ตอนที่ 7
ลมประจำถิ่นพัดพาอากาศเย็นโกรกใส่หน้าต่างดังกุกกัก ผู้คนในเมืองที่เดินกันขวักไขว่เริ่มพากันใส่เสื้อขนสัตว์หนารับกับฤดูที่จะกำลังจะผันเปลี่ยน
เดิมทีสภาพอากาศไม่ใช่ปัญหาของเวสเปอร์
เพราะไม่ว่าจะฤดูกาลใดก็ล้วนแต่อยู่ในปราสาท
บ่อยครั้งที่เวสเปอร์เกาะหน้าต่างมองเกล็ดหิมะที่ร่วงหล่น ฝันเล่นๆ ว่าจะได้เล่นมันบ้าง แม้ว่าจะมีช่วงนึงที่ไปอยู่กับแม่ที่บ้านไกลเมืองแต่ก็ไม่มีโอกาสแม้แต่จะออกจากห้อง
การเดินทางกับโลกัสเหมือนกับเป็นการเปิดโลกให้เวสเปอร์
เรียนรู้สิ่งต่างๆ จากการเดินทางแทนคำสั่งสอนจากอาจารย์ทั้งหลาย หรือก็คือสิ่งที่องค์ราชาไม่ใส่ใจจะให้มันกับเวสเปอร์ ต่างกับองค์ชายรองที่แค่เพียงเอ่ยปากว่าอยากไปที่ใดในวันรุ่งขึ้นก็จะมีขบวนเสด็จทันที
ในตอนนี้เวสเปอร์กับโลกัสกำลังต่อคิวเข้าเมืองทำให้อากาศเย็นสามารถกัดผิวองค์ชายได้เต็มที่
ส่วนกองคาราวานนั้นได้ไปที่เมืองอื่นต่อแล้วเพราะเมืองนี้ไม่ใช่ที่หมายของพวกเขา
“ เจ้าเสือ ! ข้าหนาว หนาว ”
เวสเปอร์พูดเสียงสั่นกอดเจ้าแมวในอ้อมกอดแน่น
โลกัสแค่นเสียงหัวเราะเบาๆ เอ็นดู
ความเย็นแค่ทำให้ข้าจามยังยากเลย
“ รอก่อน องค์ชาย ถ้าเข้าไปได้ข้าจะให้เจ้านอนเตียงนุ่มๆ ห้องอุ่นๆ เลย ”
“ ฮือ ข้าหนาว หนาว ”
โลกัสถอดเสื้อคลุมตัวเองห่มให้องค์ชายเพื่อเพิ่มความอบอุ่น
เสื้อคลุมสีดำเข้ากันดีกับผมที่ถูกเวทย้อมเปลี่ยนเป็นสีดำ
แง้วววว
ฟินน์ขู่ในลำคอเมื่อมันอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของความอบอุ่น เสื้อคลุมสองชั้นกำลังจะทำให้มันขาดอากาศหายใจตายในอ้อมกอดองค์ชาย !
“ เจ้าเสือ ! เจ้าแมว เจ้าแมวเป็นอะไร ”
เวสเปอร์ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก มองเจ้าแมวสลับกับเจ้าเสือลนลาน
พยัคฆ์ดำหลุดยิ้มมุมปาก
ต้นเหตุที่ทำให้ฟินน์หายใจไม่ออก ไม่ใช่เจ้าหรอกเหรอองค์ชาย ?
“ เจ้าแมวแค่อยากออกมาเดินเล่นน่ะ ”
มือหยาบเลิกเสื้อที่คลุมตัวองค์ชายหยิบฟินน์ในอ้อมกอดองค์ชายออกมา
แง้ว
ฟินน์ตะเกียกตะกายจนโลกัสยอมปล่อยให้ไปยืนบนพื้น มันหอบหายใจดังแฮ่กๆ ก่อนจะพยายามเลียขนที่ยับเยินจากการโดนกอดหนักๆ มา เมื่อขนของมันพอดูได้ก็กลับมายืนข้างองค์ชาย
“ แต่มันหนาวนะ เจ้าแมว เจ้าแมวไม่หนาวเหรอ ”
องค์ชายมองเจ้าแมวเศร้าๆ
ตัวเจ้าแมวอุ่นมากเลย
ข้าอยากกอดอีก
“ เจ้าแมวก็เหมือนกับข้า สภาพอากาศไม่สามารถทำอะไรได้ ถ้าหากเจ้าเดินทางไปกับข้าเรื่อยๆ บางทีเจ้าอาจจะเป็นเหมือนกับพวกข้า ”
นัยน์ตาสีแดงจดจ้ององค์ชายด้วยรอยยิ้มจาง
แต่คงจะเป็นเรื่องยากสำหรับองค์ชาย
เห็นทีข้าต้องซื้อเสื้อกันหนาวให้แล้วสิ
องค์ชายไม่ได้ตอบกอดตัวเองแน่น
โลกัสจึงดึงองค์ชายกอดหลวมๆ ไว้
“ แล้วตัวข้าล่ะ เวสเปอร์ อุ่นไหม ? ”
เวสเปอร์ยิ้มจนตาหยี
“ อื้อ ! อุ่น อุ่นมากเลย เหมือนข้ากำลังห่มผ้าเลย ”
โลกัสรู้สึกถึงการฝนเล็บที่ขาของตัวเองซึ่งมันก็ไม่สามารถทำให้พยัคฆ์ดำสะเทือนสักนิดเดียว
แง้วๆๆ
ฟินน์พ่นลมหายใจหงุดหงิด หูหางตั้งขนพองไม่พอใจ
“ ช่วยไม่ได้ ” โลกัสแค่นยิ้มใส่สัตว์เลี้ยงตัวเอง”เจ้าเลือกเวสเปอร์ก็จริง แต่ข้าเป็นเจ้านายเจ้า เวสเปอร์ย่อมเป็นของข้า ”
เจ้าแมวจึงทิ้งตัวนอนบนพื้นกลิ้งไปกลิ้งมาเหมือนพยายามประท้วงจนฝุ่นคลุ้ง
“ เจ้าแมว มันสกปรกนะ ”
เวสเปอร์แกะมือโลกัสออกถลาไปอุ้มตัวฟินน์ขึ้นมาปัดฝุ่นออกจากตัว
“ ถ้าเจ้า เจ้าสกปรก ข้าก็กอดเจ้าไม่ได้สิ ”
ฟินน์ร้องครืดๆ ในลำคอออดอ้อนองค์ชาย หันมองโลกัสราวกับแสดงให้เห็นว่าคำพูดของโลกัสไม่เป็นความจริง เพราะองค์ชายก็เป็นของมันเช่นกัน
“ ท่านนักเดินทาง ”
เสียงทหารประจำการเอ่ยเรียกทำให้โลกัสกลับไปแย่งองค์ชายคืนมาไม่ได้
พยัคฆ์ดำที่อยู่ในคราบนักเดินทางธรรมดาแสร้งยิ้มเป็นมิตรที่ดูโง่และไร้พิษภัย ส่วนเวสเปอร์ก็เก็บปากเงียบทันทีก้มหน้างุดเกาะชายเสื้อโลกัส
ทหารประจำการเหลือบมองนักเดินทางทั้งสองสำรวจหาความผิดปกติ ด้วยความสามารถที่มีไม่มากทำให้ไม่สามารถจับเท็จอะไรได้ ตำแหน่งที่ได้มาก็ไม่ใช่ตำแหน่งที่อยากได้ เพียงแต่มันว่างพอดีจึงจำใจต้องมาทำ การทำงานจึงเต็มไปด้วยความสะเพร่า ไม่แม้กระทั่งตรวจหาอาวุธเหมือนทุกครั้งที่ตรวจผู้อื่น
เพราะคิดว่านักเดินทางที่เปิดเผยใบหน้าท่าทางไร้พิษภัยผู้นี้คงไม่กระทำป่าเถื่อนอะไรแน่
“ พวกท่านเข้าเมืองด้วยเหตุใด ? ”
“ พวกข้าได้ข่าวว่าเมืองนี้กำลังจะจัดงานประลองประจำปี เลยอยากจะมาชมว่ามันยิ่งใหญ่สมคำล่ำลือที่เพื่อนข้าเล่าให้ฟังรึเปล่า ”
โลกัสพูดด้วยสีหน้าตื่นเต้นทั้งๆ ที่ในใจนั้นตรงกันข้าม
งานประลองส่วนใหญ่ก็มียอดฝีมืออยู่ไม่กี่คนเท่านั้น
ที่เหลือก็เพียงคนทั่วไปที่อยากลองเข้ามาจับดาบไล่ฟันกันเล่นๆ
“ แน่นอน มันยิ่งใหญ่แน่ เพราะครั้งนี้ท่านเจ้าเมืองจัดในวันเกิดของท่านด้วย อาหารชั้นดีจะถูกแจกจ่ายให้กับขุนนาง ส่วนพวกข้าคงได้กินแค่ขนมปังจืดๆ ”
ผู้เฝ้าประตูพูดด้วยสีหน้าเกลียดชัง
คำสรรเสริญที่เต็มไปด้วยคำประชดประชันทำให้โลกัสสนใจแตไม่ได้เอ่ยปากถามต่อ
“ น้องชายของข้าหนาวมาก ข้าเข้าเมืองได้รึยัง ท่าน ? ”
ว่าพลางยื่นเหรียญทองให้ตามธรรมเนียมสำหรับการเข้าเมือง
“ ปกติจะสองเหรียญทองสำหรับสองคน ข้าคิดเจ้าแค่หนึ่งเหรียญทองแล้วกัน เดี๋ยวจะไม่มีเงินซื้อข้าวกินในเมือง ”
“ ขอบคุณท่านมาก ”
พยัคฆ์ดำยิ้ม
ถ้าหากนายทหารคนนี้รู้ว่าข้าเป็นใครคงไม่พูดเช่นนี้แน่
บรรยากาศในเมืองเรียกได้ว่าค่อนข้างหม่นหมองจนโลกัสต้องขมวดคิ้วแน่น ถึงแม้มีชาวต่างเมืองเดินกันขวักไขว่แต่จำนวนที่ซื้อของนั้นน้อยเกินทน ราคาที่ถูกตั้งสูงลิบลิ่วไม่ได้เกินคำพูดของนายทหารนัก หากเป็นคนทั่วไปคงไม่วายได้กินแต่น้ำเปล่ากับอาหารชั้นเลว
สุนัขเลี้ยงตัวผอมนอนแน่นิ่งบนพื้น มันเหลือบมองฟินน์ที่เดินผ่านไม่สนใจที่จะวิ่งไล่กวดเหมือนสุนัขปกติ ความหิวโหยและอากาศที่เย็นเยือกทำให้การนอนนิ่งๆ ดูจะเป็นเรื่องที่ฉลาดกว่า
“ เจ้าเสือ เจ้าเสือ ”
องค์ชายกระตุกชายเสื้อให้โลกัสหันมาสนใจ
“ หนาวงั้นเหรอ องค์ชาย ”
เวสเปอร์ไม่ตอบเพียงแค่มองไปทางร้านขายเสื้อผ้ากระเป๋าด้วยตาเป็นประกาย
โลกัสหัวเราะหึในลำคอ
“ ข้าคงต้องรีบหาเงินแล้วสิ ”
เมื่อร้านที่ว่าถูกตกแต่งอย่างหรูหราผิดกับร้านรอบข้างที่เป็นของชาวบ้านทั่วไป
แค่ของที่ชาวบ้านนำมาขายยังแพง
แบบนี้ข้าคงต้องขายตัวเองด้วยเพื่อที่เงินจะได้พอกับสิ่งที่เจ้าอยากได้
องค์ชายของข้า
“ เจ้าเสือ เจ้า เจ้าจะไปไหน ”
เวสเปอร์ถามเมื่อเห็นโลกัสสวมชุดคลุมเตรียมจะออกไปข้างนอก
“ ข้าจำได้ว่าลืมของไว้ที่ร้านเสื้อผ้าเลยจะไปเอา ”
โลกัสลูบหัวองค์ชายเบาๆ ที่นั่งบนเตียงนุ่มด้วยความเอ็นดู
“ เจ้าเสือ เจ้าเสือต้องรีบกลับมานะ ! ข้าสัญญาแล้วว่าจะให้เจ้ากอด ”
องค์ชายขมวดคิ้วเพราะเวลานี้ก็เวลานอนของเขาแล้วด้วย
“ นอนกับฟินน์ไปก่อนแล้วกัน อย่าลืมสิ่งที่ข้าพูด เจ้าห้ามออกจากห้องนี้โดยที่ข้าไม่อยู่เด็ดขาด ”
“ อื้อ ! ข้าจะไม่ออกไป ”
“ ดี นอนให้อิ่ม พรุ่งนี้ข้าจะพาเจ้าเที่ยวเล่นในเมือง ”
แง้ว
ฟินน์มองเจ้านายของตัวเองเขม็ง
มันรู้ดีว่าเจ้านายของมันจะไปไหน
โลกัสแค่นยิ้ม
“ ดูแลองค์ชายให้ดี ฟินน์ ”
โลกัสไม่ได้ลืมของอย่างที่พูดไว้กับเวสเปอร์
เป้าหมายหลักที่ไปแต่ละเมืองคือการสืบหาข่าวและการล่าค่าหัว
พยัคฆ์ดำใช้เวลาไม่นานก็หาที่ๆ ต้องการพบ
ตรอกมืดที่แทบไม่มีใครใส่ใจ
ไม่เสียเวลาคิดย่างเท้าเข้าไปทันที เปิดเผยใบหน้าแท้จริงเพื่อยืนยันตัวกับผู้ที่ขายข่าวสารต่างๆ รวมถึงเป็นนายหน้าสำหรับการว่าจ้างฆ่าใครบางคน
“ ต้องการอะไร ”
เสียงแหบกร้าวดังขัดหูพูดดังแว่วในความมืด
“ ข่าวเกี่ยวกับพยัคฆ์ทมิฬ ”
“ ไม่มี พยัคฆ์ดำอย่างเจ้าจะหาเรื่องเสือดำยักษ์นั้นไปทำไม ? มันตายไปนานแล้ว ”
“ ค่าหัว ”
โลกัสพูดเสียงเย็นเยียบ ไม่ตอบคำถามและนัยน์ตาเป็นประกายกร้าวแสดงถึงความไม่พอใจ
“ สูงที่สุดในตอนนี้คือเจ้าเมือง หนึ่งพันเหรียญทองสำหรับการฆ่าในวันเกิด ”
“ ข้าจะมารับเงิน ”
โลกัสพูดตัดบทออกจากตรอกทันที
อารมณ์พลุ่งพล่านด้วยความหงุดหงิด
ไม่ว่าเมืองใดๆ ก็ไม่มีข่าวคราวที่เขาต้องการ !
จากที่ควรกลับไปที่โรงแรงหรูยอมนอนให้องค์ชายกอด แต่โลกัสกลับสาวเท้าเข้าไปในร้านเหล้าเพื่อดื่มดับอารมณ์หงุดหงิดตัวเอง และในครั้งนี้โลกัสไม่ได้ปฎิเสธหญิงสาวที่มาเสนอตัว
เกือบค่อนคืนจึงกลับห้อง
เจอเข้ากับองค์ชายที่กำลังนั่งกอดเข่าร้องไห้บนเตียง
โลกัสจัดเสื้อของตัวเองให้เข้าที่ รีบเข้าไปหาองค์ชาย
“ เป็นอะไร เวสเปอร์ ”
“ เจ้าเสือ ฮึก ”
เวสเปอร์กอดโลกัสแน่น
“ ข้า ข้าฝันว่าท่านพ่อจะแทงข้า ”
องค์ชายพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเทา
“ ฮึก ข้ากลัว กลัวมากเลย เจ้าเสือ เจ้าเสือหายไปไหน ทำไมไม่อยู่กับข้า ฮึก ”
“ ขอโทษ ข้าขอโทษ ”
พยัคฆ์ดำพูดพร้อมลูบหลังองค์ชาย
รู้สึกแย่..
ในตอนที่ข้ากำลังทำเรื่องแบบนั้นแต่องค์ชายของข้ากลับกำลังร้องไห้
“ ข้าจะไม่ไปไหนอีกแล้ว ”
แม้โลกัสจะพูดซ้ำไปซ้ำมา
แต่ก็ไม่สามารถทำให้องค์ชายหยุดร้องไห้ได้
-------------
ลงดึกมาก พร่งนึ้ต้องตื่นเช้า