3.
13.00 น. วันเสาร์
จากร้านกาแฟกลับถึงหอ เก็บข้าวของ เตรียมเสื้อผ้ากลับบ้านนอก
เมื่อคืนเป็นอะไรที่… ไม่รู้สิ ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มานานแล้วเหอะ อายจังถ้าจะบอกว่า นี่เป็นเดทแรก ในหลายปี (ถ้ามันจะใช่เดทอ่ะนะ)
พยายามบอกตัวเองแล้วว่า อย่าเยอะ เดี๋ยวมันก็เหมือนเดิม หมดความตื่นเต้นแล้วก็ห่างหายกันไป ไม่มีใครเขาคิดเป็นจริงเป็นจังกันหรอก นอกจากตุ๊ดหัวโปกโลกสวย และคนที่ตกหลุมรักคือคนโง่ รึเปล่า มั้ง
ตอนที่ดูหนังกันอยู่ เจ้าเหล็กดัดบอกว่าปวดท้อง ห่ะแรก คิดสะใจว่า โดนน้ำพริกหนุ่มเล่นเข้าให้แล้วไง (สม ตะกละดีนัก) พอเห็นมันไปนานมาก ก็ชักเป็นห่วง ไม่ได้เป็นห่วงมันนะ ห่วงตัวเองว่าจะโดนลอยแพ คิดในใจอยู่ว่าจะกลับยังไง และจะโทรหาใคร ยังดีที่หนังสนุก ไอ้ครั้นจะออกไปตามก็ดูจะเสียหน้าและที่สำคัญคือกลัวจะดูหนังไม่รู้เรื่อง พอมันกลับมาหลังจากหายไปนานมาก เลยโล่งใจ ไถ่ถามอาการนิดหนึ่งตามมารยาท เดี๋ยวจะหาว่าใจดำ (แต่จริงๆ ถ้าสนิทกันกว่านี้ จะด่าให้ นึกว่าทิ้งกูซะละ ไอ้เด็กเวร) เวลาใกล้สี่ทุ่มกว่า หนังจบ รีบกลับไปที่รถ ไม่ได้คุยอะไรกัน ก้นผมเพิ่งได้สัมผัสเบาะรถ มันยื่นถุงกระดาษมันวาวพะยี่ห้อซัมซุงให้
“เฮ้ย อะไรอ่ะ”
“ให้”
ผมรับมาเปิดดู เป็นอย่างที่คิดจริงๆ ด้วย
“ไม่เอาอ่ะ”
“เอาไปเหอะน่า"
“ไม่อ่ะ รู้สึกไม่ดีว่ะ มาซื้อให้ทำไม"
“รับไว้หน่อยไม่ได้เหรอครับ"
“ไม่อ่ะ มันไม่ถูกต้อง ไม่ใช่ของราคาบาทสองบาทนะ นี่มันสมาร์ทโฟน แกจะเที่ยวซื้อของแพงๆ ไล่แจกชาวบ้านที่เพิ่งรู้จักกันวันสองวัน เหมือนเป็นเสี่ยตันไม่ได้นะ แกบ้าไปแล้ว”
โอ้ย ให้ตายเหอะ มันกะจะสร้างความประทับใจด้วยวิธีนี้จริงๆ เหรอ คิดผิด คิดผิดมากๆ
“แต่ผมซื้อมาแล้วนี่”
“ก็เก็บไว้ใช้เองสิ หรือไม่ก็เอาไปคืน”
“เห็นไหมว่าผมซื้อมาสองเครื่อง แค่อยากให้เราใช้ซิมนั่นด้วยกัน"
“ถามฉันรึยังล่ะ"
เจ้าเหล็กดัดหน้าเสียไปเลย
“งั้น... ก็ไม่เป็นไรครับ"
เจ้าเหล็ดดัดสตาร์ทเครื่อง ทำหน้าเศร้า เอาตรงๆ นะ คิดบ้าอะไรของมันเนี่ย ซื้อของแพงๆ ให้ในเดตแรกนี่นะ
“ผมไปส่งที่หอนะ"
ออกถนนแล้วเหอะมันถึงถาม นี่ถ้าหอผมไปอีกทางหนึ่งล่ะ
“เอ่อ คือ ช่วยไปส่งที่แคนทีนคณะมนุษย์ได้ไหม"
มันหันมามอง ทำท่าสงสัย
“ไปทำไมครับ นี่มันดึกแล้วนะ"
“เขามีฟอร์เมน เอ่อ รับน้องผู้ชายคณะมนุษย์น่ะ"
โอ้ย นี่มันโกรธผมรึเปล่าเนี่ย แต่ผมไม่ได้ทำอะไรผิดซักหน่อย มันถูกต้องแล้วนี่นาที่จะไม่รับของแพงๆ จากคนอื่นที่ไม่สนิท ของฟรีไม่มีในโลกหรอก ผมรับของๆ มัน เท่ากับผมต้องเป็นเมียมันโดยปริยายรึเปล่า คนสติดีที่ไหนก็คิดออก
“นี่แกประสาทรึเปล่า ดื้อ เข้าใจใช่ไหม ว่าทำไมฉันถึงรับไว้ไม่ได้”
ผมตัดสินใจว่าจะพูด เพราะทนความเงียบไม่ไหวจริงๆ
“ไม่เข้าใจอ่ะ”
เฮอะ เกลียดจริงๆ พวกเด็กบ้านรวย โดนสปอยล์เนี่ย
“นายอายุเท่าไหร่”
“เกี่ยวอะไรกับอายุ”
“หาเงินเองได้รึยังล่ะ”
“จะบอกว่าผมเด็ก ยังหาเงินเองไม่ได้ใช่ไหม พี่มารู้อะไรเกี่ยวกับตัวผม”
“แล้วแกอ่ะ รู้อะไรเกี่ยวกับตัวฉัน ถึงได้เที่ยวซื้อของให้เนี่ย ถ้าเกิดฉันเป็นพวกสิบแปดมงกุฎหลอกเอาของล่ะ จะว่าไง”
…
“ผมขอโทษครับ ผมไม่ได้มีเจตนาจะทำให้พี่มิวไม่สบายใจจริงๆ นะ”
“ฉันก็ไม่ได้คิดแบบนั้น ที่แกให้อะไรใคร มันคงเพราะเป็นนิสัยของแกเองที่อยากจะให้ อยากให้คนอื่นรู้สึกดี แต่บางทีมันก็ต้องดูกาลเทศะป่ะ ดื้ออาจจะต้องคิดให้เยอะขึ้นนะ โดยเฉพาะเรื่องกาลเทศะเนี่ย”
“อย่างเช่น ไม่ควรจะซื้อมือถือให้คนที่เราชอบในเดตแรก ใช่ไหมครับ”
“อย่างเช่น ไม่ควรจะทึกทักเองว่านี่คือการเดต”
“และไม่ควรจะถือสาหาความถ้าเด็กเข้าใจอะไรผิดๆ”
มันหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ (โอ้ย ให้ตายเหอะ หล่ออ่ะ)
“และไม่ควรจะกล่าวหาคนอื่นว่าแก่”
“และไม่ควรจะพูดเองเออเอง ทั้งที่คนอื่นเค้าไม่ได้จะหมายความแบบนั้นซักหน่อย”
“ไม่ควรจะช่วยตัวเองบนเตียงของห้องพยาบาล”
“ไม่ควรจะแอบดูคนอื่นช่วยตัวเองบนเตียงของห้องพยาบาลด้วยรึเปล่า”
“ชั้นไม่ได้แอบดู แต่แกทำประเจิดประเจ้อเอง โอ้ย ชั้นไม่น่าจะพูดดีๆ กับแกเลย”
“ขอโทษครับๆ”
ปากบอกขอโทษแต่หัวเราะอย่างมีชัย ชิ
“ผมทำอะไรไม่คิดจริงๆ นั่นแหละ คิดอยากจะทำอะไรก็ทำเลย ไม่ได้คิดก่อนเลยว่า พี่มิวจะรู้สึกยังไง และดีแค่ไหน ที่พี่ยอมมาเจอผมวันนี้”
อ่ะ พูดซึ้งๆ ก็เป็นนี่นา
“ใช่ไหมล่ะ ฉันกับแกเพิ่งรู้จักกันเมื่อวานนี้เอง จะว่ารู้จักก็ไม่ใช่ ปุปปับมาซื้อของแพงๆ ให้แบบนี้ เป็นใครก็กลัวป่ะวะ”
“แล้วทำไมถึงยอมมาเจอผมวันนี้ล่ะ”
“…” จู่ๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองใจง่ายมากๆ นี่มันหลอกด่าป่ะเนี่ย “แกว่าฉันแรดเหรอ”
“เปล่า ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น ไปกันใหญ่ละ โอ้ย”
“ไม่ๆ ฉันไม่ได้โกรธ แต่ฉันกำลังใช้ความคิด เออว่ะ ถ้าพูดกันตรงๆ ฉันไม่ควรจะมาอยู่กับแกที่นี่ ตรงนี้เลย”
“ขอโทษครับ ผมทำอะไรก็ผิดไปหมด ผมจะไม่ว่าเลยนะ ถ้าพี่จะไม่อยากมาเจอผมอีก ผมนี่เก่งแต่สร้างแบด อิมเพรสชั่นจริงๆ”
“ไม่ใช่ ก็บอกแล้วไงไม่ได้โกรธ ถ้าจะโกรธนายฉันโกรธตัวเองดีกว่า ที่จริง แกก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น”
“จริงเหรอครับ ผมไม่ได้แย่จริงๆนะ”
“อือ”
“งั้น ให้ผมไปที่คณะด้วยนะ ผมจะรอไปส่งพี่ที่หอ”
นั่นไง
“ก็ แกอยู่หอสี่นี่นา กว่าจะเลิกก็เที่ยงคืนกว่าเลยนะ”
“วิดวะรับกันดึกกว่านี้อีกครับ อีกอย่าง ผมอยู่หอนอกตั้งนานแล้ว พี่ก็จะลืมอยู่เรื่อยว่าผมปีสอง”
“อ้อ”
“พี่จะไปค้างด้วยก็ได้นะ”
ฮึ่ย ไม่น่าพูดดีด้วยเลยจริงๆ
…
16.00 กลับถึงบ้าน
เย้ แม่ถูกหวยด้วย ชีจะไปกินหมูกระทะ ให้พี่ชายกะพี่สะใภ้และหลานขับรถมารับ ร่าเริงกันเหลือเกิ๊น
เหล็กดัดฯ โทรหาสามครั้งตอนนั่งรถประจำทางกลับบ้าน แต่ไม่รับ ก็ไม่ชอบคุยโทรศัพท์ในที่สาธารณะนี่นา มันเป็นการรบกวนคนอื่น โดยเฉพาะโทรศัพท์ที่ไม่ใช่ธุระปะปังใดๆ
อ่ะ นั่นไง โทรมาอีกละ
จะรับดีไหมเนี่ย คุยนานกลัวโดนถาม ทั้ง แม่ พ่อ พี่ชาย พี่สะใภ้ ยาย หลาน บลาๆ
“จะรับก็ไม่รับ กดวางอยู่นั่น เดี๋ยวเค้าก็โทรมาอีกไหม ถ้าไม่รับก็ปิดเครื่องไปเลย"
พี่ด่า ก็เลยปิดเครื่องหนีความรำคาญ
20.30 อิ่มมากกก ร้านหมูกระทะวันเสาร์ คนแน่นมาก มีคนน่ารักๆ ก็เยอะ
23.00 ละครเพิ่งจบ เตรียมตัวอาบน้ำ ตายๆ ลืมเปิดมือถือ ถึงว่าไม่มีใครโทรมาเลย
เหล็กดัด 24 มิสคอล เอิ่ม แล้วไหนจะข้อความในไลน์ และแมสเซนเจอร์ โอ่ย
*****
20.30 น. วันอาทิตย์
ร้านมาม่าฟ้าธานี สันติธรรม (อยากกินมาห้าวันแล้ว)
“อิป้านี่ยังไง เก็บค่าผักด้วย"
ไอ่แมกซ์บ่น อ่ะนะ ก็เขาเขียนว่า ผักแพงตัวเบ้อเริ่ม ตาบอดรึไงนะ อินี่
“โคตรช้าอ่ะ มันจะตั้งไฟต้มน้ำทีละหม้อเพื่อ? แล้วน้ำซุปไมไม่ตั้งไว้ให้เดือดเลยวะ"
เอ๊ะ หรือมันเมากระทิงแดงเม็ด
อ๊ะ เหล็กดัดโทรเข้า ไอ่แมกซ์มองตาขวาง อะไรองมัน อิจฉาละซี่
“พี่มิว อยู่ไหนครับ"
“มากินข้าวกับเพื่อน มีอะไรเหรอ"
“อ้าว ว่าจะชวนอยู่พอดี"
“มากินด้วยกันไหมล่ะ ร้านมาม่าฟ้าธานี สันติธรรม รู้จักป่ะ เอาไหม เดี๋ยวสั่งให้"
“อ้าวไหนบอกกินข้าว"
“จะต้องกวนประสาทให้ได้ทุกเรื่องเลยใช่ป่ะ งั้นไม่ต้องมา”
“ไปดิ ไปๆ ผมอยู่แถวกาดสวนแก้วพอดี"
“อืม แล้วจะเอาอะไรอื่เดี๋ยวสั่งให้"
"มาม่าฟ้าธานี เขาไม่ได้ขายมาม่าอย่างเดียวเหรอพี่"
ฮึ่ม !
“ล้อเล่นครับ เอามาม่าต้มยำพิเศษเพิ่มปลาหมึก หมูสับ ลูกชิ้น ไม่เผ็ด"
วางสายเจ้าเหล็กดัด แล้วก็ต้องสะดุ้งกับอิแมกซ์ที่นั่งทำตาขวาง วินาทีนั้น สัญญากับตัวเองว่าจะไม่ซื้อคอลลาเจนเม็ดที่มันขายในเฟสบุ๊คมาแดกเด็ดขาด
“ชวนใครมาอีกล่ะเนี่ย กูอุตส่าห์ทะเลาะกะกิ๊กเพื่อมาดินเนอร์กะมึงแค่สองคนนะ"
“อ่อ ที่แท้ก็ทะเลาะกับกิ๊ก นี่นึกว่าเทคยาคุมเกินขนาดซะอีก กูชวนน้องดื้อเดือนเฟรชชี่ของมึงไง เห็นว่ามึงชอบ อยากเจอไม่ใช่เหรอ"
“อ้าว จริงดิ"
เปลี่ยนอารมณ์เร็วมาก ดวกส์
“แล้ว ยังไงอ่ะ น้องเค้ามาจีบมึงเหรอ เค้ามีเบอร์มึงได้ไง"
“ก็ กูขอเค้าเองแหละ”
“แร่ด ตกลงมึงจีบเค้าใช่ไหม"
“ไม่ได้จีบ”
“งั้นมันก็มาจีบมึง แต่ก็ไม่น่าเป็นไปได้ น้องเค้าเป็นเหรอวะ”
“โอ้ย จะถามอะไรมากมายเนี่ย กูไม่รู้ เดี๋ยวเจ้าตัวเค้ามาก็ถามเค้าเองละกัน”
อิแมกซ์ยิ้มคิกคัก อารมณ์ดีขึ้นมาเชียวอีห่า ก็นะ หนุ่มลำปาง หล่อๆ ขาวๆ หุ่นดี แถมดูไม่ออกอย่างมัน ลองคิดจะจีบใครเป็นเชื่อขนมกินได้เลยว่า เสร็จทุกราย ก็ดีเหมือนกัน แม้จะรู้สึกโหวงๆ แปลกๆ แต่ถ้าเจ้าเด็กนั่นแค่คิดจะมาจีบผมเล่นๆ หรือเป็นพวกหว่านเสน่ห์ไปทั่ว ก็จะได้รู้กันเร็วๆ
ผ่านไปสิบนาที โค้กหมดไปหนึ่งขวด เหล็กดัดก็มาถึงแล้ว แต่มาม่ายังไม่ได้กิน
“นี่เพื่อนพี่ พี่แมกซ์ อยากเจอนี่นา ได้เจอกันซะทีนะ"
เหล็กดัดยกมือไหว้อย่างสุภาพ วันนี้ใส่แค่เสื้อยืดสีแดง กางเกงขาสั้นแค่เข่า รองเท้าแตะ แต่กลับหล่อโคตรๆ
“อ้าว อยากเจอพี่ก็ไม่บอก”
เหล็กดัดทำหน้างง
“ครับ”
“แกไม่ไปเตะบอลเหรอวันนี้”
ผมถาม
“ไม่ไปครับ ขี้เกียจ”
“อ้าว ปกติเตะตรงไหนอ่ะ พี่เล่นหน้ามอ"
หึ เข้าทางมึงละสิ อีตุ๊ดบ้าบอล
“สนามกลางครับพี่”
“แล้วไปไหนมาเนี่ย"
ผมถาม
“ไปส่งเพื่อนที่ถนนคนเดินครับ"
“เพื่อนเหรอ” อีแมกซ์เลี่ยมอีก “เพื่อนหรือแฟนครับ”
“เพื่อนครับ แฟนผมก็นั่งอยู่ตรงนี้ไง"
เหล็กดัดฯว่า แล้วพยักหน้ามาทางผม
เอ่อ ช่างกล้าน๊อ.......
แต่อีแมกซ์อึ้งยิ่งกว่า
*****
03.00 เฮ้ย นี่ตีสามแล้วเหรอ ทำไมมันเร็วจังอ่ะ พรุ่งนี้มีเรียนเช้าด้วย โอเค เดี๋ยวนอนแล้วก็ได้ คุยอีกแป๊บเดียว เจ้าเด็กบ้านี่
09.30 โอ้ย คิดว่าเพิ่งกดปิดนาฬิกาปลุกไปเมื่อสักสิบนาทีที่แล้ว แต่นี่มันผ่านมาชั่วโมงกว่าแล้วเหรอ โอเค นอนต่อเหอะ ไหนๆ ก็ไม่ทันคลาสตอนเช้าแล้ว เหล็กดัดบอกว่าจะโทรปลุกตอนแปดโมงเช้า แต่นี่…
13.00 ฮึ่ม ชั้นเกลียดซิมคู่ขา ตอนนี้กลายร่างเป็นแพนด้าแล้วด้วย
13.12 อ่ะ ยังมีหน้าโทรมาอีกนะ ไอ้เหล็กดัด
“พี่มิว ตื่นยังครับ"
น้ำเสียงสดใสจังนะ
"อืม"
“ยังไม่ตื่นอ่ะดิ ฮ่าๆๆ ไม่ได้ไปเรียนเลยใช่ไหมเนี่ย"
“ไม่ต้องเลย ไหนบอกว่าจะโทรมาปลุกตอนแปดโมง แล้วนอนตีสี่ ใครจะตื่นไปเรียนไหวกันละนั่น"
“อ้าวเหรอ ผมบอกอย่างงั้นเหรอ”
“เออ”
“พี่เรียนเก้าโมง ผมมีเรียนแปดโมงเช้ายังไปได้เลย แก่แล้วอ่ะดิถึงตื่นไม่ไหว"
“กวนตีน"
“ก็ถ้าตามใจผมแต่แรก ก็ไม่ต้องนอนดึกขนาดนี้หรอก อ่ะ หรือว่าที่เพลียนี่ เพราะแอบทำคนเดียวครับ โห คนอุตส่าห์ชวน เซ็งเลยอ่ะ"
“ไอ้ลามก"
“ก็ลามกกับพี่คนเดียวแหละครับ ตกลง คืนนี้… กันนะ"
“ได้ เอ๊ย ไม่ ทะลึ่ง โรคจิต"
“อ้าว ไม่เห็นเป็นไรเลย ผมแฟนพี่นะ แค่พูดถึงก็ขึ้นแล้วเนี่ย ดูดิ"
อืม ... แล้วทำไมต้องนึกภาพตามมันด้วยล่ะเนี่ย
“ถ้าจะโทรมาแค่กวนตีน จะวางละนะ จะอาบน้ำ"
“อ่ะนะ ผมไปอาบให้มะ”
“เปลี่ยนมั่งเหอะ มุกเสี่ยวๆ แบบนี้”
“อืมๆ ไม่คุยแล้วก็ได้ เดี๋ยวไปหาเลยดีกว่า เรียนเสร็จแล้วเนี่ย"
“ฉันไม่ออกไปไหนทั้งนั้นแหละ"
“ก็บอกว่าจะไปหา"
“รู้เหรอว่าหออยู่ไหน"
“รู้ดิ เมื่อคืนพี่บอกผมเอง"
“เหรอ ฉันยังไม่ได้ความจำเสื่อมขนาดนั้น”
เอ๊ะ หรือเราบอกมันไปแล้วจริงๆ
“แหม ของแค่นี้ไม่เห็นจะยากอะไร ผมถามเพื่อนพี่มาแล้วเหอะ”
“เฮ้ย อย่ามานะ ไม่ให้มา ไม่ต้องมา"
นี่ใครบอกมันวะเนี่ย อิแมกซ์ก็ไม่น่าจะใช่ เมื่อวันก่อนมันยังด่าเหล็กดัดให้ฟังอยู่เลย
“เมิงเชื่อกูดิ สูงยาวเข่าดีตี๋ล่ำซะขนาดนี้ มึงคิดเหรอว่ามันจะไม่มั่ว แค่ได้ตำแหน่งเดือนหอนี่ ไม่แน่นะ กระเทยทั้งหอสี่อาจจะได้กินมันแล้วก็ได้ จะรอดเหรอวะ ขันโตกอ่ะ มึงรู้จักป่ะ"
“อืม ก็จริงอ่ะนะ แต่ไม่รู้อ่ะ คือถ้าเป็นมึงกูจะไม่สงสัยเลยไง เรื่องแร่ดเนี่ย”
“อ้า อีห่า กูอุตส่าห์เตือนด้วยความหวังดี ไม่ใช่เพราะมันไม่สนใจกูหรอกนะ เออ ระวังเหอะ มาเร็วเคลมเร็วแบบนี้ กูเห็นมาเยอะละ ไม่เชื่อกูก็ไม่เป็นไร"
“เออๆ ขอบใจเว้ย กูรู้หรอกว่ามันไม่จริงจัง"
“เออ ดูแลตัวเองละกัน กูเป็นห่วงมึงนะ มึงเป็นเพื่อนที่กูแคร์ที่สุด มึงรู้ใช่ไหม"
“อะไรของมึงเนี่ย ซึ้งเว่อร์"
“เมิงก็ชอบมันอยู่อ่ะดิ กูว่าละ มิน่าถึงชวนมันมากินข้าวด้วย หึ"
อ่ะ น้ำเสียงแบบนั้น หมายความว่าไงวะ
โลกนี้มีสิ่งประดิษฐิ์มากมายที่สมควรได้รับความเคารพ สำนึกในบุญคุณอันคุณูปการ และหนึ่งในนั้นก็คือ แฮร์สเตรทเทนเนอร์หรือที่หนีบผม นึกไม่ออกเลยว่า ที่ผ่านมา คนเราอยู่กันมาได้อย่างไร โดยปราศจากอุปกรณ์สุดวิเศษชิ้นนี้ ไดร์เป่าผมงั้นเหรอ โอ๊ย ไม่ไหวนะ นานไป ถ้าจะทำให้ผมตรงได้ต้องพึ่งเทคนิคเยอะแยะไปหมด ขอบคุณนักประดิษฐ์ผู้ทรงปัญญาและเข้าอกเข้าใจมนุษย์ผู้มีผมหยักศก ลีบแบน ไร้น้ำหนัก ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ขอบอกว่า เรารักคุณเหลือเกิน
แต่เดี๋ยว แค่เจ้าเหล็กดัดบอกว่าจะมาหา ทำไมชั้นต้องลุกขึ้นมาหนีบผมด้วยเนี่ย
ไม่หรอก ปกติก็หนีบผมทุกวันอยู่แล้ว ไม่แปลกนะ
อืม ถ้าเกิดมันเกิดยืนยันจะขึ้นมาถึงห้องจริงๆ จะเก็บกวาดห้องทันไหมเนี่ย
เอ๊ะ แล้วทำไมต้องให้มันขึ้นมาล่ะ ออกไปข้างนอกก็ได้นี่ ลืมนึกไป
อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะ ผมว่าผมควรจะคุยกับเจ้านี่ให้เข้าใจ จะได้ไม่ต้องนอยด์ (ว่ามันมาจะมาจริงรึเปลา)
“ว่าไงครับ ที่รัก”
“เอิ่ม เอาเหอะ นี่ แกจะมาจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย”
“ทำไมอ่ะ อยากให้ผมไปจริงๆ อ่ะดิ คิดถึงผมใช่เปล่า”
“โอ้ย หลงตัวเองน๊อ ฉันจะบอกว่ากำลังจะออกไปข้างนอก แกจะได้ไม่ต้อง… ”
“ เอ่อ เดี๋ยวนะพี่มิว สายซ้อน”
อ๊ะ... ชิ
……………
1 นาทีผ่านไป อืม แล้วนี่เราถือสายรอทำไมเนี่ย
2 นาทีแล้วนะ อะไรเนี่ย หมายความว่าไงวะ
5 นาที โอเค วางเถอะ จะรอเพื่อ?
สโมฯ คณะดูเงียบผิดปกติ มอเตอร์ไซค์จอดอยู่สามสี่คัน แต่เมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆ บริเวณไม่ยักกะเห็นใคร พอดีกับที่พี่จรัล อาจารย์นักกิจกรรมที่ปรึกษาเดินออกมาพอดี ผมยกมือไหว้
“อ้าว ว่าว ซ้อมดนตรีกันเหรอวันนี้”
“เปล่าครับ พรุ่งนี้ถึงซ้อม ไม่รู้จะไปไหนอ่ะครับ นี่ ไม่มีใครอยู่เลยเหรอครับ”
“อยู่ มันเล่นบิงโกกันข้างบนโน่น ไปดิ หนุกนะ”
“แล้วพี่รัลจะไปไหนครับเนี่ย”
“ประชุม ไปก่อนนะ”
ผมยกมือไหว้ พี่รัลบีบไหล่ผมอย่างเคย เจ็บนะนี่
เดินขึ้นชั้นสอง อิแมกซ์อยู่ที่นั่นพอดี กับรุ่นพี่และรุ่นน้องสโมฯ หญิงสอง ชายสาม ตุ๊ดหนึ่ง
“มาได้ไงเนี่ย”
พี่ผู้หญิงคนหนึ่งทัก
“มาเครื่องมั้งพี่”
“เหรอ กูนึกว่าถอดจิตมาแต่วิญญาณ ทำหน้าเหมือออหรี่ร้างโคย มาหาผัวละสิ แหมห่างกันไม่ได้เลยนะ”
พี่เค้าหมายถึงอิแมกซ์ ผมนั่งลงบนเสื้อข้างๆ มันที่กำลังหัวเราะ (ชอบใจ อะไร ?)
“เล่นป่ะ แต่ต้องรอก่อนนะ รอตานี้เสร็จก่อน”
“อืม ไม่ดีกว่า ไม่ค่อยมีดวง
“ดี งั้น เดี๋ยวกุยื้มตังมึงนะ มีเหรียญป่ะ”
“มะกอกนี่”
“อะไรวะ งั้นหุ้นกันก็ได้มา”
“แหม ผัวเมียกัน ยังจะแยกกระเป๋ากันใช้อีกเหรอยะ”
พี่คนเดิมว่า โวะ เมื่อไหร่จะเลิกแซว คือไม่ชอบ
“นะที่รัก”
ไม่พูดเปล่า มันเอาหน้ามาซุกซอกคอ วงบิงโกกรี๊ดชอบใจ
“อี๊ ไปห่างๆ เลยไป”
ผมผลักหัวมันออก
คิดผิดจริงๆ เลยที่หุ้นกับมัน คนเกิดวันพฤหัสนี่นะ นอกจากจะอาภัพเรื่องความรักแล้ว เรื่องการพนันนี่ก็พอกัน เพียงแค่สองชั่วโมงของการเสี่ยงโชคผมก็หมดไปเกือบสี่สิบบาทแล้ว เห็นสมควรว่าพอเหอะเลยเดินลงมานั่งที่แคนทีนเงียบๆ เอาโทรศัพท์ขึ้นมาดู
เหล็กดัดไม่เห็นโทรมาเลย เป็นไรป่ะนะ เหอะ สายซ้อนแล้วหายไปเลย ไม่มีมารยาท
“มานั่งทำไรคนเดียวเนี่ย”
เสียงนี่มัน ... ไม่จริงอ่ะ
หันหลังไปเจอกับรอยยิ้มคอลเกตกระชากใจ พี่ต้อม เดินมานั่งๆ ข้างๆ บนเก้าอี้ยาวตัวเดียวกัน ผมยกมือขึ้นสวัสดี ใจเต้นแรง
“เอ้อ ไม่ต้องไหว้หรอก ห่างกันปีเดียวเอง ถือว่ารุ่นเดียวกันนะ แล้วมิว มานั่งทำไรคนเดียวเนี่ย ยังไม่ตอบเลย”
“อ๋อ เปล่าครับ ลงมาโทรศัพท์ พวกนั้นอยู่กันข้างบนแน่ะครับ เล่นบิงโกกันอยู่ แล้วพี่ต้อมมาทำอะไรเหรอครับ”
“อ๋อ หาที่อ่านหนังสือน่ะ แล้วพอดีนึกได้ว่าวันพุธเค้ามีซ้อมดนตรีกัน เลยมาดู มิวเป็นนักร้องใช่ป่ะ”
“โอ้ย อย่าเรียกผมมิวเลยครับ อายอ่ะ แล้วก็ไม่ได้เป็นนักร้องอะไรด้วย วงคณะมีนักร้องเป็นร้อยนะพี่ ได้ร้องโชว์สักเพลงก็เก่งแล้ว”
“ทำไมอ่ะ เห็นน้องๆ เรียกพี่มิวๆ น่ารักดีออก”
ว๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พี่ต้อมชมเราว่าน่ารักด้วย
“ฮ่าๆ ....(เขิน) พี่ต้อมนี่ขยันจังนะครับ ผมเห็นทีไรก็อ่านหนังสือ ถึงว่า ได้เอเกือบทุกวิชา”
“เออนะ ยอกันไปมา ว่าแต่ มิว ไม่ซ้อมเหรอวันนี้”
“ไม่ครับ เริ่มพรุ่งนี้ ตั้งแต่เปิดเทอม ยังไม่ได้ซ้อมจริงๆ จังๆ กันเลยครับ จะออดิชั่นน้องๆ เข้ามาด้วย พี่ต้อมมาดูดิครับ พรุ่งนี้สี่โมง”
“งั้นเหรอ”
ผมพยักหน้า แบบเดียวกับที่มาริโอ้ พยักหน้าให้กับพลอย เฌอมาลย์ ในเรื่อง รักแห่งสยาม โอ้ย เก่าไป
“แล้ว พี่ต้อมอ่านวิชาอะไรเหรอครับเนี่ย”
“อ๋อ เล่มนี้ไม่ใช่หนังสือเรียนหรอก รวมไดอะล็อคของเพลโตไง”
โหย เท่อ่ะ อ่านเอดิชั่นของ เยล ยูนิเวอร์ซิตี้ เพรส ด้วย หล่อแถมยังฉลาดอีก
“หา มิวว่าอะไรนะ”
“หา... ครับ”
“มิว ชมว่าพี่หล่อเหรอ”
อ๊ะ นี่ผมพูดออกไปเหรอ โอ้ยยยย
“เฮ้ย เขินทำไมอ่ะ พี่ดิต้องเขิน ไงก็ขอบคุณนะ ชมบ่อยๆ ก็ได้ ชอบ ฮ่าๆๆ”
พี่ต้อมยิ้มให้ระยะประชิด โอ่ย จะละลาย
“พี่ต้อม หวัดดีครับ”
อิแมกซ์ตะโกนมาจากด้านหลัง โอ้ย มาทำไมเนี่ย
“อ้าว แมกซ์ อยู่ด้วยเหรอ”
“เล่นบิงโกไหมพี่ ข้างบนแน่ะ”
“เหรอ เอาดิ ตาละกี่บาทอ่ะ”
“สองบาท นี่ผมลงมายื้มตังก์ไอ่ว่าวเนี่ย”
เหอะ ผมยิ้มให้พี่ต้อม ที่พยักหน้าชวนให้ขึ้นไป อยากขย้ำคออิแมกซ์นัก อย่าหวังเลยว่าจะได้เพิ่มอีกแม้แต่บาทเดียว
……………
ขากลับ ผมเอาอิแมกซ์ซ้อนกลับหอเพราะมันไม่ได้เอารถไปด้วย และว่าจะแวะไปหาข้าวกินกัน อิแมกซ์ทำหน้าบูด แปลกๆ จนผมแอบคิดไม่ได้ว่า มันอาจจะชอบพี่ต้อมเค้าเหมือนกัน ก็เป็นไปได้นะ ไม่งั้นเค้าจะเรียกสมบัติคณะไหม
“ขายดีเนอะ ทั้งพี่ต้อม ทั้งไอ้เด็กวิดวะ ตกลงมึงจะเอาใคร”
“เอาใครอะไรของมึง พูดไปเรื่อย”
“เออ ระวังเหอะ รถไฟชนกันเข้าสักวัน”
“อะไรของมึงเนี่ย นี่มึงอิจฉาใช่ไหม”
“เหอะ กูเนี่ยนะอิจฉามึง พูดผิดใหม่ได้นะเว้ย”
“แล้วทำไมมึงจิกกูจังวะ จิกยิ่งกว่าตุ๊ดคณะศึกษาอีกเหอะ”
มันทำหน้ามุ่ยไม่ตอบ ขี่ไปถึงหอมัน ผมก็ขี่รถกลับ มันคงชอบพี่ต้อมเข้าจริงๆ แหละ แต่แฟนมันแต่ละคนก็ไม่น้อยหน้าพี่ต้อมเลยนะ
เหอะ เรื่องของมัน คิดไปก็เท่านั้น ตอนนี้ควรจดจ่ออยู่กับการขี่รถมากกว่า เพราะปากซอยเข้าหอ วันนี้รถเยอะผิดปกติ อาจเฉี่ยวชนได้
เออ แล้วทำไมรถมันเยอะจังวะ
คนก็เยอะด้วย
ทำไมคนเยอะจังเนี่ย
รถดับเพลิงนี่ มีอะไรเหรอ ไฟไหม้?
เออ ไฟไหม้จริงๆ ด้วย เหมือนได้ยินคนพูดกันว่าไฟไหม้
เดี๋ยวก่อน ที่ไหนอ่ะ อย่าบอกนะ
อ๊ะ นั่นมัน
เฮ้ย
โอ๊ย ไม่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
