3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [เปิดขายแล้วน้า]1/2/60 P.46
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ชอบใครมากที่สุด (ถามอีกแล้ว 55)

พี่ภูคนโหด เรื่องหื่นไว้ใจได้
61 (25.2%)
น้องเกรียนฟิก ผู้มีสามี2คน
98 (40.5%)
พี่ตินคน(แอบ)โหด อย่าให้โมโหเชียว
83 (34.3%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 242

ผู้เขียน หัวข้อ: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [เปิดขายแล้วน้า]1/2/60 P.46  (อ่าน 294611 ครั้ง)

ออฟไลน์ sindy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

เหมือนงานแต่งของทั้งสามคนเลย ขอบคุณคนแต่งค่ะ  :mew1:

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
ครอบครัวอบอุ่นจริง ๆ

ทำฟิกแตกตื่นเลย ฮ่าฮ่าฮ่า

ดีใจที่ได้เห็นทั้งสามคนวางแผนอนาคตร่วมกันอย่างจริงจัง
ขอให้รักนี้ยืนยง

ออฟไลน์ bvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1

ออฟไลน์ kjkjji

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
จบแล้ว ใจหายเหมือนกันนะ 5555
รู้สึกเหมือนอ่านมานานมากและยังคงอยากอ่านต่อไปเรื่อยๆ
เรายกเรื่องนี้ให้เป็นที่หนึ่งเรื่องพัฒนาการของตัวละครเลย ทุกคนในเรื่องดูโตขึ้น(ในทิศทางที่ดี) ขนาดพี่ภูที่ตอนแรกดูเป็นไม้แก่ดัดยากยังเปลี่ยนไปเลยเพราะความรัก :กอด1: ชอบมากค่ะ ขอบคุณนะคะที่แต่งเรื่องดีๆแบบนี้มาให้อ่าน รอตอนพิเศษต่อไป  :L2:

ออฟไลน์ Wannida

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 220
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
ขอบคุณสำหรับนิยายดีดีค่ะ รอตอนพิเศษ

ออฟไลน์ cowinsend

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 463
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
ขอบคุณสำหรับผลงานดีๆค่ะ กีใจจริงๆที่ติดตามมาจนถึงตอนนี้ ไม่อยากให้จบเลย ขอตอนพิดศษน่ารักๆ หรือภาคต่อไปเลยยิ่งดีค่ะ รักฟิก รักภูติน รักคนเขียนนะคะ :mew1:

ออฟไลน์ manutty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 846
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-0
เอ้อ สรุปงานแต่งญาติติน หรือ งานแต่งของสามหน่อคะ ได้ข่าวร้องเพลง แถมมากันครบครอบครัวสามหน่อ  :laugh: ใจหายนะที่จบแล้ว ยังอยากตามติดชีวิตสามหน่อไปเรื่อยๆ แบบเป็นไดอารี่ประมาณนี้ อ่านไปนานเหมือนอ่านชีวิตจริงๆเลยนะเนี่ย คนเขียน เขียนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของสามหน่อมากๆ ในเรื่องนิสัย การปรับตัว การใช้ชีวิต กว่าจะมาถึงตอนนี้ได้ บอกให้รุ้ว่าต้องปรับมากขนาดไหน ถ้าเป็นชีวิตจริงก็ขออวยพรให้อยู่กันไปนานๆ เลยนะ สามหน่อ ในนิยายก็อยู่นานๆด้วย รอตอนพิเศษนะคะ ที่เคยบอกไว้คืออยากขอให้คนเขียน เขียนถึงตอนที่พี่ภูไม่มีแม่แล้ว ไม่ได้ลำเอียงหรืออยากตอกย้ำ แต่อยากให้เห็นถึง ความรักความห่วงใยของทั้งสามคน ในวันที่คนที่ตัวเองรัก ที่เรียกว่า แม่ จากไป แล้วเยียวยาปลอบประโลมกันอย่างไรถึงผ่านช่วงนั้นมาได้ ถ้าคนเขียนไม่ว่าอะไร สะดวกเขียนให้อ่านหน่อยนะคะ เอาที่คนเขียนสะดวกนะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ LSK

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ตอนจบนี่รวมพ่อแม่ทุกคนเลย  :L1:  :pig4:

ออฟไลน์ npsp2555

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

ออฟไลน์ poohanddew

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
ครอบครัวอบอุ่นจริงๆ
 :katai5: :katai5: :katai5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
เป็นนิยายอีกหนึ่งเรื่อง



ที่เสียดาย
ว่าจบซะแล้ว


ติดตามอ่านจนผูกพันกับทั้งสามหนุ่ม
คิดถึงน่ะ

ออฟไลน์ Aueizii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
คิดถึง สามหน่อ จัง  :mew6: :mew2:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
จบแล้ว ลุ้นมากเลยค่ะ
สามหน่อพากันป่วนสุดๆ ขี้หึงขี้หวงต้องยกให้เค้าเลย แต่น่ารักมากจ้า
ตอนจบก็ลุ้น นึกว่าภูตินจะมีเซอร์ไพรส์อีก

ขอบคุณคนแต่งมากนะคะ รออ่านตอนพิเศษจ้า

ออฟไลน์ Acacha

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
แฮปปี้เอนดิ้งมีความสุข
เป็นครอบครัวอบอุ่นดี  :mew1:

ออฟไลน์ tukkata bambola

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
นู๋ฟิกไม่ต้องแข่งหล่อกับเขาหรอกนู่น่ารักก็พอแล้ว555
เป็นการถ่ายรูปครอบครัวที่ดูน่ารักอบอุ่นมาก :mew3:

ออฟไลน์ ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥

  • เหรียญยังมีสองด้าน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
 :L2: สามหน่อจบลงอีกครั่ง รักกันนานนะสามหน่อ 3p เรื่องแรกที่ตัดสินใจอ่าน คือเรามาถูกทางแหละ ชอบทุกๆตัวละคร แต่ชอบสุดคงต้องยกให้นายเอกของเรื่อง ชอบนิสัย ลักษณะท่าทางฟิกนะ ไม่เหมือนเคะอื่นๆ  :laugh:
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ  o13

ออฟไลน์ Aueizii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อยากอ่านตอนที่ฟิกได้จิ้ม ภูกับตินตอนวันเกิดอายุ25ของฟิกอ่ะค่ะ ^.^

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ไม่ยืดเยื้อเลยค่ะ อยากให้มีต่ออีกด้วย ขอบคุณมากนะคะที่แต่งเรื่องน่าอ่านให้ได้ติดตาม

เป็นชีวิตที่มีสีสันมาก ครบรสทุกคน เป็นช่วงเวลาของการเรียนรู้การใช้ชีวิตด้วยกัน

ตินภูคิดไกลมาก วางแผนดี ฟิกก็เปลี่ยนไป น่ารักดีค่ะ

ออฟไลน์ TiwAmp_90

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 292
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
 :hao7:

ฟิกยิ่งน่ารักขึ้นทุกวันๆ อิอิอิ
ขอให้รักกันนานๆน้าาา .

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Sohso

  • You are my precious thing And I will always love you.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1372
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3
น่ารักมากๆ เป็นครอบครัวใหญ่เลย 5555

ออฟไลน์ Sweettemp

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
กลับมาอ่านอีกครั้ง ก็ยังรัก  :กอด1: เป็น 3p ที่ชอบที่สุดแล้ว อยากอ่านอีกเยอะๆ  :ling1:

ออฟไลน์ DuenTwinBII

  • ♥ “If you can't explain it simply, you don't understand it well enough.”♡
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +624/-4
 


บทส่งท้าย



เสียงกลองและเสียงบูมจากหลายๆคณะดังมาไม่ขาดสาย เป็นบรรยากาศอันแสนคุ้นเคยตามธรรมดาเมื่อเข้าใกล้วันรับปริญญาของพี่บัณฑิต ปกติแล้วผมคงไม่สนใจเท่าไหร่ แต่เพราะว่าปีนี้มันพิเศษกว่าปีไหนๆ ผมจึงต้องยอมบากหน้ามาร่วมซ้อมบูมกับน้องๆปีหนึ่ง ซึ่งไอ้ผมเนี่ยก็ปีสี่แล้ว คงเป็นเรื่องที่แปลกน่าดู

“ทำไมพี่ฟิกมาซ้อมบูมกับพวกผมอ่ะ หรือว่ากิจกรรมไม่ผ่านเลยต้องมาซ่อม”ไอ้เก่งผู้เป็นน้องเทคของไอ้จอมถามด้วยสีหน้าอยากรู้เมื่อเห็นผมมาซ้อมบูมเป็นวันที่สองแล้ว รู้สึกแก่ๆอยู่เหมือนกันวลามารวมกลุ่มกับเด็กปีหนึ่ง

“ไม่ต้องถามมาก กูทำด้วยใจว่ะ”ฟังดูหล่อซะจริงๆ ไอ้เก่งแอบเบ้ปาก ช่วงที่ผมมาซ้อมก็มักจะจับกลุ่มอยู่กับไอ้นี่แหละ และเนื่องจากพักหลังๆผมไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกายสักเท่าไหร่ ช่วงสองวันที่ได้ซ้อมบูม ร่างกายจึงประท้วงอย่างหนัก ทั้งปวดหลังและปวดขา เพราะไอ้การบูมของคณะผมเนี่ยมันค่อนข้างจะเหนื่อย แถมต้องบูมเท่ารุ่นอีก งานนี้มีตายแน่ แต่จะมาโอดโอยให้ขายขี้หน้ารุ่นน้องไม่ได้ แล้วอีกอย่างไอ้ภูกับไอ้ตินเองก็ไม่รู้ด้วยว่าผมแอบมาซ้อม   

“ผมซื้อน้ำมาฝาก”เป็นเรื่องปกติไปซะแล้วที่ไอ้เพชรมันจะซื้อน้ำเปล่ามาให้ผมช่วงหลังซ้อม แต่ก็ไม่มีอะไรไปมากกว่านั้น เพราะผมได้ข่าวมาว่ามันกำลังคบกับรุ่นน้อง ซึ่งเป็นผู้หญิง ไม่ใช่ผู้ชาย แต่ก็ดีแล้วล่ะ หล่อๆแบบมันเสียดายของ

“เออ แล้วพักนี้มึงได้เจอไอ้เบ๊นซ์บ้างไหม”ผมลองถามถึงไอ้เด็กที่หน้าคล้ายตัวเอง ช่วงก่อนๆมันแวะเวียนมากวนตีนผมบ่อยๆ ได้เจอกับไอ้เพชรบ้างบางครั้ง

“ไม่นี่”ไอ้เพชรทำหน้าหงิกเล็กน้อย เวลาไอ้เบ๊นซ์แวะมา ไอ้เพชรจะพยายามไม่เข้ามายุ่ง สงสัยจะไม่ค่อยชอบหน้าไอ้เบ๊นซ์สักเท่าไหร่ ดีเลย เพราะถึงยังไงผมก็ยังเหม็นหน้ามันอยู่ เหอะๆ

“ดีแล้วกูไม่ค่อยชอบหน้ามัน”

“ทำไมครับ พี่หึงเหรอ”ไอ้เพชรถามด้วยเสียงล้อเลียน

“ถุยเหอะ”ผมโบกมือไล่ให้มันกลับไปทำงานได้แล้ว หลังจากที่ซ้อมบูมเสร็จ เปลี่ยนกางเกงเรียบร้อยแล้ว ก็แวะไปหาไอ้เคนกับไอ้ชายที่สตู พอก้าวเข้าปีสี่ อะไรๆก็ยุ่งยากมากกว่าเดิม ไอ้เคนกับไอ้ชายถึงได้ที ล้อผมเรื่องที่เจียดเวลาทำงานทำโปรเจคไปซ้อมบูม ถ้าตอบตรงๆก็ ผมทำเพื่อไอ้ภูกับไอ้ตินนั่นแหละ แต่ไม่ได้ในฐานะแฟน แต่ในฐานะรุ่นน้องต่างหาก ก็แหม นานๆทีผมก็อยากทำเรื่องดีๆบ้าง

“ว่าไงน้องฟิก ซ้อมบูมเสร็จแล้วเหรอ”ไอ้เคนเงยหน้ามาจากจอโน๊ตบุ๊คหลังจากที่หมกมุ่นกับโปรแกรมสามดีอยู่นาน ผมแค่พยักหน้าตอบก่อนทิ้งตัวนั่งลงข้างๆเพื่อน ทุบต้นขาของตัวเองไปด้วย 

“เออ เหนื่อย”ผมบ่น ไอ้ชายโผล่หน้ามาจากโน๊ตบุ๊คอีกคน

“หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง”ผมทำหน้าเหม็นเบื่อเมื่อรู้ว่าเพื่อนจะล้อเรื่องไหน

“กูไม่เห็นหน้าพวกมันสองคนมาเป็นอาทิตย์แล้ว จะเอาหนามที่ไหนมาบ่ง”ผมตอบอย่างอารมณ์เสีย จนไอ้เคนกับไอ้ชายหัวเราะ

“เดี๋ยวนี้ล้อมึงไม่ค่อยสนุกเลยว่ะ”

“เอาเวลาไปสนใจเรื่องตัวเองเถอะ”พักนี้ไอ้ชายมันวุ่นๆเพราะสาวคนใหม่ที่มันคบด้วย ถึงกับกล้าควงสาวนอก ไม่รู้ว่าคุยกันรู้เรื่องรึเปล่า หรืออาจไม่ค่อยได้คุยกันก็ได้

“พูดถึงเรื่องไอ้ชาย ได้ข่าวมาว่าไอ้เบ๊นซ์มันกลับมายุ่งกับมึงอีกแล้วเหรอ”ได้ยินคำพูดของไอ้เคนผมถึงกับหูผึ่ง ไอ้เบ๊นซ์รุกไซต์มินิที่ตามจีบไอ้ชายเมื่อตอนปีหนึ่งนั่นเอง ผมก็แทบลืมเรื่องของมันไปแล้วเหมือนกัน ไอ้ชายชักสีหน้าหงุดหงิดเหมือนทุกทีที่มีคนหยิบชื่อนี้ขึ้นมาพูด

“อย่าพูดถึงมันเลยว่ะ อารมณ์เสีย”ผมกับไอ้เคนเลยไม่เซ้าซี้ถามอะไรอีก ผมคว้าถุงขนมปังของไอ้เคนมาแกะกิน นั่งได้ไม่นาน ไอ้แชมป์เพื่อนในเซคที่ผมไม่ค่อยได้คุยด้วยก็เข้ามาหาที่โต๊ะด้วยสีหน้าตื่นเต้นร้อนใจ

“เฮ้ยไอ้ฟิก กูไปเจอแฟนมึงไปกับผู้หญิงว่ะ”มันหายใจหอบเสียงดัง ก่อนมองมาที่ผมที่ยังคงมีท่าทีเมินเฉย

“เหรอที่ไหน”ผมถามเสียงเอื่อย ไอ้แชมป์มองท่าทีไม่ทุกข์ร้อนของผมด้วยสีหน้างงๆ   

“ร้านเฟื่องฟ้า”ไอ้แชมป์ตอบ ร้านเฟื่องฟ้าเป็นร้านอาหารบรรยากาศหรูอยู่ห่างจากรั้วมหา’ลัยไปไกลโข ผมเองเคยผ่านไปสองสามครั้ง ไอ้เคนกับไอ้ชายหันมามองผมอย่างพร้อมเพียง นั่นไง ไอ้เรื่องสอดรู้ต้องยกให้มันสองคนจริงๆ ไอ้แชมป์เห็นผมยังไม่ขยับ มันก็เสริมต่อ

“ไม่ได้มากันแค่สองคนนะเว้ย แต่มีผู้ใหญ่มาด้วย กูว่างานนี้มีเงื่อนงำแน่ๆ”…มีผู้ใหญ่มาด้วย ใครวะ ผมเริ่มสนใจบ้างเหมือนกัน 

 “ใครวะ ไอ้ภูหรือไอ้ติน”ในที่สุดผมก็ยอมเปิดปาก   

“ไอ้ตินว่ะ แต่กูว่าคนอย่างมันไม่น่าจะนอกใจมึงนะ”ไอ้แชมป์ออกความเห็น ผมมองหน้าเพื่อน พลางครุ่นคิดอยู่ในหัว ก็จริงอย่างที่มันว่านั่นล่ะ อย่างไอ้ตินไม่มีทางทำนิสัยเสียๆแบบนั้นอยู่แล้ว ข้อนี้ผมเบาใจได้แน่นอน เพราะตั้งแต่ที่มันติดแหง็กอยู่กับผมก็ไม่เคยออกนอกทาง แต่เรื่องมันก็น่าสงสัยจริงๆ ผมติดใจตรงที่มีผู้ใหญ่มาด้วยนี่ล่ะ ป๊าม๊าของมันเหรอ? หรือไปคุยเรื่องธุรกิจกัน   

“เออ ไงก็ขอบใจมาก ที่อุตส่าห์มาบอก”หวังดีกันจริงๆไอ้พวกนี้ ไอ้แชมป์ยักไหล่สองสามทีก่อนจะลอยละล่องจากไป ทิ้งเรื่องคาใจไว้ให้ผมกับเพื่อนขี้เสือกอีกสองคน

“น้องฟิกว่าไง”ไอ้ชายถามเสียงล้อเลียน

“เฉยๆ”ผมไหวไหล่

“ถุย หน้ามึงบอกว่าอยากรู้มาก”

“มึงจะไปดูไหม”ไอ้เคนถามยิ้มๆ

“ไปดิ”แต่ผมไม่ได้ไปจับผิดไอ้ตินมัน แค่คิดว่าเรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำแน่นอน




***********************************************







ผมกับไอ้เคนไอ้ชายมายืนด้อมๆมองๆที่ร้านเป้าหมายอย่างคนที่ไม่รู้ว่าจะเอายังไงต่อ

“มึงจะเข้าไปไหมเนี่ย”ไอ้ชายถามเสียงฉุน

“ไป...”ผมลังเลเล็กน้อยเพราะไม่อยากทำตัวเหมือนจับผิดไอ้ติน เพราะคิดแล้วก็หงุดหงิด

“เฮ้อ...ตามมา”ไอ้เคนถอนหายใจก่อนจะนำทัพไปคนแรก ผมยังไม่เคยเหยียบมาร้านนี้เลยสักครั้งเพราะความหรูหราของมันเนี่ยแหละ และทันทีที่ย่างเท้าเข้าไปเสียงไวโอลินไพเราะเพราะพริ้งก็ดังก้อง ผมกับเพื่อนอีกสองคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก เหมือนเข้ามาผิดที่ผิดทาง ยืนเก้ๆกังๆอยู่นาน ไอ้เคนกระตุกเบาๆที่ชายเสื้อ

“เห็นแล้ว นู่นไง”มันพยักเพยิดไปยังโต๊ะใหญ่มุมร้านที่ค่อนข้างสะดุดตา แค่มองปราดเดียวผมก็เห็นไอ้ตินนั่งร่วมโต๊ะกับคนอีกสามคน สีหน้าดูเหมือนไม่สบอารมณ์ ข้างๆตัวมีหญิงสาวผมยาวผิวขาวโดดเด่นนั่งอยู่ สายตาที่มองไอ้ตินบอกชัดเจนว่าเจ้าตัวปลื้มปริ่มเป็นนักหนา ส่วนฝั่งตรงข้ามคนทั้งคู่มีผู้ใหญ่สองคนกำลังคุยกันอยู่ เนื่องจากมองไม่เห็นหน้า ผมเลยไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ดูจากรูปร่างแล้วไม่ใช่ป๊าม๊าของไอ้ตินแน่ๆ ความจริงข้อนี้ทำให้ผมสบายใจไปเปราะใหญ่

“มึงว่ามันมาทำอะไรวะ”ไอ้ชายพึมพำเบาๆอย่างสงสัย ผมรีบกวาดตามองหาโต๊ะว่าง เมื่อเจอก็รีบพุ่งไปจับจองทันที เลือกมุมที่สามารถมองเห็นโต๊ะของไอ้ตินได้อย่างชัดเจน ระหว่างที่ทำทีเป็นเปิดเมนูอาหาร ไอ้ตินก็เงยหน้ามาเห็นผมเข้า ผมยกยิ้มส่งไปให้มัน เจ้าตัวดูแปลกใจก่อนจะหลุดยิ้มสบายตาออกมา

ผมเห็นผู้หญิงข้างตัวของมันทำหน้างง สายตามองมาที่ผมก่อนจะเอ่ยปากถามอะไรบางอย่างกับมัน และนั่นทำให้ผู้ใหญ่อีกสองคนหันมองมาทางโต๊ะของผมด้วย คุณอาท่าทางใจดีคงเป็นญาติ(ฝ่ายไหนไม่รู้)ของไอ้ติน ส่วนอีกคนคงเป็นแม่ของผู้หญิงคนนั้น เดาจากส่วนคล้ายของใบหน้า ดูๆแล้วคงเป็นคุณหญิงคุณนายชัวร์

“เวรกรรม หันมามองหมดเลย”ไอ้ชายทำหน้าไม่ถูก มันนั่งอยู่ข้างผมก่อนจะแย่งเมนูอาหารในมือของผมไปบังหน้าตัวเอง

“กูว่าบรรยากาศแปลกๆว่ะ”ไอ้เคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามชะโงกหน้ามาคุย

“มาคุยธุรกิจกันรึเปล่า”เพราะทั้งไอ้ตินและฝ่ายหญิงแต่งตัวเป็นงานเป็นการ...เอ๊ะ...หรือจะเป็นเรื่องอื่น ผมแอบเหลือบมองไปยังโต๊ะนั้นอีกครั้ง เห็นไอ้ตินคุยอะไรบางอย่าง ก่อนจะยิ้มสุภาพแล้วลุกจากเก้าอี้...มาหาผม

ผมมึนงงไปหมดเมื่อเห็นมันหยุดยืนอยู่ตรงหน้า ไอ้ตินแตะไหล่ผมเบาๆก่อนทำหน้าหงุดหงิดเล็กน้อย

“ป่ะ ไปนั่งเป็นเพื่อนกูหน่อย”

“ห๊ะ มึงจะบ้าเหรอ”ผมเหล่มองโต๊ะนั้นอีกครั้ง เห็นผู้หญิงทำหน้าบึ้งน้อยๆเหมือนไม่พอใจ

“เออน่า...มาเถอะ กูจะได้กลับซักที”มันถอนหายใจเบาๆ สีหน้าแสดงชัดเจนว่ามันเบื่อสุดๆ

“เฮ้ย มันเสียมารยาท”จู่ๆมันก็มาชวนผมที่เป็นคนนอกไปร่วมโต๊ะหน้าตาเฉยซะงั้น ไอ้ตินหัวเราะทันที

“ไม่เคยรู้ว่ามึงมีด้วย อย่าป๊อดน่า ไปกับกูซะอย่าง”ผมไม่อยากให้เสียเวลานานไปกว่านี้ จึงจำต้องตามน้ำไปกับไอ้ตินด้วย ส่วนเพื่อนอีกสองคนก็ถูกลอยแพอยู่ที่โต๊ะนั้นเหมือนตัวประกอบ แต่อย่างพวกมันคงไม่อยากพลาดเรื่องสนุกๆอยู่แล้ว ผมจึงไม่แปลกใจที่เห็นพวกมันสองคนยังคงนั่งอยู่ที่เดิม

“นี่ฟิกเพื่อนผมเองครับ”ไอ้ตินแนะนำเมื่อมาถึงโต๊ะแล้ว แถมยังเน้นคำว่าเพื่อนเป็นพิเศษอีก ผมตีหน้าลำบากสุดๆ ไม่รู้ว่าต้องทำตัวยังไง ไอ้ตินก็บ้าเหลือเกินไม่รู้ว่านึกบ้าอะไรของมัน ทำแบบนี้เหมือนไม่ไว้หน้าผู้ใหญ่ทั้งสองคนเลย แต่ก็น้อยครั้งจริงๆที่มันจะทำนิสัยเสียๆใส่ผู้ใหญ่ ผมได้แต่ยิ้มแห้งให้กับสีหน้าบึ้งตึงของสองแม่ลูก

“นั่งดิ”ไอ้ตินขยับเข้ามากระซิบ มีรอยยิ้มขบขันประดับอยู่บนหน้า นี่มันยังขำออกอีกเหรอ ผมกวาดตามองเห็นว่าไม่มีเก้าอี้ว่างแล้ว กะจะถือโอกาสถอยทัพ แต่ไอ้ตินดันเร็วกว่า มันถือวิสาสะไปยกเก้าอี้จากโต๊ะข้างๆที่ว่างอยู่มาให้ผมแทน การกระทำนี้ของมันทำให้หญิงสาวหน้าบูดกว่าเดิม

“ตามสบายเลยครับ”ไอ้ตินโปรยยิ้มรอบโต๊ะ พาลทำให้บรรยากาศประหลาดกว่าเดิม เป็นอาของไอ้ตินที่ดึงสติมาได้ก่อน ท่านกระแอมเบาๆก่อนจะหันมามองสำรวจผมตั้งแต่หัวจรดเท้า

“หนูฟิกนี่เอง....อาได้ยินเรื่องของเรามาเยอะเหมือนกัน..”ผมนึกคำพูดไม่ออก เพราะคำว่าหนูฟิกที่ออกมาจากปากคุณอาฟังดูพิกล

“แหะๆ หวังว่าจะได้ยินมาแต่เรื่องดีๆนะครับ..”ผมพึมพำพลางยิ้มแห้ง ไอ้ตินหัวเราะเบาๆก่อนจะหันไปพูดกับสองแม่ลูกอย่างนุ่มนวล

“ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ผมพาเพื่อนมารบกวน แต่เพื่อนคนนี้เป็นเพื่อนที่ผมสนิทและรักมาก พอดีไม่ได้เจอกันนาน...”ก่อนที่ไอ้ตินจะร่ายยาวอีกฝ่ายก็ขัดเสียก่อน

“ไม่เป็นไรจ๊ะ”แต่ดูจากสีหน้าแล้วในใจคงด่ามันอยู่แน่ๆว่าเกี่ยวอะไรด้วย

“เพื่อนพี่ตินก็เหมือนเพื่อนฟ้าแหละค่ะ อย่าเคร่งเครียดกันไปเลย ยินดีที่ได้รู้จักนะพี่ฟิก”หญิงฟ้าหันมาทักทายผมด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“เช่นกันครับ”แต่พอดีผมไม่ใช่เพื่อนไอ้ตินน่ะสิ หึๆ

“ว่าแต่เรามีเวลาว่างมาติวให้ยัยฟ้าตอนไหนล่ะ”คุณอาที่นั่งมองมาสักพักเอ่ยถามไอ้ตินทำเหมือนว่าเหตุการณ์ที่ผมโผล่มาแทรกไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

“ช่วงนี้ผมยุ่งๆน่ะครับ อาก็รู้”ไอ้ตินตอบแทบจะทันที หญิงฟ้าทำหน้ายู่ดูน่ารัก ส่วนผมนั่งจิบน้ำเปล่าเงียบๆ

“ถ้าพี่สะดวกตอนไหน ก็ตอนนั้นแหละค่ะ ฟ้าเข้าใจ”ผมถึงกับหลุดยิ้ม เหอะๆ ขนาดผมมันยังไม่ค่อยมีเวลามาหาเลย ลองมันพูดว่ามีเวลาว่างไปหายัยหนูฟ้าสิ ผมเหยียบเท้าไอ้ตินอยู่ใต้โต๊ะข้อหาทำตัวน่าหมั่นไส้ ผมชักเดาที่มาที่ไปของเรื่องนี้ได้แล้วสิว่าเป็นมายังไง

“หิวรึเปล่า”ไอ้ตินกระซิบถามเบาๆ ผมกะจะบอกว่าไม่หิวแต่ดันเห็นสายตาไม่ชอบใจของอาไอ้ตินเข้า ผมจึงยกยิ้มเปลี่ยนใจทันที

“อือ มึงสั่งของอร่อยที่สุดมาให้กูหน่อยซิ”ผมกระซิบกลับ ไม่สนว่าใครจะมองยังไง ในเมื่อไอ้ตินยังไม่แคร์แล้วผมจะคิดมากไปทำไม ไอ้ตินเรียกพนักงานมาสั่งอาหารเพิ่มแต่ล่ะอย่างราคาแพงทั้งนั้น ผมเห็นสายตาของสองแม่ลูกที่มองมาก็ยิ้มสู้ จะบอกว่าผมหน้าหนาล่ะสิที่จู่ๆก็มาสั่งเอาอาหารแพงๆทั้งๆที่ปกติคนทั่วไปต้องเกรงใจ แต่เผอิญผมคือไอ้ฟิก!

“เออ แล้วเมื่อไหร่มึงจะกลับหอ หายหน้าหายตาไปเป็นอาทิตย์”ผมคุยพึมพำกับมันสองคนเหมือนมองไม่เห็นคนอื่น ไอ้ตินยิ้มกว้างดูจะพอใจกับท่าทีของผม

“ก็ว่าจะกลับ...แต่ดันมีเรื่องซะก่อน”เดาว่าต้องเป็นเรื่องนี้แน่ๆ

“อ้อ...”ผมพยักหน้า ปล่อยให้ไอ้ตินคอยพะเน้าพะนอเหมือนตัวเองเป็นง่อย ผมล่ะอยากหัวเราะดังๆเวลาเห็นสีหน้าของสองแม่ลูกและอาไอ้ติน เหลือบไปเห็นไอ้เคนกับไอ้ชายกำลังมองมา มันสองคนยกนิ้วโป้งให้ ผมทำเสียงหึอย่างหงุดหงิด พวกมันต้องหาเรื่องมาล้อผมอีกแน่ๆ

“แล้วทางพี่ภูว่าไงบ้าง”ไอ้ตินถามเสียงเอื่อยๆ หันไปมองก็เห็นว่ามันจ้องหน้าผมอยู่

“เหมือนมึงนั่นแหละ”หายหัวพอกันทั้งคู่ น่าหงุดหงิดไหมล่ะ!

“ตกลงว่าพี่ตินจะรับข้อเสนอไหมคะ”หญิงฟ้าถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด หลังจากที่เงียบอยู่นานสองนาน ว่าแต่ข้อเสนออะไรกัน?

“อืม...ข้อเสนอนั้นน่ะเหรอ...ลองถามพี่ฟิกดูสิ พี่เขาว่าไง พี่ก็ว่างั้นแหละ”ไอ้ตินโบ้ยมาให้ผมหน้าตาเฉย

“ติน…”คราวนี้อาของมันดุเสียงเข้ม สีหน้าจริงจังมองมาที่ผมกับไอ้ติน

“ผมเคยบอกอาไปแล้วนี่ครับ แล้วที่ผมรับปากอามาวันนี้...ก็เพราะว่าป๊าขอร้องมา”มันไหวไหล่ ผมย่นคิ้วเมื่อได้ยินคำว่าป๊า อย่าบอกนะว่าป๊ามันเห็นดีเห็นงามด้วย

“ตกลงจะยังไงกันคะ ไว้หน้ากันบ้างเถอะ”คุณหญิงโพล่งออกมาเดือดๆ

“อาพูดเองแล้วกัน ต้นเหตุนี่”ไอ้ตินยิ้มก่อนกลับมาสนใจผมต่อ ผมเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

“เดี๋ยวเล่าให้ฟัง กินให้อิ่มก่อน”ไม่รู้ว่ามันจงใจหรือเปล่า แต่ผมหน้าชาไปทั้งแถบเมื่อนิ้วมืออุ่นๆของมันแตะเข้าที่ริมฝีปากของผม

“กินเลอะเทอะเป็นเด็กไปได้”ไม่ใช่แค่ผมแน่ๆที่อ้าปากค้าง แล้วเชื่อเถอะว่าไม่มีอะไรเปื้อนแม้แต่นิด มันก็แค่อยากแกล้งผม แกล้งอา แกล้งยัยน้องฟ้าแค่นั้นเอง

“เชี่ย”ผมด่ากลับเบาๆ ปัดมือมันออก ไอ้ตินนะไอ้ติน ไอ้สารเลว!

มีเสียงเก้าอี้เลื่อนออกเสียงดัง มองไปเห็นสองแม่ลูกหน้าแดงก่ำก่อนจะพากันเดินหนีออกไปจากโต๊ะ ยัยน้องฟ้าหันมามองไอ้ตินด้วยแววตาเสียดายและถลึงตาใส่ผมก่อนจากไป ทิ้งไว้แค่ความเงียบ ผมไม่มีอารมณ์จะกินต่อเพราะมีสายตาของอาไอ้ตินจ้องมองอยู่

“คิดว่าทำถูกกันแล้วเหรอ”น้ำเสียงเหมือนสั่งสอนดังขึ้น

“ก็ผมบอกอาไปแล้วนี่ครับว่าผมมีแฟนแล้ว ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมอาต้องวุ่นวายยัดเยียดคนอื่นมาให้ผมด้วย ขนาดป๊ากับม๊ายังยอมรับเรื่องนี้ได้เลย อีกอย่างผมกับฟิกก็คบกันมานานแล้ว ผมเป็นแบบนี้ตั้งนานแล้ว อามาเปลี่ยนตอนนี้มันก็สายไปแล้วครับ ผมไม่อยากพูดแบบนี้หรอกนะอา...” ไอ้ตินตอบด้วยเสียงแข็งๆก่อนถอนหายใจยาว ผมคงต้องมองใหม่แล้วล่ะ ไอ้ตินโหมดก้าวร้าวกับผู้ใหญ่ทำผมแปลกใจอยู่เหมือนกัน

“อาแค่หวังดี แต่ก็พูดได้ไม่เต็มปาก ก็อย่างที่เราว่า พ่อแม่แท้ๆของเรายังปล่อยผ่านได้...” 

“ไม่ใช่ปล่อยผ่านครับ เขาเรียกว่ายอมรับต่างหาก”ผมแทรกเบาๆ อาถอนหายใจบ้าง สงสัยบ้านนี้ติดเชื้อถอนหายใจแน่ๆ

“อาไม่ได้อยากจะต่อต้านพวกเรานะ สงสัยอาคงหัวโบราณเกินไป....”ท่านพึมพำเบาๆก่อนดื่มน้ำตาม

“ผมขอโทษด้วยล่ะกันที่พูดจาไม่ดี แต่ผมไม่ใช่เด็กๆแล้วนะอา” 

“เป็นซะแบบนี้...แล้วไม่อยากอุ้มลูกกันหรอกเรอะ”ท่านนวดขมับเบาๆ

“อีกตั้งนาน ผมยังไม่ได้คิด แต่ถ้าเกิดผมอยากมีลูกจริงๆ ผมก็หาทางมีจนได้น่า...”แปลกหูจริงๆ ผมไม่ชินจริงๆว่ะครับเวลาไอ้ตินพูดแบบนี้กับผู้ใหญ่ สงสัยโดนภาพลักษณ์เทวดาของมันหลอกเอาแน่ๆ แต่คุณอาคนนี้ก็ดูไม่ตกอกตกใจหรือโกรธที่ไอ้ตินพูดจาทำนองนี้ 

“แล้วเราล่ะ ไม่อยากมีลูกหรือ”อาหันมาถามผมบ้าง

“ผมไม่ค่อยชอบเด็กเท่าไหร่...”ผมตอบอย่างลังเล ท่านมองหน้าผมกับไอ้ตินอยู่สักพักก่อนจะถอนหายใจอีกรอบ

“เด็กสมัยนี้....”ท่านบ่นพึมพำก่อนจะค่อยๆลุกจากโต๊ะออกไปด้วยท่าทางอ่อนล้า

“แล้วมาได้ไง”ไอ้ตินหันมาถามเมื่ออยู่กันสองคน...ไม่สิ ยังมีเพื่อนจอมเสือกนั่งมองอยู่

“กูมีสาย ทำอะไรก็ระวังตัวไว้ล่ะ”ผมเหลือบมองข่มขู่ มันหัวเราะเสียงดัง

“เหรอ...แสดงว่าสายมึงพลาด”มันทำสีหน้าแพรวพราว

“อย่ามาเล่นตลก”ผมมองมันอย่างอารมณ์เสีย

“เออ กูพูดเล่น เหนื่อยจะแย่จะเอาเวลาที่ไหนไปซุกกิ๊กล่ะ” 

“ไม่โปรเอาซะเลย”ผมกวนกลับบ้าง ไอ้ตินชกไหล่ผมเบาๆ มันถอดเสื้อสูทเป็นการเป็นงานของมันออก เหลือเพียงเสื้อเชิ้ตสีอ่อน 

“ช่วงที่ไม่ได้กลับหอ กูไปค้างที่บ้านมา มีเรื่องต้องปรึกษาป๊าเยอะแยะไปหมด”มันถอนหายใจดังพรืดอีกรอบ

“กูไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”

“บอกเฉยๆ”

“เออ แต่เมื่อกี้กูตกใจเลยนะ ไม่คิดว่าพี่ตินผู้แสนดีจะทำตัวไม่น่ารักใส่ญาติผู้ใหญ่”มันมุ่นคิ้วทันทีที่ได้ยินผมพูด

“กับอาคนนี้ก็เป็นแบบนี้แหละ ชอบยัดเยียดผู้หญิงให้กู แถมวันนี้อารมณ์ไม่ค่อยดีด้วย”มันทำเสียงเหนื่อยหน่าย ไม่ยักรู้ว่ามันโดนยัดเยียดบ่อยๆหรือมันกลัวผมจะคิดมากเลยไม่กล้าบอก 

“แล้วข้อเสนอที่ว่าคือ...” 

“ออกแรงสร้างธุรกิจให้ บวกตำแหน่งลูกเขย”มันย่นหน้าเหมือนไม่ชอบใจ

“อื้อหือ ใจป้ำจริงๆ แบบนี้มึงก้าวหน้าไวเลยนะ”ไอ้ตินส่งเสียงเหอะออกมาเบาๆ

“กูมีเป้าหมายของกูอยู่แล้ว”ผมมองหน้าไอ้ตินอยู่ครู่นึง ตอนที่มันพูดมันดูมุ่งมั่นมาก

“อ้อ...การทำงานกับเจ้าคุณนี่นับด้วยไหม”ผมได้ทีหยิบยกเรื่องนี้มาพูด ผมยังไม่ลืมไอ้เจ้าคุณง่ายๆหรอก เสือร้ายตัวนั้นน่าสยองออกปานนั้น

“เรื่องนี้ไม่ต้องห่วง...” ไอ้ตินมันเคยบอกผมว่าจะร่วมงานกับเจ้าคุณตามที่รับปากไว้แน่นอน แต่จะรอให้ฝ่ายนั้นแต่งงานเสียก่อน ผมไม่อยากจะคิกว่าจะมีวันนั้นไหม อย่างเจ้าคุณเนี่ยนะจะแต่งงาน? เป็นไปไม่ได้แน่ๆ แต่ไอ้ตินดูมั่นใจมาก เพราะกิจการของเจ้าคุณค่อนข้างใหญ่ จำเป็นต้องแต่งงาน ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ผู้หญิงคนนั้นในอนาคตของมันคงน่าสงสารมากๆแน่

“ช่วงนี้ไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกัน มึงเหงาไหม”ไอ้ตินพึมพำเบาๆเคาะนิ้วกับโต๊ะเบาๆเข้ากับจังหวะเสียงเพลง ผมเหล่มองคิดจะหลอกล่อให้ผมเผยไต๋ล่ะสิ ไม่เอาด้วยหรอกเว้ย

“งานกูออกจะเยอะแยะ ไม่มีเวลานั่งเหงาหรอก”ผมทำเสียงหึในลำคอ เอาเข้าจริงๆ ก็มีเบื่อๆบ้างเพราะทั้งไอ้ตินและไอ้ภูต่างก็เริ่มมีงานทำแล้ว ฝั่งไอ้ภู ได้พี่ภักกลับมาช่วยงานบริษัทแล้ว มันเองเลยไม่รีบ อยากเก็บเกี่ยวประสบการณ์การทำงานที่บริษัทอื่นก่อนค่อยกลับมาช่วยงานบางส่วนของพ่อมัน เพราะจะให้พี่ภักดูแลทั้งหมดก็ไม่ได้

อีกอย่างช่วงนี้สถานการณ์ที่บ้านมันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ มันไม่ได้ทะเลาะกับพ่อมัน แต่เพราะเรื่องสุขภาพของแม่ที่ไม่ค่อยดี แม่ไอ้ภูป่วยเป็นเบาหวาน และมีความเสี่ยงว่ามีโรคแทรกซ้อนสูง พักนี้บรรยากาศในบ้านมันเลยหนักอึ้งไปหมด นึกแล้วก็เครียดเหมือนกัน เรื่องแบบนี้ก็ไม่รู้จะพูดยังไงกับมันเหมือนกัน ผมเองก็ปลอบใจคนไม่เก่งด้วย ผมเผลอถอนหายใจออกมาเมื่อนึกถึงไอ้ภู นี่มันก็หายหน้าหายตาไปเป็นอาทิตย์แล้วเหมือนกัน

“เครียดเรื่องพี่ภูเหรอ”ไอ้ตินถามหลังจากที่เห็นท่าทีกลุ้มใจของผม

“เฮ้อ...ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้าง กูกลัวแค่ว่ามันจะเครียดจนหาเรื่องทะเลาะกับพ่อมันอ่ะดิ”นิสัยไอ้ภูก็รู้ๆกันอยู่

“วางใจน่า พี่เขาคงไม่ว่างขนาดนั้นหรอก”

“มึงรู้จักมันน้อยไปซะแล้ว” 

“ตอนนี้อะไรๆมันยังไม่เข้าที่ เลยดูวุ่นๆไปหมด ถ้าหมดเรื่องแล้วเดี๋ยวก็ดีเอง”ไอ้ตินปลอบ ผมพยักหน้าช้าๆ ก็หวังว่าอย่างนั้นเหมือนกัน

คืนนั้นไอ้ตินแวะมานอนเป็นเพื่อนผม สงสัยกลัวผมจะเหงาล่ะมั้ง อันที่จริงผมก็โหวงอยู่บ้างที่ไม่ได้อยู่ป่วนพวกมันแบบทุกที แต่ก็นะ ผมก็เข้าใจว่าพวกมันต้องทำงาน ทุกวันนี้ห้องหอ เฮ้ย ห้องนี้กลายเป็นแค่ห้องของผม ไม่ใช่ห้องของผมกับพวกมันอีกแล้ว ผมตะหงิดแปลกๆว่าอีกไม่นานระหว่างที่มันสองคนทำงานต้องย้ายไปอยู่ที่ใหม่ ที่สะดวกกับการเดินทางมากขึ้นแน่ๆ บ้านที่วางแผนไว้ก็ยังสร้างไม่เสร็จเสียด้วย ผมจึงทำใจไว้พอสมควร จะว่าไปการเป็นผู้ใหญ่ก็ยากเอาการเหมือนกันแฮะ!






(มีต่อ)

 

ออฟไลน์ DuenTwinBII

  • ♥ “If you can't explain it simply, you don't understand it well enough.”♡
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +624/-4
******************************************************






ตารางชีวิตของผมวนเวียนซ้ำๆไปมาคือ ปั่นโปรเจค ช่วงเย็นปลีกมาซ้อมบูมจนตอนนี้ผมชักชินซะแล้ว จะว่าไปก็สนุกดี ไอ้พวกปีหนึ่งก็กล้ามาตีสนิทกล้าเล่นหัวกับผมมากขึ้น เห็นทีผมต้องเข้มมากกว่านี้แล้วล่ะ เมื่อถึงช่วงพักผมกับเดอะแก๊งปีหนึ่งก็มานั่งกินน้ำกินขนมที่ใต้อาคาร

“หวัดดีพี่ฟิก”ไอ้ขวัญเข้ามาทักก่อนจะหย่อนก้นลงข้างๆผม

“มาทำไม”ผมปาถุงขนมใส่มันแก้เบื่อ

“มาดูน้อง”มันเชิดหน้าตอบ แจกยิ้มให้พวกไอ้เก่ง

“จะว่าไปพี่ฟิกก็ลงทุนเหมือนกันนะเนี่ย”มันเริ่มหาประเด็นมาพูด ผมไม่ค่อยอยากให้คนอื่นรู้ว่าผมมาซ่อมบูมเพราะอะไรเท่าไหร่ พอได้ยินมันพูดผมจึงตบไหล่มันเต็มแรง

“โอ๊ย อะไรเนี่ย”มันมองค้อนผมก่อนจะยิ้มชั่ว   

“ถ้าพี่ตินกับพี่ภูรู้ว่าพี่ฟิกทำแบบนี้คงตกใจแน่ๆ”

“เดี๋ยวเถอะ ไอ้ขวัญ”ผมยกขวดน้ำในมือขู่ พวกไอ้เก่งทำหน้าอยากรู้ทันที

“อะไรยังไง พี่ขวัญบอกมาเลย พวกผมเคลียร์กับพี่ฟิกเอง”ไอ้เก่งพูดจบ เดอะแก๊งค์ปีหนึ่งสี่ห้าคนก็เข้ามาล็อคแขนล็อคขาผมทันที ไอ้เก่งคว้าเอวผมไว้มั่น

“เฮ้ย พวกมึงปล่อยกูเดี๋ยวนี้เลย กูหลุดไปเมื่อไหร่โดนเตะเรียงตัวแน่”จากนั้นผมกับพวกมันก็ต่อสู้กันอย่างดุเดือด ไอ้เด็กพวกนี้แรงเยอะกันจริงๆ ไอ้ขวัญหัวเราะเสียงดังเมื่อทั้งผมและไอ้เด็กพวกนั้นล้มกลิ้งกองกับพื้น

“พวกเชี่ย”ผมด่าเสียงดังเพราะใครไม่รู้แกล้งดึงกางเกงวอร์มเก่าๆของผม ระหว่างที่กำลังชลมุนนั่นเอง เสียงตวาดก็ดังขึ้น

“เล่นเหี้ยอะไรกัน”ใจร่วงไปอยู่ตาตุ่มทันที เสียงนี้ผมจำได้ดีไม่ใช่ใครนอกจากไอ้ภู

“พวกมึง...ออกไปไกลๆเลย”ผมหอบแฮ่ก พยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้น แต่คงดูน่าอนาถเพราะไอ้พวกปีหนึ่งก็ดึงดันอยู่ใกล้ๆ ไอ้เก่งโดนผมทับอยู่ด้วย สมน้ำหน้า

“พวกมึงทำอะไรแฟนกู หือ”ไอ้ภูเข้ามาฉุดให้ผมยืนขึ้น ผมรีบดึงกางเกงให้เข้าที่เข้าทาง พวกไอ้เก่งอึ้งไปตามๆกันที่ได้ยินคำว่าแฟน คือไอ้พวกนี้ไม่รู้เรื่องของผมเลยสักติ๊ด ผมมองไอ้คนตรงหน้า มันดูหงุดหงิดและขบขัน ผมชกไหล่มันเต็มแรง ข้อหาหัวเราะผม

“กูนึกว่ามึงตายห่าไปแล้ว”ผมทักเสียงฉุน พยายามเบี่ยงประเด็น ไอ้เก่งมองผมตาปริบๆ

“กูไม่ตายง่ายๆหรอก ยังไม่ได้เห็นหน้ามึงเลยจะตายได้ไง”มันยิ้ม คิดว่าพูดแบบนี้แล้วผมจะเคลิ้มรึไง เหอะ ผมเหลือบมองไอ้ขวัญที่ยิ้มเขินเหมือนเมากัญชา ผมเห็นมันยิ้มแบบนี้ทีไรเป็นต้องหงุดหงิดทุกที

“เดี๋ยวๆพี่ นี่แฟนพี่ฟิกจริงดิ”ไอ้เก่งชี้ไปที่ไอ้ภู

“ของแบบนี้มีปลอมด้วยเหรอ ทำไม มึงมีปัญหารึไง”ไอ้ภูหันไปมองหน้าไอ้เก่งเขม็งจนมันหัวหด

“เปล่าครับพี่” ไอ้ภูมองหน้าไอ้เก่งกับผองเพื่อน พวกมันไม่รอช้ารีบสลายตัวทันควัน

“มึงนี่ก็นะ...ทำน้องกูหัวหดหมด”ผมทิ้งตัวนั่งที่เก้าอี้ตามเดิม   

“แต่ถ้าเป็นมึง กับกูก็ไม่หดใช่ไหม”มันยิ้มชั่วตามแบบฉบับ ผมถลึงตามอง ไอ้ขวัญได้ยินเข้าพอดีมันก็ไม่กล้าอยู่ต่อรีบก้มหน้าก้มตาหลบฉากออกไป

“มึงพูดถึงอะไร กูใสๆ”ผมทำหน้าซื่อ มันเบ้ปาก พอเห็นสีหน้าสดชื่นแบบนี้ของมันแล้วผมก็เบาใจได้เยอะเพราะแสดงว่าเรื่องที่บ้านของมันไม่หนักหนาแล้วแน่ๆ

“ถ้าอย่างมึงใสนี่ กูคงโปร่งแสงแล้วไอ้หนูเอ้ย”กวนตีนจริงๆ แฟนใครวะ ผมจะไม่ยิ้มต่อหน้ามันเด็ดขาด

“มึงมาทำไม” 

“คิดถึง”

“กูไม่เห็นจะคิดถึงมึงเลย”ผมไหวไหล่ทำเหมือนชิวๆ ไอ้ภูยิ้มเยาะทันที มันยื่นหน้าเข้ามาใกล้

“เหรอ…พอดีมีคนมาบอกกูว่ามึงคิดถึงกูจะแย่แล้ว กูเลยกะโผล่หน้ามาให้เห็นซะหน่อย กลัวคนแถวนี้จะตายเพราะทนคิดถึงไม่ไหว”ผมถึงกับหัวเราะเสียงดัง

“มั่นใจขนาดนั้นเลย?”ผมยักคิ้วใส่

“เออดิ ลองตอบว่าไม่คิดถึงกูสิ ได้กินหน้าแข้งกูแน่ๆ”

“อย่าเพิ่งโหด”ผมยกมือห้าม ไอ้ภูมองซ้ายมองขวาเมื่อเห็นว่าไม่มีคน มันก็เข้ามากอดผมแน่นๆ หอมแก้มไปสองสามทีด้วยความไวแสง ผมรีบมองไปรอบๆตัวทันทีเพราะกลัวว่าไอ้พวกเดอะแก๊งค์จะอยู่แถวนี้ พอไม่พบใครผมจึงระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก

“แล้ว…ที่บ้านมึงโอเคแล้วใช่ไหม”ผมไม่กล้าถามถึงอาการป่วยของแม่มันตรงๆ ไอ้ภูยิ้มก่อนจะคว้ามือผมไปบีบเล่น

“อือ ดีขึ้นเยอะ”มันถอนหายใจเบาๆก่อนพูดเสริม

“กูนี่แย่เนอะ”

“เฮ้ย ไม่เอาดิ”ผมไม่ชอบเวลามันเครียดเลย ไอ้ภูเหม่อมองไปไกล

“กูไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าแม่ป่วย ลูกแบบไหนกันวะ ดีแต่สร้างความเดือดร้อนให้ กูไม่เคยทำเรื่องให้แม่สบายใจเลย”ไอ้ภูดูเสียใจจริงๆเวลาที่พูดถึงเรื่องนี้ ผมบีบฝามือของอีกฝ่ายเบาๆ

“ตอนแรกกูไม่อยากกลับมาทำงานที่บริษัทพ่อหรอก แต่เพราะแม่ กูเลยอยากทำ อย่างน้อยแม่กูจะได้สบายใจซักที”

“ที่กูพูด ไม่รู้ว่ามึงจะเชื่อรึเปล่า แต่มึงรู้ไหมว่าแค่ที่มึงเป็นอยู่ แม่มึงก็ภูมิใจแล้ว”ถึงท่านไม่พูด ผมก็รู้ จากคนที่ไม่เอาอะไรเลยอย่างไอ้ภู เปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ ก็นับว่าดีแล้ว

“ไอ้ฟิก กูไม่อยากปล่อยให้มึงอยู่คนเดียวหรอกนะ แต่ช่วงนี้ชีวิตกูวุ่นวายชิบ กูนึกว่าเรียนจบแล้วจะสบายซะอีก กูต้องเข้าๆออกๆบ้าน ที่ทำงาน บริษัทพ่อ จะปล่อยให้พี่ภักดูคนเดียวก็ยังไงอยู่…”ผมมองใบหน้ากลัดกลุมของมันก็พอจะรู้ว่ามันยังมีเรื่องอื่นที่ต้องพูดอีก 

“มึงมีอะไรจะพูดก็ว่ามา”ผมรอฟังอย่างตั้งใจ มันกัดริมฝีปากเหมือนลังเลที่จะพูด

“มึงแอบซุกกิ๊กบ้างรึเปล่า”

“ไอ้ภู อย่าลีลา”รู้หรอกว่ามันไม่ได้อยากพูดเรื่องนี้ ไอ้ภูกระแอมประวิงเวลาสองสามครั้ง

“กูต้องย้ายหอว่ะ”

“อ้อ…”ผมใจหายเหมือนกัน ถึงจะเคยคิดอยู่บ้างแต่ไม่คิดว่าจะเร็วปานนี้

“ระยะทางที่หอมึงกับที่ทำงานกูมันค่อนข้างห่างกัน กูไม่อยากจะย้ายเลยจริงๆ พักนี้ไอ้ตินก็ยุ่งด้วย กูกลัวมึงจะพาเด็กมาซุก”ไอ้ภูพยายามทำเสียงกวนประสาท

“เออ กูเข้าใจน่า คิดว่ากูจะร้องไห้งอแงไม่ให้มึงไปหรือไง”ขำเหมือนกันที่เห็นมันพยายามอธิบายแบบนี้

“ไอ้ฟิกมึงนี่ไม่เข้าใจหัวอกกูซะเลย”มันดูอารมณ์เสียที่ผมไม่บิ้วไปกับมันด้วย

“มึงไม่ได้ไปเมืองนอกเมืองนาซะหน่อย”ผมคงต้องเร่งเก็บเงิน สร้างบ้านให้เสร็จเร็วๆแล้วล่ะครับ ผมเป็นโรคประหลาด ไม่อยากอยู่หอเงียบๆคนเดียว

“มึงทำงานเสร็จหรือยัง”มันชวนคุย

“ยัง”

“พอดีกูกะจะไปเก็บของบางส่วน”

“เชี่ยภู”ผมเกิดอารมณ์หมั่นไส้ เลยเตะมันไปเต็มแรงที่หน้าแข้ง มันไม่ได้ตั้งตัวจึงไม่ทันได้หลบโดนไปเต็มๆ

“สัดฟิก มึงจะฆ่ากูเหรอ”มันน้ำตาคลอหน่วย ลูบหน้าแข้งตัวเองป้อย ๆ

“มึงจะกลับหอไปเก็บของก็กลับไปดิ กูจะไปทำงานแล้ว”อยู่ๆก็หงุดหงิดขึ้นมาซะงั้น

“ไม่เอา กูรอให้มึงทำงานเสร็จแล้วค่อยกลับพร้อมกัน”มันเดินตามหลังผมมาต้อยๆ ผมพ่นลมหายใจแรงๆ

“ของมึงเยอะมากเลยเหรอ ถึงต้องเก็บออก”ผมหันไปถาม

“ลืมแล้วรึไงว่ากูแทบขนมาจากบ้านหมด”มันเข้ามากอดคอผม ก่อนจะกระซิบเบาๆ

“มึงไม่อยากให้กูย้ายใช่ไหม”ผมทำเสียงฮึดฮัดในลำคอ

“กูให้ขนแค่เสื้อผ้าไป”คงจะแปลกอีกนั่นแหละ ถ้าในห้องของผมไม่มีของๆพวกมัน ไอ้ภูตามมาเฝ้าผมปั่นงานจริงๆ พวกไอ้เคนมองเป็นตาเดียว แต่ไม่ปริปากแซวเพราะเห็นสีหน้าไม่สบอารมณ์ของผม ไอ้ภูเดี๋ยวก็คุยกับพี่ภักเรื่องรถ เดี๋ยวก็คุยกับพ่อมันบ้าง ผมพยายามเงียหูฟังก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง มีมันมาป้วนเปี้ยนใกล้ๆ งานของผมไม่เดินเลยสักนิด สุดท้ายจึงล้มเลิกกลับพร้อมกับมันเลย

ไอ้ภูรู้ว่าผมอารมณ์ไม่ดีจริงๆ มันจึงไม่กวนประสาทผมมาก ถึงห้องปุ๊บมันก็เริ่มเก็บข้าวเก็บของที่จำเป็นบางส่วนของมัน ผมนั่งมองมันเงียบๆอยู่ที่โซฟา โทรทัศน์เปิดไว้แต่ไม่ได้ดู บอกไม่ถูกเหมือนกันว่ารู้สึกยังไง 

“มึงหงุดหงิดอะไรเนี่ย”ในที่สุดไอ้ภูก็เงยหน้าถาม มันเพิ่งยัดเสื้อใส่กระเป๋าเสร็จพอดี

“เปล่า”ผมไหวไหล่ แค่…รู้สึกว่ามันหายหน้าไปนาน โผล่มาให้ผมดีใจเล่น แล้วก็บอกว่าจะย้ายออก ปกติผมก็ไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อยขนาดนี้…ไอ้ฟิกคนเก่ากับไอ้ฟิกตอนนี้ต่างกันมากจริงๆ

“ไอ้ฟิก”จู่ๆมันก็เดินเข้ามาตะโกนใส่หูใกล้ๆ จนผมสะดุ้งโหยง   

“อะไร แค่นี้ตกใจเหรอ”มันหัวเราะเบาๆ ผมถอนหายใจก่อนจะจ้องหน้าไอ้ภูเขม็ง เพิ่งสังเกตจริงๆว่ามันตัดผมใหม่ สงสัยเอาแต่หงุดหงิดมันแน่ๆ

“มึงตัดผมใหม่เหรอวะ”ตอนนี้หน้ามันเกลี้ยงเกลาใสกว่าเดิม เหมือนจะดูเด็กลงด้วย

“กูรอให้มึงทักตั้งนานแล้วเนี่ย ใกล้วันสำคัญทั้งที กูก็ต้องดูดีหน่อยเป็นธรรมดา”ไอ้ภูเข้ามานั่งใกล้ๆ มองดูผมสักพักก่อนจะเข้ามากอดหลวมๆ

“เฮ้ย ดูหนังอยู่”ผมแกล้งทำเหมือนไม่พอใจ

“แค่กอดเอง”ว่าแล้วมันก็เอาหน้ามาซุกใกล้ๆ 

 “มึงไม่ต้องคิดมากนะ..”มันพูดเบาๆ

“กูไม่ได้คิดมาก มึงบ้ารึเปล่าเนี่ย”

“แล้วที่หงุดหงิดอยู่นี่คือ…เฮ้อ ไอ้หมาฟิกของกู”มันกัดแก้มผมเบาๆเหมือหมั่นเขี้ยว 

“กูวางแผนอนาคตไว้แล้ว”

“โห ไอ้ภู ไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดแบบนี้ออกมาจากคนอย่างมึงเลยนะ”ไอ้ภูเลิกคิ้วหัวเราะเบาๆ

“เออ คนอย่างกูก็จริงจังเป็นเหมือนกัน อยากเก็บเงินไว้แต่งเมีย”อีกแล้ว มันชอบพูดทำนองนี้อีกแล้ว ยิ่งมันรู้ว่าผมไม่ชอบมันก็ยิ่งกวนประสาท ผมส่งสายตามืดมนไปให้ ด่ามันแบบไม่ออกเสียง ไอ้ภูเข้ามาประชิดตัว แกล้งล็อคแขนผมหลวมๆ แต่ก็อย่างที่รู้ๆกันว่ามันแรงควายแค่ไหน ทำเอาผมเจ็บแขนนิดหน่อย ผมขยับแขนไปมา จนไอ้ภูคลายแขนออก ก่อนเปลี่ยนมาขบเม้มที่ริมฝีปากแทน ลิ้นอุ่นสอดแทรกเข้ามาอย่างรวดเร็ว ผมเบือนหน้าหนีเพราะเดี๋ยวจะเตลิดช่วงนี้ยิ่งห่างๆมันอยู่ อีกอย่างคือผมยังต้องซ้อมบูมครับ จะเสียแรงไปเปล่าๆปลี้ๆไม่ได้ นี่ผมทำเพื่อมันเลยนะ

“มึงนี่หัดเล่นตัวเป็นด้วยนะ”ไอ้ภูกระซิบ เอื้อมมือมาบีบก้นผมเต็มแรง

“ไอ้เชี่ยภู”ผมปัดมือมันออกอย่างหงุดหงิด ไอ้ภูยิ้มอย่างนึกสนุก

“แค่นี้โวยวายไปได้”

“กูจับตูดมึงบ้างได้ไหมล่ะ”ว่าแล้วผมก็ยื่นมือหมายจะจับก้นไอ้ภู แต่มันวิ่งหนี จนเหนื่อยด้วยกันทั้งคู่ถึงหยุด รอจนมันปรับลมหายใจได้ถึงพูดต่อ

“อีกไม่กี่วันจะใกล้ถึงวันรับปริญญา กูต้องกลับไปค้างที่บ้าน”มันยิ้มกว้างแบบที่ไม่ค่อยได้เห็นนัก นึกถึงว่าพ่อกับแม่มันต้องปลื้มมากแน่ๆ ผมยิ้มตามมัน เท่าที่รู้มาไอ้ตินรับช่วงเช้า ส่วนไอ้ภูรับช่วงบ่าย ผมตัดสินใจแล้วว่าจะปล่อยให้ที่บ้านมันเป็นคนดูแลพวกมันไปล่ะกัน เรื่องของเรื่องผมขี้เกียจเป็นเบ้พวกมัน ไหนจะมีเรื่องบูมอีก จบงานเมื่อไหร่ผมค่อยเข้าไปแสดงความยินดีกับพวกมัน ผมอารมณ์ดีเล็กน้อยเมื่อคุยเรื่องนี้

“ไว้หลังจบงาน กูจะกลับมาคิดบัญชี”มันพูดแค่นี้ก็กลับไปเก็บของบางส่วนต่อ กำลังอุ่นใจมันกลับทำให้ผมรู้สึกอึนๆมึนๆอีกแล้ว หรือว่าพักนี้ผมพักผ่อนน้อยไป

ไม่ได้เรื่องกันทั้งคู่เลยเว้ย ทั้งไอ้ภู ทั้งไอ้ติน






******************************************************






งานรับปริญญา

ผมต้องตื่นแต่ไก่โห่เพื่อไปรวมตัวกับรุ่นน้องที่คณะ ตอนนี้ทั่วทั้งม.เต็มไปด้วยบรรยากาศครึกครื้นอิ่มเอมใจแปลกๆ ผมรู้สึกแบบนี้เป็นครั้งแรก ปีที่แล้วๆมาผมมองว่าน่ารำคาญด้วยซ้ำ เพราะทำให้รถติดและคนเยอะมากกว่าทุกวัน แต่ปีนี้ต่างไปจริงๆ คงเพราะเป็นวันสำคัญของคนสำคัญทั้งสองคนของผมล่ะมั้ง ตอนนี้ผมปิดโทรศัพท์ไว้ กันพวกมันโทรมากวน

บรรยากาศในคณะก็ครึกครื้นเช่นกัน บริเวณโดยรอบมีซุ้มต้อนรับพี่บัณฑิตอยู่หลายซุ้ม ผมเห็นพี่บัณฑิตในชุดครุยแล้วนึกถึงไอ้ภูกับไอ้ตินขึ้นมา ผมยังไม่เห็นมันสองคนใส่ชุดครุยเลย แต่มั่นใจว่าต้องดูดีแน่ๆ

“พี่ฟิกก็ตื่นเต้นเหมือนกันอ่ะดิ”ไอ้เก่งนั่งอยู่ข้างๆพูดขึ้นมา

“จะตื่นเต้นทำไม กูเห็นมาหลายปีแล้ว”ผมทำหน้าเหมือนอารมณ์ไม่ดี

“โกหกกันอีกแล้ว ผมรู้น่าว่าแฟนพี่ก็รับปีนี้ มิน่า…ถึงมาซ้อมบูม”ผมไม่รอให้มันพูดจบก็ถวายฝามือไปเปรี้ยงใหญ่

“แหม่ รู้ดีจริงๆ”ผมทำเสียงประชด ผมขี้เกียจไปรอที่หอก็เลยกะจะไปตะลอนกับพวกปีหนึ่งด้วย หลังจากที่แบ่งกลุ่มเสร็จก็แยกย้ายไปรอพี่ๆบัณฑิตตามจุด ผมไปกับพวกไอ้เก่งและเดอะแก๊งค์ บางคนหิ้วกลองมาด้วย ขนาดว่าตอนเช้าคนยังแออัดขนาดนี้…ไม่อยากคิดตอนที่พวกบัณฑิตทั้งหลายออกมา

ผมคิดอะไรเรื่อยเปื่อย เดินผ่านกลุ่มเด็กปีหนึ่งที่ทำเสียงดังอยู่ริมฟุตบาตร สายตาไปสะดุดเข้ากับร้านขายของที่ระลึกจำพวกตุ๊กตาบัณฑิต ดอกไม้ ป้ายจบเข้าพอดี ความจริงผมก็มีของให้พวกมันแล้ว แต่อยู่ที่หอ ผมควรจะซื้อตุ๊กตาน่ารักๆพวกนี้ด้วยดีไหม แต่นึกถึงหน้าไอ้ภูกับไอ้ตินแล้ว ผมไม่ซื้อให้มันสองคนดีกว่า เดี๋ยวคงมีคนซื้อมาให้พวกมันเยอะแน่ๆ ของที่ผมให้พวกมันต้องพิเศษกว่าคนอื่นอยู่แล้ว!

 “วู้ ว่าไงน้องฟิก”กำลังคิดอะไรเพลิน ก็ถูกเสียงกลั้นขำของใครบางคนแทรกมา ผมเหลียวไปมองก็ถึงกับพ่นลมหายใจออกมาดังพรืด

ไอ้เนมกับพี่ปานั่นเอง

“มาทำไมวะ”ผมทำเสียงฉุนใส่ กล้ามาขำผมได้ไง ผมไม่ใช่ตัวตลกนะเว้ย ผมเหลียวไปมองเดอะแก๊งค์ปีหนึ่งที่นั่งหลบร้อนอยู่ที่ต้นไม้ริมฟุตบาตร พวกมันก็เหมือนไอ้เคนไอ้ชาย ชอบเสือกเหมือนกัน

“กูมาเป็นเบ้ให้ไอ้ภู แต่อยากมารับบรรยากาศเก่าๆก็เลยมาก่อน”พี่ปาตอบพร้อมรอยยิ้ม

“มันออกจากบ้านหรือยัง”ตอนนี้ผมไม่รู้ความเคลื่อนไหวของพวกมันสองคนเลย แต่คิดว่าไอ้ตินคงออกมาจากบ้านตั้งแต่ไก่โห่แล้ว

“ยัง คงมาช่วงสายๆ”ไอ้เนมตอบก่อนจะยิ้มชอบใจอีกครั้ง

“นานๆทีกูจะเห็นมึงอยู่ในกฎในเกณฑ์”วันนี้ผมสวมเสื้อรุ่นของเด็กปีหนึ่งกับกางเกงวอร์ม ผ้าใบสีสุภาพเหมือนกับเด็กปีหนึ่งทั่วๆไป

“ดูไว้เป็นบุญตาซะ”

“มึงนี่มีความตั้งใจดีนะ สมแล้วที่เป็นเมียไอ้ภู”พี่ปาตบไหล่ผมเบาๆเหมือนพ่อที่ภูมิใจในตัวลูกชาย

“พี่อย่าว่ะ วันนี้ห้ามล้อผม”ไอ้เนมทำหน้าบู้บี้

“กูสงสัยมานานแล้ว ทำไมมึงไม่พูดดีๆกับกูวะ”มันเท้าเอวมองผมกับพี่ปา

“ก็เพราะ…ครั้งแรกที่กูเจอมึงมันไม่น่าจำไง จำได้ไหม”ผมมองด้วยสายตาอาฆาต ผมยังจำได้ดี วันที่ผมเจอมันเป็นครั้งแรกคือที่ห้องน้ำในสนามฟุตบอลตอนปีหนึ่ง มันยังทำท่าทางหยามผมอยู่เลย ไอ้เนมนิ่งงันไปนานก่อนจะหัวเราะ

“เรื่องก็ตั้งนานแล้ว มึงจะเก็บมาจำทำไม”

“เหอะ วีรกรรมมึงไม่ใช่น้อยๆ”มันทำหน้าเคร่งขรึมทันที

“มึงนี่วอนตีนกูแล้วนะ”เรื่องเก่าเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องต้องห้ามของไอ้เนมเลยทีเดียว

“เหมือนฝันร้ายเลยสิมึง”ผมยิ้มเยาะมันบ้าง พี่ปาถอนหายใจยกมือขึ้นเหมือนห้ามทัพ

“พวกมึงสองตัวนี่ น่ารำคาญจริงๆ กูจะไปถ่ายรูปที่คณะแล้ว ไปด้วยกันไหม”พี่ปาชวน แต่ผมปฎิเสธ

“อย่าเพิ่งบอกไอ้ภูล่ะ ผมอยากเซอร์ไพรส์มัน”อยากเห็นสีหน้าของพวกมันตอนเห็นผมในแถวบูมจริงๆ

“มึงได้เซอร์ไพรส์แน่”ไอ้เนมยิ้ม พูดจามีเลศนัยอีกแล้ว ผมเลิกคิ้ว

“มีอะไร”

“เปล่า แค่มันเคยเป็นพี่ว้าก”แล้วยังไง ผมทำหน้าไม่เก็ท แต่พี่ปาโบกมือลาก่อนจะพาไอ้เนมออกไป จากนั้นก็เป็นช่วงเวลาแห่งการรอคอย น่าเบื่อชิบ ผมรอชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่าจนกระทั่ง…เริ่มเห็นชุดครุยของพี่บัณฑิตออกมาจากทางออก ช่วงเวลาแห่งความวุ่นวายเริ่มขึ้นเมื่อเด็กปีหนึ่งทั้งหลายต่างพากันหาเป้าหมายล้อมวงบูม ผมบูมให้พี่บัณฑิตบางคนเท่านั้น คนไหนหล่อก็บูม เอ้ย ไม่ใช่ จะให้ผมอยู่เฉยๆก็อายเด็กมัน ก็เลยต้องร่วมบูมบ้างเป็นครั้งคราว เมื่อเห็นใบหน้าคุ้นตาของพี่บัณฑิตคณะเกษตร ผมก็เริ่มมองหาไอ้ตินทันที หวังว่าผมจะไม่คลาดกับมันซะก่อน

ตอนแรกผมไม่เห็นไอ้ตินเพราะมันเพิ่งโดนล้อมกรอบบูมไปสองสามรอบ วันนี้มันตัดผมใหม่ถูกระเบียบทุกตารางนิ้ว รองพื้นบางๆ ในอ้อมแขนมีดอกไม้ช่อใหญ่ ชุดครุยที่สวมทับทำให้มันดูดีราศีจับมากจริงๆ ต้องบอกว่าทุกคนที่ใส่ชุดครุยดูดีขึ้นมาร้อยเท่าทุกคน แต่สีหน้าหงุดหงิดของมันกลับทำให้ดูหมองๆไปบ้าง วันสำคัญของมันแท้ๆทำไมไม่ยิ้มบ้างวะ คนที่คอยตามถ่ายรูปให้ไม่ใช่ใครนอกจากคุณป๊าของมัน สีหน้าของท่านดูปลื้มปริ่มเป็นล้นพ้น พลอยทำให้ผมยิ้มไปด้วย ผมสะกิดไอ้เก่งที่ยืนมองซ้ายมองขวาหาพี่บัณฑิตอยู่ข้างๆ

“เฮ้ย มึงเตรียมบูมพี่คนนั้นนะ”ผมพยักเพยิดไปทางไอ้ติน ที่ยืนอยู่ท่ามกลางวงล้อมของเด็กปีหนึ่ง

“ดูท่าทางพี่แกหงุดหงิดนะ หรือจะเหนื่อย เอาคนอื่นไหม”ไอ้เก่งมองหาเป้าหมายใหม่

“ไม่เอา คนนี้ต้องบูม”ไม่รอช้า เมื่อเด็กปีหนึ่งกลุ่มนั้นได้เงินไปแล้ว ผมก็รีบลากไอ้เก่งและเดอะแก๊งค์เข้าไปล้อมวงตีกรอบไอ้ตินทันที ผมก้มหน้าก้มตาแอบเห็นว่ามันขมวดคิ้วมุ่นคงหงุดหงิดเต็มทน

“ให้ผมบูมให้พี่นะครับ”ผมรีบพูดก่อนที่มันจะอารมณ์เสียไปมากกว่านี้ ไอ้ตินอ้าปากค้างน้อยๆเมื่อได้ยินเสียงของผม มันชี้หน้าผมทันที

“หายไปไหนมา”ผมไม่ตอบคำถามของมัน แต่ออกคำสั่งบูมทันที ไอ้ตินยังงงไม่หาย แต่มันก็งงไม่นาน นี่เป็นครั้งแรกจริงๆที่ผมบูมคณะได้ ผมหวังว่ามันจะรับรู้ว่าผมบูมเพื่อมัน เสียงบูมดังกระหึ่มอยู่รอบตัว ผมกับเดอะแก๊งค์บูมไปจนครบเพลง ตอนที่เงยหน้าขึ้นมาเห็นรอยยิ้มกว้างของไอ้ติน ผมกลับหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง   

“มึงบูมให้กูเหรอ”มันพึมพำถาม ปากยิ้มถึงหู ดูมันจะปลื้มใจมากจริงๆ

“เออ”

“พูดเพราะๆสิน้องฟิก”มันตีหน้านิ่ง เออ วันนี้ผมยอมให้มันก็ได้

“ครับผม ผมบูมให้พี่ติน เป็นไง พอใจไหม”กระดากปากจริงๆโว้ย

“พอใจมาก เมื่อเช้ากูโทรหามึงไม่ติด กูโคตรจะหงุดหงิด นึกว่ามึงจะไม่มาซะแล้ว”ไอ้ตินเอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เหมือนคนบ้า เห็นแล้วขำจริงๆ

“ขอบคุณที่ฝึกบูมให้กูนะฟิก ”มันหัวเราะอีกครั้ง ไอ้ตินแม่งบ้าไปแล้วจริงๆ จากนั้นผมก็ถูกจับถ่ายรูปกับไอ้ตินอยู่นานสองนาน ยิ้มจนเหงือกแห้ง ป๊าไอ้ตินถ่ายแล้วถ่ายอีก ถ่ายเสียอีกต่างหาก จนไอ้เก่งต้องมาถ่ายให้แทน

ผมรู้สึกหัวหมุนไปหมดเพราะต้องวิ่งรอกไปหาไอ้ตินที่คณะเกษตร เพื่อถ่ายรูปรวมกับครอบครัวไอ้ตินตามซุ้มต่างๆจนผมมึน แถมม๊ามันยังอยากถ่ายที่ซุ้มคณะผมอีก ผมก็ต้องติดสอยห้อยตามไปด้วย ระหว่างนั้นก็ดูเวลาไปพลาง ป่านนี้ไอ้ภูคงหน้าบูดแล้วแน่ๆ เพราะไม่เห็นเงาหัวของผม บรรยากาศอบอุ่นตามสไตล์บ้านไอ้ตินนั่นแหละ แถมไอ้เด็กป่านก็มาด้วยอีก มันสวมชุดสูทมา ดูดีเอาเรื่อง 

“อะแฮ่ม มองนานแล้วนะ”ไอ้ตินกระแอม

“ก็แค่มอง มันโตกว่าเดิมเยอะเหมือนกันนะ เวลาแค่แป๊บเดียวเอง”ไอ้เด็กป่านกำลังกินไอติมดับร้อนอยู่ มันยืนอยู่ข้างๆม๊าไอ้ตินที่กำลังดูรูปถ่ายด้วยอาการปลื้มปริ่ม

“เหรอ อยากวัดขนาดของน้องมันรึเปล่าล่ะ”โอ้ ไอ้ตินนี่จับเหตุการณ์ที่ผมจับไข่ไอ้ป่านได้ดีจริงๆ

“ตลกแล้ว มันโตขนาดนี้กูไม่กล้าวัดหรอก”ผมขำไม่ออกเมื่อเห็นสายตาของมัน ผมจึงแกล้งหยิบกระดาษซับมันซับตามหน้าผากให้มันแทน

“มึงนี่จริงๆเลย อย่าให้รู้ว่ามึงคิดไม่ซื่อ มึงโดนหนักแน่”วันดีแบบนี้มันยังขู่ผมอีก

“เออ มึงต้องไปบูมให้พี่ภูอีกใช่ไหม มึงไปเถอะ เดี๋ยวม๊ากูต้องอยากถ่ายรูปที่ซุ้มอีกหลายคณะแน่ๆ เดี๋ยวจะไม่ทัน”ไอ้ตินดึงกระดาษซับมันมาจากมือของผมก่อนยัดแบงค์พันสามแบงค์มาให้ผมแทน

“ค่าบูม”มันยิ้มกว้างอีกแล้ว

“ใจป้ำจริงๆ”

“ให้เป็นค่าเหนื่อย กูดีใจนะที่เห็นมึงทุ่มเทขนาดนี้ ถ้าเอาไปบอกไอ้ชัยมันคงไม่เชื่อแน่ๆว่ามึงบูมเป็น”ไอ้ตินหัวเราะ ผมเองก็เพิ่งนึกถึงมันได้ขึ้นมา

“ตอนนี้มันอยู่ไหนวะ”

“จะไปบูมให้มันเหรอ”ไอ้ตินขมวดคิ้วทันที

“เปล่า”ใครจะไปบูมให้ไอ้ชัยล่ะ แค่อยากไปป่วนประสาทมันในวันดีๆแบบนี้เฉยๆ

“ดี กูหวง”มันพูดเต็มปากเต็มคำ

“มึงก็บ้าว่ะ”ไปๆมาๆทำไมผมเขินวะเนี่ย ผมกระแอมเมื่อรู้สึกตัวว่าถูกคนจ้องมอง

“ไว้เจอกันที่หอนะ”ผมรีบปลีกตัวออกมา เดินออกจากคณะเกษตรได้ไม่นานก็เห็นไอ้ชัยเดินหอบช่อดอกไม้กับตุ๊กตามา พอเห็นไอ้ชัยผมก็นึกถึงพี่อันทันที หวังว่าจะไม่โผล่ไปหาไอ้ตินนะ

“ไง มาหาไอ้ตินเหรอ”ไอ้ชัยมองการแต่งตัวของผมด้วยสายตาแปลกใจ ข้างตัวมันมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาด้วย ในมือถือกล้อง ใบหน้ายิ้มแย้ม

“แฟนมึงเหรอ”ผมกระซิบถาม

“เสือก”มันตอบกลับเบาๆ ผมว่าใช่ชัวร์ แล้วพี่อันล่ะ มันไม่ชอบพี่เขาแล้วเหรอ แล้วแบบนี้ใครจะกันพี่อันให้ห่างจากไอ้ตินได้ล่ะ ไอ้ชัยหันไปหาผู้หญิงคนนั้น

“เต้ยเข้าไปรอพี่ที่คณะก่อนนะ เดี๋ยวพี่ตามไป”ผมแอบลูบแขนไปมา เพิ่งเคยได้ยินไอ้ชัยพูดด้วยเสียงอ่อนเสียงหวานแบบนี้ก็วันนี้แหละ แต่เท่าที่ฟังเหมือนไม่ได้ออกมาจากใจ ฟังดูประดิษฐ์ๆชอบกล สาวเต้ยพยักหน้าอย่างเชื่อฟังก่อนจะเดินจากไป

“เต้ยเข้าไปรอพี่ที่คณะก่อนนะ เดี๋ยวพี่ตามไป”ผมเลียนเสียงของเจ้าตัวเบาๆ ไอ้ชัยหันมาถลึงตาใส่

“มึงจะทำตัวดีๆบ้างไม่ได้หรือไงวะ”

“ผมล้อเล่นน่าพี่ชัย วันนี้วันดี ผมมาแสดงความยินดีกับพี่ด้วย ขอโทษล่ะกันที่เคยล่วงเกินหลายๆอย่าง มันอดไม่ได้จริงๆว่ะ”ผมพูดออกมาจากใจจริง ถึงแม้จะเหม็นขี้หน้ามันขนาดไหน แต่วันนี้ผมถือว่าเป็นรุ่นน้องของมัน ไอ้ชัยอ้าปากค้างมองผม ก่อนจะหัวเราะลั่น

“โอ๊ยไอ้ฟิก มึงรู้ไหม กูขนลุกวาบเลย มึงอย่าพูดกับกูแบบนี้อีกนะ สยองว่ะ”มันหัวเราะเสียงดังก้อง

“เฮ้ย กูอุตส่าห์จริงจังนะเว้ยไอ้ชัย”มันหยุดขำทันที

“ถือว่ากูรับรู้ความจริงใจของมึงก็แล้วกัน แล้วนี่…มึงใส่เสื้อแบบนี้ทำไม”มันชี้เสื้อ กางเกงของผม

“มาบูมไง”ผมตอบหน้าตาย มันยิ่งทำหน้าพิลึกเข้าไปใหญ่

“ห๊ะ”

“กูกำลังรีบ ไว้เจอกัน”ผมยกมือลา แต่ก้าวได้ไม่กี่ก้าว มันก็คว้าไหล่ของผมไว้

“เดี๋ยวสิวะ มึงบูมให้กูดูหน่อย”ผมหัวเราะเสียงแห้ง

“ไม่บูม ไอ้ตินหวง”พูดจบผมก็รีบเดินดุ่มออกห่างจากไอ้ชัยทันที ปล่อยให้มันหัวเราะลั่นอยู่ตรงนั้น เหอะ ขำมากนักรึไงวะ ไอ้ชัยเอ๊ย 


 
   
 
 
 

ออฟไลน์ DuenTwinBII

  • ♥ “If you can't explain it simply, you don't understand it well enough.”♡
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +624/-4


 
ผมเดินเบียดเสียดกลับมายังจุดเดิม ไม่รู้พวกไอ้เก่งจะยังอยู่ที่เดิมไหม เสียงบูมรอบตัวทำผมปวดประสาทอยู่เหมือนกัน มองหาอยู่นานผมก็เห็นพวกมัน ปรากฏว่ายังอยู่ครบ ไอ้พวกนั้นนั่งหลบแดดอยู่ที่ร่มไม้ ผมส่ายหน้าอย่างเอือมระอา

“พวกมึงอู้นี่หว่า”ผมคันไม้คันมืออยากตบเกรียนเรียงตัวซะจริงๆ ไอ้เก่งมองหน้าผมก่อนทำหูทวนลม

 “คนที่บูมให้ ใครอ่ะพี่”มันถามทันที 

“เสือก”

“อร่อย”ไอ้พวกเดอะแก๊งค์ตอบพร้อมกัน ผมยกนิ้วกลางส่งให้พวกมันเรียงตัว กวนประสาทจริงๆ

“พี่รอบูมให้พี่ภูแฟนพี่ใช่ไหม”ไอ้เก่งถามอย่างรู้ดี ผมไม่ตอบแต่นั่งลงข้างๆพวกมันก่อนยัดเงินใส่กล่อง พวกมันถึงกับตาโตทันที ผ่านไปเกือบๆสองชั่วโมง ผมงีบไปได้หลายรอบ จนกระทั่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวรอบตัวดังหึ่ง ไอ้เก่งสะกิดผมสองสามที

“ออกมากันแล้ว”มันทำเสียงตื่นเต้น ผมรอจนเห็นว่าพวกบัณฑิตคณะวิศวะออกมาถึงได้ไปเฝ้าตรงทางออกเพื่อมองหาไอ้ภู ครั้งนี้ผมจะไม่พลาดจะต้องบูมให้มันเป็นคนแรกให้ได้ ไอ้เก่งกับเดอะแก๊งค์ช่วยมองหาอีกแรง ผมกำลังสอดส่องก็ถูกดึงไปอีกทาง รู้ตัวอีกทีกลุ่มของผมก็ล้อมตัวไอ้ภูเอาไว้ได้แล้ว

ไอ้ตินว่าดูหงุดหงิดแล้ว แต่ไอ้ภูเหมือนมันใกล้ระเบิดมากกว่า หน้าตามันไม่รับแขกสุดๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ผมก็มองว่ามันในชุดครุยหล่อมากๆ มันจ้องมาที่ผมนิ่งๆ ถึงจะดูแปลกใจแต่ก็เห็นได้ชัดว่ามันโกรธผม จากหางตาผมเห็นพี่ปากับไอ้เนมเดินวนเวียนอยู่ใกล้ๆ   

“มึงหายหัวไปไหนมา กูโทรหามึงตั้งหลายครั้ง”เสียงของมันทั้งเข้มและดุดัน จนผมใจฝ่อไอ้เก่งกลอกตามองผมล่อกแล่ก ๆ ผมมองไปรอบๆเห็นว่ารุ่นพี่คณะวิศวะคนหนึ่งกำลังถ่ายรูปพวกผมอยู่ มันน่าสนใจขนาดนั้นเลยเหรอ

 “กู…เตรียมบูมให้มึงไง”ผมตอบเสียงชื่นมื่นแต่ใจแป้วไปแล้ว ผมเห็นไอ้เนมทำมือปาดคอ อยู่ด้านหลัง เฮ้ย ผมทำผิดขนาดนั้นเลยเหรอวะ

“ผมเป็นพี่คุณ พูดให้ดีด้วย พวกคุณมาจากคณะอะไร”ผมเหมือนโดนตีแสกหน้าด้วยค้อน ไอ้ภูเป็นบ้าอะไรของมึงเนี่ย ไอ้เก่งและเดอะแก๊งค์เริ่มใจฝ่อเช่นเดียวกับผม มันมองหน้ากันเลิ่กลั่ก

“ผมถามว่ามาจากคณะอะไร”มันถามด้วยเสียงอันดัง ถึงจะไม่ทำให้รอบข้างหันมามองก็ทำให้ผมเหงื่อตก สัดภูมันจะว้ากผมเหรอ!

“สถาปัตย์ครับ”ผมกับไอ้เด็กปีหนึ่งตอบเสียงดัง แว๊บหนึ่งผมเห็นไอ้ภูยกยิ้ม แต่ก็แค่แว๊บเดียว

“ถ้าบูมไม่ดัง ผมไม่ให้หยุด บูมจนกว่าผมจะให้หยุด”ผมกัดฟันด่าไอ้ภูในใจ ก่อนจะเริ่มบูม ผมไม่ได้นับว่าบูมไปกี่รอบ แต่เหนื่อยเชี่ยๆ จนเหมือนแรงตกเสียงไอ้ภูก็ดังอยู่ด้านบน

“ไม่ได้ยินครับ บูมอะไรไม่เห็นรู้เรื่อง ดังอีก”ไอ้ภูยังคงเล่นงานต่อไป สัดภูเอ๊ย มันเล่นผมแล้วไง

“พอครับ”ในที่สุดหลังจากที่เสียงแหบคอแทบแตก ขาแทบทรุด หัวมึนงง ไอ้ภูก็สั่งให้หยุด ผมกับเดอะแก๊งค์ก้มหน้าสงบเสงี่ยมเจียมตัวกันทุกคน ไอ้ภูหันไปหาไอ้เนม หย่อนซองสีขาวลงกล่องเงิน

“ขอบคุณมากครับน้องๆ”มันย้ำคำว่าน้องๆเป็นพิเศษ สายตาหยุดอยู่ที่ผม ถึงมันจะตีหน้าบึ้งแต่เหมือนสายตาของมันกำลังยิ้ม

“ผม…ผมไปก่อนนะครับ”ไอ้เก่งแทรกเสียงสั่นเพราะความเหนื่อยก่อนที่พวกมันจะสลายตัวกันอย่างรวดเร็ว เหลือแค่ผมกับไอ้ภู

“คุณคิดว่าทำแบบนี้แล้วผมจะพอใจเหรอ หึ”อ้าว…ไอ้นี่

“กูแค่…”

“ผมเป็นพี่คุณ”ผมกระพริบตามองมันงงๆ เหลือบมองหาพี่ปากับไอ้เนมตัวช่วยสุดท้าย แต่สองคนนั้นก็พากันมองเด็กดนตรีบูมซะงั้น ไอ้ภูจ้องหน้าจนผมเกร็งไปหมด ผมใจเต้นตึกๆเพราะอาการเหนื่อย จะว่าไป…ก็กลัวมันด้วย ตอนมันว้ากน่ากลัวจริงๆ ผมไม่เคยเห็นมันว้ากมาก่อน พอมาเจอแบบกะทันหัน รู้สึกจะพูดไม่ออกอยู่เหมือนกัน ผมกับมันยืนจ้องหน้ากัน ผมกะจะตะโกนออกมาดังๆว่ามึงจะเอายังไงแต่ไอ้ภูดันหลุดหัวเราะออกมาซะก่อน

“เชี่ยภู กูไม่ขำนะเว้ย”ผมมองมันหัวเราะอยู่อย่างนั้น

“อะไรวะ ไอ้ฟิก แค่นี้มึงกลัวเหรอ ไม่สมกับเป็นมึงเลย โอ่ขวัญเอ๊ยขวัญมา พี่ภูแค่ล้อเล่น”แล้วมันก็หัวเราะยกใหญ่ ผมชักจะฉุนขึ้นมาจริงๆแล้ว

“มึงขำมากรึไง นี่กูตั้งใจบูมให้มึงเลยนะไอ้…”ผมอยากพ่นคำหยาบออกมา แต่ก็เห็นว่าวันนี้เป็นวันดีของมัน ผมหันไปด่าอีกทางแทน

“เออ กูรู้ กูไม่คิดว่ามึงจะมาทำอะไรแบบนี้นี่หว่า กูขอบใจนะ เอาจริงๆกูไม่คิดว่ามึงจะยอมทำอะไรแบบนี้ วันนี้มึงสุดยอดมาก”ไอ้ภูเข้ามากอดผมแบบไม่อายสายตาใคร ผมเริ่มคลายความโกรธลงได้บ้าง

“ซ้อมมานานหรือยัง”ไอ้ภูถามพลางขอกระดาษทิชชูมาจากไอ้เนม วันนี้มันเหมือนคนใช้จริงๆ เรื่องนี้ทำผมหลุดยิ้มออกมา ยอมให้ไอ้ภูเอาทิชชูมาถูหน้า ผมใช้คำไม่ผิด มันเอากระดาษทิชชูมาถูหน้าผมจริงๆ กวนประสาทชิบเป๋ง

“นานแล้ว รู้ไว้ด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะมึงสองคน กูไม่ทำอะไรแบบนี้หรอกนะ”ไอ้ภูยิ้มกว้างชกไหล่ผมเบาๆ

“มึงกลัวกูจริงๆเหรอเมื่อกี้นี้น่ะ”มันถามอีกรอบ ผมทำหน้าบึ้ง

“กูแค่ตกใจไม่ได้กลัว”เสียมาดหมด

“แต่หน้ามึงโคตรเหวออ่ะ”ไอ้เนมเสล่อแทรกขึ้นมา มันหัวเราะตบท้ายอย่างเจ็บแสบ

“ช่างเถอะ ๆ ไปที่คณะกูก่อน พ่อกับแม่กูรอถ่ายรูปอยู่”ไอ้ภูพูดด้วยเสียงภูมิใจ แต่เดินไปได้ไม่นานก็มีเด็กปีหนึ่งมาขอบูมแถมมันยังได้ตุ๊กตาหมีมาอีกด้วย

“สามีมึงฮอตจริงๆ นอกจากบูมมึงไม่มีอะไรจะให้มันเหรอ”พี่ปาพึมพำอยู่ใกล้ๆ

“ไม่มีอ่ะ”ความจริงแล้วมี แต่อยู่ที่หอ แต่เห็นมันทำแบบนี้กับผมก็ชักไม่อยากให้แล้ว
 


ที่คณะวิศวะคนเยอะเป็นพิเศษ ทั้งคนในคณะและคนนอก สาวๆจากคณะใกล้เคียงมามอบดอกไม้ตุ๊กตาให้พี่บัณฑิตกันให้ควัก ไอ้ภูนำผมไปที่โต๊ะหินอ่อนใต้ร่มไม้ ผมเห็นพ่อกับแม่ไอ้ภูนั่งอยู่ที่นั่นด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มที่แสดงออกว่าภูมิใจในตัวลูกชาย

“วันนี้ลูกชายแม่หล่อที่สุดเลยรู้ไหม”แม่ไอ้ภูลุกโอบกอดมันหลวมๆ ท่านดูผอมไปบ้างแต่ก็ปกติดี ส่วนพ่อมันวางท่าพยักหน้าอยู่ข้างๆ ผมเห็นแล้วอยากหัวเราะดังๆ ผมอยู่ถ่ายรูปกับครอบครัวนี้สักพัก ไอ้ภูกับไอ้ตินยังมีกำหนดการต้องอยู่ที่คณะต่อ วันนี้ผมเหนื่อยอยากจะอยู่ต่อ แต่ก็เลือกลำบาก ผมเลยไม่อยู่ดีกว่า จะได้ไม่ต้องมีคนไหนน้อยใจ

“กูจะไปรอที่หอ อย่าลืมกลับนะ”ผมกำชับกับไอ้ภู มันยิ้มรับ

“ขอโทษที่ให้บูมนาน ถึงห้องแล้วก็พักนะ”ไอ้ภูดูเป็นห่วงและรู้สึกผิด ผมโบกมือว่าไม่ต้องใส่ใจ จะคิดเสียว่าตอนนั้นไอ้ภูถูกวิญญาณพี่ว้ากเข้าสิงก็แล้วกัน 






*******************************************************
   





ผมก็กลับมาที่หอเดิม เช่าอยู่มาตั้งแต่ปีหนึ่ง แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือผมต้องอยู่คนเดียว ระหว่างที่ผิวปากขึ้นห้อง ก็จ๊ะเอ๋กับไอ้เน็ตพอดี มันเองยังคงอยู่ที่หอนี้เหมือนเดิม แต่ก็ลดท่าทีเวลาอยู่กับผมไปบ้าง หลังจากที่เคยเจอไอ้ภูกับไอ้ตินขู่ไป

“วันนี้กลับเร็วจัง”มันทักเหมือนชวนคุย

“ก็ปกติ”ผมไหวไหล่ เดินแกว่งกุญแจรถไปตามโถงทางเดิน ได้ยินเหมือนมันเดินตามมา แต่ก็ด่ามันไม่ได้อีกเพราะห้องมันก็มาทางเดียวกับผม

“มึงมีอะไรรึเปล่า”ผมหันไปทักเพราะคิดว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ ไอ้เน็ตคลี่ยิ้มบาง

“เปล่า…แล้ว ทำไมพักนี้ไม่เห็นหน้าแฟนฟิกเลยล่ะ”มันเข้าเรื่องจนได้ ผมเลิกคิ้วน้อยๆ หรือว่าไอ้นี่คิดว่าผมเลิกกับไอ้สองตัวนั่นแล้ว

“แล้วถามทำไม”

“เลิกกันแล้วเหรอ”ผมยกยิ้มทันที

“ยัง กูกับพวกมันยังอยู่กวนประสาทกันอีกนาน หมดธุระหรือยัง”ผมไล่มันทางสายตา ไอ้เน็ตไหวไหล่ก่อนจะเอ่ยชวน

“วันนี้วันเกิดเรา ถ้าว่างก็แวะมาได้นะ จัดที่ห้อง”ผมหัวเราะหึ มันคิดว่าผมอยากไปหรือไง ไอ้เน็ตเดินกลับไปห้องตัวเองทิ้งกลิ่นน้ำหอมจางๆเอาไว้ จะว่าไปเมื่อคราวก่อน…ตอนเกิดเรื่องก็วันเกิดมันพอดี มันคิดว่าผมอยากไประลึกความหลังแย่ๆเหรอ

ผมไขกุญแจเข้าไปในห้องเงียบๆ กดสวิซเปิดไฟ โยนกระเป๋าเป้ทิ้งที่โซฟา กวาดตามองห้องหับที่ถูกจัดไว้เหมือนมีงานเลี้ยงเล็ก ๆ ตรงผนังห้องมีตัวอักษรเขียนข้อความแสดงความยินดี มีขวดเบียร์วางอยู่ที่โต๊ะกลางห้อง ที่ผมอยากให้พวกมันก็แค่งานฉลองธรรมดา พวกมันไม่ค่อยชอบงานยุ่งยาก ผมยินดีกับพวกมันในฐานะรุ่นน้องไปแล้ว ก็อยากฉลองในฐานะคนสำคัญบ้าง ไม่มีของขวัญอะไรพิเศษ มีแค่เบียร์กับตัวผมนี่ล่ะ

ผมถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน อยู่ๆก็รู้สึกเหนื่อยมากๆ ปวดขาไปหมด ผมเดิมดุ่มไปที่เตียงและผล็อยหลับไปทั้งอย่างนั้น

…..



..

.


ผมตื่นมาอีกทีก็เจอแต่ห้องมืดๆ แต่ที่ว่างทั้งสองข้างกลับอุ่นไปด้วยไออุ่นของคนคุ้นเคย ผมยิ้มออกมา วันนี้พวกมันสองคนคงจะเพลียและเหนื่อยมาก ผมจะปล่อยให้พวกมันนอนพักก่อนก็แล้วกัน แค่พวกมันสองคน…แค่นี้แหละที่ผมต้องการ ผมนอนฟังเสียงลมหายใจหนักแน่นของคนทั้งคู่ ตาก็มองดาวดวงเล็กๆบนเพดานส่องแสงอย่างอ่อนแรง แต่ก็ยังเห็นได้ชัดในความมืด

ก็เหมือนผมกับพวกมัน ถึงจะห่างกันบ้างแต่ความรักของผมกับพวกมันก็ยังเหมือนเดิม





---END---

ฮาโหลลลล มาต่อแล้ว ยังมีตอนพิเศษอีกนะคะ(เนื้อเรื่องต่อกัน)
จะทยอยเอามาลง ขอบคุณที่ยังไม่ลืมกันจ้า







ออฟไลน์ Dark_Noah

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 838
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-3
ไหแตกแล้ว ๆ ดีใจในที่สุดก็มา ภูอ่ะแกล้งฟิก ฟิกกลัวเลย  :katai4:

ออฟไลน์ flimflam

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
คิดถึงฟิกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
น่ารักขึ้นเรื่อยๆเลยนะเนี่ย ทำตินกับพี่ภูหงุดหงิดเพราะโทรหาไม่ติดเลย 5555555

ออฟไลน์ yunghanna

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
คิดถึงฟิกกกกก  :กอด1:
อ่านตอนนี้เหมือนได้ดูภูกับตินเติบโตสู่โลกกว้าง รู้สึกภูมิใจไปด้วย โดยเฉพาะพี่ภูคนโหด  :mc4:
ส่วนน้องฟิกก็ยังน่ารักเหมือนเดิม แอบไปซ้อมบูมเพื่อสามีด้วย5555 น่ารัก

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ดีใจค่ะ น่ารักกันเหมือนเดิม  :pig4:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
คิดถึง ฟิก ติณ ภู  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ดีใจ ไร้ท มาลง  อ่านไปยิ้มไป มีความสุขมาก :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
รอ ตอนต่อไป  :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด