หลานคุณย่า 2 เค้ก เค้ก เค้ก[/size]
[/size][/size]
กลับสู่โหมดของการทำงานอีกวัน แต่พายกลับรู้สึกสนุกทุกครั้งที่ได้เปิดร้าน ทำเค้กรสชาติต่างๆ ที่ทำให้คนหลงไหลในความหวานได้ทาน พร้อมกับเครื่องดื่มหวานหอมหลากหลายเมนู พายจะเป็นคนคิดค้นเมนูแทบจะทุกอย่างในร้าน โดยมีมิน (หมูน้อย) ช่วยอีกแรง
มินเรียนเกี่ยวกับการทำเบเกอรี่โดยเฉพาะ จึงมีความชำนาญด้านการทำเบเกอรี่มากกว่าเค้ก แต่ก็สามารถทำได้ดี เมื่อได้รับการฝึกฝนจากพายโดยตรง สามารถที่จะทำเค้กเมนูต่างๆ แทนพายได้เกือบทุกเมนู
มินเป็นเพื่อนของบราวนี่ที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กเพราะบ้านอยู่ติดกัน เป็นเหมือนน้องชายคนเล็กอีกคน พายรักและเอ็นดูมินเหมือนน้องแท้ๆ แต่แปลกที่พี่ซองกลับไม่คอยจะชอบมินตั้งแต่ไหนแต่ไร มักจะล้อมินเสมอว่าอ้วนบ้างล่ะ หมูตอนบ้างล่ะ จนน้องน้อยใจไม่ค่อยจะมาบ้านเราถ้ารู้ว่าพี่ชายตัวโตอยู่บ้าน และพยายามเลี่ยงที่จะเจอพี่ซองตลอด แม้ว่าตอนนี้มินจะไม่ได้อ้วนเหมือนในตอนเด็กก็ตาม แต่พี่ซองก็ไม่เคยที่จะเรียกน้องดีๆ ซักครั้ง
“พี่พายฮะ แป้งสาลีกับไข่ใกล้จะหมดแล้วฮะ ให้มินไปซื้อไหม”
“ ไม่ต้องๆ หมูน้อยอยู่ช่วยพี่ทำขนม แล้วจดรายการให้เปรี้ยวไปซื้อดีกว่า” เปรี้ยวคือเด็กเสริพในร้าน หรืออาจจะมากกว่านั้น ทำงานจิปาถะจนบางครั้งรู้สึกว่าใช้งานน้องเยอะไปรึเปล่า ในร้านยังมีเด็กอีกสองคน แต่เปรี้ยวจะเป็นคนที่หัวไวที่สุดทำอะไรไม่ค่อยจะพลาด พายจึงไว้ใจให้ทำงานหลายๆ อย่างแทน
“ก็ได้ฮะ แล้วบราวนี่ไปไหนล่ะฮะ” ปกติจะมาพร้อมกันแต่วันนี้มินมีธุระที่ต้องไปทำเลยออกมาก่อน
“เห็นบอกว่าหิว แวะไปซื้อขนมอะไรของเค้าไม่รู้ ข้าวก็พึ่งทานมา”
“ เป็นแบบนี้ตลอดเลย แต่ก็ไม่เห็นจะโตขึ้นซักที” คนที่โดนเพื่อนรักนินทาเข้ามาได้ยินเข้าพอดี จึงยืนแอบฟังว่าจะนินทาอะไรมากไปกว่านี้รึเปล่า แต่ก็ไม่มีการเอ่ยใดๆ ออกมานอกจากเสียงหัวเราะสนุกของทั้งสองคนที่พากันรุมว่าตนเอง
“แหมทำยังกับตัวแล้วก็ตัว ตัวสูงใหญ่กว่าเค้างั้นแหละ” พูดไปก็เอามืออีกข้างจิ้มอกพี่ชายกับเพื่อนรักไปคนละที ข้อหาหมั่นใส้ จนทำให้ทั้งสามคนหัวเราะออกมาพร้อมกัน เพราะขนาดตัวแต่ละคนก็ไม่มีใครโตไปกว่าใครนักหรอก
“แล้วได้อะไรมาเยอะแยะ เต็มไม้เต็มมือไปหมด กะจะกินวันนี้ให้อิ่มไปถึงอาทิตย์หน้าเลยรึไง” มินว่าเพื่อนอย่างล้อๆ ที่เล่นขนอะไรมาไม่รูเต็มไปหมด
“ฮึ...ว่าเค้า อุตส่าห์ซื้อมาเผื่อทุกคน งั้นหมูน้อยห้ามกินส่วนคนอื่นๆ กินได้” บราวนี่พูดเสียงดังให้ได้ยินกันทั่วร้าน ทำให้เพื่อนตัวน้อยข้างๆ ทำหน้ามู่ขึ้นทันที
“ชิส์! เค้าไม่กินก็ได้” มินงอนกลับซะเลย ทำท่าจะเดินไปทำงานต่อไม่สนใจเพื่อนที่ยืนข้างๆ อีก
“โอ๋ๆ เค้าขอโทษน๊าหมูน้อย ไม่งอลนะคร้าบบบบ ให้กินก็ได้” พูดจบก็เข้าไปหอมแก้มเพื่อนสนิทซ้ายทีขวาที ทำแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก เลยรู้สึกเป็นเรื่องปกติของตนกับเพื่อน รวมทั้งทุกคนในครอบครัว
“ไม่ต้องมาหอมเลยไอ้เพื่อนบ้า” มินแหวใส่เพื่อนรักอย่างไม่จริงจังนัก ทำให้พนักงานในร้านพากันหัวเราะอย่างถูกใจ
“เล่นกันอยู่นั่นแหละเด็กพวกนี้นิ ใกล้จะได้เวลาเปิดร้านแล้วนะ” พี่ใหญ่สุดในร้านตัดบท ทำให้แต่ละคนแยกย้ายไปทำงานของตนเอง ยกเว้นน้องชายตัวแสบที่ยังคงป้วนเปี้ยนอยู่ข้างๆ ไม่คิดจะสำนึก หรือช่วยคนอื่นเขาเลย
“พี่พายยยยค้าบบบบ” หลังจากเงียบไปซักพักเจ้าน้องชายก็ร้องเรียกเสียงดัง เดินดุ่มๆ เข้ามาหลังร้าน
“อะไรเจ้าตัวแสบ”
“บราวอยากกินบลูเบอรี่ชีสเค้กอ่ะ ตัวทำเสร็จยัง” บราวเดินเข้าไปกอดข้างหลังพี่ชาย ทำเสียงออดอ้อนอย่างเช่นทุกครั้ง
“รอแป๊บครับ พี่แต่งหน้าอยู่ใกล้จะเสร็จแล้ว”
“คนสวยใจดีที่สุดเลย อิอิ” ว่าจบก็เอาหน้าถูๆ ข้างหลังทำเสียงอ้อนยังกับลูกแมวตัวน้อยๆ
“ขี้ประจบ *////*”
“ใช่ที่ไหนเล่า ก็พี่พายทั้งสวยแล้วก็ใจดีจริงๆ นี่นา” คนนี้ชอบชมว่าพี่ชายตนเองสวยตั้งแต่ไหนแต่ไร ทั้งๆ ที่พายเป็นผู้ชาย ห้ามยังไงก็ไม่ยอมฟัง เพราะไม่อยากให้คนอื่นมองตนเองแปลกๆ จึงอนุญาติให้พูดเฉพาะภายในครอบครัว หรือคนที่สนิทจริงๆ เท่านั้น
“เข้ามาอีกแล้ว จะเอาอะไรอีกล่ะเนี่ย” มินที่พึ่งเดินเข้ามาจากการไปช่วยดูหน้าร้าน เพราะช่วงเวลาเที่ยงๆ แบบนี้ลูกค้าค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะเหล่าบรรดาสาวๆ พนักงานบริษัท ที่บางครั้งมาทานเค้กแทนมื้อเที่ยงกันเลยทีเดียว
“ลูกค้าเยอะไหมหมูน้อย” พายเอ่ยถามคนมาใหม่ที่เดินมายืนข้างๆ
“เยอะฮะ ก็เลยจะมาเรียกบราวนี่ไปช่วยนี่และฮะ”
“งั้นเหรอ เดี๋ยวพี่ทำบลูเบอรี่ชีสเค้กเสร็จแล้วจะออกไปช่วย ส่วนเราน่ะก็ไปช่วยคิดเงินได้แล้วไป”
พี่ชายคนสวยผลักบราวนี่ให้ออกไปช่วยคนอื่นๆ ที่หน้าร้าน ส่วนสาเหตุที่ให้ทำแค่นั่งโต๊ะแคชเชียร์คิดเงินน่ะเหรอ เพราะเจ้าตัวแสบมีความอดทนต่ำ โดนใครแซวหน่อยไม่ได้ โมโหเป็นฟืนเป็นไป เคยมีครั้งหนึ่งปาเค้กใส่หน้าลูกค้าผู้ชายที่ทำท่าก่อร่อก้อติกใส่ตนเอง เกือบได้ไปเคลียร์ที่โรงพักแล้วไหมล่ะ ถ้าพายไม่ออกไปเคลียร์โดยให้บัตรกำนัลเขาทานขนมหรือเครื่องดื่มที่ร้านไปฟรีๆ สองพันบาท
“เก็บไว้ให้บราวสองชิ้นนะ บราวไปหน้าร้านกอ่น” ยังไม่ลืมที่จะพูดเรื่องของกิน
*********************************************
“รับอะไรดีฮะ” เสียงมินนี่เอ่ยถามลูกค้าสาวกลุ่มหนึ่งที่มานั่งทานประจำ
“วันนี้มีเมนูอะไรพิเศษไหมคะ”
“มีบลูเบอรี่ชีสเค้ก กับลูเบอรี่ชีสพายเพิ่มมาฮะ อีกสักพักน่าจะเสร็จ” ทางร้านจะขนมและเค้กเมนูประจำที่ขายทุกวันอยู่ประมาณสิบอย่าง แต่จะมีเมนูพิเศษบ้างในบางวันที่พายและมินพอจะมีเวลาทำถ้าวันไหนลูกค้าไม่เยอะเกินไป และบริการทั้งเครื่องดื่มร้อนและเย็นต่างๆ บริการด้วย ทำให้เป็นที่ถูกอกถูกใจของเหล่าบรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ที่เข้ามาทานเป็นอย่างมาก
“อีกนานไหมคะกว่าจะเสร็จ”
“น่าจะไม่เกินห้านาทีฮะ รอได้ไหมฮะหรือจะทานเค้กชาเขียวก็อร่อยนะฮะ ทานกับชามะลิร้อนๆ น่าจะเข้ากันดี หรือกับกาแฟก็ได้” ด้วยรสชาติและอัธยาศัยที่ดีและยิ้มแย้มตลอดเวลาของพนักงานทุกคน จึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ร้านมีลูกค้าประจำเยอะพอสมควร ทั้งที่พึ่งเปิดร้านได้ไม่นาน
“งั้นเอาเค้กชาเขียวสองที่ แล้วก็บลูเบอรี่ชีสเค้กสอง บลูเบอรี่ชีสพายอีกหนึ่งค่ะ ส่วนเครื่องดื่มเอาชาร้อนสี่ที่ กับอเมริกาโน่เย็นที่หนึ่งค่ะ” กลุ่มลูกค้าสาวๆ สั่งสิ่งที่ตนเองอยากทานคนละอย่างสองอย่าง
“รอสักครู่นะฮะ”
ทุกคนในร้านกำลังง่วนอยู่กับการบริการลูกค้า เพราะเป็นช่วงทำเงิน ทั้งเปรี้ยว สอง คีย์ ก็บริการลูกค้าอย่างเต็มที่ ขณะที่พายก็ทำเมนูพิเศษเสร็จทันพอดี ก่อนที่จะมาช่วยเสริฟด้วยเช่นกัน
หลังจากล่วงเลยเวลายุ่งๆ ในช่วงเที่ยงมาแล้วทุกคนจึงได้พักทานอาหาร โดยสลลับกันอยู่หน้าร้าน อาหารเที่ยงส่วนใหญ่พายจะเป็นคนซื้อให้ทุกคน แล้วแต่ว่าใครจะทานอะไร พวกเด็กๆ ที่ร้านเลยทั้งรักและหวงพายยิ่งกว่าคนในครอบครัวซะอีก เพราะความใจดีและคอยช่วยเหลือเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าเทอมในยามที่เด็กที่ร้านเดือดร้อน พายไม่ได้ให้เลยแต่จะเป็นการยืมและหักจากเงินเดือนเดือนล่ะห้าร้อยบาท เพื่อไม่ให้เด็กๆ ในร้านเดือดร้อน หรือถ้าเดือนไหนจำเป็นต้องใช้เงินก็ให้บอก พายไม่เคยเกียงงอนที่จะช่วยเหลือเลยสักครั้ง
**********************************
“Sweet at Heart ยินดีต้อนรับครับ” บราวนี่เอ่ยทักทายลูกค้า เมื่อได้ยินเสียงกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้นโดยที่ไม่ได้เงยหน้าดูลูกค้าที่พึ่งก้าวเข้ามาในร้าน จนกระทั่งได้ยินเสียงแว้ดๆ ของหญิงสาวดังขึ้น
“โอ๊ะโอ! ช่างบังเอิญอะไรแบบนี้นะ” คำพูดและน้ำเสียงเยาะคนที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์แคชเชียร์ ทำให้บราวนี่ขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับลูกค้าสาว
“ยังมีคนกล้าจ้างแกทำงานอยูเหรอเนี่ยไอ้เด็กเหลือขอ” ร่างของหญิงสาวที่เคยปะทะคารมกันที่ห้างตรงเข้าไปหาบราวนี่อย่างจงใจแกล้ง
“ก็มีนะฮะ ไม่งั้นผมจะมายืนอยูนี่ได้ไง” ในเมื่อโดนกวนประสาท ก็ไม่จำเป็นต้องให้เกีรยติ
“แก! ไอ้เด็กเหลือขอกล้ายอกย้อนฉันเหรอ” หญิงสาวทำท่างื้อมือจะตบบราวนี่
“เกิดอะไรขึ้นบราว ทำไมมายืนเถียงกับลูกค้าแบบนี้” พายซึ่งได้ยินเสียงคนทะเลาะกันอยู่หน้าร้านจึงรีบออกมาดู กลับเจอคู่กรณีของน้องชาย คือคนๆ เดียวกับกับวันที่ไปห้างวันนั้น
“บราวนี่ใจเย็นๆ นะ” มินเอ่ยเตือนเพื่อนเพราะรู้ดีว่าเพื่อนสนิทค่อนข้างเป็นคนตรงๆ แต่ถ้าไม่มีใครมาระรานก่อนบราวนี่ก็ไม่มีทางที่จะทำแบบนี้ ยังดีที่ตอนนี้เป็นช่วงบ่ายคนยังไม่เยอะ
“ใครเป็นเจ้าของร้าน” หญิงสาวคู่กรณีเอ่ยเสียงดัง ขณะเดียวกันกับที่ประตูร้านมีคนเปิดเข้ามาพอดี
“ผมเองฮะ” พายเอ่ยขณะเหล่ตาไปมองผู้มาใหม่ คือชายคนที่เจอที่ร้านซูชิวันนั้น
“คุณไม่คิดจะตักเตือนพนักงานในร้านบ้างเลยเเหรอ ที่มายืนเถียงกับลูกค้าแบบนี้ ที่สำคัญเด็กไม่มีมารยาทไร้การศึกษาขนาดนี้ยังรับเข้าทำงานอีกเหรอ” หญิงสาวด่ารัวเป็นชุด ไม่เปิดโอกาศให้ทั้งพายและบราวนี่ได้แก้ตัวเลยแม้แต่นิดเดียว
“ขอโทษด้วยครับ ทางร้านเราจะปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่านี้” พายก้มหัวแสดงคำขอโทษกับลูกค้าสาว ซึ่งการกระทำทั้งหมดอยู่ในสายตาของชายหนุ่มที่มายืนข้างๆ หญิงสาวคนนั้น
“พี่!” บราวนี่ได้แต่เรียกพี่ชายเพราะทำอะไรไม่ได้
“ฉันว่าคุณน่ะไล่มันออกไปเลยดีกว่า ไอ้เด็กไม่มีมารยาท สงสัยพ่อแม่คงไม่มีเวลาอบรมสั่งสอน จึงกลายเป็นเด็กเหลือขอแบบนี้ เด็กไร้การศึกษา เข้าใจไหมคำว่าลูกค้าคือพระเจ้าน่ะ” คำด่าที่รุนแรงสร้างความตกใจให้กับทุกคนที่ยืนอยู่ในเหตุการณ์อย่างมาก
“คุณรตีพอได้แล้ว ผมว่าเรากลับกันเถอะครับ” ปากก็คุยกับผู้หญิงที่ชื่อรตี แต่สายตาของชายหนุ่มกลับจ้องมองพายอยู่ตลอดเวลา ‘ฮึ! นึกว่าจะยืนเป็นเสาหิน ไร้ความรู้สึก’ พายได้แต่สบถในใจ
“ยังไม่กลับค่ะ จนกว่าเจ้าของร้านจะไล่มันออก”
“ผมคงไล่ออกไม่ได้หรอกฮะ เพราะคนที่คุณยืนว่าอยู่ตอนนี้คือน้องชายของผม และพ่อแม่ที่คุณว่าไม่สั่งสอน ก็คือพ่อแม่ของผมด้วย” เป็นครั้งแรกที่พายพูดเสียยืดยาว หลังจากที่ออกมาก้มหน้าขอโทษทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรผิด
“อ๊อ! พวกเดียวกัน คิดจะรุมชั้นงั้นสิ”
“ถ้าคุณไม่พอใจบริการร้านของเรา ผมก็ต้องขอโทษด้วยครับ”
“พวกแกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร ถ้าฉันจะจัดการพวกแกง่ายยิ่งกว่าปลอกกล้วยเข้าปาก”
“ผมไมรู้หรอกว่าคุณใหญ่โตมาจากไหน แต่ที่นี่มันร้านของผม ถ้าคุณไม่พอใจก็ไปซื้อที่อื่น แต่ถ้าคุณยังอยากทานขนมร้านของเราผมก็ยินดี” พายเอ่ยอย่างไม่ใยดี ในเมื่อไม่มีมารยาทก็ไม่จำเป็นต้องสนใจ พยายามข่มอารมณ์ตัวเองให้มากที่สุด
“ร้านขนมห่วยๆ แบบนี้ฉันไม่ทานให้เสียปากหรอก มีแต่พวกชั้นต่ำเท่านั้นแหละที่จะทาน”
“อ้าวคุณ พูดอย่างนี้ได้ยังไงคะ คุณเคยทานเค้กร้านนี้บ้างรึเปล่า แล้วดิฉันก็เป็นลูกค้าประจำที่นี่ เจ้าของร้านและพนักงานทุกคนเค้าใจดี มีมารยาทนะคะ เผลอๆ จะเยอะกว่าคุณซะอีก ที่มายืนด่าฉอดๆ ตอนแรกไม่คิดว่าจะเข้ามายุ่งแล้วเชียว แต่มันชักจะเกินไป” ลูกค้าสาวท่านหนึ่งเอ่ยคำที่พนักงานทุกคนอยากจะพูด
“แล้วแกมาสอดเรื่องคนอื่นเขาทำไม”
“ตอนแรกฉันก็คิดว่าเป็นเรื่องคนอื่น แต่ตอนนี้มันคงไม่ใช่ เพราะคุณกำลังพาดพิงถึงดิฉัน” คำพูดของลูกค้าสาวสร้างความงุนงงให้กับรตีเป็นอย่างมาก
“ฉันไปว่าแกตั้งแต่เมื่อไหร่” เธอเปลี่ยนเป้าหมายหันมาวีนใส่ลูกค้าที่ร้านแทน
“ก็ที่คุณว่าลูกค้าชั้นต่ำไง จำไม่ได้เหรอ หรือว่าความจำสั้น แล้วว่าคนอื่นกรุณาสำรวจตัวเองบ้างนะคะว่าใครกันแน่ที่ชั่นต่ำ มาถึงก็ด่าคนอื่นปาวๆ ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่ได้ดีไปซะเท่าไหร่” รตีถึงกับหน้าเหวอไปชั่วขณะ แต่ก็ดึงสติกลับมาได้
“แล้วแกจะได้เห็นดีกัน ฉันจะให้คุณพ่อมาจัดการแก” ยังคงวางอำนาจไม่เลิก
“งั้นก็เชิญกลับไปฟ้องคุณพ่อของคุณได้เลยนะคะ จำชื่อดิฉันให้ขึ้นใจนะคะ ดิฉัน กีรติกุล วงษ์ประเสริฐ ถ้าคุณอยู่ในแวดวงธุรกิจคงน่าจะรู้จักอยู่บ้าง” หญิงสาวเอ่ยชื่อตนเองอย่างเต็มยศ ทำให้คนที่ได้ฟังหน้าซีดเผือด เพราะตระกูลของเธอเป็นเจ้าของบริษัทนำเข้าและส่งออกเคมีภัณฑ์รายใหญ่ที่สุดในแถบเอเชียเลยก็ว่าได้
“ฝากไว้ก่อนเถอะ” พูดจบก็เดินดุ่มๆ ออกจากร้านอย่างเสียหน้า
“ผมขอโทษแทนคุณรตีด้วยนะครับ” หลังจากที่ยืนเงียบอยู่นาน ชายหนุ่มตัวโตที่ยืนเป็นเสาหินไร้ความรู้สึกก็เอ่ยขึ้น
“คุณไม่ได้ผิดไม่ต้องขอโทษฉันหรอกค่ะ คนที่ควรจะขอโทษคือผู้หญิงที่เดินออกไปข้างนอกแล้วต่างหาก และก็ไม่ต้องขอโทษดิฉันหรอก ควรขอโทษพวกน้องๆ เขามากกว่า” หญิงสาวชี้มือมาทางพายและน้องๆ อีกสองคน
“ขอโทษอีกครั้งนะครับ” ชายหนุ่มกล่าวขอโทษอย่างรู้สึกผิดจริงๆ
“ไม่เป็นไรหรอกฮะ เรื่องมันแล้วไปแล้วก็ให้มันผ่านไป” พายเอ่ยตอบอย่างไม่ได้แสดงอารมณ์ขุ่นเคืองเลยซักนิด ทั้งๆ ที่ในใจอยากจะกระโจนไปขย่ำคุณไฮโซซะเต็มประดา
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” ชายตัวโตกล่าวแล้วหันหลังเดินออกไป
หลังจากเหตุการณ์ทุกอย่างสงบลง ทั้งพายและคนอื่นๆ ก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างโล่งอก ที่เหตุการณ์ไม่บานปลายไปมากกว่านี้
“พายขอโทษด้วยนะฮะ ที่ทำให้คุณเสียบรรยากาศเลย” หนุ่มหน้าสวยหันมาขอโทษลูกค้าสาวเจ้าประจำ
“ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ พี่ต่างหากที่ต้องขอโทษ ทำให้ทุกคนวุ่นวายเลย อิอิ” พายพอจะรู้จักว่าหญิงสาวตรงหน้าอยู่บริษัทใหญ่ๆ ที่เดินไปอีกสองช่วงตึกก็ถึง แต่ไม่คิดว่าเธอจะเป็นเจ้าของบริษัทแห่งนั้น
“พี่สาวเจ๋งที่สุดเลย ตอกยัยนั่นหน้าหงายไปเลย คึคึ” เสียงคนทะเล้น และไม่ได้สำนึกว่าความผิดส่วนหนึ่งมาจากตนเหมือนกันดังขึ้น
“บราวนี่!” พายเอ่ยปรามน้องชายที่แสนทะเล้น
“ก็มันจริงนี่นา บราวนี่ไม่ผิดซะหน่อย”
“พอเลยเราอย่างน้อยเขาก็เป็นผู้หญิง เราน่ะผู้ชาย” พายปรามน้องชายอีกครั้ง
“แต่ผู้หญิงแบบนี้ ไม่ต้องไปให้เกีรยติหรอกฮะ” มินเอ่ยเสริม จังหวะเดียวกันกับที่บราวนี่ยกมือขึ้นแท็กกันอย่างถูกใจ ที่เพื่อนรักเข้าข้าง
“พอๆ กันทั้งสองคนสินะ” คนพี่ได้แต่ส่ายหัวอย่างเอือมระอากับน้องชายทั้งคู่
“โธ่! ก็มันจริงนี่ฮะ” พูดจบก็อ้อนอย่างเอาใจ เข้าไปกอดพี่ชายคนสวย มีหรืออีกคนจะยอมก็เข้าไปกอดด้วยเหมือนกันคนละข้าง
“น่ารักกันจังนะคะ”
“ขอโทษด้วยนะฮะ เดี๋ยวเอาเค้กชิ้นใหม่ไปเสริฟให้นะฮะ กับเครื่องดื่มน่าจะละลายหมดแล้ว” พายเอ่ยอย่านึกขึ้นได้
“ไม่เป็นไรค่ะๆ”
“ไปนั่งรอเลยฮะพี่คนสวย บราวนี่จัดการให้เอง” คนตัวเล็กเอ่ยอย่างกระตือรือล้น ก่อนที่จะจูงมือหญิงสาวกลับไปนั่งโต๊ะ
“เรียกพี่กีก็ได้ค่ะ พี่คนสงคนสวยอะไรกัน เขินแย่เลย” พูดไปด้วยก็เดินกลับไปนั่งที่เดิม
“วันนี้บราวเลี้ยงพี่กีเองนะฮะ” เจ้าตัวแสบเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“ได้ยังไงล่ะคะ ของซื้อของขาย”
“ไม่เป็นไรหรอกฮะ ถือเป็นการขอบคุณที่เข้ามาช่วย” พายเอ่ยย้ำอีกครั้ง
“ได้จ๊ะ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของมิตรภาพแล้วกัน” มินยกเค้กกับเครื่องดื่มมาเสริฟให้กับหญิงสาว
“ตามสบายนะฮะ ถ้ามีอะไรอยากให้ปรับปรุงก็บอกได้” พายเอ่ยก่อนที่จะขอตัวไปทำงาน เหลือแต่เจ้าตัวแสบที่นั่งเจื้อยแจ้วอย่างถูกคอกับพี่กี และแล้ววันนี้ก็เป็นก็จบลงด้วยความวุ่นวายสิ้นดี ‘เหนื่อยจริงๆ เลยเรา’
*********************************
ดีไม่ดียังไงติชมได้นะคะ เพื่อเป็นกำลงใจให้คนเขียนได้แต่งต่อไป
ตอนนี้พึ่งเริ่มเรื่องก็ดำเนินไปเรื่อยๆ ยังไม่มีอะไรมาก เรื่องจะเริ่มเข้มข้นขึ้นนะคะ แต่เป็นเรื่องที่ไม่ดราม่านะคะ