ตอนที่ 17
..ไฟ.."เอ่อ นี่เสื้อยืดของคุณตุล" ไอ้คินโผล่หัวเข้ามาพร้อมกับเสื้อยืดสีดำในมือ คุณตุลเดินตามหลังมันมาด้วย
"เออ! ใครโทรมาวะเนี่ย!" ไอ้คินตีหน้าซื่อหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโต้ง ๆ
"อะ เปลี่ยนซะ" มันยื่นเสื้อมาให้ ผมรับมา
"ฝากไอ้ไฟด้วยนะครับคุณตุล" ไอ้คินหันไปบอกตุลอย่างลวก ๆ แล้วรีบเดินคุยโทรศัพท์ออกไปเลย ผมหันไปมอตุลเล็กน้อย อีกฝ่ายอมยิ้มด้วยสีหน้าประหม่าแบบที่ถ้าเป็นผู้ชายปกติก็คงจะไม่ทำกัน
"ของ..แฟนเก่าผมน่ะครับ น่าจะไซซ์เดียวกันกับคุณไฟ ถ้าคุณไม่รังเกียจ" เขาพูดขึ้นซะตรง พูดขนาดนี้เปิดประตูซะอ้ากว้างทีเดียวเชียว ผมอมยิ้มมุมปาก
"หึ..ไม่หรอกครับ ขอบคุณ" ผมตอบ
"ฝากถือสักครู่ได้ไหมครับ" ผมยื่นเสื้อของคุณตุลกลับไปให้เขา
"ครับ" ตุลรับไปถือไว้และยังคงไม่เดินไปไหน ผมหันตัวกลับมาทางกระจกอีกครั้ง แกล้งทำเป็นมีมารยาทกับการถอดเสื้อออกต่อหน้าคนอื่นไปอย่างนั้นเอง ผมปลดกระดุมลงช้า ๆ อย่างใจเย็น นวยนาดเพราะนอกจากจะรู้สึกสนุกอยู่ลึก ๆ ในตอนนี้ก็ไม่ได้คิดอะไรมากอีกด้วย จะหัวหรือก้อย ผมไม่ได้คิดหนักอะไรเพราะผมไม่มีผลกระทบเดือดร้อนด้วยน่ะนะ
เมื่อถอดเสื้อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมหันตัวกลับไปหาตุลอีกครั้ง อีกฝ่ายยื่นเสื้อยืดกลับมาให้ไม่สบตาผมตรง ๆ ผมเลยแกล้งยื่นเสื้อเชิ้ตที่เพิ่งถอดกลับไปให้เขา ตุลรับไปและผับเสื้อให้ผมเรียบร้อย ผมอมยิ้มมองกะล่อนอย่างลืมตัวเพราะชอบที่ได้เห็นอะไรแบบนี้ อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมองหน้าผมพอดีถึงกับชะงัก หลบสายตาผมไปอีกทาง เมื่อผมใส่เสื้อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตุลก็ยื่นเสื้อเชิ้ตของผมกลับมาให้
"ขอบคุณครับ" ผมบอก ตุลยังคงยืนนิ่งไม่ขยับไปไหน ผมเองก็เลยลองยืนนิ่ง ๆ ดูบ้าง
"จะทำธุระก่อนไหมครับ ผมรอเป็นเพื่อน" ผมพูดเสนอก่อน
"เอ่อ..ครับ" ตุลตะกุกตะกักพยักหน้าตอบ เข้าเดินแยกเข้าไปเข้าห้องน้ำแบบส่วนตัว ผมเดินไปยืนพิงอยู่ตรงอ่างล้างมือโดยหันหน้าเข้าไปทางประตูห้องน้ำที่ตุลเพิ่งเข้าไป ยืนหันหน้าตรง ๆ จงใจที่จะประชันหน้ากับอีกฝ่าย ประมาณห้านาทีให้หลังคนในห้องน้ำก็เดินออกมา ตุลชะงักที่เห็นผมจ้องอยู่ก่อนแล้ว ดูเขาทำตัวไม่ค่อยถูกแต่ท่าทีก็ไม่ได้เป็นไปในทางที่แย่นัก ผมคิดว่าเขาก็น่าจะพออ่านสถานการณ์ในตอนนี้ออก ผมคิดว่าถึงเป็นผู้ชายแท้ ๆ ก็คงอ่านออกว่าการกระทำของผมในตอนนี้มันแปลก
ตุลเดินมาหยุดยืนล้างมืออยู่ที่อ่างน้ำข้าง ๆ กับที่ผมยืนอยู่ เขาเปิดก๊อกน้ำล้างมือ ผมหันไปมอง
"คุณตุลเอารถมาเหรอครับ" ผมถาม
"ครับ" ตุลหันมายิ้มตอบ ผมเงียบลงจนอีกฝ่ายล้างมือเสร็จ
"แล้ว..คุณไฟขับรถมาเองเหรอฮะ" อีกฝ่ายเริ่มยิงคำถามบ้าง
"เปล่าครับ ให้ลูกน้องขับมาน่ะ" ผมตอบ เอื้อมมือหยิบกระดาษทิชชู่เช็ดมือยื่นไปให้ ตุลผงกหัวเล็ก ๆ และรับกระดาษทิชชู่ไปเช็ดมือจนแห้งดี เขาก็นำกระดาษไปทิ้ง
"แล้ว..เสร็จจากที่นี้จะไปไหนต่อเหรอครับ" ผมถามอีก การยิงคำถามเป็นไปแบบไม่ยิงเร็วทันทีทันใดเพราะต้องสังเกตท่าทีของอีกฝ่ายด้วย เป็นการถามอย่างเว้นระยะเพื่อให้อีกฝ่ายได้ใช้เวลาคิดบ้างว่า ผมจะถามต่อรึเปล่าอะไรทำนองนั้น
"คงกลับโรงแรมเลยน่ะครับ พรุ่งนี้มีสัมมนาที่โรงแรมแต่เช้า" ตุลยิ้มหวานตอบ ครั้งนี้เขาหันมามองหน้าผมตรง ๆ ผมจ้องมองสำรวจใบหน้าอีกฝ่ายชัด ๆ ให้เต็มตาอีกครั้ง คุณตุลเหสายตาหนีไปอีกทาง
"พักที่โรงแรมของไอ้คินเหรอ"
"ครับ" ตุลพยักหน้า ผมพยักหน้ารับเช่นกัน เราเงียบลง ผมเหสายตาลงพื้นอยู่ครู่หนึ่ง ตุลไม่พูดทักอะไร ยืนเงียบตรงหน้าผมคล้ายกับรอดูปฏิกิริยาของผมด้วย ผมเงยหน้าขึ้น เหลือบมองผู้ชายที่ล้างมือเสร็จและเขากำลังมองมาที่ผมและตุล อีกฝ่ายคงสงสัยว่าผมสองคนกำลังจีบกันอยู่รึเปล่าละมัง
"ผมไปส่งเอาไหมครับ" ผมถามขึ้นโต้ง ๆ
"หะ.." ตุลอุทานเบา ๆ ด้วยใบหน้าดูตกใจ ผมไม่ขยายความในประโยคที่เพิ่งพูดไปแต่มองเขาอย่างมีเล่ห์นัยให้ตีความเอาเอง ตุลนิ่งไปครู่ รอยยิ้มน้อย ๆ ผุดบนใบหน้าให้เห็น
"นี่เป็นการชวนขึ้นเตียงเหรอครับ" อีกฝ่ายพูด
"หึ" ผมหลุดหัวเราะในทันที ไม่อยากจะเชื่อว่าคำพูดตรงไปตรงมานี้จะออกมาจากท่าทีประหม่าของคน ๆ เดียวกับเมื่อก่อนหน้า
"คงงั้นมั้งครับ" ผมตอบส่ง ๆ ไปทีแต่ก็ไม่ปฏิเสธ
"ไอ้คิน บอกว่าคุณเป็นแขกคนสำคัญ มันบอกให้ผมดูแลคุณเป็นอย่างดีให้หน่อย แต่ว่าผม..ดูแลใครไม่เป็นนอกจากเรื่องแบบนี้ซะด้วย" ผมพูดพลางจ้องหน้าตุลเขม็งเป็นการบอกว่า "ผมไม่ได้พูดเล่น" เขาเองก็จ้องตาผมไม่กะพริบเช่นกัน
"เพื่อนผมมันคงลืม ว่าผมชอบตีความผิดความหมายจากชาวบ้านทั่วไป แล้วก็ไม่อธิบายให้กระจ่าง" ผมยิ้มมุมปาก ตุลยิ้มน้อย ๆ ไม่ว่าอะไร
"ผมเสียมารยาทกับคุณตุลซะแล้ว เอายังไงดีละครับ" ผมพูดเชิงถามให้เขาตัดสินใจ ตุลยิ้มกว้างออกมาด้วยสีหน้าเขิน ๆ เขาเงียบไปประมาณหนึ่งอึดใจจนผมเริ่มขยับตัว ตุลผงะ ช้อนตาขึ้นมองตาม
"ถ้าคุณไฟไม่มีธุระที่ไหน" เขาพูดขึ้น ผมยิ้มให้และเดินเข้าไปหาก่อนนำแขนโอบเอวอีกฝ่ายเบา ๆ
"ขอกุญแจรถด้วยครับ" ผมก้มลงไปกระซิบบอก ตุลหน้าแดงทันที เขาหยิบกุญแจรถออกมาให้ผมง่าย ๆ คนในห้องน้ำพากันมองมาที่เราทั้งคู่ ผมเหลือบมองเรียงรายตัวพร้อมแสยะยิ้มทักทายให้ทุกคนอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว เพื่อนสนิทผมเคยบอกว่าผมหน้าด้าน ผมว่าผมไม่ได้หน้าด้าน แต่ผมแค่เป็นคนที่ถ้าอยากทำอะไรผมก็ไม่อายต่อสถานที่เท่านั้นเอง..
หลังจากเคลียร์เรื่องในห้องน้ำเสร็จเรียบร้อย ผมกลับมานั่งที่โต๊ะอีกครั้ง ทุกคนครื้นเครงกว่าเดิม มีผู้หญิงนั่งขนาบข้างกันคนละคู่โดยไม่มีใครทักถามหรือสนใจที่ผมและตุลไม่เรียกให้ผู้หญิงมานั่งด้วย มันเดาได้ไม่ยากว่า ทั้งกำธรและเอกเองก็คงรู้เบื้องลึกเบื้องหลังอะไรอยู่บ้างไม่มากก็น้อย
ระหว่างที่นั่งดื่ม เราคุยเรื่องธุรกิจและเรื่องทั่วไปกันบ้าง ไม่ได้เจาะจงเรื่องซีเรียสอะไรเป็นพิเศษ ผมที่นั่งติดกับตุลก็ชวนเขาชนแก้วบ้างครั้งคราว ไม่ได้ออกท่าทีหวานเสน่ห์หรือจีบแบบตรงไปตรงมา หรือหาทางหยอดตลอดเวลาอย่างที่ควรจะทำ ผมไม่ชอบทำอะไรทำนองนั้น คงเพราะโดยปกติผมก็ไม่ค่อยทำแบบนั้นกับใครอยู่แล้ว อีกฝ่ายจะชอบผมหรือไม่ชอบผม ส่วนใหญ่ผมมักไม่ค่อยเทคแคร์อะไรใครเป็นพิเศษ ชวนคุยบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้เพื่อไม่ให้ต่างเกร็งกันจนเกินไป แต่ถ้าจะให้ไปพะเน้าพะนอคลอเคลียคอยเอาอกเอาใจอีกฝ่าย ผมไม่ทำ
หลังจากที่ทุกคนเริ่มเข้าโลกของตัวเองแน่นอนว่าไม่มีใครจบแค่ที่โต๊ะนี้แน่ เวลาเกือบเที่ยงคืน ผมขอตัวออกมาก่อน ไอ้คินและไอ้โปรดดูท่าจะอ่านทุกอย่างออก มันอมยิ้มกะล่อนพร้อมกับโบกมือบ้ายบายให้ผม ระหว่างที่ตุลกำลังลาคนที่โต๊ะผมก็เดินนำออกมาก่อนเพื่อไม่ให้ตุลดูน่าเกลียด ผมออกมายืนรอที่หน้าร้าน ไอ้เข้มกับไอ้เด่นยืนรออยู่ก่อนนานแล้ว
"เข้ม..เดี๋ยวมึงขับคันนี้ไปส่งกูที่โรงแรมของไอ้คิน" ผมยื่นกุญแจรถของตุลให้มัน ไอ้เข้มรับไป มันก้มหน้าก้มตารับฟังคำสั่งจากผมอย่างตั้งใจ
"ส่วนมึงขับรถกูไปจอดที่โรงแรม บอกเขาว่าของกู ทิ้งกุญแจรถไว้ที่ล็อบบี้แล้วกัน คืนนี้กูจะนอนนั่น" ผมสั่งไอ้เด่นแล้วหยิบเงินออกมาสองพันบาทยื่นให้กับมันสองคน ๆ ละหนึ่งพัน
"เสร็จแล้วมึงก็กลับบ้านกันได้เลย" ผมบอก
"ครับนาย" มันสองคนรับทราบ ตุลเดินออกมาพอดี อีกฝ่ายดูจะตกใจที่เห็นไอ้เข้มและไอ้เด่นยืนอยู่ด้วย เขาอมยิ้มน้อย ๆ ทักทายมันทั้งคู่ ลูกน้องทั้งสองคนผงกหัวอย่างนอบน้อมและไม่มองหน้าของตุลอย่างรู้จักมารยาทและหน้าที่
"เชิญครับ" ผมผายมือให้เล็กน้อย ไอ้เข้มกดหารถยนต์ของคุณตุล เมื่อรถส่งสัญญาณมันก็รีบวิ่งนำตรงไปที่รถคันของตุลทันที ผมและตุลเดินตามไปอย่างไม่เร่งรีบอะไร อีกฝ่ายยิ้มให้ผมเป็นระยะแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะออกอะไรเกินงาน ผมจึงเข้าไปโอบเอวตุลเข้ามาเพื่อให้เขาหายเกร็งและเดินไปด้วยกันแบบนั้น
"คนรักคุณไฟไม่หลงตายเลยเหรอครับ ทำอะไรไม่อายใครแบบนี้" ตุลแซวยิ้ม ๆ
"หึ" ผมหลุดหัวเราะและไม่คิดจะพูดขยายความใด ๆ
"เจ้าชู้นี่คือนิสัยสินะครับ" ตุลพูด ใบหน้าทีเล่นทีจริง
"คุณตุลนี่เสียมารยาทจัง" ผมตอบปัดไปงั้น อีกฝ่ายหัวเราะเบา ๆ ที่ถูกผมพูดหยอกกลับ
"ผมดูเป็นงั้นเหรอครับ" ผมก้มหน้าถามเขาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
บางคนชอบพูดกับผมแบบนี้ ซึ่งผมไม่เคยรู้สึกว่าตัวผมเจ้าชู้ขนาดที่สับรางเก่ง ผมไม่เคยสับรางเพราะมันยุ่งยากน่ารำคาญ เมื่อไหร่ที่ผมนอนกับใครหลายคนผมก็ไม่เคยปฏิเสธเพื่อรักษาน้ำใจใครที่ผมนอนด้วยว่าผมนอนกับเขาแค่คนเดียว และสำหรับผม คนเจ้าชู้คือคนที่ไม่พร้อมจะหยุดอยู่กับใคร คบหา ปิดบังและนอนกับใครก็ได้ทีละหลาย ๆ คน ไม่มีความจริงใจหรือจริงจัง บางครั้งก็ไม่ตรงไปตรงมาต่อผู้อื่น ซึ่งผมคิดว่าผมไม่ได้มีส่วนนั้นทั้งหมด ถ้าใครคิดคบกับผมแบบจริงจังไม่ได้หวังแค่ร่วมหลับนอนด้วย และถ้ารับไม่ได้ที่ผมนอนกับคนอื่นในขณะเดียวกัน ก็เชิญไปซะ ผมไม่สนเพราะก่อนที่อีกฝ่ายจะเป็นฝ่ายเข้ามาเสนอให้ จะต้องรู้ดีอยู่แล้วว่าผมไม่คิดคบหาใครอย่างจริงจัง
"ไม่หรอกครับ ขอโทษด้วย ผมก็แซวไปงั้น ก็เขินนี่นะ" ตุลยิ้มน้อย ๆ ตอบปัด ผมก้มลงหอมแก้มเขาอย่างรู้สึกหมันเขี้ยว
"คุณไฟ" ตุลปรามผมอย่างอาย ๆ ไอ้เข้มก้มหัวลงทันทีที่ผมหันไปสบตา เมื่อถึงรถแล้วผมจึงเปิดประตูรถให้ตุลขึ้นไปก่อน ไอ้เข้มรีบเปิดประตูรถฝั่งของผมรอ ไอ้เด่นเคลื่อนรถมารออยู่ก่อนแล้ว เมื่อไอ้เข้มขับนำออกมาก่อนมันจึงขับตามมา เมื่อถึงโรงแรม ตุลก็เดินนำพาผมขึ้นไปบนห้องพัก Suite ของเขา โรงแรมของไอ้คินยังวิวดีอย่างเคย ผมเคยมานอนแล้วครั้งสองครั้งแต่ไม่ใช่ห้องฝั่งนี้ มันชอบเลือกฝั่งที่วิวไม่ค่อยดีให้เพื่อนรักอย่างผมตลอด
ผมหยิบกระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์มือถือนำไปวางลงบนโต๊ะกลางห้องก่อนเดินไปเปิดผ้าม่านเพื่อดูวิวด้านนอกให้ชัดเต็มตามากขึ้น ตุลเดินเข้าไปในห้องนอน ผมไม่ถามว่าเข้าไปทำไมเพราะส่วนใหญ่ที่หายไปก็มักจะไปทำธุระส่วนตัว ครู่หนึ่งเขาก็ออกมา ตุลถอดเสื้อสูทนอกออกเรียบร้อยแล้ว ผมยืนมองนิ่ง ๆ
"เอ่อ สูบบุหรี่ได้ไหมครับ" ตุลถามเสียงเบามาก ผมเหสายตา
"อย่าเลย ผมไม่ค่อยชอบน่ะ" ผมพูดตามตรง บางครั้งการได้กลิ่นบุหรี่จากปากผู้ชายก็ไม่เท่าไหร่ รู้สึกพอทำใจได้ ยิ่งถ้าอารมณ์ถึงจุดหน้ามืดแล้วจะบุหรี่หรือกัญชาก็คงห้ามผมไม่อยู่ แต่ถ้าเป็นผู้หญิงและจำเป็นที่จะต้องจูบกัน ถ้าอารมณ์ผมไม่ได้ดีคงที่เป็นทุนและมาได้กลิ่นบุหรี่จากปากของเธอ มันเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผมเสียอารมณ์ได้ไม่น้อยเหมือนกัน ผู้หญิงคนไหนมีกลิ่นบุหรี่ติดมา ส่วนใหญ่ผมไม่ไปต่อด้วย
"คุณไฟไม่สูบเหรอครับ หึ..หน้าไม่ให้เลยนะ" ตุลอมยิ้มแซว
"หึ" ผมหัวเราะเท่านั้นเพราะคำพูดนี้ไม่ได้หลุดออกมาจากปากเขาคนแรก ผมได้ยินจนชินหูเสียแล้ว ตุลเดินตรงเข้ามาหาแต่ก็เว้นระยะห่างไว้ประมาณเมตรหนึ่ง
"แต่ถ้าคุณติดก็ตามสบายนะ" ผมพูดลองเชิง
"ไม่หรอกครับ ก็ไม่รู้จะทำอะไร" ตุลตอบ เขาหลบตาผมไปอีก
"อ่าว..นี่ไม่ได้มาเพื่อหาอะไรทำกันหรอกเหรอ" ผมกวนตอบหน้าตาย
"หึ บ้า" ตุลยิ้มเขิน เข้ามาตีแขนผมเบา ๆ มือของอีกฝ่ายเลื่อนมาจับอยู่บนเสื้อที่อกผม ผมจ้องมองหน้าตุลที่กำลังมองสำรวจร่างกายของผมอยู่
"คุณไม่เหมาะกับมันหรอก" ผมพูดบอก ถึงบุหรี่และตัวเขา
"กับใครครับ ไม่เหมาะกับคุณ หรือ บุหรี่" ตุลแสยะยิ้มถามผมกลับกวน ๆ ด้วยสายตาเย้าหยอกผมอีกด้วย
"ก็ทั้งคู่นั่นแหละ" ผมยิ้มตอบพร้อมกับเข้าไปโอบเอวของตุลมาทั้งสองมือ เมื่อสำรวจจากรอบเอวแล้ว เนื้อตัวไม่ได้ต่างจากที่สายตาได้เห็นภายนอก ตัวของตุลแนบชิดเข้ามาติดกับตัวผม ผมไล่มือต่ำลงจากสะโพกลงไปที่บั่นท้าย กางเกงผ้าสีกากีตัดกับสีเสื้อเชิ้ตและสูทนอกที่เพิ่งถอดออกไปแสดงถึงความทันสมัยของคนใส่ แม้จะเป็นสีกากีทึบ ๆ แต่กลับยังเห็นรูปร่างได้อย่างชัดเจนว่าก้นอีกฝ่ายคงสวยแบบที่ไอ้คินโฆษณาไว้เป็นแน่
"อะ" ตุลหลุดครางออกมาเมื่อผมจงใจบีบก้นของเขาอย่างแรงพร้อมกันทั้งสองมือ เพราะรู้สึกหมันเขี้ยว แขนอีกฝ่ายกอดเข้าที่ไหล่ผมทันสองข้าง หน้าแม่งโคตรยั่วได้อีก ผมว่าผมโดนของจริงเข้าให้แล้ว
"คุณไฟ..ขอ ตุล อาบน้ำก่อน" อีกฝ่ายกระซิบบอกที่ข้างหู ผมไม่ฟังเสียงเพราะถ้ามีอารมณ์ก็ไม่อยากจะมานั่งรออะไรไม่เข้าท่าแบบนั้น อีกอย่างกลิ่นตัวเขาก็ไม่ได้เหม็นน่ารังเกียจ ติดจะหอมซะด้วยซ้ำ นึกจะนอนกับนักธุรกิจแล้วไม่ทำระหว่างอยู่ในเครื่องแบบแล้วจะไปมีผลอะไร
"ไฟ อ้า~" ตุลเผลอครางออกมา ครั้งนี้เสียงหลงกว่าเก่า ผมดึงกดเอวของเขาเข้ามากระแทกกับตัวทั้งสองมืออย่างย้ำแน่น อีกฝ่ายตัวสั่นที่ถูกผมแทรกขาซ้ายเข้าไประหว่างขาของเขาทำให้รับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายมีอารมณ์อย่างมากจนเป้าแข็งเด่นออกมาแล้ว
ตุลเลื่อนมือที่จับไหล่ผมอยู่ไปจับข้อมือของผมที่กำลังนวดคลึงก้นของเขาอย่างสนุกมือไว้ คล้ายกับพยายามห้ามปราม ผมมองสีหน้าของเขาไม่วางตา รู้ว่าอีกฝ่ายจงใจยั่วผมด้วยทีท่าหวงตัวไปอย่างนั้นเอง หน้าตาเขามีอารมณ์ร่วมยั่วยวนสุด ๆ แบบที่รู้ทันทีเลยว่าคืนนี้คงเป็นอีกคืนที่ไม่ธรรมดาแน่ เพราะคู่ต่อสู้คนนี้คงเซ็กส์จัดพอดู แต่ก็คงดีสำหรับผมละมัง ถือว่าครั้งนี้ได้กำไรแบบไม่ทันตั้งตัวเพราะถ้าเจอคนที่เซ็กส์เข้ากันได้ ผมเองก็เป็นคนเซ็กส์จัดไม่น้อย ไม่ขอปฏิเสธ
- - - - - - - - - - - - - - -
06:21 น. RATIO HOTEL
"จุ๊บ~" ผมสะดุ้งตื่นแต่ยังไม่ยอมลืมตาขึ้นดูเพราะรู้อยู่แล้วว่าคนที่นอนอยู่ด้วยเมื่อคืนนี้กำลังทำอะไรผม ผมยังคงหลับต่ออย่างรู้สึกเพลีย ๆ เล็ก ๆ ริมฝีปากของตุลไล่จูบไปทั่วระหว่างหน้าอกและลำตัวของผม ดูอีกฝ่ายจะเพลินพอได้เหมือนกัน ผมสะลึมสะลือ ลืมตาขึ้นมองดูเล็กน้อย เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าทำผมตื่นแล้ว ท่าทางการจูบไซ้อย่างเกร็ง ๆ เพราะกลัวว่าจะกวนผม ทั้งอย่างนั้นดูเหมือนเขายังไม่หยุดที่จะรุกมากขึ้นเรื่อย ๆ
อยู่ ๆ ตุลก็ลุกขึ้นนั่ง อ้าขาคร่อมอยู่บนตัวผม แก้มอีกฝ่ายแดงระเรื่อ หน้าตาบอกว่ามีอารมณ์สุด ๆ ขนาดเมื่อคืนทำจนร้องระงมจนนอนหมดแรงขนาดนั้น เขายังลุกขึ้นมาด้วยท่าทางกระปรี้กระเปร่าได้อย่างไม่น่าเชื่อ
"อื้อ" ตุลพยายามกลั้นเสียงครางของตนไว้ในลำคอเมื่อเขานำก้นถูเข้ากับน้องชายของผมที่ใส่เพียงกางเกงในนอนปิดไว้ ดูท่าอีกฝ่ายจะชอบที่ของผมมันเริ่มแข็งขึ้นทีละนิด มือทั้งสองมือลูบตัวผมไล่ขึ้นลงอย่างแผ่วเบาแต่ก้นกลับกระแทกถูหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนผมแอบสังเกตเห็นว่าน้องชายของตุลแข็งชันเด่นนูนออกมาจากกางเกงในสีขาว ๆ ที่เขาสวมใส่อยู่
"กวนอะไรแต่เช้า" ผมทนไม่ได้ ลืมตาขึ้นมองเต็มตา ทำเสียงดุออกไป อีกฝ่ายสะดุ้งหน้าเสีย หยุดขยับทุกอย่างทันที ผมนอนมองตาขวางก่อนนำมือลูบหน้าลูบตาตัวเองเพื่อให้ตื่นเต็มตา เมื่อหันกลับไปมองดูนาฬิกาก็เห็นเวลาว่ายังเช้าอยู่มากเลยไม่ได้ต่อว่าอะไรอีก ส่วนตัวก็มีอารมณ์จะทำอยู่แล้วด้วยเหมือนกัน เซ็กซี่ขนาดนี้ปล่อยไปก็แปลกแล้วละมั้งครับ
"ขอโทษครับ" ตุลพูดเสียงหงอย ทำท่าจะลงจากตัวผม ผมจับสะโพกเขากดเอาไว้ให้นั่งอย่างเดิม
"มีสัมมนาเช้านี้ไม่ใช่เหรอ" ผมถามห้วน ๆ ด้วยสีหน้าดุ ๆ แกล้งไปอย่างนั้น
"เอ่อ ต้องขึ้นเปิดงานตอนเก้าโมงน่ะครับ" ตุลตอบ ผมอมยิ้มมุมปากมองอย่างเจ้าเล่ห์
"เมื่อคืนยังไม่พออีกรึไง" ผมว่าพร้อมกับแกล้งขยับเอวหนีเล็กน้อย ตุลมองตามตาละห้อย
"ไฟอะ อย่างแกล้งสิ" อีกฝ่ายอมยิ้ม หน้าแดงด้วยท่าทางอาย ๆ ตุลก้มลงเข้ามาหาผมทำให้หน้าของเราประชันอยู่ตรงหน้ากันและกัน ตุลทำท่าจะก้มลงมาจูบแต่ผมเบือนหน้าหนี ริมฝีปากของเขาจึงกดลงหอมที่แก้มผมอย่างแรงและจูบแทบทั่วไปหน้าผมด้วยสายตาโหยหาแสดงออกจากโจ่งแจ้ง ผมเบี่ยงหน้าหนีเขาตลอดเวลา แกล้งไม่ต้องการให้อีกฝ่ายจูบ
"อื้อ!" ตุลประท้วงในลำคอหน้างอที่ผมไม่ยอมจูบเขาดี ๆ ผมยิ้มกว้าง ปฏิกิริยาที่ตรงไปตรงมาของเขาก็ดูน่ารักดี ผมได้จังหวะจึงแกล้งกระแทกน้องชายตัวเองสวนขึ้นไม่ทันให้เขาได้รู้ตัวก่อน เสียงครางดังขึ้นอีกครั้ง ตุลกัดฟันแน่นเป็นการบอกว่ากำลังมีอารมณ์อย่างหนัก เขาหลับตาครวญครางด้วยน้ำเสียงยั่วยวนอยู่ในลำคอ มืออีกข้างเท้าอยู่บนเตียงและอีกข้างไขว้หลังไปจับก้นของตัวเองเอาไว้ด้วย
ตุลกดบั้นท้ายตัวเองลงขยี้สู้น้องชายผมกลับอย่างไม่ยอมแพ้ ผมกัดลิ้นมองอย่างหมดความอดทน นำมือจับก้นของตุลไว้ทั้งสองมือพร้อมกับแหวกกางเกงในขึ้นรวบรวมมาดึงไว้ที่ซอกก้นอย่างจงใจแกล้งเขา ก้นอีกฝ่ายทั้งกลมและพอดีมือแบบที่จับกี่ครั้งก็รู้สึกหมันเขี้ยวได้ตลอด ผมตีแก้มก้นตุลอย่างแรง เจ้าตัวครางเสียงหวาน หลับตาพริ้มพร้อมกดหน้าลงเข้าที่ไหล่ผม สะโพกส่ายไปมาสู้มือผมซะอย่างนั้น
"อ้า! ไฟ อื้อ!" ตุลชันตัวเองขึ้นนั่งอีกครั้ง ร้องครางหน้าตาเหยเก น้องชายของตุลกระตุกจนน้ำเยิ้มออกมาแสดงถึงอารมณ์รุนแรงที่กำลังปะทุขึ้นอย่างหนัก สะโพกส่ายไปมาสู้มือยกใหญ่ ผมชันตัวขึ้นเล็กน้อยเข้าไปดูดจูบหัวนมของเขาอย่างแรง ครั้งนี้เองตุลครางระงมไม่รู้เรื่องเลย มือของเขาขยุ้มหัวผมแรงขึ้นเรื่อย ๆ พอผมปล่อยมือออกจากกางเกงใน ตุลก็กดสะโพกลงที่เป้าของผมทันที
สุดยอดฉิบหาย.. ประธานบริษัท ปล่อยจิตใต้สำนึกสุด ๆ ไปเลย
เวลาล่วงเลยไปเกือบชั่วโมงการแกล้งหยอกตุลของผมก็จบลงโดยการให้เขาได้ถึงที่หมายอย่างอิสระ นี่ไม่ใช่การทรมานแต่อย่างใด นอกจากที่ผมได้ทำตามใจตัวเองแล้วก็ดูเหมือนคนที่ถูกแกล้งจะพอใจมากอีกด้วย
ผมลุกขึ้นเดินไปเก็บถุงยางทิ้ง ตุลนอนหมดสภาพอ้าขาแน่นิ่งอยู่บนเตียง ทำกันเสร็จท่าไหนเขาก็ยังคงนอนอยู่ท่านั้น ผมเหลือบมองอีกฝ่ายที่นอนหายใจหอบรวยริน ผมกลับเข้าไปจูบหน้าผากเขาเบา ๆ เป็นการขอโทษที่ดูเหมือนจะแกล้งหนักไปหน่อย อีกฝ่ายหันมาและไม่วายที่จะส่งสายตายั่วอารมณ์มาให้ผมอีกครั้ง เราต่างมองไปที่โทรศัพท์มือถือของตุลที่สั่นอยู่ตรงหัวเตียง ครั้งนี้สั่นรอบที่สองแล้ว ผมหยิบไปให้เพราะดูจากสภาพแล้วเจ้าของโทรศัพท์คงเอื้อมไปหยิบเองไม่ไหว
"ฮัลโหล" ตุลพูดเสียงยานคาง
"ตื่นแล้วสิ" ตุลตอบห้วน ๆ ปลายสายคงเป็นลูกน้องเพราะน้ำเสียงฟังดูลุกลี้ลุกลนถามว่าเจ้านายของตนแต่งตัวเสร็จรึยัง
"ขอเวลาอีกสี่สิบนาที เดี๋ยวฉันไปแน่น่า" ตุลตอบปัด ๆ ไปที
"ถ้าไม่ไงก็ให้คุณเมธาขึ้นพูดแทนฉันไปเลย" ตุลสั่ง
"อืม..ทำตามที่ฉันสั่งก็พอ" ตุลลดน้ำเสียงลง เขาถอนหายใจก่อนกดวางสาย ผมนั่งมอง
"ไหวรึเปล่า" ผมถาม
"ไหวสิ" ตุลตอบยิ้ม ๆ ผมกดโทรศัพท์ในห้องเพื่อต่อเบอร์ไปที่ห้องอาหารของโรงแรม สั่งให้นำอาหารขึ้นมาเสิร์ฟให้ที่ห้องนี้ ตุลลุกขึ้นนั่งมองผมยิ้ม ๆ
"ใจดีอย่างนี้กับทุกคนรึเปล่า" ตุลยิ้มถาม
"แบบนี้เรียกว่าใจดีแล้วเหรอ งั้นก็คงกับทุกคนละมั้ง" ผมยิ้มเจ้าเล่ห์ตอบอย่างไม่ปฏิเสธว่าใครพิเศษ
"ชิ ใจร้าย" ตุลเบะปากให้
"กินอะไรก่อนแล้วค่อยไปแล้วกันครับ" ผมพูดแกมสั่ง เดี๋ยวจะเป็นลมเป็นแล้งไป สำหรับผมอาหารเช้าสำคัญที่สุด ผมค่อนข้างจริงจังกับการกินอาหารให้ตรงเวลามาก เบี้ยวไม่ได้เพราะมันสำคัญในการทำงานของผม ไม่ว่าจะยุ่งแค่ไหนก็ต้องมีอะไรรองท้องตรงตามเวลาอาหารหลัก พ่อเคยพูดว่า ผู้นำที่ไม่ให้อาหารกับร่างกายตัวเองอย่างตรงเวลา จะดูแลลูกน้องให้ดีได้ยังไง แต่ก่อนผมก็เคยคิดว่าพ่อผมนี่พูดอะไรตลกอย่างกับเด็ก แต่พอโตมาแล้วถึงได้รู้ว่ามันมีนัยยะที่สำคัญทีเดียว
"ปกติตอนเช้าผมกินแต่กาแฟนะ" ตุลบอก ผมขมวดคิ้ว รู้สึกไม่ชอบใจในทันที
"เอ่อ แต่วันนี้ขอกินกับคุณไฟด้วยก็แล้วกัน" ตุลรีบพูดแก้ตัว
"เรียกไฟเฉย ๆ ก็ได้" ผมพูดอย่างไม่คิดมาก
"ไม่เอาอะ" ตุลเบะปากทีเล่นทีจริง
"หึ..อะไร" ผมหัวเราะ
"เดี๋ยวสนิทเกิน แล้วอยากได้อีก" ตุลยิ้มหน้าทะเล้น ผมไม่ตอบกลับเพราะประโยคแบบนี้จะตอบทีเล่นทีจริงหรืออะไรก็ดูจะไม่ควร ผมก็เป็นคนแบบนี้ละครับ กำแพงก่อตัวเร็วยิ่งกว่าเวลาที่น้ำแตกซะอีก
"จะอาบน้ำเลยไหม" ผมเปลี่ยนเรื่องแล้วลุกขึ้น ตุลมองตาม
"เดินเองไหวรึเปล่า" ผมถาม
"ไหว.." ตุลพยักหน้า
"แต่อุ้มไปให้ด้วยน่าจะดีกว่า" อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นทำตาหวานใส่ ผมหัวเราะน้อย ๆ แต่ก็ก้มตัวลงไปอุ้มเขาขึ้นอย่างไม่คิดมากเพราะก็ตั้งใจอยู่แล้วว่าจะอุ้มพาไปให้
"คุณไฟน่ะ ที่จริงเป็นคนใจดีสินะฮะ" ตุลพูดขึ้นทั้งที่ยังกอดคอผมอยู่ เมื่อเข้ามาในห้องน้ำ ผมจึงวางขาเขาลงช้า ๆ
"อะไร" ผมขมวดคิ้วยิ้ม ๆ อย่างไม่ค่อยเข้าใจ
"ถึงตอนไม่ยิ้มจะดูดุ แต่ก็ดูไม่หยิ่ง ไม่เหมือนบางคน" ตุลพูดพร่ำ ผมเอื้อมมือไปเปิดน้ำให้ทั้งที่ก็ยังถูกเกาะตัวอยู่อย่างนี้
"ตุลว่าตอนคุณไฟไม่ยิ้มยังดีกว่าตอนยิ้มอีก ตอนยิ้มดู..ไม่ค่อยน่าไว้ใจ" ตุลเงยหน้าบอก
"หึ..ตกลงอยากให้ยิ้ม หรือไม่อยากให้ยิ้มกันแน่" ผมว่า ตุลอมยิ้มเขินและไม่ตอบไปซะดื้อ ๆ ผมก้มลงหอมที่หน้าผากอีกฝ่ายเบา ๆ ก่อนออกจากฝั่งห้องอาบน้ำมา ผมออกมายืนล้างหน้าแปรงฟันก่อน เมื่อตุลอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วผมจึงเข้าไปอาบต่อ
ผมแยกตัวออกมาหลังจากที่กินอาหารเสร็จ เราร่ำลากันเป็นปกติเหมือนกับเป็นการจากลาของคนที่เพิ่งรู้จักกันตามท้องถนนอะไรทำนองนั้น เราไม่ได้แลกนามบัตรกันไว้ ใจผมคิดอยู่ลึก ๆ ว่าก็ไม่อยากให้ตุลถามถึงเช่นกัน ใช่ว่าเรื่องบนเตียงเราเข้ากันได้ดีมากแต่ผมยังไม่มั่นใจว่าตุลจะเป็นลักษณะเดียวกันกับพลอยได้หรือไม่ ตุลเองก็ไม่เอ่ยเรื่องขอเบอร์ติดต่อ มันทำให้ผมรู้สึกสบายใจมากขึ้นที่เขาไม่ถามผมต่อหน้าให้ผมรู้สึกลำบากใจ ความหนักใจหายไปเป็นปริทิ้ง ผมเดินลงมาที่ล็อบบี้ของโรงแรมเพื่อขอรับกุญแจรถ