...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Christmas…again and again. (๒๔ ธ.ค. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Christmas…again and again. (๒๔ ธ.ค. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)  (อ่าน 744373 ครั้ง)

ออฟไลน์ konnarak

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-0
คุณพิม พูดดีมากกก 

จันทร์กับคุณหมอเจอกันแปปเดียวก็ทำให้เรายิ้มได้

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
คุณหมอกับคุณจันทร์สู้ๆนะ

ออฟไลน์ ์ำNeFuji

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ดีใจจัง สุดท้ายพี่อาทิตย์ ก็ยอมรับ

แต่จันทร์นี่น่ารักได้อีก

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
คุณพิมนี่เป็นขวัญใจ ขวัญเรือนจริง ๆ
พี่อาทิตย์โชคดีที่ได้รักและครองคู่กับคุณพิม

จันทร์อ้อนได้น่ารักมาก หมอละลายเลย

เอาล่ะ! เราจะซ้อมร้องเพลงตั้งแต่วันนี้เลย
ความสุขของหมอ ความสุขของจันทร์ ความฟินของเรา ชะเอิงเงิงเงยยยยย

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
จะได้เห็นจันทร์กับหมอกลับมาสวีตกันแล้ววววววว

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
นับวันฝ่ายเชียร์คุณจันทร์จะเพิ่มขึ้น แถมแต่ละคนหลักการและเหตุผลแน่นปึ้ก ฝ่ายค้านต้องล่าถอยหมดกระบวนท่า
ชอบตอนจันทร์ไปแอบมองหมอ ชอบตอนที่เจอหน้ากันจันทร์ก็อ้อนได้น่ารักน่าเอ็นดู
คนอย่างนี้ใครกล้าทำให้เป็นทุกข์นับได้ว่าเป็นคนบาปหนัก

ออฟไลน์ IaminLove

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-5
รักแท้มักมีอุปสรรค สองคนนี้รักกันแบบโอเคอ่ะ คือต่างฝ่ายต่างอดทนเพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกันในที่สุด แล้วมันเหมือนแบบทั้งสองคนรอมาเจอกันและกัน และหยึดอยู่ที่คนนี้ จากคนนึงควงสาวไปทั่ว พอเจอคนนี้ก็หยุด อีกคนไม่เคยสนใจใครก็มาหยุดที่คนนี้อีก ชอบมากๆ เลย ขอให้สมหวังเร็วๆ น้าคุณหมอ คุณจันทร์

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
จันทร์จ้าวน่ารักมากอ่ะมีแอบไปยืนมองหมอภวัตด้วย เดวจะหมดมาม่าแล้วใช่มั้ย อยากอ่านตอนคืนความสุขให้หมอแล้วนะเนี่ย

ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
ราชนิกูลพี่น้อง น่ารักทั้งคู่เลย

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
พี่อาทิตย์ก็ปล่อยวางจริงๆนะ ไม่สนับสนุนก็อย่าขวางเลย สงสารจันทร์

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ cinquain

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-0
ขอบคุณคุณพงศ์ที่นำรอยยิ้มกลับมาให้เรา
ด้วยการพกหมอมาด้วย 55 ^^
ส่วนคุณพิมเหมาะแล้วค่ะกับพี่อาทิตย์
อยู่ด้วยกันแล้วรู้สึกถึงความสุขของทั้งคู่
รอวันคืนความสุขให้คุณหมอกันทุกคนเลยค่ะ  :hao3:




ออฟไลน์ threetanz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
ในที่สุดคุณจันทร์ก็ได้พบคุณหมอซักที

คุณอาทิตย์ต้องเข้าใจและปล่อยวางให้นะคะ เพื่อคุณจันทร์ค่ะ อิอิ

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
ตอนนี้ถึงจะมีเรื่องให้คิดมาก แต่ก็ยังยิ้มได้ตลอด

ออฟไลน์ Malimaru

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-4
    • facebook


การที่เปิดโอกาสให้คุณหมอมาเจอคุณจันทร์บ้างนี่มันดีต่อใจป้าจริง ๆ ค่ะ
คืออ่านแบบอึมครึมมาตลอด แล้วก็มาเจอช่วงฟ้าเปิดนั่งยิ้มเป็นบ้ากับตอนที่คุณหมอลอบมาหาคุณจันทร์
เฮ่อ... คือมันดีนะ เหมือนมีน้ำมารดหล่อเลี้ยงให้ต้นอ่อนของไม้ใหญ่ไม่ล้มตายไปเสียก่อน
แต่พอเห็นว่าฤดูแล้งกำลังเดินทางมาพร้อมไฟป่าชื่อว่าอาทิตย์ (ที่ยังตัดสินใจไม่ได้) ป้าก็เป็นห่วงใจของสองหนุ่มเสียจริง ๆ

แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะร้ายหรือดี ป้าก็จะอยู่เป็นกำลังใจชั้นดีให้พ่อหมอกับพ่อจันทร์ได้กันเร็ว ๆ นะจ๊ะ (เดี๋ยว!!)
รอติดตามตอนต่อไปค่ะ ^^  :กอด1:



ออฟไลน์ Paparazzi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1050
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-11
รอวันทุกคนยอมรับนะคะ คุณจันทร์จอมดื้อ
 :laugh:

ออฟไลน์ kaokorn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
ไม่มีคุณพงศ์นี่กับคุณพิมนี่ ชีวิตรักของคุณหมอกับจันทร์นี่ท่าจะลำบากนะฮะเนี่ย
ไหนๆก็ไหนๆ รอลุ้นวันชื่นคืนสุขให้คุณหมอด้วยคน 555+

ออฟไลน์ bradpitt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1

วันนี้ สินะ

พ่อจันทร์ จะ จับมือ คุณหมอ สู่ประตูความสุข
:กอด1:



 :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven

//ลุ้นๆๆ พี่อาทิตย์ จะทำอะไร เซอรไพรส์ ท่านนายพล ไหมหนอ :ruready

ออฟไลน์ ์ำNeFuji

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
 มารอ คุณหมอกะจันทร์

ออฟไลน์ veeveevivien

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
มาปูเสื่อรอดู

คุณหมอ กับ พี่จันทร์ เข้าห้องหออออ

 :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8
จันทร์จ้าว
By: Dezair
…………………….
บทที่ ๒๑   



หลังจากทำตัวมึนตึงใส่พี่ชายมาพักใหญ่ จันทร์จ้าวก็คิดเอาเองว่าถึงเวลาสักทีที่เขาควรจะเป็นฝ่ายเดินหมากเสียบ้าง ยิ่งเมื่อหมอภวัตแอบลักลอบมาพบเขาที่สำนักงานตอนกลางวันบ่อยขึ้น จันทร์จ้าวก็ชักจะรู้สึกถึงกำลังใจมากโขที่ได้รับ เขาจึงคิดจะทำการใหญ่กว่าเคย จากแต่ก่อนที่ทำตัวเฉยชาไม่พูดไม่จากับอาทิตย์ที่มารับมาส่ง เย็นนี้เขาตั้งใจว่าจะทำให้พี่ชายคนใหญ่ได้เรียนรู้ว่านิสัยอย่างเขานั้น ลองว่าจริงจังกับเรื่องใดแล้ว เรื่องนั้นย่อมไม่มีวันล้มเหลว


“วันเสาร์ ผมจะไปตีเทนนิส” จันทร์จ้าวพูดทันทีที่ก้าวเท้าขึ้นนั่งในรถโฟล์คของอาทิตย์ นายทหารหนุ่มผู้รับหน้าที่สารถีนิ่งไปอึดใจหนึ่ง รอจนน้องชายปิดประตูรถเรียบร้อยแล้ว และเบี่ยงรถเข้าสู่ถนนตามเดิมจึงถามกลับไป


“ไปกับใคร”


“เพื่อน”


“เพื่อนคนไหน”


“หมอภวัต”


อาทิตย์ถอนหายใจ ดูเหมือนการที่เขาพยายามมาตลอดจะไม่อาจทำให้น้องชายของเขาล้มเลิกความดื้อแพ่งนี้ได้เลย


“คิดบ้างไหม ว่าถ้าเรื่องของจันทร์กับคุณหมอรู้ไปถึงหูคนนอก คนที่ไม่หวังดี ถ้าหากเขาต้องการทำลาย เขาแค่แพร่ข่าวเรื่องนี้ออกไป ชีวิตของจันทร์และคุณหมอจะเป็นอย่างไร” คนถูกตั้งคำถามหันไปมองพี่ชายด้วยสายตาจริงจังแล้วตอบด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น


“แล้วพี่อาทิตย์ไม่คิดบ้างหรือว่าการบังคับให้ผมกับหมอไม่เจอหน้ากัน ไม่ใช่การทำลาย คิดบ้างไหมว่าแยกผมกับหมอออกจากกันแล้วชีวิตของผมกับหมอจะเป็นอย่างไร คนนอกทำอะไรผม ยังไม่สู้คนในครอบครัวทำ อย่างที่พี่อาทิตย์กำลังทำอยู่นี่” พี่ชายคนใหญ่หันมองน้องชายด้วยความเจ็บปวด เขาสู้ทำทุกอย่างเพื่อให้จันทร์จ้าวมีหนทางชีวิตที่ดี ไม่ใช่จมอยู่กับความรักที่ไม่มีวันได้ครองคู่ แต่กระนั้นจันทร์จ้าวกลับมองว่าเขากำลังทำร้ายทำลายชีวิต


“พี่ทำทุกอย่างเพื่อจันทร์” จันทร์จ้าวทราบดีว่าอาทิตย์รักเขาเพียงใด เขายกมือขึ้นพนม


“ผมขอบคุณพี่อาทิตย์มาก ผมทราบว่าพี่ทำทุกอย่างเพื่อผม ผมทราบว่าพี่เป็นห่วงผม แต่ผมขอได้ไหม...ขอให้ผมกับหมอได้ลองเรียนรู้ความรู้สึกของเราด้วยตัวของเราเอง แล้วถ้าวันหนึ่ง...ผมอยู่กับความรู้สึกนี้ไม่ได้ ผมจะถอยออกมาเอง...” ผู้เป็นพี่ไม่พูดอะไร อาทิตย์ทำได้เพียงหันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างรถ จันทร์จ้าวเห็นอีกฝ่ายเงียบ เขาก็ได้แต่เงียบเช่นกัน ทั้งคู่นั่งเงียบกันมาตลอดทางจนกระทั่งถึงบ้าน และเป็นฝ่ายคนน้องที่ตัดสินใจเปิดประตูลงจากรถเดินขึ้นบ้านเป็นผู้แรก


หลังจากนั้นครู่หนึ่ง คนรับใช้ก็ขึ้นมารายงานคุณหญิงผกาว่าอาทิตย์ขับรถออกจากบ้านไปอีกรอบโดยฝากหล่อนขึ้นมาเรียนมารดาของตนว่าลืมงานไว้ที่กรม และจะกลับมาอีกทีในตอนดึก ไม่ต้องรอรับประทานอาหารค่ำเหมือนทุกวัน


จันทร์จ้าวได้ยินในสิ่งที่คนรับใช้เรียนมารดาแล้วก็ได้แต่ลอบถอนหายใจ ด้วยเพราะไม่ทราบจะทำเช่นไรกับพี่ชายคนใหญ่คนนี้ดี

……………………………..


จุดหมายปลายทางของอาทิตย์ไม่ใช่กรมอย่างที่เขาฝากคนรับใช้ขึ้นไปเรียนคุณหญิงผกาว่าลืมของ แต่เป็นโรงพยาบาลใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านรักษพิพัฒน์มากนัก นายทหารหนุ่มดับเครื่อง ลงจากรถแล้วเดินไปสอบถามพยาบาลคนหนึ่งบริเวณโถงโรงพยาบาลจึงทราบว่าหมอภวัตเพิ่งกลับไปที่บ้านพักแพทย์เมื่อสักครู่นี่เอง เขาสอบถามตำแหน่งของบ้านพักแพทย์ของภวัตแล้วจึงออกเดินตามหาเอง


บ้านพักแพทย์หลังเล็กกะทัดรัดอยู่ไม่ไกลจากตึกของโรงพยาบาลมากนัก เดินอยู่อึดใจหนึ่ง ชายหนุ่มในชุดเครื่องแบบนายทหารก็เดินมาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านพักหมอภวัต เขาชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจยกมือขึ้นเคาะประตู อาทิตย์ได้ยินเสียงขานรับเบาๆจากข้างในและตามมาด้วยบานประตูที่เปิดออก


“คุณอาทิตย์...” เจ้าของบ้านครางอย่างคาดไม่ถึง ด้วยเพราะไม่คิดว่าอาทิตย์จะมาที่นี่


“ผมมีเรื่องจะคุยด้วย” อาทิตย์พูดเสียงเรียบ ภวัตจึงทำได้เพียงเปิดประตูให้กว้างขึ้นเป็นการเชื้อเชิญเข้ามาข้างใน นายทหารหนุ่มเดินเข้ามาในบ้านขนาดเล็ก เขาไม่ได้สนใจใยดีในวิถีชีวิตความเป็นอยู่อันเรียบง่ายของหมอภวัต แต่ตรงกันข้าม อาทิตย์กลับเอาแต่จมจ่อมอยู่กับความรู้สึกนึกคิดของตนเอง เขายืนเงียบอยู่เช่นนั้น จนกระทั่งเจ้าของบ้านเดินออกมาจากครัวทางด้านหลังอีกหน พร้อมด้วยแก้วน้ำมาวางลงบนโต๊ะเล็กหน้าเก้าอี้ยาวใกล้ๆ


ภวัตไม่พูดกระไร เขาวางแก้วน้ำเรียบร้อยแล้วก็ขยับออกมายืนห่างเล็กน้อย แล้วรอคอยเวลาให้ผู้มาเยือนเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาก่อน


อาทิตย์ยืนเงียบอยู่เป็นนาน ก่อนจะถอนหายใจออกมาเสียทีหนึ่ง


“ผมไม่เข้าใจเลย มีเหตุผลอะไรที่คุณหมอรู้สึกเช่นนั้นกับน้องชายของผม ทั้งๆที่ในกรุงเทพฯก็มีผู้หญิงออกมาก ทำไมไม่เลือกเอาจากผู้หญิงเหล่านั้นสักคนหนึ่ง เหตุใดจึงต้องเป็นน้องของผม” เป็นคำถามที่ตอบได้ยากยิ่ง นายแพทย์หนุ่มเองก็ไม่ทราบว่าเหตุใดจึงต้องเป็นจันทร์จ้าว เหตุใดจึงไม่ใช่สตรีเพศมากหน้าหลายตาที่เขาพานพบ


“ผมเองก็ตอบไม่ได้ครับคุณอาทิตย์ ผมทราบแค่ว่า หากไม่ใช่คุณจันทร์ ก็ไม่มีใครทำให้ผมรู้สึกเช่นนี้ได้อีกแล้ว”


“มั่นใจได้อย่างไรว่าหมอจะรู้สึกเช่นนี้กับใครไม่ได้อีก วันหนึ่งข้างหน้า หากหมอพบเจอผู้หญิงสักคนที่หมอถูกใจ ผู้หญิงสักคนที่สามารถแต่งงานอยู่กินกับหมอได้อย่างเปิดเผย ผู้หญิงสักคนที่ทำให้หมอมีครอบครัวที่สมบูรณ์อย่างที่น้องของผมให้หมอไม่ได้ ถ้าถึงวันนั้น...หมอจะเอาน้องผมไว้ตรงไหน”


“จริงอยู่ว่าเราไม่มีวันรู้ว่าจะพบเจอใครอีกบ้างไหม แต่ชีวิตผมที่ผ่านมา ก็พบเจอผู้คนมามากมาย แต่ไม่มีใครทำให้ผมรู้สึกเช่นนี้ได้เลย ที่สำคัญ...ผมสัญญากับตัวเองเอาไว้ ว่าหากผมยกความรู้สึกทั้งหมดที่ผมมีให้แก่ใคร เขาจะเป็นคนเพียงคนเดียวในชีวิตของผม ที่ผมเรียกว่าคนรัก”


“นั่นคือเหตุผลที่หมอจะไม่แต่งงานอย่างนั้นหรือ?” คำถามของอาทิตย์ทำให้หมอภวัตนิ่งงันไปด้วยไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะทราบเรื่องนี้


“เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ท่านนายพลเรียกผมไปคุย ท่านบอกผมว่าคุณหมอไปเรียนท่านว่าจะไม่แต่งงาน” อาทิตย์พูดแล้วก็เงียบไป ก่อนจะหันไปมองหน้านายแพทย์หนุ่ม “...คราวนี้รู้หรือยัง ว่าการที่หมอกับน้องชายของผมรู้สึกต่อกันเช่นนี้ จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง จะมีคำถามอย่างนี้ จะมีเรื่องแต่งงานวนเวียนเข้ามาในวังวนชีวิตของหมอและน้องของผมไปอีกกี่ปี หมอจะทนไปได้นานเท่าไร...” คำถามประโยคสุดท้ายนั้นราวกับกลั่นออกมาจากหัวใจของอาทิตย์ ความห่วงใยที่มีต่อจันทร์จ้าวล้นเอ่อจนภวัตรับรู้ได้เป็นอย่างดี


“นั่นคือเหตุผลที่ผมไปเรียนคุณพ่อตั้งแต่ตอนนี้ว่าผมไม่คิดจะแต่งงานไปชั่วชีวิต ต่อให้สุดท้ายแล้ว ทั้งผมและคุณจันทร์จะไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ ผมก็จะอยู่ของผมเช่นนี้ จะไม่แต่งงานกับใคร จะไม่สร้างครอบครัวกับใคร เพราะผมเลือกแล้ว...คุณจันทร์จะเป็นคนรักเพียงคนเดียวในชีวิตของผม”


เป็นความมั่นคงที่สะท้อนกลับไปหาอาทิตย์ผู้ที่เป็นกังวลและทุรนทุรายกลัวว่าความสัมพันธ์ระหว่างหมอภวัตและจันทร์จ้าวจะทำให้น้องชายของตนตกที่นั่งลำบาก


ทว่า...ความมั่นคงเหล่านี้เป็นเพียงคำพูด ผ่านไป ๓ วัน ๗ วัน ความมั่นคงทั้งหลายที่หมอภวัตพูดกับเขาในวันนี้ อาจเหลือเพียงอากาศก็เป็นได้ ไม่มีใครทราบว่าในวันข้างหน้าจะเป็นเช่นไร ความมั่นคงที่ภวัตและจันทร์จ้าวมีต่อกันจะยืนยาวเพียงใด ทุกอย่างล้วนต้องรอการพิสูจน์จากเวลาทั้งสิ้น


‘...ขอให้ผมกับหมอได้ลองเรียนรู้ความรู้สึกของเราด้วยตัวของเราเอง แล้วถ้าวันหนึ่ง...ผมอยู่กับความรู้สึกนี้ไม่ได้ ผมจะถอยออกมาเอง…’


คำวิงวอนของน้องชายดังขึ้นมาในหัวของอาทิตย์อีกครั้งหนึ่ง และครั้งนี้ ทำให้เขาตัดสินใจพ่นลมหายใจแห่งความอึดอัดทั้งมวลออกมาจนหมดสิ้น นายทหารหนุ่มไม่พูดกระไร เขาหมุนตัวจะเดินออกจากบ้าน แต่เสียงของหมอภวัตดังตามหลังฉุดรั้งเขาให้ยืนนิ่ง


“คุณอาทิตย์...ให้ผมกับคุณจันทร์รักกันเถอะครับ” อาทิตย์หลับตาลงราวกับตัดสินใจ เขาไม่ได้หันกลับไปมองคนพูด ทว่าก็ยังสู้อุตส่าห์กลั้นใจตอบทั้งที่ยังยืนหันหลังให้เช่นนั้น


“จันทร์บอกว่าพรุ่งนี้จะไปตีเทนนิส...” เขาเอ่ยปาก รู้สึกเหมือนหัวใจของตนเองบีบรัดหนักหน่วงด้วยเพราะรู้ดีว่าคำพูดของเขาหลังจากนี้คือการทำให้น้องชายผู้เป็นที่รักก้าวเข้าสู่เส้นทางชีวิตที่จะไม่มีวันเป็นปกติสุขอีกเลย หากเพียงแค่เขาใจแข็ง...หากเพียงแค่เขาใจแข็งที่จะไม่ตามใจจันทร์จ้าวเหมือนใครๆ น้องของเขาจะมีชีวิตเฉกเช่นผู้ชายคนอื่นๆในสังคม ทว่า...สิ่งที่เขาพูดต่อมา กลับเป็นสิ่งที่อาทิตย์เองก็ไม่คิดว่าเขาจะยินยอมทำเช่นนี้


“...วานคุณหมอ...ไปรับน้องผมด้วยก็แล้วกัน”


“คุณอาทิตย์”


   “ฝากน้องผมด้วย...” นายทหารหนุ่มพูดเพียงเท่านั้น ก็ก้าวเท้าออกจากบ้านพักของภวัตไปโดยไม่หันกลับไปมองอีกเลย นายแพทย์แห่งโรงพยาบาลใหญ่ทำได้เพียงมองตามแผ่นหลังที่หายลับไปกับทางเดินที่เลี้ยวอ้อมกลับไปที่ตึกใหญ่ แล้วทำได้เพียงสัญญากับคำพูดที่อาทิตย์ฝากเอาไว้


   ‘ฝากน้องผมด้วย’


   ...เขาสัญญาว่าจะดูแลน้องของอาทิตย์ให้ดีที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำเพื่อ ‘คนรัก’ ของตนได้...

.................................

   วันเสาร์ จันทร์จ้าวยืนอยู่ในห้องนอนของตนเองด้วยหัวใจระส่ำ วันนี้เขานัดกับภวัตเอาไว้แล้วว่าจะไปตีเทนนิสด้วยกัน หนำซ้ำเมื่อวานนี้เขาก็บอกกับอาทิตย์ไปแล้ววว่าวันนี้จะไปตีเทนนิสกับหมอภวัต ปฏิกริยาของพี่ชายคนใหญ่ต่อเรื่องนี้คือการไม่รับประทานอาหารเย็นร่วมกัน แต่ให้อย่างไร วันนี้เขาก็ต้องไปตีเทนนิสกับหมอให้จงได้! เขาจะไม่ยอมให้อาทิตย์บังคับหัวใจของเขาได้อีก!


   ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งผลักบานประตูออกมาจากห้องแล้วเดินตรงไปยังยกพื้นกลางเรือนอันเป็นที่รับประทานอาหารเช้าในวันนี้ ทุกคนในครอบครัวรักษพิพัฒน์ประจำที่อยู่แล้ว เหลือเพียงเขาที่ออกจากห้องเป็นคนสุดท้าย


   “วันนี้จะออกไปตีเทนนิสหรือจ๊ะพ่อ” คุณหญิงผกาเห็นแรกเก็ตในมือบุตรชายคนรองจึงเอ่ยปากถาม จันทร์จ้าวเหลือบไปมองอาทิตย์วูบหนึ่ง เห็นอีกฝ่ายมีท่าทีชะงักไปเช่นกัน แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจแล้วหันมายิ้มให้มารดา


   “ครับคุณแม่”


   “ไปกับใครล่ะ คุณพงศ์หรือ ไหนว่าหมู่นี้คุณพงศ์ยุ่งอยู่กับเรื่องที่ดินของคุณชายฉัตรท่านอย่างไรล่ะ” คุณหญิงผกาถามอีก


   “ครับ คุณพงศ์เธอรับหน้าเสื่อดูแลที่ดินของคุณชาย ก็เลยต้องตระเวนออกต่างจังหวัดเป็นว่าเล่น”


   “แล้วอย่างนี้พ่อจันทร์จะไปตีเทนนิสกับใคร? พ่อฝรั่งกับคุณวินิตหรือ”


   “ไม่ใช่ครับ ไปกับหมอ”


   “หมอ?...” มารดาทวนถาม


   “ครับ หมอภวัต” และคำตอบของจันทร์จ้าวก็ทำเอา ๓ พี่น้องรักษพิพัฒน์นิ่งไปในทันที นภาสรวงและดารารัษมีพากันเหลือบมองอาทิตย์ที่วางช้อนลงกับชามข้าวต้ม แต่ดูเหมือนทั้งบิดามารดาจะไม่ได้สนใจบุตรธิดาคนอื่น เพราะชื่อของนายแพทย์หนุ่มที่ออกมาจากปากของจันทร์จ้าวนั้นชวนให้ฉงน


   “ดีกับคุณหมอเธอแล้วหรือ ไหนว่าก่อนหน้านี้ไม่ถูกกัน” นายพลเดชถาม


   “ดีแล้วครับคุณพ่อ หมอเธอใจดี ผมทำอะไรให้ก็ไม่โกรธ แต่เธอก็เป็นผู้ใหญ่ ถ้าผมทำผิดเธอก็ดุ คนกล้าดุเราแบบนี้สิน่าคบ จริงไหมครับ” ท่านนายพลพยักหน้ารับสั้นๆ คุณหญิงผกาเองก็ออกจะปลื้มปิติอยู่ไม่น้อยที่เห็นบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนรู้จักเลือกคบคน คุณหมอภวัตเองก็เป็นคนใกล้ชิดกัน หนำซ้ำมาจากชาติตระกูลที่ดี มีการศึกษา มีอาชีพมั่นคง คบหากับคนอย่างนี้ ก็คงไม่พาจันทร์จ้าวเถลไถลที่ไหน


   “ดีจ้ะ ไว้ว่างๆพ่อจันทร์ก็ชวนคุณหมอมารับประทานอาหารที่บ้านเราบ้างนะ แล้วนี่จะไปสโมสรอย่างไรล่ะ พ่ออาทิตย์ไปส่งหรือ” คุณหญิงผกาพูดแล้วหันไปมองบุตรชายคนใหญ่ที่นั่งรับประทานอาหารเงียบๆ อาทิตย์ยอมเงยหน้าจากชามข้าวต้มขึ้นมามองมารดา แล้วเหลือบสายตาไปมองน้องชาย จันทร์จ้าวกำลังมองเขาอยู่ ดวงตากลมใหญ่มีทั้งความดื้อดึงและคาดหวัง


   “วันนี้ผมต้องไปหาคุณพิมที่วังฉัตร...” เขาพูดขึ้นมา และนั่นทำเอาจันทร์จ้าวได้แต่เม้มปาก เพราะถ้าอาทิตย์ไม่ว่างไปส่ง ก็อาจจะหมายความว่าอาทิตย์ไม่อนุญาตให้เขาไปตีเทนนิสกับหมอ แต่...แต่ถ้าไม่ให้เขาไป บิดามารดาที่รับรู้แล้วว่าเขาจะไปตีเทนนิสกับภวัตก็คงต้องหาทางช่วยให้เขาได้ออกจากบ้านแน่!


   จันทร์จ้าวหมายมาดว่าถ้าอาทิตย์ขัดขวางเขาล่ะก็ เขาจะขอยืมรถของบิดาแทน รับรองว่ามารดาต้องยอม!


   “...จันทร์ไปกับคุณหมอก็แล้วกัน” แต่แล้วคำพูดประโยคต่อมาของพี่ชายคนใหญ่ ก็ทำเอาน้องชายและน้องสาวทั้ง ๓ คนพากันชะงัก แม้แต่นภาสรวงและดารารัษมีก็คาดไม่ถึงว่าจะได้ยินอาทิตย์พูดเช่นนี้


   “พี่อาทิตย์ว่าอย่างไรนะ?!!”


อาทิตย์ไม่ได้พูดซ้ำ เพราะคนรับใช้ขึ้นมารายงานเสียก่อน


   “คุณหมอภวัตมาค่ะ”


   “ตายจริง คงจะมารับพ่อจันทร์แล้วล่ะซี” คุณหญิงผกาหันมาพูดกับบุตรชายคนรองที่ยังดูตกตะลึง


   “เอ่อ...ถ้าอย่างนั้น...ผม...ผมไปก่อนนะครับ เดี๋ยวหมอจะรอ” แม้จะยังตกตะลึงกับคำพูดของอาทิตย์ และการปรากฏตัวของหมอภวัตที่นี่ แต่จันทร์จ้าวก็ยังพอมีสติ


   “จ้ะ ไปเถอะ แล้วอย่าลืมชวนคุณหมอมารับประทานอาหารบ้านเราด้วยล่ะ มื้อเย็นนี้เลยก็เห็นจะดีนะ” มารดาว่าอย่างนั้น จันทร์จ้าวก็ได้แต่รับคำอย่างงุนงง เขายกมือไหว้ลาบิดามารดา ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปยังบันไดเพื่อลงจากเรือน แต่ไม่วายหันกลับไปมองพี่ชายคนใหญ่ของตนอีกครั้ง 


อาทิตย์กำลังมองมาที่เขาเช่นกัน สายตาของผู้เป็นพี่ชายคนใหญ่ยังคงเต็มไปด้วยความห่วงหาอาทร จันทร์จ้าวทราบดี อาทิตย์ทั้งรักทั้งห่วงเขาเพียงใด แต่เมื่อเขาเบนสายตาเหลือบไปมองยังรถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้ตีนบันไดพร้อมด้วยหมอภวัตที่ยืนเงยหน้ามองมาที่เขา รอยยิ้มจางที่ฝ่ายนั้นมอบให้ก็ทำให้จันทร์จ้าวตัดสินใจได้ เขาหันกลับไปมองอาทิตย์ที่ยังคงมองมาที่เขาด้วยความห่วงใยเหลือประมาณ คนเป็นน้องส่งยิ้มให้ผู้เป็นพี่แล้วค้อมศีรษะทีหนึ่งแทนคำขอบคุณทั้งหลายทั้งปวง แล้วจึงก้าวเท้าลงบันไดไป อาทิตย์มองอยู่เช่นนั้นจนเหลือเพียงความว่างเปล่าให้เขาเห็น จันทร์จ้าวลงจากเรือนไปแล้ว เขาได้ยินเสียงทักทายแว่วๆ ตามมาด้วยเสียงรถยนต์ของหมอภวัตที่ดังขึ้น แล้วค่อยๆจางลงเมื่อรถยนต์วิ่งออกจากอาณาเขตบ้านไปแล้ว


   นายทหารหนุ่มลอบถอนหายใจเบากับตนเอง ความห่วงใยของเขายังคงอัดแน่นเต็มหัวอก แต่เมื่อความห่วงใยที่มีกำลังทำร้ายทำลายคนที่เขารัก อาทิตย์ก็ยอมที่จะปล่อยมือ เขาหันกลับมามองชามข้าวต้มของตนเองอีกครั้ง แล้วจึงตัดสินใจเงยหน้าขึ้นมองบิดามารดา


   “คุณแม่ครับ เรื่องที่เพื่อนผมอยากจะเช่าบ้าน...” เขาพูดขึ้นมา รู้สึกใจหายเสียจนต้องเว้นวรรคช่วงหนึ่งแล้วจึงค่อยพูดต่อ

“...เขาจะไม่เช่าแล้วนะครับ”


   “อย่างนั้นหรือ เขาหาที่อยู่ได้แล้วหรือพ่ออาทิตย์”


   “ครับ เขาหาที่อยู่ได้แล้ว” อาทิตย์ตอบด้วยหัวใจหนักอึ้ง คำพูดต่อจากนี้ เขาทราบดีว่าเป็นการตัดสินใจที่จะไม่มีวันกลับมาตัดสินใจซ้ำได้อีก แต่...ในเมื่อเป็นความสุขของน้อง...เขาก็จะ...


...ยอม...


“...ส่วนจันทร์...” หัวใจของอาทิตย์โหวงหวิว “...ถ้าเขาอยากกลับไปอยู่ที่นั่น...ก็ให้เขากลับไปอยู่เถอะครับ”


คำพูดของอาทิตย์ทำให้คุณหญิงผกายิ้มรับ ส่วน ๒ สาวแฝดก็ถึงกับหันมองอาทิตย์อย่างคาดไม่ถึงเช่นเดียวกัน นายทหารหนุ่มมองสบดวงตาน้องสาวทั้ง ๒ แล้วโดยไม่พูดกระไร เขาก็หันไปบอกบิดาและมารดาอีกครั้ง


“ผมนัดคุณพิมเอาไว้ นี่จวนจะได้เวลาแล้ว ขอตัวออกไปพบคุณพิมก่อนนะครับ”


แล้วเขาก็ลุกออกจากโต๊ะรับประทานอาหารไป นภาสรวงและดารารัษมีมองตามด้วยความสบายใจที่เห็นพี่ชายคนใหญ่ยอมปลดปล่อยเรื่องทั้งหมดลงแล้ว


“เป็นอะไรกัน ทั้ง ๒ คน มองตามพี่เขาอย่างนั้น หรืออยากไปด้วยจ๊ะ?” คุณหญิงผกาถามเมื่อเห็นธิดาทั้ง ๒ ยังเอาแต่มองตามหลังอาทิตย์ที่หายลับลงเรือนไปแล้ว


“ไม่ใช่หรอกค่ะคุณแม่ พี่อาทิตย์เธอไปหาคู่รักของเธอ เราไปก็เป็นก้างขวางคอเธอน่ะซีคะ” ดารารัษมีตอบพร้อมรอยยิ้ม


“แล้วก็มองตามพี่เขาเสียไม่วางตา แม่ก็นึกว่าอยากจะไปกับพ่ออาทิตย์ด้วย เอ?...หรือว่าอยากจะไปกับพ่อจันทร์ล่ะ แต่คงจะตามไปไม่ทันกระมัง ป่านนี้คงจะออกถนนใหญ่ไปแล้ว” พอมารดาถามไปถึงจันทร์จ้าว ดารารัษมีผู้สดใสร่าเริงก็ดูจะนิ่งไปอึดใจหนึ่ง แต่ก็คลายยิ้มออกมาในที่สุด



“ไม่อยากหรอกค่ะ ปล่อยพี่จันทร์ไปกับคุณหมอเถอะ ดาราไปก็จะเกะกะเปล่าๆ อยู่ที่นี่ดูแลคุณพ่อคุณแม่ดีกว่า จริงไหม นภา” หล่อนพูดแล้วหันไปขอความเห็นจากพี่สาวแฝด นภาสรวงยิ้มอย่างมีความสุขที่เห็นทั้งพี่ชายและน้องสาวยอมรับเรื่องของจันทร์จ้าวได้แล้วโดยสมบูรณ์


“จ้ะ” หล่อนรับคำเบาๆ แล้วทั้ง ๒ แฝดก็ไม่มีใครพูดถึงเรื่องจันทร์จ้าวและหมอภวัตมาอีก เวลานี้พวกหล่อนยอมรับเรื่องของเขาได้แล้วก็จริง แต่การให้รู้ถึงหูของคนเฒ่าคนแก่ย่อมจะเป็นปัญหาใหญ่ เพราะฉะนั้นแล้ว...ให้บิดามารดารับทราบว่าคนทั้งคู่เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน และเป็นเพื่อนที่สนิทสนมกันก็เห็นจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในเวลานี้


แล้วถ้าถึงวันที่เรื่องราวต้องเปิดเผยต่อหน้าท่านนายพลเดชและคุณหญิงผกาจริง นภาสรวงและดารารัษมีสัญญาว่าวันนั้น...พวกหล่อนก็จะยังยืนเคียงข้างจันทร์จ้าวเหมือนในวันนี้...

..............................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-02-2016 22:01:12 โดย Dezair »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8


หม่อมหลวงพิมพัชราก้าวเท้าไปตามทางเดินที่พาไปยังโต๊ะริมน้ำ เมื่อครู่นี้คนรับใช้ไปเรียนหล่อนที่โรงครัวว่าอาทิตย์มาหา นับตั้งแต่อาทิตย์ทราบเรื่องจันทร์จ้าวและหมอภวัต ก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ยอมปล่อยให้น้องชายคลาดสายตาอีก เป็นเหตุให้ไม่มีเวลามาพบหล่อนเช่นเคย ราชนิกูลสาวไม่ถือโทษโกรธเขา เพราะเข้าใจในความรู้สึกดี แต่เมื่อวันนี้เขามาที่นี่ หล่อนก็อดแปลกใจไม่ได้


“คุณอาทิตย์...” หล่อนเรียก เจ้าของแผ่นหลังตรงที่นั่งอยู่ที่โต๊ะริมน้ำหันไปมอง หล่อนจึงยกมือไหว้ “สวัสดีค่ะ”


“สวัสดีครับ คุณพิม ขอโทษที่มาโดยไม่บอกล่วงหน้า” อาทิตย์มีสีหน้าหม่นหมอง และนั่นยิ่งทำให้หญิงคนรักใจหาย หล่อนหันไปพยักหน้าให้คนรับใช้ที่เดินตามมานำของว่างไปวางบนโต๊ะ รอจนทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว จึงสั่งให้คนรับใช้ทั้งหมดออกไปจากบริเวณนี้


เมื่อเหลือกันเพียง ๒ คน ราชนิกูลสาวผู้เป็นทายาทวังฉัตรจึงเดินไปนั่งร่วมโต๊ะด้วย


“รับของว่างก่อนนะคะ วันนี้พิมทำข้าวเกรียบปากหม้อ ตั้งใจว่าทำเสร็จแล้วจะนำไปฝากที่บ้านคุณอาทิตย์พอดี” อาทิตย์เลื่อนจานของว่างมาตรงหน้า แม้จะไม่นึกอยากแต่เมื่อหญิงคนรักเอื้อนเอ่ยว่าเป็นฝีมือของหล่อน เขาจึงไม่อยากให้เสียน้ำใจ


รสชาติกลมกล่อมที่แสนคุ้นเคยทำให้หัวอกอุ่นซ่านไปหมด แม้คราแรกจะไม่นึกอยากอาหารชนิดใด แต่เมื่อได้รับประทานไป ๑ คำ คำที่ ๒, ๓ และ ๔ จึงตามมา หม่อมหลวงพิมพัชรานั่งเงียบๆ รอให้เขารับประทานของว่างและดื่มน้ำเสียก่อน แล้วจึงค่อยเอ่ยถาม


“รู้สึกดีขึ้นไหมคะ” นายทหารหนุ่มเหลือบมอง เขาไม่ได้ตั้งใจจะนำเรื่องทุกข์ใจมาบอกเล่าให้หล่อนเป็นทุกข์ไปด้วย แต่ก็ไม่ทราบจะเล่าให้ใครที่ไหนฟังอีกแล้ว


“ผม...คิดว่าจะไม่ห้ามจันทร์กับคุณหมออีกแล้ว...” อาทิตย์พูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า หัวใจยังคงแบ่งเป็นฝักฝ่าย ไม่ทราบฝ่ายใดที่ทำถูก แต่กระนั้นเขาก็เลือกแล้วที่จะยินยอมให้ความสัมพันธ์ของน้องชายและหมอภวัตดำเนินต่อไป


“หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ผม...คิดว่าการกันจันทร์ออกห่างจากคุณหมอ เป็นเรื่องที่ควรทำ...” อาทิต์เอ่ยเสียงพร่าแผ่ว “...แต่ผมก็ทราบมาว่า...ช่วงแรก จันทร์มักจะแวะไปที่โรงพยาบาลโดยไม่แสดงตัว แต่ช่วงหลัง คุณหมอ...มักจะเป็นฝ่ายไปหาจันทร์ที่สำนักงาน พอเกือบบ่ายจึงค่อยขับรถกลับ...”


อาทิตย์จำได้ดี ตลอดหลายวันที่ผ่านมา เขาใช้เวลายามพักกลางวันอยู่ในรถยนต์ที่จอดหน้าสำนักงานของน้องชายเพื่อเฝ้าดูว่าหมอภวัตแวะไปหาจันทร์จ้าวเพื่ออะไร หลังจากเฝ้าตามสังเกตอยู่หลายวัน เขาก็พบว่าก่อนที่หมอภวัตจะมา จะมีพนักงานคนหนึ่งของสำนักงานถือจานอาหารที่สั่งจากร้านใกล้ๆเข้าไปในสำนักงาน พอภวัตมาและกลับไปเมื่อตอนก่อนเวลา ๑๓ นาฬิกา พนักงานของสำนักงานจึงนำจานเปล่ากลับไปคืนที่ร้านเดิม


เพียงเท่านี้ก็ทราบแล้ว ว่าภวัตมาที่นี่เพื่อรับประทานอาหารเที่ยงในสำนักงานกับน้องชายของเขา คน ๒ คนพยายามใช้เวลาอันน้อยนิดด้วยกันอย่างลับหูลับตา หากอาทิตย์ไม่เฝ้าตามสังเกตการณ์ เขาก็คงไม่มีวันทราบ


“...ผมเองก็ไม่ทราบว่าทำไมถึงยอมให้คุณหมอไปหาจันทร์ที่สำนักงาน ถ้าผมลงจากรถไปแสดงตัว คุณหมอก็คงไม่กล้าไปหาอีก แล้วจันทร์...ก็คง...ไม่กล้าขอผมไปตีเทนนิสกับคุณหมอในวันนี้ ถ้าผมกล้าหักหาญน้ำใจน้อง จันทร์กับคุณหมอจะไม่มีโอกาสได้พบกันอย่างนี้ ถ้าผมกล้า...ถ้าผมกล้า...” เขาได้แต่ย้ำกับตัวเองอย่างเจ็บปวด แค่เพียงเขากล้า จันทร์จ้าวกับหมอภวัตจะต้องจากไกลกันราวอยู่กันคนละโลก และไม่มีวันได้พบหน้ากันอีกไม่ว่าจะลักลอบด้วยวิธีใดก็ตาม แต่กระนั้น...อาทิตย์กลับไม่กล้าทำอย่างเต็มที่


ดวงตาของชายหนุ่มเหลือบมองหญิงคนรัก ในแววตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความอ่อนล้าและความไม่แน่ใจ


“...ผมทำถูกแล้วใช่ไหม คุณพิมช่วยบอกผมที...สิ่งที่ผมทำเป็นเรื่องถูกต้องไหม...” ราชนิกูลสาวยิ้มจางอย่างอ่อนโยน


“เรื่องบางเรื่อง วัดความถูกต้องด้วยกฎ แต่เรื่องบางเรื่องก็วัดความถูกต้องด้วยใจ คุณอาทิตย์ทำดีที่สุดแล้วในฐานะพี่ชายของคุณจันทร์ จากนี้เป็นหน้าที่คุณจันทร์และคุณหมอ คุณอาทิตย์ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเธอเถอะนะคะ” อาทิตย์ได้แต่มองสบเข้าไปในดวงตาของหญิงสาว ความกังวลยังคงฉายชัดอยู่ในหัวใจของเขา แต่กำลังใจที่หล่อนมอบให้ก็ทำให้เขารู้สึกถึงความผ่อนคลาย นายทหารหนุ่มถอนหายใจยาวเหยียด แม้ความกังวลที่สุมอกจะไม่อาจะลดทอนได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่เขาจะลองปล่อยมือสักครั้ง


“เรื่องของจันทร์...คงจะเป็นบททดสอบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของผม”


“เรื่องของคุณจันทร์ เป็นบททดสอบสำหรับทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...เป็นบททดสอบตัวคุณจันทร์และคุณหมอ”


“ผม...ก็คงได้แต่หวังว่าจันทร์และคุณหมอจะผ่านบททดสอบนี้เช่นกัน...” หม่อมหลวงพิมพัชรายิ้มอ่อนหวาน รับรู้ถึงความปรารถนาดีที่ชายคนรักมีต่อน้องชาย หล่อนเองก็ภาวนาให้จันทร์จ้าวและหมอภวัตผ่านพ้นอุปสรรคนานัปการแล้วเคียงคู่อย่างมีความสุขไปชั่วชีวิตเช่นกัน

...................................................

   หม่อมหลวงพงศ์ภราธรไม่ได้อยู่ในกรุงเทพฯหลายวันเพราะต้องไปทำหน้าที่แทนบิดาในจังหวัดต่างๆ พอกลับมาและมีเวลาไปพักผ่อนที่สโมสรเทนนิสบ้าง ก็พบเจอนายวินิตเข้า เรื่องราวจากนายวินิตทำให้ราชนิกูลหนุ่มตีเทนนิสไม่เป็นสุข วันต่อมาจึงต้องรีบถลามาที่สำนักงานแต่เช้าตรู่ รอจนกระทั่งรถยนต์ของหมอภวัตมาจอดเลียบฟุตบาธและจันทร์จ้าวลงจากรถเดินเข้ามาในสำนักงานนั่นล่ะ เขาถึงได้มีโอกาส


   “ไฮ คุณพงศ์ ไม่เจอกันเสียนาน เห็นว่าคุณชายจะซื้อที่ดิน คุณพงศ์เลยต้องรับหน้าเสื่อไปดูที่แทนท่านใช่ไหม” จันทร์จ้าวทักทายก่อน ท่าทางสดใสร่าเริงสมกับเป็นจันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์ที่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรรู้จักมาแต่อ้อนแต่ออก ทำเอาสีหน้าของราชนิกูลหนุ่มเต็มไปด้วยคำถาม


   “อะไร มองหน้าผมอย่างนั้น มีอะไรจะถามก็ว่ามา แต่ผมบอกได้เลย คุณพงศ์ไม่อยู่กรุงเทพฯ ๒ สัปดาห์ คุณพงศ์ตกข่าวไปมากโข”


   “กันตกข่าวอะไร แกว่ามา” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรร้องถามอย่างรวดเร็ว เดินตามติดหนึบเข้าไปในห้องทำงานของเพื่อนรัก


   “เรื่องที่ ๑ คุณแม่ผมหาฤกษ์ได้แล้ว เมื่อวานนี้เข้าไปพบคุณชายเรื่องฤกษ์หมั้นหมายของพี่อาทิตย์กับคุณพิม Wedding Day ใกล้เข้ามาแล้ว เราจะตัดสูทกันทันไหมล่ะนี่”


   “ทันซี! แล้วเรื่องที่ ๒?” เวลานี้เรื่องของน้องสาวยังไม่น่าสนใจใคร่รู้เท่ากับเรื่องของจันทร์จ้าว แต่กระนั้นเจ้าตัวก็ทำโยกโย้พูดเรื่องอื่น


   “เรื่องที่ ๒ คุณพ่อคุณแม่ของผมรู้จักกับเรย์แล้ว ผมนี่ล่ะคนพาเข้าบ้าน แต่ท่านก็ยังไม่ทราบหรอกนะว่าเรย์กับนภาคบหากันอยู่ ผมว่าก็ยังไม่สมควรให้ท่านทราบ รอไปก่อน”


   “อือ กันเห็นด้วย ให้รอไปก่อน แล้วเรื่องที่ ๓?” เรื่องเรย์มอนด์ อดัมส์และนภาสรวง ถึงจะคืบหน้าถึงขั้นที่นายฝรั่งรู้จักกับบิดามารดาของนภาสรวงแล้ว แต่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรก็ว่ายังไม่น่าสนใจเท่าอีกเรื่องที่เขาทราบจากนายวินิต


   ...หมู่นี้จันทร์จ้าวไปตีเทนนิสกับหมอภวัตที่สโมสรแทบทุกวัน...ทำไมถึงไปได้ล่ะ? ไม่ใช่ว่าถูกอาทิตย์กีดกันอยู่หรือ?...


   “เรื่องที่ ๓ ก็คือ ผมจับสังเกตได้ว่าหมู่นี้ดารากับคุณวินิตดูจะไปกันได้ดี คุณพงศ์ทราบไหมว่าเดี่ยวนี้ดาราไม่นั่งสามล้อกลับมาบ้านเองแล้ว ไม่ติดรถพี่อาทิตย์กลับมาด้วย แต่ติดรถคุณวินิตที่ไปรับน้องสาวแทน คุณวินิตเองก็ไปรับน้องสาวทุกเย็น อีกไม่นาน คู่นี้คงเป็นรายต่อไป”


   “อ้อ อย่างนั้นหรือ แล้วเรื่องที่ ๔?” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรทำใจเย็นตั้งคำถามต่อ จันทร์จ้าวทำหน้านึกอยู่ครู่หนึ่งก็ยอมตอบ


   “เรื่องที่ ๔ ...เรื่องนี้เกี่ยวกับหมอ คุณพงศ์จำนายเภา น้องชายของหมอได้ไหมล่ะ ตอนนี้คนเขาพูดกันทั้งกรุงเทพฯว่ากำลังจะแต่งงาน คู่แต่งงานเป็นน้องสาวต่างแม่ของคุณอุไร เพื่อนครูของคุณพิมกับดารานั่นไง ตอนแรกเห็นดาราว่าผู้ใหญ่กำหนดให้เป็นคุณอุไร แต่เธอไม่ยอมแต่ง จะหนีออกจากบ้านนู่นแน่ะ เลยกลายเป็นน้องสาวรับเคราะห์แทน ส่วนนายเภา...ผมได้ยินมาจากข่าววงในเลยนะว่าเจ้าตัวเป็นคนขอผู้ใหญ่จะแต่งงานให้ได้ วงในของผมบอกมาว่าเพราะนายเภาอยากจะทำหน้าที่เป็นความหวังเรื่องแต่งงานให้พ่อแม่ชื่นใจ ต้นสายปลายเหตุไม่ใช่ใครที่ไหน ก็วงในรายนี้ของผมน่ะซี่! เกิดอุตริคิดอะไรก็ไม่ทราบ ไปเรียนท่านนายพลศักดิ์กับคุณหญิงจิตต์ว่าจะไม่แต่งงาน บ้านวิชาญโยธินแทบลุกเป็นไฟเลยเชียว ก็ลูกชายคนใหญ่เล่นโพล่งแบบนั้น ลูกชายคนเล็กอย่างนายเภาเลยต้องกู้หน้าแทน นายพลศักดิ์ก็เลย...”


   “จันทร์! กันไม่อยากทราบเรื่องคู่ไหนทั้งนั้น นอกเสียจากคู่ของแกกับคุณหมอ!” สุดท้ายเป็นราชนิกูลหนุ่มที่อดรนทนไม่ไหวต้องร้องออกมา จันทร์จ้าวหัวเราะเสียงดังอย่างสนุกสนานที่เห็นเพื่อนรักโวยวาย


   “เอ้า! แล้วก็ไม่บอก ปล่อยให้ผมพูดเรื่องคนอื่นอยู่ได้”


   “พุทโธ่! แกก็น่าจะรู้ว่ากันอยากรู้เรื่องของแกกับคุณหมอที่สุด! ไหนว่ามา สรุปแล้วเป็นอย่างไร?! ตอนนี้คุณอาทิตย์ยอมรับเรื่องของแกและคุณหมอได้แล้วหรือ?! กันได้ยินว่าแกกับคุณหมอไปตีเทนนิสด้วยกันแทบทุกวัน! แล้วตอนนี้แกอยู่ที่ไหน ย้ายมาอยู่บ้านเช่าเหมือนเดิมแล้วใช่ไหม? เมื่อวันที่กันกลับจากเชียงใหม่ นั่งรถผ่านหน้าบ้านแกก็ว่าแล้วว่าเห็นรถคุณหมอจอดอยู่ แต่เห็นบ้านแกปิดไฟมืดก็นึกว่าตาฟาดมองรถผิด! ว่าอย่างไรล่ะจันทร์! คุณอาทิตย์ไม่ว่าอะไรหรือ?! เรื่องแกกับคุณหมอเป็นว่าดำเนินต่อไปใช่ไหม?! แกตอบซี!”


   “คุณพงศ์ก็ถามทีละข้อได้ไหมล่ะ ถามทุกข้อรวมกัน ผมตอบไม่ถูก” จันทร์จ้าวอมพะนำจนเพื่อนรักอยากบีบคอ


   “ไฮ้! ปกติก็เห็นออกจะฉลาดหัวไวเป็นกรด! ทีอย่างนี้ล่ะทำเป็นตอบไม่ถูก! เอ้า!! กันถามทีละข้อก็ได้! ข้อแรก! คุณอาทิตย์ยอมรับเรื่องของแกและคุณหมอได้แล้วใช่ไหม?!”


   “เรื่องนี้ไม่ทราบ ต้องวานคุณพงศ์ไปถามพี่อาทิตย์”


   “เอ้า! แต่กันได้ยินว่าแกไปเที่ยวเล่นไปตีเทนนิสกับคุณหมอบ่อยๆไมใช่หรือ?!”


   “ก็ใช่”


   “แล้วคุณอาทิตย์ยอมหรือ?!”


   “ก็ไม่เห็นจะไม่ยอม”


   “อุวะ! แกนี่ตอบให้รู้เรื่องหน่อยได้ไหม?!! สรุปว่าอย่างไร?! คุณอาทิตย์ยอมรับหรือยัง?!!”


   “ก็ผมบอกแล้วว่าผมไม่ทราบ ที่ผมทราบคือผมก็ไปไหนมาไหนกับหมออย่างนี้ พี่อาทิตย์ก็ไม่เห็นว่าอะไร ผมย้ายกลับไปอยู่บ้านเช่า พี่อาทิตย์ก็ไม่ว่าอะไร เป็นว่าตอนนี้ ผมทำอะไรกับหมอ พี่อาทิตย์ก็ไม่ว่าอะไรทั้งนั้น” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรพยักหน้ารับรู้ ยังตะลึงงันแต่ก็ผสมปนเปไปด้วยความเบาใจที่อาทิตย์คงจะทำใจยอมรับเรื่องของจันทร์จ้าวและหมอภวัตได้แล้ว จึงยินยอมให้คนเอาแต่ใจทำตามใจได้ถึงเพียงนี้


   “พี่น้องแกก็ยอมรับเรื่องแกกับคุณหมอได้หมดแล้วซีนะ” จันทร์จ้าวยักไหล่เหมือนไม่ค่อยจะใส่ใจเท่าไร หม่อมหลวงพงศ์ภราธรนิ่งคิดสะระตะอึดใจหนึ่ง แล้วก็ตั้งคำถามขึ้นมาด้วยเสียงที่เบายิ่งกว่าเมื่อครู่


   “แล้วทางบ้านคุณหมอ?”


   “ยังหรอก เว้นระยะให้หายใจหายคอบ้างเถอะ พี่น้องผมทราบทีเดียวติดๆกัน กว่าจะผ่านมาได้เล่นเอาหืดขึ้นคอไปหมด ขอหายใจเดี๋ยว อย่าเพิ่งให้ทางบ้านหมอทราบเลย” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรพยักหน้าอย่างเห็นด้วย แต่ไม่วายเป็นกังวล


   “แล้วถ้าวันหนึ่งทราบขึ้นมา...” จันทร์จ้าวหันมามองหน้าเพื่อนรัก ดวงตากลมใหญ่ที่มักจะเต็มไปด้วยแววทีเล่นทีจริงและรักสนุกกลับกลายเป็นแววตาจริงจังและมุ่งมั่น


   “บ้านหมอคงไม่มีวันยอมรับ ผมก็จะให้เลือก ถ้าหมอเลือกบ้านหมอ ผมก็จะเลิก แต่ถ้าหมอเลือกผม เราก็จะย้ายไปอยู่ที่อื่นกัน อาจจะเป็นฮ่องกง น้องชายคุณวินิตจะได้มีเพื่อนบ้าน” แม้จะมุ่งมั่นเพียงใด แต่จันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์ก็ยังมีเรื่องชวนหัวติดมาในประโยคเสมอ


   หม่อมหลวงพงศ์ภราธรมองใบหน้าของเพื่อนรักแล้วก็ถอนหายใจเบา ก่อนจะเอื้อมมือมาจับหัวไหล่คนตรงหน้าเอาไว้


   “ถ้าแกตัดสินใจแล้ว กันก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก ขอให้...แกโชคดีก็แล้วกัน...” เขาพูดเพียงเท่านั้น ซึ่งคนที่คบหากันมานานมีหรือจะไม่เข้าใจว่านี่คือประโยคอวยพรชั้นดีที่ราชนิกูลหนุ่มมีให้แก่เขา รอยยิ้มจางปรากฏขึ้นที่ใบหน้าขาว


“ขอบคุณคุณพงศ์” เขาพูด แล้วจากนั้นรอยยิ้มจางก็ขยายขึ้นจนเห็นลักยิ้มบุ๋มที่แก้มซ้าย


   “...แต่เรื่องโชคดี ผมว่าผมโชคดีตั้งแต่เกิด อย่างแรกคือเกิดปีเดียวกับคุณพงศ์ เลยได้เป็นเรียนชั้นเดียวกับคุณพงศ์ อย่างที่ ๒ คือเกิดมาฉลาดได้เรียนห้องเดียวกับคุณพงศ์ตลอด อย่างที่ ๓ คือเกิดมานิสัยดีจนคุณพงศ์พอจะทู่ซี้คบเป็นเพื่อนได้ การได้คุณพงศ์เป็นเพื่อน เป็นเรื่องที่โชคดีจริงๆ” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรหัวเราะเบาๆ แล้วเปลี่ยนเป็นโอบไหล่เพื่อนรักด้วยความรักและหวังดี


   “การเป็นเพื่อนกับแกก็เป็นเรื่องโชคดีของกันเหมือนกัน” เขาพูดอย่างนั้น เพื่อนทั้ง ๒ หันมายิ้มให้กัน มิตรภาพแน่นแฟ้นให้อย่างไรก็ตัดไม่ขาด ความทรงจำและความผูกพันฉันมิตรที่คบหากันมานาน วันนี้...ต่อให้กาลเวลาหมุนผ่านไปเพียงใด สำหรับพวกเขา ๒ คน ก็ยังคงความเป็นเพื่อนรักเอาไว้ชั่วนิจนิรันดร์

........................................


   หลังจากนั้นอีกหลายเดือน ผ่านพ้นช่วงขึ้นปีใหม่สากลและปีใหม่ไทยแล้ว สำหรับบ้านรักษพิพัฒน์และวังฉัตร ไม่มีงานใดจะสำคัญเท่ากับงานมงคลสมรสของอาทิตย์ รักษพิพัฒน์และหม่อมหลวงพิมพัชรา ฉัตราภาสที่แม้จะพยายามจัดอย่างเรียบง่ายที่วังฉัตรเพียงใด แต่ก็ยังมีแขกเหรื่อมาร่วมงานอย่างคับคั่งอยู่ดี เมื่อเช้าที่เป็นงานหมั้นหมาย และตอนกลางวันที่เป็นพิธีรดน้ำสังข์ ก็ว่าแขกเหรื่อมากันมากแล้ว ในยามค่ำที่เป็นงานเลี้งแบบฝรั่ง ก็ยิ่งมีแขกเหรื่อมามากกว่าเดิม เพราะผู้ใหญ่ทั้ง ๒ ฝั่งล้วนมีหน้ามีตาในสังคม ดังนั้นเมื่อเป็นพิธีสมรสของบุตรชายคนใหญ่ของตระกูลรักษพิพัฒน์กับธิดาคนเล็กของสกุลฉัตราภาส จึงย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่มีใครอยากจะพลาดงานสำคัญนี้


    เจ้าบ่าวในชุดเครื่องแบบนายทหารแม้จะเคร่งขรึมแต่ใครๆก็ดูออกว่าวันนี้เขามีความสุขกว่าใคร เจ้าสาวในชุดราตรีสีชมพูอ่อนขับผิวผ่องก็มีรอยยิ้มติดอยู่ที่หน้าเสมอ คนทั้งคู่พากันเดินไปทักทายพูดคุยกับแขกเหรื่อตามโต๊ะต่างๆ เสียงเพลงบรรเลงดังกังวาลไปทั่วทั้งห้องโถงจัดเลี้ยงผสมปนเปไปกับเสียงพูดคุยของผู้คนจำนวนมาก ส่วนมากมักรวมกันเป็นกลุ่ม ยืนคุยกันบ้าง นั่งโต๊ะคุยกันบ้าง มีคนรับใช้ของวังจำนวนมากคอยอำนวยความสะดวก แต่กระนั้นญาติพี่น้องของบ่าวสาวก็วิ่งวุ่นตั้งแต่เช้าจวบจนกระทั่งงานเลี้ยงยามค่ำ 


   จันทร์จ้าวผู้รับหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยและดูแลแขกเหรื่อของงานเดินถือเครื่องดื่มไปรอบๆงาน แวะทักทายกับคนนั้นทีคนนี้ทีด้วยรอยยิ้มกว้างที่เห็นลักยิ้มที่แก้มซ้าย นอกจากเขาจะรับหน้าที่แล้ว อีกมุมของห้องโถงก็มีหม่อมหลวงพงศ์ภราธรรับหน้าที่เดียวกัน ชายหนุ่มทั้ง ๒ ล้วนเป็นที่สนใจ เพราะใครๆต่างก็ทราบดีว่ายังโสด โดยเฉพาะจันทร์จ้าวผู้สวมชุดสูทโก้หรูได้อย่างเหมาะเจาะ ดูจะเป็นที่ต้องตาของสาวๆมากกว่า


   “คุณจันทร์จ้าวกับคุณพงศ์เธอต้อนรับแขกดีนะ ภวัต เอาใจใส่ยิ้มแย้มแจ่มใสเชียว งานวันนี้คงจะไม่เรียบร้อยอย่างนี้ ถ้าไม่ได้ทั้ง ๒ คน ท่านนายพลเดช คุณหญิงผกา และคุณชายฉัตรเธอโชคดีจริงๆ ที่ได้ลูกชายเป็นกำลังให้” คุณหญิงจิตต์หันมาพูดคุยกับบุตรชายคนใหญ่ที่นั่งเคียงข้าง อีกฝั่งหนึ่งของหล่อนคือสามีที่กำลังหันไปคุยกับแขกที่ร่วมโต๊ะกัน วันนี้ครอบครัววิชาญโยธินมาร่วมงานเพียง ๓ คน ขาดเพียงเภา วิชาญโยธินที่อ้างว่าติดภารกิจ แต่ภวัตทราบดีว่าน้องชายไม่ใคร่จะอยากมาร่วมแสดงความยินดีเสียเท่าไร เพราะยังชิงชังอยู่น้อยๆที่อาทิตย์เป็นฝ่ายครอบครองหัวใจสตรีที่เขาพึงปรารถนา


   “ครับ” ภวัตเพียงยิ้มรับ แล้วเหลือบไปมองร่างสูงโปร่งในชุดสูทโก้ที่กำลังเดินทักทายผู้คนที่ยืนจับกลุ่มกันตามจุดต่างๆ รอยยิ้มที่เห็นลักยิ้มที่แก้มซ้าย ทำให้เขามองเสียเพลิน


   “พอถึงคราวงานพ่อเภา ภวัตก็ช่วยดูแลด้วยล่ะ อย่าให้เสียชื่อแม่นะ” เสียงคุณหญิงจิตต์ดังเข้ามาในหัว นายแพทย์หนุ่มจึงเหลือบสายตากลับไปมองแล้วยิ้มจางแทนการรับคำ


   “น่าเสียดาย ที่ภวัต...” พอพูดถึงเรื่องบุตรชายคนเล็กที่กำลังจะจัดพิธีในอีกไม่ช้า คุณหญิงจิตต์ก็อดไม่ได้จะพูดเรื่องนี้กับบุตรชายคนใหญ่ ภวัตนิ่งไปเล็กน้อย แล้วกุมมือมารดาเอาไว้


   “ผมตัดสินใจแล้วครับคุณแม่”


   “เอาเถอะ ไว้ถ้าเปลี่ยนใจก็ค่อยมาบอกแล้วกัน...อ้าว คุณพงศ์...” คุณหญิงจิตต์ไม่อยากฟังคำตัดรอนเรื่องไม่แต่งงานของภวัตอีก ก็พอดีกับที่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเดินมาทักทายที่โต๊ะ


   “เป็นอย่างไรบ้างครับ ทุกอย่างเรียบร้อยไหม รสชาติอาหารถูกปากไหม” ราชนิกูลหนุ่มทำหน้าที่แทนบิดาที่นั่งอยู่กับโต๊ะเพื่อพูดคุยกับเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ที่มาร่วมงานด้วย


   “เรียบร้อยครับคุณพงศ์ อาหารก็รสเลิศ ฝีมือกุ๊กที่นี่หรือครับ” ท่านนายพลศักดิ์หันมาพูดคุยด้วยในทันที


   “ฝีมือกุ๊กของที่นี่และกุ๊กจากโฮเต็ลของคุณวินิตครับ คุณวินิตเป็นเพื่อนของผม และเป็นคู่รักของคุณดารา น้องของคุณอาทิตย์ด้วยครับ” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรพูด พลางผายมือไปทางดารารัษมีที่ยืนพูดคุยกับเพื่อนครูจากโรงเรียนสตรีกัลยาณี ข้างกายหล่อนคือชายหนุ่มเชื้อสายจีน หากใครจับจ้องหล่อนอยู่ตลอดเวลา ก็คงจะพอเห็นว่าไม่ว่าดารารัษมีจะเดินไปที่ใด ก็ย่อมมีชายผู้นี้ติดตามไปด้วยเสมอ


   “มิน่าล่ะ ก็ว่าเห็นตัวติดกันเป็นตังเม เสร็จจากงานนี้ของคุณอาทิตย์ ก็คงจะเป็นงานของคุณดารารัษมีซีนะคะ แล้วคุณจันทร์จ้าวล่ะคะ ไม่มีกำหนดจะแต่งงานบ้างหรือ เห็นว่าคุณพงศ์เป็นเพื่อนสนิท น่าจะพอทราบมาบ้างใช่ไหมคะ” สตรีสูงวัยในโต๊ะเอ่ยถาม ข้างกายหล่อนมีธิดาวัยแรกรุ่นนั่งอยู่ด้วย หม่อมหลวงพงศ์ภราธรมองปราดเดียวก็พอจะเข้าใจว่าสตรีผู้นี้คงตั้งใจถามเพื่อหาข่าวคราวของจันทร์จ้าวเป็นแน่แท้


   “พูดไปจะหาว่าผมใส่ไฟเพื่อนของผม แต่นายจันทร์จ้าวคนนี้คาดการณ์ไม่ค่อยจะได้หรอกครับ คุณหญิงอาด บางทีอาจจะแต่งงานเสียพรุ่งนี้เลย หรือบางทีอาจจะไม่แต่งงานไปตลอดชีวิตก็เป็นได้ สมัยก่อนตอนเรียนจบมัธยม ก็ว่าจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยด้วยกัน ปุบปับเจ้าตัวดันสอบชิงทุนไปต่างประเทศเสียอย่างนั้น แล้วก็ทิ้งผมให้เรียนมหาวิทยาลัยที่นี่คนเดียวเฉย” ราชนิกูลหนุ่มพูดแล้วหัวเราะ ทำเอาคนทั้งกลุ่มหัวเราะตาม แต่กระนั้นก็เป็นอันทราบดีว่าเขาไม่คิดจะพูดเรื่องความรักของจันทร์จ้าวให้ใครทราบทั้งนั้น


   ทายาทแห่งวังฉัตรเหลือบสายตามามองนายแพทย์ภวัต แล้วก็เหลือบตาไปทางจันทร์จ้าวที่กำลังยืนคุยอยู่กับกลุ่มเพื่อนทหารของอาทิตย์ ก่อนจะทำเป็นเอ่ยปากกับนายแพทย์หนุ่ม


   “พูดถึงจันทร์ ผมก็มานึกขึ้นได้ คุณหมอครับ ถ้าไม่รบกวน ผมขอวานสักหน่อย เมื่อครู่นี้จันทร์บ่นกับผมว่าดื่มมากไปเสียแล้ว ปกติก็ดื่มมากๆไม่ได้เสียด้วย คุณหมอช่วยไปดูหน่อยได้ไหม” เพียงเท่านั้น ภวัตก็หันไปขอตัวกับคนอื่นๆในโต๊ะแล้วลุกขึ้นเดินตรงไปหาคนที่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรอ้างขึ้นมา ทิ้งราชนิกูลหนุ่มเอาไว้ที่เดิม


   “คุณจันทร์จ้าวดื่มมากไม่ได้หรือคะ คงจะแพ้แอลกอฮอล” ธิดาของคุณหญิงอาดพูดอย่างมีความรู้ หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเพียงยิ้ม ไม่โต้ตอบหญิงรุ่น เพราะทราบดีแก่ใจว่าจันทร์จ้าวไม่ได้แพ้แอลกอฮอล แต่ที่เขาพูดว่าดื่มมากไม่ได้ เพราะถ้าดื่มมากแล้วจะเมาต่างหาก แต่เขาหันมาพูดกับบิดามารดาของภวัตแทน


   “ขอโทษที่ต้องรบกวนคุณหมอนะครับ ผมเป็นห่วงกลัวว่าจะเป็นอะไรกลางงานมงคล เลยต้องมาขอยืมฝีมือคุณหมอสักครู่ ประเดี๋ยวอาการเพื่อนผมดีขึ้นแล้ว จะเอามาคืนอย่างไว”



แล้วหลังจากนั้น เมื่อคนรับใช้มาตามให้กลับไปที่โต๊ะของหม่อมราชวงศ์ฉัตร หม่อมหลวงพงศ์ภราธรก็ไม่ได้พาหมอภวัตมาคืนแก่ท่านนายพลศักดิ์ และคุณหญิงจิตต์อีกเลย นายแพทย์หนุ่มหายออกจากงานพร้อมกับจันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์


ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้าค่ะ)

ตอนนี้เป็นตอนของพี่น้อง (เพราะงั้นหมอภวัตต้องรอก่อน) โดยส่วนตัวชอบฉากพี่อาทิตย์มองจันทร์ แล้วจันทร์มองหมอมากเลย คือบอกให้รู้ว่าน้องขอเลือกผู้ชายมากกว่าพี่นะ ฮาฮา

ส่วนตอนต่อไปนี่ หมอมาแน่ ความสุขหมอได้คืนแน่ๆ ถึงเรื่องความรักจะเรียงลำดับตามอาวุโสในสี่คนพี่น้อง แต่เรื่องเข้าหอนี่ไม่เรียงนะคะ ฮาฮา

เจอกันตอนหน้า ขอบคุณสำหรับการอ่าน การเม้นท์ การติดตาม และพื้นที่บอร์ดเช่นเคยค่ะ

ป.ล. พ่อจันทร์ไปแอบส่องหมอที่หน้าร.พ.เมื่อตอนที่แล้วนี่น่าสงสารจริงๆล่ะ ลองกลับกันว่าถ้าเป็นถ้วยฟูไปยืนส่องแบบนั้น อาจมีวาระเกรียนอย่างเช่น ‘ที่มาดูนี่ไม่ได้รักมันหรอกนะครับ แค่มาส่องเฉยๆว่ามันแอบจีบญาติคนไข้รึเปล่า!!!’ แน่ๆเลยล่ะค่ะ ฮาฮา


ออฟไลน์ puengmimsweety

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
น่ารักกันมากๆเลยยยยยยยย

ปล.แอบคิดถึงถ้วยฟูเลยค่ะ อยากอ่านตอนพิเศษอีกกกก

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
คุณพงศ์ช่วยหมอกับจันทร์ตลอดอ่ะ

เอ๊ะๆหายไปไหนกันสองคนน้อออ รอตอนต่อไปปปป

หมอจะมีความสุขล่ะ อิอิ  :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
คุณพงศ์เป็นเพื่อน และพ่อสื่อที่ดีจริงๆเลย

ออฟไลน์ bradpitt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1

ในที่สุด  ครอบครัว ก็เข้าใจ และ ยอมรับ

พี่อาทิตย์  ดารา  นภา และพ่อจันทร์ ได้ครองคู่ กันตามลำดับนี้สินะ :กอด1:

:heaven :heaven :heaven :heaven :heaven คุณหมอ และ จันทร์จ้าว ต้องสตรอง...จับมือไว้ ก้าวไปด้วยกันนะ  :heaven :heaven :heaven :heaven  :heaven




//หม่อมหลวงพงศ์ภราธรก็ไม่ได้พาหมอภวัตมาคืนแก่ท่านนายพลศักดิ์ และคุณหญิงจิตต์อีกเลย นายแพทย์หนุ่มหายออกจากงานพร้อมกับจันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์

.....หายไปไหน อ่ะ.... ค้างงงง :hao3:

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
พูดอย่างนีัแสดงว่าจันทร์เข้าหอก่อนพี่อาทิตย์ใช่ม้าาาาา ไปแอบนอที่ใต้เตียนดีกว่า 555555

ออฟไลน์ veeveevivien

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
ค้างมาก

 :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
ฟิน ขำจันทร์เจ้าเลือกหมอนี่แหล่ะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ต้องรออาทิตย์หน้าอีก  :ling1:

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ถ้วยฟูพูดถูกแล้ว ถ้าไม่ไปส่องเพราะกลัวปั๋วจะไปจีบคนอื่น ก็ไม่ใช่น้องถ้วยฟูน่ะสิ!!  o13

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด