❤️ (✘) ไร้รัก ✢ Lovelessly
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❤️ (✘) ไร้รัก ✢ Lovelessly  (อ่าน 92603 ครั้ง)

ออฟไลน์ มะฮอกกานี

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ปัญหาอีก108 กำลังตามมานะ
แต่ก็เชื่อว่า ทั้งคู่จะฝ่าฟันไปด้วยกัน
ทำไงได้  ก็รักกันแล้วนี่

เป็นกำลังใจให้คนแต่ง
รออออ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ถ้าคำสารภาพในคืนนี้คือความตั้งใจของนัทตั้งแต่แรกอยู่แล้วก็ดีไปนะคะ แต่ถ้าไม่ใช่ ก็น่าเป็นห่วงอยู่เหมือนกันค่ะว่าถ้าเช้าขึ้นมาเมื่อไรทั้งสองคนจะมองหน้ากันติดอีกไหม

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
หืออออ..ถ้ามีอะไรกันมันก็จะเกินเลยคำว่าพี่น้องนะ
อีกอย่างพี่แฟรงค์...กับเพียวยังไม่้เคลียร์กันเลย ถ้ามี..อะไรกันจะดีหรอออ

แต่สำหรับความรู้สึกนัท อันนี้เข้าใจ..
ลึกๆ ก็พอรู้ว่านัทรู้สึกกับพี่แฟรงค์เกินพี่ชาย..


รอลุ้นตอนหน้าครับ

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1090
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
โอ้โห มาตามอ่านนี่เครียดเลย
มันยากมากจริงๆเพราะกลับมาเจอกันด้วยสถานะแบบนี้
เพียวเองก็ไม่ผิด
แต่ถ้าจะมารักกันจริงๆแล้วต้องให้แฟรงค์ทิ้งเพียว นัทเองก็คงรู้สึกแย่ไม่น้อย
รอลุ้นจุดเปลี่ยนที่จะทำให้ทั้งคู่รักกันแบบไม่ทำร้ายเพียวเกินไปละกันนะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Magis

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
นี่ตัดจบแบบนี้เลยเหรอนี้ ทำร้ายกันซะ แต่ก็นะ ขืนมีอะไรในสภาพมึนเมาแบบนี้ นัทตื่นขึ้นมาแล้วจำได้ มันจะออกมาแบบไหนก็คาดเดายากเลยแฮะ

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
❤️ (✘) ไร้รัก ✢ Lovelessly

ตอนที่ 8 ✢ จูบแรกหรือกอดสุดท้าย (NC)



ไม่จำเป็นต้องมีคำพูดใดที่ต้องเอื้อนเอ่ยในเวลานี้ ในแววตา สองเราต่างอ่านภาษาหัวใจที่ซ่อนอยู่ข้างในได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ผมค่อยๆ เอาฝ่ามือทั้งสองประคองหน้าของนัทให้เงยขึ้น แล้วบรรจงจูบที่แสนหวานนิ่มนวลลงไป นัทเผยอริมฝีปากรอรับรอยประทับของผมอย่างว่าง่าย เราต่างหลับตาพริ้มเมื่อได้แลกลิ้นสัมผัสรสหวานของกันและกัน เสียงลมหายใจที่หอบแรงขึ้น บ่งบอกว่าเราสุดเสียวซ่านรัญจวนใจกับจูบแรก รู้ดีว่านี่มิใช่เพียงความใคร่ แต่มาจากความรักที่เอ่อล้นข้างในหัวใจของเรา

ผมเคลื่อนจมูกซุกไซ้เข้าใต้กกหูและรอบคอของนัท เพลิดเพลินสูดหอมดอมดมกลิ่นผิวกายมาจดจำไว้ในห้วงสำนึก เมื่อกายแนบกายประสานลูบไล้นานเข้า ความรู้สึกซาบซ่านหวิววาบก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ จากสัมผัสแผ่วเบากลายเป็นพลังที่หน่วงหนักและบีบแน่น ท่อนขาของเราสอดแทรกสลับกันและบดเบียดเสียดสีอย่างหนักหน่วง ถึงตอนนี้คงยากที่จะมีสติยับยั้งได้ต่อไป

ผมวกกลับมาที่ริมฝีปากอวบอิ่มของนัทอีกครั้ง คราวนี้เพิ่มน้ำหนักในการบดขยี้ลงไปให้สมแรงปรารถนาที่ลุกโชนแผดเผา นัทคงรู้สึกเหมือนตัวเองหมุนปั่นควงคว้างลงจากที่สูง ผวาโอบรอบคอผมไว้แน่น แม้ผมบดบี้ดูดดึงหนักขึ้นนัทก็ยังสู้ ตอบสนองด้วยสัมผัสหนักหน่วงไม่แพ้กัน บ่งบอกชัดเจนว่าต้องการผมมากแค่ไหน

พอหนำใจผมก็จับนัทลุกขึ้นนั่ง หมุนตัวอ้อมไปนั่งข้างหลังนัท แล้วก็ถอดเสื้อของตัวเองโยนออกไปอย่างรีบร้อน ดึงตัวนัทให้หลังแนบชิดกับอกผม สองท่อนขาผมแนบเบียดล้อมนัทไว้ แนบชิดจนนัทสัมผัสบางอย่างที่ดุนดันข้างหลัง ผมเกยคางบนบ่านัทแล้วก็โน้มเอียงหน้าซุกจมูกเข้าไซ้ข้างกกคอ ตระโบมจูบสลับไปมาทั้งสองข้าง สอดมือเข้าโอบกอดแทรกไซ้ใต้ราวนมของนัทแล้วก็ละเลงลูบสัมผัสแผงอกขาวเนียน เขี่ยนิ้วรอบขอบกล้ามเนินใกล้วงแขนแล้วเวียนวนปลายนิ้วโดยรอบ จนปุ่มอ่อนเครียดแข็งชูชันตอบรับสัมผัสที่หื่นกระหาย แม้ต่อมขนของผมเองก็ยังลุกซู่ไปทั้งตัว

ผมขยำกล้ามเนินเนื้อแล้วคลึงเคล้นซ้ำๆ จากนั้นก็เอาฟันฉกขบดูดกัดที่ติ่งหูเบาๆ นัทถึงกับเผยอปากร้องครางอย่างซ่านเสียว ผมรู้ว่านัทชอบเลยทำย้ำๆ จนนัทครางอู้อี้ในลำคอและหลับตาปรือ นัทสอดมือไพล่หลังต่ำลงแล้วขยำคลึงเคล้นเล่นกับส่วนนั้นของผมบ้าง แค่แรกสัมผัสผมก็เผลอร้องครางอย่างลืมตัว

ผมเอียงตัวลอดใต้วงแขน นัทยกแขนขึ้นสูงแล้วโอบรอบคอผมไว้ราวกับรู้ว่าผมจะทำอะไร แถมยังเอียงตัวให้ผมจัดการได้ง่ายขึ้น ผมใช้ปากดูดสลับขบกัดปุ่มและเลียวนปลายเนินเนื้อ มือซุกซนลูบสัมผัสขาอ่อนท่อนบนทั้งรอบนอกและพับในไปทั่ว ยิ่งนัทส่งเสียงครางผมก็ยิ่งได้ใจ

"พี่แฟรงค์ อาห์..."

ผมเอียงตัวเปลี่ยนไปอีกข้าง ลอดใต้วงแขนข้างนั้นแล้วก็ทำคล้ายเมื่อครู่นี้ นัทเอียงตัวและแอ่นหน้าอกรับสู้อย่างรู้งาน มือข้างนั้นกดหัวผมไว้แน่นไม่ให้หนีหาย มือที่ว่างของผมก็คอยลูบไล้ตามข้างลำตัว แล้วเลื่อนไล่ลงสู่จุดสำคัญของนัท บีบคลึงเคล้นแผ่วบ้างหนักบ้าง เรียกเสียงครางรัญจวนใจได้อย่างดี

ผมพลิกตัวนัทหันหน้ามาเผชิญ ประคองสองแก้มแล้วบรรจงจูบอย่างดูดดื่มอีกรอบ ผมชอบรสจูบของเราเหลือเกิน ทำเอาผมลืมจูบทุกจูบที่เคยผ่านมาหมดเสียสิ้น เพราะนี่คือจูบแรกจากความรักที่ผมตามหามาทั้งชีวิต

นัทผลักผมลงนอนบนเตียงแล้วมองผมด้วยสายตาที่ทำให้ผมแทบคลั่ง โถมตัวลงมาจูบผมอย่างเร่าร้อนจนผมกลัวว่าตัวเองจะเป็นฝ่ายถูกรุกล้ำเสียแล้ว แต่กระนั้นผมก็คงยอมได้ถ้านัทต้องการ สนุกกับรสจูบพอแล้วนัทก็ไล่โลมเลียซุกไซ้ตั้งแต่ใต้ซอกหูลงไปตามแนวกราม ไล่เลื่อนลงไปที่คางแล้วก็ขยับขึ้นมาจนถึงใต้ซอกหูฝั่งตรงข้าม แรงดูดดึงโลมเลียทำผมสยิวสะท้านจนเผลอกอดนัทแน่น จะว่าเสียเชิงชายก็ยอมเพราะเสียวกระสันเกินห้ามใจ

นัทลงมาเล่นตรงเนินอกผมเหมือนที่ผมทำบ้าง ผมยิ่งเสียวซ่านจนมือไม้ควานคว้าหาที่พึ่งแทบไม่ทัน สุดท้ายพบเพียงศีรษะของนัทที่ขยับขึ้นลงตรงอก เมื่อรู้ว่าคนที่รักยินยอมทำให้อย่างเต็มใจก็ยิ่งสุขสม ทำให้ผมเห็นความแตกต่างระหว่างการทำตามคำสั่งของธรรมชาติกับความต้องการของหัวใจมากขึ้น นี่ไงสัมผัสรักที่ผมรอคอย

นัทปลดซิบและดึงกางเกงผมออกไปอย่างร้อนรน พอพ้นท่อนขาไปแล้วก็เผยให้เห็นปราการสีขาวที่ดีดเด้งออกมาอวดสายตาหื่นกระหาย นัทโถมตัวเข้าหาและใช้มือลูบคลึงเล่นอย่างหลงใหล ก่อนปราการนั้นจะถูกถอดเหวี่ยงทิ้งไปอย่างไม่แยแส แม้ว่านัทจะยังไม่เคยลิ้มลองของชายใด แต่คงไม่ยากเกินไปที่จะเรียนรู้ แล้วนัทก็ไม่ทำให้ผมผิดหวัง สัมผัสโอบอุ่นคาบกลืนกินของผมจนมิดหาย ผมผงกดูแล้วก็ร้องครางเสียงดังตามแรงดูดดึงที่เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ

"อาห์...นัท ลึกเข้าไปอีก"

มือผมขยำผ้าปูที่นอนแน่น ไม่เคยรู้สึกเสียวซ่านอย่างนี้มาก่อนในชีวิต พอรู้สึกเคว้งคว้างก็คว้าศีรษะนัทไว้เป็นที่พึ่ง ไม่นานก็รู้ว่าตัวเองสามารถควบคุมจังหวะช้าเร็วได้อย่างที่ต้องการด้วย นัทฮึดสู้จนเริ่มรับมือกับความเร็วที่เปลี่ยนไปได้อย่างดี ทำให้ผมเสียวกระสันจนรู้สึกเหมือนกำลังจะปลดปล่อย แต่ก็พยายามกลั้นไว้สุดใจ รอลิ้มรสยอดความหฤหรรษ์ที่คืบใกล้เข้ามา

ผมสลับให้นัทนอนลงแล้วก็จัดการสิ่งนั้นของนัทที่เรามีเหมือนกันบ้าง คงไม่มีวิธีไหนจะดีไปกว่าการเลียนแบบถ้าเรายังอ่อนประสบการณ์ นัททำแบบไหนผมก็ทำตามอย่างไม่มีผิดเพี้ยน พลิกแพลงบ้างเมื่อเริ่มชำนาญขึ้น เจ้าตัวผงกดูและสูดปากเสียวซ่านตลอดเวลาที่ผมปฏิบัติการ รู้ได้ทันทีว่าสัญญาที่ให้ไว้เป็นจริงแล้ว นัทคงสุขสมจนเอ่อท่วมท้นทั้งตัวและหัวใจ

เมื่อความต้องการถูกปลุกเร้ามาถึงขีดสุด การปลดปล่อยที่รอคอยก็มาถึงเสียที โชคดีที่บังเอิญมีถุงยางอนามัยและเจลหล่อลื่นที่ผมเคยซื้อมาทิ้งไว้ในห้อง เราจึงไม่ต้องเสียเวลาวิ่งหาให้เหนื่อยและเสียอารมณ์ นัทอนุญาตให้ผมเป็นฝ่ายรุกล้ำโดยไม่ต้องเอ่ยถาม แม้จะเป็นครั้งแรกของเราและเสี่ยงสารพัดอย่าง อารมณ์ที่เตลิดมาไกลก็พาเราดำดิ่งเดินหน้ามุ่งสู่ดินแดนสุขาวดีของสองเราโดยไม่หวาดหวั่นใดๆ รอบแล้วรอบเล่าจนฟ้าเกือบจะรุ่งสาง ครั้นเต็มอิ่มเหลือล้นจึงสยบยอมด้วยแรงกายที่อ่อนล้า ก่อนหลับตาพริ้มพักผ่อนหลับใหลในอ้อมกอดของกันและกันอย่างสุขใจ

ผมกอดนัทที่ซุกตัวนอนในอ้อมอกผมอย่างรักใคร่หลงใหล พี่ชายคนนี้สุขจนล้นหัวใจเมื่อรู้ว่าน้องที่แสนรักก็คิดตรงกัน หลับตาเถอะนะน้องพี่ พี่จะกอดน้องไว้อย่างนี้จนถึงยามตื่น พอถึงพรุ่งนี้ เราจะตื่นลืมตาขึ้นมาเชยชมความงามของฟ้าวันใหม่ที่สดใสด้วยกัน

... ... ...

ไม่รู้ว่าผมหลับไปตั้งแต่ตอนไหนและตื่นมาเวลาไหน แสงสว่างจากข้างนอกทำให้ผมรู้ว่าไม่ใช่เวลาที่ผมเคยตื่นเป็นประจำอย่างแน่นอน พอลุกขึ้นนั่งและมองไปรอบๆ ก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องของนัท แต่เจ้าของร่างนั้นก็ไม่อยู่เสียแล้ว พอจำได้ว่าเมื่อคืนทำอะไรไปบ้างผมก็นั่งยิ้มคนเดียว รสสัมผัสที่แสนสุขนั้นยังติดตาตรึงใจจนอดจะมองหาคู่ร่วมเรียงเคียงหมอนไม่ได้ว่าอยู่ตรงไหน

ผมควานหยิบกางเกงในที่หล่นอยู่บนพื้นมาใส่แล้วก็ค่อยๆ ลุกขึ้น เดินไปสอดส่องตามมุมต่างๆ ในห้องก็ไม่เห็นแม้เงา พอเหลือบดูเวลาก็พบว่าเกือบสิบเอ็ดโมงแล้ว ผมตกใจลนลานรีบเข้าไปจัดการธุระส่วนตัวในห้องน้ำให้เรียบร้อย แล้วก็รีบแต่งตัวไปทำงานอย่างเร่งรีบ

มาถึงห้องทำงานก็ไม่เจอนัท ผมจึงเดินไปถามแก้วตาแต่เธอก็ไม่รู้ว่านัทไปไหน ชักเป็นห่วงก็เลยหยิบโทรศัพท์มาโทรหา แต่ใครบางคนก็แจ้งให้รู้ว่าผมไม่สามารถติดต่อนัทได้ในขณะนี้ พอนึกไม่ออกจึงตั้งต้นคิดว่าควรจะทำอะไรก่อนหลังดี แต่ก็มึนๆ งงๆ จนไม่รู้จะเริ่มยังไง

"นัทไปไหนนะ"

ผมรำพึงกับตัวเองเบาๆ ไม่รู้เลยว่าเหตุการณ์เมื่อคืนนี้จะทำให้นัทรู้สึกยังไงบ้าง พอหายตัวไปและติดต่อไม่ได้อย่างนี้ผมก็ชักรู้สึกไม่ค่อยดี

ผมโทรไปสั่งอาหารที่น่าจะเป็นอาหารเที่ยงของวันมากิน นั่งกินคนเดียวแล้วก็ครุ่นคิดไปต่างๆ นาๆ พอได้กินข้าวหน่อยก็ค่อยรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง พอให้เรี่ยวแรงที่ถูกสูบหายไปกับอำนาจดำฤษณาได้ฟื้นคืน

พอมีแรงแล้วผมจึงออกไปเดินตามหานัท หาจนทั่วรีสอร์ทก็ไม่พบเห็นว่าอยู่ตรงไหน ถามใครก็ไม่มีใครรู้ ผมก็เลยจนปัญญาจนต้องกลับมาที่ห้องทำงานเหมือนเดิม โชคดีที่ตอนนี้ไม่มีแขกเหลืออยู่ เฮนนิ่งก็เพิ่งเช็คเอาท์ออกไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว วันนี้จึงยังไม่มีเรื่องให้ต้องดูแลจัดการเท่าไหร่

พอไม่รู้จะทำอะไรผมก็เลยคิดว่าจะกลับบ้าน กำลังเก็บของอยู่นัทก็เดินเข้ามาพอดี ผมวางของลงแล้วก็ยิ้มอย่างดีใจ รีบเดินเข้าไปหาคนที่แสนจะคิดถึงทันที อุตส่าห์ว่าตื่นขึ้นมาแล้วจะหาอะไรอร่อยๆ ให้กินบำรุงร่างกายเสียหน่อย

"ไปไหนมานัท พี่เป็นห่วงนัทมากเลย โทรหาเท่าไหร่ก็ไม่ติด"

แทนที่ผมจะได้รับคำตอบหรือรอยยิ้มสักหน่อย ผมกลับได้ซองจดหมายสีขาวๆ ซองหนึ่งยื่นมาให้ แถมสีหน้าของนัทก็ยังดูบูดบึ้งจนดูน่ากลัว

"อะไรเหรอนัท"

ผมถามอย่างสงสัยแต่นัทก็ไม่ตอบ ก็เลยแกะดูซองจดหมายนั้นแล้วเปิดอ่าน

นัทขอลาออก!

ผมมองหน้านัทราวกับถูกผีหลอกตอนกลางวันก็ไม่ปาน นึกหาเหตุผลไม่ออกเลยว่าเพราะอะไร

"ทำไมเหรอนัท นัทจะลาออกทำไม" ผมถามอย่างตกใจ

"นัทเคยบอกแฟรงค์แล้ว แต่แฟรงค์...ไม่เชื่อนัทเอง นัทก็คงไม่มีทางเลือก" นัทตอบมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาจนผมรู้สึกกลัว

"นัทหมายถึงอะไร" ผมกลืนก้อนที่มาจุกที่คออย่างลำบาก

นัทเบือนหน้าหนี ครุ่นคิดอย่างเคร่งเครียดอยู่นานจึงยอมพูดออกมา

"นัทเคยบอกแฟรงค์ว่านัทดีใจที่ได้กลับมาเจอแฟรงค์อีกครั้ง นัทคงไม่ถอนคำพูดหรอก แต่...นัทก็เสียใจที่มันคงจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้เจอกัน นัทขอลาออกนะแฟรงค์ แล้วก็หวังว่า...เราจะไม่กลับมาเจอกันอีก!"

ผมวางจดหมายลงบนโต๊ะทำงานแล้วก็ตรงเข้าไปจับไหล่ของนัทไว้ จ้องตาคู่นั้นเขม็งอย่างงุนงงสงสัย

"นัท...นัทพูดอะไร แฟรงค์ไม่เข้าใจ"

"ทำไมแฟรงค์ไม่เข้าใจล่ะ เมื่อคืนแฟรงค์ทำอะไร!" นัทถามเสียงดัง ริมฝีปากสั่นระริก

"ก็ไหนเมื่อคืนนัทบอกว่านัทรักพี่ไง"

"ก็เมื่อคืนนัทเมา แฟรงค์จะเชื่ออะไรกับคนเมาล่ะ" นัทสวนกลับมาทันควันพร้อมกับหยดน้ำตาที่เริ่มรินไหลลงมา

"หมายความว่า...นัทไม่ได้รักพี่เลยเหรอ นัทไม่ได้เต็มใจให้มันเกิดขึ้นเลยเหรอ" ริมฝีปากผมสั่นระริกบ้าง อีกไม่นานก็คงไม่พ้นต้องร้องไห้เช่นเดียวกัน

"ไม่...ไม่ได้รัก แฟรงค์ฉวยโอกาสตอนที่นัทเมา!" นัทพูดพร้อมกับร่ำไห้

"นัท!"

ผมแทบจะพูดไม่ออกเลย หัวใจคงหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว ผมเข้าใจว่านัทเต็มใจ ถึงนัทจะเมาก็ไม่ใช่ว่านัทจะไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างเราสองคน แล้วทำไมถึงกลายเป็นอย่างนี้ได้

"นัทบอกแฟรงค์แล้ว ถ้าแฟรงค์ทำให้เพียวเสียใจ นัทก็จะไปจากชีวิตของแฟรงค์ ไม่กลับมาเจอกันอีก แต่แฟรงค์ไม่ฟังนัทเลย เรากำลังทำร้ายคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรอยู่นะแฟรงค์ นัทไม่คิดเลย...ว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น รู้อย่างงี้...เราสองคนไม่เจอกันซะยังดีกว่า"

ผมหมดเรี่ยวแรงที่จะจับไหล่นัทไว้จนต้องยอมปล่อยให้มือของตัวเองตกลงข้างตัว ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ไม่รู้ว่าควรจะขอโทษ เสียใจหรือต้องทำอะไรกันแน่ ได้แต่ยืนคอตกอย่างคนสิ้นหวัง

"แฟรงค์ทำอย่างงี้กับเพียวทำไม แฟรงค์กำลังทรยศเค้า แล้วนัท...ก็กลายเป็นอีกคนที่ถือมีดไปแทงข้างหลังเค้าด้วย"

นัทร้องไห้หนักขึ้น ยิ่งทำให้ผมรู้สึกผิดหนัก ผมพลาดไปแล้ว พลาดไปแล้วจริงๆ

"เซ็นใบลาออกให้นัทด้วย แต่ไม่ต้องกลัว นัทจะยังทำงานต่อไปอีกหนึ่งเดือน แล้วนัทจะกลับไปอยู่ที่บ้าน"

ผมได้ยินทุกคำพูด แต่ดูเหมือนสมองจะไม่อยากรับรู้อะไรเลย ได้แต่ยืนนิ่งและงงงันอย่างเดิม

"พูดอะไรมั่งสิแฟรงค์" นัทถามผมเสียงดัง

ผมเงยหน้าขึ้นมองนัท ปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาโดยไม่สนใจว่ามันจะเปื้อนใบหน้ามากแค่ไหน

"ใช่...ตอนนี้...ไม่ว่าแฟรงค์จะตัดสินใจทำอะไร แฟรงค์ก็คงผิดอยู่แล้ว ไม่ผิดในสายตาของนัท...ก็ต้องผิดในสายตาของใครซักคน ไม่ว่าเพียว...หรือว่าพ่อกับแม่ หรือใครก็ตาม เพราะไม่ว่าแฟรงค์จะเลือกใคร หรือเลือกอะไร...ก็ต้องมีใครซักคนเจ็บอยู่ดี ไม่ว่าจะเลือกวันนี้...หรือพรุ่งนี้ แฟรงค์ก็คงผิดไม่ต่างกันหรอกนัท"

ผมหยุดพูดแล้วก็ร้องไห้อย่างสุดกลั้น ก่อนจะพยายามสงบสติอารมณ์แล้วพูดต่อ

"แฟรงค์เสียใจนะ...ที่การกลับมาเจอกันของเรา...ทำให้นัทต้องมีมลทินไปด้วย แฟรงค์ขอโทษ แฟรงค์ไม่โทษใครหรอก ทุกอย่าง...แฟรงค์เป็นคนทำให้มันเกิดขึ้นมาเองทั้งหมด นัทจะบอกว่าแฟรงค์ผิดแฟรงค์ก็ไม่เถียง แต่ทุกอย่างที่ทำไป แฟรงค์ซื่อสัตย์กับหัวใจตัวเอง ใช่...แฟรงค์ผิดที่ทำให้มันเกิดขึ้นก่อนที่อะไรๆ จะชัดเจน แฟรงค์ทำไปแล้ว พลาดไปแล้ว แฟรงค์ก็จะไม่ขอความเห็นใจจากใคร...แม้กระทั่งนัท นัทจะลงโทษแฟรงค์ยังไงก็ได้ ถ้านัทคิดว่า...การจากไปเป็นการลงโทษที่สาสม แฟรงค์ก็ยอม ถ้านัทคิดว่า...ความรักที่แฟรงค์มีให้นัทเป็นความรักที่ไม่คู่ควร ทำให้นัทแปดเปื้อนไปด้วย ก็ไม่ว่ากัน แต่จะให้ทำยังไง ขอโทษไปนัทก็คงไม่หายโกรธ แฟรงค์ทำพลาดไปแล้ว แล้วก็รักไปแล้ว นัทจะให้ทำยังไงก็บอกมาละกัน แฟรงค์ไม่สู้นัทหรอก นัทจะเอายังไงก็ได้ แฟรงค์ยินดีทุกอย่าง"

"แฟรงค์..." นัทเรียกผมเสียงแหบพร่า แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

"สรุปว่านัทจะลงโทษแฟรงค์อย่างงี้ใช่มั้ย ได้...แฟรงค์จะยอมให้นัทลงโทษ แฟรงค์จะเซ็นจดหมายให้ ถ้าไม่อยากเจอกัน...แฟรงค์ก็พร้อมจะทนทรมานกับชีวิตที่ไม่มีน้องของพี่อยู่ใกล้ๆ"

นัททำท่าคล้ายจะประท้วงสิ่งที่ผมพูด แต่สุดท้ายก็ยังไม่ยอมเอื้อนเอ่ยคำใดออกมา ผมก็เลยถือโอกาสพูดต่อเสียเอง

"แฟรงค์ดีใจนะ...ที่แฟรงค์ได้เจอนัทอีกครั้ง แล้วก็ดีใจ...ที่แฟรงค์ได้ค้นพบหัวใจตัวเองที่หล่นหายไปตั้งนาน แฟรงค์แค่อยากจะบอกให้นัทรู้...ว่าแฟรงค์รักนัทมาก เพราะนัท...คือคนๆ เดียวที่อยู่ในหัวใจของแฟรงค์มาตลอด ขนาดมีแฟน แฟรงค์ก็ยังเลือกคนที่มีบางอย่างเหมือนนัทเลย พอเราได้กลับมาเจอกัน แฟรงค์ก็รู้ว่า...ไม่มีใครแทนที่นัทที่อยู่ในใจแฟรงค์มาตลอดสิบกว่าปีได้ ถ้านัทจะไม่ให้อภัยแฟรงค์เรื่องเมื่อคืน...ก็ไม่เป็นไร ถ้าจะเกลียดแฟรงค์...ที่ทรยศเพียว แฟรงค์ก็คงห้ามไม่ได้ แฟรงค์ขออย่างเดียวละกัน...อย่าดูถูกความรักของแฟรงค์ที่มีให้นัท ทุกอย่าง...แฟรงค์ทำด้วยหัวใจ แม้กระทั่งเรื่องเมื่อคืน  แฟรงค์สติดีทุกอย่าง ไม่ได้ทำไปเพราะพลั้งเผลอ ถ้ามันจะพอมีค่า นัทก็จำเอาไว้บ้างละกัน เพราะพี่...คงไม่มีอะไรฝากทิ้งไว้ให้นัทดีไปกว่า...ความรักของพี่ที่มีให้นัท"

"แฟรงค์...นัทไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้น"

"แล้วนัทหมายความว่ายังไง นัทคิดว่าแฟรงค์ไม่รู้เหรอว่าแฟรงค์ทำอะไรไป แฟรงค์คิดและเลือกแล้วถึงได้ทำ ใครจะว่าแฟรงค์ผิดยังไงก็ช่าง แต่ขอให้แฟรงค์เลือกสิ่งที่คิดว่าถูกสำหรับหัวใจของแฟรงค์ก็พอ แล้วการที่แฟรงค์ตัดสินใจเลือกนัท แฟรงค์ก็คิดว่าแฟรงค์เลือกไม่ผิด"

"แฟรงค์...นัทขอโทษ..."

นัทเดินเข้ามากอดผมไว้ ผมก็ไม่รู้หรอกว่านัทร้องไห้เรื่องอะไรหรือขอโทษผมทำไม แต่ผมก็กอดนัทไว้ เผื่อว่ามันจะเป็นกอดครั้งสุดท้ายของเราสองคน ก่อนที่จะจากกันไปและไม่เจอกันอีก

"นัท...ไม่ใช่แฟรงค์ไม่กลัวนะ แฟรงค์มีอะไรต้องกลัวตั้งหลายอย่าง แฟรงค์ไม่ใช่คนใจร้ายนัทก็รู้ แฟรงค์ก็ไม่อยากทำให้เพียวเสียใจหรอก ทำไมแฟรงค์จะไม่กลัวเค้าเสียใจ ทำไมแฟรงค์จะไม่กลัวว่าจะทำให้นัทเป็นมือที่สาม ทำไมแฟรงค์จะไม่สงสารเค้า แต่แฟรงค์...ผิดหรือเปล่าที่แฟรงค์เพิ่งมารู้ใจตัวเองว่าแฟรงค์ไม่ได้รักเค้า แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรที่จะให้แฟรงค์แต่งงานกับเพียวต่อไป แล้วพ่อแม่แฟรงค์ล่ะ เพื่อนๆ แล้วก็คนอื่นๆ เค้าจะรับได้มั้ย แฟรงค์ก็กลัวเหมือนที่นัทกลัว ที่สำคัญ...สิ่งที่แฟรงค์กลัวที่สุดก็คือ...แฟรงค์อาจจะไม่เหลือใครเลย ไม่ว่าเพียว นัท ครอบครัว เพื่อนฝูงหรือแม้แต่...ธุรกิจที่ทำอยู่ แฟรงค์อาจจะไม่เหลืออะไรเลยซักอย่าง แต่แฟรงค์ก็ยอมทิ้งความกลัวทั้งหมดไว้ เพราะแฟรงค์...แค่อยากจะชดเชยความรู้สึกให้นัทที่แฟรงค์เคยทิ้งนัทไปตอนเด็กๆ แฟรงค์คิดแล้ว...ต่อให้แฟรงค์ต้องเสียไปทุกอย่าง แฟรงค์ก็จะเลือกคนที่เป็นที่หนึ่งในใจของแฟรงค์ นัท...ไม่รู้ว่าเราจะได้เจอกันอีกหรือเปล่า ไม่รู้ว่านัทจะให้อภัยแฟรงค์ได้มั้ย แต่ขอให้นัทรู้เอาไว้ละกัน...ว่านัทสำคัญกับแฟรงค์มากแค่ไหน"

"แฟรงค์..."

นัทกอดผมแน่น ผมกอดนัทตอบเบาๆ แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรอีกแล้วเพราะได้พูดไปจนหมดจนไม่เหลืออะไรค้างคาในใจ ในขณะเดียวกัน ผมก็ไม่อยากฟังอะไรอีก แม้กระทั่งสิ่งที่นัทจะพูด ผมคงจะช็อกในความรู้สึกไม่น้อย เมื่อคืนผมมีความสุขจนล้นหัวใจกับคนที่ผมแสนรัก แต่อีกไม่กี่ชั่วโมงถัดมา ความรักของผมก็กลายเป็นความแปดเปื้อนน่ารังเกียจ อารมณ์มันต่างกันสุดขั้วจนผมไม่รู้ว่าจะอยู่ตรงไหนระหว่างสองจุดนั้น

"แฟรงค์ขอตัวกลับบ้านก่อนนะนัท เอาไว้วันหลังค่อยคุยกัน"

นัทค่อยๆ ปล่อยมือผมออก ดูๆ ไปนัทก็คงมึนงงและรับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงรุนแรงและรวดเร็วอย่างนี้ไม่ทันเหมือนกัน ผมคิดว่าเราสองคนควรต้องอยู่ห่างๆ กันสักพักบ้าง คิดทบทวนชีวิตและสิ่งที่ตัวเองต้องการให้ชัดเจนและแน่ใจแล้วค่อยพูดกันดีกว่า

ผมผละจากนัทแล้วก็เดินไปเก็บของที่โต๊ะ นัทยังคงยืนมองอย่างงงๆ อยู่อย่างนั้น แล้วผมก็เดินออกไปจากห้องนั้นโดยที่ยังปล่อยให้นัทยืนอยู่ที่เดิม พี่ขอโทษละกันนะนัท พี่สับสนกับอารมณ์ของพี่ตอนนี้จนไม่สามารถจะพูดคุยกับใครได้แล้ว

... ... ...

ในที่สุดเรื่องที่นัทขอลาออกก็ถึงหูทุกคน ใครๆ ต่างก็งงกันมากเพราะเห็นว่าเพิ่งมาทำงานแท้ๆ ผมบอกแต่เพียงว่านัทจะกลับไปทำงานที่บ้านของตัวเอง พ่อกับแม่ผมดูเหมือนจะเสียดายนัทไม่น้อยเลย แต่ก็เข้าใจว่าพอถึงจุดหนึ่ง นัทก็คงอยากจะกลับไปดูแลธุรกิจที่บ้านของตัวเองให้เป็นเรื่องเป็นราวเสียที

นัทกับผมก็ยังมาทำงานและเจอกันเหมือนเดิม ตั้งแต่วันนั้นผมก็ไม่ค่อยได้เข้ามาทำงานทุกวันเหมือนก่อน พูดคุยกับนัทน้อยลงจนเหมือนไม่คุยกัน ไม่ถึงกับโกรธกันหรอก แต่ผมก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่ายังไง บางทีผมก็ยังแปลกใจตัวเองที่รู้สึกเฉยๆ กับนัทได้มากขนาดนี้ เป็นเพราะเหตุการณ์วันนั้นทำให้ผมเสียใจจนหมดรักนัทไปหรือเปล่า ผมก็ไม่คิดว่ามันเป็นอย่างนั้นหรอก แต่ก็ไม่มีคำตอบที่แน่ชัดให้ตัวเอง

เพียวกลับมาแล้ว แต่ผมก็ไม่มีกะจิตกะใจจะพูดเรื่องนั้นกับเธอเลย ผมรู้สึกเฉยๆ กับทุกคนไปหมด ไม่อยากพยายามคิดหรือทำอะไรกับใครอีก เหมือนกับจะปล่อยให้ชีวิตไหลไปตามแต่จะถูกพัดพาไปทางไหน ถ้าไม่มีอะไรมาพัดพาไปก็อยู่ที่เดิม ไม่รู้สึกอยากดิ้นรนขวนขวายหรือทำเพื่อใครทั้งนั้น

หลังจากเพียวกลับมาได้ไม่กี่วันผมก็ไปถ่ายพรีเว็ดดิ้งกับเธอที่พังงาสองวัน เรานั่งเครื่องบินไปก่อนทีมงานหนึ่งคืนเพราะเพียวอยากมีเวลาพักและเตรียมตัว เราไปเดินเล่นด้วยกันที่ชายหาดช่วงเย็นๆ หลังจากเช็คอินที่โรงแรมแล้ว เรื่องที่คุยกันส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องที่เพียวเพิ่งไปแข่งขันวอลเลย์บอลที่ต่างประเทศมา เรื่องอื่นผมไม่อยากชวนคุยเท่าไหร่นัก

พอกินอาหารเย็นเสร็จเราก็กลับมาที่ห้องพัก จัดการธุระส่วนตัวกันเรียบร้อยก็พร้อมที่จะพักผ่อน แต่พอขึ้นเตียงแล้วผมก็นอนหันหลังให้จนเพียวสงสัย เธอคงอยากกุ๊กกิ๊กกับผมตามประสาคนรักกันบ้างเพราะไม่ได้เจอกันหลายสัปดาห์

"พี่แฟรงค์เป็นอะไรหรือเปล่า" เพียวลุกขึ้นนั่งบนเตียง มองดูผมที่นอนอยู่เฉยๆ ด้วยสายตาไม่เข้าใจ

"เปล่า...พี่แค่เครียดๆ เรื่องงานเฉยๆ"

ผมตอบโดยที่ยังนอนหันหลังให้เพียวอยู่

"มีอะไรให้เครียดเหรอคะ หรือว่า...เครียดที่นัทลาออก"

"หลายเรื่อง" ผมตอบห้วนๆ

เพียวทำเสียงจิ๊กจั๊กอย่างหงุดหงิด นั่งหันรีหันขวางครุ่นคิดว่าจะเอายังไงกับผมดี

"พี่แฟรงค์...เราไม่ได้เจอกันตั้งหลายอาทิตย์นะ ไม่คิดจะหันมาคุยกับเพียวหน่อยเหรอคะ"

ว่าแล้วเพียวก็นอนลง เอาศีรษะซบไหล่ทางด้านหลังผมไว้ สวมกอดผมเบาๆ เพื่อออดอ้อน

"พี่เหนื่อยน่ะเพียว"

ผมบอกแล้วก็จับมือเธอยกออกไปจากตัว

"ทำไมคะ พี่แฟรงค์จะเหนื่อยอะไรนักหนา"

เพียวลุกขึ้นนั่งอีกรอบด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียด เธอคงจะเหลืออดเต็มที

"พี่ไม่รู้จะบอกเพียวยังไง เอาเป็นว่า...คืนนี้...พี่ไม่อยากทำอะไร"

เพียวทำเสียงฟึดฟัด ลงจากเตียงแล้วก็ลงส้นเท้าหนักๆ ไปยืนสงบสติอารมณ์ตรงระเบียงห้อง แทนที่เสียงคลื่นทะเลซัดสาดที่ได้ยินมาแต่ไกล จะสร้างบรรยากาศโรแมนติกให้คู่หนุ่มสาวคู่หนึ่งที่กำลังจะแต่งงานกัน แต่เสียงคลื่นนั้นกลับเป็นเสียงธรรมดาที่หาได้มีความหมายใดๆ

ผมได้แต่นอนครุ่นคิดว่าผมควรจะทำยังไง จะบอกเพียวไปเลยตอนนี้ดีหรือเปล่า แต่พอนึกถึงประโยคนี้ของนัททีไร ผมก็แทบไม่อยากทำอะไรเอาเสียเลย

"รู้อย่างงี้...เราสองคนไม่เจอกันซะยังดีกว่า"

พอนึกถึงนัทขึ้นมาผมก็ชักเป็นห่วงเหมือนกัน ไม่ได้ไปนอนเป็นเพื่อนนัทมาหลายวันแล้ว ไม่รู้ว่าจะเหงาหรือเปล่า พูดคุยกันก็แทบนับคำได้ ไอศครีมก็ไม่ได้ซื้อให้นัทกินเลย จะจากกันไปอยู่แล้ว ทำไมเราถึงรู้สึกเฉยชาต่อกันได้มากขนาดนี้

แต่จะว่าไป การที่ผมนึกถึงนัทขึ้นมาในตอนนี้ก็เป็นสัญญาณที่ดี ผมคงไม่ถึงกับเฉยเมยหรือเฉยชากับคนที่ผมรักมากถึงเพียงนั้นหรอก เพียงแต่ยังมีบางอย่างกั้นกลางเราสองคนไว้ แต่ขืนปล่อยไว้นานคงไม่ดีแน่ เวลาของผมกับนัทเหลือน้อยลงไปทุกวันๆ แล้ว

ผมหยิบโทรศัพท์ของตัวเองบนหัวเตียงมา คิดอยู่สักพักก็ตัดสินใจส่งไลน์ไปคุยกับนัท

"เหงามั้ย อยู่คนเดียว"

ไม่นานนัก นัทก็ตอบกลับมา

"นิดหน่อย แล้วพี่ล่ะ จะห้าทุ่มแล้วทำไมยังไม่นอนอีก"

ผมยิ้มให้กับหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเองโดยไม่รู้ตัว พอนัทคุยเล่นด้วยแล้วผมก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก

"คิดถึงใครบางคน ก็เลยนอนไม่หลับ แล้วนัทล่ะ ทำไมยังไม่นอน"

"ยังไม่ง่วง"

"คิดถึงพี่หรือเปล่า"

"คิดถึงทำไม"

"มีพี่ชายหล่อๆ นัทไม่คิดถึงเหรอ"

"ไม่"

"ไม่หวงพี่เหรอ"

"ไม่"

"แล้วเป็นห่วงพี่หรือเปล่า"


คราวนี้นัทเงียบไปเกือบครึ่งนาทีก่อนจะตอบกลับมา

"ห่วง"

"ห่วงมากหรือเปล่า"

"ก็นิดหน่อย"

"พี่อยากคุยกับนัท"

"ก็คุยอยู่นี่ไง"

"ไม่ใช่ อยากเจอตัวเป็นๆ แล้วก็คุยกัน"

"กลับมาก็ได้คุยแล้ว"

"จริงด้วยเนาะ"

"พี่แฟรงค์เพี้ยนแล้ว"

"เดี๋ยวเหอะ"

"555"

"กลับไปพี่จะซื้อไอติมไปฝากนะ เอาฮาเกนดาสมั้ย"

"โอเคเลย"

"พี่ดีใจนะที่ได้คุยกับนัทแบบนี้อีก"


นัทเงียบไปอีกประมาณครึ่งนาที ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่

"ก็เราเป็นพี่ชายน้องชายกัน"

"นั่นสินะ"


ผมแอบถอนหายใจเบาๆ ผมกับนัทมีความสัมพันธ์กันไปถึงขนาดนั้นแล้ว จะเป็นพี่ชายกับน้องชายกันได้อีกหรือ ยิ่งนึกถึงคืนที่เราสองคนบรรเลงบทเพลงรักร่วมกัน ก็ยิ่งไม่เห็นทางที่จะกลับมาเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม

"ถ้าคิดถึงพี่ ฟังเพลงของเราสองคนก็ได้นะ จำเพลงได้ใช่มั้ย"

"จำได้ หาก่อน เดี๋ยวเปิดฟัง"

"ดีแล้ว"

"พี่จะนอนยัง"

"ว่าจะนอนแล้ว"

"นัทก็ว่าจะนอนแล้วเหมือนกัน"

"ง่วงแล้ว?"

"อืม"


คราวนี้ผมเป็นฝ่ายที่เงียบไปเกือบครึ่งนาทีบ้าง แล้วก็ตัดสินใจส่งข้อความนี้ไป

"พี่อยากให้นัทอยู่กับพี่นานๆ ไม่อยากให้นัทไปไหนเลย"

"พี่แฟรงค์"

"อะไร"

"ขอบคุณครับพี่ชาย ผมจะไม่ลืมพี่แฟรงค์นะครับ"


ผมจำประโยคนี้ได้เสมอ พอได้เห็นอีกครั้งแล้วก็ยิ่งทำให้ผมแน่ใจว่าทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม นัทน้องพี่ ยังไงๆ พี่ก็คงจะลืมรักครั้งนี้ของเราไปไม่ได้ พี่จะขอดิ้นอีกสักเฮือกสองเฮือกสุดท้ายดูละกันนะนัท หวังว่าฟ้าดินคงไม่โหดร้ายกับเราสองคนจนเกินไป

แล้วผมก็ได้ยินเสียงใครแค่นหัวเราะอยู่ใกล้ๆ

"เพราะอย่างงี้นี่เอง"

แม้ไม่หันไปมองก็รู้ว่าใคร ไม่รู้ว่าเธอมาทันเห็นอะไรบ้าง แต่เราคงต้องคุยกันยาวคืนนี้

TBC

ชอบงานใคร อย่าลืมบวกเป็ด/คอมเมนต์ให้นักเขียนทุกคน ทุกเรื่อง ทุกตอนนะครับ :)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-03-2017 12:43:07 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
และแล้วเพียวก็รู้จนได้... สงสารนัทและก็เห็นใจพี่แฟร้งนะ แต่เพียวรู้วันนี้ดีกว่ารู้หลังจากแต่งงานไปแล้ว
เพียวจะทำยังไงละ..มันหน่วงที่สุดและที่สำคัญมันค้างที่สุด..ตัดตรงนี้ทรมารใจคนอยากรู้จริงๆ  :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
และแล้วเพียวก็รู้จนได้... สงสารนัทและก็เห็นใจพี่แฟร้งนะ แต่เพียวรู้วันนี้ดีกว่ารู้หลังจากแต่งงานไปแล้ว
เพียวจะทำยังไงละ..มันหน่วงที่สุดและที่สำคัญมันค้างที่สุด..ตัดตรงนี้ทรมารใจคนอยากรู้จริงๆ  :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:

จะบอกว่านิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมชอบพัฒนาการด้านการใช้ภาษาของตัวเองมาก
ไม่ใช่ว่าจะยกยอตัวเองนะครับ แต่ผมรู้สึกได้ว่าผมเห็นความเปลี่ยนแปลงของตัวเองที่ชัดเจนมากในเรื่องนี้
ถึงมันจะหน่วง แต่ผมกลับ enjoy การเลือกถ้อยคำมาใช้จนลืมความหน่วงไปเลย
ลองเปลี่ยนไป enjoy ภาษาที่ผมตั้งใจสุดๆ กับเรื่องนี้ดูก็ได้ครับ เผื่อจะหน่วงน้อยลง (หรืออย่างอื่นก็ได้)
ตอนหน้าคงจะลดความหน่วงลงหน่อย ให้เค้าสองคนได้มีโมเมนต์ดีๆ ด้วยกันบ้าง

Sarawatta

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
ใช้ข้ออ้างเรื่องเมาทั้งคู่   บอกแล้วว่าไม่ควร 
แฟรงก็เองก็เสี่ยงทุกอย่าง
นัทเองก็ไม่อยากเข้าไปเป็นมือที่สาม
จะดูยังไงสำหรับเพียวนัทก็คือมือที่สามอยู่ดี
สำหรับคนอื่นๆด้วย
อยากรู้ว่าแฟรงก์จะแงะตัวเองออกมายังไงจากสถาณการ์ณนี้

อ้างถึง
โชคดีที่ในรีสอร์ทมีถุงยางอนามัยและเจลหล่อลื่นไว้บริการในห้องพักอยู่แล้ว
เราไม่ได้ใช้บริการรีสอร์ทนานแล้ว   แต่เคยทำงานโรงแรมระดับ 3 - 5 ดาวของยุโรปปกติจะไม่มีของพวกนี้ในห้องนะคะ  โรงแรมที่จะมีของพวกนี้เมื่อก่อนจะเป็นโรงแรมเฉพาะกิจ  ไม่ทราบว่าสมัยนี้จะมีของพวกนี้ให้บริการในห้องหรือว่ารีสอร์ทของแฟรงก็จะเน้นหนักสำหรับแขกแบบคู่รัก?  ถามเฉยๆค่ะ   

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
อ่านตอนนี้แล้วไม่รู้ว่าจะเสียใจหรือดีใจดี ก็เพียวรู้แล้วคืนนี้คงจะได้คุยกันยาวๆ แฟรงค์คุยกับเพียวยาวๆนะคุยให้รู้เรื่องไปเลย
 เสียดายทำไมนัทไม่พูดอะไรเลย นัทจะรู้สึกอะไรมั้ยว่าแฟรงค์ทำแบบนั้นเพื่อนัท แต่ก็ต้องเข้าใจนัทด้วยสินะว่านัทไม่ชอบหักหลังใคร เห้ออออ รอ ลุ้นว่าจะเป็นยังไงต่อไป เพียวจะตามดูสองคนนี้มั้ย ๕๕๕ ลุ้นว่าพ่อแม่แฟรงค์จะว่ายังไงเรื่องแบบนี้ ท้าทายผู้แต่งอีกล่ะ ๕๕๕ สองเรื่องก่อนหน้านี้ก็มีพ่อแม่เป็นด่านสำคัญ รอ ลุ้นว่าพ่อแม่จะมีบทบาทแบบไหนนะคับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-12-2015 13:05:40 โดย GuoJeng »

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
ใช้ข้ออ้างเรื่องเมาทั้งคู่   บอกแล้วว่าไม่ควร 
แฟรงก็เองก็เสี่ยงทุกอย่าง
นัทเองก็ไม่อยากเข้าไปเป็นมือที่สาม
จะดูยังไงสำหรับเพียวนัทก็คือมือที่สามอยู่ดี
สำหรับคนอื่นๆด้วย
อยากรู้ว่าแฟรงก์จะแงะตัวเองออกมายังไงจากสถาณการ์ณนี้

อ้างถึง
โชคดีที่ในรีสอร์ทมีถุงยางอนามัยและเจลหล่อลื่นไว้บริการในห้องพักอยู่แล้ว
เราไม่ได้ใช้บริการรีสอร์ทนานแล้ว   แต่เคยทำงานโรงแรมระดับ 3 - 5 ดาวของยุโรปปกติจะไม่มีของพวกนี้ในห้องนะคะ  โรงแรมที่จะมีของพวกนี้เมื่อก่อนจะเป็นโรงแรมเฉพาะกิจ  ไม่ทราบว่าสมัยนี้จะมีของพวกนี้ให้บริการในห้องหรือว่ารีสอร์ทของแฟรงก็จะเน้นหนักสำหรับแขกแบบคู่รัก?  ถามเฉยๆค่ะ

ผมพลาดเองครับ ปกติรีสอร์ทเล็กๆ ไม่น่าจะมี แก้ไปแล้วครับ
ขอบคุณที่ท้วงติงมา

Sarawatta

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
เฮ้อ! คุณ sarawatta ใจร้ายอ้ะ พาเราลงชามมาม่าอย่างรวดเร็ว ฮือออออ

ก็เข้าใจนะว่า แฟรงค์รักนัทมาก แต่การกระทำของคุณก็เพื่อตอบสนองความต้องการของคุณเพียงคนเดียว แต่ร้าวรานแบบวงกว้างและซับซ้อนมาก

นัทเองล่ะ เราไม่เชื่อว่าคุณเมาขนาดไม่รู้ตัวว่า ทำอะไรไป ลุกขึ้นมาใช้ปากทำรักได้นี่มีสติพอควรนะ
โอเค ความยับยั้งชั่งใจก็ต้องลดลงเป็นปกติแหละ แต่เราคิดว่า นัทก็สนองความต้องการของตัวเองเช่นกัน
พอตื่นมาก็โทษแฟรงค์คนเดียว ตัวเองไม่ผิดเลย?

เห็นใจทั้งคู่นะ แต่งานนี้เราคิดว่า จงซดมาม่ากันไปจ้ะ
ไปทบทวนกันดูนะว่า ถ้าเป็นตัวเองไปอยู่ในจุดที่แต่ละฝ่ายอยู่จะรู้สึกอย่างไร
มองจากมุมของเพียวที่ถูกหักหลัง
มุมของนัทที่ถูกทำให้เป็นชู้โดยสมบูรณ์แบบ และรู้สึกผิด รู้สึกแย่กับตัวเอง
มุมของแฟรงค์ที่ไม่ว่าทางไหนก็ผิดในสายตาทุกคน และเสี่ยงจะเสียทุกคนที่รักไปเพราะทำตามหัวใจ แต่ขาดความรับผิดชอบต่อคนอื่น

เอาใจช่วยทุกฝ่ายให้ผ่านมรสุมนี้ไปได้นะ

ปล.  คุณ sarawatta อย่าเข้าใจผิดว่าเรารู้สึกแง่ลบกับนิยายคุณนะ
เราชอบเรื่องที่คุณเล่ามาก มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงกับใครก็ได้
รู้สึกไปกับเรื่องราวแบบเต็ม ๆ
รออ่านบทต่อไปด้วยใจระทึก


ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
เพียวรู้ด้วยตัวเองแบบนี้ก็ดีค่ะ เพราะถ้ารอให้แฟรงค์พูดออกมาเองก็คงจะอีกนาน ดีไม่ดีจะมาคิดได้เอาก็ตอนที่ปล่อยให้งานแต่งงานเกิดขึ้นไปแล้วด้วยซ้ำ

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
ถ้าจะเปรียบว่านัทกำลังขับรถ
ก็คงจะขับรถแล้ว..ไม่ได้ไปไหนเลย

จะขับไปข้างหน้าหรือจะถอยหลัง เอาให้แน่
เข้าเกียร์เดินหน้า อ้าววววว...เกียร์ถอยหลังอีกแหละ
แล้วอย่างนี้มันจะไปไหนได้ ยังอยู่ที่เดิม

เพราะสงสารแล้วก็เห็นใจ
คนที่เดินหน้าเร่งกำลังเต็มสปีด
อย่าปล่อยให้แฟรงค์ต้องเหนื่อยอยู่คนเดียวเลย

..มันเหนื่อยมากนะ..
หุหุ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
พลาดอ่านไปวันเดียว เรื่องราวพลิกผันเลยแฮะ ตอนที่ 7 ทำให้นัทกับแฟรงค์มีพัฒนาการตัวละครที่ผิดแผกจากเดิมมากทีเดียว  :mew1: เป็นอะไรที่น่ายินดีมาก ๆ และนัทก้อได้เปิดเผยออกมาแล้วว่าแฟรงค์ทำให้นัทมีแผลในใจที่มันร้าวลึกกว่าที่คิด
เรามาคิด ๆ ดูแล้ว เราก้อเข้าใจแฟรงค์ได้อย่างหนึ่งน่ะว่าบางทีการที่เรามีวัยเด็กที่สนิทสนมผูกพันกับใครคนนึงนั้น เมื่อจากกันกาลเวลามันก้อทำให้เราชาชินกับสิ่งนั้นและก้อยากที่จะกลับไปหาสิ่งเก่า ๆ แม้มันจะติดอยู่ในใจเราก้อตามเถอะ แต่เป็นเรา ๆ เป็นนัทเราก้อน่าจะรู้สึกทำใจลำบากน่ะ เพราะมันเหมือนกับว่าตลอดเวลาที่ผ่านมานัทไม่ใช่คนสำคัญเพียงพอที่แฟรงค์จะกลับมาหา และเมื่อได้เจอกันแฟรงค์กลับกำลังจะแต่งงานกับคนอื่นเสียอีก  :m16: อ่านไปก้อรู้สึกเศร้าทีเดียวกับสิ่งที่นัทสารภาพออกมาน่ะ ไปอ่านต่อตอนที่ 8 มีอะไรร้อน ๆ มาให้เราเห็นแล้ว
อ้อ ส่วนแฟรงค์นายคิดถูกมาก ๆ การไม่รุกเร้าก้อเหมือนการรุกคืบเข้าไปในใจของนัทอย่างเงียบ ๆ และในที่สุดนายก้อได้ใจของนัทคืนมา เรื่องดำเนินไปเร็วดีจ้ะ ชอบ  :pig4:

ออฟไลน์ กบกระชายไทยนิยม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
จากบทที่ 7 -- รู้สึกว่า การดำเนินเรื่องรวบรัดมาก คือไม่ได้รู้สึกไม่ชอบ แต่มันเหมือนกับมันขาดรายละเอียดด้านความละเอียดอ่อนทางอารมณ์ไปบ้างในความคิดเห็นส่วนตัว ซึ่งอันที่จริงการเดินเรื่องให้กระชับขึ้นอาจจะเป็นที่ชื่นชอบมาก/ น้อยกว่าสำหรับนักอ่านท่านอื่น คือต่างคนก็ต่างความคิด แต่ข้อดีของการกระชับเนื้อเรื่องคือ มันไม่เยิ่นเย้อ ทำให้รู้บทสรุปเร็วขึ้น ซึ่งอันนี้ก็ดีใจกับแฟรงค์และนัทด้วย +เป็ด จ้า

ออฟไลน์ Kaemmiizz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 729
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-4
จะแก้สถานการณ์ให้มันดีขึ้นได้ยังไงนะ เห้อ!! มีมาม่าเกือบทุกฉากเลยทุกตอน สงสารแฟรงค์ เห็นใจนัท ทำไมไม่ต่อสู้กับปัญหาไปด้วยกันล่ะนัท ทั้งๆที่แฟรงค์พยายามทำทุกอย่าง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :hao5: เพิ่งจะคอมเม้นท์ตอนที่ 7 ไปไหงตอนที่ 8 ไม่น่าเชื่อว่าตอนเมากับไม่เมา มันผิดกันไกลขนาดนี้เชียว เราว่านัทก้อรู้ตัวแหละว่าทำอะไรลงไปบ้าง ไม่งั้นคงไม่ทำแบบนี้หรอก เพียงแต่เมื่อรู้สึกตัวเต็มที่ก้อมีสำนึกในใจขึ้นมาเลยรับกับการกระทำของตัวเองไม่ได้และก้อพาลโทษแฟรงค์ไป ไม่น่าเลยเนอะแฟรงค์ เราก้อไม่คิดว่าการเมาจะทำให้คนเราเปลี่ยนไปขนาดนี้  :katai1: เป็นเรา ๆ เป็นแฟรงค์เราก้อนอยด์น่ะ เล่นพูดแบบไม่รักษาน้ำใจกันเลยน่ะ  :mew2: เราว่าให้เพียวรู้ไปเลยดีกว่าน่ะ เพราะผู้หญิงน่ะสัญชาตญาณเรื่องนี้แรงอยู่แล้วเพียงแต่จะยอมรับความจริงได้รึเปล่าเท่านั้นเอง ก้อให้มันจบ ๆ ไปเลยดีกว่าน่ะ ไม่งั้นมันจะยิ่งเจ็บกว่านี้และจะกลายเป็นการเอาชนะกันไปเปล่า ๆ น่ะ
เราชอบคำพูดของแฟรงค์ที่สารภาพความรู้สึกทั้งหมดกับนัทน่ะ เล่นเอานัทมึนไปเลยน่ะ ตอนมีอะไรกันก้อแอบลุ้นเล็ก ๆ ว่าตกลงใครจะรุกใครจะรับกันแน่น่ะ แต่ในที่สุดนัทก้อยอมแฟรงค์ 555 อันนี้ด้วยรึเปล่าที่ทำให้นัทแรงใส่ตอนเช้าน่ะ  :mew4: เราว่างานนี้ดูนัทเด็กไปเลยน่ะ
ไม่มีคำว่ายุติธรรมในความรักหรอกน่ะ มันมีแต่แค่ผิดหวังกับสมหวังเท่านั้น และเมื่อผิดหวังมันก้อยู่ที่ว่าใครจะทำใจได้และปล่อยวางมันไปอย่าให้มันกลายเป็นความทุกข์เจ็บแค้นจนอาฆาตหมาดร้ายต่ออีกฝ่ายและย้อนกลับมาทำร้ายเรา  :mew6:
คุณ sarawatta ใช้ภาษาได้ดีมาก ๆ จ้ะ เดิมก้อใช้ได้ดีอยู่แล้วน่ะ แต่เราว่ามันพัฒนาขึ้นอย่างที่คุณคิดน่ะแหละจ้ะ  o13

ออฟไลน์ กบกระชายไทยนิยม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
จากบทที่ 8 -- ชอบภาวะอารมณ์ของแฟรงค์หลังจากจุดแตกหักของแฟรงค์กับนัทคือ มันเหมือนกับ ขนนกที่หล่นลงพื้นแล้วก็หยุด... เหมือนสภาพอารมณ์ที่ล่วงหล่นแล้วจมนิ่งอยู่ก้นบ่อ คล้ายไม่ยินดียินร้ายซึ่งน่าจะเกิดจากอาการช็อกเนื่องจากสิ่งที่คิดไว้กับสิ่งที่เกิดขึ้น มันผิดคาดกันมาก การบรรยายบทรักอัศจรรย์ออกจะแปลกในความคิดเรา ไม่เชิงแปลกในการบรรยายแต่เหมือนอารมณ์มันต่างออกไปจากสำนวนงานของคุณ Sarawatta ที่คุ้นเคย บอกไม่ถูกเหมือนกัน จริงๆ มันเป็นเรื่องของความรู้สึกเวลาอ่านเฉยๆ เลยทำให้ชอบไม่เท่ากับสำนวนแบบเดิมของคุณ Sarawatta ในแบบที่ผ่านมา อันนี้เป็นเรื่องของความชอบส่วนตัวล้วนๆ ไม่ควรเอามาใส่ใจ หากคำพูดทำให้รู้สึกไม่ดีต้องขออภัย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังคงชอบและติดตามงานของคุณ Sarawatta +เป็ด & +กำลังใจ

ออฟไลน์ RIRIN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +492/-2
มันเป็นเรื่องที่ใช้จุดของความผูกพันดำเนินเรื่อง หน่วงๆ ในความรัก อ่านแล้วคิดถึงต้นสนเลยค่ะ
น้องนัทกับพี่แฟรงค์ นัทจะเลิกกับแฟนแล้วก็ตาม และพี่แฟรงก็มีแฟนอยู่แล้ว แฟนเก่าของนัทมีบางอย่างคล้ายแฟรงค์ และแฟนของแฟรงค์ก็มีบางส่วนที่คล้ายนัท จริงๆ แล้วในจิตใจลึกๆ ของทั้งคู่นัทกับแฟรงค์ต่างมีกันและกัน

เพียว.. ถ้าในจุดที่เพียวเป็นอยู่ตอนนี้ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งก็รู้สึกสงสารหน่อยๆ นะ เพราะฉะนั้นด้วยความหวังดี เธอออกมาจากชีวิตเค้าเถอะก่อนจะเจ็บไปมากกว่านี้

นัท.. แม้จะยังทำใจเรื่องที่พี่แฟรงค์มีแฟนแล้วไม่ได้ ก็ไม่เป็นไรนะ ขอแค่นัทให้เวลาพี่แฟรงค์พิสูจน์ใจสักหน่อยแล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง

แฟรงค์.. ในเมื่อรู้ใจตัวเองแล้ว และใจก็ตรงกับนัทแล้วก็เดินหน้าต่อนะคะ ผ่านพ้นปัญหาที่จะต้องพบเจอให้ได้

ตอนที่ 8
เมา... ข้ออ้างเหรอค่ะนั่น ถอนหายใจให้กับแฟรงค์และนัทหนักๆ
เอาไงก็เอา มาถึงขนาดนี้แล้วถอยไม่ได้แล้วนะ

+เป็ด ทุกตอนเลยค่ะ  o13

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
❤️ (✘) ไร้รัก ✢ Lovelessly

ตอนที่ 9 ✢ วันฟ้าใสที่เขาค้อ



ผมเลื่อนดูภาพถ่ายพรีเว็ดดิ้ง ที่เพียวอัปโหลดขึ้นเฟสบุ๊คพร้อมกันหลายรูปด้วยความรู้สึกหลายอย่าง จะว่าเศร้าก็เศร้า ใจหายก็ใช่ แต่ก็ดีใจกับสองคนนั้นด้วยที่เดินทางมาถึงวันนี้ ความใกล้ชิดและสีหน้าของคนในภาพบ่งบอกถึงความสุขของชีวิตคู่ที่กำลังจะเริ่มขึ้น แฟรงค์ดูหล่อใสกับผมทรงใหม่ที่เพิ่งตัด หล่อจนผมอิจฉาคนที่ได้แฟรงค์เป็นคู่ใจ จำนวนไลค์และคอมเมนต์มากมายยิ่งย้ำว่าชีวิตคู่ของคนทั้งสองช่างน่ายินดี ถ้าเปลี่ยนจากเพียวเป็นผมล่ะ ใครจะชื่นชมยินดีด้วย

ผมเลื่อนดูภาพไปเรื่อยๆ แม้ว่าจะรู้สึกตะขิดตะขวงใจก็ยังอยากดู จนมาเจอภาพแฟรงค์จุมพิตหน้าผากของเพียว ผมก็เลื่อนหนีแทบจะทันที เห็นเพียงแวบเดียวก็เจ็บแปลบเกินทนแล้ว ดูนานกว่านี้คงขาดใจ พอทำใจได้หน่อยผมก็เลื่อนกลับไปดูภาพนั้นอีกครั้ง แต่สุดท้าย...ดูได้ไม่เท่าไหร่ผมก็รู้ว่าควรต้องเลิกดู

ผมวางโทรศัพท์ไว้ที่หัวเตียง จู่ๆ ก็คิดถึงบทรักแสนหวานทว่าเร่าร้อนของเราในห้องนี้เมื่อไม่กี่วันนี้ ถ้าไม่หลอกตัวเอง มีหรือที่ผมจะปฏิเสธได้ว่าคืนนั้นของเราช่างมีความสุขมากแค่ไหน แม้ว่าจะรู้สึกผิดบาปกับผู้หญิงอีกคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ก็ตาม คิดแล้วก็รู้สึกผิดที่ต่อว่าแฟรงค์ว่าฉวยโอกาส ความโมโหทำให้ผมลืมคิดไปว่าปรบมือข้างเดียวไม่ดัง

ไม่รู้ว่าแฟรงค์คุยกับเพียวหรือยัง แต่ไม่ว่าจะคุยหรือไม่คุย ภาพพรีเว็ดดิ้งแสนหวานชื่นก็บอกเป็นนัยว่าสองคนคงเดินหน้าสู่ประตูวิวาห์ในไม่ช้า ก็ดีแล้วที่เป็นอย่างนั้น แฟรงค์ควรมีชีวิตอย่างผู้ชายทั่วไป มีครอบครัว มีลูก ดูแลธุรกิจให้เติบโต ดีกว่าเอาชีวิตดีๆ มาเสี่ยงกับผมเป็นไหนๆ ผมพอรู้มาบ้างว่าพ่อของแฟรงค์เป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น เกิดรับไม่ได้ขึ้นมาก็อาจตัดแฟรงค์ออกจากกองมรดก ถ้าร้ายแรงกว่านั้นก็ตัดขาดความเป็นพ่อลูก ผมไม่อยากเห็นชีวิตแฟรงค์ลำบากถึงเพียงนั้นหรอก การที่ผมจากไปจึงน่าจะดีกับทุกฝ่าย

ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูปลุกผมให้ตื่นจากภวังค์ความคิด ผมรีบเดินไปเปิดเพราะไม่อยากเดาให้เสียเวลาว่าใครมาหา พอเห็นแฟรงค์ยืนอยู่พร้อมกับถุงกระดาษอย่างดีใบหนึ่งก็แปลกใจ แฟรงค์น่าจะเพิ่งกลับจากพังงาเมื่อเย็นนี้ แทนที่จะพักผ่อนก็ยังอุตส่าห์มาหา

"พี่ซื้อไอติมมาฝาก ฮาเกนดาสของโปรดนัทไง"

แฟรงค์ชูถุงใบนั้นขึ้นให้ผมดู ก่อนจะยื่นมือผมให้รับไว้

"ขอบคุณครับ"

ปกติผมสนิทกับแฟรงค์มากจนไม่เคยพูด "ครับ" ด้วย แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรผมถึงลงท้ายด้วย "ครับ" เมื่อกี้ เรามองหน้ากันด้วยสายตามีคำถามแต่ไม่พูด คงเป็นเพราะต่างคนคงต่างรู้สึกแปลกแยกจากความบาดหมางที่เพิ่งผ่านมา

"งั้น...พี่...กลับก่อนนะ"

"อ้าว...มีธุระต่อเหรอ"

ผมทำหน้าเสียดาย มายังไม่ทันหายคิดถึงก็จะกลับเสียแล้ว ผมเผลอมองดูผมตัดใหม่ของแฟรงค์อย่างสนใจ แม้อยากชื่นชมชิดใกล้ชายหนุ่มตรงหน้าแค่ไหนก็ทำได้เพียงแค่คิด

แฟรงค์พยักหน้าช้าๆ ดูเหมือนต่างคนต่างมีอะไรอยากพูดหลายอย่าง แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะเก็บไว้ในใจ

"ขับรถดีๆ นะ"

แฟรงค์พยักหน้า ยิ้มเจือเศร้าบางๆ

"นอนหลับฝันดีนะ"

แฟรงค์เดินถอยไปหนึ่งก้าว หันหลังกลับแล้วก็เดินหายไปในความมืด ทิ้งผมให้มึนงงสงสัยอยู่ตรงประตู พอรู้ว่าจะต้องจากพี่ชายที่แสนรักไปแล้วก็ใจหายเหลือเกิน ไม่ใช่แค่แฟรงค์เท่านั้นที่โดนผมลงโทษ ผมก็ลงโทษตัวเองอย่างสาสมด้วยการพรากจากคนที่รักเช่นกัน

ผมเลือกไอศครีมรสช็อกชิพมาวางไว้บนโต๊ะแล้วเก็บที่เหลือใส่ตู้เย็นไว้ พอแกะเปิดกินก็นั่งมองเหม่อคิดไปเรื่อยเปื่อย ตอนเด็กๆ แฟรงค์มักเจียดเงินค่าขนมมาซื้อไอศครีมให้ผมกินบ่อยๆ บางทีซื้อให้ผมแล้วตัวเองก็นั่งมองกลืนน้ำลาย อยากกินแค่ไหนก็เสียสละให้ผม พี่ชายแท้ๆ หรือก็เปล่า แฟรงค์ดูแลผมอย่างดีไม่เคยบ่นสักคำ คิดมาถึงตรงนี้แล้วผมก็สะท้อนใจและรู้สึกผิด แฟรงค์รักผมมากเกินกว่าที่ผมจะรับรู้และเข้าใจด้วยซ้ำ

"แฟรงค์คิดแล้ว...ต่อให้แฟรงค์ต้องเสียไปทุกอย่าง แฟรงค์ก็จะเลือกคนที่เป็นที่หนึ่งในใจของแฟรงค์"

พอประโยคนี้ที่แฟรงค์เคยพูดแว่วมาในความคิด น้ำตาของผมก็พลันร่วงเผาะๆ หยุดกินไอศครีมแล้วก็เดินไปหยิบโทรศัพท์มาถือไว้ ตอนแรกว่าจะส่งไลน์ไปหา แต่คิดไปคิดมา แฟรงค์ควรได้สัมผัสความรู้สึกที่แท้จริงของผม ไม่ใช่แค่ตัวอักษรที่ไร้ชีวิตจิตใจ

พอแฟรงค์รับสาย ผมก็กรอกเสียงลงไปทันทีโดยที่อีกฝ่ายยังไม่ทันทักทายตามธรรมเนียมด้วยซ้ำ

"พี่แฟรงค์ นัทขอบคุณพี่แฟรงค์มาก...สำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง พี่แฟรงค์...เป็นพี่ชายที่อบอุ่นของนัทตลอดมา นัทจะไม่ลืมพี่แฟรงค์เลย นัทจะไม่ลืมความดีทุกอย่างของพี่แฟรงค์ ต่อให้เราอยู่ไกลกันแค่ไหนนัทก็จะไม่ลืม"

คนรับสายไม่พูดตอบสักคำ แต่ผมก็ไม่เก็บมาคิดสงสัยน้อยใจหรอก

"พี่แฟรงค์ นัท..."

ผมรู้ดีว่าไม่ควรพูดประโยคนั้น ก็เลยตัดสินใจวางสายไป แฟรงค์เพิ่งกลับมาจากถ่ายพรีเว็ดดิ้ง ผมไม่ควรเอาเรื่องของตัวเองไปกวนใจแฟรงค์อีก แฟรงค์เหนื่อยกับผมมาพอแล้ว ผมควรหยุดสร้างปัญหาเสียที

แฟรงค์ไม่ได้โทรกลับหาผม แต่ส่งข้อความหนึ่งมาทางไลน์

"เมื่อไหร่ที่นัทต้องการพี่ พี่แฟรงค์คนนี้จะมาหานัทเสมอ"

ผมยิ้มให้กับข้อความนั้นทั้งน้ำตา นึกโกรธตัวเองที่ทำตัวงี่เง่ากับแฟรงค์หลายอย่าง พูดไม่ดีกับแฟรงค์ก็หลายหน แต่แฟรงค์กลับไม่เคยปริปากต่อว่าผมสักคำ

ผมเก็บไอศครีมที่กินไม่หมดเข้าตู้เย็น กลับมานั่งที่เดิมแล้วก็ฟุบหน้าลงร้องไห้ แฟรงค์บอกว่าคนที่อยู่ในใจของแฟรงค์ตลอดมาก็คือผม แล้วคนที่อยู่ในใจผมตลอดมาก็คือแฟรงค์เช่นเดียวกัน แฟรงค์ชอบเพียวเพราะเพียวมีบางอย่างคล้ายผม ส่วนผมก็ชอบต้องตาเพราะเธอทำบางอย่างคล้ายแฟรงค์ แม้ดูเหมือนว่าจะลืมเลือนกันไปแล้ว แม้ดูเหมือนว่าต่างคนต่างหมดอิทธิพลต่อกันเพราะจากกันนาน แต่เรากลับลืมความรู้สึกเก่าๆ ที่ฝังใจไม่ได้เลย

ตอนอยู่มอหนึ่ง ผมพบว่าตัวเองรู้สึกพิเศษกับแฟรงค์แม้ว่าแฟรงค์จะไม่อยู่แล้ว พอทำงานก็รักคนที่คล้ายว่ามีเงาของแฟรงค์ซ้อนทับอยู่ ความเจ็บปวดแรกก็เกิดขึ้นตอนที่แฟรงค์ทิ้งผมไปและไม่เคยกลับมาหา ต่อมาคนที่เป็นเงาของแฟรงค์ก็หลอกลวงผมอย่างร้ายกาจ ผมจึงฝังใจประสบการณ์เจ็บปวดที่แฟรงค์เข้ามาเกี่ยวข้องทั้งโดยตรงและโดยอ้อมอย่างช่วยไม่ได้ ความกลัวนั้นทำให้ผมสร้างกำแพงป้องกันตัวเองอย่างแน่นหนา ยิ่งรู้ว่าตัวเองจะเป็นมือที่สามก็ยิ่งปัดป้องเป็นระวิง

สุดท้ายผมก็ตระหนักว่า ภาพและความรู้สึกเก่าๆ เหล่านั้นไม่ใช่ของจริง แฟรงค์ตัวจริงในวันนี้คือคนที่มีความรักเต็มเปี่ยมในหัวใจ พร้อมจะมอบให้ผมทุกเวลาที่ผมต้องการ หัวใจของผม...ไม่ไร้รักอย่างที่ผ่านมาอีกแล้วเพราะความรักของแฟรงค์ แต่จะมีประโยชน์อะไรเล่า เมื่อทุกอย่างกำลังจะย้อนกลับไปเหมือนตอนที่ผมอยู่มอหนึ่งอีกครั้ง

"พี่แฟรงค์...นัทรักพี่ นัทอยากอยู่กับพี่ นัทอยากกอดพี่ นัทรักพี่คนเดียว พี่แฟรงค์ได้ยินเสียงหัวใจของนัทหรือเปล่า พี่แฟรงค์ได้ยินมั้ย"

... ... ...

ยังไม่ทันถึงเก้าโมงเช้าดีนัก รถตู้ของเราก็เลี้ยวเข้าสู่ถนนหมายเลขยี่สิบเอ็ดแล้ว ถนนสายนี้แยกจากถนนพหลโยธินบริเวณสามแยกพุแค อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี ขับตามถนนเส้นนี้ไปอีกราวๆ สองร้อยเจ็ดสิบกิโลเมตรก็จะถึงถนนหมายเลขสิบสองที่หล่มสัก เลี้ยวซ้ายเดินทางต่ออีกราวยี่สิบห้ากิโลเมตรก็จะถึงปลายทางที่ภูลู่ลมรีสอร์ท อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์

ผมเช่ารถตู้สองคันสำหรับพนักสิบห้าคน รวมผมและปอนด์ด้วย เนื่องจากผมเป็นเจ้าถิ่น จึงได้รับเกียรติให้นั่งตรงเบาะหน้าคอยบอกเส้นทาง รถตู้อีกคันที่ปอนด์นั่งอยู่คอยวิ่งตามหลัง ส่วนแฟรงค์ขับรถเบนซ์ตามมาหลังสุดพร้อมกับตุ๊กตาหน้ารถที่พ่วงตำแหน่งว่าที่เจ้าสาวด้วย

พนักงานที่มาก็มีคนสวน พนักงานบัญชี พนักงานที่ฟรอนท์ พนักงานที่ร้านกาแฟ ร้านเสริมสวย ฟิตเนสและร้านอาหาร ไม่มีพนักงานซักรีดหรือทำความสะอาดเพราะจ้างบริษัทข้างนอกมาดูแลให้

ป่านนี้สองคนหลังสุดคงขับรถไปคุยกันไปกระหนุงกระหนิง หลังๆ มานี้แฟรงค์ดูห่างเหินกับผมจนรู้สึกได้ แม้กระทั่งก่อนเดินทางก็ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ ผมเองก็มัวแต่ยุ่งๆ กับการจัดเตรียมทริปและประสานงานกับบริษัทต่างๆ ที่เข้ามาตีราคา

หลังจากทริปนี้เราก็จะเริ่มลงมือปรับปรุงรีสอร์ทขนานใหญ่ แฟรงค์กับเพียวและครอบครัวจะไปเที่ยวต่างประเทศตามที่วางแผนไว้ล่วงหน้าในช่วงนั้นด้วย นอกจากไปเที่ยวแล้วก็จะรับเฟิร์นกลับมาด้วยกันช่วงใกล้ๆ ปีใหม่ พอเฟิร์นกลับมาแล้วก็คงมาช่วยพี่ชายทำรีสอร์ทอีกแรง แว่วๆ ว่าเธออยากเปิดธุรกิจใหม่ด้วย แต่น่าเสียดายที่ผมคงไม่ได้อยู่เห็นทั้งเฟิร์นและการเติบโตของที่นี่

หลังจากเฟิร์นกลับมาแล้ว งานสำคัญอีกงานหนึ่งก่อนเปิดรีสอร์ทก็คืองานแต่งงานของแฟรงค์กับเพียว ถึงตอนนั้นผมคงไม่อยู่แล้ว ต่อให้ผมทำใจว่ารักแฟรงค์ในฐานะพี่ชายได้ ผมก็ยังไม่รู้เลยว่าจะมาร่วมงานด้วยหรือเปล่า กลัวว่ามาเห็นแล้วจะทำใจไม่ได้ คงให้แม่กับนิวมาแทนละกัน

หลังจากผ่านไปเกือบสามชั่วโมงเราก็มาถึงอำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่นี่มีร้านอาหารขึ้นชื่อเรื่องไก่ย่างหลายเจ้า หลายๆ คนคงเคยเห็นเฟรนไชส์ไก่ย่างวิเชียรบุรีมาบ้างแล้ว ต้นตำหรับมาจากที่นี่นี่เอง

ผมกับปอนด์ช่วยกันหาข้อมูลร้านอาหารเตรียมไว้หลายที่ สุดท้ายก็มาลงเอยที่ร้านไก่ย่างบัวตอง มีเปิดอยู่ด้วยกันสามร้านบนถนนหมายเลขยี่สิบเอ็ด พอดีอีกสองร้านปิดทำความสะอาด วันนี้จึงเหลือเพียงร้านเดียวให้เลือก

หลังจากที่รถมาจอดหน้าร้าน พวกเราก็เดินฝ่าแดดและย่ำพื้นหินกรวดเข้าไปในร้านที่เปิดโล่งทุกทิศทุกทางยกเว้นหลังคา มีลูกค้าเยอะพอสมควรในช่วงเที่ยงวัน โชคดีที่ยังพอมีโต๊ะเหลือให้พวกเรานั่งได้ครบทุกคน

พนักงานรวมถึงปอนด์นั่งกินข้าวด้วยกันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ มีเพียงแฟรงค์กับเพียวเท่านั้นที่แยกไปนั่งด้วยกันต่างหาก คงไม่ใช่เพราะแฟรงค์เจ้ายศเจ้าอย่างหรอก ผมเดาว่าเพียวคงมีเรื่องอยากคุยกับแฟรงค์สองต่อสองมากกว่า

พวกเรานั่งกินข้าวและคุยกันไปอย่างสนุกสนาน อาหารที่สั่งมาก็เป็นพวกอาหารอีสาน เช่น ข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ย่าง ลาบเป็ด ยำปลาดุกฟู รสชาติพอกินได้แต่ก็ไม่ถึงกับอร่อยเลิศ อาศัยว่าร้านใหญ่ ชื่อดังและติดถนนใหญ่ นักท่องเที่ยวจึงมากินกันหนาตา

ผมคอยชำเลืองมองไปที่โต๊ะของแฟรงค์กับเพียวบ่อยๆ คอยแอบมองดูใบหน้าและทรงผมใหม่ของแฟรงค์จากด้านข้าง ไม่ว่าจะมองด้านไหนแฟรงค์ก็ดูดีเสมอ แต่ผมคงไม่มีวาสนาได้อยู่เคียงข้างอีกแล้ว

ผมกินไปได้สักพักก็ขอตัวไปห้องน้ำ ทางที่จะไปนั้นต้องผ่านโต๊ะของแฟรงค์กับเพียวด้วย พอเดินไปใกล้ๆ ผมก็พยายามทำเป็นไม่มองและไม่สนใจ แต่หูเจ้ากรรมก็พลันได้ยินเสียงสองคนคุยกันลอยผ่านมา พอฟังดีๆ ก็พบว่าไม่น่าจะเป็นการพูดคุยที่รื่นรมย์

"อะไรกันน่ะพี่แฟรงค์ คบกันมาตั้งหลายปียังไม่รู้อีกเหรอว่าเพียวไม่ชอบกินผักชีใบเลื่อย ตักมาให้ทำไมเนี่ย"

"ขอโทษๆ พี่มัวแต่คิดยุ่งๆ ก็เลยลืม พี่ขอโทษนะเพียว"

เสียงแฟรงค์ฟังดูรู้สึกผิดพอสมควร แล้วผมก็ได้ยินเพียวทำเสียงจิ๊กจั๊กไม่พอใจ

"ทีเรื่องคนอื่นจำแม่นนะคะ แต่เรื่องของแฟนตัวเองกลับชอบลืม"

"เพียว ทำไมพูดอย่างงี้ล่ะ พี่ก็ขอโทษแล้ว"

"ก็มันจริงไหมล่ะคะ"

ผมเห็นท่าไม่ดีก็เลยรีบเดินหนีไป ไม่อยากฟังเรื่องผัวเมียตีกันให้ปวดหัวหรอก อีกอย่างก็ไม่ใช่เรื่องของผมด้วย พอเสร็จธุระ ผมเดินผ่านมาก็ยังเห็นแฟรงค์กับเพียวนั่งเงียบๆ สีหน้ายังคงบูดบึ้งทั้งคู่ พอแฟรงค์เหลือบมาเห็นผมก็ส่งยิ้มบางๆ มาให้ ผมยิ้มตอบพอเป็นพิธีแล้วก็รีบเดินจากไป

ผมกลับมานั่งกินข้าวกับเพื่อนพนักงานคนอื่นๆ ตามเดิม พอสบโอกาสเมื่อไหร่ผมก็อดหันไปมองที่โต๊ะนั้นอีกไม่ได้ สองคนนั้นก้มหน้าก้มตากินใครกินมันราวกับไม่รู้จักกัน ปราศจากเสียงพูดคุยกระหนุงกระหนิงอย่างที่ผมเพิ่งจินตนาการไว้ เพียวคงงอนแฟรงค์น่าดูเลย

ความสนใจของผมยังคงพุ่งไปที่แฟรงค์ ผมมองจอนผมและจมูกโด่งเป็นสันแล้วก็แอบยิ้มชื่นชม แฟรงค์ช่างมีเสน่ห์ในทุกมุมมองเสียจริง ผมคงมีความสุขไม่น้อยเลยถ้าได้เป็นคนนั้นที่อยู่ใกล้ๆ คอยออดอ้อน หยอกเล่นและดูแล

... ... ...

เราเดินทางมาถึงที่พักที่ภูลู่ลมรีสอร์ทเกือบๆ บ่ายสามโมง แม้ระยะทางจะไม่ไกลมากแต่เราก็ไม่เร่งรีบ ขับสบายๆ แถมยังแวะจอดปั๊มกันบ่อยๆ เข้าห้องน้ำบ้าง ซื้อของกินบ้าง

รีสอร์ทนี้ตั้งอยู่บนเนินดินสูงติดถนนหมายเลขสิบสอง มีลมพัดโชยเย็นๆ กระทบผิวกายตลอดเวลาสมกับชื่อภูลู่ลม พอเข้าเดือนธันวาคมแล้ว อากาศหนาวที่มาพร้อมลมแรงยิ่งทำให้หนาวมากขึ้น พอลงจากรถแล้วเราก็สัมผัสความหนาวได้ทันที

เพื่อนพนักงานตื่นเต้นกับความสวยงามของที่นี่กันใหญ่ วิ่งไปถ่ายรูปตรงนั้นตรงนี้ทั้งที่ยังไม่ได้เอาของไปเก็บที่ห้องเลย มองไกลออกไปจะเห็นทิวเขาสลับซับซ้อนอยู่รายล้อม นี่แหละบ้านเกิดของผมกับแฟรงค์ สถานที่ที่เราสองคนเติบโตมาด้วยกัน

พนักงานหนุ่มๆ ช่วยกันขนกระเป๋าลงจากรถ ส่วนผมเดินเข้าไปคุยกับเจ้าที่ที่ฟรอนท์เรื่องห้องที่จองไว้ ไม่นานก็ได้กุญแจห้องออกมาด้วย ปอนด์ก็ช่างน่ารัก ช่วยเอากุญแจไปแจกให้ทุกคนอย่างกระวีกระวาด

ผมเห็นหมาสองสามตัวมาป้วนเปี้ยนเล่นกับแขกที่มาพัก แม้จะเคยถูกหมากัดแต่ผมก็ไม่ถึงกับกลัวจนต้องวิ่งหนี ตรงกันข้าม เห็นทีไรผมก็มักจะอดเล่นด้วยไม่ได้ทุกที ผมย่อตัวลงไปนั่งเล่นกับหมาพุดเดิ้ลสีขาวๆ ตัวหนึ่ง มันเลียไม้เลียมือผมใหญ่ทั้งๆ ที่เพิ่งรู้จักกัน พลันสายตาของผมก็เหลือบไปเห็นแฟรงค์ยืนมองผมอยู่เงียบๆ พร้อมกับรอยยิ้มบางๆ ไม่รู้ว่ากำลังนึกถึงวันคืนเก่าๆ สมัยประถมอยู่หรือเปล่า เพราะผมถูกหมากัดนี่แหละเราถึงได้รู้จักกัน

ผมหยุดเล่นกับหมาตัวนั้นแล้วก็ยืนขึ้น น้องผู้ชายที่เป็นเจ้าหน้าที่ที่ฟรอนท์เตือนว่าระวังหมาตัวสีดำๆ ด้วยเพราะมันเพิ่งออกลูกและหวงลูกมาก ผมพยักหน้ารับรู้แล้วก็ยิ้มให้ พอหันกลับไปมองหาแฟรงค์อีกทีก็หายไปเสียแล้ว

ตามแผนที่วางกันไว้ พอเอากระเป๋าไปเก็บที่ห้อง ล้างหน้าล้างตาและพักผ่อนกันพอหายเหนื่อยแล้ว ปอนด์ก็จะให้ทุกคนมารวมตัวกันที่ห้องอาหารตอนสี่โมงเย็น ตรงนั้นจะเป็นทั้งที่กินข้าวเช้า ข้าวเย็นและจัดกิจกรรมสันทนาการด้วย ปอนด์เตรียมกิจกรรมต่างๆ ไว้ให้ทำตลอดสามวันสองคืนกันเลย

พอได้กุญแจครบแล้วพวกเราก็แยกย้ายกันไปตามบ้านหลังต่างๆ ของตัวเอง บ้านพักส่วนมากอยู่บนเนินลาดเอียง ผมพักอยู่ปีกขวา มีทางเดินเล็กๆ ทำด้วยคอนกรีตง่ายๆ นำทางไปจนถึงตัวบ้าน เลยไปหน่อยมีบ้านพักอีกสามสี่หลังติดๆ กัน แต่ละหลังพักได้สองถึงสามคน ส่วนหลังนี้ผมกับปอนด์จะพักด้วยกัน

พอถึงเวลานัดเราก็มาเจอกันที่ห้องอาหารทางปีกซ้าย แฟรงค์กับเพียวก็มาร่วมเล่นด้วย ทุกคนอยู่ในชุดสบายๆ พร้อมทำกิจกรรมทุกรูปแบบ เกริ่นนำนิดหน่อยแล้วปอนด์ก็เริ่มแนะนำกิจกรรมแรก ปอนด์อธิบายว่าให้เราเดินไปเรื่อยๆ จนกว่าจะสั่งให้หยุด เราอยู่ใกล้กับใครก็ให้จับคู่กับคนนั้น จับมือกับคู่ของเราแล้วก็ถามคำถามอะไรก็ได้ที่อยากถามคู่ของเรามากที่สุด แล้วปอนด์จะสุ่มถามว่าคู่ไหนคุยอะไรกันบ้าง

พอเข้าใจโจทย์ดีแล้ว เจ้าหน้าที่รีสอร์ทก็ช่วยเปิดเพลงให้ พวกเราเดินวนไปเวียนมาอย่างช้าๆ มีเสียงหัวเราะสลับพูดคุยเป็นระยะๆ สักพักเสียงดนตรีก็หยุดลงพร้อมกับเสียงปอนด์ที่ตะโกนบอกให้เราหยุดเดิน

คู่ของผมคนนั้นอยู่ตรงหน้าแล้ว ไม่ใช่ใครที่ไหน คนที่ผมแอบมองทรงผมใหม่บ่อยๆ นั่นเอง ผมไม่แปลกใจหรอกเพราะแอบเห็นแฟรงค์เดินตามหลังผมมาตลอด

แฟรงค์ยื่นมือมารอไว้ พอสายตาเราประสานกันก็เห็นแววประหม่าของทั้งคู่ ผมแทบจะลืมมองหาเพียวไปเลยเมื่อเห็นแฟรงค์อยู่ตรงหน้า แฟรงค์เผยอยิ้มน้อยๆ เป็นการเริ่มทักทายและสร้างบรรยากาศให้ผ่อนคลาย ผมจึงยื่นมือไปจับกับมือของแฟรงค์ไว้

"นัทสบายดีมั้ย"

แฟรงค์ถามเหมือนเราไม่ได้เจอกันนาน ทั้งที่ความจริงก็เจอกันแทบทุกวัน

"สบายดี แฟรงค์ล่ะ"

ผมถามไปเบาๆ ยิ้มน้อยๆ รู้สึกเขินเหมือนกันที่ต้องจับมือกันไป คุยกันไป

"แฟรงค์ก็สบายดี"

"เดินทางเหนื่อยหรือเปล่า"

"ไม่เท่าไหร่ แต่เหงาน่าดู"

"เหงาได้ไง แฟนก็อยู่ด้วย" ผมเอียงคอสงสัย

แฟรงค์ค่อยๆ ระบายยิ้มอย่างช้าๆ คงเขินเหมือนกันที่ต้องจับมือกัน

"ไม่มีใครแทนที่คนสำคัญของแฟรงค์ได้หรอก"

"อืม" ผมพยักหน้ารับรู้ แต่ก็ชักทำหน้าไม่ถูก

"แล้วนัทล่ะ เดินทางเหนื่อยมั้ย"

"ไม่เหนื่อยหรอก แต่นั่งนานๆ ก็เมื่อยหลังเหมือนกัน แฟรงค์ล่ะ ขับรถนานๆ ไม่เมื่อยเหรอ"

"ก็เมื่อยหลังเหมือนนัทแหละ"

ผมขำเบาๆ แล้วก็ถาม "กินข้าวกลางวันอร่อยมั้ย"

"ก็ดี พอกินได้" แฟรงค์ตอบด้วยรอยยิ้มที่หม่นลงเล็กน้อย ทะเลาะกับแฟนแล้วจะกินข้าวอร่อยได้ยังไง

"แล้วนัทล่ะ ชอบอาหารอะไรมากที่สุดตอนกลางวัน"

"ไก่ย่างนั่นแหละ แล้วก็ลาบเป็ด แฟรงค์ล่ะ แฟรงค์ชอบกินอะไรมากที่สุด"

"ก็ชอบไก่ย่างเหมือนกัน เสียดาย...ไม่มีไอติมให้กิน"

เราสองคุยไป ยิ้มไป หัวเราะไป พอผมกำลังจะอ้าปากถาม เสียงปอนด์ก็ตะโกนบอกให้เราหยุด

"หยุดครับๆ แต่ว่าจับมือกันไว้ต่อนะครับ อย่าเพิ่งปล่อย ทีนี้ ใครอยากเล่าครับว่าคุยอะไรกับคู่ของเราบ้าง"

มีคู่นั้นคู่นี้แลกเปลี่ยนให้ฟังหลายคู่ บางคู่ก็เล่าเรียบๆ บางคู่ก็เล่าตลกๆ ให้เพื่อนๆ หัวเราะ ตอนนี้แหละที่ผมเพิ่งสังเกตเห็นเพียว เธอจับคู่อยู่กับน้องผู้หญิงที่ทำงานที่ร้านกาแฟคนหนึ่ง สีหน้าของเธอดูเหมือนไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ สายตาของเธอมองมาที่ผมกับแฟรงค์อย่างแปลกๆ จนผมรู้สึกกลัว แฟรงค์เหมือนจะรู้ความคิดของผมจึงบีบมือผมแน่นขึ้น

"เอ้า คุณแฟรงค์ล่ะครับ มีอะไรจะเล่าให้พวกเราฟังมั้ยครับว่าคุยอะไรกับคุณนัทมั่ง"

ปอนด์หันมาถามคู่ของผมเข้าใจได้ ผมว่าจะอยู่เงียบๆ แกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้แล้วเชียว

"อ๋อ...ไม่มีอะไรครับ จริงๆ ผมกับนัทก็เจอกันเกือบทุกวัน แต่ช่วงหลังๆ ต่างคนต่างยุ่ง ก็เลยไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ ก็เลยถือโอกาสถามนัทว่าสบายดีหรือเปล่า เดินทางเหนื่อยมั้ย กินข้าวอร่อยมั้ย ประมาณนี้ครับ นัทมีอะไรจะเสริมมั้ย"

แฟรงค์หันมาถามผมที่ยืนอึดอัดใจอยู่

"ก็คล้ายๆ กับแฟรงค์ เอ๊ย...คุณแฟรงค์ครับ แล้วก็ถามด้วยว่าชอบอาหารอะไรมากที่สุดในร้านที่เราเพิ่งไปกิน ผมกับคุณแฟรงค์ก็ชอบกินไก่ย่างเหมือนกันครับ"

"เสียดายไม่มีไอติมให้กินเลย นัทเค้าชอบกินไอติมมาก"

แฟรงค์พูดแทรกขึ้นมาแล้วก็ขำ คนอื่นๆ ก็พลอยขำไปด้วย ยิ่งทำให้เพียวจับจ้องมองดูด้วยความสนใจ เพียวก็ชอบกินไอศครีมเหมือนกันแท้ๆ แต่แฟรงค์ไม่เอ่ยถึงเธอเลย

"โอเคครับ เดี๋ยวเราไปกิจกรรมต่อไปกันเลยดีกว่า อย่าเพิ่งปล่อยมือกันนะครับ แล้วก็ต้องอยู่กับคู่ของเราตลอดเวลา ห้ามเปลี่ยนคู่ รักเดียวใจเดียวนะครับ"

ปอนด์เว้นจังหวะหัวเราะ คนอื่นๆ ก็หัวเราะตามด้วย จากนั้นปอนด์ก็ให้ทุกคนจับมือกันเป็นวงกลม แล้วให้ทุกคนยื่นแขนที่จับกันไว้มาตรงกลางวง ให้มือทุกมือชนติดกันให้ได้ จากนั้นก็ให้นั่งลง จับมือกันไว้เหมือนเดิม แล้วยื่นขาของทุกคนเข้าไปกลางวงให้ขาทุกขาสัมผัสกัน ปิดท้ายด้วยการยืนขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เปลี่ยนจากขาเป็นหูบ้าง ปอนด์บอกให้เอาหูทุกหูชนกันให้ได้ คราวนี้เสียงหัวเราะสนุกสนานดังกว่าเดิม เพราะไม่ว่าจะพยายามยังไงก็ทำไม่ได้อยู่ดี แฟรงค์ก็ดูสนุกใหญ่ พยายามเอาหูมาแตะเล่นกับผมแล้วก็หัวเราะ พอใกล้ชิดกันอย่างนี้ ผมก็ยอมรับว่ารู้สึกดีไม่น้อย

ปอนด์ให้แต่ละคู่จับกลุ่มที่อยู่ใกล้กันให้ได้ครบหกคน แน่นอนผมก็ยังอยู่กับแฟรงค์เหมือนเดิมแต่มีคนอื่นๆ มาเพิ่มด้วย ส่วนเพียวก็ยังคงไม่ได้เข้ามาใกล้แฟรงค์เลย ถึงกระนั้นก็คอยชำเลืองดูตลอด

ปอนด์แจกกระดาษที่มีภาพลายเส้นขาวดำลายมันดาลาหรือลายมณฑลแบบต่างๆ ให้แต่ละกลุ่ม แจกดินสอสีให้ด้วย จากนั้นก็ให้คนในกลุ่มช่วยกันระบายสี แต่ต้องสร้างกติกาขึ้นมาก่อนว่าจะช่วยกันระบายสียังไง

กลุ่มผมตกลงกันว่าให้แต่ละคนแบ่งกันระบายสีส่วนต่างๆ ใช้สีได้ตามชอบ แฟรงค์ดูสนุกอีกแล้ว หยิบดินสอสีมาระบายลงบนรูปก่อนเพื่อน นั่งชิดไหล่ชนไหล่กับผมจนคนในกลุ่มมองอย่างสงสัย แฟรงค์คอยหันมายิ้มให้ผมบ่อยๆ ชวนให้ผมใช้สีนั้นสีนี้ ระบายตรงนั้นบ้าง ตรงนี้บ้าง จะว่าไปผมรู้สึกดีมากที่มีแฟรงค์อยู่ใกล้ๆ แต่คงจะดีกว่านี้ถ้าไม่มีสายตาของใครบางคนมองดูอยู่ แฟรงค์ก็ทำเหมือนไม่แคร์เอาเสียเลย

"คุณแฟรงค์ดูสนิทกับคุณนัทจังเลยนะคะ"

แก้วตาถามขึ้นมาในขณะที่เรากำลังระบายสีจนเกือบเสร็จแล้ว

"อ๋อ...ผมกับนัทโตมาด้วยกัน เราเกิดแล้วก็โตที่เขาค้อด้วยกันนี่แหละครับ หมู่บ้านที่ผมเคยอยู่ก็อยู่ไม่ไกลจากตรงนี้เท่าไหร่ ผมเรียนประถมกับนัท เจอกันตั้งแต่เด็กๆ เลย เราสองคนสนิทกันมาก ขี่จักรยานไปโรงเรียนด้วยกันทุกวัน ผมอายุห่างจากนัทสี่เดือนกว่าๆ แต่ก็เรียนคนละชั้นกับนัท ตอนเด็กๆ ผมยังเคยบอกนัทบ่อยๆ เลยว่าอย่าเรียกผมว่าพี่ เพราะว่าเราอายุห่างกันไม่เยอะ แต่เค้าก็ชอบเรียกผมว่าพี่บ่อยๆ อ้อ...แล้วนัทก็ชอบกินไอติมมาก เห็นผมเมื่อไหร่ต้องวิ่งมาขอกินไอติมทุกที"

แฟรงค์เล่าให้เพื่อนๆ พนักงานฟังอย่างอารมณ์ดี

"จริงเหรอคะ คุณแฟรงค์กับคุณนัทเกิดที่เขาค้อเหรอคะ ไม่ยักกะรู้มาก่อนเลย" แก้วตาทำสีหน้าแปลกใจ คนอื่นๆ ก็เช่นกัน

"จริงครับ เดี๋ยวถ้าขับรถผ่านจะชวนไปแวะดู"

"มิน่าล่ะ แก้วตาสังเกตว่าคุณนัทชอบเรียกคุณแฟรงค์ว่าแฟรงค์เฉยๆ บ่อยๆ เป็นอย่างงี้นี่เอง บังเอิญจังเลยนะคะได้กลับมาเจอกันอีก แถมยังมาทำงานด้วยกันด้วย เสียดาย...คุณนัทจะทิ้งพวกเราไปซะแล้ว"

แฟรงค์หันมามองผม ยิ้มแล้วก็ขำด้วยกัน ผมคงไม่ได้คิดไปเองหรอกว่าแฟรงค์ดูมีความสุขเวลาที่เราสองคนอยู่ใกล้กัน

พอเสร็จกิจกรรมวาดรูป เราก็เล่าแลกเปลี่ยนวิธีการระบายสีเป็นกลุ่มๆ จากนั้นปอนด์ก็ให้เราลงไปเล่นเกมตรงลานข้างล่าง เป็นเกมสุดท้ายก่อนกินข้าวเย็น เกมนี้ยังเล่นเป็นกลุ่มเหมือนเดิม แต่ละกลุ่มจะส่งสมาชิกทีละคนออกมายืนขาเดียว เท้าสะเอว แล้วก็หมุนคอ คนที่ยืนดูอยู่ช่วยนับดูว่าหมุนได้กี่รอบก่อนที่ขาจะตกพื้น พอขาตกพื้นต้องหยุดทันที ทำครบทุกคนแล้วก็เอาคะแนนมารวมกันทั้งกลุ่ม กลุ่มไหนทำได้เยอะที่สุดก็จะได้ของรางวัลพิเศษไป

พอเกมเริ่มเสียงหัวเราะก็มาทันที ดูเหมือนง่ายแต่เอาเข้าจริงก็ยากไม่ใช่เล่น ส่วนมากมักทำได้ไม่ถึงสิบครั้งต่อคน คนที่หมุนคอได้หลายรอบมักเป็นคนที่ร่างกายแข็งแรง ความสนุกจึงอยู่ที่ได้ลุ้นเวลาเพื่อนยืนโงนเงนจะล้มแหล่มิล้มแหล่นี่แหละ

พอถึงกลุ่มของผมบ้าง ผมก็ให้แฟรงค์ออกไปทำก่อนเพื่อน แฟรงค์หมุนคอได้ตั้งสิบแปดรอบ แสดงว่าแข็งแรงน่าดู จากนั้นคนอื่นๆ ก็ออกไปทำบ้าง

พอถึงคิวของผม ตอนแรกผมก็คิดว่าไม่น่าจะยาก แต่พอหมุนคอไปได้สองสามรอบก็เริ่มเวียนหัว กัดฟันทำไปได้เกือบสิบครั้งก็ไม่ไหว สุดท้ายก็ซวนเซจนทรงตัวไม่อยู่ แฟรงค์ตรงเข้ามาช่วยประคองได้ทันเสียก่อนที่ผมจะล้มก้นจำเบ้าไป

พอได้อยู่ในอ้อมแขนของแฟรงค์อีกครั้ง ผมก็ยิ่งรู้สึกหวั่นไหว แม้ว่าสายตาของใครคนนั้นจะมองมาก็ไม่อาจห้ามความรู้สึกของผมได้ เรายิ้มให้กันก่อนที่ผมจะทรงตัวลุกขึ้นยืนได้เอง พอแฟรงค์ปล่อยมือ เราก็แอบมองตากันด้วยความรู้สึกที่ยากจะบอก

พอเล่นเกมเสร็จแล้ว เราก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนที่ห้องชั่วคราวเพราะอาหารเย็นยังไม่พร้อม ผมมองหาปอนด์ไม่เจอก็เลยเดินกลับไปคนเดียว จู่ๆ แฟรงค์ก็วิ่งมาดักหน้าผมไว้ พอผมหยุดยืนมอง แฟรงค์ก็บอกผมว่า

"แฟรงค์คุยกับเค้าแล้ว ยังไม่สำเร็จ เค้าไม่ยอม"

แล้วแฟรงค์ก็เดินแกมวิ่งจากไป ผมยืนนิ่งครุ่นคิดสักพักก็เดินจ้ำอ้าวออกไปบ้าง บอกไม่ถูกเลยว่ารู้สึกยังไงกับเรื่องที่เพิ่งได้ยิน แล้วผมจะเอายังไงกับชีวิตของผมดี อีกไม่กี่วันก็จะกลับมาอยู่บ้านกับแม่แล้ว แต่แฟรงค์ก็ยังพยายามที่จะเลิกกับเพียวให้ได้อีก เพื่อผมหรือเปล่า...

พอมาถึงหน้าห้องพักผมก็หยุดยืนนิ่งอีกครั้ง แหงนหน้ามองท้องฟ้าใสๆ ยามหน้าหนาวของเขาค้อ แล้วก็ถามตัวเองในใจว่า ผมควรจะเดินหน้าสู้เพื่อความรักเหมือนแฟรงค์ หรือควรจะหยุดแล้วจากกันไปทางใครทางมัน


- TBC -[/center]

ชอบงานใคร อย่าลืมบวกเป็ด/คอมเมนต์ให้นักเขียนทุกคน ทุกเรื่อง ทุกตอนนะครับ :)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-03-2017 12:44:37 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
คนอ่านๆแล้วรู้สึกว่าความรู้สึกของแฟรงก์ที่มีต่อนัทนี่ออกนอกหน้ามากๆ   เพียวก็พยายามยื้อไว้    แต่พออ่านจากมุมมองของนัทแล้วก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ เพียงแต่ว่านัทถอดใจไม่สู้ไปก่อนแล้ว   หยุดไม่ให้ข้ามความเป็นพี่เป็นน้อง   กลัวว่าเพียวไม่ยอมแล้วแฟรงก์จะทำเหมือนสนที่เฉยจนกว่าอีกฝ่ายจะทนไม่ได้เอง

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
ทุกเรื่องที่อ่านมานะค่ะชอบแนวดรามาของคุณSarawatta มากคือมันอ่านแล้วมันอินไปกับตัวละครทุกตัว
แฟร้งนี้ก็รักนัทมาก มากจนแยกไม่ออกว่าเขาอยากมีนัทเป็นน้องชายหรือเป็นคนรักกันแน่ด้วยคำจำกัดว่าเพศแต่พอมาเจอเพียวที่มีอะไรคล้ายๆนัททำให้เขารู้ใจตัวเองว่าเขารักนัทแบบไหน แต่กว่าจะรู้เขาก็กำลังจะแต่งงานกับเพียวอยู่แล้วลงรากฐานความรักจนมั่นคงแล้วแต่มาสั่นคอนเอาตอนที่เขาเจอนัทอีกครั้ง เราก็เข่้าใจเพียวนะเรียกได้ว่ามาเกินครึ้งแล้วเรียกได้ว่ากลับตัวก็ไม่ได้เดินต่อไปก็ยังไม่รู้ชะตากรรมแต่ก็พยายามจะเดินไปให้ถึง หรือเขาเรียกว่ายื้อนั้นแหละ  :เฮ้อ:   ส่วนนัทก็เหมือนพยายามหลอกความรู้สึกตัวเองพยายามบอกตัวเองว่าแฟร้งคือพี่่ชายแค่พี่ชาย...ที่จริงนัทรักแฟร้งมาก..ความรู้สึกของนัทบอกตรงๆว่ามันหน่วงจนบรรยายไม่ถูก  :ling3: :ling3: :ling3:

ปล..ตั้งแต่อ่านมาเรื่องนี้ภาษาสละสลวยกว่าเรื่องต้น-สนค่ะและรู้สึกว่าบรรยายได้ละเอียดอ่อนกว่ามากค่ะ พออ่านพี่แฟร้งก็เห็นภาพรักแสดงพี่โป๊ปทันที   o13 o13 

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
ชอบตอนนี้จังคับ แฟรงค์กับนัทดูมีความสุขดีคับ ความรักสวยงามเสมอ ๕๕๕ แฟรงค์ปล่อยของเด็้ดให้นัทเอาไปคิดอีกแล้วว่าจะถอยหรือเดินหน้าสู้พร้อมแฟรงค์ แม่นางเพียวก็ดูตลอด ไม่รู้ว่าแม่นางจะยอมรับได้หรือป่าวถ้ารู้ว่าแฟรงค์รักนัท
   รอ รอ รออ่านตอนต่อไปคับ ลุ้นนัทจะเดินหน้าหรือถอยหลัง แฟรงค์พานัทหนีไปอยู่เขาค้อเลย ๕๕๕

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
อึดอัดแทนทั้ง 3 คน

ตอนนี้เราขอนอกใจแฟรงค์กับนัทไปเอาใจช่วยเพียวแทน

ไม่ใช่เอาใจช่วยให้ได้แต่งกับแฟรงค์นะ แต่เอาใจช่วยให้เพียวผ่านช่วงเวลาที่รู้สึกว่าต้องเหนี่ยวรั้งความสัมพันธ์นี้เอาไว้

ไม่รู้ว่า แฟรงค์บอกเหตุผลหรือคุยกับเพียวอย่างไรบ้าง

คนไม่รักกัน หักหลังกัน ไม่มีค่ากับหัวใจเธอหรอกเพียว
ขอให้เธอเข้มแข็งและเดินออกจากความเจ็บปวดนี้ไปเถอะนะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด