➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 36 เอ๋?] 13/8/60 P.14
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 36 เอ๋?] 13/8/60 P.14  (อ่าน 70563 ครั้ง)

ออฟไลน์ Tennyo_Y

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
มีหนึ่งคำถาม ทำไมคนรอบข้างชอบเสือกกับเรื่องเรา ส่วนพี่ฟ้า เท เขาลองใจนะ แต่บอกล่วงหน้าบอกหมด แล้วไม่ทำเกินเลย แต่พี่เท มันเกินไปอะ แลดูเป็นโรคไรหรือเปล่า แค่นี้ แมีตกับนาวก็นะ แล้ว สงสารแม๊ต รู้จักพี่เทกับฟ้า

ออฟไลน์ Legpptk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ Brosohub

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0

- บทที่ 32 - สองต่อสอง -







“แม็ตมึงมีแฟนแล้ว!”


“ครับ” เรื่องนั่นผมต้องรู้อยู่แล้ว


“แล้วมึงจูบคนอื่นต่อหน้าแฟนตัวเอง”


มือนึงพี่ชนะยังจับเสื้อผมไว้ อีกมือชี้หน้าตามจังหวะที่พูดออกเสียง อาการกัดฟันกับน้ำเสียงทำให้ผมค่อนข้างประหม่า แต่ก็พยายามจะแก้ตัวเพราะดูเหมือนสิ่งที่เขากำลังเข้าใจมันไม่ใช่เลย


“ผมไม่...”


“พี่ชนะๆ เดี๋ยวพี่ มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด” พี่เทเข้ามาแทรกกลางแล้วพยายามดันพี่ชนะให้ห่างจากผม แต่แน่นอน พี่ชนะที่ตัวหนากว่า ดุดันกว่าย่อมต้านแรงผลักไว้ง่ายๆ


“ผิดไม่ผิดมันก็จูบมึง” มันที่แปลว่าผม มึงคือพี่เทใช่ไหมครับ


ผมอยากจะร้องให้ ถ้าไม่ติดว่าผมต้องประคองสติปกป้องชีวิตตัวเองนะ


แล้วทำไมกลายเป็นผมจูบพี่เทไปได้ล่ะ


“ผมเป็นฝ่ายเริ่มก่อนต่างหาก ไม่ใช่ความผิดมันเลย มันไม่รู้เรื่อง” พี่เทพูดทั้งหมดออกมาด้วยตัวเอง นั่นทำให้ผมเบาใจไปวูบหนึ่ง แต่ก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ ว่าพูดแค่นั้นมันไม่ได้ทำให้ผมปลอดภัยขึ้น หรือแก้ปัญหาได้ เพราะยังไงผมก็ไม่ควรจะต้องมาอยู่ในสภานะการณ์แบบนี้ซะหน่อย


“ได้ไง ก็เห็นๆ อยู่วะ”


“เฮ้ยชนะ มึงใจเย็นดิว่ะ” รุ่นพี่ที่ผมไม่คุ้นหน้าสี่ห้าคนเดินมาแยกพี่ชนะออกไป “เรื่องของเด็กๆ มันน่า ปล่อยมันไปเถอะ มึงอย่าใส่อารมณ์ดิ” รุ่นพี่ที่น่าจะเป็นเพื่อนๆของพี่ชนะ ตามมาทันและห้าม


“ไม่โมโหได้ไง แฟนมันน้องกูนะเว้ย”


“น้องมึง ใคร เทเหรอ” พี่คนนึงมองสลับระหว่างพี่ชนะกับพี่เท คำว่าน้องกู ตรงนี้มันไม่น่าจะเป็นคนอื่นไปได้เลย


“ไม่ใช่เท เชี่ยแม่ง มึงทำแบบนี้กับคนอื่น ไม่คิดถึงใจเขารึไง”  พี่ชนะถูกลากไกลออกไป ผมถอนหายใจและยังงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด “กูจะเอาน้องกูคืน คอยดูนะ เฮ้ย ไอ้สัส ปล่อยยย”





ผมยืนอยู่กับที่ ละสายตาจากพี่ชนะแล้วทำความเข้าใจกับสถานการณ์ แต่ตอนที่หันกลับมาจะถามทุกอย่างจากคนต้นเรื่อง พี่ฟ้าก็ยืนอยู่ตรงหน้าผมแล้ว


“กุญแจ” แล้วเรื่องที่ผมต้องห่วงที่สุดก็ตามพี่ฟ้ามาด้วย ทำให้ผมไม่สนใจพี่เทอีก ยอมส่งกุญแจให้พี่ฟ้าทันที


“ครับ”


พี่ฟ้าเดินออกไป เขาหยุดเดิน กระซิบข้างพี่เทครู่หนึ่ง แล้วออกเดินนำกลับไปทางห้องพัก




“เกิดอะไรขึ้น?” มะนาวถามผมเบาๆ “ทำไมทุกคนพูดว่า จูบ”


มะนาวหน้าเสีย ท่าทางลำบากใจตอนที่พูดทำให้ผมยิ่งอยากอธิบายเร็วๆ


“มะนาว ใจเย็นๆนะ”


“กูกำลังใจเย็นอยู่ แต่กูไม่เข้าใจ” สีหน้ามะนาวไม่ดีเลย เขาแทบจะร้องให้อยู่แล้ว


นี่ขนาดไม่เห็นกับตา


“พี่เทเขาแค่ประชดแฟน เขาอยากทำให้แฟนหึง กูแค่ซวยบังเอิญอยู่ตรงนั้น”


มะนาวเม้มปาก เขาพยักหน้าก็จริง แต่เขายังหลบตา


“มากับกู”


ผมคิดว่า คนที่จะอธิบายเรื่องนี้ได้ดีที่สุด ก็ตัวต้นเหตุนั่นแหละ





ผมจูงมือมะนาวมายืนอยู่หน้าห้องพักของเราสี่คน เสียงจอแจของบรรยากาศริมหาดหายไป ดังนั้นเสียงโต้เถียงกันในห้องจึงชัดจนฟังออกทุกคำ




“เท มึงทำอะไรลงไป รู้ตัวไหมเนี่ย”


“ทำอะไร?”


“มึงจูบแม็ตทำไมวะ? บอกเลยนะ ถ้ามึงเลือกแม็ตกะมาทำให้กูหึง มันไม่ได้ผล คนเป็นร้อย มึงเลือกมัน เหอะ”


“พูดอะไรของมึง กูไม่ได้จะทำให้มึง อื้มมม เฮ้ย เจ็บนะเว้ย”


“มึงต้องล้างปาก”


“เรื่องอะไรของมึง ถ้ามันไม่ได้ทำให้มึงเดือดร้อน มึงจะทำงี่เง่าแบบนี้ทำไม?”


“หึหึ”


“หัวเราะเหี้ยไร แม่ง”




สถานการณ์ในห้องดูท่าค่อนข้างจะรุนแรง มีตั้งเตียงตึงตังเหมือนอะไรกระแทกพื้นแรงๆ กับเตียงตุ้บตั้บ จะเตะหรือตีผมไม่แน่ใจ แต่เสียงที่ขาดไปกลางประโยคคงเพราะคนพูดโดนปิดปากแน่ๆ


ที่แน่ๆ มะนาวต้องจำเสียงพี่ฟ้ากับพี่เทพี่มันได้ มันได้ยินทั้งหมดก็หน้าเหวอ เขาน่าจะกำลังเรียบเรียงสถานการณ์ในหัวและกำลังเข้าใจอะไรขึ้นมาบ้างแล้ว


“ฮ่าๆๆ เดี๋ยวๆ” เสียงพี่ฟ้าหัวเราะลั่น พร้อมๆกับที่มะนาวกระตุกเสื้อผม ผมยกมือขึ้นจุ๊ปากอีกรอบ บอกให้มะนาวเงียบฟังต่อไป อย่าเพิ่งถามอะไร “ก็กูดีใจที่มึงอยากให้กูหึง ”


“ไม่โว้ย”


“แต่ทำไมกูไม่หึงแม็ตอย่างที่มึงหวังไว้รู้ไหม เอาสั้นๆ นะ แม็ตมันมีแฟนแล้ว”


“...”


“กำลังเถียงในใจว่ากูโกหกล่ะสิ เฮ้ย จริงจังกูพูดจริง มึงทำแบบนี้ รู้ไหมน้องมันอาจจะทะเลาะกับแฟนก็ได้นะ นึกภาพตามถ้าคนรักกันมาดีๆ ต้องมาทะเลาะกันเพราะคิดว่ามึงเป็นมือที่สาม ที่ไม่จริงเลยด้วยซ้ำ ถึงจะไม่ตั้งใจแต่มึงก็ทำมันไปแล้ว ถ้าเรื่องมันบานปลายจนพวกมันต้องเลิกกัน ไม่ต้องสงสัยเลยสาเหตุทั้งหมดมาจากมึง มึงว่ามันแย่ไหม?”


“พอๆๆ กูผิดไปแล้ว กูผิดเอง งั้นเดี๋ยวกูไปคุยกับน้องมันดีกว่า”


“ดี”


“ก็ปล่อยดิ ปล่อยเลยมึงอ่ะ”


“ไม่ปล่อย งั้นกูเรียกมันเข้ามาเลยนา”


“เข้ามา? เรียก? อะไร?”


มะนาวทำท่าจะหันเดินหนี แต่ผมคว้าข้อมือเขาไว้ทัน


“พวกมึงเข้ามาได้แล้ว มาเลยกูไม่ได้ล็อก”


“ครับ!” ผมตอบไปสั้นๆ กำลูกบิด ข้างหนึ่ง กำมือมะนาวไว้ในมืออีกข้าง


“เฮ้ย ปล่อย ฟ้า ปล่อยก่อน”


“ไม่ต้องหรอกน่า”





ผมโผล่หน้าเข้าไปก่อน เสียงเถียงปนฟึดฟัดยังมีมาเรื่อยๆ


ก็แน่ล่ะ ก็พี่ฟ้าเล่นจับพี่เทนั่งตักตัวเองไว้ไม่ยอมปล่อยนี่นา ดูเหมือนพี่เทไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่เห็นหน้าผม เขากำลังรอดูหน้าแฟนผมมากกว่า


แต่ตอนนี้ผมเดินเข้าห้องไม่ได้ เพราะมะนาวไม่ยอมขยับ ผมมองกลับไปก็เจอสายตาหวาดหวั่นขั้นสุด อ้อนวอนด้วยสายตาจนผมอยากจะใจอ่อนยอมทำตาม แต่ไม่ได้เด็ดขาด ไหนๆก็ไหนๆแล้วนะ มาถึงขั้นนี้แล้วถ้าไม่คุยก็ไม่รู้เรื่องกับสักทีสิ


“มันไม่ยอมเข้ามาเหรอ?” ผมพยักหน้าให้พี่ฟ้า ก่อนจะหันไปพูดกับมะนาวอีกครั้ง


“มาเถอะ” แต่เจ้าตัวก็ยังส่ายหน้าหวาดๆ


“เฮ้ย มะนาว เข้ามาซะ” พี่ฟ้าออกสำสั่งเสียงดัง ทำเอามะนาวกับพี่เทสะดุ้งพร้อมกันจนผมเกือบจะหลุดหัวเราะออกมา


“ห่ะ! มึงว่าใครนะ”


“เออน่า มึงอยู่เงียบๆ เถอะ”



ผมพยักหน้าให้มะนาวยอมเข้าไปในห้องด้วยกัน เจ้าตัวยังลังเล แต่ก็ยอมเดินตามมาจนได้


ผมปิดประตูแล้วจูงมือมะนาวเข้ามาในห้อง รู้สึกเหมือนกำลังยืนตรงรายงานอะไรสักอย่าง แต่พอคิดได้ว่าไม่ใช่อะไรที่เป็นทางการขนาดนั้นก็เลยก้มลงบอกมะนาว


“เดินไปนั่งนั่นกัน” ผมชี้ไปที่ขอบเตียง


“มึงดูๆ เดินจูงมือมุ้งมิ้งพูดกันเบาๆ เคยมีบ้างไหมมั้ยโมเม้นแบบเนี้ย หึ้” มะนาวได้ยินพี่ฟ้าพูดกรอกหูพี่เทก็ค่อยๆบิดมือออก แล้วเดินนำไปนั่งหย่อนขาทับมือตัวเองทั้งสองข้าง ก้มหน้าก้มตาไม่สบตากับใคร


“เชี่ย กูทำอะไรลงไปเนี่ย” พี่เททึ้งหัวตัวเองทันที


“รู้สึกผิดตอนนี้ก็สายไปแล้ว ทำไมตอนจะทำไม่คิด”


“ผมว่าพี่ไม่น่าว่าพี่เทเรื่องนั้นได้” เรามีเรื่องต้องเคลียร์กันเยอะเลยพี่ ถ้าพี่ไม่ไปกวนประสาทแฟนตัวเองก่อนเรื่องมันคงไม่มาถึงตรงนี้หรอก


“กูเกลียดมึงแม็ต”


“เกลียดผมเพราะผมรู้ทัน หรือเรื่องแฟนพี่จูบผมล่ะ?”


“มึงนี่...” พอผมเข้ามา บรรยากาศก็เปลี่ยนไป ผมรู้สึกว่าอะไรๆ กำลังจะโอเค ก็เลยต่อล้อต่อเถียงกับพี่ฟ้าได้เหมือนปกติแล้ว มีผู้ชมเป็นพี่น้องหน้าเหวอที่ดูตกตะลึงกับทุกอย่างเหมือนกันอย่างกับโขกมาจากพิมพ์เดียวกัน


เรานั่งขอบเตียงหันหน้าไปอีกเตียงที่พี่ฟ้ากอดพี่เทนั่งซ้อนตักอยู่กลางเตียง อย่าเรียกว่ากอดเลย เรียกว่ายึดไว้ดีกว่า


ผมเอี้ยวตัวจะดึงเอวมะนาวเพื่อให้เขามานั่งตักผมบ้าง แต่ก็เจอสายตาดุๆ กับเสียงขู่เบาๆ “ไม่เอา จะบ้าเหรอ”


“ฮ่าๆๆๆ” ผมหัวเราะกลบเกลื่อน



“เฮ้ย จะทำอะไรเนี่ย ไอ้บ้านี่” ผมหันกลับไป พี่ฟ้ากำลังจับหน้าพี่เทบังคับให้หันไปหาเขา


“ล้างปากอีกรอบไง มานิ”


เขายื้อยุดกันจนน่ากลัว ผมยกมือขึ้นปิดตามะนาวไม่ให้เห็นฉากหวาดเสียว



“ปิดตาอีกแล้ว อะไรนักหนาเนี่ย ทำไมมีแต่คนจับกูปิดตา ไม่ใช่เด็กแล้วนะเว้ยยย”



“พอเลยเชี่ยฟ้านี่ ใช่เวลามาเล่นมะ” พี่เทดันคางพี่ฟ้าออก ผลักพี่ฟ้าล้มลงกับเตียง แล้วแยกออกมานั่งห่างๆ


“ฮ่าๆๆๆ”


“หัวเราะอย่างกับคนบ้าเลยนะมึง เพราะรู้งี้ใช่มะตอนนั้นมึงถึงปิดตามะนาว”


“ใช่ๆ เอ้า! ขอโทษน้องซะสิ บอกน้องไปด้วยว่ามึงอ่ะมีแฟนแล้ว”


พี่เทหันมาทางมะนาว แล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจัง แสดงความจริงใจในแบบของเขา แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่าตอนนี้มะนาวอยู่ในอารมณ์ที่พร้อมจะเข้าใจไหม


“มะนาว พี่ขอโทษนะ ไม่รู้ว่าแม็ตกับมึง... เสียใจจริงๆ แต่พี่ยังไม่มีแฟนนะ”


“เฮ้ย! อะไรของมึงเนี่ย” พี่ฟ้าที่นอนกลิ้งอยู่ตั้งแต่เมื่อกี้ กระโดดขึ้นนั่งแล้วโวยวายทันที


“ไม่มีก็คือไม่มี”


“งั้นก็บอกไปว่าแค่ประชดกูก็ได้เอ้า”


“กูไม่ได้ทำเพื่อประชดใคร”


“แล้วมึงทำแบบนั้นทำไม”


“ก็เรื่องของกูมึงยุ่งอะไรด้วย”


“ไม่ให้ยุ่งได้ไง ก็กูเดือดร้อน”


“จะเดือดร้อนทำไม ตัวก็ตัวกู ปากก็ปากกู มะนาวก็น้องกู”


“ฮึ่ย”


“แค่มะนาวเข้าใจคนเดียวก็น่าจะพอ มึงเกี่ยวที่ไหน พี่ไม่ได้อะไรกับแม็ต อย่าคิดมากแล้วไปทะเลาะกันล่ะ แค่นี้พี่กู้สึกผิดมากแล้ว มะนาวเข้าใจพี่นะ”


“ครับ ผมเข้าใจแล้วครับ”


“เข้าใจว่าไง” พี่ฟ้าถามย้ำ


“ก็เข้าใจว่าพี่เทประชดพี่ฟ้า”


“เฮ้ย!”


“ฮ่าๆๆๆๆ เห็นมะ ใครเห็นใครๆ เขาก็ต้องคิดแบบนี้ มึงอ่ะ ดื้อด้าน” พี่ฟ้าได้ใจ บีบคางพี่เทแล้วพูดล้อเลียน


“ไม่ต้องมาหัวเราะเลย มึงอ่ะ ถ้ารู้ว่ามะนาวมีแฟน มึงจะตามติดน้องมันทำไม ตั้งแต่ก่อนมารับน้องแล้ว”


“ก่อนนี้มันแค่เรื่องบังเอิญ หลังๆ ก็เลยตั้งใจ”


“งั้นมึงก็ผิดกับแม็ตมันเหมือนกัน”


“ไม่ซะหน่อย แม็ตมันไม่ว่ากูหรอก เราเข้าใจกัน” มาถึงตรงนี้ ผมว่าถึงเวลาที่ผมต้องรักษาสิทธิในการแสดงความคิดเห็นแล้วล่ะ


“ซะที่ไหนล่ะ ผมไม่ได้อยากเข้าใจพี่ซักนิดเลย” ผมอดแย้งไม่ได้จริงๆ


“ไม่เอาน่าแม็ต เราตกลงกันแล้ว”


“ที่ตกลงกันไม่ใช่แบบนี้แน่ๆ”


มาถึงตรงนี้ ทั้งพี่เท ทั้งมะนาว มองพวกผมสลับกันคล้ายลุ้นว่าใครจะพูดอะไรต่อ แต่เราสองคนก็เงียบ


“ตกลงอะไร? นี่พวกมึงรู้เห็นกันเหรอ” พี่เทกลับมาฉุนเฉียวอีกครั้ง สายตาที่มองพี่ฟ้าดุดันจนผมไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ฟ้าถึงทำไม่รู้ร้อนรู้หนาวยังทำรู้ไม่ชี้อยู่ได้ ทั้งที่แฟนตัวเองโมโหแทบจะคลั่งอยู่แล้ว


“ไม่มีอะไร”


“บอกมานะเว้ย”


ผมสองคนมองรุ่นพี่กลิ้งไปบนเตียง พี่ฟ้าถูกพี่เทจับเขย่า เอาหมอนฟาดทำร้ายต่างๆ นาๆ ในขณะที่พี่ฟ้าพยายามป้องกันตัวเองด้วยการยื่นหน้าเข้าไปฉกจูบทุกครั้งที่มีโอกาส


ผมล่ะอึ้งกับพวกพี่เขาจริงๆ



“มันเรื่องอะไรเหรอ บอกได้ไหม” มะนาวหันมาถามผม


“ได้อยู่แล้ว รู้สึกผิดมากเลยนะที่ก่อนนี้บอกอะไรไม่ได้” ใช่ ผมรู้สึกไม่ดีเลยเลยที่ต้องปิดเขาเรื่องนี้


“เรื่องนั้นไม่เป็นไรหรอก แต่ไปตกลงอะไรกันตอนไหน”


“คืองี้นะ” ผมพยายามพูดเบาๆ สองคนที่เตียงโน้นจะได้ไม่หันมาสนใจพวกผม “วันนึงกูบังเอิญรู้ว่าพี่เขาเป็นแฟนกัน”


“บอกว่าไม่ใช่แฟนไง” พี่เทตะโกนข้ามเตียงมาดังลั่น


“ก็พี่เทเป็นงี้อ่ะ พี่ฟ้าเลยเรียกร้องความสนใจจากแฟนเขา”


“โว้ย ไอ้นี่ บอกว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่สิ”


มะนาวน่าจะเข้าใจสิ่งที่ผมพยายามอธิบาย เพราะเขาหันไปมองทางโน้นทุกทีที่พี่เทส่งเสียงมา


“จำเสียงผิวปากเมื่อคืนได้ไหม?”


“อึก” มะนาวสะอึกทันที ผมจำได้ตอนนั้นเขากลัวมาก มากๆ เลย


“นั่นแหละพี่ฟ้า เพราะเขาเอาเรื่องนั้นมาขู่ วันนี้กูก็เลยต้องพามึงไปนั่งตรงนั้น พอจะนึกภาพออกไหม”


“แล้วเขารู้ได้ไงว่าเป็นกู”


“เขารู้เรื่องมึงนานแล้ว เพราะฉะนั้นแค่เห็นกูเดินออกจากห้องน้ำคนเดียวเขาก็รู้แล้วว่ากูอยู่กับใคร”





“เสียงผิวปากอะไรอ่ะ?” พี่เทที่หยุดฟังผมเหมือนกันหันไปถามคู่กรณี


“ไม่มีอะไร เรื่องของเด็กๆ เขาน่า”


“แล้วมึงไปบอกน้องมันทำไม เรื่องกูอ่ะ บอกแล้วบอกอีกว่าไม่ให้ใครรู้ไง”


“กูไม่ได้บอก มันฉลาด มันรู้ของมันเอง”


“มันไม่ได้บอกเราจริงเหรอแม็ต”


“ครับ พี่ฟ้าไม่ได้เป็นคนบอก”


“มั้ยล่ะ เด็กมันฉลาด”


“เงียบเลยมึงอ่ะ”


“จริงๆ แล้ว พี่ฟ้าไม่เคยพูดเลยว่าพี่เทกับเขาเป็นอะไรกัน แต่พอเขารู้ว่าผมรู้ เวลาเขาน้อยใจพี่ เขาก็จะมาบ่นกับผมบ้าง ปรึกษาผมบ้าง เขารักพี่มากนะครับ คิดเรื่องพี่อยู่ตลอดเวลา”


“ไม่อ่ะ นี่มึงเตี้ยมกันใช่มะ?” เสียงพี่เทเบาหวิวไม่เหมือนคนที่ไม่เชื่อเลย แต่เหมือนคนกำลังอึ้งแล้วทำอะไรไม่ถูกต่างหาก


“แม็ต วางกุญแจไว้ แล้วพามะนาวออกไป”


“คร้าบบบบ” ผมรับคำแล้วเตรียมชิ้ง เพราะกุญแจไม่ได้อยู่กับผมอยู่แล้ว เขาพูดอย่างนั้นเพราะต้องการสื่อว่า นี่เป็นเวลาที่เขาจะใช้ห้องเท่านั้น


“เอ่อ! แล้วเรื่องกุญแจ ทำไมไปอยู่กับน้องได้ เขาให้ปีสองถือ กูนึกว่าอยู่กับมึงตลอด” แว็บเดียวพี่เทก็กลับมาเสียงแข็งเหมือนเดิม


“เปล่าเลย ตั้งแต่มาถึง กุญแจอยู่ที่แม็ตตลอด เพราะกูสั่งมันไว้”


“สั่งอะไร?”


“ถ้ากุญแจไม่อยู่ที่มัน ก็ห้ามใครกลับมาที่ห้อง ไงล่ะ” การพูดหน้านิ่งแล้วจ้องตาท้าทาย ทำให้พี่เทคงรู้ว่าพี่ฟ้าพูดจริงทุกคำ ไม่ได้เป็นการกวนตีนเลย


“งี้ก็แปลว่า...”


“ช่าย มันรู้”


“เฮ้ย ไอ้บ้านี่ มึง มึง! ไอ้เลวฟ้า มึงตายแน่” ผมลากมะนาวออกมาจากห้อง ละทิ้งความวุ้นวายไวเบื้องหลัง


ผมกำมือมะนาวไว้แน่น ผมหันไปข้างตัวยิ้มให้เขาในแสงสลัว มะนาวเห็นก็ยิ้มตอบกลับมา


โชคดี โชคดีมากๆที่ดูเหมือนเขาจะเปิดใจยอมเข้าใจทุกอย่างที่ผมอธิบาย


“เฮ้ย!” มะนาวอุทานออกมาเบาๆ “แว่น มึงลืมแว่น”


มะนาวพูดแค่นั้นก็หันกลับไปทางประตูห้องที่เพิ่งห่างออกมาแค่สี่ห้าก้าว ดังนั้นเขาจึงกระฉากประตูเปิดผัวะ แทบจะทันทีโดยที่ผมก็ห้ามไม่ทัน


“อ่ะ...”


ผมก้าวมายืนข้างหลัง มะนาวอึ้งค้างไปเพราะภาพที่เห็น


พี่ฟ้าเปลือยท่อนบนคร่อมอยู่บนตัวพี่เท เสื้อยืดแขนยาวของพี่เทถูกถลกขึ้นแล้วพันอยู่ตรงปลายแขนทั้งสองข้างที่โดนมือพี่ฟ้ากดทับอีกทีเหนือหัว กางเกงยีนส์พี่ฟ้าปลดซิบแล้วขอบกางเกงไหล่ต่ำหมิ่นเหม่


มืออีกข้างพี่ฟ้ากำลังขยี้หน้าอกพี่เท แม้แต่ตอนนี้ที่พวกผมยืนดูอยู่มือเขาก็ยังไม่หยุด


ที่ไม่มีเสียงพูดอะไรเลยจนถึงตอนนี้ เพราะพี่ฟ้ากดจูบแน่นจนไม่มีเสียงอะไรลอดออกมาจากปากพี่เทได้เลย


พี่ฟ้าเหลือบตามาทางประตูนิดหน่อย ก่อนจะค่อยๆละเลียดถอดริมฝีปากออก พร้อมๆกับซี้ดปากไปด้วย ผมเห็นเหมือนจะมีน้ำใสๆเยิ้มตรงขอบปาก พี่ฟ้าใช้มือข้างที่อยู่ตรงหน้าอกผละออกมาปาดนิ้วโป้งที่ขอบปากพี่เทก่อนจะปาดให้ตัวเอง


“ปล่อยนะเว้ย” พูดได้แค่นั้นพี่ฟ้าก็ใช้มือปิดปากพี่เทไว้ แล้วหันมาพูดกับพวกผม ทั้งที่ตัวเองนั่งทับสะโพกพี่เทอยู่


“มีอะไรจ๊ะ?” พี่ฟ้ายิ้มตาหยีมาทางนี้ จนขนตรงท้ายทอยผมลุกชัน รู้สึกเป็นยิ้มที่จริงใจจนไม่น่าไว้ใจยังไงไม่รู้


“ผมลืมแว่นครับ” ผมรีบพูด เพราะเหมือนมะนาวจะช็อตไปแล้ว


“อ้อ อยู่บนเตียงโน้นน่ะ” พี่ฟ้าสะบัดหน้าไปที่เตียงตัวเอง


ผมถึงเพิ่งมาสังเกต พี่เขาปล้ำกันอยู่บนเตียงพวกผมนี่นา






โหยพี่ ไอ้พี่ฟ้า นอกจากจะยึดห้องจนผมไม่เคยได้ใช้ ยังจะมาเยาะเย้ยทำกันบนเตียงที่ผมนอนอีก



แม่งงงงงง




ผมรีบแทรกตัวเข้าไปหยิบแว่น กลับมาที่ประตู กดล็อกห้อง ปิดประตูพร้อมพูดทิ้งท้าย


“ขอโทษที่มารบกวนคร้าบบบ”


มีเสียงตะโกนตอบกลับมาจากข้างใน


“เออ ไม่เป็นไรมึง คนกันเองทั้งนั้น”





“อย่างงี้เลยเหรอวะ” มะนาวยังตาค้าง สีหน้าพรั่นพรึง


“ยังดีนะ ไม่ถอดหมดแล้ว”


“เฮือก!”


ผมจัดการใส่แว่น ก่อนจะคว้ามือเขาพาเดินกลับไปทางหาดช้าๆ อาศัยความมืดอำพรางมือที่ยังไม่อยากปล่อย


“นี่” อยู่ๆมะนาวก็เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ก็เลยเรียกผม


“หื๋ม ยังโกรธอยู่เหรอ?”


“เปล่า เรื่องนั้นไม่คิดมากแล้วล่ะ แต่กูสงสัย”


“อะไร ถามมาสิ จะตอบทุกอย่าง จะไม่ให้มีเรื่องปิดบังระหว่างเรา”


“ขอบคุณนะ มึงนี่เป็นแฟนที่ดีจริงๆ เลย” เขาพูดเบาๆ แต่ยิ้มจนตาปิด


“ก็ที่ไม่ดีก็เคยแล้วไง ไม่สบายใจเลย เอ้า ถามมาสิสงสัยไม่ใช่เหรอ”


“เออๆ ไปรู้ได้ไงว่าพี่สองคนนี้เขาคบกันอยู่อ่ะ”


นั่นไง ขี้สงสัยไม่เปลี่ยน


“อ้อ ฮ่าๆๆ คือรับน้องในคณะวันนั้นไง กูจะไปล้างจานในห้องน้ำ แล้วบังเอิญเห็น ว่าพวกพี่เขายืนสามขาอยู่ในห้องน้ำ”


“ฮึ? อะไรคือสามขา?”


ผมก้มกระซิบข้างหูมะนาว มันทำให้เขาแดงระเรื่อไปทั้งตัว ไม่ขี้สงสัยอะไรอีก ทิ้งผมไว้แล้วรีบเดินหนีไปทางชายหาด


ผมก็แค่บอกว่า






“ถ้ากลับหอแล้ว ไว้ลองกันนะ”




----------------------------------------------------
TBC.




แบ่งทีมยังไงดี?
ทีมคู่รัก   - แม็ตมะนาว : ฟ้าเท ,
ทีมเอาคืน   - เทแม็ต : ฟ้ามะนาว ,
ทีมผู้สมรู้ร่วมคิดกับผู้ไม่รู้   - ฟ้าแม็ต : เทมะนาว ,
ทีมรอลุ้น   - ยีนส์เม : ปกป้องโนอา
555555 คู่สุดท้ายไม่มีบทค่ะ ค่าตัวแพง


มาสั้นๆ แต่ไม่ค้างคาตรงไหนเนอะ
ถ้าเจอคำผิด ขอโทษด้วย ฮับง่วงงงงง


เอาล่ะสิ ต่อจากนี้ล่ะค่ะ ยังไม่ได้เขียนไว้เลย 5555



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-02-2017 19:57:36 โดย Brosohub »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
พี่ฟ้าร้อนแรงจริงๆ :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เมื่อไรจะถึงคราวของแม็ตมะนาวบ้าง

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เมื่อไรจะถึงคราวของแม็ตมะนาวบ้าง
รอคู่ แมท มะนาว  รอมากๆ เลยอ่ะ
พี่ฟ้าน่ากลัวไปและ
พี่เท ก็เล่นตัวซะตัวบิดเลย
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: ทั้งที่ต่างก็รักกัน  :pighaun: :haun4: :jul1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
พี่ยินส์น้องเม โนอา คิดถึงอ่ะ

เครียร์กันแล้วโล่งอกไปที

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ i_Tipz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น่ารักตลอดอ่ะ  :-[ :-[

ออฟไลน์ Papangtha

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
พามะนาวกลับหอด่วนๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
พี่ฟ้า คนอวดเมีย

ออฟไลน์ PaiPo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ชอบบบบ ชอบความอวดเมียของพี่ฟ้า ได้ทีอวดใหญ่  o13 o13
รอ แกะขอบเล้ารอตอนต่อไปอยู่น้าาา

ออฟไลน์ PaiPo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
คิดถึงมะนาวแล้ว  :call: :call:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
คิดถึง แมต มะนาว  :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ Brosohub

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0


- บทที่ 33 - เรื่องของเรื่อง -








กลับมาริมหาดอีกครั้ง เหมือนกลับสู่โลกแห่งความจริง



มะนาวโดนเรียกไปนั่งกับพี่ชนะทันที ผมเองก็โดนเมเรียกมานั่งกับมันกับพี่ยีนส์


ไม่มีใครพูดถึงเรื่องก่อนหน้านี้ต่อหน้าผมอีกเลย แต่ผมก็จับความรู้สึกได้ว่าบรรยากาศมันแปลกๆ ทุกคนดูปกติจนผมระแวง มันไม่น่าไว้ใจ ในความสงบนิ่งมีบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ หลายครั้งที่ผมแอบเห็นสายตาหลายคู่ลอบมองผมอยู่ ปกติก็มีตลอดเวลาหรอกนะ แต่ตอนนี้มันแฝงพลังงานบางอย่างอยู่ในสายตาพวกนั้น


แต่ผมเลือกปัดความวิตกกังวนทิ้งไป เพราะคิดว่าเป็นอย่างนี้ก็ดีแล้ว ถ้าเรื่องของผมทำให้ทุกคนหมดสนุกมันคงไม่ทำให้ผมรู้สึกดี ทุกอย่างกลับมาสู่สภาวะปกติ ก็ดีแล้ว










ผมมารู้อีกทีตอนนั่งรถกลับ


“ช็อตนั่นกูว่ากูเหวอแรงแล้วนะ ปุ๊บปั้บนั่นนี่ พี่ชนะลากผัวหายไป เงิบงงเงียบกันไปสักพัก กูมาเหวอหนักกว่าเดิมอีกตอนพี่โนอามาบอกว่า เซอร์ไพร้ มันคือละครที่ปีสองเตรียมมาอีกเรื่องนึงเขาบอกว่าเรื่องนี้มีทุกปี ‘Kiss ณ ริมหาด’ เอาไว้แกล้งปีหนึ่ง”


“ห่ะ?” มะนาวเหวอตกใจจริง


เพราะอย่างนั้นนั่นคงเป็นเหตุผลว่าทำไมพี่ชนะไม่หาเรื่องผมต่อ เหลือแค่สายตาไม่ค่อยพอใจเท่านั้น


“ตกใจอะไรย่ะ”


มะนาวทำเออออ ถึงจะงง แต่ก็รับคำมุขไปทันเวลา


“อ้อ ก็กูไปซื้อเหล้าเพิ่มกับพี่ฟ้าไง ไม่อยู่ตอนนั้น” มะนาวตอบกลับไปแบบไม่เป็นธรรมชาติเอาซะเลย


แต่พงศ์สิ ฟังแล้วหันไปกัดเล็บทำตามีลับลมคมในแบบมีพิรุธสุด 


“นี่...” ผมที่กำลังสบตามะนาว ล้อเลียนเขาด้วยสายตาเรื่องโม้ว่าหายไปซื้อเหล้า กลับต้องหันไปหาพงศ์ทั้งคู่


พงศ์ทำท่าเหมือนมีอะไรจะพูดกับพวกเรา แต่เขาไม่ยอมพูดสักที


เล่นมาเรียก แล้วเงียบไปแบบนี้ มะนาวไม่ยอมแน่


“มึงทำให้กูสงสัยแล้วเงียบไป ไม่ได้นะ”


“โอ้ย มึงนี่” พงศ์เหวเสียงสูง ผมพอเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่เขาสงสัยและอยากเอ่ยถามคืออะไรนะ ก็ดูจากสายตาที่มองมะนาวสลับมามองผมซ้ำๆหลายๆรอบนั่นน่ะ ดูง่ายจะตาย


ผมยกแขนซ้ายข้างที่อยู่ฝั่งมะนาวขึ้น พาดไหล่บางแล้วเกาะไหล่เขาไว้ มะนาวแม้จะทำหน้าสงสัยในทีแรก แต่พอสบตาผม เขาก็ดูเข้าใจสถานการณ์


“ไง มีอะไรก็ว่ามา” ผมพูดแบบไม่เปลี่ยนสีหน้า


“เออ ว่ามา” มะนาวกอดอก ทำตัวเล็กไหล่ห่อ จนเหมือนกับเขาจะหายไปในวงแขนของผม มองเผินๆเหมือนเขากำลังอิงซบมาทางผม


หึ ร้ายเหมือนกันนะเรา


“ไม่มี กูไม่สงสัยแล้วก็ได้โว๊ยยยยยย” พงศ์โวยวาย แล้วหันกลับไปนั่งที่ของตัวเองทั้งที่ยังบ่นอุบ “เบื่อ เบื่อพวกมึงจริงๆ เบื่ออออออออออ”




ผมหัวเราะออกจมูกเบาๆ อะไรของมันก็ไม่รู้


“อะไรของมันว่ะ แม่งจะถามก็ไม่ถาม” มะนาวบ่นเบาๆเหมือนพูดคนเดียว แต่ก็ทิ้งตัวมาพิงผม




ผมยังหัวเราะค้างอยู่ มะนาวเองก็ยังบ่นเบาๆ ก็มีเสียงเรียกพวกเรา



“แม็ตนาว”


“หื๋อ” ผมหันไปทางขวามือ เพื่อนที่นั่งอีกฝั่งเป็นผู้หญิงสองคน พวกเธอกำลังเรียกพวกเราแล้วรอให้พวกเราหันไปหาพร้อมมือถือที่ตั้งท่าพร้อม


“ขอมินิฮาร์ทคู่หน่อย”


“ทำไงอ่ะ?” อะไรคือมินิฮาร์ทคู่?


“มึงทำมือแบบนี้” มะนาวทำให้ผมดู ผมใช้มือขวาที่ว่างอยู่ทำตาม ตอนที่ผมงงๆตั้งมือขึ้นมาลอกท่ามะนาว พวกเธอก็คงแชะไปหลายรูปแล้ว


“เรียบร้อย อิอิ” สากับเบลหันไปเลื่อนดูรูปที่ถ่ายไป ไม่สนใจพวกผมที่ตั้งฮาร์ทอย่างมั่นคงเพราะเพิ่งทำเป็น เกร็งมือชะมัด คิดว่าเมื่อกี้ตอนง่วนอยู่กัการหัดทำก็คงหน้านิ้วคิ้วขมวดแน่ๆ


“อะไร ยังไม่ได้ยิ้มเลย” ผมเรียกพวกเธอกลับมา “เอาใหม่เลยๆ” ผมเอียงตัวให้มุมกล้องมองเห็นมะนาวชัดๆ กระชับไหล่มะนาวให้เข้าที่ พร้อมๆกับยิ้มให้กล้อง


“โอ๋ พ่อคุณๆ มาๆๆ”


“ถ่ายหล่อๆ นะมึง”


“โอ้ยพวกมึงถ่ายมุมไหนก็หล่อ” สาจิ้มๆหน้าจอ แล้วหันรูปมาให้พวกเราเช็ค “ไง พอใจยังค่ะ”


“ก็พอได้”


“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวก่อนลงกูเข้าแอฟให้ โอเคมั้ยค่ะ” ผมได้แต่พยักหน้าเป็นเชิงอยากทำอะไรก็ทำ แต่มะนาวนี่สิ กดไลค์ชัดเจนว่านั่นคือสิ่งที่ถูกต้อง





หลังจากเช็คของเช็คคนเสร็จล้อรถก็หมุน เรากำลังเริ่มเดินทางกลับมหาลัยในเวลาบ่ายนิดๆของวันอาทิตย์


มะนาวหยิบมือถือขึ้นมาเปิดไลน์ เขาเปิดหน้าแชทของผมแล้วก้มหน้าก้มตาพิมพ์ๆๆ ทั้งที่รู้ว่าผมอ่านข้อความทุกคำแล้วในขณะที่เขากำลังพิมพ์อยู่เนี่ยแหละ เขาก็ยังกดส่ง เป็นเชิงบอกให้ผมตอบในไลน์ ผมเลยต้องยกแขนกลับมาหยิบมือถือเพื่อตอบเขา


มะนาว - “ตกลงพี่กูเขาประชดแฟน หรือเป็นบทละครใหญ่รัชดาลัยกันแน่ว่ะ?”


ผม - “ประชดแฟน แต่เหตุผลอันนั้นคงแค่เอาไว้หลอกทุกคน”


มะนาว - “เยดเข้ หลอกซ้อนหลอก ซับซ้อนไปอีก”





ผม - “อยากกลับห้องเร็วๆ”





ผมตัดบท ส่งข้อความสุดท้ายไป มะนาวถึงกับมองบนแล้วถอนหายใจ ก่อนหันมามองผมแบบจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม จะทำหน้าบึ้งก็ไม่สุด กลายเป็นหน้าเกร็งกระตุกในทรงแปลกๆ


แปลได้ว่าเขาเข้าใจสิ่งที่ผมจะบอกแน่นอน


ผมหรี่ตามองแล้วยิ้มอ่อน



มะนาวกดล็อกมือถือ กอดอกแล้วทำเป็นหลับใส่ผมประหนึ่งว่าทำเป็นไม่รับรู้ความหมายของผม แต่รถเคลื่อนตัวได้สักพักเขาก็หลับจริง ดูจากหัวที่โงนเงนกับตัวที่เริ่มไหลไม่ตั้งตรงเหมือนเดิม ผมเลยจับหัวเขามาพิงไหล่ผมไว้ เป็นจังหวะเดียวกับที่พงศ์ที่นั่งหน้าผมหันกลับมาเพื่อยื่นขนมให้


เขาเหลือบมองมะนาว จากปากที่เคี้ยวตุ้ยๆ เบะออกทันที ผมรับขนมมากิน พงศ์เลยมือว่างยกมือถือขึ้นตั้งท่าจะถ่ายรูป คงกะแกล้งมะนาวที่หลับ ผมเลยชูสองนิ้วแล้วยิ้มให้กล้อง


ไม่ถึงสองนาทีพงศ์ก็โพสรูปเมื่อครู่ พร้อมแคปชั่น



“#จำเป็นต้องบอกไหมว่าคนไหนตัวจริง”



ตอนที่อ่านผมไม่ได้รู้สึกว่าพงศ์หมายถึงผมสองคนเป็นตัวจริงของกันและกัน แต่อารมณ์ว่ากำลังหมายถึงผมสองคนสำหรับตัวเอง



โพสไปยังไม่ถึงนาที คนแรกที่เข้ามาโวยวายก็คือเอ้ที่ไม่ได้มารับน้องกับพวกเราเพราะอยู่คนละห้อง




เอ้ - “ตัวจริงของกูทั้งสองคนเลยยยยยยยยย”


พงศ์ - “ข้ามศพกูไปก่อนค่ะ ชะนี!”




ผมอ่านข้อความที่เด้งขึ้นมาไม่หยุดและหัวเราะแบบไม่มีเสียง แน่นอนไม่มีใครยอมใครเพราะฉะนั้นเรื่องนี้คงไม่จบลงง่ายๆ


ผมปล่อยให้พวกเขาตีกันต่อไป ส่วนผมล็อกมือถือแล้ววางมันลง


หันมองคนที่ดูท่าจะหลับสนิท มะนาวอิงหลับอยู่บนไหล่ผม แก้มเขาบี้เพราะน้ำหนักหัวตัวเอง เส้นผมบางนุ่มที่เริ่มยาวสะท้อนกับแดดเป็นประกายสีน้ำตาล มันตกลงมาระข้างแก้มเขา ตอนที่มันพลิ้วไหวเขาขมวดคิ้วจั๊กจี้ ผมจึงเอื้อมมือขึ้นเขี่ยผมบนแก้มมะนาวไปทัดหูไห้


ขบวนรถบัสเรียงแถวไปตามเส้นทางคดเคี้ยว ผมดึงม่านฝั่งเขาปิดจนหมด บังแดดที่เริ่มแรงขึ้นเพราะรถเปลี่ยนทิศไปเรื่อยๆ


ผมว่า ผมก็หนังตาชักจะหนักๆ แล้วเหมือนกัน... 







...............









“เช็คดูให้ดี ไม่มีใครลืมอะไรไว้บนรถนะ เอาล่ะ สนุกมาก ขอบคุณน้องๆที่มาไปให้เรารับ กูว่ากูไม่เมานะทำไมกูพูดไม่รู้เรื่อง เอาเถอะๆ แยกย้ายกันกลับหอกลับบ้านกันได้”


พวกเรามานั่งกองๆ กันอยู่ในสนามบาสเล็กๆ ในคณะ จุดเดียวกับที่รวมพลก่อนไป มะนาวที่นั่งอยู่ข้างผมกำลังมองไปรอบๆ แล้วทำหน้าสงสัย


“ยังไม่เห็นเมเลยอ่ะ มันไปไหนวะ?”


“กลับมากับรถพี่ยีนส์” ผมรีบตอบแบบไม่ต้องนึก ก่อนที่พงศ์จะเป็นคนตอบพร้อมด่า เห็นตั้งท่ากัดปากยิงฟันเตรียมกัดเต็มที่


“อ้าว?”


“เอ่อะ มึงอ่ะ มัวมุดหัวอยู่ที่ไหน นั่งรถตั้งสี่ห้าชั่วโมงทำไมเพิ่งมารู้สึก ใช่ซี่ ชีวิตมึงมี ‘ผัวกู’ มึงก็ไม่ต้องคิดห่าอะไรอีกแล้วนี่ กูแอ้วมาตั้งห้าหกปี มึงอ่อยแป็ปเดียวตัวติดกันเป็นตังเม อุ๊บ!” ผมม้วนปลาเส้นที่เหลือๆ ในมือเป็นก้อนใหญ่ ยัดปากพงศ์ ให้มันได้หยุดพูดบ้าง “ผัว! ไม่เอา ประเจิดประเจ้อ” 


“มันหลบหน้าพี่เขาจะตาย ทำไมงั้นอ่ะ” มะนาวช่วยป้อนน้ำ ไม่ให้พงศ์พูดอะไรต่อได้ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วถามต่อหน้าตาเฉย


“พี่มันบอกให้กลับรถพี่ยีนส์ เมื่อคืนก็นั่งข้างกันทั้งคืนไม่เห็นเหรอ นั่นอ่ะ มันวีดีโอคอลกับพี่มันจนแบทหมด แบตเครื่องมันหมด วีดีโอคอลเครื่องพี่ยีนส์ต่ออีก บอกถ้าไม่นั่งข้างพี่ยีนส์พี่มันจะไม่วางใจ”


“พี่มันรู้ตัวไหมน่ะว่าตัวเองชงแรงมาก ถ้าเมมันจะมีผัวก็ฝีมือพี่มันล้วนๆ เลยนะนั่นน่ะ”


“เออ”


“นินทาอะไร กูได้ยินนะ” เมมายืนสะพายเป้หล่อๆ อยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แถมกำลังกอดอกเคาะเท้าท่าทางนักเลงโต มีพี่โนอาเดินตามมาแต่เลี้ยวไปคุยกับพี่ฟ้าเรื่องงานต่างๆที่ยังคั่งค้าง ก็เลยเหลือแต่พี่ยีนส์ที่ยังคงตัวติดกันไม่ห่างเกินสิบก้าว


ใช่ซี่ เม แบ็คมึงใหญ่โตเป็นถึงประธานเชียร์นี่หว่า


“ป่ะๆ แยกย้าย พงศ์ เดี๋ยวกูกับแม็ตไปส่งมึงเอง มึงไม่ต้องกลัวโดนเพื่อนเทนะ” มะนาวทำเป็นมองไม่เห็นเม เก็บข้างเก็บของ ควานหากุญแจรถ ทำอย่างกับเมไม่อยู่ตรงนี้


“เชี้ย กูทิ้งเพื่อนที่ไหน พวกมึงอ่ะทิ้งกู” สามคนนั้นแบกเป้ลุกขึ้นวิ่งไล่กันไปมา เสียงโวยวายจนคนพากันหันไปมอง สักพักก็ไปจบอีกฝั่งของถนนด้วยการที่เมโดนพงศ์รัดกอดไว้แล้วมะนาวจักจี้เอว


ดูเหมือนพวกนั้นแรงจะเหลือๆ พลังล้นจนน่าอิจฉา




เล่นกันสักพักพอคนเริ่มกระจายเราก็แยกย้าย ผมขับรถมะนาวเหมือนเดิม ไปส่งพงศ์หน้าหอก่อนกลับมาหอตัวเอง ส่วนเมไม่ต้องห่วง รายนั้นมีพี่ยีนส์กับพี่โนอาไปส่งแน่นอน


แต่เมื่อผมมาถึงหน้าหอ ก็รู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆจากที่ทะเลตามมาจนถึงหอพักด้วย


“พี่ ตามพวกผมมาทำไมเนี่ย” พี่ฟ้าปั่นมิยาบิ(ชื่อจักยานญี่ปุ่นของแก)ใกล้เข้ามา แล้วใช้เท้าลงแตะพื้นเบรกจักยานก่อนถึงตัวผมแค่สองก้าว


ผมก็สังหรณ์ตั้งแต่ขับรถแซงพี่ฟ้าตรง 200 เมตรก่อนถึงหอนี่แล้ว ว่าพี่แกมาทำอะไรทางนี้ มันคนละฝั่งกับหอเขาเลยนี่นา พอขับรถมาจอด ค่อยๆขนเป้กับถุงของฝากลงจากท้ายรถระหว่างนั้นพี่ฟ้าก็ปั่นจักยานอินดี้ของแกมาจอดข้างๆรถพวกผม ล็อกรถเสร็จก็มายืนรอพวกผมอย่างชัดเจน


“กู มีเรื่องจะปรึกษา” พี่ฟ้าพูดทำหน้าจริงจัง


“เอาดิ เรื่องอะไรพี่” มะนาวถามกลับทันที ทั้งที่ผมตั้งใจจะปฏิเสธซะตั้งแต่ตอนนี้


เรื่องชาวบ้านกับมะนาวนี่มัน... แยกจากกันไม่ได้จริงๆ


“เรื่องพี่เราอ่ะดิ” พี่ฟ้าเดินมาคว้าถุงใหญ่ๆทำนองช่วยถือ แล้วเกี่ยวคอมะนาว พาเดินขึ้นตึก มุ่งไปที่ห้องพวกผมอย่างถือวิสาสะ



ผมเลยได้แต่เดินงงๆ ตามขึ้นหอมา มะนาวไขประตูห้อง เปิดประตูทิ้งไว้ให้ทุกคนตามเข้าไป พี่ฟ้าเดินเนือยๆไปทิ้งตัวลงนั่งขอบเตียง ทิ้งเป้ลงพื้น ลูบหน้าลูบตาอย่างอึดอัด


“ปากพี่...”


มะนาวเอียงหัวช้อนมองปากพี่ฟ้า ผมเห็นตั้งแต่ตอนบายศรีเมื่อคืนแล้วว่ามันแปลกแต่ตอนนั้นคิดว่าเพราะแสงน้อยเฉยๆ จนตอนนี้มันเริ่มเขียวคล้ำชัดขึ้นกว่าเมื่อวานมาก


“เออ โดนแมวข่วน”


“อ้าว? ทำไมอ่ะ”


“ก็ที่จูบมันโชว์พวกมึงนั่นแหละ หลังจากนั้นก็ซัดกูเข้าให้แล้วก็หนีออกไปเลย”


“พี่ก็รู้ว่าพี่เทเขาไม่ชอบ ไม่อยากให้ใครรู้ แล้วพี่จะไปทำแบบนั้นอีกทำไมล่ะ” ผมล่ะไม่เข้าใจพี่ฟ้าเลยจริงๆ


“กูคิดว่าไหนๆ มึงสองคนก็รู้อยู่แล้วไง กูเลยคิดว่าไม่เป็นไร กูมีแฟน ถึงจะแค่นิดๆหน่อยๆกูก็อยากอวดใครๆ บ้าง นี่ปิดอย่างกับกูเป็นเมียน้อย มันเป็นงี้มาตั้งนานแล้วนะเว้ย กูต้องทนเก็บเรื่องนี้ไปอีกนานแค่ไหนวะ”


“นาน? พี่เป็นอย่างนี้กันมานานแค่ไหนแล้วอ่ะ” มะนาวถามไปมองหน้าผมไป


“ศุกร์หน้า ก็ครบปีแล้ว”


“โห”


ผมนี่ขนลุกเลย สำหรับผม ช่วงที่ไม่มีสถานะชัดเจนของผมกันมะนาว ถ้านับกันจริงๆก็ไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ แค่นั้นผมก็อึดอัด วุ่นวายใจจนไม่เป็นอันทำอะไรแล้ว แล้วคิดดู พี่ฟ้าเป็นอย่างนี้มาหนึ่งปีเต็ม ไม่รู้ผมจะสงสารหรือเห็นใจพี่เขาดี


“ทำไมอย่างนั่นอ่ะ?”


“ไม่รู้เลยพี่ก็ได้แต่เดา แต่คือกูโง่ไง มันคิดอะไรอยู่บ้างไม่เคยจะรู้กับเขาหรอก ตอนเป็นเพื่อนนะคุยกันได้ทุกเรื่อง แต่พอเป็นอย่างนี้มีแต่เรื่องพูดไม่ได้ ก็มีแค่เรื่องอย่างว่าอ่ะ ที่จะพูดกันตรงๆ”


“พี่ผมเข้าใจยากขนาดนั้นเลยเหรอ?”


“เรื่องอื่นก็ปกติอ่ะนะ แต่เรื่องเนี้ยะ มากกกก”


“อ้าว แต่พี่เป็นเพื่อนกันมานานแล้วนี่  ไม่ใช่หรอกเหรอ มันไม่ช่วยให้เข้าใจเขามากขึ้น หรือ หรือเข้าใจกันเหรอ พี่เป็นเพื่อนกันมาตั้งกี่ปี”


“นานมากแล้ว ตั้งแต่ ป.4 ป.5 มั้ง”


“โห แล้ว... พี่ชอบพี่ผมตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะ”


“ชอบอะไร มันชอบกูก่อน”


“หา!” มะนาวตกใจ


ผมดูสองคนนี้คุยกันอย่างออกรส ฟังไปรื้อกระเป๋าไปด้วย เพื่อให้บรรยากาศไม่อึดอัดเกินไป


“คือ แบบ กูคิดว่า อะนะ” พี่แกตอบเสียงอ้อมแอ้ม


“แล้วตอนนี้ล่ะ เขายังชอบพี่อยู่ไหม”


“ไม่รู้ ไม่รู้อะไรเลย มันเหมือนเพื่อนสนิท ที่สนิทกันมากๆ เหมือนพี่น้องกันด้วยซ้ำ ไม่มีท่าทางตุ้งติ้ง ไม่เคยทำท่าว่าพิศวาสอะไรกูเลย แต่คือ คือ แต่มันไม่เคยปฏิเสธกูเลยเว้ย เวลาอย่างนั้นมันน่ารักมาก” ยิ่งพูดหน้ายิ่งเครียด


“...”


“คิดดู ผู้ชายนะอ่ะผูชาย มันจะยอมให้ผู้ชายด้วยกันกอดซ้ำๆเหรอว่ะ ถ้าไม่รักไม่ชอบ ควรปฏิเสธไหม? ขยะแขยงป่ะ?  มะนาว ถ้าคนอื่นที่ไม่ใช่แม็ต ล้วงกางเกงมึง มึงทำไง”


“คว้าอะไรได้จะฝาดหัวแม่ง”


“นั่นไง แต่นะ มันคงเทียบกับมึงไม่ได้ เพื่ออะไรไม่รู้ชอบก็ไม่ได้ชอบ มันยังจูบแม็ตได้เลย”


“จริงๆมันไม่โดนปากนะพี่ ตอนแรกผมคิดว่าเขาเล็งพลาด แต่ตอนนี้รู้สึกคงเพราะเขาตั้งใจ มันโดนแถวๆนี้” ผมใช้นิ้วแตะๆตรงมุมปาก


พี่ฟ้าทำหน้าอึ้งๆ กระพริบตาปริบๆ แล้วสุดท้ายก็ถอนหายใจ “เห้อ ถึงงั้นก็เถอะ พวกมึงว่า กูควรทำไงว่ะ”


“พี่อยากเลิก อยากคบ หรืออยากประกาศให้โลกรู้อ่ะ?”


“คบแล้วก็ให้ทุกคนรู้ กูอยากจับมือมันได้ทุกที่ที่กูอยากจับ”






Pi Pi Pi   Pi Pi Pi








(มีต่อ)

ออฟไลน์ Brosohub

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0

Pi Pi Pi   Pi Pi Pi



“พี่เทโทรมา” มะนาวตาโตมองโทรศัพท์ เขาทำมือให้ทุกคนเงียบ แล้วกดรับตรงนี้เลย


“คร้าบบบ ว่าไงพี่ ครับถึงหอแล้วฮะ ของฝากเหรอ แต่พี่ผมก็ซื้อมา ฮ่าๆๆ เราแวะร้านของฝากร้านเดียวกันนะ ... ก็ได้ครับ เดี๋ยวผมไปเอาพรุ่งนี้” มะนาวคุยไปเรื่อยๆ เงียบฟังสลับกับโต้ตอบ “ครับ ครับ... ได้ครับ ครับสวัสดีฮะ”


มะนาวกดวางสายไปแล้ว หันไปมองหน้าพี่ฟ้าตาปริบๆ


“มีอะไร”


“เปล่าครับ ต่อเลยๆ”


“เรื่องก็ประมาณนี้แหละ มึงว่า กูควรทำยังไงดี”


“โทษนะพี่ ขอข้อมูลเพิ่มนิด พี่เป็นเพื่อนกันมาตั้งนานอยู่ๆ ทำไมมาเป็นอย่างทุกวันนี้อ่ะ อะไรคือจุดเปลี่ยน”


“วางสายแล้วแน่ๆ ใช่มั้ย”


มะนาวหยิบมือถือขึ้นมาดู “วางแล้วดิพี่ นี่ไง นี่พี่ระแวงขนาดนนั้นเลย?”


“เออดิ”


“เคยมีกรณีเหรอ?”


“มี แต่เอาทีละเรื่องไหม”


“โอเคครับ งั้นกลับมาที่คำถาม พี่มาอยู่จุดนี้  ได้ไง?”


“เห้อ... มันคงเริ่มตั้งแต่กูบังคับให้มันมาเป็นรูมเมทกู คือกูไม่อยากอยู่กับคนอื่นนี่หว่า แล้วถ้าเขารับกูไม่ได้ล่ะ? พาลจะผิดใจกันเปล่าๆ อีกอย่างกูก็ไม่โอเคที่จะให้ใครก็ไม่รู้มายุ่งวุ้นวายในชีวิต กูเลยกะว่าอยู่กับมันเนี่ยแหละ รู้ไส้รู้พุง เหมือนตอนนั้นกูคิดแค่นั้นไม่สนใจความคิดมันเลยเว้ย ลากมันมาเซ็นสัญญาหอเลย คืนแรกกูก็นอนทับขามันดูหนังเหมือนตอนอยู่บ้านก็ไม่เห็นเป็นไร แฮปปี้ดี แต่พออยู่ๆ ไปกูรู้สึกว่ามันมีบางอย่างเปลี่ยนไป มันเงียบขึ้น ไม่ค่อยขี้เล่นเหมือนเมื่อก่อน ไม่ร่าเริงแถมยังพาลหงุดหงิดใส่กูบ่อยๆ อารมณ์ฉุนเฉียวจนกูไม่รู้ตัวเองทำอะไรผิดนักหนา แต่มีวันนึงกูกลับห้องตอนที่ไม่ใช่เวลาปกติที่กลับ เจอมันช่วยตัวเองอยู่ เห้อ... ก็เลย เข้าไปช่วยมัน แล้วก็ทำกันตลอดจนถึงเมื่อวานเนี่ย”


ผมเกลียดการพูดจาตรงไปตรงมาของพี่ฟ้าจริงๆ แม่ง คนอะไรพูดเรื่องอย่างนี้ออกมาได้หน้าตาเฉยเมยสุดๆ


“เมื่อวานตอนไหน?” มะนาวทำหน้าเหรอหรา ตาโตขึ้นมาเลยเชียว


“อ้าว ก็ตอนก่อนพวกมึงเข้าไปอาบน้ำตอนเย็นไง แม็ตไม่ได้บอกเหรอ” พี่ฟ้าปรายตามาทางผม พร้อมๆ กับมะนาวที่หันมาถามด้วยสายตา


“คิดว่าพี่เทเล่นน้ำทะเลจนเหนื่อยก็เลยหลับไปรึไงกันเล่า” ผมตอบสั้นๆ ให้ไปคิดต่อเอง


“อ้าาาา” มะนาวกำลังทึ่งในความมหัศจรรย์ของคู่พี่ฟ้า แต่ก็ยังถามต่อไป “แล้วทำไมไม่มีใครรู้อ่ะ”


“ก็ไม่ได้บอกใคร แล้วก็ไม่มีใครสงสัย ทั้งที่เวลาไปกินเหล้ากูไปรับไปส่งตลอดเลยนะ หรืออยู่สโมกูเรียกมันเมียด้วยซ้ำ เพื่อนคิดว่ากูเล่นมุขพูดเล่น” ก็เพราะหน้าตาไร้อารมณ์ร่วมของพี่นั่นแหละพี่ฟ้า


ผมจะอธิบายลักษณะพี่ฟ้าอีกทีนะครับ พี่ฟ้าเป็นคนสูงผอมขายาวไม่ว่าจะใส่อะไรก็ทำให้กลายเป็นสไตล์ตัวเองได้ ผมสั้นเป็นลองทรงสูง ปลายผมข้างหน้ายาวหน่อย หน้าคมโครงหน้าชัดแก้มตอบ ตาเชิดๆ คิ้วชี้ๆ ได้อารมณ์คนกวนตีน ปากหยักเฉยชาเหมือนจะบึ้งตึงกับหนวดเป็นตอแบบนานๆโกนที สีหน้าปกติที่เห็นประจำคือหรี่ตากระพริบตาช้าๆขมวดคิ้วแม้จะกำลังยิ้มหรือหัวเราะก็ตาม พูดง่ายก็คือดูเป็นคนกวนตีนคนนึง






“ถ้าพี่มั่นใจว่าเขาชอบพี่ มันก็ไม่น่ามีปัญหาแบบนี้สิ”



“ประเด็นคือ กูก็ไม่มั่นใจ”



“อ้าว”


“ก็เคยถามตรงๆ นอกจากมันจะไม่พูดอะไรแล้วมันยังทำหน้าแบบ ‘เอาเลย มึงพอใจจะคิดงั้นก็ตามใจมึงเถอะ’ แบบเนี่ย ขอมันคบเป็นสิบๆครั้งนะ มันบอกไม่เอาอ่ะ เป็นเพื่อนแบบนี้ดีแล้ว แล้วไง? ดีตรงไหนว่ะตอนนี้มันเองก็ไม่เหมือนเดิม กูก็ไม่มีทางเหมือนเดิม คือไม่แน่ใจว่ากูคือเพื่อนที่ทรงคุณค่า หรือคนที่มันชอบจนคลั่งกันแน่”


“แล้วพี่มั่นใจแค่ไหนว่าพี่ ชอบเขาจริงๆ” ผมโพล่งออกไปในที่สุด คำพูดของผมทำให้พี่ฟ้านิ่งไปทันที


“...”


“นั่นอาจจะเป็นสิ่งที่พี่เทกำลังกลัวนะ” ผมไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องความรักมาจากไหน แต่เรื่องแบบนี้ ถ้ามองจากมุมมองของบุคคลที่สาม อาจจะเห็นอะไรๆได้ชัดกว่าคนที่กำลังสับสนและตั้งใจมองแต่สิ่งที่ตัวเองอยากเห็นเท่านั้น






พี่ฟ้าก้มหน้า มองมือตัวเองที่ประสานกันอยู่ระหว่างหน้าขา แล้วพูดออกมาในที่สุด “คนแรกที่คิดถึงทุกครั้งที่ตื่น แล้วก็เป็นคนสุดท้ายที่คิดถึงก่อนหลับ มันเป็นคนนั้น” เสียงถอนหายใจบ่งบอกความหนักแน่นเจือออกมากับน้ำเสียงเบาหวิว “มาย้อนคิดดู กูไม่คิดถึงใครอีกเลยตั้งแต่มีมัน”


“พี่รักพี่เทมากนะเนี่ย” มะนาวหยักหน้าเห็นด้วย ยืนยันคำพูดตัวเอง


“หึ แล้วตอนนี้ก็เป็นคนเดียวที่ทำให้กูมีอารมณ์”


“อันนั้นผมไม่ได้อยากรู้ด้วยเลยพี่ โถ่” มะนาวตำหนิด้วยสายตา ส่วนผมเหรอ ผมเริ่มจะชินกับความหน้าหนาของพี่ฟ้าแล้วล่ะ


“พี่เคยบอกเขาไหม ว่าชอบเขาจริงๆ” ผมถามบ้าง


“บอก กูบอกตลอด”


“งั้นพี่ลองถอยออกมาหน่อยดีไหม?”


“เพื่ออะไรวะ ขนาดกูตื้อขนาดนี้ มันยังไม่แคร์กูสักนิด ถ้ากูถอย มันไม่ยิ่งชอบใจรีบหาคนใหม่เหรอ”


“ไม่ใช่ให้เลิกขาดนะ แค่ลองถอยมาอยู่ในที่ของตัวเอง ให้เขารู้สึกว่าหันมาไม่เจอพี่รออยู่ที่เดิม”


พี่ฟ้ากับมะนาวกระพริบตาปริบๆ เหมือนจะเข้าใจ แต่ผมว่าพวกเขาไม่เข้าใจผมเลย


“ที่ผมให้พี่ลอง เพราะต้องการดูปฏิกิริยาของเขา คืองี้นะพี่ มันเป็นกลไกของจิตใจคนเรา ในเวลาที่รู้สึกว่ากำลังจะอกหักกำลังจะสูญเสียหรือถูกทิ้ง คนกลุ่มนี้จะมีความรู้สึกว่าอยู่ๆก็รักมากขึ้น เสียดายมากขึ้น จะทำทุกทางไม่ให้เกิดการสูญเสีย พี่เคยเห็นคนคบกันแล้วคนนึงจะเลิก แต่อีกคนพยายามยื้อไหม? คนพวกนั้นส่วนใหญ่จะกลับมาคืนดีกันระยะหนึ่งแต่สุดท้ายก็เลิกกันอยู่ดี มันคือ frustration attraction ที่จะบอกคือ พี่จะรู้ว่าเขาชอบพี่แต่แกล้งทำเป็นไม่แคร์อะไรหรือไม่ได้ชอบพี่จริงๆ ก็ตอนที่เขาคิดว่าพี่ทิ้งเขานั่นแหละ ถ้าเขารักพี่เขาไม่น่าจะยอมเสียพี่ไปนะ”


“อ้อ... กูเข้าใจที่มึงจะบอกแล้วนะ แต่ แต่ กูไม่รู้มันจะได้ผลกับเทไหม มันไม่เหมือนคนส่วนใหญ่ไง มันประหลาด แถมซับซ้อนกว่าเยอะ”


“หรือจะดีกว่าถ้าอยู่อย่างนี้ ให้เขาทำร้ายพี่ต่อไปเรื่อยๆ ล่ะ?”


“ไม่เอา กูต้องทำอะไรสักอย่าง กูอยากให้มันมีความสุขนะ อยากให้มันยิ้มได้เหมือนเมื่อก่อน ยิ้มให้กู”


“โอเค พี่มีตั้งสองตัวเลือก อยู่อย่างนี้ต่อไป ยอมรับว่าได้แค่เท่าที่ผ่านมา กับ ลองหยุดเพื่อรอทางแยกใหม่ข้างหน้า”


“มึงพูดซะกูกลัวเลย แบบนี้ไม่เรียกว่ามีสองทางเลือกแล้วมั้ง”


“คิดดีๆ นะพี่ เอาจริงๆ แล้ว ไม่ว่าทางไหนก็เสี่ยง”


“นั่นสินะ กูมีตัวเลือกแค่นั้นจริงๆนั่นแหละ ไปต่อแบบไม่รู้จุดหมาย กับหยุดเหรอ เข้าใจแล้ว” พี่ฟ้าก้มลงซบลงกับฝ่ามือตัวเอง “ขอบใจมากนะพวกมึง ไม่รบกวนเวลาส่วนตัวแล้ว”


“ไม่เลยครับ ยินดีมากๆ” มะนาวที่เงียบไปนานบอกกับพี่ฟ้า เขาคงรู้สึกไม่ต่างจากผมเท่าไหร่ คือเห็นใจพวกเขาทั้งคู่ พี่เทเอง ถึงจะไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ แต่ผมว่าเขาต้องมีเหตุผลแน่ๆ


“ขอบใจมากๆ ช่วยได้เยอะเลยว่ะ กูยอมรับเรื่องพวกนี้กูโง่เลยแหละ ไม่เคยประสบความสำเร็จเรื่องความรักเลย”


“หวังว่าครั้งนี้พี่จะไม่พลาด”


“ฟังดูแล้วพี่สองคนรักกันนะ ทำไมถึงไม่โอเค ทำไมมันไม่ราบรื่นเลยสักนิด” มะนาวกอดอกตั้งข้อสงสัยอีกครั้ง


“ความหัวดื้อของพี่มึงทั้งนั้นเลย”


“นั่นดิ ผมต้องสั่งสอนพี่ผมบ้างแล้ว”


“อย่าเยอะๆ นั่นแฟนกู”


“โห เต็มปากเต็มคำอ่ะ”


“นิดนึง ก็ ‘แฟนกู’ ได้แค่ต่อหน้าพวกมึงนี่แหละ” พี่ฟ้าพูดเองก็กลับไปห่อเหี่ยวซะเอง


หลังจากนั้นพี่ฟ้าก็ล่ำลาพวกเรา จากไปแบบคนคิดมากกว่าเดิมซะอีก




ลุคของพี่ฟ้าเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จากตอนแรกที่ดูหล่อลุคแบดๆ เฮฮารักสนุกเป็นศูนย์กลางของทุกอย่าง สักพักก็เป็นโมเม้นท์คนมีความรักทำโน้นทำนี่เพื่อความรัก ส่วนตอนนี้ คือคนอมทุกข์ถึงจะมีความรักแต่ดูไม่มีความสุขเลย นั่นคือในสายตาผม แต่ทั้งหมดนั้นกับคนอื่นพี่ฟ้าก็ยังเป็น ฟ้าประธานรุ่นปีสอง คนเดียวคนเดิม


ในคนหนึ่งคน ต้องแอบซ่อนอารมณ์ความรู้สึกไว้มากมายขนาดนี้เลยเหรอ










“สงสารพี่ฟ้าว่ะ ทำไมพี่กูใจร้ายว่ะ?”


มะนาวยังมองที่ประตูที่พี่ฟ้าเดินออกไป สีหน้ากับแววตาผู้ชายคนนึงที่ปกติเราเห็นเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจวันนี้มันหม่นแสงอ่อนแรงเกินกว่าจะมั่นใจอะไรในตัวเอง ใต้รอยยิ้มคนเรามีเรื่องราวมากมายซ่อนอยู่ ตัดสินจากผิวเผินไม่ได้เลยจริงๆ


“อย่าตัดสินอะไรทั้งที่เห็นแค่ด้านเดียวสิ พี่เทอาจจะมีเหตุผลอีกเยอะแยะที่เรายังไม่รู้นะ รู้สึกไหมว่าพี่เทก็ชอบพี่ฟ้า” ตาแอบมองประตูห้องไปด้วย พี่ฟ้าล็อกให้เรียบร้อยดี


“รู้สึกนะ แต่มันอธิบายไม่ถูก”


“ยังไง คิดอะไรอยู่” ผมปีนข้ามเตียงมานอนหนุนตักมะนาว จับมือเขามาจูบแนบไว้ที่ริมฝีปาก


“ถ้ารักกัน ทำไมไม่คบกัน แล้วถ้าไม่รัก ทำไมไม่ปฏิเสธ ถ้าจะบอกว่าเพราะเกรงใจเพื่อน มันไม่ใช่นะเว้ย”


“พี่เทอาจจะรักพี่ฟ้ามาก แบบมากๆ แล้วคิดว่าวิธีนี้จะทำให้เขาอยู่กับเราได้นานที่สุดก็ได้นะ”


“กูไม่เข้าใจพี่กูเลย”


“คิดมากไปก็เท่านั้น แล้วถึงเราจะไปถามเขาก็ไม่มีทางตอบอยู่ดี”


“ก็จริง แต่กูอยากช่วยพี่ฟ้าอ่ะ”


“เราช่วยเท่าที่เราช่วยได้” ผมพูดอย่างปลงๆ แต่เหมือนคนของผมจะยังไม่จบ


“แม็ต”


“หื๋ม”


“เราเลิกกันไหม?”


“ไม่”


ผมตอบอย่างไม่ต้องคิด ถึงจะรู้ว่าเขาไม่ได้หมายความตรงตัว แต่ผมตอบไม่ ไว้ก่อนเลย


“ไม่ใช่ๆๆ ฟังให้จบก่อน เราแกล้งทำเป็นทะเลาะกัน แล้วแกล้งเลิกกัน เพราะกูรู้สึกว่ากูทำให้พี่เทหึงพี่ฟ้าได้เว้ย กูจะทำเป็นชอบพี่ฟ้าดีมะ มึงก็ไปอยู่กับพี่เท ไงความคิดกู”


“เห้อ...”


“ถอนหายใจทำไม”


“ไม่รอดหรอก บอกเลย”


“อะไรไม่รอด”


“ซื้อบื้ออย่างมึงปั่นหัวใครไม่ได้หรอก ยกเว้นกู”


“โว้ะ”


“ทำไม”


“ด่าหรือด่า?”


“บอกรักอยู่ เห็นมะ ขนาดนี้มึงยังไม่รู้ตัว” ผมละเชื่อเขาเลย มะนาววววววว


“ไปเอาความกวนตีนแบบนี้มาจากไหนเนี่ย มึงนี่นะ”


“กูทำไม กูทำไม” ผมผลักเขาลงไปนอน พลิกตัวขึ้นทับ กดไหล่บางจมไปกับที่นอน แล้วเอาจมูกจั๊กจี๊ไปตามซอกคอ


ถึงจะไปรับน้อง กลิ่นแชมพูของเขาก็ยังหอมติดตัว ตอนที่เขาหลับบนรถ กลิ่นนี้ก็กวนใจผมจนตัวเองหลับไม่ค่อยจะลง


คิดถึง คิดถึง คิดถึง


“โอ้ย จักจี้ แม็ต ฮ่าๆๆๆ พอ พอ”


มะนาวไม่ได้ผลักผมออก เจ้าตัวเล็กกลับกอดผมไว้ทั้งแขนทั้งขา กอดแน่นจนผมได้แค่นอนทับเขาเพราะดิ้นไปไหนไม่ได้


เลยกลายเป็นนอนกอดกันกลมพาดเตียงแบบจะตกแหล่มิตกแหล่


“เห้อ การไปรับน้องนี่เหนื่อยจัง แต่ก็สนุกดี” มะนาวเว้นช่วง เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ “นี่”






“หื๋ม”


“มันจะมีไหม วันที่เราต้องเลิกกัน”


“ด้วยเหตุผลอะไร? มึงเป็นคนไม่ดี กูมีคนใหม่ หรือจู่ๆเราก็เข้ากันไม่ได้ล่ะ มีอันไหนน่าจะเป็นไปได้บ้าง”


“ไม่รู้สิ ถึงตอนนี้จะไม่ แต่อนาคตก็ไม่แน่ใช่ไหมล่ะ มาคิดๆดูแล้วกูว่ากูเข้าใจพี่กูนะ เขาอาจกำลังกลัวอนาคต”


“อนาคตเป็นสิ่งที่ราเลือกเองจากวันนี้เนี่ยแหละ”


“ยังไง”


“ก็ถ้าวันนี้เรารักกัน ดีต่อกัน อนาคตมันจะกลายเป็นไม่ดีไปได้ยังไงล่ะ”


“แต่อะไรๆ ก็ไม่แน่ไม่นอน”



“ไม่เอาน่า ก็ถ้ามัวแต่กลัวว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นยังไง แล้ววันนี้ของเราล่ะ? จะดีกว่าไหมถ้าเราเลิกเอาแต่กังวน แล้วมีความสุขกับวันนี้ให้เต็มที่”


“นั่นสินะ...” มะนาวผู้ว่าง่าย ค่อยๆ คล้อยตามผม


ไม่ใช่ว่าผมไม่เข้าใจหรือละเลยสิ่งที่เขากังวน แต่ก็อย่างที่ผมพูด ถ้ามัวแต่กลัว มันก็ไม่ยุติธรรมสำหรับวันนี้ของเราสิ


เปลี่ยนเรื่องดีกว่า!



“ป่ะ”


“ไปไหน?”


“ไปสาธิตท่าสามขาในห้องน้ำ”


“ไอ้บ้า ไม่เอาเว้ย อาบคนเดียวไปเลยยยย”


ผมคิดอะไรดีๆ ออกอย่างนึง ปกติผมจะหัวเราะ แล้วยอมจำนน อาบคนเดียวไปอย่างที่มะนาวว่า แต่วันนี้ ขอตอบกลับแบบที่แปลกออกไปสักหน่อยดีกว่า


“ใจร้าย” ผมหรี่ตา พูดกับซอกคอเขา เสียงทุ่มของผมคงสั่นไปถึงเขา มะนาวถึงได้ตะกุกตะกักถามกลับ


“อะ อะไรเล่า?”


“ถึงพี่เทจะใจร้ายกับแฟนเขายังไง เขาก็ไม่เคยขัดใจเรื่องอย่างว่าเลยนะ”


“จะว่ากูใจร้ายกว่าพี่กูอีกงั้นสิ”


“ใช่ ใจร้าย”


มะนาวอ่ำอึ้งอยู่นาน กว่าจะโพล่งออกมา


“เออๆๆ ก็ได้ๆๆ”


“ย่ะฮู้”


ผมดีดตัวขึ้นนั่ง ดึงไหล่มะนาวขึ้นมา ไม่ใช่แค่นั่งบนเตียง แต่สอดแขนช้อนตัวเขาขึ้นไหล่ ผมวางช่วงเอวเขาบนไหล่ให้หัวเขาห้อยไปข้างหลัง ขามะนาวผมจับไว้ ไม่สนใจเสียงร้องประท้วงไร้สาระที่ที่ผมมองว่ามันสุดแสนจะไม่จริงจัง


“เฮ้ย ปล่อยนะเว้ย เดินเองได้ นี่ แม็ต ปล่อย”


“ป๊ะ” เสียงตัวเอง สูงไปอีก ฮ่าๆๆๆๆๆ


ผมเดินลงจากเตียง เดินเข้าห้องน้ำ ปิดประตูห้องน้ำลงแทบจะทันที โดยที่ไม่สนใจหยิบผ้าเช็ดตัวเข้ามาเลย


อาบน้ำกันครับ อาบน้ำ






..............................






เสียงน้ำฟักบัวไหลไปเรื่อยเปื่อย ไหลทิ้งไหลขว้างมาจะครึ่งชั่วโมงแล้ว เราแทบไม่ได้สนใจมันเลย


เพราะ...



“เดี๋ยวๆๆ มึงเอาถุงยางมาไว้ในนี้ด้วยเหรอ”


“อื้ม กูเป็นคนรอบครอบ”


“เชี่ยนี่ เบาๆ เจ็บๆๆๆ”


“อื้ม เหมือนครั้งแรกเลย ตัวเกร็งเชียว ทำไม? ตื่นเต้นเหรอ”


มะนาวตะหวัดสายตามามองผม เขาเหมือนกำลังโมโห แต่สีหน้าระเรื่อขึ้นสีจนกลายเป็นแดงปลั่ง ก่อนจะหลบตาตอบในคออ้อมแอ้ม


“อะ อื้ม มัน แปลกๆ”


“อะไรแปลก” ผมโน้มตัว จูบลงตรงสันกรามเปียกชื้น ผมสระใหม่ที่ยังไม่แห้มก็หอมฟุ้งยั่วผมไปหมด


“ก็ ไม่ได้ทำหลายวัน มัน ไม่ชินนี่”


“ได้ไง? นี่กูไง จำไม่ได้เหรอ” ผมลองขยับช่วงล่างที่ค้างอยู่ครึ่งๆกลางๆ แต่สีหน้ามะนาวไม่ดีขึ้นเลย ลำตัวก็เกร็งจนแข็งไปหมด


“จำได้ แต่... แต่”


มะนาวหันมาสบตาผมแว็บๆ เขายืนหันหน้าเข้ากำแพงใต้ฟักบัว มือซ้ายขยับไปตามผนังห้องน้ำ มือขวาของเรากุมมือกันอยู่ตรงสะโพกมะนาว เอวเล็กคอดเว้า สะโพกกลมงอนรอรับผม แผ่นหลังเปลือยเปล่าถูกสายน้ำกระทบกำลังวูบวาบตามจังหวะการหายใจเข้าออกที่ถี่กระชั้น 


“ไม่ชอบท่านี้?” ประเมินท่าทีแล้วผมเลยถามออกไปอย่างนั้น ซึ่งก็จริง มะนาวยอมตอบกลับมาเสียงเบา



“ก็มันไม่เห็นหน้ามึงอ่ะ”




คำตอบ... น่ารัก




ผมถอดตัวเองออก ดึงมะนาวให้ยืนขึ้นโอบเขาเข้ามาจูบ


มะนาวเองก็อยากเห็นหน้าผม อย่างที่ผมจ้องมองใบหน้าเขาตลอดเวลาแม้จะต้องมองจากข้างหลัง



“งั้น ไปต่อที่เตียงกัน”


“อะ อื้ม”








ผมอุ้มมะนาวไอ้หนูตัวเล็กของผมออกมาจากห้องน้ำ ในท่ากระเตงลูกลิง


ไม่รู้กลัวตกหรือรักผมมมาก เกาะแน่นจนผมแทบจะไม่ต้องออกแรงอุ้มเลย แถมซุกหน้ากับไหล่แต่อ้าปากงับไหล่ผมไปด้วย





ทำไมต้องน่ารักเบอร์นี้ครับ ถามหน่อยเถอะ…









โอ้ย นึกๆๆๆ



คอนด้อมที่แอบซุกไว้ อยู่ตรงไหนบ้างนะ วันนี้จะรื้ออกมาใช้ให้หมดห้องเลอะ!






------------------------------------------------
TBC.




ยาวแค่ไหนก็คงชดเฉยความช้าของคนเขียนไม่ได้ ผมขอโทษษษษษ TT
โปรดให้อภัยในความล้าช้า พอดีว่าโดนเท ช็อคไปพักนึง 555555
 :sad2:

กลับมาที่เรื่องนี้ค่ะ
เอาอีกละ ตอนนี้นี้เป็นอีกตอนที่เขียนยาก เพราะรวบรวมหลายๆอย่างไว้  เหมือนเป็นบทสรุปวัยเด็กของต้นรักของแม็ตมะนาว ความรักของพวกเขากำลังโต โตไปพร้อมๆกับตัวและโลกรอบๆ
ช่วงแรกการดำเนินเรื่องค่อนข้างช้า ต่อไปจะก้าวกระโดด ข้ามกระโดดแล้วนะ เพราะขี้เกียจเขียนละ (ไม่ช่ายยยยยยย 555 ล้อเล่นๆ) เพราะแต่ละช่วงชีวิตมีการให้ความสำคัญในเรื่องแต่ละเรื่องต่างกัน ต่างหากเล่า
หุหุ จะรอดมั้ย อิคนเขียนเนี่ย จะรอดมั้ยค่าาาาาา T0T :try2: :try2:

โปรดติดตามตอนต่อไปค่าาาา ขอบคุณค่าาาาา

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-02-2017 23:22:45 โดย Brosohub »

ออฟไลน์ about

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 254
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ศิราณีจำเป็น

ออฟไลน์ Papangtha

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
แม็ตเปลี่ยนไปปะ
นี่เคยคิดว่าแม็ตเป็นคนขรึมๆ555555555555555555

ออฟไลน์ Brosohub

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
แม็ตเปลี่ยนไปปะ
นี่เคยคิดว่าแม็ตเป็นคนขรึมๆ555555555555555555

นิดหน่อยค่ะ
เพราะตอนนี้นางได้พี่ฟ้าเป็นไอดอลแล้ว 555555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
คิดถึง

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ชอบบบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
แมต มะนาว  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ฟ้า เท   :กอด1:
ฟ้า รักเท เท ก็รักฟ้า
แต่เท กลัวว่าต่อไปความรักจะเปลี่ยนไป
เลยกั๊กๆ ไม่กล้าแสดงออกแม้ฟ้า จะบอกรักตลอด
แผนที่ฟ้า ได้จากแมต น่าจะทำให้เท รู้สึกนะ
น่าจะให้สองคนมาพูดเรื่องทำนองนี้ให้เท ฟัง
เท จะได้มีแนวคิดเปลี่ยนไปจากเดิม
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ PaiPo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เริ่มงงว่าพี่เทใจร้ายหรือพี่ฟ้าแกบื้อเอง? 5555
แลรู้แต่แบบ ป่านนี้เพิ่งมารู้สึกตัวเรอะ?

ความราบรื่นของคู่ชื่อซ้ำ มันดีเกิน ทำไมเรากลัว ทำไมรู้สึกระแวงงงงง
ม้ายยยยยย

ออฟไลน์ Brosohub

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0

- บทที่ 34 - ย้ำไปเรื่อยๆ -







เช้าวันจันทร์ ผมตื่นขึ้นมาด้วยอารมณ์สดชื่นสุดๆ เพราะในอ้อมกอดมีมะนาวหลับแก้มเบี้ยวอยู่ กอดซุกแบบไม่ต้องเกรงใจใคร ก่ายทั้งตัวโดยไม่ต้องสนใจอะไร


การออกไปค้างข้างนอก อยู่ท่ามกลางคนเยอะๆตลอดเวลา ทำให้รู้เลยว่าห้องของเรามันวิเศษแค่ไหน


ผมออกแรงกอดรัดมะนาวทั้งตัว รัดแน่นจนเขาหายใจสะดุด นิ่วหน้าแล้วขยับตัว


“โอ้ย อะไรเนี่ย?”


“กอดไง”


“อื้อออ หายใจไม่ออก” มะนาวบิดตัวไปมา แต่ยังหลับตาแน่น


“เช้าแล้ว ตื่นเถอะ”


“อื้ม ขออีก 5 นาที”


“ได้” ผมรับคำทันทีไม่พิรี้พิไร



แต่


ผมปล่อยเขานอนต่อ ส่วนตัวเองมุดลงใต้ผ้าห่มจนหัวผมอยู่ระดับใต้คางเขา ผมกอดเอวเขาเข้ามา แล้วตั้งหน้าตั้งตาดูดหน้าอกที่ยังเปลือยเปล่าอย่างมันปาก แค่แตะริมฝีปากไปกับผิวอุ่น หน้าอกเขาก็วูบแฟบลงเหมือนตกใจแล้วหายใจเอาอากาศทั้งหมดออกทันที


แต่ผมไม่หยุดง่ายๆ หรอกนะ


ผมรัดเอวเขาไว้แน่นขึ้น พร้อมๆ กับจูบดูดดื่ม ใต้ผ้าห่มนี้ผมบดขยี้ยอดอกเขาเล่นไปมาอย่างไม่ปราณี


“โอ้ย แม็ต แม็ตๆๆๆๆ”


“อื้ม”


“ตื่นแล้วๆๆๆ พอๆๆ จัก ฮ่าๆๆๆ จั๊กจี้ แมตตตต”


“บอกแล้ว อย่าดื้อกับพี่”


“ดื้ออะไร แล้วไปเอาอะไรแบบนี้มาจากไหน หะ” มะนาวจับหัวผมไว้ทั้งสองมือ เป็นเชิงป้องกันไม่ให้เข้าไปทำร้ายร่างกายเขาได้อีก


“เอา?”


“ไม่ต้องมาเล่นคำเลยนะ”


“เล่น?”


“หึหึ อะไร ต้องการอะไรกันแน่ พูดมาเลย”


“สักหน่อยมั้ย?”


“เรื่องอย่างนี้มันแค่หน่อยได้ด้วยเหรอว่ะ”


“สักทีนะ?”


“ไอ้แม็ต” มะนาวเรียกชื่อผมเหมือนจะดุ ทั้งที่กำลังหัวเราะแบบไม่มีเสียง


รอยยิ้มของเขายังเป็นของผม เพื่อผม


ความสุขของผม


“จ๋า?” ผมขานรับ แล้วรอฟังต่อว่าเขาจะว่ายังไง


“จ๋า พ่อง”


“ฮ่าๆๆ” สุดท้ายเราหัวเราะไปด้วยกัน


มะนาวเอื้อมมือมาลูบต้นคอผม เขากำลังสอดมือเข้ามาที่ไรผม ให้ผมอิงซบฝ่ามือของเขา ก่อนค่อยๆรั้งใบหน้าผมเข้าไปหาเขาด้วยตัวเอง






จูบแบบไม่แปรงฟันทั้งคู่ แฟร์ๆ น่า




ฮ่าาาาา เป็นเช้าที่แสนสดใส








....................................






หนึ่งชั่วโมงต่อมา เราก็มานั่งรวมพลกับที่โต๊ะโรงอาหารที่เดิม ตรงนี้มีผม พงศ์ น้ำ เม ส่วนมะนาวกำลังไปซื้อข้าว และเอ้ผู้มาถึงเป็นคนสุดท้ายกำลังเดินเข้ามา สาวสวยหนึ่งเดียวประจำกลุ่มอ้าปากส่งเสียงทักตั้งแต่ตัวยังเดินมาไม่ถึง



“เป็นไงค่าซิสสสสส รับน้องงงง”


“....” เมนั่งดูดนมเย็นตาปรือๆ ไม่พูดอะไร


“...” พงศ์มองหน้าเอ้ ในขณะที่ปากเคี้ยวข้าวตุ้ยๆ ทำหน้าไร้อารมณ์เชิงกวนประสาท


“...” มะนาวเดินกลับมาพอดี ผมคิดว่าเขาได้ยินที่เอ้ถาม แต่ก็เงียบแล้วเริ่มต้นกินก๋วยเตี๋ยวไม่พูดไม่จา


“...” ผมมองเพื่อนสามคนที่ไปด้วยกัน ทำไมไม่ตอบอะไรกันเลย? งั้นผมเงียบบ้าง


ความเงียบของเราสี่คนทำให้น้ำมันขำ แล้วโพล่งออกมา “หึ สนุกขนาดนั้นเลย น่าอิจฉาว่ะ ฮ่าๆๆๆ”


“มึงไม่ต้องเลยน้ำ พงศ์เล่าให้ฟังแล้วอ่ะดิ” เอ้ต่อว่าน้ำ


“นิดนึงอ่ะ”


“ได้ไง แล้วทำไมไม่มีใครเล่าให้กูฟังบ้างเลย กูพลาดอะไรไปบ้างค่ะ หูย ตามกลไลค์ไม่หวาดไม่ไหว ถ้าพวกมึงจะหวานออกสื่อก็หวานกันตอนกูอยู่ด้วยได้มะ ให้กูโพสคนแรก คนจะได้ตามมากดไลค์ที่เฟสกูงี้”


เอ้คงหมายถึงผมกับมะนาว งานนี้จิ้นกันข้ามมหาลัย จิ้นไปถึงเพจคิ้วบอยไทยแลนแดนหนุ่มคิ้ว แถมยังเลยไปเพจสมาคมนิยมหนุ่มวิดวะ กะแค่รูปกอดคอมินิฮาร์ทคู่ฝีมือสา รูปผมยิ้มภูมิใจที่มะนาวหลับพิงไหล่ผมของตากล้องพงศ์ กับรูปที่แอบถ่ายตอนเราทั้งคู่หลับในมุมที่ผมคอพับไปทางมะนาวในองศาที่เหมือนผมกำลังจูบหัวเขา และ ด้วยความรักเพื่อน เพื่อนที่นั่งไปด้วยเกือบทั้งคันรถบัสพากันมาแอบถ่ายแล้วพร้อมใจเอาไปแต่งใส่นั่นใส่นี่ก่อนลงโซเชียลอย่างสนุกสนาน


เท่านั้นเอง


เองงงงงงงงง


เท่านั้นเองที่ผมสองคนโดน ที่แท็กมาหาผมก็เป็นสิบแล้ว ที่เพื่อนลงแล้วไม่ได้แท็กอีกนับไม่ถ้วน คิดว่าถ้าไม่ถึงมอซะก่อนอีกนิดคงติดเทรนทวิตเตอร์แล้วล่ะ


“มึงไม่รู้หรอกกูถ่ายรูปนั้นด้วยความรู้สึกยังไง ฮึก!” พงศ์ที่วางช้อนลง เริ่มออกอาการและสะอึกสะอื้นคร่ำคราญ “ฮึก! ฮื้อ ความรู้สึกที่ผัวของกูต้องไปเป็นของคนอื่น แต่กูทำอะไรไม่ได้เพราะเขาเหมาะสมกันเหลือเกิน”


“เวอร์แล้วมึงอ่ะ” มะนาวพูดอย่างเอือมอาการโอเวอร์ของเพื่อน


“เงียบไปเถอะมึงอ่ะมะนาว อย่า อย่าบังคับให้กูร้าย”


“ทำมะ?” อันนี้ก็จงใจกวนตีนเพื่อนกลับ แต่เอาเถอะ เป็นผม ผมก็ทำ


“ฮึ้ย อึ้ยๆๆๆๆ อร้าย งึมๆ */.+-4.+,!; \*o&฿..$+!!”


ความอัดอั้นทำให้พงศ์พูดไม่เป็นภาษา ตัวตุ้ยนุ้ยของพงศ์สะบัดไปมา แขนสั้นๆ ทั้งทึ้งทั้งขยำและข่วนแขนมะนาว คนอะไรน่าแกล้งจริงๆ ถ้าผมเป็นมะนาว ผมก็จะแกล้งเขาเหมือนกัน ฮ่าๆๆ


“ฮ่าๆๆ พูดอะไรของมึงเนี่ย ทำร้ายกูแบบนี้กูควรรู้เรื่องกับมึงด้วยไหม?”


“ฮึ้ยๆ”


“หันมานี่เลยมึง” เอ้เขย่าพงศ์ให้ได้สติ แล้วเริ่มสอบปากคำต่อทันที “อิสุรพงศ์  เมื่อคืนมึงบอกมีเรื่องเม้า เม้าท์มาเดี๋ยวนี้ Now! กูจะไม่รอแล้ว รู้มะ กูนอนไม่หลับทั้งคืนเพราะคำว่าจูบคำเดียวเลยมึงอ่ะ”


“โหยอิห้อย อิแหนบ อิฝักกระถินอ่อน เรียกชื่อเต็มพ่อกูขนาดนี้ มึงยังจะหวังให้กูสนองต่อมเสือกมึงอีกเหรอคะ”


เอ้เปลี่ยนน้ำเสียงและท่าทีทันที แต่…


“ท่านสุรพงศ์คะ โปรดเมตตาเด็กตาดำๆด้วยเถอะค่ะ” เอ้ยังคงย้ำสุรพงศ์ชื่อพ่อพงศ์ เพียงแต่พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานและดูเหมือน จะเป็นมิตร?


“แม่มันชื่ออะไรว่ะ แม็ต น้ำ มึงช่วยกูคิดดิ้ คิดๆๆๆๆๆ ทำไมกูลืมได้ไง ฮึ้ย ไม่เอาละ กูไม่ล้อก็ได้ แต่กูไม่บอกมึงแน่!” พงศ์พูดคนเดียวเหมือนจะบ่นกับตัวเองมากกว่าต้องการคำตอบจากพวกผม


“โอ้ย พิ๊งค์ ขอกูเสือกนะ กูอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่ได้เสือก”


“เห้อะ! ไม่บอกโว้ย”


“พิ้งค์พิ้งค์ พลีสสสสส” พวกผมถอนหายใจ มองสองคนเล่นกันไปอีกพักใหญ่ จนเริ่มเหนื่อยแทนกับความพยายามของเอ้


“ถามกูก็ได้ ใครจูบกับใคร” น้ำหัวเราะไป บอกเอ้ไป


มันน่าจะรู้จริง เห็นมันเงียบๆ แต่มันรู้ทุกอย่างเสมอ ไม่รู้เหมือนกันว่ารู้ได้ไง


“อิน้ำ ได้ไงอ่ะ! มึงก็ไม่ได้ไปทำไมมึงยังรู้”


“เอ้า เขารู้กันหมดละ มึงแหละไปอยู่ไหนมา?”


“เชี่ย ก็กูไม่ได้ไป เม เม มึงรู้ไหม บอกกูทีดิ กูเบื่อมีแต่คนเล่นตัว”


อ้อ เพิ่งรู้สึกตัวว่าโดนแกล้ง... เห้อ...


“ตอนนั้นกูออกไปคุยกับพี่กูอยู่... แต่ กูก็รู้นะ” เมยิ้มอย่างผู้ชนะ


“เอ้า” เอ้โอดครวญ ซบไหล่เมแล้วเขย่าอ้อนวอนอย่างอ่อนแรง “เมจ๋า บอกนะ เดี๋ยวเลี้ยงเค้ก”


ผมเห็นม่านตาของเมที่ขยายกว้างขึ้นทันที เพราะคำว่า เค้ก!


เพราะดูท่าตัวเองไม่ใช่ความหวังสุดท้ายของเอ้ พงศ์ถึงเลิกเล่นตัว หันมาเล่นมุขแทน


“กูเฉลยก็ดะ กูจูบกับแม็ตเอง” พงศ์พูดด้วยสีหน้ามั่นอกมั่นใจ ซึ่งมันหลอกเอ้ไม่ได้


“ห่ะ ไม่จริงอ่ะ” มันเป็นสายตาดูถูกเหยียดหยามที่ตอบกลับมา


“ก็เอออ่ะดิ ขออยู่ในมโนสักหน่อยก็ไม่ได้”


“ลีลา ตอบมา” เอ้ทิ้งแขนเมแล้วตบโต๊ะอย่างผู้คุมเกมได้


“พี่กูกับแม็ต” มะนาวคงเบื่อที่จะฟังสองคนนี้ทะเลาะกัน สุดท้ายเขาก็เฉลยเอง


นั่นทำให้ทุกคนในโต๊ะมองไปที่มะนาวตาปริบๆ รวมถึงสาวๆโต๊ะข้างๆที่เหมือนจะตั้งใจมานั่งใกล้พวกเราตั้งแต่แรกด้วย




“แม็ตกับพี่มึง ไม่จริง” ในความเงียบ เอ้พูดขึ้นมาเบาๆ ค่อยๆชักมือลงจากโต๊ะอย่างเชื่องช้า “มึง แล้วมะ!?”


“อิเอ้ มึงนี่ เงียบเลยนะ!” พงศ์ตะปบปากเอ้ ที่เหมือนกำลังจะพูดอะไรต่อ


“กู? กูทำไมนะ?” มะนาวสงสัยกับคำถามแปลกๆ ของเพื่อน


“ก็...”


หลังจากอ้ำๆ อึ้งๆ ไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีก ทุกคนค่อยๆหันมาทางผม ถามว่ารู้ไหมเพื่อนคิดอะไรอยู่ ผมก็รู้นะ แต่ไม่รู้จะบอกยังไงอธิบายอะไรนี่นา ในเมื่อพวกมันยังไม่เอ่ยปากถามอะไรผมเลยสักคำ ไอ้อยู่ๆจะไปชี้แจงแถลงข่าว ก็ใช่เรื่องมั้ง


“เมื่อวานกลับมา มึงกลับบ้านป่ะมะนาว?”


“เปล่านี่ ก็นอนหอ”


“แล้ววววววว...”


“แล้ว?” มะนาวเองก็ดูจะลุ้นและตลกเพื่อนๆ อยู่ในใจพอควร ดูตั้งใจกวนตีนเพื่อนอย่างเห็นได้ชัดเลย ยิ่งเป็นอย่างนี้ ผมว่าเพื่อนเลยไม่กล้าถามอะไรต่อ


“แล้ว” แล้วนี้ทั้งเอ้ทั้งพงศ์รวมถึงมะนาวด้วย หันมาจ้องผม ดูก็รู้ว่าต้องคิดอะไรอยู่


“อะไร?” ผมถามพวกนั้น


แล้วอะไร? แล้วยังไง? แล้วทำไมต้องหันมาจ้องผมกันหมด เมื่อกี้ยังเอาแต่ถามมะนาวอยู่เลย จู่ๆเปลี่ยนมาจ้องผม แถมยังไม่พูดอะไรสักที จะรู้ไหมเนี่ยว่าอยากจะรู้อะไรบ้าง


“มึงพูดสิ” เอ้ถองศอกใส่พงศ์


“มึงพูดเลย กูไม่ได้อยากรู้” พงศ์กระทุ้งกลับถี่ๆ


“กูรู้มึงอยากรู้ มึงพูดสิ”


“ไม่เอา กูไม่พูด”


“พวกมึงนี่ เห็นมั้ย มันก็ปกติดียังต้องถามอะไรอีก” น้ำห้ามทัพไม่ให้สาวๆ เขาตีกันไปมากกว่านี้ แต่พงศ์ก็ยืนยันว่ายังอยากรู้อยู่ดีหันไปทางน้ำขอความช่วยเหลือ


“น้ามมมมม ถามให้ทีสิ” ไม่กล้าถามเอง เลยคิดจะใช้น้ำว่างั้นเถอะ


“ไม่เห็นต้องถาม กูรู้เพื่อนกูคิดอะไรอยู่”


น้ำพูดด้วยท่าทางสบายๆ แถมยังปรายตามาทางผม จริงอยู่ที่น้ำจะรู้ทันผมเสมอไม่ว่าเรื่องอะไร แต่เรื่องนี้เราแทบยังไม่มีโอกาสได้คุยกันเลย แล้วเขาจะรู้ได้ไง มันไม่น่านะ


“คิดอะไร?” เอ้ถามอย่างตื่นเต้น







“คิดว่า เรื่องของกู มึงจะยุ่งอะไรด้วย”







เอ้กับพงศ์สะอึก ผงะไป


เมกับผมหัวเราะจนท้องแข็ง ส่วนมะนาว ยกนิ้วกดไลค์กับคำพูดน้ำ


ฮ่าๆๆ น้ำ ยังไงมึงก็ยังเป็นคนที่รู้ใจกูที่สุดจริงๆ





ถึงเรื่องความอยากรู้อยากเห็นของเพื่อนจะจบลงแค่นั้น แต่ผมกลัวเพื่อนคิดมาก ระหว่างเดินไปเรียนผมเลยเกี่ยวคอมะนาวมาไว้ติดตัว ให้รู้ว่าพวกเราโอเคจริงๆนะ


แน่นอนว่าผมโดนมะนาวมองแปลกๆ


“อารมณ์ไหนเนี่ย?”


“เดี๋ยวมึงไม่รู้ว่ากูอยู่นี่”


“...” มะนาวย่นคิ้วย่นคอหนี แล้วหันกลับไปหัวเราะหึหึกับทางข้างหน้า






ผลคือโดนแอบถ่ายไปลง IG เอ้ตามระเบียบ


มันจะไม่วุ่นวาย ถ้าไม่แชร์กันไปไกลจนถึงเพจคิ้วบอยอีกรอบ





ผมไม่ได้ตื่นเต้นกับกระแสจิ้นผมกับมะนาวนะ เคยบอกแล้วก่อนนี้ผมกับน้ำก็เคยเป็นคู่จิ้นกันแบบจริงๆจังๆ ถ้าหาดีๆอาจมีฟิคผมกับน้ำเหลืออยู่ในเด็กดีให้ตามอ่านกัน


ถึงแรกๆ ผมค่อนข้างงงและมีช่วงที่ทำตัวแปลกๆกับน้ำอยู่บ้าง แต่ก็ผ่านมาได้เพราะเราคุยกันและเข้าใจกันดี น้ำเป็นคนบอกให้ผมอย่าไปคิดมากมันใช้คำว่า ‘สร้างความสุขให้มวลมหาประชาชน มันน่าจะเป็นบุญนะมึง’ ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับมัน หลังจากนั้นเวลาอยู่ด้วยกันผมกับน้ำก็เลยทำตัวปกติ


แต่ในตอนนี้มันต่างออกไป ก็ผมกับมะนาวไม่ใช่แค่เพื่อนธรรมดาๆ เพื่อนเฉยๆ เพื่อนพื้นๆ มะนาวคือแฟนผมจริงๆ ผมถึงได้โอเคมากๆกับกระแสที่ค่อยๆเกิดขึ้นและรู้สึกยินดีมากๆถ้ามันจะกระจายจนคนรู้ไปทั่ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าผมจะไม่แคร์โลกและสังคมออกตัวประกาศให้โลกรู้ๆกันไป ผมอยากมีชีวิตที่ยังปกติและเป็นคนธรรมดาๆ ดังนั้นการปล่อยให้คนรู้แต่ไม่มีใครรู้ แบบนี้ มันพอเพียงแล้ว


ให้เขารู้เท่าที่เห็น ให้เข้าใจสิ่งที่พวกเราเป็นกันไปเอง เพราะผมว่าผมแสดงออกมากพอที่จะทำให้คนที่สนใจ ‘เรา’ คนไดคนหนึ่ง เข้าใจในความสัมพันธ์ของเรานะ


ก็คุณไม่รู้หรอกว่ามะนาวมีคนจ้องจะจีบอยากเข้ามาตีสนิทด้วยมากแค่ไหน แล้วก็นะ ดีกรีรองเดือนมหาลัยทำให้ผมมีแฟนคลับที่อยากเลื่อนตำแหน่ง ‘ไม่อยากเป็นแล้วแฟนคลับฉันอยากแฟนเขา’ โพล่เข้ามาทักทายเรื่อยๆจนผมคิดได้ว่ามันจะไม่มีทางหมดไป


ผมว่ามันโอเคที่สุดแล้วที่จะปล่อยให้ทุกคนสับสนกันต่อไปว่าตกลงผมกับมะนาวเป็นแค่คู่จิ้นหรือเป็นคนรักกันจริงๆ เพราะยิ่งรูปคู่พวกเราออกสู่โลกมากเท่าไหร่ ผมรู้สึกเหลือบไรที่มาตอมมะนาวยิ่งน้อยลง ผมเองหลังๆก็ไม่ค่อยมีคนเข้ามาวุ่นวาย เห็นชัดๆเลยว่าทุกคนพูดถึงผม เหลียวหลังมองตาม พูดคุยกันในหัวข้อเรื่องของผม แต่ไม่จู่โจมหรือเข้าหาแล้ว เหมือนกำลังงุนงงและเฝ้ามองอย่างสงสัยแทน





ขนาดสี่คนข้างหลัง ยังงงจนไม่กล้าถามตรงๆเลย ฮ่าๆๆ


(มีต่อ)

ออฟไลน์ Brosohub

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
.......................................




เราทั้งหมดเลิกเรียนในคาบเช้า ระหว่างที่กำลังเดินลงจากตึกก็มีคนเรียกไว้


“เฮ้ย พิงค์ มะนาว” เราทั้งกลุ่มหันไปตามเสียงเรียก เป็นพี่เทที่อยู่ในชุดกางเกงยีนส์กับช็อปไม่ติดกระดุม ยืนพิงเสามือล้วงกระเป๋าช็อปรอเหมือนมีเรื่องจะพูดด้วยอยู่ “เย็นนี้มีมีตติ้งสันแน่ะ ไปมะ”


“เห็นในเพจอยู่นะ ก็ว่าจะไปอยู่นะพี่” ตอนเรียนพวกนี้ก็ส่งมือถือให้ดูประกาศจากเพจกิจกรรมกันอยู่ วุ่นวายไม่เป็นอันเรียนกันเลย


“เออ มาๆ กินข้าวฟรี ชวนเพื่อนมาด้วยเยอะๆเลย ใครอยากมาก็มานะ ใครไม่อยากมาก็มานะ”


เดี๋ยวนะ? ไม่อยากมาก็มา นะ เหรอ?


“เขาทำอะไรกันบ้างอ่ะ?” มะนาวถามกลับทันที ผมยังงงประโยคก่อนหน้าของพี่เทอยู่เลย


“บอกแล้วจะมันเหรอ อยากรู้ก็มาดิ”


“ไปค่ะ ไปๆๆๆ” เอ้ชูมือรับ คอนเฟิร์มว่าไปแน่นอน จนเป็นที่พอใจของพี่เท


“มาล่ะ พี่จะรอ ฮ่าๆๆ” พี่เทยิ้มทิ้งท้ายก่อนโบกมือลา เดินเลี้ยวไปอีกตึกที่เป็นตึกเรียนของแก ทิ้งให้เพื่อนผมเพ้อแบบไม่เก็บอาการเลย



“คือดีอ่ะ หนูไปแน่นอนค่า” เอ้ยังคงหน้าเพ้อ โบกมือลาทั้งที่พี่เทเดินลับมุมตึกไปนานแล้ว


“อิเอ๊” พงศ์ตีแขนเพื่อน ใช้เสียงที่เบาและสูงปรี๊ดอย่างมีพิรุธ


“อะไร?”


“มึงรู้ไหมนั่นใคร”


“พี่คนที่ถือโข่งวันที่แนะนำตัวชุมนุมชมรม แล้วก็ติวดรออิ้งให้เราไง ฉันร็อกเค้า ไงแก ฉันรักเค้าาาาา”


“เอ้... นั่นพี่มะนาว” ระหว่างที่พงศ์ยังอึ้งกับคำตอบเอ้ เมก็เป็นคนเตือนสติเอ้ ว่าพี่คนเมื่อกี้คือใคร


“หึ? ยังไง?”


“พี่ที่พูดถึง พี่ที่มึงอยากรู้เรื่องเขาชิบหายเมื่อเช้าเนี่ย”


“พี่? พี่รหัสเหรอ คนนี้เหรอ”


“เออ”


“กรี๊ดดดดด กูฟินมาก จูบกับๆๆ อุ๊ๆๆ มันดีอ้า”


อ้าว ซะงั้น?


“เดี๋ยว มึง มึงเป็นชะนีถูกไหม?”


“ถูก นมกูถึงจะน้อยก็ของจริง กูไม่ใช่เก้ง”


“งั้นมึงควรเสียใจที่ผู้ชายที่มึงเล็งเขาจูบผู้ชายป่ะ?”


“ไม่อ่ะ ถ้าไม่มีชะนีคนไหนได้ไป ถึงเขาจะได้กันกูก็จะถือว่ากูได้ด้วย”


“ตรรกะอะไรของมึงวะ”


“ผู้ชายได้กัน กูไม่ถือ เข้าใจยากตรงไหน” น้ำเป็นคนเดียวที่หัวเราะกับคำตอบของเอ้ ในขณะที่คนอื่นๆมัวแต่ลุ้นว่าเอ้มันจะเชื่อมโยงเรื่องนี้ได้ตอนไหน 


“มันไม่ได้โว้ยยยยย มึงลืมไปแล้วรึไงแม็ตมันมีของมันแล้ว”


“ห่ะ? มี?”


“มะนาวไง เพื่อนมึงมีมะนาวอยู่แล้ว อุ๊บ!”


“อิเชี่ยพงศ์ อิโง่ มึงพูดอะไรเนี่ย มันหันมาทำตาขวางแล้วเห็นมะ พูดตรงนี้ได้ไง มึงนี่จริงๆเลย” กลายเป็นเอ้ที่กระโดดปิดปากพงศ์ซะเอง




ผมกับมะนาวไม่ได้ทำตาขวางซะหน่อย ผมแค่กำลังงงกับการไล่ตามความคิดพวกเขาเท่านั้นเอง




“...” แต่เอาเถอะ ผมได้แค่มองพวกเขาลากกันเดินหนีไปคุยกันไกลๆ


เสียงเถียงกันในคอกับความวุ่นวายผมทิ้งมันไว้ข้างหลัง


ผมมองไปที่มะนาว เขากำลังก้มหน้าเล่นมือถือทั้งที่กำลังเดิน ไม่ระวัง ไม่มองทาง แถมเชือกรองเท้าก็หลุด


ผมจับไหล่มะนาวให้เขาหยุดเดิน ก่อนย่อตัวลงนั่งบนส้นเท้าตัวเอง มะนาวเห็นผมนั่งลงตรงหน้าเขา เขาก็ทำท่าจะถอยหนีทันที ผมเลยจับข้อเท้าเขาไว้


“อยู่นิ่งๆ” ผมดุมะนาว “บอกแล้วให้ผูกเชือกรองเท้าดีๆ แล้วก็เหยียบหลุดเองเห็นมั้ย”


“ทำไรของมึงเนี่ย เพื่อนเข้าใจผิดกันหมดแล้ว”


“เข้าใจผิดอะไร ไหน มึงเข้าใจอะไร?” ผมผูกเชือกรองเท้าไป มองเม เอ้ พงศ์เรียงทีละคน มันก็ยังนิ่งกัน จนผมก้มๆเงยๆผูกเชือกรองเท้าให้มะนาวเสร็จข้างนึง ย้ายไปเช็คอีกข้างด้วยว่าแน่นหนาดีไหม




“เปล่า กูว่ากูเข้าใจถูกแล้ว” พงศ์ตอบเบาๆ มีเอ้พยักหน้าเห็นด้วยอยู่ข้างๆ


“เออ กูก็ว่ากูเข้าใจถูก”


“แม่ง ขี้อวด” เมเหมือนจะพูดลอยๆ แต่สายตามันชัดเจนมากว่ารำคาญพวกผมสุดๆ


“ของมึงก็มี ไม่อวดเอง”


“มีไร ไม่มีเว้ย”






“เสร็จแล้ว” ผมเลิกสนใจเพื่อนแล้วลุกขึ้น ยกมือซ้ายแปะลงกลางหัวมะนาว จับโยกเบาๆ


“อ้ะ!!!”


“อะไร?” ผมตกใจเสียงมะนาว จากที่งงๆเขินๆ อยู่ๆ เขาก็ขมวดคิ้วแล้วส่งเสียงดัง


“นี่มึงเอามือที่เพิ่งผูกเชือกรองเท้ามาจับหัวกูเหรอ เชี่ยนี่”


“อ้าว รองเท้าก็รองเท้ามึง มันจะเป็นไรเล่า” ผมโดนเขาเอาปึกชีทฟาดแขน แถมทำท่าจะไล่เตะผมด้วย มางี้ผมก็วิ่งสิครับ


“ไม่ได้! เดี๋ยวหัวเหม็นเว้ย”


“เออ ไอ้หัวหอม”


“กูไม่กินหัวหอม”


“หอมหัว”


“เล่นคำให้มันได้อะไรเล่า”


“ฮ่าๆๆๆ”







“โลกนี้มีแค่มันสองคน ถูกมะ” เม


“ใช่ซี่ กูมันก็แค่เพื่อนนี่” เอ้


“ฮื้อ ผัวทั้งสองของกู” พงศ์


“มึงสามคนก็รีบหาผัวเข้า” น้ำ


“หาง่ายรึไงเล่า!!!” เสียงประสานพร้อมเพรียง และแตกกระจาย แยกย้ายหนีออกมาจากน้ำ


พงศ์กับเอ้กระโดดเกาะแขนผม เมก็ลากคอมะนาวเดินลุยๆเข้าไปหาโต๊ะว่างๆบนโรงอาหาร พักเที่ยงแบบนี้การหาโต๊ะที่ว่างพอให้คนหกคนนั่ง ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย







.........



“แม็ต ไปด้วยกันป่ะ?” เอ้ถามผมทันที เห็นชัดๆว่ากระตือรือร้นกับกิจกรรมเย็นนี้มาก


“ไปไหน?”


“ก็เย็นนี้ไง”


“อ้อ เอาดิ น่าสนุกนะ”


“ไม่ได้ มึงต้องไปกับกู” เมวางจานข้าวอย่างใส่อารมณ์ แต่ทุกคนก็เก็ททันที เพราะแทบจะทันทีมีพี่ยีนส์เดินเฉียดเข้ามาใกล้ๆ พวกผมที่เหลือยกมือไหว้ทักทาย แต่พี่แกก็ไม่ได้เดินเข้ามาที่โต๊ะ แค่ยิ้มยักคิ้วให้ แล้วเดินผ่านไปเฉยๆ


“ไปไหน?” ผมหันกลับมาถามเม


“ชมรมโฟโต้”


“ทำไม?”


“ไปถ่ายรูปดาวเดือนรณรงค์แต่งกายถูกระเบียบ”


“เปล่า กูรู้แล้วว่ามึงมีถ่ายรูป แต่กูงงว่าทำไมกูต้องไป” ผมพูดจบ เมก็สตั้นไปพักนึง ก่อนจะเรียกสติกลับมาเถียงกับผมต่อ


“มึงแม่ง ร้ายว่ะ แต่เอาน่ากูจะไม่ถือสาเพราะมึงต้องไปกับกู พวกนี้ไปเข้าชมรมกันหมดไม่ใช่มึงใครจะไปเป็นเพื่อนกูอ่ะ”


“พี่โนอากับพี่ยีนส์ไง”


“ยีนส์ทำโปรเจค ไม่ว่าง”


“อ้ออออออออออ” ไม่ใช่เสียงผมหรอกครับ เป็นเสียงน้ำพงศ์มะนาวแล้วก็เอ้ ทุกคนดูจะเข้าใจตรงกันหมดเลย...


ผมทำแค่ยิ้มกับตัวเอง ส่ายหน้าเบาๆ


“ยิ้มอะไรของมึง” เมย่นคิ้วพูดกับผม ก่อนจะหันไปทางมะนาว “ให้มันไปกับกูด้วยเข้าใจป่าว มะนาว”


“ห่ะ?” มะนาวทำความเข้าใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจตอบไปส่งๆเพื่อตัดรำคาญ “เออๆ ไปเถอะๆ”


“หึ” เมยิ้มเยาะอย่างผู้ชนะ


เมมามุขนี้ ผมจะไปลวดลายต่อล้อต่อเถียงอะไรได้อีกล่ะครับ...






...........................................................





เลิกเรียนช่วงบ่ายพวกใจไปอยู่กับการเต้นรีบแยกตัวออกไปตั้งแต่อาจารย์ยังไม่ทันเก็บของออกจากห้องด้วยซ้ำ น้ำอ้างว่ามีซ้อมบาส เหลือแค่ผมที่ถูกทิ้งไว้กับเม เลยโดนเมลากมาถ่ายรูปด้วยจริงๆ


ผมขับรถข้ามคณะมากับเมสองคน ถึงห้องชมรมโฟโต้ ผมหลบเข้ามุมชาร์จแบตเล่นมือถือเลยกะว่ารออย่างเดียวชิลๆ ในขณะที่เมโดนจับแต่งหน้าด้วยพี่ๆสามสี่คน ถึงจะไม่เต็มใจแต่ก็ดูยอมรับในชะตากรรม แค่แป็ปเดียวก็ออกมาสวยปิ้งเหมือนตอนประกวดดาวมหาลัยแล้ว และผมก็ไม่ลืมเก็บภาพเบื้องหลังไว้




“มึง แสงจะหมดอยู่แล้ว เดือนยังไม่มาเลยอ่ะ” อยู่ๆเสียงคุยกันเบาๆ ก็ชัดถ้อยชัดคำอย่างผิดวิสัย


“กูรู้แล้ว แต่กูไม่ตื่นเต้นหรอก” ผมเงี่ยหูฟังนิ่งๆ เริ่มสังหรณ์แปลกๆ


“ไม่ตื่นเต้นได้ไง ถ้าวันนี้ไม่ได้ถ่าย จะไม่ว่างกันแล้วนะ”


“เรามีแม็ตไง!” ทันไดนั้นสายตาทั้งหมดในห้อง ก็หันมาจ้องผมตาเป็นมัน


“ห่ะ!” แขนผมที่พิงท้าวไว้กับโต๊ะร่วงทันที


อะไรนะ?!


“ฮ่าๆๆๆๆ” เมหัวเราะดังมาก ไม่เกรงใจกระโปรงทรงเอที่นั่งหนีบอยู่นั่นเลย “เอาเลยพี่ จัดไป”


“เฮ้ย ผมไม่เห็นรู้เรื่องเลย ผมแค่ แค่มาส่งเม”


“น่า แปปเดียวก็เสร็จ นั่งนี่ นิ่งๆด้วย”


ความวุ่นวายเล็กๆก็เกิดขึ้น เพราะผมถูกลากมาจับเชือดหน้ากระจกแทนที่ที่เมนั่งเมื่อกี้ สักพักพี่ๆที่แต่งหน้าให้ แต่งไปสารภาพกับผมไป ว่าไม่ได้กะจะถ่ายผมจริงๆ แค่ว่างเพราะเดือนมหาลัยไม่มาสักทีเลยอยากเอาผมมาตั้งกลางห้องแล้วละเลียดเล็ม แตะๆ จับๆ ให้ชุ่มชื่นหัวใจเฉยๆ


เล่นเอาผมนี่ใจตกไปอยู่ตาตุ่ม








“พ่อเดือนวิดวะ เพื่อนหนูที่ตัวติดกันอ่ะ น้องมะนาวคนนั้นอ่ะ ไม่มาด้วยกันเหรอ?”


“เขาไปมีตติ้งของสันกับหมดครับ”


“แล้วเสร็จจากนี้ จะต้องกลับไปรับเขากลับพร้อมกันป่ะ?”


“รับสิครับ” ก็ผมขับรถมะนาวมานี่นา พวกนั้นทำกิจกรรมกันใต้ตึกไม่ต้องเดินทาง ผมเลยเอารถมานี่ไง


“อื้มมมม รับว่ะแก อิอิอิ”


“น่าเอ็นดู”


“เวลาอยู่ด้วยกันแล้วโลกสดใสเนอะ”







มีคนเปิดประตูเข้ามา เหมือนมีเสียงระฆังช่วยชีวิต คนที่หล่อกว่าผมเดินเปล่งประกายเข้ามาพร้อมกับคำขอโทษขอโพยที่มาช้า ทุกคนผละจากผมกรูกันไปรุมเดือนมหาลัย ผมได้จังหวะลุกออกมายืนชิดผนัง พยายามลูบแป้งบนหน้าออก


เสียงหัวเราะเหมือนกำลังสมน้ำหน้าจากเมทำให้ผมไม่อยากไว้ชีวิตมันเลย


แค่คิด ยังไม่ทันทำอะไร ไลน์ก็เด้งขึ้นมาเป็นชื่อพี่ยีนส์





อย่าหาว่ากูใจร้ายเลยเม มึงทำตัวเอง อย่าคิดว่ากูไม่รู้ว่ามึงเป็นคนเสนอเรื่องจับกูไปนั่งแต่งหน้าเมื่อกี้ แต่งหน้าไม่เท่าไหร่ แต่โดนรุมลวนลามเนี่ยสิ เมมันยิ่งดูสะใจเป็นพิเศษ


ผมก้มคุยไลน์กับปู่รหัส โดยพยายามไม่ให้เมเห็นว่ากำลังคุยกับใคร





หลังแต่งหน้าเสร็จ เราก็ย้ายไปสตูของคณะนิเทศ จัดเสื้อผ้าหน้าผมอีกนิดหน่อยก็เริ่มถ่ายเลย ผมนั่งอยู่ห่างๆ ตรงที่ที่จะไม่เกะกะใคร


และรอลุ้นว่าพี่ยีนส์จะมาไหม เพราะเอาเข้าจริง เขาแค่ถามว่าพวกผมอยู่ไหน ไม่เห็นอยู่กับพวกสัน ผมบอกไปตามพิกัดจริง แต่พอถามกลับไปว่าจะมาไหม เขากลับตอบกลับมาว่า เดี๋ยวดูก่อน


แล้วเดี๋ยวของเขามันคือแค่ไหนล่ะ?





ไม่นานหลังจากเริ่มถ่าย พี่ยีนส์ก็เปิดประตูเข้ามาจริงๆ ทีมเจ้ช่างแต่งหน้าที่มีทั้งผู้หญิงและเจ้สาวสวยก็กรูกันเข้าไปหาทักทายเหมือนรู้จักกันดิบดี ทั้งจับมือกอดแขนโอบเอวอิงไหล่ แถมยังหัวเราะกันสนุกสนานอีก เรียกว่าเป็นจุดสนใจจนตากล้องต้องพักหันไปมองว่าเกิดอะไรขึ้นเลย


“อยู่นี่จริงๆ ด้วย” พี่ยีนส์พูดขึ้นเมื่อเดินเข้ามาใกล้ๆตากล้อง ดูเหมือนตากล้องก็เป็นคนรู้จักเขานะ ยกกล้องหันไปถ่ายพี่ยีนส์เฉยเลย


“มาทำไมเนี่ย!” เมถามคนมาใหม่ตามสไตล์เม คือพูดห้วนๆและเต็มไปด้วยอารมณ์รำคาญ


“อะไร? มาหาตัวหลานรหัสต่างหาก” พูดถึงผม ทำไมไม่มองหน้าผมล่ะพี่ จ้องแต่เมอยู่แบบนั้น


“หลานยีนส์ เมเหรอ?” พี่สาวช่างแต่งหน้าสักคนถามขึ้น


“เปล่า โน้นต่างหาก”

"ต๊ายยยย นี่สายรหัสหรือสายเผ่าพันธุ์นางฟ้านายสวรรค์ ดีย์!" แล้วยังมีอีกหลายเสียงตามมา กว่าพี่ยีนส์จะปลีกตัวออกมาหาผมได้ก็อีกพักใหญ่




“มีอะไรรึเปล่าครับ มาถึงนี่”


“ปะ ไปด้วยกันหน่อย”


“ไปไหนครับ?”


“สโม”


“อ้าว” อ้าวนี้ เป็นของเมครับ


“เดี๋ยวโนอามันก็มารับเองแหละ โวยวายทำไมเนี่ย”


“จิ้”





พี่ยีนส์เดินมาเกี่ยวคอผม พาเดินออกจากสตู ไม่สนใจเมที่หัวเสียอยู่ข้างหลัง




และดูเหมือน พี่ยีนส์ทำให้สาวๆทั้งสตูใจสลายด้วยการพาตัวเองและผม จากพวกเธอไป








------------------------------------------------------------
TBC.




ใครคุ้นๆว่าเคยอ่านเรื่องนี้บ้าง ยกมือหน่อยยยยย 5555+
นานจนลืม นานจนร้าง แหะๆ ไม่มีอะไรจะแก้ตัว
ขอบคุณคนกลุ่มเล็กๆที่ยังแฮปปี้กับนิยายของฮับอยู่ คุณคือกำลังใจเดียวที่ทำให้ทุกวันนี้ยังเปิดไฟล์ร่างขึ้นมาพยายามต่อ
ไม่ได้ดราม่านะค่าาา แค่อยากบอกขอบคุณจริงๆ
ฮึ้บๆ
ตอนหน้าพี่แม็ตจะซวยเรื่องอะไรอีก โปรดรอติดตามด้วยค่าาาาาา


ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ ดาวโจร500

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
เย้มาแล้ววว เราชอบมากเลยยย
เป็นกำลังใจให้นะคะสู้ๆเยยยย :mew1:
แล้วไงต่อเนี่ยค้างงง
เดี๋ยวพี่ยีนโดนหนักแน่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-05-2017 10:15:27 โดย ดาวโจร500 »

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
คิดถึงมากๆเลยนะ   
ชอบพี่ยีนส์กะเมอีกละ น่ารัก

ขอพี่เทด้วยดิ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด