พิมพ์หน้านี้ - ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 36 เอ๋?] 13/8/60 P.14

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบ => ข้อความที่เริ่มโดย: Brosohub ที่ 16-01-2016 20:36:14

หัวข้อ: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 36 เอ๋?] 13/8/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 16-01-2016 20:36:14
(https://www.img.in.th/images/aebd96d41bf961d6178e2d314634e89e.png)
อ้างถึง
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่


1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

เพิ่มเติม >> http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0





 โพสแรก เป็นกฏ กับแจ้งข่าวสารนะคะ เผื่อไว้สารบัญในอนาคตด้วย

    - นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้น ทั้งบุคคล สถานที่ และเหตุการณ์ที่อ้างถึงในเรื่องล้วนไม่มีอยู่จริง
    - มีฉากหวาบหวิวอยู่เป็นนิจ (เขินนนน >///< ) ดังนั้นควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน นะคะ
    - เป็นแนวเรื่อยๆ มาเรียงๆ รักแบบไม่รีบร้อนจ้า เด็กๆ ต้องการเวลาในการเติบโต อิอิอิ

    - คนเขียนเรื่องนี้ยินดีรับคำติเป็นอย่างยิ่ง ทั้งหน้าไมค์หรือหลังไมค์ก็ได้ ถ้ามีความคิดเห็นว่าตรงไหนอยาหให้ปรับปรุง โปรดบอกกันคะ

(https://www.img.in.th/images/aebd96d41bf961d6178e2d314634e89e.png)


ขอบคุณทุกๆ ยอดวิว คะแนน +เป็ด และทุกคอมเม้นต์นะคะ คุณคือกำลังใจและแรงผลักดันเลย
จะพยายามอัพให้สม่ำเสมอ ไม่เกเรนะ
 ฝากติดตามด้วยนะคะ
   :katai4:


   ผลงานอื่นๆ
[เรื่องสั้น] ☻☺☻ เหงา...ตัวเท่าบ้าน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56219.0) เรื่องของคนขี้เหงา จบ.
[เรื่องสั้น] คิงไซซ์ ใจเดียวกัน  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52182.0) (จบ.)
 ➽ ลอง เจ็บซ้ำ... Try Again. ➽  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54795.0) เรื่องแยกจากกระทู้นี้ คู่ฟ้าเท (ยังมิจบ)
(https://www.img.in.th/images/d14adbf305eb0e61ed335a34182906fe.png)


เพจคนหัดเขียน >> https://web.facebook.com/Brosohub/
หัวข้อ: Re: love Again. ย้ำรัก [บทนำ]
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 16-01-2016 20:49:04
(http://i1159.photobucket.com/albums/p636/Browny_Tan/bro/loveagain2_zpscs9dbvrb.png)
- บทนำ -

------------------------------------------------------------



   วันนี้คือวันแรกของชีวิตมหาลัย...

   ผมอยู่ปีหนึ่ง เฟรชี่หมาดๆ

   ผมตื่นเต้นกับวันนี้มากๆ นึกว่าเปิดมาจะต้องเรียนหัวหมุนกันตั้งแต่ชั่วโมงแรก แต่ตารางเรียนครึ่งเช้าของวันเปิดเทอมวันแรกถูกยกเลิก เพราะมีกิจกรรมที่ผมยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ คือการจับสายรหัส จับจริงๆ ครับ ที่นี่เล่นให้พี่ๆ จับรหัสน้องจากในปีบ เหมือนจับฉลากของขวัญปีใหม่ โคตรง่าย เข้าใจง่ายดีสมกับเป็นวิดวะครับ ฮ่าๆๆ

   ครับ ผมนั่งรอให้พี่ประกาศรหัสรวมกับเพื่อนๆ ดูก็รู้ว่านี่เป็นห้องเรียนที่เก้าอี้ถูกยกออกไปเหลือแต่พื้นโล่งๆ มีพี่ตั้งแต่ปีสอง สาม และสี่มารอต้อนรับน้องๆ เข้าสู่สิ่งที่เรียกว่าสายรหัสกันอย่างอบอุ่นจนผมรู้สึกแอร์ไม่พอ เป็นปกติของระบบมหาลัยมั้ง คงเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ผมเห็นเพื่อนๆ ที่แยกย้ายไปเรียนที่อื่นก็มีกันทุกที่ ไอ้สายรหัสเนี่ย คณะผมแต่ละปีรับนักศึกษาไม่เคยเท่ากัน เพิ่มบ้างลดบ้าง บางปีรับน้อยลงพี่สองคนก็จับมือกันดูน้องคนเดียว อย่างปีผมรับมากขึ้นก็กลับกันพี่ปีสองบางคนจะได้น้องรหัสสองคนครับ ทั้งหมดนี้พี่เขาอธิบายก่อนเริ่มจับ พี่บางคนก็มาเงียบๆ จับเสร็จก็พาน้องออกไปทำความรู้จักกันเงียบๆที่นอกห้อง แต่พอเป็นคนดัง คนหล่อคนสวย ก็มีทั้งคำบรรยายสรรพคุณและเสียงโห่ร้องแซวเล่นกันดูคึกคักสนุกสนานดี

   ในที่สุดก็ถึงคิวผมครับ พี่พิธีกรประกาศรหัสผม

   เยส!

   โคตรดีใจ  เพราะ  เธอ  สวย  มาก!

   “กรี๊ด ได้น้องผู้ชาย ขุนแม่ปลื้มค่ะ” พี่จับแก้มแล้วทำหน้าตาดีใจออกนอกหน้า ท่าทางเธอดูเป็นกันเองสนิทกับทุกคน และดูร่าเริงมาก เอ่อพี่ ผมก็เขินนะ แต่ผมว่าผมไม่ได้คิดไปเอง ทั้งพี่ๆ ที่มารอรับน้อง และเพื่อนๆ ที่นั่งเรียงแถวกันสลอน มองมาส่งสายตาเชือดเฉือน อะไรพี่จับได้ผมเอง ไม่ใช่ความผิดผมนะ

   ผมค่อยๆเดินแหวกทางออกไปให้พี่รับผมที่ข้างหน้าห้อง

   //โนอาดาวมหาลัยของเราดูท่าจะได้น้องไปปั้นเป็นเดือนมหาลัยแล้วนะค่ะ แหมมมม สูงแว่นขาวตี๋ สเปคเจ้ เจ้ชอบบบบบ ถ้าอยากได้พี่เลี้ยงบอกพี่นะค่า// ผมตกใจเสียงพิธีกรครับ ปกติก็ตุ้งติ้งธรรมดา แต่สามประโยคสุดท้ายดันทำเสียงแมนโคตรใหญ่ มันน่ากลัวมากพี่ผมขอบอกในใจ

   “อย่าหวังจะได้แอ้มย่ะมีมี่ น้องฉันอย่ามาทำน้องฉันแปดเปื้อน เช้อะ” คำพูดเหมือนจะกัดกลับ แต่เขาสองคนก็ยิ้มให้กันนะ สงสัยจะเล่นๆ พี่รีบดันผมออกจากความวุ้นวายให้กิจกรรมดำเนินต่อไปได้อย่างไม่เสียเวลา

   “ว่าไงไอ้น้องชาย ยินดีที่ได้รู้จัก” พี่ยืนมือมาตบไหล่ผมปุๆ “แนะนำตัวสิ”

   “หวัดดีครับ ผมแม็ตครับ ภาคคอมฯ”

   “อุ้ย! ภาคเดียวกันด้วย หวัดดีจ๊ะ พี่โนอานะ ต่อไปนี้มีอะไรสงสัยก็ถามพี่ มีเรื่องอะไรก็บอกพี่ ไม่มีอะไรก็บอกพี่ ใครแกล้งก็บอกพี่ ไม่ชอบใครก็บอกพี่ ชอบใครยิ่งต้องบอกพี่ เข้าใจนะ”

   “ครับ”

   “บ้านอยู่จังหวัดอะไร?”

   “เพชรบุรีครับ”

   “เหรอ พี่ชลบุรีนะ แล้ว อยู่หอแถวไหน มีเมทรึเปล่า”

   “หออยู่หลังมอครับ ซอยสอง อยู่คนเดียว” ผมตอบไป พี่ผมก็จดทุกอย่างลงในสมุดโน้ตเล็กๆ ของเธอ จริงจังขนาดนั้นเลย?

   “ลูกคนที่เท่าไหร่ มีพี่น้องกี่คน”

   เอาจริงเหรอเนี่ย? “สามครับ ผมคนโต”

   “กินเหล้าเบียร์รึเปล่า?”

   “ก็ กินได้นะครับ”

   “ดีๆ ไม่แพ้เหล้าเนอะ แล้วอาหารล่ะ แพ้อะไรมั้ย”

   “ไม่แพ้ผมกินได้หมด แต่ผมไม่กินเนื้อ กับหัวหอม ผมว่ามันเหม็น”

   ดูเหมือนเธอจะลิสรายการที่จะถามไว้ล่วงหน้าแล้ว

   “วันเกิดล่ะ?”

   “พฤหัสฯ”

   “วันที่”

   “15”

   “เดือนปี”

   “ธันวา 40 ครับ”

   “กรุ๊ปเลือด”

   “โอครับ”

   “มีโรคประจำตัวมั้ย”

   “ไม่มีนะครับ”

   “เอาเท่านี้ก่อน เดี๋ยวน้องตกใจ” ผมตกใจเรียบร้อยแล้วพี่ โห “มาแลกเบอร์กัน” ผมบอกเบอร์ตัวเองให้พี่รหัสทีนี้เธอยกมือถือขึ้นมากด พิมพ์เสร็จพี่ก็ยิงเข้าเบอร์ผม บอกให้ผมเมมไว้ด้วยเดี๋ยวลืม ผมยังไม่ทันหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกง พี่แกก็ส่งสติ๊กเกอร์ไลน์มาทักทาย นี่เมมเบอร์ผมเสร็จแล้วเหรอ ผู้หญิงกับมือถือนี่ไวมาก

   “เย็นนี้หลังเลิกเชียร์ ให้ไปกินเลี้ยงกับโต๊ะนะ พี่จะไปดูแล ไม่ต้องห่วง ฟรีตลอดรายการ แล้วก็ปลอดภัยด้วย รับประกัน แล้วก็!” พี่สาวที่ตัวแค่ไหล่ชี้หน้าผม อยู่ๆ จากร่าเริงก็ทำหน้าจริงจัง “ให้เข้าเชียร์ด้วย เข้าใจไหม เรื่องนี้พี่ขอ เพราะเด็กสมัยเนี้ยไม่ค่อยเปิดโอกาสให้เชียร์เลย ไม่เข้าซะดื้อๆ ไม่รู้หรอกว่าคนพวกนั้นพลาดอะไรดีๆ ไปบ้าง นะๆ พี่ขอ ถือว่าทำเพื่อพี่”

   “ผมก็กะว่าจะเข้านะ อย่างน้อยก็ครั้งแรก”

   “ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก แค่ไปร้องเพลงคณะ คำหยาบก็ไม่มี ทำโทษก็ไม่เคย ที่น่ากลัวๆ แบบที่เห็นในข่าวนั้นไม่มีเลย เป็นเชียร์ที่ชิลและเท่ที่สุดเลย”

   “จริงเหรอครับ?”

   “จริงจริ้ง!”

   ผมจะไม่เชื่อก็ตรงคำยืนยันของพี่เนี่ยแหละ

   “ไม่มีลุกนั่ง วิดพื้นโดดสระน้ำดำๆนะ”

   “โหดูการ์ตูนมากไปป่ะเนี่ย ถ้าจะมีก็คงที่อื่น ที่นี่ไม่มีแน่นอน”

   //รหัส 887 อยู่ไหนยกมือสิ// ผมเห็นพี่รหัสทำตาโตก่อนหันไปมอง ผมก็เลยหันตามไป

   //มา ออกมาหาพี่รหัส มึงอย่าแกล้งน้องนะเว้ย ถ้าจะแกล้ง ให้มาแกล้งกุที่ห้อง กุรออยู่// ผมได้ยินพิธีกรการจับสายรหัสพูดใส่โข่งแซวเพื่อน ดูท่าทางพี่คนนี้ก็ฮ๊อตพอๆ กับพี่โนอาล่ะมั้ง ดูจากเสียงแซวและเสียงโห่ร้องโต้ตอบกัน

  “แม็ต เรารหัส 888 ใช่ป่ะ?”

   “ครับ?” พี่ต้องจำได้อยู่แล้วก็เพิ่งจะจับได้เลขรหัสผมจากในกล่องขนมปีบเมื่อกี้ ผมเห็นพี่โนอากรี้ดดีใจเพราะเลขสวย ไม่ได้ดีใจที่ได้ผมเป็นน้องหรอกนะ แต่ที่สงสัยคือจะถามย้ำทำไม

   “ตอนบ่ายมีเรียนแลปฟิสิกซ์ใช่ป่ะ”

   ยิ่งสงสัยเข้าไปอีก ใช่ ผมพยักหน้าเบาๆ แล้วทำไมล่ะ?

   “จำเพื่อนที่รหัส 887 คนนั้นไว้ให้ดีนะ”

   “ทำไมเหรอครับ?”

   “ก็นั้นแหละ คู่แลปเรา” คงเห็นผมทำหน้าสงสัย พี่เลยอธิบายต่อ “ชื่อวิชาก็บอกอยู่แล้วว่าแลป ต้องมีการทดลองนั่นนี่ทางฟีสิกต์ นอกจากอุปกรณ์กับพื้นที่จะมีจำกัดแล้ว การทำโน้นทำนี่ทั้งหมดคนเดียวมันก็เป็นไปไม่ได้ เลยต้องจับคู่ทำ นั่นแหละคู่ขาเรา”

   “คู่หูรึเปล่าพี่?” ผมฟังแล้วขัดหู ถ้าไม่อะไรก็จะไม่แย้งหรอกนะ

  “ฮ่าๆๆๆ นั้นแหละๆ” พี่ตบบ่าผมอีกแล้ว “นอกจากวิชานี้แล้วยังมีวิชาอื่นอีก ถึงจะอยู่คนละสาขา แต่ลองไปขอตารางเรียนดูสิ แทบจะเหมือนกันทุกวิชาแหละเหมือนยันเสคที่เรียน ถ้าเข้าขากันได้ดี หนูจะมีเพื่อนเดินไปเรียนด้วยอีกสองขานะ บ่ายนี้ก็ลองทำความรู้จักกันไว้ล่ะ”

   เพราะอย่างนี้เอง เขาถึงต้องมีพี่รหัส จับสายยังไม่ทันเสร็จก็แนะโน้นนำนี่ผมซะยืดยาว พี่รหัสผมนอกจากจะเป็นดาวคณะแล้วความแฟลลี่เป็นกันเองก็ทำให้เป็นขวัญใจหนุ่มๆ จริงๆ ผมรู้เพราะเมื่อกี้พิธีกรพูดสรรพคุณพี่ผมหมด ผมถึงโดนสายตาทิ่มแทงจากเพื่อนๆ ทันทีที่ยกมือและลุกขึ้นไง

   “แล้วก็ลากมันไปเชียร์ด้วย อันนี้พี่ก็ขออีก” พี่โนอาไม่ลืมย้ำ

   ผมมองไปที่เพื่อนรหัส887 เขาผิวขาวเหลืองเหมือนผู้ชายทั่วไป แต่หน้าคม และตาคมแบบคนไทย ผมสีทองอ่อนจนเกือบขาวแถมยาวกว่าคนอื่นๆ ผมจับผมตัวเอง ตัดเกรียนมาตลอดตอนมัธยม ปิดเทอมแค่สองเดือนก่อนเปิดเทอมก็ไปเล็มให้เข้าทรง ก็ยาวได้นิดหน่อยเอง ผมจับหัวตัวเองที่ยังดูออกว่าเพิ่งผ่านช่วงหัวเกรียนมาหมาดๆ ผมยังมองเขาอยู่ ในขณะที่เขาก็บังเอิญมองมา เราสบตากันครู่หนึ่ง ก่อนเขาจะต้องเดินตามไปคุยกับพี่รหัสต่อ


   หวังว่าเราจะเป็นเพื่อนกัน ได้ดี




------------------------------------------------------------------------

ฝากเนื้อฝากตัวด้วยจ้า หลังวางมือนิ่งๆ มานานอยู่ๆ ก็คันมือ อิอิ เรื่องนี้เป็นแรกที่เขียนมาลงเล้า และกะว่าคงไม่ได้ลงที่อื่น เพราะ ขี้เกียจ 5555

แอบตกใจค่ะ พอก็อปฯมาวาง รูปแบบหน้าหายหมด
นี่ถ้าเจอตอนปกติ เข้าไปคงเคาะกันมือหงิก
หัวข้อ: Re: love Again. ย้ำรัก [บทนำ]
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 16-01-2016 22:08:44
(http://i1159.photobucket.com/albums/p636/Browny_Tan/bro/loveagain2_zpscs9dbvrb.png)
- บทที่ 1 - วันแรกของชีวิตมหาลัย -

------------------------------------




    ผมรู้สึกโชคดีอย่าง คือไม่ต้องมานั่งลุ้นนอนลุ้นเรื่องพี่รหัสสายรหัสให้มากความ เพราะทันทีที่เปิดเทอมวันแรกก็ประกาศกันโต้งๆ ไปเลย จะได้ช่วยในการปรับตัวและใช้ชีวิตในมหาลัย เสร็จจากกิจกรรมจับสายรหัสพี่โนอาก็พามาโรงอาหารในคณะ แนะนำร้านอร่อยเลี้ยงข้าวเที่ยง ซื้อขนมให้กินโดยบอกว่าเงินทั้งหมดเป็นเงินของสาย พอผมถามว่าพี่ปีสามกับปีสี่ไปไหน พี่โนอาบอกว่าพี่ปีสี่ฝึกงานอยู่ญี่ปุ่นยังไม่กลับ พี่ปีสาม ไทร์ ผมนี่สยองเลย

    ทั้งที่ใส่กระโปรงพี่โนอาแว้นมอร์ไซฯเพื่อนกลับหอไปเอาหนังสือเรียนวิชาของบ่ายนี้มาให้ผมด้วย (ส่วนที่เหลือเอาไว้วันหลังจะเอามาให้ทุกเล่มทุกวิชาเลย เพราะพี่ไม่มีที่เก็บพี่โนอาบอก)

    การมีพี่รหัสมันดีอย่างนี้เอง ก่อนแยกกัน พี่โนอาถามแล้วถามอีกว่าจะให้ไปส่งไหม เพราะรู้ซึ้งว่าตึกที่เรียนนั้นอยู่ไกลแค่ไหน แต่ผมก็ปฏิเสธไป เพราะอยากทดลองเดินดู ถ้าไม่ไหวค่อยให้พ่อส่งรถตามมาให้ใช้

    ใกล้เวลาเข้าเรียนผมเดินข้ามคณะ ไปฝั่งคณะวิทยาศาสตร์คนเดียว เดินหาจนเจอห้อง 401 ดูแล้วเวลาเหลือพอไปห้องน้ำก่อนได้ พี่โนอาเตือนว่าวิชาพวกแลป ห้ามสายห้ามขาด ไม่งั้นได้ไปเรียนกับรุ่นน้องปีหน้าแน่

    ผมเดินเข้าห้องชิลๆ ก่อนเวลาห้านาที มีบางคนมาถึงก่อน บางคนนั่งกระจายๆ กันอยู่ตามโต๊ะ หลายคนยังออกันอยู่กระดานหน้าห้อง ผมเดินเข้าไปดูว่าเพื่อนมุงอะไรกัน เวลาแบบนี้นี่แหละความสูงมีประโยชน์

   อ้อ เช็คชื่อ พร้อมบอกโต๊ะที่นั่ง และคู่แลป เพื่อนรอเช็นชื่อนี่เอง

    ผมต่อแถว เซ็นชื่อ และไปนั่งตามโต๊ะที่ระบุ คนที่ท่าทางจะเป็นอาจารย์เดินเข้ามาในห้อง พร้อมลูกมือที่ยกหนังสือมาอีกสองตั้งใหญ่ๆ

    “ให้เวลาอีก10นาทีนะ” แล้วทั้งหมดก็ทิ้งกองหนังสือไว้ และจากไป
งงครับ

    ผมหันไปดูนาฬิกาเรือนที่แขวนอยู่หน้าห้อง บ่ายโมงเป้ะ เข็มวินาทียังไม่ครบรอบ อะไรจะตรงเวลาปานนั้น

    ผมมองหาเพื่อนคู่แลปที่ยังไม่มานั่งที่โต๊ะ ในกลุ่มที่ต่อแถวก็ไม่มี โอ้ย จะทันมั้ยนะ

    ผมทำใจนิ่งๆรอจนครบสิบนาที ตอนนี้ทุกเก้าอี้มีคนจับจองเกือบครบแล้ว ขาดแค่ไม่กี่คน ขาดคนข้างๆ ผมด้วย

    ผมไม่ได้สาย  แต่ทำไมตื่นเต้นจังว่ะ

    เหมือนเสียงนกหวีดดังครับ อาจารย์เดินเข้ามาแล้ว พร้อมผู้ติดตามซ้ายขวา ผมนี่แทบปาดเหงื่อ

    “เอาล่ะ วันนี้เราจะมาทำความรู้จัก และกติกาสำหรับวิชานี้กันก่อน”

    “ถ้าเป็นการเรียนการสอนจริง คนที่เดินเข้าประตูมาหลังอาจารย์ ถือว่าสาย สายแปลว่าขาด” เชดดดดดดดด

    “ปากกาแดงจะถูกขีดทับรายชื่อที่ยังว่างอยู่เมื่อเลยเวลา อาจารย์จะเข้ามาเริ่มสอนเวลานี้ คือบ่ายโมงสิบนาทีตรง นี่หยวนๆให้แล้วนะ” ในน้ำเสียงทุ่มอบอุ่นผมรู้สึกถึงความเย็นเยือกในนั้นอยู่ครับ “ผลและสรุปการทดลองจะให้ส่งในนี้” อาจารย์เดินไปอีกโต๊ะที่มีตะกร้าใส่เอกสารเปล่าๆ วางอยู่ “เซ็นชื่อแล้วก็เอามาวางไว้นี่ รายงานจะส่งอาทิตย์ต่ออาทิตย์ เช่นทำอาทิตย์นี้ ส่งก็ตอนมาเรียนอีกทีในอาทิตย์หน้า ของที่เรียนอาทิตย์หน้า ก็ส่งอาทิตย์โน้น เข้าใจนะว่าที่วิศวกร และนี่” อาจารย์ผายมือไปทางประตูทางเข้าข้างๆ ตัวแก “คือตัวอย่างของผู้มาสาย”

    ผมเห็นคนที่เปิดประตูเดินเข้ามานี่แทบเอาหัวโขกโต๊ะ ผมสีอ่อนกับตาคม นั่นคู่แลปผมเอง มึง มานี่ มาๆๆ โคตรอาย ผมอายแทน

    “ไปนั่งที่ก่อน อาจารย์พูดจบค่อยมาเซ็นชื่อนะ” อาจารย์ยิ้มปิดท้ายพูดเหมือนจะดูใจดี แต่ฟังแล้วผมหวิวๆ ไงไม่รู้ ผมกวักมือเรียกสุดชีวิต “โน้น เพื่อนเรียกแล้ว”

    ทุกคนหันพรึบมาทางผม ผมนี่หน้าชา ต้องเอาประโยคเด็ดเมื่อหลายปีก่อนมาใช้ ‘เหมือนตบเด่นกลางสี่แยก’

    ไอ้คู่แลปผมก็คงรู้สึกอายไม่ต่างกัน มันขอโทษอาจารย์แล้วพุ่งพรวดเดียว กระโจนข้ามห้องมานั่งหอบข้างผม

    “ชิบหายอะไรวะเนี่ย” มันบ่นเบาที่สุดพร้อมๆ กับหอบไปด้วย “ไงก็ขอบใจนะเว้ย”

    “ไม่เป็นไร ฟังอาจารย์ก่อนเดี๋ยวจะอธิบายทีหลัง”

    “ในหนังสือนี่ จะมีรายละเอียดการทดลองต่างๆ ตลอดทั้งเทอมนี้ อยู่ทั้งหมด เล่มเดียวจบ การบ้าน คืออ่านและทำความเข้าใจวิธีการทดลองของชั่วโมงต่อไป มา ง่ายม้ากกกกกกก” ถ้าไม่นับช็อตเมื่อกี้ ผมว่าผมชอบวิธีพูดของอาจารย์คนนี้นะ ดูพลิ้วไหวฟังสบายน่านอนมาก “เข้าห้องมา เช็คชื่อ ส่งงาน รับและเช็คอุปกรณ์การทดลอง แล้วก็รอฟังการแสดงตัวอย่างของอาจารย์และอาจารย์ผู้ช่วย และทำการทดลองเองตามขั้นตอนตามลำดับที่ถูกต้อง บันทึกผลไว้ ทำเสร็จ เก็บของให้ทุกอย่างเหมือนตอนที่เข้าห้องมา เซ็นคืนอุปกรณ์ เปิดตูดออกจากห้องได้ทันที ใครเสร็จก่อนกลับก่อนอย่าได้แคร์”

    โอ้ย อาจารย์รุ่นๆ พ่อผมเลย แต่ศัพท์แต่ละคำ วัยรุ่นมาก

    “จบ ปล่อยล่ะวันนี้”

    “หา?” หลายคนอุทาน เกิดเสียงงึมงำๆขึ้นทั่วห้อง

    “ใจเย็นๆ ก่อนกลับก็มารับหนังสือ กับจ่ายเงินค่าหนังสือที่โต๊ะนี้ก่อนนะ ใครที่คู่แลปยังไม่มาก็ซื้อให้เพื่อนด้วยล่ะ รอบหน้าไม่มีแล้วนะ จารย์ไปล่ะ บ๊าย!” เกิดเสียงงึมงำอีกครั้งและคนเริ่มลุกขึ้นทยอยไปหน้าห้อง

    ผมชอบอาจาย์นะ บ๊าย!

    “รีบแทบตาย โอ้ย”

     คนนั่งข้างผมฟุบหัวลงกับโต๊ะ ทิ้งแขนห่อยไปข้างตัว เขายังหายใจเหนื่อยๆ อยู่เลยเมื่อกี้

    “นายๆ ไปเซ็นชื่อก่อน เผื่ออาจารย์เดินกลับมาเก็บใบเช็คชื่อ”

    “เออว่ะ” มันพุ่งตัวไปเซ็นชื่อที่หน้าห้อง จริงๆเขาไม่ได้มาสายสุดหรอกครับ รายชื่อยังว่างอยู่อีกสองสามชื่อ แต่จังหวะมันโคตรซวย

    “นายชื่อ อดิศร เหมือนกันเหรอ?”

    “ใช่ หวัดดี เราแม็ต”

    “เออดี”

    “เฮ้ย ชื่อกุเลย อดิพัฒ ชื่อเล่นต่อว่ะ เอกโยธา”

    “กูอดิพันธิ์ เรียกเว เอกไอที เมื่อกี้มึงบอกชื่อเล่นยัง?”

    “ยังมั้ง มะนาว เรียกนาวก็ได้ เมื่อกี้จารย์เข้าก่อนกูมานานป่าววะ”

    “ไม่นะ แค่สองสามนาที แต่ถ้าเป็นอาทิตย์หน้าที่จะเรียนจริง จะถือว่าขาดเรียนไปเลย”

    “เหี้ยมาก”

    “อื้ม สายสามครั้ง ไม่มีสิทธิสอบ ก็ถือว่าตก” ผมบอกเพื่อน

    “เฮ้ยจริงดิ้ เมื่อกี้อาจารย์ไม่เห็นบอก” เวหันมาถามตาโต

    “อื้ม พี่รหัสบอก”

    “พี่กุไม่เห็นบอกอะไรเลย” ต่อบ่น ต่อป่าววะ ต่อมั้ง ถ้าจำชื่อไม่ผิด

    “ยังดีกว่าพี่กู ทำกูสายเนี่ย แล้วจารย์บอกไรอีกป่าวที่กุควรรู้” นาวหันมาสบตาผมไปเซ็นชื่อมาคงรู้แล้วว่าเราต้องทำงานคู่กันตลอดเทอมนี้

    “ก็ไม่มีไร ส่งงานอาทิตย์ต่ออาทิตย์ ทำเป็นคู่ ส่งเป็นคู่ แค่นั้นแหละยังไม่ได้พูดอะไรมาก” ต่อกับเวชวนกันไปซื้อหนังสือเพราะคนเริ่มน้อย

    “อ้อ อื้มๆ” นามทำหน้าเข้าใจ แล้วหันไปดูคนที่ต่อแถวซื้อหนังสืออยู่หน้าห้อง

    เพราะขนตายาวนี่เองตาถึงได้ดูคม คมออกไปทางหวานนะผมว่า

    มะนาวก้มลงเปิดกระเป๋าสะพายข้าง ผมเผลอมองตาม มันเปิดช่องนั้นช่องนี้แล้วทำหน้าตกใจ

    “เชี้ย เป๋าตังหาย”

    “จริงเหรอ หาดูดีๆ”

    “ไม่มี” มันเททั้งกระเป๋าออกมาบนโต๊ะ มีสมุดโน้ตเล่มเท่าผ่ามือ หูฟังไอพอตชัฟเฟิล พาวเวอร์แบง แฟรตไดร บิลเซเว่น กับเศษเหรียญสองสามเหรียญ ไม่มีอะไรที่หน้าตาคล้ายกระเป๋าตังเลย

    “หายหรือลืม” ผมถามให้มันย้อนคิด ทำไมผมต้องตื่นเต้นไปกับมันอีกแล้วเนี่ย

    “ไม่รู้ โทรหาพี่แปป เผื่อเขาเก็บไว้ให้” มันตบๆ กระเป๋ากางเกง

    “เฮ้ย! โทรศัพท์ก็หาย” มะนาวตกใจจนโต๊ะข้างๆ หันมามองหลายคนเลยครับ

    “...” ผมพูดไม่ออกเลย

    “ยืมโทรศัพท์หน่อย” ผมหยิบให้มันอย่างรู้งาน ปลดล็อกให้เสร็จสัพ

    มันกดเบอร์อย่างรีบ แล้วโทรออก คงโทรเข้าเบอร์ตัวเอง

    “ติดแล้วๆ” มันบอกผม หรือบอกตัวเองวะ รนทั้งคู่เลยตอนนี้

    “เออดีๆ รับมั้ยๆ”  ทำไมผมต้องตื่นเต้นไปกับมันขนาดนี้เนี่ย

    “ฮัลโหลๆ นั้นใครครับ”

    “อ้าว พี่เท โหยพี่ ผมหัวใจจะวาย เป๋าตังด้วยเหรอ เออๆ อ้าว” มันยกหูออก คนที่ชื่อเทวางไปแล้วครับ คุยได้แปปเดียวไม่ถึง 30 วิฯเลย

    “ว่าไง” ผมถาม พร้อมๆ กับที่มะนาวส่งโทรศัพท์คืนผม

    “พี่เก็บไว้ให้ ทั้งโทรศัพท์ ทั้งกระเป๋าตังเลย บอกว่ากุลืมไว้ที่โต๊ะกินข้าว เรียกก็ไม่ทัน นี่เขาติดเรียน เรียนเสร็จจะโทรกลับเบอร์นี้ เอาของมาให้”

    “ดีแล้วที่ไม่มีอะไรหายนะ ใจเย็นๆ”

    “ดีไงล่ะ แล้วจะซื้อหนังสือไงล่ะเนี่ย”

    “เดี๋ยวออกให้ก่อน ได้เป๋าตังค่อยคืนไง ยังไงก็ต้องรอเอาของพร้อมกันใช่มั้ยล่ะ”

    “เห้อ ลำบากมึงแล้วล่ะ”

    “เอาน่า รอนี้นะ” ผมลุกขึ้นไปซื้อหนังสือ หันไปมองก็เห็นมันเอาหัวซบโต๊ะ แขนห้อยโตงเตงอีกรอบ


     ...........



    “พี่พาไปกินอะไรมาถึงสาย”

    “บุพเฟ่ชาบู หน้ามอรถโคตรติดสายตรงนั้นแหละ”

    ผมมานั่งร้านกาแฟ รอพี่รหัสมะนาวเลิกเรียน ผมก็รอเข้าเชียร์

    “นาวจะเข้าเชียร์มั้ยเย็นนี้”

    “ว่าจะไม่เข้านะ ขี้เกียจ มึงอ่ะ”

    “คงเข้าแหละ อย่างน้อยก็ครั้งแรก”

    “เหรอ” มันทำท่าคิดหนักจนหน้าเบี้ยว ดูท่าจะเกลี้ยกล่อมได้นะ

    “ไปลองดูมั้ย พี่รหัสบอกไม่น่ากลัว แค่ไปนั่งร้องเพลงพวกเพลงคณะกับเพลงมหาลัย”

    “เหรอ กูชอบร้องเพลงนะ แต่...”

    “ไปดิ กุก็ไปไง”

    “ไปก็ได้ ลองดู เพราะพี่กูบอกให้โทรบอกแม่ไปแล้วว่าวันนี้ค้างกับพี่ เห็นว่ามีปาตี้”

    “ฮ่าๆ อยู่เพราะปาตี้?”

    “แม่น สาวๆ เพลงดึ้บๆ” มันทำหน้าฟินอย่างร้ายกาจครับ

    พนักงานยกกาแฟมาเสริฟ มะนาวสั่งโกโก้ปั่น ผมสั่งอเมริกาโน่ครับ ผมอายุเท่านี้ก็กินกาแฟเป็นนะ ตายายผมทำสวนกาแฟครับ

    “มันคืออะไรวะ” มะนาวชี้แก้วผม คงคุ้นเคยกับกาแฟใส่นมสีขุ่นๆ

    “อเมริกาโน่ ปกติกินกาแฟรึเปล่าล่ะ?”

    “กินแต่ลาเต้ ไม่ก็คาปู”

    “ชิมมั้ย”

    มะนาวรับไปชิมจริงๆ ครับ ผมนี่เตรียมหัวเราะเลย

    “อื๋ม” มะนาวทำหน้ายู่เลยครับ นอกจากมันจะเป็นกาแฟดำไม่มีนมและคลีมปน ผมยังสั่งไม่ใส่น้ำตาลด้วย

    เป็นภาพที่น่ามองมากครับ ผมเปล่าแกล้งนะ

    “ฮ่าๆๆๆ”

    “กินได้ไงว่ะ แม่ง”

    “กินแบบนี้แหละ ไม่อ้วน มีประโยชน์”

    “ยังไงว่ะ”

    “ช่วยเผาผลานไง”

    “กูจะไม่สั่งแดกครับ ขอบคุณที่ให้ประสบการณ์ตรง”

    ผมหยิบมือถือขึ้นมาเช็คเฟสกับอ่านข่าวในทวิตได้แปปเดียวก็นึกขึ้นมาได้ว่าเพื่อนผมไม่มีมือถือเล่น ตอนนี้มันหยิบขายหัวเราะมาเปิดผ่านๆ แต่ทำหน้าเซ็งมาก ผมเลยนึกอะไรออก

    ผมเปิดเกมที่เล่นกันสองคนขึ้นมา และยื่นให้มันเริ่มเล่นก่อน

    “อะไรว่ะ ปริศนาฟ้าแล็ป?” มันรับมือถือผมไปครับ “กูเกลียดเกมนี้ แม่งไม่เคยชนะใครเลย”

    มะนาวบ่นแต่กดเริ่มเล่นเกมทันทีครับ ผมได้ยินเสียงเฮียปัญญาบอกจับเวลา มันเป็นเกมตอบคำถามที่มีตัวเลือกให้เลือกครับ ต่างจากรายการในทีวีที่ต้องมั่วคำตอบเอง ผมเลือกแบบแบทเทิล ที่มีคำถามเหมือนกันให้เล่นคนละรอบ

    มะนาวขมวดคิ้วกับคำถามครับ อ่านไปทำปากขมุบขมิบไป เวลาตอบถูกมันดีใจออกทางสีหน้า เวลาตอบผิด ก็ ฟ้องออกมาหมดครับ ตลกดี แค่เห็นสีหน้ามะนาวเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาผมก็ขำแล้วครับ

    “เชี่ย อย่าหัวเราะดิ เสียสมาธิ” ผมโดนดุเฉยเลยครับ ฮ่าๆๆๆ

    “เหี้ย  ตอบไม่ทัน”

    “ได้เท่าไหร่?

    “ห้า โคตรน่าเสียดายผิดตรงหกทุกที”

    “ตากูบ้าง” ผมกดเริ่มเล่นครับ

    มะนาวมายืนลุ้นว่าผมจะตอบอะไรโง่ๆออกไปให้เขาหัวเราะตอนไหน เล่นมายืนหัวเราะอยู่ข้างหลังผมแบบนี้ผมก็ไม่มีสมาธิสิครับ แล้วผมก็ได้สี่ครับ

    พอผลออกมา มันยิ่งหัวเราะชอบใจใหญ่ บอกว่าชาตินี้เพิ่งเคยชนะคนอื่นครับ

    “ตาต่อไปกูเล่นก่อนบ้าง” ผมกดเล่นต่อ เจอแต่คำถามติ้งต๊องครับ แค่อ่านคำถามก็หัวเราะแล้ว

    แล้วสรุป ผมก็ชนะในตาที่สอง และตาที่สามสี่ด้วยครับ จนมันโวยวายบอกไม่เล่นแล้วๆ ผมเลยเปิดเกมจับผิดภาพมาสุมหัวเล่นกันครับ

    ไม่นานพี่เทก็โทรมา ผมนึกว่าต้องรอถึงสี่โมงเย็นซะแล้ว มะนาวรับโทรศัพท์แล้วบอกพิกัดร้านกาแฟไป ให้พี่เอาของมาให้
พี่เทของมะนาว ตัวเท่ามะนาวเลยครับ แต่ล่ำดูมีกล้ามเนื้อมากกว่า ผมว่าพี่คนนี้คงเป็นคนออกกำลังกาย มะนาวแนะนำผมให้พี่เทรู้จักครับ

    “นี่แม็ต ข้างรหัสผมพี่”

    “หวัดดีครับ”

    “เออๆ หวัดดี พี่รหัสชื่ออะไรอ่ะเรา”

    “พี่โนอาครับ”

    “โอ้ว โคตรโชคดี ได้ดาวมหาลัยเป็นพี่รหัส”

    “แลกกัน แม็ต แลกพี่กับ”

    มะนาวโดนโบกไปทีครับ หายอยากเลย ฮ่าๆๆ

    พี่เทก็เป็นอีกคนครับ ที่ย้ำว่าให้พวกเราเข้าเชียร์ ทำไมพวกพี่ๆเขาต้องย้ำนักย้ำหนาด้วยนะ?

    แต่ยังไง ผมก็ตั้งใจจะเข้าอยู่แล้วนี่ครับ

 

.........................................


 (มีต่อ)
    V
หัวข้อ: Re: love Again. ย้ำรัก [บทนำ]
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 16-01-2016 22:12:07
(ต่อจ้า)

.........................................



    ผมว่าความซวยกำลังจะมาทักทายผมแล้ว

    เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง นับตั้งแต่เลิกเชียร์ที่ออกแนวซีเรียสจริงจัง เป็นปาตี้สนุกสนานเหมือนกับปิดร้านเลี้ยงกันเลยทีเดียว บอกตรงๆ ผมเป็นเด็กต่างจังหวัด เข้ามากรุงเทพสามวันก่อนเปิดเทอม ไม่เคยนั่งร้านเหล้าแถวนี้แน่นอน ร้านที่พี่ๆ พาปีหนึ่งที่สมัครใจมาเลี้ยงเป็นร้านนั่งฟังเพลงชิลครึ่งนึง อีกครึ่งร้านปิดมิดชิดเปิดเพลงที่เขาเรียกว่าแนวตื้ดๆ ตอนยังไม่ดึกเราต่อโต๊ะยาว เสียงดังโวยวายกันอยู่ข้างนอก พอเริ่มเมาๆ ก็เริ่มแตกฝูงมีทั้งประชันกันอยู่ข้างนอกต่อ ดิ้นแด่วๆ อยู่ข้างใน ประเด็นคือ ข้างรหัสผมครับ คออ่อนแต่เสือกจัดหนัก ผมเลยเห็นเงาความซวยอยู่รำไรๆ

    “ไอ้นาว มึงอยู่บ้านรึอยู่หอ” ผมถามมันก่อนมันจะเมาไม่รู้เรื่อง จะได้ส่งถูกไม่ใช่อะไร พวกพี่ๆเขาบอกให้เช็คเพื่อนก่อนเมาสิ้นสภาพว่าใครจะกลับกับใครอะไรยังไง

    “บ้าน” มันตอบสั้นๆ

    “อยู่แถวไหน ถ้าเลิกเดี๋ยวกุไปส่ง”

    “ไม่ได้”

    “อ้าว?”

    “กุเมา แม่กุต้องไม่ปลื้มแน่ทั้งเรื่องเมาทั้งเรื่องขับรถกลับ พี่กูรอบคอบให้กูโทรบอกแม่ไปแล้วไงว่าวันนี้ไม่กลับบ้าน”

    “แล้วมึงทำไง?”

    “ค้างกับพี่เทไง”

    “เออ ดีแล้วๆ”

    “กุรู้สึกเหมือนกุอกหัก”

    “ห่ะ?” มันได้ฟังผมรึเปล่า นอกเรื่องไปไกลแล้ว

    “แค่รู้สึกไม่ได้อกหักจริง เพราะกุยังไม่ได้ลองจีบเลย กูโวยวาย กูฟูมฟาย กุเสียใจ แม่ง คนที่เขามองโคตรดูดี”

    “เอาน่ะๆ ใจเย็นๆ” ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยครับ แต่ผมก็ปลอบเพื่อนไป มองเห็นพี่โนอาเดินออกมาจากห้องน้ำ ท่าทางพี่รหัสผมก็ไม่ไหวเหมือนกันแหะ กับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่คงมากินด้วยกันหลายครั้งแล้วผมก็พอดูออกว่าปลอดภัย แต่ที่น่าเป็นห่วงคือคนอื่นที่ไม่ใช่พวกเราเนี่ยแหละ

    “แม็ต” ผมโดนจับคางให้หันกลับมาที่คู่สนทนา

    “อะไร” ผมก้มลงมองหน้าคนข้างๆ แม้จะนั่ง แต่ผมก็ยังสูงกว่านิดหน่อย ผมเห็นมันหน้าแดงแขนก็แดง คอก็แดงเป็นจ้ำๆ มันเป็นประเภทกินแล้วตัวแดง แดงเถือกจนน่ากลัว ผมเห็นมันเป็นงี้เลยยกมือขึ้นอังหน้าผาก แล้วก็แนบหลังมือกับคอมัน ตัวอุ่นๆแต่ก็ปกติคนกินเหล้ามั้ง

    มันปัดมือผมออก “กินแค่นี้กุไม่ตายห่าหรอกน่า”

    “เอ่อๆ”

    “วันนี้กุไปนอนกับมึงนะ” มันพูด ทำคอย่น ตาปรือแบบคนเมา “นะ ได้ป่าว”

    “กุว่าแล้ว”

    “มึงตอบตกลงได้อย่างเดียว ตอบดิ” เมื่อกี้มันยังทำเอียงคอขอร้องอยู่เลย ตอนนี้มันทำหน้าดุแล้วครับ คนเมานี่น่ากลัวจริงๆ

    “เออๆ แล้วมึงบอกพ่อแม่แล้วใช่มั้ยว่าวันนี้ไม่กลับ เดี๋ยวเขาเห็นห่วงนะ”

    “บอกแล้ว พี่รหัสกุบอกให้โทรบอกพ่อแม่ไปเลยว่ามีพี่รหัสดูแลสบายหายห่วงไว้ตั้งแต่กลางวันไง แต่มึงดูพี่กุดิ”
มันชี้ไปทางโซฟาโต๊ะข้างหลัง มีศพกองอยู่ “พี่รหัสที่กุนับถือ”

    “แม่งอ่อนทั้งสาย” พูดจบผมก็โดนมันตีหน้าขาครับ แม่งมือก็ไว

    “หิ้วกุกลับด้วย กุไปเต้นข้างในก่อน มีที่ซุกหัวนอนสบายใจ” พูดจบมันก็ยกแก้วขึ้นจิบแล้วลอยไปโซนข้างใน
ผมมองตาม ตาก็เหลือบไปเห็นผู้ชายโต๊ะข้างทางเข้าที่นั่งกันสามคน มองตามเพื่อนผม ผมยกแก้วขึ้นจิบ ขยับแว่นนิดๆ ให้เข้าที่ มีคนนึงลุกขึ้นเดินเข้าไปโซนข้างใน เพื่อสองคนของหมอนั่นหัวเราะชอบใจ ผมอยู่ไกลเกินกว่าจะได้ยินว่าพวกเขาคุยอะไรกัน ก็เลยลุกช้าๆ เบี่ยงไปทางห้องน้ำ แล้วลัดกลับมาข้างหลังสองคนนั้น ผมเห็นคนนึงหยิบแบ้งพันออกมาสองสามใบ โยนลงบนโต๊ะ

    “มึงเอาจริงเหรอวะ?”

    “เอ่อดิ มึงก็รู้เพื่อนมึงชอบแนวนี้ นี่สเปคมันเลย กุไลน์บอกมันก่อนมันจะได้ยิ่งมีกำลังใจจีบ จีบติดกุเลี้ยงเหล้า ฮ่าๆๆๆ”

    “ห่า แบบนี้กุก็แย่ดิ มันยิ่งคึกๆอยู่”

ผมเข้าใจทั้งหมดแล้ว เป็นเพื่อนคุณคุณจะยอมเหรอ ถึงผมกับนาวจะเพิ่งรู้จักกันวันนี้ก็เถอะ แต่ถ้ามีการพนันเข้ามาเกี่ยวแถมยังเป็นพวกที่ดูไม่ธรรมดาแบบนี้อีก ผมเดินเข้าโซนข้างในอย่างไม่ต้องคิด

    ข้างในเปิดเพลงเสียงดังและมีจังหวะกว่า มืดกว่า และบรรยาการอึมครึมชวนมึนเมามากกว่า ผมเดินไปหน้าเวทีที่พวกพี่ๆ เพื่อนจับกลุ่มกันอยู่ มองหาเพื่อน

    ผมเห็นนาวอยู่อีกฝั่ง คนที่เพิ่งตามเขามายืนดูโทรศัพท์อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล จากแสงไฟมือถือ ผมเห็นเขายิ้มมุมปาก แล้วกดปิดมือถือ คงอ่านไลน์ที่เพื่อนส่งมาเสร็จแล้ว ผมที่รอดูท่าที ถูกพี่รหัสตัวเองกระชากแขนอย่างแรง

    “น้องรหัส เข้ามาในนี้ต้องเต้นสิ มาๆ โยกๆๆ” ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพี่ผมเมา แต่ดูมีสติดี ผมเลยชั่งใจ ถ้าเกิดอะไรขึ้น ผมว่าพี่โนอาน่าจะช่วยได้ เพราะพี่เป็นที่รู้จัก เจ้าของและเด็กร้านทุกคนรู้จักพี่ บอกไว้ก่อนกันพลาด หรือเกิดอะไรขึ้นดีกว่า คือเอาจริงๆนะ ผมยังไม่คุ้นเคยกับที่แบบนี้ แถมคุยกับคนเมานี่ก็รู้ๆว่าไม่ใช่เรื่องง่าย

    “พี่โนอาผมมีเรื่องจะบอก” ผมมองทางวิทว่าไปถึงไหนก่อนก้มตะโกนสู้เสียงเพลงข้างหูพี่โนอา

    “อะไยเหยอ? บอกมาๆพี่หาให้หมดเพื่อน้องรหัส ฮ่า”

    “มีคนพนันกันมาจีบข้างรหัสผม เดี๋ยวผมจะไปดึงเพื่อนออกมา ถ้าเกิดอะไรขึ้นพี่เป็นแบล็คให้ผมด้วยนะ”

    “อ้อด้ายเลยยย กาดร้านนี้เข้มแข็งอยู่แว้วว ไหนล่ะ เดี๋ยวพี่ไปบอกพี่กาดให้ลากออกไปเลย”

    “ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอกพี่ เดี๋ยวผมลองจัดการเองดูก่อน”

    “ได้ๆ มีไรบอกพี่นะ โอเคนะ”

    “พี่เมาแล้วใช่ป่าวเนี่ย?”

    “นิดนึง อย่าบอกใครนะว่าพี่เมา เดี๋ยวคนอื่นรู๊”

    “ฮ่าๆๆ ไม่รู้เลยพี่ ผมไปล่ะ” พี่โนอาทำหน้าโอเคและทำมือโอเคไว้ข้างตาที่ยิ้มหยี อารมณ์ดีจริงๆ

    ผมเงยหน้าขึ้นใช้ความสูงโดยไม่ต้องพยายามมองข้ามเพื่อนๆพี่ๆไปอีกฝั่งของเวที เห็นผู้ชายคนนั้นกระซิบอะไรข้างหูนาว มันยิ้มตอบและพยักหน้าแบบถ่อมตัว

    ผมเดินเข้ามาใกล้ๆสองคนนั้น ผู้ชายใส่เชิทเหมือนพวกทำงานอ๊อฟฟิสชวนวิทคุยอีกครั้ง เหมือนจะขอเต้นด้วย
คิดๆๆ เอาไงดีว้าไอ้แม็ต

    พอสองคนนั้นเริ่มเต้นต่อนาวยกมือขึ้นชูตามเพลงที่เปิดเหมือนหมอนั้นพยายามจะเข้าใกล้ ผมที่ยังคิดอะไรไม่ออก ปราดตัวเข้าข้างหลังนาว มายืนกระโดนๆ อยู่ข้างๆ มัน นาวเห็นผมทีแรกเหมือนจะตกใจว่าใครพรวดเข้ามา แต่เมื่อมันเห็นว่าเป็นผมมันก็ยิ้มให้ผมก่อน ผมก็เลยยิ้มตอบ ใจก็คิดยังไม่รู้จะบอกมันท่าไหน

    ไอ้หน้าแก่นั้นมองหน้าผมตาขวาง มันยื่นมือข้างนึงมาทำท่าจะโอบเอวเพื่อนผมที่หลับหูหลับตากระโดดเหยงๆไม่สนใจอะไร เอ้ะ ไอ้นี่!

     ผมไวกว่าดึงเอวนาวมาชิดกับตัวทั้งที่กระโดดอยู่พร้อมกัน ผมลอยหน้าลอยตาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ กลัวก็กลัวไอ้นั้นต่อยผม อย่าลืมว่าผมตัวใหญ่แต่ก็อายุแค่ 18 นะครับหน้าไอ้หมอนั้นอายุสัก 28 ได้ ให้ผมกลัวหน่อยเถอะ ประเด็นคือ ไอ้เพื่อนครับ มันก็มองหน้าผม แต่ยังห่วงกระโดดอยู่นะ

    “มึงโดดเซจนจะล้มแล้วเนี่ย” ผมกระซิบข้างหูมัน ได้ผลครับ มันเลยเอาแขนข้างนึงกอดคือผมไว้ แล้วเต้นต่อ ไอ้หมอนั้นก็ไม่ยอมไปครับ ยังทำท่าโยกๆ มองนั้นมองนี่ มองนาว และมองผม แต่ผมก็พยายามไม่สบตามันเดี๋ยวจะกลายเป็นยั่วโมโหมัน กลัวมันต่อยครับ

    พอจังหวังเริ่มช้าตอนใกล้จบเพลง นาวมันเหมือนจะหมดแรง หยุดโดด เหลือแต่โยกคอ หมอนั้นเริ่มเว้นระยะห่างจากเรา ผมก็เลยปล่อยเอวนาว แต่มันยังเกี่ยวคอผมไว้อย่างเหนี่ยวแน่นครับ ตัวมันย้วยไปย้วยมา คอที่โยกๆก็โขกกับไหล่ผมสองสามที เหมือนมันแกล้ง จนสุดท้ายมันทิ้งหัวพิงไว้กับไหล่ผม ดนตรีเปลี่ยนจังหวะ ผมก้มมองนาวที่ยกแก้วขึ้นดื่มอีกอึกใหญ่ แล้วยิ้มแบบ ผมจะบอกยังไงดี ยิ้มแบบคนเมามั้ง บอกไม่ถูก หนำซ้ำทั้งที่หัวยังพิงไหล่ผมมันยังยกแก้วชนกับคนที่ตามมาจีบมันด้วย เอ่อ อัธยาศัยดีไปแล้วมึง กุกลัวโดนมันต่อยไม่ใช่อะไร

    “เพื่อนน้องนาวเหรอ?”

    “แฟนครับ” ผมชิงตอบแทนนาว  มันหันมามองหน้าผมเครื่องหมายคำถามเต็มไปหมด

    “เออออกับกุเร็ว”

    “เฮ่อๆ” มันหัวเราะทำหน้างงได้แค่นั้นผมก็เลยชิงตอบอีก

    “ผมเพิ่งเปิดตัวครับ เขายังไม่ชิน” จริงๆ คือเราสองคนเพิ่งเจอกับครั้งแรกในชีวิตก็วันนี้เนี่ยแหละพี่น้อง

    “เหรอ ฮ่าๆๆๆ” ไม่รู้มันเชื่อมั้ย มันยิ้มเจื่อนแล้วขอตัวไปห้องน้ำ

    “มึงทำไรเนี่ย?”

    “ไอ้บ้านั้นเพื่อนมันพนันกันว่ามันจะหิ้วมึงไปด้วยได้มั้ยคืนนี้”

    “มึงรู้ได้ไง”

    “กุได้ยินเพื่อนมันข้างนอกคุยกัน”

    “แปลว่ามึงเพิ่งช่วยกุ จากไอ้หน้าหื่นนั้น”

    “ดูออกด้วยเหรอว่ะ”

    “งั้นที่มึง...”

    “?”

    “เปล่า กลับไปข้างนอกเถอะ” มันซดรวดเดียวหมดครึ่งแก้วที่เหลือ แล้วผมก็เดินตามมันออกมา


    มาถึงข้างนอกมันก็ตรงรี่เข้าไปหาขวดเหล้าที่วางอยู่หน้าพวกปีสามปีสี่ ไปขอเติมเหล้า เลยโดนเช็คชื่อไปอีกรอบหมดแก้วในสองการกระพริบตาและเชื่อเถอะเดี๋ยวก็มีแก้วสองสามสี่ตามมาติดๆกัน ผมมองมันก็ปลง ดูอาการมันไม่น่ามีชีวิตรอดกลับมาได้ ผมละสายตาจากมันเพราะพี่โนอาที่เดิมมาทัก คงตามผมออกมา

    “ไหนคนไหนที่ไปจีบนาว”

    “เสื้อเทา โต๊ะขวามือของประตูครับ” พี่โนอาทำเป็นมองไปที่บาร์ แล้วแอบเหลือบไปมอง

    “มันยังมองนาวอยู่เลย ทั้งโต๊ะเลย”

    “เหรอครับ” ผมไม่กล้าหันไปมองเท่าไหร่ ผมคงต้องยิ่งระวัง

    “แต่เมื่อกี้เพื่อนๆ เธอฟินตายกันเป็นฝูงเลนรู้มั้ย?”

    “หื๋อ?”

    “เราได้คู้จิ้นแห่งห้อง F ภายในชั่วข้ามคืน วู้ๆ เด็กๆ กรี้ดพวกเธอกันเป็นแถบ แทบไม่ได้เต้นเลยเมื่อกี้”

    “อะไรนะ?”

    “อย่ามาแอ็ปแบ้วน่ะ สมัยนี้ใครๆ ก็รู้จักทั้งนั้นแหละ คู่จิ้นอ่ะ คู่จิ้น”

    “ผมกับนาว”

    “แม่นแล้ว”

    “แก้ข่าวเลยพี่โนอา”

    “อะไร ไม่ล่ะ ฉันชอบแบบนี้” เธอยิ้มตาหยี

    “น้าๆ น้องขอ” พี่โนอารักผมมากครับเอามือเล็กๆ ดันหน้าผมที่ก้มอ้อนไม่ดูสารร่างตัวเองเลยว่าใหญ่โตขนาดไหน ดันแบบไม่ใยดี ดันทิ้งดันขว้างเลยครับ

    “ดูน้องนาวด้วยล่ะ เพราะคุณพี่ เมาแล้ววววว ฮ่าๆๆๆ” หัวเราะหงายหลังซะหมดสวยเลยครับพี่ผม ช่างมันเถอะ เรื่องเพื่อนค่อยแก้ข่าวพรุ่งนี้ วันนี้ผมต้องดูไอ้นาวก่อน นี่แก้วที่สามหรือสี่ติดๆ กันแล้วช่วงแป็ปเดียวที่ไปนั่งตรงนั้น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าความซวยอยู่ที่ผม



........................................................


    กว่าผมจะเอามะนาวกลับมาห้องตัวเองได้ เกือบตาย

    “มึง มาเช็ดตัว” ผมเอาผ้าไปชุบน้ำกลับมาเช็ดๆถูๆมั่วๆไป เพราะมันบ่น ร้อนๆตลอดทาง

    เสื้อก็ถอดแล้ว กางเกง ผมแอบแง้มดูครับว่ามันใส่บ็อกเซอร์มั้ย เห็นมันใส่ผมก็เลยปลดเข็มขัดรูดซิบ ดึงกางเกงยีนต์น่าอึดอัดออก แค่นี้ก็พอมั้ง

    ก่อนจะทิ้งมันไปอาบน้ำ

    ผมกลับมาเห็นมันกุมเป้า เกาไข่ เกาไม่ว่าครับ มันโด่

    เชี่ย


    แต่... ก็ปกติมั้ง ธรรมชาติร่างกายผู้ชายแหละ คงไม่มีอะไร ผมปิดไฟล้มตัวลงนอนอีกฝั่ง นอนไปๆก็รู้สึกเตียงยวบครับ มันขยับตัว มันลุกขึ้น แสงสลัวๆทำให้เห็นเงามันคลานมา มันจูบแก้มผมเอาจมูกมาถูๆเหมือนอ้อน  ระดับนี้ ถ้าหันไป ถ้าผมหันไป...

    ผมจะหันไปดีมั้ยริมฝีปากมันคลอเคลีย งับแก้มผมเบาๆ ผมค่อยๆหันไปช้าๆ  เหมือนมันจะนิ่งรอจนริมฝีปากเราชนกันเบาๆ มันเชยคางดันมาน้อยๆ แล้วดันลิ้นเข้ามาแตะริมฝีปากผมมือมันคว้าหัวผมไว้ทั้งสองข้างเหมือนจะกลัวผมหนี กลิ่นแอลกอฮอล์แทรกเข้ามา ความรู้สึกของลมหายใจ...

    เรากำลังจูบกัน ผมไม่รู้ว่ามันรู้ตัวมั้ยว่ากำลังทำอะไร แต่สติผมมันเต็มร้อย ตัวมันอุ่น ลิ้นมันก็อุ่น นี่ผมกำลังทำอะไร? ในฐานะอะไร? ผมเคยมีแฟนเป็นผู้หญิง และไม่เคยมีความคิดแม้เสี้ยวที่จะชอบผู้ชาย แต่ผมกำลังจูบกับผู้ชาย อะไรเป็นสาเหตุให้ผมไม่ปฏิเสธมัน

    มะนาวยกขาขึ้นมาพาดเอวผม เรานอนตะแคงเข้าหากัน ผมโอบเอวมันไว้ดึงให้เข้ามาใกล้ มันดึงรั้งให้ผมเข้าแนบชิดอีก
ผมควรจะหยุดมั้ย ผมควรจะแสดงท่าทีหยุดสานต่อแล้วห้ามมันมั้ย ก่อนที่... จะเลยเถิด

     มือมะนาวที่อยู่ด้านบนขยำผมที่ท้ายทอยผม มันปัดมือผ่านกรามแล้วอ้อมไปคอด้านหลังซุกมือลงไปใต้เสื้อกล้ามเกลี่ยผิวที่หลังผมไปมา ผมเริ่มบีบเฟ้นเอวมันเบาๆ ตอนมันนอนตะแคงเอวมันคอดเหลือนิดเดียว อยู่ๆ มันก็คว้ามือผมให้กุมส่วนนั้นของมัน นาวทาบทับมือผมไว้ให้ปรนเปรอมัน ผมรูดเบาผ่านบ็อกเซอร์นวดวนเบาๆก่อนจะถือวาสาสะล้วงเข้าไป รูดขึ้นลงซ้ำๆช้าๆ ทั้งที่ยังจูบกันอยู่ มันครางฮึมในลำคอปัดป่ายหาร่างกายผม มันคว้าส่วนนั้นของผมได้กำไว้นิ่งๆเหมือนมันจะเริ่มเกร็งจนทำอะไรไม่ถูก ริมฝีปากมันล้วงจูบผมรุนแรงขึ้นในพริบตา เสียงครางอึดอัดจนแรงสั่นมาถึงผม ผมเร่งจังหวะที่ส่วนนั้นของมันขึ้นอีก ไม่นานมันก็เสร็จ เสียงครางในคอบอกความพอใจไม่นานก็เงียบลง เปลี่ยนเป็นเสียงหายใจสม่ำเสมอ


    มัน หลับ!


    ทิ้งผมไปซะดื้อๆ

    ผมกัดกรามหลับตาข่มใจ หายใจเข้า หายใจออกลึกๆ ดีแล้ว มันหลับไปอย่างนี้ดีแล้ว ถ้ามีต่อเนี่ยสิ จะแย่

    ในความมืด ผมเช็ดคราบที่มันทำเลอะเทอะให้ลวกๆ ก่อนจะเดินไปเข้าห้องน้ำเงียบๆ


    ผมมายืนอยู่ในห้องน้ำ ก้มมองสภาพตัวเองแล้วถอนหายใจ


    ให้ตาย นี่เหรอวันแรกของการเปิดเทอม!





-----------------------------------------
----------------


เป็นตอนแรกที่ค่อนข้างยาว แต่ก็ช่วยให้พอมองภาพรวมออกเนอะ (ถามเองตอบเอง)

ติชมได้นะคะ ยิ่งเป็นคำติยิ่งขอน้อมรับ อยากให้ติเพราะเราอยากจะปรับปรุง บางอย่างที่เรามองข้ามถ้ามีคนช่วยเตือนมันดีนะ
เจอกันตอนหน้าจ้า
 
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทนำ + ทบที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-01-2016 23:46:31
 o22
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทนำ + ทบที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: PaiPo ที่ 18-01-2016 18:05:26
เอิ้มมม สองคนนี้เขาจะย้ำกันบ่อยมั้ยอ่ะคะ? :hao6:
แม็ตดูปล่อยตัวปล่อยใจ แบบนี้แอบมีใจแต่ไม่แสดงออกรึเปล่า??? :-[
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทนำ + ทบที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 18-01-2016 21:31:09
(http://i1159.photobucket.com/albums/p636/Browny_Tan/bro/loveagain2_zpscs9dbvrb.png)
- บทที่ 2 - ร่ายมนต์คุ้มครอง -

----------------------------------


“อร้ากกกกก ปวดหัว แม็ต มึงมียาแก้ปวดมั้ยวะ”

ใครทำเสียงดังวะ?

“ตื่นแล้วเหรอ ตื่นนานยัง” ผมลุกขึ้นเดินไปหยิบกล่องยามานั่งเปิดบนเตียง หยิบยาให้มัน ก่อนลุกไปหยิบน้ำในตู้เย็นมาให้มันด้วย

“เดี๋ยวนี้แหละ ขอบใจ”

ผมมองมันกินยากินน้ำตามหลายอึก ปิดกล่องยาแล้วเสือกไปส่งๆ แล้วนอนต่อ

“มึง กี่โมงแล้ว”

ผมหยิบมือถือให้มันดูเวลาเอง น่าจะสักเก้าโมง ผมไม่มีเรียนเช้า รวมมันด้วย เลยนอนต่อชิลๆ

“หิว”

“หึหึหึ”

“หัวเราะไรว่ะ?”

“มึงดิ ตื่นมาก็โวยวาย เอานั่นเอานี่ นี่มึงหายเมายัง”

“น่าจะหายแล้วแหละ ไม่งั้นคงไม่ปวดหัวขนาดนี้ นี่กลับมาไงกูไม่รู้ตัวเลย”

“มึงจำอะไรได้เป็นอย่างสุดท้าย?” ผมลองเชิงแย็บถามมันดู

“เช็คชื่อไปสัก แก้วที่ห้าที่หก”

“เออ หลังจากนั้นมึงไปชนกับพี่เขาเองอีกเจ็ดแปดแก้วได้” ไม่รู้คึกอะไรนักหนา

“ขนาดนั้นเยเหรอวะ”

“เออ”

“แล้วกูกลับมาไง”

“กูขับรถมึงกลับ แล้วแบกมึงขึ้นห้องมา”

“ขอบใจ”

“ไม่เป็นไร”

“แล้ว...” มันนิ่งเหมือนนึกอะไรอยู่ ก้มมองสภาพตัวเองอีก ผมนี่รีบนอนหันหลังให้มันเลยครับ ไม่รู้ กุเปล่า กุไม่ได้เริ่ม กุไม่ผิด!

“กุหิว มีไรกินป่าววะ”

“ตู้เย็น มีหนมปังกับนมข้น มาม่าก็มีอยู่แถวนั้นแหละ ร้านข้าวก็ข้างๆ ไม่ไกล มึงเอาเลยตามสบาย”

“ถ้าลงไปตากแดดตอนนี้กุคงหน้ามืด กุต้มมาม่ามึงนะ”

“เอาเลยๆ”

ได้ยินเสียงมันก๊อกแก็กๆ ส่วนผมทำเป็นง่วงจะหลับต่อ แต่ใจผมเต้นแรงมาก กลัวมันจะเอ่ยถามถึงเรื่องเมื่อคืนขึ้นมา ไม่รู้จะตอบมันยังไง

แต่มันไม่พูดอะไร ไม่มีท่าทีอะไร มันหน้าตาย หรือจำอะไรไม่ได้จริงๆนะ ถ้ามันไม่พูดอะไร ผมจะทำเป็นลืมๆไปก็แล้วกัน

“ซู้ดดดดดด โคตรซี้ดเลยมึง มาม่าร้อนๆ ตอนซ่างเมานี่ใช่มาก” มันพูดเหมือนรู้ว่าผมไม่ได้หลับจริง คือห้องผมมันก็เล็กนิดเดียว กลิ่นนี่ฆ่ากันเถอะ

“สนใจป่าวๆ อื้มม หร่อย อร่อยจริงๆ” ดูท่าจะพูดไปเคี้ยวไป

“เหี้ย!” ผมลุกขึ้นทำท่าหัวเสียอย่างไม่จริงจังนัก

“ฮ่าๆๆๆ มาๆ กุแกะไว้เผื่อมึงแล้ว เหลือแค่กดน้ำร้อน” มันว่า พลางยกอีกชามไปเติมน้ำร้อนให้ผม

“ไม่ใช่ว่ามึงจะเบิ้นสองเหรอ?”

“โว้ะ รู้ทัน”

“ขอบใจ”

“ไม่เป็นไร ถือว่าหายกับที่มึงแบกกุกลับ แบกกุขึ้นตึกเมื่อคืน”

“มึงนี่กำไรไปนะ มาม่านี่ก็ของกุ”

“ฮ่าๆๆๆ”

หลังกินเสร็จมันก็ล้างจานให้ผม แล้วขออาบน้ำ บอกจะกลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนค่อยเข้าเรียนบ่าย มันเลยนัดผมโรงอาหารใต้ตึก จะได้เข้าเรียนพร้อมกัน เพราะตอนเย็นก็มีเข้าเชียร์อีก ผมก็ต้องไปกับมันอยู่ดี เพราะหลังจากเข้าเชียร์ครั้งแรก เขาก็บอกให้คนที่เข้าตามข้างรหัสเข้าห้องเชียร์ด้วยให้ได้ ผมไม่อะไรเรื่องเข้าไปนั่งนิ่งๆในห้องเชียร์ ส่วนนาวมันก็บอกว่าถ้าผมเข้ามันก็เข้าก็ได้


เห็นมันปกติดีผมก็ไม่รู้จะพูดอะไร

ได้แต่หวั่นๆว่าถ้ามีครั้งหน้าอีกจะรับมือมันยังไงเท่านั้นเอง 



………………………………………………………………………….



“ห้องมึงพาไปเลี้ยงไหนวะเมื่อคืน?”

“ร้านสบาย มึงอ่ะ”

“กุร้านฮัชช่ะ” ผมได้ยินชื่อร้านแล้วคิดว่าน่าจะมันกว่าของผมนะ

ผมกำลังคุยกับเพื่อนสนิทผมครับ ชื่อน้ำนิ่ง บ่ายน้ำมีเรียนตึกเดียวกันแต่คนละห้อง เลยเรียกมากินข้าวเที่ยงพร้อมกัน

ผมสนิทกับมันมาตั้งแต่ประถม แถมบ้านอยู่ไม่ไกล เลยทำให้ไปมาหาสู่กันบ่อย เลือกเรียนนี่ก็เพราะเลือกตามๆ กันเนี่ยแหละครับ ไม่รู้ใครตามใคร แต่ไปลงที่เดียวกับเป็นพอ

“มึงจะไปคัดตัวเข้าชมรมบาสมั้ย?”

“ไม่รู้ว่ะ ต้องรอจบเชียร์ก่อนนิ เขาถึงจะเปิดรับ รอดูก่อนเผื่อมีอย่างอื่นน่าสนใจ” ผมโดนบังคับให้เล่นบาสมาตลอดครับ เพราะ สูงเหตุผลเดียวเลยจริงๆ ตั้งแต่เด็กๆ ครูพละให้ผมลงบาสโรงเรียนตลอด ผมไม่รู้จะปฏิเสธทำไม ก็เลยเล่นๆไป

“แล้ว คู่จิ้นมึงอยู่ไหนวะ”

“แค่กๆๆ”

“อะไร แสดงว่าจริง” ผมสำลักจริงจังครับ มันต้องยื่นน้ำให้

“มึงรู้ได้ไง”

“มีรุ่นพี่ห้องกู เขาไปหาเพื่อนที่ร้านที่มึงนั่งกัน แล้วไปเห็นช็อตเด็ดพอดี กลับมาโม้ทั้งโต๊ะ รู้กันหมดห้องเลย ฮ่าๆๆ แต่คนอื่นคงไม่รู้หรอกว่าเป็นใคร แต่กุเป็นกุไง สูงๆ ขาวๆ ใส่แว่นกูว่าไม่พ้นเพื่อนกุเนี่ยแหละ”

ชิบหายละ

“พี่มึงเล่าว่าไง”

“เกิดศึกชิงนายขึ้นที่ห้องเอฟแหละพวกแก อร้ายฉันไม่อยากพูด พูดแล้วฉันเขิน คืองี้น้องคนนึงตัวเล็กๆ บางๆ ถ้าลำพังน้องก็หล่ออ่ะ แต่ตาหวานเยิ้มโคตร โดนเฒ่าหัวงูจีบ แล้วเจ้าของทนไม่ไหว เจ้าของเขาเลยมากระชากเอวไป ซบไหล่อย่างนี้เลย ก้มคุยกันงุงิๆ ไม่สนใจโลก เฒ่าหัวงูนั่นเลยถอยไปเอง นี่ๆๆ แล้วพอไอ้แก่นั้นออกไปนะ เขายังมองสบตากันปิ้งๆ สายตายังระยับอยู่เลย คิดถึงแล้วฉันจะเป็นลม ยาดมอยู่ไหนๆ” มันเล่าด้วยอินเนอร์เต็มแบบที่ทำผมขนลุก

“ห่ะ!”

“พี่กุเล่าหลายรอบ แต่ละรอบก็ประมารนี้แหละ แต่ใส่อารมณ์กว่านี้อีก”

“เหี้ย แม่งไปไกลมาก”

“กระชากมากอดนี่จริงมั้ย”

“กุแค่ดึงมันออกมาไม่ให้เขาลวนลาม”

“มีคนซบมึงนี่ไม่เป็นเรื่องจริง?”

“จริง”

“งั้นที่พี่กุเล่าผิดตรงไหน ฮ่าๆๆๆ”

“แค่แว้บเดียว มันเมาหัวมันหนัก เลยพิง แค่ไม่กี่วิ” จริงๆ เกือบครึ่งเพลงครับ น้ำตาจะไหล

“มึงน่าจะเข้าใจแรงจิ้นของสาวๆ นะ อย่างกะไม่เคย”

“ก็ตอนนั้นมันไม่ใช่เรื่องจริง มึงเพื่อนจริงๆ”

“แปลว่า รอบนี้ของจริงดิ ชัดเลย ชัดเลย มึงอย่ามาแก้ตัว ฮ่าๆๆ” จับอะไรได้มันไล่บี้ผมยับเลยครับ

“ไปกันไหญ่แล้ว”

“เอาน่า กุไม่บอกใครก็ได้ ให้มันเป็นไปตามกลไกแรงจิ้น ฮ่าๆๆ” ผมทำหน้าเหนื่อย ไม่ต้องบอกก็คงพอเดาออกนะครับ ว่าตอนมัทยมเนี่ย เพื่อนๆกับพวกรุ่นน้องจิ้นผมกับน้ำกันอย่างจริงจัง “แล้วมึงนัดกันไว้รึเปล่า เรียนด้วยกันไม่ใช่รึไงบ่ายเนี่ย”

“เออ นาวมันกลับบ้านไปเปลี่ยนชุดเมื่อเช้านี้” สายแล้วเนี่ยยังไม่เห็นเลย ผมมองนาฬิกา แล้วมองไปทางหน้าคณะ ใจก็ไม่ได้ห่วงอะไรมาก เพราะนัดก่อนเวลาเข้าเรียนครึ่งชั่วโมงกะกินข้าวด้วย นัดไว้เผื่อๆ เผื่อมันสายเนี่ยแหละ สายจริงๆ ซะด้วย

“บ้ะ! ค้างกับมึงด้วย”

“ตอนแรกมันจะไปนอนกับพี่มัน แต่แปปเดียวพี่มันก็ทิ้งตัว เมื่อคืนพี่มันนอนเฝ้าร้านจนสว่าง คนอื่นบอกถิ่นพี่มัน พี่มันนอนบ่อย มันจะนอนด้วยก็กะไรมันเลยมานอนห้องกุ”

“ไหนๆ มึงก็อยู่คนเดียวก็ชวนมันมาเป็นเมทดิ”

“ไม่ละว่ะ”

“อ้าว ไมวะ”

“เผื่อมึงไม่มีที่ซุกหัวนอน มึงจะได้มาซุกห้องกุได้ไง ฮ่าๆๆๆ”

“เหอะ ขอบใจที่อุส่าแช่ง” มันไม่เถียงครับ มันมีสิทธิเป็นความจริง พายุมาเมื่อไหร่มันอาจกระเด้งไม่มีที่นอน

ผมก้มดูมือถือที่สั่นอยู่ข้างจานข้าว นาวไลน์มาสองสามอันติดๆ

“เมื่อไหร่ข้างรหัสมึงจะมา กุอยากเห็นหน้า”

“หวัดดีหนุ่มๆ เมื่อเช้ามีเรียนอิ้ง อ.หล่อม้ากกกกกก กุไม่มีสมาธิเรียนเลย” เพื่อนโรงเรียนอีกคน เธอเป็นผู้หญิงเปิดเผย ไม่ใช่ห้าวเหมือนทอมนะ แต่แรดอย่างเปิดเผย คือ ไม่ใช่ผมใส่ร้ายมันนะครับ มันให้คำจำกัดความของตัวมันไว้งี้เอง

“หวัดดีเอ้”

“มันสายว่ะ บอกให้กุเข้าเลย เช็คชื่อให้ด้วยถ้าทำได้” ผมหันไปบอกน้ำ

“พูดถึงใครอ่ะ?” เอ้ผู้มาใหม่สงสัย

“ข้างรหัสไอ้แม็ต มันมีคู่จิ้นแล้วนะเว้ย รอบนี้ไม่ใช่กู ฮ่าๆๆๆ”

“เฮ้ย! จริงดิ้”

ผมเห็นสายตาแพรวพราวปิ้งๆ ของเอ้แล้วต้องถอนหายใจผู้หญิงกับสายวายนี่แยกกันยากจริงๆ ทำไมใครๆ รอบตัวผมต้องเดินสายนี้กันหมดนะ

“อย่าฟังน้ำมาก”

“หล่อมั้ยวะเมิงงงงง” มันหันไปถามน้ำ ไม่สนในคำแก้ตัวของผมสักนิด

“กุก็รอดูอยู่เนี่ย ยังไม่เคยเห็นเหมือนกัน”

“หน้าตาเป็นไงวะแม็ต”

ผมเงียบ มองหน้ามันสองคนสลับกันเหนื่อยๆ

“แม็ตตตต”

“ตัวเตี้ยวกว่าไอ้น้ำหน่อยนึงมั้ง ผอมกว่าเหมือนคนขาดสารอาหาร ผิวขาวเหลือง เกือบแทน”

“หน้าอ่ะ” เอ้เร่ง

“ก็หน้าคมๆ แบบคนไทยแท้ แก้มตอบๆ คิ้วเข้มมั้ง”

“ทำไมมันบรรยายแล้วกูนึกภาพไม่ออกวะ” เอ้บ่น

“เข้าเรียนกันเถอะ ของกูมีเช็คชื่อ” ผมบอกทั้งสองคน ยกจานเตรียมไปเก็บ

เอ้หันไปบ่นทำหน้ายู่ยี้ใส่น้ำ เป็นเชิงรำคาญผม ผมไม่สนใจเดินไปห้องเรียนที่ไม่เคยเข้าเรียนมาก่อน พอเดินเข้าประตูเท่านั้นแหละผมแทบอ้าปากค้างห้องเรียนโคตรใหญ่ สวยด้วย (พี่โนอาบอกว่าถ้าเป็นคนขี้หนาวให้เอาเสื้อกันหนาวมาเรียนด้วย แม้จะเป็นหน้าร้อนก็ตาม) เป็นสโลบเหมือนที่เคยเห็นในทีวี น่าจะจุได้สามสี่ร้อยคน

ผมเข้าก่อนเวลา เห็นเพื่อนต่อแถวรอเซ็นชื่อกันอยู่สองสามคน ใบเซ็นชื่อเป็นตารางโล่งๆ ไม่มีชื่อให้ดูเหมือนตอนเรียนแลป ผมตัดสินใจเซ็นชื่อนาวก่อน เพราะผมกลัวจะลืมนามสกุลมันที่สู้อุส่าท่องมา เขียนเสร็จผมเดินออกไปนอกห้อง แล้วเดินกลับเข้ามาต่อแถวใหม่ให้คนอื่นมาเซ็นต่อ ถ้าเซ็นติดกัน ลายมือเหมือนกันก็น่าสงสัยไม่ใช่เหรอครับ เนียนๆ

เสร็จแล้วผมหาที่นั่ง เอาริมๆ ไว้ เข้าออกง่ายดี อาจารย์ยังไม่มา ก็เลยไลน์ไปบอกนาว

Maths : เซ็นแล้วนะ

Maths : เข้ามาก็หาที่นั่งเลย

NAWNAW : ใจว่ะ บุญคุณครั้งนี้จะเซ่นกาแฟนะ

     เมื่อวานระหว่างรอพี่มันเลิกเรียน ผมซดกาแฟดำเพียวๆ ครับ มันเลยเหมาว่าผมนิยมชมชอบการกินกาแฟ

Maths :   ไม่ต้องหรอก แต่ถ้าวันหลังเสี่ยงกับชีวิตจะคิดแพงกว่ากาแฟ

NAWNAW:   จะไม่ให้มีอีกเลย 5555

Maths :    ใกล้ถึงยัง?

มันจะสายจริงๆ แล้วครับ เลยบ่ายโมงมาสองสามนาทีแล้ว
   
NAWNAW :   ใกล้แล้ว

NAWNAW :   มึงนั่งไหน

Maths :    มึงเข้ามานั่งไหนก็ได้ โคตรกว้าง

NAWNAW :   ไม่อ่ะ มึงนั่งไหน

Maths :   เข้ามา ขวามือ เกือบบนสุด

มันอ่าน แต่ก็เงียบไป คงขับรถอยู่ เอาจริงๆ ที่ผมนั่งตรงนี้ก็เผื่อว่ามันจะมองหาผมได้สะดวกๆ ที่นั่งข้างๆ ก็เอาของวางจองไว้ให้มันแล้ว ไม่รู้ทำอะไรผมเลยเล่นเกมรอเหมือนคนอื่นๆ

“แมตตตตตต” ผมเงยหน้าดูเห็นเพื่อนสาวในชุดนักศึกษาชายตัวกลมกระโดดเหยงๆ โบกมือให้ผมอยู่ข้างโต๊ะเช็คชื่อ เสียงดังจนคนเงยหน้าจากมือถือมองกันเกือบทั้งห้อง

“แก เดี๋ยวไปนั่งด้วย จองที่ข้างๆ หัวใจให้ด้วยนะ วิชานี้ขอเป็นเมียมึงล่ะกัน จุ๊บ”

มันส่งจูบมาตามอากาศ ผมขมวดคิ้วมองความปัญญาอ่อนของมัน มองตามอากาศที่ว่างเปล่าสูงขึ้นมาๆ ทำตาจ้องเป่งเหมือนมองอะไรสักอย่าง ยกมือขึ้นคว้าอากาศตรงหน้าเฉียดปลายจมูก ขยำอากาศจริงๆ จังๆ ด้วยสองมือ แล้วทำท่าชูตไปทางถังขยะมุมห้อง

“อร้ายยยย แมตเหยียบย้ำหัวใจเมีย ขี้เล่นแบบนี้ไงเมียถึงรักเอาหลงเอา”

หลายคนที่มองผมกับมันอยู่หัวเราะ รวมทั้งผมด้วย พงศ์เป็นเพื่อนมัธยมของผมอีกคนที่มาเรียนที่นี่เหมือนกันครับ แต่ไม่ได้สนิทมาก แต่มันเป็นคนที่สนิทกับทุกคน เพราะความเป็นสาวเปิดเผยและเป็นคนตลก

“อะไรว่ะ?”

“อ้าว” ก็ไมสายนี่หว่า นาวเดินมานั่งลงข้างผมครับ มาตั้งแต่เมื่อไหร่? สงสัยเพราะหัวทองๆตอนนี้กลับเป็นสีเข้มเกือบดำผมเลยไม่ทันสังเกต สงสัยที่มาช้าเพราะไปโกรกผมอยู่

“ใครอ่ะ คนรู้จักมึงเหรอ?” มะนาวถาม

“อื้ม เพื่อนโรงเรียน โกรกผมแล้วเหรอ” ผมมองแล้วลูบคางสงสัยบางอย่าง

“ทำไม? มันทำให้กูดูไม่หล่อเหมือนเดิม?”

“ก็ดีไปอีกแบบ” ผมดำแบบนี้ทำให้ตามะนาวดูคมกว่าเดิมเข้าไปอีก หน้าเขาดูอิ่มๆ

...หรือเพราะเมื่อคืนมันได้ปลดปล่อยกันแน่  โอ๊ย ตายๆ ผมเลิกสงสัยดีกว่า

“โอ๊ย เหนื่อยยยย นี่มันห้องเรียนคณิตวิชาปีนเขาเนี่ย แฮ่กๆ” พงศ์ผู้อยู่เงียบๆ ไม่เป็น เดินขึ้นมาก็โวยวายมาตลอดทาง

 “ใครอ่ะ? หล่อเซ็กสเปคตุ๊ด” พงศ์นั่งลงอีกข้างของผมออกปากถามทันที

 “ข้างรหัสเรา คู่แลป ชื่อมะนาว” มะนาวยกมือทักทายหน้าแห้งๆ แบบกล้าๆกลัวๆ คงได้ยินประโยคเมื่อกี้ชัดเจน

“แลกกันมั้ย กุได้ชะนีน้อย กินไม่ได้เซง” พงศ์ทำท่าไม่สบอารมณ์เอามากๆ จนผมทำท่าจะดึงปากล่างมันเล่น พงศ์เลยพูดต่อ

“นาว” พงศ์ชะโงกหัวเพื่อคุยกับนาวข้ามหัวผม “เย็นนี้เพื่อนๆ เรามีปาตี้วันเกิด หลังเชียร์เลิกไปด้วยกันสิๆ”

“วันเกิดใครว่ะ” ผมงง

“อ้าวอิผัว ไม่เช็คเฟสเลยเหรอวันๆ ก็วันเกิดเอ้ไง ในกรุ๊ปไลน์ก็นัด นี่เจ้ามิได้เช็คข่าวสารบ้านเมืองเลยอย่างนั้นรึ”

“เออว่ะ ลืม” เมื่อกี้ก็เจอเจ้าตัว ลืมซะสนิท

“ไปนะนาว เพื่อนแม็ตก็เหมือนเพื่อนเมีย แม้ตอนนี้เมียจะอยากได้เพื่อนแม็ต” ประโยคหลังมันกระซิบให้ได้ยินแค่ผมครับ โคตรน่ากลัว

“คือ ถ้ากินกันกูขับรถกลับบ้านไม่ได้วะ” ตาขวาผมกระตุกๆ ครับ จนผมต้องขยับแว่นขยี้ตา

“หาที่นอนแถวนี้ไง เยอะแยะ ห้องเราก็ได้ คนกันเอง” นาวมันคงคิดว่าไปกันเองกันนี่ตอนไหนครับ มันถึงรีบพูดออกมา

“งั้นกูนอนห้องมึงนะแม็ตคืนนี้” นั้นไง ผมว่าแล้ว


........................................
 

พี่รหัสผมดูแลผมดี แบบคุณแม่มือใหม่ครับ ในขณะที่พี่รหัสมะนาว แนะนำมันแบบเด็กวิดวะ อย่างกินเลี้ยงสังสรรค์พี่มันก็แนะนำไว้ว่า

“ให้ทำเหมือนพร้อมเข้าค่ายอยู่ตลอดเวลา ให้กูจัดเสื้อผ้าติดรถไว้ชุดสองชุด”

“เอ่อ พี่มึงนี่แนะนำน้องดีว่ะ” ผมหัวเราะชอบใจ ในขณะที่มะนาวทำหน้าเซง

“กุอยากได้พี่รหัสแบบของมึงมากกว่า ผู้ชายแม่งอะไรก็ส่งๆ หน้างาน จัดการเอง ตลอด”

“มึงเพิ่งมีพี่ได้สองวัน”

“เอ่อ ว่ะ ฮ่าๆๆ”

หลังเลิกเชียร์ ผมกับนาวกลับมาอาบน้ำเปลี่ยนชุดกันก่อนออกไปต่อ

ผมเลือกชุดแขนยาวผ้านิ่มๆ ใส่สบาย กับกางเกงยีนส์ง่ายๆ มะนาวที่จัดการตัวเองเรียบร้อยนอนคว่ำเล่นมือถืออยู่บนเตียงผม พูดลอยๆ ขึ้นมา

“เชี่ย โคตรหล่อ”

“...” ผมที่ยืนส่องกระจกเช็ดผมอยู่ เปลี่ยนเป็นลูบคางอย่างหลงตัวเอง ชมผม ผมไม่ปฏิเสธแน่นอน

“มึงสูงเท่าไหร่วะ ถึง 190 มั้ย?”

“ไม่อ่ะ ร้อยแปดสิบ...” ผมทิ้งช่วง “เก้า”

“ใส่รองเท้าก็เก้าสิบเอ็ดล่ะวะ กวนตีน แม่งสูงจนน่าอิจฉา สาวๆ คงใฝ่ฝันถึงคนแบบมึง 175 เซ็นฯครึ่งของกูนี้โดนมองข้ามตลอด”

“ฮ่าๆ”

“ไหล่มึงโคตรกว้าง ผู้หญิงคงต่อคิวซบกันยาวเหยียด”

“ช่วงนี้ไหล่กุไม่ว่างว่ะ”

“ไมว่ะ มึงมีแฟน?”

“เปล่าแฟนไม่มี แต่คนแถวนี้อ่อนเมาแล้วเป็นภาระกุต้องเอียงไหล่ให้ซบ”

“เชี่ยแม่ง” มันปาหมอนของผมมาใส่ผมครับ ผมรับไว้สบายๆ ก่อนจะนั่งลงบนเตียงฝั่งที่ว่างแล้วเช็ดผมต่อ หยิบมือถือเช็คอะไรไปเรื่อย

“ฮ่าๆๆๆๆๆ” ผมจงใจล้อมันเผื่อมันจะคิดได้ว่าไม่ควรปล่อยให้ตัวเองเมามากเหมือนเมื่อวาน

“มึงมองเห็นเหรอ?”

นาวเงยหน้ามองผม ขมวดคิ้วสงสัย

“เห็นดิ ทำไม?”

“ก็มึงไม่ได้ใส่แว่น” ผมโยนผ้าเช็ดผมไปพาดพนักเก้าอี้ แล้วหยิบแว่นผมที่วางอยู่ข้างคอมมาใส่ให้มัน

“ไง?”

“อ้าว ไม่ใช่แว่นสายตาเหรอ นึกว่ามึงสายตาสั้น”

“เปล่า ตาแพ้แสง แต่กลางคืนแบบนี้ไม่ต้องใส่ก็ได้ แสงไม่ได้จ้า”

“เซ็ตผมมั้ย กูเซ็ตให้”

“หื๋อ?”

“เชื่อมือพี่เถอะน้อง” มันจับผมหันไปตรงกับกระจกประตูตู้เสื้อผ้า จัดการหยิบแว็กจากกระเป๋ามันออกมาเซ็ตผมให้ผมครับ จากชี้ๆ ตกๆ ตามแรงโน้มถ่วง มันเซ็ตตั้งมีสไตอย่างกะออกมาจากร้านทำผม มันมองหัวผมอย่างภาคภูมิใจ


หวังว่ามันจะคิดได้ ว่าที่ผมว่ามันอ่อน เพราะอยากให้มันระมัดระวังตัว


.................................................................................


“เชี่ย! พี่แม็ตเหรอวะนั้น” เอ้เห็นผมแล้วอุทานจนผมเสียความมั่นใจ

หลังมะนาวเซตผมให้ผม มันก็บอกว่าวันนี้ไม่ต้องใส่แว่นออกมาหรอก เกะกะ ผมตอนนี้เลยดูแปลกจากปกติไปนิดหน่อยมั้ง

“แม็ต มึงมาหล่อขนาดนี้กะนอกใจกูใช่มั้ย จะยั่วให้กูหึงเหรอ” น้ำพูดด้วยท่าทางจริงจัง ถ้าอยู่ในกลุ่มเพื่อน มันชอบเล่นเป็นแฟนผมครับ เซอร์วิชเอ้แต่ต่อไปคงมีพงศ์ร่วมฟินด้วย

พงศ์ยืนขึ้นกุมสองมือไว้ใต้คาง และกระพริบตาถี่ๆ

เอ่อ... เส้นกระตุกเหรอ?

“บ้า น้ำ มึงอ่ะ เล่นไรเกรงใจคนมากับเขาหน่อย กรี๊ดๆ มึงๆ แนะนำเร็วๆ” ผมบอกพวกนี้ไว้ ว่าอย่าพูดถึงเรื่องคู่จิ้น เรื่องจริงมันไม่มีอะไร ยังไม่อยากให้นาวมันคิดมาก

มะนาวที่เดินตามผมมาทำหน้าไม่ถูก

“ทุกคนนี่มะนาว ข้างรหัสกู”

“ขอบใจนะพงษ์ ที่ชวนคนหล่อมาให้กูลวนลามทางสายตาในวันเกิด น้ำตาจะไหล”

“ไม่เป็นไรค่ะอีดอก กูชวนมากะหลอกแดกเองไม้ได้เผื่อมึงอยู่แล้ว”

“อร้ายๆๆๆ” เสียงสาวๆ เขาตีกันเป็นเรื่องปกติครับ

“นั่งนี่นาว อย่าคิดมากเขาเล่นกันงี้เป็นปกติแหละ”

“ใช่ คงเบื่อของเก่ากันแล้ว เห็นหน้าใหม่มาเลยดีใจใหญ่” น้ำเสริม

“น่ารักดีนะ แบบนี้อยู่ด้วยแล้วสบายใจ” มะนาวหมายถึงเอ้กับพงศ์

“แต่ไม่ค่อยสบายกายนะ เพราะจะโดนลวนลามเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เราน้ำนิ่งนะ หวัดดี”

“หวัดดี เป็นเพื่อนกันมานานแล้วเหรอ ดูสนิทกันมาก”

“พวกนั้นอ่ะ ม.ปลาย แต่ไอ้เนี่ย ตั้งแต่ขนยังไม่ขึ้น” ผมตอบ

“มึงแอบดูของกูเหรอ” น้ำไขว่สองมือปิดไหล่แบบหวงตัว

ผมหัวเราะหึๆ พร้อมจัดการชงเครื่องดื่มสำหรับตัวเองและมะนาวอยู่ครับ

“อะไรขนๆ ขึ้นๆ ค่ะ หูแว้วๆ ถ้าได้ยลจะถือเป็นบุญตามากค่ะ”

“เมียไม่มีบุญหรอก ขาอ่อนกูมึงก็ไม่ได้เห็น” ผมแกล้งพงศ์อีกรอบ

“วันนี้พี่แม็ตโคตรฮ๊อต บอกเคล็ดลับความหล่อของวันนี้ให้พวกเราหน่อยค่ะ” เอ้จ่อปากขวดโค้กทำเหมือนเป็นไมโครโฟนมาทางผม

“ก็แค่ไม่ได้ใส่แว่น กับเซตผม”

“ร้อยวันพันปีมึงไม่เคยเซตผมเพราะขี้เกียจสระ ทำไมวันนี้เซต เอ้มันจะถามอย่างนี้” น้ำแปล

“มะนาวเซ็ตให้”

“กรี้ดดดดด” เอ้กับพงศ์กรี้ดออกมาพร้อมกับ ระหว่างรอ เอ้คงกระจายข่าวสารให้พงศ์ผู้ร่วมอุดมการณ์ทราบเรื่องคู่จิ้นแล้ว ที่กรี๊ดนี่ก็คงเพราะเรื่องคู่จิ้น ไม่ใช่เพราะความหล่อของผมแต่อย่างได

ผมล่ะเพลีย

“ไมอ่ะ ไม่ดีเหรอ?” มะนาวทำหน้าเหมือนรู้สึกผิด

“ดีค่ะนาว มันดีมาก ขอบคุณอีกครั้ง” เอ้กุมมือมะนาวแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้ง

“อีดอก จับมือผู้ชายหน้าไม่อาย ขอบคุณนะมะนาว” พงศ์ก็กุมอีกข้างครับ

“ดีๆ กูกับมึงสบายล่ะคืนนี้” ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดน้ำ มะนาวหน้าตาดีครับ อาจจะไม่ได้โดดเด่นเห็นมาแต่ไกล แต่ใครได้มองมันนานๆ ก็คงนึกได้ว่ามันหล่อชวนมอง ดึงดูดสายตาให้มองซ้ำที่ดวงตานั่น ใบหน้าที่มีหลายหลายอารมณ์ให้มองได้ไม่มีเบื่อ กับยิ้มที่แจกทุกคนอยู่เสมอทำให้เขาดูเข้าหาง่าย


สักพักเพื่อนอีกสามคนตามมาสมทบ พร้อมเซอร์ไพเป่าเค้กที่เราไม่ได้บอกเอ้ก่อนว่าจะมี มันดีใจมากร้องให้บอกว่าไม่ได้เป่าเค้กมาตั้งแต่แปดขวบ ก่อนจะขึ้นเวทีไปรับเหล้าวันเกิดอีกขวดมาเพิ่มดีกรีความเมาของพวกเรา ประมารเที่ยงคืนเราก็แยกย้าย เพราะทุกคนดูเหมือนจะมีเรียนเช้า ผมขับรถมะนาวไปส่งพงศ์กับเอ้ที่หอ ก่อนจะกลับหอตัวเอง มีมะนาวนั่งตาปรือปากจู๋อยู่ข้างๆ

ผมแอบมองมะนาวที่แทบจมไปกับเบาะ วันนี้ดูไม่ใช่ศึกหนักอะไรครับ เพราะมะนาวไม่ได้เมามาก ดูยังมีสติ แค่ช้ากว่าปกตินิดหน่อย



.............................................................................


แต่พอกลับเข้าห้อง ความทรงจำเมื่อคืนวานก็กลับมาหลอกหลอนผม แม้สถานการณ์จะต่างจากเมื่อวานแต่อะไรๆมันยังชัดเจนจนผมเห็นภาพเหตุการณ์เมื่อวานวนเวียนอยู่ในหัว

เป็นธรรมชาติดิว้า ไอ้แม็ต มะนาวไม่ได้เมาพับเหมือนเมื่อวานไม่เห็นเหรอ ไม่มีอะไรหรอก วันนี้ต้องไม่มีอะไร

“มึงไม่เมานี่หว่า” ผมหยิบน้ำในตู้เย็นยื่นให้มะนาว

“กูไม่อ่อนไง” มันนั่งกอดขวดน้ำยักคิ้วแบบช้าไปครึ่งจังหวะมาให้ผม ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงเต็มที่แล้วล่ะวะ

“กินน้ำเยอะๆ ฉี่บ่อยๆ จะได้ซ่าง” มะนาวทำตามที่ผมบอกครับ

“เปลี่ยนชุดมะ ใส่กางเกงยีนส์นอน อึดอัดตาย

นาวเหมือนจะเห็นด้วย มันไม่พูดอะไร รูดซิบทั้งที่นอนอยู่อย่างนั้น ดันกางเกงพ้นตูดได้ก็สะบัดๆ ขา จนกางเกงกองลงไปตามพื้น ผมหยิบไปใส่ไม้เขวนให้มัน หยิบผ้าผืนเล็กไปชุบน้ำแล้วยื่นให้มันจัดการตัวเอง

“แล้วเมาๆ ไม่ต้องอาบน้ำนะ เอานี่รับไป” นาวรับไปอย่างเข้าใจ เช็ดหน้า เช็ดแขนลูบคอ แล้วก็เอาไปวางผึ่งไว้บนหน้า

“เมื่อวานมึงเช็ดตัวให้กูเหรอ?”

“มึงจำได้เหรอ?” ชิบหายแล้ว ผมสะดุ้ง ยังดีที่มันนอนหลับตาอยู่เลยไม่เห็นอะไรผิดปกติจากผม

“เปล่า ก็ดูจากวันนี้เนี่ยแหละ”

“เอาจริงๆ นะ กูจำอะไรไม่ได้เลยว่ะ พี่ปีสี่แม่งมอมกุแน่ รู้ตัวเลยว่าไม่เคยกินเยอะขนาดนี้ มึงขับรถกูกลับมาหอใช่ป่าวเมื่อวาน แถมหิ้วกูขึ้นหอมาด้วยใช่มะ กุจำไม่ได้เลย”

“มึงอาละวาดด้วย”

“จริงดิ้”

“มึงทำแก้วแตกไปหลายใบ ขวดโซดาด้วย ยังดีมึงไม่โดนบาด” จริงๆ มันทำแก้วแตกแค่ใบเดียวครับ ตอนที่เมาแล้วมันมาชนแก้วกับผม ชนแรงจนแตกคามือมัน มันไม่โดนบาด แต่ผมโดน

น้ำตาแทบไหลเป็นสายเลือด

“แผลที่นิ้วชี้มึงนั่น ผลงานกุรึเปล่า”

“ก็...” ผมลังเล ซ่อนมือจากสายตามัน

“ไม่ต้องแอบ กูเห็นตั้งแต่แลคเชอร์เมื่อบ่ายแล้ว มือถนัดมึงนี่”

“ก็มีส่วน กุเก็บแก้วให้มึงไง”

“เชี่ย มึงไม่บอก ถ้ากุรู้กุเมาแล้วเป็นงั้น วันนี้กุจะไม่แตะเลย”

“ฮ่าๆๆ อย่าคิดมากดิ ถือว่าทำความรู้จักเพื่อนใหม่ไง แล้วถ้ามึงกินเท่าวันนี้ รู้ลิมิตตัวเอง มันก็จะไม่เกิดขึ้นอีก ไม่เห็นยากเลย”

มันทำตัวเหี่ยวพยักหน้าเข้าใจอย่างรู้สึกผิด พึมพำขอโทษผมเบาๆ เห็นแล้วน่าสงสาร ผมบอกให้มะนาวนอนเลย ก่อนจะหลบเข้าห้องน้ำ

หวังว่าการสร้างเรื่องร่ายมนต์คุ้มครองของผมจะมีผลยืดยาวพอ จนกว่ามันจะมีคนมาดูมันได้ทุกๆ เวลาแล้วกันนะ


---------------------------------------------------------
จบบท 2


หวังว่าคนอ่านในเล้าจะยังไม่เบื่อสังคมวิศวะกันนะคะ

แม็ตจะเป็นคนเดินเรื่อง เป็นมุมมองของบุคคลที่ 1 ชัดเจน ดังนั้นอะไรที่พี่แม็ตไม่เห็นไม่รู้ไม้ได้คิด เราก็จะไม่รู้ด้วย บางทีอาจจะดูเซื่องๆซื้อๆ เพราะพี่แม็ตแกเป็นคนดีค่ะ พูดเลยดีเกินไป
ต่อไปในอนาคต(อันไกลโพ้น)คงได้ฟังมุมมองทางมะนาวกันบ้าง คงจะดีดมาก เพราะคนเขียนอัดอั้น 555
ขอบคุณทุกกำลังใจ และยอดวิวนะคะ ในฐานะคนเขียน บอกตรงๆกำลังใจทำให้มีแรงปั่น 5555
ย้ำอีกครั้งว่าติชมกันได้จ้า ติมาๆ พร้อมแก้ไขปรับปรุง
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 2] 18/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 18-01-2016 22:23:59
 :z13:
เป็นกำลังใจให้นะ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 2] 18/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-01-2016 22:25:47
นึกว่าจะเจออีกคืนนี้
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 2] 18/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 20-01-2016 03:16:51
(http://i1159.photobucket.com/albums/p636/Browny_Tan/bro/loveagain2_zpscs9dbvrb.png)
- บทที่ 3 - มนต์เสื่อม -



 
“กูหาหออยู่แถวนี้ดีมั้ยวะ?”

เรานั่งกินข้าวเช้าพร้อมหน้าพร้อมตาอยู่ในโรงอาหารในคณะครับ นาวถามขึ้นลอยๆ ทุกคนเหมือนไม่อยากอาหารเพราะยังแฮงค์จากเมื่อคืน

“อย่าแม้แต่จะคิดค่ะ ผัวหมายเลขสาม” พงศ์รีบพูด

“อื้ม ไม่ต้องหรอก” เอ้สนับสนุน

“แต่กิจกรรมโคตรเยอะ ได้ข่าววันนี้หลังเชียร์ก็จะมีพี่ๆ พาไปเลี้ยงอีก”

“ก็แค่ช่วงนี้ เดือนสองเดือนเดี๋ยวกิจกรรมก็ซา”

“แถวมหาลัยค่าหอแพง ไหนจะค่ามัดจำอีก เป็นหมื่นนะค่ะ เสียดายตัง เก็บไว้เลี้ยงชาบูกูค่ะ เดี๋ยวพาไปนอนด้วย”

“แม็ต งั้นถ้ามีไรต้องค้างกับมึงอีกกูช่วยค่าหอนะ” มันพูดอย่างเกรงใจ

“ไม่ต้องหรอกค่ะ ไม่รู้ฉายาพ่อแม็ตของเราซะแล้ว ขานี้เขาไม่อะไรหรอกค่ะ ใจดีกับทุกคน จนชะนีแท้ชะนีเทียมหลงใหลได้ปลื้มจนคิดว่าคุณพ่อแกมีใจหรืออ่อยนั่นเองค่ะ แต่ไม่จริง คุณพ่อใจดีเป็นปกติ ได้ฉายา แม็ตพ่อทุกสถาบันเลยค่ะ สำหรับฉันชอบอีกอันค่า พี่แม็ตผัวทุกสถาบัน อุอิ” พงศ์พูดซะผมดูดี เอ้ะ หรือไม่ดีนะ?

“จริงอ่ะ?” มะนาวทำหน้าไม่ค่อยเชื่อครับ

“กูเป็นคนดี” ผมทำหน้ากวนตีน ทั้งที่จริงๆก็เขินที่พวกนี้พูดตรงๆ คือผมก็ไม่ได้ดีเวอร์ขนาดนั้น ผมแค่ทำมันด้วยความเคยชิน

“ยังไงว่ะ”

“แม็ตมีน้องสาว มันก็เลยคิดว่าผู้หญิงทุกคนคือน้องสาวของมัน แล้วนิสัยหยิบโน้นทำนี่ให้ มันก็ติด นาวมึงต้องเคยเจอแบบ แค่คิดว่าจะไปหยิบอะไร ต้องการอะไรแล้วอยู่ๆ แม็ตก็ยื่นให้บ้างไหมล่ะ เดี๋ยวมึงก็คงเจอ อย่าหวั่นไหวล่ะ มันเป็นงี้กับทุกคน” เอ้เสริมพงศ์

“รวมมึงด้วยใช่ไหมค่ะที่หวั่นไหว” เอ้โดนพงศ์ขัด เลยฟัดกับเบาๆ ไปหนึ่งยก “ตอนผัวน้ำแขนเดาะ ผัวแม็ตนั่งป้อนข้าวกลางโรงอาหารไม่แคร์สายตาคนทั้งโรงเรียนเลยค่ะ กลัวเพื่อนอดข้าวกลางวัน ฉันอยากจะเอามือไปให้รถทับจะได้เป็นง่อยมาอ้อนผัวคะผัวขา”

“กูห้ามมันแล้วนะ มันไม่ยอม” น้ำที่นั่งหัวเราะเงียบๆ มานาน วันนี้มีบทแค่นี้ครับ

“พงศ์อย่าลืมสิ พงศ์ไม่ใช่น้ำนะ”

“ต๊ายยยยย คำพูดคำจา สุภาพแต่โคตรแรง บอกมาตรงๆ เลยก็ได้ค่ะ ว่าอิฮั้นไม่สำเหนียกตัวเองริอาจเอาตนอันต่ำต้อยไปเทียบท่านน้ำนิ่งอันสูงส่ง”

“ฮ่าๆๆ เออ” ผมตอบตรงๆ แกล้งมันครับ เพราะต่างไม่จริงจัง โว้ยวายทุบผมใหญ่

“แล้วทำไมแม็ตกับน้ำไม่อยู่ห้องเดียวกันล่ะ สนิทกันไม่ใช่เหรอ?”

“ชิบหาย สายแล้ว” พงศ์หยิบมือผมไปพลิกดูเวลาก่อนจะอุทานลั่นเสียงใหญ่ๆ แล้ววิ่งไปเลย

มันกับน้ำมีเรียนแลปครับ สายไม่ได้ ผมมีแลคเชอร์ ตึกก็ใกล้ๆ เดินชิล เอ้ขอตัวไปเข้าห้องน้ำและแยกกันเลยผมเดินไปเรียนกันสองคน

“น้ำมันชอบมึงรึเปล่า”

“ฮ่าๆๆ ทำไมคิดงั้น”

“ไม่รู้ดิ มึงสนิทกันจนอาจจะมองข้ามความรู้สึกกันก็ได้ กูเป็นคนนอก กูเลยมองออก”

“ไม่มีทาง น้ำไม่ได้ชอบกูหรอก”

“มึงรู้ได้ไง มึงอยู่ใกล้ใครก็ดูแลเขาดีไปหมด เขาอาจจะมีใจให้มึงก็ได้”

“นาว มึงยังไม่เข้าใจ”

“อะไรล่ะ ก็บอกกุสิ”

“มันมีแฟนอยู่แล้ว มาหาบ่อยๆ แล้วแฟนมันโคตรน่ารัก กุถึงมีเมทเป็นมันไม่ได้ไง แล้วมึงจะโมโหอะไรเนี่ย”

“คือ ก็ เปล่า ก็มึงกวนตีนกู บอกตั้งแต่แรกก็จบแล้ว”

“อะไรของมึง”

“ถ้าน้ำไม่ชอบมึง แล้วมึงชอบน้ำรึเปล่า?”

“น้ำเป็นคนที่เข้าใจกูมากกว่าคนอื่นนะ เหมือนพี่น้องที่โตมาด้วยกัน” ผมตอบไปอย่างไม่ต้องคิด ผมมีน้องสาวอยู่แล้ว น้ำก็คงเป็นเหมือนน้องชายแต่อายุเท่ากันล่ะมั้ง

มะนาวไม่พูดอะไรอีก เดินตามผมจนถึงห้องเรียน


เป็นนานกว่าผมจะฉุกคิด ว่าทำไมมะนาวต้องถามคำถามพวกนี้กับผม?

เสียงอาจารย์บรรยายผ่านหู แต่ความคิดผมยังวนเวียนอยู่กับคำถามพวกนั้น น้ำชอบผมรึเปล่า? ผมชอบน้ำรึเปล่า?

เขาจะอยากรู้ไปทำไม? เขาสนใจเรื่องพวกนี้ด้วยเหรอ
 
มะนาวดูปกติกับผมมาก แต่กับน้ำ ไม่

หรือมะนาวจะชอบน้ำ?

ผมหันไปมองคนที่นั่งข้างๆ อย่างไม่รู้ตัว รู้ตัวอีกทีก็ตอนมะนาวทำปากพูดแบบไม่มีเสียง

‘ไม? ไม่เคยเห็นคนหล่อเหรอ?’

กับผมเขายังกวนตีนผมได้ปกติจริงๆ นะ
 

........................................


ผมว่าการเข้าเชียร์ของที่นี่เป็นอะไรที่สบายมาก เข้าก็ดี ไม่เข้าก็ได้ด้วย

เขาให้ปีหนึ่งนั่งเรียงกัน มีรุ่นพี่มาสอนเพลงสถาบันกับเพลงของคณะส่วนใหญ่เป็นเพลงคณะ พวกสอนเพลงจะใจดีครับ มีอีกพวกพี่ว้ากที่พูดเสียงดังๆ ทั้งๆ ที่พูดสอน แต่ทำเสียงดังให้เหมือนดุด่าอยู่ทำไมก็ไม่รู้ ไม่รู้หรือไงว่าคนเขาไม่ชอบ มีเพื่อนบางส่วนไม่เข้าเพราะแบบนี้ กับอีกคน ที่รู้สึกจะมีคนเดียว พวกพี่ว้ากเรียกเขาว่า ‘ประทานเชียร์ของผม’ มามาดนิ่งมากครับ พูดแต่ละทีประโยคเด็ดๆ ทั้งนั้น เสียงไม่ดุ แต่ก้องไปทั่ว โคตรมีพลัง ขนาดผมเป็นผู้ชายยังมองว่าประธานแม่งเท่ชิบหาย เพื่อนผู้หญิงผมส่วนใหญ่มาเข้าเชียร์ยอมโดนว้ากก็เพราะอยากมานั่งมองหน้าประธานเชียร์ฟินๆ เนี่ยแหละครับ

เปิดเทอมมาอาทิตย์นึงพอดี เข้าเชียร์ครั้งนี้เป็นครั้งที่สี่ เป็นครั้งที่ต่างออกไปพี่ปีสองมายืนกันเต็มข้างหน้าและประกาศว่าจะมาสอนเพลงรุ่นเขาครับ ผมเห็นพี่โนอาอยู่หน้าสุด แอบยักคิ้วให้ผมตอนเราสบตากันใกล้ๆ มีพี่เทพี่รหัสมะนาวด้วย ปีสองทักทายได้สักพักกำลังจะสอนร้องเพลงอยู่ๆ ก็มีเสียงขัดครับ จากข้างหลัง อยากหันไปมองมากแต่เขาห้ามหันหลังครับ จริงๆ คือเขาห้ามทำทุกอย่าง นั่งนิ่งๆ ได้อย่างเดียว

“น้องรหัสต่อไปนี้ ให้ยกมือขึ้น”

อ้อ เหมือนทุกวันผมสงสัยมาตลอด ว่าเขาเรียกรายตัวออกไปทำไม บางคนก็กลับเข้ามาบางคนก็ออกไปเลย ผมเลยเดาว่ามีผู้ปกครองมารับ

“0001” โห เลขสวย “0085 0266 0349 0399 0541 0792 0888 0951”

ผมยกมือขึ้นแล้วเหงื่อแตกนิดๆ ทำไมมีรหัสผมวะ พ่อแม่ไม่ได้อยู่แถวนี้ให้มาหาได้นะ แม่งไม่น่าอยากรู้เลย

“ทั้งหมดที่ยกมืออยู่ ลุกขึ้น แล้วเดินออกมาด้านหลัง เร็ว เร็วๆ”

ผมทำตามงงๆ พี่โนอาที่มองผมอยู่ปัดมือไล่ให้รีบไปข้างหลังครับ

มีพี่นำผมออกจากห้อง และเช็คว่ารหัสตรงกับที่เรียกไหม พี่เขียนรหัสใส่กระดาษแล้วเอามาแปะอกผมไว้ แล้วก็ทิ้งพวกผมไว้ในห้องเล็กๆ แล้วก็ออกไปกันหมด เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเร็วมาก

งงครับ

“เขาให้เราออกมาทำไมว่ะ”

“ดีเลยกำลังเมื่อยพอดี”

“ไม่รู้ มึงทำไรผิดไว้ป่าว”

“ไม่ได้ทำอะ ถ้าทำแม่งจะรู้เหรอ นี่รู้รหัสด้วย”

“กูเคยแต่งตัวไม่เรียบร้อยในคณะ จะเกี่ยวมั้ยวะ”

“รหัสสวยนะ” อยู่ๆผมก็แทรกพวกเพื่อนๆ ขึ้น เพราะถ้าพี่ว้ากแอบฟังอยู่ มาบอกความผิดตัวเองในนี้ได้มีด่าเรียงตัวแน่

“888 ก็สวยนะ” เพื่อน 0001 ชมกลับครับ เขินเลย

“มึงชื่อไร กูโอ้ต” 85 บอกชื่อตัวเองครับ

“ซี” 0001 บอกชื่อตัวเองแล้วพยักหน้ามาทางผม คล้ายๆ ถามว่าแล้วผมล่ะ?

“แม็ต”

“กูดินครับ”

“บลูนะ” แล้วปีหนึ่งก็ทำความรู้จักกันครับ ทุกคนบอกชื่อกันหมด ผมคงจำได้ไม่หมด ให้ไล่อีกทีผมจำได้แต่ไอ้สองคนแรกมั้งครับ
แลกเปลี่ยนกันไปมา คนที่เรียนสาขาเดียวกันก็ขอเบอร์กัน มี 0001 กับ 0792 ครับเข้ามาขอเบอร์ผม (คือผมจำชื่อไม่ได้แล้ว) ผมก็ให้ไปแบบไม่คิดมาก เพราะพี่โนอาบอกไว้ ว่าปีหนึ่งให้รู้จักเพื่อนไว้เยอะๆ พอปีสองปีสามขึ้นไปไม่มีเวลาจะทำความรู้จักเพื่อนใหม่แล้วนะ พี่ขู่ครับ

“นี่เขาจะให้เราทำอะไรวะ ให้มารอเฉยๆ เนี่ยนะ”

“กูอยากไปร้องเพลงดาวปีสองสอนเพลงเองเลยนะเว้ย”

“เออ โคตรพลาด” ผมรู้สึกผิดครับ ไม่เข้าใจตัวเอง อยากจะกระซิบบอกว่านั่นพี่รหัสผม แต่ไม่ดีกว่า

“อยากไปมองหน้าประธานรุ่นปีสอง” มีผู้หญิงสองสามคนครับ ในหมู่คนที่เรียกออกมา พูดถึงประธานเชียร์กับประธานรุ่นปีสองสลับกันไปมา ผมเห็นเพื่อนมีกำลังใจเข้าเชียร์ผมก็ดีใจ


..................................


“แม็ตๆ ทางนี้โว้ย”

ผมเดินไปหานาว เลิกเชียร์นี่เหมือนผึ้งแตกรังครับ คนเยอะเสียงดังและวุ้นวายมาก

“เขาเรียกมึงออกไปทำไมวะ กูนี่ใจเต้นเลย กลัวมึงโดนซ่อม”

“เขาไม่ใช้ความรุนแรงกันสักหน่อย คิดมากมึง”

“ตอนมึงเดินออกไป กูรู้สึกเหมือนมึงจะไม่ได้กลับเข้ามาอีก โคตรใจหายเลยนี่หว่า แล้วเขาเรียกมึงแยกออกไปทำไมวะ?”

“ไม่รู้ ไม่เห็นได้ทำอะไรเลย เรียกไปไว้ห้องเล็กๆ แล้วก็ทิ้งไว้งั้นอ่ะ ไม่มีใครเข้ามาหรือบอกให้ทำอะไรสักนิด เลยไปนั่งคุยกันอยู่ในห้องเกือบครึ่งชั่วโมงมั้งเขาก็ปล่อยออกมานั่งอยู่หลังสุด”

“แบบนี้ก็สบายดิ กูนั่งหลังตรงจนเมื่อยตูด”

“อยากลองโดนเรียกดูบ้างไหมล่ะ?”

“ฮึ ใครจะรับรองได้ว่าเรียกไปจะได้นั่งสบายทุกครั้งวะ”

“ก็จริง”

“ไปต่อมั้ย?” มันหมายถึงว่า หลังจากนี้พี่ปีสองนัดเลี้ยงครับ มันถามความเห็นผม ผมเลยถามมันกลับ

“แล้วมึงไปมั้ยล่ะ”

“ไป เพราะ ฟรี”

“ฮ่าๆๆๆ”

“มึงอย่ามาหัวเราะ มึงมีเวลากินฟรีหนึ่งปีเท่านั้น จ่ายอีกสามปี มึงคิดดีๆ ไม่กินตอนนี้ กินปีหน้าแม่งต้องจ่ายเองแถมจ่ายให้น้องด้วยนะเว้ย”

“มึงนี่คิดการณ์ไกล”

“เอ่อดิครับ เอานี่” พอมาถึงรถ มันยื่นกุญแจรถให้ผม แปลว่า ให้ผมขับงั้นสิ

ผมรับมาโดยไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ เพราะผมเริ่มชิน เหมือนตัวเองมีรถยนต์

“มึงขับกลับหอ ขับไปร้าน แล้วก็ขับกลับหออีกที คืนนี้กูยกรถให้มึงเลย”

“ถามกูไหมว่ากูอยากได้ไหม?”

“ฮ่าๆๆ ไปเถอะๆ อ้อ ไปรับพงศ์น้ำเอ้หน้าโรงอาหารด้วย มันติดรถกลับด้วย”

ผมเริ่มชิน กับการมีมะนาวไปไหนมาไหนด้วยแล้วล่ะครับ มะนาวเองก็คงเหมือนกัน


................................................


ทำไมมนต์ผมเสื่อมเร็วขนาดนี้ครับ?


วันนี้พี่ๆ พาปีหนึ่งมาเลี้ยงกับอีกที่ เป็นร้านนั่งเล่นที่มืดและทึบเกือบปิด หัวค่ำเปิดเพลงฟังสบายๆ แต่พอดึกๆ คนเริ่มเมาก็เปิดเพลงเร่งจังหวะขึ้นมา ใครเมาก็ลุกขึ้นเต้นกันตรงนั้นเลยครับ รวมถึงไส้ติ่งผมด้วย มะนาว!

“พาไปฉี่หน่อย” ผมอยากจะหัวเราะ สภาพ ผมว่าอีกสองแก้วมันก็วาร์ปแล้วล่ะครับ ต้องพามันไประบายแอลกอฮอล์ออกที่ห้องน้ำสักหน่อย

ที่นาวต้องให้ผมพาไป เพราะคนในร้านเยอะมาก คนแน่นมาก รอบที่แล้วมันพยายามไปเองครับ ชนชาวบ้านเขาทำแก้วแตกไปอีก ยังดีไม่มีใครเจ็บ และคนที่มันชนเป็นผู้หญิง เขาไม่ถือสาอะไร เลยรอดไป ลองไปเจอผู้ชายขาใหญ่ๆ ไอ้นี่ตายครับ ผมก็คงช่วยไม่ทัน

ผมพยักหน้าลุกขึ้น มันจับบ่าผมไว้ข้าง ประมารว่าทางก็จะไม่มอง จะตามผมอย่างเดียว

“แม่ง มึงก็กินพอๆ กับกูนะ ทำไมไม่มีอาการเลยวะ” มาถึงห้องน้ำที่ไฟสว่างขึ้นและเสียงเพลงเบาลงมันก็บ่นครับ

“ไม่รู้ดิ” ไหนๆ ก็มาถึงแล้ว ผมเลยยืนทำธุระอยู่ข้างๆ มันเนี่ยแหละครับ

ครับ ผมดื่ม น่าจะมากกว่ามะนาวด้วยซ้ำ เพราะพี่รหัสผมชอบพาเพื่อนมาแนะนำ ไม่ก็พาผมไปแนะนำกับเพื่อนๆ พี่ๆ เขา
แต่ทำไมไม่เมาอันนี้ผมไม่รู้ ร้อนนิดๆ ซู่ซ่าดี พอให้ผมอารมณ์ดียิ้มง่ายแทนที่จะเมา

“มึงเคยเมามั้ย?”

“นี่ก็เมานะ แต่ไม่อ่อนไง”

“สาดดดดดดดดดดดดดด” มันยืนล้างมือแล้วด่าผมจากในกระจก

“ฮ่าๆๆ ไปเถอะๆ”



ผมเดินมายังไม่ถึงโต๊ะดี พี่เทพี่รหัสมะนาวก็ยืนกวักมือเรียกยิกๆ อยู่

“ว่าแล้วต้องไปเข้าห้องน้ำ ถือแก้วตามกูมาทั้งคู่เลยมึง”

“ใครอีกอ่ะพี่ ผมไม่ไหวแล้วนา” มะนาวประท้วงครับ

ผมจัดการเติมแก้วเหล้าให้มัน จริงๆ เติมแต่โซดา ใส่โค้กไปสองสามหยดให้สีมันสวยๆ ครับ ส่วนของผมชงปกติ ก่อนจะยื่นแก้วให้มัน แล้วเดินตามมันไป มีผู้ชายแขนยาวขายาวดูเท่มีสไตไข่วห้างแบบตั้งหน้าแข่งเป็นเส้นตรงขนานกับพื้นโลกนั่งรออยู่
ผมว่าผมจำคนนี้ได้นะ ประธานรุ่นปีสอง

“มึง นี่น้องรหัสสุดที่เลิฟกูเอง ไหว้น้องกูซะสิ” ทำท่าจะไหว้จริงครับ มะนาวสะดุ้งหลบ ก่อนพี่คนที่พี่เทแนะนำจะหันไปฟาดหัวเพื่อนเขา

“มันใช่เหรอ”

“ฮ่าๆๆ เอ่อๆ แนะนำตัวกับประธานรุ่นพี่สิ”

“หวัดดีครับ ผมมะนาว ปีหนึ่ง ภาคอิเล็คครับ”

“น้องกูๆ นี่ด้วยๆ นี่น้องโนอา”

“สวัสดีครับ ผมแม็ตภาคคอมครับ”

“พี่ฟ้านะครับ เอาง่ายๆ คือพี่เมาแล้ว เดินสายทุกร้านแล้ว กะจะมานอนตายที่ร้านนี้นี่แหละครับ”

“ดีมาก กูนอนไหนมึงเป็นเมทกูมึงก็ต้องนอนนั่น” พี่รหัสมะนาวตบเข่าเพื่อนอย่างภาคภูมิใจ

“เมทพี่เหรอ” มะนาวถาม

“เออสิครับ”

“เมทพี่โคตรเจ่งอ่ะ ไม่เหมือนพี่เลย” ครับ พี่เขาดูเท่จริงๆ สูงผอม ใส่เดฟกับช็อปแต่ตอนนี้ถอดเก็บเหลือเสื้อคอวีสีขาว ผมลองทรงสูง ไถข้างเป็นลวยอะไรไม่รู้ รู้แต่สวย เจาะหูข้างพร็อปทุกอย่างดูเข้ากันดีบนตัวพี่แก

“ถุ้ย น้อง กูพี่มึงนะ”

“ฮ่าๆๆ ผมล้อเล่นพี่”

“มาๆ มาชนกัน หมดแก้วนะครับ ไม่หมดมีซ่อม” พี่ฟ้าบอก

“ซ่อมอะไรวะ”

“ซ่อมอิ้งที่มึงตกไง”

“ถุ้ย!” พี่เทถึ้งหัวตัวเอง “ทำไมมีแต่คนแกล้งกรู กรูไม่เข้าใจ”

“มึงน่าแกล้ง น้องมึงยังสัมผัสได้” มะนาวพยักหน้าเห็นด้วยกับพี่ฟ้า “เดี๋ยว” อยู่ๆ พี่ฟ้าหยุดมือมะนาวไว้ คว้าแก้วมันไปชิมครับ
โฮ ซวยแล้ว ผมที่กำลังเตรียมกระดกทีเดียวให้หมดแก้ว ชะงักเหงื่อแตกเลยครับ

“มะนาวเมาแล้วเหรอ?” หลังจากชินเขาก็เอ่ยถาม

“หูย จะเหลือเหรอพี่ เมาตั้งแต่หัวค่ำแล้วคร้าบบบ”

“แล้วนี่ใครชงให้มึง”

“ผมครับ” ผมไม่ได้แมนหรอกครับ แต่มะนาวไม่รู้เรื่อง จะให้มันซวยเพราะความหวังดีของผมไม่ได้ พี่ฟ้าใช้มือที่ถือแก้วชี้หน้าผม เสียวต้นคอเกรียวเลยครับ บรรยากาศสนุกสนานเมื่อกี้หายวับไปกับตาครับ บทจะโหดนี่อยู่ในสายเลือดเด็กวิดวะจริงๆ

“รักเพื่อนนะมึง” พี่ฟ้าจ้องตาผมไม่กระพริบในเวลาแบบนี้ผมก็ไม่ควรหลบตาใช่ไหม? มะนาวที่ยังไม่รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้นมองหน้าผมสลับกับพี่ฟ้างงๆ พี่เทด้วยครับ คู่นี้เหมือนกันมาก

“...” ผมไม่พูดอะไร ก็เขาไม่ได้ถามอะไรไง จะให้ผมตอบอะไรล่ะครับ แค่นี้ผมก็ซ่างเมาแล้วคร้าบบบ

“อ่ะ รอก่อนอย่าเพิ่งกิน” พี่ฟ้าคืนแก้วให้มะนาว มันรับมาอุดปากรอคำสั่งกิน แล้วพี่ฟ้าก็แย่งแก้วผมไปชิมอีก

“อ้อ โอเค ของมึงอร่อยดี แต่ในฐานะที่มึงเป็นคนดี รักและหวังดีกับเพื่อน กูจะให้รางวัลมึง”

ท่านประธานปีสองเทแก้วผมออกเกือบครึ่ง ยกขวดที่มีน้ำสีอัมพันเทเติมให้แก้วผม เต็มปรี่จนเกือบล้น ใช้ที่คีบน้ำแข็งคนสองสามทีแล้วคืนให้ผม

ผมแอบถอนหายใจ ดีที่ไม่เติมให้แก้วมะนาวครับ ให้ผมกินเองน่ะพอไหวเท่าไหร่ก็ได้พี่ไม่ได้กลัว แต่ผมไม่ได้พูดออกไปนะ เดี๋ยวจะหาว่ากวนตีน ซวยอีกสิครับ

“ชนแก้ว” พี่ฟ้ายื่นแก้วออกมาชนอีกรอบครับ ผมชนแล้วยกดื่มช้าๆ รีบเดี่ยวสำลักจะหาว่าผมตุกติกครับ

“อื๋อ อื้ม” มะนาวที่กำลังกินอยู่เหมือนกัน หันมามองหน้าผมเหมือนจะเข้าใจแล้วครับว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมผมถึงโดนเพ่งเล็ง

“อย่าคิดมากล่ะ แต่ก็ให้มึงรู้ไว้ ว่ากูยังโดนแค่นี้ ถ้าแก่กว่ากูก็หนักกว่านี้ ถ้ามึงโดนจับได้”

“ครับขอบคุณครับพี่” กว่าผมจะยกหมดแก้ว ตาลายไปเหมือนกัน หื๋ม

“มะนาว คืนนี้ไปนอนห้องพี่ใช่มะ” พี่เททวง

“ไม่อ่ะพี่ ตั้งแต่พี่ตายทิ้งผมไปวันนั้น ผมก็เลยตั้งใจว่าจะไม่ขอฝากชีวิตไว้กับพี่อีก”

“เหี้ย วันนั้นกุโดนมอม” พี่เทรีบแก้ตัว

“จะขับรถกลับบ้านเหรอ?” พี่ฟ้าถามครับ เหมือนจะเข้าโหมดคุณพี่ไปแล้ว คือคณะนี้มีกิจกรรมดึกๆ ดื่นๆ บ่อย ทั้งปีหนึ่งที่เป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย พี่ๆ จะประกบตลอด ถ้ากลับคนเดียวจะไปส่ง ถ้ามีเพื่อนกลับก็ต้องให้กลับพร้อมกันหลายๆ คน พร้อมทั้งกำชับตลอดว่าดูแลกันด้วย ดูแลเพื่อนด้วย แบบนี้ตลอดครับ พี่โนอาของผมถึงจะเป็นผู้หญิงก็ปลอดภัยร่าเริงเป็นตัวของตัวเองได้ เพราะมีสังคมแบบนี้คอยดูแลมาตลอดครับ

“เปล่าครับ ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น ผมให้แม็ตขับให้ แล้วก็ไม่ได้กลับบ้านครับ กลับหอหลังมอ ใกล้ๆ เอง ถ้าเมาทั้งคู่จะไปแทคซี่พี่ ไม่ต้องห่วง”

“อื้มๆ ดีแล้ว” พี่เทกับพี่ฟ้าพูดพร้อมกันครับ ดูท่าเขาจะไม่ห่วงจริงๆ ชงให้ผมสองคนอีกรอบครับ แต่อย่าเรียกว่าชงเลย เทเหล้าอย่างเดียว น้ำแข็งโซดาน้ำเปล่า หาเติมกันเอาเองครับ

“แม็ตอยู่นี่เอง พี่หาตั้งนาน ฟ้า มึงแกล้งน้องกูเปล่า”

“บ้า มันทำตัวมันเอง”

“เหรอ อย่าให้รู้นะ มึงแกล้งน้องกู กูจะแกล้งเมทมึง” พี่เททำหน้าเหรอหรา

“เอาเลยครับ ตามสบาย ฮ่าๆๆ”

“ชิ้ แม็ต ตามพี่มา”

พี่โนอาพาผมไปนั่งกับกับเพื่อนๆ เขาครับ



รู้ตัวอีกทีก็เกือบตีสองแล้วครับ ร้านจะปิดเพราะเพลงเริ่มเบาลง ผมขอตัวกลับ ป่านนี้มะนาวไม่เหลือแต่กากแล้วเหรอครับเนี่ย ผมมองหามะนาวที่โต๊ะเดิมก็ไม่มีครับ ในกลุ่มเพื่อนรุ่นเดียวกันก็ไม่มี ผมเลยย้อนกลับไปโต๊ะพี่เทพี่ฟ้าครับ เจอจริงๆ ด้วย มะนาวฟุบหมดสภาพอยู่บนขาข้างนึงของฟ้าประธานรุ่นปีสองครับ ไหล่อีกข้างของพี่ฟ้ามีพี่เทซบอยู่ เหมือนจะหลับ แต่หัวยังโงนเงยแบบสติเหลือน้อยเต็มทีครับ

“รับมือสองเลยเหรอพี่ ไหวมั้ย”

“นึกว่าหนีกลับแล้วซะอีก เห็นหน้ามึงแล้วโคตรดีใจเลยว่ะบอกตรง นึกว่าต้องแบกสองศพซะแล้วคืนนี้”

“ขอบคุณมากพี่ที่ดูมันให้ มาพี่ ไอ้นี่ผมจัดการเอง” ผมกลัวเพื่อนผมทำอะไรพี่เขามากเลยครับ สภาพมันตอนนี้ทำให้ผมนึกถึงวันนั้นขึ้นมาอีกแล้ว


เมาหลับแบบเนี่ย เดี๋ยวต้องเป็นเรื่องแน่


................................................


นี่มันเทปม้วนเดิมชัดๆ

หลังจากออกจากร้านอย่างทุลักทุเล มะนาวแทบจะไม่ขยับขาเลยครับ จนผมต้องแบกขึ้นหลังโยนใส่เบาะหลังรถ แล้วขับกลับหอ แบกมันขึ้นชั้นสามอีก ถ้าห้องผมอยู่ชั้นห้าจะทิ้งมันไว้หน้าประตูหอจริงๆ ยังดีที่แค่ชั้นสาม และยังดีที่ตัวมันเบาครับ ผมยกมันพาดไหล่สบายๆ

มาถึงห้องผมก็ลังเลครับ ว่าจะเช็ดตัวให้มันเหมือนวันก่อน หรือปล่อยมันหลับแบบนี้ไปเลยดี

เหมือนมันรู้ว่าผมคิดอะไรครับ มันยังไม่หลับ แต่ตาปิดอยู่ ร้องอึ้อ่ะๆ บิดไปมาเหมือนไม่สบายตัว ผมเปิดแอร์แล้วมานั่งข้างนาวปลงๆ ถอนหายใจแล้วถอดกางเกงยีนส์ให้มันครับ แต่วันนี้จะไม่ถอดเสื้อ

ผมเช็ดหน้าให้มัน จากขมวดคิ้วยุ่ง มันเริ่มผ่อนคลายครับ ผ่อนคลายจนผมกลัวที่จะเช็ดตัวมันต่อ ผ้าผืนเดิมชะงักตอนที่จะเช็ดคอ ผิวแทนเกือบขาวของมันตอนนี้แดงเถือก ไม่เหลือส่วนไหนเหลืองอีกแล้วครับ ผมเลยมาเช็ดแขนทั้งสองข้าง คนเมาหายใจแรงครับ แปปเดียวหน้ามันก็แห้ง ผมเลยเช็ดหน้าให้มันซ้ำอีกรอบ

หมับ! มันจับมือผม ผมนี่ตาโตเลย ไม่นึกว่ามันจะขยับตัวไหว

มือมะนาวไม่เชิงจับมือผมครับ มันคงคิดว่าจับผ้าเย็นอยู่ เพราะมันถูไปถูมาบนหน้า แล้วก็จับมือผมที่จับผ้าอยู่ไปเช็ดๆรอบคอมันอีก ผมมองที่มือตัวเองสลับกับมองหน้ามัน ตอนที่มองอยู่นั่นเองมันก็ครางในคอออกมาเบาๆ

ชิบหาย เริ่มแล้วเหรอ กูยังไม่ได้ปิดไฟเลย ขอกูไปปิดไฟก่อนได้ป่าวว่ะ (นี่ผมกำลังคิดอะไร?)

มือมันเลื่อนมาที่อก แต่มีเสื้อครับ มันเลยเลื่อนต่ำลงๆ จนเกือบจะถึงสะดือ จะถึงสะดือ จนถึงสะดือ! ผมชักมือออกทันทีครับ มือมันก็กระเด้งตกตุ้บลงข้างตัว แล้วก็นิ่งไป

นาวไม่ขยับมือมาเช็ดตัวเองต่อแล้วครับ ทั้งที่ผ้ายังกองอยู่ตรงนั้น ผมนี่ถอนหายใจเลย มันขยับตัวไปนอนตะแคงขดเป็นกุ้งครับ ผมเลยหยิบผ้าเย็นออก ห่มผ้าให้มัน เดินไปปิดไฟ ซักผ้าตากในห้องน้ำ อาบน้ำนอนดีกว่า บางทีมันอาจจะหลับไปเลยก็ได้ ผมอาจจะคิดมากไปเอง


ผมล้มตัวลงนอนให้เบาที่สุด ดึงผ้าห่มมาปิดแค่พุงครับ เมื่อกี้จากที่ใช้แสงไฟในห้องน้ำส่องดู มันยังนอนท่าเดิม แต่หดตัวมากกว่าเก่า สงสัยหนาว แต่ผมว่าแอร์กำลังดีนะ ไม่ได้หนาวอะไร เลยไม่ได้ปรับแอร์

รางวัลจากฝากฟ้าทำผมมึนจริงครับวันนี้ ถ้าเมานิดๆ ปกติผมจะหลับไปอย่างรวดเร็ว แต่เสียงหายใจหนักข้างตัวทำให้ผมนอนไม่หลับครับ เพราะมันหายใจไม่สม่ำเสมอ และกำลังขยับยุกยิก

มันดึงแขนผมข้างที่อยู่ใต้ผ้าห่มไปกอดครับ ตัวมันสั่นๆ ผมเลยเอี้ยวตัวไปหยิบรีโมทจะเพิ่มแอร์ ก็มีมือกับแขนพาดตัวผมไม่ให้ลุกขึ้น

เอาแล้วไง ตั้งนานทำไมไม่ขยับ มาขยับตอนกูมานอนทุกที

“มึงหนาวเหรอ กูจะเพิ่มแอร์ให้” ผมพูดกับมันทั้งที่รู้ว่ามันไม่มีสติครับ

“ร้อน” อ้าว มีเสียงตอบกลับมา เล่นเอาผมงงเลย ก็ยังฟังรู้เรื่องนี่หว่า

“มึงเป็นใคร?” ผมหยั่งเชิงถามครับ

“มานาว”

“กูล่ะ กูเป็นใคร”

“แมต” มะนาวเรียกชื่อผมเบาเหมือนมันอยู่ในความฝัน

“มึงกำลังกอดกูนะ มึงรู้ตัวรึเปล่า?”

“ไม่เป็นไร นี่มันเป็นความฝันนี่นา” มันพูดก่อนจะเอาหน้าผากมาซบไหล่ผม ผมถอนหายใจ ยกแขนข้างที่ยังว่างดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเราทั้งคู่ กลัวมันหนาว

มันเลยได้ใจ ปีนมาก่ายผมเกือบทั้งตัว กลายเป็นนอนหนุนแขนผม เหมือนผมเป็นฝ่ายกอดมันซะงั้น

เปล่านะ ผมเปล่า ผมไม่ใช่คนเริ่ม ผมไม่ผิด

ครับ ผมไม่ใช่คนเริ่ม เพราะคนที่เริ่ม กำลังเริ่มอย่างอื่นที่หนักกว่าเดิม

มือมันเลื่อนจากอกผม ต่ำลงมาพักที่พุง ให้ผมหายใจไม่ทั่วท้องอยู่แป็ปเดียวเท่านั้น มันก็ทำให้ผมต้องกลั้นหายใจไปเลย
มือมันกุมอยู่ที่เป้าผมครับ ผมไม่แน่ใจว่ามันจะรู้มั้ยว่าวางมืออยู่บนอะไร แต่ไม่ช้าไม่เร็วมันคงรู้ครับ ผมนี่หลับตาปี๋เลย ข่มความรู้สึกยังไงก็ข่มไม่ลง สัมผัสที่ไม่คุ้นเคยจากคนอื่นทำผมห้ามตัวเองไม่ได้ครับ น้องชายเจ้ากรรมกำลังค่อยๆพองตัว

เพราะผมกลั้นหายใจจนเลือดลมสูบฉีดแน่ๆ ไม่ใช่เพราะมันมาจับไม่ใช่เพราะสัมผัส

พระเจ้า มันกำครับ กำผมรอบตัวเลย มิดบ้างไม่มิดบ้างก็เต็มมือมันนั้นแหละครับ

มะนาวมึงจะปล้ำกูเหรอ ใจเย็นเว้ย!

ผมตัดสินใจลุกพรวดขึ้นครับ จับมะนาววางลงกับเตียงเหมือนเดิมห่มผ้าให้มันลวกๆ แล้วเดินลงมาจากเตียง ไปหยิบผ้านวมสำรองมาปูนอนบนพื้นข้างเตียง ไม่งั้นคงเลยเถิดไปถึงไหนๆ

ผมนอนได้แป็ปเดียวเท่านั้นครับ มะนาวลุกขึ้นนั่ง ผมมองเห็นจากแสงที่ลอดผ้าม่านเข้ามาในห้อง แล้วเหมือนจะมองมาทางผม เหมือนผีที่คืบคลานมาในความมืด โหยยยย ให้ตาย

มึงจองเวรจองกรรมกูมากมะนาว ถ้ามึงลงมา กูจะจัดให้มึงนอนหลับสบายเลย แน่จริงลงมาดิ้ว้า

ผมแค่คิดในใจครับ ไม่คิดจะพูดออกมา แต่เหมือนมันได้ยิน มะนาวเดินลงมา นั่งข้างผม แล้วก็คร่อมผม มันก้มลงจูบผมมือข้างนึงของมันกุมมะนาวน้อยๆ ของตัวเองไว้นิ่งๆ ครับ ผมที่รับจูบเลยเปิดผ้าห่ม แล้วห่มเราทั้งคู่ เพราะกลัวมันหนาว จริงจิ้งงงงง

“อื้มมมมมม” เสียงที่ปกติทุ่มต่ำ ตอนนี้มันครางหวานในคอ พยายามดันส่วนนั้นมาเสียดสีกับของของผมแม้จะมีกางเกงของทั้งสองคนกั้น ผมดึงขอบบ็อกเซอร์ของมันลงนิดหน่อย มะนาวเหมือนจะรับรู้ครับ มันพยุงของมันออกมา ก่อนจะแกะของผมออกมาจากกางเกงนอน แล้วมันก็กำทั้งสองไว้ด้วยกัน ไม่รอบหรอกครับ มันโลภกะฟินทีเดียวสองนี้นา

ผมประคองมันให้นอนลงข้างๆ ตะแคงเข้าหากัน มันพละจูบออกจากปากเพื่อจะพูดชื่อผม

“แม็ต แมต อึ้ อื้ม แมต” เสียงมันทำผมว้าวุ้น ไม่รู้เพราะน้ำเสียง ไม่รู้เพราะไออุ่น ไม่รู้เพราะแอลกอฮอล์ หรือเพราะผมคิดว่ามันรู้ว่าคนตรงหน้าคือผมกันแน่

ผมวางมือตัวเองทับมือของมะนาว มือมะนาวในยามนี้ดูเล็กและน่าทะนุถนอม

ผมทิ้งความยับยั้งชั่งใจไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ เหลือเพียงปรารถนาในลมหายใจและเสียงครวญครางของนาวคนตรงหน้า

“อีก เร็วอีก” มะนาวปล่อยมือออกมาโอบรอบคอผม ดึงผมที่ก้มหน้าให้จูบเขา เราจูบกับร้อนแรงกว่าครั้งไหน

“อ้า อ๊า” มือเขาจิกลงบนหลังผมอย่างระบายความอัดอั้น มือมะนาวปัดป่ายไปทั่วร่างผม เหมือนถูกใจกับสิ่งที่ผมปรนเปรอให้
ในที่สุดเราปลดปล่อยออกมาพร้อมกัน

มะนาวเหมือนเด็กเสียขวัญ ที่ขอร้องให้ผมจูบปลอบซ้ำๆ เขากอดคอผมไว้ไม่ยอมปล่อย ซุกใบหน้าไว้ที่ซอกคอผมในขณะที่ผมเอื้อมมือหยิบทิชชู่บนโต๊ะข้างเตียงที่ตอนนี้อยู่ตรงกับหัวผมพอดี จัดการเช็ดให้มัน เช็ดให้ผมเอง ส่วนที่เปียกยู่บนผ้านวม... ผมค่อยส่งซักพรุ่งนี้แล้วกัน เยอะจนเช็ดไม่ไหวครับ

มะนาวยังส่งเสียงประท้วง ทุกครั้งที่ผมจับมันขยับและเช็ดตัวให้ ผมอุ้มมันกลับขึ้นมานอนบนเตียง ก่อนทิ้งตัวลงนอนข้างๆ มะนาวที่ตอนนี้นิ่งไปแล้ว คงหลับแล้ว



จริงๆ ถ้าผมไม่คิดอะไรกับมัน ไม่ได้อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ทำไมผมต้องย้ายกล่องทิชชู่จากหลังตู้เย็นมาวางไว้ข้างเตียงตั้งแต่หัวค่ำด้วยล่ะ? ไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ



-----------------------------
 จบบทที่ 3 จ้า

  คนเขียน : มนต์พี่แม็ตไม่ขลังเลย 5555 หัวเราะแบบหงายหลัง :laugh:
       แม็ต : เสื่อมแต่มนต์ อย่างอื่นผมไม่เสื่อมนะคนเขียน
  คนเขียน : หูยยยยยย แวร็ง ตอนหน้าอาจจะไม่ได้เสื่อมแค่มนต์ก็ได้ใครจะรู้ หลักฐานก็ไม่มี พยานก็ม่ายมี
       แม็ต : ... (กำลังคิดว่า พยานมันตื่นมาก็ลืมหมด ไม่รู้จะเอาอะไรมาเถียง)
  คนเขียน :  โอ๋ๆ เดี๋ยวตอนหน้าไม่เขียนแกล้งแล้วนะ โอ๋ๆ

เจอกันตอนหน้าน้า บ๊าย
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 3 มนต์เสื่อม] 20/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 20-01-2016 06:39:41
มะนาวเอาอีกแล้ว  :z1:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 3 มนต์เสื่อม] 20/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 20-01-2016 06:41:05
สนุกมากครับ ขนาดเรื่องเพิ่งเริ่มยังไม่มีเหตุการณ์อะไรมากนักแต่อ่านเพลินชวนติดตาม สงสัยเพราะตัวละครแต่ละคนน่ารักมีเสน่ห์
บวกเป็ดทางซ้าย บวกแต้มทางขวา
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 3 มนต์เสื่อม] 20/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 20-01-2016 12:18:16


สนุกดีค่ะ เราจะติดตามนะ ^^
แต่ขอนิดนึงได้ไหม ถ้าเป็นไปได้ ใช้กู มึง เต็ม ๆ ไปเลยก็ได้ค่ะ
ไม่ต้องห่วงเรื่องหยาบไม่หยาบเนอะ เพราะเวลาอ่านแล้วมันรื่นตากว่าเยอะเลย  :pig4:

หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 3 มนต์เสื่อม] 20/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: PaiPo ที่ 22-01-2016 19:11:07
มีใจก็ยอมรับเถอะค่ะว่ามีใจ ชักช้าเดี๋ยวมีใครคาบไปไม่รู้ด้วย
 :m32:
คนเขียนเขียนเข้าใจง่ายนะ นึกภาพตามได้ตลอดเลย ไม่มากไปไม่น้อยไป
และถ้าอัพบ่อยๆได้จะดีค่า 55555+
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 3 มนต์เสื่อม] 20/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 22-01-2016 22:39:08
(http://i1159.photobucket.com/albums/p636/Browny_Tan/bro/loveagain2_zpscs9dbvrb.png)

- บทที่ 4 - ยั่ว -






ผมนอนมองหน้ามะนาวมาสักพักแล้ว ผมตื่นก่อนมะนาวยังนอนนิ่งไม่ขยับตัวเลยครับ

ผมย้อนคิดถึงเรื่องเมื่อคืน และคืนก่อน ทำไมผมไม่รังเกียจ ทำไมผมไม่เดินหนี ทำไมผมไม่ขัดขืนทั้งที่กำลังมีมากพอจะทำได้สบายๆ ทำไมผมไม่หยุดทุกอย่างไว้ ทำไมเป็นผมที่เอื้อมมือออกไปรับเขาทุกครั้ง

ผมเป็นแค่ผู้ชายที่ความต้องการชนะใจ หรือใจผมเป็นของเขาไปแล้วโดยไม่รู้ตัว

แล้วผมชอบมะนาวตรงไหน? ผมตอบไม่ได้

อะไรในตัวมะนาวที่ทำให้ผมรักเขา ก็ยังไม่มีคำตอบ

ผมไม่ได้รักมะนาว ผมก็ไม่สามารถพูดได้เต็มปาก

ถ้าอย่างนั้นที่ผมทำกับมันนี่คืออะไร? แค่หน้ามืดแรงอารมณ์เข้าครอบงำ อย่างนั้นเหรอ?


ถ้าผมแค่อยากระบายแล้วคนตรงหน้าล่ะ? เขาผิดอะไร ทำไมเขาต้องมาโชคร้ายเป็นที่ระบายของผมด้วยล่ะ ทำไมต้องเป็นเขา
ผมคงต้องรู้จักยับยั้งตัวเองให้มากกว่านี้ ก่อนที่อะไรๆ จะสายไป


แล้วผมควรจะทำยังไง

บอกเขาตรงๆ มันเป็นเรื่องที่รับได้ยากนะ

หนีให้ไกลจากเขา แล้วเขาจะไปอยู่ไหน

ปล่อยให้มันเป็นไป แล้วมันจะไปจบตรงไหน นั้นก็เป็นสิ่งที่ผมกลัว


ผมลุกขึ้นไปอาบน้ำ ทั้งที่ใจยังสับสน

ถ้าผมจะมีอะไรกับใครสักคน ผมเคยตั้งใจไว้ว่า เขาต้องเป็นคนที่ผมรัก แล้วตอนนี้ผมรักเขาไหม มันสับสนไปหมด


ผมออกมาปลุกมะนาวให้ไปอาบน้ำต่อ ถามเขาว่าปวดหัวไหม มะนาวบอกพอไหว วันนี้เขาเลยไม่ต้องกินยา

ถ้าผมถามเขา ว่าจำเรื่องเมื่อคืนได้ไหม? แล้วเขาตอบว่าจำได้ขึ้นมา ผมจะมองหน้าเขายังไง

ถ้าผมไม่พูดอะไรเลยแล้วผลักไสเขาออกไปจากชีวิตผม ห่างจากผมไปถ้าเขาเจอคนไม่ดีล่ะ ถ้าเขาไปทำร้ายคนอื่นล่ะ


มีทั้งคำถาม และคำตอบ แต่ผมไม่แน่ใจว่าคำตอบไหนคือคำตอบที่ถูก


............................................

หลังจากนั้นก็ผ่านไปเกือบอาทิตย์มะนาวยังคงมาค้างกับผมในวันที่เมาอีกครั้งสองครั้ง แน่นอนเขาละเมอลวนลามผมทุกครั้ง แต่เรายังไปเรียนด้วยกันนั่งเลคเชอร์ข้างกันกินข้าวกลางวันพร้อมกันเป็นปกติ มะนาวกลายเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกับพวกผมไปโดยปริยาย ดูเหมือนจะสนิทกับเอ้กับพงศ์มากกว่าผมไปซะแล้ว

ผมเริ่มที่จะมองตามเขาโดยที่ผมไม่รู้ตัว เริ่มที่จะมองหาเขาในกลุ่มฝูงคน จนกว่าเขาจะนั่งลงข้างๆ ผมเมื่อไหร่ ตอนนั้นผมถึงวางใจ

ผมเอาแต่มองเขามาทั้งอาทิตย์ แล้วตั้งคำถามต่างๆ กับตัวเองอยู่ตลอดเวลา ถามใจตัวเองซ้ำๆว่าความรู้สึกพวกนี้มันคืออะไรกันแน่


“แม็ต อย่ามองนาวแบบนั้นสิ ฉันเขินนะ” ไม่ใช่เสียงมะนาวครับ แต่เป็นเอ้ที่พูด

“เขินอะไร มันจ้องกูเพราะกำลังส่งกระแสจิตมาถามกูว่าผลแลปเสร็จรึยัง”

“อื้ม นั่นดิ” ผมเห็นชอบกับมะนาว “แล้วเสร็จยัง?”

“ยัง ลอกหน่อย เอามากูรู้มึงเสร็จแล้ว”

ผมหยิบของผมให้ เวลามะนาวมีน้อยกว่าผม เพราะลำพังขับรถไปกลับจากบ้านมามหาลัยก็กินเวลาไปเกือบสองชั่วโมงต่อวันแล้ว ฝนตกรถติดอาจเป็นสาม

“เย็นนี้ใครนอนดึกบ้าง” มะนาวถามคนในโต๊ะ ซึ่งมีน้ำ พงศ์ เอ้ กับผม

“ไมเหรอ? อยากเล่นเซ็กซ์โฟนดึกๆ เหรอ เค้าว่างนะตัว” พงศ์เสนอตัว

“ป่าว กูถามไว้เผื่อกูเป็นศพให้เก็บ เย็นนี้มีเลี้ยงสายรหัส มายันพี่บัณฑิต คงยาว” มันพูดไปเขียนรายงานไป

“ก็กูไปรับไง ยังไงมึงก็มานอนห้องกูอยู่แล้วนี่”

“เผื่อมึงรีบนอน”

“ไม่หรอก กูรอตีฮอน นัดกับพวกไอ้โป่งไว้ น้ำด้วย”

“งั้นกูจะไลน์ไปก่อนเมานะ” ก่อนมานาวจะก้มหน้าก้มตาเขียนรายงานให้ทันเวลา ไม่นานเราก็แยกย้าย




ช่วงเวลาสั้นๆ ที่เราทั้งหมดเดินออกจากโรงอาหารพร้อมกัน น้ำก็มากระซิบข้างผม

“มึงไม่ได้นัดกูเลย ไอ้แม็ตขี้ตู่”

“กูรู้ มึงจะไม่เถียงไง”

“แหม รู้ใจเหมือนแม่กูเลย” มันว่าผมก่อนจะแยกออกไป


................................................


ตีสอง ผมมายืนอยู่หน้าบรรดาร้านเหล้าที่คาดว่ามะนาวกับสายรหัสจะมาเลี้ยงกันครับ

ผมชำเลืองมองโทรศัพท์บ่อยจนผมเองยังรู้สึกว่าตัวเองผิดปกติ ผมอยู่ไม่สุขตั้งแต่เที่ยงคืน เกือบตีหนึ่งเริ่มเดินไปเดินมาในห้อง ยังไม่ตีสองผมก็ออกมาโดยที่มะนาวยังไม่ไลน์มาบอกหรือส่งสัญญาณอะไรมาบอกเลย ส่วนแต่งตัวนั้นผมแต่งตัวไว้ตั้งแต่สี่ทุ่ม
เผื่อมันแบตหมดโทรไม่ได้ไลน์ไม่ได้ไง ผมเลยออกมา ก็มันเล่นเงียบไปเลย

มองจากนอกร้านไม่เห็นอะไรเลยครับ กระจกมืดมาก บางร้านที่เปิดโล้งก็จะมีเครื่องประดับเอยต้นไม้เอยบังตาเกะกะไปหมด ผมควรไลน์ไปถาม หรือควรเข้าไปหาเลยดี

“อ้าว ไอ้น้องโนอา” พี่ฟ้าประธานรุ่นของปีสองทักผม

“หวัดดีครับ” พี่ฟ้ายังเท่เหมือนเดิม แต่วันนี้มีพร็อบเป็นถุงลูกชิ้นติดมือมาด้วย

“ไง มากินอยู่ร้านนี้หรือหรือร้านข้างๆ ล่ะ” แถวนี้ร้านเหล้าทั้งแถบครับ ยาวไปโน้น

“เปล่าพี่ มาหาเพื่อน” ถามคนนี้แหละ เข้าท่าสุดแล้ว “พี่รู้มั้ยครับว่าพี่เทกับมะนาวนั่งร้านไหน” 

“อ้อ มารับมะนาวอ่ะดิ ร้านนี้ไง ป่ะ เข้าไปพร้อมกันเลย” พี่ฟ้าขี้ร้านถัดไป

“ครับ” ถามถูกคนจริงๆ

ผมเดินตามพี่ฟ้าเข้าไปในร้าน มองหามะนาวไปเรื่อยก็ยังไม่เจอจนพี่ฟ้าไปหยุดที่โต๊ะโต๊ะหนึ่ง มองจากข้างหลังผมเห็นพี่เทนั่งอยู่ริมข้างหนึ่งของโซฟา อีกข้างเป็นใครก็ไม่รู้ ผมไม่รู้จัก แต่ทั้งสองนั่งอยู่ห่างกันเหมือนเว้นที่ไว้ให้คนสักสองคนนั่งตรงกลางระหว่างพวกเข้าได้

“โห ไปซื้อลูกชิ้นแปปเดียว KO ไปแล้วหนึ่ง” ผมเดินมาใกล้พอจะเห็นว่าพี่ฟ้าหมายถึงอะไร

มะนาวครับ มันนอนเหยียดบนโซฟาตัวยาว หัวอยู่บนตักของคนแปลกหน้า ขาพาดเลยไปทางพี่เท ที่สำคัญ เสื้อมันไปไหน?

“อ้าวแม็ต มาได้ไงวะ”

“...”

“กูเจอหน้าร้าน” พี่ฟ้าตอบเองเสร็จสัพ “แนะนำตัวเลยมึง”

“หวีดดีครับ ผมแม็ตปีหนึ่งภาคคอมครับ”

“มา กูแนะนำสายรหัสก่อน พี่โจ้ปีสาม ปีสี่มีสองคนพี่วีกับพี่ขุน พี่บัณฑิตยู่ยี่ พี่เปเป้ กับพี่ชนะ” คนสุดท้ายคืนคนที่มะนาวนอนตักเขาอยู่ครับ และหน้าตาเหมือนพี่ใหญ่สุดด้วย ผมไหว้รอบโต๊ะ จนหยุดที่คนสุดท้ายที่เขามองผมแปลกๆ “คนนี้น้องรหัสโนอาพี่ มีแววป่าวๆ” ประโยคหลังพี่เทป้องปากพูดด้วยระดับความดังเท่าเดิม ผมไม่รู้พี่แกจะป้องปากทำไม

พี่เทเรียกให้ผมนั่ง พี่ผู้หญิงสองคนในโต๊ะจัดที่นั่งให้ผมตรงกลางระหว่างเขา แถมทำท่าดีใจ ผมนั่งลงเขินๆ แต่ก็ยังมองมะนาวที่คงยังไม่รู้ว่าผมมาแล้ว

“เออ ไอ้ยีนส์เห็นคงชอบเลยล่ะ”

“อะไรเหรอครับ? พี่ยีนส์คือใครเหรอ”

“อ้อ รุ่นน้องพี่ ไม่มีอะไรหรอก แล้วเรามาหาเพื่อนเหรอ?” พี่ยู่ยี่ถาม

“ครับ มันบอกจะไลน์มา แต่เงียบไปผมเห็นดึกแล้วก็เลย”

“ไม่ต้องห่วงหรอก ไปนอนคอนโดพี่ก็ได้” พี่ชนะพูดขึ้น

“...” ผมจะพูดยังไงดี อำนาจในน้ำเสียงของพี่บัณฑิตทำให้ผมพูดไม่ออก

“มะนาวมันบอกแล้วมันไม่ไปกับพี่นิ ฮ่าๆๆ” พี่เททำท่าล้อเลียน

“มันก็ไม่ไปกับมึง” พี่ชนะพูด “พรุ่งนี้วันเสาร์กูไม่ได้ทำงานอยู่แล้ว เดี๋ยวกูเอามันไปค้างคอนโดกูเอง มันเมาไม่รู้เรื่องงี้แล้วเนี่ย”

“จริงๆ คือผมมารับนาวครับ” ผมต้องรีบพูด ก่อนเขาจะเอามะนาวไปจริงๆ

“น้องมะนาวจะไปนอนห้องมึงเหรอ? มันบอกมันอยู่บ้านนี่”

“ครับ”

“ใช่พี่ ถ้ามันไม่กลับบ้านมันจะค้างกะข้างรหัสมัน คราวที่แล้วก็ค้าง” พี่เทเคี้ยวลูกชิ้นของพี่ฟ้าไปพูดไป

“ใครก็ไม่รู้ทิ้งมันตั้งแต่วันเปิดเทอม” พี่ฟ้าแซว

“เหี้ย เมท มึงก็ย้ำจัง”

“เพื่อนจะเป็นภาระน้องรึเปล่า พี่ว่าพี่ดูเองดีกว่า หลานรหัสทั้งที”

“...”

พี่ชนะทำท่าเขย่าปลุกมะนาว

“ป่ะ มะนาว กลับกับพี่”

“ไม่!”

“เห็นมั้ยพี่ จะเอามันกลับตั้งแต่ตีหนึ่งละ มันยอมที่ไหน”

“ผมไม่กลับ” พี่ชนะพยุงหิ้วปีกมะนาวลุกขึ้นยืน

“ม้าย โผมกลับม่ายด้าย โผมจาอยู่นี่”

“นาว เดินดีๆ” สองคนหิ้วปีกกันไปอย่างยากลำบาก

ผมลุกขึ้นยืน มะนาวตัวเล็กกว่าพี่ชนะเยอะก็จริง แต่ความยวบยาบของคนเมาทำให้การเดินดูไม่มั่นคงเลย

“นาว” มะนาวหันมาทางผมที่เขากำลังจะเดินผ่านผมไป เขาหยุดทันที แล้วพยายามมองผมอยู่นานเหมือนว่าไม่แน่ใจว่าผมเป็นใคร

“แมต”

“อื้ม กูมารับ กลับกับกูมั้ย?” ผมรู้สึกเลยว่าคนทั้งโต๊ะมองผมกับนาวสลับกัน แม้กระทั้งโต๊ะใกล้ๆก็มอง

“กับๆๆๆๆ กับกับมึงๆ” แล้วเขาก็ทำในสิ่งที่ผมกลัวครับ มะนาวเดินเข้ามากอดรอบคอผม วางคางไว้บนไหล่ผม ต่อหน้าทุกคน ผมว่าผมหน้าแดง แต่แสงสลัวคงพออำพรางได้

แต่ตอนที่ผมเห็นสายตาของพี่ชนะที่มองผมเนี่ยสิ ผมบอกไม่ถูกเลย

ผมไม่รู้เขาคิดอะไร แต่ผมกลัวว่าเขาจะรู้ว่าผมคิดอะไร สายตาที่เหมือนมองทะลุได้ทุกอย่างนั่น

“มันรอมึงมารับนี่เอง นี่มึงสั่งให้มันไม่กลับกับใครไว้ใช่มั้ย มันถึงทำเหมือนถูกตั้งโปรแกรมไว้เงี้ย” พี่เทออกความเห็น ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่ามันจำได้รึเปล่าว่าบอกให้ผมมารับ

“เปล่าครับ นาวเป็นคนบอกเองว่าให้ผมมารับถ้ามันไม่ไหว มันคงกลัวผมมาแล้วไม่เจอมันมากกว่า”

“เออ คนเมา คนไม่เมาอย่างกูไม่เข้าใจตรรกะมันหรอก”

“แน่ใจเหรอมึงไม่เมา”

“ไอ้เหี้ยเมทเลว”

“ผมขอโทษแทนเพื่อนนะครับพี่ชนะ พี่อุส่าใจดีกับมัน” ผมขยับให้มันอยู่ในท่ากอดคอข้างเดียว พยุงไหล่มันไว้

“ไม่เป็นไร ถ้ามึงดูกับได้กูก็โอเคอยู่แล้ว กลัวมึงไม่ไหวมากกว่า ดูท่าจะเอาเรื่องนะ” พี่ชนะเอาเสื้อมะนาวพาดบ่าผมให้ ผมพึมพำขอบคุณเบาๆ ก่อนจะจับมันใส่เสื้อตรงนี้เลย

“ครับ ลานะครับพี่ๆทุกคน” ผมล่ำลาจนครบทุกคน

ใช่ ไอ้นี่เมาแล้วเอาเรื่องน่าดูเลยล่ะครับ


..................................


ผมกลับมาถึงห้อง ความตื่นเต้นกับการเจอพี่บัณฑิตทีเดียวหลายๆ คนยังไม่ทันหายดี ตอนนี้ผมเริ่มระแวงไอ้คนข้างๆ ไม่รู้มันจะออกอาการอีกเมื่อไหร่ ดูท่ามันจะเมามาก แต่ก็ยังมีสติเพราะรู้ว่าผมเป็นผม

“นาว ถอดรองเท้าก่อน” หลังปิดประตูผมก็บอกมัน มันทำตามเหมือนเด็กที่ฟังรู้เรื่องแต่พูดไม่ได้ มะนาวเหยียบส้นรองเท้าผ้าใบของตัวเองจนรองเท้าหลุดออกทั้งสองข้าง

“ไป ไปนอน”

มันพุ่งตัวลงเตียงผมทันที

“ถอดกางเกงเองไหวมะ”

มะนาวส่ายหน้าช้าๆ สองรอบ ผมเลยถอดกางเกงตัวนอกให้มัน  เช็ดหน้าเช็ดตาให้ทั้งที่ระแวงมันแทบตาย แต่ก็ยังทำนั่นนี่ให้เหมือนเคย ได้กินทีไรไม่เคยยั้งมือ ไม่ดูแลตัวเองเลย

หรือผมจะเป็นฝ่ายไปนอนที่อื่นดี ผมหยิบมือถือ ไลน์ไปหาน้ำที่อยู่หอตรงข้าม

       Maths : มึงนอนยังวะน้ำ

       Maths : ไปนอนด้วยดิคืนนี้

 Backwater : กูอยู่บางแสน

       Maths : เหี้ย มึงไปตอนไหนวะ

 Backwater : เมื่อกี้ อิอิ

 Backwater : ว่าแต่มึงเป็นไร ไม่มีที่นอนเหรอ? ลืมกุญแจ?

       Maths : เปล่า ไม่มีไร แค่นี้แหละ

 Backwater : ส่งรูปภาพถึงคุณ

น้ำส่งรูปพี่เลมาให้ผมดูครับ พวกเขานั่งปูเสื่ออยู่ริมหาด ไปไม่ชวนแม่ง


หมับ มีแขนปริศนากอดคอผมจากด้านหลัง มะนาวเริ่มแล้วครับ วันนี้ไวมาก ทุกทีต้องรอผมปิดไฟทำท่าว่าจะนอน วันนี้มันมาแล้วครับ

“เฮ้อ มะนาว มึงรู้ตัวอยู่รึเปล่าเนี่ย หึ” ผมถอนหายใจ หันไปมองหน้ามันตรงๆ

“นี่แม็ตไง แมตตตต”

“มึงรู้ตัวมั้ยว่าเมาแล้วทำอะไรไปบ้าง กับคนอื่นมึงจะทำอย่างนี้กับเขามั้ย?”

“ไม่อ่ะ” มะนาวพูด ทำท่าเหมือนเด็กถูกดุ

“ไม่ทำหรือไม่รู้? มึงเมาตื่นมาก็จำอะไรไม่เคยได้ มึงจะรู้ได้ไงว่ามึงทำหรือไม่ได้ทำ ถ้าเกิดเขาทำอะไรรุนแรงเกินเลยกับมึงขึ้นมาแล้วอ้างว่ามึงเริ่มก่อน มึงจะเป็นไง รู้ตัวรึเปล่าว่ามึงเสี่ยงกับเรื่องอันตรายมากแค่ไหน”

“ไม่ ฮึก ฮื้อๆๆๆ”

“อ้าว ร้องให้ไมวะ” มะนาวเบะจนหน้ายับ กูผิดอีกดิ!

“แม็ตดุ แมตน่ากลัว” มันปล่อยคอผม ลงไปนอนขดอยู่มุมเตียงที่ไกลออกไป

“เฮ้ย กูพูดเพราะกูเป็นห่วงมึงนะ” เมื่อกี้ผมคงจริงจังมากไป

ครับ ผมยอมรับแล้วว่าตอนนี้ผมห่วงเขาจริงๆ จังๆ เขาหน้าตาดี เฟรนลี่เข้ากับคนง่าย ถ้าตั้งแต่เปิดเทอมไม่มีผมอยู่ข้างๆ ตลอด คงมีทั้งผู้หญิงผู้ชายเข้าหาเขาหลายคนแล้ว

ทำไมผมจะไม่เห็น เวลาที่คนอื่นมองมะนาวอย่างปลาบปลื้ม เพียงแต่ว่าพอมองมาข้างหลังมะนาวมักเห็นผมมองอยู่ คนพวกนั้นก็หลบตาหลบหน้าไปเอง

ถ้าเจอคนที่แน่พออย่างพี่ชนะล่ะ?

ถ้าผมไม่อยู่ตรงนั้น...


ผมปิดไฟล้มตัวลงนอนอีกฝั่งของเตียง สายตาก็ยังมองไปที่แผ่นหลังของคนที่เมาจนกลายเป็นคนขี้น้อยอกน้อยใจ รอดูท่าทีว่าวันนี้ก่อนมันจะขยับตัวเข้ามาหาผมไหม ถ้ามันเข้ามารุกผมอีก ผมจะจับมันไปราดฝักบัวเย็นๆ ให้ซ่างเมาเลยจริงๆ

หงุดหงิดจนตัวเองรู้สึกได้ เป็นครั้งแรกที่ทำให้ผมไม่โอเคกับการเมาของมัน ทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่าตัวมันร่างกายมันผมไม่มีสิทธิ
ผมรอดูจนแน่ใจอยู่นาน คงหลับจริงๆ ไปแล้ว ผมห่มผ้าให้มะนาว ก่อนจะนอนลงแล้วหลับตาบ้าง


...............................................

“เฮ้ย!” มะนาวลุกพรวดขึ้นมาจากเตียง ทำหน้าตาตื่นเหมือนตกใจอะไรสักอย่าง มันนั่งหอบอยู่กลางเตียง

ผมที่ดูหนังใส่หูฟังอยู่ต้องกดพอสแล้วหันไปถาม

“เป็นอะไรรึเปล่า?”

มะนาวเห็นหน้าผมแล้วถอนหายใจ

“เปล่า เห้อ” ถอนหายใจอีกที “กูนึกว่ากูไม่ได้นอนนี่”

“มึงไม่นอนนี่แล้วจะไปนอนไหน”

“ก็... ขอบใจว่ะ” ผมยืนยาแก้ปวด กับน้ำให้มันซดแก้คอแห้ง “ก็เมื่อคืนที่กูจำได้อย่างสุดท้ายคือพี่เทจะให้กูไปนอนห้องเขาเพราะเห็นกูเมาแล้ว”

“แล้วมึงบอกพี่เขาว่าไง”

“กูบอกแค่กูไม่ไป กูไปไม่ได้”

“มึงไม่บอกพี่เขาไปเลยวะ ว่าเดี๋ยวกูไปรับมึงให้เขาจะได้ไม่ต้องห่วง ถ้าจะช่วยก็ช่วยโทรบอกกูแทนมึงที่เมา”

“กู กู” มะนาวอ้ำอึ้ง “กูกลัวมึงไม่ไปรับกู”

“...” ผมถอนหายใจ

“กลัวมึงลำบากใจที่กูมาค้างด้วยบ่อยๆ ขนาดเมื่อคืนกูเมาๆ กูยังฝันว่ามึงด่ากูเลย คิดดูคิดจนเก็บไปฝัน กูก็เกรงใจเป็นนะเว้ย” ผมนั่งลงเก้าอี้หน้าโต๊ะหนังสืออีกครั้ง กอดอก ฟังจากที่มันพูดมาผมพอจะเข้าใจแล้วนั่นทำให้ผมเย็นลงนิดหน่อย

“ไม่ใช่เลย”

“กูไม่อยากให้มึงต้องมีภาระ”

“มึงฟัง” มันตั้งใจฟังครับ ก้มหน้าเหมือนผมจะดุมันอีก

“ต่อไปนี้ ถ้ามึงกินเหล้า ทั้งไปกับกูหรือกูไม่ได้ไปด้วย มึงไม่ต้องขับรถกลับบ้าน อันตราย ถ้ากูปล่อยมึงกลับ กูคงรู้สึกผิดถ้ามึงเป็นอะไรไป และที่สำคัญ” มะนาวพยักหน้าเข้าใจ “ไม่ต้องไปค้างที่อื่น ให้มาค้างกับกู กูมีเหตุผลของกู แต่เชื่อกูเถอะว่ากูหวังดีกับมึงจริงๆ”

“ถ้าไม่เมากูนอนห้องคนอื่นได้ป่ะ?”

“ได้ แต่ห้องกูก็ได้ มึงชินกับห้องกูแล้วนี่”

“แล้วทำไมเมาแล้วค้างที่อื่นไม่ได้?” มะนาวขมวดคิ้วกอดอกสงสัย

“เออน่า ไปกินโน้น ปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้”

“...” มะนาวเดินเซๆไปทางตู้เย็นที่ผมวางถุงน้ำเต้าหู้ไว้ข้างบน ผมก็เลยหันกลับมาดูหนังในคอมต่อ

“ดูโด้ยอิ ต่อลำโพลงๆ” มันกินไปพูดไป แก้มตุ่ยๆ ตาเบลอๆ ก็น่ารักดี

“สรุป มึงจะไม่บอกจริงๆ เหรอว่าทำไมถ้ากูเมากูไปนอนห้องคนอื่นไม่ได้” สักพักใหญ่ๆมะนาวก็ถามขึ้นมาอีก

“...” ผมนึกว่ามันจบไปแล้ว มันยังไม่จบอีกกกกก

โว้ยยยยยย กูจะบอกมึงยังไงว่ะ

“บอกมาเถอะ กูจะได้คอยระวังตัวเองด้วยไง เพื่อกูจะได้ไม่ทำให้ใครเขาเดือดร้อนไง”

เอาไงดีว่ะแม็ต เอาไงๆๆๆ

บอกไม่บอก บอกไม่บอก

มะนาวนั่งบนเตียง จ้องตาผมรอคำตอบ ผมขอหลบตาหน่อยแล้วกัน ผมเขินนะเอาจริงๆ

“แน่ใจนะว่าถ้ามึงรู้แล้วจะทำให้มึงระวังตัวมากขึ้น”

“อื้ม”

ถึงมันจะรับปากแต่ผมก็ยังลังเล...

“มึงเมาแล้วมึงอ้อล้อ”

“บ้านมึงคนเหนือทำไมใช้คำใต้ แล้วมันแปลว่าอะไร” แม่ผมเป็นคนเชียงรายครับ มะนาวเอียงคอสงสัย

ดูเหมือนมันจะยังไม่เข้าใจ ผมต้องพูดซ้ำอีกเหรอ นี่ผมต้องแปลอีกเหรอ โอ้ย ทำไมมันยากเย็น

“มึงเมาแล้วมึงจะยั่วคนที่อยู่ใกล้ๆ”

“มึงหมายถึง ยั่วโมโห ใช่มะ?” มะนาวทำคิ้วกระตุกเหมือนรู้ความหมายของผมแต่พยายามแปลไปในทางอื่น

“ไม่ใช่” ถ้าใช่กูจะเขินทำซากอะไรครับ “มึงอย่าให้กูต้องขยายความมากกว่านี้เลย” ดูจากท่าทางกูเอาแล้วกัน ให้พูดเต็มคำว่า ‘ยั่วยวน’ ผมไม่กล้าจริงๆ แค่นี้ก็รู้สึกหน้าแดงแล้ว

“เชี้ย!” มะนาวกลิ้งไปกับเตียง ดึงผ้าห่มตามไปด้วย ม้วนเป็นดักแด้ป้องกับตัวขั้นสูงสุด

“...” ผมหันทางหน้าจอคอม และหลับตา

พูดไปแล้วๆๆๆๆ มันจะว่ายังไงวะ ถ้ามันลาออกไปเลยล่ะ โอ้ย คงไม่มั้ง อย่างมากก็เลิกคบผมเป็นเพื่อน

“ที่มึงรู้นี่เพราะว่า กู... กับมึงงั้นสิ”

มึงอย่าเว้นแบบนั้นมันดูน่ากลัวกว่าเก่าอีก

“ตายๆๆๆๆ กูจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”

ที่เดิมนั่นแหละ ไว้ไหนก็สายไปแล้วตอนนี้

“ตั้งแต่เมื่อไหร่?”

มึงจะอยากรู้ไปทำม้ายยยยยยยยย

“ก็ตั้งแต่วันแรกที่เปิดเทอมนั้นแหละ” เอาสิ บอกแล้วก็บอกให้หมด “ไม่เป็นไร กูไม่ถือ คือกูเข้าใจว่ามึงเมาไง”

 “มึงไม่รังเกียจกูเหรอ”

“มันไม่ถึงขนาดนั้น มึงอย่ามองตัวเองไม่ดี มึงบอกเองว่าก่อนนี้ไม่เคยกินเหล้าหนักๆ เลย เพิ่งมากินตอนเข้ามหาลัย ก็แปลว่ามึงไม่ได้ไป เอ่อ ไปยั่วคนอื่นไม่เลือกหน้า”

เท่ากับผมยอมรับว่าเป็นคนแรกที่มันมายุ่งด้วยจริงๆ แบบที่มันไม่รู้ตัวด้วย โอ้ยยยยย

คิดได้อย่างนั้นผมอยากย้อนกลับไปไม่พูดประโยคเมื่อกี้นี้

“ที่กูไม่อยากให้มึงไปค้างกับคนอื่น กูกลัวเขามองมึงไม่ดี ดีไม่ดีมึงอาจจะเจอของจริง มึงจะซวยเอา”

“กูเข้าใจอย่างถ่องแท้เลยว่ะเพื่อน ขอบใจจริงๆ กูจะเชื่อฟังมึงทุกอย่างเลยเพราะงั้นมึงอย่าให้กูไปทำเรื่องน่าอายกับคนอื่นเชียวนะเว้ย”

“เออดิ กูก็บอกอยู่นี่ไง ว่าห้ามไปนอนไหนถ้ามึงเมา” พูดไปพูดมาเหมือนผมกำลังบอกมันว่า มึงยั่วกูได้ตามสบายแบบไม่ต้องเกรงใจยังไงยังงั้น ผมขอนอนตายอย่างสงบ

“อื้ม เข้าใจแล้วๆๆๆๆๆๆ”

เสียงหนังยังเล่นต่อไป ส่วนเราเงียบไม่มีใครพูดอะไร

พูดไปหมดแล้ว ผมไม่มีอะไรจะพูดแล้ว พูดมากก็เข้าตัว เงียบดีกว่า


พรึบ! ปึ้ง!

มะนาวเปิดผ้าห่ม ลุกจากเตียงแบบกะทันหัน เขาคว้ากางเกงตัวเองที่ผมแขวนไว้หน้าตู้เสื้อผ้าวิ่งเข้าห้องน้ำไป มีเสียงน้ำไหล กับเสียงกดชักโครก เขาคงฉี่ แล้ว

แล้วผมจะตั้งใจฟังทำไมเนี่ย!

ผมทึ้งหัวตัวเองเรียกสติ

แล้วทำเป็นดูหนังต่อ

ทำเป็น!

โอเค ผมยอมรับก็ได้ว่าผมไม่มีสมาธิดูหนังแล้ว ตอนนี้เอาแต่มองไปที่ประตูห้องน้ำ เอานิ้วเคาะขอบโต๊ะ และเม้มปากไม่รู้จะทำอะไรวางตัวยังไง ผมไม่ได้กลัวว่ามันจะโกรธ หรือไม่พอใจ แต่กลัวมันเปลี่ยนไป กลัวมันจะมองผมเปลี่ยนไป เราเพิ่งเป็นเพื่อนกันได้สองอาทิตย์ และเราก็เข้ากันได้ดี เอ่อ... หมายถึงเป็นเพื่อนที่ดีครับ ถ้ามันเปลี่ยนไปชีวิตที่เหลือของเราคงกระอักกระอวนพิลึก เจอหน้ากับแทบทุกวิชา เทอมนี้วิชาที่เราไม่ตรงกันมีแค่วิชาเดียวเอง

ไม่นานมะนาวก็เปิดประตูออกมาครับ เขาตรงไปหยิบโทรศัพท์ ของเขาที่ผมชาจต์ไว้ให้ข้างเตียงแล้วไปที่ประตูห้อง ที่ผมแขวนกุญแจห้องรวมกับพวงกุญแจรถของมะนาวไว้ เขาคว้าพวงกุญแจของเขาแล้วพูดกับประตู

“วันจันทร์เจอกันเว้ยเพื่อน”

แล้วเขาก็เปิดประตูวิ่งไปเลยครับ ผมยังไม่ทันขยับตัวหรือพูดอะไรเลย

เออ ไปซะก็ดี กูจะได้ไม่ต้องหน้าแดง



---------------------------------------
TBC.


คิดว่ามะนาวจะเลิกยั่วไหม?
หึ หึหึหึ
มาทวนชื่อเรื่องกันจ๊ะ 'ย้ำรัก' ย้ำแล้วย้ำอีก ฮ่าๆๆๆๆ (แอบยิ้มกรุ้มกริมอยู่คนเดียว)
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 4 ยั่ว] 22/01/59 22:42
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 22-01-2016 23:01:22
ลงมาตั้งหลายตอน ขอแวะตอบคอมเม้นหน่อยน้า

B52 - เม้นต์แรก รู้สึกลุ้นและขอบคุณสำหรับกำลังใจจริงๆค่า

●GreenTEA● - ตอนนี้ไม่มี ผิดหวังล่ะสิ อิอิ ขอบคุณสำหรับการติดตามจ้า ชอบอะไรไม่ชอบอะไรบอกได้น้า

insomniac - ใช่เลยคะ เรื่องเพิ่งเริ่ม อีกยาวววววเลยคะ ฝากติดตามเรื่อยๆน้าาาาา

Malimaru - ขอบคุณค่า สำหรับคำแนะนำ ต่อไปจะให้แม็ตหยาบคายตามวัยให้มากขึ้นเนอะ ฮ่าๆๆ แต่จะบอกว่าที่คนเขียนไม่ได้ให้แม็ตพูดคำหยาบบ่อยๆเหมือนคนอื่นเพราะมีเหตุผลของเขาค่ะ (เด็กผู้ชายคนนี้โตไปจะเป็นผู้ชายอบอุ่นนะ อิอิ) มีไรอีกแนะนำได้น้าาาาา

PaiPo - พูดไม่ทันขาดคำค่ะ มีรางๆว่าจะมีคนมาคาบไปคนนึงแล้วค่ะ เรื่องอัพจะพยายามนะคะ

เจอกันตอนหน้าจ้า
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 4 ยั่ว] 22/01/59 22:42
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 22-01-2016 23:43:50
มะนาวต้องระวังตัวให้มากกว่านี้
ไม่งั้นเมทจะทนไม่ไหวนะเออ  o18
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 4 ยั่ว] 22/01/59 22:42
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-01-2016 00:25:16
พ่อคนดี ส่วนคนเมามันเมาได้ตลอดซิน่า
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 4 ยั่ว] 22/01/59 22:42
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 26-01-2016 13:25:21


โอ้พ่อแมท พ่อพระเอกของป้า... อย่าแทงกั๊กอย่างนี้สิลูก
หวั่นไหวกับเขาก็ยอมรับดี ๆ นาวมันไม่ทำแบบนี้กับใครหรอก ไม่เชื่อถามพี่ชนะดูสิ หึ หึ หึ
แต่ถ้าหนูจะดึงเช็งไปเรื่อย ๆ ก็สุดแล้วแต่หนูนะลูก แต่ป้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าน้องนาวมันจะไปกินเหล้าแล้วเผลอหลับที่ไหนอีกหรือเปล่า... ถ้ารอดพ้นสายตาหนูไป นาวอาจจะได้ที่นอนใหม่ที่ไม่ใช่ห้องแมทก็ได้นะ - นี่ป้าไม่ได้ขู่นะ ป้าแค่ช่วยหนูเบิกเนตรเฉย ๆ อิอิ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ ^^  :3123:



หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 5 วน] 28/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 28-01-2016 01:13:04
- บทที่ - 5 - วน -


-------------------------------------


การเจอหน้ากันอีกครั้งในเช้าวันจันที่แสนตื่นเต้นผ่านไปแล้วครับ ผมพยายามทำตัวปกติ  ถึงโรงอาหารก็ไลน์บอกมะนาวเหมือนทุกที มะนาวมาถึงก็ทักทายผมปกติ คุยเล่นกับเพื่อนๆ ปกติ ถึงแม้ลึกๆ ผมกับมันจะไม่ปกติ (ไม่รู้ผมคิดไปเองรึเปล่าผมว่ามะนาวเองก็ไม่ปกติ) มีบางช่วงที่เรามองหน้ากันนิ่งๆ จะว่าร้อนตัวก็ได้ครับ ต่างคนต่างหาอะไรทำ ก่อนจะต่างหลบตาแต่ไม่ได้พูดอะไร มะนาวเองก็คงรู้สึกถึงบางอย่างเหมือนกัน

จนตอนบ่าย แลปเสร็จเร็วครับ ผมกับมะนาวต้องรอเข้าเชียร์ เนี่ยแหละปัญหา

“อีกตั้งชั่วโมงครึ่ง จะไปรอเวลาเข้าเชียร์ที่ไหน?”

“ใต้ตึก ห้องสมุด?  ร้านกาแฟ? โรงอาหาร? หรือจะไปห้องมึง”

“ห้องสมุดก็ได้” ผมรีบตัดสินใจ ก่อนที่เขาจะเลือกอะไรที่ผมกลัว

จริงๆ ถ้าลำพังผม ผมก็คงกลับหอนอน แต่พอมีมะนาวอยู่ด้วย ผมไม่อยากอยู่กับเขาลำพังแบบสติสัมปชัญญะครบถ้วนแบบนี้
อย่างน้อยก็ควรปล่อยเวลาผ่านไปสักพักก่อนล่ะนะ


เราเอาสรุปแลปที่เพิ่งทำการทดลองไปเมื่อกี้มานั่งทำ

“แม็ต กูถามหน่อย”

“ว่ามา”

“มึงลำบากใจรึเปล่าที่กู เอ่อ กูไปค้างห้องมึงบ่อยๆ”

“ไม่นี่”

“แต่ คือ คือกูหมายถึงว่ากูเป็นภาระนะเว้ย กูแบบ ทำเรื่องวุ้นวายให้มึง”

“นี่ กูยังไม่รู้สึกเดือดร้อนเลย มึงจะคิดมากทำไม”

“ก็มึงเป็นคนดี”

“กูเป็นคนธรรมดา ถ้ากูไม่โอเคกูก็บอกมึงเองแหละน่า”

“จริงนะ”

“เออ”

“แล้วทำไมมึงไม่เหมือนเดิม”

“อย่างกะมึงเหมือนเดิมงั้นแหละ”

“งั้น กูจะทำตัวเป็นภาระมึงเหมือนเดิม” ผมยกปากกาขึ้นเคาะหน้าผากมะนาว

“แป็ก! อย่าเยอะๆ” มะนาวลูบหน้าผากตัวเองไปมาเถียงแบบไม่มีเสียง ก่อนจะก้มลงเขียนรายงานต่อ


“แม็ต”

“หื๋อ?”

“ขอบใจว่ะ”

“ค่อยพากูไปเลี้ยงบุฟเฟ่แล้วกัน”

“บุฟเฟ่เบียร์เป็นไง”

“เอาจริงดิ?”

“กูล้อเล่นคร้าบบบบ แบบนั้นกูก็เป็นภาระมึงคือเก่าดิ”


 หลังจากนั้นมะนาวคอยตอบไลน์ และเข้าเฟสอยู่เรื่อยๆ เหมือนคุยกับใครอยู่ แต่ผมไม่ได้ถาม

สักพักผมก็รู้คำตอบ เอ้กับน้ำเดินมานั่งโต๊ะเดียวกับ

“เดี๋ยวเข้าเชียร์กัน” เอ้พูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ผิดปกติ

“นึกไงอยากเข้าเชียร์” มะนาวถามเอ้ ปกติเธออิดออดที่สุด แรงบันดารใจเดียวในการเข้าเชียร์ของเอ้คือ ประทานเชียร์

“วันนี้มีแนะนำชุมนุมชมรมไง ได้ข่าวว่าชุมนุมกีฬาจะยกมาทั้งชมรม คงพรึบพับ เต็มเวที” อ้อ ประเด็นของเอ้คือจะไปส่องคนหล่อ

“เออ นั่นดิ” มะนาวนึกได้

“จะเข้าชุมนุมอะไรกัน? คิดไว้บ้างยัง เขาบังคับนี่” น้ำถามไปทั่วโต๊ะ

“ไม่มี ไปเลือกวันนี้แหละ” เอ้กับมะนาวตอบชัดเจน

“มึงอ่ะน้ำ มึงเลือกทุกอย่างไม่ได้นะ” น้ำเป็นคนที่มีความสามารถรอบด้านครับ ทั้งกีฬา ดนตรี และหน้าตา

“กูมีในใจแล้วกันน่า มึงเหอะ จะเลือกอะไร”

“ว่าจะเลือกเครื่องกล” ได้ข่าวว่ามีทริปขับมอเตอร์ไซย์ไปไกลๆกันด้วย น่าสนุก

“อะไร มึงคิดถึงอรวรรณว่างั้น?”

“นิดนึง”

“เออ นั่นดิ คิดถึงอรวรรณอ่ะ เวลาพี่แม็ตอยู่กับอรวรรณนะ หล่อลากมันฟินมากเลย ให้ตาย อยากถ่ายรูปลงไอจีรัวๆ” เอ้เพ้ออีกแล้วครับ

“ไปกันยัง ใกล้เวลาแล้ว” ผมสายหัว ลุกขึ้นเป็นเชิงบังคับให้หยุดเพ้อ

นั้นสิ ไม่เห็นหน้าอรวรรณมาตั้งนาน ต้องให้สายแอบถ่ายรูปส่งมาให้ดูแก้คิดถึงซะแล้ว


......................................................................


วันนี้เป็นการเข้าประชุมเชียร์ที่สบายสุดๆครับ ไม่ต้องระเบียบมาก คุยกันก็ได้ หัวเราะก็ได้ เพราะไม่มีคนทำหน้าดุคุมพวกเรา แต่เป็นการพรีเซ็นผลงาน กิจกรรมของชมรม หลายชมรมได้รับความสนใจครับ อย่างชมรมเชียร์หลีดเดอร์ หนุ่มๆ ออกอาการสนใจอย่างเห็นได้ชัด ไม่ใช่สนใจเข้าชมรมนะครับ สนใจพี่ที่มาโชว์เสต็บหลีดมือความพร้อมเพรียงเป้ะๆ ในชุดนักศึกษากระโปรงทรงเอที่ปกติพวกพี่ๆ เขาไม่ใส่ครับ เพราะมันผิดระเบียบ ชมรมรักบี้มากับชุดเสร็จศึก คือพี่ๆเขาคงไปซ้อมมาแล้วจริงๆ ทั้งเหงื่อทั้งโคลน มาเต็มครับ ชมรมเครื่องกลที่ผมแอบสนใจเอารถโกคาทขับเข้ามาครับ มีมอเตอร์ไซย์อีกสองคันด้วยหล่อๆ ชมรมยิงปืน ยกบีบีกันมายิงข้ามหัวพวกเราครับ ผู้หญิงบางคนตกใจเสียงปืนจนกรี๊ดกันลั้น แต่ละชมรมเรียกว่างัดไม้เด็ดมาอวดกันเต็มที่ ส่วนใหญ่มากันด้วยชุดทำกิจกรรมชมรมครับ บอลก็ชุดบอล ยูโด บาส พีคสุดชมรมว่ายน้ำครับ ตัวเปียกเหมือนเพิ่งขึ้นจากสระด้วย

มีชมรมที่มาวันนี้เยอะมาก มีเวลาแค่สี่ห้านาทีพี่ๆเขาก็ใช้กันคุ้มครับ แถมยังมีปิดท้ายบอกว่ามีบางชมรมมาไม่ได้วันนี้ ถ้ามาหมดจะขนาดไหน

ผมถูกเชิญให้เข้าชมรมบาสอย่างที่หมอดูน้ำคาดการณ์ไว้ครับ มีแค่ส่วนสูงก็ใช่จะแปลว่าเล่นบาสเก่งเสมอไปนะ ถ้าเอาไปยืนเกะกะให้เต็มสนามก็พอคุยกันได้

แต่มันก็แล้วแต่ผม พี่ที่เข้ามาคุยเป็นพี่โรงเรียนเราจำกันได้แต่ก็ไม่ได้สนิทสนมอะไร เขาก็ไม่ได้บังคับ เพียงแต่พี่ๆกดดันว่า ถ้ารักคณะ อยากทำอะไรเพื่อคณะ ก็มาอยู่ชมรมบาสกับพวกเขา

ผมไปไม่เป็นเลย…

ทำไมแม้แต่กับคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อนก็รู้จุดอ่อนผม ว่าผมปฏิเสธใครไม่เป็น น้ำตาจะไหล


“เป็นไงมึง” น้ำนั่งลงตรงข้ามผม

“กูถูกชวนเข้าบาส” ผมบอกไปตรงๆ

ในตอนที่เขาปล่อยเราทยอยเดินออกจากห้องประชุมเชียร์ พี่ๆแต่ละชมชมจับจองพื้นที่สองข้างทางจนคณะที่ปกติเงียบสงบ วุ้นวายเหมือนตลาดนัดเลยครับ ใครสนใจชมรมไหนก็เดินเข้าหาได้เลย ใครเดินงงเหมือนผมก็มีพี่ชมรมโน้นชมรมนี่จูงมือเข้าไปชมไปฟังเขาฟรีเซ็นแข่งกันครับ

“มึงยังดี กูโดนชวนเข้าหลีด” มันทำหน้าไม่คาดฝัน

“ไม่ดีตรงไหน ใครๆก็อยากเป็นหลีด อยู่ท่ามกลางสาวๆสวยๆหุ่นดีๆ มีแต่คนมองคนกรี้ดนะ”

“ไม่ดี กูจะไม่มีเวลาเลยนะเว้ย ช่วงไหนมีงานนี่ซ้อมยันสว่าง”

“เพื่อคณะไง” เหมือนผมที่คงเข้าชมรมบาสเพื่อคณะ

“ไม่เอา กูจะไม่อยู่หลีด” อ้อ ผมลืมไปว่าน้ำไม่ใช่คนใจดีพร่ำเพรือ แบบผม เหอๆ

“แล้วมึงจะไปอยู่ไหน”

“ชมรมพระพุทธศาสนา” มันยักคิ้วสองข้างสลับกันไปมา ดูก็รู้ว่าคงมีความคิดแผลงๆอะไรอยู่

“ทำไมว่ะ? ลองอธิบายมาดิ”

“หนึ่งกูจะมีเวลา เพราะเลเป็นคนไม่มีเวลา กูเป็นแฟนที่ดีก็เลยต้องทำตัวมีเวลา แล้วแม้กระทั้งการเข้าชมรม ออกงานนอกสถานที่ไปทำบุญตักบาตร กูก็พาเลไปด้วยได้เสมอ เพราะชวนคนไปทำบุญถือเป็นงานชมรมอย่างหนึ่ง คิดดูทำบุญร่วมชาติตักบาตรร่วมขัน กูจะได้มีบุญร่วมกันเยอะๆ เป็นไงความคิดกู”

“ดี เอาตามนั้นเลยมึง”

“แล้วมึงอ่ะ?”

“กูก็บาสไง”

“ฮ่าๆๆๆ” น้ำตบโต๊ะชอบใจ บอกซ้ำๆว่า ว่าแล้วๆอยู่นั้น ผมมองไปทางหน้าห้องประชุมเชียร์ พวกนั้นยังเต้นอยู่เลย

“ส่วนพวกนั้นไม่ต้องเดา” น้ำมองตามสายตาผม

“เออ สันชัวร์”
 
สักพักน้ำก็มีเบนซ์สีขาวมารับ ผมบอกไปรึยังว่าน้ำนิ่งมีแฟนแล้ว เป็นคุณหมอจบใหม่ รุ่นพี่โรงเรียนผมเอง

สองคนนี้เรียนไม่ทันกันหรอกครับคนหนึ่งจบอีกคนเพิ่งเข้าม.1 แต่มาเจอกันได้เพราะพี่ทะเลกลับมาแนะแนวน้องๆเกี่ยวกับการเรียนต่อ ทั้งสอบหมอและชีวิตการเรียนหมอ ตอนนั้นไอ้เพื่อนผมก็แอ๊ปเป็นสนใจเรียนหมอ ขอเฟสไว้ทำทีเป็นปรึกษาเรื่องเรียน ไม่นานมันก็จีบติด เพื่อนผมหล่อนี่ครับ ฮ็อตกว่าผมเยอะ

จากตรงนี้มองไปแทบมองไม่ออกว่าใครเป็นใคร ผมเห็นพงศ์แน่ๆล่ะ เพราะเขากลมๆกว่าคนอื่น มะนาวน่าจะใช่ที่ใส่ชุดนักศึกษาชายทางซ้าย ผมนั่งรออยู่อีกนาน กว่าพวกนั้นจะมาสมทบ
 

“เลือกชมรมได้ยัง?” ผมถามทันทีที่พวกเขาเข้ามาใกล้

ได้แล้ว!” สามคนประสานเสียงแย่งน้ำผมไปสลับกันกิน เช็ดเหงื่อปาดคางกันนั่งหอบ พวกนี้เต้นจนเสื้อนักศึกษาชุ่มไปด้วยเหงื่อ แต่ดูมีความสุขมาก

“มือกลองหล่อมาก” พงษ์ออกความเห็น

“คนที่ถือโข่งก็หล่อ” เอ้เสริม

อย่างนี้นี่เองที่มาของความสุขของพวกนี้

“โข่งสีส้มป่ะ?” มะนาวหันไปถามเอ้ท่าทางตกใจ

“ใช่ รู้จักเหรอ?”

มะนาวหันมาหาผม “เอ้ชอบพี่เทว่ะ ฮ่าๆๆๆ”

“เฮ้ยจริงดิ้ พี่มึงเหรอ โอ้ยมึง พี่มึงหล่อ”

“ปกติกากจะตาย แต่วันนี้มันเท่ดี กูอยากเท่แบบพี่เขาบ้าง คงสนุกดี”

“ผัวที่สามของกู มึงอย่าแรดมากค่ะ กูหึง อยู่เป็นผัวกูคนเดียวแบบนี้ดีแล้ว”

ผมหัวเราะเพราะพงศ์เริ่มลุกขึ้นปีนขึ้นบนตัวมะนาวและพยายามสวมกอด

“ไปกินข้าวกันเถอะ” ผมชวนทุกคนไปหาอะไรกินโต้รุ่งข้างนอก หลังๆมานี่เสร็จจากเชียร์เราก็ไปกินข้าว มะนาวส่งทุกคนที่หอแล้วค่อยกลับบ้าน เป็นการเลี่ยงเวลารถติดด้วยมะนาวบอก

“เดี๋ยวกินข้าวเสร็จ เราไปมีตติ้งของสันกันนะ” เราเริ่มออกเดิน พงษ์หมุนไปหมุนมาข้างหน้าอย่างร่าเริง

“ใช่ ไป ฉันเล็งพี่มือกลองคนซ้าย กับพี่... พี่เขาชื่ออะไรนะ พี่เทเหรอ แม็ตก็ไปด้วยกันสิ เขาเลี้ยงปีหนึ่งทุกคนอยู่แล้ว” เอ้บอก

“เดี๋ยวดูอีกทีแล้วกัน ป่ะ หิว” ผมชี้ให้เอ้กับพงศ์เดินไปลานจอดรถที่ผมจอดรถมะนาวไว้

แต่มีคนเดินช้า ผมเลยต้องหันไปมอง มะนาวที่เดินรั้งท้ายอยู่ๆ ก็ถามผม

“กูไปกับพวกนั้นได้มั้ยถ้ามึงไม่ไป”

“ได้ดิ อยากไปก็ไปเถอะ เดี๋ยวกูค่อยไปรับ”

“จริงนะ”

“เออ ไปดูส่งสองคนนั้นด้วยไง”

“แล้วมึงดูชมรมอะไรไว้”

“บาสมั้ง พี่เขามาขอร้องเอง มีพี่โรงเรียนที่จำกูได้เคยเล่นด้วยกันตอนนี้เขาก็อยู่บาส ก็คง บาสนั่นแหละ”

“ถ้ามึงแข่ง กูไปเชียร์แน่นอน”

“อาจจะได้นั่งข้างสนามเป็นสำรองทั้งเกมก็ได้”


“ไหนบอกหิวค่ะ จะสวีตกันอีกนานไหม เดี๋ยวแม่จับปล้ำทั้งคู่เลย” พงศ์เอนตัวพิงรถ ตั้งขาตั้งฉากกับรถโพสท่ารอไป บ่นไป


..............................


ในที่สุดมะนาวก็ลากผมออกมาด้วยจนได้ เห้อ... ผมนี่ช่างใจอ่อนไปเรื่อย

เอ้ถึงกับออกปากว่าจะเมาให้เต็มที่ เพราะมีผมพากลับ

ยกพวกไปร้านไหนเขาแทบจะปิดร้านให้ วันนี้ก็เหมือนกันสันทนาการของคณะวิศวกรรมศาสตร์ นอกจากจะเหมาเกินครึ่งร้าน ยังเหมาโต๊ะ เหมาเก้าอี้ไปเยอะแล้วด้วย เมื่อกี้ผมเห็นคาตา พี่ขึ้นไปเต้นบนโต๊ะจนโต๊ะทะลุ! ถ้าไม่บังเอิญรู้มาก่อนว่าร้านนี้เป็นของรุ่นพี่ผมคงงงว่าทำไมพวกนี้ไม่โดนไล่ออกจากร้านไป

งานเลี้ยงเริ่มมาครึ่งทาง แต่หลายคนไปถึงเส้นชัยแล้วครับ ดูจากอาการสุดเหวี่ยงจริงๆ

“หวีดดีแม็ต มากับชมรมสันเหรอ?”

ผมทันไปตามเสียงทักทาย ใครนะหน้าคุ้นๆ

“เราซีไง ที่เจอกันวันก่อน”

“อ้อ ซี”

“ขอนั่งด้วยได้ไหม?”

“เอ่อ เอาสิ” ซีไม่ได้อยู่ในชุดนักศึกษาเรียบร้อยเหมือนวันก่อนผมถึงจำเธอไม่ได้ คืนนี้เธอมาในชุดกางเกงขาสั้นมากเสื้อกล้ามสีดำ ผมที่เคยรวมเวลานี้ก็ปล่อยเป็นลอนใหญ่ดูเข้ากันดี เธอเป็นคนตัวเล็กๆ เล็กจนผมรู้สึกว่าตัวเองใหญ่เทอะทะไปเลย

“พี่ๆ เขาร่าเริงกันจังเนอะ เนี่ยเรามากับหลีดเพิ่งมายังไม่ทันเมาเลย ดูสิเต้นกันจะคนอื่นไม่กล้าเข้าร้านนี้แล้วมั้ง”

“ซีกินเหล้าด้วยเหรอ?” ผมแปลกใจ

“เพิ่งลองกินเนี่ยแหละ ครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง ทำไมเหรอ หน้าอย่างเราไม่น่าดื่มใช่ป่ะ?”

“ใช่” ผมตอบไปตรงๆ ยอมรับว่าทีแรกนึกว่าเธอจะไม่ดื่ม เพราะนอกจากจะจำลุคเด็กเรียนของเธอได้แล้ว เธอยังไม่น่ารอดปากเสือปากตะเข้

“แน่ะ เป็นห่วงเราเหรอ” เธอชี้หน้าผมอย่างจับผิด ถ้าตอบใช่อีกเขาจะเข้าใจผิดไหมนะ

“คนสมัยนี้น่ากลัวนะ”

“แล้วเราต้องกลัวแม็ตไหม?”

“ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ชายก็ไว้ใจไม่ได้ทั้งนั้นแหละ”

“อื้มๆ เราจะระวังตัวนะ” ซีพูดยิ้มๆ ยกแก้วตัวเองขึ้นแตะริมฝีปาก แต่ก็ชะงัก “นี่ ยังไม่ได้ชนแก้วเลย มาๆ ชนกันหน่อยๆ”

 “ผัวขาาาา มานั่งทำอะไรอยู่นี่ เขาเต้นกันอยู่โน้น มาๆๆๆ มาเต้นกัน”

พงศ์มาจากไหนไม่รู้ครับ ลากแขนผมลุกขึ้น เข้ามากลางวง แก้วที่ถืออยู่ก็ติดมือมาด้วย พงศ์จับไหล่จับแขน เต้นไปรอบๆตัวผม ผมส่ายหัวเบาๆ อยู่ๆเอ้ก็มาจับมือกับพงศ์ แล้วทำอย่างเดียวกันคือเต้นไปรอบๆ ผม มีพี่ๆอีกหลายคนเต้นอยู่รอบๆ แปปเดียวเอ้กับพงศ์ก็หันไปสนใจรุ่นพี่ที่ออกสเต็ปเต้นท่าเดียวกันเป็นสิบคนเหมือนซ้อมกันมา ผมเห็นแล้วแอบทึ่งนิดนึง มากกว่าท่าเต้นคือดูเขาสนุกกันมากๆ

มะนาวมายืนโยกเบาๆ ข้างๆ ผม ก่อนจะแย่งแก้วผมไปดื่ม

“กำลังคอแห้งพอดี”

“รีบกินเดี๋ยวก็เมาเร็วหรอก”

“เมาให้ตายกูก็ปลอดภัยแน่นอน” มะนาวยักคิ้วให้ผม แถมยังเต้นท่ากวนตีนใส่ แม่ง น่าเตะ

“มึงรู้ได้ไงว่าปลอดภัย มึงแค่จำมันไม่ได้ต่างหาก” ท่าทางมั่นใจเหลือก้ำเหลือเกินของมันทำให้มั่นไส้จนผมหลุดปาก เผลอขุดหลุมฝังตัวเอง

“มึงจะสารภาพว่าทำอะไรกูรึไง?”

“กู กูเปล่า”

“เห็นมะ กูปลอดภัยดี กินเท่าไหร่ก็ได้” มะนาวซ้ำจนหมดแก้ว แล้วคืนแก้วให้ผม


ผมเดินออกมาชงเหล้าแล้วนั่งเฝ้าโต๊ะต่อยาวที่แทบไม่มีคนนั่งอีกครั้ง เอ้ก็ออกมาหยิบแก้วแล้วกลับไปเต้นกับเพื่อนๆ พี่ๆ ต่อ

“ไม่เต้นกับเขาเหรอ” ซีแยกตัวออกจากฝูงคนมาทักทายผมอีกครั้ง

“ไม่ดีกว่า เราไม่ค่อยถนัด”

“อ้าว?”

“ตามเพื่อนมาน่ะ มันชวนมา”

“อ้อ นี่ เมื่อกี้ยังไม่ทันชนแก้วเลย มาๆๆๆ”

“ได้ ชนแก้ว”

เสียงแก้วกระทบกันเบาๆ ก่อนซีจะบอกผมว่าหมดแก้วนะ ผมก็ทำตามไม่ได้ขัดอะไร เธอเองก็ยกดื่มจนหมดแก้วเหมือนกัน

“แม็ตอยู่หอไหนเหรอ?”

“ซอย 2 ทำไมเหรอ”

“เรากำลังหาหอใหม่ คือเรากะว่าจะย้ายหอน่ะ หอที่อยู่ตอนนี้ไม่ค่อยโอเค”

“อ้อ เราอยู่หอ PP.”

“ห้องโอเคมั้ย กลางคืนเสียงดังรึเปล่า”

“ไม่นะ ก็โอเคเลย หาของกินก็ง่าย”

“แล้ว แม็ตอยู่คนเดียวหรือมีรูมเมท”

“อยู่คนเดียว”

“เหรอ อืมมมม ห้องใหญ่ไหม?” ซีชวนผมคุยเรื่องหาหอ ถามนั่นถามนี่หลายอย่าง คงเพราะเป็นผู้หญิงเลยต้องละเอียดถี่ถ้วนในการหาหอมั้ง ทำให้ผมไม่ต้องนั่งเฝ้าโต๊ะคนเดียว ก็ดีนะ


..........................................................................


ผมพามะนาวขึ้นหอ วันนี้เขาก็ยังทำค่าเฉลี่ยความเมาของตัวเองได้ดี นั่นคืออยู่ที่ค่าเมาเหี้ยๆ วันหลังถ้าเขาอยากกินผมจะซื้อมาให้กินที่ห้อง กินเสร็จก็นอนอืดอยู่ในห้องนี่เลย

ผมหิ้วปีกเขาเข้ามาในห้อง กดเปิดไฟ มะนาวปล่อยแขนออกจากคอผมไป เขาเดินได้ผมเลยไม่ประคอง มะนาวปลดซิบกางเกง เหยียบขากางเองตัวเองแล้วสะบัดๆออกด้วยตัวเอง ก่อนจะทิ้งตัวคว่ำลงที่นอน

ทำเองก็เป็นนิ หึ

ผมเหลือบไปเห็นเงาสะท้อนตัวเองในกระจก ผมกำลังยิ้ม?

ความรู้สึกของผมต่างจากก่อนหน้านี้ ทำไมก็ไม่รู้ ผมมีความกลัวกังวน หรือระแวงเกี่ยวกับท่าทีของเขาน้อยลง มันกลับเป็นความตื่นเต้น และเหมือนรอคอยให้มันมาถึงอยู่กลายๆ ไม่ว่าเขาทำอะไร ผมเฝ้ามองอย่างยินดีไปซะทุกอย่าง ขนาดเขาหลับ หลับเหมือนทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา ผมยังมองเขาแล้วมองเขาอีก

ผมคว้าผ้าผืนเดิมไปทำให้เปียก เพิ่งสังเกตว่าต้นขาและผิวใต้ร่มผ้าของเขาขาวกว่าข้างนอก ผมไม่เคยกล้ามองเขาอย่างเต็มตา แรกๆไม่สนใจที่จะมอง ต่อมาก็กลายเป็นไม่กล้ามอง

แล้วทำไมอยู่ๆ ผมมายืนมองคนเมานอนอย่างนี้ล่ะ?

ผมสะบัดหัวไล่ความคิดและความรู้สึกแปลกๆ ออกไป แล้วเดินไปอาบน้ำ ผมใช้เวลาอาบน้ำไม่นาน จัดการแต่งตัวนอนเหมือนปกติ นั่นคือเสื้อกล้ามตราห่านกับกางเกงนอนขายาว

ผมปิดไฟล้มตัวลงนอน มะนาวยังไม่หลับดี พลิกตัวไปมาอยู่เลยก่อนผมปิดไป ผมห่มผ้าให้เขาพร้อมๆกับห่มผ้าให้ตัวเอง
“ก็อกๆๆ” ผมเอียงหูฟัง เหมือนมีคนเคาะห้อง แต่ไม่แน่ใจว่าห้องผมหรือห้องข้างๆ

ไม่นานก็มีเสียงเคาะซ้ำ ผมยืนดูตาแมวก็เห็นผู้หญิง ถอยไปพิงกำแพงฝั่งตรงข้าม มองมาสลับกับก้มหน้ารออยู่ เอาไงกะไอ้บนเตียงดีวะ จะตื่นมาแก้ผ้าตัวเองต่อหน้าสาวขึ้นมาทำไงว่ะกู

ผมเลยเปิดประตูออกไปเพราะเป็นคนรู้จัก ออกมายืนคุยหน้าห้องเพราะผมไม่ได้เปิดไฟในห้อง ปิดประตูเบาๆแบบไม่ล็อกด้วย
“ซี มีอะไรรึเปล่า” ผมค่อยข้างแปลกใจที่เห็นเธอมาห้องผมในเวลาแบบนี้

“คือ เข้าไปคุยในห้องได้ไหม ตรงนี้เดี๋ยว... เอ่อ เสียงดังรบกวนคนอื่น”

“เรื่องอะไรเหรอ?”

“เรื่องสำคัญ คือ พูดตรงนี้ เออ มันไม่ดี” คงเป็นเรื่องสำคัญมากจริงๆ ไม่งั้นเธอคงไม่มาดึกๆ ดื่นๆ ใช่ไหมล่ะ

“อ้อ” ผมเลยเปิดประตูค้างไว้เดินนำเข้าห้องเป็นเชิงต้อนรับ กดเปิดไฟให้สว่างมองเห็นทุกอย่าง “แต่เพื่อนเรานอนอยู่นะ”

มะนาวอยู่ในท่านอนคว่ำ หันหลังมาให้พวกเรา และมีผ้าห่มคลุมทั้งตัวปิดถึงหู

แหม ทีสาวมาทำเป็นนอนนิ่งเรียบร้อย

เอ้ะ แต่ผมเป็นคนห่มผ้าให้มันเองนี่นา? เออๆ ช่างมันเถอะ

“แม็ตมีเพื่อนมาค้างด้วยเหรอ”

“อื้ม” ผมตอบง่ายๆ ไม่ได้ขยายความอะไรเพิ่ม ซีดูไม่กล้าเข้าห้องผมเท่าไหร่

“เออ เรากลับดีกว่า”

“อ้าว ไหนบอกมีสำคัญ”

“ไม่ ไม่มีอะไรหรอก”

หื๋อ? เธอเดินไปแล้ว

งงครับผมเห็นซีเดินเร็วๆ ไปลงบันไดไปแล้ว ผมเกาหัวเดินไปปิดประตูงงๆ คุยข้างนอกก็ไม่ยอม บอกขอเข้าห้องพอให้เข้ามาก็ไม่เข้า ถ้ามีเรื่องสำคัญจริงก็คงพูดแล้วล่ะ ผมปิดไฟอีกครั้ง เดินมานอนงงๆ แต่งงเรื่องซีได้ไม่นานผมก็มีเรื่องอื่นให้สนใจครับ เหอะๆ เกือบลืมไปว่ามีมะนาวนอนรอออกฤทธิ์อยู่ข้างๆ โอ้ๆ ไม่ต้องเรียกร้องความสนใจมากก็ได้ กูสนใจมึงแน่นอนไม่ต้องห่วงๆ

ในความมืดมะนาวดึงแขนผมไปกอด ไม่สิดึงไปกัด ผมมองเห็นเขาขมวดคิ้วทำหน้าจริงจังมาก มะนาวล็อกแขนผมไว้กอดแน่น ปากยิงฟันงับต้นแขนผมซ้ำๆ ไม่เจ็บเพราะมันกัดไม่ติดครับ อะไรของมัน ฮ่าๆๆๆ

ดูเขาตั้งใจมากขมวดคิ้วจนเป็นปมใหญ่ ผมที่นอนหงายยกแขนอีกข้างมาใช้นิ้วชี้จิ้มลงกลางปมพวกนั้น เขาว่าทำอย่างนี้จะทำให้คนที่ขมวดคิ้วอยู่คลายความกังวนลงได้ ผมยิ้มในความมืด เพราะดูเหมือนจะได้ผล มะนาวค่อยๆ ผ่อนคลายและลดอาการเกร็งไปทั้งตัวลง เขาเลิกพยายามกัด เป็นพยายามดูดแขนผมอย่างกับเด็กดูดนม

อยู่ๆมะนาวก็คว้ามือผมที่จิ้มหน้าผากเขาอยู่ มันไม่ได้รวดเร็วอะไร เพียงแต่ผมรอที่จะมองว่าเขาจะทำอะไร มะนาวจับมือผมไปแปะลงบนแก้มเขา มือใหญ่ๆ ของผมปิดใบหน้าตะแคงของเขาเกือบหมด ฝ่ามือเล็กๆของเขากุมทับมือผมไว้ไม่ให้ปล่อย ใบหน้าที่ผมคิดว่าหลับใหลเอียงคอขยับเข้าหามือผมช้าๆ เขาแตะหน้าผากกับแขนผมและยิ้มออกมาในแสงสลัว

แล้วจะให้ผมเอามือออกได้ยังไง แบบนั้นมันคงดูใจร้าย ผมหมุนตัวนอนตะแคง เพราะถูกเขายึดแขนทั้งสองข้างไว้เลยขยับตัวได้ลำบาก

“หนาวรึไง?” ผมเอ่ยถามกับความมืด รู้ว่าเขาคงไม่มีความสามารถในการตอบ แต่ผมก็ยังพูดออกมา

ถ้าเขาบอกว่าใช่ ผมจะกอดเขาไว้ในอ้อมกอดดีรึเปล่า?

หรือถ้าเขาบอกร้อนแบบคราวที่แล้ว ผมจะคลายร้อนให้เขาดีไหม?   

ผมเริ่มไม่เข้าใจตัวเอง ว่าทำไมกับคนตรงหน้านี้ ถึงเต็มใจทำอะไรๆ ให้ ทั้งที่มันเป็นเรื่องที่คนอื่นเขาไม่ทำกัน

ผมก็ยังทำ

ตอนนี้เรานอนตะแคงเข้าหากันเขายกมือผมขึ้นแล้วเอาไปวางข้างหลังเขา เหมือนผมกำลังจะโอบเขาเข้ามาในอกนี้ มะนาวขยับตัวเข้ามาใกล้ จนหัวเขาอยู่ใต้คางผม มะนาวโอบแขนรอบเอวผมและกอดผมเต็มแรง

ผมโอบรอบตัวเขา ยกมือขึ้นสางเส้นผมเขาเบาๆ ผมเขานุ่มนิ้มไม่เหมือนผมของผู้ชายเลย แถวยังหอมอยู่ตลอดเวลา ใช่ ตลอดเวลา ผมได้กลิ่นนี้บ่อยๆ จนจำได้ขึ้นใจ ผมก้มลงฝังจมูกบนผมเขา

ใช่ กลิ่นนี้แหละ เขา

มะนาวเริ่มเบียดสะโพกเข้าหาผมจนเราแนบชิด ผมถึงรู้ว่าเราต่างพร้อมด้วยกันทั้งคู่ มะนาวเป็นฝ่ายดึงสะโพกผมให้ชิดกับเขา เบียดกันไปมา ผมเริ่มอึดอัด มันคับแน่นเหมือนรู้ว่ายังไงๆคืนนี้ก็จะได้ปลดปล่อยก่อนนอน

“อื้ม” เสียงครางในลำคอทำให้ผมเริ่มไม่เป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง เช่นกันกับเขา ผมปล่อยมือจากท้ายทอยเขาลงมาแตะบั้นท้ายเขาเบาๆ เขาเหมือนกระตุกตกใจ แต่มันก็แค่ตอนแรก มะนาววนสะโพกแกล้งส่วนหน้าของเรา จนผมต้องจับหมับลงแล้วดึงเขาเข้าหาตัว พอเป็นผมที่รั้งเราไว้ด้วยกัน มะนาวก็ทิ้งจากสะโพกผมมือเขาร้นกางเกงผมลง ก่อนจะปล่อยส่วนนั้นของเขาออกมาแตะผมเบาๆ ผมยิ่งดึงให้เราแนบร่างกันมากขึ้น มะนาวถกเสื้อผมขึ้นใช้ฟันลากไปตามหน้าอกผมเหมือนหมั่นเคี้ยว พร้อมๆ กับกำร่างเราทั้งคู่ไว้ในมือ มือเล็กนวดวนไปมารอบๆ ยั่วอารมณ์ ผมบีบสะโพกเขาแรงๆจนเขาครางอย่างพอใจ ผมหายใจถี่รัว คนในอ้อมกอดเองก็หอบถี่ๆ อยู่ตรงหน้าอกผม

“อื้ม... อื้อ...มะแมต”

เสียงสั่นพร่าของเขา ลมหายใจร้อนๆ ของเขา ดึงผมให้จมดิ่งอีกครั้ง

เราวิ่งวนเป็นวงกลมซ้ำๆ จำไม่ได้แล้วว่าเริ่มจากตรงไหน และมองไม่เห็นเส้นชัยอยู่บนเส้นทางนี้เลย เพราะเหมือนเราต่างปิดตาตัวเองไว้...


-------------------------------------
TBC.


ฝากติชมเช่นเคยนะค่าาา

สงสัยกันได้แล้วนะว่ามะนาวคิดอะไรในใจอยู่บ้าง 5555
นางร้ายนะบอกเลยย อิอิ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 5 วน] 28/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 28-01-2016 01:37:27
แน่ใจนะว่ามะนาวเมาแล้วไม่รู้ตัว  :hao3: จัดเต็มตลอด ส่วนแม่ซีหล่อนก็นะ แรดมาเชียวดีนะพ่อคนดีศรีสังคมอย่างแมตตามไม่ทัน
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 5 วน] 28/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 28-01-2016 04:03:02
เราว่ามะนาวแอ๊บเนียนเมาพอๆกับซีแอ๊บธุระนั่นแหละ
ไม่รู้ว่าแม๊ตจะแอ๊บไม่รู้เรื่องตามหรือเปล่า?
สาวตามมาหาถึงห้องกลางดึก
เป็นคนอื่นปรุแล้วมั๊งนี่
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 5 วน] 28/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 28-01-2016 06:16:34
ซีนี่ไม่เบาเลยนะ หึหึ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 5 วน] 28/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: yaoisamasang ที่ 28-01-2016 07:42:12
เอิ่ม...ตกลงชะนีน้อยซีจะเป็นจุดเปลี่ยนของเรื่องใช่มั้ย
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 5 วน] 28/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 28-01-2016 10:18:40
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 5 วน] 28/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: ZYSQ_ ที่ 28-01-2016 11:40:00
ณ จุดๆนี้ไม่รู้จะเม้นออกมายังไงดี...

เอาเป็นว่าจะรอตอนต่อไปนะคะ ขอบคุณ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 5 วน] 28/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 28-01-2016 14:22:10
ซีอะไรนี่อ้อยแมตอยู่รึ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 5 วน] 28/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: Chise ที่ 28-01-2016 20:09:11
แม็ตเอ้ย รอบตัวแต่ละคนไม่ใช่เล่นเลย
อยากอ่านมุมมองของมะนาวบ้างจัง
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 5 วน] 28/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 29-01-2016 08:00:10
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 5 วน] 28/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: PaiPo ที่ 29-01-2016 22:20:07
มะนาวดูลังเลๆนะ แบบเกรงใจแม็ตงี้ แคร์ความรู้สึกงี้ ต้องมีใจแน่นอน!
ใครคืออรวรรณ?
ซีนางร้าย!

โธ่ๆ มะนาวเต้นยั่วนี่จะไปเตะมะนาวได้ลงคอเลยเหรอแมตตตตต? จริงๆอยากจับทำอย่างอื่นก็บอกกกกก
เมื่อไหร่จะรู้ใจตัวเองค่าาาา เมื่อไหร่คนอ่านจะได้ฟินยาวๆ มาจิ้จ๊ะแป็ปๆแล้วก็ไป โหยยยย
สู้ๆน้าคนเขียน  :ped149:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 5 วน] 28/01/59
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 30-01-2016 15:07:05
- บทที่ 6 - ดันจำได้ -



----------------------------


มะนาวตื่นมาทำหน้าเซื่องซึมครับ วันนี้หายากินเอง ไปอาบน้ำแต่งตัวโดยที่ผมไม่ต้องเร่งเลย

“วันนี้ไม่มีเชียร์ พวกชมรมกีฬาให้ไปคัดตัวนักกีฬาไปแข่งกีฬาเฟรสชี่นี่นา” กีฬาเฟรสชี่แยกกับเรื่องชมรมครับ ถึงพี่ๆของพวกชมรมกีฬาจะดูแลซ้อมให้อะไรให้ แต่จะเข้าไม่เข้าชมรมนั้นอีกเรื่องหนึ่ง

“ก็เห็นพูดอยู่นะ เมื่อวานพี่ก็บอก”

“มึงจะไปคัดตัวบาสมั้ย ไงๆก็จะลงชมรมบาสอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”

“ไม่รู้ว่ะ ขี้เกียจๆ”

“ไปดิ เดี๋ยวกูไปเป็นเพื่อน” มะนาวพูดไปเรื่อย ช่วยผมดูรถทางซ้ายให้ผม ผมขับรถครับ เรากำลังไปเรียนตอนเช้า

“มึงจะลงเล่นด้วย?”

“ไม่อ่ะ ไปให้กำลังใจเฉยๆ ฮ่าๆๆๆ กูขี้เกียจไปเป็นกระสอบทรายในสนามนะ มีแต่พวกตัวควายๆ เล่นทีไรมือซ้นเข่าแตกแขนช้ำไหล่เขียวตลอด”

“มึงแน่ใจเหรอว่านั่นมาจากเล่นบาส” มะนาวสูงมาตรฐานถึงน้ำหนักจะติดในเกณฑ์น้อยก็เถอะ เขาก็ปกตินะ แต่จะตัวเล็กมาก ถ้าตัวเปรียบเทียบคือผม

“เออดิ กูคงไม่ตั้งใจเอาหน้าไปวัดพื้นเล่นๆ หรอกใช่ไหมล่ะ มึงตัวใหญ่ ไม่เขาใจหมูสนามอย่างกูหรอก”

“งั้นมึงก็นั่งดูอย่างเดียว ไม่ต้องเสนอตัวเลย”

“คร้าบบบบ คุณพ่อ”

“ดีมาก ไอ้ลูกชาย” ผมเอื้อมมือไป แต่ค้างอยู่กลางอากาศ ก่อนถึงหัวมะนาวแค่คืบเดียว ผมยกมือขึ้นแบบไม่ทันคิดครับ แต่มานึกได้ตอนนี้ว่าตัวเองกำลังจะทำอะไร ผมจะยีหัวมะนาวเล่นเหรอ?

ควร หรือไม่ควร?

มะนาวปิดตาข้างนึงแบบรู้ว่ากำลังจะมีอะไรมาโดนหัว ผมเลี่ยงเปลี่ยนเป็นตบปุๆ เบาๆ สองทีแล้วรีบชักมือกลับมาวางที่พวงมาลัย
บางคนไม่ชอบให้เล่นหัว ผมเข้าใจดี ถ้าเกิดมันไม่พอใจหรือคิดว่าเรายังไม่สนิทกันมากพอจะเล่นหัวเล่นหูกันได้ก็ไม่แปลก เราเพิ่งรู้จักกันได้สองอาทิตย์กว่าๆ เองนี่นะ

“อะไรของมึงว่ะ จะเล่นก็เล่นดิ”

มะนาวหยิบมือผม หยิบจริงๆ ครับ หยิบด้วยนิ้วสามนิ้ว เอามือซ้ายผมไปวางแปะไว้บนหัวมัน ก่อนจะหลับตาทำคอยื่นพูด
“เกาให้หน่อย คันว่ะ ไม่ได้สระมาสองอาทิตย์แล้ว”

“อี๋” ผมทำเสียงรังเกียจ แต่เกาหัวให้มันเบาๆ เพราะผมรู้ว่ามันล้อเล่น มะนาวสระผมทุกครั้งที่อาบน้ำครับ ล่าสุดก็เมื่อเช้านี้ ตอนนี้ผมมันยังไม่แห้งดีด้วยซ้ำ

มะนาวทำหน้าพอใจแถมเอียงหัวให้เกาด้วย ไม่รู้มันกวนตีนหรือคันจริง

นี่มันแปลได้ว่ากับผมมันไม่ถือการเล่นหัวใช่ไหม?


.......................................


ห้าโมงเย็น ผมมาอยู่ที่ยิมบาส มีคนที่ทำท่าเก้ๆ กังๆ รออยู่สองสามคน กับพี่ที่เล่นบาสรอแค่สี่คน ผมมานั่งรอพี่ๆเรียกอยู่ที่อัฒจันทร์ชั้นสองกับมะนาว เมื่อกี้มันเรียกผมเซลฟี่ ตอนนี้กำลังแต่งภาพลงโซเชี่ยวอยู่ ส่วนผมตอบไลน์พี่โนอาที่ทักมาชวนไปเลี้ยงข้าวเย็น

“น้องๆ ปีหนึ่งวิดวะที่มาคัดตัว มารวมกันทางนี้นะ” พี่ข้างล่างเรียก ผมที่ยังตอบพี่โนอาไม่เสร็จเลยยื่นมือถือให้มะนาว

“ตอบพี่กูแทนที บอกไปเลยว่ามึงคุย กูไม่ว่างคัดตัวบาส มีไรมึงตัดสินใจเลยนะ”

“...” ไม่พูดอะไรแต่มะนาวก็รับไป

มะนาวคงไม่เหงา มีมือถือตั้งสองเครื่อง มองไปรอบๆ โรงยิมก็มีคนมาดูประปราย เพราะมีทีมบาสหญิงมาคัดตัวกันอยู่สนามข้างๆ ด้วย ทั้งเพื่อนทั้งแฟน หรือไม่ก็แฟนคลับพวกพี่ๆ ชมรมบาสล่ะมั้ง ผมเห็นส่วนใหญ่มีแต่สาวๆ ผมวิ่งเหยาะๆ ไปนั่งรวมกับคนอื่นๆ

“1 2 3....11คน อื้ม กำลังดีไม่ต้องคัดตัว ซ้อมเลยแล้วกัน”

“มึงยังไม่ให้น้องรู้จักกันเลยนะ มึงน้องก็ไม่รู้จัก จะรีบไปไหนวะ”

จริงครับ ผมกำลังงง มาถึงจะให้ซ้อมเลยเหรอ ไม่ได้เกี่ยงนะ แค่ข้องใจ

“เออว่ะ พี่ชื่อภาค ปี 4 ประธานชมรมตอนนี้ ไอ้นี่ เสือ ปี 3 ประธานตอนหน้า” ชัดเจนมาก แต่ดูหน้าพี่เสือไม่ค่อยเต็มใจนะ “บอลกับปราณปี 2 ไปลงชื่อกับเบอร์โทรที่สองคนนี้ก่อน” พี่บอลเป็นพี่โรงเรียนผมครับ เขาเอากระดาษในมือมาให้ผมเขียนชื่อคนแรกเลย แถมยังทักทายบอกขอบใจผมที่มา

เริ่มตั้งแต่พื้นฐานวอร์มร่างกายยืดหยุ่นเลี้ยงลูกรับส่งลูกกันตั้งแต่หนึ่งใหม่ พี่บอกให้คุยกันไปด้วยระหว่างซ้อม จะได้เป็นการทำความรู้จักกัน หลังจากถามว่ามีใครไม่เคยเล่นบาสมาเลยบ้างแล้วไม่มีคนยกมือ พี่ๆ เลยให้เราแบ่งเป็นสองทีม แข่งกันทันทีเหมือนจะดูพื้นฐานกับภาพรวม ผมได้ทีมถอดเสื้อ ซึ่งดีเลย กำลังร้อนๆ

พี่เสือกับพี่บอลเป็นคนถือคลิปบอท แล้วตามจดโน้นนี่ตลอดการฝึก

ผมเหลือบไปทางมะนาว มะนาวมีคนนั่งด้วย? ผมเพ่งมองดีๆ จึงเห็นว่าคือพี่โนอา เธอยืนขึ้น ป้องปากทำท่าจะพูดอะไรสักอย่าง แล้วตะโกนลั่นยิม

“แม็ตน้องเจ้ สู้ๆน้า” เสียงพี่ผมดังจนแน่ใจว่าทุกคนในยิมได้ยินและหันไปทางพี่โนอา

“เชี่ย ดาวมหาลัย พี่มึงเหรอ”

“อื้ม” ผมเห็นมะนาวกำลังทำหน้าแหยๆ นั่งกินโค้กกระตุกเสื้อช็อปพี่โนอาให้นั่งลง แค่พี่ผมเดินเข้ามาก็เด่นจะแย่ ยังทำเสียงดังอีก ผมล่ะอ้ายอาย

“แล้วข้างๆ อ่ะ น่ารักดี”

“เวลาแบบนี้ต้องมองดาวป่าววะ มึงดันชมผู้ชาย” มีเพื่อนอีกคนท้วงเสียงแรก

“มีคนบอกกูว่าเขามีแฟนแล้ว แฟนโคตรเจ๋งด้วย กูเลยไม่คิดว่ากูจะมีสิทธิ ก็ต้องมองคนไม่มีเจ้าของดิว้า” เสียงแรกที่ใส่เสื้อบาส อบต.ปลวกแดง ชี้แจง

มึงรู้ได้ไงว่าเขาไม่มีเจ้าของว่ะ? อ.ปลวกแดง!

ผมคิดในใจ แต่ก็ต้องสงสัย เออ มันมีเจ้าของไหมล่ะวะ? ผมคุยกับมะนาวได้เรื่อยเปื่อย เรื่อยเปื่อยในที่นี้คือไม่มีแก่นสารและสาระ ไม่เคยถามเรื่องพวกนี้กับมะนาวเลย ว่ามีแฟนหรือไม่มี

ถ้ามี ผมคงรู้สึกผิดมากๆ

“เฮ้ย อย่าเพิ่งทำหูตั้ง เวลายังไม่หมดเว้ย” พี่เสือตะโกนมาทำเราวิ่งหน้าตั้งไปหาลูกบาสเลยครับ

“โนอา อย่าแกล้งน้องสิ” พี่เสือป้องปากตะโกนกลับไป

“พี่เสือแหละ น้องหนูกางเกงดำอย่าแกล้งน้องหนูนะ ถ้าแกล้งจะฟ้องพี่ยีนส์” ผมนี่มองทั้งสนามเลยครับ มองเลยไปฝั่งผู้หญิงด้วย เวร กางเกงดำมีตูคนเดียวเหรอวะเนี่ย

“เออๆ รู้แล้วน่า ใครแกล้งก็ควายแล้วคร้าบ”

กว่าจะซ้อมเสร็จก็เกือบสองทุ่ม ผมนี่หิวจนไส้จะขาด แต่ก็ต้องเซอร์ไพร์เพราะพี่ๆ ชมรมบาสที่เหลือ ยกหม้อข้าวหม้อแกงเข้ามากลางโรงยิม หม้อจริงๆ ครับ หม้อข้าววัดเบอร์ใหญ่สุด มีทั้งแกงเขียวหวานหอมฉุย ต้มยำ แกงจืด ผัดคะน้าหมูกรอบ กับไข่เจียว โหยยยยยยย สวรรค์ ถึงจะเป็นกับข้าวบ้านๆ แต่มาในเวลาที่ต้องการมากๆ

“พี่ ทำไมเยอะเงี้ย” เยอะมากครับเมื่อเทียบกับจำนวนคน

“เดี๋ยวมีบอล บอลเล่ย์ กับรักบี้มาหมดแหละ ทีมด็อทเอก็มา”

เผลอแปปเดียวพี่โนอากับมะนาวลงมาตักแกงแบ่งใส่ถ้วยให้พวกผมลำเลียงไปวางเป็นวงๆ ไว้รอเพื่อนครับ

“พี่บอกแล้วไงว่าวันนี้จะเลี้ยงข้าว” พี่ผมยักคิ้วให้ ทำไมพี่ผมหน้าสวยแต่ผมไม่รู้สึกถึงความอ่อนหวานของพี่ผมเลยนะ

นั่นเป็นถ้วยสุดท้ายและคำสุดท้ายที่ผมได้คุยกับพี่โนอาครับ เพราะเพื่อนๆไปต่อแถวรอรับถ้วยแกงจากพี่แกเยอะมาก ผมเลยเลี่ยงมาทางมะนาวที่แบ่งไข่เจียวใส่จานอยู่

“มึงจะกลับบ้านไหม? เดี๋ยวดึกนะ”

“ยังไม่กลับ กูจะกินข้าวฟรีก่อน” ฮ่าๆๆๆ ผมนับถือเพื่อนจริงๆ พอเรื่องกินฟรีดึกหน่อยลำบากนิดนี่ยอมหมด

มะนาวมีคนช่วยอยู่ครับ เธอเป็นบาสหญิงดูจากชุดกับสภาพที่คงซ้อมมาไม่ต่างจากผม คงปีหนึ่งด้วยกัน เธอมองผมกับมะนาวสลับกัน แล้วทำหน้ายิ้มๆ

“เออ แฟนมะนาวเหรอ?” ผมที่กำลังแยกออกมาได้ยินพอดี แต่ทำเป็นไม่ได้ยินที่เขาคุยกัน

“ไม่ใช่ ข้างรหัส”

“เหรอ ดูเป็นห่วงนาวจัง”

“ปกติ มันดีกับทุกคน”

“เหรอ ถ้าไม่ใช่แฟนนาว งั้นเราก็จีบได้สิ”

ผมไม่ได้ยินว่ามะนาวตอบว่าอะไร ผมเดินออกมาไกลเกินกว่าจะได้ยินบทสนทนาต่อจากนั้น

ผมไม่ได้ตื่นเต้นที่จะมีคนมาจีบ เพราะบางทีคนที่จีบกันก็ใช่ว่าจะชอบอีกฝ่ายจริงๆ เสมอไป มีหลายปัจจัยที่ทำให้ผมมองว่าการเกี้ยวพาไม่ได้แปลว่ารัก อย่างไอ้คนที่มาจีบมะนาววันก่อนยังทำเพราะเงินเลย

ผมเป็นผู้ชายทำไมผมจะไม่รู้ บางทีเขาก็จีบกับเพราะถูกตานิดๆ หน่อยๆ พอรู้จักกันจริงๆ ก็หาว่าเปลี่ยนไป มีคนมาจีบใช่ว่าจะเป็นเรื่องดี ถ้าอ่อนไหวไปกับลมปากก็อาจเป็นเหยื่อของความผิดหวังซะเอง

ผมเดินเข้าห้องน้ำโรงยิมที่ใหญ่เป็นพิเศษเป็นฝั่งที่นักกีฬาใช้ มีทั้งห้องน้ำและห้องอาบน้ำ มาล้างหน้าล้างเหงื่อซะหน่อย ถ้าปล่อยตัวแห้งทั้งอย่างนี้ก็คงไม่ไหว

“อาบน้ำมั้ย เดี๋ยวไปเอาผ้าเช็ดตัวที่รถให้” มะนาวเดินตามเข้ามาล้างมือครับ

“ไม? กูตัวเหม็นมากเลยเหรอมึงถึงแนะนำให้กูอาบน้ำเนี่ย?” ผมยกรักแร้ดม แล้วก็คิดได้ว่าแม่ง...ไม่น่าดมเลย

“เปล่า ก็ถามดูเผื่อมึงอยาก อ่ะ นี่” มะนาวส่งผ้าเย็นเซเว่นมาให้ผม

“ใจวะ ไม่อ่ะ ไม่มีชุดเปลี่ยนอาบไปก็เหมือนไม่อาบ”

“มีคนฝากมาให้” มะนาวพยักเพยิกมาทางผ้าเย็นที่ผมกำลังฉีกซอง

“อ้าว พี่โนอาเหรอ?” ของใครไม่รู้ให้มาผมก็ใช้หมดแหละ

“ไม่ใช่ ลูกหวาย เพื่อนโรงเรียนเก่ากู”

“ที่ตักไข่เจียวกับมึงเมื่อกี้ใช่ป่ะ”

“อื้ม มันขอเบอร์มึงด้วย แต่กูบอกไปว่าต้องถามความเห็นมึงก่อน”

“...” ผมเงียบ หันไปมองหน้ามันนิ่งๆ แต่มะนาวหลบตาผม มันปิดก็อกน้ำแล้วมองผมจากเงาที่สะท้อนในกระจกไม่ยอมหันมาสบตากันตรงๆ

“มึงจะว่ายังไง”

“...ให้ไปก็ได้” ผมลังเล แต่ก็เลือกให้ไปเถอะ จะได้ไม่มีปัญหา

“อื้ม โอเค” มะนาวพยักหน้า แล้วกวักน้ำขึ้นล้างหน้าบ้าง

“ขอบใจนะที่มึงยังถามกูว่าจะให้หรือไม่ให้ ดีที่มึงไม่ให้ไปแบบไม่ปรึกษา”

“ถ้ามันทำให้มึงไม่สบายใจ งั้นกูไม่ให้ไหม” มะนาวถามอย่างเกรงใจจริงๆ

“ได้เหรอ แล้วมึงกับเพื่อนจะเป็นไง?”

“อ้าว กูเกี่ยวไร?”

“เดี๋ยวเขาก็หาว่ามึงไม่ช่วยเขาไง”

“เหรอ? เขาจะคิดงั้นเหรอ”

“ที่กูบอกว่าให้มึงให้ไปได้ ไม่ใช่เพราะกูอยากให้ แต่เพราะกูไม่อยากให้มึงกับเพื่อนผิดใจกัน”

“มันจะโกรธเหรอ? จริงดิ กูไม่ทันคิดเลยนะเนี่ย กูคิดแค่ว่า ไม่ให้ก็ไม่เป็นไรมันคงหาทางอื่นหาเองได้ไม่คิดมาก”

“มึง นั่นผู้หญิง” ผมเตือนความจำ ว่าอย่าเอาความรู้สึกตัวเองไปคิดแทนผู้หญิง มึงไม่ทันเขาหรอก

“กูรู้ แต่ดูแล้วกูว่าก็คงเป็นอย่างที่มึงว่าแหละถ้ากูไม่ให้”

“อื้ม ให้ไปเถอะ กูปฏิเสธเขาเองได้ มึงจะได้ไม่เดือดร้อน”

“มึงจะทำไง?”

“เอาน่าไม่ใช่ปัญหาหรอก ป่ะ ไปกินข้าว กูหิวจะกินควายอย่างมึงได้ทั้งตัว” ผมกอดคอแล้วลากมันออกไปกินข้าว

“เฮ้ยยย!”

“ฮ่าๆๆๆ” ผมหัวเราะ แต่ต้องชะงักตรงประตูห้องน้ำ ซีกำลังเดินสวนมา เธอหยุดมองผมกับมะนาว

“หวัดดีซี” ผมทักทายตามมารยาท ตอนที่กำลังจะเดินผ่านเขาไป ซีพูดหวัดดีเบาๆ แล้วก็เดินไปทางห้องน้ำหญิง เธอคงซ้อมหลีดเสร็จแล้วมากินข้าวรวมกันที่นี่


พวกชมรมอื่นๆ เริ่มทยอยมากันเยอะแล้วครับ พวกมาก่อนไปตักข้าวเท่าที่ตัวเองกินไหว มารอเพื่อนๆ ตอนนี้เครื่องดื่มขายดีมากๆ มีแต่น้ำอัดลมนะครับอย่าคิดมาก เพราะนี่มันเขตสถาบันไม่เสี่ยงจะดีกว่า

มะนาวเดินไปคุยกับคนที่ชื่อลูกหวายครับ ผมต้องแอบมองหน่อยเดี๋ยววันหลังมาทักแล้วผมจำหน้าพวกเธอไม่ได้ ผู้หญิงจะโกรธเอาครับ

ไม่นานเกินรอก็มีพี่ฟ้ามากล่าวเปิดงานครับ บอกว่าเพื่อตอบแทนพวกเราที่ต่อไปต้องเหนื่อยเพื่อคณะอีกมาก วันนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งที่เราจะแบ่งปันกันได้ วันนี้ได้ร่วมสุข วันหน้าก็จะได้ร่วมทุกข์กันอย่างไม่ต้องกลัวเกรงสิ่งได แพ้ชนะไม่สำคัญ สำคัญคือเราได้ลงมือทำและเต็มที่กับมัน พี่ฟ้าพูดดีมากๆ

“เมื่อถึงเวลาลงสนามแข่งขันพี่ขอแค่สามอย่างเท่านั้น เต็มที่ เต็มที่ แล้วก็เต็มที่” จบประโยค มีเสียงโห่ร้องปลุกใจดังลั่นโรงยิม ไม่รู้ทุกคนคึกคักกับคำพูดพี่ฟ้า หรือดีใจที่จะได้กินข้าว

ได้ข่าวว่าพี่แกเป็นนักกีฬายิงธนูระดับเยาวชนทีมชาติมาก่อน ทำให้ผมปลื้มพี่แกเข้าไปอีก ผมเห็นพี่เทแว้บๆ ด้วย ไม่รู้ว่ารู้รึเปล่าว่าน้องรหัสตัวเองอยู่แถวนี้

เรามานั่งกินข้าวพร้อมกันบนพื้นกลางโรงยิมเนี่ยแหละครับ วงข้าวผมอย่างกะวง All stars รวมดาวจากช่องสาม มีทั้ง ณเดช(พี่ฟ้า) ยาย่า(พี่โนอา) เก้าจิรายุ(มะนาว) และแจ๊สชวนชื่น(พี่เท) แล้วผมนี่ตัวอะไร ปาดเหงื่อเบาๆ มีแต่คนหันมอง

มื้อเย็นที่เกือบจะดึกของเราดำเนินไปอย่างคึกคักและวุ้นวายครับ ส่วนใหญ่จะแกล้งเล่นแย่งอาหารกัน คุยข้ามหัวและแซวกันไปมา

เริ่มอิ่ม พี่บอลพี่โรงเรียนผมก็มากระซิบให้ไปต่อด้วยกัน บอกร้านเสร็จสัพ ไม่น่าเชื่อว่าพวกพี่เขายังไหว

พี่ยังไหวผมก็ต้องไหวใช่ไหมเนี่ย?

ผมมองเห็นมะนาวที่ตาปรือ นี่มันเพิ่งจะสามทุ่มเองนี่หว่า กว่าจะเก็บของได้แยกย้ายคงเกือบสี่ทุ่ม แต่เมื่อเช้ามันตื่นเช้า แฮงค์ แถมนอนน้อย คงง่วง

“มึงง่วงรึเปล่า?” ถ้าง่วงผมไม่ให้กลับจริงๆ

“นิดหน่อย ฮ้าวววว”

“งั้นไม่ต้องขับรถกลับหรอก เอากุญแจมานี่ เดี๋ยวเก็บของเสร็จกูพาไปนอนหอก่อน”

“แล้วมึงไปไหน”

“พี่ชมรมบาสชวนไปต่อ”

“อ้อ”

เก็บของทำความสะอาดไม่นานโรงยิมก็คืนสภาพดีเหมือนเดิมครับ เพราะทุกคนช่วยกัน


มะนาวส่งโทรศัพท์คืนให้ผมก่อนสตาร์ทรถ ผมเปิดดูว่ามีอะไรเคลื่อนไหวบ้าง เห็นมีหนึ่งเบอร์ไม่ได้รับซึ่งมะนาวบอกว่าเป็นลูกหวายยิงมาผมเลยไม่ได้ติดใจสงสัยต่อขับรถออกจากมหาลัยตอนสามทุ่มครึ่ง ไลน์ที่เด้งสามสี่อันนี่ก็คงเป็นลูกหวาย

หวัดดีจ๊ะ สติ้กเกอร์ ลูกหวายนะ ยินดีที่ได้รู้จัก ประมารนั้นมั้งเห็นแว้บๆในแจ้งเตือนแต่ไม่ได้เปิดอ่าน ขับรถกลับหออาบน้ำดีกว่า


ผมอาบน้ำเสร็จก็ไล่มะนาวที่ง่วงเต็มที่ไปอาบน้ำต่อ คิดถูกแล้วที่ไม่ปล่อยมันกลับ ขนาดเดินเข้าห้องน้ำยังไม่ลืมตาเลยคิดดู

ไม่นานมะนาวก็เดินหัวเปียกออกมาจากห้องน้ำในชุดนอน กางเกงบอลมันเองกับเสื้อยืดตัวโคร่งของผม

“นี่กุญแจห้อง กับคีการ์ดนะ เผื่อมึงลงไปหาไรกินดึกๆ”

“มึงเอาไปเถอะ กูไม่ไปไหนหรอก คงนอนตายยันเช้าโน้นเลย”

“มึงอ่ะเก็บไว้ หมายถึงให้เก็บไว้เลย กูมีอีกชุด”

“แบบนี้กูก็เลี่ยงไม่ช่วยมึงจ่ายค่าหอไมได้แล้วดิเนี่ย” ทำหน้าเซง แต่ผมรู้ว่ามันล้อเล่น

“ไม่ต้องจ่ายหรอก หึหึ” ผมเห็นหน้ามันแล้วตลก

“ไม่ได้ดิ กูมาบ่อยขนาดนี้” มะนาวทิ้งตัวลงกับที่นอน กางแขนกางขาเต็มเตียง ประมารว่าวันนี้กูยึด

“กูค่อยมาเถียงกับมึงต่อวันหลัง ไปและ” ผมขยี้หัวมะนาวแล้วออกลุยต่อ

“เช็ดหัวให้แห้งก่อนนอนด้วยนะมึง เดี๋ยวหวัดกิน”


.............................



ผมกลับมาถึงห้องตอนกี่โมงกี่ยามไม่แน่ใจ รู้แต่ว่าดึกมาก ร้านเหล้าปิดไปนานแล้ว

ผมยืนโงนเงยอยู่กลางห้อง

พี่ๆ ชมรมกีฬานี่อึดสมชื่อนักกีฬา แถมไม่มีใครยอมใคร ผมที่ไม่เคยเมาจริงๆ จังๆ ก็ได้เมาวันนี้แหละ ยังดีผมไม่ได้ขับรถมะนาวไป เพราะร้านอยู่ใกล้ๆ มีพี่อยู่หอแถวนี้เหมือนกันเขาเลยแวะมาส่ง

ผมถอดเสื้อทิ้งเพราะมันเกะกะ

เป็นไปอย่างที่คิดลูกหวายพยายามเข้าหาผมทันทีที่มีโอกาส ถามผมว่ามีแฟนรึยังผมก็บอกไปทันทีว่ามีคนที่ชอบอยู่แล้ว เธอทำท่าจะเข้าใจและขอบคุณผมที่พูดตรงๆ เธอดูเข้าใจดีจนเล่นเอาผมรู้สึกผิด ผมขอโทษเธอ ที่ทำร้ายจิตใจผู้หญิงคนนึงอย่างไม่ทันคิด คิดแค่ว่าพูดตรงๆ ไปจะได้จบๆ เธอบอกเธอไม่คิดมาก แค่สงสัยว่าคนที่ผมชอบหน้าตาเป็นยังไง

ผมถอดกางเกงยีนส์ทิ้ง เพราะมันทำให้ไม่สบายตัว

ถึงจะไม่ถึงขั้นชอบแต่ใจผมก็ไม่ว่างจริงๆ ผมอ้างกับลูกหวายไปว่าเธอไม่รู้จักเลยไม่จำเป็นต้องบอกเธอ แล้วผมล่ะ ผมรู้จักคนที่ผมชอบไหม?

ผมปีนขึ้นเตียงตัวเอง

แต่ผมเคยจูบเขานะ ถึงตอนนี้มาจะเมาผมก็จำความหวานจากริมฝีปากเขาได้ หวานนุ่นเหมือนกับตอนนี้เลย

ไออุ่นนี้

เหมือนเสียงลอยมาไกลๆ มะนาวขยับตัวและบอกผมว่าเขาหนัก แต่ผมก็ยังนอนนิ่งๆ ไม่ยอมให้เขาผลักออก

กลิ่นนี้

อะไรหนักเหรอ? ตัวผมหรือความรู้สึกของผมที่ทำให้เขาหนัก ผมไม่สน เพราะผมพอใจที่จะนอนตรงนี้

ผมหลับไปกับไออุ่นที่คุ้นเคย

................................



“มึงควรจะซื้อหมอนข้างนะ” มะนาวที่กำลังขับรถพูดขึ้นโดยไม่หันมามองผม

“ไมอ่ะ?”

“มึงกลับมาแล้วนอนทับพุงกู เกาะไม่ปล่อยเป็นเกาะหมอนข้างเลย”

“เออ โทษที เมื่อคืนกูเมาจริงว่ะ แม่งมีแต่สายโหด” แก้วต่อแก้ว ติดกันเป็นชั่วโมง จะไม่เมายังไงไหว วันนี้โลกร้อนเนอะ แอร์ในรถไม่ช่วยเลย เพราะผมยังเมาค้างวันนี้มะนาวที่นอนเต็มอิ่มจึงเป็นคนขับ

“ขนาดมึงยังเมาไม่รู้เรื่อง ถ้ากูไปจะขนาดไหน”

“อยู่เฉยๆ ไปเถอะมึงอ่ะ”

“จ๊ะพ่อ”

“กวนตีน”

“แล้ว ลูกหวายเป็นไงบ้าง คุยกันถูกคอมั้ย”

“กูปฏิเสธไปแล้ว”

“อ้าว ไมอ่ะ เพื่อนกูนิสัยดีนะเว้ย แก็งนางฟ้าของโรงเรียนเลยนะนั้น”

“ก็กูไม่ได้ชอบเขา คุยไปก็ให้ความหวังเขาเปล่าๆ ยิ่งไปบอกเอาทีหลังตอนคุยไปจนเขาคิดว่ากูมีใจแล้ว กูก็โดนตบเดะ”

“ทำไมมึงมั่นใจจังวะ ว่าไม่มีทางเป็นไปได้ เขาสวยนะเว้ย”

“ถ้ามึงมีคนที่ชอบอยู่แล้ว แล้วมึงมีคนมาชอบมึง มึงจะมีใจไปคุยกับคนที่มาชอบมึงไหมล่ะ”

“มึงมีคนที่ชอบอยู่แล้ว?”

“อย่างน้อยกูก็คิดว่ากูมี”

“ใครว่ะ?”

“ไม่บอก ถ้าเขาชอบกูมึงคงได้รู้ แต่ถ้าเขาไม่มีท่าทีชอบกู กูขอเก็บมันไว้เป็นความลับ”

“กูเข้าใจ  กูไม่ถามมึงต่อแล้ว แต่พ่อจะแวะซื้อกาแฟดำแก้เมามะ? อันนี้กูถามตอบมาจะได้แวะ”

“ไม่อ่ะ ยิ่งกินยิ่งเมานะกาแฟเนี่ย”




เรียกกูพ่ออีกแล้ว พ่อที่ไหนเขาจะจูบกับลูกวะ?

เชื่อไหมพ่อแม่พี่น้อง ผมรู้ซึ้งเลยว่าการเมาแล้วตื่นมาจำอะไรไม่ได้เลยมันดีขนาดไหน เพราะการเมามากๆ ทำอะไรแบบที่คนเมาเขาทำ ทำบ้าๆ บอๆ เสี่ยงเสี่ยวหรือเสียว หรืออันตรายขาดสติอย่างที่คนเมาเขาทำแล้วปรากฏตื่นมาจำได้ทุกอย่าง มันไม่ดีเลย มันโคตรอาย มันแย่ มันทำหน้าไม่ถูก ทั้งเช้าผมไม่กล้ามองสบตามะนาวเลย เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะผมจำได้น่ะสิว่าเมื่อคืนเปิดประตูเข้ามาเห็นเขานอนหลับอยู่ผมทำอะไรลงไป ผมลักหอมแก้มเขา จูบเขาตอนที่เขาหลับ แล้วมันไม่ใช่การลักหลับเพราะผมจูบเขาแรงมากจนเขาตื่น! จนผมพอใจผมก็ปล่อยริมฝีปากเขา นอนกอดเอวเขาต่อจนรู้สึกตัวตอนเช้าก็ยังอยู่ท่าเดิม

ผมยังจำลมหายใจหอบลึกและอาการตะเกียดตะหายหาอากาศของเขาได้ ผมจูบเขาจนเขาเกือบขาดใจตาย เขาตีผมเบาๆ แต่ไม่ได้ผลักผมออก ผมจำได้ว่าลิ้นอุ่นๆของเขาตอบโต้ผมยังไงด้วยซ้ำ

อยากจำไม่ได้จริงๆ ไปซะเลย จะได้ไม่ต้องแกล้งจำไม่ได้แบบนี้ ต้องแกล้งทำตัวปกติทั้งที่ชีวิตผมเลยคำว่าปกติไปไกลมากแล้ว



----------------------------
TBC.


แม็ตลูกแม่มีพัฒนาการแล้ว *มือทาบอกน้ำตาซึม*

ใครชอบแบบรวดเร็ว รักปั้บจีบปุ้บต่อติดปั้บ คงขัดใจกับนิยายเรื่องนี้พอควร 555 (นี่เบ่งเองยังลุ้นเลยว่าจะได้กันเมื่อไหร่ T T )
เอาเนอะ บางทีความรักก็ต้องการเวลา บางทีอะไรๆก็ไม่ได้เป็นอย่างใจ (นี่คนเขียนกำลังปลอบตัวเองขะ)

สองคนนี้ยังเด็ก เขายังโตได้อีกมาก ช่วยลุ้นไปกับคนเขียนเรื่อยๆ อย่าเพิ่งทิ้งกันน้าาาา
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 6 ดันจำได้] 30/01/59 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-01-2016 19:27:37
พูดแบบนี้มะนาวเข้าใจผิดไปไกลแล้วแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 6 ดันจำได้] 30/01/59 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 30-01-2016 20:17:57
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 6 ดันจำได้] 30/01/59 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 30-01-2016 21:30:55
อิอิ น่ารักดีอะ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 6 ดันจำได้] 30/01/59 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 30-01-2016 22:00:00
บอกความรู้สึกไปเลยแมต
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 6 ดันจำได้] 30/01/59 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 02-02-2016 15:57:53


โธ่พ่อแม็ตของป้า... ช่วงเวลาแบบนี้นี่แหละที่มันน่ากระอักกระอ่วนเป็นที่สุด
คิดไรชอบไรเค้าก็บอกเค้าไปเถอะพ่อ อย่าให้ต้องมีมือที่สามโผล่เข้ามาสร้างความร้าวรานไปถึงไหน ๆ เลยนะ
สงสารทั้งนาว ทั้งพ่อในคราวเดียวกันไปล่วงหน้าแล้วเนี่ย เฮ่อ!

รอติดตามตอนต่อไปค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ ^^  :3123:

หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 7 เดือนเดือนเดือน] 2/2/59 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 02-02-2016 19:30:42
- บทที่ 7 - เดือนเดือนเดือน -


-------------------------------

“แม็ต” ผมหันไปตามเสียงที่เรียกชื่อผม พักเที่ยง ผมกำลังเดินไปโรงอาหาร

“ลูกหวาย?”

“ไปกินข้าวด้วยคนสิ”

“อ้อ ไปสิ”

เหตุการณ์เพิ่งผ่านมาเมื่อคืนนี้เองครับ จะว่ามองหน้าไม่ติดก็ไม่เชิง กลัวเขาไม่พอใจก็ไม่ใช่ แต่ยังไงดีล่ะ ผมไม่แน่ใจว่าเขาเข้าใจที่ผมบอกจริงๆไหม ว่าผมไม่พร้อมศึกษาใคร

แต่ลูกหวายก็ไม่ได้พูดอะไรกับผมอีก หันไปชวนมะนาวคุยปกติ ผมเลยค่อนข้างสบายใจ


เรามานั่งโต๊ะเดียวกัน ลูกหวายไม่ได้คุยกับผมคนเดียวครับ อย่างที่รู้เธอเป็นเพื่อนมะนาวมาก่อนสองคนนั้นเลยดูมีเรื่องคุยกันเรื่องที่ผมได้แต่ฟัง ไม่อาจร่วมบทสนทนาด้วย

“มะนาวมึงจำพี่ปราณได้ไหม?”

พี่ปราณ? อ้อ พี่ชมรมบาส

“ก็ ได้ ไมเหรอ?”

“เขาฝากหวายขอไลน์มะนาว”

“เฮ้ย! แล้วหวายได้ให้ไปไหม?”

“ยัง ก็รอมาถามก่อนนี่ไง แล้วมึงจะว่าไงนาว?”

“ขอคิดดูก่อนนะ” มะนาวขมวดคิ้วอย่างเห็นได้ชัด

“อื้ม ไงก็ค่อยบอกกูในไลน์ก็ได้”

“อื้มๆ”

“นี่เขาตามจีบมึงมาตั้งแต่ม.4 เลยนะเว้ย ไม่ใจอ่อนกับเขาหน่อยเหรอ”

จังหวะเคี้ยวข้าวผมชะงักไปวูบหนึ่ง

อะไรนะ จีบเหรอ?

“เขาไม่ได้จีบ แต่คุยแบบพี่น้อง”

“เขารู้กันทั้งสี ตั้งแต่ม.1ยันพี่ม.6ย่ะ มีแต่มึงแหละ ทำไม่รู้ไม่ชี้อยู่คนเดียว”

“ก็คนมันไม่ชอบจะให้ทำไง อีกอย่างเขาเป็นพี่ใครจะกล้าหักอกเขาตรงๆ ว่ะ”

“กั้กก็บอก วันคัดตัวบาสวันนั้นเขาเห็นมะนาวไปคอยอยู่ข้างสนามเขาคิดเข้าข้างตัวเองไปเรียบร้อยแล้วว่ามึงไปเชียร์เขานะ”

“กูไปรอเพื่อน”

“เขาคิดว่ามึงไปดูเขา”

“กูก้มหน้าเล่นแต่มือถือ”

“อันนี้กูจะขอเดาว่า เขาคงคิดว่ามึงอายไม่กล้าสบตาเขามากกว่า”

“เหี้ย”

“มึงก็บอกเขาไปตรงๆ ก็ได้นี่ว่ามึงไม่ได้คิดอะไรกับเขา บางทีการที่มึงพูดตรงๆ ไปเลยมันก็ทำให้อะไรๆ ง่ายขึ้น มึงดูอย่างกูสิ โดนแม็ตปฏิเสธมาเมื่อคืน ตอนนี้ยังกลับมาเป็นเพื่อนกันได้เลย”

“เออ เราขอโทษนะ”

“ไม่เป็นไรแม็ตๆ เราเข้าใจ” หวายโบกไม้โบกมือให้ผม “มึงพี่ปราณเขาเป็นผู้ชาย เขาต้องแมนๆ รับได้อยู่แล้วล่ะ”

“มึง พี่เขาไม่เหมือนมึง”

“ไงว่ะ?”

“กูอธิบายไม่ถูก แต่กูมั่นใจว่าเขาไม่แมนเหมือนมึง”

“ไรของมึงว่ะ?”

ผมอธิบายไม่ถูกว่าตอนนี้รู้สึกยังไง มีคนชอบมะนาวก่อนผมจะเจอเขา ผมมั่นใจว่าคงไม่ได้มีแค่คนเดียวด้วย แล้วอะไรคือสิ่งที่มะนาวไม่ยอมบอกลูกหวาย

ผมจะถามเขาดีไหม? แล้วเขาจะตอบผมไหม?


“แม็ต มึงช่วยกูคิดหน่อยดิ ว่ากูควรทำยังไงกับพี่เขาดี” ตอนเดินไปเรียนวิชาคาบบ่าย มะนาวก็ยังคิดไม่ตกเรื่องที่เพิ่งรู้มา

“ก็บอกไปตรงๆ อย่างที่ลูกหวายบอกก็ได้นี่นา”

“ทำได้ก็ดีสิ อีกอย่างกูกลัวว่าถ้าเขารู้ว่ามึงสนิทกับกูเขาจะหาเรื่องแกล้งมึงไปด้วย”

“หมายความว่าไง แกล้ง?”

“กูว่าเขาโรคจิต”

“ห่ะ?”

“ตอนนั้นเขาเป็นพี่ในสี ตอนแรกกูก็ไม่ได้คิดอะไรนึกว่าเขาแค่เฟรนลี่ปกติ ก็มาตีสนิท ชวนทำนั้นทำนี่สั่งงานผ่านกูไปๆมาๆพยายามชวนกูไปบ้านตอนไม่มีคนอยู่ เคยแอบจับมือกูข้างสนามบาสที่คนเยอะๆ เขาจู่โจมพยายามจะจูบกูตามซอกตึกหลายครั้ง มึงตอนนั้นกลางวันแสกๆ ยังกล้า แม่งต้องไปดูหนังอะไรมาแล้วอินเอามาทำตามแน่”

“...”

“นี่ขนาดไม่ได้เป็นอะไรกันนะมึง กูว่า ถ้าเป็นแฟนแล้วแล้ววันนึงกูบอกเลิก กูว่ากูโดนฆ่าแน่”

“มึงรู้ว่าเขาเป็นงั้นทำไมวันนั้นมึงไม่รีบกลับ” ผมเริ่มเครียด แม่งน่ากลัว

“กูไม่เห็นเขา จนมึงลงไปถึงเห็น แล้วพี่โนอาก็บอกให้กูรอก่อน อีกอย่างกูคิดว่าเขาจะเลิกเล็งกูไปแล้วนี่”

“แม่งน่ากลัวว่ะ มึงอย่าห่างกู”

“...”

“แล้ว เขาเคยจูบมึงไหม?”

“ไม่เคย ขยะแขยงใครจะยอมว่ะ กูก็ผู้ชายนะเว้ย เอ้ะ!?” มาถึงตรงนี้ มะนาวหยุดทุกอย่าง รวมทั้งหยุดหายใจด้วย
ผมก็เหมือนกัน เรานึกบางอย่างได้พร้อมกัน

“มึงจำเรื่องเมื่อคืนได้ใช่มะ?” ชิบหาย มะนาวย้อนถามผม

“เมื่อคืนทำไม?” ผมตีหน้าซื่อ ทำตาปรือเหมือนง่วงนอน

มะนาวจ้องผมตาไม่กระพริบอยู่นาน จนถอดใจ “จำไม่ได้ก็แล้วไป” มะนาวกอดอกอกเดินตรงแล้วไม่พูดอะไรอีก
ผมไม่แน่ใจเหมือนกัน ว่าถ้าเขาซักไซ้มากๆเข้า ผมจะยอมรับออกไปยังไง

ล่าสุดกูจูบมึงจริง แต่ก่อนนั้นมึงจูบกูก่อน กูไม่ผิดๆๆๆ


“จูบนะเว้ย บังคับกันไม่ได้หรอก” ผมได้ยินมะนาวขมุบขมิบปากพูดเบาๆ

ประโยคนั้นของเขาทำให้หัวผมมีเสียงวิ้งๆ อยู่นานเลย


………………………………………….

หลังจากนี้ เราจะเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการเข้าเชียร์ ตอนเย็นแทบไม่มีวันไหนว่าง วันไหนไม่มีเชียร์ก็ไปซ้อมบาส แน่นอนครับผมไม่ให้มะนาวตามมาดู แม้จะมากับพงศ์กับเอ้ก็ไม่ให้มา พวกนั้นเลยไปนั่งใต้ตึกทำการบ้านอ่านหนังสือกัน

พี่ๆ บอกว่าปาตี้ที่ยิ่งใหญ่จะเริ่มหลังจบเชียร์ ผมเลยงงเลย นึกว่าเชียร์จะมีทั้งเทอม หรือทั้งปีเสียอีก เข้าใจผิดมาตลอด

อย่าว่าอย่างโง้นอย่างงี้เลย หลังจากวันนั้นเรายังเหมือนเดิม เหมือนเดิมในที่นี้คือไปไหนมาไหนด้วยกัน ตัวติดกัน เดี๋ยวนี้มันพัฒนาขนาดมีร้านซักรีดประจำข้างๆ หอผม ใช้ผมขับรถให้ตลอดยกเว้นกลับบ้าน มียาสระผมของตัวเองอยู่ในห้องน้ำผม และมะนาวไม่เก็บแปรงสีฟันติดตัวกลับบ้านอีกแล้ว

วันนี้พักเที่ยงพี่ห้องผมเรียกปีหนึ่งประชุมครับ ประชุมในโรงอาหาร กินข้าวไปด้วยฟังไปด้วยได้ บอกว่าจะเลือกดาวเดือนกัน ผมนั่งเฉยๆ รอเวลา มะนาวไม่ให้ผมกินข้าว บอกว่าเสร็จนี่เดี๋ยวพาไปเลี้ยงข้าว เพราะบ่ายเราว่าง

“เราจะเลือกดาวเดือนดาวเทียมกันนะค่าวันนี้” พี่คนที่ดำเนินรายการเป็นคนเดียวกับวันจับสายรหัสครับ “ดาวเดือนห้องทั้ง 7 ห้อง จะต้องหาตัวแทนไปประชันกันในวันศุกร์นี้ เพื่อหาตัวแทนคณะไปฝาดฟันกับคณะอื่นๆต่อไป เราคงรู้อยู่แล้ว ว่าดาวคณะและดาวมหาลัยปีที่แล้ว ตกเป็นของเรา ทะแดนนนน โนอาดาวมหาลัยลัยลัยลัยไล หนูดาวเป็นลูกสาวกกจบชั้นม.6 โรงเรียนบ้านหนองใหญ่ ตึ้งๆ คุณแม่ขายไร่ขายนา ส่งดาวเข้ามาเรียนมหาลัย ตึ้งๆ

“ฮ่าๆๆๆ” ฮากันทั้งห้องครับ เมื่อพิธีกรร้องเพลงดาวมหาลัยต้อนรับพี่โนอา แล้วพี่ผมทำปากขยับลิปซิ้งตามชนิดไม่กลัวหมดสวย แอคติ้งเต็มมาก แถมยังมีท่าไหล่กระตุกตรงตึ้งๆ ด้วย

“รักเธอตรงบ้าบอเนี่ยแหละโนอา ส่วนดาวเทียมปีที่แล้วก็ได้ถึงรองอันดับสองดาวเทียมมหาลัย” ไม่ต้องบอกก็รู้ครับว่าหมายถึงตัวเขาเอง เพราะพี่แกขึ้นไปยืนบนเก้าอี้แล้วโพสท่าเป้ะยิ่งกว่าเดอะเฟสไทยแลน

“ส่วนเดือน เราขอไม่พูดถึงแล้วกัน”

“อ้าว แม่ง ไม่ยุติธรรม” ฮ่าๆๆๆ ผมกับมะนาวหัวเราะกันครับ เพราะดูท่าพี่เทจะเป็นคนที่ถูกมองข้ามอีกแล้ว เมื่อกี้เตรียมตัวรอเก็กเต็มที่ วืดเลย

พงศ์วางจานข้าวลงข้างๆ ผมครับ พงศ์ก็อยู่ห้องเอฟกับผมด้วย บอกว่าจะส่งตัวเองลงประกวดดาวเทียม 55

“เอาล่ะ เรามาเลือกอะไรที่ไม่ต้องมีเกณฑ์วัดมากมายให้ยุ้งยาก ตุ๊ดเล็กเด็กตุ๊ด ออกมาคะ อยากก็ออกมาไม่อยากก็ออกมา หนูเป็นของหายากในคณะนะค่า จงภูมิใจ มาๆๆๆ”

พงศ์ส่งตัวเองออกไปจริงๆ ครับ เขาไม่ได้หุ่นดีสุด หล่อสุดหรือสวยที่สุด แต่เขาน่ารักสุดนะผมว่า มีตัวแทนแค่ 3 คน จากทั้งห้องปีหนึ่งมีร้อยกว่าคน นอกจากสาวๆเขาจะเลี่ยงไม่แอดเข้าคณะแบบนี้แล้ว สาวส่วนใหญ่ที่มาเรียนคณะนี้จะกดดันตัวเองแล้วปิดบังตัวเองไปโดยอัตโนมัติครับ ก่อนเปิดเทอมพงศ์ที่เป็นคนชัดเจนในตัวเองมาตลอดยังลังเลเลยว่าจะยังไงดี จะแสดงออกความเป็นตัวเอง หรือเป็นอย่างที่สังคมอยากให้เขาเป็น มันเป็นความลังเลที่เหมือนจะเลือกง่าย แต่ไม่จริง มันไม่ง่ายเลย

หลังแนะนำตัวแบบเรียกเสียงฮาได้มากมายแล้ว วิธีตัดสินคือให้ตัวแทนทั้งสามหันหลัง แล้วให้พวกที่เหลือยกมือโหวต คนที่โหวตคือทุกคนที่มาวันนี้ ทุกชั้นปี คะแนนสูสีครับ แน่นนอนผมกับมะนาวยกมือให้พงศ์ วัดด้วยสายตาก็พอดูออกว่าใครชนะ พงศ์ถึงกับทำท่าเหมือนได้มงกุฎแล้ว มึงๆ ยังๆ อย่าเพิ่งดีใจ

แล้วก็เลือกดาวครับ คราวนี้ ให้ปีหนึ่งผู้หญิงทุกคนยืนขึ้นจะได้แยกออกระหว่างปีหนึ่งกับปีอื่นๆ ให้เพื่อนหรือพี่เสนอชื่อ หรือชี้ตัวให้ออกไปข้างหน้า มีคนสวยที่ถูกผลักไสออกไปข้างหน้าห้าหกคนครับ ทุกคนดูลังเลและไม่มั่นใจ เพราะอะไรน่ะเหรอครับ มันหลายๆเหตุผลรวมกันเพราะผู้หญิงในคณะน้อย พวกเธอใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก เหมือนอยู่ในโรงเรียนชายล้วน ตอนเข้ามาใหม่ๆเธอจะขี้อายแต่สวยที่สุด ตอนปีหนึ่งยังดูแลตัวเอง แต่งหน้าทาปากบ้าง ใสๆ ตามวัย แต่อยู่ๆ ไปพวกเธอจะเปลี่ยนจากใส่กระโปรงทรงสอบหรือทรงเอไปใส่ยีนส์กับช็อปทำให้แทบไม่ต่างกับผู้ชายผมยาว(ถ้าหันหลัง) การเรียนและกิจกรรมทำให้เบียดบังเวลาของการดูแลตัวเอง มีการพัฒนาปรับตัวให้เขากับสังคมชายล้วนด้วยการเปลี่ยนตัวเองเป็นผู้ชายไปทีละน้อย นับวันจะยิ่งเหมือนผู้ชายจนปีสี่จะไม่เหลือเสน่ห์ความเป็นผู้หญิงเลย กลายเป็นว่าผู้หญิงที่เรียนวิดวะขาดความมั่นใจในตัวเองเรื่องความสวยความงาน เพราะขาดสกิล และกลัวที่จะแสดงความเป็นผู้หญิงท่ามกลางหมู่ผู้ชายที่พร้อมจะปากหมาใส่ทันทีที่เห็นอะไรผิดไปจากที่คุ้นเคย

ที่พูดมาทั้งหมดเพราะพี่โนอาบ่นว่าขี้เกียจแต่งหน้ามาเรียน อยากตื่นสายๆ เหมือนคนอื่น อยากกลับถึงห้องล้มตัวลงนอนได้เลย ไม่ต้องล้างหน้า10ขั้นตอนทุกวันๆ  แต่คณะบดีขอไว้ด้วยตัวเอง ว่าเป็นหน้าตาของคณะและมหาลัย แต่งไว้เพื่อนจะได้กล้าแต่งตาม ผู้หญิงคณะนี้ร้อยคนจะหาที่แต่งหน้ามาเรียนได้ไม่ถึงสิบ จนได้ยินคณะอื่นถามว่าวิศวะห้ามผู้หญิงแต่งหน้าเหรอ? ถึงขนาดมีพวกบริษัทที่รับพนักงานจบใหม่คอมเม้นกลับมาว่า ทำงานดีไหวพริบดีพัฒนาการดีเข้ากับคนง่ายดีทุกอย่างยกเว้นเรื่องไม่แต่งหน้า

แต่นั้นแหละครับ ผู้หญิงที่เขามาเรียนวิศวะ มีความสามารถปรับตัวง่าย ไม่เป็นเด็กเรียนก็ห้าว ไม่ก็บ้า เหมือนเอ้

เอ๋ ทำไมมีชุดนักศึกษาชายไปยืนตรงกลางหนึ่งคน  มะนาวยังถามผมเลยว่านั่นผู้หญิงเหรอ ผมลังเล ก่อนจะฟันธงว่าเธอเป็นผู้หญิงใจเป็นชาย ก็น่าอยู่หรอก เธอสูงกว่าพี่มีมี่เอ็มซีของงานนี้ซะอีก ผอม ผิวขาว หน้าได้รูปจะหญิงก็เป็นไปได้ จะชายก็ดูหล่อหวานๆ ตัดผมทรงเดียวกับผมเลย เขาดูเก้อเขินและพยายามเดินกลับเข้ามาในหมู่ฝูงคน แต่โดนถีบกลับไปยืนข้างหน้าซ้ำแล้วซ้ำอีก

เสียงกรี้ดกร้าดเรียกชื่อใครสักคนครับ ชัดเจนมากว่าต้องมีคนหนึ่งคะแนนนำโด่ง พี่มีมี่ให้แนะนำตัวทีละคนสั้นๆ ผมถึงได้รู้ว่าเสียงเชียร์ในตอนแรกเป็นของใคร

“เมครับ” กรี้ดๆ ว้ายๆ น้องเมๆ เสียงพี่ๆสาวๆโวยวายครับ ผู้ชายยังร่วมวงด้วย จนพี่มีมี่ต้องปรามเพราะเวลามีจำกัด

“อร้ายยย เก็บอาการหน่อยคะชะนี เก็บเสียงไว้กรี๊ดเดือนบ้าง มาๆต่อค่ะ” แต่ประโยคต่อมาทำเอาหลายคนทำหน้าเซง “หนูหล่อๆอย่างหนูพี่เองก็พร้อมพลีกายนะค่ะ เอ้า แนะนำตัวต่อสิ”

“อริศรา อนันท์สวัสดิ์ ภาคอุตฯครับ” มีเสียงกรี้ดงึมงำแบบเก็บอาการกันเต็มที่ หรือจริงๆอาจจะมั่นไส้พี่มีมี่ที่ทำท่าเอียงคอเอียงตัวซบไหล่เมอยู่ก็เป็นได้

ผลโหวตดาวก็เป็นไปตามเสียงเชียร์ครับ ผมกับมะนาวยังยกให้คะแนนเมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย มองหน้ากันก็ขำ เพราะมันแซวว่าเมหล่อกว่าผมซะอีก ก็คงจริง

“ชายชาตรีปีหนึ่งทั้งหลาย ลุกขึ้นเลยค่ะ ยืนๆ เอ้ะๆๆ หนุ่มแว่นที่ตัวสูงที่สุดตรงนั้นอ่ะ ออกมาเลยค่าอย่าช้าที ข้างๆด้วยค่ะ มาแพคคู่เลยค่ะ” ผมทำตาโต มองหน้ามะนาวกันเลิกลัก พี่โนอาทำท่ากระโดดดีใจแบบไม่มีเสียงอยู่ข้างหลังพี่มีมี่
เอาจริงดิ ไม่ดีมั้ง  แล้วเสียงซุบซิบทำไมยังไม่หายไป?

“หนูขา ฟินกันเบาๆ อย่าเอ็ดไปเดี๋ยวไก่ตื่น จุ๊ๆๆๆ” ผู้หญิง ทุกชั้นปีทำไมต้องยิ้ม? ปากคนยกมือกุมปาก? นี่อย่าบอกนะว่าเรื่องคู่จิ้นยังไม่เลิกคิดกันอีก “อย่าโลภๆ เลือกได้คนเดียว งานนี้ไม่ได้เลือกเป็นคู่ๆ” หลังจากนั้นก็มีคนถูกเสนอชื่อออกมาอีกสี่คน
คุณคิดว่าใครได้เป็นเดือนห้องเอฟของผมครับ?


ให้เวลาคิดสามบรรทัด









ผมไงครับ ผมกุมขมับ

“มึงจะคิดมากไมว้า ได้เป็นเดือน ดีออก มึงถูกการันตีว่าหล่อ จากคนทั้งห้องเลยนะเว้ย” พูดเหมือนปลอบใจ แต่ท่าทีพูดไปหัวเราะไปนั่นอ่ะไร เขาเรียกเยอะเย้ยเว้ยยย

“กูขี้เกียจ มันวุ้นวาย”

“ชีวิตมึงคงวุ้นวายจริงอ่ะ เพราะมึงปฏิเสธใครไม่เป็น ฮ่าๆๆ” ตอนจ่ายค่าหอ ผมไม่ยอมรับเงินจากมะนาวได้สำเร็จก็จริง บ่ายนี้เขาก็เลยพาผมมาเลี้ยงบุฟเฟ่เอ็มเคในเมืองได้สำเร็จ ไม่รู้อยากเลี้ยงหรืออยากกินเอง เห็นมาถึงก็สั่งโน้นสั่งนี่เยอะจนกลัวว่าสองคนจะกินไม่หมด

“แต่กูเตะคนเป็นนะ” มันกวนตีน ผมเลยยกขาฟาดน่องมันเบาๆ ไปทีใต้โต๊ะ “กินหมดแน่นะ ที่สั่งมาเนี่ย”

“หมดดิ” มะนาวคีบฮะเก๋าเข้าปาก “งี้แฟนมึงคงดีใจถ้ารู้ว่ามึงได้เป็นเดือน”

“แฟนไหน กูมีแฟนคลับเหรอ?” ถ้าแฟนคลับคู่จิ้นกูกับมึงอ่ะรู้ว่าพอมี

“แฟนที่มาจาก Girlfriend อ่ะ Girl-friend”

“มีที่ไหน” ผมหยิบผักใส่หม้อก่อน

“อ้าว”


“มึงเอามาจากไหน”

“ก็... ไม่ใช่อรวรรณเหรอ?”

“หื๋อ”

“ก็ที่เอ้พูดถึง”

“อ้อ รถเครื่อง”

“หา?”

“มอไซย์” ผมทำท่าบิดมอเตอร์ไซค์ประกอบ ด้วยตะเกียบสองข้าง “ถ้ากูมีแฟนมึงอยู่กับกูขนาดนี้จะไม่เคยเจอได้ไง มึงนี่คิดอะไรไปเรื่อย”

“อ้าว ก็นึกว่าแฟน”

“รักกว่าแฟนอีก รักเหมือนลูกเลย”

“เออๆ เข้าใจ พ่อแมตตตตตต ต่อไปกูจะเรียกมึงพ่อ ดีมะ?”

“อะไรของมึง?”

“เดี๋ยวมึงก็ดุ เดี๋ยวก็ใจดี เหมือนพ่อกูเลย”

“ไม่เอาแค่เรื่องเดือนนี่ก็แย่ละ กูไม่อยากมีลูกแบบมึงอีก ปวดหัวตาย”

“เหี้ย”

“ว่าแต่ทำไมต้องมาไกลขนาดนี้วะ มึงชอบเอ็มเคมากเลยเหรอ กูกินหมูกระทะแถวมหาลัยก็ได้นะ”

“ไม่ได้”

“...” ทำไมต้อง ไม่ได้ ชัดเจนขนาดนั้นว่ะ ปกติมะนาวไม่ใช่คนเอาแต่ใจนี่หว่า ออกจะอะไรก็ได้ยังไงก็ได้ด้วยซ้ำ ผมขมวดคิ้ว แต่ปากยังเคี้ยวขนมจีบอยู่

“ถ้ามึงยังไม่อยากหามกูส่งโรงบาล ก็อย่าให้กูกินหมูกระทะตามร้าน ถ้าอยากให้กูกินหมูกระทะมึงต้องทำเอง”

“ไมว่ะ มึงแพ้อะไรในหมูกะทะ?”

“กูเคยโดนหามส่งโรงบาลเพราะอาการเดียวกันสามครั้ง สองในสามคือหลังกูไปกินหมูกระทะ แม่กูนั่งไล่เลยว่ากูกินอะไรไปบ้าง ไม่ซ้ำกันเลยที่กูกินๆ ไป แต่อาการเดียวกัน ของที่กินก็เป็นของที่เคยกินมาแล้วทุกอย่างไม่มีอะไรแปลกใหม่”

“อาการเป็นไงเวลามึงแพ้”

“ปวดท้องมาก ท้องแข็ง เหมือนร่างกายไม่รับอยากขับออก หายใจไม่ออก แน่นหน้าอก ไม่มีแรง ตัวบวมแดงเป็นจ้ำๆ”

“ฟังดูน่ากลัวนะ ถ้ามึงมีอาการอีกก็รีบบอก จะได้พาส่งโรงบาลทัน”

“จ้าพ่ออออ” มะนาวลากเสียงยาวล้อเลียน

“มึงคิดว่าตัวเองแพ้อะไร?”

“สารกันบูดมั้ง แม่กุบอกพวกหมูกระทะเขาใส่เยอะ ไม่ก็พวกของไม่สด”

“เหรอ” ผมคงต้องระวังไม่ชวนมันกินอะไรแปลกๆ

“กูเลยไว้ใจเอ็มเคไง ว่าจะไม่พากูไปส่งโรงบาล ฮ่าๆๆ”

มิน่ามะนาวไม่กินกับแกล้มร้านเหล้า มะนาวไม่กินข้าวราดแกงที่นอนนิ่งในถาดมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ จริงๆ เขาแทบไม่กินอะไรที่ไม่เห็นว่าแม่ครัวปรุงตอนไหน

ตอนนี้เขาถึงดูมีความสุขกับการกินเอ็มเคมากจริงๆ


............................................


“นั่งด้วยดิ”

“อ้าว” เม? “เชิญๆๆ” มะนาวเรียกเมนั่งข้างๆ

“ว่าจะเข้ามาทักมึงสองคนหลายทีแล้ว คลาดกันตลอด” เมครับ เขานั่งลงข้างๆมะนาวตามที่ถูกชวน เช้าวันนี้เช้าวันพุธที่เรามีตารางเรียนแม็ต 1 กัน อาจารย์ยังไม่มาทั้งที่ได้เวลาเข้าเรียนแล้ว

“เราเหรอ?” มะนาวถาม ผมขมวดคิ้ว

“อื้ม มึงสองคนเด่นจะตาย”

“จริงเหรอ?” มะนาวสงสัยอีก คือด้วยความที่ต่างรู้จักกันอยู่แล้ว จึงไม่ต้องแนะนำตัวเพิ่ม

“พวกผู้หญิงชอบชวนกูดูมึงสองคนเวลาอยู่ด้วยกัน ก็แปลกนะกูเห็นมึงทีไรต้องเห็นอีกคนตลอด นี่สนิทกันตั้งแต่โรงเรียนเก่าป่ะเนี่ย?”

“เปล่า เป็นข้างรหัส ห้องเรียนเลยตรงกันทุกคาบ”

“อื้ม ทั้งอาทิตย์ไม่ตรงกันแค่วิชาเดียว” ผมเสริม

“ก็กูอยู่กับมันตลอด งี้แปลว่าตลอดเวลาพวกกูโดนจับตา?”

“ถูก” เมเน้นช้าๆ

จะว่าผมเห็นไหมที่คนพากันมอง ผมก็เห็นนะ แต่ก็แค่เห็น ไม่ได้รู้เลยว่าในใจคนอื่นๆเขาคิดอะไรกันอยู่บ้าง

“สวัสดี เช้าที่สดใสของพิ้งพิ้ง ขอนอนพาดพวกเธอได้ไหม หล่อบาดตับบาดไตมากเลยอ่ะ อุ้ย! อยากโดนๆ” มะนาวยกขาจะเตะพงศ์จริงครับ

“อยากโดนไม่ใช่เหรอ หลบทำไม? โน้น นั่งโน้นเลย” มะนาวพยักเพยิกมาทางโต๊ะว่างข้างผม

“หวัดดีเม มะรืนจะเป็นวันประกวดดาวเดือนกันแล้วนะ เตรียมตัวกันยังไง?”

“ต้องเตรียมด้วยเหรอ?” ผมกับเมถามพร้อมกัน

“พี่โนอาคงจัดการให้แหละ เธอก็รุ่นน้องดาวมีหน้าที่ต้องดูแลอยู่แล้ว เธอก็น้องรหัสสุดรักสุดหวง กูสิ พี่มีพาไปร้องเกะ ไม่ได้เกี่ยวกับการประกวดเล้ยยยยย”

“พี่กูไม่ติดต่อมึงบ้างเหรอ?” มะนาวถามผม

“ไม่อ่ะ พี่โนอาซะอีก เย็นนี้นัดไปหา”

“พี่กูแม่งไม่ได้เรื่อง”

“ปกติแหละผู้ชาย พี่กูตื่นเต้นไปเอง”

“มึงไม่ตื่นเต้นเหรอแม็ต” เมถามผมครับ

“ไม่นะ เมตื่นเต้นเหรอ?”

“ตื่นเต้นดิ ต้องใส่กระโปรงเดินบนเวทีนะเว้ย”

โดยปกติแล้ว ผู้หญิงจะเปลี่ยนจากประโปรงเป็นกางเกงวอมทุกครั้งก่อนเข้าเชียร์จะได้นั่งสะดวก

เมผมก็จำหน้าได้มานานแล้ว เพราะเห็นกันบ่อยๆ เท่าที่จำได้เขาใส่แสลคตลอด แอบเดฟนิดๆด้วย

“ต้องใส่คัชชูด้วยแม่ง” เมพูดอย่างขยาดสุดๆ ผมก้มมองเท้าเมพร้อมกันทั้งสามคน เขาใส่รองเท้าหนังถูกระเบียบดี มิน่าเขาถึงไม่โดนจับแต่งกายผิดระเบียง เพราะเขาแต่งตัวถูกระเบียบมาก ผิดอย่างเดียวคืนมันเป็นชุดนักศึกษาชาย ไม่ตรงกับเพศพื้นฐาน

“แล้วปกติเข้าเชียร์มึงทำไงวะ” มะนาวเป็นคนออกปากถามก่อน

“เพื่อนจะเตรียมชุดไว้ให้”

“เพื่อนธรรมดาที่ไหนเขาถึงเตรียมให้ตลอดขนาดนั้น” พงศ์ถามเสียงล้อเลียน “เปลี่ยนทั้งชุดเลยนะค่ะคุณค่ะ”

“ตอนนั้นเขาจีบกูอยู่ค่ะพิ้ง ชัดพอไหมค่ะ”

“โอเค เนี่ยแหละที่ต้องการคะ อิอิ”

“แต่ตอนนี้เขาไม่ได้ทำให้แล้วนะ”

“อ้าวไมอ่ะ?”

“เขาหาว่ากูมีกิ๊ก ทั้งที่กูกับเขาไม่เคยตกลงเป็นอะไรกันเลยนะ เขาคิดไปเองทั้งนั้น แล้วพอกูไปคุยกับคนอื่นเขาก็ตามไปวีน ตอนนี้กูนั่งเรียนกับผู้หญิงคนไหนไม่ได้เลยถึงต้องมานั่งกับเดือนเดือนเดือนนี่ไง”

“กูดาวค่ะ” พงศ์ยักไหล่น่ารัก ฮ่าๆๆ

“โอเคครับดาว กูเป็นเดือนเองแล้วกันงั้น”

“ดีค่าดอก มันก็ดูเป็นอย่างนั้นนะ กูสวยสุดในนี้เลยเนี่ย เหนื่อยจัง เห้อ เดี่ยวไปกินข้าวด้วยกันนะ ส่วนใหญ่ก็เรียนด้วยกันอยู่แล้วนี่”

“อื้ม”

“เฮ้ย นี่นั่งเม้ากันจนจะสิบโมงแล้วนะ จารย์ไปไหน ยังไม่มาอีกว่ะ” มะนาวดูนาฬิกาข้อมือผม แล้วโพล่งออกมา

“มึง เพื่อนทยอยออกจากห้องแล้วอ่ะมึงงงง” เมบอก

“กูว่ากูมาสายแล้วนะ อาจารย์ร้ายกว่ากูอีก ชิ”

ผมหยิบหนังสือขึ้น แล้วลุกขึ้นยืน เดินออกจากแถวโต๊ะ ที่เหลือมองผม ไม่ใช่แค่สามคนที่นั่งข้างผมนะ เพราะมันเป็นสโลปลาดละโค้งหลายๆคนที่ยังนั่งเล่นนั่งรออาจารย์อยู่ก็หันมามองผม คงเพราะผมตัวใหญ่มั้งทำอะไรก็เห็นได้จากที่ไกลโพ้น

“มองไร ลุกสิ” ผมบอกมะนาวเมกับพงศ์ แต่ผลที่ได้คืน เพื่อนๆลุกพรึบเกือบทั้งห้อง คนที่ยังไม่ลุกก็กำลังเก็บข้าวของเตรียมตัวลุกเหมือนกัน

ผมผงะกับผลที่ได้ คือทุกคนรอสันญาณนี้อยู่แล้วใช่ไหม? แค่รอคนกล่าวเปิดงานว่างั้น

“ไปร้านกาแฟข้างตึกโยกัน” เมชวนครับ เราก็ไม่ขัดข้อง เพราะก็ไม่รู้จะไปไหน


มาถึงเมสั่งเค้กมาสองชิ้นอย่างรวดเร็ว เห็นผอมๆ ไม่นึกว่าจะกินเยอะ

“ช็อกโกแลตร้อน กับอเมริก้าโน่ครับ” ผมสั่งบ้าง

“กูอยากกินเย็น”

“คราวหน้าค่อยกิน วันนี้มึงจามสี่ห้าทีแล้ว ไปนั่งโน้นไป” ผมชี้โต๊ะที่ไกลแอร์ที่สุด

มะนาวไม่เถียง แต่สีหน้าออกเต็มที่ว่าไม่เต็มใจเลย

“สองคนนี้มันเป็นอย่างนี้กันตลอดเหรอ?” เมถามพงศ์

“งี้แหละค่ะ”

“มิน่าคนถึงจิ้นกันจริงจัง”

“แรกๆกูก็ไม่อะไร คิดว่าปกติผัว ผัวกูเป็นคนดีค่ะ ที่รู้ดีเพราะได้กันมาตั้งแต่ม.ปลาย ยังไม่ดูแลกูดีเท่านี้เลย กะว่ามานี่จะทำคะแนนค่ะ แป็ปๆโดนผัวที่สามแย่งผัวที่หนึ่งไปตอนไหนไม่รู้”

“ผัวที่หนึ่ง? ผัวที่สาม? แล้วสองอ่ะ”

“ผัวที่สองคือเมียเก่าของผัวที่หนึ่งค่ะ”

“ได้ยินนะเว้ย” ผมพูดยิ้มๆ เหนื่อยไหมเนี่ย มโนไปไกลขนาดนี้ พงศ์ลอยหน้าลอยตาเลือกเค้กกับเมต่อ

“แต่เป็นผัวที่สองของกู ไว้จะแนะนำให้รู้จักกันนะค่ะ ผัวที่สี่ เมียว่าเมียเลือกเค้กผลไม้ดีกว่าเนอะ สวยๆ”


“เมีย เอากล่องจังก้ามาด้วย เล่นกัน”

พงศ์หยิบมาให้อย่างเต็มใจ เพราะผมเรียกเมีย ฮ่าๆๆๆ จะใช้คนต้องมีเทคนิคครับ



-------------------------------
TBC.


ชอบเมเป็นการส่วนตัว เอาคาแรคเตอร์มาจากเพื่อนทอมคนหนึ่ง เพื่อนสมัย ม.ต้น ของเก้าเองฮ่าๆๆ หล่อ สูง ผอม หล่อแบบ หล่ออ่ะ หล่อจริงหล่อแบบคิมใน yes or no แต่สูงกว่าและผอมกว่า แต่บางทีจะตุ้ดแตกเพราะเป็นคนตลก (อันนี้เม้าเพื่อนละ)อยากแปะรูปให้ดูเหลือเกิน
เมจะมีคู่แน่นอน รอลุ้นได้ (คนอ่านบอกอยากรู้เรื่องคู่หลักมากกว่าาาาา) อ่า เจอกันตอนหน้าแล้วกันนะคะ คู่หลักไม่อยากสปอยยย 555555+


ปล. เมไม่มี ย์ นะค่ะ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 7 เดือนเดือนเดือน] 2/2/59 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 02-02-2016 20:19:11
น่ารักอะแต่ละคน ชอบๆ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 7 เดือนเดือนเดือน] 2/2/59 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 02-02-2016 20:24:30
ชอบมะนาวนะ นิสัยน่ารักจริง แม็ตด้วย
จริงๆ ชอบทุกคนในเรื่องนี้เลย
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 7 เดือนเดือนเดือน] 2/2/59 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 02-02-2016 20:25:00
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 7 เดือนเดือนเดือน] 2/2/59 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 02-02-2016 22:58:19
เนื้อเรื่องตัวละครน่ารักๆ
มีพัฒนาการเรื่อยๆโดยเฉพาะผัวที่1ของพงศ์.
ดูแลดี๊ดีแบบนี้. เราเห็นเราก็จิ้นค่ะ >///<
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 7 เดือนเดือนเดือน] 2/2/59 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 03-02-2016 00:25:36
คู่นี้ก็ขยันทำจิ้น เมื่อไหร่จะจูนกันล่ะเนี่ย ปล่อยให้จิ้นอยู่ได้ 5555+
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 7 เดือนเดือนเดือน] 2/2/59 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: miya_pp ที่ 03-02-2016 02:50:37
ตามๆ หนุกดี มาต่อเรื่อยๆน้า
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 7 เดือนเดือนเดือน] 2/2/59 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: PaiPo ที่ 04-02-2016 21:04:48
ต้องมีคนมาตัดหน้าแน่ อย่ามัวช้าสิแม็ตตตตต

ยังรอติดตามเรื่อยๆน้าาาา
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 8 มะนาว :ผมเป็นคนใจง่าย] 6/2/59 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 06-02-2016 01:45:52

- บทที่ 8 - มะนาว : ผมเป็นคนใจง่าย -


------------------------

สวัสดีครับ

ผมชื่อมะนาว   สูง 175.5 เซนติเมตร น้ำหนัก 58 กิโลกรัม ผิวขาวเหลืองเกือบแทนแต่ก็ไม่แทน ผมคนไทยแท้ อยู่กรุงเทพตั้งแต่เกิดมีพี่ชายสองคน และหมาอีกหนึ่งตัว

ผมมีอาหารที่แพ้ แต่ทุกครั้งที่เกิดอาการสืบประวัติกลับไปผมไม่เคยกินอะไรซ้ำกันเลย ผ้มก็เลยไม่รู้ว่าสรุปตัวเองแพ้อะไร รู้แต่ว่ามีคนหามส่งโรงบาล เท่เลย

มีหลายอย่างที่ผมไม่ชอบ และมีบางอย่างที่ผมชอบครับ บางวันผมก็ชอบความวุ้นวาย อินกับทุกเทศกาล หาอะไรสนุกๆ ทำกับเพื่อนกลุ่มใหญ่ๆ ในขณะเดียวกันถ้ามีหนังที่ผมอยากดูผมสามารถไปดูหนังคนเดียวได้ ผมชอบขับรถไปนั่งเล่นชายทะเลใกล้ๆ คนเดียว ไม่ก็ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไม่มีคนพลุกพล่าน ไม่ใช่ว่าผมไม่มีเพื่อน แต่บางอารมณ์ผมก็ชอบทำอะไรๆ ไปไหนมาไหนคนเดียว ครับ เพราะฉะนั้นตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ผมไม่เคยมีแฟน รู้ตัวเลยว่าเป็นคนไม่มั่นคง แม้ผมบอกรักเขาเองก็อาจจะเป็นฝ่ายหมดรักเขาเองก็ได้ แถมผมไม่แน่ใจว่าถ้าบอกคนที่ผมชอบไป ว่าผมชอบเขา เขาจะรับได้ไหม ผมเลยเลือกเก็บมันไว้เลือกคงสถานะเดิมกับคนที่แอบรักต่อไป

แต่แปลกเมื่อถึงเวลาที่เขาไปมีแฟน ผมกลับแอบเสียใจฟูมฝายอย่างกะคนอกหัก แต่ก็เป็นอยู่ไม่นาน ก่อนจะมองอีกคนที่ผมก็ชอบเขาเหมือนกันต่อทันที ครับ ผมหลงรักคนง่าย แล้วก็เปลี่ยนใจเอาง่ายๆ บางทีคงเป็นผมเองที่รักเขาไม่มากพอถึงไม่กล้าเสี่ยงอะไรเลย ดีแล้วที่ผมไม่ได้บอกรักคนพวกนั้นออกไป

เปิดเทอมใหม่นี่ ผมเคลียร์หัวใจตัวเองจนว่าง(ซึ่งก็ใช้เวลาไม่นานหรอก) และผมก็จัดการเติมหัวใจตัวเองให้เต็มได้ใน 1 วัน ผมตกหลุมรักผู้ชายคนหนึ่งในวันแรกของการเปิดเทอม คุณพระคุณเจ้า! ถ้าใครมาเจอแบบผม หินผาก็ยังละลายเชื่อเถอะ

ผมขอยกข้อดีของเขามาให้ชมกับเป็นข้อๆ ก่อน

  1.   เขาหล่อมาก แม้ดูเหมือนเขาจะไม่รู้ตัว แต่ผมบอกเลยว่าคนรอบตัวเขาต้องเห็นแน่นอน ลองทรงสั้น ตาโตเพราะเขาตัวโต แต่ตาดันเป็นตาชั้นเดียวเพราะดูมีเชื้อจีน จมูกโด่งอย่างกะสันอีโต้ ปากได้รูป โครงหน้าแบบชายชาตรี กับหนวดที่โกนใหม่ๆ มองใกล้ๆ ผมอยากจะเอาเล็บไปเกลี่ย! หล่อร้ายเกินห้ามใจเลยล่ะทุกคน

  2.   เขาตัวสูงมาก พอถามก็ตอบกวนตีนๆ กลับมาว่าไม่ถึง190อยู่เซ็นฯนึง นั่นทำให้ 175.5 เซนฯของผมดูสาวน้อยไปเลย เซงนิดๆครับ แต่ย้อนไปข้อ 1 ทำให้ ผมยอม!

  3.   เขาเป็นคนดีมากๆ สุภาพบุรุษสุดๆ จนทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนพิเศษ แต่เพื่อนๆ เขาทลายความฝันผมลง พร้อมทั้งยืนยันว่าเขาดีกับทุกคนเป็นปกติ (แต่ยังไงผมก็ยังคิดว่าตัวเองพิเศษโว้ย มองแรงในใจ) ถึงเพื่อนเขาจะมองว่าเขาเป็นคนดีเป็นปกติ แต่ผมซาบซึ้งเกินปกติ พูดเลย!

  4.   เขาไม่รังเกียจผม แม้ผมจะเผลอเชิญชวนเขา (อย่างไม่ตั้งใจ) แถมคงเกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว เขาก็ยังทำตัวเหมือนปกติ นั่นทำให้ผมได้ใจไปไกลมาก แล้วจะไม่ให้ผมคิดว่าตัวเองพิเศษได้ไงไหว แม้ในขณะเดียวกันผมก็สลดเพราะเขาดูไม่สปาคกับผมเลย เขาดูปกติเกินไป!

นี่แค่ข้อใหญ่ๆยังไม่ได้ไล่ลำดับอะไรยิบย่อยนะ

ทั้งหมดนี้ทำให้เขาพิเศษสำหรับผม เขาดูห่วงใยดูแลผมทุกก้าวที่เดินอยู่กับเขา เขาใส่ใจผมจนผมรู้สึกผิด

ขนาดกูที่ชอบมึงกูยังทำดีอะไรให้มึงได้ไม่เท่ามึงที่ไม่ได้คิดอะไรกับกูเลย สาดดดดดด

ภาวนาให้เขาไม่รู้ว่าผมชอบเขาต่อไปเรื่อยๆ ผมจะได้มีที่นั่งพิเศษอยู่ตรงนี้ต่อไป และพูดถึงสาวๆ ที่จะเข้าหาเขา ผมบอกเลยว่าผมสกัดเต็มกำลัง ฝันไปเถอะ! มันเป็นคนดี ผมเลยใช้ความเป็นคนดีของเขาให้เป็นประโยชน์ด้วยการทำตัวง่อยแดก ให้มันดูแลอยู่ร่ำไป

ผมฉลาดมั้ยล่ะ?

ตอนนี้ ใจหนึ่งผมสบายใจ เขาไม่รังเกียจผม แค่นี้ก็ดีมากมาย ซ้ำยังเป็นห่วงสวัสดิภาพผมมากผมนี่แสนปลาบปลื้ม แต่อีกใจผมก็ยังพะวงทำเรื่องน่าอายแถมซ้ำหลายครั้ง! เกิดผมบอกชอบมันตอนเมาทำไงอ่ะ ตื่นมาจำอะไรก็ไม่ได้อีกนี่สิ ตอนเมาถ้าผมหลุดความลับอะไรไปนี่ไม่รู้เรื่องเลยนะ คิดแล้วเครียด ผมได้กลัวมันล้อผม มันเป็นคนดีตามข้อ 3 แต่ที่ผมกลัวคือมันจะเปลี่ยนไปไม่ดีกับผมเหมือนตอนนี้ ถ้าเป็นอย่างนั้นผมคงใจสลาย อะเฮื้อกกกก

แล้วก็เลิกคิดเรื่องสารภาพรักนะ ผมไม่มีวันจะบอกมัน แม้ลึกๆ ผมจะรู้อยู่เต็มอกว่าเขาต่างจากคนอื่นๆ ที่ผมคิดว่าผมชอบ  ไม่รู้สิทุกวันนี้ผมมีความสุขดี เป็นแฟนเดี๋ยวก็ได้เลิกกัน เป็นเพื่อนเนี่ยแหละ

ค่อยให้ร่างผมตอนเมาแอบกินมันละกัน

ตอนแรกที่ผมยังไม่เจอ ผมมั่นไส้ตั้งแต่ยังไม่รู้จัก ทั้งที่ชื่อเหมือนกันทำไมเขากลับได้เลขสวยอย่าง 888 ไป แต่พอเห็นหน้าเท่านั้นแหละ เลวนั่นกลับขโมยหัวใจผมไป ทีละนิดๆ จดหมดครับพี่น้อง ตอนนี้ใจผมกลวงโจ๋โบ๋ พ่อแม็ตไม่รู้เอาหัวใจผมไปไว้ตรงไหน โคตรซึน ผมไม่ค่อยรู้หรอกว่ามันคิดอะไรอยู่ คือถ้าต้องการอะไรต้องพูดออกมาไม่งั้นผมเดาไม่ถูกจริงๆ

ความเป็นข้างรหัสทำให้ผมอยู่ใกล้ๆ ไปไหนมาไหนกับเขาได้ตลอดแค่บอกว่าเพราะเป็นข้างรหัสทุกคนก็ไม่ถามต่อว่าไปสนิทกันได้ยังไง ขอบอกว่าใกล้ชิดกว่าแฟนซะอีก แล้วคุณยังคิดว่าผมจะต้องการอะไรมากกว่านี้ครับ เราควรจะพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีนี่นา จริงมั้ย?

แต่ถ้าวันหนึ่งแม็ตมีคนเข้ามาผูกพันในชีวิต ผมจะไปอยู่ไหน นั่นเป็นอีกเรื่องนึง


........................................

จำเป็นไหมที่ผมต้องเล่าความใจง่ายของผมให้ฟัง

เปิดเทอมวันแรกครับ ผมตื่นเช้าเป็นพิเศษ ชีวิตมหาลัยวันแรกใครๆ ก็ตื่นเต้นล่ะว้า และเพราะกลัวรถติด แต่รถก็ดันไม่ติด เลยกลายเป็นผมมาถึงคณะก่อนเวลาเกือบชั่วโมง ผมเลยไปนั่งกินข้าวเช้า กับรอเวลาอยู่โรงอาหารใต้ตึก B เพราะตอนนั้นเช้ามาก นักศึกษาน้อยมาก โต๊ะข้างหลังเป็นกลุ่มใหญ่ เลยได้ยินชัดบ่นๆ ว่าทำโปรเจคยังไม่ได้นอนเลย มากินข้าวแล้วก็จะไปทำต่อ มันน่ากลัวมากนะ ถ้าทำงานข้ามวันข้ามคืนติดๆ กันหลายๆ วันแบบนั้น ผมเริ่มลังเลว่าตัวเองเลือกคณะถูกไหม แต่ก็เบาใจไปเปราะนึงเพราะดูท่าพวกพี่ๆเขาจะเป็นนักศึกษาป.โท ไม่ใช่ตรี

เริ่มใกล้เวลาคนก็เริ่มทยอนหนาแน่นขึ้น ผมมองคนเดินผ่านไปผ่านมาสลับกับเล่นเกมในมือถือ แห้งเหี่ยว เพราะเพื่อนๆ ที่เรียนมัธยมมาด้วยกัน ไม่มีคนสนิทๆ เรียนที่นี่เลย คนที่มาเรียนที่นี่ก็มีแต่พวกรู้แต่ชื่อ กับโจทย์เก่า

โต๊ะกับมุมที่ผมนั่ง หันหน้าไปทางประตูทางเข้าครับ คนหน้าตาดีคนแล้วคนเล่าเดินเข้ามา สมกับคำร่ำลือที่ว่า ว่าที่วิศวกรที่นี่ หนุ่มๆหล่อๆหนาแน่นจนติดท็อปทรีของประเทศ ผมมองเพลินตาจนคล้ายเหม่อลอย แต่อยู่ๆหัวใจก็ไปสะดุดกับผู้ชายคนนึงที่สูงสะดุดตาจนถึงกับต้องเอียงคอเพื่อเดินเข้าประตูมา

เขาสูง ขาว ตาเรียวคิ้วเข้ม ใส่แว่น ปากได้รูปเพยอนิดๆ ไหล่กว้างน่าซบ กับเสียงทุ้มที่เรียกใครก็ไม่รู้ตอนเดินผ่านผมพอดี เขาไปนั่งอยู่โต๊ะข้างหลังผมถัดไปสองโต๊ะ กับเพื่อนคนนึง ผมไม่กล้าหันไปมองอีก ผมได้ยินเสียงเขาคุยกับเพื่อน ผมจำเส้นเสียงเสียงนั้นได้ ผมกลืนน้ำลายแล้วลุกขึ้นเดินออกไปจากตรงนั้น โดยไม่หันกลับไปมองเขาเลย

ผมเดินออกไปนอกห้องกระจกแล้วนั่งลงตรงโต๊ะหินข้างนอก จากตรงนี้ผมแอบมองเขาได้โดยไม่ผิดสังเกต ผมเห็นเขายืนขึ้น มองซ้ายมองขวาเหมือนเลือกว่าจะกินอะไรจากร้านอาหารมากมาย ก่อนจะหมุนตัวเพื่อนเบี่ยงตัวออกจากโต๊ะที่เรียงติดกันเข้าออกลำบาก หัวสูงๆของเขาเกือบถึงเพดาร เพราะโรงอาหารนี้เพดารเตี้ยมาก คนคนนั้นก้มลงมองโต๊ะที่ผมนั่งเมื่อกี้ เขาเดินมาที่โต๊ะเก่าของผม?

เขาหยิบจากกับแก้วน้ำที่หมดเกลี้ยงไม่มีอะไรเหลือของผมขึ้น แล้วเดินไปทางชั้นเก็บจานใช้แล้ว!

ผมลืมเก็บจาน ทั้งที่ผมนั่งอ่านสติ๊กเกอร์รณรงค์เก็บแก้วเก็บจานข้าวซ้ำไปแล้วเป็น 10 รอบเมื่อกี้นี้

โคตรอาย

แล้วคนอะไรวะ หน้าหล่อแล้วยังใจหล่ออีก เหี้ย เหี้ยมากๆ ใจผมเนี่ยเหี้ยมาก ไม่รู้ว่าอายหรือตื่นเต้นกับคนหล่อ

ผมทำเป็นเล่นมือถือ โดยหันองศาใบหน้ากับมือถือไปทิศทางที่เขาอยู่ ผมทำอย่างนี้จนเขากินข้าวเสร็จ แล้วลุกขึ้นเดินออกมา ทันทีที่เขาเดินผ่านผมไป ผมนับ 1 2 3 จนถึง 10 แล้วลุกขึ้น เดินตามเขากับเพื่อนไปห่างๆ เดินได้ไม่ไกล เขาเดินไปทักเพื่อนอีกคนแล้วเขาก็แยกกับเพื่อนคนเดิม

ผมก็เดินตามเขาไปเรื่อยๆ จนมารู้ตัวอีกที เขาอยู่หน้าห้องที่ผมเองก็ต้องมาที่นี่ ห้องที่พี่ปี 2  นัดจับสายรหัส ผมไปลงชื่อ แล้วเข้าไปเลือกนั่งต่อแถวแถวเดียวกับเขา แต่มีคนขั้นสองคน

ตอนนั้นผมไม่ได้ชอบเขานะ ผมแค่สนใจผู้ชายคนนี้นิดหน่อยเท่านั้นเอง

ก็เขาเนี่ย เป็นคนแย่งรหัสตองอย่าง 888 ไปจากผม ผมมารู้ตอนพี่เอ็มซีสุดสวยประกาศเลข 888 ที่พี่ดาวมหาลัยจับได้ผมรอดูหนังหน้า คนอะไรว่ะ ดวงดีได้รหัสสวยแล้วยังได้พี่รหัสโคตรสวย แต่พระเจ้ากลั่นแกล้งเพราะดันเป็นเขาที่ลุกขึ้น บอกตรงๆผมโกรธไม่ลง กลายเป็นขอบคุณที่รหัส 888 เป็นของเขา

เจอกูแน่ มึงเจอกูแน่ๆ ฮ่าๆๆๆ จะใช้เป็นข้องอ้างเข้าตีสนิท ฮ่าๆๆๆ

อันนั้นแค่คิดในใจนะครับคุณไม่รู้หรอกว่าตอนที่ผมสบตาเขาตอนอยู่ในห้องจับสายใจผมสั่นแค่ไหน ขนาดเป็นคิวผมที่ต้องเดินไปหาพี่รหัสผมก็ยังเผลอมองหาเขา ตอนนั้นทำให้เราสบตากันโดยบังเอิญ เขามองผม มองทำไม? อย่ามองโว้ย กูสั่น

แล้วนึกภาพตามนะครับ บ่ายนั้นผมเข้าเรียนสาย คนเกือบร้อยมองผมเป็นตาเดียว แล้วคนที่แสดงความช่วยเหลือในช่วงเวลาที่น่าอายที่สุดเป็นคนที่คุณแอบมองอยู่ เรียกให้คุณเข้าไปนั่งด้วย

ที่ผมอุทาน “เหี้ยไรว่ะเนี่ย” ไม่ใช่เขินที่มาสายอย่างเดียว แต่คนที่เรียกผมมานั่งข้างๆเขาเนี่ย มองใกล้ๆโคตรหล่อ โคตรตื่นเต้น!

คุณจะว่าผมใจง่ายซะทีเดียวไม่ได้หรอก เพราะยิ่งรู้จักเขาผมยิ่งรู้สึกว่าตัวเองใจง่ายถูกคนแล้ว

แม่ง ดีเหี้ยๆ คนอะไรว่ะ?

เขาบอกผมว่าผมต้องนั่งตรงไหนในเวลาที่แสนฉุกละหุก ตอนรู้ว่ากระเป๋าตังกับโรศัพท์หายเขาเป็นห่วงและตื่นเต้นไปกับความซวยของผม ให้ผมยืมโทรศัพท์ทันทีโดยแทบไม่ต้องเอ่ยปากขอด้วยซ้ำ เขาเสนอตัวออกตังค่าหนังสือให้ผมก่อน

เขาชวนผมเดท เอ้ย พาผมไปหาที่รอพี่รหัสเอากระเป๋าตังกับโทรศัพท์มาให้

เป็นคนตลกร้าย (หลอกผมกินอเมริกาโน่) เห็นผมเหงาๆ ก็ชวนผมเล่นเกมด้วยกัน ชวนผมเข้าเชียร์ผมจะได้ร้องเพลงคณะเป็นเหมือนคนอื่นเขา (คนอื่นคงมองว่ามันไม่ใช่ข้อดีสินะ แต่สำหรับผมเขาดีไปหมด!) คอยมองหาผมตอนที่ผมเดินไม่ทัน รอผมโดยที่ไม่ต้องบอกให้รอ ยื่นมือเข้ามาช่วยทันทีที่มีคนมายุ่งกับผม อันนี้ขอว๊ากแบบพี่แน็ปได้ไหม? วิธีช่วยของเขาคือเอาตัวเข้าแลก อย่าคิดว่าผมไม่เห็นนะที่สาวๆทำท่ากรี้ดแล้วยกมือถือขึ้นถ่ายรูปอยู่ข้างๆ ถ่ายเลยๆ จะได้รู้ว่าคนนี้ผมจองงงงงง

สุดท้ายคือเขายอมให้ผมไปค้างด้วยทั้งที่เรารู้จักกันไม่ถึงวัน แม้เขากับพี่รหัสจะดูสนิทสนมกัน ผมเห็นนะแม็ตมองตามพี่รหัสตลอดเวลาเธอสวยมาก น่ารักแถมร่าเริงเข้าหาง่ายไม่มีอะไรที่ผมจะไปเทียบกับเขาได้เลย แต่ผมก็จะถือว่า เขาเพิ่งรู้จักกันไม่ต่างจากผม ผมต้องสู้ได้สิ ฮ่าๆๆๆ (เอ้ะๆ ไหนบอกไม่ได้ชอบ?)

วันต่อมาเขาเสี่ยงเช็คชื่อให้ผม แถมยังแนะนำผมกับเพื่อนๆเขา

รหัสติดกัน ตอนแรกนั้นผมไม่รู้หรอกว่ามันจะมีผลกับชีวิตผมมากขนาดไหน ผมรู้แต่ว่าโชคดีจัง ต่อไปเราคงได้รู้จักกัน ไม่นึกเลยว่าการที่รหัสติดกันจะมีผลให้ตัวติดกันไปด้วย



หลังจากคืนนั้นผ่านไป ตอนตื่นขึ้นมาในเช้าวันถัดมา ผมแทบช็อก เพราะตื่นมามีใบหน้าเขาอยู่ห่างออกไปไม่ถึงสองคืบ ใกล้มาก ใบหน้าด้านข้างของเขาทำให้ผมตกหลุมรักลึกลงไปอีกหลายขุม โหยยยย อย่าว่าแต่สิวเลย ผมเห็นขนอ่อนๆบนแก้มเขาด้วยเถอะ ไรผมดำสนิทตัดกับผิวขาวๆ นี่คือศิลปะ ปติมากรรมชั้นสวรรค์ ผมผมอยู่บนโลกจริงรึเปล่า ผมกลอกตามองซ้ายมองขวาทั้งที่นอนตะแคงอยู่ไม่กล้าแม้ขยับตัว ที่นี้ที่ไหนเหลือบตามองเท่าที่มองได้ คงเป็นห้องแม็ต เพราะตอนตกลงกันว่าผมไปค้างด้วยได้ผมยังไม่เมา แต่หลังจากนั้นผมก็งอนมันเป็นตุ๊ดเลยคิดแล้วอับอายตัวเอง ผมโมโหแม็ตด้วยเหตุผลที่ว่า มันทำใจผมหวั่นไหวแต่ ไม่ได้ตั้งใจ โคตรเศร้า คือถ้าตั้งใจจะกระโจนเข้าใส่ แต่นี่ไม่ตั้งใจไง ไปต่อไม่ถูกไง ความรู้สึกกูเนี่ย มึงมาเขี่ยๆแล้วก็ไป แม่งไม่เมาอย่าเรียกกูมะนาวเลยวันนี้

คิดดูนะ ในขณะที่ชีวิตคุณไม่รู้จะสลัดไอ้ผู้ชายหน้าหื่นกามออกไปยังไง คนที่คุณอยากให้มาอยู่ใกล้ๆเขาก็โพล่มา ยิ้มให้ ใจแม่งโคตรว้าวุ้นตั้งแต่ตอนนั้นเลยขอบอก ผมโทษว่าตัวเองเมา หัวใจเลยเต้นแรงกว่าปกติ และพยายามบอกตัวเองว่า ตั้งสติๆๆๆ เพื่อนๆๆๆ ไม่ๆๆๆ วันนี้เพิ่งจะวันแรกมึงยังไม่ชอบเขาจริงหรอก แค่หน้ามันหล่อมึงเลยหวั่นไหวไปเท่านั้นแหละไอ้มะนาวเอ๋ย เต้นไปๆ ทำตัวปกติ อย่าแสดงออกเด็ดขาดยังต้องใช้ชีวิตร่วมกันอีกนาน ตั้งสติๆๆๆ

แต่มันไม่ได้ทำแค่ยิ้มให้ไง มันล้อเล่นกับหัวใจผม ทำเหมือนหึงหวง(ยอมรับว่ามโน แล้วจะทำไมล่ะ?) เตะเนื้อต้องตัวผม ทำเหมือนไม่แคร์สายตาใครทั้งที่ผมเองก็เป็นผู้ชายเหมือนกับเขา ความหวังมันพองเต็มใจ แต่ตอนที่เขาบอกว่าทำไปเพราะช่วยผมต่างหากไม่ได้ทำไปเพราะชอบผม ผมเหมือนลูกโป่งที่ถูกแก้มัดแล้วปล่อยให้ลมพุ่งออกเองตามยถากรรมพุ่งไปมาแล้วสุดท้ายก็นอนเหี่ยวเป็นลูกโป่งแฟบๆเสียทรงเพราะเคยยืดออกจนสุดมาแล้ว กลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้อีก

ตอนนั้นไม่มีอารมณ์หรอกนะจะมาให้ความหวังตัวเองว่าแบบเออ ยังไงก็ยังดีนะมึงเขาเป็นห่วงยังดีกว่าไม่ห่วง ไม่มี ความรู้สึกนั้นเลย คิดไม่ทัน ก็ผมเมาแล้วจะไปคิดอะไรออก คนเมาเขาคิดแง่ดีไม่เป็นหรอกคุณ ไม่ต่อยหน้ามันซ้ำก็บุญโขแล้ว

ผมเลยมอมตัวเองแบบคนโง่ๆคนนึง ด้วยการเดินเข้าไปให้รุ่นพี่แกล้ง แล้วผมก็จำอะไรไม่ได้อีก...

ภาพตัดกลับมาในตอนเช้า ผมนอนอยู่บนเตียงเดียวกับมนุษย์แม็ต แม่งอย่างกะเทวดา นี่ขนาดหลับนะ ถ้าลืมตาแล้วยิ้มให้อีก ตายยย กูตายย

ผมนอนหายใจทิ้งๆไปอย่างนั้น มองคนนอนข้างๆไปเรื่อย จนเขาขยับตัวเปลี่ยนเป็นนอนตะแคง หันหน้ามาทางผม อื้อหื๋อ จากสองคืบเหลือไม่ถึงคืบแล้วตอนนี้ ผมทนไม่ไหว ลุกขึ้นโวยวายกลบเกลื่อน

“อร้ากกกกก ปวดหัว แม็ต มึงมียาแก้ปวดมั้ยวะ” ตื่นเถอะมึง กูทนมองมึงต่อไม่ไหวแล้ว ผมลุกมานั่งกุมหัวปิดตาอยู่ปลายเตียง

“ตื่นแล้วเหรอ ตื่นนานยัง”

แม็ตลุกผ่านผมไป ยืนบิดขี้เกียจ แล้วหยิบกล่องยามาเปิดให้ผม แม่งมียาทั้งชุดสามัญเลย คุณหนูเหมือนกันนะมึง

ผมทำสิ่งที่ไม่ควรทำครับ นั้นคือเหลือตามองหน้ามันตอนรับยามา

“เดี๋ยวนี้แหละ ขอบใจ” เสียงผมสั่นๆๆๆ

แม่งพลังทำลายล้างมึงสูงมาก ขนาดเพิ่งตื่น ตาปรือๆ มึงยังขนาดนี้ ถ้าแต่งองครบจะขนาดไหน นอนต่อก็นอนไม่หลับ ผมเลยถามเวลาถามหาของกินไปเรื่อย แล้วก็ขอตัวกลับก่อน เพราะให้นอนต่อยังไงก็นอนไม่หลับ กลับไปตั้งหลักก่อนดีกว่า

ผมกลับบ้านไปร้านทำผมร้านประจำให้เจ้สุดสวยโกรกสีผมให้เข้มขึ้น ไม่ให้พี่ว้ากว่าได้ เพราะดูท่าผมจะได้ตามผู้ชายเข้าเชียร์ทุกครั้งเลยนะเนี่ย ไม่ได้ใจง่ายนะ แต่เขาชวนก็ไปกับเขาหน่อย

“น้องนาวทำสีเข้มแล้วหน้าดูผ่องๆนะ ดูดีอ่ะ”

“เจ้เฟิร์นจะชมผมหล่อก็พูดตรงๆ ก็ได้”

ตอนนี้เจ้เฟิร์นกำลังไดรผมผมให้แห้งอยู่ครับ

“หล่อเหล่ออะไร ฉันไม่เรียกเธอตาหนูเหมือนเมื่อก่อนก็บุญล่ะ” เจ้แกเลี้ยงผมมาตั้งแต่เด็กๆครับ บ้านผมอยู่ตรงข้ามบ้านเจ้ ป้อนข้าวป้อนน้ำมาตั้งแต่จำความไม่ได้ รับเลี้ยงผมมาทั้งสามพี่น้องเลยครับ

ผมย่นหน้า ไม่อยากให้เรียกตาหนู ผมโตเป็นควายแล้วนะฮับ!

“เอ้ะ! หรือจะมีความรัก?”

“...” ผมไม่ได้ตอบ แต่เม้มปากใส่กระจก

“น้องนาว อย่าเพิ่งรีบสิ นี่เพิ่งเปิดเทอม ชีวิตนี้ต้องเจออะไรอีกเยอะแยะมากมาย คนที่ชอบวันนี้ วันหน้าเราอาจจะเหม็นขี้หน้าเขาที่สุดก็ได้ คนที่เราเกลียดวันนี้เขาอาจจะเป็นคู่ชีวิตที่ดีที่สุดของเราก็ได้ คนเราการให้เวลากันเป็นสิ่งสำคัญนะ นาวยังเด็ก พี่ไม่ได้ห้ามมีแฟนหรือมีความรัก เพียงแต่ไม่อยากให้นาวต้องเจ็บเพราะความรัก แบบเจ้”

เจ้เฟิร์นเป็นคนสวยครับ สวยมาก ก่อนเปิดร้านเสริมสวยเมื่อก่อนทำทั้งเอ็มซีทั้งพริตตี้ มีคนเข้าหาเขามากมาย แต่ก็แค่ฉาบฉวย พอเริ่มจะตกลงปลงใจลงหลักปักฐานกับใครสักคน ก็จับได้ว่าผู้ชายมีคนอื่นอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่หลายๆครั้งจบในทำนองเดียวกันคือผู้ชายเข้ามาหลอก ไม่มีคนอื่นอยู่แล้วก็ไปมีคนอื่นอีก ตอนนั้นผมยังเด็กไม่ค่อยเข้าใจหรอก ย้อนคิดตอนนี้คงเพราะเจ้สวยคนที่กล้าเข้าหาก็มีแต่พวกกล้าได้กล้าเสีย เลยไม่พ้นจบลงไม่สวยทุกที เจ้เลยเข็ดกับความรักมาหลายปีแล้ว

“เจ้พูดซะผมไม่กล้ารักใครเลย” ฟังเจ้พูดแล้วผมก็เศร้าตาม

“ไม่เอาน่า ความรักไม่ได้ผิดนะ คนมีความรักต่างหากที่ตาบอดเลือกทำอะไรผิดๆ”

“ผมจะไม่รีบแล้วกัน รอดูกันยาวๆ”

“แสดงว่ามี ว่าแต่ เป็นเพื่อนหรือรุ่นพี่”

“เจ้อ่ะ...”

“เพื่อน?” พอผมไม่ตอบ เจ้ก็เริ่มเดา

“อื้ม” ผมเชิดคางใส่กระจก

“แล้ว หล่อไหม?”

“มาก” ผมตอบแค่นั้น เจ้ก็เฉดหัวส่งผมลงจากเก้าอี้ทำผม ประมารว่ามั่นไส้ผม ฮ่าๆๆ

เจ้เฟิร์นเป็นคนไม่กี่คนที่รู้ว่าผมเป็นเกย์ครับ และรู้ด้วยว่าผมใจง่ายชอบคนโน้นคนนี้ไปเรื่อย เวลาผมเซงๆอกหักมาจะมานั่งนี่ไม่ยอมกลับบ้าน นั่นยิ่งทำให้เจ้เป็นห่วงว่าผมจะเอาตัวไม่รอดถ้าเกิดอะไรขึ้น

  ก่อนไล่ผมกลับไปเรียนยังกำชับผมว่าให้ถ่ายรูปคนที่ผมชอบกลับไปให้ดูด้วย ผมถ่ายไว้นะครับ ตอนเซ็ตผมให้แม็ตเสร็จในเย็นวันนั้นผมก็ถ่ายไว้ เพียงแต่ผมไม่ได้กลับบ้าน เลยไม่ได้ให้เจ้ดู ฮ่าๆๆๆ

จะว่าไปผมไม่น่าเซตผมให้เขาเลย หล่อจนแสบตา หล่อจนเดินเข้าร้านไปมีแต่สาวๆหันมองจนเหลียวหลังตาม พลาดๆ

เพื่อนโรงเรียนเก่าแม็ตวันนั้นที่ผมเจอ น่ารักทุกคนครับ เว้นอยู่คนที่ผมติดใจ คนที่ชื่อน้ำนิ่ง เขามองผมแปลกๆ แล้วก็คอยมองแม็ตอยู่แทบจะตลอดเวลา เขาเป็นคนที่รู้จักแม็ตดี ดีจนผมเข้าไม่ถึง ถ้าใช่อย่างที่ผมคิดผมคงแห้ว ผมเลยภาวนาให้ไม่ใช่ จนผมพลั้งปากถามเขาไปตรงๆ  ว่าน้ำชอบเขาใช่ไหม แล้วเขาชอบน้ำไหม คิดไปคิดมาผมไม่น่าถาม คำถามที่เหมือนจับแฟนที่มีกิ๊กแบบนั้น คิดแล้วกลุ้ม เพื่อนที่ไหนเขาถามคำถามแบบนั้นกันว่ะ แม้คำตอบจะทำให้ผมเบาใจ แต่ผมก็ยังไม่สบายใจ พวกเขาเป็นเพื่อนกัน เขาอาจจะมีบางอย่างในใจที่ไม่สามารถพูดออกมาก็เป็นได้ ผมยังมีเลย สรุปถามไปก็ไม่สบายใจอยู่ดี!

ผมลังเลมากๆ ว่าจะอยู่อย่างนี้ต่อไป หรือตัดใจปลีกตัวออกมาตั้งแต่เนิ่นๆดี แต่ความพยายามที่จะตัดใจของผมพังลงไม่เป็นท่า เพราะอีกฝ่ายนอกจากจะไม่ให้ความร่วมมือแล้ว เขายังทำให้ผมได้ใจไปถึงไหนๆ ดูแลผมมากว่าที่ผมรู้ เพราะแน่ๆตอนเมาที่ผมจำอะไรไม่ได้เลยนั้น เขาเป็นคนพาผมกลับมาห้องตามที่ให้สัญญากับผมไว้จริงๆ

เห็นไหมครับ เขาเป็นคนดีจนผมไม่อยากขัดศรัทธา


หลังจากวันนั้นผมก็ตั้งหน้าตั้งตาทำตัวเป็นเพื่อนที่ดีของมันครับ เนียนๆ กันไป ไม่ได้พยายามปกปิดความในใจ เพียงแต่ผมไม่อยากพูดออกไปตรงๆ การมีข้อผูกมัดอาจจะทำให้ความสัมพันธ์เราจบลงเร็วกว่าที่ควร ผมอยากเรามีเวลาให้เขามีใจให้ผมบ้าง ให้เขาผูกพันกับผมสักหน่อย ให้เขาได้มีช่วงเวลาที่ลังเล ดีกว่าพลีพลามพูดไปแล้วถูกปฏิเสธตั้งแต่ยังไม่ทันรู้จักกันดี   

ผมไม่ได้กลัวการเดินไปข้างหน้า แต่ผมอยากรักอย่างมีสติอย่างที่เจ้เฟิร์นเตือน เพราะตอนนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองหลงเขามากจนโงหัวไม่ขึ้น ไปไหนไม่รอด ผมไม่เคยรู้สึกกับใครมากขนาดนี้เลย มันมากจนผมเองยังกลัว


คุณก็ดูหน้าเขาสิ  น่าหลงน้อยๆ ซะที่ไหน!



-----------------------
TBC.


มาสักที มะนาวพาท
ฝั่งนี้ไม่ต้องพูดพล่ามทำเพลงค่ะ ชอบเขาตั้งแต่ก่อนรู้จัก ยอมตั้งแต่หน้าปะกะตู ฮ่าๆๆๆๆ
มาแวะฝั่งมะนาวแปป สักตอนสองตอน ก่อนจะเดินเรื่องต่อเนอะ


ติชมกันได้เหมือนเคยน้าาา ติเยอะๆ หลังไมค์ก็ได้ เค้ารับทุกความคิดเห็นนะจ๊ะ

หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 8 มะนาว :ผมเป็นคนใจง่าย] 6/2/59 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-02-2016 04:11:40
มะนาวลูก หนูอ่อยแรงมากอะ~~~
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 8 มะนาว :ผมเป็นคนใจง่าย] 6/2/59 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 06-02-2016 05:05:43
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 8 มะนาว :ผมเป็นคนใจง่าย] 6/2/59 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 06-02-2016 10:06:53
โถ มะนาว นึกว่าซื่อๆ ใสๆ ไม่ได้อะไรมาก
ที่จริงจี๊ดสมชื่ออยู่นะ เอาใจช่วยแล้วกัน อย่าไปใจง่ายกับคนอื่นล่ะ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 8 มะนาว :ผมเป็นคนใจง่าย] 6/2/59 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: PaiPo ที่ 07-02-2016 19:40:12
มะนาวมาแวร้ง แหมมมมม จ้องจะกินเขาอยู่ตั้งแต่แรกแล้วก็ไม่บอก
แบบนี้ไม่หึงหวงเขาแทบจะตลอดเลยเร้อะ ร้ายนะเธอ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 8 มะนาว :ผมเป็นคนใจง่าย] 6/2/59 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 10-02-2016 14:28:59


พอได้อ่านเรื่องของมะนาวก็เข้าใจอะไรได้ดีขึ้นมากเลย
อดทนมากเลยนะลูก... ทำแบบนี้แน่ใจแล้วใช่ไหมว่าจะไม่เจ็บปวดหากแม็ตโดนสอยไปต่อหน้าต่อตา?

รอติดตามตอนต่อไปค่ะ ^^  :pig4:

หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 9 มะนาว : ไล่ก็ไม่ไปแล้วนะ] 17/2/59 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 17-02-2016 02:05:24

- บทที่ 9 - มะนาว : ไล่ก็ไม่ไปแล้วนะ -



--------------------------


“เย็นนี้ใครนอนดึกบ้าง”

“ไมเหรอ? อยากเล่นเซ็กซ์โฟนดึกๆ เหรอ เค้าว่างนะตัว”

“ป่าว กูถามไว้เผื่อกูเป็นศพให้เก็บ เย็นนี้มีเลี้ยงสายรหัส มายันพี่บัณฑิต คงยาว”

“ก็กูไปรับไง ยังไงมึงก็มานอนห้องกูอยู่แล้วนี่”

“เผื่อมึงรีบนอน”

“ไม่หรอก กูรอตีฮอน นัดกับพวกไอ้โป่งไว้ น้ำด้วย”

“งั้นกูจะไลน์ไปก่อนเมานะ” 

ผมลอกการบ้านเสร็จ ทุกคนก็เริ่มแยกย้ายไปเรียน เหลือผมกับพ่อหล่อสุดใจไปเรียนกันสองคน แค่เดินข้ามถนนพวกผมเลยไม่ขับรถ ขี้เกียจหาที่จอดรถอีกรอบ


“มึง เดี๋ยวนะ ฝากถือนี่ด้วย” ตอนกำลังจะข้ามถนนใหญ่ที่ตัดผ่านกลางมหาลัย ผมรับหนังสือจากมือแม็ตมางงๆ แล้วมองตามพ่อยอดขมองอิ่มเดินเร็วๆออกไปข้างหน้า ไปหารถเข็นไก่ย่างที่ผมจำได้ว่าปกติจะขายอยู่ฝั่งตรงข้ามข้างป้ายรถเมล์

แม็ตไปช่วยคุณป้าเข็นรถข้ามถนนครับ ตัวโตๆประคองรถเข็นคนเดียวได้สบายๆ ผมมองอึ่งๆ ก่อนจะเดินตาม 

แม่งงงง เป็นคนดีซะจนกูดูเหี้ยไปเลย

ผมเลยเนียนๆเข้าไปยืนโบกรถให้ระวังรถเข็นครับ คนอื่นจะได้มองเราคู่ควรกัน อิ

มาถึงฝั่งตรงข้าม มันก็ยังช่วยคุณป้าเข็นขึ้นฟุตบาท เข็นจนถึงที่ประจำ แถมยังช่วยเอาไม้ขัดล้อรถกันรถไหลอีก มันรู้ได้ไงว่าไม้สองท่อนใต้รถนั่นเอาไว้ขัดล้อว่ะ?

“คุณลุงไม่มาด้วยเหรอครับวันนี้?” แน่ะ ยังมีกะจิตกะใจหว่านเสน่ห์ให้คุณป้าอีก

“วันนี้ลุงไม่ค่อยสบาย ป้าเลยไม่ให้แกมาด้วย”

“อ้อ เหรอครับ นาว มึงกินไร หยิบเลยกูเลี้ยง” แม็ตพูดครับ นี่มึงรู้ได้ไงว่ากูคิดจะกินไก่ป้า! ป้าแกย่างไว้บางส่วนแล้วครับ พร้อมขาย ไก่เต็มถาด

“งั้น กูเอานี่ อ่ะ”

ผมหยิบตับสองไม้ ส่วนแม็ตกำลังเลือกไก่มาได้อีกสามไม้ ป้าจัดการใส่ถุงแล้วบอกว่าไม่คิดเงินพยายามยัดเยียดมาให้แล้ว มีหรือพ่อยอดสุภาพบุรุษจะยอม

“ป้ารับไว้นะครับ ของซื้อของขาย กำไรก็ไม่ได้เยอะ ลุงก็ไม่สบายอยู่ไม่ใช่เหรอครับ”

“ไม่เอาหรอกพ่อหนุ่ม หนูบอกเพื่อนสิว่าป้าไม่คิดตัง” ป้าหันมาให้ผมช่วยพูด

ป้า นี่ป้าสัมผัสได้สินะว่าผมเป็นมนุษย์ธรรมดาที่เห็นของฟรีแล้วแพ้ราบคาบ 

ผมมองตัง แล้วเงยหน้ามองแม็ตที่ยืนอยู่ข้างๆ มือข้างนึงรับถุงไก่มาแล้ว อีกมือถือเงินจะจ่ายให้ได้

ผมพูดไม่ออกครับ จะรับน้ำใจป้าก็เป็นการขัดจิตใจอันดีของเพื่อน จะขัดศรัทธาป้าก็เป็นการฝืนธรรมชาติของจิตใจผม ผมเลยได้แต่ทำตาปริบๆ ไม่ได้พูดอะไร

ไอ้แม็ตมันหัวเราะในคอ หัวเราะอะไรของแม่งว่ะ

ก่อนมันจะก้มลงมาหาผม

แม่งก้มมาไมว่ะ แม่งอย่าจูบกูตรงนี้นะ กูยังไม่พร้อม!

“เดี๋ยวกูวางตังแล้ววิ่งเลยนะ”

อ้าว มันก้มลงมาข้างหูกระซิบบอกผมครับ ผมที่จิตนาการไปเองเขินไปเองเมื่อกี้ยังไม่ออกจากภวังค์มโนดี มันก็วางตังแปะลงบนถาดว่างๆ แล้วฉุดแขนผมออกวิ่งหนีป้า เขามีแต่วิ่งราว อันนี้จ่ายตังแล้ววิ่งกลัวเขาไม่รับตัง เออ ดี

“ฮ่าๆๆๆ” หัวเราะร่าเลยนะมึง

ป้าทำท่าถอนหายใจ แต่ก็หยิบแบ้งห้าสิบขึ้นโบกลา

“ขอบใจนะพ่อหนุ่ม วันหลังป้าแถมไก่ให้แล้วกัน” ป้าแกตะโกนตามมา

ออกมาไกลสักระยะผมก็ลากให้มันหยุดวิ่ง มึงๆ กูซี่โครงบานแล้ว ไม่ได้ขายาวแถมเป็นนักกีฬาแบบมึงนะ

“พอ พอ กูเหนื่อย แฮ่กๆ”


ที่เอ้กับพงศ์บอกผมเมื่ออาทิตย์ก่อนท่าจะจริง  “ไม่รู้ฉายาพ่อแม็ตของเราซะแล้ว ขานี้เขาไม่อะไรหรอกค่ะ ใจดีกับทุกคน จนชะนีแท้ชะนีเทียมหลงใหลได้ปลื้มจนคิดว่าคุณพ่อแกมีใจหรืออ่อยนั่นเองค่ะ แต่ไม่จริง คุณพ่อใจดีเป็นปกติ ได้ฉายา แม็ตพ่อทุกสถาบันเลยค่า

นี่ขนาดป้าขายไก่ย่างยังหลงนาง งานพรีเมี่ยมจริงๆ

“เย็นนี้มึงมีเลี้ยงสายรหัสที่ไหน?” แม็ตถามผม ผมหันไปมอง แม่งกำลังกัดตับผมกิน มึงเลือกเนื้อไก่มาทำไมกินตับกูว่ะหา!

ผมแค่คิดจะเถียงว่า ‘มึงกินตับกู’ ก็เปลี่ยนใจไม่พูดอะไรดีกว่า ผมแย่งถุงไก่ย่าง หยิบไม้ที่แม็ตมันเลือกมากินประชด

“ไม่รู้ พี่เทไม่บอกอะไรกูเลย บอกแค่ให้เปลี่ยนชุดไปให้เรียบร้อย กับล้างท้องรอได้เลย พี่บัณฑิตมีแต่สายโหด แล้วเก็บกดด้วย เห็นว่านะ ทำงานมาคงเครียด”

“สายมึงนี่คนเยอะดีเนอะ กูเห็นคนอื่นๆเขาก็เลี้ยงกันยกสายๆ กูไม่เจอใครเลยนอกจากพี่โนอา”

“เออ ไม่เคยเห็นลุงมึงเลย แต่ปู่มึงอยู่ญี่ปุ่นใช่ป่ะ โคตรเจ่ง”

“พี่บอกว่าลุงไทร์”

“โห โหด แต่พี่มึงเทคมึงดีนะ เจอกลางวันก็เลี้ยงข้าว ตอนเย็นก็เรียกไปกินข้าว ดีออก คนเยอะๆใช่จะดีนะมึง ยิ่งแก่ยิ่งรับมือยาก”

“ก็คงงั้น”

เราเข้าห้องเรียนพอดี ก็เป็นการจบบทสนทนา

วันนี้ผมมีเลี้ยงสายรหัสครับ ผมค่อนข้างกังวน ตั้งแต่รู้ว่าพี่เทจะพาไปเลี้ยง มีปีหนึ่งคนเดียว ผมต้องโดนแกล้งแน่ไม่ต้องเดาเลย ที่ผมห่วงก็คือว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมจะไม่มีแม็ตไปด้วยน่ะสิครับ กระวนกระวายยังไงบอกไม่ถูก จะชวนมันไปด้วยก็ไม่ได้ แล้วพอมันไม่ไปด้วยเมาเสร็จจะไปนอนห้องมันก็แปลกๆ คือไปด้วยกันกลับด้วยกันมันปกติครับ แต่นี่ผมเมาแต่เจ้าของห้องต้องมานั่งรอนอนรอดึกๆดื่นๆ มันก็เกรงใจเป็น เมื่อวันก่อนผมถึงมีความคิดอยากหาหออยู่ แต่ก็โดนทุกคนห้าม ความคิดเรื่องมีหอเป็นของตัวเองจึงตกไป

วันนี้อีก ผมก็ห่วงตัวเองนะ กลัวจะไม่มีที่นอน คือตอนนี้นอนห้องพงศ์ห้องน้ำหรือห้องเอ้ก็ได้เพราะเริ่มสนิทกับทุกคน พอจวนตัวเข้าก็เลยถามทุกคนว่ามีใครว่างมั้ยคืนนี้ ไม่กล้าออกปากบังคับแม็ตรอตรงๆ นั้นเอง ผลก็เป็นอย่างที่คาดครับ พ่อเต็มใจรอผม(มโนล้วน) แต่ผมก็เกรงใจจริงๆนะ คือไม่อยากให้เขารู้สึกว่าผมเป็นภาระมากไปกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ บางทีคนเราสนิทกันก็ไม่ใช่ว่าจะใช้โน้นใช่นี่ได้ทุกอย่าง ยิ่งเป็นมันผมยิ่งไม่อยากให้รู้สึกว่าผมเป็นภาระของเขา

แต่ในขณะที่ผมพยายามสร้างช่องว่างให้เขาได้หายใจให้เขาใช้ชีวิตของตัวเองโดยไม่มีผมบ้าง ดูเหมือนเขาจะไม่รู้สึกตัวเลย เขาทำทุกอย่างให้ผมมากมาย เขาทำดีกับผมทุกวันๆ ความคิดที่จะอยู่ห่างๆจากเขามันทำได้ยากขึ้นทุกทีๆ เขาไม่ได้รู้เรื่องเลยว่าใจผมมันอ่อนยวบยาบ แค่เขาพยักหน้าเรียกให้ผมเดินตาม ผมก็แทบจะล่องลอยปลิวไปซบอกเขาอยู่แล้วให้ตายสิ


......................................


แล้ววันนั้น พลังแฝงที่ผมนึกว่าตายจากผมไปแล้วก็ตื่นขึ้นอีกครั้ง พลังแฝงอะไรน่ะเหรอครับ พลังแฝงดึงดูดผู้ชายให้เดินตามไง
อย่างที่รู้ ผมเป็นเกย์ แต่ไม่เคยมีแฟนเป็นเกย์หรือผู้ชาย เพราะ ผมถูกผู้ชายตามจีบตั้งแต่เด็กจนรู้สึกกลัวพวกคนที่เข้ามาจีบ พอจะเข้าใจไหมครับ ขยาดการถูกจีบ หรือผู้ชายที่เข้ามาคุยแบบแปลกๆ ผมเข็ดไปหมด แปลกนะ กลัวแต่ตัวเองก็เป็น ทำไมอ่ะ ก็ผมยอมรับความจริง ผมเป็นผมก็บอกเป็น ผมไม่ชอบผู้หญิง แต่ผมก็ไม่ได้อยากมีรูปลักเป็นผู้หญิงด้วย ผมอยากเป็นอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ พอ!

อ้าวนอกเรื่อง

กลับเข้าเรื่อง ในวันนั้นที่ผมมีเลี้ยงสายรหัส แค่เดินเข้าร้าน(ผมเดินไปคนเดียวพวกพี่เทรออยู่ พี่บัณฑิตยังไม่มา) ก็มีโต๊ะที่ผมเดินผ่านชวนไปนั่งด้วย พอมานั่งที่โต๊ะกับพี่เทสองคน ก็มีผู้ชายแปลกหน้าสองคนมาขอชนแก้ว ตอนแรกผมนึกว่าเพื่อนพี่เท แต่พอเขาถาม

“สองคนชื่ออะไรเหรอ ไปต่อกับพวกพี่ไหม” ผมถึงเข้าใจว่าไม่ใช่คนรู้จัก

แต่เซ้นส์พี่ผมไวกว่า ตอบไปทันที

“อ้อ พอดีเมียไม่ให้กลับดึก ไอ้น้องผมก็เดี๋ยวแฟนมา ขอโทษนะครับ” ผมแค่พยักหน้าสนับสนุน เล่นเอาหนุ่มหล่อสองคนนั้นมองหน้ากันเลย

 ไล่เขาไปได้ พี่เทใส่ผมทันที

“ปกติกูอยู่คนเดียวมีแต่สาวมาขอไลน์ พออยู่กับมึงนี่ ผู้ชายตามกันเป็นแถว”

“ตามพี่รึเปล่า” ผมโบ้ยพร้อมๆ ยกแก้วขึ้นจิบ จริงๆผมรู้อยู่เต็มอกว่าผมเนี่ยแหละต้นเหตุ

ตอนเด็กๆ สมัยมัธยม ก็มีเพื่อนมาบอกว่าแอบชอบบ้าง รุ่นน้องตามให้ของทำนั่นทำนี่ให้เพื่อเกาะกระแสคู่จิ้นบ้าง รุ่นพี่ตะโกนบอกน้องๆพี่จะจีบน้องจนทำให้ผมรู้สึกอับอายบ้าง ผู้ชายสองคนแข่งกันจีบผมให้ติด ก็เคยมาแล้ว ตอนแรกก็คิดว่า อ้อ โรงเรียนผู้ชายเยอะไง ก็ปกติเล่นๆแซวๆกัน ที่มาก้อร่อก้อติส่วนใหญ่ก็รู้จักกันทั้งนั้น แม่งไม่รู้จีบจริงจีบเล่น หรือจีบกะอิเทรนกัน แต่พอเริ่มโต เสาร์อาทิตย์ไปเรียนพิเศษก็ยังโดน ผมเลยเริ่มแน่ใจ ว่าตัวเองหนังหน้าดีพอตัว แม่งขนาดไม่รู้กูนิสัยยังไงมึงยังกล้าเข้ามาจีบ ไม่คิดบ้างเหรอว่าหน้าดีนิสัยอาจจะเลวก็ได้

“อ้อ วันนี้มึงไม่ได้พกไม้กันหมามาด้วย”

“...ผม ผมลืมกินยาลดความหล่อต่างหาก”

“แถนะมึง”

“วันนี้พี่ที่มาชื่ออะไรกันบ้างนะพี่ เดี๋ยวผมเมาแล้วจำไม่ได้ชัวร์ ขอท่องจำก่อน” ผมเปลี่ยนเรื่อง ซึ่งพี่เทก็หลอกล่อง่ายครับ พอหลากถามปุ้บก็ตอบปั้บ ฮ่าๆๆ เข้าทาง

“พี่กู ลุงมึงชื่อโจ้ พี่ปีสี่มีสองคนนะ พี่วีกับพี่ขุน นี่ไง พี่ขุนมาพอดีเลย”

“หวัดดีครับพี่ขุน”

“เออ เจอกูจนเบื่อแล้วสิพวกมึง” ก็ไม่เชิงครับ เพราะตั้งแต่เปิดเทอม มาเลี้ยงกับพี่ๆในห้องสองสามครั้ง พี่แกก็มาทุกครั้ง ผมก็ต้องจัดใหญ่จัดเต็มกับแกทุกครั้งไป ไม่ใช่จัดอย่างว่านะ หมายความว่าจัดแก้วไปให้เต็มเพื่อให้แกสั่งเบาๆเสียงเหี้ยมๆว่า หมดแก้ว... อย่า อย่าให้ถึงทีกูเป็นพี่บ้าง “วันนี้กูจะดูน่ารักไปเลยถ้ามึงเจอแก่ๆสายเรา”

“ใครโหดสุดพี่”

“พี่ชนะ รุ่น 44”

“อื้ม จริง แล้ววันนี้แกบอกจะมาด้วย มึงเตรียมตัวเตรียมใจไว้เลย ปีที่แล้วกูได้ถอดเสื้อวิ่งผ่านหน้าเซเว่นตอนเที่ยงคืน สามรอบ เสื้อก็ต้องเหวี่ยงๆรอบหัวไปด้วย” พี่เททำท่าให้ดู ผมนึกภาพตัวเองทำแบบนั้น โห แค่คิดก็สยอง รู้ไหมครับว่าเซเว่นหน้าซอยร้านเหล้าเนี่ย เที่ยงคืนคนเยอะกว่าเที่ยงวันอีกกกกก


แต่วันนั้นเหตุการณ์กลับตาลปัตร เพราะเมื่อพี่ชนะมาถึง ผมแนะนำตัวก่อนตามประเพณีเสร็จสัพ เงยหน้าขึ้นสบตาพี่แกเพื่อขอชนแก้ว ผมเห็นอะไรบางอย่างในตาพี่ชนะครับ

ทำนายไว้เลยถ้าคืนนี้ไม่โดนไอ้หมอนี่จีบ อย่าเรียกผมว่ามะนาว

“น้องมะนาวเหรอ” อย่า มึงรับชนแก้วกูแล้วอย่ามองกูด้วยสายตาแบบนั้น!

“ครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ” ผมแค่พูดตามมารยาท แต่ดูเหมือนเขาจะชอบใจมาก

“อื้มๆ หลานคนเล็กทั้งทีจะดูแลอย่างดีเลย”

“พี่ถืออะไรมา” พี่เททักพี่ชนะ หยิบกล่องที่เขาถือติดมือมาพลิกๆดู

“กล่องเพิ่มความสัมพันธ์ มา เอามือถือทุกคนมาใส่กล่อง” ไม่ต้องอธิบายอะไรมากมายครับ ทุกคนเข้าใจดีว่าแบบนี้แปลว่า วันนี้จะไม่มีสังคมก้มหน้า

“พี่แม่งเผด็จการ”

“...” ผมหยิบมือถือตัวเองออกมา ในหัวหมุนไปหมด จะบอกแม็ตยังไง จะเรียกมันมารับได้ไง ถ้าเรียกไม่ได้กูก็ต้องไม่เมา คิดได้อย่างนั้นก็ตั้งสติบอกตัวเองว่าคืนนี้จะไม่กินจนเมาพับจะต้องครองสติกลับหอเองให้ได้ หรืออย่างน้อยก็จนกว่าวงจะเลิกแล้วโทรตามมันก่อนสิ้นใจ

พี่ชนะถามนั้นถามนี่ผมนิดหน่อยหลังจากนั้นก็หันไปคุยกับรุ่นพี่รุ่นน้องเขาตามประสาคนไม่เจอกันนาน แต่แป็บๆเรียกผมชนแก้วๆ จนผมเริ่มเบลอ แม่ง ยังไม่ห้าทุ่มเลย กูจะไปแล้ว ปลีกตัวก็ไม่ได้ ทำไงดี โทรไม่ได้ ไลน์ก็ไม่ได้

ผมจะทำไงล่ะเนี่ย...

“มะนาวอยู่หอแถวไหนเดี๋ยวเลิกพี่ไปส่ง”

“อ้อ เปล่าครับผมไม่ได้อยู่หอ ปกติผมขับรถกลับบ้านแต่”

“เมางี้จะขับกลับได้ไง”

“มันไม่กลับพี่ มันนอนห้องเพื่อนได้” พี่เทช่วยตอบให้

“จะดีเหรอ ไปคอนโดพี่ก็ได้นะใกล้ๆ”

ไม่ ผมไม่ไป ผมไม่ไปไหนทั้งนั้น ผมคิดแต่ผมพูดไม่ได้ เพราะผมพยายามส่ายหน้าผมรู้สึกโลกหมุนมาก แม่งงงงง กูยังไม่ได้ไลน์บอกแม็ตเลย แม่งงงงง สติจ๋า ลาก่อน


ครับ หลังจากนั้นผมก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย ไม่ได้จริงๆ เชื่อผมสิ

ในภาพเบลอๆ ผมอยู่ในห้องโทนสีฟ้าที่ไม่คุ้นเคย ที่นอนก็กลิ่นแปลกๆไม่ชิน คนที่กำลังเดินเข้ามาก็ไม่ใช่คนที่ผมหมายตา

“เฮ้ย!” ผมสะดุ้งตื่นสุดตัว ไม่รู้คนในฝันนั่นเป็นใคร แต่มันคือฝันร้าย!

ผมมองไปทั่ว มุมเดิมกับที่มองอยู่ในฝัน ซ้าย ขาว ห้องสีคลีม ตู้เสื้อผ้ามีกระจกบานใหญ่ ใช่หมด แล้วคนล่ะ คนอยู่ไหนเตียงข้างตัวว่างเปล่า คนหาย ผมมองหาแม็ตไปทั่วห้อง

อ้อ

ผมที่คงทำหน้าเหวอสุดขีด หันไปเจอแม็ตนั่งอยู่ตรงโต๊ะหนังสือ เปิดโน้ตบุคใส่หูฟังอยู่แต่มองมาทางผมเหมือนกัน

เออ กูกลับมานี่ได้ไงไม่รู้ แต่กลับมาแล้วก็หมดห่วงเรื่องฝันร้ายเมื่อกี้ล่ะว่ะ แม่ง

“เป็นอะไรรึเปล่า?” แม็ตขมวดคิ้วถามผม

 “เปล่า เห้อ กูนึกว่ากูไม่ได้นอนนี่” ผมเลยถอนหายใจโล่งออกออกมาโคตรยาว

“มึงไม่นอนนี่แล้วจะไปนอนไหน” แม็ตถอดหูฟังลุกขึ้น เดินไปทางตู้เย็น เขาทำสิ่งที่ผมโคตรปลาบปลื้มอีกแล้ว หยิบยากับน้ำมาให้ทันที ผมพยายามก้มหน้าทำเป็นปวดหัวทั้งที่ ที่จริงผมพยายามซ่อนใบหน้าปลื้มปริมไว้

“ก็... ขอบใจว่ะ ก็เมื่อคืนที่กูจำได้อย่างสุดท้ายคือพี่เทจะให้กูไปนอนห้องเขาเพราะเห็นกูเมาแล้ว” จริงๆเป็นพี่ชนะครับ แต่ผมเลือกใช้ชื่อพี่เทแทน ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน

“แล้วมึงบอกพี่เขาว่าไง”

“กูบอกแค่กูไม่ไป กูไปไม่ได้”

“มึงไม่บอกพี่เขาไปเลยวะ ว่าเดี๋ยวกูไปรับมึงให้เขาจะได้ไม่ต้องห่วง ถ้าจะช่วยก็ช่วยโทรบอกกูแทนมึงที่เมา”

“กู กู กูกลัวมึงไม่ไปรับกู”

“...” แม็ตถอนหายใจ ท่าทางอารมณ์ไม่ดี ไม่รู้รำคาญผมหรือรู้สึกเหนื่อยกับผมกันแน่ ผมนี่หน้าซีด

“กลัวมึงลำบากใจที่กูมาค้างด้วยบ่อยๆ ขนาดเมื่อคืนกูเมาๆ กูยังฝันว่ามึงด่ากูเลย คิดดูคิดจนเก็บไปฝัน กูก็เกรงใจเป็นนะเว้ย” ผมยิ่งพูด มันยิ่งนิ่งครับ มึงพูดอะไรหน่อย กูใจไม่ดี นิ่งแบบนี้ไล่กูออกจากห้องเลยยังดีซะกว่า

“ไม่ใช่เลย”

“กูไม่อยากให้มึงต้องมีภาระ” ผมห่อเหี่ยวหมดเรี่ยวแรง คงถึงเวลาเก็บข้าวเก็บของออกจากห้องนี้ถาวร

“มึงฟัง” ผมเหลือบตามองหวาดๆ มันไม่เคยจริงจังกับผมมากเท่านี้เลย

“ต่อไปนี้ ถ้ามึงกินเหล้า ทั้งไปกับกูหรือกูไม่ได้ไปด้วย มึงไม่ต้องขับรถกลับบ้าน อันตราย ถ้ากูปล่อยมึงกลับ กูคงรู้สึกผิดถ้ามึงเป็นอะไรไป และที่สำคัญ ไม่ต้องไปค้างที่อื่น ให้มาค้างกับกู กูมีเหตุผลของกู แต่เชื่อกูเถอะว่ากูหวังดีกับมึงจริงๆ”

ผมที่สติยังไม่ค่อยเต็มดี ไล่เรียงคำพูดมัน นึกถึงความหมายพยายามเข้าใจทีละคำๆ

เถ้าเมา ไม่ให้ขับรถกลับบ้าน ถ้าเมาต้องมานอนนี่ เมานอนนี่?

“ถ้าไม่เมากูนอนห้องคนอื่นได้ป่ะ?”

“ได้ แต่ห้องกูก็ได้ มึงชินกับห้องกูแล้วนี่” ไอ้ชินมันก็ใช่ แต่ความอยากมานอนนี่ของกูมีมากกว่าที่มึงคิดฝันถึงเลยนะ แต่กูไม่บอกมึงหรอก

“แล้วทำไมเมาแล้วค้างที่อื่นไม่ได้?”

“เออน่า ไปกินโน้น ปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้”

“...” ผมเดินโซซัดโซเสไปทางที่มันชี้ อะไรอุ่นๆตอนสร่างเมามันดีมากจริงๆ

“ดูโด้ยอิ ต่อลำโพลงๆ”


“สรุป มึงจะไม่บอกจริงๆ เหรอว่าทำไมถ้ากูเมากูไปนอนห้องคนอื่นไม่ได้” ผมยังติดใจ

“...” เงียบไปนานเลยครับ มันหันไปดูหนัง กับมองหน้าผมสลับกันไปมาสามสี่ที นี่ผมเผลอทำอะไรให้มันไม่พอใจอีกรึเปล่า?

“บอกมาเถอะ กูจะได้คอยระวังตัวเองด้วย เพื่อกูจะได้ไม่ทำให้ใครเขาเดือดร้อนไง”

แม็ตคิดหนักมากครับ คิดเลขโจทย์แปดบรรทัดมันยังคิดไปยิ้มไป นี่มึงคิดอะไรทำไมหน้าเครียดขนาดนี้?

“แน่ใจนะว่าถ้ามึงรู้แล้วจะทำให้มึงระวังตัวมากขึ้น” มึงลังเลขนาดนี่ กูเลยลุ้นไปด้วยเลยแม่ง

“อื้ม” ใจผมไม่อื้มหรอก แต่ปากก็รับปากไปก่อน ลองฟังเหตุผลของมันก่อน

“มึงเมาแล้วมึงอ้อล้อ”

เชี้ยยยยยยยยยยยย หน้าตาย แต่ผมโคตรเก็ท ภาพพวกนั้น ความรู้สึกพวกนั้นกูนึกว่าเพราะกูชอบมึงเลยเก็บไปฝันมาตลอด ตอนเมาๆ ภาพเบลอๆ จริงเหรอ ใช่เหรอ

ในฝันจูบโคตรดูดดื่ม!

“บ้านมึงคนเหนือทำไมใช้คำใต้ แล้วมันแปลว่าอะไร” ผมตีมึนทำเป็นไม่เข้าใจ แต่มือสั่นมาก ไม่ได้ออกอาการไม่ได้เด็ดขาด อย่านะมึง แต่ผมจะห้ามเลือดไม่ให้สูบฉีดไปที่หน้าได้ไงไหว

ทุกครั้งที่ผมเมา ผมรู้สึกว่าผมหลับฝันดีตลอดบางทีก็จำเรื่องในฝันได้บางทีก็จำไม่ได้ รู้เพียงแต่ว่ามันมีสิ่งดีๆเกิดขึ้น บางอย่างที่ทำให้ผมหลับสบาย บางอย่างที่มีภาพไอ้หมอนี่อยู่ด้วย ถ้าทั้งหมดนั่นไม่ใช่ความฝันแต่เป็นความจริง ความรู้สึกที่ถูกโอบกอดนั่นคืออะไร ความรู้สึกที่ถูกสัมผัสนั่นจริงถึงตรงไหน ผมแยกไม่ออกนั่นแหละปัญหา

“มึงเมาแล้วมึงจะยั่วคนที่อยู่ใกล้ๆ”

หัวผมหมุนเป็นลูกข่าง

มึงพูดจริงหรือมึงพูดให้มันดูไม่ร้ายแรง เพราะในฝันกูร้ายแรงกว่านั้นมากเลยมึงงงงงง มึงหลอกกูแน่ๆ มึงไม่กล้าพูดว่ากูป้ำมึงใช่มั้ยเพื่อน กูขอโทษ ความเมาทำให้กูไม่สามารถยับยั้งชั่งใจได้

“มึงหมายถึง ยั่วโมโห ใช่มะ?” ผมไม่คิดว่ามันจะเลือกใช่คำแบบนี้ แม่ง มึงพูดคำแบบนี้ด้วยหน้าจริงจังมากอ่ะ

“ไม่ใช่... มึงอย่าให้กูต้องขยายความมากกว่านี้เลย” วูบหนึ่งผมเห็นมันหน้าแดง เกาหัวเขิน และหลบตา เป็นภาพที่ สุดๆ

กูเนี่ยอายสุดๆ ความหมายแม่งชัดเจนมาก ชัดเจนว่ากูยั่วมึงงงงงงง คำพูดดูเบาการกระทำกูคงแรงกว่านั้นมากสิน้าาาา

“เชี้ยยย!” ผมแทบแทรกแผ่นดินหนี โคตรของโคตรน่าอาย

“...”

“ที่มึงรู้นี่เพราะว่า กู... กับมึงงั้นสิ ตายๆๆๆๆ กูจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน” โคตรน่าอาย แล้วตลอดเวลา มึงทำตัวปกติกับกูมากๆ ทั้งที่มึงมีความจริงโคตรน่าอายของกูอยู่

“ตั้งแต่เมื่อไหร่?” ผมถามโดยที่ไม่มอง ถามทั้งที่อยู่ในผ้าห่ม ตอนนี้ผมคลุมโปงไม่กล้าแม้จะสบตา

“ก็ตั้งแต่วันแรกที่เปิดเทอมนั้นแหละ” ร่างกายช่างแสนรู้ไวเท่าจิตใจเชียวนะ แม่งงงงงงง “ไม่เป็นไร กูไม่ถือ คือกูเข้าใจว่ามึงเมาไง” มึงไม่ต้องพยายามปลอบใจกู ถ้ามึงรู้ว่ากูคิดอกุศลกับมึงมากมายกว่านั้นหลายเท่ามึงอาจจะเกลียดกูก็ได้ เก็บความเป็นคนดีของมึงแป็ปนึงเถอะ 

“มึงไม่รังเกียจกูเหรอ”

“มันไม่ถึงขนาดนั้น มึงอย่ามองตัวเองไม่ดี มึงบอกเองว่าก่อนนี้ไม่เคยกินเหล้าหนักๆ เลย เพิ่งมากินตอนเข้ามหาลัย ก็แปลว่ามึงไม่ได้ไป เอ่อ ไปยั่วคนอื่นไม่เลือกหน้า”

แค่คนมาเสนอหน้ามองตากูสุ่มสี่สุ่มห้ากูก็เมินแล้วล่ะ

“ที่กูไม่อยากให้มึงไปค้างกับคนอื่น กูกลัวเขามองมึงไม่ดี ดีไม่ดีมึงอาจจะเจอของจริง มึงจะซวยเอา”

เขาพยายามบอกผมซ้ำๆว่าเขาโอเค เขาไม่รังเกียจ เขาไม่ได้เห็นผมเป็นตัวประหลาด ไม่รู้เขารู้ไหมว่าในสถานการณ์อันน่าขายหน้านี่ เขาได้ให้ความหวังผมก้อนโตเชียว ตายก็ยอม มึงอย่ากลับคำมาไล่กูทีหลังแล้วกัน กูไม่ไปไหนแล้วนะเฟร้ยยย

“กูเข้าใจอย่างถ่องแท้เลยว่ะเพื่อน ขอบใจจริงๆ กูจะเชื่อฟังมึงทุกอย่างเลยเพราะงั้นมึงอย่าให้กูไปทำเรื่องน่าอายกับคนอื่นเชียวนะเว้ย”

“เออดิ กูก็บอกอยู่นี่ไง ว่าห้ามไปนอนไหนถ้ามึงเมา”

คร้าบพ่อ ผมเข้าใจแล้วคร้าบบบบบ

“อื้ม เข้าใจแล้วๆๆๆๆๆๆ”

กูเข้าใจ แต่กูอายโคตรๆ วันนั้นเลยขอถอยไปตั้งหลักก่อน  โชคดีที่ติดเสาร์อาทิตย์ กว่าจะถึงวันจันทร์ผมเลยมีเวลาทำใจและฝึกปั้นหน้านิ่งพอสมควร


..................................................

(มีต่อ)

   V
   V
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 9 มะนาว : ไล่ก็ไม่ไปแล้วนะ] 17/2/59 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 17-02-2016 02:16:46

(ต่อ ทบที่ 9)


......................................


ดูเหมือนบททดสอบจะประเดประดังเข้าหาผมมากมาย

มีผู้หญิงเข้ามาวุ้นวายกับแม็ตของผมแทบไม่เว้นเช้าเย็น ถ้าไม่สวย หุ่นไม่ดีพี่จะไม่ห่วงเลย แต่แม่ง สาวชมรมเชียร์หลีดเดอร์ ขาวหมวยตัวเล็กลุคเน็ตไอดอล แค่เห็นก็แพ้แล้ว แต่โชคดีที่พงศ์หันตามผมไปเห็นเข้า พงศ์ไม่พูดพล่ามทำเพลงเดินเข้าไปลากแม็ตออกมาเฉย

พงศ์ กูรักมึงมากอ่ะ เดี๋ยวกูพาไปเลี้ยงชาบูตามที่มึงเคยว่าไว้นะ

แต่ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดี ที่พงศ์พาแม็ตมาไว้กลางวงพี่ๆชมรมสัน เหมือนมันจะโดนตบตูดลูบเป้าสักสองสามทีถ้าผมตาไม่ฝาดคนแรกก็พงศ์เองนั่นแหละ ไอ้นี่ก็ไม่ปัดป้อง ยืนทื่อให้เขาจับโน้นจับนี่ แต่ก็ดีกว่าให้มันนั่งอยู่ที่โต๊ะกับสาวสองต่อสองล่ะว่ะ เอามาไว้นี่ก็ยังดี

แล้วก็นะ เผลอแป็ปเดียวมันก็กลับไปนั่งเฝ้าโต๊ะ เพราะไม่ชอบเต้น ผมเห็นชะนีนางเดินเดินกลับเข้าไปประจำที่อย่างไว ผมไม่สนใจแล้วเวลานี้ มอมตัวเองดีกว่า เมาเมื่อไหร่พ่อแม็ตก็ต้องมาดูแลผม

ว่ะห้าฮ่าๆๆ เป็นไอเดียบรรเจิดของคนเมาไปแล้วครึ่งทางที่ได้ผลดีอย่าบอกใครเชียว

ผมยังไม่ทันเมาจนขาดสติ แค่ทำท่าโซเซพอเป็นกระสัยก็มีคนมาประคองกลับไปนั่งพัก ชีวิตดี๊เด

กว่าแอลกอฮอล์ที่ผมซดเข้าไปจะออกฤทธิ์ ผมก็ควบคุมให้มันหยุดแค่ตรงเกือบเมาไม่ได้ซะแล้ว ไม่นาน ผมก็จำอะไรไม่ได้อีก เหมือนเคย หนังม้วนเดิม



................................



ผมนึกว่าชาตินี้จะไม่ต้องเจอมันแล้วซะอีก ไอ้พี่ปราณ หมอนี่ตามรังควาญผมอยู่เกือบสองปีไม่รู้ติดใจอะไรผมนักหนา ไม่เคยให้ความหวังมึงนะเว้ย


ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเรียนที่นี่ ผมดันมาเจอเขานั่งสูบบุหรี่อยู่ข้างโรงยิมตอนที่จะมาดูแม็ตคัดตัวบาส ผมเห็น แต่ทำเป็นไม่เห็น ทำไม่สนใจให้มากที่สุด เดินพรวดๆผ่านไปให้ไวที่สุด แม่งหน้าตาดี แต่อดีตทำให้ความหล่อของมันติดลบในสายตาผม

“มึงนั่งแถวนี้ล่ะกัน” แม็ตบอกผม พาผมเดินขึ้นมาอัฒจัน นั่งได้แปปเดียวพี่ปราณก็มันก็เดินเลี้ยงลูกบาสไปมาหลบซ้ายหลีกขวากับเพื่อนมันอยู่กลางสนามบาสข้างล่าง ผมไม่สนใจเรียกแม็ตให้เซลฟี่ด้วยเป็นที่ระลึก ผมยิงฟันทำหน้าประหลาด แม็ตผู้น่ารักทำตาโตเหมือนตกใจอะไรสักอย่าง

นี่ถือเป็นรูปคู่รูปแรกที่ผมถ่ายกับแม็ตเลยนะเนี่ย ตื่นเต้นๆ จะเอาไปอวดเจ้เฟิร์น (ถ้ารูปเดียวผมแอบถ่ายมันไว้ตรึมแล้วครับ)
ผมกำลังหัวเราะรูปที่ออกมา แต่หางตาก็เห็นว่าไอ้พี่ปราณมองผมอยู่ ผมเลยไม่เงยหน้าขึ้น ก้มหน้าก้มตาเล่นมือถือต่อไป

“ตอบพี่กูแทนที บอกไปเลยว่ามึงคุย กูไม่ว่างคัดตัวบาส มีไรมึงตัดสินใจเลยนะ” พอพี่เรียก มันก็ยัดมือถือใส่มือผม ก่อนจะวิ่งเหยาะๆ ลงไปข้างล่าง

ผมพิมพ์บอกพี่โนอา


No+A :    อยู่ไหน เดี๋ยวกินข้าวกัน

Maths :  ผมมะนาวนะพี่ แม็ตมันใช้ผมตอบมันไปคัดตัวบาสแล้ว

Maths :  กินไหน กี่โมง เดี๋ยวผมบอกให้

No+A :   อ้อ หนูอยู่ยิมบาสกันใช่ป่ะ

No+A :   เดี๋ยวไปหา รอนั่นแหละ

Maths :  คร้าบบบ

Maths :  แต่ว่า หิวหนมจุงเบยยยย

No+A :   5555 เข้าใจแล้วๆ


อย่าแปลกใจว่าทำไมผมอ้อนพี่โนอา ทั้งที่เคยอิซซี่พี่เขามาก เพราะผมรู้มาว่าพี่โนอามีแฟนอยู่แล้ว ว่ะฮ่า เพราะฉะนั้นจะหึงไปก็เปล่าประโยชน์ สู้อ้อนไว้มีอะไรก็เข้าทางพี่โนอา แหล่มเลย

ระหว่างรอขนม ผมมองไปรอบๆ อื้มมม ผมเห็นคนรู้จักอีกคน ลูกหวายกำลังยืนโบกมือให้ผมจากอีกฝั่งสนามบาส ลูกหวายเป็นเพื่อนโรงเรียนครับ สวยหวานเป็นคนดังประจำโรงเรียนเย ไม่สนิทมาก แต่ด้วยความที่อยู่ห้องเดียวกัน ก็เคยคุยกันบ้างทำงานด้วยกันมาบ้าง

เธอทำให้ผมต้องฝึกความอดทนของตัวเองอีกครั้ง

“หวัดดีมะนาว มา หวายช่วย” ลูกหวายเข้ามาอาสาช่วยผมตักไข่เจียวแบ่งใส่จานครับ
“มาเลยๆ ถ้าทำคนเดียวไม่น่าได้กิน”

“ฮ่าๆๆ เอ่อ มะนาวไม่ลงบาสเหรอ เมื่อก่อนเคยเล่นนี่”

“ไม่อ่ะ ขี้เกียจ ว่าจะเข้าชมรมอื่น”

“อ้อ” ลูกหวายพยักหน้าเข้าใจ เป็นจังหวะเดียวกับที่ไอ้คนหล่อเดินเข้ามา

“มึงจะกลับบ้านไหม? เดี๋ยวดึกนะ” แม็ตเป็นห่วงผมออกหน้าออกตาอีกแล้ว น้ำตาจะไหล คนอะไรว่ะ หล่อแล้วใจยังหล่ออีก

“ยังไม่กลับ กูจะกินข้าวฟรีก่อน” ผมชูจานไข่เจียวที่กำลังตักแบ่งให้แม็ตดู เขาหัวเราะหึหึ ก่อนจะรับจานเดินออกไปวาง

“เออ แฟนมะนาวเหรอ?” ลูกหวายกระซิบถามผมทันที แหม อยากจะตอบใช่ มากมาย แต่ได้แค่ส่ายหน้า

“ไม่ใช่ ข้างรหัส”

“เหรอ ดูเป็นห่วงนาวจัง”

“ปกติ มันดีกับทุกคน” อันนี้ผมบอกตัวเอง มันดีเป็นปกติ มึงอย่าหวั่นไหว อย่าเคลิ้มๆ มึง มะนาว ตั้งสติๆ

“เหรอ ถ้าไม่ใช่แฟนนาว งั้นเราก็จีบได้สิ”

 “เมื่อกี้อ่ะ ตอนเริ่มคัดตัว ทีมหญิงไม่มีสมาธิเลยรู้ป่าว”

“อย่าบอกนะ ว่าเพราะไอ้แม็ต”

“ใช่เลย ทุกคนพากันมอง ขนาดพี่ปีสองปีสามยังถามปีหนึ่งเลยว่ารู้จัดกันไหม”

“เขาว่าไง”

“เมบอกว่าพวกเธอเป็นคู่จิ้นกัน เห็นเดินด้วยกันตลอด พวกในห้องจิ้นกันหนักมาก”

“ไปจิ้นกันตอนไหนว่ะ” ผมตอบปัดๆ แต่ใจจริงผมรู้อยู่เต็มอก แอบร้องว้ากในใจ จิ้นเลยๆ เผื่อมันจะจริงเข้าสักวัน ฮ่าๆๆๆ “สาวๆจ๋อยเลยดิ มีคู่จิ้นเป็นผู้ชายแบบเนี่ย”

“ก็ไม่นะ บางคนที่เฉยๆมากรี้ดเอาตอนบอกว่ามีคู่จิ้นเนี่ยแหละ ฮ่าๆๆ อย่าทำหน้างั้นดิ”

ผมนี่เหวอจริงครับ ผู้หญิงสมัยนี้ ผู้ชายจะชอบกันไม่ว่าแถมยังสนับสนุนอีกแน่ะ

“นี่ เอานี่ไปให้เขาหน่อยสิ สงสัยไปห้องน้ำ” ผมรับผ้าเย็นมา

“อ้อ อื้มได้”

“นาว ขอเบอร์แม็ตหน่อยสิ นี่กะจีบผู้ชายครั้งแรกเลยนะเนี่ย”

“ถ้าเบอร์ ขอถามเจ้าตัวก่อนนะ ว่าไง”

“เหรอ อื้ม งั้นฝากถามด้วยนะนาว”

ถ้ามีคนมาขอเบอร์ขอไลน์แฟนคุณ คุณจะให้ไปไหม? แน่นอนว่าไม่ให้ใช่ไหมล่ะ แต่นี่ผมไม่ใช่แฟนเขาแล้วเขาก็ไม่ใช่แฟนผม ผมเลยได้แต่ตอบลูกหวายไปว่าต้องถามเจ้าตัวก่อน


ซึ่ง แม็ตก็ตัดสินใจในแบบที่ทำให้ผมอึ้งอีกครั้ง เขายอมให้เบอร์กับลูกหวายไปเพราะกลัวว่าเพื่อนจะโกรธผม ที่สุดแล้วเขาก็ยังแสดงออกความห่วงใยต่อผมมากกว่าจะแคร์ว่าคนอื่นจะมองยังไง

คืนนั้นผมห่วงแม็ตมาก ไม่ได้ห่วงว่าเขาจะเมา แต่ห่วงว่าจะไปเสียท่าใครที่ไหนเข้า เพราะรู้สึกว่าทีมบาสหญิงก็ไปด้วยกัน ลูกหวายตอนไม่ได้ใส่ผ้าใบชุดบาสเขาสวยมาก คนที่ชื่อซีที่เจอวันก่อนก็คงหาทางมาป้วนเปี้ยนใกล้ๆแม็ตอีกแน่ แล้วจะคนอื่นๆ อีก

ผมนอนไม่หลับเลย ผมปิดไฟ นอนเล่นมือถืออยู่บนเตียง จนเลยตีสองแม็ตก็ยังไม่กลับ ผมกระวนกระวายพลิกตัวไปมา จนได้ยินเสียงตึงตังที่ประตูห้อง ผมกดล็อคมือถือรีบวางไว้โต๊ะข้างเตียง แล้วนอนหลับตา

ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันทำไมต้องแกล้งหลับ แต่เอาเถอะ ตื่นก็ไม่รู้จะคุยอะไร

ผมแอบเปิดตาขึ้นดูที่ประตู ทำไมนานจังว่ะ? ก่อนจะหลับตาทันทีที่ได้ยินเสียงหมุนลูกบิด แสงวาบขึ้นจากการเปิดประตูห้อง และมืดลง เสียงฝีเท่าหนักๆ แต่ไม่สม่ำเสมอ กลิ่นเหล้าคละคลุ้งที่ฉุนจนได้กลิ่นตั้งแต่เปิดประตูห้องเข้ามา

แม็ตเมาเหรอ?

ผมนี่แทบอยากเลิกแกล้งหลับเพื่อลืมตาขึ้นดู

เตียงฝั่งที่ว่างยวบลงเพราะน้ำหนักตัวไอ้ตัวสูง

“หื้ม” แม็ตออกเสียงไม่เป็นคำ เขาไม่ได้ล้มตัวลงนอน มีบางอย่างแตะแก้มผม ลมหายใจอุ่นๆที่รดแขนทำให้รู้ว่าเขายื่นหน้ามาใกล้ผมแค่ไหน ผมได้แต่นอนนิ่ง

มือใหญ่ลูบแก้มผมเบาๆ นิ้วมือนิ้วนึงของเขาแตะที่ริ้มฝีปากผม เขาสัมผัสมัน ก่อนเขาจะทำในสิ่งที่ผมไม่คิดไม่ฝัน

แม็ตแตะริมฝีปากลงมาที่ปากผม กลิ่นไอเฉพาะตัวของเขากับกลิ่นแอลกอฮอล์ทำให้ผมเมามาย จูบของเขาไม่ได้นุ่มนวลแต่ก็ไม่ได้รุนแรง เขาจูบผมอย่างเชื่องช้า อ่อนหวานจนผมไม่กล้ารับจูบหรือขยับปากจูบตอบ ผมได้แต่นอนนิ่งๆ ไม่กล้าแม้จะหายใจ

แต่ไม่นานจูบของเขาก็เปลี่ยนไป เขาจาบจ้วงและรุกเร้า ลมหายใจเขาถี่กระชั้น จังหวะเขาเร็วและกระชับ เขาสัมผัสไปทั่ว จนผมไม่อาจแกล้งหลับต่อไป ผมขยับปากโต้ตอบอย่างเงอะงะ ไม่แน่ใจว่าจะทำยังไงกับสนานการณ์แบบนี้ ผมตบๆเขาเบาๆเรียกสติ แต่เขากลับจูบผมหนักหน่วงกว่าเดิม จากที่อยากให้เขาหยุด กลายเป็นผมโอบรอบคอเขาให้เราจูบกันไปมา เรียวลิ้น ริมฝีปากเหมือนมีชีวิต

แบบนี้รึเปล่าที่เราทำกันตอนที่ผมเมาครั้งก่อนๆ แบบนี้รึเปล่าที่เขารู้สึก แบบนี้รึเปล่าที่ทำให้นอนฝันหวานทั้งคืนจนเช้า


ที่ผมจูบตอบ ผมแค่หวังว่ามันจะช่วยให้เขาหลับฝันดีแค่นั้น จริงๆนะ



--------------------------------------------
TBC.




หายไปหลายวัน ขอโทษด้วยจ้า กลับมาแล้วน้า คิดถึงกันบ้างไหมมมม คนเขียนคิดถึงคนอ่าน้นาาาาาา

ชดเฉย ตอนนี้ยาวกว่าตอนปกติ 555 เพราะจะยัดมะนาวให้หมด ก่อนจะเดินเรื่องหลักต่อ
ตอนนี้คำผิดอาจจะเยอะนิดนึง เพราะตรวจทานแค่รอบสองรอบ ไว้ว่างๆจะมาแก้ให้นะคะ


ปล. ทำไมไม่มีใครทักว่าคนเขียนจั๋วหัวเรื่องผิด เขียน บท เป็น ทบ แง้ๆ อายอ่ะ ไปแอบแป็ป
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 9 มะนาว : ไล่ก็ไม่ไปแล้วนะ] 17/2/59 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 17-02-2016 06:14:10
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 9 มะนาว : ไล่ก็ไม่ไปแล้วนะ] 17/2/59 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 17-02-2016 09:26:44
 :L2: :pig4:

รออออออ ติดตาม
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 9 มะนาว : ไล่ก็ไม่ไปแล้วนะ] 17/2/59 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-02-2016 14:38:18
พ่อคนดีศรีสังคม
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 9 มะนาว : ไล่ก็ไม่ไปแล้วนะ] 17/2/59 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 17-02-2016 19:26:26
ถ้าจะเป็นกันขนาดนี้ได้เสียเป็นผัวเมียกันเลยเถอะ คนอ่านลุ้น!!
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 9 มะนาว : ไล่ก็ไม่ไปแล้วนะ] 17/2/59 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 17-02-2016 21:13:30
แทบักกกกกกกกกก :hao6:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 9 มะนาว : ไล่ก็ไม่ไปแล้วนะ] 17/2/59 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 18-02-2016 05:32:08
โอ้ย น่ารักทั้งคู่เลย พ่อแม็ตนี่ก็โคตรดี
เมื่อไหร่จะรักกัน
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 9 มะนาว : ไล่ก็ไม่ไปแล้วนะ] 17/2/59 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 18-02-2016 21:14:25
ลุ้นเหนื่อยอ่ะ
5555
รีบๆรู้ใจกันไวๆน้า
 :mew1:
สนุกดีค่าเป็นกำลังใจให้คนเขียน สู้ๆ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 9 มะนาว : ไล่ก็ไม่ไปแล้วนะ] 17/2/59 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: PaiPo ที่ 19-02-2016 00:01:57
มานาววว ลูกกก ลูกเป็นหนักมาก ไหวมั้ยลูก :ling1:
หนูหล่อเลือกได้ขนาดนี้ อย่าไปเลือกคนอื่นที่ไม่ใช่แมตเชียวนะ ไม่งั้นคนอ่านงอนนนน

สุดท้ายนี้ ขอให้ ได้กันๆๆๆๆๆๆ
55555555+
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 9 มะนาว : ไล่ก็ไม่ไปแล้วนะ] 17/2/59 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 20-02-2016 02:23:39

- บทที่ 10 - หยอดขั้นฝึกหัด -



----------------------------------


ในตอนเย็นพี่โนอานัดเราทั้งหมดที่ร้านอาหารข้างหมาลัย อีกสองวันจะเป็นวันประกวดดาวเดือนเลือกดาวเดือนคณะ คงเรียกมาเตรียมความพร้อม เพราะบอกให้ผมพาเมพงศ์กับมะนาวมาด้วย เมกับพงศ์ผมเข้าใจดี แต่มะนาวเนี่ย ทำไมต้องกำชับว่าให้พามาด้วยกันนะ ไม่เข้าใจ

มาถึงเมถึงกับแอบยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ดูจะถูกใจพี่เลี้ยงดาวน่าดู มะนาวเองก็ดูออก

“ชอบเหรอ?” มะนาวแอบถามเมข้างหลังผมครับ มึงกระซิบแล้วใช่ไหมเนี่ย แม่งพี่โนอาอยู่ไกลไปอีก 10 เมตรก็ได้ยิน

“แรดนะมึง แต่มึงคงอดเพราะพี่เขามีแฟนแล้ว”

“...” เมไม่ตอบครับ เพราะแป็ปเดียวเราก็มาอยู่ตรงหน้าพี่โนอากับพี่มีมี่แล้ว

สรุปคร่าวๆ พี่บอกว่าให้ขัดสีฉวีวรรณดีๆ ห้ามกินเหล้าเมาปริ้นในสองวันนี้เหมือนพี่เทปีก่อน ให้มาร์คซองมากองนึง

“หลังอาบน้ำล้างหน้าก่อนนอน หนูแกะไอ้นี้ออกนะ แปะหน้าไว้ตามวิธีหลังซอง 20 นาที ห้ามเกิน 30 นาทีนะ นวดๆ วนๆ แบบนี้” พี่โนอาแปะมือบนหน้ามะนาว สาธิต “แล้วตอนเอาออกก็ไม่ต้องล้างหน้านะย่ะ ให้นอนเลย เดี๋ยวมันก็แห้งเอง”

“สี่แผ่น?”

“ก็สองหน้าไง” พี่โนอาชี้หน้ามะนาว ผมพยักหน้าเข้าใจ

“มะนาวลูก พี่หนูมันไม่ได้เรื่องพี่รับเทคหนูเองนะต่อไปนี้ มันไปซ้อมสันอยู่สนามกีฬาโน้นนน ป่ะเม ไปตลาดซื้อกระโปรงกับคัชชูกับพี่” พี่โนอาคว้าหมับที่ข้อมือเม พยักหน้าเรียกพี่มี่กับพงศ์ให้ไปด้วยกัน

ตั้งแต่มาถึงเมเอาแต่นั่งเท้าคางมองตามพี่โนอาตลอดเวลา เจอพี่รุกแบบนี้ถึงกับสะดุดมือหลุดจากคาง

เมทำหน้าขอความช่วยเหลือครับ ผมกับมะนาวได้แต่โบกมือหยอยๆ ถึงจะชอบคนสวย แต่ถ้าคนสวยคนนั้นจะบังคับมันให้ทำอะไรที่แสนจะต่อต้านแบบนี้ มันคงไม่มีอารมณ์จะจีบแล้วมั้ง ฮ่าๆๆๆ

พี่โนอาไม่ได้น่ากลัว ผมคงไม่ห่วงเมเท่าไหร่ถ้าเขาเป็นผู้หญิงธรรมดา แต่บังเอิญว่าตัวตนเขาตรงข้ามกับสิ่งที่ต้องทำเนี่ยสิ คิดหนักเลย

“นี่เราต้องห่วงเมไหม?” มะนาวถามแบบไม่หวังคำตอบ

“มึงนึกภาพเมใส่กระโปรงดิ” ผมหัวเราะอย่างเปิดเผย ฮ่าๆๆๆ

“มึงแม่งร้าย”

“ป่ะ กลับไปมาร์คหน้ากันดีกว่าเรา”

“มึงเอาจริงเหรอ?”

“เออ กูจะจับมึงมาคด้วย”

มะนาวทำตาโตมาคหน้าแปลกตรงไหน วันเสาร์อาทิตย์ถ้าใครไปบ้านผมอาจจะเจอมนุษย์หน้าขาวถึงห้าคน แม่ผมมาร์คทีจับทำทั้งบ้านครับ



“มานี่ มัดผมก่อน” ผมหยิบหนังยางมัดถุงแกงเนี่ยแหละครับ มัดจุกน้ำพุให้มะนาว “อยู่นิ่งๆ ถ้าผมพันตอนแกะมึงจะซวยนะ” ผมเขานุ่มนิ่มมาก ไม่เหมือนผมผู้ชายเลย

“งื้อ กูจะฟ้องแม่” มะนาวเบะปากแต่ก็ไม่ได้ขัดขืน

“มึงไม่เคยได้ยินเหรอ อยากสวยก็ทนเอาน่ะ”

“กูไม่ได้อยาก กูไม่ต้องประกวดกับมึงด้วย กูนอนเลยได้ ไม่ต้องมาร์คหรอก เปลืองงงง”

“เอาน่า มาร์คเป็นเพื่อนกูไง” ผมแกซองมาร์ค เป็นแบบชีสมาร์คครับแผ่นๆ มีรูตาจมูกปาก กางออกแล้วแปะบนหน้ามะนาว “เสร็จล่ะ ไม่ต้องพูดเยอะนะ ห้ามหัวเราะ ไปนอนเล่นเกมโน้น”

“อื้มมมม ลำบากอ่ะ”

ผมหัวเราะมะนาว ก่อนจะเดินไปที่กระจกหน้าตู้เสื้อผ้าจัดการของตัวเองบ้าง เสร็จแล้วผมก็มานอนตอบไลน์กรุปแฟมิลี่แฮปปี้ ครอบครัวสุขสันต์


..................................

เช้าวันต่อมาผมกับมะนาวนั่งกินข้าวเช้าอยู่ในโรงอาหารในคณะ เมที่ตามมาสมทบมีสีหน้าบอกบุญไม่รับขั้นสุด

“เป็นไรมึง” มะนาวถาม

“กูไม่โอเค พี่แม่ง กูไม่ปลื้มล่ะ”

“พี่กูออกจะน่ารัก”

“จะน่ารักมากถ้าไม่ถึงขนาดที่ซื้อยกทรงให้กูใหม่”

“พรูด” “ฮ่าๆๆๆ จริงดิ” ผมกับมะนาวปล่อยก้ากออกมาพร้อมกัน

“จริงค่ะ ฟองน้ำหนาเท่านี่” พงศ์ตามมานั่งข้างๆ อย่างรู้งาน และทำมือให้ดู

“กูตายแน่”

“เมื่อวานแค่แต่งอยู่ในห้อง มีแค่พี่มี่พงศ์กับพี่โนอากูยังโคตรอาย กูต้องไปทำขายหน้าบนเวทีแน่”

“แปปเดียว ครึ่งชั่วโมงก็เสร็จ มึงคงไม่ต้องโชคร้ายได้ไปแข่งกับคณะอื่นต่อหรอกมั้ง” ผมพยายามปลอบใจ

“กูว่าไม่แน่ค่ะ มึงดูนี่” พงศ์จิ้มๆมือถือ แล้วโชว์ภาพเมเมื่อวานให้ดู เป็นภาพแต่งหน้าแต่งตัวเต็มผมสั้นเซ็ตให้ดูเปรี้ยวหวาน ตาคิ้วแก้มปาก ลงตัวสุดๆ

“มึง มึงสวยมากอ่ะ” มะนาวชมเปราะ

“กูว่ามึงได้ไปต่อ” ผมกลับคำ

“เหี้ย เลวร้าย สาวที่ไหนจะเหลือแลกูถ้ากูสวยกว่าเขาว่ะ ว้อยยยย” เมทึ่งหัว รับไม่ได้

“หึ ฮ่าๆๆ มึงอาจจะได้โอกาสเปลี่ยนทาเก็ตไง” เมฟังมะนาวแล้วทำหน้าจะร้องให้ ผมกำลังคิดว่านี่เมมันกำลังฝึกทำหน้าแบ้วใช่มั้ย?


วันนั้นทั้งวันเมยังคงกระวนกระวายกับการประกวด จริงๆ ผมก็ตื่นเต้นนะ แต่เห็นมันวุ้นวายแล้วผมตื่นเต้นไม่ลง ทั้งที่พรุ่งนี้มีการประกวดรออยู่ แต่เที่ยงคืนผมกับมะนาวยังนั่งเล่นเกมกันอยู่เลย มะนาวเดินไปหยิบมาร์คจากในตู่เย็นมาให้ผม คงกลัวผมไม่หล่อ วันนี้ต่างคนต่างจัดการแปะมาร์คเอง แล้วมานั่งเล่นเกมต่ออีกตา 



...........................................


บ่ายของวันประกวดดาวเดือน ผมมาถึงห้องเตรียมตัวในตอนบ่าย แอบอิจฉามะนาวนิดนึง ที่เขาได้กลับห้องไปนอนกลางวัน ส่วนผมต้องมาซ้อมคิวกับเตรียมตัว

งานนี้เป็นงานเล็กๆในคณะครับ เลือกในห้องประชุมของคณะเหมือนการเข้าเชียร์วันนึง เพียงแต่วันนี้เราจะมาเลือกดาวเดือนกัน ดาวเดือนมาจากตัวแทนห้องทั้ง 7 ห้อง ทุกห้องมีคนเท่ากันแต่ภาควิชามีจำนวนนักศึกษาไม่เท่ากันคณะวิศวะจึงเลือกดาวจากตัวแทนห้อง

ผมกำลังนั่งนิ่งๆให้พี่โนอากับพี่มีมี่ลงรองพื้นให้เป็นคนสุดท้ายหลังจากจัดสวยให้เมกับพิ้งพิ้ง(วันนี้เขาให้เรียกอย่างนี้ครับ)ไปแล้ว

“ปวดขี้ก็ไปขี้ค่ะเม” พงศ์บอกเม คงเพราะทนเห็นสีหน้าบึ้งตึงของเมไม่ไหว ตรงข้ามกับพงศ์ที่แฮปปี้มาก ในฐานะดาวเทียมพงศ์จึงแต่งอะไรก็ได้ นางกรุยกรายไปมากับพร็อพมากมายของตัวเองและที่แลกกันดาวเทียมห้องอื่นๆ ถ่ายรูปเล่นกัน

“กูไม่ได้ปวดขี้นี่หว่า กูทะเลาะกับคัชชู”

“ของมึงแค่สองนิ้ว ของกูห้านิ้ว นี่”

จริงครับ รองเท้าพงศ์ทำให้พงศ์ที่เป็นตุ๊ดกลมๆ ยาวขึ้นได้ มหัศจรรย์จริงๆ

“งั้นเมียมึงมานี่ค่ะ มาซ้อมเดินกัน” พงศ์ฉุดแขนเมให้ลุกขึ้น ผมมองตามจากในกระจก “วันนี้กูเรียกมึงผัวไม่ไหว มึงสวยเกินหน้าเกินตาขออนุญาต เรียกเมียนะค่ะ”

“ถึงตอนนี้กูปฏิเสธอะไรได้บ้าง”

“อื้มมม ไม่น่าได้ค่ะ ถ้าเขาให้ตำแหน่งดาวคณะมึงก็ปฏิเสธไม่ได้อยู่ดี สวยๆ ค่ะ หลังตรงไหล่ตั้งทำก้นตรงๆ แอบงอนตูดนิดค่ะ มึงนี่เกิดเป็นชะนีก็ทำตัวให้เหมือนชะนีแรดๆ สักแป็ปไม่ได้รึไง ถอดวิญญาณพันตรีประจักษ์ออกจากร่างแป็ป แล้วมโนว่ามึงเป็นชะนีก่อนค่ะวันนี้ เสร็จนี่กูจะแนะนำเพื่อนสวยๆ ให้เป็นรางวัล”

ผมสามคนหัวเราะพงศ์กับเมกันอยู่หน้ากระจกครับ คนสวยๆ เต็มห้อง ปกติเมคงชวนใครสักคนคุยตีสนิท แต่วันนี้มันไม่พูดไม่ทักทายใครเลย คงเพราะมีฟองน้ำอยู่กับตัวทำให้ขาดความมั่นใจทุกสิ่งอย่าง

“เสร็จล่ะ น้องพี่หล่อฝุดๆ” พี่โนอาทาบมือตบแก้มผมเบาๆ

“จริง หล่อจนพี่นี่สั่นไปหมด” พี่มีมี่ทำท่าสั่นจนผมแอบกลัว

“อะไรสั่นย่ะ อย่ามาสั่นใส่น้องฉันนะ”

“ใจสั่นย่ะ อร้าย หล่อเริ่ด”

“แล้วไป แม็ต ไปพักก่อนนะ อีกสักพักคงมีซ้อมคิว อย่าไปไหนไกลล่ะ”

“คร้าบ” พี่โนอากับพี่มีมี่ไปช่วยพงศ์จัดท่าทางให้เม

ผมหยิบมือถือขึ้นมา หาอะไรทำ

       Maths :   แต่งตัวเสร็จล่ะ โคตรหิวเลย

  NAWNAW :  กินไรป่ะล่ะ กูอยู่โรงอาหารข้างหน้าเนี่ย

       Maths :    อ้าว นึกว่ามึงอยู่หอ

  NAWNAW :   กูก็หิวเลยมาหาไรกินเนี่ย

  NAWNAW :   กินไร เดี๋ยวซื้อเข้าไปให้

       Maths :   งั้นเอาเบอเกอร์เสต็กไก่

  NAWNAW :   จ๊ะ

  NAWNAW :   รอแพ็บ

ผมส่งสติดเกอร์หิวโหยไปให้ เป็นการเร่ง อยากออกไปหาอะไรกินเอง แต่ไม่อยากเจอผู้คนทั้งที่ผมแข็งชี้เป็นหนามทุเรียน รองพื้นเต็มขนาดนี้ เลือกรอแล้วกัน

“เดินได้ไหมเม” พี่โนอาถาม เมส่ายหน้า

“รองเท้ากัดรึเปล่า” พี่มีมี่ถามเมก็ส่ายหน้าอีก

“งั้นซ้อมแบบเดินจริง แม็ต มาให้เมเกาะมา” ผมลุกขึ้นไปยืนข้างๆเม เมจับแขนผม แต่ด้วยความตื่นเต้นหรือจะล้มก็ไม่แน่ใจ เมจิกนิ้วกับแขนผมเต็มแรง

ผมนิ้วหน้า บอกตรงๆ ว่าเจ็บ

“อย่าเกร็งอย่างนั้นสิหนู ทำตัวสบายๆ เหมือนเดินเท้าเปล่าบนสนามหญ้า”

“ฮื้อ ไม่ได้อ่ะพี่” แววตาและสีหน้ากังวนอย่างเห็นได้ชัด

“ซ้อมเดินเป็นคู่ก่อนแล้วกัน ตามคิวต้องเดินเป็นคู่อยู่แล้ว” พี่มี่บอก

“เป็นคี่ค่ะ หนูเดินด้วย” พงศ์เข้ามาประคองเมอีกข้าง ซึ่งปกติพงศ์คงเกาะที่แขนผมแล้ว แต่ด้วยเมยังน่าห่วง ทุกคนเลยคอยลุ้นเมกันยกใหญ่

“จ๊ะลูกสาว มาๆ เดินจากฝั่งนี้ไปฝั่งโน้น สมมุติว่าทางนั้นเป็นหน้าเวทีนะ ยิ้มไว้ๆ”

“เม มึงทำได้”

“เอาเริ่ม หนึ่งสองสาม ซ้าย ขวา ซ้าย”

เมเดินได้ แต่สีหน้ายังไม่ได้ มือที่คล้องแขนผมอยู่เกร็งมากบีบแขนผมแน่น

“สวัสดีค่ะ พิ้งพิ้ง อินทร พิพัฒพันธ์ ภาควิชาวิศวกรรมอาหาร ตัวแทนจากห้อง 7 ค่า” พงศ์ทิ้งเมแล้วเดินหมุนไปหมุนมาบนรองเท้าสูงห้านิ้วอย่างมืออาชีพ

“ครับ สวัสดีครับ ผมเป็นตัวแทนจากห้อง 7 อดิศร วนไพศาล วิศวะคอมพิวเตอร์ แม็ตครับ ”

“ดิฉัน เม อริศรา อนันท์สวัสดิ์ค่ะ เอ่อ ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ ค่ะ”

“ดีค่า งามค่า” พี่มีมี่ปลอบใจ เพราะความจริงมันไม่ได้ดีเลิศเลออย่างที่ชม

เดินไปเดินมารอบห้องอีกนิดหน่อย ทุกคนก็เอาเมไปติวเข้ม ไล่ผมกลับมานั่งรอ จนพี่โนอาออกตัวโชว์เดินและจัดท่าทางการยืนให้เมเอง เสียงการแนะนำและสอนนั่นสอนนี่ทำให้ดาวห้องอื่นๆเริ่มลุกออกไปซ้อมเดินกันขวักไขว่

“เป็นผู้หญิงนี่ลำบากเนอะ” เพื่อนเดือนสักคนพูด

“มึงท่าจะลำบาก ดาวดูไม่คล่องเลย”

“เขาแค่ไม่มั่นใจมากกว่า ปกติคงไม่เคยแต่งแบบนี้ ถ้าให้ขึ้นไปชิงตำแหน่งเดือนน่าจะเข้าแนวมากกว่า”

“เฮ้ย ที่ปกติมันใส่ชุดนักศึกษาชายป่ะ?” เดือนห้องห้าถาม สีหน้าตื่นตกใจ

“อื้ม” ผมตอบ

“แม่งแต่งหญิงโคตรสวย ถ้าผมยาวกูจีบ”

“ผมสั้นกูก็จะจีบเนี่ย ถ้าไม่กลัวมันถอดรองเท้าส้นสูงตอกหน้า แม่งเพื่อนโรงเรียนกูเองเมอ่ะ หล่ออย่างนี้ตั้งแต่เด็ก ตอนม.ต้น สูงกว่ากูเป็นคืบ ถ้าไม่มีปม เมมันก็ผู้หญิงธรรมดาๆ เนี่ยแหละ” คนที่ได้ยินพากันหันไปมองคนพูดครับ รวมผมด้วย ตอนนี้เขาน่าจะสูงกว่าเมนิดหน่อย ถ้าจำไม่ผิดคนพูดเป็นเดือนห้องหนึ่ง

“ปมอะไรว่ะ?” ผมถาม

“ปมสูงกว่าผู้ชายไง”

อ้อ อย่างงี้นี่เอง ผมคิดในใจ

“เออ จริง สูงมาก ฆ่าเดือนไปแล้วครึ่งนึง ถ้าคนที่มันเดินด้วยเป็นคนอื่นไม่ใช่มึงจะดูโลกเอียงไปเลยนะเนี่ย”

ผมมาคิดๆ ดู เมเป็นผู้หญิงที่สูงมาก แต่ปกติผมไม่ค่อยมองเมเป็นผู้หญิงไง เลยไม่สนใจความสูงของเม และผมชินกับผู้หญิงสูงๆด้วยมั้ง แม่ผมก็สูง น้องผมก็สูง อื้ม เมสูงเท่ามะนาวเป้ะ ถ้างั้นเมก็สูงราวๆ 175 ได้ รวมรองเท่าวันนี้ก็จะประมาร เกือบๆ 180 ผู้ชายสูง 180 ยังมีไม่มากเลย

มือถือผมสั่น เลยหงายขึ้นมาดู มะนาวคงมาแล้ว

  NAWNAW :   มึง ออกมารับกูหน่อย กูไปไม่ถูก

       Maths :    อยู่ไหนแล้ว

  NAWNAW :   ทางเข้าหอประชุม

  NAWNAW :   มาเร็ว พวกลุงหนวดเต็มเลย กุกลัว

ลุงหนวดของมะนาวคือพวกว้ากหน้าเหี้ยมครับ

       Maths :   เออๆ


ผมลุกขึ้นจะออกไปข้างนอก กำลังจะเดินผ่านพวกที่ซ้อมเดินกันอยู่เมก็เรียกผมไว้

“แม็ต มึงไปไหน ไปด้วย”

“จะไปรับมะนาว ใช้มันซื้อของกินมาให้”

“เอากูไปด้วย กูปวดฉี่”

“ป่ะ ไปดิ”

ผมยืนรอเมอยู่หน้าประตู เมเดินมาก้มมองรองเท้าไปด้วย นอกจากรองเท้าจะทำให้เดินยาก กระโปรงทรงเอยังทำให้ความคล่องตัวลดลงไปมาก เมเปิดประตูทั้งที่ยังก้มดึงกระโปรงลง จังหวะที่ก้าวออกไปหัวเมก็ไปชนกับใครคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าห้อง

“โอ้ย!” เมค่อยๆ เงยหน้าขึ้นพึมพำขอโทษยังไม่ทันจบคำก็ชะงักไป

ผมเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดแต่รั้งเมไว้ไม่ทันจริงๆ บอกเลยว่าผมตกใจมาก คนทั้งห้องแต่งตัวที่เสียงดังโหวกเหวกโวยวายอยู่เมื่อครู่ส่วนใหญ่คงมองเห็น เพราะทั้งห้องเงียบกริบ นิ่งไปทันที บรรยากาศชวนขนลุกสุดๆ เพราะคนที่เมเดินเอาหัวไปโหม่งอกเขาและเกือบจะงัดใต้คางเขาด้วยนั่นคือประธานเชียร์!

ประธานเชียร์มาพร้อมสมุนเป็นลุงหนวดถึงสี่คน คนนึงจะคอยเดินนำหน้า สองซ้ายขวา อีกคนเดินปิดท้าย ปกติผมเห็นเดินอยู่ไกลๆ ยังคิดในใจจะเข้มไปไหน มาเห็นใกล้ๆ นี่มันมาเฟียชัดๆ

ประธานเชียร์มองเมนิ่งๆ ไม่พูดหรือไม่ว่าอะไรสักคำ เมื่อกี้เหมือนเมจะตกจากส้นสูงไปแว้บนึง พยายามยืนให้มั่นคงก้มหน้าและแม่มปากแน่น

“คุณ เดินไม่ระวัง” คนซ้ายพูดขึ้นด้วยเสียงกึ่งว้าก เพราะตอนนี้เงียบมากและมันเป็นช่องทางเดินแคบๆ ที่เสียงก้องไปทั่ว

“ขอโทษครับเพื่อนผมไม่ชินกับรองเท้า” ผมดันเมให้ออกมายืนข้างประตู แล้วปิดประตูให้พ้นจากสายตาคนอื่นๆที่เริ่มจดจ้องกันอย่างเปิดเผย

“ขอโทษค่ะ คือมันเหมือนจะหลุด”

“แบบนี้จะไหวเหรอคุณ คุณไม่พร้อมกับงานนี้เลย ทั้งที่เพื่อนๆ ฝากความคาดหวังมากมายไว้กับตัวคุณ ว่าคุณจะเป็นตัวแทนที่ดี” คนขาวพูดครับ เมยิ่งหน้าเจื๋อนลงไปอีก

“ไม่เป็นไร แค่เมื่อถึงเวลาขอให้คุณตั้งใจทำออกมาให้ดีก็พอ” ประธานเชียร์พูด เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นเขาพูดนอกจากในห้องประชุมเชียร์ เสียงของเขายังกังวานและพุ่งเข้าหูอย่างกับเสียงของพวกนักแสดงละครเวทีที่พลังเสียงเข้าถึงใจคนได้แม่ไม่ได้ใช้เสียงดัง

“ผมจะรอดู” ประธานเชียร์พูดปิดท้ายเหมือนให้เรื่องนี้จบไว้แค่นี้

ก่อนประธานเชียร์จะหันหน้าไปทางที่เดินลึกเข้าไปข้างในและเดินต่อ องครักษ์ทั้งสี่เดินตาม ประกบติดตลอดเวลาซ้ายขวาหน้าหลังเหมือนในหนังเจ้าพ่อไม่มีผิด เขาเป็นใครมาจากไหนไม่มีใครรู้ หรือรู้แต่คงไม่บอกล่ะมั้ง ขนาดพี่โนอาที่บอกผมทุกเรื่อง ยังไม่ยอมปริปากบอกผมว่าคนพวกนี้เป็นใครมาจากไหน

“โห มึง ประคองกูหน่อยกูจะเป็นลม ฉี่ก็จะราด” เมยืนพิงกำแพง มืออีกข้างกวักเรียกผมแบบหมดเรี่ยวแรง

“อะไร ตุ๊ดแตกเลยเหรอมึง” ผมยกแขนเมขึ้นพาดคอ แล้วลากให้เดินไปทางห้องน้ำหน้าทางออก มะนาวรออยู่ผมเกือบลืมไป

“เออ” เมยอมรับหน้าตาเฉย “ก็กูกลัวประธาน แม่งงงงงง”

“ห่ะ”

“กูไม่ค่อยเข้าเชียร์ไง มึงดูดิจ้องกูจนขนคอตั้ง ต้องรู้แน่เลยว่ากูโดดเชียร์บ่อยๆ” อ้อ คนมีความคิดผิดติดตัวนี่เอง

“เขาจะจำได้ไง คนเป็นพัน”

“ไม่แน่นะมึง ก็กูหล่อใครๆก็สะดุดตา”

“พูดไม่ดูสภาพตัวเองตอนนี้เลยนะมึงอ่ะ”

“เออว่า ลืมเลย เหี้ยมาก” เมทำท่าห่อเหี่ยวมากกว่าเดิมอีก


เราเดินมาจนถึงประตูทางเข้าที่มะนาวยืนรออยู่เหมือนไม่รู้ว่าผมจะโพล่มาจากทางไหน

“เฮ้ย นาว ทางนี้”

“มานาววว ปลอบกูที กูจะร้องให้ ฮาาาาา” เมผละจากผมไปเกาะคอมะนาว ผมเลยยืนหัวเราะมันต่อ

“เม นี่มึงหัวเราะหรือร้องให้ มันเป็นไรมา ตกส้นสูงเหรอ? หรือฟองน้ำเล็กไปไม่พอใจ”

“ห่า มึงนี่”

“พูดตรงนี้ไม่ได้” ผมมองซ้ายขวา มีพวกพี่ปีสามปีสี่ กับพวกว้ากประปราย เพราะใกล้เวลาจัดปีหนึ่งเข้าห้องประชุมแล้ว “ไปหน้าห้องน้ำกัน”

ผมเดินนำมะนาวกับเมไปหน้าห้องน้ำที่เป็นห้องรวมก่อนจะแยกฝั่งชายหญิง

“เม กูลืมทัก มึงสวยมาก” ทำให้เมมองหน้ามะนาว สะบัดตัวออกเลิกให้มะนาวพยุง “อ้าว ชมก็ไม่ได้ สวยแล้วหยิ่งนะมึง”

“ชมแต่เม แล้วกูล่ะ?”

“มึงหล่อตลอดอยู่แล้วนี่ กูไม่เห็นมึงจะแปลกไปตรงไหน”

“มึงจะบอกว่าปกติไอ้แม็ตก็หล่อมากอยู่แล้ว ว่างั้น”

“อื้ม”

“หล่อจนใจสั่นเลยป่ะ?” เมถามต่อ

“อื้ม เอ้ย! ไม่ใช่ หมายถึงหล่ออยู่แล้ว แล้วหล่อขึ้นไม่ได้แปลกไป”

“กรี้ด กูกรี๊ดแตกเลยค่ะ มึงตอบไม่เท่าไหร่ แม็ตอ่ะมึง มึงยิ้มทำไม หวายยยยยย แถวนี้ไม่มีแฟนคลับนี่พวกมึงเซอร์วิซกับทำไม”

“อ้าว กูยิ้มอยู่เหรอ ไม่เห็นรู้ตัว” ผมยิ้มกว้างกว่าเดิมอีก

“เมมึงคึกอะไรมา เมื่อกี้ยังทำท่าจะร้องให้อยู่เลย”

“โอ๊ย กูเกลียดมึง หมดรมณ์เลย ถามแม็ตเอา กูจะไปฉี่ รองเท้าก็พอรองเท้า แม่งกระโปรงยังแคบอีกเดินโคตรลำบาก กูหนีบจนเมื่อยขาแล้วเนี่ย เชี่ยเอ้ย!”

เมฟาดงวงฟาดงาเดินไปทางห้องน้ำหญิง เป็นครั้งแรกที่เห็นมันเดินเข้าห้องน้ำแล้วไม่หูขัดตา ปกติมันแต่งชุดนักศึกษาชายแต่ไม่ได้ใช้ห้องน้ำชายนะ มันก็ใช้ห้องน้ำหญิงของมันทุกที

“เมมันเป็นอะไรมา”

“ตอนออกมา มันก้มหน้าก้มตาเปิดประตูเดินออกจากห้องแต่งตัว หัวเลยไปเสยคางประธานเชียร์ เลยโดยพวกว้ากจัดมาชุดนึง เล็กๆ แบบตัวตัวเลย เลยข็อค”

“แค่กูคิดกูก็สยองแล้ว”

“เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรรุนแรงนะ ประมารว่าอยากให้ตั้งใจมากขึ้น แค่นั้นเอง”

“แต่นั่นแหละ พอเป็นพวกนั้นพูดมันไม่ได้สมูทเหมือนที่มึงกำลังพูดตอนนี้ไง อ่ะ นี่ ของมึง แล้วนี่ หมากฝรั่งเผื่อไก่ติดฟัน”

“ขอบใจ กูไม่ได้เอาเป๋าตังมา เดี๋ยวเลิกนี่พาไปเลี้ยงข้าวล่ะกัน” ผมแกะซองซอสแล้วบีบลงไปลวกๆ

“ไม่ต้องหรอก กูว่าคืนนี้มีฉลอง ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง พี่กูไปจองร้านพี่ซันไว้ล่ะ นี่มึงกินตรงนี้เลยเหรอ”

“ไมอ่ะ ก็กูหิว” ผมเคี้ยวไปพูดไป ตรงนี้ของมะนาวคือ หน้าห้องน้ำ แปลกตรงไหน ในห้องน้ำกูก็กินได้ถ้ากูมีให้กิน “มึงจะไปห้องแต่งตัวกับกูป่าว”

“กูเข้าได้เหรอ”

“ไม่รู้เหมือนกัน ได้มั้ง”

“ไม่ดีกว่า นี่ก็ใกล้เวลารวมคนเข้าหอประชุมแล้ว กูรอดูมึงข้างล่างแล้วกัน”

“กูจะหามึงเจอมั้ยเนี่ย คนโคตรเยอะ”

“ไม่ต้องหาหรอก มึงก็ทำหน้าที่มึงไป”

“อย่าลืมโหวตให้กูนะ” ผมทวง

“โหวตให้คนอื่นก็บ้าและ มึงตัวแทนห้องกูนะ อีกอย่างมึงเพื่อนกู กูจะไปโหวตให้คนอื่นทำซากอะไร”

เออ ก็จริง งั้น...

“ถ้าไงๆ มึงก็จะโหวตให้กูอยู่แล้ว งั้น... เปลี่ยนเป็น... อย่าใจสั่นกับคนอื่นก็แล้วกัน” ผมพูดนิ่งๆ ด้วยหน้าตายๆ กัดเบอร์เกอร์อีกคำใหญ่ลอยหน้าลอยตา

“กูไปรอรวมคนดีกว่า มึงท่าจะเพี้ยน เมาแว็กรึไงมึง ชิ” มะนาวมองแรงใส่ผมที แล้วเดินเร็วๆ ออกไป

ผมคิดว่านั่นเป็นท่าทางเขินของเขาได้ไหม วู้ ไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลย การทำผมเปิดโหงวเฮ้งกับมีรองพื้นหนาๆ ช่วยให้เราหน้าด้านขึ้นได้จริงสินะ ฮ่าๆๆๆ

“มึงจีบกันขนาดนี้ เลิกเป็นเหอะคู่จิ้น”

ผมสะดุ้ง เพราะเมย่องมากระซิบข้างผมแบบไม่รู้ตัว

“เป็นคู่จริงไปเลยมึง กูคนนึงแหละรับได้ร้อยเปอร์เซ็น”

“มึงออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“นานและ แล้วถึงอยู่ในห้องน้ำกูก็ได้ยินพวกมึงคุยกัน เสียงก้องจะตาย”

“งั้นกลับห้องเตรียมตัวเหอะ ออกมานานแล้ว”

“เปลี่ยนเรื่องเลยนะมึง”

“...” ผมกินเบอร์เกอร์เป็นทำนอง ตอนนี้ปากกูไม่ว่าง


----------------------------------
TBC.


อยากอัพตั้งแต่วันพฤหัส แต่ปั่นไม่ทันจริงๆ (โน๊ตไว้ในสมุดแล้วแกะลายมือตัวเองไม่ออก) ฮ่าๆๆๆๆ

ขอบคุณทุกๆ คอมเม้นต์ +เป็ด และคะแนนนะค่า รู้สึกมีแรงฮึดทุกครั้งที่เห็นคอมเม้นต์เพิ่ม แม้จะน้อยนิดก็ตาม 5555+
เจอกันตอนหน้า มาเลือกเดือนกันนนน แต่เลือกเดือนไม่สำคัญเท่าหลังเลือกเดือน  -..-


ปล. อยากเขียนเรื่องสั้น อยากอ่านแนวไหนตะโกนบอกทีจิ โลกมันกว้างเลือกไม่ถูก
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 10 หยอดขั้นฝึกหัด] 20/2/59 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-02-2016 02:45:49
เมท่าทางจะเจอเนื้อคู่
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 10 หยอดขั้นฝึกหัด] 20/2/59 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 20-02-2016 04:48:17
แม็ต หยอดได้ดีงามมาก
เมกับพี่ว๊ากหน้าโหดนี่จะแมนชนแมนหรือเปล่านะ 55
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 10 หยอดขั้นฝึกหัด] 20/2/59 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 20-02-2016 17:02:12
ขนาดเมยังรู้ จีบเป็นคู่จริงเลยแม็ต
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 10 หยอดขั้นฝึกหัด] 20/2/59 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 20-02-2016 20:29:46
ตามอ่านทันแล้ว
เลือกเดือนไม่เท่าไหร่ถ้าแม็ตนาวเลือกเป็นแฟนกันเมื่อไหร่เราร๊อรอ :mc4: :mc4: :mc4:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 10 หยอดขั้นฝึกหัด] 20/2/59 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 20-02-2016 21:35:12
 :-[
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 10 หยอดขั้นฝึกหัด] 20/2/59 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: คุณข้าวทอด ที่ 21-02-2016 01:05:41
แม็ตนายมัน...  :hao7:  มีพัฒนาวะ5555 เอาจริงเราว่าแม็ตร้ายลึก ร้ายกว่ามะนาวไปอี้กก  :hao6:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 10 หยอดขั้นฝึกหัด] 20/2/59 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 21-02-2016 09:38:25
อยากอ่านต่อ อยากอ่านต่ออ

มะนาวน่ารักกกก  :ling1:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 10 หยอดขั้นฝึกหัด] 20/2/59 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 21-02-2016 09:42:44
ประธานเชียร์ตกหลุมเมป่ะเนี้ย
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 10 หยอดขั้นฝึกหัด] 20/2/59 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: PaiPo ที่ 22-02-2016 01:28:06
ไม่ต้องหยอดมะนาวก็หลงจะแย่
เล่นหยอดกันแบบนี้ นางวิ่งหนีไปเขินตายอยู่ไหนแล้วนั่น  :katai2-1: :katai2-1:

หลังประกวดมีอะไรเหรอคนเขียน รอๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 11 ให้การกระทำคือคำตอบ] 22/2/59 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 22-02-2016 21:28:34
  - บทที่ 11 - ให้การกระทำคือคำตอบ -



----------------------------------------


ทางเดินยาวๆระหว่างห้องน้ำกับห้องแต่งตัวที่แทบไม่มีคนอยู่เลย เมเดินนำลิ่วๆ ดูเหมือนพยายามฝึกเดินให้ชินด้วยตัวเอง นั่นไงจะทำจริงๆ ก็ทำได้ แต่เหมือนจะกลัวสายตาผู้คนกับกลัวหน้าแตกเท่านั้นเอง

เมเปิดประตูและเดินเข้าไปก่อน ผมที่เดินตามมาเห็นเมถูกดึงหายเข้าไปในกลุ่มดาวแท้ดามเทียมปีหนึ่ง

“เฮ้ยเม มึงเป็นไรป่าว”

“เขาเอามึงไปไว้ห้องดำรึไงว่ะ”

“หายไปนานมากพวกกูเป็นห่วง”

“นึกว่ามึงจะโดยอุ้มไปนั่งยางแล้ว”

ทั้งเพื่อนดาวกับดาวเทียมรุมถามเมกันยกใหญ่ ผมได้แต่อึ้งๆ กลับมานั่งเก้าอี้ว่างๆ รอบๆ เมวุ้นวายแตกตื่น แต่พวกพี่เลี้ยงกับเดือนนั่งกันนิ่งๆ คงเพราะใกล้เวลาเลยทำสมาธิกันมั้งเนี่ย

“เปล่า กูไปห้องน้ำ พวกนั้นพูดสองสามคำก็ไปแล้ว ไม่มีอะไร”

“ไม่มีอะไรจริงเหรอ”

“อื้ม”

“ว้า ไม่หนุกเลย”

“นั้นดิ”

“สนุกบ้าอะไร อยากโดนแบบกุรึไง”

“อยาก!” หลายคนประสานเสียงกัน ผมกับคนอื่นๆ ที่ดูอยู่ทึ้งสุดๆ รู้อยู่ว่าประธานเชียร์ทั้งหล่อทั้งเข้มึกลับน่าค้นหา แต่ลุงหนวดหน้าโหดอีกตั้งสี่คนไม่กลัวกันรึไง

เมบ่นงึมงำ ว่าพวกนั้นคงเพี้ยนไปแล้ว หลังจากนั้นเหตุการณ์ ก็กลับสู่ภาวะปกติ มีพี่สตาฟมาเรียกพวกเราออกไปซ้อมคิว บร็อกกิ้ง มาร์คจุดยืน และลำดับการเดิน พวกเขาให้ซ้อมเดินรอบเดียวเพราะว่า

“เป็นว่าที่วิศวกรต้องเรียนรู้เร็ว และทำงานออกมาได้ดีแม้อยู่ภายใต้แรงกดดัน”

เมเกร็งและหน้าเหี่ยวลงอีกแล้วเมื่อได้ยินแบบนั้น

แต่ความกลัวของเมก็ลดลงเพราะสถานการณ์จริงไม่ได้มีอะไรมาก เดินออกมาทีละห้อง เรียงจากห้อง A ถึง G กลับไปยืนชิดด้านหลัง เดือนก้าวออกมาแนะนำตัวทีละคนทั้ง 7 ห้อง พร้อมกับฉายโปรเจคเตอร์รูปโปรไฟล์แนะนำตัว ตามด้วยดาวทั้งหมด และดาวเทียมปิดท้าย แล้วก็โหวตเลย วิธีโหวตก็สุดแสนจะคลาสสิค หันหลังยกมืออีกแล้วครับ ฮ่าๆ

ซ้อมเสร็จพี่มีมี่รีบพาเมกับพงศ์ไปเติมหน้า แต่ไร้วี่แววพี่โนอา

“พี่มี่ พี่โนอาล่ะครับ”

“อ้อ เออ นางไปโทรศัพท์มั้ง”

“อ้อ”

“พี่มี่ตามพี่โนอามาเร็ว ไม่งั้นไอ้เมไม่มีแรงขึ้นเวทีแน่” พงศ์แซวๆ

“ไม่ได้หรอก ตามไม่ได้ สายสำคัญ เดี๋ยวมันโทรเสร็จก็คงกลับมาเองแหละ” ผมคิดไปเองรึเปล่าว่าพี่มีมี่ท่าทางแปลกๆ เมื่อกี้บอกโทรศัพท์ลงท้ายด้วยมั้ง พออย่างนี้บอกมั่นใจว่าสายสำคัญ งงกับพี่แก

“เอาอะไรมาฉุดกูก็ฮึดไม่ขึ้นแล้วมึง”

“เอาน่า แป็ปเดียวก็จบ” ผมบอก

“ช่าย นี่นะ เติมปากแล้วห้ามกินน้ำแล้วนะหนู อดทนไว้ แป็ปเดียวก็จบจ๊ะ”

“จ้า”

เมเหมือนจะกลั้นใจตอบ เพราะคงทำใจได้แล้วว่าเขาต้องทำจริงๆ ผมยกมือถือขึ้น พิมพ์ยุกยิกไปหาพงศ์ รอให้เขาหยิบมือถือขึ้นดู


“เม ไม่ใช่มึงคนเดียวที่ตื่นเต้นหรอกน่า แล้วก็ไม่ต้องกลัวจะทำอะไรผิดพลาดด้วยคนเราก็มีสิทธิผิดพลาดได้มากพอๆกัน”
“มึงไม่เข้าใจ”

“ลองมองไปรอบๆ ห้องดิ” ผมเงยหน้านำสายตาเขา ตัวแทนหลายๆ คนเริ่มอยู่กับตัวเองเลิกเล่นเลิกคุย พอจวนเวลาเข้ามาจริงๆทุกคนก็ตื่นเต้นและคุมตัวเองไม่ค่อยอยู่กันทั้งนั้น

“มึงดูพงศ์” พงศ์กำลังจ้องหน้าตัวเองในกระจก หลับตา พนมมือและทำปากขมุบขมิบ “พึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วดู กูเองก็ตื่นเต้น มันน่ากลัวก็จริงแต่มึงก็ไม่ได้กลัวอยู่คนเดียวหรอกนะ”

“อื้ม กูจะพยายามไม่คิดมาก”

“สู้ๆ มึง แป็ปเดียวก็จบ” 

“เนอะ แป็ปเดียวก็จบ” เมพูดตามผม  พงศ์กำลังเล่นหูเล่นตากับผมในกระจก เยินยอตัวเองว่าเพราะเขาสวยและทำได้ดี เพื่อนผมผมรู้ดีแอคติ้งดีอย่าบอกใคร


เมกำลังใจดีขึ้น อย่างน้อยก็ไม่ประสาทกินเหมือนก่อนหน้านี้ เมื่อถึงเวลาจริง ความตื่นเต้นก็จู่โจมเราสามคนแบบจริงๆจังเพราะตัวแทนห้องแรกที่เดินขึ้นไปก่อนได้รับการตอบรับดีเกินคาด เรียกว่าไม่เหลือคราบห้องเชียร์ที่เงียบสงบเลย

ถ้าพวกผมสามคนเดินออกไปแล้วเงียบฉี่ล่ะ? หรือถ้าเขากรี๊ดดังจนเราสติแตกล่ะ เมที่อยู่ตรงกลางกอดแขนเราสองคนแน่น

“กูทำได้ๆๆ มึงก็ทำได้ๆ” พงศ์บอกเรา

แล้วเราก็เดินออกมาหน้าเวทีโดยที่ไม่มีใครสะดุดขากัน เสียงกรี้ดกับเสียงปรบมือดังมาก จนผมเองยังตกใจ พงศ์ถึงกับทิ้งเราเดินหมุนไปข้างหน้าและโค้งขอบคุณเสียงปรบมือต้อนรับอย่างสนุกสนาน ปล่อยให้ผมกับเมเดินกลับมาเข้าที่ก่อน

“นี่เราทำอะไรผิดรึเปล่าว่ะ” เมกระซิบถามผมทั้งที่ยังยิ้ม

“กูว่าไม่นะ เว้นลูกข่างโน้น”

ตอนที่ได้ยืนนิ่งๆ ผมถึงได้สังเกตไปรอบๆ เพื่อนๆปีหนึ่งด้วยกันจะนั่งกับพื้น พี่ปีอื่นๆ ศิษย์เก่า อาจารย์จะนั่งสโลปด้านหลัง ผมมองหามะนาวจากคนมากมาย แต่แทบไม่ต้องมองหา มะนาวนั่งหน้าสุดเลย กำลังหัวเราะพงศ์ที่โดนพิธีกรไล่ให้กลับมายืนกับที่เพื่อจะดำเนินกิจกรรมต่อ ตอนที่พงศ์หมุนตัวเดินกลับมา ผมกับมะนาวก็ได้สบตากัน เขาที่ยังยิ้มค้างอยู่ยักคิ้วให้ผม

“มึงงง โคตรน่ากลัวเลย” เมกระตุกแขนผมและกระซิบ

“อะไร?”

“หูย คุณพระคุณเจ้า พวกนั้นนั่งตรงนั้นเหรอเวลาไม่ได้ว้าก” พงศ์ที่เห็นก่อนรีบพูด

ผมมองตามสายตาทั้งคู่ ตรงข้ามเวทีที่เราอยู่ ข้างล่างเป็นปีหนึ่ง ด้านหลังเป็นที่นั่งหุ้มเบาะที่ไล่ระดับสูงขึ้นๆแบบโรงหนัง ทั้งหมดมีรุ่นพี่นั่งอยู่เกือบเต็มทุกที่แล้ว แต่สามสี่แถวบนสุด แปลกและโล่งกว่าที่อื่นเพราะเป็นพวกลุงหนวดและประธานเชียร์นั่งอยู่ ที่เห็นเด่นชัดเพราะเชิตขาวคือประธานเชียร์นั่งกอดอกอยู่ตรงกลางเป้ะ ว้ากจะใส่เสื้อเชิตสีดำนั่งห่างๆประปราย บางคนยืนคุมคอยมองไปรอบๆ เหมือนกลัวจะมีมือปืนซุ่มยิงจากที่ไหน

พวกมึงนี่มาเฟียมาจากไหนว่ะ พวกอาจารย์ยังนั่งเบียดกับนักศึกษาอยู่ข้างล่างเลย

“แม่งดูกูอยู่จริงด้วย ดูดิจ้องเป่งเลย”

//เดี๋ยวๆ ดาวเทียม ดาวเทียมห้องเจ็ด หนูอยู่ผิดที่รึเปล่าค่ะ ดาวเทียมต้องมายืนข้างซ้ายของเดือนนะ//

“ไม่ผิดหรอกค่า พอดีดาวห้องหนูไม่เป็นมิตรกับรองเท้า เราสองคนกลัวเขาจะล้มคว่ำหัวแตกคาเวทีเลยต้องช่วยกันประกบอ่ะค่ะ เข้าใจเราเถอะนะคะ”

//เอางั้นเหรอจ๊ะ//

พงศ์พยักหน้ายิ้มกว้าง ผมก็ช่วยพยักหน้าด้วย ส่วนเมเอามือปิดหน้าอับอาย ทำเอาทั้งห้องประชุมฮาครืน พวกปีหนึ่งบางคนตะโกนให้กำลังใจเมกันสนุกสนาน คงเป็นแฟนคลับเขาล่ะมั้ง

//งั้นก็ได้จ๊ะ และลำดับต่อไป จะเป็นการแนะนำตัวของเหล่าเดือนสุดหล่อแห่งคณะวิศวกรรมศาสตร์//

เดือนก้าวออกมาข้างหน้าแถวรวม แนะนำตัวทีละคนพร้อมคำถามน่ารักๆนิดๆหน่อยๆ ผมยืนมองสไลด์ภาพเพื่อนๆเดือนเพลินๆก็ถึงคิวผมซะแล้ว ผมรับไมค์มาจากพิธีกร

//สวัสดีครับ ผมแม็ต อดิศร วนไพศาล วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ตัวแทนจากห้อง F ห้อง 7 ครับ//

ระหว่างที่พูดไป สายตาผมก็เหลือบไปมองจอโปรเจคเตอร์ที่กำลังฉายภาพผมอยู่ ภาพแรกเป็นภาพโปรไฟล์เฟสบุค ผมใส่ชุดนักเรียนที่เต็มไปด้วยรอบปากกาในวันปัจฉิมยืนพิงกำแพงและยิ้มตาปิด อันนี้ผมเข้าใจ แต่รูปต่อๆมา ทำไมบางรูปผมยังไม่เคยรู้ว่ามีอยู่

รูปที่สามผมจำได้ วันเกิดเอ้ ที่มะนาวเซตผมให้ผม คล้ายๆทรงที่เซตวันนี้ รูปนั้นมะนาวเป็นคนถ่ายไว้ และไม่เคยลงโซเชี่ยว เขาไปเอามาจากไหน? รูปต่อๆ มาก็อีก บางรูปก็เป็นรูปที่เพื่อนแทคมาในเฟส แต่ครึ่งหนึ่งเป็นรูปที่ผมมั่นใจว่าคนถ่ายคือมะนาว รูปสุดท้ายผมยิ่งมั่นใจ เป็นรูปถ่ายจากมุมสูงผมนอนตะแคงกอดหมอนหัวยุ่งๆ และหลับสนิท ไม่มีใครจะมาถ่ายรูปแบบนี้ได้นอกจากมะนาว

//แหม อยากไปนอนด้วยจังเลยอ่ะ// พร้อมๆกับเสียงพิธีกร มีเสียงกรี๊ดกร้าดและพูดคุยฮือไปทั่ว

//จุ๊ๆๆ เก็บอาการกันนิดนึงค่ะเด็กๆ วันนี้เรามีคณะบดีรอมอบรางวัลอยู่นะจ๊ะ สำรวมจ๊ะสำรวม อิฉันกำลังบอกตัวเองค่ะ สำรวมๆ มาสักคำถาม เชื่อว่าหลายๆคนเรียกร้องและอยากรู้นะคะ รูปนี้ คนที่ถ่ายใช่คนที่คุณก็รู้ว่าใคร คนนั้นใช่ไหมคะ?//

//ผมไม่รู้เขาแอบถ่ายตอนไหน แต่ก็ไม่มีคนอื่นแล้วล่ะครับ//

พี่พิธีกรที่ออกสาว เมินหน้าจากผมเดินไปขอบเวทีลดไมค์ลงกำสองมือยกขึ้นข้างหู แล้วทำท่ากรี๊ดแบบไม่มีเสียง พร้อมๆ กับเสียงกรี๊ดลั่นสนั่นห้องประชุม ผมถึงได้รู้วันนี้เอง ว่าผู้หญิงทั้งคณะมีพลังเสียงมากขนาดไหน มะนาวถึงกับยกสองมือขึ้นปิดหู เพราะเพื่อนที่นั่งข้างๆ เอียงตัวและกรี๊ดใส่หูเขากันยกใหญ่ สมน้ำหน้า ฮ่าๆๆๆ

//ดิฉันไม่ทราบเลยค่ะว่าใครเป็นคนถ่ายภาพนี้นะค่ะ ไม่ทราบจริง// ไม่ทราบแล้วพี่เดินลงไปตบไหล่มันทำไมคร้าบบบบ ผมอยากจะร้องให้

//พอค่ะ ถ้าเราเข้าเรื่องนี้เดี๋ยวจะยาว ขอบคุณสำหรับการแนะนำตัวนะคะ//

รอจนคนสุดท้ายแนะนำตัวจบผมก็กลับมายืนที่เดิม สลับกับเมที่ออกไปยืนรอแนะนำตัว

“มึงเอารูปกูไปให้พี่เขาเหรอ” ผมจำได้ว่าบางรูปก็เป็นตั้งแต่สมัย ม.ปลาย

“กูแค่บางส่วนค่ะ เจ้าใหญ่ก็ข้างรหัสมึงโน้น”

“อันนั้นกูรู้แล้ว แต่ที่กูไม่รู้คือไม่เห็นรู้เลยว่าพวกมึงทำสไลด์ภาพกู”

“ของมึงไม่พีคเท่าเมหรอก มึงคอยดู”

ผมรอดู

ภาพแรกของเมเป็นรูปโปรไฟลจากเฟสเหมือนผม เป็นรูปหน้าเล็กๆของเมกับแว่นกันแดดอันใหญ่นั่งเหยียดขาเท้าแขนไปข้างหลังบนพื้นทราย ดูสบายๆ และดูเผินๆ ก็ดูไม่ออกว่าผู้ชายรึผู้หญิง รูปที่สองเป็นรูปครึ่งตัวในชุดนักศึกษาในวันปกติ คือใส่เชิตของผู้ชาย มาถึงตรงนี้สาวๆ ที่ไม่แน่ใจว่าเมเป็นใครเริ่มจำได้ เกิดเสียงฮือฮาและบางคนตะโกนเชียร์อย่างบ้าคลั่งจนการแนะนำตัวของเมสะดุด

“กรี๊ด เมนี่นา”

“เมวันนี้สวยมาก”

“ได้แน่มึง”

“โอปป้าซารางแฮ”

รูปในสไลเลื่อนไปช้าๆ ไม่มีภาพแมนๆ ของเมอีกแล้ว เพราะที่เหลือแต่งหน้าเต็มฟองน้ำเต็ม บางรูปเปิดไหล่กระดุมติดไม่ครบ เจ้าของภาพถึงกับอ้าปากค้างกับรูปหลังๆ ส่วนใหญ่เป็นรูปในห้องนอนหลายๆ อิริยาบถ ทั้งปาดเหงื่อ  ทำหน้าสงสัย ยิ้มตาปิด ผมเดาว่ารูปพวกนี้ถูกถ่ายวันที่ไปฟิตติ้งเสื้อผ้าหน้าผมกับที่ห้องพี่โนอา เพราะมีคนอื่นติดมานิดๆ

รูปต่อมาอีกสองรูปเป็นรูปในห้องแต่งตัว สดๆ ร้อนๆ ผ่านมาไม่ถึงชั่วโมงแน่ๆเพราะมีผมอยู่ด้วย ผมกับเมคล้องแขนกันก้มลงมองต่ำกันทั้งคู่ อีกรูปในแอคเดียวกันเงยหน้ามายิ้มให้กล้อง ตอนถ่ายพวกพี่เขาบอกว่าต้องเช็คว่าสวยหล่อขึ้นกล้องกันรึยัง นี่พวกผมโดนหลอกถ่ายรูปโดยที่ไม่รู้ว่าจะต้องเอามาอวดคนเป็นพัน!

//เดี๋ยวนะค่ะ ดาวเดือนห้องนี้เป็นอะไรกัน มีคอนเซปภ่ายภาพบนเตียงกันเหรอคะ//

รูปสุดท้าย เมนอนแผ่บนเตียงและเอามือข้างหนึ่งยกขึ้นขยี้ตา น่ารักแอ๊บแบ้วเชียวนะมึง เมเอามือบังหน้าผากเหมือนบังแดดและรีบเดินกลับเข้ามา

//เดี๋ยวสิ กลับมาก่อน ยังไม่ได้ตอบคำถามเลย มาให้พี่ถามก่อนน้องเม//

เมจำใจเดินกลับไปหน้าเวทีจุดเดิม มันเงยหน้าขึ้นมองสไลด์สลับกับมองฝั่งตรงข้ามเวที ผมเห็นประธานเชียร์หันมองสไลด์กับเมสลับกันอยู่ แม้จะไกลแต่มั่นใจว่าตาไม่ฝาด

//โดยปกติแล้วเมไม่แต่งตัวแบบนี้ รู้ตัวมาก่อนไหมว่าแต่งแบบนี้สวยกว่าชะนีทั้งโลกหล้า//

//เออ ไม่จริงผมไม่สวยหรอก ในสายตาผมสาวๆ ยังคงสวยและน่ารักเหมือนเดิม// เมทำท่าช่วยไม่ได้ เลิกเก็บท่าทาง เลิกยืนพ้อยเท้าแบบที่ถูกสั่งมา กลับมายืนแมนๆ ในร่างนางงามได้อย่างเป็นตัวของตัวเอง เล่นเอาสาวๆเคลิ้มกับแทบสลบ

“มันกล้ายืนขาโก่งแบบนั้นในชุดกระโปรงทรงเอเนอะ บ้าอ่ะ แต่ได้ใจ อิอิ” พงศ์แอบกระซิบ

เมื่อดาวแนะนำตัวเสร็จทุกคน เมก็กลับมายืนกอดอกอยู่ข้างผม

“กูหล่อป่ะ?”

ผมหัวเราะ และส่ายหน้าแบบไม่ไหวจะเคลียร์ รอความสนุกสนานจากดาวเทียมที่ขนความฮามาอย่างกับยกมาทั้งคณะตลก


การโหวตใช้เวลาพอสมควรครับ ผมค่อนข้างหมดห่วง อีกเดี๋ยวก็หมดภาระหน้าที่นี้แล้ว แค่ยืนรอเขาประกาศผลจะได้ลงไปจากเวทีซะที

“แม่งลุ้นว่ะ” เมกระซิบข้างๆ

“ลุ้นไร คิดมาก ไม่แจ๊คพอตแตกหรอก”

“กูได้สนุกเท่านี้กูพอใจแล้วค่ะ” พงศ์ลอยหน้าลอยตา

 “แม็ต มึงกับกูอ่ะ เขานับคะแนนนานมากเลยนะเว้ย เกือบสามนาที”

“มึงรู้ได้ไง นาฬิกาก็ไม่ได้ใส่”

“กูนับเลขหนึ่งถึงหกสิบในใจ คนอื่นเขานับคะแนนแป็บเดียวเอง ไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ”

“เขาอาจจะสับขาหลอกให้สับสนก็ได้” ผมพูดไปงั้น แต่เอาจริงๆย้อนคิดดูก็ใช้เวลานานจริง จะบอกว่าเพราะเป็นช่วงเวลาของตัวเองเลยรู้สึกนานก็คงไม่ใช่แล้ว เมมันลงทุนนับเวลาในใจขนาดนี้ จากสบายๆกลายเป็นมาลุ้นเอาตอนหันหน้ากลับมาแล้วเจอมะนาวยิ้มแฉงให้ มะนาวหันไปทางเม ทำปากขมุบขมิบ

‘เม มึงได้แน่’ เมเอาแต่ส่ายหน้า ผมเลยหัวเราะ

‘หัวเราะไร มึงก็ได้’ ผมนี่ยิ้มค้าง

แล้วผลก็ออกมาเป็นอย่างที่มะนาวว่าครับ เมถึงกับปิดปากทำท่าจะร้องให้ คนอื่นคงคิดว่าเป็นแอคติ้งนางงาม ดีใจจนน้ำตาจะไหล แต่มันบอกเลยว่า กูคงมีเวรมีกรรมต้องชดใช้ ถึงโดนจับทรมานซ้ำแล้วซ้ำอีก

ส่วนพงศ์ได้ที่สามไป เขาบอกได้แค่นี้ก็พอใจแล้ว เพราะมีดาวเทียมสวยเทียบชั้นดาวจริงอยู่หลายคนครับ

รางวัลเป็นสายสะพายจากคณะบดีครับ กับของรางวัลประจำตำแหน่งที่ดาวเดือนปีสองมาส่งต่อด้วยตัวเองแตกต่างแต่อยู่ในหมดหมู่เดียวกัน ผมได้ไม้กลองหนึ่งคู่จากพี่วิทเดือนปีสอง เมได้พู่ของปอมปอมเชียร์จากพี่โนอาพี่โนอาเอาแต่หัวเราะและสุดท้ายก็เข้าไปกอดปลอบใจเม ดาวเทียมได้โทรโข่งจากพี่มีมี่

บอกว่าให้พวกเราเป็นตัวแทนนำสีสันมาสู่คณะ ความหมายดี แต่เมยังทำหน้าจะร้องให้ไม่หยุด

//น้องดาว น้องดีใจจนน้ำตาไหลเลยสินะจ๊ะ แหม น่าเอ็นดู//

//เธอก็ไปแซวน้อง คืนร่างเดิมเมื่อไหร่ก็ได้ไล่เตะเธอหรอก//

//อุ้ยต้าย พี่ลืม ขอโทษๆ ถือว่าพี่ไม่ได้พูดแล้วกันนะคะ//


..................................


ทุกคนมาแสดงความดีใจกับผมจนปลีกตัวแทบไม่ได้ทั้งกอด ทั้งตบไหล่ขอถ่ายรูป จนผมเริ่มตาลายต้องทำเป็นยกมือถือขึ้นคุยไลน์เพื่อพักสายตา

      Maths :    มึง รถจอดอยู่ไหน

      Maths :    กูไปรอที่โรงอาหารแล้วกันนะ

      Maths :    เหนื่อยมาก หิวอีกแล้ว

คงอีกสักพักกว่ามะนาวจะออกจากห้องเชียร์ได้

พี่เทเดินมาบอกผมว่าเดี๋ยวมีฉลองที่ร้านฮูอาวีของพี่ซัน รุ่นพี่คนนึงในห้อง เจอกันตอน 3 ทุ่ม ทั้งวันผมเพิ่งเห็นพี่แกตอนมีเรื่องเฉลิมฉลองเนี่ยแหละ

   NAWNAW :   จอดอยู่ข้างตึกบี

   NAWNAW :   ไปที่โรงอาหารก่อน เพื่อนรออยู่ บอกเมกับพงศ์ด้วยนะ

        Maths :    เค

 ผมเปิดเข้าไปดูในกรุ๊บของเพื่อนๆ เอ้ กับน้ำก็เข้ามาร่วมโวยวาย

ผมหันไปบอกเมกับพงศ์ว่าเพื่อนๆรออยู่ที่โรงอาหาร เมปลีกตัวจากเพื่อนๆขอเซลฟี่ได้เอากางเกงวอร์มสำหรับใส่ตอนเข้าเชียร์มาเปลี่ยนเรียบร้อยแล้ว นั่งอ้าซ่าจนพงศ์ตบขาให้หุบๆ ซะบ้าง

ออกมาข้างนอกผมกับเมก็เจอพายุผู้คนไม่ต่างกัน กว่าจะเดินถึงโรงอาหารเราต้องหยุดให้คนขอถ่ายรูปเกือบยี่สิบคน ที่กดถ่ายๆแบบไม่ขออีกนับไม่ถ้วน

ชีวิตมหาลัยต่อไปนี้ คงเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ...


.............................................


ผมเกลียดเพลงดอกไม้บานอะไรนั่น แม่ง ร้องใส่ผมกันทั้งคืน พอมาชนแก้วก็ขอสุดซอยๆ ซอยเหี้ยไรว่ะ ก้นแก้วก็บอกสิว่าหมดแก้ว จะต้องให้แปลอีกทำห่าอะไร

เอ่อ โทษๆ เมาแล้วหยาบคายไปหน่อย

มะนาวประคองผมเดินขึ้นหออย่างยากลำบาก ทุกอย่างกลับกันไปหมด วันนี้มะนาวดูมีสติดีทุกอย่าง ส่วนผมสิ เมาเหี้ยๆ รู้อยู่ว่าดีใจที่ผมได้เป็นเดือนคณะ แต่ทำไมรู้สึกเหมือนโดนแกล้ง หรือคนแถวนี้เขาแสดงความรักกันแบบนี้ว่ะ

ผมก้าวเข้าห้องตามมะนาว พอเข้าห้องมาแล้วความคิดเริ่มอยู่ไม่นิ่ง ตั้งแต่วันแรก ทุกครั้งที่เขาเมา มะนาวไม่เคยจำเรื่องระหว่างผมกับเขาได้ แต่ผมจำได้แม่นยำ ทั้งภาพ ทั้งเสียง และความรู้สึกอุ่นๆ กลิ่นไอของร่างกาย ลมหายใจ เสียงเขาที่เรียกชื่อผม การเชิญชวนเล็กๆ น้อยๆ ของเขาที่นำเราไปหาความสุข ผมจำได้ ยิ่งตอนนี้ผมเมาผมควบคุมภาพพวกนั้นให้หยุดหมุนไปรอบๆหัวไม่ได้เลย ทั้งหมดกำลังวนเวียนอยู่ในหัวซ้ำไปซ้ำมา เขาในภาพแสงสลัว ซ้อนทับภาพเขาที่ยืนมองผมอยู่ในตอนนี้

“มึงเมาแล้วเป็นอย่างนี้นี่เอง หึหึ” เขายิ้ม...

เสียงของเขา... เสียงนี้...

ไม่!

ผมหลับตาข่มใจ

หันออกจากภาพตรงหน้าล้มตัวลงนอนทั้งชุด หันหลังให้เขาแล้วห่มผ้าทันที

ผมกลัวตัวเอง ผมต้องควบคุมตัวเองอย่างหนักเลยในสภาพเมาๆ แบบนี้  การถือว่าตัวเองเมาแล้วจะทำอะไรก็ได้มันไม่ถูก ผมรู้ดีแต่ข้างในผมกลับกำลังจิตนาการไปว่า ถ้าผมทำอย่างที่มะนาวเคยทำกับผมล่ะจะเกิดอะไรขึ้น เขาจะมีปฏิกิริยายังไง ถ้าเขาไม่ผลักไสผมคงกลายเป็นคนฉวยโอกาส แล้วถ้าเขาตกใจรับไม่ได้ล่ะ? อะไรจะเกิดขึ้น ไม่ ผมจะไม่เสี่ยงอะไรทั้งนั้น ไม่มีทาง

ผมขดตัวและพยายามหลับตาลบภาพเขาออกจากหัว

“แม็ต มึงโกรธอะไรกูป่ะเนี่ย?”

เขาถามผมรึเปล่า? เสียงมะนาวใช่ไหมเมื่อกี้?

“เปล่า” เงียบอยู่นาน กว่าผมจะตอบเขาได้

“แต่มึงทำหน้าเหมือนโมโหอะไรกูมากๆ”

“เปล่า” ผมตอบได้แค่นั้น ผมก็จมกับความคิดตัวเองอีกครั้ง

จะไปโกรธอะไรมึงได้ แค่ความรู้สึกตัวเองกูยังจัดการไม่ได้เลย นี่ถ้าเขาล้มตัวลงนอนอีกข้างของเตียงเมื่อไหร่ผมคงต้องหันไปอีกข้างทันที

ในความเลื่อนลอย มีเสียงปึงปัง มะนาวกำลังเดินไปรอบห้องงั้นเหรอ? เขาทำอะไร ทำไมไม่นอน ทำไมมีเสียงรูดซิบกระเป๋า ตอนแรกผมคิดว่าเขาจะไปอาบน้ำ แต่ไม่ใช่ เขาเดินเข้าห้องน้ำแล้วเดินออกมาทันที ตอนที่เขาเดินออกมาจากห้องน้ำ เราสบตากัน ผมที่นอนขดอยู่เลยต้องลุกขึ้นเท้าแขนกับเตียงเพื่อมองสีหน้าเขาให้ชัดๆ

ทำไมเขาทำหน้าอย่างนั้น?

“มึงทำอาไร?”

“กลับบ้าน”

“กลับไม?”

มะนาวไม่ตอบ รูดซิบปิดแล้วโยนเป้ขึ้นหลัง เดินตรงไปที่ประตูห้อง แต่ไม่รู้ทำอีท่าไหนผมไวกว่า ผมมายืนขวางประตูไว้ มือกำลูกบิด พิงประตูเพราะเซและทรงตัวไม่ค่อยอยู่

“กลับทำไม?” ผมตกใจกับท่าทีเขามาก เขาไม่เคยเป็นแบบนี้

“หลีก”

“ไม่เอา มึงเป็นอะไร ทำไมอยู่ๆ อารมณ์ไม่ดี”

“เรื่องของกู”

“แต่เรื่องของมึงมีสาเหตุมาจากกูแน่ๆ”

“...”

“มีอะไร บอกมาเถอะ”

“ไม่”

“เมื่อกี้มึงถามกูว่า กูโกรธอะไรมึงรึเปล่า”

“...” เขาเงียบ และไม่ยอมสบตาผม

“กูบอกว่าเปล่า แต่มึงไม่เชื่อใช่ไหม?”

“...”

“มึง กูเมารึเปล่า” ผมชี้หน้าตัวเอง หลังพิงประตู ตัวเอียงๆ บอกเลยว่ารู้ว่าตัวเอียงแต่ทำให้มันตั้งตรงเหมือนปกติไม่ได้

“เมา”

“มึงเชื่อไหมล่ะ ที่เขาว่าคนเมาจะพูดแต่ความจริง”

“มึงไม่เหมือนชาวบ้านนี่หว่า” หมายถึงผมเมาแล้วมันต่างกับคนอื่นเหรอ ยังไงว้า? “มึงเมาแต่มึงก็ยังพูดรู้เรื่อง แต่มึงไม่พูด มึงเอาแต่ทำหน้าเหมือนโกรธอะไร ตั้งแต่ออกจากร้านไม่พูดกับกูสักคำ ทั้งที่กูก็พยายามทำตัวปกติ แต่มึงก็ยิ่งหลบหน้าเหมือนไม่พอใจอะไรกู กูถามมึงก็ไม่ตอบ กูแคร์มึงนะเว้ยถ้ากูเผลอทำอะไรที่มึงไม่พอใจกูก็อยากแก้ไข แต่มึงไม่บอกกูเลย มึงเอาแต่เงียบ ทำหน้าอย่างกับอยากไล่กูกลับๆ ไปซะแต่ก็ไม่ยอมพูดซะที กูก็จะกลับให้นี่ไง”

มะนาวโกรธผมจนหน้าแดง ยิ่งระบายยิ่งพลั่งพลูออกมามากมาย

ผมพอเข้าใจแล้ว ในขณะที่ผมกำลังต่อสู้กับความคิดตัวเอง ผมคงทำหน้าไม่ค่อยดี เพราะเมาแน่ๆ ความสามารถการความคุมสีหน้าก็เลยเสียไปด้วย 

ดูเหมือนเขาพร้อมจะคุยมากขึ้น ผมเลยแย่งกระเป๋าเป้มะนาวมากอดไว้ กำกุญแจรถเข้าไว้ในมือด้วย กันเข้าหนี แล้วมานั่งที่เตียง ไม่ไหวจะยืนแล้วครับ

“กูขอโทษ” ผมพูดหลังจากเงียบกันมานาน

“ตกลง มึงไม่พอใจอะไร?”

“เปล่าเลย”

“เห็นไหม ไงมึงก็ไม่ยอมบอกว่าไม่พอใจอะไรกู”

“มันไม่มีอะไรจริงๆ”

“ไม่จริง งั้นมึงตอบคำถามนี้กูมา”

“อื้ม”

“มึงชอบเมรึเปล่า”

“หึ หึๆๆๆ มึงฟังที่คนอื่นพูดมาเยอะล่ะสิ”

“กูจริงจัง อันนี้มึงไม่ตอบไม่ได้”

“มึงจาเชื่อคนเมาอย่างกูป่ะล่า?”

“...”

“กูไม่ได้ชอบเมในทำนองที่มึงถาม กูไม่ได้มองเมเป็นผู้หญิงด้วยซ้ำ หรือถ้ามันเป็นผู้หญิงกูก็มองว่ามันเป็นน้องสาวที่อายุสิบขวบ” ผมคิดอย่างนี้จริงๆ

ผมไม่รู้ว่าเขาจะเชื่อไหม แต่อยากให้เขาวางใจ ว่าผมไม่ได้ชอบหรือมีใจให้คนอื่นที่ไหน

“มึงจะไม่เชื่อก็ได้ แต่กูพูดความจริงนะ”

ผมกระชับกอดกระเป๋าเขาให้แน่นขึ้น รอว่าเขาจะตอบยังไง มะนาวเงียบไปอีกนาน


“แล้วมึงคิดยังไงกับกู” ผมยิ้มจางๆ ไม่ได้ตกใจที่เขาถาม ต้องเพราะเมาแน่ๆ ผมถึงได้ไม่หวั่นไหว ที่ผมยิ้มอยู่นี่ก็คงเพราะเมาเหมือนกันสินะ

ผมก้มหน้า เกาหัว ตอบยังไงดี เอากระเป๋ามะนาววางบนพื้นก่อนแล้วกันเนอะ เกะกะ เอ เขาไม่ได้บังคับตอบคำถามนี้นี่นา
งั้นผมไม่ตอบ

ผมมองเห็นมือเขา มะนาวยืนกำมือแน่น ผมเอื้อมมือออกไปสอดมือแทรกในกำปั้นเขา ผมจับมือเขาไว้ทั้งสองข้าง กระชับกุมไว้ให้เขาผ่อนคลาย คลายกังวน ผมลุกขึ้นไปปิดไฟ

“นอนเถอะ”

มะนาวไม่ตอบอะไร ไม่ว่าอะไร แต่ก็เดินตามแรงลากของผมมาเงียบๆ ผมล้มตัวลงนอน ดึงผ้ามาห่ม แต่มะนาวยังนั่งอยู่ มือข้างนึงผมยังจับมือเขาไว้ เขาสบตาผมในแสงสลัว ผมจึงยิ้มให้เขา ยกมือเขาข้างที่ผมจับไว้ขึ้นมาจรดปลายจมูกผมหอมมือเขาเบาๆ ก่อนจะดึงตัวเขามาไว้ในอ้อมกอด เขาตอบโต้แค่ขัดขืนเบาๆ นั่นยิ่งทำให้ผมยิ้มในความมืด

“อึดอัด”

“ชู่ มึงถามกูไม่ใช่เหรอ ว่ากูคิดอะไรกับมึงกูกำลังตอบมึงอยู่นี่ไง” ในความมือ ผมโอบรอบตัวเขาไว้ ฝังจมูกสูดกลิ่นหอมอ่อนๆ จากผมเขา

แขนทั้งสองข้างของเขาโดนผมทับไว้ เขาไม่ขยับอะไรไปไหนเลยถ้าผมไม่จัดท่าทางให้ ผมจึงเลือกดึงแขนเขาให้โอบรอบๆตัวผมเหมือนที่ผมโอบเขา

“...” เขาไม่ว่า เขาไม่ขัดขืนอะไรสักนิดเลย เขาเข้าใจในคำตอบของผมใช่ไหมนะ?

“ไม่เมากูไม่กล้านะเนี่ย”

“ไม่เมากูก็ไม่ยอมให้มึง... กอดหรอก”

“หึ มึงไม่เมา ถ้ามึงเมามึงปล้ำกูแล้วป่านนี้”

“ไอ้เหี้ย”

“มึงพูดไม่เพราะเลย ปากเนี่ยๆ” ผมใช้นิ้วโป้งเขี่ยปากเขา ยั่วโมโหเขาเล่น

“อยากให้กูพูดเพราะๆ ไหมล่ะ?”

“อื้ม”


“จูบกูสิ” เสียงกระซิบของเขาดังก้องในความมืด

“ไม่บอกก็กะจะทำอยู่แล้ว”

ผมก้มลงช้าๆ เขาเองก็เงยหน้ามาหาผม เราหลับตาลงในเวลาไล่เลี่ยกัน แตะริมฝีปากกันอีกครั้ง และเป็นครั้งแรกที่เราต่างรู้สึกตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ นี่คือสิ่งที่ผมรอมานาน จูบที่เขาเต็มใจไม่ใช่ตื่นมาแล้วลืมสิ้นทุกอย่าง

มันแตกต่างจากที่เคย เราเงอะงะมันดำเนินไปย่างเชื่องช้า แต่ทุกการเคลื่อนไหว ผมรู้สึกถึงเขา หัวใจในอกของเราเต้นรัวต่างคนต่างรู้สึกได้ ทั้งหมดนี้เมื่อตื่นมามันจะยังคงเป็นความจริงอยู่ ไม่ต้องแกล้งลืมและไม่ต้องปิดบัง

เราแลกเปลี่ยนลมหายใจ ดึงดูดแนบชิด และเป็นสุข

นี่เป็นอีกก้าวที่เราก้าวไปด้วยกันโดยไม่มีคำจำกัดความความสัมพันธ์ของเรา

เขาคือความสุข และสร้างความร้อนรนให้ผมได้มากมายเขาคือคนพิเศษ พิเศษกว่าคนไหนๆ ที่เคยผ่านมาในชีวิตผม


----------------------------------------
TBC.


โย้วๆ ไม่ได้ไปเวียนเทียนเลยมาอัพนิยายจ้า
ตอนนี้มะนาวไม่ค่อยมีบท เลยมาชดเชยให้เล่นใหญ่เอาท้ายๆตอน 555+ ใหญ่พอมั้ย?
ขยับชัดเจนขึ้นมาอีกนิด แต่เอาจริงๆ มันก็ยังเปราะบาง
หวังว่าจะช่วยกันลุ้นต่อไปเรื่อยๆ เน้อ วางพล็อตไว้ค่อนข้างยาวเลยล่ะ

ปล. เก้าทำเพจไว้เม้ากันแหละ เผื่อเหลือเผื่อขาดทำไว้เผื่อๆ   
 > > >  https://web.facebook.com/Brosohub/ (https://web.facebook.com/Brosohub/)
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 11 ให้การกระทำคือคำตอบ] 22/2/59 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 22-02-2016 21:43:30
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 11 ให้การกระทำคือคำตอบ] 22/2/59 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 22-02-2016 22:19:55
กับเมนี่ลุ้นขาดใจเลย
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 11 ให้การกระทำคือคำตอบ] 22/2/59 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 22-02-2016 22:26:31
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ดีนะคุยกันเข้าใจ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 11 ให้การกระทำคือคำตอบ] 22/2/59 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: คุณข้าวทอด ที่ 22-02-2016 22:59:10
พูดอะไรไม่ออก นอกจาก...  :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 11 ให้การกระทำคือคำตอบ] 22/2/59 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 22-02-2016 23:11:56
 :mew2:
 :o8:
 
น่ารักอ่ะ
รอฟังคำนั้นอยู่รู้เปล่าาาา

ค่อยๆขยับความสันพันธ์กันเนอะ

 :L1:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 11 ให้การกระทำคือคำตอบ] 22/2/59 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Chise ที่ 23-02-2016 00:17:46
แอร๊ยยยย ปลื้มปริ่ม ไปอีกขั้นใหญ่ๆแล้ววนะหนูมะนาวชายแม็ต
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 11 ให้การกระทำคือคำตอบ] 22/2/59 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: pancakesexy ที่ 23-02-2016 01:24:18
สถานที่กับรายละเอียดของเรื่องคุ้นๆนะคะ ใช่มหาลัยที่มีรถไฟตัดผ่านรึเปล่าน้าาาา อิอิ

เค้าเปิดใจกันแล้ววววว อิจค่ะอิจ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 11 ให้การกระทำคือคำตอบ] 22/2/59 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 23-02-2016 02:23:20
สองหนุ่มเริ่มเผยใจต่อกันมากขึ้น
ประธานเชียร์ชอบเม หรือ????
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 11 ให้การกระทำคือคำตอบ] 22/2/59 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: magic-moon ที่ 23-02-2016 07:20:13
ชอบบบบบบบบบบบ มันชวนจิ้นมากล่ะเฮ้ยยยยยย ชอบโมเม้นแบบนี้
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 11 ให้การกระทำคือคำตอบ] 22/2/59 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 23-02-2016 07:40:56
ใกล้เป็นแฟนตัวจริงล่ะนะ ชอบเรื่องนี่เวลาเมาได้ลุ้นทั้งคู่

ปล เชียร์เมกับประธานเชียร์ ชอบนางเพราะเป็นสาวหล่ออยากให้ได้กับหนุ่มเท่ที่คู่ควร&สูงกว่านาง
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 11 ให้การกระทำคือคำตอบ] 22/2/59 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: PaiPo ที่ 23-02-2016 18:45:57
เรื่องนี้นาวจะไม่ทน! สินะ 555+
ทนเห็นเขากับคนคนอื่นได้ แต่พอแม็ตทำท่าเย็นชาเข้าหน่อยปรี๊ดแตกเลยคะ มองมุมมะนาวคงหวั่นไหวน่าดู
เจอเมะพูดน้อยต่อยหนักหนูต้องมีจิตนาการนะคะมะนาว เ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 12 จุ๊บๆๆๆ ] 25/2/59 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 25-02-2016 21:12:32
- บทที่ 12 - จุ๊บๆๆๆ -



------------------------------------


ในตอนสาย ผมตื่นก่อนเขาเหมือนเคย ผมก้มมองใบหน้าเล็กๆ ใต้คาง กลิ่นหอมอ่อน กับเส้นผมนุ่มๆ เขายังกอดผมอยู่ ผมก็เช่นกัน

มะนาวค่อยๆ ลืมตาช้าๆ เสียงแหบของคนเพิ่งตื่นนอน

“อรุณสวัสดิ์”

“อรุณสวัสดิ์”

เขาบิดขี้เกียจด้วยการกอดผมแรงๆ หนึ่งที ผมเลยทำบ้าง แต่แรงกว่าหลายเท่า

“โอ้ยๆ ยอมแพ้แล้ว กูยอมแพ้”

“ฮ่าๆๆ

เขาตื่นแล้วแต่ยังนอนซุกอกผมไม่ขยับไปไหน ผมเขี่ยผมเขาเล่นไปมาไม่อยากลุกไปไหนเช่นกัน วันนี้เป็นวันเสาร์ ไม่มีเรียนแต่มีกิจกรรมรออยู่ในตอนบ่าย ไม่ต้องรีบก็ได้

“มะนาว”

“หื๋อ?”

“ถามจริงๆ ก่อนนี้ที่เมาๆ นั่นจำอะไรไม่ได้เลยเหรอ” ผมสงสัยเพราะผมจำได้ทุกอย่าง

“ไม่ได้นะ จำได้แค่ความรู้สึกก่อนเมา อย่าง ไม่กลับกับคนอื่น ไม่พอใจ หรือพอใจ แต่จำรายละเอียดไม่ได้”

“แล้วเมื่อคืนมึงไม่เมาเหรอ?”

“กูกินไปสองแก้วเอง นอกนั้นโค้กกับน้ำเปล่าสลับกัน กูเห็นสภาพมึงโดนรุมกูกลัวมึงเมาแล้วถ้ากูเมาอีกคนจะกลับกันยังไง”

“กูนึกว่ามึงจำได้แล้วแกล้งจำไม่ได้”

“ห่า อันนั้นมึงแล้ว”

“อย่าพูดไม่เพราะดิ”

“ทำไม จะทำอะไรกู” มะนาวสบตาท้าทาย

“ทำงี้ไง” ผมชักมือขึ้นจี้เอวมะนาวครับ แหย่จนเขาดิ้นพล่าน ที่นอนกระจุย ออกไปยืนหอบอยู่ปลายเตียง

“โอ้ย เหนื่อย แฮ่กๆ มึงอ่ะ”

“มะนาวมึงก็อย่าเมาอีกแล้วแล้วกัน ไม่งั้นกูปล้ำจริง” ผมขู่เขา

“งั้นไปซื้อเบียร์เดี๋ยวนี้เลย กูจะมอมตัวเอง ฮ่าๆๆ โอ้ะ เอาวอดก้าดีกว่าเมาเร็วเมาจริงไม่มีช่วงลังเล”

“หึ มึงนี่ปากดี ไปอาบน้ำเลย แล้วอย่านานนะเว้ย”

“กลัวนานก็มาอาบด้วยกันดิ”

“ไม่ได้ กูไม่ได้เมา กูป็อด” ผมตอบตรงๆ

“ฮ่าๆๆๆ”

จุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ไม่มีชื่อของเราสองคน  เริ่มขึ้นจริงๆ แล้ว
 

…………………………


“มึง วันนี้หลังงานพบพี่ศิษย์เก่าพี่สายกูนัดเลี้ยงต่ออ่ะ จริงๆ ก็คงไปกันทั้งห้องนั้นแหละ แต่เขามากันหลายคนเลยแกมบังคับว่ากูต้องไป”

“อื้ม กูไปด้วยอยู่แล้ว”

วันนี้เป็นวันเสาร์ หลังจากงานเลือกดาวเดือน เราสองคนตื่นสาย นี่ถ้ากินข้าวเสร็จก็ใกล้ได้เวลานัดเข้าห้องเชียร์พอดีเลยมานั่งกินข้าวเช้ากันตอนเกือบอยู่ในคณะ

เอฟเฟคของคนที่เดินผ่านผมในคณะค่อนข้างจะชัดเจน แทบทุกคนเหลียวมอง คนที่อยู่กันเป็นกลุ่มเริ่มพูดคุยโดยที่หันมองผมเป็นระยะ ดูแล้วไม่รู้เลยว่าพูดเรื่องอะไร

“พี่สายมึงไม่มาบ้างเลยเหรอ”

“ไม่รู้ดิ ไม่ได้ถามพี่โนอา แต่ถ้ามาเขาคงบอกแล้วจริงไหม คงไม่ว่างมากันมั้ง”

“ดี มึงไม่ต้องรับมือคนแก่ แม่งเดาใจยาก”

“ถ้าเขาเล่นแรงเกินก็บอก”

“มึงคงช่วยอะไรไม่ได้หรอกถ้าเขาจะแกล้งกูจริง”

“นั่นก็เรื่องนึง แต่กูอยากให้มึงบอกกูเวลามีอะไร”

ผมพูดแค่นี้ ทำไมต้องทำหน้าอึ้ง?

“กูว่ากูไม่ทันบอกหรอก แว่นๆ อย่างมึงตาดีจะตาย คงเห็นเองก่อนแล้ว”

มะนาวยิ้มอย่างรู้ทัน แปลว่าเขารู้ว่าผมเป็นห่วง

“แต่มีอะไรกูจะบอกมึงคนแรกแน่นอน” มะนาวอมยิ้ม ตอบสิ่งที่ทำให้ผมสบายใจในที่สุด ก็แค่เนี่ย กว่าจะยอมรับปาก

“มึงอย่าทำให้โรงอาหารมีบรรยากาศเป็นไอเย็นๆ สีชมพู ตอนแดดเปรี้ยงๆ แบบนี้ได้ไหม”

“อิจฉาเหรอเม” ผมถามกลับ

วันนี้เมเซตผมมาเหมือนปกติ ใส่เสื้อนักศึกษาหญิงตัวหลวมๆ กับกางเกงวอร์มพร้อมเข้าเชียร์ หล่อไหมก็หล่อนะ แต่ดูไปดูมา ปากมันยังแดงๆ ระเรื่อกว่าปกตินะผมว่า

“กูสงสารชะนีน้อยที่อกหักจากพวกมึงต่างหาก เอ้ะ หรือเขาจะสมหวังถ้าพวกมึงได้กันจริงๆว่ะ”

กะจะยิงมุขว่า อีกไม่นานก็คงสมหวัง แต่คิดไปคิดมา ไม่เล่นดีกว่า ปล่อยให้คิดกันไป

“มึงจะเข้าเชียร์เหรอวันนี้  โลกแตก”

“ก็วันนี้มันวันพบพี่ศิษย์เก่า น้ากูเรียนที่นี่ แล้ววันนี้เขาบอกจะมา ขู่ว่าถ้าไม่มีชื่อกูในรายชื่อคนเข้าห้องเชียร์จะไปฟ้องแม่ให้ตัดเงินเดือน”

“น้ามึงรุ่นอะไรวะ?”

“34”

“โห เราว่าที่ 55 น้ามึงอายุเท่าไหร่เนี่ย” มะนาวพยายามคิดเลขทำปาดขมุบขมิบ

“39” ผมตอบให้ ถ้าให้มันคิดเองคงอีกพัก น้ำเดินมายกมือไฮไฟทักทายกับผม วางจานข้าวพึมพำหวัดดีกับคนอื่นๆ

“กูยังลบรุ่นไม่เสร็จเลย มึงนี่คิดเลขไวจริงๆ”

“ไม่ไวได้ไง มันเป็นแช้มป์ภูมิภาคจินตคณิตตอนประถม ตอน ม.ปลายก็เข้าค่ายโอลิมปิควิชาการเลขได้ถึงค่ายสองเกือบได้ไปเมืองนอก แม่สอนเลขมัธยม พ่อสอนแม็ตมหาลัย มิทเทอมนี่ถ้ามันไม่ได้เต็มกูให้เตะมัน อ้อ เมื่อวานได้ตำแหน่งเดือนคณะมาด้วยนี่หว่า ยังไม่ได้ฉลองเลย เอ้า ดาว นี่ก็ดาวคณะ แม่งเพื่อนกูแต่ละคน”

“มึงเก็บพอร์ตฟอลิโอกูไว้ตรงไหน เอาออกมานะ”

“กูกิ๊กเก่ามึงนะ กูต้องจำไว้เวลาแฟนคลับถาม กูจะได้ตอบถูกเอาใจแฟนคลับไง นี่กูมาบอกเมกับมะนาวนะเนี่ย เก็บไว้ในฐานข้อมูลด้วยนะ กูส่งต่อตะขาบให้” มึงเป็นคุณยายวรนาถเหรอ ไม่พูดเปล่า น้ำมันทำนิ้วกระดิกเหมือนขาตะขาบอีก

“ฐานข้อมูลอะไรกันคะหนุ่มๆ ว้ายตาย หล่อทั้งโต๊ะ ขอนั่งกลางค่ะขอนั่งกลาง” พงศ์ยกจานข้าวมาแทรกกลางระหว่างเมกับน้ำ

“ฐานข้อมูลเดือนคณะ” น้ำบอก

“อ้อ งั้นกูคงเป็นรองแค่ผัวที่ 2 เนี่ยแหละคะ ถ้าเราจับมือกันนี่แทบจะเอาบัตรเอทีเอ็มมันไปกดเงินใช้ได้เลย”

“เออ กูกดได้ กูรู้” น้ำบอก ผมรีบขัด

“เอิ้ยยยย ไม่ด้าย กูเปลี่ยนแล้ว”

“อ้าว มึงนี่ เปลี่ยนเมื่อไหร่ร้อยวันพันปีไม่เห็นเคยเปลี่ยน”

“เปิดเทอม กูเปลี่ยนพร้อมกับตั้งรหัสมือถือ แม่กูบอกให้เปลี่ยนซะบ้าง”

“มือถือก็ตั้งรหัสด้วยเหรอสัส ความลับเยอะใช่ไหมมึง”

“มะนาว มึงรู้รหัสมือมือแม็ตไหม?” อยู่ๆ เมก็ถามขึ้น เล่นเอาทุกคนหันไปมองหน้าเม เสร็จแล้วก็มองที่มะนาว

“เอ่อ...”   

“ถ้ารู้พวกกูจะยกตำแหน่งแฟนพันธ์แท้พ่อแม็ตให้” พงศ์จิกตา

ผมยิ้ม ถ้ามันตอบความจริง ต้องโดนล้ออีกยาวแน่ เพราะผมบอกมะนาวไว้นานแล้ว แถมบางทีถ้าคนที่มันรู้จักทักไลน์หรือแชตเฟสมาผมยังใช้มันพิมพ์เลย

“ก็รู้นะ อยู่ๆไมมึงถามงี้เม จะหลอกให้กูบอกรหัสใช่ไหมเนี่ย”

“กูเห็นมึงโยนมือถือให้กันวันคัดตัวบาส มึงคงลืมว่าวันนั้นกูอยู่ด้วย แล้วแฟนคลับพวกมึงก็ทั้งทีมบาสหญิงอ่ะ กรี๊ดกันชิบหาย กูนี่โดนกระชากคอแทบหยุดเวลาพวกมันกรี๊ดกัน”


“เธอๆ อิสองคนนี้มันให้รหัสมือถือกันด้วยล่ะเธอ” พงศ์หันหลังไปจับแขนเพื่อนที่บังเอิญเดินผ่าน

แล้วมึงไปบอกเขาทำไมมมมม

สาวเจ้าทำตาโตแล้วเดินต่อแบบไม่ค่อยมีสติ แอบยิ้มแล้วมองพวกผมแบบมีลับลมคมใน

“ไม่เห็นแปลกเลย กูยังรู้รหัสมึงเลยพงศ์ 1112 เบอร์พิซซ่า” มะนาวทำเหมือนไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะรู้รหัสเข้ามือถือเพื่อน

“ฮ่าๆๆๆ ตลกแล้ว วันเกิดกูคะ อินี่ ไม่รู้จริง แม็ตมึงดูแลคู่จิ้นมึงดีๆด้วยนะ เพ้อแล้ว”

“กูก็ว่ากูดูดีอยู่น่า สงสัยกินยาเยอะไปหน่อย”

มะนาวหันมาแยกเขี้ยวทำเสียงแฮ่ๆ เหมือนหมาเวลาขู่ ผมเลยจับหัวกลางกบาลของมัน หันไปให้คนอื่นดู

“พวกมึงดู”

“อาการหนักนะมึงอ่ะ” เมทำหน้าเอือม


“มะนาว”

มีเสียงเรียกมะนาวจากคนมาใหม่ ผมหันไปดูพร้อมๆกับทุกคนในโต๊ะ คนที่มาทักทำให้ผมตื่นตัว

“พี่ชนะ หวัดดีครับ เอ่อ ทุกคุณนี่พี่ชนะสายรหัสกู”

“หวัดดีครัยพี่” ทุกคนยกมือไหว้พร้อมกัน รวมผมด้วย

“พี่ชนะ นี่แม็ต น้ำ พง เม กับเอ้เพื่อนผมครับ อย่าโหดกับพวกนี้นะพี่ผมขาไว้ก่อน ฮ่าๆๆ”

เอ้ที่เดินมาถึงพอดียกมือไหว้คนแปลกหน้าด้วยหน้าแปลกๆ ให้ผมเดามันกำลังคิดว่าใครวะหล่อจัง

“เออๆ หวัดดี มะนาวไปนั่งเป็นเพื่อนพี่หน่อยสิ เพื่อนพี่ยังไม่มากันเลย” แล้วเขาก็บอกเหตุผลที่เดินเข้ามาทัก

“ครับ ได้ครับ” มะนาวลังเล แต่ก็เลี่ยงไม่ได้ มีแต่ต้องตอบรับ

มะนาวจับไหล่ผมทำเป็นช่วยทรงตัวตอนลุกขึ้นยืน ผมพยักหน้าให้มะนาวไปเถอะ แล้วทำนิ้วโป้งทำท่าเหมือนเวลากดมือถืออยู่ใต้โต๊ะ ประมารว่ามีอะไรก็ไลน์มาบอก มะนาวทำท่าเข้าใจ ก่อนจะเดินตามพี่ชนะที่รออยู่ห่างๆ ไป คงไปร้านกาแฟแถวในคณะ

“กูคันปาก อยากเม้าค่ะ” ผมนึกว่าพงศ์พูด แต่เสียงมันเสียงเมนี่หว่า

“กูไม่น่ามาช้าเลย รู้สึกพลาดอะไรๆ ไปเยอะ” เอ้นั่งลงที่ว่างที่มะนาวเพิ่งลุกไป

“เล่าค่ะผัว ให้ไว”

“มึงมีคู่แข่งเป็นพี่บิ๊กเลยเหรอวะเนี่ย” น้ำเหมือนจะมองทุกอย่างออก สายตาเฉียบคมของมันนี่น่ากลัวจริงๆ

ผมถอนหายใจ จะเล่ายังไงดี

“พวกมึงจำวันที่มะนาวบอกว่ามีเลี้ยงสายได้ใช่ไหม” ทุกคนพยักหน้า รวมทั้งเมด้วย ไอ้นี่เนียนตอนนั้นมึงยังอยู่กับบรรดากิ๊กๆอยู่เลย “ก็นั่นอ่ะ พี่สายมัน”

“เขาชอบมะนาวใช่ไหม”

“กูก็ไม่รู้ แต่วันนั้นมะนาวเมาน็อคไปแล้ว เขากลัวมันไม่มีที่นอนเลยจะพากลับคอนโดเขา”

“ชอบแน่ๆ”

“เขาอาจจะเอ็นดูแบบน้องจริงๆ ก็ได้”

“มึงอย่าโลกสวยเกินไป เอาแต่พอดีๆ อันนี้มันเกินพอดีมึงก็ยอมรับว่าเขาเกินพอดี กูเสียสละตัวเองจัดการเขาเองดีมะ” เอ้บอกผม

“ถ้าวันนี้กูกินอีกกูต้องตายแน่นี่กูยังไม่สร่างเลย แต่คืนนี้กูจะไปช่วยมึงดูมะนาวนะ” เมคิดหนัก

“อื้ม กูก็จะช่วยดูนะผัว”

“กูคงคนละร้าน แต่จะแวะไปเยี่ยมมึงแล้วกันนะ” เอ้ด้วยอีกคน

อะไรพวกมึงจะร่วมมือร่วมใจกันขนาดนี้วะ

“อย่าเวอร์น่า ไม่มีอะไรหรอก ก็ตามประสาสายรหัส พวกมึงบอกจะมาช่วยๆ นี่มึงก็ต้องอยู่กับพี่บัณฑิตสายตัวเองกันป่าวว่ะ”

“พวกกูไม่ได้จะไปดูจริงหรอก พวกกูแค่แหย่มึงเล่นๆ”

“ฮ่าๆๆ จริง” เมกับพงษ์กับไอ้น้ำจับมือกันแบบเห็นด้วย

ไอ้พวกนี้

พี่ชนะก็เรื่องนึงครับ แต่อีกเรื่องนึงที่ผมไม่ได้บอกเพื่อน คือพี่ปราณพี่ชมรมบาสฯ ของผมเนี่ยสิ ผมไม่เคยคุยกับมะนาวอีกหลังจากวันนั้นที่ไปกินเอ็มเค แต่ผมเห็น มะนาวเองก็เห็น พี่ปราณมักจะมาปรากฏตัวไม่ใกล้ไม่ไกล เวลากินข้าวก็นั่งห่างออกไปแบบพอมองเห็น เวลานั่งอ่านหนังสือใต้ตึก เขาก็จะเดินผ่านบ่อยๆ เวลาเรียนเสร็จบางทีก็เห็นเขานั่งอยู่หน้าตึกบ่อยจนเกินบังเอิญ เราทั้งคู่เห็นแต่ทำไม่สนใจเพราะเขายังไม่แสดงตัวอะไรชัดเจน อยู่ๆ จะไปถามเขาว่าพี่ทำแบบนี้ทำไม? ก็ใช่ที่

วันนี้ผมก็เห็นเขาตั้งแต่มาถึงแล้ว หลังมะนาวเดินไปกับพี่ชนะ ผมหันไปจะดูท่าทีเขา ไอ้พี่ปราณนี่ก็หายไปจากโต๊ะแล้ว


กินข้าวกันเสร็จ เวลาเหลือ ผมกับเมเลยรีเควสกาแฟ เพราะเมื่อคืนเราโดนหนักกันทั้งคู่ นอนก็น้อย ปล่อยไว้ได้ไปหลับในห้องเชียร์แน่

“ไปร้านโอเคกาแฟ หน้าภาคกูนะ”

“ไกลนะมึง วิ่งซี่โครงบานกลับมาเข้าห้องเชียร์เลยนะ” พงศ์ขัดเม

“มึงก็ออกมาก่อนเวลาสิ แล้วไปเถอะเมีย มะนาวอยู่นั่น กูแอบไลน์ถามมันเมื่อกี้”

“โอเค งั้นไป” เอ้กับพงศ์คล้องแขนกันนำลิ่ว

เป็นวันเสาร์ที่ค่อนข้างคึกคักร้านกาแฟทุกร้านมีคนนั่งกันเกือบเต็ม เรามาถึงก็เหลือแต่โต๊ะโซนนอกใต้ต้นไม้

“เอาอะไรกัน เดี๋ยวกูไปสั่งให้”

ผมเห็นแล้ว ทั้งมะนาว ทั้งพี่ปราณ

นี่ผมควรจะห่วงเรื่องไอ้พี่นี่ไหมเนี่ย ทำตัวน่าสงสัยเกินไปแล้วมั้ง

“กูไม่เอา ช่วงนี้หมอสั่งห้ามกินครีมเทียม”

“หมอหรือเมียมึงพูดมาเลยตรงๆ”

“อันเดียวกัน ฮ่าๆๆ” น้ำชอบอกชอบใจที่พงศ์แซว “มันมีพี่รหัสอยู่ด้วยนี่หว่าข้างรหัสมึงอ่ะ”

ผมเห็นตั้งแต่เดินไม่ถึงร้านแล้ว มะนาวนั่งอยู่โต๊ะข้างในร้าน ติดกระจก โต๊ะมันมีกันสามคนไม่ได้นั่งกันสองต่อสอง

“อื้ม เอาไรๆ”

“ห่างกันแป็บเดียวมึงคิดถึงกันแล้วรึไง โอ้ยเซง อยากมีผู้ชายเข้ามาในชีวิต กูเอาน้ำส้มปั่นนะเอาเคล็ดเผื่อชีวิตจะมีพระเอกกับเขาบ้าง มึงอ่ะ” เอ้บอก หันไปถามพงศ์ต่อ

“เมียเอาชาเขียวนะผัว”

“ป่ะ กูจะไปเลือกเค้กด้วย”

เมเดินนำเข้าไปในร้าน ตรงไปหน้าตู้เค้ก เมไม่ค่อยกินข้าว แต่ขนมนี่สู้ไม่ถอย สงสัยเหมือนกันทำไมไม่อ้วน

ผมเดินตาม ไม่ลืมมองมะนาวที่ฟังพี่ๆสายมันคุยกันติดลม มะนาวเห็นผมแถมยังยักคิ้วกวนๆ ให้

“โอ้ะ น้องเมดาวคณะนี่นา เมื่อวานพี่โหวตให้น้องด้วยนะ” พนักงานหนึ่งในสองพูดขึ้นทันที ดูเหมือนจะเป็นพี่ในคณะเนี่ยแหละคงทำงานพิเศษ

“พี่ฟี่อย่าแซวดิ” เมทำไหล่ห่อ หันซ้ายหันขวา

“อ้าว มากับเดือนด้วย ยืนตรงนั้นก่อน พี่หยิบกล้องแปป” คนแทบทั้งร้านได้ยิน หันมองกันมาจนผมยังเขิน

พี่พนักงานเดินออกมาจากเค้าร์เตอร์โดยในมือมีกล้องโพรารอยติดมือมาด้วย พี่จัดท่าให้เรายืนหันหลังให้เค้าเตอร์จะได้เห็นชื่อร้าน กดถ่ายภาพอย่างรวดเร็วแล้วก็หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายซ้ำอีก กลับไปชื่นชมผลงานสะบัดภาพโพรารอยอยู่หลังเค้าเตอร์เหมือนเดิม

“พี่ รับออเดอร์ก่อนมั้ย ขายของๆ” เมตบโต๊ะเร่ง

“ดังแล้วเอาใหญ่เลยนะย่ะ เอานี่ ไปเลือกติดที่ผนังได้เลย” เมรับรูปใบเล็กที่เริ่มปรากฏภาพชัดขึ้นมา ผมก้มลงไปดูด้วย ผันกับเมยืนเอียงหันหน้าเข้าหากัน ก็ดี หน้าไม่เบี้ยว ไม่ได้หลับตาก็พอใจแล้ว “รับอะไรดีจ๊ะพ่อเดือนสดใหม่ซิงๆ”

“เพื่อนผมเอาน้ำส้มปั่น ชาเขียวเย็น กับอเมริกาโน่นะครับ”

“จ้า รอสักครู่น้า เดี๋ยวเอาไปเสริฟที่โต๊ะ”

“เม มึงมาสั่งน้ำก่อน”

“คาปูไม่หวานเลย กับบูลเบอร์รี่ชีสเค้กนะครับ”

เมพูดโดยไม่ได้หันมา ยืนเลือกที่ว่างๆ เพื่อติดรูป ก่อนจะกวักมือเรียกผมยิกๆ ให้ไปที่ผนัง มีรูปอยู่เป็นร้อยรูปแปะอยู่ก่อนแล้ว ดูรูปมะนาวกับพี่ชนะ คงเพิ่งถ่ายเมื่อกี้ ก่อนจะแปะรูปใหม่ของเราไปตรงกลาง ที่โคตรเด่น

“นี่ๆ ถามจริงๆ เถอะ ที่เขาว่าน้องสองคนคบกันนี่จริงป่ะ?” คงเพราะเรายืนซ้อนหลังซุบซิบคุยกันสองคนกันผนัง เลยมีคำถามทำนองนี้ตามมาให้จักกะจี้เล่น

“หึหึ” ผมกับเมมองหน้ากันแล้วหัวเราะ

“บ้าแล้ว ไอ้นี่หล่อไป ไม่ใช่สเป็ค”

“มึงต้องตอบแบบดารา” ผมขำๆ กับความคิดคนอื่นนะ อีกอย่าง ผมไม่ต้องกลัวว่าเขาจะเข้าใจผิดอีกแล้ว ผมเลยชวนเมเล่นไปเรื่อย

“กูต้องหัดเป็นคู่จิ้นมืออาชีพใช่ป่ะ ได้” เมเท้าแขนกับเค้าเตอร์เอียงคอแสดงละคร “แหมพี่ ก็ดูๆ กันอยู่ ฮ่าๆๆๆ ไม่เอาดีกว่า กูขนลุก” เมหันมาหัวเราะใส่ผม ยื่นคอป้องปากเหมือนจะกระซิบ แต่เสียงดังปกติ “เดี๋ยวตัวจริงมันเข้าใจผิด”

เมหันไปยักคิ้วให้มะนาว เลยได้ ‘เหี้ย’ แบบไม่มีเสียงมา

“ไม่เข้าใจผิดหรอก กูเคลียร์กันแล้ว”

ผมตอบหน้าตาย แต่พูดจบในใจก็อดขำท่าทางคนฟังไม่ได้ พี่ที่ชื่อฟี่กับพี่พนักงานอีกคนทำช้อนคนตกพร้อมกัน เมเองก็อ้าปากหวอ

“เยดเข้! ไอ้พวกนี้ อย่าให้กูมีบ้าง เฮ้ย หญิงหายหมดชีวิตกู”

“กูว่ามึงถึงจุดเปลี่ยนแปลงแล้ว เปลี่ยนเถอะถ้าเปลี่ยนเป็นผู้ชายมึงจะหัวกระไดไม่แห้งเลยนะ”

“ไอ้เหี้ยแม็ต” เมทำท่าจะไล่เตะผม ผมเลยก้าวสองทีถึงประตู

เออวะ ยังไม่ได้เล่าเรื่องเมื่อวานให้พวกนั้นฟังเลย ผมกะจะไปเล่าให้เอ้กับน้ำฟังขำๆ ปรากฏว่าพงศ์กำลังเล่าอยู่ก่อนแล้ว

ผมเลยสมทบเสริมรายละเอียด พูดซ้ำคำพูดที่ประธานเชียร์พูดกับมัน ที่พงศ์เองก็คงยังไม่รู้ เอ้อึ้งและกรี๊ดมาก

เมนั่งฟังแล้วทำท่าบีบน้ำตา

“เลวร้ายมากอ่ะมึง” เมเป็นทอมที่ไม่ค่อยห่วงภาพพจนความแมนเท่าไหร่เลย ตอนนี้มันนั่งดึงทิชชู่มาทำท่าซับน้ำตา

“ตอนอยู่บนเวทีประธานเชียร์ก็มองมาแต่ทางที่มันยืน”

“อันนี้จริงคะ กูยืนยัน ด้วยว่ากูมองเขาตลอดเพราะเขาหล่อ ทีแรกนึกว่ามองกู กูนี่มือสั่นปากสั่น แต่ก็สำเหนียกตัวเองไง ว่ากูคงไม่ใช่แบบที่เขาชอบ เศร้าแพ็บ”

“เฮ้ยเม ไม่ต้องคิดถึงจนร้องให้ก็ได้ อีกแป็ปเดียวก็ได้เจอเขาแล้วนี่”

“ห่า”



แป็บเดียวจริงๆครับ อีกครึ่งชั่วโมงต่อมาเขาก็ยืนอยู่ตรงหน้าเรา แต่มาแค่แป็ปเดียวจริงๆ เมคงไม่ทันหายคิดถึง ฮ่าๆ ก็ส่งต่อให้บรรดาพี่บัณฑิตที่มารอพูดคุยกับเรากันหลายร้อย เริ่มที่กลุ่มแรกเป็นรุ่นพี่ที่เพิ่งจบไป เรียกตัวเองว่าเฟรสชี่พี่บัณฑิต มากันเยอะมากเกือบห้าสิบคน บางคนก็ทำงานวันเสาร์ บ้างก็อยู่ต่างจังหวัด อยู่ต่างประเทศ เป็นการบอกเล่าถึงความแตกต่างของวัยเรียนกับวัยทำงานเตือนสติพวกเราว่าอย่าเล่นจนลืมเรียน แล้วก็อย่าเรียนจนลืมเล่น เพราะถึงเวลาทำงานจะไม่เหลือเวลาทำอะไรเลย

พี่ที่จบไปไม่กี่ปียังหนุ่มยังสาว ที่พูดอย่างนี้เพราะพี่ๆที่จบไปนานมากๆ อย่างน้าเม เจอข้างนอกผมคงไม่กล้าเรียกพี่กลัวเสียมารยาท แต่วันนี้ถ้าไม่เรียกพี่ พี่จะไม่ยอม ขนาดคุณพ่อรุ่น 12 ลูกรุ่น 41 ยังมานั่งเรียกพี่เรียกน้องเล่นมุขกันให้ฮาครืนกันทั้งห้องประชุม (เลขรุ่นยิ่งน้อยเขาจะเริ่มนั่งครับ เพราะยอมรับตรงๆ ว่าข้อขาข้อเข่าเริ่มไม่ดี)

การพูดคุยหมุนเวียนสลับสับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จนค่ำ พี่ๆเลี้ยงมื้อเย็นด้วยการจัดบุพเฟ่อาหารนานาชาติ มีทั้งขนมจีนน้ำยา น้ำเงี้ยว แกงไตปลา เขียวหวาน คั่วกลิ้ง ก๋วยเตี๋ยวเรือ ข้าวมันไก่ ลาบ ส้มตำ ยำมาม่า เงาะจากระยองตั้งเป็นเข่งๆ เรียกว่าตามอัธยาศัยสุดๆ เลี้ยงที่โรงอาหารเนี่ยแหละครับแน่นอนว่าโนแอลฯ แต่หลังจากนี้พี่ๆส่งซิกส์มีต่อแน่นอน

ตอนเข้าห้องเชียร์เราไม่เคยได้นั่งใกล้กันกับเพื่อนครับ เขามีวิถีสลับแถวยังไงไม่รู้ เราโดนแยกกันตลอดแม้จะลองทั้งยืนข้างกัน หรือยืนต่อหลังกันก็หลงกันทุกที แต่หลังปล่อยฟรีแบบนี้พวกเราก็กลับมานั่งด้วยกันแบบไม่ต้องนัด ไม่รู้ผมคิดไปเองรึเปล่า ไม่มีใครกล้ามานั่งกับพวกเรา แม้ตอนแรกจะมีเพียงผมมานั่งที่โต๊ะก่อนคนอื่น

มะนาวตักมาเยอะมาก มันบอกหิว

“ไปต่อกันไหมพวกมึง” เมถาม หลังทำปากจู๋ดูดเส้นก๋วยเตี๋ยวเข้าปาก

“กูไม่ไป นอกนั้นไปหมดแหละ” น้ำบอก

“มึงรู้ได้ไงน้ำ” เอ้ถาม

“มึง” ชี้หน้าเอ้ “ไปแอ้วผู้ชาย พงศ์ก็ด้วย” พงศ์แย้ง

“เรียกกูพิ้งพิ้งคะ กูเปลี่ยนชื่อแล้ว” แต่แย้งเรื่องชื่อเล่น ไม่ได้แย้งเรื่องผู้ชายนะครับ

“มะนาว ชอบของฟรี แม็ตก็ตามข้างรหัสไป มึงก็ต้องไปกับน้าไง”

“แล้วไมมึงไม่ไปอ่ะ” เมถามน้ำ

“ครีมเทียมกูยังแดกไม่ได้ เหล้านี่มึงว่าจะรอดไหม?”

“หึ ฮ่าๆๆ อนาจ”

“กินได้ แต่ซดไปสองแก้วก็เมาพับอย่างมึงก็ไม่น่าดีใจนะ” มะนาวจับผิด ความไวไฟต่อของมึนเมามึงไม่น่ามีหน้าว่าคนอื่นได้นะ

“กูไม่อยากกินกูเลยแกล้งเมา”

“เหรอออออออ” มะนาวเย้ยหยัน

เมาแล้วเป็นเรื่องอย่างมึงก็ไม่ควรว่าคนอื่นเหมือนกันล่ะน่า


..........................


“วันนี้งานหนักแน่ๆ” มะนาวยืนพับแขนเสื้ออยู่หน้าตู้เสื้อผ้า ผมที่อาบน้ำเสร็จทีหลังยังเช็ดหัวอยู่ปลายเตียง

“มานี่ กูพับให้” ผมบอก นาวหยุด และคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินมานั่งข้างๆ ผม ยื่นแขนข้างที่พับค้างอยู่ให้

“มึงเจอทั้งสายอีกแล้วนี่”

“มึงอ่ะสบาย กูอยากให้ไม่มีพี่สายมาเหมือนมึงมากกว่า”

“กูจะกลายเป็นแก้วเวียน ชนแก้วกับพี่ที่กูจำชื่อไม่ได้แล้วก็โดนแกล้งจากใครบ้างก็ไม่รู้นะ ดีตรงไหน เอาอีกข้างมา”

มะนาวที่นั่งข้างๆผมกำลังจะเอี้ยวตัวหมุนอีกแขนมาให้แต่ก็ชักกลับไป พอผมใช้สายตาถามว่า ทำไม? เขายิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วเอียงตัวนอนพาดไปกับหน้าขาผม

“ฮ่าๆๆ”

“อะไรมึง อ้อนเหรอ” ผมเผลอยิ้มออกมาแล้วเริ่มพับอีกข้าง

“เปล่า กูแค่เมื่อย จริงจริ๊ง”

ผมพับแขนเสื้ออีกข้างให้เขา ไม่สูงมากเดี๋ยวไหล่โผล่ ผมไม่ค่อยชอบ

“เสร็จแล้ว” อ้าวนิ่ง “เฮ้ย เฮ้ย หลับแล้วเหรอ”

“ไม่อยากไปแล้ว อยากนอนเลย”

“ไหนเคยบอกกลัวขาดทุนไง”

“มันก็ต้องมีอารมณ์ขี้เกียจกันบ้าง แล้วก็นะ มึงยังฮ็อตอยู่อาจจะโดนเล่นหนักเหมือนเมื่อวาน กูก็คงเลี่ยงพี่ๆที่น่ารักของกูไม่ได้ ถ้าเละทั้งคู่ จะทำไง”

“กูเมากูก็เอามึงกลับได้น่า แค่อาจจะเซนิดหน่อย แต่ไม่ลืมมึงไว้ร้านแน่ อีกอย่าง พี่มึงอ่ะ”

“พี่ชนะอ่ะเหรอ” มะนาวทำหน้าเซงอย่างเห็นได้ชัด แต่ทำไมผมเห็นแล้วสบายใจ ฮ่าๆๆๆ   

“เขาอาจจะชอบๆ มึงอยู่”

“ไม่อาจหรอก เขาชอบกูมากเลยแหละ”

“มึงรู้เหรอ?” ผมค่อนข้างแปลกใจ นึกว่าเขาจะไม่รู้ตัว

“ข้างรหัสมึงดึงดูดเพศเดียวกัน มึงไม่รู้เหรอ ตอนนั้นกูโคตรอยากเขียนในใบสมัครเรียนเลยเวลามีช่องให้กรอกความสามารถพิเศษ ว่ากูเสกผู้ชายเดินตามได้” มะนาวลุกขึ้นนั่งแล้วบ่นยาวยืด

“อ้าว นี่กูโดนมนต์ดำอยู่เหรอ ฮ่าๆๆ” เขาก็ช่างเปรียบเปรย แต่ถ้าจริงอย่างเขาว่า ก็น่าห่วงแหะ

“เปล่าเลย มึงเป็นข้อยกเว้น”

“เว้น?” ยกเว้น ยังไงวะ?

“กูต่างหากที่เดินตามมึง” ผมงงกับสิ่งที่เขาพูดไม่ทันถามต่อจากนั้นก็เป็นภาพตัด

ผมถูกผ้าห่มคลุมหัวมิด รู้สึกมีอะไรนิ่มๆมาชนที่หน้าผาก เบ้าตา โหนกแก้มซ้ำๆ ผมที่อยู่ในความมืดพยายามรวบตัวต้นเหตุไว้ถูกเขารัดถึงต้นแขนแล้วนอนกลิ้งเกลือกไปกับเตียง มะนาวหัวเราะชอบใจ

เรื่องแรงเขาสู้ผมไม่ได้อยู่แล้วในที่สุดผมก็สะบัดแขนเขาออกได้แล้วเป็นฝ่ายรวบตัวเขาไว้

“อ้ากกก ปล่อย ผมผิดไปแล้วก้าบบบ ปล่อยผมไปเต้อะ”

“ฮึ้ย” ผมสะบัดผ้าห่มออกจากหัวได้ก็จ้องหน้าเขาทันที

“เมื่อกี้ทำอะไร?” ผมถามเสียงเข้ม เพราะกำลังกลั้นหัวเราะ

“เปล่านี่” มะนาวไม่สบตาผมอย่างตั้งอกตั้งใจ ผมเอียงหน้าตามไปเพื่อจะสบตาเขาให้ได้

“ทำอะไร?”

“เอาผ้าคลุม แค่นั้นเอง”

“หลังจากนั้นล่ะ”

“เอ่อ รัดไว้ไม่ให้มึงหลุด แค่นั้นจริงๆ”


“แค่นั้นแน่เหรอ”

“อื้ม แล้วมึงก็ดิ้นหลุด”

“ให้โอกาสพูดอีกที” ผมขยับหน้าเข้าใกล้ อีกนิดจมูกจะชนกันอยู่แล้ว

“...”

มะนาวยังคงเก็บปากเงียบ

“ทำอะไร มะนาว”

“งื้ออออ ทำ จุ๊บๆๆ” ในที่สุดก็ยอมปริปาก

“จุ๊บยังไง?” ผมแกล้งถามต่อ ตอนนี้เขาหน้าแดงมาก หลับตาปี๋ และเอียงหัวหนีสุดความยาวคอ

“งั้นแหละ”

“ไหนทำให้ดูสิ”

“ไม่เอา จะบ้าเหรอ”

“แล้วทำไมเมื่อกี้ทำได้”

“ก็มึงไม่เห็นอ่ะ”

“มะนาว”

“งื้อ มึงอย่าดุดิ” ผมรู้ เขาไม่ชอบให้ผมเรียกชื่อเต็ม ไม่รู้ทำไม

“นาว” ผมเปลี่ยนวิธีเรียกเผื่อว่าเขาจะยอมเปิดตาขึ้นมามองผมบ้าง

“...” เขาไม่พูดอะไร ใกล้ขนาดนี้ หลับตานานขนาดนี้ นี่รอให้ผมจูบอยู่รึเปล่า?

“นาว คอย่นหน้ายู่ขนาดนี้กูจูบไม่ลงนะ” ผมกลั้นหัวเราะเต็มที่

“มึงก็ปล่อยก่อนสิ” เขาหรี่ตาขึ้นมองข้างหนึ่ง

ปล่อยเหรอ? ผมคลายแรงนิดหน่อย ไม่รัดเขาแน่น แต่ก็ยังไม่ปล่อย จะเชื่อเขาได้แค่ไหนล่ะเนี่ย เกิดปล่อยปุ๊บหนีปั๊บ จะทำไง ขี้เกียจตามจับนะ

มะนาวก้มลงพยายามดึงผ้าห่มที่เป็นก้อนๆ ระหว่างเราออก ผมเลยละแขนมาดึงโยนไปข้างหลัง

เขาจับผมให้นอนหงาย วางมือเกาะสองไหล่ผมกดไว้ ผมจับเอวเขาหลวมๆ สายตาเขามองหน้าผมสลับกับหน้าอกผม ผมยังไม่ได้ใส่เสื้อเลยนี่นา

ผมมองมะนาวที่ตัวแดงเหมือนตอนเมาๆ เม้มปาก และเหมือนจะยังแดงขึ้นเรื่อยๆ

แล้วเขาก็เลือกไปนอนซบอกผมเป็นลูกแมว

“ไม่ไหวกูไม่กล้าอ่ะ รอเมาๆก่อนได้ป่ะ?”

ผมอยากจะหัวเราะออกมาดังๆ แต่เกรงใจ คนอะไรตอนไม่เมานี่หน้าบางที่สุด พอเมาเท่านั้นล่ะ อย่างกับม้าศึก


ฮ่าๆๆ เห็นแก่ความน่ารัก จะปล่อยไปก่อนก็ได้




------------------------------------
TBC.


ตอนนี้เป็นยังไงกันบ้าง หนูๆลุ้นให้พ่อจับลูกกดก็เก็บจริตกันนิดนะคะ คนเขียนก็อยากให้จับผลิก ตัวแทบสั่น(อ้าว) แต่พ่อพระเอกของเราบอกไม่ยอม ย้ำว่ารอได้ แหมมมม พระเอ้กกก พระเอก ถามมะนาวสักนิดไหมว่าอยากรอกับพ่อไหมอ่ะ 555


เจอคอเม้นต์โดนใจ
สถานที่กับรายละเอียดของเรื่องคุ้นๆนะคะ ใช่มหาลัยที่มีรถไฟตัดผ่านรึเปล่าน้าาาา อิอิ
- จุ๊ๆๆๆ คุณคะอย่าเอ็ดไป คนเขียนอุส่าไม่ใส่คีย์เวิร์ด อย่าง รางรถไฟ โหล ปีแก่ สถาบัน หรือเก4เก5 แล้วนะ ไม่เอาไม่พูด เดี๋ยวคนรู้ว่าใช้ที่ไหนเป็นแรงบันดาลใจ 5555 คนเขียนอยากให้มันดูกลางๆเป็นมหาลัยไหนก็ได้

เอ หรือจะเปิดเผยไปเลยดี เวลาคนอ่านผ่านไปแถวนั้นจะได้ไปตามรอย 555+ (ช่วงนี้ฟังเดอะช็อคถ้าเปิดเรื่องสถาบันจะมีเรื่องผีตามมาแน่ มะนาวกลัวผีนะเออ)


คนเขียน หัดทำเพจ >> https://www.facebook.com/Brosohub/

[แก้ไขคำผิดตามคำบอกจ้า]
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 12 จุ๊บๆๆๆ ] 25/2/59 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: magic-moon ที่ 25-02-2016 21:38:09
ครีมเทียมค่ะ ไม่ใช่ คลีม จะบอกให้นะคะว่าหนูนับวันรออ่านนิยายพี่เลยอ่ะ ตั้ลลลลลลล๊ากกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 12 จุ๊บๆๆๆ ] 25/2/59 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 25-02-2016 21:53:43
ทำไมดูสั้นๆ ชอบเรื่องนี้
คู่นี้เวลาไม่เมาใสๆเนอะ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 12 จุ๊บๆๆๆ ] 25/2/59 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 25-02-2016 23:05:36
เราแอบงงๆ กับชื่อเรื่องได้ไหมง้ะ
ตอนแรกก็เออ เหมือนจะเข้าใจ
แต่พอเห็น love again มันเหมือน รักอีกครั้ง เหมือนคบ เลิก กลับมารักใหม่งี้ป่าวอ่า
อันนี้เราสงสัยเฉยๆ นะคะ
.....………
มะนาวคือน่ารักเด้ออออออออ
ความสัมพันธ์ให้ชัดเจนเร็วๆน้าาาาา
งุ้งงิ้งกันสองคนเนี่ยยยย

ฟินตอนจุ๊บบบบบ ฮื่อออออ
มะนาวคนหน้าบาง 5555555

 :mew1:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 12 จุ๊บๆๆๆ ] 25/2/59 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 26-02-2016 00:21:42
จะเป็นยังไงนะ ถ้าต่างคนต่างเมานี่แย่เลย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 12 จุ๊บๆๆๆ ] 25/2/59 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: pancakesexy ที่ 26-02-2016 02:02:06
ไม่เอะไปไม่ได้ค่ะ เพราะเจ้าของตำแหน่งดาว(เทียม)คณะอยู่ตรงนี้ 555+ แหมมมม เสียดายไม่ได้ส่งมอบตำแหน่งให้พิ้งค์พิ้งค์ แต่อยากกินเดือน เอ้ย เกี้ยวเดือนแบบมะนาวอยู่นะคะ  ปล.มะนาวแอ๊บกลัวผีให้แมตท์ลวนลามรึเปล่าคะลูก พอฟังเดอะช็อคสองคนจะได้แนบชิดสนิทเนื้อ แหมมมม ต้องขอยืมไปใช้กับน้องเดือนห้อง...บ้างแล้วแหละ อิอิ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 12 จุ๊บๆๆๆ ] 25/2/59 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: PaiPo ที่ 26-02-2016 13:11:05
ทำไมมะนาวไม่กล้าาาาา
แหมถ้ากล้ากว่านี้อีกนิดได้มีลุ้นต่อแน่  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 12 จุ๊บๆๆๆ ] 25/2/59 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-02-2016 15:32:48
เนียนๆเป็นแฟนกันเลยใช่ไหม  :impress2:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 12 จุ๊บๆๆๆ ] 25/2/59 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 26-02-2016 15:48:30
ลุ้นคู่นี้หลังจากเมาทั้งคู่ 555+
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 12 จุ๊บๆๆๆ ] 25/2/59 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 26-02-2016 15:51:48
นาวน่าร้ากกก :katai3: 
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 12 จุ๊บๆๆๆ ] 25/2/59 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 29-02-2016 04:07:03
  - บทที่ 13 - เหตุผลคนหึง -



-------------------------------------


บรรยากาศการเลี้ยงฉลองวันนี้ แตกต่างจากที่ผ่านๆ มาพอควร

อำนาจของพี่บัณฑิตช่างล้มหลาม เราถูกจับแยกกันตั้งแต่เดินเข้าร้าน จากการแนะนำของรุ่นพี่ปีสองปีสามว่าผมคือเดือนคณะผมจึงถูกรุ่นพี่ผู้หญิงชวนมานั่งที่โต๊ะด้วย รุ่นพี่แม้จะเป็นผู้หญิงก็ไม่ทิ้งลายวิศวะ ผมรู้สึกว่าถูกลวนลามทั้งสายตาและร่างกาย มีผู้หญิงสองคนนั่งพิงซ้ายขวาผมอย่างปฏิเสธไม่ได้ โดยที่ผมไม่แน่ใจว่าพี่เขาชื่ออะไรกันแน่

ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมงผมถูกเชิญย้ายโต๊ะสี่ครั้งแล้ว แต่มะนาวยังนั่งอยู่ที่เดิม ตรงข้ามพี่ชนะ

“น้องแม็ต น้องอยู่สายใคร เผื่อพี่รู้จัก”

“พี่โนอาครับ”


“โนอา โนอาไหน เอาชื่อพี่ปีสี่ดีกว่า พี่จบนานแล้วไม่ค่อยรู้จักเด็กๆ หรอก”

“ไม่รู้ครับ พี่โนอาไม่เคยบอก บอกแค่ว่าฝึกงานอยู่ญี่ปุ่น”

“ยัยกิ๊ก โนอาดาวปีสองไงมึง สตรีหมายเลขหนึ่งอ่ะ”

“ห่ะ? อ้อๆ เออๆ กูรู้ละๆ ไม่ต้องขยายความเพิ่ม”

“มึงแหละ เลิกซักไซ้น้องเรื่องนี้ได้แล้ว”

“งั้น น้องแม็ตมีแฟนรึยางจ๊ะ”

“ฮ่าๆ พี่เมาแล้วแน่ๆ อย่าดื่มเยอะสิครับ ต้องขับรถด้วยอันตรายนะครับ”

พี่บัณฑิตชอบถามเรื่องสายรหัส

แต่พอผมบอกว่ามีพี่โนอาคนเดียว กลับไม่มีใครถามต่อว่าคนอื่นๆไปไหน หรือมีใครบ้าง หนักสุดก็ศัพท์ใหม่เมื่อกี้ สตรีหมายเลขหนึ่ง?

หมายถึงดาวมหาลัยมั้ง


สักพักผมก็โดนพี่โนอาเรียกไปนั่งกับพี่อีกกลุ่มหนึ่งที่มองผ่านๆมีแต่คนหล่อคนสวยเกือบสิบชีวิต ทั้งที่ยังจำพวกพี่ๆกลุ่มเดิมได้ไม่หมด ตอนเขาแนะนำตัวกันผมจะจำได้แค่คนแรกกับคนสุดท้าย นอกนั้นอาศัยฟังตอนเขาพูดคุยแล้วเรียกชื่อกัน

โต๊ะนี้ติดกับโต๊ะมะนาวครับ มีที่ว่างอยู่สองที่ แทบไม่ต้องคิดผมเลือกตำแหน่งที่นั่งหันหลังให้มะนาวพอดีพนักพิงสูงๆมันเตี้ยสำหรับผมอยู่แล้ว ผมนั่งพิงเต็มหลังเอาหัวเคาะหัวมะนาวแล้วกำลังจะพิง มะนาวหลบวูบหายไป หลังผมเหลือแต่ความว่างเปล่า

“อ้าว มึงเองเหรอ” ผมเอียงหัวไปมองนิดๆ

“อื้ม” อมยิ้มเพราะถ้าเป็นคนอื่นมะนาวคงด่า หันหน้ามานี่เตรียมด่าเต็มที่ผมรู้หรอก

เขาไม่พูดอะไรต่อ นั่งลงฟังพี่ๆโต๊ะมันพูดต่อ ผมก็เช่นกัน

“แหม ยิ้มเชียวนะ” พี่โนอายิ้มล้อ

“พี่แหละยิ้มอะไร หึหึ ขอบคุณนะครับพี่” พี่โนอาชวนมานั่งโต๊ะนี้คงเพราะเหตุผลนี้เนี่ยแหละ พี่ผมน่ารักสุดๆ

“หูย สบาย อ้าว เม มานี่ก่อน”

“หา ไรพี่?” เมที่กลับจากเข้าห้องน้ำมายืนข้างๆผม เกาท้ายทอยเก้อๆ

“พี่เฟยกับแฟน แล้วก็เจ้แอม ดาวรุ่น 49 กับ 50”

โหยยย นี่มันโต๊ะดาวนี่เอง มิน่า สวยทุกคน ผู้ชายก็หล่อ ผมกับเมสวัสดีพี่ๆ ทุกคนที่พี่โนอาไล่ชื่อ

เมถูกชวนให้นั่งด้วยกัน แต่เพราะเก้าอี้เต็ม ผมเลยทำท่าจะลุกให้

“แม็ตไม่ต้อง เมมานั่งกับพี่มา” พี่โนอาเบี่ยงตัวให้เก้าอี้มีที่ว่างครึ่งหนึ่ง เป็นเชิงให้เมนั่งลงตรงนี้

“โนอา ชวนผู้ชายนั่งเก้าอี้ตัวเดียวกันแบบนี้จะดีเหรอ แฟนขี้หวงไม่ใช่เหรอเรา? ถ้ามันมาเห็นได้ระเบิดลง”

เมที่กำลังจะนั่งเบียดลงชะงักทันที

“นั่งสิๆ” พี่โนอาตบๆ เก้าอี้ เห็นเมไม่ยอมนั่งก็ดึงไปนั่งแทบเกยตัก ไม่ได้มีท่าทางคิดมากหรือลังเล “ผู้ชายอะไรพี่ นี่น้องสายเราไง”


“อ้าวไหนบอกแม็ตน้องรหัส”

“แม็ตนั่นสายหนู สายรหัส แต่เมเนี่ย สายดาว”

“ว้าย!” “โห จริงดิ” “โคตรแมนเลย” หลายคนอุทาน หลายคนนิ่วหน้าเพ่งตามองซ้ำ 

ก็เมมาในชุดกางเกงยีนส์ขาดตรงเข่าเสื้อคอวีแขนยาวสีขาวเนื้อหนาๆ รูดแขนขึ้นถึงข้อศอก เมเป็นคนผอมมาก ถ้าไม่มีฟองน้ำแบบนี้ดูไม่มีหน้าอกเหมือนผู้ชายไม่มีผิด  ผมเซตแบบชี้ๆ เหมือนปกติที่เจอกันแรกๆ ตัวก็สูงเกินผู้หญิงไปมาก

“เห็นในเพจของสโม นั่นคนนี้เหรอ”

“ครับ ผมเอง”

“ฮึก พี่อกหัก” พี่ผู้ชายใส่แว่นท่าทางโอตาคุทำท่าขยับแว่นปาดน้ำตา แต่สาวๆชอบใจมาก

พี่โนอาท่าจะชอบใจปฏิกิริยาโต้ตอบของทุกคนสุดๆ

มะนาวขยับตัว ผมเลยหันไปมอง

“ไปไหน?”

“ห้องน้ำ”

“ไปด้วย” ผมทำท่าจะลุกขึ้น แต่กลับมีคำถามละคนชวนคุยแบบเลี่ยงไม่ได้ มะนาวทำท่าบอกว่าไม่เป็นไรไปเองได้ ผมเลยได้แต่มองตามเป็นระยะ

มะนาวมันก็ผู้ชาย ไม่ต้องห่วงอะไรมากมั้ง ผมพยายามปลอบตัวเองที่อดตามไป



แต่ผมก็รู้สึกพลาดมาดที่ไม่ตามไป

มะนาวเดินมาเรียกผมให้ออกมาคุยนอกโต๊ะ

“มึง กลับเหอะ”

“อ้าว เมาแล้วเหรอ”

“เปล่า แต่...”

“อะไร? เป็นอะไร ทำไมทำหน้าอย่างนั้น”

“ไอ้พี่ปราณแม่งจะจูบกู”

“ได้ไง เมื่อไหร่?” ผมได้ยินแทบเลือดขึ้นหน้า

“หน้าห้องน้ำ มีคนเห็นด้วย กูไม่อยากอยู่แล้ว” ไม่จริง! เพราะผมไม่ได้ตามไปด้วยงั้นเหรอ ถึงมีคนฉวยโอกาส

“มันอยู่ไหน?” ผมมองตรงไปทางห้องน้ำ กะว่าจะเดินย้อนกลับไปดู

“ไม่เอามึง อย่ามีเรื่องเลย กลับก็พอ”

“แต่...”

“กลับเถอะ”

ผมกลัวว่าถ้าผมยังรั้งจะอยู่ มะนาวจะฝืนกลับเองคนเดียว ผมเลยยอมพาเขากลับโดยไม่ล่ำลาใครทั้งนั้น ไม่ใช่แค่สภาพจิตใจของเขาที่น่าเป็นห่วง ความโกรธที่ท้วมท้นกับอารมณ์ร้อนรุ่มของผมก็เดือดจนน่ากลัวว่าถ้าได้ปะทุจะจบไม่สวย ผมเลยยอมกลับ

ตลอดเวลาที่อยู่บนรถ มะนาวไม่พูดอะไรเลย เขาเงียบ มองไปด้านข้างตลอดทาง

ผมผิดที่ดูแลเขาไม่ได้ เป็นความผิดผมเอง



“กูขอไปอาบน้ำ”

เดินเข้าห้อง มะนาวตรงไปห้องน้ำทันที

เห้อ ผมหยุดความโกรธไว้ก่อน แล้วคิดว่าจะทำยังไงให้สภาพจิตใจมะนาวดีขึ้น

ผมนั่งถอนหายใจฟังเสียงน้ำในห้องน้ำ เขาจะโอเคมั้ย ผมโกรธมากกจริง แต่คงไม่เท่าความรู้สึกมะนาว ผมเดาไม่ออกว่าเขาจะมีความรู้สึกอะไรรุมเร้าอยู่บ้าง ยิ่งเมาด้วย ความคิดคงยิ่งฟุ้งซ่าน

ผมกลัวว่าเขาจะตีตัวห่างจากผมเพราะคิดว่าผมโกรธเขา แต่ไม่เลย คนที่ผมไม่พอใจคือไอ้หมอนั่นต่างหาก ไอ้พี่ชนะอะไรนั่นด้วย ชิ

ผมถอดเสื้อเปลี่ยนเป็นชุดนอน นั่งรอดูอาการมะนาวอยู่บนเตียง

มะนาวอาบน้ำนานกว่าครั้งไหนๆ หรือเป็นผมที่ตั้งใจรอเกินไปก็ไม่รู้

แกร็ก!

ประตูห้องน้ำเปิดออก มะนาวเช็ดหัวตัวเองจนเกือบแห้งแล้ว เขาพาดผ้าเช็ดตัว เดินเลี่ยงอ้อมไปเตียงอีกฝั่ง แล้วนอนหันหลังให้ผมโดยไม่สบตาหรือพูดอะไรสักคำ ผมลุกไปปิดไฟ แล้วกลับมานอนมองหลังเขานิ่งๆ

“มึงโกรธกูเหรอที่กูดูแลมึงไม่ได้”

“เปล่า ไม่ใช่ความผิดมึง”

“แล้วทำไมไม่มองหน้า ไม่สบตา ไม่คุยกับกู”

“กูกลัวมึงรังเกียจ กูกลัวมึงโกรธ”

“กูโกรธมันก็จริง แต่กูจะโกรธมึงทำไม”

“ทั้งที่กูไม่ยอมจูบมึงแต่มีคนอื่นจูบกูไง กู กูขอโทษ กูน่าจะระวังตัวกว่านี้ แต่กูไม่เห็นมันจริงๆ มันเร็วมาก”

นี่เองสินะสิ่งที่อยู่ในใจ

ผมขยับตัว มะนาวก็คล้ายจะขยับหนี ผมยกแขนขึ้นโอบเอวมะนาวแล้วดึงเขาเข้ามาหาตัว กอดเขาจากด้านหลัง มะนาวตัวเย็นและสั่นจนผมอดกอดเขาแน่นขึ้นไม่ได้

“เขาจูบมึง มึงไม่ได้จูบเขาซะหน่อย กูจะโกรธมึงทำไม”

“ถึงยังไงกูก็กลัว”

“แล้วที่กูจูบมึง มึงโกรธกูไหม?”

“...”

“ตอนที่เราจูบกัน มึงรู้สึกรังเกียจกู อย่างที่รู้สึกกับพี่นั่นไหม?”

“มึงก็น่าจะรู้”

“ใช่ รู้ และแค่นี้ พอแล้วสำหรับกู แค่ความรู้สึกของมึง พอแล้ว” ผมกระซิบข้างใบหู จูบลงบนกลุ่มผมของเขา

มะนาวกอดแขนผม ก่อนจะขยับตัวหันหน้ามาทางผม

“ขอบคุณนะ”

ใบหน้าเขาใกล้ผมมาก ปลายจมูกเราแตะกันหน้าผากชิดกันจนรับรู้ความต่างของอุณหภูมิ วันนี้เราดื่มกันมาพอสมควรทั้งคู่ แต่ไม่มีใครเมาจนขาดสติ

ในความมืดที่มีเพียงแสงน้อยนิดที่ลอดผ้าม่านเข้ามาเราสบตากัน พูดคุยกันด้วยสายตา และโต้ตอบความคิดกันด้วยสายตา มันถ่ายทอดทุกๆอย่างที่เรามีแต่ไม่ได้พูด ผมบอกเขาไปกับแววตาที่ไม่มีอะไรขวางกั้น

ใบหน้าเล็กขยับเข้าหาผม พร้อมๆเปลือกตาที่ปิดลงช้าๆ อ้อมกอดที่แนบชิดบอกผมว่าเขากำลังตื่นเต้นมาก หัวใจเขาเต้นอยู่ในอกนั้นเป็นจังหวะที่ถี่รัวจนรู้สึกได้ หรือหัวใจผมกันนะที่กำลังสูบฉีดเต็มกำลัง 

เรียวปากแนบชิดจนไร้ช่องว่าง เขาทำเหมือนอยากจะดูดกลืนผมไปทั้งตัว ปลายลิ้นดุนดันจาบจ้วง ผลักดุนและดูดกลืน ริมฝีปากเล็มไล่ไปมา บดเบียดสลับกันจนเกิดเสียง

ที่สุดแล้วคือเราจูบกันโดยที่เขายังรู้ตัว

แขนผมที่โอบกอดเขายิ่งกระชับให้เขาแนบชิดขึ้น สองแขนของเขาเริ่มปัดป่ายไปมากับหลังผม ผมเกลี่ยนิ้วกับผิวเสื้อเขา รับรู้ทุกความรู้สึกของเขาที่ถ่ายทอดออกมา

มือเขาสอดเข้าใต้เสื้อผมอย่างแนบเนียน ห้านิ้วของเขาจิกลงกับผิวผมตรงๆ แล้วลากยาวอย่างระบายอารมณ์

“แน่ใจนะ?” ผมผละจูบเพื่อกระซิบถาม และมองตาเขา

มะนาวไม่ตอบ กลับหลับตาและเริ่มจูบผมอีกครั้งซึ่งรุนแรงกว่าเดิมมากนัก จังหวะของเราเร็วขึ้น มันถูกเร่งไปทุกอย่าง

มือใหญ่ๆของผมบีบคลึงเอวคอด มะนาวผอมจนผมไม่กล้ากอดเต็มแรง ผมสอดมือเข้าใต้เสื้อเขาเขี่ยติ่งยอดอดเบาๆ จนมันแข็งเป็นไต นิ้วโป้งผมรูดผ่านซ้ำๆ  จนได้ยินเสียงครางในคอ

เสียงนั้นทำให้ผมได้ใจ ผมจับชายเสื้อเขาถกขึ้นถึงคอ แล้วก้มลงละเลงลิ้นบนยอดอกเม็ดเล็กกลั่นแกล้งเขา ผลที่ได้คือคนตัวบางดิ้นพล่านจนผมต้องกดเขาไว้กับที่นอน เขาหายใจถี่จนอกโยนไปมา และเสียงครางที่พยายามอดกลั่นจนกลายเป็นเสียงที่น่าฟังที่สุด 

“อ๊ะ! อ๊า... ฮึก อื๊มมม”

เป็นรสชาติที่หวานติดลิ้นจนอยากจะกัดกินจริงๆ เสียให้หมดทั้งตัว

“พอ พอ มึง กู แฮ่กๆ หายใจไม่ทัน” มะนาวดึงผมขึ้นไปจูบเพื่อให้ผมหยุดยุ่งกับอกเขา แต่มือผมกลับมาซนอยู่กลางลำตัวเขา ผมลูบไล้ผ่านยีนส์เนื้อหนา ทีแรกนึกว่าเขาจะหลบ แต่กลายเป็นการยั่วยวนที่แสนร้ายกาจ เอวบางส่วยไปมาสวนทางกับมือผมที่กอบกุมเบาๆ

สองมือผมปลดซิบเขาลง แตะเขาผ่านบ๊อกเซอร์ มือมะนาวกุมทับมือผมไว้ ส่วนกลางร่างกายของเขาร้อนและแข็งสู้มือ

ผมก้มลงชิมยอดอกอีกข้างพร้อมๆกับสอดมือเข้าใต้ขอบบ๊อกเซอร์ มะนาวขยับสะโพกหนีทันที

แน่นอนว่าเขาไปไหนไม่รอด มือผมไล่เขี่ยวนไปมา กำรอบและรูดเบาๆจนปฏิกิริยาโต้ตอบเกินที่ผมจะอดทนดูอยู่ได้

ทั้งร่างบิดเร่าๆ เสียงของเขา มือของเขาที่เริ่มบีบไหล่ผมแน่น

“ฮ้า อื๊มๆ แม็ต แม็ต” เสียงเขาที่เรียกชื่อผม พอคิดว่าเขามีสติในขณะที่กำลังเรียกชื่อผม ผมยิ่งขาดสติ

ผมดึงเสื้อเขาที่ค้างอยู่ใต้คอออกไป พรมจูบทั่วหน้าอกและท้อง ดึงกางเกงของเขาออกไปจนสุดปลายเท้า

“ขี้โกง มึงก็ถอดบ้างสิ”

“ถอดให้หน่อย” ผมที่นั่งคุกเข่าอยู่หน้าเขา เอื้อมมือออกไปรับเขา

มะนาวลุกขึ้น จับเสื้อผมดึงขึ้น ผมยกแขนค้างให้เขาทำงานได้สะดวก

แต่หลังจากเสื้อผมหลุดจากหัว ผมได้สบตากับเขาอีกครั้ง เขากำลังกัดปากล่าง มือข้างนึงทาบกับอกผม ก่อนจะค่อยๆโอบรอบคอผม รอบตัวเราทั้งคู่ให้แนบชิดกัน เรายืนบนเข่าและเริ่มต้นจูบร้อนแรงอีกครั้งผมดึงกางเกงตัวเองลงด้วยตัวเอง และจับอาวุธของเรารวบไว้คู่กันเหมือนที่เคยทำตอนเขาเมา

มือผมขยับไปมา ร่างมะนาวก็อ่อนยวบลงไปทุกทีๆ จนผมต้องกอดประคองไว้

“อ่ะ อ้า เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน” มะนาวผลักอกผมออกพร้อมๆกับปล่อยปากผม บอกให้ผมหยุด

ผมรอฟังว่าเขาจะพูดอะไร

“ขอเวลานอกแป็ป”

มะนาวตีมือผมให้ปล่อยเขาออกจากการจำคุกคู่ ผมยอมปล่อยแต่โดยดี เพราะเขาคงไม่ได้อยากให้หยุดโดยไม่มีเหตุผล ผมมองเขาคลานเซๆ ลงเตียงไป ตรงไปที่กระเป๋าเดินทางใบย่อมของเขาที่เล็กแบนเพราะของทั้งหมดถูกจัดเข้าที่ในห้องผมหมดแล้ว เค้าไปรื้อๆ กำบางอย่างออกมาจากกระเป๋าแล้วเดินกลับมาหาผมที่เตียง

“เห็นแล้วอย่าล้อนะ” ผมพยักหน้ารับคำยิ้มๆ เอบแบมือออกให้ผมดูเป็นถุงยางทั้งกล่อง

ผมจับหน้าเขามาจูบปาก ก่อนจะบอกเขา

“งั้นรอเดี๋ยว” ผมเดินไปรื้อตู้เสื้อผ้าของผมบ้าง หยิบของออกมา ตอนรับมายังฮาๆ ไม่เคยคิดว่าจะได้ใช้จริงเลย

“มีได้ไง”

“ไอ้น้ำให้มา” ผมบอกไปตามจริง

“เขาว่ามันจะเจ็บมาก จริงไหม”

“ไม่รู้ กูก็ไม่เคย แต่ถ้านาวบอกให้หยุดก็จะหยุดนะ ไม่ต้องกลัว ถ้ามะนาวไม่เต็ม!”

เขาจูบผมปิดปากไม่ให้พูดต่อ ดูดดื่มโอบรัดผมไว้ ผมรับรู้ความรู้สึกของเขาที่อยากบอกได้

“ไม่ต้องหยุด อย่าหยุดนะ”

ผมดันให้เขานอนราบลงแล้วตามไปจูบเรียวปากบาง ผิวแดงระเรื่อของเขาปลั่งไปหมด ผมไล่จูบไปทั่ว ลามมาที่คอ และเน้นขยี้ยอดอกจนเขาจิกหัวผมแน่น

มือผมสวมถุงยางของเขาให้ตัวเอง ผมพร้อมนานแล้ว พร้อมจนปวดหนึบไปหมด ถ้าเขาขอให้ผมหยุดจริงๆผมคงแทบบ้า แต่ก็คงต้องหยุดให้เขา เพราะผมเองก็กลัวเขาไม่ไหวจริงๆ

ร่างบางดิ้นพล่านตอนผมเม้มปากกัดยอดอกเล็กๆของเขา  คล้ายเขาจะผลักออกแต่ก็กอดผมไว้แน่น

“อ้ะ อ่า แม็ต แม็ต”

เสียงแตกพร่าทำให้ผมเร่งมือบีบสารหล่อลื่นใส่มือ ป้ายไปตรงนั้น มะนาวหายใจถี่ กลั่นใจทันที ผมปล่อยปาก เงยหน้าสบตาเขา มือก็ทำภารกิจไม่ได้หยุด

มะนาวแยกขาให้ผมมากขึ้น และดึงผมไปจูบปากเขาแก้เขิน

“อย่าจ้องแบบนั้นดิ”

“งั้นก็หลับตาไว้งั้นแหละ กูจะมองให้เต็มตา”

“ไม่เอา กูก็ขาดทุน อ๊า” มะนาวสะดุ้งเมื่อผมเพิ่มนิ้วเข้าไปอีกนิ้วให้

“ผ่อนคลายนะ อย่าเกร็ง ได้ไหมครับ”

“ไม่ได้ ทำไม่ได้ อื๊มมมม”

“ถ้ามึงยังเกร็งอยู่อย่างนี้กูเอามึงไม่ได้นะ”

“งื้อ” มะนาวพยายามผ่อนแรงตอดรัด แต่กลายเป็น รัดๆคลายๆสลับกันแทน ผมล่ะอยากจะเอาหัวโขกผนัง แบบนี้มันยิ่งยั่วกันนะเว้ย

“พอแล้ว กูพร้อมแล้ว”

“แน่ใจนะ” ผมถามเพราะเขาเพิ่งจะเริ่มชินกับสองนิ้ว

“นะ”

อย่ามาทำหน้าอ้อนเสียงอ้อนตอนนี้ได้ไหมมะนาว

ผมจัดท่า จับเข่าให้ตั้งสูงขึ้นอีก บีบสารหล่อลื่นอีกพอควรรอบๆช่องทางของเขา ผมไม่อยากให้เขาได้แผล ลูบสารหล่อลื่นที่เหลือกับตัวเอง

ผมจ่อไว้ปากทาง มะนาวก็จิกหมอนรอแล้ว ผมกดหัวให้ผ่านเข้าไปได้ มะนาวยกหมอนมาปิดหน้า ผมค่อยๆขยับนิดๆ ช่องทางเขารีบรัดจนผมกลัวว่าเพราะเขาเจ็บ ผมลูบผ่ามือไปตามร่างเขา ใช้มือเขี่ยยอดอกกระตุ้น แผ่นอกบางกระเพื่อมด้วยแรงหายใจถี่ๆ หัวใจเขาเต้นเป็นจังหวะเดียวกับช่องทางที่ตอดผมแน่น

ผมดันจนเต็มแน่น จึงหยุดให้เขาหายใจ มะนาวไม่ร้องสักแอะ ผมดึงหมอนที่ปิดหน้าเขาออก พร้อมๆ กับก้มลงจะจูบเขา แต่ก็ต้องชะงัก

“นาว!?” ใต้หมอนเขาร้องให้น้ำตานองหน้าหน้าแดงแต่พยายามจะยิ้ม ผมตกใจมาก

“ไม่นะ อย่าเอาออก” ผมตกใจจะถอดตัวออก แต่มะนาวกอดผมทั้งแขน รัดผมทั้งขา แถมยังมองหน้าผมเป็นเชิงต่อว่า

“แต่มึง”

“อย่าให้ความพยายามของกูสูญเปล่าดิ”

“นาว เป็นกูดีแล้วใช่ไหม”

“ป่านนี้มึงจะยังมาถามอะไรอีก” ปากบอกปัดแต่ตาอ้อน คืออะไร

“...”

“นี่ถ้ามึงยังไม่ยอมขยับ กูจะขย่มเองแล้วนะ” ช่องทางตอดรัดให้ผมรู้ว่าหมายถึงอะไร

ใจนึงผมก็อยากให้เขาทำอย่างที่ปากว่า แต่น้ำตาเขาเยอะมากจนผมไม่กล้าขยับให้เขาเจ็บอีก แค่นี้ผมก็ทำให้เขาอดทนมามากแล้ว

ผมจูบปลอบเขาอีกครั้งก่อนจะเริ่มขยับเนิบช้า เล้าโลมให้เขาผ่อนคลาย

“แม็ต” ผมเริ่มจากขยับช้าๆ รู้สึกว่าเขาเริ่มไม่ตึงแน่นเหมือนเริ่มแรก สารหล่อลื่นทำงานได้ดี สองมือเขาโอบรอบคอผม เขายังนิ่วหน้าทุกครั้งที่ขยับ แต่ก็เริ่มมีเสียงครางอ่อนๆ มาให้ได้ยิน

“ซี้ด ฮ๊า” มะนาวกัดปาก จ้องตาผมไม่หวั่นไหว ผมก็เช่นกันความร้อนค่อยๆ สูงขึ้นแล้ว ความต้องการที่รู้ว่าสามารถปลดปล่อยได้เต็มที่ไม่ต้องอดกลั่นทำให้ผมย้ำกระแทกช้าๆ หนักๆ จนมะนาวครางไม่เป็นภาษา

“มึง ดีมากเลย ตรง... อ๊า นั้น” ผมเหยียดตัวเต็มความสูงบนเข่ายกสะโพกมะนาวตามพาดขาเขาไว้กับแขนทั้งสองข้าง มะนาวจิกต้นขาผม อีกมือลูบไล้ไปตามเอวและอกตัวเอง ให้ตาย ผมแทบคลั่ง   

แถม มันเข้าไปได้ลึกมาก

“มาเลย ได้อีก แม็ต แม็ต! อ๊า”

มะนาวไม่ห้ามแล้วยังพยายามตอบสนอง เขาตอดรัดผมเป็นจังหวะ และยั่วผมทุกประสาทที่รับรู้ตัวตนของเขาได้

มือผมเลื่อนลงกุมกายของเขาที่โดนแรงกระแทกดีดจนสั่นโยน ตรงหัวมีน้ำใสๆ ผมเกลี่ยและเริ่มชักมือให้เขา

“อย่า อย่าจับนะ”

เขาห้ามเพราะเขาสุดจะอดกลั้น มันพุ่งทะลุนิ้วผมไหล่ตามง่ามนิ้ว ผมรีดจนหมดทุกหยดพร้อมๆ กับปลดปล่อยออกมาในการกระแทกสุดท้าย

ผมกดไว้สุดทิ้งตัวลงกับเตียง ดึงเขามากอดในท่านอนตะแคง ผมอยากนอนทับเขาทั้งตัวแต่กลัวเขาหายใจไม่ออก

ผมโอบเขามาจูบ กอดเขาแน่นกว่าครั้งไหนๆ เขาก็เช่นกัน ช่องทางยังตอดรัดผมตามจังหวะชีพจร

“ทำไมไม่เอาออก”

“ไว้นานๆ มึงจะได้ชิน คราวหน้าจะได้ไม่เจ็บ”

“คิดการณ์ไกลนะ”

“หรือจะไม่ต้องรอคราวหน้า รวบเป็นคราวนี้เลย” ผมดันอาวุธของผมที่ค้างอยู่ครึ่งๆ กลับเข้าไปเร็วๆ

“อ้า อย่าแกล้งดิ”

“ฮ่าๆ ไม่แล้วๆ” ผมถอดตัวเองออกจากเขา มะนาวก็ความรู้สึกไวไปซะทุกส่วน ระหว่างถอนตัวช้าๆก็ยังจะสะดุ้งจิกมือกับหลังผมอีกแล้ว มันน่าซ้ำจริงๆ ท่าทางแบบนี้

“มา เดี๋ยวพาไปล้างตัว” ท้องเขาเต็มไปด้วยน้ำของตัวเองที่เริ่มแห้งเหนียว

“ไม่ ไม่ต้อง อาบเองได้” มะนาวลุกขึ้นนั่ง หย่อนขาลงข้างเตียง และยืนขึ้นช้าๆ ผมรอดูว่าผลจะเป็นยังไง

“แฮ่ เจ็บ” เขาหันมายิ้มแหย

เขาหยิบเสื้อมาปิดตรงนั้น ยืนนิ่งๆ ขาสั่นๆ ไม่ทันได้ก้าวซักก้าว

ผมลุกขึ้นไปหาเขา ย่อตัวลงนิดหน่อย โอบรอบเอวเขาแล้วกอดแน่นก่อนจะยกขึ้นทั้งท่ายืน มะนาวเกาะไหล่ผมไม่พูดอะไร เอาแต่หลบตา ป่านนี้แล้วยังจะเขินอีก

ผมวางเขาลงหน้าอ่างล้างหน้า ไม่ลืมฉวยจูบแก้มนิ่มๆ เป็นรางวัลให้ตัวเอง

“ไม่ต้องล็อกประตูนะ กูกลัวมึงล้ม”

“อื้มๆ ชิ้วๆ” มะนาวปัดมือไล่ผม ผมเลยหันหน้าไปหาเขาแล้วเท้าเอวเถียง

“อะไร ได้กูแล้วทิ้งเหรอ?”

“ไอ้บ้า” เราต่างหัวเราะเพราะไม่ได้จริงจัง ผมถอยออกมาปิดประตูให้ แล้วนั่งรอที่เตียง

ผมหยิบมือถือขึ้นมาพิมพ์ไลน์ไปบอกพี่โนอาว่ากลับก่อนแล้ว ฝากดูเพื่อนๆผมด้วย กับพิมพ์บอกในกรุ๊ปเพื่อบอกพงศ์กับเมว่าพวกผมกลับแล้วดูแลกันเองด้วย ไม่ถึงนาทีเอ้ก็ลงรูปในกรุ๊ป เป็นเอ้กับพงศ์ดูสนุกสนาน ถ่ายกับเมที่นั่งหลับคอพับอยู่ข้างหลัง

ไม่นานมะนาวก็เปิดประตูออกมาเอวมีผ้าเช็ดตัวพันไว้ เขาพยายามเดินกลับมาที่เตียงเอง แต่ผมไวกว่า เข้าไปอุ้มเขามานั่งที่เตียงผมยื่นมือถือให้เขาดูรูปเมกับพวกนั้น

“นอนก่อนเลย กูแป็ปเดียว” ผมเดินเข้าห้องน้ำจัดการธุระส่วนตัวไม่ถึงนาทีก็ออกมา เห็นมะนาวกำลังใส่บ็อกเซอร์

“ใส่ทำไม”

“แล้วทำไมต้องไม่ใส่ล่ะ บ้าป่าว”

“หึหึ”

“มึงก็ใส่เลย”

“ได้ ใส่มึงนะ” ผมมายืนจับสะโพกเขาจากข้างหลัง เพราะการเคลื่อนไหวของเขาเชื่องช้ามากในตอนนี้ทำให้หลบไม่ทัน

“ไอ้ทะลึ่ง” มะนาวสะบัดตัวมองค้อน หวายยยย ไม่พอใจยังน่ารัก

“นอนเถอะ ง่วงแล้ว” มะนาวขยี้ตาทั้งที่นั่งอยู่ปลายเตียง ผมที่กำลังใส่กางเกงอยู่รู้สึกแปลกๆ

ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมเห็นเขาขยี้ตา ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาบ่นง่วง แต่ทำไมความรู้สึกอยากเอาใจทำตามคำขอมันมากกว่าเมื่อก่อนนัก ผมชักสงสัยตัวเอง มีอะไรบ้างที่เขาขอแล้วผมไม่ทำให้ จะมีบ้างไหมที่ผมจะขัดใจเขาได้เนี่ย

มะนาวไม่ใช่คนเรื่องมาก มะนาวไม่เคยแสดงอาการเอาแต่ใจ มะนาวเป็นเด็กอารมณ์ดีที่แสดงอารมณ์ออกทางสีหน้าและท่าทางชัดเจนเสมอ เขามักบอกสิ่งที่เขาเป็นโดยที่ไม่ต้องถาม ตั้งแต่รู้จักกันเราเจอหน้ากันเกือบทุกวัน พูดคุยกันตลอดเวลา ชีวิตของผมตอนนี้เต็มไปด้วยเขา ไมรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เราเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตอีกฝ่ายไปอย่างไม่ทันรู้ตัว

มะนาวล้มตัวลงนอนกลางเตียง ผมดึงผ้าห่มคลุมเราทั้งสองคน มะนาวยกหัวขึ้น เพื่อให้ผมสอดแขนให้เขาหนุน เสร็จแล้วผมก็ได้รับจูบเบาๆที่แก้ม ก่อนจะก้มหนีไม่ให้ผมเห็นหน้า

ผมจับคางเขาเงยหน้าขึ้น จูบตรงปากให้เขารู้ว่าคราวหลังควรทำยังไง ก่อนเราจะนอนหลับไปอย่างรวดเร็ว

ไม่สนคนอื่นจะคิดยังไงกับความสัมพันธ์ของเรา แต่ผมว่าผมมีเหตุผลมากพอที่จะหึงหวงเขาแล้วในตอนนี้


.........................


เช้าวันถัดมามะนาวยังคงเดินท่าแปลกๆ จนผมอดถามไม่ได้

“จะกลับบ้านจริงเหรอ?”

“ก็กะว่าอาทิตย์หน้าไม่ได้กลับ เลยว่าจะกลับไปให้พ่อแม่เห็นหน้าหน่อย” อาทิตย์หน้ามีกิจกรรมเต็มแน่นทุกวันรวมทั้งเสาร์อาทิตย์ด้วย ก็จริงของเขา

“ให้ไปส่งไหม”

“ไม่ต้องหรอก กูนั่งขับรถนะ ไม่ได้วิ่งขับรถ ทำอย่างกับกูผ่านสงครามเลือดอาบตัว”

“งั้นถึงบ้านแล้วไลน์มาบอกด้วยนะ”

“จ้ะ”

“มานี่มา” ผมยืนกวักมือเรียกมะนาวที่กำลังจะเปิดประตูห้องออกไปให้หันกลับมาก่อน

เรากางแขนเข้าหากันแบบไม่ต้องพูดขอ

“โอ๋ๆ กูกลับวันเดียว ไม่ร้องนะ ไม่ร้อง” ผมโอบมะนาวมากอด จับหัวมันซุกรักแร้ให้เต็มรัก แต่คำพูดเหมือนปลอบเด็กกลับเป็นของเขาให้ผมขำเล่น

“ขับรถดีๆล่ะ อย่าเล่นมือถือตอนขับรถนะ พ่อขอ”

“จ้า ฮ่าๆๆๆ”


ชิ ปากมะนาวนี่ แม่ง...



-------------------------------------

  มีต่อ
    V
    V

หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 13 เหตุผลคนหึง NC ] 29/2/59 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 29-02-2016 04:12:24
  - บทที่ 13 - เหตุผลคนหึง - (ต่อ) มะนาวขอว้าก



-------------------------------------


ไอ้มะนาวอยากจะว๊ากให้กระจกรถทะลุ

อร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ถ้ากูกระอักความสุขตายจะไม่สงสัยตัวเองเลย เชี่ยแม่ง โคตรฟิน

โคตรคุ้มถึงแม้จะต้องเปลืองตัวโดนปากไอ้เหี้ยปราณแบบเฉียดๆไปนิดนึง ผมจะถือว่าเรื่องนั้นไม่เกิดขึ้นจริง กูไม่อิน ไม่นับ แต่อย่าพูดถึงแม่งเลย หมดอารมณ์

คูณณณณณ ผู้ชมครับ!

มาฟังเรื่องนี้ดีกว่า มะนาวเสียซิงแล้ววววว อยากจะกู่ร้องให้คอแตก ฮ่าๆๆๆๆ ผมขับรถไปหัวเราะไปอย่างกะคนบ้า ตอนติดไฟแดงนี่คันข้างๆ เหล่มองกันทั้งคันว่าผมหัวเราะบ้าอะไรอยู่คนเดียว เลยต้องเอามือถือมาทำเหมือนเปิดโฟนคุยกับใครอยู่

ผมจะบรรยายความตื่นเต้นแบบสาวน้อยของผมเมื่อคืนดีไหม? แต่ไม่ดีกว่าผมเขิน เก็บไว้เป็นความลับระหว่างผมกับเขา แค่ อิอิ สองคน

ผมว่าผมก็ไม่ได้มีท่าทางสาวน้อยนะ แต่แม่งถนุถนอมผมมากกกกกก ถ้าใส่ตักโอ๋ได้คงทำ

แสดงว่าความพยายามซึนของผมเป็นผลอย่างยิ่ง แม้จะซึนแตกปล่อยหน้าแดงใส่มันไปหลายทีแต่ก็พยายามเก็บปากเก็บคำไม่ไวไฟมากไปจนมันกลัว ผมรึอุส่าไม่ทำท่าอยากเสียตัวจนเกินงานแทบบ้า คือใจจริงอยากจับมันจูบล้างปากให้ตั้งแต่อยู่ที่ร้านตอนออกจากห้องน้ำแล้ว แต่แม่ง เดี๋ยวมันกลัว

แต่ที่เห็นน้ำตาคลอนั่นคลอจริง โกรธจนน้ำตาจะไหล อยากกลับไปต่อยหน้าแม่งให้เลือดกลบปากจริงๆ แต่มาถึงตอนนี้อยากกลับไปขอบคุณ ไม่มีไอ้พี่ปราณเมื่อคืนผมอาจจะไม่ได้กัน 55555+ 

เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร? จุดที่ก่อนนอนก็ Kiss ตื่นเช้า ก็ Kiss ก่อนลาก็ Kiss หูยยยย ถ้าไม่เกรงใจผมจะดูดให้หนังมันติดปากออกมาเป็นชื่อไอ้มะนาวคนนี้เลย แต่เสียดายผิวขาวๆ ผมเก็บไว้กอดคนเดียว จะไม่แบ่งใคร 

ในขณะที่คนรอบตัวจ้องกล้ามแขนเขาตาเป็นมัน ผมกลับไม่ต้องทำอะไรเขาก็เป็นฝ่ายเดินเข้ามาหา มองผมด้วยสายตาเว้าวอนตลอดเวล์ (หากฉันบินบินไปได้ดั่งนก ฉันจะบินบินไปในนภา♫♬ ♫~♪) พี่ชนะเองพอได้เห็นเวลาผมอยู่กับแม็ต (แม้จะนั่งหันหลังให้กันก็เถอะ) ยังต้องเมินหน้าหนี แหม ทีนี้จะได้รู้สักทีไม่ต้องปฏิเสธให้เสียเวลา

คนอื่นผมก็แอบมองบ้างเป็นอาหารตา แต่จานหลักผมใหญ่มากกินอย่างอื่นไม่ไหวเลยล่ะขอบอก(หมายถึงอิ่มอกอิ่มใจ อย่าคิดลึกไป อิอิ) ทั้งจานหลักของหวานรวมอยู่ในคนคนเดียว มะนาวอยากจะสิงร่างมันไม่ไปไหนเลย แต่กลัวตัวเองจะกระอักความสุขตายเลยขอแยกมาตั้งหลักแอบกรี๊ดแป็ปจะได้ไม่เสียเชิง

ผมขับรถมาถึงบ้านแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว เวลาอารมณ์ดีๆนี่เวลาผ่านไปไวจริง ก่อนลงรถผมไม่รอช้า หยิบมือถือขึ้นมาพิมพ์บอกพ่อ ว่าถึงบ้านแล้วนะครับ เขาจะได้ไม่ต้องห่วง

ลงจากรถผมไม่ได้เข้าบ้าน เดินไปร้านเสริมสวยฝั่งตรงข้ามแทน ผมนี่แทบจะดีดตัวแบบนักบัลเล่ต์หมุนเป็นลูกข่างเข้าร้านเจ้เฟิร์น ถ้าไม่ติดตรงสังขารไม่อำนวยนะ

“เป็นอะไรย่ะ อารมณ์ดีอย่างกะคนมีแฟน”

“...” เออวะ ลืมคิดเลย นี่ผมกับมันใช่แฟนกันรึเปล่าล่ะเนี่ย ทำไมเพิ่งมาคิดได้เอาป่านนี้ ทำไมมึงความรู้สึกช้ามะนาว?

“อ้าว เปลี่ยนสีไวอย่างกะจิ้งจก ไปหาอะไรกินข้างในก่อนไป เจ้ไดย์ผมลูกค้าอีกแป็ป”

ผมเดินลึกเข้ามาข้างในร้านที่เป็นส่วนของครัวและบันไดขึ้นชั้นบน บ้านมีแต่ไม่ค่อยมีของกิน กินที่นี่จนชินแล้วครับ

มาคิดๆ ดู มันยังไงวะ ผมควรจะคิดมากไหมเนี่ย

เริ่มที่อะไรนะ? เริ่มที่ข้างรหัส ไปเป็นคนกุมความลับในยามเมาของผม คอยดูแลเทคแคร์ ใส่ใจผมมากกว่าคนอื่นๆ แสดงออกว่าเป็นห่วงผมสม่ำเสมอ เริ่มหยอกล้อในแบบที่ทำให้ผมเขิน เริ่มมีคำหวานให้ใจสั่นหวั่นไหว เขาค่อยๆมากขึ้นโดยที่ผมไม่รู้ตัว

มีใจ แม่งต้องมีใจแน่ๆ จะมากจะน้อย เขาก็มีอารมณ์กับผมล่ะวะ

แต่ผมเป็นผู้ชาย ผมย่อมเข้าใจผู้ชายด้วยกันดี เซกซ์สำหรับผู้ชายไม่ได้แปลความหมายออกมาเป็นความรักได้เสมอไป

เอาแล้วสิ พอคิดได้อย่างนี้ผมถึงกับนั่งไม่ติด

ถ้าเขาเพียงแค่อยาก แล้วบังเอิญว่าผมเป็นคนที่ใกล้มือที่สุดที่เขาคว้ามากดได้ล่ะ?

เฮ้ย แต่ผมรู้จักเขานะ พ่อสุภาพบุรุษ ไม่กดใครแค่เพราะอยากมีเซกซ์หรอก ใช่มะ? ใช่รึเปล่า? ใช่แหละ? เนอะ....

เห้อออออ ผมดีใจได้ไม่ถึงครึ่งวันก็มานั่งคอตกจิตตกซะแล้ว เมื่อไหร่เจ้จะไดร์ผมเสร็จจะได้ขอคำปึกฉา

“อ้าว ทำไมทีนี้ทำหน้าอย่างกะหมาหงอย เมื่อกี้ยังลั้นลาจนน่าเตะอยู่เลย”

“เจ้ ผมควรทำยังไงดี...”

“อ่ะ เล่ามา”

“คือ ผมกะคนนั้นอ่ะ”

“อย่าบอกนะว่าได้กันแล้ว”

“เจ้รู้ได้ไง”

“เขาเรียกอาบน้ำร้อนมาก่อน แล้วทำไมต้องทำหน้าเครียด ก็ชอบเขาไม่ใช่เหรอ หรือไม่ถึงอกถึงใจ ฮ่าๆๆๆ”

“ไม่ใช่เลยเจ้ ไม่ใช่เรื่องนั้น แต่ประเด็นคือตอนนี้เนี่ย เราไปด้วยกันได้ดี เขาดีกับผม ผมก็ไม่ได้สนคนอื่น ถึงทั้งเขาทั้งผมจะมีคนเข้ามาเยอะแยะ แต่ลึกๆต่างคนต่างรู้ว่า เนี่ยเป็นคนนี้ ผมไม่รู้เขาคิดอย่างนั้นรึเปล่านะ แต่เขาแสดงออกแบบนั้นตลอด แล้วแบบ ผมต้องคิดมากไหมที่เรายังไม่ได้ตกลงเป็นแฟนกันจริงๆจังๆ”

“ฮ่วย ไอ้คำจำกัดความพวกนั้นน่ะกินไม่ได้หรอกนะ ถ้าเขาดีกับเรา ไม่ได้ไปดีกับคนอื่นนอกจากเรามันก็ใช่เอง หนูคิดดูนะ เขามีเราคนเดียวรึเปล่า เขาไปแบบ ทำไม่ชัดเจนกับคนอื่นอีกรึเปล่า เราอยู่ด้วยกันย่อมรู้ดีแก่ใจ คนเยอะแยะที่เป็นแฟนกันแต่นอกใจกัน หรือเที่ยวแจกคำว่าแฟนให้คนหลายๆคนพร้อมกันถ้าได้แบบนั้น คำว่าแฟนก็ไม่มีค่าหรอกนะ”

“...” ผมเห็นความขมขื่นในแววตาเจ้

“เข้าใจที่พี่จะบอกใช่ไหม?”

“ครับ”

“ถ้าใช่ คำจำกัดความก็ไม่สำคัญ เพราะถึงจะมีสถานะค้ำคอแต่ไม่ได้ทำตัวให้สมฐานะแฟน มันก็ไม่มีความหมายอะไร พาลจะปวดใจเปล่าๆ”

“นั้นสิเนอะ เขาดีกับนาวมากจนไม่รู้จะดียังไง”

“นั่น แล้วดูเขาเป็นคนเจ้าชู้รึเปล่าล่ะ”

“ไม่นะนาวว่าเขาแค่ เป็นคนดีเกินไป”

“แต่ก็ขอให้มีสตินะมะนาว รู้ใช่ไหมเจ้บอกเราเสมอว่ารักทำให้คนเราตาบอดได้จริง มันเป็นวัยของเราที่จะมีความรัก เจ้จะไม่ห้าม เขาอาจจะเป็นรักแรกและรักเดียวของหมูก็ได้เจ้ถึงอยากให้ทำทุกวันให้มีความสุขเข้าไว้อย่าทำให้ต้องเสียเขาไปเพราะความงี่เง่าของตัวเอง หรือแม้วันนึงเกิดพวกหนูมีช่วงเวลาที่ไม่ได้เดินไปพร้อมกัน ก็ยังมีความทรงจำดีไว้ให้รู้ว่าครั้งหนึ่งความรักก็เคยเกิดขึ้นกับเรา”

“ผมไม่ได้คิดไกลขนาดนั้น”

“ฮ่าๆๆ ระวังเถอะ เวลามันผ่านไปเร็วนะ แป็บๆก็แก่ ความรักที่เคยน่าหลงใหลสำหรับเจ้ มันยังกลายเป็นเรื่องไม่สำคัญในชีวิตได้เลย คนเราโตขึ้นความคิดก็เปลี่ยนไป”

“นาวไม่อยากโต”

“จ๊ะ กินๆเข้าไปข้าวน่ะ ไม่อยากโตแต่ก็อดตายไม่ได้นะ”

ผมมองกับข้าว น้ำพริก แกงไตปลา กับผัดเผ็ดหมูป่า ฆ่าฉันเถอะ

“เจ้ มีแกงจืดหรือผัดผักไหม แกงไตปลามันเผ็ด”

“ก๊ากกกกกก”

เจ้หัวเราะซะหมดสวย ผมล่ะเครียด คิดผิดรึเปล่าเอาเรื่องพวกนี้มาปรึกษาเจ้เฟิร์น

แต่ไม่ปรึกษาเจ้ จะมีใครให้ปรึกฯ ไม่มีผู้เชี่ยวชาญและไว้ใจได้ไปมากกว่านี้แล้ว

มาคิดๆดู ก็จริงทุกอย่างอย่างที่เจ้ว่า คนรักกัน การกระทำต่างหากที่สำคัญ คำจำกัดความนั้นก็แค่ชื่อเรียกเก๋ๆ

อีกอย่าง แค่ผมทำอ่อนหวานสบตาแม็ตปิ้งๆในโรงอาหารสักทีสองที คนก็รู้กันทั่ว เป็นคนหน้าตาดีนี่ชีวิตก็สะดวกสบายแบบแปลกๆ มีประชาสัมพันธ์ส่วนตัวมากมาย ไม่ใช่ฝั่งผมนะ ฝั่งพ่อแม็ตโน้น แฟนคลับเดือนคณะละลานตาจนผมไม่รู้จะระแวงยังไงหวาดไหว เลยปล่อยไหลจะกรี๊ดได้เชิญ แต่ถ้ามากกว่านั้นก็มาเจอกันก่อนสักตั้ง ฮ่า

โทรศัพท์ ผมสั่น หยิบขึ้นมาดูก็หน้าแม็ตตอนนอนโชว์หรา เจ้มองหน้าเบะปากแล้วกลับออกไปหน้าร้าน

-ถึงบ้านแล้วเหรอ-

“ถึงแล้ว แต่ตอนนี้มาอยู่บ้านข้างๆ”

-บ้านเจ้เฟิร์นใช่ไหม ลูกค้าเจ้เยอะป่าว-

“ก็เรื่อยๆ มึง กูว่าจบเชียร์จะกลับไปทำผมสีเดิม ดีไหม มึงจำได้ใช่ป่าวสีอ่อนๆอ่ะ”

-จำได้ แต่ไม่ต้องทำก็ได้นะ-

“อ้าวไมอ่ะ ไม่หล่อเหรอ”

-ทำสีผมบ่อย แก่ไปหัวล้านนะมึง-

“เฮ้ย ไม่เป็นไร แก่ก็ส่วนแก่ ถึงเวลาค่อยว่ากันอีกทีแล้วกันอีกตั้งนาน”

เขาเงียบไปนานกว่าจะตอบ

-เอาจริงๆนะ ที่กูไม่อยากให้ทำเพราะทำแล้วมึงจะน่ารักมาก กูขี้เกียจตามหึง-

“>////<”

-ไม่ทำได้ไหม?-

“อื้ม ไม่ทำก็ไม่ทำ”

เห็นไหม เห็นไหม แม่ง แม่งงงงงงงงงงง

ลูกอ้อนแม่งลูกใหญ่มากกกกกกกกกกกกกกกก


อ้อนแบบนี้กูก็ตายสถานเดียว



-------------------------------------
TBC.



ในที่สุดก็เดินทางมาถึงจุดนี้
เขินแป็ป >///<  :o8:
คาดว่าต้องมีคนเดาว่าสองคนนี้ต้องปะทะกัน ณ ตอนเมาไม่ได้สติ เอาไว้ก่อนๆคราวหน้ายังมี ห๊นทางยังอีกยาวไกล
ว่างๆจิมาตอบคอมเม้นต์เน้อ คนเขียนง่วงนอน คนเขียนว่าจะอัพตั้งแต่สี่ทุ่ม ดูเวลาอัพจริงสิ เห้ออออ นี่ตรวจทานทีไรก็ยังเจอคำผิด
ขอโทษที่มีบางคำหลุดไปให้เสียอารมณ์เน้อ หยวนๆเนอะ 555+


บะโรไปแอบเปิดเรื่องสั้นไว้จ้า ลงไปหนึ่งตอน ณ ตอนนี้ แวะไปเยี่ยมกันได้จ้า
[เรื่องสั้น] คิงไซซ์ ใจเดียวกัน  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52182.0) (จบแล้วจ้า 24/04/59)

มีตอบเม้นต์ ที่โพส 105 ข้างล่างนะคะ


เพจคนหัดเขียน >> https://web.facebook.com/Brosohub/
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 13 เหตุผลคนหึง NC ] 29/2/59 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 29-02-2016 06:16:21
 :m25:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 13 เหตุผลคนหึง NC ] 29/2/59 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: sunshine2513 ที่ 29-02-2016 08:07:34
อี  อี  มะนาว  อิจฉา
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 13 เหตุผลคนหึง NC ] 29/2/59 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 29-02-2016 09:53:13
 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 13 เหตุผลคนหึง NC ] 29/2/59 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 29-02-2016 10:39:50
ไม่ต้องกังวลถึงสถานะแล้วมั้งมะนาว คุณสามีหึงออกนอกหน้าขนาดนี้
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 13 เหตุผลคนหึง NC ] 29/2/59 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-02-2016 14:18:12
อิจ นัง
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 13 เหตุผลคนหึง NC ] 29/2/59 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 29-02-2016 15:22:18
 :o8: ในที่สุดหนูมะนาวก็'ได้'สามีแบบเต็มตัว

มีคำผิด  สูญเปล่า เขียนแบบนี้ เกาะไหล่ ไม่ใช่แกะ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 13 เหตุผลคนหึง NC ] 29/2/59 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Seilong2 ที่ 29-02-2016 15:24:25
 :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 13 เหตุผลคนหึง NC ] 29/2/59 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Zxjmm ที่ 29-02-2016 17:11:44
พี่โนอาฉายาสตรีหมายเลขหนึ่งนี่แฟนประธานเชียร์รึเปล่าน้า
แต่แอบเชียร์คู่ประธานกับเมมากกว่า5555555555
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 13 เหตุผลคนหึง NC ] 29/2/59 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 29-02-2016 18:13:47
โอ่ย น่ารัก
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 13 เหตุผลคนหึง NC ] 29/2/59 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 29-02-2016 20:16:22
เขินแทนเลยอะ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 13 เหตุผลคนหึง NC ] 29/2/59 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 29-02-2016 21:01:53
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 13 เหตุผลคนหึง NC ] 29/2/59 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 29-02-2016 22:25:59
ตอบเม้นต์กันหน่อยจ้า

- B52
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียนกันทุกตอนนะค่า คนนี้เม้นแรก เก้าจำได้ 555
เรื่องความเนียนของทั้งคู่นั้น อุอิ

- insomniac
เรื่องเมกับ... รอลุ้นกันต่อจ้า อย่างที่เคยบอก เมนางจะมีคู่แน่นอน

- ลิงน้อยสุดเอ๋อ
ไม่ต้องจีบกันแล้วเนอะ ไม่เมาทั้งคู่ด้วย ฮ่าๆๆๆ
เรื่องประธารเชียร์นั้น ขออุบไว้ก่อน 555 มาร่วมพจภัยไปด้วยกันค่า

- TaecKhun Imagine Love
ดีใจมีคนตามอ่าน แปลว่ามีคนอ่านเพิ่มขึ้น ฮ่า
ขอบคุณที่ชอบจ้า

- คุณข้าวทอด
ในส่วนที่กล่าวหาว่าแม็ตร้ายลึกนั้น ไม่มีอะไรจะแก้ตัว ฮ่าๆๆๆ แบบคาเรคเตอร์เป็นคนสุภาพนิ่งๆ ก็เลยไม่ค่อยแสดงออกอะไรเหมือนวัยรุ่นผู้ชายทั่วไป มะนาวจะเด็กๆ แต่ก็ร้ายพอตัวนางเหมือนกันนะ 555+

- imfckwn
ขอบคุณที่ชอบมะนาวจ้า จะพยายามปั่นให้ไวอัพให้บ่อยจ้า
แทบัค!

- takara
เรื่องประธานเชียร์กับเมนั้น รอลุ้นจ้า อิอิ ใกล้แล้วๆ
ตอน 13 คนเขียนก็เขิน >///<

- PaiPo
คนนี้ก็ติดตามตลอด ขอบคุณสำหรับการติดตามจ้า

- magic-moon
คำผิดแก้แล้วนะคะ เจออีกก็บอกอีกนะ 5555 ขอบคุณจ้า
ขอบคุณที่ชอบนะ จะพยายามอัพบ่อยๆ

- nutty
ตอน 12 ไม่สั้นนะ แต่ไม่ได้เปลี่ยนสถานที่เท่าไหร่ 555+ ความยาวได้มาตรฐานจ้า (ให้เวิดนับคำให้)
เขาเป็นตัวจริงของกันและกันตลอดคะ แค่ไม่รู้ตัว 5555 คนนี้ #ทีมเม


- minkey
-เรื่องชื่อเรื่อง ขอไม่ชี้แจงตอนนี้นะคะ ถ้าอธิบายจะเป็นการสปอยหนักมาก(พูดถึงตรงนี้บางคนคงปวดใจไว้รอ) แฮ่ เก้าขอโทษ
เดี๋ยวให้มะนาวจุ๊บๆปลอบใจ

- ●GreenTEA●
คนนี้ก็ติดตามตลอด อยู่ด้วยกันนานๆเนอะ 555+

- Chise
มุมมะนาวได้อ่านไปบ้างแล้วเนอะ หวังว่าจะชอบใจ 555+
ปลื้มเหมือนกันค่ะ กว่าจะเขียนถึงจุดนี้... น้ำตาคนเดียนจะไหล...

- pancakesexy
ดาว(เทียม)เจ้าที่มาเองแบบนี้ เราอาจเคยเจอกันก็ได้นะ ฮ่าๆๆๆๆ
แก้เรื่องเดอะช็อค คนเขียนฟังเองนะคะ มะนาวไม่ได้เป็นคนฟัง 5555+ แต่ถ้าอยากได้โมเม้นกลัวผี ถ้าจังหวะดีๆจะจัดให้จ๊ะ เอาบันไดตึกบีตึกภาคมะนาวเป็นไง? 5555+

- magic-moon
ขอบคุณที่ชอบจ้า จะพยายามไม่ให้ไร้สาระจนเกินไปนะ ตอนแรกกไม่คิดว่าจะออกมาน่ารักแบบนี้ 555

- ❣☾月亮☽❣
เนอะๆ น่ารักเนอะ 5555
คำผิดเค้าแก้แล้วนะ ขอบคุณค่า เจออีกก็บอกอีกได้ ผมตาลายบอกตรง 555 ช่วงนี้มีปัญหาคิดอย่างพิมพ์อีกอย่าง เป็นคำอีกคนที่ถูกทั้งคำแต่อยู่ผิดที่ผิดเวลา ไม่รู้เป็นอะไร งงตัวเอง สงสัยง่วง 555 อย่างจะพิมพ์ มะนาว คนเขียนพิมพ์ นาวนาว ไปบ่อยมาก

- Zxjmm
ทำไมรู้ใจกันขนาดนี้ คิดเหมือนกันเลยยย 555

- sunshine2513
- Seilong2
- mild-dy

ขอบคุณที่หลงมาในหน้านิยายเก้าน้า ฮ่าๆๆๆ ไว้หลงมาบ่อยๆน้า เก้าคิดถึง



ไม่ได้ไล่ตอบหมด ตกหล่นคนไหนอย่าน้อยใจนะ เรายังต้องอยู่ด้วยกันอีกนานเลยล่ะดูทรงแล้ว 5555

มุขสีผมมะนาวนี่ ไม่มั่วนะ คนเขียนลงทุนให้มะนาวโกรกผมเข้ม(แต่ไม่ถึงดำ)ตั้งแต่เปิดเทอมได้วันเดียวนั่น เพื่อเอามาเล่นวันนี้เลย คนเขียนลงทุนมากนะ 5555+ (และกลัวลืมความตั้งใจตัวเองมาก) รู้สึกโล้ง

จบไปหนึ่งปม เหลือปมอะไรอีก เปิดทิ้งเปิดขว้างมาก ปมเยอะมาก ไล่แก้ให้หมดนี่ก็เหนื่อยแล้ว ยังจะต้องเติมความหวานกันอีก


แค่นับนิ้วก็ได้หลายปม เอาเลยจ๊ะ มีใครจะให้เพิ่มอีก คนเขียนขอตัวไปผูกปมเพิ่มก่อนนะ รู้สึกซับซ้อนไม่พอ(ประชด) TT^TT
สุดท้ายขอบคุณคนอ่านทุกคน(ทั้งที่แสดงตัวหรือไม่ก็ตาม) ไม่มีคุณคนเขียนก็คงไม่รู้ว่าจะเขียนไปทำไม ฮ่าๆๆๆ
หมดแรงก็กลับมาอ่านเม้นต์ พอรู้สึกว่ามีคนรอก็มีแรงขึ้นมา 555+

ขอตัวไปปั่นต่อจ้า ทักทายแฟนเพจกันเป็นการส่วนตัวได้ ที่ซิกข้างล่าง
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 13 เหตุผลคนหึง NC ] 29/2/59 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 29-02-2016 22:55:03
โอ้วววว เขินอ่ะ
มะนาวคนขี้อ่อยยยย :hao7:


คนเขียนตอบเม้นซะหวั่นใจ 555555
 :katai5:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 13 เหตุผลคนหึง NC ] 29/2/59 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 01-03-2016 00:45:25
อย่าบอกว่ามีมาม่าให้เลิกกันหนึ่งรอบนะ
ชอบเรื่องนี้มาก มะนาว&ว่าที่แฟนน่ารักน่าเอ็นดู

ปล ไปไลค์เพจให้แล้วนะจ๊ะ สู้ๆมาอัพบ่อยๆล่ะ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 13 เหตุผลคนหึง NC ] 29/2/59 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: pancakesexy ที่ 01-03-2016 03:16:13
แอบมองเห็นเรื่อสายรหัสสามี(มะนาว)มาลางๆ อิอิ ต้องใช่มุขนั้นแน่ๆ ตื่นเต้น มโนว่าจีบเดือนคณะเดือนสถาบันปีที่แล้วแป๊บบบบ เพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่าน 555+ ส่วนตอนนี้ มะนาวลูกคุ้มไหมคะกับการเก็บซิงไว้ชิงโชค สรุปได้โชครางวัลที่เท่าไหร่ คืออิจ!!!! อยู่มาก่อนกี่รุ่นทำไมโชคยังไม่หล่นทับซะที อย่าให้เจอนะแม่จะสั่งให้หนูสุขสำราญเป็นดอกไม้บานยามเช้าเลยคอยดู!!! ฮึ่ยยยย!!!!
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 13 เหตุผลคนหึง NC ] 29/2/59 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: PaiPo ที่ 02-03-2016 21:40:24
อร้ายยยย อิจมะนาว
กับพ่อนี่หนูไม่หวงตัวเลยว่างั้นเถอะ แหมมมม
เมื่อไหร่จะมีรอบสอง เธอกำลังคิดแบบนี่ใช่ไหมมะนาววววว
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 14 มากขึ้น] 7/3/59 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 07-03-2016 04:34:11
  - บทที่ 14 - ความรู้สึกที่มากขึ้น -


------------------------------------------


ผมเคยสงสัยมาตลอด  ถ้าวันนึงผมมีความรัก มันจะเป็นความรักแบบไหนกัน คนรักผมจะหน้าตาเป็นยังไง อะไรที่จะเป็นจุดเชื่อมโยงของเราสองคน นึกอยู่ตลอดว่าเขาผ่านเข้ามาในชีวิตนี้แล้วผมยังไม่รู้ตัวรึเปล่า หรือผมยังหาเขาไม่เจอ

มาถึงวันนี้ ผมไม่รู้ว่าเขาใช่คนคนนั้นที่เคยสงสัยไหม

ผมไม่ได้คาดหวังว่าความรักของผมจะต้องเป็นอย่างนั้นจะต้องเป็นอย่างนี้ แต่แค่ระหว่างผมกับเขา เรารู้กันก็พอแล้ว


“ไง”

“หวัดดี” น้ำทักทายและนั่งลงตรงข้ามข้างๆพงศ์ แต่ตาผมมองเห็นมะนาวเดินยักคิ้วมาแต่ไกล

ความรู้สึกในยามได้เห็นหน้าเขาอีกครั้งไม่ได้เปลี่ยนไป เพียงแต่มันชัดเจนขึ้น และมากขึ้น มันกลายเป็นความยินดี เมื่อได้เห็นเขากำลังเดินเข้ามาหา ทั้งที่มีคนรอบข้างมากมาย แต่ทำไมผมเห็นและรับรู้แค่การมาของเขาก็ไม่รู้

มะนาวเดินใกล้เข้ามา เอ้ที่เดินตามมะนาวมาไกลๆ เขาเดินเร็วๆมาคว้ามะนาวให้รีบเดินมาที่โต๊ะท่าทางรีบเร่ง

“เมยังไม่มาใช่ไหม?”

“ยัง มาก็เห็นสิคะอิดอก” พงศ์ต่อปาก

“ดี กูมีเรื่องเม้าท์”

ทุกคนเหมือนจะยื่นหน้าออกมาเพื่อรอฟัง เพราะท่าทางมีลับลมคมในของเอ้มันฟ้องว่าเรื่องนี้ห้ามพลาด

“พงศ์มึงจำได้ป่ะ วันเสาร์ที่กูไปหามึงที่ร้านอ่ะ”

“ได้ดิ”

“อิเมเมา แล้วกูกับพี่โนอาอยู่หอซอยเดียวกัน กูเลยอาสาไปส่งเมที่ห้องเขา เพราะรายนั้นพูดไม่รู้เรื่องแล้ว เลยกะว่าเอาไปนอนห้องพี่โนอาแล้วกัน เขาสนิทกันนี่ กูก็ไม่ได้คิดอะไรตอนพี่โนอาเสนอ แต่พอมาย้อนคิดดู มันเพื่อนกูทำไมพี่โนอาไม่ให้มันนอนห้องกูวะ เออ เรื่องนั้นช่างมันก่อน คือสรุปกูช่วยพี่โนอาพาเมไปห้องเขา”

“ช้ามึง” พงศ์บ่น

“เอาแต่เนื้อๆ” มะนาวก็บ่น

“อย่าเพิ่งเร่ง แล้วตอนนั่งแทคซี่กลับ พี่โนอาคุยไลน์ตลอด กูก็ไม่ได้แอบดูนะ แต่มีคนโทรเข้ามา พี่เขาก็ตัดสายก่อนที่กูจะเห็นหรือทัก พอถึงห้อง วางเมเสร็จเขาเข้าห้องน้ำไปเอาผ้ามาเช็ดตัวใช่มะ เขาคว่ำโทรศัพท์ไว้แต่มันสั่น กูเลยแอบหงายดู มึงต้องไม่เชื่อว่ากูเห็นอะไร”

“อะไรล่ะ มึงรีบบอกสิ ใครโทรเข้ามามึงก็บอก” พงศ์เร่ง

“ชื่อเขาเมมว่า ‘พ่อ’ แต่รูปอ่ะมึง เป็นรูปประธารเชียร์”

“หื๋อ?”

“หล่อม้ากกกก กูอยากขอรูปนั้นมาเก็บไว้ เอ้ย ไม่ใช่ นั้นไม่ใช่ประเด็น คือตอนนั้นกูตกใจมาก เกือบทำมือถือเขาตกแน่ะมึง พี่แกออกมาจากห้องน้ำพอดี กูก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ บอกแค่ว่ามีโทรศัพท์เข้ารึเปล่าพี่ เห็นสั่นๆ แล้วก็รีบขอตัวกลับ แล้วมายืนแนบหูกับประตูห้องต่อ”

“มึงได้ยินไหมๆ เขาคุยอะไรๆ”

“อยู่ห้องแล้ว ไม่ต้องมา หยุด ห้าม ถ้ามาจะงอน” เอ้เลียนเสียงพี่โนอาได้เหมือนมาก

ทุกคนเงียบ ไม่มีใครออกความเห็น เลยเป็นคนเล่าที่ต้องกระตุ้น

“มึงว่ากูได้ยินผิดรึเปล่า กูเมาก็จริงแต่กูว่าหูกูไม่น่าฝาดนะ”

“อาจจะเป็นคนอื่นก็ได้ ที่โทรมา”

“นี่ ในรูปเขาทำท่านี้” เอ้กดหน้าลงหรี่ตาหน้าเข้ม มือซ้ายจับคางแบบคิดอะไรอยู่ ปากยกยิ้มข้างนึง “หล่อมากมึงงงงงง รูปดีกูใจสั่น”


“รูปอะไร?” เมมาทำวงแตกครับ ทุกคนเอาหัวออกห่างกันในจังหวะที่น่าสงสัยที่สุด เมยืนถามด้วยสายตาอยู่ที่หัวโต๊ะ

“เม”

เมเลิกคิ้วมองเอ้

“วันอาทิตย์ตื่นกี่โมงอ่ะ” เอ้ถามด้วยท่าทางบ่งบอกว่ามีอะไรซ่อนอยู่สุดๆ

“เที่ยง”

“แล้ว พี่โนอาว่าไงบ้าง?”

“ไม่ได้ว่าอะไร กูตื่นเขาก็ไม่อยู่แล้ว แต่เขาซื้อข้าวไว้ให้”

“ตอนกูไปส่งมึง มึงจำได้ป่ะ?”

“ได้ กูไม่ได้เมามากขนาดนั้น กูแค่ง่วง”

“เฮ้ย จริงดิ แล้วมึงได้ยินที่พี่โนอาคุยโทรศัพท์ป่ะ?”

“ได้ยิน แต่ กูหลับไปตอนนั้นมั้ง จำไม่ค่อยได้”

“เขาคุยกับใครมึงรู้ป่ะ”

“กูจะไปรู้ได้ไงวะ”

“ก็มึงอยู่กับเขาตอนที่คุยอ่ะ กูอยากรู้ บอกกูเถอะ”

“แฟนมั้ง ถ้าเพื่อนคงไม่โทรหากันเวลาแบบนั้นป่าว ถ้าเพื่อนกูคุยสามคำก็วาง อันนี้คุยจนกูหลับ”

ขอสันนิฐานของเมทำให้ไม่มีใครพูดอะไรต่อ

“ทำไมอ่ะ มีอะไรอ่ะ?”

“เปล่า กูแค่อยากรู้เรื่องชาวบ้านเป็นทุนเดิม ฮ่าๆๆ หิวอ่ะ มะนาวไปซื้อข้าวกัน” เอ้ลากมะนาวไปเดินหาร้านข้าวที่ถูกใจ

“แม็ต เอ้มันเป็นอะไรวะ”

“มันสงสัยว่าประธานเชียร์เป็นคนที่พี่โนอาคุยด้วย”

“แค่เนี่ย ทำให้อยากรู้ไมก็ไม่รู้ ไม่เห็นมีไรน่าสนใจเลย” เมลงมือกินหวานเย็นเป็นมื้อเช้า

ผมจะไม่คิดอะไรกับคำพูดเมแล้ว แต่ไอ้คนความรู้สึกไวอย่างน้ำนิ่งดันจ้องผมแน่วแน่จนอดไม่ได้ที่จะหันไปสบตามัน พอผมหันไป มันก็ดันยิ้มชั่วร้ายออกมา ไอ้นี่ต้องคิดอะไรอยู่แน่ๆ


ตอนเย็นผมกับมะนาวเรียนแลปฟิสิกส์เสร็จก็เข้าเชียร์ปกติ แต่ระหว่างเข้าเชียร์ ผมถูกเรียกรหัสออกมากลางคันอีกแล้ว ซึ่งรอบนี้มีเมติดมาด้วย

“เขาเรียกพวกเราออกมาทำไมวะแม็ต”

“ไม่รู้ คราวที่แล้วก็ไม่ได้ทำอะไร”

“ห่ะ?”

ซึ่งครั้งนี้ก็ไม่ได้ทำอะไรอีกจริงๆ ครับ เรียกออกมาในห้องพัก ข้างๆ ห้องแต่งตัวดาวเดือนรอบก่อน มีคนถูกเรียกออกมาพร้อมกันอีกเจ็ดแปดคน

สักพักก็ปล่อยกลับ

พี่ๆ ชมรมกีฬามาบอกว่าพรุ่งนี้ให้ปีหนึ่งที่จะลงแข่งกีฬาเฟรสชี่ไปซ้อมกันต่อด้วย ผมนี่เหนื่อยไว้รอเลยครับ


“พรุ่งนี้มึงจะไปซ้อมไหม”

มะนาวถามผมหลังออกจากห้องเชียร์มาเจอกันที่โต๊ะกินข้าวโต๊ะเดิม

“ก็คงไป มึงกลับไปทำสรุปแลปแล้วนอนก่อนเลย”

“จะไปด้วย”

“ไปทำไม”

“เมก็ไป เดี๋ยวกูเอาพงศ์ไปนั่งเป็นเพื่อน”

“ไปทำไม เหนื่อยเปล่าๆ กลับไปพักดีกว่า”

“พงศ์ เดี๋ยวไปดูแม็ตกับเมซ้อมบาสกัน ไปดูผู้ชาย ไปป่าว”

“ไปค่ะ เอ้ มึงไปไหม? ไปเน้อะ”

“ดูผู้ชายเหรอ ไป กลับหอไปก็แห้งเหี่ยว ว่างๆ มันไม่ชิน”

เห้อ ผมนี่สุดจะห้าม งั้นก็เลยตามเลยก็แล้วกัน นี่ต้องคิดอะไรอยู่แน่ๆถึงไม่ยอมกลับห้องอย่างที่ผมบอก หวังว่าคงไม่ทำอะไรพิเรนๆให้ผมต้องกระวนกระวายอีกนะ


................................................



ในที่สุดผมกับมะนาวก็ได้อยู่กันสองคนอีกครั้ง หลังจากแยกย้ายกันไปเมื่อสายๆ วันอาทิตย์

ผมไขกุญแจเข้าห้องตัวเอง มะนาวที่เดินตามเข้ามาปิดประตูตามหลัง ล็อกทั้งลูกบิดและใส่โซคล้องประตู ผมมองตามมือเขาโดยไม่รู้ตัว มารู้ตัวเอาตอนที่เขาหันมาสบตา

"มองอะไรขนาดนั้น"

เขาถามเหมือนจะรำคาญ แต่หัวเราะลมออกจมูกแบบไม่มีเสียงตอนเดินผ่านผมไป ถึงตอนนี้ผมก็ยังมองเขา ท่าทางเขาที่ไม่สนใจผมเท่าไหร่ ผมเลยเกี่ยวเอวเขากลับมาให้สบตา

"อะไร?" มะนาวย่นคอ เขาเพียงเอียงตัวถามผมด้วยสายตา ไม่กอดตอบ แต่ก็ไม่ได้ผลักออก

"ไม่มีอะไร"

แต่ในใจผมมีมากมายเลย

จะบอกยังไงว่าคิดถึงในเมื่อห่างกันไม่ถึง 24 ชั่วโมงด้วยซ้ำ

จะบอกยังไงว่ายังหวงเขาที่โดนคนอื่นมาฉวยจูบทั้งที่เราคุยกันรู้เรื่องไปแล้ว

จะบอกยังไงว่าไม่อยากให้ไปดูซ้อมบาสพรุ่งนี้เลย ทั้งที่ที่จริงแล้วการมีกำลังใจข้างสนามดีๆมันทำให้รู้สึกดีสุดๆ

จะบอกยังไงว่าอยากอ้อนแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง

"ไม่มีแล้วท่านี้มันอะไร"

มะนาวกางแขนออกให้ดูรอบๆ ตัวเขา แขนยาวๆ ของผมคล้องเอวประสานมือไว้ข้างหลังเขา กันเขาหนี

จะบอกได้ยังไงล่ะ ว่าอยากกอดรัดใจจะขาด

"นี่ไง" ผมทำแก้มขวาป่องเอียงหน้าให้

"อะไร?"

"เนี่ย" ผมทำป่องๆ ยุบๆ ให้เขาดูซ้ำ

"แล้วมันอะไรเหรอ?"

"น่านะ เติมพลังหน่อย"

"จะนอนอยู่แล้วยังจะเติมไปไหนอีก"

"น่า ถ้าไม่หอมตรงนี้จะจับไปหอมบนเตียงนะ" คำขู่ของผมทำให้เขาเลิกลักรีบตอบ

"โอเคๆ มาๆๆ" มะนาวหลับตาทำหน้าย่นตอนฝังจมูกกับแก้มผม

ในที่สุด มะนาวก็ยอมหอมแก้มผม ง่ายๆ แค่นี้เอง ที่ลีลานี่เพราะอยากให้อ้อนล่ะสิ ผมรู้ทันหรอกน่า

"ก้มหน้าทำไม"

"กลัวโดนเอาคืน" มะนาวก้มหน้างุดปักหัวไว้กับอกผม ไม่ให้ผมก้มลงไปทำอะไรได้

"ฮ่าๆๆๆ เห็นกูเป็นคนยังไง"

"เป็นพวกเดาไม่ออก"

"เล่นเกมก่อนหรือทำแลปก่อน"

"ทำแลป จะได้เล่นเกมยาวๆ"

ผมยอมตัดใจ ไม่รุกเขาหนักไปกว่านี้ การเห็นเข้าใช้ชีวิตเรื่อยๆ อยู่ใกล้ๆ ก็เป็นความสุขอีกอย่างนอกจากการแสดงออกแบบนี้ล่ะนะ


หลังจากนั้น ก็ตามนั้นครับ เรานั่งเขียนสรุปแลปกัน มะนาวนอนเขียนรายงานอยู่บนเตียง เขาหาวและคอยขยี้ตา มะนาวเขียนเสร็จก่อนก็เลยไปอาบน้ำ ดูท่าเกมจะไม่ได้เล่นแล้วล่ะมั้ง


ผมอาบน้ำออกมาเจอมะนาวนั่งพิงหัวเตียงสุดด้านหนึ่งแบบสุดมากๆ ห่างไกลผมสุดๆ ทั้งที่ตาจะปิดแหล่มิปิดแหล่เขาก็ยังนั่งเล่นเกมมือถือระหว่างที่ผมไปอาบน้ำ ผมเดินไปปิดไฟและล้มตัวลงนอนอีกฝั่งที่ว่าง มะนาวค่อยๆ เลื่อนไถลตัวกลายเป็นนอนเล่นมือถือ

ตอนนอนก็นอนชิดขอบเตียงที่สุด ผมพยายามจะไม่คิดว่าเขาทำแบบนั้นทำไม อาจจะแค่เพราะเกมมันติดพัน คงไม่ใช่เพราะกลัวอะไรผมอยู่หรอกนะ


"ทำไมถึงอยากตามไปดูซ้อมบาสพรุ่งนี้" หลังปิดไฟ ผมก็ยังไม่หลับเขาก็ยังไม่หลับ จึงเอ่ยถามสิ่งที่ยังสงสัย

"ไม่มีอะไรนิ กูแค่ไม่อยากอยู่คนเดียว"

"งั้นกลับบ้านก็ได้นี่ เลิกเรียนตั้งแต่ 4 โมง ขับรถกลับสบายๆ"

"..." เขาละสายตาจากมือถือมามองผมชั่วครู่ ก่อนจะกลับไปสนในเกมต่อ แต่ไม่พูดอะไรเลย

"เฮ้ย นี่ไม่ได้ไล่นะ แต่เห็นบอกไม่ค่อยได้กลับบ้านช่วงนี้ เออ ไม่ใช่ๆ ไม่ใช่อย่างนั้น อย่าทำหน้าอย่างนั้นดิ" แย่แล้ว ผมใช้คำผิด

"นั้นสิ กูลืมไปว่ากูมีบ้าน" มะนาวเงียบไปนานก่อนจะยอมพูดขึ้น แม้น้ำเสียงจะเรียบเฉยไม่ได้มีแววประชดประชัน แต่ผมรู้สึกไม่ดีเอามากๆ เขาแปลความหมายตรงๆ ว่าผมอยากให้เขากลับบ้านจริงๆ ด้วย

คือมันไม่ใช่อย่างนั้นนะ ไม่ได้อยากให้กลับบ้าน แต่ไม่อยากให้เจอหมอนั่นต่างหากล่ะ

"เห้อ เอาจริงๆ นะกูแค่ไม่อยากให้พี่ปรานเจอมึง" ผมยอมสารภาพตรงๆ

"อื้ม ก็เดาได้"

อ้าว ก็รู้นี่

"แล้วทำไมยังทำหน้าอย่างนั้น"

"กูอยากให้เรื่องมันจบต่างหาก ไม่ได้ทำหน้าอย่างนี้เพราะน้อยใจเลย” สาบานนะว่าคิดงั้นจริงๆ “กูไม่อยากให้มีซ้ำอีก ถ้าหนีมันก็ไม่จบสักที ตอนเด็กกูก็เอาแต่เลี่ยงไม่เจอเขา เห็นไหมสุดท้ายเขาก็ยังเหมือนเดิม ที่กูอยากไปก็เพราะอยากให้เขารู้ว่ากูไปเพราะมึง ไม่ได้ไปเพราะอยากให้เขากลับมาสนใจกู กูอยากเข้าไปบอกเขาตรงๆ เลยด้วยซ้ำว่ากูไม่ได้ชอบเขา เลิกยุ่งกับกูได้แล้ว"

"มึงคิดว่าวิธีแบบคนปกติจะได้ผลกับคนแบบนั้นเหรอ"

"ก็ไม่คิดว่าได้ กูเลยยังแค่คิดๆ อยู่นี่ไง ว่าควรจะไปอะไรๆ จะได้ชัดเจน หรือควรจะหลบอย่างที่มึงแนะนำ"

"ถ้ามึงอยากไปงั้นก็ต้องระวังตัวนะ ได้ไหม ถ้าเขาจ้องเวลามึงอยู่ลำพัง มึงก็อย่าเปิดโอกาสให้เขา" ผมทาบมือลงกับแก้มเขา เกลี่ยนิ้วหัวแม่มือกับผิวนุ่มๆ แก้มเขาเนียนนุ่ม เท่าที่จำได้ ริมฝีปากเขาก็เช่นกัน

ถึงมันจะเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว ถึงเราจะคุยกันเข้าใจแล้ว แต่พอคิดว่ามีคนจ้องฉวยโอกาส ผมก็ร้อนใจ

ไม่อยากให้เขารู้สึกอึดอัด แต่ความหวงความห่วงของผมมากจริงๆ ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก แค่ความเสี่ยงก็ไม่อยาก


"หวงเหรอ?"

"ก็ไม่เชิง"

"แล้วอะไร"

"ไม่อยากให้ใครแตะต้อง"

"ยิ่งกว่าหวงอีกนะแบบนี้"

"อื้ม ขอโทษนะ" วันนี้เขาอาจจะโอเค แต่ต่อไปความรู้สึกของผมต้องทำให้เขาลำบากใจแน่ ผมเริ่มรู้สึกว่าบางครั้ง ผมไม่อาจห้ามความคิดตัวเองได้

มือเล็กทาบทับมือผม ให้กุมแก้มอุ่นๆ ไว้อย่างนั้น เขาหลับตาและยิ้มบางๆ

"ขอโทษทำไม ถ้าแม็ตยอมให้ใครๆ มาแตะนาวได้ นาวควรดีใจรึไง แบบนี้ล่ะดีแล้ว"

เขาเรียกชื่อแทนตัวเอง เขาดึงมือผมไปหอม ผมมองภาพตรงหน้าอย่างหลงใหล

"..."

การที่เขาตอบแบบนี้ ท่าทางแบบนี้ มันไม่ช่วยให้ผมสบายใจขึ้นเลย มันกลับทำให้ผมอยากเก็บเขาไว้คนเดียวมากขึ้นๆ

"มีจุ๊บๆ ก่อนนอนไหม?"

ไปหัดพูดจาน่ารักๆ แบบนี้มาจากไหนนะ...

เรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้นเหมือนกันภาพในความฝัน มันห่างไกลและพล่าเลือน ลมหายใจของคนตรงหน้าต่างหากที่จริง สายตาในเงาสลัว ชีพจรที่ปลายนิ้วสัมผัสได้ ความใกล้ กลิ่นอ่อน ไรขนบนแก้ม เปลือกตาเล็กยามอ่อนแรงและปิดลงช้าๆ ลมหายใจที่ผ่อนชะลอและหยุดลงเพื่อฟังเสียงการสัมผัสของริมฝีปาก ความนุ่มนิ่มที่ผมหวงแหน

ความคิดว่าเขาเป็นของผมคนเดียวเป็นของผมทั้งหมดกัดกินผมจนต้องรีบห้ามใจ

ไม่ใช่ อย่าได้ใจเชียว

อย่า อย่าแสดงความเป็นเจ้าของจนทำให้เขาลำบากใจ

ได้โปรดหยุด...


ใจผมกำลังห้ามความรู้สึกตัวเอง แต่ร่างกายกลับกอบโกยความสุขจากจูบของเรา จังหวะเบียดชิดและแยกห่างถี่ขึ้นๆ ลมหายใจที่ขาดหายไปในช่วงแรกกลับมาในจังหวะถี่กระชั้นและวูบไหว ความร้อนเพิ่มขึ้นพร้อมๆ กับการโอบกอดจากเขา

จูบของเราไม่ได้หยุดแค่จูบ

เหมือนเราต่างโหยหา ตัวห่างแค่วันเดียวแต่กลับคิดถึงมากเกินจะพูดออกจากปากเพื่อบอกตรงๆ ได้ ความคิดถึงกำลังถูกถ่ายทอดด้วยจูบต่อเนื่องที่ชักพาให้อารมณ์เตลิดไปไกลเกินควบคุม

เอวบางถูกผมบีบเฟ้นอีกครั้ง เขาสะดุ้งและตัวสั่นความอ่อนไหวง่ายทำให้จิตใจผมร้อนรน

ชายเสื้อถูกผมดึงขึ้นผิวใต้ร่มผ้าของเขานุ่มบางเมื่อเทียบกับมือหยาบๆ ของผม หัวใจใต้อกของเขาเต้นถี่และหนัก หัวใจนี่บอกว่าเขากำลังตื่นเต้นเช่นกัน

เวลาล่วงเลยไปพร้อมๆ กับการปลดเปลื้องสิ่งปิดบังร่างกาย เราสองคนเปลือยเปล่าในอากาศเย็นฉ่ำ แต่ผิวเรากลับร้อนจนชื้นเหงื่อ

น้ำหนักตัวเขาที่กดทับ เสียงกระเซ้าเรียกชื่อผม ปลายนิ้วเล็กที่จิกลงกับผิวผมเพื่อปลดปล่อยแรงอารมณ์ ร่างทั้งร่างที่สั่นโยงบิดเร่า ผมนุ่มที่เกลี่ยบนใบหน้าผมซ้ำๆ สีหน้าที่ไม่เคยมีใครได้เห็น

ของผม ของผมคนเดียว

ผมจะทำยังไงดี... ความรู้สึกนี้มันมากขึ้นอีกแล้ว




.....................................



เย็นวันต่อมา มะนาวก็มาปักหลักเฝ้าผมอยู่ข้างสนามเหมือนที่ตั้งใจ แปลกที่วันนี้น้ำตามมาด้วยทำให้พวกนั้นคึกสุดๆ ครั้งนี้พวกเขานั่งกลางระหว่างฝั่งสนามบาสหญิงกับบาสชายเพราะบอกว่าพวกเขาทั้งสี่คนมีหน้าที่ส่งผ้าส่งน้ำให้ทั้งดาวและเดือนคณะ

ผมซ้อมได้ครึ่งทางแล้ว ตอนที่พักผมก็กินน้ำของพี่ชมรมบาสที่เตรียมไว้ให้ ก็ไม่เห็นได้น้ำจากพวกที่นั่งเล่นนั่งเช็คอินอยู่ข้างบน

ผมคอยมองพี่ปราณที่ป้วนเปี้ยนอยู่ข้างสนามอย่างพยายามไม่ให้ดูว่ากำลังระแวง วันนี้เขาก็มาคอยดูพวกผมซ้อมเหมือนเคย แต่ไม่ลงเล่นด้วย และเขามองไปที่มะนาวเป็นระยะ

ไม่รู้ว่าเขารู้มากแค่ไหนเรื่องระหว่างผมกับมะนาว คือไม่น่ามีคนไม่รู้เรื่องที่ผมกับมะนาวเป็นคู่จิ้นกันเหลืออยู่แล้วในคณะ ขนาดอาจารย์ยังแซวตอนผมกับมะนาวเข้าเรียนสายเมื่อเช้า เพราะอยู่ด้วยกันแทบจะตลอดเวลา แม้ทฤษฏีที่ว่าเรื่องคู่จิ้นก็ไม่ใช่คู่จริงเสมอไปทำให้เรื่องมันดูเป็นแค่ ‘คู่จิ้น’ ก็อย่างหนึ่ง แต่ถ้าเขามองมะนาวดีๆ เขาต้องรู้สึกสิว่ามะนาวมองแต่ผม

เป็นครั้งแรกที่ผมสงสัยว่าพลังของการจิ้นจะมีกระแสแรงพอให้คนเลิกมาตอแยมะนาวไหม นี่ผมกำลังหวังพึ่งกระแสครั้งแรก


"ผัวหมายเลขหนึ่ง สู้ๆ ค่ะ ถ้าไม่มีแรงบอก เมียจะลงไปปั้มหัวใจห้ายยยย" เสียงพงศ์โหวกเหวก โบกไม้โบกมือเมื่อเห็นว่าผมมอง บนอัฒจันทร์ที่เกือบว่างเปล่า มีคนนั่งดูนั่งรออยู่บางตาแค่ไม่กี่กลุ่ม

น้ำเรียกพงศ์ไปกระซิบกระซาบอะไรกัน ก่อนพงศ์จะโก่งคอตะโกนไปฝั่งบาสหญิง

"ดาวเม แม่ดาวคณะ ถ้าไม่มีแรงวิ่งเมื่อไหร่บอกน้า เดี๋ยวเมียโทรตามประธานเชียร์มาเชียร์น้องเมเองนะคะ"

"เหี้ย แม่ง เกือบล้มเลยสัสพงศ์" เมหยุดกึก ไม่ขยับต่อเลย

"อุ้ย ติดใจสะดุดรักประธานเชียร์ขนาดนั้นเลย!"

“มึงยังจะพูดอีก!”

"คือไรอ่ะพิ้งค์?" เพื่อนปีหนึ่งผู้หญิงที่บังเอิญอยู่ใกล้ๆ ท่าทางอยากรู้ เงยหน้าขึ้นไปถามขอให้ขยายความให้ชัดเจน ผมไม่แน่ใจว่าเขาสนใจเม หรือสนใจในเรื่องของประธานเชียร์ที่ดูลึกลับน่าค้นหา(เอ้กับพงศ์เขาว่าไว้)

"หลังเวทีวันประกวดดาวมันไปอ่อยประธานเชียร์ไว้ค่ะ กูดูในซี่รี่ย์สะดุดท่านี้ได้กันทุกราย"

"ชีวิตกูไม่ใช่ซี่รี่ย์เกาหลี มันไม่มีอะไรมึงก็อย่าทำให้มันมีได้ไหม"

"กูอยากให้มี" พงศ์ตอบหน้าเป็นเขย่ามือกับเอ้สนุกสนาน

"กูก็อยาก จริงเหรออิเม มึงไม่เห็นบอกเลย ว้ายๆ"

"ประธานเชียร์เลยนะมึง"

“ถ้ากลับใจแล้วได้อย่างนั้นกูจะรีบกลับเลย” ทอมตัวเล็กหัวตั้งพูดท่าทางจริงจัง

"ท่านประธานคนนั้นอ่ะนะ มึงไปทำอิท่าไหนบอกมาเดี๋ยวนี้นะ"

พวกผู้หญิงนี่น่ากลัวนะครับ... ผมเห็นเมโดนผู้หญิงตัวเล็กๆ รุมรอบจนขยับไปไหนไม่ได้ เมทำหน้าลำบากใจคงไม่อยากพูดถึงเรื่องวันนั้นอีก แต่คนที่อยากรู้ก็ไม่ยอมปล่อย เงยหน้าจะด่าเพื่อน มันก็ดันย้ายฝั่งหนีไปไกลมากแล้ว เดินไปหัวเราะไป ไม่ต้องถึงเมหรอก ผมเห็นผมยังว่าน่าเตะเลย

พวกนั้นนั่งลงมุมสนาม ด้านหลังเป็นบันไดทางขึ้นลง ผมเห็นคนที่เดินขึ้นไปใหม่ความแปลกใจทำให้หยุดวิ่งไปอย่างไม่รู้ตัว

พี่ชนะ!

เขามาในชุดเหมือนเพิ่งเลิกงาน เดินไปสะกิดไหล่มะนาวแล้วนั่งลงข้างๆ

  เลิกซ้อมแล้วได้ไหมเนี่ย?

ถ้าการเอามะนาวมาซ้อมด้วยจะทำให้ผมสติกระเจิดกระเจิงขนาดนี้ ระแวงไปหมด จะไหวไหมเนี่ยกู

แค่คนเดียวก็ว่าแย่แล้ว ตัวใหญ่โผล่มาอีกคน รับมือโคตรยาก


“แมตตตตตต สะมีหมายเลขสามของเมียฝากบอกว่า ตั้งใจซ้อมนะฮ้า เขาเป็นกำลังใจให้อยู่”

ผมไม่รู้ว่าพงศ์พูดขึ้นเอง หรือได้รับสัญญาณอะไรจากเจ้าตัวการรึเปล่า

มานึกได้ว่าไม่มีใครรู้นอกจากพวกเรา ว่าสามีหมายเลขสามคือใคร งั้นถ้าผมพูดอะไรออกไป คนอื่นคงจับต้นชนปลายไม่ถูกหรอก จริงไหม?

“ฝากบอกมันด้วย ว่าเมื่อคืนกูนอนไม่พอก็เพราะมันนั้นแหละ”

“อร้ายยยยยยยยยยยย!” เอ้กับพงศ์ประสานเสียงจนลั้นโรงยิม

“มึงซั้มกันแล้วเหรอ” เอ้ทำตาโตมือปิดปากเหมือนไม่อยากจะเชื่อ

“กรี๊ดดดด ทำอะไรกันค่า” พงศ์ มึงถามกูตามองกูแล้วขาสะกิดมะนาวทำไม

ปฏิกิริยาของสองคนนี้ทำให้ผมต้องตอบให้เข้าใจผิดกันไปก่อน

“เล่นเกมเว้ย ฮ่าๆๆๆ” ผมตอบเลี่ยงๆ เรื่องแบบนี้ต้องกำกวมให้ไปคิดกันเอาเอง

มะนาวไม่พูดไม่ว่าไม่หัวเราะ ก้มเล่นมือถืออย่างเอาเป็นเอาตาย เห็นแล้วทำให้ผมอารมณ์ดีสุดๆ ถึงพี่ชนะจะไม่รู้เรื่องรู้ราว แต่อย่างน้อยไอ้พี่ปราณก็น่าจะพอรู้ล่ะวะ ถ้ามันไม่ทึ่มจนเกินคน

ผมลืมไปเลยว่ามีคนหัวไวมาด้วยวันนี้

ไอ้น้ำยืนขึ้นมาเท้าแขนกับรั่วเหล็กสูงระดับเอว ก้มหน้ามาพูดกับผมเหมือนชิลๆ แต่สำหรับผมผมรู้สึกว่ามันกำลังจับผิด

“อย่าบอกนะว่ามึงใช้ไอเท็มเกมที่กูโอนให้วันก่อน?”

ผมไม่ตอบ จงใจยักคิ้วให้น้ำนิ่ง แล้วหันไปชู้ตสามแต้มหล่อๆ

ผมคิดว่าถ้าทำได้มะนาวคงลุกขึ้นเอาโทรศัพท์ปาหัวผมแล้ว

การแกล้งเขาทำให้ผมมีกะจิตกะใจซ้อมต่อล่ะนะ

ผ่านไปอีกพักใหญ่ๆ ตอนพี่ๆ เรียกรวมเพราะจะปล่อยกลับ ผมก็มองไม่เห็นพี่ปราณแล้ว ไม่รู้เข้าไปอาบน้ำหรือกลับแล้ว มองไปที่มะนาว ข้างๆ มันก็ไม่มีพี่ชนะแล้ว

ผมโล้งอย่างบอกไม่ถูก ไม่มีทั้งคู่ แบบนี้ค่อยสบายใจหน่อย

หลังซ้อมพวกเราไปกินข้าวกันโต้รุ้งหน้าตลาด กว่าจะแยกย้ายก็เกือบสี่ทุ่ม หลังส่งเอ้พงศ์หน้าหอ มะนาวก็หันมาหาผมแล้วเม้มปากขมวดคิ้วใส่

“อะไร ทำหน้าเหมือนอยากพูดอะไรสักอย่าง”

“อยาก”

“อะไรเหรอ”

“พี่ชนะกับไอ้ปราณเป็นแฟนกัน”

“ห่ะ!” ผมเกือบเหยียบเบรกมิด

“โอ้ย ระวังดิ”

“ขอโทษๆ เมื่อกี้ว่าอะไรนะ”

“จริงๆ มึงไม่ได้ยินตอนกูคุยกันนิ กูก็หวัดดีพี่สายกูปกติตามมารยาท ก็ถามเขาว่ามาแถวนี้มีธุระอะไรรึเปล่า เขาก็บอกมารับแฟน”

“...” ผมฟังไป ขับรถไป

“อันนี้กูอึ้งไปหนึ่งดอก กูก็ถามว่าแฟนคนไหนไม่พามาแนะนำให้น้องรู้จัก เขาบอกว่ายังไม่เปิดตัว แฟนขี้อาย กูนี่แบบ วันก่อนยังม่อกูอยู่เลย อุ้บ!”

“กูรู้อยู่แล้วจะตกใจทำไม แล้วไงต่อ”

“เขาบอกว่าเดี๋ยวเขาเดินออกไป ใครเดินตามไปขึ้นรถก็คนนั้นแหละ เขาโชว์มือถือประมารว่าไลน์บอกไว้แล้วงี้ แล้วไม่รู้กูคิดไงมองลงไปเห็นไอ้พี่ปราณยืนเล่นมือถืออยู่พอดี บอกตรงๆ กูไม่กล้าคิดเลยว่าจะเป็นมันจริงๆ พอพี่ชนะลงไปกูก็ชวนน้ำตามไปดูตรงบันได เป็นไอ้พี่ปราณเดินออกจากโรงยิมพอดีด้วย กูไม่เชื่อเลยแอบตามไปจนเห็นมันขึ้นรถพี่ชนะที่สตาร์ทเครื่องรออยู่จริง”

“เปลี่ยนอาชีพเป็นนักสืบไหม ฮ่าๆๆๆ”

“เฮ้ย ก็กูข้องใจ เป็นมึงมึงไม่สงสัยเหรอเขาไปรู้จักกันได้ยังไง ไปได้กันเมื่อไหร่”

“กูรู้แต่ว่าตอนนี้กูโคตรสบายใจเลย” จอดรถเสร็จ ผมดับเครื่อง แล้วทำท่าสบายใจจริงๆ ประกอบ ก่อนจะหยิบข้าวของลงจากรถ

“อะไรของมึง มาช่วยกูสงสัยหน่อยดิ กูอยากรู้จริงๆ นะเนี่ย” มะนาวตามออกมาเท้าแขนกับหลังคารถตัวเองถามซ้ำ


“กูสงสัยมากกว่าว่าทำไมมึงไม่โวยวายเรื่องที่น้ำถาม”

“...”

ฮ่าๆๆๆ มะนาวทำหน้านึกได้แล้วก็หน้าเปลี่ยนสีทันที ผมเลยโดนไล่เตะจากรถจนถึงห้องครับ



แหม มาเตะผมอย่างนี้ คงต้องมีการเอาคืน


------------------------------------------
TBC.


โย่วๆ
คนเขียนแว้บไปตามไดอารี่ตุ๊ดซี่มา 555+ ฮามาก ฮาค้างปั่นนิยายค้างเลย 555
บทอัศจรรย์แบบซูมโคมไฟข้างเตียงนะคะ กลัวจะเบื่อกันไปซะก่อน แหม บอกแล้วคนเขียนกะเลี้ยงสองคนนี้จนโต ตอนนี้ยังเป็นเบบี๋ทำอะไรก็เล็กๆกุ๊บกุ้บไปก่อนแล้วกันเนอะ  5555+
ไว้ถ้ามีโอกาสรีไรท์ไปรวมเล่มหรืออะไรจะเติมคำในช่องว่างแล้วกันนะคะ

เหมือนเดิมค่า ชอบก็บอก ไม่ชอบก็บอก คำผิดก็บอกด้วย
ที่คนเขียนอยากจะบอกคือตอนหน้าประธานเชียร์มาปิดประชุมแล้วแจ้
แล้วเจอกันแจ้
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 14 มากขึ้น] 7/3/59 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 07-03-2016 08:45:07
เมื่อไหร่จะเปิดตัวกับเพื่อนค่าาาาาาา :hao3: :hao3:

มาต่อไวไวนะคะ รอติดตาม
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 14 มากขึ้น] 7/3/59 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 07-03-2016 09:23:45
สงสัยพี่ชนะจะจับปราณที่แอบมาขโมยจูบเด็กน้องในสายมั้งเนี่ย

รอประธานเชียร์
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 14 มากขึ้น] 7/3/59 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 07-03-2016 10:42:37
อ้าว ทำไมพี่ชนะกับพี่ปราณเขาไปรักกันตอนไหน

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 14 มากขึ้น] 7/3/59 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 07-03-2016 18:58:18
คู่พี่ชนะนี่อุ๊บเงียบเลย
รอคู่เมกับประธาน  :hao7:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 14 มากขึ้น] 7/3/59 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 07-03-2016 19:03:19
เรื่องนี้ดีงาม คู่หลักน่ารักคู่รองน่าลุ้น
น้องเมคู่ท่านประธานเชียร์เถอะพี่จิ้นไปแล้ว
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 14 มากขึ้น] 7/3/59 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Seilong2 ที่ 07-03-2016 21:02:10
แมตแกเริ่มหลงมะนาวแล้วนะ   :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 14 มากขึ้น] 7/3/59 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: pancakesexy ที่ 08-03-2016 03:11:31
ขอที่สิงสถิตคนเขียนค่ะ เจ้จะได้ตามไปจิก เอ้ย ไปดูไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์ด้วย ตอนนี้แอบแบ้วๆใสๆ (หรอ) พอได้กันละไม่เขินละหรอคะสามี(ของมะนาว) เดี๋ยวต้องตามไปทุบโคมไฟแป้ป จะได้เลิกแพลนกล้องไปทางอื่น
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 14 มากขึ้น] 7/3/59 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-03-2016 04:13:48
ตกอกตกใจกันไปหมด
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 14 มากขึ้น] 7/3/59 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: mellowshroom ที่ 09-03-2016 20:31:40
เข้ามารอ เราชอบมะนาว
ชอบเมด้วยน่ารักดี จริงๆชอบหมดเลย 5555

รู้สึกแปลกๆนิดหน่อยที่นายเอกชื่อเดียวกับตัวเอง
เขินกว่าเดิมไปอีก!! :o8:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 14 มากขึ้น] 7/3/59 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 09-03-2016 23:21:02
ชอบๆ จัง คะ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 15 ประธานเชียร์] 10/3/59 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 10-03-2016 04:31:56

   - บทที่ 15 - ประธานเชียร์ -


-------------------------------------------


วันนี้เป็นวันศุกร์ วันสุดท้ายของการประชุมเชียร์ เค้าว่ากันว่าวันนี้เป็นไฟนอลของการเชียร์ เริ่มตั้งแต่บ่ายโมงไปจนถึง... ปลายเปิด

ถามพี่โนอาก็ได้คำตอบทำนองว่า ดึกๆ

พี่โนอาไลน์มาถามผมตั้งแต่เมื่อวานว่าวันนี้จะกินอะไร ผมไม่เข้าใจคำถามที่ว่ากินอะไร? มันคือยังไงล่ะ ก็กินข้าวไง

ผมเลยตอบอะไรก็ได้ วันนี้เช้าก็ยังไลน์มาถามอีก ผมเริ่มงง

“นาว พี่เทได้ถามไหมว่าเย็นนี้จะกินอะไร”

“ถาม”

“แล้วได้บอกไปไหม”

“บอก บอกหมดเลย”

“เลือกอะไรไปบ้าง"

" ข้าวเหนียวส้มตำคอหมูย่าง ชานมไข่มุก ฮันนี่โทส เอ็มเค ปีโป้แช่งแข็ง สตอเบอรี่นอกลูกใหญ่ๆ  เค้กนมสด โกโก้เย็น ซูชิ ซาซิมิ ก๋วยเตี๋ยวหลอดตลาดนัด ข้าวมันไก่ประตูน้ำ ผัดไทประตูผี ก๋วยเตี๋ยวเรือเสาวรีฯ คั่วไก่เยาวราช อ้อ แล้วก็ปูอลาสก้า”

“ฮ่าๆๆ แล้วพี่มึงว่าไง”

“พี่ก็ด่ากูสิ หาว่ากูตะกละ ก็ถามเองนี่หวาว่าอยากกินอะไร กูก็บอกที่กูอยาก นี่ยังไม่หมดเลยนะ บู้” มะนาวเป่าปากจนน่าจะทำน้ำลายแตกฟอง

ถ้าต่อไปยังอยากกินทุกอย่างขนาดนี้จะเลี้ยงไหวไหม?

เครื่องแบบเฟรสชี่วันนี้ถูกระเบียบทุกตารางนิ้ว ผมตรวจความเรียบร้อยทั้งของผมและของตัวเอง เรียนเช้าเข้าเชียร์บ่าย พวกว้ากย้ำแล้วย้ำอีกว่าวันสุดท้ายถ้ายังทำไม่ถูกไม่ให้เข้า ไม่ได้เข้าก็ไม่ผ่านเชียร์ ผมเก็บคะแนนไม่ขาดเชียร์มาจนถึงวันนี้ จะยอมพลาดได้ยังไง

ก็วันนี้ถ้าได้รุ่น ก็ได้เกียร์ของวิศวะมาห้อยคอ คุ้มไม่คุ้มไม่รู้ รู้แต่ผมอยากมีไว้ ไม่ได้คิดเอาไปทำอะไร แต่มันคือความภูมิใจที่มีโอกาสแค่ครั้งเดียวในชีวิตการเรียนวิศวะนี้ 



“มานี่มา” ผมนั่งอยู่ปลายเตียง เรียกมะนาวก่อนออกจากห้องเหมือนเคย

เขามายืนใกล้ๆ ส่ายพุงไปมาทำท่าน่ารัก

“เรียกทำไมอ่ะ?”

“หึ” รู้อยู่ว่าเรียกทำไม ผมรวบเอวมะนาวเข้ามาชิดกับอก โน้มคอเขาลงมาจูบก่อนออกจากห้องสักหน่อย

ไม่รู้วันนี้ต้องเจออะไรบ้าง ไม่รู้อะไรจะรออยู่ในห้องเชียร์ แล้วก็ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้อยู่กันสองต่อสองให้ทำแบบนี้ได้อีก

มะนาวยังคงจูบตอบแบบเงอะงะ แต่ก็ไม่เคยปฏิเสธ และวันนี้ดูเขาตั้งใจแลกลิ้นกับผมมากกว่าปกติ คงคิดเหมือนกันว่าวันนี้ดูท่าจะยาวไกล

“อื้ม อร่อย” มะนาวผละออกไปเลียรอบปากอย่างสนุก

“อันนี้แหละที่อยากกินแต่ไม่ได้บอกพี่กู”

“อยากกินหรืออยากโดนกิน”

“มะนาวขอสองครับ”

ฮ่าๆๆ พอเวลาไม่เอื้ออำนวยแบบนี้ล่ะปากดี ถึงเวลาจริงปิดปากเงียบตลอด

เราเดินออกจากห้อง มะนาวก็ยังนึกของกินที่อยากกินไปเรื่อย

“แล้วมึงบอกพี่โนอาว่าอยากกินไรอ่ะ คิดออกยัง” มานั่งบนรถมะนาวก็หันมาถามผม

“ไม่ออก อะไรก็ได้กูไม่ซีเรียสอยู่แล้ว ขอแค่อิ่ม มึงเหอะ บอกพี่เทไปป่าวว่ามึงแพ้อาหาร”

“เอ่อ ลืมเลย” มะนาวหยิบมือถือขึ้นมาพิมพ์บอกพี่เทระหว่างที่ผมขับรถ ระหว่างพิมพ์มะนาวก็บ่นๆไม่รู้จะบอกว่าแพ้อะไรเพราะไม่รู้ตัวเองแพ้อะไร


………………………………………………
………………



เป็นเวลาเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ได้

ความตึงเครียดและอารมณ์กดดันกำลังจะหายไป เพราะเสียงจ้อกแจ้กจอแจและความวุ้นวายเป็นตลาดแตกกำลังแหวกทางเข้ามา ข้าวและของกินมากมายที่ยัดจนพุงจะแตกไปเมื่อสามทุ่ม ตอนนี้ไม่เหลืออะไรเลย ผมหิวอีกแล้ว

“มึง กูหิวอ่ะ” ผมคิด แต่คนบ่นกลับเป็นคนข้างๆ เป็นครั้งแรก และคงเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้นั่งข้างมะนาวในห้องเชียร์ เพราะวันนี้มันวันสุดท้ายแล้วนี่เนอะ

สรุปแล้วมะนาวได้กินอะไรบ้างรู้ไหมครับ เขาได้กิน ยำมาม่า พิซซ่า โดนัท เป็ดย่างกับหมี่ยกเอ็มเค ชานมไข่มุกที่รอนานจนน้ำแข็งละลายหมดไม่เหลือสักก้อน ข้าวมันไก่ประตูน้ำ กับแซลม่อนเกือบครึ่งกิโล(กินได้คนละสองชิ้นก็อิ่มจนร้องให้เสียดาย อยากกินต่อแต่กินไม่ไหว) ที่ผมรู้เพราะผมได้กินเหมือนเขาทุกอย่าง พี่โนอาเหมือนจะรู้ใจ จัดให้ผมนั่งกับมะนาว พงศ์ แล้วก็เมครบทีมห้องเจ็ดกันเลย

“หาพี่มึงกับพี่กูให้เจอ ให้เขาเตรียมของกินไว้รอ กูก็หิว” ผมบอกพลางชะเง้อคอหาพี่ตัวเอง


ตอนนี้พวกเราปีหนึ่งได้รับการยอมรับจากรุ่นพี่ให้เป็นรุ่นน้องพวกเขาแล้ว เหนื่อยมาก เราต้องร้องเพลงทั่งหมดที่เรียนมาตั้งแต่เปิดเทอมแถมยังต้องร้องจนกว่าจะดี แต่มันก็โอเคเพราะเราร้องไปพร้อมๆ กับเพื่อนทั้งรุ่น ร้องเท่ากันเหนื่อยเท่ากัน และตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงมอบรุ่น ที่มีสัญลักษณ์เป็นเกียร์วิศวะแทนความหมาย

พี่รหัสเริ่มหาน้องของตัวเอง เพื่อคล้องเกียร์ที่สลักเลขรุ่นและสัญลักษณ์ของคณะวิศวะที่นี่ ผมค่อนข้างตื่นเต้น แม้จะเคยเห็นเกียร์ที่พวกรุ่นพี่ห้อย แต่มันก็ไม่เหมือนกันถึงเอาของพี่มาคล้องคอแต่มันก็ไม่ใช่ของเรา และไม่ใช่ของรุ่นผม หน้าตามันอาจจะเหมือนต่างกันแค่เลขตัวเดียว แต่ยังไงก็ไม่เหมือน ไม่เหมือนจริงๆ

ผมยืนรอมองไปมองมารอบๆได้ในตอนนี้ ตลอดเวลาเขาไม่ให้มองกลับไปข้างหลังจึงเพิ่งเห็นว่ามีพี่ๆมาให้กำลังใจพวกเราเยอะมาก ที่นั่งเต็มทุกที่ ตามทางเดินและด้านหลังก็ยอมยืนเพื่อให้ได้อยู่ในบรรยากาศวันนี้

"แม็ต ช่วยยกป้ายชื่อมิ้ลค์ให้หน่อยสิ กลัวพี่หาไม่เจอ" เพื่อนที่นั่งข้างๆ ส่งป้ายชื่อให้ ผมก็ทำตามที่เพื่อนขอ

มะนาวยกโทรศัพท์ขึ้นกดโทรออก ไม่สนใจยกป้ายชื่อสักนิด

"ไอ้พี่เท พี่อยู่ไหน ผมอยู่ฝั่งซ้ายนับจากข้างหน้าประมารแถวที่แปดนะ หาไอ้แม็ตเลยผมอยู่ข้างๆ เนี่ย เร็วๆ ว้อนเกียร์มาก ผมอยากจับเกียร์ผมแล้ว เกียร์ผมอ่ะเกียร์ผม ฮ่าๆๆๆ" ช่วงที่เว้นว่างไปแล้วหัวเราะ ผมว่ามันกำลังโดนพี่เทสวนอะไรกลับมาแน่ๆ

“แม็ตๆ” พี่โนอาสะกิดไหล่ผม

“หวัดดีครับ”

“หาง่ายสุดเลยน้องพี่อ่ะตัวสูงอย่างกะเสาไฟฟ้า”

“พี่โนอา นั้นไม่ใช่คำชมครับ” มะนาวท้วง

“ฮ่าๆๆ มาๆ พี่คล้องเกียร์ให้ เอ หรือต้องคล้องที่คอคนข้างๆ น้า” พี่โนอาโยกคอเล่นหูเล่นตาไปทางมะนาว เจ้าตัวที่โดนพาดพิงก็ได้แต่ยิ้มแหะๆ

“เอางั้นเลยก็ได้พี่” ผมแหย่ แต่ดันเป็นสาวที่ยืนข้างๆ ที่หันมาทำตาโต

“ฮ่าๆๆ เอาไว้ไปแลกกันเองลับๆสิย่ะ เปิดเผยหมดคนจะเม้าท์อะไรล่ะ” ผมหัวเราะ แล้วก้มหัวย่อตัวลงให้พี่คล้องเชือกถักสีดำมีจี้เป็นเกียร์กับคอ

“เฮ้ย มะนาว หาเจอสักที นี่กูไม่ได้มองหามึงเลย กูมองหาแต่ข้างรหัสมึง” พี่เทมาถึงก็กอดมะนาวด้วยความยินดีทันที

“มึงนี่เห็นหัวน้องกูเป็นอะไร” พี่โนอากอดอกหาเรื่อง

“ไม่รู้ กูหาน้องเจอก็พอใจแล้ว” พี่เทพูดไปทำท่าพนมมือ "ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์จงปกปักคุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัย โอม พุธโท ธรรมโม สังโฆ"

"ฮ่าๆๆ ปลุกเสกด้วยเหรอพี่"

"เออ นี่ศักดิ์สิทธิ์นะเว้ย หลวงพ่อเกียร์มาเอง" จากนั้นก็คล้องเกียร์ให้มะนาว ไม่ลืมจับหัวมะนาวแล้วเป่าลงกลางกระหม่อม

พี่เทพูดอยู่ข้างๆ ผมจะไม่เชื่อที่เขาพูดเลยถ้าพี่โนอาไม่พยักหน้าเห็นด้วยแบบจริงจัง

"นี่กี่ทุ่มแล้วพี่ ทำไมผมรู้สึกหิวมาก"

"อีก10 นาทีจะตีสาม"

"โห ตีสาม มิน่าล่ะ"

“แม็ต เสร็จนี่แล้ว รออยู่โรงอาหารก่อนนะ แถวๆที่เราชอบอยู่นั้นแหละ เดี๋ยวพี่ไปหา” เราขอบคุณพี่กันนิดหน่อยก็ต้องแยกย้าย

เรานั่งลงประจำที่เหมือนเดิม บรรยากาศเริ่มกลับมาเงียบและตึงอีกครั้ง เพราะพวกว้ากชุดดำ ที่ปกติยืนกระจายทั่วตอนนี้ไปยืนเรียงกันบนเวที พวกตัวใหญ่ๆ สิบกว่าคนทำให้ดูเต็มเวทีไปเลย

มีคำพูดปลุกใจและย้ำเตือนให้เราสำนึกว่ากว่าจะได้รุ่นมาไม่ใช่เรื่องง่ายจากประธานเชียร์ที่ท่าทีเปลี่ยนไปเล็กน้อย และไม่มีพวกว้ากพูดเสริมและแทรกเลยสักครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องแปลก

“นัดหมายครั้งสุดท้าย วันงานกีฬาสถาบัน และ ผมขอพูดคำนี้เป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้ จนกว่าเสียงบูมจะดังก้องคณะวิศวะอีกครั้งในฤดูกาลหน้า ปิด ประชุม”

ทุกครั้งประธานเชียร์พูดคำนี้แล้วจะเดินออกจากเวทีหายไปแทบจะทันที แต่วันนี้ เขายืนอยู่ที่เดิมยิ้มกว้างอย่างที่พวกผมไม่เคยเห็น ถอยไปยืนกอดคอพวกว้ากผมยาวรกหนวดเฟิ้ม เป็นยิ้มที่ทำให้เพื่อนสาวๆ รอบๆ ตัวเสียจริตบิดมือบิดไม้บิดตัวกันเป็นจังหวะเดียวกันเลยทีเดียว ว้ากบางคนเอายางมามัดผม พับแขนเสื้อ ดึงเสื้ออกจากกางเกงให้หลุดลุ่ย ส่วนประธานเชียร์ถูกว้ากขยี้หัวจนผมเสียทรง ความเป้ะความเนี้ยบถูกกระฉากทิ้งไม่เหลือ


อะไร นี่มันอะไร?

“หมดหน้าที่ของประธานเชียร์แล้ว ขอให้โยนคำนั้นทิ้งไป ต่อไปเรียกพี่ว่าพี่ยีนส์นะครับน้องๆ พี่ พี่ยีนส์ ปี 4 ภาคเครื่อง ห้อง 7 นะครับ มา มาแนะนำตัวกับน้องทีละคนเลยมึง ตะโกนใส่หน้าน้องไว้ก็มาขอโทษด้วยตัวเองด้วย”

พวกพี่ว้ากแนะนำตัวทีละคน ส่วนใหญ่อยู่ปี 4 บางคนอยู่ปีสาม มีอยู่คนนึงบอกว่าอยู่ปี 5

ทุกคนเรียกตัวเองว่าพี่ พี่เหรอ ประธานเชียร์เป็นพี่เหรอ พวกพี่ว้ากด้วย? ผมคิดว่าเป็นพี่บัณฑิต ไม่ก็นักแสดงจ้างมา เขาไม่เคยเรียกพวกเราว่าน้องและไม่เคยแทนตัวเองว่าพี่ มีแต่คุณกับผม แถมยังไม่เคยเห็นพวกนี้เดินไปมาในคณะ ไม่เคยเห็นกินข้าวในโรงอาหารไหนเลย และไม่เคยเจอในตึกเรียนด้วย

“พี่กูบอกว่าพวกพี่ว้ากเป็นพี่วินมอร์เตอร์ไซกับช่างก่อสร้างที่สโมจ้างมา กูเชื่อพี่มาตลอด ห่า หลอกกู เฮ้ย! พี่มึงขึ้นไปทำอะไร?”

ตอนท้ายมีพวกประธานรุ่น นายกสโม กับทีมงานขึ้นไปร่วมกันบนเวที แต่พี่ผมเด่นสุด เพราะส่วนใหญ่ใส่กางเกงยีนส์กับช็อป พี่โนอาใส่ชุดนักศึกษา คลุมด้วยช็อบ เธอเดินไปตรงกลางเวทีพี่โนอาถอดช็อปที่ดูจะหลวมเกินไปสำหรับตัวเองออก พี่ยีนส์ประธานเชียร์รับไปใส่ แล้วดึงพี่โนอาไปกอดคอฟังคนอื่นแนะนำตัวต่อไป

นี่รึเปล่า? ที่เขาบอกว่าพี่โนอาคือสตรีหมายเลขหนึ่ง ผมต้องมองพี่ผมใหม่ซะแล้ว แฟนพี่ผมเจ๋งจริงด้วย มิน่าไม่มีใครกล้าจีบพี่ผมเลยทั้งที่สวยมากนิสัยก็น่ารัก

“พี่ทำตามบทบาทและหน้าที่ หวังว่าน้องๆ จะเข้าใจและไม่โกรธกันนะ"

“ไม่โกรธค่า พี่ยีนส์ อร้าย”

“นั่นแฟนพี่ยีนส์เหรอ ไม่นะ” สาวแท้สาวเทียมโอดครวญ

"ภารกิจทั้งหมดที่พี่มอบหมายและสั่งไปเหมือนจะไม่มีเหตุผล แต่มันล้วนมีเหตุผลซ่อนอยู่ทั้งนั้น วันนี้เราอาจจะยังไม่เข้าใจว่าพี่ให้ทำไปทำไม? แต่วันนึงเมื่อเราอยู่ในฐานะของคนที่เป็นพี่ เป็นคนที่ต้องการถ่ายทอดบางอย่างที่ไม่อยู่ในตำราวิศวะ แต่อยู่ในความเป็นวิศวะ น้องจะเข้าใจมันเอง” ประธานเชียร์ก้าวออกมายืนข้างหน้า แม้เสียงของเขายังดังก้องเหมือนเคย แต่การพูดครั้งนี้เขาพูดกับพวกเราในฐานะรุ่นพี่คนนึง ไม่ใช่ในฐานะประธานเชียร์อีกต่อไป

“ทั้งที่ชอบและไม่ชอบ จงเก็บไว้ เชื่อว่ามันจะมีประโยชน์กับการดำเนินชีวิตของน้องๆในวันข้างหน้า การเรียนตลอดสี่ปี หรือการทำงานต่อไปจนตลอดชีวิตนี้เราไม่ได้เลือกเองได้ทั้งหมด เราอาจเจอทั้งงานที่ชอบ และบางรายละเอียดที่เราไม่ชอบ แต่ที่เลือกไม่ได้คือเลือกไม่ทำ ไม่ได้ ที่เรามอบหมายภารกิจและกิจกรรมทั้งหมดที่ผ่านก็เพื่อเตรียมความพร้อมให้พวกน้องๆ มีทั้งความรับผิดชอบ สามัคคี และใจที่พร้อมเสียสละ และที่สำคัญเห็นชัดๆ วันนี้ เรามีเพื่อนที่ผ่านทุกข์ผ่านสุขมาด้วยกัน มองดูเพื่อนที่นั่งอยู่รอบๆ เราสิ เขานั่งมากับเราเกือบ 14 ชั่วโมงในนี้” ผมมองเห็นทุกคนเริ่มขยับตัวมองหน้าคนข้างๆ และยิ้มให้กัน

“นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพื่อนพวกนี้ไม่ได้หาได้จากข้างทาง และเรายังมีรุ่นพี่ วันนี้เราไม่ได้มีแค่พี่ๆ ที่เรียนอยู่ เรายังมีพี่ๆ ที่จบไปนานมากแล้วมาคอยดู มาให้กำลังใจ รู้ไหม พวกพี่ๆ รักพวกแกอย่างไม่มีเงื่อนไขหรือข้อแม้ แค่รู้ว่าน้องเป็นน้อง แค่คิดว่าเดี๋ยวน้องกำลังมา มันก็พร้อมทำให้ทุกอย่างเลยว่ะ โชคชะตาอาจเป็นสิ่งที่พาเรามาเจอกัน แต่สิ่งที่ผูกเราไว้ด้วยกันคือสายสัมพันธ์ของความเป็นพี่น้อง”

พี่ยีนส์พูดไป ก็มีว้ากหน้าเหี้ยมบางคนเริ่มซับน้ำตา ผมนี่อึ้งเลย พี่สตาฟปีสองที่คอยดูแลพวกเราอย่างใกล้ชิดกอดคอกันแน่นแล้วแยกไปข้างหลัง

“ที่พี่กับเพื่อนๆ มาทำตรงนี้ เพราะ เพราะไม่มีใครทำ ฮ่าๆๆ” ประธานรุ่นปีสี่กับนายกสโมพร้อมใจกันเตะขาประธานเชียร์ครับ โทษฐานเล่นมุขไม่ดูเวล่ำเวลา ถึงตรงนี้ เขามีท่าทีผ่อนคลาย หัวเราะที่ตัวเองถูกเตะ และกลับไปกอดคอเพื่อนที่เพิ่งเตะตัวเองเหมือนเดิม

“ไม่ใช่ๆ ล้อเล่นน่า เพราะสมัครใจและถูกฝากฝังจากรุ่นพี่ต่อๆ กันมา เอานะ ใครสนใจอยากศึกษา อยากทดสอบพลังเสียงหรืออยากร้องเพลงเชียร์ให้ได้ทุกเพลงที่มีก็มาลงชื่อไว้ได้ ถึงเวลาเรามีซ้อมหรือพบป่ะพูดคุยกันพี่ๆ จะเรียกนะ อ้อ แล้วก็ หลานรหัส 0888 ขอโทษด้วยที่ไม่ได้เทคเลยตลอดหนึ่งเดือนกว่าๆ ที่ผ่านมานี่ แต่ เดี๋ยวเจอกัน”

ผมรู้สึกม่านตาเปิดกว้างรับภาพตรงหน้าได้ชัดกว่าครั้งไหนๆ ตัวแข็งและขนที่ต้นคอลุกอย่างกับใครมาเป่าลมใส่อยู่ใกล้ๆ ผมสบตากับคนที่ยืนพูดเท่ๆ อยู่กลางเวทีมาตลอดหนึ่งเดือนคนนั้น

มะนาวเป็นคนแรกที่หันมามองหน้าผม แน่สิเพราะเขารู้ว่านั่นมันรหัสของผม แต่ผมตัวแข็งจนขยับตัวไปไหนไม่ได้เลย ไม่พอ พี่โนอายังชี้ให้ประธานเชียร์มองมาทางผมซ้ำอีก เขาก็มองอยู่แล้วนิ่งๆ พี่จะชี้ให้มันเด่นอีกทำไม ทีนี้ทั้งห้องประชุมทั้งเพื่อนทั้งพี่มองผมเป็นตาเดียว เขินกว่านี้มีอีกไหมเนี่ย

คิดในแง่ดี คนนั่งข้างๆ ติดๆ กันมีเยอะแยะ ต้องมีคนมองผิดแบ่งสายตาไปมองคนอื่นบ้างล่ะน่า

 
“โคตรปลื้มเลย หลานเป็นเดือนคณะ ฮ่าๆๆๆ”

โคตรชัด ย้ำกว่านี้มีอีกไหม...

ผมว่าถึงตอนนี้ไม่มีใครมองผิดแล้วล่ะครับ ให้ผมยืนขึ้นเลยมั้ยจะได้จบ

มะนาว มึงจะหัวเราะอะไรมิทราบ มาเป็นกูมั้ย? เคยบอกว่าอยากได้ไม่ใช่เหรอรหัสเลขตองเนี่ย!


……..

ตีสี่กว่าๆกิจกรรมในห้องเชียร์ก็จบแบบสมบูรณ์ เราได้ออกจากห้องเชียร์สักที ไม่ใช่อะไรผมเมื่อยขามากส่วนมะนาวต้องเกาะไหล่ผมเดินลากขา เพราะเป็นเหน็บ สักพักเมก็เข้ามาช่วยพยุง

ผมมานั่งรอพี่โนอาอย่างที่เขาบอกให้รอ มีหลายคนทักทายผมอย่างที่ไม่เคยทำ

โดยเฉพาะเอ้กับพงศ์ที่ลั้นลาอย่างกับพี่ยีนส์เป็นพี่รหัสตัวเอง พูดแต่พี่ยีนส์ๆ ไม่หยุดตั้งแต่ออกมาแล้ว

“มึง กูขอ กูจอง ของกู อย่าให้คนอื่นนะ” พงศ์ตบโต๊ะย้ำแล้วย้ำอีก


“กูมีสิทธินั้นรึไง”

“มึงไม่เห็นเหรอว่าแฟนเขาก็มีอยู่แล้ว” เอ้ทำหน้าบูดเมื่อคิดได้แบบนั้น

“อาจจะเป็นแค่พี่น้องรหัสที่สนิทกันก็ได้ เช้อะ”

“อยากได้รอดักตีหัวเอานะ เดี๋ยวคงมาหากูนี่ พี่โนอาบอกให้กูรอคงเพราะพี่ยีนส์จะมา”

“กูรู้แล้วค่ะ มะนาวบอกแล้วไม่งั้นกูกลับไปนอนตายที่ห้องแล้วเนี่ย เมื่อไหร่พี่ยีนส์จะมาๆ” พงศ์เริ่มสอดส่ายสายตาไปตามทางเข้าต่างๆ ของโรงอาหาร

“เมมึงจะไปไหน” มะนาวถามทันทีที่เมลุกขึ้นยืน

“กลับดิ ง่วงจะตายห่า”

“กินโจ้กกันก่อนดิ” พงศ์รีบพูด

“กูไม่หิว”

“อยู่ก่อนเดี๋ยวให้ผัวไปส่งเหมือนเดิมไง”

“ไม่เอากูไม่อยากเจอพี่มัน”

ช้าไปแล้วมึง ย้อนกลับไปเมื่อ 10 วิก่อนนะครับ ตอนที่เมลุกขึ้น ผมเห็นพี่ยีนส์เดินกับแก็งพี่ว้ากสองสามคนเดินเข้ามาในระยะสายตาแล้ว แม้จะอยู่ไกลแต่ผมเห็นว่าเขามองหาผม แต่ไม่สนใจผมเลย เขาเห็นผมนั่งเท้าแขนหมดแรงอยู่กับโต๊ะ แต่สายตาไปหยุดที่เมดาวคณะในร่างกึ่งหญิงกึ่งชาย (ใส่กางเกงวอร์มเสื้อนักศึกษาหญิง) ที่กำลังเหยียดตัวลุกขึ้นยืน พงศ์เหมือนจะเห็นเหมือนกับผม ก็เลยทำเป็นชวนคุย ‘กินโจ้กกันก่อนดิ’ ประโยคนั้นทำให้เมต้องหันกลับมาตอบและ ‘อยู่ก่อนเดี๋ยวให้ผัวไปส่งเหมือนเดิมไง’ ด้วยจังหวะที่ฝึกปรือมาอย่างดีก็ถามซ้ำให้เมต้องหันมาตอบซ้ำอีก

ช่วงที่เมหันกลับมาตอบผมเห็นสปีดการพุ่งตัวไวกว่าแสงของพี่ใหญ่สายผม แค่เสี้ยววินาทีพี่ยีนส์ก็มาดักทางเดินเมที่กำลังเดินไปทางหันหน้าไปทางขาดการระวังตัว

การชนกันเบาๆ เกิดขึ้นอีกครั้ง

แต่นี่มันไม่ใช่อุบัติเหตุเหมือนครั้งก่อน แบบนี้เขาเรียก โคตรจงใจ!

“เดินไม่ระวังอีกแล้ว”

แน่ะ! ยังมีหน้าว่าเพื่อนผมอีก

ผมว่ามีหลายคนหยุดคุยหยุดเล่นแล้วดูสองคนนี้อย่างตั้งใจอยู่เยอะนะ เพราะเขาเป็นประธานเชียร์ที่ปีหนึ่งสนอกสนใจและไม่เคยมีโอกาสเจอเขาข้างนอกห้องเชียร์มาก่อนเลย และเขาเป็นไอดอลของสาวๆ

เอ่อ... จริงๆ ก็ทั้งสองคนนั้นแหละ ทั้งเมทั้งพี่ยีนส์ ปกติสาวๆ ก็มองเหลียวหลังกันอยู่แล้ว

แล้วอยู่ๆ พี่ประธานเชียร์แกเล่นวิ่งสี่คูณร้อยหลบหลีกสิ่งกีดขวางกลางทางเดินโรงอาหาร คนจะไม่ตกใจหันมองได้ไง

“ขอโทษครับ” เมเก็บอาการตกใจไปแทบจะทันทีเมื่อเห็นว่าคนที่ตัวเองชนเป็นใคร เปลี่ยนเป็นขมวดคิ้วแล้วพูดขอโทษแข็งๆ

ผมเพิ่งรู้ว่าการแต่งกายมันมีผลกับการแสดงออกความเป็นผู้หญิงของเมด้วย จำได้ว่าคราวที่แล้วมันพูด ‘ขอโทษค่ะ’ แม้จะเบามากก็ตาม

เมไม่รอให้อีกฝ่ายพูดอะไรได้อีก เขาเบี่ยงตัวเลี้ยวไปเดินอีกทางทันที คราวนี้ขายาวๆ ของเมจ้ำอ้าวอย่างกะหนีผึ้งทั้งรัง ทิ้งพี่ยีนส์ให้ยืนหัวเราะชอบใจบ้าอะไรไม่รู้อยู่คนเดียว

ปู่รหัสครับ พี่รู้ไหม ถ้าเป็นคนอื่นไอ้เมด่าพ่อแล้ว นี่เห็นว่าเป็นรุ่นพี่มันเลยคุมสติไม่ปากดีเท่านั้นเอง

“ทำไมเสี้ยววินาทีนึงเมื่อกี้กูคิดว่าพี่มึงจะจับแขนเมไว้ว่ะ” มะนาวก้มลงกระซิบเบา

“นาวมึงคิดเหมือนกู” พงศ์เห็นด้วย สองคนเช็คแฮนด์กันอย่างตั้งอกตั้งใจ

ผมว่า ผมก็แอบคิดแบบนั้นอยู่เหมือนกันนะ

“ฮื้อๆ ทำไมกูรู้สึกว่ากูอกหักอีกแล้วว่ะ” เอ้เริ่มเบะหน้าห้องให้ใส่พวกผม มีน้ำคอยหัวเราะปลอบใจ


“มึงทำงี้กับขวัญใจพวกกูได้ไงว่ะ”

พี่ยีนส์โดนว้ากที่เดินตามมาผลักไหล่จนเซ

“พี่มีโนอาอยู่แล้วอย่าม่อดิ โลภนะพี่อ่ะ”

“พูดถึงแม่ แม่ก็มา ยีนส์แม่มึงมา” พี่อีกคนชี้พี่โนอาที่เดินมาด้วยท่าทีตึงเต็มที่

“แม่จ๋าลูกผิดไปแล้ว”

!!! สาบายว่านั่นคือประธานเชียร์คนเดิม ท่าทางโคตรปัญญาอ่อน

ประธานเชียร์ที่ผมรู้จักหมดท่า ตอนนี้ยกสองมือยอมแพ้หมดรูป

พี่โนอาหน้าตาบึ้งตึง เชิดใส่แล้วหันมาทางผมที่นั่งมองจนลืมไปแล้วว่ากำลังมองพวกเขาอย่างตั้งใจมากแค่ไหน

“นี่ มาแนะนำตัวกับน้องสิ เร็วๆ ง่วงแล้ว”

“โนอาจ๊ะจ๋า”

“ไม่ ต้อง พูด เลย กลับไปค่อยเคลียร์ทีเดียว”

“มึงตายแน่ยีนส์ กูไปหาน้องกูบ้างละ” พี่ว้ากแยกไปสองคน เหลืออีกคนนึงอยู่กับพี่ยีนส์ อย่าบอกนะว่า..

“แม็ต นี่พี่ยีนส์ ปู่เรา แล้วก็พี่ปกป้อง เป็นลุง”

ปู่ผมรู้อยู่แล้ว แต่ลุงด้วยเหรอ ลุงผมเป็นว้ากคนที่ชอบเดินป้วนเปี้ยนอยู่ข้างหลังผมบ่อยๆ ตอนแรกผมคิดว่าบังเอิญ แต่ตอนนี้ผมไม่ได้คิดไปเองแล้วล่ะ
 



ผมเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ขอสายรหัสเล็กๆ อยู่กันแบบเงียบๆ เหมือนเดิมได้ไหม

พอเริ่มมีคนมาสมทบเพื่อนผมรีบแยกตัวออกไป ประมารว่าแอบฟังสนุกกว่า มีคนมาสมทบมากมายล้วนเป็นพี่บัณฑิตที่คุ้นหน้าคุ้นตา ปู่ผมเป็นประธานเชียร์ ลุงผมก็เป็นว้ากเสื้อดำที่ปกติตะเดินระวังหลังให้ประธานเชียร์ พี่ของพี่ยีนส์ก็เป็นว้ากเก่า เลยขึ้นไปเป็นประธานเชียร์อีกคน เลยขึ้นไปเป็นคนที่ร้องเพลงเชียร์เป้ะสุดๆ เลยขึ้นไปอีกเป็นนายกสโม สูงไปเป็นประธานรุ่น กับประธานเชียร์รุ่นเก๋า อ้อ มีบางคนเป็นอาจารย์เพิ่งบรรจุแต่ไปเรียนต่ออยู่ด้วย

สรุปแล้ว สายรหัสผมที่ยังมีชีวิตอยู่ติดต่อได้และมาคณะบ่อยๆ มีเยอะที่สุด แต่ปกติจะไปอยู่เบื้องหลัง ไม่ออกมาให้ปีหนึ่งเห็น แต่กับปีสองสามสี่รู้จักพี่ๆ ผมเป็นอย่างดี เรียกว่าเดินไปในคณะนี่ยกมือรับไหว้กันแทบจะตลอดทาง บางคนผมเห็นหน้าบ่อยจนจำได้ด้วยซ้ำ แต่บอกกับผมว่าเพราะไม่อยากให้เรื่องประธานเชียร์เปิดเผยเลยพร้อมใจกันปกปิด

ทุกคนมายืนล้อมผมที่โต๊ะหลังจบเชียร์ เล่นเอาผมรู้สึกว่าตัวเองตัวเล็กเป็นหนูน้อยอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

นี่มันสายรหัสของโคตรนักกิจกรรมเลย



-------------------------------------------
TBC.


คงมีหลายคนเดาไว้แล้วว่าประธานเชียร์เกี่ยวอะไรกับพ่อแม็ตของเรา เดาไม่ยากเลย บอกอยู่ตลอดว่าปู่หาย ลุงไม่โพล่
รูปแบบเชียร์ของแต่ละคณะ และแต่ละที่ไม่เหมือนกัน ขอเขียนไม่เจาะลึกเผื่อมีน้องๆมัธยมอ่านเดี๋ยวรู้หมด 555+

เรื่องประธานเชียร์หล่อเกินจะห้ามใจนั้น อะฮั้นอิงจากตัวเอง ประสบการณ์ตรงว่าประธานเชียร์นั้นหล่อ เป็นแรงผลักดันให้เข้าเชียร์ทุกครั้งได้จริง เมื่อสมัยเมื่อสัก.... ไม่บอกเดี๋ยวรู้อายุคนเขียน 555 แต่ประธานเชียร์ของเก้านี่หล่อจริงแซ่บจัง อื๋อ ฮื๋อ ไอเลิฟยัวสมาย เลยล่ะ (ขอเคลิ้มต่อแป็ป) 555+  :fox2:


เน่ๆ ทุกคนลืมไปหรือเปล่าว่าอ่านนิยายวายอยู่ แปลว่าอะไร แปลว่าจิ้นชายชายไง แล้วนี่อะไร พร้อมใจกันเชียร์เมสุดแรงแบบนี้ต้องการอะไรจากคนเขียนคะ? 5555+
เมจะร้ายหรือโนอาจะร้าย โหวตค่า!



ปล. มาส่งใบลากิจไปงานแต่งควบงานบวชจ้า กลับมาอีกทีอังคารรึพุธหน้าเลยน้า
 
เพจขี้เกียจแปะ ดูข้างล่างโพสตัวเล็กๆเอาน้า อันนั้นแหละๆ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 15 ประธานเชียร์] 10/3/59 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 10-03-2016 05:04:37
ยีนส์ โนอา เม ???? แม็ตเจอสายที่ยิ่งใหญ่มากๆๆๆ เหนื่อยแน่ๆงานต่อจากนี้
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 15 ประธานเชียร์] 10/3/59 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 10-03-2016 07:10:49
สายรหัสยิ่งใหญ่มากแม็ต
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 15 ประธานเชียร์] 10/3/59 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 10-03-2016 08:56:44
เม จะคู่กับ ยีน ใช่ไหมคะ
แล้วโนอาละ โอ้ยๆ สงสัยๆ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 15 ประธานเชียร์] 10/3/59 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 10-03-2016 12:11:19
เชียร์ ประธานพี่ยีน กับ เม น่าร้ากกกกกก
สายแม็ตนักกิจกรรมสุดดด มีสิทธิ์สืบถอดตำแหน่งจากพี่สายนะเนี่ยยย
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 15 ประธานเชียร์] 10/3/59 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 10-03-2016 13:17:23
ขอเชียร์พี่ยีนส์กับเม   :hao7:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 15 ประธานเชียร์] 10/3/59 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 10-03-2016 13:28:59
โนอา ยีนส์ เม นี่รัก3เศร้าหรอคะะะะะ o22

มาต่อไวไวน้าาาารอติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 15 ประธานเชียร์] 10/3/59 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 10-03-2016 16:12:28
แมตเจอสายหล่อสวยกันทั้งนั้นอะ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 15 ประธานเชียร์] 10/3/59 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: tuckky ที่ 10-03-2016 16:57:01
ภาวนาให้ประธานเป็นแค่ไม้กันหมาให้โนอา
เพราะรู้สึกว่าเคมีพี่ท่านกับเมเข้ากั๊นเข้ากัน  :laugh:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 15 ประธานเชียร์] 10/3/59 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 10-03-2016 17:35:15
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 15 ประธานเชียร์] 10/3/59 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 10-03-2016 20:03:28
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 15 ประธานเชียร์] 10/3/59 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: magic-moon ที่ 10-03-2016 21:02:13
ใครร้ายไม่รู้ แต่ที่รู้ๆโหวตเมเป็ยนาย..เอ้ย!... นางเอก ค่ะ ก็แหม่! ก็ประธานเชียร์เขาอ่อยมาขนาดนี้จะไม่คิดได้ไงงงงงงคะ :hao7:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 15 ประธานเชียร์] 10/3/59 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: BChampa ที่ 12-03-2016 01:06:25
โหวตสตรีหมายเลขหนึ่ง เจ๊โนอา เมก็น่ารักดี ตอนแรกคืออยากให้เมได้กับพี่โนอา แต่ไปๆมาๆจะเปลี่ยนทอมให้เป็นเธอซะแล้วเหรอ เคมีพุ่งมาก แต่พอรู้ฉายาของเจ้ บอกเมมเบอร์ว่าพ่อนั่นอีก นี่ปักธงเชียร์สตรีหมายเลขหนึ่งเต็มสูบ ตอนขึ้นเวทีนางทรงพลังจริงๆ
แล้วถามว่าใครจะร้าย ไม่ต้องมีใครร้ายได้มั้ย คือนี่ไม่ใช่พี่เสือรักนะเป็ดโง่ ไม่อยากให้เจ้เราซ้ำรอยพี่หนุงหนิง ไอ้ชนิดที่คบกันมานานแล้วมาตายเอาตอนเจอน้องใหม่เนี่ย อย่าเลย
ถ้าจะให้เป็น ยีนส์xเม ขออย่าทำร้ายเจ้โนอา อย่างน้อยเป็นน้องสาวหรือเป็นญาติก็ได้ อย่าให้เจ้แกร้าย ชิบหาย ปูมาซะดราม่าเลย เอ้เล่าว่าโนอางอน แถมตอนล่าสุดพี่ยีนส์ก็ทำแบบนั้นอีก นี่ใจระส่ำ อิเจ้กูมีร้องไห้แหงๆ ถ้าพ่อจะเจ้าชู้นี่เกลียดดดดดนะ
แต่ยังไงสุดท้ายก็อยากให้พ่อคู่กับแม่นะ
ประธานเชียร์xสตรีหมายเลขหนึ่ง
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บทที่ 15 ประธานเชียร์] 10/3/59 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 15-03-2016 21:10:07
เราว่าประธารเชียร์กะเมนี้มันอิอ๊ะน่ะ  :hao3: ส่วนเจ้โนอา เจ้แกอารมณ์ดีไม่เครียดไม่ซีเรียสไม่ได้เป็นแฟนพี่ยีนส์จริงๆหรอกเราว่าญาติกันมากกว่า อารมณ์เฮียแกเป็นไม้กันหมา

แมตกะนาวโชว์หวานให้ดูเยอะน้า~
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 16 อยากเมาต้องได้เมา] 19/3/59 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 19-03-2016 07:44:13


  - บทที่ 16 - อยากเมาต้องได้เมา -



-----------------------------------------



“พี่มึงโคตรเจ๋ง”

เสียงมะนาวผ่านหูอย่างที่ผมจับใจความไม่ค่อยได้

เขาพูดว่าอะไร หมายความว่ายังไงกันนะ ผมงงไปหมด

“อ้าว ทำไมทำหน้าอย่างนั้น”

“ไง?”

“ตาลอยๆเหมือนจิตหลุด ไหน ดูสิ”

มะนาวเดินมาถอดแว่นผมออกไป เขาพยายามจ้องตาผม ผมว่าผมก็มองตอบนะ แต่ทำไม แปลกๆ

“กูเป็นยังไง” ผมก้มลงหรี่ตามองเขา ผมว่าผมไม่ได้ตั้งใจนะ

“ก็ ก็เหมือนเดิมมั้ง” มะนาวหลบตา เดินไปวางแว่นไว้โต๊ะหนังสือข้างเตียง “ไปอาบน้ำเถอะ จะได้นอน”

ผมดูนาฬิกา เรากลับมาถึงห้องในเวลาตีห้ากว่าๆ เพื่อนบางคนยังอยู่ในคณะเพราะกะว่าจะอยู่รอตักบาตรฉลแงได้เกียร์ก่อนไปนอน

“แลกกันไหม” ผมทวนคำมะนาวที่เคยพูดเมื่อนานมาแล้ว

“อะไร?”

“สายรหัสไง”

“ฮ่าๆๆๆ กูเคยขอแลกแล้วมึงไม่ยอมเอง”

ผมได้แต่ถอนหายใจ “ตีห้า เที่ยงพี่นัดในคณะ รีบอาบน้ำนอนกันดีกว่า มึงไปอาบก่อน ไม่ต้องสระผมนะ ต้องรีบนอนเดี๋ยวไม่แห้ง” ผมเรียกสติกลับเข้าร่าง เพราะความง่วงนอน

“ได้ๆ” มะนาวเดินเข้าห้องน้ำ แต่หยุดตรงผ้าเช็ดเท้ายืนเกาะขอบประตูห้องน้ำ แล้วอยู่ๆ ก็หันกลับมา

“อย่าพูดว่าอาบด้วยกันมั้ยเชียวนะ เดี๋ยวกูไปอาบด้วยจริงมึงจะตลกไม่ออก”

“แม่ง รู้ทันตลอด”

มะนาวหัวเราะ เข้าห้องน้ำไป

มะนาวอาบน้ำอย่างรวดเร็ว เพราะต่างคนต่างง่วง ผมเดินไปปิดไฟแล้วล้มตัวลงนอนทันที

“ตั้งนาฬิกาปลุกแล้วใช่ไหม”

“อื้ม”

มะนาวปีนขึ้นมาบนอกผมตะกายสูงขึ้นๆ ผมโอบท้ายทอยเขาเบาๆ ชิมริมฝีปากกันเบาๆก่อนจะนอนกอดกันหลับไปเพราะความเหนื่อยล้า



....................


ชมรมต่างๆ ตั้งซุ้มรับน้อง และมีเกมมีกิจกรรมมากมายให้เราทำ ผมหัวเราะตั้งแต่มาถึงจนแดดร่มลมตกความเหนื่อยล้านอนน้อยแทบไม่เป็นปัญหาเลย เฮฮากันชนิดที่ว่าปลดปล่อยขั้นสุดของที่สุด

ผมนึกว่าที่นี่จะไม่มีการรับน้องแบบตัวเละ เต้นแร้งเต้นกา เกมที่ใช้ร่างกายเปลืองๆ แล้วซะอีก ที่ผมเจอมาวันนี้มากมายกว่าในหลังเยอะเลย ตอนนี้ทั้งตัวผมเต็มไปด้วยแป้ง ผมนี่ยังน้อยกว่าคนอื่นๆ นะ มะนาวให้เหตุผลว่า

“เพราะนูน่ามัวแต่ตะลึงกับความหล่อของมึงมั้ง” เขาพูดไปหัวเราะไป

“ไม่ใช่ว่าเขาแปะกันไม่ถึงเหรอ?” ผมแย้ง มะนาวเลยหันมามองไหล่ตัวเอง แล้วมองไหล่ผม สูงขึ้นๆคงมองเลยไปถึงผมเส้นที่สูงที่สุดของผมล่ะมั้งนั้น

“เออ อันนี้ท่าจะจริง”

“นาว โทรศัพท์สั่นรึเปล่า”

“เหรอ” มะนาวหยิบโทรศัพท์ออกมาดู “เมโทรมา โหล ว่าไง หายหัวไปไหนมึง ... ห่ะ เพิ่งตื่น ฮ่าๆๆๆ กูกินข้าวเย็นอยู่กับชมรมบอลเนี่ย มึงแคะขี้ตาเสร็จก็รีบมากินข้าวเย็นในคณะเลย ยังมีกิจกรรมต่อมั้งไม่รู้พี่ไม่ได้บอกอะไรนิ เต็นท์ริมสุดหน้าตึกชมรมนะ มีแม็ตคนเดียว เอ้กับพงศ์ไปส่องรุ่นพี่อยู่ไหนไม่รู้ ไอ้น้ำไม่มา”

“ทัน มึงมายังเช็คชื่อทัน มึงรีบมาเลยเม มีแต่คนถามหามึง กูกับแม็ตขี้เกียจตอบคำถามพี่ๆ แล้ว”

“บอกมันว่าพี่จะเลี้ยงเค้กตอนหกโมงครึ่งดิ”

“เมพี่บอกเค้กจะมาส่งห้าโมงครึ่ง พี่บัณฑิตเลี้ยง หมดแล้วหมดเลยนะ ไม่มาอด ฮ่าๆๆ เออๆ รีบมา”

มะนาววางสาย เราแปะมือกันชอบใจที่หลอกเมสำเร็จ

“ทำดีมากน้องพี่”

“เอ้ย พี่ยีนส์” มาแอบฟังอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย

พี่แกยิ้มหนึ่งทีแล้วก็เดินไปซุ้มเดิมของพี่แก พอลับหลังมะนาวก็รีบถามความเห็นผม

“มึงว่ายังไงๆ มั้ย พี่มึงอ่ะ”

“กูก็ว่ายังไงๆ อยู่นะ”

“แล้วมึงว่ามันจะเป็นยังไงอ่ะ?”

“ก็ไม่รู้ยังไงเหมือนกัน คงต้องรอดูว่าเพื่อนกูจะยังไงกับเขาด้วย”

“ก่อนจะถึงเพื่อนยังไงก็คงไม่รอดพี่มึง ถ้าเมโดนพี่โนอาตบมึงจะทำไง”

“กูว่ายังไงพี่โนอาก็ไม่ใช่คนแบบนั้น”

“เนอะ แล้วยังไงเมมันก็คงไม่เล่นด้วย” มะนาวกอดอกเดินไปล้างหน้าล้างตาก่อนกลับมากินข้าวเย็น ระหว่างทางก็ยังพึมพำ ‘ยังไงๆๆๆๆ’ ซ้ำไปซ้ำมา



.......


เวลาทุ่มเศษๆ หลังจากแยกไปเล่นเกมคนละซุ้มมะนาวกลับมานั่งข้างผมเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือมันตาลอยและตัวแดง

"นาว ไปทำอะไรมา"

"กินพั้นช์"

"จากไหน"

"พี่ๆ ตรงโน้น"

"เขาบังคับหรือมึงไปขอเขากิน"

"กูบอกว่ากูคอแห้ง ขอกินน้ำหน่อย เขาก็ให้กิน"

"ฮ่าๆๆ มึงนี่น้า” ทีแรกว่าจะโวยวาย แต่ฟังความตะกละของข้างรหัสผมแล้ว ผมยอมใจ “พอแล้วนะมึงอย่าไปกินอีกเชียว"

"กินอีก อร่อย"

"อร่อยแต่เมา ไม่ดีหรอก"

"ดี"

"ไม่ดี"

"มันดี"

"มะนาว"

"ไม่ดีก็ได้" ปากยอมรับว่าไม่ดี แต่ทำไมสายตายังอาลัยอาวรณ์ ผมไม่ได้ห้ามเขาจริงจัง เพียงแต่ไม่อยากให้เขาอดทำกิจกรรมอื่นๆ ต่อ แค่นั้นจริงๆ นะ



อีกไม่ถึงชั่วโมงผ่านไป...


ผมไม่เห็นขวดหรือเศษซากของมึนเมา แต่พี่แม่งเมาวะ ไม่รู้เมาค้างตั้งแต่เมื่อคืนหรือยังไงกันแน่?


เอาจริงๆ นะ ผมมองไม่เห็นอะไรที่ดูจะเป็นของมึนเมา ทุกอย่างดูปกติ ไม่รู้เขาไปสรรหาแอบผมกินจากตรงไหนเติมดีกรีให้ตัวเองทุกครั้งที่แว้บหายไปแล้วกลับมาเขาจะอาการออกมากขึ้นเมามากขึ้น

อย่าเมื่อกี้กลับมาจากห้องน้ำบอกได้ชิมเหล้าต้ม ผมเห็นเขาเดินได้พูดคุยรู้เรื่องก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ผ่านไปแป็ปเดียวเท่านั้น ผมออกไปเล่นเกมกลับมามะนาวนอนฟุบทับขาพี่ฟ้าหมดสภาพ

“เพื่อนมึงเอาอีกแล้วนะ” พี่ฟ้าไม่ได้ต่อว่าจริงจัง ออกแนวปลงมากกว่า คงชินแล้วกับคนเมา

“โทษพี่ นาว เฮ้ย มึง” ผมเขย่าไหล่มะนาว พยุงมันให้นั่งทั้งที่ร่างทั้งร่างอ่อนเปลี้ย

“ถ้ามันหลับก็ปล่อยมันหลับไปงั้นแหละ มึงจะไปเล่นเกมก็ไปเถอะ ปล่อยมันไว้นี่ได้”

ผมยิ้มๆ ให้พี่ฟ้า คือ เขาสั่งให้ไปร่วมกิจกรรม แต่ผมขอดื้ออยู่ดูมันก่อนก็แล้วกัน พี่ฟ้าก็ดูเข้าใจ เขาไม่ได้ใช้คำสั่งเด็ดขาด ดูแล้วผมไม่ไปไหนแน่ เขาเลยลุกขึ้น หยิบกีต้าร์ใกล้ๆ มือมาดีดเล่น

“เฮ้ย รับดิ” พี่ฟ้ายื่นกีต้าร์ให้ผม แถมให้ผมนั่งแทนที่ “เมทกูก็เมา แม่ง ภาระ” พี่ฟ้าลุกขึ้นไปรับพี่เทที่เดินโซเซ แถมหน้าตาหาเรื่อง

พี่รหัสมะนาวเองก็เมา พี่น้องคู่นี้เหมือนกันจนน่ากลัว แต่พี่เทน่ากลัวอีกแบบ เขาสะบัดมือพี่ฟ้าออกอย่างแรง แล้วผลักอกจนคนตัวสูงผอมอย่างพี่ฟ้าเซ

“มึงทำอย่างนี้ได้ไงว่ะฟ้า”

“กูทำอะไร?” เป็นผม ผมก็คงถามเหมือนกัน ใครจะไปรู้ทันสมองคนเมาว่าความคิดจะแฉลบไปทางไหน

“มึงแกล้งน้องกูเหรอ?”

“ฮ่าๆๆ กูไม่ได้ทำอะไรเลย”

“ไม่จริง มึงทำ”

“มึงเมาแล้ว คุมสติหน่อย”

“มึงหาว่ากูวุ่นวายเหรอ?”

“เปล่า”

“ไอ้เหี้ยฟ้า กูเกลียดมึง”

“อ้าว” พี่ฟ้าดูจะไม่วอรี่นะ เหมือนจะปลงๆ ฮาๆ มากกว่า เขาเมทกันคงรู้ฤทธิ์กันดี

“ไม่ต้องมาจับ อย่ามาจับนะเว้ย” พี่ฟ้าหัวเราะแล้วพาพี่เทมานั่งข้างมะนาวได้สำเร็จ

สองพี่น้องนั่งเหยียดขาพิงผนังไหล่ชนกันพอดี ไม่มีใครเสียสมดุลล้มลง มะนาวที่พิงไหล่พี่รหัสอยู่ๆ ก็โยกหัวโงนเงยเหมือนจะล้ม พี่ฟ้ารับไว้ แล้วผลักให้หลังไปชิดกำแพงอย่างเดิม

“น้องกู มึงอย่ามายุ่ง”

“เออ กูไม่ยุ่งกับน้องมึงหรอกน่า นั่งดีๆ ง่วงก็กลับไปนอนหอก็ได้แท้ๆ”

“ไม่กลับ กูยังหนุกอยู่”

“เออๆ”

พอจับพี่เทนั่งเข้ามุมเรียบร้อย พี่ฟ้าก็หายไป คงไปทำงานตามประสาประธานรุ่น

ผมยังคงดีดกีต้าร์สลับกับคนอื่นๆ มองไปที่มะนาวเป็นระยะ เขายังนั่งหลับอยู่ แต่พี่รหัสตัววุ้นวายหายไปแล้ว



“เฮ้ยแม็ต เอาจานพวกนี้ไปล้างที เดี๋ยวจะใช้เล่นเกมต่อ” พี่ปีสามยื่นจานกระเบื้องประมารแปดใบมาให้ผม ผมรับมาถือไว้

กะจะล้างตรงอ่างล้างมือข้างโรงอาหาร แต่ดูแล้วคงอีกนานกว่าจะว่างเพราะมีสาวๆ รุมล้างจานกันจนเต็มซิ้งค์ จานที่ยังไม่ได้ล้างอีกสองเข่ง

ไปล้างในห้องน้ำก็ได้

ผมเดินไกลออกจากความวุ้นวาย เลือกห้องน้ำในตึกเรียนใกล้ๆแทนที่จะเป็นห้องน้ำโรงอาหารที่คนก็คงเยอะเหมือนกัน

แค่ปิดประตูทางเข้าตึกเสียงเพลงและความวุ่นวายเบาคงจนเกือบเงียบสนิท อากาศก็เย็นแตกต่างจากข้างนอกเพราะส่วนใหญ่เป็นห้องแอร์ที่ยังทิ้งไอเย็นๆไว้ อย่างกับคนละโลก ผมเดินเลยบันไดทางขึ้นชั้นสองตรงไปทางห้องน้ำชาย แต่เสียงพูดคุยเบาๆ ทำให้ผมเบาฝีเท้ารวมทั้งชะลอความเร็วลง ผมเดินเข้ามาใกล้จนเริ่มจับใจความได้


“พอแล้ว อย่า”

เสียงคุ้นๆ

ผมยืนตรงหลบข้างประตูโดนอัตโนมัติ ไม่ได้จะแอบฟังนะ แต่ไม่อยากเสียมารยาทถ้าแน่ใจว่าห้องน้ำไม่ว่างผมจะได้รีบไปใช้ที่อื่นไง

“ไม่เอา ที่แบบนี้ อึ อื้ม”

อ้อ ผมจำได้ล่ะ...

เชี้ยยยยยยย พอผมมายืนใกล้พอ พอผมจำได้ว่าเสียงนั้นเป็นของใคร สองพยางค์สุดท้ายดันเป็นเสียงคราง!

ไอ้พี่เท ในห้องน้ำ กับใคร!

ผมค่อยๆ เอียงตัวมองเข้าไปในห้องน้ำ เพราะรู้สึกว่าไม่มีใครอยู่ในห้องโถงตรงกลาง ที่มาของเสียงพูดคุยมันก้องและอยู่ลึกเข้าไป ผมมองไปรอบๆ ไม่มีใครให้เห็น แต่ยังคงมีเสียงกุกกักและเสียงดูดปากดังมากจนผมยืนอยู่ตรงหน้าประตูยังได้ยิน มันมาจากห้องน้ำห้องในสุด แน่นอนและชัดเจน เพราะประตูมันปิดอยู่เพียงห้องเดียว

ตึง! เสียงอะไรกระแทรกประตูห้องน้ำ

“ไม่! อื้ม อ่ะ อื้อ”

โถ่... จะเถียงยังไม่มีปัญญา ผมไม่อยากจะคิดภาพว่าคนในห้องน้ำห้องนั้นเขาทำอะไรกันอยู่และไปถึงไหนกันแล้ว แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช่การคุยโทรศัพท์แน่นอน ก็มันมีเสียงครางสองเสียงปนกัน เพียงแต่อีกเสียงไม่ได้พูดอะไรสักคำ

แทบไม่ต้องคิด ผมนั่งยองๆ ลง มองลอดใต้ประตูห้องน้ำที่มีช่องว่างอยู่คืบกว่าๆ มีขาคนยืนอยู่จริงๆ มันชิดกันจนแทบแยกไม่ออกว่าขาไหนคู้กับขาไหน แต่ที่เห็นชัดๆ คือขากางเกงคนละสี

กางเกงสีดำใส่คู่กับคอนเวิสสีแดง กางเกงยีนส์กับไนกี้สีดำ มีขาข้างเดียว แล้ว... แล้วทำไมมีสามขา!

ผมนับซ้ำอีกหลายทีก็ได้สามขาเหมือนเดิม ผมยืนขึ้นเต็มความสูง รู้สึกเบลอๆ งงๆ สงสัยเพราะนอนน้อย เลยประมวนผลช้าไปหมด

มองไปรอบๆ ห้องน้ำ มองไปข้างหลัง ตั้งแต่เดินเข้าตึกมายังไม่เจอใครเลย มันก็เงียบเชียบน่าเสี่ยงอยู่

คนในห้องน้ำดูจะไม่สนใจโลกภายนอกอีกแล้ว พวกเขามีกันสองคน สามขา(?) ผมว่าผมไปหาห้องน้ำอื่นดีกว่า ผมค่อยๆ ดึงประตูเบาๆ ปิดอย่างระมัดระวังไม่ให้มีเสียง แถมโปรโมชั่น ล็อกให้ด้วย ก่อนจะย้อนกลับไปหาบันได

ขึ้นไปใช้ห้องน้ำชั้นสองแทนก็ได้ ผมเดินไหล่เหี่ยวๆ จากไปโดยที่ยังสงสัยว่าอีกคนคือใคร

กางเกงยีนส์กับไนกี้สีดำที่เห็นขาเดียว ผมเดาว่าคือพี่เท เพราะจำภาพตอนนั่งกับมะนาวได้ว่าเขาใส่ยีนส์ ขอบกางเกงสีดำใส่คู่กับคอนเวิสสีแดงมีสองขาเบียดอีกคนให้ชิดติดผนัง มันใครนะ? ไม่ได้พูดสักคำ จะเดาจากเสียงก็ไม่ได้

ผมคิดซ้ำๆ ไปมาจนล้างจานเสร็จ ความคิดก็ยังวนเวียนไปมากับเรื่องนี้ ตอนเดินกลับลงมาผมก็ยังมองไปที่ประตูห้องน้ำที่เดิม

อ้าว ประตูเปิดออกเหมือนเดิมแล้ว ผมเห็นอย่างนั้นก็ไม่ได้ย้อนกลับเข้าไปหน้าห้องน้ำ ทำไม่รู้ไม่ชี้เดินกลับออกมา กลับไปหาความวุ้นวายและเสียงเอะอะมะเทิ่งของเพื่อนๆและรุ่นพี่

ผมวางจานให้พี่ที่โต๊ะเดิม

“หายไปเป็นชาติ นึกว่าตกน้ำตายไปแล้วมึง ไปล้างถึงไหน”

“ตึก T พี่ โทษพี่ ที่ล้างจานไม่ว่างเลย เลยต้องไปไกลหน่อย”

“กูรู้อยู่แล้วว่ามันไม่ว่างกูถึงใช้มึงไง ฮ่าๆๆ ขี้เกียจเดิน ขอบใจๆ อ่ะนี่ รางวัล” ผมรับขวดชาเขียวที่มีน้ำอยู่ครึ่งขวดมางงๆ ให้ก็ต้องรับไว้ก่อนตามมารยาท

พี่ฟ้านั่งฮัมเพลงดีดกีต้าร์คนเดียวอยู่โต๊ะข้างๆ หยุดดีดกีต้าร์ ตอนผมจะเดินผ่านเขายกมือกวักเรียกผมเบาๆ

“แม็ต”

“ครับพี่?”

“เมื่อกี้มึงไปห้องน้ำตึก T เหรอ”

“ครับ...?” ผมตอบไปทั้งที่ยังงงว่าพี่ฟ้าถามทำไม แต่สายตาผมก็มองไปหาสิ่งที่ค้างคาใจอย่างอัตโนมัติ ผมมองต่ำลง พี่น้ำนั่งไขว่ห้างมีกีต้าร์ทับอยู่บนตัก

เสื้อเขาสวมช็อปทับหมือนปกติ กางเกงเป็นกางเกงผ้ายีนส์ แต่ สีดำ กับ... คอนเวิสแดง…

เชี้ยแล้วเชี่ยอีก!

คงเพราะเห็นความพรั่นพรึงในแววตาผม พี่ฟ้ามองตามสายตาผม เขามองรองเท้าตัวเอง งัดมันขึ้นมาดูชัดๆ ยกคิ้วสูง คงนึกได้ว่าห้องน้ำไม่ได้ปิดด้านล่าง

ผมหน้าซีด พี่ฟ้าก็เหมือนกัน เรามองหน้ากระพริบตาปริบๆ ทั้งที่ไม่ได้พูดอะไรแต่เราเหมือนจะเข้าใจกัน

“เหอะๆ ขอโทษครับ”

“ดีแล้วที่เป็นมึงแทนที่จะเป็นคนอื่น”

พี่ฟ้าชี้ให้ผมนั่งก่อน

“ขอบใจนะที่ปิดประตูให้ อ้อ แล้วอย่าบอกใครนะ ถ้ามันรู้ว่ามึงรู้ กูตายแน่” เราสองคนมองไปที่พี่เทที่กลับไปนั่งหลับอยู่ที่เดิม “ดูมัน มันไม่ได้เมามากนะ แค่เพลีย บอกให้นอนอยู่ห้องก็ไม่เชื่อ คอยดูเดี๋ยวได้ไม่สบาย”

“ยังไงเหรอพี่” ผมนั่งลงเปิดหนังสือเพลงกะจะเล่นต่อ

“มันไม่ได้นอนมาสามวันแล้ว”

“ไปทำอะไรมา โปรเจคเหรอ?” ผมถามไปงั้น รู้ว่าไม่ใช่ เพราะพี่เทเพิ่งจะปีสอง จะมีโปรเจคก็ปีสามปีสี่

“ทำเกียร์ให้พวกมึงเนี่ยแหละ”

“?”

“แฮนด์เมดนะเกียร์คณะเรา เป็นประเพณี ไว้ถึงเวลามึงก็รู้เอง” ผมหยิบเกียร์ที่ห้อยคอขึ้นส่องดู อักษรย่อสถาบัน มันดูเรียบง่าย แต่พิเศษแต่พิเศษมากในความคิดผม



“หิวน้ำ” แค่ผมเดินเข้ามาใกล้หน่อย มะนาวก็รู้สึกตัวเหมือนมีคนมาปลุกมันยังไงยังงั้น

“เดี๋ยวไปเอามาให้”

“เดี๋ยว มึง”  มะนาวรั้งผมไว้ ชี้มาที่มือผม “ไปเอามาจากไหน”

“ไปล้างจาน แล้วพี่โต้งให้มา”

“เอาอันนี้แหละ กูขอ” มะนาวคว้าขวดชาเขียวไป เขาเปิดแล้วยกซดด้วยสีหน้าเหมือนแสบร้อนแต่ก็กลืนลงคออึกแล้วอึกเล่า

ทำไมทำหน้าเหมือนซดเหล้าเพียว?

สงสัยได้เดี๋ยวเดียวพอกลิ่นเฉพาะตัวเตะจมูก ไม่เหมือนแล้วล่ะมั้งเนี่ย!

“เฮ้ย!” ผมคว้าขวดกดลงแล้วพยายามแย่งคืน

“อื้ม” มะนาวยื่นคอตามปากขวดที่ผมดึงออก กลัวกระแทกปากก็กลัว กลัวมันช็อคตายก็กลัว ใครสั่งใครสอนให้กินเหล้าแบบนี้ ถ้านี่เป็นเหล้าต้มอย่างที่มันว่าได้กินมาแล้ว ดีกรีมันจะสูงแค่ไหนก็ไม่รู้ กินส่งๆ ได้ไง

“มึงรู้ใช่ไหมเนี่ยถึงเอาไปกิน” ผมปิดฝาขวดแล้วได้แต่ถอนหายใจ ผมสิไม่รู้อะไรเลย มิน่าพี่โต้งถึงยักคิ้วตอนยกให้

“อื้อ”

“มึงนี่”

“ก็กูอยากเมา” มะนาวพูดด้วยเสียงของคนที่เมาแล้ว กูเชื่อ มึงไม่ต้องอยากมากก็ได้ เพราะมึงเมาอยู่แล้ว ผมอ้าปากจะปราม แต่คำพูดมะนาวกับท่าทางของเขาทำผมพูดไม่ออก

“ไม่ได้เมา หลายวันแล้วนะ” เขาทำปากจู๋ ก้มหน้ามองผมอย่างตำหนิ


ปึด! เสียงเส้นอะไรในหัวขาดผึ่ง

ไม่ไหว ผมต้องพามะนาวกลับเดี๋ยวนี้!


ใช่ เขาเมาเต็มร้อยเลย เพราะเขาเริ่มยั่วผมอีกแล้ว มือเล็กจับไหล่ผมโน้มเข้าหาตัว จิตใต้สำนึกบอกผมว่าอย่าไปเคลิ้มกับเขาตอนนี้

ที่นี่ไม่ได้ จะจูบกันกลางคณะไม่ได้ ผมวางมะนาวไว้ที่เดิมข้างพี่เท ในหัวคิดว่าใครจะช่วยผมได้ในเวลาแบบนี้เนี่ย

พี่โนอา?

แต่ผมไม่เห็นพี่เลยทั้งวัน

พี่ฟ้า

เมื่อกี้เหมือนจะไปคุยกับผู้ใหญ่ในตึก

พี่ยีนส์! คงต้องพี่ยีนส์แล้วล่ะ

ผมเดินไปซุ้มของทีมเชียร์ที่คิดว่าพี่ยีนส์จะอยู่ที่นั้น เดินเข้ามาในระยะก็เห็นพี่ยีนส์อยู่ท่ามกลางพี่ว้ากกับพี่ๆ สตาฟอีกกลุ่มใหญ่ ทุกคนดูอ่อนล้าแต่สนุกสนาน ผมเดินอ้อนมายังไม่ทันถึงก็มีเสียงตะโกนบอกพี่ยีนส์

“ไอ้ยีนส์ น้องมึงมา น้องๆ มานี่ก่อนๆ” พี่ว้ากคนนึงคว้าแขนผมไว้ ผมเลยต้องหยุด

ที่พี่หนวดคนนั้นทำคือตบไหล่ผมเบาๆ บีบต้นแขน มีพี่อีกคนเข้ามาช่วยจับผมหมุนไปหมุนมา ไม่ใช่แค่สองคนนี้ที่มอง ทั้งหมดที่มีสองสามกลุ่มมองมาที่ผมกันหมด อะไรอีกล่ะเนี่ย ผมกำลังรีบนะพี่

“มึงว่าเป็นไง” พี่ยีนส์ตะโกนถามพี่หนวดตรงหน้าผม อะไรดูเป็นไง?

“ใช้ได้เลยมึง หล่อกว่ามึงอีก”

“สัส เออ กูยอม”

“ฮ่าๆๆ ไปๆ ไปหาพี่มึงได้” พี่หนวดที่ผมไม่รู้จักชื่อดันหลังผมให้ไปได้ ผมเลยอ้อมเข้ามาหวัดดีพี่ยีนส์อีกรอบ

“มีไรรึไง”

“พี่ พี่ยีนส์ ผมขอกลับก่อนได้ไหม เพื่อนผมอาการไม่ค่อยดี”

“ใครเป็นอะไร? เรียกหน่วยพยาบาลไหม?” จากนั่งสบายๆ เริ่มหันมาพูดกับผมจริงจัง

“ไม่ต้องครับ เพื่อนผมแค่เมามาก แล้ว ถ้าเขาอยู่ข้างนอกจะ จะทำลายข้าวของ แต่ถ้าให้หลับจะไม่เป็นไร”

“อ้อ งั้นเหรอ คนที่มากับมึงข้างรหัสเราใช่ไหม”

“ครับ”

“แต่ช่วยอะไรอย่างสิก่อนกลับ”

“ครับ?!”

“พาเมมานั่งนี่หน่อย”

“แล้วพี่โนอาจะไม่ว่าอีกเหรอพี่”

“ไม่ว่า โนอายังไม่ตื่นเลยป่านนี้”

“แต่...”

“พวกนี้ชอบมันนะ” พี่ยีนส์พยักพเยิดไปทางคนอื่นๆ “ยิ่งพวกผู้หญิงนี่กรี้ดลืมแก่กันตลอด มันอยู่ไหนล่ะ”

“ซุ้มชมรมบาสมั้งพี่ มันก็โดนลากตัวไปนั้นนี่ แต่จะบอกมันว่ามาซุ้มทีมเชียร์มันคงไม่มา”

“ไม่ได้ทำอะไรแรงๆหรอกน่า แค่จะแกล้งเฉยๆ มันตลกดี”

“...”

“เร็วดิ จะได้พาเพื่อนไปนอนไง”



ผมไม่มีทางเลือก เลยต้องโทรหาเม

“เมมาด้วยกันหน่อยดิ”

[ไรมึง กูกำลังกิน]

“กูอยู่ร้านเค้กข้างตึกชมรมเนี่ย มึงจะกินมั้ยเค้กชิ้นสุดท้าย กูจะได้บอกเขาว่ากูเอา ก่อนมีคนอื่นมาตัดหน้า” ผมย้ำคำว่าชิ้นสุดท้าย กับตัดหน้า หวังว่าจะได้ผล

[เอา รีบเลยมึง กูไม่ได้กินเค้กสองวันแล้ว]

“เออ รีบมาๆ”

ผมเดินเข้าไปซื้อเค้กในร้านกาแฟ ใส่กล่องเรียบร้อย มีสองชิ้นสุดท้าย ผมเหมาหมด เพื่อเมจริงๆนะ ไม่เกี่ยวกับผลประโยชน์แอบแฝงเลย ไม่เกี่ยวกับมะนาวเลยจริงๆ

ผมหิ้วเค้กไปให้พี่ยีนส์ เจ้าตัวถามว่าให้ทำไม

“เมมันได้กลิ่นก็ตามมาเอง วางแจ่มๆนะพี่”

“จริงเหรอ มันชอบกินเค้กเหรอ?”

“ครับ มันกินแทนข้าวบ่อยๆ” ท่าทางตั้งอกตั้งใจเมมโมรี่ข้อมูลนี้ของพี่ยีนส์ยิ่งทำให้ผมไม่สบายใจยังไงก็ไม่รู้

“จดชื่อกับรหัสของเรากับเพื่อนมา ส่งมาในไลน์ก็ได้ เดี๋ยวเช็คชื่อให้ว่าอยู่ซุ้มนี้” พี่ยีนส์ย้ายที่นั่ง ไปนั่งหันหลังให้ทางเข้า วางเค้กไว้ข้างตัวที่เมจะเห็นได้ทันทีที่เดินเข้ามา

“ไปได้แล้วไอ้น้อง จะกลับไม่ใช่เหรอ” ผมรีบจดใส่กระดาษแล้วยื่นให้พี่ยีนส์เก็บไว้

เจอกันอีกทีเมฆ่าผมแน่ วันนี้หลอกมันสองทีแล้ว ทั้งเรื่องเค้กฟรี ทั้งเรื่องหลอกมาให้เขาแกล้ง เม กูขอโทษ

กลับผมก็อยากกลับ แต่ห่วงเมผมก็ห่วง แต่ไม่ต้องคิดนาน ยังไงผมก็เลือกกลับ



....................

  << มีต่อ >>
          v
          v
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 16 อยากเมาต้องได้เมา] 19/3/59 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 19-03-2016 07:49:18
 <<  ต่อ - บทที่ 16 >>



............................


“เฮ ยังมีสติอยู่รึเปล่า” ผมถามขณะไขประตูห้อง มะนาวขมวดคิ้ว แล้วส่ายหน้า


ฟังรู้เรื่องแต่เขาเลือกส่ายหน้า ผมเลยไม่แน่ใจว่าควรวางใจอาการมะนาวมากแค่ไหน

“ถึงห้องแล้ว ไปนอนไป” มะนาวใช้มือดันผนัง ส่งแรงให้ตัวเองเดินไปหยุดที่เตียง เขาปลดกางเกง ถอดมันออกด้วยตัวเอง ดึงชายเสื้อยืดทีเดียวหลุดจากหัว จนเหลือแต่บ็อกเซอร์ ผมคิดว่าเขาจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียงแล้วหลับไปเลย แต่เขายืนนิ่ง ไหล่ตกคอเอียง หันหลังให้ผมอยู่อย่างนั้น

จนผมเปิดแอร์แล้วเปลี่ยนเป็นกางเกงนอนเสร็จ มะนาวก็ยังยืนอยู่ตรงนั้น  หรือเขาจะหลับทั้งยืน?

ผมเดินเข้ามาใกล้เขา มองเขาจากข้างหลัง แผ่นหลังดูเล็กและบางกว่าตอนใส่เสื้อผ้ามาก ผมจำได้ ผมเคยสัมผัส แขนผมกอดรอบตัวเขาได้เกือบสองรอบ

มะนาวเอียงหน้ามามองผมนิดหน่อย ก่อนจะเมินหน้าไป แล้วกางแขนสองข้างออกเล็กน้อย... ผมสวมกอดเขาจากข้างหลัง มะนาวกอดมือทับแขนผมที่โอบรอบเอวเอียงหัวลงพิงไหล่ผม

“กอดแน่นๆ”

ผมกระชับวงแขนตามคำขอ มะนาวครางในคออย่างพอใจ ก่อนจะเอียงใบหน้ามาจูบคอและกรามผม
นั่นทำให้ผมยิ้มและก้มลงแลกลิ้นกับเขาอย่างที่เขากำลังวอนขอ

ริมฝีปากเล็กค่อยๆ จูบตอบ ผมไม่กล้าละโมบแสดงความกระหายที่มีอยู่มากจนต้องคอยเตือนตัวเองให้ข่มใจ ค่อยๆ จูบ ค่อยๆ เพิ่มความร้อน สองมือมะนาวกุมทับมือผมให้เลื่อนไปมา มือหนึ่งกุมไหล่ อีกมือถูกบงการให้เลื่อนต่ำลงอย่างเต็มใจ

อย่างไม่ต้องมากความ มะนาวพาผมสอดลงในขอบบ็อกเซอร์ ให้กอบกุมความตื่นตัวของเขา ไอร้อนจากตัวเขาพาให้ผมกระเจิง จูบอ่อนไหวค่อยๆรุกล้ำให้ลึกขึ้น บั้นท้ายมะนาวเบียดชิดเข้ามาหาผม แผ่นหลังแบนอกเริ่มอ่อนระทวยเหมือนหมดแรงจะยืน

ผมกำรอบกายเขา มะนาวเลิกพยายามนำทาง เขาดูจะหมดเรี่ยวแรงง่ายๆ เพียงเพราะจูบและการเล้าโลมเพียงเล็กน้อย ผมรูดมือเบาๆ ไปมา ลูบไล้จุดอ่อนไหว ทำให้ได้ฟังเสียงครางหวานอีกครั้ง

“อ้า อ่ะ แม็ต แม็ต อ่า” มะนาวทิ้งตัวพิงผม แต่สะโพกก็ยังไม่วายเบียดชิดจนผมเองก็เริ่มอึดอัด
 
อ้า นี่แหละ มะนาวคนเดิม


ผมค่อยๆ ประคองมะนาวทั้งที่ยังจูบกันขึ้นนั่งบนเตียง ให้เขานั่งตักผม ก่อนจะเอียงตัวลงนอนตะแคงซ้อนหลัง คนในอ้อมแขนบิดตัวไปมามือเขากุมท้ายทอยผมไม่ให้หยุดจูบ อีกมือมะนาวเริ่มกำที่นอนบิดจนติดมือ


“อ๊า ไม่นะ อึก อื้อ”

“ไม่อะไร”

“ไม่อยากเสร็จตอนนี้” ไม่พูดเปล่า มะนาวเบียดสะโพกมาถูไถผมเบาๆ ถึงโง่แค่ไหนก็คงต้องเข้าใจ ผมจูบปิดปากหวานๆ อีกที ก่อนจะปล่อยมือไปหยิบของจำเป็นมาวางไว้ข้างตัว ถอดกางเกงทั้งของเขาและของตัวเอง

ผมดันให้มะนาวนอนคว่ำ แยกขาเขาออก บีบเจลป้ายปากทาง แค่วางมือตามลงไปมะนาวก็ดึงหมอนมาปิดหน้าบั้นท้ายกลมยกขึ้นอย่างรู้งาน สองนิ้วผมควานรอบ ขยับเข้าออกช้าๆ ให้เขาชินและไม่เกร็ง ก่อนจะป้ายเจลเพิ่มกลับเข้าไปอีกครั้งด้วยสามนิ้ว เขาตอบรับเป็นอย่างดี ใบหน้าชื้นเหงื่อของเขาหันมาเร่ง

“พอแล้ว ได้แล้ว”

“อีกหน่อยน่า เดี๋ยวเจ็บ”

“แม็ต ไม่เอานิ้ว” หน้าแดงอิงหมอนเอียงคอมาบอก ผมได้แต่มองนิ่งจนลืมไปว่ากำลังทำอะไรกันอยู่

มะนาวชิงถุงยางไปจากมือผมเขาใช้ปากฉีกซอง แล้วใส่ให้ผมด้วยตัวเองสองมือลูบคลำผมไปมา แล้วค่อยๆรูดถุงยางลง มืออุ่นยังสาวขึ้นลงให้ผมตื่นตัวมากกว่าเดิม แถมยังชโลมเจลหล่อลื่นจนทั่ว

เขาโอบรอบคอผมไปจูบ มะนาวปีนขึ้นมาบนตักผม อกเปลือยแนบชิด สองมือผมลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังเขา เลื่อนต่ำลงบีบบั้นท้ายเขาจนเขานิ้วหน้า จับปากทางแยกออก แล้วดันตัวเข้าไปช้าๆ

มะนาวเหมือนจะไม่ทันใจ เขาทิ้งน้ำหนักลงจนเข้าไปเกือบสุด ช่องทางตอดรัดบีบตัวสลับกันคลาย เขาบิดตัวไปมาสร้างความคุ้นเคยให้ตัวเอง เรียวลิ้นแลกกันดุดันมากขึ้นขบไปมาจนแทบแยกไม่ออก

“อ่า อะ อะ อื้มๆ” มะนาวค่อยๆ ขยับตัวเริ่มบรรเลงด้วยตัวเอง มือผมแค่ประคองสะโพกเขาไว้

เขาดูไม่สนใจอะไร แหงนเอนตัวไปข้างหลัง ยึดไหล่ผมไว้แล้วควบไป

“ชอบท่านี้เหรอ?”

“อื้อ อื้อ อ้า” เขาตอบแค่นี้จริงๆ

เขาขย่มไปคิดไป สักพักก็ผ่อนจังหวะและหยุดลง เขานั่งนิ่งบนตัวผม พออยู่นิ่งๆ แบบนี้ผมถึงรู้สึกถึงช่องทางของเขาที่ตอดรัดผมเป็นจังหวะเดียวกับชีพจร

เขาหอบหายใจเหนื่อย ก่อนจะถอนตัวออกไปอย่างไม่อาวรณ์
 
อ้าว?


ผมแปลกใจได้ครู่เดียว มะนาวก็ไปคุกเข่า โก่งตัวรอผม

เห็นอย่างนั้นคงไม่ต้องรีรอ ผมมายืนบนเข่าซ้อนหลังเขา สอดใส่อย่างไม่เบาแรงนัก เพราะเดินเครื่องมาสักพักเขาย่อมรับได้

“อ๊าาาาา” เรียกเสียงครางชนิดที่ว่าเขาต้องจิกมือเกร็งตัวเพราะความเสียว เขาบีบรัดจนแน่น

ผมก้มลงจูบท้ายทอย จูบแผ่นหลัง มะนาวเหมือนจะประท้วงเริ่มขยับตัวไปมา

ผมจับสะโพกมะนาวมั่น ก่อนจะเบียดแทรกเข้าแล้วดึงออกซ้ำแล้วซ้ำอีก มะนาวโยกไหวและตอบรับตามจังหวะรักที่ดำเนินไป เหงื่อของเราเปียกชื้นไปทั่ว ลมหายใจ เสียงประท้วงจากลำคอ กล้ามเนื้อเขาที่ขยับไปมา ทุกสิ่งทุกอย่างของเขาทำให้ผมหยุดไม่ได้

จังหวะที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้น อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นๆ เสียงครางและอาการทุรนทุรายของเขาบ่งบอกว่าเขาใกล้ไปเต็มที ผมสอดมือลงช่วยเขา ทันทีที่สัมผัสความเกร็งแรงกระตุกส่งมาถึงช่องทางข้างหลัง มะนาวบิดตัวไปมา เกร็งตัวรับแรงย้ำหนักๆ ของผมตรงจุดเดิม

“อ้า อื้อ อะ” มะนาวปลดปล่อยออกมาเต็มมือผมและหยดลงที่นอน

ผมกระแทกซ้ำปล่อยจนหมดภายในตัวเขา

ก่อนจะดึงตัวเขาให้แนบชิดเอนลงนอนตะแคงพักหายใจหอบ ขออยู่อย่างนี้อีกสักพักค่อยถอดออกก็แล้วกัน

กอดเขาหลวมๆ ผมจูบลงบนผมเขา

ณ วันนี้เรื่องของผมกับมะนาว ยังไม่มีใครรู้ แต่สักวันคงมีคนรู้เหมือนที่วันนี้ผมบังเอิญไปรู้เรื่องพี่ฟ้ากับพี่เท สองคนนั้นไม่มีคนสงสัย แต่ความจริงแล้วลึกซึ้งกัน ส่วนพวกผมแตกต่าง คนจับตาดูพวกเราอยู่เยอะเหลือเกิน ทั้งชื่นชอบ และไม่รู้ว่าในใจจะคิดยังไงกันอยู่ก็มีอีกมาก จะบวกจะลบ ผมไม่รู้เลย

ถ้ามีคนรู้ ถ้าผมเสียเขาไปเพียงเพราะคำพูดของคนที่จ้องมองด้วยความไม่หวังดีล่ะ ผมไม่อยากคิดถึงสิ่งที่จะตามมา

ขอแค่เราสองคน ผมขอแค่เรารู้กันสองคนไม่สนใจคนอื่นได้รึเปล่า




ผมพามะนาวที่อ่อนปวกเปียก ไปล้างตัวในห้องน้ำ แต่เพราะเขากวน ผลคือเขาต้องครางในห้องน้ำไปตามระเบียบ เสียงแหบไปเลยทีเดียว

“ไปคึกมาจากไหน ยืนไม่ไหวเลยเนี่ย”

“ก็บอกเองว่าอยากเมา ไม่ได้เมาหลายวันแล้วไง”

“บ้า”

“สร่างแล้วเขินเหรอ สายไปแล้ว ฮ่าๆๆ” ผมให้เขานั่งบนฝาชักโครก มะนาวใช้แขนข้างนึงยันกำแพงไว้กันล้ม ผมล้างตัวให้มะนาวอีกรอบ

ตอนออกมาสภาพดูไม่ได้กว่าตอนเข้าไปอีกต้องอุ้มออกจากห้องน้ำมานอนหมดแรงกันทั้งคู่

มะนาวดึงผมไปกอดนอนซบอกผมเหมือนเดิม

แน่นอน ผมไม่ได้ใส่เสื้อผ้าให้ทั้งตัวเองและเขา คอยดูพรุ่งนี้เช้านะ ดูทรงแล้วผมว่าเขาจะจำเรื่องคืนนี้ไม่ได้อีกตามเคย



เดี๋ยวจะหาว่าผมกุเรื่อง คงต้องให้เห็นหลักฐานเอาเองซะบ้างงานนี้



-----------------------------------------
TBC.




คู่รองตัวจริงออกโรงแล้วแจ้ คู่อื่นๆ นั้น มาๆไป แต่คู่นี้คนเขียนรอให้เปิดตัวอยู่นานแล้ว อิพี่เทสิมันขี้อายไม่ยอมให้คนเขียนเปิดตัวสักทีเนี่ย  (5555+)
ในส่วนความเมาของมะนาวนั้น มาจากความตั้งใจอันแน่วแน่ของนางแน่นอนที่สุดคะ 555+ ไม่ต้องสงสัย #ความแรดเงียบ #พลังความอ้อแอ้ 5555+

ย้ำอีกทีว่าเป็นเพียงเรื่องที่แต่งขึ้น ทั้งสถานที่และสถานการณ์ต่างๆ เอามาปะติดปะต่อกันให้เรื่องดำเนินไปเท่านั้น
ส่วนเรื่องความร้ายของตัวละครนั้น ไม่ต้องห่วงจ้า มันเป็นแค่หัวข้อเปรียบเปรย ว่าใครจะมาวินไรงี้
ส่วนฟ้าเทนั้น... รอตอนแยกกันนะ ขอเบ่งพลังก่อน  :fire:

กราบขอบพระคุณทุกคนงานๆที่ร่วมแสดงความคิดเห็นนะคะ ทำให้เรารู้ว่าคนอ่านรับรู้ยังไงคิดอะไรตามเรื่องทันไหม เป็นทั้งกำลังใจและกระจกให้คนเขียนนะคะ ว่าควรทำอะไรต่อ มากไปน้อยไป ไปทางไหนดี ที่จะบอกคือ มันดีคะ ปลื้ม 555

ฝากติดตามเรื่อยๆน้า
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 16 อยากเมาต้องได้เมา] 19/3/59 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 19-03-2016 08:10:18
อิอิ คู่ฟ้าเทนี้ไม่เท่าไหร่ แต่เมนี่สิจะทำไง
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 16 อยากเมาต้องได้เมา] 19/3/59 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 19-03-2016 08:36:45
ยีนส์ เม โนอา นี่ยังไง

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 16 อยากเมาต้องได้เมา] 19/3/59 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 19-03-2016 09:02:24
#ฟ้าเท คือแบบบบบบหืมมมมมมม o22 o22

แม็ตนาวน่ารักกกก นาวอ้อแอ้แบบต้องโดน
แล้วก็โดนไปตามระเบียบ


สู้ๆนะคะคนเขียน รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 16 อยากเมาต้องได้เมา] 19/3/59 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 19-03-2016 09:30:15
 :o8:   แม็ตช้าเนอะ ไม่ทันใจนาวเลย
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 16 อยากเมาต้องได้เมา] 19/3/59 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: คุณข้าวทอด ที่ 19-03-2016 10:41:57
ชนะปราณหละ5555 อยากรู้มากว่าไปทำกันท่าไหน5555

มันคงมีคนหลายแง่เหมือนกันถ้ารุ้ว่าแมตนาวไม่ใช่แค่คู่จิ้น แต่แมตอย่าไปกลัวว ประกาศไปเลย จะได้ไม่มีใครยุ่งกับมะนาว555555

พี่ยีนนี่ยังไงๆชอบเมหรืออะไร เฮียแกทำตัวว  :hao7:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 16 อยากเมาต้องได้เมา] 19/3/59 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: BChampa ที่ 19-03-2016 20:33:58
อีพี่ยีนส์นี่จะเอาไง ว่ามาเลย จะได้ฟินให้ถูกคู่ ต่อหน้าเหมือนจะเกรงใจเจ๊ แต่ลับหลังมึงก็มาเต๊าะทอม เอาไงว่ามา หนอยยยย "โนอายังไม่ตื่นเลยมั้ง" พูดมาได้ สรุปเป็นพี่น้อง เป็นญาติกันใช่มั้ย อ่านยีนส์เมก็ฟินดีอยู่หรอก แอบชอบทอม แต่ถ้าเป็นแฟนกับพี่โนอาจริงพี่ยีนส์ก็เหี้ยเกินทน หน้าตาหล่อไม่ได้ช่วยอะไร // ใจเย็นนนนนนนนนนนนนนนนน อ่านแล้วอารมณ์ขึ้น ไม่น่าเชียร์สตรีหมายเลขหนึ่งเลย กลับลำไม่ทันเลย

คู่หลัก หนูได้กันแล้วลูกกกกกกกกกกกกกก ต้องงี้สิแม็ต เราอย่าไปปล่อยเรื่องราวตอนกลางคืนให้ผ่านไปเฉยๆ มันต้องมีหลักฐานอย่างเน๊ เอาให้รู้กันไปเลย แต่ทางทีดีน่าจะตั้งกล้องแอบถ่ายไว้สักครั้งนึงนะ มะนาวจะได้รู้ว่าหนูอ้อร้อขนาดไหนนะคะลูกสาว 
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 16 อยากเมาต้องได้เมา] 19/3/59 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 19-03-2016 21:09:06
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 16 อยากเมาต้องได้เมา] 19/3/59 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: PaiPo ที่ 20-03-2016 11:42:52
ตลกตรงเมะกับเมะมองตาก็รู้ใจ 555555  o13 
อยากรู้แล้วสิว่าแต่ละคู่จะลงเอยกันยังไง อย่างชนะปราณก็ยังไม่ลืมนะ ฮี่
รอติดตามจ้า :serius2:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 16 อยากเมาต้องได้เมา] 19/3/59 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-03-2016 16:03:10
ไม่จำเป็นต้องเมาย้อมใจหรอกมะนาว
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 16 อยากเมาต้องได้เมา] 19/3/59 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 21-03-2016 02:00:19
ชอบทุกคู่เลยเรื่องนี้
อยากรู้ที่มาของคู่ฟ้าเท
ส่วนพี่ยีนส์กับเมแข่งกันหล่อ แต่โคตรชอบอีกคู่เลย
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 16 อยากเมาต้องได้เมา] 19/3/59 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 21-03-2016 13:18:10
ชอบๆๆ
ที่อยากเมาเพราะแบบนี้ใช่มั้ยนาว โดนจัดเต็ม ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 16 อยากเมาต้องได้เมา] 19/3/59 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin ที่ 21-03-2016 20:39:28
จริงๆฟ้าเทนี่พอจะเดาได้นะ แบบวว่าบรรยากาศคล้ายๆแม็ตนาวอะ
แต่ประธานโนอาเมนี่สิ ดูยังไงประธานก็จงใจเข้าหาเมชัดเจนซะขนาดนั้น ไม่น่าจะคบกับโนอานะ
คือแบบโนอาไม่น่ายอมให้แฟนตัวเองทำอะไรแบบนั้นได้ เพราะดูแล้วก็พอตัวเลยนะโนอาน่ะ

เรื่องนี้ที่คอนเฟิร์มได้อย่างหนึ่งเลยว่า อยากเมา=อยากเอา 55555555555
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 16 อยากเมาต้องได้เมา] 19/3/59 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 22-03-2016 03:41:00
แม้ๆ แม๊ตไม่ค่อยเท่าไหร่เลยน่ะ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 17 เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย] 24/3/59 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 24-03-2016 04:17:45
(http://i1159.photobucket.com/albums/p636/Browny_Tan/bro/loveagain2_zpscs9dbvrb.png)
  - บทที่ 17 – เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย -


----------------------------------


สวัสดีครับ ผมยีนส์ อดีตประธานเชียร์ เพิ่งปลดประจำการสดๆ ร้อนๆ วันนี้ตอนตีสาม ถึงชื่อตำแหน่งมันจะดูเท่ แต่ความตรากตรำนั้น ขั้นสุด

เพราะช่วงเวลาที่ค่อนข้างจำกัดแล้วสิ่งที่ต้องทำนั้นมากเกินกว่าจะจินตนาการได้ มันถูกบีบอยู่ภายในเวลาดำรงตำแหน่งที่โคตรสั้น (แม้จะรู้สึกยาวนานเหมือนชาตินึง) ไม่เหมือนนายกสโมที่เป็นขี้ข้าคนทั้งคณะอยู่หนึ่งปี หรือประธานรุ่นที่ต้องทำหน้าที่ไปจนตายกันไปข้าง ของผมแค่เดือนเศษๆ แต่เป็นหนึ่งเดือนที่หนักหนาสาหัสมาก ซ้อมก็หนัก เรียนก็ต้องเรียน เรียนเสร็จก็ต้องเตรียมนั่นเตรียมนี่รอน้อง ข้างหน้าดูหล่อแต่เบื้องหลังผมก็จับกังคนนึงเลยล่ะทั้งแบกหามล้มลุกคลุกคลาน วันๆ เชียร์จบงานก็ไม่จบ ต้องคุยกันต่อยันตีสองตีสามแทบทุกวัน ปัญหาที่ดูไม่มีอะไรแต่มันคือปัญหาอย่าง น้องไม่เข้าเชียร์ น้องนั่งไม่ตรงแถว น้องยุกยิก น้องเจ็บคอแล้วไอ พวกรุ่นพี่ลากแตะเข้าห้องเชียร์ ล้วนต้องเก็บมาถกกัน

ชีวิตส่วนตัวคือพังมาก ขนาดพวกมีแฟนอยู่ในคณะที่รู้ว่าความเป็นทีมเชียร์ต้องทำอะไรบ้างยังหาว่าไม่ใส่ใจไม่ให้เวลา คนไหนมีแฟนเป็นคนนอกคณะก็มีอันเลิกรากันเลยล่ะครับ

แต่ในส่วนตัวของกระผมนั้น... ไม่มีปัญหานั้น (ยักไหล่แบมือ)

เพราะแฟนของผมที่ทุกคนเข้าใจนั้น ไม่มีทางงอแงที่ผมไม่มีเวลาให้แบบนี้แน่ๆ ตรงกันข้าม เธอดี้ด้าจนผมต้องโทรเช็คทุกชั่วโมงเวลารู้ว่าออกไปงานเลี้ยงที่มีอยู่ได้แทบทุกวัน

ทำไมเธอต้องดีใจที่ผมไม่อยู่คุมน่ะเหรอ? ก็เพราะผมบังคับให้เขามาเป็นแฟนผมน่ะสิ

ไม่ใช่ว่าไม่รัก แต่เพราะรักมากก็เลยปล่อยไปไม่ได้ น้องสาวคนแรกของผมทั้งคน!

ครับ

โนอาเป็นลูกพี่ลูกน้องรุ่นๆ เดียวกันที่เป็นผู้หญิงคนแรก เป็นที่รอคอยของผมและบรรดาพี่น้องมากๆ ตอนเด็กๆ เธอตัวเล็กมากแถมยังขี้โรคคอยเดินตามผมตลอดเวลา แต่ตอนนี้พอเริ่มเป็นสาวกลับจ้องแต่จะหลบผมไปให้ผู้ชายจีบ

เหอะ! ฝันไปเถอะ น้องผมผมเลี้ยงมา หวงยิ่งกว่าไข่ในหิน คิดจะจีบรอชาติหน้าตอนบ่ายๆ

ผมไม่เคยบอกใครนะว่าผมกับโนอาเป็นแฟนกัน แค่เวลาคนถามผมแค่ไม่ปฏิเสธ และบังคับโนอาว่าห้ามปฏิเสธ

มีแค่พวกเพื่อนเรียนด้วยกันมาตั้งแต่มัธยม กับป้องน้องรหัสผมที่รู้เรื่องนี้ จะไม่รู้ได้ไง ย้อนไปตอนป้องขึ้นปีสองผมบังคับให้มันล็อกรหัสในการจับน้องรหัสเมื่อปีที่แล้วเองกับมือ(อำนาจมืดมีอยู่จริง) แรกๆ เธอก็เข้าใจผมนะ คงเพราะกลัวโดนรับน้องโหดๆ กลัวโดนแกล้ง พอคนรู้ว่าเป็นแฟนผมก็ไม่ค่อยมีใครกล้า แรกๆ จึงเลยร่วมมือเป็นอย่างดี

เวลาไปไหนมาไหนผมไปรับไปส่ง เวลาทำกิจกรรมผมจะคอยยืนใกล้ๆ โนอาจะได้ไม่เหงา ข้ามคณะไปหาเพื่อให้ได้กินข้าวด้วยกันตอนเที่ยง เวลาไปร้านเหล้าผมจะให้โนอานั่งข้าง ไม่ก็โต๊ะที่มีแต่ผู้หญิง

ถ้ามีคนปากหมา ผมก็สวนกลับไปตรงๆ ‘กูรักของกู ผิดตรงไหน’ เพื่อนๆ ผมจะชินจนเลิกถามเลิกแซวกันไปแล้ว

การสร้างภาพคู่รักของผมกับน้องเป็นไปด้วยดีมาตลอด ผมตั้งใจว่าจะไม่มีแฟนไปจนอย่างน้อยเรียนจบ กะว่าชิลแน่ๆ เพราะเรียนปีสามปีสี่ก็ว่าหนักแล้วกิจกรรมก็แน่นมากด้วยไม่มีเวลาหาหรือรักษาความรักวัยเรียนได้แน่ และผมก็ค่อนข้างมีบทเรียนจากความรักครั้งก่อนๆ ที่จบไม่สวยนัก

ผมนอนใจจนกระทั้ง... มีคนชื่อ เมหล่อ เข้ามาในชีวิต

ในห้องประชุมของพวกเราทีมเชียร์ จะมีทั้งไวท์บอร์ทและโปรเจคเตอร์ เพราะพวกเราที่ไปไหนมาไหนได้ไม่สะดวกนักจะมีชมรมโฟโต้คอยส่งข่าวสาร พวกนี้เป็นมนุษย์บ้ากล้อง คือมึงไม่น่ามาเรียนวิดวะ มึงน่าจะไปนิเทศถ่ายภาพไปเลยถ้าจะพกกล้องโปรแทนมือถือขนาดนี้ เวลาในคณะมีกิจกรรมอะไร ทั้งจับสายรหัส ประชุมห้อง เข้าเชียร์ เลือกดาวเดือนห้อง ปาตี้หลังเลิกเรียน พวกนี้ไปด้วยหมด ได้ภาพมาหมดทั้งภาพสวยๆ ดูดี หรือเหี้ยๆ ของเพื่อนหรือคนรู้จักของพวกเรา ผมเห็นเมครั้งแรกในภาพพวกนั้นแหละครับ ตั้งแต่เปิดเทอมวันแรกเลย เมถูกถ่ายเดี่ยว ในมุมแบบเนตไอดอลขึ้นกล้องโปร ภาพคมชัดขึ้นขอบ ผมสะดุดตาแล้วนึกชื่นชมว่า ‘น้องผู้ชายคนนี้หล่อดี แต่หน้าแอบหวาน’ เพราะทั้งที่เขาใส่ชุดนักศึกษาชายแต่ให้อารมณ์แบบ สวยๆ ยังไงไม่รู้

ตอนนั้นผมคิดเลยนะว่า ‘ทำไมกูมองผู้ชายสวย?’ คิดว่าตัวเองเรดาร์พังหันมานิยมผู้ชายซะแล้ว คงเพราะโสดนานไปแห้งแล้งจนเอาหมดว่างั้นสินะ เห้อ ทั้งปลงทั้งอนาถใจ

แต่เสียง อิ้อ้ะวี้ว้าย ทำให้เจ้าของภาพรีบอธิบาย

“น้องคนนี้เป็นทอมนะ เหมือนจะอยู่ห้องเจ็ด”

วูบนั้นเหมือนมีน้ำทั้งหมาสมุทรหยดลงทรายที่แห้งผาก

แต่เอ้ะ! ทำไมกูต้องดีใจ? เฮ้ย ถ้าเป็นทอมเขาก็ไม่สนใจผู้ชายอยู่ดีป่าววะ?

“งั้นก็แต่งตัวผิดระเบียบสิ นั่นมันชุดนักศึกษาชาย” ผมจะหันไปสั่งฝ่ายระเบียบให้ไปจัดการ แต่แค่หันไปก็เจอสายตาต่อว่าจากทีมเชียร์หญิงเกือบทุกคน

“อย่าเข้มงวดไปหน่อยเลยพี่ยีนส์อ่ะ”

“นั่นดิ จะซีเรียสอะไรนักหนา เนอะ” เอาสิเอา เป็นทั้งน้องทั้งเพื่อน ผมได้แต่ทำหน้าเหนื่อย

อีพวกบ้า เมื่อกี้แค่น้องอีกคนใส่รองเท้าเหยียบส้นมึงยังลิสต์ไว้ว่าจะไปจัดการเลย ความยุติธรรมผันแปรกับอะไรผมคำนวณไม่ออกเลยเจอพวกนี้อยากจะงอแงบ้าผู้... บ้าทอม

หลังจากนั้นโฟโต้ก็เหมือนจะรู้ใจเก็บภาพเมหล่อมาให้พวกสาวๆ ทีมเชียร์ได้กระชุ่มกระชวยทุกวันไม่มีขาด ทั้งตอนหลับในห้อง(ผมว่าโฟโต้มันคงลงซ้ำวิชาปีหนึ่ง) เข้าเชียร์ด้วยชุดถูกระเบียบ ไปกินข้าวกับบรรดาแฟนสาว เลือกดาวห้อง ซ้อมบาส เดินเข้าห้องน้ำหญิง แม้แต่ตอนสำลักข้าวแล้วต้องให้เพื่อนตบหลังให้ ถ้าผมเป็นเมแล้วรู้ว่ามีคนตามแอบถ่ายรูปตลอดเวลาแบบนี้ผมคงกรี๊ดแตก(?)

ทุกอย่างก็ผ่านไประยะนึงทีมีแต่พวกผู้หญิงที่กรี้ด จนวันนั้น ประกวดดาวเดือน พวกผู้ชายก็แตกฮือบ้าง เพราะหลังจากเมเดินมาโหม่งผม ไอ้พวกที่อยู่ด้วยจำน้องได้ทันที มันเห็นน้องไม่สู้ ทำทีแกล้งขู่น้องกันยกใหญ่ แม่งพูดไปหน้าแดงกันทั้งฝูง (กูสงสัยตัวก็ดำยังจะแดงกันได้อีกนะพวกมึง) จนผมต้องห้ามทัพก่อนจะเลยเถิด หลังจากแยกกันยังไม่ทันเข้าห้องเก็บตัว แค่เลี้ยวหักมุมลับตาน้อง ขบวนองครักษ์ส่วนตัวของผมก็ทรุดลงพื้นแปะกำแพงอ่อนยวบไปหมด

“เชี้ย ใจเย็นเข้าห้องก่อน” ผมใช้เสียงเบาที่สุดแต่ก็เข้มที่สุด

“เป็นอะไรกันวะ พวกมึง เฮ้ยๆ” ป้องไปเขี่ยเพื่อนมัน แน่นอน ด้วยตีน

“แม่ง เพราะกูขาดแสงสีและนีน้อยมานานแน่ๆ น้องเมโคตรทำกูหวั่นไหว”

“เออ พอแต่งแบบนี้แม่งเชี่ยโคตรพ่อโคตรแม่ไม่น่าเป็นทอมเลย”

“น้องอาจจะไม่ได้เป็นถาวรก็ได้นะ” มันสามคนคุยกัน ยังไม่ยอมลุก

“มึงรู้จักน้องเขารึไง”

“เปล่า กูปลอบใจตัวเอง”

“ถ้ารู้ว่าแต่งหน้านิดติดขนตาหน่อยจะปิ้งขนาดนี้ กูเลิกทำว้ากแล้วไปจีบน้องตั้งแต่เปิดเทอมแล้ว”

“น้องสูงกว่ามึงอีกนะ ม็อต” ผมแย้ง

“ความสูงไม่มีผลกับแนวนอน”

“เสื่อมสัส ไป รีบเข้าห้อง” ผมไล่ทั้งหมด

หลังจากนั้น มันก็ไปกระจายข่าวว่าเมในร่างหญิงนั้น สวย สวยมาก สวยโคตรพ่อโคตรแม่สวย อาการมันน่ะ เวอร์ แต่ผมก็ไม่ปฏิเสธเรื่องที่พวกมันบอกเธอสวย ถ้าเป็นช่วงเปิดเทอมปกติคงไม่ขนาดนี้ แต่ในช่วงเชียร์ที่ชีวิตขาดชูรสและสิ่งจรรโลงใจทุกประการแล้ว นี่คือสรรค์ของพวกมันก็ว่าได้ เพราะถึงไม่อยากเราก็ต้องทนดูหน้าสดของพี่ๆน้องๆทีมเชียร์ด้วยกัน มันไม่ใช่สิ่งที่จะพูดออกสื่อได้ ผมขอข้ามตรงนี้ไป

ตอนโหวต ด้วยความยังเพ้อไม่เลิก พวกมันเดินกระจายกันออกไปตามมุมต่างๆ ที่น้องไม่เห็น เขียนป้ายบอกบรรดาเพื่อนมัน ว่าโหวตดาวเบอร์ 7 ให้ทีมเชียร์ด้วย

ผมที่ได้แต่นั่งนิ่งๆ ก็มองหลานชายที่เป็นเหมือนความหวังใหม่ของผม แต่เหมือนจะมีคนเข้าใจผิดว่าผมมองตัวเองนะ หันไปชวนหลานผมให้มองผมด้วย แน่ะ หลงตัวเองก็เป็นนะเรา แบบนี้ไม่ดี ไม่ดีนะ

ในการเรียกรหัสน้องแยกออกมาหลังจากนั้น มีคนเรียกเมออกมาทุกครั้ง ผมก็แค่แว้บไปดูทุกครั้งที่มีจังหวะ

จากพยายามทำเป็นไม่สนใจ ผมก็ผ่ายแพ้แก่ตัวเองแบบไม่รู้ตัวซ้ำแล้วซ้ำอีก

ที่ผมคิดที่ผมทำไปเนี่ย ไม่ได้ตั้งใจเลยนะ มันเป็นไปเอง ทั้งที่ผมยังยึดความตั้งใจเดิมว่าจะไม่มีใครไปเรื่อยๆ เพราะคนอื่นคิดว่าผมมีโนอาอยู่แล้ว พยายามสวมบทบาทนั้นให้เนียน แต่ผมก็ยังหยุดตัวเองไม่ให้แกล้งเมไม่ได้ ทำไมผมจะไม่รู้ตัวว่าที่ผมทำออกไปนั่นมันดูเหมือน จีบ มากแค่ไหน

เมื่อเช้ามืดหลังออกจากห้องเชียร์หลังหมดวาระของประธานเชียร์ ผมสามารถกลับมาเป็นตัวเอง เดินไปในคณะอย่างสบายอกสายใจไม่ต้องวางท่าให้ปีหนึ่งรู้สึกยำเกรงอีกต่อไป เดินไปไหว้พี่ๆบัณฑิตที่มาให้กำลังใจพวกผม และดูน้องปีหนึ่ง รับไหว้น้องปีสองปีสาม ทักทายเพื่อน ไปตลอดทาง เหมือนยกภูเขาออกจากอกพวกเราทั้งหมดพร้อมๆ กัน

ตอนนั้นผมไม่ได้เห็นเมคนแรกหรอกไอ้ม็อตคนเดิมเห็นแล้วส่งเสียงเตือนเราทันที

“เฮ้ย น้องเมวะๆ” ผมมองตาม เป็นโต๊ะโซนที่โนอาบอกว่าหลานจะนั่งกับเพื่อนแถวนั้นจริงๆ

เขากำลังท้าวโต๊ะลุกขึ้นยืน หันหลังเหมือนจะเดินไปยังทางออกโรงอาหารอีกด้าน สกิลการสปีดตัวแบบนักบอลยังคงดีเลิศ แทบไม่รู้ตัว ผมมายืนปลายเท้าชิดกับเมอย่างตั้งใจ

“เดินไม่ระวังอีกแล้ว” ผมพยายามทำหน้านิ่งให้ดูซีเรียสอยู่นะ แต่เหมือนแก้มมันอยากจะยิ้ม

เขาดูแปลกใจ และแน่นอน ดูไม่พอใจสุดๆ

“ขอโทษครับ” ผมเกือบจะฉีกยิ้มเมื่อเขายอมเอ่ยปากขอโทษทั้งที่เอาจริงๆ ตัวเองไม่ได้ผิดเลย

กำลังมองใบหน้าเล็กใกล้ๆ เพลินๆ รู้ตัวอีกทีเขาก็หายไปอย่างกับซินเดอร์เรลล่าตอนนาฬิกาตีบอกเวลาเที่ยงคืน

สิ่งที่เขาทิ้งไว้น่ะเหรอ มันมองไม่เห็น แต่เติบโตขึ้นในใจผมอย่างไม่รู้ตัว

ผมยกมือตัวเองขึ้นมาดู จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเมื่อกี้ผมคว้าเมไว้ ดูจากสีหน้า คงโดนตบ(?) เอ่อ ไม่สิ โดนต่อยล่ะมั้ง

“มึงทำงี้กับขวัญใจพวกกูได้ไงว่ะ” ม็อต ตามมาถึงมันก็ใส่ผมเลย

“พี่มีโนอาอยู่แล้วอย่าม่อดิ โลภนะพี่อ่ะ” ไอ้ป้องน้องรัก ถ้ามึงไม่รู้ความจริงกูจะคิดว่ามึงกำลังว่ากูเหี้ย แต่เอาจริงๆมันรู้ว่าผมสามารถม่อใครเมื่อไหร่ก็ได้เพราะไม่ได้ผิดกับใคร ดังนั้นผมเลยรู้ว่ามันกำลังกวนตีนผม กวนตีบกับหาว่าผมเหี้ย เหตุผลไหนก็ไม่ดีป่าววะ

“พูดถึงแม่ แม่ก็มา ยีนส์แม่มึงมา”

“แม่จ๋า ลูกผิดไปแล้ว” โนอาคว่ำปากใส่ผม ฮ่าๆๆๆ

โนอารู้ครับ ว่าในกลุ่มพวกที่ทำว้าก เมมีความหมายยังไง เพราะบางครั้งเธอก็นั่งประชุมกับพวกผมหลังจบเชียร์แต่ละวันเพราะมาส่งเสบียงและทำการบ้านกับเพื่อน ทุกคนสอบสวนเรื่องเมจากโนอาแทบทุกตารางนิ้วที่เข้าถึงได้ รู้กระทั้งรอบอกรอบเอว เห็นทุกคนกระตือรือร้นก็หันมาถามผม ‘ไม่สนใจเมเหมือนคนอื่นบ้างรึไง’ ก็ตอนนั้นผมยังไม่รู้ตัวก็เลยตอบแบบกวนตีนไป ‘ไม่ล่ะ ชอบอึ้มๆ’

ก็ไม่คิดนี่นา จริงๆที่ทำเมื่อกี้ก็ไม่ได้คิด ร่างกายมันไปเอง ไม่ได้ตั้งใจเลยจริงๆ



ตอนตีห้า ผมมาส่งโนอาที่หอ จริงๆก็กลับหอตัวเองด้วย ห้องผมอยู่ข้างกันครับ โนอาห้องซ้าย ผมห้องขวา

“พี่ยีนส์แกล้งเมแบบนั้นทำไม?”

“อ้าว เห็นจริงๆ เหรอเนี่ย ฮ่าๆๆ” ผมหัวเราะกลบเกลื่อน

เอาจริงๆนะ ถ้าโนอารู้ว่าผมมีคนที่ชอบ คงรีบบอกให้ไปจีบเลย คนอื่นจะได้มาจีบตัวเองได้สักที คือผมกลัวเรื่องนี้ เลยไม่กล้าบอกตรงๆ

“ตอบ”

“ก็ไม่มีอะไรนี่ เห็นมันฮ็อต ก็เลยอยากแกล้ง”

“อย่าทำแบบนั้นอีก เมมันไม่ชอบผู้ชายอยู่แล้ว เดี๋ยวมันต่อยเอาก็จะหาว่าเด็กมันผิดอีกอ่ะ”

เอ้ะ?! เดี๋ยวนะ ผมขอทบทวนความหมายของคำพูดน้องก่อน

ห้าม เมไม่ชอบผู้ชายหรอก เดี๋ยวจะโทษเมหาเรื่อง?

“เราชอบเมเหรอ?” ผมเอ่ยถามอย่างไม่มั่นใจ

“...” ผลที่ได้คือ โนอาไม่ตอบ

ชิบหาย!

โนอาไม่ตอบอะไรเลย ยังคงมองผมด้วยสายตาหาเรื่อง แถมยังไล่ผมออกจากห้องบอกจะนอนแล้ว

คืออะไร?

คือยังไง?

ครั้งนี้ผมเพิ่งจะติดใจสาวสักคนเป็นครั้งแรกในรอบเกือบสองปี แล้วยังไง แล้วเป็นคนเดียวกันกับที่โนอาชอบงั้นเหรอ?

ไม่หรอก ตั้งแต่เด็กจนโตโนอาไม่เคยมีแฟนเป็นทอม หรือเลสเลยนี่นา

แต่ก็นะ จากเด็กตัวเล็กๆหน้าเลอะขี้มูกเลอะน้ำตา แป็ปๆ เธอยังโตเป็นสาวจนกลายเป็นดาวมหาลัยจนผมแทบจะตั้งตัวไม่ทันเลย จะนับประสาอะไรกับเรื่องหัวใจที่แสนล้ำลึก

เชี้ย!

ผมทรุดลงนั่งยองๆ กลางทางเดินกุมหัวตัวเองจนหัวฟู

กูควรเครียดเรื่องน้องจะกลายเป็นดี้ หรือกลัวคนที่เล็งโดนแย่งก่อนดีวะอารมณ์นี้ เชี้ยแม่ง แบบนี้ต้องกินเหล้า

ผมกลับเข้าคณะที่ยังคงมีพวกทีมงานกลุ่มนึงยังมีแรงฉลองจบเชียร์กันอยู่ นั่งกินจนหลับไปตอนฟ้าเริ่มสว่าง โดนปลุกอีกทีก็โน้นเลย น้องเริ่มมา กิจกรรมรับน้องในคณะกำลังจะเริ่ม





ทั้งที่เขารูปลักษณ์เขาไม่ได้มีทรวดทรงอกเอวแบบที่ผมเคยชอบ ทั้งที่ผมสั้นแทบกุดนั้นไม่ได้ชวนมองเลย ทั้งที่ผมเคยชอบผู้หญิงผมยาว ทั้งที่เสียงดัดจนทุ้มห้าว ทั้งพี่พ่นแต่คำหยาบ ความอ่อนหวานแบบผู้หญิงที่หายังไงก็หาไม่เจอ แล้วทำไมผมต้องนั่งเท้าคางคิดถึงเขาเป็นสาวน้อยซะเองด้วยเนี่ย

วันนี้ยังไม่เห็นเลย หลานผมเจอแล้วมันเข้ามาทักกับแนะนำข้างรหัสแล้ว (ดีมากพาข้างรหัสเข้าเชียร์ รู้งานสุดๆ) แต่ตอนนั้นก็ไม่กล้าถามว่า ‘เพื่อนไปไหน?’ ผมเลยตระเวรทักท้ายเพื่อนและเล่นกับน้องตามซุ้มต่างๆไปเรื่อย เผื่อเขามาแล้วไปแอบอยู่ไหน จนแอบไปได้ยินว่าเพื่อนมันเองก็ชวนเมมารับน้องในคณะด้วยลูกไม้ต่างๆ เต็มที่แล้วเช่นกัน


ส่วนตอนนี้น่ะเหรอครับ ผมกำลังรอเมด้วยอารมณ์แบบ ผู้ชนะ ฮ่าๆๆๆๆ ตอนนี้โนอาไม่ตอบไลน์ไม่รับสาย คงยังไม่ตื่น ช่วงที่น้องยังไม่มาทำให้ผมหรือเมสับสน ขอเล่นก่อนแล้วกัน

“กรี้ด น้องเมมาซุ้มเรา” ผมได้ยินเสียงน้องปีสามคนนึงกรีดร้อง ทั้งที่มองไม่เห็น แต่เดาว่าเขาต้องผงะถอยหลัง จนเกือบจะวิ่งหนีเลยล่ะ

“มาทางนี้คะ มาๆ” อ้าว มาจากทางนั้นเหรอ ชิบหาย ดักผิดทาง เขาเดินเข้ามาตรงข้ามที่ผมรออยู่เลย

“มาคะ กินอะไรมารึยัง เล่นเกมมั้ย หรือจะมาสมัครเป็นสตาฟ ผ่านค่ารับเลย” ได้ข่าวว่าคนตัดสินใจไม่ใช่มึงนะ ป้าตุ๊ก

“เออ ผมแค่มาเอาเค้กที่เพื่อนฝากไวั” เมมองตุ๊กที่เกาะแขนแน่นไม่มีท่าว่าจะปล่อยง่ายๆ แล้วก็สายตาอีกนับสิบที่มองเขาเป็นตาเดียว

ผมรอ รอว่าเขาจะมองมาทางนี้เมื่อไหร่ รอสบตาเขา

“เค้กเหรอ ไม่เห็นนะ” ผมรออยู่นาน เขาก็ไม่มองมาสักที คงได้เวลาแสดงตัว

“เฮ่ ทางนี้” ผมชูเค้กขึ้นบนอากาศ

“ไอ้เชี้ยยีนส์ มึงทำหล่ออีกแล้ว” แน่นอนครับ เป็นคำชมจากไอ้ม็อต เจ้าเก่าเจ้าเดิม “เอามานี่เลย กูหมั่นไส้”

“อ้าว ฮ่าๆๆๆ” เค้กถูกแย่งไปจากมือผม มันคงกลัวผมทำคะแนนกับเมล้ำหน้ามากๆ แต่ไงเขาก็ไม่สนใจมึงหรอกไอ้ม็อต

พอกลับมาคิดได้ว่าบางทีเมอาจจะชอบโนอาเหมือนกับที่โนอาชอบเม ผมก็รู้สึกหดหู่จนอยากจะยกเข่าขึ้นมากอด แม่ง มันหล่อนะเมอ่ะ น้องผมก็โคตรสวย ผมเห็นทอมหล่อๆ เพื่อนผมก็มีแฟนสวยระดับโออากันทั้งนั้น ยิ่งคิดได้ยิ่งหมดพลัง

“นี่ครับ น้องเม”

“ฮะ ขอบคุณครับ”

“เปลี่ยนคำขอบคุณเป็นนั่งนี่ก่อนค่อยกลับสิ”

“ผู้ชาย ออกไป น้องเขาสนใจผู้หญิงย่ะ”

“เฮ้ย น้องเขาไม่ได้พูดเลย มึงเป็นเมียน้องเหรอมาตอบแทนเนี่ย”

“ตอนนี้ยัง แต่ก็อยากอยู่นะ” เมยอมให้ซบตุ๊กแต่โดยดี

หมดกัน จบแล้วมั้ง ผมนั่งอยู่มุมที่แสนไกลจากจุดศูนย์กลาง ไม่มีใครสนใจผมเลยตอนนี้

แต่มองดีๆ รอยยิ้มแหยๆ นั้นทำให้ผมมีเรี่ยวแรงขึ้นมาอีกนิด อย่างน้อยมันก็ไม่ใช่ยิ้มตอบรับ แต่เป็นยิ้มที่ยิ้มไปตามมารยาทเท่านั้นเอง มั้งนะ

“เมมานั่งนี่ดีกว่า ปลอดภัยเมื่อฝากไว้กับประธานเชียร์”

“ประธานเชี้ยดิ” โตเพื่อนรัก ถ้าไม่ใช่เพื่อนผมจะเตะให้

“เออ มึงรีบเอาน้องออกมาเลย ไอ้ยีนส์ตัวดีสุด มึงไม่รู้เหรอมันอ่อยน้องหลายทีแล้วนะ” ม็อตรีบแจง

“เออ พี่กูเอาจริงนะเว้ย” ปกป้องผู้รู้ใจ ไม่เสียแรงที่รู้มากกว่าใคร

“ไม่เป็นไร พี่ยีนส์มีโนอาอยู่แล้ว จะทำอะไรได้ คงจะแกล้งพวกมึงนั้นแหละ แกล้งพวกโสดโดนเทอย่างพวกมึงไง”

“เออ มึงอยากมีแฟนเป็นดาวคณะดาวมหาลัยอย่างไอ้ยีนส์ก็บอก” พวกผู้หญิงยังไว้ใจผม หันไปเถียงกันเอง

ระหว่างมันเถียงกัน ผมดึงถุงเค้กตรงหน้าเมมา เปิดถุง แกะกล่อง วางช้อนให้ข้างๆ แล้วเลื่อนไปให้ตรงหน้า

เมมองเค้ก แล้วเหลือบตามามองผม โดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นสักองศาเดียว

ทำไมผมรู้สึกว่ามันเย็นชาและห่างเหินนะ

จะว่าไปผมก็ห่างเหินกับน้องก็ไม่แปลก เราไม่เคยรู้จัก หรือพูดคุยกันส่วนตัว แต่เย็นชาเนี่ย อีกนิดจะเป็นสายตาเกลียดชังแล้วนะ ชิบหาย ไงวะเนี่ย ควรทำเป็นรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวดีล่ะเนี่ย

ผมเลือกยิ้มที่คิดว่าอบอุ่นให้ไป

“ทำแบบนี้ทำไม?”

“เทคน้องตามประสารุ่นพี่ ทั่วๆ ไป ผิดตรงไหน”


“น้องเม บอกพี่ได้ป่าว ชอบผู้หญิงแบบไหนเหรอ”

“อืม แค่คุยกันรู้เรื่องก็พอมั้งครับ ผมไม่ได้ชอบแบบไหนเป็นพิเศษ” ทำไมทีพูดกับคนอื่นยังยิ้มได้หน้าตาเฉย

“แล้วผู้ชายไม่สนใจหน่อยเหรอ” ม็อตมานั่งทำหน้าอ้อน(ตีน)อยู่ข้างๆ ผม

“ผู้ชายที่ไหนจะสนใจผมพี่ ไม่มีความเป็นผู้หญิงสักนิด”

“โอ้ย แถวนี้มีเต็มเลยน้อง ฮ่าๆๆ” ปกป้องผู้อารมณ์ดีตลอด

“พวกมึง แมนๆ ใครว่าน้องน่าสนใจยกมือขึ้น ใครเขินมึงก็ก้มหน้าลงไป” ผมตะโกนบอกจนได้ยินไปทั่ว ด้วยน้ำเสียงทรงพลังที่ถูกฝึกโปรเจคเสียงมาจนเป็นเลิศ “หันไปดูสิ”

ยกกันเกือบหมด ทั้งผู้ชายผู้หญิง เพราะความแมนมีอยู่ในผู้หญิงวิดวะสินะผมลืมไป มีมือขวาผมนับยอด แล้วพอเมหันกลับมา ผมยกมือตัวเองขึ้นช้าๆ ต่อหน้าเม

“ป้อง อย่าลืมนับกู”

“ทั้งหมด 23 ผู้ชาย 13 หญิง 10 ครับ”



“มึงก็ยกเหรอยีนส์ กูเริ่มระแวงมึงแล้วนะ” เพื่อนผู้หญิงสักคนพูด แต่ผมไม่ได้หันไปดูว่าใคร เพราะกำลังเล่นเกมจ้องตาอยู่




....................


  << มีต่อ >>
          v
          v
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 17 เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย] 24/3/59 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 24-03-2016 04:35:25
 << ต่อ บท 17 >>



.............



“ก๊อกๆๆๆ”

เฮ้ย ใครมาเคาะประตู?

พรึบ ผมลืมตาเต็มที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง เพราะแขนข้างนึงมะนาวยังจองไว้เป็นฐานที่มั่น

เอ้ะ หรือฝัน?

“ก๊อกๆๆๆ”

ไม่ทันสิ้นความคิดเสียงเดิมก็ก้องซ้ำในจังหวะที่เร็วขึ้น

“นาว นาว”

“อื้ม จะนอน” เจ้าของชื่อบิดตัวไปนอนขดอีกทางคล้ายรำคาญผม

“มีคนมา ลุก ใส่เสื้อผ้าก่อน”

มะนาวสลึมสลือ เปิดตาหันมามองผม เขาขมวดคิ้วเป็นเชิงถามว่าจริงเหรอ พอดีกับเสียงเคาะห้องดังขึ้นอีกครั้ง เขาเลยทำตาโตยันตัวขึ้นนั่ง

“เฮ้ย! เชี้ย ทำไมไม่มีอะไรเลยล่ะวะเนี่ย” เออ มึงล่อนจ้อน

“ทำตัวเองทั้งนั้น เอานี่” ผมมองหาเสื้อผ้า ยัดเสื้อตัวเดิมกับกางเกงนอนผมให้เขาไป ชี้มือไปทางห้องน้ำ

ส่วนผมรีบไปหยิบกางเกงนอนอีกตัวจากในตู้ กับเสื้อกล้าบาสมาใส่มั่วๆ ยังดีที่เมื่อคืนจัดการกับความหายนะในห้องไปตั้งแต่ก่อนนอน ก่อนไปเปิดประตู มั่วแต่มองความเรียบร้อยของห้องกับตัวเอง เลยลืมดูตาแมวไปซะสนิท ว่าใครมา

“ช้าว่ะ ทำอะไรกันอยู่วะ” น้ำเดินเข้ามาในห้องอย่างถือวิสาสะ ตามด้วยพี่ทะเลแฟนมันที่ทักทายผมน่ารักเช่นเคย

“เห้อ กูยังไม่ตื่นนี่หว่า ได้ยินมึงเคาะประตูกูยังนึกว่าตัวเองกำลังฝันอยู่เลย” ผมแสร้งทำสลึมสลือเกาหัวขยี้ตา ทั้งที่ที่จริงโคตรตกใจจนตาสว่างเต็มที่แล้ว

“หวัดดีแม็ต รบกวนแต่เช้าเลย”

“ดีครับ โทษที่สภาพเป็นงี้นะพี่ ผมยั้งไม่ตื่นดีเลย ห้าวววว”

“เออ สภาพมึงอุกอุยมาก แต่ทำไมเหงื่อแตกวะ แล้วดู เสื้อมึงเป็นรอยพับอย่างกะเพิ่งหยิบมาใส่เมื่อกี้” ไอ้ตาดีน้ำมันช่างสังเกตตลอด เขี่ยๆ รอบยับบนเสื้อผมอย่างรู้ทัน

“เออ กูเพิ่งใส่ กูนอนไม่ใส่เสื้อ ใส่แต่งกางเกง”

“หราาาาา” เหรอของมึงแรดมาก “มะนาวอ่ะ” ยังดีที่มันรู้งานเปลี่ยนเรื่อง เพราะเปลี่ยนเรื่องได้ตรงประเด็นจับผิดกูมากเลยมึง

“ล้างหน้าอยู่ในห้องน้ำ” ผมได้ยินเสียงน้ำก็ว่าตามไปส่งๆ

“เหรอวะ” ไอ้เลวน้ำส่งสายตารู้ทันมา แม่งย่นคอยิ้มเจ้าเล่ห์ด้วย

จะว่าไป จากที่ผมรู้จักมันดี มันเองก็รู้ใจรู้ไส้รู้พุงผม เพราะฉะนั้นหมอนี่แหละที่ทำให้เรื่องระหว่างผมกับมะนาวไม่ได้รู้กันแค่สองคน แต่กลายเป็นรู้กัน 4 คน ไม่ได้บอกอะไรนะ มันรู้ได้ด้วยตัวเองว่าผมผิดปกติ มันสงสัยผมตั้งแต่เปิดเทอมได้ไม่ถึงอาทิตย์ มันถึงได้เอาเจลมาให้โดยทำเป็นลืมไว้ห้องผมนั้นไง จะบมันดีไหมว่าใกล้หมดแล้ว ขอเพิ่ม

ผมเลยยิ้มตอบด้วยท่าทางเดียวกันกับมันก่อนจะยกมือขึ้นจุ๊ๆ ที่ปาก

“สองคนนี้นี่อะไรอีกแล้วเนี่ย”

“ฮ่าๆๆๆ ไม่มีอะไรหรอกเล”

“แล้วมึงอ่ะ มาปลุกกูแต่เช้ามีอะไร”

“ก็มึงแหละ ทั้งมึงทั้งนาวเลย ไม่ตอบไลน์ ไม่รับโทรศัพท์ ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว”

“เหรอ พวกกูเมาเลยหลับยาว” ผมหยิบโทศัพท์ขึ้นดู จริงอย่างที่มันว่า มีทั้งมิสคอล ทั้งข้อความ ของมันด้วย ของเมด้วย 98% เป็นการด่า เหอๆ ระหว่างที่ผมเช็คไลน์ มะนาวก็ออกมาพอดี

“อ้าวน้ำ” มะนาวเช็ดหน้าออกมาจากห้องน้ำเขามองไปรอบๆ ห้อง คงแปลกใจที่คนเต็มห้อง แต่ที่แปลกใจสุดคือคนแปลกหน้าสำหรับมัน พี่ทะเล

ผมคิดอยู่นานแล้วว่าเมื่อไหร่สองคนนี้จะได้มีโอกาสเจอกัน ผมอยากให้เขาเจอกันนะ มะนาวคงแปลกใจ ว่าทำไม มีคนที่หน้าตาและบุคลิกคล้ายตัวเองมากขนาดนี้อยู่ด้วย

“เออ” มะนาวกับพี่ทะเลมองหน้ากัน ผมว่ามะนาวคงตกใจพอควร ส่วนพี่ทะเลนั้นคงพอรู้อยู่แล้วพี่แกยิ้มเป็นมิตรให้ น้ำมันคงเคยให้ดูรูปหรือไม่ก็เล่าให้ฟัง

เรื่องที่สองคนนี้ หน้าตาและรูปร่างเหมือนกันมากขนาดไหน

“เอ่อ... น้ำ แฟนมึงเหรอ”

“เออ ฮ่าๆๆๆ เล นี่ไงมะนาว เอิ่มจะบอกยังไงดี ข้างรหัสแม็ตมัน”

“อื้ม ดูก็รู้”

“มึง นี่พี่ทะเล แก่กว่ามึงเยอะเพราะฉะนั้นกราบงามๆ”

“หวัดดีครับ”

“ย้ำจังนะ แก่เนี่ย” พี่ทะเลไม่ได้จริงจัง แต่คงอดทักไม่ได้ เพราะเจ้าตัวพูดไปยิ้มไป

“เอ้ย โทษครับ หยอกเพื่อนน่ะ ไม่มีอะไรน้าอย่าคิดมากสิครับ” ไอ้สองคนนี้โชว์หวานแกว่งมือกันต่อหน้าผมกันมะนาวอย่างหน้าไม่อาย

“ทีนี้รู้แล้วนะ ว่าทำไมกูกับแม็ตถึงเป็นได้แค่อดีตคู่จิ้นกันมาตั้งห้าหกปี”

“ไมอ่ะ?” มะนาวเหมือนจะไม่รู้จริงจัง

มะนาว ชัดขนาดนี้คุณมึงยังจะถาม เซ่อจริงๆ แต่หัวช้าแบบนี้ผมว่าน่ารักตรงนี้แหละ ฮ่าๆๆ

“เพราะ ไม่ใช่สเปคกันไง แต่สเปคดันเหมือนกัน ฮ่าาๆๆ”

“มึงนี่ปากดี”

“เขาเรียกรู้ใจต่างหากเว้ย เล นั่งๆๆ” สองคนชวนกันนั่งบนเตียงผม “นี่ ที่มาแต่เช้านี่ตกลงไม่อยากรู้แล้ว?” ผมดึงเก้าอี้คอมให้มะนาวนั่ง ตัวเองเดินไปหยิบแปรงสีฟัน ยืนแปรงตรงประตูห้องน้ำ

“จะให้ถามอีกทำไม กูอ่านในไลน์แล้วไงเมื่อกี้”

“เอ่อวะ เล ไอ้แม็ตรู้ทัน” แล้วนั้น มึงจะเอียงหน้าซบมือแฟนมึงทำติ๋งอะไร

เลคงคิดเหมือนผม เพราะผลที่ได้คือมันโดนผลักหน้าออกจนสุดแขนพี่ทะเล ฮ่าๆๆ สมน้ำหน้า

“อะไรเหรอ?” มะนาวเลยเป็นคนที่ยังสงสัยแล้วยังไม่รู้เรื่องอะไร

“ไปดำน้ำกัน”

“ต้องวันนี้เหรอ?” ผมถาม เพราะรู้สึกยังอยากนอนอยู่เลย

“เออ ไปมั้ยล่ะ”

“ไป” มะนาวแย่งตอบไม่รอผมคิดหรือสบตาผมเลย

“ไมอยู่ๆ มาชวน” ผมเลยถามกลับ

“รถเลเข้าศูนย์พอดี กูเลยมาชวนมะนาวผู้มีรถ มึงไม่ไปก็ได้นะ เจ้าของรถโอเคแล้วมึงไม่มีประโยชน์”

ผมหยุดแปรงฟันแล้วมองหน้ามะนาว

เจ้าตัวยิ้มแหยๆ ประมารว่า ก็อยากไปนี่

“ที่ไหน”

“สัตหีบ”

“ออกเดินทางเลยใช่ไหม”

“เออดิวะ ถ้าไม่อยากตกเรือก็รีบเลย ไม่ได้ค้างเอาชุดไปเปลี่ยนชุดเดียวก็พอ”

“อื้ม นาว มาแปรงฟัน”

มะนาวรีบกระโดดมาทำตามอย่างว่าง่าย ระหว่างแปรงฟันยังไปจัดกระเป๋าตัวเองด้วย ผมหยิบชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้น

“เอาเสื้อแขนยาวสิ แดดร้อนนะ” ผมบอกมะนาว

“มึงไม่เห็นเอาไปเลย”

“ไอ้แม็ตมันไม่ต้องใส่หรอก ตากแดดทั้งวันยังไม่ดำเลยมันอ่ะ”

“จริงดิ”

“แต่ไหม้นะ สามสี่วันลอกเป็นแผ่นๆ แล้วก็เหมือนเดิม”

“ไม่เป็นไร พี่เอากันแดดมา บังคับทุกคนต้องทาก่อนลงรถ” ผมว่าเป็นนิสัยของหมอที่จะป้องกันภัยร้ายให้ตัวเองและคนรอบข้าง

“จริงๆจะให้ทาตั้งแต่ตอนนี้เลย แต่ถ้าทาแล้วไปถึงต้องไม่ทากันอีกแน่”

“มีแต่เด็กดื้อใช่ไหม?”

“ไม่ใช่ เพราะพวกเธอมันนิสัยวิดวะ ไม่สนใจดูแลตัวเอง”

“จริง” มะนาวเห็นด้วย ผมกับน้ำได้แต่หัวเราะ



เราพร้อมเดินทางใน15นาที เอาจริงๆนะ ผมยังงงๆอยู่เลยด้วยซ้ำ

“ไปทางไหน”

“ไม่รู้”

“อ้าว” ไอ้เชี่ยน้ำ

“กูคนหัวหิน ไม่ใช่คนชลบุรีนี่หว่า”

“ก็ให้คนอื่นตอบสิวะ”

“Google map สิ จะไปยากอะไร” มะนาวยกมือถือผมขึ้นมาจิ้มๆเข้าแผนที่ เพราะเนตเครื่องเขาตัดความเร็วแล้วแต่ของผมเพิ่งขึ้นรอบบิลใหม่

“เออเว้ย มันรู้รหัสมือถือมึงจริงด้วย”

“วันเกิดน้องกู ยากตรงไหน”

“ยากนะเว้ย ไงกูก็จำไม่ได้ ต้องเปิดเฟส”



ทริบงงๆ จึงเริ่มขึ้นในเช้าวันอาทิตย์ที่ท้องฟ้าแจ่มใส สดใสจนไม่ทันเผื่อใจว่าถ้าแสงแดดหายไป อะไรจะเข้ามาแทนที่


----------------------------------
TBC.


ตอนตั้งชื่อตอนที่แล้ว บอกตรงๆไม่ได้คิดลึกซึ้ง แต่ก็ถูกอย่างที่คุณ Pumpkin แปลนะคะ ความหมายนั้นแหละ 5555

มาถึงตรงนี้ บทไม่ได้ถูกดัดแปลงเอาใจใครทั้งสิ้น แค่ความจริงปรากฏเร็วกว่ากำหนดนิดหน่อย ฮ่าๆๆๆ (ทนแรงกดดันมิไหว)
เมมเบอว่าพ่อในความหมายของโนอาคือ 'หวงอย่างกะพ่อ!+พ่องงงงงงง' รวมๆกัน 5555+

แยกโพสกัน คงไม่สับสนว่าเปลี่ยนไม้กันตอนไหนเน้อ โพสบนของคุณปู่ยีนส์ โพสล่างกลับมาที่ปัจจุบันของคุณพ่อแม็ต
เปิดตัวพี่ทะเลคุณหมอตัวเล็กใส่แว่น 555 ไม่มีบทเยอะหรอกคะ แค่อยากแนะนำให้รู้จัก 5555


ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ทุกกำลังใจเหมือนเดิมจ้า ติได้เช่นเคย ยินดีปรับเสมอขอให้บอกกัน


ปล.  ใครมีเคล็ดลับปั่นนิยายเร็วช่วยตะโกนบอกหน่อย อยากแบบ คิดปุ้บออกมาเป็นตัวหนังสือ 5555
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 17 เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย] 24/3/59 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 24-03-2016 05:17:09
แปะก่อน
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 17 เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย] 24/3/59 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 24-03-2016 07:54:36
สรุปเมื่อคืนมะนาวจำอะไรไม่ได้เลยใช่มั้ยคะ
แม็ตคะครั้งต่อไปต้องอัดคลิปเลยค่ะ555555555
 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 17 เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย] 24/3/59 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 24-03-2016 07:57:41
ชอบพี่ยีนส์ 555
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 17 เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย] 24/3/59 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 24-03-2016 08:39:35
เอาใจช่วยพี่ยีนส์นะ
โนอาอย่าขวาง ฮ่าๆ
แมตอัดคลิปเลย พลีส
คนเขียนสู้ๆค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 17 เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย] 24/3/59 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 24-03-2016 09:37:18
ชอบคู่พี่ยีนส์กับเมไม่แพ้คู่หลัก
อย่าปล่อยน้องเข้าใจผิดนานนะ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 17 เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย] 24/3/59 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 24-03-2016 16:01:07
เฉลยแล้ว เย้ๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 17 เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย] 24/3/59 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 24-03-2016 19:25:21
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 17 เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย] 24/3/59 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: tuckky ที่ 24-03-2016 19:36:13
ปู่ยีนส์กับน้องเมคือดีงาม
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 17 เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย] 24/3/59 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 24-03-2016 19:49:54
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

นาวทำไมชอบจำไม่ได้นะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 17 เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย] 24/3/59 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Ujeen ที่ 24-03-2016 21:03:47
กี๊สสสสสสสสสส
เพิ่งเข้ามาอ่าน  ชอบแม็ตอ่าาาาา ขอเลยได้มั้ย(โดนมะนาวถีบ)
ความสัมพันธ์ของแม็ตกับมะนาวเป็นอะไรที่อิ่มเอิบมาก ฟินนนนนน
อยากรู้ความเป็นมาของชนะกับปราณ   ฟ้ากับเท ด้วยจังเลย ซัดนิดก็ยังดี นะๆ
รอค่าาาาา
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 17 เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย] 24/3/59 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin ที่ 24-03-2016 21:34:28
ยีนส์เริ่มรุกหนัก 555 ว่า่แต่โนอาชอบเมจริงดิ แล้วไงล่ะทีนี้
พี่น้องชอบคนเดียวกันอ๋อ อื้อหือ  แย่เลยนะนี่

อยากไปทะเลบ้าง.....คิคิคิ จะตามไปส่อง ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 17 เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย] 24/3/59 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 25-03-2016 02:25:13
พี่น้องจะตบตีแย่งเมกันเปล่าเนี่ย
แม็ตเอ้ย น้ำมันรู้ทันแล้ว
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 18 ลมอุ่น] 30/3/59 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 30-03-2016 19:52:08
(http://i1159.photobucket.com/albums/p636/Browny_Tan/bro/loveagain2_zpscs9dbvrb.png)
- บทที่ 18 - ลมอุ่น -


--------------------------------------------------



พูดถึงความเหมือนของพี่ทะเลกับมะนาวนั้น

สองคนนี้สูงเท่ากันเป้ะ แต่พี่ทะเลจะหนากว่านิดหน่อย เพราะเป็นคุณหมอที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพแน่นอนเขาออกกำลังกาย

พี่ทะเลใส่แว่นตามชะตากรรมหมออ่านหนังสือเยอะ ในขณะที่มะนาวตาดีชนิดที่ว่าสามารถลอกข้อสอบของคนที่นั่งไกลออกไปสองที่นั่งได้สบายๆ (เขาไม่ได้ทำนะ ผมแค่เปรียบเทียบ)

พี่ทะเลเป็นผู้ใหญ่มาก ในขณะที่มะนาวเป็นผู้ใหญ่ แค่บางเรื่องเท่านั้น...

พี่ทะเลมีเหตุผล ส่วนมะนาวก็มีเหตุผล แต่เป็นเหตุผลในมุมแบบของเขา ซึ่ง สำหรับผมผมว่ามันก็น่ารักดี

พี่ทะเลยิ้มง่าย ส่วนมะนาวหัวเราะง่าย

พี่ทะเลขาวซีดแบบคนไม่เจอแดดไม่เจอตะวัน ส่วนมะนาวนั้นผิวผู้ชายทั่วไป

ความละเอียดของผิวใกล้เคียง

ผิวหน้าบาง

ขนอ่อนๆ บนแก้ม

ปลายคางเหมือนกัน

ริมฝีปากบาง ใกล้เคียงกันมากๆ

จมูกรั้น

พี่ทะเลใส่แว่นทำให้ผมรู้สึกว่าเวลามองเขาเหมือนผมกำลังส่องกระจก แต่กับมะนาว นัยน์ตาใสของเขาเปล่งประกายเมื่อมองมาที่ผม

ที่ต่างกันชัดๆ เลย คือความรู้สึกของผมนี่เอง



“สองคนกินอะไรมายัง แวะเซเว่นนะ” ก่อนขึ้นทางด่วน ผมไม่ลืมแวะเซเว่นร้านสะดวกซื้อคู่บ้านคู่เมือง หาเสบียงระหว่างเดินทาง
 
มะนาวได้ขนมมาเยอะมาก เต็มถุงเซเว่นไซซ์ใหญ่ พี่ทะเลมองขนมกรุบกรอบและของหวานบนตักมะนาวด้วยสายตาขยาดกลัว

“มะนาวกินแบบนี้ตลอดเลยเหรอ” ในที่สุดก็เอ่ยปากถามสักที คงอั้นอยู่นานแล้ว

“ไม่หรอกฮะ นานๆ ที”

“อ้อ”

อ้อนี่คือก็แล้วไป สินะ ฮ่าๆๆ ผมเข้าใจพี่เลนะ

“ถ้ามึงตอบว่าครับกินแบบนี้ตลอด ทุกวัน วันละหลายรอบ มึงโดนสวดแน่”

“ฮึ้ย เปล่านะ นานๆ ทีจริงๆ เนอะแม็ตเนอะ”

“ฮ่าๆๆๆ” ผมขยี้หัวมะนาวแล้วออกรถต่อ

แต่เสียงเย็นๆ ที่ดับเสียงหัวเราะน้ำนิ่งก็ดังขึ้น

“อยากกินแบบนั้นเหรอ?”

“เปล่า”

“...” สายตาจับผิด

“เปล่าเลย แค่แซวมะนาวเล่นเฉยๆ มาๆ น้ำกินนี่ไง โยเกิร์ตสูตรน้ำตาลน้อย กับกล้วยหอม แล้วก็ไข่ต้ม อิ่มถึงบ่ายยยย”

“อยากกินอะไรก็ได้นะ กินเลย แต่ถ้าตายเร็วเลหาแฟนใหม่แน่ ไม่ ต้อง ห่วง”

พี่ทะเลเน้นเสียงหนักแน่นที่ประโยคท้าย น้ำนิ่งส่ายหน้า แบบ ไม่ต้องหาใหม่ ไม่กินผมไม่กิน

แต่คนข้างตัวผมสิ ถุงมันฝรั่งทอดกรอบที่กำลังแกะตกตุ้บเลย

“กินๆไปเถอะมะนาว ฮ่าๆๆ ไอ้น้ำมันโดนคุมอาหารเพราะบ้านมันเป็นเบาหวานทั้งบ้าน แถมเมื่อก่อนยังติดหวานจนน่าเป็นห่วง”

“เฮ้ย มะนาว พี่ไม่ได้ว่าเรานะ มะนาวกินได้ๆ”

“ระ เหรอครับ ผมกินได้แน่นะ”


อ้อ ที่ต่างกันชัดๆ อีกอย่าง รังสีความเป็นนางพญาของพี่ทะเลแก่กล้ามาก ผมไม่ใช่คนถูกจู่โจมยังรับรู้ได้ถึงพลังงานบางอย่าง




เพราะเพิ่งตื่นก็เลยไม่มีใครหลับ การเดินทางเต็มไปด้วย... การประชันกันของน้ำกับมะนาว

"เล ป้อนหน่อย"

“มือก็มี จะให้ป้อนทำไม”

“มันมีความตาร้อนอยู่ในน้ำเสียง เลไม่เห็นเหรอ” อันนี้น้ำพูดเองนะครับ ผมกับมะนาวแค่นั่งหัวเราะกันอยู่ข้างหน้า

“ปัญญาอ่อน”

“เลชอบคนปัญญาอ่อนแบบนี้แหละ ไม่เครียด ใช่มะล่า นะๆๆๆ ป้อนๆๆ”

“ไม่ ฮ่าๆๆๆ ไม่เอา กินเองสิโตแล้ว”

“เลแกล้ง”

“ใช่ ไม่โกรธอยู่แล้วนี่” เพื่อนผมยิ้มจนสาวออก

“มึงอยากให้พี่เลป้อนมากๆ ก็มาขับรถ” ผมบอก หันไปบอกมะนาวว่าพร้อมกินเบอเก้อร์คำต่อไปแล้ว มะนาวยื่นให้ต่อหน้าต่อตาไอ้น้ำ

“อยากตายรึไงจะให้กูขับเนี่ย”

“น่ากลัว ฮ่าๆๆๆ” มะนาวหัวเราะร่วน ตั้งแต่ขึ้นรถมานะ มะนาวอารมณ์ดีมาก

ผมมองเขา สลับกับมองถนน ถ้ารู้ว่าพามาเที่ยวแล้วจะอารมณ์ดีขนาดนี้ ต่อไปคงต้องหาเวลาแล้วล่ะ


น้ำยกโทรศัพท์ที่ส่งเสียงขึ้นดู ผมหุบยิ้มทันที

“เมโทรมาวะ” เฮ้ย!

อย่ารับ!

คิดว่าทันไหมครับ? แน่นอนว่าไม่

“ฮัลโหล ว่าไงสุดหล่อ” ผมทำหน้าหวาดเสียวสุดขีดหรี่ตามองถนน เพราะรู้ว่าเมโทรมาทำไม

“มีอะไรเหรอ?” มะนาวผู้ไม่เคยรู้เรื่องอะไรหันมาถามผมงงๆ

“แม็ตขับรถอยู่ ช่าย ไปสัตหีบ เออๆ เดี๋ยวเปิดสปีคเกอร์โฟนแป็ป” น้ำดึงโทรศัพท์ออกจากหู กดเปิดลำโพงแล้วยื่นมากลางรถ

// ไอ้เหี้ยแม็ต วันนี้นี้มึงก็ไม่มา แล้วดู ทิ้งกูไว้กันตัวอะไร //

“พี่กูออกจะใจดีนะ” ผมเลือกตอบเบาๆ ไม่ร้อนสู้มัน

// ห่า กวนตีนกูชิบหาย ถ้าไม่เกรงใจว่าเป็นพี่แก่ใกล้จะตายเองอยู่รอมร่อมีเจอดีแน่ มึงจงใจหลอกกูมาซุ้มทีมเชียร์ทำไมวะ //

“เอ่อ กูเปล่านะเว้ย”

“แม็ตทำอะไรวะเม” มะนาวถามขึ้น

// มันให้กูไปเอาเค้กที่ซุ้มทีมเชียร์ จงใจให้พี่มันกวนตีนกู //

“อ้าว มึงเหี้ยมากแม็ต”

“ฮ่าๆๆๆๆ พี่ยีนส์ต้องชอบมึงแน่เลยเม” น้ำหัวเราะชอบใจ นั้นคือคำสุดท้ายที่เราโต้ตอบมันทันก่อนจะโดนเมด่ากันถ้วนหน้า ยกเว้นมะนาวที่รอด กว่าจะวางสายไปอย่างกับพายุผมนี่หูชาไปข้างนึง


“สรุปมึงหลอกเมไปซุ้มทีมเชียร์ทำไมวะ?” น้ำถามไปหัวเราะไป

“เมมันรู้ได้ไงว่ากูอยู่กับมึง”

“กูเช็คอินว่ากำลังออกเที่ยวไง มึงตอบกูด็วย”

“เหี้ย แท็กกูทำไมวะ คือเมื่อวานกูจะกลับก่อน เลยไปบอกพี่กูให้เขาช่วย พี่กูรู้ว่าเมมาแต่อยู่ซุ้มอื่นไม่เข้าซุ้มเขา เขาเลยให้กูพาเมมาแลกกับเช็คชื่อให้”

“แล้วทำไมมึงต้องกลับก่อน ปกติมึงอะไรก็ได้ อยู่เล่นเกมไปได้เรื่อยๆ นี่นา”

“กูอยู่ได้ แต่ข้างรหัสกูแม่ง ไปสรรหามาจากไหนไม่รู้ มอมตัวเองหลับกลิ้งอยู่ข้างไอ้ดุ๊กดิ้ก กูสงสารเลยจะพากลับไปนอนห้องดีๆ”

“อ้อ เข้าใจและ ข้างรหัสมึงนี่ดีเนอะ เมื่อกี้ยังช่วยไอ้เมด่ามึงอีก ทั้งที่มันเป็นสาเหตุ ไงมึงสำนึกใจบาปของตัวเองยัง”

“ครับ ขอโทษครับ มะนาวผิดไปแล้ว” มะนาวฟุบหน้ากับคอนโซนรถ ทำท่าสะอึกสะอื้นสำนึกผิด

ผมหัวเราะแบบไม่ได้คิดมากอะไร ปัดๆ หัวเขาสองทีเป็นเชิงว่าอย่าไปคิดมาก

“เพื่อนกูพลีชีพเพื่อมึงเลยนะเนี่ย กูว่ากลับไปไอ้เมรอฆ่ามันอยู่”

“กูก็ว่างั้น งั้นกูจะอยู่ใกล้ๆ พี่ยีนส์ดีมะ มันจะได้ไม่กล้าเข้าใกล้”

“นี่ๆ เมกับพี่ของแม็ตทำไมเหรอ?”

อีกอย่างครับ ที่มะนาวเหมือนพี่ทะเล คือความอยากรู้อยากเห็นแบบน่ารักๆ




เรามาถึงท่าเรือสายๆ พี่ทะเลบอกว่าให้พวกเรารอในรถ เขาลงไปจัดการเรื่องตั๋ว ก่อนลงรถก็ไม่ลืมโยนกันแดดมาให้เราทากับระหว่ารอ

ที่ผมรู้มาคือไม่ใช่ว่ามาถึงแล้วจะได้ตั๋วขึ้นเรือเสมอไป เพราะค่อนข้างจำกัดคนต่อวันต่อรอบ แต่พวกนี้คงจองไว้แล้วล่ะมั้ง

“พี่ทะเลโทรจองไว้เหรอพี่” พี่ทะเลกลับขึ้นมาบนรถพร้อมตั๋วขึ้นเรือสี่ใบ

“เปล่า ให้แฟนเก่าที่ทำงานอยู่นี่จองให้น่ะ”

“เฮ่ แบบนี้ผมต้องคิดมากไหม?”

“ไม่ต้องคิดเลย มันมีแฟนจะแต่งงานอยู่ปีหน้าแล้วเนี่ย”

“แน่นะ”

“แน่ เพื่อนกัน” หลังจากนั่นเขาก็จับมือกันอยู่เบาะหลัง ไม่ได้พูดอะไร นั่งพิงไหล่กันเงียบๆ

เออเนอะ สองคนนี้คุยกันรู้เรื่องง่ายดีจริงๆ

ถึงน้ำมันจะอายุแค่ 18 ตอนคบกับพี่เลเพิ่ง 17 ด้วยซ้ำ มันต้องเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะเพื่อจะโตให้ทันพี่เลที่อายุห่างกันตั้ง 6 ปี



.................................




บนเรือ พี่ทะเลกับน้ำ โพสท่าถ่ายรูปกันสุดฤทธิ์ แต่คนที่ผมกะว่าร่าเริงแน่ๆ กลับนั่งหน้าเขียวไม่พูดไม่จา

“เมาเรือเหรอ”

“ไม่รู้ดิ แต่ปกติไม่เคยเป็นไรนะ”

“แป็ปเดียวก็ถึงแล้ว มะนาวสู้ๆ” พี่ทะเลให้กำลังใจครับ แล้วก็ไปเซลฟี่ให้ติดผมกับมะนาวข้างหลังเขา

“หมอเขาว่างั้นอ่ะ อดทนอีกแป็ปนะ หายใจเข้าลึกๆ มองไปไกลๆ เกาะอยู่แค่นี้เอง แป็ปเดียวก็ถึง”

มะนาวทำตาม ผมเดาว่าคงเพราะฤทธิ์จากเหล้าต้ม เมื่อวาน...

จะสงสารดีหรืออะไรดี



มาถึงเกาะแสมสาร เรามานั่งฟังบรรยายเป็นช่วงเวลาที่มะนาวนั่งพัก สักพักก็ดีขึ้น กลับมาร่าเริงนำพวกเราปีนขึ้นรถเพื่อนั่งไปหาดอีกหาด

มาถึงหาดที่ชื่อหาดลูกลม ทุกคนก็แยกย้ายกันไปถ่ายรูป มะนาวเรียกผมถ่ายรูปได้แค่สองรูป ก็วิ่งไปหามุมของตัวเอง ผมยืนมองน้ำทะเล ฟังเสียงคลื่น รู้สึกผ่อนคลาย ทั้งที่ยังเหนื่อยจากอะไรๆ แต่ก็รู้สึกเหมือนได้พักผ่อนชาร์จแบตให้ตัวเอง ผมนั่งลงบนพื้นทรายแห้งๆ ดูมะนาวถ่ายรูปเท้า รูปหิน รูปคลื่นซัดโขดหินไปตามเรื่อง ผมนั่งเขี่ยทรายอยู่ไม่ไกล กำลังโพสรูปในกรุ๊ปแฟมิลี่อยู่ดีๆ มะนาวก็เรียกผมเสียงอ่อนๆ

“แม็ต แม็ต” ผมหันไป

เฮ้ย!

เลือด!
มะนาวถือมือถืออยู่ในมือ ดึงขากางเกงขวาขึ้น เข่าเขามีรอยเลือดเป็นวง มีจุดเล็กรอบๆ แผลใหญ่ตรงกลางเริ่มมีเลือดไหลหยดเป็นทาง มือซ้ายหงายขึ้น   อุ้งมือมีรอยถลอด เลือดเริ่มซึมแดงออกมาให้เห็น

ผมเดินข้าไปหาเขา จับมือเขามาดู ก้มลงดูที่เข่า งงว่าเกิดอะไรขึ้น

“ลื่นตกหิน ฮ่าๆ”

“ยังจะหัวเราะอีก ไม่เจ็บเหรอ”

“ไม่อ่ะ ตอนนี้ยังงงอยู่ เริ่มชาๆ นะ”

“ไปที่ร่มกัน เดินไหวไหม”

“ไหว”

ถึงเขาบอกไหว แต่ผมก็ยังเข้าพยุงพาเดินมาจนถึงเต็นท์ของเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่เห็นเราสองคนแต่ไกลแล้วครับ เขายืนรออยู่เพราะเห็นว่าอาการไม่ได้สาหัสอะไร ผมพามะนาวมานั่งลงเก้าอี้ว่างๆ

“โอ้ เรานี่แจ็คพ็อตนี่นา” พี่ทหารแซวครับ ก่อนจะเดินไปหยิบชุดปฐมพยาบาลมาแล้วทำท่าจะทำแผลให้ พร้อมๆ กับพี่เลกับน้ำเดินตามเข้ามา

“พี่ๆ เดี๋ยวผมทำเองก็ได้ครับ พี่ต้องทำงานอีกทั้งวันคงเหนื่อยอีกเยอะเลย มาผมช่วย”

“เหรอ เอางั้นเหรอ” พี่ทหารพูดเหมือนจะลังเล แต่กลับยื่นอุปกรณ์ให้ทันที

“ครับ” พี่ทะเลตอบอย่างแข็งขัน ก็น่าจะบอกพี่ทหารเขาไปว่าตัวเองเป็นหมอ

“นาว มึง กูมีอะไรจะบอก”

“อะไร?”

“พี่ทะเลเป็นหมอที่มือหนักเหี้ยๆ”

มะนาวทำตาโต

“อยากได้สักแผลใช่ไหมพูดแบบนี้”

“ฮ่าๆๆ เปล่าจ้า”

พี่ทะเลจัดการราดน้ำเกลือล้างแผลอย่างชำนาญ เอาก้อนสำลีเช็ดๆ ดูปากแผลทั้งที่มือและที่เข่า บ่นพึมพำว่าไม่มีอะไรติด ใส่ยานิดหน่อย แล้วก็บอก

“เสร็จล่ะ ไปดำน้ำได้”

“หา” อันนี้เสียงผมครับ

“ได้ใช่ไหมพี่เล อุส่ามาผมไม่อยากพลาดดำน้ำ”

“ได้ดิ แผลแค่นี้เอง คนสมัยก่อนแขนขาขาดยังไม่ตายนับประสาอะไรกับแผลแค่นี้ น้ำทะเลแถวนี้ก็สะอาดไม่น่าห่วงหรอก เล่นได้”

“เย่”

“แต่จะดำก็รีบดำนะ สักพักมันคงอักเสบ จะเริ่มปวด ขึ้นมาค่อยทำแผลอีกรอบ”

“ไปๆๆ” มะนาวคว้าอุปกรณ์ดำน้ำตื้น กับชูชีพขึ้นใส่ กวักมือเรียกผมให้แต่งตัว

“จะลงน้ำจริงเหรอ?”

“ลงดิ อยากดูปะการังนะ อุส่ามาถึงที่ ไม่ได้จะมาง่ายๆนะเว้ย”

“แต่”

“ไม่ต้องคิดมากหรอก หมอบอกได้ก็ได้ดิ้ เนอะ”

“...” ผมไม่พูดอะไร มองแผลมะนาวที่ยังสดใหม่ด้วยความเป็นห่วง

“แต่ถ้ามึงไม่อยากให้ลงน้ำ กูไม่ลงก็ได้นะ แต่... คราวหน้าแผลหายจะให้พามาใหม่ ฮ่าๆๆ มาหลายๆรอบเลยดีมะ”

มะนาวพูดอย่างพยายามร่าเริง ทั้งที่จริงๆ เขาอยากลงน้ำมาก และคงเสียใจมาก ถ้าไม่ได้ดำน้ำ

“เล่นเถอะ แต่ระวังไปโดนอะไรเข้าอีกนะ”

“จ้า”

คงชาติหน้าตอนบ่ายๆ โน้น ผมถึงจะขัดใจเขาได้ ไอ้แม็ตเอ้ย


พวกเราขึ้นเรือยางออกมาดำน้ำตื่นกันกลางทะเล มะนาวรีบร้อนลงทะเลคนแรกคงกลัวผมเปลี่ยนใจไม่ให้ลง เขาลอยน้ำเบาๆไม่ค่อยขยับไปไหน ไม่รู้เจ็บขา หรือเป็นเทคนิคให้ปลาเข้าใกล้

แต่สักพักมะนาวก็ขึ้นไปรอบนเรือ คงเหนื่อยแล้ว ผมรู้สึกโอเคกว่าที่เห็นเข้ารอบนเรือ อย่างน้อยก็ไม่ต้องแช่น้ำนานๆ แต่หางตาผมเริ่มกระตุก ผมหันไปที่ที่มะนาวที่นั่งอยู่บนเรือกับเจ้าหน้าที่ สองคน...

สองคน!

แถมยังคุยกันดูสนุกสนาน ทหารคนนั้นก้มลงจับขามะนาว ก้มดูแผล แล้วหยิบขวดน้ำดื่มล้างแผลให้มะนาว

เออ มึงทำดี กูจะไม่ถือแล้วกัน

“เลดูดิ”

“อะไร”

“ปลาหน้าดำหน้าแดงจะระเบิดอยู่แล้ว ฮ่าๆๆๆ” ไอ้น้ำแซวผมจากอีกมุม

กูได้ยินโว้ย

ผมพยายามไม่สนใจ ไม่คิดมาก ดำน้ำต่อ แต่ก็ได้ไม่นานผมเบื่อเกินกว่าจะดูปลาชมปะการังต่อ ผมขึ้นจากน้ำมานั่งบนเรือรอให้หมดรอบ

“ไมรีบขึ้นวะ เสียดาย”

“เดี๋ยวมึงเหงา คราวหน้าค่อยพามาใหม่”

“กูถือว่ามึงสัญญาแล้วนะ ฮ่าๆๆ” คงบังเอิญล่ะมั้ง ที่ผมสบตากับทหารหนุ่มคนนั้นพอดี

ผมยังจำได้นะ ที่มะนาวบอกไว้ ว่าพวกผู้ชายชอบเดินตามเขามา ผมดูเขามาตลอดทำไมจะไม่รู้ ว่ามันจริง!

“เริ่มเจ็บแผลรึยัง” ผมลงนั่งชันเข่าข้างหนึ่งข้างหน้ามะนาว เอียงแผลดู จับขาเขาเบามือกลัวกระทบกระเทือน

“นิดหน่อย พอแล้ว ดูอะไรนักหนา แผลแค่นี้เอง แค่ถลอกไม่ได้ขาขาด”

ผมเลยลุกขึ้นลอยหน้าลอยตามานั่งข้างเขาแบบติดมากๆ

ให้มันรู้ไปสิ ว่าจะยังมีใครกล้ามายุ่งกับมะนาวอีก!


…………………


“เฮ้ย นาวนี่หว่า”

“อ้าว ไอ้พี่ซัน”

“เรียกกูดีๆ ไม่เคยได้ เป็นไงมาไมมึง แล้วไปโดนอะไรมา ซุ่มซ่ามอีกอ่ะดิมึง”

ขึ้นจากน้ำ ระหว่างรออาบน้ำจืด มีคนเดินเข้ามาทักมะนาวคงมากับเรือรอบหลังจากเรา เขามากันเป็นกลุ่มหญิงหนึ่งชายสอง คนที่ชื่อซันเป็นผู้ชายตัวสูงผอม ผมยาวมัดจุกไว้ตรงท้ายทอย ใส่หมวกใส่แว่นกันแดด ไม่ใส่นาฬิกาแต่มีกำไล ใส่แหวน สะพายกระเป๋ากล้อง เจาะหูข้างขวาข้างเดียวสามรู เสื้อกล้ามกางเกงขาสั้น ดูชิลๆ

จริงๆ ก็ดูชิลทั้งสามคน

“เออ ผมมันซุ่มซ่ามเอง มากับเพื่อนพี่ นี่แม็ต ข้างรหัสผมที่คณะ กับน้ำเพื่อนผม พี่ทะเล พี่น้ำมัน”

“เฮ้ย ถ้ากูไม่รู้จักพี่มะม่วงกับไอ้ยมกูจะคิดว่านี่พี่แท้ๆ ของมึงเลยนะเนี่ย”

“ไอ้พี่ซัน อย่าลาม พี่เลแก่กว่าพี่อีก”

“เฮ้ยจริงดิ้ หวัดดีพี่ พี่หน้าโคตรเด็ก”

“เขาสายดูแลสุขภาพ”

“เดี๋ยว มึงมีพี่สองคน ชื่อมะม่วงกับมะยมเหรอ” น้ำถามเสียงใส

“เออ กูคนเล็ก ถึงเอาแต่ใจไง” น้ำฟังแล้วอ้าปากค้าง ส่วนผมนั้น รู้อยู่แล้วว่ามะนาวมีพี่น้องกี่คน และรู้ว่าเขาเป็นน้องคนสุดท้อง

“กูเพิ่งเคยเห็นคนยอมรับว่าตัวเองเอาแต่ใจเนี่ยแหละ”

มะนาวยักไหล่หันไปแนะนำพี่ซันให้เรารู้จัก “นี่พี่ซัน เพื่อนพี่กูครับ”

“หวัดดี นี่โซ่ กับชะเอมเพื่อนพี่”

ทักทายกันพอเป็นพิธีพี่เลกับไอ้น้ำก็หายไปทางห้องอาบน้ำ

“มึง ขอน้องเขาถ่ายรูปได้ป่ะ?” ชะเอมหญิงหนึ่งเดียวในกลุ่มทำท่ากระซิบกระซาบแต่ได้ยินไปทั่ว

“เออ กูว่าคอนเซปได้อยู่นะ”

“ไหนบอกแค่เซอร์เวย์ไม่ถ่ายคนไง” พี่ซันออกความเห็น

“ก็ไหนๆ ก็มาแล้วอ่ะ  มึงคิดดูถ้าได้โลเคชั่นนี้ หุ่นงี้ กูว่ากูจบแน่ นี่เลยชิ้นโบว์แดง”

“โบว์แดงเลยเหรอ โบราณมากมึง” เขาหันไปคุยกันสามคน พวกผมยืนตัวเปียกมองหน้ากัน รู้สึกงานจะเข้ายังไงไม่รู้ ด้วยอะไรๆ รู้สึกว่าที่เขากำลังคุยกันมันหมายถึงพวกผม

“เอาจริงเหรอ ไม่ได้เตรียมพร๊อพสำหรับคนมานะเว้ย”

“ลองดูเสียหายอะไร กล้องมึงถ่ายได้ 34 รูปรึไง ถ่ายๆ ไปเถอะ”

“เออ มะนาว รีบกลับรึเปล่า” ประชุมกันเสร็จ ในที่สุดพี่ซันก็เป็นตัวแทนมาเจรจา

“ไม่พี่ มีอะไรก็ว่ามา” มันนั่งกระดิกขาที่เจ็บรอแบบโคตรกวนตีน ดูท่าจะสนิทสนมกันมากจริงๆ

“พี่มาเซอร์เวย์ฉากถ่ายหนังจบกันอยู่ เรากับเพื่อนมาเป็นนายแบบให้หน่อย อ้าว อีกสองคนหายไปไหน”

“ได้ตังป่ะ?”

“ถ้าผ่านมึงได้แน่ เพราะอาจจะต้องมาเล่นด้วยเลย ฮ่าๆๆ เอาน่า ถือว่าช่วยๆ กัน กล้องพวกกูแพงนะเว้ย ถ่ายไงมึงก็หล่อ”

“พี่จะให้คนไหนถ่ายบ้างอ่ะ ผมบังคับเพื่อนไม่ได้หรอกนะ ต้องลองถามทีละคน”

“หมดเลยสี่คน รูปที่ใช้จริงๆเป็นแบบหันหลัง ไม่ค่อยเห็นหน้าหรอก ถ้าจะถ่ายข้างหน้าเก็บไว้เทียบนิดหน่อยเอง ขั้นแรกยังไม่โปรโมทมึงไม่ต้องกลัวแค่พรีเซ็นคอนเซปกับอาจารย์ เอาน่า ช่วยพวกพี่หน่อย”

“เหรอ อื้มมม”

มะนาวมองหน้าผม

“เอาไงดีล่ะ?”



…………………………………



เราออกจากเกาะกันในตอนบ่าย แวะหาร้านอาหารทะเลแถวบางแสน กว่าจะกลับมาถึงห้องก็เกือบสามทุ่ม มะนาวถึงห้องก็ทิ้งตัวลงนอนกางแขนบนเตียง ส่วนขานั้น เจ็บ ฮ่าๆๆๆ

“ไปอาบน้ำ จะได้มาทำแผลอีกรอบก่อนนอน”

“ไม่ต้องทำหรอก พรุ่งนี้ค่อยทำ อันนี้หมอตัวจริงทำให้เลยนะเว้ย สะอาดปลอดภัยไม่ต้องกังวน”

“กังวนสิ”

“พอแล้วมึง มึงจะได้ไม่ต้องเหนื่อยไง”

“ไม่ได้เหนื่อยอะไรเลย แค่ทำแผล”

“ไม่ใช่เรื่องนั้น แต่ทุกเรื่อง”

“...”

“มึงทำเพื่อกูเยอะมากเลย ขอบคุณนะ”

“ไม่ต้องขอบคุณ เปลี่ยนเป็นทำตัวน่ารักๆ เหมือนเดิมก็พอ”

“อย่าใช้คำว่าน่ารักนะเว้ย!”

“อ้าว ทำไม?”

“ผู้ชายที่ไหนเขาจะชอบให้คนอื่นมาชมน่ารักวะ”

“ฮ่าๆๆๆ มึงนี่ น่ารักจริงๆ”

“แง้งๆๆๆๆ”

“ฮ่าๆๆๆ”


หลังจากนั้นมะนาวก็คอยแต่ไล่ผม ไม่ให้คอยมองตามเขาตลอดเวลา

ทำได้ที่ไหนล่ะ?


“มีซ้อมทุกวันเลยเหรอ”

“ไม่ซ้อมอย่างเดียว มีแข่งวันพุธนี้แล้วเนี่ย”

“อ้าว จริงดิ”

“อันนี้เป็นกีฬาเฟรสชี่เดี๋ยวหลังมิทเทอมมีกีฬามหาลัย ไปแข่งกับคณะอื่นๆ อีก แต่ต้องคัดตัวรวมกับปีสองปีสาม”

“งั้นวันนี้ กูไปดูนะ จบเชียร์แล้วโคตรว่า แค่คิดว่าตอนเย็นไม่มีอะไรทำก็เบื่อล่ะเนี่ย”

“อยู่ห้องอ่านหนังสือไม่ดีกว่าเหรอ” ผมเลิกป้ายความผิดให้แผลเขาเดี๋ยวจะหาว่าผมขี่บ่นเป็นตาแก่อีก

“ไปอ่านโน้นก็ได้” มะนาวป้องปากกระซิบ “กูจะไปสืบเรื่องพี่ปราณกับพี่ชนะ”

ก็นั้นแหละ ที่ผมห่วง มะนาวบอกว่าพี่ชนะกับพี่ปราณ เป็นแฟนกันแล้ว จากหลักฐานแค่ว่าเขาเดินตามไปขึ้นรถในวันนั้น จริงอยู่ที่พี่ปราณไม่มาป้วนเปี้ยนใกล้ๆ มะนาวอีก ไม่มานั่งเฝ้าที่โรงอาหาร ไม่คอยเดินตาม หรือดักรอหน้าตึกเวลาเลิกเรียน แต่ใครจะรู้ว่าตกลงเขาคบกันจริงไหม

“นะ”

อ้อนไม่ต้องมาก แค่ ‘นะ’  คำเดียวผมก็ยอมอีกแล้ว



........................


“ไง ทำไมมาทีไรเจอน้องนาวทุกที”

“อ้าวพี่ชนะ หวัดดีพี่”

“พี่ชนะหวัดดีครับ” ผมกับมะนาวยกมือขึ้นไหว้พี่ชนะตามธรรมเนียม

ตอนนี้เป็นช่วงพัก ผมวิ่งวอร์มจนเหงื่อโทรม ส่วนใหญ่ผมถูกเมไล่เตะ เลยสะบักสะบอมกว่าปกติ

พี่ชนะยังอยู่ในชุดทำงาน แขนเสื้อพับขึ้นเกือบถึงศอกเนคไทปลดหลวมๆ กับปลดกระดุมเสื้อเม็ดบนท่าทางสบายๆ เขามานั่งที่ว่างๆ ข้างมะนาว

“แนะ มาหาแฟนอีกแล้วเหรอพี่”

“เออ เดี๋ยวมันเห็นต้องบ่นอีกแน่”

“บ่นไรอ่ะ”

“มันไม่อยากให้พี่มาดู หรือ มาหา” คนพูดมีท่าทีสงสัยในคำตอบตัวเอง

“อ้าว ทำไมอ่ะ มีแฟนมาให้กำลังใจดีจะตาย”

“ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน อายมั้งที่แฟนเป็นผู้ชายตัวดำแถมมีหนวด หึหึ” ผมไม่คิดว่าพี่ชนะคนที่ผมเคยเจอ จะดูอ่อนล้าหมดแรงได้ขนาดนี้ มะนาวเคยบ่นว่าปกติเขาเป็นคนดุ จริงจังกับน้องๆ พูดเสียงดัง และเข้มงวดมากด้วย “นานมากแล้วนะที่พี่ไม่มีแฟน การแคร์ใครสักคนนี่มันทำให้เราวุ้นวายเป็นสาวน้อยได้แม้จะแก่แล้วก็เถอะ”

“ทำไมเหรอพี่”

“เขาเหมือน ยังไม่ลืมคนรักเก่า...” เขาเหม่อมองไปที่พี่ปราณ ที่เห็นพี่ชนะแล้วเช่นกัน แต่ทั้งคู่ไม่ได้ส่งเสียงหรือมีท่าทีทักทายกัน เหมือนคนไม่รู้จักที่แค่บังเอิญสบตา

ข้างหลังพี่ชนะ ผมกับมะนาวลอบสบตากัน ผมรีบพิมพ์ข้อความใส่มือถือแล้วยัดใส่มือให้เขาอ่าน ‘อย่าบอกพี่เขาเชียวนะว่าคือใคร’
มะนาวเงยขึ้นถามด้วยสายตา

‘ทำไมวะ?’

ผมได้แต่สายหัว แล้วขอตัวลงไปซ้อมบาสต่อ

ลงมาข้างล่าง พี่ปราณนั่งอยู่ที่เก้าอี้ยาว พิมพ์ไลน์แล้วเงยขึ้นมองพี่ชนะกับมะนาวด้วยสายตาแบบ ไม่พอใจ

แล้วเขาจะไม่พอใจอะไรกันล่ะเนี่ย หึงที่แฟนตัวเองคุยกับคนอื่น หรือหึงคนอื่นมาคุยกับมะนาว จากการกระทำที่ผ่านๆมาของไอ้พี่ปราณ ผมเดาไม่ออกเลย ว่ามันจะรู้สึกยังไงกันแน่

เท่าที่ดูเขาชอบมะนาว มากไม่มากไม่รู้ แต่ระยะเวลายาวนานมากแล้ว แล้วผมก็ไม่รู้ว่ามันเป็นอดีตสำหรับเขา หรือมันยังคงดำเนินมาถึงปัจจุบัน แม้จะมีคนออกตัวบอกว่าเขาเป็นแฟนกัน แต่ความรู้สึกคนมันเปลี่ยนแปลงกันได้ง่ายๆ เหรอ ลบทิ้งแล้วตั้งโปรแกรมใหม่ได้ทันทีเหรอ? ผมเชื่อว่าไม่มีใครนับ 1 2 3 แล้วเลิกรักใครได้ทันที

ผมซ้อมแบบไม่ค่อยมีสมาธิ รู้สึกความอยากรู้อยากเห็นแบบของพงศ์เข้ามาสิงสู่ คอยเหลือบตามอง คอยสังเกตพฤติกรรมของทั้งสามคนทุกครั้งที่มีโอกาส ไม่นานพี่ปราณก็เดินออกไปจากโรงยิม พี่ชนะตามออกไปแบบไม่ได้กระชั้นชิดจนคนอื่นผิดสังเกตุ

แต่ผมสังเกตุ! ผมรู้ผมเห็น

มะนาวซะอีก นั่งตัวสั่นขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน คงอยากแอบตามไปแต่กลัวโดนจับได้


เวลาผ่านไปจนผมเผลอลืมไป พี่ปราณกลับเข้ามานานแล้ว แต่พี่ชนะไม่ สักพักมะนาวเดินลงมาข้างสนามเรียกผม

“อะไร?”

“พี่ชนะให้ไปนั่งเป็นเพื่อน เอามือถือกับกุญแจรถไป ซ้อมเสร็จก็โทรมา” มะนาวพูดเสียงเบาแทบกระซิบ เพราะกลัวคนอื่นได้ยิน คนอื่นที่ว่าคงไม่พ้นพี่ปราณ


“อื้ม ดูแลตัวเองด้วยนะ”


“จ้าพ่อ ไปแล้ว กูอยากรู้ ฮ่าๆๆ”




--------------------------------------------------
TBC.



ใครใจตรงกับมะนาว ยกมือค่า   :a1: :a1:
ยอมรับว่าคิดชื่อตอนตอนนี้ไม่ออก ใครมีชื่ออื่นเสนอมั้ยคะ 555+
ตอนหน้าเป็นตอนแยก by ชนะ ผู้พ่ายในเกมรัก
55555 โอเค ได้ชื่อตอนตอนหน้าล่ะ

โปรดอย่าเบื่อที่พ่อแม็ตยังคงเหมือนเดิม มะนาวก็เรื่อยๆเหมือนเดิม แต่คู่อื่นล้ำหน้าไปมาก ฮ่าๆๆ
แหมมมมม ความรักของคู่ใครคู่มันจะเอาอย่างเลียนแบบกันมิได้ เน้อ



เพจที่นานๆแปะที >>  https://web.facebook.com/Brosohub/
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 18 ลมอุ่น] 30/3/59 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 30-03-2016 21:28:38
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 18 ลมอุ่น] 30/3/59 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 30-03-2016 21:38:51
มาต่อแล้ววว ขอบคุณค่ะ  ขำมะนาวกับแม็ตดูอยากรู้เรื่องชนะเอามาก ๆ55
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 18 ลมอุ่น] 30/3/59 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 30-03-2016 21:41:28
อยากรู้เรื่องคนอื่นเขาจริงๆเลยนะมะนาว

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 18 ลมอุ่น] 30/3/59 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 30-03-2016 21:51:50
 :เฮ้อ: เหมือน มะนาวหาเรื่องใส่ตัว ทั้งที่รู้ว่าปรานชอบตัวเองมาตลอด
ความอยากรู้อยากเห็นฆ่าแมวได้ จะเกิดเรื่องไหมนะ
ปรานจะตัดใจได้ยังไง เมื่อมะนาวมาป้วนเปี้ยนใกล้คนรักใหม่
หรือเป็นเพราะมะนาวคิดช้าเป็นปกติอยู่แล้ว   :katai1:
สนุก ชอบ คู่แมท มะนาว ยีนส์ เม  :mew1:
รอ  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 18 ลมอุ่น] 30/3/59 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 30-03-2016 21:52:30
 :a1: :a1:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 18 ลมอุ่น] 30/3/59 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-03-2016 21:59:32
เรื่องเสือกขอให้บอก 5555
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 18 ลมอุ่น] 30/3/59 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 30-03-2016 23:11:52
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 18 ลมอุ่น] 30/3/59 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 31-03-2016 12:32:06

(http://i1159.photobucket.com/albums/p636/Browny_Tan/bro/loveagain1_zpsfd71xglc.png)


เบรนใหญ่เท่าบ้าน 5555+
นิยายผมใสๆ (หราาาาาาา) เลยใส่สีพาสเทล ฮ่าาาาา
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 18 ลมอุ่น] 30/3/59 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: PaiPo ที่ 01-04-2016 00:56:42
ขอเม้นต์สองตอนรวดนะ เราไปอยู่ป่ามา 555+
กรี้ดดดดดดดดดดดดด พี่ยีนโคตรหล่อ แต่เมหล่อกว่า ชอบบบบบบบบบบบบเม *ตบตีแย่งจากยีนและโนอา*
ชอบมะนาวตอนเมาจริงๆ นางอยากทำอะไรก็ทำ คือทำทุกอย่างตามสัญชาตญาณ


ชนะปราณ สั้นๆ :a1: :a1:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ชนะปราณ by ชนะ ผู้พ่ายในเกมรัก] 1/4/59 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 01-04-2016 18:34:24
(http://i1159.photobucket.com/albums/p636/Browny_Tan/bro/loveagain2_zpscs9dbvrb.png)
  - ชนะปราณ - by ชนะผู้พ่ายในเกมรัก -


ชีวิตคนเรามักวุ้นวายอยู่แต่กับเรื่องความรัก ถ้ามันยังไม่นิ่ง ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ เขาก็ยังไขว่คว้าหามาเป็นของตัวเอง เจ้าความรัก

ผมก็เหมือนคนอื่นๆ ถึงแม้ไม่ศรัทธาแต่ลึกๆก็ยังคอยมองหาใครสักคน ที่จะทำให้ผมหยุดตามหาไม่ต้องเดินทางไกลเพียงลำพัง คนที่พร้อมจับมือและเดินไปด้วยกัน

ผมหามานาน บางทีก็หยุดรอให้จังหวะดีๆผ่านเข้ามา รอจนมีพร้อมทุกอย่าง บ้านรถ หน้าที่การงาน หน้าตาทางสังคม แต่ความรักเป็นอะไรที่ยากเกินควบคุม

ความรักของผมไม่เคยไปถึงฝั่งฝัน ผมต้องผิดหวังมานับสิบครั้งแล้วในชีวิต จนผมเริ่มจะเหนื่อย จนผมเริ่มท้อ

ทั้งผู้หญิง ทั้งผู้ชาย ล้วนผ่านมา เพื่อผ่านไป

ผมต้องตัดใจตั้งแต่เนิ่นๆ เลือกไม่รักคนน่ารักๆ อย่างมะนาวหลานในสายรหัส เพียงเพราะกลัวจะอกหักอีก ซึ่ง ดูท่าแล้วผมอกหักแน่ถ้าชอบมะนาว ดูจากสายตาเพื่อนมัน... แก่ๆ อย่างผมนี่ถอยแทบไม่ทัน

เพราะผ่านโลกมามาก เริ่มรู้ว่าอะไรควรเสี่ยงไม่ควรเสี่ยง จนหลังๆ กลายเป็นผมเริ่มหลีกทางทันทีถ้ามีทีท่าว่าจะต้องเป็นฝ่ายเจ็บ

และครั้งนี้ แม้ผมรู้ดีว่าการยื่นมือเข้าไปยุ่งกับคนที่เพิ่งอกหัก จะต้องเจอกับอะไร

ถูกมองเป็นตัวแทนที่มีค่าไม่เท่ากัน ไม่ถูกใส่ใจ ไม่ต้องแคร์ ทั้งที่อยู่ด้วยกันแท้ๆ แต่กลับหว้าเหว่

ทั้งที่รู้ ทั้งที่มองสบตากันแล้วไม่เห็นตัวเองอยู่ในแววตาเขา แต่ผมก็ยังอยากมองเห็นเขาอยู่ในสายตาผม

ผมรักเขาไหม?

ผมก็ไม่รู้

แต่ที่รู้ คืออยากให้เขาอยู่ใกล้ๆ ผมอาจจะเหงาเกินไป อยู่คนเดียวนานเกินไปความรู้สึกนี้จึงเกิดขึ้น มันอาจจะเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับใครก็ได้ที่บังเอิญผ่านเข้ามา แต่ตอนนี้เป็นเขา

เขาไม่เหมือนใคร พูดน้อย ถามคำตอบคำ ไม่เคยตั้งเงื่อนไขไดๆ และไม่เรียกร้องอะไร เหมือนเราเป็นคู่รักเก่าแก่ที่เริ่มหมางเมินเพราะเริ่มเบื่อที่อยู่ด้วยกัน ทั้งที่ที่จริงเราเพิ่งรู้จักกันได้ม่ถึงเดือน เวลาที่อยู่ข้างนอกก็เหมือนคนไม่รู้จักคนนึง

แต่อะไรบางอย่างในตัวเขาดึงดูดผมมากว่าใคร แม้ความรู้สึกว่าไม่ถูกรักนั้นชัดเจนจนผมไม่กล้าคาดหวังอะไรในการคบกันครั้งนี้ ผมก็ยังคงเลือกเป็นฝ่ายไล่ตาม

มันทำให้ผมรู้สึกตัวเองกำลังอกหัก แม้ในยามที่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน



“มาทำไม บอกแล้วไงว่าไม่ต้องมา”

“แค่อยากมาดู เมื่อเช้าตัวร้อนมากนะ”

“ไม่ได้เป็นอะไร หายแล้ว กลับไปก่อนเถอะ”

“...” ผมชั่งใจ ท่าทีของเขาทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่เขาไม่อยากเจอและไม่อยากเข้าใกล้

“สองทุ่มก็กลับแล้ว เดี๋ยวนั่งแทคซี่กลับเองไม่ต้องวนมารับนะ” เขาเรียกผมออกมาเพื่อพูดแค่นี้ก็ทำท่าจะเดินจากไป

“ทำไมอยากให้พี่กลับจังนะ จะแอบไปเจอใครรึไง?” คำพูดของผมหยุดปราณไว้ ไม่ใช่เขาคนเดียวที่เป็นเด็กเอาแต่ใจ แต่ผมก็รู้สึกได้ ว่าการกระทำของตัวเองมันเด็กแค่ไหน

“หมายความว่ายังไง?” เขาถอยกลับมาพร้อมมือที่กำหมัดแน่น

“ทำไมไม่อยากให้อยู่ ทำไมต้องคอยไล่ ทั้งที่พี่แค่เป็นห่วงไม่อยากให้หักโหม” ผมสุดกลั้นเริ่มเสียงดังและจริงจังจนเริ่มกลัวตัวเอง

ความอัดอั้นที่รู้สึกไม่เป็นที่รักทำให้ความน้อยเนื้อต่ำใจปะทุออกมาในที่สุด

“นี่คิดว่าผมจะมีคนอื่น?”

“แล้วมีรึเปล่าล่ะ?”

“...” ปราณขมวดคิ้วมองหน้าผมอย่างหาเรื่อง แต่ไม่ยอมพูดอะไร ไม่ยอมรับ หรือกระทั้งแก้ตัว

“ถ้ามีก็บอก พี่จะได้หลีกทางให้” ต่างจากผม ที่พูดออกไปเหมือนใช้เรี่ยวแรงเฮือกสุดท้าย เสียงแทบขาดหายไปในตอนท้าย รู้สึกใจหายกับคำพูดตัวเอง

ทำปากดีนะมึง ถ้าเขาจะไปจริงอย่างกับทำใจได้?

“แม่ง อะไรของพี่วะไอ้พี่ชนะ” ปราณผลักอกผมจนเซถอยหลังชนกำแพง เขาทำท่าฉุนเฉียวรำคาญผมอีกแล้ว “คุยไปก็คุยไม่รู้เรื่องหรอก กลับไปค่อยคุยกันที่ห้อง”

“ไม่! คุยกันให้รู้เรื่องก่อน”

“นี่ นิผมมาซ้อม ถ้าพี่ไปทำงานแล้วผมไปนั่งเฝ้า พี่จะชอบไหม?”

“...”

“อย่าทำเหมือนผมพร้อมจะนอกใจพี่อยู่ตลอดเวลาแบบนี้ได้ไหม อย่าบีบให้ผมต้องทำ”

ไม่!

“ทำอะไร?”

อย่า อย่าตอบ

“ทำให้เรากลับไปเป็นแค่คนอื่น”


ผมพูดไม่ออก ก่อนนี้ผมคิดว่าทำใจได้ ไม่รู้เลยว่าผมกลัวคำคำนี้มากแค่ไหน จนกระทั้งเขาพูด เขาพูดสิ่งที่ผมกลัวจนแทบตัวสั่น หัวใจดิ่งวูบเหมือนตกลงเหว ผมยืนค้างพูดอะไรไม่ออกขยับไปไหนไม่ได้

ถ้าผมจะอกหักเพิ่มจำนวนขึ้นอีกสักครั้ง ทำไมมันน่ากลัวเหมือนมันไม่เคยเกิดขึ้น

กับแค่ อีกครั้ง...

ผมน่าจะชินแล้วนี่นา ผมน่าจะคุ้นเคย แต่ทำไม... มันช่าง เจ็บ 

กับเรื่องความรัก ผมไม่เคยชนะใครเลย


ผมยืนบื้ออยู่ตรงนั้นเป็นสิบนาที จนมีคนเดินผ่านมาผมถึงตั้งสติได้

ผมยกโทรศัพท์โทรออก

“มะนาว ไปหาอะไรกินเป็นเพื่อนพี่หน่อย”

“อื้ม ก็นิดหน่อย เดี๋ยวเล่าให้ฟัง”

“ได้ รอที่รถนะ”

ไม่นานมะนาวก็เดินเอียงๆ ออกมายืนงงอยู่หน้าโรงยิม ผมขยับรถไปเปิดกระจกใกล้ๆ

“ขึ้นมาสิ”

มะนาวพูดทักทายก่อนขึ้นรถมาแล้วเริ่มต้นซักทันที

“ทะเลาะกันเหรอพี่ เขากลับเข้าไปชู้ตเอาๆ”

“อื้ม เขาบอกพี่น่ารำคาญ ถ้ายังทำตัวน่ารำคาญได้เลิกกันแน่ เห้อ”

“พี่ทำอะไรเหรอ”

“ก็แค่ที่มาแบบวันนี้ มั้งนะ พี่ก็ไม่แน่ใจว่าทำอะไรให้เขาไม่พอใจไว้บ้าง”

“แล้วไงอ่ะ”

“พี่หลุดปาก แต่ พี่ก็กลัวจริงๆ ว่าเขาจะกลับไปหาคนรักเก่า” ผมจอดรถริมถนน หน้าร้านอาหารที่แสงไฟขาวสว่าง ดูก็รู้ว่าขายเค้ก

“อ้าว ผมนึกว่าจะไปร้านเหล้า”

“ไม่ดีกว่า พี่ไม่อยากเมากลับไป เดี๋ยวจะยิ่งคุยไม่รู้เรื่อง ไป กินไรก็กิน พี่เลี้ยง”

“แน่นอน พี่เป็นพี่สายตรงผมเลยนะ” มะนาวทวงสิทธิความเป็นน้อง

“ฮ่าๆๆ อย่าเยอะนะ พี่พกตังมาไม่เยอะ” อย่างว่า เขาร่าเริงและน่าอยู่ใกล้ๆ แต่ความน่ารักของเขาแทบไม่มีผลกับใจผมเลยในเวลานี้ มีแต่เรื่องปราณเต็มไปหมด
 


สั่งอาหารเสร็จ มะนาวก็เร่งให้ผมเล่าต่อ ว่าไปเจอกันได้ยังไง

“วันนั้นพี่ก็มาแถวนี้แหละ วันเชียร์ของศิษย์เก่าที่เรากลับไปก่อน ตอนนั้นดึกแล้วคนเริ่มกลับ พี่เห็นปราณดื่มอยู่คนเดียวที่มุมร้านท่าทางเมามาก แต่ก็ยังกินไม่หยุด พี่ดูอยู่นาน เขาหยุดคิดอะไรแป็ป เขาก็ยกแก้วขึ้นซดเอาๆ พี่เลยเข้าไปทัก”

“หลังจากคืนนั้น พี่ก็ทึกทักเอาเองเลย ว่าเราเป็นแฟนกัน หึหึ ทั้งที่เขาก็บอกนะ ว่าเพิ่งอกหักมา พี่ก็หลับหูหลับตาบอกว่ารับได้ ตอนแรกไม่คิดอะไร กะว่าคบไม่นานอยู่แล้ว ให้ผ่านไปสักพักจะถูกทิ้งก็ไม่เป็นไร เป็นเรื่องของอนาคต อีกอย่างพี่อกหักจนชิน อกหักอีกทีคงไม่เป็นไร ตอนนั้นคิดอย่างนั้นจริงๆ”

“พี่กะอกหักตั้งแต่เริ่มคบเขาเลยเหรอ”

“ตั้งแต่เดินเข้าไปทักเขาพี่ก็เตรียมใจไว้แล้ว”

“งี้นี่เอง”

“อะไรเหรอ”

“ผมว่าพี่ปราณรู้สึกได้นะ ว่าพี่คิดอย่างนี้”

“คงงั้น วันนี้ก็บอกเขาไปแล้วว่าถ้ามีคนอื่นก็บอก จะได้ถอยให้”

“เฮ้ย แบบนั้นไม่ได้ดิพี่”

“มันเป็นความจริงนี่”

“ความจริงแต่พูดออกไปตรงๆ แบบนั้นไม่ได้นะ”

“...”

“มันเหมือนอะไรรู้ไหมพี่ มันเหมือนกับว่าพี่ไม่ได้รักเขามากมายอะไร ไอ้เรื่องรักจริงมั้ยรักมากไม่มากผมไม่รู้นะว่าพี่มีความรู้สึกแบบนั้นกับพี่ปราณมากแค่ไหน แต่ถ้าพี่ยังอยากให้พี่สองคนคบกับไปได้เรื่อยๆ ไปนานๆ พี่ลองทำเป็นไม่รู้สึกอะไร คือ จะอธิบายยังไงดี แบบว่า พี่อย่าพูดทำนองว่าพร้อมเลิก ให้ทำเป็นแฮปปี้ดี มีเขาแล้วมีความสุข แค่นี้พอ เพราะยิ่งพี่พูดว่าจะเลิก ถ้าเขารำคาญแล้วบอกก็เลิกๆ ไปซะสิ ต่างคนต่างหลุดปากอะไรจะเกิดขึ้นพี่”

“คงได้เลิกกันจริงๆ”

“แล้วพี่อยากเลิกเหรอ”

“ไม่เลย ไม่อยาก ยิ่งไม่อยากพี่ยิ่งกลัว”

“แสดงออกว่ากลัวเขาทิ้งทำได้นะพี่ แต่แสดงออกว่าพร้อมเลิกเนี่ย ไม่ดีนะ”

“เออ ขอบใจ จะพยายาม”

“กลับไปก็คุยกันดีๆ”

“จะได้คุยรึเปล่าก็ไม่รู้”

“เขาขี้โมโหเหรอ?”

“กับคนอื่นเข้าดีนะ ยิ้มง่าย ดูอบอุ่น แต่กับพี่เขา เขากลายเป็นคนขี้หงุดหงิด โมโหง่าย อยากใส่อารมณ์ก็ขึ้นเลย บทจะดีก็ดีซะเฉยๆ แปรปรวนตามไม่เคยทัน”

“ผมว่านั้นแหละตัวจริงเขา”

“รำคาญพี่ซะมากกว่ามั้ง”

“ไม่หรอก ผมว่าเขากำลังแสดงตัวตนจริงๆของเขาให้พี่เห็นแค่คนเดียว”

หลังจากนั้นมะนาวก็ยังเจื้อยแจ้วไปได้เรื่อยๆ ไม่คิดว่าจะพูดเก่งขนาดนี้ เจอกันครั้งก่อนๆเขาแทบไม่พูดเลย อาจเพราะอยู่ในวงและคนเยอะ

เขาทำให้ผมรู้ว่าผมพลาดอะไร แต่ผมก็ยังไม่แน่ใจว่ากลับตัวเปลี่ยนตัวเองเอาตอนนี้จะทันไหม อาจจะสายไปแล้ว ก็เขาดูไม่รักผมเลย


โทรศัพท์มะนาวส่งเสียง คนที่โทรมาคือเพื่อนคนเดิม

“ไง ซ้อมเสร็จแล้วเหรอ”

ถ้าเพื่อนมะนาวซ้อมเสร็จ ปราณก็คงเลิกแล้วเหมือนกัน ผมควรจะเอาไงดี รอเขามาหา ชวนเขาไปต่อ หรือกลับไปคุยกันที่คอนโด กลับตอนนี้เขาจะยังโมโหหงุดหงิดใส่ผมอยู่ไหม? รอดึกๆให้เขาอารมณ์ดีขึ้นก่อนดีไหม?

“อยู่ร้านข้าวแฟ ...ช่าย ไม่ได้กินยังหัวค่ำอยู่เลยนะเว้ย กินข้าวเสร็จละกำลังกินเค้ก... อ้อได้ ว่าอีกทีสิ พี่ชนะ มีข้อความฝากถึง” ผมหลุดจากการเหม่อลอยหันมาหาคนตรงข้าม “ฝากบอกไอ้แก่ด้วย ว่าจะกลับไปรอที่คอนโด ถ้าไม่เห็นหน้าในครึ่งชั่วโมง ก็ไม่ต้องมาให้เห็นหน้าอีก

“หา”

“แค่นี้ใช่ไหมมึง เคๆ แม็ตบอกแค่นี้พี่ ที่พี่ปราณฝากบอก”

“ปรานเหรอ?” ฝากเหรอ?

“เขารออยู่ รีบกลับดิพี่”

“แล้ว แล้วถ้าเขาแค่เรียกไปบอกเลิกล่ะ” ผมเริ่มกลัวอย่างไม่มีเหตุผล

“ก็ง้อแบบที่คนรักเขาง้อกันจิ แบบนั้นๆ อ่ะ เข้าใจใช่ป่ะ?”

“งั้น งั้นพี่กลับก่อนนะ ฝากเช็คบิลด้วย อ่ะนี่”

“โชคดีพี่ เป็นไงรายงานผลด้วยน้า” มะนาวยังถือสายอยู่ ใช้อีกมือโบกลาผม รึโบกไล่ก็ใกล้เคียง




ผมรีบบึ่งกลับคอนโดเต็มสปีด ใจนึงก็ดีใจพอรู้ว่าผมรออยู่ เขายังคิดถึงผม ที่สำคัญการบอกแบบนั้นกับคนอื่นก็ไม่ต่างกับการบอกว่า ‘คนนี้แฟน’ แค่ไปหาในคณะยังโดนไล่แบบรังเกียจเลย เขายิ่งไม่เคยทำสิ่งที่ใกล้เคียงการบอกใครต่อใครว่ากำลังคบกับผม

อีกใจก็กลัวอย่างที่ออกปากถามมะนาว ถ้าเขาเรียกมาบอกเลิกล่ะ? ความกลัวข้อนี้มากมายนัก มากจนผมไม่อยากกลับห้องตอนนี้ อยากยืดเวลาออกไปอีกหน่อย ไม่อยากให้จบ

ผมกดลิฟต์ขึ้นคอนโดด้วยความร้อนรน กลัวจะช้าไป กลัว กลัวไปหมด จากที่ไม่อยากกลับ แต่พอคิดถึงคำพูดเขาผมก็วิ่งไปตามระเบียงทางเดินเพื่อให้ถึงห้องเร็วที่สุด เปิดประตูเข้าห้องอย่างรีบร้อน


แต่ กลับพบกับความว่างเปล่า


ไม่มี ไม่เห็นเขาเลย


เขาไปแล้ว ผมมาช้าไป

ทั้งที่บอกว่าทำใจมาตลอด ทั้งที่บอกตัวเองซ้ำๆว่าอกหักเพิ่มอีกสักครั้งคงไม่เป็นไรมาตลอด

ความเสียใจแล่นเข้ามาเต็มพื้นที่ แค่คิดว่านี่อาจจะโอกาสสุดท้ายสำหรับคนนี้ ไม่ไหว ผมรับไม่ได้

ผมกดโทรออกหาเขา แต่มันกลับเป็นการตอกย้ำว่าเขาไม่ยอมคุยกับผม เขาตัดสายผมทิ้งอย่างไรเยื่อใย

ผมทรุดลงคุกเขากับพื้น

มองมือถือในมืออยากจะปาทิ้ง แต่เรี่ยวแรงเหือดหายไม่มีแม้แรงจะกดโทรซ้ำ

หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ชนะปราณ by ชนะ ผู้พ่ายในเกมรัก] 1/4/59 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 01-04-2016 18:36:59

แกร็ก


ข้างหลังผมมีคนเปิดประตู เดินเข้ามาอย่างถือวิสาสะ

ปราณเดินเข้ามาในห้อง เขาวางมือถือที่ยังสว่างอยู่ลง กระเป๋าลงข้างกัน หยิบของในกระเป๋ากางเกงออกวางไม่พูดไม่จา

ผมมองเขางงๆ อ้าว เพิ่มมาถึง อ้อ ผมกลับมาถึงก่อน?

“ป่ะ” เขาพยักหน้าเรียกผม ยืนอยู่ตรงกลางระหว่างประตูห้องน้ำกับห้องนอน

“...”

“นั่งทำอะไรอยู่ตรงนั้น มาอาบน้ำ”

“เอ๋”

“จะอาบไม่อาบ ลีลาได้อาบคนเดียวนะ” เขายอมขยายความให้ผมเข้าใจแล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำโดยไม่ได้ปิดประตู

“อาบครับอาบ” ผมทิ้งมือถือไว้บนพื้น แทบวิ่งตามเขาเข้าห้องน้ำ

“อ่ะ” ผมวิ่งมากอดเขาจากข้างหลัง ปราณที่เพิ่งถอดเสื้อยังไม่เสร็จดีสะบัดเสื้ออกจากปลายแขนอย่างทุลักทุเล ผมไม่สน ผมจะกอด “เป็นอะไร?”

“คิดถึง”

“บ้ารึไงก็เพิ่งเจอกันเมื่อกี้ จะมาคิดถึงอะไรนักหนา” เขาทำเสียงเสียงจิ๊จ๊ะแบบคนขี้หงุดหงิด

“พูดจาใจร้ายทำไมต้องยิ้ม”

“ยิ้มที่ไหน ซักไซ้น่ารำคาญ อื๋ออออ” ผมดึงเขาพลิกตัวจูบปิดปากคนปากดี ถ้าเมื่อกี้ไม่เห็นในกระจกผมคงหมดกำลังใจ ถ้าฟังแต่เสียง ผมคงถอดใจอีกรอบ

“จะไม่ให้พูดอีกเลย”

ผมดึงพรวดกางเกงบาสของเขาไปกองอยู่ที่ตาตุ่ม ปราณเองก็ปลดกระดุมเชิ้ตให้ผม ระหว่างผมถอดเสื้อตัวเอง ปราณก็ปลดกางเกงผมไปกองอยู่ที่พื้น มือเขาลูบคลำเป้าผม ไม่ยอมถอดกางเกงในให้ผมสักที อึดอัดจะแย่

เรากอดจูบพากันมาใต้ฟักบัว เปิดน้ำรดเราทั้งคู่ แต่ไม่มีอะไรเย็นลง มีแต่ร้อนขึ้นๆ

“อ้า”

“อ่ะ ปราณ” เขาทรุดลงคุกเข่ากับพื้น กลืนกินผมอย่างกระหาย ปลายนิ้วคลึงก้อนกลม เรียวลิ้นร้อนลูบเลียไปทั่ว ผมเปียกถูกผมลูบประคองเข้ามา เรียวปากบางโอบกลืนผมเข้าออก จนผมเผลอสวนเบาๆ

“พอ พอแล้ว”

“พออะไรเหรอ?” ปราณถอดปากออกมาเงยหน้าถามผม สาวมือให้ผมยังไม่หยุด ผมเห็นเขาเองก็ช่วยตัวเองอยู่ ภาพนี้ช่างบั่นทอนความอดทน

“มา” ผมรั้งเขาให้ลุกขึ้นยืน จูบปากเขาอีกครั้ง สองมือลูบไล้ไปตามเนื้อตัวเปียกชื้น มือกดสบู่เหลวมาป้ายบั้นท้ายเขา ผมจับพลิกให้เขาหันหน้าเข้ากำแพง ปลายนิ้วสอดใส่ทาสบู่ในช่องทางคับแคบ ริมฝีปากจูบแผ่นหลังเบาอย่างหลงไหล

“ต้องอย่างนี้สิ ไม่น่ารำคาญแล้ว”

“ทีหลังชอบอะไรก็บอกสิ”

“ก็ไม่เห็นเคยถามเลยไม่รู้จะบอกยังไง”

เออ ก็จริงของเขา ในขณะที่ผมเอาแต่เก็บเรื่องเขาไปน้อยเนื้อต่ำใจ ผมกลับไม่ค่อยใส่ใจพูดคุยกับเขาเท่าที่ควร

“ใส่เลยดีไหม” สองนิ้วผมแหวกช่องทางเขาซ้ำๆ ปิดน้ำแล้วเริ่มเอาปลายนุ่มจ่อหมุนวนไปมารอบๆทางเข้า

“ก็ น่าจะดีนะ”

“อื้ม แค่น่าจะเหรอ”

“ใช่ ก็ไม่รู้ ต้องลองดู”

“งั้น ลองดูนะ” ผมกดหัวเข้าไปช้าๆ สองมือเขาเกาะผนังแน่น แอ่นสะโพกให้ผมมากขึ้น

“อ้า เกือบดีแล้ว”

“อื้ม  พี่กำลังดีเลย” ผมดันเข้าไปจนสุดทาง แล้วยืนนิ่งจับสะโพกเขาไว้ไม่ยอมขยับ

“ไม่เอาแบบนี้”

“ไม่เอางั้นถอดนะ”

“ไม่นะ” ปราณทั้งบีบรัดส่วนนั้น ทั้งใช้มือดึงผมไว้ เล่นเอาอยากจะซี้ดออกมาดังๆ

“ก็ไม่เอาไง”

“เอา”

“อะไรนะ?”

“เอาผมหน่อย อื้อ อ่ะ อ่า พี่ชนะ พี่ นะ อ้า” ผมรู้แล้วทำไมผมไม่อยากเลิกกับเขา

เพราะผมติดใจลีลาการอ้อนของเขานี่เอง แม้มันจะไม่บ่อย แม้มันจะกินช่วงเวลาแค่น้อยนิดที่อยู่ด้วยกัน แต่มันคือความจริงใจที่ยอมเอ่ยปากกับผมตรงๆ

ผมกระแทกจนเขาแทบติดกำแพง

ปราณกัดปากเก็บเสียง เหมือนต่อสู้กับอะไรสักอย่าง

ฮื้ม ปากเล็กน่าจูบ

ผมผ่อนจังหวะให้ช้าลงดึงปลายคางเขาให้รับจูบเปลี่ยนจังหวะเป็นเนิบช้าแต่หนักแน่น

“ไง ชอบช้าๆ หรือชอบเร็วๆ”

“ชอบหมดเลย”

หลังจากนั้นผมก็ใส่ไม่ยั้งเพราะเสียงที่บอก

“ดี อื้ม ดีจัง”

มันเร่งอารมณ์ผมให้กระจุยกระจาย ดี ดีไปหมด ทุกอย่างขาวโพลน

ยกแรกจบไปอย่างเต็มอิ่มในห้องน้ำ ทั้งที่ยังไม่ทันเริ่มอาบน้ำเลยด้วยซ้ำ และกว่าจะอาบน้ำให้กันเสร็จ ยกสองก็กำลังจะเริ่ม

กลับออกมาเขาก็ยังไม่ให้ผมนอนหลับ แต่ให้ผมนอนเฉยๆ ส่วนเขา ขย่มไม่ลืมหูลืมตา ร่างกายมีมัดกล้ามอย่างนักกีฬา จังหวะที่เขาเป็นคนควบคุม เส้นผมที่ปรกหน้า เสียงกัดกรามข่มอารมณ์ อกราบที่ขยายจากการโกยลมหายใจเข้าปอด

เสียงทุ้มอ้อนขอ ปลายนิ้วเชื้อเชิญให้ผมสัมผัสร่างกายเขา

ปราณทิ้งตัวลงมาซ้ำๆพร้อมๆกับจังหวะที่ผมแอ่นรับ ผมดึงเขาให้เอียงลงมาจูบผม ลิ้นดุนดันกันอย่างดุเดือด สองมือเขาจิกไหล่ผมจนเจ็บก่อนเขาจะหยุดนิ่งไปปล่อยให้ผมสวนขึ้นซ้ำๆ ที่เดิม ผมกดสะโพกเขาให้ทับลงมา ผมปล่อยในตัวเขา พร้อมๆกับรู้สึกถึงน้ำลื่นๆ ของเขาเปรอะเปื้อนตัว

ผมกระชับกอดเขาไว้ จูบข้างแก้ม จูบขมับ ใช้ปลายจมูกดันเปลือกตา จูบหน้าผากของเขาซ้ำไปซ้ำมา

“อื้ม พอแล้ว”

“จุ๊บๆๆๆ”

ผมแกล้งจูบเขาซ้ำๆ จนเขาทนไม่ไหว ประกบปากดูดผมจนเคลิ้ม ก่อนจะฉวยโอกาสลุกหนีไปซะดื้อๆ

“เดี๋ยวพี่ทำให้” ผมหมายถึงทำความสะอาด ซึ่งก็รู้คำตอบดี

“ไม่ต้อง” เขาพูดแค่นั้น

เห้อ กลับมาเย็นชาเหมือนเดิมอีกแล้ว

เขานั่งหย่อนขาลงปลายเตียง รวบรวมกำลังลุกขึ้นยืน

หลังเสร็จภารกิจ เขาไม่เคยยอมให้ผมแตะต้อง เวลาที่ไม่ใช่เวลาแบบนั้น

ทั้งที่ผมอยากทำให้เขาทุกอย่าง นั่นของผมแท้ๆ กลับไม่ให้ผมรับผิดชอบ เหมือนเสร็จแล้วก็เฉดหัวทิ้งแบบพวกหมดประโยชน์ แต่คิดไปคิดมาคนที่ได้ มันผมไม่ใช่เหรอ? เอ ผมก็ยังงงๆว่าตกลงควรนอนตีพุงสบายใจ หรือน้อยอกน้อยใจที่เขาไม่ให้ยุ่งกับตัวเขากันแน่

ผมนอนพิงหัวเตียง มองไปที่ประตูห้องน้ำ พอเสร็จปั้บ ผมก็ถูกกันออกจากเขตของเขาทันที

เป็นแบบนี้ตลอด จะให้ผมกล้าคิดเข้าข้างตัวเองยังไงไหว

ตั้งแต่วันแรกที่มาที่นี่ เขาก็เป็นแบบนี้ ทั้งที่วันนั้น เขาเมาจนแทบสิ้นสติแต่ก็ยังผลักผมออกจากห้องน้ำได้สำเร็จ แต่ล้างตัวเสร็จเขาก็กลับมานอนข้างๆผมนะ ผมดึงมากอด เขาก็ไม่ว่า หรือจะนอนห่างๆ เขาก็ดูโอเค

ตอนแรกผมนึกว่ามันจะจบแค่คืนเดียวด้วยซ้ำ แต่ด้วยความหน้าด้านผมไลน์ไปบอกเขาว่า ‘บังเอิญผ่านมาทำงานใกล้ๆมหาลัย กลับพร้อมกันไหม?’ เขาดันตอบตกลง ที่จริงแล้วตัวผมอยู่คนละซีกโลกผมนี่รีบขับรถข้ามกรุงเทพเพื่อไปรับเขาเลย คิดแล้วก็ตลกตัวเอง จากนั้นก็ยัดเยียดกุญแจให้เขารับไว้ บอกอ้อมๆว่าพร้อมต้อนรับเสมอ ซึ่งเขาก็เชื่อฟังเป็นอย่างดี หลังเรียนเสร็จเขาก็มา หลังกินเหล้าเสร็จดึกๆดื่นๆ เขาก็มาทิ้งตัวนอนข้างผม

นี่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมคิดเข้าข้างตัวเองมาถึงทุกวันนี้ ถึงจะดูรำคาญผม พูดจาไม่เพราะบ้าง แต่เขาเองก็คงมีใจไม่มากก็น้อย ไม่งั้นคงไม่กลับมาซ้ำๆ กลับมาหาผมด้วยตัวเอง

สักพักปราณก็เดินออกมา มีผ้าเช็ดตัวพันรอบเอว เขานั่งลงข้างๆ พิงแขนผม เหมือนจะอิงซบ แต่ก็ไม่

“อะไร ยังไม่พอเหรอ?” ผมแกล้งถาม

“ขออะไรอย่างสิ” แต่เขาก็ไม่สนใจการหยอกล้อของผมสักนิด

“อีกยกเหรอ ได้เลย” ผมพูดทีเล่นทีจริง รู้สึกแปลกๆที่เขาพูดคุยด้วย เพราะทุกทีเขาแทบไม่พูดอะไร แทบไม่พูดถึงเรื่องส่วนตัว ไม่เรียกร้อง ไม่เคยขออะไร

“ไม่ใช่เรื่องนั้น ฟังก่อน”

“หื๋อ?”

“อย่าพูดว่าจะเลิกกันอีกได้ไหม?”

“อันนั้นปราณเป็นคนพูดนะ”

“แล้วใครที่ว่าจะถอยน่ะ ใคร” ผมอึ้ง เขาดูเก็บกดและอยากพูดเรื่องนี้จริงจัง

“เอ่อวะ แต่ ก็ปราณเอาแต่ไล่กลับ” ผมพูดด้วยท่าทางน้อยใจโอเวอร์ ให้ดูตลกปนน่าสงสาร แต่เหมือนเขาจะไม่ได้รู้สึกสงสาร แต่เป็นความรู้สึกสะใจแปลกๆ

“หน้าพี่ตลกดีเวลาเหวอ” เสียงหัวเราะในคอ บอกว่าเขารู้สึกแบบนั้นจริงๆ นี่คงกำลังนึกหน้าผมตอนหน้าเสียเพราะโดนไล่อยู่ล่ะสิ

ผมอึ้ง ตลกตรงไหน ข้างใต้ใบหน้าจริงจังของเขา เขากำลังขำเหรอ? ฟังดูไม่น่าเชื่อได้

“ทำไมไม่อยากให้ไปหา ไม่อยากให้เป็นห่วงเหรอ”

“กลัวไปหลงเสน่ห์คนอื่น”

“เอ๋?” อ้อ มะนาวน่ารัก เขาอาจจะกำลังเข้าใจผิด แฟนมะนาวก็มี เขาก็น่าจะรู้ ได้ข่าวว่าเป็นคู่จิ้นที่ดังมาก

“คนที่พี่นั่งด้วยอ่ะ” เขาเอ่ยขึ้น คงกำลังลังเข้าใจผิด ไม่นะไม่ใช่ๆ

“มะนาวเหรอ? มะนาวเป็นน้องในสาย ไม่มีอะไรจริงๆ”




“เมื่อก่อนผมชอบเขามาก”




“...” ว่ายังไงนะ?


“มะนาวเป็นรุ่นน้องในโรงเรียน ผมเคยสอนบาสเขา เคยพยายามจีบเขา คอยตามเขา แต่เขาไม่เคยสนใจผมเลย” เสียงของเขาผ่านผมไปและหายไปกับความว่างเปล่าภายในใจ “ตอนจบ ม. 6 แล้วมาเรียนที่นี่ ผมก็ถือโอกาสที่ห่างกันพยายามลืมเขา แต่พอมาเจอเขาอีกที ผมก็รู้ว่าผมยังลืมเขาไม่ได้”

การที่คนที่เรารัก มาบอกว่าเขารักคนอื่น มาย้ำอยู่ข้างหูว่าเขารู้สึกดีกับคนอื่นแค่ไหน คำพูดของเขามันทำร้ายผมจนพรุนไปทั้งตัว
หน้าชา

“วันที่พี่เจอผม ผมตัดสินใจว่าจะตัดใจจากเขาสักที” มือเล็กแต่กระด้างแบบคนเล่นกีฬา เขาสอดมือมากุมมือเย็นๆของผมไว้
ทำแบบนี้อีก ทำไม?

“นั่นไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมเจอพี่หรอกนะ ตอนปีหนึ่งผมเจอพี่บ่อยจนจำหน้าได้ รู้ว่าเป็นพี่บัณฑิตแต่ไม่เคยเข้าไปไหว้เลย คนอะไรก็ไม่รู้จบไปตั้งนานแล้วก็ยังกลับมากินเหล้าที่เดิมๆ ที่อื่นมีก็ไม่ไปกิน ไม่รู้ติดใจอะไรแถวมหาลัย”

ยิ้มทำไมกัน? เพื่ออะไร

“ตอนพวกพี่เลี้ยงสาย ผมก็เจอพี่อีก ก็เลยรู้ว่าพี่เป็นปู่ของปู่ของลุงมะนาว” อย่า ไม่ต้องมามองหน้า อย่ามาสบตา ผมค่อยๆหลบตาเขา ไม่กล้ามองตาเขา แววตาที่ไม่มีผมอยู่เลย

“งั้นที่วันนั้นยอมคุยด้วย เพราะหวังเข้าใกล้มะนาวงั้นเหรอ ที่ไม่อยากให้ไป เพราะไม่อยากให้ไปยุ่งกับมะนาวของเธองั้นเหรอ?” ผมค่อยๆแกะมือตัวเองออกจากมือเขา





พอเถอะ พอที




“เฮ้ย ไม่ใช่!”

“ไม่ใช่ได้ยังไง ปราณบอกเองว่าเคยชอบมะนาวมาก” ผมไม่เข้าใจ ผมเห็นเขากำลังยิ้ม ผมเห็นเขาไม่ได้ทุกข์ไม่ร้อน ทั้งที่ผมกำลังใจสลาย หายใจแทบไม่ออก

“ก็ใช้คำว่าเคยแล้วไง มันไม่ชัดพออีกเหรอ”


หมายความว่ายังไง?


“ที่ไม่อยากให้เข้าใกล้มะนาว เพราะกลัวพี่จะไปชอบมะนาว ไม่ได้กลัวมะนาวมาสนใจพี่ นี่พี่เข้าใจที่ผมพูดไหม คือด้วยความที่ผมเคยชอบเขามาก่อนผมเลยรู้ว่ามะนาวน่ารักแค่ไหน มีแรงดึงดูดคนรอบข้างที่อธิบายไม่ได้ ผมก็กลัวว่าพี่อยู่ใกล้น้องมันพี่จะไปชอบมะนาว ถ้าเป็นแบบนั้น แล้วผมจะอยู่ยังไง?”

“เดี๋ยว ยาวไป ไม่เข้าใจ อธิบายอีกทีสิ” มือผมสั่นไปหมด แม้เขาจะพยายามจับมือผมอีกครั้งจนสำเร็จ แต่มันก็ยังสั่น

“ผมกลัวนี่ ถ้าพี่ทิ้งผมไปชอบคนอื่น ผมอยู่ไม่ได้แล้วนะ รักไปเยอะแล้ว ก็อย่างว่า ความสัมพันธ์ของเรามันก็แค่เซ็กซ์กันไม่ได้มีใจผูกมัดตั้งแต่... อื้ม” ผมดึงเขามาจูบ กอดเขาเต็มแรง

“รักจริงนะ”

“ไม่จริงเท่าไหร่หรอก”

“ปากดี จุ๊บๆๆๆ” ผมจูบเขาไปทั่ว แม้จะไม่ใช่คำว่า ‘ผมรักพี่’ แต่มันคือความหมายนั้น อะไรก็ได้ ยังไงก็ได้ ผมโอเค โอเคมากๆ

“ฮ่าๆๆๆ พอๆๆ ง่วงแล้ว นอนเถอะ”  เขาพลักผมออกทั้งที่ใบหน้าซับสีเลือด เขากำลังเขิน พยายามดุงผ้าห้มมาคลุมตัวเอง

“กะว่าอีกยก ไม่แล้วเหรอ?”

“พอแล้ว วันนี้ผมซ้อมบาสมานะ”

“เหรอ ซ้อมบาสนี่ไม่ดีเลยเนอะ”

“หึๆๆๆ”

“งั้นใส่คาไว้เฉยๆ ได้มะ?” ผมพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

“จะบ้าเหรอ เป็นตาแก่โรคจิตรึไง นอนๆ ไป นี่ กอดนี่หลับๆ ไปเลย” เขายัดหมอนข้างที่มีเยอะมากมาให้ผม

“งื้อๆ” เขานอนตะแคงหันหลังให้ผมเหมือนทุกวัน แต่วันนี้ความรู้สึกมันต่างออกไป เหมือนเขิน มากกว่าเบื่อขี้หน้า

“เอาน่า นอนไปก่อน ตื่นเช้าค่อยว่ากันอีกที โอเคยัง?” เขาพูดโดยที่ไม่หันมามองผม

วันนี้เขาพูดเยอะกว่าทุกๆวัน

“โอเคก็ได้”

“ปราณ”

“หื๋อ?”

“พี่ก็รักเรานะ” ผมกระซิบข้างหูเขา โยนหมอนข้างทิ้ง แล้วดึงเขามากอด แผ่นหลังที่เหมือนรอคอย

“ครับ ห้ามพูดแบบนี้กับคนอื่นนะ” เขาดึงมือผมไปจูบ ก่อนจะกุมมือผมให้ผมกอดรอบตัวเขาให้แน่นขึ้น

“ไม่มีทาง” ผมจูบท้ายทอย จูบใบหู ไซ้จมูกข้างขมับ แล้วรับจูบเขาที่เอียงให้ มันอ่อนโยนและแฝงมาด้วยคำพูดอ้อนอ่อนหวานที่เขาไม่เคยแสดงออก

“ถ้าผมบอกไปมันจะเหมือนคนเอาแต่ใจไหม?”

“บอกอะไร บอกมาเลย บอกเถอะ พี่แก่แล้วตามเด็กไม่ทัน”

“ทั้งที่ผมนอนอยู่ข้างๆ พี่ก็ยังเอาแต่กอดหมอนข้าง” เขาเริ่มพูดทันที และเสียงแข็งมาก

ผมกอดเขาแน่นขึ้น

“ทั้งที่ผมก็มาหาแทบทุกวัน แต่ก็ยังกล้าคิดว่าผมจะมีคนอื่น”

ผมขนลุก

“ทั้งที่ผมยอมทุกอย่าง พี่ก็ยังเงอะงะงุ้มง่ามไม่ได้อย่างใจ เหมือนจะแคร์ แต่ก็ไม่พูดไม่ถาม เอาแต่เงียบ เอาแต่คิดอะไรอยู่คนเดียว แฟนนะเว้ย ไม่ใช่ศาลพระภูมิเอาไว้กราบไหว้บูชาไม่มาแตะต้อง”

“ก็เราเหมือนจะไม่ชอบเวลาทิ”

“ดูตัวเองทำหน้าดิ ดีกว่าผมรึไง” ผมพูดไม่ทันจบเขาก็สวนขึ้นมาก่อนอย่างกับอัดอั้นอะไรมา

ผมลองนึกหน้าตัวเอง ตอนที่สงสัยผมทำหน้ายังไงนะ หรี่ตาย่นคิ้วนิดๆ เม้มปาก

แล้วเวลากลัวเขาไปแล้วไม่กลับมา ผมทำหน้ายังไงนะ ตัวเกร็ง กอดอก เม้มปากเน้นกว่าเดิม สายตาก็ระแวงระวัง ผิวเข้ม หนวดรกนิดๆ หน้าดุๆ

“ขอโทษ ก็หน้าพี่เป็นอย่างนี้”

“ทั้งที่ทำหน้าจริงจังเหมือนหุ้นขาดทุน แต่ก็ยังยื่นกุญแจห้องให้ แถมยังเดินไปบอกยามหน้าตาเฉยว่าแฟนผมจำหน้าไว้ด้วยจะได้ผ่านเข้าออกคอนโดได้ ทึกทักว่าผมเป็นนั้นเป็นนี่ด้วยทั้งที่ไม่เคยถามความเห็นผมสักคำ ไอ้เรารึก็เข้าข้างตัวเองว่าคนแก่คงหลงเราปลอบใจตัวเองว่าเดี๋ยวจะปรับปรุงสีหน้าให้ดีขึ้น ยิ่งอยู่กลับยิ่งบูด”

ผมกอดเขาแน่นขึ้น เสียดายเวลา ถ้ารู้ว่าเขาก็คิดเรื่องผมมากขนาดนี้

“ไม่บูดแล้วๆ”

“จนทุกวันที่ผมรีบกลับ หรือแกล้งหลับต่อจนพี่ออกไปทำงาน ก็เพราะกลัวโดนไล่ตะเพิดไม่ให้มาอีกหรอกนะ”

จริงเหรอ หน้าผมน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ ปราณ พี่ขอโทษ พี่ไม่ตั้งใจ

“ต่อไปมีอะไรก็บอกได้ไหม อย่าเอาแต่เงียบ”

“พูดๆๆๆเดี๋ยวจะพูดทุกอย่างเลย” หวังว่าเขาจะพูดเหมือนกัน แต่ถึงเขาไม่พูด ผมก็จะคอยถามเอง

ผมกระชับอ้อมกอดที่คิดว่าอบอุ่น จนเขาแทบแบนติดตัวผม อิงหน้าซบกับผมเขา

“อื้ม แต่ตอนนี้ผมอึดอัด”

อ้าว

“กอดไง” ผมพูดเสียงอ่อย รักก็กอดไง ผมยอมคลายแขน ให้เขาหายใจ แต่เขากลับผลักผมออกแล้วขยับไปมา หันหน้ามาทางผม

“ไอ้แบบเมื่อกี้เรียกรัด กอดต้องแบบนี้”


ตั๊ลล้ากกกกกก


เด็กเวลาไม่ดื้อมันน่ารักแบบนี้เอง กอดของเด็กมันช่างทำให้กระชุ่มกระฉวย

ผมรู้สึกย้อนวัยเด็กลงสักสิบยี่สิบปี มีแฟนเด็กคงต้องทำตัวเด็กตามสักนิดสักหน่อย จะเอาแต่อารมณ์จริงจังผมคงต้องไปนั่งตะกุยผนังคร่ำครวญว่าทำไมอย่างโง้นทำไมอย่างงี้อีก เสียเวลา



ก่อนนี้ผมมองความรัก เพียงรูปแบบของรัก เลือกที่รูปแบบไม่ได้มองลึกไปถึงปัจจัยอีกมากมาย และมองเขาเป็นเขา แยกจากกัน ทำให้ผมไม่เข้าใจทั้งความรัก และไม่ได้เขา แต่ต่อไปผมจะให้ความหมายกับเขาว่าเขาคือความรักของผม เขาและความรักจะได้ไม่แยกจากกัน และไม่ไปจากผม


คืนนี้ผมคงนอนหลับสนิทจริงๆ หลับได้อย่างไม่ต้องกังวนเป็นครั้งแรก ตั้งแต่ได้เขามาไว้ในอ้อมกอด ผมเพิ่งรู้วันนี้ ว่าใจเขา ก็อยู่กับผม




-------------------------------
TBC.


ตอนแรกกะเขียนดราม่า ไปๆมาๆ ทำไมคนเขียนรู้สึกคู่นี้เป็นคู่ตลก 555

เจอกันตอนหน้า


หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ชนะปราณ by ชนะ ผู้พ่ายในเกมรัก] 1/4/59 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-04-2016 19:11:29
คู่นี้มันมีปัญหาเพราะไม่เคยเปิดปากคุยกันใช่ไหม
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ชนะปราณ by ชนะ ผู้พ่ายในเกมรัก] 1/4/59 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 01-04-2016 21:00:14
ตลกอะแหละดีแล้ว
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ชนะปราณ by ชนะ ผู้พ่ายในเกมรัก] 1/4/59 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 01-04-2016 23:08:42
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ชนะปราณ by ชนะ ผู้พ่ายในเกมรัก] 1/4/59 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin ที่ 01-04-2016 23:26:10
อย่าดราม่าเลยค่ะ เอาแค่พอกล้อมแกล้มเนาะ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ชนะปราณ by ชนะ ผู้พ่ายในเกมรัก] 1/4/59 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Ujeen ที่ 02-04-2016 19:43:18
ชอบประโยค“งั้นใส่คาไว้เฉยๆ ได้มะ?” ของพี่ชนะอะ  แอร้ยยยยยยยยยยยยคือไรคะคืออะไรรรรรร
เป็นโคแก่ที่แสดงความหื่นออกมาได้อย่างน่ารัก55555
 
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ชนะปราณ by ชนะ ผู้พ่ายในเกมรัก] 1/4/59 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 02-04-2016 23:45:38
แอบหวานนะ คู่พี่ชนะปราณ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ชนะปราณ by ชนะ ผู้พ่ายในเกมรัก] 1/4/59 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-04-2016 21:06:34
 ลุ้น ชนะ ปราณ อยู่   :katai2-1: 
พูดกัน ทำให้เข้าใจกัน  :mew1:
รักกันแล้ว ดีจัง :กอด1:
รอ ตอนใหม่  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ชนะปราณ by ชนะ ผู้พ่ายในเกมรัก] 1/4/59 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: 。Atlas ที่ 04-04-2016 15:44:54
ชอบบบบบ รอนะคะ ไม่รู้ทำไม เราก๊าวใจกับคู่ยีนส์เมมากกว่าคู่หลักแล้วซะงั้น 555555

พี่ชนะนี่อายุเท่าไหร่นะคะ 29-30 หรือเปล่าหว่า ?
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ชนะปราณ by ชนะ ผู้พ่ายในเกมรัก] 1/4/59 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: PaiPo ที่ 06-04-2016 03:11:11
พี่ชนะเลิศ (ตั้งสมยาให้เอง) ดูรักเด็กไม่ค่อยรู้ตัวนะ 5555+
นี่ แก่แล้วก็อย่าคิดเยอะเซะ รักก็ยอมรับๆไปเถอะว่ารัก
นับอายุตาแก่ก่อนนะ ปู่ของปู่ของลุง... เอิ่มมม นับไม่ถูก 5555
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ชนะปราณ by ชนะ ผู้พ่ายในเกมรัก] 1/4/59 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 07-04-2016 18:45:36
อิอิ น่ารักดีอะเนอะ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ชนะปราณ by ชนะ ผู้พ่ายในเกมรัก] 1/4/59 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: BChampa ที่ 18-04-2016 19:50:23
ยู้ฮู หลังสงกรานต์แล้วน้าาาา กลับมาอัพยังเอ่ย
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [ชนะปราณ by ชนะ ผู้พ่ายในเกมรัก] 1/4/59 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 18-04-2016 21:30:26
ยู้ฮู หลังสงกรานต์แล้วน้าาาา กลับมาอัพยังเอ่ย

ขอเวลาปั่นแป็ปจ้า กลับบ้านนอกสงกรานต์ไม่ได้พกโน๊ตบุคไป กลัวเปียก 5555
จะรีบอัพในวันนี้พรุ่งนี้น้าาาาาา
 :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 19 สับสน] 20/4/59 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 20-04-2016 15:55:00
(http://i1159.photobucket.com/albums/p636/Browny_Tan/bro/loveagain2_zpscs9dbvrb.png)
- บทที่ 19 - สับสน -




-------------------------------------------


“เอ้า วันนี้เลิกซ้อมแค่นี้ก่อน พรุ่งนี้วันอังคาร ซ้อมเบาๆแต่เน้นเทคนิค เพราะวันพุธเราต้องแข่งแล้ว เพราะงั้นขอให้เบาทุกอย่าง อ่านหนังสงหนังสือเงี้ย ก็เบาๆ อย่าหักโหม จนดึกดื่น นะ เข้าใจนะ พักผ่อนเยอะๆ เก็บแรงไว้”

“ไอ้พี่ภาค ก็บอกน้องไปตรงๆ เลย ว่างดสวัสดีแฟนช่วงมีแข่ง” พี่เสือคนจริงครับ ตรงจริงๆ

“กูว่าน้องเข้าใจที่กูพูดอยู่นะ” พี่ภาคยังยืนยันในแนวทางของตัวเอง

“เข้าใจแป๊ะอะไร ผมพูดมันถึงเข้าใจเนี่ย ดูหน้าพวกมันดิ พี่จะบอกเลยนะน้อง ก่อนแข่งถือว่าสำคัญมาก อย่าทำให้ทีมแพ้เพราะมัวแต่ทำการบ้านกับ เมีย จนลืมทีม”

เฮ่ สายตาเชือดเฉือนกับหางเสียงที่ตวัดไปทางพี่ภาคนี่แปลว่าเคยเกิดกรณีตัวอย่างงั้นสิ

“มึงนี่แค้นฝั่งหุ่น นั้นแหละ เพราะเรามีแข่งติดๆ กันทุกวัน วันพฤหัสมีสองนัดด้วยซ้ำ ตายแน่มึง เจอเกษตรกับวิทยาในวันเดียวกันเล่นเอาวันแรกที่เจอไอทีเลยดูไม่น่าห่วงไปเลย ประมาณนี้มั้ง ปีหนึ่ง ใครมีเรียนเย็นวันไหนไปคุยกับพวกปีสอง ลงชื่อไว้เลยนะ ถ้าเป็นวิชาที่ขอเวลาได้จะได้ขอให้ ถ้าขอไม่ได้จะได้หาตัวลงแทนไม่ฉุกละหุก แยกย้ายได้ เจอกันพรุ่งนี้ โชคดีพวกมึง”

เราไม่ได้รีบร้อนกลับนัก ยังนั่งและนอนเอกเขนกกับพื้นยิมเพราะทุกคนเหนื่อย เหงื่อโทรม และตัวเหม็นน่ารังเกียจสำหรับคนข้างนอกที่ไม่ได้มาซ้อมกับเรา หันไปดูทีมหญิง เขายังฟิตซ้อมความถนัดรายตัวอยู่เลย

 ผมกำลังเดินไปหาพี่บอลที่นั่งรอจดนั่นนี่อยู่ แต่ผมรู้สึกได้ ว่ามีคนกอดอกแอบมองผมอยู่อีกทาง จนเขาเรียก ผมถึงกล้าหันไปสบตา

“แม็ต”

“ครับพี่” พี่ปราณยืนนิ่งๆ รอผม ชัดเจนว่าหาจังหวะเรียกอยู่นานแล้ว

“มานี่หน่อย” ผมปลีกตัวออกมาโดยดี พยายามทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ในทุกๆเรื่อง หรือความขุ่นใจที่เคยมีต่อเขา ผมก็พยายามเก็บไว้ รอดูท่าทีเขาก่อน

ผมเดินแยกออกไป ไม่มีคนสนใจเท่าไหร่ ยกเว้นสาวๆ ที่คอยมองตามผมตลอด แต่ก็อยู่ไกลเกินกว่าจะได้ยินบทสนทนา

“เพื่อนมึง อยู่กับชนะใช่ไหม?”

“เอ๋ พี่รู้ได้ไง” ผมตีหน้าซื่อ

“กูขี้เกียจโทร ถ้ามึงโทรหามะนาวก็บอกมะนาวให้บอกไอ้แก่ด้วย” เขาเลี่ยงที่จะตอบ เลือกพูดธุระของตัวเองต่อไป

ผมแอบผงะนิดนึง ไอ้แก่นี่คือ?

“ว่าจะกลับไปรอที่คอนโด ถ้าไม่เห็นหน้าในครึ่งชั่วโมงก็ไม่ต้องมาให้เห็นหน้าอีก”

“อ่า ครับ” ผมพยายามทำท่าเข้าใจ ไม่แสดงออกว่าสงสัยอะไรทั้งนั้น ทั้งที่ที่จริงแล้วคำถามมากมายเกิดขึ้นในหัว

รู้ได้ยังไง? ทำไมไม่บอกเอง ทำไมต้องฝาก อะไรทำให้เขาแน่ใจว่าผมจะติดต่อมะนาวทันทีที่เลิกซ้อม เขารู้อะไรมากแค่ไหน แล้วแบบนี้มันไม่เท่ากับสารภาพกับผมเหรอว่าตัวเองมีแฟนเป็นคนที่กล่าวถึง

คำถามและความสงสัยหมุนวนจนผมปั้นหน้าได้ลำบาก


“แล้วก็สำหรับเรา แม็ต”

“เอ๋ ผมเหรอ?”

“ดูแลมะนาวดีๆ เห็นเจ็บแบบวันนี้ บอกตรงๆ พี่ไม่ค่อยโอเค”

“...” แล้วนี่มันแปลว่าอะไรอีก?

เขาพูดแล้วเอาแต่มองหน้าผมนิ่งๆ ผมเองก็ได้แต่เงียบ ใจสับสน เป็นห่วง หวงใย เขายังชอบมะนาวอยู่หรือเป็นแค่ความห่วงใยในฐานะคนเคยมีใจ หรือความจริงแล้วเขายังมีใจ


หรือนี่คือจุดประสงค์จริงๆที่เรียกผมมาคุย เพื่อบอกว่าตัวเองยังเป็นห่วงมะนาวอยู่?


แล้วประโยคสุดท้ายที่เขาทิ้งไว้ก่อนจากไป กลับยิ่งทำให้ผมสับสน

“ฝากมะนาวด้วย” เขาพูดแค่นั้น ตบๆ ที่แขนผมแล้วจากไป


ฝาก เหรอ? ฝากผม

เขาทำผมสับสน

ใจหนึ่งเหมือนยังอาลัย ใจหนึ่งเหมือนพยายามตัดใจ

เขาอยากบอกว่าเขามองออกเรื่องผมกับมะนาว หรือบอกว่าตัวเองกำลังพยายามตัดใจกันแน่ ผมไม่อยากมองเขาในแง่ร้ายตลอดเวลา เพราะจริงๆ แล้วเขาอาจจะไม่ได้คิดอะไรเลยก็ได้

แล้วอะไรล่ะที่ซ่อนอยู่ในใจเขาจริงๆ
 


ผมเลือกไม่คิดฟุ้งซ่าน โทรหามะนาวให้จิตใจสงบ

// ฮัลโหล อยู่ร้านข้าวแฟ // มะนาวรีบรายงานสถานการณ์ทันทีที่รับสาย

“อ้าว กินข้าวกันเหรอ นึกว่าไปร้านเหล้ากัน” ผิดคาดแหะ

// ช่าย ไม่ได้กิน ยังหัวค่ำอยู่เลยนะเว้ย กินข้าวเสร็จละกำลังกินเค้ก //

“บอกพี่ชนะนะ ว่าพี่ปราณฝากบอก ว่ากลับไปรอที่ห้องให้รีบกลับในครึ่งชั่วโมง”

// อ้อได้ ว่าอีกทีสิ พี่ชนะ มีข้อความฝากถึง //

“ทวนคำนะ”

// อื้ม //

“ฝากบอกไอ้แก่ด้วย ว่าจะกลับไปรอที่คอนโด ถ้าไม่เห็นหน้าในครึ่งชั่วโมง ก็ไม่ต้องมาให้เห็นหน้าอีก”

มะนาวทวนคำโดยใส่อารมณ์ที่ผมไม่มีให้ด้วย ทำเอาผมยิ้มคนเดียว

// หา // ผมได้ยินเสียงอุทานและเสียงคุยกันดังมาจากปลายสาย

// เขารออยู่ รีบกลับดิพี่ //

// แล้ว แล้วถ้าเขาแค่เรียกไปบอกเลิกล่ะ //

// ก็ง้อแบบที่คนรักเขาง้อกันจิ แบบนั้นๆ อ่ะ เข้าใจใช่ป่ะ? // ฮ่าๆๆ ดูคำแนะนำมะนาว ถ้าใครเดินผ่านไปผ่านมาแถวนี้คงหาว่าผมบ้ายืนหัวเราะในมุมมืดๆข้างโรงยิมอย่างนี้คนเดียว คิดได้ผมก็เริ่มออกเดินไปลานจอดรถหลีกเลี่ยงสถานการจำลองคนบ้าของตัวเอง


“เฮ้ย แม็ต”

ผมหันไปตามเสียงเรียก

พี่ยีนส์นั่งไขว่ห้างเขย่าแก้วน้ำอยู่โต๊ะม้าหินข้างโรงยิม มันมืดจนผมไม่ทันสังเกตว่ามีคนอยู่ตรงนั้น

“หวัดดีครับพี่ ไมมานั่งมืดๆ”

“พักทำโปรเจค” พี่ยีนส์พยักเพยิดไปตึกฝั่งตรงข้ามที่เป็นตึกเรียนของเขา ความจริงฝั่งโน้นก็มีโต๊ะหน้าตึก ที่นั่งสว่างๆ เยอะแยะ แล้วทำไมต้องมานั่งฝั่งนี้?

“ไม่ไปนั่งข้างในสว่างๆ มืดงี้ยุงกัดตายนะพี่”

“ไม่ล่ะ ไม่อยากทำให้ใครอารมณ์เสีย”

“สาวๆ น่าจะดีใจมีแรงซ้อมมากกว่านะ ถ้าพี่ไปเชียร์”

“ยกเว้นเพื่อนมึง” เขาพูดนิ่งๆ ยกแก้วขึ้นดูดซ้ำจนหมดก้นแก้ว

“แปลว่าพี่แคร์เม”

“เห้อ” เขาถอยหายใจ “ไม่มีอะไรหรอก ไปเถอะ จะกลับแล้วไม่ใช่รึไง” เขาตัดบท

“...” ผมพยายามทำความเข้าใจกับคำตอบของพี่ผม ทำยังไงก็ยังไม่เข้าใจ

เห็นผมเงียบไป พี่ยีนส์เลยพูดขึ้น

“วันศุกร์เลี้ยงสายนะ จริงๆ จะเลี้ยงตั้งแต่วันนี้แล้ว แต่โนอาบอกแม็ตมีแข่งบาส พวกพี่ๆ เขาเลยรอวันศุกร์ เขาอยากเจอมึงกันทุกคน” เขาพูดจบ ก็มองหน้าผมนิ่งๆ เหมือนยังพูดไม่จบ ผมเลยรอว่าเขาจะบอกอะไรอีก

“มึงไม่ไปกูไปเองก็ได้”

อ้าว

พี่ยีนส์ลุกขึ้นยืน โยนแก้วน้ำที่เหลือแต่น้ำแข็งลงถังขยะ ก่อนจะโยกหัวบิดขี้เกียจเดินข้ามถนนกลับไปตึกภาคตัวเอง

ผมมองเขาเดินหายไป ยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหูอีกครั้ง มะนาวยังไม่วางสาย แต่ปลายสายอีกด้านเงียบสนิท พี่ชนะคงไปแล้ว


“นาว นาว มะนาว”

// อ้าวเห้ย ยังอยู่ในสายเหรอ //

“เออ ก็กูขับรถ มึงไม่กดวางเอง แล้วเมื่อกี้ แนะนำอะไรพี่มึง?”

// ถ้าได้ยินแล้วจะถามอีกทำไมวะ รีบๆมา ของกินเต็มโต๊ะเลยมึง พี่ชนะลุกลี้ลุกลนให้แบ้งพันมา ฮ่าๆๆ หวานมะนาว //

“อย่าตะกละมาก อย่ากินสุ่มสี่สุ่มห้านะ ใกล้ถึงแล้ว”

// เออ งั้นมึงขับรถดีๆ โต๊ะขวามือ ริมกระจกนะ //

“โอเค”



ไม่นานผมก็มานั่งตรงข้ามเขาที่เป็นที่นั่งเดิมของพี่ชนะ มะนาวยืนยันให้ผมกินข้าวที่นี่เพราะบรรยากาศดีและที่สำคัญ มีเจ้ามือเป็นแบ็คพันที่วางอยู่กลางโต๊ะ

“ขอโทษนะคะ”

ผมหันไปมองพร้อมๆ กับมะนาว กินข้าวไม่ถึงไหนก็มีคนเดินเข้ามาทัก

“ขอถ่ายรูปคู่ได้ไหมคะ?”

เธอมองผมกับมะนาวด้วยสายตาอ้อนวอน

ถ่ายรูป?

“แม็ตเหรอครับ?” มะนาวถาม

“ไม่ไม่ใช่คะ ไม่ใช่พี่ถ่ายคู่กับเรา น้องนาวกับน้องแม็ตคู่กัน”

“เอ๋?”

งงอะไรมะนาว เขาก็พูดออกชัด

ผมลุกขึ้นยืน ย้ายไปนั่งข้างเดียวกับมะนาว มะนาวยังมีท่าทางงงๆ  จนผมมานั่งเท้าคางเก็กให้พี่เขาถ่ายรูปอยู่ข้างๆ มันก็เอาแต่มองมาที่ผม

“อะไร?”

“เอาจริงอ่ะ?”

“แค่ถ่ายรูปเองนี่ เอ้า ยิ้มหน่อยนาว” ผมบอก เขย่าไหล่มะนาวให้หันไปยิ้มให้กล้อง

“อื้มมมม” พี่คนที่ถ่ายรูปกำลังหลับตาแล้วยิ้มกับตัวเอง

“พี่ครับ พี่ จะถ่ายอยู่ไหมครับ?”

“อ้อ ค่ะๆ 1 2 3 เรียบร้อย ขอบคุณคะ”

เขาจัดการเก็บภาพอย่างรวดเร็ว แล้วหมุนตัวจะเดินออกไป แต่กลับวนกลับมาทำท่าเหมือนจะพูดอะไร แต่ไม่ยอมปริปาก ยืนเม้มปากอยู่ข้างหน้าพวกเรา

“มีอะไรครับพี่”

“พี่ขอเอารูปลงเพจ cute boys ได้ไหมจ๊ะ?”

“รูปเมื่อกี้อ่ะเหรอครับ?” มะนาวถาม

“ใช่จ๊ะ จริงๆอยากขอเผื่อไว้รูปอื่นๆในอนาคตด้วย คือมีแฟนเพจขอมาเยอะมากแล้ว แต่พี่ยังไม่ได้ขอพวกน้องเลยยังไม่ได้ลง”

“อ้อ” มะนาวอ๋อ แต่หันมามองหน้าผม คืออะไร ให้ผมตัดสินใจว่างั้นเถอะ

“คือ ถ้าเป็นรูปปกติ ไม่ล่อแหลม หรือไม่เหมาะสม ก็ไม่มีปัญหานะครับ ผมยังไงก็ได้”

“เหมือนกันครับ”

“จริงนะ ขอบใจนะจ๊ะ พี่จะไปบอกแอดมินนะ แต้งกิ้วๆ ไปละๆ”

แล้วพี่เขาก็หายไปจากร้านทันที เร็วจนผมเริ่มไม่แน่ใจ


“หรือเราจะคิดผิดที่อนุญาตพี่เขาไปแบบนั้นวะ” มะนาวเองก็คิดเหมือนผม

“เขาเคยลงรูปกูตอนประกวดดาวเดือนแล้วไง กูเลยไม่รู้จะห้ามทำไมอีก”

“อ๋อ คนกดไลค์รูปมึงกับเมตั้งสองพัน”

“กลัวรูปกูกับมึงจะน้อยกว่านั้นรึไง”

“อะไร?”

“ไลค์ไง”

“เปล่า ไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นเลย”

“เหรอ?”

“กลับไปนั่งฝั่งโน้นได้แล้วมึงน่ะ”

“...” ผมไม่พูดอะไร ยกจานกับแก้วข้ามโต๊ะมาวางข้างหน้า แล้วเริ่มกินข้าวต่อโดยใช้มือซ้ายแค่ข้างเดียว

“ปล่อย” มะนาวพูดเสียงเข้มแทบไม่ขยับปาก

“อะไร พูดเรื่องอะไรไม่เห็นนรู้เรื่อง”

“เนี่ย” มะนาวพยายามบิดมือไปมา ไม่ยอมอยู่นิ่งๆ

“หึ” ผมยิ้มมุมปาก จับมือเขาแน่นขึ้น

เขาไม่พูดอะไรอีก เลิกขัดขืน ได้แต่นั่งเท้าคางรอผมกินข้าว ดูงอนๆแต่ก็เหมือนเขิน

ผมจะกุมมือเขาไว้อย่างนี้แหละ กุมมือนี้ไว้จนกว่าเขาจะไม่อยากให้ผมกุมจริงๆ ไม่ใช่บิดมือไปเขินไปแบบตอนนี้



.............................................




Backwater : ส่งรูปภาพในกลุ่ม

ผมกำลังนอนคว่ำเล่นมือถือ ตาปรือเตรียมหลับ แต่ก็ยังมีแรงกดเข้าไปดูในกลุ่มที่น้ำมันโพส เป็นรูปแคปหน้าจอเพจ Cute boys ของมหาลัย รูปผมกับมะนาวที่ถ่ายวันนี้เนี่ยแหละครับ ค่อนข้างแปลกจากรูปอื่นๆในเพจมาก เพราะเป็นรูปคู่จากแทบทั้งหมดเป็นรูปเดี่ยวแถมยังเป็นรูปอิริยาบทต่างๆ ทำเป็นตาราง 9 ช่อง เรียงตั้งแต่ผมยืนข้างมะนาว  นั่งลง มะนาวทำหน้างง เรามองหน้าตอนคุยกัน ไปจนถึงรูปสุดท้ายที่ผมยกแขนพาดไหล่มะนาวแล้วยิ้มให้กล้องกันทั้งคู่

แคปชั่นเขียนแค่ว่า



             ‘no caption คะ แอดมินจะไม่พูด

             แม็ต #1 วิดวะคอม (เดือนคณะ) & มะนาว #1 วิดวะอิเล็กฯ’



เห็นเวลาที่ลง เขาลงตั้งแต่ผมยังกินข้าวไม่เสร็จด้วยซ้ำ ประมาณว่าถ่ายปุ๊บลงปั๊บ ตอนนี้ไลค์ปาไปพันกว่าทั้งที่เวลาที่ลงผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง


 Backwater : พวกมึงไปสวีตกันในที่สาธารณะ แถมยังประกาศให้โลกรู้อีกเหรอวะ

          เอเอ้ : กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด


      พิ้งพิ้งคึ : ดอก

      พิ้งพิ้งคึ : กูไม่เคยห้ามมึงสวีตต่อหน้ากูนะ ทำไมเวลาอยู่ด้วยกันมึงไม่หวานอวดกูบ้าง


       Maths : ส่งสติ๊กเกอร์ (โคนี่ส่งสายตาชั่วร้าย)


  NAWNAW : เฮ้ย ไม่มีอะไร

  NAWNAW : พี่เขาแค่มาขอถ่ายรูป


          เอเอ้ : หราาา


      พิ้งพิ้งคึ : มีเถอะ กูไม่ขออะไรมากขอนอนใต้เตียงพวกมึงพอ


 Backwater : นาววววว โกหกตกนรกนะมึง 5555+


       Maths : เหรอ งั้น ไม่มีอะไร


      พิ้งพิ้งคึ : มีเถ้อะะะะะ


 Backwater : แม็ต มึงโกหก แปลว่ามึงจะยอมตกนรกตามมะนาวไปว่างั้นเถอะ


       Maths : อื้ม ก็กะไว้ว่างั้น 


          เอเอ้ : อื้อหื๋อ


      พิ้งพิ้งคึ : ผัวทำเมียฟินมาก ขอบคุณผัวหมายเลขสองสำหรับการแปลมา ณ ที่นี้


       Am เม : แม่งงงง กูเกลียดพวกเมิงงงงงงง


หลังจากนั้นผมก็ไม่รู้พวกเพื่อนๆ โวยวายอะไรกันอีก เพราะผมโดนหมอนฟาดยับ จนต้องกลิ้งหลบจนสุดเตียง เจ้าตัวก็ยังไม่หยุดตีผมซ้ำๆ

“นาว ฮ่าๆๆๆ เป็นอะไร”

“มึงพูดแบบนั้นเพื่อนจะคิดยังไง” ผมชิงหมอนมา แล้วรีบรอบกอดเขาไว้ไม่ให้มือว่างมาทำร้ายผมได้อีก

“หรือจะให้บอกว่า มี ตรงๆ เลยล่ะ?”

“ไม่เอาโว้ย กูเขิน”

“ฮ่าๆๆๆ กูเชื่อ มึงหน้าแดงมาก” ผมฉกหอมแก้มเขาให้สีระเรื่อแดดขึ้นไปอีก

“ฮึ้ย มึงอ่ะ”

“แบบนี้ก็ดีแล้ว ให้คนอื่นคิดกันเอาเอง กูรู้ว่ามึงยังไม่พร้อม จริงไหม”

“ก็ ใช่อยู่”

ผมยิ้มให้กับความสับสนของเขา

ถึงแม้เราจะไม่ได้บอกโลกภายนอกว่าเราเป็นอะไรมีความลึกซึ้งกันแค่ไหน แต่ผมค่อนข้างมั่นใจ ว่าพวกเขารู้

ผมไม่กลัวเลย ว่าจะมีใครมาแทรกกลางระหว่างเราได้สำเร็จ

ผมไม่เคยเห็นมะนาวมองคนอื่น ในขณะที่ผมเองก็ชัดเจนว่าไม่สนใจใครที่ไหน นอกจากเขา

“นอนเถอะ ง่วงจัง” ผมคลายวงแขนกอดหลวมๆ ดึงเขาให้ทิ้งตัวลงนอนข้างๆ กัน

“นอนเลยเหรอ?”

“อื้ม ซ้อมมาหนักมากเลย” ผมแทบจะหลับกลางประโยคของตัวเองด้วยซ้ำ

ตอนนี้กี่ทุ่มกันนะ ทำไมง่วงขนาดนี้...

สิ่งสุดท้ายที่รู้สึก คือมะนาวดึงผ้าห่มมาห่มให้ นอนลงข้างๆ ดึงมือผมไปกอดไว้



................................................


ในที่สุดก็ถึงวันแข่งกีฬาเฟรชชี่นัดแรก ห้าโมงเย็น เรารวมกับที่ข้างสนามบาส ต่างคนต่างวอร์มร่างกายเตรียมการแข่งขัน ผมสังเกตฝั่งวิดวะผู้หญิงมาเชียร์พวกเราเยอะมาก ทั้งที่คณะผมผู้หญิงน้อยมาก

มะนาวนั่งริมๆ ข้างๆเป็นเอ้กับพงศ์ เมเดินขึ้นๆ ลงๆ เพราะเดี๋ยวก็มีแข่งเหมือนกัน

พอได้เวลาแข่ง ทุกอย่างก็วุ้นวายไปหมด ไม่ใช่เพราะเป็นการแข่งเปิดสนามนัดแรก แต่เพราะกองเชียร์ของทั้งบาสหญิงบาสชายยกกลองเข้ามาตีและเต้นวุ้นวายไปทั่งแสตน

แต่พอเริ่มการแข่งขันทุกคนกลับหยุดเล่น แล้วนั่งดูพวกเราแข่งกันอย่างจดจ่อ

ไม่รู้ว่าเป็นแผนของไอทีหรือยังไง ผมรู้สึกว่ามีมากกว่าหนึ่งคนล็อกเป้ามาที่ผม เบอร์ 9 ที่ตัวเล็กสุดในทีมจะคอยกันผมแทบทุกวินาที เหมือนเขาไม่สนใจลูกบาสเลยด้วยซ้ำ

และเพราะเขาตัวเล็ก จึงมาพร้อมความไวที่เป็นจุดอ่อนของคนตัวใหญ่แบบผม

เลวร้ายมาก เพื่อเดินเกมต่อให้ได้ตามแผนผมกับเขากระแทกกันหลายครั้งจนผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นจุดเริ่มต้นให้ในเกมมีความรุนแรงทวีขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนเริ่มประชิดและตั้งใจกระแทกกันจนล้มกลิ้งก็มี

เพื่อนพยายามส่งบอลมาให้ผมทำสามแต้ม ผมแทบไม่เลี้ยงบอล จับโยนจับโยนเพื่อเลี่ยงการกระทบกระทั้ง

ว่าแต่ทำไมพวกมึงไม่ไปชูตกันเองบ้างวะ ไอ้พวกขี้อู้

ประมาณเบรกที่สอง พี่ยีนส์เข้ามาในสนามในลุคเดิมที่ผมคุ้นเคย คือลุคประธานเชียร์ ชุดเรียบร้อย เชิตแขนยาวพับแขนถึงศอกไม่ผูกไท้ด์ ผมเซตทรงสุภาพกางเกงยีนส์สีเข้มกับรองเท้าเซพตี้ทำให้ดูสุขุมและแตกต่างจากคนอื่นจนสะดุดตา ที่ผมมีเวลาไล่รายละเอียดทั้งหมดของพี่ผมมากขนาดนี้เพราะผมนั่งพักครึ่งอยู่ข้างสนาม ฟังโคชคือพี่เสือบอกจุดอ่อนจุดแข็งทั้งหมดของเราจากสองควอเตอร์ที่ผ่านมา

ก่อนเริ่มเกม พี่ยีนส์สั่งแสตนวิดวะให้ร้องเพลงเชียร์พวกผม

โอ้โห นี่เองพลังของการเข้าเชียร์ กองเชียร์ที่คละชั้นปี แต่ร้องเพลงเชียร์ดังลั่น

หลังจากนั้นทีมเชียร์ กับทีมสันฯก็ผลัดเปลี่ยนกันสร้างสีสัน ผมเห็นเพื่อนๆผมลุกขึ้นเต้นไปกับเขาด้วย

ควอเตอร์สุดท้าย ผมถูกเปลี่ยนตัวออกมาพัก มานั่งเหนื่อยข้างสนาม เพราะคะแนนนำห่างจนแทบไม่ต้องลุ้น

จบเกมก็ยังไม่มีอะไรผิดไปจากที่คาด วิศวะชนะไอทีไปด้วยแต้มต่างกับเกือบครึ่งต่อครึ่ง

ตอนจับมือหลังแข่งจบ เบอร์ 9 ก็เอ่ยปากขอโทษผม ทั้งที่ผมไม่ได้คิดอะไรด้วยซ้ำ เกมคือเกม ออกมมานั่งพักจนเกือบลืมไปแล้วว่ากระแทกกันกี่ที


ผมมองหามะนาวเพราะเพลงเชียร์จบลงแล้ว ทุกคนย้ายฝั่งไปนั่งข้างสนามที่ทีมบาสหญิงวิดวะกำลังเตรียมตัวลงแข่งเช่นกัน ผมเก็บของเตรียมขึ้นไปนั่งบนแสตนกับเพื่อนๆ แต่ก็มีเสียงนึงรั้งไว้

“แม็ตๆ”

“อ้อ ไง” ผมอยากจะทักทายนะ แต่ไม่รู้จัก จำได้แต่หน้าไม่รู้จักชื่อนี่นะ จำได้แค่ว่า เบอร์ 9 "เจ็บรึเปล่าเกมวันนี้แรงอยู่นะ"

“ไม่หรอกๆ เอ้า นี่ยาทาแก้พกช้ำ ใช้ดีนะ อาร์มใช้อันนี้ตลอดเลย”

เขายื่นหลอดยาเล็กๆมาตรงหน้า เป็นเชิงให้ผมรับไว้

ผมก็รับไว้

“แต่เราไม่เจ็บเท่าไหร่นะ นายต่างหากโดนกระแทก ทั้งแขนทั้งชายโครง เก็บไว้ใช้เถอะ” ผมพยายามยื่นคืน

“ไม่ต้องๆ เรามีอีก” เขาตบๆกระเป๋า

“เหรอ งั้นก็ขอบคุณนะ”

“อื้ม”

“เอ่อ ชื่ออาร์มใช่ไหม?” ผมตัดสินใจถาม เพราะไม่รู้จะพูดอะไรต่อ “ยินดีที่รู้จัก”

“เหมือนกัน ไว้เจอกันนะ เราไปเชียร์เพื่อนก่อน” เขายิ้มแล้วเดินไปที่บันได ขึ้นอัฒจันทร์ฝั่งกองเชียร์วิศวะที่รวมกลุ่มกันหนาแน่น
ผมเองก็เดินตามเขาเพราะเป็นทางเดียวกัน เขาไปนั่งริมๆ กับเพื่อนสองสามคน คงมีเพื่อนอยู่ทีมหญิง

“กูว่าแล้วทำไมมันกันแต่มึงไม่สนใจห่าอะไรเลย”

ผมยังไม่ทันนั่ง พงศ์ก็ลุกขึ้นยืนพูดกับผม ก่อนจะไปหาที่ว่างถัดออกไป เป็นเชิงว่าให้ผมนั่งที่เดิมของเขา ผมทิ้งตัวลงนั่ง วางขวดน้ำกับผ้าเย็นที่เริ่มจะไม่เย็นลงกับตัก

“อะไร?” ผมถาม

“ไอ้ไอทีเบอร์  9 นั่นไง”

“แล้วทำไมเหรอ?”

“ก็มันอ่อยมึง ไหน เอาอะไรมาให้ ไหนดูสิ” เอ้แย่งพงศ์ตอบ แถมยังก้มลงมาหยิบของในมือผมไปดูว่าเขาให้อะไรมา

“ยากากๆ จะใช้ได้เหรอ” เอ้ดูถูก

“ผสมน้ำมันพรายรึเปล่าก็ไม่รู้ ไม่ต้องใช้หรอก” พงศ์แย่งไปดู แถมยังเปิดออกดมแล้วพึมพำว่าก็หอมดีอีกต่างหาก ผมล่ะสับสนในความแปรปรวนของพงศ์

“เอามา” ผมหยิบของเจ้าปัญหาคืนมา ยัดใส่มือมะนาว

“นี่เลย ปวดไหล่ นวดให้หน่อย” ผมลุกขึ้นถอดเสื้อ แล้วลงไปนั่งที่นั่งว่างๆ ข้างหน้ามะนาวพอดี เอ้กับพงศ์จะได้เลิกโวยวายสักที

มะนาวที่ไม่ยังไม่พูดอะไรสักคำตั้งแต่ผมมาถึงเริ่มทายาแบบไม่เบามือนัก เริ่มบีบและกดแรงจนผมต้องย่นคอ ถ้าคนอื่นอาจจะคอหักได้เลยนะ มะนาวมือไม่เบานะครับ!

เขายังคงไม่สนใจอาการทุรนทุรายของผม จนผมต้องเอียงตัวไปมองหน้าเขาว่ากำลังทำสีหน้ายังไงตอนที่กำลังทำร้ายผมแบบนี้

โฮ มันคือยิ้มของโคนี่

“อ้าว แรงไปเหรอ?”

“...” ผมพูดไม่ออก เพราะเหมือนเขาจะจงใจมากกว่าไม่ตั้งใจนะ
 
“เฮ้ย ไง ถึงกับต้องนวดเลยเหรอ” ผมกับเพื่อนพร้อมใจกันยกมือไหว้คนที่เข้ามาทักผม

พี่ปกป้องเป็นผู้ชายดูสะอาด ท่าทางใจดี หน้าตาเด็กเรียน ถ้าบอกว่าเรียนหมอยังจะน่าเชื่อกว่าบอกว่าเรียนวิดวะเยอะ ผมยังไม่ค่อยได้ทำความรู้จักคุณลุงมากนัก แต่เท่าที่สัมผัสมา เขาก็ใจดีกับผมนะ

“เจ่งนี่หว่า ชูตสามแต้มลงทุกเม็ด” พี่ป้องทำท่าชูตในอากาศ “ไอทีแทบจะเก็บของกลับตั้งแต่ควอเตอร์แรก”

“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกพี่ เขาก็เก่งอยู่ แล้ว พี่ยีนส์ล่ะพี่? เมื่อกี้ยังเห็นอยู่เลย”

“ไปรับโนอา เพิ่งเลิกเรียนเย็น”

“อ้อ”

“นั่นไงพี่มึง” มะนาวชี้ไปที่ประตูทางเข้า พี่โนอาเดินเข้ามาหยุดตรงทางเข้า มองไปมองมาเหมือนหาอะไร ข้างหลังมีพี่ยีนส์เดินตามไม่ห่าง

พอเห็นผมพี่โนอายิ้มน่ารักโบกมือให้ผมดุกดิก ก่อนจะหันไปยื่นกระเป๋าตัวเองให้พี่ยีนส์ เห็นพี่โนอาไม่ตามพี่ยีนส์ขึ้นมา แต่เดินไปรวมกับนักกีฬาข้างสนาม พวกผมมองตามแบบลืมตัว

เขาไปนั่งข้างๆ เม และพูดคุยกัน


“มองอะไรกันขนาดนั้นวะ”

อ้าว พี่ยีนส์เดินมาถึงแล้ว เขาเอากระเป๋าพี่โนอายื่นให้เพื่อนเขา

“ใส่เสื้อเหอะแม็ต พี่แกจะให้ร้องเพลงแน่ท่านี้” พี่ป้องหันมาบอกผมก่อนลุกขึ้นเดินไปสมทบกับพี่ยีนส์

พี่ยีนส์กำลังยืนพิงรั่วเหล็กกั้นหันหลังให้สนาม มองไปที่กลุ่มคนที่นั่งกระจัดกระจายรอดูบาสหญิง ส่วนผมใส่เสื้อกลับขึ้นมานั่งข้างมะนาว

“อื้ม นวดดีจริงๆ แบบนี้ต้องใช้บ่อยๆ”

“ได้ แต่กูจะคิดตัง”

“ฮ่าๆๆๆ”

สักพักพี่ยีนส์ก็ให้พวกเราร้องเพลงจริงๆ เป็นเพลงเชียร์ช้าๆ ที่ความหมายดี ทำไมช่างต่างจากตอนร้องให้ทีมชายที่มีแต่เพลงเร็วแถมดุดันนะ


ผลการแข่งขันของทีมหญิงก็ไม่ต่างจากของผมเท่าไหร่คือทิ้งห่างแบบลุ้นไม่เหนื่อย

จบเกมผมถึงรู้ว่าแฟนคลับเมเยอะขนาดไหนเขาได้ทั้งดอกไม้ และกล่องที่ผมเดาว่าเป็นเค้ก

“เดี๋ยวกูจะไปแย่งเค้กมันมากิน” พงศ์เสนอตัว

“คิดว่ามันจะยอม?” มะนาวหันขึ้นไปถาม

“มันต้องไดเอ็ดไปประกวดดาว มันต้องยอม”

“อย่างกับมันจะแคร์” ผมบอกพงศ์ให้ทำใจ ทำให้เกิดอาการหัวฟัดหัวเหวี่ยงพาลมาเขย่าตัวผมจนหัวคลอน

โอ้ย ผมผิดตรงไหน ผมแค่พูดความจริง




---------------------------------------
TBC.


ในส่วนของคู่ 3P ยังคงสตีลความสับสนไว้อย่างสตรอง 555+
ส่วนความสัมพันของคู่หลัก ก็ยังคงดำเนินไปอย่าง... ไม่บอกให้คิดเอง ฮี่


หายหน้าหายตาไปนาน อย่าเพิ่งทิ้งกันนะค่าาาาา
ตอนหน้าจะมาให้ไวเลยยยย



*ปล. แก้ประมาณแล้วนะคะ  ขอโทษไว้ ณ ที่นี้ที่ทำให้ขัดตา เข้าใจอารมณ์คนอ่านที่แบบ 'ฮึ้ย ฉันเห็นมันๆๆๆๆ' เพราะเราก็เป็นเวลาอ่านอย่างอื่นที่ไม่ใช่ฟิกตัวเอง 5555+
อันนี้คงเป็นความเข้าใจผิดของตัวคนเขียนเอง ไม่ได้พิมพ์ผิดเฉยๆ 555 คาดว่าตอนอื่นก็คง มาร มาเป็นระยะ ไว้ตามแก้ทีหลังเนอะ แต่ต่อไปคงไม่ผิดแล้ว ไม่สัญญาแต่จะพยายามจ้า
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 19 สับสน] 20/4/59 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 20-04-2016 15:55:46
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 19 สับสน] 20/4/59 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 20-04-2016 20:33:20
มะนาวคงอยากทุบมากกว่าจะนวดให้แมตซ์

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 19 สับสน] 20/4/59 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 20-04-2016 20:35:31
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 19 สับสน] 20/4/59 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-04-2016 23:40:31
ชื่อตอนชวนตกใจมาก นึกว่าจะมีดราม่าอะไรซะอีก
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 19 สับสน] 20/4/59 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 21-04-2016 00:03:13
รอวันเปิดตัววววววววว
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 19 สับสน] 20/4/59 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 21-04-2016 06:20:14
 เห็นคำผิด ขอแก้นะ
ประมารนี้ ---- ประมาณ
ส่วน มาร --- แพ้เป็นพระ ชนะเป็นมาร
มะนาวน่ารักมาก ตอนแนะนำพี่ชนะ // ก็ง้อแบบที่คนรักเขาง้อกันจิ แบบนั้นๆ อ่ะ เข้าใจใช่ป่ะ? //
ขำมากตอน
"เฮ้ย ไม่มีอะไร"
"มีเถอะ กูไม่ขออะไรมากขอนอนใต้เตียงพวกมึงพอ"
ชอบทุกคู่  ส่วน 3p จะลงเอย แบบ 3p จริงหรอ :ling1:
ตามต่อ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 19 สับสน] 20/4/59 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 21-04-2016 09:32:18
ชอบแมตกับมะนาว   :mew1:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 19 สับสน] 20/4/59 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 21-04-2016 09:57:52
โมโหหึงสิน่ะมะนาว
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 19 สับสน] 20/4/59 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 21-04-2016 13:52:34
อิอิ แม็ตน่ารัก ชัดเจน
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 19 สับสน] 20/4/59 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 21-04-2016 20:31:37
ตัวเองเขียนประมาณเป็นประมารเยอะจัง แต่สนุกดีค่ะ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 19 สับสน] 20/4/59 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 21-04-2016 21:32:16
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 19 สับสน] 20/4/59 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: BChampa ที่ 21-04-2016 22:17:48
โอ๋เอ้ๆ ไม่น้อยใจนะมะนาว หึงไปอีก หึงไปอีก พี่ชอบบบบบบบ หึหึหึหึหึหึ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 19 สับสน] 20/4/59 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: คุณข้าวทอด ที่ 23-04-2016 20:15:02
มะนาวเธอหึงใช่ม้ายย บอกมานะะ5555 แอดมินทำดีค่ะ ทำดีมาก5555 อยากเห็นวันทีเปิดตัว คนคงแบบ กูว่าแล้ว หยอกก5555 คู่นี้น่าร๊ากก เรื่อยๆเนิบๆดีเราชอบ5555
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 19 สับสน] 20/4/59 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: 。Atlas ที่ 24-04-2016 04:22:22
ตอนเปิดมาเห็นชื่อตอนแล้วใจเสียไปวูบนึง กลัวดราม่า อ่าน ๆ ไปแล้วค่อยเบาใจหน่อย ฮ่าาาา

ความสัมพันธ์แบบนี้ก็ดีเหมือนกันเนาะ เป็นความสัมพันธ์ที่แบบ เรารู้กัน อ่ะ
 แต่ก็รอวันข้างหน้าที่จะให้อะไร ๆ ชัดเจนในสายตาคนอื่นอีกเหมือนกัน อยากรู้ว่ารีแอคชั่นเพื่อน ๆ จะเป็นยังไง 5555

สรุปคือ 3P (ยีนส์ เม โนอา??) เหรอคะ เราไม่ค่อยอ่านแบบสามพีซะด้วยสิ แต่ก็แล้วแต่นักเขียนเลยนะ

รอเรื่องนี้อย่างใจจดใจจ่อเลย ชอบมากกก มาต่ออีกเร็ว ๆ นะคะ อิอิ o18
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 19 สับสน] 20/4/59 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: netich ที่ 25-04-2016 22:31:41
 :o8:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 19 สับสน] 20/4/59 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 26-04-2016 17:24:40
หึงใช่ไหมมะนาว หึงเนอะ หึงสิ

น่าร๊ากกกกก
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 19 สับสน] 20/4/59 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: eveesk ที่ 26-04-2016 21:09:58
รออยู่นะคะ   :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 19 สับสน] 20/4/59 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Duangjai ที่ 27-04-2016 20:56:14
ชอบชอบ กดLikeให้Love

 o13  o13  o13  o13

 :z9: :z9: :z9: :z9:

...
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 19 สับสน] 20/4/59 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: PaiPo ที่ 28-04-2016 22:25:49
เรื่องมันชักจะซับซ้อน อะไร ยังงายยยยย  :serius2:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 20 รอดู] 1/5/59 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 01-05-2016 04:57:30
(http://i1159.photobucket.com/albums/p636/Browny_Tan/bro/loveagain2_zpscs9dbvrb.png)
- บทที่ 20 - รอดู -


“เด็กๆ ไปกินข้าวกัน” พี่ป้องเสร็จจากงานเชียร์ก็กลับมาพูดกับพวกเรา

“พวกผมด้วยเหรอพี่” มะนาวชี้หน้าตัวเอง

“ใช่ ทั้งสี่คนเลยนะ พี่ยีนส์บอกจะเลี้ยง”

“เย่”

“หนูกินไม่มาก แต่ท่ายากได้หมดนะค่า” พงศ์เอียงคอเล่นหูเล่นตาทำเอาเอ้ที่นั่งข้างๆเด้งหนี

“พี่จะไม่เลี้ยงมึงเพราะงี้แหละอิพิ้งค์แพนเตอร์”

“อร้าย” สองสาวทำท่าตะกุยสู้กันในอากาศ ไม่รู้จะรีบเล่นตลกให้พี่เขาดูไปไหน รอไปกินข้าวก่อนค่อยเล่นบ้างก็ได้

จนพี่ป้องต้องเอ่ยห้ามทัพเบาๆ ทั้งสองคนก็ยิ้มหวานยอมเดินตามพี่ป้องต้อยๆ ดีใจจนออกนอกหน้า

ผมสิมองไปที่เม แล้วรายนั้นจะว่ายังไงนะ ถ้ารู้ว่าเจ้ามือคือพี่ยีนส์

“มึงว่าเมจะยอมไปกับเราไหม?”

“ไม่รู้เหมือนกัน”






“ป่ะ กินข้าว โคตรหิวเลย แดกหมูได้ทั้งตัวแล้วกูเนี่ย”

เมพูดขึ้นมาทันทีที่เราเดินลงมาสมทบข้างสนาม

เมแกว่งถุงเค้กแบบไม่กลัวเละรออยู่ เหมือนไม่มีแววว่าคิดหรือกังวลอะไรเลย

“กูขอนี่” พงศ์ปรี่เข้าไปตะครุบถุง แต่เมยกขึ้นสูงสุดแขน เป็นอันว่าอด

“ม่ายยยยย ของกู อย่าหวังจะตกถึงมือมึง”

“อยู่ในมือพี่ งั้นก็เป็นของพี่สิ” พี่โนอาช่วยถือบางส่วน

“ตัวเอง ถ้าตัวเองทำอย่างนั้นตัวเองจะไม่น่ารักเลยนะ”

“ฮ่าๆๆ ไปกินข้าวกัน ร้านข้าวต้มกลางสวน ตรงซอย 18 นะ แม็ตไปถูกไหม”

“ผมไปถูก เดี๋ยวผมบอกทางเอง” มะนาวรีบตอบ

“เค เจอกันที่ร้านนะ เมจะไปกับพี่รึไปกับแม็ต”

“เอ่อ” เมทำท่าคิด ก่อนจะตอบอย่างรวดเร็ว “ไปกับแม็ตดีกว่า”

“เค”

เราเดินออกจากยิม พี่ป้องขับมอเตอร์ไซค์ผ่านไป โบกมือให้อารมณ์เรียกให้รีบตามมา

พี่โนอาเดินแยกออกไปจากพวกเรา ผมมองไปเห็นพี่ยีนส์ยืนพิงรถรออยู่ สายตาเขาละจากพี่โนอา กลับมามองพวกเราที่ยังไม่ไปไหนไกลกว่าประตูทางออก ในกลุ่มของพวกเราห้าคนเขาจะมองใครนะ? ผมเหรอ? ไม่หรอก

เขามองเม เมเองก็เผลอมอง ‘คนกวนประสาท’ ตรงๆ อย่างลืมตัว แต่พวกเราที่ยืนอยู่ข้างหลังเมสิทั้งหมดนั้น แอบสบตากันอย่างบอกอารมณ์ไม่ถูก พี่ผมที่ทุกคนยกให้เป็นถึงประธานเชียร์ เขาจะกล้าเกินเลยกับคนอื่นจริงเหรอถ้ามีแฟนแล้ว ตอนแรกๆผมคิดว่ามันเป็นแค่พี่แกล้งน้อง ผู้ใหญ่ที่มองเด็กยังไงก็เป็นเด็ก เพราะเขายังดูสนุกสนาน เฮฮาดีทุกครั้ง แต่ตั้งแต่หลังรับน้องครั้งนั้น เหมือนเขาหลบหน้าเม เลิกวอแว ถ้าเป็นพี่น้องธรรมดาผมคงคิดว่าแค่กลัวน้องโกรธจริง แต่วันนี้ได้เห็นแววตาเศร้าโศกแบบนี้ ผมชักจะกลัวใจทั้งพี่ผม ทั้งเพื่อนผม

เพราะเมเองก็เลิกโวยวาย แผ่นหลังที่ว่างเปล่านี่กำลังทำสีหน้ายังไงนะ

ดูเหมือนอะไรๆ กำลังเริ่มต้นมากกว่าจะเป็นช่วงจบเรื่อง

เมกลับมาบ่นหิวอีกครั้งตอนอยู่บนรถ ทุกคนกลับเงียบ ไม่กล้าพูดหรือถามอะไร คงสรุปกันในใจกันอยู่ว่าเมไม่รู้ว่าพี่ยีนส์เป็นเจ้ามือ ไม่ใช่แค่ขับรถไปส่งพี่โนอาอย่างที่เมกำลังเข้าใจ

“อิอิอิ”

“หัวเราะอะไรของมึงข้างหูกูเนี่ย ขนลุก” มะนาวหันไปถามพงศ์ ผมเห็นจากกระจกมองหลังอยู่นานแล้ว ว่าพงศ์ยิ้มคนเดียว

“ไม่มีอะไร กูแค่ อิอิอิอิ”

“อะไรของเมิงงงงง”

“มึงไม่คิดเหมือนกูเหรอ พี่แม็ตแม่งหล่อทั้งคู่เลย พี่ปกป้องก็ดูผู้ดี ใจดี หน้าดี นิสัยดี ดี๊ดี พี่ยีนส์ก็หล่อร้าย”

“เลวร้าย”

“...” ทั้งคันเงียบครับ เพราะเมพูดคำนั้นออกมาทุกคนก็หันไปมองหน้าเม

“หน้าหม้อ มีแฟนอยู่แล้วแท้ๆ”

“มึงแสดงความคิดเห็นแทนโนอาพี่ที่รักของมึง หรือเสียใจที่เขาแค่เล่นๆกันมึงคะ” พงศ์สละชีพถามออกไป

“ลับหลังโนอาไม่รู้มันไปหม้อใครไว้อีก สันดาน!”

“โห มาเต็มอ่ะมึง กูกลัว” เอ้ที่นั่งติดกับเมพยายามขยับตัวหนี แต่ก็ไปไหนไม่ได้ไกลกว่าที่เดิมนัก

“ผู้ชายก็งี้แหละมึง แบดๆ ปกติ”

“เหี้ยเป็นปกติเนี่ยนะ ไอ้แม็ตไอ้น้ำไม่เห็นจะต้องมีสันดานแบบนั้นเลย”

“วันเสาร์เขาทำอะไรมึงมา มึงถึงว่าเขางี้”

“เออ พูดแล้วก็ขึ้น วันนั้นมึงกลับก่อนแล้วทิ้งกูไว้ ไอ้เหี้ยแม็ต รู้ไหมกว่ากูจะปลีกตัวออกจากพี่พวกนั้นได้ เช้าอีกวันเลยนะเว้ย”

“เขาทำอะไรมึง”

“ให้กูดูเขากินเหล้ากัน แต่ไม่ให้กูกินด้วย” อ้าว ผมว่าแบบนั้นดีแล้ว ดีกว่าถูกบังคับให้กินนะ “จะกลับไปนอนหอก็ไม่ให้กลับ ต้องนอนในห้องชมรม แล้ว” เมพูดถึงตรงนี้ก็ไม่พูดต่อ กลับขมวดคิ้วเม้มปาก

“แล้วอะไร มึงอย่าเว้น กูคิดลึก” เอ้ทำตาโต

“แล้วมันก็มาแอบดูกูนอน”

“มึงรู้ได้ไง แปลว่ามึง มึงแกล้งหลับ แกล้งหลับงี้นี่มึงเองก็อ่อยใช่มะล่ะ”

“อ่อยเชี่ยไร ก็พวกพี่แม่งเสียงดังจะตาย กูก็หลับๆตื่นๆ”

“มึงหลับตาใช่ไหม แล้วมึงรู้ได้ไงว่าเป็นเขา คนเยอะแยะ อาจจะเป็นคนอื่นก็ได้ มึงใส่ความเขาแบบนี้อยากให้เป็นเขาใช่ม้า อิเม”

“มันแน่ๆ”

“รู้ได้ไง” มะนาวยั่วถามซ้ำ

“รู้แล้วกัน”

“มึงนี่ช่างขี้โมเม กูว่าไม่ใช่หรอก คงคนอื่น ก็คนชอบมึงเยอะแยะนี่อาจเป็นใครก็ได้” มะนาวกัดไม่ป่อย

“ตามใจไม่เชื่อก็เรื่องของมึง กูรู้ของกูพอ”

“แล้วทำไมมึงถึงมั่นใจขนาดนั้นคะ?” เอ้กับพงศ์ก็ร่วมมือกันเป็นอย่างดี

“ก็กูจำกลิ่นมันได้”

“เยดเข้ จำกลิ่นได้” พงศ์อุทานหน้าเหวอ

“มึงเหมือนกูเลย กูก็จำกลิ่นแชมพูมะนาวได้”

“...” มะนาวไม่พูดอะไร ไม่โวยวาย แต่หันทั้งตัวมามองผมอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ

“ฮ่าๆๆๆ อะไร บอกทางสิ นี่ซอย 10 แล้ว ใกล้ถึงแล้วนะ”

“ดีคะ กูฟินมาก” พงศ์สงสายตามีเลศนัยมาให้จากในกระจก “เห็นไหมการจำกลิ่นได้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลยนะคะเม”

“ก็แค่บังเอิญ”

“บังเอิญจำได้งี้เหรอ มึงจะจำไม่ได้หรอกถ้าไม่เคยได้กลิ่นเขามาก่อน”

“กูไม่ได้สนใจจะจำเลย มันก็แค่ แค่บังเอิญ”

“บังเอิญได้ใกล้กันจนได้กลิ่นบ่อยๆ คือแบบ กูอยากได้บ้าง”

“อิพงศ์ จมูกบานน่าเกลียด เก็บจมูกไร้บุญของมึงไป” เอ้เอาอุ้งมืออุดทั้งหน้าพงศ์ให้หงายหลังไป

“โอ้ยอิเอ้ รึมึงไม่อยาก”

“อยากสิ ฮื้อ ชีวิตชะนีช่างน่าเศร้า แต่ดูท่าคุณพี่ยีนส์คงไม่ไหว กูจะไฟว้กับดาวคณะดาวมหาลัยยังไงเมิ้งงงงง กูขอแค่พี่ปกป้องก็พอ” เอ้สะกิดไหล่ผม “แม็ต พี่ป้องของมึงนี่โสดใช่ป่ะ”

“น่าจะนะ พี่โนอาบอกแต่ว่า ใจดี เข้าใจอะไรง่ายมีอะไรปรึกษาพี่ป้องจะได้คำแนะนำดีๆเสมอ นี่มึงเอาจริงเหรอเอ้”

“บ้า” มันทำท่าเขิน “แค่ถามๆไว้ เผื่อเหลือเผื่อขาด”

ทุกคนไม่วกเข้าเรื่องพี่ยีนส์อีก เพราะเหมือนจะรู้กันว่าอย่าเพิ่งทำให้เมรู้ ว่าพี่ยีนส์มาด้วย

เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะอยากเห็นปฏิกิริยาของทั้งเม และพี่ยีนส์ของผมน่ะสิ



.........



“เฮ่ ทางนี้” พี่ป้องนั่งรออยู่หน้าร้าน พอเราเดินเข้ามาใกล้ พี่แกก็เดินนำเข้ามาไปร้าน โต๊ะยาวที่จัดไว้พิเศษ อยู่ริมติดกับคลองเล็กๆที่มีผักตบไหลเอื่อย

“กูนึกว่ามีแต่พวกเรา” เมแอบพูดกับผม ผมต้องทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ไปตามเรื่อง มันคงรู้สึกได้ ว่าไม่ชอบมาพากลถึงไม่เดินต่อ ยืนอยู่ไกลๆอย่างดูเชิง

“นั่งเลยๆ” พี่ป้องนั่งก่อนอย่างนำทาง “พี่ป้องนะ แนะนำตัวหน่อยได้ป่าว แต่ถ้าพี่จำไม่ได้แล้วถามชื่อซ้ำอย่าถือสานะ ฮ่าๆๆ”

“เอ้คะ ภาคเคมี เป็นเพื่อนแม็ตตั้งแต่ ม.ต้นฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”

“พอแล้ว มึงยาวไปแล้วเอ้”

“อะไรของมึงอิพงศ์”

“พงศ์ครับ ภาคฟู้ด”

“ดาวเทียมห้อง พี่จำได้”

“แหมจำได้ก็ไม่บอกหนูแอ๊บจนเหนื่อย เห้อ ว่าแต่พี่มองหนู สนใจหนูก็บอกกงๆ กุกิ้งุงิ” พงศ์อายม้วนกับจินตนาการตัวเอง เริ่มพูดไม่เป็นภาษา ทำตัวเล็กบิดนิ้วซะเกือบน่ารัก แต่มันดูกลมไปหมดยังไงก็อธิบายไม่ถูก

“เปล่า แต่โนอาบอกว่าทั้งดาวทั้งดาวเทียมเป็นเพื่อนสนิทหลาน พี่เลยจำได้”

“ม่ายยยยย พี่สนใจหนู” พงศ์ยังไม่ลดความพยายามเอียงตัวเอียงคอปัดผมทัดหูเขยิบไปนั่งตรงข้ามพี่ป้องพอดี

“เยอะนะมึง ว่ากูทำไม เมื่อกี้มึงว่ากูทำมายยยยย” เอ้จับรอบคอพงศ์เขย่าอย่างไม่จริงจังนัก “มึงแรดขอท่ายากพี่เขาตั้งแต่อยู่โรงยิมมึงลืมไปแล้วเหรอ อิหมู ร.อัลไซเมอร์”

“ฮ่าๆๆๆ เพื่อนแม็ตนี่ตลกกันดีนะ”

“ฮะ มีแต่คนอารมณ์ดีครับ”

“เมพี่รู้จักแล้ว มะนาวใช่ไหมเรา” พี่ป้องท้าวคางถามสบายๆ

“ครับ หวัดดีครับพี่ป้อง ฝากท้องด้วยนะครับมื้อนี้ ผมหิวม้ากกกกก”

“โนอาบอกข้างรหัสแม็ตชอบของฟรี ท่าจะจริง”

“ฮ่าๆๆ ครับ จริง”

“ชอบกับตะกละมีแค่เส้นบางๆ กั้น” เอ้พูดขึ้น

“เอ้ มึงว่ามะนาวตะกละทำไม” พงศ์ตวัดตามองแรง

“อินี่ กูเปล่า ไม่ได้ว่ามะนาว กู ว่า มึง”

“อร้ายยยย” เกิดการตบตีกันอีกยกครับ ไม่รู้คึกอะไรกันนักหนา

พี่ป้องหัวเราะจนแทบจะหงายหลัง


“เป็นไง คิดว่าคิดถูกคิดผิดที่เลือกเรียนที่นี่”

“ถูกคะ หนูเช็คจากทำเนียบหนุ่มหล่อในโลกหล้าแล้ว ผู้ชายที่นี่หน้าดีและเยอะสุด เหตุผลที่แอดเข้าที่นี่มีแค่นี้จริงๆคะ”

“ชัดเจนมากอ่ะมึง อุ้ย มาแล้วๆ”

พี่ยีนส์เดินเข้ามายืนหัวโต๊ะข้างๆเม ทุกคนยกมือไหว้ ทักทายตามพิธี พี่ยีนส์บอกตามสบายก่อนจะนั่งลงตรงข้ามเยื้องๆ กับเมและพงศ์

“คุยอะไรกันอยู่ ไหน สั่งอาหารยัง” พนักงานเหมือนจะรอสัญญาณอยู่รี่เข้ามาแจกเมนูทันที

“ยัง กลัวคนจ่ายชิ่ง แล้วน้องล่ะ?” พี่ป้องถามกลับ เพราะทุกคนก็คงกำลังสงสัยเหมือนกัน ว่าพี่โนอาที่ควรจะมาด้วยกันหายไปไหน

“เฮ้อ อยู่ๆ ก็โวยวายบอกนัดหมอทำหน้าไว้ ต้องไปตามหมอนัดก่อน เดี๋ยวเสร็จจะตามมา ให้กินกันไปก่อน”

“อ้าว ไหงงั้น”

“ไม่รู้ ไม่อยากเซ้าซี้ รีบสั่งอาหารเถอะ พี่หิว เดี๋ยวค่อยแนะนำตัวแล้วกันนะ ขอสั่งอาหารก่อน”

ทุกคนเชื่อฟังแล้วก้มหน้าหารายการอาหารที่ตัวเองอยากกิน

“เม ไปไหน” พงศ์รีบถามทันทีที่เมลุกขึ้นยืน

“ห้องน้ำ ไม? จะไปด้วยรึไง”

“เออๆ ไปเถอะ รีบมากูมีเค้กเป็นตัวประกันนะ”

“ห่า”

เมไม่สนใจ เดินไปห้องน้ำอย่างไม่ห่วงเค้กจริงจัง ผมที่เผลอมองตามเมหันกลับมาก็เจอทั้งโต๊ะมองตามเมกันหมด อะไรจะเป็นห่วงกันปานนั้น

“มึงว่าไหม ช่วงนี้เมมันเงียบๆ เนอะ ถามคำตอบคำปกติจะบ่นโน้นบ่นนี่” พงศ์ยังคงมองตามเมไปแล้วเริ่มบ่นซะเอง

“สงสัยเมนส์จะมา” เอ้ก็ทำหน้าคิดจริงจังตามพงศ์ไปอีกคน

“เออ มันยังมีมดลูกเนอะ กูลืมคะ มัวแต่มองความหล่อมันจนลืมว่ามันก็ผู้หญิง” พงศ์หันมาเห็นฝั่งตรงข้ามเป็นพี่ยีน์กับพี่ป้องก็นึกขึ้นได้ว่าไม่ได้อยู่กันแต่พวกเรา “อุ้ย ขอโทษคะ ลืมตัวนึกว่าอยู่กันลำพัง”

แต่ทำไมผมที่เป็นเพื่อนมันแท้ๆ ถึงรู้สึกว่าพงศ์ไม่ได้บ่นให้ผมฟังนะ

“สั่งอาหารกันดีกว่า” พี่ป้องเรียกพนักงานมารับออเดอร์

“มานั่งฝั่งนี้คนนึงดิ้ ไม่บาลานซ์เลย” พี่ยีนส์มองฝั่งผมแล้วเห็นถึงปัญหา

ผมที่อยู่สุดอีกด้าน ลุกขึ้น เพราะก็คิดอยู่แล้วว่าทางโน้นนั่งกันสองคนคงเหงาแย่ ตอนนี้ผมเลยมานั่งตรงข้ามกับมะนาว มะนาวตั้งเมนูขึ้น เราอ่านเมนูแผ่นเดียวกันแต่คนละด้าน

คนอื่นๆเริ่มสั่งอาหาร จนสั่งอาหารเสร็จเมก็ยังไม่กลับ ทุกคนพูดคุยกันเรื่อยเปื่อย เว้นอยู่คน

“คุณพี่คะ คุณพี่”

“หื๋อ ไง?”

“ชะเง้อคอยาวกว่าเต่าอีกคะ ไม่ต้องเป็นห่วงเพื่อนหนูหรอกคะรถถังมันยังเตะกระเด็น”

“รถถังเด็กเล่นใช่ไหมมึง งัดข้อกับกูมันยังแพ้เลย”

“เออสิ ใหญ่กว่านั้นมันคงโดนทับตาย อิเอ้อย่าเพิ่ง พี่ยีนส์คะ พี่มองไปทางห้องน้ำหนูนับอยู่สิบรอบพอดีเลยนะคะเมื่อกี้ กะว่าถ้าไม่ถึง 10 จะไม่ทัก แต่นี่เกินด้วยซ้ำ แนะๆ มองอีกละ”

“พี่กำลังปวดฉี่พอดีต่างหาก”

“ค่า ทุกคนตรงนี้เชื่อหมดเลยค่า”

ผมคิดว่าพี่ยีนส์จะอารมณ์เสีย แต่สิ่งที่เขาทำคือยิ้มบางกับตัวเอง แล้วกำชับกับพงศ์

“อย่าบอกเขาแล้วกัน”

“’เขา’ นี่คนไหนกันคะ หนูโง่”

“หึ เพื่อนเรานั่นแหละ”

“แล้ว พี่โนอา?” มะนาวเหมือนเผลอตัว พูดถามไปแล้วทำท่าเหมือนไม่ตั้งใจ มารู้ตัวตอนหลุดปากไปแล้ว

มะนาว ไม่ทันแล้ว

“โนอารู้ เขาไม่ว่าอะไร”

“ใจดีจัง” พงศ์ทำหน้างง แต่พยายามทำตัวเข้าใจ

“เฮ้อ”

“ถอนหายใจทำไม ปกป้อง”

“เปล่าพี่”

“เงียบไปเลยมึง”

“คร้าบบบ” พี่ป้องรับคำ

“หืมมม” เอ้ส่งเสียงออกมาจากคอ ลากยาวจนผมงง

“บีสอง เธอคิดเหมือนฉันรึเปล่า” พงศ์ถามเอ้

“ฉันก็คิดเหมือนเธอเลย บีหนึ่งงงง”

“ฮ่าๆๆ คิดอะไรกันอีกสองคนนี้” พี่ป้องถามเอ้กับพงศ์ ดูพี่เขาจะชอบสองคนนี้นะทำอะไรพี่แกก็หัวเราะตลอด

“พูดได้เหรอคะ ให้บีหนึ่งพูดนะ”

“อ้าวอินี่โยนขี้”

“เออน่า พูดไปบีหนึ่ง”

“ถ้าพี่ได้กันเองจะวิเศษสุด”

“ฮ่าๆๆๆ” พี่ป้องตบโต๊ะชอบใจ แต่พี่ยีนส์ทำท่าเหนื่อยใจหมดแรงทิ้งตัวอยู่บนเก้าอี้ ก่อนจะยอมบอกความเซ็งของตัวเอง

“กูนึกว่ามันจิ้นกันแค่ในพวกสาวๆ ทีมเชียร์”

เมกลับมาจังหวะนี้ ทันได้ฟังพี่ป้องก็เล่าวีรกรรมของสาวๆทีมเชียร์ที่ว่าจิ้นพวกเขาให้พวกเราฟัง ผมว่าของผมหนักแล้ว พวกเขานี่หนักกว่า เพราะทุกคนสนิทกัน เวลาจิ้นกันก็จิ้นตรงๆแบบต่อหน้ากันเลย ทั้งท่าทางทั้งวาจา แต่กับผมมีแต่คนไม่รู้จัก หรือรู้จักแต่ไม่สนิท ดังนั้นทุกคนจะยังมีความเกรงใจ และค่อนข้างแอบกันอยู่บ้าง คงกลัวเราตีตัวออกห่างกันเพราะกลัวกระแสล่ะมั้ง

หึหึ หารู้ไม่ ผมนี่แหละใช้กระแสเป็นข้ออ้างว่าอยู่ใกล้ๆมะนาวเพื่อเซอร์วิสแฟนๆ แต่จริงๆผมเทคแคร์มะนาวจริงจังตามใจตัวเองต่างหาก ข้อดีของการเป็นคู่จิ้นไง อ้างว่าทำเพื่อแฟนคลับ หึ

“พวกเราก็เป็นคู่จิ้นกันนี่นา ใช่ไหม? เห็นในเพจเมื่อวันก่อน”

“ครับ” ผมตอบตรงๆ ก็พี่ยีนส์ถามตรงๆนี่นา

พี่ป้องหันมามองผมกับมะนาวสลับกัน

“เออ แบบนี้ก็น่าจิ้นหน่อย อย่างพี่กับผมนี่มันน่าจิ้นตรงไหน”

“ถามกู คิดว่ากูจะรู้ไหมล่ะ”

“ไม่เข้าใจสาวๆเลย”

“มึงก็ไม่ยอมจีบใครสักทีนี่หว่า พวกมันเลยยิ่งได้ใจจิ้นใหญ่โต หาแฟนดิวะป้อง”

“ไม่ล่ะพี่ ผมไม่รีบ”

“มึงนี่ ไม่น่ารักเลย”

ไม่นานอาหารก็ทยอยมา เสียงคุยเบาลงจนหายไปช่วงนึง เพราะทุกคนหิวเกินกว่าจะสนใจอย่างอื่น

หลังจากเติมของลงท้องกันจนเรียกว่าแน่นท้อง เสียงคุยก็กลับมาเฮฮาอีกครั้ง แต่พี่โนอาก็ยังไม่มา แต่ผมไม่กล้าถาม

เมให้ทุกคนกินเค้กด้วย เพราะได้มาเยอะมาก ตอนยื่นให้พี่ยีนส์ เมแค่เลื่อนให้ ไม่พูด ไม่สบตา รีบก้มหน้าก้มตาไปสนใจแกะเค้กตัวเอง

“พี่ไม่กินอ่ะ?” พี่ป้องถามพี่ยีนส์

“ไม่ดีกว่า ไม่อยากแย่งเด็กกิน” เขาพูดแค่นั้นก็เลื่อนเค้กกลับมาตรงหน้าเม พูดเบาๆว่าเก็บไว้กินที่ห้อง อะไรทำนองนั้น เบาจนผมอยู่คนละด้านได้ยินไม่ชัด

สองคนนี้มันยังไง

พี่ผมก็มองเมแปลกๆ ถึงวันนี้จะไม่แกล้งไม่ยุ่งแล้วก็ตาม แต่สายตาก็ยังปกปิดไม่มิดถ้าพี่โนอาอยู่ตรงนี้เขาจะมองพี่โนอาแบบนี้ไหม? แล้วคนที่มีแฟนอยู่แล้วทำไมยังกล้ามองคนอื่นที่ไม่ใช่แฟนด้วยสายตาแบบนี้กัน

เมเองก็เรียบร้อยผิดปกติ ตลอดมื้ออาหารเมแทบไม่พูดเลย อย่างเมื่อกี้ที่พี่ยีนส์พูดด้วย เมก็มองด้วยสายตาแบบ ระแวงมั้ง เหมือนระวังตัวเกินปกติ เป็นไปได้ว่ากำลังกลัวพี่ผมทำอะไรขึ้นมาอีก


ตอนนั่งรถกลับ เมก็เงียบตลอดทาง ไม่มีใครพูดหรือแซวเรื่องเม เหมือนจะตกลงกันเงียบๆ ว่าอยากรอดูมากกว่าเร่งให้ได้คำตอบที่อะไรๆ ก็ยังไม่แน่ไม่นอน



.......................................


“โอ้ย อิ่มจัง พี่มึงนี่มีแต่คนใจดีๆ”

“พี่มึงก็ใจดี”

“พี่กูปัญญาอ่อน”

มะนาวทิ้งตัวลงนอนหงายบนเตียง นอนลูบพุงน้อยๆอย่างเป็นสุข

“ไปอาบน้ำก่อนเลยมึง ตัวเน่าแล้ว”

“เน่าเหรอ เน่าเหรอ” ผมย่างสามขุมไปหาเขาที่เตียง มะนาวเหมือนจะรู้ตัว เขากลิ้งหนี

แต่ ช้าไป

ผมดึงแขนเขาไว้พลิกให้กลับมานอนหงาย แล้วทิ้งตัวใช้หน้าอกทับหน้าเขาไว้ หัวเราะชอบใจที่เขาสิ้นท่าอย่างง่ายดาย

“โอ้ย ไม่เน่าๆ ไม่เน่าเลย มะนาวผิดไปแล้วคร้าบบบบ โอ้ยย หายใจไม่ออก”

จะหายใจออกได้ยังไง ก็เล่นกอดผมแน่น แถมยังซุกหน้าเข้าเองมาจนผมแทบจะไม่ต้องออกแรง

“ฮ่าๆๆๆ”

“แหวะ กลิ่นแม็ตแม็ต”

“จะแหวะทำไมหน้าตาออกจะชอบ ฮ่าๆๆ”

“ชิ้ ไปอาบน้ำไป มีแข่งอีกนะพรุ่งนี้”

“นอนเลยไม่ได้เหรอ?” ผมเหนื่อย ผมล้า พรุ่งนี้มีแข่งสองแมทซ์ ตายแน่ๆ

“ได้ แต่ไม่สบายตัวจะหลับไม่สนิทนะ”


“ไป...” เดี๋ยว!

ผมเกือบหลุดปากพูดคำต้องห้ามออกไป

‘ไปอาบน้ำด้วยกันไหม?’

ไม่ได้นะ

ผมบอกตัวเอง ไม่ได้! จะเพิ่มโอกาสเสี่ยงไม่ได้

“ไปแล้วๆ”

ผมขยี้หัวมะนาว ก่อนลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำโดยไม่ลืมหยิบผ้าเช็ดตัวติดมือมาด้วย

ถึงผมจะยังหนุ่ม แต่ก็ไม่ควรประมาท ตอนนี้เป็นเวลาที่ต้องรับผิดชอบ ดูแลร่างกายให้สามารถเต็มที่กับการแข่งขัน

สองอาทิตย์ก็จบแล้ว ผมขอเต็มที่กับการแข่งขัน สองอาทิตย์เท่านั้น


ผมอาบน้ำเสร็จ ออกมาเห็นมะนาวนั่งทำการบ้านอยู่ที่โต๊ะของผม

“วิชาอะไร”

“แล็บไง เดี๋ยวไม่มีเวลาทำ ช่วงนี้อีเว้นท์เยอะ”

“ฮ่าๆๆ ดีๆ สบายจัง นอนดีกว่า”

“อื้ม...” เขาหันมามองผมทำหน้าสงสัย“แม็ต”

“หื๋อ?”

“มึงว่าเมเป็นทอมจริงรึเปล่า”

“ทำไมถามงั้น”

“กูว่าจริงๆเมอาจจะไม่ได้เป็นทอม แต่ ไม่ชอบใส่กระโปรง”

“มันก็บอกอยู่ ว่าผู้หญิงชอบเข้าหา แล้วโมเมว่าตัวเองเป็นแฟนมัน มันไม่เคยบอกว่าตัวเองชอบผู้หญิงจริงๆจังๆสักทีนะ”

“เนอะ”

“ทำไมเหรอ?”

“มันทำท่าเหมือนคนอกหักเลยนะวันนี้ ถ้ามันชอบพี่มึง แล้วคิดว่าตัวเองต้องเป็นมือที่สาม มึงว่ามันจะทำยังไง”

“พี่คนไหนล่ะ? พี่โนอามันก็บอกว่าน่ารัก ตั้งแต่เจอครั้งแรกแล้วนะ วันที่ไปกินข้าวไงจำได้ไหม”

“กูว่าตอนนี้น้ำหนักกมาทางพี่ยีนส์วะ มึงว่าไง”

“ไม่รู้สิ เลี่ยงได้มันคงเลี่ยง ในตอนที่ยังถอนตัวทัน แต่กูว่าที่หนักกว่าก็พี่ยีนส์เนี่ยแหละ”

“ทำไม?”

“เมมันก็ไม่อะไรใช่ไหม แค่เงียบ แต่พี่กูเนี่ย เลือกจะแยกออกไปเพื่อให้เมสบายใจ ดูเขาแคร์เมจนกูคิดว่าเขาอยากเลิกกับพี่โนอาไงไม่รู้ กูขอให้กูคิดผิด ดูผิด”

“ไมอ่ะ”

“พี่โนอาเป็นคนดีมึงก็เห็น”

“แต่เมก็ไม่ได้ทำอะไรเลยนะ ถ้าเขาเลิกกันอยู่ๆมันต้องกลายเป็นคนผิดในเรื่องนี้เหรอ”

“เขายังไม่เลิกกันนี่”

“แล้วถ้าเขาเลิกกันจริงๆ ขึ้นมา มึงจะอยู่ข้างใคร?”

“กู...” นอนคิด ผมเหมือนเป็นคนกลางระหว่างทุกคนก็จริง แต่ทำไมผมต้องเลือกล่ะ? มีความจำเป็นอะไรต้องเลือก ผมอยู่ข้างทุกคนได้และเลือกไม่เข้าข้างใครเลยก็ได้มั้ง ถึงเวลาค่อยคิดอีกที

“ข้างมึงไง”

มะนาวผงะถอยตัวหนีเหมือนคาดไม่ถึงกับคำตอบของผม

“ไอ้บ้า นอนไปเลย”

“หลับแล้วเนี่ย เห้อ ไปอาบน้ำมาให้นอนกอดหน่อย” ผมไม่รู้ตาย้อยๆของตัวเองจะมีผลกับเขาไหม แต่ก็มองเขาด้วยตาปรือๆเนี่ยแหละ ที่ใช้อ้อนเขา

“นอนๆ ไปเลย”

“ฮ่าๆๆๆๆ”

ผมขยับนอนเข้าที่ ตาค่อยๆ ปิดอย่างไม่ต้องพยายาม มะนาวเหมือนจะเขียนรายงานต่อ แต่ก็คงอดไม่ได้ที่จะหันมามองผมเรื่อยๆ จนสุดท้ายเขาก็ทิ้งปากกาแข็งๆเย็นๆ ไปอาบน้ำมาให้ผมกอดตอนหลับไปได้ไม่นาน พอดิบพอดี แบบนี้แหละถึงจะหลับสนิทของจริง


ตัวผมทั้งอุ่นทั้งนุ่ม มันดีกว่านั่งถือปากกาเป็นไหนๆ ใช่ไหมล้า



-----------------------------------------------
TBC.


ตอนนี้สั้นหน่อย เพราะไม่รู้จะตัดตอนลงยังไง 555+ เอาตามเนื้อหาแล้วกันเนอะ
สังเกตว่าส่วนใหญ่จบตอนที่เตียง แหมๆ คนเขียนเปล่าหมกมุ่นนะ ก็มันเป็นเวลาของเขาสองคนนี่นา 555

ขอบคุณทุกคอมเมนต์และ +เป็ด บวกคะแนนนะค่า ทุกคนคือกำลังใจ อ่านทุกเม้นต์แถมอ่านหลายรอบ ฮ่าๆๆ เวลาคิดอะไรไม่ออกก็กลับมาดูหน้านิยายจะได้มีแรง ฮึ้บๆ
โปรดรอติดตามตอนต่อไปจ้า


ใครเห็นมาม่าเล็กๆ กำลังลอยมายกมือหน่อย ฮี่ๆ




เรื่องสั้นที่ลงไว้เมื่อนานมาแล้ว อัพตอนจบแล้วนะแจะ  [เรื่องสั้น] คิงไซซ์ ใจเดียวกัน จบ. (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52182.0)


แก้ไขคำผิดตามคุณ Freja บอกแล้วจ้า ขอบคุณนะคะ
เยอะจัง แต่มันมีมากกว่านั้น เชื่อสิ อ่านกี่รอบก็เจอเรื่อยๆ 5555+
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 20 รอดู] 1/5/59 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 01-05-2016 06:25:40
ดราม่าท่าจะมาแน่ๆ  จะไปในทางไหนกันนะ?  จะสามพีกันจริงๆอ๊ะ?

เวลาพิมพ์ประมาณ - ประมาร นี่เข้าใจนะ  เราเองก็กดแป้นเบาเกินไปตลอดออกมาเป้นประมารเรื่อยเลย

คำผิดนะคะ
ห้ามทับ - ห้ามทัพ
กังวน - กังวล
ม้ายยยยย - ม่ายยยยย (เน้นเสียงว่านะคะ)
มอเตอร์ไซค์
แบด (Bad) แบท (bat)
เฮ้อ   -   หือ (ไม่ต้องใส่ ๋ )ค่ะ
เมนส์
บาลานซ์
เซ็ง
แมทช์
แล็บ
จินตนาการ
ทําเนียบ


หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 20 รอดู] 1/5/59 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 01-05-2016 07:40:55
พี่ยีนส์จะเอายังไงกันแน่ทำอะไรไม่ชัดเจนเลย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 20 รอดู] 1/5/59 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: tuckky ที่ 01-05-2016 08:42:41
โอ้ยยย...อีแม่ไม่เอาม่าได้มั้ยยยยยย
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 20 รอดู] 1/5/59 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 01-05-2016 09:08:38
ดีเดย์วันนี้ขอเดินประท้วงไม่เอามาม่าได้ไหมคะ.  :3123:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 20 รอดู] 1/5/59 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: 。Atlas ที่ 01-05-2016 18:10:08
ชอบยีนส์เมมาก ไม่รู้ทำไม ชอบบรรยากาศความกระอักกระอ่วนของทั้งคู่แบบนี้ 55555

ส่วนแม็ตมะนาวนี่หวานกันตลอดดด หวานนาน ๆ นะ อย่าดราม่าเลย  :hao5:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 20 รอดู] 1/5/59 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 01-05-2016 20:21:21
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 20 รอดู] 1/5/59 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 02-05-2016 00:16:57
พี่ยีนส์อย่าเล่นกับความรู้สึกคนแบบนี้ จะเดินหน้าจีบจริงก็บอกเมไปเลยว่าโนอาอะเป็นน้อง ไม่ใช่ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดแบบนี้ บอกตรงๆนะ ถ้ามีตัวเลือกอื่นนะจะเชียร์คนอื่นให้เมเลย
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 20 รอดู] 1/5/59 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: PaiPo ที่ 02-05-2016 10:13:08
จำกลิ่นได้!  :ling1:

เลิกหวงน้อง มาห่วงดาวคนใหม่เถอะ เห็นไหมว่านางHot! ช้าอดจะสมน้ำหน้าให้ ้เชอะ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 20 รอดู] 1/5/59 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 06-05-2016 23:04:08
มาอัพบ่อยๆนะจ๊ะ รอคู่พี่ยีนส์น้องเม
เมื่อไหร่จะเคลียร์ว่าพี่โนอาไม่ใช่ตัวจริง
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 20 รอดู] 1/5/59 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 08-05-2016 00:04:32

แวะมาลางานจ้า กลัวรอเก้อ (ซึ่งก็คงเริ่มเซงจนชิน) 555
กลับมาปลายๆสัปดาห์

ขออภัยที่ทำให้ต้องรอร้อรอนะคะ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 20 รอดู] 1/5/59 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 08-05-2016 19:30:22
มาตามอ่านจร้าาาาาาา
ชอบคู่แม็ตมะนาวสุดๆ น่าร๊ากกกกก
ส่วนพี่ยีนส์เอาเๆนะคะ อย่ามาทำเป็นเล่น
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 20 รอดู] 1/5/59 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: miya_pp ที่ 09-05-2016 00:36:42
มาตามค่ะ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 20 รอดู] 1/5/59 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Aomoto ที่ 10-05-2016 16:04:25
เพิ่งมาอ่าน แล้วอ่านรวดเดียว ขอบอกว่า สนุกมากกกกก ชอบทุกคู่เลย มาต่อเร็วๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 21 หลบหน้า] 14/5/59 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 14-05-2016 21:59:06
(http://i1159.photobucket.com/albums/p636/Browny_Tan/bro/loveagain2_zpscs9dbvrb.png)
- บท 21 - หลบหน้า -




“แม็ต เต็มที่นะ”

“อ้อ อื้ม ขอบใจ”


อาร์มที่วันนี้ไม่มีแข่ง เดินสวนกับผมตอนเข้าสนาม เขายังคงทักทายและให้กำลังใจประสาคนรู้จัก

“แขนไปโดนอะไรมา?” ผมสะดุดตากับผ้ายืดพันรอบแขน กับผ้าคล้องแขนที่ทำให้แขนเขาอยู่ในมุมหักศอกตลอดเวลา เหมือนพวกแขนหักเลย

“อ้อ ไม่มีอะไรหรอก อย่าสนใจเลย”

“เพราะเมื่อวานรึเปล่า” ผมยังคงถามต่อ ก็เมื่อวานก่อนแข่งเขายังดีๆ

“เอ่อ” อ้ำอึ้ง

“หาหมอรึยัง หมอว่าไงบ้าง?”

“ไม่ คือ เอ่อ หมอว่าแค่เอ็นอักเสบ ไม่เป็นไรมากหรอก”

“ไม่แค่นั้นนะ ถ้าเป็นมากกว่านั้นล่ะ”

“ไม่เป็นไรจริงๆ แค่พักสักระยะให้มันหายอักเสบ ก็โอเคแล้ว”

“งั้นช่วงนี้ก็อย่าทำอะไรหนักๆ ล่ะ”

“อยู่แล้วล่ะ เราก็อยากหายนะ ฮ่าๆๆ”

“อื้ม หายไวๆ”

“เค”

“ไปก่อนนะ โชคดี” ผมทิ้งท้ายก่อนทำท่าขอตัวเดินต่อ

“เอ่อ แม็ต”

“ไง?” เขายังเรียกผมอีกครั้ง

“เดี๋ยวว่าจะแอดเฟรนไป รับแอดด้วยนะ”

“อ้อ ได้อยู่แล้ว”

ผมเดินขึ้นอัฒจันทร์ ฝากกระเป๋ากับของทั้งหมดไว้ที่มะนาวกับพงศ์

“เมื่อกี้ใครอ่ะแม็ต ไม่ใช่วิดวะนี่” พงศ์ถามหน้าตาจริงจัง

เป็นอะไรของเขาทำไมทำท่าอารมณ์ไม่ดี

“เบอร์ 9 เมื่อวานไง”

“อ้อ” พงศ์กอดอก มองไปอีกฝั่งที่ผมคิดว่าอาร์มอยู่ แต่ไม่ได้หันตามเพราะก้มหน้าก้มตาผูกเชือกรองเท้าให้แน่น

“อ่อย!”

“หึ อะไร?” ผมคิดว่าผมหูฝาด

“มันนั่นแหละ” พงศ์พยักเพยิดไปทางเดิม

“คิดมากน่า”

“จะบอกผัวเป็นรอบที่ร้อยนะคะ คุณผัวโลกสวยไปคะ โลกความจริงมันต่ำตมกว่าที่หัวสวยๆของคุณผัวจะคิดถึงคะ”

“ขนาดนั้นเลย” ผมยิ้มค้าง ทำไมมันถึงทำหน้าจริงจังและดูโมโหขนาดนั้นนะ หรือ มีเรื่องอะไร?

“เออสิคะ รู้ไหมเมื่อกี้มันเอาแขนข้างที่ทำเป็นว่าเจ็บนั่นแหละ ถือแก้วน้ำมารดใส่มะนาวเนี่ย”

“จริงเหรอ” ผมหันไปมองมะนาว เขาทำหน้าแหยๆ เหมือนตัวเองทำผิดอะไรมาซะเอง

ผมดึงกระเป๋าผมที่มะนาวนั่งกอดออกสำรวจรอบตัวเขา เสื้อนักศึกษาเป็นสีนมเย็นตรงสีข้าง ต่ำลงไปกางเกงก็เปียกไปทั้งซีกขวา


“อุบัติเหตุ กูหันไปชนเขาเอง เขาไม่ได้ตั้งใจหรอก มั้ง”

“ถึงงั้นก็เถอะ” ผมไม่รู้จะพูดยังไง ไม่สบายใจเลย

“เขาขอโทษแล้วน่า”

“กลับไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดที่ห้องก่อนเถอะ น้ำหวานแบบนี้เดี๋ยวแห้งมันจะเหนียว”

“ไม่เป็นไร”

“ทิ้งไว้นานมันจะซักไม่ออกเอานะ” ผมถอนหายใจ แผลถลอกที่เข่ายังไม่ทันตกสะเก็ดดี นี่มาอีกแล้ว “มึงปล่อยให้คนอื่นมาทำเพื่อนเลอะงี้ได้ไงพงศ์”

“ขอโทษค่า ความผิดเมียเอง”

“ฮ่าๆๆ ทำไมมันผิด แทนที่จะเป็นกู”

“ไปเปลี่ยนชุด” ผมควักกุญแจรถยื่นให้


“ขี้เกียจกลับ เวลานี้หน้าคณะรถติดจะตาย”

“งั้นเอาชุดในนี้ไปเปลี่ยน ไปล้างตัวในห้องน้ำยิม”

มะนาวเปิดกระเป๋าหยิบชุดขึ้นมาดู เป็นชุดบาสอีกชุดของผมครับ เอาไว้ใส่ซ้อม

“พงศ์ ไปเป็นเพื่อนมะนาวด้วยนะ”

“กูเข้าโหมด FBI ระวังภัยขั้นสุดแล้วคะ เรียกบีสองมาเป็นกำลังเสริมแล้วด้วย”

“เวอร์น่า” มะนาวปรามเพื่อนที่เริ่มเดินไปรอบๆ เขา

“เรื่องของกู กูกำลังหนุก อย่าขัดได้ป่ะ ไปๆ มึงไปเตรียมตัวแข่ง นาวเดี๋ยวกูจับแก้ผ้าเอง”

“เชี่ย น่ากลัวตรงมึงนี่แหละ”

“อิอิ”

ผมคิดถูกคิดผิดที่ฝากพงศ์ดู



ผมกลับลงมาวอร์มร่างกายก่อนแข่ง สักพักข้างบนมีเอ้กับน้ำมาสมทบ หมอทะเลติดมาด้วย ผมมองทั้งหมดแล้วอดขำไม่ได้น้ำกับพี่เลนั่งบน เอ้กับพงศ์นั่งประกบสองข้าง อะไรจะเวอร์ป่านนั้น

“เฮ้ย ไอ้น้ำ”

ผมเห็นพี่บอลไปยืนแหงนคอตะโกนอยู่หน้าพวกนั้น เรียกน้ำอย่างสนิทสนม ก็เขาเล่นบาสมาด้วยกันตั้งแต่ ม.ต้น จะไม่สนิทได้ไง

“ลงมาวอร์ม”

“อะไรพี่ ผมแค่มาดูเฉยๆ”

“คนขาด เพื่อนมึงต้องวิ่งลากยาวสองแมทซ์เลยนะเว้ย มาช่วยเปลี่ยนตัวให้พักบ้าง”

“ผมไม่ได้ซ้อมเลยนา”

“เออรู้ แล้วกูก็รู้ยังไงมึงก็เล่นได้ ฮ่าๆๆ ลงมาๆ”

“ไม่ได้เอารองเท้ามา”

“มึงใส่เบอร์เดียวกับกู”

“ไอ้พี่บอลแม่งเผด็จการ”

คำขอของพี่บอลไม่มีผลกับไอ้น้ำเท่าคำสั่งของหมอเลหรอกครับ เห็นมันเดินคอตกลงมาหลังคุยกันนิดหน่อยผมก็พอเข้าใจ



การแข่งขันวันนี้เป็นไปอย่าง... เหนื่อยครับ ทั้งสองเกมผมถูกเปลี่ยนตัวออกมาพักแป็บเดียวเหงื่อนี่ท่วมจนหยดลงรอบๆ พื้นที่ผมนั่งพักข้างสนาม การแข่งจบไปแล้ว  คนดูทยอยกลับ ส่วนผมไม่มีแรงขยับไปไหนเลยตอนนี้

น้ำนอนหอบซี่โครงบานอยู่ข้างๆ เกมสองมันกับผมนี่แหละครับวิ่งไปวิ่งมากันสองคน




“แกร็ก”

ผมวางกุญแจห้องลง เปิดแอร์แล้วทิ้งตัวนอนแผ่กลางเตียง

กว่าจะแข่งเสร็จ กินข้าวกลับมาถึงห้องก็สี่ทุ่มกว่าเข้าไปแล้ว มะนาวถึงขนาดขับรถเองเพราะสงสารผม



“วันนี้เหนื่อยมากไหม?”

เขาหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ หัวผม เขี่ยผมผมไปมากับนิ้วชี้ เขามองนิ้วตัวเองอยู่อย่างนั้นไม่สบตาผม ผมเอื้อมมือจับมือเขาให้แปะลงกลางหน้าผากผม ขยับหัวให้ไปทับตักเขา ในที่สุดเขาต้องมองผม

คำถามของเขาไม่ได้คาดหวังคำตอบ แต่ผมรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เวลาเหนื่อยๆ แล้วคนที่เราแคร์ถามว่าเหนื่อยไหม? เหมือนร่างกายได้รับการบำบัด เหมือนความเหนื่อยหายไปกับเสียงของเขาที่เงียบลง

“มาก มากๆ เลย”

“พรุ่งนี้มีแข่งอีกจะไหวไหมเนี่ย” มะนาวขมวดคิ้ว เขาถอดแว่นผมออก วางลงข้างหัวเตียง เริ่มลูบหน้าผากเสยผมให้ผม

“ไม่ไหวก็ต้องไหว เสร็จแล้วมีเลี้ยงสายต่อด้วย”

“ดีอะ กินฟรี” ยิ้มของเขายังคงเป็นกำลังใจและเริ่มมีความหมายกับอย่างอธิบายไม่ถูกกับใจผม

“ไปด้วยกันไหม?”

“ไม่เอาอะ ให้พวกพี่รุมมึงคนเดียวดีแล้ว กูไม่อยากไปหารความรักจากพี่ๆกับมึงหรอก”

“เหมือนที่มึงไม่ต้องหารกับใครใช่ไหม?”

“อะไร?”

ก็... ความรักของผมไง

“ไม่มีอะไรหรอก” ผมกำมือเขามาจูบ ลูบมือเขาเล่นไปมา แป็ปเดียวเขาก็เปลี่ยนอารมณ์เสียงแข็งไล่ผมไปอาบน้ำ จะได้นอนพักผ่อนจริงๆ จังๆ เห้อ กะจะเนียนหลับเลยนะเนี่ย
 


ผมออกมาจากห้องน้ำ มะนาวกำลังทำการบ้านในชีทของผม

“เฮ้ย ไม่ต้องทำหรอก ส่งตั้งอาทิตย์หน้า”

“อาทิตย์หน้าก็แข่งเกือบทุกวัน คิดว่าจะเอาเวลาที่ไหนทำ?”

“อาจจะตกรอบพรุ่งนี้แล้วก็ได้นะ”

“ตกได้ไง วิดวะแช้มป์ทุกปี”

“อ้าวเหรอ” ผมไม่รู้จริงๆ พี่ๆเองก็เหมือนไม่ได้คาดหวังอะไรกับพวกเราเท่าไหร่เลย

“ก็มีแต่พวกผู้ชายบ้าพลังมารวมกัน วิ่งกันอย่างกะควายธนูโดนเสก ใครมันจะมาสู้ได้วะ”

“นั่นชมรึเปล่า”

“เปล่า ด่าเนี่ยแหละ ไม่เซพตัวเองเลย”

“ฮ่าๆๆๆ กลัวอะไร เป็นอะไรหมอเลก็อยู่”

“ไม่ได้อยู่ทุกวันนะ พรุ่งนี้พี่แกก็มาไม่ได้มีขึ้นเวรดึก”

“เหรอ แต่ไอ้น้ำไม่รอด ฮ่าๆ”

“นอนไปเถอะ ตาจะปิดอยู่แล้วนั่น”

“มึงอ่ะ?”

“ทำนี่แล้วจะเล่นเกมส์ก่อน ยังไม่ง่วงเลย”

“อื้ม นอนแล้วนะ”

ผมหลับตาลงอย่างไม่ต้องพยายาม เสียงและทุกอย่างกำลังจะวูบหายไปอย่างรวดเร็ว

ริมฝีปากผมถูกรุกรานความอุ่นของลมหายใจ กับความอ่อนนุ่มที่แตะลงมาที่ริมฝีปาก จูบเบาๆ ทำให้ผมหลับไปทั้งที่ยังยิ้มอยู่



.........................................



ผมว่าผมดื่มไปเยอะนะวันนี้ แต่ถ้าถามว่าเมาไหม? ผมว่าผมไม่เมา

“ก็อกๆๆ ก็อกๆๆๆๆๆๆๆ” ผมยืนเคาะประตูห้อง หันซ้ายหันขวา อ่านเลขห้องแวก็ยังงงๆ ไม่แน่ใจว่าเคาะถูกห้องไหม แต่ก็ลงมือเคาะไปอีกชุดใหญ่

“เออๆ มาแล้วๆ” เสียงรำคาญของคนในห้องดังแว้ว

อื้ม เสียงไอ้น้ำ ผมเคาะถูกห้อง

“ไรวะ มาไมเนี่ย”

“นอนด้วยเดะ” ผมเดินเข้าห้องมันถอดรองเท้าทิ้งตามทางแล้วทิ้งตัวลงบนเตียง

“เฮ้ย รองเท้าหายไปไหนข้างนึงวะ? อ้อ อยู่นี่เอง” มันพูดอะไรของมันวะ “มึงเมาขนาดถอดรองเท้าทิ้งๆขว้างๆเกลื่อนกลาดงี้เลยเหรอวะ ดู ถอดไปนอกห้อง เหี้ยมาก”

“อื้ม”



“ทำไมมึงมานอนนี่วะ ห้องตัวเองมีไม่นอน”

“เอาน่า กูง่วง กูนอนแล้ว”

“เชี่ย น้ำก็ไม่อาบ หมอรู้มึงนอนเตียงกูไม่อาบน้ำมึงโดนแน่”

“เดี๋ยวตื่นกูอาบเองแหละ”

“ประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงนั้นป่าววะ เฮ้ย หลับจริงดิ ไอ้นี่แม่งท่าจะเจอสายโหด”

ทำไมผมถึงเลือกมานอนนี่ มะแคะห้องน้ำเอาตอนตีสองเนี่ยนะเหรอครับ

เพราะผมไม่อยากให้ความรักของผมถูกบงการด้วยอย่างอื่นที่ไม่ใช่ตัวตนของเราจริงๆ ผมอาจจะรู้สึกตัว จำได้ว่าตัวเองคิดหรือทำอะไรลงไป แต่มันก็เหมือนไม่ใช่ตัวเอง มันเป็นความรู้สึกที่ทำลงไปคล้ายถูกครอบงำ

ผมว่าผมรักเขาแต่สิ่งที่เราทำด้วยกันเหมือน ไม่เป็นตัวของตัวเอง ปกคลุมไปด้วยกลุ่มไอที่ทำให้มองอะไรพล่าเลือน แม้เป็นสิ่งที่ใจต้องการแต่ไม่เป็นตัวของตัวเอง

ผมไม่รู้จะนับหนึ่งเริ่มใหม่กับเขายังไงเพราะเราไม่เคยหยุด หรือพักความสัมพันธ์ ผมไม่เคยมีความคิดแบบนั้น แต่ผมไม่อยากให้เราติดภาพ ว่าเซ็กซ์คือของมึนเมา

จริงอยู่ว่าเราเริ่มกันเพราะอะไรพวกนั้น แต่ถ้าปล่อยให้เป็นอย่างนี้ไปตลอด เราจะอยู่กันยังไงถ้าไม่มีมัน

นั่นคือสิ่งที่ผมคิดอยู่ตลอดเมื่อรู้ว่าวันนี้จะมีงานเลี้ยง และสิ่งที่ตามมาหลังจบงานคงเป็นอะไรที่คนอื่นไม่รู้ แต่ลึกๆ ผมสองคนรู้

ผมอยากกอดเขา อยากกอดในแบบที่เป็นตัวเอง ในตอนที่มีสติ ในเวลาที่ควบคุมทุกอย่างได้



ผมตื่นมาในตอนสายของวันเสาร์ วันนี้ผมไม่มีเรียน แต่ตอนเย็นมีแข่งบาสอีก ผมกะว่าจะกลับห้องตัวเอง ไปนอนต่อสักพัก เที่ยงๆค่อยออกไปซ้อมเบาๆรอแข่งตอนเย็น

แต่ความผิดปกติบางอย่างเมื่อกลับมาถึงห้อง ก็ทำให้ผมรู้สึกไม่สบายใจและนอนต่อไม่ลง



มะนาวไม่อยู่ที่ห้อง?



ผมมองหารถของเขาที่ควรจะจอดอยู่ในรั่วของหอพัก ก็ไม่มี

โทรศัพท์ถูกกดโทรซ้ำๆ จนแน่ใจว่าเขาปิดเครื่อง ไม่ใช่เพราะสัญญาณไม่ดี

“กลับบ้านทำไมไม่บอก?” 

ในไลน์ก็ว่างเปล่า เขาไม่ได้ทิ้งข้อความอะไรไว้เลย ผมเลยพิมพ์ถามไปว่า ‘กลับบ้านเหรอ?’

ทั้งที่เขากลับบ้านก็เป็นเรื่องปกติ แต่ทำไมครั้งนี้ผมไม่สบายใจ

ผมนอนกลิ้งไปกลิ้งมาจนสายจึงหลับไปอีกรอบ





เย็นวันนั้นผมติดรถน้ำไปยิม ตอนที่มันถามว่ามะนาวไปไหน ผมถึงได้รู้ว่าเมื่อคืนมะนาวไลน์ถามน้ำว่าผมอยู่ไหนแล้วมันบอกไปว่าผมนอนห้องมัน ไล่ให้กลับห้องตัวเองก็ไม่ยอมกลับ

“กูไม่รู้นี่หว่าว่ามันจะคิดมาก” น้ำทำหน้ารู้สึกผิด มึงผิดตรงไหน ถ้ามีคนผิดก็กูป่าววะ

“คิดมากเรื่องอะไร?” ไม่ใช่ไม่รู้นะ ผมรู้ว่าผมควรบอกมะนาวว่าไปไหน แต่ผมเมาเกินจะคิดทัน ความตั้งใจเดียวตอนนั้นคือ ไม่กลับห้องตอนเมา

“เอ้า ไอ้นี่ นี่มึงยังไม่รู้อีกเหรอ อีกฝ่ายงอนกลับบ้านไม่ยอมบอกไม่ยอมคุยแบบนี้แปลว่าเขาโกรธมึง งอนอ่ะมึง งอน เข้าใจคำนี้ไหม”

“งอนเรื่องอะไรวะ มะนาวไม่ใช่คนคิดมากนี่หว่า” ผมก็แค่เงียบหายไป เอง

“คิดน้อยมันจะกลับบ้านทำไมล่ะ แปลว่ามันคิดอะไรอยู่สัก หลายๆอย่างล่ะ มันถึงหนีแทนที่จะอยู่คุย”

“กูว่าเป็นกูนี่แหละที่หนี”

“ยังไง ถ้ากลับไปเมื่อคืนมึงจะทะเลาะกันรึไง?”

“เปล่า” สถานการณ์ก็คงปกติ เข้าอีหรอบเดิมเป็นปกติ

“ไม่กลับถึงจะเป็นเรื่องแบบนี้ใช่ป่ะล่ะ ไปง้อก็จบ”

“ไงวะ?”

“ก็คุยกัน มึงต้องรู้สิว่ะว่าแฟนมึงคิดอะไร มีเรื่องอะไรกวนใจ กูจะไปรู้กับมึงไหมล่ะ?”

“แฟน...”

“นี่อย่าบอกนะว่ามึงยังไม่เป็นแฟนกัน”

“...”

“แต่มึงถึงไหนๆกันแล้วเนี่ยนะ”

“...”

“กูผิดหวังกับความเป็นสุภาพบุรุษของมึงมาก นี่มึงเป็นสุภาพบุรุษจอมปลอม เอาเขาเฉยๆไม่นับเป็นแฟนเหรอ”

“ไม่ใช่อย่างงั้น มึงไม่เข้าใจ”

“อื้ม กูไม่เข้าใจหรอก แล้วมึงคิดว่าเขาเข้าใจกับมึงไหมล่ะ?”

“เขาเข้าใจ เราเข้าใจตรงกัน แค่ ไม่เคยมีใครขอใคร แล้วก็ยังไม่มีใครเอ่ยปากเรื่องนี้สักครั้ง”

“เป็นกันแบบนี้มึงสองคนโอเคใช่มั้ยล่ะ?”

“โอเค มะนาวเองก็โอเค มันก็ยังไม่อยากให้คนอื่นรู้” นั่นสินะ “ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน”

“คนอื่นเขาก็คิดว่าพวกมึงคบกันอยู่แล้วนะ กูว่า”

“ใช่ไหมล่ะ งั้นแหละถึงไม่จำเป็นต้องประกาศก็ได้ ประกาศไม่ประกาศ ยังไงมันก็เป็นเรื่องของกูแค่สองคนอยู่ดี”

ไม่ใช่ว่าผมไม่เห็นความสำคัญ แต่ยังไงคนอื่นก็ไม่มีผลกับเรา

อย่างครั้งนี้ ก็ไม่ใช่เพราะคนอื่นหรอก ผมว่าเพราะผมเนี่ยแหละ เพียงแต่ยังไม่แน่ใจว่าเขาแค่แบตหมด นอนจนลืมเปิดโทรศัพท์ หรือมีความตั้งใจจะทำให้ผมติดต่อเขาไม่ได้กันแน่





จนถึงเวลาแข่ง ผมก็ยังติดต่อไม่ได้ และไม่เห็นมะนาวมาดูการแข่ง

ความจริงมันก็แค่การแข่งเล็กๆ ไม่ได้สลักสำคัญอะไรนี่นะ คนดูบางตา แต่ผมก็ยังเห็นอาร์มมานั่งดูกับเพื่อนอีกสองสามคน ผมไม่คิดมาก เพราะถ้าเป็นนักบาสด้วยกันไม่ว่าจะคณะอะไรการมาดูฟอร์มรูปแบบการเล่นของคู่แข่งก็ถือเป็นงานของนักกีฬาอย่างหนึ่งล่ะนะ

ผมเห็นพี่ยีนส์ วันนี้ไม่ได้มาทำหน้าที่อะไร แค่ใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์สบายๆ มานั่งดู เขานั่งกลางระหว่างฝั่งหญิงกับฝั่งชาย วันนี้ผมกับเมมีแข่งพร้อมกันครับ ผมว่าผมไม่ได้คิดไปเองนะว่าพี่ผมหันไปทางฝั่งหญิงแทบจะตลอดเวลา

แต่วันนี้ผมไม่มีอารมณ์จะสนใจอยากรู้เรื่องของคนอื่น เพราะยังมีเรื่องค้างคาใจอยู่

มันอาจจะมีอะไร หรืออาจไม่มีอะไรต้องกังวนเลยก็ได้





ผมกลับมาถึงห้องตอนสองทุ่ม ไม่เน่าเชื่อว่าห้องจะเงียบได้จนผมอยู่ไม่เป็นสุข ทั้งที่เหนื่อย เมื่อยล้า แต่นอนไม่หลับ

ผมตัดสินใจโทรหามะนาวอีกครั้ง อย่างน้อยให้ได้รู้ว่าเขาสบายดีไม่ได้เป็นอะไรก็ยังดี

ผมกดโทรออก รอสายจนเกือบจะสิ้นหวัง ในที่สุดเขาก็รับตอนเกือบหมดสัญญาณเรียก

//ฮัลโหล//

“ไง อยู่ไหน”

//บ้านสิ ทำไม? //

“เปล่า เห็นติดต่อไม่ได้ เลย... เป็นห่วง” ผมบอกตรงๆ เพราะเป็นห่วงจริงๆ

//พี่ใช้ทำงานทั้งวันเลย แบตหมดด้วยโทรมาใช่ไหม เห็น sms เข้าอยู่ แต่คิดว่ามึงก็คงยุ่งเลยไม่ได้โทรกลับ//

“อื้ม ก็เพิ่งกลับจากแข่งเนี่ยแหละ มึงสิไม่ได้เป็นอะไรก็ดีแล้ว”

// กูจะเป็นอะไรล่ะ? //

“เปล่าๆ แล้วพี่ให้ทำอะไร?”

// ดราฟงานให้ ลายมือแม่งชุ้ยชิบหาย สแกลก็มั่ว เดี๋ยวเป็นเมตรเดี๋ยวเป็นเซนฯ ถ้ามาโวยวายว่ากูเขียนผิดนะ จะเอาแบบเน่าๆไปปาใส่หน้าบอกว่าแบบมึงมาก็ผิดโว้ยยยยย //

“ฮ่าๆๆ อย่าใส่อารมณ์น่า แล้วเหลืออีกเยอะไหม”

// เยอะเลยล่ะ กูว่าพรุ่งนี้ก็ไม่เสร็จ แข่งวันนี้เป็นไงบ้าง //

“ก็ชนะแบบหืดขึ้นคออยู่”

//ยังไงก็ชนะล่ะวะ ดีใจด้วย แล้วจะนอนยัง มึงนอนตื่นเที่ยงได้เลยพรุ่งนี้วันอาทิตย์ // ฟังมะนาวพูดไป ผมก็อ้าปากหาว

“กูกำลังจะชัดดาวตัวเอง” ผมเผลอยิ้ม เห็นเขาพูดคุยกับผมปกติดี ทุกอย่างก็โล่ง ไม่เหลืออะไรให้กังวล ร่างกายค่อยๆผ่อนคลายจนรู้สึกได้

// เต็มที่เลยมึง เจอกันวันจันทร์ //

“อื้ม จะนอนเผื่อนะ”

// ฮ่าๆๆ เผื่อตัวเองเถอะ //

“มะนาว”

// อะไรเหรอ? //

ผมลังเล ว่าจะถามเขาออกไปดีไหม ว่าไม่พอใจอะไรรึเปล่า แต่ได้คุยแล้ว เท่าที่สังเกต เขาก็ปกติดีไม่ได้เป็นหรือแสดงออกว่าคิดมากหรือโกรธอะไรเลยนี่นา ถ้าผมถาม เขาจะคิดว่าผมคิดมากและวุ้นวายกับความคิดของเขารึเปล่านะ จากไม่คิดต่อไปเขาอาจจะคิดก็ได้

ผมเลือกไม่พูดอะไรดีกว่า เอาไว้ เขากลับมาผมค่อยคุยกับเขาเรื่องนี้อีกที

“ฝันดีนะ”

// อยู่แล้ว เหมือนกันมึง //

“แล้วเจอกัน”


// เออๆ เจอกัน ไปนอนสักที //


“ฮ่าๆๆ”




----------------------------------------
TBC.


หายไปตั้งสองอาทิตย์  แถมกลับมาก็ยังเป็นตอนสั้นกุด  ขอโทดก้าบบบบบ

มาม่าไม่มากไม่ต้องกลัวจ้า
พาทหน้าน่าจะเป็นพาทมะนาว จะชดเฉยให้ยาวๆเนอะ

ขอบคุณคนอ่านหน้าเดิมๆที่ยังไม่ทิ้งกัน และสวัสดีคนอ่านที่เพิ่งเริ่มมาอ่านนะคะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยจ้า
อ่านทุกคอมเม้นต์ ขอบคุณทุก +เป็ดเลยนะคะ
มีอะไรไม่ดีบอกได้เช่นเคย
 
เจอกันตอนหน้าจ้า
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 21 หลบหน้า] 14/5/59 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-05-2016 23:55:19
บางครั้งคำพูดมันก็สำคัญนะ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 21 หลบหน้า] 14/5/59 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: muiko ที่ 15-05-2016 02:14:12
บางที การมีสถานะที่ชัดเจน
มันก็โอเคนะ  :hao4:
ไม่ต้องบอกคนยื่นก็ได้ แต่ควรตกลงกันเองมั้ย
ว่าเปนอะไรกัน  :mew2:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 21 หลบหน้า] 14/5/59 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 15-05-2016 07:35:48
สถานะไม่ชัดเจน แล้วความสัมพันธ์จะมั่นคงได้อย่างไร เฮ้ออออ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 21 หลบหน้า] 14/5/59 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 15-05-2016 07:47:35
ช่วงไร้สถานะอย่าให้มันยาวเกินไป
ใครๆก็อยากมีค่า เป็นคนสำคัญทั้งนั้น
รอมะนาวจ้า
 :pig4: 
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 21 หลบหน้า] 14/5/59 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 15-05-2016 16:20:35
มาม่าไม่ต้องเยอะดีแล้วครับ
แค่ความกวนของตัวละครก็จี๊ดพอแล้ว 55
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 21 หลบหน้า] 14/5/59 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 15-05-2016 17:45:39
อะไรที่คิดว่านิดหน่อยจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ทีหลัง

มาแนวนี้ชัวร์
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 21 หลบหน้า] 14/5/59 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: PaiPo ที่ 15-05-2016 22:20:32
โฮฮฮฮ ทำไมรู้สึกว่ามันเป็นจุดเริ่มไม่ใช่ตอนจบของมาม่าน้าาาาา
ไม่น้าาาาา :katai1:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 21 หลบหน้า] 14/5/59 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 15-05-2016 22:58:57
เราว่ามะนาวต้องคิดอะไรบ้างแหละ
เศร้าแต่ทำตัวปกติ น่าสงสารมากๆเลยนะ

ชัดเจนกันสักทีมั้ยอะะะ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 21 หลบหน้า] 14/5/59 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 15-05-2016 23:12:23
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 21 หลบหน้า] 14/5/59 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าเชียงชุน ที่ 15-05-2016 23:54:34
พระเอกคิดง่ายจัง อยากให้มะนาวมีคนอื่นบ้างจัง
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 21 หลบหน้า] 14/5/59 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: 。Atlas ที่ 16-05-2016 03:04:25
เราเพิ่งอ่านอีกเรื่องนึงมา

ซึ่งกำลังเป็นแบบนี้เลย ไอ่ประเด็นสถานะไม่ชัดเจน แต่หลอกตัวเองกันทั้ง 2 คนว่าไม่เป็นไรเนี่ย :katai1:

โอ้ยยย ร้อนในอกกก มันเป็นความรู้สึกที่เหมือนมีหมอกสีเทาที่น่ารำคาญลอยอยู่ในใจ

 ซึ่งถ้าไม่ฝ่ายใดก็ฝ่ายหนึ่งไม่พูดออกมาก่อนนี่ได้อมพะนำกันต่อไปแน่ ๆ
 ปัญหาร้อยแปดจะต้องตามมา  ไหนจะมีคนมารออ่อยแม็ตอีก จะบ้าตายย

ถึงจะบอกว่าการกระทำสำคัญกว่าคำพูด แต่ในบางสถานการณ์คำพูดก็สำคัญพอ ๆกับการกระทำนะแม็ตมะนาววว ฮือออ

อึดอัด ขัดใจ อยากอ่านต่อ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 21 หลบหน้า] 14/5/59 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 16-05-2016 09:34:47
ก็หลง ก็รักมะนาว  แล้วแมตคิดมากอะไรเนี่ย
ทำตัวห่างๆ ให้มีสติขึ้น?  สถานะก็ไม่ชัดเจนกัน
เกิดมีอะไรขึ้นมา จะจูนไม่ติด
อาร์มอะไรนั่นก็อ่อยแมต แกล้งมะนาว :z6:
ทั้งที่ใครก็เข้าใจกันหมดแล้ว :m16:
รอ นะ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 22 มะนาว:ก็คนมันกลัว] 23/5/59 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 23-05-2016 03:53:59
(http://i1159.photobucket.com/albums/p636/Browny_Tan/bro/loveagain2_zpscs9dbvrb.png)

- บทที่ 22 - มะนาว : ก็คนมันกลัว -




           - มะนาว –




// ฝันดีนะ //


“อยู่แล้ว เหมือนกันมึง”

// แล้วเจอกัน //


“เออๆ เจอกัน ไปนอนสักที”

// ฮ่าๆๆ //


ผมถือโทรศัพท์ค้างจนได้ยินปลายสายกดวางสายไป

ผมนิ่งถือโทรศัพท์ไว้อย่างนั้นสายตาเหม่อลอย

แต่เสียงแหลมสูงที่แหวกอากาศเข้าหูทำให้ผมตื่น!



“ไง โกหกทำไม ทำไมไม่บอกเขาไปตรงๆ ว่างอนหนีกลับบ้านมา”

“ผมมีสิทธินั้นด้วยเหรอ?” ผมจะเอาอะไรไปงอนเขาครับ แค่เขาโทรมาก็ดีใจจะตายห่า มือไม้สั่นไปหมด ที่น้อยใจอยู่ก็ลืมไปหมfทู้กกกอย่าง ดันเผลอทำตัวปกติจนกลบหัวใจสาวน้อยของผมหมดสิ้น

“เอ้า อะไรของเธอย่ะ ก็เขาไม่กลับห้อง ไปนอนห้องคนอื่น เหมือนหลบหน้าเธอไม่ใช่เหรอ ที่เธอฟูมฟายกับฉันมาทั้งวันเนี่ย อะไร มันคืออะไร” เจ้เฟิร์นผู้รู้ทันผมทุกอย่าง ไล่ต้อนซะผมไม่เหลือทางไป

“ก็ช่วงนี้นะ มีแข่งทุกวัน เมื่อวานไปกินเลี้ยงกลับมาก็กะว่าจะได้อยู่ด้วยกัน แล้วไง แล้วไม่โทรมา ไม่ให้ไปรับ ไปนอนที่อื่นก็ไม่บอก ไม่กลับก็น่าจะบอกจะได้ไม่ต้อง... รอ”

“งอนเป็นตุ้ดเลยน้องฉัน ฮ่าๆๆ”

“เจ้เฟิร์นอ่ะ”

“จ้าๆ ไม่งอนๆ แล้วทำไม เขาโทรมาง้อก็ดีใจแต่ก็ไม่ยอมบอกว่าตัวเองไม่พอใจอะไร ไมเล่นตัวงี้ห่ะแบบนี้เจ้ไม่เคยสอนนะ”

“พูดไปนาวก็กลายเป็นไอ้ขี้งอน ขี้น้อยใจ เรื่องมากเข้าใจยากดิ้”

“จ๊ะ งั้นมีอะไรก็เก็บๆ ไว้นะจ๊ะ จะได้ ตู้ม กลายเป็นโกโก้ครั้ช”

“ฮื้อ ไม่นะ” ผมปิดหน้า แค่คิดก็หน้าซีดตัวเหลืองแล้วครับ

ไม่เลิก ยังไงก็ไม่เลิก นี่คบกับรึยัง ยังไม่แน่ใจเลย จะให้เลิกตอนนี้ไวไปไหม ม่ายยยยยยย


เพราะอย่างนี้ล่ะครับ ผมเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าผมไม่เคยคบกับใครเพราะไม่มั่นใจความมั่นคงของตัวเอง กลัวที่สุดคือตัวเองเนี่ยแหละจะทำให้ทุกอย่าง พัง

ผมไม่ได้รักเขาน้อย กลับกันความรู้สึกของผมต่อเขามันมากจนพอถึงเวลาผมกลับควบคุมตัวเองไม่ได้ ทุกอย่างเหมือนถูกตั้งคำสั่ง ลุย! ไว้ข้างใต้ แตะโดนอะไรนิดอะไรหน่อยผมฟิวส์ขาดตลอดเลย ที่กลับมาแบบนี้เพราะเลี่ยงการปะทะ อาจจะดูใช้คำแรง แต่ตรงแล้วล่ะครับ ถ้าได้ปะทะกับผมในอารมณ์ที่ผมยังพร้อมเหวี่ยง มะนาวที่เขาเคยพบเคยเห็นมะนาวที่อยู่ในความคิดเขาคงเปลี่ยนไปตลอดกาล

ทั้งหมดผมไม่ได้สร้างภาพ เพียงแต่ไม่ใช่ทุกด้านของผมที่เขาเคยเห็น

ผมกำลังฝึกครับ ควบคุมจิตใจ ควบคุมอารมณ์ ผมว่าผมทำได้ดีกว่าเมื่อก่อนแล้วนะ แต่จากเรื่องเมื่อคืนทำให้รู้เลยว่ายังไม่ดีพอ แถมสิ่งใหม่ที่ผมเจอที่เข้ามากดดันผมมันมากและมีผลกับผมมากว่าเมื่อก่อนโขเลย

ผมเคยหึงหวง ผมเข้าใจ และรับมือได้

แต่ผมไม่เคยคาดหวัง แล้วผิดหวังอย่างครั้งนี้ ไม่เคยเลยในชีวิต

วันก่อนๆ ผมปลอบใจตัวเองได้ แต่เมื่อคืนมันคือที่สุด ผมคิดว่ามันเป็นปาร์ตี้ เขาต้องดื่ม เขาไปสนุกสนานและรู้ว่าผมจะรออยู่ที่ห้อง เมื่อเขากลับมาเราจะกลับไปเป็นคนที่สามารถเปิดเผยมุมต่างๆ ซึ่งกันและกันได้

แต่มันกลับไม่เป็นอย่างที่ผมรอและหวัง เขาเงียบหายไปเหมือนตั้งใจหลบหน้า ทำไมล่ะ?

ผมวนเวียนอยู่กับคำถามว่าทำไมๆๆๆ จนไม่ได้นอนทั้งคืน พอฟ้าสว่างผมก็หอบร่างกายอ่อนล้ากับใจช้ำๆกลับบ้าน บอกตรงๆว่าโคตรน้อยใจ ไม่รู้รึไงว่าคนเขารอ ไม่รู้รึไงว่าเป็นห่วง ผมคิดไปต่างๆนาๆ ฟุ้งซ่านจนกู่ไม่กลับ วูบหนึ่งผมคิดว่าผมถูกเขาเหม็นขี้หน้าแล้วด้วยซ้ำ เขาที่เป็นคนดีไม่ได้ผลักไส แต่ ไม่หยอกล้อ ไม่จูบ ไม่... กอด ไม่รู้รึไงว่าคนเขารอจนเข้าขั้นโหยหา

ผมรู้ว่าเขาทำให้อย่างที่ผมต้องการไม่ได้ เพราะรู้ผมจึงอดกลั้นไม่วอนขอ แค่สิ่งเล็กๆน้อยๆที่เขาแสดงออก แค่จูบเบาๆก่อนนอน ผมก็พอใจมากแล้ว แต่พอรู้ว่าเป็นวันศุกร์ รู้ว่าเขาไม่ต้องกังกลเกี่ยวกับการแข่งขัน ผมก็เริ่มตั้งความหวังถึงเวลาที่เขาจะกลับมาหาในคืนวันศุกร์

แล้ว ผมก็พบกับความผิดหวังที่ค่อยๆคืนหลานเข้ามา ผ่านมากับเวลาที่ล่วงเลย ผ่านไปกับเวลาที่เขาควรจะกลับ แต่ก็ไม่ กว่าจะรู้ตัว หัวใจผมก็ถูกความผิดหวังเข้าครอบงำจนเกินกว่าจะเข้าใจอะไร



แต่ดูจากสิ่งที่เขาทำหลังจากเห็นผมหายไป ผมก็พอเข้าใจว่ามันเป็นอารมณ์ของผมที่ฟุ้งซ่านคิดมากไปเอง เขายังคงคิดและห่วงใยผมเหมือนเดิม เพียงแต่คงมีเหตุผลบางอย่าง บางอย่างทำให้เขาต้องกันตัวเองออกไป

คงเพราะ วันเสาร์ก็มีแข่ง มั้ง แต่มันก็ตั้งตอนเย็นโน้นเลยนะ

จริงๆ ผมอยากกลับไปหอ ไปหาเขาตอนนี้เลยด้วยซ้ำ แต่ผมก็คิดนะ ว่าถ้ามีอะไรขึ้นมาอีก จะทำไง? ผมควรปล่อยให้เวลาผ่านไป ให้ผมเย็นลง สองวันผมอาจจะไม่ได้โตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นหรอก แต่ให้ผมได้มีเวลาทบทวนและคิดถึงความใจร้อนของตัวเองแล้วสำนึกว่ามันทำให้อะไรๆ สะดุด



...



ผมกลับมาอีกครั้งในวันจันทร์ ผมถ่วงเวลาไม่ไปกินข้าวเช้ากับพวกนั้น เข้าห้องเรียนเอาตอนเกือบสายเลือกนั่งปลายแถวถัดจากเมอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน

แม็ตมองมาที่ผม ผมก็ทำเป็นยักคิ้วให้ปกติ แล้วพยายามไม่มองไปที่เขาอีก

ผมไม่ได้งอนแล้วนะ แค่ ไม่รู้จะทำตัวยังไง

ที่โรงอาหารตอนพักเที่ยง เราแยกย้ายกันซื้อข้าวปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือวันนี้มีคนเดินตามมากินข้าวร้านเดียวกับผม เขาไม่ถาม ไม่พูด ไม่ได้เข้ามาใกล้มาก แต่คนอื่นมองก็คงรู้ว่ามาด้วยกัน

แล้วทำไมไม่พูดอะไร ไม่เข้าใจเลย ที่ไม่เข้าใจเนี่ย ผมไม่เข้าใจตัวเองนะ แม็ตไม่ใช่คนพูดมากเหมือนผมรึพงศ์ แม็ตมันก็แค่ไม่พูดฟุ่มเฟือยเป็นปกติ ผมสิปากสงบเกินกว่าปกติ

ผมซื้อข้าวเสร็จ หยิบช้อนส้อมให้ทั้งตัวเองและเขา มาด้วยกันขนาดนี้ จะให้ทิ้งแล้วกลับโต๊ะไปก่อนก็สงสาร... สงสารตัวเองนี่แหละครับคนหล่ออุส่ายอมเดินตามมึงก็อย่าเล่นตัวมากมะนาววววว

ผมรอจนเขาได้จานข้าว ก็ออกเดินนำออกมานิดหน่อย จังหวะที่หมุน ตาเห็นแล้วครับว่ามีคนมองผม แต่ไม่ได้สนใจ รอดูท่าทีเงียบๆดีกว่า

“แม็ต นั่งด้วยกันไหม?”

นั่นไง!

“อ้าว อาร์ม มากินข้าวไกลจังนะ”

หึ ผมอยากจะสะใจให้โลกรู้จริงๆ

นี่มันโรงอาหารฝั่งวิดวะ ส่วนใหญ่ก็มีแต่วิดวะ จะมีถาปัตประปรายเพราะอยู่ใกล้ๆ กัน แต่เด็กวิทยาที่มากินข้าวฝั่งนี้เนี่ย เขาเรียกว่าพวกมาเช็คเรตติ้ง กับหาผัวโว้ย

เสียใจด้วยนะ น้องอาร์มคนพยายามแบ้ว คนที่มึงเล็งอ่ะ เขาเพิ่งตอกมึงกลับอย่างสุภาพ แต่ถ้าแปลเป็นภาษาแบบของพงศ์ล่ะก็ มันแปลว่า ‘มาแรดทำไมถึงฝั่งนี้ครับ?’

ผมไม่ได้สนใจ ถือจานข้าวเดินกลับมานั่งที่โต๊ะ พยายามระวังรอบตัวให้แน่ใจว่าจะไม่โดนประทุษร้ายซ้ำอีก

“มาหาพี่น่ะ อยู่ไหนก็ไม่รู้หาไม่เจอ ติดต่อก็ไม่ได้”

“ไม่โทรหาล่ะ?” จังหวะนี้เอ้กับพงศ์สองคนตรงหน้าผมทำตาโตแบบนกฮูก หันหน้ามองหน้ากันแล้วเบะปาก อยากทำแบบนั้นด้วยจัง แต่ดันหลุดขำพวกมันแทน

“โทรแล้ว ไม่รับ”

“เหรอ งั้นเราไปก่อนนะ ต้องรีบกินรีบไปเรียนแลป”

แม็ตกลับมานั่งที่โต๊ะ พร้อมๆ กับเอ้และพงศ์ที่หัวเราะขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุหรือบทสนทนาก่อนหน้า แต่แค่ผมมองตา ผมก็รู้แล้วว่ามันกำลังคิดเหมือนผม คือสะใจ

“มึงสุภาพแต่แรงมาก” เอ้ชมแม็ตครับ ผมล่ะอยากจะลุกขึ้นปรบมือ

“สุภาพอะไร แรงอะไร?” แม็ตถามเอ้ นางทำหน้าเหนื่อยแล้วกลายเป็นพงศ์ที่ถามต่อ

“ความแบ้วของผัวนี่มีที่สิ้นสุดไหมคะ?”

“มี”

“หื๋อ ยังไง ถามจริงเข้าใจยังเหอะที่เอ้มันว่าเมื่อกี้”

“ไม่เข้าใจ แต่จุดจบความแบ้วอ่ะ มีจริงๆ”

“ตรงไหน”

“ตรงนี้ไง” แม็ตใช้ส้อมจิ้มลูกชิ้นในชามของพงศ์ไปใส่ปากอย่างกวนโอ้ยที่สุด แต่ขอโทษเถอะ ในสายตาผม มันหล่อที่สุด
คนอะไรไม่รู้หล่อจนทำอะไรก็ดูดี

ผมหัวเราะพงศ์ที่มือไม้สั่น คงตกใจจนไม่รู้จะโวยวายยังไง จะแย่งคืนในจานแม็ตก็มีแต่ของที่มันไม่ชอบ อาการพงศ์เหมือนคนตกใจสุดขีดที่สั่นค้าง ฮ่าๆๆ

ผมหัวเราะไป ฟังพงศ์ที่ตั้งสติเริ่มด่าแม็ตได้ไปด้วย แต่พอเงยขึ้นก็สบตากับคนข้างๆ แม็ตมองผมแล้วยิ้มมุมปาก ยังคงเคี้ยวลูกชิ้นต่อเนื่อง แต่ หล่อม้ากกกกกกกกกกกกกก

จะผิดไหมถ้าผมจะเขินอย่างไม่มีสาเหตุ

วันนี้รู้สึกอ่อนไหวกับสายตานี้อย่างที่ไม่เป็นมาสักพัก สงสัยภูมิต้านทานจะตก

ก็เขาไม่เคยตั้งหน้าตั้งตาจ้องผมแบบวันนี้มาก่อนเลยนี่นา

จ้องขนาดนี้เป็นปลากัดคงท้อง

“มองอะไร กูหล่อกว่าทุกวันรึไง” คันปาก อดหาเรื่องไม่ได้จริงๆ

“หึ”

“กวนตีน” คันปาก มั่นไส้ ขอด่าหน่อยเหอะ เผื่อว่าความหล่อของมึงในสายตากูจะลงลงมาให้หายแสบตาได้บ้าง

“นึกว่าไม่ได้เอาปากมา”

“มึง มันกัดกู” ผมฟ้องเอ้กับพงศ์ แต่วินาทีที่พูดออกไปก็รู้เลยว่าตัวเองคิดผิดที่ขอความช่วยเหลือจากสองคนนี้

“กัดมึงกูไม่แปลกใจ แต่สายตามันเนี่ย หันจนคอจะหักแล้วมั้งมึง นี่จานข้าวมึงอยู่ข้างหน้า ไม่ใช่ข้างๆ”

“อ้าวเหรอ ไม่รู้เลย” โอ้ย ให้ตายเถอะ มึงมองอย่างนี้มาจับกูจูบเลยเถอะ

ผมพยายามกินข้าว แต่ที่เคี้ยวอยู่ในปากขอโทษเถอะไม่รับรู้รสชาติอะไรเลย


“นึกยังไงวันนี้มาหวานกันต่อหน้าเพื่อน?” เอ้พยักหน้าเจ็บแค้นกับคำถามพงศ์ คงมั่นไส้พวกผมมาก มึงไม่รู้นี่หว่าว่าเบื้องหลังพวกกู ไม่ปกติ!

“หวานอะไร กูแค่ไม่เห็นหน้ามะนาวหลายวัน หน้ามันดู บวมๆ”

“มันก็ต้องงบวมสิ ก็มันกลั้นยิ้ม โว้ยยยยยย” เอ้ร้องลั้น

“มั่นไส้ อร้ายยยย เมื่อไหร่กูจะหาได้บ้าง”

“หึ”

มึงหึแล้วเอานิ้วมาจิ้มแก้มกูทำฟายอะไร

ฮึ้ย! อยากจะจับนิ้วมันมากัดให้ขาด ผมถอยออกมาปั้นหน้าดุ

“แก้มกูไม่ใช่อุนจิ กินๆไป เข้าแลปสายกูจะเตะมึง”

“ฮ่าๆๆ”



................................




ไม่น่าเชื่อว่าเราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ หลังจากเพียงแค่หัวเราะด้วยกันครั้งเดียว

แลปฟิสิกส์ในตอนบ่าย เราก็ยังทำงานกันปกติ

ผมพยายามทำตัวปกติ ทำเหมือนเรื่องก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น อยากกลับไปลบความงี่เง่าของตัวเองออกไปจากความจริงซะด้วยซ้ำ ติดอยู่ตรงมันทำกันไม่ได้


“วันนี้มีแข่งแมทซ์แรกหรือแมทซ์สอง”

“สอง คงเริ่มหกโมงกว่า”

“อื้ม”


อุส่าชวนคุย ไอ้บ้าก็เอาแต่ขับรถไม่หันมาแลผมสักนิด หอไม่หนีไปไหนสักหน่อย

รู้งี้กลับบ้านเลย ให้กลับหอเองซะก็ดี ชิ้

“จะรีบไปไหนเนี่ย”

“กลับไปเอาชุดไง”

“ก็ไม่ต้องรีบขนาดนี้ก็ได้นี่”

“ช้าเดี๋ยวรถก็ติด”

“อ้อ” ดูดี มีเหตุผลตลอด

ผมเลยนั่งนิ่งๆไม่ถามอะไรอีก มองการขับรถที่เร็วกว่าปกติของเขาแล้วแอบหวั่นในใจเงียบๆ




ถึงหอ แม็ตปาดเข้าที่จอดรถในเลี้ยวเดียวแบบไม่ต้องถอยไม่ต้องเล็ง เอ่อ คือมันรถกูนะ มึงจะโชว์เก๋าก็แคร์น้องหมูดำกูด้วย

เสร็จแล้วยังถอดกุญแจไปยืนควงหล่อๆรอผมอยู่หลังรถอีก กูว่ากูไม่ได้ช้านะ มึงอ่ะจะรีบไปไหน?

“ป่ะ”

เออ ครับ รู้แล้วว่ารีบไปแข่งบาส แต่มึงช่วยดูสังขารกูด้วย

ผมกำลังเลือกชีทกับหนังสือว่าอันไหนจะเอาขึ้นไปเก็บ อันไหนจะเอาไปอ่านรอมันแข่ง ก็เลยทิ้งทุกอย่างไว้ในรถแล้วออกมาตัวเปล่า



แม็ตใช้ขายาวๆก้าวขึ้นบันไดทีละสองขั้นไปยืนไขกุญแจห้องตัวเองโดยที่ผมเหลืออีกเป็นสิบขั้นต้องปีนขึ้นไป

เมิงงงงง กูขาสั้น ทีละขั้นกูก็หอบแดกแล้ว

แม็ตเปิดประตูทิ้งไว้ ตัวเองหายไปในห้อง ผมล่ะถอนหายใจกับขาสั้นๆ ของตัวเอง



กึก


 เสียงปิดประตูห้อง อ้าว ผมเพิ่งเข้ามา ยังไม่ทันหันไปปิดเลย แล้วใครปิด?


แกร็ก



ล็อกห้องด้วย?

ผมหันไปมองมือหนาๆ ของแม็ตที่กุมลูกบิดประตูห้องค้างอยู่

“มึงกลัวกูลืมปิดประตูห้องขนาดนั้นเลย”

“เปล่า”

“เอ้า?” อะไรของมัน



“กอดหน่อย” แม็ตมันก็เดินเข้ามาใกล้ผมพร้อมๆ กับทำตามสิ่งที่พูด



“หื๋อ?”



ผมถูกดึงแขนเกี่ยวเอวจนเซซบอ้อมกอดพ่อยอดดวงใจ

โฮ... น้ำตาจะไหล

ความรู้สึกของคนที่เป็นที่ต้องการนี่มันช่างซาบซ่านไปถึงส่วนลึกของดวงใจ

ตัวน้อยๆ ของผมสั่นอยู่ในอ้อมกอดชายอันเป็นที่ร้ากกกก

ฮาาาาา ฟิน

ถ้าไม่ติดว่าอีกชั่วโมงมีแข่ง พ่อจะผลักลงเตียงจริงๆ ฮึ้ย ฮึ้บไว้ๆ



“แม็ตตตต แน่นไป” ผมกลั้นใจประท้วงเบาๆ พอเป็นพิธี

“หัวเหม็น นี่ไม่ได้สระผมมากี่วัน”

หอมไม่ว่า แต่กล้าดียังไงมาว่ากูหัวเหม็น กูสระทุกวันเพราะกลัวมึงพูดคำนี้ที่สุดเนี่ยแหละ เพิ่งสระเมื่อเช้า อย่ามาปรับปรำ

“แปะ!”

“โอ้ะ!”

สมน้ำหน้าโดนผมตี ถ้าไม่ติดว่าโดนรัดแขนไว้ จะเหวี่ยงวงสวิงให้สุดความยาวแขนเลยมึง

“เป็นอะไรเนี่ย” ผมไม่ได้ขัดขืนหรอกนะ แค่ยังงงอยู่ เป็นอะไรของมัน แม้จะเขินแรงก็ยังไว้ลายนะ ทำมึนว่าจะกอดอะไรนักหนา

“เฮ้อ ก็คิดถึงไง”

“แหวะ”

“หื๋อ? เขินรึไง”

“ทำไมต้องคิดถึงด้วย” ผมย้อนถาม

“คิดถึงต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ?” แม็ตจับผมโยกซ้ายขวาให้เดินมาทิ้งตัวลงที่เตียง ท่าอะไรของมึงเนี่ย ปัญญาอ่อนชิบหาย >///<

“มีดิ กูยังมีเลย” อยู่ๆ คนเราคงไม่คิดถึงคนที่ไม่คิดอะไรด้วยป่ะวะ


“มะนาว คิดถึงใคร?” มึงจะปั้นหน้าโหดมาทำเสียงเข้มถามกูกลับทำไม จะใครล่ะ ก็มึงนั้นแหละ สาดดดดดดด

“นี่กำลังหลอกให้กูพูดว่าคิดถึงมึง ใช่มะ?” พูดไปคิดไป ผมพูดช้าลงที่ท้ายประโยค แม่งหลงกลมันอีกแล้ว

“อื้ม ได้ผลด้วยนะ” เชี่ย กูไม่เคยตามมึงทัน

“ฮึ้ย” ผมถูกหอมแก้มแล้วทิ้งไว้ที่เตียง ไอ้ตัวดีหัวเราะร่าโฉบไปเก็บชุดบาสที่ตากอยู่ที่ระเบียงมาใส่กระเป๋า ด้วยท่าทีอารมณ์ดีสุดๆ

“วันนี้จะไปดูแข่งรึเปล่า เหนื่อยก็รออยู่ห้องก็ได้นะ”

“ไป ไปดูสักแปป แล้วเดี๋ยวจะกลับบ้าน”

“อ้าว”

“พรุ่งนี้มีทำบุญเลี้ยงพระที่บ้าน แม่จำได้ว่าวันอังคารกูไม่มีเรียนเช้าเลยบังคับให้อยู่ช่วยก่อน”

“อ้อ”

ได้โปรดเถิด อย่าทำหน้าผิดหวังขนาดนั้น กูดีใจมากขอบอก

“มานี่กูเก็บให้ มึงไปอาบน้ำไป”

“นาว”

“หื๋อ อะไร?”

“...”

“มีอะไรก็พูด เรียกแล้วเงียบคืออะไรวะ?” ผมไม่ได้สนใจหันไปมอง ยังคงพับเสื้อ จัดของลงกระเป๋า

แม็ตเงียบไปอีกนาน จนผมหันไปมองที่เขา เขาถึงเริ่มต้นพูดด้วยท่าทีที่แปลกจากเดิม แปลกจริงๆ

“เรามีเรื่องต้องพูดกันนะ”

“เรื่องอะไร?”

ทำไมหัวใจผมดิ่งวูบ เหมือนตกจากเหว ทำไมท่าทีจริงจังของแม็ตทำให้ผมกลัว เขาพูดโดยที่ไม่มีรอยยิ้มบนใบหน้า เขามองผมอย่างห่างเหิน นิ่งขรึม ผมกลัวทุกครั้งที่เขานิ่งและทำท่าจริงจัง กลัวจนไม่รู้ตัวว่ากำลังแสดงสีหน้ายังไงออกไป

“เอาไว้วันหลังแล้วกัน”

“...” แม็ตเดินมาขยี้หัวผม กลับมายิ้มให้เหมือนเดิม แล้วหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป

อะไรเหรอที่เขาบอกมีเรื่องจะพูด

แล้วทำไมไม่พูดออกมาเลย

เพราะอะไร แล้วทำไมต้องทำท่าจริงจัง แล้วแป็ปก็กลับมาใจดี

หรือมันเป็นเรื่องไม่ดีถึงต้องพูดทีหลัง?



ผมถามเขาอีกครั้งหลังเขาเปลี่ยนชุดเสร็จ

พูดเลยไม่ได้เหรอ เขาก็ยังยืนยันว่าไม่มีอะไรมาก ไว้พูดทีหลังก็ได้

เอ้า ถ้าไม่มีอะไรมาทำไมไม่พูดๆ ออกมาเลยวะ?

แต่ในเมื่อเขาไม่ตอบ ผมเลยต้องอยู่กับความสงสัยต่อไป




...........................................




“เฮ้ย แม็ตๆ”

“ครับพี่วิท”

“จะมาบอกเรื่องประกวด พรุ่งนี้มีประชุมพวกตาราง คิว กับกติกาตัดสินนะ”

“อ้อ เดี๋ยวผมบอกพี่เสือ”

“ไม่ต้องๆ พี่บอกไอ้พี่เสือให้แล้ว”

“เหรอครับ แล้วที่ไหน”

“ชั้นสาม ตึกอำนวยการ ห้องประชุมใหญ่นะ โนอาให้เบอร์มึงไว้แล้ว พรุ่งนี้โทรหา จะได้ไปพร้อมกัน”

“อ้อครับ”

“วันพฤหัสมีซ้อมคิวใหญ่ ที่สนามกีฬา แต่คงซ้อมดึกๆ ไปด้วยนะ เดี๋ยวให้โนอารับไปพร้อมเมแล้วกัน”

“ครับ”

“พรุ่งนี้ประชุมห้าโมง พฤหัสซ้อมคิว เสาร์แตนบาย 10 โมง ตามนี้นะ”

ผมนั่งฟังจากข้างบน คางเกยแขนท้าวราวเหล็กกั้น สายตามองเหม่อลอยไกลออกไป เหมือนไม่คิดอะไรแต่หวังผลโคตรๆ

จะมีใครสนใจมะนาวผู้แกล้งเหม่อลอยทำเป็นมีเรื่องคิดแต่ความจริงในหัวกลวงโบ๋ไหมนะ...

ทั้งที่รู้นะว่าตอนนี้เขาต้องสนใจการแข่งขันที่กำลังจะเริ่ม แต่ก็ยังจะหวังอะไรลมๆแล้งๆ น่าสมเพชจริง


“ไงนาว” ผมที่กำลังเหม่อเพลิน ถูกขัดจังหวะซะแล้ว

“อ่า พี่ปราณ”

“เหม่อ แปลว่าเรียกร้องความสนใจ” เอ่อะ

“พี่ก็แปลก ทั้งที่รู้จักผมดี แต่ไม่ยักรู้ว่าผมไม่เคยชอบพี่”

“ทำไมโกหกตัวเองแบบนั้นล่ะ รู้อยู่ว่าเราเคยรักกัน”

“อดีตมันก็เป็นแค่อดีต”

“ช่าย แล้วก็สบายใจได้แล้วนะ เราก็กลายเป็นอดีตสำหรับพี่แล้วเหมือนกัน แล้ว...” รู้แล้วครับ ไม่งั้นพี่ไม่กล้าเข้ามาคุยกับผมตรงๆหรอก คิดว่าพี่รู้จักผมฝ่ายเดียวรึไง อย่าลืมว่าผมก็รู้จักพี่โว้ย “คนข้างล่างล่ะ ใกล้เป็นอดีตยัง”

“ไม่มีวัน”

“อะไรทำให้มั่นใจ”

“หัวใจของผมไงที่บอก แต่สมองยังตามไม่ทัน ไม่รู้จะต้องทำยังไง ไม่รูเลยว่าควรหรือไม่ควรทำอะไร” เปลี่ยนเรื่องดีกว่า “พี่ผมเป็นไงบ้าง”

“พี่ไหน?”

“พี่ชนะขาโหดไง”

“ไม่เห็นจะโหดเลย เขาแค่นิ่งๆ”

“ได้ไง กับน้องนี่ดุตลอด ผมว่านะ ดุๆแบบนั้นอยู่สองคนต้องขี้อ้อน”

“หึหึ”

“ยิ้มแบบนี้แปลว่าจริง”

“แล้วหล่อๆ แบบข้างรหัสเราล่ะ เป็นไง?”

ไอ้นี่ก็วกเข้าเรื่องกูตลอด อย่าบอกนะว่าเปลี่ยนใจจากผมไปหาแม็ตแทน

โอ้ยกูก็คิดไปได้ ขี้หึงไม่ลืมหูลืมตาเลยกู

“อบอุ่น” ผมพูดคุณสมบัติแรกอย่างไม่ต้องคิด แต่มันก็มีบางอย่างตามมา “แต่บางทีก็หนาว ใจดีแต่ก็เด็ดขาด เหมือนจะไม่ตามใจ แต่ก็ตามใจ”

“ก็ดีนี่ แล้วทำไมทำหน้าเศร้า”

“ผมออกจะร่าเริงดี” นั้นคือสิ่งที่ผมคิด แต่ใครมาเห็นผมตอนนี้ต้องหาว่าผมท้องผูกมาสามวัน

“รู้อยู่ว่าพี่ดูออก”

“เขาเป็นคนดีมากเลยพี่”

“ดีเกินไปรึไง”

“ก็ เปล่า แค่เขาดีกับทุกคน”

“เข้าใจแล้ว ไอ้ขี้หึง”

“ผมไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้ของตัวเองเลย”

“ความรู้สึกแบบไหนละ”

“เป็นที่รัก แต่รู้สึกว่ามันไม่พอ”

“ดีแค่ไหนแล้วที่เขารัก อยากอยู่แบบเขาไม่รักรึไง? มันเจ็บปวดนะ รักคนที่ไม่รักเราน่ะ”

“ขอโทษนะพี่”

“เรื่องมันแล้วไปแล้ว พี่ไม่คิดมากแล้วน่า”

“แต่จริงๆผมไม่ได้ผิดสักหน่อย พี่มาชอบผมเอง”

“หึ  หึหึหึ” ผมกับพี่ชายหัวเราะไปพร้อมๆ กัน เมื่อก่อนตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้เราสนิทกันมาก แล้วเมื่อไหร่ก็ไม่รู้เริ่มมีคนคิดเกินเพื่อน พอความคิดเปลี่ยน ความสัมพันธ์ก็เริ่มเปลี่ยน เริ่มห่าง เริ่มมองหน้ากันไม่ติด ผมคอยวิ่งหนี พี่ปราณคอยดักอยู่ทุกทาง เพราะเขารู้จักผมถึงรู้ว่าผมจะหนีไปทางไหน เหมือนวิ่งหนีตัวเองหนียังไงก็หนีไม่พ้น

คิดว่าชีวิตนี้ เราจะกลับมาเป็นเพื่อนกันไม่ได้แล้วซะอีก

ก่อนเราจะไม่พูดกัน เราเคยคุยกันทุกวัน

ก่อนเราจะห่างกัน มันมีมากกว่าความใกล้ชิด

ก่อนพี่เขาจะบอกชอบผม ผมเคยชอบและเคยเลิกชอบพี่เขา มันเป็นความรักแบบเด็กๆ ที่อาจจะแค่เผลอไปชอบคนที่อยู่ใกล้ๆเมื่อไหร่ก็ได้ แล้วเปลี่ยนไปชอบคนใหม่เมื่อไหร่ก็ได้เช่นกัน

มันไม่ใช่ความรัก



แต่ปัญหาของผมตอนนี้คือ ผมไม่แน่ใจว่าผมโตพอจะมีรัก เป็นของตัวเองรึยัง…



ผมเห็นอาร์มคนนั้นวนเวียนอยู่ใกล้ๆแม็ต เขายื่นอะไรบางอย่างให้แม็ตรับไว้ คนคนนั้นเหมือนรู้ว่าผมมองอยู่ ไอ้เตี้ยอาร์มมองมาทางผม ถึงจะอยู่ไกลคนละฝั่งสนามแต่ผมก็มั่นใจว่ามองไม่ผิด เขามองมาที่ผม

ผมไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกในตอนนี้ออกมาเป็นคำพูดได้ยังไง ทั้งที่รู้ว่าไม่ใช่ความผิดคนของผม รู้ว่าแม็ตจะไม่คิดอะไรกับคนอื่น แต่ผมก็ห้ามความรู้สึกตัวเองไม่ได้เลย



ไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย


...
..........
.......................................
(มีต่อ)
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 22 มะนาว:ก็คนมันกลัว] 23/5/59 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 23-05-2016 03:58:00
(ต่อ บท 22)
...
..........
.......................................




ไม่น่าเชื่อว่าผมจะอดกลั้นทำลงไปได้


ทั้งอาทิตย์ ผมไม่ค้างหอกับแม็ตเลย ผมยอมลงทุนขับรถไปกลับ พาตัวเองไปเสี่ยงกับความสับสนของตัวเอง

ในขณะที่เรื่องของเรายังคลุมเครือ ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมยอมเสี่ยงมากมายขนาดนี้ทั้งที่ถ้าไม่เป็นอย่างที่หวังผมเองเนี่ยแหละที่จะเป็นฝ่ายเสียใจ ทำไปเพื่ออะไร ผมก็ยังไม่แน่ใจเลย

โฮฮฮฮ นี่ผมกำลังขุดหลุมศพให้ตัวเอง แถมตอนท้ายก็ฆ่าตัวตายลงหลุมไปเองอีกรึเปล่าเนี่ย


แต่ผมจะไม่โกหกหรอกนะ ว่าที่จริงแล้วผมกลัวเรื่องที่แม็ตบอกว่าจะพูดด้วย กลัวจับใจเลยว่ามันจะเป็นเรื่องไม่ดี ผมบอกเลยว่าผมไม่พร้อมรับฟังอะไร ท่าทางลำบากใจของเขาทำให้ผมโคตรกลัว

เมื่อวานเป็นการแข่งรอบชิง จะไม่ไปดูก็ไม่ได้ ผมต้องไปสแตนบายคอยกันพวกแมงหวี่แมงวัน แต่ผมก็หนีกลับทันทีที่รู้ผลการแข่งขัน

แม็ตก็คงปฏิเสธพวกเพื่อนๆพี่ๆ ไม่ได้ ไปฉลองที่ไหนกันอีก

เขาโทรมาหาผมตอนเที่ยงคืน

ผมไม่รับ


หลังจากนั้นเขาก็ไลน์มาถามว่าผมจะมาดูการประกวดมั้ยพรุ่งนี้(ซึ่งก็คือวันนี้) ผมอุตส่าห์ไม่กดเข้าไปอ่านแต่มือไปโดนตอนที่เขาส่งมาแล้วครึ่งชั่วโมง มันคงรู้ว่าผมอ่าน ไม่ถึงสามนาที มันโทรกลับมา ต้องทนดูโทรศัพท์เปล่งแสงเรืองรองตั้งสามรอบกว่าแม็ตจะยอมเลิกพยายาม ต้องหาข้ออ้างไปแก้ตัวอีกสิเนี่ยว่าทำอะไรอยู่ถึงพลาดรับสาย แม่งงงงงงง

โว้ยยยยยยย แล้วกูจะเล่นตัวไปทำไมมากมายวะเนี่ย ถูกผิดไม่รู้ รู้แต่ทำไปแล้ว


ผมตีสีหน้าแปรปรวนอยู่คนเดียวบนยอดดอยอันไกลโพ้น ทึ้งหัวตัวเองอย่างไม่ต้องกลัวคนหาว่าบ้า

ผมมาตั้งแต่งานยังไม่เริ่มครับ นั่งดูพาเหรด ดูอธิการกล่าวเปิดงาน แล้วก็โชว์ตัวดาวเดือนไปแล้วรอบนึง มีแม็ตโทรมา เอ้โทรมา พงศ์ก็โทรมา ส่วนเม ไลน์มาด่าผมประมาณ 40 ข้อความแล้วครับ มึงหงุดหงิดอะไรมาแล้วมาลงที่กูใช่มั้ยเม

การมานั่งเงียบๆคนเดียว มันก็มีข้อดีของมันนะ ผมได้ยินคนข้างๆคุยกันเรื่องความฮ็อตของเม ได้รู้ว่าเดือนจากคณะไหนมีแฟนแล้วบ้าง ทั้งเดือนนิเทศ เดือนนิติ วิทยาก็ไม่เหลือ หนึ่งในนั้นก็แม็ตไงครับที่เขาพูดถึง




“ฉันว่าวันนี้ต้องไฝ้กันระหว่างเดือนวิดวะกับเดือนถาปัต”

“ถาปัตมีเมียคะ ตกไป”

“เสียดายอะแก เดือนวิดวะก็ดูท่าจะมีแฟนแล้ว”

“จริงเหรอ เสียใจ ฉันเชียร์เขากับเพื่อนเขาอยู่ แบบนี้ฉันก็จิ้นต่อไม่ได้แล้วดิ”

“โอ้ย ก็คนนั้นแหละที่เขาว่าเป็นแฟนนาง”

“อ้าว ตกลงยังไง แฟนนางคือคู่จิ้นที่ฉันมะโน”

“แกนี่เข้าใจอะไรยาก”

“ฉันเชื่อแกๆๆ ว่าแต่ใครบอกแกมา ถ้าไม่จริงนี่เสียใจกว่าอกหักเองอีกนะแก”

“โอ้ย ข่าววงในเขาเม้ากันให้แซด ฉันนี่ฟินไปถึงเดือนถึงตะวัน”

“วงไหน ฉันอยากไปอยู่ในวงนั้นบ้าง”



นี่เป็นแค่ตัวอย่างหนึ่งที่ผมได้ยินหลังจากดาวเดือนออกมาโชว์ตัวรอบแรก

เล่นเอาเสียวสันหลังวูบ กลัวพวกนางหันขึ้นมาข้างบนแล้วเห็นผมนั่งหูผึ่งอยู่ตรงนี้

บอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไงพอมาได้ยินจังๆว่าเขาอยากให้พวกผมรักกันมากขนาดนี้ ถ้าปกติก็คงดีใจหรอกนะ แต่วันนี้ได้ยินแบบนี้มันทำให้เศร้ายังไงก็ไม่รู้สิ

ถอนหายใจยาวเหยียดเลยตรู






ผมกำลังเหม่อๆ มองบรรยากาศผู้คนไปเรื่อย อยู่ๆ ก็มีคนมานั่งข้างๆ ที่ว่างเยอะแยะ ทำไมจงใจนั่งตรงนี้?

“มานั่งทำไมสูงขนาดนี้”

“น้ำ?”

“ครับ กูเองครับ”

ผมจะถามว่ามาได้ไง แต่เปลี่ยนใจไม่ถามดีกว่าเพราะเดี๋ยวมันรู้ว่าผมหลบใครอยู่ ไอ้นี่ยิ่งความรู้สึกไวๆ อยู่

“พี่เลอ่ะ?”

“ผ่าตัดด่วน”

“วันหยุดทั้งที เป็นงี้ตลอดเลยเปล่าวะคู่มึง”

“ชินแล้ว ก็มันเป็นงานที่เขารักนี่”

“มึงเคยทะเลาะกันป่ะ?”

“เคยดิ บ่อยไป แต่เป็นเรื่องอื่นนะไม่ใช่เรื่องเวลา”

“แล้วใครง้อใคร”

“จะเหลือเหรอ กูสิครับ”

“มึงผิดตลอดเลยรึไง”

“บางที... มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะมัวมาหาคนผิดอยู่ ถ้าเป็นคนที่ถูกแต่ต้องเสียเขาไป กูยอมง้อเองก็ได้ ง้อแฟนไม่ใช่เรื่องของศักดิ์ศรีหรือทิฐิ อยากเอาชนะ หรืออะไรเลย มันเป็นแค่เรื่องของคนสองคน”

“เนอะ คิดดีเป็นเหมือนกันนี่หว่า”

“กูก็ดีของกูตลอด มึงเหอะ ทะเลาะกันรึไง ไม่ไปเชียร์ใกล้ๆ มานั่งซะไกลจะมองเห็นไรวะ”

“เปล่า ไม่ได้ทะเลาะ”

“แล้วหลบหน้ามันไม”

ผมมองหน้าน้ำ มันยังคงมองไปข้างล่างที่พิธีกรกำลังแนะนำรายการต่อไป จนสุดท้ายมันก็หันมามองผม ยกคิ้วสูงกวนตีนถามซ้ำ

“คิดว่าไม่มีใครดูออกรึไงว่ามึงสองคนไม่ปกติ”

“ช่วงนี้กูแค่มีธุระเลยกลับบ้านบ่อย” เป็นผมที่ต้องหลบตามันแล้วทีนี้

“บ่อยอะไร ทุกวันเลยเนี่ยนะ”

“กูไม่เข้าใจมึงสองคนจริงๆ เพื่อนกันมันไม่ต้องตามดูแข่งทุกนัดหรอกมั้ง ไม่ต้องมานั่งเฝ้ารอดูประกวดแบบนี้หรอกนะ เพื่อนกัน มันก็ไม่ใช้เพื่อนมาตามหาคนที่บอกว่าเป็นเพื่อนแบบนี้ด้วย”

“แม็ตใช้มึงมาเหรอ?”

“จุ๊ๆๆๆ มันไม่ให้บอกเว้ย แต่กูจะบอกเลยนะถ้าลำพังกู กูไม่มานั่งตากไอแดดร้อนๆแบบนี้หรอก ถึงกูจะสนิทกับไอ้แม็ตมานานกูก็นอนกลิ้งรออยู่หอได้ไม่ตื่นเต้น กูรู้ตัวเองไม่มีค่าพอจะเป็นกำลังใจให้มันเปลี่ยนแปลงหรือทำอะไรได้ดีกว่าที่เป็นอยู่”


“....”


“แล้วมึงรู้รึเปล่าว่ากำลังใจของมึงมีค่ากับมันมากแค่ไหน”

“ก็ เหมือนจะรู้นะ ไม่งั้นกูจะถ่อมาถึงนี่ทำไม จากบ้านกูมานี่ชั่วโมงนึงเลยนะเว้ย” ผมตอบเศร้าๆ มันอยากให้ผมมา ผมก็เลยมาวันนี้ จบแค่นี้แหละครับเหตุผลที่ผมมาแอบนั่งอยู่ตรงนี้ มาแล้วนะ แต่ไม่ได้บอกว่าถึงนานแล้ว

“แล้วประกวดเสร็จจะตีรถกลับบ้านอีกป่ะ”


“...”


“ไปนั่งข้างล่างเถอะ อยู่ไกลงี้กูมองไม่เห็น มึงรู้ไหมเนี่ยว่ากูสายตาสั้น”

“อ้าว ไม่เห็นมึงใส่แว่น”

“ไม่ชอบใส่มันไม่เท่”

น้ำลุกขึ้นยืน ใช้ตีนเขี่ยๆผมเพื่อให้ลุกขึ้นตามคำสั่ง

โหยมึง ทำเหมือนกูเป็นกองขี้หมา






ทนแรงกดดันไม่ไหวผมถึงต้องลงมานั่งชั้นที่ต่ำลงมาจนได้ ข้างล่างคนแน่นและแทบไม่มีที่ว่าง น้ำจัดการหาที่นั่งที่ต่ำที่สุดให้เราสองคนสำเร็จ

แต่แค่ผมเดินมาหาที่นั่งยังไม่ทันลงนั่งเลย แม็ตก็เห็นผมแล้ว เขายิ้มบางๆ แต่เหมือนกำลังถอนหายใจ ผมพยักหน้าให้เป็นเชิงว่า กูมาแล้วนะ


“นาว ขอกุญแจรถหน่อย” สักพักพงศ์มายืนแบมืออยู่ข้างหน้าผม

“เอาไปทำไร” ถามไปงั้นแหละครับ เอาจริงๆผมก็หยิบให้ พงศ์ขับรถไม่เป็นครับ เลยไม่ได้ห่วงว่าเขาจะเอารถผมไปไหน

“แม็ตมันว่าจะเอาของไปเก็บที่รถ”

ไม่ทันแล้วครับ ผมให้พงศ์ไปแล้ว มันรีบกำแล้ววิ่งลงบันไดหายไปทันที

แบบนี้ถ้าจะกลับ ก็กลับไม่ได้ดิ?


“พงศ์นี่เป็นทั้งพี่เลี้ยงดาว ทั้งพี่เลี้ยงเดือนเลยใช่ไหมเนี่ย” น้ำพูดลอยๆ “แถมยังเป็นเบ้ให้เดือนใช้งานจิปาถะด้วย ฮ่าๆๆๆ” มาถึงตรงนี้ผมรู้แล้วครับว่ามันเยาะเย้ยความไหวตัวช้าของผม


กูก็ไม่ได้กะจะหนีกลับสักหน่อย ชิ้




.....................................................




“วันนี้มีงานอะไรที่บ้านไหม?” หลังเลิกงาน แม็ตหอบของเยอะแยะมากมายทั้งดอกไม้ กล่องของขวัญ ตุ๊กตา มาเก็บที่รถกันสองคน เพราะคนอื่นๆ อยู่แสดงความยินดีกับดาวมหาลัยคนใหม่จากคณะวิศวะครับ


ใช่ครับ เมได้เป็นดาวมหาลัย ก็ลุคมันวันนี้เจิดมากๆ แต่งหน้าหวานธรรมชาติ หน้าใสเด้งกว่าสาวเกาหลี แต่เซตผมตั้ง ใส่ผ้าใบแทนที่จะเป็นคัชชูอย่างดาวคณะอื่นๆเขาใส่ มาในลุคหญิงก็หลงชายก็หวั่นไหวแบบนั้น คะแนนโหวตถล่มทลาย

ส่วนพ่อแม็ตของผมฉวดตำแหน่งเดือนมหาลัยไปฉิวเฉียด ได้รองอันดับสองครับ ขอบอกว่าผมโล่งใจแทนที่จะเสียใจ ก็ลองได้เป็นเดือนมหาลัยอีกตำแหน่ง กูกับมึงยิ่งห่างชั้นกันไปไกล ต้องวุ้นวายกับอะไรๆๆๆ ที่จะเข้ามาวอแวอีก แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว

“ไง มีรึเปล่า” ผมหลุดจากภวังค์ตอนพี่แกเปิดท้ายรถ

“ก็ ไม่มี”

“งั้น ไม่ต้องกลับบ้านเนอะ”

ทำไมรู้สึกว่ามันเป็นประโยคคำสั่งไม่ใช่คำถามวะ

“อื้ม ไม่กลับก็ได้”

จะให้ทำไงล่ะครับ มาถึงขั้นนี้แล้ว ผมช่วยเขาจัดของ ของเยอะมาก มีบางส่วนวางอยู่แล้วด้วยผมเพิ่งเห็น แสดงว่าที่ให้พงศ์มาเอากุญแจก็ไม่ใช่จะยึดรถผมสิ

ผมคงคิดมากไปเองมั้ง

“หิวไหม” แม็ตถามผมตอนถอยรถออก

“ไม่อ่ะ เดี๋ยวค่อยไปกินตอนฉลองดาวเมทีเดียวเลยได้”

“เหรอ แต่กูหิว” ยิ้มอีกแล้ว ยิ้มทำไม

“เอ้า แล้วก็ไม่บอกแต่แรก ถามให้ตอบทำไม”

“ฮ่าๆๆ ไปกินก๋วยเตี๋ยวไก่กันดีกว่า”



บอกแล้วไงครับ ว่าเราคุยกันได้ปกติ เราไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน ตอนกลางวันเขาร่าเริงดี ตอนเย็นถ้าผมบอกเหตุผลว่าจะกลับ เขาจะเศร้าลงนิดหน่อยแต่ไม่ห้ามหรือไม่ขอไม่ให้กลับ




................................




“กูว่า เดี๋ยวส่งมึงแล้วกูกลับบ้านดีกว่า”

ผมพูดขึ้นตอนที่กินก๋วยเตี๋ยวหมดชาม

“ไหนบอกไม่กลับ” แม็ตเผลอขมวดคิ้วถามเสียงเข้ม

“ก็พรุ่งนี้วันอาทิตย์ ไม่มีอะไรนี่” ผมรู้ว่าเขาเผลอ เพราะหลังจากผมตอบเสียงอ่อยเขาก็ดูใจเย็นลง

“ก็อยู่ฉลองกับเมก่อนไง ถึงตอนนั้นเดี๋ยวก็ขับรถไม่ได้”

“...” ผมอยากถามว่าทำไมไม่ให้ผมกลับ แต่เหมือนจะรู้คำตอบอยู่แล้ว ผมเลยเบือนหน้าหนีไม่คิดถาม ไม่พูด ไม่อยากทำให้เป็นเรื่อง

“เมมันบ่นทั้งวันว่าไม่เห็นหน้ามึง”

ไม่ต้องเอาเมมาอ้างเลย

มาถึงตรงนี้คงต้องทำใจว่าเลี่ยงไม่ได้แล้วจริงๆ

ทีนี้ผมก็ต้องมาตื่นเต้นอีกว่าเขาจะขอคุยเรื่องอะไร ดูดิ แค่บอกจะกลับก็ใส่อารมณ์ แบบนี้จะไม่ให้ผมกลัวได้ไง


แม็ตเดินไปจ่ายเงินค่าอาหาร แล้วยืนรอผมอยู่หน้าร้าน

โอ้ย หนีไปทางไหนได้บ้างตอนนี้

ผมมองซ้ายมองขวาลอกแลก




“ไปร้านเลยเปล่า เขานัดกันร้านไหน”

“ร้านพี่ซัน 3 ทุ่ม”


จบ ตอนนี้เพิ่งจะทุ่มครึ่ง มีทางไหนให้ดิ้นได้อีกป่ะวะ


“กลับไปนอนรอที่ห้องได้งีบเลยล่ะ ป่ะ กลับห้องกัน”

ฮื้ออออ ก็นั้นแหละที่กูไม่อยาก

ผมเดินตามแม็ตช้าๆ แวะซื้อลูกชิ้นทอดข้างทาง แวะสั่งน้ำปั้นทั้งที่ยังอิ่ม

กูทำไปเพื่ออะไรเนี่ย

จนโดนพ่อแซว

“ไหนบอกไม่หิว หึ ดูซื้อของกิน”

“ซื้อให้มึงกินหรอก เห็นมึงหิว” ผมต่อคำตอนกำลังจ่ายเงินค่าน้ำปั่น น้องสาวแม่ค้าที่เป็นนักศึกษามองหน้าผมสองคนสลับกัน เธอรับเงินแต่ไม่ยอมให้แก้วน้ำ

“น้องหิวกันเหรอคะ?”

“เอ่อ ป..”

“เอานี่ค่ะ พี่แถมอีกแก้ว”

“เอ๋? คือ ไม่ดีกว่าครับ”

“ขอบคุณนะครับ กำลังหิวพอดี ขอบคุณพี่เขาสิ”

ผมมองหน้าเพื่อน เอาจริงเหรอ นี่เยอะแล้วนะ

“ขอบคุณครับพี่”

“ป่ะ กลับไปกินที่หอ”

“บายย กินกันให้อร่อยน้าาา” พี่เขาโบกมือลาผมก้มหัวให้แล้วเดินตามไอ้โย่งงงๆ

“นี่มึงหิวจริงๆ เหรอเนี่ย” ผมยกน้ำสองแก้วขึ้นกับถุงลูกชิ้นที่ห้อยโตงเตง



“เปล๊า แค่ตัดปัญหามึงจะได้ถ่วงเวลาต่อไม่ได้”

“...” ผมหันไปมองหน้าแม็ตอึ้งๆ เขาหันมามองผมนิดหน่อย ก่อนจะตั้งอกตั้งใจถอยรถออก




“คิดว่าไม่รู้รึไงว่ากำลังโดนหลบหน้า”


“ใครเริ่มก่อนละ”


“อย่าบอกนะว่าทั้งหมดนี่จะเอาคืนเรื่องเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว”


“เปล่า”


“แล้ว?”


“ไม่ใช่ก็แล้วกัน”


ผมเงียบ ไม่ตอบอะไรมากกว่านั้น การบอกสิ่งที่ตัวเองกำลังกลัว เหมือนมันเป็นการเร่งให้รู้เรื่องนั้นเร็วขึ้น ผมไม่อยากรู้ ผมไม่พร้อมมมมม



“เรามีเรื่องต้องคุยกันเยอะเลย”



นั่นไง!


โอย โอ้ย โอย กูกลัวประโยคนี้ของมึงเนี่ยแหละครับ




---------------------------------------------
TBC.



โฮฮฮฮ แค่แคะกับจัดหน้าก็หมดไปครึ่งชั่วโมง ผมช้าหรือเวลามันเดินไวครับผม ฮื้ออ

เชื่อว่าต้องมีคนอยากด่ามะนาวเยอะ 5555 ใจเย็นค่ะๆ
โปรดอย่ามั่นไส้มะนาว ได้โปรดเข้าใจความหวั่นไหวของนายเอกเราด้วย ในใจนางสับสนวุ้นวายอย่างนี้ตลอด(แค่ไม่แสดงออกเท่าไหร่)



ป้ะ ไปฉลองให้ดาวมหาลัยตกกระไดพลอยโจนกันเถอะ 5555555555 อยากหัวเราะให้หงายหลัง

หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 22 มะนาว:ก็คนมันกลัว] 23/5/59 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 23-05-2016 05:35:37
โถนังหนูนาว.  พี่แมตไม่ปล่อยแน่ๆ
ยินดีกับดาวเม. อิอิ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 22 มะนาว:ก็คนมันกลัว] 23/5/59 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าเชียงชุน ที่ 23-05-2016 08:10:17
มะนาวลูกแม่ สู้ๆน้าาาาาาา  หนีเลยลูก แม่อยู่ข้างหนู :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 22 มะนาว:ก็คนมันกลัว] 23/5/59 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 23-05-2016 09:13:17
มันก็ใช่ที่มะนาวจะกลัว ถอยห่างออกมา
แมตเริ่มก่อน ความสัมพันธ์ที่ชัดเจนทางกายแต่ไม่ชัดเจนทางพูด
มันทำให้ไม่มั่นใจ
พูดกันสักทีนะ จะได้ชัดเจนทั้งสองคน
รอ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 22 มะนาว:ก็คนมันกลัว] 23/5/59 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 23-05-2016 09:42:31
คุยกันซะให้เข้าใจหลบหน้ากันไปหลบหน้ากันมา
เลยจะทำให้ไม่เข้าใจพาลเลิกกันได้นะมะนาว

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 22 มะนาว:ก็คนมันกลัว] 23/5/59 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 23-05-2016 12:14:41
กรี๊ดดดดดดดด ฟินค๊าาาาาาาา
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 22 มะนาว:ก็คนมันกลัว] 23/5/59 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 23-05-2016 12:39:43
ยาวมากกกก
แมตจะทำอะไรมะนาวอะ

ชัดเจนสักทีมั้ยยยยย
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 22 มะนาว:ก็คนมันกลัว] 23/5/59 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-05-2016 15:00:43
กังวลแทนเลย
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 22 มะนาว:ก็คนมันกลัว] 23/5/59 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 23-05-2016 20:57:15
คุยกันเถอะนะะะะะะะะ เด็กๆ



 :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 22 มะนาว:ก็คนมันกลัว] 23/5/59 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: PaiPo ที่ 23-05-2016 23:35:32
ภายในใจมะนาวนี่ระทวยใส่เขาตลอดเลย จะดื้อขัดใจตัวเองไปได้สักกี่น้ำ 5555
รอลุ้นตอนต่อๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 22 มะนาว:ก็คนมันกลัว] 23/5/59 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 24-05-2016 21:41:49
คิดไปเองมโนไกลล่ะมะนาว
แมตรีบพูดรีบขอเป็นแฟนด้วย
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 22 มะนาว:ก็คนมันกลัว] 23/5/59 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: muiko ที่ 25-05-2016 11:48:17
ใจเยนนะๆๆ
แมต ขอเปนแฟนไปเลยนะ
มะนาวจะได้ไม่ต้องคิดมากเเล้ว
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 23 มะนาว: ไม่แลก] 26/5/59 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 26-05-2016 08:53:30
(http://i1159.photobucket.com/albums/p636/Browny_Tan/bro/loveagain2_zpscs9dbvrb.png)
- บทที่ 23 - มะนาว : ไม่แลก -



ผมเดินนับขั้นบันได ก้มหน้าก้มตาจนมาถึงห้องจนได้

กลับมาถึงห้อง ทันทีที่ปิดประตู แม็ตยึดของกินทั้งหมดไปวางไว้หลังตู้เย็นรวมกับของบางส่วนที่ได้มาตอนประกวด ส่วนตัวเองไปนั่งลงปลายเตียงมองผมที่ยังยืนหนุนไปมากลางห้อง

รู้สึกเหมือนกำลังจะโดนสอบสวนคดีอาชญากรรม เหงื่อนี่แตกพลั่กๆ



“บอกได้ไหม เป็นอะไรทำไมต้องหลบหน้า”

เขาก็เริ่มแล้วครับ ผมนี่ที่ตั้งรับอยู่แล้วยังแทบอยากจะละลายกลายเป็นฟองน้ำใต้เตียง จะหันไปมองหน้าก็ไม่รู้จะทำหน้ายังไง จะเลยไปยืนมองวิวที่ระเบียงเดี๋ยวก็โดนว่าหลบเลี่ยงอีก

“ปะ เปล่า”

“จะเปล่าได้ยังไง”

“ไม่มีอะไรนี่”

“อย่าตอบแบบขอไปทีได้ไหม รู้อยู่ว่ามี บอกเถอะ ถ้ากูทำอะไรผิดจะได้ขอโทษถูก”

“มึงไม่ผิด”

“เรื่องอาร์มเหรอ”

ผมส่ายหน้า ไม่หรอกเรื่องนั้นมึงไม่ผิด

“เรื่องซี”

“ไม่ใช่” ผมจะพูดยังไงไม่ให้เขาใช้เป็นข้ออ้างมาว่าว่าผมเรื่องมากงี่เง่าได้เนี่ย

“เรื่องที่กูไม่มีเวลาให้”

“ไม่ ไม่อย่ารื้อฟื้นเลย ช่างมันเถอะ” ผมยังอยากเป็นคนดีในสายตาเขาอยู่บ้างนะ

“แล้วอยู่ๆทำไมกลับบ้าน ทั้งที่จะค้างก็ได้” เพราะห้องไม่ได้กว้างมากนัก แม็ตเอื้อมมือมาคว้ามือผมไปจับไว้ เสียงของเขาอ่อนลงจนทำให้ความรู้สึกจุกแน่นมันปรี่ขึ้นมาที่คอ

“ก็ ไม่อยากกวน”

“กวน?” เขาทวนคำทำให้ผมขยายความ

“พอคิดว่าตัวเองเป็นภาระมึง ก็ไม่อยากให้มึงลำบากใจ”

“ไม่เข้าใจ” ตอนนี้สองมือของผมถูกจับไว้ เขาเกลี่ยไปมากับผิวผม เหมือนมันจะละลายความไม่กล้าของผมให้ยอมพูดความในใจออกมา

“ถ้ากูอยู่ห้องมึงแล้วมึงเป็นฝ่ายต้องไปนอนที่อื่น กูก็ควรพิจารณาตัวเองนะ”

“ไม่ใช่เลย มันไม่ใช่เพราะมึง”

“งั้นเพราะอะไรบอกได้ไหมล่ะ ว่าทำไมไม่กลับมานอนห้องตัวเอง”

“...” เขาก้มหน้าลง ไม่ยอมตอบ ความเจ็บจุกที่คอแน่นขึ้นจนนัยน์ตาเริ่มร้อน

เขา ไม่ยอมตอบ

“ไม่รู้รึไงว่าคนเขารอ” ผมบีบมือเขากลับ หลบตากลัวว่าถ้าเขาเงยหน้ากลับมา ถ้าสบตากัน น้ำตาจะไหลออกมา

ผมถูกดึงให้นั่งลงบนเตียง เขากระซิบกับไหล่ผม

“ยอมพูดสักทีนะ”

“ไม่ต้องมากอดเลย แม่ง กูเกลียดความรู้สึกตัวเองชิบหาย” พอได้พูดออกไป พอเขาได้ฟังความรู้สึกของผม ผมก็อดไม่ได้ที่จะแอบปาดน้ำออกจากตา ไม่ว่ายังไงก็ไม่อยากให้เขาเห็น

“ฮ่าๆๆๆ”

“ยังจะมีหน้ามาหัวเราะอีก” ผมใช้กำปั้นทุบหลังเขาเบาๆ ระบายออกทางนี้ผมจะได้ไม่ต้องร้องให้

“โอ๋ๆ ขอโทษๆ กูแค่ดีใจไปหน่อย” เขาโอ๋ผมแบบเด็กๆ ลูบหลังลูบหัว

“มึงอ่ะ ที่ว่ามีอะไรจะพูด เรื่องอะไร พูดมาเลยกูทำใจไว้แล้ว” ถ้าโลกจะแตกก็ขอตายในกอดมึงนี่แหละ

“พูด? เรื่องอะไร?” ไอ้นี่มาทำหน้างง

“ก็ที่มึงบอกเมื่อวันจันทร์ไง ที่ว่ามีเรื่องต้องคุย แล้วก็บอกอีกว่าต้องพูดวันหลัง พูดมาเลย กูเตรียมใจไว้แล้ว” ผมมานั่งจ้องหน้าเขา รอให้เขาพูด

“อ๋อ...”

“เรื่องอะไร?”

“ก็มึงพูดไปแล้วเมื่อกี้ไง”

“ห่ะ?”

“กูแค่อยากรู้ว่ามึงโกรธเหรอที่เมื่อวันศุกร์ที่แล้วกูไม่กลับห้อง กูไม่ได้ตั้งใจ ว่าจะขอโทษถ้าทำให้โกรธ”

“เรื่องนั้นอ่ะนะ”

“อื้ม โกรธก็บอกเถอะว่าโกรธ”

“เปล่า คือ ก็ โกรธ รอจนโมโหไปหมด เลยกลับบ้าน ไม่อยากทะเลาะ”

“ใช่ ใช่ไหมล่ะ กูก็จะขอโทษเรื่องนี้ ตอนนั้นไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ไม่ทันคิดด้วยว่าจะทำให้โกรธคิดแค่.. ไม่อยากกลับห้องตอนที่เมา”

“หมายความว่าไง?” ผมขมวดคิ้วทันที

“ถ้าเมากลับมา มันก็จะ”

“มึง... มึงจะบอกว่าไม่อยากมีอะไรกับกูงั้นเหรอ?” ผมกลั่นใจ กลัว ผมกลัวเขาจะพูดมัน ผมถึงพูดมันออกมาเอง กลัวมันหลุดออกมาจากปากเขาแล้ว ... แล้วผมคงรับไม่ได้

“ไม่ ไม่ใช่ ฟังให้จบก่อน” แม็ตจับมือของผมทั้งสองข้างไว้ เขากำแน่นไม่ให้ผมลุกขึ้นยืนได้ ไม่ให้ผมหนี

“...”


ผมควรจะฟังเขาไหม

“กูแค่ไม่อยากให้มึงติดภาพว่าเมาแล้วเราถึงมีอะไรกัน กูอยากเป็นตัวเองในสายตามึง เป็นตัวตนของกูจริงๆ ที่จะกอดกันแม้จะเป็นตอนที่ไม่ต้องมีอะไรมาบงการ จริงอยู่เพราะต่างคนต่างเมา เราสองคนถึงมาอยู่จุดนี้ในตอนนี้ แต่จริงๆ แล้วเราไม่ได้รักกันเพราะเรื่องพวกนั้น คิดเหมือนกันไหม นาว”



ระ รัก?


“รักกัน เหรอ?”

“ไม่รักเหรอ?”

“หื๋อ?” อะไรนะ ได้ยินชัดแต่กูชาไปทั้งตัว เลยไม่ค่อยเข้าใจ

“งงอะไร”

“เรารักกันเหรอ”

“กูรัก แล้วมึงล่ะ รักไหม?”

“...” ผมพยักหน้าถี่ๆ รักสิวะ ทั้งรักทั้งหลงเลยขอบอก หวงด้วย หึงไม่ต้องพูดถึง ตลอดๆๆๆ

“หึ” ผมถูกขยี้หัว เปิดหน้าผากจุ๊บเหม่งหนึ่งที “ก็แค่นั้นแหละ”

เขาดึงผมไปกอด ลากให้ผมนั่งซ้อนหลังบนขาเขา แม็ตเกยคางไว้บนไหล่ผม เกลี่ยจมูกไปมากับกรามของผม

โฮฮฮฮฮ น้ำตาจะไหลอีกแล้ว

ผมว่าผมกลายเป็นคนแพ้กอด เอ หรือคลั้งไคล้กอดนะ?



“ทีนี้ก็ตามึงแล้ว”

“อะไร?” จากที่เมื่อกี้กอดหลวมๆ แม็ตเปลี่ยนเป็นรัดรอบตัวผม ตอนนี้แปลงร่างเป็นมารร้ายรัดผมไว้เหมือนจับกุม

“ตอบมาทำไมต้องกลับบ้านทุกวัน ทั้งที่ไม่จำเป็นต้องกลับเลย ไม่ใช่แค่เพราะเรื่องวันศุกร์แน่”

“มีงานไง ก็บอกไปแล้ว”

“ไม่เชื่อ บอกมา” แม็ตเริ่มขยับนิ้วที่ตรงกับเอวผมพอดี โอ้ย ไม่นะ ผมบ้าจี้

“ฮ่าๆๆๆ บอกๆๆ ยอมบอกแล้ว โอ้ย จั๊กจี้ อย่าจี้เอว โอ้ย เหนื่อย แม็ต แม็ต พอ”

“กลับบ้านทำไม?”

“ก็บอกไปแล้วไง” ผมเล่นมุขของเขา

“อธิบายใหม่ ชัดๆ”

นี่มันคำสั่งพระราชา ผมหลับตากลั้นใจตอบ

“กูกลัวที่มึงพูดเมื่อวันจันทร์นั้นแหละ ฮึ้ย”

“หา” แม็ตงงจนเผลอคลายการโอบรัด แต่ผมไม่ไปไหนหรอกนะ นั่งนี่สบายจะตาย

“อยู่ๆ มึงก็ทำหน้านิ่ง แล้วบอกว่ามีเรื่องจริงจังจะพูด กูก็กลัวดิ้ กูยิ่งร้อนตัวเรื่องที่ไม่ได้มาดูมึงแข่งเมื่อวันเสาร์อยู่ด้วย นึกว่ามึงโกรธ แล้ว โกรธรึเปล่า”

“แข่งเหรอ ไม่ใช่เรื่องเลย”

“มึงไม่เข้าใจความกลัวของกูเลย”

“ทำหน้าบู้บี้ทำไม ก็รู้หมดแล้วนี่ว่ากูจะพูดอะไร ยังจะกลัวต่ออีกรึไง”

“งื้อ ลืม มัวแต่นึกว่าตอนนั้นกลัวแค่ไหน มึง ไม่โกรธใช่ป่ะ”

“ไม่โกรธ ให้มึงขับรถไปกลับบ่อยๆ กูก็เป็นห่วงไม่ได้อยากให้ไปมาบ่อยๆ หรอกนะ”

“ถ้าแค่ถามเรื่องเมื่อวันศุกร์ทำไมไม่ถามออกมาเลยวะ กูก็ลุ้นฉี่แทบราด” ผมรู้สึกเสียดายเวลา

“ก็พอกูบอกว่าจะคุยด้วย มึงทำหน้าไงรู้ไหม”

“อะไร?” เขาสะกิดไหล่ให้ผมหันไปดู

“มึงทำหน้าจากอย่างงี้เป็นอย่างงี้”

ผมหันไปดูหน้าแม็ตที่เขาล้อเลียนสีหน้าผม แม็ตทำหน้าปกติ แล้วค่อยๆย่นหน้าทำปากจู๋ ขมวดคิ้วดันแก้มป่อง

“เชี้ย น่าเกลียด”

“ทุกอย่างมารวมกันตรงกลาง แบบนี้เลย” ยังจะทำซ้ำอีก

“พอๆๆๆ กูไม่ได้ทำหน้าแบบนั้นเลย” ผมยกมือทาบบนหน้าเขาให้เขาหยุดล้อเลียนผม

“ทำ ไม่งั้นกูจะชะงักเหรอ ฮ่าๆๆ กลั้นหัวเราะแทบตาย”

เหี้ยมาก กูรักผู้ชายที่ดูผู้ดีแต่ความจริงแล้วเหี้ยงี้ได้ไงเนี่ย

ในขณะที่กูอึ้งค้างกลางอากาศ มึงกลับหัวเราะอยู่ในใจ น้ำตาไหลแรงมากครับ

ผมว่าตอนนี้ผมกำลังทำหน้าแบบที่มันล้ออีกแล้วมั้งเนี่ย แม่ง

เขากอดเอวผมไว้ แล้วเริ่มโยกไปมาเหมือนม้าโยก

“รอเก้อนี่เอง น่ารักจังเลย”

“ล้วงทำไม ไอ้บ้านี่” มืออุ่นของเขาแทรกเข้ามาใต้เสื้อ ทั้งสองมือเลยครับ เขาจับเอวผมลูบไปมาอยู่ข้างใต้

“เวลาเหลือ”

“ก็ปล่อยมันเหลือทิ้งๆ ขว้างๆไปบ้างก็ได้ โอ้ย” มาคิดได้ตอนนี้คงสายไป ท่านี้มันไร้ทางสู้เลยนี่หว่า โดนรัดทั้งสองแขนแบบนี้ ดิ้นให้ตายก็เสียตัวแน่ครับ

“ชดเฉยสำหรับสองอาทิตย์ไง”

นั่นไง มันคิดจริง

อย่าบอกนะไม่ทำตอนเมา จะมาทำตอนสติเต็มร้อยแบบนี้ ผมเหงื่อแตกทั้งตัว รู้สึกร้อนขึ้นมาจนเห็นหลังมือตัวเองเปลี่ยนเป็นสีแดง

“ใส่เสื้อแบบนี้ไปสนามกีฬา ไม่ร้อนเหรอ?”

“กัน อึก กันแดดไง”

“เหรอ”

“อื้อ อย่า”

“ตอนนี้ไม่มีแดดแล้ว ไม่จำเป็นแล้วเนอะ”

แขนข้างนึงของเขารวบรอบเอวผม อีกมือดึงชายเสื้อผมให้สูงเหนือหัวจนเสื้อแขนยาวของผมหลุดลอยไปตกอยู่ที่เท้า

โฮกกกก กูทำตัวอ่อนปวกเปียกยกแขนให้เสื้อมันหลุดออกไปทำไมเนี่ย

“ว่าง่ายๆ จะได้โตไวๆ เนอะ”

“อะไรของมึง อื้อ ไม่เอา อย่าจับตรงนั้น”

ผมอายที่สุดก็ตรงที่เขามาบีบมาขยี้ยอดอกแบนๆ ไร้เสน่ห์ของผมเนี่ยแหละ มันไม่ได้มีอะไรดึงดูดน่าสนใจเลย มันก็ยังคลึงไปมาอยู่ได้ มันวูบวาบโว้ย ไม่อยากให้จับ!

“ตรงนี้ไง โอ้โห โตไวจริงๆ ด้วย ดูสิแป็ปเดี๋ยวโตจนจะทะลุกางเกงอยู่แล้ว”

โอ้บ้าาาาา ไอ้เลว ไอ้บัดซบบบ ตะปบซะของกูแทบหัก เชี่ยยยย

แล้วนั่นจะนวดทำไม ไม่ต้องน้วดดดด แค่นี้กูก็น้ำตาไหลแล้ว

สองอาทิตย์ที่น่ากลัวทำให้นี่เป็นครั้งแรกที่มันตื่นเต็มที่ขนาดนี้ครับ ทั้งที่ยังอยู่ในตู้เซพมิดชิดมันก็ดิ้นพล่านเซพแทบแตก

แล้วมือกูก็ว่างทำไมไม่ปัดออก ทำไมไปขยำที่นอนซะแทบขาดติดมือ โหยยยยยย แบบนี้เขาก็คิดว่าผมเต็มใจไม่ปัดป้องดิเนี่ยสองมือเขาคืบคลานไปทั่ว ผมปั่นป่วนไปหมดไม่รู้ตรงไหนเป็นตรงไหนแล้วยังลมหายใจอุ่นๆที่รดอยู่ข้างต้นคอนี่อีก แม็ตจูบคอด้านหลังจนผมต้องย่นคอ เขาเลื่อนมาจูบหลังหู แล้วกระซิบเบา

“ไม่ไหวแล้ว ขอนะ”

“อึ อื้ม”

กูตอบอย่างไวเลยสาดดดดดดดด

สติสตังหายหมดแล้วตอนนี้ งงไปหมด

สองมือเขาปลดเข็มขัดผม ปลดกระดุมกางเกงยีนส์รูดซิบแล้วลูบแผ่วเบาผ่านบ็อกเซอร์ ผมไม่รู้มือเขาหรือตัวผมร้อนกว่ากัน รู้แค่ริมฝีปากเราร้อนเท่ากัน

ผมเอียงคอรับริมฝีปากเขาเข้ามา มันนุ่มนิ่มและชุ่มชื้น จูบที่โหยหา

เราต่างละโมบและกอบโกยสิ่งที่ห่างหาย

ไออุ่น เสียงเต้นของหัวใจ ทุกอย่างเบลอเหมือนว่าผมกำลังเมา

ผมหันเข้าหาเขา ปลดกระดุมให้เขา ปลดทุกอย่างจนเขาว่างเปล่าไม่ต่างจากผม เหลือเพียงสร้อยเส้นเดียวที่อยู่กับตัวเขา

เราดึงดูดจูบกันแทบจะตลอดเวลา

ความรู้สึกเจ็บตอนที่เขาแทรกกายเข้ามาหายไปแทบจะทันทีที่เขาเข้ามาสุด

แม้จะน่าอายแต่ผมก็ยอมจะขยับไปพร้อมกับเขา

ทุกอย่างที่เขาแสดงออกมันเติมเต็มหัวใจที่ห่อเหี่ยวของผม ความต้องการของเขาคือผม ทุกสัมผัสของเขาบอกผมอย่างนั้น

เสียงร้องน่าอายที่ทำให้ผมยิ่งอายเมื่อคิดย้อนกลับไป บางครั้งผมพอจำได้ มีบางครั้งที่เหลืออยู่เมื่อตื่นขึ้นมา เสียงน่าอาบแบบนี้เขาได้ยินมากี่ครั้งแล้ว

“อึก อื้อ”

“อย่ากลั้นเสียงสิ นาว” แค่เขาเรียกชื่อผมก็เหมือนทุกอย่างขาดออก เสียงผมถูกบีบให้สั้นตามจังหวะที่ถูกพาให้ขยับไป มันเหมือนคนที่กำลังจะร้องให้

“อ้ะๆ อ้า แม็ต แม็ต”



แล้วทุกอย่างก็ขาวโพลน




“ออนท็อปซะด้วยวันนี้”

“ถ้าปากดีต่อจะไม่มีครั้งต่อไปนะ”

“สาบานว่าไม่ติดใจ”

“ไม่ดีเลย ปวดขา” ผมพูดจริงๆครับ แถมเขินมากด้วย ตอนนี้ผมนอนตะแคงไม่ยอมให้เขามองหน้าอยู่ แม็ตก็ไม่แกล้งผมเท่าไหร่ครับ ยอมให้ผมหันหลังให้แล้วกอดจากข้างหลัง

“อ้ะ” ผมแอ่นตัวหลบเพราะเกียร์ที่เขายังใส่อยู่มันบาดหลัง แม็ตเองก็คงรู้สึกถึงแรงกด ถึงพึมพำขอโทษเบาๆ

แล้วเขาก็ถอยออกไปทำอะไรก็ไม่รู้อยู่ข้างหลัง นั่งยุกยิกๆ จนผมหันไปมอง



“เอ้า นี่ ฝากไว้นะ”

เขาถอดเกียร์ที่ใส่มาตลอดออกมาชูตรงหน้า เขาดึงให้ผมลุกขึ้นนั่ง

แม็ตคล้องสร้อยเกียร์ลงให้ผม ยิ้มเท่ๆ ส่วนสูงที่ต่างกันทำให้ผมต้องเงยหน้ามองแม้เรากำลังนั่ง ตาผมตรงกับริมฝีปากเขาเลย เฮ้อ ปากเขาขยับช้าๆ หรือผมเบลอจนเห็นทุกอย่างเป็นภาพสโลนะ

ผมจำได้ริมฝีปากเขาได้ มันนุ่มและลื่นมากเลย

แม็ตก้มตามมือเขาลงมา สองมือเขายังคงกุมไหล่และคอผมไว้ มือผมเอื้อมไปแตะเกียร์ตรงอก

มือหนึ่งของเขาค่อยๆสอดไปหลังท้ายทอย ความรู้สึกเสียววูบทำให้ขนลุกเกรียว ตื่นเต้น ใจเต้นจนแทบได้ยินเสียง ควรจะทำยังไง ต้องปั้นหน้ายังไง

จูบทั้งๆ ที่ตัวเปล่าเปลือย แต่ก็ยังขัดเขิน

“เดี๋ยว!” ผมหลุดปากพูดออกไปเสียงโคตรดัง ขนาดผมเองยังตกใจเลย

“...?”

“ขอลงไปที่รถ ไปเอาของก่อนได้ป่ะ?” ค่อยมาต่อ กูกลัวมันไม่ต่อเนื่อง

“ของอะไร นี่รึเปล่า?” แม็ตตอบพร้อมกับลุกขึ้นไปหยิบกางเกงที่ถอดไว้ขึ้นมาล้วงไปในกระเป๋ากางเกงนักศึกษา

สิ่งที่เขาหยิบออกมาคือเกียร์ที่ผมแขวนไว้หน้ารถ

มึงเอามาตอนไหนวะ?

“ที่อยู่ในรถกูเหรอ?”

“ใช่” เขาส่งให้ผม ผมยกส่องกับแสงไฟ ก่อนจะเอามาเปรียบเทียบกับเกียร์ที่แม็ตคล้องไว้ที่คอผม

“เอามาตอนไหนวะ?” นี่แสดงว่าวางแผนไว้หมดแล้ว นี่เขาตั้งใจจะให้เกียร์กับผมอยู่แล้วไม่ได้ให้เพราะสถานะการณ์กระซิบบอกหรอกใช่ไหม

“ไม่รู้สินะ”

เขายิ้ม แน่นอนผมก็ยิ้ม

คุณค่าของเกียร์ เราต่างก็รู้กันดีว่ามันหมายถึงอะไร การที่เขาให้ผม และผมรับไว้ มันแปลว่าอะไร หัวใจอยู่ที่เกียร์ เกียร์อยู่ที่ไหน หัวใจของเราก็อยู่ที่นั่น เขาว่าไว้ว่าอย่างนั้น

และเรื่องนี้ ผมเชื่อหมดใจ เพราะหัวใจของผม ผมก็เก็บไว้ที่เกียร์ของผมเช่นกัน

“อื้ม...” ผมยังคงดูอยู่ ก่อนจะทำหน้าเจ้าเล่ห์

“หลับตาสิ”

แม็ตยอมหลับตาแต่โดยดี หึ นึกว่าผมจะใส่ให้ล่ะสิ ผมถอดเกียร์ที่เขาให้มาหมาดๆ ออกมา ทั้งสองมือกำเชือกไว้ให้เหลือแต่จี้เกียร์ไพล่ให้เห็น ผมซ่อนสองมือไว้ข้างหลังเล่นเป็นเด็กๆ เพราะอารมณ์ดีมากขอบอก

“ลืมตาได้” เขาขมวดคิ้วก่อนจะลืมตา ฮ่าๆๆ งงล่ะสิทำไมไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันต้องหลังจากนี้ต่างหาก

ผมยกสองมือขึ้นระดับสายตาเขา

“ถ้าเลือกถูกก็ได้ไปทั้งเกียร์ทั้ง... ถ้าเลือกผิด กูยึดทั้งคู่”

“ทั้งเกียร์ทั้ง... อะไรนะ?” แม็ตเอียงคอถามแทรกหน้ามาระหว่างสองมือของผม แน่นอนผมดันออก ใกล้กว่านี้มึงไม่ได้เกียร์หรอก ได้อย่างอื่นแทนละ

“ใจไงเล่า ลีลา เลือก” เขายิ้มจนผมที่กะว่าจะไม่เขินก็ต้องเขินอีกรอบ

“แหม ยากจัง อันนี้”

อ้าว เชี่ย มึงยังไม่ทันเลือกอะไรเลย ดูดีแล้วรึไง หรือมันแอบดูตอนผมสลับมือ

แม็ตเลือกเกียร์ที่อยู่ในมือขวาของผม ก่อนจะดึงมือผมไป... จูบ

เฮือก มีเสียงเฮือกดังอยู่ในใจ โอ้ยตาย มึงตาเยิ้มเพราะเมคอัพใช่ไหมบอกมา ถ้ามึงบอกว่าเพราะกูกูตายจริงบอกเลย

“ทำไมรู้ ดูออกเหรอ”

“ออกสิ ก็สีไง กับ นี่ ดูตรงนี้ ของมึงตัวแรกเริ่มตรงนี้ ของกูตัวแรกเริ่มตรงกลางซี่เฟือง” แม็ตเฉลยความแตกต่างที่ผมมองตั้งนานก็แยกไม่ออก

“แถมของกูมีสีขี้ไคลติดอยู่ด้วยเพราะใส่บ่อย แต่ของมึงแขวนอยู่ในรถ” อ้อ กูว่ามึงบอกว่าดูจากตรงนี้ก็จบแล้ว

“งั้น เอาไปเลย” ผมยื่นเกียร์ในมือซ้ายให้เขา ที่เขาแค่จับไว้ไม่ได้จูบ

“กูเลือกถูกทำไมไม่ให้ของมึง” ความหมายของคำพูดเขาคือทำไมผมคืนเกียร์เส้นที่เขาเพิ่งให้ผม

แม็ตท่าทางไม่พอใจและจะถามต่อ

ผมไม่ฟัง จับสร้อยกางออกแล้วคล้องใส่คอเขา

“ไม่รับเกียร์กูเหรอ?” แม็ตเริ่มหน้านิ่งและเสียงเข้มอย่างสงสัยท่าทีของผม ผมเลยถอยมือ ยังไม่ใส่ให้ก็ได้

ผมพยายามปั้นหน้านิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้

“ถ้าบอกอะไรอย่าโกรธนะ” ผมจะบอกเขาแล้วนะ

“ทำไมไม่รับเกียร์กู หรือ” แม็ตยังคงเก็บความสงสัยไว้ไม่อยู่และเริ่มถามต่อไม่ยอมฟัง

จับจูบสักทีเพราะหน้าเขาตอนโมโหเรื่องน่ารักๆ แบบนี้หาดูยาก ชาตินี้จะได้เห็นอีกป่ะเนี่ย โถ่ๆ คงกำลังคิดว่าผมไม่รับรัก

ผมถอดปากออกเผยยิ้มเจ้าเล่ห์

“ถ้าบอกอะไรอย่าโกรธนะ” ผมทวนอีกรอบ

“ลองพูดมาก่อน”

“ฮ่าๆๆ เกียร์ที่มึงใส่มาตลอด เป็นของกู”

“หือ?”

“แฮ่ๆ”

“ได้ไง?”

“เก้าแอบแลกไว้ตั้งแต่ได้มาวันแรกแบ้ว”

“จริงเหรอ?”

“ใช่ ตอนพ่ออาบน้ำ ลูกเลยเล่นซนสลับเกียร์เล่นอ่า ไม่จิ ไม่เล่นๆ สลับจริงจังเลยล่ะ ถ่ายรูปเกียร์คู่ไว้เป็นหลักฐานมัดตัวเองด้วย อย่าโกรธเก้าน้า”

“ร้ายนะ” มือหนายกขึ้น ทีแรกผมนึกว่าจะโดนตี แต่ความจริงเขาแค่จับหัวผมเขย่าไปมา แล้วดึงไปกอด

แหม ถ้าซนแล้วโดนกอดงี้จะซนทุกวันเลย

“ก็น่าจะบอก”

“บอกอะไร”

“จริงๆ ก็จะให้อยู่แล้ว แต่หาจังหวะอยู่”

ผมยิ้มกับคำพูดเขา




แต่ในใจมีเสียงดังก้อง



ไม่ทันกูหรอกครับ กูเล็งเกียร์มึงไว้ตั้งแต่มึงชวนเข้าเชียร์วันแรกแล้วโว้ย

จะไม่บอกหรอก ว่าเข้าเชียร์เพื่อให้ได้เกียร์มาคล้องมึงเนี่ยแหละ



.................................
.................



“มึง มา ช้า”

มาถึงมันก็บ่นทันที เมกลับจากห้องน้ำพอดีมั้ง มันยืนอยู่กลางร้านกอดอกเดาะตีนแบบครูฝ่ายปกครองที่ยืนรอนักเรียนมาสายอยู่หน้าโรงเรียนเพื่อทำโทษ

ผมเดินแบบไร้วิญญาณเข้ามาในร้านเหล้าที่เสียงเพลงคลอไม่ดังมากเหมาะกับการกินไปบ่นไป เมเดินนำไปที่โต๊ะ ผมฟุบหน้าลงไหลไปกับโต๊ะทันทีที่ถึง

“สิบนาที ไม่ช้าเว้ย” ปล่อยให้แม็ตสู้กับมันไปแล้วกัน

“กูมาตั้งแต่สองทุ่มครึ่ง มึงมาช่วยกูเลย อย่าให้กูนั่งคนเดียว กูขอล่ะ แม่งพี่โคตรเยอะ กูตาลายแล้วเนี่ย” เมก้มลงกระซิบกับพวกผมไม่ให้พี่ๆที่ว่าได้ยิน

“กูจะเอามึงไปนั่งที่ที่ไม่มีคนกวน เอาป่ะ?”

“มีด้วยเหรอ ที่แบบนั้น ห่า ให้ไวเลยกูไม่ไหวแล้ว”

“บนตักพี่ยีนส์ไง”

“อยากตายเหรอมึง”

ผมเอียงหัวขึ้นมาหัวเราะมัน เลยโดนจนได้

“มึง มะนาว วันนี้มึงไม่มาดูกู แถมนี่มาถึงก็เอาแต่นอน กวนตีนกูใช่ไหมเนี่ย ตื่นมาแดกกับกูเลย ถ้ามึงตามกูไม่ทัน กูจะเอาแม็ตไปซ่อนมึง”

“ตัวเท่ากระทิง ซ่อนไหนได้วะ”

“ทำไมต้องเทียบกับกระทิงวะ? มีความหมายอะไรแอบแฝงรึเปล่า?”

“มัน มันใหญ่กว่าควายไง”

“ไอ้นี่” เพราะเมคาดคั้นให้ผมตอบ ก็เลยโดนพ่อเคาะหัวไปทีนึงเบาๆ ครับ

แต่ผมรู้ว่าเขาไม่โกรธ เพราะจากยิ้มร้ายของเขา เขาคงรู้ว่าผมหมายถึงอะไรกันแน่ 

คิดว่ารอบเดียวผมจะโทรมงี้ไหมครับพี่น้อง หลังนั่งมุ้งมิ้งแลกเกียร์กันก็คิดได้ว่าต้องออกมาข้างนอก ผมเลยโดนกระทิงควิดตอนอาบน้ำ ขานี่สั่นจนถึงตอนนี้ยังไม่ดีขึ้นเลย ใครจะไปกล้าปฏิเสธจริงจังล่ะครับ เล่นพุ่งตัวเข้ามายกผมเข้าห้องน้ำขนาดนั้น โคตรเขิน

แต่บอกเลยว่าต้องมีรอบหน้าอีกแน่นอน ฮ่าๆๆๆ อูยยย แต่พักฟื้นแป็ปนะครับอย่าเพิ่งใจร้อนกัน



“เฮ้ยแม็ต เพิ่งมาเหรอมาๆ มานั่งกับพี่มา พี่ยังไม่ได้เทคเราเท่าไหร่เลย ช่วงเชียร์แม่งก็ยุ่งๆ”

“เฮ้ย ป้อง มึงชวนเดือนแล้วมึงก็เชิญดาวมานั่งโต๊ะนี้ด้วยดิวะ”

“ไม่เกี่ยวกับเดือนกับดาวอะไรทั้งนั้นอ่ะ นี่หลานรหัสกู กูจะคุยกับหลายเว้ย”

“มึงก็ควรจะเทคดาวมหาลัยไว้ด้วย คู่บุญบารมีแบบพี่ยีนส์กับโนอาไง”

“มึงหวังให้กูจีบน้อง หรือมึงจะจีบเองก็พูดออกมา”

“โธ่ หน้าอย่างพวกกูดาวที่ไหนจะสนวะ มึงอ่ะ ลุยเลย ไอ้น้อง ชวนเพื่อนมานั่งดิ พี่จะชงให้มันเอง”

“ไม่ต้องแม็ต อย่าหาเรื่องให้พี่”

ผมนั่งหูกางอยู่ที่เดิม แม็ตไปแล้วตามมารยาท กะว่าอีกสักพักค่อยเนียนๆเข้าไปนั่งแถวนั้น แต่ตอนนี้ขอพักก่อนนะ

“มึงไม่ กูพามาเองก็ได้” พี่ที่ผมจำได้ว่าเป็นว้ากผมยาว เขาโกนหนวดแล้วแต่ยังไม่ตัดผมมาสะกิดเมอย่างสุภาพที่สุด หรือมองอีกมุมก็คือกวนตีนที่สุด เสียอย่างเดียวเขาเป็นพี่ ไม่งั้นไอ้เมคงด่า “น้องเมดาวครับ น้องเมดาวมาทางนี้สักแป็ปนะครับ นั่งนี่ๆ”

“อ้อ คะ ได้คะ”

โอ้ยยยยยยย นี่มันเกิดอะไรกับพี่เมคนห้าวครับ มันยิ้มน่ารักแล้วทำตามอย่างว่าง่าย

เปลี่ยนไปอย่างกำเอาสีทาบ้านลบรอยด่างดำ มึงมีวิญญาณนางงามแฝงร่างอยู่ใช่ไหมเนี่ย

กูรู้แล้วๆ มึงใช้ลูกไม้นี้ถึงได้ตำแหน่งดาวมหาลัยมาครองใช่ไหม ตอบกู

แต่เมมันไม่ลุกเปล่าครับ บอกพี่แกว่าขอพาเพื่อนไปนั่งด้วยนะ แล้วเพื่อนคนนั้นคือใครเหรอครับ ก็ผมไง

“เอ้า ไอ้แทน มึงนี่” เป็นตอนที่ผมเดินผ่านพอดีก็เลยทันเห็นครับ พี่ป้องกับพี่ยีนส์สบตากันครับ พี่ยีนส์โยกหัวเป็นเชิงเอาเถอะๆ (ถ้าผมแปลไม่ผิดนะ) ส่วนพี่ป้องก็ยังมองเมแบบ จะว่ายังไงล่ะ กังวนเหรอ หรือไม่สบายใจนะ?

พี่ยีนส์แกนั่งอีกโต๊ะ พี่โนอาก็นั่งอีกโต๊ะ แต่พี่รหัสผมนี่สิ ยังไม่เห็นเลย


ผมได้มานั่งตรงกลางระเมกับแม็ตครับ เออดี ได้อารมณ์พ่อแม่ลูกเลย (มึงเป็นลูกแล้วกันนะเม)

“ฮ่าๆๆๆ”

เพื่อนเขาหัวเราะชอบใจกันทั้งวง หลังจากแนะนำตัวเขาก็พากันชวนเมคุยกันจนเมต้องหันหัวไปมาตลอดเวลา แต่สิ่งที่ผมสนใจกลับเป็นอีกข้างที่ค่อนข้างเงียบ



“พี่ป้อง พี่มีแฟนแล้วเหรอ?” แม็ตชวนลุงมันคุยครับ ผมนั่งชงเหล้าทำเป็นไม่สนใจ แต่ตั้งใจฟังมาก

“เปล่านี่”

“แล้วทำไม พี่ไม่พอใจอะไรเพื่อนผมรึเปล่า?”

“พี่ไม่อยากมีเรื่อง”

“เรื่อง?” ผมกำลังแอบฟังเพลินๆ ก็มีเสียงลุกลี้ลุกลนเรียกแม็ตขัดขึ้นครับ

“แม็ตๆๆๆๆ”

เมที่อ่านไลน์อยู่ทั้งเรียกทั้งตีผมซ้ำๆ จนต้องเบี่ยงตัวหนี มึงเรียกแม็ตแล้วตีกูทำไมเนี่ย

“อะไรของมึง”

“มานี่แป็ป” มันจัดการบอกพี่ๆ ว่าขอคุยธุระแป็ปแล้วออกมาเลยไม่รอฟังคำอนุญาต

“แป็ปนะครับพี่ป้อง” แม็ตลุกตามผมกับเมมา ไม่ลืมรักษามารยาท

“เออ ตามบาย”

“นาว มึงมาด้วย” เราทั้งคู่โดนดึงออกมาอย่างงงๆ

จนมาถึงลานหน้าห้องน้ำที่เสียงเงียบและปลอดคนเมก็พูดอย่างร้อนรน

“กูจะกลับหอ ไปส่งกูหน่อย” ดูมันจะจริงจังมากตีปีกพับๆ เลย

“เฮ้ย ได้ไง”

“กูอยู่ไม่ได้แล้ว” เมตอบไปพิมพ์ไลน์อย่างลนลานไปด้วย

“ใครรออยู่ที่หอรึไง”

“ไม่มีใครรออยู่หอ แต่พี่กูจะมานี่”

“อ้าว ก็รอนี่สิ” ผมกับแม็ตงงกับมัน

“กูไม่อยากให้พี่เจอ เอ้ย ไม่ใช่ กูไม่อยากเจอพี่พร้อมอิพวกปากดีทั้งคณะแบบนี้นะเว้ย พี่กูไม่เหมือนคนอื่น แม่งแค่คิดก็น่ากลัวแล้ว”

“กลัวทำไมวะ พี่มึงดุเหรอ”

“ไปส่งกู เดี๋ยวกูบอกทีหลัง แต่พากูออกไปจากนี้แบบไม่ให้พี่กูเห็นกลางทางก่อน”

“เอาไงอ่ะแม็ต”

“ก็ ถ้ามันอยากกลับก็ไปส่งมันกันเถอะ แต่มึงบอกพักเดียวใช่ไหม”

“นั่นดิ ถ้าพี่กลับมึงต้องกลับเข้างานนะ คนอื่นเขาจัดให้มึงนะเว้ยวันนี้อ่ะ”

“เอ่อๆ กลับ เดี๋ยวกลับ”

“กูไปส่งเองดีกว่า มึงอยู่รับหน้าไปก่อนเดือน”

“ได้ แล้ว”

“ไม่ต้องห่วงกูมาถึงกูยังไม่ทันกระดกซักแก้วเลย ที่ชงไว้ละลายอยู่ตรงโน้น”

แม็ตหยิบกุญแจรถในกระเป๋ากางเกงให้ผม แต่ไม่ยอมกลับเข้างาน เมเลยตัดบทดันผมไปทางครัว

“เออๆ กูดูมะนาวให้เอง ออกครัวหลังร้านเลยนะ ไปนาว”

“เฮ้ย เข้าได้เหรอ” ผมถูกดันผ่านป้าย staff only มา ผมมองตาโต

“ได้ ตามกูมา”

เม มึงเพิ่งรับปากกับแม็ตเมื่อกี้เองนะว่าจะดูแลกูเอง นี่มึงลืมหรือจริงๆ แล้วมึงหลอกกูมาฆ่าหมกครัว


เมพาผมไปหวัดดีพ่อครัวครับ ไม่รู้ไปรู้จักกันตอนไหน แล้วก็ออกมาข้างๆร้านที่เป็นลานจอดรถ ผมตรงไปหารถตัวเอง แต่มีคนมาจอดปิดทางออกรถผมซะแล้ว

“มึง เลื่อนรถคันนี้”

“เชี่ย จะทันไหมเนี่ย”

“รีบก็เข็น อย่าช้าทีพี่น้อง” เมมันคงรีบมากครับ เข็นแรงจนรถไหลไปจะชนกับอีกคัน ผมนี่แทบจะไปนอนขวางล้อ

อิเม อิบ้า มึงอยากเสียตังหมื่นเหรอ! แต่เหมือนมันจะไม่สนใจอะไรแล้วตอนนี้

“ดีๆ ดิ้วะ ไปขึ้นรถ”

เมที่หมอบอยู่ข้างประตูรถอยู่แล้วรีบเปิดประตูแล้วเข้าไปนั่งข้างคนขับทันที ผมว่าผมเดินด้วยความเร็วปกตินะ แต่เมมันดูจะคิดว่าทุกอย่างมันช้าไปหมด

“เออๆ กูรีบอยู่ๆ” ผมรีบพูดก่อนเมจะโวยวายอีก เพิ่งเคยเห็นมันกลัวอะไรจริงจังขนาดนี้เป็นครั้งแรกเนี่ยแหละ แบบนี้ความกลัวพี่ยีนส์ของมันดูเด็กน้อยไปเลย

ผมสตาร์ทรถ แล้วคาดเข็มขัด ยังไม่ทันเปิดไฟหน้ารถ เมก็พึมพำออกมาเบาๆ

“เหี้ย ไม่ทันแล้ว”

ผมมองไปที่มัน แล้วหันหัวตามสายตา เมกำลังมองรถที่เลี้ยวเข้ามาในลานจอดรถนี้ รถมินิคูเปอร์สีแดงมันวับต้องแสงไป มันเลื่อนตัวอย่างนุ่มนวลเข้ามาพร้อมๆ กับเมที่ไหลลงไปกองอยู่ตรงที่วางเท้า

ที่ว่างมีไม่มาก ดังนั้นทำเลที่เขาเลือกจอด ก็คือ หน้ารถผมที่ผมเพิ่งเข็นรถอีกคันออกไปไว้อีกฝั่งเนี่ยแหละครับ


“มึงมองอย่างนั้น อย่าบอกนะพี่กูจอดรถปิดหน้ารถมึง” เมถามเพราะมันไม่กล้าโพล่ขึ้นมามองอะไรทั้งนั้น
ผมตอบสั่นๆ ว่า


“เออ”

“เซ้นส์ดีชิบหายพี่กู” มันทำหน้าเหมือนจะร้องให้นั่งดูไลน์เด้งแต่ไม่เปิดอ่าน คงส่งมาจากพี่มันนั้นแหละ

ชะตาผมกับมันดูท่าจะไม่รอดออกไปจากลานจอดรถนี้แล้วคืนนี้




ว่าแต่ มึงยังไม่ได้บอกกูเลยว่าทำไมมึงต้องกลัวพี่มึงขนาดนี้เม?



---------------------------------------------
TBC.



กำลังใจ จากใครหนอ
ขอเป็นทาน  ให้ฝันให้ใฝ่
ให้ชีวิต  ได้มีแรงใจ
ให้ดวงใจ  ลุกโชนความหวัง

ไม่รู้จะเม้าอะไร ร้องเพลงเฉยเลย ฮ่าๆๆๆ

อ้อๆ พี่เมนี่ถือว่าเด็จ บอกเลย 55555+  ญ หรือ ช ยังไม่บอก รอตอนหน้าเลยยยยย


 o19
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 23 มะนาว: ไม่แลก] 26/5/59 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 26-05-2016 09:01:11
 :L2:  สุดยอด
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 23 มะนาว: ไม่แลก] 26/5/59 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 26-05-2016 09:10:50
กรี๊ดดดด
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 23 มะนาว: ไม่แลก] 26/5/59 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 26-05-2016 09:27:02
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 23 มะนาว: ไม่แลก] 26/5/59 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 26-05-2016 09:52:12
คุยกันแล้วเข้าใจกันซะที ว่าแต่ชอบนาวตอนสารภาพว่าแอบเปลี่ยนเกียร์จริงๆ น่ารักอ่ะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 23 มะนาว: ไม่แลก] 26/5/59 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-05-2016 14:16:05
 :impress2:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 23 มะนาว: ไม่แลก] 26/5/59 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าเชียงชุน ที่ 26-05-2016 17:38:28
น้องนาวลูกแม่  :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 23 มะนาว: ไม่แลก] 26/5/59 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: lazysheep ที่ 26-05-2016 19:07:38
เรื่องนี้น่ารักมาก อ่านง่าย บรรยายดี ความสัมพันธ์ตัวละครมีเหตุผลไม่ว๊าบไปว๊าบมาอ่านไปก็ลุ้นไปด้วย คู่ตัวเอกน่ารัก คู่ตัวรองก็น่าเอ็นดูไม่แย่งซีนตัวเอกจนน่าเกลียด เก่งมากเลยค่ะ นี่อ่านติดหนึบจนเอาไปอ่านในห้องน้ำด้วย 555
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 23 มะนาว: ไม่แลก] 26/5/59 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 26-05-2016 20:09:16
พี่ชายโหดๆใช่ไหม
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 23 มะนาว: ไม่แลก] 26/5/59 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 27-05-2016 00:05:25
เข้าใจกันสีที เยยยยย่
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 23 มะนาว: ไม่แลก] 26/5/59 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 27-05-2016 20:12:25
กรี๊ดดดดดดดด เปนแฟนกันล้าวว
มาม่าหมดไปหนึ่งชาม
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 23 มะนาว: ไม่แลก] 26/5/59 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: PaiPo ที่ 28-05-2016 09:51:12
จะผิดไหนถ้าเราจะชอบพี่ป้อง 5555

ดีกันแล้วก็ขออย่าให้มีอุปสรรคอะไรอีกน้าาาาา
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 23 มะนาว: ไม่แลก] 26/5/59 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: 。Atlas ที่ 30-05-2016 15:26:21
ชอบที่เรียก เม ว่า เมดาว ๆ 555555 ฟังดูสาวน้อยเลย

และแล้วตอนนี้ แม็ตกับมะนาวก็น่าจะเรียกว่าอยู่ในสถานะแฟนกันได้แล้วเนอะ หมดไปอีก 1 ความไม่สบายใจ  :hao3:
ที่นี้ก็เหลือแต่กำจัดเหลือบไรทั้งหลายแหล่ให้พ้น ๆ ไปซะ 
แต่หลังจากนั้นจะมีอุปสรรคครอบครัวอะไรมาอีกมั้ยน้อ เราอาจจะคิดไปเอง 5555

หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 24 มะนาว: ความไม่ลับ] 1/6/59 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 01-06-2016 05:08:49
(http://i1159.photobucket.com/albums/p636/Browny_Tan/bro/loveagain2_zpscs9dbvrb.png)
- บทที่ 23 - มะนาว : ความไม่ลับ -



ว่าแต่ มึงยังไม่ได้บอกกูเลยว่าทำไมมึงต้องกลัวพี่มึงขนาดนี้เม?



“มึงรีบดับเครื่องเลย”

“เอางั้นเหรอ”

“เออ แล้วทำเป็นคุยโทรศัพท์” เมลงไปนั่งสั่งผมจากที่วางเท้า ไม่คิดว่าตัวยาวๆอย่างมันจะยัดตัวเองลงไปได้

แล้วทำไมกูต้องทำตามที่มันบอกทุกอย่างด้วยล่ะเนี่ย

เราสองคนอยู่เงียบๆ บนรถ รอให้พี่มันเข้าร้านค่อยออกไปเข็นรถแล้วกัน



พี่เมเปิดประตูรถลงอีกด้าน ผมเลยยังมองไม่เห็น แต่แค่พี่มันยืนเหยียดเต็มความสูง ผมถึงกับอ้าปากค้างตาโตเท่าไข่ห่าน

“ห่าน นี่เหรอพี่มึง สัด ไอ้ชิบหายวัวตายความล้ม” ผมขอด่าหน่อยเถอะ

“พี่กูเป็นคน กูไม่ใช่พี่น้องห่าน มึงอย่าอ้ามากดิวะ” ผมค่อยๆเลื่อนหน้าไปใกล้กระจกเพื่อจะมองพี่ไอ้เมให้ชัดในความมืด แต่ก็โดนมือดีดึงไหล่กลับมาติดเบาะ

“อย่ายื่นหน้าออกไป หุบปากมึงด้วย” พี่มึงสามารถเป็นฉนวนสงครามระหว่างประเทศได้เลยนะเนี่ย

ฟีโรโมนนารีพิฆาตแรงมาก

ใหญ่กว่าตากับปากผมก็ไข่นกกระจอกเทศที่พี่มันพกมาด้วยสองฟองนั้นแหละครับ

“โว้ะ”

“หน้ามึงเหี้ยมาก มึงยังขนาดนี้แล้วอิพวกในร้านจะเหี้ยขนาดไหนเนี่ย” ผมก็พอจะเห็นเค้าความชิบหายที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ไอ้พวกผู้ชายกระหายหิวทั้งหลายทำไมผมจะไม่เข้าใจพวกมัน ทำไมรู้สึกว่าผมก็เป็นคนหนึ่งที่อยากจะหิววะ ทั้งที่ความจริงตอนนี้อิ่มมากกกกก

ผมจะบรรยายพี่มันยังไงดี ท่วงท่าที่เขาลงจากรถ มือที่เสยผมไปข้างหลังมีความเป็นผู้หญิงอยู่เต็มเปี่ยม แปลว่าอะไร แปลว่ามันเกิดมาเพื่อยั่วยวนผู้ชายไงครับ หน้าเล็กปากนิดจมูกไม่หน่อย ตาโตกับขนตาที่เยอะเกินจะบอกว่าธรรมชาติแต่คือมันงามมาก กรีดตาคมเฉียวกับสีปากแดงสด ผมยาวทิ้งน้ำหนักตรงไปถึงช่วงเอว พี่มันใส่เสื้อกล้ามเสกหน้าแสกหลัง ตัวสูงมาก เพราะไข่นกกระจอกเทศของพี่แกสูงเลยหลังคารถมินิคันงาม เขายืนกดมือมือ ก่อนจะปิดรถแล้วเดินเด้งตรงเข้าไปในร้าน ถือแค่กระเป๋าเงินใบเล็กๆ กับโทรศัพท์ที่ก้มกดไปตลอดทาง พอร่างพี่มันเดินออกมาไม่มีรถบัง ผมถึงเห็นกางเกงขาสั้น ขาโคตรยาวแถมขาวสะท้อนแสง กับรองเท้าส้นเข็มที่ทำให้โคตรดูดี

ช่างไม่เข้ากับบรรยากาศร้านเห่ยๆชานเมืองแบบนี้เลย

“พี่มึงเด้งมาก ขาวโบ้ะๆ”

“เออ กูรู้ ไม่ต้องมาย้ำ”

กูก็ไม่ได้บอกมึงครับ กูกำลังเคลิ้ม

“ทำเคลิ้มไปเถอะมึง มึงคิดว่ามีใครหล่อกว่าเพื่อนมึงอีกไหมในร้าน?”

“แม็ตเหรอ ไม่อ่ะ” ไม่มีหรอกครับ แม็ตของผมหล่อสุดในปฐพี แต่ขอโทษวะแม็ต ชั่วเสี่ยววินาทีเมื่อกี้ทำให้กูลืมมึงไปวูบนึง อยากจะกัดเล็บแก้ตัว

“เออ งั้นก็ระวังแม็ตของมึงไว้เถอะ รู้จักพี่กูน้อยไปซะแล้ว”

เดี๋ยวนะ มึงพูดอย่างนี้แปลว่าอะไร? พี่มึงจะแดกแม็ตเหรอ สัด

“มึงหมายความว่าไง?”

“แม่ง ทำไงให้พี่กูออกมาจากร้านวะ”

เมไม่สนใจตอบผม มันยังคงวุ้นวายเรื่องของมัน อ่านไลน์ทำหน้าสยอง ผมเลยกระโดดลงรถแล้วล็อกรถทันที ทำท่าจะเดินกลับไปที่ร้าน

“ไอ้เหี้ย มึงปลดล็อกให้กูก่อน” ผมล็อกเพื่อบังคับให้มันอยากออกจากรถเนี่ยแหละครับ ไม่งั้นเดี๋ยวรถกูหาย

ผมเดินอ้อมไปแอบส่องอยู่นอกรั่วต้นไม้ของร้าน หมอบต่ำๆจะได้ไม่มีคนเห็น เมเหมือนจะไม่อยากมา แต่ก็ตามมาเพราะไม่มีที่ไป



เป็นอย่างที่คาด แค่เหยียบส้นสูงเข้าไปในร้าน ทั้งร้านก็นิ่งไปเลยครับ ทุกคนมองมาที่พี่เม พี่เมกำลังเดินเด้งน่ามองผ่านโต๊ะต่างๆ ไปกลางร้าน (จริงๆมันคือทางเดินกลางร้านที่ไปได้ทุกส่วนของร้าน)

ไอ้แม็ตตตตต มึงมองผู้หญิงตาค้างขนาดนี้ มึงตายยยยยย

เดี๋ยวๆๆๆ ก่อนจะโวยวายผมขอลุ้นก่อนว่าพี่มันกำลังเดินไปไหน ทางนั้นมันโต๊ะแม็ตนี่นา ทำไมเดินไปทางนั้น

“พี่มึงจะทำอะไรวะ?”

“ไม่รู้ กูเดาอารมณ์ชะนีไม่ถูกหรอกนะ”

มึงก็ชะนี สัด

ขาเรียวเนียนยาวขาวๆ ของพี่ไอ้เมนี่โคตรน่ามอง ผมเห็นทุกคนก็มองตั้งแต่หัวจรดเท้ากลับไปมา ส่วนใหญ่หยุดสายตาที่ไข่นกกระจอดเทศ เว้นอยู่คนที่เห็นชัดๆ จากมุมนี้ว่าเขายังเคลื่อนไหว ก้มเล่นมือถือและสนใจเติมแก้วตัวเองไม่เงยหน้าขึ้นมองตามคนอื่นๆ

พี่ยีนส์กำลังชิมเหล้าแล้วเติมน้ำแข็งใส่แก้วตัวเอง เห็น แต่ไม่สนใจคนมาใหม่

แต่ตอนนี้ พี่ไอ้เมมองแม็ตครับ โหยยยยยยยยย

แต่เดินผ่านไป

โล่ง

ดีมากมึงก้มหน้าไว้ อย่าไปสบนมเชียว ไม่งั้นกูเอาตาย

แล้วเดินไปหยุดที่ข้างหลังพี่ยีนส์ครับ ผมลืมไป หล่อกว่าไอ้แม็ตก็พี่มันเนี่ยแหละ สาวใหญ่คงชอบแนวนั้นมากกว่า ผมไม่ได้ยินว่าเขาพูดอะไรกัน แต่พี่ไอ้เมแตะที่ไหล่พี่ยีนส์ แตะด้วยปลายนิ้วก่อนจะวางลงทั้งมือย่างนุ่มนวล ในที่สุดพี่ยีนส์ก็ต้องเงยหน้าขึ้นมอง

โห้ ผมจิตนาการตาม คงเหมือนมองหาอะไรที่อยู่หลังภูเขาลูกใหญ่ที่บดบังทุกอย่าง

ผมสงสัยอยู่ในใจไม่ได้พูดอะไร แต่แอบมองคนข้างๆ ความสงสัยของเมมันแรงมากจนหลุดออกมาเป็นคำพูด

“พี่แม่ง...”



พี่ไอ้เมเดินอ้อมมาข้างหน้ายืนคุยกันอยู่พักนึง

“ทำไมพี่ยีนส์เขาไม่สนใจพี่มึงเท่าไหร่เลยวะ”

“จะไปรู้เหรอ นมเล็กไปมั้ง”

“กูว่าใหญ่ไปมากกว่า”

พี่เมทำท่าบึ้งตึง สะบัดผมปลิวอย่างกับโฆษณายาสระผม แล้วพูดเสียงดัง

“ไหน ในร้านนี้ใครสวยสุด”





“เหี้ย” เสียงเมอุทานอยู่ข้างๆ ผมครับ





จากที่เอาแต่แอบมอง ทุกคนมองพี่ไอ้เมเป็นตาเดียว ชนิดที่ความเคลื่อนไหนทั้งหมดถูกสต๊าฟไว้

“น้องเหรอ” พี่เมกระแทกเสียงเหมือนโมโหใครมา ไปยืนประจันหน้ากับพี่โนอาที่อยู่อีกโต๊ะ



“เหี้ยจริง” ทีนี้ผมเองครับ



“มานี่สิ!” พี่ไอ้เมเรียกพี่โนอาให้ออกมาตรงทางเดิน แต่เพราะพี่โนอาไม่ยอมขยับ “บอกให้มานี่”

พี่โนอาตัวสูงแค่คางพี่ไอ้เมเองครับ เธอไปยืนเหมือนไม่ได้กลัวอะไร ประจันหน้ากันอยู่กลางร้าน โฟร์คซองหยุดเล่นเปลี่ยนเป็นเปิดเพลงจากแผ่นคลอเบาๆ ไม่ให้ดูวังเวงเกินไป

หนาวมาก ข้างๆผมเนี่ย หนาวมาก เมนั่งตัวสั่นเป็นลูกนกพร่ำพูดแต่ ทำยังไงดีๆๆๆๆ ซ้ำไปมา



พี่ป้องกับแม็ตลุกขึ้นแล้วเดินไปทางที่ทุกคนจับตามอง คงไปหาพี่โนอาแน่นอนเพราะสองคนนั้นไม่รู้จักพี่ของเมกันนี่ แต่ถึงแม็ตจะเดาได้ว่าเป็นพี่ไอ้เมก็ไม่มีอะไรยืนยันหรือบอกมันได้ว่าควรทำยังไงหรือเข้าข้างใครหรอกนะ

พี่ป้องเดินนำแม็ตไป แต่ทั้งคู่กลับโดนพี่ยีนส์ดึงให้นั่งลงข้างๆ แทน

อ้าว ไมอ่ะ

“หน้าอย่างน้องอ่ะนะ เขาไม่เรียกสวยหรอกนะจะบอกให้” พี่โนอาถูกจับคางให้เชิดขึ้น

ตบแน่ งานนี้มีตบแน่ๆ

“ฮื้ออออ” เสียงเบะปากร้องให้จากคนข้างๆ ผมครับ

“เขาเรียก... น่าร็อกกกอ้ะ อร้ายยยย”

พี่ไอ้เมตะปบสองแก้มของพี่โนอา สะบัดไปมาอย่างเอ็นดู ขาข้างนึงเด้งขึ้นข้างหลังก่อนจะคว้าทั้งตัวไปกอดกลม

กอดกลม? กอดกัน!

“อ้าว”เชียไรเนี่ย ตามไม่ทัน

“เอ้าๆ ไม่ต้องตกใจ พี่เล่นกันเฉยๆ เพื่อนพี่ๆ กลับไปกินต่อได้”

พี่ยีนส์ลุกขึ้น ตะโกนด้วยช่องเสียงพิเศษที่กังวานไปทั่วได้ยินชัดทุกคนแน่นอน

แต่ถึงพี่จะพูดแบบนั้น ก็ยังมีคนหัวใจวายตายอยู่ตรงนี้สองคนนะครับพี่



“ใครเพื่อนเธอย่ะยีนส์”

“ได้ ให้เรียกป้าใช่ไหม”

“อร้าย แรง นั่งด้วยๆ โอ้ย คิดถึงจังเลยโนอาที่รัก มานั่งกับเจ้ก่อน มาๆๆๆ”

ทั้งหมดย้ายมานั่งโต๊ะว่างใกล้ๆ กับทางที่ผมนั่งหลบอยู่กับเม จัดแจงหาเครื่องดื่มและทักทายกันไปมา



“พี่มึงรัชดาลัยมาก กูหัวใจจะวาย”

“กูตายไปแล้วเมื่อกี้ มึง มียาดมไหม”

มีก็บ้าแล้ว ผมพัดให้เมที่นั่งแปะลงไปบนพื้นเป็นที่เรียบร้อย มึงใส่กระโปรงอยู่นะ มึงอย่าแหกมาก



“เจ้เฟ เป็นพริตตี้ประจำของมอไซค์ ยี่ห้อนึงที่พี่ไปขับให้ ก็เลยเจอกันบ่อยๆ” ประโยคนี้เหมือนจะบอกแม็ตกับพี่ป้องมั้งครับ

“มา ผมแนะนำน้องๆ ที่น่ารัก ให้รู้จัก ปกป้องน้องรหัสผมพี่”

“อ้อ ชื่อปกป้อง มิน่าเมื่อกี้พุ่งใส่เจ้แบบ อีกนิดเจ้จะโดดหนีแล้วนะ”

“แน่ล่ะ ก็ที่พี่หาเรื่องอ่ะน้องรหัสมันนี่”

“อ้าวเหรอ โอ้ โทษนะเล่นแรงไปหน่อย ขำๆ เนอะ”



“ใครขำกับพี่กูบ้าง กูอยากรู้จริงๆ” เมยังหายใจเข้าลึกๆรวบรวมกำลังให้ตัวเองอยู่ครับ



“แต่เดี๋ยวนะ แบบนี้โนอาก็เท่ากับเป็นหลานเธอสิ”

“ใช่ครับ”

“ถามจริง นี่ล็อกใช่ไหม สารภาพ” แต่พอพี่ไอ้เมหันมามองหน้าพี่โนอาที่ตัวเองยังกอดเอวอยู่ก็กลับคำ “เออ แต่ฉันเข้าใจว่าทำไมเธอต้องล็อก”

“ไม่แฟร์เลยเจ้เฟ อยู่นี่โนอาไม่ได้เลือกอะไรเลย”

“โนอา เจ้ขอโทษนะ แต่เรื่องนี้เจ้อยู่ฝั้งไอ้ยีนส์เพราะเจ้เข้าใจคนคลั่งน้อง เพราะ เจ้ก็เป็น ฮ่าๆๆๆๆ”

 ผมแอบส่งลอดรูใบไม้ เห็นพี่ยีนส์ทำท่าดีใจ แต่พี่โนอาแก้มป่องจนเจ้เฟแกต้องปลอบไปหัวเราะไป

“ว่าแต่สุดหล่อหนุ่มไม่น้อยตรงนี้ล่ะ คะครายยยย”

“เจ้ อย่านะ อันนี้น้องโนอา โนอาจะปกป้องน้องของหนูเอง”

“อ้าว อะไรเนี่ย”

“แม็ตบอกเจ้เฟไปเลยว่ามีแฟนแล้ว”

“เหรอ มีแฟนแล้วเหรอ” หน้าตาผิดหวังสุดๆนั่นคือการแสดงใช่ไหมครับพี่ บอกผมทีผมจะได้ไม่หึงแรง



พี่มึงนี่อะไรเนี่ย พี่ยีนส์ก็หล่อ พี่ป้องก็ดูดี ทำไมมายุ่งกะแม็ตของกรู

“เหอๆ ครับ”

ถือว่าตอบดี จะให้อภัยสักครั้งก็แล้วกันนะมึง

“ว้าๆ แย่จัง”

“เจ้เฟ ตกลงเจ้มาได้ไงเนี่ย อย่าบอกนะตามกลิ่นโนอามาจนถึงนี่”

“เปล่า มาหาน้อง ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอโนอาาาา สวยขึ้นนะเนี่ย”

“พอดีวันนี้มีงานคะ เลยต้องสวยหน่อย”

“ดีๆ ชะนีกับความงามเป็นของคู่กัน น้องเจ้สิ หายไปไหน เมื่อกี้บอกว่าอยู่ร้านนี้นี่นา นี่มาถึงยังไม่เห็นเลย รู้งี้ไม่บอกก็ดีว่ามาหา ชิ้ ไลน์ไปก็ไม่ตอบ”

เจ้เฟยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู พร้อมๆกับเสียงริงโทนของคนข้างๆ ที่แผดเสียงดังลั่น!

มันโยนโทรศัพท์ลงพื้น แล้วเก็บขึ้นมากดผิดกดถูกพยายามจะปิดเสียง

“มึงอย่าลนดิวะ” ผมรีบกระซิบบอก



“ช่าย อย่าลนสิคะ” ผมกับเมคงมีความรู้สึกคล้ายๆ กันคือขนลุกเกรียวกับเสียงที่มาดังอยู่บนหัวเรา

“พะ พี่”

“ค่า พี่เอง”



ผมเงยหน้าขึ้นไปช้าๆ เห็นพี่ไอ้เมกับแม็ตยืนมองข้ามรั่วมาจากในร้าน โฮ พ่อจ๋าช่วยหนูด้วย กูอยากไปตายที่อื่นไม่อยากตายตรงนี้

พี่ไอ้เมวิ่งกระเพื่อมมาจนถึงที่พวกเราแอบอยู่ พี่แกก้มลงมาประคองเมอย่างกับเมเป็นเด็กสามขวบที่วิ่งเล่นแล้วหกล้มนั่งร้องให้รอให้ผู้ใหญ่มาอุ้ม

“ลุกๆ มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้”

“เพื่อนเมทำของตก ก็เลยช่วยหา”

มึงโยนให้กูลูกใหญ่มาก ไม่เตี๊ยมก่อนด้วย

“ผมหากุญแจรถครับ เจอพอดี” ยังดี ขอบคุณสวรรค์ ที่ผมยังมีพร็อพในมือช่วยชีวิต กำแน่นจนเหงื่อโชกไปหมด

เราชวนกันกลับเข้าร้าน ผมเลือกว่าจะเดินตามไป หรือไปนั่งโต๊ะอื่นกับเพื่อนดี แต่ความอยากรู้อยากเห็นพาให้ผมมานั่งข้างแม็ตจนได้

คิดถูกจริงๆครับที่มานั่งนี่ พี่เฟอมยิ้ม จัดเฝ้าจัดผมให้เมหยิกแก้ม ยิ้มกับตัวเอง จับมือเมไปเคาะๆที่ตักตัวเองสบายอกสบายใจ ทุกคนดูตะลึงพรึงเพริดกันหมด ในส่วนของเมนั้นหน้าเหี่ยวลีบเหลือสองเซ็น

ผมได้แต่ทำหน้าแหยๆอยากจะให้กำลังใจมันแต่กูไม่สามารถจริงๆ

“นี่น้องเจ้ น่ารักป่ะ” เจ้ก็แนะนำไม่ได้ดูหน้าคนอื่นๆ เลย “ทำไมทุกคนทำหน้างั้นอ่ะ หรือรู้จักกัน?”

“เจ้ เมเป็นน้องเจ้เหรอ” พี่โนอาเป็นคนถามครับ ผมอยากจะตะโกนดังๆ ว่าถั่วต้วม

“ใช่สิ หน้าไม่เหมือนกันเหรอ? อ้อ คงไม่เหมือนกันเท่าไหร่หรอก ตอนนี้หน้าเจ้แพงมาก ฮ่าๆๆๆ ค่าทำอะนะ แพงงงง นี่เพิ่งไปเติมร่องแก้มมา ความเอจนี่เป็นภัยจริงๆ”

“โลกกลมจริงๆ เลยเน้อะ” ผมว่าผมมองไม่ผิดนะ สายตาแบบเหล่มองที่พี่ยีนส์ก่อนจะพูดน่ารักๆเหมือนเดิม

“พี่ พี่โนอาไงที่เป็นพี่เลี้ยงให้เม” ในที่สุดเมก็หาปากตัวเองเจอ

“จริงเหรอ งั้นความดีความชอบที่น้องเจ้ได้ตำแหน่งดามมหาลัยมาก็ต้องเป็นของโนอาสิ ไปๆ กินไรเจ้เลี้ยง”

“ไม่ต้องเจ้ วันนี้มีเจ้ามือแล้ว พวกสโมมาเลี้ยงเม กับพวกปีหนึ่ง เนี่ยทั้งร้านนี้พวกผมหมดเลย”

“เหรอวะ” พี่เมมองไปโต๊ะอื่นๆ แน่นอนพอเห็นพี่เฟมอง หนุ่มๆหลบตากับเป็นแถว ถ้าพวกเกรียนๆหน่อยก็ยังจ้องออยู่ แต่คงไม่มีใครกล้าเข้ามาชวนคุยหรือแซว เพราะโต๊ะนี้เป็นโต๊ะพี่ยีนส์นี่ครับ “ดีๆ ดูกลมเกลี่ยวไปไหนไปกันดีเนอะพวกวิดวะเนี่ย”

“พี่ไปรู้จัก... พี่โนอาได้ไงเนี่ย”

“พี่รู้จักไอ้เข้มนี่ก่อน ยีนส์มันมาเทรนเทสรถที่สนามบ่อยๆ เวลาออกงานก็เจอกันบ่อย ชอบเอาเนี่ย โนอาไปนั่งเฝ้าตัวเอง ใจร้ายใจดำสนามร้อนก็ร้อนเอาน้องไปทรมาน แต่เดือนนี้ยังไม่เห็นหน้าเลย หายไปไหนย่ะ ไม่ซ้อมไว้ตัวแข็งหมดนะเว้ย”

“ไปเป็นประธานเชียร์มา”

“ห่ะ เธอเนี่ยนะ”  พี่ยีนส์ไม่ตอบอะไร ได้แต่หัวเราะนิ่งๆ



“โหดมากเลยเจ้ เนี่ยถามเม เมกลัวหัวหด” เดี๋ยวนะ ยิ้มนั้นของพี่โนอาคืออะไร



“จริงเหรอเม ไอ้เนี่ยนะ โหด ชอบเดินเตะกล่องเครื่องมือ ถ้าไม่ใส่เซพตี้นะ นิ้วเท้ามันหลุดหายหมดแล้ว โหดเหรอ”

“มะ ไม่รู้ดิ เม ไม่ค่อยได้เข้า”

การติดอ่างของมึงมีพิรุธมากกกกกกก

“เชียร์จบตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ เออ แล้วทำไมฉันก็ยังไม่เห็นเธอล่ะยีนส์”

“พี่ยีนส์ติดหญิง”

“โนอา” เสียงดุๆ คอยปราม แต่ก็ไม่ทันแล้วครับ ผมชักจะลุ้นแล้ว ว่าวันนี้จะเกิดอะไรขึ้นที่นี่ คุณคิดเหมือนผมไหม?

“โอ้ะ หญิงที่ไหนทำให้เธอเลิกทำตัวติดกับน้องได้วะคะ แบบนี้โนอาก็ดีใจแย่สิ”

“นี่แหละเจ้ ที่หนูรอคอย”

“เด็กมันโตแล้ว ปล่อยๆ ซะบ้าง โนอาขึ้นคานเธอจะรับผิดชอบยังไง” พี่ยีนส์ถูกชี้หน้าต่อว่า ผมฟังแล้วก็รู้สึกแปลกๆ แปลกตั้งนานแล้ว “อ้าว นี่ก็มองหน้าพี่ทำไม คิดถึงเหรอ มาๆ กอดกันๆ โอ๋ๆ”

เมถูกโอบไหล่และกอด สองพี่น้องที่สวยที่สุดในร้านขณะนี้กำลังพลอดรักกันหวานชื่น (?)

“พี่พูดเหมือนพี่ยีนส์กับพี่โนอาเป็นพี่น้องกัน? ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว”

พี่โนอาทำหน้าบึ้ง พี่ป้องหัวเราะในคอเบาๆ ส่วนพี่ยีนส์ ยกแก้วขึ้นจิบหล่อๆ

“อ้าว ก็มันลูกพี่ลูกน้องกัน แค่อิพี่เนี่ย มันติดน้อง เหมือนเจ้ไง สิงได้นี่สิงแล้วนะเนี่ย ฮึ้ย หมั่นเขี้ยว”

ผมนั่งฟังเงียบๆ แอบสบตากับแม็ต

เมไม่พูดอะไรต่อ ทำเป็นพยักหน้ารับเหมือนไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ

กูรู้ ในใจมึงร้องโว้ยดังมาก ค่อยไปแซวมันวันหลังยังไม่สาย ดูจากความรัชดาลัยของพี่มันแล้ว ผมว่าก็ไม่ควรกระโตกกระตากนะ จะเจออะไรกลับมามันน่ากลัวเกินกว่าจะจินตนาการ



( มีต่อ )
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 24 มะนาว: ความไม่ลับ] 1/6/59 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 01-06-2016 05:14:16
เรื่องนี้จบหักมุมแหะ ไม่ต้องมีคำว่ามือที่สาม เพราะไม่เคยมีมือที่สอง

โอ้ยยยย ผมอยากจะลุกไปเม้ากับเอ้กับพงศ์ที่โต๊ะโน้น ดูมัน ชะโงกมาทางนี้จนคอเคล็ดแล้วมั้งน่ะ



“ไปหาแสงถ่ายรูปกัน พ่อให้ส่งรูปให้ด้วยนะเนี่ย ไปๆ”

หลังจากนั้นสองพี่น้องก็ขอตัวพากันไปถ่ายรูปหน้าห้องน้ำกัน แน่นอนครับ ระหว่างทางความเด้งก็ดึงดูสายตาทุกคนกลับมาให้จับจ้องที่พวกเขาได้อีกครั้ง มันก็น่ามองจริงๆนี่ครับ ขนาดคนข้างๆผมเขายังมองมองตามเลย

เอ้ะๆๆๆ เดี๋ยวนะ!





“โนอาไม่ได้ผิดสัญญานะ โนอาไม่ได้เป็นคนพูด”

“เงียบไปเลยเรา”

“ถ้าดุโนอา โนอาจะไปเดินไปบอกเจ้เฟเดี๋ยวนี้เลย ว่าพี่ยีนส์จะจีบเม”

“เฮ้ย พี่เปล่า”

“อย่าคิดว่าโนอาไม่รู้นะว่าเวลาโนอาไม่อยู่พี่ทำตัวแรดยังไง โนอามีสายอยู่ทุกที่”

“ฮื๋ม?”

“มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกนะที่โนอาไม่อยู่บ่อยๆเวลาที่พี่ไปนั่งเฝ้าข้างสนามบาส”

“เฮ่”

“ดีจริงๆที่ไม่ไปรับน้องคณะหลังจบเชียร์วันนั้น”

เกิดกระแสไฟช็อตตรงสายตาที่พี่เขามองกันครับ แต่มันก็ต้องหยุดลงเพราะสองพี่น้องเดินจูงมือกันกลับมาแล้ว

“อะไรกับเหรอ?” พี่เฟถามทันที แค่เมกลับหนีซะงั้น

“พี่ เมไปห้องน้ำก่อนนะ”

“ไปคนเดียวเหรอ?”

“ไปได้พี่ เพื่อนเมทั้งนั้นในร้านเนี่ย”

“อ้อ ใช่ๆ รีบมาล่ะ”



“มันได้เป็นดาวมหาลัยได้ไงวะ บอกเจ้ทีสิ” เจ้นั่งลงแล้วซดทีเดียวเกินครึ่งแก้ว

“น้องเจ้ออกจะสวย คนจีบตรึม” พี่เฟหันมามองหน้าพี่โนอาแบบจ้องราวกับว่าจะกินเลือดกินเนื้อ

“ล้อเล่นใช่ไหม? มันแต่งตัวเหมือนทอม เจ้ก็อุส่าสบายใจผู้ชายคงไม่มายุ่งกับมัน นี่ยังมีหลงมาอีกเหรอ?”

“เจ้ไม่อยากให้เมมีแฟนเหรอ?”

“ไม่อ่ะ เมยังเด็ก ตามผู้ชายเลวๆสมัยนี้ไม่ทันหรอก”

“เห็นไหม เจ้คิดเหมือนผมเลย” พี่ยีนส์รีบสมทบทันที พี่โนอาเอาแต่เม้มปากแน่น

“แต่โนอาโตแล้วนะยีนส์” พี่เฟรีบพูดทันที โอบพี่โนอาเป็นเชิงปลอบ

“แก่กว่าเมแค่ปีเดียว โตได้ไง”

ดูเหมือนคนแก้ตัวของพี่ยีนส์จะถูกมองข้ามไป



“แล้ว คนที่โนอาชอบก็เป็นคนดี”



 เกิดความเงียบเข้าปกคลุมโต๊ะ พี่โนอาเองก็เหมือนจะไม่คิดว่าเจ้เฟจะพูดประโยคนี้ออกมา

ดูท่า เรื่องนี้จะเป็นความลับอีกเรื่องที่จะถูกเปิดโปงในวันนี้



“ใคร?”

“จะบอกว่าทำไมเธอถึงไม่รู้ใช่ไหม”

“เจ้ ผมไม่”

“เพราะเธอเป็นผู้ชายไง”

“ผู้หญิงกับผู้หญิงเขามีจิตสื่อถึงกัน ฉันรู้สึกว่า เขาก็ยังไม่รู้ตัวใช่ไหมว่าหนูชอบเขา โนอา”

พี่โนอาเบะปากนิดๆ ส่ายหน้า

โฮฮฮฮ จะบอกว่าผมนึกถึงเจ้เฟิร์นของผมขึ้นมาในทันที เจ้ผมสมัยสาวๆก็คงปิ้งแบบนี้ และที่สำคัญความมองอะไรทะลุทะลวงไปถึงไหนๆเนี่ย เฉียบขาด

“เป็นความลับของเราสองคนนะ”

“คะ เจ้อย่าบอกใครนะ”

“เรามีเรื่องต้องเคลียร์กัน โนอาที่รัก” พี่ยีนส์พูดออกมาในที่สุด เหมือนฝางเส้นสุดท้ายของพี่โนอาจะขาดหายไปแล้ว

“หนูไม่มี หนูจะไปกินเหล้าแล้ว แล้วไม่ต้องห้ามนะ ใครมันจะกล้าทำอะไรโนอา ในเมื่อพี่ยีนส์ก็อยู่ พี่ซันเจ้าของร้านก็ปู่พี่ ไม่มีใครอยากตายมากพอจนมายุ่งกับโนอาหรอก”

พี่โนอาลุกเดินไปกอดคอพี่เท อ้าวมาตั้งแต่เมื่อไหร่ คุยอะไรกันก็ไม่รู้ สักพักก็ชนแก้วแล้วยกพรวดๆ เหมือนเททิ้ง



“เมนต์มารึไงวะ กูผิดขนาดนั้นเลย”

“เออสิวะ”

“โนอาคงเก็บกฎอ่ะพี่ เดี๋ยวก็ดีขึ้นเองแหละ” พี่ป้องบอกพี่รหัสตัวเอง

“ไม่นะ หลังๆงอแงแบบนี้บ่อย สงสัยกูจะทำเกินไปจริงๆ”

“ทำอะไรวะ ห้ามโนอามีแฟนเหรอ?” พี่เฟถามจากพี่ป้องแทนที่จะเป็นพี่ยีนส์

“ไม่ได้ห้ามธรรมดาครับ พี่ยีนส์ก็แค่ ไม่บอกทุกคนว่าโนอาเป็นน้อง ไปรับไปส่ง เวลามาอย่างนี้ก็ให้นั่งข้างๆ ถ้าคนถามก็จะไม่ปฏิเสธ ถ้าไปถามโนอาก็ห้ามไม่ให้บอกใครๆว่าที่จริง เป็นพี่น้อง” วิธีห้ามน้องมีแฟนของพี่น้องคู่นี้นี่สุดๆครับ

“อ้อ ให้คนเขาเข้าใจกันไปเอง คนจะจีบก็ไม่กล้าเพราะเธอเป็นผู้มีอำนาจในคณะใช่ไหม”

“คนข้างนอกก็ไม่กล้า เป็นข้อดีของความหน้าถ่อย” พี่ยีนส์ลูบคางที่เริ่มมีไรหนวดขึ้น ดูเข้มขึ้นไปอีก

“ใจร้ายใจดำ สงสารโนอา โนอาน้องเจ้”

“พี่เฟก็ไม่อยากให้เมมีแฟนไม่ใช่เหรอครับ ไม่สงสารเมเหรอ” ผมถาม เห็นเมเดินออกมาจากห้องน้ำไกลๆ ต้องเริ่มถามก่อนมันมาถึง

หึ หึหึหึ

“เจ้ไม่ได้ห้ามนะ แต่แค่ถ้าจะมีขอสแกนก่อน แล้วเมเองก็ยังไม่เห็นทำท่าว่าอยากมีนี่”

“แต่มีคนรอจีบเมอยู่เต็มเลยนะครับ” แม็ตสมทบ

“...” พี่เฟเหมือนจะเงียบไป คงคิดอะไรอยู่ “ผู้ชายเหรอ?”

“เดี๋ยวนี้เมไม่ค่อยเจาะแจะกับผู้หญิงแล้วนะ ใช่ไหมแม็ต มันเลิกคุยโทรศัพท์กับวีดีโอคอนไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้”

“จริงเหรอ”

“แบบนั้นคงต้องดูเป็นคนๆ ไป”

เมกลับมานั่งที่เดิม สายตาคาดคั้นจากพี่ตัวเองคงทำให้มันสยองขึ้นมาอีกรอบ

“เม”

“จ๋า”

“มีคนมาจีบหนูเหรอ”

“ระดับไหนคือจีบอ่ะ”

“ดักรอ พูดคุย ซื้อนั้นซื้อนี่ให้ ไปรับไปส่ง เป็นห่วงเป็นใย”

“มี”

“ใคร”

อย่าบอกนะว่าพี่ยีนส์ทำ

“สองคนนี้ไง ทำทุกอย่างเลย ให้ลอกการบ้านด้วยนะ”

เมใช้คางชี้มาที่ผมกับแม็ตครับ เจริญ

“โอ้ยน้องฉัน ถ้าคนมาจีบจะรู้ตัวไหมเนี่ย คนอื่นอีกล่ะ มีไหม”

“ก็ มีมั้งแต่ไม่รู้ว่า... จีบ หรือแค่สันดารกวนตีน”

ผม แม็ต พี่ป้องทั่งนั่งฝั่งนี้ทุกคนหัวเราะพรืด เกิดการกระซิบ “พี่คิดเหมือนกันใช่ป่ะ?” พี่ป้องถึงกับจับมือผมเขย่าแรงๆ

“พูดไม่เพราะเลย นี่แน่ะๆ”

“โอ้ย พี่เฟ อย่าตีน้อง”

“แสดงว่ามีจริงๆใช่ไหมเนี่ย พวกเธอชอบใจขนาดนี้ เม ดูดีๆรู้ป่าว สัญญากันแล้วนะว่าต้องให้พี่ดูก่อนตกลงคบ”

“สัญญาตอนไหน?”

“นี่แนะ สัญญาก็คือสัญญาสิ” เมถูกตีขออีกทีครับ แต่เบาๆ








“มะนาว มะนาว ควิกๆๆๆ”

ผมเงยหน้าไปหาเสียงเรียก พี่เทพี่รหัสผมเรียกให้ไปนั่งด้วย

“เกิดอะไรขึ้นวะ เจ้คนสวยๆ คนนั้นใคร แล้วทำไมโนอากินเอาๆ กูว่ากูแซดมาแล้วนะ แต่แป็บเดียวมันแซงกูไปแล้วว่ะ”

“เจ้คนนั้นเป็นพี่สาวของเมครับ เขารู้จักกันแล้วก็เฉลยว่าพี่ยีนส์กับพี่โนอาไม่ได้เป็นแฟนกัน”

“ห่ะ” พี่ผมหน้าเหวอไปพร้อมๆ คนทั้งโต๊ะที่ทำท่าตกใจไม่แพ้กัน อ้าว ไรเนี่ย

“ไม่ใช่แฟนกัน!” ติดโทรโข่งไว้ที่ปากหรือไงพี่มีมี่

“พี่โนอาไม่ได้บอกเหรอ” ผมหันไปถามพี่แก

“ก็มันไม่ให้พี่พูด จะให้ทำไงอ่ะ พูดไปเลยนาว บอกทุกคนไป กูโสด ใจป่ะ โสด ไม่มีผัว ไม่เคยมี ห้องก็ไม่ได้อยู่ห้องเดียวกัน กูอยู่ห้องติดกันเฉยๆ” ไหนว่าเขาไม่ให้พูด สรุปพี่ก็พูดเองหมดเลยนะครับ

“เสร็จกู พี่ยีนส์เป็นของกูแน่ คืนนี้กูจะบุกๆๆๆ” พี่มี่พูดอย่างมั่นใจและดุดัน

“แล้วทำไมพี่ยีนส์ต้องทำเหมือนมึงเป็นแฟนเขา แล้วที่จริงมึงเป็นอะไรกันอ่ะ งงว่ะ” เพื่อนคนนึงของเขาถามผมพี่โนอาครับ แต่ ก็โบ้ยมาที่ผมอีก

“ถามมะนาวดิ”

“เป็นลูกพี่ลูกน้องครับ ดูเหมือนพี่ยีนส์จะหวงพี่โนอา ไม่อยากให้มีแฟนก็เลยกันท่า”

“หวงมาก บางทีก็มากไป หวงกว่าพ่อกูอีก”

“แล้วก็ พี่โนอามีคนที่ชอบก็เลยเริ่มจะไม่โอเคที่มีแฟนหลอกๆ”

ผมก็พูดต่อเนื่องไปเรื่อย เพราะถูกยื่นแก้วมาให้สองสามรอบแล้วตั้งแต่มานั่งตรงนี้

“เฮ้ย อันนี้ไม่ต้องพูดก็ได้” ผมถูกเขย่า แต่สายตาพี่แกมองเพื่อนๆอย่างระแวดระวัง

“โนอามีความรักลับหลังประธานเชียร์ มึงกล้ามาก”

“มึงต้องปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ดิวะ เขาพี่น้องกัน แต่คนที่มึงชอบ หญิงรึชาย น้องเมรึเปล่า กูเห็นนะ ตามเทคไม่ห่างเลย”

“นั่นดิ คนที่ชอบ ใครวะ?”

“เรื่องของกู มึงยังไม่บอกกูเลยว่ามึงชอบใคร” พี่เทโดนสวนอย่างไวครับ

“เรื่องของกู”

“เห้อ กูไม่เคยรู้สึกอยากมีแฟนเท่านี้มาก่อนเลย กูเป็นอะไรของกูวะเนี่ย”

“อ้าว มึงก็มีแฟนอยู่แล้วไม่ใช่รึไงโนอา”

พี่ฟ้ามาจากไหนไม่รู้ครับ โพล่งออกมาเพราะตามเรื่องไม่ทัน พี่นี่ไม่อัพเดทเลย มาๆ ผมเล่าอีกรอบเอง

“ฟ้า มึงมาไมป่านนี้เขารู้กันทั้งร้านแล้วเนี่ย มึงอย่ามาทำตัวตกข่าว ถามไอ้เทโน้น กูพูดไม่ได้”

“เพิ่งเก็บผลแลปเสร็จ เดี๋ยวตีสามต้องเข้าไปเก็บอีกรอบ”

“งี้เมทมึงก็นอนหนาวคนเดียวอ่ะดิ”

“ไม่หนาวหรอก กูมีผ้าห่ม กูไม่ได้โง่”

“กูจะเอาไปซ่อน” พี่ฟ้าพูดไปหัวเราะไปพร้อมๆกับแย่งแก้วพี่เทไปซดซะเอง

“เอ้ะมึงนี่”

“นาว แม็ตวะ” อยู่พี่ฟ้าก็หันมาหาผมไม่สนใจเมทตัวเอง

“อยู่ทางโน้นพี่”

“โห มีแต่ตัวใหญ่ๆ เดี๋ยวกูค่อยไป”

“มึงมีไรต้องคุยกับน้องโนอาวะ”

“เรื่องของกู”

“...”

“ใช่ เรื่องของกู เรื่องของกู” พี่โนอาพูดซ้ำไปซ้ำมา แต่ดูเหมือนจะไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่สองคนนี้คุยกันเลยแหละ

“โนอา มึงอยากมีแฟนใช่ป่ะ?” พี่เทหันไปถามอย่างไร้อารมณ์ ไม่รู้จะกวนตีนหรือมีไอเดียดีๆ

“ใช่”

“กูก็อยากมี เราลองมาคบกันไหม”

เงียบ เงียบกริบกันทั้งโต๊ะครับ จนพี่ฟ้าหัวเราะออกมาแล้วสะกิดให้พี่โนอามีสติตอบกลับ

“เมิงงงง ให้กูพูดจริงๆป่ะ?”

“?”

“มึงสูงกว่ากูแค่ 5 เซนฯเองอ่ะ”

“แล้วไง”

“ถ้ากูใส่ส้นสูง มึงก็เตี้ยกว่ากูดิ มึงยอมเหรอ”

“เออวะ ไม่เอาอ่ะ ไม่หล่อ”

จบไปอย่างง่ายดายครับ

“เห็นมะ กูจำได้ สเปคเพื่อนต้องตัวเล็กๆ เล็กเล้กกกกก”

“คนไม่ใช่มด”

“ก็กูเมา กูทำอะไรก็ได้ พูดอะไรก็ด้าย”

“เออ กูก็เมาเป็นเพื่อนมึง เอ้าซดๆๆ ไม่ต้องชนไม่ต้องเชินมันแม่ง มีเท่าไหร่ซดให้หมด”

“มะนาว มึงจะยอมแพ้พวกพี่เหรอ”

“เอ๋ ผมเกี่ยวอะไร”

“มึงเป็นน้องกูไง จะไม่กินเป็นเพื่อนกูเหรอ เพื่อนกูอยากเมากูยังกินเป็นเพื่อนของเพื่อนกูเลยกูทำเพื่อเพื่อนนะเนี่ยกูชวนน้องกูแดกกับกูกับเพื่อนเนี่ย แม่ง งงว่ะ มึง กูงง”


“มึงไม่ได้งง แต่มึงเมา” พี่ฟ้าหยิบพี่เทขึ้นจากการพยายามเลื่อยไปบนโต๊ะ มาจับตั้งให้พิงพนักพิงดิบดี แต่วางปุ๊บก็ไหลปั๊บ

ตอนนี้คางพี่ผมวางแปะอยู่บนโต๊ะ แต่ไม่ขยับไปไหนทั้งนั้น เพราะขยับปั๊บพี่ฟ้าเกี่ยวขึ้นมาทันที



กูเมาแล้วเลื่อยอย่างนี้ไหมเนี่ย โอ้ย แต่ก็อยากเมานะ เอ้ะ หรือวันนี้ไม่ควรเมาแล้วเพราะเหนื่อยแล้ว เอ้ะ แต่จริงๆก็ไม่เหนื่อยเท่าไหร่นะ




แก้วแล้วมีแต่แก้วเหล้า ไหนช่วงพักของกูหายไปไหนแล้ววะ...



พี่เฟมาบอกลาพี่โนอาตอนที่พวกผมเมาเรียบร้อยไปแล้ว ผมลาพี่เขาตรงนั้น พี่โนอา พี่ยีนส์ กับเมตามไปส่งเขาที่รถ

พี่ฟ้าก็ลุกหายไป

เออ เหลือใครบ้างวะเนี่ย พี่เท พี่มีมี่ พี่โน้นพี่นั่นกับพี่นี่ อ้อ มีเอ้กับพงศ์มาสมทบ



เอิ่ม


อ้อ


เมา




--------------------------------------------
TBC.




พยายามอย่างงกันนะคะ ตอนนี้ตัวละครเยอะ แย่งกันพูดพอควร
แถมคนเขียนก็ไม่ค่อยสมบูรณ์คะ สติก็ไม่เต็ม รู้สึกถึงอากาศที่เปลี่ยนแปลงและสุขภาพที่เปลี่ยนไป

รักษาสุขภาพกันด้วยนะค่าคนอ่านทุกคน คิดถึง เป็นห่วง และป่วยค่า

ปู้นๆ      สถานีต่อไป... บ้านฟ้านาว แม็ตเท
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 24 มะนาว: ความไม่ลับ] 1/6/59 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 01-06-2016 06:05:01
คราวนี้อัพยาวดี ชอบบบ  :mew1:
แมต มะนาว ดีกันแล้ว :katai2-1:
พี่เมมาแล้ว เฉลยความสัมพันธ์พี่ยีนส์ โนอา
แต่  ใครแฟนเม? :katai1:
พี่ฟ้า ลุกหายไปไหน?  :ling1:
รอ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 24 มะนาว: ความไม่ลับ] 1/6/59 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 01-06-2016 06:10:13
 :katai2-1:   ดีงาม. เมาจนได้
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 24 มะนาว: ความไม่ลับ] 1/6/59 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-06-2016 17:51:48
กระจ่าง
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 24 มะนาว: ความไม่ลับ] 1/6/59 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 01-06-2016 20:37:11
โนอาชอบใครหนอ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 24 มะนาว: ความไม่ลับ] 1/6/59 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Fahsaizzz ที่ 01-06-2016 23:36:05
มะนาวเมาแล้วววว แม็ตดูแลด่วน

ว่าแต่โนอาชอบใครนะะะ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 24 มะนาว: ความไม่ลับ] 1/6/59 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 02-06-2016 03:42:20
เจ้เจ๋งดีนะ ว่าแต่สะกดคำว่า เก็บกดผิดนะ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 24 มะนาว: ความไม่ลับ] 1/6/59 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าเชียงชุน ที่ 02-06-2016 08:28:47
โนอาต้องชอบคนใกล้ตัวแน่ๆ
ทีมมะนาว
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 24 มะนาว: ความไม่ลับ] 1/6/59 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 02-06-2016 21:24:45
มีการเปิดโปงความลับบบบบบบ ^0^/
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 24 มะนาว: ความไม่ลับ] 1/6/59 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: PaiPo ที่ 03-06-2016 23:30:29
ฟ้าจะหาแม็ตทำไม
เรื่องของกู อันสุดท้ายนี่ฟ้าพูดกับเทใช่มั้ยอ่ะ ฮึ้ย แรง
ข้องใจหลายอย่าง รีบมาต่อเถอะะะ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 25 ย้ำ...บางอย่าง] 9/6/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 09-06-2016 06:19:49
(http://i1159.photobucket.com/albums/p636/Browny_Tan/bro/loveagain334_zpsaovquoi9.png)
- บทที่ 25 - ย้ำ...บางอย่าง -




“เฮ้ยแม็ต ถ้าจะกลับกันแล้วช่วยไปส่งเทด้วยดิ พี่มีแลปต้องเข้าคณะวะ”

“อ้อ ได้ครับ”

“ไม่อยากให้มันนอนร้านแบบคราวที่แล้ว”

“ฮ่าๆๆ ผมเข้าใจพี่ เดี๋ยวผมไปส่งให้”

“เออ นี่ชื่อหอกับเลขห้อง กุญแจน่าจะอยู่ในกระเป๋ากางเกงมัน ล้วงเลย แต่อย่าล้วงลึกนะเว้ย”

“ไม่พี่ๆ ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น”

เรายิ้มแบบรู้กัน ก่อนมาจะโดนสะกิดไหลแล้วเรียกให้ออกไปไกลผู้คนมากกว่าเดิม

“เฮ้ย”

“ครับ”

“คือ มานี่ดิ” ผมตามไปจนออกจากเขตร้าน ที่ไม่มีใครเลยจะสามารถได้ยินเราคุยกันได้

“เรื่องวันรับน้อง มึงได้เล่าให้มะนาวฟังไหม”

“ไม่ได้เล่าครับ คนอื่นก็ไม่ได้เล่านะ”

“เออ ขอบใจวะ เพราะพี่รู้ว่าแม็ตรู้ ถึงฝากเรา เข้าใจความห่วงของพี่ใช่ไหมว่าทำไมต้องห่วงมัน”

“คิดว่า เข้าใจนะ” จริงๆผมก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าสภานะระหว่างพวกพี่เขาเท่าไหร่ แต่ดูจากที่พาผมมาไกลขนาดนี้ ก็ พอเดาได้

“เออ ก็เหมือนกับที่มึงห่วงมะนาวนั่นแหละ ต่างกันตรงนี้คนของกูเนี่ย ไม่ยอมให้กูห่วงตรงๆ”

“อ้าว ไมอ่ะ” แต่ดูท่าแล้ว มันจะลึกซึ้ง และเอิ่ม แลดูร้อนๆ

“ไม่รู้ เกลียดกูมั้ง”

“...?”

“ไม่ต้องทำหน้างง ไป ไปในร้านเหอะ พี่ไปแล้ว” พี่ฟ้าเดินเท่ๆไปยกจักยานหมุนกลับหัว ก่อนจะปั่นออกไปในเวลาตีหนึ่ง อากาศเย็นๆของกลางคืน มันคงจะดีถ้ามีสักคันแหะ





“ไง เมายังเมท” ผมกลับเข้ามาในร้าน ไม่กลับไปนั่งเป็นเพื่อนเม แต่ตรงไปดูมะนาวซะหน่อย

“หื๋อ?”

“กูเอง” ผมโยกหัวเขาเบาๆ จะมองเห็นไหมเนี่ยว่าใครเป็นใคร

“แมดดดดด”

“เออ ฮ่าๆๆๆ”

“เมายัง” ผมถาม เช็คเปอร์เซ็นความสมบูรณ์

“จะเหลือเร้อะ” แปลว่าเมา แต่ไม่มากครับอาการนี้ ยังพูดรู้เรื่อง และยังกวนตีนได้

“เออ ดี”





“น้องจ๋า น้องเดือน ไปเอาดาวมาให้พวกพี่ชนหน่อย” พี่ปีสามคนนึงบอกผม ผมได้แต่พยักหน้ารับ

“เดี๋ยวพามาให้พี่”

ผมวางแก้วตัวเองลง แล้วลุกขึ้นยืน

“มึงจะไปเอาใคร?” มะนาวถามขึ้นก่อนผมจะเริ่มออกเดิน

“ตลกแล้ว เขาหมายถึงให้พาเมมา อย่าโวยวาย โอเค?”

“อื้ม” เขาทำหน้าเข้าใจแบบคนเมา ผมจึงก้มลงบอกเขาเพิ่มเติม

“อย่าทำหน้าบึ้ง ยิ้มไว้น่ารักกว่านะ”

มะนาวยิ้มตาปิดเลยครับ บ้ายุสุดๆ ผมเห็นแบบนี้เริ่มกลัว ถ้าใครบอกให้เดินตามไป จะเดินหายไปกับคนอื่นไหมเนี่ย



...........................................................



“ม้ายยย กูจะนอนนี่”

“เดี๋ยวผมไปส่งห้องให้ครับ ใช่ไหมมะนาว เราจะไปส่งพี่เทกัน”

ตีสอง ร้านปิด ความวุ้นวายอีกแบบเริ่มขึ้นหลังเสียงเพลงเบาลง

เอ้กับพงศ์ถูกขนไปกับรถพี่ยีนส์ เพราะเมบังคับไม่ให้กลับกับผม คือต้องกลับกับมันนั่นเอง สรุปคือ พี่ยีนส์ต้องไปส่งเมซึ่งเมจะไม่ยอมถ้าไม่ให้เพื่อนติดไปด้วย

ต่อไปนี้คงมีเรื่องให้วุ้นวายกันอีกเยอะแน่ๆ เพราะเจ้เฟของไอ้เมมาวางระเบิดไว้หลายจุดเลยล่ะ



“ช่าย พี่เป็นพี่ผมนะ ผมต้องดูแลพี่ดิ” ผมหิ้วพี่เทขึ้นมา เขาไม่ได้ตัวใหญ่กว่ามะนาวมากมาย เตี้ยกว่านิด แต่มีเนื้อมีหนังมากกว่าหน่อย คงน้ำหนักใกล้เคียง

มะนาวเดินเอียงๆมาจับแขนพี่เทขึ้นคล้องคอ แต่ไม่ได้ช่วยพยุงอะไรนะครับ ลำพังแค่ตัวเองยังเดินให้ตรงไม่ได้เลย แค่ทำให้เดินออกมาได้พร้อมกันแค่นั้นเอง

“เออ มึงดูแลกูได้ ดีมาก ม้านาว”

“นอนแน่เพ่ แน่นอนเพ่ นอนแน่ๆ”

“ฮ่าๆๆ มึงมาวแน่ๆ พูดไม่รู้เรื่องเลย”

ผมเอาพี่เทที่ยังหัวเราะไม่หยุดวางที่เบาะหลัง เขาไหลตัวไปตามเบาะและนอนนิ่งไป

แต่พอผมกับมะนาวขึ้นมาและออกรถ เขาก็ค่อยๆดันตัวเองขึ้นนั่งคอตก อยู่อย่างนั้นไม่พูดอะไรจนมีเสียงแทรกเสียงเพลงเบาๆที่ผมเปิดไว้ขึ้นมา

“ฮึก”

ผมมองไปที่กระจกหลัง พี่เทนั่งกึ่งนอน ก้มหน้า และสะอื้น มะนาวเองก็คงรู้สึก เขาเหลียวกลับไปมอง และเช็ดน้ำตาที่เปื้อนมือพี่เท

“นี่น้ำลายหรืออะไรเนี่ยพี่” มะนาวเงอะงะส่งทิชชู่ให้หลายแผ่น

“น้ำมูก” คำตอบขัดกับสถานการณ์ เขาคงพยายามกลบอารมณ์จมดิ่งของตัวเอง ผมไม่รู้สึกตลกเลย แต่กับมะนาว เขากลับหัวเราะออกมาเบาๆ

“เหอะๆ แหวะ นี่พี่ ทิชชู่” บางทีมะนาวคงไม่อยากให้พี่ตัวเองต้องร้องให้ต่อ

“เออ ขอบใจนะ ที่ไม่ถามอะไรให้อึดอัด”

ผมรู้เลยว่ามะนาวสะอึกก้อนใหญ่ เขาคงกำลังจะถาม แค่หาจังหวะอยู่ ดูสิ นั่งเกาปากยุกยิก

ผมไม่ได้อยากรู้หรือคิดว่าตัวเองจะรู้ไปซะหมดหรอกนะครับ แต่ทำไมก็ไม่รู้นะ มันดันเดาได้เนี่ยสิ แย่จัง

ผมยื่นมือไปเขี่ยปากล่างมะนาว

“เฮ้ย ของเล่นเหรอ”

“เห็นมึงคันปากแล้วอดไม่ได้” ผมเอียงตัวกระซิบตอบ

พี่เทยังก้มหน้าอยู่อย่างนั้น ตอนนี้ไม่มีทั้งเสียง และการเคลื่อนไหว





ผมจอดรถหน้าตึกที่คิดว่าเป็นหอพวกพี่เขา มะนาวนั่งมองพี่ตัวเองอย่างหนักใจ

“มึง พี่กูหลับไปแล้วอ่ะ แล้วจะทำไงอ่ะ”

“ไม่เป็นไร พี่ฟ้าบอกเลขห้องมาแล้ว”

“เอ้า เหรอ”

ผมหาคีร์การ์ดกับกุญแจห้องพี่เทจากในกระเป๋ากางเกง ยื่นให้มะนาวถือไว้ ส่วนผมคงต้องแบกพี่เทอย่างเลี่ยงไม่ได้

“ล็อกรถดิ” มะนาวทำตาม ยืนมองกุญแจรถกับกุญแจห้องคนอื่นสลับกัน

“ไปโน้น เปิดประตูหอ”

มะนาวทำตาม แต่กว่าจะไปถึงก็โซเซจนผมห่วง

เขาเดินนำไปหาเลขห้องที่ผมบอก แล้วไขกุญแจอย่างรู้หน้าที่ เดินเข้าไปเปิดไฟอย่างไม่เกรงใจเจ้าของห้องที่ผมแบกอยู่

ผมวางพี่เทลงกลางเตียง เปิดแอร์ด้วยเพราะเคยได้ยินพี่เทบ่นร้อนบ่อยๆ

“ถอดรองเท้าก็พอมั้ง” ผมบอกหลังจากถอดเสร็จ ยืนมองผลงาน เรียบร้อยตามที่ท่านประธานปีสองสั่ง แต่ที่เกินมาเนี่ย ทำไมมีอีกคนนอนข้างๆพี่เท?

“กางเกงเขาท่าทางอึดอัดนะ” มะนาวนอนตะแคง ใช้นิ้วเกี่ยวขอบเข็มขัดพี่เทแล้วดึงโยกเบาๆ ผมเลยต้องรีบจับมือมะนาวออก

“เดี๋ยว ‘เขา’ ก็จัดการเองแหละน่า” เขาในความหมายของผมไม่ใช่พี่คนนี้นะครับ เขาที่อยู่ในคณะโน้น

“เหรอ อื้มมมมมมม แต่กูง่วงแล้ว นอนนี่ได้ไหม” มะนาวพูดช้าลงตั้งแต่ผมเปิดแอร์ครับ เขานอนทับแขนแล้วทำท่าจะชัดดาว ตัวเองลงตรงนั้น

“ไม่ได้ ลุก”

“ง่วง แอร์เย็น”

“ห้องเราก็เย็น ไป”

“อื้อ”

“จะให้อุ้มลงไปรึไง”

 มะนาวทำหน้าเบะครับ ไม่รู้เพราะผมดุ หรือดันรู้ทัน หรือกำลังงอนที่ผมไม่อุ้มสักที

นี่มึงจะบ้าเหรอ ไม่ได้เมาขนาดนั้น เดินก็เดินได้ พูดก็ยังรู้เรื่องทุกอย่าง ยังจะ

“มึงดูโน้น” ผมพยักพเยิดไปทางพี่เทที่นอนนิ่ง แต่ลืมตามองมะนาวที่นอนอยู่ข้างๆ

“อ้าว พี่ไม่ได้หลับเหรอ”

“ตอนนี้กูเหมือนคนหลับอยู่ไหมล่ะ”

“เหมือนคนเมา”

“เออ กลับห้องไปได้แล้ว ไป ไปปปป”

พี่เทเอียงตัวเอาเท้าถีบสะโพกมะนาวไหลไปกับเตียง ดูพี่น้องคู่นี้ต่อสู้กัน มันช่างเป็นคู่ที่สมน้ำสมเนื้อ

“โหยย พี่ใจร้ายวะ นี่น้องนะเว้ย”

“ขอบใจวันหลังกูค่อยเลี้ยงชานมไข่มุกแล้วกัน” พี่แกตื่นมาดึงหมอนให้เข้าที่

“ผมจะจำไว้”

“ตื่นมามึงก็ลืมมะนาว” ผมย้ำกับมะนาวว่าเขาขี้ลืมแค่ไหน

“เดี๋ยวเลี้ยงมึงด้วยแม็ต ใจว่ะ อุส่ามาส่ง ห่าวววว กลับดีๆ ล่ะพวกมึง”


มะนาวตอบรับอย่างแข็งขัน ผมฉุดมะนาวให้ยืนขึ้น ปิดไฟในห้องแล้วปิดประตูให้เรียบร้อย ไม่ลืมไลน์บอกพี่ฟ้าว่าภารกิจเรียบร้อย พี่เทกลับถึงห้องปลอดภัย

เหลือก็ตัวป่วนข้างๆเนี่ยแหละครับ เริ่มออกฤทธิ์ บ่นหิว บ่นง่วงขึ้นมาแล้ว

“แมตตต หิวอ้า” มะนาวนั่งเกาะเข็มขัดนิรภัยแล้วเริ่มพูดทันทีที่ออกรถ

“กินอะไร แวะเซเว่น หรือจะไปร้านโจ๊กในตำนาน” ร้านโจ๊กในตำนานคือร้านโจ้กที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงครับ ไม่เคยปิดเลยเหมือนเปิดมาเพื่อนักศึกษาแถวนี้ที่ไม่ค่อยหลับไม่ค่อยนอน

“ไปเซเว่นในตำนาน”

“อย่าเอามารวมกันมั่วๆ ดิ มีที่ไหน”

“มี้ เลี้ยวขวาดิ”

“แน่ใจนะว่าจำทางได้”

“ทางมันก็มีแค่นี้ทำไมจะจำไม่ได้ ข้ามสะพานไปแล้วชิดซ้าย”

ผมขับไปตามที่มะนาวบอก

“นั่นๆ จอดรถต่อจากคันข้างหน้าเลย”

ผมทำตาม

“ฮี่” มะนาวยิ้มหวานเดินลงรถทันทีที่ผมจอดรถ ผมได้แต่เดินตามไป

เขาเลี้ยวเข้าร้านโชว์ห่วยที่ดูธรรมดา แต่ไม่ธรรมดาตรงที่นี่มันจะตีสามอยู่แล้ว แต่ร้านนี้ยังไม่ปิด ผมมองขนมถุงข้าวสารอาหารแห้งมาม่าของใช้ทั่วไป วางแน่นหน้าร้านจนเหลือแค่ทางเดินแคบๆ

เขาเดินหายเข้าไปในร้าน เปิดตู้แช่ที่อยู่ในสุดของร้าน แล้วหยิบเบียร์ออกมาหลายขวด

ไม่พอ ตอนจ่ายเงินเขายังหยิบวอดก้าขวดเล็กจิ๋วมารวมกับฝูงเบียร์ด้วย

“ฮึ้ยยย ไม่ได้จะกินให้หมดวันนี้วันเดียวหรอกน่า” ผมไม่แน่ใจสีหน้าตัวเอง แต่มะนาวเห็นแล้วรีบแก้ตัวทันที



 “คิดจะทำอะไรเนี่ย”

“ไม่บอก” มะนาวอุ้มถุงเบียร์ลอยหน้าลอยตาออกไป ผมได้แต่ถืออีกถุงตามไปขึ้นรถ





“เจ้เฟนี่สุดยอดเลยเนอะ  หลังจากกูลุกมาคุยไรกันอีก”

“ก็ไม่มีอะไรมาก เขาก็ถามนั้นถามนี่ไปเรื่อย ส่วนใหญ่เขาคุยกันเรื่องรถรุ่นใหม่ที่กำลังจะออก”

“ฟินมึงเลยดิ กูว่าสักพักมึงเข้าชมรมยานยนต์กับพี่มึงแน่”

“หึ รู้ใจ”

“แน่นอน”

“เออ แต่ก่อนกลับ พี่เฟแกทิ้งระเบิดไว้ให้ไอ้เมด้วยนะ”

“ยังไงๆๆ”

“เขาฝากพี่ยีนส์ บอกว่า ฝากดูน้องฉันด้วยนะ อย่าให้หนุ่มที่ไหนมากวน”

“โหยยย คนกวนก็คนที่เจ้ฝากอ่ะแหละ”

“นั่นดิ รู้มั้ยพี่ยีนส์ทำไง”

“ทำไง”

“พี่แกยิ้มข้างนึงแล้วยักคิ้วให้เมแบบนี้ตอนพี่เฟไม่เห็น”

“กร้ากกก แล้วไอ้เมทำไงล่ะ”

“มันขมวดคิ้วทันทีเลย หยิบน้ำแข็งปาพี่ยีนส์ด้วย”

“เฮ้ย มันกล้าได้ไงวะ”

“ไม่รู้มัน”

“มึงว่ามีลุ้นไหม”

“ลุ้นอะไร?”

“เอ้า ก็พี่ยีนส์กับเมไง”

“ยังต้องลุ้นอีกเหรอ ของมันเห็นอยู่ชัดๆ”

“เออวะ เหมือนกูกับมึงใช่มะ” มะนาวยิ้มกรุ่มกริ่ม แต่ไม่สบตาผม

“เหมือนได้ไง เขาไม่ได้ ได้กันตั้งแต่วันแรกที่เจอหน้ากันสักหน่อย”

“เฮ้ย”

“อะไร?”

“ใครได้ใคร?”

“เดี๋ยวก็รู้ อย่ามาทำไม่รู้ไม่ชี้ คลังแสงที่ขนมานั่นน่ะ สาบานว่าไม่ได้คิดอะไรเลย”

“ม่าย ไม่ได้คิ้ดดดดดด”

“ฮ่าๆๆ”

ผมดึงมือมะนาวมาคล้องไว้ แอบเหลือบดู มะนาวทำปากยู่ยี่ แล้วก็ทำคอพับมาทางผม แต่ไม่ยักพิงมา

ผมเอื้อมมือไปดึงหัวเขาให้ตกลงมาพิงไหล่

อยู่ตรงนี้ จะได้ไม่ฟุ้งซ่านนะ

ไม่ใช่อะไร ผมกลัวเขาก้มลงไปเบียร์ขึ้นมาเปิดตั้งแต่ตอนนี้น่ะสิ

“ไปบางแสนไหม?”

“วันนี้เหรอ?”

“วันนี้อยากกับไปฝึกวิชาก่อน”

“วิชาอะไร”

“ไม่บอก”

“นี่คิดอะไรพิเรนทร์ๆอยู่อีกรึเปล่า?”

“ฮึ้ย เห็นกูเป็นคนยังไง”

“คนเมาไง”

“เมาแล้วไง เมาไม่มากเว้ย” เขาเริ่มฮัมเพลง แล้วโยกหัวตาม

ถึงแล้ว มะนาวยังเต้นอยู่แม้ว่าผมจะปิดวิทยุไปแล้ว

“เดี๋ยวกูยกของเอง มึงอย่า เดี๋ยวตกแตก” ผมเห็นเขาพยายามหยิบกำปากถุงแทนที่จะหิ้วแบบคนปกติ

มะนาวเชื่อฟังมากครับ เขาหยุดก้มลง แล้วเปิดประตูลงไปยืนรอนิ่งๆข้างรถ

ไม่รู้เชื่อผม หรือกลัวตัวเองทำแตก แล้วจะอด


มะนาวเดินโซเซดึงราวขึ้นบันได ผมเดินช้าๆคอยดูเขาไม่ให้ตกบันได แต่มะนาวก็เดินเองจนถึงหน้าห้องที่ถูกต้อง เขาไขกุญแจเพราะผมทำท่าบอกมือไม่ว่าง

มะนาวไขกุญแจ เปิดประตู แล้วเดินเข้าไปในห้องโดยไม่ถอดกุญแจเข้าไปด้วย ผมได้แต่ส่ายหน้า วางของกับพื้น เปิดไฟ กลับไปดึงกุญแจห้อง ปิดประตู เปิดแอร์ หันมาอีกที มะนาวนอนคว่ำหายใจฟี่ๆอยู่บนเตียง ปลายเท้ายังชี้มาที่ผม

นี่แปลว่าทิ้งตัวปุ๊บหลับปั๊บเลยใช่ไหมเนี่ย




ดี


นอนไปเลย!

.

.

ซะเมื่อไหร่ล่ะ


สาบานว่าผมพยายามแล้วที่จะไม่คิดนะ

แต่ผมรู้สึกอยู่ทุกวินาทีเลยว่ากลับมามันต้องมีอะไรมากกว่า หลับ หลับจริงๆ แบบนี้


“เห้อ” เอาเถอะ วันนี้เขาคงเหนื่อยแล้ว นี่มันก็ตีสามเข้าไปแล้วนี่เนอะ

ผมเก็บเบียร์ที่แช่เย็นมาแล้วเข้าตู้เย็น ก่อนมันจะบูดเสียของ ไม่ได้ใช้วันนี้ พรุ่งนี้ยังมีกลัวอะไรเนอะ

ขนมมากมายที่เจ้าตัวซื้อมาก็วางไว้ให้ไม่เกะกะ

หันกลับไป เขาก็ยังนอนท่าเดิม จะจัดการเขาก่อน หรืออาบน้ำให้ตัวเองก่อนดีนะ

ในขณะที่ยังคิดไม่ตกผมก็เดินมาถอดรองเท้าให้เขา ปลดเข็มขัด ปลดกระดุมกางเกงเขา

แทนที่เขาจะนอนนิ่งๆเหมือนเดิม ตัวอ่อนปวกเปียกหายใจนิ่งๆ แต่ผมกลับได้ยิน เสียงหัวใจ เสียงลมหายใจ มันหนักขึ้น แรงขึ้นๆ





“เฮ แกล้งหลับเหรอ”

“เปล่า มึงแหละทำกูตื่น”

“อะไรตื่น” ผมแกล้งทำตาโต ถามเขากลับอย่างไว

เอ อะไรตื่นน้า

ผมจัดการกับซิบกางเกงเขา ก่อนจะวางมือกับต้นขา ลูบเบาๆ และไม่สบตาเขาที่กำลังมองหาเรื่อง

“ปกติเรื่องแบบนี้มึงจะหัวช้าไม่ใช่เหรอ ทำไมทีนี้ไวจังวะ”

“อะไรตื่นเหรอ?”

ผมยังคงย้ำถามคำเดิม

“ข้ามคำถามล่อแหลมไปได้ไหม?”

“ล่ออะไรนะ?” ผมแทรกมือเข้าไประหว่างกางเกงยีนส์ที่ปลดทุกอย่างออกแล้ว กับบ็อกเซอร์เนื้อนิ่มๆของเขา ลูบมือผ่านท้องน้อย ไปโอบสะโพกเขาให้ขยับเข้ามาชิดกับผม

“ไอ้แม็ต!” มะนาวประท้วง แต่ผมยังคงกวน

“ล่อกูเหรอ?”

มะนาวฟึดฟัด ไม่พูดอะไรต่อ แต่ก็ไม่ยอมรับสิ่งที่ผมพูด เขาผลักผมออกตีผมไม่ให้ความร่วมมืออะไรทั้งนั้น

ผมหัวเราะเบาๆกับท่าทีของเขา เดินไปหยิบน้ำเย็นมายื่นให้ ถึงตรงนี้เขายอมลุกขึ้นมานั่งดื่มน้ำ ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง

ผมเองตัวลงนอนข้างๆเกี่ยวมือเขามาจับไว้ แต่มะนาวไม่ยอมอยู่นิ่งๆ เขายกมือเราขึ้นทุบเตียงเป็นจังหวะเหมือนทำนองเพลง ก่อนจะเริ่มถาม


“มึง ถ้ามึงเห็นคนอื่นเมาหมดสภาพแบบนี้หรือเมามากกว่ากู มึงจะทำให้เขาแบบที่ทำให้กูมั้ย”

“บ้าป่าว กูจะไปดูทุกคนบนโลกนี้ได้ไง อย่างมากแค่ไปส่งก็พอแล้วมั้ง”

“แล้วทำไมมึงต้องทำให้กูเยอะแยะแบบนี้” เขาเลิกทุบเตียง ได้แต่มองเพดารนิ่งๆ

“เป็นเหตุผลเดียวกับที่ทำไมกูถึงให้เกียร์มึง”

เหมือนเขาจะพอใจคำตอบ แต่ก็ยังถามไม่หยุด

“จริงๆ เราเพิ่งรู้จักกันเองนะ แค่ ไม่ถึงสองเดือน ทำไมมึงถึงแน่ใจนัก ไม่กลัวกูเปลี่ยนไป หรือไม่คิดว่าตัวเองจะเปลี่ยนใจบ้างเหรอ”

“กลัวสิ มึงขี้อ่อย กลัวไปอ่อยคนอื่น” ผมหัวเราะ มะนาวเองก็หัวเราะ ก่อนเขาจะเถียงออกมาทันทีจนทำให้ผมสงสัย

“กูเลือกเหอะ” เขาพูดด้วยท่าทางจริงจังเกินกว่าผมจะปล่อยผ่าน

“เลือกอ่อยกูเหรอ?”

พูดจริงเหรอ เฮ ไหนพูดอีกทีสิ

“...” ผมหันไปมองหน้าเขา แต่มะนาวก็ยังเอาแต่เม้มปากแน่น

“มะนาว”

“ง่วงแล้ว กูจะนอน” เขาสะบัดมือผมทิ้ง แล้วหันหลังหนี ผมเลยตามไปกระซิบตรงท้ายทอยเขา

“มึงเลือกกูตอนไหนเนี่ย?”

“ทำไมวันนี้พูดมากจริง” มะนาวผลักอกผมออก แต่กลับเป็นตัวเองที่ไหลไปกับที่นอน ตัวผมไม่ขยับเลยสักนิด

“เลือกอ่อยกูจริงดิ”

“ไอ้บ้านี่พูดมาก” เขาทำท่ารำคาญซึ่งผมมองว่าเขากำลังเขิน

มะนาวมุดผ้าห่ม ยิ่งทำผมยิ่งหัวเราะ ยิ่งผมหัวเราะเขาก็ยิ่งหนี

“วันนี้ดูไม่ค่อยเมาเลยนี่นา ไหนดูสิ”

“คนเราก็ต้องมีพัฒนากันบ้างสิวะ จะให้เมาเหมือนหมาทุกรอบได้ไง แค่นี้คนอื่นก็ตราหน้ากูว่าอ่อนแย่ละ แล้วอีกอย่างกูก็กลัวมึงไม่ตามเก็บเหมือนกันนะเว้ย”

“กลัวไว้บ้างก็ดี กูไม่รู้จะอยู่ดูได้ทุกงานไหม” ผมขยี้หัวมะนาว

มะนาวหันมามองหน้า แล้วยื่นหัวมาให้ผมหอมด้วยท่าทางแปลกๆ

“มึงจะไม่อยู่เหรอ?”

ผมว่า ระบบอัตโนมัติของเขาเพิ่งเริ่มจะทำงาน มะนาวเปลี่ยนอารมณ์ ช้อนตาขึ้นมามองผมจากใต้คาง แถมยังดึงมือผมไปให้โอบรอบตัวเขาอีกต่างหาก

“มะนาว” เดี๋ยวนะ ที่คุยกันอยู่เป็นคุ้งเป็นแควนี่นึกว่าซ่างแล้ว ไม่หรอกเหรอ?

“อยู่เถอะ”

“อย่ามองด้วยสายตาแบบนี้”

“แบบไหน”

มะนาวลูบมือขึ้นมาตามสีข้าง มาวางฝ่ามือไว้บนอกผม เขาใช้เล็บขูดกับเสื้อผมเบาๆ แต่ช้าจนผมต้องลุ้นว่าเขาจะทำอะไรต่อ มะนาววนนิ้วไปมาบนผิวเสื้อ เกลี่ยปลายนิ้วช้าๆ เขามองมือตัวเอง สลับกับเงยหน้ามองหน้าผม

“จะทำอะไร”

“ทำอะไรก็ได้ เมาแล้ว” ยิ้มเจ้าเล่ห์กับขาที่ค่อยๆ แทรกเข้ามาที่หว่างขาผมนี่มันคืออะไร

“เมื่อกี้ยังบอกว่าตัวเองพัฒนาแล้วอยู่เลยนะ” ผมดึงเขาเข้ามาหาตัวกอดแน่นจนทั้งตัวแนบชิด

“เรื่องนี้ก็พัฒนาไปด้วยไง ไม่ดีเหรอ?”




“เลือกกูตั้งแต่ตอนไหน?” ผมวกกลับไปที่คำถามเดิม เขานิ่งไป คงไม่คิดว่าผมจะย้ำกลับไปถามคำถามเดิมอีก



มะนาวก็ยังคงไม่ตอบ สีหน้าหาเรื่องเขาโอบคอผม ดึงผมไปจูบปิดปาก

ความอุ่นและไอร้อนๆที่ออกมาจากร่างกายเขา ความหวานที่ไม่มีอะไรเหมือน กับเสียงลมหายใจที่แรงขึ้นๆ






ไม่ยอมบอกถึงขนาดเอาตัวเข้าแลกเลยเหรอเนี่ย


เห้อ ไม่ได้เห็นแก่ค่าปิดปากเลยนะ แต่จะยอมไม่รู้ต่อไปก็ได้

หึ




.................................
.................................................................................
...........




อีกด้านหนึ่ง


ห้องนอนที่เย็นฉ่ำ มีร่างร้อนรุ่มของคนเมานอนนิ่งอยู่เพียงลำพัง แต่เขาไม่ได้หลับ บางอย่างยังบอกเขาว่าในตอนนี้ยังไม่ถึงเวลานอน เขาเพียงแต่นอนหลับตาอยู่ในอากาศเย็นๆ และขดตัวเพื่อกอดตัวเอง




กึก!




เสียงเปิดประตูดังก้องในความเยือกเย็น


คนมาใหม่ไม่ได้สนใจแม้การเปิดไฟ แต่กลับถอดเสื้อตัวเองออกในความมืด ให้ผิวปะทะความเย็นของเครื่องปรับอากาศ เขาโยนเสื้อทิ้งส่งๆ แล้วเดินตรงไปที่เตียง มองดูร่างที่เริ่มขยับกายไปมาเพราะรู้สึกว่ามีคนกำลังจ้องมอง ร่างร้อนของคนบนเตียงบิดไปมาเพราะความเมื่อยล้า ก่อนจะลืมตาเพียงนิดเพื่อมองหาตำแหน่งคนมาใหม่

มือเรียวยกขึ้นในอากาศเอื้อมคว้าสิ่งที่ไม่เคยเอื้อมถึง  เสียงครางฮืมในคอบ่งบอกแววเอาแต่ใจ

“ฮื้ม”

คนมาใหม่ก้าวขึ้นเตียง เอื้อมไปรับมือนั้นไว้ ก่อนจะนำพาให้แขนนั้นโอบตน

เขาแทรกกายทาบทับระหว่างสองขาของคนที่นอนอยู่ เอื้อมมือลูบไล้ เล้าโลมให้ผ่อนคลาย

ปลดสิ่งขวางกั้นผิวกาย ปลดปล่อยความรุ่มร้อนให้เป็นอิสระ

ริมฝีปากอุ่นแตะผิวหน้าท้องที่หดเกร็ง ฟันคมย้ำเบาๆไปทั่ว ขมเม้มอย่างไม่ปรานี



“จะทำไหม?” คนมาใหม่เอ่ยถามทั้งที่รู้คำตอบ ถามทั้งที่เริ่ม ‘ทำ’ ไปมากแล้ว


“อื้ม อ่ะ” ไม่ทันสิ้นเสียงเสื้อยืดของเขาก็ถูกดึงหลุดจากหัว ฝ่ามือหยาบลูบไล้ไปทั่วล่วงเกินทุกส่วนที่เข้าถึง



สองมือของคนเมาได้แต่โอบกอดร่างที่ทาบทับ จิกปลายนิ้วกับผิวอุ่น หายใจรดต้นคอของกันและกัน เกี่ยวรั้งรอบคออีกฝ่ายลงมาให้มอบจูบร้อนๆ ให้กับตน




จูบที่กระหายหิว จูบที่ละโมบและรุกเร้า



ทุกอย่างคืบคลานเผาอารมณ์ให้กระเจิง ไม่นานทั้งสองก็ไร้สิ่งขวางกั้น แขนแข็งแรงจับคนตัวเล็กกว่าที่ไร้เรี่ยวแรงให้นอนคว่ำ สอดแขนโอบรับน้ำหนักกลางลำตัว


การกลับมาทุกครั้งมีความหมาย หลังการบอกลาทุกครั้งมีคำสั่งแฝงในแววตาบอกให้กลับมาหา ถึงแม้คนฟังคำลาจะไม่ตั้งใจสื่อความหมายได แต่สายตาที่มองนิ่งๆ หรือความเงียบหลังจากนั้นก็ทำให้คนที่เป็นฝ่ายบอกลาต้องกลับมาเสมอ เพราะลึกๆ แล้วมันก็คือความต้องการของเขาเอง

ช่องทางคับแคบถูกแหวกนำทาง ผิวรอบๆ รัดตึงจนต้องกระซิบแผ่วบอกให้ผ่อนคลาย

แค่เสียงทุ่มคลออยู่ข้างหูมือเล็กก็จิกที่นอนติดมือแน่น แกร่งแขนและเริ่มรับน้ำหนักตัวเองไว้ อีกฝ่ายจึงเริ่มปล่อยมือและเริ่มจัดการกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าทันที

ร่างบางไถลไปตามแรงดุนดัน เขาถูกกุมกายส่วนล่างที่ตื่นตัวและเต้นหนึบ สิ่งที่แทรกเข้ามาไม่มีจังหวะให้เขาพักหายใจ

จังหวะที่สอดประสานเริ่มขึ้น และเพิ่มความร้อนขึ้นสู่จุดสูงสุดแทบจะทันที


ไม่มีคำพูดไดอีกระหว่างคนทั้งคู่



แม้แต่เสียงครางก็ยังถูกเก็บกลั้นไว้ในคอ แม้จะเกร็งจนต้องกลั้นหายใจ เสียวซ่านจนแทบน้ำตาไหล แต่มันก็อยู่ในความมืดที่กลบให้เหมือนทุกอย่างสงบและปกติดี






ใช่ เพราะเรื่องทั้งหมดนี้มันเป็นเรื่องที่ปกตินี่นา


----------------------------------
TBC.


โอมมม จงไม่งง โอมมม เพี้ยง!

5555+ เข้าใจใช่มั้ยว่าตอนท้ายไม่ใช่เรื่องของคู่หลัก
อารมณ์ต่างกันมากจนอยากไปเปิดเรื่องใหม่ให้ฟ้าเทเลยค่ะ  :katai1:


วันนี้มะนาวจะไม่อ้อแอ้ วันหน้าก็ไม่ (หราาาาาา) ของที่โกยมามากมายยังไม่ได้ใช้วันนี้ แปลว่า เอาไว้มอมตัวเองวันหน้า 555

หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 25 ย้ำ...บางอย่าง] 9/6/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 09-06-2016 06:44:09
ฮ่าๆ มะนาวอายขนาดยอมเอาตัวแลกเลยเหรอ
อย่างนั้นไม่อายสินะ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 25 ย้ำ...บางอย่าง] 9/6/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 09-06-2016 07:16:47
โว้วววว.   :katai2-1:   
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 25 ย้ำ...บางอย่าง] 9/6/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 09-06-2016 09:20:45
นาวจ๋าเอาตัวเข้าแลกบ่อยๆก็ดีนะ :hao6: :hao6:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 25 ย้ำ...บางอย่าง] 9/6/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 09-06-2016 10:14:09
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 25 ย้ำ...บางอย่าง] 9/6/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 09-06-2016 11:50:08
พี่เฟ ฝากเม ไว้กับยีนส์  :katai2-1:
อ้าว...ยีนส์ เม ก็พัฒนา เมขว้างก้อนน้ำแข็งให้ยีนส์ด้วย :hao3:

มะนาว พัฒนาแล้วทุกเรื่อง :katai2-1:
ฟ้า เท น่าติดตาม ดูเหมือนจะปฏิเสธ แต่ยังยอมรับกันและกัน :katai1:
รอ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 25 ย้ำ...บางอย่าง] 9/6/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-06-2016 13:31:27
หึหึหึ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 25 ย้ำ...บางอย่าง] 9/6/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: PaiPo ที่ 09-06-2016 21:20:33

ชอบฝั่งฟ้าเท ดูแบบ ไม่พูดไม่จาแต่เหมือนจะรู้กัน

รักการฝากฝังของเจ้เฟ 5555
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 25 ย้ำ...บางอย่าง] 9/6/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 10-06-2016 20:28:22
มะนาว เขินแบบนี้บ่อยๆจะเปลืงตีวนะลูกกก 5555
ฟ้ากับเท นี่คือใช้ร่างกายสื่อใจ??
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 25 ย้ำ...บางอย่าง] 9/6/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 12-06-2016 00:52:44
หลงแม็ตด้วยคน~~ :hao7:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 25 ย้ำ...บางอย่าง] 9/6/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 12-06-2016 08:21:38
รอฟ้าเท~
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 25 ย้ำ...บางอย่าง] 9/6/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: BChampa ที่ 13-06-2016 17:17:10
น้องมะนาวลูกแม่ ตายๆๆๆๆๆๆๆๆ หมดกันลูกเอ๊ย เลือดสาดดดด
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 25 ย้ำ...บางอย่าง] 9/6/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 15-06-2016 01:13:56
ขอบคุณค่า :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 25 ย้ำ...บางอย่าง] 9/6/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: mellowshroom ที่ 21-06-2016 08:17:34
ชอบคู่ในความมืดนี่จัง รออ่าน :impress2:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 26 นก] 23/6/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 23-06-2016 07:37:12
(http://i1159.photobucket.com/albums/p636/Browny_Tan/bro/loveagain2_zpscs9dbvrb.png)
- บทที่ 26 - นก -




หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านไปแบบไม่มีเขานอนหายใจอยู่ข้างๆ เหมือนเป็นเรื่องโกหก เพราะตอนนี้เขากลับมายึดเตียงผมอย่างสมบูรณ์

ไม่สิ ต่อไปนี้มันจะเป็นเตียงของเรา

เช้าวันนี้มะนาวนอนแผ่เต็มเตียง เต็มกว่าปกติมากที่ปกติจะนอนขดเล็กนิดเดียว สงสัยจะชินกับการนอนที่บ้านคนเดียว ผมค่อยๆ ขยับเข้าใกล้ หนุนลงบนหมอนใบเดียวกับเขา มองขนตายาวๆของเขา

ผมเคยบอกรึเปล่า ว่ามะนาวผิวสีน้ำผึ่ง ตาสองชั้นกับตาโตใสของเขาทำให้คนที่ถูกเขาจ้องมองยากจะหลบพ้นการดึงดูด จมูกรั้น ริมฝีปากบางๆและนุ่มมาก ทุกครั้งที่สัมผัสผมอดไม่ได้ที่จะวนกลับไปสัมผัสอีก แก้มที่ไม่มากไม่น้อย หูเล็กกางนิดๆ กับผมบางที่แสนจะนุ่มนิ่ม

นิ้วมือของเขายาวเรียว มือเขาสวยมาก จนอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปรั้งมือเขาขึ้นมาจูบ

ผมจูบลงบนหลังมือเขา จับมือเขาให้กุมแก้มผมไว้

“อื้ม”

“ตื่นเถอะ” กระซิบเบากลัวทำเขาจะตกใจ

มะนาวพลิกตัวมาทางผม ง้อตัวบิดขี้เกียจ ก่อนพูดเสียงยาว

“ก็ได้ กี่โมงแล้ว”

“11” ผมเขี่ยผมเขาไปมา ดึงเอวเขาให้เข้ามาใกล้อีกหน่อย จูบขมับรับตื่นนอน

“อยากไปไหนไหม หาไรกิน ซื้อของ หรือดูหนังดี” เขาถาม

“คิดว่า เราไม่มีเวลาว่างพอหรอกนะ”

“ก็วันนี้วันอาทิตย์ไม่ใช่เหรอ?”

“ใช่ แต่เหลืออีกอาทิตย์เดียวก็มิดเทอมแล้วนะ”

“ห่ะ กูรู้สึกเหมือนเพิ่งเปิดเทอม” ตอนนี้เสียงเขาไม่เหมือนคนเพิ่งตื่นนอนอีกแล้ว มะนาวนอนลืมตามาเจอหน้าอกผม เขาเหมือนจะดันแล้วเบี่ยงตัวออก แต่ผมล็อดเอวเขาไว้ไม่ให้หนีได้

“เหลือรายงานอีกสามวิชา การบ้านกองใหญ่ๆ อีกสามวิชาทั้งดรออิ้ง แม็ต เจนฟิ เจนเคม ยังดีอิ้งไม่มีงานค้าง คิดดูจะเอาเวลาที่ไหนไปเที่ยวเล่น”

“จริง”

มะนาวตั้งคางกับหน้าอกผม แล้วถอนหายใจออกมาพร้อมกัน ปลงกับชีวิตที่ไม่มีวันว่างเหลืออยู่เลย

แค่คิดว่าจะเผางานยังไงให้ทันส่งก็ดูยากแล้ว แล้วไหนจะต้องหาเวลาไปอ่านทบทวนที่เรียนมาทั้งหมดอีกนี่สิ





ตอนบ่ายสบายๆของเรา เลยกลายเป็นต้องหอบงานทุกอย่างเข้าคณะไปนั่งทำใต้ตึกเรียนกับพวกเพื่อนๆ ที่เรียนเซคเดียวกัน พวกที่ทำแลปด้วยกันก็นั่งทำอยู่โต๊ะข้างๆ ดูเหมือนพร้อมใจอย่างกับนัดกันมา เราแชร์งานกันเพราะต่างก็ไม่มั่นใจว่าตัวเองทำถูกไหม และที่สำคัญลืมวิชาไหนไปบ้างรึเปล่า





................................................................


ทั้งอาทิตย์เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ทั้งต้องทำงานทั้งมีติว กลับถึงห้องก็หลับเป็นตายกันทั้งคู่ วันนี้วันเสาร์ก่อนสอบ ก็ยังมาติวในคณะ

“อ่ะ ก็ประมารนี้ วิชานี้ไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่าย จับหลักให้ได้ดูออกก็ทำเป็น ลองทำแบบฝึกดู ไม่เข้าใจตรงไหนเดินมาถามพี่ได้ตลอด ยกเว้นตอนกูเมากับตอนขี้ โอเคนะ”

พวกเรานั่งฟังพี่เทสอนดรออิ้งอยู่บนพื้นของห้องสโมสรนักศึกษารวมกับเพื่อนๆปีหนึ่งอีกยี่สิบกว่าคน ที่นี่คือห้องสโมสรนักศึกษา จะมีพวกพี่หมุนเวียนเปลี่ยนกันอยู่ตลอดเวลา ห้องนี้ไม่เคยปิด และห้องนี้มีทุกอย่าง อุปกรณ์กีฬา กลองสัน โซฟา ทีวี40นิ้ว เครื่องแบบนักศึกษา ตุ๊กตาหมีตัวใหญ่กว่าผม ลังเครื่องดื่มชูกำลัง หม้อครกกระทะ เตาแก๊ส และแน่นอนเตาบาร์บีคิว ไวท์บอทใหญ่สองแผ่นที่ปกติจะเขียนตารางงานและนัดหมายมากมายตอนนี้มันถูกลบแล้วเปลี่ยนเป็นกระดานสำหรับติวให้ปีหนึ่ง

หลังเลิกเรียนผมมาที่นี่แทบทุกวัน เพราะขี้เกียจอ่านเอง เมื่อวานติวฟิสิกส์ วันนี้เป็นดรออิ้ง ผมว่าผมเข้าใจนะ แต่ดูเหมือนบางคนกำลังนั่งน้ำลายฟูมปาก

“เชี้ยแม็ต มึง อันนี้มาได้ไงวะ”

“ก็ลากเส้นตัดมาจากตรงนี้ไง อยู่ๆ มันจะหายไปเฉยได้ไงล่ะ หาที่ลงให้มันสิ”

“เชี้ยไรวะเนี่ย” เมเป็นหนึ่งในฝูงคนที่น้ำลายฟูมปากครับ มันโวยวายตลอดเวลา ตอนแรกคนที่นั่งข้างมันคือมะนาว แต่เขาทนไม่ไหวเมถามนั่นถามนี่ตลอดเวลา จนขอสลับที่กับผมเพื่อให้เมถามผมแทน

“อีกครึ่งชั่วโมง พี่ยีนส์จะมาสอนแม็คคานิคนะ ไปหาไรกินหรือโทรตามเพื่อนก็ตามสบาย” พี่เทพูดขึ้น พร้อมๆกับเขียนเวลานัดไว้บนไวท์บอร์ท



“มึง กูกลับก่อนนะ” จากที่ยังหมกมุ่นกับแบบฝึกหัดเมหยุดทุกอย่าง โกยของทุกชิ้นใส่ถุงผ้าไม่สบตาพวกเรา มันพูดเบาๆ แค่ให้พวกผมได้ยินแต่เชื่อไหมครับ เพื่อนทั้งหมดหันมามองที่เม

“เมๆ ถ้าน้องเมกลับพี่ยีนส์ก็ไม่มานะ แล้วเขาก็สั่งทุกคนห้ามสอนแทนด้วย” พี่เทหัวเราะไปพูดไป แต่มันคงสยองมากสำหรับเม

“ไอ้ดาว มึงอยู่เลย”

“เออ วิชานี้ยากสัส ถ้าไม่ได้ติว กูตาย”

“ตัวนี้สอบวันแรกเลยนะเว้ย”

“ตายยกแผงเนี่ยแหละถ้ามึงกลับ”



“กูจะกลับ” เมไม่สนใจ ยังคงยืนยันว่าจะกลับ

เมตั้งเข่ายาวๆ ขึ้นทำท่าจะลุกขึ้นจริงๆ คนที่ไวที่สุดคือพงศ์ที่นั่งข้างเม จับหัวเข่าข้างนึงแล้วกอดไว้
 
“เฮ้ย! อะไร!”

“ไม่ให้มึงไปไหนได้หรอก”

มะนาวลุกขึ้นไปกดไหล่ เพื่อนข้างหลังกอดเอว ขาข้างหนึ่งของมันถูกเพื่อนผู้ชายจับไว้ เอ้นั่งทับกลางตัว คนอื่นๆกรูกันเข้ามา เกิดความวุ้นวายหนังสือกระจุยกระจาย จนผมต้องถอยหลบออกมาหัวเราะอยู่ห่างๆ

เสียงเมโวยวายด่าทุกคนที่มันมองออกว่าใครเป็นใครไม่ทำให้ใครยอมใจอ่อนผ่อนแรงหรือคิดปล่อย กลับกันยิ่งมันดิ้นทุกคนยิ่งรุมหนัก

“ปล่อยยยยยย”

“ไม่ มึงต้องสัญญาก่อนว่าจะไม่กลับ”

“เรื่องของกู ปล่อย โอ้ย เจ็บ สัส”





“เฮ้ยๆ เอะอะอะไรกัน?”



พี่ยีนส์ยืนเท้าแขนกับประตูสโม ถอดรองเท้าอยู่ตรงประตู เสียงเขาดังจนทั้งห้องเงียบกริบ



“เล่นไรกัน?” เสียงเย็นๆ ถามในความเงียบ “ไป กลับไปนั่งที่”


“พรึ่บ!”

ม็อบสลายตัวเพราะดูเหมือนมิชชั่นจะคอมพลีส คงอยากจะหัวเราะ แต่ติดอยู่ที่ตรงเสียงดุๆของพี่แกทำให้ทุกคนรำลึกถึงช่วงเชียร์ที่ยากลำบาก

พี่ยีนส์มาถึงไวกว่าที่คาดไว้มาก เขามองเด็กคนอื่นๆ เดินไปนั่งที่ แต่ตัวเองทำเดินไม่รู้ไม่ชี้มาทางผม ซึ่ง ผมว่าเขาไม่ได้มาหาผม แต่ใช้ผมเป็นข้ออ้างอีกตามเคย

เมที่กำลังล้มลุกคลุกคลายค่อยๆ ตะกายขึ้นจากพื้นมานั่งปัดเสื้อผ้า ทำหน้าบึ้งและทำเป็นไม่มองคนมาใหม่  แต่ผมเห็นนะ ว่าหางตามันแอบชำเลือง

“อะ” พี่ยีนส์วางถุงสีขาวเล็กๆ ลงบนพื้น มันก้ำกึงระหว่างผมกับเม แน่นอน มันอยู่ในสายตาคนทั้งห้อง

“ไม่ได้ให้ผมแน่” ผมส่ายหน้ากับตัวเอง ก่อนเงยหน้ามองพี่

“เออ”

เขาตอบผมแค่นั้น แถมยังยักคิ้วให้อีก ผมหลุดหัวเราะ ก่อนจะเลื่อนถุงไปทางเมพร้อมๆ กับพี่ยีนส์แกออกเดินต่อ

ปฏิกิริยาตอบโต้ของเมไวมาก เมเลื่อนคืนมาทางผมอย่างไว แต่มันไสลไปไกลจนไปชนเท้าพี่ยีนส์ที่เพิ่งเดินออกไปได้แค่สองก้าว

พี่แกหันมาทำหน้าดุใส่เค้ก แต่เมก็ยังตั้งใจหลบตากอดเข่าทำไม่รู้ไม่ชี้

“ของกิน อย่าเล่นสิ” พี่ผมดุใส่เค้ก

ก่อนพี่แกหิ้วเค้กขึ้น เอากลับมาวางที่เดิม ย้ำว่าที่เดิม ก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องอีกห้องที่อยู่ข้างใน เกิดเสียงกรี้ดและพูดคุยดังลั่น

“กรี๊ด มึงเห็นท่าทางประธานป่ะ ดาร์คสุด แต่มุ้งมิ้งสุด”

“เขาจีบไอ้ดาวจริงเหรอเนี่ย กูนึกว่าข่าวโคมลอย”

“หูยย ชัดของชัด”

“เขาเอามาให้หลานรหัสเขา ไอ้นี่หรอก” เมเอาคางชี้มาที่ผม ผมเห็นเอ้กับพงศ์สบตากัน แล้วเบะปากแรงมาก

“เขาก็บอกชัดๆ ว่าไม่ได้ให้ไอ้แม็ต” เอ้โวยวายเสียงดัง เขย่าคอพงศ์ระบายอารมณ์ “เขาให้มึงก็แดกๆไปเถอะ มึงรู้ไหมว่าชะนีทั้งห้องนี้อิจฉามึงมากขนาดไหน ฮ่วย”

“ก็ยังมีสาวอยากได้เมอยู่บ้างนะมึง ฮ่าๆๆ” เพื่อนผู้ชายคนนึงพูด คงเพราะเพื่อนข้างๆ ชอบเมมากว่าชอบพี่ยีนส์

“เพื่อนจะมีผัว ซาบซึ้ง” พงศ์เลยโดนเมเอาถุงผ้าฝาดไม่ยั้ง

“ของดีพรีเมียมมึงอย่าเล่นตัว”

“เล่นตัวห่าอะไร มันไม่ได้จีบกู” เมเถียงสุดชีวิต

“หยอดไง ค่อยๆ หยอด”

“พี่กูฝากมันไว้หรอก ไม่ได้มีอะไรเลย”

“มึงหรือเขาที่เอาพี่มาอ้าง เขาจีบมึงมึงก็ยอมรับ” มะนาวร่วมลงสนามด้วยครับ ผมได้แต่มองหน้าเมที่ถูกทุกคนกดดัน

“จีบเหี้ยไร อาทิตย์นี้ยังไม่พูดกับกูสักคำ”

“อ้อ น้อยใจ เขาจีบแต่ไม่ยอมพูดด้วยเลยงอน เนี่ยติวเสร็จเดี๋ยวเขาก็ไปส่งมึงที่หอ คอยดูนะ”

“กูกลับกับแม็ต”

“แม็ตมันน้องพี่ยีนส์เว้ย จะกล้าขัดพี่มันได้ไง” ไอ้น้ำสมทบ

“เดินกลับก็ได้”

“สี่ทุ่มเนี่ยนะเดินกลับ พี่แกคงยอมเนอะ” ทุกคนไม่มีใครเข้าข้างเมเลย

“มันอยากให้พี่เขาอุ้มขึ้นรถ” พงศ์ก็โดนเมบีบคอไปตามระเบียบครับ





จะอธิบายยังไงดี ทั้งอาทิตย์หลังเรียนเสร็จ เราตระเวนนัดติวกับนัดอ่านหนังสือในคณะกันตลอด แล้วสาวๆจะได้กรี๊ดประธานเชียร์ตอนดึกๆ ใกล้ๆ เวลาแยกย้ายกลับทุกวัน พี่ยีนส์จะมาเลียบๆ เคียง ทำมาเป็นอธิบายบทเรียนที่ค้างอยู่ให้จบ สอนทำข้อสอบบ้างอะไรบ้าง แทบทุกวัน

ตอนใกล้จะกลับจริงๆ จะมีพี่โนอามาเกาะแขนเมแล้วพาขึ้นรถพี่ยีนส์หายไป

แล้วข่าวเรื่องพี่ยีนส์กับพี่โนอาที่ทุกคนเข้าใจว่าเขาเป็นแฟนกัน แต่ความจริงมันไม่ใช่ เรื่องนั้นกำลังเป็นที่พูดถึง จึงมีคำถามตามมาว่าถึงรายละเอียดว่าคนที่พี่ยีนส์ไปติดคือใคร แล้วคนที่พี่โนอาชอบ คือใคร

เรื่องพี่โนอาคนที่สนใจก็มีแต่พวกผู้ชายที่ไม่ค่อยมีปากมีเสียงอะไรครับ แต่เรื่องพี่ยีนส์ที่เป็นที่หมายปองของหญิงแท้หญิงเทียมทั่วทั้งมหาลัยเนี่ยสิ ถูกขุดขึ้นมาพูดถึงซ้ำแล้วซ้ำอีก พอได้ยินโต๊ะข้างหลังกระซิบกระซาบสงสัยดังๆ เป็นรอบที่สาม เพื่อนๆ ผมทุกคนก็คันปากทนไม่ไหว ทั้งเอ้ ทั้งพงศ์ และมะนาวก็ต้องตั้งโต๊ะแถลงข่าวไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา

“มึงคิดว่าพี่ยีนส์เขาจะพิศวาสหลายรหัสผู้ชายตัวใหญ่ๆ แบบไอ้แม็ตขนาดเทียวแวะเวียนมาดูทุกวันๆ ไหมล่ะ”

“เขามาดูมะนาวเหรอ?” เพื่อนคนหนึ่งถาม ผมหัวเราะพรืด

“ไม่ใช่กูเว้ย ดูทำไมกูครับ มึงดูดีๆ โต๊ะกูเนี่ยแหละ นั่งกันอยู่ 6 คน ตัดกู ตัดแม็ต ตัดน้ำ” เกิดเสียงโวยวายอย่างกะพรายกระซิบ เอ้ พิ้งค์ เม

ทุกคนมองตาม ไม่สนการบ้านที่กำลังทำอีก แม้แต่คนเล่นมือถือก็เลิกเล่นหันมาพิจารณาตามเหตุผลและความเป็นไปได้

“กูปวดฉี่” เมพูดพร้อมๆ กับลุกขึ้นยืน ซึ่งมันเหมือนกับการสารภาพบาปกลางห้องสอบสวน

ทุกคนอยากถาม แต่เมไม่สบตาไม่มองหน้าใครทั้งนั้น เดินหายไปท่ามกลางเสียงซุบซิบที่ดังขึ้นแทบจะทันที สงสัยแต่ยังไม่ทันเฉลย คนในหัวข้อสนทนาที่ทุกคนรออยู่ก็มา

“ไง วันนี้อ่านอะไรกัน” พี่ยีนส์เดินเข้ามาเพราะตอนนี้สามทุ่มกว่าแล้ว

“วันนี้อ่านกันเองครับ ไม่ได้ติวอะไรเป็นพิเศษ” พี่แกมายืนข้างหลังผม ชะโงกดูหนังสือบนโต๊ะ ก่อนจะอ้อมไปยืนหัวโต๊ะ

“เหรอ... แล้วเพื่อนล่ะ?”

ฮ่ะๆ มาถึงตรงนี้ผมอยากจะซูมหน้าเพื่อนๆ ผู้หญิงทั้งหลายของผมครับ ทุกคนตรงนี้ก็คือเพื่อนผมทั้งนั้นครับ แต่มีแค่คนเดียวที่หายไป ไอ้เม

“ไปห้องน้ำครับ” ผมตอบ เพราะไม่รู้สินะ ก็มันรู้นี่นาว่าหมายถึงใคร

“เออ เดี๋ยวโนอาแวะมามั้ง เห็นบอก ไปล่ะ”

คำว่าไปแล้วของเขา มาพร้อมกับถุงเล็กๆ ที่ผมไม่ทันสังเกตในตอนแรก พี่แกวางลงบนชีทที่เปิดค้างแต่ไม่มีเจ้าของนั่ง ตรงที่ของเม พี่ยีนส์เหยียบรองเท้าหนังออกไปได้ไม่ไกลทุกคนก็แตกฮือขึ้นมาดูว่ามันคือถุงอะไร

“กูรู้แล้วๆๆๆ”

“ถ้าเมื่อกี้ไม่พูดเรื่องนี้อยู่กูจะไม่สังเกตเลย”

“เฮ้ย จริงดิ ไหนอะไร”

“เค้กวะมึง เมมันกินเค้กแทนข้าวไม่ใช่เหรอ”

เก็บเล็กผสมน้อยจนทุกคนมีข้อมูลตรงกัน โยงไปถึงวันนั้นที่พี่เฟมาที่ร้านเหล้าด้วย รวมถึงการถ่ายทอดข้อมูลมากมายที่พวกมันรวบรวมไว้



นั่นเป็นเรื่องเมื่อวันพุธครับ ผ่านมาสองสามวัน แทบทุกคนก็รู้ทั่วกันว่าพี่ยีนส์ของผมนั้นทำลับๆล่อๆเลียบๆเคียงๆไม่ห่างเม เรียกว่าใครที่รู้จักสองคนนี้ก็พลอยรู้เรื่องนี้กันหมด

 



คิดแล้วก็ตลกไอ้เม บอกไม่ชอบพี่เขา บอกเขาไม่ได้จีบ แต่ตัวมันเองก็ไม่เห็นมีแฟนใหม่สักที แถมเขาเอาอะไรมาให้ก็กินหมด

ตอนที่นั่งบิดขี้เกียจอยู่ มะนาวสะกิดเรียกผม

“มึงๆ”

“อะไร”

“ดูนั่น” มะนาวแอบชี้ไปที่ประตูสโมที่มีผู้หญิงคนนึงยืนอยู่ เธอกำลังมองซ้ายมองขวา มองไปทั่วทั้งห้องเหมือนว่าหาอะไร แต่แป็ปเดียวก็เดินหายไปไม่ได้เข้ามาข้างใน

“ใครเหรอ?”

“คนที่พี่เทจีบอยู่”

“หื๋อ?” จีบ?

“พี่กูบอกเขาไม่เล่นด้วย”

“อืม” เหรอ

“แต่กลับไปแอดเฟรนพี่ฟ้าแทน”

“...”

“กลายเป็นคุยกับพี่ฟ้าแทน”

“แล้วพี่เททำไง” ทำไมรู้สึกเรื่องนี้มันมีกลิ่นแปลกๆ

“ทำไงก็อกหักดิ”

“อ้อ” ผมทำเป็น อ๋อเหรอๆ ไปเรื่อย ทั้งที่งงมาก พี่เท เป็นแฟนพี่ฟ้า ไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไม.... งงแหะ




“เฮ้ย มะนาว”



มะนาวสะดุ้งเพราะคนที่เรียกเขาอยู่หน้าประตูคือพี่เท ไม่ทันขาดคำตัวจริงก็มายืนเรียกอยู่ตรงที่ผู้หญิงคนเมื่อกี้เพิ่งเดินหายไป

“ไรพี่” มะนาวลุกลี้ลุกลนถามกลับ

“ไปเต้นสันกัน ปีหนึ่ง ใครอยากยืดเส้นยืดสายไปเต้นกัน”

พงศ์กับมะนาวลุกขึ้นยืนทันที  หลายๆ คนก็ทำตาม รวมทั้งผมด้วย

“มึงจะไปเต้นด้วยเหรอ?” มะนาวหันมาถามผมทันที

“ผัว เอาจริงดิ?” พงศ์ก็ดูแปลกใจ ฮ่าๆๆ แปลกใจอะไร

“ไปห้องน้ำต่างหาก”


“วู้ ตกใจหมด” พอเห็นผมตอบกึ่งกวนประสาท พวกนั้นสะบัดตูดผลักๆ พงศ์ให้รีบเดินตามพี่เทไปไม่สนใจผมอีก



ถ้าผมอยากจะไปเต้นจริง มันแปลกขนาดนั้นเลยเหรอ ผมแค่ตัวสูงโยกเยกและดูยวบยาบตัวขาวซีดหน้าเนิร์ดๆ แต่แว่นตามันไม่ได้แปลว่าคนใส่จะต้องเรียบร้อยนะ





(มีต่อ)
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 26 นก] 23/6/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 23-06-2016 08:00:03


“ฟ้า”


“อ้าว พี่วิ”

“ทำไมต้องทำหน้าตกใจที่เห็นพี่ด้วยล่ะ”

“เปล่านี่ครับ”

“เป็นไงบ้าง นี่กำลังจะไปไหนเหรอ?”


อืม เขาคุยกันอยู่ งั้นคุยเสร็จผมค่อยออกจากห้องน้ำแล้วกัน มาคุยกันทำไมหน้าห้องน้ำนะ? ออกไงล่ะเนี่ย

เห้อ ผมเลยต้องยืนอยู่กลางห้องน้ำเงียบๆคนเดียว


“ไป เอ่อ ไปปริ้นงานที่ร้านข้างนอกน่ะครับ”

“ไปด้วยได้ป่ะ?”

“ผมไปกับเพื่อนครับ พี่มีไรป่าว”

“เสียดายจัง คือ นี่เอกสารฝากให้นายกสโมหน่อย”

“อ้อ ได้ครับ”

“เดี๋ยว ฟ้า ฟ้าไม่ค่อยได้เล่นเฟสเหรอ” ผมได้ยินเสียงย้ำเท้าถี่ๆ พี่ผู้หญิงคงอ้อมไปดักพี่ฟ้า

“ใช่ ทำไมเหรอ”

“เห็นไม่ค่อยตอบแชท เลยสงสัยเฉยๆ น่ะ”

“งั้นแหละ พอดียุ่งๆ ต้องเตรียมหลายอย่าง”

“ไม่เป็นไร แต่ คือ บางทีก็ตอบบ้างได้ไหม”

“...”

“ฟ้าก็รู้ว่า...”

“ก็เหมือนกับที่พี่ไม่ตอบไลน์เมทผมนั่นแหละครับ”

“ถ้าไม่ชอบที่พี่คุยกับเทพี่เลิกคุยให้ก็ได้นะ”

“ไม่ได้เกี่ยวกันครับ อย่าเข้าใจผิด”

“แล้ว แล้วทำไมไม่”

“ผมว่าผมชัดเจนนะ ว่าเราคุยกันแค่เท่าที่เป็นเรื่องงาน”

“ฟ้า”

“ขนาดเรายังไม่ได้เป็นอะไรกัน พี่ยังเรียกร้องสิ่งที่ผมให้ไม่ได้มากขนาดนี้ ถ้าอยากจะคบกันพี่คิดดูว่าความสุขพี่คือการที่ผมไม่พูดด้วย ไม่เจอหน้าไม่รับโทรศัพท์ ไม่มีเวลาให้ รึเปล่าล่ะครับ”

“ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะ ถ้าเป็นแฟนกัน จะเป็นอย่างนั้นได้ไงล่ะ ถ้าเป็นแฟนกันจะไม่ได้เจอได้ไง มันต้องไม่เป็นแบบนั้นสิ เป็นแฟนก็เพื่อเจอหน้ากันโดยไม่มีเหตุผลไงล่ะ”



“แล้วพี่คิดว่าผมจะมีความสุขกับการคอยเอาใจคนเอาแต่ใจอย่างพี่งั้นเหรอ?”

“ฟ้า”

“พี่ชอบผม หรือแค่อยากใส่ปลอกคอให้ผมกันแน่?”

“ฟ้า! เพี้ย!”

เสียงนั้นสนั่นจนผมนิ่วหน้าหน้าชาแทน นี่มันอะไรเนี่ย

ผมรอจนได้ยินเสียงวิ่งหายไปไกลๆ รอให้พี่ฟ้าเดินไปค่อยออกจากห้องน้ำ แต่กลับกันพี่เขากลับเดินเข้ามาในห้องน้ำเจอผมยืนพิงอ่างล้างหน้ากอดอกอยู่

ผมได้แต่ยิ้มแห้งๆให้ไป ทันทีที่เห็นผม เขาชักสีหน้า ขมวดคิ้ว เหมือนใช้ทั้งตัวเค้นคำพูดออกมา

“มึงอีกแล้วเหรอ?”

ผมก็กำลังสงสัยเหมือนกันเลยพี่ เป็นกูอีกแล้วเหรอ?

“ก็ ประมารนั้นแหละครับ” จะหัวเราะก็คงไม่ใช่อารมณ์ จะปลอบใจก็ใช่ที่ จะบอกว่าผมเข้าใจพี่ผมก็ไม่เข้าใจไง

“เออ ดีที่เป็นมึง รู้งานใช่ไหม?”

“คร้าบบ”

“ไปๆ กลับสโม เอานี่ ฝากวางโต๊ะนายกด้วย” ผมรับของมาเป็นแฟ้มเอกสารใหญ่ๆแต่ข้างในมีเอกสารไม่กี่แผ่น ผมพยักหน้ารับทุกอย่าง ก็ไม่ได้อยากอยู่ตรงนี้ต่อเท่าไหร่หรอก แต่ไม่รู้วิญญาณมะนาวเข้าสิงหรือยังไง ผมดันหันกลับมาทั้งตัวแล้วเผลอเรียกพี่ฟ้าไว้ซะเอง

“เออ พี่”

ชิบหาย พูดดีไม่พูดดี?

“ไร”

 “พี่เขา ใส่เสื้อแดงใช่ไหม”

“ใช่มั้ง ไม?”

“เปล่าครับ” ไม่เอาดีกว่า กลับๆๆๆ ผมเปลี่ยนใจกะทันหัน ไม่ถามต่อ

“เฮ้ย จะเปล่าได้ไง บอกมา” น้ำเสียงดุๆแบบที่พวกรุ่นพี่เขาใช้นี่ไปฝึกมาจากไหนวะ โทนเดียวกันหมดเลย

เอาว่ะ พูดก็พูด



“ผมแค่กำลังสงสัยว่า เมื่อกี้เขาแวะไปที่สโมมาแล้ว ทำไมเขาไม่เอาเข้าไปวางเอง”

“เห็นเหรอ”

“เขาชะโงกหน้าเข้ามา เหมือนหาใคร แล้วก็ออกไป”

“จริงดิ เออ เซง เป็นงี้แหละ ถ้ากูเข้าใจเขาทุกอย่างกูคงไม่โดนตบหรอก จริงไหม มาชอบกูเอง ทำไมกูเจ็บตัวก็ไม่รู้ แม่ง ไปได้แล้วมึง กูจะฉี่”




ผมเดินออกจากห้องน้ำ เสียงกลองของสันยังดังอยู่ไกลๆ ทุกคนคงยังไม่กลับมาหรอก ผมเลยกะว่าจะอ้อมไปโรงอาหารก่อนกลับเข้าห้องสโมฯ แต่ยังไปไม่ถึงไหน

“แม็ต”

“ไง อาร์ม”

“ไม่เจอเลย เป็นไงบ้าง?”

“ก็เรื่อยๆ แต่ก็วุ้นๆ ใกล้สอบน่ะ”

“เหมือนกัน แล้วนี่จะไปไหนเหรอ”

“หาไรกินนะ”

“ขอคุยด้วยแปปนึงได้ไหม”

“อ้อ ได้สิ” เขาเดินนำผม มันคือทางที่ผมเพิ่งเดินออกมา

สังหรณ์ผมแม่นจริงๆเพราะมันคือหน้าห้องน้ำที่เดิมเลย

“ยินดีด้วยนะ กับผลการประกวด จริงๆแม็ตควรจะได้ตำแหน่งเดือนมหาลัยด้วยซ้ำ เพื่อนๆเราก็เห็นตรงกันนะ”

“ขอบใจ”

“จะรังเกียจไหมถ้าจะขอเป็นแฟน?”

“ว่าไงนะ?” ผมคิดว่าผมต้องได้ยินอะไรผิดแน่ๆ

“เราอยาก เอ่อ ศึกษาดูใจไง แบบ ลองคบกัน”

ผมว่าแล้ว ตั้งแต่แรกมันแปลกๆ อุตส่าห์เลี่ยงมาตลอดวันนี้มาถึงจนได้

“แม็ตคิดว่าไง?” เขาช้อนตาขึ้นมามองผมด้วยสายตาแปลกๆ

เอ่ออออออ...

คิดไปไกลขนาดไหนถึงกล้าพูดออกมาขนาดนี้ ผมจะพูดยังไงให้เขาเข้าใจผมเนี่ย

“เอ่อ จะว่ายังไงดีล่ะ”

“แค่ขำๆ ไม่ชีเรียสดิ”

“คือเราไม่ได้รังเกียจ หรืออะไรนะ แต่เรามีคนที่คุยด้วยอยู่แล้ว”

“ไม่เห็นเป็นไรเลย คุยกับเราอีกคนก็ได้นี่”

เฮ้ย ไม่ได้ดิ นี่ไม่ได้แปลว่าผมปฏิเสธเขาชัดแล้วเหรอ หื๋อ ผมเข้าใจอะไรผิดเหรอ?

“มันคงไม่ดีมั้งกับอาร์ม กับคนที่เราคบด้วย” ผมพูดตรงๆ



“งั้นเราขอแค่เกียร์นายแล้วกัน”

เขายกมือขึ้นมากำเกียร์ผมก่อนที่จะพูดจบซะอีก แล้วทำท่าจะดึงเอาไปทันที

ผมคว้าข้อมือเขาไว้ กำไว้จนแน่นไม่ให้ดึงไปได้

เฮ้ย! อะไรวะ?

“คิดจะทำอะไร?”

“ก็ให้แล้วไม่ใช่เหรอ?”

“ห่ะ?” บอกเลยว่าผมหน้าเหวอมาก

อะไร? ให้เหรอ? ตอนไหนวะ

 ผมงงไปหมด แต่ความคับขันตรงหน้าทำให้ผมต้องทำทุกทางเพื่อไม่ให้เขาได้ไป

“ขอเรานะ”

“เสียใจ แต่คงให้ไม่ได้ ไม่ใช่ของที่จะเอาไปเที่ยวแจกใคร มันมีชิ้นเดียว และมันก็สำคัญ”

ผมออกแรงบิดข้อมือเขา จนเขานิ้วหน้า เรื่องอะไรจะยอมให้เอาไปได้ง่ายๆ

“เฮ้ย พวกมึงอ่ะ เสียงดัง คนจะขี้ไม่มีสมาธิเลย”

อาร์มดูท่าทางตกใจ แต่ผมไม่ ผมรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าพี่ฟ้าน่าจะยังอยู่ข้างในห้องน้ำ และได้ยินทุกอย่าง

เขาลอกแลกมองประตูห้องน้ำข้างหลังผมกับมองมือตัวเองสลับกัน

“ถ้าอยากได้แค่เกียร์ ก็ไปหาคนอื่น เราคงให้ไม่ได้” ผมบีบแรงขึ้น จนสุดแรงที่มี เขายอมคลายมือในที่สุด



“ยังไม่ไปอีกแม่ง”

ปึ้ง!



พี่ที่เคารพถีบประตูห้องน้ำแถมยังเพิ่มเลเวลความหงุดหงิดขึ้นไปอีก

อาร์มมองตาผมอย่างขุ่นเคือง

เอ้อ เคืองก็เคืองดิ

เขาเดินไปอีกทางและหายไป ผมยังยืนกำเกียร์อยู่ตรงนี้ ยังงงไม่หาย อะไรของเขาวะเนี่ย?

เก็บเกียร์เข้าไปในเสื้อให้เรียบร้อย นี่จะเอาออกมาห้อยต่องแต่งไม่ได้เลยใช่ไหมเนี่ย



“หึ ฮ่าๆๆๆ แม่งงงง” พี่ฟ้าอกมานั่งยองๆตรงประตูห้องน้ำแล้วกุมท้องหัวเราะใส่ผม

“ไม่ตลกเลยพี่”

“กูไม่ได้หัวเราะมึง แต่หัวเราะเราเนี่ย ทั้งคู่เลย ทีนี้เข้าใจกูชัดเลยใช่ไหมล่ะ”

“โคตรชัดเลยพี่ เรื่องอะไรของกูวะเนี่ย ทำไมต้องกู?” ผมยังสับสน มองงงไปทางที่อาร์มเดินหายไป

“งี้แหละ เจ้เมื่อกี้กูปฏิเสธไปหลายรอบแล้วนะ ไม่ใช่ไม่เคย แต่เขาก็ยังเข้าข้างตัวเองว่ากูมีใจแน่ๆ อยู่อย่างงั้นอ่ะ ไม่รู้ไปเอาความมั่นใจมาจากไหน โคตรงงเลย”

“ผมว่าผมไม่เคยให้ความหวังเขาเลยนะ”

“กูว่ากูเข้าใจ”

“ผมก็คิดว่าผมเข้าใจพี่นะ”

ต่างคนต่างทบทวนสิ่งที่เจอ เราต่างเงียบ แต่อยู่ๆ เราก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกัน

“ฮ่าๆๆๆ ไปเดี๋ยวเลี้ยงสโมกกี้แก้ซวย” พี่ฟ้ากอดคอผมลากไปทางเซเว่น งงก็ยังงง อารมณ์ก็เสีย อะไรก็ไม่รู้

“แก้ได้เหรอพี่” สโมกกี้เนี่ยนะ

“ไม่หรอก กูแค่อยากกิน”

ครับ



แล้วผมก็มีฟุตลองอยู่ในมือ ไม่แค่นั้น พี่ฟ้ายังซื้อโค้กอีกสองขวดใหญ่ๆ แล้วเดินไปหาพวกที่เต้นอยู่หน้าตึก

ผมเดินมาจากข้างหลัง เห็นมะนาวกับคนอื่นๆอยู่ตรงกลาง มีพี่ๆเต้นประกบ เต้นนำให้ดู พวกมันดูเงอะๆงะๆ ตลกดีจนผมเผลอยิ้ม

พี่เทกับพี่มีมี่ถือโข่งร้องเพลงเดินวนไปรอบๆ มีพี่ๆที่ผมคุ้นหน้าหลายคนอยู่

“แบม อะ ให้น้องกินนะ”

“ฟ้า โหยย ขอบคุณมาก” เพื่อนพี่ฟ้ากระโดดกอดคอพี่แกหนึ่งที แล้วรับไป เพราะพี่ฟ้าตัวสูง พี่คนนั้นถึงได้แค่โอบตบๆที่คอ แต่มันก็มากพอให้ผมหันไปมองพี่เททันที

พี่เทที่ถือโข่งร้องเพลงให้เพื่อนๆ ผมเต้นอยู่ เหมือนละสายตาไปก่อนผมหันมาแค่เสี่ยววินาที ปากเขายังร้องเพลงต่อไป แถมยังยิ้มร่าเริงเป็นปกติ

ผมโดนผลักหัวเบาๆ จากข้างหลัง

“มองไรวะ” พี่ฟ้าถามผมด้วยน้ำเสียงกวนๆ

รู้อีกว่ามองอะไร

แต่มาคิดๆดูแล้ว เขาอาจจะสนิทกันมากก็ได้มั้ง ผมยังเคยเห็นพี่โนอากอดพี่เทเลยนี่นา ถ้าสนิทกัน กอดคอเกาะไหล่คงปกติมั้ง



 


ช่วงสอบทั้งอาทิตย์เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ออกไปติวกับพี่ๆ ที่ตั้งโต๊ะสอน หรือติวกันเอง กลับมาก็ยังอ่านกันเองอีก มะนาวสลบคาหนังสือไปหลายรอบ เพราะแทบไม่ได้นอนติวจนดึกดื่น ตอนเช้าก็ต้องตื่นไปสอบ

มีวันนึงเมเกือบหมดสิทธิสอบเพราะมาสาย แต่อาจารย์ก็ไม่ได้ตัดสิทธิเพราะมันก็รีบมาสุดชีวิต ดูจากสภาพหลุดลุ้ยของมัน อาจารย์คงสงสาร

ความวุ้นวายยังคงวนหลูบไปซ้ำๆ เป็นช่วงเวลาที่ทำให้รู้ว่าชีวิตมหาลัยมันไม่ง่ายเลย





.............................



รู้ตัวอีกทีเราก็สอบเสร็จกันแล้ว



“มึง เร็ว ยัดๆไปเหอะ เดี๋ยวไม่ทัน”

ผมนั่งพับเสื้อผ้าอยู่บนเตียง

อยากจะถามว่าตัวเองนั่นเก็บของยังไง เป้เล็กนิดเดียวแต่เห็นมะนาวโดนเหยงๆไปมารอบห้องผมก็เลยไม่รู้จะขัดอารมณ์ดีๆของเขายังไง

เขาดีใจที่จะได้ไปทะเลครับ แม้จะเป็นการไปรับน้อง เขาก็ไม่กลัว

“เช็คดีๆ ลืมอะไรรึเปล่า”

“ไม่ลืม ป่ะ” มะนาวไปยืนรอหน้าประตู เตรียมเปิดออกสู่โลกกว้างเต็มที่

“นี่ยังพับไม่เสร็จเลย” ผมพับตัวสุดท้าย เริ่มหยิบทั้งหมดบนเตียงใส่กระเป๋า มะนาวมาทิ้งตัวรอบนเตียง

เสื้อ กางเกง ชุดเล่นน้ำ กางเกงใน สบู่ แปรงฟัน ยาสีฟัน

ผมเดินเข้าห้องน้ำไปหยิบแฟรงสีฟันกับยาสีฟัน

ไม่ลืมอะไร แล้วนี่อะไร

แปรงสีฟันของมะนาวยังนอนแห้งอยู่ที่เดิม ผมรวบขึ้นมาทั้งหมด รวมทั้งยาสระผมของเขาด้วย

“เอ้า ใส่เป๋า” ผมโยนไปให้เขา มะนาวหยิบใส่กระเป๋าไม่พูดอะไร แต่ทำหน้าสำนึกผิด

ผมเดินไปโต๊ะหนังสือ หยิบสายชาร์จของเขาโยนไปให้เพิ่มอีกอย่าง เขาก็รับไปเงียบๆ



ผมยัดทุกอย่างลงกระเป๋า รูดซิบปิด ก่อนจะหันไปถามมะนาว

“ไง” ผมยิ้มๆ ลืมอะไรอีกไหม?

“ครบแล้วคร้าบ ไม่ลืมอะไรแล้วคร้าบบบบ ขอโทษคร้าบพ่อ”

เขาลุกขึ้นยืนสะพายเป้ ทำท่าจะไปให้ได้ในวินาทีนี้เลย

เห็นชัดๆว่าลืมนะ

“ลืมแน่ๆ” ผมยืนขึ้น บอก ไม่สนใจหยิบกระเป๋า มันยังวางนิ่งๆอยู่ปลายเตียง

“อะไร กูไม่ลืมอะไรแล้ว ป่ะ” มะนาวกระพือปีกจะบินให้ได้

“ลืม” ผมพูดจริงจัง

“อะไร?”

มะนาวเชื่อผมทุกอย่างเสมอครับ ถ้าผมยืนยันขนาดนี้ เขาคงต้องเชื่อว่าตัวเองลืม ยอมรับแล้วถามให้ผมเฉลยซักที

ผมยิ้มมุมปาก หรี่ตา ยกมือเรียกเขาให้เข้ามาหา

“ฮาาา ลืมจริงๆด้วย” มะนาวยิ้มร่าเดินเข้ามากอดผมแน่น ผมสอดมือแนบแผ่นหลังกันเป้เขาออกไปกอดแน่นจนเขาต้องร้องขอชีวิต

“โอ้ย แน่นไป แน่นไปแล้วแม็ต”

“เดี๋ยวไปแล้วจะไม่ได้กอด”

“หื้อ อารมณ์ไหนเนี่ย” มะนาวเหล่ตามองอย่างสงสัย แต่ก็แอบยิ้ม

ผมว่าเขาเข้าใจ เพียงแต่เขินเท่านั้นเอง

น่ารักจริงๆ

“แอร็ก” รัดอีกทีแน่นๆ

“ฮ่าๆๆ”

ผมยอมคลายกอด ยกแขนขึ้นโอบรอบคอเขา สอดมือกับท้ายทอย

เขาเอียงหน้ารับ คลอเคลียกับมือผม ก่อนจะยืดตัวเขย่งนิดๆ

ผมก้มต่ำลง โน้มใบหน้าหา ปลายคางแหลมยื่นมารอ ริมฝีปากเราแตะกันเบาๆ ก่อนจะแนบชิดก่อนมันจะกลายเป็นจูบที่เหมือนจะสูบพลังชีวิตเราให้ลดต่ำลง

“แฮ่กๆ อื้ม”

อย่าครางได้ไหม?

ในช่วงเวลาครู่เดียว จูบแรงๆทำให้มะนาวหอบหนัก เริ่มเกาะไหล่ผม ไขว่คว้าหาที่ยึด ผมต้องโอบรัดให้เขาแนบชิดก่อนจะไหลลงไปกองกับพื้น

“ฮื้มมม”

เสียงครางในลำคอของเขา สั่นมาถึงริมฝีปากบาง

ผมสอดมือเข้าใต้เสื้อ ลูบเอวจับหมับเข้าที่กลางหลัง

“อึก จะทำอะไร?”

“เวลาเหลือ” ผมยกข้อมืออีกข้างขึ้นดู “20 นาที”

ผมก้มลงจูบเขาต่อ มะนาวโต้ตอบเหมือนจะโอเค แต่พอผมขยับมือจะแทรกไปใต้กางเกง เขากลับผลักออก

“เดี๋ยวไม่ทันนะ”

“ได้อยู่น่า”

“ไม่เอาาา” ทีนี้ผลักอกผมออกสุดความยาวแขนเลยครับ

“ใจร้าย”

“ไม่ต้องเลย”

มะนาวยกกระเป๋าของผมขึ้นจากเตียง เขากอดไว้แล้วซ่อนใบหน้าไว้ข้างหลังนั่น

“เกือบเคลิ้มแล้วเชียว”

“ไม่ต้องพูดเลย ไปเร็ว” เขาไปยืนรออยู่หน้าประตู ใช้คางชี้ให้ผมเดินตาม

ผมยังยืนอยู่ นึกๆว่าลืมอะไรไหม เขาเห็นผมนิ่งเขาเลยเองวิ่งกลับมากอดผมเร็วๆ ก่อนจะวิ่งไปเปิดประตูหายลับไปทางบันได

“ฮ่าๆๆๆ ระวัง อย่าวิ่งนะ”

ผมได้แต่เดินตามไปหัวเราะไป ก็แปลกใจทำไมตัวเองยังหัวเราะได้อีก




คนอะไรนะ ปากไม่ตรงกับใจ

อยากเหมือนกันแต่ก็ยังจะปฏิเสธอีก คราวหลังคงต้องมีการใช้ไม้แข็งกันบ้างแล้ว



------------------------------------------------
TBC.


ก่อนอื่นต้องขออภัยมิตรรักแฟนนิยาย(ที่มีน้อยนิด) ก่อนเลยที่หายไปนานนะคะ (ยิ่งนานๆอัพเพื่อนยิ่งหาย แง้)
เกิดความกระทันหันให้ต้องย้ายห้องพัก ซึ่งไม่ได้อยากย้ายเลย แต่เขาจะทุบตึก แง้ มหกรรมกร จึงเกิดขึ้น เหนื่อยมาก นี่ยังขนไม่หมด
และ อีกอย่างที่สำคัญ
ขอสารภาพบาป อิคนเขียนไปเสพติด Heroin มาจ๊ะ  สักพักแล้วล่ะ ติดแบบ ต้องฉีดเข้าเส้นแล้ว ขาดไม่ได้เลย ติดงอมแงม แนะนำว่าอย่าหลงไปดูเลยคะ หรือริอาจผันตัวไปเป็นแม่แม่ให้นักแสดงในซีรี่ย์ ชีวิตจะพบพาลแต่นก นกแล้วนกอีกเฝ้าแต่นก แล้วเป็นนกที่ยิ้มทั้งน้ำตา น้ำตานองหน้าไปแต่ฟินไป โฮฮฮฮ (นิยายไม่ได้เศร้า แต่ชีวิตจริงมันเศร้า)
อีกสักพัก ช่องวัน 31 จะเอามาออนแอ อย่าไปดูเชียวนะ บอกว่าอย่าไง!


พอ เม้าพอ กลับเข้าเรื่องของเราค่ะ
นับซิ ตอนนี้ นก ออกโรงกี่ตัว 5555+ ไอ้ที่ก้ำกึ่งจะนกอีกมากมายเลย
อย่างที่บอกตัวละครเมเป็นตัวที่คนเขียนร้ากกกเป็นพิเศษเพราะเอาคาแร็กเตอร์เพื่อนมาใช้ ไม่ต้องบอกนะว่าภายใต้คำหยาบมากนั้นนางซ่อนความมุ้งมิ้งไว้เยอะ 555+
พระนางเรื่องนี้ยังเป็น แม็ตมะนาวเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือคู่รองมากมาย แย่ซีนสุดๆ

อ้อ จะบอกว่า ฟ้าเทคงได้ไปเปิดเรื่องแยกนะคะ เพราะแนวทางกับบรรยากาศมันต่างจากแม็ตมะนาวโดยสิ้นเชิงเลยล่ะ แต่อีกสักพักใหญ่ๆเลย


ฝากติ และตรวจคำผิดด้วยค่า 555+



(**ดรออิ้งในที่นี้ ชื่อไทยคือ เขียนแบบ นะจ๊ะ แต่เด็กๆจะเรียกดรออิ้งตามชื่อรหัสวิชา ถ้าดรออิ้งทางถาปัตฯ ก็แปลไปว่า วาดเส้น  คนละอย่างกันเน้อ)
(*นก คือ ความวืด พลาด อด(แดก)ไปค่า) คงรู้กันหมดแล้วล่ะเนอะ และคงนกกับประจำ 5555+)


หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 26 นก] 23/6/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 23-06-2016 08:36:13
 :pig4: :pig4: :ling2:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 26 นก] 23/6/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 23-06-2016 08:59:32
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
อาร์มนี่ด้านมากๆๆ ขอเสร็จดึงเกียร์ปั๊บแม็ตยังไม่ทันตอบอะไรเลย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 26 นก] 23/6/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 23-06-2016 09:21:39
มะนาวจ๋า.  :กอด1:   
รอคนเขาลงเอยกัน. เนอะ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 26 นก] 23/6/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 23-06-2016 10:10:25
 :impress2: ค่อยเป็นค่อยไปเดี๋ยวน้องมะนาวกลัวหรอก
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 26 นก] 23/6/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Chise ที่ 23-06-2016 10:29:32
คู่ฟ้าเทเป็นความสัมพันธ์ที่ดูซับซ้อนจัง
ไม่รู้อาร์มไปเอาความมั่นหน้าขนาดนี้มาจากไหน หวังนางจะไม่มาก่อกวนแม็ตอีก
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 26 นก] 23/6/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: PaiPo ที่ 23-06-2016 19:22:12
โอ้ย นกอีกละ ทำไมชีวิตนี้นกซ้ำนกซ้อน
แอบลุ้นเม และเชียร์แมตให้ไม้แข็งค่าา
ฟ้าาาา นายจะยังไงๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 26 นก] 23/6/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 23-06-2016 20:32:17
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 26 นก] 23/6/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 23-06-2016 22:50:40
มาแล้วววว มะนาวน่ารักกกก
แต่ว่าอาร์มนี่ยังไง จะมาเอาเกียร์ไปเฉยเลย
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 26 นก] 23/6/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 23-06-2016 23:25:55
คนแบบเจ๊ ที่มาชอบฟ้า กับอาร์ม ที่มาชอบแมต
เป็นพวกฉันชอบนาย นายต้องชอบฉันสิ
ฉันอุตส่าห์ชอบนายแล้วนะ นายไม่ชอบฉันได้ยังไง
บังคับจิตใจคนอื่น ขี้ตู่มากๆ เอาแต่ใจตัวเอง ตลกร้ายนะนี่
ชอบบบ  คู่ฟ้า เท รออ่านมากๆ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 26 นก] 23/6/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 23-06-2016 23:42:21
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 26 นก] 23/6/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: 。Atlas ที่ 30-06-2016 00:36:50
ชอบมากเลยย รอฟ้าเท แลดูเป็นความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 27 ได้เรื่อง] 6/7/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 06-07-2016 10:27:33
(http://i1159.photobucket.com/albums/p636/Browny_Tan/bro/loveagain334_zpsaovquoi9.png)
- บทที่ 27 - ได้เรื่อง -




“ฮ่าๆๆๆๆ”

“เชี้ยแม่ง จะอยู่ยังไงวะเนี่ยกู”

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ”

“หัวเราะอะไรนักหน้าเล่า ตลกนักรึไง”

“เออดิ” มะนาวยืนค้อนผมอยู่ที่ริมหน้าต่าง “ไม่ลืมๆ เช็คแล้วเร็วๆ

“ยังจะล้ออีก ลืมกางเกงในมันตลกมากเลยรึไง”

“นิดนึงอ่ะ สะใจมากกว่า”

“เลว มึงตาย” มะนาวกระโดดขึ้นเตียงมาบีบคอผม ผมก็ยังหัวเราะยอมให้เขาทำร้ายแบบไม่จริงจังจนพอใจ กะว่าเดี๋ยวก็เลิกไปเอง

เรามาถึงบังกะโลที่พักค่ายรับน้องแล้ว เป็นหาดส่วนตัวที่มีบริเวณกว้างขวาง แต่ตอนที่เรามาถึงมันก็มืดหมดแล้วจึงยังมองไม่เห็นวิวทะเลเท่าไหร่ แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นทะเลระยอง ผมคิดว่ามันต้องสวย ฮ่าๆๆ

ปีหนึ่งถูกจัดให้พักรวมกับปีสองแบบคละๆ แต่ผมคิดว่าของผมโดนล็อก ก็มันจะเป็นไปได้ไง ปีหนึ่งผู้ชายตั้งสี่สิบกว่าคน แล้วผมได้ห้องเดียวกับมะนาว แถมปีสองเป็นพี่เทกับพี่ฟ้า สองคนนี้ไม่ได้ตัวเล็กๆนะครับ คนหนึ่งก็ประธานรุ่นอย่างที่รู้ๆ ส่วนอีกคนก็เป็นรองหัวหน้าห้องบวกตำแหน่งเดือนห้อง อ้อมีหน้าที่ด้านสันทนาการพ่วงมาด้วย

ล็อกแน่ๆ ให้ตายผมก็ไม่เชื่อว่านี่เป็นผลจากการสุ่มมั่วๆ

ออกจากห้องมะนาวเดินนำลิ่วๆ คงกลัวผมล้อเรื่องลืมกางเกงในอีก

อุตส่าห์ถามแล้วถามอีกนะ ว่าลืมอะไรไหม ก็ลืมจริงๆจนได้ โถ่ ไม่บอกตอนนี้หรอกว่าผมเอาบ็อกเซอร์มาเผื่อ ไว้ถึงเวลาค่อยบอก ปล่อยให้ซึมซับผลของความสะเพร่าของตัวเองไปก่อน

หลังจากโยนกระเป๋าจองเตียงเสร็จเราก็ออกมาข้างนอก รอพี่ๆเรียกรวมเพื่อทำกิจกรรมต่อ พวกเราไม่รู้หรอกครับว่าพี่ๆจะให้ทำอะไรคิดแค่ว่าคงมีอะไรอีกนิดหน่อยก่อนนอน





ตอนแรกผมคิดอย่างนั้นจริงๆครับ จนในที่สุดผมก็รู้ตัวว่าตัวเองคิดผิด ตอนที่เดินไปตักน้ำแข็งที่ลังน้ำแข็งเบอร์ใหญ่สุดแล้วพบว่าน้ำแข็งใกล้หมด ผมจำได้ว่าตอนแรกที่เดินผ่านมันเต็มจนปิดไม่ลงนะ หมดไวมาก แล้วกิจกรรมกระชับมิตรระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องนี่เพิ่งจะเริ่มได้ไม่ถึงครึ่งทางดีด้วยซ้ำ หรือนี่คืองานหลักของการมารับน้องนอกสถานที่ เสกทุกอย่างให้ละลายหายไป



“พี่ๆ ครับ ผมจะไปซื้อน้ำแข็งข้างนอก ใครจะเอาอะไรเป็นพิเศษมั้ยครับ”

ผมสวนกับพี่ฟ้าที่เดินไปถามทางโต๊ะของพี่ๆบัณฑิต ส่วนใหญ่ฝากซื้อบุหรี่ ผู้หญิงฝากซื้อขนม ส่วนผมเลียบๆ เคียงๆ กำลังรอจังหวะเดินเข้าไปทีหลัง



“พี่ ฝากซื้อของได้มั้ยครับ”

“ได้ ไรอ่ะ ถ้าเจอเดี๋ยวซื้อให้” พี่ฟ้าจดนั่นจดนี่ลงด้านในกระดาษฝากล่องเหล้าทำปากขมุบขมิบท่องรายการต่างๆ ระหว่างรอผมบอก

“กางเกงใน”

มือเขาชะงักทันที

“มึงกล้าลืมกางเกงในได้ไง” พี่ฟ้าทำหน้าเหลือเชื่อ เลิกจดหันมาหัวเราะเยาะผม “กูนึกว่าจะฝากซื้อแปรงสีฟันไม่ก็รองเท้าแตะ เหอะๆ มึงไซซ์อะไรล่ะ” เขาเริ่มจดต่อ

“ไม่แน่ใจอ่ะพี่ พี่เทใส่ไซซ์ไร พี่ซื้อไซซ์นั้นแหละ”

“นี่มึงกำลังกวนตีนกูเหรอ” พี่ฟ้าถามกลับอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าผมจะกวนตีน

“เฮ้ย เปล่าพี่ ของมะนาว มันตัวเท่าพี่เทไง” พูดผิดนิดชีวิตผมคงหาไม่ นิดนึงก็ไม่ได้เลย โห

“อ้อ แล้วไป” ผมคิดว่าเขาไม่ได้ให้อภัยผมจริงๆหรอกครับ เหมือนที่เขาไม่ได้คิดจังจังว่าผมกวนตีน แต่หาเรื่องผมนิดหน่อยประสาคนรู้กัน “เออ เดี๋ยวซื้อให้ สามวันนี้กูคงมีเรื่องต้องให้มึงช่วยอีกเยอะอยู่”

“อะไรพี่?” ช่วยเหรอ?

“เออ ถึงเวลามึงจะรู้เองว่าต้องทำอะไร กุญแจห้องอยู่กับมึงใช่ป่ะ?”

“ครับ”

“ปกติเขาให้ปีสองถือนะ แต่พี่เชื่อใจมึงมาก เพราะฉะนั้นถือไว้” เอ่อ ผมควรจะดีใจดีไหม? ทำไมผมรู้สึกว่าความเชื่อใจที่เขามอบให้มาพร้อมภาระอันหนักอึ้งนะ “ถ้าอยู่ที่มึง มึงกลับห้องได้ แต่ถ้าอยู่ที่พี่ มึงหรือมะนาวก็ห้ามกลับ โอเคนะ”

“หื๋อ? เอาจริงเหรอพี่”

“จริง เวลาหมดธุระกูเอาไปคืนมึงเอง แล้วอย่าบอกสองคนนั้นนะ ว่าเราตกลงอะไรกัน”

แน่นอนว่าพี่แกหมายความว่ารวมคนทั้งค่ายนั้นแหละ ว่าอย่าบอกใคร

เอิ่ม กูอีกแล้วเหรอ?

“ไปๆ เดี๋ยวซื้อเกงให้ เอ้ะ เอางี้ดีกว่า ไปเรียกมะนาวมา ให้ไปกับพี่”

“ได้เหรอพี่” ผมลังเล เพราะพี่ๆ ห้ามพวกเราหายตัวเข้าห้องพัก จนกว่าจะมีสัญญาณปลดปล่อยจากเบื้องบน ดังนั้นผมถึงไม่แน่ใจว่าออกไปข้างนอกแบบนี้จะเป็นไรไหม นี่มันยิ่งกว่ากลับห้องนอนอีกนะ

“ได้ดิวะ ใครจะว่าอะไรกู อีกอย่างกูไม่อยากซื้อกางเกงในในเซเว่นให้คนขายมองหน้าหรอกนะ”

โอเค ผมกระจ่างเลย ฮ่าๆๆๆ

“ไปตามมา จะไปแล้วเนี่ย”



ผมมองหามะนาว เขานั่งไม่เป็นที่เปลี่ยนที่นั่งไปมาตลอด แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะมองหาเขา เพราะพอเห็นผมขยับ เขาก็หันมามองผมเหมือนที่ผมคอยมองเขา

ตอนนี้ทุกคนนั่งเป็นกลุ่มๆ ชวนกันเล่นชวนกันคุย ไม่เหมือนการรับน้องที่ผมเคยจิตนาการไว้ก่อนหน้านี้เลย



โอ้ะ อยู่นั่นเอง ถึงคนจะเยอะมากและค่อนข้างมืด แต่การมองหามะนาวเป็นเรื่องง่ายสำหรับผมเสมอ

ผมเดินลัดมาสะกิดเรียกมะนาวข้างหลัง แหม นั่งข้างพี่รหัสแบบนี้ ผมขอแหย่หน่อยเถอะ

“นาว พี่ ‘ฟ้า’ เรียก”

ได้ผลครับ แทนที่มะนาวจะรับรู้ กลับเป็นพี่เทที่หันมามองครึ่งทาง แต่คงยั้งตัวเองทัน หันกลับไปมองคู่สนทนาตรงหน้าเหมือนเก่า ยกแก้วซดเหมือนอารมณ์ดีปกติสุดๆ ผิดปกติแค่เขายกแก้วแตะริมฝีปากค้างไม่จิบไม่กลืนอยู่นิ่งๆนานไปแค่นั้นเอง แค่นั้นจริงๆ

“เรียกไมอ่ะ?” มะนาวหันมาถามผมที่ยืนอยู่ข้างหลัง

“เขาให้ไปช่วยซื้อของ”

“อ๋อ เฮ้ย! แล้ว แล้วไมต้องกูวะ?” ดีมาก ถามย้ำเข้าไป นั่นแหละประเด็น

“เออน่า นี่พกตังติดตัวป่าวเนี่ย”

“ไม่อะ เกะกะเป็นภาระ กูกะทิ้งตัว” มะนาวดูยังงงๆ

“เอานี่ รีบไป ‘พี่ฟ้า’ รีบเดี๋ยวน้ำแข็งขาดตอน” ผมยื่นกระเป๋าเงินตัวเองให้เขา และเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรมากขึ้นนิดหน่อยเพราะเริ่มทำตาโตและพยักหน้า

กางเกงในมึงไง ไป ไปจัดการเอง

มะนาวจะยกแก้วขึ้นจะซ้ำให้หมด ผมแย่งมา แล้วยัดขวดน้ำเปล่าให้แทน

“เผื่อมีด่าน เผื่อมึงได้ขับรถ”

“ถ้ามีด่านก็นอนตารางอ่ะคับ ดับนี่แล้ว”

“ระดับนี้คือความเมา?”

“ถูก”

“เออ ฮ่าๆๆ รีบไปไป”

เรียบร้อยไปอีกเรื่อง เหลือเรื่องคนตรงนี้เนี่ย เมื่อกี้ยังพูดแทบไม่หยุด ตอนนี้นั่งนิ่งเชียว

ผมนั่งแทนมะนาว ชงเหล้าให้ตัวเองกะว่าในเมื่อลงทุนแอบแหย่เขาขนาดนี้ คงต้องเช็คกันหน่อยว่ามันมีผลตอบรับอะไรกลับมาบ้าง

“พี่เทครับ ชนหน่อยครับ”

ไม่รู้ผมนึกไง ก็ไม่ได้อยากรู้ท่าทางอะไรพี่เทนะ แต่ก็นิดนึงนะ



“น้องโนอา หมดแก้ว”


“เฮ้ย แม็ตเราสายเดือนนี่หว่า เออ หมดแก้ว”


“หมด แก้ว!”


ผมเปลี่ยนใจไม่อยากรู้แล้วได้ไหม ผมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองคิดผิดที่อยากรู้ผล

พี่แกเล่นสั่งหมดแก้วๆๆ สามแก้วติด ท่าทีก็ไม่มีอะไรโพล่ออกมาให้จับผิดสักนิด จะปลีกตัวไปไหนก็ไม่ได้ เพราะพี่เทดึงแก้วผมไปชงให้ตลอด ชงเสร็จตอนยื่นกลับมาให้ก็มีคำสั่งหมดแก้วตามมาเติดๆ มันจะจบตรงไหนเนี่ย ผมเริ่มมองหาทางออก แต่เหมือนจะไม่ต้องหาแล้ว

จนรอบที่สี่ พี่แกสายวาร์ปก็อยู่ในขั้นชาร์ทพลังเต็มที่พร้อมวาร์ปครับ

พี่เทเริ่มนั่งไหล่ห่อตาปรือ เอามือกำปิดปากแก้วตัวเอง ไม่แน่ใจว่าเหม่อลอยหรือหลับใน

เป็นเพื่อนเขาที่ดึงเขาออกจากภวังค์ พี่โนอาเดินมาผลักไหล่พี่เทจนเซไปไกล

“มึงงงงง มึงจะเมาตอนนี้ไม่ได้”

“โอ้ยกูกินกับมึงได้ถึงเช้า”

ผมอยากจะแทรกว่า เหรอ!

“ขี้โม้ตกนรกนะมึง ถ้ามึงหลับ กูจิกหัวมึงแน่”

“เหี้ยนี่ มึงไม่ได้มีพี่ยีนส์คุ้มกะลาหัวแล้วนะอย่าลืม”

“ได้ไง ยังไงมันก็พี่กู เพิ่มเติมคือตอนนี้ กูแรดได้”

“มึงแน่ใจเหรอวะว่าแรดได้”

“เออ โอ้ย! พี่ยีนส์” ผมหันไปอีกที พี่ยีนส์คงใช้ขวดโซดาที่ถืออยู่เคาะหัวพี่โนอา ทำตาดุๆ หยุดพูดด้วยเสียงนิ่งๆ

“กินน่ะได้ แต่อย่าแรงให้มากนัก”

พี่ยีนส์พูดแค่นั้น แล้วเดินเลยไปนั่งกับพวกพี่ๆบัณฑิตเหมือนเดิม เขาคอยเหลือบมองมาทางพี่โนอา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมากกว่านั้น

พี่โนอาทำหน้าบึ้งตึง บึ้งสุดๆ คงเพราะเมามากแล้วถึงได้แสดงออกมากกว่าปกติมาก

“เท ไปกับกู” พี่เทถูกกระชากแขน จากที่สลึมสลือจะหลับกลางอากาศเลยต้องตื่นมาแจ็บปากเช็ดน้ำลายงงๆ

“อะไรวะ?”

“เอาแก้วมาด้วย” พี่เทถูกลากให้ลุกขึ้น โดนพี่โนอาคว้าคอลากเดินไปทางชายหาด ระหว่างเดินไปก็ชนแก้ว ดื่มไปตามทาง

ทั้งสองคนไปหยุดตรงสุดหาดทรายที่คลื่นซัดถึงเท้าพอดีๆ แล้วเริ่มทำสิ่งที่ผมเดาอยู่

โว้ยยยยยยย

โอ้ยยยยยยยย” พี่เทตะโกนตาม ก่อนจะหันถามพี่โนอา “มึงให้กูทำอะไรเนี่ย”

“เอาแม่งทิ้งทะเลให้หมด กูจะมีชีวิตใหม่ ตะโกนไปเลย มึงมีอะไรตะโกนไปเลย”

“เอาจริงดิ”

“เออ เอาเลย”

กูไม่ได้เก็บกฎอารายยยย ชีวิตกูปกติดี กูแค่มาวววว

“อะไรของมึงเนี่ย กลัวเมียเหรอตะโกนซะเบาเลย ไม่สะใจเลย ดูกูนี่” พี่โนอายื่นแก้วตัวเองให้พี่เทถือ เอามือป้องปากตะโกนสุดเสียงไปทางทะเล



โว้ยยยยย เอาชีวิตชูวับๆวัยเรียนของกูคืนมานะโว้ย มันควรจะมีอะไรวาบหวามปิ้งปั้งให้กระชุ่มกระชวยหัวใจบ้างซีว้า ขึ้นคานตายห่าใครจะเผากู หวงกูจนขายไม่ออกแล้วแม่ง ไอ้ประธานเชียร์มาเฟีย ถ้าน้องมึงไม่มีผัวจะรับผิดชอบยังงายหาาาาา



“โนอา พอแล้ว” พี่ป้องตะโกนจากข้างๆ ผม ไม่รู้ว่าอายแทนน้อง หรือกลัวพี่ยีนส์คนต้นเรื่องจะโมโหขึ้นมา

พี่โนอาหันมาแลบลิ้นใส่ ก่อนจะหันไปตะโกนใส่ทะเลด้วยประโยคที่ทำให้ผมขนลุกยังไงไม่รู้



กูอยากมีผัวโว้ยยยยย



แล้วตนต้นเรื่องก็มาจริงๆครับ พี่ยีนส์เดินผ่านผม ผ่านพี่ป้องไปหยุดยืนกลางหาด

“โนอา เยอะไปแล้วนะเรา ทำตัวดีๆหน่อย”

อารมณ์นี้ไม่มีใครเข้าหน้าสองคนพี่น้องนี้ติดหรอกนะครับ พี่เทห่อไหล่ค่อยๆขยับห่างออกไปๆ ทั้งที่หันหลังให้ทุกคนอยู่ พี่ป้องที่ผมคิดว่าจะพอทำอะไรได้บ้าง ก็ไม่กล้าเดินตามพี่ยีนส์ไป ได้แต่ยืนขยับแว่นกุมขมับอยู่ไม่ไกลจากผมนัก



“ไม่ ต้อง มา ยุ่ง กับ โนอา”



“เฮ้ย จะไม่ให้ยุ่งได้ไง น้องพี่นะเว้ย”

“แล้วน้องไม่ใช่คนเหรอ มีความรักไม่ได้เหรอมีชีวิตแบบเด็กวัยเดียวกันไม่ได้เหรอ แค่อยากจะมีใครสักคน ทำไมไม่ได้ ห้ามคนอื่นแต่ตัวเองทำได้? ทำไมอ่ะ โกรธเกลียดน้องรึไงทำไมต้องบังคับกัน แน่จริงก็จับล่ามโซ่ไว้เลยสิ”

จากอารมณ์โกรธจนสุดกลั้น ค่อยๆเปลี่ยนเป็นความน้อยใจที่คงเก็บกฎมานาน พี่โนอาแทบจะร้องให้ไปพูดไป


“โนอา” พี่ยีนส์พูดออกมาอย่างอดกลั้นเช่นกัน สองคนมองสบตากัน ทั้งแถบฝั่งริมทะเลทุกคนหยุดนิ่งดูการปะทะคารมณ์ของสองพี่น้อง

แต่ในความหยุดนิ่ง เมย้ายมานั่งข้างผม ชงเหล้ายกซดไม่สนใจอะไร

“โนอา อย่าพาลหาเรื่องพี่ยีนส์สิ” คนกลางผู้กล้าหาญ พี่ปกป้องลุงผมครับ

“พี่ป้องไม่ต้องพูด”

“เราเมามากไปแล้วนะ” ก่อนพี่ป้องจะหันมาพูดกับพี่ยีนส์ “ถ้าไม่เมาน้องคงไม่พูดงี้หรอกพี่ อย่าคิดมาก”

ผมเดาไม่ออกเลย ว่าถ้าปล่อยให้พี่ยีนส์โมโหสุดขีดจะน่ากลัวขนาดไหน

“ทำไมล่ะ?” พี่โนอาท่าทางอ่อนลง แต่เป็นอ่อนที่หน้าแดงก่ำ กำมือแน่นไม่ยอมจำนนง่ายๆ “ขนาดพี่ป้องก็เข้าข้างพี่ยีนส์ตลอด ใช่สิ พี่เป็นพี่น้องกันนี่ เข้าใจกันจังนะเข้าข้างกันตลอด แม้แต่เรื่องนี้ เรื่องของโนอา พี่ป้องก็ยัง ฮึก”





“พี่โนอาชอบพี่ป้อง”

เมป้องมือกระซิบข้างหูผมเบาๆ แต่ในความเงียบและความเมาของมัน การกระซิบเลยไม่เบาเท่าไหร่

“หื๋อ? มึงรู้ได้ไง”

“เซ้นของผู้หญิง”

“มึงเป็นผู้หญิง?”

“เอ้า ไอ้นี่” มันผลักผมให้หันกลับไปทางทะเล เราสงบศึกกันก่อน แล้วหันไปสนใจเรื่องชาวบ้านต่อ






“คิดว่าพี่จะเข้าใจว่าโนอาทำไปทั้งหมดเพื่ออะไร นึกว่า นึกว่าพี่จะเข้าใจ”

พี่ผมสะบัดบ็อบ เดินหนีไปแล้วครับ ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยน คนต้นเรื่องก็เปลี่ยน พี่ป้องเหมือนจะเดินตามแต่ก็หยุดอยู่แค่ข้างๆพี่ยีนส์

“ไม่เอาน่าโนอา โนอา โนอา”



“มัวทำอะไรอยู่ ตามไปสิวะ”

“คือ”

“ลีลา ถ้าน้องกูวิ่งลงทะเลทำไง”

“แต่พี่”

“มึงอ่ะค่อยมากินตีนกูชดใช้กรรมทีหลัง รีบไปสิวะ”

พูดถึงตีน ก็ได้ตีนครับ พี่ป้องโดนพี่ยีนส์ยันเบาๆพอเป็นพิธี พอตั้งหลักได้ก็วิ่งตามพี่โนอาไปทันที



พี่ยีนส์ขยี้หัวสะบัดหน้า ผมมองซ้ายมองขวา อย่าบอกนะว่าหลังจากผ่านเรื่องหัวเสียแบบนั้นมาแล้วจะมานั่งนี่ต่อ

โอ้ เมอยู่นี่ ไม่ต้องสืบ

พี่ยีนส์นั่งลงตรงข้ามพวกผมหยิบแก้วเหล้าของใครก็ไม่รู้ สาดน้ำในแก้วทิ้ง แล้ววางตรงหน้าเม

“ชงให้ด้วย”

เมชักสีหน้า แต่ก็ชงเหล้าให้พี่ยีนส์ พี่แกยังคงมองไปทางที่พี่โนอาเดินหนีไป ถึงจะไกลและมืดแทบมองไม่เห็นเขาก็ยังไม่ละสายตา เสียงถอนหายใจนี่ดังมาถึงนี่

“ปล่อยๆได้แล้วล่ะน่า ขัดขวางความรักชาวบ้านมันบาปนะ ระวังเวรกรรมจะตามทัน”

“รู้แล้วน่า ถึงได้ปล่อยไปนี่ไง”

“เหอะ”

“เราเหอะรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่”

"อ้าว ได้ยินเหรอ" พี่ยีนส์แค่ถอนหายใจตอบกลับมา ว่าแล้วการกระซิบของเมมันดังกว่าพูดกันปกติอีก “ตั้งแต่เปิดตัวทีมเชียร์ได้ สองสามวัน ก็รู้ละ”

“เฮ้ย รู้ได้ไง โนอาบอกเองเหรอ”

“โอ้ย ใครไม่รู้ก็ควายแล้ว”

“เม พูดไม่เพราะไม่น่ารักเลย” เมย่นคอแล้วหันหน้าหนีทันที หาเรื่องเขาเองแล้วก็เปลี่ยนเรื่องซะเอง เมไม่สนใจหันมาสะกิดผมให้มองไปทางทะเล

“เฮ้ยแม็ต ก้อนอะไรอยู่ที่หาดวะน่ะ? แม็ตมึงดูดิๆ”

“เฮ้ย! ชิบหายละ พี่เท”

ผมลืมพี่เทไปเลย ตายๆๆ ผมวิ่งเหยาะๆ ลงไปที่หาด พี่แกเล่นนอนแผ่ ขาแช่ปลายคลื่น นอนหลับตาอ้าปากกรนอยู่

เออ อย่างน้อยก็ยังไม่ตาย แต่ถ้าปล่อยไว้ตรงนี้ พี่ฟ้าเอาผมตาย

ผมยกพี่เทขึ้น ปัดทรายเท่าที่จะทำได้ เอาขึ้นหลังแล้วเดินกลับมาข้างบน

ไม่ลืมแวะบอกเมฝากเก็บแก้วที่นอนกลิ่งน่าสงสารอยู่ที่หาด

ถามว่าพี่ฟ้าสั่งไว้รึเปล่า ก็เปล่า แต่ผมรู้สึกว่าผมต้องทำ ไม่รู้สิ ถึงจะยังไม่แน่ใจว่าตกลงเขาเป็นอะไรกัน แต่ผมก็เห็นนะสายตาเวลาพี่ฟ้าพูดถึงพี่เท แม้จะดูเหนื่อยแต่มันก็อ่อนโยน

ที่ทำท่าหงุดหงิดขึ้นมาทันทีที่พูดถึงไซซ์กางเกงในของพี่เทนั่นต้องมีอะไรมากกว่าแค่รูมเมทแน่ ถ้าเพื่อนกันจะหวงกันทำไม



ผมแบกพี่เทกลับห้อง ผ่านพวกพี่ๆ ก็เอาแต่เย้ยหยันพี่เท

“ไรวะ เป็นพี่ให้น้องเก็บ”

“ไอ้เทแม่งอ่อน”

“ดีๆ น้องๆ ครับ ดูเพื่อนไว้นะครับ ถ้าพี่เมาดูแลพวกพี่ๆ ด้วย ฮ่าๆๆ”

ผมหัวเราะได้แค่เบาๆ เพราะมีแต่คนดู ไม่ได้มีใครสนใจ หรือยื่นมือมาช่วยสักคนเดียว

เอาว่ะ เอาไปเก็บไว้ที่ห้องก่อนแล้วกัน





“ร้อน ร้อนนนนน”

นั่นไง ตอนแบกนี่นิ่งเชียว พอวางปุ๊บก็ส่งเสียงปั๊บ

ผมเร่งแอร์ให้สุดก่อนยืนมองสภาพพี่เท ว่าถ้าปล่อยไว้ทั้งอย่างงี้จะไหวไหม

ไม่ไหวอ่ะ ทั้งตัวแกมีแต่ทรายยิ่งขากางเกงเปียกน้ำทะเลแล้วก็มีทรายติดอีก เสื้อพอปัดๆออกได้ แต่กางเกง ต้องถอด

ผมปลดแล้วถอดกางเกงพี่เท สาบานว่าคนละอารมณ์กับถอดให้มะนาว มันไม่น่าจดจำและผมก็ไม่ได้สนใจรายละเอียดอะไรเลย คิดแค่ถอดยังไงไม่ให้โดนถีบ ในที่สุดก็ถอดได้ ผมดึงขากางเกงแรงจนพี่แกเกือบไหลตกเตียง

“ไม่ต้องมายุ่ง”



ผมเบื่อคนเมา!



ผมโยนกางเกงไปพาดเก้าอี้ ปัดทรายบนหัวพี่เท เจ้าตัวก็ปัดมือผมออก ดันให้พลิกจะปัดหลัง พี่แกก็ขืนตัวไว้ ไม่ให้ความร่วมมืออะไรเลยสักนิด ขนาดมือยังโดนทุบให้ปล่อย

เออ พอก็พอ

ผมปล่อยพี่แกลงนอนหงายเหมือนเดิม ปัดทรายที่ตกบนที่นอนออกเท่าที่ทำได้

อยู่ๆ จากที่นอนหงาย พี่เทก็หมุนตัวมานอนคว่ำ แขนเหวี่ยงมาฟาดต้นคอผมดังอั้ก



โอ้ยยยยยย! พอ

 

ขยับจะลุกขึ้นแต่ชายเสื้อกลับโดนกำแล้วดึงไว้

เมื่อกี้ไล่ แล้วทำไมตอนนี้ดึง คืออะไรว่ะ

ผมไม่เข้าใจคนเมาคนนี้เลย

เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้ว่าผมคือใคร ผมพูดกับเขาตั้งหลายครั้งระหว่างแบกมานี่ บอกให้ยกขาก็ยก บอกให้นอนก็ทิ้งตัวลงนอน เข้าใจที่ผมพูดก็น่าจะรู้ว่าพูดกับใครนะ

ผมไม่ใช่พี่ฟ้า นั่นแหละคือสิ่งที่ผมกลัว และดูท่า เขาจะคิดว่าผมคือพี่ฟ้าไปซะแล้ว

นอกจากจะดึงเสื้อเขาเริ่มดึงแขนเสื้อ ฉุดให้ผมโอนเอนไปมายื้อยุดกันสักสามวิพี่แกก็พูดขึ้น

“ไปไกลๆ เลยแม่ง”

อ้าว อะไรอีกเนี่ย

ผมลุกขึ้นยกพี่เทในท่านอนคว่ำให้เลื่อนสูงขึ้นนอนเต็มความยาวเตียง

ผมกำลังถูกพี่ผลักไหล่ออกอย่างรำคาญ

“แกร็ก” มีเสียงเปิดประตูเข้ามา ผมถึงนึกขึ้นมาได้ว่า ไม่ได้ล็อกห้อง

ผมลุกจากเตียงแบบดีดแรงมาก

ว่าแต่ผมไม่ได้ทำอะไร ทำไมต้องตื่นเต้นวะ?

แล้วตอนนี้คือมันเงียบมาก เงียบจนวังเวง ผมควรพูดอะไรหน่อยมั้ย?

“โหยพี่ เมทพี่โคตรเอาเรื่อง”

พี่ฟ้าเดินนำเข้ามา ยืนกอดอกดูอยู่ข้างเตียง ผมไม่ได้สนใจว่าพี่เขายิ้มทำไมหรือรู้สึกยังไง ผมมองแต่มะนาว

“เออ นี่แหละมัน”



“ไปแป็ปเดียว น็อคซะแล้ว พี่กูโคตรอ่อน” มะนาวยกมุมปากยิ้มนิดๆ ก้าวเข้ามาแค่สองก้าว โยนถุงเซเว่นลงบนเตียง แล้วหมุนตัวออกไปทันทีไม่สนใจผมที่พยายามสบตากับเขา





โอ้ะ!



ความรู้สึกแบบนี้



ชิบหายแล้ว!





--------------------------------------------------
TBC.


ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ทุกคะแนน และบวกเป็ดอีกครั้งนะคะ
ขอบคุณทุกความคิดเห็น ชอบไม่ชอบตรงไหนที่บอกกันไว้ เราอ่านทุกเม้นต์ อ่านซ้ำด้วยเวลาปั่นตอนต่อไปแล้วปั่นไม่ออก 555+
 



ปล. ดิสใหม่ ยังคงเป็นรูปแมวเหมือนเดิมนะ ฮี่ๆ
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 27 ได้เรื่อง] 6/7/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 06-07-2016 10:33:36
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 27 ได้เรื่อง] 6/7/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 06-07-2016 10:38:38
อย่าบอกนะว่ามะนาวเข้าใจผิด :katai1: :katai1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 27 ได้เรื่อง] 6/7/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 06-07-2016 10:39:27
 :กอด1:   :pig4: 
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 27 ได้เรื่อง] 6/7/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 06-07-2016 11:11:57
มะน๊าวววววว เป็นไรจร้าาาา

ปล.ดิสใหม่ น้องแมว น่าย๊ากกกก  :hao7:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 27 ได้เรื่อง] 6/7/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 06-07-2016 11:58:14
เดี๋ยวๆ มะนาวเป็นอะร๊ายยยยย
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 27 ได้เรื่อง] 6/7/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-07-2016 15:11:57
งานเข้า?
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 27 ได้เรื่อง] 6/7/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: magic-moon ที่ 07-07-2016 22:10:39
อะไรอ่ะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 27 ได้เรื่อง] 6/7/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Fahsaizzz ที่ 07-07-2016 22:46:58
ความเป็นคนดีของแม็ต คือซวยตลอดดดดด
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 27 ได้เรื่อง] 6/7/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 08-07-2016 07:46:00
ชิบ....หายแล้วจิงๆ เมต!!!!
ง้อด่วน 55555555555555555
หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 27 ได้เรื่อง] 6/7/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 21-07-2016 06:44:02
แวะมาบอก คลอดแล้วน้า ฟ้าเท ใครลุ้นคู่นั้นอยู่ก็เชิญชมจ้า
ฟ้าเทจะมีความดำมืด แต่ไม่ถึงกับดาร์คจนพาจิตตก ดูโทนสีแบรนเนอร์ก็คงพอเดาได้ ต่างกันกับเรื่องนี้เหลื้อเกิน

ถ้ามองดิสเก้านานๆแล้วเคลิ้ม เชิญจิ้มตามไปจ้า 555
New!   ➽ ลอง เจ็บซ้ำ... Try Again. ➽  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54795.0)
(http://i1159.photobucket.com/albums/p636/Browny_Tan/bro/tryagain2_zpspdrq113w.png) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54795.0)

เรื่องแยกจากกระทู้นี้ คู่รูมเมทรุ่นพี่ ฟ้าเท


หัวข้อ: Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 27 ได้เรื่อง] 6/7/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 21-07-2016 08:57:15
ม้านาววว เป็นอะไร
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 27 ได้เรื่อง] 6/7/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 21-07-2016 20:53:11
รวดเดียวจบ มาต่ออีกๆ  :ling1: นี่มันวายชายชายแต่ไม่รู้สึกขัดใจคู่เมกับพี่โนอาเลยชอบๆ เอาอีก><\\ แอบหลงรักคนหวงน้อง fcพี่ยีนค่าา
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 27 ได้เรื่อง] 6/7/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Maple ที่ 24-07-2016 00:02:54
มะนาวแอบร้ายนะเรา จริงๆเอ็งจงใจใช่มั้ย พูด!!
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 28 รู้กัน] 29/7/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 29-07-2016 17:05:51
(http://i1159.photobucket.com/albums/p636/Browny_Tan/bro/loveagain334_zpsaovquoi9.png)
- บทที่ 28 - รู้กัน -





“มึงนี่นะ ไปไป้” พี่ฟ้าเดินเข้ามาช่วยแกะมือพี่เทออก ไล่ให้ผมออกจากห้อง

ผมหันมองตามมะนาวทันที เขาเดินไปไกลพอควร แบบนี้มันตั้งใจเดินหนีกันชัดๆ

“แม็ต เดี๋ยว” พี่ฟ้า จะเรียกทำไมตอนนี้ ผมกำลังรีบๆ แต่ผมก็ทำได้เพียงหยุดฟัง แต่ตายังมองไปที่ประตูที่ค่อยๆปิดลง

“ครับ?” คนยิ่งรีบๆ อยู่

“กุญแจห้อง” พี่ฟ้าเดินมาหา แบมือตรงหน้าผม

“อ๋อ นี่พี่ ผมไปละ”

ผมหยิบให้อย่างไว ไม่ต้องพูดอะไรต่อผมก็วิ่งทันที



“นาว นาว รอก่อน”

“อ้าว วิ่งทำไมเนี่ย”

ผมผงะเล็กน้อย ไม่คิดว่าจะเจอตาใสๆ สีหน้าสงสัยนิด เหรอหราไร้แววขุ่นหมอง แทบไม่มีความผิดปกติ แต่มันก็ผิดปกติอยู่ดีเพราะเขารีบหันไปทางงานเลี้ยงและยังมุ่งหน้าไปทางนั้นไม่หยุดเลย

“จะได้กลับไปที่โต๊ะพร้อมกันไง”

“ไม่เห็นจำเป็นเลย ไรของมึง”

โอ้ย ผมควรจะเชื่อสิ่งที่เขาแสดงออก หรือเชื่อสัญชาตญาณตัวเองดีนะ เอาจริงๆ ผมไม่อยากเลือกเลย เพราะถ้าเลือกผิด จะกลายเป็นผมที่ซ้ำเติมให้ทุกอย่างมันแย่

“เอ่อน่า” ผมคว้าคอมะนาวเดินกลับไปหาพงศ์กับเม มะนาวไม่พูดอะไรอีก พ้นลมออกทางจมูกเบาๆ แบบตามแต่ใจผมเลย

แปลกที่เขาทำตัวปกติ แต่เอาจริงๆนะ ไงซะผมก็ไม่วางใจหรอก จะให้เชื่อว่าเขาไม่ได้คิดอะไรเลยเนี่ยนะ ไม่มั้ง ก็ในเมื่อเขาเห็นผมนั่งคุกเข่าอยู่บนเตียงข้างๆพี่เท ก้มๆเงยๆ  แถมมือของผมก็ยังอยู่ที่ต้นแขนทั้งสองข้างของพี่รหัสมันซะอีก เรียกภาษาชาวบ้านก็คร่อมอยู่เลยล่ะ ถึงจะเป็นแค่แขนไม่ใช่ทั้งตัวก็เถอะ 

ลองคิดภาพดูนะ ถ้าผมเลือกเชื่อว่าเขาไม่คิดอะไรทำตัวปกติต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ในใจเขาดันคิดว่าผมกับพี่เทมีอะไรๆ อยู่ในช่วงรอดูท่าทีผม เจอผมที่นิ่งๆไม่แก้ตัวหรือพยายามอธิบายอะไร เขาคงจะคิดว่าผมมีอะไรแปลกๆ จริงๆ และที่สำคัญพยายามปกปิดอีกต่างหาก

หรืออีกทาง ถ้าเขาไม่คิดอะไรอย่างที่แสดงออกจริงๆ แล้วผมดันรีบร้อนไปบอกเขาว่ามันไม่มีอะไรนะ ผมบริสุทธิ์ใจนะ เกรงว่าผลที่ได้จะกลายเป็นผมร้อนตัว จนทำให้เขาคิดว่าผมมีอะไรแน่ๆ

ฮื้มมม ยากจัง ทางไหนก็เสี่ยง



“รัดแน่นขนาดนี้ กลัวมันไหลหายไปกลางทางรึไงค่ะ” พงศ์พูดขึ้นตั้งแต่ผมพวกผมยังเดินไม่ถึงโต๊ะ

“อ้าว แบกคนพี่ไป ทำไมมึงกลับมากับคนน้องวะ” เม มึงสงสัยได้ดี

 “อ๊าว ก็ของกูคนนี้” ผมกระชับคอมะนาวจนหัวโคลง ตอบความจริงสุดๆ แต่ดูเหมือนเมจะคิดว่าผมแค่ล้อเล่น

“เชี้ย มึงอย่ามาเซอร์วิชแฟนคลับตรงนี้ ออร่าคู่จิ้นของพวกมึงไม่มีผลกับคนเมาหรอก” ผมมาหยุดตรงหัวโต๊ะ เมพยายามเอามือแทรกตรงแขนมะนาวกับตัวผมเพื่อแยกเราออกจากกัน

แต่เสียงที่ดังมาจากโต๊ะข้างๆทำให้เราหันไปมอง

“มี น้องเมอย่าพูดงั้นซี่ มาๆๆ แม็ตนาว หันมาทางนี้หน่อยพี่จะถ่ายรูป” ผมจะยกแขนออกจากคอมะนาว

“อ่ะๆๆๆ อย่าปล่อย กอดคอไว้งั้นแหละ” พี่ผู้หญิงคนนึงส่งเสียงและรีบรุดมาทางเรา พร้อมๆกับเพื่อนที่โต๊ะของเขาที่มองตามกันทั้งแผง รู้สึกโต๊ะนั้นจะเป็นโต๊ะหญิงล้วนที่พร้อมใจส่งสายตาวิบวับมาทางผมกับมะนาว

“ผมยังไงก็ได้ครับ แต่พี่ต้องถามมะนาวก่อนว่าจะให้พี่ถ่ายรูปไหมนะ” ผมบอกไปตรงๆ

“อะไรของมึงเนี่ย ทำไมต้องโบ้ย”

“ก็มึงกำลังอารมณ์ไม่ดีนี่”

“เอามาจากไหน กูเปล่า”

“แน่ใจ?” ผมเลิกคิ้ว

“เออ”

“ทำไมไม่รอล่ะ”

“รอ? รอไรวะ หมายถึงเมื่อกี้เหรอ?”

หรือเขาแค่อยากกลับเข้าวง? อืมมมมม

ถ้าผมจังเซ้าซี้ต่อ เขาจะอารมณ์ไม่ดีจริงๆแล้วล่ะทีนี้

“งั้น จะให้พี่เขาถ่ายไหม?” ผมตัดสินใจเปลี่ยนเรื่อง ก่อนที่จะกลายเป็นโชว์รสขม ตีกันให้เขาดู



“ถ่ายเสร็จแล้วล่ะ ขอบใจจ้า ฮ่าๆๆๆ” ผมหันกลับไปก็เจอพี่แกกำลังสไลด์หน้าจอโทรศัพท์เช็ครูปที่ถ่ายเมื่อกี้ “แกๆๆ เห็นไหมถ่ายตรงๆดีกว่าไปแอบถ่ายไกลๆ เย้อะ”



เดึ๋ยวนะ

ถ่ายตอนไหน?



“อ้าว?” มะนาวเองก็หันไปเจอเหมือนที่ผมเห็น พี่สาววิ่งเริงร่าเอารูปไปอวดเพื่อน

“ไอ้บ้า เขาถ่ายตอนที่มึงยืนเถียงกันงุงิๆๆ นั่นแหละ” เมตอบความสงสัยของเรา

“เห้อ อีกนิดนึงปากมึงจะชนกันอยู่แล้วเชียว กูกำลังลุ้นเลย หื้ม กูคิดไม่ตกเลยว่าจะจิตนาการว่าตัวเองเป็นนาว หรือจินตะว่าปากกูเป็นแม็ตดี” พงศ์ทำปากจู๋ยกนิ้วแตะปากตัวเอง

“เพ้อเจ้อ!” เมพูดใส่หน้าพงศ์ที่นั่งอยู่ตรงข้ามแบบไม่ปราณี พงศ์เบะปากไม่สนใจ ขยับให้ผมกับมะนาวนั่งด้วยแล้วเริ่มชงเครื่องดื่มให้พวกผม

“กูว่ากูเป็นมึงดีกว่า อยากได้รุ่นใหญ่” พงศ์เปลี่ยนเป้าไปลงที่เมแทน



“ได้ห่าอะไรของมึง”

“โอ๊ย ไม่ได้ก็เหมือนได้อ่ะคะ ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ขนาดนั้น”

“ยังไงๆ เล่าๆ”

“ตอนมารวมที่คณะก่อนออกมานี่อ่ะนะคะเมิง พี่ยีนส์ก็แวะมารับเมโดยอ้างว่าทำตามใบสั่งเจ้โนอาเหมือนปกติ๊ หรือถ้าเป็นฝั่งไอเมก็จะบอกว่าเพราะพี่สาวมันกำชับไว้ร็อกไม่มีอะไร๊ กูรู้ว่าพี่ยีนส์แกจะผ่านมากูเลยขอเกาะล้อเข้าคณะมาด้วย ทีนี้ตอนกูขึ้นไปเจอคือท่านประธานกับลูกสาวกำนันแกก็กำลังเถียงกันอยู่บนรถค่ะ ด้วยหัวข้อว่างานไม่เสร็จเดี๋ยวขับมอไซค์ตามไป ลูกสาวแกกลัวพ่อโดนสิบล้อเกี่ยวลงข้างทางให้มดแดกอ่ะค่ะ เลยไม่ยอม หัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ยอม”

‘ขับกลับชลบุรีออกบ่อย ก็ไม่ต่างกัน’ พงศ์หรี่ตาลง ยกมือขึ้นทำท่าเหมือนคนกำลังขับรถ พูดออกมาด้วเสียงพี่ยีนส์

ก่อนจะหันไปอีกข้าง กอดอกทำแก้มป่องพูดด้วยเสียงบีบเล็กพยายามทำเสียงพี่โนอา

‘ไม่ต่างได้ไง นี่มันกลางคืน ไกลกว่าตั้งเยอะด้วย’

‘เชียงใหม่ก็ไปมาแล้ว ใกล้แค่นี้ชิลๆ น่า’

‘ขากลับอีกล่ะ เมาแน่ๆ จะทำไง’

‘เอาน่าพี่ขับได้’

“แค่กๆ แสบคอ มาถึงตรงนี้อยู่ๆ อิเมก็พูดขึ้นว่า อยากกินเค้ก”

‘ที่รีสอร์ทจะมีเค้กไหมนะ’ พงศ์เลียนเสียงและท่าทางของเมด้วยความเหมือน 90%

“หลังจากนั้น... กูก็เหนื่อยว่ะไม่เล่นละ” พงศ์เลิกแสดงบทบาทสมมุติ กลับมาเล่าแบบปกติ “พี่โนอาแกบอกเลยว่าไม่มี ถึงมีก็ปิดเพราะดึก มีแต่ในกรุงเทพเท่านั้นแหละที่จะหาเค้กได้ ถึงได้ไปมอไซค์ก็คงเละเทะไม่น่ากินบลาๆ แล้วเมมันพูดว่าไงรู้มะ”

‘เหรอ เสียดายจังอุตส่าห์เป็นห่วงเค้ก’

พงศ์มองแรงไปทางเมที่ทำไม่รู้ไม่ชี้

“มึง ร้าย” มะนาวพูดทั้งที่ไม่อยากจะเชื่อว่าเมจะพูดอย่างนั้นจริงๆ

“เออสิ อิดอก ร้ายมาก รู้ไหมผลคือ”

“พี่ยีนส์ขับรถยนต์มา” ผมเห็น เขามาถึงหลังพวกเราประมาณชั่วโมงนึง ทั้งที่ออกจากมหาลัยหลังพวกเราเกือบสามชั่วโมง

“ถูก มันได้แดกเค้กด้วย แม่ง ทำบุญด้วยอะไร พออยากจะเป็นผู้ชายก็หล่อจนตุ๊ดอย่างกูอยากได้เป็นผัว พอเผยความชะนีเข้าหน่อยก็มีผู้ชายมาติดพันเป็นถึงระดับของดีพรีเมียม ได้ทั้งคนได้ทั้งเค้ก”

“พูดดีๆ คนกูไม่อยากได้นะเว้ย”

“เดี๋ยวมึงก็ได้ กูขอสาปแช่ง”

“มึงบุญไม่พอ สาปใครไม่ได้หรอก”

“หน่อยๆๆ ปากมึงนี่”





“กรี๊ดดดดดดดดด!”

อยู่เสียงกรี๊ดก็ดังมาจากหาด แทบทุกคนที่ยังมีสติดีอยู่หันไปมองเป็นตาเดียว

จังหวะที่ทุกคนกำลังงง พี่ยีนส์มาจากไหนไม่รู้ กระโดดข้ามเก้าอี้ที่แออัด วิ่งลงไปที่ชายหาดตามเสียงกรี๊ด

อ้อ นั่นมันเสียงพี่โนอา

พี่ยีนส์วิ่งตรงไปหาพี่โนอา ดึงมากอดทันทีที่คว้าตัวถึง พี่โนอาที่ซุกหน้ากับไหล่พูดไม่เป็นภาษา พี่ป้องที่กำลังเดินตามมาเห็นพี่ยีนส์แล้วจึงหยุด หันกลับไปมองในทะเลกับมองพี่โนอาสลับกัน

“เป็นอะไร โนอา ไม่เป็นไรแล้วๆ”

“ฮื้อๆๆ”

“เกิดอะไรขึ้นป้อง” พี่โนอาเอาแต่ร้องให้ พี่ยีนส์จึงหันไปถามพี่ป้องแทน

“คือ...” พี่ป้องยังคงเก้ๆกังๆ มองพี่โนอาสลับกับหันไปมองทางทะเล

“ผี ผี นั่นๆ ฮื้อๆ” พี่โนอาชี้ลงทะเลไปทั้งที่หันหลังให้ อาการสั่นกับความหวาดกลัวมันดูเกินกว่าคนตกใจกลัวผีทั่วไป

“ไม่เป็นอะไร พี่อยู่นี่ๆ ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไรนะเด็กดี”

คือว่า ผมมองพวกเขาอย่าง... ไม่เข้าใจ นั่นเหมือนไม่ใช่พี่โนอา

พี่ป้องเดินลุยน้ำลงทะเลไป ลงไปจนระดับน้ำสูงกว่าเข่า ก้มลงยื่นมือลงไปในน้ำ หยิบบางอย่างขึ้นมา

มันคือถุงพลาสติกใบใหญ่มากๆ คงแช่น้ำนานจนเริ่มเหลืองเก่า พี่ป้องยกโชว์สูง ส่ายหน้าเล็กน้อย พอๆ กับพี่ยีนส์ที่ถอยหายใจเฮือกใหญ่จนผมอยู่ไกลๆ ยังรู้สึกได้ถึงไหล่ที่ลู่ลง

“ไม่เป็นไรน่า ไม่เอา ไม่ร้อง พี่อยู่นี่แล้ว มันแค่ถุงพลาสติก ดูสิ”

“ไม่ ไม่ ฮื้อๆ”





แต่มันไม่ทำให้พี่โนอาหยุดร้อง เขากอดคอพี่ยีนส์ไว้ ซุกหน้ากับไหล่แล้วยังตัวสั่นและมีเสียงสะอื้น เหมือนเข้าไปอยู่ในภวังค์ความกลัวของตัวเอง

“ชิ้ แย่แล้วว่ะ”

“นั่นดิพี่ เมื่อกี้โนอาจ้องตรงนั้นนานมาก ผมน่าจะเรียก”

“ไม่ใช่ความผิดมึงหรอก ไม่ให้น้องวิ่งลงทะเลก็พอแล้ว” พี่ยีนส์โอบแล้วยกพี่โนอาลอยในอากาศ แบกขึ้นไหล่ แล้วพาขึ้นมาข้างบน ไปอยู่ในอาคารโรงจัดเลี้ยงที่ไฟสว่างที่สุด หลายๆคนที่เห็นเหตุการณ์พากันเงียบและได้แต่มองตาม

“เอ้าๆ อย่าเงียบดิ จะกินจะเล่นก็ทำต่อไป ไม่ต้องสนใจเรื่องชาวบ้านเลยพวกมึง” พี่ป้องตบมือแปะๆ สลายความสอดรู้ของคนมากมาย มีโต๊ะผมเนี่ยแหละ ที่ปากดีกล้าเสือกต่อ

“พี่ป้อง พี่โนอาเป็นอะไรอ่ะ?” เมเป็นตัวแทนหมู่บ้านเผือกจังครับ

“ผวา”

“ทำไมต้องผวา?” ตามมาด้วยรองหัวหน้าหมู่บ้าน มะนาว

“มันเป็นเรื่องฝังใจตั้งแต่ยังเด็ก โนอาเคยพายเรือเล่นที่บ้านสวน แล้วมีศพลอยตามเรือมา พี่ยีนส์บอกว่าอยู่อย่างนั้นเป็นชั่วโมงกว่าจะมีคนมาเจอแล้วช่วยขึ้นจากเรือ เด็กสิบขวบ แต่เป็นซึมเศร้า คิดดู”

“กูเข้าใจพี่ยีนส์เลย” มะนาวกับเพื่อนๆ ผมถอนหายใจพร้อมกัน

ผมสิ นึกถึงน้องสาวของผมขึ้นมาเลย เดิมทีที่ไม่รู้เรื่องนี้ผมก็เข้าใจพี่ยีนส์อยู่แล้วนะ ว่าทำไมต้องหวงต้องห่วงน้องมากขนาดนั้น พอมารู้เรื่องนี้ โคตรซึ้งเลย

“พี่ยีนส์เลยกลายเป็นคนติดน้องตั้งแต่ตอนนั้น ไม่ยอมให้โนอาอยู่คนเดียว เขาโทษว่าเป็นความผิดตัวเองที่ไม่ดูน้อง”

“พี่ยีนส์เล่าให้พี่ป้องฟังเหรอ” เมยังคงสงสัยในหัวข้อนี้อย่างจริงจัง

“อื้ม เล่าตอนที่บอกว่าน้องจะมาเรียนที่นี่ ให้ช่วยเรื่องจับสายตอนนั้น”

“พี่ก็เลยยอมช่วย?”

“เขาไม่ได้ถามความเห็น บอกเหตุผลก็จริง แต่จริงๆก็คือบังคับนั่นแหละ”

“เพราะรู้อย่างนี้ พี่ป้องก็เลยไม่ยอมคบกับโนอา ทั้งๆที่รู้ว่าเขาชอบตัวเอง” เมเปลี่ยนสีหน้ากับน้ำเสียง เป็นการจับผิดพี่ป้อง

“เม ไม่เอาน่า”

“ชอบกันแท้ๆ ทำไมต้องแคร์ไอ้บ้านั่นด้วย”

“ไม่ใช่เพราะอย่างนั้น”

“แล้วจะหลบหน้าโนอาทำไม เวลาพี่เดินหนีโนอา รู้ไหมว่าคนโดนตีมันคือไอ้นี่” เมชี้หน้าตัวเอง สีหน้าเจ็บแค้นสุดๆ

เออ อย่างนี้นี่เองผมเชื่อแล้วว่าเมมันรู้ใจพี่ผมจริงๆ รู้ลึกรู้จริงชนิดไม่เป็นมันไม่รู้หรอก



มะนาวสะกิดผม แล้วเอียงหน้ามาหาหูผม

“เกิดอะไรขึ้นตอนกูไม่อยู่รึเปล่าวะ รู้สึกตามเรื่องไม่ทัน”

“ก็ นิดหน่อยนะ” เรื่องพี่เทพี่มึงก็เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องนี้เนี่ยแหละ “เดี๋ยวเล่าให้ฟัง” ผมปิดท้ายอย่างเอาใจ รู้สึกมันจะสนใจเรื่องคนอื่นจนลืมทำมึนตึงใส่ผมไปแล้ว เลยถือโอกาสตามใจไปก่อน

หลังจากนั้นทุกคนก็ดูเงียบๆเหงาๆ ไม่เฮฮาโวยวายกันอีก ทั้งที่กำลังเมาได้ที่ พวกพี่ๆ ปล่อยพวกปีหนึ่งกลับห้องไปนอนได้ถ้าอยาก แถมกำชับห้ามทำอะไรพิเรน ห้ามไปไหนมาไหนคนเดียว ห้ามลองดี บางคนก็เริ่มเปิดเรื่องผีทั้งของในคณะและตามค่ายรับน้องมาเล่า

เราคุยเล่นกันไปสักพัก ก็มีคนเดินเข้ามาที่โต๊ะ

“พี่ป้องๆ พี่ยีนส์ให้ไปหา” พี่ปีสองคนหนึ่งเดินมาบอกพี่ป้อง ผมมองตามไป พี่โนอานั่งอยู่บนเก้าอี้ ก้มหน้า มีพี่ยีนส์นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าแล้วจับมือพี่โนอาไว้ พี่ผมยังดูไม่โอเคเลย

“แม็ต มึงไปอีกคนไป้ ครบสายเลย” เมแซวผม

“ถ้ากูไป มึงก็ต้องไปด้วย”

“เกี่ยวไร”

“โทษฐานรู้ดี คู่ควรตำแหน่งพี่สะใภ้”

“สัส”

รู้ดีจริงๆครับ สาวๆเขารู้กัน ไล่ต้อนพี่ป้องได้ ต่อรองกับพี่ยีนส์แบบอยู่หมัด พี่โนอาก็ดูรู้ใจอย่างกะกล้วยหอม B1 กับ B2 ส่วนผมถ้าขัดใจมันก็คงพร้อมกระโดดตบหัว โดนบงการทั้งสายแบบผูกขาดที่มนุษย์เมแค่คนเดียว คิดๆแล้วผมก็เบื่อหน้ามันครับ

“มึงก็สวยขึ้นนะเนี่ยช่วงนี้ มีความรักใช่ไหมบอกมา” พงศ์พูดขึ้นเสียงดัง เอาจริงๆ ช่วงสอบทุกคนโทรมมากกินเยอะนอนน้อยหัวฟูตาโหล ห่างไกลคำว่าสวยหล่อกันทุกคนครับ แต่ผมคิดว่าจุดประสงค์ของพงศ์ที่พูดแบบนั้นออกไป เพราะคนที่เดินมาไกลๆ ข้างหลังเมโน้น “ตาก็เยิ้ม ผมเผ้าก็ไม่สนใจเซต ไม่ตัดสั้นติดหนังหัวแล้วด้วย กะจะไว้ยาวแล้วใช่มะ?”

“หัวกูเรื่องของกู”

“แล้วถ้าผัวมึงอยากให้ไว้ยาวอ่ะ?”

“โอ้ย อิพงศ์ รอกูมีผัวก่อนแล้วกัน กูค่อยตัดสินใจว่าจะตามใจผัวดีไหม โอเคนะ เพราะงั้น ไม่เสือกดิ”

“ใช่ จะยาวจะสั้นพี่ก็โอเค” พี่ยีนส์มายืนกอดอกพูดอยู่หลังเม

“เฮ้ย มาเมื่อไหร่เนี่ย”

“ตั้งแต่ สวยขึ้นนะช่วงนี้ พิ้งค์พิ้งค์ เดี๋ยวมาเอารางวัลนะ”

“โฮ๊ะๆๆ ขอมงฯเล็กๆ เหมาะกับหนูค่า”

“ฮ่าๆๆ”

“พี่โนอาโอเคมั้ยพี่” ผมถาม ระหว่างที่พี่ยีนส์ชี้มือชี้ไม้สั่งให้เมชงเครื่องดื่มให้ รอบสองแล้วนะวันนี้ที่เห็นเมมันทำตามแบบไม่มีปากมีเสียงเถียงกลับ

“โอเค ที่งอแงก็แค่จะอ้อนพี่รหัสมันนั่นแหละ ไม่มีอะไรเลย”

“เขาเป็นงี้บ่อยเหรอครับ”

“ไม่เป็นมาสองสามปีแล้ว แต่มันไม่มีทางหาย มันเป็นเรื่องที่อธิบายลำบาก”

“พี่ป้องบอกพวกเราแล้วพี่”

“เหรอ เออดี งั้นช่วยกูดูพี่พวกมึงด้วย” ผมกับมะนาวพยักหน้า

“แล้วมันเกี่ยวกับที่ไม่ยอมให้โนอามีแฟนตรงไหนเนี่ย” เมพูดขึ้น ไม่ยอมส่งแก้วให้ กำปากแก้วไว้ถามอย่างหาเรื่อง

“ไม่ใช่ไม่ยอม แต่คนที่เข้ามามันมีแต่พวกกะโหลกกะลานี่หว่า”

“ไม่ลองให้คบจะรู้ได้ไง”

“ยังไม่เจอคนเข้าท่า”

“ไม่เข้าท่าๆ” เมทำเสียงล้อเลียนจนผมรู้สึกว่าพงศ์เริ่มถอยหลังชิดพนักเก้าอี้

“เมเคยเห็นเวลาเจ้เฟอกหักแล้วไม่เป็นอันทำอะไรไหม? ผู้ชายเลวๆพวกนั้นเคยรับผิดชอบอะไรมั้ย ตอนจีบก็ให้ทุกอย่าง สักพักพอหาที่สวยกว่านมใหญ่กว่าได้ก็โยนทิ้ง เจ้ไม่เคยเล่าให้ฟังเหรอขนาดนอนโรงบาลพะงาบๆไม่เคยเห็นหัวส่งแต่ข้อความไม่มีประโยชน์มา พวกแมงดาก็มี หลอกให้ดาวน์รถผ่อนบ้านที่เจ็บใจคือหลอกผู้หญิงหลายๆคนพร้อมกัน ควายไปสิ พวกเรายังเด็ก จะรู้อะไร”

“เป็นผู้ชาย เลยคิดว่ารู้จักผู้ชายทุกคนในโลกว่างั้น”

“ไม่ได้หมายความอย่างนั้น แค่ว่า ถ้าเจอแบบนั้นไปรู้ตอนที่ถอนตัวไม่ขึ้น จะทำไง ผู้หญิงส่วนใหญ่บูชาความรัก ทุ่มจนเกิน โนอาก็จะเป็นอย่างนั้นถ้าไปรักใครเข้า ไม่อยากให้ไปรักคนที่ไม่ดี”

“แล้วพี่ป้องโอเคไหมพี่” มะนาวถามขึ้น

“เราคิดว่าไงล่ะ?”

“ผมไม่ค่อยรู้จักพี่ป้องอ่ะ แต่ดูเขาก็เป็นคนดี หล่อด้วย ใส่แว่น ดูใจดี พึ่งพาได้”

“มึงมีผู้ชายใส่แว่นเป็นของตัวเองแล้วค่ะ อย่าไประราญของคนอื่น” พงศ์ก้มลงมองลอดใต้คางผมโวยวายใส่มะนาวที่นั่งถัดจากผมไป

“กูชมใครไม่ได้หมายความว่าดูอยากได้เองเหมือนมึงนะ”

“ไม่ชมกูก็อยากได้ค่ะ กูอยากได้ผู้ชายทุกคนเป็นเรื่องปกติ”

“แล้วกูต้องเหมือนมึงด้วยรึไงเล่า มึงกลับเข้าประเด็นก่อนได้ไหม” พี่ยีนส์ไม่ค่อยสนใจพวกเราเท่าไหร่ ยังเหลียวหลังมองที่น้องสาวตัวเองไม่ให้คลาดสายตา

“ประเด็นอะไรวะ?” พงศ์ทำหน้าเอ่อ “อ้อ พี่ป้องโอเคนะพี่ หล่อ สุภาพ คุณชายๆ”


“พี่รู้จักพี่ป้องมานานสุด ในสายตาพี่ พี่ป้องเขาเป็นไงล่ะครับ” ผมถามพี่ยีนส์ เขาถอนหายใจแล้วยกแก้วขึ้นดื่มนิ่งๆ

“จนถึงตอนนี้ก็เป็นคนเดียว ที่จะยอมให้ไปรับไปส่งแทนละนะ”

พวกเราเอาแต่มองตามสายตาพี่ยีนส์ มองภาพคนสองคนที่นั่งข้างกันเงียบๆใต้แสงไฟ



ไม่แปลกใจเลยที่ใครต่อใครเข้าใจว่าพี่โนอาเป็นแฟนพี่ยีนส์ ดูความหวง กับสายตาที่ไม่เคยมองไปที่อื่นเลยของเขาสิ นั่นขนาดนั่งหันหลัง ยังหันไปมองทุกสิบวิ มานั่งฝั่งนี้เลยไหมครับพี่


เดี๋ยว เดี๋ยวนะ แก้วที่เมชงใหม่เมมันยังกำอยู่ แล้วแก้วที่พี่ยีนส์กิน... มันแก้วเมนี่หว่า

หึ้?







“พิ้งคึ รวมตัวค่า” พี่มีมี่เรียกข้ามโต๊ะมา เปิดหมวกปีกกว้างบนหัวโบกไปมา ข้างๆก็มีเพื่อนสาวโบกผ้าพลิ้วๆเรียกด้วย

พงศ์เด้งตัวขึ้น พาตัวกลมๆไปตามเสียงหัวใจเรียกร้อง




ผมมองนั่นมองนี่ ทำเป็นมองไปทางทะเล หาเรื่องชิ่ง

“นาว ไปเดินเล่นที่หาดกัน ป่ะ”

“อื้ม” มะนาวเดินตามผมมาทันที ก็เราไม่อยากเป็น กขค นี่นา

ข้ออ้างนั่นครับ จริงแล้วผมอยากมีเวลาส่วนตัวกันสองคนบ้างต่างหาก

เราถอดรองเท้าไว้ เดินเท้าเปล่าลงไปที่หาด ชายเสื้อมะนาวปลิวไปมา ผมเขาก็โดนลมพัดจนลู่ไม่เป็นทรง

เขาเดินก้มหน้าไม่พูดอะไร มะนาวโหมดเม้มปากก็น่ารักไปอีกแบบ

ผมรู้เขามีอะไรอยากพูด แต่ยังไม่ยอมพูด เดินไปเดินมาอยู่กับความเงียบ เขาไม่พูดอะไร ผมก็ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน



เสียงพูดคุยเริ่มห่างออกไป เสียงคลื่นซัดทรายชัดขึ้น ผมอยากเดินไปโอบไหล่เขา แต่ความจริงเรื่องเขากำลังอารมณ์ไม่ดีและตรงนี้มีคนมากเกินไปทำให้ผมได้แต่ยิ้มบางๆให้ด้านหลังของเขาในความมืด



“เห็นรอยตรงนี้ไหม?”

ผมชี้ให้เขาดูรอยทรายยุบเป็นรูปคน

“อะไร”

“เมื่อกี้พี่เทหลับอยู่ตรงนี้”

“อะไรนะ? ตรงนี้เหรอ ได้ไง” มะนาวมองกลับไปที่โต๊ะ แล้วมองตรงนี้ มันไกลกันมากพอควร

ผมหัวเราะ ไม่รู้จะเล่ายังไงต่อ

“บ้าป่ะ มานอนตรงนี้”

“พี่โนอาเมา หาเรื่องพี่ยีนส์ ก็เลยลากพี่เทมาตรงนี้แล้วตะโกนด่าใส่ทะเล เขาคุยกันเสร็จไปอยู่ไหนกันแล้วก็ไม่รู้ แต่พี่เทนอนจมคลื่นอยู่นี่” ช่วงนี้น้ำลด ดังนั้นรอยตรงนี้จึงยังชัดไม่มีอะไรมาลบไป

“แล้ว หลังจากนั้นล่ะ”

“กูก็แบกพี่เทกลับห้อง”

“อ๋อ เหรอ”

“ตอนนั้นกูก็คิดว่า คนที่กูแบกต้องเป็นมึงสิมันถึงจะถูก”

“...”

“ตอนที่กูเหม่อๆ เขาก็เตะก้านคอกู แล้วก็ใช้สันมือทุบไหล่กูแทบหัก”

“ฮ่าๆๆๆ จริงดิ สม”

“เฮ้ย เข้าข้างพี่มึงเหรอ”

“แน่อยู่ละ เออ มึงบอกพี่กูเมามากใช่ป่าว กูกลับไปดูหน่อยดีกว่า เดี๋ยวอ้วกใส่ที่นอน ซวยกันหมด”

“เฮ้ย ไม่ต้อง!”

“อ้าว ไมอ่ะ”

“ปล่อยเขาไปเถอะ กูอยากให้มึงอยู่นี่ กับกู” ผมพูดลอยหน้าลอยตา เป็นเขาซะอีกที่ต้องหันกลับมามองผมงงๆ

“เมาใช่ไหมเนี่ยมึง”

“ไม่รู้สิ แต่ตอนนี้อยากจับมือมึงมากเลย”

มะนาวขมวดคิ้วย่นหน้าใส่ผม แล้วจับข้อมือผมไปวางไว้บนไหล่เขาแทน ผมยืนซ้อนหลังเขา ถ้ามองจากข้างบนคงจะไม่สะดุดตาเท่าไหร่



“เห้อ” หลังจากยืนเงียบๆมาสักพัก มะนาวก็สูดหายใจเข้าลึกมาก แล้วพ่นออกมาเฮือกใหญ่

“...” ผมมองข้างหลังมะนาว เขาถอนหายใจแล้วก้มหน้า สักพักก็สูดหายใจเข้าอีก แล้วถอนหายใจยาวกว่าเดิมซะอีก

“เห้ออออออ”

“เป็นอะไร?”

“มึงอยากแค่จับมือ กูดิ โอ้ยยยย!” มะนาวขยี้หัวจนผมเสียทรง แต่ผมเขาก็ตกลงมาทิ้งตัวตรงเหมือนเดิมอย่างกับโฆษณายาสระผม ผมมองเท่าไหร่ก็ไม่เคยเบื่อ

“อะไร ฮ่าๆๆ”

“กู อยากจูบมึงชิบหาย แต่แม่ง”

 มะนาวกัดปากแล้วเริ่มเดินหนีผมออกไป ทิ้งแขนผมไว้ไปยืนก้มหน้ามองคลื่น มองเท้าตัวเอง



“ปวดฉี่จัง ไปห้องน้ำดีกว่า” ผมพูดเสียงดัง ก่อนหันหลังให้ทะเลแล้วออกเดิน

“เอ้า นึกจะไปก็ไป”

ผมหยุด หมุนกลับไปทางทะเลที่มะนาวยังยืนงงอยู่ หรี่ตาลง พูดเบาๆ หวังว่าเขาจะได้ยิน

“อย่าโทษกู กูกำลังตามใจมึงนะเนี่ย”

“อึก”

“ไง?” สนใจไปห้องน้ำด้วยกันไหม? ผมยืนกวนๆ รอคำตอบจากเขา

“เอ่อะ” เขาอึ้งไปสักพักกว่าจะตั้งหลักได้ แล้วทำปากบอก “เดี๋ยวตามไป”





ผมยืนพิงขอบประตูห้องน้ำห้องในสุด กอดอกเล่นมือถือบังหน้าไปงั้นๆ

ห้องน้ำส่วนกลางของรีสอร์ทมีสองที่ ผมเดินเลยเข้าไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ไกลหาดมากกว่าเพราะคิดว่าห่างไกลผู้คน คนคงไม่เดินมาถึง ในนี้มีโถ่ฉี่สามโถ ห้องน้ำที่เป็นห้องอาบน้ำในตัวสองห้อง ทุกอย่างสะอาดดี เว้นบนพื้นที่มีเม็ดทรายไปซะทุกที่

ผมไม่รู้มะนาวจะตามมาจริงไหม แถมไม่รู้ด้วยว่าจะมาเมื่อไหร่ แล้วยังต้องลุ้นว่าจะโก๊ะไปโพล่อีกห้องน้ำโน้นมั้ย น่าเป็นห่วงไปซะทุกอย่าง แต่ทำไมก็ไม่รู้ รู้สึกใจนิ่งและไม่ร้อนรนเลย มันเย็นวาบและพร้อมที่จะรอ

ตอนแรกผมพยายามไม่คิด เพราะมัวแต่อึ้งเรื่องห้องโดนยึด แต่พอเขาเผยความรู้สึกตัวเองออกมา ผมกลับมีความรู้สึกแบบนั้นเหมือนเขาหรือมากกว่าเขาซะด้วยมั้ง แล้วทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองสนองความรู้สึกเขาได้

อยากจูบ... ไปหัดพูดจาน่ารักแบบนี้มาจากไหนนะ

ผมไม่เคยรอคอยที่จะจูบเขามากขนาดนี้ ไม่เคยรู้สึกอยากจูบเขามากขนาดนี้

เขาไม่เคยบอก ไม่เคยเรียกร้องอะไรทำนองนี้ วันนี้เหมือนเขาจะมีเรื่องติดใจสงสัย

แต่ทำไมต้องน่ารักมากลบความขี้หึงของตัวเองด้วย ทำไมทำไม่รู้ไม่ชี้เก่งนัก



แกร็ก

ประตูห้องน้ำเปิดออก พร้อมๆกับผมที่เงยหน้าขึ้นมอง มะนาวสบตากับผม

ผมยิ้ม

มะนาวมาแล้ว เขายืนอยู่ใกล้แค่นี้เอง





------------------------------------------
TBC.




หายไปนาน ไม่ถึงกับตัน แค่เขียนไม่ออก เหอๆ (ต่างกันตรงไหน?)
ถ้าคนเขียนเผลอไปอ่านเรื่องของคนอื่น จน ติด จนเพ้อ จะมีความชิบหายตามมาคือเขียนเรื่องตัวเองไม่ออก ก็เลยกลายเป็นอย่างนี้แล ผมขอโต้ดก้าบบบ

แจ้งข่าวเรื่องแยกของ พี่ฟ้าเท
ไปจ้า ตามไปจ้า ➽ ลอง เจ็บซ้ำ... Try Again. ➽
(http://i1159.photobucket.com/albums/p636/Browny_Tan/bro/tryagain2_zpspdrq113w.png) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54795.0)
เพิ่งลงได้ 2 ตอนเบาๆ
เบาๆ


หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 28 รู้กัน] 29/7/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-07-2016 18:01:30
 :hao7:
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 28 รู้กัน] 29/7/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 29-07-2016 20:09:13
แมต - มะนาว  :-[ :-[ :-[
ยีนส์ - เม  :o8: :o8: :o8:
ฟ้า - เท ได้อ่านและ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ป้อง - โนอา อยากอ่านมากๆ โนอา รู้ใจตัวเองว่ารักใคร :impress2: :impress2: :impress2:
แต่ อยากรู้ความในใจของป้องบ้าง  :z3: :z3: :z3:
ชอบบบบ รออออ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 28 รู้กัน] 29/7/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 29-07-2016 20:25:24
ไม่ว่ามะนาวจะเห็นแล้วคิดมากหรือไม่คิดอะไรก็ตาม
มันดีกว่าการที่แมตมะนาวต้องมางอนแล้วทะเลาะกัน

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 28 รู้กัน] 29/7/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 29-07-2016 20:51:48
 :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 28 รู้กัน] 29/7/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 29-07-2016 23:28:36
คิดถึงๆ รอน้าา
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 28 รู้กัน] 29/7/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: PaiPo ที่ 01-08-2016 16:05:27
ทำไมต้องน่ารัก มะนาว กลัวข้างรหัสไม่หลงเธอหราาาา
 :impress2:
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 29 เรื่องวันนั้น] 22/8/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 22-08-2016 03:42:13
(http://i1159.photobucket.com/albums/p636/Browny_Tan/bro/loveagain334_zpsaovquoi9.png)
- บทที่ 29 - เรื่องวันนั้น -


มะนาวดูลังเลเหมือนกำลังคิดว่าควรจะหมุนตัวกลับออกไป หรือเดินเข้ามาหาผมดี

ประตูห้องน้ำค่อยๆปิดลง เสียงภายนอกเงียบลงจนเกือบเงียบสนิท อดิศรอีกคนยืนอยู่กลางห้องน้ำ เขาเริ่มหลบตา ขมวดคิ้ว เม้มปาก หันมองกระจกข้างตัว แล้วหันกลับไปมองประตูใหญ่ด้วยแววกังวนเต็มที่ 

หันกลับมาอีกที เขาจึงตกใจที่เจอผมมายืนอยู่ใกล้ๆ

“จะสะดุ้งทำไม หื๋อ?” ผมกลั้นขำไว้ ไม่อยากทำให้เขาหงุดหงิดให้ต้องเสียเวลาง้ออีก

“อะไร!” แน่ะ จะระแวงผมเกินเหตุไปแล้ว

“มึงอ่ะ เป็นอะไร แล้วนี่กว่าจะมาได้นะ” ไม่ได้รอนานมากมายอะไร แค่สามนาทีตามเวลาในโทรศัพท์ แต่ผมแค่รู้สึกว่ามันนานมาก รอนานจนตื่นเต้น รอนานจนลุ้นไปหมด

“ก็...” ผมจับมือเขา ท่าทางหวาดระแวงรีบก้มลงมองมือพวกเราที่จับกันอยู่สลับกับมองไปที่ประตูนั่น ตลกดี

จริงๆผมเองก็กลัวว่าจะมีคนเข้ามา แต่พอเห็นเขาเป็นอย่างนี้ ผมจะแสดงออกไม่ได้เลยว่าที่จริงความปลอดภัยมีน้อยแค่ไหน

“มานี่เถอะ” ผมเดินนำเข้าไปในห้องน้ำห้องในสุด ดันหลังมะนาวให้เข้าไปยืนข้างใน ก่อนจะเดินตามเข้าไป เราต้องเบียดกันตอนที่ผมปิดประตู

“ทำไมต้องเอามือไว้ตรงนี้เนี่ย” มะนาวพยายามแกะมือผมที่วางอยู่บนหลังเขาระดับเอว แต่เขาพลาดเพราะผมเลื่อนมือหนี นั่นยิ่งทำให้เขา ชักสีหน้าใส่ผมเข้มกว่าเก่า ต้องบอกไหมว่ามันไม่น่ากลัวเลย กลับกันมันยิ่งทำให้ดูออกว่าเขากำลังเขินอย่างหนัก

“แล้วจะให้เอาไว้ไหน?” ผมเลื่อนมือขึ้นมาอยู่กลางหลัง ตรงที่เขาจะเอื้อมไม่ถึง

“...” เขาไม่ตอบ เวลามีน้อยยังจะก้มหน้างุดๆ ก้มจนหน้าผากแปะลงมาที่เนินไหล่ผมแล้ว

“มา” ผมดึงมือเขายกขึ้นมาเหนือไหล่ผมให้โอบคอผมไว้ จะได้ไม่ต้องคิดมาก

เดินตามมาถึงนี่ต้องรู้สิว่าจะเจอกับอะไร

มือผมทาบข้างแก้มนุ่ม อีกมือโอบรอบเอวเขา ปกติเขาเป็นคนผอมบางอยู่แล้วเอวของมะนาวจะเล็กลงไปอีกตอนที่ยืนเขย่งแบบตอนนี้

ผมดึงเข้ามาแนบชิด นิ้วโป้งกดคางแหลมให้เปิดปากเล็กๆ รอรับจูบของผม



แปะ!

“ทำไมต้องทำหน้าหื่นแบบนั้นด้วย”

โอ้ย

ผมโดนมะนาวเอามืออุดหน้าแล้วผลักออกข้างๆ แถมยังถามประโยคเมื่อกี้ด้วยสีหน้าจริงจัง

อุ๊ว่ะ แล้วทำไมถึงไม่รู้ล่ะว่าทำไม หึ?



“มะนาว”

“อะไร” เขาทำเสียงอ่อนบ่นต่อไปอีกว่าอยู่แค่นี้จะเรียกทำไมอีก

“ไม่อยาก... จูบ แล้วเหรอ?”

“อึก!”

“จะมาหลอกให้อยาก แล้วจากไป ไม่ได้นะ” ผมพูดแค่นั้นไม่รอให้เขาโต้เถียงอะไรกลับมาอีก ก้มลงกดจูบเขาหนักๆ เพราะตอนนี้หิวมากบอกเลย

“เชี่ยแม็ต อุบ! อื้ม”

ผมยิ้มไป จูบไป

จูบที่ในช่วงแรก เขาไม่ให้ความร่วมมือ ทั้งผลักไหล่ ทั้งปิดปากหนี

ผมถอยออกมา กลับมาจ้องตาเขา

“นะ”

มะนาวถอนหายใจ ไม่รู้จะท่าเยอะทำไมในเมื่อเป็นฝ่ายอยากเอง

มือเล็กเงอะงะค่อยๆกลับมาคล้องคอผมเหมือนเดิม

“อื้ม” เสียงตอบสั่นในคอ

ก่อนมะนาวจะหลับตา แล้วยืดตัวขึ้นมาหาผมอีกครั้ง ผมก้มลงไปหา กดจูบแนบริมฝีปากนุ่มนิ่ม กลิ่นไอที่ทำให้รู้สึกถูกมอมเมา อบอวนจนต่างเคลิบเคลิ้ม

จูบลึกซึ้ง สัมผัสอ่อนนุ่มชวนหวั่นไหว เราหลุดเข้ามาอยู่ในโลกที่มีเพียงเราสองคนอีกครั้ง

สองมือผมประคองอยู่ที่เอวเขา เปลี่ยนเป็นโอบกอด กอดรัดเขาเข้ามาจนร่างกายแนบชิด



เสี้ยววินาทีนั้นเอง!

เสียงเปิดประตูห้องน้ำดังขึ้น พร้อมๆกับมะนาวที่ขยำเสื้อผมแน่น มีคนเข้ามาในห้องน้ำชายฝั่งนี้แน่ๆ เพราะมันมาพร้อมกับเสียงผิวปาก



มะนาวถอยออกจากกันทันที แต่ผมยังกอดเอวเขาไว้ มะนาวจ้องผมตาโต แทบไม่คิด ผมยกมะนาวขึ้นวางบนผาชักโครกแล้วทำท่าทางบอกให้เขายกขาขึ้น ห้องน้ำมีผนังปิดข้างๆหมด แต่ประตูดันสั้น เปิดล่างลอยเหนือพื้นเป็นคืบ มะนาวย่นคิ้วทำหน้าจะร้องให้ได้ ผมยืนข้างๆ ดึงหัวมะนาวให้ซบลงตรงเอวอก ลูบหลังปลอบ ทั้งที่เสียงผิวปากใกล้เข้ามาๆ

เสียงผิวปากหยุดลงตรงโถฉี่ แต่เสียงเท้าคนเดินยังลึกเข้ามาๆ จนมาแถวๆหน้าห้องน้ำห้องข้างๆ เขาอาจจะมาเข้าห้องน้ำ เดี๋ยวก็ไปน่าเดี๋ยวก็ไป ผมพยายามปลอบตัวเอง

“หึ!” เสียงพ่นลมทางจมูกแบบชอบใจ ก่อนจะตามมาด้วยเสียงหัวเราะสองสามจังหวะที่ทำให้มะนาวกัดปากกลัว

แต่ผม ผมรู้สึกขนพองสยองเกล้า เสียวสันหลังมากกว่าตอนได้ยินเสียงคนเปิดประตูเข้ามาซะอีก

พี่ฟ้า!

ทำไม ทำไม ทำไม!

เสียงฝีเท้าเขาหมุนกลับเดินห่างออกไป เปิดก๊อกน้ำล้างมือครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินออกไปพร้อมเสียงปิดประตูเสียงดัง


ปึ้ง!



ผมนิ่ง มะนาวก็นิ่ง เขาทำปากพูดแบบไม่มีเสียง

‘ไปแล้วจริงป่ะวะ’

ผมก้มลงมองลอดช่องใต้ประตูออกไป ไม่มีสิ่งแปลกปลอม ก็เลยเปิดประตูแง้มออกไปดู

“ไม่มีใครแล้ว”

“เห้ออออ” มะนาวถอนหายใจยาว แต่ก็ยังเก็บเสียอย่างดี

“ใครวะแม่ง”

“จำไม่ได้เหรอ?” ผมปิดประตูกลับมาคุยกับมะนาวก่อน

“เห้อะ” เขาส่ายหน้า ก่อนเงยหน้ามาสบตาผมพูดด้วยเสียงเบาสุด “มึงพูดเหมือนรู้ว่าใคร”

“จะไปรู้ได้ไง มองไม่เห็น เสียงก็ไม่ได้ยิน”

บางที... การโกหกเล็กๆ น้อยๆ ก็ทำให้ชีวิตสงบสุขครับ นึกดูถ้ามะนาวรู้ว่าคนที่เข้ามาเป็นใคร ถ้ามะนาวระแวงว่าคนคนนั้นจะรู้เรื่องเข้า ถ้าเขายิ่งห้ามไม่ให้ผมเข้าใกล้ หรือไม่ยอมออกมากับผมอีก ผมก็ซวยดิ

ดังนั้นให้เขาไม่รู้อะไรเลยต่อไป จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

“ถ้าเขาเห็น หรือได้ยินที่เราคุยกันก่อนนี้อ่ะ?”

นั่นไง ขี้นอยด์

“เขาจะได้ยินได้ไงเราพูดเบาจะตาย เอางี้ เดี๋ยวกูออกไปก่อน เอาโทรศัพท์มามั้ย?”

“เอามา อยู่นี่”

“อื้ม รอไลน์กูนะ ค่อยออกไป”

“ก็ดี กูไม่ชอบความตื่นเต้น” มะนาวคิดมากจนหน้าเสีย สีหน้าเป็นกังวนตื่นกลัวจนผมพูดอะไรก็ยอมทำตามไปหมด

“อื้ม” ผมจูบมะนาวหนักๆอีกที ยิ้มให้ “ไม่มีอะไรหรอก อย่าคิดมาก” มะนาวรับคำตาละห้อย ก่อนเปิดประตูออกมาโถงห้องน้ำ

ผมมองห้องน้ำอีกห้อง มันยังว่างอยู่

กวาดตาไปรอบๆ ไม่มีอะไรผิดปกติ ผมเดินออกจากห้องน้ำด้วยท่าทางที่มั่นใจแล้วว่าปกติดี

แต่วินาทีที่หมุนลูกบิดประตู ทำให้รู้ ว่านี่ไงความไม่ปกติ ประตูห้องน้ำมัน ล็อก

ล็อกจากข้างใน!

ผมเปิดประตูงงๆ เดินออกมา แล้วหันกลับไปมองประตูที่ค่อยๆงับปิดลง

“หึ!” เสียงเยาะเย้ยแบบเมื่อกี้เลย ดังมาจากโต๊ะหินหน้าบ้านพักหลังข้างๆ ผมหันมองทันที

“อึก!” พี่ฟ้าจริงๆ

“มานี่” พี่ฟ้าเหลือกตากระดิกนิ้วเรียกผม

ผมเดินไปหาอย่างไม่ต้องคิด ถ้าจะนั่งรอกวนตีนขนาดนี้ จะทำไงได้ล่ะครับนอกจากเดินไปหาแบบแทบคลานเข่าเข้าไป... ชะตากรรม โธ่

แต่คนนี้ใจดี เนอะ ตกลงกันได้ เชื่อเถอะ...

“กูว่ากูเห็นมะนาวเข้าไปในห้องน้ำ” นั่นไง ประโยคแรกก็ข่มขู่มาเลย

“...” ผมรอ ไม่เถียง ไม่แก้ตัว ไม่ยอมรับ ควรรอฟังให้จบก่อนจริงไหมครับ

“ห้องน้ำมีสองห้อง” ใช่ สองห้อง “อีกห้องมันว่าง แต่แบบ กูเห็นขามึงในห้องน้ำแค่คนเดียว”

จบครับ ชีวิตผมจบแล้ว โอ้ยตายๆๆๆ ถ้าเป็นคนอื่นเขาคงไม่สังเกตถี่ถ้วนขนาดนี้ นี่อะไร จำได้กระทั้งขาผม

แต่พี่ฟ้าเป็นคนดีเนอะ บางทีเขาอาจจะเห็นแก่ผมที่เคยช่วยเขาหลายครั้ง ยอมช่วยผมเก็บไว้เป็นข้อมูลที่เรารู้กันแค่สองคนเพิ่มอีกเรื่อง

“กูว่ากูไม่ได้ตาฟาดนะ คนที่เดินเข้าไปก่อนนี้คือมะนาว”

“ครับ” ผมหลับตาตอบอย่างยอมจำนน

“เอาจริงๆนะ” เขาลูบคางสีหน้าได้ใจ “อยู่ยังไง แม่งท่าไหนวะ ในหัวกูนี่จิตนาการไปไกลมาก”

ผมอยากร้องให้โฮๆให้มันรู้แล้วรู้รอดไป ความใจดีของพี่ฟ้ามันซ่อนอยู่ใต้การข่มขู่ผมอีกแล้วครับ อยากจะถามกลับว่าตอนพี่สามขาพี่อยู่ท่าไหน ก็ดูจะไม่ใช่เวลาที่ควร

“ไม่มีอะไรพี่ มะนาวเพิ่งเข้าไป พี่ก็เห็นไม่ใช่เหรอ” ผมลังเล “ก็นั่นแหละ เนอะ”

“เอ่อ เนอะ”

“เนอะ”

“เน้อ เหรอ แค่นั้นเหรอ? จะเอาไง ว่ามาตรงๆ” พี่ฟ้ารู้ทุกอย่างครับ ผมเชื่อมากๆว่าเขารู้ แค่รอให้ผมพูด

“อย่าให้มะนาวรู้นะพี่ ไม่งั้นผมตาย”

“ทำไมกูคุ้นๆ ประโยคแบบนี้”

“เหอๆ” ยังจะถามอีก

“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอกน่า เอ้า เอากลับไป”

พี่ฟ้าเลื่อนกุญแจห้องกลับมาให้ผม

“กูคิดอะไรออกแล้ว นี่ ถ้ากูยืมมะนาวควงแกล้งชาวบ้าน มึงไหวมั้ย”

“หื๋อ?”

“ไง?”

“นี่พี่ถามความเห็นรึบอกให้ผมทำใจแต่เนินๆ”

“ให้มึงรู้ตัวไว้ก่อนเฉยๆ กูยังไม่รู้เลยว่ะว่าจะทำอะไร”

“นั่นดิ พี่จะทำอะไร”

“เอาคืนมั้ง”

“ใคร?” เอาคืนใคร? ผมเหรอ ผมไปทำอะไรให้พี่โกรธแค้นถึงขนาดจะมาฉกมะนาวไป

“กูก็มีของกูอยู่คนเดียว มึงยังจะถามอีก”

“อ้อ แล้ว ทำไมล่ะพี่”

“มึงเป็นมะนาวเหรอขี้สงสัย เห้อ บางทีกูก็อยากตอบมึงนะ แต่ก็ก็ไม่รู้ว่ะว่าทำไปทำไมเหมือนกัน”สายตาเหม่อลอย มองไปไกลอย่างไม่โฟกัสอะไรของพี่ฟ้าทำให้ผมไม่คิดจะถามต่อ บางทีเรื่องมันคงซับซ้อนเกินกว่าจะอธิบายให้คนอื่นเข้าใจ อย่างเรื่องของผมกับมะนาว ผมก็ไม่คิดว่าคนอื่นจะเข้าใจ “มึงกลับไปเก็บตัวที่ห้องก่อน แล้วเรียกมะนาวออกมาได้แล้ว นานไปแล้วมึงอ่ะ”

“ผมไปที่หาดดีกว่า”

“ไม่ได้ เชื่อกู สาววายเยอะนะเว้ยห้องเนี้ย”

ผมลังเล

หรือควรเชื่อคนอาบน้ำร้อนมาก่อน เอาจริงๆพี่ฟ้าก็พูดถูก ผมนี่รู้เลยพวกสาวๆจะคิดอะไรถ้านึกขึ้นมาได้ว่าเราสองคนหายไปในช่วงไล่เลี่ยกัน แล้วก็กลับไปปรากฏตัวอีกครั้งพร้อมๆกัน

“ครับ” ในที่สุดผมก็ติดสินใจเชื่อพี่ฟ้า เดินกลับบ้านพักก่อน

ผมไลน์บอกมะนาว ป่านนี้เดินวนในห้องน้ำสามสิบรอบแล้วมั้งเนี่ย ไม่ลืมกำชับมะนาวว่าถ้ามีคนถามถึงผมให้บอกไม่รู้ไปซะ เพราะผมก็รู้สึกได้ ว่ามีคนคอยมองมาที่เราตลอดเวลา ไม่รู้ว่ามองด้วยความรู้สึกยังไง ความคิดคนอื่นมันเป็นสิ่งที่เกินคาดเดา แต่ผมจะบอกว่าไม่รู้สึกอะไรกับสายตาพวกนั้น มันทำไม่ได้จริงๆ


...
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 29 เรื่องวันนั้น] 22/8/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 22-08-2016 03:46:39

ผมกลับมาที่ห้อง ในห้องเปิดไฟเปิดแอร์เย็นเจี๊ยบ กำลังคิดว่าคงไม่มีใครอยู่ก็มีเสียงความเคลื่อนไหวดังมาจากห้องน้ำ

ผมนั่งลงปลายเตียงฝั่งที่เตียงยังเรียบสวย ส่วนอีกเตียงนั่น... ผมจะคิดว่าพี่เทแค่นอนดิ้น ก็ตัดใจหลอกตัวเองแบบนั้นไม่ไหว ดิ้นยังไงหมอนตก ผ้าห่มที่โคตรใหญ่แถมหนักตกเตียงไปอยู่บนพื้นตั้งครึ่งผืน ความยับย่นของที่นอนทำให้ผมต้องเบือนหน้าหนีซะเองไม่กล้าจ้องมองอย่างถี่ถ้วนเท่าไหร่

เอิ่ม ที่ไล่ผมกลับห้องนี่พี่ฟ้าต้องการให้ผมเห็นอะไรแบบนี้หรือมันแค่บังเอิญนะ บอกตรงๆ ผมระแวงไปหมด

รีบไปดีกว่า คิดได้อย่างนั้นผมก็เปิดกระเป๋ามะนาวหาพาวเวอร์แบงค์ของเขา กะว่าถ้าใครถามหายไปไหนจะอ้างว่ามาชาร์จแบต



“จะนอนแล้วเหรอมึง” สักพักพี่เทก็เดินออกจากห้องน้ำ แต่งตัวเรียบร้อยเหมือนเดิม แต่หัวเปียกหน้าเปียกเหมือนคนเพิ่งอาบน้ำ ทักทายผมพร้อมๆ กับก้มลงเก็บหมอน

พี่หน้าผ่องมากครับ พอๆกับพี่ฟ้าเมื่อกี้เลย

โอ้ย เกลียด ผมเกลียดคู่นี้



“ยังพี่ แค่มาเปลี่ยนกางเกง กับชาร์ทแบตโทรศัพท์” มะนาวมันซุกไว้ตรงไหนเนี่ย หาไม่เจอเลย ผมก้มรื้อๆ ไม่สบตาพี่เท

“ถ้าไม่มีคนอยู่ อย่าชาร์ททิ้งไว้นะ ถ้าหายไม่มีใครรับผิดชอบให้นะเว้ย มีของหายกันทุกปี” พี่เทโกยผ้าห่มขึ้นกองกลางเตียง ดึงๆ ให้ดูเรียบขึ้นนิดหน่อย

“กุญแจก็อยู่ที่ผม ใครจะเข้ามาได้พี่”

“อ้าว ไมอยู่ที่มึงอ่ะ?” โอ้ะ “เขาให้ไว้ที่พี่ปีสองไม่ใช่เหรอ” แย่แล้ว พลาดอีกแล้วกู เรื่องกุญแจรู้กันแค่สองคนนี่หว่า

“ผมขอมาเมื่อกี้ครับ เดี๋ยวก็เอาไปคืน” ผมแก้ตัวไปมั่วๆ ยังไงก็ให้รู้ไม่ได้หรอก

“อ้อ เออๆ เหลือไรให้กูแดกบ้างวะ ตื่นมาแล้วหิววะ” พี่เทหยิบโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง ยืนขยี้ผมจัดทรงผมหน้ากระจก เตรียมตัวออกไปข้างนอกต่อ

ว่าแต่ว่านะ สาบานว่าเมื่อกี้ได้หลับ

พี่เท เล่นละครกับใครก็เล่นไปเถอะ แต่ไม่ต้องแต่งเรื่องมาอ้างนั่นอ้างนี่กับผม ผมรู้มากกว่าที่พี่คิดว่าผมรู้นะ มากไปไกลเลยล่ะ

การปฏิบัติตัวของผมต่อพี่เทมันยากตรงไหนรู้ไหมครับ ยากตรงต้องเออออตามเขาไป ทำเป็นไม่รู้เรื่อง รับมุขเขามาเพื่อเล่นมุกกลับไป ต้องคอยเตือนตัวเองไว้ ไม่รู้ๆๆ

“สร่างแล้วเหรอพี่”

“เออ ได้งีบแล้ว นั่งต่อได้ยันเช้า”

“ผมง่วงมาก ออกไปหวัดดีพี่บัณฑิตอีกรอบผมจะกลับมานอนแล้วได้ไหมเนี่ย” ผมบิดขี้เกียจทำเป็นหาวบ้าง ทั้งที่ที่จริงตื่นเต็มตามากๆ

“ได้ดิ เที่ยงคืนครึ่งเดี๋ยวพวกนั้นก็ไล่ปีหนึ่งมานอนแล้ว รีบนอนแล้วกัน เพราะพรุ่งนี้อาจจะไม่ได้นอน”

“นั่นสิ”

“ไปแล้วมึง ล็อกห้องด้วย”

“ไปด้วยดิพี่”

ผมเดินตามพี่เทออกมา ด้วยระยะไม่ใกล้ไม่ไกล

หน้าหาดคนยังหนาแน่น บางกลุ่มจุดเทียนกลางโต๊ะเล่าเรื่องผี บางกลุ่มเล่นเกม กลุ่มที่มีพี่บัณฑิตก็จับกลุ่มคุยเล่าเรื่องเก่าๆ ผมเห็นมะนาวนั่งอยู่กับกลุ่มพี่ปีสอง



แต่สิ่งที่พี่เทเห็นคือพี่ฟ้านั่งพิงพนักเก้าอี้สบายๆ มือซ้ายพาดไปตามความยาวพนักเก้าอี้ มองผ่านๆจะเหมือนโอบไหล่มะนาวไว้ มองใกล้ๆก็ยิ่งเหมือน เพราะระยะที่ห่างพอประมารทำให้ปลายมือของพี่ฟ้าวางอยู่บนไหลซ้ายมะนาวพอดี

มะนาวเหมือนจะไม่รู้ตัว หันไปฟังพี่ๆอีกฝั่งพูดคุยกันแถมยังหัวเราะตามตอนที่เขาเล่นกัน

ผมกะจะเดินไปนั่งกับพวกพี่ๆในสายรหัสที่รวมกันอยู่อีกฝั่ง ปล่อยพี่ฟ้าจะทำอะไรก็ทำไป ถ้าเป้าหมายเขาคือคนที่ไม่มีใครรู้เห็นในความสัมพันธ์อย่างพี่เท เขาก็คงไม่ทำอะไรโจ่งแจ้งและเกินเลยมากมายอะไร คงแค่นิดๆหน่อยๆให้แค่พี่เทหงุดหงิด

มั้งนะ

หวังว่ามันจะไม่เป็นการผมมองโลกในแง่ดีเกินไปนะ...



ผมเดินอ้อมไปทางโต๊ะพี่ๆ ผม ไม่ได้ตรงไปหามะนาว พยายามทำตัวลีบๆ จะได้ไม่มีใครสังเกตเห็น

“นี่ ผัว”

“หื๋อ?” ผมหันไปหาพงศ์ที่รั้งแขนผมไว้ ไม่รอดจริงๆด้วย

“ไมมากับพี่เทได้วะ” ผมไม่ได้คิดไปเองนะ วงข้างๆที่เล่าเรื่องผีอยู่เงียบลง เหมือนจะแอบเงี่ยหูมาฟังพงศ์กับผมคุยกันไปด้วย

“ก็ ออกจากห้องมาพร้อมกัน”

“ห้อง พร้อมกัน!” เสียงกระซิบข้างหลังพูดขึ้นด้วยท่าทางตื่นเต้น

เอ้ะ ผมพูดอะไรผิดไปรึเปล่า

“กูไปเอาพาวเวอร์แบงค์ พี่เทตื่นพอดี ก็ออกมาพร้อมกัน” คงต้องขยายความสักนิด ก่อนอะไรๆจะไปกันใหญ่

“เร้อะ”

“อื้ม”

“ไหนพาวเวอร์แบงค์?”

“หาไม่เจอ สงสัยลืมเอามา”

“เหรอ”

“เออ อะไรอีก”

“อุตส่าห์นึกว่าผัวหายไปกับมะนาว ชิ้”

“กูตรงกลับห้องเลย ไม มันหายไปเหรอเมื่อกี้?” ผมหันไปมองทางมะนาว ทำเหมือนแบบว่า ก็เห็นนั่งอยู่ที่เดิมนี่นา

“เออดิ้ นึกว่าไปกับมึง ไม่ฟินเลอะ ไปไหนก็ไปไป๊”

“อ้าว ไรของมึง”

ผมเดินเลยไป พยายามไม่สบตาใครอีก การนั่งอยู่ไกลๆ ทำให้ลดความเสี่ยงเรื่องคำถามแปลกๆ อย่างเมื่อกี้ไปได้เยอะ อีกอย่างพี่ๆ ผมตัวใหญ่ ไม่ค่อยมีใครกล้าเล่นลิงๆข้างๆ หรือแซวผมเรื่องมะนาวแถวนี้นัก

ตอนนี้ทั้งพี่โนอา พี่ป้อง พี่ยีนส์ก็มารวมกับพี่ๆคนอื่นๆอยู่นี่แล้ว แต่ทำไมมีเมมานั่งข้างพี่โนอาด้วยวะ สายรหัสมันไม่เรียกไปนั่งด้วยรึไง?

คุยเล่นอะไรกันไปอีกสักพัก พี่ปีสองที่เป็นคนดูแลกิจกรรมก็บอกปลดปล่อยปีหนึ่งไปนอน เที่ยงคืนครึ่งอย่างที่พี่เทบอกจริงๆด้วย





“ปีหนึ่งไปนอนได้แล้วนะ พรุ่งนี้มีกิจกรรมแต่เช้า รีบนอนๆ ไปหาพี่ที่คุมห้องนอนที่ถือกุญแจ ให้เขาพาไปส่ง ห้ามกลับเองนะ มันมืดอันตราย อีกอย่างย้ำอีกที ห้ามไปไหนมาไหนคนเดียวทั้งกลางวันและกลางคืน พรุ่งนี้ตื่นเจ็ดโมงกินข้าวจัดการธุระส่วนตัวให้เรียบร้อยแล้วรวมกันตอนแปดโมงเช้านะ”

“แม็ต นอนกับใคร พี่ปีสองอ่ะ” พี่โนอาถามผมทันทีที่เพื่อนเขาพูดจบ

“พี่ฟ้าครับ”

“เหรอ แล้วง่วงยังล่ะ ให้มันไปส่งเลยก็ได้” ผมหันไปหาพี่ฟ้าพร้อมๆกับพี่โนอา เหมือนจะเล่นเกมอะไรกันอยู่ ข้างๆพี่ฟ้ายังเป็นมะนาวเหมือนเดิม ส่วนพี่เทน่ะเหรอ นั่งอยู่โต๊ะข้างหลังผมเนี่ย วิวของเขาคือทิศทางที่มะนาวกับพี่ฟ้าอยู่พอดิบพอดีเลย บังเอิญสุดๆ

“ผมไหวครับ ยังไม่ง่วงเท่าไหร่ พี่ๆอุตส่าห์มากัน” ผมบอกอย่างเกรงใจตอนนี้พี่ที่อาวุโสกว่าพี่ยีนส์มาแล้วถึงสามคนขับรถมาเองจากที่ไกลๆกันทั้งนั้น จะหนีไปนอนก่อนก็กระไร เพราะดูเหมือนพวกเขาจะตั้งใจมาหาผมกันทั้งนั้นนี่นา

“โอ้ย น้องน่าร้ากกกกก”

“ป้า อย่าจับ โนอามันหวงของมัน” พี่ยีนส์คว้ามือป้ารหัสตัวเองไว้ที่กลางอากาศ เธอกำลังยื่นมือมาทางผม ดูท่าจะเล็งแก้มผมไว้ทั้งสองมือ

“ยีนส์ แกจะห้ามฉันทำไม คิดว่าที่ฉันถ่อมาจากเขาใหญ่นี่เพื่ออะไรห่ะ”

“มาหาผมไง ผมหลานป้านะ”

“ฉันเบื่อออออ แกแล้วย่ะ” ก่อนจะหันมาทางผม “โอ้เอ้เด็กน้อย กินเยอะๆโตไวๆน้า” เจ้ยกของฝากมากมายที่ซื้อติดมาดันมาตรงหน้าผม มันเยอะมากผมได้แต่รับไว้ เปิดดูถุงแรกก็เจอของดีเลย เค้กของฝาก ผมมองข้ามพี่โนอาไปทางเม เมมันมองอยู่จริงๆ แม่ง เรด้าร์โคตรดี มันคงรู้ว่าในถุงกระดาษทึบๆนี่มีอะไร แต่ไม่สามารถเอื้อมมาแย่งได้เพราะพี่เขาให้ผม ผมว่า ผมแกล้งมันดีกว่า ระหว่างที่พี่ๆ คุยกัน ผมก็เลื่อนถุงที่เป็นเค้กไปทางพี่ยีนส์ พี่ยีนส์ดูข้างในก็ทำท่าเข้าใจแล้วยกไปวางเก็บข้างตัว

“เจ้ซิน โตกว่านี้ก็ยักแล้วนะ แค่นี้ก็190แล้ว”

“นี่แหละ กำลังน่ากิน เอ้ย กำลังดี”

“ไม่ได้นะ โนอาหวง”

“อ้อ หวงกันเป็นทอดๆ”

“ช่ายเจ้”

“อิสายขี้หวง ขี้หวงกันทั้งสาย เอ้ะ สายกูนี่หว่า? จิ๊ ไม่เล่นกับแม็ตก็ได้” เจ้ฟางทำหน้าเบื่อหน่าย หันไปหาปีหนึ่งอีกคนในโต๊ะนี้ “เม มานี่หน่อยสิ สายเสื้อในเจ้พลิกอ่ะ แก้ให้หน่อย นะ”

“เห็นอย่างนี้ ดาวมหาลัยนะคะ หนุ่มๆ ติดตรึม” สายตาพี่โนอาจงใจพูดใส่พี่ยีนส์ชัดๆ

“ห่ะ น้องไม่ใช่ผู้ชายเหรอ?”

“ไม่ใช่ครับ” เมที่นั่งเงียบมานาน ในที่สุดก็ได้ส่งเสียงตอบออกไป เสียงของเมคงยืนยันตัวตนได้

เกิดเสียงฮือฮาในหมู่พี่บัณฑิต เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้น วิศวะไม่ค่อยมีสาวสวยขนาดคว้าตำแหน่งดาวมหาลัยได้ ยากเข้าไปอีกเมื่อเป็นการได้ตำแหน่งสองปีซ้อน

ที่สำคัญ ไปรเวทแบบนี้ดาวหล่ออกว่าเดือนไปอีก

โต๊ะผมก็เถียงกันอีกพักใหญ่เรื่องเพศสภาพของเม

รู้สึกดีที่ไม่โดนรุมอยู่คนเดียวครับ เหอๆ



......................



“อ้าว ทำไมยังไม่นอน”

“อาบน้ำอยู่ มึงก็ไปอาบ จะได้รีบนอน”

ผมกลับห้องมาตอนตีหนึ่ง มะนาวนั่งเช็ดผมอยู่บนเตียง เปิดทีวีไว้แต่ไม่ได้ดู

ผมรับคำมะนาว ก่อนเข้าห้องน้ำก็ไม่ลืมแวะหอมแก้มเขาเร็วๆก่อนหนึ่งที ไอเย็นๆกับกลิ่นหอมๆของแชมพูทำให้สดชื่นจนแทบสร่างเมา

จากที่ตั้งใจว่าจะหอมแค่ทีเดียว ผมเลยทิ้งน้ำหนักทับเขาทั้งตัว กดหอมแก้มนิ่มๆลงจนตัวเอียงติดที่นอนไป กลายเป็นนอนฝัดแก้มมะนาวให้สาแก่ใจ

เอิ่ม ทำแบบนี้มันดีแหะ

“เหม็นขี้เหล้า รีบไปอาบน้ำเลย” เขาหัวเราะไปผลักผมไปด้วย

ผมหัวเราะ รับผ้าเช็ดตัวจากเขาเดินเข้าห้องน้ำบ้าง

ครับ สองคน ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว มีปัญหาไหม?




ไม่นานผมก็ออกมาจากห้อง แต่ดันเห็นพี่ฟ้านั่งอยู่ที่เก้าอี้กลางห้อง เขาเงยหน้ามองผมนิดหน่อย ก่อนก้มไปเล่นมือถือต่อ

“กุญแจห้องอยู่ไหนมึง”

“อ้อ” ผมล้วงกระเป๋ากางเกงยีนส์ในมือ “นี่พี่ แล้ว ไม่นอนเลยเหรอพี่ ต้องออกไปอีกเหรอ”

“เดี๋ยวมีประชุม ไม่รู้จะเสร็จกี่โมงกี่ยาม โคตรง่วง แม่ง มะนาวอย่านอนให้อิจฉาได้ป่ะว่ะ”

“อ้าว” มะนาวเหรอหราประมาณว่าผมผิดอะไร

“พี่ดู” ผมกระโดดขึ้นเตียง ทำท่าแหวกว่ายกลางอากาศ ทำหน้าพริ้มนอนทับขาทะนาวขวางเต็มเตียง “ฮ่า เตียงนี่มันดีจริงๆ”

“เออ เอาเข้าไป ทีมึงนี่ ไว้พรุ่งนี้ทีกูจะจัดมึงให้หนักเลย” ผมสะดุ้งแล้วหัวเราะฮ่าๆ กลบเกลื่อน

พี่ฟ้าก้มคุยไลน์อยู่แทบตลอดเวลา ตอนไปเขาหยิบพาวเวอร์แบงค์ของมะนาวที่วางอยู่ข้างตัวติดมือไปด้วย



สงสัยจริงๆ

“มึงเอาพาวเวอร์แบงค์ไปซ่อนไว้ไหน?” หาตั้งนานหาไม่เจอ

“ซ่อนอะไร กูใส่ไว้ในกระเป๋ามึง” ผมกระพริบตาปริบๆ “ก็มันหนัก”

อ้อ มิน่าผมหาในกระเป๋าเขาไงเลยหาไม่เจอ ที่รักหลอกให้ผมแบกมาให้ น่ารักจริงๆ



ผมระราญนอนทับขามะนาวไม่ยอมลุก

“มานอนดีๆ ไอ้ขี้เมา”

“รู้ได้ไงกูเมา”

“ปกติมึงปัญญาอ่อนงี้ป่ะล่ะ?”

“ก็...” ผมคิดตาม เถียงไม่ออก

มะนาวให้ผมนอน แล้วตัวเองก็เดินไปปิดไฟในห้องจนมืด เหลือเพียงแสงไฟที่ลอดผ่านม่านเข้ามาได้เพียงเล็กน้อย

“มึงนี่เมาแล้วตลกนะ วันหลังถ้ากูจะมอมมึงแต่ละทีต้องใช้ตังเท่าไหร่วะ” มะนาวคงหมายถึงเหล้ามากมายหลายสกุลหลากสัญชาติที่ตั้งเรียงรายอยู่โต๊ะที่ผมนั่ง ไม่รู้อะไรเป็นอะไรบ้างครับ เขาให้กินผมก็กิน งงไปหมด รสชาติไม่รับรู้เลย รู้แต่ว่าตอนนี้มึนมาก นี่ขนาดว่าอาบน้ำแล้วนะ

ผมดึงมะนาวเข้ามากอด เห็นถามหลายทีแล้วว่าผมเมาแล้วจะเป็นไง

เป็นคนที่อยากทำอะไรก็ทำไงล่ะ ฮี่



ในความมืด ผมขยับตัวใต้ผ้าห่ม ขยับเข้าไปใกล้เขา เอื้อมมือคว้าไออุ่น โอบกอดแน่น อยากจะหลับไปทั้งอย่างนี้

“ไม่ได้นะเว้ย พี่ฟ้ากับพี่เทไม่รู้จะกลับมาตอนไหน”

อึกอักผลักผมอยู่สักพักผมก็ใช้ความเมาต่อรองจนได้จุ๊บเบาๆ แล้วยอมผละออก กับนอนจับมือใต้ผ้าห่ม เกร๋ๆ

แต่เอ้ะ?

ทำไมมะนาวดูไม่ คือไม่เมาเลย ไม่เหมือนทุกที ถึงแม้หลังๆ เวลาเขาเมาจะเริ่มควบคุมสติได้พูดรู้เรื่อง แต่ความมั่นคงของขา คำพูดคำจา น้ำเสียงก็ยังบอกได้ว่าเขาเมามากเมาน้อย

“ไม่เมาเหรอ?” ผมมองสบตาเขาในแสงสลัว

“เมาอะไร เพ้อเจ้อ”

“มึงเล่นเกมกินเหล้ากันไม่ใช่เหรอโต๊ะมึง กินไปตั้งเยอะทำไมดู...” ปกติ

“จะเมาได้ไง มึงรู้ไหมกูกินอะไร โซดาผสมวิญญาณโค้ก”

“หืม?”

“สีโคตรเหมือนเหล้ามิกซ์เลย”

“ทำงั้นได้ไง” ผมจำได้ว่าไม่ได้ห้ามเขาเรื่องดื่มในค่าย เพราะมันเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้แน่ๆ

“ไอ้พี่ฟ้าดิ ชงงี้ให้กู ทั้งที่ตอนชงให้คนอื่นนี้เทเหล้าใส่ครึ่งแก้วๆตลอด แม่ง”

“เขาเคยเห็นมึงเมาไง”

“อะไร กูเมาแล้วเลวร้ายขนาดนั้นเลยรึไง”

“ก็นิดนึงอ่ะ วันนั้นมึงชกกูต่อหน้าพี่ฟ้า”

“ไม่จริง ไม่เห็นจำได้”

“เคยจำอะไรได้รึไงเวลามึงเมา หื๋อ”

“แล้วมึงจำได้รึไง”

“ได้ดิ จำได้หมดแหละ”

“หื๋ม?”

“เอ่อ...” ผมอ้ำอึ้ง “แต่บางช่วงก็ขาดๆไปบ้างนะ” ต่อท้ายเสียงอ่อน แต่ดูเหมือน จะไม่ทันแล้ว

“ไม่เชื่อเว้ย มึงจำได้ มึงบอกมึงจำได้ มึงจำได้เหรอ!”

“จำอะไร้?”

“จูบแรกไง จูบวันนั้นน่ะ” มะนาวคงหมายถึงจูบวันที่ผมเมากลับมาจากงานเลี้ยงชมรมบาส

“นั่นใช่จูบแรกที่ไหนล่ะ?”

“ไม่ใช่ได้ไง” มะนาวลุกขึ้นนั่งบนที่นอน อารมณ์ขึ้นเต็ม แต่ไม่เผลอพูดเสียงดังเลย

ผมนอนตะแคงหันหลังให้คนไม่เมา

“ถ้ามึงหมายถึงจูบแรกของเราสองคนอ่ะ มันตั้งแต่วันแรกที่เปิดเทอมแล้วนะ”

“ห่ะ?”

“ไม่หา มึงคว้ากูไปจูบแบบนี้เลย” ผมหันกลับไปผลักมะนาวให้นอนหงาย ขยับไปนอนแกะเขาจากข้างๆ เอาจมูกดันๆแก้ม ก่อนจะคว้าหน้าเขาให้หันมารับจูบ

มะนาวตาโตตกตะลึง ผมเลยถอยออก แล้วพูดต่อ

“ใช้ลิ้นด้วยนะ”

มะนาวเม้มปาก เก็บลิ้นซะมิดชิด

“โกหก”

มะนาวตาเหลือก นอนตัวแข็งทื่อไปแล้วครับ เขาดูรับไม่ได้กับความเปรี้ยวของตัวเองมากกว่าที่จะไม่เชื่อ

ก็ผมก็บอกเขาไปแล้ว เขาจำได้แน่ๆ เรื่องเวลาเขาเมาแล้วจะยั่ว แค่ตอนนั้นไม่ได้เจียระไนรายละเอียดให้ฟัง ตอนนี้คงปะติดปะต่อเรื่องราว กับนึกถึงความจริงจังปนอายสุดๆของผมที่ต้องพูดในวันนั้น มันเป็นการตัดสินใจพูดที่ต้องใช้ความกล้ามากๆ เพื่อจะพูดไปในวันนั้น

แต่วันนี้ผมบอกเลย ผมเมา เหมือนวันที่กลับห้องไปปล้ำจูบเขาวันนั้น เมาระดับที่ทำทุกอย่างที่เวลาปกติไม่กล้าทำ เมาขนาดที่พูดเรื่องนี้ออกมาได้ผมว่าผมไม่ธรรมดาแล้วล่ะ

“เห้อ ถึงได้บอกไง ว่าถ้าเมา อย่าไปไหนไกลกูเชียว”

“แล้วอะไรอีก”

“อะไร?”

“วันนั้นกูทำอะไรอีกไหม”

“อ้อ มึงงัดออกมา ชักให้กูดู”

ผมยกมือขึ้น ตบๆเป้าเขาเบาๆ กลัวจะไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร

“เชี่ย เลวร้าย”

มะนาวยกหมอนขึ้นมาปิดหน้า งอตัวหนีไปอีกทาง โธ่ๆ มะนาวอายตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว

“ไม่หรอก น่ารักจะตาย”

ผมโอบเขาจากข้างหลัง หัวเราะสลับกับลูบตัวปลอบใจ

ความจริงมึง มันคือความจริง มึงจะรู้หรือไม่รู้มันก็คือความจริงอยู่เหมือนเดิม

“ฮื้ออออ กูอยากเมา กูจะได้ลืมที่มึงบอกเมื่อกี้”

“ไม่ต้อง นอนไปเลย มึงจะเมาตอนที่กูก็เมา ไม่ได้”

ผมส่ายหน้าซุกใส่ท้ายทอยมะนาว เขาย่นคอหนี ก่อนดึงผ้าห่มมาคลุมเราอีกครั้ง ความจริงง่วงนานแล้วนะ นอนกันเถอะ

ต้องหยุดเล่า แล้วปลอบใจอีกพักใหญ่ครับ กว่าเขาจะสงบแล้วยอมนอน

แต่ไม่ได้ทำอะไรนะ กุญแจอยู่ที่ผู้ก่อการร้าย ผมไม่อยากให้เขามีเรื่องมาต่อรองอะไรกับผมได้มากกว่านี้แล้ว



ดังนั้น เอาไว้กลับหอ ค่อยจำลองสถานการณ์วันนั้นให้ดู เนอะ


------------------------------------------
TBC.




มาแล้วแจ้ คู่หลักที่โดนคู่รองแย่งซีนไปนานกลับมาทวงบันลัง(เบียร์) คืนแล้วจ้า
คู่นี้มาพร้อมความเมาตลอด ไม่ใครก็ใครสักคนอ่ะ เมา 555 คนเขียนนี่แทบจิบเบียร์นั่งเทียนเขียนเพื่อบิ้วอารมณ์

ใครที่ยังสงสัยอยู่ เรื่อง มะนาวเมาแล้วจำอะไรไม่ได้เลย จริงหรือไม่?
ตอบ จำไม่ได้จริงๆ จ้า ถ้าเมามากๆ ถึงขั้นวาปอย่างช่วงแรกๆ อ่ะนะ แต่หลังๆ กินบ่อยๆ ก็จะมีภูมิต้านทานมากขึ้น ทนขึ้น เมาแต่ยังพอรู้เรื่องไรงี้

แต่ที่พ่อแม็ตกลัวว่าถ้ามะนาวเมาแล้วอยู่กับคนอื่น จะไประราญคนอื่นนั้น เป็นความกลัวของพ่อเอง ความจริงมะนาว เมาก็เลือกนะเว้ย จิตใต้สำนึกยังทำงาน ล็อกเป้าชัดเจนไม่เล็งมั่ว 5555


เพจที่ไม่ได้แปะซะนาน >>  https://www.facebook.com/Brosohub/


สุดท้าย ขออภัยที่หายหน้าหายตาไปเกือบเดือน และไม่สามารถบอกได้ว่าตอนต่อไปจะมาเมื่อไหร่ เหอๆ
ยังไงก็ฝากติดตาม และขอบคุณที่ให้กำลังใจกันนะคะ มีค่ากับใจสำหรับเรามากจริงๆ
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 29 เรื่องวันนั้น] 22/8/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 22-08-2016 06:44:41
อุปสรรคมันเยอะจริงๆเนอะ จะหวานกันทีก็มีมารมาขัดตลอด
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 29 เรื่องวันนั้น] 22/8/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 22-08-2016 07:17:27
ดีใจ ไร้ท มาลง หายไปนานเลย เรื่อง พี่ฟ้า พี่เท ด้วย
พีฟ้า จะเอาคืนพี่เท ละสิ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
แมท มะนาว ถูกพี่ฟ้า แกล้งแน่ๆ ตอนอยู่ในห้องน้ำ
รอ แมท มะนาว รักกันแบบไม่มีใครมาขัด :ling1: :ling1: :ling1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 29 เรื่องวันนั้น] 22/8/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 22-08-2016 08:44:16
 :impress2: 
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 29 เรื่องวันนั้น] 22/8/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 22-08-2016 11:07:33
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 29 เรื่องวันนั้น] 22/8/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 22-08-2016 17:12:49
มะนาวสกิลดีจัง นี่ยิ่งกินยิ่งกาก 55555555

สู้ๆนะ คนรอคิดถึง
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 29 เรื่องวันนั้น] 22/8/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 22-08-2016 19:37:51
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 29 เรื่องวันนั้น] 22/8/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 23-08-2016 01:12:07
สนุกม้ากกกกกกกกกกกกกกกก มะนาวน่ารัก
ชอบแมตกับนาวมากๆ 555
ชอบตอนอยุ่ด้วยกัน ยิ่งเวลาแมตอ้อนนะ อื้อหือ
ฟินที่สุด เรายิงยาวอ่านแต่ต้นยันจบ
ติดมาก ไม่เป็นอันทำอะไรทั้งวันเลย5555
สู้ๆนะคะคนแต่ง จะรออ่านตอนต่อไปน้า
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 29 เรื่องวันนั้น] 22/8/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: PaiPo ที่ 27-08-2016 22:46:59
กร้ากกกก ชอบเวลาแม็ตเมา ที่เก็กๆไว้ หลุดหมด 5555

สู้ๆจ้า เป็นกำลังใจนะค่าาาา
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 29 เรื่องวันนั้น] 22/8/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 11-10-2016 07:48:50
มารอ  :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 30 รับน้อง...สยองขวัญ] 12/10/59 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 12-10-2016 04:01:49
(http://i1159.photobucket.com/albums/p636/Browny_Tan/bro/loveagain334_zpsaovquoi9.png)
- บทที่ 30 - รับน้อง...สยองขัญ -





“ตื่น แม็ตๆ ตื่น”

เช้าแล้วเหรอ?

ผมงัวเงียตื่นเพราะรู้สึกได้ถึงแรงเขย่า

ความรู้สึกหนักอึ้ง เหมือนความเหนื่อยล้ายังไม่หายไปอย่างกับยังไม่ได้นอนเท่าไหร่เลย คนสะกิดยืนอยู่ข้างเตียง ลืมตานิดเดียวก็เจอไฟจ้าส่องตาจนต้องปิดตาซ้ำ

อะไรเนี่ย ห้องมืด แล้วทำไมต้องใช้ไฟฉายส่องหน้า แสบตาแม่ง

“ตื่น ลุกๆ” อ้อ พี่ฟ้าน่ะเอง บอกให้ลุกด้วยท่าทางรีบร้อน แต่คือพี่ต้องเข้าใจคนหลับสนิทที่มันยังตื่นไม่เต็มไหมพี่ ลืมตายังยากเลย



“อะไรพี่ ไฟดับเหรอ?”

“เปล่า แต่ลุกก่อน”

ผมหันไปข้างตัว กำลังจะปลุกมะนาว แต่พี่ฟ้าคว้ามือผมไว้ก่อน

“ไม่ต้องปลุกมัน ออกไปทีละคน”

“หื๋อ? โอ้ย” ไฟ ไฟ จะส่องหน้าขนาดนี้ทำไมเนี่ย ตาผมจะดับแล้วพี่

“เออน่า ออกไปก็รู้เอง เดินไปรวมกับคนอื่นๆ ที่ริมหาดนะ”

มะนาวยังหลับสนิท หายใจสม่ำเสมออยู่ที่เดิมตอนที่ผมเดินออกจากห้อง กลัวว่าตื่นมาเขาจะตกใจน่ะสิ

“ไม่ต้องกลัว เดี๋ยวก็ไปรวมกันนั่นหมดแหละ ว่าแต่ มะนาวหนักเท่าไหร่วะ?”

“หื๋อ?”

“ถามว่ามันหนักเท่าไหร่”

“58 ได้มั้ง ถามทำไมพี่”

“กูว่าจะแบกมันไป”

“ห่ะ”

“กูขอมึงแล้วนา มึงอนุญาตไง”

ผมพูดไม่ออก เถียงไม่ทัน ขอตอนไหน อนุญาตตอนไหน ที่บอกนั่นแค่บอก ไม่ได้ขอความเห็นผมเลยสักนิดเดียว คนอะไรเข้าข้างตัวเองขนาดนี้ ที่สำคัญ ที่พูดมานั่น

“เอาจริงดิพี่?”

“เออ แล้วห้ามมาหึงกูนะ”

ถ้าพูดขนาดนี้ผมจะทำอะไรได้ครับ...

ผมมองมะนาวอย่างเป็นห่วง มะนาวจะรู้ไหมว่าอยู่ๆก็ได้เข้าไปเป็นอุปกรณ์ประกอบฉากละครของพี่ฟ้าอย่างไม่ตั้งใจหรือรู้ตัว แล้วผมที่รู้ทั้งรู้เนี่ยสิ ควรทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ หรือร่วมมือให้มันจบๆไปไวๆดี

แต่ ไม่ดีกว่า ผมไม่อยากเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงด้วยเรื่องของคนอื่น...




ผมแปลกใจตั้งแต่เดินออกจากห้อง ในรีสอร์ทปิดไฟเกือบมืดสนิท ไฟหน้าบ้านแต่ละหลังปิดเกือบหมด มีแสงไฟฉายจากที่ต่างๆ มีเด็กปีหนึ่งเพิ่งถูกปลุกเหมือนผม ทยอยเดินออกมาจากห้องอื่นๆ

“ฮ้าวววว มึงก็โดนปลุกเหมือนกันเหรอ กำลังหลับสบายเลยแม่ง” ต่อข้างรหัสอีกคนของมะนาวออกจากบ้านพักหลังตรงข้าม ทักผมพร้อมๆ กับบิดขี้เกียจไปมา

“อื้ม” ผมหันกลับไปที่บ้านตัวเอง มะนาวจะตื่นรึเปล่านะ ปกติเขาจะไม่ตื่นกลางดึก ยิ่งเมาหน่อยๆแบบนี้ด้วยยิ่งตื่นยาก ผมสิเมาหนัก โดนปลุกกลางดึกแบบนี้มึนตึบเลย

“พวกพี่จะให้เราทำอะไรวะ”

“ไม่รู้เลย ไปดูที่หาดกัน” ผมชวนเขาไปที่หาย แต่ก็อดห่วงมะนาวไม่ได้ จะเป็นไรไหมนะปล่อยไว้กับพี่ฟ้าเนี่ย

ผมเดินไปกับต่อ ตามแสงเทียนที่ตั้งห่างๆไปเรื่อยๆ ก็เจอเพื่อนๆรวมกันอยู่ที่ริมหาด ริมหาดมีตะเกียงวางอยู่บนทรายเป็นวงกว้าง ปีหนึ่งที่สภาพง่วงซึมไม่ต่างจากผมรวมกันอยู่ในวงล้อมด้ายเส้นใหญ่ๆสีขาว แต่พอมาดูใกล้ๆ ถึงรู้ว่ามันคือวงล้อมสายสิญจน์ สีหน้าหลายคนตื่นกลัวและหวาดระแวง

“ปีหนึ่งเข้าไปรวมกับเพื่อนเลย” พี่เทยืนจัดแถวน้องๆอยู่ตรงทางเข้า

ผมนั่งรอเพื่อนๆที่เหลือทยอยมารวมกัน ผ่านไปนานก็ยังออกมาเรื่อยๆ อาการง่วงงงไม่ต่างกันเท่าไหร่ มะนาวก็ยังไม่มา ทั้งที่คนมากันจะครบแล้ว ใจผมไม่ค่อยจดจ่อกับบรรยากาศรอบตัวเท่าไหร่ ยังงงๆเพราะยังไม่สร่างเมาเท่าไหร่ แถมหันไปทีไรก็เห็นพี่เท ก็พาลคิดไปถึงพี่ฟ้าว่านานแล้วทำไมยังไม่ออกมา รวมไปถึงมะนาวด้วย ผมเลยนั่งเหม่อๆทำเป็นมองไปทางห้องพัก จริงๆแอบสังเกตพี่เทอยู่ห่างๆ

สักพักพี่เทเดินแยกไปจากกลุ่ม เขาเดินกลับขึ้นไปตามทางมืดๆ ทั้งที่ไม่เปิดไฟฉาย แต่ไปไม่ถึงไหนเขาก็หยุดเดิน

อ้อ พี่ฟ้าแบกมะนาวมานี่เองเขาถึงหยุด

แบกมาจริงอย่างที่ว่าไว้เลย

เฮ้ย! เดี๋ยวนะ หลับหรือตาย มะนาวววว โห ยังหลับอยู่ได้ยังไง โดนแบกหัวห้อยชี้ดินแบบนั้น แม่ง

พี่ฟ้าเดินผ่านพี่เทมาโดยไม่พูดอะไร ไม่สบตาด้วย พี่ฟ้าเดินตรงมาทางผม ก้าวข้ามสายสิญจน์ วางมะนาวลงข้างหน้าผม

“ข้างรหัสมึงแม่ง ไม่ยอมตื่น”

มันไม่ใช่คนตื่นยากนะพี่ สาบานว่าพี่ปลุกแล้วจริงๆ ไม่ใช่อุ้มมันออกมาเลย

“นาว นาว มะนาว” ผมเขย่าๆ ต่อเองก็ช่วย แป็ปเดียวมะนาวก็ตื่น

“หืม? เฮ้ย! อะไรวะเนี่ย?!” มะนาวตื่นและทำความเข้าใจสภาพแวดล้อมที่แปลกไปด้วยความตระหนก คงรู้ทันทีว่ามันผิดปกติ

“มึงเดินละเมอออกมาจากเตียง กูเลยมาตาม” ผมอดแกล้งเขาไม่ได้จริงๆ เขาเหรอหราสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางวงทำให้ทุกคนหันมามอง

“ฮ่าๆๆ เออๆ มึงเดินละเมอออกมา กูเห็นแม็ตวิ่งตามมึงออกมาเนี่ย” ต่อรับมุขทันที

“น้ำจิ้มไหลแล้วมึงอ่ะ” พงศ์ทำสีหน้าจริงจัง

มะนาวเช็ดปากทันที แต่มันไม่มีไง

“เชี่ย เอาดีๆ กูมาอยู่นี่ได้ไง” มะนาวมองไปรอบๆ เกือบทุกคนกำลังมองมาที่เขา



“ไม่รู้ พี่ปลุกมารวมกันเนี่ย มึงดูเอาเอง”

“สายสิญจน์... อย่าบอกนะว่า ฐานวัดใจ” เขาเรียบเรียงลำดับเหตุการณ์ในหัวอย่างรวดเร็วแล้วพูดออกมาทันที ทุกคนเงียบลงทันทีเหมือนกัน เพราะเพิ่งนึกได้ว่าบรรยากาศมันไม่น่าหัวเราะเอาซะเลย

มะนาวพูดแค่นั้นก็นั่งตัวลีบหน้าซีดไปเลยครับ





สรุป ฐานนี้คือฐานช็อคจริงๆ ครับ มะนาวรู้จักซะด้วย ผมยังงงๆอยู่เลยด้วยซ้ำ เห็นเทียนเยอะๆตอนแรกนึกว่าบายศรี แต่พอเห็นสายสิญจน์ล้อมเป็นสี่เหลี่ยม จุดเทียนจุดตะเกียงอย่างกับหนังผีคิดแล้วว่าแปลกๆ เลยงงๆ มาเฉลยตอนคนออกมาครบ

พี่ๆบอกว่า เราจะไปล่าท้าผีกัน แล้วไม่ต้องกลัวเจอของจริง ไม่ใช่ไม่มีนะครับ แต่เจอทุกปีเป็นเรื่องปกติ กลัวไม่กลัวถ้าคนมันจะเจอก็เจอ เล่นเอาผมนี่ขนลุกเกรียว ส่วนมะนาวพงศ์แล้วก็เมแทบจะกอดกลมซะยิ่งกว่าลูกบอล ผมก็พอรู้อยู่แล้วนะว่ามะนาวกลัวผี แต่ไม่คิดว่าจะกลัวมากขนาดนี้

ส่วนผมผมจะไม่โกหกว่าไม่กลัว ความกลัวมีอยู่ แต่ไม่มากจนควบคุมตัวเองไม่ได้ เพราะยิ่งแสดงออกว่ากลัว พี่เขายิ่งจะแกล้งนะผมว่า ก็เลยพยายามเก็บอาการไว้

ก่อนไปนอนทุกคนต่างมีการพูดถึงเรื่องพี่โนอาก่อนนี้ กับเล่าลือถึงเรื่องผีหลากหลายจากในคณะหรือกระทั่งจากที่รับน้องตรงนี้ที่ฟังต่อๆ มา มันถูกถ่ายทอดซ้ำๆ แป็ปเดียวเรื่องที่ฟังมาก็กระจายสร้างความกลัวให้ทุกคนจนหลอนลืมง่วงกันไปหมด

บรรยากาศตอนนี้เงียบเพราะแทบไม่มีคนพูดกัน เย็นด้วยบรรยากาศลมบกพัดหวิวยามตีสอง เย็นจนชวนขนลุก


“พี่จะให้ออกมาทีละสองคน”


“โชคดีจัง ทำทีละสองคน” เสียงซุบซิบของพวกเรา หลายคนทำท่าโล่งอก


“ออกมาจับนี่ ลูกปิงปอง”


“เอ๋”


“สีส้มไปทางขวา สีขาวไปทางซ้าย”


“อ้าว”


“เดินเลียบหาดไปจนถึงโต๊ะที่มีเทียนตั้งอยู่ อ่านภารกิจ หยิบเทียนบนโต๊ะนั่นจุดคนละเล่ม เพื่อใช้ทำภารกิจ ลำพัง นะ เพียง คนเดียว”


“ฮรื้อออออ” เป็นเสียงโหยหวนเลยก็ว่าได้


“ทำเสร็จแล้ว ก็เดินตามแสงเทียนต่อไป จะมีพี่รออยู่ที่ปลายทาง รวมกันอยู่ที่นั่น รอจนเพื่อนคนสุดท้ายตามไปถึง”


“ไม่ไป”




คู่แรกมีหน่วยกล้าตายอาสาลุยก่อน พอหมดพวกอาสาเมกับมะนาวถูกบังคับออกไปก่อนชาวบ้านเลยครับ เพราะอาการออกมากสุด ประกาศให้โลกรู้ชัดเจนว่าตัวเองกลัวขนาดนี้ พี่ๆจะไว้ชีวิตเหรอครับ

ตอนนี้ผมเป็นห่วงมะนาวมากกว่ากลัวแล้ว ทำไงจะได้ตามไปฝั่งเดียวกันเนี่ย ดูจากวิธีเลือกฝั่งเหมือนผมจะเลือกอะไรไม่ได้เลย



.............................



ผ่านไปสองคู่ ผมก็ได้เดินมาฝั่งเดียวกันเพราะบังเอิญหยิบปิงปองได้สีขาวเหมือนกัน


ภารกิจคือจุดธูปหนึ่งดอก เดินวนรอบศาลสามรอบ แล้วก็อื่นๆอีกนิดหน่อย สองสามขั้นตอน ผมมารู้ตัวว่าทำเสร็จเร็วกว่าปกติก็ตอนที่เดินถึงห้องรวมแล้วพี่ที่เฝ้าประตูบ่น

“ไวจังวะมึง ไปรอข้างในเลย”

ทำภารกิจเสร็จ ก็โดนไล่มาเก็บตัวแอบเพื่อนอยู่ในบ้านพักหลังหนึ่งท้ายๆ รีสอร์ท ดูเหมือนทั้งสองฝั่งจะมารวมกันอยู่ที่นี่ที่เดียว แล้วเมื่อกี้ผมจะลุ้นแทบตายให้ได้ฝั่งเดียวกันทำไมว้า

เข้ามาผมก็เห็นเขาทันที มะนาวรออยู่ในนี้จริงๆ ดูเหมือนเขาไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่เห็นผม

แต่สิ่งที่ผมรู้สึกได้ กลับเป็นสีหน้ามะนาวที่ไม่ยิ้มรับหรือทักทายอะไรผมเหมือนปกติ เขาดูนิ่งๆ ซีดเซียว

“ทำไมทำหน้าอย่างนั้น เจอผีเหรอ” มะนาวนั่งพิงผนังอยู่ข้างๆเพื่อนอีกสองสามคน เดินเข้ามาใกล้ผมถึงเห็นว่าเขานั่งชันเข่า 

“เปล่า”

“ใครทำอะไรให้รึไง” ผมพูดเหมือนหมายถึงรวมๆ แต่ในใจผมตอนนี้พี่ฟ้ามาอันดับหนึ่งเลยครับ

“ไม่มีใครทำอะไร กูแค่ล้ม”

มะนาวเหลือบตามองที่ขาตัวเองแล้วทำเป็นพับขาลง ผมจับไว้เปิดกางเกงดูเข่าเขา

อึก!

ผมตกใจมาก ใจดิ่งวูบ อยากโวยวายแต่ที่ทำได้ก็แค่ดูแผลแล้วทำหน้าสงสัย

“เจ็บมากเหรอ”

“ไม่เจ็บเลย แผลแค่นี้เอง แต่...”

“อะไร?” มะนาวลังเลที่จะพูด แต่ในที่สุดก็ค่อยๆอธิบายออกมา

“พี่เท อยู่ๆก็โวยวายว่าพี่ฟ้าทำกูล้ม มึงแกล้งน้องกูทำไม ไรเงี้ย แต่จริงๆ กูล้มของกูเอง” มิน่า ทำหน้าลำบากใจบอกไม่ถูก

“กูเชื่อ” มะนาวจะขาไม่มั่นคงตอนอยู่บนพื้นทรายหรืออะไรๆที่พื้นไม่เรียบ คราวที่แล้วก็ตกหินล้มหัวเข่าถลอก “แล้วมึงไม่ได้บอกพี่เทเหรอว่ามึงล้มเอง”

“บอกแล้วว่ากูล้มของกูเอง พี่ฟ้ามาช่วยต่างหาก”

“อ้อ แต่เขาก็ยังทะเลาะกันต่อ” ผมนึกภาพตาม ถ้ามะนาวคิดมากแปลว่ามันคงจบไม่สวย

“นั่นแหละ จนหายไปเนี่ย คงไปทะเลาะกันต่อ กูไม่อยากให้พวกพี่เขาทะเลาะกันเพราะกูเลยวะ เพื่อนกันนะเว้ย แถมเป็นเมทกันอีก”

“ถ้าเพื่อนกัน เรื่องแค่นี้เดี๋ยวก็เคลียร์กันได้ไม่ต้องห่วงหรอก”

“เนอะ กูไม่ควรคิดมากเนอะ”

แต่ว่านะ มันจะไม่ออกมาดีอย่างที่มึงหวังน่ะสิมะนาว เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะเขาไม่ได้เป็นแค่เพื่อนกันไง ความสัมพันธ์ของเขาสองคนมันซับซ้อนลึกซึ้งกว่าคำว่าเพื่อนไปเยอะเลยล่ะ

“ไหนกูดูหน่อย”

“เมื่อกี้พี่ฝ่ายพยาบาลกำลังจะทำแผลให้แล้ว”

“อ้อ ทำแล้ว อ้าว แต่มันยังดูสดๆ” เครื่องหมายคำถามเกิดขึ้นตอนที่ผมเพ่งมองแผลดีๆ ใช่ เลือดซิบๆ รอยทรายติดรอบแผล ทุกอย่างดูใหม่เหมือนยังไม่ได้ถูกจับต้อง หรือแม้แต่ทำความสะอาด

“เออ พออีกคนบอกมึงกำลังมาเขาก็ทิ้งกูเลย”

“อ้าว?” นี่มันเหมือนกับว่า “ยังไม่ได้ทำ”

“เออดิ กูล่ะงง” ผมมองไปรอบๆ มีเพื่อนนั่งรออยู่รอบๆร่วมสิบคนแล้ว พี่ที่คอยเฝ้าพวกเราเป็นผู้หญิงทั้งสามคนเลย

“อ้อ เข้าใจและ” ผมลุกขึ้น กำลังจะไปเอากล่องพยาบาลมาทำแผล แต่ก็ถูกมะนาวดึงกางเกงไว้

“มึงแปลดิ้” ผมส่ายหน้าไม่ตอบ เดินต่อไปขอกล่องพยาบาลที่จงใจตั้งไว้เด่นเป็นสง่าอยู่บนโต๊ะพวกพี่ๆ เห็นนะว่าอมยิ้มกันทุกคน

เพื่อนที่นั่งข้างมะนาวเมื่อครู่ลุกออกไปนั่งกับเพื่อนที่เข้ามาใหม่ ตอนกลับมาผมเลยได้มุมส่วนตัวที่ห่างจากคนอื่นๆพอควร

“เขารอกูมาทำไง” ตอนที่ทำแผลเขาก็ยังกระวนกระวายสงสัยไม่เลิกผมเลยต้องเฉลยข้อสงสัย เข้าใจยากตรงไหนเนี่ย

“อ้อออออ เหอะ เหอะๆๆ” มะนาวทำหน้านึกขึ้นมาได้ ก่อนจะเผลอหันไปเจอสายตาฟินตัวแตกของพวกพี่ๆ จนต้องยิ้มแหยๆไปให้แก้เขิน

ผมทำแผลเสร็จ ยกกล่องพยาบาลไปเก็บที่เดิม พี่เขายิ้มหวานให้ผมแล้วกระซิบว่า

“น้องมะนาว น่ารักเนอะ”

พูดมาแค่นี้ ผมจะไปโต้ตอบอะไรได้มากมายล่ะครับ นอกซะจาก ตอบ “ครับ” แล้วยิ้มตบท้าย







“แล้วฐานเป็นไง เจออะไรไหม”

“ไม่อ่ะ ไม่เจอเลย โคตรกลัว แต่เงียบกริบ ไม่รู้กูกลัวอะไร แม่ง ล้มทีกูเลยเลิกกลัวเลย”

“เออ กลัวอะไรนักหนา”

“เออดิ ตอนนี้กูเริ่มกลัวความโง่ตัวเองมากกว่ากลัวผีแล้ว แม่ง”

“ฮ่าๆๆ”

เราคุยนั่นนี่กันไปเรื่อย เกือบชั่วโมงคนก็ยังทยอยมากันไม่หมด ลูกผมเริ่มพูดช้าลงๆ จนสุดท้ายเงียบไป หันไปดูอีกที มะนาวนั่งพิงกำแพงเงยหน้าหลับไปแล้ว

ผมเห็นท่านอนเขาแล้วมันทนดูไม่ได้จริงๆ มะนาวเป็นคนผอมๆ หน้าคม ผมยาวพลิ้วๆ หน้าเล็กโครงหน้าชัดและมีแก้มหน่อย ดูรวมๆแล้วมีเสน่ห์ แต่...

แต่!

มันต้องไม่ใช่ท่านั่งเหยียดขา แขนตกคอตั้ง เงยหน้าแล้วปากอ้าหวอซะขนาดนี้ อย่าว่าแต่แมงวันเลย ตอนนี้นกพิราบก็บินเข้าไปได้ โอ้โห ถ้ามีไฟสว่างๆหน่อยนะเห็นไปถึงลำใส้เล็กเลยล่ะ

เอ่อ...

ครับ เหอๆ

ผมเลยต้องดึงมะนาวให้เอนมาหลับอิงไหล่ผมแทน อย่างน้อยนอนคอตกๆ ถึงปากจะยังอ้าอยู่ก็มีผมของเขาบังไว้ได้บ้างล่ะว่ะ!



.............................................



เราเรียงแถวกลับมาถึงห้องพักตอนตีห้า ผมพอไหว แต่มะนาวสัปหงกไปหลายรอบเพราะนั่งรอนานมาก

พี่ๆ บอกเราว่าจุดประสงค์ของการออกรอบในครั้งนี้ คือให้เข้าใจว่า ความกลัวเป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาเอง...

จ๊ะ!

เล่นเอาไม่ได้นอนกันหมด อยากรู้จริงๆ ใครเป็นคนริเริ่มกิจกรรมแบบนี้

ยังดีที่พรุ่งนี้นัดเที่ยง

“ที่บอกแปดโมงทีแรกนั่นหลอก ไหนดูเข่าดิ้” พี่เทเดินตามเข้ามาในห้องนอนพร้อมๆ กันพวกผม

“ไม่เป็นไรพี่ ผมทำแผลแล้ว แผลก็เล็กนิดเดียว” ผมกะให้มะนาวเปิดไว้ตอนนอน แผลจะได้แห้ง

“ปิดแผลซะใหญ่โต กูนึกว่าขาขาดแม่ง”

“กันทรายเข้าเฉยๆ น่าพี่ แล้ว...” มะนาวลังเลที่จะพูดต่อ แต่ผมก็พอเดาได้ว่าเขาอยากจะถามอะไรกับพี่ตัวเอง

“นอนกันๆ ง่วงจะตายห่า แม่ง เหนื่อยชิบหาย”

พี่เทพูดต่อเรื่อยเปื่อย ถ้าเขารู้ว่ามะนาวจะถามอะไรนี่ก็เป็นการบ่ายเบี่ยงที่แนบเนียนเลยล่ะ

แต่แค่นั้นมันจะหยุดมะนาวได้งั้นเหรอครับ หึ หึหึ

“พี่... ฟ้า ล่ะครับ?”

ผมว่าผมไม่ได้คิดไปเองนะ พี่เทเงียบไปพักใหญ่กว่าจะตอบกลับมา

“ประชุม จริงๆ กูก็ต้องประชุมนะ แต่กู โดด”

“ไม่ใช่ๆ หมายถึง พี่กับพี่ฟ้า ไม่ได้ทะเลาะกันใช่ไหมครับ ผมไม่อยากให้...” ผมทำเป็นหยิบโน้นจับนี่ ปล่อยเขาคุยกันไปสองคนไม่ได้ขัด

“ไม่มีอะไร กูก็โวยวายของกูปกติ ไม่รู้จักพี่รหัสมึงรึไง นั่นน่ะกูคุยกับมันแบบปกติ”

“เหรอครับ?” มะนาวดูเหมือนจะไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ ท้ายคำตอบรับแบบจำยอมของเขาผมยังเห็นแววของความสงสัยอื่นๆ ต่อไปอีก

“เออ คิดมาก รีบนอน กูปิดไฟเลยนะ”



พวกผมถูกบังคับให้นอนทันทีเพราะพี่เทปิดไฟจริงๆ ห้องมืดกับไอเย็นของแอร์ที่เปิดทิ้งไว้ แต่ผมกลับทำได้แค่นอนจับมือกับมะนาวใต้ผ้าห่ม ผมว่าผมขี้ร้อนนะ นี่มันก็เย็นไป...




มารู้สึกตัวอีกทีตอนกึ่งหลับกึ่งตื่น เสียง ตี๊ดๆ ของรีโมทแอร์ดังขึ้นหลายครั้งติดกันถี่ๆ เสียงของแข็งวางลงบนโต๊ะกับเสียงเดินลากเท้าเบาๆ อ้อมไปอีกเตียง

ผมคิดว่าพี่ฟ้ากลับมาแล้ว

“อ่ะ?! ไอ้...”

“ชู่ววว”

ในความเงียบนิ่ง แม้แต่เสียงเตียงยวบผมก็ได้ยิน เสียงเสียดสีของผ้าห่มยิ่งชัดเจน ลมหายใจทิ้งอย่างขัดใจของพี่เท รวมไปถึงเสียงอื่นๆ

ตอนนี้ผมนอนตะแคงหันไปทางมะนาว ก็คือหันไปทางเตียงพวกพี่ๆ มองข้ามหัวเล็กๆของมะนาวไป ก้อนผ้าห่มกลมๆค่อยๆนิ่ง และสงบลง

อื้ม... ดี ผมคิดว่าถ้าพี่ไม่นอนกัน ผมก็คงไม่ได้นอนไปด้วย

เห็นพวกเขานิ่งไปแล้ว ผมก็เลยปล่อยให้ตัวเองหลับบ้าง เรื่องจะตื่นเต้นที่เห็นเขานอนกอดกันนั้น ไม่เท่าไหร่เมื่อเทียบกับความอิจฉาที่เกิดขึ้นในใจ อยากกอดคนของผมได้แบบนั้นบ้าง แต่มะนาวคงไม่ยอม



แต่เขาหลับไปแล้วนี่เนอะ เอามือไปวางบนเอวเขาซะหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง





............................................






 

“โนอา ไปเปลี่ยนชุด”

“ไม่!”

“กลับไปเปลี่ยน!”

“พี่ยีนส์”


เอาจริงๆผมก็ตื่นสายๆ สิบโมงกว่าๆก็ตื่นกันแล้ว ไม่ได้เพลียอย่างที่คิด ออกมากินข้าวต้มเบาๆ หลายๆคนก็ลอยคลออยู่กลางทะเลแล้ว

ก็มันเป็นฟรีไทม์นี่นา มาถึงทะเลก็ต้องเล่นน้ำทะเล เมื่อคืนก็มีหลายคนอยากเล่นน้ำ แต่ถูกห้ามไว้ เพราะมืดมันอันตรายห้ามลงน้ำตอนกลางคืนเด็ดขาด

กินข้าวไม่ทันเสร็จดี ก็ได้ชมพี่น้องคู่เดิมก็ตีกันอีกแล้ว

“ม้ายยยยย เม ช่วยพี่ด้วย” พี่โนอากระโดดเกาะแขนเม แล้วเลื่อนไปจับมือกันแกว่งแขนร่าเริงเข้าขากันอย่างกับอะไรดี

“เปลี่ยนทำไม แบบนี้ก็สวยดีออก” พี่โนอาใส่เสื้อยืดสีขาวลายปิก้าจูตรงท้อง กับกางเกงกีฬาขาสั้น ดูก็รู้ว่าพร้อมลงน้ำ

“เนอะๆ”

พี่ยีนส์ทำท่าปวดหัว ผมว่าผมเข้าใจพี่ยีนส์นะ ผมก็มีน้องสาว ยกนี้ผมเข้าข้างพี่ยีนส์

ผมพอเข้าใจความสัมพันธ์ของสองสาวนี้แล้วละครับ พี่โนอากำลังใช้เมต่อรองต่างๆนาๆกับพี่ตัวเอง ส่วนเมก็ใช้ความสนิทสนมกวนตีนพี่ยีนส์

ผมรู้สึกโชคดีที่ไม่ได้เกิดเป็นพี่ยีนส์ แทคทีมกันมาขนาดนี้ มาดนิ่งๆหลุดลุ่ยหมดแล้วครับ โดนกวนประสาทตั้งแต่ยังมาไม่ถึง ได้ข่าวว่าทีแรกพี่ยีนส์จะตามมาทีหลังเพราะติดทำโปรเจค แต่โดนพี่โนอาห้ามไว้ว่าไม่ให้ขับมอเตอร์ไซค์ลูกรักมาระยอง พี่โนอาห้ามไม่สำเร็จเลยไปกระโดดเกาะแขนเมแบบตอนนี้เนี่ยแหละ เมพูดสองสามคำเรื่องก็จบลงด้วยผลลัพธ์คือพี่ยีนส์ต้องขับรถยนต์มาแทนการควบม้าเหล็กตามใจอยาก

เรื่องนี้พี่มี่แอบฟังแล้วเอามาเม้าท์ แล้วที่พวกเราไม่รู้ไม่เห็นอีกเท่าไหร่นะ เพราะเมน่ะ ถ้าเรื่องนี้มันแทบไม่พูด พงศ์กับมะนาวง้างปากเท่าไหร่ก็ไม่มีผล



“มันโป้ไม่เห็นเหรอ เสื้อขาวแบบนั้น ใครเขาใส่ลงทะเล”

“ฮื้อ” พี่โนอาทำตัวเล็กหลบหลังเม

“ไม่มีใครกล้าทำอะไรโนอาอยู่แล้วน่า” เมออกปากพูดแก้ตัวแทน “พี่แม่งดูอย่างกับ...”

“แล้วห้ามความคิดคนอื่นได้ไหมล่ะ รู้ไหมว่าเวลาคนอื่นมองในหัวพวกมันจะคิดอะไรอยู่บ้าง”

“นี่กำลังคิดเหี้ยๆ อยู่ตลอดเวลาแล้วคิดว่าคนอื่นจะคิดเหมือนตัวเอง?” เมพูดเสียงนิ่งๆ แต่ดูแล้วกวนประสาทที่สุด

“เฮ้ย”

เมไม่เถียงต่อ ถอดเสื้อเชิ้ตลายสก็อกสีเข้มของตัวเองออก แล้วใส่ให้พี่โนอา ติดกระดุมให้เรียบร้อยถึงคอ

“ใส่ไว้ กันหมาบ้า”

“ก็ว่างั้นแหละ ขอบใจนะเม” น้องสาวตัวแสบไม่วายแลปลิ้นปริ้นตาใส่พี่ตัวเอง ก่อนวิ่งลงทะเลไป “แบร่”



พี่ยีนส์ถอนหายใจ มองพี่โนอาวิ่งลงทะเลไป ตัวเองกลับถอดเสื้อยีนส์ของตัวเองแล้วโยนให้เม เพราะพ่อพระเอกที่ทำตัวหล่อเมื่อกี้ก็เหลือแต่เสื้อกล้ามสีดำแขนกุดตัวเดียว ยิ่งกว่าพี่โนอาเมื่อกี้อีก

“เราก็ใส่ไว้”

“เหม็น”

“ถ้าเหม็นก็กลับไปเอาเสื้อที่ห้อง เลือกเอา”

เมดึงลงมาใส่อย่างจำยอม มันดูตัวใหญ่เกินตัว จนปลายแขนเสื้ออยู่ที่ปลายนิ้ว





หลายคนกำลังแอบเอียงหูฟังบทสนทนาเหมือนกับพวกผม

“แม่งถ้ากูแซว มันต้องกลับไปเอาเสื้อที่ห้องแน่” มะนาวพูดขึ้น

“คิดเหมือนกันเลยบีหนึ่ง แต่ตอนนี้เป็นเวลาของทะเลว่าไหมบีหนึ่ง” พงศ์พูดก่อนลุกขึ้นหมุนตัววิ่งลงทะเลไป

เห็นมะนาวเองก็กำลังทำท่าจะถอดรองเท้าไว้ริมขอบปูน ผมก็นึกสนุกขึ้นมา

“มะนาว”

“อะไร?”

“ไปเปลี่ยนชุด” ผมล้อเลียนพี่ตัวเอง แต่ก็ระวังไม่ให้เสียงดังจนคนอื่นได้ยิน

“อะไรของมึง” มะนาวหันมายิ้มกวนตีน

“ชุดนี้ไม่ให้ลงทะเลนะ”

“เหอะๆ เหรออออ” รอยยิ้มท้าทาย

เขายิ้มกวน ก่อนจะดึงชายเสื้อขึ้นรวดเดียวหลุดจากหัว แล้วโยนใส่ผม ผมเอาเสื้อออกจากหน้าเขาก็วิ่งไปไกลแล้ว

“กูเปลี่ยนแล้วนะ”

ผมจะทำอะไรได้ล่ะครับ นอกจากถอดเสื้อตัวเองบ้าง แล้วเตะลอยชายหาดนำทางลงทะเลไป

“เล่นลิงชิงบอลกัน!”







เช้านั้นหมดไปกับทะเล ตกบ่ายเป็นกิจกรรมฐาน พงศ์ตั้งชื่อให้ว่ารวมฐานดิ่งลงนรก ผมขอไม่อธิบายตรงนี้นะครับเผื่อว่าใครจะมาเป็นรุ่นน้องผม จะได้ไม่รู้งานล่วงหน้า

แต่รวมๆคือสะบักสะบอมทั้งร่างกายและจิตใจ ตัวก็เมาแล้วยังต้องหัวเราะกันเองจนน้ำตาเล็ดน้ำตาไหล เหนื่อยจริงๆครับ

ขอแอบบอกว่าพี่ฟ้ามาขอกุญแจห้องจากผมไปสามรอบ สายๆรอบนึง เที่ยงรอบนึง ตอนกิจกรรมฐานก็ยึดยาว เพิ่งเอามาคืนตอนที่พวกผมต้องกลับไปอาบน้ำกัน



“กูไปเอาของ มึงอย่ามองด้วยสายตาแบบนั้น”

“ยังไม่ได้พูดอะไรสักคำเลยพี่”

“กูรู้มึงคิดอะไร”

“ฮ่าๆๆ” พี่ฟ้าทำหน้ารำคาญผมเต็มที่ คงเบื่อที่ผมรู้ทันบ่อยๆ





“วันนี้มึงเห็นพี่กูกับพี่ฟ้าคุยกันบ้างยังว่ะ?” มะนาวถามผมตอนกำลังล้างทรายออกจากตัวก่อนกลับห้อง นี่ก็เย็นแล้ว หมดกิจกรรมช่วงกลางวันสักที

“หื๋ม?”

“ก็ที่เขาทะเลาะกันเมื่อคืนเพราะกูไง”

“ก็ ไม่เห็นนะ แต่เขาสองคนก็ดูปกติดีนี่นา”

“ปกติอะไร ไม่มีเข้าใกล้กันระยะสิบเมตรเลย”

“เรื่องชาวบ้านอย่าไปสนใจเลยน่า ป่ะ กลับห้องอาบน้ำดีกว่า จะได้ออกมาซ้อมการแสดง”

“มึง? ทำไมต้องทำหน้าแบบนั้นด้วย?”

หื๋อ? แบบนั้น แบบไหน

ผมยิ้มค้างแล้วจินตนาการสีหน้าตัวเอง ทำไมเหรอ แค่ยิ้มหน่อยๆ แถมตาเบลอๆ

“แปลกเหรอ? แค่ตาเยิ้มเพราะเมานิดหน่อยเอง” มะนาวหัวเราะคำตอบของผม เราเลิกมองหน้ากัน ต่างคนต่างเดินกลับห้องเงียบๆ

พออกห่างไกลจากผู้คน มะนาวก็พูดเบาๆแบบที่เราได้ยินกันสองคน


“มึง กูก็ว่า กูเมาว่ะ”

ผมได้แต่อึ้งทำตาโตมองมะนาวเดินนำไปข้างหน้า

พูดแบบนั้นแล้วยิ้ม คืออะไรว่ะ?

ผมออกเดินตามไปติดๆ เดี๋ยวไปถามต่อในห้องๆๆ





แต่

ความฝันของเราสองคนก็มลายหายไปทันทีที่เปิดประตูห้องพัก



เพราะ


มีร่างพี่เทนอนห่มผ้าหลับพริ้มอยู่ที่เตียงของเขา





โหยยย ไอ้พี่ฟ้า


ไหนมึงบอกไม่ได้ทำอะไรไง แล้วทำไมคู่กรณีมึงนอนหลับเป็นตายอยู่นี่ว่ะ!




----------------------------------------------------------
TBC.


หายไปนาน น้านนนนนาน
ขออภัยในความไม่แน่นอนของตัวเอง ตอนนี้กลับมาแล้วจ้าาา คิดเถิ้งงงง คิดถึง


ใครเคยโดนฐานช็อค ฐานวัดใจอะไรแบบนี้บ้าง เล่าให้ฟังบ้างงงง เจอของจริงกันบ้างมั้ย ส่วนตัวคนเขียนนั้น ไม่เคยเจอและไม่ขอเจอ 5555
ปูเรื่องไว้ตั้งแต่ตอนที่แล้วที่ทุกคนยังไม่เมา จำได้กันไหม?(สองตอนแต่เวลาที่ลงห่างกันมาก เหอๆ)

ใครแวะไปรับน้องกับพี่อาทิตย์มาบ้าง กลับมาๆ ไปรับน้องกับพี่ยีนส์ของเราด้วย (ผมกำลังบอกตัวเอง T T )
ดูๆไป ความใกล้เคียงมีอยู่มาก ทะเลกับวิดวะ เว้นแต่รับน้องเรื่องนี้ไม่มีว้ากปน เล่นล้วนอย่าหาสาระได 5555

อ้อ รูปแบบเข้าห้องเชียร์ของเรื่องนี้ไม่ใช่ SOTUS นะคะ การรับน้องหรือดูแลน้องๆเฟรชชี่ปีหนึ่งนอกจากโซตัสแล้วยังมีอีกหลายรูปแบบ
หรือแม้จะบอกว่าเป็นนั่นเป็นนี่เหมือนกัน แต่เอาจริงๆก็ขึ้นอยู่กับคนที่นำไปใช้ว่าตีความหมายของมันออกมาและทำออกไปอย่างไร
ยากเนอะ 5555


อ้อๆ ตอนหน้าจะสยองของจริงล่ะ หึหึหึ

คิดถึงคนอ่าน  :give2: :give2:
ฝากติฝากเม้นต์เหมือนเดิมนะคะ ยินดีรับทุกคำติชม ขอบคุณจริงๆที่ยังติดตาม

หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 30 รับน้อง...สยองขวัญ] 12/10/59 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 12-10-2016 05:52:27
ดีใจ ไร้ท มาลง :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
พี่ฟ้า ฉลาดมาก วางแผนให้พี่เทหึง
พี่เท หึง หรือไม่หึง ไม่รู้
แต่ที่แน่ๆ เข้าทางพี่ฟ้า เพราะพี่เท นอนหลับเป็นตาย  :z1: :z1: :z1:
มะนาว อุตส่าห์บอก “มึง กูก็ว่า กูเมาว่ะ”
แมต มะนาว เลยไม่ได้ฉลองการเมา อย่างเมาๆ เอ๊ะ....ยังไง :ling1: :ling1: :ling1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 30 รับน้อง...สยองขวัญ] 12/10/59 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 12-10-2016 08:41:51
โห้ยยยยยยอดเลย555555555555
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 30 รับน้อง...สยองขวัญ] 12/10/59 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 12-10-2016 08:48:00
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 30 รับน้อง...สยองขวัญ] 12/10/59 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 13-10-2016 03:14:59
แม็ทอดเราก็อดเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 30 รับน้อง...สยองขวัญ] 12/10/59 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 13-10-2016 11:09:13
คิดถึงจังเลยยยยย รออ่ารเสมอน้าา
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 30 รับน้อง...สยองขวัญ] 12/10/59 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 13-10-2016 12:58:37
 :impress2:
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 30 รับน้อง...สยองขวัญ] 12/10/59 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: PaiPo ที่ 24-10-2016 21:33:53
ชอบคู่ฟ้าแม็ตจะผิดหม้ายยยย โมเม้นคู่นี้ชักจะเยอะและแบบ ลับๆล่อๆ 5555 มันน่าจิ้นจริงๆ
 รอติดตามน้าาา
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 30 รับน้อง...สยองขวัญ] 12/10/59 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 25-12-2016 23:32:27
น่ารักมากกกก ชอบทุกคู่ทุกคนเลย

พี่ยีนส์กะน้องเมนี่สุดๆอ่ะ
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 30 รับน้อง...สยองขวัญ] 12/10/59 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Aeflizm ที่ 03-01-2017 01:15:39
รอต่อไปป ไรท์รีบมาต่อน้าา :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 30 รับน้อง...สยองขวัญ] 12/10/59 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-01-2017 05:22:02
❤️ HAPPY NEW YEAR 2017 ❤️
สวัสดีปีไหม่ ๒๕๖๐
ขอให้ไรท์ มีความสุข มากกกกกกก
。◕‿◕。
รอไรท์ นะ คิดถึง แม็ต นาว  มากกกกกก
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 30 รับน้อง...สยองขวัญ] 12/10/59 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 04-01-2017 22:17:34
มาอ่านครั้งแรกค่ะ รวดเดียวเลย รอตอนต่อไปนะคะ

สวัสดีปีใหม่ ค่า
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 30 รับน้อง...สยองขวัญ] 12/10/59 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: PaiPo ที่ 04-01-2017 23:05:32
คิดถึง ก็เลยมาสวัสดีปีใหม่ และบอกคิดถึงมะนาวววววว
 :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 30 รับน้อง...สยองขวัญ] 12/10/59 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 04-01-2017 23:39:16
 เพิ่งมาอ่านคับ สนุกมาก มาต่อตอนต่อไปเร็วๆนะคับ รอๆ
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 31 อ้าวเฮ้ย...ไม่เหมือที่คุยกันไว้นี่นา] 7/1/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 07-01-2017 04:26:57
(http://i1159.photobucket.com/albums/p636/Browny_Tan/bro/loveagain334_zpsaovquoi9.png)
- บทที่ 31 - อ้าวเฮ้ย...ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา -







เย็นวันเสาร์ วันที่สองของการรับน้องนอกสถานที่




การแสดงของแต่ละชั้นปี ถูกนำเสนอหน้าเวที พวกเราปีหนึ่งแสดงละครบ้านทรายทองเวอร์ชั่นสลับชายหญิง ผมกับมะนาวรอด พงศ์ได้เล่นเป็นหญิงใหญ่ ส่วนเม แน่นอนหล่อๆ อย่างมันได้บทนำไปแน่นอน


เมมาในบทชายน้อยได้อย่างสมบทบาท เมนี่ได้ทุกงานจริงๆ หล่อก็หล่อ บทจะสวยมันก็สุด หยาบคายก็มาก ถึงทีต้องตลกก็ไม่แพ้ใคร รับเสียงปรบมือจากแฟนคลับเกรียวกราว


แสดงจบ การแสดงของพี่ปีสองยังไม่ทันจะเริ่ม เมก็วิ่งหน้าตั้งประคองมือถือมาหาพวกเราอย่างกับว่ามือถือมันร้อนเอามากๆ



“มึงๆๆๆ ทำไงดีๆๆๆ”


“อะไร มึงเป็นไร”


“พี่กูจะมา” เมพูดทำหน้าจะร้องให้ หวาดกลัวสิ่งที่กำลังจะเกิดนั่นสุดๆ


“เจ้เฟอ่ะนะ” มะนาวท่าทางดีใจ ตอนนั้นมันเพ้อถึงเจ้เฟของไอ้เมอยู่เกือบอาทิตย์


“เออ พี่บอกอีกชั่วโมงถึง โมโหมาก”


“โมโหเรื่องอะไร”


“กูไม่ได้บอกพี่ว่ากูมารับน้อง แต่พี่กูเห็นจากไอจีโนอาว่ามารับน้องกัน ก็เลยคาดคั้นกูใหญ่เลย”


“นี่มึงมารับน้องไม่ได้บอกที่บ้านเหรอ?”


“บอก กูบอกแม่ แต่แม่กูไม่ให้บอกพี่ เดี๋ยวพี่ไม่ให้กูมา”


“เออ บ้านมึงนี่แปลกดี” แทนที่คนเป็นพ่อแม่จะเป็นห่วงไม่อยากให้ลูกมารับน้อง บ้านเมกลายเป็นแม่ให้มาแถมช่วยกันปิดพี่ซะอีก


“ไม่ใช่เวลามาวิเคราะห์เรื่องนั้นเว้ย มึงช่วยกูคิดดิ้ กูควรทำไงดีๆ”


“มึงก็ให้พี่โนอาช่วยพูดอีกแรงดิ” ผมเสนอ เพราะสาวๆ เขาดูสนิทกันดี


“กูว่าพี่ยีนส์เป็นไม้ตาย” มะนาวออกความเห็น มีบีสองพยักหน้าเห็นด้วยอยู่ข้างๆ


“กูดิตายถ้าต้องวุ่นวายกับไอ้ประธานเชียร์ขี้เก็กนั่นอีกอ่ะ แม่งน่ามั่นไส้ชิบหาย”


“อะไร เขาทำอะไรมึง”


“ก็... เปล่า” เมลังเลที่จะตอบ ดูก็รู้ว่าในหัวคิดอะไรอยู่แต่ไม่พูดออกมา


“ไม่จริง มึงจะหงุดหงิดทำไมถ้าเขาไม่ได้ทำอะไรมึง บอกมาเขาทำอะไร”


“โอ้ย ก็บอกว่าไม่ได้ทำๆ”


“อ้อ” ผม


“อ้อออ” พงศ์


“อ้อออออออ” มะนาว


“อะไรของพวกมึงสามตัวเนี่ย อออ่างติดคอรึไง”


“พ่อหนุ่มน้อยหัดเป็นชะนี มึงอยากให้เขาทำแต่เขาไม่ทำอะไรมึงซะทีใช่ไหมล่ะ แปะๆๆๆ ฮิ้วววว เจ้าข้าเอ้ยยย เมของเราเป็นสาวแล้วววว”


“เชี่ยพงศ์ อยากได้ส้นตีนกูไปติดคอมากใช่มะ โว๊ะ กูไม่คุยกับพวกมึงแล้ว ปรึกษาอะไรไม่เคยได้เลย”


เมหัวเสียเดินหายไปทางโต๊ะปีสอง คงไปหาพี่โนอาล่ะมั้ง ไม่นานเมก็พาพี่โนอาแยกออกไปคุยกันข้างหลัง


จนการแสดงของปีสี่สามจบถึงได้พากันกลับเข้ามาในโถงลานกิจกรรม ว่าแต่ ไปสองทำไมกลับมาสาม มีพี่ยีนส์เดินล้วงกระเป๋าผิวปากสบายๆ ตามมาไม่ห่างเท่าไหร่


แน่นอนผมไม่ได้เห็นเอง แต่มีพรายบีหนึ่งกับบีสองกระซิบข้ามหัวผมไปมา ทุกความเคลื่อนไหวอยู่ในหูผมละเอียดยิบอย่างกับตาเห็นเลยเชียวล่ะ เห้อ...










“ปีหนึ่ง จะมานั่งจับกลุ่มกันเองไม่ได้นะ ไปๆ ไปนั่งกับรุ่นพี่ปีไหนก็ได้”



เมื่องานเลี้ยงที่ยิ่งใหญ่เริ่มขึ้น เราที่ยังยืนงงจับกลุ่มกับเพื่อนๆปีหนึ่งด้วยกัน ถูกไล่ให้กระจายหาที่นั่ง เพราะเรากำลังทำท่าจะนั่งจับกลุ่มกันเอง



 


“เดือนเว้ย เดือน มานี่ๆ” ผมเผลอเดินงงๆ ไม่ดูตาม้าตาเรือเลยโดนพี่ฟ้าเรียกไว้จนได้ คนอะไรตายยากตายเย็น กำลังหวั่นๆ อยู่เชียว จะโดนคำสั่งอะไรแปลกๆอีกไหมล่ะเนี่ย ดูหน้าตาที่ร่าเริงสุดๆตอนกวักมือเรียกผมเนี่ย มันน่ากลัวจริงๆ


ทันทีที่ผมนั่งลงข้างพี่ฟ้า ก็โดนเขาเกี่ยวคอ กระซิบเบาใกล้หูซะจนผมขนลุก


“ไปเอานาวมานั่งนี่ แล้วมึงจะไปไหนก็ไป”


นั่นไงว่าแล้วเชียว


ผมมองหน้าพี่ฟ้าได้แต่ทำตาปริบๆให้ไป เขากลับพยักหน้ายืนยันว่าเอาจริงๆ ช่วยหน่อย


โหยยยย พี่เป็นคนที่ผมไม่อยากจะรู้ใจด้วยเลยจริงๆ แต่ทำไมผมดันรู้ไปหมดทุกความคิดของพี่เนี่ย


ผมมองหามะนาว จริงๆก็แทบไม่ต้องหา บางอย่างบอกว่าเขาอยู่ไม่ไกล มะนาวคงเห็นผมนั่งลงตรงนี้ ก็คงกำลังพยายามจะหาที่นั่งที่ไม่ไกลจากผมอยู่


เราบังเอิญสบตากัน ผมจึงลุกขึ้นเดินไปหามะนาว ทำบางอย่างที่ไม่เต็มใจเท่าไหร่


“ไปนั่งนั้นเถอะ พี่กูเรียก กูต้องไปนั่งกับพี่”


“อื้มๆ” มะนาวรับคำอย่างไม่ติดใจอะไร


ผมพยายามทำใจไม่มองตามเขา เดี๋ยวตาละห้อยจะออกอาการ เปลี่ยนเป็นโฟกัสหาที่นั่งใหม่แทน


ผมมองหาพี่โนอาพี่รหัสผมเป็นอันดับแรก เวลาแบบนี้อยู่กับพี่สายคงปลอดภัยสุด เพราะดูจากเพื่อนๆที่หลงไปนั่งกับพี่ปีสูงๆพวกมันกำลังกระดกแก้วชนิดที่ว่ายกลอยหงายหลังพร้อมๆกันหลายคนเลย น่ากลัวที่สุด


โป้ะเช้ะ! พี่โนอานั่งโต๊ะเดียวกับพี่เท


เอาล่ะ ผมจะทำเป็นไม่ได้ตั้งใจนั่งข้างพี่เท ไม่เลยไม่ไม่ได้ตั้งใจ ผมแค่มานั่งตรงข้ามพี่รหัสตัวเองเท่านั้นเองงงงงงงงงงงงง





“เฮ้ย น้องรหัส ไหน ไหนแก้ว” ทันทีที่ผมหย่อนตัวลงนั่งตรงข้ามพี่โนอา พี่สาวคนสวยที่เคยสุภาพน่ารักก็เอียงคอในมุมประหลาดแล้วเอ่ยถามผมอย่างผิดวิสัย


ผมว่า พี่ผมเหมือนจะเมาแล้วนะ


“ยังไม่มีครับ”


“โหยยย มี่ จัดให้น้องกูหน่อย”


“มี่มึงไม่ต้องๆ น้องมึงอ่ะ ต้องเจอกู” พี่เทพูดขณะที่คว้าแก้วเปล่ามารินเหล้าลงไปแบบแทบจะคว่ำขวด 


“เชี่ยเท น้องกูจะตายมั้ย พอแล้ว พอๆๆๆๆ” ถ้าฟังสิ่งที่พี่โนอาพูด มันดูสวยงามและเต็มไปด้วยความห่วงใยน้องตัวเองมากเลยครับ แต่ตัดมาที่การกระทำ พี่โนอากำลังกำทับมือพี่เท แล้วช่วยกันเขย่าให้เหล้าสีเข้มไหลลงมาเร็วและแรงขึ้น...


โห เหยาะเป็นขวดน้ำปลาเลย


สุดท้ายมันหยุดตรงเหล้าเพียวๆ เกินครึ่งแก้ว เหล้าล้วนยังไม่มีน้ำแข็งสักเม็ด


อห.


พี่โนอาก่นด่าต่อไปทั้งที่ครึ่งหนึ่งเป็นฝีมือตัวเอง พี่มี่บ่นเสียดายเหล้า แต่ก็ตบท้ายว่าถ้าผมเมาก็น่าจะดี


อ้าว... ไม่มีใครพูดตรงกับการกระทำเลย


“เอ้า รักพี่แค่ไหนก็กินแค่นั้น” พี่เทเลื่อนแก้วที่ผสมเสร็จแล้วมาให้ผม สีแก้วผมน่ากลัวอย่างกะ... นี่มันแทบจะออนเดอะร็อกเลยนะเนี่ย น้ำแข็งก้อนเดียว โซดาสองช้อนโต๊ะ



“เอ่อ...”


“อะไร? จะพูดอะไรคิดดีๆนะ ถ้ามึงไม่กิน กูจะจับกรอกเลยแม่ง” พี่เทชี้หน้าคาดโทษผม


“กินครับกิน อารมณ์ไม่ดีอะไรของพี่แล้วมาลงที่ผมเนี่ย” ผมรับมา ทำเป็นบ่นเบาๆ ในใจก็คิดไม่ตก ตกลงพี่ฟ้าพี่เทนี่ยังไง ทำไมคนนึงต้องพยายามเรียกร้องความสนใจ อีกคนก็ทำท่าเมินจนแทบจะจับความเชื่อมโยงไม่ได้


ถ้าผมไม่ได้อยู่ในสถานะผู้สมรู้ร่วมคิดคงดูไม่ออกเลย


“โนจ๊ะ เนี่ย พี่เทเวอร์ชั่นปกติ” พี่โนอาเป็นคนปรับความเข้าใจให้ผมใหม่ “ปากดี ปากดีมาก ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้กัดเก่งชิบ”


“กัดกับกูได้ก็พวกมึงอ่ะ สปีชีส์เดียวกัน”


“หน่อย งั้นกูจะไม่ตอบโต้” พวกพี่ๆทำหน้าอย่างกับโกรธแค้นกันมากๆ แต่สุดท้ายก็หลุดหัวเราะออกมาพร้อมกัน


“อะไรทำให้พี่เหมือนอารมณ์ไม่ดีเป็นปกติแบบนี้อ่ะ”


“โว้ะ ไอ้นี่ กูอารมณ์ดี เป็นปกติดีทุกอย่าง”


“ผมไม่เชื่อพี่ดีกว่า”


“น้องมึงนี่กวนตีนได้มึง”


“ดีมากลูก แม็ตเด็กดีหัวไว” พูดกับผมอ่อนหวานมาก นี่แหละพี่โนอาคนเดิม... ก่อนพี่โนอาจะหันไปขึ้นเสียงกับเพื่อนตัวเอง “เอาพี่กูด้วยมั้ยล่ะ จะได้รู้ว่าสายกูแน่ทุกคน”


“เออ สายมึงแน่ เมื่อวานแบบงีดกันหมดค่ายเลย เพราะมึงสามตัว”


“เรียกดีๆ นั่นพี่กู พี่กูๆๆๆๆ”


“อะไรเหรอครับ?” ผมเริ่งรู้สึกทะแม่งๆ กับคำว่าเมื่อวานยังไงชอบกล


“เรื่องเมื่อวานอ่ะ จำได้มะ?”


“เรื่อง? เรื่องที่พี่โนอาทะเลาะกับพี่ยีนส์น่ะเหรอ” ผมเอาคำว่าสาม มาปะติดปะต่อกัน “ทำไมกัน?”


“อย่าเพิ่งเอาไปบอกใครนะ แต่ว่า คือแบบ มันเรื่องโกหกทั้งเพ”


“!!”


“ฮ่าๆๆๆ ดูหน้าน้องดิ”


“พี่หลอกผม” ผมอึ้งมาก หันไปทางพี่โนอาแล้วบอกความในใจ


“ตอนแรกพี่ไม่รู้สึกผิดหรอกนะ แต่แม็ตพูดกับพี่แบบนี้ ทำไมพี่รู้สึกตัวเองผิดจนไม่น่าให้อภัยเลยอ่ะ” แอคติ้งที่ได้มาคือพี่โนอากุมหน้าอกแล้วทำหน้าจะร้องให้ อันนี้ผมเริ่มลังเลแล้วว่าควรเชื่อไหมว่าพี่โนอากำลังเสียใจจริงๆ หรือแค่ล้อเล่นอีก


“โธ่ พ่อคนดี พ่อยอมขมองอิ่มของพี่” พี่มี่ย้ายฝั่งมานั่งข้างผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เกาะแขนผมแน่นเชียว สงสัยโต๊ะนี้จะเมากันหมดทุกคนแล้ว


“เออ แต่เรื่องพี่ยีนส์หวงมึงอ่ะ สาเหตุมาจากเรื่องนั้นจริงไหม” พี่เทถามเพื่อนอย่างต้องการความจริง


“นั่นดิ ไม่ใช่แฟนแต่เป็นพี่น้องกันแท้ๆ หลอกกูมาเป็นปีๆ หลอกได้แม้กระทั้งเพื่อน กูไม่ใช่เพื่อนมึงรึไงถึงต้องปิดบัง รู้ไหม มึงรู้ไหมเพื่อนมึงต้องหักห้ามใจไม่ให้ยุ่งกับผัวเพื่อนมากแค่ไหน พี่ยีนส์นะเมิงงง หล่อล้ำข้ามโลกเห็นหน้ากูก็ระทวยตั้งแต่ระยะร้อยเมตร”


“กูรู้ ว่าพี่กูน่ากิน กูเสียใจ คือกูอยากจับพี่ใส่พานเซ่นมึงจะตายห่า เรื่องทั้งหมดกูทำอะไรไม่ได้ ไม่เห็นเหรอกูไม่ได้ทำอะไรเลย กูเคยพูดสักครั้งไหมว่านั่นแฟนกู ก็ไม่ พวกมึงคิดเอาเองทั้งนั้น”


“แล้วทำไมเขาต้องหวงมึงออกนอกหน้า”


“โอ้ย ไอ้บ้านั่นไม่มีเหตุผลหรอก หวงก็คือหวง จบ แค่นั้นเลย”


“เมื่อกี้มึงยังบอกไม่ให้ด่าพี่มึงอยู่เลย”


“กูด่าของกูได้คนเดียว”


“แล้วเรื่องพี่ป้องล่ะครับ”


ทั้งวงเงียบ พี่โนอาเบ้หน้าอย่างเห็นได้ชัด


“ช่วยเชียร์พี่ยีนส์ให้จีบเมทีสิ นะน้องรัก นะ เผื่อพี่จะมีผัวกับเขาได้สักที”


สรุปนะครับ เมื่อคืนเป็นละครอิงเรื่องจริง ในส่วนหลอกผีเป็นละคร ส่วนเรื่องชู้สาวนั้น น่าจะจริง



สักพักเมก็มาตามพี่โนอาออกไปหาเจ้เฟพี่สาวมัน มาจริงๆ มาจริงจัง พี่ยีนส์ที่นั่งอยู่ไกลๆก็ลุกขึ้นเดินตามไปห่างๆ จะรู้งานหรือเสนอตัว ผมไม่แน่ใจ


เผลอหันไปทางพี่ป้อง เขาก็มองตามพี่โนอากับเมไปเหมือนกัน


ดูท่าแล้ว ถ้ากันพี่ยีนส์ออกไปได้จริงๆล่ะก็ คู่นี้ตกลงปลงใจกันแน่ๆ หลายๆครั้งพี่ปกป้องก็แสดงออกว่าเป็นห่วงเป็นใยพี่โนอา แต่ตลอดมาผมหลงคิดไปว่าเพราะเป็นน้องรหัสถึงห่วงใย เท่านั้นเอง








ผมค่อยๆ จิบแก้วของผม เพราะมันเข้มบาดคอแทบจะเรียกได้ว่านี่คือการซดเพียวๆ ดื่มไปได้ไม่ถึงครึ่งแก้วเผลอหันไปคุยกับทางพี่มีมี่ หันกลับมาอีกทีแก้วผมก็หายไป ผมมองหาไปรอบๆ เห็นจังหวะคนข้างตัวยกเหล้าซดอย่างเอาเป็นเอาตาย


แก้วพี่เทเกลี้ยงอยู่ตรงหน้าเขา แก้วผมหายไป งั้นที่อยู่ในมือเขาก็


“พี่! แก้วผม”


“แล้ว?” ยังจะถามอีกยัง


“มันเข้มมากนะพี่ เดี๋ยวพี่ก็เมา” ผมพูดยังไม่ทันจบดี พี่เทก็สวนกลับมาทันที


“กินเหล้า ถ้ากินให้ไม่เมาจะกินทำไมวะ หวงอะไร หมดก็เติมดิ” พี่เทคว้าขวดเหล้าเข้ามาหาตัวเอง ทำท่าจะเติมทั้งสองแก้ว


“มา ผมชงให้ครับ” ผมยึดแก้วทั้งสองแก้วในมือกับตรงหน้าพี่เทมา นึกสงสัยก็เลยเหลือบไปมองทิศทางต้องสงสัย


อ้อ ก็แค่กอดคอจับคู่เล่มเกม...เอง


ผมนี่ก้มหน้าถอนหายใจเลย ขนาดผมรู้อยู่แล้วว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้น ยังรู้สึกร้อนๆ ในใจ คนไม่รู้อะไรเลยอย่างพี่เทล่ะ เห็นคนรักใกล้ชิดคนอื่นสนุกสนานอยู่กับคนอื่นขนาดนั้นแล้ว ถ้าเขาไม่มีความรู้สึกอะไรคงไม่กวาดแก้วข้างหน้าซดเฮือกๆจนเกลี้ยงขนาดนี้หรอก ผมอุตส่าห์ทำตัวเป็นน้องที่ดีชงเหล้าให้ยังโดนเร่งไปบ่นไปท่าทางหงุดหงิดไม่ได้อย่างใจเลย


ผมก็งง พี่ฟ้ายังจะกวนประสาทแฟนตัวเองให้มันได้อะไรขึ้นมา พี่เทก็ดูตื่นเต้นร้อนใจกับภาพนั่นชัดขนาดนี้ มันจะเป็นอื่นไปอีกได้เหรอถ้าเขาไม่ได้กำลังหึงน่ะ





ผมล่ะสงสัยความสัมพันธ์ของสองคนนี้จริงๆ คนนึงเรียกร้องความสนใจ อีกคนแกล้งทำเป็นไม่สนใจอะไร พี่เทเย็นชาเหมือนไม่ได้แคร์อะไร พี่ฟ้ายอมทุกอย่างทำทุกวิถีทางให้พี่เทอยู่ใกล้ๆ เหมือนคนนึงกำลังวิ่งหนีไม่แม้จะเหลียวหลังมามอง อีกคนได้แต่วิ่งตามและดูท่ากำลังเหน็ดเหนื่อย ไม่รู้เป็นอย่างนี้มานานรึงยังเพราะได้ข่าวว่าสองคนนี้เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก แต่ย้อนนึกดูตั้งแต่ผมเห็นพวกเขาสองคนไม่เคยห่างกัน พวกเขามักจะอยู่ในระยะที่มองเห็นกันได้เสมอ ที่แน่ๆ ผมว่าในใจพวกเขาแคร์กันมากทีเดียว 


“พี่เท พี่มีแฟนรึเปล่าครับ”


“ทำไม? ถามแบบนี้จะจีบกูเหรอ?”


“เปล่าครับ ผมแค่อยากรู้ ถ้าพี่ไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไรนะครับ” ผมเลื่อนแก้วที่ชงเสร็จแล้วไปตรงหน้าพี่เท เขารับไปจิบทันที แต่ก็ยังดีที่ไม่ได้ซดเอาๆเหมือนเมื่อกี้ ตอนนี้เลยกลายเป็นนั่งนิ่งๆ หันไปเหม่อมองทะเลเหมือนชมบรรยากาศ แต่ผมว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ต่างหาก


“ไม่มีอ่ะ ไม่ได้อยากมี”


“แล้วมีคนมาจีบบ้างไหมครับ?”


“ไม่รู้สิ ไม่มีมั้ง” พี่เททำท่านึก


“อื้ม พี่ไม่รู้ตัวจริงๆ หรือแกล้งไม่รู้ครับ”


“หึ ทำไม คิดว่าหล่อแล้วมาพูดหวานๆ กูจะหลงเหรอ”


“เปล่านะครับ ผมไม่ได้กำลังจีบพี่ซะหน่อย”


“เหรอ แล้วถ้าพี่จีบเราล่ะ?”


“หื๋อ” เดี๋ยวนะ... หรือผมวางคำถามผิด มามองผมด้วยสายตาแบบนี้ “พี่อย่าล้อผมเล่นน่า”


“ดูใกล้ๆ หน้าเราใสมากเลยนะเนี่ย” ผมไม่รู้ตัวเลยว่าเขาหันมามองผมตั้งแต่เมื่อไหร่ แถมยังเท้าคางจ้องเอาจ้องเอาอย่างกับกำลังจับผิดผมงั้นแหละ


“ผมว่าเรื่องนี้พี่ชมผมคงไม่ใช่ พี่เองก็ไม่แพ้ใครเลยนะเรื่องหน้าใสเนี่ย” ผมพยายามไม่สบตา พูดไปยิ้มไปทำตัวเหมือนปกติ แต่ดูเหมือนจะไม่สามารถเบี่ยงเบนหรือทำให้พี่เทเลิกสนใจผมได้ แล้วจู่ๆ ผมถูกแย่งแว่นไปอย่างไม่ทันระวังเลยสักนิด


“แว่นนี่เกะกะจริง”


“อ่ะ!?” พี่เทดึงแว่นผมไปด้วยความรวดเร็ว เอาไปส่องๆ แถมใส่ให้ตัวเองเสร็จสับ


“อ้าว นี่ไม่ใช่แว่นสายตานี่ นี่นายหลอกลวงผู้บริโภคเหรอ”


“เปล่านะครับ ผมเคยสายตาสั้น จนถึงตอนนี้ก็เลยยังชินกับการใส่แว่นมากกว่า”


“พอไม่มีแว่นแล้วจะขาดความมั่นใจ จนต้องหน้าแดงเลยเหรอ?”


“เอ่อ ครับ”


“หึ” พี่เทยิ้มแล้วหรี่ตามองผมผ่านแว่นของผม


ใช่ ผมไม่มั่นใจตอนที่ไม่มีแว่นก็จริง แต่ที่ผมหน้าร้อนๆเพราะเขาเอาแต่จ้องผมต่างหาก ไม่รู้เขากำลังคิดอะไร แต่ผมรู้สึกสังหรณ์ชอบกลกับสายตาแบบนี้ของเขา


“ถึงมันจะไม่ใช่แว่นสายตาแต่ถ้าพี่ใส่นานๆ ก็ปวดตาได้นะครับ ขะ” ผมกำลังจะพูดว่าขอแว่นผมคืน แต่ก็ถูกขัดจังหวะ


“ขออะไรอย่างสิ”


“ครับ?”


จู่ๆ พี่เทก็ยกมือเกี่ยวต้นคอผมไว้ แล้วดึงผมให้โน้มตัวต่ำลง เสี้ยววินาทีที่ผมไม่ได้ตั้งตัวกำลังทรงตัวไม่มั่นคงจนสายตาพล่าเบลอสัมผัสอุ่นๆ ก็วาบทั่วริมฝีปาก





ผมถูกดึงลงไปจูบ!





มันเกิดขึ้นเร็วมาก


แต่หลังจากที่ผมรู้สึกตัว ทุกอย่างช้าลงเหมือนหยุดนิ่ง





อึ้ง! ผมได้แต่อึ้งอยู่ตรงนี้


แม้เขาจะถอยออกไปแล้ว แต่แขนพี่เทยังเกี่ยวคอผมไว้ เขายิ้มให้กับแก้วที่จิบโดยไม่สนใจผมสักนิด


ผมมองเขาอย่างไม่เข้าใจ คิดอะไรอยู่ถึงทำแบบนี้ ที่สำคัญ ทำไมต้องเลือกผม!





อย่างแรกที่ผมจะเช็ค คือ มะนาว!


ผมภาวนาให้เขาไม่เห็น ซึ่งเป็นไปได้ยากมาก เรานั่งตรงข้ามกันห่างออกไปแค่สองสามโต๊ะ แถมที่นั่งตรงหน้าผมที่พี่โนอาเคยนั่งบังอยู่เขาก็ลุกไปแล้ว


สิ่งที่ผมเห็นตอนที่หันไปทางคนที่ผมแคร์ที่สุด คือพี่ฟ้าที่ทำหน้าโมโหสุดๆ เขาเกี่ยวคอมะนาวไว้ท่าเดียวกับที่พี่เทกอดคอผมอยู่ แต่อีกมือพี่ฟ้ากำลังปิดตามะนาวไว้ แม้มะนาวจะขัดขืนและพยายามดึงมือพี่ฟ้าออก เขาก็ยังปิดไว้อย่างนั้น


หายห่วงไปนิดหน่อย ผมจึงหันกลับมามองรุ่นพี่ข้างตัว


“มองอะไร?” พี่เท พี่ยังจะถามอีกว่ามองอะไร แฟนพี่กับแฟนผมอ่ะ ป่านนี้เข้าใจผิดไปถึงไหนๆ แล้ว


ถ้าไม่ใช่พี่ ผมต่อยแล้วจริงๆ


“พี่เท พี่” ผมดึงแขนพี่เทออกจากคอ ตั้งใจจะเรียกไปคุยข้างนอกให้รู้เรื่อง




“เฮ้ย!” ยังไม่ทันพูดอะไรต่อ ผมยังไม่ทันโวยวาย ผมก็โดนดึงคอเสื้อจนต้องยืนขึ้นเพราะแรงดึงมันเยอะมาก บ่งบอกว่าพี่ชนะอารมณ์เสียสุดๆ “ทำแบบนี้หมายความว่าไงว่ะ”


“พี่?” เฮ้ยพี่ชนะ ทำไมคนที่พี่ทำท่าจะต่อยเป็นผมวะ?


“มึงมีแฟนอยู่แล้วไม่ใช่รึไง ทำแบบนี้หมายความว่าไง ตอบมา”


“เอ่อ พี่ชนะ” พี่เทพยายามจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ก็โดนเสียงที่ดังกว่าและดุดันกว่าตะคอกใส่จนต้องเงียบเสียงไป


“เท มึงอยู่นิ่งๆ ไปเลย ไอ้นี้แม่ง มึงมานี่”


ผมถูกพี่ชนะดึงออกมาจากโต๊ะ ลากมาทางชายหาดที่ไกลสายตาผู้คน มือเขาไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยหรือเบาแรง กระชากไม่ออมมือจนผมเริ่มเป็นห่วงสวัสดิภาพตัวเองหลังจากนี้แล้ว ถึงผมจะตัวใหญ่กว่า แต่ถึงยังไงผมก็เป็นรุ่นน้องเขาหลายปี ถ้าไม่ร้ายแรงจริงๆ ผมก็ไม่ควรตอบโต้ อีกอย่างตอนนี้พี่ชนะดูโมโหมาก จนผมคิดว่าถ้าโดนต่อยสักหมัดสองหมัดก็คงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ





อย่าว่าแต่พี่เลยพี่ชนะ ผมเองก็อยากรู้ว่าเรื่องมันกลายเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง






---------------------------------------------------
TBC.





อ้าวเฮ้ย! ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หน่า
ทำไมพระเอกของดั้นถึงได้ซวยซ้ำซวยซ้อน ซวยซ่อนเงื่อนขนาดนี้

ไม่ได้อัพนานม้ากกกกกกกกกกก ขออภัยยยย งื้ออออ
ตอนนี้กลับมาอัพแล้วตามคำเรียกร้อง ขอบคุณทุกคนที่ไม่ถอดใจยังคิดถึงและถามไถ่เข้ามา (2คนถ้วน)  อิอิ
เห็นสองสามคนแสดงตัวว่าเพิ่งหลงเข้ามาอ่าน ยินดีต้อนรับเข้าสู่อาณาจักรดองเค็ม ว่ะฮ่าๆๆๆๆ
ล้อเล่นๆ 5555 แต่เพราะตอนนี้มันมีอีกคู่ที่ตั้งตัวเป็นเอกเทศเป็นใหญ่เป็นโตจนต้องแยกเรื่องให้พวกนาง เข้ามาเกี่ยวข้องค่อนข้างมาก เพราะงั้นเลยต้องเขียนสองเรื่องไปคู่กันและยังต้องสอดคล้องกัน ก็เลย ยากจัง เอาไงดี รักพี่เสียดายน้อง ก็เลยตัดสินใจนานไปนิด


ชอบบอกได้ ไม่ชอบตรงไหนก็บอกได้ ถ้ามีอะไรอยากให้ปรับปรุงแก้ไขบอกกันได้เต็มที่เลยนะคะ น้อมรับเสมอค่า


(แปะลิ้งค์เผื่อว่าใครยังไม่เห็น)
มีเรื่องสั้นแก้เหงา อัพไว้กำลังจะจบแล้ว [เรื่องสั้น] ☻☺☻ เหงา...ตัวเท่าบ้าน http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56219.0
กับตอนพิเศษ จูบข้ามปี คู่ฟ้าเท http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54795.msg3547559#msg3547559 

หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 31 อ้าวเฮ้ย..ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา] 7/1/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-01-2017 04:53:30
ชุลมุลวุ่นรัก
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 31 อ้าวเฮ้ย..ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา] 7/1/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 07-01-2017 05:10:42
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:   
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 31 อ้าวเฮ้ย..ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา] 7/1/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 07-01-2017 06:25:05
อิพี่เททำเรื่องซะแล้ววววววว
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 31 อ้าวเฮ้ย..ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา] 7/1/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 07-01-2017 09:15:59
 o2 o2 o2 o2 o2

วุ่นวายจริงเชียวแต่ละคู่

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 31 อ้าวเฮ้ย..ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา] 7/1/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 07-01-2017 09:27:41
งื้ออออ มาแล้ววว มาบ่อยๆนะเค้าคิดถึงงง
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 31 อ้าวเฮ้ย..ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา] 7/1/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 07-01-2017 10:24:42
ดีใจ ไรท์มาต่อ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
อ้าวเฮ้ย......มันกลับตาลปัตร ชุลมุนวุ่นวายใจแมท แท้ๆ
พี่ชนะโผล่มาจากไหน นี่พี่โมโหแทนนาว ปะเนี่ย
หรือมีอะไรที่ไม่เคยรู้โผล่มาอี๊ก งงงงงงงง :katai1: :katai1: :katai1:
พี่ฟ้ากวนพี่เท ยั่วเพื่อให้พี่เทหลุด แล้วจับกินปะ
พี่เฟ พี่ยีนส์ เหมือนกันตรงที่หวงน้องสาวทั้งคู่ แต่พี่ยีนส์ จีบเม
ไรท์ ปวดหัวบ้างมั้ยน้อ คนอ่านเริ่มหัวหมุนละ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 31 อ้าวเฮ้ย..ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา] 7/1/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 07-01-2017 11:13:16
 o2 o2 o2
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 31 อ้าวเฮ้ย..ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา] 7/1/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 07-01-2017 12:45:01
คิดถึงเรื่องนี้จัง
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 31 อ้าวเฮ้ย..ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา] 7/1/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Abella ที่ 07-01-2017 16:42:56
หาเรื่องเดือดร้อนให้แฟนคนอื่นนี้มีความสุขมากรึเปล่านะ น่าโดนเทสมชื่อจริ๊ง
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 31 อ้าวเฮ้ย..ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา] 7/1/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 07-01-2017 17:47:02
อิพี่เท ค่ะ ทำบ้าอะไรเนี่ย
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 31 อ้าวเฮ้ย..ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา] 7/1/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: andaseen ที่ 07-01-2017 20:51:23
เพิ่งเข้ามาอ่าน ชอบๆๆ   o13
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 31 อ้าวเฮ้ย..ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา] 7/1/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: G-love ที่ 07-01-2017 22:25:02
พึ่งอ่านตอนแรกจบ มีความรู้สึกว่านี่ต้องเป็นอดีตมหาลัยที่เราเคยเรียนแน่ แต่ตอนนี้คือซิ่วแล้วไง โฮฮฮฮ คิดถึงวิดวะ ปล.เราเคยอยู่ room c ^^
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 31 อ้าวเฮ้ย..ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา] 7/1/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 08-01-2017 21:32:58
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 31 อ้าวเฮ้ย..ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา] 7/1/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: PaiPo ที่ 10-01-2017 02:16:37
อุตส่าห์ดีใจ คนเขียนมาอัพ
อ่านๆไป นี่มันอารายยยยยยกานนนนนนี่
เฮ้ยด้วย ไหนแผนใคร? ใครทำพัง?
ทำมายยยยย
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 31 อ้าวเฮ้ย..ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา] 7/1/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 11-01-2017 02:36:49
มีหนึ่งคำถาม ทำไมคนรอบข้างชอบเสือกกับเรื่องเรา ส่วนพี่ฟ้า เท เขาลองใจนะ แต่บอกล่วงหน้าบอกหมด แล้วไม่ทำเกินเลย แต่พี่เท มันเกินไปอะ แลดูเป็นโรคไรหรือเปล่า แค่นี้ แมีตกับนาวก็นะ แล้ว สงสารแม๊ต รู้จักพี่เทกับฟ้า
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 31 อ้าวเฮ้ย..ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา] 7/1/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Legpptk ที่ 14-01-2017 11:22:43
 :L1: :L1: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 32 สองต่อสอง] 16/1/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 16-01-2017 08:07:53
(http://i1159.photobucket.com/albums/p636/Browny_Tan/bro/loveagain334_zpsaovquoi9.png)
- บทที่ 32 - สองต่อสอง -







“แม็ตมึงมีแฟนแล้ว!”


“ครับ” เรื่องนั่นผมต้องรู้อยู่แล้ว


“แล้วมึงจูบคนอื่นต่อหน้าแฟนตัวเอง”


มือนึงพี่ชนะยังจับเสื้อผมไว้ อีกมือชี้หน้าตามจังหวะที่พูดออกเสียง อาการกัดฟันกับน้ำเสียงทำให้ผมค่อนข้างประหม่า แต่ก็พยายามจะแก้ตัวเพราะดูเหมือนสิ่งที่เขากำลังเข้าใจมันไม่ใช่เลย


“ผมไม่...”


“พี่ชนะๆ เดี๋ยวพี่ มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด” พี่เทเข้ามาแทรกกลางแล้วพยายามดันพี่ชนะให้ห่างจากผม แต่แน่นอน พี่ชนะที่ตัวหนากว่า ดุดันกว่าย่อมต้านแรงผลักไว้ง่ายๆ


“ผิดไม่ผิดมันก็จูบมึง” มันที่แปลว่าผม มึงคือพี่เทใช่ไหมครับ


ผมอยากจะร้องให้ ถ้าไม่ติดว่าผมต้องประคองสติปกป้องชีวิตตัวเองนะ


แล้วทำไมกลายเป็นผมจูบพี่เทไปได้ล่ะ


“ผมเป็นฝ่ายเริ่มก่อนต่างหาก ไม่ใช่ความผิดมันเลย มันไม่รู้เรื่อง” พี่เทพูดทั้งหมดออกมาด้วยตัวเอง นั่นทำให้ผมเบาใจไปวูบหนึ่ง แต่ก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ ว่าพูดแค่นั้นมันไม่ได้ทำให้ผมปลอดภัยขึ้น หรือแก้ปัญหาได้ เพราะยังไงผมก็ไม่ควรจะต้องมาอยู่ในสภานะการณ์แบบนี้ซะหน่อย


“ได้ไง ก็เห็นๆ อยู่วะ”


“เฮ้ยชนะ มึงใจเย็นดิว่ะ” รุ่นพี่ที่ผมไม่คุ้นหน้าสี่ห้าคนเดินมาแยกพี่ชนะออกไป “เรื่องของเด็กๆ มันน่า ปล่อยมันไปเถอะ มึงอย่าใส่อารมณ์ดิ” รุ่นพี่ที่น่าจะเป็นเพื่อนๆของพี่ชนะ ตามมาทันและห้าม


“ไม่โมโหได้ไง แฟนมันน้องกูนะเว้ย”


“น้องมึง ใคร เทเหรอ” พี่คนนึงมองสลับระหว่างพี่ชนะกับพี่เท คำว่าน้องกู ตรงนี้มันไม่น่าจะเป็นคนอื่นไปได้เลย


“ไม่ใช่เท เชี่ยแม่ง มึงทำแบบนี้กับคนอื่น ไม่คิดถึงใจเขารึไง”  พี่ชนะถูกลากไกลออกไป ผมถอนหายใจและยังงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด “กูจะเอาน้องกูคืน คอยดูนะ เฮ้ย ไอ้สัส ปล่อยยย”





ผมยืนอยู่กับที่ ละสายตาจากพี่ชนะแล้วทำความเข้าใจกับสถานการณ์ แต่ตอนที่หันกลับมาจะถามทุกอย่างจากคนต้นเรื่อง พี่ฟ้าก็ยืนอยู่ตรงหน้าผมแล้ว


“กุญแจ” แล้วเรื่องที่ผมต้องห่วงที่สุดก็ตามพี่ฟ้ามาด้วย ทำให้ผมไม่สนใจพี่เทอีก ยอมส่งกุญแจให้พี่ฟ้าทันที


“ครับ”


พี่ฟ้าเดินออกไป เขาหยุดเดิน กระซิบข้างพี่เทครู่หนึ่ง แล้วออกเดินนำกลับไปทางห้องพัก




“เกิดอะไรขึ้น?” มะนาวถามผมเบาๆ “ทำไมทุกคนพูดว่า จูบ”


มะนาวหน้าเสีย ท่าทางลำบากใจตอนที่พูดทำให้ผมยิ่งอยากอธิบายเร็วๆ


“มะนาว ใจเย็นๆนะ”


“กูกำลังใจเย็นอยู่ แต่กูไม่เข้าใจ” สีหน้ามะนาวไม่ดีเลย เขาแทบจะร้องให้อยู่แล้ว


นี่ขนาดไม่เห็นกับตา


“พี่เทเขาแค่ประชดแฟน เขาอยากทำให้แฟนหึง กูแค่ซวยบังเอิญอยู่ตรงนั้น”


มะนาวเม้มปาก เขาพยักหน้าก็จริง แต่เขายังหลบตา


“มากับกู”


ผมคิดว่า คนที่จะอธิบายเรื่องนี้ได้ดีที่สุด ก็ตัวต้นเหตุนั่นแหละ





ผมจูงมือมะนาวมายืนอยู่หน้าห้องพักของเราสี่คน เสียงจอแจของบรรยากาศริมหาดหายไป ดังนั้นเสียงโต้เถียงกันในห้องจึงชัดจนฟังออกทุกคำ




“เท มึงทำอะไรลงไป รู้ตัวไหมเนี่ย”


“ทำอะไร?”


“มึงจูบแม็ตทำไมวะ? บอกเลยนะ ถ้ามึงเลือกแม็ตกะมาทำให้กูหึง มันไม่ได้ผล คนเป็นร้อย มึงเลือกมัน เหอะ”


“พูดอะไรของมึง กูไม่ได้จะทำให้มึง อื้มมม เฮ้ย เจ็บนะเว้ย”


“มึงต้องล้างปาก”


“เรื่องอะไรของมึง ถ้ามันไม่ได้ทำให้มึงเดือดร้อน มึงจะทำงี่เง่าแบบนี้ทำไม?”


“หึหึ”


“หัวเราะเหี้ยไร แม่ง”




สถานการณ์ในห้องดูท่าค่อนข้างจะรุนแรง มีตั้งเตียงตึงตังเหมือนอะไรกระแทกพื้นแรงๆ กับเตียงตุ้บตั้บ จะเตะหรือตีผมไม่แน่ใจ แต่เสียงที่ขาดไปกลางประโยคคงเพราะคนพูดโดนปิดปากแน่ๆ


ที่แน่ๆ มะนาวต้องจำเสียงพี่ฟ้ากับพี่เทพี่มันได้ มันได้ยินทั้งหมดก็หน้าเหวอ เขาน่าจะกำลังเรียบเรียงสถานการณ์ในหัวและกำลังเข้าใจอะไรขึ้นมาบ้างแล้ว


“ฮ่าๆๆ เดี๋ยวๆ” เสียงพี่ฟ้าหัวเราะลั่น พร้อมๆกับที่มะนาวกระตุกเสื้อผม ผมยกมือขึ้นจุ๊ปากอีกรอบ บอกให้มะนาวเงียบฟังต่อไป อย่าเพิ่งถามอะไร “ก็กูดีใจที่มึงอยากให้กูหึง ”


“ไม่โว้ย”


“แต่ทำไมกูไม่หึงแม็ตอย่างที่มึงหวังไว้รู้ไหม เอาสั้นๆ นะ แม็ตมันมีแฟนแล้ว”


“...”


“กำลังเถียงในใจว่ากูโกหกล่ะสิ เฮ้ย จริงจังกูพูดจริง มึงทำแบบนี้ รู้ไหมน้องมันอาจจะทะเลาะกับแฟนก็ได้นะ นึกภาพตามถ้าคนรักกันมาดีๆ ต้องมาทะเลาะกันเพราะคิดว่ามึงเป็นมือที่สาม ที่ไม่จริงเลยด้วยซ้ำ ถึงจะไม่ตั้งใจแต่มึงก็ทำมันไปแล้ว ถ้าเรื่องมันบานปลายจนพวกมันต้องเลิกกัน ไม่ต้องสงสัยเลยสาเหตุทั้งหมดมาจากมึง มึงว่ามันแย่ไหม?”


“พอๆๆ กูผิดไปแล้ว กูผิดเอง งั้นเดี๋ยวกูไปคุยกับน้องมันดีกว่า”


“ดี”


“ก็ปล่อยดิ ปล่อยเลยมึงอ่ะ”


“ไม่ปล่อย งั้นกูเรียกมันเข้ามาเลยนา”


“เข้ามา? เรียก? อะไร?”


มะนาวทำท่าจะหันเดินหนี แต่ผมคว้าข้อมือเขาไว้ทัน


“พวกมึงเข้ามาได้แล้ว มาเลยกูไม่ได้ล็อก”


“ครับ!” ผมตอบไปสั้นๆ กำลูกบิด ข้างหนึ่ง กำมือมะนาวไว้ในมืออีกข้าง


“เฮ้ย ปล่อย ฟ้า ปล่อยก่อน”


“ไม่ต้องหรอกน่า”





ผมโผล่หน้าเข้าไปก่อน เสียงเถียงปนฟึดฟัดยังมีมาเรื่อยๆ


ก็แน่ล่ะ ก็พี่ฟ้าเล่นจับพี่เทนั่งตักตัวเองไว้ไม่ยอมปล่อยนี่นา ดูเหมือนพี่เทไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่เห็นหน้าผม เขากำลังรอดูหน้าแฟนผมมากกว่า


แต่ตอนนี้ผมเดินเข้าห้องไม่ได้ เพราะมะนาวไม่ยอมขยับ ผมมองกลับไปก็เจอสายตาหวาดหวั่นขั้นสุด อ้อนวอนด้วยสายตาจนผมอยากจะใจอ่อนยอมทำตาม แต่ไม่ได้เด็ดขาด ไหนๆก็ไหนๆแล้วนะ มาถึงขั้นนี้แล้วถ้าไม่คุยก็ไม่รู้เรื่องกับสักทีสิ


“มันไม่ยอมเข้ามาเหรอ?” ผมพยักหน้าให้พี่ฟ้า ก่อนจะหันไปพูดกับมะนาวอีกครั้ง


“มาเถอะ” แต่เจ้าตัวก็ยังส่ายหน้าหวาดๆ


“เฮ้ย มะนาว เข้ามาซะ” พี่ฟ้าออกสำสั่งเสียงดัง ทำเอามะนาวกับพี่เทสะดุ้งพร้อมกันจนผมเกือบจะหลุดหัวเราะออกมา


“ห่ะ! มึงว่าใครนะ”


“เออน่า มึงอยู่เงียบๆ เถอะ”



ผมพยักหน้าให้มะนาวยอมเข้าไปในห้องด้วยกัน เจ้าตัวยังลังเล แต่ก็ยอมเดินตามมาจนได้


ผมปิดประตูแล้วจูงมือมะนาวเข้ามาในห้อง รู้สึกเหมือนกำลังยืนตรงรายงานอะไรสักอย่าง แต่พอคิดได้ว่าไม่ใช่อะไรที่เป็นทางการขนาดนั้นก็เลยก้มลงบอกมะนาว


“เดินไปนั่งนั่นกัน” ผมชี้ไปที่ขอบเตียง


“มึงดูๆ เดินจูงมือมุ้งมิ้งพูดกันเบาๆ เคยมีบ้างไหมมั้ยโมเม้นแบบเนี้ย หึ้” มะนาวได้ยินพี่ฟ้าพูดกรอกหูพี่เทก็ค่อยๆบิดมือออก แล้วเดินนำไปนั่งหย่อนขาทับมือตัวเองทั้งสองข้าง ก้มหน้าก้มตาไม่สบตากับใคร


“เชี่ย กูทำอะไรลงไปเนี่ย” พี่เททึ้งหัวตัวเองทันที


“รู้สึกผิดตอนนี้ก็สายไปแล้ว ทำไมตอนจะทำไม่คิด”


“ผมว่าพี่ไม่น่าว่าพี่เทเรื่องนั้นได้” เรามีเรื่องต้องเคลียร์กันเยอะเลยพี่ ถ้าพี่ไม่ไปกวนประสาทแฟนตัวเองก่อนเรื่องมันคงไม่มาถึงตรงนี้หรอก


“กูเกลียดมึงแม็ต”


“เกลียดผมเพราะผมรู้ทัน หรือเรื่องแฟนพี่จูบผมล่ะ?”


“มึงนี่...” พอผมเข้ามา บรรยากาศก็เปลี่ยนไป ผมรู้สึกว่าอะไรๆ กำลังจะโอเค ก็เลยต่อล้อต่อเถียงกับพี่ฟ้าได้เหมือนปกติแล้ว มีผู้ชมเป็นพี่น้องหน้าเหวอที่ดูตกตะลึงกับทุกอย่างเหมือนกันอย่างกับโขกมาจากพิมพ์เดียวกัน


เรานั่งขอบเตียงหันหน้าไปอีกเตียงที่พี่ฟ้ากอดพี่เทนั่งซ้อนตักอยู่กลางเตียง อย่าเรียกว่ากอดเลย เรียกว่ายึดไว้ดีกว่า


ผมเอี้ยวตัวจะดึงเอวมะนาวเพื่อให้เขามานั่งตักผมบ้าง แต่ก็เจอสายตาดุๆ กับเสียงขู่เบาๆ “ไม่เอา จะบ้าเหรอ”


“ฮ่าๆๆๆ” ผมหัวเราะกลบเกลื่อน



“เฮ้ย จะทำอะไรเนี่ย ไอ้บ้านี่” ผมหันกลับไป พี่ฟ้ากำลังจับหน้าพี่เทบังคับให้หันไปหาเขา


“ล้างปากอีกรอบไง มานิ”


เขายื้อยุดกันจนน่ากลัว ผมยกมือขึ้นปิดตามะนาวไม่ให้เห็นฉากหวาดเสียว



“ปิดตาอีกแล้ว อะไรนักหนาเนี่ย ทำไมมีแต่คนจับกูปิดตา ไม่ใช่เด็กแล้วนะเว้ยยย”



“พอเลยเชี่ยฟ้านี่ ใช่เวลามาเล่นมะ” พี่เทดันคางพี่ฟ้าออก ผลักพี่ฟ้าล้มลงกับเตียง แล้วแยกออกมานั่งห่างๆ


“ฮ่าๆๆๆ”


“หัวเราะอย่างกับคนบ้าเลยนะมึง เพราะรู้งี้ใช่มะตอนนั้นมึงถึงปิดตามะนาว”


“ใช่ๆ เอ้า! ขอโทษน้องซะสิ บอกน้องไปด้วยว่ามึงอ่ะมีแฟนแล้ว”


พี่เทหันมาทางมะนาว แล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจัง แสดงความจริงใจในแบบของเขา แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่าตอนนี้มะนาวอยู่ในอารมณ์ที่พร้อมจะเข้าใจไหม


“มะนาว พี่ขอโทษนะ ไม่รู้ว่าแม็ตกับมึง... เสียใจจริงๆ แต่พี่ยังไม่มีแฟนนะ”


“เฮ้ย! อะไรของมึงเนี่ย” พี่ฟ้าที่นอนกลิ้งอยู่ตั้งแต่เมื่อกี้ กระโดดขึ้นนั่งแล้วโวยวายทันที


“ไม่มีก็คือไม่มี”


“งั้นก็บอกไปว่าแค่ประชดกูก็ได้เอ้า”


“กูไม่ได้ทำเพื่อประชดใคร”


“แล้วมึงทำแบบนั้นทำไม”


“ก็เรื่องของกูมึงยุ่งอะไรด้วย”


“ไม่ให้ยุ่งได้ไง ก็กูเดือดร้อน”


“จะเดือดร้อนทำไม ตัวก็ตัวกู ปากก็ปากกู มะนาวก็น้องกู”


“ฮึ่ย”


“แค่มะนาวเข้าใจคนเดียวก็น่าจะพอ มึงเกี่ยวที่ไหน พี่ไม่ได้อะไรกับแม็ต อย่าคิดมากแล้วไปทะเลาะกันล่ะ แค่นี้พี่กู้สึกผิดมากแล้ว มะนาวเข้าใจพี่นะ”


“ครับ ผมเข้าใจแล้วครับ”


“เข้าใจว่าไง” พี่ฟ้าถามย้ำ


“ก็เข้าใจว่าพี่เทประชดพี่ฟ้า”


“เฮ้ย!”


“ฮ่าๆๆๆๆ เห็นมะ ใครเห็นใครๆ เขาก็ต้องคิดแบบนี้ มึงอ่ะ ดื้อด้าน” พี่ฟ้าได้ใจ บีบคางพี่เทแล้วพูดล้อเลียน


“ไม่ต้องมาหัวเราะเลย มึงอ่ะ ถ้ารู้ว่ามะนาวมีแฟน มึงจะตามติดน้องมันทำไม ตั้งแต่ก่อนมารับน้องแล้ว”


“ก่อนนี้มันแค่เรื่องบังเอิญ หลังๆ ก็เลยตั้งใจ”


“งั้นมึงก็ผิดกับแม็ตมันเหมือนกัน”


“ไม่ซะหน่อย แม็ตมันไม่ว่ากูหรอก เราเข้าใจกัน” มาถึงตรงนี้ ผมว่าถึงเวลาที่ผมต้องรักษาสิทธิในการแสดงความคิดเห็นแล้วล่ะ


“ซะที่ไหนล่ะ ผมไม่ได้อยากเข้าใจพี่ซักนิดเลย” ผมอดแย้งไม่ได้จริงๆ


“ไม่เอาน่าแม็ต เราตกลงกันแล้ว”


“ที่ตกลงกันไม่ใช่แบบนี้แน่ๆ”


มาถึงตรงนี้ ทั้งพี่เท ทั้งมะนาว มองพวกผมสลับกันคล้ายลุ้นว่าใครจะพูดอะไรต่อ แต่เราสองคนก็เงียบ


“ตกลงอะไร? นี่พวกมึงรู้เห็นกันเหรอ” พี่เทกลับมาฉุนเฉียวอีกครั้ง สายตาที่มองพี่ฟ้าดุดันจนผมไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ฟ้าถึงทำไม่รู้ร้อนรู้หนาวยังทำรู้ไม่ชี้อยู่ได้ ทั้งที่แฟนตัวเองโมโหแทบจะคลั่งอยู่แล้ว


“ไม่มีอะไร”


“บอกมานะเว้ย”


ผมสองคนมองรุ่นพี่กลิ้งไปบนเตียง พี่ฟ้าถูกพี่เทจับเขย่า เอาหมอนฟาดทำร้ายต่างๆ นาๆ ในขณะที่พี่ฟ้าพยายามป้องกันตัวเองด้วยการยื่นหน้าเข้าไปฉกจูบทุกครั้งที่มีโอกาส


ผมล่ะอึ้งกับพวกพี่เขาจริงๆ



“มันเรื่องอะไรเหรอ บอกได้ไหม” มะนาวหันมาถามผม


“ได้อยู่แล้ว รู้สึกผิดมากเลยนะที่ก่อนนี้บอกอะไรไม่ได้” ใช่ ผมรู้สึกไม่ดีเลยเลยที่ต้องปิดเขาเรื่องนี้


“เรื่องนั้นไม่เป็นไรหรอก แต่ไปตกลงอะไรกันตอนไหน”


“คืองี้นะ” ผมพยายามพูดเบาๆ สองคนที่เตียงโน้นจะได้ไม่หันมาสนใจพวกผม “วันนึงกูบังเอิญรู้ว่าพี่เขาเป็นแฟนกัน”


“บอกว่าไม่ใช่แฟนไง” พี่เทตะโกนข้ามเตียงมาดังลั่น


“ก็พี่เทเป็นงี้อ่ะ พี่ฟ้าเลยเรียกร้องความสนใจจากแฟนเขา”


“โว้ย ไอ้นี่ บอกว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่สิ”


มะนาวน่าจะเข้าใจสิ่งที่ผมพยายามอธิบาย เพราะเขาหันไปมองทางโน้นทุกทีที่พี่เทส่งเสียงมา


“จำเสียงผิวปากเมื่อคืนได้ไหม?”


“อึก” มะนาวสะอึกทันที ผมจำได้ตอนนั้นเขากลัวมาก มากๆ เลย


“นั่นแหละพี่ฟ้า เพราะเขาเอาเรื่องนั้นมาขู่ วันนี้กูก็เลยต้องพามึงไปนั่งตรงนั้น พอจะนึกภาพออกไหม”


“แล้วเขารู้ได้ไงว่าเป็นกู”


“เขารู้เรื่องมึงนานแล้ว เพราะฉะนั้นแค่เห็นกูเดินออกจากห้องน้ำคนเดียวเขาก็รู้แล้วว่ากูอยู่กับใคร”





“เสียงผิวปากอะไรอ่ะ?” พี่เทที่หยุดฟังผมเหมือนกันหันไปถามคู่กรณี


“ไม่มีอะไร เรื่องของเด็กๆ เขาน่า”


“แล้วมึงไปบอกน้องมันทำไม เรื่องกูอ่ะ บอกแล้วบอกอีกว่าไม่ให้ใครรู้ไง”


“กูไม่ได้บอก มันฉลาด มันรู้ของมันเอง”


“มันไม่ได้บอกเราจริงเหรอแม็ต”


“ครับ พี่ฟ้าไม่ได้เป็นคนบอก”


“มั้ยล่ะ เด็กมันฉลาด”


“เงียบเลยมึงอ่ะ”


“จริงๆ แล้ว พี่ฟ้าไม่เคยพูดเลยว่าพี่เทกับเขาเป็นอะไรกัน แต่พอเขารู้ว่าผมรู้ เวลาเขาน้อยใจพี่ เขาก็จะมาบ่นกับผมบ้าง ปรึกษาผมบ้าง เขารักพี่มากนะครับ คิดเรื่องพี่อยู่ตลอดเวลา”


“ไม่อ่ะ นี่มึงเตี้ยมกันใช่มะ?” เสียงพี่เทเบาหวิวไม่เหมือนคนที่ไม่เชื่อเลย แต่เหมือนคนกำลังอึ้งแล้วทำอะไรไม่ถูกต่างหาก


“แม็ต วางกุญแจไว้ แล้วพามะนาวออกไป”


“คร้าบบบบ” ผมรับคำแล้วเตรียมชิ้ง เพราะกุญแจไม่ได้อยู่กับผมอยู่แล้ว เขาพูดอย่างนั้นเพราะต้องการสื่อว่า นี่เป็นเวลาที่เขาจะใช้ห้องเท่านั้น


“เอ่อ! แล้วเรื่องกุญแจ ทำไมไปอยู่กับน้องได้ เขาให้ปีสองถือ กูนึกว่าอยู่กับมึงตลอด” แว็บเดียวพี่เทก็กลับมาเสียงแข็งเหมือนเดิม


“เปล่าเลย ตั้งแต่มาถึง กุญแจอยู่ที่แม็ตตลอด เพราะกูสั่งมันไว้”


“สั่งอะไร?”


“ถ้ากุญแจไม่อยู่ที่มัน ก็ห้ามใครกลับมาที่ห้อง ไงล่ะ” การพูดหน้านิ่งแล้วจ้องตาท้าทาย ทำให้พี่เทคงรู้ว่าพี่ฟ้าพูดจริงทุกคำ ไม่ได้เป็นการกวนตีนเลย


“งี้ก็แปลว่า...”


“ช่าย มันรู้”


“เฮ้ย ไอ้บ้านี่ มึง มึง! ไอ้เลวฟ้า มึงตายแน่” ผมลากมะนาวออกมาจากห้อง ละทิ้งความวุ้นวายไวเบื้องหลัง


ผมกำมือมะนาวไว้แน่น ผมหันไปข้างตัวยิ้มให้เขาในแสงสลัว มะนาวเห็นก็ยิ้มตอบกลับมา


โชคดี โชคดีมากๆที่ดูเหมือนเขาจะเปิดใจยอมเข้าใจทุกอย่างที่ผมอธิบาย


“เฮ้ย!” มะนาวอุทานออกมาเบาๆ “แว่น มึงลืมแว่น”


มะนาวพูดแค่นั้นก็หันกลับไปทางประตูห้องที่เพิ่งห่างออกมาแค่สี่ห้าก้าว ดังนั้นเขาจึงกระฉากประตูเปิดผัวะ แทบจะทันทีโดยที่ผมก็ห้ามไม่ทัน


“อ่ะ...”


ผมก้าวมายืนข้างหลัง มะนาวอึ้งค้างไปเพราะภาพที่เห็น


พี่ฟ้าเปลือยท่อนบนคร่อมอยู่บนตัวพี่เท เสื้อยืดแขนยาวของพี่เทถูกถลกขึ้นแล้วพันอยู่ตรงปลายแขนทั้งสองข้างที่โดนมือพี่ฟ้ากดทับอีกทีเหนือหัว กางเกงยีนส์พี่ฟ้าปลดซิบแล้วขอบกางเกงไหล่ต่ำหมิ่นเหม่


มืออีกข้างพี่ฟ้ากำลังขยี้หน้าอกพี่เท แม้แต่ตอนนี้ที่พวกผมยืนดูอยู่มือเขาก็ยังไม่หยุด


ที่ไม่มีเสียงพูดอะไรเลยจนถึงตอนนี้ เพราะพี่ฟ้ากดจูบแน่นจนไม่มีเสียงอะไรลอดออกมาจากปากพี่เทได้เลย


พี่ฟ้าเหลือบตามาทางประตูนิดหน่อย ก่อนจะค่อยๆละเลียดถอดริมฝีปากออก พร้อมๆกับซี้ดปากไปด้วย ผมเห็นเหมือนจะมีน้ำใสๆเยิ้มตรงขอบปาก พี่ฟ้าใช้มือข้างที่อยู่ตรงหน้าอกผละออกมาปาดนิ้วโป้งที่ขอบปากพี่เทก่อนจะปาดให้ตัวเอง


“ปล่อยนะเว้ย” พูดได้แค่นั้นพี่ฟ้าก็ใช้มือปิดปากพี่เทไว้ แล้วหันมาพูดกับพวกผม ทั้งที่ตัวเองนั่งทับสะโพกพี่เทอยู่


“มีอะไรจ๊ะ?” พี่ฟ้ายิ้มตาหยีมาทางนี้ จนขนตรงท้ายทอยผมลุกชัน รู้สึกเป็นยิ้มที่จริงใจจนไม่น่าไว้ใจยังไงไม่รู้


“ผมลืมแว่นครับ” ผมรีบพูด เพราะเหมือนมะนาวจะช็อตไปแล้ว


“อ้อ อยู่บนเตียงโน้นน่ะ” พี่ฟ้าสะบัดหน้าไปที่เตียงตัวเอง


ผมถึงเพิ่งมาสังเกต พี่เขาปล้ำกันอยู่บนเตียงพวกผมนี่นา






โหยพี่ ไอ้พี่ฟ้า นอกจากจะยึดห้องจนผมไม่เคยได้ใช้ ยังจะมาเยาะเย้ยทำกันบนเตียงที่ผมนอนอีก



แม่งงงงงง




ผมรีบแทรกตัวเข้าไปหยิบแว่น กลับมาที่ประตู กดล็อกห้อง ปิดประตูพร้อมพูดทิ้งท้าย


“ขอโทษที่มารบกวนคร้าบบบ”


มีเสียงตะโกนตอบกลับมาจากข้างใน


“เออ ไม่เป็นไรมึง คนกันเองทั้งนั้น”





“อย่างงี้เลยเหรอวะ” มะนาวยังตาค้าง สีหน้าพรั่นพรึง


“ยังดีนะ ไม่ถอดหมดแล้ว”


“เฮือก!”


ผมจัดการใส่แว่น ก่อนจะคว้ามือเขาพาเดินกลับไปทางหาดช้าๆ อาศัยความมืดอำพรางมือที่ยังไม่อยากปล่อย


“นี่” อยู่ๆมะนาวก็เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ก็เลยเรียกผม


“หื๋ม ยังโกรธอยู่เหรอ?”


“เปล่า เรื่องนั้นไม่คิดมากแล้วล่ะ แต่กูสงสัย”


“อะไร ถามมาสิ จะตอบทุกอย่าง จะไม่ให้มีเรื่องปิดบังระหว่างเรา”


“ขอบคุณนะ มึงนี่เป็นแฟนที่ดีจริงๆ เลย” เขาพูดเบาๆ แต่ยิ้มจนตาปิด


“ก็ที่ไม่ดีก็เคยแล้วไง ไม่สบายใจเลย เอ้า ถามมาสิสงสัยไม่ใช่เหรอ”


“เออๆ ไปรู้ได้ไงว่าพี่สองคนนี้เขาคบกันอยู่อ่ะ”


นั่นไง ขี้สงสัยไม่เปลี่ยน


“อ้อ ฮ่าๆๆ คือรับน้องในคณะวันนั้นไง กูจะไปล้างจานในห้องน้ำ แล้วบังเอิญเห็น ว่าพวกพี่เขายืนสามขาอยู่ในห้องน้ำ”


“ฮึ? อะไรคือสามขา?”


ผมก้มกระซิบข้างหูมะนาว มันทำให้เขาแดงระเรื่อไปทั้งตัว ไม่ขี้สงสัยอะไรอีก ทิ้งผมไว้แล้วรีบเดินหนีไปทางชายหาด


ผมก็แค่บอกว่า






“ถ้ากลับหอแล้ว ไว้ลองกันนะ”




----------------------------------------------------
TBC.




แบ่งทีมยังไงดี?
ทีมคู่รัก   - แม็ตมะนาว : ฟ้าเท ,
ทีมเอาคืน   - เทแม็ต : ฟ้ามะนาว ,
ทีมผู้สมรู้ร่วมคิดกับผู้ไม่รู้   - ฟ้าแม็ต : เทมะนาว ,
ทีมรอลุ้น   - ยีนส์เม : ปกป้องโนอา
555555 คู่สุดท้ายไม่มีบทค่ะ ค่าตัวแพง


มาสั้นๆ แต่ไม่ค้างคาตรงไหนเนอะ
ถ้าเจอคำผิด ขอโทษด้วย ฮับง่วงงงงง


เอาล่ะสิ ต่อจากนี้ล่ะค่ะ ยังไม่ได้เขียนไว้เลย 5555



หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 32 สองต่อสอง] 16/1/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 16-01-2017 09:35:59
พี่ฟ้าร้อนแรงจริงๆ :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 32 สองต่อสอง] 16/1/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-01-2017 09:57:12
เมื่อไรจะถึงคราวของแม็ตมะนาวบ้าง
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 32 สองต่อสอง] 16/1/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 16-01-2017 10:26:13
เมื่อไรจะถึงคราวของแม็ตมะนาวบ้าง
รอคู่ แมท มะนาว  รอมากๆ เลยอ่ะ
พี่ฟ้าน่ากลัวไปและ
พี่เท ก็เล่นตัวซะตัวบิดเลย
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: ทั้งที่ต่างก็รักกัน  :pighaun: :haun4: :jul1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 32 สองต่อสอง] 16/1/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 16-01-2017 10:39:32
พี่ยินส์น้องเม โนอา คิดถึงอ่ะ

เครียร์กันแล้วโล่งอกไปที
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 32 สองต่อสอง] 16/1/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 16-01-2017 13:39:02
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 32 สองต่อสอง] 16/1/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: i_Tipz ที่ 17-01-2017 22:34:03
น่ารักตลอดอ่ะ  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 32 สองต่อสอง] 16/1/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 17-01-2017 23:06:49
พามะนาวกลับหอด่วนๆ
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 32 สองต่อสอง] 16/1/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: DraCo_SLa13 ที่ 19-01-2017 00:19:55
พี่ฟ้า คนอวดเมีย
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 32 สองต่อสอง] 16/1/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: PaiPo ที่ 27-01-2017 02:25:50
ชอบบบบ ชอบความอวดเมียของพี่ฟ้า ได้ทีอวดใหญ่  o13 o13
รอ แกะขอบเล้ารอตอนต่อไปอยู่น้าาา
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 32 สองต่อสอง] 16/1/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: PaiPo ที่ 08-02-2017 04:00:25
คิดถึงมะนาวแล้ว  :call: :call:
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 32 สองต่อสอง] 16/1/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 08-02-2017 04:44:37
คิดถึง แมต มะนาว  :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 33 เรื่องของเรื่อง] 26/2/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 26-02-2017 22:34:24

(http://i1159.photobucket.com/albums/p636/Browny_Tan/bro/loveagain334_zpsaovquoi9.png)
- บทที่ 33 - เรื่องของเรื่อง -








กลับมาริมหาดอีกครั้ง เหมือนกลับสู่โลกแห่งความจริง



มะนาวโดนเรียกไปนั่งกับพี่ชนะทันที ผมเองก็โดนเมเรียกมานั่งกับมันกับพี่ยีนส์


ไม่มีใครพูดถึงเรื่องก่อนหน้านี้ต่อหน้าผมอีกเลย แต่ผมก็จับความรู้สึกได้ว่าบรรยากาศมันแปลกๆ ทุกคนดูปกติจนผมระแวง มันไม่น่าไว้ใจ ในความสงบนิ่งมีบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ หลายครั้งที่ผมแอบเห็นสายตาหลายคู่ลอบมองผมอยู่ ปกติก็มีตลอดเวลาหรอกนะ แต่ตอนนี้มันแฝงพลังงานบางอย่างอยู่ในสายตาพวกนั้น


แต่ผมเลือกปัดความวิตกกังวนทิ้งไป เพราะคิดว่าเป็นอย่างนี้ก็ดีแล้ว ถ้าเรื่องของผมทำให้ทุกคนหมดสนุกมันคงไม่ทำให้ผมรู้สึกดี ทุกอย่างกลับมาสู่สภาวะปกติ ก็ดีแล้ว










ผมมารู้อีกทีตอนนั่งรถกลับ


“ช็อตนั่นกูว่ากูเหวอแรงแล้วนะ ปุ๊บปั้บนั่นนี่ พี่ชนะลากผัวหายไป เงิบงงเงียบกันไปสักพัก กูมาเหวอหนักกว่าเดิมอีกตอนพี่โนอามาบอกว่า เซอร์ไพร้ มันคือละครที่ปีสองเตรียมมาอีกเรื่องนึงเขาบอกว่าเรื่องนี้มีทุกปี ‘Kiss ณ ริมหาด’ เอาไว้แกล้งปีหนึ่ง”


“ห่ะ?” มะนาวเหวอตกใจจริง


เพราะอย่างนั้นนั่นคงเป็นเหตุผลว่าทำไมพี่ชนะไม่หาเรื่องผมต่อ เหลือแค่สายตาไม่ค่อยพอใจเท่านั้น


“ตกใจอะไรย่ะ”


มะนาวทำเออออ ถึงจะงง แต่ก็รับคำมุขไปทันเวลา


“อ้อ ก็กูไปซื้อเหล้าเพิ่มกับพี่ฟ้าไง ไม่อยู่ตอนนั้น” มะนาวตอบกลับไปแบบไม่เป็นธรรมชาติเอาซะเลย


แต่พงศ์สิ ฟังแล้วหันไปกัดเล็บทำตามีลับลมคมในแบบมีพิรุธสุด 


“นี่...” ผมที่กำลังสบตามะนาว ล้อเลียนเขาด้วยสายตาเรื่องโม้ว่าหายไปซื้อเหล้า กลับต้องหันไปหาพงศ์ทั้งคู่


พงศ์ทำท่าเหมือนมีอะไรจะพูดกับพวกเรา แต่เขาไม่ยอมพูดสักที


เล่นมาเรียก แล้วเงียบไปแบบนี้ มะนาวไม่ยอมแน่


“มึงทำให้กูสงสัยแล้วเงียบไป ไม่ได้นะ”


“โอ้ย มึงนี่” พงศ์เหวเสียงสูง ผมพอเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่เขาสงสัยและอยากเอ่ยถามคืออะไรนะ ก็ดูจากสายตาที่มองมะนาวสลับมามองผมซ้ำๆหลายๆรอบนั่นน่ะ ดูง่ายจะตาย


ผมยกแขนซ้ายข้างที่อยู่ฝั่งมะนาวขึ้น พาดไหล่บางแล้วเกาะไหล่เขาไว้ มะนาวแม้จะทำหน้าสงสัยในทีแรก แต่พอสบตาผม เขาก็ดูเข้าใจสถานการณ์


“ไง มีอะไรก็ว่ามา” ผมพูดแบบไม่เปลี่ยนสีหน้า


“เออ ว่ามา” มะนาวกอดอก ทำตัวเล็กไหล่ห่อ จนเหมือนกับเขาจะหายไปในวงแขนของผม มองเผินๆเหมือนเขากำลังอิงซบมาทางผม


หึ ร้ายเหมือนกันนะเรา


“ไม่มี กูไม่สงสัยแล้วก็ได้โว๊ยยยยยย” พงศ์โวยวาย แล้วหันกลับไปนั่งที่ของตัวเองทั้งที่ยังบ่นอุบ “เบื่อ เบื่อพวกมึงจริงๆ เบื่ออออออออออ”




ผมหัวเราะออกจมูกเบาๆ อะไรของมันก็ไม่รู้


“อะไรของมันว่ะ แม่งจะถามก็ไม่ถาม” มะนาวบ่นเบาๆเหมือนพูดคนเดียว แต่ก็ทิ้งตัวมาพิงผม




ผมยังหัวเราะค้างอยู่ มะนาวเองก็ยังบ่นเบาๆ ก็มีเสียงเรียกพวกเรา



“แม็ตนาว”


“หื๋อ” ผมหันไปทางขวามือ เพื่อนที่นั่งอีกฝั่งเป็นผู้หญิงสองคน พวกเธอกำลังเรียกพวกเราแล้วรอให้พวกเราหันไปหาพร้อมมือถือที่ตั้งท่าพร้อม


“ขอมินิฮาร์ทคู่หน่อย”


“ทำไงอ่ะ?” อะไรคือมินิฮาร์ทคู่?


“มึงทำมือแบบนี้” มะนาวทำให้ผมดู ผมใช้มือขวาที่ว่างอยู่ทำตาม ตอนที่ผมงงๆตั้งมือขึ้นมาลอกท่ามะนาว พวกเธอก็คงแชะไปหลายรูปแล้ว


“เรียบร้อย อิอิ” สากับเบลหันไปเลื่อนดูรูปที่ถ่ายไป ไม่สนใจพวกผมที่ตั้งฮาร์ทอย่างมั่นคงเพราะเพิ่งทำเป็น เกร็งมือชะมัด คิดว่าเมื่อกี้ตอนง่วนอยู่กัการหัดทำก็คงหน้านิ้วคิ้วขมวดแน่ๆ


“อะไร ยังไม่ได้ยิ้มเลย” ผมเรียกพวกเธอกลับมา “เอาใหม่เลยๆ” ผมเอียงตัวให้มุมกล้องมองเห็นมะนาวชัดๆ กระชับไหล่มะนาวให้เข้าที่ พร้อมๆกับยิ้มให้กล้อง


“โอ๋ พ่อคุณๆ มาๆๆ”


“ถ่ายหล่อๆ นะมึง”


“โอ้ยพวกมึงถ่ายมุมไหนก็หล่อ” สาจิ้มๆหน้าจอ แล้วหันรูปมาให้พวกเราเช็ค “ไง พอใจยังค่ะ”


“ก็พอได้”


“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวก่อนลงกูเข้าแอฟให้ โอเคมั้ยค่ะ” ผมได้แต่พยักหน้าเป็นเชิงอยากทำอะไรก็ทำ แต่มะนาวนี่สิ กดไลค์ชัดเจนว่านั่นคือสิ่งที่ถูกต้อง





หลังจากเช็คของเช็คคนเสร็จล้อรถก็หมุน เรากำลังเริ่มเดินทางกลับมหาลัยในเวลาบ่ายนิดๆของวันอาทิตย์


มะนาวหยิบมือถือขึ้นมาเปิดไลน์ เขาเปิดหน้าแชทของผมแล้วก้มหน้าก้มตาพิมพ์ๆๆ ทั้งที่รู้ว่าผมอ่านข้อความทุกคำแล้วในขณะที่เขากำลังพิมพ์อยู่เนี่ยแหละ เขาก็ยังกดส่ง เป็นเชิงบอกให้ผมตอบในไลน์ ผมเลยต้องยกแขนกลับมาหยิบมือถือเพื่อตอบเขา


มะนาว - “ตกลงพี่กูเขาประชดแฟน หรือเป็นบทละครใหญ่รัชดาลัยกันแน่ว่ะ?”


ผม - “ประชดแฟน แต่เหตุผลอันนั้นคงแค่เอาไว้หลอกทุกคน”


มะนาว - “เยดเข้ หลอกซ้อนหลอก ซับซ้อนไปอีก”





ผม - “อยากกลับห้องเร็วๆ”





ผมตัดบท ส่งข้อความสุดท้ายไป มะนาวถึงกับมองบนแล้วถอนหายใจ ก่อนหันมามองผมแบบจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม จะทำหน้าบึ้งก็ไม่สุด กลายเป็นหน้าเกร็งกระตุกในทรงแปลกๆ


แปลได้ว่าเขาเข้าใจสิ่งที่ผมจะบอกแน่นอน


ผมหรี่ตามองแล้วยิ้มอ่อน



มะนาวกดล็อกมือถือ กอดอกแล้วทำเป็นหลับใส่ผมประหนึ่งว่าทำเป็นไม่รับรู้ความหมายของผม แต่รถเคลื่อนตัวได้สักพักเขาก็หลับจริง ดูจากหัวที่โงนเงนกับตัวที่เริ่มไหลไม่ตั้งตรงเหมือนเดิม ผมเลยจับหัวเขามาพิงไหล่ผมไว้ เป็นจังหวะเดียวกับที่พงศ์ที่นั่งหน้าผมหันกลับมาเพื่อยื่นขนมให้


เขาเหลือบมองมะนาว จากปากที่เคี้ยวตุ้ยๆ เบะออกทันที ผมรับขนมมากิน พงศ์เลยมือว่างยกมือถือขึ้นตั้งท่าจะถ่ายรูป คงกะแกล้งมะนาวที่หลับ ผมเลยชูสองนิ้วแล้วยิ้มให้กล้อง


ไม่ถึงสองนาทีพงศ์ก็โพสรูปเมื่อครู่ พร้อมแคปชั่น



“#จำเป็นต้องบอกไหมว่าคนไหนตัวจริง”



ตอนที่อ่านผมไม่ได้รู้สึกว่าพงศ์หมายถึงผมสองคนเป็นตัวจริงของกันและกัน แต่อารมณ์ว่ากำลังหมายถึงผมสองคนสำหรับตัวเอง



โพสไปยังไม่ถึงนาที คนแรกที่เข้ามาโวยวายก็คือเอ้ที่ไม่ได้มารับน้องกับพวกเราเพราะอยู่คนละห้อง




เอ้ - “ตัวจริงของกูทั้งสองคนเลยยยยยยยยย”


พงศ์ - “ข้ามศพกูไปก่อนค่ะ ชะนี!”




ผมอ่านข้อความที่เด้งขึ้นมาไม่หยุดและหัวเราะแบบไม่มีเสียง แน่นอนไม่มีใครยอมใครเพราะฉะนั้นเรื่องนี้คงไม่จบลงง่ายๆ


ผมปล่อยให้พวกเขาตีกันต่อไป ส่วนผมล็อกมือถือแล้ววางมันลง


หันมองคนที่ดูท่าจะหลับสนิท มะนาวอิงหลับอยู่บนไหล่ผม แก้มเขาบี้เพราะน้ำหนักหัวตัวเอง เส้นผมบางนุ่มที่เริ่มยาวสะท้อนกับแดดเป็นประกายสีน้ำตาล มันตกลงมาระข้างแก้มเขา ตอนที่มันพลิ้วไหวเขาขมวดคิ้วจั๊กจี้ ผมจึงเอื้อมมือขึ้นเขี่ยผมบนแก้มมะนาวไปทัดหูไห้


ขบวนรถบัสเรียงแถวไปตามเส้นทางคดเคี้ยว ผมดึงม่านฝั่งเขาปิดจนหมด บังแดดที่เริ่มแรงขึ้นเพราะรถเปลี่ยนทิศไปเรื่อยๆ


ผมว่า ผมก็หนังตาชักจะหนักๆ แล้วเหมือนกัน... 







...............









“เช็คดูให้ดี ไม่มีใครลืมอะไรไว้บนรถนะ เอาล่ะ สนุกมาก ขอบคุณน้องๆที่มาไปให้เรารับ กูว่ากูไม่เมานะทำไมกูพูดไม่รู้เรื่อง เอาเถอะๆ แยกย้ายกันกลับหอกลับบ้านกันได้”


พวกเรามานั่งกองๆ กันอยู่ในสนามบาสเล็กๆ ในคณะ จุดเดียวกับที่รวมพลก่อนไป มะนาวที่นั่งอยู่ข้างผมกำลังมองไปรอบๆ แล้วทำหน้าสงสัย


“ยังไม่เห็นเมเลยอ่ะ มันไปไหนวะ?”


“กลับมากับรถพี่ยีนส์” ผมรีบตอบแบบไม่ต้องนึก ก่อนที่พงศ์จะเป็นคนตอบพร้อมด่า เห็นตั้งท่ากัดปากยิงฟันเตรียมกัดเต็มที่


“อ้าว?”


“เอ่อะ มึงอ่ะ มัวมุดหัวอยู่ที่ไหน นั่งรถตั้งสี่ห้าชั่วโมงทำไมเพิ่งมารู้สึก ใช่ซี่ ชีวิตมึงมี ‘ผัวกู’ มึงก็ไม่ต้องคิดห่าอะไรอีกแล้วนี่ กูแอ้วมาตั้งห้าหกปี มึงอ่อยแป็ปเดียวตัวติดกันเป็นตังเม อุ๊บ!” ผมม้วนปลาเส้นที่เหลือๆ ในมือเป็นก้อนใหญ่ ยัดปากพงศ์ ให้มันได้หยุดพูดบ้าง “ผัว! ไม่เอา ประเจิดประเจ้อ” 


“มันหลบหน้าพี่เขาจะตาย ทำไมงั้นอ่ะ” มะนาวช่วยป้อนน้ำ ไม่ให้พงศ์พูดอะไรต่อได้ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วถามต่อหน้าตาเฉย


“พี่มันบอกให้กลับรถพี่ยีนส์ เมื่อคืนก็นั่งข้างกันทั้งคืนไม่เห็นเหรอ นั่นอ่ะ มันวีดีโอคอลกับพี่มันจนแบทหมด แบตเครื่องมันหมด วีดีโอคอลเครื่องพี่ยีนส์ต่ออีก บอกถ้าไม่นั่งข้างพี่ยีนส์พี่มันจะไม่วางใจ”


“พี่มันรู้ตัวไหมน่ะว่าตัวเองชงแรงมาก ถ้าเมมันจะมีผัวก็ฝีมือพี่มันล้วนๆ เลยนะนั่นน่ะ”


“เออ”


“นินทาอะไร กูได้ยินนะ” เมมายืนสะพายเป้หล่อๆ อยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แถมกำลังกอดอกเคาะเท้าท่าทางนักเลงโต มีพี่โนอาเดินตามมาแต่เลี้ยวไปคุยกับพี่ฟ้าเรื่องงานต่างๆที่ยังคั่งค้าง ก็เลยเหลือแต่พี่ยีนส์ที่ยังคงตัวติดกันไม่ห่างเกินสิบก้าว


ใช่ซี่ เม แบ็คมึงใหญ่โตเป็นถึงประธานเชียร์นี่หว่า


“ป่ะๆ แยกย้าย พงศ์ เดี๋ยวกูกับแม็ตไปส่งมึงเอง มึงไม่ต้องกลัวโดนเพื่อนเทนะ” มะนาวทำเป็นมองไม่เห็นเม เก็บข้างเก็บของ ควานหากุญแจรถ ทำอย่างกับเมไม่อยู่ตรงนี้


“เชี้ย กูทิ้งเพื่อนที่ไหน พวกมึงอ่ะทิ้งกู” สามคนนั้นแบกเป้ลุกขึ้นวิ่งไล่กันไปมา เสียงโวยวายจนคนพากันหันไปมอง สักพักก็ไปจบอีกฝั่งของถนนด้วยการที่เมโดนพงศ์รัดกอดไว้แล้วมะนาวจักจี้เอว


ดูเหมือนพวกนั้นแรงจะเหลือๆ พลังล้นจนน่าอิจฉา




เล่นกันสักพักพอคนเริ่มกระจายเราก็แยกย้าย ผมขับรถมะนาวเหมือนเดิม ไปส่งพงศ์หน้าหอก่อนกลับมาหอตัวเอง ส่วนเมไม่ต้องห่วง รายนั้นมีพี่ยีนส์กับพี่โนอาไปส่งแน่นอน


แต่เมื่อผมมาถึงหน้าหอ ก็รู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆจากที่ทะเลตามมาจนถึงหอพักด้วย


“พี่ ตามพวกผมมาทำไมเนี่ย” พี่ฟ้าปั่นมิยาบิ(ชื่อจักยานญี่ปุ่นของแก)ใกล้เข้ามา แล้วใช้เท้าลงแตะพื้นเบรกจักยานก่อนถึงตัวผมแค่สองก้าว


ผมก็สังหรณ์ตั้งแต่ขับรถแซงพี่ฟ้าตรง 200 เมตรก่อนถึงหอนี่แล้ว ว่าพี่แกมาทำอะไรทางนี้ มันคนละฝั่งกับหอเขาเลยนี่นา พอขับรถมาจอด ค่อยๆขนเป้กับถุงของฝากลงจากท้ายรถระหว่างนั้นพี่ฟ้าก็ปั่นจักยานอินดี้ของแกมาจอดข้างๆรถพวกผม ล็อกรถเสร็จก็มายืนรอพวกผมอย่างชัดเจน


“กู มีเรื่องจะปรึกษา” พี่ฟ้าพูดทำหน้าจริงจัง


“เอาดิ เรื่องอะไรพี่” มะนาวถามกลับทันที ทั้งที่ผมตั้งใจจะปฏิเสธซะตั้งแต่ตอนนี้


เรื่องชาวบ้านกับมะนาวนี่มัน... แยกจากกันไม่ได้จริงๆ


“เรื่องพี่เราอ่ะดิ” พี่ฟ้าเดินมาคว้าถุงใหญ่ๆทำนองช่วยถือ แล้วเกี่ยวคอมะนาว พาเดินขึ้นตึก มุ่งไปที่ห้องพวกผมอย่างถือวิสาสะ



ผมเลยได้แต่เดินงงๆ ตามขึ้นหอมา มะนาวไขประตูห้อง เปิดประตูทิ้งไว้ให้ทุกคนตามเข้าไป พี่ฟ้าเดินเนือยๆไปทิ้งตัวลงนั่งขอบเตียง ทิ้งเป้ลงพื้น ลูบหน้าลูบตาอย่างอึดอัด


“ปากพี่...”


มะนาวเอียงหัวช้อนมองปากพี่ฟ้า ผมเห็นตั้งแต่ตอนบายศรีเมื่อคืนแล้วว่ามันแปลกแต่ตอนนั้นคิดว่าเพราะแสงน้อยเฉยๆ จนตอนนี้มันเริ่มเขียวคล้ำชัดขึ้นกว่าเมื่อวานมาก


“เออ โดนแมวข่วน”


“อ้าว? ทำไมอ่ะ”


“ก็ที่จูบมันโชว์พวกมึงนั่นแหละ หลังจากนั้นก็ซัดกูเข้าให้แล้วก็หนีออกไปเลย”


“พี่ก็รู้ว่าพี่เทเขาไม่ชอบ ไม่อยากให้ใครรู้ แล้วพี่จะไปทำแบบนั้นอีกทำไมล่ะ” ผมล่ะไม่เข้าใจพี่ฟ้าเลยจริงๆ


“กูคิดว่าไหนๆ มึงสองคนก็รู้อยู่แล้วไง กูเลยคิดว่าไม่เป็นไร กูมีแฟน ถึงจะแค่นิดๆหน่อยๆกูก็อยากอวดใครๆ บ้าง นี่ปิดอย่างกับกูเป็นเมียน้อย มันเป็นงี้มาตั้งนานแล้วนะเว้ย กูต้องทนเก็บเรื่องนี้ไปอีกนานแค่ไหนวะ”


“นาน? พี่เป็นอย่างนี้กันมานานแค่ไหนแล้วอ่ะ” มะนาวถามไปมองหน้าผมไป


“ศุกร์หน้า ก็ครบปีแล้ว”


“โห”


ผมนี่ขนลุกเลย สำหรับผม ช่วงที่ไม่มีสถานะชัดเจนของผมกันมะนาว ถ้านับกันจริงๆก็ไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ แค่นั้นผมก็อึดอัด วุ่นวายใจจนไม่เป็นอันทำอะไรแล้ว แล้วคิดดู พี่ฟ้าเป็นอย่างนี้มาหนึ่งปีเต็ม ไม่รู้ผมจะสงสารหรือเห็นใจพี่เขาดี


“ทำไมอย่างนั่นอ่ะ?”


“ไม่รู้เลยพี่ก็ได้แต่เดา แต่คือกูโง่ไง มันคิดอะไรอยู่บ้างไม่เคยจะรู้กับเขาหรอก ตอนเป็นเพื่อนนะคุยกันได้ทุกเรื่อง แต่พอเป็นอย่างนี้มีแต่เรื่องพูดไม่ได้ ก็มีแค่เรื่องอย่างว่าอ่ะ ที่จะพูดกันตรงๆ”


“พี่ผมเข้าใจยากขนาดนั้นเลยเหรอ?”


“เรื่องอื่นก็ปกติอ่ะนะ แต่เรื่องเนี้ยะ มากกกก”


“อ้าว แต่พี่เป็นเพื่อนกันมานานแล้วนี่  ไม่ใช่หรอกเหรอ มันไม่ช่วยให้เข้าใจเขามากขึ้น หรือ หรือเข้าใจกันเหรอ พี่เป็นเพื่อนกันมาตั้งกี่ปี”


“นานมากแล้ว ตั้งแต่ ป.4 ป.5 มั้ง”


“โห แล้ว... พี่ชอบพี่ผมตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะ”


“ชอบอะไร มันชอบกูก่อน”


“หา!” มะนาวตกใจ


ผมดูสองคนนี้คุยกันอย่างออกรส ฟังไปรื้อกระเป๋าไปด้วย เพื่อให้บรรยากาศไม่อึดอัดเกินไป


“คือ แบบ กูคิดว่า อะนะ” พี่แกตอบเสียงอ้อมแอ้ม


“แล้วตอนนี้ล่ะ เขายังชอบพี่อยู่ไหม”


“ไม่รู้ ไม่รู้อะไรเลย มันเหมือนเพื่อนสนิท ที่สนิทกันมากๆ เหมือนพี่น้องกันด้วยซ้ำ ไม่มีท่าทางตุ้งติ้ง ไม่เคยทำท่าว่าพิศวาสอะไรกูเลย แต่คือ คือ แต่มันไม่เคยปฏิเสธกูเลยเว้ย เวลาอย่างนั้นมันน่ารักมาก” ยิ่งพูดหน้ายิ่งเครียด


“...”


“คิดดู ผู้ชายนะอ่ะผูชาย มันจะยอมให้ผู้ชายด้วยกันกอดซ้ำๆเหรอว่ะ ถ้าไม่รักไม่ชอบ ควรปฏิเสธไหม? ขยะแขยงป่ะ?  มะนาว ถ้าคนอื่นที่ไม่ใช่แม็ต ล้วงกางเกงมึง มึงทำไง”


“คว้าอะไรได้จะฝาดหัวแม่ง”


“นั่นไง แต่นะ มันคงเทียบกับมึงไม่ได้ เพื่ออะไรไม่รู้ชอบก็ไม่ได้ชอบ มันยังจูบแม็ตได้เลย”


“จริงๆมันไม่โดนปากนะพี่ ตอนแรกผมคิดว่าเขาเล็งพลาด แต่ตอนนี้รู้สึกคงเพราะเขาตั้งใจ มันโดนแถวๆนี้” ผมใช้นิ้วแตะๆตรงมุมปาก


พี่ฟ้าทำหน้าอึ้งๆ กระพริบตาปริบๆ แล้วสุดท้ายก็ถอนหายใจ “เห้อ ถึงงั้นก็เถอะ พวกมึงว่า กูควรทำไงว่ะ”


“พี่อยากเลิก อยากคบ หรืออยากประกาศให้โลกรู้อ่ะ?”


“คบแล้วก็ให้ทุกคนรู้ กูอยากจับมือมันได้ทุกที่ที่กูอยากจับ”






Pi Pi Pi   Pi Pi Pi








(มีต่อ)
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 33 เรื่องของเรื่อง] 26/2/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 26-02-2017 22:35:54

Pi Pi Pi   Pi Pi Pi



“พี่เทโทรมา” มะนาวตาโตมองโทรศัพท์ เขาทำมือให้ทุกคนเงียบ แล้วกดรับตรงนี้เลย


“คร้าบบบ ว่าไงพี่ ครับถึงหอแล้วฮะ ของฝากเหรอ แต่พี่ผมก็ซื้อมา ฮ่าๆๆ เราแวะร้านของฝากร้านเดียวกันนะ ... ก็ได้ครับ เดี๋ยวผมไปเอาพรุ่งนี้” มะนาวคุยไปเรื่อยๆ เงียบฟังสลับกับโต้ตอบ “ครับ ครับ... ได้ครับ ครับสวัสดีฮะ”


มะนาวกดวางสายไปแล้ว หันไปมองหน้าพี่ฟ้าตาปริบๆ


“มีอะไร”


“เปล่าครับ ต่อเลยๆ”


“เรื่องก็ประมาณนี้แหละ มึงว่า กูควรทำยังไงดี”


“โทษนะพี่ ขอข้อมูลเพิ่มนิด พี่เป็นเพื่อนกันมาตั้งนานอยู่ๆ ทำไมมาเป็นอย่างทุกวันนี้อ่ะ อะไรคือจุดเปลี่ยน”


“วางสายแล้วแน่ๆ ใช่มั้ย”


มะนาวหยิบมือถือขึ้นมาดู “วางแล้วดิพี่ นี่ไง นี่พี่ระแวงขนาดนนั้นเลย?”


“เออดิ”


“เคยมีกรณีเหรอ?”


“มี แต่เอาทีละเรื่องไหม”


“โอเคครับ งั้นกลับมาที่คำถาม พี่มาอยู่จุดนี้  ได้ไง?”


“เห้อ... มันคงเริ่มตั้งแต่กูบังคับให้มันมาเป็นรูมเมทกู คือกูไม่อยากอยู่กับคนอื่นนี่หว่า แล้วถ้าเขารับกูไม่ได้ล่ะ? พาลจะผิดใจกันเปล่าๆ อีกอย่างกูก็ไม่โอเคที่จะให้ใครก็ไม่รู้มายุ่งวุ้นวายในชีวิต กูเลยกะว่าอยู่กับมันเนี่ยแหละ รู้ไส้รู้พุง เหมือนตอนนั้นกูคิดแค่นั้นไม่สนใจความคิดมันเลยเว้ย ลากมันมาเซ็นสัญญาหอเลย คืนแรกกูก็นอนทับขามันดูหนังเหมือนตอนอยู่บ้านก็ไม่เห็นเป็นไร แฮปปี้ดี แต่พออยู่ๆ ไปกูรู้สึกว่ามันมีบางอย่างเปลี่ยนไป มันเงียบขึ้น ไม่ค่อยขี้เล่นเหมือนเมื่อก่อน ไม่ร่าเริงแถมยังพาลหงุดหงิดใส่กูบ่อยๆ อารมณ์ฉุนเฉียวจนกูไม่รู้ตัวเองทำอะไรผิดนักหนา แต่มีวันนึงกูกลับห้องตอนที่ไม่ใช่เวลาปกติที่กลับ เจอมันช่วยตัวเองอยู่ เห้อ... ก็เลย เข้าไปช่วยมัน แล้วก็ทำกันตลอดจนถึงเมื่อวานเนี่ย”


ผมเกลียดการพูดจาตรงไปตรงมาของพี่ฟ้าจริงๆ แม่ง คนอะไรพูดเรื่องอย่างนี้ออกมาได้หน้าตาเฉยเมยสุดๆ


“เมื่อวานตอนไหน?” มะนาวทำหน้าเหรอหรา ตาโตขึ้นมาเลยเชียว


“อ้าว ก็ตอนก่อนพวกมึงเข้าไปอาบน้ำตอนเย็นไง แม็ตไม่ได้บอกเหรอ” พี่ฟ้าปรายตามาทางผม พร้อมๆ กับมะนาวที่หันมาถามด้วยสายตา


“คิดว่าพี่เทเล่นน้ำทะเลจนเหนื่อยก็เลยหลับไปรึไงกันเล่า” ผมตอบสั้นๆ ให้ไปคิดต่อเอง


“อ้าาาา” มะนาวกำลังทึ่งในความมหัศจรรย์ของคู่พี่ฟ้า แต่ก็ยังถามต่อไป “แล้วทำไมไม่มีใครรู้อ่ะ”


“ก็ไม่ได้บอกใคร แล้วก็ไม่มีใครสงสัย ทั้งที่เวลาไปกินเหล้ากูไปรับไปส่งตลอดเลยนะ หรืออยู่สโมกูเรียกมันเมียด้วยซ้ำ เพื่อนคิดว่ากูเล่นมุขพูดเล่น” ก็เพราะหน้าตาไร้อารมณ์ร่วมของพี่นั่นแหละพี่ฟ้า


ผมจะอธิบายลักษณะพี่ฟ้าอีกทีนะครับ พี่ฟ้าเป็นคนสูงผอมขายาวไม่ว่าจะใส่อะไรก็ทำให้กลายเป็นสไตล์ตัวเองได้ ผมสั้นเป็นลองทรงสูง ปลายผมข้างหน้ายาวหน่อย หน้าคมโครงหน้าชัดแก้มตอบ ตาเชิดๆ คิ้วชี้ๆ ได้อารมณ์คนกวนตีน ปากหยักเฉยชาเหมือนจะบึ้งตึงกับหนวดเป็นตอแบบนานๆโกนที สีหน้าปกติที่เห็นประจำคือหรี่ตากระพริบตาช้าๆขมวดคิ้วแม้จะกำลังยิ้มหรือหัวเราะก็ตาม พูดง่ายก็คือดูเป็นคนกวนตีนคนนึง






“ถ้าพี่มั่นใจว่าเขาชอบพี่ มันก็ไม่น่ามีปัญหาแบบนี้สิ”



“ประเด็นคือ กูก็ไม่มั่นใจ”



“อ้าว”


“ก็เคยถามตรงๆ นอกจากมันจะไม่พูดอะไรแล้วมันยังทำหน้าแบบ ‘เอาเลย มึงพอใจจะคิดงั้นก็ตามใจมึงเถอะ’ แบบเนี่ย ขอมันคบเป็นสิบๆครั้งนะ มันบอกไม่เอาอ่ะ เป็นเพื่อนแบบนี้ดีแล้ว แล้วไง? ดีตรงไหนว่ะตอนนี้มันเองก็ไม่เหมือนเดิม กูก็ไม่มีทางเหมือนเดิม คือไม่แน่ใจว่ากูคือเพื่อนที่ทรงคุณค่า หรือคนที่มันชอบจนคลั่งกันแน่”


“แล้วพี่มั่นใจแค่ไหนว่าพี่ ชอบเขาจริงๆ” ผมโพล่งออกไปในที่สุด คำพูดของผมทำให้พี่ฟ้านิ่งไปทันที


“...”


“นั่นอาจจะเป็นสิ่งที่พี่เทกำลังกลัวนะ” ผมไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องความรักมาจากไหน แต่เรื่องแบบนี้ ถ้ามองจากมุมมองของบุคคลที่สาม อาจจะเห็นอะไรๆได้ชัดกว่าคนที่กำลังสับสนและตั้งใจมองแต่สิ่งที่ตัวเองอยากเห็นเท่านั้น






พี่ฟ้าก้มหน้า มองมือตัวเองที่ประสานกันอยู่ระหว่างหน้าขา แล้วพูดออกมาในที่สุด “คนแรกที่คิดถึงทุกครั้งที่ตื่น แล้วก็เป็นคนสุดท้ายที่คิดถึงก่อนหลับ มันเป็นคนนั้น” เสียงถอนหายใจบ่งบอกความหนักแน่นเจือออกมากับน้ำเสียงเบาหวิว “มาย้อนคิดดู กูไม่คิดถึงใครอีกเลยตั้งแต่มีมัน”


“พี่รักพี่เทมากนะเนี่ย” มะนาวหยักหน้าเห็นด้วย ยืนยันคำพูดตัวเอง


“หึ แล้วตอนนี้ก็เป็นคนเดียวที่ทำให้กูมีอารมณ์”


“อันนั้นผมไม่ได้อยากรู้ด้วยเลยพี่ โถ่” มะนาวตำหนิด้วยสายตา ส่วนผมเหรอ ผมเริ่มจะชินกับความหน้าหนาของพี่ฟ้าแล้วล่ะ


“พี่เคยบอกเขาไหม ว่าชอบเขาจริงๆ” ผมถามบ้าง


“บอก กูบอกตลอด”


“งั้นพี่ลองถอยออกมาหน่อยดีไหม?”


“เพื่ออะไรวะ ขนาดกูตื้อขนาดนี้ มันยังไม่แคร์กูสักนิด ถ้ากูถอย มันไม่ยิ่งชอบใจรีบหาคนใหม่เหรอ”


“ไม่ใช่ให้เลิกขาดนะ แค่ลองถอยมาอยู่ในที่ของตัวเอง ให้เขารู้สึกว่าหันมาไม่เจอพี่รออยู่ที่เดิม”


พี่ฟ้ากับมะนาวกระพริบตาปริบๆ เหมือนจะเข้าใจ แต่ผมว่าพวกเขาไม่เข้าใจผมเลย


“ที่ผมให้พี่ลอง เพราะต้องการดูปฏิกิริยาของเขา คืองี้นะพี่ มันเป็นกลไกของจิตใจคนเรา ในเวลาที่รู้สึกว่ากำลังจะอกหักกำลังจะสูญเสียหรือถูกทิ้ง คนกลุ่มนี้จะมีความรู้สึกว่าอยู่ๆก็รักมากขึ้น เสียดายมากขึ้น จะทำทุกทางไม่ให้เกิดการสูญเสีย พี่เคยเห็นคนคบกันแล้วคนนึงจะเลิก แต่อีกคนพยายามยื้อไหม? คนพวกนั้นส่วนใหญ่จะกลับมาคืนดีกันระยะหนึ่งแต่สุดท้ายก็เลิกกันอยู่ดี มันคือ frustration attraction ที่จะบอกคือ พี่จะรู้ว่าเขาชอบพี่แต่แกล้งทำเป็นไม่แคร์อะไรหรือไม่ได้ชอบพี่จริงๆ ก็ตอนที่เขาคิดว่าพี่ทิ้งเขานั่นแหละ ถ้าเขารักพี่เขาไม่น่าจะยอมเสียพี่ไปนะ”


“อ้อ... กูเข้าใจที่มึงจะบอกแล้วนะ แต่ แต่ กูไม่รู้มันจะได้ผลกับเทไหม มันไม่เหมือนคนส่วนใหญ่ไง มันประหลาด แถมซับซ้อนกว่าเยอะ”


“หรือจะดีกว่าถ้าอยู่อย่างนี้ ให้เขาทำร้ายพี่ต่อไปเรื่อยๆ ล่ะ?”


“ไม่เอา กูต้องทำอะไรสักอย่าง กูอยากให้มันมีความสุขนะ อยากให้มันยิ้มได้เหมือนเมื่อก่อน ยิ้มให้กู”


“โอเค พี่มีตั้งสองตัวเลือก อยู่อย่างนี้ต่อไป ยอมรับว่าได้แค่เท่าที่ผ่านมา กับ ลองหยุดเพื่อรอทางแยกใหม่ข้างหน้า”


“มึงพูดซะกูกลัวเลย แบบนี้ไม่เรียกว่ามีสองทางเลือกแล้วมั้ง”


“คิดดีๆ นะพี่ เอาจริงๆ แล้ว ไม่ว่าทางไหนก็เสี่ยง”


“นั่นสินะ กูมีตัวเลือกแค่นั้นจริงๆนั่นแหละ ไปต่อแบบไม่รู้จุดหมาย กับหยุดเหรอ เข้าใจแล้ว” พี่ฟ้าก้มลงซบลงกับฝ่ามือตัวเอง “ขอบใจมากนะพวกมึง ไม่รบกวนเวลาส่วนตัวแล้ว”


“ไม่เลยครับ ยินดีมากๆ” มะนาวที่เงียบไปนานบอกกับพี่ฟ้า เขาคงรู้สึกไม่ต่างจากผมเท่าไหร่ คือเห็นใจพวกเขาทั้งคู่ พี่เทเอง ถึงจะไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ แต่ผมว่าเขาต้องมีเหตุผลแน่ๆ


“ขอบใจมากๆ ช่วยได้เยอะเลยว่ะ กูยอมรับเรื่องพวกนี้กูโง่เลยแหละ ไม่เคยประสบความสำเร็จเรื่องความรักเลย”


“หวังว่าครั้งนี้พี่จะไม่พลาด”


“ฟังดูแล้วพี่สองคนรักกันนะ ทำไมถึงไม่โอเค ทำไมมันไม่ราบรื่นเลยสักนิด” มะนาวกอดอกตั้งข้อสงสัยอีกครั้ง


“ความหัวดื้อของพี่มึงทั้งนั้นเลย”


“นั่นดิ ผมต้องสั่งสอนพี่ผมบ้างแล้ว”


“อย่าเยอะๆ นั่นแฟนกู”


“โห เต็มปากเต็มคำอ่ะ”


“นิดนึง ก็ ‘แฟนกู’ ได้แค่ต่อหน้าพวกมึงนี่แหละ” พี่ฟ้าพูดเองก็กลับไปห่อเหี่ยวซะเอง


หลังจากนั้นพี่ฟ้าก็ล่ำลาพวกเรา จากไปแบบคนคิดมากกว่าเดิมซะอีก




ลุคของพี่ฟ้าเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จากตอนแรกที่ดูหล่อลุคแบดๆ เฮฮารักสนุกเป็นศูนย์กลางของทุกอย่าง สักพักก็เป็นโมเม้นท์คนมีความรักทำโน้นทำนี่เพื่อความรัก ส่วนตอนนี้ คือคนอมทุกข์ถึงจะมีความรักแต่ดูไม่มีความสุขเลย นั่นคือในสายตาผม แต่ทั้งหมดนั้นกับคนอื่นพี่ฟ้าก็ยังเป็น ฟ้าประธานรุ่นปีสอง คนเดียวคนเดิม


ในคนหนึ่งคน ต้องแอบซ่อนอารมณ์ความรู้สึกไว้มากมายขนาดนี้เลยเหรอ










“สงสารพี่ฟ้าว่ะ ทำไมพี่กูใจร้ายว่ะ?”


มะนาวยังมองที่ประตูที่พี่ฟ้าเดินออกไป สีหน้ากับแววตาผู้ชายคนนึงที่ปกติเราเห็นเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจวันนี้มันหม่นแสงอ่อนแรงเกินกว่าจะมั่นใจอะไรในตัวเอง ใต้รอยยิ้มคนเรามีเรื่องราวมากมายซ่อนอยู่ ตัดสินจากผิวเผินไม่ได้เลยจริงๆ


“อย่าตัดสินอะไรทั้งที่เห็นแค่ด้านเดียวสิ พี่เทอาจจะมีเหตุผลอีกเยอะแยะที่เรายังไม่รู้นะ รู้สึกไหมว่าพี่เทก็ชอบพี่ฟ้า” ตาแอบมองประตูห้องไปด้วย พี่ฟ้าล็อกให้เรียบร้อยดี


“รู้สึกนะ แต่มันอธิบายไม่ถูก”


“ยังไง คิดอะไรอยู่” ผมปีนข้ามเตียงมานอนหนุนตักมะนาว จับมือเขามาจูบแนบไว้ที่ริมฝีปาก


“ถ้ารักกัน ทำไมไม่คบกัน แล้วถ้าไม่รัก ทำไมไม่ปฏิเสธ ถ้าจะบอกว่าเพราะเกรงใจเพื่อน มันไม่ใช่นะเว้ย”


“พี่เทอาจจะรักพี่ฟ้ามาก แบบมากๆ แล้วคิดว่าวิธีนี้จะทำให้เขาอยู่กับเราได้นานที่สุดก็ได้นะ”


“กูไม่เข้าใจพี่กูเลย”


“คิดมากไปก็เท่านั้น แล้วถึงเราจะไปถามเขาก็ไม่มีทางตอบอยู่ดี”


“ก็จริง แต่กูอยากช่วยพี่ฟ้าอ่ะ”


“เราช่วยเท่าที่เราช่วยได้” ผมพูดอย่างปลงๆ แต่เหมือนคนของผมจะยังไม่จบ


“แม็ต”


“หื๋ม”


“เราเลิกกันไหม?”


“ไม่”


ผมตอบอย่างไม่ต้องคิด ถึงจะรู้ว่าเขาไม่ได้หมายความตรงตัว แต่ผมตอบไม่ ไว้ก่อนเลย


“ไม่ใช่ๆๆ ฟังให้จบก่อน เราแกล้งทำเป็นทะเลาะกัน แล้วแกล้งเลิกกัน เพราะกูรู้สึกว่ากูทำให้พี่เทหึงพี่ฟ้าได้เว้ย กูจะทำเป็นชอบพี่ฟ้าดีมะ มึงก็ไปอยู่กับพี่เท ไงความคิดกู”


“เห้อ...”


“ถอนหายใจทำไม”


“ไม่รอดหรอก บอกเลย”


“อะไรไม่รอด”


“ซื้อบื้ออย่างมึงปั่นหัวใครไม่ได้หรอก ยกเว้นกู”


“โว้ะ”


“ทำไม”


“ด่าหรือด่า?”


“บอกรักอยู่ เห็นมะ ขนาดนี้มึงยังไม่รู้ตัว” ผมละเชื่อเขาเลย มะนาววววววว


“ไปเอาความกวนตีนแบบนี้มาจากไหนเนี่ย มึงนี่นะ”


“กูทำไม กูทำไม” ผมผลักเขาลงไปนอน พลิกตัวขึ้นทับ กดไหล่บางจมไปกับที่นอน แล้วเอาจมูกจั๊กจี๊ไปตามซอกคอ


ถึงจะไปรับน้อง กลิ่นแชมพูของเขาก็ยังหอมติดตัว ตอนที่เขาหลับบนรถ กลิ่นนี้ก็กวนใจผมจนตัวเองหลับไม่ค่อยจะลง


คิดถึง คิดถึง คิดถึง


“โอ้ย จักจี้ แม็ต ฮ่าๆๆๆ พอ พอ”


มะนาวไม่ได้ผลักผมออก เจ้าตัวเล็กกลับกอดผมไว้ทั้งแขนทั้งขา กอดแน่นจนผมได้แค่นอนทับเขาเพราะดิ้นไปไหนไม่ได้


เลยกลายเป็นนอนกอดกันกลมพาดเตียงแบบจะตกแหล่มิตกแหล่


“เห้อ การไปรับน้องนี่เหนื่อยจัง แต่ก็สนุกดี” มะนาวเว้นช่วง เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ “นี่”






“หื๋ม”


“มันจะมีไหม วันที่เราต้องเลิกกัน”


“ด้วยเหตุผลอะไร? มึงเป็นคนไม่ดี กูมีคนใหม่ หรือจู่ๆเราก็เข้ากันไม่ได้ล่ะ มีอันไหนน่าจะเป็นไปได้บ้าง”


“ไม่รู้สิ ถึงตอนนี้จะไม่ แต่อนาคตก็ไม่แน่ใช่ไหมล่ะ มาคิดๆดูแล้วกูว่ากูเข้าใจพี่กูนะ เขาอาจกำลังกลัวอนาคต”


“อนาคตเป็นสิ่งที่ราเลือกเองจากวันนี้เนี่ยแหละ”


“ยังไง”


“ก็ถ้าวันนี้เรารักกัน ดีต่อกัน อนาคตมันจะกลายเป็นไม่ดีไปได้ยังไงล่ะ”


“แต่อะไรๆ ก็ไม่แน่ไม่นอน”



“ไม่เอาน่า ก็ถ้ามัวแต่กลัวว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นยังไง แล้ววันนี้ของเราล่ะ? จะดีกว่าไหมถ้าเราเลิกเอาแต่กังวน แล้วมีความสุขกับวันนี้ให้เต็มที่”


“นั่นสินะ...” มะนาวผู้ว่าง่าย ค่อยๆ คล้อยตามผม


ไม่ใช่ว่าผมไม่เข้าใจหรือละเลยสิ่งที่เขากังวน แต่ก็อย่างที่ผมพูด ถ้ามัวแต่กลัว มันก็ไม่ยุติธรรมสำหรับวันนี้ของเราสิ


เปลี่ยนเรื่องดีกว่า!



“ป่ะ”


“ไปไหน?”


“ไปสาธิตท่าสามขาในห้องน้ำ”


“ไอ้บ้า ไม่เอาเว้ย อาบคนเดียวไปเลยยยย”


ผมคิดอะไรดีๆ ออกอย่างนึง ปกติผมจะหัวเราะ แล้วยอมจำนน อาบคนเดียวไปอย่างที่มะนาวว่า แต่วันนี้ ขอตอบกลับแบบที่แปลกออกไปสักหน่อยดีกว่า


“ใจร้าย” ผมหรี่ตา พูดกับซอกคอเขา เสียงทุ่มของผมคงสั่นไปถึงเขา มะนาวถึงได้ตะกุกตะกักถามกลับ


“อะ อะไรเล่า?”


“ถึงพี่เทจะใจร้ายกับแฟนเขายังไง เขาก็ไม่เคยขัดใจเรื่องอย่างว่าเลยนะ”


“จะว่ากูใจร้ายกว่าพี่กูอีกงั้นสิ”


“ใช่ ใจร้าย”


มะนาวอ่ำอึ้งอยู่นาน กว่าจะโพล่งออกมา


“เออๆๆ ก็ได้ๆๆ”


“ย่ะฮู้”


ผมดีดตัวขึ้นนั่ง ดึงไหล่มะนาวขึ้นมา ไม่ใช่แค่นั่งบนเตียง แต่สอดแขนช้อนตัวเขาขึ้นไหล่ ผมวางช่วงเอวเขาบนไหล่ให้หัวเขาห้อยไปข้างหลัง ขามะนาวผมจับไว้ ไม่สนใจเสียงร้องประท้วงไร้สาระที่ที่ผมมองว่ามันสุดแสนจะไม่จริงจัง


“เฮ้ย ปล่อยนะเว้ย เดินเองได้ นี่ แม็ต ปล่อย”


“ป๊ะ” เสียงตัวเอง สูงไปอีก ฮ่าๆๆๆๆๆ


ผมเดินลงจากเตียง เดินเข้าห้องน้ำ ปิดประตูห้องน้ำลงแทบจะทันที โดยที่ไม่สนใจหยิบผ้าเช็ดตัวเข้ามาเลย


อาบน้ำกันครับ อาบน้ำ






..............................






เสียงน้ำฟักบัวไหลไปเรื่อยเปื่อย ไหลทิ้งไหลขว้างมาจะครึ่งชั่วโมงแล้ว เราแทบไม่ได้สนใจมันเลย


เพราะ...



“เดี๋ยวๆๆ มึงเอาถุงยางมาไว้ในนี้ด้วยเหรอ”


“อื้ม กูเป็นคนรอบครอบ”


“เชี่ยนี่ เบาๆ เจ็บๆๆๆ”


“อื้ม เหมือนครั้งแรกเลย ตัวเกร็งเชียว ทำไม? ตื่นเต้นเหรอ”


มะนาวตะหวัดสายตามามองผม เขาเหมือนกำลังโมโห แต่สีหน้าระเรื่อขึ้นสีจนกลายเป็นแดงปลั่ง ก่อนจะหลบตาตอบในคออ้อมแอ้ม


“อะ อื้ม มัน แปลกๆ”


“อะไรแปลก” ผมโน้มตัว จูบลงตรงสันกรามเปียกชื้น ผมสระใหม่ที่ยังไม่แห้มก็หอมฟุ้งยั่วผมไปหมด


“ก็ ไม่ได้ทำหลายวัน มัน ไม่ชินนี่”


“ได้ไง? นี่กูไง จำไม่ได้เหรอ” ผมลองขยับช่วงล่างที่ค้างอยู่ครึ่งๆกลางๆ แต่สีหน้ามะนาวไม่ดีขึ้นเลย ลำตัวก็เกร็งจนแข็งไปหมด


“จำได้ แต่... แต่”


มะนาวหันมาสบตาผมแว็บๆ เขายืนหันหน้าเข้ากำแพงใต้ฟักบัว มือซ้ายขยับไปตามผนังห้องน้ำ มือขวาของเรากุมมือกันอยู่ตรงสะโพกมะนาว เอวเล็กคอดเว้า สะโพกกลมงอนรอรับผม แผ่นหลังเปลือยเปล่าถูกสายน้ำกระทบกำลังวูบวาบตามจังหวะการหายใจเข้าออกที่ถี่กระชั้น 


“ไม่ชอบท่านี้?” ประเมินท่าทีแล้วผมเลยถามออกไปอย่างนั้น ซึ่งก็จริง มะนาวยอมตอบกลับมาเสียงเบา



“ก็มันไม่เห็นหน้ามึงอ่ะ”




คำตอบ... น่ารัก




ผมถอดตัวเองออก ดึงมะนาวให้ยืนขึ้นโอบเขาเข้ามาจูบ


มะนาวเองก็อยากเห็นหน้าผม อย่างที่ผมจ้องมองใบหน้าเขาตลอดเวลาแม้จะต้องมองจากข้างหลัง



“งั้น ไปต่อที่เตียงกัน”


“อะ อื้ม”








ผมอุ้มมะนาวไอ้หนูตัวเล็กของผมออกมาจากห้องน้ำ ในท่ากระเตงลูกลิง


ไม่รู้กลัวตกหรือรักผมมมาก เกาะแน่นจนผมแทบจะไม่ต้องออกแรงอุ้มเลย แถมซุกหน้ากับไหล่แต่อ้าปากงับไหล่ผมไปด้วย





ทำไมต้องน่ารักเบอร์นี้ครับ ถามหน่อยเถอะ…









โอ้ย นึกๆๆๆ



คอนด้อมที่แอบซุกไว้ อยู่ตรงไหนบ้างนะ วันนี้จะรื้ออกมาใช้ให้หมดห้องเลอะ!






------------------------------------------------
TBC.




ยาวแค่ไหนก็คงชดเฉยความช้าของคนเขียนไม่ได้ ผมขอโทษษษษษ TT
โปรดให้อภัยในความล้าช้า พอดีว่าโดนเท ช็อคไปพักนึง 555555
 :sad2:

กลับมาที่เรื่องนี้ค่ะ
เอาอีกละ ตอนนี้นี้เป็นอีกตอนที่เขียนยาก เพราะรวบรวมหลายๆอย่างไว้  เหมือนเป็นบทสรุปวัยเด็กของต้นรักของแม็ตมะนาว ความรักของพวกเขากำลังโต โตไปพร้อมๆกับตัวและโลกรอบๆ
ช่วงแรกการดำเนินเรื่องค่อนข้างช้า ต่อไปจะก้าวกระโดด ข้ามกระโดดแล้วนะ เพราะขี้เกียจเขียนละ (ไม่ช่ายยยยยยย 555 ล้อเล่นๆ) เพราะแต่ละช่วงชีวิตมีการให้ความสำคัญในเรื่องแต่ละเรื่องต่างกัน ต่างหากเล่า
หุหุ จะรอดมั้ย อิคนเขียนเนี่ย จะรอดมั้ยค่าาาาาา T0T :try2: :try2:

โปรดติดตามตอนต่อไปค่าาาา ขอบคุณค่าาาาา
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 33 เรื่องของเรื่อง] 26/2/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: about ที่ 26-02-2017 22:36:40
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 33 เรื่องของเรื่อง] 26/2/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 27-02-2017 03:41:32
ศิราณีจำเป็น
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 33 เรื่องของเรื่อง] 26/2/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 27-02-2017 08:33:24
แม็ตเปลี่ยนไปปะ
นี่เคยคิดว่าแม็ตเป็นคนขรึมๆ555555555555555555
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 33 เรื่องของเรื่อง] 26/2/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 27-02-2017 09:01:37
แม็ตเปลี่ยนไปปะ
นี่เคยคิดว่าแม็ตเป็นคนขรึมๆ555555555555555555

นิดหน่อยค่ะ
เพราะตอนนี้นางได้พี่ฟ้าเป็นไอดอลแล้ว 555555555
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 33 เรื่องของเรื่อง] 26/2/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 27-02-2017 10:03:40
คิดถึง
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 33 เรื่องของเรื่อง] 26/2/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 27-02-2017 12:20:59
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 33 เรื่องของเรื่อง] 26/2/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 27-02-2017 17:52:47
ชอบบบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
แมต มะนาว  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ฟ้า เท   :กอด1:
ฟ้า รักเท เท ก็รักฟ้า
แต่เท กลัวว่าต่อไปความรักจะเปลี่ยนไป
เลยกั๊กๆ ไม่กล้าแสดงออกแม้ฟ้า จะบอกรักตลอด
แผนที่ฟ้า ได้จากแมต น่าจะทำให้เท รู้สึกนะ
น่าจะให้สองคนมาพูดเรื่องทำนองนี้ให้เท ฟัง
เท จะได้มีแนวคิดเปลี่ยนไปจากเดิม
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 33 เรื่องของเรื่อง] 26/2/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: PaiPo ที่ 08-03-2017 18:32:15
เริ่มงงว่าพี่เทใจร้ายหรือพี่ฟ้าแกบื้อเอง? 5555
แลรู้แต่แบบ ป่านนี้เพิ่งมารู้สึกตัวเรอะ?

ความราบรื่นของคู่ชื่อซ้ำ มันดีเกิน ทำไมเรากลัว ทำไมรู้สึกระแวงงงงง
ม้ายยยยยย
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 34 ย้ำไปเรื่อยๆ] 5/5/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 05-05-2017 23:38:28
(http://i1159.photobucket.com/albums/p636/Browny_Tan/bro/loveagain334_zpsaovquoi9.png)
- บทที่ 34 - ย้ำไปเรื่อยๆ -







เช้าวันจันทร์ ผมตื่นขึ้นมาด้วยอารมณ์สดชื่นสุดๆ เพราะในอ้อมกอดมีมะนาวหลับแก้มเบี้ยวอยู่ กอดซุกแบบไม่ต้องเกรงใจใคร ก่ายทั้งตัวโดยไม่ต้องสนใจอะไร


การออกไปค้างข้างนอก อยู่ท่ามกลางคนเยอะๆตลอดเวลา ทำให้รู้เลยว่าห้องของเรามันวิเศษแค่ไหน


ผมออกแรงกอดรัดมะนาวทั้งตัว รัดแน่นจนเขาหายใจสะดุด นิ่วหน้าแล้วขยับตัว


“โอ้ย อะไรเนี่ย?”


“กอดไง”


“อื้อออ หายใจไม่ออก” มะนาวบิดตัวไปมา แต่ยังหลับตาแน่น


“เช้าแล้ว ตื่นเถอะ”


“อื้ม ขออีก 5 นาที”


“ได้” ผมรับคำทันทีไม่พิรี้พิไร



แต่


ผมปล่อยเขานอนต่อ ส่วนตัวเองมุดลงใต้ผ้าห่มจนหัวผมอยู่ระดับใต้คางเขา ผมกอดเอวเขาเข้ามา แล้วตั้งหน้าตั้งตาดูดหน้าอกที่ยังเปลือยเปล่าอย่างมันปาก แค่แตะริมฝีปากไปกับผิวอุ่น หน้าอกเขาก็วูบแฟบลงเหมือนตกใจแล้วหายใจเอาอากาศทั้งหมดออกทันที


แต่ผมไม่หยุดง่ายๆ หรอกนะ


ผมรัดเอวเขาไว้แน่นขึ้น พร้อมๆ กับจูบดูดดื่ม ใต้ผ้าห่มนี้ผมบดขยี้ยอดอกเขาเล่นไปมาอย่างไม่ปราณี


“โอ้ย แม็ต แม็ตๆๆๆๆ”


“อื้ม”


“ตื่นแล้วๆๆๆ พอๆๆ จัก ฮ่าๆๆๆ จั๊กจี้ แมตตตต”


“บอกแล้ว อย่าดื้อกับพี่”


“ดื้ออะไร แล้วไปเอาอะไรแบบนี้มาจากไหน หะ” มะนาวจับหัวผมไว้ทั้งสองมือ เป็นเชิงป้องกันไม่ให้เข้าไปทำร้ายร่างกายเขาได้อีก


“เอา?”


“ไม่ต้องมาเล่นคำเลยนะ”


“เล่น?”


“หึหึ อะไร ต้องการอะไรกันแน่ พูดมาเลย”


“สักหน่อยมั้ย?”


“เรื่องอย่างนี้มันแค่หน่อยได้ด้วยเหรอว่ะ”


“สักทีนะ?”


“ไอ้แม็ต” มะนาวเรียกชื่อผมเหมือนจะดุ ทั้งที่กำลังหัวเราะแบบไม่มีเสียง


รอยยิ้มของเขายังเป็นของผม เพื่อผม


ความสุขของผม


“จ๋า?” ผมขานรับ แล้วรอฟังต่อว่าเขาจะว่ายังไง


“จ๋า พ่อง”


“ฮ่าๆๆ” สุดท้ายเราหัวเราะไปด้วยกัน


มะนาวเอื้อมมือมาลูบต้นคอผม เขากำลังสอดมือเข้ามาที่ไรผม ให้ผมอิงซบฝ่ามือของเขา ก่อนค่อยๆรั้งใบหน้าผมเข้าไปหาเขาด้วยตัวเอง






จูบแบบไม่แปรงฟันทั้งคู่ แฟร์ๆ น่า




ฮ่าาาาา เป็นเช้าที่แสนสดใส








....................................






หนึ่งชั่วโมงต่อมา เราก็มานั่งรวมพลกับที่โต๊ะโรงอาหารที่เดิม ตรงนี้มีผม พงศ์ น้ำ เม ส่วนมะนาวกำลังไปซื้อข้าว และเอ้ผู้มาถึงเป็นคนสุดท้ายกำลังเดินเข้ามา สาวสวยหนึ่งเดียวประจำกลุ่มอ้าปากส่งเสียงทักตั้งแต่ตัวยังเดินมาไม่ถึง



“เป็นไงค่าซิสสสสส รับน้องงงง”


“....” เมนั่งดูดนมเย็นตาปรือๆ ไม่พูดอะไร


“...” พงศ์มองหน้าเอ้ ในขณะที่ปากเคี้ยวข้าวตุ้ยๆ ทำหน้าไร้อารมณ์เชิงกวนประสาท


“...” มะนาวเดินกลับมาพอดี ผมคิดว่าเขาได้ยินที่เอ้ถาม แต่ก็เงียบแล้วเริ่มต้นกินก๋วยเตี๋ยวไม่พูดไม่จา


“...” ผมมองเพื่อนสามคนที่ไปด้วยกัน ทำไมไม่ตอบอะไรกันเลย? งั้นผมเงียบบ้าง


ความเงียบของเราสี่คนทำให้น้ำมันขำ แล้วโพล่งออกมา “หึ สนุกขนาดนั้นเลย น่าอิจฉาว่ะ ฮ่าๆๆๆ”


“มึงไม่ต้องเลยน้ำ พงศ์เล่าให้ฟังแล้วอ่ะดิ” เอ้ต่อว่าน้ำ


“นิดนึงอ่ะ”


“ได้ไง แล้วทำไมไม่มีใครเล่าให้กูฟังบ้างเลย กูพลาดอะไรไปบ้างค่ะ หูย ตามกลไลค์ไม่หวาดไม่ไหว ถ้าพวกมึงจะหวานออกสื่อก็หวานกันตอนกูอยู่ด้วยได้มะ ให้กูโพสคนแรก คนจะได้ตามมากดไลค์ที่เฟสกูงี้”


เอ้คงหมายถึงผมกับมะนาว งานนี้จิ้นกันข้ามมหาลัย จิ้นไปถึงเพจคิ้วบอยไทยแลนแดนหนุ่มคิ้ว แถมยังเลยไปเพจสมาคมนิยมหนุ่มวิดวะ กะแค่รูปกอดคอมินิฮาร์ทคู่ฝีมือสา รูปผมยิ้มภูมิใจที่มะนาวหลับพิงไหล่ผมของตากล้องพงศ์ กับรูปที่แอบถ่ายตอนเราทั้งคู่หลับในมุมที่ผมคอพับไปทางมะนาวในองศาที่เหมือนผมกำลังจูบหัวเขา และ ด้วยความรักเพื่อน เพื่อนที่นั่งไปด้วยเกือบทั้งคันรถบัสพากันมาแอบถ่ายแล้วพร้อมใจเอาไปแต่งใส่นั่นใส่นี่ก่อนลงโซเชียลอย่างสนุกสนาน


เท่านั้นเอง


เองงงงงงงงง


เท่านั้นเองที่ผมสองคนโดน ที่แท็กมาหาผมก็เป็นสิบแล้ว ที่เพื่อนลงแล้วไม่ได้แท็กอีกนับไม่ถ้วน คิดว่าถ้าไม่ถึงมอซะก่อนอีกนิดคงติดเทรนทวิตเตอร์แล้วล่ะ


“มึงไม่รู้หรอกกูถ่ายรูปนั้นด้วยความรู้สึกยังไง ฮึก!” พงศ์ที่วางช้อนลง เริ่มออกอาการและสะอึกสะอื้นคร่ำคราญ “ฮึก! ฮื้อ ความรู้สึกที่ผัวของกูต้องไปเป็นของคนอื่น แต่กูทำอะไรไม่ได้เพราะเขาเหมาะสมกันเหลือเกิน”


“เวอร์แล้วมึงอ่ะ” มะนาวพูดอย่างเอือมอาการโอเวอร์ของเพื่อน


“เงียบไปเถอะมึงอ่ะมะนาว อย่า อย่าบังคับให้กูร้าย”


“ทำมะ?” อันนี้ก็จงใจกวนตีนเพื่อนกลับ แต่เอาเถอะ เป็นผม ผมก็ทำ


“ฮึ้ย อึ้ยๆๆๆๆ อร้าย งึมๆ */.+-4.+,!; \*o&฿..$+!!”


ความอัดอั้นทำให้พงศ์พูดไม่เป็นภาษา ตัวตุ้ยนุ้ยของพงศ์สะบัดไปมา แขนสั้นๆ ทั้งทึ้งทั้งขยำและข่วนแขนมะนาว คนอะไรน่าแกล้งจริงๆ ถ้าผมเป็นมะนาว ผมก็จะแกล้งเขาเหมือนกัน ฮ่าๆๆ


“ฮ่าๆๆ พูดอะไรของมึงเนี่ย ทำร้ายกูแบบนี้กูควรรู้เรื่องกับมึงด้วยไหม?”


“ฮึ้ยๆ”


“หันมานี่เลยมึง” เอ้เขย่าพงศ์ให้ได้สติ แล้วเริ่มสอบปากคำต่อทันที “อิสุรพงศ์  เมื่อคืนมึงบอกมีเรื่องเม้า เม้าท์มาเดี๋ยวนี้ Now! กูจะไม่รอแล้ว รู้มะ กูนอนไม่หลับทั้งคืนเพราะคำว่าจูบคำเดียวเลยมึงอ่ะ”


“โหยอิห้อย อิแหนบ อิฝักกระถินอ่อน เรียกชื่อเต็มพ่อกูขนาดนี้ มึงยังจะหวังให้กูสนองต่อมเสือกมึงอีกเหรอคะ”


เอ้เปลี่ยนน้ำเสียงและท่าทีทันที แต่…


“ท่านสุรพงศ์คะ โปรดเมตตาเด็กตาดำๆด้วยเถอะค่ะ” เอ้ยังคงย้ำสุรพงศ์ชื่อพ่อพงศ์ เพียงแต่พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานและดูเหมือน จะเป็นมิตร?


“แม่มันชื่ออะไรว่ะ แม็ต น้ำ มึงช่วยกูคิดดิ้ คิดๆๆๆๆๆ ทำไมกูลืมได้ไง ฮึ้ย ไม่เอาละ กูไม่ล้อก็ได้ แต่กูไม่บอกมึงแน่!” พงศ์พูดคนเดียวเหมือนจะบ่นกับตัวเองมากกว่าต้องการคำตอบจากพวกผม


“โอ้ย พิ๊งค์ ขอกูเสือกนะ กูอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่ได้เสือก”


“เห้อะ! ไม่บอกโว้ย”


“พิ้งค์พิ้งค์ พลีสสสสส” พวกผมถอนหายใจ มองสองคนเล่นกันไปอีกพักใหญ่ จนเริ่มเหนื่อยแทนกับความพยายามของเอ้


“ถามกูก็ได้ ใครจูบกับใคร” น้ำหัวเราะไป บอกเอ้ไป


มันน่าจะรู้จริง เห็นมันเงียบๆ แต่มันรู้ทุกอย่างเสมอ ไม่รู้เหมือนกันว่ารู้ได้ไง


“อิน้ำ ได้ไงอ่ะ! มึงก็ไม่ได้ไปทำไมมึงยังรู้”


“เอ้า เขารู้กันหมดละ มึงแหละไปอยู่ไหนมา?”


“เชี่ย ก็กูไม่ได้ไป เม เม มึงรู้ไหม บอกกูทีดิ กูเบื่อมีแต่คนเล่นตัว”


อ้อ เพิ่งรู้สึกตัวว่าโดนแกล้ง... เห้อ...


“ตอนนั้นกูออกไปคุยกับพี่กูอยู่... แต่ กูก็รู้นะ” เมยิ้มอย่างผู้ชนะ


“เอ้า” เอ้โอดครวญ ซบไหล่เมแล้วเขย่าอ้อนวอนอย่างอ่อนแรง “เมจ๋า บอกนะ เดี๋ยวเลี้ยงเค้ก”


ผมเห็นม่านตาของเมที่ขยายกว้างขึ้นทันที เพราะคำว่า เค้ก!


เพราะดูท่าตัวเองไม่ใช่ความหวังสุดท้ายของเอ้ พงศ์ถึงเลิกเล่นตัว หันมาเล่นมุขแทน


“กูเฉลยก็ดะ กูจูบกับแม็ตเอง” พงศ์พูดด้วยสีหน้ามั่นอกมั่นใจ ซึ่งมันหลอกเอ้ไม่ได้


“ห่ะ ไม่จริงอ่ะ” มันเป็นสายตาดูถูกเหยียดหยามที่ตอบกลับมา


“ก็เอออ่ะดิ ขออยู่ในมโนสักหน่อยก็ไม่ได้”


“ลีลา ตอบมา” เอ้ทิ้งแขนเมแล้วตบโต๊ะอย่างผู้คุมเกมได้


“พี่กูกับแม็ต” มะนาวคงเบื่อที่จะฟังสองคนนี้ทะเลาะกัน สุดท้ายเขาก็เฉลยเอง


นั่นทำให้ทุกคนในโต๊ะมองไปที่มะนาวตาปริบๆ รวมถึงสาวๆโต๊ะข้างๆที่เหมือนจะตั้งใจมานั่งใกล้พวกเราตั้งแต่แรกด้วย




“แม็ตกับพี่มึง ไม่จริง” ในความเงียบ เอ้พูดขึ้นมาเบาๆ ค่อยๆชักมือลงจากโต๊ะอย่างเชื่องช้า “มึง แล้วมะ!?”


“อิเอ้ มึงนี่ เงียบเลยนะ!” พงศ์ตะปบปากเอ้ ที่เหมือนกำลังจะพูดอะไรต่อ


“กู? กูทำไมนะ?” มะนาวสงสัยกับคำถามแปลกๆ ของเพื่อน


“ก็...”


หลังจากอ้ำๆ อึ้งๆ ไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีก ทุกคนค่อยๆหันมาทางผม ถามว่ารู้ไหมเพื่อนคิดอะไรอยู่ ผมก็รู้นะ แต่ไม่รู้จะบอกยังไงอธิบายอะไรนี่นา ในเมื่อพวกมันยังไม่เอ่ยปากถามอะไรผมเลยสักคำ ไอ้อยู่ๆจะไปชี้แจงแถลงข่าว ก็ใช่เรื่องมั้ง


“เมื่อวานกลับมา มึงกลับบ้านป่ะมะนาว?”


“เปล่านี่ ก็นอนหอ”


“แล้ววววววว...”


“แล้ว?” มะนาวเองก็ดูจะลุ้นและตลกเพื่อนๆ อยู่ในใจพอควร ดูตั้งใจกวนตีนเพื่อนอย่างเห็นได้ชัดเลย ยิ่งเป็นอย่างนี้ ผมว่าเพื่อนเลยไม่กล้าถามอะไรต่อ


“แล้ว” แล้วนี้ทั้งเอ้ทั้งพงศ์รวมถึงมะนาวด้วย หันมาจ้องผม ดูก็รู้ว่าต้องคิดอะไรอยู่


“อะไร?” ผมถามพวกนั้น


แล้วอะไร? แล้วยังไง? แล้วทำไมต้องหันมาจ้องผมกันหมด เมื่อกี้ยังเอาแต่ถามมะนาวอยู่เลย จู่ๆเปลี่ยนมาจ้องผม แถมยังไม่พูดอะไรสักที จะรู้ไหมเนี่ยว่าอยากจะรู้อะไรบ้าง


“มึงพูดสิ” เอ้ถองศอกใส่พงศ์


“มึงพูดเลย กูไม่ได้อยากรู้” พงศ์กระทุ้งกลับถี่ๆ


“กูรู้มึงอยากรู้ มึงพูดสิ”


“ไม่เอา กูไม่พูด”


“พวกมึงนี่ เห็นมั้ย มันก็ปกติดียังต้องถามอะไรอีก” น้ำห้ามทัพไม่ให้สาวๆ เขาตีกันไปมากกว่านี้ แต่พงศ์ก็ยืนยันว่ายังอยากรู้อยู่ดีหันไปทางน้ำขอความช่วยเหลือ


“น้ามมมมม ถามให้ทีสิ” ไม่กล้าถามเอง เลยคิดจะใช้น้ำว่างั้นเถอะ


“ไม่เห็นต้องถาม กูรู้เพื่อนกูคิดอะไรอยู่”


น้ำพูดด้วยท่าทางสบายๆ แถมยังปรายตามาทางผม จริงอยู่ที่น้ำจะรู้ทันผมเสมอไม่ว่าเรื่องอะไร แต่เรื่องนี้เราแทบยังไม่มีโอกาสได้คุยกันเลย แล้วเขาจะรู้ได้ไง มันไม่น่านะ


“คิดอะไร?” เอ้ถามอย่างตื่นเต้น







“คิดว่า เรื่องของกู มึงจะยุ่งอะไรด้วย”







เอ้กับพงศ์สะอึก ผงะไป


เมกับผมหัวเราะจนท้องแข็ง ส่วนมะนาว ยกนิ้วกดไลค์กับคำพูดน้ำ


ฮ่าๆๆ น้ำ ยังไงมึงก็ยังเป็นคนที่รู้ใจกูที่สุดจริงๆ





ถึงเรื่องความอยากรู้อยากเห็นของเพื่อนจะจบลงแค่นั้น แต่ผมกลัวเพื่อนคิดมาก ระหว่างเดินไปเรียนผมเลยเกี่ยวคอมะนาวมาไว้ติดตัว ให้รู้ว่าพวกเราโอเคจริงๆนะ


แน่นอนว่าผมโดนมะนาวมองแปลกๆ


“อารมณ์ไหนเนี่ย?”


“เดี๋ยวมึงไม่รู้ว่ากูอยู่นี่”


“...” มะนาวย่นคิ้วย่นคอหนี แล้วหันกลับไปหัวเราะหึหึกับทางข้างหน้า






ผลคือโดนแอบถ่ายไปลง IG เอ้ตามระเบียบ


มันจะไม่วุ่นวาย ถ้าไม่แชร์กันไปไกลจนถึงเพจคิ้วบอยอีกรอบ





ผมไม่ได้ตื่นเต้นกับกระแสจิ้นผมกับมะนาวนะ เคยบอกแล้วก่อนนี้ผมกับน้ำก็เคยเป็นคู่จิ้นกันแบบจริงๆจังๆ ถ้าหาดีๆอาจมีฟิคผมกับน้ำเหลืออยู่ในเด็กดีให้ตามอ่านกัน


ถึงแรกๆ ผมค่อนข้างงงและมีช่วงที่ทำตัวแปลกๆกับน้ำอยู่บ้าง แต่ก็ผ่านมาได้เพราะเราคุยกันและเข้าใจกันดี น้ำเป็นคนบอกให้ผมอย่าไปคิดมากมันใช้คำว่า ‘สร้างความสุขให้มวลมหาประชาชน มันน่าจะเป็นบุญนะมึง’ ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับมัน หลังจากนั้นเวลาอยู่ด้วยกันผมกับน้ำก็เลยทำตัวปกติ


แต่ในตอนนี้มันต่างออกไป ก็ผมกับมะนาวไม่ใช่แค่เพื่อนธรรมดาๆ เพื่อนเฉยๆ เพื่อนพื้นๆ มะนาวคือแฟนผมจริงๆ ผมถึงได้โอเคมากๆกับกระแสที่ค่อยๆเกิดขึ้นและรู้สึกยินดีมากๆถ้ามันจะกระจายจนคนรู้ไปทั่ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าผมจะไม่แคร์โลกและสังคมออกตัวประกาศให้โลกรู้ๆกันไป ผมอยากมีชีวิตที่ยังปกติและเป็นคนธรรมดาๆ ดังนั้นการปล่อยให้คนรู้แต่ไม่มีใครรู้ แบบนี้ มันพอเพียงแล้ว


ให้เขารู้เท่าที่เห็น ให้เข้าใจสิ่งที่พวกเราเป็นกันไปเอง เพราะผมว่าผมแสดงออกมากพอที่จะทำให้คนที่สนใจ ‘เรา’ คนไดคนหนึ่ง เข้าใจในความสัมพันธ์ของเรานะ


ก็คุณไม่รู้หรอกว่ามะนาวมีคนจ้องจะจีบอยากเข้ามาตีสนิทด้วยมากแค่ไหน แล้วก็นะ ดีกรีรองเดือนมหาลัยทำให้ผมมีแฟนคลับที่อยากเลื่อนตำแหน่ง ‘ไม่อยากเป็นแล้วแฟนคลับฉันอยากแฟนเขา’ โพล่เข้ามาทักทายเรื่อยๆจนผมคิดได้ว่ามันจะไม่มีทางหมดไป


ผมว่ามันโอเคที่สุดแล้วที่จะปล่อยให้ทุกคนสับสนกันต่อไปว่าตกลงผมกับมะนาวเป็นแค่คู่จิ้นหรือเป็นคนรักกันจริงๆ เพราะยิ่งรูปคู่พวกเราออกสู่โลกมากเท่าไหร่ ผมรู้สึกเหลือบไรที่มาตอมมะนาวยิ่งน้อยลง ผมเองหลังๆก็ไม่ค่อยมีคนเข้ามาวุ่นวาย เห็นชัดๆเลยว่าทุกคนพูดถึงผม เหลียวหลังมองตาม พูดคุยกันในหัวข้อเรื่องของผม แต่ไม่จู่โจมหรือเข้าหาแล้ว เหมือนกำลังงุนงงและเฝ้ามองอย่างสงสัยแทน





ขนาดสี่คนข้างหลัง ยังงงจนไม่กล้าถามตรงๆเลย ฮ่าๆๆ


(มีต่อ)
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 34 ย้ำไปเรื่อยๆ] 5/5/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 05-05-2017 23:41:32
.......................................




เราทั้งหมดเลิกเรียนในคาบเช้า ระหว่างที่กำลังเดินลงจากตึกก็มีคนเรียกไว้


“เฮ้ย พิงค์ มะนาว” เราทั้งกลุ่มหันไปตามเสียงเรียก เป็นพี่เทที่อยู่ในชุดกางเกงยีนส์กับช็อปไม่ติดกระดุม ยืนพิงเสามือล้วงกระเป๋าช็อปรอเหมือนมีเรื่องจะพูดด้วยอยู่ “เย็นนี้มีมีตติ้งสันแน่ะ ไปมะ”


“เห็นในเพจอยู่นะ ก็ว่าจะไปอยู่นะพี่” ตอนเรียนพวกนี้ก็ส่งมือถือให้ดูประกาศจากเพจกิจกรรมกันอยู่ วุ่นวายไม่เป็นอันเรียนกันเลย


“เออ มาๆ กินข้าวฟรี ชวนเพื่อนมาด้วยเยอะๆเลย ใครอยากมาก็มานะ ใครไม่อยากมาก็มานะ”


เดี๋ยวนะ? ไม่อยากมาก็มา นะ เหรอ?


“เขาทำอะไรกันบ้างอ่ะ?” มะนาวถามกลับทันที ผมยังงงประโยคก่อนหน้าของพี่เทอยู่เลย


“บอกแล้วจะมันเหรอ อยากรู้ก็มาดิ”


“ไปค่ะ ไปๆๆๆ” เอ้ชูมือรับ คอนเฟิร์มว่าไปแน่นอน จนเป็นที่พอใจของพี่เท


“มาล่ะ พี่จะรอ ฮ่าๆๆ” พี่เทยิ้มทิ้งท้ายก่อนโบกมือลา เดินเลี้ยวไปอีกตึกที่เป็นตึกเรียนของแก ทิ้งให้เพื่อนผมเพ้อแบบไม่เก็บอาการเลย



“คือดีอ่ะ หนูไปแน่นอนค่า” เอ้ยังคงหน้าเพ้อ โบกมือลาทั้งที่พี่เทเดินลับมุมตึกไปนานแล้ว


“อิเอ๊” พงศ์ตีแขนเพื่อน ใช้เสียงที่เบาและสูงปรี๊ดอย่างมีพิรุธ


“อะไร?”


“มึงรู้ไหมนั่นใคร”


“พี่คนที่ถือโข่งวันที่แนะนำตัวชุมนุมชมรม แล้วก็ติวดรออิ้งให้เราไง ฉันร็อกเค้า ไงแก ฉันรักเค้าาาาา”


“เอ้... นั่นพี่มะนาว” ระหว่างที่พงศ์ยังอึ้งกับคำตอบเอ้ เมก็เป็นคนเตือนสติเอ้ ว่าพี่คนเมื่อกี้คือใคร


“หึ? ยังไง?”


“พี่ที่พูดถึง พี่ที่มึงอยากรู้เรื่องเขาชิบหายเมื่อเช้าเนี่ย”


“พี่? พี่รหัสเหรอ คนนี้เหรอ”


“เออ”


“กรี๊ดดดดด กูฟินมาก จูบกับๆๆ อุ๊ๆๆ มันดีอ้า”


อ้าว ซะงั้น?


“เดี๋ยว มึง มึงเป็นชะนีถูกไหม?”


“ถูก นมกูถึงจะน้อยก็ของจริง กูไม่ใช่เก้ง”


“งั้นมึงควรเสียใจที่ผู้ชายที่มึงเล็งเขาจูบผู้ชายป่ะ?”


“ไม่อ่ะ ถ้าไม่มีชะนีคนไหนได้ไป ถึงเขาจะได้กันกูก็จะถือว่ากูได้ด้วย”


“ตรรกะอะไรของมึงวะ”


“ผู้ชายได้กัน กูไม่ถือ เข้าใจยากตรงไหน” น้ำเป็นคนเดียวที่หัวเราะกับคำตอบของเอ้ ในขณะที่คนอื่นๆมัวแต่ลุ้นว่าเอ้มันจะเชื่อมโยงเรื่องนี้ได้ตอนไหน 


“มันไม่ได้โว้ยยยยย มึงลืมไปแล้วรึไงแม็ตมันมีของมันแล้ว”


“ห่ะ? มี?”


“มะนาวไง เพื่อนมึงมีมะนาวอยู่แล้ว อุ๊บ!”


“อิเชี่ยพงศ์ อิโง่ มึงพูดอะไรเนี่ย มันหันมาทำตาขวางแล้วเห็นมะ พูดตรงนี้ได้ไง มึงนี่จริงๆเลย” กลายเป็นเอ้ที่กระโดดปิดปากพงศ์ซะเอง




ผมกับมะนาวไม่ได้ทำตาขวางซะหน่อย ผมแค่กำลังงงกับการไล่ตามความคิดพวกเขาเท่านั้นเอง




“...” แต่เอาเถอะ ผมได้แค่มองพวกเขาลากกันเดินหนีไปคุยกันไกลๆ


เสียงเถียงกันในคอกับความวุ่นวายผมทิ้งมันไว้ข้างหลัง


ผมมองไปที่มะนาว เขากำลังก้มหน้าเล่นมือถือทั้งที่กำลังเดิน ไม่ระวัง ไม่มองทาง แถมเชือกรองเท้าก็หลุด


ผมจับไหล่มะนาวให้เขาหยุดเดิน ก่อนย่อตัวลงนั่งบนส้นเท้าตัวเอง มะนาวเห็นผมนั่งลงตรงหน้าเขา เขาก็ทำท่าจะถอยหนีทันที ผมเลยจับข้อเท้าเขาไว้


“อยู่นิ่งๆ” ผมดุมะนาว “บอกแล้วให้ผูกเชือกรองเท้าดีๆ แล้วก็เหยียบหลุดเองเห็นมั้ย”


“ทำไรของมึงเนี่ย เพื่อนเข้าใจผิดกันหมดแล้ว”


“เข้าใจผิดอะไร ไหน มึงเข้าใจอะไร?” ผมผูกเชือกรองเท้าไป มองเม เอ้ พงศ์เรียงทีละคน มันก็ยังนิ่งกัน จนผมก้มๆเงยๆผูกเชือกรองเท้าให้มะนาวเสร็จข้างนึง ย้ายไปเช็คอีกข้างด้วยว่าแน่นหนาดีไหม




“เปล่า กูว่ากูเข้าใจถูกแล้ว” พงศ์ตอบเบาๆ มีเอ้พยักหน้าเห็นด้วยอยู่ข้างๆ


“เออ กูก็ว่ากูเข้าใจถูก”


“แม่ง ขี้อวด” เมเหมือนจะพูดลอยๆ แต่สายตามันชัดเจนมากว่ารำคาญพวกผมสุดๆ


“ของมึงก็มี ไม่อวดเอง”


“มีไร ไม่มีเว้ย”






“เสร็จแล้ว” ผมเลิกสนใจเพื่อนแล้วลุกขึ้น ยกมือซ้ายแปะลงกลางหัวมะนาว จับโยกเบาๆ


“อ้ะ!!!”


“อะไร?” ผมตกใจเสียงมะนาว จากที่งงๆเขินๆ อยู่ๆ เขาก็ขมวดคิ้วแล้วส่งเสียงดัง


“นี่มึงเอามือที่เพิ่งผูกเชือกรองเท้ามาจับหัวกูเหรอ เชี่ยนี่”


“อ้าว รองเท้าก็รองเท้ามึง มันจะเป็นไรเล่า” ผมโดนเขาเอาปึกชีทฟาดแขน แถมทำท่าจะไล่เตะผมด้วย มางี้ผมก็วิ่งสิครับ


“ไม่ได้! เดี๋ยวหัวเหม็นเว้ย”


“เออ ไอ้หัวหอม”


“กูไม่กินหัวหอม”


“หอมหัว”


“เล่นคำให้มันได้อะไรเล่า”


“ฮ่าๆๆๆ”







“โลกนี้มีแค่มันสองคน ถูกมะ” เม


“ใช่ซี่ กูมันก็แค่เพื่อนนี่” เอ้


“ฮื้อ ผัวทั้งสองของกู” พงศ์


“มึงสามคนก็รีบหาผัวเข้า” น้ำ


“หาง่ายรึไงเล่า!!!” เสียงประสานพร้อมเพรียง และแตกกระจาย แยกย้ายหนีออกมาจากน้ำ


พงศ์กับเอ้กระโดดเกาะแขนผม เมก็ลากคอมะนาวเดินลุยๆเข้าไปหาโต๊ะว่างๆบนโรงอาหาร พักเที่ยงแบบนี้การหาโต๊ะที่ว่างพอให้คนหกคนนั่ง ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย







.........



“แม็ต ไปด้วยกันป่ะ?” เอ้ถามผมทันที เห็นชัดๆว่ากระตือรือร้นกับกิจกรรมเย็นนี้มาก


“ไปไหน?”


“ก็เย็นนี้ไง”


“อ้อ เอาดิ น่าสนุกนะ”


“ไม่ได้ มึงต้องไปกับกู” เมวางจานข้าวอย่างใส่อารมณ์ แต่ทุกคนก็เก็ททันที เพราะแทบจะทันทีมีพี่ยีนส์เดินเฉียดเข้ามาใกล้ๆ พวกผมที่เหลือยกมือไหว้ทักทาย แต่พี่แกก็ไม่ได้เดินเข้ามาที่โต๊ะ แค่ยิ้มยักคิ้วให้ แล้วเดินผ่านไปเฉยๆ


“ไปไหน?” ผมหันกลับมาถามเม


“ชมรมโฟโต้”


“ทำไม?”


“ไปถ่ายรูปดาวเดือนรณรงค์แต่งกายถูกระเบียบ”


“เปล่า กูรู้แล้วว่ามึงมีถ่ายรูป แต่กูงงว่าทำไมกูต้องไป” ผมพูดจบ เมก็สตั้นไปพักนึง ก่อนจะเรียกสติกลับมาเถียงกับผมต่อ


“มึงแม่ง ร้ายว่ะ แต่เอาน่ากูจะไม่ถือสาเพราะมึงต้องไปกับกู พวกนี้ไปเข้าชมรมกันหมดไม่ใช่มึงใครจะไปเป็นเพื่อนกูอ่ะ”


“พี่โนอากับพี่ยีนส์ไง”


“ยีนส์ทำโปรเจค ไม่ว่าง”


“อ้ออออออออออ” ไม่ใช่เสียงผมหรอกครับ เป็นเสียงน้ำพงศ์มะนาวแล้วก็เอ้ ทุกคนดูจะเข้าใจตรงกันหมดเลย...


ผมทำแค่ยิ้มกับตัวเอง ส่ายหน้าเบาๆ


“ยิ้มอะไรของมึง” เมย่นคิ้วพูดกับผม ก่อนจะหันไปทางมะนาว “ให้มันไปกับกูด้วยเข้าใจป่าว มะนาว”


“ห่ะ?” มะนาวทำความเข้าใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจตอบไปส่งๆเพื่อตัดรำคาญ “เออๆ ไปเถอะๆ”


“หึ” เมยิ้มเยาะอย่างผู้ชนะ


เมมามุขนี้ ผมจะไปลวดลายต่อล้อต่อเถียงอะไรได้อีกล่ะครับ...






...........................................................





เลิกเรียนช่วงบ่ายพวกใจไปอยู่กับการเต้นรีบแยกตัวออกไปตั้งแต่อาจารย์ยังไม่ทันเก็บของออกจากห้องด้วยซ้ำ น้ำอ้างว่ามีซ้อมบาส เหลือแค่ผมที่ถูกทิ้งไว้กับเม เลยโดนเมลากมาถ่ายรูปด้วยจริงๆ


ผมขับรถข้ามคณะมากับเมสองคน ถึงห้องชมรมโฟโต้ ผมหลบเข้ามุมชาร์จแบตเล่นมือถือเลยกะว่ารออย่างเดียวชิลๆ ในขณะที่เมโดนจับแต่งหน้าด้วยพี่ๆสามสี่คน ถึงจะไม่เต็มใจแต่ก็ดูยอมรับในชะตากรรม แค่แป็ปเดียวก็ออกมาสวยปิ้งเหมือนตอนประกวดดาวมหาลัยแล้ว และผมก็ไม่ลืมเก็บภาพเบื้องหลังไว้




“มึง แสงจะหมดอยู่แล้ว เดือนยังไม่มาเลยอ่ะ” อยู่ๆเสียงคุยกันเบาๆ ก็ชัดถ้อยชัดคำอย่างผิดวิสัย


“กูรู้แล้ว แต่กูไม่ตื่นเต้นหรอก” ผมเงี่ยหูฟังนิ่งๆ เริ่มสังหรณ์แปลกๆ


“ไม่ตื่นเต้นได้ไง ถ้าวันนี้ไม่ได้ถ่าย จะไม่ว่างกันแล้วนะ”


“เรามีแม็ตไง!” ทันไดนั้นสายตาทั้งหมดในห้อง ก็หันมาจ้องผมตาเป็นมัน


“ห่ะ!” แขนผมที่พิงท้าวไว้กับโต๊ะร่วงทันที


อะไรนะ?!


“ฮ่าๆๆๆๆ” เมหัวเราะดังมาก ไม่เกรงใจกระโปรงทรงเอที่นั่งหนีบอยู่นั่นเลย “เอาเลยพี่ จัดไป”


“เฮ้ย ผมไม่เห็นรู้เรื่องเลย ผมแค่ แค่มาส่งเม”


“น่า แปปเดียวก็เสร็จ นั่งนี่ นิ่งๆด้วย”


ความวุ่นวายเล็กๆก็เกิดขึ้น เพราะผมถูกลากมาจับเชือดหน้ากระจกแทนที่ที่เมนั่งเมื่อกี้ สักพักพี่ๆที่แต่งหน้าให้ แต่งไปสารภาพกับผมไป ว่าไม่ได้กะจะถ่ายผมจริงๆ แค่ว่างเพราะเดือนมหาลัยไม่มาสักทีเลยอยากเอาผมมาตั้งกลางห้องแล้วละเลียดเล็ม แตะๆ จับๆ ให้ชุ่มชื่นหัวใจเฉยๆ


เล่นเอาผมนี่ใจตกไปอยู่ตาตุ่ม








“พ่อเดือนวิดวะ เพื่อนหนูที่ตัวติดกันอ่ะ น้องมะนาวคนนั้นอ่ะ ไม่มาด้วยกันเหรอ?”


“เขาไปมีตติ้งของสันกับหมดครับ”


“แล้วเสร็จจากนี้ จะต้องกลับไปรับเขากลับพร้อมกันป่ะ?”


“รับสิครับ” ก็ผมขับรถมะนาวมานี่นา พวกนั้นทำกิจกรรมกันใต้ตึกไม่ต้องเดินทาง ผมเลยเอารถมานี่ไง


“อื้มมมม รับว่ะแก อิอิอิ”


“น่าเอ็นดู”


“เวลาอยู่ด้วยกันแล้วโลกสดใสเนอะ”







มีคนเปิดประตูเข้ามา เหมือนมีเสียงระฆังช่วยชีวิต คนที่หล่อกว่าผมเดินเปล่งประกายเข้ามาพร้อมกับคำขอโทษขอโพยที่มาช้า ทุกคนผละจากผมกรูกันไปรุมเดือนมหาลัย ผมได้จังหวะลุกออกมายืนชิดผนัง พยายามลูบแป้งบนหน้าออก


เสียงหัวเราะเหมือนกำลังสมน้ำหน้าจากเมทำให้ผมไม่อยากไว้ชีวิตมันเลย


แค่คิด ยังไม่ทันทำอะไร ไลน์ก็เด้งขึ้นมาเป็นชื่อพี่ยีนส์





อย่าหาว่ากูใจร้ายเลยเม มึงทำตัวเอง อย่าคิดว่ากูไม่รู้ว่ามึงเป็นคนเสนอเรื่องจับกูไปนั่งแต่งหน้าเมื่อกี้ แต่งหน้าไม่เท่าไหร่ แต่โดนรุมลวนลามเนี่ยสิ เมมันยิ่งดูสะใจเป็นพิเศษ


ผมก้มคุยไลน์กับปู่รหัส โดยพยายามไม่ให้เมเห็นว่ากำลังคุยกับใคร





หลังแต่งหน้าเสร็จ เราก็ย้ายไปสตูของคณะนิเทศ จัดเสื้อผ้าหน้าผมอีกนิดหน่อยก็เริ่มถ่ายเลย ผมนั่งอยู่ห่างๆ ตรงที่ที่จะไม่เกะกะใคร


และรอลุ้นว่าพี่ยีนส์จะมาไหม เพราะเอาเข้าจริง เขาแค่ถามว่าพวกผมอยู่ไหน ไม่เห็นอยู่กับพวกสัน ผมบอกไปตามพิกัดจริง แต่พอถามกลับไปว่าจะมาไหม เขากลับตอบกลับมาว่า เดี๋ยวดูก่อน


แล้วเดี๋ยวของเขามันคือแค่ไหนล่ะ?





ไม่นานหลังจากเริ่มถ่าย พี่ยีนส์ก็เปิดประตูเข้ามาจริงๆ ทีมเจ้ช่างแต่งหน้าที่มีทั้งผู้หญิงและเจ้สาวสวยก็กรูกันเข้าไปหาทักทายเหมือนรู้จักกันดิบดี ทั้งจับมือกอดแขนโอบเอวอิงไหล่ แถมยังหัวเราะกันสนุกสนานอีก เรียกว่าเป็นจุดสนใจจนตากล้องต้องพักหันไปมองว่าเกิดอะไรขึ้นเลย


“อยู่นี่จริงๆ ด้วย” พี่ยีนส์พูดขึ้นเมื่อเดินเข้ามาใกล้ๆตากล้อง ดูเหมือนตากล้องก็เป็นคนรู้จักเขานะ ยกกล้องหันไปถ่ายพี่ยีนส์เฉยเลย


“มาทำไมเนี่ย!” เมถามคนมาใหม่ตามสไตล์เม คือพูดห้วนๆและเต็มไปด้วยอารมณ์รำคาญ


“อะไร? มาหาตัวหลานรหัสต่างหาก” พูดถึงผม ทำไมไม่มองหน้าผมล่ะพี่ จ้องแต่เมอยู่แบบนั้น


“หลานยีนส์ เมเหรอ?” พี่สาวช่างแต่งหน้าสักคนถามขึ้น


“เปล่า โน้นต่างหาก”

"ต๊ายยยย นี่สายรหัสหรือสายเผ่าพันธุ์นางฟ้านายสวรรค์ ดีย์!" แล้วยังมีอีกหลายเสียงตามมา กว่าพี่ยีนส์จะปลีกตัวออกมาหาผมได้ก็อีกพักใหญ่




“มีอะไรรึเปล่าครับ มาถึงนี่”


“ปะ ไปด้วยกันหน่อย”


“ไปไหนครับ?”


“สโม”


“อ้าว” อ้าวนี้ เป็นของเมครับ


“เดี๋ยวโนอามันก็มารับเองแหละ โวยวายทำไมเนี่ย”


“จิ้”





พี่ยีนส์เดินมาเกี่ยวคอผม พาเดินออกจากสตู ไม่สนใจเมที่หัวเสียอยู่ข้างหลัง




และดูเหมือน พี่ยีนส์ทำให้สาวๆทั้งสตูใจสลายด้วยการพาตัวเองและผม จากพวกเธอไป








------------------------------------------------------------
TBC.




ใครคุ้นๆว่าเคยอ่านเรื่องนี้บ้าง ยกมือหน่อยยยยย 5555+
นานจนลืม นานจนร้าง แหะๆ ไม่มีอะไรจะแก้ตัว
ขอบคุณคนกลุ่มเล็กๆที่ยังแฮปปี้กับนิยายของฮับอยู่ คุณคือกำลังใจเดียวที่ทำให้ทุกวันนี้ยังเปิดไฟล์ร่างขึ้นมาพยายามต่อ
ไม่ได้ดราม่านะค่าาา แค่อยากบอกขอบคุณจริงๆ
ฮึ้บๆ
ตอนหน้าพี่แม็ตจะซวยเรื่องอะไรอีก โปรดรอติดตามด้วยค่าาาาาา
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 34 ย้ำไปเรื่อยๆ] 5/5/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 05-05-2017 23:54:59
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 34 ย้ำไปเรื่อยๆ] 5/5/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 06-05-2017 00:21:38
เย้มาแล้ววว เราชอบมากเลยยย
เป็นกำลังใจให้นะคะสู้ๆเยยยย :mew1:
แล้วไงต่อเนี่ยค้างงง
เดี๋ยวพี่ยีนโดนหนักแน่
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 34 ย้ำไปเรื่อยๆ] 5/5/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 06-05-2017 02:37:07
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 34 ย้ำไปเรื่อยๆ] 5/5/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 06-05-2017 08:24:42
คิดถึงมากๆเลยนะ   
ชอบพี่ยีนส์กะเมอีกละ น่ารัก

ขอพี่เทด้วยดิ
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 34 ย้ำไปเรื่อยๆ] 5/5/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-05-2017 12:57:12
วุ่นวายดีเยอะ แต่ก็มีความสุขดี
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 34 ย้ำไปเรื่อยๆ] 5/5/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 06-05-2017 17:46:04
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 34 ย้ำไปเรื่อยๆ] 5/5/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 06-05-2017 19:02:43
รอ ร้อ รอ มาตลอด ไรท์หายไปหนาย  คิดถึง :ling1: :ling1: :ling1:

ดีใจ ไรท์มาต่อและ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

แมท มะนาว  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
มีเรื่องน่าสนใจ ให้ลุ้นตลอด
พี่ยีนส์ เม  :กอด1:
พี่ฟ้า พี่เท  :กอด1:
พี่เท เหมือนจะทำเรื่องไรบางเรื่องอยู่นะ
      :L1: :L1: :L1:
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 34 ย้ำไปเรื่อยๆ] 5/5/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: PaiPo ที่ 13-05-2017 23:04:02
รอได้เสมอ ขอให้มาเถ้อะ 5555

ชอบโมเม้นแบบรู้กันๆ แบบนี้ของแมตมะนาวววว
ไม่ต้องมีคำบรรยายไดๆให้ลึกซึ้งงงงง
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 35 แย่เลี้ยว] 4/7/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 04-07-2017 18:40:13
(https://www.img.in.th/images/aebd96d41bf961d6178e2d314634e89e.png)
- บทที่ 35 - แย่เลี้ยว -




ผมตามพี่ยีนส์มาอย่างง่ายๆ ขับรถตามดูคาติกลับมาฝั่งวิดวะด้วยอาการเหม่อๆ ตาเบลอๆ เพราะเห็นบิ๊กไบค์ในฝันแล้วน้ำลายจะไหล


เอาจริงๆนะ ผมว่าผมจำรถทุกคันของพี่ผมได้ แต่คันนี้ไม่เคยเห็นเลย สงสัยรถเพื่อนเอามาเช็คที่ช็อปเครื่องกล เดี๋ยวลงรถต้องโฉบไปเดินรอบรถพี่ยีนส์สักรอบ


จอดรถอย่างไว ผมลงจากรถมะนาวเร็วกว่าพี่ยีนส์เหวี่ยงขาลงจากมอเตอร์ไซค์อีก ผมตรงเข้าชาร์ตที่รถทันที ไม่สนพี่ที่เริ่มออกเดินไปทางสโมสรนักศึกษา จนกลายเป็นพี่ที่ต้องย้อนกลับมายืนหัวเราะดูผมดูรถ


“ไง ชอบอ่ะดิ”


ผมยิ้ม


“รู้อยู่นี่พี่”


“หึ แต่กูให้ลองขับไม่ได้หรอกนะ”


“อ้าว ไมอ่ะพี่?”


ผมถามกลับทันที แต่ไม่ต้องรอพี่ยีนส์ตอบ แค่เดินไปอีกฝั่งผมก็สังเกตเห็นความผิดปกติของมัน บนขอบตัวถัง รอยบุบ และสีถลอกเป็นทางยาวไปทั้งซีก


“เห็นใช่ไหมล่ะ เนี่ยเพิ่งยกเครื่องใหม่ ยังไม่เข้าที่เลย เวลาเลี้ยวมันยังขืนๆ โช๊คก็น่าจะแตก ไม่ก็แกนคด เดี๋ยวต้องถอดดู”


“คนขับเป็นเพื่อนพี่รึเปล่า?”


“เปล่า ไม่รู้จักหรอก แต่รุ่นพี่ที่รู้จักซื้อต่อมาเลยเอามาให้ลองซ่อม เขาบอกว่าเมียคนขับไม่ให้ขับแล้วเขาเลยซื้อมาถูกๆ เหมือนได้ฟรี เราก็มีรถนี่ เวลาขี่ก็ระวังแล้วกัน”


“ครับ” ถึงจะบอกว่าราคาถูกยังไง ผมว่าก็ยังหลายแสนอยู่ดี ไว้ทำงานเก็บตังเองได้ก่อนเถอะ หึ หึหึหึ





ผมเดินตามตายังมองรถสลับกับมองทางจนลับสายตา เข้ามาที่ห้องสโมสรนักศึกษาคณะวิศวะ มีเพื่อนๆปีหนึ่งนอนหลับอยู่มุมห้อง พี่ปีสองปีสามล้อมวงกินข้าวกล่อง กับพวกที่ผมคิดว่าเป็นพี่ปีสี่นั่งหน้าคอมส่วนตัวเรียงกันสี่ห้าคน ไม่แน่ใจว่ากำลังทำงานหรือเล่นเกม


ทันทีที่เข้าห้องสโมเห็นพี่ยีนส์แกเดินไปหย่อนตัวนั่งในมุมประจำ เปิดคอมทำนั่นทำนี่เหมือนลืมผมไปแล้ว ถึงนึกขึ้นมาได้ ว่าผมโดนพี่ยีนส์ตามตัวมา เขายังไม่ได้บอกเลยนี่หว่าว่าให้มาทำไม


“อะไรเหรอครับ ที่จะให้ผมช่วย”


“อ้อ เปล่า ไม่มีอะไรพิเศษหรอก”


“...” อย่าบอกนะว่า...


“แค่อยากแวะไปดูดาวมหาลัยอ่ะ ฮ่าๆๆๆ”





พี่ผมเป็นคนอย่างนี้เองสินะ ความลีลา อ้อมโลก และกวนตีนนี่ที่หนึ่งเลย ไม่แปลกที่จะทำเมหัวเสียทุกทีที่เจอหน้า





“อ้าว แม็ต”


พี่ฟ้าเดินเข้ามาเจอผมยืนงงๆ อยู่กลางห้อง ในมือพี่แกเต็มไปด้วยเอกสารหน้าตาคล้ายๆกันเป็นสิบชุด มีโฟร์ประธานรุ่นรุ่นผมเดินตามเข้ามาติดๆ ดูเหมือนไปทำอะไรด้วยกันแล้วกลับมา


“แม็ตตตต มึงงงง ช่วยกูหน่อย กูจะตายแล้ว” ไอ้แว่นประธานรุ่นปรี่เข้าขอความช่วยเหลือจากแว่นเดือนคณะอย่างผม เห็นผมมันทำตาโตอย่างกับผมคือความหวังสุดท้ายของมันงั้นแหละ


 “หา?”


“พี่ฟ้าใช้กูหัวหกก้นขวิด กูล้มยังเอาตีนเขี่ยๆให้กูลุกมาทำงานต่อ โหดชิบหาย”


แล้วผมจะไปช่วยอะไรมันได้ว่ะเนี่ย?




“อะไรของมึงอันนั้นก็เวอร์ไป เนี่ย! งานมึงทั้งนั้น กูอยู่สอนไม่ได้ให้โง่งมทำเองนี่ก็บุญเท่าไหร่แล้ว” พี่ฟ้ายัดเอกสารทั้งหมดในมือให้โฟร์ถือไว้ มันค่อยๆไหลลง เกือบลงไปกองที่พื้น


ผมกับปีหนึ่งอีกสองสามคนในห้องนั่งลงบนพื้นข้างๆโฟร์ คิดว่าจะช่วยมันจัดตามหมวดหมู่ แต่กลายเป็นสลับกันอ่านเล่นไปทีละใบงาน หมุนกันเป็นวงกลม เอกสารพวกนี้พึ่งผ่านตึกคณะบดีลงมา มีทั้งสรุปงานประชุมเชียร์ กีฬาเฟรสชี่ ค่ายสร้างของชมรม ค่ายติวฟรีต่างๆ ทั้งกิจกรรมของคณะ ภาควิชา หรือชุมนุมชมรม ของฝั่งวิศวะส่งเอกสารผ่านที่นี้ทั้งนั้น


“กีฬาประเพณี พี่น้องสัมพันธ์พันธะเคมี”


“ทำบุญเลี้ยงอาหารพระสาขาวิชาควบคุม”


“บำเพ็ญประโยชน์เก็บขยะปลูกป่าชายเลนปลูกปะการัง ครั้งที่ 8”


“วันแรกพบ”


“อันนั้นเสร็จไปแล้ว แยกไว้กองสรุปงาน” พี่ฟ้าแทรกขึ้นมา


“รู้ได้ไงว่าอันไหนเสร็จแล้ว อันไหนยังไม่เสร็จอ่ะ”


“ก็ดูวันที่สิวะ วันที่จัดงาน ไม่ใช่วันอนุมัตินะ ดูดีๆ”






“กีฬาเกียร์สัมพันธ์นี่มันอะไรเหรอพี่? ปึกโคตรหนาเลย” โฟร์กรีดหน้ากระดาษจนเกิดลมเย็นๆได้วูบใหญ่ มันหนาจริงๆครับฉบับนั้น


“ไม่รู้ กูก็ไม่เคยไป”


“อ้าว...”


“มึงต้องไป รู้ไว้แค่นี้ก็พอ”


“อ่า...”






“เมื่อกี้ใครพูดถึงกีฬาเกียร์”


“ผมครับพี่ป้อง พี่รู้มั้ยมันคืออะไร”


“ก็งานกีฬาที่วิศวะทั่วประเทศไปแข่งกีฬากันไง วิศวะของทุกมหาลัยเลย อะไรชื่อออกชัด แค่นี้เดาไม่ได้”


“ทำไมตอนผมปีหนึ่งไม่เห็นมีเลย” พี่ฟ้าประธานปีสองของเรายังงงเลยงานนี้


“ก็แน่สิ มันมีสองปีครั้ง พี่เคยไปตอนปีหนึ่งแค่ทีเดียว เนี่ยครั้งที่สอง ถ้าเรียนเหมือนคนปกติ 4ปีจบ ก็มีโอกาสไปแค่2ครั้ง เข้าใจป่ะ?”


“แล้วเขาแข่งอะไรกันบ้างอะ”


“เรื่องแบบนี้ก็อ่านเอาในใบโครงงานสิ ใครจะไปจำหมด”


“ฟุตบอล บาสเก็ตบอล วอลเล่ย์บอล แบดมินตัน ปิงปอง เปตอง โกะ หมากรุก ด็อทเอ ด็อทเอ???”


“เออ อ่านไม่ผิดหรอก ฮ่าๆๆๆ เห็นอย่างนี้เราเป็นแช้มเก่านะเว้ย ได้ถ้วยรวมเหรียญเพราะด็อทเอเลยรู้ป่ะ” พี่ป้องชี้ไปที่ถ้วยรางวัลถ้วยที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาถ้วยมากมายที่ตั้งเรียงรายอยู่บนชั้นข้างผนังห้องสโมสรนักศึกษานี้


พวกผมปีหนึ่งนี่อึ้งทั้งวง


“เออ น่าหนุกอ่ะ วิดวะที่อื่นเขาจะเป็นยังไงกันนะ” พี่ฟ้าดูท่าจะสนใจด็อทเอ


“เด็ดๆ ทั้งน้านนนน”


“เออ งานกลางวันแค่ฉากหน้า งานอย่างว่าคืองานหลัก” พี่ๆ ปีสี่เริ่มเงยหน้าจากคอมออกความคิดเห็น


“อย่างว่า?”


“ขนข้าวขนน้ำให้นักกีฬาค้าบบบ คิดลึกล่ะสิพวกมึงเนี่ย หมกมุ่นจริงๆ ฮ่าๆๆๆ”


เสียงหัวเราะอย่างพร้อมเพรียงของพวกพี่ มันโคตรไม่ใช่เลย


“กูชอบสไตล์มชว่ะ อินดี้ดี นั่นว่าพีคแล้วนะ แต่น้ำแดงมข พีคสัส”


“อะไรอ่ะเฮียโป้ง” พี่ฟ้าตาลุกวาว ดูจะตื่นเต้นกับการสร้างมิตรต่างม.


“ไม่บอกเว้ย อยากรู้มึงก็ไปดูเองดิ”


“ผมต้องไปอยู่แล้วป่ะวะ ไอ้โฟร์ด้วย”


“เออ ไปพร้อมกันนั่นแหละพวกมึงอ่ะ เอ้อ มีประกวดดาวเดือนนี่หว่า ตายห่าลืมเอาเข้าที่ประชุม” พี่โป้งนึกได้ก็ลุกขึ้นเดินไปจดลงบนไวท์บอทหน้าห้อง


“เฮ้ยพี่ เมลงเดือน แม็ตก็ลงดาวไง ไม่ต้องคิดเลย” โฟร์ดูจะมั่นใจมาก


“อ่า...” นั่นมุขเหรอ กูลงดาวเนี่ยนะ?


แต่เดี๋ยวๆ เดี๋ยวนะท่านประธาน ไม่ว่าจะให้ลงอะไรถามกูก่อนมั้ยว่าโอเครึเปล่า!


ผมยังไม่ทันพูดอะไร มัวแต่อึ้งเลยโดนทับด้วยเสียงเห็นชอบไปทางไอ้พี่ฟ้า


“ดีๆๆ อันนี้กูเห็นด้วย ดาวของเราเนี่ย เด็ดสุดแล้วเชื่อดิ ปกติผู้หญิงจะไม่สนใจดาวเพราะมันเป็นผู้หญิงด้วยกันเว้ย แต่อันนี้แบบ กูว่ามันต้องกรี๊ดกัน กว่าจะประกวดเสร็จตั้งอาทิตย์นึง มันต้องมีสาวน้อยสาวใหญ่มาติดมันตรึม”


“ส่วนเดือนเนี่ย แม็ตก็โคตรดึงดูดสาววาย เชื่อกู คู่นี้แจ่ม” มีเสียงเห็นด้วยจากทุกทิศทาง ผมรู้สึกเหงื่อซึมเบาๆ


“งั้นต้องให้เพื่อนมันไปด้วยใช่มะ?”


“มะนาวไปได้อยู่ละ ไปกับพวกสันไง” ไอ้พี่ฟ้า หยุด!


“เฉียบ” พี่ยีนส์!


“เป้ะ เอาแผนนี้นะ เดี๋ยวเสนอในที่ประชุม ผู้หญิงทั้งงานต้องหลงดาวเดือนเรา” ฟันธงด้วยพี่โป้งนายกสโมครับ จบ จบกัน


“แต่พี่...” จะมีใครสนใจเสียงเล็กๆของผมบ้าง...


“ไรมึง” มีพี่ยีนส์ครับ หันมาถามผม


“พี่วิทไง ปีที่แล้วไม่มีแข่ง งั้นปีนี้ก็ควรจะเป็นพี่วิทนะครับ ใช่ไหมพี่ป้อง” ผมขอความเห็นใจจากพี่คนกลางผู้ใจดีของผม


“หึหึหึ จะคิดอย่างนั้นก็ได้ ก็ต้องดูอีกที แต่ที่แน่ๆ ถ้าหวยออกที่มึง มึงก็เลือกไม่ได้ กูรึใครก็ช่วยไม่ได้”


ผมนี่ซีดเลย


“แล้ว ครั้งโน้น ใครไปแข่งอ่ะ?” พี่ฟ้าถามขึ้น เล่นเอาเงียบไปพัก ก่อนพี่ๆปีสามปีสี่จะพร้อมใจกันฮาแตกออกมาดังลั่น แทบนอนหงายหัวเราะน้ำตาเล็ดน้ำตาไหล


“ฮ่าๆๆๆๆ” เสียงหัวเราะของพี่ๆปีสามปีสี่ดังลั่นสโม แต่มีอยู่คนที่ไม่ได้ร่วมหัวเราะด้วย


“เฮ้ยๆ ไปทำงานๆ ถามมากจริงพวกมึงนี่” พี่ปกป้องของผมนี่เองครับ


“เชี่ยป้อง มึงงบอกน้องไปด้วยสิ ว่ามึงเองแหละ เดือนวิศวะมอเราที่ไปแข่งอ่ะ”


“ป็อปปูล่าโหวตเลยนะเว้ยตำแหน่งมึงอ่ะ ฮ่าๆๆๆ”


“มึงอย่าพูดถึงมันได้ไหม กูอยากลืมมมม”





เอาล่ะสิครับ พี่ผมยังโดน แล้วผมจะรอดไหม มาติดตามชมในตอนต่อไปกันนะครับ





เสียงบ่นของพี่ป้อง กับเสียงหัวเราะค่อยๆเบาลง ตอนที่ประตูห้องเปิดและมีคนเข้ามาใหม่ เป็นไอ้น้ำครับ มันเห็นผมก็ทักผมทันที


“อ้าว มึงอยู่นี่ด้วยเหรอว่ะ” ผมยักคิ้วให้ น้ำในชุดซ้อมบาสยืนอยู่ตรงประตูกำลังถอดรองเท้าเพื่อเข้ามาข้างใน “ถ่ายรูปเสร็จแล้วเหรอ แล้วเมอ่ะ?”


“พี่โนอากับกูสลับกัน”


“สลับอะไร? กูเพิ่งผ่านมาเห็นเจ้มึงเล่นเกมกับพวกสันอยู่ใต้ตึกโน้น”


“อ้าว?” ผมหันไปทางพี่ยีนส์ มันยังไงเนี่ยพี่


พี่ยีนส์เลิกคิ้วสูง ทำตาโตแล้วลุกขึ้นยืน ทำท่าบิดขี้เกียจเหมือนจะเมื่อยล้ามากมาย ทั้งที่เพิ่งนั่งได้ไม่ถึง 15 นาที


“อื้ม เดี๋ยวกูไปรอรับเอง คงใกล้เสร็จแล้วมั้ง”


“...” แสดงว่าที่บอกว่าพี่โนอาจะไปรับหรืออื่นๆนั่นโม้ล้วนๆ ไม่มีความจริงอยู่เลยว่างั้นเถอะ


“อะไร? กูกลัวเจ้เฟพี่มันตามมาด่าหรอกนะ”



จ่ะ เอาที่สบายใจเลย...


“รถพี่จอดไว้ทางโน้น” เห็นเขาเลี้ยวไปอีกทาง ผมไม่ลืมท้วง แต่ก็เหมือนรู้ว่าจะมีคนทัก พี่แกตอบกลับมาอย่างไวก่อนหายลับตาไป


“กูไปซื้อเค้ก เดี๋ยวมันไม่เดินตาม”


เขาเดินดุ่มๆหายไปลำพัง เหมือนจะผิวปากไปตามทางด้วยแน่ะ






“โคตรหนักอ่ะ ไม่เคยเห็นไอ้ยีนส์เป็นงี้เลย”


“เออ ชอบก็ชอบ ทำไมไม่จีบตรงๆ วะ กลัวพวกล้อรึไง น้องเมแม่งออกจะสวย รู้กันทั้งมหาลัยและ” พวกเพื่อนๆเขาคุยกัน ซึ่งผมก็เห็นด้วยทุกประการ


“เฮ้ย ไอ้ยีนส์มันไม่เคยมีแฟนเว้ย มันเลยป็อด”


“ไม่เคย?”


“จริงอ่ะ เป็นไปได้เหรอ?”


“เออ ก็ตอนปีหนึ่งมันเคยบอกกูตอนนั้นมันอกหักจากคนที่แอบชอบมานานใช่ป่ะ หลังจากนั้นก็ไม่เห็นมันมีใครปีหนึ่งปีสองแม่งก็บ้ากิจกรรมจะตาย ปีสามโนอาก็ปรากฏตัวเว้ย ตัวติดน้องชิบหาย เลยเข้าใจว่ามันเป็นแฟนกันนั่นไง แม่ง น้องก็ไม่บอกดีๆ”


“ก็อย่างที่โป้งมันว่าแหละ มันไม่ใช่ไม่คิดจะจีบเว้ย แต่มันจีบหญิงไม่เป็นต่างหาก นั่นอ่ะ สุดใจมันแล้ว ได้แค่นั้นแหละ”


“อ่า” ปีหนึ่งอย่างพวกผมได้แต่อึ่งไม่กล้าออกความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้และโดยเฉพาะคนนี้ ใครมันจะไปกล้าครับ


“อึ้ง อึ้งอะไรขนาดนั้น ทะมะประธานเชียร์ของกูมันจะมีโมเม้นแบ้วๆ โนเนะ จีบหญิงไม่เป็นไรงี้ไม่ได้เลยรึไงวะ ฮ่าๆๆๆ”


“เออ ไอ้เหี้ยม หน้าเลวๆ เสียงก็ดัง ตาก็ดุ เหมือนจะโคตรชั่ว เป็นลูกพี่มาเฟียแม่งจะป็อดตอนจะจีบสาวมันแปลกรึไง วะฮ่าๆๆๆ อย่างจี้เลยสัส คิดดู”





“อ้าว พี่ยีนส์ ลืมกุญแจรถเหรอพี่” พี่ป้องชะโงกหน้าออกไปทางประตู


!!!




วงแตกครับ ทุกคนเลิกหัวเราะ ก้มหน้าก้มตาทำสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ เหมือนไม่เคยมีบทสนทนาชวนจี้เมื่อครู่


ผ่านไปห้าวิ พี่ยีนส์ก็ยังไม่โพล่เข้ามา ทุกคนถึงรู้ว่าโดนหลอก พากันโล่งอกและโยนเศษกระดาษ  กับขวดเปล่าใส่พี่ป้องจากทุกทิศทุกทาง แต่เหมือนเจ้าตัวจะรู้สึกดีที่อย่างน้อยได้แก้แค้นเรื่องโดนจี้ปมประกวดเดือนเมื่อกี้นะ






“เฮ้ย น้ำ แล้วมึงมาทำไร เมื่อกี้เหมือนมีเรื่องอะไรไม่ใช่เหรอ” พี่โป้งเรียกน้ำเข้าไปหา


น้ำนั่งยองๆ มาร่วมอ่านเอกสารอยู่กับพวกผม เหมือนจะลืมธุระตัวเองไปแล้ว


“อ้อ พี่เสือฝากผมเอานี่มาให้แอดมินเพจสโมอ่ะ โปรโมทเรื่องคัดตัวนักกีฬาอะไรไม่รู้” น้ำยื่นเศษกระดาษให้พี่โป้ง ทำหน้ายุ่งมองกระดาษในมือที่ขาดแหว่งเหมือนฉีกส่งๆ แต่ก็เปิดคอมทันที


“ลายมือห่วยแล้วยังเสือกเขียนมาอีก ทำไมไม่ส่งไลน์มา หรือเฟสมาก็ได้ แม่งใครช่วยกูอ่านดิ กูอ่านไม่ออก ไอ้ฟ้า เอาไปพิมพ์ดิ๊”


“โฟร์ มานิๆๆๆ”


“แม็ต ช่วยกูหน่อยยยยย”


ทำไมมาตกที่ผมมมมม


ผมทันเห็นไอ้น้ำหัวเราะแบบไม่มีเสียง และละลายหายตัวไป







……………………………………….





“โอ้ย เหนื่อย ร่างจะพัง”


มะนาวโทรตามผมไปรับตอนสามทุ่มโน้นเลยครับ หลังจากนั้นก็ไปหาอะไรกินอีก กว่าจะถึงห้องก็สี่ทุ่มกว่า ดูมะนาวจะล้าจนแทบจะเดินเป็นซอมบี้ทิ้งตัวลงเตียง


“ทำอะไรมาบ้าง”


“เต้น หัวเราะ เต้น หัวเราะ แล้วก็เต้นๆๆๆ”


“หนุกเลยดิ”


“โคตรมันอ่ะ แต่แบบ มีแต่คนถามถึงมึง สบตาใครนะ เขาก็ถามแล้วแม็ตอ่ะ เมทล่ะ เพื่อนตัวสูงๆไปไหน จนพี่มี่ทนไม่ได้เว้ย ดูป้ายชื่อกู”


“หื๋อ ‘มะนาว เมียมีเมียพี่ต้องมา’ อะไร พี่มี่เขียนเหรอ”


“อื้ม กลายเป็นว่า ทุกคนมโนว่าเขาไปงานนี้ใช่ป่ะ เขาเป็นเมียกู กูเลยมีเมียตั้ง 40 กว่าคน แล้วยังย้ำอีกว่าครั้งหน้า ใครมาก็เป็นเมียกูต่องี้”


มะนาวเล่าโมเม้นตลกๆของเพื่อนๆพี่ๆ ให้ฟังแบบไม่หยุดพักทำผมหัวเราะจนท้องแข็ง เขาดูมีความสุขและสนุกมาก พูดไปเรื่อย จนมันเริ่มเหนื่อย แล้วหยุดเอง


“ขนาดจะกลับ ที่คนอื่นไม่กลับกัน เพราะเขารอดูว่าเป็นมึงมารับกูจริงไหน คิดดู มีแต่คนพูดถึงมึง”





“ฮ่าๆๆ” ผมหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะบอกเขา “เหมือนกัน”


ผมยกมือขวาไปจับมือซ้ายมะนาวไว้


“เลยคิดถึงเลย”





“ใช่ คิดถึงมาก”





มะนาวนอนยิ้ม เราสองคนนอนมองเพดารห้องกันเงียบๆ



ไม่มีใครพูดอะไรอีก สัมผัสที่มืออุ่นบอกทุกๆอย่างกับเราจนไม่รู้จะถามอะไรเพิ่มอีก และรู้แล้วว่าไม่จำเป็นต้องรู้อะไรเพิ่ม



นี่เรามาถึงจุดที่คิดถึงกันตลอดเวลาเลยเหรอเนี่ย หึ


“ยิ้มอะไร?” มะนาวมองผมแปลกๆ แล้วก็ถามผม


“มีความสุขก็ยิ้ม”


“มึงอ่ะ ชอบยิ้มเรื่อยเปื่อย อยู่กับกูก็ยิ้ม อยู่กับคนอื่นก็ยิ้ม ใจดีกับคนไปทั่ว”


“อ้าว” พูดเหมือนผมผิด?


“อย่ายิ้มให้มันเยอะนัก เก็บปากไว้จูบกูก็พอ โอเคไหม?”


“โห ใจคอจะให้จูบมึงทั้งวันทั้งคืน?” ผมทำตาโต


มันก็จะดีนะ


“จิตใจมึงนี่หมกมุ่นขนาดนั้นเลยเหรอ?” มะนาวย้อนถามผม


“อ้าว ก็พูดเอง” ผมจ้องมะนาว ก็เขาพูดเองจะให้ผมคิดยังไง


“มองอะไรเล่า อย่าบอกนะ กลางค่ำกลางคืนก็ตื่นมานอนยิ้มมองกูอ่ะ?”


“ยิ้ม?” เอ๋?


“อะไร คิดอะไรอยู่อีกเนี่ย?”


“ยิ้มที่แปลว่า ยะ! อุ้บ!”


ผมโดนมือมะนาวอุดปาก เล่นลุกมากดไว้ทั้งตัวแบบนี้เลยเหรอ


“จะพูดอะไร? ห้ามมึงพูดคำนั้นนะ”


“อื้มอื้อๆๆๆ” เขายังปิดปากผมไว้ “อื้ออึกอื้อๆๆๆ” ผมพยายามพูด แต่เสียงที่ออกไปมันฟังไม่ได้ความเลย


“ว่าอะไรนะ” เขายอมปล่อยมือ


“ยิ้ม ยิ้มที่แปลว่ายิ้ม”


“แน่ใจนะว่าเมื่อกี้จะพูดคำนี้”


“เออ คิดว่ากูจะพูดอะไรล่ะ?”


“ปะ เปล่า ไม่ได้คิดว่าอะไรเลย”


“จริงเหรอ?”


“อื๊ม”


“แน่ใจว่าไม่ได้คิดอะไรทะลึ่งๆ?”


“...” มะนาวเริ่มกัดขอบปากล่าง แววตาเริ่มขึงขัง


ผมว่า... ผมไม่ลองดี ดีกว่าเนอะ


เปลี่ยนเรื่องดีกว่า “นี่ๆ เสาร์นี้ กลับบ้านไหม?”


แน้ รู้อีกว่าจงใจเปลี่ยนเรื่อง ดูแววตาเขาสิ แต่เหมือนเขาก็ไม่เอาเรื่องผมต่อนะ


“ก็ว่าจะกลับนะไม่ได้กลับมาเกือบเดือนแล้ว ทั้งที่อยู่แค่นี้ นี่พี่กูเริ่มบ่นแล้วว่าจะมีรถทำไมถ้าไม่กลับบ้านเลย”


มะนาวเป็นลูกคนเล็ก จะว่าไปเรียกว่าลูกหลงก็คงได้ เขาอายุห่างจากพี่คนโตตั้ง 12 ปี ทุกคนในบ้านถึงได้เหมือนเป็นผู้ปกครองไปหมด


ไม่ต้องสงสัยเลยครับ ว่านิสัยเอาแต่ใจที่บทจะเอาอะไรขึ้นมาก็ไม่มีอะไรขัดได้ของเขามันมาจากไหน


“มีอะไรเหรอ?”


“เช้าไปดูหนังกัน บ่ายๆ ค่อยกลับบ้าน ดีไหม?” การไปไหนมาไหนกันสองคนของเรา มันเหมือนจะไม่ใช่เรื่องแปลก แต่มาย้อนนึกดู ก็สักพักแล้วนะที่ไม่ได้ไปเดทกัน


“ดี” มะนาวเห็นด้วยสุดๆ เขาเปิดมือถือเช็คหนังในโรงทันที ดูอารมณ์ดีจนผมยิ้มตาม


ถึงแม้ทุกๆวัน จะเป็นวันของเราก็เถอะ การเปลี่ยนบรรยากาศถือเป็นเรื่องที่ดีนะครับ






...................................






เอาเข้าจริง กว่าเราจะมาถึงห้าง ก็เกือบเที่ยงแล้วครับ


แน่นอนวันหยุดทั้งทีเราก็ต้องตื่นสายๆ เล่นกันสักพัก กระต้วมกระเตี้ยมลงมาหาข้าวกินแถวๆหอก่อนกลับไปอาบน้ำแล้วถึงจะออกเดินทางหาโรงหนังที่หมายปองไว้ แม้จะเช็ครอบเช็คเรื่องที่จะดูมาจากบนรถแล้ว แต่ก็มายืนเลือกหน้าตู้ขายตั๋วอีกรอบ เผื่อมีเรื่องอื่นน่าสนใจกว่าตอนดูในมือถือไง


“ดูรอบนี้เลยไหม เนี่ย ซื้อเสร็จเข้าโรงได้เลย”


ผมชี้ที่รอบเวลาที่แสดงบนตู้ซื้อตั๋วอัตโนมัติ


“ไม่ได้!”


ผมย่นคิ้วกับความตัดฉับแบบไม่มีเยื่อใยของมะนาว มันแปลกๆนะผมว่า เรากินข้าวมาแล้ว มาถึงห้างก็มีธุระเดียวคือดูหนัง แล้ว ทำไมจะไม่ได้?


“ไมอ่ะ มีอะไรรึเปล่า”


“มีธุระ” มะนาวทำหน้าเข้มจ้องหน้าจอจริงจัง สลับกับดูเวลาในมือถืออย่างใช้ความคิด


“ธุระ?” ผมย้อนถาม


“ใช่ธุระ”


“ธุระอะไร?”


“ธุระหนัก”


“หื๋อ?” ผมกำลังงง จะถามต่อ แต่เขาก็โพล่งตอบกลับมาทันที


“ซื้อตั๋วรอบถัดไปนี่นะ กูไปห้องน้ำก่อน” ผมยังไม่ทันถามอะไร มะนาวจิ้มๆหน้าจอรอบที่เขาเล็งไว้ แล้ววิ่งหายไปทางห้องน้ำที่ใกล้ที่สุด


แม้แต่พนักงานยังหัวเราะมันไปกับผมด้วยเลย


ศัตรูบุกก็ไม่บอก


ผมซื้อตั๋วสองที่งงๆ เลือกที่นั่งแถวบนสุดอย่างเคย เพราะผมตัวสูงถ้ามีคนซวยได้ที่นั่งหลังผม ผมโคตรสงสารเขาเลย









หลังจากเก็บตั๋วเข้ากระเป๋าผมก็เดินชิลๆ ไปฉี่ในห้องน้ำ มองบานประตูห้องน้ำ เป็นห้องที่ปิดอยู่สองห้อง ห้องไดห้องหนึ่งต้องเป็นมะนาวแน่ ผมล้างมือเสร็จก็หยิบมือถือขึ้นมาพิมพ์บอก


“ซื้อตั๋วเสร็จแล้ว รอหน้าห้องน้ำนะ”


“เออ อย่ากดดันดิ”


“เปล่าซะหน่อย ฮ่าๆๆๆ”



ผมออกมายืนรอ ในทางโล่งๆ ระหว่างประตูออกไปลานจอดรถกับตัวห้าง มีคนเดินเข้าออกไม่หนาแน่นเท่าไหร่ เพราะยังค่อนข้างเช้าสำหรับคนเมือง


“คุณครับ?”


“ผมเหรอ?” ผมเงยหน้าจากมือถือ ชักอีกมือที่ล้วงกระเป๋าออกมาชี้หน้าตัวเอง


“ครับ คุณนั่นแหละ”


“มี อะไรเหรอครับ?”


“ว่างรึเปล่า” ผมมองซ้ายมองขวา ขายคอสความงามรึเปล่า? หรือฟิสเนต แต่ดูจากบุคลิกท่าทางของเขาแล้ว ไม่น่าใช่ทั้งสองอย่าง ก็เขาแต่งตัวโคตรชิล เสื้อกล้ามกับกางเกงยีนส์ขาดๆ แต่ที่เด่นสะดุดตาที่สุดคือผิวกายครึ่งหนึ่งของที่มองเห็นมันเต็มไปด้วยลายสักสีสันสดๆ ดูคูลๆและคาแรคเตอร์แปลกๆที่ผมอธิบายไม่ถูก


“เอ่อ...” ผมมองไปที่ทางเดินไปห้องน้ำ กำลังจะบอกว่ารอมะนาวอยู่ แต่เขาก็ชิงพูดขึ้นมาซะก่อน


“รอเพื่อน? มากับเพื่อนเหรอ?” ง่ายที่สุดคือตอบใช่ นี่เขากำลังอยากให้ผมตอบอย่างนั้นเหรอ?


“เปล่าครับ ผมกำลังรอแฟนเข้าห้องน้ำ”


“แฟน? ทำไมตัดเยื่อตัดใยกับตั้งแต่ต้นแบบนี้ล่ะ ใจร้ายนะครับ”


“แหะๆ”


“ถึงจะมากับแฟนก็เถอะ แล้วถ้าผมขอไลน์คุณ คุณจะให้ผมไหม?” สายตามุ่งมั่น และเต็มไปด้วยความมั่นใจนั่น มันช่างตรงสมกับลุคของเขาจริงๆ



ผมยิ้มนิดๆ “ไม่ดีมั้งครับ”


“ว้า เสียดายจัง”


“ฮ่าๆ” ผมหัวเราะแห้งๆ หัวกำลังคิดว่าจะทำยังไงให้เขาจากไปด้วยดี


ถึงคนคนนี้จะมีหน้าตาแบบที่ผมชอบ แต่ก็ไม่ใช่ว่าผมจะชอบทุกคนที่หน้าเหมือนมะนาวซะหน่อย


เอ้ะ ทำไมความคิดนั้นมันผุดขึ้นมา


ตรงไหนของเขาที่เหมือนมะนาว? ลองดูดีๆ แล้ว ก็ไม่เห็นจะเหมือนเลย


“ชิ๊ เสียดาย อย่างน้องเนี่ย สเปคพี่เลยแท้ๆ ไปล่ะ แล้วเจอกัน”


เขาหันหลัง เดินจากไปตั้งแต่ยังพูดไม่จบ มือขวายกขึ้นโบกลาเท่ห์ๆ ในมือเขามีทั้งแหวนกำไล แขนอีกข้างสะพายเป้แฟบๆอยู่ใบนึง


คนแปลกหน้าที่หน้าคุ้นๆ ทิ้งผมไว้กับความงุนงง


ผมชินแล้วก็จริง เรื่องมีคนมาจีบ แต่ที่เข้ามาพร้อมความมั่นใจ และจากไปพร้อมความมั่นใจขนาดนี้ ผมก็เพิ่งเคยเจอ




เอาจริงๆ ถ้าไม่นับเรื่องเขารุกหนักมากเขานี่โคตรเท่เลยนะ ทั้งสไตล์การแต่งตัว ยีนส์ขาดๆ เสื้อกล้ามโปร่งๆ อวดรอยสักสีสดที่พาดลงมาตั้งแต่คอลามไปที่แขนรวมทั้งซี่โครงฝั่งซ้ายทั้งแถบ กับทรงผมไถสั้นซ้ายขวา แต่บางส่วนไว้ยาวเอาไว้สะบัดไปมาให้เกะกะเล่น เจาะหูไม่ต่ำกว่าข้างละสาม เครื่องประดับแต่ละชิ้นดูไม่เยอะแต่ก็ไม่ธรรมดา


เป็นคนที่เต็มอะไรปานนั้น
 

ผมเอียงตัวพิงผนังเหมือนเดิม ยังมีความข้องใจบางอย่างอยู่ แต่ก็โยนทิ้งไปทันทีที่ได้ยินเสียงมะนาวไลน์กลับมา ผมอมยิ้มทันทีที่เปิดดู มันเป็นแค่สติ๊กเกอร์โคนี่ยืนตด ส่งมากวนๆเท่านั้น ไม่ได้มีข้อความอะไรเลย ผมเลยเลื่อนหาสติ๊กเกอร์ประหลาดๆส่งไปบ้าง แปปเดียวก็กลายเป็นสงครามสติ๊กเกอร์ไลน์ขึ้นมายาวเหยียดชนิดว่าถ้าต้องเลื่อนหาข้อความข้างบนคงใช้เวลาสักพักใหญ่ๆ





“สนุกมากมะ”


มะนาวออกมาเจอผมยืนหัวเราะแบบไม่มีเสียงกับมือถือ คงอดไม่ได้ที่จะท้วง


ทั้งที่สาเหตุที่ผมหัวเราะก็มาจากเขาล้วนๆ


“อ้าว นี่กดชักโครกไป ส่งสติ๊กเกอร์ไปได้ด้วยเหรอว่ะ”


“ไม่ใช่เรื่องแปลกสักหน่อย แล้วหัวเราะอะไรนักหนาเนี่ย”


“กูนึกภาพมึงหน้านิ่วคิ้วขมวดเลือกสติ๊กเกอร์ไป นั่งส้วมไป แล้วมันตลกดี”


“อยากโดนเตะใช่ไหม แม่ง กวนตีนนะมึงเนี่ย” แน่นอนมะนาวโมโหผมสุดๆ เขาก้าวเข้ามาถี่ๆเหมือนตั้งท่าจะเตะจริง ยิ่งพอเห็นว่าผมขยับหนี เขายิ่งเร่งฝีเท้า แล้วผมจะทำไงได้นอกจากวิ่งหนี


แต่ด้วยสกิลเพราะเอก ผมคว้ามะนาวมาเกี่ยวคอได้โดยไม่มีการเจ็บตัวแต่อย่างไดครับ แม้เขาจะยังทำตาสองขีดอยู่ก็ถามที


=________=





“ไปไหนดี อยากดูอะไรไหม”


“ไปดูรองเท้ามะ เห็นพวกแชร์กันว่าช่วงนี้กำลังลดนี่ ไปดูกัน” เรากำลังจะเลี้ยวไปหาบันไดเลื่อน แต่สิ่งที่พวกเราเลี้ยวไปเจอ เป็นคนที่เหมือนกำลังเดินตรงมาทางพวกเราพอดี






“มะนาว”





“อ่ะ! พี่”



“อะไร ตกใจอย่างกับเห็นผี”


“พี่ยม คือ เอ่อ หวัดดีครับ” ผมเห็นมะนาวยกมือจรดจมูก ผมกำลังยกมือขึ้นตั้งใจจะไหว้ตามอย่างอัตโนมัติ แต่...


แต่!!


พี่มันแน่ๆ พี่แท้ๆ แบบคลานตามกันมาชัวร์ๆ หน้าใช่ รูปร่างใช่ ทรงไหล่ ทรงแขน พอมายืนด้วยกันแบบนี้รู้สึกเยว่าถอดแบบกันมาเป๊ะ แม้แต่ความลึกของไหปลาร้ายังใช่เลย ต่างกันตรงพี่มันขาวกว่า และเนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยสักเท่ห์ สีสดดูเข้ากับลุค ที่ผมเห็น เพราะพี่มันใส่แค่กางเกงยีนส์ขาดๆ กับเสื้อกล้ามสีดำตัดกับสีผิว ช่องแขนคว้านลึกลงไปถึงสีข้าง คอเสื้อเองก็คว้านลึกลงมาถึงกลางอก


ฟังดูคุ้นๆไหมครับ ใช่ครับ เขาคือคนเมื่อกี้!!





อื้อหือ... ผมว่าผมเผลอกลืนน้ำลาย


ไม่ใช่ความความขาวกระแทกตา แต่เป็นหัวข้อเรื่องที่ผมคุยกับเขาก่อนหน้านี้ต่างหาก









ไม่นะ ไม่นะ ไม่น้าาา










------------------------------------------
TBC.



สวัสดี ความชิบหายอีกเรื่องของแม็ต 5555
ฮับรู้สึกสะใจไงชอบกล ทั้งที่พ่อแกก็เป็นคนดีนะ แต่ความซวยพี่แกไม่มีที่สิ้นสุดซะที คนดีผีไม่คุ้มเลย โถ่ๆ

หวังว่าจะยังไม่เบื่อความวุ่นวายสไตล์คู่นี้ การเขียนที่ทิ้งระยะห่างไปนานๆแบบนี้ก็กังวลอยู่ว่ามันจะไม่สม่ำเสมอ ตกหล่นผิดพลาดประการไดขออภัยและติติงได้นะคะ น้อมรับทุกช่องทางที่ท่านสะดวกเช่นเดิม ^^


อ้อ ฟ้าเทอัพแล้วเน้อ เมื่อสามสี่วันก่อน เผื่อใครไม่เห็น ตามข่าวอัพนิยายได้ที่เพจ Brosohub ลิ้งอยู่ตรงท้ายทุกโพสนะคะ


สุดท้าย ขอขอบคุณทุกท่านที่รอมานานแสนนาน และคนใหม่หลงเข้ามา 555 รักคนอ่านนนนน


หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 35 แย่เลี้ยว] 4/7/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 04-07-2017 19:43:11
5555555 ตลกแม็ต
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 35 แย่เลี้ยว] 4/7/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 04-07-2017 19:53:48
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 35 แย่เลี้ยว] 4/7/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 04-07-2017 20:15:48
กีฬาเกียร์ แม็ตเสร็จแน่ มีประกวดดาว เดือน
แล้วเม ประกวดเดือน แม็ต ประกวดดาว  :z3: :z3: :z3:
เข้าใจคิดสุดๆ  :ling1: :ling1: :ling1:

พี่ยม มะยมแน่เลย เป็นพี่ของมะนาว อะจ๊ากกกกก o22
พี่ยม มารุก ขอไลน์แม็ต  :z3: :z3: :z3:
สถานการณ์ที่แม็ตเจอพี่ยมพร้อมมะนาว มันกระอักกระอ่วนน้อ

โลกกลมจริงๆ
ก็ถ้ามะนาวไม่ปวดท้องเข้าห้องน้ำ ก็ดูหนังไปแล้ว
แม็ต ไม่ต้องเจอพี่ยม  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

พี่ยีนส์ กากเรื่องจีบหญิง
ทั้งที่หล่อโคตรๆ ออร่ากระจาย แบดๆแท้
แล้วจะจีบเม ได้เรื่องมั้ยเนี่ย ซื้อแต่เค้กตลอด
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 35 แย่เลี้ยว] 4/7/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 04-07-2017 20:40:14
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 35 แย่เลี้ยว] 4/7/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-07-2017 21:21:30
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 35 แย่เลี้ยว] 4/7/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: PaiPo ที่ 05-07-2017 08:26:24
โอ้โห ความซวยมาเป็นคอมโบเซตเลยนะ 55555 :katai2-1: :katai2-1:

ชอบความเป็นคนดี ยืนมองนั่นมองนี่อยู่เฉยๆดีๆ ก็มีความซวยวิ่งมาหา โคตรดึงดูด 5555
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 35 แย่เลี้ยว] 4/7/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 05-07-2017 17:10:07
พี่ยีนส์เนี่ยนะไม่มีแฟนมาก่อน ??
OMG~~
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 35 แย่เลี้ยว] 4/7/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 06-07-2017 00:07:39
คิดถึงงงงงงง
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 36 เอ๋?] 30/7/60 P.14 (40%)
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 30-07-2017 03:23:12
(https://www.img.in.th/images/aebd96d41bf961d6178e2d314634e89e.png)
- บทที่ 36 - เอ๋? -









“รู้สึกเหมือน... ไม่เจอนานจนกูจะลืมหน้ามึงแล้วนะ” มะนาวโดนขยี้หัวแล้วจับโยกไปมาอย่างเอ็นดู



คือ...



ความรู้สึกของผมตอนนี้คืออยากถอยหลังไปสักสามก้าวแล้วหันไปถามคนที่เดินผ่านไปผ่านมาแถวนี้ว่าผมตื่นอยู่จริงรึเปล่า


“ปกติออก ตอนพี่เรียนก็ไม่กลับบ้านเป็นเทอมๆ”


“จำได้ด้วยเหรอ ตอนนั้นมึงเพิ่งจะแปดเก้าขวบ”


“จำได้ดิ เออพี่ นี่แม็ต ข้างรหัสนาว”


“สวัสดี ครับ” ผมพูดเสียงอ่อย


ระหว่างที่มะนาวแนะนำผม สายตาของพี่แกก็หันมาสบตากับผม


“อ้อ รูมเมทมึงอ่ะนะ ตัวจริงดูสูงกว่าในรูปอีกนะเนี่ย” แล้วพี่เขาก็ ยิ้ม


ยิ้มมุมปากของพี่มันแทบฆ่าผม แววตาจ้องตรงมาเหมือนกำลังสแกนไปถึงตับไตไส้พุง ทำผมแทบหยุดหายใจ ทำไมไม่พูดไม่ถามอะไรเลย เงียบๆแล้วยิ้มแบบนี้ มันยิ่งตื่นเต้นและโคตรน่ากลัวเลยครับคุณพี่ครับ


“รูปไหน?”


“รูปในมือถือมึงไง”


“พี่แอบดูมือถือผมเหรอ?!”


“เปล๊า มึงแทบไม่กลับบ้านจะไปดูตอนไหนได้ แต่ กูดูผ่านไอคราวที่บ้าน”


“เฮ้ย!”


“ฮ่าๆๆ ล้อเล่น ดูในเพจคิ้วบอยต่างหาก ลงรูปพวกมึงบ่อยจนกูต้องตามไปฟอลโล่เลย”


“พี่แม่ง”


“เออ แล้วนี่กินไรกันยัง ไปหาอะไรกินกันมั้ย พี่เลี้ยง”


“คงต้องเอาไว้คราวหน้านะพี่ ซื้อตั๋วหนังไว้ มัวแต่คุยได้เวลาแล้วเนี่ย ผมไปนะ เจอกันที่บ้านๆ” มะนาวดูเวลาจากนาฬิกาข้อมือผม แล้วทำเป็นดึงผมให้เดินไปทางโรงหนัง


“เอ่อ... หวัดดีนะครับพี่ พี่ยม” ผมพยายามทักทายให้เป็นปกติที่สุด เผื่อเขาจะคิดว่าผมไม่รู้เรื่องอะไรและจำเขาไม่ได้...









...ไม่เหรอ ไม่มีทางเหรอที่เขาจะจำผมไม่ได้


ก็ได้ ผมยอมรับก็ได้ว่าเขาจำผมได้แน่นอน T T










ผมโดนดันให้เดินไปต่อไป มะนาวจับไหล่ผมไว้เป็นเชิงบอกว่าให้เดินไปอย่าหยุด อย่าหันกลับ เดินอย่างเดียวพอ






“ทำไมไปบอกพี่แบบนั้น กว่าหนังจะเข้าอีกตั้งชั่วโมง”


“มึงนี่”


“โกหกไม่ดีนะ”


“ยังไม่รู้ตัวอีกนะ ให้มึงอยู่กับพี่กูก็ไม่ดีเหมือนกัน”


“อ้าว”


“ไม่ไว้ใจแม่ง” เขาเริ่มออกเดินข้างผม พร้อมกับพูดประโยคนี้ มันเลยเหมือนมะนาวจะพูดกับตัวเองมากกว่าว่าผม แต่เพื่อความแน่ใจ


“ไม่ไว้ใจกู?”


“จะบ้าเหรอ พี่กูโน้น”


“ห้า ห้า ห้า” ผมหัวเราะแกนๆ


ผมรู้อยู่แล้วว่ายังไงๆ ก็จะต้องบอกมะนาว แต่จะบอกยังไงล่ะ? ควรพูดยังไง? “จะว่ายังไงดีล่ะ” มะนาวหันมาสบตาผม มีคำถามส่งผ่านมาในแววตา บอก ผมจะต้องบอกเขา “จะบอกว่า... ไม่ทันแล้ว”


“อะไร? ยังไง?” เขาหยุดเดินอีกรอบ เล่นเอาผมเบรกตามแทบไม่ทัน


“คือ ตอนรอมึง พี่มึงเข้ามาทักกูแล้ว”


“ให้ไลน์ไปรึเปล่าหรือเฟส หรือเบอร์”


“เปล่า เปล่า ไม่ได้ให้”


“เป็นไปได้ไง?”


“ไม่ได้ให้จริงๆ”


“อันนั้นกูเชื่อ แต่กูงงตรงที่มึงใช้วิธีไหนปฏิเสธไปได้วะ พี่กูตื้อจะตาย”


“เพราะ กูอ้างไปว่า คือ... กูรอแฟนอยู่”


“...” มะนาวหันมามองหน้าผม ก่อนเบือนหน้าไปยิ้มกับร้านรวงข้างทาง


นี่ ไม่ใช่เวลามาเขินนะ


“พี่มึงมาทักอีกรอบเมื่อกี้ เห็นกูอยู่กับมึงคงรู้ไปแล้ว คือ มึงจะแย่รึเปล่าที่เขารู้” ที่ผมห่วง ไม่ใช่แค่จะบอกมะนาวยังไง แต่ผมห่วงว่าพี่มันจะคิดยังไงด้วย ถ้าเขาไม่ยินดี ถ้าเขาไม่โอเคมะนาวจะอยู่ยังไงวางตัวยังไง เรื่องครอบครัวมันละเอียดอ่อนเกินกว่าจะพูดหรือทำอะไรตามใจ


“ไม่เป็นไรหรอก พี่กูไม่ว่า”


“ทำไมล่ะ? ทั้งที่กูเป็นผู้ชายเนี่ยนะ ไม่มีทางที่คนเป็นพี่จะเฉยๆ ได้แน่” ผมยังพูดไม่จน แต่มะนาวก็ไม่ปล่อยให้ผมพูดต่อ


“มึงคิดว่าที่พี่กูมาขอไลน์มึงเพราะคิดจะแกล้งมึงและกู แค่นั้นจริงๆ รึไง?”


“อ้าว แล้วไม่ใช่เหรอ?”


“ไม่ใช่ กูรู้จักพี่กูดี เขาเอาจริง เขาขอจริงๆ อย่างมึงอ่ะสเปคเขา อย่าเข้าใกล้พี่กูอีก พี่กูแดกมึงขึ้นมา อย่าหาว่าไม่เตือนนะ”





อ่ะ! อ้อ






“หึงเหรอ?”


“แล้วได้ไหมล่ะ” มะนาวถามกลับทำหน้าจริงจัง มันทำให้ผมควบคุมแก้มไม่ได้เลยผมยิ้มจนรู้สึกมองอะไรไม่ชัด “ยิ้มอะไรของมึงตาเป็นขีดแล้ว” เลยโดนพึมพำบ่นเบาๆ กับมีหลังมือตีกระตุ้นให้เดินต่อ


“แน่นอน” ผมวาดแขนเกี่ยวคอเขามาเดินคู่กัน


“อย่าเกี่ยวแน่นได้ไหมเนี่ย” เขาพยายามแกะมือผมออก แต่ผมรู้เขาแค่ทำแก้เขิน


“ทำไมต้องหน้าแดง”


“พูดมาก เงียบไปเลย”


“ยิ้มมมมม”


“หุบยิ้มไปด้วย” ผมเลยต้องทำลอยหน้าลอยตาอมยิ้มให้เด็กในรถเข็น ยิ้มให้พื้น ยิ้มให้เพดานแทน


เราเดินรอบห้างแบบไร้จุดหมายต่อไปเรื่อยๆ ประเด็นอย่างนึงคือหนีให้ไกลพี่มัน จนในที่สุดก็เหนื่อย เปลี่ยนเป็นนั่งกับที่ รอเวลาหนังฉายแทน










“พี่จะไม่ว่าอะไรจริงๆ ใช่ป่ะ”


“ไม่หรอก บ้านกูไม่ซีเรียสเรื่องนี้อยู่แล้ว ยิ่งอิพี่ยมเนี่ยคบผู้ชายมาตั้งแต่มัธยม จะมีสิทธิสั่งห้ามกูคบกับมึงได้ไง”


“ตั้งแต่ ม.ปลายงี้เหรอ?”


“ใช่ นั่นก็สิบกว่าปีมาแล้ว เปลี่ยนคนควงมาเรื่อยๆ เดี๋ยวผู้หญิงบ้างเดี๋ยวผู้ชายบ้าง อันนี้คือเท่าที่กูรู้นะ แล้วที่ไม่รู้อีกเท่าไหร่ คิดดู”


“ยังไงก็แล้วแต่ ถ้าเกิดอะไรขึ้น บอกกูนะ ไม่ว่าเรื่องเล็กน้อยแค่ไหน กูเป็นห่วงมึง เข้าใจใช่ไหม” ผมพยายามบอกเขาทั้งคำพูด แววตา และน้ำเสียง ให้เขารู้ว่าผมจะอยู่ใกล้ๆเขาเสมอ ไม่ว่าเขาจะต้องเจออะไร


มะนาวมองมาที่ผม เขานิ่งไปไม่พูดอะไร สายตามะนาวกำลังมองสองตาของผมสลับกันไปมา





“แม็ต”


“หื๋ม?” ผมยิ้มมุมปาก รอฟังเขา


“วันนี้กูไม่กลับบ้านแล้ว”


“อ้าว กลัวมีปัญหาเหรอ?”


“เปล่า แต่กูมั่นเขี้ยวมึงมาก” เขาหันมาทำหน้าตาขึงขัง แต่คำพูดตรงข้ามกันเลย แถมยังป้องมือให้ผมเอียงหัวลงไปฟังเขากระซิบ “อยากกัดมึงให้จมเขี้ยว”








อ่า... ไม่ดูหนังแล้วได้ไหม ผมอยากกลับหอแล้ว





......................................................








“มึง” มะนาวเรียกผม ทำหน้าแบบ เซ็งเต็มที่ พร้อมกับโทรศัพท์ที่เพิ่งวางสายร้อนๆ ในมือ


ครับ เราดูหนังเสร็จ หาอะไรกิน แล้วก็กลับมานั่งเล่นเกมกันที่ห้อง นอนกายกันชิลๆ จนมืดค่ำ เมื่อกี้อยู่ๆมะนาวก็เด้งตัวขึ้นแล้วพูดหน้ายุ่ง ว่าพี่ยมโทรมาทำไมว่ะ คุยกันงุ้งงิ้งเป็นสิบนาที สรุปใจความจากที่ได้ยินคือ ไป ไม่ไป อะไรสักอย่าง


“เป็นไง”


“พี่ชวนไปร้านเหล้า”


“เอาดิ เดี๋ยวไปส่ง”


“มึงต้องไปด้วย”


“อ่า... เอาจริงดิ”


“เออ” มะนาวถอนหายใจเหนื่อยหน่าย “แม่งขู่ว่าถ้าไม่ไปจะมาหาที่หอ ไงๆ ก็ไม่ยอม ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว มึงโอเครึเปล่า?”


“ทำไมต้องไม่โอเคล่ะ ดีซะอีก พี่ชายมึงเลยนะ” ผมลุกขึ้น กะจะอาบน้ำแต่งตัว ไม่รู้นัดกันกี่โมงแต่นี่ก็มืดแล้ว ลุกเลยแล้วกัน


“พี่แม่ง เอาแต่ใจ” มะนาวห่อเหี่ยวไม่ไหวติง คงกำลังเซ็งที่เถียงสู้พี่ตัวเองไม่ได้





อืมมมม ผมว่า มะนาวไม่ได้เอาแต่ใจเพราะเป็นลูกคนเล็กแล้วล่ะ เหมือนว่าเขาจะเอาแต่ใจกันทั้งบ้านซะล่ะมั้ง










..

................................





“อย่าเข้ามานะ หยุดอยู่ตรงนั้นเลย”


“อะไร? ไอ้ท่าทางแบบนั้นน่ะ”


“แม็ตเล่าให้ฟังแล้วเว้ย ไม่ต้องเลย” มะนาวผลักผมให้หยุดอยู่กับที่ ตัวเองเดินนำไปประจันหน้ากับพี่ชาย


เพราะท่าทางยิ้มระรื่นเหมือนจะตรงมาทางผมเมื่อกี้ ไม่ต้องให้มะนาวเข้ามาขวาง ผมก็จะหยุดเองอยู่แล้ว ถึงรู้ว่าจงใจแกล้ง แต่ผมก็ยังกลัวเขาอยู่ดี


เราคุยกันแล้วก่อนออกมา หรือก่อนลงรถก็ยังพูดเรื่องนี้อยู่ ว่าพี่ยมเป็นคนยังไง ทั้งเปลี่ยนคู่บ่อย เจ้าชู้เจ้าบทบาทและของไม่เคยขาด ทั้งหมดทั้งสิ้นรวมอยู่ในตัวเขาคนนี้ พี่มะยม


อย่างตอนวนรถเข้ามา มะนาวชี้ให้ผมดู พี่ยมกำลังต่อบุหรี่จากผู้ชายอีกคนตรงเก้าอี้นั่งพักหน้าร้าน แน่นอนมันเป็นท่าเอียงหน้าเข้าหากันแบบห่างกันไม่ถึงคืบ จอดรถแล้วไอ้น้องตัวดีก็ยังไม่ยอมลงจากรถ รอดูและนินทาพี่ตัวเองอยู่ในรถจนเขาแลกกันกดมือถือ จนอีกฝ่ายสูบบุหรี่หมดและจากไปด้วยยิ้มทิ้งท้ายแฝงความใน


อะไรจะแพรวพราวปานนั้น…


หลังจากนั้นสักพัก เราลงรถและเดินอ้อมมาหน้าพี่ยมทำเหมือนเพิ่งมาถึงสดๆร้อนๆ เขาเห็นเราก็ดับบุหรี่ ลุกขึ้นแล้วทำท่าจะเดินเข้ามาหาผมเมื่อกี้ จังหวะที่มะนาวพุ่งเข้ามาขวางให้





กลับมาที่ปัจจุบัน


“พอรู้ว่าจะเจออีกถึงเล่าให้ฟังงั้นสิ?”


“ไม่ใช่ บอกตั้งแต่เมื่อกลางวันแล้วต่างหาก”


“หื๋อ? จริงดิ” พี่มะยมมองผมอึ้งๆ แบบอึ้งมากๆ จนทำให้ผมประหม่าละสงสัยว่ามันแปลกขนาดนั้นเลยเหรอกะแค่คุยกับแฟนเนี่ย?


“เออ อย่าคิดว่าทุกคนจะเหมือนตัวเองดิ” มะนาวตอบกลับใส่พี่ชาย


“โอเคๆ มันไม่เหมือน” เขายิ้มให้ผมกับมะนาว ก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาข้างหูมะนาว ซึ่งมันคือตรงหน้าผมพอดี “แต่รู้อะไรไหม มึงอ่ะ...เหมือนกู” ยิ้มที่มุมแก้มเหมือนมะนาวไม่มีผิด แต่ดูเจ้าเล่ห์กว่าสิบเท่า ร้ายกว่าร้อยเท่า


พี่มะยมค่อยๆถอยกลับไปยืนล้วงกระเป๋าปกติ สองคนพี่น้องสบตากันนิ่งๆ ผมไม่รู้มะนาวทำหน้ายังไงอยู่ตอนนี้ รู้แค่ว่าไม่ได้กำลังยิ้มอยู่แน่ๆ


“ไม่มีทาง”


“หึ จุ๊ๆๆๆ” รู้สึกว่า มะนาวกำลังโดนพี่ตัวเองกวนตีนยังไงไม่รู้


มะนาวทำหน้ายุ่งถอนหายใจสั้นๆ หันมาทางผมสลับกับพี่ตัวเอง


มะนาวเขาไม่ใช่คนที่จะทนกับอะไรแบบนี้ได้นานหรอก ยิ่งเป็นพี่ชายคนกลางคนนี้ที่เล่าวีรกรรมแต่ละอย่างออกมาแล้ว ผมสรุปได้เลยว่าสองคนนี้เป็นพี่น้องประเภทที่ตีกันอยู่ตลอดเวลา ถ้าเป็นพี่ดูเหมือนจุดเดือดมะนาวจะต่ำมาก แล้วมาเจอแบบนี้...


“ถ้าจะมาเพื่อพูดแค่นี้ งั้นกูกลับ”


“โอ๋ๆ ไม่แหย่แล้วๆ ป้ะๆ เข้าร้านๆ แหมล้อเล่นแค่นี้ทำมาจริงจัง”


“เล่นพ่อง”


“พ่อเดียวกันสัสนี่ ลืมเหรอ?”


“ก็มึงอ่ะ”






ความเจ้าชู้มันไม่ได้สืบทอดกันทางพันธุกรรมหรอก


ใช่ไหม?


ใช่รึเปล่าครับ?


ใช่ ใช่ไหมครับ





ผมกำลังเหม่อๆ เอ๋อๆ เหมือนหลงไปโดนมนต์สะกดจิตของพี่ยมจนจิตตกไปชั่วขณะ แต่ตอนที่มะนาวกำลังโดนเกี่ยวคอลากเข้าร้านเขาก็หันมา เราสบตากัน


ในแววตาโตใสของมะนาวสะท้อนภาพผม ชัดเจนแม้อยู่ในแสงน้อยนิด ความรู้สึกตอนที่เขามองมาดึงผมออกจากภวังค์ได้ทันเวลา


ผมพยักหน้าเบาๆ ยิ้มนิดๆอย่างไม่รู้ตัว และเดินตามพวกเขาเข้าร้าน







“พี่มาถึงก่อนทำไมไม่เข้าร้าน”


“ติดลม”


“เห่อะ”


“เห้อะอะไรๆ กูคุยงานอยู่ข้างนอกเว้ย อีกอย่าง ไฟสว่างเห็นคนเดินผ่านไปผ่านมาชัดดี อื้ม” พี่ยมทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามพวกผม เขามองไปรอบๆ ในร้านค่อนข้างกว้าง แต่เพราะแสงน้อย ตอนนี้เริ่มมองไม่ออกแล้วว่าใครเป็นใคร “ต้องเล็งไว้ก่อน เข้ามาจะได้ไม่พลาดเป้า”


“แล้วเล็งได้กี่คน”


“สองสามคนเอง”


“...”


“ถ้าจะเงียบแล้วทำหน้าแบบนี้ ด่ากูตรงๆ เลยก็ได้มั้ง”


“ได้เหรอ? ได้!” มะนาวกำลังอ้าปากตั้งท่าจะทำตาม แต่พี่มันก็ไวกว่า


“กูประชด!” ยกที่หนึ่งจบตอนที่พนักงานเดินมารับออเดอร์







สามทุ่มเราก็มาเจอพี่ยมตามนัดที่ผับแห่งนึงที่เราไม่เคยมา ทั้งที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากหอเท่าไหร่ แต่บรรยากาศข้างในต่างกับร้านที่เคยนั่งมาก คุมโทนสีเข้มกับสีโลหะ บวกกับไฟสลัวแทบมองไม่เห็นทาง นี่ถ้าไม่มีเสียงเพลงกล่อมชวนฟัง มะนาวคงดึงเสื้อผมแทบขาดเพราะกลัวผีโผล่มา


“เอ้อ โจ๊กอยู่รึเปล่าน้อง” พี่ยมเอ่ยถามพนังงาน


“ปกติถ้าเข้าร้าน จะมาสี่ห้าทุ่มครับ แต่วันนี้จะมาไหมผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน”


“อ้อ โอเค ขอบใจมาก”


“ครับ ออเดอร์รอสักครู่นะครับ”


“โจ๊กนี่ใครอ่ะ?” มะนาวถามกลับมันทีที่เด็กร้านหันหลังออกไป


“รุ่นน้อง เป็นหุ่นส่วนร้าน”


“ร้านโคตรใหญ่อ่ะ ต้องรวยแน่ๆเลย”


“ก็นิดนึงมั้ง เห็นมันมีหลายร้าน ไง” พี่ยมหันมาทางผม ได้จังหวะเข้าเรื่องทันที “แนะนำตัวสิเราน่ะ”


“ผมแม็ตครับฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับพี่...มะยม” ท้ายประโยคผมเริ่มจะพูดไม่เต็มคำ เพราะสีหน้าพี่แกเปลี่ยนจากนิ่งๆ เป็นหรี่มองอย่างจับผิด ก่อนจะกลับไปทำท่าสบายๆ เหมือนเดิม


“แฟนเก่าสวยไหม?”


“แฟนเก่า?” หา? อะไรนะ ผมได้ยินผิดรึเปล่า?


“หรือถามผิด ต้องถามว่าหล่อแค่ไหนจะถูกกว่างั้นเหรอ”


“อ้อ”


“อ๋อก็ตอบสิ”


“ไม่มีครับ ผมเลยไม่รู้จะตอบยังไง”


“เหรอ แล้วคนนี้ใคร” พี่มะยมยื่นมือถือที่น่าจะเป็นรูปแคปจากหน้าเว็ปเลื่อนๆให้ดู ให้รู้ว่ามีหลายภาพ ผมจะก้มลงมองมือถือที่ว่างหงายอยู่บนโต๊ะ แต่มะนาวหยิบขึ้นไปดูใกล้ๆ แล้วก็เลื่อนดูทีละรูปช้าๆ เหมือนกำลังอ่านหัวข้อในแต่ละรูป


ผมไม่ได้ห่วงอะไรเท่าไหร่เพราะรู้สึกภาพมันคุ้นๆ หน้าเว็บก็คุ้นๆ คงไม่พ้น...


“นี่มันไอ้น้ำนิ หูว มีฟิกจริงๆ จังๆ งี้เลยเหรอพวกมึงเนี่ย”


“ก็ นิดหน่อย”


“เฮ่ยๆ รูปนี้กูเคยเห็นนิ”


“อื้ม ก็พวกรูปในเฟสนั่นแหละ หนุกนะลองอ่านสิ”


“อ่านได้ไงเล่านี่มันรูปที่ ‘ชาวบ้านชาวช่อง’ เขาแอบแคปมา”


ผมกับมะนาวคุยกันไปเรื่อย เป็นตุเป็นตะกันอยู่สองคน ไม่สนใจพี่มันไปพักนึง





“เฮ้ย นี่ไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ”


“ก็จะให้รู้สึกอะไร นี่ก็เพื่อนในกลุ่ม สนิทกัน กินข้าวด้วยกันทุกวัน มีแฟนแล้วด้วย อีกอย่างสเป็คมันไม่ใช่แบบนี้” มะนาวชี้หน้าผม “แต่เป็นแบบนี้ แบบนี้” มะนาวชี้ที่ตัวเองกับพี่มัน


ใช่ นายเข้าใจถูกแล้ว ไม่เสียแรงที่พาไปเจอพี่ทะเล


“เหอะ ไม่หนุกเลยพวกมึงเนี่ย” พี่ยมพ้นลมออกทางปาก ทิ้งตัวพิงโซฟากอดอกไขว่ห้างไม่สบอารมณ์


เป็นจังหวะที่พนักงานเอาเครื่องดื่มทั้งหมดมาเสริฟ มะนาวขอจัดการทุกอย่างเองเพราะคนนึงก็เจ้ามือ อีกคน(ซึ่งก็คือผม)ก็เป็นแขก











เราค่อยๆดื่ม เปลี่ยนบรรยากาศพี่มะยมถามถึงเรื่องเรียนกับเรื่องรับน้อง ตามประสาพี่ห่วงน้อง เพราะดูเหมือนเมื่อก่อนคณะวิศวะของที่นี่จะขึ้นชื่อเรื่องการรับน้องอยู่เหมือนกัน มะนาวเลยต้องมานั่งอธิบายว่าตอนแรกตัวเองก็กลัวแต่พอเข้าไปจริงแล้วมันไม่มีอะไรน่ากลัวหรือยากเลย


“งี้ก็มีไปกินกับที่คณะบ่อยเลยดิ”


“ใช่ มีอาทิตย์นึง 7 วัน กินกัน 6 วันไม่เหลือวันที่ไม่เมาแล้วขับรถกลับบ้านได้เลย”


“ใครเป็นคนบอกว่าถ้าเมาไม่ให้ขับรถกลับบ้าน เจ้เฟิร์นเหรอ?”


“กะก็” มะนาวตั้งใจจะตอบไปตามตรง แต่เหมือนคิดอะไรได้ เลยเหลือบมามองผมก่อนค้างอยู่อย่างนั้น


“ชิ้ มึงไม่ต้องพูดละ แม่งมั่นไส้จริงๆ”


 



“เอ้อ ไหนทีแรกบอกจะกินเบียร์ ทำไมสั่งเหล้า” กินมาตั้งนาน มะนาวเพิ่งจะคิดได้


“ก็เบียร์มันแดกไม่เมา เหล้ามันเมาดี”


“เมานี่มีดีด้วยเหรอ?”


“มันก็มีเสน่ห์ของมัน ใช่ไหมล่ะ”


“นี่เป็นพี่ประสาอะไร แทนที่จะห้ามน้องกินเหล้ากินเบียร์ ดันชวนเมาซะเอง”


“เอ้า ไม่ดีเหรอพี่แบบกูหาที่ไหนไม่ได้แล้วนะ แล้ววันนี้ ไม่เมาไม่ให้กลับด้วย”


“เลี้ยงใช่ป่ะ”


“แน่นอนสิครับ นี่กะมาเลี้ยงมึงเลย เมื่อเช้าเพิ่งปิดโปรเจคกรีนบิทไปอย่างสวยงาม”


“อ้าว งั้นก็ต้องให้ค่าแรงผมดิ ใช้งานเด็กจะแอด โหดร้ายชิบหาย นี่ มึงรู้มะ ตอนมอหกนะ แทนที่กูจะได้อ่านหนังสือยันสว่างเหมือนชาวบ้านชาวช่อง พี่กูนะใช้กูดราฟแบบเผางานจนหลับคาคอมแล้วนะ แม่งยังปลุกกูขึ้นมาเขียนต่อ เสร็จแล้วก็ต้องทำโมเดลตึกทรงประหลาดๆ ตอนนั้นกูสาบานกับตัวเองเลยว่าจะไม่เรียนถาปัต”


ความสามารถพิเศษของมะนาวคือใช้โปรแกรมของอินทิเรียได้ ผมจำไม่ได้ว่ามันชื่อโปรแกรมอะไรและอะไรบ้างที่มะนาวทำได้ เพราะทั้งบ้านเรียนแล้วก็ทำงานแนวเดียวกันคืองานพวกออกแบบแล้วก็ตกแต่งภายใน ของเล่นของเขาตั้งแต่ประถมคือคัตเตอร์กับแผ่นรองกรีดเขียวๆ งานอดิเรกคือขึ้นโมเดลบ้านและตึก อย่างวันนี้ก่อนกลับจากดูหนังเราก็ได้โมเดลหอไอเฟลมาต่อ มะนาวนั่งต่ออยู่ทั้งเย็นผมก็เห็นเขามีความสุขดีตอนที่อยู่กับอะไรพวกนี้นะ ทั้งที่ปากบ่นเบื่อๆๆ


“ขี้บ่นอ่ะ ก็มาเลี้ยงแล้วนี่ไง”


“ไม่เอา เอาเป็นตังดิ”


“ก็ได้ แต่ไปขอเบอร์คนมาให้ก่อน” ยิ้มแบบนี้อีกแล้ว พี่มันยิ้มอีกแล้วครับ ทำไมยิ้มของพี่มันสร้างดาเมจรุนแรงกับผมทุกครั้งไปนะ


“คนไหน?”


“ไม่ใช่แฟนมึงหรอกน่า”


เหอะ เหอะๆๆๆ ถึงจะพูดออกมาแบบนั้นก็เถอะ แต่ระหว่างพูดพี่ยมก็ปรายตามาทางผม สายตา กับท่าทางพี่ยมก็ยังคงทำผมรู้สึกเสียวสันหลังแปลกๆ


“คนไหนอ่ะ?”


“คนที่นั่งคนเดียวตรงเค้าเตอร์โน้น”


“...” ผมกับมะนาวหันตามสายตาพี่ยมพร้อมๆ กัน เค้าร์เตอร์บาร์เครื่องดื่มหลากสีเรียงรายตั้งประดับหน้าบาร์สูงตรงนั้นมีคนนั่งอยู่คนเดียว ไม่ผิดคนแน่ คนคนนั้นเป็นผู้ชาย และที่สำคัญ พวกผมรู้จักดี


ผมกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่แบบไม่รู้ตัว


“น่ารักอ่ะ นั่งคนเดียวตรงบาร์แบบนี้ด้วย กำลังอ่อยกูชัดๆ”


“เดี๋ยวนะ เขานั่งคนเดียวก็เรื่องของเขาป่ะ?”



“ใครๆเขาก็รู้กันทั้งนั้นแหละ การที่มาที่แบบนี้แล้วนั่งหน้าบาร์คนเดียวมันหมายความว่าเขารอให้ใครสักคนเข้ามาทัก เหมือนยืนยันว่ามาคนเดียวจริงๆ ไรเงี้ย”



“ทำไมต้องคนนี้วะ เดี๋ยวนี้ชอบแนวนี้เหรอ”


“ได้หมดถ้าสดชื่นนนน”


“ไม่ได้เว้ย!” มะนาวตอบอย่างใส่อารมณ์



“เอ้า ไอ้น้องนี่ ยังไม่ทันลองเลย”


“หมายถึงคนเน้ ไม่ได้!”



“ทำมะ?”


“กูหวง”


“หวงพ่อง ผัวมึงอยู่นี่”


“จิ๊ ไอ้พี่ยม!” มะนาวเริ่มขึ้นเสียง แต่พี่ยมไม่มีท่าทีสะทกสะท้าน ยังคงนิ่งๆเฉยๆไม่ถือสาที่น้องขึ้นเสียงเหมือนนี่เป็นเรื่องปกติของพวกเขา กลับกันเขากลับใจเย็นยั่วโมโหต่อด้วยเสียงยียวน


“หูยยย ดุจัง”


“พูดดีๆ พูดดีๆ”


“หวงทำไมครับ แฟนน้องก็นั่งอยู่นี่ พูดหวงคนอื่นไม่เกรงใจแฟนตัวเองมันจะดีเหรอ?”


สองพี่น้องโวยใส่กันเสียงดัง แต่ดูเหมือนคนพี่จะจับทางน้องได้ ไล่ต้อนให้มะนาวฮึดฮัดอารมณ์เสียอยู่ฝ่ายเดียว


“ไม่มีอะไรหรอกครับ นั่นพี่รหัสมะนาวครับ” ผมเฉลยเพื่อห้ามทับ


“อั๊ยย่ะ! แบบนี้มันเนื้อคู่กูชัดๆ”


“เห็นพี่มึงก็คู่ทุกคนอ่ะ ฟันแล้วก็ทิ้ง แล้วไง? แปปๆ ก็มีใหม่ กูไม่ให้พี่กูยุ่งกับคนอย่างมึงหรอกครับ”


“หา? แม็ต ช่วยพี่แปลหน่อย น้องมันเคารพพี่ รักพี่ หรือกำลังด่าพี่อ่ะ พี่งง” พี่ยมยกนิ้ววนๆข้างขมับ หรี่ตาเอียงหัวตั้งใจฟัง


แต่ที่แน่ๆคือไม่มีท่าทีหวั่นไหวกับอะไรที่มะนาวพูดเลยสักนิด รู้สึกเหมือนพี่แกจงใจจะแสดงท่าทางภูมิใจเพื่อกวนตีนกลับมาด้วยซ้ำ


“ยังเคารพพี่อยู่ แต่ก็อยากด่าด้วย แล้วก็รักพี่รหัสมันด้วย มั้งครับ”


“เชี่ย เด็ด กูยกมะนาวให้มึงเลย ในฐานะที่มึงแปลรหัสมอสของมันได้”


“ไม่ต้องลำบากมึงยกหรอก กูยกตัวเองได้” มะนาวยักคิ้วให้พี่ตัวเองอย่างมั่นอกมั่นใจ ผิดวิสัยที่ไม่ค่อนจะแสดงความเป็นเจ้าของต่อหน้าคนอื่น มันแปลกจริงๆ ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว


ผมค่อยๆ ลำดับสำเนียง วาจา แววตา กับองศาที่ถือแก้ว...  หรือว่า!


“เอามานี่” ผมคว้าแก้วมะนาวมาจิบ ผมนึกว่าเขามิกซ์ โซดาโค้ก แต่ที่ชิมมันไม่มีความหวานติดปลายลิ้นเลย นี่มันโซดาน้ำเปล่าเหมือนทุกที แต่ที่สีเข้มขนาดนี้ แม่งมอมตัวเองอีกแล้ว “เอานี่ไปเลย เดี๋ยวก็คุยไม่รู้เรื่อง” ผมยัดขวดน้ำเปล่าใส่มือมะนาว มีเสียงขู่ฟ่อเป็นแมวแยกเขี้ยวกลับมา


เขาก้าวข้ามความปกติไประดับหนึ่งแล้วครับ มะนาวคนใหม่กำลังมา มันเริ่มแล้ว


“หื้อออออ” มะนาวลากเสียงในคอยาว มือคว้าแก้วแต่คว้าไม่ถึง


นั่นไง คิดคำเถียงช้าไปสิบวิ ปากช้าลงจนดีเลย์


มะนาวโหมดชาร์จพลังเตรียมวาร์ปกำลังมา


“เพิ่งเริ่มเอง อย่ารีบดิ” ผมบอก พยายามยัดน้ำเปล่าให้เขา


“นานๆ พี่กูจะมาเลี้ยงถึงนี้นะเว้ย”


“ก็นานๆ จะได้คุยกัน ก็อยู่คุยนานๆ ก่อนดิ”



“เหรอ? ควรงั้นอ๋อ ไม่ใช่ว่าควรกินเยอะๆ เยอะๆ ให้คุ้มเหรอ”


โอ้ย ผมล่ะนับถือความตะกละของฟรีของมะนาวเลย


“ไม่ใช่ คุยก่อน แล้วเดี๋ยวพี่ก็ให้ตังด้วย จำได้ไหม?”


“เคๆๆๆ จำได้ๆ” มะนาวพยักหน้า ยกขวดน้ำเปล่าขึ้นซดอย่าง(กว่าจะ)ว่าง่าย




“เชื่อฟังผัวมากกกก ว่าง่ายสุดๆ เลยนะมึงเนี่ย”


“โอ้ะ แน่นอน พี่ดู! ดูหน้ามัน” มะนาวจับคางผม เอียงซ้ายเอียงขวาให้เห็นทุกมุม “นี่ เห็นแว่นนี้ไหม ไม่ใช่แว่นสายตานะคร้าบบบ ใส่ไว้พรางความหล่อเฉยๆ มา เดี๋ยวถอดแว่นให้ดู” มะนาวดึงแว่นผมไป


เอาเลยตามสบายที่รักจะพรีเซ็นยังไงเต็มที่ไปเลยครับ


“หึ” คิดแล้วก็ขำจนผมหลุดหัวเราะไปเล็กน้อย


“อย่ายิ้ม! เก็กไว้มึง” มะนาวดุผม ผมก็บ้าจี้ทำหน้านิ่งตาม เห็นอย่างนี้พี่ยมแกเลยหัวเราะจนตัวโยงแทน “ถอดแว่นแล้วเสยผมอย่างนี้นะ โคตรหล่อ แต่ไม่ให้ทำอ่ะ เอาลงๆ เอาแว่นกลับไปใส่ไว้ด้วย พอๆ เลิกเก็กๆ” มะนาวยีหัวผมจนยุ่ง แถมยังกดผมลงมาปิดหน้าผากเหมือนเดิม


“แม่ง จี้ว่ะพวกมึงนี่ น้องกูเมาแล้วเพี้ยน เพิ่งรู้”


“ใครบอก นี่ยังไม่เม้า”


“เอ้า เหรอ แล้วถ้าเมาจะเป็นไง? หึ?”



โปรดตัดภาพมาทางผมด้วยภาพสโลโมชั่น ผมโคตรเหวอหันไปมองหน้ามะนาว รูม่านตานี่เบิ่งกว่าขึ้นจนรู้สึกได้


โคตรกลัวคำตอบมะนาว เขาจะจำกัดความตัวเองยังไง แล้วจะพรีเซ็นตัวเองออกไปแบบไหน เพราะถ้าเขาพูดความจริงอย่างที่ผมเคยบอกเขาไป มันไม่ได้นะ อย่าไปบอกคนอื่นแบบนั้น แล้วที่สำคัญคนคนนี้เป็นพี่แท้ๆของมัน จะไปพูดได้ไงว่า ‘โคตรยั่ว’


แล้วคำตอบที่ออกมาจากปากมะนาว คือ...


“อืมมม ไม่รู้ว่ะ” ผมยังกลั้นใจอยู่ “แม่งตื่นมาจำอะไรไม่ได้สักที” เห้อ... โล่ง


“มันต้องรู้ตัวบ้างแหละน่า ว่าตัวเองทำอะไร”


“ทำ...” มะนาวละสายตาจากพี่ชาย “อะไร” เอียงหน้าเงยมามองผม “นะ”


“แปลว่าแฟนมึงต้องรู้ แม็ต มันเป็นไง”


“ก็ เสียงดัง ดีดๆโดดๆ แล้วก็... แบตหมดเอาดื้อๆ” ผมขอเล่าเฉพาะแค่ตอนที่อยู่ต่อหน้าสาธารณะแล้วกันนะ



“เสร็จแล้วก็วาร์ปใช่มะ”



“ถูกกกก ถ้าได้ที่ทีไรตื่นมากูจำอะไรไม่ได้ทุกที”


“รู้ตัวอีกที ก็มีผู้ชายนอนแก้ผ้าอยู่ข้างๆ ใช่มะ” มันไม่เหมือนประโยคคำถามมันเหมือนประโยคบอกเล่ามากกว่า


“มึงหมายถึงตัวเองรึเปล่า?” มะนาวตอบกลับไปทันที แต่มันพิรุธตรงจิบเหล้าไม่ยอมเอาแก้วลงสักทีเนี่ยแหละ


มะนาววววววว


“...” พี่ยมหรี่ตามองมะนาว


สงสัยเขาจะจับพิรุธกันอยู่


ครั้นจะให้ผมตอบกลับไปว่า ‘ถะถะ ถูกต้องแล้วคร้าบบบบ’ ก็กระไรอยู่ ให้พี่น้องเขาพินิจใจกันเองไปแล้วกัน


“ไป ไปขอเบอร์พี่มึงมา”


“จิ๊ ไม่เว้ย”


“ไม่ของั้นก็เอามาเลย กูรู้มึงต้องมีทุกอย่างอยู่แล้ว”


“ม่ายยยยยยยย” แต่จู่ๆ มะนาวก็ลุกขึ้นยืน เดินออกจากโต๊ะ


“จะไปขอให้แล้วใช่มะ”


“เปล่า กูจะไปฉี่” มะนาวหันมายักคิ้วให้พี่ตัวเอง โคตรกวน


“ชิ รีบกลับ ไม่งั้นกูจะแดกแม็ตของมึงแทน”


“งั้นมึงไปฉี่กับกู” มะนาววกกลับมาคว้าแขนผม ทำท่าจะฉุดไปจริงๆ แต่พอได้ยินพี่ตัวเองพูดก็ยอมไปคนเดียว


“โว้ยยย กูล้อเล่น ไปๆ จะไปก็รีบไป”





มะนาวย่นหน้า เดินไปห้องน้ำที่อยู่ทิศเดียวกับเค้าร์เตอร์สูง เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่แวะหวัดดีพี่รหัสตัวเอง ก็ถ้าพี่เทเห็นมันแล้วคิดขึ้นได้ว่าน้องไม่ทัก มันอาจจะโดนมิใช่น้อย


ผมเผลออมยิ้มเหลียวมองมะนาวจนสุดคอ ลืมไปเลยว่าคนที่นั่งตรงข้ามผมกำลังจ้องมองและเฝ้าสังเกตผมอยู่ทุกอากัปกิริยา







“ยิ้มอะไร?”






ง่ะ!










-----------------------------------------------------
TBC.





ครบ 100% แล้วจ้า


ตอนแรกลังเลมากจะให้ชื่อมะยมดีหรือหาอย่างอื่นดี คือชื่อมะยมมันทำให้นึกถึง นิยม กอบกู้ จาก ซิตคอมเป็นต่อ 5555 ซึ่งภาพลักษณ์ไม่ดีเอาซะเลย แต่คอนเซป 3 พี่น้องชายล้วนบ้านนี้คือขึ้นต้นด้วย 'มะ' เป็นผลไม้และมีรสเปรี้ยว ตอนที่จะลงก็ยังคิดไม่ออกก็เลย เลยตามเลย
เหลือพี่คนโต ใครว่ามะใหนน่าสนใจเสนอหน่อยๆ แต่ไม่เอามะม่วงนะ 5555

รอลุ้นกันนะคะเนื้อคู่พี่มะยมผู้ร้ายกาจดุจศักรินทร์ดาวร้ายเนี่ย นางจะได้คนที่เล็งไว้มั้ย
แต่อย่าเพิ่งด่าพี่เท พี่เทแค่นั่งเฉยๆ ยังไม่ได้อ่อยไม่ได้ทำอะไรเลย ไว้ทำค่อยด่าเนอะ (อ้าว) 55555 หมายถึงด่าคนเขียนๆ 555


ตอนหน้าเขียนยากอีกแล้วง่ะ รอกันก่อนนะคะ อย่าทิ้งเก้าน้าาาา

หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 36 เอ๋?] 30/7/60 P.14 (40%)
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 30-07-2017 09:18:49
แม็ตจะเสร็จพี่ยมมั้ย55555555
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 36 เอ๋?] 30/7/60 P.14 (40%)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-07-2017 11:11:35
ต้องระวังตัวอย่างหนัก
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 36 เอ๋?] 30/7/60 P.14 (40%)
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 30-07-2017 17:11:46
คิดถึงงงงจังเลย
 รอๆ คิดถึงพี่ยีนด้วย
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 36 เอ๋?] 13/8/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Brosohub ที่ 13-08-2017 08:23:32
อัพจบตอนที่ 36 แล้วจ้าาาา
ขอฝากพี่มะยมไว้ในอ้อมอกอ้อมใจ ทูกกกกกคนนนนนน 55555555
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 36 เอ๋?] 13/8/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 13-08-2017 11:54:26
บ้านมะนาว มีเสน่ห์กันมากกกก
มะนาว ก็จับตา จับจิต มีเสน่ห์ แม็ต รับรองแน่อยู่แล้ว
พี่มะยม นี่เสน่ห์แรงสุดๆ แพรวพราว รอบตัว ได้ทั้งหญิงทั้งชาย อั๋ยยะ

พี่เท ทำไมมานั่งให้คนคิดว่ามาคนเดียว เดี๋ยวได้คู่ ซะงั้น
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ปล. พี่คนโตมะนาว ไรท์เลือกเลย
มะขาม / มะไฟ / มะเฟือง / มะดัน / มะตูม / มะแว้ง / มะหาด / มะรุม / มะระ / มะหวด / มะพร้าว / มะกอก / มะพลับ / มะกรูด
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 36 เอ๋?] 13/8/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 13-08-2017 12:32:05
 :hao6:
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 36 เอ๋?] 13/8/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 13-08-2017 14:51:55
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 36 เอ๋?] 13/8/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 13-08-2017 16:04:40
คิดถึงงงงงง
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 36 เอ๋?] 13/8/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 13-08-2017 16:43:21
คิดถึงอ่ะ
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 36 เอ๋?] 13/8/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 14-08-2017 10:01:28
มะนาวน่ารักกกกก
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 36 เอ๋?] 13/8/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: PaiPo ที่ 21-08-2017 08:22:46
คนเมาก็จะอวดผัวหน่อยๆ 5555
พี่มะยมนี่โคตรพราว มะนาวจะโตไปเหมือนพี่มั้ย อืมมม น่าคิด
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 36 เอ๋?] 13/8/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: กวังกีเมย์บี ที่ 23-09-2017 16:10:35
แปะก่อนนน
หัวข้อ: Re: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 36 เอ๋?] 13/8/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: PaiPo ที่ 06-02-2018 00:59:13
จู่ๆก็คิดถึงเรื่องนี้
ไม่ได้ทวง แค่อยากบอกว่ายังรอนะจ๊ะ :impress2: