็ออกกำลังกาย ไม่ใช่อดข้าว เข้าใจรึเปล่า...หืม?”

“อื้อ รู้แล้วครับ” พยักหน้าหงึกหงัก พูดอู้อี้อยู่ในอ้อมกอดของผม  ผมเอนตัวลงนอนกับเตียง ดึงพี่ไซน์ให้ล้มลงมานอนตรงกลาง ระหว่างผมกับปันปันด้วย

“ขอโทษนะพี่ไซน์ วันหยุดทั้งทีไม่ได้พาไปเที่ยวไหนเลย”

“กูชอบ”

“หือ?”

“ก็ชอบแบบนี้  ได้นอนกับมึง ทำตัวติดมึง อยู่กับมึงแค่สองคนทั้งวันเลย ชอบกว่าไปเที่ยวอีก”

“ผมก็ชอบ ดีเนอะ”

“อือ โคตรจะดีเลย...ไจ๋...” 

“ครับ” พี่ไซน์พลิกตัวนอนตะแคงหันหน้ามาหาผม มือเล็กนั่นจับมือผมไปนาบกับแก้มนุ่มๆ พี่ไซน์ชอบทำแบบนี้  ชอบเอามือผมไปเล่น ไปนอนกอด เอาไปแนบแก้ม แนบหน้า ไปหอมบ้าง บอกว่ามือผมอุ่นดี 

“มึงอยากมีลูกมั้ย”

“...อยากมีดิ มีเด็กมาวิ่งเล่น ส่งเสียงร้องเจื้อยแจ้วในบ้าน ครอบครัวในฝันผมเลยนะพี่ไซน์”

“...”

“...”


“...ขอโทษนะที่กูมีให้มึงไม่ได้”

“พี่ไซน์”  เรียกชื่อคนตัวเล็กที่หลับตาซึมซับสัมผัสที่มือของผมเสียงแผ่ว 

“ถ้าในอนาคต มึงเจอคนที่ใช่กว่ากู มึงบอกกูนะ ไม่ต้องกลัวกูเสียใจ กูจะปละ..”

“นอกจากพี่ ผมก็ไม่อยากมีลูกกับใครที่ไหนอีกแล้ว  ผมอยากสร้างครอบครัวกับพี่” ผมโน้มหน้าไปใกล้พี่ไซน์จนหน้าผากของเราทั้งคู่ชนกัน  กระซิบพูดชิดริมฝีปากคนตัวเล็กก่อนที่เขาจะพูดจบเสียอีก  ผมไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง จะเจอใครที่ดีกว่ามั้ย แต่ตอนนี้ผมรู้แค่ว่า พี่ไซน์คือคนเดียวที่ผมอยากใช้ชีวิตด้วย  อยากดูแล อยากอยู่ด้วยตลอดเวลา  อยากนอนหลับไปพร้อมๆพี่ไซน์  ตอนเช้าก็อยากตื่นมาเจอพี่ไซน์ อยากให้ทุกๆอย่างที่ผมทำเกิดขึ้นพร้อมกับพี่ไซน์  ผมอยากสร้างครอบครัว ผมอยากเป็นหัวหน้าครอบครัว แค่เรื่องลูกไม่ใช่ปัญหา  ผมว่าเราสองคนสามารถเลี้ยงเด็กคนหนึ่งให้มีชีวิตที่พร้อม มีพ่อแม่ มีครบเหมือนคนอื่นได้ แน่นอน

“ตะ แต่”

“งั้น เรามาทำกันจนกว่าพี่จะท้องเลยดีมั้ย”

“มึง บ้าแล้ว ชาตินี้กูก็ไม่ท้องให้มึงหรอก”

"ทำบ่อยๆ ได้ทั้งลูก ได้ทั้งออกกำลังกายเลยนะพี่"

"..."

“พี่ลองคิดดูดิ ทำทุกวันๆ พี่อาจจะท้องก็ได้นะ เริ่มตั้งแต่ตอนนี้เลยมา” ไม่ว่าเปล่า ผมเริ่มจูบคนตัวเล็กเบาๆ ก่อนจะเริ่มรุนแรงขึ้น สอดลิ้นเข้าไปไล้เลีย หยอกล้อกับลิ้นพี่ไซน์  มือก็บีบเค้นสะโพกกลม  ไล่ขึ้นไปยังเอวบาง สอดมือเข้าไปใต้เสื้อ จงใจปัดผ่านยอดอกที่ตั้งชูชันรอรับสัมผัสจากผม  ในขณะที่ปากก็ละออกมา เลื่อนลงมาที่ซอกคอหอม กลิ่นแป้งเด็กของน้องปันปันติดตัวพี่ไซน์ยิ่งทำให้ผมอารมณ์เตลิด ดูดดึงเนื้อนิ่มจนเกิดรอยแดงช้ำทั่วคอ

“อ๊ะ อ๊า”  พี่ไซน์ร้องเสียงหลงเมื่อผมบีบขยี้ยอดอกจนแข็งเป็นไต  ถอดเสื้อคนตัวเล็กออก ขึ้นคร่อมแล้วก็เลี้ยเลียยอดอกแดงๆนั่นอย่างหิวกระหาย มือก็ปลดกระดุมกางเกงขาสั้น ก่อนจะดึงออกพร้อมทั้งชั้นในโยนทิ้งไว้ข้างเตียง จับส่วนอ่อนไหว นวดคลึงไปมาเบาๆ พี่ไซน์ร้องครางออกมาอย่างลืมตัว ใบหน้าที่ขึ้นสีแดงระเรื่อเชิดหน้าขึ้นเมื่อถูกเล้าโลมทั้งส่วนล่างและส่วนบน

“อย่าเสียงดัง เดี๋ยวปันปันตื่น” 
     
“ฮื่อ พอ...พอแล้ว อายน้อง” 

“ไปทำในห้องน้ำมั้ย”

“ไม่ อ๊ะ พอ เดี๋ยวพี่ปิงปิงมาแล้ว อะ อา ...ไจ๋” พี่ไซน์เรียกชื่อผมเสียงกระเส่าเมื่อผมรูดรั้งส่วนล่างแรงขึ้น มือทั้งข้างกำเสื้อตรงหัวไหล่ผมแน่น  กัดปากตัวเองกลั้นเสียงครางไว้ไม่ให้หลุดออกมา เหี้ย เอ็กซ์โคตร ผมละมือออกจากส่วนอ่อนไหวของพี่ไซน์มาถอดเสื้อและกางเกงของตัวเองออกให้เหลือเพียงแค่บ็อกเซอร์  จับขาเล็กของพี่ไซน์ให้ยกขึ้นชิดหน้าอก ก้มหน้าลงไปเล่นกับช่องทางรักสีแดงสด ตวัดไล้เลียช่องทางที่ตอดตุบๆ เชิญชวนให้สอดใส่แรงๆ

“ฮึก อ๊ะ อ๊ะ...” พอไล้เลียจนช่องทางชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำลาย ก็เริ่มสอดนิ้วเข้าไปสำรวจ พี่ไซน์ร้องครวญครางเสียวจัด ผมจึงเลื่อนหน้าขึ้นไปปรนจูบปิดเสียงครางดังๆนั่นไว้ แล้วค่อยๆเพิ่มนิ้วเข้าไปอีกเป็นสามนิ้ว  วนช่องทางคับแคบเป็นวงกลม สอดกระแทกขยับเข้าออกบ้างสลับกันไป จนรู้สึกว่าช่องทางของพี่ไซน์เริ่มผ่อนคลายค่อยถอนนิ้วออกมา  ตรงนั้นของผมแทบไม่ต้องแตะมันก็ตั้งขึ้นมาเพียงเพราะมีอารมณ์กับพี่ไซน์ ผมดึงบ๊อกเซอร์ลงให้กองอยู่หน้าขา ก่อนจะค่อยๆสอดแก่นกายใหญ่เข้าไปในช่องที่เบิกทางไว้แล้วเมื่อกี้

“ฮื่อออ เดี๋ยว อ๊า... อ๊ะ ค่อยๆ...อื้อ ไจ๋..อ่ะ แฮกๆ” ดันของตัวเองเข้าไปจนสุดแล้วแช่ไว้สักพักให้คนตัวเล็กได้พักหายใจ

“แอ๊” ผมที่กำลังจะขยับหยุดนิ่งเมื่อได้ยินเสียงเจ้าตัวเล็กร้องขึ้นมา ปันปัน ยกตัวขึ้นมาก่อนจะพลิกตัวขยับท่านอนของตัวเองแล้วล้มลงไปนอนต่อ

“อ่า ...ซี้ดดส์” ผมร้องเสียงกระเซ่าเมื่อแรงตอดรัดแน่นขึ้นเรื่อยๆ  พี่ไซน์กำลังตื่นเต้น.... ผมรู้ พี่ไซน์ตื่นเต้นกลัวน้องตื่นมาเห็นแน่ๆช่องทางถึงได้บีบขนาดนี้ ให้ตายสิ อ่าส์

“อื้อ จะ ...ไจ๋ ช้าๆ” ร้องบอกเมื่อผมเริ่มขยับตัวรัวและถี่เร็ว 

“ช้าได้ที่ไหน พี่รัดผมจนจะแตกอยู่แล้วเนี่ย อื้อ...”

“เหี้ยไจ๋...อ๊ะ อ๊า อ๊า”  ผมดันตัวเข้าตัว กระแทกเข้าไปจนสุด เข้าคงไปโดนจุดกระสันของคนตัวเล็กเข้ามั้ง พี่ไซน์ถึงได้ร้องเสียงหลง และตอดรัดเข้าไปใหญ่  ผมดึงพี่ไซน์ขึ้นมาให้นั่งบนตัก กอดเอวบางไว้อย่างหลวมๆ ก่อนจะยกสะโพกพี่ไซน์ให้ขยับขึ้นลงเองบ้าง

“ทำสิ อยากได้เร็วได้ช้าแค่ไหนก็ทำเอาเอง” ผมบอก พี่ไซน์เอื้อมมือจับไหล่ผมไว้แน่น ก่อนจะเริ่มเขยิบด้วยตัวเอง บดเบียดสะโพกลงช้าๆอย่างยั่วยวน แล้วค่อยเริ่มจัวหวะเร็วขึ้น  ผมโน้มหน้าลงไปชิมยอดอกสีแดงฉ่ำที่แอ่นขึ้นตามแรงอารมณ์ ตาปรือของพี่ไซน์ก็มองผมอย่างออดอ้อน ก่อนพี่ไซน์จะซบหน้าลงกับบ่าผม หอบหายใจแรง

“เหนื่อย ทำไมไหวแล้ว” ผมกดจูบลงไปที่ขมับ  ขบกัดใบหู วนมาปรนเปรอจูบให้อีกครั้งก่อนจะเป็นฝ่ายสวนสะโพกขึ้นไปแทน

“อื้อ ไจ๋ อ่า มะ...ไม่ไหวแล้ว”

“อีกนิดนึง ไปพร้อมกันนะ” ผมบอกก่อนจะเร่งสะโพก ขยับถี่รัว พี่ไซน์ปล่อยมือที่จับไหล่ผมออก แล้วเอื้อมมือไปรูดรั้งแกนกายของตัวเองแทน  เงยหน้าขึ้นมาจูบผมจนน้ำลายใสไหลเปรอะออกมาตามมุมปาก ยิ่งพี่ไซน์รูดรั้งส่วนล่างของตัวเองเร็วเท่าไหร่  ช่วงล่างของพี่ไซน์ก็ยิ่งตอดรัดเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น

“อ๊ะ อ๊าส์...”  ปล่อยน้ำขาวขุ่นออกมาเต็มือเล็กของตัวเอง ซบหน้าลงกับไหล่ผมกอดเอวสอบของผมแน่น ช่องทางด้านหลังยังคงรัด ตอดตุบๆอยู่  ผมรีบกระแทกเอวสวนขึ้นไปอย่างแรงอีกสองสามที  ก็ปล่อยน้ำขาวขุ่นเข้าไปในตัวพี่ไซน์จนมันไหลออกมาทางเดิม

“อืม อ่า... เก่งมากเจ้าหมาอ้วน”  ผมบอกพร้อมกอดคนตัวเล็กไว้แน่น ลูบหัว ลูบหลังให้ทั้งชมและปลอบโยน แช่แก่นกายของตัวเองอยู่อย่างนั้นไม่ถอนออก

“ไจ๋...” พี่ไซน์หอบหายใจหนัก ก่อนจะปรับลมหายใจให้อยู่ในจังหวะปกติ  ร้องเรียกชื่อผมเสียงแผ่ว  ลมหายใจที่เข้าออกสม่ำเสมอ ไม่ต้องก้มหน้าไปดูก็รู้แล้วว่าคนตัวเล็กในอ้อมกอดสิ้นฤทธิ์  หลับไปเรียบร้อยแล้ว


“ท้องยัง...ถ้ายังไม่ท้องต้องตื่นมาทำอีกนะ...ผมรักพี่นะพี่ไซน์”


END 



จบแล้วววววว
ฮ่าๆ จบแบบ งงๆ ทั้งสองคนอาจจะรักกันง่ายไป
พล็อตตลาดๆที่หาอ่านได้ทั่วไป
แต่ก็นั่นแหละ สำหรับมือใหม่อย่างเรา ก็อยากให้มันง่ายไว้ก่อน

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามเจ้าพวกสามแฝด และน้องไจ๋นะคะ

ขอบคุณจริงๆ สำนวนเราอาจจะไม่ดี  เนื้อเรื่องอาจจะไม่กินใจเท่าเรื่องอื่นๆ

ไว้จะปรับปรุงแก้ไขกันต่อไปเนอะ 

ขอบคุณจริงๆนะคะที่หลงกดเข้ามาเรื่องนี้ ฮ่าๆๆๆ

รักทุกคน  :hao5:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ไจ๋ ไซน์   :ling1: :ling1: :ling1:
ไซน์ น่ารัก :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
อยากอ่านคู่ของ แทน คอส ด้วย :mew1: :mew1: :mew1:
 :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ก๊าบก๊าบ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แปะป้าบไว้ก่อน เดียวมาอ่านนะครับบบ. 

ออฟไลน์ Raina

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
ตกลงคะแนนภาษาอังกฤษน้องไจ๋ดีขึ้นไหมหว่า 555

เรนแอบสงสารพี่เต๋าล่ะ จากมุมมองไซน์ พี่เต๋าอาจจะดูน่ารำคาญ แต่อย่าลืมว่าไซน์ไม่เคยปฎิเสธพี่เต๋าเลยนะ ซื้ออะไรมาให้ก็รับ พาไปไหนก็ไป เหมือนให้ความหวังกัน  :m15:

ยินดีด้วยค่ะที่แต่งได้จนจบ สำหรับมือใหม่ คงไม่ใช่เรื่องง่าย ฝึกปรือต่อไปน้าาาา

:pig4:

ออฟไลน์ Sohso

  • You are my precious thing And I will always love you.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1372
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3
แล้วพี่เต๋าอ่ะ หายไปเลย น่าจะมีตอนพิเศษ

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ Peung002

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 870
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
เสียใจกับตัวเองจังค่ะ. ที่มาอ่านเรื่องนี้ช้าไป
ไม่อย่างนั้นคงได้มาตามเม้นท์ทถกตอนแล้ว
เนื้อเรื่องน่ารักดีค่ะ. หลงรักแฝดทั้งสามคนเลย อ่าแล้วสัมผัสได้ถึงความรักของแฝดเลยนะคะ
ส่วนน้องไจ๋ น่ารักปนแอบหื่นนะเนี่ย โดยเฉพาะสองตอนสุดท้าย.  :hao3:
ยอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะคะ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ขอบคุณคนเขียนค่ะ ไม่ค่อยได้เข้ามาอ่านเลย พอมาเห็นอีกทีก็จบแล้ว...

ปล. อยากรู้เรื่องของพี่เต๋าเหมือนกันค่ะ
เห็นด้วยกับเม้นท์บนนะว่าซายน์ทำเหมือนให้ความหวังพี่เต๋า ไม่ว่าจะเพราะไม่รู้จริง ๆ หรือทำเป็นไม่รู้ก็เถอะ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ am_am

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
เรื่องน่ารักมากกกกก ชอบฝาแฝดมาก ๆ น่ารัก
แต่ก็คิดว่าพี่เต๋าหายไปเหมือนกันค่ะ
อย่าลืมตอนพิเศษนะคะ  :impress:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ SPNamfone

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Special Part



“ไซน์!  จะแอบย่องไปไหนหนะ?” คนถูกทักที่แอบซ่อนอยู่หลังโซฟาตัวใหญ่ภายในคอนโดค่อยๆ โผล่หน้าขึ้นมายิ้มแป้นให้พี่แฝดคนโต พร้อมบอกเสียงอ้อมๆแอ้มๆ

“เอ่อ...ไปหาไจ๋”

“แล้วทำไมต้องแอบไป ทำไมไม่บอกกูดีๆ จะไปไหนกัน แล้วนั่นกระเป๋าอะไร?” สายตาคมๆเลื่อนไปที่กระเป๋าเป้ที่พื้น แล้วตวัดมามองหน้าไอ้ไซน์ตัวดีอย่างเค้นเอาคำตอบ

“ถ้ากูขอ มึงก็ไม่ยอมให้ไปนะสิ” ไอ้คนตัวเล็กเถียงข้างๆคูๆ แอบขึ้นเสียงใส่แฝดพี่

...เดี๋ยวนี้พูดอะไรก็ไม่เคยฟังกันแล้วสิ มีน้องไจ๋คอยสนับสนุน อะไรที่ว่าดีก็ดีไปหมด กูจะคอยดูวันที่มันหมดโปรโมชันกับมึง แล้วกูนี่แหละจะเป็นคนซ้ำเติมมึงเอง หึหึ

“ไปเที่ยวหรือว่าไปอะไร?”

“...ไปติวให้ไจ๋... เอ่อ ไปนอนค้างคืนด้ว-”

“ไม่ให้ไป!!!” 

“นั่นไง...พอกูขอมึงก็ไม่ให้ไป” ยังพูดไม่ทันขาดคำ เจ้าแฝดคนโตก็แทรกขึ้นมา  ไอ้ไซน์ทำหน้าหมาใส่ พูดด้วยน้ำเสียงประชดน้อยๆ

ไอ้ไซน์เองก็ไม่ได้อยากจะแอบออกมานักหรอก ที่จริงบอกว่าจะไปติวกับน้องไจ๋ พี่แทนก็ให้ไปแล้ว แต่มันอินไง ข้อความที่น้องไจ๋ส่งมามันบอกว่า


‘พี่ไซน์ ผมมารับแล้ว ถึงใต้คอนโดแล้ว หนีออกมาเลย’


ไอ้ไซน์ก็บ้าจี้ หนีตามน้องไจ๋บอกออกมา อินไง มันอินนน

“ไปติวได้ แต่ค้างคืนกูไม่ให้ไป”

“ทำไมอะ”

“แล้วทำไมต้องไปนอนบ้านเค้า ห้องตัวเองก็มี” เจ้าแฝดพี่เริ่มหงุดหงิด ขมวดคิ้วยืนกอดอกทำหน้าดุใส่

“ก็คิดถึง...”

“เหอะ!  ไม่เจอกันไม่กี่วันบ่นคิดถึง  แล้วกูนี่ขึ้นวอร์ดเป็นอาทิตย์ ไม่เจอหน้าพวกมึงเลย มึงไม่คิดถึงกูบ้างหรอ”

“ก็อยู่ด้วยกันแล้วนี่งายยยย”

“แล้วไง ต้องรอให้กูตายก่อนหรอ ให้กูไม่อยู่กับมึงก่อนหรอถึงจะคิดถึงกู”

“แทน...” ไอ้ไซน์เรียกชื่อแฝดคนพี่  จากใบหน้าที่ทำออดอ้อนเมื่อครู่ หงอยลงมาในพริบตา ยืนนิ่ง ก้มหน้ามองพื้น ไม่กล้าสบตากับคนเป็นพี่

“...”

“ไซน์ไม่ไปแล้ว...ไม่ไปหาไจ๋แล้วก็ได้”  น้ำเสียงแผ่วๆปนสำนึกผิดถูกเปล่งออกมาจากไอ้หมาไซน์  ส่วนแฝดคนโตได้แต่ถอนหายใจ บ่นจิ๊จ๊ะในลำคอ เดินเข้าห้องนอน สักพักก็กลับออกมาหยุดอยู่ข้างๆไอ้หมา  หยิบกระเป๋าเป้ที่วางอยู่บนพื้นขึ้นมา รูดซิปออก แล้วใส่กล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆเข้าไป

“กูขอโทษที่พูดแรงไป กูเหนื่อยๆ มึงไปก็ดี จะได้ไม่มีคนกวนเวลากูนอน แล้วเนี่ย เวลามีอะไรก็อย่าลืมป้องกัน ถึงจะรักกันมากแค่ไหนแต่เรื่องโรคก็ควรระวังไว้ กันไว้ดีกว่าแก้ เลิกทำหน้าหมาหงอยได้แล้ว เห็นละหงุดหงิดกว่าเดิม” พูดจบก็ยื่นกระเป๋าเป้คืนให้เจ้าแฝดคนน้องเป็นคนถือเอง พลางผลักหัวกลมๆนั่นเบาๆ ข้อหาหมั่นไส้

...ดูมันทำหน้าดิ หน้าหมาหงอยของมันเห็นแล้วก็อยากตามใจให้มันอารมณ์ดีขึ้นมาเลย  นี่สินะ อิทธิพลของไอ้ไซน์

“ไซน์ไม่ไปแล้วจริงๆ อยากอยู่กับคอสกับแทนขึ้นมาทันทีเลยง่ะ”

“ไม่มีคนว่างมาเล่นกับมึงหรอก ใครๆเค้าก็มีกานมีงานทำทั้งนั้น ไปกวนแฟนมึงนู่นไป๊”

“งั้นไม่ค้างคืนแล้วก็ได้  เดี๋ยวไปติวให้ไจ๋เสร็จแล้วจะรีบกลับเลย เนอะ”

“ถ้ามันดึกมากก็นอนค้างนั่นแหละ ขับรถดึกๆ มันอันตราย ไปได้แล้วไป”

“อือ...แทน  กอดหน่อยดิ”

“หึหึ”

“...”

“มึงไม่เคยมีแฟน มึงตัวติดกับพวกกูตลอด พอมึงออกไปจากสายตาที่กูดูแลมึงไม่ได้ตลอดแล้ว กูก็ต้องห่วงเป็นธรรมดา กูขอโทษถ้าพูดแรงไป แต่ต่อจากนี้มีอะไร จะไปไหนก็บอกกูด้วย ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับมึง กูไม่อยากรู้เป็นคนสุดท้าย พูดตรงๆ กูไม่อยากให้มึงนึกถึงไอ้ไจ๋เป็นคนแรกในทุกเรื่อง มึงยังมีกู มีไอ้คอส มีพ่อ มีแม่อยู่ข้างๆ ตลอด อย่าลดระดับความสำคัญของครอบครัวเราลงนะไอ้หมา เข้าใจมั๊ย?”

“อื้อ เข้าใจแล้ว”


.

.

.


“พี่ไซน์  อ่ะ เสร็จแล้ว” 

“อือ”  ไอ้ไซน์รับกระดาษจากน้องไจ๋มาด้วยท่าทีเฉื่อยๆ  ดูเหมือนไอ้หมายังไม่หายนอยด์เรื่องที่พี่แฝดคนโตของมันพูด ขนาดมานั่งติวภาษาอังกฤษให้น้องไจ๋ยังเป็นหน่วงอยู่เลย 

“เอาโทรศัพท์มาเล่นหน่อย ของผมชาร์ตอยู่”  น้องไจ๋ตีหน้าใสซื่อ แบมือขอโทรศัพท์จากคนเป็นพี่  พอไอ้ไซน์ล้วงเอาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมาให้ น้องไจ๋มันก็ยิ้มแผล่  แสกนลายนิ้วมือตัวเองลง พร้อมกับเข้าแอพลิเคชั่นสีเขียวสุดฮิต 

“พี่ไซน์...”

“หื้ม?”  ขานในลำคอ แต่ใบหน้าหวานก็ยังคงดูกระดาษที่น้องไจ๋เขียนคำตอบมาให้อยู่ 

“ใครเนี่ยทักมาเยอะแยะเลย” น้องไจ๋ขมวดคิ้วถาม ไอ้ไซน์เงยหน้าขึ้นมาแล้วชะโงกดูหน้าจอโทรศัพท์ตัวเอง ส่ายหัวน้อยๆเป็นเชิงบอกว่าไม่รู้เรื่อง

“กูก็ไม่ได้ตอบเค้านี่ ยังไม่ได้แอดด้วย”

“ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรซะหน่อย”

งั่ม!

“โอ้ยยย”

“สมน้ำหน้า”  ฟันขาวๆ กัดลงบนหัวไหล่หนาแรงๆ หนึ่งที ข้อหาหมั่นไส้ไอ้เด็กตรงหน้า
 
...มาทำเป็นขอเล่นโทรศัพท์หน่อย อ้างนู่นนี่ แต่จริงๆก็อยากเช็คโทรศัพท์เขานั่นแหละ เจ้าเด็กนี่

“เดี๋ยวโดนกัดคืนแล้วจะได้ร้องครางแทนนะ ..เดี๋ยว เดี๋ยวจะโดน”

“เหอะ ปากเก่งจริ้งง อื้อออ.. ไจ๋!”  คนเป็นน้องอย่าน้องไจ๋เองก็อดหมั่นไส้ปากเล็กๆนั่นไม่ได้  กดจูบงับริมฝีปากล่างเบาๆลงไปให้ไอ้ไซน์ตกใจ  ก่อนจะผละออกมาแล้วยิ้มกว้างให้

“ค้าบบบบ”

“ไปอ่านหนังสือเลยไป!”

“เขินแล้วก็ชอบเสียงดังใส่ ไล่ตลอด เปลี่ยนเรื่องตลอด” น้องไจ๋เดินบ่นงุบงิบให้ไอ้ไซน์ที่แยกเขี้ยวใส่อย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว





“คุยอะไร ทำไมไม่กินข้าวก่อน” น้องไจ๋ถามเสียงเข้ม เมื่อเห็นว่าคนเป็นพี่เอาแต่ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์  ยังไม่กินข้าวที่วางอยู่ตรงหน้าสักคำ

“คุยกับพวกสายรหัสอ่ะ งานเลี้ยงส่งพี่บัณฑิต”

“วันไหน?”

“สายเค้าว่างวันนี้กัน แต่กูไม่อยากไปวันนี้อ่ะ อยากอยู่กับมึง” ไอ้หมาไซน์ตอบคำถามด้วยสีหน้าเรียบๆ แต่คนฟังกลับอมยิ้มจนแก้มตุ่ย  น้องไจ๋ไม่ได้ตอบ เพียงแค่ยิ้มแล้วก้มลงไปกินข้าวต่อ   

“...”

“แล้วกูกำลังจะขอมึงไปนี่ไง”

“อ้าว” จากใบหน้าเปื้อนยิ้มเมื่อสักครู่ กลับกลายเป็นน้องไจ๋หน้าเหวอ เงยหน้าขึ้นมามองคนตรงหน้าที่กระพริบตาปริบๆ

“นะไจ๋  มีกูคนเดียวในสายที่ไม่ว่างเนี่ย นะ นะ นะ...”

“ทำไมเค้าไม่นัดล่วงหน้ากันเนี่ย”

“ก็บังเอิญมันว่างตรงกันวันนี้ไง ก็เลยไปเลย”

“แล้วรวมสายโคด้วยมั้ย?”

“อื้อ รวมด้วย”

“ไปร้านไหน?”

“หลังมอคับ”

“ไปกี่โมง?”

“สองทุ่มครึ่งคับ”

“กินข้าวให้หมด แล้วเดี๋ยวไปส่ง”

“ด้ายยคับบบบ”  ไอ้ไซน์ยิ้มแป้นแล้น ลงมือกินข้าวที่อยู่ตรงหน้าอย่างอารมณ์ดี ขัดกับอีกคนที่ถอนหายใจเฮือกใหญ่

...มีพี่ไซน์เหมือนมีลูก  ถึงจะโตแค่ไหนก็อดห่วงไม่ได้อยู่ดี


.

.

.


“ไปเปลี่ยนเสื้อเอาสีอื่นที่ไม่ใช่สีขาว ใส่กางเกงขายาว หยิบเสื้อกันหนาวผมไปด้วย”

“เสร็จแล้ว”


“อย่ากินเยอะ จะเบียร์ เหล้า ไวน์ สไปร์ ก็อย่ากินเยอะ”

“อื้อ กูไม่ได้อ่อนด๋อยเหมือนที่มึงคิดนะ”

“คนเป็นห่วง ยังจะมาดื้อ อย่าให้รู้นะว่าเมา”

“ค้าบบบบ”



“จะกลับตอนไหนก็โทรมา  หรือถ้าผมโทรไปก็รับด้วย”

“รู้แล้วววว”



“อย่าไปอ่อยใครด้วย”

“โอ้ยยย กูจะไปอ่อยใคร มีแต่สายรหัสกันทั้งนั้น”

“ที่เป็นสายโคก็เพราะได้กันเองในสายไม่ใช่รึไง ...โดยเฉพาะพี่เต๋านะตัวดีเลย”

“ห๊ะ อะไรนะ? ไม่ได้ยิน”

“ป่าว ดูแลตัวเองดีๆด้วย”

“ไปนั่งกับกูมั้ยหละ”

“ไม่อ่ะ เดี๋ยวพี่ไม่สนุก” 

“ฮะๆ แฟนใครเนี่ย น่ารักจังเล้ยยย”  ไอ้ไซน์เขย่งตัวขึ้นไปขยี้ผมน้องไจ๋เบาๆ  หยิกแก้มตอบๆออกด้วยความหมั่นเขี้ยว 

...ก็น้องไจ๋น่ารัก  ยิ่งรู้จักกันมากขึ้นยิ่งน่ารักขึ้น  ยิ่งรักมากขึ้น


.

.

.



เสียงเพลงจากวงดนตรีสดช่วยเพิ่มบรรยากาศภายในร้านให้น่านั่งชิวกันเข้าไป  ลูกค้าต่างร้องเพลง โยกตัวเต้นตามจังหวะดนตรี  รวมถึงไอ้ไซน์ด้วย  ที่ถึงไม่จะไม่ค่อยฟังเพลงไทยสักเท่าไหร่ แต่ก็โยกตัวไปตามจังหวะ  ด้านข้างของไอ้ไซน์ติดหัวโต๊ะ เป็นพี่น็อต พี่บัณฑิตในสายของมัน  อีกด้านหนึ่งเป็นรุ่นน้องปีสาม ปีสอง และปีหนึ่งตามลำดับ ที่ตรงข้าม ก็เป็นส่วนของสายโค และตรงข้ามไอ้ไซน์คือ ... พี่เต๋า  ที่ดูวันนี้ไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยจา  ถามคำตอบคำ  เน้นยกแก้วน้ำสีอำพันเข้าปากอย่างเดียว

“เห้ยพี่เต๋า พูดอะไรหน่อยดิพี่”

“ใช้ชีวิตให้คุ้มในรั้วมหาวิทยาลัยให้คุ้มกันนะครับ พอจะจบแล้วมันโคตรใจหายเลย”

“ฮ่าๆ วันนี้พี่แม่งเป็นแปลกๆหวะ สงสัยเมาแล้ว พี่ไซน์ดูแลดิ๊”

“ไม่เมาๆ ไปเข้าห้องน้ำนะ เดี๋ยวมา”  พี่เต๋าคนหล่อของสายพูดจบก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินออกไป  พี่ๆน้องๆในสายยังคงคุยกัน
เรื่อยๆ  มีเสียงหัวเราะบ้างเป็นระยะเมื่อพูดถึงอาจารย์ในคณะกัน

...พวกบาปนี่

สักพักพี่เต๋าก็เดินกลับเข้ามา


ครืด ครืด

โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของไอ้ไซน์สั่น เจ้าตัวล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาดู พบว่าเป็นข้อความของคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม  ไอ้ไซน์เงยหน้ามองพี่เต๋าแล้วขมวดคิ้วให้  แต่พี่เต๋าไม่ตอบ มองหน้าไอ้ไซน์นิ่งๆ


‘พี่เคยบอกรึยังว่าพี่ชอบน้องไซน์’


ไอ้ไซน์ละหน้าออกจากหน้าจอโทรศัพท์  ขมวดคิ้วแน่นขึ้นไปอีกกับข้อความของคนตรงหน้าที่ส่งมา กำลังจะพิมพ์ข้อความส่งกลับคืน  แต่ข้อความใหม่ก็เด้งขึ้นมาก่อน


‘ถ้ายัง...พี่ขอบอกวันนี้เลยนะ
พี่ชอบน้องไซน์นะครับ  ชอบมาก’


‘ชอบมากกว่าแบบพี่น้อง’


‘ตลอดเวลาที่พี่เอาขนมมาให้หรือทำอะไรให้ พี่ชอบเอาแต่คำว่าสายโคมาอ้าง ไซน์เลยอาจคิดว่ามันเป็นมิตรภาพของพี่น้อง แต่มันไม่ใช่’


‘ที่พี่ทำให้ เพราะพี่ชอบเรานะ’


‘พี่ก็พอรู้ว่าน้องไซน์รำคาญ หรืออึดอัดเวลาเราอยู่ด้วยกัน พี่ขอโทษ’


‘น้องไซน์ไม่ต้องคิดมากนะ พี่แค่อยากบอกเฉยๆ ดีกว่าไม่ได้บอก เรายังเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมได้’



‘ไม่ต้องคิดมาก พี่ไม่เป็นไร’


รออีกสักพัก ก็ไม่มีข้อความอะไรส่งมาอีกแล้ว  ไอ้ไซน์เงยหน้ามองพี่เต๋าที่ตอนนี้ยิ้มให้มันอย่างจริงใจ พร้อมพยักหน้าให้


‘พี่โอเค’




“คนหนึ่งยังทำทุกทาง เพื่อความรักจึงคอยทุ่มเททุกอย่าง
อยากเป็นคนสำคัญอยู่ในสายตา ยังหวังรอสักวัน
แต่อีกคนกลับไม่สนใจ ทำอะไรก็เหมือนว่าไม่ต้องการ
ยังไม่เคยเห็นใจ ไม่เคยหันมา เฉยชาอยู่อย่างนั้น”



เสียงทุ้มๆจากนักร้องที่เล่นดนตรีอยู่บนเวทีดังขึ้น ไอ้ไซน์และพี่เต๋าก็ยังคงมองหน้ากันอยู่อย่างนั้น  ไม่มีใครพูดอะไรออกมา ท่ามกลางพี่น้องสายรหัสที่ฮึมฮัมไปกับเพลง  คุยกันบ้าง หัวเราะกันบ้าง


“ยิ่งใกล้เธอแค่ไหน ก็ยิ่งเหมือนเป็นแค่ลมพัด
ยิ่งฝันและยิ่งฝืน ก็ยิ่งจะทรมาน”



‘ขอบคุณที่เลือกไปฝึกงานกับพี่ ให้พี่รู้จักเรามากขึ้น ให้พี่ได้ใกล้เรามากขึ้น’



“เหนื่อยพอแล้วที่พยายามทำให้เธอรัก แต่ไม่ได้...
ให้รักเธอ ทั้งหัวใจ คงไม่พอ
รู้แล้วว่ารักไม่มีความหมาย
เพิ่งเข้าใจ...คนมันไม่ใช่ก็คือไม่ใช่อยู่ดี”



‘ถ้าคนที่น้องไซน์ชอบเป็นพี่ ก็คงจะดีไม่น้อย’
‘แต่ไม่เป็นไร พี่โอเคจริงๆ’



“เหี้ย! พี่ไซน์ร้องไห้ทำไม”

“อ้าว อินเว้ย มันอินกับเพลงไง ฮ่าๆๆ อ่อนไหวนะมึงเนี่ย”  พี่น็อตที่นั่งอยู่ด้านข้างกับรุ่นน้องปีสามหันมามองไอ้ไซน์พลางทำหน้าตกใจ  ไอ้ไซน์รีบเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

...จะบอกยังไง ว่าเห็นน้ำตาของพี่เต๋ามันไหลก่อน  มันเลยไหลตาม


“ไม่เป็นไร กูแสบตาเฉยๆ” ไอ้ไซน์บอกปัดรุ่นน้องไป ยกแก้วน้ำของตัวเองขึ้นมาดื่มบ้าง


...พัง 

...รับรู้  แต่ทำเหมือนไม่รู้เพื่อที่จะรักษาความสัมพันธ์ของคนสองคนเอาไว้  ไม่ใช่ให้ความหวัง  ไม่ใช่กั๊ก  แต่รักษาความรู้สึก เพราะรู้ว่ายังไงมันก็ไม่มีทางเป็นไปได้  ไซน์ไม่ได้ชอบพี่เต๋าแบบนั้น  ถ้าบอกตรงๆแล้วจะโอเคจริงๆหรอ?  มาบอกว่าชอบ แล้วบอกว่าไม่ชอบตอบก็ไม่เป็นไร  เป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมได้  ไอ้ได้หนะ มันได้...แต่ความรู้สึกมันไม่เหมือนเดิม  เราจะกล้าพูดอย่างสนิทใจกันเหมือนเดิมจริงหรอ?  เราจะกล้ามองหน้ากันเหมือนเดิมจริงมั้ย? 


.

.

.



“จ๋ายยย ฮึก ฮือออ” เที่ยงคืนกว่าๆ น้องไจ๋ก็ได้แบกร่างไอ้ไซน์ขึ้นมาบนห้อง 

...ก็บอกแล้วว่าอย่ากินเยอะ แล้วไงทีนี้ เมากลับมาแล้วก็งอแง พูดไม่รู้เรื่อง พี่ไซน์นี่มันจริงๆเลย


“ชู่วว ร้องไห้ทำไม ใครทำอะไรหื้ม?”

“พี่เต๋า...ฮึก พี่เต๋า ชอบ” คนตัวเล็กที่นอนอยู่บนเตียงพูดเป็นคำๆ ปะติดปะต่อไม่ค่อยจะเข้าใจ  แต่น้องไจ๋ก็หัวเราะ เอื้อมมือเขกหัวเหม่งๆนั่นเบาๆ

“อะไร พึ่งรู้หรอว่าพี่เค้าชอบ”

“ไจ๋...”

“ครับ”

“ถ้า กูชอบพี่เต๋าคืน ฮึก ก็จบ”

“พูดอะไรหนะพี่ไซน์  หยุดพูดเลยนะ  ตื่นมาได้มีเรื่องแน่”

“แต่กูชอบมึงไปแล้ว...”

 “ดีมาก” น้องไจ๋ยิ้มกว้าง  จุ๊บลงไปที่แก้มใสทั้งสองข้าง ก่อนจะเช็ดตัว เปลี่ยนชุดให้เจ้าแฟนอ้วนของเขาได้นอนสบายตัว

...พี่ไซน์...ชอบแล้วเลิกชอบไม่ได้นะครับ


ว้า...อดใช้ถุงยางที่พี่แทนฝากมาให้เลยอ่ะ



END

จริงๆวางพล็อตพี่เต๋าไม่ให้จบเศร้าขนาดนี้ อยากให้พี่เต๋าเป็นพวกแบบเต๊าะเล่นๆ
แต่เพลงในยูทูปมันเปิดออโต้แล้วมันเล่นมาเพลงนี้พอดีอ่ะ  เลยอิน
5555 จบไปแล้วสำหรับพาร์ทสเปเชียลนะฮะ  ขอบคุณนะคะที่ขนาดจบแบบกากๆ ก็ยังมีคนคอยติดตาม

ขอบคุณนะคะะะ   :mew1:

*เพลง คนไม่ใช่ก็คือไม่ใช่

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ tangtey59

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
กรี๊ดดดด เรื่องนี้ คือ ดี เขียนได้สนุก อ่านไม่เบื่อเลย ไฟซด์น่ารักสุดๆ ใน 3 โลก

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด