“ กูจะเคลียไงอิง”
20
สายฟ้าที่ฟาดลงเปรี้ยงๆในสายตาคู่เฉี่ยว แสยะยิ้มกระชับไม้เหล็กกลมในมือ
ก่อนลงจากรถก้าวไปเผชิญหน้า คนที่คิดมาตลอดว่าไม่เคยนอกลู่นอกทาง
อิงรีบลงไปยืนเคียงข้างเพื่อน แม้จะผิดหวังแต่ก็ไม่อยากให้เพื่อนทำอะไรอย่างคนไร้สติ
“ มึงจะเอายังไงว่ามา!”
ใบหน้าเรียวเชิดขึ้นอย่างถือดี มือข้างขวากำท่อนเหล็ก
ส่วนปลายอีกด้านที่ใหญ่และหนักกว่า วางบนไหล่ที่ตั้งตรง
“ มันไม่มีอะไรนะเว้ยฟ้า ไม่ใช่อย่างที่มึงคิด..”
กูไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้จะทำอะไรกับผู้หญิงคนนี้
“ เลยต้องเอาแนบหลัง มายืนกอดกันเป็นปลิงอย่างนี้ ตอนจะมาเคลียกับพวกกูว่างั้น?”
ทั้งเกียร์ทั้งเขื่อนชักเริ่มไม่สบอารมณ์
กับคำพูดที่ดูไม่ให้เกียรติ อย่างคนอายุมากกว่าของสายฟ้าขึ้นมาบ้าง
แม้ตอนนี้เหตุการณ์จะชวนให้อธิบายยากก็ตาม
“ พูดให้ดีๆสายฟ้าพวกกูเป็นพี่มึงกี่ปี!?”
หากแต่เขื่อนขันณ์ลืมไปว่า ตอนนี้สถานะของตนเป็นรองอยู่มาก
การขึ้นเสียงใส่อีกคนอย่างนั้น ...ไม่ใช่เรื่องดีเลย
“ อ้อ..อย่างนั้นเหรอครับ ถ้าอย่างนั้นพวกคุณต้องการอะไรก็ว่ามาสิครับ..รุ่นพี่”
อยากเป็นอย่างอื่นก็ได้ จัดให้เลย ต้องการอะไรยังไงก็ว่ามาได้ทันที
อิงยืนสบตากับร่างสูงใหญ่ ที่ยังมีหญิงสาวกอดแขนอยู่ไม่ห่าง
ทั้งสองคู่ยืนเผชิญหน้าราวกับคน...เป็นศัตรูกัน
บรรยากาศมาคุ แผ่ไอควันดำไปโดยรอบ ในยามดึกสงัดไร้ผู้คนสัญจร
“ อย่ามาประชดกูนะฟ้า”
เขื่อนกัดกรามกรอด ไอ้คำพูดราวกับแค่คนรู้จักกันนั่นมันอะไร
แม้จะรู้ดีว่าอีกคนแค่ประชด แต่มันก็อดใจกระตุกไม่ได้
แกะมือเหนียวๆออกจากท่อนแขนจนสำเร็จ กำลังจะก้าวไปหาคนตรงหน้า
หากแต่เสียงที่ไม่คาดว่าจะได้ยินก็เปล่งออกมา
“ จะกลัวไอ้เกย์พวกนี้ไปทำไมคะพี่เกียร์พี่เขื่อน ตบปากสั่งสอนไปคนละทีสองที ขี้คร้านจะกลัวจนตัวสั่น”
คนที่ยืนอวดเรียวขาสวย ที่โผล่พ้นยีนส์สั้นๆตามแฟชั่นนิยม ที่ยังกอดแขนเกียร์ไม่ห่าง
เอ่ยว่าราวกับมีสิทธิ์มีเสียงออกความเห็นในเรื่องนี้ ทั้งทีไม่รู้ความสัมพันธ์ของพวกเขา
“ นั่นสิพี่เขื่อน คนพวกนี้ทำอีฟกลัวนะคะ”
สาวสวยอกสะบึมอีกคน ที่ถูกแกะมือออกจากลำแขนล่ำๆแล้ว
กลับเข้ามารั้งแขนเขื่อนขันณ์ด้วยท่าทีหวาดกลัว
เธอเข้าใจเหมือนกับเพื่อนว่า รุ่นน้องตรงหน้าเป็นอริกับร่างสูงทั้งสอง
นัยน์ตาอิงไหวระริก เมื่อคนที่ตกลงว่าคบหาดูใจกัน ปล่อยให้คนอื่นมาว่าตัวเองต่อหน้าเจ้าตัวอย่างนี้
ไม่ได้อยากร้องไห้ หากแต่เจ็บใจจนน้ำตาเอ่อคลอต่างหาก
ต่างกับสายฟ้าที่ดวงตายิ่งแข็งกร้าวกว่าเดิม เพราะความโกรธปะทุขึ้นยิ่งกว่าเก่า
“ จะเงียบอยู่ทำไม จะเอายังไงก็ว่ามา หรือจะสั่งสอนผม อย่างที่คนของพวกคุณบอกก็ได้นะครับ
แต่พวกผมคงไม่งอมืองอตีนให้ทำอยู่ฝ่ายเดียวหรอกนะ”
“วืดด....ขวับ!”
เหล็กในมือถูกเหวี่ยงวืด เฉียดผ่านหน้าคนที่ได้ขึ้นชื่อว่ารักกันไม่ถึงคืบ เขื่อนหลบได้ทันอย่างเฉียดฉิว
“ มึงฟังกูฟ้า มันไม่มีอะไร น้องอีฟเขาแค่ติดรถมาด้วย กูแค่จะไปส่งเพราะมันทางผ่านเท่านั้น”
เขื่อนเห็นท่าไม่ดีรีบอธิบาย ร้อนรนจนลิ้นแทบจะพัน ไม่ได้คิดก่อนพูดด้วยซ้ำ
หากแต่สายฟ้ากลับเอามือข้างที่ว่างกุมท้องหัวเราะลั่น ทั้งที่ไม่มีอะไรน่าขำสักนิด
เหอะ..น้องอีฟ
ทีกับเขา กูอย่างนั้น มึงอย่างนี้ จะเสียงอ่อนเสียงหวานก็ตอนจะเอากูแค่นั้น
มันน่าปลื้มใจจริงๆสายฟ้า....
ลับตาเขาจะออดจะอ้อนกันขนาดไหน ขนาดต่อหน้าเขายังกลัวอีกคนเสียหน้าเสียขนาดนี้
“ ฮ่าๆ ผมต้องเชื่อไหม บอกว่าส่งกันขึ้นเตียงยังจะน่าเชื่อกว่าซะอีก นะครับคุณรุ่นพี่”
ยิ่งท่าทางของสายฟ้าเป็นแบบนี้ ทั้งเขื่อนทั้งเกียร์ยิ่งเริ่มหนักใจมากขึ้น
หากไม่รีบอธิบายเรื่องจะยิ่งแย่ไปกันใหญ่ เพราะแค่นี้ดูเหมือนคนตรงหน้าจะไม่ยอมเชื่อทั้งคู่
“ เกรชกับอีฟ เป็นเพื่อนไอ้ครัช พวกกูแค่จะพาไปส่งแค่นั้น มันไม่มีอะไรมากกว่านั้น”
เกียร์เอ่ยสำทับคำเพื่อนหลังจากที่เพิ่งได้โอกาสพูด
“ ใครหรือครับครัชที่ว่า?”
อิงถามทั้งที่ใจสั่นรัวไม่เป็นจังหวะ
แต่เกียร์กลับรู้สึกว่าเขาพลาด คล้ายกำลังขุดหลุมฝังตัวเอง ยังไงไม่รู้
“ อะไรกัน ไม่รู้จักน้องชายพี่เกียร์เหรอ ยังมาทำอวดดีใส่รุ่นพี่อีกต่างหาก
จะบอกให้รู้นะว่าฉันกับพี่เกียร์น่ะคบหากันมานานแล้ว เคยเห็นพวกที่ทำอวดเก่งอย่างนี้
โดนพี่เกียร์สั่งสอนจนสลบคาตีนมาแล้วนะ”
“ เกรชหุบปาก!”
ใบหน้าสวยที่แต่งแต้มโทนสีเข้มให้เข้ากับยามท่องราตรี เหยียดเย้ยพร้อมน้ำเสียง
จากที่ฟังเธอก็พอจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร จึงรีบประกาศตัว
หากแต่โดนอีกคนหันมาตวาดก้องจนเธอสะดุ้ง
เกียร์หันกลับมาก็เจอแต่สายตา ที่บ่งบอกถึงความผิดหวังของคนตรงหน้า
และนั่นหมายถึงเรื่องมันจะยิ่งแย่ลงไปกว่า ที่แย่อยู่แล้ว
“ ถ้าอย่างนั้นในเมื่อพวกรุ่นพี่ว่าอย่างนั้น เห็นทีแค่รุ่นน้องอย่างพวกผม
คงไม่กล้ามายุ่งเกี่ยวกับรุ่นพี่อย่างพวกคุณอีกแล้วล่ะครับ เรื่องของพวกเราขอให้มันจบลงแค่นี้ ชัดนะครับ มึงว่าไงอิง?”
ถามเพื่อนรักที่ยืนอยู่ข้างกัน ฝ่ามือกระชับมือสั่นๆของคนที่ประวัติศาสตร์คล้ายจะซ้ำรอย
เข้มแข็งไว้อิง กูจะพามึงออกไปจากคนพวกนี้ สื่อความในใจผ่านสัมผัสนั้น
หากแต่สายตากลับไม่ลดละ ที่จะฟาดสายฟ้าเปรี้ยงๆลงกับคนตรงหน้า
ที่ใบหน้าเริ่มถอดสียิ่งกว่าเมื่อครู่
“ ผมก็คงจะไม่มาอวดดีกับพวกพี่อย่างนี้อีกเหมือนกันล่ะครับ..กลัวว่าหากทำอะไรให้พวกพี่ไม่พอใจแล้ว
อาจจะสลบคาตีน พี่ได้.. ”
น้ำเสียงเด็ดเดี่ยวถูกเค้นเปล่งออกมา ทั้งยังสบตากับคนที่รักจนหมดใจ แค่นี้ก็รู้แล้วล่ะ
ว่าความสัมพันธ์ของพวกเขา จะจบลงที่สถานะใด แม้สถานะจะต่างกันกับเมื่อ3ปีก่อน
แต่ทำไมความเจ็บปวดมันไม่ได้ลดทอนลงมาบ้างเลยเล่า อชิรวิชณ์
“ นี่หลงตัวเองไปหรือเปล่า ทำอย่างกับเป็นเมียพวกพี่เขา ที่พูดออกมาคิดว่าพี่เขาจะง้อเหรอ?”
อีฟยื่นหน้าออกมาเย้ยหยัน ก่อนจะหดกลับไปแอบอยู่หลังเขื่อนอย่างเดิม
เมื่อเห็นสายฟ้าทำท่าจะกระโจนใส่
“ กลับเถอะฟ้า สรุปรายงานกูยังค้างอยู่”
อิงดึงมือคนตาขวาง คล้ายกับบอกว่า
กูไม่ไหวแล้วฟ้า ไปจากตรงนี้กันเถอะ
แม้จะใช้คำพูดราวกับเรื่องตรงหน้านี้ ไร้สาระอย่างหาความสำคัญไม่ได้ก็ตาม
“ อือ..ไปเถอะ”
สายฟ้ารับคำ กระชับดึงมือคนที่ทำท่าจะไร้เรี่ยวแรงแม้จะก้าวเดิน
เขาก็ไม่ต่างกันนักหรอก แต่จะมาล้มพับอยู่ตรงนี้ให้ถูกเย้ยหยันอีกไม่ได้
“ เดี๋ยวอิง!!/เดี๋ยวฟ้า!!”
เหมือนเพิ่งได้สติ หลังช็อคค้างกับคำพูดนั้น คำพูดที่ว่าจะไม่มายุ่งเกี่ยวกันอีก
รีบเข้าคว้าข้อมือคนของตัวเองเพื่อเหนี่ยวรั้งไว้ทันที แต่..
“ ผัวะ!..ตุบ!..อย่าเอามือที่เที่ยวไปกอดใครต่อใครมาถูกตัวผมอีก จำไว้!!”
แม้จะสวมแค่รองเท้าแตะ แต่แรงถีบอย่างเต็มเหนี่ยวก็ทำให้ร่างสูงใหญ่กว่า
ล้มกระแทกพื้นเสียงดังได้เหมือนกัน
สายฟ้าเค้นเสียงลอดไรฟัน บอกอีกคนให้เข้าลึกถึงแก่นกะโหลก ว่า....เขาเอาจริง