TRACK 19.5
“ไอ้ - เหี้ย - นภ!!!” ทิวากานต์ไม่ใช่คนดีเด่อะไรมากมายแต่น้อยครั้งจะพูดหยาบคายออกอากาศและคราวนี้เขาเลือกจะไม่ทน!
นายแพทย์ตัวสูงเฉียดร้อยเก้าสิบลุกขึ้นจากเก้าอี้ มือข้างหนึ่งกระชากผ้าคลุมบนคอเขวี้ยงทิ้งลงพื้นก่อนย่างสุขุมเข้าไปหานักร้องหนุ่มเจ้าของสรรพนามใหม่หน้าตาถมึงทึง
หนุ่มนักร้องยกมือพนมกลางอก ทำหน้าตาคล้ายจะร้องไห้เข้าไปทุกที ตอนนี้สายตาคนทั้งร้านหันมามองเหตุการณ์พร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“พี่วา ทรงนี้ไม่หล่อเหรอ นภเลือกกับช่างตั้งนานนะ นภว่าพี่ตัดแล้วหล่อจะตาย”
ทิวากานต์ฟังแล้วได้แต่แสยะยิ้มเหี้ยม เขายกฝ่ามือถูข้างศีรษะด้านที่ถูกไถออกไปจนเหี้ยนประหนึ่งนายแบบในจอโทรทัศน์ “หล่อ หล่อมาก หล่อเหมือนมาริโอ้ หล่อเหี้ยๆ”
“ฮึก แล้วพี่ไม่ชอบเหรอ”
“ถ้าชอบแล้วจะโมโหเหรอ มึงมานี่เลยนะไอ้นภ กูอุตส่าห์ไว้ใจมึงให้ช่วยเลือกทรงผมให้แล้วมึงทำแบบนี้กับกู มึงนึกว่ากูเป็นดาราเหมือนมึงหรือไง ไอ้สลัด กูเป็น
หมอ!!!” ชายหนุ่มตะคอกคำว่าหมอใส่หน้านภเต็มๆ บรรยากาศในร้านหยุดนิ่งได้ยินแต่เสียงไดร์เป่าผมพ่นลมวี้ๆ กระนั้นเสียงกระซิบลอดไรฟันของทิวากานต์กลับได้ยินกันถ้วนหน้าราวกับให้ทุกคนเป็นพยาน “ถ้ากูโดนเรียกไปด่ามึงตายแน่”
“แง้ๆๆ ผมขอโทษ” นักร้องหนุ่มไหว้คุณหมอหนึ่งที เสร็จแล้วก็วิ่งหนีออกจากร้านไปทิ้งคนหน้าดุไว้ให้คนในร้านระทึกต่อ
“เท่าไหร่”
“คะ ครับ” ช่างคนที่ละเลงหัวทิวากานต์จนออกมาได้ทรงวินเทจอันเดอร์คัทไถข้างโล่งเตียนถึงกับสะดุ้งโหยงตอนคนบอกว่าเป็นหมอหันหน้ามาหา จะบอกหนูไม่รู้เรื่องด้วยน้าไปตกลงกันเองเถอะ แต่หลักฐานเป็นกรรไกรยังคาอยู่ในมือ ใครจะไปรู้ล่ะว่าหนุ่มหล่อตัวสูงอย่างกับนายแบบจะเป็นคุณหมอเลยจัดให้ซะเต็ม
“ค่าตัดเท่าไหร่ครับ”
“ฟะ ฟรี ก็ได้ครับ”
“เท่าไหร่ครับ”
อยากจะร้องหาแม่จ๋า เข้าใจแล้วว่าทำไมนักร้องหนุ่มลูกค้าประจำถึงวิ่งหนีออกไปแบบนั้น ตาคมดุยังคงจ้องกดดันสั่นประสาทอยู่ท่าเดิมจนกว่าเขาจะบอกราคาออกไป
“จะ เจ็ดร้อยห้าสิบครับ”
“ขอใบเสร็จด้วยนะครับ ผมจะไปเก็บกับ
มันทีหลัง” ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันที่ว่าคือใคร นายช่างหนุ่มหนวดงามยื่นมือสั่นๆ ไปรับธนบัตรสีเทามาก่อนวิ่งปรู๊ดหลบภัยที่เครื่องคิดเงิน
ทิวากานต์เดินจากร้านตัดผมด้วยความโล่งใจของทุกคน เขาแตะๆ ส่วนที่ถูกไถออกไปเหมือนไม่ชิน จะว่าไปตั้งแต่จำความได้มีแค่ช่วงเรียนมัธยมสี่ปีเท่านั้นที่ต้องตัดผมเกรียนแบบนี้ แต่นี่มันเกรียนแค่ข้างๆ กับท้ายทอยนิดหน่อย ที่เหลือยาวเสยไปด้านหลัง จะบอกว่าหล่อเข้ากับหน้ามันก็ใช่ถ้าไม่ติดว่าเขาทำงานเป็นหมอพ่วงตำแหน่งอาจารย์อยู่ในโรงพยาบาลที่ต้องอาศัยภาพลักษณ์เนิร์ดวิชาการก็คงชอบใจอยู่หรอก ไม่ต้องห่วงเรื่องโดนเรียกไปด่าเลย วันจันทร์ไปทำงานโดนแน่ๆ เขาไม่ยอมหูชาคนเดียวหรอก ไอ้นภก็ต้องตายสังเวยความผิดด้วยเหมือนกัน
เอาเข้าจริงคนผิดน่ะมันเขา ผิดที่ไว้ใจมันปล่อยให้มันเลือกทรงให้ เสร็จแล้วก็เผลอหลับยาวตื่นมาอีกทีตอนช่างสะกิดบอกว่าตัดเสร็จแล้วนั่นแหละ แบบคนมันเหนื่อยนี่หว่า ไม่ได้นอนมาตั้งสามสิบกว่าชั่วโมงแล้วไม่ได้ตื่นแสตนด์บายเฉยๆ ด้วยแต่มีเรื่องให้ทำตลอดไม่ได้พัก นี่คนไม่ใช่โทรศัพท์มือถือนะเว้ยจะได้เปิดข้ามวันข้ามคืนได้เป็นสัปดาห์
เรื่องของเรื่องก่อนเกิดเหตุสั่นประสาทในร้านตัดผมคือหลังจากจับนภเซ็นสัญญาทาสเขาก็ปล่อยให้เด็กๆ นอนพักไป สักบ่ายโมงถึงค่อยปลุกพาอลันด์กับนภไปแจ้งความที่สถานีตำรวจท้องที่ที่เกิดเรื่อง ไม่ลืมโทรบอกคุณลุงของเด็กฝรั่งให้มาด้วย เท่านั้นทุกอย่างก็จบลงอย่างรวดเร็วเพราะพ่อแม่ไฮโซของเก่งกับซาโตชิขอยอมแพ้ไม่สู้เส้นหลานอดีตท่านทูตแบบไม่มีข้อโต้แย้งสักแอะ ใครมันจะไปรู้ว่าบ้านของเก่งทำธุรกิจนำเข้าส่งออกเครื่องมือแพทย์แถมกำลังตกลงค้าขายกับโรงพยาบาลของลุงไอ้ตัวแสบพอดี แน่นอนว่างานนี้เสียทั้งชื่อเสียทั้งเงินก้อนใหญ่ จากที่เป็นแค่เรื่องเด็กทะเลาะกันจึงจบลงที่ผู้ใหญ่เสียหายหลายร้อยล้านซะได้
“ลุงชักจะเข้าใจความรู้สึกแด๊ดดี้ของน้องอัลตอนที่รู้ว่าเราจะเป็นนักร้องแล้ว เพราะมีแต่พวกนี้ไง มันไว้ใจกันได้ที่ไหน”
นักร้องพวกนี้แบบนภหน้าซีดกันทีเดียวเมื่อถูกว่ากระทบต่อหน้า เห็นเฮ้วๆ ทำหน้าเหมือน high ตลอดเวลาแบบนี้ใครมันจะไปรู้เล่า เขาก็เพิ่งมารู้พร้อมๆ กับไอ้เพื่อนเลวนี่แหละว่าอลันด์เป็นถึงหลานอดีตเอกอัครราชทูตกับเจ้าของโรงพยาบาลยักษ์ใหญ่ ถ้ารู้ก่อนจะประคบประหงมยิ่งกว่ากล่องดวงใจตัวเองอีก
ตอนแรกเกือบได้เป็นคดีความขึ้นโรงขึ้นศาลกันใหญ่โตด้วยซ้ำเพราะคุณลุงไอ้ตัวแสบโกรธมาก หลักฐานเองก็ชัดเจนดิ้นไม่หลุด แค่ยกเลิกทำธุรกิจด้วยกันมันยังน้อยเกินไป ดีว่าอลันด์ยังเห็นแก่ความดีที่เคยมาเล่นแบ็คอัพเลยช่วยอ้อนขอความเมตตาให้ เด็กเลวสองคนนั่นเลยแค่ถูกจับทำประวัติและนอนซังเตให้สาแก่ใจคุณหมอหนึ่งคืนแล้วจ่ายค่าเสียหายกันไปเป็นที่น่าพอใจแก่อลันด์ (จู่ๆ ก็ได้เงินค่าขนมมาเป็นล้านแน่ะ) หลังจากนั้นเด็กฝรั่งก็ถูกคุณลุงลากกลับไปนอนด้วยกันที่บ้านย่านรามอินทราเพื่อความสบายใจของคนแก่แบบขัดไม่ได้แลกกับการไม่บอกเรื่องนี้กับแด๊ดและมัม
ด้วยเหตุนั้นคุณหมอจำต้องแยกจากเด็กตัวแสบชั่วคราว ตอนนั้นเขารีบดึงคอเสื้อนภไว้ก่อนเจ้าตัวจะเผ่นหนีไป บอกให้พาไปตัดผมหน่อย นักร้องหนุ่มหน้าใสก็ระริกระรี้กระดิกหางปัดๆ บอกว่าเดี๋ยวพาไปร้านประจำที่สยาม สุดท้ายมันเลยจบลงแบบนี้นี่แหละ
ทิวากานต์เดินล้วงกระเป๋ากางเกงยีนส์สีซีดข้ามไปฝั่งห้าง กะหาอะไรกินเป็นมื้อเย็นข้างนอกดีกว่ากลับไปนั่งเหงาที่ห้องคนเดียว ดึกๆ อาจจะแวะไปเที่ยวเติมแอลกอฮอล์เข้าเส้นเลือดย้อมใจผมทรงใหม่ด้วยท่าจะดี ไหนๆ พรุ่งนี้ไม่มีเวรตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนเพราะเจ้าของเขาให้หยุดพักร้อนหนึ่งวันฟรีๆ ไม่หักเงิน
เขาเลือกดูหนังสักเรื่องฆ่าเวลาก่อนไปร่อนหลังกินข้าวเสร็จ กะเวลาไว้อย่างดีให้ออกมาได้เวลาเที่ยวรอบดึก
น้องกบคันสวยเหมือนได้มาอยู่ถูกที่ถูกทางตอนขับเข้ามาในซอยทองหล่อ ซูเปอร์คาร์สวยๆ หลายคันมีให้เห็นตลอดทาง คิดๆ แล้วอดยิ้มไม่ได้ นานมากพอดูที่ห่างหายจากกิจวัตรแบบนี้ไป
เสียงดนตรีในร้านแบบนี้เหมือนมีเวทมนต์ชวนให้ผู้คนขยับตัวได้เสมอ ทิวากานต์ขยับตัวเป็นจังหวะเบาๆ พอให้สนุกระหว่างนั่งจิบเครื่องดื่มอยู่หน้าบาร์ ถ้าเป็นแต่ก่อนเขาไม่ลังเลที่จะสั่งเครื่องดื่มเลี้ยงใครสักคนที่ถูกใจหรือรับของใครมาดื่มเพื่อเปิดโอกาส หากวันนี้เขาขอสนุกคนเดียวเสียจนบาร์เทนเดอร์ที่จำหน้ากันได้ยังแปลกใจ
“ไม่เห็นหน้านาน กลับมาทั้งทีทำไมไม่ออกไปสนุกล่ะครับ”
“แค่นี้ก็โอเคแล้วครับ” เขาเครงแก้วเหล้าในมือประกอบคำพูด เผื่อรอยยิ้มไปให้สาวสวยที่เดินมานั่งข้างๆ เธอสวยมากจริงๆ เหมือนว่าจะเคยเห็นตามทีวีหรือหนังสืออยู่บ้างแต่นึกชื่อไม่ออก
“สวัสดีค่ะ มาคนเดียวเหรอคะ ครั้งแรกหรือเปล่า มิ้นต์ไม่เคยเห็นหน้าเลยอ่ะ”
“มาคนดียวครับแต่ไม่ใช่ครั้งแรก แค่ไม่ได้มานานแล้ว” ถึงจะบอกว่าอยู่คนเดียวดีกว่าแต่ถ้ามีคนชวนคุยก่อนเขาก็ไม่ปฏิเสธ ทำหยิ่งเรื่องมากจะมีปัญหากันได้ง่ายกว่า
“งานยุ่งเหรอคะ หรือว่า...แฟนไม่ปล่อยให้มา”
“ข้อแรกน่ะใช่ ส่วนข้อสองเกือบถูกครับ เขาไม่ได้ห้ามหรอกแต่ผมติดแฟนน่ะ”
“มีเจ้าของซะแล้วเสียดายจัง แต่ถ้าอยากได้เพื่อนแก้เหงามิ้นต์ช่วยได้นะ มิ้นต์ชอบช่วยเหลือคนหล่อ”
สาวเจ้าเล่นให้ท่าขนาดนี้จะปฏิเสธเด็ดขาดก็กลัวเธอเสียหน้า คุณหมอเลยทำเพียงหัวเราะกลบเกลื่อน ใช่เจอแบบนี้เป็นคนแรกในชีวิตเสียเมื่อไร นี่ยังดีมาแบบตรงๆ เจอพวกแอ๊บใสแต่หวังเคลมตลอดชีวิตนี่ได้แต่ส่ายหน้า พลาดทีโดนเกาะได้ไม่คุ้มเสีย
“อ้อ ชื่อมิ้นต์นะคะ แล้วคุณ...”
“วาครับ”
“วา มาจากอะไรคะ วาเลนไทน์หรือเปล่า โรแมนติกดีนะ”
“ทิวาครับ ทิวาที่แปลว่าพระอาทิตย์”
“ว้าว แล้วเป็นคนร้อนแรงเหมือนชื่อหรือเปล่าคะเนี่ย มิ้นต์อยากพิสูจน์จัง”
“เดี๋ยวผมให้แฟนพิสูจน์แล้วจะมาบอกนะครับ”
“อ้างแฟนอีกล่ะ ผู้ชายรักแฟนก็น่ารักดีหรอกนะคะ แต่ทำร้ายจิตใจผู้หญิงแบบมิ้นต์มากเลยบอกตรง แล้วนี่มีแฟนจริงๆ หรือแค่หลอกกันคะ ถ้ารักแฟนจริงทำไมไม่พาแฟนมาเที่ยวด้วยล่ะ”
“วันนี้แฟนหนีไปนอนที่อื่นครับ ผมนอนไม่หลับเลยมานั่งดื่มย้อมใจ”
“ว้า แฟนวาใจร้ายจัง ถ้าเป็นมิ้นต์นะจะนอนด้วยทุกคืนไม่ปล่อยเลย ฮิๆ”
เธอทำหน้ากระเง้ากระงอดได้น่ารักมากกว่าน่ารำคาญ ถ้าไม่ติดว่ารักแฟนมากอย่างปากว่าทิวากานต์อาจยอมเล่นกับเธอนานแล้ว ไม่รอให้มาง้องแง้งใส่แบบนี้หรอก
“แล้วนี่วาทำงานอะไรหรือคะ ทำเกี่ยวกับพวกแฟชั่นหรือเปล่า หล่อแบบนี้ต้องใช่แน่เลย” พอเรื่องเก่าจบเธอก็หาเรื่องใหม่มาคุย ช่างเป็นสาวน้อยที่มีความพยายามสูงมาก แน่นอนว่าผู้ชายอย่างทิวากานต์เองก็ใช่จะโผล่มาให้เห็นบ่อยๆ ถ้าใครคว้าได้ถือเป็นบุญชีวิต
“เป็นหมอครับ”
“ล้อเล่นหรือเปล่าคะ อยู่โรงบาลไหนเนี่ย มิ้นต์จะรีบไปรักษาเลยหมอหล่อขนาดนี้ยอมให้เอาหูฟังแนบหัวใจทั้งวัน เอ๊ะ คุณหมอเขาไว้ผมแบบนี้ได้ด้วยเหรอ ยังเรียนอยู่หรือว่าเป็นหมอหมาคะ”
“หมอคนครับ เพิ่งเทรนจบปีนี้” ทิวากานต์ไม่ได้ตอแหล เขาเทรนจบหมอศัลย์ปีนี้จริงๆ แต่ถ้าจบเป็นหมอมีใบประกอบโรคศิลป์รักษาคนไข้ได้นั่นก็หลายปีมาแล้ว แสดงว่าหน้าเขายังใสเด้งเต่งตึงอยู่พอจะเนียนไปกับพวกเด็กๆ ได้ สาวเจ้าถึงไม่ได้เอะใจ เอ๊ะ หรือเพราะในร้านมันมืดก็ไม่แน่ใจ
“ชักอิจฉาแฟนคุณหมอแล้วสิคะเนี่ย มีแฟนทั้งหล่อและเก่งแบบนี้ โอ๊ยยย อิจฉาตาร้อนผ่าว”
ถึงเธอแสดงอาการอยากได้เขาออกนอกหน้าแต่ไม่เล่นด้วยก็จบแค่ตรงนั้น ทิวากานต์ฟังเธอคุยนู่นนี่อยู่นานมันก็เพลินดี สักตีสองเขาก็ขอตัวกลับทั้งที่ดื่มไปแค่ไม่กี่แก้ว เบอร์โทรของสาวน้อยนามว่ามิ้นต์ถูกฉีกทิ้งทันทีที่ออกมาจากข้างใน
ขอบอกให้รู้อีกทีว่าเขารักแฟนมากกกทิวากานต์กลับมาชัตดาวน์ตัวเองที่คอนโดตอนเกือบตีสี่หลังเปิดเครื่องใช้งานตัวเองสี่สิบแปดชั่วโมงพอดีเป๊ะ หมอนข้างที่ถูกทิ้งเป็นหมาหัวเน่ามานานถูกดึงมากอดแทนไอ้ตัวแสบ พอได้กลิ่นอลันด์ตาที่แข็งค้างมาตั้งแต่เมื่อวานปรือลงได้อย่างน่าอัศจรรย์ อยากจะนอนไม่ตื่นจนกว่าเด็กคนนั้นจะกลับมา
เขาคงขี้เหงาจริงอย่างที่ใครต่อใครว่าเพราะเขาไม่อยากตื่นมาอยู่คนเดียวในห้องที่ไม่มีอลันด์เลยจริงๆ คำว่า
‘รัก’ จากปากหยักเหมือนแมวนั้นผูกมัดเขาไว้แน่นหนาเป็นเงื่อนตายรั้งใจดวงนี้ให้ไปไหนไม่รอด
คอยดูเถอะ ถ้าเด็กแสบนั่นกลับมาช้าเขาจะขาดใจตายให้ดู!ร่างขนาดกะทัดรัดของหนุ่มลูกครึ่งอังกฤษ-ไทยยืนลังเลอยู่หน้าห้อง 2111 มาสักพัก สองมือเต็มไปด้วยถุงกระดาษปะยี่ห้อแบรนด์ไฮเอนด์ทั้งถุงเล็กถุงใหญ่ ความจริงจะกดรหัสผ่านเข้าไปในห้องเลยก็ได้ แต่...
ไม่รู้สิ กดกริ่งให้คนข้างในวิ่งหน้ายักษ์มาเปิดให้คงดีกว่า
ตัดสินใจได้แล้วมือข้างที่ถือของน้อยที่สุดก็รัวกริ่งแบบไม่กลัวเสีย เพียงไม่กี่อึดใจทิวากานต์หน้ายักษ์วิ่งมาเปิดประตูให้ตามคาด แต่ที่คาดไม่ถึงกลับเป็นทรงผมที่แปลกไปของคุณหมอ หากก่อนจะได้ทักทิวากานต์กลับสวนขึ้นมาเสียก่อน
“บอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เปิดเข้ามาเลยไม่ก็กดกริ่งแค่ครั้งเดียวแบบมีมารยาทน่ะทำเป็นไหม ห๊ะ! แล้วนี่อะไรเยอะแยะ ทำไมไม่เอาไปเก็บที่ห้องก่อน” เขาก้มมองบรรดาถุงช้อปปิ้งในมืออีกคน มีเกือบสักสิบถุงได้
“ของผมเอาไปเก็บแล้ว นี่ของวา คุณลุงซื้อให้”
“หา? ซื้อให้ฉัน” ทิวากานต์มองหน้าบวมๆ ของคนรักก่อนเบี่ยงตัวให้อลันด์เดินเข้ามาในห้องแล้วค่อยเดินตามเข้าไป “ซื้อทำไม”
“ขอบคุณที่วาช่วยดูแลผมแล้วก็ให้เอามาจีบวาย้ายไปทำงานที่โรงบาลจริงจังสักที” เด็กหนุ่มวางถุงช้อปปิ้งลงกลางห้อง หยิบถุงสองใบใหญ่ๆ ออกมา “อันนี้แจ็ตเก็ตกับกระเป๋าใบใหม่ของผมว่าจะทิ้งไว้ที่ห้องนี้แหละ สวยม่ะ คอลเลคชั่นใหม่ของอีฟส์ แซงต์ โลรองต์เลยนะ คุณลุงซื้อให้หมดเลยบอกว่าเป็นของปลอบใจเรียกขวัญ ถ้าเจ็บตัวแล้วได้อะไรแบบนี้มันก็คุ้มดีเนอะ”
ทิวากานต์ดูสินค้าฟุ่มเฟือยสองชิ้นของไอ้ตัวแสบ เดาได้ว่าบางส่วนที่เอาไปเก็บไว้ที่ห้อง 2112 แล้วคงมีไม่ต่ำกว่าสิบถุง งานนี้คุณลุงของไอ้ตัวแสบคงได้จ่ายค่าเรียกขวัญให้หลานไม่ต่ำกว่าสองล้าน แค่ไอ้เสื้อนั่นเชื่อว่าเขาคงต้องอยู่เวรทั้งเดือนถึงจะเอาเงินมาซื้อได้
“ให้มันน้อยๆ หน่อย ถามจริงเมืองไทยร้อนขนาดนี้จะเอาเสื้อแจ็คเก็ตหนังใส่ได้สักกี่หนเชียว”
“ของวาก็มีนะ ตัวนี้ผมเลือกเองเลยใส่แล้วหล่อแน่ๆ” เด็กฝรั่งทำหูทวนลม รื้อถุงยี่ห้อเดียวกันอีกใบหยิบเบลเซอร์สีดำกุ๊นขอบขาวขึ้นมาโชว์ “มีน้ำหอมด้วย อันนี้ผมดมแล้วชอบมาก กลิ่นเหมาะกับวาที่สุด”
“จ้ะ”
เขาปล่อยให้ไอ้ตัวแสบนั่งบรรยายสรรพคุณข้าวของที่ซื้อมาไปเรื่อย รู้สึกเซ็งนิดๆ ที่ตื่นมาแล้วแทนจะได้กอดอีกคนสมใจกลับต้องมาดูสินค้าฟุ่มเฟือยพวกนี้ จะว่าไปนี่เพิ่งบ่ายสามนับว่าอลันด์กลับมาเร็วกว่าที่คาดเขาเลยไม่ต้องนอนเหี่ยวเป็นผักอยู่บนเตียงยันมืด
ทิวากานต์อาศัยช่วงอีกคนโม้เพลินเข้าไปแปรงฟันล้างหน้าในห้องน้ำ ออกมาอีกทีเด็กฝรั่งตัวแสบนั่งหน้ามุ่ยท่ามกลางกองเสื้อผ้าเครื่องใช้เพราะถูกปล่อยให้พูดคนเดียวตั้งนาน
“อย่าบอกนะว่าเพิ่งตื่น เมื่อคืนนอนดึกหรือไง”
“ก็เกือบเช้า”
“แน่ะ แอบเที่ยวใช่ไหม”
“ทีเธอยังเที่ยวได้เลย ฉันเที่ยวมั้งสิ ไม่ได้เที่ยวตั้งนานแล้วมันต้องเช็คเรตติ้งกันหน่อย”
“โหยเที่ยวไม่ชวน”
“เที่ยวแล้วมีเรื่องนี่ยังไม่เข็ดใช่ไหม” ชายหนุ่มเดินเข้าไปล็อคคอเด็กแสบพอให้อีกคนดิ้นหัวเราะชอบใจ อลันด์ท่าจะเป็นมาโซจริงๆ ทำรุนแรงด้วยแล้วชอบ
“โด่ ไปกับวาจะกลัวอะไร วันหลังไปเที่ยวด้วยกันนะ”
“อื้อ” หอมขมับอีกคนฟอดใหญ่ก่อนจับอลันด์ให้นั่งพิงอกเขาดีๆ พอได้ตัวนุ่มนิ่มมากอดเขารู้สึกอยากจะหลับไปอีกรอบ เจ้าลูกหมูในอ้อมแขนดีกว่าหมอนข้างเย็นชืดนั่นเป็นร้อยเท่าพันเท่า
ทิวากานต์หลงเด็กหัวปักหัวปำหาทางออกไม่เจอแล้วจริงๆ“ว่าแต่...ผมทรงนี้มันอะไรกัน พี่นภพาไปตัดมาเหรอ”
“อือ หล่อม่ะ”
“หล่อมาก แบดบอยสุดๆ” หนุ่มน้อยแหงนคอมองเก้าอี้มีชีวิต เพราะว่าเพิ่งตื่นผมเลยยุ่งไม่เป็นทรงอย่างที่เช็ทเมื่อวาน แต่ก็ยังหล่อมากอยู่ดี อลันด์ได้รางวัลเป็นจูบหวานๆ หนึ่งทีพอชื่นใจ “เมื่อคืนไปเที่ยวต้องมีคนเข้ามาคุยด้วยเยอะแน่ๆ แอบนอกใจป่ะเนี่ย”
“คิดว่าไงล่ะ”
“หึหึ” เขาไม่ตอบแต่ดึงคออีกคนให้ลงมาจูบด้วยอีกที “อย่าปล่อยมือผมแล้วกัน”
“สัญญาด้วยเกียรติของลูกผู้ชายเลย” เขาชูกำปั้นขึ้นมารอให้อีกคนทำแบบเดียวกัน อลันด์มองแล้วค่อยเผยรอยยิ้มจนแก้มตึงชกกำปั้นตัวเองเข้ากับอีกคนเบาๆ
“สัญญากันแล้วนะ ห้ามผิดสัญญาล่ะรู้ไหม”
“แล้วฉันเคยทำหรือไง” เด็กฝรั่งส่ายหัว ตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน ตอนที่ต่างฝ่ายยังเป็นคนแปลกหน้าหากทิวากานต์ไม่เคยเบี้ยวหรือผิดคำพูดสักครั้ง จนถึงตอนนี้เขามั่นใจในตัวอีกฝ่ายมากว่าจะไม่มีวันปล่อยมือจากเขาไปแน่นอนไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตก็ตาม
“พี่แค่อยากรู้ว่าอัลรักตัวเองบ้างหรือเปล่า ทำไมถึงชอบทำให้พี่ต้องเป็นห่วงคนที่พี่รักอยู่เรื่อยเลย”
‘รัก’ เจ้าเด็กแสบบอกแบบนั้นหลังอมยิ้มหน้าแดงจ้องตากับทิวากานต์อยู่นาน ‘แล้วก็รักพี่วาแบบที่อยากอยู่ด้วยกันนานๆ ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงครับ จากนี้ไปจะรักตัวเองให้เท่ากับที่รักพี่วา หายโกรธกันนะ’
‘หายโกรธก็ได้ แต่พูดแบบนี้แน่ใจแล้วใช่ไหม ฉันเลือกจับมือใครแล้วไม่ปล่อยไปง่ายๆ หรอกนะ ถ้าจะไปต้องตัดแขนทิ้งอย่างเดียว’ คุณหมอขู่พร้อมเพิ่มแรงรัดช่วงเอวอีกคนแน่นขึ้นประกอบคำพูด เตือนครั้งสุดท้ายแล้วแต่ตาสีฟ้าอ่อนยังคงจ้องเขาไม่หลบไปไหน ยืนยันด้วยการกระทำกลายๆ พลอยช่วยคนถามหัวใจพองฟู
‘แน่ใจ มั่นใจที่สุด ถ้าไม่ใช่พี่วาก็รักใครแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว เมื่อคืนผมก็คิดนะว่าแม่งแบบนี้เป็นเกย์เปล่าวะ ลังเลกับตัวเองตั้งนานแต่พอถูกพี่เก่งทำแบบนั้นหรือนึกไปถึงตอนที่ทอมพยายามกอดผมแบบนี้ทุกอย่างในตัวมันต่อต้านไปหมด เกลียดตอนที่ถูกผู้ชายเหมือนกันสัมผัสแนบชิด แต่แปลกดี ถ้าเป็นพี่วา...ผมกลับอยากให้พี่กอดผมแบบนี้ไปนานๆ ไม่มีที่สิ้นสุด อินฟินิตี้เลย’
‘ปากหวาน’ ว่าอย่างนั้นแต่คุณหมอหน้าดุกลับเขิน เกิดมาสามสิบฝนเพิ่งเจอผู้ชายสารภาพใส่นี่แหละ
‘รักพี่วานะครับ รักมากๆๆ รักม้ากมาก’ กลัวคุณหมอไม่เชื่ออลันด์เลยย้ำชัดๆ ช้าๆ ข้างหู ยิ่งเห็นคนแก่กว่าอายหน้าแดงยิ่งชอบใจกรอกหูอยู่หลายรอบจนนภออกมาจากห้องน้ำนั่นแหละถึงยอมหยุดแกล้งอีกฝ่าย
บอกรักทั้งที่จะขอซึ้งนานๆ หน่อยก็ไม่ได้ ต้องกวนให้จิ๊จ๊ะทุกครั้ง แสบเสมอต้นเสมอปลายน่าตีตั้งแต่วันแรกที่เจอกันเลยจริงๆ สิน่า ไอ้เด็กฝรั่งตัวแสบ.
.
.
TBCกราบขออภัยที่มาช้านะคะ
เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาน้องเราหอบคอมหนีออกจากบ้านไปค่ะ
จะแอบลงที่ออฟฟิซงานก็เยอะเกินทน เครื่องคอม PC ไม่ได้แตะเลย ;-;
ความจริงตอนนี้อยากลงให้เต็มตอน แต่กว่าจะเราจะมาอ่านจะมารีไรท์ได้ลงอีกทีคงเสาร์อาทิตย์เลย (ฮา)
ไหนๆ เห็นว่าตอนนี้มันตัดได้ครึ่งพอดี ถือว่าจบส่วนแรกของเรื่องแล้วก็คงไม่เป็นไร
หลังจากนี้จะเข้าสู่เนื้อจริงๆ หลังจากปูความสัมพันธ์ตัวละครมานาน
แล้วเจอกันกับอีก
.5 ที่เหลือนะคะ
ปูลู เห็น FC หมอวาเยอะเหลือเกิน ใครมีคำถามถึงอิพี่ฝากไว้ได้นะคะ
ตอนหน้าจะลากพี่แกมาตอบคำถามให้ ถือว่าชดเชยที่มาลงช้าปล่อยให้รอกัน เหะๆ
ปูลูสอง เมื่อสัปดาห์ที่แล้วไปหาข้อมูลที่โรงบาลหมอวามา จะว่าไปหมอหล่อๆ มันก็มีนะคะ แต่ฝั่งที่เราไปหามีแต่สว.น่ะสิ ;-;
ส่วนหมอดุๆ เนี่ยมีแน่นอน โดนดุมาแล้ว (ฮา)
ยังไงช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ
จุ๊บๆ