- บทที่ 15 - ประธานเชียร์ --------------------------------------------
วันนี้เป็นวันศุกร์ วันสุดท้ายของการประชุมเชียร์ เค้าว่ากันว่าวันนี้เป็นไฟนอลของการเชียร์ เริ่มตั้งแต่บ่ายโมงไปจนถึง... ปลายเปิด
ถามพี่โนอาก็ได้คำตอบทำนองว่า ดึกๆ
พี่โนอาไลน์มาถามผมตั้งแต่เมื่อวานว่าวันนี้จะกินอะไร ผมไม่เข้าใจคำถามที่ว่ากินอะไร? มันคือยังไงล่ะ ก็กินข้าวไง
ผมเลยตอบอะไรก็ได้ วันนี้เช้าก็ยังไลน์มาถามอีก ผมเริ่มงง
“นาว พี่เทได้ถามไหมว่าเย็นนี้จะกินอะไร”
“ถาม”
“แล้วได้บอกไปไหม”
“บอก บอกหมดเลย”
“เลือกอะไรไปบ้าง"
" ข้าวเหนียวส้มตำคอหมูย่าง ชานมไข่มุก ฮันนี่โทส เอ็มเค ปีโป้แช่งแข็ง สตอเบอรี่นอกลูกใหญ่ๆ เค้กนมสด โกโก้เย็น ซูชิ ซาซิมิ ก๋วยเตี๋ยวหลอดตลาดนัด ข้าวมันไก่ประตูน้ำ ผัดไทประตูผี ก๋วยเตี๋ยวเรือเสาวรีฯ คั่วไก่เยาวราช อ้อ แล้วก็ปูอลาสก้า”
“ฮ่าๆๆ แล้วพี่มึงว่าไง”
“พี่ก็ด่ากูสิ หาว่ากูตะกละ ก็ถามเองนี่หวาว่าอยากกินอะไร กูก็บอกที่กูอยาก นี่ยังไม่หมดเลยนะ บู้” มะนาวเป่าปากจนน่าจะทำน้ำลายแตกฟอง
ถ้าต่อไปยังอยากกินทุกอย่างขนาดนี้จะเลี้ยงไหวไหม?
เครื่องแบบเฟรสชี่วันนี้ถูกระเบียบทุกตารางนิ้ว ผมตรวจความเรียบร้อยทั้งของผมและของตัวเอง เรียนเช้าเข้าเชียร์บ่าย พวกว้ากย้ำแล้วย้ำอีกว่าวันสุดท้ายถ้ายังทำไม่ถูกไม่ให้เข้า ไม่ได้เข้าก็ไม่ผ่านเชียร์ ผมเก็บคะแนนไม่ขาดเชียร์มาจนถึงวันนี้ จะยอมพลาดได้ยังไง
ก็วันนี้ถ้าได้รุ่น ก็ได้เกียร์ของวิศวะมาห้อยคอ คุ้มไม่คุ้มไม่รู้ รู้แต่ผมอยากมีไว้ ไม่ได้คิดเอาไปทำอะไร แต่มันคือความภูมิใจที่มีโอกาสแค่ครั้งเดียวในชีวิตการเรียนวิศวะนี้
“มานี่มา” ผมนั่งอยู่ปลายเตียง เรียกมะนาวก่อนออกจากห้องเหมือนเคย
เขามายืนใกล้ๆ ส่ายพุงไปมาทำท่าน่ารัก
“เรียกทำไมอ่ะ?”
“หึ” รู้อยู่ว่าเรียกทำไม ผมรวบเอวมะนาวเข้ามาชิดกับอก โน้มคอเขาลงมาจูบก่อนออกจากห้องสักหน่อย
ไม่รู้วันนี้ต้องเจออะไรบ้าง ไม่รู้อะไรจะรออยู่ในห้องเชียร์ แล้วก็ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้อยู่กันสองต่อสองให้ทำแบบนี้ได้อีก
มะนาวยังคงจูบตอบแบบเงอะงะ แต่ก็ไม่เคยปฏิเสธ และวันนี้ดูเขาตั้งใจแลกลิ้นกับผมมากกว่าปกติ คงคิดเหมือนกันว่าวันนี้ดูท่าจะยาวไกล
“อื้ม อร่อย” มะนาวผละออกไปเลียรอบปากอย่างสนุก
“อันนี้แหละที่อยากกินแต่ไม่ได้บอกพี่กู”
“อยากกินหรืออยากโดนกิน”
“มะนาวขอสองครับ”
ฮ่าๆๆ พอเวลาไม่เอื้ออำนวยแบบนี้ล่ะปากดี ถึงเวลาจริงปิดปากเงียบตลอด
เราเดินออกจากห้อง มะนาวก็ยังนึกของกินที่อยากกินไปเรื่อย
“แล้วมึงบอกพี่โนอาว่าอยากกินไรอ่ะ คิดออกยัง” มานั่งบนรถมะนาวก็หันมาถามผม
“ไม่ออก อะไรก็ได้กูไม่ซีเรียสอยู่แล้ว ขอแค่อิ่ม มึงเหอะ บอกพี่เทไปป่าวว่ามึงแพ้อาหาร”
“เอ่อ ลืมเลย” มะนาวหยิบมือถือขึ้นมาพิมพ์บอกพี่เทระหว่างที่ผมขับรถ ระหว่างพิมพ์มะนาวก็บ่นๆไม่รู้จะบอกว่าแพ้อะไรเพราะไม่รู้ตัวเองแพ้อะไร
………………………………………………
………………
เป็นเวลาเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ได้
ความตึงเครียดและอารมณ์กดดันกำลังจะหายไป เพราะเสียงจ้อกแจ้กจอแจและความวุ้นวายเป็นตลาดแตกกำลังแหวกทางเข้ามา ข้าวและของกินมากมายที่ยัดจนพุงจะแตกไปเมื่อสามทุ่ม ตอนนี้ไม่เหลืออะไรเลย ผมหิวอีกแล้ว
“มึง กูหิวอ่ะ” ผมคิด แต่คนบ่นกลับเป็นคนข้างๆ เป็นครั้งแรก และคงเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้นั่งข้างมะนาวในห้องเชียร์ เพราะวันนี้มันวันสุดท้ายแล้วนี่เนอะ
สรุปแล้วมะนาวได้กินอะไรบ้างรู้ไหมครับ เขาได้กิน ยำมาม่า พิซซ่า โดนัท เป็ดย่างกับหมี่ยกเอ็มเค ชานมไข่มุกที่รอนานจนน้ำแข็งละลายหมดไม่เหลือสักก้อน ข้าวมันไก่ประตูน้ำ กับแซลม่อนเกือบครึ่งกิโล(กินได้คนละสองชิ้นก็อิ่มจนร้องให้เสียดาย อยากกินต่อแต่กินไม่ไหว) ที่ผมรู้เพราะผมได้กินเหมือนเขาทุกอย่าง พี่โนอาเหมือนจะรู้ใจ จัดให้ผมนั่งกับมะนาว พงศ์ แล้วก็เมครบทีมห้องเจ็ดกันเลย
“หาพี่มึงกับพี่กูให้เจอ ให้เขาเตรียมของกินไว้รอ กูก็หิว” ผมบอกพลางชะเง้อคอหาพี่ตัวเอง
ตอนนี้พวกเราปีหนึ่งได้รับการยอมรับจากรุ่นพี่ให้เป็นรุ่นน้องพวกเขาแล้ว เหนื่อยมาก เราต้องร้องเพลงทั่งหมดที่เรียนมาตั้งแต่เปิดเทอมแถมยังต้องร้องจนกว่าจะดี แต่มันก็โอเคเพราะเราร้องไปพร้อมๆ กับเพื่อนทั้งรุ่น ร้องเท่ากันเหนื่อยเท่ากัน และตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงมอบรุ่น ที่มีสัญลักษณ์เป็นเกียร์วิศวะแทนความหมาย
พี่รหัสเริ่มหาน้องของตัวเอง เพื่อคล้องเกียร์ที่สลักเลขรุ่นและสัญลักษณ์ของคณะวิศวะที่นี่ ผมค่อนข้างตื่นเต้น แม้จะเคยเห็นเกียร์ที่พวกรุ่นพี่ห้อย แต่มันก็ไม่เหมือนกันถึงเอาของพี่มาคล้องคอแต่มันก็ไม่ใช่ของเรา และไม่ใช่ของรุ่นผม หน้าตามันอาจจะเหมือนต่างกันแค่เลขตัวเดียว แต่ยังไงก็ไม่เหมือน ไม่เหมือนจริงๆ
ผมยืนรอมองไปมองมารอบๆได้ในตอนนี้ ตลอดเวลาเขาไม่ให้มองกลับไปข้างหลังจึงเพิ่งเห็นว่ามีพี่ๆมาให้กำลังใจพวกเราเยอะมาก ที่นั่งเต็มทุกที่ ตามทางเดินและด้านหลังก็ยอมยืนเพื่อให้ได้อยู่ในบรรยากาศวันนี้
"แม็ต ช่วยยกป้ายชื่อมิ้ลค์ให้หน่อยสิ กลัวพี่หาไม่เจอ" เพื่อนที่นั่งข้างๆ ส่งป้ายชื่อให้ ผมก็ทำตามที่เพื่อนขอ
มะนาวยกโทรศัพท์ขึ้นกดโทรออก ไม่สนใจยกป้ายชื่อสักนิด
"ไอ้พี่เท พี่อยู่ไหน ผมอยู่ฝั่งซ้ายนับจากข้างหน้าประมารแถวที่แปดนะ หาไอ้แม็ตเลยผมอยู่ข้างๆ เนี่ย เร็วๆ ว้อนเกียร์มาก ผมอยากจับเกียร์ผมแล้ว เกียร์ผมอ่ะเกียร์ผม ฮ่าๆๆๆ" ช่วงที่เว้นว่างไปแล้วหัวเราะ ผมว่ามันกำลังโดนพี่เทสวนอะไรกลับมาแน่ๆ
“แม็ตๆ” พี่โนอาสะกิดไหล่ผม
“หวัดดีครับ”
“หาง่ายสุดเลยน้องพี่อ่ะตัวสูงอย่างกะเสาไฟฟ้า”
“พี่โนอา นั้นไม่ใช่คำชมครับ” มะนาวท้วง
“ฮ่าๆๆ มาๆ พี่คล้องเกียร์ให้ เอ หรือต้องคล้องที่คอคนข้างๆ น้า” พี่โนอาโยกคอเล่นหูเล่นตาไปทางมะนาว เจ้าตัวที่โดนพาดพิงก็ได้แต่ยิ้มแหะๆ
“เอางั้นเลยก็ได้พี่” ผมแหย่ แต่ดันเป็นสาวที่ยืนข้างๆ ที่หันมาทำตาโต
“ฮ่าๆๆ เอาไว้ไปแลกกันเองลับๆสิย่ะ เปิดเผยหมดคนจะเม้าท์อะไรล่ะ” ผมหัวเราะ แล้วก้มหัวย่อตัวลงให้พี่คล้องเชือกถักสีดำมีจี้เป็นเกียร์กับคอ
“เฮ้ย มะนาว หาเจอสักที นี่กูไม่ได้มองหามึงเลย กูมองหาแต่ข้างรหัสมึง” พี่เทมาถึงก็กอดมะนาวด้วยความยินดีทันที
“มึงนี่เห็นหัวน้องกูเป็นอะไร” พี่โนอากอดอกหาเรื่อง
“ไม่รู้ กูหาน้องเจอก็พอใจแล้ว” พี่เทพูดไปทำท่าพนมมือ "ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์จงปกปักคุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัย โอม พุธโท ธรรมโม สังโฆ"
"ฮ่าๆๆ ปลุกเสกด้วยเหรอพี่"
"เออ นี่ศักดิ์สิทธิ์นะเว้ย หลวงพ่อเกียร์มาเอง" จากนั้นก็คล้องเกียร์ให้มะนาว ไม่ลืมจับหัวมะนาวแล้วเป่าลงกลางกระหม่อม
พี่เทพูดอยู่ข้างๆ ผมจะไม่เชื่อที่เขาพูดเลยถ้าพี่โนอาไม่พยักหน้าเห็นด้วยแบบจริงจัง
"นี่กี่ทุ่มแล้วพี่ ทำไมผมรู้สึกหิวมาก"
"อีก10 นาทีจะตีสาม"
"โห ตีสาม มิน่าล่ะ"
“แม็ต เสร็จนี่แล้ว รออยู่โรงอาหารก่อนนะ แถวๆที่เราชอบอยู่นั้นแหละ เดี๋ยวพี่ไปหา” เราขอบคุณพี่กันนิดหน่อยก็ต้องแยกย้าย
เรานั่งลงประจำที่เหมือนเดิม บรรยากาศเริ่มกลับมาเงียบและตึงอีกครั้ง เพราะพวกว้ากชุดดำ ที่ปกติยืนกระจายทั่วตอนนี้ไปยืนเรียงกันบนเวที พวกตัวใหญ่ๆ สิบกว่าคนทำให้ดูเต็มเวทีไปเลย
มีคำพูดปลุกใจและย้ำเตือนให้เราสำนึกว่ากว่าจะได้รุ่นมาไม่ใช่เรื่องง่ายจากประธานเชียร์ที่ท่าทีเปลี่ยนไปเล็กน้อย และไม่มีพวกว้ากพูดเสริมและแทรกเลยสักครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องแปลก
“นัดหมายครั้งสุดท้าย วันงานกีฬาสถาบัน และ ผมขอพูดคำนี้เป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้ จนกว่าเสียงบูมจะดังก้องคณะวิศวะอีกครั้งในฤดูกาลหน้า ปิด ประชุม”
ทุกครั้งประธานเชียร์พูดคำนี้แล้วจะเดินออกจากเวทีหายไปแทบจะทันที แต่วันนี้ เขายืนอยู่ที่เดิมยิ้มกว้างอย่างที่พวกผมไม่เคยเห็น ถอยไปยืนกอดคอพวกว้ากผมยาวรกหนวดเฟิ้ม เป็นยิ้มที่ทำให้เพื่อนสาวๆ รอบๆ ตัวเสียจริตบิดมือบิดไม้บิดตัวกันเป็นจังหวะเดียวกันเลยทีเดียว ว้ากบางคนเอายางมามัดผม พับแขนเสื้อ ดึงเสื้ออกจากกางเกงให้หลุดลุ่ย ส่วนประธานเชียร์ถูกว้ากขยี้หัวจนผมเสียทรง ความเป้ะความเนี้ยบถูกกระฉากทิ้งไม่เหลือ
อะไร นี่มันอะไร?
“หมดหน้าที่ของประธานเชียร์แล้ว ขอให้โยนคำนั้นทิ้งไป ต่อไปเรียกพี่ว่าพี่ยีนส์นะครับน้องๆ พี่ พี่ยีนส์ ปี 4 ภาคเครื่อง ห้อง 7 นะครับ มา มาแนะนำตัวกับน้องทีละคนเลยมึง ตะโกนใส่หน้าน้องไว้ก็มาขอโทษด้วยตัวเองด้วย”
พวกพี่ว้ากแนะนำตัวทีละคน ส่วนใหญ่อยู่ปี 4 บางคนอยู่ปีสาม มีอยู่คนนึงบอกว่าอยู่ปี 5
ทุกคนเรียกตัวเองว่าพี่ พี่เหรอ ประธานเชียร์เป็นพี่เหรอ พวกพี่ว้ากด้วย? ผมคิดว่าเป็นพี่บัณฑิต ไม่ก็นักแสดงจ้างมา เขาไม่เคยเรียกพวกเราว่าน้องและไม่เคยแทนตัวเองว่าพี่ มีแต่คุณกับผม แถมยังไม่เคยเห็นพวกนี้เดินไปมาในคณะ ไม่เคยเห็นกินข้าวในโรงอาหารไหนเลย และไม่เคยเจอในตึกเรียนด้วย
“พี่กูบอกว่าพวกพี่ว้ากเป็นพี่วินมอร์เตอร์ไซกับช่างก่อสร้างที่สโมจ้างมา กูเชื่อพี่มาตลอด ห่า หลอกกู เฮ้ย! พี่มึงขึ้นไปทำอะไร?”
ตอนท้ายมีพวกประธานรุ่น นายกสโม กับทีมงานขึ้นไปร่วมกันบนเวที แต่พี่ผมเด่นสุด เพราะส่วนใหญ่ใส่กางเกงยีนส์กับช็อป พี่โนอาใส่ชุดนักศึกษา คลุมด้วยช็อบ เธอเดินไปตรงกลางเวทีพี่โนอาถอดช็อปที่ดูจะหลวมเกินไปสำหรับตัวเองออก พี่ยีนส์ประธานเชียร์รับไปใส่ แล้วดึงพี่โนอาไปกอดคอฟังคนอื่นแนะนำตัวต่อไป
นี่รึเปล่า? ที่เขาบอกว่าพี่โนอาคือสตรีหมายเลขหนึ่ง ผมต้องมองพี่ผมใหม่ซะแล้ว แฟนพี่ผมเจ๋งจริงด้วย มิน่าไม่มีใครกล้าจีบพี่ผมเลยทั้งที่สวยมากนิสัยก็น่ารัก
“พี่ทำตามบทบาทและหน้าที่ หวังว่าน้องๆ จะเข้าใจและไม่โกรธกันนะ"
“ไม่โกรธค่า พี่ยีนส์ อร้าย”
“นั่นแฟนพี่ยีนส์เหรอ ไม่นะ” สาวแท้สาวเทียมโอดครวญ
"ภารกิจทั้งหมดที่พี่มอบหมายและสั่งไปเหมือนจะไม่มีเหตุผล แต่มันล้วนมีเหตุผลซ่อนอยู่ทั้งนั้น วันนี้เราอาจจะยังไม่เข้าใจว่าพี่ให้ทำไปทำไม? แต่วันนึงเมื่อเราอยู่ในฐานะของคนที่เป็นพี่ เป็นคนที่ต้องการถ่ายทอดบางอย่างที่ไม่อยู่ในตำราวิศวะ แต่อยู่ในความเป็นวิศวะ น้องจะเข้าใจมันเอง” ประธานเชียร์ก้าวออกมายืนข้างหน้า แม้เสียงของเขายังดังก้องเหมือนเคย แต่การพูดครั้งนี้เขาพูดกับพวกเราในฐานะรุ่นพี่คนนึง ไม่ใช่ในฐานะประธานเชียร์อีกต่อไป
“ทั้งที่ชอบและไม่ชอบ จงเก็บไว้ เชื่อว่ามันจะมีประโยชน์กับการดำเนินชีวิตของน้องๆในวันข้างหน้า การเรียนตลอดสี่ปี หรือการทำงานต่อไปจนตลอดชีวิตนี้เราไม่ได้เลือกเองได้ทั้งหมด เราอาจเจอทั้งงานที่ชอบ และบางรายละเอียดที่เราไม่ชอบ แต่ที่เลือกไม่ได้คือเลือกไม่ทำ ไม่ได้ ที่เรามอบหมายภารกิจและกิจกรรมทั้งหมดที่ผ่านก็เพื่อเตรียมความพร้อมให้พวกน้องๆ มีทั้งความรับผิดชอบ สามัคคี และใจที่พร้อมเสียสละ และที่สำคัญเห็นชัดๆ วันนี้ เรามีเพื่อนที่ผ่านทุกข์ผ่านสุขมาด้วยกัน มองดูเพื่อนที่นั่งอยู่รอบๆ เราสิ เขานั่งมากับเราเกือบ 14 ชั่วโมงในนี้” ผมมองเห็นทุกคนเริ่มขยับตัวมองหน้าคนข้างๆ และยิ้มให้กัน
“นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพื่อนพวกนี้ไม่ได้หาได้จากข้างทาง และเรายังมีรุ่นพี่ วันนี้เราไม่ได้มีแค่พี่ๆ ที่เรียนอยู่ เรายังมีพี่ๆ ที่จบไปนานมากแล้วมาคอยดู มาให้กำลังใจ รู้ไหม พวกพี่ๆ รักพวกแกอย่างไม่มีเงื่อนไขหรือข้อแม้ แค่รู้ว่าน้องเป็นน้อง แค่คิดว่าเดี๋ยวน้องกำลังมา มันก็พร้อมทำให้ทุกอย่างเลยว่ะ โชคชะตาอาจเป็นสิ่งที่พาเรามาเจอกัน แต่สิ่งที่ผูกเราไว้ด้วยกันคือสายสัมพันธ์ของความเป็นพี่น้อง”
พี่ยีนส์พูดไป ก็มีว้ากหน้าเหี้ยมบางคนเริ่มซับน้ำตา ผมนี่อึ้งเลย พี่สตาฟปีสองที่คอยดูแลพวกเราอย่างใกล้ชิดกอดคอกันแน่นแล้วแยกไปข้างหลัง
“ที่พี่กับเพื่อนๆ มาทำตรงนี้ เพราะ เพราะไม่มีใครทำ ฮ่าๆๆ” ประธานรุ่นปีสี่กับนายกสโมพร้อมใจกันเตะขาประธานเชียร์ครับ โทษฐานเล่นมุขไม่ดูเวล่ำเวลา ถึงตรงนี้ เขามีท่าทีผ่อนคลาย หัวเราะที่ตัวเองถูกเตะ และกลับไปกอดคอเพื่อนที่เพิ่งเตะตัวเองเหมือนเดิม
“ไม่ใช่ๆ ล้อเล่นน่า เพราะสมัครใจและถูกฝากฝังจากรุ่นพี่ต่อๆ กันมา เอานะ ใครสนใจอยากศึกษา อยากทดสอบพลังเสียงหรืออยากร้องเพลงเชียร์ให้ได้ทุกเพลงที่มีก็มาลงชื่อไว้ได้ ถึงเวลาเรามีซ้อมหรือพบป่ะพูดคุยกันพี่ๆ จะเรียกนะ อ้อ แล้วก็ หลานรหัส 0888 ขอโทษด้วยที่ไม่ได้เทคเลยตลอดหนึ่งเดือนกว่าๆ ที่ผ่านมานี่ แต่ เดี๋ยวเจอกัน”
ผมรู้สึกม่านตาเปิดกว้างรับภาพตรงหน้าได้ชัดกว่าครั้งไหนๆ ตัวแข็งและขนที่ต้นคอลุกอย่างกับใครมาเป่าลมใส่อยู่ใกล้ๆ ผมสบตากับคนที่ยืนพูดเท่ๆ อยู่กลางเวทีมาตลอดหนึ่งเดือนคนนั้น
มะนาวเป็นคนแรกที่หันมามองหน้าผม แน่สิเพราะเขารู้ว่านั่นมันรหัสของผม แต่ผมตัวแข็งจนขยับตัวไปไหนไม่ได้เลย ไม่พอ พี่โนอายังชี้ให้ประธานเชียร์มองมาทางผมซ้ำอีก เขาก็มองอยู่แล้วนิ่งๆ พี่จะชี้ให้มันเด่นอีกทำไม ทีนี้ทั้งห้องประชุมทั้งเพื่อนทั้งพี่มองผมเป็นตาเดียว เขินกว่านี้มีอีกไหมเนี่ย
คิดในแง่ดี คนนั่งข้างๆ ติดๆ กันมีเยอะแยะ ต้องมีคนมองผิดแบ่งสายตาไปมองคนอื่นบ้างล่ะน่า
“โคตรปลื้มเลย หลานเป็นเดือนคณะ ฮ่าๆๆๆ”
โคตรชัด ย้ำกว่านี้มีอีกไหม...
ผมว่าถึงตอนนี้ไม่มีใครมองผิดแล้วล่ะครับ ให้ผมยืนขึ้นเลยมั้ยจะได้จบ
มะนาว มึงจะหัวเราะอะไรมิทราบ มาเป็นกูมั้ย? เคยบอกว่าอยากได้ไม่ใช่เหรอรหัสเลขตองเนี่ย!
……..
ตีสี่กว่าๆกิจกรรมในห้องเชียร์ก็จบแบบสมบูรณ์ เราได้ออกจากห้องเชียร์สักที ไม่ใช่อะไรผมเมื่อยขามากส่วนมะนาวต้องเกาะไหล่ผมเดินลากขา เพราะเป็นเหน็บ สักพักเมก็เข้ามาช่วยพยุง
ผมมานั่งรอพี่โนอาอย่างที่เขาบอกให้รอ มีหลายคนทักทายผมอย่างที่ไม่เคยทำ
โดยเฉพาะเอ้กับพงศ์ที่ลั้นลาอย่างกับพี่ยีนส์เป็นพี่รหัสตัวเอง พูดแต่พี่ยีนส์ๆ ไม่หยุดตั้งแต่ออกมาแล้ว
“มึง กูขอ กูจอง ของกู อย่าให้คนอื่นนะ” พงศ์ตบโต๊ะย้ำแล้วย้ำอีก
“กูมีสิทธินั้นรึไง”
“มึงไม่เห็นเหรอว่าแฟนเขาก็มีอยู่แล้ว” เอ้ทำหน้าบูดเมื่อคิดได้แบบนั้น
“อาจจะเป็นแค่พี่น้องรหัสที่สนิทกันก็ได้ เช้อะ”
“อยากได้รอดักตีหัวเอานะ เดี๋ยวคงมาหากูนี่ พี่โนอาบอกให้กูรอคงเพราะพี่ยีนส์จะมา”
“กูรู้แล้วค่ะ มะนาวบอกแล้วไม่งั้นกูกลับไปนอนตายที่ห้องแล้วเนี่ย เมื่อไหร่พี่ยีนส์จะมาๆ” พงศ์เริ่มสอดส่ายสายตาไปตามทางเข้าต่างๆ ของโรงอาหาร
“เมมึงจะไปไหน” มะนาวถามทันทีที่เมลุกขึ้นยืน
“กลับดิ ง่วงจะตายห่า”
“กินโจ้กกันก่อนดิ” พงศ์รีบพูด
“กูไม่หิว”
“อยู่ก่อนเดี๋ยวให้ผัวไปส่งเหมือนเดิมไง”
“ไม่เอากูไม่อยากเจอพี่มัน”
ช้าไปแล้วมึง ย้อนกลับไปเมื่อ 10 วิก่อนนะครับ ตอนที่เมลุกขึ้น ผมเห็นพี่ยีนส์เดินกับแก็งพี่ว้ากสองสามคนเดินเข้ามาในระยะสายตาแล้ว แม้จะอยู่ไกลแต่ผมเห็นว่าเขามองหาผม แต่ไม่สนใจผมเลย เขาเห็นผมนั่งเท้าแขนหมดแรงอยู่กับโต๊ะ แต่สายตาไปหยุดที่เมดาวคณะในร่างกึ่งหญิงกึ่งชาย (ใส่กางเกงวอร์มเสื้อนักศึกษาหญิง) ที่กำลังเหยียดตัวลุกขึ้นยืน พงศ์เหมือนจะเห็นเหมือนกับผม ก็เลยทำเป็นชวนคุย ‘กินโจ้กกันก่อนดิ’ ประโยคนั้นทำให้เมต้องหันกลับมาตอบและ ‘อยู่ก่อนเดี๋ยวให้ผัวไปส่งเหมือนเดิมไง’ ด้วยจังหวะที่ฝึกปรือมาอย่างดีก็ถามซ้ำให้เมต้องหันมาตอบซ้ำอีก
ช่วงที่เมหันกลับมาตอบผมเห็นสปีดการพุ่งตัวไวกว่าแสงของพี่ใหญ่สายผม แค่เสี้ยววินาทีพี่ยีนส์ก็มาดักทางเดินเมที่กำลังเดินไปทางหันหน้าไปทางขาดการระวังตัว
การชนกันเบาๆ เกิดขึ้นอีกครั้ง
แต่นี่มันไม่ใช่อุบัติเหตุเหมือนครั้งก่อน แบบนี้เขาเรียก โคตรจงใจ!
“เดินไม่ระวังอีกแล้ว”
แน่ะ! ยังมีหน้าว่าเพื่อนผมอีก
ผมว่ามีหลายคนหยุดคุยหยุดเล่นแล้วดูสองคนนี้อย่างตั้งใจอยู่เยอะนะ เพราะเขาเป็นประธานเชียร์ที่ปีหนึ่งสนอกสนใจและไม่เคยมีโอกาสเจอเขาข้างนอกห้องเชียร์มาก่อนเลย และเขาเป็นไอดอลของสาวๆ
เอ่อ... จริงๆ ก็ทั้งสองคนนั้นแหละ ทั้งเมทั้งพี่ยีนส์ ปกติสาวๆ ก็มองเหลียวหลังกันอยู่แล้ว
แล้วอยู่ๆ พี่ประธานเชียร์แกเล่นวิ่งสี่คูณร้อยหลบหลีกสิ่งกีดขวางกลางทางเดินโรงอาหาร คนจะไม่ตกใจหันมองได้ไง
“ขอโทษครับ” เมเก็บอาการตกใจไปแทบจะทันทีเมื่อเห็นว่าคนที่ตัวเองชนเป็นใคร เปลี่ยนเป็นขมวดคิ้วแล้วพูดขอโทษแข็งๆ
ผมเพิ่งรู้ว่าการแต่งกายมันมีผลกับการแสดงออกความเป็นผู้หญิงของเมด้วย จำได้ว่าคราวที่แล้วมันพูด ‘ขอโทษค่ะ’ แม้จะเบามากก็ตาม
เมไม่รอให้อีกฝ่ายพูดอะไรได้อีก เขาเบี่ยงตัวเลี้ยวไปเดินอีกทางทันที คราวนี้ขายาวๆ ของเมจ้ำอ้าวอย่างกะหนีผึ้งทั้งรัง ทิ้งพี่ยีนส์ให้ยืนหัวเราะชอบใจบ้าอะไรไม่รู้อยู่คนเดียว
ปู่รหัสครับ พี่รู้ไหม ถ้าเป็นคนอื่นไอ้เมด่าพ่อแล้ว นี่เห็นว่าเป็นรุ่นพี่มันเลยคุมสติไม่ปากดีเท่านั้นเอง
“ทำไมเสี้ยววินาทีนึงเมื่อกี้กูคิดว่าพี่มึงจะจับแขนเมไว้ว่ะ” มะนาวก้มลงกระซิบเบา
“นาวมึงคิดเหมือนกู” พงศ์เห็นด้วย สองคนเช็คแฮนด์กันอย่างตั้งอกตั้งใจ
ผมว่า ผมก็แอบคิดแบบนั้นอยู่เหมือนกันนะ
“ฮื้อๆ ทำไมกูรู้สึกว่ากูอกหักอีกแล้วว่ะ” เอ้เริ่มเบะหน้าห้องให้ใส่พวกผม มีน้ำคอยหัวเราะปลอบใจ
“มึงทำงี้กับขวัญใจพวกกูได้ไงว่ะ”
พี่ยีนส์โดนว้ากที่เดินตามมาผลักไหล่จนเซ
“พี่มีโนอาอยู่แล้วอย่าม่อดิ โลภนะพี่อ่ะ”
“พูดถึงแม่ แม่ก็มา ยีนส์แม่มึงมา” พี่อีกคนชี้พี่โนอาที่เดินมาด้วยท่าทีตึงเต็มที่
“แม่จ๋าลูกผิดไปแล้ว”
!!! สาบายว่านั่นคือประธานเชียร์คนเดิม ท่าทางโคตรปัญญาอ่อน
ประธานเชียร์ที่ผมรู้จักหมดท่า ตอนนี้ยกสองมือยอมแพ้หมดรูป
พี่โนอาหน้าตาบึ้งตึง เชิดใส่แล้วหันมาทางผมที่นั่งมองจนลืมไปแล้วว่ากำลังมองพวกเขาอย่างตั้งใจมากแค่ไหน
“นี่ มาแนะนำตัวกับน้องสิ เร็วๆ ง่วงแล้ว”
“โนอาจ๊ะจ๋า”
“ไม่ ต้อง พูด เลย กลับไปค่อยเคลียร์ทีเดียว”
“มึงตายแน่ยีนส์ กูไปหาน้องกูบ้างละ” พี่ว้ากแยกไปสองคน เหลืออีกคนนึงอยู่กับพี่ยีนส์ อย่าบอกนะว่า..
“แม็ต นี่พี่ยีนส์ ปู่เรา แล้วก็พี่ปกป้อง เป็นลุง”
ปู่ผมรู้อยู่แล้ว แต่ลุงด้วยเหรอ ลุงผมเป็นว้ากคนที่ชอบเดินป้วนเปี้ยนอยู่ข้างหลังผมบ่อยๆ ตอนแรกผมคิดว่าบังเอิญ แต่ตอนนี้ผมไม่ได้คิดไปเองแล้วล่ะ
ผมเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ขอสายรหัสเล็กๆ อยู่กันแบบเงียบๆ เหมือนเดิมได้ไหม
พอเริ่มมีคนมาสมทบเพื่อนผมรีบแยกตัวออกไป ประมารว่าแอบฟังสนุกกว่า มีคนมาสมทบมากมายล้วนเป็นพี่บัณฑิตที่คุ้นหน้าคุ้นตา ปู่ผมเป็นประธานเชียร์ ลุงผมก็เป็นว้ากเสื้อดำที่ปกติตะเดินระวังหลังให้ประธานเชียร์ พี่ของพี่ยีนส์ก็เป็นว้ากเก่า เลยขึ้นไปเป็นประธานเชียร์อีกคน เลยขึ้นไปเป็นคนที่ร้องเพลงเชียร์เป้ะสุดๆ เลยขึ้นไปอีกเป็นนายกสโม สูงไปเป็นประธานรุ่น กับประธานเชียร์รุ่นเก๋า อ้อ มีบางคนเป็นอาจารย์เพิ่งบรรจุแต่ไปเรียนต่ออยู่ด้วย
สรุปแล้ว สายรหัสผมที่ยังมีชีวิตอยู่ติดต่อได้และมาคณะบ่อยๆ มีเยอะที่สุด แต่ปกติจะไปอยู่เบื้องหลัง ไม่ออกมาให้ปีหนึ่งเห็น แต่กับปีสองสามสี่รู้จักพี่ๆ ผมเป็นอย่างดี เรียกว่าเดินไปในคณะนี่ยกมือรับไหว้กันแทบจะตลอดทาง บางคนผมเห็นหน้าบ่อยจนจำได้ด้วยซ้ำ แต่บอกกับผมว่าเพราะไม่อยากให้เรื่องประธานเชียร์เปิดเผยเลยพร้อมใจกันปกปิด
ทุกคนมายืนล้อมผมที่โต๊ะหลังจบเชียร์ เล่นเอาผมรู้สึกว่าตัวเองตัวเล็กเป็นหนูน้อยอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
นี่มันสายรหัสของโคตรนักกิจกรรมเลย
-------------------------------------------
TBC.
คงมีหลายคนเดาไว้แล้วว่าประธานเชียร์เกี่ยวอะไรกับพ่อแม็ตของเรา เดาไม่ยากเลย บอกอยู่ตลอดว่าปู่หาย ลุงไม่โพล่
รูปแบบเชียร์ของแต่ละคณะ และแต่ละที่ไม่เหมือนกัน ขอเขียนไม่เจาะลึกเผื่อมีน้องๆมัธยมอ่านเดี๋ยวรู้หมด 555+
เรื่องประธานเชียร์หล่อเกินจะห้ามใจนั้น อะฮั้นอิงจากตัวเอง ประสบการณ์ตรงว่าประธานเชียร์นั้นหล่อ เป็นแรงผลักดันให้เข้าเชียร์ทุกครั้งได้จริง เมื่อสมัยเมื่อสัก.... ไม่บอกเดี๋ยวรู้อายุคนเขียน 555 แต่ประธานเชียร์ของเก้านี่หล่อจริงแซ่บจัง อื๋อ ฮื๋อ ไอเลิฟยัวสมาย เลยล่ะ (ขอเคลิ้มต่อแป็ป) 555+
เน่ๆ ทุกคนลืมไปหรือเปล่าว่าอ่านนิยายวายอยู่ แปลว่าอะไร แปลว่าจิ้นชายชายไง แล้วนี่อะไร พร้อมใจกันเชียร์เมสุดแรงแบบนี้ต้องการอะไรจากคนเขียนคะ? 5555+
เมจะร้ายหรือโนอาจะร้าย โหวตค่า!
ปล. มาส่งใบลากิจไปงานแต่งควบงานบวชจ้า กลับมาอีกทีอังคารรึพุธหน้าเลยน้า
เพจขี้เกียจแปะ ดูข้างล่างโพสตัวเล็กๆเอาน้า อันนั้นแหละๆ