……………………………………………………………………..
กว่าพวกไอ้เนมจะมาได้ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมง ไม่รู้ว่าไปทำอะไรกันมา จะว่าหลงก็ไม่น่าใช่เพราะไม่เห็นโทรมาถาม
“รถยางแตกเหรอวะ ไปเป็นชาติ”ผมทักทันทีที่ไอ้ชัยขนเนื้อกับหมูออกมาจากท้ายรถ
“หาตลาดไม่เจอ”ไอ้ชัยทำหน้าเหนื่อยหน่าย
“แล้วไม่โทรมาถามล่ะวะ”งงกับมันจริงๆ
“ก็พี่ปาแม่งกลัวเสียฟอร์ม”แล้วมันก็เดินหน้าบูดเอาของไปวางบนโต๊ะ ผมเห็นพวกมันมองไอ้โต้งด้วยสายตาสงสัยก็เลยต้องแนะนำตัวเพื่อนซะหน่อย
“นี่เพื่อนผมเอง ชื่อโต้ง เขานิสัยดีมาก ทักทายพี่ๆเขาสิโต้ง”ผมหันไปทำหน้ากวนประสาทใส่มัน
“กูล่ะเบื่อหน้าตากวนโอ๊ยแบบนี้ของมึงจริงๆเชี่ยฟิก”พี่ปาแหน็บมาให้ได้ยิน ใช้เวลาไม่นานไอ้โต้งก็เข้ากับพวกไอ้เนมได้ ก็มีอยู่สองคนที่ไม่ค่อยพูดค่อยจาเท่าไหร่ ผมขี้เกียจชวนพวกมันผูกมิตรกันแล้ว เลยเลือกสนใจหม้อสุกี้ดีกว่า
“เดี๋ยวกูไปตามแม่ก่อน”ไอ้ตินผละไปจากโต๊ะ คำพูดของมันเรียกเสียงแซวได้ดีจริงๆ
“วันนี้ปลอดแอลกลอฮอร์ใช่ไหม”ผมมองหน้าเรียงคน
“จ้า ปลอดเหล้า”ไอ้เนมทำเสียงขุ่นในลำคอ มีอำนาจอยู่ในมือมันฟินแบบนี้นี่เอง
“ดีมาก”
“มึงเมาน้ำส้มรึเปล่าเนี่ย กูว่ามึงคึกแปลกๆนะ”ไอ้เนมยกแก้วน้ำส้มผมไปดมๆดูว่ามีเหล้าผสมอยู่หรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่า…..
มีงานนี้ผมกุมอำนาจ คนอื่นห้ามเถียง
“เอามาจากไหนวะ”มันถามเสียงระริกระรี้
“ไอ้โต้ง”ผมบุ้ยปากไปทางเพื่อน เหล้าหมักเองด้วย แต่ผมแค่ผสมนิดหน่อย ไม่เมาแน่นอน ผมแอบเหลือบไปเห็นพี่ปายื่นแก้วไปให้ไอ้โต้ง ยกเว้นพี่เขาคนนึงล่ะกัน
“ไม่ต้องห่วงว่ากูจะเมาหรอก”ผมรีบดักไอ้ภูที่นั่งอยู่ข้างๆทันที
“รู้ทันเหรอ”มันถามพร้อมรอยยิ้ม ผมแค่ผสมให้พอมีรสชาติเฉยๆ ไม่ได้จะกินให้เมา แล้วช่วงนี้ผมจะไม่เมาเด็ดขาดด้วย สักพักไอ้ตินก็โผล่มาพร้อมกับพาแม่ผมมาด้วย ไอ้ตินนี่มันรู้จักเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่จริงๆ แต่แม่ก็อยู่ไม่นานเพราะไม่ชินกับบรรยากาศห่ามๆของพวกผม ไอ้พวกนี้ต้องใช้คำว่าสวาปาม ไม่ไหวจริงๆ
“นี่ กูเคยคิดนะเว้ยว่านิสัยแบบพวกมึง คงคบกันได้ไม่นาน แต่ไม่น่าเชื่อว่าแม่ง…”พี่เบลล์โพล่งขึ้นมา ท่ามกลางบรรยากาศครื้นเครงของวงน้ำส้ม
“คบกันนานกว่ากูอีกว่ะ”พี่เบลล์ทำหน้าเจ็บช้ำก่อนจะกระดกน้ำส้มรวดเดียวหมด
“เหอะ…”ไอ้ชัยทำหน้าพาล มันอาจกำลังนึกถึงพี่อันอยู่ก็ได้
“นี่…ชัย”ผมเรียก
“ไอ้นี่เรียกกูเป็นเพื่อนเล่นเลย”มันทำหน้าเหวี่ยงจนผมหัวเราะออกมา
“เออ ๆกูขอโทษ พี่ชัยก็ได้ ผมขอแนะนำอะไรอย่างหนึ่งนะ คนมันไม่รัก ทำแค่ไหนมันก็ไม่รัก”ไอ้โต้งถึงกับสำลักวุ้นเส้นที่กำลังเคี้ยวอยู่
“มึงเพี้ยนอะไรของมึงวะ”ไอ้ชัยพึมพำอย่างหงุดหงิด ผมกระแอมก่อนจะตัดสินใจพูดอะไรบางอย่าง
“ต่อไปนี้กูจะพยายามพูดดีๆกับมึงก็แล้วกัน ย้ำนะ ว่าพยายาม”ยังไงไอ้ชัย ไอ้เนมมันก็โตกว่าผม ถึงจะแค่ปีเดียวก็เหอะ
“อย่าพยายาม กูชินแบบนี้แล้วว่ะ”มันทำท่าขนลุกขนพอง ก่อนจะลุกไปจากโต๊ะ ไปนั่งทำเอ็มวีคนเดียว
“กูทำอะไรผิดรึเปล่า”ผมหันมาถามสหายในวงน้ำส้มที่ดูเหมือนจะกึ่มๆกันทุกคนแล้ว ไม่รู้ว่าไปแอบจิบกันตอนไหน อันที่จริงผมคงห้ามไม่ได้หรอกถ้าพวกมันจะกินกันจริงๆ ยกเว้นไอ้ภูกับไอ้ติน ช่วงนี้มันคงไม่กล้าแตะของมึนเมาแน่
“ใครอกหักต้องดื่มนี่ย้อมใจ”ไอ้โต้งเอาขวดน้ำที่บรรจุเหล้าป่าไว้ครึ่งขวดออกมา
“กูเอง”ไอ้พี่เบลล์ท่าจะยังไม่เข็ดกับเรื่องคราวก่อนเสนอตัวขึ้นมาพร้อมกับหยิบขวดไปดมๆดู
“รวดเดียวเลยเพื่อน”ไอ้ตินบอกเสียงนุ่ม
“มึงจะบ้าเหรอ”พี่เบลล์ทำหน้าตกใจ
“ทีกูยังเคยยกรวดเดียวเลย แต่ถ้ามึงไม่อยากทำกูก็ไม่ว่า”ไอ้ภูร่วมกดดัน
“…อ่ะ ก็ได้”อีกฝ่ายยกขวดน้ำจ่อปาก ผมแอบหยิบโทรศัพท์ออกมาอัดคลิป ไอ้พี่เบลล์สูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ก่อนจะกลั้นใจค่อยๆดื่มทีละนิดจนพร่องไปเยอะ พี่เบลล์เบ้หน้าเหมือนจะอ้วก ยกมือกุมคอ ก่อนจะวิ่งไปโก่งคอที่มุมรั้ว ผมเอาคืนอีกนิดหน่อยด้วยการโพสต์คลิปลงเฟสไว้ดูฮาๆ
“กูกลับก่อนนะ อยู่ดึกไม่ได้ เดี๋ยวเมียด่า”ไอ้โต้งยกนาฬิกาดูเวลา
“กลับดีๆนะเว้ย”พี่เบลล์ส่งเสียงอ้อแอตามหลัง ผมเดินไปส่งเพื่อนที่หน้าประตู ดูเหมือนมันยังไม่เมามากเท่าไหร่ ผมรอจนกระทั่งมันขี่รถออกไปแล้วจึงกลับเข้ามานั่งที่โต๊ะ พี่เบลล์กับไอ้ชัยหายหัวไปแล้ว เหลือแค่ไอ้เนม พี่ปาแล้วก็สองเป้าหมายของผม หึๆ เหมือนจะนั่งจับเจ่าคุยกันเรื่องชีวิตโสดของอีกสองคน
“กูตั้งเป้าไว้แล้วว่าจะเป็นโสด กูเบื่อ”ไอ้เนมทำหน้าเซ็ง ผมอยากแซวเรื่องไอ้ภู แต่เดาอารมณ์มันไม่ถูกเดี๋ยวมันจะแหกอกผมเอา
“พี่ไม่เปิดใจเองรึเปล่า ผมบอกแล้วไง…มันขึ้นอยู่ที่ตัวพี่”ไอ้ตินผู้รอบรู้ท้วงขึ้นมา
“กูเปิดให้ทุกคนนั่นแหละ แต่มันไม่เจอคนที่ตรงใจกูไง”มันถอนหายใจเฮ้อใหญ่ ผมแอบเหลือบมองไอ้ภูว่ามันทีท่าเป็นยังไง มันก็หันมาสบตาผมเข้าพอดี ดูมันจะอึดอัดอยู่เหมือนกัน
“เมาแล้วเพ้อเจ้อ เข้าไปนอนไป”พี่ปาหิ้วไอ้เนมเข้าไปในบ้าน จึงเหลือผมกับพวกมันสองคน บางทีผมก็เคยสงสัยว่าไอ้นมมันเลิกชอบไอ้ภูได้แล้วจริงๆน่ะเหรอ แต่มันคงพอใจกับสถานะแบบนี้แล้วล่ะมั้ง ผมนั่งเขี่ยหมูในหม้อเงียบๆ บรรยากาศแปลกๆยังไงไม่รู้ เหมือนมีช่องว่างระหว่างช่วงที่ผมโกรธพวกมัน ไม่ใช่ความอึดอัดนะแต่มันเก้อเขินยังไงไม่รู้
“รู้สึกเหมือนเพิ่งจีบมึงใหม่ๆเลยว่ะ”ไอ้ตินพูดเบาๆพร้อมเสียงหัวเราะ
“ได้ข่าวว่าพวกมึงไม่เคยจีบกูเลยนะ”เล่นงานผมแล้วก็มางอแงขอโอกาส
“อยากรู้เหรอว่าเป็นยังไง”
“เออดิ อยากรู้ ไหนลองจีบกูดิ”ผมมองหน้ามันสองคน แต่แปลกที่ไอ้ภูไม่ยอมมองหน้าผมเลย ไอ้ตินยิ้มก่อนจะยกมือขอเวลานอก
“เดี๋ยวมานะ”เหลือผมกับไอ้ภูสองคน แต่มันก็ยังไม่มองหน้าผมเลย มันยังไงๆแล้วนะ
“ทำเป็นเมิน ไหนลองจีบกูซิ”อยากรู้ว่าคนแบบมันจะจีบแบบไหน ผมไม่เชื่อหรอกว่าหน้าแบบมันไม่เคยจีบใคร ผมรอดูท่าทีมันอยู่เงียบๆ จนมันหันมามองหน้าผมจนได้
“คบกับกูนะ”มันทำหน้านิ่ง ผมหัวเราะเสียงดัง
“มึงจีบแบบนี้เหรอวะ”
“เฉพาะกับมึงน่า…”มันทำเสียงฉุนๆกลบเกลื่อนก่อนยกแก้วน้ำขึ้นมาจิบ แต่มันก็รีบบ้วนทิ้งเพราะผมใส่เหล้าป่าลงไป ไอ้ตินเหมือนไปหาอะไรสักอย่างในรถ
“มาให้ตรงๆมันก็ออกจะเขินๆนะ”มันกลับมาพร้อมกับดอกกุหลาบเหี่ยวๆหนึ่งดอก
“เอาตรงๆนะ พวกมึงจีบคนอื่นติดได้ยังไงเนี่ย”
“ก็กูหล่อไง”ไอ้ภูตอบอย่างมั่นใจ แต่เอาเข้าจริงๆผมก็ไม่ชินกับการโดนจีบก่อนหรอก นั่งแช่ได้ไม่นานเพราะอากาศเริ่มเย็นและแมลงเริ่มคุกคาม ผมกับมันสองคนเลยต้องช่วยกันเก็บของ ไม่อยากทิ้งไว้ให้แม่ตามเก็บด้วย
“เดี๋ยวกูล้างเอง มึงขึ้นไปนอนไป”ไอ้ตินไล่ เมื่อผมจะเข้าไปช่วยมันล้างจาน
“เอางั้นเหรอ”ทำไมผมต้องรู้สึกเกรงใจพวกมันด้วยวะเนี่ย
“เออ ขึ้นไปนอน”ไอ้ภูทำหน้ามีนัยยะแอบแฝง ผมเลยเลี่ยงขึ้นไปบนห้อง เจอไอ้ชัยกับพี่เบลล์นอนหลับอยู่หน้าทีวี ผมเข้าไปหยิบซอฟเฟลมาฉีดให้พวกมัน กลัวยุงหาม ผมเข้าไปดูอีกห้องตรวจความเรียบร้อยก่อนจะเข้ามาในห้องของตัวเอง ผมรีบอาบน้ำให้เสร็จเร็วๆเพราะไม่อยากออกมาจ๊ะเอ๋กับพวกมัน
“อาบเสร็จไวจัง”ไอ้ภูโผล่มาระหว่างที่ผมใส่เสื้อกล้ามเสร็จพอดี
“กูหนาว”ตอบเสร็จก็รีบกระโดดขึ้นเตียง มันหัวเราะก่อนจะค้นผ้าเช็ดตัวในกระเป๋าออกมาใช้ มันเข้าไปอาบน้ำได้ไม่นานนักไอ้ตินก็ย่องเข้ามาในห้องพอดี
“มึงกินยาหรือยัง”มันถามเดินมานั่งที่ปลายเตียง
“กินแล้ว”ความจริงยัง แต่ตอบไปแบบนั้นแหละเดี๋ยวมันให้ผมลุกมากิน กำลังนอนสบายๆขี้เกียจลุก
“โม้ ยามึงยังเหลือเท่าเดิมอยู่เลย”มันหยิบแผงยาออกมาดู
“เดี๋ยวแผลไม่แห้งนะมึง”มันโยนแผงยามาให้ ก่อนจะส่งแก้วน้ำตามมาให้
“ทราบแล้วครับพ่อ”ผมรับแก้วน้ำมาจากมัน
“เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ไหม คำหลังอ่ะ”ผมโบกมือไล่มันก่อนจะกินยา เสียงผิวปากของไอ้ภูแว่วมาก่อนที่ประตูห้องน้ำจะเปิดออก รู้สึกใจหวิวชอบกลที่เห็นกล้ามหน้าท้องของมัน ถึงคราวไอ้ตินเข้าไปอาบน้ำ เหลือผมกับไอ้ภูอีกตามเคย
“ทำมาโชว์”ผมแขวะ ไอ้ภูทำเป็นเดินไปเดินมาไม่ใส่เสื้อซักที
“มีของดีก็ต้องโชว์สิ เป็นไง กูเซ็กซี่ไหม”มันตบซิกแพคของตัวเองเบาๆ
“…ไม่อ่ะ”
“คิดนานนะมึง”มันหัวเราะ เฮ้อ พวกมันนี่เหมือนจะแกล้งผมคืนยังไงก็ไม่รู้ ไอ้ตินอาบน้ำเสร็จก็เดินไปเดินมาเลียนแบบลูกพี่ของมัน ผมตบหมอนให้เข้ารูปก่อนจะดึงผ้าห่มถึงคอ แกล้งทำเป็นนอนหลับ สองหูฟังเสียงมันสองคนแต่งตัวเงียบๆ จนรู้สึกว่าไฟดับลงและเตียงทั้งสองข้างยุบลงตามน้ำหนักของเจ้าตัว ผ่านไปสักพักพวกมันก็ยังคงนิ่งเงียบไม่แสดงท่าทีว่าหื่นแต่อย่างใด หรือว่าพวกมันเหนื่อย
เอ๊ะ หรือพวกมันจะแกล้งผม นี่อุตส่าห์เตรียมตัวพร้อมแล้วนะเนี่ย ผมพลิกตัวนอนหงาย ลืมตามองห้องในความมืดก่อนจะพลิกตัวนอนหงาย ค่อยๆสอดมือลงบนหน้าท้องของทั้งสองคน อยากรู้เหมือนกันว่าพวกมันจะทำฟอร์มได้นานแค่ไหน ผมค่อยๆลูบวนลงต่ำลงทีละนิดก่อนจะวนขึ้นมาที่หน้าท้องเหมือนเดิม ไอ้ภูเริ่มขยับตัวเล็กน้อย ส่วนไอ้ตินยังเป็นพระอิฐพระปูนอยู่ ผมเลยเริ่มวนต่ำอีกครั้ง และก็เป็นไอ้ภูที่ตบะแตกก่อน มันพลิกตัวมาคร่อมจนผมตกใจ
“ว่าจะแกล้งซักหน่อย”ถึงจะมืดแต่ผมก็ยังเห็นแววตาวิบวับของมัน
“ถ้าลีลามาก เดี๋ยวพวกมึงอดนะ กูจะไปนอนข้างล่างแล้ว”ขู่ไว้ก่อน จู่ๆก็นึกถึงคำพูดของไอ้โต้งเมื่อตอนที่ผมแกล้งอยู่ในห้องน้ำกับมันเลย ไอ้พวกนี้แม่งลีลาชักช้ามากกว่าผมอีก
“ก็มึงอยากทำเมินก่อนเองนี่”ไอ้ตินพึมพำเบาๆ ก่อนจะกดจูบเบาๆที่ซอกคอ ไอ้ภูขยับดึงกางเกงผมออกอย่างรวดเร็ว หึๆ คิดถูกจริงๆที่ใส่ตัวนี้ ผมเอือมไปปลดกางเกงของไอ้ตินออกเช่นกัน สะดุ้งเป็นระยะเมื่อถูกริมฝีปากของอีกคนกลืนกิน ถึงแม้จะมืดแต่ผมกลับเห็นสีหน้าของไอ้ตินได้แจ่มชัด เมื่อผมค่อยๆปลุกเร้ามันด้วยปลายลิ้นร้อน มันใช้มือยันหัวเตียงก่อนจะรั้งต้นคอผมเข้าใกล้ ส่งแก่นกายเข้ามาช้าๆ กลิ่นสบู่อ่อนๆแตะจมูก
ผมหลับตาเพื่อปิดการรับรู้ป้องกันอาการเก้อกระดากของตนก่อนจะเริ่มขยับปากช้าๆ ในระหว่างที่ริมฝีปากอุ่นเบื้องล่างยังขยับหยอกล้อไม่หยุดเช่นกัน เสียงครางอือดังเบาๆจากไอ้ติน เมื่อผมลากปลายลิ้นลงต่ำ ผมครางอือในลำคอเมื่อมือหนาข้างล่างขยับรูดรั้งรุนแรงจนต้องเกร็งตัวเขม็ง ไอ้ภูผละออกมาก่อนจะกดจูบหน้าท้องผมแรงๆ ลิ้นอุ่นแยงเข้าไปในสะดือจนเสียววาบไปทั่วท้อง
“ฟิกวันนี้กูอยากทำพร้อมกันว่ะ”ไอ้ตินพูดหอบๆ พร้อมกัน?หมายถึงอะไรวะ จู่ๆไอ้ภูก็ผละออกไปจากตัวผม และมันกลับมาอีกครั้งพร้อมกับเจลลื่นๆเย็นๆ แต่ทุกอย่างก็กระเจิงไปจากหัวเมื่อนิ้วมือเย็นๆของไอ้ภูสอดเข้ามานำทางซ้ำๆ ก่อนที่แก่นกายร้อนฉ่าจะค่อยๆดันเข้ามา ผมผละออกมาเมื่อเริ่มจะเมื่อย ไอ้ตินก้มมาขบกัดริมฝีปากล่างแรงๆตามแรงอารมณ์ที่พุ่งสูง สองมือรั้งใบหน้าผมเข้าใกล้ก่อนจะบดจูบย้ำไม่ห่าง ตามมาด้วยลิ้นร้อนกวาดไปรอบโพรงปากอย่างไม่ยอมแพ้กัน
“อือ ช้าๆดิไอ้เหี้ย”ผมผละออกมาแหวไอ้ภูที่ทำผมจุกหน่วงน้อยๆ ในขณะที่ปลายลิ้นของไอ้ตินยังตามไล้เลียไปทั่วลำคอไม่ห่าง
“อาาา กูเสียวว่ะ”ไอ้ภูพึมพำระหว่างที่จับต้นขาผมแยกห่างก่อนจะโถมตัวเข้ามาเป็นจังหวะหนักหน่วง จนเกิดเสียงดังขึ้นมา
“เชี่ยเบาๆ”ผมครางด่าอย่างว้าวุ้น หลับตาหอบเมื่อไอ้ตินก้มมาดูดยอดอกเบาๆ มืออีกข้างนวดคลึงอยู่ไม่ห่าง ริมฝีปากเม้มเข้าหากันแน่นเพราะกลัวจะส่งเสียงดังมากเกินไป ไอ้ภูสอดมือเข้ามาใต้สะโพก รั้งเข้าไปใกล้กระแทกกระทั้นเข้ามาถี่รัวเหมือนห้ามใจไม่อยู่
“ฮื่อ…อ๊ะ ตินมึงจูบกูหน่อยดิ”ผมยันตัวเองด้วยข้อศอก เพื่อรับปลายลิ้นของอีกฝ่าย ผมกัดริมฝีปากล่างของมันแรงครางฮื่อในลำคอเมื่อแก่นกายขยับเข้ามาไม่หยุดจนต้องแอ่นกายรับ
“มึงทำหน้าแบบนี้เซ็กซี่ดีนะ”ไอ้ตินยกยิ้มร้ายกาจ
“ย…อย่าพูดดิ”กูอายยยยยยยย ผมหลบสายตาก่อนจะเอื้อมมือไปกอบกุมแก่นกายของมันอีกครั้ง ผมเผลอกำแน่นอย่างลืมตัวเมื่อไอ้ภูโถมแรงเข้ามาเต็มที่จนมันสูดปากเสียงดังและถอนตัวออกมาปล่อยธารสีขุ่นใส่หน้าท้องของผม
“อาาา”มันขยับมาจูบผมเบาๆ ก่อนทิ้งตัวลงนอนข้างๆ ผมหอบแฮ่กแต่อย่าหวังว่าจะได้พักในเมื่อไอ้ตินยังไม่เสร็จภารกิจ มันขยับเข้ามาสอดแก่นกายอุ่นพรวดเดียว ดันต้นขาผมแนบตัวก่อนจะขยับเข้ามาเน้นๆด้วยแรงอันเหลือเชื่อจนผมสะเทือนไปหมด มันกระแทกเข้ามารัวเร็วจนร้อนผ่าว
“เชี่ยกูเสียว”ผมส่งเสียงอย่างลืมตัว ไอ้ตินยิ้มมอง ผ่อนจังหวะลงช้าๆก่อนจะถอนตัวออกมา ขยับไปยืนที่ปลายเตียงก่อนจะดึงขาผมแรงๆจนตัวผมไถลพรืด และอีกครั้งที่มันใส่เข้ามารวดเดียวพร้อมกับขยับรุนแรงตามอารมณ์ที่อัดอั้นมานาน ริมฝีปากของผมถูกครอบครองอีกครั้งจากอีกคน ผมเกร็งกระตุกครางอืออาในลำคอเมื่อปลดเปลื้องอารมณ์ออกมาเป็นน้ำขุ่น ไอ้ตินครางฮึ่มก่อนจะเบียดเข้ามาจนสุดก่อนที่ความอุ่นวาบจะแผ่เข้ามา
“ฟิก…”ไอ้ตินทำหน้าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างออกมา
“อะไร”
“ใส่ให้หน่อย”เหมือนมันเปลี่ยนคำพูดอย่างฉับพลัน ไอ้ตินถอนแก่นกายออกมาก่อนจะหายไปหยิบถุงยางส่งให้ผม ผมมองหน้ามันงงๆว่ามันจะใช้ทำไมตอนนี้ มันยืนมองผมแกะซองเล็กๆด้วยมือที่สั่นน้อยๆอยู่ที่ปลายเตียง
“มึงไม่เหนื่อยเหรอวะ”ผมพึมพำเมื่อไอ้ภูขยับมาซ้อนด้านหลังพร้อมกับซบหน้าลงบนบ่าของผม รู้สึกได้ชัดเจนว่าน้องภูของมันเริ่มขยายขนาดอีกแล้ว ไอ้พวกหื่นเอ้ย
“มึงเหนื่อยแล้วเหรอ”มันพึมพำถามกลับ มือหนาเลื่อนมาลูบแถวๆหน้าท้องของผม
“ยัง”ผมก็นะ…
“ดีแล้ว มึงไม่ต้องกลัวนะ”แต่ทำไมไอ้ตินมันพูดจาแปลกๆวะ
“มึงว่าไงนะ”ผมใจเต้นกระหน่ำรัว มันก้มมาดุนปากผมเบาๆพร้อมกับกระซิบ
“กูอยากทำพร้อมๆกัน”ผมกำลังมึนงงว่าไอ้พร้อมๆกันของมันนี่หมายถึงอะไร แต่เมื่อมือหนาของไอ้ภูไล้วนแถวสะโพกของผมก็เริ่มจะเข้าใจลางๆ
“หมายถึงมึงกับมันพร้อมกัน”มันพยักหน้าหงึกหงัก
ไอ้พวกบ้าาา
“ทำไมมึงไม่บอกก่อนวะ กูจะได้เตรียมตัวเตรียมใจถูก”ผมเริ่มปากคอสั่น เวรแล้ว ทำไมพวกมันต้องมานึกพิเรนทร์ๆตอนนี้ด้วยก็ไม่รู้
“ตกลงเอาไง”ไอ้ภูยังคงลูบเนื้อลูบตัวผมไม่หยุด จะเอายังไงล่ะ ผมเองก็ยังไม่สุด ก็แบบห่างหายกันไปนาน
“สัญญาว่าจะเบาๆ”
“ถ้ากูเจ็บคือหยุดเข้าใจนะ”ไอ้ตินรีบตอบตกลงอย่างรวดเร็ว ก่อนที่พวกมันจะเริ่มสานต่ออีกครั้ง เจลลื่นๆถูกชโลมอย่างหนัก ผมใจเต้นระรัวทั้งตื่นเต้นและกลัวไปพร้อมๆกัน เมื่อทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทางผมก็ค่อยๆกดตัวลงบนท่อนรักของไอ้ภูช้าๆพยายามไม่หลุดเสียงครางออกมา ก่อนจะเอนตัวทิ้งน้ำหนักไปบนร่างหนาของไอ้ภู ลมหายใจถี่กระชั้นของมันเป่ารดต้นคอ
“ตัวมึงหนักมาก”ไอ้ภูพึมพำ ไอ้บ้านี่…ผมกำลังได้ที่แท้ๆมาอารมณ์หดเพราะคำพูดของมัน ไอ้ภูหัวเราะก่อนจะเอื้อมมาลูบพุงผม อีกมือนวดคลึงยอดอกเบาๆ ผมลืมตามองอีกร่างที่กำลังบีบเจลล่อลื่นด้วยใจเต้นตุบๆ มองจากตรงนี้ไอ้ตินหุ่นดีฉิบ…ผมหลับตาก่อนจะช่วยกระตุ้นอารมณ์ตัวเองไปด้วย ไอตินค่อยๆสอดนิ้วเข้ามาเบิกทางอีกครั้ง
“เชี่ย มันจะเข้าได้เหรอ”
“ได้สิ”มันตอบเสียงหอบและหื่นมาก
“มึงรีบๆเลยก่อนที่กูจะกลัว”ผมเร่ง ไอ้ตินเลยเปลี่ยนเอาของจริงมาแทน ผมหลับตาแน่นระหว่างที่มันค่อยๆดันเข้ามาช้าๆ ผมยกมือปิดปากตัวเองกลั้นเสียงร้อง เจ็บอยู่เหมือนกันแต่ผมก็สงสารไอ้ตินไม่อยากให้มันค้างคา ผมขยับเข้ามาเป็นครั้งสุดท้าย จนผมรับรู้แรงเต้นตุบๆจากแก่นกายของพวกมันในตัวผม
“พวกเชี่ย”ผมสบถด่าพวกมันเบาๆเมื่อไอ้ตินเริ่มขยับตัวช้าๆและจากนั้นมันก็เร่งสปีดเต็มที่เพราะเจลล่อลื่นที่มันชะโลมไว้อย่างเยอะ ผมสะดุ้งเป็นระยะเพราะเสียงแผ่นไม้ลั่นเวลาไอ้ตินโถมแรงเข้าใส่ ยิ่งเห็นสีหน้าของมันผมยิ่งเขิน ผมไม่น่านอนหงายเลย ให้ตายเถอะ น่าอายจริง ๆ ส่วนไอ้ภูนอนหอบแฮ่กอยู่ใต้ตัวผม ไม่รู้ว่าเสียวหรือหนักกันแน่ กว่าแต่ล่ะคนจะเสร็จลำบากเหลือทน โดยเฉพาะผม ไอ้ตินถอนตัวอย่างเหนื่อยหอบ ก่อนจะทิ้งตัวนอนลงบนเตียง
“หนัก…”ไอ้ภูพึมพำ
“เรื่องของมึง”ผมขยับลุกนั่งก่อนจะลงโทษมันไปอีกยก ดีที่หันหลังให้มันไม่อย่างนั้นผมคงไม่กล้าทำหรอก กว่ามันจะพอใจผมก็เมื่อยไปหมด
“ฟิกมึงนี่เก่งขึ้นนะ”มันพึมพำเมื่อผมทิ้งตัวลงนอนข้างๆ รู้สึกโล่งสบายอย่างบอกไม่ถูก
“พูดมาก”ผมพึมพำตอบอู้อี้กลับไปเพราะไอ้ตินพลิกตัวมากอด
“กูชอบ วันหลัง…”ผมเอื้อมมือไปบีบน้องชายมันเต็มแรง จนมันร้องโวยลั่นบ้าน
“พี่จะดังทำไม”ไอ้ตินแหวเสียงดุ
“มันบีบไข่กู เห็นไหม ลูกกูช้ำหมด”มันลุกนั่งประคบประหงมลูกชายมันอยู่ในความมืด ไอ้ตินถอนหายใจก่อนจะก้มมาจนชิดใบหูของผม
“แต่วันนี้มึงเก่งจริงๆนั่นแหละ”มันผุดรอยยิ้มมุมปาก ผมง้างมือเตรียมบีบน้องชายมันแล้วแต่มันรู้ทันรีบพลิกตัวหันไปอีกด้านทันที
“จำไว้นะพวกมึง…”ผมพูดขึ้นมาหลังจากที่พวกมันนอนเงียบแล้ว ไม่รู้ว่าหลับไปหรือยัง
“ถ้าไม่รัก กูไม่ยอมให้พวกมึงขนาดนี้หรอก”
“ฟิก…”ไอ้ตินพลิกตัวหันมามองผมอีกครั้ง
“ถึงคราวพวกมึงก็อย่ามาร้องล่ะกัน”ผมยิ้มโหดตบท้าย ไอ้ภูหัวเราะเบาๆ
“กูกำลังซึ้งมาขัดซะงั้น กูรักมึงนะ แต่มึงมันชอบทำร้ายหัวใจดวงน้อยๆของกู”
“อย่ามาตีเสียงเศร้า กูรู้ว่ามึงกำลังกวนตีน”ไอ้ภูมันน่าถีบจริงๆ ในระหว่างที่ใกล้เคลิ้มหลับไอ้ตินก็โน้มมาจุ๊บหน้าผากผมเบาๆเป็นการส่งท้ายคืนอันแสนทรหด
ผมหวังว่าแม่จะไม่ตื่นมากลางดึกนะครับ…
………………………………………………………………
เพลียว่ะ….
ผมถูกปลุกด้วยเสียงดังบ้านแทบแตก ลืมตาได้ทั้งห้องก็สว่างจ้าและมีเพียงแค่ผมที่นอนอ้าซ่าอยู่บนเตียง แล้วใครมันช่างมาทำเสียงดังเอาตอนนี้วะ
“ทำไมวันนี้เจ้าฟิกมันตื่นสายจัง”ได้ยินเสียงแม่ดังแว่วๆมาจากด้านล่าง
“มัน…แฮ้งน่ะครับ”เสียงไอ้ตินตอบ
“แล้วหลับสบายกันไหม พอดีเมื่อคืนแม่เผลอหลับยาวเลย ไม่ได้ออกมาดูพวกหนู”ดีแล้วล่ะแม่ ไม่อย่างนั้นแม่อาจช็อคได้
“ไม่ค่อยสบายหรอกครับ ผมว่าเมื่อคืนผมเจอผีหลอก”เสียงกวนประสาทของไอ้เนมดังขึ้น ผมยกหัวจากที่นอนทั้งๆที่คิ้วขมวดมุ่นอยู่อย่างนั้น
“ผีเผอมีที่ไหนกันจ๊ะ แม่อยู่มาจะสี่สิบแล้วยังไม่เคยเจอเลย”แม่ดูงุนงง
“แม่ไม่เคยเจอก็ดีแล้วครับ ผมเป็นห่วง”
“มึงเจอผีด้วยเหรอ”พี่ปาถามเสียงหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด
“ฟังจากเสียงผมว่า เจ้ากรรมนายเวรผมนี่แหละ”ไอ้ชัยเสร่อพูดขึ้นมา ผมทนไม่ไหวจึงค่อยๆเลื้อยลงจากเตียง แต่พลาดไปหน่อยจึงหล่นกระแทกพื้นเสียงดัง
“ตื่นแล้วก็ลงมา นอนกินบ้านกินเมืองจริงๆเลยลูกฉัน อายพี่ๆเขาไหม”เสียงบ่นของแม่ยังดังไม่หยุด ผมลูบหน้าลูบตาก่อนจะใช้แรงงัดตัวเองขึ้นมาจากพื้นห้อง ชีวิตของผมช่างน่าสงสาร จะนอนต่อก็ไม่ได้ โดนเสียงไอ้พวกเวรนั่นหลอกหลอนต่อแน่ๆ ลงไปก็ไม่วายโดนล้ออีก
“ไอ้พวกชั่ว”ผมก่นด่าไอ้ภูกับไอ้ตินทันทีเมื่อเห็นร่องรอยจากมรสุมเมื่อคืน ……อึสะดวกไปอีกหลายวันแน่ๆ ผมใช้เวลาอาบน้ำไปนานโข ยังดีที่มีรอยจ้ำจางๆ ไอ้ที่แดงๆอยู่ต่ำลงไปมากกว่า ผมรวบรวมความกล้าลงไปชั้นล่าง เสียงเฮฮาของพวกมันดังอยู่ด้านนอก กลิ่นเผาอะไรสักอย่างลอยมา
หนึ่ง…สอง…สาม
“จ๊ะเอ๋ แม่”ผมโผล่มาอย่างสดใสเท่าที่จะทำได้ และแน่นอนว่าไอ้พวกเวรหันมามองเป็นตาเดียว ส่วนแม่ผมกำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวเล็กๆกำลังใช้ไม้เขี่ยถ่าน กลิ่นเหม็นไหม้ที่ว่าก็คือกลิ่นเผาข้าวหลามนี่เอง
“ตื่นสายเชียว เมื่อคืนเมาหนักเลยล่ะสิ”แม่ส่ายหน้าไปมา ผมพยายามไม่มองหน้าไอ้พวกเวรทั้งหลายอย่างแน่วแน่
“ก็นิดหน่อยอ่ะ”
“กูว่าไม่หน่อยแน่ๆ”ไอ้ชัยแทรกมา ผมหันไปมองมันอย่างเกลียดขี้หน้า กูขอถอนคำพูดที่ว่าจะทำตัวดีกับมึง ไอ้ชัย!
“มึงหุบปากไปก็ไม่มีใครว่านะ”ผมเผลอด่ามันเข้าให้ แม่ถึงกับหันมาทำตาดุใส่
“เออ กูกำลังคุยกันอยู่เลย เมื่อคืน…”ไอ้เนมหรี่ตามองผม ที่พยายามปั้นหน้าเต็มที่ ผมนี่อยากมุดดินให้รู้แล้วรู้รอด
“ทำไมวะ”ผมทำหน้าด้านถามกลับ
“ผีหลอก มึงไม่เจอเหรอ”
“ไม่นี่”
“แล้วมึงอ่ะไอ้ภู กูว่ามึงต้องเจอผีอำแน่ๆ”
“ไม่เจอ”เสียงไอ้ภูฟังดูฉุนเฉียว ทำมาอายนะมึง กูอายกว่ามึงอีก ผมสาปแช่งพวกมันอยู่ในใจ
“แม่เข้าไปพักดีกว่า เดี๋ยวผมดูเอง”ผมรีบออกปากเพราะกลัวว่าแม่จะเห็นความผิดปกติทางสีหน้าของผม
“อย่าให้ไหม้ล่ะ เดี๋ยวแม่จะพาไอ้ต้อออกไปเดินเล่น”แม่กำชับก่อนจะผละไปที่กรงหมา ตั้งแต่ไอ้พวกนี้มาแม่ก็ให้มันอยู่ในกรงอย่างเดียวเพราะกลัวมันจะกระโจนใส่คนแปลกหน้า ถึงจะไม่กัดแต่มันแรงเยอะเกรงว่าจะได้แผล ไอ้ต่อเห่าเสียงดังเหมือนดีใจที่ได้ออกไปยืดเส้นยืดสาย ไอ้ชัยเหมือนจะกลัวหมาไซบีเรียนเพราะเห็นมันนั่งเกร็งตอนที่แม่จูงมันออกไป ผมนี่อยากวิ่งเข้าไปกระชากสายจูงแล้วอุ้มใส่มันเลย เมื่อแม่เดินพ้นจากตัวบ้านแล้ว ขุมนรกก็มาเยือนผมทันที
“พวกมึงห้ามแซว”ผมรีบชี้หน้าพวกมันทันที พี่ปากับไอ้พี่เบลล์ทำหน้างงเพราะไม่รู้เรื่อง
“พวกมึงนี่…”ไอ้ชัยทำหน้าหมดคำพูด
“แต่กูเข้าใจนะ ขนาดที่คอนโดกู มึงยังกล้า”แล้วมันก็หัวเราะหึๆ
“กูเสียใจกับมึงด้วยนะ มีผัวหื่นก็ซวยแบบนี้แหละ”ไอ้เนมพูดเสียงกลั้วหัวเราะ ได้ทีพวกมันก็เอาใหญ่
สัดเอ้ยยยยยยยยยยยยยยยย
“ถ้ามึงไม่เงียบก็เอาฟาดปากพวกมึงแน่”ผมชี้ไปที่กระบอกข้าวหลามที่กำลังโดนไฟเผาดังฉ่าๆ
“ก็แน่ล่ะ เมื่อคืนกินจนอิ่มแล้วนี่”ผมเถียงไม่ออก พูดอะไรไปก็เข้าตัวหมด ผมจึงตัดสินใจนั่งหันหลังให้พวกมันซะ พวกมันเอาคืนที่ผมแกล้งพวกมันสินะ โลกช่างไม่ยุติธรรมกับผมเลย!
TBC.
ในที่สุดดดดดดดดด พวกแกก็ได้กันสักทีเนาะ
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
