Unlucky soulmate มึงเนี่ยนะ เนื้อคู่กู?! ☼ บทที่ 20 ☼ [อัพ 1.05.60]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Unlucky soulmate มึงเนี่ยนะ เนื้อคู่กู?! ☼ บทที่ 20 ☼ [อัพ 1.05.60]  (อ่าน 21138 ครั้ง)

ออฟไลน์ Vagenlada

  • Be True to who U R
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
19


   “พอกินได้มั้ยครับ” อาหารเช้าแบบง่ายๆที่ถูกจัดแต่งอย่างสวยงามวางลงตรงหน้าผม ขัดกับเสียงของพ่อครัวรับเชิญที่ดูไม่


มั่นใจในฝีมือตัวเอง ห้องครัวขนาดเล็ก ดูเล็กไปอีกเมื่อเอาร่างสูงๆของหิรันต์ยัดเข้ามาด้วย


   “โอ๊ย หน้าตาน่ากินขนาดนี้ รสชาติคงไม่ต้องถามถึงแล้วมั้ง” ไอ้ฟานที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเริ่มป้อ แล้วม้วนเส้นสปาเกตตี้เข้า


ปาก ก่อนจะเบิกตากว้าง พยักหน้ารัวๆ แล้วส่งสายตาคะยั้นคะยอว่า มึงกินสิๆ  ผมเลยเริ่มกินบ้าง และก็พบว่ารสชาติมันดีมาก


   พอเงยหน้ามองคนทำ ก็ตลกดีเหมือนกันที่หน้ามันติดจะเป็นกังวลกับฝีมือตัวเอง แล้วยิ่งผมแกล้งมองมันนิ่งๆไม่พูดอะไร


มันก็ขยับปากไปมา อ้าๆหุบๆอย่างคนเสียกำลังใจ จนผมยิ้มกว้างแล้วบอก


   “อร่อยดี ไว้ทำให้กินอีกนะ”


   “เบื่อพวกมีแฟน” ไอ้เพื่อนตัวดีที่จัดการอาหารเช้าจนเรียบแล้ว นั่งเท้าคางมองผมด้วยสายตาทิ่มแทง แต่เรื่องอะไรกูจะ


ต้องไปนั่งเถียงด้วยให้เมื่อยปาก ผมเลยแค่ยิ้มกว้างๆอย่างเชือดเฉือน


   “เบื่อมากมึงก็รีบหาของตัวเองซะสิ แต่ตอนนี้มึงต้องทนไปก่อน เพราะกูจะอวดแฟนแบบนอนสต็อป เชิญมึงตายเพราะ


ความอิจฉาตาร้อนได้เลย”


   “ทำไมมึงแรดงี้วะ สำนึกบุญคุณกูหน่อย กูคนพาไปหาหมอดูนะเว้ย ไม่งั้นมึงไม่ได้มาอวดผัวกูแบบนี้หรอกครับเพื่อนฝูง”


   “หมอดูอะไรหรอครับ?”


   “อ๋อ คืองี้ อุ๊บส์” ก่อนปากสว่างไสวของไอ้ฟานจะทำงาน ผมก็รีบตะครุบปากมันไว้ แล้วปฏิเสธแบบเนียนๆ(คิดเองคนเดียว


ว่าเนียน)


   “ไม่มีไรหรอก  ไอ้นี่มันเพ้อเจ้อไปเรื่อย รันต์มานี่ดีกว่า” ผมดึงมือใหญ่แล้วกระตุกเบาๆ ออกแรงลากหมีตัวโตออกจากห้อง


ครัวเข้าฐานทัพตัวเอง


   “เอ่อ…” พอประตูปิด ผมก็หันซ้ายหันขวา เอาไงดีวะ ลากมันเข้ามาเพราะไม่อยากให้มันรู้ว่าไร้คู่จนต้องพึ่งไสยศาสตร์  ยิ่ง


ดวงตาคมจ้องมานิ่งๆ ผมก็ยิ่งเลิ่กลั่ก


   “กูไปอาบน้ำนะ มึงก็อยู่ในห้องก่อนก็ได้ ของหยิบใช้ได้ตามสบายเลยนะ” พูดจบผมก็ก้าวเร็วๆไปหยิบผ้าขนหนูหยิบเสื้อกับ


กางเกง แล้วเผ่นแผล็วเข้าห้องน้ำ


   “เดี๋ยว พี่!”


   ปัง!


   เซฟ!


   ผมถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วตรงเข้าไปอาบน้ำ อย่างน้อยวันนี้ก็รอดล่ะวะ

   
   กูขอถอนคำพูด…


   บรรทัดที่แล้วกูบอกว่ากูรอดใช่มั้ยน่าจะไม่แล้วล่ะ ก็แม่งเล่นดักรอหน้าห้องน้ำ แบบเปิดประตูมาปุ๊บก็เจอยักษ์ตัวโตๆยืนผ่าง


ขวางทางออก ส่งสายตาคาดคั้นแบบสุดๆมาให้


   เจอขวางแบบนี้ผมก็มองหาทางหนีทีไล่ ก่อนจะกลั้นใจพุ่งไปทางซ้าย แต่เหมือนยักษ์หน้าห้องจะรู้ดี เพราะมันขยับมาบัง


และจับหมับเข้าที่ต้นแขนกันไม่ให้หนี ผมหลับตาปี๋ตอนมันโน้มใบหน้าลงมา คิดในใจว่าแม่งจะทำอะไรกูวะ จะจูบกูอีกแล้วหรอ


แต่ก็ไม่หนี เพราะชอบ นี่ไงกูเงยหน้ารับเลยเนี่ย


   แปะ


   เพล้ง…


   ครับ หน้าผมแตก เพราะไอ้ยักษ์แม่งไม่ได้จูบ แต่หน้าแม่งเบี่ยงวิถีมาวางแหมะเข้าที่ไหล แล้วถู…


   “พี่จะไม่บอกผมหน่อยหรอครับว่าหมอดูคืออะไร” น้ำเสียงที่เอ่ยอย่างน้อยใจ แล้วหัวที่ถูไปถูมาจนผมสั้นๆของมันถูกับคอ


ผมให้จั๊กจี๋เล่น ท่าทางเหมือนกับเด็กน้อยกำลังอ้อนขออะไรสักอย่างทำให้ผมยิ้มกว้างอย่างนึกขำ แม้จะตกใจเหมือนกัน ไม่คิดว่า


ผู้ชายตัวโตๆจะทำอะไรแบบนี้ได้


   “ไม่มีอะไรหรอกมันก็พูดไปเรื่อยเปื่อย” ผมตอบแล้วยกมือกอดเอวอีกฝ่ายข้างหนึ่ง อีกข้างก็ลูบศีรษะสวยอย่างเพลินมือ


   “ไม่มีแล้วพี่หนีผมทำไมครับ”


   “ง่ะ” กูโดนเด็กดักทาง...ผมเอาหัวดันหัวมันกลับไป มันเงยหน้าขึ้นมามอง แล้วผละหันหลังให้ผม ผมยืนมองแบบงงๆ สัก


พักเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ก็ดังออกมา ใจผมนี่แล่นลงตาตุ่มเลย งื้อ บอกก็ได้อ่ะ


   “ก็แบบ…”


   “พี่ไม่ต้องพูดหรอกครับ มันก็เป็นสิทธิของพี่จะให้ผมรู้หรือไม่รู้ ผมก็แค่…”


   “แค่เสียใจเท่านั้นเอง”


   “ก็กำลังจะ” ผมเปิดปากจะอธิบาย แต่เหมือนจะไม่ทัน


   “ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ฟังแล้ว” เพราะไอ้กำแพงก็ยกมือปิดหูดื้อๆแล้วเดินไปนอนคว่ำหน้าลงบนหมอน ประมาณว่าไม่ฟังไม่


รับรู้อะไรทั้งสิ้น ผมมองแล้วก็ยิ้มอีก ผู้ชายตัวโตๆแบบมันงอนก็น่ารักดีนะ


   “รันต์ กูเล่าให้ฟังแล้ว ฟังกูก่อนเร็ว” ผมขยับไปนั่งข้างๆมันบนเตียง แต่มันกลับสะดิ้งปิดหูส่ายหน้าไปมา ประมาณว่าไม่เอา


ไม่ฟังท่าเดียว ผมเลยใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด นั่งทับแม่งเลย อีกฝ่ายคงจุกแหละ เพราะมีเสียงอั้กหลุดออกมา


   “ไม่เอาไม่ฟัง” ไอ้ตัวใหญ่ขี้น้อยใจยังคงแสดงอาการงอนไปอีกขั้นด้วยการดีดดิ้นไปมาเหมือนเด็กๆ เห็นแล้วน่าหมั่นไส้


มากกว่าน่าง้อว่ะ!


   “หิรันต์ ฟัง…”


   “ไม่ฟัง” ยังไม่ทันจะพูดจบไอ้ดื้อก็แทรกขึ้นมาก่อน แล้วไวเท่าความคิด มือผมก็ตีแปะลงไปบนแผ่นหลังแข็งๆของมัน แถม


หยิกอีกทีด้วยความหมั่นเขี้ยว อีกฝ่ายเลยตอบโต้ด้วยการตวัดสายตามองแบบขุ่นๆแต่ปากได้รูปที่เม้มแล้วคว่ำลงก็บอกได้ว่าเด็ก


ยักษ์นี่ไม่ได้โกรธ แค่น้อยใจที่ถูกตี


   “โอ๋ๆ ไม่งอนนะเด็กน้อย เดี๋ยวพี่วาปลอบนะจ๊ะ มามะ จุ๊บๆ” ผมทำปากจู๋ ก้มลงไปหามันหวังจะง้อ แต่…


   กูรู้สึกว่ากูพลาดอีกแล้วล่ะ…


   ผมถูกพลิกลงข้างล่าง แล้วร่างหนักๆก็ทิ้งตัวลงมาทับอย่างว่องไว เหมือนรอจังหวะนี้อยู่แล้ว นั่นไง ชัดเจนเลย ไอ้ดวงตาวิ


บวับแบบปิดไม่อยู่นี่ยืนยันได้อย่างดี แล้วมืออุ่นๆก็สำทับความเข้าใจของผมด้วยการล็อคแขนผมลงกับเตียง


   “กูว่ามัน…ล่อแหลมไปว่ะ เดี๋ยวกูง้อนะ แต่เอาแบบยืนง้อกันดีกว่า มาๆ” ผมขืนตัวจะลุกขึ้น แต่ไอ้คนเหิมเกริมส่ายหัวน้อยๆ


ทำปากจุ๊ๆ แบบน่าตบ แล้วโน้มหน้าลงมาใกล้ แต่ก่อนอะไรๆจะสัมผัสกัน มันก็หยุดกึก


   “หมอดูคืออะไรครับ” ผมมองหน้ามัน สายตาจริงจังก็รู้ได้ทันทีว่าคาดหวังคำตอบแบบจริงจังเช่นกัน


   “คืองี้ กูไปดูหมอมา เขาก็บอกลักษณะของเนื้อคู่กูมาแค่นั้นเอง แต่ที่ไอ้ฟานมันเอามาล้อเพราะกูเจอมึงหลังจากนั้นไม่นาน


ก็เท่านั้นเอง” ผมอธิบายออกไปแล้วมองดูปฏิกิริยาของมัน ซึ่งไม่แสดงอะไรออกมานอกจากสีหน้าเรียบเฉย



   “เรื่องมันมีแค่นี้ ทำไมพี่ต้องทำเหมือนไม่อยากให้ผมรู้ด้วยล่ะ”


   “ก็ กู…”


   “ถ้าลำบากใจก็ไม่เป็นไร คนเรามีเหตุผลของตัวเองทั้งนั้น ผมแค่ไม่ชอบที่พี่ปกปิดผมในเรื่องที่คนอื่นรู้ได้ แต่ผมรู้ไม่ได้


เพราะอะไรรู้มั้ย…” น้ำเสียงเรียบๆเย็นๆ ทำให้ผมปิดปากที่จะบอกเหตุผลของตัวเองทันที บรรยากาศแปลกๆรอบตัวที่ไอ้เด็กยักษ์


นี่สร้างขึ้นทำให้ผมขนลุกซู่


   “เพราะผมไม่ใช่คนอื่นสำหรับพี่ ไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว จำไว้ให้ดีๆ” ประโยคก่อนว่าขนลุกแล้ว ประโยคนี้ทำให้ผมขนลุกกว่า


เพราะมันมาพร้อมกับสายตาดุดันน่ากลัวราวกับจะขย้ำผมเข้าไปทั้งตัว สายตาที่ผมไม่เคยเห็น และหิรันต์ในแบบที่ผมไม่เคยรู้จัก


มาก่อนเลยสักนิด…










กราบขอโทษเเบบไม่มีข้อเเก้ตัวค่ะ TT

กลับมาคราวนี้จะพยายามไม่ดองอีกค่ะ

ที่หายไปก็ได้เเรงบันดาลใจใหม่ๆมาค่ะ จะพยายามพัฒนามากกว่านี้นะคะะะ

ฝากหนูว่าล่วยยย   :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
มาต่อแล้ววว มาเรื่อยๆนะครับ,,,,

ออฟไลน์ Vagenlada

  • Be True to who U R
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
20



   หลังจากมรสุมความรักผ่านพ้นไป การดำเนินชีวิตของผมก็เริ่มเข้ารูปเข้ารอยมากขึ้น แต่วันธรรมดาของผมก็มีอะไรพิเศษๆเพิ่มเข้ามา คือผู้ชายตัวโตที่มารอรับกลับคอนโดเกือบทุกวันหลังเลิกเรียน ไปกินข้าวกันบ้าง เดินเล่นกันบ้าง อาจจะดูธรรมดาแต่มันเป็นเรื่องที่ทำให้ผมมีความสุขในทุกวัน


   เหมือนกับวันนี้ พอขาก้าวออกจากตึกเรียนปุ๊บ ก็เจอกับมอเตอร์ไซค์คลาสสิกคุ้นตาปั๊บ เจ้าของรถก็ยืนพิงรถคันเท่ด้วยท่าทางสบายๆแต่ดูดีจนน่าหมั่นไส้(หมั่นไส้ตัวเองนี่แหละ มีแฟนหล่อ อิอิ) พอมันมองเห็นผม หมวกกันน็อคสีขาวก็ยื่นมาตรงหน้า ผมรับมาใส่และยิ้มกว้างๆให้คนมารับไปทีหนึ่ง ถือเป็นค่าตอบแทนแล้วขยับไปนั่งคร่อมมอเตอร์ไซค์อย่างคล่องเเคล่วกว่าเมื่อเดือนก่อนเยอะ


   "บางทีกูก็สงสัยนะ ว่ามึงมารับกูทุกวันได้ยังไง เวลาเราตรงกันขนาดนั้นเลยหรอ" พอรถเคลื่ิอนตัวได้สักพักผมก็เริ่มชวนคุย จริงๆแล้วก็อยากรู้ด้วยแหละเพราะอาทิตย์หนึ่งผมเรียนสี่ - ห้าวัน แต่มันก็ว่างมารับผมได้เกือบทุกวันจนน่าแปลกใจ


   "บังเอิญมั้งครับ"


   "เอาดีๆ มึงไม่ได้โดดเรียนมารับกูใช่มั้ย" พอผมทำเสียงเข้มอีกฝ่ายก็หัวเราะร่วน


   "ผมไม่โดดหรอกครับ มันคงบังเอิญจริงๆ ผมรู้ว่าวาไม่ชอบ เรื่องอะไรที่วาไม่ชอบผมไม่ทำหรอกครับ"


   "งือ" ผมตอบไปแค่นั้นเเล้วเอาหัวมุดหลังเเข็งๆของมันแก้เขิน และคิดว่ามันคงรู้เพราะผมได้ยินเสียงหัวเราะแผ่วๆ คำพูดตรงๆทื่อๆของหิรันต์แต่ทำเอาคนฟังแบบผมแทบตาย


   ผมชอบช่วงเวลาแบบนี้จัง



   "วันนี้ไปกินข้าวเย็นกับผมนะ” มันพูดขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่เราขับรถกันมาเรื่อยๆ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกเพราะมันชอบสรรหาร้านแปลกๆใหม่ๆให้ผมไปลองเสมอ และผมก็ค้นพบว่าทุกร้านที่มันพาไปทำผมติดใจทุกครั้ง


   “ไปสิ”


   “งั้นแวะไปเก็บของที่คอนโดก่อนนะ”


   “หือ เก็บทำไมอ่ะ?” พอมันบอกว่าจะไปคอนโด รถก็จอดหน้าคอนโดผมพอดี ผมก้าวลงจากรถ แล้วมองหน้ามันให้อธิบาย


   “ไปกินที่ห้องผมไงครับ แล้วก็พรุ่งนี้วันเสาร์ด้วย พี่ไม่มีเรียน เพราะงั้นคืนนี้ไปค้างห้องผมนะ” คำตอบเป็นฉากๆเหมือนคิดมาอย่างดีแล้วทำให้ผมหรี่ตามองแบบจับผิด แต่คนชวนก็ทำท่าทางไม่รู้ไม่ชี้ แล้วรุนหลังผมให้ขึ้นไปเก็บเสื้อผ้าไวๆ


   “คิดอะไรแอบแฝงป่าวเนี่ย”


   “ไม่คิดหรอกครับ อยากกินข้าวแล้วก็นอนเล่นด้วยเฉยๆ แต่ถ้าพี่คิด ผมช่วยพี่ได้นะ” น้ำเสียงเจ้าเล่ห์กับใบหน้าคมที่เลื่อนมาใกล้ ทำให้ผมผลักออกแบบหมั่นไส้ แล้วหันหลังสาวเท้าขึ้นห้องทันที น่าจะไวพอหลบไม่ให้ไอ้คนชอบแหย่ให้คิดเรื่องลึกๆเห็น ว่าตอนนี้แก้มทั้งสองข้างของผมแดงขนาดไหน



   “ไอ้ฟานวันนี้กูไม่อยู่ห้องนะ” พอจัดเสื้อผ้ากับของใช้เรียบร้อย ผมก็สาวเท้าไปทางครัว โผล่เข้าไปรายงานตัวกับคุณเพื่อนที่รักซะหน่อยมันจะได้ไม่เป็นห่วง แต่ก็รู้สึกเหมือนจะมาขัดจังหวะอะไรบางอย่างเข้า เพราะไอ้ฟานหน้าแดงแจ๋เหมือนตูดลิง แล้วสาเหตุก็ไม่ต้องสงสัยยืนยิ้มอยู่ข้างหลังมันนั่นแหละ


   “หะ มึงว่าไงนะ” ไอ้ฟานที่พึ่งหาปากตัวเองเจอเหมือนยังจับต้นชนปลายไมถูกให้ผมต้องเอ่ยย้ำอีกครั้ง


   “กูบอกว่ากูไม่อยู่นะ ไปห้องรันต์ เดี๋ยวพรุ่งนี้กลับ”


   “อะ อ๋อ เออๆ ได้ๆ ดูแลตัวเองด้วยนะมึง”


   “นี่พวกมึงกินไรกันอ่ะ” ผมถามเพราะเห็นวัตถุดิบบนโต๊ะ ก็เลยอยากรู้ว่าวันนี้ไอ้เทียร์จะทำอะไรกิน


   “เปล่า กูไม่ได้กินกัน!!” แต่คำตอบลนๆแบบร้อนตัวสุดๆก็ทำให้ผมขำก๊ากออกมา คนไม่รู้เขาจะรู้ก็ตอนมึงโวยวายเนี่ยแหละไอ้ฟาน


   “อ๋ออออ งั้น ‘กิน’ กันให้อิ่มเลยนะมึง กูกลับพรุ่งนี้ค่ำๆ” ผมทิ้งสัญญาณไว้ และโบกมือบ๊ายบายเพื่อนรักทั้งสอง ก่อนจะเผ่นแผล็วออกจากห้องมาทันที แต่ยังได้ยินเสียงโวยวายแว่วๆตามหลังมา


   “ไม่ได้!! มึงต้องกลับตอนเช้า ไอ้วา มึงได้ยินกูม้ายยยยยยยยย”


   ก็ขอให้กินกันให้อิ่มนะครับเพื่อน




   “ป่ะ ไปกัน” ผมเรียกคนที่รออยู่แล้วขยับไปนั่งพร้อมใส่หมวกเรียบร้อย สารถีประจำตัวก็ออกรถทันที จริงๆก็ไม่เคยไปห้องมันหรอกนะ ไม่รู้จะเป็นแบบไหนเหมือนกัน คงจะให้อารมณ์ดิบๆแบบผู้ชายล่ะมั้ง หรือไม่ก็เรียบๆไปเลยแบบห้องทั่วไป เพราะคงไม่มีใครคิดจะอยู่ถาวร อย่างมากก็สี่ปี แต่ส่วนใหญ่ตอนปีสี่ก็มักจะยกเลิกสัญญาแล้วกลับไปนอนบ้านเพราะฝึกงานก็ไม่ค่อยได้กลับหอแล้ว


   “ที่ห้องผมมีพวกของสดอยู่พี่อยากกินอะไรพิเศษมั้ย ผมจะได้ทำให้”


   “อืมมมม อยากกินคาโบนาร่าใส่ชีสเยอะๆ ทำเป็นป่ะ”


   “ได้ครับ”


   มันตอบมาสั้นๆแค่นั้น ก่อนจะเลี้ยวรถเข้าทางข้าวของคอนโดหรูแห่งหนึ่ง คิดว่าคงไม่ไกลจากคอนโดผมมากนัก เพราะใช้เวลาไม่นาน มันเอารถไปจอดแล้วจับมือผมไปขึ้นลิฟต์ที่บ่งบอกว่าห้องของมันอยู่ชั้น 21 รอไม่นานประตูลิฟต์ก็เปิดออก เดินไปอีกนิดก็เจอกับประตูห้อง มันแตะคีย์การ์ด แล้วเปิดประตูให้ผมเข้าไป


   ที่นี่ถูกตกแต่งไว้อย่างลงตัวแบบสไตล์โมเดิร์น เน้นสีดำ ขาว น้ำตาลเข้มตัดกันอย่างสวยงาม เปิดประตูเข้ามาก็เจอห้องรับแขก ที่ด้านหน้าติดกระจกบานยาวสูงจรดเพดานเผยให้เห็นท้องฟ้าสีส้มอมแดงและวิวยามเย็นของตึกรามบ้านช่องด้านล่าง อีกด้านหนึ่งเป็นเค้าน์เตอร์และครัวที่ถูกจัดสรรให้ใช้งานได้สะดวก และซ่อนบันไดทางขึ้นชั้นสองไว้ได้อย่างไม่ขัดตา


   ถามว่าทำไมถึงบรรยายเป็นฉากๆแบบนี้น่ะหรอ ผมโคตรชอบห้องแบบนี้เลยไงล่ะ และถ้าจำไม่ผิด ผมเคยเอารูปให้มันดู
ด้วยว่าโตขึ้นจะเก็บเงินทำงานและแต่งบ้านแบบนี้


   “รันต์ ห้องมึงสวยโคตรๆอ่ะ โคตรๆของโคตรๆ” ผมพูดแล้วยิ้มกว้างก่อนจะเริ่มเดินสำรวจเหมือนเด็กได้ของเล่นถูกใจ ผมเดินมาหยุดหน้ากระจกสูงแล้วมองลงไปข้างล่างก่อนจะยิ้มร่าออกมา เมื่อพบว่าแสงไฟของตึกรามบ้านช่องข้างล่างน่ามองเหมือนที่คิดไว้ ไม่ทันระวังตัวว่ามีใครขยับมาซ้อนข้างหลังและใช้แขนแข็งแรงรัดเอวเอาไว้


   “งั้นพี่ก็มาอยู่ด้วยกันสิครับ” พอรู้สึกตัวอีกทีผมก็ถูกพลิกกลับมาหาใบหน้าคมเข้มที่อยู่ใกล้แค่คืบ แถมตัวยังถูกกักไว้ในอ้อมแขนแข็งแรงนี่อีก ผมเม้มปากแน่นเพราะความใกล้ชิดแบบนี้ และจำได้ว่าถ้ามันเอาหน้ามาใกล้เมื่อไหร่ เตรียมตัวโดน ‘รุก’ ได้เลย


   “ไม่เอา มันห้องมึง อีกอย่างกูก็อยากอยู่กับไอ้สองคนนั้นด้วย” ผมตอบกลับไปเบาๆแบบระมัดระวัง สถานการณ์ตอนนี้อีกฝ่ายได้เปรียบสุดๆ


   “แล้วไม่อยากอยู่กับผมบ้างหรอครับ” น้ำเสียงนุ่มๆทำให้ผมเม้มปากแน่นขึ้นอีก รู้สึกว่ามันกำลังตะล่อมผมด้วยความทุกอย่างที่มันมี น้ำเสียง แววตามันชวนให้คล้อยตามขนาดหนัก แต่พอดีตบะผมแข็งแรงเลยบังคับไม่ให้เผลอใจได้


   “มันไม่สะดวกหรอก เชื่อกูสิ”


   “ไม่เอากูสิครับ พูดเพราะๆ”


   “พี่ว่ามันไม่สะดวก” ผมพูดใหม่แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่พอใจเพราะคิ้วขมวดมุ่น


   “แล้วจะให้พูดยังไง”


   “วาก็รู้ว่าผมชอบแบบไหน” คำพูดของมันทำเอาผมหน้าขึ้นสี จริงๆก็อยากพูดเพราะๆหรอกนะ แต่เริ่มมาก็มึงๆกูๆใส่แล้ว มันเลยติดเป็นนิสัย แล้วแบบที่ไอ้ยักษ์นี่ชอบก็ทำผมกระดากปากเหมือนกัน ยังไงผมก็รุ่นพี่มันอีกทั้งคำพูดแบบนี้ผมเก็บไว้ใช้กับคนในครอบครัว ไม่ค่อยได้พูดกับคนอื่นเท่าไหร่มันก็เลยยิ่งเขิน


   “วาว่าแบบนี้มันไม่สะดวกหรอก” แต่ในที่สุดผมก็พูดออกไปจนได้ และพบว่าอีกฝ่ายพอใจมากๆด้วย เพราะดวงตาคมๆนั่นพราวระยับ


   “แต่ผมแต่งห้องแบบที่วาชอบก็เพราะอยากให้วามาอยู่ด้วยกัน” พอได้สิ่งที่ต้องการ หิรันต์ก็เริ่มมีอาการที่ผมเรียกว่าการ ‘งอแง’ เด็กยักษ์นี่จะหว่านล้อมเหตุผลร้อยแปดพันเก้า แม่น้ำสิบห้าสาย สกิลอ้อนมีเท่าไหร่งัดออกมาทุกกระบวนท่า ก็สำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้างนะ แต่ส่วนใหญ่สำเร็จ…เพราะฉะนั้นผมต้องตั้งรับให้ดีขึ้น ยังไงก็ไม่ใจอ่อนเด็ดขาด


   “แต่วาหารค่าเช่าห้องกับเพื่อนวาอยู่นะถ้าย้ายออกมาเขาจะเดือดร้อน แล้วถ้ามาอยู่กับเรา วาไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าห้องใหญ่แบบนี้หรอกนะ”


   “ไม่ต้องจ่าย เพราะผมเป็นคนชวนมาอยู่ มันเหงานะครับ เราได้เจอกันแป๊ปเดียวแค่ตอนเลิกเรียน”


   “ยังไงก็ไม่ได้จริงๆ เข้าใจกันหน่อยสิ”


   “พี่ก็เข้าใจผมบ้างสิ มีแฟนก็อยากอยู่กับแฟนนี่ครับ” เห็นทีไอ้เด็กนี่จะไม่ยอมง่ายๆ ผมก็เลยต้องใช้วิธีเจอกันตรงกลางทาง


   “งั้นถ้าไม่อยู่ด้วย แต่จะมาค้างเท่าที่จะมาได้โอเคมั้ยอ่ะ”


   “…” มันเงียบแสดงว่าสนใจข้อเสนออยู่เหมือนกันแต่ยังไม่พอใจ


   “ทุกอาทิตย์เลยก็ได้ แต่ไม่รู้วันไหน”


   “…”


   “จะพูดเพราะๆแบบนี้ด้วย” ผมยื่นข้อเสนออีกแต่มันก็ยังเงียบ ได้คืบจะเอาศอกเรอะ!


   “ไม่เอาก็ไม่เอานะ งั้นก็ล้มเลิกไปให้หมดที่พูดมา”


   “เอาๆ เอาก็ได้ ยอมแล้วครับ” ริมฝีปากได้รูปหลุดยิ้มออกมา พร้อมกับวงแขนที่รัดแน่นขึ้น ผมเบ้ปากใส่มันอย่างหมั่นไส้ ไหนบอกไม่ได้คิดอะไรไง ตั้งแต่เหยียบเข้าห้องมานี่มันก็มีข้อต่อรองกับผมทันทีเลยเนี่ย


   “ผมชอบพี่มากนะครับ” จู่ๆมันก็พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ยิ่งพอมองเข้าไปในดวงตาคู่นั้นผมก็รับรู้ได้ถึงความจริงใจที่อีกฝ่ายมอบให้ มันทำให้ผมยิ้มกว้างและพยักหน้าตอบรับบอกว่าผมเองก็คิดแบบนั้นไม่ได้ต่างไปจากมันเลย และให้รางวัลคนที่ทำให้รู้สึกดีด้วยการไม่ขัดขืน ตอนความร้อนแนบประทับลงมาที่ริมฝีปาก ก่อนความชื้นจะสอดแทรกเข้ามาภายในเกี่ยวพันเหมือนจะร้อยรัดเข้าไว้ด้วยกันและไม่แยกจากกันอีก



   หนึ่งเดือนจะว่าช้ามันก็ช้า แต่ถ้ามีความสุขมันก็เร็วจริงไหม?






แปะ ป้าบบบบบบบ

หนึ่งเดือนเเล้วครับสำหรับสองคนนี้ ก็อย่างที่หนูวาบอก จะว่าเร็วมันก็เร็ว จะว่าช้ามันก็ช้า เหมือนอะไรยังไม่ได้พัฒนาเท่าไหร่ เเต่เขาก็พัฒนาในเเบบของเขาอยู่นะคะ

อยากเขียนคู่ของเทียร์กันฟานด้วยค่ะ อาจจะมีเเว้บๆมาบ้างเป็นตอนสั้นๆไม่รู้ว่าอยากอ่านกันไหมเอ่ย

ขอบคุณมากๆที่ยังเข้ามาอ่านเเละคอมเม้นท์กันนะคะ ทุกอย่างคือกำลังใจสำหรับคนเขียนจริงๆค่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่าาาา  :c4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

ออฟไลน์ Tumz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 448
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-4

ออฟไลน์ Vagenlada

  • Be True to who U R
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
21



   "กินข้าวกันครับ" เสียงนุ่มทุ้มที่ดังชิดริมหู ทำเอาผมที่กำลังสะลึมสะลือกึ่งนั่งกึ่งนอนบนโซฟาตัวนิ่มสะดุ้งโหยง หลุดจากอาการงัวเงียทันที แล้วหันไปมองคนปลุกแบบคาดโทษ แต่อีกฝ่ายไม่สะทกสะท้านแถมยังหัวเราะตบท้ายอีกด้วย


   "เสร็จแล้วหรอ?" ผมชะเง้อมองบนโต๊ะอาหาร ก็เห็นสปาเกตตี้ที่ผมอยากกินและอาหารอีกสองสามอย่างวางอยู่ พลันตวัดมามองคนทำก็นึกแปลกใจ หมอนี่ตัวเท่าหมีควายแต่ทำเรื่องละเอียดอ่อนได้หลายอย่าง ไม่สมกับขนาดตัวสักนิด


   "มองแบบนี้นินทาผมในใจอยู่ล่ะสิ"


   "เปล๊า แค่คิดว่ามึงมีอะไรน่าทึ่งเยอะดี" ผมลุกขึ้น บิดตัวไล่ความเมื่อยและตรงไปที่โต๊ะอาหาร หากแต่ยังไม่ทันก้าวก็ถูกดึงกลับมาปะทะกับแผงอกแข็งๆของคนมีอะไรน่าทึ่งก่อน


   "โอ๊ย มึงดึงทำไมเนี่ยมันเจ็บนะ อ๊ะ" กำลังบ่นอยู่ดีๆ ฟันคมก็ขบริมฝีปากผมเบาๆเหมือนเป็นการลงโทษ เพราะใบหน้าเข้มๆนั่นกำลังส่งสายตากดดันให้ผมอยู่


   พอผมทำหน้างงอีก แรงกัดก็เพิ่มขึ้นอีก จนต้องทุบเบาๆ


   "ถ้าพูดไม่เพราะจะโดนแบบนี้"


   "ฉวยโอกาส"


   "ผมเปล่า พี่สัญญาแล้วนี่ครับ แล้วก็..." มันเว้นช่วง ให้ผมจ้องเข้าไปในดวงตาคู่คมที่ส่องประกายวิบวับ


   "เมื่อกี๊ไม่เรียกฉวยโอกาสหรอกนะครับ บ้านผมเขาเรียกทำโทษ" ผมเบ้ปากใส่อย่างหมั่นไส้ ไม่เคยเจอว่าถ้าพูดไม่เพราะจะโดนแบบนี้


   “ไม่เห็นเคยได้ยิน”


   “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมค่อยๆบอกพี่ก็รู้เอง ว่าคนเป็นแฟนกันจุ๊บกันไม่ผิดหรอกครับ แล้วมากกว่านี้ก็ไม่ผิดด้วย คืนนี้ลองดูมั้ย”


   “ไอ้บ้า!” ผมแหวใส่มันเสียงดังทั้งที่หน้าร้อนไปหมดจนผมยังรู้สึกได้ เพราะดันไปคิดตามว่าไอ้ ’มากกว่านี้’ ของมันคืออะไร แล้วดันคิดออกด้วยนะ


   "ป่ะ กินข้าวกันครับ" พอเห็นว่าผมหมดทางสู้ อีกฝ่ายก็เปลี่ยนเรื่อง


   มือใหญ่กุมมือผมแล้วออกแรงดึงไปที่โต๊ะอาหาร พอเห็นอาหารหน้าตายั่วน้ำลายตรงหน้า ผมก็ลืมเรื่องก่อนหน้าไปหมดสิ้น แล้วบรรจงม้วนเส้นสปาเกตตี้เข้าปากความเหนียว นุ่ม หนึบกำลังดีกับครีมซอสมันเข้มข้น ยิ่งกลิ่นชีสที่ผมชอบหอมเตะจมูกทำให้ผมยิ้มแก้มตุ่ย สลับกับผักสลัดสดๆกรุบกรอบ ก็ทำให้ผมเจริญอาหารแบบหยุดไม่อยู่ อยู่กับมันทุกวันผมคงอ้วนตาย แต่ใครสนล่ะ ในเมื่อมันน่ากินขนาดนี้!


   แล้วเซฟที่รังสรรค์มื้อนี้ก็เอาแต่นั่งยิ้ม จ้องผมกินแบบมีความสุข แตะๆแค่สลัดนิดหน่อย ผมที่เริ่มละอายใจว่ากินอยู่คนเดียวเลยละจากจานมามองหน้าเปื้อนยิ้มของคนตรงข้าม


   "อะไอไอ้อินอ่ะ แอ้อั๊นไอ้อิ่มออก เอ้า(ทำไมไม่กินล่ะ แค่นั้นไม่อิ่มหรอก เอ้า)"  ผมพูด(?) แล้วจัดการตักสปาเกตตี้ สลัดและอื่นๆใส่จานมันแล้วเลื่อนไปไว้ตรงหน้า ใช้สายตาบังคับว่าต้องกินให้หมดนะ นั่นแหละ เจ้าของห้องเลยยกมือยอมเเพ้ แล้ว
เอาอาหารเข้าปากบ้างไม่ใช่นั่งมองอย่างเดียว


   สักพักหนึ่ง ในขณะที่มันทานอาหารที่ผมตักให้หมดแล้วมันก็ส่ายหัวแบบปลงๆ ให้ผมถามขึ้นมา


   "อ่ายอั๋วอำไอ(ส่ายหัวทำไม) "


   "สงสัยผมต้องไปทำงานพิเศษเพิ่ม" ผมเลิกคิ้วแทนคำถามว่าทำไม มันก็เก็บจาน เดินมาข้างหลังเก้าอี้ที่ผมนั่งแล้วโน้มตัวเท้าบนโต๊ะคร่อมผมไว้


   "เมียกินเก่งแบบนี้ ลำพังเงินที่มีไม่พอเลี้ยงแน่ๆ"


   “เลี้ยงตัวเองได้หรอก” ผมกลืนอาหารคำโตแล้วเชิดหน้าเถียงไม่ยอมแพ้ เรื่องอะไรจะต้องให้มันมาเลี้ยงด้วยล่ะ ผมเองก็ทำงานหาเงินได้เถอะวะ


   “ไม่เอาครับ ผมอยากเลี้ยง ถ้าพี่ไม่สบายใจก็เลี้ยงผมคืนสิครับ”


   “เอาดิ อยากกินไร พรุ่งนี้พาไปกิน แต่เอาถูกๆนะเดือนนี้ช็อต”


   “อยากกินของอร่อย แต่ไม่รู้พี่จะให้ผมกินรึเปล่า” คนที่ยังไม่รู้ตัวว่ากำลังจะตกหลุมที่ไอ้เด็กนี่ขุดไว้ก็เอ่ยต่อแบบไม่คิดอะไร


   “แพงหน่อยก็ได้ อยากกินก็กินเถอะ กูเลี้ยง” ว่าแล้วก็หันไปจัดการอาหารในจานต่อ แบบที่ไม่รู้ตัวเล๊ยว่ากำลังจะโดนน็อค


   “อยากกินนี่”


   แผล่บ


   ....พอสิ้นเสียงลิ้นอุ่นๆก็จัดการเลียลงที่หลังคอผม จนขนลุกซู่ เลือดลมสูบฉีดขึ้นไปกองรวมกันที่ใบหน้าเพราะการกระทำที่บอกชัดเจนว่ามันอยากกินอะไร แบบที่ไม่ต้องถามต่อเลยว่าทำไมมันบอกว่าผมไม่ยอมให้มันกิน อ่อยกูจังเลย ฮ่อลลลลลลลลลลลล


   พอโดนน็อคผมก็ก้มหน้าก้มตา หม่ำๆจนเรียบ แล้วพอหมด ไอ้ตัวต้นเหตุก็จัดการเอาไปล้างเองเสร็จสรรพ ไล่ผมไปอาบน้ำชั้นบนแทน


   พอชำระล้างร่างกายเรียบร้อย ผมก็เดินฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี ห้องน้ำชั้นบนก็สวยมากขอบอก ผมเลยแช่ซะเพลินจนตัวเกือบเปื่อย แต่ขาก็ต้องชะงักเมื่อกวาดสายตาเจอเจ้าของห้องในอิริยาบถสบายๆ แต่ดูดึงดูดอย่างไม่น่าเชื่อ


   ร่างสูงมีเพียงกางเกงสีเข้มตัวเดียว นอนเหยียดยาวขวางโซฟา ท่อนขาพาดกับที่วางแขนฝั่งหนึ่ง ในมือถือรีโมททีวีเปลี่ยนช่องอย่างไม่ใส่ใจเท่าไหร่นัก ท่าทางธรรมดา แต่ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังดูรูปถ่ายจากนิตยสารชั้นนำอยู่


   ผมไล่สายตาไปเรื่อยๆ ตั้งแต่บ่า ไหล่ ท่อนแขน หน้าอก หน้าท้อง กล้ามเนื้อมัดสวยเรียงตัวได้รูปแบบที่รู้ว่าไม่ได้ได้มาเพราะออกกำลังกายแบบเด็กมัธยมแน่ๆ มันได้รับการดูแลอย่างดีมากๆ โดยเฉพาะวีไลน์ที่ถูกกางเกงปกปิดอย่างหมิ่นเหม่ รอยสักรูปใบหน้ายักษ์ดุดันแต่ชวนให้น่าค้นหา ว่าข้างใต้นั้นมีอะไรซ่อนอยู่


   ผมพยายามบังคับตัวเองห้ามจิตนาการอกุศล ข้างใต้จะเป็นอะไร  กล้วยหอมคัดไซส์พิเศษ หรือไอติมแท่งโต แต่ว่าของดีแน่ๆ เพราะตอนนี้มันก็…โดดเด่นกว่าทุกส่วนบนร่างกายเเล้ว



   เวลาแค่หนึ่งเดือนไอ้วาคนนี้จ้องจะแดกแฟนตัวเองแล้วล่ะคุณผู้ชม พัฒนาการก้าวกระโดดจริงๆ


   "กูอยากกินไอติม" ผมไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป ตะครุบปิดปากก็ไม่ทัน เพราะไอ้ของหวาน เอ๊ย เจ้าของห้องหันขวับมามอง แล้วไอ้ตาวิบๆนั่น แม่งได้ยินแน่ๆ


   ไอ้วา มึงต้องดึงสายตาออกจาก ‘เป้า’ หมายเดี๋ยวนี้!


   ครับ…ไม่ทัน เพราะไอ้คนโดนลวนลามทางสายตาเลื่อนลงไปตามทิศทางการมองของผม แล้วมันก็ยิ้ม ยิ้มแบบร้ายกาจที่สุดแต่ก็มีแรงดึงดูดที่สุดเช่นกัน


   "วา"


   เวร…ใครให้มึงใช้เสียงนี้!


   “อะ อะไร…” ผมเค้นเสียงตอบมันไปเบาๆ ดวงตาหลุกหลิกหาทางหนีทีไล่ แต่เห็นทีจะไม่รอดเพราะดวงตาคู่คมนั่นกำลังทำให้ผมละสายตาไปไหนไม่ได้


   "มานี่สิ" เหมือนมนต์สะกดทำให้ร่างกายมันขยับเข้าไปหาเอง เพียงแค่อีกฝ่ายพยักหน้าทีเดียว ผมก็ไปหยุดตรงหน้ามัน


   มือใหญ่ออกแรงกระตุก ขยับนิดหน่อย ผมก็นั่งทับบนหน้าท้องแข็งๆของอีกฝ่ายเรียบร้อย แม้จะมั่นใจว่าตัวเองแมน แต่พอเจอสถานการณ์นี้เข้าไป ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นผู้หญิงที่หลงเสน่ห์ผู้ชายสักคนอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ทั้งที่หิรันต์เป็นผู้ชายเหมือน
กัน แต่เป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์มาก มากจนเกินไป


   “แบบนี้ไม่ดีเลย” ผมพึมพำเบาๆ ตอนที่ฝ่ามือร้อนเริ่มขยับไล้เรียวขาที่โผล่พ้นบ็อกเซอร์ตัวสั้น สัมผัสผิวเนียนนุ่มช้าๆ นึกโกรธตัวเองเหมือนกันที่ไม่ใส่ชุดให้มันรัดกุมกว่านี้ แต่เชื่อเถอะ จะชุดอะไร ก็ห้ามไอ้มือไวๆนี่ไม่ได้หรอก


   ความคิดกับความรู้สึกเริ่มตีกันมั่วซั่ว ไอ้อยากให้ไหมมันก็อยาก กลัวไหมมันก็กลัว แต่ความร้อนที่คนข้างใต้กำลังก่อมันขึ้นก็ทำให้ใจเอนเอียงไปมากกว่าครึ่ง แค่มองตาก็แทบจะกลายเป็นจุณแล้ว นึกทึ่งในตัวเองเหมือนกันที่รอดมาได้ตั้งเดือนหนึ่ง


   “ไม่ดียังไง” อีกฝ่ายยิ้มเมื่อเห็นแววตาสับสน มือร้อนสอดเข้าใต้เสื้อยืดตัวหลวม ลากปลายนิ้วตามแนวกระดูกสันหลังอย่างอ้อยอิ่ง อย่างรู้ดีว่าควรทำยังไงเพื่อเกลี้ยกล่อม


   “ฮื่อ ไม่ดี อันตรายเกินไป” เสียงติดจะสั่นพึมพำตอบกลับมา แล้วเริ่มขยับตัวยุกยิก ทำท่าจะหนี แต่มือใหญ่ก็บีบบังคับให้อยู่กับที่จนได้ คนตัวเล็กตวัดสายตาลงมามองเหมือนถามว่าจะเอาจริงหรอ


    คนถูกถาม ก็ตอบด้วยการจับมือเล็กส่งผ่านความอบอุ่น กดแนบริมฝีปากลงไปเพื่อแสดงการร้องขอ มองสบดวงตากลมด้วยสายตาเว้าวอน ทุกอย่างยิ่งกระตุกหัวใจให้สั่นหนักกว่าเดิม มันเต้นรัวตอกย้ำว่ายอมหมดแล้ว ทุกอย่าง ไม่ว่าอะไรเขาก็ยกให้
ผู้ชายตรงหน้านี้หมดแล้ว


   หิรันต์เข้ามาเป็นทุกอย่างของนายวาทิตย์
   


   ใบหน้าน่ารักโน้มเข้าไปชิดกับคนด้านล่าง ริมฝีปากเล็กแตะลงเบาๆที่แก้ม หน้าผาก จมูก และแนบลงที่ริมฝีปากได้รูปอย่างอ่อนโยน  ก่อนจะนิ่งค้างไว้แบบนั้น


   กิริยานุ่มนวลทำเอาคนตัวสูงแทบอดใจไม่ไหว แค่นี้เขาก็ร้อนไปหมดทั้งตัว ไม่แปลกใจว่าทำไมเขาถึงได้ชอบอีกฝ่ายตั้งแต่แรกเห็น วาไม่ได้น่ารักอย่างเดียว แต่วารู้จักที่จะรักคนอื่น และรักได้อย่างอ่อนโยนมากด้วย


   การกระทำที่ตอบแทนได้แค่บดเบียดริมฝีปากกลับไปอย่างเร่าร้อน และบอกคนตัวเล็กว่าที่ผ่านมาเขาไม่เคยเอาจริงเลย


   ปลายลิ้นอุ่นที่เกี่ยวกระหวัดกันจนร้อน พัวพันสำรวจกันจนทั่ว เสียงแลกเปลี่ยนสสารดังก้องพอๆกับเสียงหอบหายใจ ยิ่งฝ่ามือร้อนลากไล้จากเอวถึงหน้าอกขาว ที่แต่งแต้มด้วยเม็ดทับทิมสีสวย และเมื่อปลายนิ้วปัดผ่าน  เจ้าของตุ่มไตก็ผวาเฮือกกอดรอบคอหนา ความรู้สึกแล่นพล่านเข้าเต็มอก


   ดวงตาฉ่ำเยิ้มก้มลงมองสบอย่างขอร้องโดยไม่รู้ตัว ความแปลกใหม่ที่เขาไม่เคยพบอัดแน่นเหมือนไฟสุม และคนที่จะช่วยเอามันออกได้ก็มีแค่คนก่อมันขึ้นเท่านั้น


   เสื้อยืดตัวหลวมถูกดึงออกแบบที่คนด้านบนก็ให้ความร่วมมืออย่างดีเยี่ยม คนตัวเล็กกว่าถูกพลิกลงด้านล่าง ร่างกายหนาหนั่นคลุมทับบังแสงไฟสลัวด้านบนจนเห็นแค่เสี้ยวหน้ารางๆ ใบหน้าหล่อเหลาที่ปกติก็ดูน่ากลัวแล้ว ยิ่งน่ากลัวขึ้นไปอีก มุมปากได้รูปยกขึ้นนิดอย่างพอใจตอนที่ดวงตาคมกวาดมองไปทั่วร่างขาว  มันให้ความรู้สึกเหมือนกำลังจะถูกกิน


   กินจริงๆ กินอย่างตะกละตะกลามมากด้วย







ป้าบบบบบบบบบบบบบ

มาเเล้วค่าาาาาาาา

เเอบเขินเบาๆ  :hao3: :hao3: :hao3:

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะค้าาาาาา

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
 :o8: :o8: :o8: :o8: วาจะได้กินไอติมละ 55555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
จะได้กินรึป่าวนะ ไอติม,,,

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ Yysll

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ตัดจบแบบนี้ไม่ดีนะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
โธ่......ค้างซะและ  :z3: :z3: :z3:
รอ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
 :katai1:เอ้าคัางๆ

ออฟไลน์ lovejinjunno

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
แหม่ อ่านมาถึงตอนปัจจุบันก็ทำเอาค้างซะขนาดนี้!!!!

ไม่อยากจะพูดว่านี่! ทีมน้องกำแพงตั้งแต่เจอครั้งแรกเลย เชียร์มาตลอด 5555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด