...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Christmas…again and again. (๒๔ ธ.ค. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Christmas…again and again. (๒๔ ธ.ค. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)  (อ่าน 743760 ครั้ง)

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
 ตอนนี้ฟินมาก คู่อาทิตย์กับคุณพิมดูท่าจะไปได้ด้วยดี(แต่ไม่มีใครรับรู้ 555)

จันทร์เริ่มอ่อนเล็กน้อยให้คุณหมอแล้ว เย้ๆ :mc4:  :mc4:  :mc4:

ออฟไลน์ ooopimmyooo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
โอ้ยยยยย เหวี่ยงสุดไรสุดค่ะคุณจันทร์จ้าว
เหวี่ยงแบบนี่คุณหมอชอบใช่ม๊าาาาาาา

ออฟไลน์ Aomoto

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอตอนคุณหมอทายาให้คะ เขินเลย  :o8:

ออฟไลน์ sunshine538

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ตอนนี้ น่าจะชื่อว่า มนต์รักแรกเก็ต หรือ เสน่ห์หมอนวด ได้นะคะ 555  :mew4:

คุณหมอนี่ก็ช่างเอ็นดูจันทร์เอาจริงๆ ร้ายใส่มาเท่าไหร่ก็ไม่ถือสา จันทร์ควรจะต้องเห็นคุณงามความดีของหมอให้เร็วๆนะ

ส่วนพี่อาทิตย์ เงียบแต่เร้าใจ นะคะ 555 น้องๆไม่ต้องเป็นกังวลไปหรอก คุณพิมเขาชอบแบบนี้  :mew1:

รออ่านตอนต่อไปค่ะ :call:

ออฟไลน์ cinquain

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-0
เพิ่งจะเห็นเรื่องนี้ค่ะคุณบัว
อ่านตั้งแต่เช้าจนทันตอนล่าสุดแล้ว สนุกมาก จะตามต่อไปนะคะ
ส่วนบุคลิกของจันทร์จ้าวตอนแรกๆทำให้นึกถึงจอมขวัญเลยค่ะ ^^

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
ฟินนนทั้งคู่คุณหมอกะคู่พี่อาทิตย์เลยย >///<
ละมุนดีจัง ชอบๆ
อาทิตย์กะพิมเป็นคู่ชายหญิงที่น่ารักดีอ่ะ กรี๊ดพี่อาทิตย์มากกก ><//
น้องจันทร์แอบอ่อยนะ มีชวนเข้าบ้านด้วย -.,- แต่ตัดค้างมากกก

ออฟไลน์ ๐๐ตะวัน๐๐

  • ๐๐๐ลูกตาล๐๐๐
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
เขินแทนพี่อาทิตย์กับคุณพิมเลย :-[

ออฟไลน์ ~ณิมมานรฎี~

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1070
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-2
น่ารักทั้งสองคู่เลยค่าาาา  นี่แอบลุ้นคู่พี่อาทิตย์เหมือนกัน

ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4
ชวนผู้ชายเข้าบ้านนะหนูจันทร์ :hao7:

  :กอด1: :L2: :pig4:

ออฟไลน์ iamtsubame

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
อย่าเพิ่งจบสิ ทายากันก่อนนนนนนน :impress2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Loste

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 430
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
จันเอาแต่ใจตัวเอง  สงสารหมอจัง :mew2:

ออฟไลน์ Biwty...

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1

ออฟไลน์ krit24

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
คุณจันทร์น่ารักออก...
น่าปราบผยศจริงๆ. หมอรีบปราบเข้าน้า

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

ออฟไลน์ boboaje

  • ไม่ชอบหวาน ชอบครบรส
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
จุดพลุให้ความสัมพันธ์.  :mc4:

ออฟไลน์ Malimaru

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-4
    • facebook
เหม่ๆ หมอนี่ยังไงคะ... ออกตัวชัดเจนเหลือเกินว่าเอ็นดูคุณจันทร์
เสียดายจริงๆที่คุณนภาหรือคุณดารามิใช่สาววาย...
ไม่อย่างนั้นคุณหมอคงรู้ตัวไปแล้วว่าสายตาที่ตราตรึงใจของคุณจันทร์ที่คุณหมอจำได้นั้น คือบ่อเกิดของความรักเกินเกลอแน่ๆแล้ว

รอลุ้นคุณหมอกับคุณจันทร์ต่อไปค่ะ...
อยากรู้เหลือเกินว่าหนุ่มเอาแต่ใจอย่างคุณจันทร์จะยอมเผยใจให้คุณหมอเมื่อไร

ขอบคุณและจะติดตามเป็นกำลังใจให้ค่ะ  :m1:

ออฟไลน์ NUTSANAN

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1031
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3
ชอบมากกกกกก คุณจันทร์นี่น่าแกล้งให้จัดใจที่สุดอะ พี่หมอภวัตก้ใจเย็นเหลือเกิน สงสัยไม่เคยเจอของแปลกยังงี้

ออฟไลน์ urmein

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 871
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
แอบมารอคุณหมอกับคุณจันทร์~

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8
จันทร์จ้าว
By: Dezair
…………………….
บทที่ ๖


อาการปวดหลังปวดไหล่ของจันทร์จ้าวดีขึ้นมาก


ชายหนุ่มหมุนหัวไหล่เพื่อดูอาการว่ายังปวดมากน้อยเพียงใด ก็พบว่าแม้จะยังปวดหนึบ แต่ก็ดีขึ้นมาก เพราะเมื่อวานตอนเช้ามีใครบางคนเอายามาให้ถึงที่ ซ้ำพอเขาขอให้ช่วยทาให้ก็บริการอย่างดี แม้ตอนเย็น ใครคนนั้นจะไม่ได้แวะมาและจันทร์จ้าวก็เอื้อมมือไปทาเองไม่ถึงเลยไม่ได้ทายา แต่เช้าวันนี้อาการกลับดีขึ้น ถึงวันนี้จะไม่ได้ทายาอีก เพราะไม่มีคนทาให้และเขาก็ทาเองไม่ถึงเช่นเคย ก็คงจะไม่เป็นไร เมื่อคิดได้อย่างนั้น ชายหนุ่มจึงหมุนตัวไปคว้าผ้าเช็ดตัวและเสื้อคลุมเดินออกจากห้องนอนลงไปยังห้องน้ำชั้นล่าง


จันทร์จ้าวทำธุระในห้องน้ำเรียบร้อยดีก็สวมชุดคลุมแบบฝรั่งเดินออกมา กำลังจะก้าวเท้าขึ้นบันได แต่ได้ยินเสียงรถแล่นมาจอดที่หน้าบ้านเสียก่อน จึงต้องเดินออกไปดู


รถยนต์คุ้นตาจอดขวางหน้าบ้านเขาเหมือนเมื่อวาน และคนที่ลงจากรถก็เป็นคนคนเดียวกับคนที่มาหาเขาเมื่อวานตอนเช้า


“หมอ...” เขาครางเบาๆ เพราะไม่คิดว่าวันนี้อีกฝ่ายจะมาที่นี่อีก


“สวัสดีครับ” ภวัตค้อมศีรษะเล็กน้อยเป็นการทักทาย


“อาการเป็นอย่างไรบ้าง”


“ก็...ดีขึ้นมากแล้ว แต่ยังปวดๆอยู่...เอ่อ...หมอเข้ามาก่อนสิ” ไม่ทราบอะไรดลใจ เจ้าบ้านจึงปลดกลอนเปิดประตูรั้วให้คนมาเยือนได้เข้ามา ภวัตถึงได้เห็นเต็มตาว่าอีกฝ่ายสวมเสื้อคลุมทำจากผ้าขนหนู ดูท่าคงอาบน้ำเสร็จพอดีตอนที่เขามาถึง

   
“เมื่อวานขอโทษทีที่ไม่ได้แวะมาหาตอนเย็น พอดีคนไข้เยอะ วันนี้เลยตั้งใจจะมาทายาให้คุณ” เขาเอ่ยปาก ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้ารับรู้สั้นๆ


“ขึ้นไปบนบ้านสิ” จันทร์จ้าวว่าอย่างนั้น ก่อนจะเดินนำขึ้นบ้าน ร่างสูงก้าวเท้าตาม นี่เป็นครั้งที่ ๒ ที่เขาเข้ามาที่นี่ ห้องอเนกประสงค์ที่มีชุดเก้าอี้ไม้อยู่มุมหนึ่ง อีกมุมเป็นโต๊ะรับประทานอาหารขนาดเล็ก มีตู้หนังสือ เครื่องเล่นแผ่นเพลง เรียบง่ายสำหรับคนรักสันโดษ

   
“หมอนั่งรอเดี๋ยว ผมขอแต่งตัวสักครู่” เจ้าของบ้านว่าอย่างนั้นแล้วชี้ไปที่เก้าอี้บุนวม ภวัตเดินไปนั่งรออย่างว่าง่ายเมื่อจันทร์จ้าวผลุบหายเข้าไปในกรอบประตูฝั่งหนึ่ง แต่อีกครู่ต่อมาร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อคลุมก็ออกมาอีกหน คราวนี้มีน้ำเปล่าใส่แก้วมาด้วย


“เดี๋ยวจะหาว่าผมเป็นเจ้าบ้านไร้มารยาท...” จันทร์จ้าวออกตัวตอนที่วางแก้วน้ำลงบนโต๊ะเล็กตรงหน้าชายหนุ่ม ภวัตอยากจะหัวเราะออกมาแต่ก็กลัวคนเอาน้ำมาให้เปลี่ยนใจเป็นสาดน้ำใส่หน้าเขาเสียก่อน เลยต้องกลั้นยิ้มจนกระทั่งอีกฝ่ายผลุบหายเข้าไปด้านในอีกครั้ง เขาถึงได้เผยรอยยิ้มกว้างออกมาอย่างนึกเอ็นดู



เจ้าของบ้านหายเข้าไปด้านในอยู่ครู่ใหญ่ ออกมาอีกทีก็สวมกางเกงสแล็กแล้ว แผ่นอกเปลือยเปล่าเผยกล้ามเนื้อแบบผู้ชาย แม้จะไม่เป็นลอนเหมือนฝรั่ง แต่ก็สมส่วน ในขณะที่เสื้อเชิ้ตยังอยู่ในมือซ้าย ส่วนมือขวามีหลอดยาที่ภวัตทิ้งไว้ให้ตั้งแต่เมื่อวาน



คุณหมอหนุ่มเห็นเข้าก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปหาแล้วรับหลอดยามาบีบ



“เมื่อวานตอนเย็นได้ทาไหมครับ” เขาถาม แล้วแต้มยาลงนวดคลึงบริเวณที่อีกฝ่ายปวดเมื่อย



“ไม่ได้ทาหรอก ผมทาเองถึงเสียที่ไหนล่ะ อื้อ...หมอ...ตรงนั้นมันเจ็บ...” ภวัตเหลือบมองใบหน้าขาวที่เอี้ยวมาด้านหลัง ดูท่าเจ้าตัวคงยังปวดอยู่ เขาจึงชวนคุย


“ตอนแรกผมก็ตั้งใจจะแวะมา แต่พอดีมีคนไข้เข้ามา กว่าจะจัดการเรียบร้อย มาถึงที่นี่ก็เห็นไฟปิดเงียบ คิดว่าคุณคงหลับไปแล้ว” คำพูดของคนที่กำลังทายาให้ที่หลังของเขาทำให้จันทร์จ้าวอดไม่ได้ต้องเหลือบตาไปมอง


...ทั้งๆที่ทำงานจนดึก แต่ก็ยังอุตส่าห์แวะมาอย่างนั้นหรือ...


“ถ้าวันนี้ตอนเย็นมาไม่ได้ พรุ่งนี้ผมจะแวะมาดูให้อีกทีนะครับ” นายแพทย์หนุ่มว่าอย่างนั้น แล้วปิดหลอดยาส่งคืนให้ จันทร์จ้าวเหลือบมองใบหน้าคมคายที่ยังคงมีรอยยิ้มจางติดอยู่เสมอ



   “ขอบคุณ” เพราะความปรารถนาดีที่มีให้ ถึงจะยังไม่ค่อยชอบหน้าเท่าไร แต่จันทร์จ้าวก็ไม่ใช่คนไร้มารยาท


   “ผมเองก็ขอบคุณเช่นกัน...สำหรับน้ำเปล่าหนึ่งแก้ว...” ภวัตพูดพลางยิ้มแล้วบุ้ยใบ้ไปที่แก้วน้ำที่ยังวางอยู่ตรงโต๊ะเล็กหน้าชุดเก้าอี้ จันทร์จ้าวถึงกับอ้าปากค้างที่ถูกอีกฝ่ายหยอก เลยทำตาขวางแล้วถามเอาเรื่อง


   “หมออยากได้อะไรอีกล่ะ?!”


   “อยากได้คู่ตีเทนนิสครับ” คำพูดตรงๆ ทำเอาคนกำลังจะหงุดหงิดกลายเป็นค้างกลางคัน ถึงจะเป็นเพราะเทนนิสที่ทำให้เขาปวดหลังปวดไหล่เช่นนี้ แต่จันทร์จ้าวก็ไม่ปฏิเสธว่าเทนนิสที่ได้ตีโต้กับภวัตเป็นเกมที่สนุกที่สุดนับตั้งแต่กลับเมืองไทย


   “วันนี้ผมยังตีไม่ไหว” ชายหนุ่มเจ้าของบ้านบอกเสียงแผ่ว แต่ภวัตยังคงยิ้มจาง


   “ไว้คุณหายก่อนก็ได้ แล้วเราค่อยไปตีเทนนิสด้วยกันอีก ได้ไหมครับ”


   “อืม...” นายแพทย์หนุ่มยิ้มรับคำตอบรับนั้นด้วยความยินดี เขากำลังจะเอ่ยปากขอตัว แต่คนตรงหน้ากลับพูดขึ้นมาเสียก่อน


   “แล้วหมอจะไปโรงพยาบาลเลยไหม...”



ดวงหน้าขาวก้มต่ำ ไม่ยอมสบตาเขา แต่ภวัตไม่ได้ติดใจอะไร เพราะสบตากันทีไร ดวงตากลมใหญ่คู่นั้นก็มักจะมองเขาอย่างเอาเรื่องทุกที ไม่ได้ถามเสียทีว่าเพราะอะไรถึงได้ชอบทำตาขวางใส่เขานัก แต่...ถามตอนนี้ไม่ได้ เกิดเจ้าตัวหงุดหงิดกับคำถามของเขาขึ้นมา ประเดี๋ยวเขาก็อดได้คู่เทนนิสฝีมือเยี่ยมที่ชื่อจันทร์จ้าวมาตีเทนนิสด้วยพอดี...


   “ครับ คุณจันทร์ถามทำไมหรือ”



   “ก็...ว่าจะชวนไปทานข้าวเช้าด้วยกัน แต่ถ้าหมอต้องไปทำงาน ก็ไม่เป็นไร” ชวนโดยไม่มองหน้า ยิ่งทำเอาภวัตนึกเอ็นดู


   “น่าเสียดาย วันนี้ผมต้องรีบไปดูคนไข้ ถ้าเป็นพรุ่งนี้...คุณจะสะดวกไหม” ดวงตากลมใหญ่เหลือบขึ้นมองสบคนนัด ดวงตาคู่นั้นไม่ได้เปล่งประกายไปด้วยความโกรธเคืองหรือนึกขวางเหมือนที่แล้วๆมา มันใสแจ๋วราวกับลูกแก้ว



   “พรุ่งนี้ก็ได้...” ริมฝีปากสีจัดเอื้อนเอ่ยคำตอบ แล้วรอยยิ้มจางของภวัตก็กลายเป็นรอยยิ้มกว้างด้วยความยินดี


…………………………………………..



   ไม่ใกล้ไม่ไกลกับบ้านเช่าทาสีเขียวอ่อนของจันทร์จ้าวคือวังฉัตร หม่อมหลวงพิมพัชราออกไปสอนหนังสือที่โรงเรียนสตรีกัลยาณีแล้ว ในตึกจึงเหลือนายเพียง ๒ คนคือหม่อมราชวงศ์ฉัตรและหม่อมหลวงพงศ์ภราธรเท่านั้น แต่แม้จะเหลือเพียงสองพ่อลูก แต่ห้องอาหารกว้างขวางก็ยังถูกเปิดใช้ เนื่องจากคุณชายฉัตรต้องรับประทานมื้อเช้าตรงเวลาเป็นกิจวัตร นิสัยอย่างนี้สืบทอดมาที่บุตรชายคนใหญ่ด้วย



   “พ่อก็ลืมถาม เมื่อวันก่อนคนที่มากับคุณหมอน่ะ ชื่ออะไร” คุณชายฉัตรตั้งคำถาม เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา บุตรชายพาเพื่อนๆมาตีเทนนิสและขับเรือเล่น ล้วนมีแต่คนหนุ่มสาว ที่ท่านคุ้นหน้าคุ้นตาดีคือ ๔ พี่น้องรักษพิพัฒน์และคุณหมอภวัต แต่ชายหนุ่มอีกคนที่ติดตามมากับภวัตด้วย เขามองหน้าไม่ถนัด



   “คุณเภาครับ เป็นน้องชายคุณหมอ”


   “อ้อ...อย่างนั้นหรือ...” คุณชายฉัตรรับคำพลางตักข้าวต้มเข้าปาก หม่อมหลวงพงศ์ภราธรมองบิดาด้วยความอยากรู้


   “เอ่อ...คุณพ่อ...ได้ลองทาบทามคุณหมอดูหรือยังครับ” คราวนี้บิดาเงยหน้ามอง พลางยิ้มจาง


   “ถามดูแล้ว เธอว่าเธอยังไม่ได้คิดเรื่องครอบครัว น่าเสียดาย ว่าแต่...พ่อพงศ์ถามทำไมหรือ? หรือมีใครจะแนะนำให้พ่อรู้จัก” บุตรคนใหญ่ของคุณชายเพียงยิ้มจาง ด้วยเพราะเขายังไม่ทราบว่า ‘ทหารที่อยากมาเป็นเขยวังฉัตร’ ที่จันทร์จ้าวพูดถึงเป็นใคร เขาควรจะได้รู้จักเสียก่อน แล้วจึงค่อยพามาให้บิดาพบหน้า


   “ผมก็ถามดูว่าคุณหมอเธอว่าอย่างไร จริงสิ ผมว่าจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับจันทร์กลับเมืองไทย กลับมาตั้งเดือนกว่าแล้ว ผมยังไม่ได้เลี้ยงต้อนรับเสียที คุณพ่อว่าอย่างไรครับ” หม่อมราชวงศ์ฉัตรยิ้มอย่างใจดี


   “ดีสิ ถ้าอย่างนั้นพ่อจะจัดงานเลี้ยงให้เอง พ่อจันทร์ก็คนกันเอง ตอนงานเลี้ยงต้อนรับแม่พิม คุณหญิงผกาก็มาช่วยงานตั้งแต่เช้า คราวนี้ตาพ่อจันทร์ พ่อก็อยากจะตอบแทนสักหน่อย พ่อพงศ์ไปบอกบ้านนั้นด้วย ว่าพ่อจะจัดงานเลี้ยงให้”   


   “ได้ครับคุณพ่อ” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม



………………………….



   แม้จะรับปากบิดาว่าจะนำเรื่องงานเลี้ยงต้อนรับมาบอก อีกทั้งยังร่วมหุ้นเปิดบริษัทด้วยกัน แต่ราชนิกูลหนุ่มแห่งวังฉัตรและจันทร์จ้าวก็ไม่ได้พบหน้ากันอีกร่วมสัปดาห์ เพราะหม่อมหลวงพงศ์ภราธรต้องติดตามบิดาไปทำกิจธุระอย่างอื่น กว่าจะว่างนัดหมายกับเพื่อนรักได้ก็บ่ายวันศุกร์



   “ฮัลโล คุณพงศ์ สวัสดีคุณวินิต”



สถานที่นัดไม่ใช่ที่อื่นไกล สโมสรเทนนิสนั่นเอง จันทร์จ้าวยังคงมีสีหน้าแจ่มใสเหมือนทุกที เจ้าตัวถือแรกเก็ตเข้ามาที่คอร์ด ซึ่งหม่อมหลวงพงศ์ภราธรกำลังตีเทนนิสเล่นอยู่กับนายวินิต
 


   “รอเดี๋ยว จันทร์ ขอกันชนะคุณวินิตก่อน” ราชนิกูลหนุ่มพูดพลางยิ้มแย้ม นายวินิตทำเป็นโอดครวญแต่ก็ยังตีโต้กับอีกฝ่ายอย่างสนุก จันทร์จ้าวได้แต่ยิ้มจาง พลางเดินไปนั่งรอที่เก้าอี้ข้างคอร์ด ดวงตากลมใหญ่มองผ่านไปทั่ว ถัดออกไปอีกคอร์ดหนึ่งมีสตรีงามที่เขายังไม่เคยรู้จักกำลังนั่งดื่มเครื่องดื่มอยู่ข้างสนาม เขาจับจ้องหล่อนพลางส่งยิ้ม และหล่อนก็มอบรอยยิ้มตอบกลับมาให้เขา



   ...พักนี้เขาไม่ค่อยได้ไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนผู้หญิงคนไหนเสียด้วยสิ กับพวกคุณๆทั้งหลายที่เคยสนุกด้วยกัน เขาก็เบื่อไปนานแล้ว...



   จันทร์จ้าวเห็นโอกาสที่จะได้เพื่อนผู้หญิงคนใหม่ เขาเหลือบตากลับไปมองในคอร์ดก็เห็นว่าเพื่อนรักกำลังสนุกกับการตีเทนนิส กว่าจะตีจบก็คงอีกพักหนึ่ง เขาเองก็ไม่ควรปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์


   ชายหนุ่มยังคงจับจ้องไปที่หญิงสาวที่นั่งอยู่ริมคอร์ดถัดไป หล่อนเองก็ยังไม่ยอมละสายตาไปจากเช่นกัน เขากำลังจะลุกจากเก้าอี้ที่นั่งเพื่อไปพูดคุยทำความรู้จัก ทว่าเสียงของหม่อมหลวงพงศ์ภราธรจากในคอร์ดดังขึ้น


   “คุณหมอมาพอดีเลย!”


   จันทร์จ้าวละสายตาจากหญิงสาวแล้วหันมองตามเสียงนั้นทันที ชายหนุ่มร่างสูงในชุดสำหรับเล่นกีฬาเดินเข้ามาในสโมสรพร้อมด้วยน้องชาย ฝ่ายนั้นยังคงมีรอยยิ้มจาง ราชนิกูลหนุ่มเห็นจากในสนามว่านายแพทย์ภวัตเดินเข้ามาใกล้คอร์ดแล้วก็รีบเก็บลูกที่กำลังตีอยู่ ก่อนจะตรงดิ่งออกจากคอร์ดมาหาทันที ด้วยเกรงว่าจันทร์จ้าวที่เคยแผลงฤทธิ์เมื่อครั้งไปเจอกันที่วังฉัตรจะยังขุ่นเคืองคุณหมอจนเอาแรกเก็ตฟาดหน้าไปเสียก่อน


   “สวัสดีครับ คุณหมอ คุณเภา” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรค้อมศีรษะทักทายพร้อมรอยยิ้ม



   “สวัสดีครับ ขอบคุณที่นัดผมมาวันนี้ กำลังอยากตีเทนนิสอยู่พอดี”



   “คนอยากตีไม่ใช่ผมหรอก นี่ต่างหาก...” ราชนิกูลหนุ่มบุ้ยใบ้มาที่เพื่อนรักที่ยืนอยู่ข้างๆ จันทร์จ้าวไม่กล้าสบตาอีกฝ่าย เพราะตอนแรกเคยรับปากว่าถ้าไหล่และหลังหายปวดจะเป็นคู่ตีเทนนิสด้วย แต่พอเอาเข้าจริงๆ เขากลับชวนแค่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเพียงผู้เดียว เพราะนึกประหลาดที่จะต้องชวนภวัตมาตี ทั้งๆที่ไม่ได้คบหาสนิทใจกันแต่อย่างใด



   แม้ใจจะรู้ว่าตนผิดสัญญา และไม่กล้าสบตาอีกฝ่าย แต่ดวงตากลมก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบไปมอง และพอเห็นสีหน้าอ่อนโยนและรอยยิ้มจางเฉกเช่นทุกที เขาก็ยิ่งรู้สึกผิดยิ่งกว่าเดิม



   ...ที่หายปวดได้ก็เพราะภวัตเอายามาให้ และแวะมาทายาให้ทุกวัน...ทั้งๆที่งานที่โรงพยาบาลก็ยุ่งออกปานนั้น แต่ก็ยังมีน้ำใจกับเขา...



   “แต่ไม่รู้ว่าอยากตีเทนนิสแน่ไหม เพราะเมื่อครู่นี้เห็นเดินเข้ามาก็มองผู้หญิงตั้งแต่คอร์ดแรกยันคอร์ดสุดท้าย” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรพูดกลั้วหัวเราะ



   “นั่นก็เพราะคุณพงศ์ตีกับคุณวินิตอยู่ต่างหาก จะให้ผมเข้าไปแทรกได้อย่างไร” แม้จะรู้สึกผิดกับภวัต แต่เรื่องอยู่เงียบๆให้ถูกโจมตีนั้นไม่ใช่จันทร์จ้าว เขาแก้ตัวแต่ก็ยังไม่ยอมหันไปมองหน้านายแพทย์หนุ่มอยู่ดี



   “อ้อ ก็เลยมองฆ่าเวลาอย่างนั้นหรือ”



   “ก็...ประมาณนั้น...คุณพงศ์จะตีเทนนิสไหม ถ้าจะเอาแต่คุยกัน ผมจะได้กลับ” เพราะไม่อยากกลายเป็นเป้าของบทสนทนา ซ้ำจันทร์จ้าวยังรู้สึกว่ากำลังถูกนายแพทย์หนุ่มจับจ้อง แม้เขาจะไม่กล้าหันไปมองให้ชัดว่าถูกมองอยู่จริงไหม แต่ก็อยากเลี่ยงสถานการณ์อันน่าอึดอัดนี่ไปเสีย


   ...รู้อยู่หรอกว่าต้องขอโทษ...รู้อยู่หรอกว่าผิดคำพูด...แต่...จะให้ขอโทษต่อหน้าธารกำนัลทั้งสนามเทนนิส ก็เห็นจะไม่ไหว...


   “ตีสิ แหม...ชวนคุยแค่นี้ มีน้ำโหไปได้ แล้วเราจะคู่กันอย่างไรดี” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรตั้งคำถาม ตอนนี้มีสมาชิกถึง ๕ คน รวมนายวินิตด้วย แต่รายนั้นออกตัวขอพักเหนื่อยก่อน จึงเหลือเพียง ๔



   “ถ้าอย่างนั้นเป็นผมกับจัน...” ราชนิกูลหนุ่มกำลังจะตัดสินใจ แต่เสียงของเภาที่ยืนเงียบๆมาตั้งแต่ต้นดังขึ้นเสียก่อน


   “ให้คุณจันทร์คู่กับพี่ภวัตบ้างดีไหมครับ?!”


คนทั้งกลุ่มหันมองคนเสนอเป็นตาเดียว และเมื่อนั้น เภาถึงรู้สึกตัวว่าเขาใจเร็วอยากจะสนิทสนมกับสกุลฉัตราภาสมากเกินไป จนออกตัวว่าจะขอคู่กับราชนิกูลหนุ่ม แต่...ถ้าเขาไม่เปิดโอกาสให้ตัวเอง แล้วเมื่อไรเขาจะได้สนิทสนมกับคนวังฉัตร แล้วเมื่อไร เขาจะได้พูดคุยกับหม่อมหลวงพิมพัชราอีก...



   “เอ่อ...ก็...ก็วันนั้น...พี่ภวัตกับคุณจันทร์แข่งกันมาแล้ว คราวนี้ก็น่าจะลองคู่กันบ้าง...” คำพูดของเภา ทำให้จันทร์จ้าวเหลือบไปสบตากับภวัตในทันที ก่อนจะเป็นฝ่ายเบี่ยงสายตาหนีไปทางอื่นอีกหน



   “จริงสิ...ให้คนเก่งกับคนเก่งคู่กันเองก็น่าสนนะคุณเภา อาจจะมีเหยียบเท้ากันบ้างก็ได้ แต่ถ้าเขาไม่เหยียบเท้ากันเอง แล้วเราจะสู้เขาไหวหรือ” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรพูดอย่างนึกสนุก แล้วหันมาถามน้องชายของคุณหมอ เภามีสีหน้าแช่มชื่นขึ้นเมื่อดูท่าแล้วไม่มีใครสงสัยในข้อเสนอของเขา



   “ไหวซีครับ! ผมจะสู้สุดกำลัง!” เภาเชื่อว่าเขาเองก็ฝีมือไม่เป็นสองรองใคร ถ้าจับคู่กับหม่อมหลวงพงศ์ภรราธรก็คงพอสู้กับภวัตและจันทร์จ้าวได้อย่างสนุก และการคู่กันของเขา ก็อาจจะทำให้เภาสนิทสนมกับคนวังฉัตรมากขึ้น แล้วเมื่อนั้นหม่อมหลวงพิมพัชราจะไปไหนเสีย!



   “ถ้าอย่างนั้นก็เยี่ยม! ไปกันคุณเภา เราต้องวางแผนกันก่อน!” ราชนิกูลหนุ่มเดินถือแรกเก็ตลงไปรอที่สนาม มีเภาตามลงไปด้วย จึงเหลือเพียงแค่ภวัตและจันทร์จ้าวที่ยังยืนอยู่ที่เดิม



   “ไหล่หายดีแล้วหรือครับ” และเพราะเหลือกันเพียงสองคน ภวัตจึงเป็นฝ่ายถามขึ้นมาก่อน



   “อืม...”



   “ถ้าอย่างนั้นก็อย่าแพ้เขานะครับ ผมพอจะรู้ทางของนายเภาอยู่ คุณเองก็คงรู้ทางคุณพงศ์ อย่าปล่อยให้สองคนนั้นชนะเราได้ล่ะ” ภวัตยังคงยิ้มจางอย่างอ่อนโยนแล้วหมุนตัวจะเดินลงคอร์ดแต่เสียงจันทร์จ้าวดังขึ้นเบาๆเสียก่อน



   “หมอ...” คนถูกเรียกหันกลับมามอง ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งเอาแต่ก้มลงมองมือตัวเองที่หมุนด้ามแรกเก็ตไปมา แต่ริมฝีปากสีสดขยับช้าๆ “...โกรธรึเปล่าที่ผมไม่ได้ชวนทั้งๆที่รับปากเอาไว้”



   ภวัตฟังคำพูดที่เหมือนจะขอโทษนั้นแล้วก็ได้แต่ยิ้มกับตัวเอง เขามองคนตรงหน้าด้วยสายตาเอ็นดู



   “ไม่หรอกครับ” เขาตอบสั้นๆแต่สุภาพก่อนจะเดินนำลงคอร์ด จันทร์จ้าวได้แต่มองตามแผ่นหลังของอีกฝ่ายความรู้สึกอึดอัดที่ไม่ได้จางลงเลยสักนิด



   ...ให้อภัยกันง่ายๆอย่างนี้ เขาก็ยิ่งรู้สึกผิดน่ะซี...



.............................................


   เพราะใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวเสียเท่าไร ถึงแม้จะชนะคู่ของหม่อมหลวงพงศ์ภราธรและเภา แต่ก็ชนะอย่างสูสี ทำเอาฝ่ายคู่ต่อสู้ที่แม้จะแพ้ แต่ก็ยังมีรอยยิ้มเต็มหน้า



   “เห็นไหมคุณพงศ์! ว่าแล้วว่าพวกเราต้องสู้ได้!” หลังจบเกม  ทั้ง ๔ ย้ายมานั่งพักเหนื่อยกันที่ห้องอาหารของสโมสร สั่งเครื่องดื่มกันคนละแก้วเพื่อคลายร้อน



   “นั่นซี! แพ้แต่สนุกอย่างนี้ น่าลองอีกนะ” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรหันไปชวนคู่ของตนคุยอย่างออกรส แล้วหันไปถามความเห็นของจันทร์จ้าวที่นั่งดื่มเงียบๆ



   “ว่าอย่างไรจันทร์ เล่นอีกไหม”



   “ไม่ได้หรอก ผมต้องไปรอพี่อาทิตย์ที่กรมก่อน ๕ โมงเย็น” เภาทำหน้าเสียดาย เขากำลังสนุกกับการตีเทนนิส และการได้ใช้กีฬาเชื่อมสัมพันธ์ เทนนิสทำให้เขาเริ่มสนิทสนมกับหม่อมหลวงพงศ์ภราธรแล้ว และในไม่ช้าชายหนุ่มเชื่อว่าเขาต้องได้สนิทสนมกับน้องสาวของราชนิกูลหนุ่มแน่



   “งั้นหรือ ถ้าอย่างนั้นกลับพร้อมกันไหม กันจะไปส่งที่กรมให้”



   “ไม่เป็นไร ผมกลับเองได้ คุณพงศ์จะเล่นต่อก็เล่นเถอะ” จันทร์จ้าวพูดพลางหันไปมองนาฬิกากลมที่แขวนบนฝาผนัง เขาควรจะออกจากสโมสรได้แล้ว จะได้ไปถึงกรมของอาทิตย์ทัน ๕ โมงเย็น



   “แต่...” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรไม่ใช่คนจะปล่อยให้เพื่อนรักไปหาสามล้อหรือลำบากลำบนในการเดินทาง เขากำลังจะยืนยันว่าจะเป็นคนไปส่งที่กรม แต่ภวัตเอ่ยขึ้นมาเสียก่อน



   “คุณพงศ์เล่นต่อเถอะครับ นายเภาเองก็คงอยากเล่นต่อเช่นกัน ผมจะไปส่งคุณจันทร์ที่กรมให้เอง” จันทร์จ้าวหันมองคนเสนอตัวด้วยไม่คิดว่าเขาจะขันอาสาอย่างมีน้ำใจขนาดนี้



   “อ้าว แล้วคุณเภาไม่ต้องกลับพร้อมคุณหมอหรือ” ราชนิกูลหนุ่มตั้งคำถาม



   “ไม่ต้องครับ ผมกับพี่ภวัตมารถคนละคัน” เภารีบปฏิเสธ ภวัตกำลังเปิดทางให้เขาได้สนิทสนมกับคนวังฉัตร ขืนเขาไม่ปฏิเสธก็โง่อย่างหาตัวจับยากแล้ว



   “คุณพงศ์อยู่ตีเทนนิสก่อนเถอะ ผมจะกลับล่ะ ให้คุณหมอเขาไปส่ง” จันทร์จ้าวตัดสินใจ ถึงแม้จะไม่ได้อยากกลับพร้อมกับภวัต แต่เห็นท่าทางของหม่อมหลวงพงศ์ภราธรก็ดูออกว่าอีกฝ่ายยังอยากตีเทนนิสต่อ เลยหาทางออกเพื่อให้เพื่อนรักไม่ต้องห่วงใยเขาเกินไป



   “เอาอย่างนั้นหรือ” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรได้แต่ครางรับ ซึ่งจันทร์จ้าวก็พยักหน้าซ้ำอีกหน ก่อนจะบอกลาแล้วถือแรกเก็ตออกจากห้องอาหารไป ภวัตบอกลาราชนิกูลหนุ่มแล้วจึงเดินตามออกไปเช่นกัน หม่อมหลวงพงศ์ภราธรมองตามด้วยความรู้สึกประหลาดใจ ไม่รู้สองคนนี้ดีกันตั้งแต่เมื่อไรสิน่า



“อ้าว! ลืมบอกเรื่องงานเลี้ยง!!” ราชนิกูลหนุ่มครวญเมื่อคนทั้งคู่เดินหายลับออกไปจากห้องอาหารของสโมสรเทนนิสแล้ว


“งานเลี้ยงอะไรหรือครับคุณพงศ์”



“ก็งานเลี้ยงต้อนรับนายจันทร์น่ะซีครับ ผมลืมบอกเจ้าตัวจนได้ว่าคุณพ่อของผมจะจัดงานเลี้ยงให้” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรว่าอย่างนั้น แต่ก็ดูจะไม่จริงจังมากนัก เขายังมีเวลาพบหน้าเพื่อนอีกนาน บอกเมื่อไรก็คงไม่เสียหาย ทว่าสำหรับเภาที่ได้ยินว่าคุณชายฉัตรจะจัดงานเลี้ยงให้จันทร์จ้าวกลับรู้สึกไม่ชอบใจนัก



...จันทร์จ้าวเป็นศัตรูฟ้าประทานของเขาจริงๆ!!...


...................................   



   ลานจอดรถหน้าสโมสรนั้นมีรถจอดอยู่ประปราย แต่ทั้งอย่างนั้นจันทร์จ้าวก็จำได้ดีว่ารถของนายแพทย์หนุ่มคือคันไหน เพราะเคยมาจอดที่หน้าบ้านเขาอยู่ ๓ วันเพื่อมาทายาให้ ซ้ำในเช้าวันที่สามยังเป็นรถคันนี้ที่พาเขาไปรับประทานมื้อเช้าด้วยกัน ก่อนที่หลังจากนั้นจะไม่ได้เจอกันอีก จนกระทั่งวันนี้



   “หมอส่งผมแค่ที่ถนนใหญ่ก็พอ ผมไปเองได้” จันทร์จ้าวเอ่ยปากกับคนที่เดินตามเขาออกมา


   “ผมบอกคุณพงศ์ไปแล้วว่าจะไปส่งคุณที่กรม คุณพงศ์เธอเป็นห่วงคุณนะครับ คงกลัวว่าคุณจะไถล” ภวัตหยอกในข้างท้าย ทำเอาดวงตากลมใหญ่ชักจะขวางเขาขึ้นมาอีก ชายหนุ่มรีบชักชวนให้ขึ้นรถ



   “ไปเถอะครับ”



   รถยนต์ของนายแพทย์หนุ่มเคลื่อนตัวออกจากสโมสรเทนนิสไปตามถนนสายหลัก กรมของอาทิตย์อยู่ไม่ไกลจากที่นี่นัก ภวัตเคยไปเพราะบิดาของเขาก็สังกัดอยู่ที่กรมเดียวกันนี้



   ภายในรถเงียบจนจันทร์จ้าวอึดอัด เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนใจร้ายเหลือประมาณ ทั้งๆที่อีกฝ่ายมีน้ำใจกับเขาถึงเพียงนี้ ทั้งเอายาไปให้ แวะไปทายาให้ทุกเช้า หนำซ้ำวันนี้ยังขันอาสาพาไปส่งอีก



   “หมอ...ไม่โกรธผมจริงหรือ ที่ไม่ได้ชวนมาตีเทนนิส” สุดท้าย เพราะความอึดอัดคับอก จันทร์จ้าวจึงต้องเอ่ยปากถาม



   ภวัตหันมองแล้วยิ้มจางเช่นทุกที



   “จริงสิครับ ผมแปลกใจด้วยซ้ำ ทั้งๆที่เราไม่ได้นัด แต่นี่ก็ครั้งที่สองแล้วที่ได้ตีเทนนิสด้วยกัน ครั้งแรกก็ที่วังฉัตร ครั้งที่สองก็ที่สโมสร แปลกดีนะครับ สงสัยชาติที่แล้วเราจะทำบุญร่วมกันมามาก ชาตินี้เลยได้เล่นเทนนิสด้วยกันทั้งๆที่ไม่เคยนัดกันเองเลย” คนฟังหัวเราะเบาๆกับข้อสันนิษฐานของคุณหมอหนุ่ม



   “หมอนี่เปิ่น”



   “อย่างนั้นหรือครับ แต่ผมคิดอย่างนั้นจริง คนเราไม่ได้ทำบุญร่วมกันมา จะได้ทำอะไรด้วยกันอย่างนี้หรือ”



   “ทำอะไรด้วยกันที่หมอว่าน่ะ คือตีเทนนิสนะ”



   “ก็ไม่ต่างกันหรอก” จันทร์จ้าวยังอดจะหัวเราะไม่ได้ ดูเหมือนหมอภวัตจะฝังหัวไปเสียแล้วว่าพวกเขาทำบุญร่วมกันมาจริงถึงได้เล่นเทนนิสด้วยกันอย่างนี้



   “อ้าว กลายเป็นเรื่องขันไปเสียแล้ว” ภวัตหันมาหยอกทั้งรอยยิ้ม แม้จะรู้ว่าเรื่องที่จันทร์จ้าวหัวเราะ ก็คือหัวเราะความคิดของเขาทั้งนั้น



   “ก็หมอตลกนี่ คิดไปได้...” หลังเสียงหัวเราะ กลายเป็นความคุ้นเคย ร่างโปร่งรู้สึกเหมือนความหนักอึ้งในอกมลายหายไป



   “แล้ววันนี้หมอไม่ทำงานหรือ”



   “ทำครับ เพิ่งออกเวรเมื่อเช้า พอดีคุณพงศ์โทรศัพท์ไปที่โรงพยาบาลชวนผมมาตีเทนนิสตอนบ่าย ก็เลยออกมานี่”



   “อ้อ”



   “แล้ววันนี้คุณปวดไหล่เหมือนคราวก่อนไหม”



   “ไม่แล้วล่ะ วันนี้ไม่ค่อยได้ออกแรงเหมือนวันนั้นเท่าไร จับคู่กับหมอก็ดีเหมือนกัน ผมยืนเฉยๆก็คงชนะได้ไม่ยาก ปล่อยให้หมอตีคนเดียวยังได้” ภวัตหัวเราะกับแผนการกินแรงเขาก่อนจะหยอกกลับบ้าง



   “ผมจับคู่กับคุณแล้วถูกสาวๆรุมมองมากเป็นประวัติการณ์เลย” จันทร์จ้าวยักไหล่เหมือนเป็นเรื่องปกติ รถเริ่มเบี่ยงลงซ้ายเพื่อเตรียมจอดที่หน้ากรมซึ่งอยู่ไม่ไกล แต่เสียงของคนขับที่ควรจะมีสมาธิกับการขับรถกลับดังขึ้นในวินาทีนั้น



   “...แต่อย่างไร ผมก็อยากตีแข่งกันคุณแบบครั้งแรกมากกว่า...” 



ร่างโปร่งหันมองคนพูดด้วยเพราะสิ่งที่ภวัตพูดคือสิ่งเดียวกับที่เขากำลังคิด



   ...ใช่...ถึงการจับคู่กับภวัตจะทำให้เขาไม่ต้องลงแรงในการแข่งมากนัก แต่จันทร์จ้าวก็อยากจะตีโต้กับอีกฝ่ายอย่างเอาจริงเอาจังเหมือนในครั้งแรกมากกว่า...



   ไม่มีคำพูดอะไรจากคนทั้งคู่อีก เมื่อรถจอดเลียบที่หน้ากรม



   “ขอบคุณที่มาส่ง” จันทร์จ้าวพูดแล้วเปิดประตูก้าวลงจากรถ เขาจะปิดประตูแล้วเดินเข้าไปในตัวตึกของกรมเลยก็ได้ อย่างไรเสียก็ขอบคุณสำหรับน้ำใจในครั้งนี้แล้ว แต่...อะไรบางอย่างยึดขาเขาเอาไว้อย่างนั้น ชายหนุ่มช่างใจอยู่วินาทีหนึ่ง ก่อนจะก้มหน้าลงคุยกับคนที่ยังอยู่ในรถ



   “...เอาเบอร์ที่โรงพยาบาลมาหน่อยสิ เผื่อผมอยากตี จะได้โทรศัพท์ไปชวน...”


..............................................



   

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8

เพราะความเกรงใจไม่เข้าเรื่องของอาทิตย์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเขาจึงสั่งให้น้องชายไปพบที่กรมแทนที่จะยอมให้ไปรอที่วังฉัตรเช่นสัปดาห์ก่อนๆ แผนการให้อาทิตย์และหม่อมหลวงพิมพัชราได้ประสบพบหน้ากันมากขึ้นจึงไม่ใคร่จะสำเร็จเท่าไรนัก จันทร์จ้าวออกจะเอือมระอาพี่ชายคนใหญ่อยู่ไม่น้อย เหตุใดเขาจะไม่รู้ว่าที่อาทิตย์นัดให้เขาไปพบที่กรมเพราะเกรงใจคนวังฉัตรที่เขา ๒ คนพี่น้องใช้วังเป็นสถานที่นัด



   ...แต่แล้วจะทำไมเล่า?! ถ้าไม่นัดให้อาทิตย์ไปที่นั่นแล้วอาทิตย์กับหม่อมหลวงพิมพัชราจะได้พบหน้ากันหรือ?! ขืนปล่อยไว้อย่างนี้ มีหวังอาทิตย์ได้ชวดคุณพิมไปทั้งชีวิตจริงๆ!!...



   เมื่อแผน ๑ ดูจะไม่ค่อยสำฤทธิ์ผล คนอย่างจันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์ก็ย่อมมีแผน ๒ เสมอ



   บ่ายวันจันทร์ หลังจากจัดการงานที่สำนักงานเรียบร้อยดี จันทร์จ้าวก็แวะมาหาดารารัศมีที่โรงเรียนสตรีกัลยาณี โชคดีว่าน้องสาวคนเล็กไม่มีสอน จึงยอมออกมาพบปะพูดคุยกับพี่ชายที่มาอย่างไม่บอกกล่าวล่วงหน้า และเรื่องที่เขานำมาด้วยก็ทำให้หล่อนตกใจอย่างยิ่ง



   “อะไรนะคะ?! จะให้ดารากระตุ้นพี่อาทิตย์หรือ?!”



   “ใช่ซีจ้ะ ดาราอยู่บ้านเดียวกับพี่อาทิตย์ ดาราก็ต้องช่วย พี่จะวานนภา นภาก็ไม่ใช่คนช่างพูด วานดารานี่ล่ะเหมาะ” จันทร์จ้าวพูดแล้วยิ้มจนเห็นลักยิ้มบุ๋มที่แก้มซ้าย ดวงตากลมใหญ่พราวระยิบ



   “แล้จะให้ดาราพูดอย่างไรคะ” ในขณะที่น้องสาวยังคงมีสีหน้าเป็นกังวล หล่อนเป็นคนช่างพูดผิดกับแฝดพี่ก็จริง แต่จะให้พูดกระตุ้นพี่ชายคนใหญ่ผู้เคร่งขรึม หล่อนก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร



   “ไม่ยาก ก็แค่บอกไปว่าดารามีพี่ชาย ๒ คน หากคนหนึ่งไม่ชอบคุณพิม ดาราก็จะไปขอให้อีกคนมาชอบแทน บอกไปก็ได้ว่าดาราอยากได้คุณพิมเป็นสะใภ้” ดารารัศมียกไหล่หน้าตาเหยเก



   “ฟังดูเซี้ยวอย่างไรชอบกลค่ะพี่จันทร์” จันทร์จ้าวหัวเราะอย่างอารมณ์ดี



   “เซี้ยวบ้างจะเป็นไรไป ก็ทำเพื่อพี่อาทิตย์ทั้งนั้น” ดารารัศมียังมีสีหน้าไม่สู้ดี ด้วยเพราะหล่อนไม่คิดว่าวิธีการนี้จะได้ผลแต่ประการใด แต่กระนั้นจันทร์จ้าวก็ยังย้ำต่อ



   “เราทำเพื่อพี่อาทิตย์ หรือดาราไม่อยากให้พี่ชายคนใหญ่ของเราสมหวัง”



   “อยากก็อยากหรอกค่ะ แต่...แต่ให้ดาราพูด...แล้วทำไมพี่จันทร์ไม่พูดเอง”



   “ขืนพี่พูดเอง ก็จะกลายเป็นว่าพี่อาทิตย์คิดว่าพี่ชอบคุณพิมน่ะซี คราวนี้พี่อาทิตย์คงถอยหลังหนีเตลิดเปิดเปิง” นิสัยของอาทิตย์เปนอย่างไร น้อง ๒ คนทราบดี หากอาทิตย์คิดว่าจันทร์จ้าวมีใจปฏิพัทธ์สตรีคนเดียวกัน อาทิตย์จะเป็นฝ่ายถอยและเปิดทางให้แก่น้องชายแม้จะเจ็บเจียนตายอย่างไรก็ตาม



   ดารารัศมีถอนหายใจยาวราวกับปลง ดูเหมือนจะมีเพียงหล่อนคนเดียวที่จะกระตุ้นอาทิตย์ได้



   “ก็ได้ค่ะ ดาราจะช่วย แต่พี่อาทิตย์จะสมหวังจริงใช่ไหม”



   “จะสมหวังหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพี่อาทิตย์และคุณพิม นี่เป็นแค่วิธีการหนึ่งที่จะทำให้พี่ชายของเรามีกำลังใจและมีความพยายาม”



   “พี่จันทร์นี่รู้ดีจริง ถึงคราวตัวเองก็ขอให้พี่มีกำลังใจและมีความพยายามที่จะรักเดียวใจเดียวบ้างนะคะ” แล้วสุดท้ายดารารัศมีก็วกมาประชดประชันพี่ชายคนรอง จันทร์จ้าวหัวเราะลั่นหน้าตาสดใส



   “ใจพี่มีใจเดียวน้องรัก แต่จะมีใครครองได้ทั้งใจหรือไม่ ต้องเป็นความพยายามของคนผู้นั้น ไม่ใช่ความพยายามของพี่ พี่ไปล่ะ ว่าจะแวะไปตีเทนนิสสักหน่อย เมื่อตอนก่อนจะมาที่นี่โทรศัพท์ไปบุ๊คคอร์ดไว้แล้ว”



   “ตีเทนนิสอีกแล้ว คุณพงศ์คงเบื่อแย่” ดารารัศมีว่าแล้วลุกขึ้นเดินเคียงพี่ชายออกมาจากซุ้มหน้าตึกเรียนหมายจะเดินไปส่งเขาที่หน้าประตูตามประสาเจ้าบ้านที่ดี



   “ไม่ได้ตีกับคุณพงศ์เสียหน่อย วันนี้คุณพงศ์ไม่อยู่”



   “อ้าว! ไม่ตีกับคุณพงศ์แล้วตีกับใครคะ กับแม่ผู้หญิงเลวอีกล่ะสิ!” สมกับเป็นน้องคนเล็กผู้ขวางกับนิสัยเจ้าเสน่ห์ของเขา จันทร์จ้าวหัวเราะอีกหน



   “พี่ไม่ตีเทนนิสกับผู้หญิงหรอก เพื่อนผู้หญิงต้องมีไว้ทรีต ไม่ใช่ไว้แข่งขัน ไปล่ะนะ แล้วเจอกัน” เขาว่าอย่างนั้นแล้วหมุนตัวเดินออกจากโรงเรียน ดวงตากลมใหญ่เหลือบไปเห็นตึกของโรงพยาบาลที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่



   ...ใครบางคนที่ทำงานที่นั่นต่างหาก ที่มีไว้สำหรับแข่งขันเทนนิสกับเขาโดยเฉพาะ...



   .....................................



   ภวัตเหลือบมองโทรศัพท์โรงพยาบาลมาตั้งแต่วันเสาร์ จนกระทั่งวันจันทร์ ใครบางคนได้เบอร์โทรศัพท์ของโรงพยาบาลไป ๓ วันแล้ว แต่กระนั้นก็ยังไม่เคยโทร.มาสักครั้ง หรือวันนั้นเขาจะเขีนเบอร์โทรศัพท์ผิด แต่ก็ไม่น่าจะใช่ บางทีอีกฝ่ายอาจจะไม่ว่าง ก็เลยไม่อยากตีเทนนิสเลยไม่โทรศัพท์มาชวนเขาเสียที วันนั้นหากเขาขอเบอร์โทรศัพท์ติดต่อเอาไว้บ้าง ก็คงจะดี จะได้ไม่ต้องรอคอยอย่างไม่รู้ความหวังเช่นนี้



   นายแพทย์หนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ กำลังจะหมุนตัวเดินกลับเข้าห้องตรวจ แต่สายตากลับเหลือบไปเห็นร่างสูงโปร่งเดินมองซ้ายมองขวาเข้ามาในโรงพยาบาลเสียก่อน



   “คุณจันทร์!” เขาครางอย่างคาดไม่ถึง ก่อนจะเบี่ยงปลายเท้าเดินตรงไปหาคนที่เขาจับจ้องทันที ฝ่ายนั้นหันมาเห็นเขาแล้ว ริมฝีปากสีจัดยกยิ้มจางอย่างที่ทำให้เห็นลักยิ้มที่แก้มซ้าย



   “มาได้อย่างไรครับ หรือไม่สบาย?” หมอภวัตตั้งคำถาม ทั้งแปลกใจ ทั้งสงสัยที่เห็นจันทร์จ้าวที่นี่



   “มาหาหมอ” คนตอบยิ้ม แต่คนฟังกลับขมวดคิ้วฉับ



   “หมอท่านไหน? นัดไว้หรือยัง” ท่าทางจริงจังของนายแพทย์หนุ่มทำเอาจันทร์จ้าวอยากหัวเราะเสียงดัง ทว่าก็ยังเก็บอาการเอาไว้ แม้จะเก็บไม่มิดเพราะรอยยิ้มที่ติดอยู่บนริมฝีปากนั้นยังคงวาดแย้มจนเห็นลักยิ้ม



   “ยังไม่ได้นัด”



   “ถ้าอย่างนั้นตามผมมา คุณมีทะเบียนประวัติที่นี่ไหม แล้วไม่สบายเป็นอะไร” ภวัตกำลังจะออกเดินนำพาร่างโปร่งไปพบพยาบาล แต่มือขาวกลับรั้งแขนเขาเอาไว้เสียก่อน



   “ผมมาหาหมอภวัต จำเป็นต้องนัดด้วยหรือ” ภวัตหันกลับมามองด้วยความไม่เชื่อหู



   “หาผม?” เขาทวนคำอย่างงุนงง



   “ใช่ ผมแวะมาหาดารารัศมีที่โรงเรียน จำได้ว่ามีคนบอกว่าหมอประจำอยู่ที่นี่ ก็เลยแวะมา จะมาชวนหมอตีเทนนิสน่ะ วันนี้หมอว่างไหมล่ะ แต่บอกก่อนว่ามีแค่ผมกับหมอ เพราะคุณพงศ์ไปทำธุระกับคุณชาย ส่วนคุณวินิตก็ไม่รู้จะมาไหม ผมไม่ได้ ถาม”



   “แล้วถ้าผมไม่ว่าง...” จันทร์จ้าวยักไหล่เหมือนช่วยไม่ได้



   “ผมก็กลับไปนอนเล่นที่บ้านน่ะซี ไม่อยากไปหาคู่ตีคนใหม่ที่คอร์ด ไม่รู้ฝีมือเป็นอย่างไรบ้าง พวกทำเก๋ไปสโมสรเพื่อเดินไปเดินมาก็มีออกถม ตีด้วยแล้วหงุดหงิด” แสดงว่าที่ชวนเขา ไม่ใช่แค่ว่าเพื่อนตีอย่างหม่อมหลวงพงศ์ภราธรและนายวินิตไม่ว่างทั้งคู่ แต่จันทร์จ้าว ‘เลือก’ แล้วที่จะชวน เพราะอย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่าหากตีกับหมอภวัต จะไม่อารมณ์เสียเพราะฝีมือไม่เอาอ่าว



   นายแพทย์หนุ่มได้แต่อมยิ้มกับตนเอง และนั่นไม่รอดพ้นสายตาของจันทร์จ้าวที่จับจ้องอยู่แล้ว



   “หมอยิ้มอะไร หรือดีใจเพราะไม่ว่างพอดีเลยไปตีกับผมไม่ได้”



   “เปล่าครับ ผมว่าง”



   “อ้าว! แล้วจะถามทำไมว่าถ้าหมอไม่ว่าง ผมจะทำอย่างไร”



   “ผมก็ถามดูไปอย่างนั้นเอง ถ้าอย่างนั้น ผมจะโทรศัพท์ไปบุ๊คคอร์ด เอาเป็นสักห้าโมงดีไหม ตีสักชั่วโมงหนึ่ง แล้วหกโมงเราไปหาอะไรรับประทานกัน”



   “ผมแวะไปบุ๊คแล้ว ห้าโมงถึงหกโมง” จันทร์จ้าวพูดขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนที่นายแพทย์หนุ่มจะหมุนตัวเดินไปที่โทรศัพท์เสียก่อน ดวงตาสองคู่สบกันก่อนที่ทั้งสองจะหัวเราะออกมาเบาๆ



   “หมออย่าพูดเชียวว่าที่ผมบุ๊คเวลาเดียวกับที่หมอจะบุ๊คเป็นเพราะเราทำบุญมาด้วยกัน ถึงได้มีความคิดเช่นเดียวกัน” ร่างโปร่งรีบออกตัวก่อน ยิ่งทำเอาภวัตหัวเราะหนักกว่าเดิม อย่างนี้เห็นทีเจ้าตัวคงจะคิดเช่นนั้นจริง แม้จันทร์จ้าวจะอดระอากับความคิดเรื่องบุญเรื่องกรรมของนายแพท์หนุ่มไม่ได้ แต่ก็อดหัวเราะไม่ได้เช่นกัน



   “คุณหมอภวัตคะ...” เสียงเรียกของพยาบาล ทำเอาเจ้าของชื่อต้องหันมองตาม นี่ยังอยู่ในเวลางาน พยาบาลจึงมาตามเช่นนี้



   “หมอไปทำงานเถอะ ผมจะรอแถวนี้ แล้วคิดด้วย ว่าหลังจากตีเทนนิสแล้วจะพาผมไปร้านไหน ผมไม่คิดหรอก เดี๋ยวจะกลายเป็นใจตรงกับหมอ หมอก็จะหาว่าผมกับหมอทำบุญมาด้วยกันอีก แค่นี้เราก็ทำบุญมาด้วยกันมากเกินไปเสียแล้ว” จันทร์จ้าวเอ่ย อย่างที่ทำเอาคนฟังถึงกับยิ้ม



   “ได้ครับ ผมจะคิดให้เอง เอ? จะว่าไปตั้งแต่รู้จักกันมาก็ยังไม่เคยทำบุญด้วยกันเลย ผมชักอยากทำบุญร่วมกับคุณในชาตินี้บ้างแล้วสิ เผื่อชาติหน้าเราจะได้ตีเทนนิสด้วยกันอีก” ภวัตพูดอย่างจริงจัง ทำเอาจันทร์จ้าวหัวเราะแต่ไม่วายสัพยอกกลับไป



   “ถ้าอย่างนั้นเอาเป็นทำบุญสร้างพระประทานดีไหม เผื่อชาติหน้าเราอาจจะได้ตีเทนนิสด้วยกันในวิมเบิลดันก็ได้”



   คนทั้งคู่หัวเราะอีกครั้ง ก่อนที่ภวัตจะขอตัวไปทำงานต่อโดยมีรอยยิ้มติดอยู่บนใบหน้าไปจนกระทั่งเลิกงาน



   ............................................



   ดารารัศมีอดจะแปลกใจไม่ได้ เมื่อครู่ตอนที่หล่อนนั่งรถสามล้อกลับบ้าน ต้องผ่านโรงพยาบาลใหญ่ หล่อนเห็นรถยนต์ของคุณหมอภวัตแล่นออกมาพอดี ตอนที่เห็นนั้น ดารารัศมีจำไม่ได้ว่าเป็นรถของคุณหมอ แต่เพราะกระจกรถค่อนข้างใส หล่อนจึงมองเห็นข้างใน และในรถไม่ได้มีเพียงแค่คุณหมอ...ทว่ามีพี่ชายของหล่อนด้วย...



   ...จันทร์จ้าว...ดีกับคุณหมอตั้งแต่เมื่อไร...



   “ดารา ไปทำอะไรอยู่ตรงนั้น...” เสียงทุ้มดังขึ้นมาจากบันไดขึ้นเรือน หญิงสาวที่กำลังเดินเล่นยามค่ำอยู่ในสนามหญ้าหันมองแล้วก็ถึงได้รู้ว่าพี่ชายคนใหญ่กลับมาแล้ว



   “พี่อาทิตย์ สวัสดีค่ะ” หล่อนยกมือไหว้ชายหนุ่มในชุดเครื่องแบบนายทหาร อาทิตย์เห็นท่าทีของน้องสาวไม่เป็นปกติ ดารารัศมีไม่ใช่คนชอบอยู่กับต้นไม้ใบไม้นัก แต่ทำไมวันนี้หล่อนถึงมาเดินกลางสนามหญ้า แม้จะเป็นสนามหญ้าในบ้านก็ตามที ชายหนุ่มเบี่ยงปลายเท้าที่กำลังจะเดินขึ้นเรือนตรงไปหาหญิงสาวที่ยืนอยู่เพียงลำพัง



   “มีอะไรหรือ” เขาถามด้วยความเป็นห่วง แม้จะไม่ใช่คนแสดงออกมากนัก แต่อาทิตย์ก็เป็นพี่ชายที่ดี ดูแลน้องทุกคนอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ดารารัศมีสะท้อนใจที่หล่อนเป็นน้อง อยู่บ้านเดียวกันมาตั้งแต่เล็กจนโต แต่ไม่เคยสังเกตเลยว่าเขารักชอบใคร หากหล่อนรู้ก่อนหน้านี้ ความรักของอาทิตย์คงสมหวังไปนานแล้ว



   “วันนี้ดาราเจอเรื่องแปลกแน่ะค่ะ”



   “เรื่องแปลก?”



   “ค่ะ” ดารารัศมีรับคำ เรื่องแปลกของหล่อนมีสองเรื่อง เรื่องแรกคือเรื่องที่เห็นจันทร์จ้าวในรถของคุณหมอภวัต ส่วนเรื่องที่สองคือเรื่องของหม่อมหลวงพิมพัชรา ทว่าหญิงสาวตัดสินใจเก็บเรื่องแรกเอาไว้ แล้วพูดเรื่องที่สองแทน



   “คุณพิมเธอฝากรังนกมาให้พวกเราค่ะ” อาทิตย์ดูจะนิ่งไปในทันทีที่ได้ยินชื่อบุคคลที่สาม หากแต่ชั่ววินาทีต่อมาเขาก็จะซ่อนความรู้สึกบนสีหน้าได้



   “คุณพิม...เธอเป็นคนมีน้ำใจ พี่ก็เห็นฝากของมาเรื่อยไม่ใช่หรือ”



   “ใช่ค่ะ คุณพิมเธอเป็นคนมีน้ำใจ เธอฝากของมาให้บ้านเราเรื่อย แต่ที่ดาราว่าแปลก คือคุณพิมเธอบอกดาราว่าตอนแรกตั้งใจจะทำข้าวเกรียบปากหม้อ แต่ก็กลัวว่าทำมาตอนเช้า กว่าดาราจะได้กลับบ้านก็ค่ำ ข้าวเกรียบปากหม้อจะเสียก่อนที่บ้านเราจะได้ทาน...พี่อาทิตย์ว่าแปลกไหมคะ” ดารารัศมีพูดแล้วจับจ้องใบหน้าของพี่ชาย อาทิตย์มีสีหน้าอิหลักอิเหลื่อ ทั้งเกร็งทั้งประหม่า เห็นแล้วก็ยิ่งสะท้อนใจที่เขาช่างพยายามเก็บความรู้สึกเสียเหลือเกิน



   “ดาราว่าแปลก ทำไมจู่ๆคุณพิมถึงอยากจะทำข้าวเกรียบปากหม้อขึ้นมา ซ้ำยังตั้งใจจะทำเพื่อให้คนบ้านเราได้ทานอีกต่างหาก คนในบ้านเราที่ชอบข้าวเกรียบปากหม้อก็มีแต่พี่อาทิตย์คนเดียว...พี่อาทิตย์ว่าไม่แปลกหรือคะ” ดารารัศมีพูดต่อ อาทิตย์ได้แต่เงียบ เขาไม่รู้จะพูดอะไร ความรู้สึกของราชนิกูลสาว บางครั้งก็เหมือนจะให้ความหวังเขา ทว่าชายหนุ่มเจียมเนื้อเจียมตัวเสมอว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายที่อยู่กับใครแล้วจะสร้างความสุขให้กับคนนั้น เขาเป็นคนเงียบๆ รักสันโดษ ไม่ใช่คนเข้าสังคมหรือช่างพูดช่างคุย ไม่ช้าไม่เร็วก็คงสร้างความเบื่อหน่ายให้กับฝ่ายนั้น



   คนเป็นน้องจับจ้องใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลของพี่ชายแล้วก็ยิ่งนึกสงสาร ถ้าไม่ใช่เพราะจันทร์จ้าวสังเกตเห็นความรู้สึกของอาทิตย์และนำมาบอกหล่อน หล่อนก็คงมองข้ามเขาไป ความรู้สึกของอาทิตย์ช่างเงียบเฉียบเหลือเกิน



   “ดาราอยากได้คุณพิมมาเป็นพี่สะใภ้นะคะ พี่อาทิตย์ช่วยดาราได้ไหม”



   “เรื่องนั้น...” นายทหารหนุ่มพูดไม่ออก ดารารัศมีเองก็ไม่รอให้เขาพูดต่อเสียด้วย



   “แต่ถ้าหากพี่อาทิตย์ไม่ช่วย ดาราก็จะไปขอคนอื่นให้ช่วย...ดารามีพี่ชายตั้ง ๒ คน ถ้าคนหนึ่งไม่ทำ ก็ให้อีกคนทำแทนเสีย สิ้นเรื่องไป จริงไหมคะ...” หญิงสาวทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้นก็ก้าวเท้าเดินออกจากสนามหญ้ากลับขึ้นเรือน แต่ไม่วายเหลือบสายตากลับไปมองร่างสูงสง่าของพี่ชายคนใหญ่ที่ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม



   ...กระตุ้นให้แล้วนะพี่จันทร์ ดาราทำตามที่วางแผนไว้แล้ว ขอให้แผนของพี่ใช้การได้ทีเถอะ!!...


..........................................




   ร้านอาหารที่หมอภวัตพาคู่ตีเทนนิสมารับประทานอาหารค่ำเป็นร้านอาหารฝรั่ง จันทร์จ้าวเคยมาที่นี่ ๒-๓ หนแล้วกับเพื่อนผู้หญิงของเขา ซึ่งเขาว่ารสชาติของอาหารที่นี่ใช้ได้ทีเดียว ถึงจะไม่เหมือนต้นตำรับทุกประการ แต่ก็รับประทานให้พอหายคิดถึงได้บ้าง



   “เคยมาที่นี่ไหมครับ ผมว่าที่นี่เขาทำสเต็กได้อร่อย” หมอภวัตหันมาพูดเมื่อก้าวเท้านำเข้ามาในร้าน



   “เคย...”



   “เคยแล้วคิดว่าที่นี่สเต็กอร่อยไหมครับ”



   “ผมไม่บอกหมอหรอก เดี๋ยวหมอโมเมหาว่าผมกับหมอทำบุญด้วยกันมาอีก” จันทร์จ้าวว่าอย่างนั้นทำเอาคนถามหัวเราะเบาๆ พวกเขาถูกพาไปนั่งที่โต๊ะ บริกรรอรับรายการอาหารอยู่ครู่หนึ่งก็จากไปเมื่อพวกเขาสั่งอาหารเรียบร้อย



   “เพื่อนผมเคยบอกว่ามีร้านอาหารฝรั่งอีกร้านที่อร่อยใช้ได้ อยู่ถัดจากนี้ไปอีกหน่อย” จันทร์จ้าวเอ่ย พลางมองออกไปนอกหน้าต่างกระจกร้าน ภายนอกค่อนข้างพลุ่กพล่านและจอแจไปด้วยผู้คนและรถรา



   “แล้วก็ไม่บอก ผมจะได้พาไป”



   “ไม่เอา ผมอยากทานร้านนี้นี่” พอหลุดปากออกไปอย่างนั้น ดวงตากลมก็รีบตวัดไปจ้องคนที่นั่งอยู่ฝั่งของโต๊ะอย่างรวดเร็ว



   “อย่าหาว่าผมใจตรงกับหมออีกล่ะ! พอผมเห็นว่าหมอพามาแถวนี้ ผมก็แค่คิดถึงร้านนี้ร้านแรกก็เท่านั้น” หมอภวัตหัวเราะเบาๆ อยู่กับจันทร์จ้าวแล้วเขาหัวเราะบ่อยกว่าอยู่คนไหนๆทั้งสิ้น เจ้าตัวเหมือนเด็ก มีชีวิตชีวา แต่บางครั้งก็ทำตัวได้น่าฉงน เหมือนจะก้าวเข้ามาหาเขาก่อน แต่พอเขาจะก้าวเข้าไปหาบ้าง กลับถอยกรูดหนีหายไปเสียอย่างนั้น



   “ถ้าอย่างนั้น เอาไว้คราวหน้า เราไปทานร้านใหม่ที่คุณว่ากัน ว่าแต่พรุ่งนี้ตีเทนนิสอีกไหม”



   “หมอว่างหรือ”



   “ว่างครับ เอาเวลาเดิมดีไหม พรุ่งนี้ผมจะโทร.ไปบุ๊คคอร์ดเอาไว้” จันทร์จ้าวพยักหงึกหงักแต่ไม่วายตั้งคำถามหยั่งเชิง



   “แล้วหมอ...ไม่มีธุระอย่างอื่นต้องไปทำบ้างหรือ อย่างเช่นไปดูหนังกับ... ‘คุณพิม’อย่างนี้...”



   “คุณพิม?...คุณหมายถึงคุณพิมน้องสาวคุณพงศ์น่ะหรือ ผมไม่ได้สนิทกับเธอหรอกครับ จะให้ชวนเธอไปดูภาพยนตร์ได้อย่างไร”



จันทร์จ้าวมองใบหน้าของคนพูดด้วยความช่างใจ



“แล้วหมอไม่คิดจะสนิทกับเธอบ้างหรือ”



“เธอเป็นผู้หญิง จะให้ผมไปสนิทด้วยก็เกรงจะไม่เหมาะ”



“หมอพูดอย่างกับว่า หมอไม่มีเพื่อนผู้หญิงที่สนิทอย่างนั้นล่ะ”



“ผมทำแต่งาน จะมีเวลาที่ไหนไปสนิทผู้หญิงได้อย่างไรครับ”


เป็นว่าหมอภวัตดูจะไม่สนใจหม่อมหลวงพิมพัชรา จันทร์จ้าวก็พอจะพึงใจอยู่บ้างที่ได้รู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่คิดจะมีใจปฏิพัทธ์กับราชนิกูลสาวผู้นั้น ท่าทีที่มีต่อนายแพทย์หนุ่มจึงอ่อนลง กำลังจะชวนคุยเรื่องสัพเพเหระ แต่อีกฝ่ายกลับพูดขึ้นมาเสียก่อน



“...แล้วที่สำคัญ...ผมว่าผมอยากสนิทกับคุณมากกว่า ตีเทนนิสกับคุณสนุกกว่าไปดูหนังเยอะเลย” คำพูดตรงไปตรงมาของนายแพทย์หนุ่มทำเอาจันทร์จ้าวหันมอง ดวงตากลมใหญ่จับจ้องใบหน้าของอีกฝ่าย รู้สึกประหลาดในอก แต่ครู่หนึ่งมันก็จางหายไป

 

   “ผมว่าจะสนุกกว่านี้ ถ้าเราพนันกันบ้าง” ภวัตหัวเราะกับคำพูดชวนพนันของคนที่แพ้เขาวันนี้ แม้จะมีเกมที่จันทร์จ้าวชนะเขาอยู่บ้าง แต่โดยรวมแล้ววันนี้เขาชนะมากกว่า



   “ตั้งแต่วันนี้เลยไหม” เขาถามทั้งๆที่ยังมีรอยยิ้มเต็มหน้า ทำเอาร่างโปร่งจ้องเขม็งแต่ก็ยังใจกว้างยอมรับ



   “ก็ได้ ตั้งแต่วันนี้เลยก็ได้ หมออยากได้อะไรล่ะ ไม่เอาที่ว่าอยากได้คู่ตีเทนนิสแล้วนะ หรือให้ผมเลี้ยงมื้อนี้ดีไหม”



   “ไม่ได้ครับ มื้อนี้ผมเลือกร้าน ผมต้องเป็นคนเลี้ยง เอาเป็น...พรุ่งนี้ตอนเช้า ผมแวะไปรับคุณพาไปทำบุญดีไหมครับ” คำขอของคนชนะในวันนี้ ทำเอาจันทร์จ้าวหัวเราะออกมาเสียงดัง



   “หมอคงอยากจะแข่งวิมเบิลดันกับผมชาติหน้าจริงๆ เอาก็เอา พรุ่งนี้เช้ามารับผมแล้วกัน” ร่างโปร่งรับปาก แต่ไม่วายส่ายศีรษะระอา ทว่าประโยคต่อมาของอีกฝ่ายกลับทำให้มือขาวที่กำลังยกแก้วน้ำขึ้นจิบต้องชะงัก



   “ผมไม่ได้อยากแข่งกับคุณชาติหน้า แต่ผมอยากแข่งกับคุณไปตลอดต่างหาก...”



ดวงตากลมใหญ่มองสบดวงตาคมทว่าอ่อนโยนที่ภวัตมองมา ก่อนที่จะเป็นฝ่ายจันทร์จ้าวที่เบี่ยงสายตาไปทางอื่น และก่อนที่จะยกแก้วขึ้นดื่ม ภวัตก็ได้ยินเสียงเบาแผ่วตอบกลับมา



“ผมก็ไม่ได้จะไปไหนนี่ จะอยู่กับแข่งเทนนิสกับหมอไปเรื่อยๆนี่ล่ะ”


ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้าค่ะ)

   คู่นี้เขาคุยกันแบบแมนๆนะครัช เอะอะเทนนิสบังหน้าตลอดดดดดดดดดด

 แต่เราก็จะให้เขาตีเทนนิสกันต่อไป ขอตั้งชื่อว่าเป็นเทนนิสกระชับมิตร ยิ่งมิตรภาพลูกผู้ชายมันเพิ่มพูน เราก็ยิ่งช้อบชอบบบบบบ    
   
ส่วนคู่พี่อาทิตย์กับคุณพิมเขายังเรื่อยๆมาเรียงๆนกบินเฉียงไปทั้งหมู่เช่นเคย ไม่เหมือนน้องเอาซะเลย ทั้งอ่อยผู้ชายเข้าบ้าน ทั้งไปดินเนอร์สองต่อสอง ฮ่าฮ่า
   
แล้วเจอกันพฤหัสหน้า คู่นี้เขาจะได้ไปตีเทนนิสในวิมเบิลดันมั้ย อันนี้ต้องติดตามค่ะ
   
ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนติดตามและพื้นที่บอร์ดค่ะ

   

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
หยอดกันไป ตีเทนนิสกันไป สินะ 55555

ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4
แมนๆๆอยากสนิทกันเนาะคุณหมอ

 :กอด1: :L2: :pig4:


ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
อยากให้มีตอนที่ทั้งคู่ไปตีเทนนิสที่อังกฤษจังเลยค่ะ อิอิ
น่าจะฟินๆ :hao6:

ออฟไลน์ urmein

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 871
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
งื้ดดดดดดดดดด คุณจันทร์น่ารัก >_<
คุณหมอก็เนียนๆนะ แปบๆ ชวนไปทำบุญร่วมชาติกันแล้ววว
โอ้ยย เขินนนนนน

คุณพี่อาทิตย์สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ออฟไลน์ valenna yy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
คู่นี้เค้าตีเทนนิสได้ฟินมากเจ้าค่ะ
หยอดกันไปหยอดกันมา :hao6:

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
เทนนิสสื่อรัก  :katai2-1: :katai2-1:
หมอหยอดคุณจันทร์ใหญ่เลยนะ อย่างนี้ก็ตีกันไปจนแก่เฒ่าเลยละกัน :impress2: :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ bradpitt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1


คุณจันทร์จ้าว..........ขา   ปากแข็งจริงๆๆๆ เล้ย

คุณหมอ ก้อนะ.... ยอมตั้งแต่ตีเทนนิสครั้งแรก   ต่อไปนี้ คงไม่ต้องโทรฯ นัดกัน


ออกเดท ตีเทนนิส จนฟินน เลย :กอด1:



"จันทร์จ้าวพูดแล้วยิ้มจนเห็นลักยิ้มบุ๋มที่แก้มซ้าย ดวงตากลมใหญ่พราวระยิบ"  มัดใจคุณหมอใช่ไหม อ่ะ

ฟินนนนนน

 :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
คู่คุณพงษ์กับเภาก็น่าสนใจนะ

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
มาแอบดูเขาจีบกัน   :-[

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด