- บทที่ 13 - เหตุผลคนหึง - (ต่อ) มะนาวขอว้าก
-------------------------------------
ไอ้มะนาวอยากจะว๊ากให้กระจกรถทะลุ
อร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ถ้ากูกระอักความสุขตายจะไม่สงสัยตัวเองเลย เชี่ยแม่ง โคตรฟิน
โคตรคุ้มถึงแม้จะต้องเปลืองตัวโดนปากไอ้เหี้ยปราณแบบเฉียดๆไปนิดนึง ผมจะถือว่าเรื่องนั้นไม่เกิดขึ้นจริง กูไม่อิน ไม่นับ แต่อย่าพูดถึงแม่งเลย หมดอารมณ์
คูณณณณณ ผู้ชมครับ!
มาฟังเรื่องนี้ดีกว่า มะนาวเสียซิงแล้ววววว อยากจะกู่ร้องให้คอแตก ฮ่าๆๆๆๆ ผมขับรถไปหัวเราะไปอย่างกะคนบ้า ตอนติดไฟแดงนี่คันข้างๆ เหล่มองกันทั้งคันว่าผมหัวเราะบ้าอะไรอยู่คนเดียว เลยต้องเอามือถือมาทำเหมือนเปิดโฟนคุยกับใครอยู่
ผมจะบรรยายความตื่นเต้นแบบสาวน้อยของผมเมื่อคืนดีไหม? แต่ไม่ดีกว่าผมเขิน เก็บไว้เป็นความลับระหว่างผมกับเขา แค่ อิอิ สองคน
ผมว่าผมก็ไม่ได้มีท่าทางสาวน้อยนะ แต่แม่งถนุถนอมผมมากกกกกก ถ้าใส่ตักโอ๋ได้คงทำ
แสดงว่าความพยายามซึนของผมเป็นผลอย่างยิ่ง แม้จะซึนแตกปล่อยหน้าแดงใส่มันไปหลายทีแต่ก็พยายามเก็บปากเก็บคำไม่ไวไฟมากไปจนมันกลัว ผมรึอุส่าไม่ทำท่าอยากเสียตัวจนเกินงานแทบบ้า คือใจจริงอยากจับมันจูบล้างปากให้ตั้งแต่อยู่ที่ร้านตอนออกจากห้องน้ำแล้ว แต่แม่ง เดี๋ยวมันกลัว
แต่ที่เห็นน้ำตาคลอนั่นคลอจริง โกรธจนน้ำตาจะไหล อยากกลับไปต่อยหน้าแม่งให้เลือดกลบปากจริงๆ แต่มาถึงตอนนี้อยากกลับไปขอบคุณ ไม่มีไอ้พี่ปราณเมื่อคืนผมอาจจะไม่ได้กัน 55555+
เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร? จุดที่ก่อนนอนก็ Kiss ตื่นเช้า ก็ Kiss ก่อนลาก็ Kiss หูยยยย ถ้าไม่เกรงใจผมจะดูดให้หนังมันติดปากออกมาเป็นชื่อไอ้มะนาวคนนี้เลย แต่เสียดายผิวขาวๆ ผมเก็บไว้กอดคนเดียว จะไม่แบ่งใคร
ในขณะที่คนรอบตัวจ้องกล้ามแขนเขาตาเป็นมัน ผมกลับไม่ต้องทำอะไรเขาก็เป็นฝ่ายเดินเข้ามาหา มองผมด้วยสายตาเว้าวอนตลอดเวล์ (หากฉันบินบินไปได้ดั่งนก ฉันจะบินบินไปในนภา♫♬ ♫~♪) พี่ชนะเองพอได้เห็นเวลาผมอยู่กับแม็ต (แม้จะนั่งหันหลังให้กันก็เถอะ) ยังต้องเมินหน้าหนี แหม ทีนี้จะได้รู้สักทีไม่ต้องปฏิเสธให้เสียเวลา
คนอื่นผมก็แอบมองบ้างเป็นอาหารตา แต่จานหลักผมใหญ่มากกินอย่างอื่นไม่ไหวเลยล่ะขอบอก(หมายถึงอิ่มอกอิ่มใจ อย่าคิดลึกไป อิอิ) ทั้งจานหลักของหวานรวมอยู่ในคนคนเดียว มะนาวอยากจะสิงร่างมันไม่ไปไหนเลย แต่กลัวตัวเองจะกระอักความสุขตายเลยขอแยกมาตั้งหลักแอบกรี๊ดแป็ปจะได้ไม่เสียเชิง
ผมขับรถมาถึงบ้านแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว เวลาอารมณ์ดีๆนี่เวลาผ่านไปไวจริง ก่อนลงรถผมไม่รอช้า หยิบมือถือขึ้นมาพิมพ์บอกพ่อ ว่าถึงบ้านแล้วนะครับ เขาจะได้ไม่ต้องห่วง
ลงจากรถผมไม่ได้เข้าบ้าน เดินไปร้านเสริมสวยฝั่งตรงข้ามแทน ผมนี่แทบจะดีดตัวแบบนักบัลเล่ต์หมุนเป็นลูกข่างเข้าร้านเจ้เฟิร์น ถ้าไม่ติดตรงสังขารไม่อำนวยนะ
“เป็นอะไรย่ะ อารมณ์ดีอย่างกะคนมีแฟน”
“...” เออวะ ลืมคิดเลย นี่ผมกับมันใช่แฟนกันรึเปล่าล่ะเนี่ย ทำไมเพิ่งมาคิดได้เอาป่านนี้ ทำไมมึงความรู้สึกช้ามะนาว?
“อ้าว เปลี่ยนสีไวอย่างกะจิ้งจก ไปหาอะไรกินข้างในก่อนไป เจ้ไดย์ผมลูกค้าอีกแป็ป”
ผมเดินลึกเข้ามาข้างในร้านที่เป็นส่วนของครัวและบันไดขึ้นชั้นบน บ้านมีแต่ไม่ค่อยมีของกิน กินที่นี่จนชินแล้วครับ
มาคิดๆ ดู มันยังไงวะ ผมควรจะคิดมากไหมเนี่ย
เริ่มที่อะไรนะ? เริ่มที่ข้างรหัส ไปเป็นคนกุมความลับในยามเมาของผม คอยดูแลเทคแคร์ ใส่ใจผมมากกว่าคนอื่นๆ แสดงออกว่าเป็นห่วงผมสม่ำเสมอ เริ่มหยอกล้อในแบบที่ทำให้ผมเขิน เริ่มมีคำหวานให้ใจสั่นหวั่นไหว เขาค่อยๆมากขึ้นโดยที่ผมไม่รู้ตัว
มีใจ แม่งต้องมีใจแน่ๆ จะมากจะน้อย เขาก็มีอารมณ์กับผมล่ะวะ
แต่ผมเป็นผู้ชาย ผมย่อมเข้าใจผู้ชายด้วยกันดี เซกซ์สำหรับผู้ชายไม่ได้แปลความหมายออกมาเป็นความรักได้เสมอไป
เอาแล้วสิ พอคิดได้อย่างนี้ผมถึงกับนั่งไม่ติด
ถ้าเขาเพียงแค่อยาก แล้วบังเอิญว่าผมเป็นคนที่ใกล้มือที่สุดที่เขาคว้ามากดได้ล่ะ?
เฮ้ย แต่ผมรู้จักเขานะ พ่อสุภาพบุรุษ ไม่กดใครแค่เพราะอยากมีเซกซ์หรอก ใช่มะ? ใช่รึเปล่า? ใช่แหละ? เนอะ....
เห้อออออ ผมดีใจได้ไม่ถึงครึ่งวันก็มานั่งคอตกจิตตกซะแล้ว เมื่อไหร่เจ้จะไดร์ผมเสร็จจะได้ขอคำปึกฉา
“อ้าว ทำไมทีนี้ทำหน้าอย่างกะหมาหงอย เมื่อกี้ยังลั้นลาจนน่าเตะอยู่เลย”
“เจ้ ผมควรทำยังไงดี...”
“อ่ะ เล่ามา”
“คือ ผมกะคนนั้นอ่ะ”
“อย่าบอกนะว่าได้กันแล้ว”
“เจ้รู้ได้ไง”
“เขาเรียกอาบน้ำร้อนมาก่อน แล้วทำไมต้องทำหน้าเครียด ก็ชอบเขาไม่ใช่เหรอ หรือไม่ถึงอกถึงใจ ฮ่าๆๆๆ”
“ไม่ใช่เลยเจ้ ไม่ใช่เรื่องนั้น แต่ประเด็นคือตอนนี้เนี่ย เราไปด้วยกันได้ดี เขาดีกับผม ผมก็ไม่ได้สนคนอื่น ถึงทั้งเขาทั้งผมจะมีคนเข้ามาเยอะแยะ แต่ลึกๆต่างคนต่างรู้ว่า เนี่ยเป็นคนนี้ ผมไม่รู้เขาคิดอย่างนั้นรึเปล่านะ แต่เขาแสดงออกแบบนั้นตลอด แล้วแบบ ผมต้องคิดมากไหมที่เรายังไม่ได้ตกลงเป็นแฟนกันจริงๆจังๆ”
“ฮ่วย ไอ้คำจำกัดความพวกนั้นน่ะกินไม่ได้หรอกนะ ถ้าเขาดีกับเรา ไม่ได้ไปดีกับคนอื่นนอกจากเรามันก็ใช่เอง หนูคิดดูนะ เขามีเราคนเดียวรึเปล่า เขาไปแบบ ทำไม่ชัดเจนกับคนอื่นอีกรึเปล่า เราอยู่ด้วยกันย่อมรู้ดีแก่ใจ คนเยอะแยะที่เป็นแฟนกันแต่นอกใจกัน หรือเที่ยวแจกคำว่าแฟนให้คนหลายๆคนพร้อมกันถ้าได้แบบนั้น คำว่าแฟนก็ไม่มีค่าหรอกนะ”
“...” ผมเห็นความขมขื่นในแววตาเจ้
“เข้าใจที่พี่จะบอกใช่ไหม?”
“ครับ”
“ถ้าใช่ คำจำกัดความก็ไม่สำคัญ เพราะถึงจะมีสถานะค้ำคอแต่ไม่ได้ทำตัวให้สมฐานะแฟน มันก็ไม่มีความหมายอะไร พาลจะปวดใจเปล่าๆ”
“นั้นสิเนอะ เขาดีกับนาวมากจนไม่รู้จะดียังไง”
“นั่น แล้วดูเขาเป็นคนเจ้าชู้รึเปล่าล่ะ”
“ไม่นะนาวว่าเขาแค่ เป็นคนดีเกินไป”
“แต่ก็ขอให้มีสตินะมะนาว รู้ใช่ไหมเจ้บอกเราเสมอว่ารักทำให้คนเราตาบอดได้จริง มันเป็นวัยของเราที่จะมีความรัก เจ้จะไม่ห้าม เขาอาจจะเป็นรักแรกและรักเดียวของหมูก็ได้เจ้ถึงอยากให้ทำทุกวันให้มีความสุขเข้าไว้อย่าทำให้ต้องเสียเขาไปเพราะความงี่เง่าของตัวเอง หรือแม้วันนึงเกิดพวกหนูมีช่วงเวลาที่ไม่ได้เดินไปพร้อมกัน ก็ยังมีความทรงจำดีไว้ให้รู้ว่าครั้งหนึ่งความรักก็เคยเกิดขึ้นกับเรา”
“ผมไม่ได้คิดไกลขนาดนั้น”
“ฮ่าๆๆ ระวังเถอะ เวลามันผ่านไปเร็วนะ แป็บๆก็แก่ ความรักที่เคยน่าหลงใหลสำหรับเจ้ มันยังกลายเป็นเรื่องไม่สำคัญในชีวิตได้เลย คนเราโตขึ้นความคิดก็เปลี่ยนไป”
“นาวไม่อยากโต”
“จ๊ะ กินๆเข้าไปข้าวน่ะ ไม่อยากโตแต่ก็อดตายไม่ได้นะ”
ผมมองกับข้าว น้ำพริก แกงไตปลา กับผัดเผ็ดหมูป่า ฆ่าฉันเถอะ
“เจ้ มีแกงจืดหรือผัดผักไหม แกงไตปลามันเผ็ด”
“ก๊ากกกกกก”
เจ้หัวเราะซะหมดสวย ผมล่ะเครียด คิดผิดรึเปล่าเอาเรื่องพวกนี้มาปรึกษาเจ้เฟิร์น
แต่ไม่ปรึกษาเจ้ จะมีใครให้ปรึกฯ ไม่มีผู้เชี่ยวชาญและไว้ใจได้ไปมากกว่านี้แล้ว
มาคิดๆดู ก็จริงทุกอย่างอย่างที่เจ้ว่า คนรักกัน การกระทำต่างหากที่สำคัญ คำจำกัดความนั้นก็แค่ชื่อเรียกเก๋ๆ
อีกอย่าง แค่ผมทำอ่อนหวานสบตาแม็ตปิ้งๆในโรงอาหารสักทีสองที คนก็รู้กันทั่ว เป็นคนหน้าตาดีนี่ชีวิตก็สะดวกสบายแบบแปลกๆ มีประชาสัมพันธ์ส่วนตัวมากมาย ไม่ใช่ฝั่งผมนะ ฝั่งพ่อแม็ตโน้น แฟนคลับเดือนคณะละลานตาจนผมไม่รู้จะระแวงยังไงหวาดไหว เลยปล่อยไหลจะกรี๊ดได้เชิญ แต่ถ้ามากกว่านั้นก็มาเจอกันก่อนสักตั้ง ฮ่า
โทรศัพท์ ผมสั่น หยิบขึ้นมาดูก็หน้าแม็ตตอนนอนโชว์หรา เจ้มองหน้าเบะปากแล้วกลับออกไปหน้าร้าน
-ถึงบ้านแล้วเหรอ-
“ถึงแล้ว แต่ตอนนี้มาอยู่บ้านข้างๆ”
-บ้านเจ้เฟิร์นใช่ไหม ลูกค้าเจ้เยอะป่าว-
“ก็เรื่อยๆ มึง กูว่าจบเชียร์จะกลับไปทำผมสีเดิม ดีไหม มึงจำได้ใช่ป่าวสีอ่อนๆอ่ะ”
-จำได้ แต่ไม่ต้องทำก็ได้นะ-
“อ้าวไมอ่ะ ไม่หล่อเหรอ”
-ทำสีผมบ่อย แก่ไปหัวล้านนะมึง-
“เฮ้ย ไม่เป็นไร แก่ก็ส่วนแก่ ถึงเวลาค่อยว่ากันอีกทีแล้วกันอีกตั้งนาน”
เขาเงียบไปนานกว่าจะตอบ
-เอาจริงๆนะ ที่กูไม่อยากให้ทำเพราะทำแล้วมึงจะน่ารักมาก กูขี้เกียจตามหึง-
“>////<”
-ไม่ทำได้ไหม?-
“อื้ม ไม่ทำก็ไม่ทำ”
เห็นไหม เห็นไหม แม่ง แม่งงงงงงงงงงง
ลูกอ้อนแม่งลูกใหญ่มากกกกกกกกกกกกกกกก
อ้อนแบบนี้กูก็ตายสถานเดียว
-------------------------------------
TBC.
ในที่สุดก็เดินทางมาถึงจุดนี้
เขินแป็ป >///<
คาดว่าต้องมีคนเดาว่าสองคนนี้ต้องปะทะกัน ณ ตอนเมาไม่ได้สติ เอาไว้ก่อนๆคราวหน้ายังมี ห๊นทางยังอีกยาวไกล
ว่างๆจิมาตอบคอมเม้นต์เน้อ คนเขียนง่วงนอน คนเขียนว่าจะอัพตั้งแต่สี่ทุ่ม ดูเวลาอัพจริงสิ เห้ออออ นี่ตรวจทานทีไรก็ยังเจอคำผิด
ขอโทษที่มีบางคำหลุดไปให้เสียอารมณ์เน้อ หยวนๆเนอะ 555+
บะโรไปแอบเปิดเรื่องสั้นไว้จ้า ลงไปหนึ่งตอน ณ ตอนนี้ แวะไปเยี่ยมกันได้จ้า[เรื่องสั้น] คิงไซซ์ ใจเดียวกัน (จบแล้วจ้า 24/04/59)
มีตอบเม้นต์ ที่โพส 105 ข้างล่างนะคะ