16
#Secretlove
โปรดเตรียมใจก่อนอ่าน... สองปีผ่านไป… ถ้าเวลามันผ่านไปเร็วแบบนี้ก็ดีสินะ มันก็ทำให้ต้องมานั่งคิดนะว่า ตอนนั้นเขาจะอยู่ไหน และหมอจะเป็นยังไงบ้าง
หรือบางที… คนข้างกายหมอ
มันอาจจะชัดเจนมากกว่านี้ก็ได้
ชัดเจน…
ที่ไม่ใช่เขา เขาตัดสินใจรักษาแผลใจด้วยการตัดขาดจากโซเชียลทุกอย่าง แม้กระทั่งลบแอพดังอย่างเฟสบุ๊คทิ้งไป โดยที่ยังไม่ได้อวยพรวันเกิดเจ๊บอยลี่ แปลกนะ ไอโฟนดูจะมีหน่วยความจำเพิ่มขึ้นอีกมากโข มันทำให้รู้ว่าตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมานี้ เขาเสียอะไรไปมากจริงๆ
แต่เขา…
ก็ยังเลิกชอบหมอไม่ได้อยู่ดี
เขาต้องมานั่งแก้รายงาน ตรวจทานคำผิดพลาด และอะไรหลายอย่างที่ยังไม่สมบูรณ์ในปก เขาพยายามใช้สมาธิจดจ่อกับมันให้มากที่สุด แต่ถามว่าทำได้ถึงร้อยเปอร์เซ็นต์มั้ย ต้องตอบว่าแค่สิบเปอร์เซนต์ก็แทบไม่รอด ถึงเฟสจะปิดไปแล้ว แต่ใจล่ะ มันห้ามให้คิดถึงไม่ได้หรอก ยิ่งมันเป็นแบบนี้ ไอ้การที่หายไปสามวันไม่ติดต่อ ไม่มาหา มันต้องมีบ้างล่ะที่แอบคิดว่าโกรธกัน
เขาไม่เข้าใจหมอจริงๆ
“เหม่อ เหม่อ บอกกูทีว่าวันนี้รายงานจะเสร็จทัน”
นดเกิดอาการปวดหัวกับท่าทีของเขามาตั้งแต่ช่วงเช้าแล้ว เขารู้ดีว่าทำให้เพื่อนเป็นห่วง ทำให้งานไม่คืบหน้า
กำหนดส่งคือวันพรุ่งนี้ วันสุดท้ายของสัปดาห์แห่งการเรียน เขารู้ว่าควรจะตั้งใจมากกว่านี้ แต่มันทำไม่ได้จริงๆ
ในหัวมีแต่คำถาม
หมอหายไปทำไม?
หมอโกรธเขา?
หมอเปลี่ยนไปเหรอ?
หรือกระทั่ง
ถ้าเจอกัน หมอจะยังเป็นเหมือนเดิมมั้ย?
จะยังคุยกับเขาเหมือนเดิมมั้ย จะยังลูบหัวเขาเหมือนเดิมมั้ย จะยังขี้อ่อยเหมือนเดิมมั้ย
ยังจะให้เขาเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวที่ใครก็ยังรุกล้ำเข้าไปไม่ได้
เพราะ…
เขาคือคนสำคัญ
ตำแหน่งของเขายังไม่เปลี่ยนแปลงใช่มั้ย
สามวันมานี้ เขาชักไม่แน่ใจ จริงๆ…
“พักก่อนมั้ยมึง”
นีวางมือบนไหล่เขาเบาๆ เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบว่าเพื่อนๆมองมาอย่างเป็นห่วง เขาส่ายหัว แล้วก้มลงตั้งใจว่าจะทำรายงานต่อ
พบว่าน้ำตาหยดลงบนแผ่นกระดาษมากขนาดนี้
มันจะยังเขียนได้มั้ยนะ
“กูว่า พักก็ดีเหมือนกัน”
เขาลุกขึ้น ยืดตัวตรง บิดขี้เกียจ
แล้วฝืนยิ้ม
“ขอเวลากูสักพักนะ แล้วกูจะกลับมาทำรายงาน”
เขารู้ เพื่อนเขาก็รู้ ว่าคำสัญญานั่นน่ะ มันไม่มีทางทำได้
พอๆกับสัญญาว่าจะเข้มแข็ง ขณะน้ำตาไหลอาบแก้ม
เพราะสุดท้ายแล้วตัวเองก็ยังอ่อนแออยู่ดี
หอที่ขิมพักอยู่ไม่หรูเท่าของหมอ แต่ถือว่าแพงมาก ขิมเคยบ่นให้เขาฟังบ่อยๆว่าถ้าเธอได้ที่อยู่ใหม่ที่ดีกว่านี้ เธอก็จะไป ตอนนั้นเขาไม่คิดอะไร พอมานั่งคิดถึงคำพูดพวกนั้นแล้วในตอนนี้ตอนที่อารมณ์เศร้าอยู่เหนือทุกสิ่ง มันรู้สึกเจ็บ ของใหม่ ใครๆก็อยากได้
แต่ไม่เท่ากับของใหม่ที่สู้ของเก่าไม่ได้หรอก มันเจ็บกว่าหลายเท่า
เพราะของใหม่ มันไม่รู้เลยว่า คนจะเล่นมันนานแค่ไหน แล้วมันจะถูกทิ้งเมื่อไหร่
แต่ของเก่าน่ะ มันผูกพันกันมานาน ตัดเท่าไหร่ก็ไม่ขาดหรอก รออยู่เฉยๆ สักวันเจ้าของก็ต้องกลับไปหามันอยู่ดี
ของเก่าประเภทนี้
น่ารำคาญจริงๆ เขาปาดน้ำตาลวกๆ
ถ้าหัวใจคนเราทำด้วยเหล็ก มันจะเจ็บแบบนี้มั้ยนะ
แต่เขาพบว่า ความเสียใจแม้ร่างกายจะเป็นหิน มันก็ยังทิ่มแทงซึมลึกเข้าไปทำให้เราเจ็บปวดทรมานได้อยู่ดี
นี่เขาเพ้ออะไรเป็นเรื่องเป็นราวเนี่ย
เหม่อมองไปบนฟ้า
พระอาทิตย์ดูสว่างจ้ากว่าทุกวัน
เขาจะตาบอดมั้ย
ไม่หรอก… เพราะม่านน้ำตาบดบังจนมองไม่เห็นอะไร เขากลับมานั่งทำรายงานต่อ พบว่ามันยังไม่คืบหน้าไปไหน หางตาแอบเห็นว่านดและเพื่อนๆต่างส่งสายตามองกันไปมา กระแซะคนโน้น ดันคนนั้น
“มึงมีอะไรกันรึเปล่า”
เขาเลยตัดปัญหาด้วยการถามออกไป
“ปะ…เปล่า”
พวกมันเงียบไป ก้มหน้าก้มตาทำรายงานต่อ
“มิว มึงอยากเป็นคนพิมพ์มั้ย”
โบธพูดขึ้น ร่างสูงกำลังจะละจากโต๊ะคอม ถ้าเขาไม่เอ่ยปฏิเสธซะก่อน
“ขอทำแบบร่างดีกว่า กูปวดตาน่ะ”
เขาปวดตาจริงๆนะ โบธพยักหน้าเข้าใจ แล้วเงียบไป
“เอ่อ อี่มิว มึงไม่อยากเล่นโทรศัพท์ สมาร์ทโฟน อะไรงี้เหรอ”
คราวนี้เป็นนดบ้างที่พูดขึ้น
“มึงจะทำงานกันมั้ย”
“อุ่ย”
เหล่าแองเจิลเงียบไปตั้งแต่นั้น
เขาหลบฉากมาที่ห้องสมุด หนีความวุ่นวายมาที่นี่ ตอนบ่ายมีเรียนสองตัวเลยต้องละจากรายงานที่กองสุมหัวเข้ามอมาก่อน ส่วนเหล่าแองเจิล พวกนางทั้งหลายขอโดด ไม่แน่ใจว่าจะอยู่ทำรายงานหรือไปเที่ยวไหนกัน
เขาชอบความเงียบ แต่เขาเริ่มไม่ชอบที่นี่แล้ว
มันเงียบเกินจนได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นอย่างอ่อนแรง
สถานที่นี้ ตรงนี้ โต๊ะสี่ โซนประวัติศาสตร์ เพราะใครคนหนึ่งลืมหนังสือฟิสิกส์ทิ้งไว้ที่นี่ ทำให้เขาได้ใกล้ชิดหมอในครั้งนั้น
ใครมันบ้า ลืมไว้ชั้นสอง เพราะชั้นหนังสือฟิสิกส์อยู่ชั้นล่าง
แต่ความบ้าก็ทำให้เขาได้พบกับฝัน
ฝันที่เหมือนจริง
เขาฝันว่าสนิทกับหมอมากๆ แต่ตอนนี้เขากำลังฝันหรือตื่นอยู่กันนะ
ปลอบตัวเองว่ามันคือฝันร้าย
ที่เป็นจริง…
ชักจะฟุ้งซ่านมากเกินไปแล้ว
เขาลุกจากเก้าอี้ เดินไปที่ชั้นหนังสือประวัติศาสตร์ หยิบมันออกมาสองสามเล่ม เขากำลังจะฝึกสมาธิใหม่ เริ่มจากนำจิตใจมาจดจ่อกับเรื่องราวในอดีตที่บรรจุไว้ในหนังสือเล่มหนา เขาต้องทำให้ได้ เขาต้องทำอย่างที่เคยทำให้ได้ พอใจกับที่เป็นอยู่
พอใจที่จะแอบอยู่มุมมืดไปตลอดกาล มิวพบว่าไม่สามารถทนอ่านหนังสือได้เกินหนึ่งนาที เพราะเพียงแค่เริ่ม สายตาอ่านไล่ตัวหนังสือไป แต่สมองไม่รับรู้ จิตใจไม่เป็นสุข เขาปิดหนังสือเล่มหนา แล้วฟุบหน้าลงกับโต๊ะ
คิดหาวิธีให้ตนเข้มแข็งให้ได้
จะเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้
ไม่รู้ว่าถอดนาฬิกาข้อมือที่พกแทนโทรศัพท์ไปเมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีเมื่อจะยกขึ้นมาดูเวลาถึงได้พบว่ามันหายไป ตอนนี้มันกี่โมงกันนะ เดินลงไปชั้นล่างเพื่อดูนาฬิกาเรือนใหญ่ของห้องสมุด หน้าปัดชี้บอกเวลาเที่ยงครึ่ง
เขายังไม่ได้กินข้าว
แต่เขาไม่หิว เขาจะทำยังไงดี
เขาเดินกลับขึ้นมาชั้นสอง ระหว่างทางยังจำทางขึ้นตรงนี้ได้ ถ้าไม่ได้หมอเขาก็เกือบตายแล้ว แต่ถ้าไม่มีหมอในวันนั้น เขาก็คงไม่เป็นแบบนี้
เขาเรียกว่าอะไรนะ
‘ตายทั้งเป็น’ คำมันดูรุนแรงมาก แต่เขามีความรู้สึกอย่างนั้น
เขารีบเดินผ่านทางขึ้นนี้ไป เกลียดสมองที่จดจำทุกช็อตในวันนั้นได้ เกลียดหัวใจที่แม้จะเจ็บ แต่ก็ยังต้องเต้นต่อไป ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ มันจะอ่อนแรง และชินชาเมื่อคิดถึงหมอ เขาอยากให้มันมาถึงเร็วๆจังเลย
แต่มันคงไม่มีวันนั้น
หนึ่งปีเต็มกับอีกกี่เดือนกัน เขาไม่ใช่คนตัดใจง่าย เขามันคนรั้น
โอกาสลืมหมอ ติดลบ เขาทำไม่ได้จริงๆ
แอบตลกตัวเองที่อ่อนไหวกับแค่รูปภาพในเฟส
แอพนี้มันทำร้ายคนได้นะ
ได้สิ
ทำไมจะไม่ได้
นี่ไง เขากำลังโดนทำร้าย
จับแก้ม อีกแล้ว เริ่มเกลียดความอ่อนแอของตัวเอง เขาดันๆหนังสือประวัติศาสตร์บนโต๊ะให้ห่างหยดน้ำตา
เขาจะไม่ยอมให้หนังสือประวัติศาสตร์ที่เขารักต้องถูกหมอทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า
แค่ที่ทำได้ตอนนี้ ก็พอ
วันเวลาผ่านไปไม่รู้เมื่อไหร่ เขาเผลอหลับไป เกาหัวแก้เขินแม้จะไม่มีใครมองอยู่
กี่โมงแล้ว
คาบเรียนบ่ายเขาล่ะ
สายรึยัง
“แก เมื่อกี้เจอหมอเนตรด้วย ที่ตึกวิศวะ แต่เหมือนหมอดูรีบๆนะ”
“โอ้ย รีบไปกินข้าวน่ะสิ หมอคงจะชวนน้องไปแบบกินกันสองคนอะไรงี้”
“แล้วสรุปมิวนี่เงียบไปเลย อะไรยังไง”
“อย่าถามถึงมิวเลย ไม่อยากเมาท์ ตกกระป๋องก็แค่นั้น”
“อย่าเสียงดังไป เผื่อมันอยู่แถวนี้”
“บ้า มันจะมาอยู่แถวนี้ได้ไง ป่านนี้ร้องไห้ นอนซม เพราะโดนทิ้งอยู่ที่ห้องแล้ว”
“ห้องหมอ หรือห้องมัน”
“เอ๊ะ ก็ต้องห้องมันสิ หมอไล่มันแล้ว ฮะๆๆๆๆ”
“นี่ห้องสมุด”
“เออ ลืมไป แต่คันปาก ออกจากที่นี่เหอะ ไปเมาท์ต่อ”
“วันนี้จะโพสต์รูปเนตรกับหมอรูปไหนดีน้า เยอะมากมาย”
“ดีงาม 555” เขาถอยหลังก้าวออกมาจากตรงนั้น
เอามือปิดปากกลั้นเสียงสะอื้น มีคนไม่ชอบเขามากมาย ขนาดว่ากันถึงขนาดนี้เลยเหรอ
เขาชักไม่แน่ใจแล้วว่า ตอนนี้เขาตื่นหรือยัง หรือเขาเผลอหลับไป ใช่ ตอนนี้มันคือความฝัน เป็นความฝันที่เหมือนจริง
นี่เขาฝันร้ายอีกแล้วสินะ
ตบตัวเองให้ตื่นดีมั้ย
หรือหยุดหลอกตัวเองเสียที
นี่คือความจริงสินะ
ใจมันถึงได้เจ็บแบบนี้…
เขาไม่โทษแฟนคลับเนตร เขานึกโทษตัวเอง เขามันอ่อนแอ แค่จะทนฟังคำด่าแค่นี้ก็ไม่ได้ น้ำตาที่เพิ่งแห้งไปไหลรินอีกแล้ว
เขามันอ่อนแอ เขามันอ่อนแอ เขามันอ่อนแอ จริงๆ…
เท้าเล็กค่อยๆก้าวถอยหลังทีละย่างอย่างยากเย็น โดยหารู้ไม่ว่ามีชั้นหนังสือเรียงรายอยู่ข้างหลัง ถ้าชนมันก็จะล้มลงมา แต่เขาไม่ได้ชนมัน
แผ่นหลังเขาสัมผัสกับแผ่นอกกว้าง
เขาหันไป
นิ้วชี้ของร่างสูงยกไปไว้ที่ริมฝีปาก
เขาปิดปากเงียบ
“ชู่วววว อย่าร้องครับ”
“…”
“พี่มิว” “…”
“…”
“แบงค์?” กับคนที่ผ่านมา มันต่างกับคนที่อยากเจอยังไงนะ
คนที่ผ่านมา บางครั้งพบเจอกันโดยบังเอิญ
แต่คนที่อยากเจอ ร้องไห้แค่ไหน ถ้าใครคนนั้นไม่อยากเจอเรา น้ำตาเราก็ไม่สำคัญเท่า
อากาศธาตุ
ที่ผ่านไป…
“อย่าร้องไห้อีกเลยครับ คนดีของแบงค์”
เขาไม่รู้ว่าถูกเด็กแบงค์สวมกอดนานแค่ไหน เพราะเขาได้ผล็อยหลับไป สู่ห้วงนิทราอันมืดมิด
ภายในความฝัน
เขายังจำได้ดี
‘รู้อะไรมั้ย กูชอบกลางวัน กูชอบไปมอ แต่กูไม่ชอบวันหยุด เพราะอะไรรู้มั้ย’
‘ตอนกลางคืนทำให้กูไม่ได้เจอมึง และวันหยุดก็ทำให้กูไม่ได้เจอมึง’
‘กูแม่งเกลียดจริงๆวันเสาร์อาทิตย์เนี่ย แต่ตอนกลางคืนกูเริ่มชอบมันแล้วว่ะ’
‘ตั้งแต่นี้ต่อไป’
‘อยู่ด้วยกันแบบนี้ทุกคืนนะ’ มันเป็นฝันดีมาก
แต่มันไม่อาจเป็นจริงได้อีกต่อไป
ห้องของหมอ มันยังว่างสำหรับเขาอยู่เหรอTo Be Continue
********************************************************************************************
17
◤แอบรัก◢
มามุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้ง งุงิ ที่นี่...
MewSN