21
"กินข้าวกันครับ" เสียงนุ่มทุ้มที่ดังชิดริมหู ทำเอาผมที่กำลังสะลึมสะลือกึ่งนั่งกึ่งนอนบนโซฟาตัวนิ่มสะดุ้งโหยง หลุดจากอาการงัวเงียทันที แล้วหันไปมองคนปลุกแบบคาดโทษ แต่อีกฝ่ายไม่สะทกสะท้านแถมยังหัวเราะตบท้ายอีกด้วย
"เสร็จแล้วหรอ?" ผมชะเง้อมองบนโต๊ะอาหาร ก็เห็นสปาเกตตี้ที่ผมอยากกินและอาหารอีกสองสามอย่างวางอยู่ พลันตวัดมามองคนทำก็นึกแปลกใจ หมอนี่ตัวเท่าหมีควายแต่ทำเรื่องละเอียดอ่อนได้หลายอย่าง ไม่สมกับขนาดตัวสักนิด
"มองแบบนี้นินทาผมในใจอยู่ล่ะสิ"
"เปล๊า แค่คิดว่ามึงมีอะไรน่าทึ่งเยอะดี" ผมลุกขึ้น บิดตัวไล่ความเมื่อยและตรงไปที่โต๊ะอาหาร หากแต่ยังไม่ทันก้าวก็ถูกดึงกลับมาปะทะกับแผงอกแข็งๆของคนมีอะไรน่าทึ่งก่อน
"โอ๊ย มึงดึงทำไมเนี่ยมันเจ็บนะ อ๊ะ" กำลังบ่นอยู่ดีๆ ฟันคมก็ขบริมฝีปากผมเบาๆเหมือนเป็นการลงโทษ เพราะใบหน้าเข้มๆนั่นกำลังส่งสายตากดดันให้ผมอยู่
พอผมทำหน้างงอีก แรงกัดก็เพิ่มขึ้นอีก จนต้องทุบเบาๆ
"ถ้าพูดไม่เพราะจะโดนแบบนี้"
"ฉวยโอกาส"
"ผมเปล่า พี่สัญญาแล้วนี่ครับ แล้วก็..." มันเว้นช่วง ให้ผมจ้องเข้าไปในดวงตาคู่คมที่ส่องประกายวิบวับ
"เมื่อกี๊ไม่เรียกฉวยโอกาสหรอกนะครับ บ้านผมเขาเรียกทำโทษ" ผมเบ้ปากใส่อย่างหมั่นไส้ ไม่เคยเจอว่าถ้าพูดไม่เพราะจะโดนแบบนี้
“ไม่เห็นเคยได้ยิน”
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมค่อยๆบอกพี่ก็รู้เอง ว่าคนเป็นแฟนกันจุ๊บกันไม่ผิดหรอกครับ แล้วมากกว่านี้ก็ไม่ผิดด้วย คืนนี้ลองดูมั้ย”
“ไอ้บ้า!” ผมแหวใส่มันเสียงดังทั้งที่หน้าร้อนไปหมดจนผมยังรู้สึกได้ เพราะดันไปคิดตามว่าไอ้ ’มากกว่านี้’ ของมันคืออะไร แล้วดันคิดออกด้วยนะ
"ป่ะ กินข้าวกันครับ" พอเห็นว่าผมหมดทางสู้ อีกฝ่ายก็เปลี่ยนเรื่อง
มือใหญ่กุมมือผมแล้วออกแรงดึงไปที่โต๊ะอาหาร พอเห็นอาหารหน้าตายั่วน้ำลายตรงหน้า ผมก็ลืมเรื่องก่อนหน้าไปหมดสิ้น แล้วบรรจงม้วนเส้นสปาเกตตี้เข้าปากความเหนียว นุ่ม หนึบกำลังดีกับครีมซอสมันเข้มข้น ยิ่งกลิ่นชีสที่ผมชอบหอมเตะจมูกทำให้ผมยิ้มแก้มตุ่ย สลับกับผักสลัดสดๆกรุบกรอบ ก็ทำให้ผมเจริญอาหารแบบหยุดไม่อยู่ อยู่กับมันทุกวันผมคงอ้วนตาย แต่ใครสนล่ะ ในเมื่อมันน่ากินขนาดนี้!
แล้วเซฟที่รังสรรค์มื้อนี้ก็เอาแต่นั่งยิ้ม จ้องผมกินแบบมีความสุข แตะๆแค่สลัดนิดหน่อย ผมที่เริ่มละอายใจว่ากินอยู่คนเดียวเลยละจากจานมามองหน้าเปื้อนยิ้มของคนตรงข้าม
"อะไอไอ้อินอ่ะ แอ้อั๊นไอ้อิ่มออก เอ้า(ทำไมไม่กินล่ะ แค่นั้นไม่อิ่มหรอก เอ้า)" ผมพูด(?) แล้วจัดการตักสปาเกตตี้ สลัดและอื่นๆใส่จานมันแล้วเลื่อนไปไว้ตรงหน้า ใช้สายตาบังคับว่าต้องกินให้หมดนะ นั่นแหละ เจ้าของห้องเลยยกมือยอมเเพ้ แล้ว
เอาอาหารเข้าปากบ้างไม่ใช่นั่งมองอย่างเดียว
สักพักหนึ่ง ในขณะที่มันทานอาหารที่ผมตักให้หมดแล้วมันก็ส่ายหัวแบบปลงๆ ให้ผมถามขึ้นมา
"อ่ายอั๋วอำไอ(ส่ายหัวทำไม) "
"สงสัยผมต้องไปทำงานพิเศษเพิ่ม" ผมเลิกคิ้วแทนคำถามว่าทำไม มันก็เก็บจาน เดินมาข้างหลังเก้าอี้ที่ผมนั่งแล้วโน้มตัวเท้าบนโต๊ะคร่อมผมไว้
"เมียกินเก่งแบบนี้ ลำพังเงินที่มีไม่พอเลี้ยงแน่ๆ"
“เลี้ยงตัวเองได้หรอก” ผมกลืนอาหารคำโตแล้วเชิดหน้าเถียงไม่ยอมแพ้ เรื่องอะไรจะต้องให้มันมาเลี้ยงด้วยล่ะ ผมเองก็ทำงานหาเงินได้เถอะวะ
“ไม่เอาครับ ผมอยากเลี้ยง ถ้าพี่ไม่สบายใจก็เลี้ยงผมคืนสิครับ”
“เอาดิ อยากกินไร พรุ่งนี้พาไปกิน แต่เอาถูกๆนะเดือนนี้ช็อต”
“อยากกินของอร่อย แต่ไม่รู้พี่จะให้ผมกินรึเปล่า” คนที่ยังไม่รู้ตัวว่ากำลังจะตกหลุมที่ไอ้เด็กนี่ขุดไว้ก็เอ่ยต่อแบบไม่คิดอะไร
“แพงหน่อยก็ได้ อยากกินก็กินเถอะ กูเลี้ยง” ว่าแล้วก็หันไปจัดการอาหารในจานต่อ แบบที่ไม่รู้ตัวเล๊ยว่ากำลังจะโดนน็อค
“อยากกินนี่”
แผล่บ
....พอสิ้นเสียงลิ้นอุ่นๆก็จัดการเลียลงที่หลังคอผม จนขนลุกซู่ เลือดลมสูบฉีดขึ้นไปกองรวมกันที่ใบหน้าเพราะการกระทำที่บอกชัดเจนว่ามันอยากกินอะไร แบบที่ไม่ต้องถามต่อเลยว่าทำไมมันบอกว่าผมไม่ยอมให้มันกิน อ่อยกูจังเลย ฮ่อลลลลลลลลลลลล
พอโดนน็อคผมก็ก้มหน้าก้มตา หม่ำๆจนเรียบ แล้วพอหมด ไอ้ตัวต้นเหตุก็จัดการเอาไปล้างเองเสร็จสรรพ ไล่ผมไปอาบน้ำชั้นบนแทน
พอชำระล้างร่างกายเรียบร้อย ผมก็เดินฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี ห้องน้ำชั้นบนก็สวยมากขอบอก ผมเลยแช่ซะเพลินจนตัวเกือบเปื่อย แต่ขาก็ต้องชะงักเมื่อกวาดสายตาเจอเจ้าของห้องในอิริยาบถสบายๆ แต่ดูดึงดูดอย่างไม่น่าเชื่อ
ร่างสูงมีเพียงกางเกงสีเข้มตัวเดียว นอนเหยียดยาวขวางโซฟา ท่อนขาพาดกับที่วางแขนฝั่งหนึ่ง ในมือถือรีโมททีวีเปลี่ยนช่องอย่างไม่ใส่ใจเท่าไหร่นัก ท่าทางธรรมดา แต่ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังดูรูปถ่ายจากนิตยสารชั้นนำอยู่
ผมไล่สายตาไปเรื่อยๆ ตั้งแต่บ่า ไหล่ ท่อนแขน หน้าอก หน้าท้อง กล้ามเนื้อมัดสวยเรียงตัวได้รูปแบบที่รู้ว่าไม่ได้ได้มาเพราะออกกำลังกายแบบเด็กมัธยมแน่ๆ มันได้รับการดูแลอย่างดีมากๆ โดยเฉพาะวีไลน์ที่ถูกกางเกงปกปิดอย่างหมิ่นเหม่ รอยสักรูปใบหน้ายักษ์ดุดันแต่ชวนให้น่าค้นหา ว่าข้างใต้นั้นมีอะไรซ่อนอยู่
ผมพยายามบังคับตัวเองห้ามจิตนาการอกุศล ข้างใต้จะเป็นอะไร กล้วยหอมคัดไซส์พิเศษ หรือไอติมแท่งโต แต่ว่าของดีแน่ๆ เพราะตอนนี้มันก็…โดดเด่นกว่าทุกส่วนบนร่างกายเเล้ว
เวลาแค่หนึ่งเดือนไอ้วาคนนี้จ้องจะแดกแฟนตัวเองแล้วล่ะคุณผู้ชม พัฒนาการก้าวกระโดดจริงๆ
"กูอยากกินไอติม" ผมไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป ตะครุบปิดปากก็ไม่ทัน เพราะไอ้ของหวาน เอ๊ย เจ้าของห้องหันขวับมามอง แล้วไอ้ตาวิบๆนั่น แม่งได้ยินแน่ๆ
ไอ้วา มึงต้องดึงสายตาออกจาก ‘เป้า’ หมายเดี๋ยวนี้!
ครับ…ไม่ทัน เพราะไอ้คนโดนลวนลามทางสายตาเลื่อนลงไปตามทิศทางการมองของผม แล้วมันก็ยิ้ม ยิ้มแบบร้ายกาจที่สุดแต่ก็มีแรงดึงดูดที่สุดเช่นกัน
"วา"
เวร…ใครให้มึงใช้เสียงนี้!
“อะ อะไร…” ผมเค้นเสียงตอบมันไปเบาๆ ดวงตาหลุกหลิกหาทางหนีทีไล่ แต่เห็นทีจะไม่รอดเพราะดวงตาคู่คมนั่นกำลังทำให้ผมละสายตาไปไหนไม่ได้
"มานี่สิ" เหมือนมนต์สะกดทำให้ร่างกายมันขยับเข้าไปหาเอง เพียงแค่อีกฝ่ายพยักหน้าทีเดียว ผมก็ไปหยุดตรงหน้ามัน
มือใหญ่ออกแรงกระตุก ขยับนิดหน่อย ผมก็นั่งทับบนหน้าท้องแข็งๆของอีกฝ่ายเรียบร้อย แม้จะมั่นใจว่าตัวเองแมน แต่พอเจอสถานการณ์นี้เข้าไป ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นผู้หญิงที่หลงเสน่ห์ผู้ชายสักคนอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ทั้งที่หิรันต์เป็นผู้ชายเหมือน
กัน แต่เป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์มาก มากจนเกินไป
“แบบนี้ไม่ดีเลย” ผมพึมพำเบาๆ ตอนที่ฝ่ามือร้อนเริ่มขยับไล้เรียวขาที่โผล่พ้นบ็อกเซอร์ตัวสั้น สัมผัสผิวเนียนนุ่มช้าๆ นึกโกรธตัวเองเหมือนกันที่ไม่ใส่ชุดให้มันรัดกุมกว่านี้ แต่เชื่อเถอะ จะชุดอะไร ก็ห้ามไอ้มือไวๆนี่ไม่ได้หรอก
ความคิดกับความรู้สึกเริ่มตีกันมั่วซั่ว ไอ้อยากให้ไหมมันก็อยาก กลัวไหมมันก็กลัว แต่ความร้อนที่คนข้างใต้กำลังก่อมันขึ้นก็ทำให้ใจเอนเอียงไปมากกว่าครึ่ง แค่มองตาก็แทบจะกลายเป็นจุณแล้ว นึกทึ่งในตัวเองเหมือนกันที่รอดมาได้ตั้งเดือนหนึ่ง
“ไม่ดียังไง” อีกฝ่ายยิ้มเมื่อเห็นแววตาสับสน มือร้อนสอดเข้าใต้เสื้อยืดตัวหลวม ลากปลายนิ้วตามแนวกระดูกสันหลังอย่างอ้อยอิ่ง อย่างรู้ดีว่าควรทำยังไงเพื่อเกลี้ยกล่อม
“ฮื่อ ไม่ดี อันตรายเกินไป” เสียงติดจะสั่นพึมพำตอบกลับมา แล้วเริ่มขยับตัวยุกยิก ทำท่าจะหนี แต่มือใหญ่ก็บีบบังคับให้อยู่กับที่จนได้ คนตัวเล็กตวัดสายตาลงมามองเหมือนถามว่าจะเอาจริงหรอ
คนถูกถาม ก็ตอบด้วยการจับมือเล็กส่งผ่านความอบอุ่น กดแนบริมฝีปากลงไปเพื่อแสดงการร้องขอ มองสบดวงตากลมด้วยสายตาเว้าวอน ทุกอย่างยิ่งกระตุกหัวใจให้สั่นหนักกว่าเดิม มันเต้นรัวตอกย้ำว่ายอมหมดแล้ว ทุกอย่าง ไม่ว่าอะไรเขาก็ยกให้
ผู้ชายตรงหน้านี้หมดแล้ว
หิรันต์เข้ามาเป็นทุกอย่างของนายวาทิตย์
ใบหน้าน่ารักโน้มเข้าไปชิดกับคนด้านล่าง ริมฝีปากเล็กแตะลงเบาๆที่แก้ม หน้าผาก จมูก และแนบลงที่ริมฝีปากได้รูปอย่างอ่อนโยน ก่อนจะนิ่งค้างไว้แบบนั้น
กิริยานุ่มนวลทำเอาคนตัวสูงแทบอดใจไม่ไหว แค่นี้เขาก็ร้อนไปหมดทั้งตัว ไม่แปลกใจว่าทำไมเขาถึงได้ชอบอีกฝ่ายตั้งแต่แรกเห็น วาไม่ได้น่ารักอย่างเดียว แต่วารู้จักที่จะรักคนอื่น และรักได้อย่างอ่อนโยนมากด้วย
การกระทำที่ตอบแทนได้แค่บดเบียดริมฝีปากกลับไปอย่างเร่าร้อน และบอกคนตัวเล็กว่าที่ผ่านมาเขาไม่เคยเอาจริงเลย
ปลายลิ้นอุ่นที่เกี่ยวกระหวัดกันจนร้อน พัวพันสำรวจกันจนทั่ว เสียงแลกเปลี่ยนสสารดังก้องพอๆกับเสียงหอบหายใจ ยิ่งฝ่ามือร้อนลากไล้จากเอวถึงหน้าอกขาว ที่แต่งแต้มด้วยเม็ดทับทิมสีสวย และเมื่อปลายนิ้วปัดผ่าน เจ้าของตุ่มไตก็ผวาเฮือกกอดรอบคอหนา ความรู้สึกแล่นพล่านเข้าเต็มอก
ดวงตาฉ่ำเยิ้มก้มลงมองสบอย่างขอร้องโดยไม่รู้ตัว ความแปลกใหม่ที่เขาไม่เคยพบอัดแน่นเหมือนไฟสุม และคนที่จะช่วยเอามันออกได้ก็มีแค่คนก่อมันขึ้นเท่านั้น
เสื้อยืดตัวหลวมถูกดึงออกแบบที่คนด้านบนก็ให้ความร่วมมืออย่างดีเยี่ยม คนตัวเล็กกว่าถูกพลิกลงด้านล่าง ร่างกายหนาหนั่นคลุมทับบังแสงไฟสลัวด้านบนจนเห็นแค่เสี้ยวหน้ารางๆ ใบหน้าหล่อเหลาที่ปกติก็ดูน่ากลัวแล้ว ยิ่งน่ากลัวขึ้นไปอีก มุมปากได้รูปยกขึ้นนิดอย่างพอใจตอนที่ดวงตาคมกวาดมองไปทั่วร่างขาว มันให้ความรู้สึกเหมือนกำลังจะถูกกิน
กินจริงๆ กินอย่างตะกละตะกลามมากด้วย
ป้าบบบบบบบบบบบบบ
มาเเล้วค่าาาาาาาา
เเอบเขินเบาๆ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะค้าาาาาา