10 CM : รักที่ส่วนต่าง 10 CM 3/5/2016 จบแล้วครับ + มีเวบตูนแล้วครับ ลิ่งอยู่เม้นสุดท้าย
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 10 CM : รักที่ส่วนต่าง 10 CM 3/5/2016 จบแล้วครับ + มีเวบตูนแล้วครับ ลิ่งอยู่เม้นสุดท้าย  (อ่าน 83521 ครั้ง)

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
10 CM. ตอนที่ 5.0 พีรพล 31/8/2015
«ตอบ #30 เมื่อ31-08-2015 17:19:35 »

10 CM ตอน : 5.0 พีรพล

   เจ็ดปีที่แล้ว ผมย้ายบ้านมาอยุ่ฝั่งธนฯ โรงเรียนที่ผมเรียนจึงต้องถูกเปลี่ยนไปด้วย เสียดายไม่งั้นผมคงได้เรียนโรงเรียนแถวถนนสาทรไปแล้ว ตอนนั้นก็ยังด็กมากย้ายโรงเรียนใหม่ มันไม่ค่อยรู้สึกว่ามีผลกระทบอะไรกับผมนักหรอก จริงๆคือผมไม่ได้ใส่ใจด้วยซ้ำ พ่อแม่จะไปไหนผมก็ต้องไปด้วย

   นิสัยผมคงไม่น่าคบมาตั้งแต่เด็กแล้วละมั้ง ไปไหนมาไหนผมก็ไม่เห็นจะมีกลุ่มไปเล่นด้วยเหมือนคนอื่นเค้า

   อยู่คนเดียวมาตลอดตั้งแต่ประถม ยิ่งย้ายโรงเรียนมาผมยิ่งไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรให้มีเพื่อน

   เด็กๆผมก็ไม่ได้รู้สึกเหงาอะไรนะ แม้จะโดนทักเสมอๆว่า ‘ทำไมอยู่คนเดียว’ ‘เพื่อนไปไหนหมด’

   เพราะอย่างนี้แหละ ผมถึงจำได้ เพื่อนคนแรกของผมที่โรงเรียนนี้

   ขึ้น ป. 6 ผมก็ได้มีเพื่อนสนิทคนหนึ่ง

   คนนั้นชื่อ พีรพล ไม่แน่ใจว่าชื่อเล่นมันชื่ออะไร จำได้เลาๆว่า ผมเรียกมันว่าพี

   อย่างที่บอกไป นิสัยผมก็ยังคงเป็นอย่างนี้อยู่ตั้งแต่ประถมจนม.ปลาย ผมค่อนข้างเก็บตัว ไม่ยุ่งกับใคร แล้วก็มักจะโดนแกล้งจากคนรอบข้างเสมอ พีเป็นคนแรกที่เข้ามาทักแล้วก็ชวนผมไปเล่นด้วย แต่เวลาเล่นอะไรกันทุกคนจะรุมที่ผมคนเดียว  (ไม่รู้จริงๆนะว่าทำไม)

   อ้อ จนกระทั่ง ม.ต้น นั่นแหละ ผมเป็นคนไล่แกล้งคนอื่น (น่าเชื่อมั้ย)

   มีอยู่ครั้งนึง พีชวนผมไปเล่น ปาลูกปิงปอง  คือ จะโยนลูกปิงปองขึ้นเหนือหัวแล้วเรียกชื่อ คนที่โดนเรียกต้องวิ่งออกไปรับให้ทัน ถ้าไม่ทันแล้วลูกปิงปองเด้งพื้นเกินสามครั้งจะ โดนลงโทษด้วยการเอาลูกปิงปองปาอัด หลัง ตูด ขา ตรงไหนก็ได้ โดนปารอบวงอีกต่างหาก

   วันนั้น พี ชวนผมไปเล่น และแน่นอนผมต้องโดนแกล้งตามระเบียบ เด็กตัวเล็ก ขาว ตี๋ หน้าตาโง่ๆ
ผมพยายามปฏิเสธไปแล้ว แต่พี บอกว่า เดี๋ยวจัดการให้เอง
   
   เล่นกันไปได้สามรอบ สองรอบหลังผมโดนปารอบวง ทำให้ตัวนี่ช้ำหมดแล้ว พอจะเริ่มรอบที่สาม (จริงๆอยากเลิกแล้วแต่ พี ท่าทางจะสนุก)

   พอพีเห็นผมโดนเข้ามาก หน้าตาพีตอนนี้เริ่มดูจะไม่สนุกแล้ว แต่ก็ไม่อยากเลิก

   “จะเล่นกันงี้ เดี๋ยวเราช่วยเองเก้า”

   “ถ้ามันเรียกนายเอาให้ทันแล้วเรียกชื่อเรานะ”

   ตกลงกันเสร็จ

   ลูกบอลเริ่มลอยออกจากมือเด็กคนอื่น

   “เก้า”

   “ไปเร็ว” พีตะโกน

   ผมวิ่งไปสุดพลัง คว้าลูกไว้ได้

   “เรียกชื่อเราๆ” พีพูด

   ผมลังเลนิดนึง

   “พี” สิ้นเสียงเรียกชื่อปุบ พีวิ่งมาอย่างเร็ว แต่รอมันเด้งครบสาม แล้วคว้าลูกปิงปองแล้ว ปาอัดคนแถวนั้นทันที

   คนอื่นยังพยายามแกล้งผมด้วยการเรียกชื่อผมคนเดียว แต่ทุกครั้งที่ผมวิ่งทัน ผมก็จะเรียกพี แล้วพีก็จะคว้าลูกปาใส่คนอื่น

   สูตรนี้ดำเนินต่อไป จนคนอื่นเลิกเรียกชื่อผม ไม่สิ เราทั้งสองคนเลยตะหาก

   เมื่อไม่มีใครเรียกชื่อ ผมกับพีก็เลยเหมือนจะยืนอยู่ในสนามไปยังงั้นเอง

   มันไม่สนุกแล้ว

   “พวกนั้นไม่ยอมเรียกเราเลย” พีพูดขึ้น
   
   “นั่นสิ ไม่มีชื่อนายขึ้นมาเลย มีแต่ชื่อเรา” ผมพูด   

   “ชื่อนายหลังๆก็ไม่มีเหอะ”

   “ทำไมนายเล่นเก่งจังละ”

   “ที่บ้านเราพี่ๆมันชอบเล่นกัน เราเลยถนัดมาก” พีพูดอย่างภูมิใจ

   “เออ แล้วที่โดนปาอัดเป็นยังไงบ้าง”

   สงสัยจะเห็นผมนั่งดูขา กับหลังของตัวเอง พีเลยถามขึ้น
   
   “ก็หลังกับขาคงแย่หน่อย แต่ก้นคงไม่เท่าไร” กางเกงมันมีสองชั้นน่ะครับ   

   เรานั่งเงียบกันอยู่แถวลานนั้นในยามเย็น มันเงียบอยุ่สักพักหนึ่งก่อนพีพูดขึ้น

   “เหนื่อยๆ กลับไปแก้ผ้าอาบน้ำสบายๆ” พีพูดขึ้น

   “หือ” ผมยังงงๆอยู่

   “นายเคยมั้ย” จู่ๆพีถามขึ้น

   ตอนเด็กผมโง่ครับ เลยไม่ค่อยเข้าใจคำถาม (ตอนนี้ก็ยังโง่)

   พีจ้องหน้าผมอยู่ แล้วก็หลบตา

   “ตามเรามานี่หน่อยดิ เราขอดูไรหน่อย” พีพูด แล้วพาเดินไปด้านหลังตึก
   
   ด้านหลังตึกเป็นทางไปห้องน้ำ แต่ด้านนี้จะค่อนข้างมืด มืดๆเย็นๆนี่ไม่ดีเลย

   ตอนนั้นผมรู้สึกใจไม่ดีเท่าไร แต่ก็ยอมตามไปแต่โดยดี
   
   มันช่วยผมขนาดนี้ ตอนนี้มันพูดอะไรผมก็ต้องยอมหมดละครับ ผมคิดว่ามันเป็นการตอบแทนกันอย่างหนึ่ง

   พอมาถึงที่ซอกที่มืดๆหน่อย

   พี หันซ้าย ขวาอยู่พักหนึ่ง

   “ถอดเสื้อดิ ดูหน่อยหลังเป็นยังไงบ้าง”

   “เออะ จะดีเหรอ”

   “เออน่า”

   ผมค่อยๆแกะกระดุมออกทีละเม็ด มือสั่นเทา

   พีเอาจริงเหรอ

   “ผิวขาวจัง”

   “โห หลังเป็นรอยลูกปิงปองแดงไปหมดเลย ที่ขาก็เป็น”

   มืดขนาดนี้ยังเห็นอีก มันคงจะแดงมากสินะ

   “แล้วก้นละ”

   “จะดูก้นด้วยเหรอ” ผมอายจริงๆนะ
   
   ปกติเด็กผู้ชายมันทำกันยังงี้เหรอเนี่ย

   พีทำหน้าปกติ เหมือนขอดูมือคนอื่นยังไงยังงั้น

   ผมไม่กล้าจริงๆ

   “ไม่กล้าเหรอ”

   “อือ”

   “ผู้ชายเหมือนกันน่า”

   “แต่ว่า”

   “งั้นเราเปิดให้ดูก่อนก็ได้”

   พีทำท่าจะแกะกางเกงลง แล้วหันหลังมา ถลกเสื้อนักเรียนขึ้น

   กางเกงหลุดไปครึ่งตูดแล้ว เห็นกางเกงในโผล่อยู่ครึ่งตูด มันถอดเปิดให้ผมดู ก้นขาวๆเล็กๆ

   มีเสียงคนเดินมาแถวนี้ พวกผมสะดุ้งโหยงเลย

   พวกเราสองคนพยายามทำตัวเหมือนปกติ เหมือนกับว่า แค่เดินผ่านมาแถวนี้เท่านั้น
   แต่พีกลับยืนเฉยๆ เหมือนรู้อยู่แล้วว่าใครจะมา

   ตอนนี้ข้างหน้าผมพีกำลังจะถอดกางเกง ผมเองก็เอามือมาดึงเสื้อเข้าหากันเหมือนกับยังไม่ได้ถอดเสื้อออก แต่ถ้าคนๆนั้นเดินมาใกล้ต้องเห็นแน่ๆ

   เด็กผู้ชายสองคนกำลังจะแก้ผ้ากันในที่ลับๆ

   “พีรพลรึเปล่า”

   “กลับบ้านได้แล้ว” เสียงผู้ชาย ดูจากรูปร่างแล้ว น่าจะม.ปลายเรียกชื่อพีขึ้น ผมเดาว่าน่าจะเป็นพี่

   พียังคงยืนเงียบอยู่อย่างนั้น

   “เงียบไว้นะ”

   พียื่นหน้าเข้ามาใกล้ แล้วเอามือจับปากผมไว้

   สายตาเราสองคนจึงเขม็งกันอยู่อย่างนั้น

   เสียงที่ได้ยินมีแค่ เสียงหายใจกับหัวใจของเราสองคนที่ดังขึ้นเรื่อยๆทุกครั้งที่ฝีเท้านั้นก้าวเข้ามา

   “อย่าร้องนะ เก้า”

   พีพูดอย่างแผ่วเบา ยังเอามือปิดปากผมไว้ หน้าเราแทบจะชนกัน

   ทั้งผมและพีพยายามแต่งตัวอย่างเงียบๆ ช้าๆ ไม่ให้คนนั้นดูออกมาเราสองคนกำลังทำไร เงาที่เค้าเห็นจะดูออกมั้ยว่า คนหนึ่งกำลังติดกระดุมเสืออีกคนกำลังใส่กางเกง

   ถ้าเป็นพี่ชายพี ก็แย่แล้ว เป็นครูยิ่งแย่

   “ใช่ พีรึเปล่า”

   พวกผมยังไม่ตอบ

   “ใช่ๆ เดี่ยวตามไปที่รถเอง ที่เดิมใช่มั้ย”

   “เร็วๆละมึง”

   เสียงฝีเท้านั่นเริ่มถอยหลังห่างไป

   พีหันมาอิดออดพักนึงก่อนจะบอกว่า

   “ไปก่อนนะ ท่าทางพี่กูจะหงุดหงิดแล้ว เดี๋ยวจะโดนเตะเอา” พีจำใจบอกลา

   หลังจากนั้นผมจำไม่ค่อยได้ว่า เกิดอะไรขึ้น แต่เราไม่ได้เรียนด้วยกันอีกเลย เหมือนๆกับว่ามันจะเป็นช่วงก่อนปิดเทอมพอดี เราก็แยกย้ายกันไป ไม่ได้ติดต่อกันอีก ไม่รู้ว่าม.ต้น พีเรียนที่ไหน

   แน่นอนไม่ได้ดูก้นผมแน่ๆ ถ้าพีย้ายไปห้องอื่นและเค้าเป็นคนเข้ากับเพื่อนได้ง่ายอยู่แล้ว ถ้าเค้าเจอกับผมอีกที เค้าอาจจะจำไม่ได้แล้ว.... หรือก็ไปสนใจกับเพื่อนใหม่อื่นๆ

   จนจบป.6 ผมได้ข่าวว่าพีย้ายไปรร.อื่นแล้ว รร.ผม ป.6 ก็มักจะย้ายไปรร.อื่นกัน เป็นอันว่า คงไม่ได้เจอกันโดยเด็ดขาดแล้ว ตั้งแต่ขึ้นม.ต้นมา ก็ไม่ได้เจออีกเลย

    จนเมื่อเปิดทอม ม.4 ผมย้ายห้องเรียนใหม่แต่ที่ รร. เดิม เด็กผู้ชายหน้าคุ้นๆ หันมามองผมอย่างสนใจ ใบหน้าคุ้นต่างแค่เค้าใส่แว่น พอแนะนำตัว เค้าชื่อ เจ???

    พีรพล เหรอ ไม่น่าใช่

   มีแค่หน้าตากับชื่อจริงเท่านั้นที่คล้ายกัน
   
   คนเราพอโตขึ้นหน้าตาก็เปลี่ยน เสียงก็เปลี่ยน ย้อนๆกลับไปดูรูปสมัยก่อนก็ยังอดขำไม่ได้ว่า มันเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยเหรอ ไม่ต้องใครหรอกครับ ผมเองก็ด้วย

   เสียงที่ทักมาไม่คุ้นเลย เสียงที่แตกหนุ่มแล้ว
   
   หน้าตาอาจจะพอมีเค้า แต่ใครจะรู้ได้

   ผมยอมรับครับว่า ผมฝังใจกับ พี จริงๆ

   ยังไงซะ ถึงจะใช่หรือไม่ใช่ เจก็เป็นเพื่อนที่ดีของผมแล้วละ

 :bye2:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-10-2015 11:33:10 โดย Monet »

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: 10 CM. ตอนที่ 5.0 พีรพล [pg2] 31/8/2015
«ตอบ #31 เมื่อ31-08-2015 18:04:40 »

อยากเห็นพีตอนนี้จัง ใช่เจหรือไม่ใช่???


ถ้าไม่ใช่ น้องจะได้ออกมามีบทมั่งไหมคะ??

ออฟไลน์ Misakiiz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 516
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: 10 CM. ตอนที่ 5.0 พีรพล [pg2] 31/8/2015
«ตอบ #32 เมื่อ01-09-2015 06:58:04 »

เราว่าพีคนนั้นต้องเป็นเจแน่เลย!  o8

ออฟไลน์ DREAM COME TRUE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 379
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
Re: 10 CM. ตอนที่ 5.0 พีรพล [pg2] 31/8/2015
«ตอบ #33 เมื่อ02-09-2015 15:07:35 »

คิดว่าเดาๆได้ละว่าพีต้องมีบทเด่นแน่ และน่าจะเป็นคนใกล้ตัวตอนนี้ หึๆ

ออฟไลน์ Shiney

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: 10 CM. ตอนที่ 5.0 พีรพล [pg2] 31/8/2015
«ตอบ #34 เมื่อ03-09-2015 13:56:24 »

ตอนนี้เบาๆดี ชอบๆ แต่เด็กป6มันมีโมเม้นกุ๊กกิ๊กแบบนี้กันแล้วหรอเนี่ย
อิจฉาสุดๆ

ออฟไลน์ diction

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: 10 CM. ตอนที่ 5.0 พีรพล [pg2] 31/8/2015
«ตอบ #35 เมื่อ03-09-2015 22:35:50 »

 :z3:
คิดถึงต้องอ่าาาา ต้องอยู่หนายยยยยย
 :serius2:

ออฟไลน์ กบกระชายไทยนิยม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
Re: 10 CM. ตอนที่ 5.0 พีรพล [pg2] 31/8/2015
«ตอบ #36 เมื่อ04-09-2015 00:05:22 »

+เป็ด เพิ่งเริ่มอ่านจ้า

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
Re: 10 CM. ตอนที่ 5.0 พีรพล [pg2] 31/8/2015
«ตอบ #37 เมื่อ04-09-2015 09:05:10 »

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะครับ 1000 กว่าแล้ว ว่าจะมีตอนพิเศษ แต่เก็บไว้ให้ประหลาดใจตอนหลังดีกว่า

เรื่องจะดูหนักขึ้นเรื่อยๆไม่รู้ทำไม ยิ่งเขียนยิ่งหนัก ยังไงก็ลองดูกะนต่อไปนะครับ

ยังมีอะไรให้ประหลาดใจได้อีก

ปล หลายคนที่ถามมาเรื่อง พี

เอ นั่นสิ เอาไงดีน้า หึหึ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-09-2015 09:08:53 โดย Monet »

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
10 CM. ตอนที่ 6.0 ฝนตก [pg2] 31/8/2015
«ตอบ #38 เมื่อ05-09-2015 21:05:25 »

10 CM 6.1 ฝนตก

   ถัดจากนั้นไปไม่กี่วัน ไม้กระดานแผ่นใหญ่เบ้อเริ่มก็มาส่ง พวกผมได้รับอนุญาติให้ใช้ ห้องวิทยาศาสตร์ ห้องที่พวกเราใช้ทดลองเคมีนั่นแหละ เป็นห้องสำหรับทำฉากชั่วคราว ห้องนี้อยู่ชั้นสี่ของรร. ห้องวิทย์ฯ รร.เราใช้คุ้มมาก ทั้งวิชา ชีวะ เคมี บางครั้งก็ฟิสิกส์ (แต่นานๆที)

   ห้องเรียนผมอยู่ชั้นสามของตึก แปลว่าผมต้องแบกฉากขึ้นๆลงๆ พอได้ฉากมาก็เอาขึ้นไปห้องวิทย์ พอจะใช้ก็แบกลง แล้วก็แบกขึ้นไปเก็บ

   ตกเย็นฉากมาแล้ว พวกผมจึงต้องลงไปยกฉากจากหลังรร. ที่ๆเวลาเค้ามาส่งอุปการณ์ ขึ้นตึกไปสี่ชั้น แล้ววนหันไปทางซ้าย พอถึงชั้น 4 มันจะมืดมาก ชั้นนี้เปิดไฟเฉพาะตอนมีงานเท่านั้น ซ้ายมือกำแพงจะเป็นผนังด้านนอกของห้องประชุม ทาสีแดงเลือดหมู ส่วนขวามือเป็นห้องวิทย์ที่แสงเข้าน้อยมาก เพื่อป้องกันสารเคมีต่างๆ ไม่มีห้องเรียนอื่นอยู่เลย ด้วยเหตุนี้ชั้นนี้จึงเป็นชั้นที่คนเดินผ่านน้อยที่สุด 
   
   “เฮ้ย เก้า มึงไปรอบนห้องวิทย์ไป” ต้องพูดขึ้น

   มันเอาศอกดันๆผมให้เดินออกไป

   “เฮ้ย กูก็อยู่กลุ่มนี้นะ”

   ผมก็อยากช่วยพวกมันบ้างไม่ใช่ให้พวกมันทำให้อย่างเดียว

   “มึงเตี้ยสุด เวลายกแขนมันไม่เท่ากัน คนที่เตี้ยกว่าจะหนักสุดนะ ยิ่งถ้ายกคู่กับกูเนี่ย”

   คือ ไม่ต้องบอกก็รู้อะนะต้อง

   “เออ กูห่างกับมึงเยอะนี่” ผมชักไม่สบอารมณ์แล้ว

    “งั้นเอางี้เดี๋ยว กูยกกับเก้า ตัวใกล้กันหน่อย” เจหันมา

   กำลังจะเอื้อมมือมาขว้าข้อมือผมไปทางแผ่นไม้

   “แล้วมึงจะช่วยมันไหวเร้อ ไอ้เจ” ต้องพูดเหย้า

   “เออน่า เดี๋ยวกูดูเด็กกูเอง แค่นี้กูจัดการได้” เจยืนยัน

   มันยืนพยักหน้ามั่นใจอยู่

    ไอ้ต้องกำลังจะเดินเข้าไปเตะ

   “เอาเหอะ” ผมพูดอย่างหมดแรง ตัดบทพวกมันก่อน

   “ตกลงจะเริ่มหรือยัง”

   เสียงที่ไม่ได้ยินมานาน

   “ครับ ท่าน”

   สงสัยไอ้แมคจะโกรธแล้ว มัวแต่เถียงกันไร้สาระ

   ชุดแรกต้องกับแมคแบกไม้กระดานขึ้นไป ถือขอบคนละด้านยกแล้วเดินตามกันไป

   “เอาแน่นะมึง” ผมหันไปถามเจ

   ต่อไปจะเป็นตาของพวกผมแล้ว

   “หึหึ เอาน่ะ เอาแน่” จู่ๆ เจ พูดขึ้น

   “หา!!! อะไรนะ” ผมฟังอะไรผิดไป

   “ที่แกถามไง” เจ ยิ้มหรี่ตามาทางผม

   ผมทำเป็นไม่สนใจ ก้มลงไปยกฉาก ไอ้บ้านี่จะมาเอาเอิวอะไร

   ตัวผมสะดุ้งอย่างแรงเป็นสัญชาตญาณ

   “เฮ้ย” ผมตกใจ

   “ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ทำเป็นไม่สนใจกูนะ”

   “เออ ไม่สนแต่ไม่ได้แปลว่า” ... แปลว่ากูไม่อยาก

   “แปลว่าอะไรวะ” เจ ยังยียวน

   “ไป รีบไปยกเลย” เจชี้ไปที่อีกฝั่ง

   “หือ”

   “มึงยกหัวจะได้เบาหน่อย คนท้ายมันต้องก้มๆยกๆ”

   “เออ....” ผมยังงงๆ มันใช่เหรอวะ

   “ไม่ไปอีก เดี๋ยวโดนจับตูดอีกนะ”

   “พอแล้ว”

   หน้าตาไอ้เจหื่นสัส มันไปอดอยากมาจากไหนเนี่ย

   ผมหน้าแดงเลยครับ แน่ๆ คือ ถึงผมจะยังไม่คิดอะไรกับเจ แต่อยู่ๆมีผู้ชายหน้าตาจิ้มลิ้มมาบอกว่า เอาผมแน่ๆ นี่ผมก็รู้สึกเป็นเหมือนกันนะครับ มันร้อนวาบขึ้นมาเลย   
   ผมจึงรีบเดินไปทำตามมันโดยดี เดี๋ยวจะโดนมันบีบอีกรอบ ถึงจะไม่เต็มมือก็เหอะ โดนทีเผลอก็สะดุ้งเอาได้เหมือนกัน คราวนี้กูว่ามันไม่แค่บีบแน่ๆ

   ผมยอมรับเลยครับว่า เจ แรงดีมาก ถึงมันจะสูงกว่าผมแค่ 5 เซน แต่มันก็ไม่ทำให้ผมหนักเลย ไม่รู้ว่าเพราะยังตกใจเรื่องเมื่อกี้ หรือว่า มันช่วยผมยกกันแน่

   “ถ้าไม่ไหวบอกนะ วางได้เลย” น้ำเสียงเปลี่ยนไป

   จนผมต้องชะโงกหน้าอ้อมมาดู เห็น เจ พูดหน้าตาจริงจังมาก มันห่วงผมจริงๆเหรอ

   พอผ่านไปถึงชั้นที่สามผมก็ต้องขอมันวางลง  จริงๆผมมีโรคประจำตัวอยู่ และไม่ได้คิดว่าตัวเองอ่อนแอขนาดนี้ (แต่มันก็เหนื่อยจริงๆ)พูดถึงเรื่องนี้ คือ ไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรงหรอกครับ แค่แพ้อากาศ แต่มากกว่าคนทั่วไปหน่อย ทุกครั้งที่อากาศเปลี่ยนรุนแรง อย่างเช่น ร้อนมากแล้วฝนตกทันที ผมจะป่วยครับ

   บางครั้งเป็นมากๆต้องนอนรพ.อยุ่หลายวันก็มี พอเข้าม.ปลายก็ดีขึ้น คงโตขึ้นนิดหน่อยละมั้ง แต่ส่วนสูงผมก็เลยหยุดอยู่แค่นี้  ม.ต้นปีหนึ่งๆ ผมเข้ารพ.สามสี่รอบ เรียกว่า ทุกครั้งที่อากาศเปลี่ยนเป็นอันรู้กัน
แต่ก็ยังไม่วาย พอหายม.ต้น ก็ไล่แกล้งชาวบ้าน

   “พักพอยัง ไม่ไหวบอกนะเว้ยจะไปตามไอ้แมคให้”

   “เออ ไม่เป็นเป็นไร ได้” ผมหอบแหก แถมเจ็บมือด้วย ชอบกระดานไม่มีไรรองเลย เป็นเนื้อไม้ล้วนๆ

   “มือไม่เป็นไรนะ” มันคว้ามือผมไปดูแล้วลูบๆอยู่สองที

   “พอ สยิว”

   มันหัวเราะแล้วลากต่อ
   
   พอยกไปถึงบันไดขั้นสุดท้าย เจก็บอกให้ผมวางลงแล้วลากไปเอง เสียงไม้ลากกับพื้นดังแกรกๆไปตลอดทาง

   พอลากไปได้หน่อย ไอ้ต้องก็รีบเดินออกมาจากห้อง

   “เป็นไง ไหวมั้ยเก้า” ต้องถามมาทางผม

   “หน้าแดงๆนะ”
   
   ผมหน้าแดงเหรอครับ ระหว่างทางผมก็แอบคิดเรื่องที่เจพูด ‘เอาน่ะ เอาแน่’

   ผมคงเหนื่อยมากกว่า ก็มันตั้ง 4 ชั้นนี่นะ
   
   “เอ้ย ช่วยหน่อยดิ ขาอ่อนกันเลยเหรอ” เจ จะโกนเข้าไปในห้อง   

   “เออๆๆ” ต้องกำลังเดินมา

   คราวนี้เป็นเสียงจากในห้องออกมาอีก แต่ไม่ใช่เจ

   “เฮ้ยๆ สัดนี่ เกิดครูมาเห็นโดนทำโทษหมดพอดี คิดได้ไงวะ” แมคโวยเสียงดังลั่นเลย

   “มึงก็เงียบๆดิวะ ไม่มีใครรู้หรอก” เจ ตอบเสียงดังกว่า

   “มึงสองตัวพอเลย จะทำก็รีบทำ เงียบๆด้วย ไอ้เก้าก็ไม่ห้ามเลย” แมคชะโงกหน้าออกมาด่าผมอีก

   “ไหวนะ”  ต้องยังคงถามผม

   ผมเงยหน้ามองคางมัน

   “ไหวดิ กูเก่งนะ”

   ผมพยายามเขย่งตัวให้มันดู จะได้เห็นว่ายังมีแรง

   “เตี้ย” มันเอามือกดหัวผมลงไป

   “สัส”

   “ไม่เล่นด้วยแล้ว”

   ผมเลยเดินเข้าห้องวิทย์ไปก่อน

   พอยกไม้กระดานเข้าไปวางนอนบนพื้นห้อง พวกเราพยายามวางสองแผ่นต่อกัน แต่พื้นที่ไม่พอ พวกเราเลยต้องยกโต๊ะ เก้าอี้ บางส่วนออกไปไว้มุมห้อง แถมโต๊ะเป็นโต๊ะเหล็กสี่เหลี่ยมจตุรัส หนักเอาการอยู่ เก้าอี้ก็เป็นแบบกลมไม่มีพนัก ซ้อนกันก็ไม่ได้จึงต้องยกไปวางทีละตัวๆ

   ไอ้ต้องกับไอ้เจ ก็เลยแข่งกันยกว่าใครจะยกได้มากกว่า

   ผมกำลังดูพวกมันแข่งกัน ดีผมจะได้ไม่เหนื่อย

   “บ้าพลังนะ มึงว่ามั้ย”
   
   ผมพูดกับใครวะ ไอ้แมคหายไปแล้ว

   “ไปไหนวะ”

   ผมเลยหันกลับมาดูพวกมันวิ่งยกกันไปมาอยู่

   เก้าอี้ตัวสุดท้ายเหลืออยู่ตัวหนึ่ง

   ผมสาบานจริงๆว่า ไม่รู้อะไรเข้าสิงผม ผมเอาเก้าอี้กลมยกไปวางหน้าต้อง

   “ทำไรมึง” มันสงสัย

   “หึหึ ทีนี้กูก็สูงกว่ามึงแล้ว”  ผมพูดใส่หน้ามัน

   “เหรอ เดี๋ยวมึงโดน” ต้องยกคิ้วข้างนึง แล้วพูดแผ่วเบา

   แล้วขยับเข้ามายืนใกล้ๆ

   ไอ้ต้องเขย่งขาหน่อยเดียวมันก็จะเท่าผมแล้วครับ ฉากวันนั้นที่ต้องยื่นหน้าเข้ามาใกล้ มันลอยขึ้นมา ต่างกันก็แค่ วันนี้ต้องเขย่งหน้าเข้ามาหาผม สายตามองจ้องเข้ามาที่ตาผม

   แย่ละสิ

   แล้วผมก็เผลอทำสิ่งที่ไม่คาดคิดลงไป...

   ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ต้อง แบบเดียวกับที่ต้องทำวันนั้น

   ค่อยๆเข้าไปใกล้ขึ้นๆ เหลืออีกเพียงนิดเดียว

   ปากก็จะชนกัน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-10-2015 11:33:26 โดย Monet »

ออฟไลน์ imymild

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
Re: 10 CM. ตอนที่ 6.0 ฝนตก [pg2] 05/9/2015
«ตอบ #39 เมื่อ05-09-2015 23:42:15 »

 :mc4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: 10 CM. ตอนที่ 6.0 ฝนตก [pg2] 05/9/2015
« ตอบ #39 เมื่อ: 05-09-2015 23:42:15 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ diction

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: 10 CM. ตอนที่ 6.0 ฝนตก [pg2] 05/9/2015
«ตอบ #40 เมื่อ06-09-2015 21:46:01 »

มาตัดอะไรตรงเน้!! :sad4:
ใจจะขาด

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
10 CM. ตอนที่ 6.0 ฝนตก [pg2] 05/9/2015
«ตอบ #41 เมื่อ07-09-2015 18:16:20 »

10 CM 6.2 : ฝนตก

   “เฮ้ยๆ ครูมาดูงาน” เจ รีบวิ่งมาบอกทุกคน

   ผมรีบโดดลงมาจากเก้าอี้เลย เห็นได้ชัดว่า ต้อง มันตกใจ ยืนนิ่งเหมือนไม่ได้สติอยู่ตรงนั้น

   พอเรานั่งกับพื้นทำตัวเรียบร้อยกันสักพัก

   ไม่มีทีท่าครูจะเดินมา

   “มึงทำไรมันวะ เก้า” เจ พูด

   “เอ้อ แกล้งมันน่ะ” ผมโกหก

   ไม่รู้ว่าใครแกล้งใครกันแน่   

   “มึงไข้ขึ้นเหรอ หน้าแดงๆนะ” ไอ้เจ ตั้งข้อสังเกต

   มันกำลังจะยกหลังมือขึ้นแตะหน้าผากผม

   แปะ!!!

   “โอ้ย ตบเหม่งกูทำไม”

   แม่ง วางซะแรง

   “ไหนละครูมึง หือ หลอกกู”  ต้องได้สติหันมาพูดแล้ว

   “หลอกห่าไร กูเห็นจริงๆ”

   “เห็นห่าไร”

   “แล้วไง ถ้าครูไม่มามึงจะทำไร”

   “กูจะเอาคืนไอ้เก้าไง”

   “มึงจะทำยังไง หือ อ้ายยยย ต้องงงง” เจ เริ่มกวนตีนแล้ว

   “ก็กูจะ....”

   ไอ้แมค เดินกลับมาสมทบ

   “เฮ้ยๆๆ กูไปขอห้องแล้ว พวกมึงใช้ได้แล้ว”

   ก๊อกๆๆๆๆ   

   เสียงเคาะกระจกดังขึ้น ตามเสียงไอ้แมคมาติดๆ

   ไอ้ต้องรีบลุกขึ้นไปเปิดประตู

   ครูมาจริงด้วย มาตอนไหนเนี่ย

   “เออ ห้องใช้ได้นะ พื้นที่ก็พอ ช่วงนี้ยังไม่มีวิชาใช้ห้องแลป พวกเธอใช้ได้เลย แต่หาไรรองหน่อยอย่าให้พื้นเป็นรอยละ สีก็ด้วยหาไรรองหน่อย กุญแจห้องนี้ครูฝากไว้ที่คนนี้นะ พวกเทอจะได้มาทำได้ทุกเมื่อ” 
   
   “คร้าบ...” 4 คนตอบพร้อมกับเลยครับ
   
    แถมทำหน้าน่ารักให้ครูด้วย เอ้า

   เมื่อกี้ แมค มันเดินไปบอกครูมาหรอกเหรอ

   ไอ้เจเดินสำรวจรอบๆห้องอย่างสนใจ มันเดินไปเขย่าขวดนั้น ขวดนี้ บางขวดเป็นสีชา คงเอาไว้กันแดด แต่ข้างในมันคืออะไรไม่รู้ บางทีก็เปิดๆฝาดม แล้วทำหน้าแหยงๆ ผมละอดขำมันไม่ได้

   “ซน!!! นาย พีรพล”

   เจ สะดุ้งโหยง

   “คิดว่าครูไปแล้วอะครับ”

   “ไป ไม่ไป ไม่เกี่ยว”

   มาแล้วครับ ครูเริ่มพูดเสียงดังไปทางเจแล้ว ผมเห็นท่านมองอยุ่นานแล้วละครับ ตั้งแต่ตอนที่ยืนดูแผ่นไม้สองแผ่นแล้วฟังแบบจากแมคอยู่  ผมกะแล้วว่าต้องพูด ไม่งั้น เกิดไอ้เจมันบ้าเขย่าไปเขย่ามาระเบิดตูมขึ้นมา ไอ้เจที่ปกติก็หล่อไม่สุดอยู่แล้วจะ ยิ่งไม่เหลือเลย

   ต้องมันหัวเราะสะใจอยุ่ข้างผมนี่แหละครับ

   “ไอ้ต้อง” เจ หันมาคำรามใส่

   สักพักนึงหลังจากครูคุยกับแมคเสร็จพวกเราก็มานั่งพักกันอยู่ข้างกระดาน 2 แผ่นนั้นละครับ แค่ยกขึ้นมา 4 ชั้นก็เหนื่อยแล้ว ยังต้องมายกโต๊ะเหล็กพวกนี้ให้พ้นทางอีก

   ระหว่างที่นั่งพักกันอยู่ แมค ลุกไปเปิดเพลง ส่วนไอ้ที่เจ ท่าทางจะหายไฮเปอร์แล้ว นั่งดูโทรศัพท์อยู่

   ที่ไอ้แมคหายไป มันแอบไปเอามานี่เอง แสดงว่ามันวางแผนไว้แล้วสิ ท่าทางจะแบกลำโพงเล็กมาจากบ้านด้วย

   ผมเลยแอบหันไปมองต้อง ตอนนี้มันกำลังนั่งเหยียดขายาวๆออก ตาเหม่อมองพัดลมบนเพดาน หน้าด้านข้างของมันมีเสน่ห์ชวนมอง ผมมองไล่ลงมาตั้งแต่ ตา จมูกลงมาถึงริมฝีปากบางแดง มันปลดกระดุมเสื้อเม็ดบนออกหนึ่งเม็ด เผยแผงอกขาว   

   ผมเลยนึกย้อนไปถึงตอนเมื่อกี้ ถ้าเจไม่ตะโกนหยุดไว้

   เจ หยุดไว้เหรอ

   ผมกำลังมองเพลินๆ พอรู้อีกทีต้องมันหันมามองผม สบตากันพอดี

   ผมสะดุ้ง  ก้มหน้าหนี

   เสียงเพลงช้าเพลงนึง ดังขึ้น
   
   หากดาวที่สดสวย หล่นจากบนฟากฟ้า
   ให้ฉันได้เชยชม และโอบกอดเธอไว้
   หากดาวที่งดงาม อยู่ที่ปลายฟ้า
   คงไม่มีวันจะได้รักเธอ..อึ๊ม..ดาว
   หากชีวิตของคน ได้พบกับรักที่ดี
   รักที่มีความหมาย จะเก็บเอาไว้นานๆ
   ตาที่อ่อนโยนของเธอ ยังติดตรึงในหัวใจ
   ไม่อาจจะลืม ลืมเธอคนนี้

   ขืนผมลืมตัวทำอะไรออกไปมากกว่านี้ ไอ้ต้องมันจะรู้ตัวแน่ๆ แล้วผมก็จะเสียเพื่อนดีๆไป

   “เฮ้ยๆๆๆๆๆ อย่าทำหน้าหงอยงั้นดิ เหนื่อยเหรอไง” เจ เดินเข้ามากอดคอผมจากด้านหลัง ตัวเจแนบชิดกับตัวผม ได้กลิ่นสบู่ผสมกลิ่นตัวอ่อนๆโชยออกมา ผมพยายามเอามือไปแกะมือมันออก

   “ดูดิ มือแดงหมดเลย น่าสงสาร” เจ พูดไปลูบหัวผมไปด้วย

   ตอนนี้ผมก้มหน้าดูมือตัวเอง แต่ก็แอบเหลือบไปมองต้องด้วย

   มันหันหน้าไปอีกทาง

   ผมเองไม่ได้ตอบอะไรเจออกไปครับ นอกจากนั่งยิ้มๆ เวลาเจมันมากอดผม มันรู้สึกอบอุ่นมากมันสัมผัสได้นะว่าคนที่กอดเรารู้สึกยังไงกับเรา

   “ไรวะ มึงจะเอาไอ้เก้าตอนนี้เลยมั้ยเนี่ย”  ต้องพูด

   นั่นไงมาอีกแล้ว

   “ทำไม เรื่องของกู”

   “ไอ้เก้าก็น่ารักดีออก เอาด้วยมั้ย”

   “หา... กูเนี่ยนะ ไอ้เก้าตัวก็เล็กๆ เตี้ยๆ ขนขึ้นยังวะเนี่ย พรากผู้เยาว์นะ”

   “นี่ เยอะเกินไปแล้วมึง ป่านนนี้แล้วก็กูต้อง...... หรือมึงอยากพิสูจน์” ผมกำลังจะโวยกลับ

   “อีกอย่างพวกเราก็ผู้เยาว์หมดละเว้ย ฉลาดๆอย่างมึงไม่น่าพลาดนะต้อง” ไอ้เจ เสริม

   “มึง...” ไอ้ต้องจะลุกแล้ว

   “มึงจะท้ามันพิสูจน์ไรวะ เก้า” แมคพูดขึ้นเรียบๆ
   
   เออ จริงของมัน ผมกำลังจะพูดอะไรออกไป เหมือนผมคิดไปเอง แรงที่กอดคอมันแน่นขึ้น

   ยิ่งแน่นเท่าไร ท่าทีไม่พอใจของไอ้ต้องก็ยิ่งดูออกมากขึ้นเท่านั้น

   “แกล้งเด็กกูจังนะมึง สักวันมึงจะไม่ได้แกล้ง”

   พอเหอะ!!!  เจ

   กูว่าต้องจะโกรธจริงแล้วนะ

   “ทำไม มันจะตายจากกูไปหรือไง” ต้องพูด

   “ป่าว ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” พูดจบ เจ ก็หอมแก้มผมไปเต็มๆ หนึ่งที

   ปาก เจ ที่สัมผัสแก้มผมมันนุ่มมาก แม้มันจะแค่แปบเดียว แต่มันโดนแก้มผมเน้นๆ เจไม่ได้แกล้งทำ แต่หอมผมจริงๆ ผมกำลังจะหันไปมองหน้ามันอยู่ ถ้าไอ้ต้องชิงพูดขึ้นมาก่อน

   “สัด ทุเรศ เป็นตุ๊ดเหรอมึงน่ะ” ต้องพูดจบ หันขายาวๆไปถีบแต่พลาดครับ

   ตอนนี้พวกมันสองตัวลุกขึ้นมาไล่เตะกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมนึกสงสัยตกลงเด็กม.ปลายมันเล่นไล่เตะกันแบบนี้เหรอ (วะ) ท่าทางจริงจังซะด้วย

   ไอ้แมคลุกมาตบไหล่ผมสองสามที

   “ห้ามมันเหอะเก้า”

   “นี่ พอได้แล้ว” ผมพูด

   พอคิดอีกทีไม่ดีกว่า ผมเลยไม่พูดอีกรอบ

   “มึงเข้าข้างคนไหนวะ เก้า” แมคถามดังๆ

   “เอาเลยไอ้ต้องกูเชียร์มึง เตะมันให้ได้”

   “มึงจะไปยุมันทำไมวะ”  แมคหันมา

   “อ้าวก็มึงถาม เข้าข้างใครนี่”

   จากที่ตบบ่าผม กลายเป็นตบหัวผมแทน

   แต่ผมก็ขี้เกียจห้ามมันจริงๆ

   “เหี้ยสองตัวนี่ไม่ต้องมาเชียร์เลย”

   เจ หันมาด่า

   “เออ ฝากเตะ ไอ้เจให้ด้วย”

   คราวนี้แมคเอามั่ง กลายเป็นเราสองคนเชียร์ไอ้ต้องซะงั้น

   พวกเราหัวเราะกันเสียงดังมาก ไอ้ต้องยังวิ่งไล่เตะอยู่อย่างนั้น ไอ้เจเองก็หลบไปตรงนั้นทีตรงนี้ที
เสียงเชียร์ก็เริ่มดังขึ้น เวลาป่านนี้ครูคงกลับกันไปหมดแล้ว

   แต่ว่า มันก็ยังไม่ดังเท่าเสียงฟ้าร้อง ตอนนี้เข้าหน้าฝนแล้ว ผมไม่ได้สังเกตุเลยว่าที่แสงมันหายไปไม่ใช่เพราะเย็นมากแล้ว แต่เป็นเพราะเมฆตั้งเค้าแล้วต่างหาก วันก่อนที่ผ่านๆมามีแต่ฝนตกปรอยๆ ท่าทางแล้ววันนี้น่าจะตกหนัก

   “เฮ้ยๆๆๆๆ กลับๆๆๆ ฝนจะตกแล้ว กูไม่อยากเดินเซ็กซี่ออกไป” ไอ้เจ รีบปิดฉากเกมไล่เตะตูด

   หลบลูกเตะลูกสุดท้ายแล้ววิ่งไปทางกระเป๋า

   “เออ กลับ!! แต่มึงไม่เซ็กไรทั้งนั้น ระวังพุงมึงหน่อย”

   พูดจบไม่รอ ต้องเดินมาเอากระเป๋านักเรียน

   แมคเองก็กำลังเก็บของแล้ว

   “ลำโพงไว้นี่ไม่หายมั้ง กุญแจอยู่ที่นี่แล้ว” แมคมันถาม

   “ออกมาครบนะมึง มืดๆ ห้องแลปนี่ ไม่น่านอนนะ” เจ วิ่งออกจากห้องเป็นคนแรก

   แมคออกมาเป็นคนสุดท้าย มันเดินสำรวจอีกหนึ่งรอบ แล้วกดปิดสวิตช์ไฟ เสียงฟ้าร้องยังดังมาเป็นระยะ คราวนี้ผสมมากับฟ้าแลบ

   พอล็อคห้องเสร็จ ทางที่เดินผ่าน ตอนนี้โหลดอง อยู่ซ้ายมือของพวกเรา ไอ้เจพูดถูกถ้าต้องนอนในห้องนี้ พร้อมโหลดองรอบตัวนี่ไม่สนุกแน่ๆ  ห้องนี้มีเรื่องเล่าขนาดว่า กลางคืนของในโหลจะกลับมามีชีวิต ดิ้นไปมา เออ... ช่างมันเหอะเนอะ ฝนก็จะตก ฟ้าก็มืด มานึกเรื่องผีอีก
   ทางเดินตอนนี้มืดสนิท ชั้นนี้ที่ปกติไม่ค่อยเปิดไฟอยู่แล้ว ยิ่งมืดขึ้นไปอีก พอไฟในห้องดับไป ผมถึงรุ้ว่าข้างนอกมันมืดได้ขนาดนี้

   อยู่ๆ ไอ้แมคก็วิ่งนำขึ้นไปอีกตัว เหมือนหนีอะไร ตามด้วยไอ้ต้อง  เหลือผมเป็นคนสุดท้าย

   เฮ้ยยยยยย

   “อยากนอนนี่เหรอไง” ไอ้เจตะโกนกลับมา
   
   “รีบกันไปไหนวะเนี่ย” ผมตะโกนตอบ

   “คนสุดท้ายโดนหลอกนะมึง” คราวนี้ไอ้แมค

   “เฮ้ย รอด้วย”

   ไม่มีเสียงตอบ ทางเดินมืดสนิท เหลือแต่แสงสว่างน้อยๆปลายทาง ฟ้าแลบแปลบเป็นจังหวะ บันไดแต่ละก้าวที่ก้าวลงไปก็ไม่มีท่าทีว่าจะถึงซะที ทำไมขาขึ้นกับขาลงต่างกันขนาดนี้ ยิ่งวิ่งเร็ว ฟ้าก็ยิ่งแลบ

   เมื่อมาถึงชั้นล่างสุดของตึกเรียน ทุกคนหายไปหมดแล้ว สงสัยผมจะโดนทิ้งแล้วจริงๆ ยังดีที่ชั้นล่างมืดน้อยกว่า ผมพยายามหันซ้ายขวามองหาพวกมัน

   พวกมันหายกันไปหมดแล้วจริงๆ

   เฮ้อ ทางเดินมืดมิด นี่เราโดนทิ้งให้เดินคนเดียวจริงๆเหรอเนี่ย

   ผมกำลังก้าวขาเดินหน้าต่อ ก้มหน้าก้มตาเดิน

   เอาวะไหนๆก็ไหนๆแล้ว เดินไปขนลุกไป

   มีแรงหนักๆกดที่หลังผม

   “เฮ้ย ไรวะ” ผมตะโกนลั่น

   พอผมหันไป

   เจ โดดขึ้นเกาะคอผม แต่ตัวมันใหญ่กว่าครับ ขาผมแทบทรุด

   “เย้ ผ่านด่านได้แล้ว” เจ พูด   

   “ใครเล่นเกมไรกับมึงวะ” ต้องว่ามา

   “แล้วมึงตามมาหลบกับกูทำไมละ” เจ ไม่ยอม

   “อ้าว ก็กูตามแมคไง”

   “กูปล่าวนะ กูก็ตามไอ้เจ สงสัยเหมือนกันว่ามันจะไปหลบทำไม คิดว่าทำของตก” แมคโยนกลับไปที่เจ

   “อย่ามาอ้าง” เจ หันไปว่าทางแมค

   “มึงอะต้นคิด สัส” ต้องตบกบาลเจ

   ผมกับแมคมองหน้ากันแล้ว พยักหน้าพร้อมกัน  เป็นอันรู้กัน เราสองคนเดินหัวเราะจากไปปล่อยมันไว้อย่างนั้นแหละ ให้มันโวยวายกันสองตัวน่ะดีแล้ว

   ฝนเริ่มลงเม็ดใหญ่ขึ้นแล้ว เด็กๆในโรงเรียนหายกันหมด ผมเลยเดินจ้ำเอาๆกับพวกมันออกมาหน้าโรงเรียน
   
   พอฝนเริ่มลงถี่ขึ้นอีก เสื้อสีขาวบางๆเริ่มแนบเนื้อ สงสัยจะไม่ทันได้ขึ้นรถเมล์แล้ว

   เมื่อเห็นเสื้อเริ่มบางขึ้นๆจากเม็ดฝน พวกผมเลยทำตัวกลัวฝนกันซะ เรียกแท๊กซี่แล้วนั่งกันมา 3 คน ส่วน เจ แยกไปอีกคันนึง  ยังไงไอ้เจก็ไม่ได้กลับทางเดียวกับพวกผมอยู่แล้ว

   “เดี่ยวต้องลงพร้อมแมคป่าว”

   “อือใช่” ต้องตอบ

   “ป่าววะ”

   ผมหันไปมองแมค

   “อ้าว”

   “ก็กูต้องไปธุระให้พี่ก่อน เดี๋ยวแวะห้างแถวนี้แหละ มึงนั่งต่อไปกับไอ้ต้องแหละ”

   “อา...” ต้องไม่พูดอะไร

   “งั้นไปดีๆนะมึง”

   พอฝนตก รถก็ติด อีกไม่ไกลจะถึงหน้าห้างที่แมคจะต้องลงแล้ว แต่กว่าจะไปถึงบ้านผมก็คงต้องอีกสักใหญ่ๆเลย

   “งั้นกูลงตรงนี้ละกัน เดินไปอีกไม่ไกล”

   แมคหันมาโยนเงินให้แล้ว เปิดประตู

   “ส่วนของกู”

   “งั้นกูลงตรงนี้แล้วเดินไปละกัน” ผมว่าจะลงด้วย

   “มึงนั่งต่อไป ฝนตกอยู่ เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก” ต้องดึงแขนผมกลับไปที่เดิม

   เผอิญว่า ไอ้แมคมันนั่งหน้าน่ะครับ ผมเลยนั่งหลังกับต้องมันเลยดึงแขนผมง่าย

   “อือ ก็ได้”

   รถยังคงติดต่อไป เคลื่อนที่ได้ทีละน้อยๆ เหมือนๆกับความรุ้สึกผมตอนนี้ ราวเวลาของทุกคนมันพร้อมใจกันเดินช้าๆ มีเพียงเสียงมิเตอร์เท่านั้นที่เป็นตัวบอกว่า เวลายังคงเดินอยู่ แล้วยิ่งดังผมยิ่งรู้สึกไม่ดี

   กระจกรถเต็มไปด้วยฝ้า อากาศบนรถคงจะเย็นกว่าข้างนอกเยอะอยู่ ผมกับต้องไม่ได้คุยอะไรกัน ได้แต่เหม่อมองออกไปข้างนอก คิดอะไรไปเรื่อยๆ หัวก็เริ่มหนักขึ้น บรรยากาศรอบตัวที่ดูเหมือนจะไม่มีการเคลื่อนไหว มันได้เกาะกุมความคิดผมดึงถ่วงให้หยุดลงโดยสิ้นเชิง

   โป้ก

    หัวผมโขกกับกระจกพอเป็นจังหวะตามการเคลื่อนที่ของรถ ครั้งที่หนึ่ง

   ครั้งที่สองกำลังจะมา ผมรู้ตัวแต่ไม่สามารถฝืนมันได้
 
   แต่ครั้งนี้ไม่ดัง มีอะไรนุ่มๆมาขวางไว้ระหว่างหัวผมกับกระจก

   กลิ่นคุ้นๆแฮะ

   ผมจึงลืมตาข้างเดียวไปเห็นมือต้องอ้อมหลังผม เอามือมากันกระจกไว้

   “เอนมานี่มา เดี๋ยวกระจกแตก”

   “หึ”

   ผมยิ้ม แต่ก็อดทำตามที่มันว่าไม่ได้ บนรถกับอากาศเย็นๆแบบนี้ ยอมว่าง่ายตามมันซักทีคงจะไม่เป็นอะไร

   กลิ่นของต้อง กับ ความอุ่นจากตัวมัน ช่วยให้หลับฝันดี

   “ตื่นเถอะ ไฟแดงแล้ว” ต้องพูดขึ้นเบาๆ

   ตอนนี้รถเลยมาถึงไฟแดงแยกแล้ว (หลับไปกี่นาทีเนี่ย)

   มองเห็นซอยบ้านผมอยู่ข้างหน้าทางขวา   

   “บ้านเก้าอยู่ในซอยนั้นเหรอ” ต้องถาม

   มือต้องชี้ไปทางซอยด้านขวามือของถนน แถ้าจะไปโดนรถต้องอ้อมไปอีกหน่อย

   “อ้อ ใช่ เป็นห้องแถวน่ะ”

   “แล้วบ้านมึงละ”

   “ก็ย้อนเข้าซอยเลยจากบ้านแมคนิดหน่อย”

   “งั้นกูลงนี่แล้วกัน ติดไฟแดงพอดี มึงจะได้ให้รถเลี้ยวไปเลย”  พอพูดเสร็จ ต้องก็ล้วงเป๋าหาค่าแท๊กซี่ให้ผม

   “มึงกลับบ้านแล้วรีบอาบน้ำละ เดี๋ยวจะเป็นหวัด” ต้องบอกผมแล้วลงไป

   “งั้นพรุ่งนี้เจอกันที่รร.นะ” ผมพูดแล้วโบกมือให้มัน

   “กลับบ้านดีๆละ” ต้องพูด พร้อมกับส่งยิ้มมาให้ แล้วปิดประตู

   ผมตาฝาดไปรึเปล่า....

   แล้ว.... ทำไมต้องมันถึงต้องนั่งมาถึงนี่ด้วย มันน่าจะขอลงก่อนก็ได้นี่นา ทำไม......

   วันนี้ผมกลับบ้านเย็นกว่าปกติ เมื่อเปิดประตูบ้านเข้าไปก็เจอ พ่อกับแม่กำลังนั่งทานข้าวกันอยู่ ...
   
   ห้องทานข้าวที่บ้านผมติดกับห้องนั่งเล่น คือ เป็นห้องเดียวกันนั่นแหละ  พอเปิดประตูบ้านเข้ามาก็จะเห็นห้องๆนี้เลย ทีวีเสียงดังเปิดอยู่ กับข้าวสามสี่อย่างบนโต๊ะ

   “เก้า กลับมาแล้วเหรอ” แม่ร้องทักขึ้น

   “หวัดดี ป๊า ม๊า” ไม่ยกมือไหว้นะครับ บ้านผมยังทำตามแบบจีนครับ เน้นเรียกชื่อ

   “กินไรมายัง รีบกินรีบขึ้นไปเตรียมตัวเรียนพรุ่งนี้” พ่อผมพูดขึ้นมา

   “รีบเรียน รีบสอบให้ติด พ่ออยากให้มาช่วยงานอยู่ ถ้าเรียนวิศวะไม่ได้ก็เข้าบริหารซะ”
   
   ผมไม่ตอบไรทั้งนั้นแหละครับ ในเมื่อผมโง่ ฟิสิกส์กับเลขซะขนาดนี้จะให้ไปสอบเข้าวิศวะเข้าไปก็คงเรียนไม่ไหวแน่ๆ    จริงๆแล้วผมอยากเรียนอะไรกันแน่นะ อาจจะอยากไปเรียนวาดรูป ที่ไหนสักแห่งงั้นเหรอ

   ไม่สิ หายๆตัวไปเลยดีกว่า

   พ่อแม่ยังเข้าใจว่าผมอยากเรียนวิศวะเลยมาเข้าห้องนี้ นั่นมันถูกก็ครึ่งหนึ่ง ตรงที่ผมทำตามพวกเค้าไม่ให้เสียใจ  ส่วนผมก็ได้ประโยชน์ที่เพื่อจะให้พวกเค้าเลิกบ่นเฉยๆ อีกส่วนนึงเพราะว่า ถ้ามาห้องนี้ ผมอาจจะไม่ต้องเจอในสิ่งที่ผมเจอตอนเรียนห้องอื่นก็ได้ หรือถ้ายิ่งดี ผมไม่ต้องไปคุยกับใครยุ่งกับใครเลย ผมก็จะได้ใช้ชีวิตสงบสุขอย่างที่ต้องการ

   แต่เรื่องกลับกลายเป็นตรงกันข้าม ..... สนุกดีแฮะ

   “เลิกบ่นน่าคุณ”

   “เก้ากินข้าวซะ วันนี้เรียนเป็นยังไงมั่งละ”

   “ก็ดีอะม๊า สอนกันเร็วมาก ไม่รู้จะรีบไปไหน แล้วกิจกรรมก็ต้องทำด้วยนะ ไม่ใช่ว่าเรียนอย่างเดียว แล้วเด็กในห้องก็เอาแต่เรียนไม่พูดไม่จา ไม่รู้ว่าเป็นซอมบี้หรือยังไง ม๊ารู้จักมั้ยซอมบี้น่ะ แล้วนี่นะ เวลาทำไรนะ พวกนั้นมันจริงจังมากเลย....

   ผมยังคงเล่าต่อไปๆ ปกติไม่ค่อยมีโอกาสได้คุยกันหรอกครับ แล้วแม่เป็นคนเดียวที่จะรับฟังผม ไม่ว่าผมจะเล่าเรื่องอะไรไร้สาระแค่ไหน

   .....จำได้ว่ามีคนนึงนะ มันเอาวิชาฟิสิกไปทดสอบตอนเตะบอลด้วย  มันเอากระดาษมาคำนวนองศากับแรงเตะ ดูว่าบอลมันยังไงจะไปไกลสุด บ้าเนอะ”

   ผมยังคงเล่าต่อ

   “เก้าละสงสัยมากเลย ถ้ามีไรเกิดขึ้นนะ แล้วพวกมันนะมีโอกาสได้เลือกของคงพกเครื่องคิดเลขติดตัวกันไปมากกว่ามือถือแหงๆ”
   
   สงสัยผมจะพูดมากไป แต่แม่ผมนั่งมองขำๆ แล้วก็ยิ้มอย่างเดียว

   ผมเลยหยุดพูด ข้าวก็หมดจานแล้ว

   “ไป ไอ้ตัวแสบ รีบกินรีบไปอาบน้ำไป”

   “ครับ กินหมดแล้ว”

   “งั้นไปอาบน้ำไปเก้า เดี๋ยวจะไม่สบาย วันนี้ไม่ตากฝนนะ”
   
   “นิดหน่อยนะครับ”

   “งั้นผมขึ้นห้องนะ”

   หลังจากทานข้าวเสร็จ ผมขึ้นมาเก็บของบนห้องนอนผมที่ชั้นสาม มันเป็นห้องคล้ายๆกับห้องใต้หลังคา แต่เพดานไม่ได้เอียงเหมือนในหนังนะครับ แต่เฉียงลงมานิดหน่อย มีหน้าต่างอยู่หนึ่งบ้านเล็กๆ มองไปเห็นบ้านฝั่งตรงข้ามได้แต่ปกติก็ไม่เคยจะมองดูกันและกันหรอกครับ

   มองไปก็ไม่เคยเห็นใคร

   หลังจากวางกระเป๋าลงบนโต๊ะแล้ว ผมเดินไปเปิดวิทยุ กำลังเล่นเพลง Scrub

   รอยยิ้มของเธอแค่ครั้งเดียว
   ทำฉันให้ลืมเรื่องราวที่ผ่านเข้ามา
   ทำให้ได้รู้ว่า อะไรที่สำคัญกว่า
   สิ่งใดจะมาทดแทน

   เสียงของเธอแค่ครั้งเดียว
   ทำฉันให้ลอยล่องไปไกลสุดสายตา
   มีอะไรมากกว่า ที่เคยได้พบมา
   เกินกว่าคำบรรยาย

   สงสัยวันนี้ผมจะเพ้อเจ้อมากไปแล้ว

   “กลับไปแล้วรีบอาบน้ำละมึง” เสียงต้องยังย้ำเตือน

   ผมจึงถอดชุดนักเรียนออก เหลือแต่ตัวเปลือยเปล่า ห้องน้ำอยู่ในห้องนอนมันก็สบายเวลาที่ผมลืมเอาผ้าเช็ดตัวเข้าไปด้วย ซึ่งก็เป็นประจำ

   ผมกำลังจะเปิดเครื่องทำน้ำอุ่นอาบ เอื้อมมือขึ้นไปเปิดสวิทช์นั้น พลันคิดขึ้นมาว่า ถ้าสูงอย่างต้องก็คงดี ผมลองเขย่งแล้วมองดูในกระจกดู ถึงผมจะเขย่งยังไงก็คงไม่เท่ามันแน่ๆ

   ตอนนี้ผมเห็นตัวเองเปลือยอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำ รูปร่างขาวแบบบาง ต้องเองก็คงจะคล้ายๆแบบนี้แต่สูงกว่า ไหล่กว้างกว่าสินะ ตอนนี้ต้องเองก็คงกำลังจะอาบน้ำอยู่เหมือนกันเปล่านะ .... รูปร่างของต้องตอน...

   เฮ้ยยยยยยยยยยย! นี่ผมเป็นอะไรไปแล้วเนี่ย

   “ไอ้เวรนั่น พรุ่งนี้จะเอาคืนมัน”

   ทั้งๆที่ เจ ออกจะสนิทกับผมมากกว่า แต่ดันมาคิดเรื่องแบบนี้กับไอ้ต้อง คนอย่างไอ้ต้องได้ เฮ้อ ....
ผมคงจะมีอะไรผิดปกติแล้วละ   

   พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว เห็นไฟโทรศัพท์สว่างขึ้นแจ้งเตือนว่ามีสายไม่ได้รับ

   ต้อง

   ผมจึงกดโทรกลับ

   “ว่าไงมึง หลงทางเหรอ”

   “หลงเหี้ยอะไรละ”

   “กูจะถามว่าเป็นไงมึง ไม่เป็นไข้นะ”

   “อือ ไม่เป็นอาบน้ำแล้วด้วย”

   “งั้นไม่มีไรละ”

   “เอ่อ ต้อง ขอบใจนะ”

   “เอออออ สัส ขนลุก”

   เสียงต้องกลับไม่ได้จริงจังเหมือนทุกที ผมเลยรู้ว่ามันแกล้งพูด

   “หึหึ” ผมยิ้ม

   “ไปนอนได้แล้ว”

   “เออ พรุ่งนี้เจอกันมึง”

   “เออ แล้วเจอกัน”
   
   วางสายเสร็จผมก็เดินไปล้มตัวนอนอ่านการ์ตูนเล่นบนเตียง

   พรุ่งนี้เหรอ

   ชักอยากให้มาถึงแล้วสิ

   ผมเปิดวิทยุเอาไว้แล้วเผลอหลับไป





   ก่อนจะตื่นเช้ามาเจอ อีกหนึ่งสายไม่ได้รับ

   เจ

 :bye2:



เอาละสิ เก้าจะห้ามใจตัวเองได้มั้ย อุตส่าห์ซ่อนไว้มาตั้งนาน หรือจะ เผยออกไปให้คนรู้กันหมดนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-10-2015 11:33:52 โดย Monet »

ออฟไลน์ diction

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: 10 CM. ตอนที่ 6.0 (2) ฝนตก [pg2] 07/9/2015
«ตอบ #42 เมื่อ07-09-2015 23:57:58 »

 :katai1: ผู้ชายพวกนี้นี่ปากแข็งเจรงงงงงงง

ออฟไลน์ DREAM COME TRUE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 379
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
Re: 10 CM. ตอนที่ 6.0 (2) ฝนตก [pg2] 07/9/2015
«ตอบ #43 เมื่อ08-09-2015 18:12:49 »

เก้าอาบน้ำ ><
อยากเห็นจัง

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
Re: 10 CM. ตอนที่ 6.0 (2) ฝนตก [pg2] 07/9/2015
«ตอบ #44 เมื่อ08-09-2015 18:20:13 »

 :mew2: ลุ้นต้องกับเก้า

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
10 CM. ตอนที่ 7.0 พระเอก [pg2] 08/9/2015
«ตอบ #45 เมื่อ08-09-2015 21:05:50 »

10 CM : 7.1 พระเอก

        เพราะเมื่อวาน ผมคงมัวแต่ใช้ความคิดไปกับเรื่องบ้าบอ หมดพลังไปกับเรื่องของไอ้ต้องซะมาก แล้วเผลอหลับไปตอนไหนไม่นู้ พอเช้านี้เสียงนาฬิกาปลุกก็ไม่ทำให้ผมลุกขึ้นจากเตียงได้เลย ลุกขึ้นมาแก้ผ้าไปอาบน้ำหรือนอนต่อไปทั้งยังงั้นดีนะ เช้าๆนี่เกร็งดีจัง

   รู้ตัวอีกที ผมถอดเสื้อผ้าออกไปตอนไหนเนี่ยเหลือแต่ตัวนอนคว่ำถูไถอยู่บนเตียง โผล่ก้นขาวๆรับแสดงอาทิตย์ตอนเช้า

   แม่ง สายแล้ว

   กว่าจะอาบน้ำแต่งตัวถึงรร.ก็พอดี

   ไหนๆก็สายแล้ว ไม่ต้องรีบแล้วกัน ค่อยๆไปเรื่อยๆ เดินเตะถ่วงเวลาเอาไว้

   เอาละ แปดโมงพอดี หลบขึ้นบันไดอีกด้านแล้วขึ้นตรงไปที่ห้องเลยดีกว่า ครูจะได้ไม่เห็น

   ระหว่างเดินผมแอบมองลอดช่องตรงบันไดไป เห็นครูใหญ่กำลังอบรมเด็กเช้าอยุ่ สงสัยจะอีกนาน ปกติแกไม่ค่อยมาพูด มาทีแกพูดเยอะ ถ้าขึ้นไปตอนนี้อาจมีเวลางีบได้อีกหน่อย

   พอมาถึงห้องเรียน   

   ห้องม.4/1 ห้องเดิมๆ

   “เฮ้ยๆ ตกลงมึงรู้ยังว่า ไอ้เหี้ยนี่มันชอบใครวะ” แมคถามขึ้น

   เสียงดังลอยออกนอกห้องออกไปแล้ว

   ในห้องมีแค่พวกผม กับซอมบี้บางส่วนที่มาเช้าแต่ไม่ยอมลงไปเข้าแถว

   “กูว่า นุ่น คนที่มึงเคยพูดถึงป่าววะ” ไอ้ต้องถาม

   มันถามใครกันวะ

   “เย้ย มึงนี่รู้ได้ไง”

   “กูต้องชอบคนน่ารักๆ นมใหญ่ๆ อยู่แล้ว” เจ ตอบ

   อ้อ มันรุมสัมภาษณ์ไอ้หน้าม่อนี่เอง

   “ตกลงว่าใครวะ ฮ่าๆๆๆๆ” เจ ยิ้มกวนประสาท แต่ไม่มีคำตอบ
   
   “อะไรของมึง” แมคตะโกนใส่

   “ก็นุ่นไง นุ่นไหนวะ พวกมึงมั่วแล้ว” มันหัวเราะ ไม่รู้ว่ากลบเกลื่อนหรือเรื่องจริง

   “ก็เด็กวันนั้นไงมึง”

   “วันไหนวะ”

   “วันที่มึงเจอที่สยามอะ”

   “อ้อ ไม่มีไร น้องเดินมาถามทางกูน่ะ”

   “สัสสสสสส กูออกจากห้องน้ำมาคิดว่ามึงจะได้แล้ว” แมคทำหน้าเสียดาย

   “เฮ้อ กระจอก” ต้องสำทับ

   “เห็นนิ่งเงียบมาตั้งนาน นี่มึงคิดว่ามึงดีกว่ากูเรอะไง” เจ หันไปใส่แล้ว

   “ก็ไม่รู้สิ รอดูละกัน”

   “เหรออ  ไม่มีทางหรอก” เจ ชูนิ้วกลางใส่

   “แล้วมึงคิดว่าจะได้เหรอไง” ไอ้ต้องหันมาเห็นผมพอดี

   “แน่นอน มึงคอยดู” เจยังหันหลังให้ผมอยุ่

   ผมจึงค่อยๆเดินเข้าไปเงียบๆ

   “แล้วมึงละแมค” ผมถามขึ้น ตอนที่ยืนค้ำหัวไอ้แมคอยู่ รู้สึกดีใจเล็กๆที่สูงกว่ามัน

   “เฮ้ย มึงมาตอนไหนวะ เก้า”

   “แล้วกูบอกไปมึงจะรู้จักกันมั้ย หื้อ” แมค ตอบ

   ผมว่าผมแอบเห็นเจสะดุ้งเบาๆ มันคงตกใจ ที่มีคนนอกอย่างผมมาแอบฟังพวกมัน

   ส่วนต้องทำหน้าตายเหมือนเดิม

   “อ้าว หวัดดีเก้า”

   “อือ หวัดดี”

   “แล้ว ไอ้สุดหล่อนี่ละ” เจ หันไปถามต้อง

   บรรยากาศตอนเช้านี่ดีแฮะ ถ้าไม่คุยเรื่องอย่างว่าก็ไม่พ้นเรื่องหญิง แต่ทำไมผมว่ามันแปลกๆ ถึงมันจะคุยเรื่องผู้หหญิง แต่ผมก็ยังรุ้สึกเหมือนพวกมันทะเลาะกันอยู่ดี

   “เสือกไรเรื่องกูละ”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-10-2015 11:34:10 โดย Monet »

ออฟไลน์ lightseeker

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: 10 CM. ตอนที่ 7.0 พระเอก [pg2] 08/9/2015
«ตอบ #46 เมื่อ08-09-2015 23:06:23 »

สั้นจัง  :hao7:

เค้าเชียร์เจละกัน ดูกวนๆดี ชอบบบ ต้องแลมีคนเชียร์เยอะละ หุหุ

ออฟไลน์ imymild

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
Re: 10 CM. ตอนที่ 7.0 พระเอก [pg2] 08/9/2015
«ตอบ #47 เมื่อ08-09-2015 23:10:51 »

จบแล้วหรอ  :a5:

ออฟไลน์ DREAM COME TRUE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 379
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
Re: 10 CM. ตอนที่ 7.0 พระเอก [pg2] 08/9/2015
«ตอบ #48 เมื่อ09-09-2015 10:09:25 »

สั้นจัง ครึ่งตอนหรือครับ
มาต่อไวๆนะครับ

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
Re: 10 CM. ตอนที่ 7.0 พระเอก [pg2] 08/9/2015
«ตอบ #49 เมื่อ09-09-2015 13:06:12 »

สั้นจัง ครึ่งตอนหรือครับ
มาต่อไวๆนะครับ

จบแล้วหรอ  :a5:

สั้นจัง  :hao7:

เค้าเชียร์เจละกัน ดูกวนๆดี ชอบบบ ต้องแลมีคนเชียร์เยอะละ หุหุ

รวดเดียวสามตอน  o13 เกิดเรื่องอะไรขึ้นน่ะ

งุ้ยยย น่าติดตามๆๆ o13

ติดตามฮับ

:mc4:

:man1:

ต้องๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เจโยนให้คนอื่นไป  :ruready

ในที่สุดก็หาปุ่ม Quote เจอ

ขอบคุณที่ติดตามนะครับ ตอนนี้ไม่ได้สั้นหรอก เพียงแต่ว่า เห็นว่ามันออกจากยาวไป ถ้าลงเหมือนทุกที ทีละ 10-16 หน้า
ดูจากเสียงตอบกลับแล้วน่าจะอ่านกันไม่ไหว เพราะมาทีหลายหน้า เลยทะยอยลงไปเรื่อยๆ ทีละ 2-3 หน้าบ้างดีกว่า แต่จะลงถี่ขึ้น

เดี๋ยวเย็นวันนี้จะมาต่อหน้าต่อไปนะครับ


ป.ล. หลังจากตอนนี้ไป จะเริ่มเข้าสู่ดาคไซด์มากขึ้น พร้อมๆกับฉาก 18+ ที่มีมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน



CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: 10 CM. ตอนที่ 7.0 พระเอก [pg2] 08/9/2015
« ตอบ #49 เมื่อ: 09-09-2015 13:06:12 »





ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
10 CM. ตอนที่ 7.0 พระเอก [pg2] 08/9/2015
«ตอบ #50 เมื่อ09-09-2015 17:13:50 »

10 CM : 7.2

   “มึงไม่กล้าบอกนี่หว่า ไม่แน่จริง”

   “ของแบบนี้มันต้องบอกแล้วได้ชัวร์สิวะ บอกไปก่อนเสียหน้าแย่” ฟังออกชัดๆว่าต้องพยายามแก้ตัว

   “หราาาา คงไม่ใช่คนในห้องเดียวกับเรานะ”
   
   ผมแอบรู้สึกแปล๊บ ขึ้นมานิดนึง เหมือนคำถามนั้นมันทำให้ผมรู้สึก

   ราวกับใจผมจะเสนอตัวให้มันหมายถึงผมอยู่

   ถ้าไม่ใช่ ผมก็อยากรู้ว่าต้องชอบใคร จะเป็นผู้หญิงแบบไหนนะ

   “มึงจะบ้าเหรอ ห้องเรามีแต่ผู้ชาย”

   ไอ้แมคหันไปเอาตีนถึบๆไปทางเจ

   ต้องหันควับ ตบหัวไอ้เจทีนึง

   “โอ้ย เจ็บนะ สัส”

   “ทุกปี เดี๋ยวก็มีคนมาเสนอตัวให้มึงเองแหละ ทำเป็นเก๊ก ไม่พูด” เจพูดลอยๆ

   “แล้วไอ้เปี๊ยกนี่ละ” ต้องหันมาถามผมมั่ง

   สงสัยผมจะเผลอแสดงสีหน้าออกไป

   “อ้าว เฮ้ยมาลงไรกูละ” ผมพยายามปัด

   “โตป่านนี้แล้วไม่ชอบใครเหรอวะ”

   “แหมๆ เก็บเอาใครไปแอบชักว่า... ป่าว”

   “พอเลยพวกมึง” พอกันทั้งต้องและแมค

   ผมหน้าแดง

   ไอ้ มีน่ะ มันก็มีอยู่

   “โอ๋ๆ มึงอะไปแกล้งมัน ไอ้เก้าโกรธแล้ว”

   เจเดินมาลูบหัวผม

   อีกมือลูบหลังมันกำลังลูบลงต่ำไปเรื่อยๆ

   ไม่ใช่ละ!!!

   ผมเลยต้องสะบัดตัวหลบไปทางแมค

   “มีงแอบๆมีใจให้ใครป่าว หึหึหึหึ”  แมค พูดเสร็จเอาหัวมาถูแถวๆพุงผม

   “มึงเป็นแมวรึไงเนี่ย” ผมเอามือเกาคางมันตอบ

   มันทำท่าครางอย่างแมวจริงๆ

   “ป่าว ไม่มีจริงๆ ก็กูเป็นเด็กขี้อายนะ อย่าลืมดิ เพื่อนก็น้อย” ผมตอบเบี่ยงๆไป เงยหน้ามองไปทางอื่น

   “แต่ถึงจะมีก็ใช่เค้าจะเอากูนี่”

   “เด็กขี้อายห่าไรจะพูดงี้วะ เดี๋ยวกูจัดให้เองมาๆๆๆ ให้กูเอาซะดีๆ” ไอ้เจจะลุกขึ้นมาหาผม

   “มาเร็วกูเอามึงเอง”

   “นี่มึงฟังความหมาย ที่กูพูดมั่งมั้ย” ผมพยายามดันไอ้เเจออกไป

   “เจ กูว่ามึงเอาเวลาไปเคลียร์เรื่องตัวมึงเองก่อนมั้ย” ต้อง พูดเสียงจริงจัง

   ท่าทางจะโมโหด้วย ผมเดาอารมณ์มันไม่ออกเลย ยังกับคนฮอโมนไม่ปรกติ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย

   ปล่อยไปนานๆชักจะ ทะแม่งๆ บรรยากาศชักแปลกๆแล้วสิ

   เดี๋ยวแม่งตีกันอีกแน่ๆ

   “ไปไงมาไงวะ มาคุยเรื่องนี้” ผมถามเปลี่ยนบรรยากาศ

   “ก็ไอ้เหี้ยนี่ มันบอกว่าเพื่อนพี่รี่มันสวยมากๆ กูเลยสงสัยว่ามันจะจีบเหรอ เลยลากมาประเด็นนี้แหละ” ไอ้เจ อธิบายให้ฟัง

   ชี้นิ้วไปทางแมค
   
   “อ๋อ แล้วใครพี่รี่วะ” ผมถาม

   “วุ้ว ไรเนี่ย” เจทำหน้าเซ็ง

   “พี่สาวกูไง ไอ้ควาย” แมค ว่ามา

   “ขอโทษครับๆ ผมยกมือไหว้รอบวง”

   พวกมันเลยก็เลยได้ฮากัน เฮ้อ หัวเราะออกมากันได้แล้ว

   ผมก็ดีใจเหมือนกันที่พอมีอะไรทำให้พวกมันได้บ้าง

   พวกมันยังถกเถียงเรื่องไม่เป็นสาระนั้นต่อไป (สำหรับผมละนะ)

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

อีก 2 วันจะลง 7.3 นะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-10-2015 11:35:03 โดย Monet »

ออฟไลน์ diction

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: 10 CM. ตอนที่ 7.0 พระเอก [pg2] 08/9/2015
«ตอบ #51 เมื่อ10-09-2015 12:58:23 »

อีพวกผู้ชายปากแข็ง!!! :angry2:

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
10 CM. ตอนที่ 7.0 พระเอก [pg2] 08/9/2015
«ตอบ #52 เมื่อ10-09-2015 20:50:30 »

10 CM : ตอนที่ 7.3 พระเอก

   ผมหันออกไปมองข้างนอกห้องเรียน วันนี้ดูมืดกว่าปกติ ทางเดินเองยังไม่มีใครไปเปิดไฟ ปกติเช้าช่วงวันอย่างนี้ใครจะมาเปิดไฟละนะ

   เสียงฟ้าร้องข้างนอกดังขึ้น บ่งบอกเรียบร้อยว่าทำไมวันนี้ถึงได้ดูมืดหนัก อากาศก็ไม่ร้อนด้วย พวกที่อยู่ข้างล่างอีกเดี๋ยวคงต้องขึ้นมาแล้ว

   นั่นไง เสียงเดินหนวกหูกำลังทยอยมา แสดงว่าพวกครูเค้าคงเห็นๆเหมือนกันว่าฝนจะตกจึงปล่อยเด็กขึ้นห้องมาเร็ว

   ตอนนี้เสียงนั่นดังมาถึงหน้าห้องแล้ว เดี๋ยวก็คงมีเสียงลากเก้าอี้จัดโต๊ะ เปิดกระเป๋า วางของกันสินะ

   นั่งดูพวกซอมบี้จัดของได้ไม่ทันไรฝนก็ตกหนักจริงๆด้วย ดูจากก้อนเมฆแล้วน่าจะยาวไปถึงเที่ยงเลย

   คาบแรกผมต้องตั้งใจฝืนทนเรียนไปทั้งง่วงๆ จะหลับตั้งกะวิชาแรกน่าจะไม่ดี แต่สงสัยผมจะทนอยู่ได้อีกไม่นาน

   เวลาล่วงมาถึงคาบที่สอง อากาศเย็นๆ กลิ่นฝนที่โชยเข้ามาตามจังหวะลมพัด เม็ดฝนตกเฉียงๆที่ข้างนอกหน้าต่าง เสียงพัดลมบนเพดาน คราง หึ่งๆ หมุนเป็นวงกลมอยู่เหนือหัว ถึงจะเพิ่ง สิบโมงเช้า ยังกับยานอนหลับ

   ทางขวามือของผม เจกำลังตั้งใจเรียนเลขอยู่ วิชาที่มันชอบที่สุด (เอะ หรือจริงๆแล้ว มันเก่งอยู่วิชาเดียว) ส่วนแมคเอาหนังสือมาบังหัวก่อนผมแล้วละครับ ผมจึงฟุบลงไปแล้วหันหน้าไปทางซ้ายมือ เห็นภาพต้องกำลังนั่งฟังอย่างแกนๆ คนเรียนเก่งอย่างมันปิดเทอมมันคงจะเรียนพิเศษจบวิชาของชั้นม.4 ไปตั้งแต่ปิดเทอมแล้วละมั้ง

   ตอนปิดเทอมที่ผ่านมาผมทำอะไรอยู่นะ

   ตอนนี้ตาผมกำลังจะปิดลง หน้าผมยังคงหันไปทางต้อง เอ.... ถ้าเห็นหน้ามันก่อนหลับจะฝันดีมั้ยนะ

   ไม่รู้สินะ ลองดูดีกว่า

   ภาพสุดท้ายที่ผมเห็น คือ ต้องเหลือบมองมาทางผมแวบนึง

   เอะ เหมือนๆ มันจะยิ้มที่มุมปากนิดนึง หรือว่าผมง่วงจนตาลาย  สงสัยจะเพ้ออีกแล้ว

   เหอะ  เวลามันทำหน้ายังงี้นี่ น่ารักดีแฮะ .........

   หือ...​ปากมันขยับอะไรมุบมิบนะ

   ฝันดีนะ ....
   
   อื้อ ฝันดีแน่ๆ

   .
   .
   .
   “นัยวิทย์ ...... นัยวิทย์”   

   ใครเรียกวะ

   “ออกมาทำโจทย์ข้อนี้สิ”

   ชิบหายแล้ว!!!

   “กูพยายามบอกมึงแล้วนะว่า ครูมองมึงอยู่”

   ไอ้ต้องยังยิ้มอยู่อย่างนั้น

   สัสเอ้ยยยยย ไม่ใช่มันบอกกูฝันดีเหรอ

   ผมเดินอิดออดออกไปที่หน้าห้อง คนอื่นๆจ้องเขม็งมาทางผม

   ซวยแต่เช้าเลย

   โอ้ยยยยยย

   ระหว่างที่เดินออกไอ้เจแม่งแอบเอามือมาสะกิดตูดอีก อะไรหนักหนากับตูดกูเนี่ย

   โจทย์ข้อนี้อะไรวะ

   แม่งสมการอะไรเยอะแยะ

   ผมยืนมองกระดานอยู่หน้าห้อง
   
   ค่อยๆรวบรวมสติ

   เริ่มจาก...

   ผมทำไปได้ครึ่งนึง คำตอบก็ยังไม่ออก

   “ช้าไป กว่าจะทำเสร็จเที่ยงพอดี แทนที่จะเรียนดันหลับนะ”

   ผมยืนทำหน้าจิ้มลิ้มราวกับจะร้องไห้

   “เอางี้ ครูอนุญาติให้เรียกเพื่อนมาช่วยได้”

   “ใครจะออกมาช่วย นัยวิทย์มั่ง”

   ทั้งห้องเงียบกริบ นั่งมองกระดานนิ่ง สายตาที่ทอดมาเหมือนมองทะลุตัวผมไป เหมือนกับว่าผมเป็นแค่อากาศลอยอยู่หน้าห้อง

   แน่นอนครับ สุดท้ายไม่มีใครอาสาช่วย  ผมเองก็ไม่ได้คาดหวังอะไรจากไอ้พวกนั้นนักหรอก

   “โถ ใครจะช่วยมันเหรอ ไอ้ตุ๊ดเนี่ย”  ใครสักคนอ้วนๆ ขาวใส่แว่น นั่งหน้าห้องตะโกนขึ้นมา

   ไอ้อ้วนแว่น ไอ้ซอมบี้บวมฉึ่งที่กำลังระเบิดน่ะเหรอ นี่มันยังไม่เข็ดใช่มั้ย

   มันเกลียดไรผมกันหนักหนาวะ  ในห้องเรียนนี้ก็ไม่มีใครจะสนใจผมอยู่แล้ว พอจะมีคนพูดทั้งทีก็เป็นยังงี้เหรอ

   “นี่ ทำไมเธอเรียกเค้าว่าตุ๊ดละ เรียกเพื่อนยังงี้ได้ไง” ครูถาม

   “ก็มันเป็นกระเทยนี่ครับ” ไอ้อ้วนนั่นตอบ

   “จริงเหรอ เห็นหน้าตาน่ารักๆ ไม่คิดว่าจะเป็นกระเทยนะเนี่ย”

   “เธอรู้ได้ไง”

   “ครูอยากรู้มัย้ละครับ เดี๋ยวผมเล่าให้ฟัง”

   “เรื่องมันเริ่มจากงี้ครับ ไอ้กระเทยนี่....”

   นี่มันกะเล่นกันยังงี้เลยเหรอ รอดไปได้กูจะเอาให้ตาย

   มันกำลังจะเริ่มเล่า

   แม่งเอ้ย เอาไงดีวะ เล่นมันเลยดีมั้ย

   ผมหน้าแดง สมองชา คิดโจทย์บนกระดานก็ไม่ออก ยังต้องไปเจอไอ้บ้านี่อีก

   คิดหาทางห้ามมันยังไงดีเนี่ย

   ปาชอล์กใส่ ปาแปรงลบกระดาน เอาสมุดจดขว้าง เอา... กล่องดินสอคนแถมนี้ปาหัว หรือ เดินไปตบกบาลแม่งให้ทิ่มคาโต๊ะไปเลย

   “นี่ๆ เรื่องแบบนี้ไม่รู้จริงก็ไม่พูดก็ได้นะ”

   เสียงที่ทำให้ผมประหลาดใจ ซัน

   ตอนทำรายงานซันอยู่กลุ่มเดียวกับพวกต้องนี่ มันเองก็อยู่ในเหตุการณ์ ตบหัวเสียงดังนั่นด้วย

   “ครูครับ เสียเวลาครับ ตกลงเอาไง”

   ไอ้ต้อง.... มันตัดบทได้โหดมาก พูดงี้เดี๋ยวจะโดนครูทำโทษมั้ย

   “รู้แล้ว พูดจาให้สุภาพหน่อยนะ สุวัจชัย”

   “งั้นเดี๋ยวผมช่วยเอง” ไอ้เจเสนอตัว

   โอ้ ขอบคุณนะ ซัน ต้อง เจ

   เอะ ป๋า...​ป๋ามันลุกมานั่งมองตอนไหนวะ แล้วมันรอดตัวได้ไงวะ

   มันน่าจะยังหลับอยู่สิ มิน่าครูถึงเรียกผมคนเดียว ไอ้คนทิ้งเพื่อน

   มันกระดิกนิ้วให้

   แม่ง รู้ด้วย คิดไร

   “คำตอบของข้อนี้คือ X = 79” ไอ้ เจ นี่แหละครับ เพื่อนแท้ มันพูดออกมาด้วยเสียงอันดัง ไม่เกรงใจใคร
   
   ผมกำลังจะเขียนคำตอบลงไปบนกระดาน

   “เธอแน่ใจ ในตัวเพื่อน เธอใช่มั้ย” ครูถามผม

   เห็นสีหน้าครูกับไอ้อ้วนนั่นแล้ว

   ไม่แน่ใจครับ!!! ผมอยากตะโกน

   ถึงผมจะอยากไว้ใจมัน แต่ข้อนี้น่าจะยากอยู่

   ไอ้เจมันออกหน้าตาแต่ก็ดูมันมั่นใจไม่ถึงครึ่งเลยด้วย   

   “เอ่อ ครับ” ผมมองหน้ามันแล้วตอบ อย่างไม่มีทางเลือกหวังว่ามันจะฉลาดจริงๆนะ

   ผมหันไปเห็นหน้าไอ้อ้วนบ้านั่น มันยิ้มแสยะ

   แย่แล้วกู

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

จนกว่าจะ 7.4
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-10-2015 11:35:17 โดย Monet »

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
10 CM. ตอนที่ 7.0 พระเอก [pg2] 08/9/2015
«ตอบ #53 เมื่อ11-09-2015 17:21:03 »

10 CM : 7.4

        “ผิด!!! เอาละ อยากหลับในห้องเรียน จะทำโทษยังไงดี”

   ผมรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก อากาศก็เย็น เสียงฟ้าร้องก็ดูเป็นใจยิ่งนัก อยากให้มันตกๆๆๆๆ หนักจนไฟดับไปเลย

   ไอ้อ้วนเผือกนั่นยกมือคนแรกเลยครับ  พอมันยืนขึ้นแล้วลุกเดินออกมา   

   ถึงตอนนี้ผมหน้าซีดแล้วครับ ไอ้เจ มึงพลาดนี่มันตั้งใจเปล่าเนี่ย คงไม่หรอก ดูมันหน้าเหวอๆอยู่ ไอ้แมคป่านนี้เอาดวงวิญญาณเข้าร่างยังเนี่ย เห็นมองมาแต่ดูเหมือนไร้ชีวิตชอบกล

   สงสัยมันดูยังงงๆอยู่

    ผมเลยมองไปทางไอ้ต้อง หน้ามันไร้ความรู้สึกเหมือนเคย

   “ผมต้องการให้มันถอดกางเกงเดินหนึ่งวันในรร.”  ไอ้หมูเผือกนี่พูดขึ้นมา

   “เดี๋ยวผมจะถอดให้เองด้วย”

   มันเอื้อมมือมาจะแกะเข็มขัดนักเรียนออก

   เสียงหัวเราะดังครืนขึ้นมา

   ซอมบี้หัวเราะเป็น ???

   “หวังว่า มึงคงใส่กางเกงในมานะ อ้อ ไม่เป็นไรเดี๋ยวกูถอดหมดเลย ดูดิว่ามึงมีไอ้นั่นรึเปล่า”

   มันเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ

   อย่าให้ผมต้องเปลี่ยนโหมดตัวเองนะ

   “เกินไป นิพัฒน์ ที่นี่รร. อยากดูไปดูกันสองคน”

   เฮ้อ ยังดีที่ครูยังเบรคมันบ้าง  แต่ทำไมตอนมันจะเล่าเรืองบ้าบอไม่ยักกะเบรควะ

   “เสียดาย อยากรู้ว่ามันมีจู๋หรือจิ๋ม”

   เสียงหัวเราะในห้องดังขึ้นอีกรอบ

   “งั้นผมจะเอาชอล์คเขียนกางเกงมัน จนกว่าจะกลับบ้านห้ามลบออก”

   “เอาแค่พักเช้าก็พอ เอ้า นัยวิทย์หันหลัง” เวลามรณะมาถึงแล้วครับ เกงผมก็สั้นๆเล็กๆนะยังจะเขียนอีก

   ผมว่าผมได้ยินเสียงหัวเราะมันดังขึ้นเรื่อยๆ

   “แอ่นตูดให้กูด้วยดิมึง” ไอ้อ้วนลุกไปหยิบชอล์คมาแล้ว

   “เอ.. เขียนว่าไรดีนะ เชิญทะลวงดีมั้ย”

   มันทำมือลูบๆ

   “ขยำไปเขียนไปคงชอบสินะมึง”

   หัวเราะกันเข้าไป ครูก็ด้วย

   “เอ่อ ครูครับ ผมบอกผิดเอง แล้วเก้ามันไม่ค่อยสบายด้วยวันนี้ มันเลยนอนลงไปน่ะครับ ถ้านิพัฒน์อยากเขียนมาก ผมจะให้มันเขียนตูดผมเอง หรือจะให้ผมถอดกางเกงเรียนก็ได้นะ” สิ้นเสียงเจ

   มันลุกขึ้นแล้วทำท่าจะถอดกางเกง  คนในห้องทำเสียง หือหา กันใหญ่

   เฮ้ย เป็นใครก็คงงงกันทั้งนั้น ผมยังอึ้งเลย มันกล้าจริงเหรอเนี่ย

   ตอนนี้กางเกงน้ำเงินร่วงลงไปกองกับพื้นแล้ว

   “หยุด!!! เดี๋ยวก็ให้ถอดหมดเลยนี่”

   ชายเสื้อยาวๆเท่านั้นที่ยังปิดบังกกนของมันอยู่ ส่วนขาขาวๆเท่านั้นที่พ้นออกมาจากช้ายเสื้อ นอกนั้นโดนปิดหมด ไม่งั้นมันได้โชเป้า กับกกนให้คนทั้งห้องได้ดูแน่ๆ

   ดีว่าครูห้ามไว้ก่อนเดิน  ไอ้เจดึงกางเกงขึ้นมา แล้วเดินออกมาหน้าห้อง แล้วขยิบตาให้ผม

   “ตกลงไม่ต้องถอดนะครับ” เจยิ้มๆ มาทางผม

   นิพัฒน์เลยเอาชอล์คมาแล้วบรรจงวาดรูปหัวใจ ลงที่ก้น เจ ส่วนเจยืนกอดอกแอ่นตูดให้ (ตูดมันใหญ่กว่าผมแน่ๆ) คนอื่นมันแอบขำกัน

   แต่ผมขำไม่ออกละครับ

   “ตามสบายเลยมึง ตูดกูใหญ่กว่า ละเลงได้เลย”

   “ไม่ถนัดบอกนะ เดี๋ยวกูแอ่นให้อีก อยากขยำก็ได้”

   ทั้งห้องยิ่งขำกันใหญ่

   ตรงกลางหัวใจเขียนว่า ผมรักตุ๊ดครับ อารมณ์ผมตอนนี้คงเหมือนนางเอกที่โดนพระเอกในหนังช่วยเอาไว้ยังไงยังงั้น ทำไมไม่รู้หน้าตาตี๋ๆของมัน ดูหล่อขึ้นเตะตาขึ้นมาทีเดียว

   แล้วมันเริ่มบรรจงวาดลงไปยังร่องก้น ให้เห็นเป็นแนวไล่ไปเรื่อยๆเข้าไปใต้หว่างขา แล้ววงกลมเป็นรูป มันตั้งใจทำเป็นรูปขนาดเท่าไข่ไอ้เจสินะ

   สุดท้าย สงสัยครูจะทนความสมเพชไม่ไหว เลยให้หยุดแค่นั้นแล้วให้กลับไปนั่งที่ กว่าจะหมดเหตุการณ์อุบาทว์นี้ก็หมดชั่วโมงเรียนพอดี

   พอหมดคาบก็เป็นเวลาพัก อีกสี่ยิบนาทีถึงจะลบได้

   บางคนก็เดินเข้ามาแสดงความยินดีกับไอ้เจ

   ทำราวกับว่าผมแต่งงานกับไอ้เจแล้วไปได้

   ส่วนซันก็เดินมาก้มๆเงยๆดู

   แล้วก็หัวเราะใส่ไอ้เจ เออ เอาเข้าไป

   ผมนี่สิ ทำตัวทำหน้าไม่ถูกเลย

   ช่วงเวลาพัก เจ เลยไม่เดินไปไหนเลยครับ ส่วนไอ้คนเขียนก็เหมือนจะรู้ตัว ไม่ค่อยเข้ามาใกล้บริเวณพวกผมเท่าไร
   
   “ทำเป็นเท่นะมึง กับ ผู้หญิงมึงทำยังงี้ป่าววะ” ไอ้ต้องถาม

   “กูทำให้กับคนพิเศษเท่านั้นเว้ย” เจ ตอบ

   “เออ ขอบใจนะ” ผมสะกิดแขนมัน

   “แสดงว่ามึงยอมรับแล้วสิว่า มึงเป็นคนพิเศษของกู”

   “ไม่ใช่เว้ย ไอ้บ้านี่” ได้ทีเอาใหญ่ละนะ

   “ก็มึงเล่นหลับไม่เนียนนี่นา แทนที่จะนั่งก้มหน้าแบบป๋า...เหมือนคนอ่านหนังสือ แต่ดันหันมาทาง กู (ลากเสียงยาวๆ) นี่ ....แล้วหลับไปทั้งยังงั้นเลย ..หน้าเน่อก็ไม่หลบ  หนังสือก็ไม่เอามาบัง..... ทำหนัาฝันดีอีกต่างหาก เห็นอะไรก่อนนอนไปละ” ไอ้ต้องพูดออกมา

   ผมไม่รู้จริงๆว่า มันจะพูดออกมาทำไม ปกติมันพูดสั้นๆ ทำไมตอนนี้มันพูดมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆกว่าหนึ่งประโยคขึ้นมาละเนี่ย แถมไม่ต่อเนื่องด้วย

   แม่ง พวกนี้มันได้ยินหมด มันจะเอาไปคิดอะไรกันต่อละเนี่ย

   หมดกัน เละแน่เลยกู

   “พูดถึงคนพิเศษ เดี๋ยวกูมานะ” ต้องพูดจบแล้วลุกออกไป

   อะไรวะ

   คนพิเศษ??

   “ฮิ้ว!!! เบาๆนะมึง” เจแซว

   ผู้หญิงเหรอ ผู้หญิงเข้ามารร.ชายล้วนได้เหรอ

   ถ้าไม่ติดว่าต้องอยู่เฝ้าไอ้เจ อยากจะออกไปดูเหมือนกันว่าใคร

   “มึง กูนั่งอยู่ด้วยนะ กินน้ำ ขนมไรป่าวเดี่ยวลงไปซื้อมาให้”

   มันคงไม่สามารถออกเดินไปไหนมาไหนได้แน่ๆ

   “ดีนะที่กูไม่โดน ทำไมครูมองข้ามกูไปได้วะ ทั้งๆที่กูหลับก่อนตั้งแต่คาบแรกด้วย” ไอ้แมคท่าทางร่างเริงเป็นปกติ วิญญาณกลับมาแล้วมั้ง

   เสียงมันดึงให้ผมกลับมา

   ผมหันไปมองตามหลังต้องที่ค่อยๆหายไปทางประตูหน้า

   ‘คนพิเศษยังงั้นเหรอ’ หมายถึงใครกันนะ

   จะออกไปโทรหาคนที่พวกมันคุยกันเมื่อเช้าหรือเปล่านะ

   ผมสะดุ้งน้อยๆ เมื่อเริ่มรุ้ตัวมาเจนั่งจ้องหน้าผมอยู่

   เมื่อกี้มันจะสังเกตมั้ยเนี่ย

   “เดี๋ยวกูช่วยลบออกละกัน” ผมพูดพลางเอื้อมมือไปปัดกางเกง

   ผมรู้สึกขอบคุณมันจริงๆนะ

   “เฮ้ย ไม่ต้องไม่เป็นไร เดี๋ยวกูปัดออกเอง มึงจะลูบตูดกูเหรอ รู้งี้นะให้ไอ้ห่านั่นเขียนที่เป้าดีกว่า” ไอ้เจ ยิ้มเชิญชวน

   ผมไม่ขำ

   “ขอบใจนะ เจ”

   แต่ ..... ผมชูนิ้วกลางให้มัน ตอบแทนเรื่องเขียนที่เป้า

   ผมหันไปมองนาฬิกาบนผนัง เวลาพักใกล้หมดลงแล้ว ลบไปก่อนตอนนี้ก็คงไม่เป็นไร แล้วเรื่องอัปยศนี้ก็คงจบลงเพียงเท่านี้

   “คิดมาก กูเพื่อนมึงนะ”

   แต่เรื่องที่ไอ้อ้วนนี่มันจะเล่านี่สิ ...... ทุกคนคงสงสัยกันแล้ว
   
   หมดกันชีวิตผม ...

   ทุกคนคงอยากรู้แล้วเข้าไปถามไอ้ห่านั่น แล้วผมจะทำหน้ายังไงกับพวกมันละเนี่ย ต้องเรียนร่วมกันไปอีก 2 ปีด้วย สงสัยผมจะได้ชื่อใหม่ซะละมั้ง

   ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่กำมือแน่น เก็บความรู้สึกอับอายนั้นเอาไว้

   เสียงออดดังขึ้น ตัดวงจรความคิดของผมลง เหมือนเสียงชีพจรคนไข้หยุดลง

   ไอ้ต้องเดินเข้าห้องมา ท่าทางอารมณ์ดีแล้ว

   “ไปไหนมาวะ”

   “…..”

   ไม่มีคำตอบ

   ไอ้ต้องขยี้หัวผมให้ลงไปนั่งที่ ผมเองก็มองไม่เห็นว่ามันจะทำหน้าอย่างไร พอเงยหน้าไปก็เจอคางมัน
(เล่นเดินมาซะใกล้เลย) หน้าอกมันอยู่เหนือหน้าผมพอดี กลิ่นอ่อนของเสื้อมันลอยมาเตะจมูกผมอย่างจัง บ้านมันใช้อะไรซักผ้าวะ

   ตัวมันอยู่ใกล้มาก

   “นั่งเหอะ เดี๋ยวก็โดนอีกหรอก”

   ผมนั่งลงอย่างว่าง่าย

   ดีว่าหลังจากคาบนั้นแล้ว ถึงจะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก ยังไมีมีใครพูดถึงผม

   ผมหลับไม่ลงแล้วละครับ เรื่องเมื่อคาบเช้าเล่นเอาตาสว่างเลย ฝนตอนนี้ก็ดูเหมือนจะซาลงแล้ว แสงแดดอ่อนๆเริ่มทอลอดออกจากก้อนเมฆมาบ้างแล้ว

   ในห้องที่นั่งหายไปที่หนึ่ง ไอ้อ้วนแว่น มันหายไปไหน สงสัยคงสะใจมากแล้วสิ เพลินเลยไม่กลับขึ้นมาเรียน

   ขอให้มันไปพักเบรคแล้วกินอะไรผิดสำแดง นอนกองขี้แตกอยู่ในห้องน้ำแล้วกันนะ หรือจะหกล้มหัวฟาดบันได โดนคนต่อยปากแตกอะไรก็ได้
   
   อะไรก็ได้ที่ไม่ต้องเห็นหน้ามันอีกตลอดบ่ายนี้

   คาบที่เหลือ ไอ้เจนั่งเขย่าขาผมอย่างอารมณ์ดี ถึงเขย่าบ่อยๆแล้วผมว่ามันแปลกๆก็เหอะ แต่เอาวะ
ไหนๆมันก็เป็นฮีโร่ช่วยผมแล้ว ยอมๆมันซักวันแล้วกัน

   เป็นอันว่าบ่ายนั้นผมไม่ต้องหลับเลย ขาก็โดนเขย่า เรียนก็อารมณ์ดี....

   วันนี้มันเอาขาผมไปใกล้กว่าเดิมด้วย

   หึหึ

   อีกนิดจะโดนเป้าละนะมึง

   ผมกำลังจะหันหน้าไปมองมัน

   “มึงติดกูหนนึงนะเก้า”

   มันชิงพูดก่อน

   “อะ .... อือ”

   “งั้นกูขออะไรต้องได้นะ”

   “อะ... อือ”

   ทำไมไม่รู้ ... ส่วนที่มันค้างจากเมื่อเข้ามันตื่นขึ้นมาอีกแล้ว... เหมือนจะรู้ว่าเจจะเอาอะไร

   บ้าไม่ใช่หรอก มันเป็นผู้ชาย
   
   คิดมาก บ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

   มันคงให้ผมเป็นเบ๊ยกน้ำยกข้าวให้มันมากกว่า

   แย่ละ

   ของผมยังขึ้นไม่หยุดเลย

   ต้องเอามือมาบังๆไว้แล้ว

   แม่ง

   ไอ้เจเป็นผู้ชายนะมึง

   เพื่อนมึงนะเก้า
 :bye2:


----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จบตอน 7
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-10-2015 11:35:35 โดย Monet »

ออฟไลน์ diction

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :a5:
เห้ย! เก้าฮะ ต้องหายไปไหนแล้ว!! อย่าไปโลเลกะเจสิ #ทีมต้อง

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
10 CM. ตอนที่ 8.0 บนรถแท๊กซี่ 14/9/2015
«ตอบ #55 เมื่อ14-09-2015 21:55:46 »

  10 CM ตอน 8.1 บนรถแท๊กซ๊่     
     
        ช่วงเย็นพวกผมกำลังลงไปรอในห้องวิทย์ เพื่อทำฉากกันต่อ (ที่บอกทำต่อน่ะ จริงๆยังไม่ได้เริ่มเลย) ในห้องตอนนี้มีกันอยู่ 2 คน ผม กับ ป๋าแมค ส่วนไอ้เจ เห็นป๋าบอกว่า ไอ้เจ มันขอตัวไปเตะบอลกับเพื่อนๆห้องอื่นก่อน ไม่รู้ว่ามันไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน เรียนมาทั้งวันไม่เหนื่อยเหรอไง

   ต้องหายไปไหนไม่มี ตั้งแต่มันลูบหัวให้ลงไปนั่ง บ่ายวันนี้มันก็ไม่พูดอะไรกับผมเลย พอตกเย็นมันก็หายไปอีก

    ว่าไป ไอ้เจนี่เพื่อนเยอะจริงๆ มันมีเพื่อน หรือไม่ก็คนรุ้จักเกือบทุกห้อง เดินไปไหนก็มีคนทักมันตลอดคิดๆดูแล้วเหมือน พี เลย

   จู่ๆทำไมชื่อนี้ มันถึงกลับมาในหัวผมอีกได้นะ

   “แมค ต้องไปไหนวะ”  ผมถามขึ้น

   “ไม่รู้วะ มันไม่ได้บอก” แมคส่ายหัว

   ระหว่างที่พวกเรารอสองตัวนั้น ผมหันไปดูมัน

   ศิลปินแมคก็กำลังนั่งเล่นกีตาร์ตามเพลงอยู่ ไอ้นี่ก็มหัศจรรย์เหมือนกัน มันเอาทั้งลำโพง ทั้งกีตาร์มารร.ยังไงวะ มันไปแบกมาตอนไหน มารู้ตัวเอาอีกทีมันก็นั่งเล่นให้ดูแล้ว

   ลำโพงที่อยู่ตั้งอยู่มุมห้องเสียบปลั๊กกับกำแพงนั้น วันนี้กำเล่นเพลง Wonderwall ของ Oasis วงที่มันชอบ มิน่ามันนั่งเล่นตามใหญ่เลย

   นาฬิกาบอกเวลา

   “นี่เลยเวลาเลิกเรียนมาจะชั่วโมงนึงแล้ว มันจะได้ทำมั้ยเนี่ย” แมคบ่นลอยๆขึ้นมา

   ไม่รู้จะตอบมันยัง เพราะผมก็ไม่รู้เหมือนกัน

   วันนี้อากาศดี  ไม่ค่อยมีแดดไม่สิ ออกจะครึ้มๆด้วยซ้ำ นอกจากเสียงพัดลมบนหัวแล้วก็เหลือเสียงเพลงกับเสียงกีตาร์ที่เป็นเพื่อนผม ผมจึงนั่งลงกับพื้น ทอดน่องออกไปทางหน้าต่าง กำลังจะเอากระเป๋ามาหนุนหัว

   นอนรอพวกมันก็ได้วะ

   ปัง เสียงประตูห้องเปิดออก

   ผมสะดุ้งโหยง
   
   คิดว่าครูมา

   กลายเป็นไอ้เจที่มาพร้อมกับอาการเหนื่อยหอบ

   สภาพไอ้เจ นี่ผมเห็นแล้วละอดคิดไม่ได้ มันไปเล่นบอลหรือไปตีกับห้องอื่นมากันแน่ เสื้อนักเรียนสีขาวเปียกปอนจากเหงื่อ แปะติดหลังเห็นแผ่นหลังขาวๆเป็นหย่อมๆ รอยดำเลอะๆ บางทีก็เป็นดวงๆ รูปลูกบอล เสื้อหลุดลุ่ย เจ เข้ามาถึงก็เดินไปที่กระเป๋านักเรียน หยิบโทรศัพท์ออกมาดู

   กดๆอยู่สองสามที แล้วเดินไปตากลมเย็นที่หน้าต่าง

   “เจ ต้องละ”

   “ไม่รู้ ไม่เห็น”

   มันตอบเหนื่อยหอบ เอาตัวเปียกๆมันยื่นออกไปนอกหน้าต่าง

   หายไปไหนวะ

   สักพักเสียงประตูเปิดดัง ปัง อีกรอบ

   พวกมันไม่กลัวประตูพังกันรึไงเนี่ย

   ไอ้ต้องตามเข้าห้องมา ท่าทางเหนื่อยหอบไม่แพ้กัน มันไปเตะบอลมาด้วยกันเหรอ

   ตรงข้ามกับไอ้เจ
   
   มันเดินไปยังกองโต๊ะเหล็กที่มุมห้อง มันแกะกระดุมแล้วถอดเสื้อนักเรียนออก ค่อยชยับเสื้อให้ได้ทรงแล้วตากเสื้อนักเรียนสีขาวเปียกๆไว้กับโต๊ะตัวหนึ่ง

   ผมยังกึ่งนั่งกึงนอนอยู่ที่เดิม  แอบมองแผ่นหลังยาวๆขาวๆของมัน ผมที่ผมเห็นตรงหน้า เล่นเอาหัวสมองของผมว่างเปล่าตามไปด้วย นอกจากหลังของต้องแล้ว ที่เหลือกลายเป็นฝ้าขาวๆไปหมด

   ผมกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

   ภาพตรงหน้ามันดึงสายตาผมให้มองยิ่งนัก

   “นี่ ไปเล่นบอลกับไอ้เจมาทำไมเปียกได้ขนาดนี้วะ”  ผมตัดสินใจเดินเข้าไปพูดกับมันจากด้านหลัง   

   นิ่ง ไม่มีคำตอบ

   มีแต่เหงื่อที่ยังไหลไปตามแผ่นหลัง ซึมหายไปในกางเกงนักเรียนสีน้ำเงิน

   สายตาผมไล่ตามเหงื่อเม็ดเป้งนั้นลงไป

   ผมจึงเปลี่ยนใจจะเดินไปหา เจ

   ไอ้ต้องก็หันขวับมา

   แผงอกขาวๆ มีรอยแดงเล็กน้อย แต่เต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดเป้ง สลับกับหยดน้ำเล็กๆ เกาะอยู่เต็ม  บางหยดกำลังรวมตัวกัน แล้วไหลลงไปเบื้องล่าง จากร่องอกลงสู่ ...หน้าท้อง สะดือ และ ถัดลงไปจากสะดือมีแผงขนประปราย ไหลเรื่อยไปจนถึงขอบกางเกงในสีขาวที่โผล่พ้นกางเกงนักเรียนสีน้ำเงินขึ้นมา

   แล้วก็ซึมหายไป

   หายไป พร้อมๆกับสติของผม

   ไม่รู้ว่าผมยืนจ้องอยู่นานแค่ไหน แน่นอนว่าในห้องที่ยังมีเสียงพัดลมเพดาน สลับกับเสียงกีตาร์ของแมคดังอยู่

   ตอนนี้ผมไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย

   “ไปวิ่งรอบสนามมา ครูทำโทษกูน่ะ”

   “แล้วมึงไปทำไรมา” ผมถาม สายตายังจับต้องไปที่ขอบกางเกงของมัน

   มันส่ายหัว

   “ไล่ไอ้อ้วนแว่นกลับบ้านน่ะ”

   ไล่??? มันหายหัวไปตั้งแต่บ่ายนี่นา

   “มังก็เล่นมันหนักมือไป ปากมันแตกเลย มันคงไปฟ้องครูแหละ” แมคยังดีดกีตาร์ต่อ ส่งแค่เสียงแทรกขึ้นมา

   “มึงทำมันขนาดนั้นเลยเหรอ” ผมถาม

   ต้องไม่ตอบ ได้แต่ยักคิ้ว

   ผมเงยหน้ามองมันแต่ก็เห็นคางและก็ลูกกระเดือกทิ่มตาก่อน หยาดเหงื่อจากบนหน้ากำลังไหลลงมาตามข้างแก้ม

   มันเหลือบตามองลงมา

   “หุ่นกูดีใช่ม้า” ต้องพูดขึ้นมา

   นั่นไม่ใช่คำตอบ ของคำถามผม

   “อือ กำลังดีเลย” ผมก้มหน้าตอบ

   เฮ้ยยยยยยยยยยยย!!!!! กูพูดอารายออกกกกกไปปปปป

   กูไม่ควรไปตอบมันอย่างนั้น

   มันต้องตอบคำถามผม ไม่ใช่ผมไปตอบมันสิ!!!!

   มันเดินเข้ามาใกล้ขึ้นๆ จนตัวจะติดผมอยู่แล้ว

   หุ่นมันจะผอมสูง แต่มันก็มีกล้ามอกนิดๆ (ไม่เท่ากับนักบาสรร.หรอกครับ) แขนมันยาวเก้งก้างแต่ก็มีมัดกล้ามแข็งแรง  หน้าอกไม่มีขนสักเส้น ยกเว้นที่ใต้สะดือ แล้วก็ที่ใต้วงแขน

   นึกถึงตอนที่ ต้อง บอกว่าจะอุ้มผม หน้าผมคงจะชิดกับหน้าอกมัน อกเนียนๆของมัน

   พอคิดแล้ว ผมได้แต่ก้มหน้ามองพื้น พยายามหลบหน้า เพราะหน้าขาวๆ คงจะค่อยๆเปลี่ยนจาก ชมพูด กลายเป็นสีแดงไปหมดแล้ว ผมรู้สึกร้อนไปถึงหู ถ้าหูยังขนาดนี้หน้าก็คงไม่เหลือ ใจผมเต้นรัว ราวกับจะพังอกผมออกมาให้ได้

   ในร่างกายผมมีบางอย่างแปลกๆ

   แย่ละ ส่วนล่างผมเริ่มมีอาการแล้วสิ

   ไอ้บ้าต้องปลุกมันให้ตื่นขึ้นมาแล้ว
   .
   .
   .
   ไม่เข้าใจว่าทำใมมันเป็นอย่างนี้
   นับตั้งแต่ได้พบเธอ ก็เป็นอะไรไม่รู้

   มองอะไรก็สวยไปหมด โลกนี้ดูช่างสดใส
   ก็เพิ่งเข้าใจเมื่อได้รู้ตัวว่าเธอมายืนอยู่ในใจฉัน

   ตกอยู่ในภวังค์แห่งความรัก
   ตกอยู่ในชั่วโมงแห่งความรัก
   เธอทำให้ฉันต้องมาเปลี่ยนไป ตั้งแต่วันที่ได้พบเจอ
   เธอก็เปลี่ยนคืนวันที่เงียบเหงา
   ให้กลับกลายเป็นวันที่สดใส
   เธอทำให้คนที่ไม่เคยรักใคร
   ต้องเคลิบเคลิ้มล่องลอยไปกับ การรักเธอ
   .
   .
   .
   แต้งงงงงงง เสียงแมคดีดกีตาร์ทีเดียวหกเส้น

   “จะทำงานได้รึยังวะ หรือจะยืนจ้องหน้ากัน” เสียงหงุดหงิดของเจดังมา

   ผมตื่นจากภวังค์

   ท่าทางไอ้เจไม่พอใจ
   
   ผมเดาว่าเพลงนี้คงเป็นเพลงสุดท้ายในรายการเพลงในเครื่องเล่นของไอ้แมคพอดี เมื่อเพลงมันจบลง ไอ้แมคเลยไปกดๆที่เครื่องเล่น ทำอะไรสักอย่าง แล้วหันมาทางพวกผม

   “ทำกันเหอะ เดี๋ยวไม่เสร็จ” แมคเองก็เริ่มเดินไปที่กองอุปกรณ์

   “เฮ้ยๆ ลงสีได้แล้ว ได้เวลาแล้ว เดี๋ยวจะมืดก่อนนะ” แมควางกีต้าร์ ตะโกนเสียงดัง แล้วรีบเดินไปทางมุมกระป๋องสีทั้งหลาย

   ไอ้ต้องเดินผ่านไหล่ผมไป ตัวเฉียดกันมากๆ ไม่สิ ถ้าจะชนกันเลยก็ไม่แปลก มันใกล้มาก ใกล้จนกลิ่นตัวต้องมาแตะจมูกผม มันยังไม่ใส่เสื้อ

   “เก้า มาสิ” ต้องเรียก

   “เก้า มึงทาสีตรงนี้นะ ดูสีดีๆก่อน แล้วลองๆทารอบๆดูกันพลาด”

   “เก้า~!!!!”

   “หะ อะ อะไรนะ”

   “ขอ-โทษ” ผมยังตั้งสติไม่ได้
   
   “ดะ เดี๋ยวๆ นะจะ เอ จะให้ เรา เอ้ย  กูช่วยทำ ตรงไหน เอ้ย ทาสีตรงไหน”  ผมเป็นบ้าไปแล้วครับ ปากสั่นเรียบเรียงคำพูดไม่ออก

   “ใจเย็นมึง กูไม่ได้ตะคอกไรมึงเลย ไอ้ห่านี่ ตกใจไรนักหนา ทำตัวยังกับเมายาแก้แพ้” แมคสวดแล้ว

   ผมคงต้องกินยาแก้แพ้แล้วละครับ

   อาการแพ้อากาศของผมยังไม่กำเริบ แต่อาการแพ้อย่างอื่นกำลังถามหา

   ท่าทางไม่เอาไหนของผมระหว่างในห้องเรียนกับตอนนี้ ตอนไหนมันน่าสมเพชกว่ากันนะ ไปถามพวกมัน มันต้องรุมว่าผมแน่

   ไอ้เจมองหน้าผมกับหน้าไอ้ต้องสลับไปมา แย่ละ พวกมันจะรู้ถึงความผิดปกตินี้มั้ย หน้าตามันดูบูดบึ้งพิกล

   ไอ้ต้องหันมามองหน้าผมยิ้มๆแล้วหันกลับไปยักคิ้วไอ้เจ ก่อนจะลงมึงจัดกระดานให้เข้าที่

   “แฟนงอนเหรอ” ต้องถาม

   “งอน เหี้ยไร เดี๋ยวเหอะมึง” อ้าว ไหงมันพูดงี้อะ

   “ใครแฟนมึง” ผมหันไปทางเจ

   “มึงไง เป็นเมียก็ได้อะ”

   “ไม่ใช่ละ ไอ้ห่า” ผมถีบมันออกไป

   “ถ้าไม่ใช่ก็ดีแล้ว มึงจะโมโหทำไมเก้า” ต้องเดินเข้ามาใกล้ เอามือท้าวกำแพงข้างหลังผมไว้ กดดันเข้ามาเรื่อยๆ

   “เอ่อ ... ก็ ก็มัน .. ไม่ใช่”

   “ไอ้เก้า มึงกล้าเหรอ” เจ วิ่งเข้ามา

   “พอ!!!!!!!!!! ไม่พอกูจะเอากีต้าร์ฟาดหัวมึงทั้งคู่เลย” อันนี้ป๋าโกรธจริงแฮะ ฟังรู้เลย

   “ฟังนะ กูไม่พูดหลายรอบ ฝนก็จะตก” แมคพูดต่อ

   “เดี๋ยวกูร่างรูปต้นไม้คร่าวๆ มีสองแผ่น แบ่งเป็นสองฉาก ฉากนึงจะเป็นตอนหน้าแล้ง อีกฉากจะเป็นหลังจากฝนตกแล้ว ฟังจากฝ่ายแสง สี แล้วฉากที่ฝนตกครั้งแรก จะโปรยกระดาษเงินลงมาจากข้างหลังด้านบนที่เตรียมไว้ ดังนั้นเวลายกเปลี่ยนฉากต้องระวังมากๆ ดุท่าทางแล้วเราสี่คนจะต้องยกกันเอง ฉากละสองคน พอคนหน้าใช้เสร็จ คู่ที่หลบอยู่หลังจากก็ จะเอามายกจากข้างๆ แล้วหลบให้คู่ข้างหลังยกขึ้นมา”

   “ไอ้เชี่ย มึงจะสรุปงานให้จบเลยใช่มั้ยวะ วันจริงแมร่งค่อยบอกกูอีกทีก็ได้ สัด เชี่ย กูยิ่งเซ็งๆอยู่” ไอ้เจโวยวาย สวนสัตว์ออกมาเต้นระบำแล้ว
   
   “อ้าวใครไป ทำ อะ ไร มึง เหรอ คะ รับ” งานนี้ไอ้ต้องจัดเต็มเลยครับ มันทำหน้ากวนตีนสุดที่มันจะทำได้แล้ว (หรือทำได้อีกไม่รุ้)

   พลัก  พลัก

   อุ้ยยยยย ดังสนั่น ป๋าลุกมาตบหัวมันสองคนเล่นเอาตัวโยกเลย

   ผมลุกแกล้งเดินไปเปิดกระป๋องสีน้ำตาลกับฟ้า แล้วยกมาวางให้พวกมัน แอบหลบๆไปดีกว่ากู

   “ไอ้ต้อง ทาสีท้องฟ้าไป ส่วนไอ้เจ มึงทาสีดินแห้งๆสีน้ำตาลนี้นะ” ไอ้แมคชี้นิ้วสั่ง

   ผมยื่นกระป๋องไปที่หน้าพวกมัน

   “งั้นเดี๋ยวกูจะทาสีต้นไม้เอง มันใช้อีกเบอร์นึง” พูดจบผมก็ลุกไปเปิดอีกกระป๋องมา

   “เอาแปรงล้างน้ำเปล่าแล้วทาได้เลย สีอะคริลิคก็คิดๆซะว่าสีน้ำนั่นแหละ” แมคพูด

   “สีน้ำ น้ำใสหรือข้นละ กูก็....”

   แมคส่งสายตาอำมหิตมา   

   เจ เหมือนจะรู้ตัว เลิกบ่นกลางประโยคเลย

   พวกมันสองตัวนั่งยองๆลง ค่อยๆบรรจงทาไปเรื่อยๆ แยกกันคนละมุม

   ผมกับแมคเหลือบไปมองที่สองคนนี้ทำ ..... สุดยอดมากครับ หาคำบรรยายไม่ได้เลย ไม่รู้มันจะวาดรูปทาสีหรือจะเขียนภาษาอียิปต์โบราณ หรือ จะเอาภาษากรีกดี คือ มันเละมากเลยครับ

   สีน้ำตาลที่ไอ้เจ ทา ดูสนุกสนานซุกซน แต่ไม่มีความเท่ากันเลย ไม่หนาไปก็บางไป ตรงไหนที่มันอยากเน้นก็จะทาหนามาก สีเลยเข้มกว่าที่อื่น ตรงไหนที่มันไม่กล้าทา ก็จะสีจางๆ ทางแปรงก็ไม่ได้ไปทางเดียวกันเลย บางทีก็เป็นวงกลม คือ มันไม่ใช่สมุดวาดรูปเล่นนะ

   พอมองไปที่ไอ้ต้อง สีฟ้าทาเท่ากันหมดก็จริง แต่ทิศทางแปรงมันก็ไม่สม่ำเสมอ เห็นได้ชัดว่ามันพยายามอย่างมากที่จะให้ออกมาดี เลยกลายเป็นฟ้าที่เท่ากันหมด สีเดียวกัน ไร้อารมณ์ไปซะยังงั้น แถมคนทายังทำหน้าคิ้วขมวด ทำยังกับทำโจทย์วิชาฟิสิกส์ที่มีคะแนนเต็มสิบยังงั้น

   ของไอ้แมคคงไม่ต้องวิจารณ์แต่อย่างใด เด็กสถาปัตฯมีพี่เรียนนิเทศอย่างมัน ไม่มีอะไรน่ากังวลอยู่แล้วครับ จะกังวลอย่างเดียว คือ มันฟังเพลงไปทำไป ดูไม่สนใจใคร แล้วก็ทาได้ช้าเหลือหลาย

   “หึหึหึหึ” ผมหลุดหัวเราะออกมา

   “พอๆ ไปๆ ทำยังงี้ไอ้แมคด่าตายห่า ขายหน้าเค้าหมด” ผมไล่พวกมันไป

   ดีใจแฮะ ที่ผมก็มีส่วนที่ดีกว่าพวกมัน ผมเลยไล่พวกมันไป นั่งยองๆแล้วก็ลงมือจัดการเองเริ่มจากสีน้ำตาลก่อน โดยมีมันสองตัวนั่งดูผมทำอยู่ใกล้ๆ  คอยเป็นลูกมือส่งสีให้
   
   ตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดลงอีกหน่อย ห้องวิทย์สีส้สเริ่มกลายเป็นสีฟ้าม่วงๆแล้ว สงสัยต้องรีบมือ

   เพลงที่ป๋าเปิดเริ่มเล่นวน มันผ่านมานานแค่ไหนแล้วเนี่ย ผมเองก็ชักเหนื่อยแล้วสิ

   วันนี้ผ่านอะไรมาเยอะเหลือเกิน

   แล้วรู้สึกอากาศเย็นๆแล้วแฮะ

   ฝีแปรงบนกระดานเริ่มไม่เสมอ มือผมเริ่มอ่อนแรงลง สงสัยจะล้าแล้วจริงๆ หันไปทางป๋ามันเองก็เริ่มช้าลง สงสัยคงจะต้องพอแค่นี้ ทำต่อไปก็คงจะมีแต่เละ

   จู่ๆ ไอ้เจมันก็ไปนั่งท้าวคางอยู่ข้างหน้าผม ดูผมทาสีไปเรื่อยๆ เพียงไม่นานไอ้ต้องก็ลุกขึ้น แล้วเอาขามาเขี่ยๆ ที่ตูดผม

   ผมเอามือปัดออก

   ยังไม่หยุด!!!

   มันยังเอาปลายเท้ามาเขี่ยอีก

   “ไอ้เชี่ยนี่ เป็นเหี้ยไรวะ เขี่ยกูอยู่ได้” ผมหงุดหงิดจริงๆ

   ไอ้ต้องไม่รู้ไม่ชี้ ยังเอาขามาเขี่ยตูดผมต่อ

   เขี่ยระวังหน่อยสิวะ จะโดนไข่กูแล้ว!!!!

   “มึงจะหยุดไม่หยุด” ผมโวยจริงแล้ว พูดจบผมก็ลุกขึ้นมา

   ไอ้ต้องกับไอ้เจหัวเราะ มันหัวเราะอะไรกันวะ

   “อะไรของพวกมึงนักหนาเนี่ย”

   “มึงไปถอยเกงรุ่นนี้มาจากไหนวะ ของเหลือจากน้องชายเหรอ” ไอ้ต้องถามผม

   “เค้ามีแต่ของเหลือจากพี่ชาย” ไอ้เจพูดต่อ

   “แล้วมันมีอะไรวะ” ผมสงสัย

   ไอ้เจหัวเราะ

   “อย่าบอกสิวะต้อง” ไอ้เจพยายามจะลุกไปปิดปาก

   “นั่งซะไข่ลอดให้ไอ้เจ มองจ้องอยู่นานสองนาน” พูดจบมันหัวเราะร่า

   ผมหน้าแดง มันเห็นแค่ไหนเนี่ย

   “วันนี้กางเกงในสีฟ้าหรือจ๊ะเก้า” เจ ทำท่าจะชะโงกลงไปดูอีก

   ผมเอามือปิด

   “แล้วทีไอ้ต้องนั่งไม่ใส่เสื้อกางเกงมันหลวมไปครึ่งตูด เห็นก้นมันหมดแล้ว”

   ไอ้ต้องทำหน้างง

   เฮ้ย ชิบหายแล้วก็จะไปบอกมันทำไมเนี่ยยยยย

   ไอ้เจท่าทางมีความสุข

   “มึงเห็นขนาดนั้นเลยเหรอ” แมคเงยหน้ามามองหน้าผม

   ใช้เวลาสักพักกว่าจะเค้นคำออกมาได้

   “ป่าวๆ กูไม่ตั้งใจดูนะ คือ... มัน ไอ้ต้องมันถอดเสื้อออกเอง” แย่ละ ชิ่งดีกว่า

   “….. ….​ …. อ้าว ไอ้เหี้ยสองตัวนี่ แล้วมึงจะมานั่งมองไข่กูทำไมวะ” ผมพยายามสรรหาคำด่าอยู่ แต่หายังไงก็หาไม่เจอ
   
   “เดี๋ยวเหอะมึง”

   พวกมันก็ยังไม่สนใจ นั่งหัวเราะกันอยู่ หน้าผมร้อนไปถึงหูแล้ว
   
   ผมเอื้อมมือไปพยายามตบกบาลไอ้ต้อง .... แต่ไม่ถึงครับ มันเขย่งหนี เลยยังขาดอีกเยอะอยู่ ทีนี้พวกมันเลยยิ่งหัวเราะกันใหญ่ 

   “ไปตบไอ้เจไป เตี้ยกว่ากู” ต้องชี้

   “พูดงี้อยากมีเรื่องเหรอ” เจ ตอบ

   นั่นไงทีนี้ไอ้เจเลยลุกมาผสมโรง มันกระโดดถีบเข้าไปที่หน้าอกไอ้ต้องเลย แต่ต้องหลบได้ มันเลยเปิดศึกวิ่งไล่เตะกันรอบห้อง

   คู่นี้นี่นะ

   ไอ้เจก็ไล่เตะไป ต้องก็โดดหลบไปตรงนี้ที นั้นที  พอมันกระโดดลงมาที่ตรงหน้าผม ขามันเขี่ยโดนถังสี สีส้มกระเด็นโดนฉากที่แมคกำลังทา

   “พวกมึงจะมาโดดเตะกันทำไมวะ ใครจะดูไข่ใครก็ดูไป อยากดูมาก็ให้เก้าแก้ผ้าให้ดูไปเลย อย่ามาเหยียบบนกระดานสิวะ” แมคลุกมาด่าแล้วครับ

   พูดงี้กูรู้สึกไม่ดีนะมึง

   ฮือออออออออออออ

   แต่มันก็ยังไม่หยุด

   “งี้ ให้เก้าแก้ผ้าเลยดีกว่า” สิ้นเสียงเจ

   ต้องถึบไล่ไอ้เจไป เจโดนข้ามหัวแมค พอลงพื้นมาตรงหน้าผม คราวนี้มือเจมันแกว่ง ปัดโดนพู่กันในมือผมไปโดนเสื้อ

   “เฮ้ยๆๆๆๆ” พวกเราสามคนร้องพร้อมกัน

   พวกมันสามคนมามุงดูชายเสื้อที่ตอนนี้โดนสีส้มแดงๆเป็นดวงกันใหญ่เลย

   “โห จะล้างออกมั้ยวะ” เจ ถาม

   “ออกดิ รีบเอามันไปล้างน้ำสิวะ” แมคตะโกนมา

   “รีบล้างเหอะ เก้า” ต้องพูด

   “มา เดี๋ยวกูช่วยล้าง ถอดเสื้อออกดิเก้า” เจเดินเข้ามาพูดกับผม

   ผมกำลังจะปลดกระดุมเม็ดแรกออก

   จับได้เลยว่า สายตาของ เจ กับ ต้องกำลังจ้องมาทางผม เป็นผู้ชายถอดเสื้อต่อหน้ามันผิดมากเหรอ

   ผมชะงักมือ
   
   “เจ มึงยิ้มทำไมวะ”

   มันไม่ตอบ เอามือมาช่วยปลดกระดุมต่อ
   
   “มึงจะถอดทำซากไรวะ เก้า แค่ชายเสื้อมึงก็ปลดเม็ดล่างก็พอ” ต้องพูดแข็งๆ

   “เออ จริงวะ”

   “มันล้างยากนะมึง ถอดๆไปเหอะ ผู้ชายด้วยกัน” เจ รีบพูดต่อขำ

   “ฝีมือใครละ” ผมหันไปว่าเจ

   “เอาน่าๆ ถอดสิๆ”

   “พอเลยมึง”

   ไอ้ต้องเอื้อมมือไปตบหัว

   “เดี๋ยวๆ มึงโดนไอ้ต้อง” ไอ้เจร้อง

   เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

   “นั่นไง หญิงโทรมาตามแล้ว” ไอ้ต้องตะโกนไล่หลังไป

   “แฟนตามกลับบ้านแล้ว” ไอ้แมค พูดต่อมาติดๆ
   
   “เงียบไปเลย” ไอ้เจชี้นิ้ว

   ไอ้เจเดินไปกดรับโทรศัพท์

   “ฮัลโหล” มันพูดเสียงเบา

   “วิ้ววววววว” ไอ้ต้องผิวปาก

   “ไปละ พวกเหี้ย กูโดนโทรตามแล้ว เดี่ยวโดนเตะเอา” เจ วิ่งออกจากห้องไป พลางชูนิ้วกลางมาทางพวกเรา

   โดนตาม???

   เจ วิ่งผ่านทางเดินหน้าห้องวิทย์ฯ ที่มันเป็นชั้นกระจกวางโหลดองอยุ่มากมาย ดังนั้นภาพที่ผมเห็นจึง เป็นเจที่กำลังหนีบกระเป๋านักเรียนวิ่งไปด้วย มันก็หันมาโบกมือให้ผมไปด้วย แต่เวลามองผ่านโหลดอง แล้วรู้สึกแปลกๆแฮะ เหมือนหน้ามันเหลืองๆ มีตะขาบกิ้งกือลอยอยู่

   ผมแอบขำเบาๆ แล้วโบกมือกลับ

   ไว้มีโอกาสผมจะถามมัน

   คำถามที่ผมอยากรู้มานาน

   มันใช่ พีรพล เพื่อนผมคนนั้นรึเปล่า

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

จบ 8.1 ตอนนี้ก็ต้องโดนตัดอีกแล้ว ยาวเกินเช่นกัน ทนๆอ่านกันหน่อยแล้วกันนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-10-2015 11:35:52 โดย Monet »

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :mew1:

ถ้าไม่มีต้อง เชียร์เจเป็นพระเอกนะเนี่ย

อยากให้เจกะพีรพลคนเดียวกัน น่าจะมันส์)

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
Re: 10 CM. ตอนที่ 8.1 บนแท๊กซี่ [pg2] 14/9/2015
«ตอบ #57 เมื่อ15-09-2015 02:33:58 »

เลือกไม่ถูก
เจก็ดี ต้องก็ได้
โอ๊ยยย ลำบากใจ

ออฟไลน์ DREAM COME TRUE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 379
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
Re: 10 CM. ตอนที่ 8.1 บนแท๊กซี่ [pg2] 14/9/2015
«ตอบ #58 เมื่อ15-09-2015 15:22:15 »

เลือกไม่ถูกเหมือนกัน >< เหมือนคนแต่งจะแกล้งสับหลอกไปมา

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
10 CM. ตอนที่ 8.0 บนแท๊กซี่ [pg2] 14/9/2015
«ตอบ #59 เมื่อ16-09-2015 22:43:45 »

10 CM ตอน 8.2 : บนรถแท๊กซี่

        ผมแกะกระดุมสองเม็ดล่างออกมาแล้วเอาชายเสื้อไปล่างในอ่างห้องวิทย์ เผยท้องน้อยขาวๆ ไร้ขนของผม เมื่อก้มลงมอง อดเปรียบเทียบไม่ได้ถึงหน้าท้องแบนราบ มีขนรำไรใต้สะดือของไอ้ต้อง  ขนมันจะลามลงไปถึงไหนนะ

   อา... รีบล้างดีกว่า

   ต้องเดินเข้ามาใกล้ตัวแทบจะชิดกับผม เอื้อมมือมาช่วยขยี้ปลายเสื้อนักเรียนจากด้านหลัง

   เสียงฟ้าร้องข้างนอกดังขึ้นอีกครั้งแล้ว

   สัญญาณเตือน เป็นสัญญาณที่ดังขึ้นกว่าครั้งที่แล้ว

   “พอแล้วละ ขอบใจ”

   ท่าทางจะไม่ออกง่ายๆ

   ตอนนี้ในห้องเหลือแค่พวกผม 3 คน เลยต้องเร่งมือ ไม่งั้นสงสัยคงได้ทำเท่าที่ทำได้ สวยไม่สวยไว้ค่อยมาแก้กันวันหลัง ถ้าต้องอยู่ดึกๆ ในห้องวิทย์ฯ กับตะขาบดอง เด็กดอง งูดอง เรียงรายทางด้านซ้าย ที่หน้าต่างด้านขวาก็มีโปสเตอร์ร่างกายมนุษย์แปะอยู่ ผมไม่เอาดว้ยนะครับ ใครอยากจะอยู่ก็เชิญ

   ดูท่าทางทุกคนจะรู้กัน ไม่มีใครแหย่เล่นแล้ว ก้มหน้าก้มตาทำ

   เหลือบมองออกไปข้างนอกฟ้าเริ่มร้องอีกแล้ว เห็นฟ้าแลบเป็นระยะๆด้วย

   เกือบ 6 โมงเย็น ฉากทั้งสองจึงจะเสร็จ สวยไม่สวยไม่มีใครหันไปมองละ

   “งั้นรีบเก็บของกลับละกันนะ” แมคพูด

   “โอเค ใครช้าโดนทิ้งนะเว้ย” ต้องหันมาทางผม

   “เฮ้ยๆๆ มึงอย่าๆ” ผมขอร้อง

   “เอาละ กูเก็บของแล้ว” แมคลุกขึ้นยืนคนแรก

   “มึงละเก้า” ต้องหันมาถาม

   “รอก่อนเดะ เสื้อกูยังไม่แห้งเลย”

   “ก็เอาเสื้อออก วิ่งไปทั้งยังงั้นแหละ” ต้องแนะนำ
   
   ต้องคว้าเสื้อไปใส่แล้วออกเดินกับแมคไปรอหน้าห้อง
   
   “กูปิดห้องละนะ” แมคพูดอีกครั้ง

   ผมอุ้มของออกมายืนรอกับไอ้ต้องที่หน้าห้อง

   พอแมคปิดไฟแล้ว ก็กดล็อคประตู แล้วปิดประตูห้อง

   ปิดห้องวิทย์เสร็จ แมคพูดเสียงดัง

   “ไปละ บายยยยยย” แล้วมันวิ่งลงไปเลย

   “เฮ้ยยยยยยยยย” ผมร้องบ้าง

   ฟ้าแลบแล้ว พอไฟในห้องปิด หน้าห้องบริเวณทางเดินเลยมืดสนิท มันทำให้ยิ่งน่ากลัวขึ้น

   ไอ้แมคมันชองลงบันไดหายไปคนแรก   

   “งั้นเราไปกัน” ต้องชวน

   พวกเราเลยหอบกระเป๋าเดินตามแมคลงไป

   “นี่ต้อง มึงมองเห็นเหรอ”

   “เห็นดิ เดี๋ยวกูทำให้ดู”

   มันวิ่งลงบันไดไป

   “อ้าว สัสส มึงทิ้งกู”

   ผมพยายามวิ่งตามไป แม่งมืดฉิบหายเลย

   เผลอแพลบเดียวมันหายไปแล้ว

   ผมสะดุดกับขั้นบันได้ แต่ดีว่าเกาะราวไว้ทัน ตอนนี้พวกมันทิ้งให้ผมอยู่บนบันไดคนเดียว

   “เอออ ค่อยๆไปเองก็ได้วะ”

   อีกสองชั้นถึงจะถึงชั้นล่างสุด ทำไมมันมืดยาวเลยวะ งกค่าไฟอะไรกันนักหนาเนี่ยยยยย

   แปะ!!!

   เฮ้ย ผมสะดุ้งโหยง มือใครวะ

   ผมไม่กล้าหันไปมอง แต่แปบเดียวก็ยิ้มออก

   นั่นไงกลิ่นเสื้อนักเรียนผสมกับกลิ่นเหงื่อ  ผมจำได้กลิ่นนี้ ต้องนั่นเอง 

   มือยาวเก้งก้างวางลงบนบ่าของผมอย่างแผ่วเบา

   “ไอ้ตอ...” ผมจะหันไปถามมัน

   แต่พอชั่งใจอยู่สักพัก ไม่เอาดีกว่า

   ร่างสูงโปร่งนั้นไม่พูดอะไร มือยังคงวางอยู่บนบ่าผมนิ่งๆ ผมจึงต้องแอบเหลือบไปมองมัน

   หน้าต้องตอนนี้เรียบเฉยมองตรงไปข้างหน้า แต่มือยังคงวางนิ่งบนบ่า ค่อยๆดันให้ผมก้าวเดินลงบันได มันก้าวเดินอย่างช้าๆ

   มันคงจะลำบากไม่น้อยที่จะเดินลงไปพร้อมกับผมเพราะว่า ด้วยความสูงของมัน มันจึงต้องอยู่สูงกว่าผมอยู่หนึ่งขั้นบันได ผมค่อยๆเดินลงบันไดไปก่อนท่ามกลางความมืด ตอนนี้สายตาเริ่มชินแล้ว

   แต่แขนที่พาดอยู่นั้น ไม่มีทีท่าจะไปไหน เจ้าของแขนนั้นคงกำลังจะบอกว่า มัน  ต้องยังอยู่ตรงนี้กับผม.....

   พวกเราลงเดินมาถึงชั้นล่างสุด ต้องบีบไหล่ผมเบาๆ แล้วผลักให้ผมเดินออกไป

   ตอนนี้มองออกไปหน้าโรงเรียนเมื่อฝนเริ่มเทลงมาหนักขึ้นเรื่อยๆ

   “งั้นเรียกแท๊กซี่ละกันนะ ไอ้แมคคงไปแล้ว”

   “อือ”

   ฝนตกแบบนี้คงไปรอรถเมล์ไม่ได้

   “งั้นรอนี่นะ” ต้องเดินออกไป

   ต้องก้าวขายาวๆออกไปเรียกแท๊กซี่ ผมมองมันที่ก้มตัวลงไปเปิดประตูหลัง พูดคุยกับคนขับแล้วหันมากวักมือเรียกผม เมื่อผมก้าวออกมา ต้องยืดแขนยาวๆเอากระเป๋านักเรียนมันบังหัวให้ผม

   สภาพตัวมันดูไม่ได้แล้ว เสื้อที่ขาว กลายเป็นบาง จนเห็นผิวกายชัดเจน กางเกงสีน้ำเงินก็กลายเป็นสีน้ำเงินเข้ม กางเกงในยิ่งบางเข้าไปอีก

   พอเราสองคนขึ้นไปนั่งเบาะหลังด้วยกันเป็นที่เรียบร้อย

   “พี่ครับ ช่วยหรี่แอร์ให้ด้วย” ผม บอกคนขับ

   ต้องมันคงจะหนาว

   เสื้อนักเรียนขาวๆเปียกน้ำมันช่างดึงดูดสายตาให้แอบมองอยุ่ตลอด

   ผมสังเกตุจากหน้าอกมัน ดูแล้วมันคงจะหนาวอยู่  แผงอกขาวๆนั้นสั่นเบาๆ ผมเลยนั่งชิดมันเข้าไปอีกหน่อย เผื่อความร้อนในตัวผมจะช่วยมันได้บ้าง
   
   ถ้ามันไม่ว่าอะไร

   “ต้อง จะแวะบ้านเราก่อนก็ได้นะ” ผมพูดออกไปทั้งๆที่ไม่ได้มองหน้ามัน

   “อา.......ไม่เป็นไร เดี่ยวกูนั่งต่อไปเลย”

   ฝนตกหนักมาก แต่น่าแปลกรถกลับไม่ค่อยติดเท่าไร

   “ป่านนี้แมคคงถึงบ้านแล้ว” ผมถามต้อง

   “อือ คงงั้นมั้ง”

   “มึง..... เดี๋ยวกลับไปแล้วทำไรวะ” ผมถามมัน

   “ก็อาบน้ำอ่านหนังสือแหละ”

   “มึงน่ะ กลับบ้านดีๆ เดี๋ยวเป็นหวัดหรอก”  ต้องหันมามองผม เป็นการมองหน้ากันตรงในที่แคบๆครั้งแรก

   มันเอามือวางหลังผม เสื้อผ้าผมแทบไม่เปียกเลย ดังนั้นตัวผมยังอุ่นอยู่ ต้องขอบคุณมันจริงๆ

   “ไม่เป็นไรหรอก มึงอะ ตากฝนอยู่ หนาวมั้ย”

   “นิดหน่อย”

   มันดึงเสื้อเปียกๆออกให้ห่างตัวที่สุด กระดุมสองสามเม็ดบนไม่ได้ติด ดูๆไปตอนนี้ไม่ต่างกับมันถอดเสื้ออยู่เลย

   “งั้นเดี๋ยวกูลงนี่ละกันนะ จะถึงบ้านแมคแล้ว มึงนั่งต่อไปเลยแล้วกัน” ต้องพูด

   เพราะผมนั่งอยู่ทางซ้ายของตัวรถ มันจึงทำท่าจะปีนข้ามตัวผมมา หน้าอกมันอยู่หน้าผมพอดี แทบจะชนหน้าแล้ว

   ตัวมันคร่อมเหนือตัวผม ถึงท่อนบนจะห่างกันแต่บนรถแท๊กซี่แคบๆ ทำให้มันต้องเอาตัวมานั่งบนตักผมเพื่อจะขยับข้ามผมไป ตัวมันท่อนล่างถูอยุ่เหนืออวัยวะผม

   “เฮ้ยๆๆ ไม่เป็นไรๆ”

   ผมผลักมันกลับไปนั่งที่

   “อะไรวะ แล้วจะให้กูลงตรงไหน” ท่าทางมันเริ่มหงุดหงิด

   มันยกชายเสื้อขึ้นมาสะบัด

   คราวนี้กางเกงในสีขาว ที่โดนก็บางพอกับเสื้อเลย ไม่อยากจะมองเลยว่าจะเห็นอะไร แต่มันก็เห็นไปแล้ว อะไรดำๆไม่รู้ แล้วไรขนจากสะดือไล่หายลับไปกับขอบกางเกงในสีขาว ที่ตอนนี่เปียกน้ำ ลู่เป็นทางเดียวกัน

   บางอย่างเหลือเชื่อ

   มันส่งยิ้มมาให้......

   ไอ้บ้าเอ้ย

   มันเอื้อมตัวข้ามผมไปหยิบกระเป๋านักเรียนสีดำ ทำท่าจะเปิดประตูลงอีกด้าน ตอนที่มันเอื้อมคราวนี้หน้ามันเฉียดหน้าผมไปนิดเดียว ลมหายใจยังโดนแก้มอยู่เลย คอมันมาหยุดอยู่เหนือริมฝีปากพอดี

   อยากจะเข้าไปกัดเป็นที่สุด

   “ไม่ต้องห่วงกูหรอก กูแข็งแรงดี มึงอะกลับดีๆ”

   ผมพยายามผลักมันกลับไปนั่งอีกรอบ ผลักที่ท้อง มือโดนท้องเปล่าๆไม่มีเสื้อปิดบัง นิ้วเผลอหลุบต่ำลอดขอบกางเกงน้ำเงินเข้าไป ดีมีกางเกงในกั้นไว้

   ไม่ไหวแล้ว...

   มันยังทำหน้างง

   ต้องบอกลาอีกรอบ คราวนี้มันเองก็มองออกไปทางหน้าต่างอีกด้านดูว่ามีรถมั้ย

   จะลงอีกด้านสินะ

   มือผมไวกว่า

   “กลับดีๆมึง เดี๋ยวไม่สบายแล้วกูจะรุ้สึกผิด”

   มันดึงตัวผมลงมานั่งทับมันที่ตัก เฮ้ย...... มันจะทำไรกูวะ

   “ตัวเบานะ ยกง่ายจัง”

   ผมหน้าแดงไม่ต้องให้ใครบอกหรอก ส่วนล่างกำลังจะมาแล้ว

   “กลับดีๆมึง”

   ผมดีดตัวลงจากรถแท๊กซี่ แล้ววิ่งขึ้นฟุตบาท

   ไฟเขียวพอดี

   ต้องหันมาโบกมือให้อย่างงงๆ มันคงโดดตามลงมาไม่ทัน

   ผมหันไปมองรถแท๊กซี่ที่วิ่งจากไปในสายฝนกลางเดือน สิงหาคม วันนี้ผมไม่ต้องกลับบ้านคนเดียว ไม่ต้องใส่หูฟังแล้วเดินกลับอย่างเดียวดาย..... (ใส่ตอนนี้ก็พังพอดี) ได้อารมณ์แถมมาแบบแปลกๆด้วย

   อารมณ์ที่ผมแทบจะทนไม่ไหว

   ถึงผมจะรีบวิ่งกลับบ้านแล้วเอากระเป๋านักเรียนบังหัวไว้ แต่ในหัวนี่สิคิดถึงแต่บทสนทนาสั้นๆของผมกับต้องตั้งแต่ลงบันไดจนขึ้นรถแท๊กซี่นั้น มันเล่นวนเวียนอยู่ไม่ยอมหยุด

   มันประหลาด อบอุ่น แต่ก็รู้สึกน่าหดหู่ ใจหาย

   ผมไม่สามารถบอกต้องไปได้ เพราะอย่างไร มันก็เป็นผู้ชาย

   แต่ส่วนที่เป็นชายของผมท่าทางมันจะสู้ไม่ถอยซะแล้ว

   วิ่งกลับบ้านทั้งๆที่มันชี้ตระหง่านนี่แหละ

 :bye2:


----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

จบตอนที่ 8 แล้ว

ตอนหน้า บังเอิญจริง เป็นตอนที่ 9 มี 9 หน้า คงจะลงทีเดียวจบเลย

อยากให้อดใจรอตอนหน้านะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-10-2015 11:36:18 โดย Monet »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด