❤️ (✘) ไร้รัก ✢ Lovelessly
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❤️ (✘) ไร้รัก ✢ Lovelessly  (อ่าน 92902 ครั้ง)

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
เพิ่งมีโอกาสได้เข้ามาอ่านรวดเดียวตั้งแต่บทแรก อ่านไปก็เสียวไปเพราะเป็นคนที่ sensitive กับดราม่าแนวนี้อยู่พอควร ผมว่ามันเครียดกว่าดราม่าตบจูบจำเลยรักอีก เพราะแนวนั้นอ่านไปก็รู้สึกว่าเป็นความบันเทิงอย่างหนึ่ง ไม่ต้องคิดมากจริงจังอะไร แต่พอมาเล่นเรื่องความผูกพัน ครอบครัว หรือความรู้ผิดชอบชั่วดีอย่างเรื่องนี้ มันดูจริงจนอดเอาตัวเองเข้าไปคิดแทนไม่ได้ ยิ่งเห็นตัวละครดิ้นรนที่จะหักห้ามใจ หรือพยายามทำในสิ่งที่ถูกต้องยิ่งกดดันตามไปด้วย

ถ้าตัดประเด็นดราม่าออกไปก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่น่ารักมากๆ ความสัมพันธ์ บรรยากาศเข้ากับหน้าหนาวมากๆ ภาษาก็ดีครับ

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
จากบทที่ 7 -- รู้สึกว่า การดำเนินเรื่องรวบรัดมาก คือไม่ได้รู้สึกไม่ชอบ แต่มันเหมือนกับมันขาดรายละเอียดด้านความละเอียดอ่อนทางอารมณ์ไปบ้างในความคิดเห็นส่วนตัว ซึ่งอันที่จริงการเดินเรื่องให้กระชับขึ้นอาจจะเป็นที่ชื่นชอบมาก/ น้อยกว่าสำหรับนักอ่านท่านอื่น คือต่างคนก็ต่างความคิด แต่ข้อดีของการกระชับเนื้อเรื่องคือ มันไม่เยิ่นเย้อ ทำให้รู้บทสรุปเร็วขึ้น ซึ่งอันนี้ก็ดีใจกับแฟรงค์และนัทด้วย +เป็ด จ้า

ขอบคุณที่สะท้อนเรื่องการเดินเรื่องรวบรัดให้ฟังครับ ผมก็คิดอยู่ว่ามันรวบรัดไปหรือเปล่า
เดี๋ยวจะเขียนเป็นตอนพิเศษให้หลังจากตอนที่ลงตอนที่ 10 แล้ว

พอผมเขียนแบบใช้บุรุษที่หนึ่งเล่าเรื่อง ผมค่อนข้างกังวลว่ามันจะน่าเบื่อ เลยต้องเดินเรื่องไวๆ
ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า การเขียนแบบนี้ทำให้ตัวเล่าเรื่องมีน้อย ในหนึ่งตอนมีคนเล่าเรื่องหลักคนเดียว
แต่ก็ดีในแง่ได้ความละเอียดของความรู้สึกของตัวละครมากขึ้น ผมชอบนะ ชอบมากด้วย
แค่แอบกลัวว่าคนอ่านจะเบื่อ

รู้สึกตอนหลังๆ คนจะไม่ค่อยคอมเมนต์กันแล้วนะครับ สงสัยลงติดๆ กันมากไป แถมมีมาม่าด้วย
แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมชอบมาก ไม่แคร์ว่าใครจะอ่านหรือไม่อ่าน จะเม้นต์หรือไม่เม้นต์ จะชอบหรือไม่ชอบ
เพราะผมชอบ อิๆ

จะไปต่างจังหวัด แต่อยากเขียน จะพยายามหาเวลามาแอบเขียน
เป็นเรื่องแรกที่ผมรู้สึกว่าอยากเขียนมันทุกตอน ไม่มีตอนไหนที่รู้สึกติดขัดเลย

Sarawatta

ออฟไลน์ กบกระชายไทยนิยม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
แฟรงค์คงคุยกับเพียวแล้วละแล้วตอนนี้ก็คงกำลังเดินหน้าเต็มที่เรื่องของนัท "You're on the right track! Keep going!"  ตอนนี้ก็เหลือแต่นัทแล้วแหละว่าจะตัดสินใจยังไง ส่วนตัวนะ ถ้าหากเราอยู่ในสถานการณ์แบบเพียวเราคงถอยออกมาอย่างสวยๆ แล้วละ คนหมดใจจะทุ่มเท่าไหรก็หมดไปเปล่าๆ อีกอย่างรั้งไปมันก็ไม่มีอะไรดีหรอกแถมจบคงไม่สวยนัก +เป็ด

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :mew1: ตอนนี้เป็นตอนที่หวานแบบหน่วง ๆ น่ะ เพราะ มีเพียวคอยจับตามองตลอด เพียวก้อเหมือนกับผู้หญิงหลาย ๆ คนที่ยอมรับความจริงไม่ได้และพยายามยื้อมันต่อไป  :mew2: สุดท้ายคนที่ต้องเจ็บปวดที่สุดก้อคือตัวเรานี่แหละ แฟรงค์ต้องเด็ดขาดเลยน่ะ จะยื้อก้อยื้อไป ฉันไม่สนแล้วน่ะ เพราะถือว่าพูดจบแล้ว แต่เราก้อเข้าใจว่ายังไงก้อเคยรักกันมา และผู้หญิงก้อไม่ได้เป็นฝ่ายผิดด้วย แต่อย่างว่าความรักไม่ได้เป็นเรื่องผิดถูกน่ะ มันคืออารมณ์ที่แม้แต่ตัวเราก้อควบคุมมันไม่ได้  :katai1: เราว่ามีดราม่าพ่อกับแม่แน่ ๆ รับรองเพียวต้องไปคุยกับพ่อแม่แฟรงค์แน่ ๆ เลย น่ะ เตรียมตัวรับน่ะแฟรงค์ ส่วนนัทคงต้องให้เวลากับตัวนัทเองด้วยน่ะ มันกระทันหันเกินไป และการเป็นมือที่สามก้อไม่ใช่เรื่องสนุกเลยน่ะ  :katai1:

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
ชอบตอนนี้นะมันหน่วงๆ ดี ผมเข้าใจความรู้สึกนัทนะ
บางทีอ่านไปบางนิสัยของนัทก็เหมือนสะท้อนตัวเองไงไม่รู้
ที่แคร์ความรู้สึกคนอื่นมาก นัทคงไม่อยากทำให้เพียวเสียใจ
คือถ้าพี่แฟรงเลิกกับเพียว แน่นอนเพียวต้องเจ็บช้ำ ซึ่งเหมือนตัวเองก็คงมีส่วนร่วมไรงี้
แต่จริงๆ มันก็ไม่เกี่ยวหรอก มันเป็นเรื่องความรู้สึกของคนสองคน ก็ให้เค้าเคลียร์กันเองเนอะ
แต่ถ้าอยู่ในจุดแบบนัทก็คงมองไม่เห็นหรอก
แถมลึกๆ ตัวเองก็มีความรู้สึกกับพี่แฟรงค์  อีกใจคงอยากตัดใจอีกใจก็คงสับสน เศร้าๆ มันอึดอัดเนอะ อารมณ์แบบนี้
หวังว่านัทจะเลือกตัดสินใจได้ในที่สุด...


ผมเผลอเม้นยาวเลย
คือแบบอ่านละอินไปกับตัวละครมากๆ เวลาเล่าผ่านบุรุษที่ 1เหมือนเรามีอารมณ์ร่วมไปกับตัวละครด้วย


ปล.  ชอบกินไก่ย่าง เหมือนกันเลยอะ 555+

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
ชอบตอนนี้จังคับ แฟรงค์กับนัทดูมีความสุขดีคับ ความรักสวยงามเสมอ ๕๕๕ แฟรงค์ปล่อยของเด็้ดให้นัทเอาไปคิดอีกแล้วว่าจะถอยหรือเดินหน้าสู้พร้อมแฟรงค์ แม่นางเพียวก็ดูตลอด ไม่รู้ว่าแม่นางจะยอมรับได้หรือป่าวถ้ารู้ว่าแฟรงค์รักนัท
   รอ รอ รออ่านตอนต่อไปคับ ลุ้นนัทจะเดินหน้าหรือถอยหลัง แฟรงค์พานัทหนีไปอยู่เขาค้อเลย ๕๕๕


ตอนหน้าจะมาในชื่อตอน "แสงดาว ลมหนาว ความรัก" แค่เห็นชื่อก็สุดแสนจะโรแมนติก
ผมจะทำให้มันเป็นอีกหนึ่งตอนที่ประทับใจ ในแง่บรรยากาศของความรัก แค่คิดก็อยากจะเขียนแล้ว (แต่ดันมีงานเข้ามาซะนี่)

เราจะได้ยินแฟรงค์ถามนัทด้วยประโยคนี้ครับ มาลุ้นว่านัทจะตอบยังไง



เรื่อง "ต้น-สน" คนอ่านก็เดากันใหญ่ว่าจะจบยังไง ไม่มีใครเดาถูกเลย สุดท้ายสนก็มีลูกและได้อยู่กับต้น
ส่วนเรื่องนี้ ผมก็มี "อะไร" ที่อยากให้สองคนนี้ "ได้" นั่นแหละครับ ไม่ใช่ลูก แต่อย่าเดาเลย 555

เอาภาพสวยๆ ของภูลู่ลมมาฝาก สร้างบรรยากาศรอตอนต่อไป ตรงเนินหญ้านี่แหละที่แฟรงค์กับนัทจะมานั่งคุยกัน






ป.ล. เรื่องนี้เหมาะกับช่วงหน้าหนาวจริงๆ (แต่ กทม. ไม่หนาวเลย 555)

Sarawatta

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
มาให้กำลังใจจ้า

คนเขียนสู้ๆ

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
เพิ่งมีโอกาสได้เข้ามาอ่านรวดเดียวตั้งแต่บทแรก อ่านไปก็เสียวไปเพราะเป็นคนที่ sensitive กับดราม่าแนวนี้อยู่พอควร ผมว่ามันเครียดกว่าดราม่าตบจูบจำเลยรักอีก เพราะแนวนั้นอ่านไปก็รู้สึกว่าเป็นความบันเทิงอย่างหนึ่ง ไม่ต้องคิดมากจริงจังอะไร แต่พอมาเล่นเรื่องความผูกพัน ครอบครัว หรือความรู้ผิดชอบชั่วดีอย่างเรื่องนี้ มันดูจริงจนอดเอาตัวเองเข้าไปคิดแทนไม่ได้ ยิ่งเห็นตัวละครดิ้นรนที่จะหักห้ามใจ หรือพยายามทำในสิ่งที่ถูกต้องยิ่งกดดันตามไปด้วย

ถ้าตัดประเด็นดราม่าออกไปก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่น่ารักมากๆ ความสัมพันธ์ บรรยากาศเข้ากับหน้าหนาวมากๆ ภาษาก็ดีครับ

ใช่ ใช่ เราอ่านแนวจำเลยรัก ตบจูบ โหด เถื่อน ได้สบายมาก แต่อ่อนไหวกับแนวนี้ล่ะ
3 - 4 ตอนหลังที่ผ่านมามีน้ำตาหยดทุกรอบเลย  :เฮ้อ: แต่ก็ยังตามอ่าน   

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
จากที่เพียวยื้อแฟรงค์เอาไว้เพราะยังรักอยู่ จะเปลี่ยนไปเป็นแค้นเคืองไหมก็ไม่รู้นะคะเนี่ย เพราะยิ่งอีกฝ่ายแสดงออกชัดเจนจนไม่ให้เกียรติกันในฐานะของคนรักที่ยังคบหากันอยู่แบบนี้ด้วยแล้ว ยิ่งน่ากลัวค่ะว่าจะมีอะไรที่คาดไม่ถึงหรือไม่ดีเกิดขึ้น

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
รักที่ยืดเยื้อ
ความหน่ายเบื่อจะยิ่งทำงาน

แล้วก็จะถึงวันที่ไม่ทนอีกต่อไป
..แตกหัก..

หุหุ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
❤️ (✘) ไร้รัก ✢ Lovelessly

ตอนที่ 10 ✢ บอกอะไรป่านนี้



คนเราไม่สามารถทำทุกอย่างที่รู้ว่าดีได้เสมอไป เรารู้ว่ากินอาหารครบห้าหมู่ดี ออกกำลังกายเป็นประจำดี นอนหลับพักผ่อนเพียงพอดี ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละแปดแก้วดี หายใจอากาศบริสุทธิ์ดี แต่หลายคนกลับไม่สามารถทำได้ด้วยเหตุปัจจัยหลายอย่าง ผมก็กำลังตกอยู่ในสภาวะคล้ายๆ อย่างนั้น รู้ว่าความเด็ดขาดเป็นสิ่งที่ดี แต่ในทางปฏิบัติกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด

ผมนั่งมองเพียวร้องเพลงคาราโอเกะกับเพื่อนๆ พนักงานแล้วก็มีคำถามในใจ ไม่ถามเธอหรอก แต่ถามตัวเองมากกว่า ความรู้สึกเดิมๆ ที่ผมเคยมีให้เธอหายไปไหน หรือว่าจริงๆ แล้วผมไม่เคยมีความรู้สึกนั้นกับเธอมาตั้งนานแล้ว ช่างน่าแปลกที่ความสดใสน่ารักของเธอไม่ทำให้หัวใจผมเต้นแรงเหมือนก่อน แถมเธอยังเป็นเหมือนพันธนาการของชีวิตที่หนักหนา จนผมไม่รู้ว่าจะลากต่อไปได้ไกลแค่ไหน ชีวิตและจิตใจของคนช่างน่าพิศวงในแง่ความไม่แน่นอน ผมพาตัวเองมาถึงจุดนี้ได้ยังไง

นัทนั่งเงียบๆ อยู่อีกมุมหนึ่งห่างออกไป หลังจากเล่นเกมแล้วผมกับนัทก็ห่างกันอีกครั้ง ผมรู้สึกผิดกับนัทหลายเรื่อง เรื่องที่หนักที่สุดก็คือเรื่องที่ผมดึงนัทเข้ามาอยู่ในสถานการณ์ลำบากด้วย ช่วงหลังๆ มานี้ ผมต้องรักษาระยะห่างไว้แม้ว่าอยากอยู่ใกล้แค่ไหน นัทคงรู้สึกได้ว่าผมห่างเหินไป อีกอย่างผมก็ไม่อยากทำให้เพียวรู้สึกว่าผมไม่ให้เกียรติเธอในฐานะว่าที่เจ้าสาว แถมเราก็ยังเคลียร์กันไม่เรียบร้อยอีกต่างหาก แต่บางครั้งก็ยากเกินกว่าที่ผมจะห้ามใจไหว แรงดึดดูดของความรักมีพลังรุนแรงเหลือคณา ยิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งส่งแรงดึงดูดมาก จนผมเผลอตกอยู่ในอำนาจของมันในช่วงที่เราเล่นเกมก่อนอาหารเย็น

ผมรู้สึกทรมานเหลือเกินกับสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกในตอนนี้ ยิ่งเวลาเหลือน้อยก็ยิ่งทุรนทุราย คงไม่ใช่คนทุกคนที่เกิดมาบนโลกนี้จะสมหวังในความรัก ผมจะเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นหรือเปล่า นึกถึงคืนที่ผมคุยกับเพียวที่พังงาแล้วก็เหมือนผมต้องยอมรับกลายๆ

"ตกลง พี่แฟรงค์กับนัทนี่มันยังไงกันแน่คะ"

สายตาคาดคั้นของเพียวทำให้ผมรู้ว่าเธอต้องการได้ความจริงบางอย่าง ไม่อย่างนั้นแล้วการสนทนาในคืนนี้จะจบลงไม่ได้เลย ผมกลืนน้ำลายอย่างยากเย็น แต่ก็ไม่คิดจะถอยหนี ความจริงเป็นสิ่งไม่ตายและทุกคนควรซื่อสัตย์กับมัน

ผมรวบรวมพลังใจและความกล้าหาญทั้งหมดที่มีอย่างลูกผู้ชายคนหนึ่งอยู่สักพัก เมื่อพร้อมแล้วจึงตัดสินใจพูดความจริงให้ฟัง

"เพียว...เพียวฟังพี่ดีๆ นะ ทุกอย่างที่พี่จะพูดต่อไปนี้เป็นความจริงทั้งหมด ถ้าเพียวฟังจบแล้ว...ขอให้เพียวบอกพี่ว่าเพียวคิดยังไง และเรา...จะดัดสินใจทำอะไรต่อไป"

ผมหยุดเว้นจังหวะรอความสนใจ แววตาวิบไหวของเพียวบอกว่าเธอกลัวความจริงที่ผมกำลังจะบอกไม่น้อย

"ตอนเด็กๆ พี่กับนัทสนิทกันมาก นัทเป็นน้องชายที่พี่รักมาก ถึงไม่ใช่น้องแท้ๆ แต่พี่ก็คอยดูแล ห่วงใยเอาใจใส่ไม่ต่างจากน้องแท้ๆ คนหนึ่ง นัทเค้าก็เลยติดพี่มาก พี่ก็ติดเค้ามากเหมือนกัน ตอนที่พี่มาเรียนที่กรุงเทพ นัทเสียใจมาก เค้ารอพี่แต่พี่ก็ไม่เคยกลับไปหาเลย พ่อของพี่เองก็ห้ามไม่ให้พวกเรากลับไปเหยียบที่นั่นอีก พี่คิดถึงนัทมาก มากจนพี่ไม่อยากคบใครเป็นเพื่อนตอนเรียนมอต้นใหม่ๆ จนกระทั่งเวลาผ่านไป ต่างคนก็ต่างมีชีวิตของตัวเอง เจอคนใหม่ๆ เจอเพื่อนใหม่ๆ เราสองคนก็เลยลืมๆ กันไป ไม่คิดด้วยซ้ำว่าจะได้เจอกันอีก"

ผมหยุดเว้นจังหวะอีกครั้ง พอเห็นเพียวยังตั้งใจฟังอยู่ก็พูดต่อ

"เพียวจำได้ใช่มั้ยที่พี่เคยบอกเพียวว่าพี่ไม่เคยมีแฟนเลย จีบเล่นๆ บ้าง แต่พี่ก็ไม่รู้สึกคลิกกับใคร จนกระทั่งพี่ได้เจอเพียว เพียวมีบางอย่างที่ทำให้พี่คลิก ก็เรื่องที่เพียวชอบกินไอติมนั่นแหละ เพราะมันทำให้พี่นึกถึงนัท"

สีหน้าของเพียวดูตกใจและกลัวมากขึ้น แต่ผมก็จะไม่หยุด

"พี่กำลังจะบอกเพียวว่า...ในใจลึกๆ ของพี่ พี่ไม่เคยลืมนัท พี่รอคอยคนอย่างเค้าเข้ามาในชีวิต เพราะพี่...ประทับใจเค้า ชอบความเป็นตัวตนทุกอย่างของเค้า ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี เค้าทำให้พี่มีความสุขกับทุกอย่างที่เค้าเป็น มันฝังใจพี่มาตลอดโดยที่พี่ไม่รู้ตัว พอพี่เจอเพียวที่มีบางอย่างคล้ายกับนัท ก็เลยทำให้พี่สนใจเพียว ตัดสินใจจีบแล้วก็คบเป็นแฟน จนกระทั่ง...จะแต่งงานกันเร็วๆ นี้"

ผมถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะพูดสืบไป

"พอพี่ได้เจอนัทอีกครั้ง ความรู้สึกเก่าๆ ก็ฟื้นกลับมา อาจจะเป็นเพราะพี่รู้สึกผิดด้วยที่พี่ไม่ได้กลับไปหาเค้าเลย ทั้งๆ ที่ช่วงสองสามปีแรกเค้ารอพี่อยู่ นัทเองเค้าก็ฝังใจที่พี่ผิดคำสัญญา เพราะพี่เคยสัญญากับเค้าว่าจะกลับไปหา มันทำให้พี่รู้สึกผิดกับเค้ามาก พอพี่กับนัทใช้เวลาด้วยกันมากขึ้นๆ พี่ก็ตกใจที่พี่เพิ่งรู้ว่า...คนที่อยูในใจพี่ตลอดมาก็คือนัท แต่พี่ก็สับสนมากว่าใช่หรือเปล่า แต่วันนี้พี่มั่นใจว่าพี่..."

"พี่แฟรงค์คะ" เพียวพูดสวนทันทีราวกับกลัวที่จะรู้ความจริงที่ผมกำลังจะบอก

"เพียวว่า...พี่แฟรงค์แค่สับสนนะคะ พี่แฟรงค์แค่รู้สึกผิดที่ไม่ได้กลับไปหานัทหรือเปล่า เพียวไม่เชื่อว่ามันเป็น...เรื่องนั้นหรอก ใช่...พี่แฟรงค์อาจจะสนใจเพียวเพราะว่าเพียวชอบกินไอติมเหมือนนัท แต่เพียวก็ไม่ใช่นัท ที่พี่แฟรงค์คบกับเพียวมาสี่ห้าปีก็ไม่ใช่เพราะเพียวเป็นนัท แต่เพียวก็เป็นเพียว เพียวอาจจะเหมือนนัทแค่เรื่องเดียว แต่อย่างอื่น...อาจจะไม่มีอะไรเหมือนกันเลยก็ได้ เพราะฉะนั้น...เพียวไม่เชื่อว่าที่พี่แฟรงค์คบกับเพียวเพราะว่าเพียวเป็นเงา ของนัท พี่แฟรงค์รักเพียวเพราะว่าเพียวเป็นอย่างที่เพียวเป็นไม่ใช่เหรอคะ"

เพียวถามเสียงดังตรงประโยคท้าย ผมเห็นน้ำตาของเธอและสีหน้าหวาดกลัวว่าจะเสียคนรักไปแล้วก็อดสงสารไม่ได้ เพราะเธอไม่ได้ทำอะไรผิดนี่แหละจึงทำให้ผมลำบากใจเหลือเกิน

ผมนิ่งอึ้งไปกับคำถามนั้นอยู่นาน รู้สึกแย่เหลือเกินที่ผมจะต้องหาเหตุผลมากมายมาเพื่อบอกเลิกกัน

"ใช่...พี่ยอมรับตามที่เพียวพูดมา แต่...ในใจลึกๆ ของพี่ พี่รู้สึกว่ามีหลายอย่างที่เติมไม่เต็ม เหมือนพี่รอคอยใครซักคนอยู่ พอพี่ได้เจอนัทพี่ถึงรู้ว่า..."

"พี่แฟรงค์คะ เราเดินมาไกลแล้วนะคะ เราถอยกลับไม่ได้ การ์ดแต่งงานก็แจกไปแล้ว ทุกอย่างเตรียมไว้พร้อมหมดแล้ว พี่แฟรงค์อาจจะไม่เท่าไหร่เพราะเป็นผู้ชาย แต่เพียวนี่สิคะ ใครเค้าจะเอาไปพูดยังไงกัน ที่สำคัญ พี่แฟรงค์ตัดสินใจเรื่องนี้คนเดียวไม่ได้นะคะ เพราะทุกอย่างที่ผ่านมา เราตัดสินใจด้วยกันมาตลอด ความรักเป็นเรื่องของเราสองคน เรื่องนี้ก็เหมือนกัน เพียวไม่ยอมให้แฟรงค์ตัดสินใจคนเดียวหรอก ถ้าเพียวต้องการให้เราเดินต่อ พี่แฟรงค์...ก็ต้องเคารพสิ่งที่เพียวเลือกด้วย"

"เพียว..."

"เพียวขาดพี่แฟรงค์ไม่ได้ เราสองคนรักกันมาตั้งนาน ไม่ควรเป็นแบบนี้ เพียวให้พี่ไปทั้งตัว...ทั้งใจ อีกแค่เดือนเดียวก็จะแต่งงานกันแล้ว มาไกลขนาดนี้ จะทิ้งกันง่ายๆ เลยเหรอคะ เพียวผิดตรงไหน เพียวผิดตรงไหนเหรอพี่แฟรงค์ จำได้มั้ย...ตอนที่เพียวเคยท้อมากๆ พยายามเท่าไหร่ก็ไม่ได้เป็นตัวจริง พี่แฟรงค์ก็คอยให้กำลังใจ เป็นที่พึ่งที่อบอุ่นให้เพียวมาตลอด แล้วตอนที่พี่แฟรงค์เข้ามาทำงานที่รีสอร์ทใหม่ๆ เจอปัญหามากมาย พี่แฟรงค์ยังเคยบอกเลยว่าเพียวเป็นกำลังใจที่ดีมาก ถ้าไม่มีเพียวอยู่ข้างๆ พี่แฟรงค์ก็อาจจะผ่านปัญหาพวกนั้นไม่ได้ เราสองคน...มีความทรงจำดีๆ ด้วยกัน คอยดูแลกัน คอยช่วยเหลือให้กำลังใจกันมาตลอด แล้วทำไม...ทำไมมันถึงเหมือนเดิมไม่ได้ ทำไมเราจะไปต่อไม่ได้ อีกไม่นานนัทก็จะกลับแล้ว ชีวิตเราสองคนก็ควรจะกลับมาเหมือนเดิมไม่ใช่เหรอ เพียวรักแฟรงค์นะ รักมากด้วย เราสองคนรักกันไม่ใช่เหรอ พี่แฟรงค์จะทำร้ายเพียวแบบนี้ได้ยังไง แล้วเพียวจะอยู่ได้ยังไง จะมองหน้าใครยังไง ถ้าเพียวไม่ใช่คนที่พี่ต้องการ พี่จะคบกับเพียวให้มันนานขนาดนี้ทำไมคะ ทำไม่บอกตั้งแต่แรก มาบอกอะไรป่านนี้ แล้วจะมาบังคับให้เพียวยอมรับงั้นเหรอ ง่ายไปมั้ยคะ เพียวไม่ผิด ยังไงๆ เพียวก็ไม่ยอม อย่ามาจับเพียวมัดมือชกแบบนี้"

แค่นี้ก็คงพอรู้แล้วว่าการเป็นคนใจร้ายนั้นยากเหลือเกิน ผมโอบเพียวที่นั่งอยู่ข้างๆ เตียงมาเพื่อปลอบใจ แล้วเธอก็กอดผมไว้แน่น ร้องไห้สะอึกสะอื้นหนักราวกับจะขาดใจ แต่ผมกลับไม่มีน้ำตาแม้แต่หยดเดียว ไม่ใช่ไม่เสียใจ ไม่ใช่ไม่สงสาร ไม่อย่างนั้นผมก็คงตัดสินใจเด็ดขาดไปแล้ว เรื่องทั้งหมดผมเป็นคนผิดเอง แล้วอยู่ๆ จะมาบังคับให้เธอยอมรับก็คงไม่ยุติธรรม

"เพียว...พี่เข้าใจความรู้สึกของเพียว พี่รู้ว่าพี่ผิด พี่รู้ว่าพี่เป็นคนทรยศ เป็นคนที่ทำให้ปัญหามันเกิดขึ้นมา แต่ไม่ว่าจะยังไง พี่ก็ต้องบอกความจริงกับเพียว เอาเป็นว่า..."

ผมถอนหายใจยาวอย่างหนักใจและครุ่นคิดหนัก แม้ไม่อยากให้เป็นอย่างนี้แต่ผมก็ต้องรับผิดชอบสิ่งที่ทำบ้าง ยังไงๆ ผมก็ตัดสินใจคนเดียวไม่ได้ ความรักเป็นเรื่องของคนสองคนอย่างที่เพียวว่า ในเมื่อผมเป็นคนผิด ก็คงต้องให้เกียรติเป็นหลักในการตัดสินใจ ถ้าเธอจะไม่ตัดสินใจอย่างที่ผมเลือก ผมก็อาจจะต้องยอมเป็นฝ่ายถูกมัดมือชกบ้าง

"เอาเป็นว่า พี่จะให้เพียวเป็นคนหลักที่จะตัดสินใจ แต่ขอให้เพียวฟังความจริงสุดท้ายที่พี่จะบอกเพียว"

ผมหยุดเว้นจังหวะ ลูบผมเพียวที่ยังสะอื้นเบาๆ เพื่อช่วยปลอบใจเธอบ้าง เพราะสิ่งที่ผมจะพูดต่อไปนี้ก็โหดร้ายเอาการอยู่

"พี่ไม่ได้รักเพียวแล้ว ความรู้สึกของพี่ที่มีให้เพียวก็ไม่เหมือนเดิม"
"ไม่จริง"

เพียวพูดเสียงอู้อี้เพราะซบหน้าอยู่บนอกผม จากนั้นก็ร้องไห้เสียงดังกว่าเดิม แต่ผมคงเป็นคนไร้หัวใจไปแล้ว เหมือนคนที่ตีสัตว์จนบาดเจ็บ ก่อนซ้ำอีกรอบให้ตายจริงๆ

"พี่รู้ว่ามันฟังดูโหดร้าย แต่มันก็คือความจริงที่เพียวต้องรู้ พี่ไม่มีความรู้สึกอย่างที่เคยรู้สึกให้เพียวแล้ว ส่วนเรื่องของนัท พี่ไม่ได้คิดไปเอง พี่ไม่ได้สับสน พี่มั่นใจว่าพี่รักนัท รักเค้ามาตลอด เค้าอยู่ในใจพี่มานาน หัวใจของพี่อยู่ที่เค้านะเพียว เพียวจะมีความสุขได้ยังไงถ้าเพียวอยู่กับคนที่ไม่ได้รักเพียวเหมือนเดิม เพียวลองคิดดูดีๆ พี่ไม่ได้อยากใจร้าย ไม่ได้อยากให้เป็นอย่างงี้ ไม่ได้วางแผนให้มันเกิดขึ้นตั้งแต่แรก มันคือความจริงนะเพียว"

เพียวผละออกจากผม จากนั้นก็ฟาดเรียวนิ้วมือเข้าที่ใบหน้าผมอย่างจัง

"หยุดพูดได้แล้ว เพียวไม่ฟังอะไรทั้งนั้น ยังไงๆ เราก็ต้องเดินหน้าต่อไปเท่านั้น เพียวตัดสินใจแล้ว"

ผมลูบหน้าตรงที่ถูกตบเบาๆ ตั้งแต่คบกันมาก็เพิ่งเจออย่างนี้เป็นครั้งแรก แต่เอาเถอะ ถือเสียว่าชดใช้ความผิดที่ทำไปละกัน แม้จะดูน้อยนิดก็ตามที

ทุกอย่างเงียบลง ไม่มีคำพูดใดๆ จากผมหรือเพียวอีก เราต่างนั่งนิ่งบนขอบเตียงและใช้ความคิดของตัวเอง เสียงสะอื้นไห้ของเพียวค่อยๆ เงียบลง จนเหลือแต่เสียงคลื่นซัดสาดไกลออกไป

อยู่ๆ ในช่วงจังหวะหนึ่งผมกับเพียวก็หันมาสบตากัน มองกันอย่างนั้นอยู่สักพัก เพียวกระเถิบเข้ามาใกล้ผม พยายามยิ้มแม้ว่าจะไม่ง่ายเท่าไหร่ แต่เธอก็ยิ้ม แล้วจู่ๆ เธอก็ผลักผมลงไปนอนบนเตียง ก่อนที่เธอจะตามขึ้นมาทาบทับบนตัวผม

"เพียวจะทำอะไร" ผมถามอย่างงุนงง

เพียวไม่ตอบ เธอดึงมือผมไปจับหน้าอกของเธอ แล้วก็ก้มลงมาจูบผม ผมตกใจและโกรธมากทีเดียวจึงผลักเธอออกไปข้างๆ ตัว

"เพียว!"

ผมดีดตัวลุกขึ้นนั่ง รู้สึกโกรธจนไม่สามารถเก็บสีหน้าตัวเองได้ ไม่รู้ว่าผมตวาดหรือเปล่า แต่เสียงของผมก็ดังและดุ แม้พอเข้าใจว่าผู้หญิงสมัยใหม่ไม่แคร์เรื่องหวงตัว แต่ทำอย่างนี้ก็ออกจะเกินไปหน่อย เธอคงคิดว่าทำแล้วจะได้ผล เมื่อก่อนอาจจะพอได้ แต่ตอนนี้ไม่ใช่อย่างนั้นแล้ว ผมช็อกมากเพราะเพียวไม่เคยทำอย่างนี้มาก่อนเลย

เพียวนอนร้องไห้สะอึกสะอื้นเบาๆ เราไม่มองหน้ากัน ไม่คุยกัน ต่างคนต่างหลับไป ก็น่าแปลกที่ยังอุตส่าห์ทำใจถ่ายภาพพรีเว็ดดิ้งด้วยกันได้ แม้ภาพจะดูเหมือนรักกัน แต่ในใจของผมไม่ได้เป็นอย่างภาพที่เห็นเลย


พอเลิกคาราโอเกะแล้วทุกคนก็แยกย้ายกันเข้านอน ผมกับเพียวเดินกลับไปที่ห้องด้วยกัน แม้ไม่อยากพักห้องเดียวกับเธอแต่ก็เลี่ยงและเลือกไม่ได้ สถานะของเราบังคับเอาไว้อย่างนั้น ตอนเธออาบน้ำผมก็ออกมานั่งที่โต๊ะข้างนอก พอเธอเสร็จแล้วผมจึงไปอาบน้ำบ้าง ส่วนเพียวก็ออกมานั่งข้างนอก ผมไม่อยากมีความสัมพันธ์ทางกายกับเธออีก ไม่อยากให้พลาดพลั้งหรือทำให้เธอมีความหวังต่อไป

ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นกางเกงวอร์มผ้ายืดขายาวและเสื้อแขนยาวตัวหนา กำลังหวีผมอยู่หน้ากระจกก็รู้สึกได้ว่ามีใครบางคนเดินมากอดผมไว้จากทางด้าน หลัง

"พี่แฟรงค์คะ วันนี้เพียวขอโทษนะคะที่ทำตัวงี่เง่ากับพี่แฟรงค์เมื่อตอนกลางวัน"

ผมหยุดหวีผม ถอนหายใจเบาๆ แต่ก็ไม่ได้พูดตอบกลับไป

"พี่แฟรงค์คะ เราแต่งงานกันไปก่อนได้มั้ยคะ หลังจากนั้น...เราสองคนค่อยทบทวนกันอีกทีก็ได้ ถ้าพี่แฟรงค์กลับมาเหมือนเดิมไม่ได้ เราค่อยหย่ากันดีมั้ยคะ"

ผมหงุดหงิดกับความคิดนี้ของเพียวมาก ไม่รู้ว่าเธอไปเอาความคิดอย่างนี้มาจากไหน ผมคงไม่ทำอย่างนั้นหรอก ถ้าจะไม่แต่งก็คือไม่แต่ง แต่ถ้าแต่งงานกันแล้วก็ไม่คิดอยากเลิกกันภายหลัง

ผมหันหน้ามาเผชิญกับเพียวเกือบจะทันที เพียวคงพอเดาได้ว่าผมไม่ชอบความคิดนี้จากสีหน้าของผม

"เพียว...เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะมันเป็นความสุขของชีวิตเพียว มันเป็นชีวิตของเพียวนะ คิดให้ดีๆ ก่อนละกัน ยังพอมีเวลาอยู่"

ผมทำเสียงดุหน่อยๆ แล้วก็เดินออกมานั่งสงบสติอารมณ์ที่โต๊ะข้างนอก ลมหนาวพัดแรงจนรู้สึกเย็นยะเยือกผิว แต่ใจของผมกลับยังคงร้อนรุ่มอยู่ ไม่มีทีท่าว่าจะสงบได้ง่ายๆ พระจันทร์วันนี้สวยมาก ท้องฟ้าโปร่งโล่งไร้เมฆบังจนเห็นดวงดาวระยิบระยับเต็มฟ้าไปหมด แต่มันกลับไม่โรแมนติกเอาเสียเลย

ผมคิดถึงนัทเหลือเกิน ถ้าเราสองคนได้อยู่ด้วยกันในบรรยากาศดีๆ อย่างนี้คงมีความสุขมากทีเดียว แต่เมื่อผมยังเคลียร์ตัวเองไม่ได้ ก็ไม่ควรทำให้นัทมีความหวังหรือฉวยโอกาสอย่างที่ผ่านมา มิหนำซ้ำยังทำให้นัทพลอยมีมลทินในฐานะมือที่สามไปด้วย

สี่ทุ่มกว่าแล้วผมจึงเริ่มสงบสติอารมณ์ได้ พอใจเย็นลงจึงค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วเดินกลับเข้าไปนอน แม้อากาศจะหนาวแต่ในห้องนั้นมีแต่ความร้อนจากพิษรัก รักที่ดูเหมือนไม่ได้ตั้งใจให้เกิดขึ้นมาหรือเปล่า!


- TBC -[/center]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-03-2017 12:45:06 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
เราเข้าใจเพียวนะ  เพราะว่าเพียวเองก็ไม่ได้ผิดอะไร   พื้นฐานความรักของแฟรงก์มันเริ่มจากฐานที่สร้างโดยใช้ของผิดมาตรฐาน   แฟรงก์เองก็ไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้
มาทิ้งกันไว้ที่ครึ่งทาง    ที่ผิดก็คือเพียวพยายามจะยื้อ   ที่หนักก็คือการแบกรับหน้าตามากกว่าการแยกแยะ    ขนาดที่ว่าอยากแต่งงานเพื่อให้ผ่านช่วงนี้ไปได้ก่อนแล้วค่อยไปหาทางออกกันทีหลัง   เพียวเองก็น่าจะอยากอาศัยข้อนี้เพื่อผูกมัดแฟรงก์ไว้   จะว่าไปก็เหมือนสนที่ทำเฉยเมยแล้วปล่อยให้นินาดิ้นหาทางออกเอาเอง     แฟรงก้เปิดไพ่หมดแล้ว  แล้วปล่อยให้เพียวเป็นคนตัดสินใจ    ถ้ามองในแง่ดีก็คือ
แฟรงก็ไม่ได้โกหก  แฟรงก์ให้โอกาสกับทางออกให้เพียว    มันจะดูดีกว่าถ้าหากว่าฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายที่บอกเลิกจะได้ไม่โดนตราหน้าว่าโดนทิ้ง    แต่มองในทางกลับกันแฟรงก์ก็ไหลตามน้ำแทนที่จะทำอะไรให้มันเด็ดขาดไป  เผลอๆก็ไหลแต่งงานไปกับเพียวนั่นแหละ     สิ่งที่แฟรงก์บอกเพียวนี่สามารถสร้างความเสียหายให้นัทได้เลยนะ   แม้ว่าจะไม่ได้อ้างถึงนัทมาก    แต่เพียวก็อาจจะเก็บเอาไปคิดว่านัทเองก็มีใจให้แฟรงก์

ข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดระหว่างสาวไทยกับสาวฝรั่งนะคะ    ถ้าหากว่าเพียวเป็นฝรั่งนางจะตัดแฟรงก์ทันที ไม่มีมายอมยื้อแบบนี้หรอก   ทุกอย่างสิ้นสุดด้วยคำเดียวที่ว่าแฟรงก์ไม่ได้รักเพียวเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว     บ็อบอาจจะไม่ได้สะบัด  แต่ไม่มีการทุรังยื้อให้แต่งต่อไปแน่นอน    เลิกก่อนแต่งดีกว่ามาเลิกหลังแต่งหรือหลังมีลูก

หน่วงสำหรับทุกคนเลย   เจ็บจี๊ดๆกับตอนที่เพียวพยายามนอนกับแฟรงก์แล้วแฟรงก์คิดถึงเพียวในแง่นั้น    นี่สินะคะที่ว่าใจคนมันเปลี่ยนไปแล้ว   ถ้าหากว่าเป็นเมื่อก่อนที่นัทจะเข้ามาในชีวิตของแฟรงก์  การที่เพียวทำแบบนั้นก็ไม่แคล้วทำให้แฟรงก์ดีใจ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-12-2015 17:02:22 โดย Freja »

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 838
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
มันหน่วงมากจนบรรยายไม่ถูก

บางครั้ง! ความเจ็บ > จาก "การเลิกรา" .. ก็อาจจะ ไม่เลวร้ายเท่าไหร่ ..
แต่! ถ้าต้องเจ็บ > จาก "การฝืนใจ" ... มันเป็นอะไร ที่ทรมาน !!!

มอบให้เพียวนะ ...เห็นใจเพียวนะ..เพียวแค่ชอบกินไอติมมันคงมีมากกว่านั้นที่แฟร้งจะรักเพียวจนอยากแต่งงานที่เพียวคิดแต่แฟร้งคิดแค่เพียวเหมือนนัทแค่นั้นแต่ไม่เคยเข้ามาแทนที่นัทได้เลย....แค่นี้ก็สวนทางกันแล้วอะ ...  :mew6: :mew6: :mew6: :mew6:

"รักคนที่รักกันดีกว่านะเพียวเจ็บตอนนี้ดีกว่าเจ็บไปอีกยืดยาว"

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
เราเข้าใจเพียวนะ  เพราะว่าเพียวเองก็ไม่ได้ผิดอะไร   พื้นฐานความรักของแฟรงก์มันเริ่มจากฐานที่สร้างโดยใช้ของผิดมาตรฐาน   แฟรงก์เองก็ไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้
มาทิ้งกันไว้ที่ครึ่งทาง    ที่ผิดก็คือเพียวพยายามจะยื้อ   ที่หนักก็คือการแบกรับหน้าตามากกว่าการแยกแยะ    ขนาดที่ว่าอยากแต่งงานเพื่อให้ผ่านช่วงนี้ไปได้ก่อนแล้วค่อยไปหาทางออกกันทีหลัง   เพียวเองก็น่าจะอยากอาศัยข้อนี้เพื่อผูกมัดแฟรงก์ไว้   จะว่าไปก็เหมือนสนที่ทำเฉยเมยแล้วปล่อยให้นินาดิ้นหาทางออกเอาเอง     แฟรงก้เปิดไพ่หมดแล้ว  แล้วปล่อยให้เพียวเป็นคนตัดสินใจ    ถ้ามองในแง่ดีก็คือ
แฟรงก็ไม่ได้โกหก  แฟรงก์ให้โอกาสกับทางออกให้เพียว    มันจะดูดีกว่าถ้าหากว่าฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายที่บอกเลิกจะได้ไม่โดนตราหน้าว่าโดนทิ้ง    แต่มองในทางกลับกันแฟรงก์ก็ไหลตามน้ำแทนที่จะทำอะไรให้มันเด็ดขาดไป  เผลอๆก็ไหลแต่งงานไปกับเพียวนั่นแหละ     สิ่งที่แฟรงก์บอกเพียวนี่สามารถสร้างความเสียหายให้นัทได้เลยนะ   แม้ว่าจะไม่ได้อ้างถึงนัทมาก    แต่เพียวก็อาจจะเก็บเอาไปคิดว่านัทเองก็มีใจให้แฟรงก์

ข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดระหว่างสาวไทยกับสาวฝรั่งนะคะ    ถ้าหากว่าเพียวเป็นฝรั่งนางจะตัดแฟรงก์ทันที ไม่มีมายอมยื้อแบบนี้หรอก   ทุกอย่างสิ้นสุดด้วยคำเดียวที่ว่าแฟรงก์ไม่ได้รักเพียวเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว     บ็อบอาจจะไม่ได้สะบัด  แต่ไม่มีการทุรังยื้อให้แต่งต่อไปแน่นอน    เลิกก่อนแต่งดีกว่ามาเลิกหลังแต่งหรือหลังมีลูก

หน่วงสำหรับทุกคนเลย   เจ็บจี๊ดๆกับตอนที่เพียวพยายามนอนกับแฟรงก์แล้วแฟรงก์คิดถึงเพียวในแง่นั้น    นี่สินะคะที่ว่าใจคนมันเปลี่ยนไปแล้ว   ถ้าหากว่าเป็นเมื่อก่อนที่นัทจะเข้ามาในชีวิตของแฟรงก์  การที่เพียวทำแบบนั้นก็ไม่แคล้วทำให้แฟรงก์ดีใจ

ใช่ ถ้าเราเป็นเพียว เรา  :a14: ใส่ โบกมือบ๊ายบายกับฮีไปแล้ว แต่เพราะเพียวเป็นเพียว เลยต้องลุ้นกันต่อไป  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
ไม่เข้าใจผู้หญิงเลยจริงๆ คิดได้ไง ให้แต่งงานไปก่อน แล้วหลังจากนั้นถ้ามีไรเปลี่ยนแปลง แล้วค่อยหย่าทีหลัง
หงุดหงิดแทนพี่แฟรงค์เลย คือ ตอนนี้กับตอนนั้นคงไม่ต่างกัน เธอรู้แบบนี้แล้ว ควรตัดสินใจให้เด็ดขาดไปเลยสิ


 :เฮ้อ:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
ยื้อไปก็เท่านั้น
ดึงดันก็เท่านี้
มันมากไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว

หยุดเพื่อไม่เจ็บปวด
..ถ้าจะเข้าใจมัน..
 :mew2:

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
❤️ (✘) ไร้รัก ✢ Lovelessly

ตอนที่ 11 ✢ แสงดาว ลมหนาว ความรัก



แม้จะพยายามข่มตาหลับ แต่สุดท้ายผมก็หลับไม่ลง ไม่ใช่เพราะเรื่องคนที่นอนหลับอยู่ข้างๆ อย่างเดียว แต่ผมขอสารภาพตามตรงว่าคิดถึงนัทมากเหลือเกิน นัทกำลังจะกลับบ้านแล้ว แต่ช่วงหลังๆ มานี้ผมกับนัทกลับดูห่างเหินกัน ทั้งที่จริงเราควรจะมีช่วงเวลาดีๆ ด้วยกันบ้าง จะได้จดจำเป็นความทรงจำที่ดีก่อนจากกัน อย่างน้อยในฐานะพี่น้องก็ยังดี ที่สำคัญ ผมกับนัทยังมีเรื่องค้างคาใจที่ต้องพูดคุยกันให้เข้าใจก่อนไปอีกด้วย

คนที่เคยมีความรักคงรู้ดีว่าความคิดถึงมีพลังมากแค่ไหน ยิ่งอยู่ใกล้แล้วยังไปหาไม่ได้ก็ยิ่งทรมานหนัก เหมือนกับผมตอนนี้ที่นอนคิดถึงใครบางคนจนข่มตาไม่ลง สุดท้ายผมก็ต้านทานพลังที่รุนแรงนั้นไม่ไหว หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วก็ส่งไลน์ไปหาคนที่แสนคิดถึง

"นอนยัง พี่อยากคุยด้วย ออกมาหาพี่หน่อยได้มั้ย พี่จะไปรอแถวหน้าบ้านพักนะ"

พอส่งไปแล้วผมก็ปิดเครื่องโทรศัพท์ เที่ยงคืนแล้ว ไม่รู้ว่านัทนอนหรือยัง ถ้ายังไม่นอนนัทคงจะได้อ่านข้อความนั้น ส่วนจะตัดสินใจยังไงก็คงแล้วแต่ เอาเป็นว่าผมจะไปรอนัทตามที่ผมบอกไว้ ไม่เอาโทรศัพท์ไปด้วย ไม่อยากรู้ว่านัทอ่านหรือไม่อ่าน ถ้ารอแล้วไม่มา ผมก็จะกลับมานอนที่ห้องเหมือนเดิม

ผมลุกขึ้นนั่งแล้วเดินออกไปข้างนอกห้องอย่างเงียบๆ แม้ไม่เปิดไฟก็ยังพอมีแสงสว่างจากข้างนอกพอให้มองเห็นทาง หยิบรองเท้ามาใส่แล้วผมก็เดินลงจากบ้านพัก ก่อนจะค่อยๆ เดินขึ้นเนินเลียบไปตามถนนที่เป็นทางเข้า ก่อนเลี้ยวไปทางปีกขวาของรีสอร์ท ตรงไปยังที่พักของนัท

พอเดินมาถึงหน้าบ้านพักที่นัทพักกับปอนด์ก็หยุดยืนมอง ไฟดับไปแล้ว นัทน่าจะนอนแล้วล่ะ หน้าบ้านพักมีโต๊ะรูปท่อนไม้ตัดอยู่จัดเรียงรายไว้สองตัว ผมเลือกหนึ่งในนั้นแล้วก็นั่งคอยนัท มองดูท้องฟ้าบ้าง ชะเง้อมองไปที่ประตูห้องนัทบ้าง ผ่านไปเกือบๆ ยี่สิบนาทีก็ยังไม่เห็นวี่แววว่านัทจะออกมา

ผมเลิกมองไปที่ประตูห้องของนัท เหม่อมองไปไกลแสนไกลอย่างคนหมดหวัง ถึงตอนนี้แล้วผมก็ไม่รู้จะสงสารตัวเองหรือสงสารใครดี ต่างคนก็ต่างบาดเจ็บกันไปหมด ต่างคนก็ต่างดิ้นรนทุรนทุรายหาทางออกที่ตัวเองต้องการ พอถึงจุดๆ หนึ่งเราก็คงต้องเลือกอะไรสักอย่าง แต่จะเป็นอะไรนั้นก็สุดจะคาดเดาได้

"แฟรงค์"

เสียงที่แสนคุ้นเคยคล้ายกับเสียงของคนที่ผมเฝ้ารอคอยดังมาจากทางด้านหลัง ผมตื่นจากภวังค์แล้วก็รีบหันไปมองด้วยความหวัง

"นัท"

ผมเรียกชื่อที่ผมอยากเรียกหาทั้งวันทั้งคืนพร้อมเผยอยิ้มดีใจ ลนลานลุกขึ้นแล้วก็เดินเข้าไปหาใกล้ๆ พอมาหยุดอยู่ตรงหน้าก็เห็นนัทยิ้มให้ผมเหมือนกัน แม้ยิ้มไม่มากแต่ก็รู้ว่านัทดีใจที่ได้เจอผม อยากกอดนัทเหลือเกินแต่ก็ไม่กล้า เอื้อมมือไปแล้วก็รีบหดกลับแทบจะทันที

"ขอโทษที่ให้รอนาน"

ผมส่ายหน้า มองนัทอยู่ในชุดคล้ายๆ กับผมเลยแต่คนละสี ผมใส่สีเทา นัทใส่สีขาว

"ไม่เป็นไร"

"แล้วไปคุยตรงไหนดี"

"ตรงนั้นดีมั้ย"

ผมชี้ลงไปที่เนินหญ้าหน้าห้องพักของนัท

"บนพื้นหญ้าเนี่ยนะ" แววตาฉงนของนัทพอเห็นได้รางๆ ในความมืดสลัว

"อืม...ไม่เห็นแปลกเลย ตอนเด็กๆ เราก็นั่งคุยกันแบบนี้บ่อยๆ ไม่ใช่เหรอ"

นัทขำเบาๆ แต่ถึงกระนั้นก็ยังดูมีระยะห่างอยู่

"ก็ได้"

ผมกับนัทเดินลงไปพร้อมกัน พอลงทางชันผมก็เอื้อมมือไปจับมือนัทไว้ นัทชะงักและมองเป็นเวลาสั้นๆ แล้วก็ปล่อยเลยตามเลย แต่ก็พอสัมผัสได้ถึงความประหม่าอยู่ในที

พอหาที่เหมาะๆ ได้แล้วเราก็นั่งลงข้างๆ กัน

"หนาวมั้ย" ผมหันไปถาม

"ถามงี้ได้ไง นัทเป็นคนที่ไหนก็รู้อยู่"

"นั่นสิ แล้วทำไมตอนไปเข้าค่ายลูกเสือถึงนอนกอดแฟรงค์ทั้งคืนล่ะ"

"ก็ผ้าห่มมันบาง" นัทแก้ตัวพลางขำเบาๆ

"เอาที่นัทสบายใจละกัน" ผมหยอกเล่นบ้าง ก่อนจะเงียบกันไปสักพัก

"แฟรงค์...คิดถึงนัทนะ"

ผมเอ่ยประโยคนั้นออกมาอย่างยากลำบาก แต่ใจมันอยากบอกจนทนไม่ไหว เราหันมาสบตากัน แม้มองไม่ชัดแต่ก็สัมผัสได้ถึงความกระอักกระอ่วนใจ

"แฟรงค์ขอโทษ ถ้านัทไม่สบายใจที่จะคุยกับแฟรงค์...แฟรงค์กลับห้องก็ได้"

ผมทำน้ำเสียงและสีหน้าน้อยใจ จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน พอจะเดินออกไปนัทก็รีบคว้ามือผมไว้

"พี่แฟรงค์ง่ะ"

น้ำเสียงอ้อนหน่อยๆ นั้นทำให้ผมต้องแอบอมยิ้มชอบใจ

"ก็บอกแล้วไงว่าไม่ให้เรียกพี่ จำไม่ได้เหรอ"

ผมหยอกเล่นอย่างที่ทำบ่อยๆ ตอนเด็กๆ จากนั้นก็นั่งลง เหยียดขาออกอย่างสบายใจ ก่อนจะหันไปบอกเหตุผล

"แฟรงค์กลัวไง ไม่อยากให้นัทลำบากใจ แฟรงค์ยังเคลียร์กับเพียวไม่ได้เลย ก็ไม่ควรจะมาหานัท แต่แฟรงค์...คิดถึงนัทมาก คิดถึงมากจนทนไม่ไหว ก็เลยต้องมาหา แต่ถ้านัทไม่สบายใจที่จะคุยด้วย นัทก็บอกแฟรงค์ได้นะ"

"เราก็คุยกันอย่างพี่น้องได้ไม่ใช่เหรอ ใจคอแฟรงค์จะไม่คุยกับนัทเลยหรือไง" นัทตัดพ้อหน่อยๆ

ผมยิ้มเศร้าๆ แม้ว่าจะมาไกลจากจุดนั้นไปแล้ว แต่ถ้าไปต่อไม่ได้ การกลับคืนไปสู่ที่เดิมก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด แม้ไม่รู้ว่าจะทำได้จริงแค่ไหน

นัทเปลี่ยนจากนั่งชันเข่าเป็นเหยียดขายาวเหมือนผมบ้าง

"ไปตัดผมมาใหม่เหรอ"

ผมพยักหน้า "อืม...ชอบมั้ย"

นัทพยักหน้ายอมรับอย่างเขินๆ "ก็ดูหล่อดี"

"ก็ว่างั้น" ผมยิ้มมีเลศนัย "หล่อจนบางคน...แอบมองทั้งวันเลย"

"แฟรงค์รู้เหรอ"

นัทหันมามองอย่างตกใจ แล้วก็ทำหน้าแหยระคนอาย นัทนะนัท พี่รู้นะว่านัทคิดถึงพี่จนต้องคอยมองหาบ่อยๆ

"ทำไมจะไม่รู้ล่ะ"

ทีนี้คนปากแข็งก็เลยไม่กล้าสบตาผม ผมเลยต้องชวนเปลี่ยนเรื่อง เกรงว่าจะอายม้วนจนตกเขาไปก่อน

"เรื่องต้องตา นัทโอเคแล้วใช่มั้ย"

นัทมีท่าทีสะดุดใจเล็กน้อย คงไม่คิดว่าผมจะถามเรื่องนี้อีก

"ได้คนช่วยปลอบใจดีขนาดนี้...ไม่หายก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว สงสัยจะหายเพราะกินไอติมเยอะ"

เราหันมาขำเบาๆ ด้วยกัน

"แฟรงค์มีอะไรบางอย่างจะบอกนัทน่ะ"

ผมเกริ่นนำเรียกความสนใจก่อน นัททำท่ารอฟังอย่างสนใจ

"เรื่องวันนั้น แฟรงค์ขอโทษนัทด้วยนะที่แฟรงค์...ฉวยโอกาส"

ไม่รู้ว่าเรื่องที่คุยจะทำให้นัทเครียดหรือเปล่า แต่ผมก็จำเป็นต้องเคลียร์เรื่องคาใจของผมกับนัทให้เร็วที่สุด ไม่อยากปล่อยไว้จนถึงวันที่นัทลากลับบ้าน

"แฟรงค์ไม่ต้องขอโทษนัทหรอก คนที่ต้องขอโทษควรจะเป็นนัทมากกว่า นัทขอโทษนะที่นัทว่าแฟรงค์อย่างงั้น บางที...นัทก็งี่เง่า ชอบเอาแต่ใจ พูดไม่คิด ตอนเด็กๆ ก็เคยพูดไม่ดีกับแฟรงค์ด้วย แต่แฟรงค์ก็ไม่เคยว่านัทซักคำ"

"ใครจะกล้าว่าล่ะ นัทรู้มั้ย...นัทเป็นน้องที่แฟรงค์รักแล้วก็หวงมากนะ เฟิร์นยังน้อยใจเลย แม่เคยเล่าให้ฟังว่า...ก่อนที่แฟรงค์จะรู้จักกับนัท แฟรงค์ชอบขอให้แม่มีน้องอีกซักคน แฟรงค์อยากมีน้องชายอีกคน แล้วแม่ก็บอกว่าแม่ทำหมันแล้ว มีน้องอีกไม่ได้ แล้วแฟรงค์ก็งอแงถามแม่ว่าทำไมมีน้องอีกไม่ได้ แฟรงค์อยากมีน้องชาย"

ผมแกล้งทำเสียงงอแงเหมือนเด็ก นัทหัวเราะชอบใจเลยทีเดียว

"แฟรงค์ตลกง่ะ อยากเห็นแฟรงค์ตอนงอแงจัง คงตลกน่าดูเลย ไม่ค่อยเห็นแฟรงค์งอแงเท่าไหร่"

"ก็ทำให้ดูเมื่อกี้แล้วไง"

"ไม่เห็นจะเหมือนเด็กเลย" นัทท้วง

"ก็เด็กโข่งไง"

แล้วเราก็หัวเราะ คุยกันอย่างนี้แล้วก็ทำให้บรรยากาศหายตึงเครียดและลดช่องว่างไปได้

"อืม...จะว่าไป พอนัทมาคิดๆ ดูแล้ว นัทว่า...นัทมองข้ามอะไรดีๆ หลายอย่างของแฟรงค์ไปเยอะเลย นัทจำได้ บางวันนะ...แฟรงค์ซื้อไอติมให้นัทกิน แต่แฟรงค์ไม่มีเงินเหลือซื้อขนมของตัวเองเลย นัทรู้นะว่าบางทีแฟรงค์ก็นั่งมอง อยากกินแต่ก็ไม่กล้าขอแบ่งกินด้วย แต่นัทก็ไม่แบ่งด้วยแหละ แย่จัง แล้วก็มีอยู่วันหนึ่ง นัทจำไม่ได้ว่าทำอะไรที่โรงเรียนพัง แล้วแฟรงค์ก็รับผิดแทน โดนครูตีเจ็บเลย นัทนี่แย่จัง ปล่อยให้แฟรงค์ถูกตีคนเดียว วันนั้นที่ไปกินข้าวบ้านแฟรงค์ พ่อแฟรงค์เล่าให้ฟังว่า แฟรงค์เคยร้องไห้ไปขอให้พ่อกับแม่มาช่วยพูดกับแม่ของนัท ตอนที่นัทเป็นไข้เลือดออก ถ้าไม่ได้แฟรงค์นัทก็คงตายไปแล้ว พี่ชายแท้ๆ ก็ไม่ใช่"

นัทหยุดเว้นจังหวะแล้วก็พูดต่อ

"นัทเคยตั้งใจเอาไว้ว่าอยากจะขอบคุณแฟรงค์ ถ้าเกิดเราได้เจอกันอีกครั้ง นัทอยากจะบอกแฟรงค์ว่า...ขอบคุณมากที่แฟรงค์คอยเป็นพี่ชายที่แสนดีให้นัทมาตลอด ถึงนัทไม่มีพ่อ แต่นัทก็มีพี่ชายอย่างแฟรงค์"

เสียงนัทเครือๆ เหมือนจะร้องไห้ แต่ผมก็ยังแข็งใจเอาไว้ไม่ยอมกอดปลอบ ก็เพราะอย่างนี้แหละ เราสองคนจึงมีกันและกันอยู่ในใจมาตลอด ผมต้องการคนอย่างนัท และผมก็รู้ว่านัทต้องการคนอย่างผม พอกลับมาเจอกันอีกครั้งตอนที่โตแล้ว ความรู้สึกเก่าๆ ก็เลยฟื้นคืนกลับมาอย่างรวดเร็ว แถมยังช่วยให้เราสองคนค้นพบคำตอบว่าใครคือคนที่เราตามหามาทั้งชีวิตอีกด้วย

"อีกเรื่องนะ ที่นัทเคยบอกแฟรงค์ว่านัทรอแฟรงค์อยู่หลายปี นัทไม่ได้ว่าแฟรงค์นะ ไม่อยากให้แฟรงค์เสียใจกับเรื่องนี้หรอก มันผ่านไปแล้ว นัทเข้าใจ พอโตแล้วนัทก็ลืมไปแล้วด้วยซ้ำ ถ้าไม่เจอกันก็คงลืมไปแล้ว"

"แต่มันก็ทำให้นัทฝังใจไง" ผมแทรกเมื่อได้จังหวะ

"ช่างมันเหอะ เพราะยังไงๆ แฟรงค์ก็เป็นคนที่นัท...เอ่อ..." นัทหยุดคิดเหมือนไม่แน่ใจ ก่อนจะพูดสืบไป "รู้สึกเป็นหนี้บุญคุณมากที่สุด อยากขอบคุณมากที่สุด นัทได้ทำอย่างที่ตั้งใจแล้ว ขอบคุณนะครับพี่ชาย"

นัทหันมามองผมด้วยสายตาซึ้งๆ ผมนี่แทบจะโอบน้องที่แสนรักมากอดไว้เลย แต่ก็ต้องหักห้ามใจจนใจแทบจะหักเป็นสองซีกแล้ว ถึงไม่เคยคิดอยากทวงบุญคุณ แต่ได้ฟังอย่างนี้แล้วก็ชื่นใจ ที่รักมากอยู่แล้วก็ยิ่งรักมากขึ้นไปอีก

"นัทเล่นพูดซะพี่เขินเลย จับตัวพี่ไว้ด้วยนะ เดี๋ยวจะลอยขึ้นไปบนฟ้า" ผมแก้เขินด้วยการพูดเล่นสนุก

"ไม่ได้แกล้งยอ พูดจริงๆ นะ"

"คร้าบบบ น้องชายที่แสนดีของพี่"

ไม่รู้ว่าผมตาฝาดไปหรือเปล่า นัททำท่าเหมือนอยากจะกอดผม แล้วก็หยุดชะงักไป แล้วเราสองคนก็นั่งเงียบ แหงนหน้ามองดูดาวบนท้องฟ้าด้วยกัน เสียงลมหนาวที่คุ้นเคยสมัยเด็กๆ พัดโชยมาตลอดเวลา ผมเอนตัวไปข้างหลังแล้วนอนบนฝ่ามือที่สอดประสานกันไว้ นัททำตามผมอย่างไว นอนแบบนี้แล้วทำให้รู้สึกผ่อนคลายและสบายใจมากขึ้นทีเดียว

"นัทรู้มั้ย ความผูกพันของเราในอดีต...มีผลกับชีวิตของเราสองคนจนถึงวันนี้เลย ขนาดตอนที่ไม่เจอกัน ความรู้สึกเก่าๆ ก็ยังตามไป แฟรงค์นะ...เคยพยายามจีบผู้หญิง แต่ก็จีบเล่นๆ ไม่เคยจีบใครจนเป็นแฟน แฟรงค์ก็ไม่รู้ว่าทำไม ตอนแรกนึกว่าตัวเองเป็นเกย์หรือเปล่า แต่ก็คิดว่าไม่ใช่หรอก จนกระทั่งได้เจอเพียวแล้วรู้ว่าเพียวชอบกินไอติมทุกชนิดเหมือนนัท พี่ก็เลยคลิกกับเค้า นัทรู้มั้ย...แฟรงค์ประทับใจความผูกพันของเราสองคนมาก ประทับใจนัทในทุกๆ อย่างที่นัทเป็น แฟรงค์มองหาคนแบบนัทมาตลอด แต่ไม่เคยเจอ ถึงจะคบเพียวเป็นแฟนแล้ว แต่ลึกๆ แฟรงค์ก็รู้ว่าเพียวยังไม่ใช่ ที่แฟรงค์ยังคบกับเค้าต่อเพราะว่าแฟรงค์ก็ไม่รู้จะไปหาใคร ถ้ารู้มาก่อนว่าเราสองคนจะได้กลับมาเจอกันอีก แฟรงค์ก็คง...อยู่เป็นโสดรอแล้วล่ะ นัท...แฟรงค์รู้นะว่านัทก็เป็นเหมือนแฟรงค์ นัทชอบต้องตาเพราะเค้าอายุมากกว่านัทไม่กี่เดือน เค้าทำให้นัทนึกถึงแฟรงค์ แฟรงค์ไม่ได้เข้าใจผิดไปเองใช่มั้ย บอกมาตรงๆ ได้มั้ย อย่าปล่อยให้แฟรงค์สงสัยอยู่คนเดียวเลย"

ผมพลิกหน้าหันไปถามนัท สายตาคู่นั้นมีแววประหม่าจนรู้สึกได้แม้ในความมืดสลัว นัทดีดตัวลุกขึ้นนั่งตามเดิม คิดอยู่นานทีเดียวจึงยอมปริปากพูด

"ที่นัทชอบเค้า เพราะนัทเคยเรียกเค้าว่าพี่บ่อยๆ พอเค้าตอบมาว่าไม่ให้เรียกพี่ นัทก็เลย...รู้สึกชอบเค้าขึ้นมา"

"นัท!"

ผมดีดตัวลุกขึ้นนั่งบ้าง รู้สึกได้ถึงตุ่มขนที่ลุกซู่ไปทั้งร่างกาย แม้จะรู้มาก่อนแล้วแต่ก็อดตื้นตันใจไม่ได้ที่นัทยอมรับว่าเป็นเหมือนผม แม้ไม่ต้องถามก็คงรู้แล้วว่าคนที่อยู่ในใจนัทตลอดมาก็คือผมแน่ๆ

ผมเอื้อมมือไปจับมือนัทไว้ รู้สึกได้ถึงหัวใจของตัวเองที่เต้นแรงขึ้น เพราะสิ่งที่ผมจะถามนัทต่อไปนี้สำคัญมาก

"นัท...ที่นัทเคยบอกแฟรงค์ว่าจะไม่รักใครอีกแล้ว นัท...ยกเว้นให้แฟรงค์ซักคนนึงได้มั้ย"

ผมจ้องตากับนัทไม่วางตา รอคอยคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ แล้วนัทก็หันหน้าหนีไป คงต้องการเวลาจัดการความรู้สึกภายในสักพัก ผมไม่มีปัญหาที่จะรอหรอก ผมรอนัทได้เสมอ

นัทหันกลับมาหาผมอีกครั้ง คราวนี้น้ำตาร่วงเผาะๆ ในที่สุดก็ทนไม่ไหวจนต้องโผเข้ากอดผมจนได้

"พี่แฟรงค์...นัทรักพี่ นัทรักพี่ได้หรือเปล่า นัทพยายามห้ามใจแล้วแต่นัทก็ทำไม่ได้ นัทขอโทษ"

เห็นนัทร้องไห้สะเทือนใจแล้วผมก็รู้สึกผิดเหลือเกิน นึกโทษตัวเองว่ามัวแต่ทำอะไรอยู่ถึงปล่อยให้น้องเข้าตาจนและสิ้นหวังถึงเพียงนี้

"นัทไม่ต้องขอโทษพี่ นัทรักพี่ได้ ไม่ต้องขออนุญาตหรอก" ผมกอดน้องรักแน่น ฝังจมูกลงตรงไหล่แล้วคอยลูบหลังปลอบใจ

"พอนัทอยู่ใกล้พี่แฟรงค์ นัทก็คิดถึงความรู้สึกเก่าๆ ที่นัทเคยมีความสุขกับพี่ตอนเด็กๆ ไม่มีใครทำให้นัทมีความสุขได้เหมือนพี่เลย นัทรอคนอย่างพี่แฟรงค์มานานแล้ว รอความรู้สึกแบบนี้มานานแล้ว พี่แฟรงค์อยู่ในใจของนัทตลอด ไม่เคยไปไหนเลย"

"พี่ก็คิดเหมือนนัท พี่รักนัทนะ เราสองคนรักกัน ความรักไม่ผิดหรอก นัทไม่ต้องกลัว อย่าร้องไห้นะคนดีของพี่"

"แล้วนัทเป็นคนเลวหรือเปล่า นัทไม่อยากเป็นคนเลวเลย แต่นัทก็รักพี่ไปแล้ว นัทขอโทษ นัทไม่อยากทำร้ายเพียวเลย"

ผมกอดนัดที่ซบอยู่กับอกไว้แน่น สะท้อนใจจนอดร้องไห้ไม่ได้เมื่อได้ยินนัทถามว่าตัวเองเป็นคนเลวหรือเปล่า นัทคงกลัวเรื่องนี้ถึงไม่กล้ายอมรับว่ารักผม ผมก็ช่างใจร้ายกับน้องเหลือเกิน ปล่อยให้น้องทุกข์ใจเรื่องนี้อยู่ได้ตั้งนาน

"นัทไม่ใช่คนเลวนะ อย่าว่าตัวเองแบบนี้สิ น้องของพี่เป็นคนดี พี่ไม่เคยเห็นนัทเป็นคนไม่ดีเลย"

ผมสะอื้นไห้บ้าง เราสองคนกอดกันแน่น รู้สึกอดสูใจกับชะตาชีวิตของเราเหลือเกิน ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนจะผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากลับไปแล้วจะเจออุปสรรคอะไรอีก

"ไม่ต้องห้ามใจตัวเองแล้วนะ ถ้าคนอื่นรักพี่ได้ แล้วทำไมนัทจะรักพี่ไม่ได้ล่ะ พี่สัญญาว่าพี่จะจัดการให้เร็วที่สุด พี่เองก็ไม่อยากเห็นนัทอยู่ในสภาพอย่างงี้"

"พี่แฟรงค์...นัทรักพี่ นัทอยากอยู่กับพี่ ไม่อยากจากพี่ไปไหนเลย นัทกลัว ไม่อยากเป็นเหมือนตอนมอหนึ่งอีกแล้ว มันทรมาน พี่แฟรงค์ช่วยนัทด้วย"

เราสองคนกอดกันแน่นจนไม่รู้ว่าจะแน่นได้มากกว่านี้อีกได้หรือเปล่า ใจผมจะขาดเสียให้ได้ สะท้อนใจเหลือเกินที่ปล่อยให้น้องรอจนทนไม่ไหวจนต้องมาร้องขอให้ช่วย นี่ผมเป็นพี่ประสาอะไร ได้รู้อย่างนี้แล้ว ผมจะไม่ปล่อยให้นัทต้องกลับไปรอคอยเหมือนตอนมอหนึ่งเป็นอันขาด จะไม่ให้นัทต้องทรมานซ้ำสอง ถ้าทำไม่ได้ก็ตายไปเลยเสียดีกว่า แต่ก็คงตายไม่ได้เพราะนัทก็จะรอผมอีก ก็เหลือแค่ทางเลือกเดียว ทำยังไงก็ได้ให้ผมกับนัทได้อยู่ด้วยกัน

"นัทไม่ต้องกลัวนะ พี่จะทำทุกอย่างให้เราสองคนได้อยู่ด้วยกัน พี่จะไม่ทิ้งให้นัทรอพี่อีกแล้ว อดทนอีกหน่อยนะนัท น้องพี่...พี่ขอโทษด้วย พี่ขอโทษนะที่ทำให้นัทกลัว"

เรากอดกันร้องไห้เนิ่นนานภายใต้แสงดาว ลมหนาวและความรัก ที่นี่คือบ้านเกิดของเรา ที่ๆ เราเคยใช้ชีวิตด้วยกันจนเกิดเป็นความผูกพันที่ไม่มีวันลืมเลือน และวันนี้ ที่แห่งนี้ก็เป็นที่ที่น้องของพี่สารภาพว่ารักพี่สุดหัวใจ พี่เองก็รักน้องสุดหัวใจไม่แพ้กัน

เสียงสะอื้นไห้ของเราเงียบหายไปแล้ว เวลาผ่านล่วงเลยมาจนถึงตีหนึ่งกว่าๆ แต่เราก็ไม่รู้สึกง่วงนอน ไม่อยากหลับแม้เพียงวินาทีเดียว อยากกอดกันไว้อย่างนี้ให้นานเท่านาน จนถึงวันที่เราหมดลมหายใจ

ผมลูบผมนัทที่ยังซบอยู่บนอ้อมอกอย่างแผ่วเบา น้ำตาหายไปแล้วก็ถึงคราวที่รอยยิ้มจะมาเยือนบ้าง เมื่อหัวใจชัดเจนและคลี่คลาย ช่องว่างและกำแพงที่สร้างไว้ก็มลายสิ้น

"อุ่นมั้ย ได้กอดพี่ อยากกอดมาหลายวันแล้วไม่ใช่เหรอ" ผมกระเซ้าเล่นหลังจากเราเงียบกันไปนาน

"รู้ได้ไงว่านัทอยากกอด"

"รู้สิ ช่วงหลังๆ ที่ไม่ค่อยได้คุยกัน พี่รู้นะว่านัทคอยมองหาพี่อยู่ ชอบแอบมองพี่ด้วย ไม่รู้ว่ามองอะไรหรือมองตรงไหน ชอบมองตรงไหนของพี่เป็นพิเศษหรือเปล่า"

"ทายสิ"

"ตรงนั้นแน่ๆ เลย" ผมเย้าเล่น

"บ้า"

"รู้เหรอว่าพี่หมายถึงตรงไหน"

"ขาไง"

"น่า...บอกหน่อยสิ พี่อยากรู้"

"จะอยากรู้ไปทำไม"

"ก็อยากรู้ พี่เสียหายนะ"

"แค่มองเนี่ยนะ"

"ใช่" ผมหัวเราะอย่างมีความสุข "บอกหน่อยน่า พี่อยากรู้จริงๆ"

"ทรงผมไง นัทชอบมองพี่แฟรงค์ข้างๆ เวลามองข้างๆ แล้วหล่อมากเลย"

"แสดงว่ารักพี่ข้างเดียว"

"ก็คงงั้น"

"แต่ตอนนี้ต้องรักสองข้างแล้วนะ"

"รักสามร้อยหกสิบองศาไม่ดีกว่าเหรอ จะได้เห็นทุกมุม"

นัทสัพยอกแล้วก็ขำ บรรยากาศและความรู้สึกอบอุ่นอย่างนี้ ผมหาจากใครที่ไหนในโลกไม่ได้อีกแล้ว นี่คือความผูกพันที่แสนพิเศษของผมกับนัทที่ยากจะหาใครมาแทน เพราะฉะนั้น อย่าแปลกใจเลยที่ผมอดทนต่อแรงดึงดูดที่แสนพิเศษนี้ไม่ได้

"เป็นกำลังใจให้พี่หน่อยนะนัท เราสู้ไปด้วยกันนะ" ผมทำเสียงจริงจังขึ้นมาหน่อย แต่ก็ไม่มากหรอก

นัทพยักหน้าหงึกๆ จนอกผมสั่นตามไปด้วย กอดผมไม่ยอมปล่อยเลย คงคิดถึงพี่คนนี้มากสินะน้องพี่ ก่อนหน้านี้ผมไม่กล้าเด็ดขาดหรือใจร้ายกับพียว แต่พอได้กำลังใจดีๆ อย่างนี้แล้วผมก็คงสู้ตาย จบเร็วจะได้ไม่ต้องเจ็บยืดเยื้อยาวนาน

"นัทเป็นกำลังใจให้พี่อย่างนี้ พี่สู้ตายแน่นอน"

"ไม่เอา พี่แฟรงค์อย่าตายนะ สู้เฉยๆ ก็พอ ไม่ต้องตายหรอก แล้วนัทจะอยู่กับใครล่ะ"

"โอเคๆ พี่จะสู้แต่ไม่ตาย สู้เสร็จแล้วจะได้มาอยู่กับนัทไง นัทจะได้มีไอติมกินทุกวัน"

"ไปซื้อเองก็ได้ มีตังค์แล้ว"

"แต่เห็นชอบบ่นว่าฮาเกนดาสแพง"

"แพงดิ กระปุกเดียวก็ตั้งเจ็ดร้อยกว่าบาทแน่ะ"

"งั้นให้พี่ซื้อให้กินน่ะดีแล้ว นัทคนเดียว...พี่เลี้ยงได้"

นัทกอดผมแน่นขึ้นอีกหน่อยแล้วก็หัวเราะ

"ทำไมกอดพี่ไม่ยอมปล่อยเลย" ผมแกล้งแหย่เล่น

"อ้าว กอดไม่ได้เหรอ ก็นัทคิดถึงพี่แฟรงค์ง่ะ"

"กอดได้สิ ทั้งตัวของพี่ พี่ให้นัทหมดเลย เอามั้ย"

นัทเงยหน้ามามองแต่ไม่ตอบ แล้วก็ซุกหน้ากับอกผม

"รักพี่แฟรงค์จัง กอดแล้วก็อุ่น ไม่หนาวเลย"

ได้ยินอย่างนี้ ผมจะไม่ชื่นอกชื่นใจก็คงจะบ้าแล้ว

"ต่อไป...จะได้กอดบ่อยๆ จนเบื่อพี่เลยล่ะ"

"ไม่เบื่อหรอก เห็นมั้ย กอดเป็นชั่วโมงๆ แล้วยังไม่เบื่อเลย"

"ต่อไปต้องคิดค่ากอดแล้ว น่าจะได้ตังค์เยอะแน่ๆ เลย"

"อย่าแพงนะ ชั่วโมงละสามบาทพอมั้ย"

"หือ...กอดพี่ถูกขนาดนั้นเลยเหรอ"

"ถูกแค่เงิน แต่แพงในใจของนัทนะ"

"นัทตลกง่ะ เล่นแบบนี้ก็เป็นด้วย"

ผมแกล้งขยี้ผมนัทอย่างเอ็นดู หัวเราะร่าด้วยกันทั้งสองคน แต่ไม่น่ามีใครได้ยินเพราะนอนกันหมดแล้ว

"คืนนั้น...พี่มีความสุขมากนะ"

นัทช้อนตาขึ้นมองอย่างสงสัย

"คืนไหนเหรอ"

"ก็...คืนที่นัทเมานั่นแหละ"

พอรู้ว่าเสียทีก็ก้มหน้างุดๆ ผมเลยจับนัทให้พลิกตัวลงไปนอนบนตักผม

"นัทเนี่ย...ไม่เบาเหมือนกันนะ"

คนบนตักคงเขินจนทำตัวไม่ถูกอีกแล้ว สุดท้ายก็หาที่ซุกหน้าหนีจนได้ หน้าท้องผมเอง

"น้องใครน้า...โคตรน่ารักเลย ยิ่งเขินก็ยิ่งน่ารัก พี่รักจนจะคลั่งอยู่แล้วรู้เปล่า"

"พอแล้ว" ในที่สุดก็ยอมพูดจนได้

"ทำไม"

"เขิน"

"เขินอย่างนี้แหละน่ารักดี พี่ชอบ"

ผมก้มลงไปพูดใกล้ๆ หูของนัท นัททำท่าจั๊กกะจี้แล้วก็จะดิ้นหนี ผมรีบคว้าไว้เสียก่อน กอดปล้ำกันอยู่ครู่หนึ่ง จู่ๆ นัทก็หยุดอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

"พี่แฟรงค์ง่ะ ลามก"

ผมหัวเราะชอบใจเมื่อรู้ว่านัทหมายถึงอะไร คงสัมผัสบางอย่างเข้าโดยบังเอิญล่ะสิ

"ก็นัทกอดพี่อย่างงี้ มันก็ขึ้นเป็นธรรมดาสิ"

นัทลุกขึ้นนั่งแล้วก้มหน้างุด แต่มีแอบว่าผมเบาๆ ด้วย "คนลามก"

"พี่รู้ว่านัทชอบ" ผมส่งสายตากะลิ้มกะเหลี่ยใส่ แต่นัทกลับขำซะงั้น

"พี่แฟรงค์ตลกง่ะ ดูทำหน้าทำตาดิ"

"นัท" ผมเรียกเสียงจริงจังขึ้นมาหน่อย

"อะไร"

"พี่ขอจูบนัทหน่อย"

เจ้าตัวอึ้งและเงียบไปสามวินาที ผมก็เลยคว้ามาจูบเสียเลย ตอนแรกนัทไม่ยอมเปิดปาก แต่พอผมสอดมือเข้าใต้ชายเสื้อแล้วลูบไล้ที่หน้าอก นัทก็เผลอลืมตัวเปิดปากจนได้ ผมจึงบดขยี้จูบลงไปแล้วดันตัวนัทให้นอนลงบนพื้นหญ้า นัทกอดรอบคอผมไว้ ผมชอบเวลานัทกอดอย่างนี้ ก็เลยให้รางวัลด้วยจูบที่อ่อนหวานละมุนละไมและอ้อยอิ่ง ดูนัทพอใจมากทีเดียว แขนขาเริ่มปล่อยสบาย ผมแลกจูบกับนัทอยู่พักใหญ่จึงหยุด ปล่อยนัทให้หายใจอย่างอิสระ แต่เจ้าตัวก็หอบนิดหน่อย

เราสบตากัน จ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาแม้ว่าจะไม่เห็นชัดมาก แต่ดวงตาของมนุษย์มีความพิเศษ แม้เห็นแค่สลัวๆ ก็ยังสื่อความรู้สึกได้ชัดเจน

สัมผัสอย่างนี้ กลิ่นกายอย่างนี้ แววตาอย่างนี้ ความรู้สึกอย่างนี้ บรรยากาศอย่างนี้ เส้นผมแบบนี้ รูปหน้าอย่างนี้ และอะไรอีกหลายๆ อย่างที่เป็นอย่างนี้ของนัท ล้วนให้คำตอบว่า "ใช่" กับผมทุกอย่าง นี่แหละคือคนที่ผมจะรักและทะนุถนอมดูแลไปจนชั่วชีวิต

"นัทจำไว้นะ ไม่ว่าอะไรจะผิดถูก ไม่ว่าใครจะเจ็บ ไม่ว่าใครจะสูญเสีย แต่สุดท้าย เราก็ต้องเลือกอะไรซักอย่าง เหมือนพายุที่มันก็ต้องพัดทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้ามัน ไม่ใช่เพราะว่าพายุใจร้าย แต่มันเป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้น คนที่รอดชีวิตก็ต้องจัดการชีวิตที่เหลือของตัวเองต่อไป วันหนึ่งพวกเค้าก็จะพบว่าเค้าอยู่ต่อไปได้ แม้ว่าจะสูญเสีย แต่ทุกคนเกิดมาก็ต้องเจอกับการสูญเสียอยู่แล้ว ไม่ช้าก็เร็ว"

ผมพูดมีสาระอีกแล้ว แต่นัทก็ตั้งใจฟังตาแป๋ว

"พายุไม่กลัวใครเจ็บ ไม่กลัวใครตาย ไม่กลัวใครจะหาว่ามันไม่ยุติธรรม เพราะมันเป็นเรื่องของธรรมชาติ พี่พร้อมที่จะเป็นพายุแล้วล่ะ ไม่ใช่เพราะอยากทำร้ายใคร แต่อะไรหลายๆ อย่างทำให้พายุมันเกิดขึ้น มันก็ต้องทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้าจนกว่าจะสงบลง อดทนกับพี่อีกนิดนะนัท พี่ก็ไม่อยากยืดเยื้อให้เราเจ็บกันนาน การตัดสินใจสุดท้ายของพี่...อยู่ที่นัทคนเดียว ต่อให้พี่ต้องเสียอะไรไป ต่อให้ไม่เหลือใคร พี่จะเลือกคนที่เป็นที่หนึ่งในหัวใจของพี่ สู้ไปกับพี่นะ อดทนกับพี่นะ"

นัทพยักหน้าและยิ้มอย่างมีความหมาย

"ไหวนะ"

นัทพยักหน้า

"เข้มแข็งนะ"

นัทพยักหน้า

"อย่าทิ้งพี่นะ"

นัทพยักหน้า

"ดีมากน้องพี่"

ผมระบายยิ้มเต็มใบหน้า ก้มไปจุมพิตเบาๆ กับริมฝีปากของนัท จากนั้นจึงนอนหงายหน้ามองดูท้องฟ้าด้วยกันสองคน

"พรุ่งนี้เช้าเราจะไปขึ้นภูทับเบิกกันใช่มั้ย" ผมถามเพื่อความแน่ใจเพราะจำโปรแกรมไม่ได้ทั้งหมด

"ใช่"

"เดี๋ยวเราไปเดินดูไร่กะหล่ำด้วยกันนะ"

"ได้"

"แล้วตอนกลางวัน เราจะไปกินขนมจีนเส้นสดที่ร้านน้านวลใช่มั้ย"

"ใช่ แม่ของนัทอยากเจอพี่แฟรงค์มาก กำชับนัทใหญ่เลยว่าให้พาพี่แฟรงค์ไปให้ได้ พี่นิวก็อยากเจอด้วย"

"พี่ก็อยากเจอน้านวลกับนิว คิดถึงขนมจีนเส้นสดน้านวลมาก ขากลับจะแวะซื้อไปฝากพ่อกับแม่ที่บ้านด้วย"

"แม่นัทไม่ขายให้พี่แฟรงค์หรอก พี่แฟรงค์กินฟรีมาตั้งหลายปีแล้วไม่ใช่เหรอ"

"จริงด้วยสิ" ผมขำเบาๆ

"สงสัยตอนพี่ไปขอนัทเนี่ย น้านวลต้องเรียกทั้งค่าสินสอดแล้วก็ค่าขนมจีนที่เคยกินไปทั้งหมดด้วยแน่ๆ เลย ถ้าพี่มีเงินไม่พอ นัทจะหนีไปกับพี่มั้ย"

"บ้า แม่นัทไม่เรียกเยอะขนาดนั้นหรอก"

ผมหัวเราะชอบใจแล้วก็เอื้อมมือไปขยี้ผมนัทเล่นเบาๆ

"แล้วคืนนี้จะนอนที่ไหนดี"

"ไม่รู้สิ"

"นอนตรงนี้ละกันนะ" ผมเสนอ

"เดี๋ยวน้ำค้างลง เป็นหวัดกันพอดี" นัทท้วง

"พี่ไม่อยากกลับไปนอนห้องเลย เปิดห้องใหม่ทันมั้ย"

"น่าจะทันมั้ง ที่ฟรอนท์น่าจะมีคนอยู่"

"งั้นเปิดห้องใหม่นะ" ผมถามย้ำ

"ก็ได้"

"ไม่ต้องกลัวนะ พี่ไม่ทำอะไรนัทหรอก"

"ไม่ได้กลัวซะหน่อย" นัททำเสียงเง้างอด

"อ้าว แสดงว่าอยากให้พี่ทำงั้นสิ"

"ใครว่าล่ะ"

"ก็ไม่มีใครว่าหรอก แต่พี่...ไม่ทำอะไรจริงๆ นะ เอาไว้ให้ถึงเวลาของเรา แล้วค่อยว่ากันดีกว่า รอพี่นะ"

"อืม" นัทพยักหน้า

"พระจันทร์สวยนะ" ผมเปลี่ยนเรื่องคุย

"ดาวก็สวย" นัทเสริม

"ท้องฟ้าก็สวย" ผมเพิ่มให้อีกอย่าง

"อากาศก็หนาว" นัทไม่ยอมแพ้ เติมมาอีกอย่าง

"ลมก็โชย" มีหรือผมจะยอมง่ายๆ

"ต้นสนก็ไหวเอน" แน่ะ ยังหามาได้อีก

"นี่แหละบ้านเกิดของเรา" ผมว่าประโยคนี้เท่สุด

"นัทก็เลยรักพี่แฟรงค์"

ผมหันไปมองนัทแล้วกะพริบตาปริบๆ ที่ได้ยินเมื่อกี้หูฝาดไปหรือเปล่า ไม่รู้ล่ะ ผมก็จะบอกของผมบ้างเหมือนกัน

"พี่แฟรงค์ก็เลยรักน้องนัทด้วย"


- TBC -[/center]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-03-2017 12:45:43 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
อย่าแต่งเลยเพียว
งานแต่งล้มไม่น่าอายอะไร
แต่คนที่แต่งงานก็เหมือนประกาศว่า 'ฉันเสียตัวอย่างเป็นทางการแล้วนะ'

เราไม่ได้อะไรกับคนที่มีสัมพนธ์ก่อนแต่งงาน มันใช่เรื่องคอขาดบาดตาย
แต่คนมากมายจะมีความคิดติดลบกับ 'หม้าย'

สะท้อนใจตอนแฟรงค์โกรธเพียวที่พยายามมีอะไรด้วย หมดใจก็ไม่น่าจับอีกต่อไป
เรามองว่า ในตอนที่ไม่รู้จะทำอะไรแล้ว เพียวก็แค่คิดว่า ความใกล้ชิดแบบที่เคยน่าจะย้ำเตือนให้แฟรงค์นึกถึงความผูกพันระหว่างกันได้

ตอนนี้เรามองว่า เพียวไม่ผิดเลย
การจะตัดใจได้แบบฉึบฉับมันไม่ง่ายขนาดนั้น เอาใจช่วยให้เพียวเดินออกไปจากเรื่องนี้แบบสวย ๆ นะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :impress3: ตอนนี้น่ารักเชียว อ่านไปเขินไปน่ะ  :mew3: ประโยคแต่ละประโยคที่แฟรงค์กับนัทสนทนากันนี่แบบช่างลึกซึ้งผูกพันกันมาก ๆ หวังว่าคงจะอดทนกันไปได้น่ะ เพราะคงยังมีอุปสรรคที่จะต้องกดดันนัทอีกเยอะเลยเชียว ยังไงแฟรงค์ก้อต้องคอยประคองนัทไปด้วยน่ะ เราดีใจที่แฟรงค์เข้มแข็งและเข้าใจในชีวิตมากขึ้น ถึงจะอดสงสารเพียวไม่ได้แต่ขอให้หนักแน่นดั่งหินผาที่ไม่โยกคลอนยึดหลักอย่างที่ได้ยกตัวอย่างให้นัทฟังไป เราว่าประโยคที่ยกมาเกี่ยวกับพายุนั้นดีมาก ๆ น่ะ อ่านแล้วแบบเห็นภาพสัจธรรมของชีวิตได้ดีเลยเชียวล่ะ ส่วนเพียวคงต้องให้เวลากับเธอหน่อยน่ะ แรก ๆ อาจจะยังสับสนและก้ออายด้วยที่จะต้องเผชิญหน้ากับสังคมน่ะ มันเป็นเรื่องยากทีเดียวน่ะสำหรับผู้หญิงน่ะ  :เฮ้อ: แต่ก้อต้องอดทนสู้มันไปน่ะ เพราะสุดท้ายแล้วคนที่จะเจ็บหรือจะสุขก้อมีเพียวเราเท่านั้นคนอื่นไม่ได้มารับรู้ด้วยหรอก  :L3: เราว่าดราม่าน่าจะเป็นพ่อแม่ของแฟรงค์น่ะ ส่วนแม่ของนัทเราว่าน่าจะพูดง่ายกว่าน่ะ สู้ ๆ น่ะจ้ะแฟรงค์กับนัท  :mc4:

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
ตอนนี้โรแมนติกมากๆคับ ชอบมากๆ อ่านไปซึ้งอ่ะ ซึ้งไปกับนัทและแฟรงค์เลยคับ ชอบบรรยากาศที่สองคนนี้นั่งคุยกันด้วยคับ
ตกลงสู้ไปด้วยกันแล้ว
     ฉากที่แฟรงค์คุยกับเพียวตอนถ่ายพรีเวดดิ้ง ชอบใจแฟรงค์มากคับที่เป็นคนตรงๆ อ่านแล้วเพียวก็เหมือนจะยอมรับได้แต่ก็ไม่อยากเลิกกับแฟรงค์ ความรัก มันไม่เข้าใครออกใครจริงๆ
   รอ รอ รออ่านตอนใหม่คับ มาเร็วๆนะคับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-12-2015 23:26:02 โดย GuoJeng »

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
เขินนนนนนนนมากกก อ่านไปเขินไป เขินแทนนัท  :-[
หยอกกันน่ารักมากๆๆ ดูอบอุ่นดีอะ อิอิ

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
หวานนนนนน
มีแต่เราหรือเปล่าเหมือนจะหวานก็หวานได้ไม่สุดกลัวเพียวโผล่ขึ้นมาวีน
ใจตรงกันแล้ว  จะรอดูว่าแฟรงค์ภาคพายุเป็นยังไง
เราว่าตอนเช้าพนักงานที่รีสอร์ทคงรู้กันหมดแล้วว่าแฟรงค์กับนัทเปิดห้องใหม่ทั้งๆที่คู่หมั้นแฟรงค์นอนอีกห้องหนึ่ง   2+2 จะเป็น 4 หรือ 6 ก็งานนี้แหละนะ

เราดูแล้วพ่อแม่แฟรงค์น่าจะรับไม่ได้      ติดใจกับที่ตอนเป็นเด็กแฟรงค์โดนห้ามไม่ให้กลับมาที่เพชรบูรณ์อีก   เราว่าผู้ใหญ่บางคนน่าจะมองเห็นว่าการยึดติดกันของแฟรงค์กับนัทในตอนนั้นมันมากกว่าปกติ

รับความหวานไปก่อนจะรับมาม่า

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ถึงแม้จะรู้ได้ลางๆ ว่าตอนหน้าและตอนถัดๆ ไปต้องมีอุปสรรคมากมายรอทั้งสองคนอยู่แน่ๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆ นะคะว่าตอนนี้เป็นตอนที่ชวนให้อบอุ่นไปทั้งหัวใจเลยเชียว :heaven กำลังใจเต็มเปี่ยมแล้วนะคะแฟรงค์ สู้ๆ เข้าค่ะ ^^

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
จะบอกว่าหลังจากที่เขียนถึงไอศครีม Häagen-Dazs ไปหลายตอน ผมก็ชักอยากลองว่ามันอร่อยจริงหรือเปล่า
ก็เลยกัดฟันซื้อมาลองกินซักหน่อย อยากจะบอกว่ามันอร่อยจริงๆ ครับ สมราคามากๆ ติดใจเลย รู้แล้วทำไมนัทชอบ อิๆ
แต่ซื้อกินบ่อยๆ ยังไม่ไหว เอาไว้ให้รวยก่อน

วันนี้จะเดินทาง ขอให้ทุกคนอ่านนิยายเรื่องนี้ให้สนุกนะครับ ขอบคุณที่ชอบ
กลับมาแล้วผมก็จะมาอินต่อ ช่วงนี้อินมาก ถึงขนาดเผลอเรียกคนรอบข้างว่าแฟรงค์มั่ง นัทมั่ง เพียวมั่ง
จนคนถามแล้วว่า แฟรงค์ นัท เพียว นี่เป็นใคร 555 แต่ไม่กล้าบอก

:) Sarawatta :)

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 838
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
อย่างน้อยในความทุกข์ก็ยังมีความสุขเล็กๆซ้อนอยู่.... ขอให้นัทและแฟร้งผ่านอุปสรรค์นี้ไปได้ด้วยดี
ขอให้เพียวคิดได้เร็วด้วยเถอะ... :call: :hao3: :hao3:

เดินทางปลอดภัยนะค่ะคุณSarawatta  :3123: :3123: :3123:

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
เล่นมุกต่อกันน่ารักเชียว สองคนนี้เป็นคู่กันจริง ๆ

แต่...เรากลับไม่อยากให้ไปเปิดห้องใหม่เลย เพียวจะรู้สึกอย่างไร
พายุก็คือพายุ อันนี้โอเค มันเรื่องจริง

แต่ทำอะไรไม่ให้เกียรติกันแบบนี้ เราว่าไม่สุภาพบุรุษนะ
คนอื่นไม่รู้ ไม่เป็นไร แต่อยากให้ใส่ใจความรู้สึกเพียวบ้าง
คุณออกมาเปิดห้องด้วยกัน ถึงไม่ทำอะไร แต่คนอื่นไม่รู้
 เราเป็นเพียวก็อาจจะรู้สึกว่า ฉันก็อยู่ตรงนี้ แล้วคุณไปพลอดรักกันแค่ฉันหันหลังเนี่ยนะ

เราอยากให้นัทกับแฟรงค์ได้รักกัน แต่ก็อยากให้จบอะไร ๆ ไปก่อน
มีพายุอีกหลายลูกที่จะพัดกระหน่ำความรักนี้ อันไหนทำให้มันเป็นแค่ลมแรงได้ก็ควรทำนะ

#ทีมเพียว ฮ่าฮ่าฮ่า

ออฟไลน์ Malimaru

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-4
    • facebook


ขอบคุณที่แนะนำนิยายเรื่องนี้ให้เราได้เข้ามาอ่านนะคะ
เราไม่รู้จะคอมเมนท์ยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างแฟรงค์กับนัทดี...

มันเหมือนเป็นความรักที่เกิดขึ้นผิดที่ผิดเวลาโดยมีคนอื่นที่ถูกลากเข้ามาเกี่ยวข้องและทดแทนความรู้สึกพร่องหายของวันเวลาในอดีต มีหลายอย่างที่ถ้าเราเป็นแฟรงค์เราจะไม่ทำแบบนั้น...

อ่านไปก็ได้แต่บอกตัวเองว่า มันเป็นเรื่องราวเรื่องหนึ่งที่อาจจะเกิดขึ้นกับใครบางคนบนโลกที่เรามีส่วนแค่นั่งดูและทำความเข้าใจ โดยช่วยเหลือ หรือแก้ไขอะไรไม่ได้ (บางครั้งก็รู้สึกนึกขอบคุณตัวเองขึ้นมาที่ไม่ต้องพบเจอเรื่องตัดสินใจยากอย่างทั้งสามคนที่ติดแหง็กอยู่ในความสัมพันธ์ครั้งนี้  พร้อมกับเตือนตัวเองให้จำเอาไว้ว่า หากเราเจอเรื่องราวทำนองเดียวกัน... เราควรจะหลีกเลี่ยงยังไงเพื่อจะไม่ทำร้ายจิตใจคนไม่เกี่ยวข้องโดยไม่จำเป็น)

ตอนนี้ก็ลุ้นแล้วล่ะค่ะว่าแฟรงค์กับนัทจะเป็นสุขร่วมกันได้ยังไง
เป็นกำลังใจให้นะคะ


ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
น้ำทะเล ราบเรียบ เงียบแปลกแปลก
คลื่นไม่แทรก กระแทกฝั่ง ยังสงสัย
อารมณ์คน นิ่งมาก ยากไว้ใจ
ซัดเมื่อไหร่ ให้ระวัง จะพังครืน


อย่าประมาท
หุหุ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด