สามเพื่อนซี้นั่งอยู่ในร้านจนครบหมดเวลาก็พากันออกมาเดินเล่นย่อยหมูย่อยปลาที่กินเข้าไป ไอ้เหมอกับชนะเดินรั้งท้าย ปล่อยไอ้กวิ้นให้เดินนำดูของใช้นั่นนี่ไปเหมือนปกติ แต่คราวนี้ที่ต่างเพราะมือของคนรูปหล่อกุมมือไอ้เหมอไว้
“เดินไหวไหม” ชนะถาม สีหน้าเป็นห่วงเป็นใยจนไอ้เหมอต้องยิ้มกว้าง
“ไหว ไม่ได้เป็นไรมากหรอก”
“โดนตีเพราะไปนอนบ้านผมเหรอ”
“เปล่า โดนตีเพราะไม่ได้บอกที่บ้านอ้ะ” ไอ้เหมอบีบมืออีกฝ่ายกลับไปแผ่วเบา “แต่มีคนเป็นห่วงอย่างนี้ ก็หายแล้วล่ะ มดง่ามกัดเจ็บกว่านี้อีก”
“เก่งตลอด”
“แน่นอนสิ เสมอซะอย่าง” ไอ้เหมอได้ที โม้เป็นวรรคเป็นเวร “แล้วเป็นไงมั่ง...”
“ก็...โสดแล้ว” ชนะตอบ “ตอนนี้ผมมีแค่เหมอนะ ถ้าเหมอทิ้งผมไปผมก็ไม่มีใครแล้วจริงๆ”
“ไม่ทิ้งหรอก ใครจะทิ้งคนรูปหล่อได้ลง อิอิ” ไอ้เหมอยิ้มหน้าบาน จนไอ้กวิ้นที่หันหน้ากลับมามองเพียงแว้บถึงกับอยากติดต่อมันไปรับสัญญาณทีวีที่บ้าน คงชัดแจ๋วยิ่งกว่าจานดาวเทียมบางรุ่น
“เหมออยากได้อะไรไหม...” ชนะเอ่ยถาม เดินผ่านช็อปต่างๆ ก็ไม่เห็นไอ้เหมอมันสนใจเลยสักที ตรงข้ามกับไอ้กวิ้นที่แวะดูนั่นนี่จนตอนนี้มันได้นาฬิกาเรือนใหม่มาประดับข้อมือมันอีกเรือนแล้ว ส่วนเรือนเดิมถูกถอดทิ้งอย่างไม่ใยดีอยู่ในกระเป๋าเป้ที่มันสะพายเรียบร้อย
“ไม่อ่ะ ซื้อไปก็ไม่ได้ใช้ เอาเข้าโรงเรียนก็โดนยึดอีก” ไอ้เหมอตอบอย่างอารมณ์ดี ขณะกำลังรอไอ้กวิ้นเลือกกางเกงยีนส์ “นะเถอะ จะซื้ออะไรรึเปล่า กางเกงตัวนี้ก็สวยนะ ใส่แล้วสาวคงมองตรึม”
ไอ้เหมอมองกางเกงยีนส์ที่หุ่นนายแบบกำลังสวมใส่ รูปร่างของชนะก็ไม่ได้ต่างจากไอ้หุ่นตัวนี้เท่าไหร่ ถ้าใส่แล้วคงมาดแมนแฮนด์ซั่มน่าดู
“รับค่าโฆษณาจากทางร้านแน่เลยเสมอ” ชนะหัวเราะแล้วหันไปบอกกับพนักงานที่รอให้บริการอยู่ไม่ไกล “พี่ครับ ผมขอลองแบบนี้”
“ได้ค่ะ ใส่ไซส์อะไรคะ”
ชนะบอกรายละเอียด ไม่นานพนักงานก็กลับมาพร้อมกางเกงยีนตามขนาดไซส์ที่ต้องการ คนรูปหล่อจึงจูงมือไอ้เหมอไปทางห้องลอง
“เข้าไปช่วยดูหน่อย” ชนะบอกแค่นั้นก็ดึงไอ้เหมอเข้าห้องไปด้วยกัน ทำเอาไอ้หัวเกรียนอ้าปากหวอ ใบหูแดงระเรื่อ
“ไอ้เหมอ อดทนไว้นะมึง อย่าปล้ำไอ้นะกลางร้าน” ไอ้กวิ้นที่ได้ยินทุกบทสนทนาเอ่ยแซวมาจากห้องลองห้องข้างๆ
“เดี๋ยวเถอะไอ้กวิ้น หุบปากไปเลยไอ้สัด”
ได้ยินเสียงหัวเราะจากไอ้กวิ้นเพื่อนโง่แล้วก็อดที่จะอยากประเคนเท้าใส่มันไม่ได้ ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้สิ่งล่อใจคือรูปร่างสมส่วนของพ่อดาวประจำใจของมันล่ะก็...ไอ้กวิ้นไม่เหลือซาก
ชนะเป็นผู้ชายที่ไม่ชอบใส่บ็อกเซอร์เสียเท่าไหร่ เพราะมีนับตัวได้ ส่วนใหญ่เขาใส่กางเกงในผ้าเนื้อดีแบรนด์ดังเสียมากกว่า แถมสีผ้าก็ดึงความเซ็กซี่ของคนรูปหล่อออกมาจนไอ้เหมอกลืนน้ำลายครั้งแล้วครั้งเล่า มันมองความตุงใหญ่ของอีกฝ่ายด้วยสายตาลามก แต่ก็ทำได้แค่ข่มอารมณ์ข่มใจ
“พอดีเลย” ไอ้เหมอบอกเสียงพร่า เมื่อเห็นชนะกำลังติดกระดุม
“อยากได้ที่เป็นซิป แบบกระดุมดูไม่ค่อยสะดวก”
“นะลองตัวอื่นไหม เดี๋ยวเหมอไปถามพนักงานให้”
“เหมอคิดว่าไงอ่ะ ดีรึเปล่าล่ะ”
“ก็ดีอ่ะ แต่เอาที่นะใส่แล้วสบายดีกว่า เหมอเห็นอีกตัวเมื่อกี้ สีซีดๆ อ่ะ ไม่รู้เรียกสีอะไร แต่สวย นะใส่คงเท่” ไอ้เหมอไม่เคยรู้เรื่องแฟชั่นเพราะตลอดชีวิตการเรียนของมันใส่แต่กางเกงขาสั้น เสื้อยืดสีขาวขลิบแดง ไม่ก็ชุดฝึก หรือเครื่องแบบตามปกติของมัน
“อื้ม งั้นเหมอไปถามพนักงานให้ที ผมรอที่นี่”
“ได้ครับ ชนะรอแป๊บนึง”
“แล้วรู้ไซส์เหรอ”
“รู้ดิ๊ รู้ทุกสัดส่วนของชนะแหละ”
“เสมอทะลึ่ง”
“ฮี่ๆ รอนะครับ เดี๋ยวมา”
ไอ้เหมอรีบออกไปถามกับพนักงานถึงแบบกางเกงที่มันโม้ให้สุดที่รักฟังไปแล้วว่าสวย บอกไซส์ที่ชนะใส่กับพนักงาน พอรับกางเกงตัวใหม่แล้วก็รีบนำเข้าไปให้คนรูปหล่อลองใส่
“เป็นไง เหมอตาถึงป้ะ ใส่กับช็อปได้ไหม” ไอ้เหมอยิ้มภูมิใจเมื่อเห็นว่ากางเกงตัวสวยอยู่บนเรือนกายของคนรูปหล่อแล้วยิ่งดูดีไปใหญ่
“ได้...สีก็ค่อนข้างสุภาพ” ชนะสำรวจตัวเองในกระจกก่อนจะมองสบตากับไอ้เหมอ “ใส่สบายด้วย ผมเอาตัวนี้”
“อื้ม ใส่กับช็อปแล้วถ่ายรูปส่งมาให้เหมอนะ จะเอาไปอัดเก็บไว้ดูตอนไปฝึกภาคสนาม”
ชนะพยักหน้า แต่ใบหน้าหงอยลง “ไปอีกแล้วเหรอ”
“อืม ก็ต้องไปทุกปี” ไอ้เหมอยิ้มเอาใจ “สองเดือนไม่นานหรอก แป๊บเดียว”
“นานดิ คนรออ่ะนาน แล้วไปเมื่อไหร่”
“อีกนาน เหมอแค่พูดเผื่อไว้ ป่ะ ไปจ่ายเงินได้แล้ว เดี๋ยวไอ้กวิ้นรอ ตัวนี้เหมอซื้อให้นะ”
“ไม่เอา ผมจ่ายเอง”
“อยากซื้อให้ เวลาใส่จะได้คิดถึงเหมอ”
ชนะอดไม่ได้ที่จะยกมือลูบหัวเกรียนๆ ของไอ้เหมอ “งั้นเหมอเลือกของที่อยากได้มาหนึ่งอย่าง ผมจะซื้อให้เหมือนกัน”
“โอเค...”
กางเกงยีนส์ของชนะถูกสั่งจ่ายผ่านบัตรเครดิตของพี่สมัย ไอ้เหมอยิ้มกริ่มถูกใจที่ได้ซื้อของให้กับสุดที่รักของมัน ก่อนจะเดินนำชนะกับไอ้กวิ้นออกจากช็อปกางเกงยีนส์แบรนด์ดังไปยังร้าน Daiso ที่แปะป้ายราคาเริ่มต้น 60 บาทของสิ้นค้าเกือบทุกรายการในร้าน สิ่งที่ไอ้เหมออยากได้เป็นเพียงกรอบรูปสวยๆ เท่านั้น
“เอาอันนี้จริงเหรอ”
“อืม อันนี้แหละ ซื้อกดดันให้ใครบางคนที่ไม่ชอบถ่ายรูปต้องถ่ายส่งมาให้”
“ฮ่าๆๆ แผนสูง” ชนะมองไอ้เหมออย่างเอ็นดู “ผมจะถ่ายส่งให้ตามสัญญา”
ไอ้เหมอเลือกกรอบรูปแบบพลาสติกและค่อนข้างทนทาน เพราะคิดถึงลักษณะใช้งานที่ค่อนข้างสมบุกสมบันแล้วก็ไม่อยากได้แบบที่แตกง่าย
“ไอ้กวิ้น กูไปจ่ายเงินแล้วรอนอกร้านนะ” ทั้งๆ ที่ไอ้เหมอเป็นคนเดินนำเข้าร้าน แต่ไอ้กวิ้นกลับเป็นผู้ช็อปกระจายยิ่งกว่า มันได้แก้วสวยๆ หลายใบ มีกระปุกออมสินที่คนไม่ชอบออมเงินอย่างมันเลือกไปหลายแบบด้วย ไม่รู้ซื้อไปให้ห้องรกขึ้นอีกทำไมทั้งๆ ที่มันไม่เคยคิดจะใช้งาน
“เออๆ” ไอ้กวิ้นรับคำแล้วหันไปเสาะหาสินค้าตามความต้องการของมันต่อ
ไอ้เหมอเดินนำกรอบรูปไปจ่ายเงิน โดยคนจ่ายคราวนี้เป็นคนรูปหล่อของมันที่ควักแบงค์พันจ่ายกับของราคา 60 บาท โชคยังดีที่ไม่ได้โดนพนักงานมองแรง
“อยากได้อะไรอีกไหม” ชนะถาม มองของราคาถูกในมือไอ้หัวเกรียนแล้วก็รู้สึกไม่สมราคากับกางเกงยีนส์ที่มันซื้อให้เลย
“นาฬิกา หรือเครื่องประดับอะไรก็ได้”
“ไม่อ่ะ ไม่ชอบใส่ แต่ถ้าเป็นแหวนแทนใจจากนะก็อยากใส่นะ อิอิ” ไอ้เหมอมันหยอดได้ทุกสถานการณ์จนชนะหัวเราะแล้วหัวเราะอีก
“เอาไหมล่ะ เคยเห็นช็อปขายพวกแหวนทองคำขาวอยู่ชั้นสาม เราไปดูกันก็ได้ เลือกที่เหมอชอบเลย”
“เฮ้ยย เอาจริง” ไอ้เหมอที่หยอดไม่ได้หวังผลถึงกับเหวอ
“ผมคนจริง” ชนะไม่ได้มีแววเล่น “รอไอ้กวิ้นซื้อของเสร็จแล้วเราไปกัน”
“อะ...อื้ม”
“หรือเอาแบบฝังเพชรไหม ผมเคยเห็นป๋าซื้อให้เพี้ยน สวยเหมือนกัน”
“มันแพงไป เหมอกลัวทำหาย” ไอ้เหมอแสร้งพูดทั้งที่ใจมันระริกระรี้สุดชีวิต ความจริงต่อให้เป็นแหวนทองชุบ ไอ้เหมอก็เต็มใจรับ
“ของที่ผมให้...เหมอจะไม่รักษามันดีๆ เหรอ” ชนะถาม สายตาคาดคั้น
“เปล่า...โอเค ตามใจนะ เหมอไม่ขัด”
ด้วยเพราะเหมอไม่ขัด พอไอ้กวิ้นออกจากร้าน ชนะก็จูงมือไอ้เหมอไปที่ร้านเพชรทันที ถ้าลำพังไอ้เหมอกับไอ้กวิ้นเดินเข้าร้าน คงถูกพี่ยามหน้าดุเชิญออกจากร้านเป็นแน่ เพราะหน้าตาเข้าข่ายโจรแถมยังแต่งตัวได้เหมือนอยู่กับบ้านตัวเอง แต่เพราะมีคนหน้าหล่อ ที่พ่อก็เป็นสมาชิกระดับวีไอพีของที่นี่อยู่แล้ว ลูกชายที่ติดตามมาด้วยบ่อยๆ จึงเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตา ไอ้เหมอกับไอ้กวิ้นจึงได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี ไม่ต้องไปยืนดูเพชรในตู้โชว์ให้เมื่อยตุ้ม มันเดินไปนั่งโซฟาหรูพร้อมกับคนรูปหล่อที่เอ่ยบอกเพชรที่ต้องการดูให้พนักงานรับฟัง
“เดี๋ยวพี่เขาเอามาให้ เหมอก็เลือกแบบที่ชอบ” ชนะบอกแล้วยิ้มให้
“หยุดๆๆๆ พวกมึง มาไกลถึงจุดนี้ได้อย่างไร จุดที่มึงซื้อแหวนให้ไอ้เหมอหัวเกรียนนี่” ไอ้กวิ้นเบรกภาพบรรยากาศหวานหยดด้วยความสงสัยของมัน
“แปลกเหรอ...กูแค่ซื้อแหวนให้เพื่อน” ชนะถาม แววตาสื่อความหมายบางอย่างที่ไอ้กวิ้นพูดแทบไม่ออก แต่ไอ้กวิ้นก็ยังเป็นไอ้กวิ้นที่ชื่อมันผิดกับสปีชีส์ที่มันเป็น
“แล้วกูอ้ะ กูก็เพื่อน ซื้อให้กูบ้างดิ ไอ้นะมึงแม่งโคตรลำเอียง ไม่เคยเห็นหัวเพื่อนที่ประคบประหงมดูแลมึงอย่างกู ไอ้เชี่ยยย”
ไอ้เหมอตบหัวไอ้กวิ้นเป็นรอบที่ร้อยของวันเพราะทนเห็นไอ้เพนกวิ้นมันดีดดิ้นไม่ไหว “ไม่โวยดิ มึงแค่เพื่อน แต่กูโคตรเพื่อน เข้าใจความสำคัญความต่างด้วย”
“โอ้ยย มึงนี่โคตรกล้าพูด” ไอ้กวิ้นยังคงดิ้นต่อไป คราวนี้มันไม่ยอมแน่ ไอ้เหมอได้เพชรเชียวนะ!
“เดี๋ยววันเกิดมึงก็ได้...นี่ให้เหมอก่อน ใกล้วันเกิดเหมอแล้ว”
“ได้ข่าวกูเกิดก่อนไอ้เหมอ แล้ววันเกิดกูก็อีกตั้งห้าเดือน มึงแม่งแถไม่เนียนไอ้สัด”
“อย่าว่าสุดที่รักกู อะไรที่นะพูดก็เชื่อตามนั้น ไม่เถียง เข้าใจไหมไอ้โง่” ไอ้เหมอรีบตรงรี่เข้ากระซิบ “มึงอย่าสงสัยอะไรให้มาก เดี๋ยวนะมันรู้ตัวว่าทำอะไรกูอดได้เพชร ส่วนแบ่งน่ะจะเอาไหม ถ้ากูขายนี่รวยเชียว ไม่ต้องเป็นมันแล้วทะหงทหารเนี่ย”
ไอ้เสือเหมอเริ่มนิสัยโจรห้าร้อย กระซิบกระซาบวางแผนกับไอ้เพนกวิ้นเสียดิบดี “มึงไม่หลอกกูนะ ต้องแบ่งกูด้วย”
“เออๆ ตอนนี้มึงตามน้ำไปก่อน แล้วก็ดูแลนะมันด้วย ตามที่ตกลงกันเหมือนเดิม”
“ก็ได้ แล้วค่าจ้างกูเดือนนี้อ้ะ มึงยังไม่จ่ายเลย”
“พี่หมัยบอกว่าจิ๊กซอว์ที่มึงอยากได้มันหายาก กำลังสั่งกับเพื่อนที่บินไปต่างประเทศให้อยู่ รอหน่อยดิวะ”
“ก็แล้วไป นึกว่ามึงลืม”
“ไม่ลืม จ่ายช้าอย่างนี้กูแถมเลโก้แบบที่มึงอยากได้ให้ด้วย”
“โอ้ยย ไอ้เหมอ ไอ้เพื่อนรักเพื่อนทูนหัวของกู ไปซะ มึงจะทำอะไรกับที่รักของมึงก็ไป กูไม่ขัดละ อิอิ”
ไอ้กวิ้นพอได้สุขสมใจ ก็ทำตัวนิ่งเงียบเรียบร้อย แม้ชนะจะสงสัยที่ไอ้สองเพื่อนซี้กระซิบกระซาบกันก็ไม่มีโอกาสได้ถามเพราะพนักงานเดินนำแคตตาล็อคแหวนทองคำขาวฝังเพชรออกมาให้เลือกพอดิบพอดี
“วงนี้ดีไซน์สวยค่ะ มีสองวงในร้านที่เป็นคู่กัน เพราะผลิตจากช่างมือหนึ่งของเรา เขาผลิตแค่ปีละไม่กี่วงเท่านั้น สนนราคาอยู่ที่...” ไอ้เหมอฟังราคาเลขหลายหลักแล้วก็ถึงกับกลืนน้ำลายหน้าซีด กระตุกชายเสื้อพ่อดาวประจำใจของมันแล้วส่งสายตาบอกว่า ไม่เอา มันแพง ถ้าทำหายนี่มีหวังร้องไห้ข้ามปี หรือรู้สึกผิดไปตลอดชาติ ไม่แน่ว่าชาติหน้าก็ยังไม่คลายความเสียใจที่ทำมันหาย
“ทำไมอ่ะ ไม่ชอบเหรอ”
“เปล่า...มันสวย แต่...แพงอ่ะ” แพงมากกกกก เอาเบี้ยเลี้ยงนักเรียนนายร้อยมารวมกันตั้งแต่ขึ้นเหล่าของไอ้เหมอก็ยังไม่ได้เสี้ยวของตัวเลขเศษๆ ข้างหลังราคาเต็ม
“สำหรับลูกค้า VVIP เรามีส่วนลดนะคะ” พนักงานยังคงยิ้มแย้มเชียร์การซื้อ หักลบกับส่วนลดแล้วเสนอราคาให้ฟังแต่ไอ้เหมอก็ยังคิดว่ามันแพงอยู่ดี แต่พ่อดาวประจำใจทายาทนักธุรกิจใหญ่กลับมองเป็นแค่ราคาปกติธรรมดา
“ผมเอาสองวง สลักชื่อลงบนตัวแหวนได้ไหม”
“ได้ค่ะ”
“งั้นจัดการให้ทีนะครับ วัดไซส์นิ้วผมกับคนนี้” ชนะชิ้นิ้วมาทางไอ้เหมอที่ยิ้มแหย หน้าซีด ส่วนไอ้กวิ้นนั้นตาลุกวาวเพราะคิดถึงส่วนแบ่งจากการขายแหวนราคาแพงที่มันจะได้ ไม่ได้รู้เลยว่าไอ้เหมอเพื่อนยากมันโกหก
“ได้ค่ะ”
“แล้วได้เมื่อไหร่ครับ”
“ประมาณต้นเดือนหน้าค่ะ เพราะช่างต้องหลอมตัวแหวนและสลักลายเองทั้งหมด เป็นงานฝีมือที่ค่อนข้างละเอียดจึงต้องใช้เวลานานสักหน่อย”
ชนะตัดสินใจรวดเร็วจนไอ้เหมอเบรกไม่ทัน จัดการจ่ายมัดจำที่เป็นเงินจำนวนเยอะกว่าราคากางเกงยีนส์ของเหมอเสร็จก็พากันเดินออกจากร้าน
“นะ...ถ้ารู้สึกเหมือนจะลอยก็บอกเหมอนะ จะได้จับไว้”
“หืม?”
“จ่ายไปเยอะ ตัวคงเบา”
“ฮ่าๆๆ มุกเหรอนั่น” ชนะหัวเราะ มองมือไอ้หัวเกรียนจับอยู่ที่แขน “ไม่เบา เงินป๋า ไม่ใช่เงินผม”
“อ้าว...อย่างนี้ก็เหมือนพ่อของนะซื้อให้เหมออ่ะดิ ขุ่นแม่เพี้ยนจะหึงไหมเนี่ย”
“บ้า... ผมล้อเล่น เงินผมสิ”
“ค้ายาเหรอ ทำไมเงินเยอะ”
“ทำงานสุจริตเนี่ยแหละ... แต่โดนป๋าบังคับทำมากกว่า เพิ่งรู้ว่ามีประโยชน์ก็วันที่ได้ซื้อของให้เหมอ”
ชนะปากหวานมาก หวานจนไอ้เหมอบิดตัวเขินอายกลางห้าง
“ต่อจากนี้ผมจะตั้งใจทำงาน... เหมอจะได้สบาย ดีไหม”
“อืม...ดีก็ดี”
ไอ้กวิ้นที่ยอมรับปากกับไอ้เหมอว่าจะอยู่นิ่งๆ ไม่ขัดถึงกับอดไม่ได้
“ไอ้นะ มึงจีบไอ้เหมอมันเหรอวะ เกิดอะไรขึ้น กูตกข่าวอะไรไปปปปปป กูแค่ต่อจิ๊กซอว์คืนเดียว โลกหมุนกลับด้านเลยเหรอ!”
“เปล่า...ไม่ได้จีบ ก็คุยกับเหมอเหมือนปกติ ดูเหมือนจีบเหรอ” ชนะถามกลับ สีหน้าเรียบนิ่งไม่แสดงอารมณ์จนไอ้กวิ้นถึงกับอ้าปากพะงาบๆ หมดคำพูด
“อย่าไปสนใจไอ้กวิ้นเลย มันก็บ้าบอแบบนี้ กลับเถอะ ดึกกว่านี้เหมอโดนตีอีกแน่เลย”
ไอ้เหมอจับมือชนะเดินหนีไอ้กวิ้นที่ยังคงเป็นนกใบ้อยู่จนถึงเดี๋ยวนี้
...คุยปกติบ้านมัน มีบอกจะตั้งใจทำงาน เพื่อให้ไอ้เหมอมันสบาย กูไม่ปกติหรือพวกมันไม่ปกติกันแน่วะ!.....................................................................TBC.............................................................
น้องกวิ้นลูกกก หนูนั่นแหละที่ไม่ปกติ เพื่อนๆ เขาปกติกันหมดดดดด รักเสมอก็คือความเสมอที่เรื่อยๆ เรียงๆ ไม่มีเหวี่ยงโลดโผน รักกันเบาๆ สบายๆ นะจ้ะ
