บนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยบทสนทนาเรื่องทั่ว ๆ ไปโดยส่วนใหญ่ไอ้คินจะชวนเปิดประเด็นซะมาก อาหารเต็มโต๊ะจนแทนล้นไม่มีที่วาง ผมได้แต่นั่งเงียบรับฟังและอือออตอบบ้างเป็นระยะเท่านั้น เพราะมีคนอื่นพูดแทนแล้วผมก็ไม่เห็นจำเป็นต้องพูดให้มาก ส่วนพลอยก็ชวนสมุทรคุยตลอดที่มีโอกาส ดูเธอจะสนใจสมุทรมากจริง ๆ อาหารที่สั่งมามากนั้นเหมือนจะกินไม่หมดแต่ก็ถูกตักตอดเข้าปากไปทีละนิด พลอยคอยตักเสิร์ฟให้สมุทรตลอดเวลาแต่เจ้าตัวไม่ค่อยกินเท่าไหร่นัก ดูไม่เจริญอาหารแต่อีกฝ่ายก็ตักอาหารให้พลอยบ้างเช่นกัน การกระทำแบบนั้นของทั้งสองคนทำให้ไอ้โปรดชำเลืองมองด้วยสายตาแปลก ๆ มาทางผมคล้ายอยากได้คำอธิบาย ผมนิ่งเฉย เรียกว่ามาเพื่อแดกอย่างเดียวเลยก็ว่าได้
“ยังจับมือปืนที่ยิงวันนั้นไม่ได้อีกเหรอวะ” ไอ้โปรดบ่น มันเริ่มลงมือกินขนมหวานตบท้าย
“อืม” ผมพยักหน้าตอบไม่มองหน้าใคร
“ไฟถูกดักยิงอีกแล้วเหรอ” พลอยอุทานด้วยความตกใจ
“ทำไม..เป็นห่วง ? เปิดห้องเลยไหมละ” ผมหันไปมองหน้าเธอพลางกวนไปเคี้ยวอาหารในปากไป ไอ้โปรดกับไอ้คินได้แต่อมยิ้ม พลอยค้อนเล็กน้อย ขณะเดียวกันผมสังเกตเห็นทางหางตาว่าสมุทรหันไปมองทางด้านขวามือของเขา เจ้าตัวนิ่งผิดปกติทำให้ผมต้องมองไปที่ต้นเหตุ ผู้หญิงที่ชื่อหยาปรากฏตัวในร้านนี้พร้อมกับผู้ชายแปลกหน้าที่ผมไม่เคยพบมาก่อน ฝ่ายตรงข้ามก็ดูตกใจเช่นกันที่เห็นสมุทรอยู่ที่นี่ด้วย
“สมุทรอิ่มแล้วเหรอคะ เอาของหวานไหม” พลอยยิ้มเอาใจเหมือนเดิมไม่ได้รู้เรื่องรู้ราว
“อิ่มแล้ว ไม่ครับ..ขอบคุณ” สมุทรหันกลับมาผงกหัวยิ้มน้อย ๆ อย่างอ่อนโยน ผมหัวเราะขึ้นจมูกกับสิ่งที่เห็น
“ใครเหรอคะ” พลอยถามตรง ๆ คงเพราะเห็นว่าหยาจ้องมาที่พวกเราไม่วางตา พอเธอสบตาเข้ากับผม เธอก็หลบตาผมอีกเหมือนเคย
“เพื่อนน่ะครับ” สมุทรตอบ ผมจิ้มเป็ดปักกิ่งชิ้นสุดท้ายมากินเปล่า ๆ พลอยมองตามด้วยสีหน้าแปลก ๆ อีกแล้ว
“กินเยอะไปแล้วนะ” ดูเธออดทนว่าไม่ได้
“ทำอย่างกับไปตายอดตายอยากมาจากไหน” พลอยบ่นเสียงเบา
“เสียดายของ” ผมพูดส่ง ๆ ชำเลืองเห็นสมุทรหยิบโทรศัพท์ออกมา หน้าจอโทรศัพท์มือถือของเขาสว่างเตือน ขณะเดียวกันผู้หญิงที่ชื่อหยาก็เดินออกจากร้านไป ส่วนผู้ชายที่มากับเธอยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะและกำลังสั่งอาหารอยู่
“พลอยไม่มีงานต้องเดินทางไปต่างประเทศแล้วเหรอ” ไอ้คินถาม
“ช่วงนี้ไม่มีแล้วค่ะ ที่ไปรอบก่อนนั่นก็ไปเคลียร์ครั้งใหญ่เลย เบื่อจะไปเต็มแก่แล้ว” พลอยตอบ ผมหยิบน้ำขึ้นดื่มโดยสังเกตท่าทางของสมุทรอยู่ตลอด
“เอ่อ..คุณไฟครับ” เขาหันมาจนได้ ทุกคนหยุดคุยและมองไปที่เขาเป็นตาเดียว
“ผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำสักครู่ได้ไหมครับ” สมุทรพูด ผมพยักหน้าอนุญาต
“ขออนุญาตนะครับ” เขาบอกทุกคน ผงกหัวน้อย ๆ ก่อนลุกจากที่นั่งออกจากร้านไป พลอยมองตามหลังจนลับตา ด้วยนึกหมันไส้ผมจึงลุกขึ้นแล้วเข้าไปคว้าหน้าของเธอมาก่อนกดปากจูบปากของเธอลงอย่างแรง
“อื้อ!” พลอยหน้าหยีด้วยความตกใจ เมื่อได้สติก็พยายามที่จะสู้แรงผลักผมออก
“อื้อออ ม๊วบ! ฮ้า~” ผมแกล้งทำเสียงกวนอารมณ์ก่อนยอมปล่อยหน้าเธอออก
“ไฟ! ไอ้บ้า!!” เธอโวยวายหน้าเสีย ผมแสยะยิ้มพลางนำลิ้นออกมากัดขำ ๆ ทิ้งตัวนั่งลงตามเดิม ปากของเธอแรงระเรื่อจากการถูกกดทับ ไอ้คินกับไอ้โปรดได้แต่ยิ้มกว้าง มันสองคนกลั้นหัวเราะไว้เต็มที่ ส่วนพลอยหน้าแดงก่ำปิดเงียบปากไปแล้ว
“เตือนแล้วว่าต่อหน้าฉันนี่ให้มันน้อย ๆ หน่อย” ผมพูดนิ่ง ๆ เหล่ตามองไปที่พนักงานที่คล้ายกับมองพวกเราอยู่ พวกมันก้มหน้างุดหนีสายตาผมในทันที
“ชี่! ไอ้ไฟ พนักงานโรงแรมกูกลัวมึงหัวหดกันหมดแล้ว” ไม่รู้ว่าไอ้คินมันบ่นหรือปรามอยู่กันแน่
“ถ้าพลอยเป็นข่าวขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ ไฟจะรับผิดชอบงั้นเหรอ” พลอยวางมาดอีกครั้ง
“ฮึ..กับอีแค่ตัวอักษรที่เขียนเรื่องไม่จริงบนกระดาษ ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องแคร์สักหน่อย” ผมตอบ
“สุภาพบุรุษสุด ๆ” เธอบ่นอุบอิบ
“พลอยก็ไม่น่าไปเล่นกับมันแต่แรกอยู่แล้วครับ เล่นกับหมา ๆ เลียปาก” ไอ้โปรดพูดปนหัวเราะ
“นั่นสินะคะ” พลอยอมยิ้มหน้าทะเล้นที่มีคนช่วยสมทบเธอ
“ที่จริงกูก็ไม่ได้เลียแค่ปากน่ะนะ..” ผมย้อนด้วยน้ำเสียงเหนื่อย ๆ ทันควัน ไอ้โปรดกับไอ้คินอ้าปากเหวอที่ได้ยินประโยคนี้ พลอยหันขวับมา หน้าแดงหูแดงหนักกว่าเดิม
“โกรธเหรอครับ จะให้เลียให้ตรงนี้เลยไหมละ แบบที่คุณชอบน่ะ” ผมยิ้มหน้าตาย
“เหมือนกูได้ดูหนังเรทอาร์บนโต๊ะอาหาร” ไอ้คินบ่น มันถอนหายใจซะแรง ผมฉีกยิ้มมองพลอยด้วยความหลงใหล เวลาที่เธองอนก็น่ารักดี
“งั้นก็เสียใจด้วยแล้วกันที่นายจะไม่ได้แตะต้องตัวฉันอีก” พลอยกระแทกเสียงด้วยความเชิดหยิ่ง คำพูดของเธอที่ตอบกลับมาต่างจากผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่ผมนอนด้วย แน่นอนว่าถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงจะไม่ตอบหรือมีท่าทีเช่นนี้
“หึ ๆ มันอยู่ที่ว่าฉันอยากจะแตะหรือไม่อยากแตะต่างหากล่ะ” ผมพูด
“ไฟ!!” พลอยหันมามองผมอึ้ง ๆ ครั้งนี้ดูท่าจะงอนจริง
“ขอโทษฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ” เธอเตือนด้วยน้ำเสียงงอน ๆ ผมยิ้มน้อย ๆ มอง พลอยหันหน้าหนีไปแล้ว ผมถอนหายใจพร้อมลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนโน้มตัวเข้าไปหาเธอ
จุ๊บ~ ..ผมลูบผมของเธอไว้อย่างเบามือพร้อมหอมลงที่หัวของเธอเบา ๆ เจ้าตัวยังคงนั่งนิ่งเฉย
“ขอโทษครับ” ผมกระซิบบอก
“เดี๋ยวมา..ไปฉี่” ผมตัดบทด้วยน้ำเสียงอีกโทนหนึ่งโต้ง ๆ จ้ำเท้าเดินออกมาเลย
“ไอ้คนสองบุคลิก!” เสียงพลอยบ่นไล่หลังคล้ายหงุดหงิด ผมถามพนักงานต้อนรับที่ยืนอยู่หน้าร้านว่าสมุทรออกไปทางไหน ก็แน่ละ..ผมไม่คิดหรอกว่าเขาขอตัวออกมาห้องน้ำจริง ๆ พอทราบทางแล้วจึงเดินตามไป ฝั่งนั้นเป็นทางบันไดหนีไฟซึ่งอยู่เยื้อง ๆ กับทางไปห้องน้ำชายพอดี
“มันไม่ได้เกี่ยวกันเลยนะครับหยา” เสียงสมุทรดังแว่ว ๆ และชื่อที่ถูกเรียกที่รู้จักทำให้แน่ใจว่าเป็นเขา ผมหยุดยืนอยู่ตรงปากประตูทางเข้าห้องน้ำซึ่งมีกำแพงที่สามารถกำบังให้ผมเสือกได้อย่างพอดิบพอดี
“ทำไมจะไม่เกี่ยวล่ะ” หยาย้อนตอบ น้ำเสียงของทั้งคู่เป็นการพูดคุยปกติแต่ลึก ๆ ฟังดูแล้วตัดพ้ออยู่ไม่น้อย
“เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับใคร มันเกี่ยวกับเราสองคน” สมุทรตอบ หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เงียบลงสักพักหนึ่ง
“ผู้หญิงคนนั้นดูดีนะ” หยาพูด หัวเราะทิ้งท้ายนิด ๆ
“นั่นเป็นเพื่อนของเจ้านายครับ ต้องให้ผมพูดคำ ๆ นี้ย้ำอีกกี่ครั้ง” สมุทรพูดเสียงแข็ง
“สมุทรก็รู้ว่าหยายังรักสมุทรอยู่” เธอย้อนหน้าเศร้า
“หยา..” อีกฝ่ายย้ำเรียกด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงคล้ายกับบอกให้เธอหยุด
“ที่นั่งอยู่ในนั้นนั่นคู่หมั้นคุณนะครับ”
“ถ้าสมุทรดึงดันอย่างที่ทำอยู่นี้สักนิด เราสองคนก็คงไม่เป็นแบบนี้” เธอขึ้นเสียง ผมยืนพิงผนังฟังสบาย ๆ เพราะเป็นบทสนทนาที่ได้ยินค่อนข้างชัดจนไม่ต้องพยายามเลยทีเดียว
“ที่จริงสมุทรไม่ได้รักหยาด้วยซ้ำ..ใช่ไหมล่ะ ก็แค่พูดออกมา” เธอต่อว่า
“ผมรักหยา” สมุทรย้อนทันที อยู่ ๆ ใจผมก็เป็นบ้า มันเต้นแรงขึ้นมาแบบไม่ทราบสาเหตุ
“หยาก็รู้ว่าผมพร้อมจะอยู่ข้าง ๆ หยา แต่..เราสองคนก็แค่เลือกทางเดินกันคนละทางเท่านั้น”
“หึ..แก้ตัวแบบนี้มันไม่ตลกเลยนะ” หยาพูดปนหัวเราะ เธอเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างใจเย็นพอสมควร ผมฟังดูจากน้ำเสียงน่ะนะ คิดว่าเธอน่าจะเป็นคนฉลาดพอดู
“งั้นหยาจะให้ผมทำยังไงครับ ในเมื่อมันเป็นไปไม่ได้ก็คือเป็นไปไม่ได้”
“มันเป็นไปไม่ได้เพราะสมุทรไม่อยากให้มันเป็นไปต่างหากล่ะ” หยาย้อนทันควัน
“ทำไมสมุทรไม่ห้ามหยาสักนิดเวลาที่หยาบอกว่าจะแต่งงาน” เธอพูดเสียงเครือ สมุทรเงียบไปครู่
“เราคุยเรื่องนี้กันรู้เรื่องแล้วนะครับ เรื่องของเรามันจบไปแล้ว หยาทำแบบนี้..พี่แชมป์เขาจะรู้สึกยังไง” สมุทรพูดเชิงต่อว่า
“อ๋อ..หยาผิดงั้นเหรอ” เธอขึ้นเสียงอีกครั้ง ครั้งนี้ลักษณะต่างจากก่อนหน้า
“หยาก็แค่อยากได้ยินสมุทรพูดออกมาตรง ๆ ว่าตอนนี้สมุทรมีคนอื่น”
“ผมไม่มีใคร” สมุทรพูด น้ำเสียงยังคงเย็นนุ่มเช่นเคยแม้ในสถานการณ์แบบนี้
“งั้นถ้าหยาถอนหมั้นล่ะ” หยาถามด้วยแววตามีหวัง
“ถึงหยาถอนหมั้น สำหรับผม..ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม” สมุทรบอก ครั้งนี้อีกฝ่ายทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ออกมาจริง ๆ ผมจ้องมอง สมุทรเอื้อมมือลูบที่ศีรษะของเธอไว้อย่างอ่อนโยน
“ผู้หญิงคนนั้นดีกว่าหยายังไง” หยากำมือตีสมุทรทำให้น้ำตาคลอไหลออกมา
“หยาครับ..แบบนี้ไม่น่ารักเลยนะ” สมุทรปลอบ อยู่ ๆ เธอก็ทำท่าจะเข้าไปกอดสมุทรแต่อีกฝ่ายเบี่ยงตัวหลบนิดหน่อย เสียงพูดคุยดังขึ้นทำให้ต่างฝ่ายต่างหยุดชะงัก สมุทรหันกลับมามองทางปากประตูร้านอาหารอย่างระแวง เสียงเงียบไปแล้ว หยาผลักเขาออกด้วยความโกรธก่อนเดินตรงเข้าห้องน้ำหญิง สมุทรเดินไปหยุดยืนรอเธออยู่ที่ปากทางเข้าอยู่สักพักหนึ่งจนหยาเดินออกมา ครั้งนี้เธอไม่มองสมุทรแล้ว หยาจ้ำฝีเท้าตรงกลับเข้าร้านทันที คนเดินตามหลังหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูร้านอาหารพลางถอนหายใจ เขาทิ้งช่วงยืนอยู่ตรงนั้นประมาณสองสามนาทีให้หลังก่อนจะกลับเข้าร้านไปอีกคน
“ไอ้อาการอยากรู้อยากเห็นนี่คืออะไร ?” ผมบ่นพลางบิดขี้เกียจแล้วยืนพิงกำแพงอยู่ต่ออย่างนั้น
“เป็นไรรึเปล่า” ผมเกือบสะดุ้งหันไปมอง ไอ้โปรดมายืนอยู่ข้าง ๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ
“กูมาฉี่นี่กูต้องเป็นไรด้วยเหรอ” ผมพูดหน้าตาเฉยพร้อมยืนตั้งตัวดี ๆ
“อ๋อ..มึงฉี่นานขนาดนี้ ค-ยมึงยาวสามร้อยเมตรเหรอไอ้สาด” มันว่า ผมหัวเราะ เดินตรงไปที่อ่างล้างมือ ห้องน้ำไม่ค่อยมีใครใช้นัก คงเพราะว่าในร้านอาหารเองก็ไม่ค่อยมีลูกค้าในช่วงเวลานี้
“สมุทรกับพลอยนี่ยังไงวะ” ไอ้โปรดเปิดประเด็น ผมเงียบ
“เธอดูสนใจสมุทรออกนอกหน้าเลย แล้วมึงก็รู้” มันขมวดคิ้วนิด ๆ งงกับสิ่งที่เห็น
“ก็สนใจไง มันก็เรื่องของพลอย” ผมพูดได้แค่นั้น
“........” ไอ้โปรดเงียบไป ตามองผมเขม็งอย่างเอาความทำให้ผมถอนหายใจแรง
“เลิกถามเรื่องนี้ได้ไหมวะ ทั้งมึงทั้งพี่ธานเลยน่ารำคาญฉิบหาย” ผมบ่น
“เอาจริงดิ นี่มึงชอบสมุทรเหรอวะ” ไอ้โปรดพึมพำด้วยน้ำเสียงแปลกใจ
“หะ ?” ผมขานตอบงง ๆ
“หะ ?” ไอ้โปรดเลียนเสียงตามผม เราต่างมองหน้ากัน
“คนนี้ใช่ไหมที่มึงถามถึงก่อนหน้านี้น่ะ” มันวิเคราะห์ ผมกลอกตาดำขึ้นมองไอ้โปรดผ่านกระจกก่อนจะหันตัวกลับไปประชันหน้ามันตรง ๆ
“มันมีอะไรที่ทำให้จมูกมึงดมกลิ่นได้ไวขนาดนั้นเลยรึไง” ผมพูดอย่างสงสัย
“แน่นอนว่ามี” ไอ้โปรดผงกหัวกวน ๆ เหมือนเราจะเล่น ๆ กันอยู่แต่ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างจริงจังกันพอดู
“ถ้าเป็นพลอย มึงไม่มีทางตามออกมาแบบนี้แน่” ไอ้โปรดพูด เรามองหน้ากันแทบไม่กะพริบตา ผมถือว่ามันอ่านออกทุกอย่างเร็วดีจริง ๆ
“เอาจริงนะมึง...” มันเอ่ยเป็นงานเป็นการพร้อมผายมือขึ้น ผมเงียบรอฟัง ดูท่าแล้วมันคงจะไม่ปล่อยผมไปง่าย ๆ แน่ถ้าไม่ได้ความ
“นั่นแม่งโคตรแมนเลยนะเว้ย ให้อารมณ์แบบ..ถ้าเป็นพ่อของลูก ก็จะเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีอะ คือกูก็พอรู้อยู่หรอกว่ามึงชอบคนลักษณะแบบนี้ กูจะไม่ห้ามด้วย..แต่ที่กูจะบอกคือ กูไม่ได้กลิ่นแปลก ๆ เลยสักนิดว่ะ” ไอ้โปรดไม่พูดเปล่า มันทำท่าขยับจมูกเหมือนหมาประกอบด้วย
“จริง ๆ แล้วพี่ธานก็เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีนะ แต่กูก็ไม่ได้อยากมีอะไรกับพี่ธานเหมือนกัน” ผมอ้างประชดถึงกรณีตัวอย่าง
“หึ..สำหรับพี่ธานกูจัดให้อยู่อีกหมวดนึง” ไอ้โปรดเบะปากยักไหล่
“กูพอจะเข้าใจอารมณ์มึงอยู่ เวลาที่เห็นอีกฝ่ายเขินมันน่ารักจนอยากจับแดกน่ะ แต่..แบบนี้แดกยากนะมึง เผลอ ๆ มึงจะไม่ได้แดกซะอีก” ไอ้โปรดเตือน ผมหัวเราะน้อย ๆ สมุทรเป็นคนที่เขินอายคนอื่นค่อนข้างง่ายมาก เวลาที่ถูกแซวอะไรเขามักจะยิ้มในลักษณะให้อารมณ์เก้อเขินอยู่นิด ๆ เสมอ
“.........” เราเงียบ ห้องน้ำแม่งก็เงียบ ในหัวผมก็เงียบไปหมด
“บางทีกูอาจจะมีวิธีทำให้ตัวเองได้แดกก็ได้นะ” ผมเบะปากพูดขึ้น
“โอ้ คุณไฟผู้มั่นใจในตัวเองกลับมาแล้ว” ไอ้โปรดผายมือออกกว้างทำหน้าทะเล้นแซว
“มึงรู้อะไรไหม เมื่อกี้น่ะ..มึงดูไม่มั่นใจตัวเองสุด ๆ เลยว่ะ” มันยิ้มมองผมด้วยแววตาสนุกสนาน ผมไม่เถียง
“งั้นทำไมมึงไม่จีบเขาดี ๆ ไปเลยวะ”
“กูจีบแล้ว” ผมถอนหายใจเอือม ๆ แม่งชักขี้เกียจจะพูดถึงประเด็นนี้แล้วนะครับ
“จีบห่าอะไร เจ้าตัวเขาพูดเองว่ามึงชอบหยอกชอบแกล้งเขาติดเป็นนิสัย ..เสีย” ไอ้โปรดประชด
“มึงถามมาเหรอ” ผมตกใจ
“เออ”
"กูจีบอยู่..แต่คนอย่างนั้น ถ้ากูไม่ทำแบบนี้มึงจะให้กูจีบยังไง เออ..ถ้าแม่งพูดง่าย ๆ เหมือนชวนมึงว่า รบกวนสละเวลามาขึ้นเตียงกันหน่อยเถอะครับ ได้กันแล้ว ๆ เดี๋ยวพวกเราค่อยมาคิดกันอีกทีว่าเข้ากันได้ไหม..งี้ก็ว่าไปอย่าง" ผมบ่นด้วยน้ำเสียงขึ้น ๆ ลง ๆ
“กูไม่ได้ง่าย ไอ้เหี้ย!” ไอ้โปรดสบถพร้อมเตะขาเข้ามาที่ขาผมเขิน ๆ
“อีกอย่าง..มึงก็พูดอยู่ว่าติดเป็นนิสัย” ผมขมวดคิ้วยอมรับ ไอ้โปรดหัวเราะ
“เวลาอีกฝ่ายทำท่าไม่พอใจตอนกูบังคับให้ทำอะไร แม่งถูกใจกูฉิบหาย” ผมบอกตรง ๆ
“สัตว์..แต่ทีคนอื่นทำท่าไม่พอใจใส่ มึงเกือบแดกเขาเนี้ยนะ” ไอ้โปรดส่ายหัวบ่นอย่างไม่เข้าใจ ข้อนี้ผมก็ไม่เถียงอีกนั่นละ
“งั้นกูมีทางลัด..” มันเอ่ย ผมรอฟังด้วยความตั้งใจ ถึงแม้เพื่อนผมคนนี้จะสมองน้อยแต่ไม่แน่ว่าเผื่อจะช่วยอะไรได้ก็ได้
“อันนี้นี่หลังจากทำแล้วมึงมักจะจีบได้เร็วสุด กูเห็นในละครเขาทำกัน” ไอ้โปรดทำหน้าเชื่อมั่น
“ปล้ำแม่งเลย พิศาลไง..Safe house มึงก็มีออกเยอะแยะ”
“ไอ้สัตว์ หึ ๆ” ผมส่ายหัวขำ ๆ
“ทางมึงเลยนี่ จิ! แต่แม่งคงยากหน่อยว่ะ ดูจากทรงแล้ว..เป็นมวยด้วยใช่ไหม ? ไอ้ฉิบหายเอ๊ย เตียงพังซะมั้ง” ไอ้โปรดเท้าเอวบ่นด้วยสีหน้าหนักใจแทนผม แต่มันดันทำให้ผมหัวเราะ ไม่รู้ว่าตกลงเพื่อนผมมันทำหน้าเครียดกับประเด็นก่อนหรือหลังกันแน่ ฟังแล้วงงไปหมด
“ถามหน่อยดิ..” มันเอ่ย ผมพยักหน้าอนุญาต
“อันที่จริงกูก็ไม่เคยคิดมาก่อนหรอกนะว่าจะต้องมาตั้งคำถามแบบนี้กับมึง คือ..อยู่ดี ๆ แม่งก็เป็นประเด็นน่าศึกษาสำหรับกูเลยว่ะ กูก็พอรู้ว่าแบบไหนที่มึงชอบ แต่ก็ไม่เคยมองภาพออกเป็นรูปเป็นร่างเลยว่าคนที่มึงเลือกจะเป็นคน ..แบบนั้น” มันจ้องตาผมเขม็ง ผมนิ่งเฉยรอคำถาม
“มันทำให้กูมีคำถามน่ะ..ว่า ถ้าอีกฝ่ายรุก มึงก็ยอมรับได้รึเปล่าวะ” ไอ้โปรดถามด้วยสีหน้าจริงจัง ผมแสยะยิ้มมุมปากทันที
“นั่นใช่ปัญหาสำหรับกูเหรอ...” ผมเลิกคิ้วตอบอย่างไม่แคร์ ไม่เคยคิดเรื่องนี้ในหัวเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นถือว่าไอ้โปรดตั้งประเด็นได้น่าสนใจสำหรับผมทีเดียว
“เป็นปัญหาสำหรับอีกฝ่ายมากกว่ามั้ง” ผมยิ้มเจ้าเล่ห์ ไอ้โปรดหลุดยิ้มออกมาทีละนิด
ถ้าผมได้สมุทรมาเป็นของผมจริง ๆ อย่างเดียวที่ผมแน่ใจเลยคือผมจะไม่ปล่อยให้ร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่งของเขาลอยนวลไปอย่างแน่นอน ใช่..
ผมหลงร่างกายของเขามากกว่าหน้าของเขาซะอีก ในทางกลับกันอย่างที่ไอ้โปรดถาม ที่ผ่านมาผมไม่เคยคิดที่จะเป็นฝ่ายรับ เพราะตรรกะง่าย ๆ ของผมคือผมชอบทำ ผมชอบใส่ของ ๆ ผมเข้าไปในตัวคนอื่น ผมไม่ได้ต้องการความเป็นผู้นำเพราะมันเหนื่อย แต่ในหัวของผมมีแต่ความต้องการแบบนั้น มันเป็นอารมณ์ที่สร้างความอิ่มเอมในชีวิต ในขณะเดียวกันผมไม่เคยปฏิเสธหรือขยะแขยงในการถูกให้เป็นฝ่ายรับ ที่ผ่านมาผมไม่เคยคิดว่านั่นคือประเด็นที่เป็นปัญหา ความจริงกว่านั้นคือไม่ว่าคู่นอนที่เข้ามาในชีวิตผมจะแมนแค่ไหนก็ไม่เคยมีใครหน้าไหนกล้าที่จะบังคับให้ผมเป็นแบบนั้นได้ ถึงแม้จะมีบางคนกล้าเอ่ยปากขออยู่บ้างซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นชาวต่างชาติ แต่เมื่อผมเงียบก็ไม่มีใครกล้าทำอะไรต่อ ไม่ได้โกรธหรอก ไม่ได้ไม่ชอบ ไม่ได้รังเกียจ ไม่ได้รู้สึกว่าตนเสียศักดิ์ศรีในความเป็นชายแต่อย่างใด
แต่แค่ไม่ได้ให้สิทธิ์ก็เท่านั้น บางทีใบหน้าของผมมันคงมีความหมายตอบให้คนพวกนั้นไปโดยนัยยะว่า.. อย่าเอาหน้าแบบนั้น
มาสะเออะกล้าขอสิทธิ์ที่ควรได้รับมากเกินไป ละมัง
“ถือว่าตอบได้ดี” ไอ้โปรดพึมพำผงกหัวขึ้นลง
“มึงนี่จิตใช้ได้เลยกูชอบ” มันชมตาวาวคล้ายเหลือเชื่อ
“กูไม่ได้โรคจิตแบบมึงครับ กูแค่พูดว่า..นั่นไม่ใช่ปัญหาของกู” ผมแสยะปากส่ง ๆ ไปที
“งั้นปัญหาแรกตอนนี้คือ มึงทำให้เขาชอบมึงให้ได้ก่อนเหอะ!” อยู่ ๆ ไอ้โปรดก็สบถออกมาซะดัง ผมหัวเราะร่วน
“บางทีมันอาจจะชอบกูแล้วก็ได้นะ” ผมเบ้ปากตอบ เพื่อนรักกลอกตาทำหน้าเอือมจัด
“เร็ว ๆ นี้ต้องชอบกูแน่ ๆ” ผมกัดฟันพร้อมฉีกยิ้มกว้าง สยามเมืองยิ้ม
“กูจะรอดูนะ” ไอ้โปรดถอนหายใจพร้อมผายมือมาให้
“ขอบคุณครับ” ผมผงกหัวจับมือมันตอบอย่างนักธุรกิจ เราผละมือออกก่อนเข้าไปทำธุระส่วนตัว เดินกลับมาที่โต๊ะพร้อมกันด้วยสีหน้าชื่นมื่นปกติ ไอ้คินบ่นทักอยู่บ้างที่พวกผมหายหัวกันมานาน แน่นอนว่าสมุทรเองก็มองผมด้วยสายตาที่ดูสงสัยเป็นอย่างมาก
“น้อง..คิดเงินเลย” ไอ้โปรดกวักมือส่งสัญญาณให้พนักงาน
“มื้อนี้ผมเลี้ยงเอง ฉลองหน่อย” ไอ้โปรดทำเสียงกระเส่า ยิ้มเจ้าเล่ห์มองหน้าสมุทร คนถูกมองใบหน้าเปื้อนยิ้มน้อย ๆ ไม่กล้าสบตาไอ้โปรดมากนัก ผมเลื่อนเก้าอี้นั่งลงพลางแสยะยิ้มกว้างไม่ว่าอะไร
ก็ผมชอบเพื่อนผมจะตาย..หึ “เรื่องอะไรวะ” ไอ้คินขมวดคิ้วสงสัย
“เรื่องที่พ่อมึงจับได้ว่ามึงแอบดูผู้หญิงแก้ผ้าตอนเจ็ดขวบมั้ง” ไอ้โปรดทำหน้าแขยง
“ไอ้โปรด ปากมึงแม่ง” ไอ้คินด่าเขิน ๆ
“ไฟ..เดี๋ยวให้สมุทรไปส่งพลอยได้ไหม” พลอยถาม
“เอ่อ เดี๋ยวผมต้องไปส่งคุณไฟนะครับ” สมุทรพูดแทรก พลอยมองสมุทรหงอย ๆ ก่อนหันมาค้อนใส่ผมอีกครั้งคล้ายบังคับกลาย ๆ
“อยากให้มันไปส่ง ?” ผมพูดห้วน ๆ ด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างดัง ชี้นิ้วไปที่สมุทรด้วยสีหน้ากวนเบื้องต่ำต่อหน้าทุกคน หน้าของพลอยถอดสีเลิ่กลั่ก
“มีอะไรแลกเปลี่ยนล่ะ” ผมเท้าศอกลงบนโต๊ะ เทินหน้ามองไปทางพลอย ปลายเท้าที่อยู่ใต้โต๊ะเกลี่ยอยู่ที่ข้อเท้าของเธออย่างจงใจแกล้ง พลอยชะงัก
“อยากไปไหมล่ะ” ผมช้อนตาขึ้นเจาะจงถามสมุทร เขาเหสายตาลงอย่างเกรงใจ
“ไปด้วยกันนะคะ” พลอยเอี้ยวตัวไปยิ้มชวน
“ไม่ได้หรอกครับ ผมต้องทำงานนะครับ” สมุทรตอบ
“ดีแล้วล่ะ จำไว้ว่าชีวิตจะรุ่ง..งานต้องมาก่อนผู้หญิง” ผมกระแทกเสียงพร้อมปรบมือชมดังลั่นร้านดัง
“แปะ ๆ ๆ!” จนคนในร้านหันมามองกันหมด
“หึ ๆ ๆ” ไอ้โปรดกับไอ้คินส่ายหัวปิดปากกลั้นหัวเราะ ส่วนพลอยกัดริมฝีปากหน้าหงิกหน้างอไปแล้ว
“จับเงิน..ต้องจับให้ได้บ่อยกว่าจับถุงยาง ถ้าหากจับถุงยางบ่อยกว่าเงิน ถุงยาง..จะต้องทำเงินได้” ผมพูดตาลอย
“ฮ่า ๆ ๆ ไอ้เหี้ยนี่” ไอ้โปรดหลุดขำเป็นจริงเป็นจัง พลอยเหมือนจะพูดไม่ออก เมื่อเราลุกขึ้นผมจึงคว้าเอวเธอเข้ามากอดเพื่อให้เดินไปด้วยกัน เจ้าตัวไม่กล้าแม้แต่จะขัดขืนคงเพราะอายสมุทรนั่นละ ครั้งนี้ผมเลือกที่จะไม่ยอมให้สมุทรเดินไปส่งพลอยที่รถแม้พลอยจะเอ่ยขอ ตัวสมุทรเองก็ฟังคำสั่งผมเป็นอย่างดี
บางทีการที่เราใช้หน้าที่กระตุกเชือกที่ปลอกคอกับคนของเราอาจเป็นเรื่องที่ควรทำในบางสถานการณ์น่ะนะ .. สมุทรตามผมมาที่รถและกุลีกุจอเปิดประตูรถให้ รถขับเคลื่อนตัวออกมาทั้งอย่างนั้นโดยมีพลอยยืนหน้าบึ้งใส่ผมจนลับตา บรรยากาศในรถเปลี่ยนไปเป็นอย่างกับเหตุการณ์เมื่อคืนนี้หมุนวนกลับมาทักทาย ผมไม่พูดและเขาไม่เอ่ย
............(ไฟ)............
ขอบคุณค่ะ
เบบี้