10 CM : รักที่ส่วนต่าง 10 CM 3/5/2016 จบแล้วครับ + มีเวบตูนแล้วครับ ลิ่งอยู่เม้นสุดท้าย
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 10 CM : รักที่ส่วนต่าง 10 CM 3/5/2016 จบแล้วครับ + มีเวบตูนแล้วครับ ลิ่งอยู่เม้นสุดท้าย  (อ่าน 83601 ครั้ง)

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
Re: ขอแค่ 5 นาที : ตื่น [pg9] 18/2/2016
«ตอบ #270 เมื่อ18-03-2016 16:55:11 »

ปิตายจริงๆเหรอ
:(

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
ขอแค่ 5 นาที : คิดถึง 20/2/2016
«ตอบ #271 เมื่อ20-03-2016 22:04:37 »

ขอแค่ 5 นาที : คิดถึง

ใช้เวลาไม่นานจากบ้านต่อไปถึงห้าง วันแรกของปีใหม่ บนถนนยังโล่ง เห็นรถวิ่งไปมาได้บางตา บนรถเมล์ที่ทั้ง 2 คนขึ้นก็ดูจะเบาบางเช่นกัน

"นี่ต่อ ดีขึ้นยัง"

"หมายถึงเมาหรือว่าไม่สบายละ"

"ทั้ง 2 อย่าง"

เอ็มหันหน้าออกไปทางหน้าต่างรับลมหนาว ต่อโดนบังคับให้นั่งใน

ทุกทีต่อจะเป็นคนบังคับปิ ดูต่อจะเป็นเด็กเอาแต่ใจที่พี่ชายรูปหล่อตามใจมาตลอด มาเจอกับเอ็มที่เป็นคนมั่นใจในตัวเอง ฉลาดและรอบคอบ กลายเป็นต่อรู้สึกว่าตัวเองเป็นแค่เด็กม.ต้นที่ต้องให้มาคอยดูแล

คล้ายๆใครน้า

'ไอ้โอตาคุเอ้ย ป่านนี้เป็นยังไงบ้างนะ'

ในกระเป๋าเป้สีน้ำเงินใบเดียวที่ต่อมี ใบนี้ไม่ได้รับมาจากพี่ต้องแต่เป็นเงินเหลือจากที่ซื้อไอพอดให้พี่ต้อง เงินเหลือจากที่ไถคนอื่นมา

เครื่องเกมนอนนิ่งสงบ ถ้าไม่คิดไปเองจะมีบ้างครั้งที่เหมือนโดนสะกิดเรียก

'มันคงคิดถึงเจ้าของ'

แปลกพอเห็นหน้ากันทุกวันไม่ยักรู้สึกอะไร พอไม่เห็นแค่นั้น ไม่กี่วันทำยังกับว่าไม่ได้เจอกันมาเป็นปี

"ก็ดีขึ้นแล้ว เริ่มหิวแล้วด้วย"

"แล้วไอ้ที่ซื้อให้ก็ไม่กิน ทีงี้มาทำหิว เดินไกลนะเว้ย"

ต่อหันไปหรี่ตามอง

'มันบอกจะจีบ นี่คือจีบเหรอ'

"เดี๋ยวถึงแล้วอยากกินไรว่ามา"

"ให้ถึงก่อนเหอะ"

คนแออัดกันที่ป้ายหน้าห้าง แสงไฟประดับประดาส่งแสงวับแวมออกมา หน้าหนาวมืดเร็วกว่า ไฟที่ประกับอยู่ก็เลยได้เปิดอวดสายตาผู้คนที่มาเยี่ยมชมตั้งแต่บ่ายแก่

ต่อเดินนำตรงเข้าห้าง พุ่งตรงไปที่ฟู๊ดคอร์ด ต่อยังต้องระวังและควบคุมรายจ่าย ปีใหม่ไม่ใช่ว่าจะได้ของขวัญเหมือนอย่างคนอื่น ในเมื่อของขวัญยังไม่ได้ เงินค่าขนมก็ไม่มีหวัง

"นี่คนเยอะนะ"

"ก็ทำไงได้ละ"

เอ็มยังไม่รู้เรื่องบ้านต่อ

"มานี่"

ข้อมือต่อถูกลากออกตรงขึ้นไปชั้น 2

ต่อสะบัดมือออกไวไว ก่อนจะให้คนอื่นทันสังเกตุ

"เราอยากกินนี่"

วิธีการพูดเหมือนต่อ แต่น้ำเสียงหนักแน่นบอกสิ่งที่ตัวเองคิดออกมา

"เราเลี้ยงเอง ฉลองปีใหม่"

เอ็มออกปากเมื่อเห็นต่อทำท่าลังเล

"2 ที่ครับ"

"3 เอ่อ... 2 ครับ"

ต่อก้มหน้า หน้าเริ่มแดง

เอ็มตบหลังต่อเดินเข้าไปในร้าน

ต่อรู้สึกได้ มือนั้นสั่น

โต๊ะสำหรับสองคนอยู่ริมสุดของร้านติดกระจก เก้าอี้เหล็กถูกลากออก เสียงคนทิ้งน้ำหนักตัวลงบนเบาะนุ่มๆ

"สั่งเลยตามสบาย"

เอ็มพลิกเมนูเลือกอาหาร 2 อย่าง

"แบ่งกัน"

ต่อชี้อันที่ดูแล้วราคาสมเหตุสมผลที่สุด

“อะไรก็ได้"

อีกฝ่ายเห็นท่าทีต่ออึกอักเลยแหย่ขึ้น

"พี่ร้านนี้อะไรแพงสุด"

ป๊าบ

เอ็มเอาเมนูฟาดหัว

"อะไรก็ได้ที่ชอบ ไม่ใช่ที่แพง"

ต่อหัวเราะแฮะๆ ยืนยันรายการเดิมที่สั่งไปตอนแรก

"ต่อชอบปิตรงไหนเหรอ"

ท่าทางความเงียบระหว่างสองคนจะทำให้อึดอัด

เอ็มเปิดคำถามแรกออก

"...ไม่รู้สิ"

...

"ก็... ตอนแรกไม่ได้คิดอะไรหรอก แค่ไม่อยากให้มันโดนแกล้ง พอกูเห็นแล้วก็ทนไม่ได้ ...."

พนักงานนำอาหารมาวางบนโต๊ะ

เอ็มไม่สนใจ มองตรงไปที่ต่อ

"... พอเห็นปิยิ้มแหยๆ กู เอ่อ เราก็เข้าใจได้ว่า มันกำลังเจ็บอยู่ แล้วไม่รู้ตอนไหนที่พอเห็นปิร้องไห้ ร่างกายเราก็เป็นไปเอง... มันไม่อยากเห็นน้ำตาของปิอีก"

แค่คิดก็เหมือนถูกมีดแทงเข้าที่หน้าอก

ต่อหน้าแดง

"ตอนที่โดนแกล้งที่สระว่ายน้ำสินะ"

ต่อพยักหน้า

ใช่...

'ไอ้บ้ากะปิ'

ปิมันเล่าให้เอ็มฟังทุกอย่างเลยใช่มั้ย จะจัดการมันมีหลังคอยดู

"มันเล่า...."

"ต่อชอบเราตรงไหน"

เอ็มตัดบทขึ้น

"ก็เอ็มเป็นคน ..."

"นี่ ใครว่ากูชอบมึง" ต่อตะโกนเสียงดัง

ฮ่าๆๆ เอ็มหัวเราะ เอื้อมมือไปดึงของบางอย่างออกจากกระเป๋าเสื้อต่อ

"เดี๋ยวเลอะ"

แว่นตาที่คุ้นเคย ถูกวางไว้ข้างๆอาหารอย่างระวัง

"รีบกินเหอะ อยากไปดูเกมแล้ว"

"อย่างมึงเล่น?"

"เออ อย่างกูเนี่ยแหละ" เอ็มเน้นเสียงคำว่ากู

เอ็มท่าทางไม่อยากอาหาร

“เคยมากับปิมั้ย"

ต่อถามขึ้น

อาหารถูกตักเข้าปากต่อคำต่อคำ ไม่ต้องให้เร่งต่อก็รีบกินอยู่แล้ว

"เคยดิ"

"ทำอะไรกัน" ต่อเงยหน้าถาม อาหารยังอยู่ในปาก

เอ็มยักไหล่

"ร้านหนังสือ ร้านเกม โมเดล กินขนม"

ปิจริงด้วย โอตาคุ ไม่คิดว่าเอ็มก็เป็นอีกคน

ทุกทีต่อไปห้างทำไรนะ

นั่งเหล่สาวไปวันๆ สูดมะเร็งจากปากพวกไอ้อาท มาถึงห้างไม่ทำอะไร นั่งแถวที่สูบบุหรี่เหล่สาวไปวัน เรื่องเดินซื้อของไม่ต้องคิด

ต่อไม่ได้มีความสะดวกในเรื่องนั้น

"โทรหาพี่ต้องยัง"

"ไม่รีบสาย คงกกอยู่กับเมียใหม่ละมั้ง"

"งี้เราก็ได้กกกันอีกวันอะดิ"

"อิ่มแล้ว พี่คิดเงิน"

เอ็มแทบพ่นข้าวออกมาจากปาก

"เฮ้ยๆ รอกูด้วยดิ"

"จีบกูน่ะ แค่นี้ทนไม่ได้เหรอ"

สนุกดีเหมือนกันแฮะ

ด้วยความกรุณาของเอ็ม มื้อนี้ต่อได้กินของดี ไม่ใช่ว่าอยากกินแต่ต้องฝืนเข้าไปบ้าง ไม่มีอะไรตกถึงท้องมาตั้งแต่เมื่อวานเย็น ไม่นับไอ้ก๋วยเตี๋ยวที่ยังกินไม่ลงนั่น

"ต่อ ยา"

ต่อรับไปแล้วกินเข้าไปทีเดียว 2 เม็ด สียาถูกต้อง

"นี่ ทำไรต่อ"

"ไม่รู้ คนชวนมาน่ะจะทำไร"

ต่อส่ายหน้า

"แค่อยากกินข้าวน่ะ"

ไม่อยากอยู่บ้านมากกว่า มันอุดอู้  บ้านที่ไม่ใช่ของเรา เจ้าของบ้านก็ไม่อยู่

ออกมาข้างนอกไม่ได้ดีขึ้น

ก่อนกลับเอ็มแวะไปซื้อหนังสือมาเล่มหนึ่ง อีกหนึ่งอย่างที่ต่อไม่เคยจะทำ นอกจากหนังสือเรียนที่พี่ต้องบังคับให้อ่าน

"ชอบอ่านเหรอ"

"ก็ดี ปิมันก็อ่านนะ แต่เป็นการ์ตูนแล้วก็นิยายพวกผีๆน่ะ"

"ไอ้นั่นอะนะ"

เอ็มพยักหน้า

"แล้วมึงละ"

"สืบสวน"

"โหใช้สมองสุดอะ"

ถ้ามากับปิ ปิคงจะเดินดิ่งเข้าแผนกหนังสือที่อยากอ่านแล้วเรียกต่อไปอธิบายให้ฟังว่าเล่มนี้ยังไง เล่มนั้นยังไง ปิจะหันหน้ามายิ้มให้ แว่นเกือบหล่นลงมาที่ดั้ง ท่าจะหนักน่าดู แล้วก็จะบ่นว่าถ้าต่อไม่สนใจ

เหมือเวลาเล่าเรื่องเกมที่ต่อนึกภาพไม่ออก

เฮ้อ...

แต่เอ็มไม่เป็น เอ็มจะเปิดดูเงียบๆ แล้วหันมามองต่อว่าเบื่อหรือเปล่า

พูดน้อยแต่ดูเป็นห่วง

ฟ้ามืดแล้วเมื่อต่อกับเอ็มกลับมาที่บ้าน ชั้นล่างมืดสนิท ก่อนออกไปไม่ได้เปิดไฟไว้ บ้านดูอับและน่าหม่นหมอง ที่นี่ไม่มีเสียงหัวเราะมานานแล้วตั้งแต่ตอนที่พ่อตาย

ช่วงที่ได้เกมมาจากปิ ต่อมันจะแอบนั่งเล่นบนห้อง ไม่อยากให้น้าเห็น

“ต่ออาบน้ำอีกมั้ย"

เอ็มถามเมื่อกลับถึงบ้าน

"ไม่แล้ว"

ห้องเล็กนิดนึง ตัวถูกันไปมาเดี๋ยวก็ได้เสียตัวอีกรอบ

ต่อเปลี่ยนเป็นชุดนอนแล้วโดดขึ้นเตียง

เอ็มทำตามอย่างไม่เคอะเขิน การแก้ผ้าตรงหน้ากันเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว

"นี่อันนี้เล่นค้างอยู่"

"ไหน อ้อ"

เอ็มไม่สนใจ นอนอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ เอาขาวางพาดขาต่อเอาไว้  กลางคืนอากาศเย็น

แบบนี้ก็อุ่นดี

เสียงตื๊ดๆ ของเกมดังเป็นจังหวะตามที่ต่อกด ที่นี่ไม่ใช่ที่โรงเรียนนานๆจะได้เล่นเกมเปิดดังจนสุด เอ็มไม่ได้มีมีท่าจะรำคาญอะไรทั้งนั้น ไม่แม้แต่จะช่วยเช่นกัน

เสียงหัวเราะหลุดลอดออกมาเวลาที่ต่อเจอฉากตกใจ

"ขำ?"

"เปล๊า"

"ไอ้บ้ากะปิ ทำไมลงแต่เกมผีๆไว้วะ"

"แล้วเล่นผ่านมั้ยละ"

"พอได้"

ในบ้านเงียบแบบนี้ถ้าเอ็มไม่มาอยู่เป็นเพื่อน ต่อคงจะไม่กล้าเล่น

"เหนื่อย"

ต่อเอาเครื่องเกมไปวางไว้ข้างๆ พลิกตัวลงนอนคว่ำ

เอ็มหันข้างมากอดแบบหมอนข้าง แต่แค่ครึ่งล่าง ครึ่งบนยังนอนหนุนหมอนอ่านหนังสืออยู่

"สนุก?"

"ก็ดี"

สันหนังสือเกือบทิ่มหน้าต่อ

ปกหนังสือสีดำ ที่หน้าปกเป็นรูปผู้หญิงในชุดกิโมโนนอนตายจมกองเลือด มีหน้ากากแบบญี่ปุ่นวางอยู่ข้างๆและก็เชือกสีแดงสดเส้นหนึ่ง ผู้หญิงหน้าตาบิดเบี้ยวคอถูกปาด

"นี่เอ็มไม่ใส่กางเกงใน"

"เวลานอนใครใส่กัน"

"ก็นี่ไม่ใช่บ้านมึงนะ"

"ไม่มีใครเห็นนี่"

เอ็มเอาส่วนล่างเบียดแนบต่อเข้าไปอีก

"ไอ้บ้า กูเล่นต่อดีกว่า"

ต่อพลิกกลับมานอนหงาย ดึงชายเสื้อลงมาปิด

"นี่ เอ็มไม่รู้สึกอะไรมั่งเหรอ"

เอ็มลดหนังสือลง

"รู้สึกดิ แข็งละเนี่ย"

"นึกถึงก้นต่อนี่เนียนๆ"

โป้ก

"อู้ยยยย"

"ไม่ต้องเอามาเคาะก็ได้ เจ็บนะ"

ต่อหงายสันเครื่องเกมมาดู

'ดีไม่บุบ'

"พูดไม่อาย"

"ตอนกับปิต่ออายมั้ยละ"

"อายดิ"

หึหึ

เอ็มไม่เถียงไรอีกอ่านหนังสือต่อไป

ลมเย็นพัดวูบมาในห้องมีแค่พัดลมช่วยระบายอากาศ เริ่มเย็นจนต้องดึงผ้าห่มมาคลุมตัวไว้

ต่อนึกสนุกเอาผ้าห่มบางคลุมทั้งตัวแล้วเล่นเกม

อะไรยุกยิกข้างๆ

"นี่เล่นยังงี้ตาเสียหมดนะ"

"แล้วตามเข้ามาทำไมละ"

เอ็มมุดเข้ามาในผ้าห่มนอนซบต่ออยู่

"ซ้ายๆๆๆ"

"ไม่ใช่กูว่าขวานะ"

"ผิด มึงดูที่กำแพงมันมีอะไรเขียนไว้กดดิวะ"

"ห่า กดได้ไง ผียืนอยู่"

"เฮ้ย เหี้ย"

ต่อร้องลั่น

"แค่นี้ทำตกใจ"

"กูไม่ใช่ไอ้กะปินี่ ชอบอะไรแบบนี้"

เอ็มพลิกมานอนหงายเปิดผ้าห่มออก

"ขวัญอ่อน"

"เอาไว้ไปถามมันที่โรงเรียนดีกว่า"

เกมถูกกดปิดแล้ววางไว้ที่ข้างหมอน เตียงนอนโครงเหล็กถักลายห่างๆ ไม่มีชั้นวางหัวเตียง และยิ่งไม่มีทางที่จะมีโต๊ะข้างเตียงไปได้

ความเงียบจับกุมอยู่

"เอ็มพรุ่งนี้ก็กลับแล้วสินะ"

"ก็จนกว่าพี่แกจะมาละนะ"

"เปิดไปอีกอาทิตย์เดียวก็กีฬาสีแล้ว"

เอ็มพยักหน้า

"เปิดไปนี่ถ้าเจอปิ...."

"ต่อ!!!"

"เอ็มไม่รู้สึกจริงเหรอ" ต่อพูดเสียงสั่น

"รู้สิ เรารู้"

"แล้ว... ทำไมดูไม่เป็นไรเลย ทำไมละ"

เสียงร้องไห้ระเบิดออกมา น้ำตาอาบแก้มต่ออีกครั้ง

"อย่าร้องสิ อย่าร้อง"

ต่อก้มหน้าลงกับอกของเอ็ม ทำให้รู้สึกได้ถึงหยดน้ำเปียกๆแหมะลงบนเสื้อนอนสีเลือดหมู

"ต่อ... ยอมรับเถอะ .... ปิ มันหายไปแล้วนะ"

เสียงร้องไห้ยิ่งดังขึ้น

"เรารู้ กูรู้แล้ว!!!! จะให้กูทำไงละ"

"วัน... วันก่อนมันยังโผล่หน้ามาอยู่เลย ถ้าวันนั้น วันนั้นเรารีบบอกมันไป เราไม่มัวไปยุ่งเรื่องพี่ต้อง ถ้าเราเป็นห่วงมันมากกว่านี้ มันก็คงไม่เป็นไร มันเป็นความผิดเราเอง ถ้า.... ถ้าเราลากมันไปด้วยก็จบแล้ว ไม่รู้ความเหี้ยอะไรเข้าสิงกู ทำไมกูแม่งชั่ววะ คิดได้ไงปล่อยให้มันรอตรงนั้น โง่ชิบหาย กู .... กู ...."

"อุ"

ไม่ทันได้พูดต่อ เอ็มก็เข้ามาปิดปากต่อด้วยปาก

"ต่อ ถ้าพูดยังงี้เราก็ผิดเหมือนกันที่ปล่อยมันไว้"

"มึงโดนครูเรียกไม่ใช่เหรอ"

"งั้นเราก็ควรรอแกออกมาก่อนมั้ย"

ต่อส่ายหน้าเร็วๆ เสียงยังร้องไห้ออกมาไม่หยุด

"หยุดร้องนะ"

เสียงโฮ ด้งขึ้นอีกรอบ

เอ็มคร่อมตัวต่อไว้แล้วก้มลงแนบกับแก้มต่อ บรรจงหอมแก้มเปียกน้ำตานั้นไว้ค้างอยู่อย่างนั้น สองมือโอบหัวต่อเข้ากับหน้าอกของเอ็ม

นานแค่ไหนไม่รู้ที่ต่อร้องไห้ตามใจจนไม่มีแรงจะให้ร้องอีก

"เอ็ม"

"เหนื่อยแล้วเหรอ"

ไม่มีเสียงตอบ

"ทำไม ถึงมาจีบเราละ"

"เพราะเวลาเห็นต่อแล้วนึกถึงปิไง เราไม่อยากเสียไปอีกคน"

คำพูดถูกปล่อยให้ไหลผ่านเข้าไปถึงสมอง หมดเรี่ยวแรงจะขยับตัว นอนหายใจหอบหน้าตาเปียกชื้น คำตอบของเอ็มเป็นอย่างที่คิด

'กูก็ไม่อยากเสียมึงไป เอ็ม'

ต่อได้แต่คิด

"ขอเวลากูหน่อยนะ"

"อือ เราเข้าใจ"

แต่จะให้เปลี่ยนใจเลยก็คงไม่ได้

เวลาเห็นเอ็ม ต่อมักจะนึกถึงรอยยิ้มของปิเวลาอยู่ด้วย เอ็มเพื่อนที่ปิเปิดใจด้วยมากที่สุด คงจะมากกว่าต่อด้วยซ้ำ

แรงกดเบาๆ แห้งๆลงที่ริมฝีปาก แล้วถอนออก

ต่อจ้องหน้าเอ็มอยู่นาน

คราวนี้ตาอเป็นฝ่ายยกตัวขึ้นไปจูบกลับ

เอ็มมีท่าทีตกใจเล็กน้อย

ต่อค่อยๆลูบมือลงไปดึงชายเสื้อยืดของเอ็ม แล้วถอดออก เปิดรูปร่างกำลังดีของเอ็มให้เห็น คืนแรกต่อไม่รู้เรื่องอะไรเลย ตรงข้ามกับวันนี้ที่ต่อรู้ตัวดี

ริมฝีปากบดขยี้กันสลับซ้ายขวา

ต่อเป็นฝ่ายเร่งแรงจูบบ้าง โดนรุกไล่กลับมาบ้าง ลิ้นตวัดสอดเข้าปากต่อ ความรู้สึกนี้ต่อไม่คุ้นเคย ปิจะเขินอายกว่านี้

ฮ่า เสียงลมหายใจพ่นออกมา จูบของเอ็มที่มั่นใจหนักหน่วงทำเอาต่อหายใจไม่ทัน

ก่อนจะถูกซุกไซร้ลงมาที่คอ พร้อมแรงขบเบาๆ เล่นลิ้นไปทั่วตามซอกคอขาวๆ

อา...

พอก้มหน้าลงไปต่อเห็นส่วนนั้นของเอ็มชูชันขึ้นจากในกางเกงบอกเซอร์ตัวเล็ก

มันพร้อมแล้ว

เสื้อนอนกำลังถูกปลดกระดุมออกทีละเม็ดช้าๆ ก่อนจะถูกจีบโยนไว้ข้างเตียงเป็นแผ่นผ้าสีเลือดม
หมู

เอ็มไม่สนใจกำลังง่วนอยู่กับหน้าอกข้างซ้าย จุดที่โดนลิ้นท้าทายกลับตัวการแข็งเป็นเม็ด

อูย...

ลิ้นเย็นๆตวัดเข้าออก แล้วดูดด่ำอยู่นานจนต่อต้องร้องออกมา

กางเกงสีเลือดหมูกลายเป็นสีน้ำตาลเข้มจากน้ำที่ไหลเยิ้มออกมา มันเยอะจนล้นออกมานอกกางเกงนอนเห็นเป็นน้ำใสอยู่ที่ปลาย ตอนนี้มันสั่นตามจังหวะสูบฉีดของเลือด

เอ็มลามเลียลงมาที่พุงแล้วหยุดอยู่แถวท้องน้อย ก่อนแหงนมองหน้าต่อ

เมื่อเห็นเจ้าของไม่พูดอะไร จึงใช้ปากกัดดึงขอบกางเกงให้อ้าออกแล้วใช้สองนิ้วรูดลงมา ก้นขาวๆเนียนลื่นถูกขยำแล้วบีบโดยมือของเอ็ม

ต่อสะดุ้งแอ่นตัวออก

กระแทกส่วนนั้นเข้าปากเอ็ม

เอ็มครอบปากตั้งแต่ส่วนปลายไล่ลึกลงไปเรื่อยๆ จนแตะไรขน แล้วค่อยดูดพร้อมเคลื่อนออกมาช้าๆ จนเกือบสุด

โอ้ย....

"มึงเคยทำกับปิมั้ย"

"ไม่ ทำไมเหรอ"

ต่อส่ายหัว

กางเกงนอนถูกเลื่อนออกปล่อยให้ต่อนอนอ้าซ่าเปลือยเปล่า ตัวสีขาวซีดจากอากาศเย็นมีเพียงส่วนนั้นที่เปียก ชื้น ร้อน และแดงสด

ต่อลุกขึ้นนั่งปล่อยให้เอ็มคร่อมเข่าอยู่ระหว่างตัว รีบใช้สองมือรูดเสื้อนอนขึ้นเหวี่ยงออกไปทางมุมห้อง แล้วกัดลงที่หัวนมเอ็มเลียนแบบสิ่งที่เอ็มทำให้ แล้วรูดกางเกงลง

จ้องมองของขนาดพอตัวที่ชี้ใส่หน้าต่ออย่างเชื้อเชิญ

ต่อค่อยๆใช้ลิ้นชิมรสชาติ

'แปลกๆ'

มีแรงกดหนักๆลงที่ไหล่แทนคำเรียกร้อง

ต่อดูดกลืนตั้งแต่ปลายเข้าไป ไปได้แค่ครึ่งทาง

เสียงเอ็มครางดูน่าพอใจ

รูปร่างเอ็มดูเป็นผู้ใหญ่ ขนดกดำ แต่ไม่ได้มีไปทุกที่ แค่จุดสำคัญและก็รักแร้ แต่เห็นชัด ไม่เหมือนเด็กอย่างต่อที่ถึงจะมีก็ดูบางหรอกแหรม เอ็มตัวสูงกว่านิดหน่อยแต่หนา 

จู่ๆเอ็มจับต่อพลิกนอนตะแคงข้างแล้วยกขาขึ้น

"เอานะ"

ต่อไม่ตอบ

นิ้วเย็นๆจากสารหล่อลื่นจึงค่อยๆวนทาให้ทั่วอยู่แถวทางเข้า ก่อนจะพลุบหายเข้าไปหนึ่งข้อนิ้ว

ทำเอาต่อสะดุ้ง

ไม่รอช้าตามเข้าไปด้วยส่วนปลาย แค่เข้าไปหน่อยเดียวต่อก็รู้สึกถึงความแข็งเกร็ง

"ไหวมั้ย"

ทั้งสองหยุดเคลื่อนไหว ปล่อยให้ร่างกายค่อยๆปรับตัว

ต่อเป็นฝ่ายถอยตัวเข้าหา ดันท่อนนั้นเข้าไปจนมิด

'ท่าทางจะไม่ใช่ครั้งแรกจริงด้วย'

ต่อนึกไปถึงคืนที่เมา

เอ็มค่อยๆขยับตัวเข้าออกช้าๆ ของต่อที่อ่อนลงไปกลับขึ้นมาชูชันใส่หน้าเอ็มใหม่ ทุกครั้งที่เอ็มถอยตัวออกก็จะรูดดึงมืออกจากของต่อไปด้วย พอขยับดันเข้าไปสุดก็จะรูดลงจนสุดเช่นกัน ทำให้เหมือนสองคนขยับร่างกายไปพร้อมๆกัน

ต่อปัดมือออก

พลิกขาอ้อมไปนอนหงาย ถึงมือสองข้างของเอ็มมาจับไว้แน่น

เอ็มรีบซอยถี่ขึ้น ขนสากๆบดเบียดกับก้อนเนื้อสองลูกที่แข็งตึงพร้อมปลอดปล่อย

"อุ จะออก"

เสียงครางเงียบหายไป แทนที่ด้วยประโยคแสดงความรู้สึก

เอ็มทำช้าลง เหมือนจะหยุด ต่อใช้มือ ดันก้นเอ็มเข้ากระแทก ลึกแรงจนสุด

"เดี๋ยวสิ เอ้ย"

โอ้ย อ้า

"ออกแล้ว"

เสียงเอ็มครางแทบฟังไม่ได้ศัพท์

"ไม่ต้องเอาออกมา"

เอ็มตัวเกร็งงัดตัวต่อขึ้น เล้นเอาตัวแทบลอย ต่อจุก ในตัวรู้สึกถึงอะไรกระตุกเกร็งหลายๆครั้ง มีน้ำอุ่นๆถูกฉีดเข้าไปในตัว

เอ็มล้มพับสอดคาเอาไว้อย่างนั้น

ก่อนจะค่อยๆถอนออกช้าๆ ลุกออกจากห้องไป แล้วกลับมาพร้อมกับผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดตามตัวต่อ

"แล้วต่อละ ไม่ทำเหรอ ให้หยุดทำไม"

"เอ็ม จีบ ไม่สิ ชอบเรา จริงเหรอ"

เอ็มลงไปนอนคว่ำอยู่ข้างๆยังไม่ใส่เสื้อผ้า

"งั้น ต่อขอนะ"

เอ็มทำหน้าตกใจ

"เราเป็นฝ่ายทำนะ"

ต่อพลิกตัวขึ้นมานอนทับเอ็มแล้วไซร้เบาๆจากข้างหลัง ใช้ส่วนนั้นทิ่มแทงก้นเอ็มอยู่

ต่อทำเลียนแบบที่เอ็มทำอีกรอบ แต่ไม่เหมือน จนเอ็มเอาต้องสารลื่นๆมาทา เมื่อได้ที่แล้วต่อดันส่วนหัวเข้าไปก่อน

"อะ เจ็บ ค่อยๆดิ"

"ทำบ่น"

"ถ้าเป็นปิมึงจะเบากว่านี้มั้ย"

"กูจะถนอมๆเลยละ"

อา เสียงเอ็มร้อง ต่อดันส่วนที่เหลือเข้าไปจนมิด

“ให้กูใส่แว่นด้วยมั้ยมึง"

….

".... ไม่ต้อง มึงก็คือมึง ไม่ใช่ตัวแทนใคร"

ต่อขยับเข้าออกช้าๆ

"อ้า"

เสียงเอ็มร้องเหมือนคนไม่เคยโดน เหงื่อผุดขึ้นมาตามแผ่นหลัง

เสียงเนื้อกระทบกันดังลั่นห้อง ลมหนาวที่พัดมาไม่ช่วยอะไร

"เจ็บเหรอ"

ต่อดึงตัวเอ็มขึ้นมานั่งคุกเข่า ท่านี้ดูจะเจ็บน้อยกว่า

"อา อา อา"

มือแอบจับของเอ็ม ที่เริ่มจะแข็งขึ้นมานิดๆยังไม่เต็มที่

"ให้ออกเลยมั้ย"

"อือ แตกข้างในเลย"

ต่อแทงให้สุดแล้วกระตุกตัวเกร็ง ปล่อยสายน้ำเข้าไปในตัวเอ็ม สองวันติดน้ำดูจะน้อยกว่าตอนที่ทำกับปิ

ต่อพลิกตัวลงนอนหงาย สภาพหมดแรง

"กูต้องเช็ดตัวเองสินะ"

ต่อนอนยิ้ม

'เอ็มพูดกูมึงแล้ว'

หันไปทางโต๊ะเขียนหนังสือแว่นของปิฉายแสงสะท้อนกลับมา

'ไอ้หื่นโอตาคุ มันคงแอบดูเพลินเลยสินะ'

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: ขอแค่ 5 นาที : คิดถึง [pg0] 20/2/2016
«ตอบ #272 เมื่อ20-03-2016 23:49:30 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
Re: ขอแค่ 5 นาที : คิดถึง [pg0] 20/2/2016
«ตอบ #273 เมื่อ23-03-2016 23:13:46 »

ตาพร่าเห็น เป็นสีเทา เคล้าเงามืด
กายเย็นชืด คล้ายอืดออก บอกสังขาร
ลมหายใจ ให้กระตุก ปลุกสัญญาณ
คล่อยคืบคลาน ปานสายหมอก บอกอำลา

RIP ครับ กะปิน้อย

อึดอัดออกไปจากเพจนี้
พี่ขอไปทำใจ..หลายๆๆๆๆ แป๊บเลย

ฮือออออออออออ..เศร้าโฮก โศกจริงๆ

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
ขอแค่ 5 นาที : เอ็ม 28/3/2016
«ตอบ #274 เมื่อ30-03-2016 22:19:35 »

เอ็ม

ในที่สุดวันที่หนักใจเอ็มในชีวิตนักเรียนม.ต้น ก็มีเข้ามาจนได้ อีกไม่กี่เดือนก็จะจบขึ้นม.ปลายแล้ว ดันมีเรื่องให้จดจำไปตลอดชีวิตขึ้นมาจนได้

รูปร่างเก้งก้างของเอ็ม ดูแล้วถึงจะเป็นแค่เด็กม. 3 ด้วยวัยยืดตัว วลาตั้งแถวก็เกือบจะอยู่ท้ายๆแล้ว ผิวสีออกแทนนิดๆตรงข้ามกับต่อและปิ ถึงจะไม่โดดเด่น แต่ก็ไม่มีใครมองข้าม

เอ็มที่ถูกเลือกเป็นประธานนักเรียนทั้งๆที่อยู่แค่ม.3

บุคคลิกภาพของเอ็มเป็นเหตุผลหลักที่ถูกเลือก หน้าตาดูดีที่จะมีรอยยิ้มเสมอไม่ว่าเผชิญปัญหาใดก็ตาม คำพูดจาที่ดูสุภาพ ฉลาด รู้จักเลือกคำเป็นที่ถูกใจของเหล่าครูผู้ชื่นชอบเด็กนักเรียนตัวอย่าง

ใครจะรู้ ความลับสำคัญที่เอ็มปิดเอาไว้ คือ เอ็มรู้ตัวเมื่อปีที่แล้วว่าชอบผู้ชาย

เมื่อเรียนชั้น ม.2 เอ็มอยู่รวมกลุ่มเดียวกับปิ กลุ่มเด็กโอตาคุที่มีผลการเรียนปานกลางถึงดี มีเรื่องด้อยอยู่อย่างเดียวคือ การเล่นกีฬาที่เสมือนจะนับว่าเป็นของแสลงของพวกนี้

เอ็มไม่ได้บ้าขนาดหนักเท่าพวกนั้นแต่ก็ชอบดู กีฬาเอ็มก็พอเล่นได้ ช่วงเวลาพักเบรคอันมีค่าจะหมดไปกับเรื่องของการแบ่งปันการ์ตูนใหม่ เกม หรือวิจารณ์สิ่งที่ได้ดูได้เล่นมา

เช้าหน้าฝนวันหนึ่งพวกเอ็มเดินไปซื้อน้ำอัดลมทางฝั่งตึกเด็กประถม

ระหว่างทางเจอเข้ากลับกลุ่มของต่อ

เด็กชายตัวขาวนั่งอยู่ท่ามกลางกลุ่มเด็กที่ดูเกเร ต่อดูโดดเด่นที่สุด พวกนั้นนั่งยกแข้งขา แหกไปมา โชว์ของสำคัญกลางตัวเป็นก้อนนูนอยู่ในกางเกงนักเรียนสีน้ำเงิน

มีคนหนึ่งที่พูดจาเสียงดังโวยวาย แน่นอนว่าไม่พ้นเรื่องใต้สะดือ คนพูดผิวสีแทนตัวดูแน่นตัน

ไอ้อาท

'มึง เหี้ยหนังแม่งมันสัส ของกูนี่ขึ้นเลย'

'คิดดูนะสองมือสาวอะ'

'ของมึงถึงเหรอ ไอ้ขี้โม้’

เสียงโห่ ดังขึ้น

'เหี้ย เห็นแล้วจะหนาว อวบยาวนะมึง'

‘มันอยู่ที่ลีลา'

คนพูดทำท่าจะแกะกางเกงโชว์

ต่อทำท่าทางไม่สนใจ

ปิเองที่เดินอยู่ริมกลุ่มกำลังพูดเรื่องผีๆที่ออกมาในเกมเมื่อวานนี้ เมื่อเดินผ่านไปทางพวกนั้น ปิไม่ทันได้มอง

'อุ้ย โทษที’

ปิร้อง เดินชนเข้ากับแจค คนหนึ่งในกลุ่มอย่างจัง

แกร๊กกกกก

พวกเพื่อนปิสะดุ้งโหยง โดดหลบออกมา น้ำแดงกำลังถูกเทลงบนผมสีดำตรงดูนุ่มของปิ

ตามมาด้วยเสียงน้ำแข็งออกจากแก้ว น้ำแข็งที่ตอนนี้ทั้งหมดไหลผ่านตัวปิ ไปลงตามพื้นบ้าง อยู่บนหัวบ้าง เสื้อนักเรียนสีขาวกลายเป็นสีชมพู

'เฮ้ย ทำไรวะ'

'K คนของมึงเดินชนกูก่อน'

‘แค่นี้'

ปิ พูดอะไรไม่ออก ได้แต่ยืนยิ้มแหยๆ

'เออ มากูจะสั่งสอนมัน’

สองฝ่ายกำลังเข้าตะลุบอนกัน

'พอ กลับเหอะจะหมดเวลาพักแล้ว'

เสียงต่อเข้าขัดขวางการกระชากเสื้อของอาท ถึงอาทจะมีท่าทีไม่พอใจแต่เสียงของต่อก็ทำให้อาทยอมทำตาม

เอ็มรู้ทันทีใครเป็นหัวหน้า

‘พอเหอะ' เอ็มพูดขึ้นบ้าง

'ไอ้ประธานนักเรียนอย่าคิดว่าครูชอบแล้วจะซ่าได้นะเว้ย'

'ลองดิ'

'เหี้ย'

ก่อนจะถอยหลังออกจากกันขอทิ้งคำด่าไว้ก็ยังดี

'ปิ มาเดี๋ยวพาไปล้าง'

เอ็มชวนปิไปห้องน้ำที่ตึกเด็กประถม ปล่อยพวกนั้นกลับขึ้นห้องเรียนไปก่อน

อ่างล่างหน้าแสตนเลสตั้งยื่นออกมา มีก๊อกน้ำเรียงราย

ห้องน้ำชายแบบมีที่ยืนฉี่ขนาดเล็กเหมาะสำหรับเด็กกั้นช่องเรียงอยู่ ตอนนี้ไม่มีคนมาใช้ คงขึ้นห้องเรียนไปแล้ว

'ปิถอดเสื้อออกดิ'

ปิดูลังเล แว่นหนากระตุกขึ้นทีหนึ่ง

'เฮ้อ'

เอ็มถอดเสื้อออกก่อน

'เอ้า เอาของเราไปใส่ก่อนไป'

ปิจึงยอมถอดเสื้อออกตาม

ตัวซีดจางผอมอย่างกับเด็ก มีแค่สัดส่วนที่ยาวเก้งก้างเท่านั้นที่บอกได้ว่าเจ้าของร่างเพิ่งจะกำลังยืดตัว

ปิตัวสูงเกือบเท่าเอ็ม

ดูๆไปแล้ว ปิน่าจะสูงกว่าเด็กคนเมื่อกี้ เอะ .. ทำไมคนๆนั้นถึงติดใจเอ็มขนาดนี้นะ

'รอนะ'

ปิพูดพร้อมยื่นเสื้อให้

เอ็มเอาไปขยี้ๆน้ำเอาสีขมพูอ่อนที่ตอนนี้กลายเป็นคราบเหนียวๆออก

มันออกไม่มาก ยังมีร่อยรองจางๆติดอยู่

'ปิใส่ของเราไปเรียนก็ได้'

'ไม่เป็นไร เอ็มจะใส่ไรละ'

'เราใส่ตัวนี้เอง มันเปียก'

ปิยืนจ้องตัวเอ็มที่ปราศจากเสื้อ

'มีไรเหรอ'

มือสาวซีดๆ วางลงบนตัวเอ็ม

ตัวเอ็มกระตุกเล็กน้อย สัมผัสเมื่อกี้รู้สึกเสียวแปล๊บ ใจเอ็มเต้นเร็ว

‘เป็นไรป่าว ปิ'

ปิ ส่ายหัว

'กลับห้องเรียนเถอะ'

มือที่สัมผัสบนตัวเมื่อกี้ทำให้เอ็มรู้สึกแปลกๆ

มันรู้สึกดี

นักเรียนตัวอย่าง อย่างเอ็มย่อมไม่เคยมีเหตุการณ์สัมพันธ์อะไรเกินเลยกับผู้หญิง แต่แค่เมื่อกี้มันก็เริ่มทำให้เอ็มฉุกคิดแล้วว่า ตัวเองไม่ปกติกับผู้ชายด้วยกัน

...หรือเป็นแค่กับปิกันแน่

หลายเดือนผ่านไปจนเอ็มแน่ใจว่า ความรู้สึกนั้นคืออะไร หนังโป๊ที่เวียนกันไปทั่วห้องใช้ไม่ได้ แต่วิชาว่ายน้ำกลับมีผลมากกว่า เด็กผู้ชายในชุดว่ายน้ำ เอ็มชอบที่จะจ้องมองไปทางเด็กร่างขาวของต่อ

จนวันที่เอ็มโดนล้อว่า 'ของเล็ก'

ใครไม่รู้ทะลึ่งเห็นของอาทตอนอาบน้ำหลังเรียนเสร็จ ก่อนจะโจษจันกันไปทั่วห้อง แล้วก็เปรียบเทียบกับปิ ผู้โชคร้าย

นักเรียนใส่กางเกงว่ายน้ำแบบขาสั้น ยกเว้นเอ็มคนเดียวที่ใส่แบบกางเกงใน

เมื่อมีคนหนึ่งลือขึ้นมันก็ปากต่อปากกันไป

ที่อาทอายที่สุดคงจะเป็นการเปรียบเทียบกับปิ

'ไอ้เห่ย' คือคำเรียกปิของพวกนั้น

หลังจากนั้นมาอาทดูจะยิ่งเกลียดปิมากขึ้น เท่าตัว ความซวยของปิ ก็มาเป็นชุดต่อเนื่องหลังจากเหตุการณ์ตอนนั้นเอง

เมื่อจะจบชั้นม.2 ปิเดินเข้ามาสารภาพกับเอ็ม

'เอ็ม เอ่อ เราคิดว่าเราชอบนายอะ'

‘ปิหมายถึง?' ในใจเอ็มรู้อยู่ว่าหมายถึงอะไร

'เอ่อ มากกว่าเพื่อนน่ะ'

ปิเอามือเข้าไปจับส่วนนั้นของเอ็ม

เอ็มทำตัวแข็งขืน แต่ไม่หลบ ในห้องน้ำหลังเลิกเรียน ไม่มีคน เอ็มจะทำอะไรตอนนี้เลยก็ได้ แต่... มันจะใช่แน่เหรอ ถ้าทำอะไรเพื่อนคนนี้ลงไป ความสัมพันธ์มันจะจางหายไปไหม หรือว่า เอ็มจะต้องมารับผิดชอบกับเรื่องที่จะตามมา

'เรา เราไม่แน่ใจอะ...’ คำพูดบางส่วนหายไป

แต่ส่วนนั้นกลับตรงข้าม มันสู้มือปิขึ้นเรื่อยๆ

เอ็มกดตัวเข้าหาปิ เข้าไปกอดแน่น พยายามทะนุถนอมน้ำใจของปิเอาไว้ก่อน

'ขอเวลาเราหน่อยได้มั้ย'

ปิหน้าแดงแล้วผลักเอ็มออก

ยิ้มแหยให้

‘อื้อ'

‘เราไม่แน่ใจอะ... ว่าเราชอบปิหรือต่อ...’

เอ็มคิดว่าเอ็มชอบเด็กผู้ชายคนนั้นมากกว่า เด็กคนที่เอ็มไม่รู้จัก รู้แค่ชื่อต่อ เพื่อนผู้นั่งหลังห้อง กลุ่มที่ไม่ถูกกันกับกลุ่มของเอ็ม

เวลาปิดเทอมเอ็มเจอปิแค่ไม่กี่ครั้ง หนึ่งในนั้นคือตอนที่เอ็มชวนปิไปดูเกมส์ที่ห้าง แต่ปิดูมีอะไรบางอย่างแปลกออกไป ฝ่ายหลังดูจะมีช่องว่างระหว่างกันมากขึ้น เอ็มพยายามถมเท่าไรก็ไม่เต็ม

ปิดูจะระแวงราวเหมือนคนทำอะไรผิดไว้ ตอนนี้พยายามกลบเกลื่อนแก้ไขสิ่งนั้น

'ปิ เรื่องนั้นเราคิดว่า....'

'ช่างเหอะ เราไม่คิดอะไรแล้ว'

ปิพูดน้ำเสียงเฉยๆ ก่อนขอตัวกลับบ้าน

เอ็มรู้สึกวูบ หัวใจแทบหล่นลงไปกองที่พื้น มันเหมือนเป็นฝ่ายบอกรักแล้วโดนปฏิเสธ

ทั้งๆที่ปิเป็นคนเริ่มก่อน

ตั้งแต่ปิ บอกความรู้สึกคราวนั้น เอ็มก็เริ่มคิดกับปิเหมือนคนที่เป็นเพศตรงข้าม ไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมห้อง

ปิดูเป็นเด็กผู้ชายแหยๆ มากกว่าเกย์หรือตุ๊ดอย่างที่เอ็มเคยเห็นข้างนอก มันไม่น่ารังเกียจเลยถ้าจะรับปิเป็นแฟน แค่ว่าเสียงของหัวใจมันดูจะเอนเอียงไปอีกทางซะมากกว่า

การบอกคราวนั้นทำให้เอ็มต้องเก็บไปคิดว่าจะทำอย่างไร การรักคนที่ไม่แม้แต่จะเคยคุยกัน มันคงจะเป็นไปได้ยาก มันเป็นการเพ้อเจ้อไปเอง

อย่างน้อย ปิก็อยู่ตรงหน้า เอ็มเองก็ไม่ใช่ว่าจะเฉยๆกับปิซะเลยทีเดียว ออกจะชอบมากกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ แต่เวล่แค่ช่วงปิดเทอมทำเอาเอ็มกลับเป็นฝ่ายผิดหวัง

‘ปิเรียนห้องนี้เหรอ' เอ็มถามตอนเปิดเทอม ม.3

'อือ เอ็มห้องไหน'

'ข้างๆนี่แหละ แล้วไอ้พวกนั้นไม่รังแกเหรอ'

'ไม่รู้สิ มีต่อเป็นเพื่อนแล้วน่ะ'

'ต่อ?'

เอ็มมักจะใช้เวลาร่วมกับปิตอนอาหารกลางวัน ยิ่งหลังจากโดนอาทแกล้งทำน้ำหกใส่ด้วย ปิจึงพยายามแยกออกมาบ้างครั้ง ทุกครั้งจะมีเรื่องให้เอ็มรู้สึกอิจฉา

'อือ'

'แล้วไอ้เสื้อนั่นโดนไรมา'

'ไอ้อาทน่ะ แม่ง เมื่อไหร่จะเลิกซะที'

เอ็มหัวเราะ

'โวยวายก็เป็นนี่'

'ก็มีบ้าง จะให้พูดกูมั้ย'

ปิจ้องหน้าเอ็มผ่านแว่น

‘ไม่เอาอะแบบเดิมน่ารักกว่า' ปิกับคำพูดกูมึงดูไม่เข้ากันเลย

ปิทำหน้าบู่ ราวกับเด็กโดนแกล้ง

'เล่าให้ฟังหน่อยดิ ต่อเป็นคนยังไง'

'ต่อเหรอ  อืม.... ก็ดีนะ เราก็งงเหมือนกันเหมือนจะดูเกเรก็ไม่อะ จะดูใจดีก็ไม่ใช่'

'ส่วนใหญ่ถ้าช่วยไรได้ก็จะช่วยอะนะ แต่แม่งขำวะ ไอ้อาทตัวยังงั้นกลับไม่กล้าสู้ต่อ แล้วเชื่อมั้ย ว่าปิโคตรขำเลย ที่อยู่ๆ ต่อก็มาสนิทด้วย แล้วทำหน้ายังกับเห็นเราเป็นลูกหมาไปได้'

ปิคงไม้รู้ตัวว่าติดเอาวิธีการพูดของต่อมาแล้ว

'งั้นก็ดีดิ'

ปิยิ้มให้

'ไม่ต้องห่วงนะไม่ทิ้งมึงหรอก'

'กูว่ามึงชักจะติดคำพูดคนอื่นมามากไปละนะ'

ปิ ยิ้มแหะๆ แก้มแดง

เหรอ... ปิได้สนิทกับต่อสินะ

ยิ่งช่วงปลายการศึกษาปิก็ยิ่งทำให้เอ็มลำบากใจ

'วันนั้นต่อก็ตามมาช่วยอะ มาที่ลอคเกอร์ที่เราหลบไปร้องไห้'

'แล้วทำไมไม่โทรหาเราละ'

'ก็... '

'แล้วต่อมาทำไร'

'เค้าก็มาปลอบ'

'เฉยๆ?'

'มันมีข่าวลือออกมานะปิ'

ปิเงยหน้าตกใจมองเอ็ม

'ได้กัน?'

ปิหน้าแดงออกไปถึงหู

ชัวร์แล้วสินะ

'แล้ว ต่อว่าไง'

'คือ?'

'จะคบกับต่อ? หรือได้กันเฉยๆ?'

ปิมีท่าทีลังเล

เฮ้อ จนได้ นี่กูต้องพลาดทั้งสองคนเลยเหรอวะเนี่ย

เอ็มแทบไม่มีบทบาทอะไรระหว่างสองคนนั้นเลย การพบเจอและพูดคุยกับต่อระหว่างที่ปิอยู่ด้วยแค่บางครั้งไม่ได้ช่วยให้รู้จักกันมากขึ้น

ลึกๆ เอ็มก็ยังชอบต่ออยู่

'ฝากปิด้วย' เอ็มพูดคำนี้ให้กับต่อ คนที่เอ็มชอบสองคนคบกันเองก็ยังดี อย่างน้อยเอ็มก็สบายใจเรื่องของปิ

ถ้าปิรู้ มันจะว่าเอามั้ยนะ
.
.
.
หลังจากเรื่องที่สระว่ายน้ำ ห้องพักครูดูจะเงียบแปลกๆ รังสีความไม่เป็นมิตรอบอวลไปทั่ว

"ขออนุญาตครับ"

เอ็มเปิดประตูเข้าไปช้าๆ เห็นครูในห้องนั่งเงียบ หลายคนทำเป็นตรวจการบ้าน รีบเก็บของออกจากห้องไป ปล่อยให้เหลือแค่หัวหน้าครูกับบางคนที่หาข้ออ้างออกไปไม่ได้

อาทนั่งก้มหน้ามองหว่างขาตัวเองอยู่ตรงข้าม

"โทรไปรึยัง"

"ครับ"

"ท่าทางผู้ปกครอง เอ่อ คุณแม่ของปิพนธ์จะยังรับไม่ได้น่ะครับ ผมได้แค่แสดงความเสียใจในฐานะนักเรียน..."

เอ็มเอามือไขว้หลัง กำแน่น

"ถ้าทางโรงเรียนจะติดต่อไปคงต้องลองเองละครับ เหมือนเค้าไม่ได้อยากยุ่งกับโรงเรียนอีก คงจะโกรธมาก"

"แล้ว ตัวเด็กเป็นไงมั่ง"

ต่อยิ่งกำแน่น กัดริมฝีกปากล่าง

พยายามพูดให้ดูเป็นปกติที่สุด

เรื่องระหว่าง 3 คนยังเป็นความลับ

'อย่าแสดงความรู้สึกออกมามากไป'

"พ่อแม่ของปิ ปิพนธ์ ตัดสินใจจะถอดเครื่องช่วยชีวิตออกวันนี้ไม่ก็พรุ่งนี้ครับ"

ครูที่ห้องที่เหลืออยู่เงยหน้ามามองทางเดียว

อาทก็ด้วย

เอ็มมองกลับไปทางอาทตรงๆ

"หมอว่าจมน้ำนานเกิน 5 นาที... โอกาสฟื้นน้อยมาก ตอนนี้ต้องพึ่งเครื่องไปก่อน ถึงฟื้นมาก็มีแนวโน้มว่าจะไม่ปกติอีก ถ้าไม่เป็นเจ้าชายนิทราก็อาจจะพิการ เค้าเลยตัดสินใจถอดเครื่องแล้วรอดูว่าจะอยู่ได้ด้วยตัวเองหรือไม่”

“เมื่อคืนที่ผมโทรไปถามครั้งสุดท้าย เห็นว่ามีการตอบสนองบ้าง บางทีอาจจะมีหวัง แต่ยังไงทางโน้นก็ไม่ต้องการให้โรงเรียนมายุ่งเกี่ยวอีก ... ไม่ว่าจะเป็นยังไง ปิพนธ์ จะไม่กลับมาที่โรงเรียนนี้อีก”

เอ็มกำลังหมดความอดทน

น้ำตาเริ่มรื้น

"งั้นผม ... "

เสียงเปิดประตูห้องถูกเปิดเกือบจะโดนเอ็มที่ยืนอยู่หน้าประตู ตามติดมาด้วยเสียงร้องเท้าหนักๆ

ผัวะ

อาทที่อยู่ตรงหน้าเอ็มลงไปกองกับพื้น

"คุณ..."

ไม่ทันได้นึกชื่อออก ครูกำลังตกใจ

พลักๆๆๆ

เสียงรองเท้าหนังปะทะเข้ากับเนื้อ

อาทถูกผู้ชายคนนั้นเตะไม่ยั้ง ได้แต่นั่งกอดเข่าซุกตัวอยู่มุมห้อง

"คุณพ่อครับ ทำยังงี้ไม่ได้นะ"

"นี่ไม่คนของผม จะทำไรมันก็ได้"

ผู้ชายคนนั้นหันกลับมานั่งลงบนเก้าอี้ที่อาทเคยนั่ง

"อาท ถอดเสื้อผ้าออก"

อาททำหน้าตกใจ

"แกทำชั้นอาย ชั้นก็จะให้แกได้อาย แก้ผ้าออกแล้วเดินรอบโรงเรียนเดี๋ยวนี้"

"คุณพ่อที่นี่โรงเรียนนะครับ"

หลังมือประเคนเข้าที่หน้าอาท ที่ตอนนี้ยืนลังเล ขาสั่นเหมือนคนหมดแรง

"คุณแม่ละครับ"

"แม่มันทิ้งไอ้นี่ไว้แล้วหนีตามผู้ชายคนอื่นไป เป็นภาระให้ผม นี่มาทำเรื่องอีก ถ้าครูอยากคุยกับแม่มันก็ลองเอาเบอร์ไปสิ ดูว่าจะมามั้ย"

เอ็มหันไปมองอาทที่ลงไปนั่งคุกเข่าอยู่มุมห้อง

ยกมือไหว้ท่วมหัว พูดอยู่คำเดียว

"ขอโทษๆๆๆๆ"

ไม่รู้จะพูดถึงใครกันแน่ พ่อ หรือ ปิ

"กูไม่ใช่พ่อมึง แค่รับฝากไว้ เรียนจบม.6 มึงก็ไสหัวออกไปได้ แต่นี่มีเรื่องมึงจัดการเอาเองแล้วกัน"

"มึงไม่มีทั้งพ่อและแม่ แม่มึงคลอดออกมาโดยไม่มีใครรับเป็นพ่อ จำไว้ด้วย ตอนนี้มึง มันก็แค่เด็กกำพร้า"

เอ็มก้มหัวให้ครู กำลังจะเดินออกจากห้องพัก

"กูบอกให้ถอดไง"

"ครูครับ เดี๋ยวตำรวจคงจะมานะครับ ทางนั้นไม่น่าจะยอมความ"

เอ็มช่วยได้เท่านี้ คำว่าตำรวจน่าจะพอทำให้พ่อของอาทหยุดความคิดบ้าๆได้

ประตูถูกปิดตามหลัง เอ็มไม่คิดจะสนใจเรื่องในห้องอีก

เดินเข้าห้องน้ำล้างหน้า

หน้าตาตอนนี้ชุ่มไปด้วยน้ำ

'ดีที่ออกมาทัน'

น้ำตามันไหลออกมาอย่างหยุดไม่อยู่ สีหน้าในกระจกดูย่ำแย่พอๆกับอาท

'ปิ...'

เอ็มไม่มีทางรู้ได้อีกต่อไปว่าเป็นอย่างไร พ่อแม่ตัดปิขาดจากโรงเรียน ไม่ต้องการให้โทรไปเข้าหาอีก ที่รู้จากพยาบาลตอนแอบถามก็ได้แค่ว่า ยากที่จะฟื้น

ถึงหาย ปิ ก็คงไม่ได้กลับมาที่โรงเรียนนี้อีกแล้ว

เวลาเครียดเอ็มจะเผลอกัดปากเป็นประจำ กลิ่นคาวของเลือดติดอยู่บนริมฝีปาก

'รีบล้างหน้าไปหาต่อดีกว่า'

เดาได้ไม่ยากว่าจะอยู่ที่ไหน หลังจากเมื่อวานเอ็มนัดต่อมารอหลังเลิกเรียนถึงจะไม่บอกสถานที่เอ็มก็เดาได้

สระว่ายน้ำ

"ต่อ อยู่นี่เอง"

"มาทำไรตรงนี้วะ"

เอ็มเล่าเรื่องในห้องพักครูให้ต่อฟัง บางส่วนก็รู้เพิ่มจากครูที่ออกมาตามหลัง เอ็มไม่กล้าอยู่ดูต่อ จึงได้แต่ถามจากครูที่สนิทพอคุยได้อยู่บ้าง

หลังจากเอ็มออกจากห้องไปแล้วอาทยังโดนซ้อมต่อไป ไม่มีใครกล้าห้าม

ทั้งหมดถูกถ่ายทอดให้ต่อฟัง

คนฟังนั่งนิ่ง สีหน้าเศร้าหมองแล้วก็ระเบิดอารมณ์ออกมา น้ำตาไหลอาบแก้ม

เอ็มไม่เคยเห็นต่อเป็นแบบนี้ไม่เคยคาดคิดว่าจะมีทีท่าแบบนี้ด้วย

'เอาไงดีวะ ลองทำแบบที่ต่อทำละกัน'

เอ็มกดหัวต่อลงกับหน้าอก ปล่อยให้ต่อร้อง และปล่อยเวลาให้ผ่านไป

เมื่อเห็นว่าต่อกำลังจะหยุดเอ็มจึงปาดน้ำตาแล้ว

ก่อนจะทันรู้ตัว เอ็มกดหน้าลงจูบปากเบาๆ

ปากแห้งแตกจากอากาศหนาว เหมือนมีแผ่นแข็งๆมาปิดเนื้อนุ่มๆเอาไว้

หัวใจเอ็มแทบระเบิดออก มือชา

'ชิบหาย กูทำอะไรลงไป'

ต่อไม่ได้ว่าอะไร สีหน้าดูสงบขึ้น

ต่อนั่งนิ่งอยู่ก่อนจะลุกขึ้นยืน... แล้วถอดเสื้อผ้าตัวเองออก

แล้วโดดลงน้ำ

'ถึงเอาได้ ปิจะได้ใช้มั้ยนะ'

เดี๋ยวได้เป็นหวัดพอดี

ถ้าไม่ช่วยสงสัยดูแล้วน่าจะอีกนาน แว่นจมลงในส่วนลึกสุด ต่อดูจะไม่มีความสามารถ ร่างนั้นในกางเกงในตัวเดียวดึงดูดสายตาเอ็มเอาไว้

ดำขึ้นลงอยู่ 2 3 รอบ

‘เอาด้วยก็ได้'

คนบ้าที่มาเล่นน้ำหน้าหนาวสงสัยจะไม่ได้มีแค่คนเดียว

เอ็มทำตามต่อ กางเกงในสีขาวบางถ้าเปียกน้ำ แทบไม่เหลืออะไร แต่จะให้ต่อทำเองคงจะอีกนาน

เอ็มขึ้นจากสระมาตัวหนาวสั่น รีบเดินไปหามุมใส่เสื้อผ้า วางแว่นไว้ที่ขอบสระ

"จ้องอยู่ได้"

ต่อเดินไปทำตาม ทิ้งกางเกงในเปียกๆเอาไว้ ไม่ใส่กลับเช่นกัน

เอ็มเป็นฝ่ายจ้องมอง หลังขาวๆขยับขึ้นลงบ้าง ก้นขาวเล็กน่าจับ ถูกบังด้วยชายเสื้อนักเรียน

เอ็มรีบเดินเข้าไปรูดซิบเสื้อหนาวของต่อขึ้น

"ปิดไว้ เดี๋ยวเป็นหวัด"

'ขอโทษนะปิ'

เอ็มต้องใช้ชายเสื้อหนาวปิดส่วนนั้นไว้ มันตื่นขึ้นมาแล้วเพราะภาพตรงหน้า หน้าขาวซีดของต่อกับผมเปียกๆ
.
.
.
กลางดึกของคืนท้ายปี เอ็มนั่งดูทีวีอยู่บนห้องนอน

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

"เอ็มใช่มั้ย"

"ครับ?"

"นี่พี่บูมนะ มารอบ้านต่อด้วยมันเมาวะ"

อะไรนะ ไอ้บ้านั่นมันไปเมาที่ไหนอย่าบอกนะว่าหนีไปเที่ยวผับ

"เดี๋ยวส่งที่อยู่ไปให้"

เสียงรถบนถนนวิ่งผ่านไปดังๆ เอ็มได้แต่หวังในจว่า ต่อคงจะไม่หมดสภาพนอนกองอยู่ริมฟุตบาท

จากบ้านเอ็มไปบ้านของต่อก็น่าจะสักพัก ต้องเก็บของอีก

เสื้อผ้าถูกจับยัดใส่กระเป๋าอย่างรวดเร็ว เอ็มเผื่อชุดไว้ไม่เกิน 3 วัน น่าจะพออยู่ เพราะหมดจากนี้ก็เปิดเรียนแล้ว อย่างไรต่อก็ต้องไปโรงเรียน

'อ้าว แล้วคนที่บ้านมันละ'

แย่ละ เอาวะ ไว้ค่อยไปแก้สถานการณ์ตอนไปถึงแล้วกัน ตอนนี้ดึกมากแล้ว จะไปบอกพ่อแม่คงไม่ได้ ออกไปเลยแล้วค่อยมาฟังคำด่าทีหลัง

… แล้วทำไมไอ้พี่บูมไม่ให้คนที่บ้านมารับวะ

ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงจากหน้าบ้านเอ็มโดยแท๊กซี่ไปถึงหน้าบ้านต่อ ช่วงปีใหม่หารถยาก กว่าจะได้สักคัน แล้วก็ไม่รู้ว่าจะไปหรือไม่ ต้องมาลุ้นอีก ความร้อนรนมันมีอยู่ เอ็มรู้ตัวว่ามันไม่ใช่แค่ความเป็นห่วง

'ชั่ววะกู เวลางี้ยังเสือกเงี่ยนขึ้นมาได้'

รูปร่างต่อเมื่อวานเรียกความรู้สึกของเอ็มขึ้นมาอีกรอบ ตอนนี้เอ็มมาทั้งชุดนอน ยังไม่ทันได้เปลี่ยนเสื้อผ้า

'แย่ละ เดี๋ยวมันขึ้นมาทำไงวะ'

รถจอดตามที่อยู่ที่พี่บูมส่งมาให้

"พี่เป็นไงมั่ง"

"เมาวะ เละ ไม่รู้เรื่องรู้ตัวเลย ไม่รู้แม่งเล่นยาป่าว"

"ยา?"

"เออดิ"

เอ็มแบกร่างต่อเดินลงจากรถ

"พี่ไปนะ ฝากมันด้วย"

เสียงบิดรถดังขึ้นไม่รอคำตอบ

'อ้าว พี่เหี้ยนี่'

เอ็มล้วงมือลงกระเป๋ากางเกงต่อ

เจอแท่งแข็งๆเย็นๆ พวงเล็ก กุญแจบ้านที่มีแค่สองดอก อันหนึ่งคงเป็นรั้วซึ่งตอนนี้ไม่ได้ล็อคไว้ อีกอันน่าจะเป็นหน้าบ้าน

ไขเข้าไปเจอกับห้องกินข้าวมืดๆ ทึมๆ ไม่มีใครอยู่

ต่อวางมือถือไว้บนโต๊ะแล้วโซเซเดินขึ้นไปชั้นสอง

มีประตูห้องนอนแค่สองห้อง ต่อเปิดห้องตรงหน้าบันไดเดินเข้าไปแล้วล้มตัวลงนอน

"ปิ มาทำไรวะ"

ปิ?

"มึงเมา"

ต่อไม่พูดไร เดินเข้ามากอดตัวเอ็มแน่น เสียงในลำคอบ่นงึมงำอะไรสักอย่าง เอ็มฟังไม่ออก ก่อนจะรู้ตัว ต่อเอามือรูดกางเกงนอนของเอ็มลง

ไม่มีกกางเกงในปิดส่วนนั้นไว้

อาการเมายามันคงถ่ายทอดไปถึงเอ็มด้วย

ในเมื่อส่วนนั้นผงกหัวให้กับตต่อแล้วต่อเองก็ดูจะพอใจ

'งั้นเลยตามเลยแล้วกัน'

เอ็มกดตัวขึ้นคร่อมต่อไว้

ทางซ้ายของเตียงเป็นโต๊ะเขียนหนังสือ แว่นของปิวางหันหน้ามาทางนี้อยู่ เอ็มแน่ใจเพราะเลนแตกข้างหนึ่ง

'อยากดูเหรอไอ้หื่น'

ถ้าปิยังมีชีวิตอยู่คนที่อยู่ตรงนี้คงจะเป็นมัน เอ็มรู้สึกผิดที่ตัวเองกลายเป็นคนที่มาแทนที่ เหมือนกับว่าไปแย่งของเพื่อนสนิทมา

ทั้งต่อและปิ เป็นคนที่เอ็มรักทั้งคู่

ถ้าไม่มีปิก็คงไม่ได้เข้ามาสนิทกับต่อ

'นั่นดิ อยู่ๆเดินเข้าไปบอกชอบต่อ คงโดนมันต่อยออกมา’

ถ้าทุกอย่างไปด้วยดี มันคงกลายเป็นรักสามเศร้า รักที่ต้องจบลงด้วยความเจ็บปวดของเอ็ม ถึงจะเป็นอย่างนี้มันก็เศร้าอยู่ดี

"อาๆ เร็วดิ"

เสียงต่อเร่งเร้า

"ค้าบๆ"

"ต่อเราชอบต่อนะ"

ต่อตอบรับด้วยเสียงครางดังๆ

เมื่อจบกิจกรรม ต่อนอนหมดแรงไม่รู้เรื่อง

เอ็มต้องลุกไปหาผ้าชุบน้ำเย็นๆมาเช็ดคราบออกทั้งบนตัวเองและบนตัวต่อ

พรุ่งนี้ตื่นมา ต่อจะจำได้มั้ย

ต่อนอนหลับผ่อนลมหายใจอยู่ข้างๆ

ตรงข้ามกับเอ็ม

'เหี้ยแล้ว'

ต่อมันจะว่ายังไงวะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-04-2016 01:37:07 โดย Monet »

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
Re: ขอแค่ 5 นาที : เอ็ม 28/2/2016
«ตอบ #275 เมื่อ31-03-2016 00:13:38 »

จะแรกรัก หรือแรกใคร่ ใจมันชอบ
รักคือตอบ ปนชอบชื่น หื่นหวั่นไหว
ยากยับยั้ง ให้พลั้งเผลอ ละเมอไป
ไม่ใช่ใคร คือไอ้ต่อ ขอลองดู

แหม่ ๆๆๆๆๆ เอ็ม..หื่นน่าดู
สาดกระจายเลยนะ

+1

ออฟไลน์ worry

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: ขอแค่ 5 นาที : เอ็ม 28/2/2016
«ตอบ #276 เมื่อ31-03-2016 11:39:54 »

มาต่อเร็วๆนะครับ :katai5:

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
Re: ขอแค่ 5 นาที : เอ็ม 28/2/2016
«ตอบ #277 เมื่อ31-03-2016 16:49:28 »

เฮ้ออออ
รักสามเส้า

แต่เอาจริง อ่านไปแล้วสงสารอาทที่สุด
ต่อไปจะเป็นยังไงนะ

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
10 CM : วันกีฬาสี (1) 4/4/2016
«ตอบ #278 เมื่อ04-04-2016 21:09:23 »

เสียงมือถือทำงานตรงเวลาตอนตี 5 ครึ่ง เสียงปลุกน่ารำคาญ คิดว่าเจ้าของผลิตภัณฑ์คงคิดว่าออกมาแบบมาดีแล้ว ที่ให้เสียงเพลงฟังดูไม่สั่นประสาทมากแบบนาฬิการุ่นเก่า แต่ก็ชวนให้อยากลืมตาลุกขึ้นมากดปิด

มือถือแสดงวันที่ เสาร์ที่ 9 มกราคม

ใช่แล้ว วันนี้มีกีฬาสี...

ตัวผมบิดเกร็งยืดตัวออก สะบัดไล่ตัวขี้เกียจออกไป

บางส่วนก็ยืดและเกร็งไปด้วย

ไม่มีเวลาแล้ว...

ผมสไลด์หน้าจอกดข้อความหาต้อง

'ตื่นยัง'

ผมไม่รอคำตอบ รีบลุกขึ้นไปอาบน้ำ ต้องไปถึงที่โรงเรียนตอนก่อน 6 โมงเช้า มีหน้าที่รอผมอยู่ หน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาจากรุ่นพี่ ถ้าจะให้ถูกมาจากต้องมากกว่า มันเป็นคนเอาหน้าที่นี้มาให้ผมโดยตรง

ไม่มีการบอกกล่าวเตรียมงานล่วงหน้า ผมไม่รู้จริงๆว่าต้องทำอะไรบ้างในวันนี้

รู้แค่ว่า ต้องและเด็กอีก 2 คนไปไหนผมต้องไปด้วย เอาใจพวกมันให้ดีที่สุด อย่าให้มีปัญหา เพื่อขบวนพาเหรด

ถ้วยรางวัลถ้วยเดียวที่สีผมหมายมั่นว่าจะได้ก็มาจากขบวนพาเหรดนี่แหละ ผมเลยเหมือนกุมชะตากรรมของสีฟ้าเอาไว้อยู่ในมือตอนนี้

เสื้อกีฬาสีสีฟ้ากับกางเกงผ้าสีขาวถูกวางเตรียมไว้บนโซฟา

ชุดบังคับ

ผมไม่ได้แม้แต่เสื้อสตาฟ เพราะยังไงผมก็ไม่ใช่สตาฟอยู่แล้ว

นอกนั้นพวกคนในห้องผมได้กันหมด

ขบวนพาเหรดจะตั้งแถวตอน 7 โมงเช้า ต้องน่าจะถึงอย่างช้าสุด 6 โมง อาจจะก่อนนั้นด้วยเพื่อแต่งหน้าทำผม ชุดที่ต้องจะใส่วันนี้มันยังถูกปิดเป็นความลับ

ความลับสุดยอด

คิดว่าพวกที่เต้นเชียร์ลีดเดอร์ก็คงเก็บเงียบไว้เหมือนกัน

ของดีสุดมักจะออกมาทีหลัง เพื่อให้คนประหลาดใจ หรือไม่ก็ผิดหวังไปเลย

โอกาส 50/50

ชอบหรือไม่ชอบ

กระเป๋าเป้ใบใหญ่อัดไปด้วยขนม เพื่อว่าพวกนั้นจะหิว ผมไม่สามารถจะแบกน้ำไปด้วยได้ ค่อยไปหาเอาแถวนั้น แต่ที่กินพื้นที่มากที่สุดเห็นจะเป็นหูฟังสีเขียวที่เจให้มา เพื่อว่าไม่มีอะไรทำ ให้หูฟังมันกวนใจผมแทนไอ้เจแล้วกัน

หูฟังสีเขียวสดที่ดูใหม่ เพราะยังไม่เคยได้ใช้งาน

ผมเช็ดตัวหมาดๆ อากาศในตอนเช้ามืดยังเย็นอยู่ ก่อนผมจะใส่เสื้อสีฟ้าโปโลที่ขอบแขนกับปกเสื้อสีขาว ให้ความรู้สึกแข็งกระด้างของผ้าเพราะยังไม่ได้ซักอยู่ (แล้วก็คงใหม่ไปอีกนาน หลังจากนี้คงไม่ใส่อีกแล้ว)

มีชื่อโรงเรียนอยู่เหนือข้อความ

'กีฬาสีครั้งที่27'

เสื้อตัวนี้คงใส่แค่วันนี้วันเดียวนี่แหละ

ปีหน้าก็เปลี่ยน แต่คงเหลือแค่ผมคนเดียวที่จะได้รับเสื้อมาใส่

…พวกแมคคงไปใส่ชุดนักศึกษากันหมดแล้ว

กางเกงผ้าสีขาวขนาดใหญ่เกินกว่าตัว มันเป็นกางเกงผ้าแบบที่ผู้ใหญ่ชอบใส่กัน ไม่ให้ความรู้สบายตัวเลย ผมไม่เคยแต่งตัวแบบนี้มาก่อน มันดูเกินวัย แต่คราวนี้แค่กางเกง

‘ผ้าก็บางเห็นไปถึงกางเกงในแล้ว’

ผมสำรวจความเรียบร้อยของตัวเองอยู่หน้ากระจก มันสะท้อนความขัดกันออกมา หน้าตาเด็กม.5 ในเสื้อกีฬาสีฟ้าสด กางเกงแสลคสีขาวดูแก่ ถ้าใครมาเห็นจะต้องบอกว่าแต่งตัวไม่เป็นแน่ๆ

ผมเดินลงไปใส่รองเท้าผ้าใบสีขาวข้างล่าง บนหลังมีเป้ขนาดใหญ่ที่เกือบๆจะเรียกได้ว่าหนักติดสอยห้อยตามผมไปด้วย

หูฟังถูกทับถมอยู่ใต้กองขนม

ลมเย็นปะทะวูบเข้าหน้าเมื่อเปิดประตูบ้านออก

‘เดี๋ยวบ่ายก็ร้อนแล้ว’

หน้าบ้านว่างเปล่า ตอนเด็กๆผมหวังเสมอว่า ถ้าได้ร่วมงานกีฬาสีแล้วมีพ่อกับแม่ไปดูบ้างก็คงดี มันก็ทั้งสองฝ่ายแหละเนอะ ผมไม่ได้มีกิจกรรมอะไรที่จะให้มาดู พ่อแม่มาก็ไม่รู้จะมาดูอะไร ถ้าเป็นแบบไอ้ต้องก็ว่าไปอย่าง

คงมาดูลูกให้ภูมิใจ

เช้าอย่างนี้ผมไม่อยากนั่งรถเมล์เลย

แท๊กซี่น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี

ซอยหน้าบ้านมืดสนิท ผมแบกเป้เดินออกไปเงียบๆ บ้านยังไม่มีใครกลับมาอยู่นอกจากผมคนเดียว

เวลาอย่างนี้ทั้งง่วงทั้งหิว แต่มันกินอะไรไม่ลง

รถเช้าวันเสาร์อย่างนี้ยังไม่ติด

ใช้เวลาโบกรถไม่นานก็ได้แท๊กซี่

มันรู้สึกแปลกๆ ร่างกายยังไม่เข้าที่ เพราะว่าตื่นผิดเวลา เช้ากว่าที่เคย บนแท๊กซี่กลิ่นใบเตยที่ชอบเอามาวางไว้หลังรถ ยิ่งทำให้รู้สึกพะอืดพะอมมากยิ่งขึ้น

ผมบอกที่หมายก่อนจะหลับตาลง ปล่อยให้เสียงเพลงจากวิทยุดังไป

รู้ตัวอีกที่ผมก็อยู่หน้าประตูใหญ่โรงเรียนเรียบร้อยแล้ว

‘อยู่ไหน’

ผมยืนรอข้อความตอบกลับจากต้อง

‘ห้องเรียน’

ผมเดินตรงขึ้นบันไดใหญ่ไป ยังไม่อยากไปแวะดูแสตนด์ เก็บไว้ทีหลัง จะได้ประหลาดใจเมื่อเห็น ตอนนี้ฟ้าเริ่มสางแล้ว ผู้คนไปมาวุ่นวาย เสื้อสีต่างๆวิ่งปะปันกันไปมา แต่ก็มีไม่เกิน 4 สีในวันนี้ แดง เหลือง ฟ้า ม่วง ส่วนกางเกงเป็นทุกคน

ใครที่ใส่ชุดแปลกๆ เดาได้เลยว่า ต้องมีงานอะไรสักอย่างให้ทำ

บนตึดที่เป็นจุดห้ามขึ้นในวันนี้ ผมแอบขึ้นไปตามที่ต้องบอก

หน้าห้องเรียนผมที่ชั้น 4 ปิดมืดอยู่ บางชั้นก็มีไฟเปิดอยู่แสดงว่าสตาฟสีอื่นคงกำลังใช้ห้องเตรียมอะไรบางอย่าง

6.15 น.

“ต้อง อยู่ป่าว” ผมเดินมาดึงประตูห้องเรียนออก

“หืออออออออ”

“อะไร มึง”

ต้องถามขึ้นเ่อเห็นสีหน้าแปลกใจของผม

ผมยอมรับว่า นี่เป็นเรื่องที่นอกเหนือความคาดหมายของผมไปมาก

ต้องอยู่ตรงหน้าในชุดเสื้อหนังสีดำมัน กางเกงยีนเข้ารูปสีดำ แขนเสื้อทำจากตาข่ายระหว่างตาข่ายแทรกด้วยกากเพชรสีฟ้า กับสีน้ำเงินเข้ม ปลายแขนเป็นสีเงินเงา

ดูเท่

ถึงเวลาตั้งขบวนมันคงจะเด่นมาก

ผมกับหน้าถูกจัดการมาเรียบร้อย ผมเปิดหน้าผากเสยขึ้นไปไม่เหมือนกับทุกที เซตไว้อย่างเรียบแปร้ เข้ากับลักษณะหัวของมัน หน้าเนียนแต่ดูเข้มไปหน่อย โดยรวมจัดว่าดูมีเสน่ห์

“เป็นไงมึง”

“อือ”

ผมได้แต่ก้มหน้า

“ว่าไง..”

มันเดินเข้ามาใกล้

“… หล่อ”

ผมหันหน้าหนีไปทางหน้าต่าง

“มองหน้ากูหน่อยดิ”

“ไม่!!!!”

ไอ้ต้องยังจ้องหน้ามองตรงมาทางผม

จนผมต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง สายตานิ่งจ้องมองผมด้วยใบหน้าจัดเต็มขนาดนี้

อยากเข้าไปปล้ำแม่งจังเลยวุ้ย

“พร้อมยัง?”

ผมถามมัน เวลาเหลืออีกแค่ 30 นาที

“อือ เดี๋ยวก็ต้องลงแล้ว”

มันดึงตัวผมเข้าไปกอด ก่อนจะจูบเข้ามาแบบไม่ให้ตั้งตัว

รสชาติลิปติค มันแปลกๆเหมือนกินอะไรลื่นๆแหยะ คล้ายๆพวกไข

อา

“นี่ เดี๋ยวก็ไม่ทันหรอก”

ผมดันตัวต้องถอยหลังไป 

“เดี๋ยวลิปก็หายหมดหรอก”

มันกอดแน่นๆอีก หนึ่งทีก่อนจะพูดออกมาด้วยใบหน้ากวนอารมณ์

“รู้แล้ว เอาฤกษ์เอาชัยไง”

ต้องปล่อยตัวผมออก ท่าทางมันดูกังวลใจ งานใหญ่ครั้งแรกเลยนี่ จะโยนพลาดเหมือนวันซ้อมก็คงจะไม่ได้ ทุกอย่างเป็นคะแนนหมด

“เด็กอีก 2 คนละ”

“รออยู่กับพี่สตาฟ กูขอขึ้นมาเก็บของน่ะ เก้าเอาของไว้ห้องนี้ได้นะ กูขอกุญแจมา”

ต้องเดินเข้ามาใกล้

“ขอกำลังใจหน่อย”

“ยังไม่พออีกเหรอ”

“คิดถึงนี่ จะเอาอีกอะ”

มันเดินเข้ามาเอามือเกี่ยวเอวผมไว้ แล้วเอาตัวเข้ามาแนบชิด

“หือ คิดถึงเหมือนกัน จะเอาอะไรละ”

ผมถามเสียงอ่อน

อยากจะเอื้อมมือไปลูบหัวมันมาก แต่ไม่ได้ เดี๋ยวผมจะเสียทรง

จุบ

มันก้มมาห้องแก้มผมทีหนึ่ง แล้วเอามือมาบีบก้น ก่อนจะพยายามล้วงเข้าไปในกางเกงให้ได้ แล้วลูบไล้เบาๆไปมาๆ มันเริ่มเสียวจนผมต้องปัดมือมันออก

ของต้องกำลังทิ่มแทงผ่านกางเกงเข้ามา

มันมีอารมณ์เหรอ

“รีบลงไปเลยมึง เดี๋ยวช้าโดนตัดคะแนน”

ผมโวยวาย

ไอ้บ้านี่ จะเอากันในชุดนี้เลยมั้ย

ดูเป้าสิ จะลงไปยังไงละเนี่ย

“งั้นจบงานมาต่อกันนะ เป็นของรางวัล”

ยังไม่ทันจะได้เหรียญเลยทวงรางวัลซะแล้ว

“ไปเอามาให้ได้ก่อนเหอะ กูจะยอมทุกที่ทุกท่าเลย”

ฮ่าๆๆๆ ต้องเดินหัวเราะไปตามทาง

ผมกับต้องจูงมือกันเดินลงบันไดมาที่ชั้นล่าง ก่อนจะแยกกันที่ชั้น 2

แถวของขบวนพาเหรดเป็นรูปร่างแล้ว ขบวนยาวเหยียดไล่ตามสีไป แดง เหลือง ฟ้า

สีผมเป็นขบวนที่สาม

หัวแถวสีฟ้าอยู่ก่อนถึงสระว่ายน้ำ หางแถวยาวไปถึงสุดสระ เกือบ 25 เมตรพอดีสินะ นี่รวม 4 สีเป็น 100 เมตรเลยนะเนี่ย

ต้องไปยืน ถือไม้หัวเหล็กสีเงินเงาวับ ไม้ที่โชคดีวันซ้อมไม่ได้ถูกใช้ อันที่ฟาดหัวเป็นของสำรอง หัวทำจากพลาสติค แต่วันนี้ของจริง เป็นเหล็กทั้งดุ้น

เด็กอีก 2 คนอยู่ในชุดเดียวกัน ยืนถัดลงมา

พอมาดูวันนี้พวกมันเองก็ดูดีเหมือนกันแฮะ เด็กบ้าที่เห็นมาตลอดเทอมพอแต่งตัวมันก็เปลี่ยนไปได้เหมือนกันนะเนี่ย

“พี่ๆ แก้มไปดูใครหอมมาเหรอ”

“หือ อะไรนะ”

“แก้มพี่น่ะ”

น้องคนหนึ่งทักขึ้น

อีกคนกำลังหัวเราะคิกอยู่

อะไรของพวกมันวะ

ผมเอามือลูบดู หงายมือออกเห็นรอยแดงๆ

เฮ้ย

ผมรีบเอามือถูแก้มเพื่อลบรอยลิปออก

‘ลิปไอ้ต้องสินะ’

ผมหันไปมองค้อนมัน ไอ้เจ้าตัวคนทำ ทำหน้าไม่ใส่ใจ มองตรงไปข้างหน้า

“พี่ๆ หนุ่มคนไหนเหรอ”

“Kยยย มีสมาธิหน่อย”

ผมโวยวาย

‘ไอ้หล่อที่อยู่หัวขบวนพวกมึงไงเล่า’ อยากจะตะโกนออกไปจริงๆ

แต่ใครจะพูดออกไปได้ ไอ้บ้าเอ้ย มันเล่นยังงี้คนเห็นกันหมดแล้วมั้งนั่น

แล้วเหมือนมันจะรู้ตัวหันมายักคิ้วให้ พร้อมๆกับเสียงเพลงกราวด์กีฬาที่ดังขึ้นมาจากลำโพงรอบสนาม

ผมหันไปขยับปาก

'โชคดีมึง'

ไอ้สองตัวนั้นก็หันมาทำหน้าเหมือนจะรู้ทัน มันดูออกกันได้ยังไงวะ

"พี่ๆ แฟนอวยพรยังน่ะ”

น้องคนนึงเอาไม้เขี่ยๆ ขาต้อง

“ถามมันดิ"

ต้องเอาหัวไม้ชี้มาทางผม

ไอ้ต้อง!!!!

ผมหน้าแดง รู้สึร้อนไปถึงหู

ไอ้บ้าต้อง

ขาของเด็กในขบวนพาเหรดเริ่มขยับขึ้นลงซ้ายขวาตามจังหวะเพลง รุ่นพี่พยายามทำแถวให้เป็นระเบียบ มีคนคุมซ้ายขวาตลอด

ถ้วยรางวัลอันเดียวที่คาดว่าจะได้จากพาเหรดกำลังเดินแถวไปให้บรรดากรรมการดูแล้ว

ผมวิ่งอ้อมไปอีกข้าง หลบผู้คน ผมไม่ใช่สตาฟ เกิดใครมาเห็นเข้าจะโดนหักคะแนนเอาได้ เห็นขู่ว่าหักตามจำนวนเสื้อที่เห็นนอกสนามกีฬา แปลว่านอกจากสตาฟแล้ว คนอื่นที่ไม่ใส่เสื้อหมดสิทธิ์เดินไปมา

ผมจึงต้องหาทางกลับไปหลังแสตนด์ให้เร็วที่สุด

ที่สนามบอล ทุกอย่างที่เคยเห็นมามันแปลกตาออกไป

โครงแสตนด์เหล็กเขรอะสนิมดูสกปรกถูกกลายสภาพเป็นอัฒจรรย์ขนาดใหญ่สี่สี

สีฟ้าทำเป็นรูปเกลียวคลื่นขนาดใหญ่ วาดบนไม้แบบภาพเขียนญี่ปุ่นสีน้ำเงินเข้ม น้ำทะเลที่เป็นคลื่นสูง มีการลงสีเข้มอ่อน ส่วนสีขาวใช้แทนฟองคลื่นใช้วิธีเอาสีสาดใส่ให้เป็นเม็ดๆ  มี 3 คลื่นใหญ่ ภาพคลื่นโดยรวมดูหนักแน่นและแข็งกระด้าง

ตรงข้ามลานที่ใช้วิ่งแข่ง 100 เมตร เป็นที่ตั้งเต๊นท์ประธาน ตั้งหันมองออกมาทางสนามบอล มองเห็นสี่สีชัดเจน

ผมต้องหลบอ้อมอีกด้านไปหลบหลังแสตนด์ ทั้งโครงเหล็กถูกหุ้มด้วยผ้าขาวสลับน้ำเงิน ที่นั่งจะเป็นสีขาว กันของหล่นลงร่อง ส่วนพนักหลังกับรอบนอกเป็นสีฟ้าสลับน้ำเงิน

เมื่อหลบเข้าไปอยู่ด้านหลังจะโดนบัง ไม่มีใครเห็น

ทุกคนดูเคร่งเครียด บรรยากาศในสนามเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและกดดัน รุ่นพี่พยายามทำงานให้ออกมาดีที่สุด เด็กบนแสตนด์เองก็ตื่นเต้นที่จะได้เห็นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นตรงหน้า

บรรดาเชียร์ลีดเดอร์ในชุดสีสดกำลังเดินเข้าสนาม ประจำที่อยู่หน้าแสตนด์แต่ละสี ขบวนพาเหรด วนรอบสนามจนครบรอบแล้วมาหยุดตั้งแถว  ขบวนพาเหรดจะเดินอ้อมหลังแสตนด์ของแต่ละสี

ผมว่าต้องแต่งตัวจัดแล้วนะ คนของสีอื่นก็ไม่แพ้กัน

งานนี้ใส่กันเต็มที่

เมื่อขบวนพาเหรดเข้ามาใกล้สีของตัวเอง เสียงปรบมือกับเสียงเชียร์จะดังขึ้น

ผมหลบหลังแสตนด์สีตัวเองที่เป็นที่เก็บกระติกน้ำแข็ง ขวดน้ำ ถังน้ำ  ผมหลบอยู่ปะปนกับสตาฟ เห็นต้องในชุดสีดำเงา บริเวณแขนสะท้อนแสงวิบวับผ่านมาหยุดข้างหน้า

ต้องหันมามองผมแวบหนึ่ง

แล้วโยนไม้

ไม่พลาด

มันหันมายิ้มให้

'นับวัน มันจะยิ่งเปิดเผยไปมั้ยวะ'

ไอ้เด็กสองคนข้างหลังดูท่าจะไม่ได้สนใจ สมาธิจดจ่ออยู่กับการรับไม้ แสงแดดจ้าทำให้อากาศเริ่มร้อน สภาพหน้าตาบางคนเริ่มอิดโรย หน้าหนาวแต่แดดร้อนก็ไม่ไหวสินะ

ตอนนี้ทุกอย่างยังดูดี เหมือนโรงเรียนเตรียมทหาร ทุกคนตั้งใจ ตัวแข็งเกร็ง เคลื่อนไหวคล่องแคล่ว เดี๋ยวบ่ายคนแตกฮือวุ่นวายแน่ๆ

เหมือนมดแตกร้ง

ตอนนี้ยังเช้ามดยังอารมณ์ดีอยู่เดินกันตามมาเป็นขบวนแถว

'หมดแล้ว ไม่เจอเด็กในสวนละ'

เสียง วอดังแหววขึ้นจากเอวสตาฟคนหนึ่ง

'ทุกอย่างพร้อม'

แปลว่าอีกเดี๋ยวตั้งแถวแล้วพิธีเปิดจะเริ่มสินะ

สีฟ้าเป็นสีเกือบสุดท้าย สีที่ไปก่อนตั้งขบวนรอหน้าประธาน ยืนตากแดดเป็นเนื้อเด็กกางเกงน้ำเงินแดดเดียวแล้ว

เวลา2 ปีผ่านไปเร็วเกินกว่าที่ผมจะรู้ตัว บางคนที่เข้ามาในชีวิตได้หายไปทิ้งไว้แค่เงาในความทรงจำ ที่ผมจะพยายามจดจำทุกรายละเอียดเอาไว้ อีกสิบปีต่อมา ไม่ว่าต่อไปผมกับต้องจะเป็นอย่างไร เรื่องราวในวันนี้มันก็ยังมีค่า

ถ้าตอนนี้ไอ้แมคอยู่มันจะคิดยังไงกับแสตนด์นะ

ไอ้เจคงวิ่งวุ่นอยู่รอบแสตนด์มันต้องสตาฟที่กระตือรือร้นที่สุดแน่

แล้วมันก็คงจะวิ่งเข้ามาลวนลามผมอีกแน่นอน

หึ อดขำไม่ได้แฮะ

จากตรงนี้ผมมองไม่เห็นต้องแล้ว จะยื่นหน้าไปดูก็ไม่ได้ด้วย

บนแสตนด์น่าจะกำลังเริ่มแปรอักษร

อา... สงสัยคงได้หลบอยู่นี่มองไม่เห็นอะไรจนกว่าจะเปิดงานเสร็จละนะ



-------------------------------------------

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
Re: 10 CM : วันกีฬาสี 4/4/2016
«ตอบ #279 เมื่อ05-04-2016 20:25:02 »

กลับมาคู่หลักแล้ว

ว่าแต่ต้องไม่ติดต่อต่อเลยหรือไงนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: 10 CM : วันกีฬาสี 4/4/2016
« ตอบ #279 เมื่อ: 05-04-2016 20:25:02 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
Re: 10 CM : วันกีฬาสี 4/4/2016
«ตอบ #280 เมื่อ07-04-2016 23:08:53 »

กลับมาคู่หลักแล้ว

ว่าแต่ต้องไม่ติดต่อต่อเลยหรือไงนะ

จริงๆตอนแรกก็มีเขียนถึงนะ แต่พอมานึกๆดู มันปลีกย่อยเกินไปหน่อย แล้วก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษ อาจจะเอากลับมาลงอีกทีก็ได้ ตอนนี้รู้สึกว่าน่าจะจบได้แล้ว

เดี๋ยวไม่มีคนอ่าน

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
Re: 10 CM : วันกีฬาสี 4/4/2016
«ตอบ #281 เมื่อ08-04-2016 12:31:33 »

ขอย้อนนิดนึงนะคะ ... คือ ลืมลงไปตอนหนึ่ง ... ขอประทานอภัยคะ ก็ว่า เหมือนนึกๆแล้วอะไรมันหายไปนะ ในคอมชื่อตอนมันคล้ายกัน เข้าว่าเป็นตอนนั้น ที่ไหนได้ ... เอาเป็นว่า เดี่ยวลงแทรกตอนนี้เลยนะคะ ตอนเล้กๆไม่มีอะไรสำคัญ ข้ามไปก็ได้คะ

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
10 CM : 4 มกรา 7/4/2016
«ตอบ #282 เมื่อ08-04-2016 12:33:40 »

เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น นานแล้วที่ผมไม่ได้นึกถึงวันแรกเมื่อตอนเปิดเทอมปีที่แล้ว ผมปล่อยให้เสียงนาฬิกาปลุกดังอยู่อย่างนั้น

'อูย'

สภาพเมื่อยเนื้อตัวเข้ามาช่วยเขี่ยผมให้ลุกออกไปจากเตียง

ปิดปีใหม่แค่ 3 วัน มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย

ผมบิดขี้เกียจก่อนจะอดินไปทางห้องน้ำ นี่ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงได้จัดการตัวเองสักรอบแน่ๆ ตัวขี้เกียจจะลุก ยกเว้นข้อมือที่พร้อมจะตอบสนองการขยับขึ้นลง

เช้านี้มันต่างกัน

ผมต้องเดินเกร็งไปที่ห้องน้ำ รู้สึกตัวช่วงล่างหลวมๆ

'ไอ้บ้าต้อง มันไปเอาแรงมาจากไหน'

เอามือนวดๆก้นดูรู้สึกแปลกๆ

ใบหน้าผมในกระจกดูจะแปลกตาไปสักหน่อย รู้สึกเหมือนตัวเองดูเริ่มออกไปทางสาวมากขึ้น สงสัยจะจริงอย่างที่ว่า พอมีผัวแล้วมันจะเปลี่ยนไป สงสัยฮอโมนไม่ปกติ

'ไอ้บ้าคิดไรวะ'

เอาตัวเข้าอ่างล้างหน้า

เจ็บแปล๊บเตือนความจำขึ้นมาจากท่อนล่าง

... เมื่อวาน ก็ทำไปตั้ง 3 รอบนี่ เล่นเอาเข้าง่ายไปเลย

ครั้งแรกดูจะยากอยู่สักหน่อย เมื่อต้องได้นอนพักไปตื่นหนึ่ง สิ่งแรกที่ทำหลังจากลืมตาตื่นคือขึ้นกดผมทันที ของเก่ายังไม่ทันระบายออกหมดเลย ปล่อยของใหม่เข้ามาอีก

ยิ่งมันรู้ว่าผมชินแล้ว มันยิ่งใส่เข้ามาไม่ยั้ง

ก่อนจะกลับบ้านเมื่อวานตอนเย็น มันก็ขอทิ้งท้ายไว้อีกรอบ ทั้งๆที่แน่ใจว่า 2 รอบที่ผ่านมามันน่าจะเหนื่อยแล้วซะอีก ยิ่งทำยิ่งอึดซะด้วย

มันทั้งกดทั้งซอยอยู่นานกว่าจะฟุบลงหมดแรง

'นี่มึงกะเอากูคุ้มเลยเหรอ'

ผมต้องหยุดมือที่รูดขึ้นลงของตัวเองตามจังหวะซอยแล้วถาม

'ชดเชยไง'

'สงสารกูมั่งดิ'

ต้องหยุดชะงักแล้วจ้องหน้า

'กับไอ้เจมึงพูดยังงี้มั้ย'

'มึงคิดว่าไงละ'

อูย อ้า....

ต้องชักออกแล้วกระแทกเข้ามาทีเดียวหมด

'กูไม่เคยเป็นเมียมัน'

ผมตอกย้ำคำพูดด้วยการถดตัวหนี

'ทำไมมึงจะบอกว่ายังไม่เคยทำยังงี้เหรอ' มันขยับโยกไปซ้ายขวาแทน แต่แช่นิ่งไว้อย่างนั้น

'เออดิ แน่ๆมันไม่ได้ขึ้นขี่กูละกัน'

'โอ้ย'

จบประโยคต้องซอยเข้าไม่ยั้ง ทั้งเร็วและแรง

'อา...'

'เฮ้ยอย่าดูดคอกูดิ'

'ไม่ได้ จะได้รู้ว่าโดนแล้ว'

'ไอ้ห่าต้อง'

มันดูดซะแรงเลย แต่ลึกลงไปหน่อยถ้าไม่เปิดเสื้อคงไม่เห็น

'อา...'

ผมครางไม่หยุด เหมือนต้องมันรู้จังหวะแล้ว ถ้าเอาออกมากไปผมจะไม่ชอบ แต่จัฃหวะเข้ามันโยกช้าๆให้เข้าไปลึกที่สุด

ยิ่งทำมันยิ่งเก่งขึ้นเรื่อยๆ ผมแทบไม่ต้องแตะต้องของตัวเองเลย

ของมันร้อนฉ่าอยู่ในตัวคงจะใกล้แล้ว

ผมรีบโยกเอวขึ้นลงรับกับจังหวะมัน

'ต้องๆ กู กูจะถึงแล้ว เอาเลยๆ'

'มึงจะหยุดทำไมอีกวะ'

'กูหึงมึงนะ อย่าไปให้ใครได้ทำละ'

'อื้อ กูจะให้มึงเอาจนเบื่อเลย'

ผมกระแทกตัวเองลง กดเข้าไปหาต้องให้แน่นขึ้น

'อะ...'

ต้องเปลี่ยนข้างจับผมกดลงกับเตียง มันยืนอยู่บนพื้น กดหน้าผมลงกับผ้าปูที่นอนบนฟูกหนา เล่นเอาหายใจไม่ออก มือต้องจับคอผมไว้ แต่ที่ตัวกับย่อลงแล้วโยกระรัว

ผมอยากจะร้องแต่เสียงไม่ออก

ในห้องเต็มไปด้วยเสียงต้องกับเสียงเนื้อของคนสองคนกระแทกกันดังๆ

ต้องร้องแทนส่วนของผม

'อ้า'

ของมันในตัวผมเริ่มกระตุกแล้ว มันกระแทกแรงๆจนผมจุกไปสองทีแล้วปล่อยน้ำอุ่นๆเข้ามา

ของผมถูอยู่กับเตียงแทบจะออกมาพร้อมกันถ้าไม่ใช่ต้องรีบถอนตัวออกแล้วจับผมหงายตัว ปล่อยขาสั้นๆให้ไหลไปใต้หว่างขาต้อง มันก้มลงมาใช้นิ้วยาวๆ ถูรอบๆให้ลื่น

แล้วรูดขึ้นลง

'อา... ต้องเร็วเลยไม่ไหวแล้ว'

โดนมาขนาดนี้ แทบจะไม่ต้องทำก็จะเสร็จอยู่แล้ว

ยังไม่ทันเมื่อย

สุดท้ายผมต้องปล่อยน้ำใส่มือต้องออกมาจนได้ น้ำแทบไม่เหลือ ใสราวกับน้ำมูก
.
.
.

แล้วนี่ผมมาคิดเรื่องนี้ตอนแปรงฟันทำไมเนี่ย ส่วนนั้นเลยแข็งขึ้นแต่ดูห่อเหี่ยว

มันคงหมดพลังเหมือนกัน

ผมเดินทางไปโรงเรียนแบบเดิม ข้าวเช้าหากินเอง ดูท่าทางแล้วพ่อกับแม่คงจะไม่คืนดีกันแล้ว ผมได้รับข้อความที่ให้เลือกว่าจะอยู่บ้านไหน ผมจึงเลือกที่นี่และขออยู่คนเดียว

เรื่องนี้เป็นสิ่งเดียวที่ผมอยากจะขอ บ้านที่มีความทรงจำมากมาย ผมคิดว่าตัวเองเริ่มเหมือนเด็กติดที่แล้ว ความคุ้นชินของสถานที่ทำให้ผมไม่อยากจากไปไหน เรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย

ไม่ใช่เฉพาะของพวกเพื่อนเท่านั้น บ้านที่ผมเติบโตมา ผ่านมาทั้งเรื่องดีและร้าย ฤดูกาลต่างๆที่ผมนั่งเฝ้ามองออกจากหน้าต่างบานเล็กในห้อง

รอยเปื้อนด่างบนกำแพง กระจกที่แตกเพราะลูกเบสบอลเด้งใส่ ตู้ใส่ของใบนั้นเลยเปิดอ้าซ่า เชื้อเชิญฝุ่น

พื้นที่สี่เหลี่ยมเล็กที่ผมใช้เก็บตัวเวลาพ่อแม่ทะเลาะกัน

โทรทัศน์เก่าขนาดใหญ่ ที่มีสายเอวีให้ รอยเปื้อนบนกำแพงจากความร้อนเป็นรอยสีดำ เครื่องนี้เองที่ผมใช้หนีจากโลกความเป็นจริง

เวลาพบเห็นอะไรไม่สบายใจมาจากโรงเรียน

เจ มานอนห้องผมที่นี่เป็นคนแรก ไม่มีใครจะกล้ามาบ้านผมคนเดียวเพราะไอ้เรื่องบ้าๆ พวกมันคิดว่าถ้ามาคนเดียวจะเจอผมจับทำเมียหมดเลยละมั้ง

เจกับต้องดูจะไม่กลัวเรื่องพวกนั้น เอะ .. มันไม่เหมือนกันนี้นะ

ห้องนอนนี้เลยเหมือนเป็นเพื่อนที่ดี

บางทีก็อดคิดไม่ได้ว่าที่เป็นอย่างนี้จะโทษใครดี ที่บ้าน ข่าวลือนั่น หรือ ตัวผมเอง

อากาศยามเช้ายังเย็นอยู่ ลมเย็นปะทะหน้าขณะประตูสไลด์ร้านสะดวกซื้อเลื่อนออกอย่างอัตโนมัติ ผมแวะมาที่นี่เพื่อนมหนึ่งขวดกับขนมปังหนึ่งก้อน

รถเมล์สายเดิมแล่นผ่านหน้าบ้านแมค ป้ายร้านถูกถอดออก สภาพร้านที่เป็นบ้านดูทึมทึงและทรุดโทรม ผมไม่เคยไปโรงเรียนพร้อมมันเลย และคงไม่ได้ไปด้วยกันอีก

ผมยังไม่ลืมจะใส่หูฟัง ช่วยกลบเสียงภายนอก เลิกคิดเรื่องที่ทำให้หดหู่ตั้งแต่ต้นปี

ไอพอดที่ทนเจ็บตัวเอาไปซ่อมให้ต้องยังอยู่ในกระเป๋า ไร้ซึ่งกล่องเพราะผมปามันเป็นเหยื่อล่อไอ้พวกนั้นที่สยามไปซะแล้ว

แล้วหมาก็โดดเข้างับเหยื่อ

โรงเรียนวันแรกหลังหยุดปีใหม่ดูครื้นเครงไม่ต่างกับตอนที่เพิ่งปิดเทอมไป

บันไดเดิมที่ผมเคยเดินลงตอนหน้าฝน ตรงหน้ากำลังก้าวข้ามบันไดสีครีมถึงชั้น 2 ห้องพักครูดูเอะอะโวยวาย คงไม่ใช่ว่าจะหาเรื่องมายึดไอพอดผมเครื่องนี้อีกหรอกนะ

เด็กนักเรียนเดินออกจากห้องพักครู สีหน้าเศร้าราวกับเจอการสูญเสียมา

สภาพร่างกายผมตอนนี้ก็เสียสูญไม่แพ้กัน

เหนื่อยเป็นบ้า

หันหลังให้กับห้องพักครู ผมจำตอนที่ต้องเข้ามาใกล้ในห้องนั้นได้ดี

ป้ายหย้าห้องทำตากแสตนเลสแขวนห้อยอยู่บนไม้ยื่นออกมา ตัวเลขบอกห้องสีเขียวเข้มจากฝุ่นปรากฎจืดจาง ดูไม่น่าคิดถึง

ม.5/1

คนในห้องยังน้อย นี่ผมมาเช้าเกินไปหรือยังไม่เปิดเรียนกันแน่

โต๊ะ 3 ตัวที่แถวกลางด้านขวาสุด เรียงกันรอผมอยู่

ทุกรอยยังอยู่บนโต๊ะ ชื่อใครไม่รู้บ้าง รอยดินสอบ้าง ลิควิดบ้าง หนักหน่อยรอยบากลงไปลึกๆ เสมือนอนุสรณ์ที่เจ้าของไม่มีโอกาสได้กลับมาดูแต่อวดโฉมให้คนรุ่นหลังที่จะมาใช้ได้อ่าน

จาก 3 ตอนนี้เหลือแค่ 1

รอยยังอยู่ แต่คนหายไป ถึงผมจะเติมศิลปะเข้าไปอีกก็คงไม่ช่วยอันใด

'หวัดดี เราชื่อเจนะ'

เสียงของเจยังดังก้องในหูผม ผมจำเสียงมันได้

รู้สึกตาเปียกชื้น

แต่นี้ไป 2 ที่ข้างผมมันจะว่างเปล่าไปจนจบม. 5

ลมเย็นวูบมาทางด้านข้าง กลิ่นคุ้นโชยมา ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ได้ ผมดมมันมา 3 วันติดๆ

"รอใครอยู่เหรอ"

"เปล่า" ผมไม่หันไปมองหน้า

"งั้นขอนั่งข้างๆได้มั้ย"

"ไม่ได้"

"มึงต้องนั่งที่เดิม กูชอบแอบมองมึงจากด้านนี้มากกว่า"

ต้องยืนยิ้มคร่อมหัวผมเอาไว้

"ไม่ยักรู้ชอบถ้ำมอง"

"ไม่มองแล้วก็ได้"

"ไม่มองอะดีแล้ว หันหลังให้อย่างเดียวพอ"

ผมสะดุ้งหน้าแดง

ต้องเอี้ยวตัวมาพูดกระซิบ

"ไอ้บ้า"

"ว้า" ต้องทำเสียงเสียดาย

"พอเลย งดยาว"

"ทำไม ยังเจ็บ?"

"เออ กูจะเดินไม่ได้อยู่ละ"

"ขนาดนั้นเลย" มันวางของลงข้างๆ แล้วนั่งมองมาทางผม

"หลวมหมดแล้วมึง"

"หลวมกูก็เอาได้"

เสียงคำว่าเอาได้ ต้องดูเน้นมาก

"มึงจะประกาศให้คนได้ยินเรอะ"

ผมชูนิ้วกลางให้มันแทนคำตอบ

"ดีใจที่มึงอยู่กับกู"

ต้องพูดลอยๆ นั่งเหยียดขายาวออกไปทางหน้ากระดาน

"กูก็ดีใจที่มีมึงอยู่"

รู้สึกไปเองว่าบรรยากาศรอบข้างผมสั่นไหว ที่นั่งเปล่าๆ ข้างผมดูราวกับมีตัวตนขึ้นมา มันดูสดใสและหัวเราะร่า เหมือนผมจะนึกออกถึงรูปร่าง ท่าทาง ของคนที่เคยนั่ง เห็นเป็นเงาลาง ทำทีว่าพวกนั้นไม่ได้หายไปไหน

ถ้าเจ้าของที่นั่งอยู่ก็คงจะเป็นอย่างนั้นละนะ

พวกมันคงนั่งหัวเราะเยาะใส่ผม

-------------------------------------



























ต่อเดินขึ้นบันไดมากับพี่ต้อง วันนี้ดูพี่ต้องอารมณ์ดีจนผิดสังเกตุ

'หึ ได้ไปกี่ยกละ'

จะพูดออกมาก็ไม่ได้ ต่อเองก็ไม่แพ้กัน

พี่ต้องกลับมาถึงบ้านไม่นานหลังจากเอ็มกลับไป

ต่อยืนส่งเอ็มขึ้นรถเมล์จากป้ายรถที่อยู่ใกล้ที่สุด

ก๋วยเตี๋ยวร้านเดียวที่ยังเปิดอยู่ เจ้าเดียวกับที่เอ็มซื้อมาให้ แต่ทำไมนะ มื้อนี้รสชาติดีกว่าวันนั้น เมื่อตอนที่ต่อยังไม่สร่างดี คิดแล้วยังพะอืดพะอม

อาการเมาค้างถึงจะไม่มีอยู่แล้ว แต่ใันก็ยังออกอาการเมื่อไปคิดถึง

'เข็ดไปอีกนาน'

ต่อกับเอ็มนั่งกินตรงข้ามกัน

ในหัวมีแต่เรื่องของเอ็มที่ตอนนี้วุ่นวายใจพอกับเรื่องของปิ

"ไว้เจอกัน"

ต่อบอกลา

เอ็มโบกมือหยอยๆขึ้นรถเมล์ไป

บางอย่างบอกให้ต่อรู้สึกว่า เอ็มไม่ได้ร่าเริงอย่างที่เห็น

แค่ไม่รู้ว่าเศร้าที่จากลาหรือเพราะเรื่องอื่น

สามวันสองคืนของต่อกับเอ็มในห้องนอนเล็กๆ มันประทับความรู้สึกดีเอาไว้ในใจต่อ เฟืองตัวเล็กๆเริ่มไขลานอีกครั้ง

แล้วเสียงหัวใจต่อกำลังเริ่มเดิน

ช้าๆ
.
.
.
'ต่อ เป็นไง เหงามั้ย'

คนที่ถูกถามหันกลับไปจ้องหน้า

'ถ้ารู้งั้น แล้วพี่ต้องไปไหนมาละ'

คนที่ถูกต่อว่ามีสีหน้าอึกอัก

ต่อรู้คำตอบดี

ตอนนี้ไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว

เรื่องของพี่ต้องกับเก้าก็ปล่อยตามใจพวกเค้าไป

แย่ละ ลืมเปลี่ยนผ้าปูเตียง ที่นอนสีฟ้าอ่อนตอนนี้มีแต่รอยยับย่น ไม่รู้มีของที่ไม่อยากให้เห็นติดอยู่บ้างหรือเปล่า ถ้าพี่ต้องเห็นคงจะแย่

ไม่เป็นไรมั้ง พี่ต้องคงไม่สังเกตุ

'พรุ่งนี้เปิดเรียนแล้วนี่'

ต้องพยายามชวนคุย

'ไหวปะละ ท่าทางเดินกล้บมาขาสั่นเลยนี่'

ต่อย้อน

เกิดช่องว่างระหว่างคำถามกับคำตอบ

'พูดอะไรน่ะ'

คำพูดเสียงสั่น

หึ

'แล้วต่อทำไรละ ระหว่างอยู่บ้าน'

'ไม่ทำไร นอนเล่นเกม'

ต้องเดินเข้าไปดูที่โต๊ะ เห็นเครื่องเกมสีขาววางอยู่

'ใครให้มา'

'ปิ'

ต่อตอบไม่มองหน้า มือเริ่มมีเหงื่อชื้น

'เจ้าของไม่เล่นเหรอ'

'ไม่หรอก งั้นจะให้มาเล่นเหรอ'

แล้วก็คงไม่เล่นอีกแล้วด้วย

เป็นการตอบคำถามชวนอึดอัด

'เป็นไรป่าววะ ไอ้น้องชาย ดูแปลกไปนะ'

ต้องเปลี่ยนวิธีพูด

ต่อคิดว่าจะเล่าเรื่องกะปิให้ฟัง แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง เหมือนคำพูดมันจุกอยู่ในลำคอ พร้อมจะพรั่งพรูออกมาแบบเรียงไม่ได้เป็นประโยค แต่ละคำแก่งแย่งกันออกมาก่อน

'เอาเรื่องไหนก่อนดี'

ปากต่อขยับไปเองอย่างไม่เป็นธรรมชาติ ถึงแม้ว่าจะเปิดเผยกันทุกเรื่อง แต่เรื่องของปิ ที่ต่อไม่เคยคิดจะแบ่งปันกับใคร ก็กำลังจะถูกเล่าออกมา

วิธีที่ต่อไม่ถนัด

ไม่รู้ว่านานแค่ไหน เหมือนต่อเข้าอุโมงค์ไปหาอดีต ในช่วงที่เพิ่งรู้จักับปิใหม่ ไล่ไปเรื่อย ยังไม่ทันจะจบดีแค่หลังจากปิจมน้ำ เสียงก็เริ่มสั่น ชักพูดไม่รู้เรื่อง

ยังกับต่อเป็นคนจมน้ำไปเสียเอง

เรื่องยังไม่จบถึงปัจจุบัน พี่ต้องก็ลุกเดินเข้ามากอด

'นี่ ต่อทำดีที่สุดแล้วนะ ภูมิใจในตัวเองสิ ถ้าเป็นปินะ เค้าต้องดีใจแน่ๆ'

สิ้นเสียงคำพูด หูต่ออื้อ น้ำตาที่ไม่ไหลออกมาตลอด 2 วันเริ่มมีมาให้เห็น ถึงจะน้อยแต่ก็พอทำให้เสื้อของต้องเป็นดวงวงกลมบิดเบี้ยวสองจุด

'บางทีปิเค้าคงไม่อยากเป็นภาระให้ต่อนะ เค้าทำตัวเข้มแข็ง ให้ต่อเห็นว่าเค้าอยู่ได้ ไม่ต้องเป็นห่วง'

นี่ยิ่งทำให้ต่อเสียใจ

'ให้เค้าอ่อนแอเหอะพี่ ผมจะปกป้องเค้าเอง'

ต้องไม่ตอบรับอะไร นั่งมองน้องชายทำหน้าผิดหวังอยู่เงียบๆ

ตอนนี้ก็สายไปแล้ว

ต่อสะอื้น

ทิ้งเสียงสะอื้นไว้ตามหลังประโยคที่ปิจมน้ำแล้วต่อมาไม่ทัน

แค่ 5 นาที มันมีค่าพอสำหรับทั้งปิและต่อ

ใช้ความพยายามข่มอารมณ์สักหน่อย ถึงเล่าต่อจนจบ

ต่อเล่าข้ามเรื่องของเอ็มไปเฉพาะส่วนที่มีอะไรกัน
.
.
.

"นี่ แล้วไม่เข้าห้องเรียนเหรอไง"

คนที่ถูกเล่าข้ามไปมารอตรงหน้า

"มารอคนที่อยากเจอไง"

นั่นคือคำตอบของคำถามเมื่อครู่

คำพูดปราศจากความเคอะเขิน น้ำเสียงหนักแน่น

'ไอ้บ้านี่'

เอ็มยังมั่นใจในตัวเองเหมือนเดิม

ไม่ว่าจะผ่านอะไรกันมา เอ็มยังยืนยิ้มรอต่ออยู่หน้าห้อง สามวันมานี้ไม่เห็นเอ็มร้องไห้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่แม้จะออกปากบ่นต่อด้วย

ความเข้มแข็งของเอ็มราวกับจะแบ่งปันเผื่อมายังต่อ

'ผ่านมาด้วยกันสินะ ผ่านกันไปทั้งตัวเลย'

"แล้วไง เจอละไง"

"ตกลงยังละ"

เอ็มรีบทวงคำตอบ

"ยัง ใจร้อน"

เอ็มยักคิ้วยิ้มให้

"เข้าห้องก่อนนะ"

ต่อหันตัวเดินเข้าห้อง

"พักเจอกัน"

ต่อทำท่าหน่าย

'มันจะจีบกูวิธีนี้เหรอเนี่ย'

"ไหวนะ"

เสียงจริงจัง มาจากหน้าห้อง

ต่อพยักหน้า

ช้าเร็วก็ต้องเข้าห้อง

เอ็มยังคงยืนมองอยู่จากข้างหลัง รู้สึกได้ถึงสายตาเป็นห่วง แถวหลังห้องเรียนตอนนี้ยังโล่งอยู่ ทั้งแถวไม่มีคน ต่อจะต้องเดินไปนั่งที่เดิม ริมหน้าต่างถัดไปหนึ่งตัว

เว้นที่ว่างไว้ให้ปิ

เมื่อเอ็มเห็นต่อท่าทางจะไม่เป็นไร จึงเดินกลับห้อง

ถ้าเป็นเอ็มคงได้ละมั้ง ปิ คงจะไม่ว่าอะไร

เอ็มไม่ใช่แค่เพื่อนของเพื่อนอีกต่อไป พวกเราสองคนที่เหลือตะสานสัมพันธ์ที่เกิดจากปิดีมั้ย มันเหมือนสามเหลี่ยมที่ด้านหนึ่งหายไป เส้นสองเส้นเลยต้องมาบรรจบกันเอง

เอ็มที่อยู่นอกเหนือความคาดหมาย

ไม่สิที่ต่อจะคบกับผู้ชายด้วยกันเนี่ยมันเกินความเป็นไปได้ไปเนอะแล้ว

ปิเป็นคนพามาเจอกับเอ็ม แล้วก็ทำให้เรื่องมันเกิดขึ้นถึงปิเองจะไม่ได้ตั้งใจ

'จะไหวเร้อ มันจะดีมั้ยหว่า'

'รำคาญวุ้ย คิดไม่ตกซะที'

แว่นปิอยู่ในกระเป๋าเสื้อ เป็นของเปล่าประโยชน์อย่างเดียวที่ต่อพกไว้ตลอดเวลา

มันคงยิ้มเยาะอยู่สินะ

ที่อยู่ในห้องต่อวางแว่นหันมาทางเตียง

ปิคงเห็นหมดแล้ว

"พอเลย ไอ้กะปิ ไอ้แว่นหื่น"

ที่นั่งซ้ายขวาง่างเปล่า เหตุผลการหายตัวไปแตกต่างกัน

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
Re: 10 CM : วันกีฬาสี 4/4/2016
«ตอบ #283 เมื่อ09-04-2016 01:03:34 »

เหมือนมานั่งฟังเพื่อนๆพูด
แต่ละคนผลัดกันมาเล่าให้ฟัง

ต้อง..ต่อ
พี่น้องสองคนนี้ดูมีเสน่ห์
เดินไปไหนๆคงจะปล่อยฟีโรโมนให้ฟุ้งไปทั่ว

เก้า..เอ็ม+ปิ
เลยติดใจ หลงชื่นชอบกลิ่นนี้เป็นพิเศษ

รักนะ..เรื่องนี้
อยากจะเก็บไว้อ่าน..นานๆ
เวลาคิดถึง

ออฟไลน์ Redz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: 10 CM : วันกีฬาสี 4/4/2016
«ตอบ #284 เมื่อ09-04-2016 02:47:14 »

แปะๆเดี๋ยวตามอ่านนะ :hao6:

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
10 CM : วันกีฬาสี (2) 10/4/2016
«ตอบ #285 เมื่อ10-04-2016 21:00:45 »

ต่อกับเอ็ม
.
.
.
"แม่งร้อนชิบหายเลย"

คนข้างๆสะบัดหน้ามามอง

"ทีลงไปเตะบอลละไม่ร้อนนะ พูดเองนี่นาว่าอยากขึ้นมาอยู่บนแสตนด์"

ใช่ ต่อพูดออกไปอย่างนั้น

ถ้าวันนี้ปิยังอยู่ มันก็คงนั่งอยู่ตรงนี้ข้างๆเอ็ม แดดอย่างนี้หน้ามันคงจะแดงเป็นตูดลิง พอทักมันเข้า มันจะต้องหันหน้ามายิ้มแหย แก้มแดง แว่นหลวมๆอยู่บนดั้งคงจะลื่นจนต้องเอามือไปดันแน่ๆ

"ไอ้กะปิบ้าเอ้ย"

เอ็มนั่งเอาตัวเข้ามาใกล้

"ร้อน จะเบียดมาทำไม"

ไม่มีคำตอบ

เสียงนกหวีดดังขึ้นหนึ่งที

สตาฟข้างหน้าเดินขึ้นมายกป้ายขนาดใหญ่

แผ่นป้ายถูกชูขึ้นพร้อมตัวเลขใหญ่สีน้ำเงินอยู่บนป้ายที่ทำจากกระดาษแข็ง

"เบอร์5 ต่อ เบอร์5 แผ่นที่5 น่ะ"

เสียงจ๊อกแจ๊กดังขึ้น พี่สตาฟที่นั่งปนอยู่กับน้องส่งสัญญาณให้เงียบ

เอ็มก้มหัวลง

ต่อก้มตาม สองมือชูป้ายหันเลขเข้าข้างใน

หน้าต่อกับเอ็มแทบจะติดกัน

"ต่อหันซ้ายด้วย"

เพื่ออะไรวะ?

ต่อทำตาม

จุบ

เฮ้ยยยยยยยยยยย!!!!!!! เสียงลั่นในใจต่อเท่าที่คิดว่าจะตะโกนออกมาให้ดังได้

ไอ้สาสสสสสสสสส นี่บนแสตนด์

"คนไม่เห็นหรอก ก้มหันหมด”

ต่อเอามือกระตุกคว้าเข้าที่เป้าของเอ็ม

เอ็มหุบขาหลบได้

ราวกับรู้ทัน

ชิ

“อดดูพี่ต้องเลย"

แม่ง เล่นให้ชูป้ายอย่างนี้จะดูยังไงวะ

เอ็มเอาเข่ากระแทกแทนคำว่า เงียบ

เสียงนกหวีดดังขึ้นอีก

คราวนี้เบอร์ 2

ต่อแอบเงยหน้าดู ในสนามตั้งแถวเสร็จเรียบร้อย ประธานกำลังกล่าวอะไรเสียงดังออกทางไมโครโฟน สีฟ้าตั้งแถวอยู่ไกลออกไป มีแต่พวกหลีดที่ยืนเรียงหน้ากระดานตากแดดหน้าดำอยู่ข้างหน้า

ประธานกล่าวเสร็จ ตามมาด้วยประกาศเริ่มแข็งขันการเชียร์ ครั้งที่ 1

เสียงเชียร์เริ่มขึ้น สีแดงเริ่มก่อน

เอาวะ ถือว่าแหกปากแทนปิมัน

"ปิมันร้องเพลงด้วยเหรอ"

ต่อนึกถึงหน้าแดงๆใส่แว่นหนาสีดำของปิ ทำท่าแหกปากตะเบ็งเสียงวันนี้แล้วอดขำไม่ได้

"มันร้องได้ที่ไหน ถ้าเพลงเกมละก็มันจำได้แม่นเลยละ"

สมเป็นมัน

คิดถูกมั้ยวะขึ้นมาแทนที่มัน

ต่อเป็นตัวแทนของปิให้เอ็ม แล้วเอ็มก็ทำแทนในส่วนของปิ กาวเหนียวที่เป็นสายใยเชื่อมสองคนเข้าด้วยกัน มียี่ห้อ ปิพนธ์ หราอยู่

อยากคว้าแว่นในกระเป๋ามาใส่ๆจะได้ปลอมเป็นมันซะเลย เสียดายต่อสายตาไม่สั้น

แต่ละสีได้เวลา 10 นาที

เสียงนกหวีดปรี๊ดยาวขึ้น

"ต่อไป สีฟ้า" เสียงครูผู้หญิงดังออกลำโพง

เอาวะ!!!

เพลงอะไรก็ไม่รู้ลอยผ่านหัวต่อไป ถึงจะร้องมาตั้งแต่ประถมก็ไม่ใช่ว่าจะจำเนื้อได้หมด ต่อรู้สึกกล้าๆกลัวๆเพราะเกิดเปลี่ยนเนื้อเพลงขึ้นมาเสียงต่อคงจะหลงออกไปคนเดียวแน่

10 นาทีแสนยาวนาน

หน้าตาหลีดที่ตากแดดเต้นอยู่เบื้องหน้าคงจะฝืนยิ้มที่สุด หันหน้าให้ประธาน ต่อเห็นแต่ก้น ดูจากเสิ้อแล้ว น่าจะร้อนอยู่ เหงื่อไหลลงมาถึงกางเกง

มีคนหนึ่งกางเกงเปียกเป็นดวง เหงื่อไหลหยดลงไปเป็นทางเข้าไปถึงกางเกง

เสียงนกหวีดยาวขึ้นอีกครั้ง

หมดเวลาทรมาน 10 นาที แต่สีหน้าเพื่อนร่วมสีดูสนุก

เอ็มเองก็ยิ้มเห็นฟัน เมื่อเวลาสิ้นสุดลง

ก็สนุกดี...

"ต่อไม่ต้องแข่งแล้วนี่"

"ใช่"

การที่ต้องมานั่งดูสีอื่นแข่งชิงที่ 1 2 นี่มันบาดใจ สีฟ้าที่ตกไปที่ 4 หมดสิทธิ์จะได้เหรียญห้อยคอ

ตอนนี้เป็นเวลาอิสระ สีไหนจะเชียร์ก็ได้ เพื่อไม่ให้เสียงตีกันยุ่ง สีฟ้าจึงถูกจับไปเชียร์ให้ฝั่งสีแดง

"น่าสงสารเนอะ"

“หมายถึงกูใช่มั้ย"

ต่อรู้ตัว ก็คนมันตกรอบนี่

"มั้ง เดี๋ยวให้รางวัลปลอบใจ”

ต่อเอามือดันหน้าเอ็มออกห่าง

เมื่อเปิดเรียนหลังปีใหม่วันแรก เอ็มมายืนต้อนรับต่ออยู่หน้าห้องเรียน สีหน้าเป็นกังวล

ต่อที่เดินเข้ามาช้าๆ มาหยุดอยู่หน้าห้องเรียน มองเข้าไปตรงที่นั่งที่ต่อจะต้องนั่ง ที่นั่งที่ติดกับที่ๆปิดเคยนั่งอยู่... โต๊ะตัวนั้นยังอยู่ที่เดิม เก้าอี้ตัวนั้น ลอยขีดเขียนบนโต๊ะนั้น แสงจากหน้าต่างทะลุผ่านลงไปที่พื้น ไม่มีเงาของร่างขาวๆ มาบดบังแสงแดดอีก

ร่างขาวๆใส่แว่น ร่างที่ต่อคุ้นเคยและโหยหาย

‘ไม่เป็นไรนะ ต่อ’

เอ็มเดินเข้ามาจับไหล่

‘อือ’

‘แล้ว... เรื่องตอนหยุดปีใหม่ ต่อ...’

‘ไม่เป็นไรหรอก... ขอบใจนะเอ็มที่มาอยู่เป็นเพื่อน...’

เอ็มยิ้มให้

‘เอ่อ แล้วเรื่องนั้น’

ต่อ หยุดคิดนิดหน่อย

‘ขอเวลาหน่อยนะ... เว้นช่วงให้เราสักพักแล้วกัน’

มือของเอ็มฟาดเข้าที่ก้นต่อเบาๆ

‘ก็ได้ งั้นเราจะให้เวลา หายเจ็บแล้วขอนะ’

‘สัส กูไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น กูเปลี่ยนใจแล้ว กูไม่เอามึงแล้ว’

‘เฮ้ยๆๆๆๆ ต่อ กูพูดเล่นๆ อย่าโกรธดิ’

ต่อ ทำท่าเอานิ้วดันแว่น แต่ดันด้วยนิ้วกลางให้เอ็ม

‘เออ งั้นพักเที่ยงเจอกันนะ’

ต่อโบกมือให้แล้วเดินเข้าห้องไป

เอ็มทำอยู่อย่างนี้ทุกวัน เวลาที่สองคนใช้ร่วมกันจึงค่อยๆมากขึ้นๆ และเอ็มเริ่มเข้ามาแทนที่ปิ คนที่กินข้าวตรงหน้า คนที่นั่งเล่นเกมอยู่ข้างๆ

จนวันหนึ่งที่ ต่อ พูดขึ้นว่า อยากจะขึ้นแสตนด์เชียร์ อยากจะทำในส่วนของปิมัน ซึ่งก็ดีเพราะว่าที่นั่งของปิคงจะขาด แล้วมันก็เป็นอย่างที่คาดปินั่งข้างเอ็มจริงๆ

ก่อนจะถึงวันกีฬาสี ต่อ ใช้เวลาทั้งหมดกับเอ็ม... เวลาที่ทำให้ความรู้สึกของต่อกับปิ ค่อยๆถ่ายเทมาทางงเอ็มขึ้นเรื่อยๆ

“นี่ต่อ ร้อนมั้ย เอาน้ำป่าว”

เอ็มควานหาขวดน้ำเปล่าที่วางอยู่แถวนั้น

ต่อสายหัว

“เบื่อป่าวเนี่ย”

ระหว่างนี้ต้องนั่งเงียบๆรอให้สีอื่นร้องเพลงเชียร์จนเสร็จ ก่อนจะตามมาด้วยการแข่งบอลในสนาม ซึ่งเป้นนัดที่ต่อไม่อยากดูมากที่สุด

"หาไรทำดีกว่า" ต่อทำท่าจะเปิดกระเป๋า

จะได้เบนความสนใจออกจากสนาม

พี่ต้องก็เดินขบวนออกไปได้สักพักแล้ว ไม่รู้ว่าจะไปหลบที่ไหน จะกลับมาที่แสตนด์หรือเปล่า

"เฮ้ยๆๆ คงไม่เอาออกมาเล่นนะ"

แม่งรู้ทันอีก

"พี่เค้าได้ยึดไปแน่ ไอ้บ้า"

แม่ง เล่นเกมก็ไม่ได้ ต้องมาเชียร์ไอ้พี่บูมอีก เซ็งวุ้ย

เสียงเฮดัง พร้อมกับเสียงนกหวีด

ผลในสนามครึ่งแรกสีแดงนำอยู่ 2 ลูก ได้เหรียญชัวร์ แม่งเอ้ย

พักครึ่ง เป็นการแข่งเชียร์รอบสอง

หลีดเดินลงมากลางสนามคราวนี้ เริ่มทีละสี

“แม่ง เอาอีกแล้วเหรอ”

“เอาน่า อยากขึ้นมาทำไม”

เป็นการเชียร์ที่สุดเซ็ง ท่าทางหลีดกลางสนามก็คงไม่แพ้กัน หน้าตาที่ยิ้มสดใสเมื่อเช้ากลายเป็นยิ้มแห้งๆ ตกบ่ายคงจะเริ่มฝืนยิ้มแน่ๆ

ช่างเหอะ คราวนี้ไม่นานแค่ 3 นาที

เมื่อจบการเชียร์ก็ตามมาด้วย ครึ่งหลัง ผลออกมาเป็นว่า สีแดงชนะไปด้วยคนแนน 2-0 แม่งเอ๊ย ไอ้กะปิอยู่มันคงแอบหัวเราะขำใส่แน่ๆ

“เสียใจด้วยนะต่อ”

“เอออออ”

ครูประกาศเรื่องพักกลางวัน อีกเดี๋ยวก็คงจะปล่อยให้ไปกินข้าว

"ต่อ กินไหนดี"

"ไม่รู้ เค้าให้ไปกินไหนอะ หากินเองใช่มะ”

เอ็มพยักหน้า

"โรงอาหารก็ได้มั้ง แต่คนคงเยอะมาก"

ต่อนึกถึงวันที่ปิโดนแกล้งบนโรงอาหารวันนั้นว่าคนเยอะแล้ว วันนี้คนน่าจะยิ่งเยอะกว่า

ไอ้แหยนั่นเห็นคนเยอะอย่างนี้คงยิ่งทำตัวไม่ถูก นึกแก้มแดงๆหันไปมองนั่นแลนี่ออกเลย

"ต่อ ไปรอสระว่ายน้ำนะ"

เอ็มเอามือจับขาต่อไว้ แล้วบีบเบาๆ

ต่อทำหน้างง

“เดี๋ยวไปกินริมสระดีกว่า ไปรอนั่นละกัน”

ต่อยิ้มให้ ก็ดีเหมิอนกัน

"ไม่เข้าห้องลอคเกอร์นะ"

"ไอ้ทะลึ่ง" เอ็มเอามือตบหัวต่อ

“ถ้าจะเข้า แกต้องหันหลังเว้ย”

“ไม่มีทาง เรื่องไร ตอนอยู่บ้านมึงได้ไปเยอะละ”

“แน่ะ กูต้องเปิดก่อนเว้ย”

“ใครเร็วได้เว้ย”

ดีใจที่มันยังยิ้มออกมาได้ ท่าทางต่อคงจะทำใจได้แล้วจริงๆ

คนรอบข้างคงงงกับบทสนทนาแปลกประหลาดนี้ถ้าได้ยินเข้า

อยากให้ปล่อยเร็วๆจัง ร้อนเป็นบ้า

เสียงนกหวีดดังออกไมค์ยาวๆ ตามมาด้วยเสียงตึงตังของฝีเท้าเด็กวิ่งลงจากแสตนด์ ทุกคนคงจะรีบเข้าที่ร่ม แย่งกันหาที่กินที่พัก ในเมื่อเด็กทั้งโรงเรียนโดนปล่อยออกมาพร้อมๆกัน มันจะวุ่นวายได้ขนาดไหน

ต่อลุกขึ้นแล้วเดินตามเอ็มไปก่อนจะแยกขึ้นไปนั่งรอริมสระว่ายน้ำ

ที่ริมสระว่ายน้ำ

ต่อไปนั่งรออยู่บนม้านั่งที่ทำจากปูนปิดหน้าด้วยกระเบื้องสีน้ำเงินเงา เป็นทั้งม้านั่งริมสระและที่กั้นไม่ให้คนตกลงไป แต่ละช่วงสั้นๆถูกคั่นเอาไว้ด้วยกระถางต้นไม้ทำจากปูนหน้ากระเบื้องสีเดียวกัน

ต้นไม้สูงกว่าหัวแค่ช่วงแขนเดียวปลูกอยู่เดียวดายเป็นร่มบังแดด

ต่อนั่งพิงพนักหลบอยู่ใต้เงาไม้ สายตาทอดยาวออกไปที่ผืนน้ำด้านหน้า

น้ำนิ่งมีคลื่นระลอกเล็กไหวไปทิศทางเดียวกันบนผิวน้ำสีฟ้าอ่อน

‘ไอ้บ้ากะปิเอ้ย’

ไม่ใช่ว่าต่อไม่คิดถึง แต่จะให้ทำอย่างไรละ ภาพวันนั้นมันยังติดตาอยู่ ต่อแทบจะจำได้ทุกช่วงทุกตอนตั้งแต่ออกจากห้องพยาบาลมา จนมาเจอกับปิ อาท เอ็ม พี่บูม จนกระทั่งต่อกับเอ็มช่วยกันแก้ผ้าลงไปเอาแว่นขึ้นมาจากก้นสระ

แว่นที่อยู่กับต่อตลอดเวลา ตอนนี้มันเป็นของติดตัวต่อไปแล้วคู่กับ psp สีขาว

ถ้าวันนี้ปิยังอยู่ คงได้มานั่งกินข้าวกัน 2 คน
 
แล้วเอ็มละ...

มันจะเป็นไปได้มั้ยนะ 3 คนยังงั้นเหรอ.. ไม่เอาละ ฟุ้งซ่านแล้ว

“รอนานมั้ย”

“นิดนึง”

ต่อหันไปมองก่อนตอบ

ประธานนักเรียนตอนนี้กลายเป็นเด็กเสิร์ฟ โดยเอาข้าวผัดจานหนึ่งวางไว้ข้างหน้า ไส้กรอก 4 ไม้ แล้วก็น้ำเปล่า 2 ขวด ที่หอบหิ้ว วิ่งตรงเข้ามาหา

“ตั้งนานได้แค่นี้?”

“โหย เดินไปดูคนโน่น คนแย่งกันเพียบเลย ผู้ปกครองพาลูกมากินกันเพียบเลย”

ต่อหันไปมอง

เออจริงด้วย จะให้ไปแย่งเดี๋ยวมีเรื่องอีก อีพวกผู้ปกครองคุณหญิงคุณนายเรื่องมาก

เอ็มลงไปนั่งกับพื้น อยู่ตรงปลายร่มเงาไม้ที่ยังทอดไปถึง

“นั่งได้เหรอ ”

“เออ ต่อนั่งเหอะ”

เอ็มเอามือตบขาต่อ

“โอ้ย สุภาพบุรุษ”

“ประชดกูเหรอ”

เอ็มหันเอาขาไปเขี่ยๆขาต่อ

“ถ้าเป็นกับปิ ต่อก็จะทำอย่างนี้เหมือนกันใช่มั้ยละ”

ต่อพยักหน้า

ใช่ ไอ้บ้าบอบบางอย่างนั้นถ้าให้มันนั่งพื้นคงดูน่าสงสารแย่ ไอ้เรื่องไปแย่งของกินมา ยิ่งไม่มีทางสำเร็จ

“โห งี้ทำให้กูมั่งดิ”

“ฝันไปเหอะ ไหนบอกจะจีบกูไง ทำหน้าที่ของมึงไป”

“ได้ทีนะมึง เดี๋ยวกูจะเอาให้ร้องเลย”

“ไม่มีวันซะละ”

อาหารถูกหยิบเข้าปากอย่างรวดเร็ว ข้าวผัดแบ่งกันคนละครึ่ง เหมือนๆกับไส้กรอกที่ก็ต้องแบ่งกัน

มันไม่อิ่ม แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้กินอะไรเลย

“เหมือนได้กินข้าวกัน 3 คนเลยนะ”

“เกินไปต่อ พูดยังกับปิมันตาย”

“แน่ใจเหรอว่ามันไม่เป็นไร”

เอ็มนั่งกอดเข่าหันหน้ามองไปทางสระว่ายน้ำ

ตั้งแต่วันนั้นไม่มีใครรู้เรื่องของปิอีก ที่บ้านปิเสียใจมาก

เอ็มโทรเข้าไปกี่ครั้งก็ได้ยินแต่เสียงสั่นของแม่ที่รับสาย เบอร์ที่โทรเข้าไปเป็นเบอร์ติดต่อฉุกเฉินที่ได้มาจากทางโรงเรียน

เบอร์โทรศัพท์ของปิ โดนระงับการให้บริการ

“แม่ปิ เป็นคนเก่ง ใจดีด้วย สอนลูกไว้ดี เราเคยเจอหนหนึ่ง เวลาแม่คุยกับปิ จะมีอะไรแทรกสอนไว้ให้คิดเสมอ ปิเลยเป็นคนอย่างนี้ไง”

จำได้ว่า ปิ มันเคยถามแม่ว่า มีคนมาแกล้งอกีแล้ว ทำไงดี

แม่พูดประมาณว่า

‘ปิ กำลังไม่ใช่ทางออกนะ ลองคิดดูว่า ถ้าปิชนะใจคนที่ไม่ชอบเราได้ เค้าก็จะไม่เกลียดเราอีกเลย ดีกว่าทะเลาะกันไปมานะ ทำให้คนที่ไม่ชอบเรามาชอบเราได้ เก่งกว่านะลูก’

ปิฟังแล้วทำหน้าครุ่นคิด

‘งั้นปิ จะใจเย็นๆ แล้วพยายามเป็นเพื่อนให้ได้กับทุกคน’

รอยยิ้มสวยของแม่ปิ ผุดขึ้นบนหน้า

ต่อกำลังหัวเราะ

“คำตอบสมเป็นกะปิมากๆ"

“ใช่มั้ยละ”

เสียงลมหวีดเข้ามาดังๆ ระหว่างการบทสนทนา ตามมาด้วย เสียงถอนหายใจเบาๆของต่อ

“คิดถึงมันเหรอ" เอ็มนั่งถอยหลังพิงขาต่อ

“ไม่รู้มันไปอยู่ไหนบนโลกใบนี้แล้ว”

หรืออาจจะโลกหน้า ไม่ก็ไปทำตัวเห่ยๆให้ใครรังแกที่ไหนสักแห่ง ตัวเล็กๆขาวๆอย่างมันคงไปวิ่งแรดไปทั่วละน่า

“หลังจากนั้นละ”

เอ็มสั่นหัว

“ตั้งแต่วันนั้นพ่อแม่ปิไม่ยอมคุยด้วยอีกเลย ถึงจะอ้างว่าโทรมาจากทางโรงเรียน ทั้งไม่ติดต่อใครกลับมาด้วย”

“โทรศัพมือถือมันก็ลงไปในน้ำพร้อมกัน คงจะพังไปแล้วเลยเปลี่ยนทั้งเครื่องและเบอร์ติดต่อ...​ถ้าปิไม่เป็นไรแล้ว แต่ว่า ก็คงไม่สามารถกลับไปเจอมันได้อีกแล้วละนะ”

“ได้แต่หวังว่ามันหายและปลอดภัยดีละนะ”

ต่อพยักหน้าเห็นด้วยกับเอ็ม

“เอ็ม ... ชอบกูหรือเห็นกูแทนไอ้กะปิกันแน่”

“พูดจาไม่เพราะ”

เอ็มชี้หน้า

“เราไม่ได้เห็นต่อเป็นตัวแทนใครทั้งนั้นแหละ แน่นอนไม่ใช่ตัวแทนปิด้วย”

เรื่องมันจบลงอย่างประหลาด ปิที่เคยชอบเอ็ม แต่เอ็มกลับไปชอบต่อ แล้วเรื่องของปินี่แหละที่ชักนำให้เอ็มได้มาพูดคุยกับต่อจนถึงตอนนี้

“ต่อนั่นแหละ จะตอบเราได้ยัง”

คนถูกถามเงียบไม่ตอบ

“ต่อ ไม่ได้ชอบเราใช่มั้ย... คือ... เราก็เต็มใจนะ ที่จะมาอยู่เป็นเพื่อนต่อระหว่างนี้ ถ้าต่อไม่ชอบเราก็ไม่เป็นไรหรอก อีกอย่างมันก็คงดูไม่ดีกับปิด้วยละเนอะ เราเข้าใจ”

แม่ง!!!!!

ที่บอกว่าชอบจะจีบน่ะ จริงๆ เอ็มยังทำได้ไม่ถึงไหนเลย นี่ยังไม่ถึงอาทิตย์ จะมาทำเป็นน้อยใจเอาคำตอบซะแล้ว

ต่อทำเป็นไม่สนใจ กินข้าวครึ่งหนึ่งที่แบ่งไว้ให้หมด

เอาขาหนีบตัวเอ็มเล่นไปด้วย

เมื่อไม่มีคำตอบ อีกฝ่ายก็ไม่อยากคาดคั้น

มือเอ็มบีบขาต่อเบาๆสองที

“ไปเหอะ เดี๋ยวบ่ายนี้ต้องไปที่โรงยิม”

———————————————————————————

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
Re: 10 CM : วันกีฬาสี (2) 10/4/2016
«ตอบ #286 เมื่อ10-04-2016 22:02:49 »

อยากจะบ้า หรือจะบอ อยากย่อโลก
อยากจะโบก หรือสะบัด พัดดาวหาง
อยากจะเขวี้ยง ให้กระเด็น เป็นสองทาง
อยากจะวาง ให้ตรงเป๊ะ เตะใจเธอ
 
อารมณ์แบบสับสน
เหมือนสองคนนี้ง่ะ

ต่อกะเอ็ม
หุหุ

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
Re: 10 CM : วันกีฬาสี (2) 10/4/2016
«ตอบ #287 เมื่อ11-04-2016 14:48:41 »

ถ้าปิยังไม่ตาย
คงเสียใจเหมือนกันเนอะที่ต่อกับเอ็มเหมือนไม่พยายามติดต่อไปเลย

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
10 CM : วันกีฬาสี (3) 23/4/2016
«ตอบ #288 เมื่อ25-04-2016 20:00:57 »

ผมกลับขึ้นไปรอต้องอยู่บนห้องเรียน

หลังจากขบวนพาเรดเดินแถวออกจากสนามไปแล้ว ผมต้องแอบมุดหลบนานอยู่แถวนั้นจนถึงเวลาแข่งบอลถึงจะออกไปได้

โทรศัพท์ไอ้ต้องตัวแสบไม่ได้เอาลงมาด้วย ทิ้งไว้บนห้อง ดังนั้นผมไม่รู้เลยว่าระหว่างนั้น ต้องไปอยู่ที่ไหน หลังจากออกไปได้ ผมจึงเลือกที่จะไปนั่งรอ ดีกว่าเดินหาให้โดนตัดคะแนน

ในห้องเรียนมีแสงส่องเข้ามาจากพระอาทิตย์เวลากลางวันทางหน้าต่างที่มีโปสเตอร์นักร้องปิดอยู่ ข้างนอกอากาศคงจะร้อน

ผมเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ แล้วลงไปนั่งพิงกำแพง ควานหาหูฟังในกระเป๋า

หูฟังสีเขียวสด ไม่รู้ว่า มันเลือกให้เข้ากับผม หรือ เข้ากันสันดานมันกันแน่

อีกเดี๋ยวต้องก็คงจะขึ้นมาหาอะไรกิน

พวกพี่จัดห้องไว้สำหรับพวกสตาฟแล้วก็พวกผมให้มาหลบทานข้าวกลางวัน จะได้ไม่ต้องไปแย่งกับคนอื่น

ที่แยกออกมาเพราะว่าต้องใช้พักแล้วก็แต่งหน้าอีกรอบก่อนเดินพาเหรดครั้งสุดท้าย ผมรู้กำหนาดการที่จะทำหน้าที่ ด้วยการพาน้อง 2 คนนั่น แล้วก็ไอ้หล่อ ไปเตรียมตัวสำหรับรอบสุดท้าย

มันคงไม่ใส่ชุดนั้นแล้วลงไปขึ้นแสตนด์เชียร์ให้ตัวเละแน่ๆ มันจะหนีไปไหนได้เดี๋ยวก็คงขึ้นมา

ก็ถือว่าโชคดี เวลาที่เหลือตอนบ่าย ผมกับต้องคงไม่ได้ลงไปพบเจอกับใคร ไม่งั้นผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำยังไง หรืออาจะต้องแยกกับต้อง

เอาผมข้าวกล่องไปวางไว้ที่ห้องน้อง 2 คนนั่นเรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็แค่รอต้องกลับมา

ลมเบาๆพัดเข้ามากระทบหน้า

หูฟังรุ่นนี้มันตัดเสียงภายนอกออกไปอย่างที่ เจ บอกจริงๆด้วย

ผมเร่งเสียงให้ดังขึ้นอีกหน่อย

ตั้งใจฟังเนือ้เพลงแล้วคิดถึงว่า ถ้าไอ้แมคอยู่จะชวนทำเอ็มวีซะเลยดีมั้ย คงน่าสนุกดี เดี๋ยวมันก็ได้คิดอะไรแปลกๆออกมาอีก

ไอ้เจคงร้องโวยวายนั่นนี่แน่ๆ

ผมหลับตาลง...

“เก้า เหนื่อยยยยย ร้อนนนนนน” เสียงประตูเปิดปังเข้ามาดังๆ

…..

ผ่านไปนานแค่ไหนกันนะ

กลิ่นคุ้นๆจัง

กำลังพิงกำแพงสบายๆเลย... ทำไมกำแพงนิ่มจังวะ

ผมลืมตาหยิบมือถือขึ้นมาดู

‘ทำไมมีแชนซ้ายอีกข้างวะ’

เมื่อมองดีๆ ผมห็นต้องนั่งคร่อมอยู่ข้างหลัง ยืดขาผ่านตัวผมออกไป

ที่หนุนหลังเมื่อกี้นี่ไม่ใช่กำแพงหรอกเหรอ นี่เผลอเอียงตัวไปซบมันเข้าตอนไหน

“เมื่อคืนนอนดึกเหรอ”

มือเอามือลูบหัวผมเบาๆสอง สามที ผมเอาหัวซบเข้าไปกับหน้าอกของมัน เหม็นเหงื่อนิดหน่อย

“อือ เล่นเกมดึก”

“ตลอดอะ จะนอนต่อมั้ย”

“ไม่ละ หิวป่าวต้อง”

“ไม่อะ เหนื่อย”

ผมหันหน้าเบียดเข้าไปกับอกมัน ประทับจูบเบาๆ

“น้ำอยู่บนโต๊ะแน่ะ”

ผมลุกให้มัน

มันจึงลุกขึ้นเดินตรงดิ่งเข้าไปที่โต๊ะ คว้าน้ำเปล่าขวดนั้นยกขึ้นมาซด อักๆ

“เก้าเอามั้ย”

ผมส่ายหัว โดดขึ้นไปนั่งบนโต๊ะเรียนข้าวโต๊ะที่วางข้าวกล่อง พาดขากับเก้าอี้

“หนักนะ”

ต้องเดินมาถึงเก้าอี้ที่ผมวางขา ดันขาผมออกแล้วนั่งลง เอาหน้าซุกเข้ามากับตักผม ตอนนี้หน้ามันอยู่หว่างขา เหมือนจะซุกลึกเกินไปด้วย

“ง่วงอะ”

ผมเอามือลูบหัวต้องเบาๆ

“ตื่นเช้านี่นา นอนก่อนมั้ยอะ หรือจะกินก่อน”

มันส่ายหน้าเหมือนเด็ก เอะ ชักกลัวหน้ามันเลอะกางเกงสีขาวของผมแล้วแฮะ

“ไม่เอา เหนื่อยแล้วไม่อยากกินไร” มันส่ายหัวถูไปมา

นี่ มันโดนไอ้นั่นกู

“งั้นนอนไปก่อนแล้วกัน”

ตั้งแต่ปีใหม่มา ต้องดูเปลี่ยนไป

พฤติกรรมประหลาดที่ผมไม่คิดว่าจะได้เห็น มันทำแบบนี้เป็นด้วยคิดว่ามันจะขี้เก็กเป็นอย่างเดียวซะอีก

สามวันที่มันอยู่บ้านผม มันแทบไม่ทำอะไร เกาะแกะผมเดินไปมา มันเคยบอกว่าไม่อยากปล่อยผมออกไปไหน แต่ไม่คิดว่ามันจะเกาะติดแจเป็นลูกหมาขนาดนั้น ไม่นับที่มันเอาของมันมาติดกับก้นผมทุกคืนด้วย

ไอ้ขี้อ้อนตัวนี้ที่ซุกหน้านอนอยู่ไม่ยอมไปไหนเนี่ยคนเดียวกันกับเมือปีที่แล้วรึเปล่าน้า

หูฟังสีเขียวของเจ ผมใช้ฟังเพลง สายมันต่ออยู่กับมือถือ ผมถอดหูฟังออกจากคอ แล้ววางไปข้างๆ ตอนนี้ต้องนิ่งไป คงจะหลับไปแล้ว

ผมนั่งอยู่บนโต๊ะให้มันนอนตักไปจนถึงเวลาบ่ายสอง สงสัยต้องปลุกมันสินะ ไม่งั้นเดี๋ยวคงได้ทิ้งข้าวกล่องไปแน่ๆ คิดแล้วก็เสียดยา

“ต้องลุกมากินได้แล้ว” ผมเขย่าตัวมัน

“หือ...”

ผมเขย่าอีก

“ป้อนหน่อยดิ ขี้เกียจอะ”

ไอ้นี่...

“เอ้า อ้าปาก”

หึ ว่าง่ายนะ มันทำตามโดยที่ไม่ต้องให้บอกซ้ำอีกรอบ ดูๆแล้ว มันไม่ตั้งใจจะกินเลยนี่หว่า

“เก้า....”

“เดี๋ยวดิ ต้อง” ผมยังตักคำต่อไปไม่เสร็จ

ไม่ทันแล้ว มันซุกหน้าเข้ามาที่คอผม เอามือปัดช้อนออก แล้วดูดเข้าที่คอแรงจนรู้สึกได้

“นี่ เดี๋ยวคนมาเห็นหรอก”

“ไม่มีหรอกน่า ใครจะขึ้นมาบนนี้”

ต้องเมินคำทัดทานผม มันลุกขึ้นมาคร่อมแล้วถลกเสื้อผมขึ้นไปทีเดียว ก่อนจะโน้มเข้ามาหาหน้าอกผม

อะ ....

“มันเสียวนะ พอเหอะ”

ลิ้นเย็นๆ วนอยู่รอบหน้าอกด้านขวา

“ไม่พอ เก้าน้อยมันตื่นแล้วนี่หว่า”

เฮ้ยย
 
มันเอื้อมมือไปรูดกางเกงผมลงไปที่ข้อเท้า นี่เป็นครั้งแรก ที่ผมแก้ผ้าตัวล่อนจ้อนในห้องเรียน

“ต้อง....”

“นะ ทำนะ”

ไม่ฟังคำตอบ มันโถมเข้ามาจู่โจมอีกรอบ

“เดี๋ยวเป็นรอย เบาๆดิ”

มันถลกเสื้อตัวเองขึ้น รูดกางเกงลง ให้ผมจัดแจงเข้ากับตรงส่วนนั้นของมันอย่างรู้งาน ของมันที่ทั้งแข็งและร้อน สงสัยความอยากมันจะมากจนกดไว้ไม่ไหว

ในห้องเรียน ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะได้ทำกับมันที่นี่

มือสั่นเทา รู้สึกกังวล แต่ส่วนล่างของผมเองก็ตอบสนองมากไม่แพ้กัน

ผมลงมายืนด้วยสองเท้า ก้มโค้งเข้ามาของ ตัวเปลือยเปล่า ปล่อยให้แสงแดดส่องของมากระทบร่างขาวๆ ถ้ามองเข้ามาคงเห็นร่างสูงของต้องที่เหลือแต่กางเกงที่ข้อเท้า ส่วนตัวผมกำลังก้มตัวแอ่นก้น ยื่นหน้าเข้าจัดการกับส่วนนั้นของต้อง

ขายาวๆของมันเกร็ง กล้ามเนื้อขึ้นเป็นรูป

มันใช้มือลูบไล้ไปตามตัวผมไปด้วย แล้วไปหยุดอยู่ที่ก้น

มันเริ่มเป็นฝ่ายขยับตัวเข้าออก ดันของมันให้แทงลึกเข้าไปในปาก ก้นผมไปกระแทกกับเก้าอี้ ดังเอี๊ยดอ๊าด

“อา.. เก้า ดีจัง”

เสียงกระแทกดัง เมื่อต้องเผลอดันเข้ามาลึก เล่นเอาสำลัก

“พอแล้วนะ เก็บไว้ก่อน”

ผมเงยหน้าขึ้น รู้สึกเจ็บคอ

“ไม่เอา ต่อดิ นะๆๆ”

ผมกำลังก้มลงไปดึงกางเกงจากข้อเท้าขึ้นมาใส่ มันดันตัวผมไปเกาะติดโต๊ะเรียน

“เอาตรงนี้เลยนะ”

“เฮ้ย เดี๋ยวดิ”

โอ้ย

มันไม่ฟังดันผมหันหลัง ละเลงลิ้นตามแผ่นหลังไปทั่ว เอามือจับขาผมอ้าออก ดันผมก้มลงไปตัวติดกับโต๊ะ ก้นถูกยกแอ่นสูง เปิดทางให้มัน
ก่อนมันจะเอาส่วนหัวของมันกดทิ่มแทงเข้าไปตรงหว่างขา... มันผิดที่ นี่มันที่ของผู้หญิง มันทำอยู่หลายทีจนผมจับของมันให้ดันสูงขึ้น จะได้ถูกที่

“ต้อง”

มันพยายามเอาเข้าไปสดๆ ไม่มีอะไรช่วยล่อลื่นทั้งนั้น ดันอยู่สองสามทีก็ยังไม่เข้า แต่มันไม่หยุด

“ต้อง เจ็บ” มันเหมือนสติแตก

“ต้อง...”

เฮือก เสียงหายใจเข้าของมัน

“ทิ .. ทีเจยังยอมเลยนะ แหม”

“ต้อง กูไม่เคยโดนไอ้เจเอา แล้วมันเจ็บ” ผมผลักมันถอยหลังออกไป

แม่ง... พูดดีๆก็ได้ ทำไมต้องมาประชดด้วยวะ

“เก้า...​“

“ลงไปได้แล้ว เลยเวลามาแล้วนะ เดี่ยว 3 โมงครึ่งต้องตั้งแถว”

“เก้า เดี๋ยวดิ โกรธเหรอ”

ผมเดินแยกออกจากมันหลบลงไปก่อน

ไอ้ต้อง มันก็คงไม่ต่างกับเจสินะ... ภาพเมื่อกี้มันยังติดตาผม หรือเพราะว่าเราเป็นผู้ชายนะ จริงๆแล้วต้องเองก็คงน่าจะเคยมีประสบการณ์กับผู้หญิงมาบ้างแหละนะ... ยิ่งเมื่อกี้ มันคงคิดว่ามันกำลังทำผู้หญิงอยู่... นี่ผมเป็นผู้หญิงของมันสินะ... ทีเจยังยอมงั้นเหรอ...

ต้อง ต้องเห็นเราเป็นอะไรกันแน่

————————————-

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
10 CM : วันกีฬาสี (4) 10/4/2016
«ตอบ #289 เมื่อ26-04-2016 21:58:12 »

“โอ๊ย เหนื่อยยยยย”

“ไอ้นี่ โวยวายอีกแล้ว”

ต่อทำน้าเบื่อ ขณะเดินออกจากโรงยิม

โปรแกรมบ่ายเป็นการแข่งบาส

โรงยิมที่อยู่กลางโรงเรียนใต้ตึก ซึ่งเป็นเหมือนช่องว่างขนาดสูงเท่าตึกสี่ชั้น ถ้ามองขึ้นไปจากในโรงยิม จะเห็นระเบียงทางเดินหน้าห้องเรียน สูงขึ้นไปเป็นพื้นห้องประชุม ดังนั้นห้องเรียนที่อยู่ชั้น 2 3 จะไม่มีห้องตรงข้าม ส่วนชั้น 4 เป็นห้องวิทย์ ตรงที่อยู่เหนือโรงยิมเป็นห้องประชุมที่ใช้ในงานวันแม่

ชั้น 5 เองก็ไม่มีเพราะห้องประชุมมันใหญ่สองชั้น บนสุดเป็นห้องอาหาร

ผังที่นี่ดูยิ่งใหญ่แต่มันเสียพื้นที่ไปมากอยู่

เสียงเอี๊ยดอ๊าด จากร้องเท้าผ้าใบที่เสียดสีไปบนพื้นไม้ปาร์เก้

นักกีฬาวิ่งโยนลูกบาสสลับกันไปมา เป้าหมายคือห่วงที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

ต่อมองดูอย่างเบื่อหน่าย

บาสเป็นกีฬาสำหรับคนตัวสูง

…ต่อเตี้ยเกินไป

เวลาชั่วโมงครึ่งที่จับลูกโยน แย่งกันไปมา ต่อได้แต่มองตามไปมา

เป็นประเพณี พอพักครึ่งทีหนึ่ง ก็จะมีการแข่งเชียร์ ลีดเดอร์เปลี่ยนเป็นชุดบ่ายแล้ว เป็นชุดที่สีเข้มและเล่นลวดลายยิ่งกว่าตอนเช้า

…นี่โรงเรียนชายล้วนนะ อีกนิดจะเป็นหญิงล้วนไปแล้ว

สี่สีต้องผลัดกันเชียร์เหมือนเดิม แล้วก็แน่นอนว่า ถึงจะผลัดกัน ต่อก็ยังร้องเพลงผิดๆถูกๆ

“นี่ หิวน้ำมั้ย”

“ไม่หิว เบื่อ”

ต่อบ่น อากาศในโรงยิมอบอ้าว พัดลมใหญ่ถูกเปิดเพื่อช่วยระบายอากาศ

“นี่ รู้สึกยังไงบ้าง ทำตัวเป็นกะปิน่ะ”

“หือ”

เอ็มมันดูออก

ใช่ วันนี้ต่อทำตัวเป็นกะปิ ต่อไม่ได้คิดมาก่อนว่ามันชัดแจ้งขนาดนี้

เวลาที่เราชอบใครสักคนมากๆ ถ้าถึงคราวที่ต้องแยกจากกันไป มันก็คงจะพยายามทำตัวให้เหมือนเค้า คิดเหมือนเค้า ใส่เสื้อผ้าให้เหมือนเค้า เพื่อระลึกให้ได้ว่าเค้ายังอยู่คู่กับเรา

…ปิ มันไม่ได้ตายซะหน่อย

อย่างน้อยก็ที่รับรู้ละนะ

“นี่หมดนี่กลับขึ้นแสตน์แล้วใช่ป่าว”

“ใช่ เดี๋ยวประกาศรางวัลแล้วก็จบแล้ว”

“ดีจะได้กลับซะที”

จริงๆแล้วกีฬาสีมันก็สนุกดี

ความทรงจำของชีวิตม.ต้นอีกปีที่เพิ่มพูนขึ้น ถ้าเป็นก่อนหน้าที่เจอกับปิ ต่อคงไม่คิดจะเข้ามาร่วม คงจะโดดกิจกรรมแล้วไปหลบทำอะไรสักอย่างอยู่ที่ไหน

ปีที่แล้ว ไปแทงสนุ๊กกับพวกไอ้อาทนี่หว่า

“อาทได้กลับมาเรียนมั้ย”

เอ็ม ส่ายหัว

เสียงเชียร์ข้างหน้า ตะโกนชื่อสีเหลือง...

ชุดหลีดสีเหลืองสดราวกับดอกกระดังงา ตัดดำ ผ้าพลิ้ว เหมือนคนเต้นลีลาศ กำลังขยับมือขึ้นลงอยู่ข้างหน้า ผมถูกเซตมาอย่างดีแต่ไม่ได้เปลี่ยนสี

สีแดง กับ สีม่วง ถ้าทำสีก็คงพอดูได้ แต่เหลืองกับฟ้านี่ มันจะเยอะไปมั้ย

“น่าจะออกไปแล้ว ส่วนคดีก็อยู่ที่สองฝ่ายแล้วก็โรงเรียนละนะ”

“ทำไม เป็นห่วงมันเหรอ ต่อ”

“จะไปห่วงอะไรมันละ”

หมดสีสุดท้าย การแข่งดำเนินต่อไป

ก่อนที่ประธานจะลุกออก เสียงประกาศให้ไปรวมกันที่แสตนด์ วันนี้กำลังจะหมดเลย

เด็กกรูกันออกจากโรงยิม ทางอยู่ที่มีอยู่ทางเดียว คนเบียดเสียดกันเดินขึ้น เพื่อออกไปทางสนามบอล ที่ใช้เป็นพิธีเปิด และตอนนี้จะปิดแล้ว

“ต่อ เย็นนี้ไปไหนป่าว”

“อือ... จะไปทำไรได้ละ เหนื่อยแล้ว”

ใช่แล้ว ถึงวันนี้จะเป็นวันเสาร์ แต่ต่อก็เหนื่อยเกินกว่าจะไปไหนได้อีก พวกรุ่นพี่คงจะมีปาร์ตี้หลังเลิกกัน พวกต่อเป็นแค่เด็กม.ต้น ไปไม่ได้แน่ๆ

ผู้คนเบียดกันแน่น ดันตัวต่อเข้าไปชนกับคนอื่น เอ็มเองก็เอาตัวดันหลังตามต่อมาติดๆ

นิ้วมือของเอ็มเกี่ยวเข้ากับนิ้วของต่อ

“งั้นเลิกแล้วไปหาอะไรกินกันมั้ย”

“…ก็ได้”

นี่ถ้าอยู่กันสามคนมันเกี่ยวกันเป็นทอดๆมั้ยเนี่ย

ต่อรู้สึกเขินเหมือนกันที่เอ็มแบบใช้นิ้วเกี่ยวเอาไว้ คนที่เบียดกันแน่นคงไม่มีใครก้มลงมอง ถึงเห็นก็คงไม่คิดอะไรละมั้ง

อยู่ๆ มีแรงดันแรงๆมาจากข้างหลัง เด็กทุกคนโยนกันไปข้างหน้า ตัวดันต่อกัน

หน้าเอ็มขยับเข้าไปใกล้ตัวต่อ

“… เป็นแฟนเอ็มนะ”

ต่อบีบมือที่เกี่ยวนิ้วของเอ็มแรงๆ

“มึงพูดที่นี่เหรอไอ้บ้า”

เอ็มยิ้ม

“เสียงดัง”

ทำไมนะ เวลาไอ้ประธานนักเรียนทำหน้าทะเล้นนานๆทีอย่างที่เห็นเดี๋ยวนี้ ต่อเริ่มรู้สึกใจเต้นแรงขึ้นมาได้

เอ็มก้มหน้า พูดเบาๆ

ถึงทางแยก เอ็มดึงต่อออกจากแถวหลบไปซอกด้านหลัง ทางนี้ไม่ใช่ทางไปแสตนด์ ถ้าเดินไปไกลกว่านั้นจะต้องโดนสตาฟ หรือครูสักคนจับได้แล้วหักคะแนนแน่ๆ

ประธานนักเรียนรู้สึกกลัวครูมากกว่า ภาพพจน์ที่ดี ที่เฝ้ารักษามานาน

เอ็มดันต่อเข้ากับกำแพง ปล่อยเสียงฝีเท้าผู้คนเดินผ่านไป ถ้ามีใครจะหนีหรือเดินอ้อมมาคงเห็นแน่

“เอ็มไม่ได้อยากแทนที่ปิหรอกนะ แต่ ปิ ก็จะอยู่ในใจเราสองคนตลอดไป เรามาพยายามในส่วนของปิด้วยกันนะ”

หน้าเอ็มกระตุก สีหน้าอาย เหมือนไม่มั่นใจ ครั้งแรกที่ต่อเห็นว่า เอ็มกำลังกลัว และไม่มั่นใจในสิ่งที่ตัวเองกำลังจะพูดออกมา

“คืนนั้นต่อไม่รู้ตัว วันต่อมา เอ็มเองก็ไม่ได้พูด... เอ็มชอบต่อนะ ชอบมานานแล้วด้วย...”

“รู้แล้ว... แต่อีกแป๊บนะ”

ต่อลูบหัวเอ็มทีนึง

เอ็มพยักหน้า

ก่อนที่ต่อจะเอามือเลื่อนลงมาขยำส่วนั้นของเอ็มที่หดเล็กเพราะไม่ได้ตั้งตัว

แล้วต่อก็วิ่งหนีออกไปทางแสตนด์ ปล่อยให้เอ็มทำหน้างงไว้อย่างนั้น

ไม่นานแสตนด์เชียร์ทุกสีก็พร้อม เด็กนั่งกันเต็ม ไม่มีใครหนีเพราะทุกคนอยากเลิก เวลานี้เป็นที่รอคอยว่า ผลการแข่งจะออกมาอย่างไร ในเมื่อเหนื่อยกันมาเกือบทั้งปีเพื่อวันนี้วันเดียว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

10 CM : วันกีฬาสี (4) 10/4/2016
« ตอบ #289 เมื่อ: 26-04-2016 21:58:12 »





ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
Re: 10 CM : วันกีฬาสี (2) 10/4/2016
«ตอบ #290 เมื่อ30-04-2016 23:06:59 »

Hallelujah !!

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
10 CM : วันกีฬาสี (4) 3/5/2016 จบแล้วครับ
«ตอบ #291 เมื่อ03-05-2016 20:52:01 »

บันไดริมตรงลงไปสู้ข้างเวทีกิจกรรมเล็กที่พวกเราเคยใช้ทำกิจกรรมงานวิทย์ ตอนนี้มันมืด ด้วยแดดยามบ่ายไปตกอีกด้าน ไม่มีคนอยู่ ทุกคนต้องขึ้นไปอยู่แสตนด์

เสียงเพลงดังขึ้น

ขบวนแถวคงจะตั้งแล้ว เห็นบรรดาสตาฟวิ่งกันวุ่น

“นี่น้องไม่ขึ้นแสตนด์ละ”

“ครับ กำลังไปครับ”

ผมไปหลบอยู่หลังแสตนด์ เพราะบนแสตนด์เองก็ไม่มีที่ให้ผมนั่ง

เสียงตบมือ กระทืบเท้ากับไม้กระดาน ดังขึ้นถี่ ยิ่งเป็นรอบสุดท้าย แข่งเขียร์ครั้งสุดท้ายของงานวันนี้ ปีนี้ กีฬาสีครั้งที่ 27 แรงทั้งหมดที่เหลืออยู่คงจะถูกใช้ระบายออกมา

เสียงเชียร์ดังมากจนผมเองยังตกใจ มันดังกว่าตอนเช้าอีก บรรดาสตาฟก็ดูทุ่มเท ทุกคนออกไปยินเรียงหน้ากระดานล้อมรอบด้านหน้าของแสตนด์หมด

ทุกสีไล่เรียงกันไปตามลำดับ

ทุกอย่างในสนามเงียบ

พิธีปิดกำลังจะเริ่ม

เสียงประกาศยืดยาวออกทางไมค์โครโฟนต่อลำโพงหยุดลง พร้อมกับเสียงโห่ ฮา เพราะว่ากำลังเข้าสู้การประกาศรางวัล

ถ้วยกีฬาเป็นของสีแดง... ไอ้พี่บูมคงดีใจ

ตามมาด้วยถ้วยใหญ่สุดของงาน... แสตนด์เชียร์และพาเหรด

เสียงเชียร์ดังลั่นสนาม

ถ้วยรางวัลจากพาเหรดและกองเชียร์ถูกประกาศขึ้นกึ้งก้องสนาม ไล่จากที่สาม สีเหลือง ที่สองสีม่วง และ...

สีฟ้าได้รางวัลที่ หนึ่ง

บรรดาสตาฟส่งเสียงเฮลั่น พวกที่อยู่บนแสตนด์เองก็ไม่ต่างกัน สตาฟด้านหน้ากระโดดกันหยอยๆ เห็นคำวาม สตาฟหลังเสื้อลอยขึ้นลงเป็นจังหวะ เสียงดีใจก็ดังออกมาจากบนแสตนด์

ขณะที่ต้องกำลังวิ่งออกไปรับถ้วยจะผู้อำนวยการ

เพลงเชียร์ของสีที่ได้ที่ 1 ก็ร้องดังขึ้น

ใบหน้าที่อิ่มไปด้วยรอยยิ้มมีอยู่ทั่ว เสื้อสีฟ้าบนแสตนด์ขยับขึ้นลง วูบไหวไปตามจังหวะกระโดขึ้นลง จังหวะที่เรียกว่า ดีใจ สินะ เหล่าเด็กๆที่ทุ่มเทแรงกายใจ ส่งเสียงร้องเพลงมาทั้งวัน มองเข้าไปแล้วสมกับแสตนด์ที่ถูกทำขึ้นในปีนี้จริงๆ

ผมแอบหลบออกมาแล้วมองกลับเข้าไป

รูปแบบของแสตนด์ปีนี้

วิหารแห่งท้องทะเล

เสื้อสีฟ้ากางเกงขายาวสีขาว มันเลยดูเหมือนเกลียวคลื่นที่สาดซัดเข้าหาคนมอง เวลาร้องเพลงคนร้องจะขยับไปเป็นจังหวะไปด้วย

บนส่วนยอดเป็นรูปวิหารเก่าแก่ที่ลอกแบบมาจากที่ไหนสักแห่ง ถูกวาดด้วยสีทองอร่าม วิธีการวาดและการลงสีดูแล้วเป็นฝีมือของไอ้แมคแน่ๆ

ผลงานชิ้นสุดท้ายของมันสินะ

อยากให้มันมาเห็นเวลานี้จัง

สิ้นเสียงนกหวีด 5 นาที ด้านหน้าแสตนด์พวกสตาฟกำลังวิ่งเข้าไปกอดคอกัน มีต้องอยู่ตรงกลางชูถ้วยขึ้นสูง เด็กในห้องเรียนผมวิ่งเข้าไปกอดคอ บางคนลูบหัว บางคนตบหลัง ยกเว้นพวกซอมบี้ที่ไม่ร่วมกิจกรรม

รุ่นพี่กำลังรุมล้อมถ่ายรูป

เสียงประกาศจบงานกีฬาสีจากผู้อำนวยการสิ้นเสียง

เด็กๆเริ่มเก็บของ

เมื่อพวกแมคไม่อยู่ ที่ของผมจึงเหลือแค่ต้องตอนนี้ก็คงต้องปล่อยมันไปก่อนละนะ ทุกคนกำลังมารุมล้อมสนใจแต่มัน

แฮะๆ ไม่มีที่ของเราอยู่เลยแฮะ ก็นั่นสินะ กีฬาสีเราไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรเลยนี่

“นี่.....เก้า” เสียงต้องตะโกนดังๆข้ามมา

มันกวักมือให้เข้ามาหา

จะดีเหรอ....

ผมกำลังค่อยๆเดินเข้าไป ระยะทางแค่มองเห็นกลับถูกแทรกด้วยคนนั้นคนนี้เดินตัดไปมา

“นี่ น้องคืนนี้ไปฉลองกับพวกพี่มั้ย”

“เออ ไม่ไหวมั้งพี่ ผมเหนื่อย”

ต้องปฎิเสธ

“นี่ต้องๆๆ มองมาทางนี้หน่อย” เสียงใครไม่รู้

“น้องๆ มานี่ด้วย” ใครก็ไม่รู้อีก

ผมยืนงงอยุ่แถวนั้น สงสัยจะเข้าไม่ถึงตัว

“ต้อง” ผมตะโกนหามัน

“น้องคนนั้นมาอยู่นี่ได้ไงอะ ไม่ใช่สตาฟนี่ เค้ายังไม่ให้ลงมาจากแสตนด์นะ”

ต้องหันมายิ้มให้ แต่ดูแล้วยังออกมาจากเกลียวคลื่นนี้ไม่ได้

งั้นเอาไว้ก่อนแล้วกัน

ผมกำลังหาข้ออ้างตอบพี่คนนั้น

ฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีแล้ว เวลานี้พอดีกับเลิกเรียนแล้วสินะ

“เอ้า น้องๆ กลับบ้านได้ พี่ๆขอบคุณน้องๆทุกคนมากๆนะครับ” เสียงพูดออกโทรโข่งดังๆ ตามติดมาด้วยเสียงตึงๆของเด็กวิ่งลงจากแสตนด์

หัวหน้าสตาฟพูดขอบคุณเด็กทุกคนพร้อมมากอดคอกันโค้งให้

หน้าแสตนด์สีผม รุ่นพี่คนหนึ่งวิ่งเข้าไปขอทาง กันคนออกไปจากด้านหน้า อุ้มโอ่งดินไปวาง สองสามอัน ก่อนจะจุดไฟลงไป

เสียงฟู่ดังขึ้น พร้อมด้วยไฟสีเหลืองอ่อนพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า

ในตอนนี้ผมยืนมองพลุอยุ่คนเดียว

โอ่งดินขนาดใหญ่ ปล่อยพลุที่เหมือนสะเก็ดไฟเล็กๆพลุ่งขึ้นสู้ท้องฟ้า

“นี่ จะไปไหนน่ะ”

แรงดึงฉุดกระชากแขนผมเข้าไปหา

“เฮ้ย ทำไรน่ะ”

“มานี่”

ต้องลากผมเข้าไปหา ก่อนจะยื่นถ้วยรางวัลมาให้

“นี่ไงได้แล้วนะ แต่มันเป็นถ้วยอะไม่ใช่เหรียญ”

ผมไม่ตอบ

“ยังโกรธอยู่เหรอ”

ผมสั่นหัว

“ถึงจะไม่ใช่เหรียญ แต่ก็ได้ถ้วยมา ถือว่าใช้ได้นะ”

“ก็ได้มั้ง”

“นี่เก้าไม่ดีใจเหรอ”

“เปล่า ดีใจด้วย”

ผมหันหน้าหนีไปมองที่พลุ รู้สึกแปลกๆ

“งั้นเก้า...”

“นี่น้องเป็นดรัมใช้มั้ย หล่อมากเลย เพื่อนพี่ค้าขอถ่ายรูปด้วยน่ะ”

บรรดาผู้หญิงจากที่ไหนไม่รู้ คงเป็นน้องสาวของใครสักคน หรืออาจจะพี่สาว วิ่งกรูกันเข้ามา กลุ่มรุ่นพี่ผู้ชายเองก็ด้วย

หนักหน่อยก็ครู

บางคนเข้ามาทำเหมือนจะขอเบอร์ ผู้หญิงก็เข้ามาจับตัวจับแขน เกาะไหล่ ต้องดูจะมีความสุขดี

ดูๆแล้วไม่มีที่สำหรับเราเลยแฮะ... นี่ถ้าเจ แมค อยู่...

ใช่ ถ้าไม่ใช่เพราะพวกนั้น ผมจะได้มาคบกับต้องมั้ยนะ

หรือว่า ครั้งนี้แมคจะทำผิดไป

ต้องเองเป็นเหมือนแสงสว่างอยู่กลางคนพวกนั้น พวกสตาฟห้องเดียวกับผม ซอมบี้บ้านั่นมันกลับมามีชีวิตวิ่งเข้าไปดีใจกับพวกพี่

ผมได้ยินแว่วๆว่า คืนนี้มีเลี้ยงฉลองใครที่ได้ใส่เสื้อสตาฟไปได้หมด แปลว่า ในห้องเรียนผม ครึ่งหนึ่งที่ไม่ทำกิจกรรมกับ ...ตัวผมเอง จะไม่ได้ไปงานนี้

ต้องเองก็โดนขอให้ไปอยู่ มันกลายเป็นจุดสนใจไปแล้ว

…งั้นเรากลับดีกว่า

ผมเดินออกจากสนามบอลไป ผ่านทางใต้ตึก ทางเดียวที่เจลากผมวิ่งไปมาวันงานวิทย์

วันนี้มันมืดและเงียบ เด็กที่เหนื่อยคงรีบกลับกันไปหมด ผมเดินเอามือลูบไปตามกำแพง ข้างหน้าจะเป็นลานที่แมคขึ้นแสดงโชว์บนเวที

เพลงโบราณแต่ถูกใจมัน

จริงๆแล้ว วันกีฬาสีก็สนุกดีนะ เสียดายมีส่วนร่วมน้อยไปหน่อย

ผู้คนบางตา... ผมยืนสูดหายใจเข้าอยู่ตรงนั้น หันหลังกลับไปมองทางสนามบอลครั้งสุดท้าย

จากตรงนี้มองไปมันไม่มีทางเห็น นี่อยู่ใต้ตึก สนามบอลอยู่ด้านนอก

“เก้า”

เสียงเรียกเข้มๆดังขึ้นจากข้างหลัง

“อ้าว พวกเค้าปล่อยตัวออกมาแล้วเหรอ”

ต้องสั่นหน้า ก่อนจะโผเข้ามากอด

“ยังโกรธเรื่องเมื่อกลางวันอยู่เหรอ”

“นี่พวกนั้น พี่ๆเค้าปล่อยตัวกลับมาแล้วเหรอ ต้องจะไปกับเค้าเย็นนี้รึเปล่า... เก้าจะได้ ... รู้ว่าจะกลับไปทำอะไร”

“ช่างหัวพวกนั้นสิ ถ้วย ต้อง ก็โยนคืนพวกนั้นไปแล้ว อยากได้มากก็เอาไป”

“ต้อง...”

ผมพยายามดันต้องออก

“รางวัลนั่นได้มาเพราะต้องเลยนี่... ถ้าไม่มีต้องจะได้เหรอ”

“ถ้าไม่ใช่เก้า ต้องจะทำเหรอ ... ถ้าไม่ใช่เก้า ต้องจะอยากทำอะไรสักอย่างให้เก้าหันมากมอง มาอยู่ใกล้กับต้องเหรอ”

ผมนึกย้อนไปถึงตอนชั่วโมงวาดรูป

รูปที่ต้องวาดให้ยังติดอยู่บนกำแพงในห้องนอน...



“ต้อง... ชอบผู้หญิงมากกว่ารึเปล่า”

คำถามนี้ทำให้ต้อง ปล่อยตัวผมแล้วจ้องหน้า

“ทำไมอยู่ๆมาถามงี้ละ”

ผมเงยหน้าขึ้นมอง มันทำหน้าชวนให้รู้สึกแปลกๆ

“ป่าวนะ ขอโทษนะ ถ้าเราไปทำอะไรให้เก้ารู้สึกไม่ดี”

มันยื่นมือมาจับมือผม

“ต้อง... ต้องไม่เหมือนเจนะ ไม่ใช่แมคด้วย เก้าไม่ได้บ้ากาม อย่าเข้าใจผิด ต้องไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างที่พวกนั้นทำให้เรารู้สึกดี ถ้าต้องจะไม่เปิดเผยก็ไม่เป็นไร ไม่ต้อง ... ... ไม่ต้องทำขนาดนี้หรอก ..เราชอบต้องที่เป็นต้องนี่แหละ”

แรงบีบหนักๆจนผมเจ็บมือ

“เก้า ต้องขอโทษนะ ต้องมันห่วยอย่างที่ใครๆก็บอกจริงๆน่ะแหละ เก้าอดทนกับต้องหน่อยนะ ไม่มีพวกแมคมาช่วยแล้วด้วย”

นั่นสิ ไม่มีใครอยู่ช่วยแล้วนอกจากตัวผมกับต้องที่จะต้องฝ่าฝันกันต่อไปให้ได้

“มันไม่ได้เกี่ยวว่าชายหรือหญิงหรอก ต้องเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ต้องรู้ว่า ...ชอบเก้าอะ...”

แววตามันสั่น ดูเหมือนคนไม่มั่นใจในตัวเอง ความรู้สึกเหมือนมันจะระเบิด

“งั้น... ต้องเป็นที่อยู่ของเก้านะ”

ต้องทำหน้างง

“ไม่มีไรหรอก” ผมหัวเราะ

ก่อนจะพูดดังๆว่า

“เหรอ ต้องทนคนห่วยๆ อย่างต้องไปอีกนานมั้ยละ”

โอ๊ย

มันเอามือเคาะหัวผม ก่อนจะหัวเราะ

“งั้น เริ่มใหม่นะเก้า ... เก้า.. เป็นแฟนต้องได้มั้ย เราชอบเก้านะ”

ผมจ้องหน้ามันตรงๆ

“กลับไปจีบกันใหม่ได้มั้ย”

“ไม่เอา ก็ไม่ต้องจีบละนี่ ได้กันไปถึงไหนแล้ว จะเป็นไม่เป็น”

“เหรออออออออ”

เอายกขาเตะตูดมัน

ต้องหลบได้ ก้มหัวมาจูบหน้าฝากผม

“ไอ้บ้า”

เสียงต้องหัวเราะกลับมา

“ไม่กลัวคนเห็นเหรอ”

“หึ กลัวไม เมื่อกี้ก็บอกรุ่นพี่ว่า แฟนรออยู่ต้องรีบกลับ”

คำว่าแฟนที่ต้องบอกให้คนอื่นมัน มันรู้สึกหัวใจพองโต

ชีวิตม.ปลาย กับ การที่ได้ออกปากมาว่า มีแฟน และเป็นแฟนของใครเนี่ย มันเท่ใช่เล่น ยิ่งไปกว่านั้นคนนั้น เป็นต้องด้วย

บางทีก็อยากจะบอกคนพวกนั้นว่า ...นี่ต้องแฟนผม แล้วก็คนนี้มันได้ซิงกูแล้ว ไม่ปล่อยไปง่ายๆหรอก

ต้องคว้ามือผมไปกมุไว้

“กลับบ้านกัน”

“อือ”

ต้องเอื้อมมือมาคว้าตัวผมไปกอด

ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ผมเลยตอบรับมันด้วยการโดดเข้าไปกอดแล้วหอมแก้มมัน

แหวะ เหม็นเหงื่อ

“นั่น! หวีดกันไม่มีอายเลยนะ หน้าด้านๆ”

ต้องสะดุ้ง

“พี่ต้อง ยินดีด้วยนะ” คนตามหลังมาอีกคนพูด

เมื่อหันกลับไปดู ผมคิดว่าครูซะอีก

“อ้าว ต่อ เป็นไง เหนื่อยมั้ย”

“ร้อนมากกว่า ตากแดดทั้งวันเลย”

ต้องปล่อยมือแล้วเข้าไปลูบหัว

“นี่ต่อวันนี้พี่ไม่กลับบ้านนะ”

ต่อพยักหน้า

“หวัดดี พี่เก้า”

“อะ... หวัดดี” ผมตกใจ ต่อทักขึ้นก่อน

“มาอี๋อ๋อ กันตรงนี้ไม่กลัวคนเห็นเหรอพี่ต้อง”

“ช่างมันดิ ฮ่าๆๆ”

โอ๊ย

“ต่อ เตะพี่ทำไม”

“ปีใหม่หายไปไหนมา ปล่อยให้เฝ้าบ้านอยู่คนเดียว หนีไปนอนกกกันมาใช่มั้ย เดี๋ยวฟ้องน้าเลยว่า พี่ต้องหนีเที่ยว”

“เฮ้ยๆ อย่าดิ” ต้องวิ่งเข้าไปกอดน้อง

“ต่อนั่นใครอะ” ผมถามขึ้น

“อ้อ นี่เอ็ม” ต่อ สะกิดเด็กผู้ชายข้างๆให้เข้ามาหา

“สวัสดีครับ” คนชื่อเอ็มพูดขึ้น

“แฟนต่อเองพี่”

หา... ผมกับต้องหันมองหน้ากันไม่เชื่อสายตากัน

“หรือไม่ใช่” ต่อหันไปถามคนข้างๆ

“อะ อือ ใช่ๆๆ”

“กูกูบอกแล้วไงอีกแป๊บ” ต่อทำหน้าทะเล้น

เอ็ม ยังทำหน้าบอกไม่ถูก เอะ... น้องคนนี้เป็นประธานนักเรียนด้วยนี่

“งั้นพี่เก้า ต่อฝาก พี่ต้องด้วยนะ”

“อือ ได้”

ผมเอาศอกกระทุ้งไอ้ต้อง

“เออ... เอ็มงั้นพี่ฝากต่อด้วยนะ”

“ครับพี่”

“พี่เก้า ถ้าเบื่อพี่ต้องบอกนะ คนไม่ได้เรื่องอย่างพี่ต้องอะ ผมหาให้ดีกว่าได้”

“ไปไกลๆเลยไอ้ต่อ ไปไหนก็ได้”

“ฮ่าๆๆ งั้นผมไปนะพี่”

“เออ ต่อ วันนี้แม่ไม่อยู่บ้านนะ”

ต้องหัวเราะ

“พี่เก้า ผมว่าพี่เลิกๆกับพี่ต้องเหอะ ตอนจะจีบพี่นะ แม่งทำตัวเหมือนคนปัญญาอ่อน มาเที่ยวถามทุกวัน ทำไรดี เข้าหายังไงดี ทำไรไม่เป็น แต่ไอ้เรื่องใต้สะดือเนี่ย ไม่เคยออกไปจากหัวสมองเลย ชักสงสัยแล้วว่าไอ้พี่ต้องมันชอบพี่เก้าหรือชอบตูดพี่กันแน่ ตอนนั้นนะ ถามว่าพี่ต้องชอบพี่เก้าตรง.... อุ๊บ”

“มากไปแล้วต่อ พอ ไปไหนก็ไป”

“พี่ต้องอะ อย่าหักโหมนะวันนี้ สงสารตูดพี่เก้ามั่ง โดนบ่อยๆมันหลวมนะ”

“พูดยังกับว่าเคยโดน” ต้องสวน

ทำไมผมรู้สึกว่า ต่อกับเอ็มหน้าแดงขึ้นนิดหน่อย

“งั้นไปนะพี่ต้อง” ต่อกำลังจะแยกไป

“เดี๋ยวสิต่อ”
เอ็มชี้ไปทางนั้น

“นี่ๆๆ พี่คนนั้นอะ ถ่ายรูปให้ หน่อยสิ” เอ็มกวักมือเรียกพี่คนหนึ่ง

ผมเห็นรุ่นพี่ถือกล้องโพลาลอยด์เดินไปมา คงกะจะเก็บอารมณ์วันนี้เอาไว้

“ค่าฟิล์มเดี๋ยวผมจ่ายให้”

พี่คนนั้นหันมา

“รูปละ 30  บาทนะ เอ้า เข้ามาชิดๆกัน”

“แพงวะพี่ ฟิล์มมันขายใบละ 15 เอง” ต่อโวย

“จะเอาไม่เอา”

“เอาครับ 4 ใบเลยนะพี่ กด 4 ทีเลย”

พวกเราสี่คนยืนชิดตัวติดกัน มีผมกับต่อยืนอยู่ข้างกัน ในมือต่อถือ psp เครื่องสีขาวไว้อยู่ในมือ มือข้างนั้นเอื้อมไปอยู่หลังคอของเอ็มอีกที

“1 2 3”
.
.
.
ทางเดินยามเย็น เงาของพวกเราทอดยาวออกไปด้านหน้า เวลาผ่านไปมันก็ยิ่งยาวขึ้น สโมสรอยู่ทางขวามือ ซ้ายมือเป็นตึกประถม เสียงลมเป็นเพื่อนเราสองคนเดินกลับบ้าน ปนกับเสียงตีใบของต้นไผ่ ใบไผ่กำลังร่วงลงมาตามพื้น

ปีนี้ไผ่ผลัดใบมากเป็นพิเศษ

ภาพของแมคกับเจ เมื่อเดือนที่แล้ว ...ปีที่แล้ว  ...คราวที่แล้ว

...และ วันเวลาก่อนๆ ผุดขึ้นมาตามที่ต่างๆ

เงาของพีรพลกับผม ที่วิ่งเล่นในตึกประถมกับผม

ลานด้านหลังที่ผมโดนแกล้ง ที่ๆเดียวกับที่ต้องใช้ซ้อมโยนไม้

เวทีกิจกรรม ที่ได้ทำงานกลุ่ม ครั้งแรกที่ผมกล้าจะออกปากเรียก และ คิดกับพวกนั้นว่า “เพื่อน”

ท่ามกลางเศษกระดาษสีทองที่ปลิวลงมากับความมืดหลังผ้าม่าน แผ่นไม้กระดานที่พวกเราสี่คนถือ

ห้องวิทย์ ที่ต้องมาทำให้อารมณ์ผมกระเจิง ก่อนที่เจจะพาผมเข้าไปนอนในห้องนั้น

บนตึกมัธยมที่ผมกับเจฝากอนุสรณ์เอาไว้ตามซอกต่างๆ

สนามบอลที่เราเคยนั่งเล่นกันจนมาถึงวันนี้ที่ใช้ทำกีฬาสี

ที่ต่างในโรเรียนที่มีความจำมากจนแทบเก็บไว้ไม่หมด

ปากซอยขึ้นรถที่พักหลังผมไม่ได้ขึ้นรถเมล์กลับอีกเลย รถแท๊กซี่ที่เคยจะนั่งคนเดียว ตอนนี้มีคนอยู่เคียงข้าง

ร่างสูงที่ผมได้แต่แอบเฝ้ามองมาตั้งแต่วันแรกของชั้นม.4 กับใบหน้าเป็นมิตรของเจ ตั้งแต่วันแรก

ห้องเรียนที่ผมเคยรู้สึกเกลียด คิดผิดที่เลือกเข้ามาอยู่ โรงเรียนที่น่าชังในชีวิตนักเรียนของผม

ต้อง

…ความอบอุ่นหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ให้กับผมในที่แห่งนี้

ป่านนี้แล้ว พวกนั้นจะเป็นอย่างไรบ้างนะ ที่นี่ห้าโมงเย็น เวลาของแมคเองก็คงเช่นกัน ...แล้วเจละ ที่นั่นจะกี่โมงแล้วนะ

“หนาวมั้ย เก้า”

ผมหยุดยืน มองหน้าต้อง แต่ไม่ตอบ

“มานี่มา”

ก่อนจะทันพูดอะไร ต้องก็เอื้อมแขนมาคล้องคอผมเอาไว้

ต้องไม่ได้พูดอะไร แต่อะไรสักอย่างที่มันทำให้ผมรู้สึกว่า ตอนนี้ต้องก็คงจะรู้สึกแบบเดียวกันอยู่

“กลับแท๊กซี่เนอะ”

แท๊กซี่เหรอ... เดี๋ยวก็คงผ่านหน้าบ้านของแมค ที่ประจำที่พวกเราไปเล่นกันสินะ วันนี้บ้านหลังนั้นกลายเป็นร้านพิซซ่าไปแล้ว

“รีบเหรอ... เดินไปเรื่อยๆมั้ย”

ต้องหันมายิ้ม

ยังไม่ทันได้ตอบ ต้องก็เอามือมาคล้องหาผมไว้

“หิวยัง”

ผมถาม

นั่นสิ วันนี้ต้องแทบไม่ได้กินอะไรเลยนี่

“หิวแล้ว เก้าอะ อยากกินไรละ”

…กินไรดีนะ...

“ต้อง... คือ เรามีอะไรอยากถามอะ”



“หือ ว่ามาสิ”

ผมไม่กล้ามองหน้ามันตรงๆ

“คือว่า.. จะกินก่อน หรือ.. จะเอารางวัลก่อนละ”

อือ.. ต้องทำหน้าคิด

“พร้อมกัน”

หือ...

มันทำได้เรอะ

“งั้นในห้องกินข้าวเลยนะ กินไปด้วยเลย”

ต้องเอามือมาลูบก้นผมทีหนึ่ง

“ไอ้บ้า บ้าแล้ว”

ผมโดดหนี แล้ววิ่งไปบีบตูดแฟบๆของมัน

ต้องไม่หลบ ได้แต่หัวเราะ

ฮ่าๆๆๆๆๆ

นั่นสิ เอางั้นก็ได้

ต้องยืนหันหน้ามาทางผม ท่ามกลางทางเดินปล่อยให้เงายาวออกไปข้างหลัง ลมพัดขยับเสื้อสีฟ้าปลิวไปตามลม อ้าแขนสองข้างออก

… ใคจะวิ่งเข้ากอด ไอ้บ้า

ผมเดินเข้าไปตรงๆ แต่ไม่กอด

“เออ ตามใจ... ที่รัก”

มันหันมาทำหน้าไม่เชื่อหู

ผมอายจนต้องรีบหลบเดินหนีมัน

ก่อนจะตอบกลับมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มและเสียงดังพอได้ยินว่า

“อือ ต้องก็รักเก้านะ”


…………………………

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
10 CM : วันกีฬาสี (4) 3/5/2016
«ตอบ #292 เมื่อ03-05-2016 20:53:50 »

เรื่องราวในชีวิตม.ปลายของผมจบลงด้วยเรื่องแบบนี้ ผมไม่เคยคิดว่าจะได้แฟนคนหนึ่งขึ้นมา แล้วคนนั้นก็เป็นผู้ชาย โชคดีอย่างเดียวที่คนนั้นเป็นนายต้อง คนที่ผมแอบชอบมากซะด้วย

ใครจะรู้ว่า แมค กับ เจ เป็นคนแปลกหน้าสองคนที่เข้ามาหาผมก่อน ในวันที่ผมคิดว่าจะปิดตัวเองจากโลกภายนอก สองคนนั้นได้เปิดประตูเชิญความสุขเข้ามาหาผม เพื่อนที่จริงใจกับผมที่สุด

พวกมันทำให้ผมคิดว่า ช่วงชีวิตม.ปลายของพวกเรามันควรจะอยู่ด้วยกันตลอดไป แต่มันก็เป็นไปไม่ได้เมื่อโลกของความจริงมันซับซ้อนกว่าที่เราเข้าใจได้ในวัยนั้น

เวลาหนึ่งปีครึ่งผมรู้สึกผูกพันกับพวกมัน ทั้งสามคน มากยิ่งกว่าเพื่อนห้องอื่นที่รู้จักกันมาทั้งชีวิต มากยิ่งกว่าที่เคยคิดว่าจะสนิทกับใครได้ มันมีเรื่องให้จดและจำเอาไว้ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี ผมเคยสัญญากับตัวเองว่าจะพยายามเก็บความรู้สึกเอาไว้ให้ได้ทั้งหมด ตั้งแต่ที่เจอกันครั้งแรก จนถึงเมื่อคืนปีใหม่ ท่ามกลางเสียงพลุและอากาศหนาวของปีนั้น ในห้องที่กลิ่นอวลไปด้วยเหล้า

ก่อนที่จะเหลือแค่หนึ่ง

ต้อง ผู้ที่ไม่เคยจะหายไปไหน มานั่งๆคิดดู เมื่อไหร่ที่ผมหันหลัง ต้องจะยังคงอยู่ข้างหลังผมเสมอ เงียบๆ อารมณ์ขึ้นลง แต่ไม่เคยจะห่าง เมื่อมีอะไรไม่สบายใจ มันพร้อมจะเข้ามาหาเสมอ

คนที่เป็นเหมือนเพื่อน แฟน และเป็นเหมือนตัวแทนของสองคนนั้น เป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายที่ เพื่อน คนสำคัญ ถึง สองคน มอบให้

ปีหน้าอีกหนึ่งปี กับอนาคตหลังจากนี้อยู่ที่ผมกับต้องจะสู้กันต่อไป มืแของเราสองคนจะกุมกันเอาไว้ไม่ปล่อยออกไปง่ายๆ เพราะว่ากว่าเราจะได้กันมามันก็ไม่ง่าย

ส่วนพวกนั้น...

หวังว่า พวกมันเองก็จะ ยังยิ้มออกได้ อยู่ที่ไหนสักแห่งเฉกเช่นเดียวกันกับพวกผม เพราะความคิดถึงของผมก็จะมีให้พวกมันเสมอ ถึงแม้ว่าเวลาที่ผ่านไปจะทำให้พวกมันจะลืมเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดไปแล้ว

สักวันหนึ่งที่ ถ้า พวกเราได้กลับมารวมตัวกันอีก เมื่อพวกมันถามขึ้น ผมจะเป็นคนเล่าให้พวกมันฟัง...



แด่ ...ต้อง แมค... เจ ...

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
Re: 10 CM : วันกีฬาสี (2) 10/4/2016
«ตอบ #293 เมื่อ03-05-2016 21:06:09 »

ขอบคุณทุกคนที่ตามอ่านมาถึงตรงนี้นะครับ เรื่องมันก็จบลงแค่นี้แหละ พอขึ้นม.6 เต็มตัว มันก็ไม่ได้ว่างอะไรขนาดนี้แล้ว ต้องก็ยังคงเป็นต้อง ส่วนต่อกับเอ็มก็แทบไม่ได้เจออีกเลย...

ถ้าจะเล่าต่อไปอีกมันคงจะกลายเป็นชีวประวัติไป

อันที่จริง ชีวิตจริงมันก็ไม่ขนาดนี้หรอกครับ ผู้ชายด้วยกันมันไม่หวานอะไรมากนักหรอก (อย่างน้อยก็สำหรับรุ่นผมละนะ)

ขอบคุณจริงๆนะครับ เรื่องนี้ก็ 1 ปีนิดๆ เร็วเหมือนกัน ตอนแรกไม่แน่ใจว่าจะเล่าออกมาได้มั้ย ตอนนี้มันก็มาถึงจุดสุดท้ายของทุกอย่างแล้ว

ขอบคุณครับ

ปิตายจริงๆเหรอ
:(

ไม่ทราบครับ ผมเองก็ไม่รู้ว่าเป็นยังไงต่อ เดากันว่าถ้าไม่ย้ายรร.ก็ไปต่างประเทศ ถ้ายังฟื้นขึ้นมานะ ... ไม่มีใครติดต่อได้ รร.เองก็ไม่สามารถติดต่อได้ บ้านก็ไม่เคยไป ได้แต่คิดว่าปิยังจะสบายดีละนะ


ขอบคุณนะครับที่ตามอ่าน

ตาพร่าเห็น เป็นสีเทา เคล้าเงามืด
กายเย็นชืด คล้ายอืดออก บอกสังขาร
ลมหายใจ ให้กระตุก ปลุกสัญญาณ
คล่อยคืบคลาน ปานสายหมอก บอกอำลา

RIP ครับ กะปิน้อย

อึดอัดออกไปจากเพจนี้
พี่ขอไปทำใจ..หลายๆๆๆๆ แป๊บเลย

ฮือออออออออออ..เศร้าโฮก โศกจริงๆ

รายนี้ขาประจำจริงๆ หลายครั้งที่คิดว่าจะหยุดลงแล้วพอมาเห็นคุณเข้าก็เอาวะ ลงต่อให้จบ

แต่ละครั้งที่จะลงถ้ามีเวลาก็จะทวนอีกรอบ พอทำบ่อยๆมันก็รู้สึกเอือมขึ้นมาได้เหมือนกัน เหมือนอ่านเรื่องเดิมๆสักสิบรอบได้

พอเห็นปุ๊บก็ เอาวะ สู้หน่อย อ่านๆ แก้ๆลงให้ได้

ขอบคุณมากนะครับ

แล้วก็อีกหลายคน ผมไม่ได้ย้อนกลับไปดูทั้งหมด อ้อ ใช้วิธีอ้างถึงชื่อไม่ค่อยเป็นด้วย

ถ้า... ไม่เบื่อ แล้วยังอยากเขียนอีก คงจะมีเรื่องอื่นมา ซึ่งก็คงเป็นแบบนี้ละมั้งครับ ไม่หวาน ฮ่าๆๆ

 :bye2: :bye2: :bye2: :bye2: :bye2: :bye2: :bye2: :bye2: :bye2: :bye2: :bye2: :bye2: :bye2:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
Re: 10 CM : วันกีฬาสี (4) 3/5/2016 จบแล้วครับ
«ตอบ #294 เมื่อ04-05-2016 00:57:27 »

ตะวันขึ้น ยื่นยิ้ม พริ้มหัวเราะ
เวลาเหมาะ เพราะตื่น รื่นเริงหา
หนึ่งวันผ่าน นานไหม ใจไปมา
ดวงจันทรา เคลื่อนคล้อย ร้อยสายลม 

เก็บเรื่องราว ครั้งคราวโน้น พ้นเลยผ่าน
เก็บวันวาน ทั้งหวานชื่น หรือขื่นขม
ความทรงจำ ล้วนมากมาย ไว้ชื่นชม
ความทรงจำ ยังเพาะบ่ม อมยิ้มพราย

อ่านแล้วให้ความรู้สึกดี
วันเวลาที่ผ่านไป
ของทุกคนย่อมดูสวยงาม
ถึงแม้ว่าจะมีทั้งสุขและทุกข์
แต่มันก็คือ..ประสบการณ์
ทำให้เราสามารถยืนหยัดได้
ทั้งปัจจุบันและในอนาคต

ขอบคุณครับ
ใจล้วนๆ
 :L1:

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
Re: 10 CM : วันกีฬาสี (4) 3/5/2016 จบแล้วครับ
«ตอบ #295 เมื่อ04-05-2016 21:54:12 »

ขอบคุณที่นำเรื่องมาแบ่งปันครับ

โชคดีและกลับมาเยี่ยมกันด้วยครับ

ออฟไลน์ Redz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: 10 CM : วันกีฬาสี (4) 3/5/2016 จบแล้วครับ
«ตอบ #296 เมื่อ24-06-2016 00:26:37 »

อ่านจบแล้วสนุกดีชอบมากๆ แต่ก็รู้สึกใจหายแปลกๆมากเช่นเดียวกัน เหมือนโดนตัดจบ อยากรู้เรื่องราวของ เอ็ม-ต่อ อีกหน่อยกำลังสนุกเลย // โลเคชั่น รร นี่ใช่ รร สห ป่ะครับ เพิ่งจบมาไม่นานเลย คล้ายๆดี  :-[ :hao3:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
Re: 10 CM : วันกีฬาสี (4) 3/5/2016 จบแล้วครับ
«ตอบ #297 เมื่อ30-08-2016 17:04:33 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
Re: 10 CM : วันกีฬาสี (4) 3/5/2016 จบแล้วครับ
«ตอบ #298 เมื่อ24-04-2017 18:23:44 »

อ่านจบแล้วสนุกดีชอบมากๆ แต่ก็รู้สึกใจหายแปลกๆมากเช่นเดียวกัน เหมือนโดนตัดจบ อยากรู้เรื่องราวของ เอ็ม-ต่อ อีกหน่อยกำลังสนุกเลย // โลเคชั่น รร นี่ใช่ รร สห ป่ะครับ เพิ่งจบมาไม่นานเลย คล้ายๆดี  :-[ :hao3:

ขอโทษที่มาตอบช้านะครับ ไม่ค่อยกล้ากลับมาดูกระทู้ตัวเองกลัวไม่มีคนอ่าน

ใช่ครับ โลเคชั่นเป็นโรงเรียนสหครับ ผมแค่นำสถานที่มาดัดแปลงให้เป็นรร.ชายล้วน จะได้ไม่ชัดเจนมากว่ารร.ไหน

เรื่องไม่ได้โดนตัดจบหรอกครับ เพียงแต่ผมคิดว่ามันน่าจะโอเคแล้ว คือ ในสมัยนั้น มันก็ยังงี้ละครับ คือ ไม่ได้หวานแหววกันจนเว่อร์ แค่เดินจับมือกันก็มีครหามาเต็มแล้ว

ผมอยากจะให้ใกล้เคียงกับที่เคยเกิดขึ้นมากที่สุดมากกว่าด้วยครับ

ขอบคุณอีกครั้งครับ

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
Re: 10 CM : วันกีฬาสี (4) 3/5/2016 จบแล้วครับ
«ตอบ #299 เมื่อ24-04-2017 18:25:32 »

ตะวันขึ้น ยื่นยิ้ม พริ้มหัวเราะ
เวลาเหมาะ เพราะตื่น รื่นเริงหา
หนึ่งวันผ่าน นานไหม ใจไปมา
ดวงจันทรา เคลื่อนคล้อย ร้อยสายลม 

เก็บเรื่องราว ครั้งคราวโน้น พ้นเลยผ่าน
เก็บวันวาน ทั้งหวานชื่น หรือขื่นขม
ความทรงจำ ล้วนมากมาย ไว้ชื่นชม
ความทรงจำ ยังเพาะบ่ม อมยิ้มพราย

อ่านแล้วให้ความรู้สึกดี
วันเวลาที่ผ่านไป
ของทุกคนย่อมดูสวยงาม
ถึงแม้ว่าจะมีทั้งสุขและทุกข์
แต่มันก็คือ..ประสบการณ์
ทำให้เราสามารถยืนหยัดได้
ทั้งปัจจุบันและในอนาคต

ขอบคุณครับ
ใจล้วนๆ
 :L1:

สวัสดีอีกครั้งครับ หวังว่าคงยังสบายดีนะครับ

ขอบคุณที่ตามอ่านเสมอมาครับ

ป.ล. เรื่องใหม่กำลังตะคลอดแล้ว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด