•HANDSOME GHOST•
[6]-ชายผู้มากับผมทรงเปิดข้าง
“มึงดูหนังโป้แล้วช็อคตาย”
“ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่ใช่คนแบบนั้น” มันยังไม่เชื่อผมอีก... เอาไงดีวะ
“คือ...... คะ...คือมึงดูหนังโป้ไง แล้วมึงก็ชักว่าวตามใช่ปะ พอมึงตื่นเต้นหัวใจมึงก็เต้นแรง แล้วพอมึงแตก มึงก็ช็อคตายเลย ชาวบ้านบอกมึงตายคาน้ำว่าวเลยนะเว้ย” ผมยังแถ สีหน้าผมคงจะแสดงความวิตกกังวลออกไปมาก....
แต่ก็คงจะไม่เท่าหน้าซีดที่เริ่มมีเลือดไหลออกมาจากหน้าผาก รอยเหมือนถูกของมีคมเฉือนค่อยๆปรากฏขึ้นมาตามแขนขา เลือดสีแดงสดค่อยๆซึมออกมาจากแผลเหล่านั้น.... ทำให้นึกถึงคำพูดของพี่วินที่บอกว่า มันโดนเหล็กฟาดหัว แล้วก็เอาคัตเตอร์กรีด
“แล้วแผลพวกนี้ .... มันมาจากไหน !” น้ำเสียงอันโกรธเกรี้ยวถูกเปล่งออกมาจากริมฝีปากที่แตกระแหงตรงหน้า
“อรึก !” ผมเผลอกลืนน้ำลายลงคอ ตอนนี้ไอ้คิดน่ากลัวที่สุดเท่าที่ผมเคยรู้จักมันมาเลยครับ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มันตะคอกผม ....ทำไมผมต้องโกหกมันด้วยนะ ผมไม่เข้าใจตัวเองเลย... ทำไมผมถึงไม่อยากให้มันรู้ความจริง...
“นาย...จะบอกฉัน...ได้รึยัง... ว่าแผลพวกนี้มันมาจากไหน !” มันตะคอกผมอีกครั้ง ผมถึงกับต้องหลับตาหันหน้าหนีภาพน่ากลัวๆตรงหน้า
“ไม่ !! กูไม่บอกมึงหรอก !!” น้ำตาผมเริ่มคลอเบ้า เกิดมาผมเคยร้องไห้อยู่สองครั้ง คือตอนเกิดกับตอนที่เสียพ่อแม่ไป ผมจะไม่ยอมให้ครั้งนี้เป็นครั้งที่สาม ผมพยายามกลั้นน้ำตา..... แต่มันก็กลั้นไว้ไม่ไหวเมื่อสัมผัสเย็นเฉียบจากมือหนาบีบลงบนไหล่ผม
“ทำไมถึงไม่บอกฉัน หะ !!”
“..............”
“เงียบทำไม !!”มันยังคงตะคอกใส่ผมไม่หยุด
“ก็กูกลัวว่ามึงจะเสียใจไงวะ !”
“...................”
“มึงรู้ปะ ว่าความจริงที่กูได้ยินมาคืออะไร แล้วมึงมองดูตัวเองดิ ผีกากๆอย่างมึงจะรับได้หรอ มึงคิดว่าน่าสนุกหรอวะที่มึงจะรู้ว่าตัวเองตายยังไง กูจะไม่บอกมึงจนกว่ากูจะสืบเรื่องจนแน่ใจ” ผมเข้าโหมดจริงจัง น้ำตาไหลออกมาเรื่อยๆ จากทั้งความกลัวและความอึดอัด ทั้งเย็นนี้ผมต้องเก็บเรื่องที่ผมไม่เกี่ยวเหี้ยอะไรเลยมาคิด สมองผมมีแต่เรื่องของไอ้ผีตรงหน้าผมนี่ ทำไมวะ ทำไมผมจะต้องใส่ใจความรู้สึกของคนที่ตายไปแล้วขนาดนี้
“ฉัน......ขอโทษ... บอกฉันเถอะ... การที่ลืมแม้กระทั่งว่าตัวเองตายยังไงมันทรมานนะ” มันพูดน้ำเสียงอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด รอยแผลและเลือดเองก็ค่อยๆจางหายไป
“มึงแน่ใจว่ารับได้” ผมยกแขนขึ้นเช็ดน้ำตาตัวเอง ใบหน้าคมพยักขึ้นลงช้าๆ
“ฉัน..จะพยายาม”
แล้วผมก็เล่าเรื่องทั้งหมดที่ผมได้ฟังมา ทั้งจากปากพี่คนดูแลหอและจากปากของพี่วินแล้วก็พี่แฮรี่พ็อตเตอร์ด้วย ไอ้คิดไม่ทำไรมากแค่ก้มหน้าก้มตาฟังผมเล่า พยักหน้าบ้างในบางครั้ง แล้วพอผมเล่าจบมันก็เงยหน้าขึ้นมามองผม ริมฝีปากหนายกยิ้ม
“ขอบคุณนายมากนะ แล้วก็.....” มันเอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาบนแก้มผม
“ขอโทษที่ทำให้กลัว”
ฟู่ว ! แล้วมันก็หายตัวไปต่อหน้าผม ไม่บอกผมซักคำว่าจำอะไรได้บ้าง ไม่บอกผมด้วยว่าอันไหนเรื่องจริงอันไหนข่าวลือ ไอ้สัส กลับมาอีกทีกูจะถีบเข้าหน้าหล่อๆนั่นให้
ผมลุกขึ้นถอดเสื้อผ้าแล้วเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ พอได้รับความสดชื่นของน้ำเย็นๆก็ช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง ผมรู้ว่าตัวเองกำลังยิ้ม..... ผมยิ้มเพราะน้ำมันเย็นสบายหรอก ไม่ได้ยิ้มเพราะรู้สึกอบอุ่นเมื่อนึกถึงสัมผัสเย็นๆจากมือหนานั่นหรอกนะ
อาบน้ำแต่งตัวเสร็จผมก็ค้นเตารีดที่พกมาจากบ้านด้วย เอามารีดชุดนักศึกษาสีขาว กับกางเกงสแล็คสีดำสนิท เตรียมของให้พร้อมสำหรับเข้ามหาลัยวันพรุ่งนี้
กว่าจะทำอะไรเสร็จก็เริ่มดึกแล้ว อากาศเริ่มเย็นลงๆ แต่ผมชอบอากาศเย็นๆแบบนี้แหละ ถอดเสื้อแล้วใส่แต่บ็อกเซอร์นอนเหมือนเดิม.....แต่ทำไมตอนที่สติเริ่มเลือนรางกลับรู้สึกเหมือนมีคนห่มผ้าให้กันนะ.....
“ห่มทำเหี้ยอะไร ! กูร้อน !” ผมถีบผ้าห่มออก แล้วหันไปโวยไอ้ผีคิดคงกะจะทำซึ้ง ไม่ซึ้งเหี้ยอะไรทั้งนั้น มีแต่ร้อนอย่างเดียว
“หึหึ ขอโทษที นายหลับเถอะ ....ถ้านายหนาวฉันจะห่มผ้าให้นะ” สติผมเริ่มเลือนรางอีกครั้ง ใกล้จะหลับเต็มที
“อื้ม......”
“นายตื่นได้แล้ว”
“ปาร์คตื่นได้แล้ว เดี๋ยวไปมหาลัยสายนะ”
“ขออีก5นาทีค้าบ แจ้บๆ ”
“ถ้านายไม่ตื่น ฉันจะ...”
“ตื่นแล้วค้าบ !” ผมรีบผงกหัวขึ้นมาทันที หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา .....5:59 ผมจำได้ว่าตั้งนาฬิกาปลุกไว้6:00 เพราะพี่ๆที่คณะนัดไว้ตอน7:30 จ้องโทรศัพท์ได้แป้บเดียวเสียงนาฬิกาปลุกก็ดังขึ้น ผมหันหน้าไปมองไอ้คิดที่ตอนนี้ยิ้มระรื่นอยู่ข้างๆผม
“ขี้ตาก้อนเบอเริ่ม” พูดจบมันก็เอื้อมมือมาแคะขี้ตาให้ผม สัมผัสอ่อนโยนนั้นแทบจะทำให้ผมเคลิ้ม
“เสือกอะไรกับขี้ตากู ! หรือมึงอยากแดก !?” รู้สึกร้อนๆหน้าแปลกๆ ไม่เคยมีใครแคะขี้ตาให้ผมเลยนอกจากพ่อแม่
มันส่ายหน้าแล้วอมยิ้มมุมปาก
“รีบไปเอาน้ำออก เอ้ย อาบน้ำเถอะ” พูดจบมันก็จ้องที่ไอ้จ้อนผม... ผมมองตามสายตามันก็ต้องพบกับไอ้จ้อนของตัวเองที่กำลังผงาดเป็นเจ้าโลกอยู่ ผมรีบกุมเป้าแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำทันที
พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จคว้ากระเป๋าก็เตรียมออกจากห้อง แต่พอหันไปเห็นไอ้คิดที่อยู่ในชุดนักศึกษาเหมือนกับผม... เห้ยทำไมมันหล่อขนาดนี้วะ... เดี๋ยว มันเอาชุดใครมาใส่
“มึงเอาชุดใครมาใส่เนี่ย”
“ชุดฉันเอง”
“แล้วมึงไปเอามาจากไหน”
“บ้านฉันไง” บ้านมึงเนี่ยนะ แล้วมึงกลับบ้านตัวเองถูกได้ไงเนี่ย
“มึงจำได้แล้วหรอว่าบ้านมึงอยู่ไหน”
“จำได้เป็นบางเรื่องหนะ... รีบไปกันเถอะ เดี๋ยวจะสายนะ” ผมมองเวลาในโทรศัพท์ตัวเอง 6:50 น. ยังพอมีเวลาให้เดินเล่นอีกเยอะ
ผมกับมันเดินออกมาจากหอ..... อากาศไม่ได้ร้อนอะไร เลยเดินไปเรื่อยๆ คุยไปเรื่อยๆ
“มึงรู้ไหมว่ามึงเป็นใคร”
“รู้”
“งั้นมึงเล่ามาให้หมดเท่าที่มึงรู้เลย”
“ฉันชื่อคริส....ไม่ใช่คิด ....บ้านฉันอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรซอยข้างๆนี่แหละ... แล้วฉันก็มี....” ก่อนที่มันจะพูดจบ เสียงใครบางคนก็ขัดขึ้นมาซะก่อน
“วินไหมน้อง” โถ่พี่วิน ! ผมโบกมือรับพี่วิน แล้วแกก็ขับรถตรงมาทางผม ผมหันไปหาผีตนข้างๆที่ตอนนี้รู้ชื่อจริงๆมันแล้ว ชื่อคริส ไฮโซกว่าไอ้คิดเยอะเลย พี่วินแฮรี่แม่งบอกผมผิดอะ
“เจอกันที่มหาลัยนะครับ”
ฟุ้บ ! แล้วมันก็หายไปต่อหน้าผม.... พอดีกับที่พี่วินขับมาถึงผมพอดี ผมขึ้นซ้อนท้ายพี่วินแล้วบอกจุดหมายปลายทางให้แก
พี่วินขับรถมาถึงที่คณะผมพอดีกับที่พี่ๆปีสองเรียกรวมน้องปีหนึ่ง ผมรีบวิ่งไปเข้าแถว เอาจริงๆผมยังไม่รู้จักใครเลย คนส่วนใหญ่ก็รู้จักกันหมดแล้วจากไลน์กลุ่ม แต่ถามว่าผมอยู่ในกลุ่มนั้นไหม หึ....อินดี้อย่างผม หนะหรอจะมีไลน์กลุ่ม ตอนนี้ผมก็เลยนั่งอยู่ท้ายแถวอย่างโดดเดี่ยว มองเพื่อนๆคุยกันอย่างออกรสออกชาติ
“มากันครบแล้วนะคะน้องๆ เดี๋ยวพี่จะพาไปเข้าเรียนนะคะ แยกเป็นสาขาๆไป อย่าลืมเรื่องมารยาทนะคะ ถ้าเจออาจารย์หรือรุ่นพี่ก็ไหว้ด้วยนะคะ อย่าลืมว่าเย็นนี้เรามีนัดกันที่นี่เหมือนเดิมนะคะ เลิกเรียนเสร็จก็ให้รีบมาเข้าแถวรอเลยนะ” เสียงพี่ผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนแข่งกับเสียงที่เพื่อนๆคุยกัน ไม่นานแต่ละสาขาก็แยกออกไปตามห้องเรียนของตัวเองโดยมีรุ่นพี่ปีสองเป็นคนพาไป
ผมแยกไปตามสาขาของตัวเอง เข้าห้องเรียนเสร็จนั่งรอไม่นานอาจารย์ก็เข้าสอน ผมก็นั่งเรียนไปโดยไม่สนว่าคนรอบตัวจะคุยกันเสียงดังไหม ใครจะมีเพื่อนเยอะหรือน้อย แล้วก็คงจะไม่มีใครสนใจจะคบคนหน้าตาธรรมดาๆ อย่างผมเป็นเพื่อนด้วย แต่ผมก็หาได้แคร์ไม่ การไม่มีเพื่อนมันดีอย่างหนึ่ง คือเราไม่ต้องเสียเวลาไปแคร์ใครนอกจากตัวเอง
นั่งเรียนคนเดียว ซื้อข้าวกินคนเดียว กินข้าวคนเดียว กลับไปนั่งเรียนคนเดียวอีกรอบ แล้วก็รอเลิกเรียน พอเลิกเรียนผมก็เดินตามเพื่อนๆในสาขาไปที่ๆ พี่ๆ ปีสองนัดไว้ นั่งเข้าแถวรอรุ่นพี่มา
“นาย” ผมหันไปมองตามเสียงเรียกก็พบกับผีหน้าหล่อตนเดิม ตอนนี้มันนั่งอยู่ข้างๆผม หน้าคมมีสีหน้าระรื่นดูอารมณ์ดี ผิดกับผมที่ตอนนี้เริ่มจะหน้าบูดนิดๆเพราะเบื่อมาทั้งวัน
“มึงหายไปไหนมา”
“ไปตามหาคนมา”
“ใครวะ” แล้วผมก็เริ่มรู้สึกสายตาหลายคู่ที่มองมา.............. คงจะมองว่าผมบ้า นั่งพูดคนเดียวอยู่ได้ ......กูไม่ได้บ้า กูคุยกับผีอยู่
“นั่นไงมาแล้ว” แล้วมันก็ชี้ไปที่กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่กำลังเดินมา ทางพวกผม ท่าทางน่าเกรงขาม ทั้งกลุ่มเป็นผู้ชายล้วน แต่มีคนเดียวที่ดูเด่นออกมาจากทุกคนในกลุ่ม
หน้าตาคมคาย คิ้วเข้มกับตาเรียวสวย แล้วก็ริมฝีปากหนา ผมชักจะคุ้นๆ พอหันมามองผีคริสก็ต้องหันไปดูคนที่กำลังเดินมาอีกรอบ
“เห้ย ! นั่นมึงหนิ” มันส่ายหน้ายิ้มๆไม่พูดอะไร ผมมองหนึ่งคนกับหนึ่งผีสลับกันไปมา มันแตกต่างกันแค่ทรงผมกับสีผิว คริสไว้ผมทรงอันเดอร์คัทกับมีผิวขาวซีด แต่คนที่กำลังเดินมาไว้ผมทรงเปิดข้าง ถึงจะคล้ายๆกับของคริส แต่ผมด้านบนยาวกว่ามาก แถมยังมีสีผิวแทนไม่ถึงกับคล้ำ
“นั่น.....” มันกำลังจะบอกอะไรผมซักอย่าง แต่เสียงดังของรุ่นพี่พวกนั้นดังขัดขึ้นมาเสียก่อน
“พวกคุณมาทำอะไรที่คณะของผม ! เสียงดัง ! โหวกเหวกโวยวาย ! ตะโกนกันไปมา พวกคุณไม่คิดหรือไงว่าพวกผมกำลังเรียนอยู่ !” อ้า ตะคอกกูทุกประโยคเลย ผมทำหน้าเอือม มองไปยังคนที่หน้าตาเด่นกว่าเพื่อนฝูงมาก
เขายังคงตีหน้านิ่ง ยืนตามระเบียบพักอยู่ด้านหลังพี่คนที่กำลังพูดอยู่ ....ไม่ใช่พูดหรอก มันตะโกนเพื่อแข่งกับเสียงของปีหนึ่งที่ตอนแรกเสียงดังแต่ตอนนี้เงียบกริบ ...พี่มันตะคอกมาอีกสองสามประโยคก็เปลี่ยนคนพูด เป็นคนที่หน้าตาเหมือนไอ้ผีข้างๆผมแทน
“พวกคุณกลับไปได้แล้ว ผมขอสั่งให้ปีสองยกเลิกกิจกรรมในวันนี้ ในเมื่อพวกคุณคุมน้องของพวกคุณให้เงียบไม่ได้ คุมให้พวกเขาอยู่ในระเบียบไม่ได้ ผมจะไม่ให้พวกคุณทำกิจกรรมอะไรใต้ตึกคณะทั้งนั้น” เสียงทุ้มพูดออกมาโดยไร้การตะคอก แต่กลับทำให้ทุกคนที่อยู่ที่นี่เงียบฟังได้
ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมา ทุกคนยังคงนั่งเงียบ ไม่เว้นแม้แต่พี่ปีสองที่กำลังทำอะไรไม่ถูกเพราะถูกยกเลิกกิจกรรม
“พี่คะ คือว่า...” พี่ปีสองคนนึงยกมือขึ้น แต่ยังไม่ทันจะพูดอะไร เสียงทุ้มก็เปลี่ยนเป็นเสียงแข็งกร้าวแทน
“กลับไปได้แล้วครับ !” สิ้นเสียงตะคอกนั่นพี่ปีสองก็รีบมาพาพวกเราให้ลุกออกไป บางคนถึงกับตัวสั่นเพราะความกลัว ส่วนผมหนะเหรอ คงจะทำหน้าแบบ -_- อะไรของพวกมึง
“ปาร์ค” ผมหันไปทางคริส ที่อยู่ๆมันก็เรียกผม ตอนนี้มันกำลังเดินมากับผม และผมกำลังจะเดินผ่านรุ่นพี่ปีสามกลุ่มนั้น และถ้าไม่มี ผีคริสบังอยู่ ผมว่า สายตาผมคงสบกับสายตาคมๆของรุ่นพี่คนนั้นพอดีแน่ๆ
แต่เอะ ผมลืมอะไรไปรึเปล่า..... พวกนั้นมองไม่เห็นคริสหนิ ก็แปลว่าผมกำลังมองหน้ารุ่นพี่พวกนั้นอยู่งั้นหรอ
“นั่นน้องชายฉัน”
“คุณมองหน้าผมทำไม !