วันไหนเพลียๆเบลอๆจะไม่ฝืนสังขารแล้วเหอๆ..เนื้อเรื่องผิดเพี้ยนสับสนไปหมดเลยดีนะที่มีคนสังเกตุเห็นแล้วมาบอกให้เลยแก้ไขทันท่วงที...
.
.
วันรุ่งขึ้นมาพอตื่นนอนก็อาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปมหาลัยฯเหมือนปกติแต่วันนี้ไอ้ต่อกลับไม่ยอมลุกจากที่นอนยังฟุบอยู่แบบนั้นจนเราต้องเดินไปสะกิดปลุก..
.
"เมิง..ตื่นได้แล้วไม่ไปเรียนเหรอไงกรูแต่งตัวเสร็จแล้วเนี่ย.." พูดไปมือก็เขี่ยๆตัวให้มันตื่น
"อือ....กรูปวดหัวมากเลย..เมิงไปเรียนเถอะถ้ากรูลุกไหวเดี๋ยวกรูตามไป.." มันตอบกลับมาทั้งหน้ายังฟุบอยู่กับหมอนน้ำเสียงงัวเงียสุดๆ
"ไปหาหมอมั้ย..กรูพาไป.." คิดเอาเองว่าถ้าพูดแบบนี้มันคงยอมไปหาหมอดีๆ
"ไม่ๆ...ไม่เป็นไรกรูขอนอนเท่านั้นแหละ..เมิงไปเรียนเถอะ.."
.
มันพูดจบแล้วก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงตัวเราเห็นแบบนั้นก็ป่วยการจะพูดต่อเลยเดินลงไปข้างล่างก่อนออกจากบ้านก็ฝากแม่ดูแลไอ้ต่อมันด้วยเผื่อมันจะเป็นอะไรมาก(ดีที่วันนี้แม่หยุดงานพอดี)พอมาถึงมหาลัยเรียนไปจนหมดช่วงเช้าแบบไม่ค่อยจะสบายใจเท่าไหร่นัก(เป็นห่วงมัน)พอช่วงเที่ยงๆจึงโทรกลับไปหาแม่ที่บ้านกะจะถามอาการไอ้ต่อดูซักหน่อยเสียงสัญญาณรอสายดังอยู่สี่ครั้งแม่ถึงมารับ
.
"แม่เหรอ...ต่อมันเป็นไงบ้างอ่ะครับ..ดีขึ้นมั้ย.." ก็ถามไป
"อ้าว..ไม่ได้เจอกันเหรอ..แม่เห็นพอเราออกไปซักชั่วโมงกว่าๆเค้าก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าออกจากบ้านตามไปบอกว่าจะไปมหาลัยฯ" หา...ไหนมันว่าไม่สบายไง..
"อ้าวเหรอ...ไม่เจอครับ..มันหายแล้วเหรอเห็นบอกปวดหัวหนักตื่นไม่ไหว.." รู้สึกหวิวๆในใจนิดหน่อยเมื่อรู้ว่าไอ้ต่อโกหก
"เค้าก็คงดีขึ้นแล้วมั้งแม่ก็เห็นเค้าเหมือนจะไม่เป็นอะไรแล้วนะตอนออกไป..." มันคงไม่รู้ว่าเราฝากแม่ดูมันไว้เลยไม่ได้แกล้งทำไม่สบายตอนออกไป
"ครับแม่..ขอบคุณมากครับแค่นี้ก่อนนะ.."
.
กดวางสายแล้วเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าก่อนจะนั่งลงบนม้านั่งตัวที่อยู่ใกล้ๆอย่างมึนงงไปหมดหลังจากนั่งคิดอยู่ซักครู่หนึ่งก็เลยลองกดโทรศัพท์โทรเข้าเครื่องไอ้ต่อดูเสียงเพลงรอสายดังขึ้นแต่ไม่มีคนรับเรารอจนสายตัดเข้าวอยส์เมลบอกซ์แล้วจึงต่อสายใหม่อีกครั้งแต่คราวนี้กลับเปลี่ยนเป็นปิดเครื่องติดต่อไม่ได้ในหัวตอนนั้นคิดอะไรเลวร้ายวุ่นวายไปหมดเฝ้ากดโทรซ้ำไปนับครั้งไม่ถ้วนทั้งที่รู้ว่าไม่มีประโยชน์อะไรมันปิดเครื่องไปแล้วและในตอนนั้นเองก็เกิดนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้เลยรีบเดินกลับไปหาไอ้เอ๋ที่นั่งลอกเลคเชอร์อยู่ม้าหินอ่อนหน้าคณะทันที..
.
"ไอ้เอ๋...ไอซ์มาเรียนมั้ยวันนี้.." เดินไปนั่งลงแล้วยิงคำถามทันทีจนไอ้เอ๋สะดุ้งด้วยความตกใจ..
"เปล่า..ไม่ได้มานี่.." มันตอบแล้วก้มหน้าลอกเลคเชอร์ต่ออย่างขยันขันแข็ง...
"แล้วมันไปไหนบอกเมิงมั้ย.." ยังซักต่อจนไอ้เอ๋หันมามองหน้าแบบงงๆ
"ไม่ได้บอก..มันจะมาบอกกรูทำไมล่ะ.." เสียงมันเริ่มรำคาญๆ
"งั้นบ้านไอ้ไอซ์อยู่ไหนเมิงบอกทางมา.." เหอๆ..เอางี้เลยแล้วกัน
"อะไรของเมิงเนี่ย.." ไอ้เอ๋ปิดหนังสือแล้วหันมามองทำหน้างงเป็นไก่ตาแตก
"เออน่ะเมิงไม่ต้องถามมากบอกกรูมาจบ..."
.
ในที่สุดก็เค้นเอาที่อยู่ไอ้ไอซ์จากปากไอ้เอ๋มาจนได้พอกำลังจะเดินออกไปก็เจอไอ้แหม่มพอดีเลยขอร้องแกมบังคับให้มันไปเป็นเพื่อน(จะได้ใช้รถมันด้วยเดินทางสะดวกหน่อยเหอๆ..)ระหว่างทางการจราจรบนท้องถนนค่อนข้างติดขัดขณะที่รถติดไฟแดงอยู่กลางสี่แยกนั้นไอ้แหม่มก็พูดขึ้นมา..
.
"แกแน่ใจแล้วเหรอว่ามันอยู่ด้วยกัน...ไปหาแล้วไม่เจอนี่หน้าแหกนะ.." ถ้ากรูแหกเมิงก็แหกด้วยแหละ...เหอๆ
"ไม่รู้อ่ะ..คิดอะไรไม่ออกแต่รู้สึกว่าถ้าเจอไอ้ไอซ์ก็เจอไอ้ต่อ.." รู้สึกแบบนั้นจริงๆ
.
ไอ้แหม่มเงียบไปไม่พูดอะไรต่อเพียงครู่หนึ่งรถก็เคลื่อนตัวออกจากสี่แยกไฟแดงขับไปตามเส้นทางที่ไอ้เอ๋บอกมาประมาณสิบนาทีรถก็มาจอดที่หน้าบ้านหลังหนึ่งหลังจากดูว่าบ้านเลขที่ตรงกับที่ไอ้เอ๋บอกมาแล้วจึงเปิดประตูลงไปก่อนจะยืนลังเลอยู่หน้ากริ่งประตูเมื่อเหลียวหลังกลับไปมองไอ้แหม่มยืนพิงรถแล้วพยักเพยิดให้กดกริ่งประตูซะในที่สุดก็ตัดสินใจกดไปเสียงกริ่งดังจนได้ยินออกมาถึงข้างนอกไม่นานนักไอ้ไอซ์ก็เปิดประตูออกมา
.
"มากันได้ไงเนี่ยทั้งสองคนเลย.." ถึงจะถามอย่างนั้นแต่น้ำเสียงของมันดูไม่ค่อยประหลาดใจเท่าใหร่นัก
"คือ.." จะพูดไงดีล่ะ
.
อ้ำอึ้งอยู่นานไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไงดีไม่ให้น่าเกลียด
.
"เอาตรงๆแล้วกันไอซ์..ไอ้ต่อมันอยู่ที่นี่มั้ย.." ไอ้แหม่มคงทนรำคาญไม่ไหวเลยเดินมาพูดเอง
"มันจะมาอยู่นี่ได้ไง..ไม่อยู่หรอก.." ไอ้ไอซ์ปฏิเสธแต่ไม่รู้ทำไมตัวเรากลับรู้สึกมั่นใจมากขึ้นว่าไอ้ต่อต้องอยู่ที่นี่แน่นอน
"เหรอ..แล้วนายพอรู้มั้ยว่าเค้าไปไหนเห็นพลาดมันบอกว่านายคุยโทรศัพท์กับไอ้ต่อมันเมื่อวานนี่" พกมันมาด้วยก็ดีแฮะ..ยิงคำถามได้ตรงประเด็นทุกเม็ด..
"เราจะไปรู้ได้ไงแหม่ม..ถ้ารู้เราก็บอกไปแล้ว.." ไอ้ไอซ์พูดยิ้มๆบรรยากาศรอบตัวตอนนี้กดดันมากราวกับมันสองคนกำลังเล่นสงครามประสาทกันอยู่..
"โอเค๊..ไม่รู้ก็ไม่เป็นไรเอาเป็นว่าถ้าติดต่อไอ้ต่อได้ก็ช่วยบอกพลาดมันด้วยแล้วกันนะ..เค้าเป็นห่วงแฟนเค้า.." ไอ้แหม่มพูดแล้วดึงแขนเราพาให้กลับไปที่รถ
.
ขณะที่กำลังหันหลังจะเดินกลับไปนั้นพลันสายตาก็เหลือบไปเห็นรองเท้าผ้าใบเน่าๆของไอ้ต่อที่มันใส่ประจำวางหลบอยู่ตรงมุมประตูวินาทีนั้นโดยไม่ทันได้คิดอะไรทั้งสิ้นเราสะบัดแขนไอ้แหม่มจนหลุดแล้วเดินไปหยุดที่ประตูรั้ว..
.
"ไอ้ไอซ์..เปิดประตู.." พยายามข่มตัวเองไม่ให้เสียงหลุดสั่นออกมา..
"อะไรของนายเนี่ย..ก็บอกแล้วว่าไม่มีๆจะเอาอะไรอีกเหรอ.." ไอ้ไอซ์พูดแล้วหันหลังทำท่าจะเดินกลับเข้าบ้านไป
.
ในตอนนั้นเองรู้สึกควบคุมตัวเองไม่อยู่ยกขาขึ้นเตะประตูรั้วอย่างแรงจนเสียงดังลั่นไอ้ไอซ์หันกลับมาอย่างตกใจ
.
"จะเปิดหรือไม่เปิด.." ก้มหน้าพูดมือกำแน่นอะไรหลายๆอย่างในอกมันจวนเจียนจะระเบิดออกมาอยู่รอมร่อ..
.
ไอ้แหม่มรีบเดินมาจับแขนรั้งเอาไว้เมื่อไอ้ไอซ์เดินมาเปิดประตูให้เมื่อบานประตูเปิดอ้าออกเราสะบัดแขนไอ้แหม่มแล้วเดินตรงดิ่งเข้าไปในตัวบ้านทันทีเดินเข้าห้องนั้นออกห้องนี้แต่ก็ไม่เจอไอ้ต่อ..
.
"เป็นไงล่ะ..ก็บอกแล้วว่าไม่มีๆ.." ไอ้ไอซ์พูดพลางนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องรับแขก
.
หันไปมองหน้าไอ้แหม่มมันส่ายหัวเบาๆเหมือนกับจะบอกว่า.."เมิงไม่น่าเลย.." ขณะที่กำลังจะกลับออกไปแต่แล้วในตอนนั้นก็ได้ยินเสียงจามที่คุ้นหูของใครบางคนดังแว่วมาจากห้องนอนชั้นสองไอ้ไอซ์หน้าซีดทันทีและวิ่งตามมาในขณะที่ตัวเราวิ่งขึ้นบันไดนำหน้าไปก่อนแล้วและเมื่อประตูห้องนอนเปิดออกแม้จะเตรียมใจเอาไว้แล้วก็ยังอดจะตกใจกับสิ่งที่เห็นอยู่เบื้องหน้าไม่ได้...
.
"ไอ้ต่อ...เมิงมาทำอะไรที่นี่.." ถามอะไรโง่ๆ..ใช่มั้ย..
"พลาด..เมิงมาได้ไง.." ไอ้ต่อยันตัวผลุดลุกขึ้นจากเตียงแล้วถามสีหน้ามันตอนนั้นดูตกใจกับการปรากฏตัวของเรากับไอ้แหม่ม..
"กรูจะมายังไงก็เรื่องของกรู..กรูถามมึง!!! ว่ามึงมาทำอะไรที่นี่..." สิ่งที่อดกลั้นไว้เริ่มล้นออกมาทีละนิดน้ำเสียงของเราเริ่มสะกดกลั้นไว้ไม่ไหวและเปลี่ยนเป็นตะโกน..
"กรู.." ไอ้ต่อพูดได้เท่านั้นก็เงียบไป..
"ไหนเมิงบอกกรูว่าเมิงไม่สบายไง..กรูเป็นห่วงเมิงช่วงเช้าแทบเรียนไม่รู้เรื่อง..โทรกลับไปหาแม่ตอนเที่ยงถามอาการเมิงกะว่าถ้าไม่ดีขึ้นจะไม่เรียนช่วงบ่ายแล้วกลับไปพาเมิงไปหาหมอ..แล้วไงล่ะ..เมิงโกหกกรู..ทีนี้เมิงตอบกรูมาสิว่าเมิงมาทำอะไรที่นี่.."
.
ตะโกนใส่หน้าไอ้ต่อออกไปเสียยาวเหยียดมันไม่พูดหรือโต้เถียงอะไรออกมาแม้แต่คำเดียวกลับก้มหน้ารับฟังราวกับยอมรับในสิ่งทั้งหลายทั้งปวงที่เราพูดออกไปในที่สุดไอ้แหม่มก็พูดออกไปอย่างทนไม่ได้
.
"ต่อ..แกก็บอกพลาดมันไปสิ..ว่าแกมาที่นี่ทำไม..แกไม่บอกมันก็ไม่รู้มีอะไรจะอธิบายก็บอกมันไปอย่าให้มันคิดไปเองคนเดียวแบบนี้" มันพูดแล้วเดินมาจับแขนเราไว้
"กรูบอกไม่ได้..." ไอ้ต่อพูดออกมาเพียงเท่านี้
"บอกไม่ได้ใช่มั้ย.." พอกันที...
.
ยกแขนขึ้นปลดสร้อยข้อมือออกมากำไว้แน่นไอ้ต่อมองดูแล้วทำสีหน้าราวกับจะเอ่ยปากห้ามแต่ช้าไปแล้วเราขว้างออกไปใส่หน้ามันสร้อยเงินกระทบหน้าผากจนได้แผลเลือดออกซิบๆมันก้มลงเก็บสร้อยที่หล่นไปอยู่บนพื้นขึ้นมาแล้วมองหน้าเราด้วยแววตาราวกับจะร้องให้
.
"กรูก็ไม่อยากฟังเมิงโกหกแล้วเหมือนกัน.."
.
พูดเพียงเท่านั้นแล้วก็เดินลงบันไดลงมาไอ้แหม่มรีบเดินตามมาอย่างรวดเร็วเราหยุดเดินกลางคันและหันมองย้อนกลับไปก็เห็นไอ้ไอซ์กำลังยืนมองกลับมาเช่นกันบนในหน้ามันมีรอยยิ้มเล็กๆที่ไม่น่าพิศมัยปรากฏอยู่เช่นเคยไอ้แหม่มจูงแขนกึ่งดึงกึ่งลากจับยัดขึ้นรถแล้วสตาร์ทเครื่องขับออกไปบรรยากาศในรถเงียบสนิทดูเหมือนไอ้แหม่มอยากจะพูดอะไรแต่ก็ยังลังเลและในที่สุดมันก็พูดออกมา
.
"แล้วแกจะเอายังไงต่อไปล่ะ..." มันถามพลางเลี้ยวรถออกจากซอย
"ไม่รู้เลย..อย่าเพิ่งถามคิดอะไรไม่ออก.." พูดตอบมันไปและเอาหัวแนบกระจกรถเบาๆ
"ชั้นว่าแกรอให้ตัวแกเองอารมณ์เย็นลงกว่านี้แล้วคุยกับไอ้ต่อมันดีๆอีกทีดีกว่ามั้ย..มันอาจจะมีเหตุผลของมันนะ..ไม่แน่เรื่องมันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้เราเองก็ไม่ได้เห็นว่าเค้าทำอะไรกันไม่ใช่เหรอ.." แนะนำดีนักนะ..ทีตอนนั้นเมิงยังไม่ฟังเหตุผลกรูเลยฟาดเอาๆ..
"อืมๆ..กรูขออยู่เงียบๆซักพัก.."
.
พูดแล้วก็หลับตาพยายามทำจิตใจให้สงบเมื่อรู้ตัวอีกทีรถก็มาจอดที่หน้าบ้านแล้ว
.
"ไม่ว่าแกจะตัดสินใจยังไง..ขอให้แกมั่นใจนะว่าตัวเองจะไม่เสียใจภายหลัง.." ไอ้แหม่มพูดทิ้งท้ายก่อนที่เราจะเปิดประตูรถลงมา..
.
เปิดประตูเข้าบ้านมาในบ้านไม่มีใครอยู่เวลานี้แม่คงออกไปคุยกับคุณป้าบ้านใกล้ๆเหมือนเคยเราเดินขึ้นไปยังห้องนอนตัวเองล๊อกห้องแล้วล้มตัวลงนอนฟุบหน้าลงบนเตียงก่อนจะเริ่มร้องให้ออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่จนหลับไปทั้งอย่างนั้น...
.
นานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ที่หลับไปจนมาสะดุ้งตื่นเอาตอนได้ยินเสียงคนไขกุญแจประตูห้องและเดินขึ้นมานอนบนเตียงสอดแขนเข้ามาสวมกอดเอาไว้..
.
"เมิงปล่อย.." พูดแล้วก็เอามือไปยันผลักมันออกอย่างแรง
"ไม่..ไม่ปล่อย.." ไอ้ต่อยิ่งกอดแน่นขึ้น..
"ปล่อย!! " สั้นๆคำเดียวด้วยน้ำเสียงที่กร้าวจนตกใจตัวเอง..
.
ไอ้ต่อเหมือนจะตกใจนิดหน่อยเช่นกันมันปล่อยแขนออกเราดีดตัวเขยิบหนีออกมานั่งที่ขอบเตียงมันรีบตามมานั่งข้างๆ
.
"ทีนี้เมิงจะบอกได้รึยังว่าไปทำอะไรบ้านไอ้ไอซ์.." ให้โอกาศสุดท้าย
"คือกรู.." มันพูดอ้อมๆแอ้มๆ
"ยากไปเหรอคำถาม..งั้นเอาง่ายๆแล้วกัน..เมิงมีอะไรกับมันรึยัง.." ถามออกไปใจก็เจ็บขึ้นมาจนแทบทนไม่ได้
"อย่าถามกรูแบบนั้นได้มั้ย....กรูขอร้อง.." มันพูดออกมาด้วยน้ำเสียงคับใจสุดจะทน
"ทำไม..ทำไมถึงจะถามไม่ได้.." ถามมันกลับไป
"มันเหมือนที่พ่อกรูเคยถาม..ตอนนั้น.." มันตอบแล้วเม้มปากมือกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูด..
"แล้วมีรึยัง..กรูต้องการรู้เท่านั้น.." ต้องการเพียงคำตอบเท่านั้นในเวลานี้
"กรูขอโทษ.." มันพูดออกมาเบาๆ
"มีรึยัง..." ที่พูดมาเมื่อครู่ไม่ใช่คำตอบที่ต้องการเราถามกลับไปและพยายามกลั้นน้ำตา..
.
ไอ้ต่อนิ่งเงียบไปพักใหญ่จึงค่อยพยักหน้ายอมรับในความรู้สึกแรกเมื่อได้รับรู้ในตอนนั้นเหมือนไฟทั้งโลกดับมองไม่เห็นอะไรรอบกาย..ไม่เห็นแม้แต่ตัวเอง....จนเมื่อรู้สึกอีกทีจากเสียงกำปั้นกระทบใบหน้าและความรู้สึกปวดที่ข้อนิ้วเมื่อมองไปข้างหน้าไอ้ต่อหน้าหันไปอีกทางโหนกแก้มข้างหนึ่งบวมแดงขึ้นมามันหันกลับมาและพูดคำๆเดิมซ้ำๆเบาๆราวกับท่องจำ..
.
"กรูขอโทษ...กรูขอโทษ.." มันพูดแล้วฉวยเอาตัวไปกอดไว้แน่น
"เมิงทำๆไม.." ถามออกไปน้ำเสียงเลื่อนลอยราวกับสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว..
"ถ้ากรูไม่ทำ..เมิงก็เดือดร้อน..." เริ่มรู้สึกตัวมันสั่นๆ..
"เดือดร้อน..?" พูดออกไปด้วยน้ำเสียงสงสัยในสิ่งที่เพิ่งได้ยินเมื่อครู่..
"มันให้กรูเลือก..ว่าจะเลิกกับเมิงแล้วไปคบมัน..หรือไปหามันทุกครั้งที่มันเรียก...ถ้าไม่อย่างงั้นมันจะเอาคลิปของเมิงกับกรูไปปล่อยให้คนในคณะ"
"หา...แล้วมันไปเอาคลิปมาจากไหน...มันเพิ่งรู้ว่ากรูคบกับเมิงสองสามวันนี้เองนะ.." ไอ้ไอซ์มันเพิ่งรู้ว่าเราคบไอ้ต่อเมื่อสองสามวันก่อนนี่เองแล้วเราก็ไม่ได้ไปประเจิดประเจ้อที่ไหนด้วยมันจะมีได้ไง....
"มันไม่ได้เพิ่งรู้...มันรู้นานแล้ว.." ว่าไงนะ...
.
ไอ้ต่อหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดให้ดูคลิปภาพที่เห็นนั้นเป็นเหตุการณ์ที่นานมาแล้วตั้งแต่ก่อนไประยอง..ภาพเหตุการณ์ริมสนามฟุตบอลวันนั้น...วันที่แบ๊งค์มาที่มหาลัยฯ(หากจำไม่ได้ย้อนไปอ่านตอนแรกๆครับ)ทั้งที่วางใจแล้วว่าไม่น่าจะมีใครเห็นแต่ก็มีขึ้นจนได้...
.
"กรูไม่อยากเลิกกับเมิง..แล้วกรูก็ไม่อยากให้เมิงเดือดร้อน..ตัวกรูๆไม่แคร์หรอกว่าใครจะมองยังไง..แต่กรูทนไม่ได้ถ้าหากว่ากรูจะเป็นต้นเหตุให้คนอื่นๆมารังเกียจเมิง..เป็นต้นเหตุที่ทำให้เมิงมองหน้าคนอื่นๆไม่ได้.." ไอ้ต่อพูดแล้วเริ่มร้องให้ออกมาอย่างไม่อาย..
"ทำไมไม่บอกกรูล่ะ..." ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่ความโกรธมากมายเมื่อซักครู่มันจางหายไปหมดแล้ว...
"กรูไม่อยากบอก...กรูไม่อยากให้เมิงไม่สบายใจ.." งี่เง่าเอ๊ย...
"ไหนเมิงบอกไง..เรามีอะไรต้องพูดกันทุกเรื่อง.." ว่าแล้วก็ยกแขนขึ้นกอดมันไว้แล้วลูบหัวมันเบาๆ
"กรูขอโทษ.." ขอโทษอีกแล้ว...พูดคำอื่นมั่งก็ได้..เหอๆ
"ช่างมันเถอะ..ไม่ต้องขอโทษแล้ว...แต่ต่อไปนี้มีอะไรต้องบอกกรูตรงๆนะ..อย่าให้กรูคิดมากไปเองคนเดียว..กรูเครียดมากกว่าเมิงบอกตรงๆซะอีก"
"แล้ว..เรื่องคลิปที่อยุ่กับไอ้ไอซ์ล่ะจะเอาไง.." มันถามน้ำเสียงดูเป็นกังวล..
"ช่างมัน...ถ้ามันจะแพร่ก็แพร่ไปเมิงไม่อายกรูก็ไม่อาย....." ตัดสินใจได้แล้ว..
"เมิงไม่อายเหรอ..เมิงปิดบังมาตลอด.." น้ำเสียงมันฟังดูประหลาดใจ..
"เป็นแฟนเมิงไม่เห็นน่าอายอะไรนี่นา.." 5 5 5 เขินนิดหน่อยแต่ก็พูดไปจนได้..
.
ไอ้ต่อยิ้มแล้วกระโจนเข้าใส่จนลงไปนอนบนเตียงทั้งคู่ไม่รู้จะพูดอะไรต่อแล้วเลยปล่อยให้มันนอนกอดเล่นอยู่พักหนึ่งมันก้หยิบเอาสร้อยข้อมือออกมาจากกระเป๋าแล้วใส่กลับให้
.
"เมิงอย่าถอดมันทิ้งอีกนะ.." มันกระซิบเบาๆที่ข้างหูในขณะที่มือใส่สร้อยให้..
"อืม.." ถ้าเมิงไม่วอนหาเรื่องก็จะไม่ถอดน่ะ..หุหุหุ..
.
นอนไปอีกซักพักแม่ก็ขึ้นมาเรียกไปกินข้าวเลยพากันลงไปข้างล่างวันนี้แม่ซื้อกับข้าวนอกบ้านอีกเช่นเคยเนื่องด้วยกลับมาถึงบ้านช้ามัวแต่ไปเมาท์แตก...
.
"ไงต่อ..ได้ข่าวว่าป่วยการเมืองเหรอลูก.." แม่พูดขึ้นมากลางโต๊ะอาหาร..หุหุ.. มีกัดนิดๆด้วยนะคุณนาย..
"หายแล้วค้าบ..." ไอ้ต่อตอบหน้าชื่นตาบานพลางตักข้าวกินเคี้ยวตุ้ยๆ
.
แม่หันมามองหน้าด้วยสายตาราวกับจะถามว่า.."ทุกอย่างเรียบร้อยดีนะ.." เลยเขยิบไปกระซิบที่ข้างหูแม่เบาๆ..
.
"ครับแม่..หนักกว่านี้ก็ผ่านมาแล้ว.."
.
หลังจากกินข้าวเสร้จก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าพอออกมาจากห้องน้ำก็เจอไอ้ต่อนั่งเล่นเกมในคอมอยู่ก็เกิดนึกอะไรขึ้นมาได้เลยบอกมันไป
.
"เมิง..ลบคลิปนั่นทิ้งด้วยเกิดหลุดไปให้ใครอีกแล้วจะยุ่ง.." กันไว้ดีกว่าแก้..ขี้เกียจมาปวดหัวทีหลัง..
"ลบทำไมอ่ะขอเก็บไว้นะ....เมิงไม่แคร์แล้วนี่นาว่าใครจะรู้.." ดูมันพูด
"ก็ไม่ได้หมายความว่ากรูจะประกาศให้เค้ารู้นะ..หมายถึงถ้าใครจะรู้กรูก็ไม่อายเท่านั้นเองจะให้กรูเดินไปบอกเองกรูไม่ทำหรอก..." อธิบายหน่อยรู้สึกมันจะเข้าใจอะไรผิดๆ..
"เออน่ะ...ลบก็ได้.." ไอ้ต่อลบแบบเสียไม่ได้
.
เราเดินไปนั่งลงขอบเตียงข้างๆโต๊ะคอมแล้วมองหน้ามัน..
.
"มองไร...เดี๋ยวมีเรื่องหรอกเมิง.." จ้า..พ่อนักเลงโต..
"มองฟายยย...5 5 5...ทำเรื่องง่ายให้ยากเสียตัวให้คนอื่นเลย..ฟายยย" ขอกัดหน่อยเหอะ...อดไม่ได้..
"กรูก็เป็นควายมานานแล้ว..." มันตอบกลับมาเสียงเบื่อๆ
"หมายความว่าไง.." พูดให้ดีๆนะเมิง...
"ถึงได้จมปลักรักมึงถอนตัวไม่ขึ้นนี่ไง.."
"...." พออารมณ์ดีขึ้นก็เอาเชียวนะเมิง..
.
.
เตรียมตัวไปเรียนก่อนนะคับเดี๋ยวคืนนี้จะมาต่อให้...