Last Chapter : With you.“เพราะเรา เราทั้งคู่ ถึงไม่มีเจน สักวัน แม่ก็ต้องรู้ แล้ว แล้วก็จะเป็นอย่างนี้ ฮือ...”
+กานต์ ศักดิ์..+
“พอเถอะ กานต์เสียพ่อไปคนแล้ว ถ้าแม่มาเป็นอะไรไปอีก กานต์จะทำยังไง แล้วนี่ ถ้าแม่เป็นอะไรจริงๆ
ก็เพราะกานต์ กานต์ทำให้แม่ผิดหวัง ไม่งั๊นแม่คงไม่เป็นอย่างนี้ ศักด์ กานต์ขออะไรอย่างได้ไหม”
+ได้ ไม่ต้องกลัวนะ เพื่อกานต์ ศักดิ์ทำให้ได้เสมอ+
“สัญญาสิ ฮือๆ สัญญามาสิ ได้ไหม”
+ศักดิ์ สัญญา+
“ศักดิ์ช่วย.. ช่วยออกไปจากชีวิตกานต์ได้ไหม”
นั่นเป็นคำขอสุดท้าย ที่ผมพูดออกไป กับคนที่เขารักผมมากที่สุด ซึ่งเขาก็เป็นคนที่ผมเพิ่งจะรู้หัวใจตัวเอง
ว่าก็รักเขามากที่สุดเช่นกัน แต่ในเมื่อเรื่องราวมันเป็นมาถึงขั้นนี้ ผมยอมได้ ผมยอมที่จะเจ็บ ดีกว่าที่จะต้องให้ผู้หญิง
ที่รักและดูแลผมมาตลอดต้องมาทุกข์ใจ จนต้องเข้าโรงพยาบาลแบบนี้ ผมยังจำได้ดี วันที่มาถึงโรงพยาบาล
เจนนั่งสติแตกอยู่หน้าห้อง ICU มือทั้งสองข้างมีเลือดเปรอะไปทั่ว เจนบอกว่า เจนเอารูปที่ผมกำลังกอดกับศักดิ์ให้แม่ดู
ตอนนั้น แม่เงียบไป แล้วก็ขอตัวเข้าไปในครัว สักพักก็ได้ยินเสียงเหมือนของหล่นลงมา สิ่งที่ได้พบคือ คุณแม่ที่นอนอยู่กับพื้น
และเริ่มมีเลือดไหลออกมาจากศีรษะ นั่นเองทำให้ผมตัดสินใจว่า ผมควรจะหยุดสิ่งที่ผมกำลังทำ และจบทุกเรื่องราว
ทุกอย่างที่ผมและศักดิ์กำลังเป็น
วันนี้ผมก็ยังคงอยู่เฝ้าแม่ เป็นวันที่ 2 แล้ว เมื่อเช้าหมอบอกว่า แม่มีอาการดีขึ้น วันนี้น่าจะฟื้น
/กานต์/
“แม่ แม่ครับ กานต์ กานต์ขอโทษครับแม่ กานต์ทำให้แม่เสียใจ แต่ต่อไป จะไม่มีเรื่องแบบนี้อีกแล้วนะครับ”
/เดี๋ยวลูก ช่วยแม่นั่งหน่อยซิ/
“น้ำครับแม่”
/กานต์ เมื่อกี๊เราว่าอะไรนะ/
“เอ่อ คือ กานต์บอกแม่ว่า เรื่องที่เจนบอก กานต์จะไม่”
/รู้แล้ว แม่รู้มานานแล้วหละ/
“แม่...รู้ แล้วแม่ไม่เสียใจ อะไร”
/เสียใจ ทำไมแม่ต้องเสียใจ ในเมื่อกานต์ลูกแม่เป็นเด็กดี ศักดิ์แม่ก็เห็นมาตลอด แล้วไม่ใช่เพราะศักดิ์
หรอกเหรอ ที่ทำให้ลูกแม่สดใสได้จนมาถึง ก่อนวันนี้ อีกอย่างนะลูก ไม่ว่าจะเป็นแม่คนไหนก็ตาม
เพื่อความสุขของคนที่เป็นลูกแล้วละก็ คนที่เป็นแม่ รับได้เสมอ ต่อให้ปากจะดุ
จะด่ายังไง แต่ในสุดท้ายแล้ว ถ้าลูกคนนั้นมีความสุขดี คนที่เป็นแม่จะยิ่งมีความสุขมากกว่านะ รู้ไหม/
“ขอบคุณครับแม่” คงจะจริงอย่างที่ใครเขาว่า ต่อให้เราจะดีร้ายยังไง คนเป็นแม่ ก็ยังคงเป็นแม่ของเราอยู่ดี
/แล้วเจ้าศักดิ์ล่ะ กลับบ้านไปแล้วเรอะ/
“ไปแล้วครับ กานต์ไล่ศักดิ์ไปแล้ว”
/กานต์ครับ แม่ไม่รู้หรอกนะว่าเราคิดยังไง แต่สำหรับแม่ ที่เป็นแบบนี้น่ะ มันไม่เกี่ยวกับเรื่องของลูกๆเลย
อีกอย่าง แม่คงทนได้ ถ้าต้องเห็นเราไม่ร่าเริงเหมือนเดิม รีบไปเถอะ/
“ผมรักแม่ที่สุดเลยครับ”
โอกาสไม่บ่อยนักที่จะมีครั้งที่สอง ผมเคยปล่อยให้ครั้งแรกหลุดมือไป แต่คราวนี้ ผมจะสร้างมันขึ้นมาเอง
-------------------------------------------------------
วันที่ 2 แล้วสินะที่ผมยังคงมาวนเวียนอยู่ตามที่ต่างๆ ที่ซึ่งมีความทรงจำของผมและกานต์อยู่
ก่อนที่เราจะต้องกลายเป็นคนที่ไม่รู้จักกัน อย่างน้อยขอให้ได้เก็บความทรงจำดีๆเหล่านี้ไว้ก็พอ
+ไรวะเนี่ย ไม่รู้เรื่องเลย ไหงบอกง่ายไงวะ ให้มาทำตอนเช้าก็ทัน+

ผมด่าไอ้เพื่อนเฮงซวยที่มันก็นั่งบื้อ ไม่รู้เรื่องเหมือนๆกัน ก็การบ้านแคลนี่สิครับ ยากหินใครทำได้ก็เก่งแล้ว
--ศักดิ์ มึงไม่ลองถามน้องหน้าใส่ของมึงวะ นั่นอะ--
+ใครบอกของกู อย่ามาทะลึ่ง กูแค่เห็นว่าผู้ชายอะไร หน้าแมร่งใสเวอร์แค่นั้นเอง+ ท่าทางไม่เคยตายไอ้นี่
--เออๆ กูรู้ แกล้งมึงเล่นหรอก แต่กูเห็นมันนั่งนิ่งเลยว่ะ สงสัยเสร็จแล้วแหง มรึงไปยืมมาดิ๊--
+ห่านี่ เออๆ+
+เอ่อ นายชื่อกานต์ใช่ปะ+
“รู้แล้วยังถาม เพ้อป่าวนาย” อ้าวไอ่นี่ เพิ่งเคยคุยกันกวนตีนซะแล้ว
“เฮ้ย ล้อเล่น ไรวะ แค่นี้ทำหน้าดุ จะเดินมาถามการบ้านแคลดิ ฝันไปเหอะ” เออ ไม่เอาก็ได้วะ
+ไรวะ ไอ่ห่านี่ ไม่ให้ก็บอกดีๆก็ได้นี่หว่า กั๊กฉิบ+
“ไม่ได้กั๊ก แต่ว่า ไม่ได้เหมือนกัน ลอกมั่งดิ แหะๆ”
+ฮ่าๆ กุก็นึกว่าเมิงเก่ง ถุ๊ย+ หวานเลยมั๊ยล่ะครับ บทสนทนาแรกระหว่างผมกับกานต์
.
..
....
..
+เฮ้ย กานต์ วันนี้กูไม่ไปแดกติมกะมึงแล้วนะ แต่จะไปกะน้องไอซ์แทน+
“เวร แล้วนัดไมวะเนี่ย ค้างเลยดิ แต่ช่างแมร่ง ถือว่าทำบุญว่ะ ไม่แน่ หมามันอาจมีคู่ก็ได้”
+แสรด+
วันนั้นเลิกเรียนผมก็นัดเจอกับไอซ์ น้องเขาน่ารักครับ ดูคุยง่ายๆดี เราเดินคุยกันมาเรื่อยๆ จนผ่านหน้าร้านไอศกรีม
แล้วก็ได้เห็นหน้าคนในร้านคนนึงกำลังนั่งซัดไอศกรีม กับต่าย สาวรุ่นพี่ของแผนกของผม
‘ไอ้กานต์นี่หว่า แมร่งเอ๊ย’ อยู่ดีๆผมก็หงุดหงิดขึ้นมาซะงั้น สงสัยเพราะมันมากินไม่รอผมแน่ๆ
+ไอซ์ เดี๋ยวพอดีเรามีธุระน่ะ แยกกันตรงนี้เลยแล้วกันนะ บายๆ+ ไอซ์ก็คงงงพอดูครับ แต่ที่งงกว่า
ก็คงเป็นตัวผมเองนี่แหละ ผมเดินเข้าไปในร้าน แล้วก็ลากตัวไอ่กานต์ออกมาเลย โดยที่ไม่ลืมวางเงินค่าไอศกรีมไว้กับต่ายด้วย
“ไอ้ศักดิ์ อะไรของมึงวะเนี่ย กูกำลังแดรกเพลินๆ “
+เออ มีต่ายมากินด้วยนี่หว่า เพลินเลยสิมึง แมร่ง แค่นี้รอกูไม่ได้นะ+
“อ้าวทีมึงยังไปกับน้องไอซ์อะไรนั่นได้เลย ทีงี๊มาบ่นกู แล้วนี่ไปแดรกรังตรีนเอ้ยรังแตนที่ไหนมา แล้วมาลงกะกูเนี่ย”
นั่นสิ ผมเป็นอะไรไป.
..
...
..
ชีวิตในช่วงนั้นของผม ก็ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ โดยทุกๆวัน ก็จะมีผมกับกานต์ กานต์กับผมวนเวียนไปๆมาๆ
กันเป็นประจำ โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่า วันนึง ผมจะรัก เพื่อนของผมคนนี้ มากกว่า คำว่า “เพื่อน”
แต่ช่างเถอะครับ ยังไงเรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว และไม่ว่ายังไง ไม่ว่าเขายังต้องการผมอยู่หรือไม่ คนมันรักไปแล้ว
จะให้ทำไงได้ ก็คงได้แต่แอบมองอยู่ไกลๆ
*ศักดิ์ โหยตามหาแกแทบแย่ มานั่งทำมิวสิคอะไรตรงนี้ยะ โทรหาก็ไม่รับนะ ปะ พวกที่เหลือรอนานแล้วนะ*
เฮ้ย นี่ผมเดินคิดอะไรจนมาถึงสถาบันเลยเหรอเนี่ย
+เออๆ ว่าแต่ไปไหนอะ+
*ก็ไปหาไรกินกันที่ร้านประจำไง วันนี้มีดนตรีสดด้วยนะ* คงจะหมายถึงร้านที่อยู่แถวๆสนามบินน้ำละมั๊ง
+ไปเลยปะ ขอเปลี่ยนชุดก่อนได้มะ+
*ไม่ต้องปล่งต้องเปลี่ยนมันแล้วแก ไปเหอะปล่อยให้ เพื่อน รอนานไม่ดีนะแก เด๋วไม่รอขึ้นมาละ จะเสียใจ*
เพื่อนรอนาน มันก็จะน่าเสียใจยังไง ปกติผมกับกานต์ก็ไปถึงสายกว่าคนอี่นๆอยู่แล้ว เฮ้อ เผลอคิดถึงจนได้แฮะ
สุดท้ายผมก็เลยต้องไปทั้งๆที่ยังอยู่ในชุดเน่าๆนี่แหละครับ แต่นี่ไม่ใช่ปัญหา เรื่องที่กังวลคือ กานต์จะมามั๊ย
แล้วถ้ามา ผมก็คงจะกลับเลย เพราะกานต์คงไม่พอใจเท่าไหร่นัก
‘ต่อไปจะเป็นการแสดงพิเศษของค่ำคืนนี้นะครับ พอดีมีลูกค้าประจำของเราท่านนึง มีเรื่องผิดใจกับคนรักนิดหน่อย
ลองมาดูกันดีกว่าครับว่าเขา จะขึ้นมาทำอะไร’ สิ้นเสียงของพิธีกรบนเวที สิ่งที่ผมเห็นทำให้ผมต้องหันกลับไปมองหน้าเพื่อนๆ
เพราะตอนนี้คนที่ขึ้นไปอยู่บนนั้นก็คือกานต์พร้อมกับกีตาร์ เท่าที่จำได้ กานต์เล่นกีต้าร์ไม่เป็น
แต่ด้วยหลักฐานที่เป็ฯพลาสเตอร์หลากชิ้นที่นิ้วของกานต์ ทำให้รู้ได้ว่า กานต์คงจะหัดมาเมื่อเร็วๆนี้แน่
ถึงว่าทำไมพวกมันต้องคะยั้นคะยอให้ผมมาให้ได้
“ก่อนที่ผมจะร้องเพลง เพลงนี้ ผมอยากจะขอโทษ กับสิ่งที่ผมได้ทำให้กับคนที่รักผมที่สุด เขาทำเพื่อผมมาตลอด
วันนี้ผมขึ้นมาเพื่อขอโทษ และขอให้อย่าตกใจนะครับ ถ้าผมจะบอกว่า คนที่รักผมมากที่สุด
และผมก็รักเขาเช่นกัน เป็น ผู้ชาย ถ้าเป็นไปได้ ไม่ว่าเขาจะยกโทษให้ผมได้หรือไม่ อย่างน้อยวันนี้ผมก็ได้บอกว่า
ผมรักเขา และขอบคุณสำหรับสิ่งที่ได้ทำเพื่อผม ตลอดมา
อยากจะขอบคุณ ที่รู้ใจเข้าใจ สิ่งดีๆที่ให้มา
อยากจะขอบคุณที่สัญญาหัวใจ ไม่มีวันห่างเหิน
กับคนหนึ่งคนที่ไร้วันเวลา หมดกำลังจะก้าวเดิน
จากคนที่เคยเจ็บเหลือเกินที่ใจกลับกลายเป็นเบิกบาน
ผ่านคืนวันโหดร้ายนานเหมือนชั่วกาลป์
กลับมีคนห่วงใยกันสุขใจทุกวันมีเธออยู่ข้างกาย
เริ่มรู้จักความหวาน กับรักลึกซึ้งหมดใจ
เริ่มรู้จักความหมายของคืนวัน
แค่คนหนึ่งคนกับหัวใจให้เธอ หมดไปเลยที่ฉันมี
จะเป็นจะตายจะร้ายดี ไม่แคร์ ไม่เคยจะหวั่นไหว
จะมีแต่เธอที่แสนดี ร่วมทาง ตราบจนวันที่สิ้นใจ
หนึ่งวันจะนานสักเท่าไร ถ้าไกลห่างเธอไปสักวัน
ให้เธอได้ยินเสียงจากใจฉัน ที่จะคอยบอกทุกคืนวัน
ว่ารักเธอ
เสียงใจฉันเอง ร้องเพลงให้เธอฟังอยู่
คือเสียงดังจากใจ ร้องเพลงที่ใครไม่อาจฟัง
เสียงใจฉันเอง ร้องเพลงให้เธอฟังอยู่
คือเสียงดังจากใจ ร้องเพลงทีฟังเข้าใจ.. เพียงเราเฮ...วี้ว เสียงปรบมือดังขึ้น หลังจากที่เสียงเพลงของกานต์จบลง ไม่อยากเชื่อเลยว่า นี่คือเรื่องจริง
ผมเดินจูงมือกานต์ออกมาข้างร้าน เพราะถ้าคุยในร้านโดยที่มีไอ่ 3 ตัวนั้นนั่งอยู่ด้วย คงไม่สะดวกแน่
“ขอโทษ ขอโทษนะศักดิ์ กานต์รู้ว่ากานต์มันเห็นแก่ตัว วันดีคืนดีก็ไล่ศักดิ์ไป พอวันนี้ก็จะมาบอกว่าขอโทษ ศักดิ์จะ”
+พอแล้วกานต์ ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ศักดิ์ไม่เคยโกรธ จริงๆแล้วศักดิ์ผิดเอง ถ้าศักดิ์บอกเรื่องนี้ไปตั้งแต่ เรื่องก็คงไม่เป็นแบบนี้ แล้วนี่แม่เป็นไงมั่ง+
“แม่รู้ แม่รู้มานานแล้ว จริงๆแล้วไม่เกี่ยวกับเรื่องของศักดิ์เลย กานต์ขอโทษ”
ผมกอดกานต์ไว้นานแสนนาน เผื่อความรู้สึกของผมมันจะส่งผ่านไปถึงกานต์ได้ ถึงแม้กานต์จะดูเป็นคนที่กวนๆ สักแค่ไหน
แต่ผมรู้ จริงๆแล้วกานต์เป็นคนอ่อนไหวมาก แต่ต้องแสดงให้ดูว่าแข็งแกร่ง เพื่อปกปิดส่วนที่เป็นความรู้สึกจริงๆไว้แค่นั้นเอง
“ศักดิ์รักเราเหมือนเดิมได้ไหม กานต์เพิ่งรู้ หลังจากวันนั้น กานต์ไม่เคยมีความสุขเลย กานต์ กานต์แค่”
+ไม่ ศักดิ์คงกลับไปรักกานต์เหมือนเดิมไม่ได้+
“กานต์รู้ ไม่เป็นไรหรอก แค่นี้มันก็มากพอแล้วหละ ขอบคุณนะศักดิ์”
+ที่ศักดิ์กลับไปรักกานต์เหมือนเดิมไม่ได้ เพราะไม่มีวันไหนเลยที่ ความรักที่ศักดิ์มีให้กานต์ มันลดน้อยลงต่างหากเล่า+

“ไอ่ศักดิ์บ้า แล้วหลอกให้ร้องไห้อยู่ได้ นี่แน่ะ” ทำไมมันน่ารักขนาดนี้นะ แต่จะว่าไป ที่ตีมาที่ไหล่ผมนี่มันก็เจ็บเหมือนกันนะเนี่ย
+เฮ้ย จะเล่นบทนางเอกในหนังพิศาลหรือไง ต่อยอีกทีจูบนะ+
“ทำไมจะไม่กล้า นี่ อุ้บ.......”
ท่ามกลางราตรีกาล ในเมืองหลวงแห่งนี้ บางคนอาจนอนหลับฝันถึงใครต่อใคร บ้างก็ยังคงทำงานของตนเอง
แต่จะมีใครรู้บ้างไหมว่า ยังมีคนอีก 2 คน ถึงแม้จะเป็นแค่จุดเล็กๆบนเมืองนี้ แต่ก็กำลังก่อเกิดความรักที่ยิ่งใหญ่ต่อกัน
บางครั้ง ความรัก ก่อให้เกิดพลังอันยิ่งใหญ่ให้กับคนหลายคน
บางครั้ง ความรัก ก่อให้เกิดแรงใจเพื่อให้อีกคนได้ก้าวเดินต่อไป
แต่หลายครั้ง ความรัก ก็ทำให้คนหลายคนต้องทนทุกข์ใจ
แต่สุดท้าย ผู้คนมากมายเหล่านั้น ก็ยังคนเดินทางเพื่อเสาะหาความรักอยู่ดี
แต่กระนั้น ยิ่งเราพยายามไขว่คว้ามากเท่าไหร่ ความรักก็เหมือนกับจะวิ่งหนีเราออกไปทุกที
ตรงกันข้าม หากเราอยู่เฉยๆ บางทีความรักก็จะเข้ามาทักทายเราเอง
ผลที่ได้รับ มันจะสุข หรือทุกข์ ก็ขึ้นอยู่กับว่าเรา จะรับมือกับความรักนั้น และรักษามันไว้ได้หรือไม่ ก็เท่านั้นสุดท้าย ขอให้ทุกท่าน มีความสุขกับความรักที่มีนะครับ
ขอขอบคุณที่ติดตามเรื่องนี้มาจนจบ ทั้งๆที่มันไม่ได้เรื่องเลย
ขอบคุณสำหรับทุก คอมเมนท์ ขอสัญญาว่า จะนำไปพัฒนาให้ดีขึ้นครับ ขอบคุณครับ
