Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.25 ☆ P.11 >> (25/03/59)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.25 ☆ P.11 >> (25/03/59)  (อ่าน 68042 ครั้ง)

ออฟไลน์ รักเจ้าเอย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1



อันดามัน...ซ่อนรัก
ตอนที่ 6







     แสงแดดอ่อนๆยามเช้าที่ลอดผ่านม่านผืนบางเข้ามาในห้อง ทำให้คนที่กำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียงค่อยๆขยับตัว  ขนตาที่เรียงกันเป็นแพยาวค่อยๆพับขึ้นลงเพื่อปรับแสงรับเช้าวันใหม่อย่างอัตโนมัตโดยไม่ต้องมีเสียงนาฬิกาปลุก ไม่ว่านอนดึกแค่ไหนเขาก็ตื่นเวลานี้เสมอ เว้นเสียแต่ว่านอนเพลินหรือเพลียมากจริงๆถึงจะตื่นสายกับเค้าสักทีหนึ่ง ริมฝีปากบางสีส้มอ้าปากหาวพร้อมกับกางแขนบิดขี้เกียจก่อนจะลุกไปหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป

     หลังจากอาบน้ำเสร็จเขาก็ลงมาข้างล่างเพื่อทำนั่นทำนี่ช่วยคนอื่นเหมือนทุกวัน แต่ดูเหมือนว่าสภาพอากาศวันนี้จะไม่ค่อยเอื้ออำนวยสักเท่าไหร่ ตอนเช้าๆอากาศเย็นกำลังดี แต่พอสายมาหน่อยกลับร้อนอย่างกับช่วงเมษา ทั้งๆที่เป็นเดือนพฤศจิกาแท้ๆ นี่แหละนะชีวิตชายฝั่งทะเลเดี๋ยวก็พายุเดี๋ยวก็แดดร้อน ถ้าร้อนเฉยๆจะไม่ว่าสักคำ แต่นี่ดันหอบเอาไอทะเลมาด้วยยิ่งทำให้เหนียวเนื้อเหนียวตัวเข้าไปอีก ดังนั้นภารกิจการออกไปช่วยลุงแช่มในเวลานี้จึงถูกพับเก็บไป เพราะถ้าเกิดเหงื่อออกจนท่วมตัว แล้วต้องกลับขึ้นไปอาบใหม่อีกรอบคงจะเสียเวลาน่าดู เผลอๆอาจเลยเวลาขึ้นไปปลุกคนตัวโตข้างบนอีก ที่นี้แหละคงทำหน้าหงิกไปครึ่งค่อนวัน ดังนั้นการฆ่าเวลาได้ดีที่สุดในตอนนี้คือหาอะไรง่ายๆที่ไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อนทำ เช่น การให้อาหารปลาคราฟตัวโตหลังบ้าน

    เคยได้ยินลุงแช่มพูดเหมือนกันว่านอกจากสวนหน้าบ้านแล้ว ก็มีปลาคราฟนี่แหละที่คุณครามแกหวงยิ่งกว่าอะไร เป็นผมก็คงหวงเหมือนกันแหละเพราะตัวๆหนึ่งไม่ใช่จะถูกๆ แล้วกว่าจะเลี้ยงมาได้ขนาดนี้อีก จะหวงก็คงไม่แปลกหรอก ขนาดเปลี่ยนน้ำปลาแกยังลงมือเปลี่ยนเองเลย

 "ดูสิน้ำขุ่นไปหมดแล้วเพราะเจ้านายพวกแกไม่สบายแถมยังดื้อไม่ยอมกินยาอีก เลยไม่ได้มาเปลี่ยนให้สักที" ขิงบ่นให้ปลาคราฟฟังเบาๆ ทำอย่างกับว่ามันจะฟังรู้เรื่องงั้นแหละ เจ้าตัวหยิบกระปุกอาหารที่วางอยู่ใกล้ๆมาเปิดแล้วโปรยมันลงไปในบ่อหนึ่งกำมือ จากนั้นก็มองมันอ้าปากกิน ไม่กี่อึดใจพวกมันก็กินหมดแล้วก็ว่ายกลับมาขออีก ขิงยิ้มให้กับเจ้าตัวมีคริบสีสวย

 "พอละกินแค่นี้พอ กินเยอะเดี๋ยวท้องแตกตาย ฉันจะลำบากอีก ค่าตัวแกไม่ใช่จะถูกๆนะ บอกไว้ก่อน"


"จ๊ะเอ๋"

"คีย์!!" ขิงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ โล่งอกที่ไม่ตกลงไปในบ่อปลาสุดรักสุดหวงของคราม

"จ๋าาาาาาาา" คีย์ตอบเสียงใส ลอยหน้าลอยตา

"ตกใจหมด"

"โอ๋ๆๆ แค่หยอกเล่นเฉยๆ อย่าทำหน้าดุสิ"  คีย์โผเข้ามากอดแล้วลูบหลังบอก ขวัญเอ๋ยขวัญมา

"ปล่อยเราก่อน เดี๋ยวก็ตกลงไปกันทั้งคู่หรอก" ที่กลัวไม่ใช่แค่ตกลงไปหรอก กลัวปลาพวกนี้มันจะตายซะมากกว่า เพราะเจ้าปลาพวกนี้มันขี้โรคอย่างกะอะไรดี อะไรนิดอะไรหน่อยก็ไม่สบายเผลอๆอาจตายเพราะทั้งตัวเขาและคีย์มีแต่สารเคมีทั้งนั้น ตั้งแต่ครีมเอย โลชั่นเอย ไหนจะแป้งเด็กอีก ของคีย์นี่อาจมีน้ำหอมเพิ่มมาด้วย ทีนี้ไม่ตายก็ไม่รู้จะว่ายังไงละ

"มัวเหม่อคิดถึงใครอยู่ ถึงไม่รู้ว่ามีคนมาประชิดตัวแบบนี้  อิอิ?" คีย์ผละออกมาแล้วถามด้วยเสียงใสตามด้วยเสียงหัวเราะชอบใจที่ได้แกล้งคนอื่น แต่เชื่อเหอะถ้าถูกแกล้งคืนบ้างล่ะก็นะ คงทำหน้าเป็นตูดเชียวล่ะ

"ก็คิดอะไรไปเรื่อยนั่นแหละ แล้วมาได้ไงอะ?" ขิงตอบรวมๆ แล้วถามคีย์กลับเพราะไม่รู้จะตอบว่าไงดี ถ้าให้ตอบตามจริง ก็คิดอยู่หลายเรื่องเลยล่ะ คิดถึงบ้านบ้าง ไม่รู้ว่าป่านนี้พ่อกับแม่ พี่ขุนกับพี่ขิมจะทำอะไรกันอยู่ คิดถึงเจที่ป่านนี้คงเข้าทำงานแล้ว แล้วก็คิดถึงคนป่วยตอนนี้ ว่าจะทำยังไงให้เค้าเดินได้เร็วๆแล้วก็หายจากอาการติดเหล้าด้วย

"ก็ตั้งใจมาเซอร์ไพรส์ขิงไง ดีใจไหม?"

"อื้ม แล้วนี่ลางานมาเหรอ?"

"เปล่า ลาออกจากงานเลยต่างหากล่ะ" ขิงขมวดคิ้วสงสัยปนตกใจนิดๆ เพราะคุยด้วยกันครั้งล่าสุดยังบอกอยู่เลยว่าทำงานที่นี่สนุก บริษัทก็ใหญ่ ประสบการณ์ก็ดี ผู้รวมงานก็ดี เงินเดือนก็ดี  ไม่ต้องเครียดอะไรมากด้วย

"โอ๋ๆๆ อย่าเพิ่งทำหน้าเครียดแบบนี้สิ เราแค่คิดว่าจะกลับมาช่วยงานที่บ้านน่ะ พ่อก็อยากให้กลับมาอยู่แล้วด้วย อีกอย่างเราจะได้มาอยู่ใกล้ๆขิงไง อิอิ"

"แล้วพี่ชายเราอยู่ไหนอะ ตื่นรึยัง?" หลังจากเคลียร์กันเสร็จแล้ว คีย์ก็ถามถึงพี่ชายตัวเองบ้าง เพราะจุดประสงค์ของเขาอีกอย่างหนึ่งที่พุ่งตรงมาที่นี่เลยคือ มาเยี่ยมพี่ชาย แล้วก็มาดูให้เห็นกับตาว่าเพื่อนของตัวเองจะปราบพยศนายหัวแห่งเกาะไข่ได้อย่างที่คุณป้าว่ามาไหม รายนั้นเมาท์ใหญ่เลยว่า ถ้าไม่ได้ขิงพี่ครามก็คงจะดื้อไม่ยอมกินข้าวกินยา แล้วก็ไม่ยอมทำกายภาพง่ายๆแน่ แค่คิดก็สนุกแล้ว ชักอยากเห็นซะแล้วสิว่านายหัวจอมดื้อกับนักกายภาพเฮี้ยบเวลาอยู่ด้วยกันจะเป็นยังไง

"ตื่นแล้วมั้ง เดี๋ยวเราขึ้นไปดูก่อนนะได้เวลาปลุกแล้ว" ขิงยกนาฬิกาขึ้นดู แล้วรีบก้าวขาฉับๆขึ้นบันไดไป ในใจก็แอบบ่นตัวเองนิดหน่อยที่มัวแต่คุยเพลินจนลืมเวลา

"โอเค เดี๋ยวเราตามไป ขอไปฉี่ก่อน มาถึงก็นั่งรถมานี่เลย ปวดฉี่มาก" คีย์ลากเสียงยาวเพื่อบอกว่าปวดมากแค่ไหนแล้ววิ่งดุ๊กดิ๊กๆเข้าห้องน้ำไป






หลังจากขึ้นไปปลุกเสร็จ เขาก็พยุงคุณครามไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ แล้วตามด้วยการช่วยแต่งตัวเล็กๆน้อยๆเพราะเจ้าตัวยังขยับแข้งขยับขาไม่ถนัด

"ที่นี้ก็ได้เวลาทานยาก่อนอาหารแล้วนะครับ"

"เบื่อ ขอไม่กินได้ไหม?" ครามทำสีหน้าเบื่อโลก

"อีกนิดเดียวครับ มันใกล้หมดแล้วด้วย ถ้าหมดนี่คุณหมอคงไม่สั่งให้แล้วล่ะครับ" แอบสงสารคุณครามอยู่เหมือนกัน เป็นผมก็คงเบื่อเหมือนกันที่ต้องกินยาตั้งหลายเม็ดต่อมื้อ ดีนะเค้าให้กินแค่เช้ากับเย็นไม่งั้นคงมีเททิ้งกันบ้างแหละ แล้วก็ไม่ใช่แค่ยาหรอกนะที่ต้องกิน ยังมีแคลเซียมเสริมสร้างกระดูกอีก ไม่แปลกหรอกที่คนสุขภาพดี ไม่เคยเจ็บป่วยอะไรกับเค้าแบบคุณครามจะทำสีหน้าเบื่อโลกเวลาเห็นเจ้าเม็ดสีๆพวกนี้


"ถ้าเป็นอย่างนั้นได้ก็ดีสิ" ครามรับยามากินแล้วตามด้วยน้ำก่อนจะส่งแก้วคืนมาให้

"ก็น่าจะเป็นอย่างนั้นนะครับ เพราะร่างกายคุณก็แข็งแรงดีแล้ว เหลือแต่ทำกายภาพ แล้ววันนี้คุณยังมีอาการอยากเหล้าอยู่รึเปล่าครับ?" เขาวางแก้วน้ำบนถาดแล้วหันมาถาม พร้อมกับสังเกตอาการไปด้วย

"อื้ม"  ครามหยุดคิดนิดนึงก่อนจะตอบ

"แต่ก็ไม่เห็นคุณมีอาการอยากจนมือสั่น หรือหงุดหงิดเวลาไม่ได้กินนิครับ" เขายิ้มให้ครามเล็กน้อยเพื่อให้กำลังใจ

"คงงั้นมั้ง ก็นายบอกให้พยายามนิ" ตัวครามเองก็ยังอดแปลกอยู่เหมือนกันที่ตัวเองไม่มีอาการรุนแรงเหมือนก่อนหน้านั้น อาจมีบ้างที่อยากกินแต่ก็ยังอยู่ในระดับที่พออดทนได้

"เอางี้ไหมครับ ถ้าคุณอยากกินเหล้าเดี๋ยวผมลองหาชามะลิ หรือชาโสมอะไรมาให้ไหม? ถ้าอยากกินเหล้าก็จิบชาแทน ดีต่อสุขภาพด้วย"

"ก็แล้วแต่ ถ้าคิดว่ามันได้ผล"

"ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าได้ผลรึเป่า แต่ลองดูก็ไม่เสียหายไม่ใช่เหรอครับ" ผมคิดอย่างนั้นจริงๆนะ ลองดูไม่เสียหาย ถ้ามันช่วยได้ก็ดี แต่ถ้าช่วยไม่ได้ เราก็ไม่ต้องเสียอะไรไปสักหน่อย

"อื้ม"

"ไอ้ครามเพื่อนรัก หมอตั้นมาแล้วคราฟฟฟ" หมอตั้นเปิดประตูเข้ามา แล้วส่งเสียงทักทายเจ้าของห้องอย่างอารมณ์ดี

"มาทำไมไอ้หมอ? เข้าห้องเค้าประตูก็ไม่เคาะนะมึง" หมอตั้นยักไหล่แล้วเบ้ปากทำเป็นไม่สนใจ

"อ้าวไอ้นี่ถามแปลก เป็นหมอก็ต้องมาหาคนไข้สิ" หมอตั้นตอบกวนๆแล้วเดินมานั่งปลายเตียง

"เป็นไงบ้างครับคุณขิง สบายดีไหมครับ?" หมอตั้นถามพร้อมส่งสารตาวิบวับแบบคนขี้เล่นมาให้

"สบายดีครับคุณหมอ แล้วคุณหมอล่ะครับ?" ขิงถามกลับไปตามมารยาท

"สบายดีตามประสาหมอแหละครับ"  หมายความว่าไงล่ะนั่น ขิงพยักหน้ารับคำทั้งที่ไม่เข้าใจคำตอบสักเท่าไหร่

"จะตรวจก็รีบๆ แต่ถ้าจะจีบกันก็เชิญข้างนอก" เป็นอะไรขึ้นเค้าอีก เมื่อกี้ก็ยังดูเหมือนอารมณ์ปกติอยู่ ขิงหันไปมองคราม ก่อนจะยิ้มบางๆให้หมอตั้นเพื่อเป็นการขอโทษทั้งๆที่ในใจคิดว่าตัวเองกับหมอตั้นยังก็ไม่ทันได้ทำอะไรแบบนั้นสักหน่อย แค่ทักทายกันเฉยๆเอง

ส่วนหมอตั้นก็ทำปากขมุบขมิบล้อเลียนคราม จนขิงอดไม่ได้เผลอหลุดหัวเราะออกมา แล้วรีบหุบยิ้มทันทีเพราะเจ้าตัวกำลังจ้องเขม็งอยู่

"เอ่อ...เชิญคุณหมอนั่งก่อนครับ เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้" ทั้งๆที่พยายามเลี่ยงออกมา แต่ก็ยังไม่วายถูกจ้องอย่างไม่ลดละจากคนบนเตียงที่กำลังทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเป็นยักษ์อยู่

"เกือบลืมไป ที่คุณขิงบอกว่าแคลเซียมของไอ้ครามใกล้จะหมดแล้ว ผมหามาให้แล้วนะครับ แต่ลืมไว้ที่รถ เดี๋ยวผมค่อยไปเอาให้นะครับ"

"ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมตามไปเอาที่รถก็ได้ คุณหมอจะได้ไม่ต้องกลับเอามาให้อีก" ขิงยิ้มให้น้อยๆอย่างเกรงใจ

"เอางั้นก็ได้ครับ" หมอตั้นฉีกยิ้มให้อีกครั้ง จนเขาอดยิ้มตอบไม่ได้ ผมว่าถ้าลบภาพหมอตั้นที่พูดเรื่องลามกเมื่อครั้งก่อนออก แล้วแทนด้วยภาพของวันนี้แทน หมอตั้นก็ดูเป็นหมอที่น่าเชื่อถือขึ้นมาเหมือนกันนะ ถึงจะแอบทะเล้นบ้างก็เหอะ

"ขิง ไปทานข้าวกัน อ๊ะ!! ขอโทษครับ ไม่คิดว่าพี่ครามจะมีแขก ไม่ได้ยินเสียงรถเลย"  คีย์เบิกตาขึ้นอย่างตกใจแล้วปรับสีหน้าให้เป็นปกติเหมือนเดิม ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอกับคนๆนั้นที่นี่อีกครั้ง แต่จะแปลกอะไรในเมื่อเค้าเป็นเพื่อนของพี่ชายเราแถมยังเป็นหมออีก หมอก็ต้องมาดูคนไข้สิ แต่ทำไมเขาไม่รู้ว่าเค้าเป็นหมอเจ้าของไข้ของพี่คราม คีย์เผลอคิดถึงเรื่องราวในอดีตครู่นึงก่อนจะยิกแขนตัวเองเพื่อบอกตัวเองว่าให้เลิกสนใจ เจ็บแล้วให้จำ

"ไม่เป็นไร เข้ามาสิ" ครามเอ่ยอนุญาต คีย์เลยจำยอมต้องเดินเข้ามาโดยปฏิเสธเสียไม่ได้

"เพิ่งมาถึง ไม่เหนื่อยเหรอเรา?" คีย์ส่ายหัวบอกว่าไม่แล้วเดินมานั่งลงอีกฟากหนึ่งของเตียง ก่อนจะเหลือบมองแขกของพี่ชายก่อนครู่นึง

"แล้วได้เจอป้าน้อยรึยัง วันก่อนเห็นบ่นหาอยู่?"

"เจอมาแล้วครับ เลยแวะเมาท์กันนิดหน่อยก่อนจะขึ้นมานี่แหละ อิอิ" อาการกระสับกระส่ายแปลกๆของคีย์ถูกกลบด้วยเสียงใสๆแล้วตามด้วยเสียงหัวเราะร่าเริง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังรู้สึกว่าเพื่อนต้องมีอะไรสักอย่างแน่ๆ คีย์เพื่อนเขาไม่ใช่คนที่ประหม่าอะไรง่ายๆแบบนี้ แถมคนตรงหน้ายังเป็นหมอตั้นเพื่อนของคุณครามอีก ทั้งสองคนน่าจะรู้จักกันมาก่อนไม่ใช่เหรอ?

"อ้อ...เมาท์กับพวกป้าน้อยเรื่องพี่อะเหรอ?" ครามถามอย่างแซวๆ

"เปล่านะ คีย์ยังไม่ได้เมาท์เรื่องพี่ครามสักหน่อย เรื่องขิงต่างหาก" คีย์ปฏิเสธหน้าซื่อตาใสแล้วหันมามองขิง ไม่อยากหันไปมองอีกคนที่อยู่ตรงข้ามกัน ไม่อยากคิดถึงมันอีก ไม่ว่าเค้าจะเป็นยังไงมันก็ไม่เกี่ยวกับเราอีก คีย์บอกตัวเองอีกครั้งพร้อมกับเสียงโทรศัพท์ของตนเองที่ดังขึ้น เพลงเรียกเข้าเพลงนี้เขาเอาเข้าโปรแกรมตัดเองและใช้มันมาได้สี่ปีแล้วไม่เคยเปลี่ยน เขาชอบเนื้อหาของเพลงขีดเส้นใต้ ถึงแม้ว่ามันดูเศร้าแต่มันก็คือความจริงของความรักในอีกแง่มุมหนึ่ง

คีย์รีบกดปิดเสียงแล้วขอตัวออกมารับโทรศัพท์ข้างนอก เพียงครู่เดียวขิงก็ออกมาตาม เขารู้ว่าเพื่อนอยากถามอะไรสักอย่างซึ่งมันต้องเกี่ยวข้องกับคนในห้องนั้นแน่ๆ เขามองตาเพื่อนแป๊บเดียวก็รู้ว่ามันเป็นห่วงแต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ ขิงบีบมือคีย์เบาๆอย่างให้กำลังใจ

"ไหวไหม?" ขิงถามเพื่อน เพราะตั้งแต่คบกันมาสี่ปีพวกเขาไม่เคยมีเรื่องปิดบังกันเลย แม้แต่เรื่องรักแรกของคีย์กับเพลงๆนั้นที่คีย์ไม่เคยเปลี่ยน แม้ว่าจะมีเพลงใหม่ๆออกมามากมายแค่ไหน เพื่อนของเขาก็ยังใช้เพลงเดิม ทีแรกที่แนะนำให้เปลี่ยน คีย์ก็เปลี่ยนแต่ไม่กี่วันก็กลับมาใช้เพลงเดิมอีก จนเขาแอบเห็นโน๊ตเพลงๆนี้ที่ซ่อนอยู่ในหนังสือเล่มหนึ่งในห้องคีย์โดยบังเอิญ ทีแรกเข้าใจว่าคีย์แกะมาไว้เล่นกับกีตาร์โปร่งเฉยๆ แต่พออ่านด้านหลังแล้ว ถึงได้รู้ว่าทำไมคีย์ถึงชอบเพลงนี้ แล้วมันมีความหมายยังไงกับเจ้าตัว

"ไหว เข้าไปข้างในกันเถอะ"

"ไปตามกันถึงที่ไหนมาสองคน นึกว่าหายไปด้วยกันซะแล้ว" ครามถาม

"อิอิ ไม่ได้หายไปไหนมาสักหน่อย คีย์แค่คุยโทรศัพท์นานไปหน่อย ขิงเลยต้องรอ"

"เอ่อ ไอ้หมอนี่น้องชายกู ชื่อคีย์ ยังจำได้ไหม?" ครามเอ่ยถามเพื่อนของตัวเองที่นั่งเงียบมาตั้งนานแล้ว

"อ้อ!! จำได้ นึกว่าใครคุ้นๆหน้า ที่แท้ก็น้องคีย์คนสวยนั่นเอง ไม่เจอกันตั้งนาน ยิ่งโตยิ่งสวยขึ้นนะ" หมอตั้นเอ่ยแซวยิ้มๆ แต่คีย์กลับสะบัดหน้าใส่ ปกติต้องยิ้มรับไปแล้วถ้ามีคนชมแบบนี้ คีย์มันเป็นมนุษยสัมพันธ์ดี เข้ากับคนอื่นง่าย ไม่ว่าเค้าจะชมมันว่าสวยหรือน่ารักมันก็ยิ้มรับหมด

"แล้วคีย์ล่ะจำเพื่อนพี่ได้ไหม?"

"จำไม่ได้ แล้วก็ไม่อยากจำด้วยครับ" เจ็บไหมล่ะนั่น เป็นเขาคงจะเจ็บๆคันๆน่าดูก็เพื่อนเขาปากธรรมดาเสียที่ไหน แต่หมอตั้นยังยิ้มได้อยู่ นับถือเลย

"อะไรกันครับน้องคีย์ สมัยก่อนยังตามตูดพี่อยู่ต้อยๆๆ เรียกพี่ตั้นจ๊ะ พี่ตั้นจ๋าอยู่เลย มาตอนนี้กลับจำกันไม่ได้ซะละ มันน่าน้อยใจจัง" คีย์เม้มปากกำมือตัวเองแน่น เพราะทั้งหมดที่คนๆนั้นพูดมามันคือความจริง สมัยก่อนเขาติดผู้ชายคนนี้มากจริงๆ ติดยิ่งกว่าพี่ครามที่เป็นลูกพี่ลูกน้องแท้ๆกันซะอีก วันหยุดก็ร่ำร้องบอกพ่อว่าจะไปเล่นบ้านเค้า อยากให้เค้าไปรับกลับจากโรงเรียน ให้สอนการบ้านให้ทั้งๆที่เป็นแค่น้องชายเพื่อนเท่านั้น พอเข้ามัธยมต้นก็ยิ่งสนิทกันไปอีก เค้าเรียนอะไรเราก็เรียนตาม ทำตามไปซะทุกอย่างที่เค้าสนใจ เหมือนเป็นไอดอลคนหนึ่ง เคยคิดเหมือนกันว่าทำไมเราถึงติดเค้าขนาดนี้หรือเป็นเพราะเราเป็นลูกคนเดียวเค้าก็เป็นลูกคนเดียวล่ะมั้งถึงอยู่ด้วยกันได้ จนไม่รู้ว่ามันกลายเป็นความรู้สึกรักตั้งแต่เมื่อไหร่ ถ้ารู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ เขาขอไม่รู้จักกับคนๆนี้ซะดีกว่าหรือไม่ก็รู้สึกจักแค่ว่าเป็นเพื่อนของพี่ชายที่ไม่ค่อยสนิทกันก็พอ คีย์ยิ้มขืนๆให้ตัวเอง

"มึงก็อย่าแกล้งน้องกูให้มันมากนัก เพราะปากแบบนี้ไง คีย์มันเลยไม่ชอบมึง ทั้งๆที่เมื่อก่อนอะไรก็พี่ตั้นๆ แท้ๆ" ครามส่ายหัวไปมาอย่างปลงๆ แล้วเอ่ยปรามเพื่อนตัวเอง

"ก็นะ" หมอตั้นตอบรับคำแต่ก็ไม่วายยิ้มมุมปากอย่างคนเจ้าเล่ห์ส่งมาให้คีย์ เพราะอย่างน้อยเขาก็ไม่ถูกเมินเหมือนก่อนหน้านี้ คนตัวเล็กนั่นแทบจะไม่มองมาที่เขาเลย ทำเหมือนกับเขาเป็นอากาศธาตุอย่างนั้นแหละ


"พี่คราม คีย์ขอตัวขิงไปทานข้าวเป็นเพื่อนสักชั่วโมงนะ คิดถึง ไม่ได้เจอกันเกือบเดือนละ" เป็นคีย์ซะเองที่ทนสายตาของหมอตั้นไม่ได้ เลยเอ่ยปากขออนุญาตครามพาขิงออกมาข้างนอก

"ได้ แต่อย่าไปไกลล่ะ เพราะเค้าต้องดูแลพี่อยู่" ครามเอ่ยอนุญาต

"แล้วพี่ครามทานข้าวรึยัง? ไปทานกับพวกเราไหม?" คีย์เอ่ยถามพี่ชายโดยที่ไม่ปรายตาไปมองเพื่อนของพี่ชายที่อยู่ข้างๆกันอีกเลย

"ไม่ดีกว่า เอาไว้มื้อหน้าละกัน" ครามเอ่ยปฏิเสธเพราะคิดว่าถ้าลงไปตอนนี้คงจะลำบากคนอื่นอีก

"ชวนแต่ไอ้คราม ไม่ชวนพี่เหรอครับน้องคีย์?" หมอตั้นถามอย่างกวนๆ ตั้งใจจะแกล้งคนตัวเล็กกว่า

"ไม่!!" คีย์ปฏิเสธเสียงแข็งแล้วค้อนใส่หมอตั้นวงใหญ่

"ใจร้ายจัง" ส่วนหมอตั้นก็ใช่ว่าจะยอมแพ้ แกล้งตีหน้าเศร้าที่ดูยังไงมันก็ไม่ดูเศร้าเลยสักนิดในสายตาคีย์

"มึงก็ชอบแหย่น้องกูจัง รู้ทั้งรู้ว่ามันไม่ชอบ"

"ก็คนมันยั่วขึ้นนี่หว่า หึๆๆ"

"ไปกันเถอะขิง ไม่อยากอยู่ใกล้หมอปากเสีย" คีย์ตอบกลับไปอย่างแสบทรวง ในเมื่อเวลามันผ่านไปนานแล้วก็ขอให้มันผ่านเลย อย่าได้เอาความทรงจำเหล่านั้นมาทำร้ายตัวเองอีก คิดได้อย่างนั้นแล้วก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเศร้าอีก แค่เค้าไม่รัก ก็ไม่ได้ทำให้เราอยู่ไม่ได้สักหน่อย คีย์ให้กำลังใจตัวเอง

"สมน้ำหน้า เป็นไงโดนเด็กด่าซะเสียหมาเลย?" ครามถามเพื่อนที่ยังยิ้มไม่หุบตั้งแต่น้องชายตัวเองออกไป

"ก็ไม่เป็นไง ยังน่าแกล้งอยู่เหมือนเดิม หึๆๆ" หมอตั้นหัวเราะในลำคอจนครามส่งเสียงหึออกมาเบาๆ เพราะไม่รู้จะปรามเพื่อนตัวเองยังไงแล้ว ไอ้หมอนี่ถ้ามันรั้น มันก็จะรั้นจนถึงที่สุดเหมือนกัน ใครบอกหรือเตือนอะไรมันก็ไม่ฟังเหมือนกัน เขารู้ดี สมัยก่อนเขาทั้งอิจฉาที่มันทั้งเรียนเก่งกว่า น้องชายเขาติดมันมากกว่า แต่ไม่รู้ไปยังไงมายังไงจากที่เคยทำตัวเป็นพี่ชายที่แสนดี มันก็คอยทำตัวห่างเหินกับน้อง แถมยังแกล้งซะจนคีย์ไม่ชอบขี้หน้ามันมาจนถึงทุกวันนี้





(ต่อ)





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-11-2015 12:11:17 โดย รักเจ้าเอย »

ออฟไลน์ รักเจ้าเอย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1


(ต่อ)








"ไปทานข้างนอกไหม เดี๋ยวมื้อนี้เราเลี้ยงเองในฐานะเจ้าบ้าน? อิอิ"  ออกมาจากห้องนั้นได้คีย์ก็ปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ แล้วบอกกับตัวเองว่าจะไม่มีวันกลับไปเป็นแบบเดิมอีก ต่างคนต่างอยู่แหละดีที่สุด

"ทานที่นี่แหละคีย์ เรายังอยู่ในเวลาทำงานอยู่เลย ทานเสร็จจะได้กลับไปดูคุณครามต่อเลย" เขาคิดอย่างนั้นจริงๆ ไม่อยากให้คนอื่นมาว่าได้ว่าตัวเองเบียดเบียนเวลางาน ถึงแม้ว่าเจ้านายจะอนุญาติก็เหอะ

"โหย ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ หมอปากหมานั่นยังอยู่ข้างบนอยู่เลย ก็ให้เค้าดูแลไปก่อนสิ" คีย์ตอบเสียงกระแหนะกระแหน

"เรียกแบบนั้น เดี๋ยวเค้ามาได้ยินจะว่าเอานะ" คีย์เบ้ปากไม่ยอมเห็นด้วย

"ว่าก็ช่างสิ มันคือความจริง ทีอิตาหมอนั้นยังว่าเราได้เลย" เถียงอย่างไม่ยอมลดละ เขาล่ะเชื่อเลย นี่แหละคีย์ตัวจริงเสียงจริง

"เค้าก็แค่หยอกเล่นเอง อย่าคิดมาก" ขิงพูดคลี่คลายสถานการณ์

"หยอกอะไรกันล่ะ เห็นปากแบบนี้มาตั้งนานแล้วเหอะ"

"จ้าๆ แล้วสรุปโอเครึยังตอนนี้?" ขิงถามอย่างเป็นห่วง

"ก็โอนะ แค่ตกใจน่ะไม่คิดว่าจะได้เจอเค้าที่นี่ ไม่คุยเรื่องนี้ละ เปลี่ยนเรื่องดีกว่า แล้วขิงอะเป็นไงบ้าง?"

"หมายถึงอะไรล่ะ? ชีวิตความเป็นอยู่ หรือการดูแลพี่ชายคีย์?" เขาถามกลับเพราะไม่รู้ว่าต้องตอบยังไงดี คำถามกว้างเกิน

"ก็ทั้งสองแหละหน่า"

"ความเป็นอยู่ที่นี่ก็ดีนะ ดีมากเลยล่ะ คุณป้าก็ใจดี พี่นุ้ยก็นิสัยดี ช่วยเหลือเราหลายๆอย่าง ลุงแช่มก็ดี เอาเป็นว่าทุกคนดีกับเรามากเลยล่ะ นึกว่ามาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองแบบนี้จะลำบากซะแล้ว" ความจริงตอนจะมาอยู่ที่นี่แรกๆ นึกว่าจะเข้ากับคนที่นี่ไม่ได้ซะอีก เพราะเราเป็นคนเข้าหาคนอื่นไม่เก่ง แต่ที่ไหนได้คนที่นี่น่ารัก ใจดีมากเลยล่ะ

"คนที่นี้เค้าใจดี ยิ่งถ้ารู้ว่าขิงเป็นเพื่อนเรา ก็ต้องยิ่งดีเป็นพิเศษอีก แล้วกับพี่ชายเราล่ะ?" คีย์ยิ้มแล้วก็ถามต่ออีก เพราะอยากรู้วีระกรรมของพี่ชายตัวเองระหว่างที่เพื่อนเขาดูแลอยู่

"ก็ดีขึ้นมั้ง!! ไม่รู้สิ บางครั้งก็ดูอารมณ์เสียง่าย ขึ้นๆลงๆ ขี้หงุดหงิด เอาแต่ใจ แต่บางครั้งก็ว่าง่าย เป็นผู้ใหญ่" เขาร่ายยาวบอกคีย์

"ไหวไหม?" คีย์ถามเพราะรู้ว่าพี่ชายตัวเองพยศแค่ไหน

"ถ้าไม่ไหว แล้วเรากลับได้เหรอ? สัญญาก็เซ็นต์ไปแล้ว?" ขิงถามทีเล่นทีจริง

"ห๊ะ??" คีย์ร้องออกมาอย่างตกใจ ปนงง

"เซ็นต์สัญญาไปแล้ว" เขาพูดช้าๆชัดๆให้ฟังอีกครั้งเผื่อเมื่อกี้คีย์ยังตกใจจนเบลอไป

"ทำไมถึงเซ็นต์ล่ะ? ปกติพี่ครามแทบจะไล่นักกายภาพหรือพยาบาลออกรายเดือนโดยไม่ต้องเซ็นต์สัญญาด้วยซ้ำ ยิ่งถ้าเป็นพยาบาลหรือนักกายภาพสาวๆ ที่จ้องพี่ครามตาเป็นมัน แล้วหวังจะจับล่ะก็นะ ไม่โดนแกล้งก็โดนไล่ตะเพิดจนเผ่นแนบไปไม่ทันเลยล่ะ แปลก!!" คีย์ขมวดคิ้วถามอย่างไม่น่าเชื่อ

"เค้าคงเห็นแก่ความพยายามของเรามั้ง  เพราะก็รับปากเค้าไว้แล้วว่าจะทำให้เค้ากลับมาเดินได้ปกติอีกครั้งมั้ง เค้าเลยให้เซ็นต์สัญญากันเราหนีนี่ไง อิอิ" ขิงตอบตามที่คิด

"อื้ม!! แล้วไม่สนใจพี่ชายเราจริงๆ เหรอ? พี่ชายเราหล่อนะ ทั้งคมเข้ม หุ่นก็ดี ดูมาดแมนอีกต่างหาก" ขิงขมวดคิ้วมุนใส่คีย์ แล้วมองตาหาคำตอบว่าเจ้าตัวกำลังคิดอะไรอยู่

"ไม่เอาดีกว่า เรายังอยากมีชีวิตการทำงานที่ดีอยู่ แล้วเราก็มีเจอยู่แล้วด้วย" พูดไปถึงเจก็คิดถึง ไม่รู้ว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่นะ

"แล้วถ้าไม่มีเจล่ะ เราอยากได้ขิงเป็นพี่สะใภ้เรานะ"

"ตลกละ พูดอย่างกับว่า ถ้าเราสนใจพี่ชายคีย์ขึ้นมาแล้วเค้าจะสนใจเรางั้นแหละ เค้าเป็นผู้ชายเต็มร้อยนะไม่ใช่เกย์สักหน่อย แล้วเราก็รักเดียวใจเดียวด้วยอย่าลืมสิ"

"จ้าพ่อคูณ รักเดียวใจเดียว ระวังไว้เหอะปล่อยนายเจอยู่กรุงเทพฯ คนเดียว ระวังมันจะไปป้อคนอื่นนะ อิอิ"  เคยมีคนบอกเหมือนกันนะว่าเจเป็นคนเจ้าชู้เงียบ แต่ตั้งแต่คบกันมายังไม่เคยเห็นเจนอกลู่นอกทางเลย หรืออาจจะมี แต่เราไม่รู้ เพราะเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมงสักหน่อย ขิงถอนหายใจเลิกคิดเรื่องนี้ เพราะยิ่งคิดยิ่งทำให้ตัวเองไม่สบายใจแล้วระแวงเปล่าๆ

"ถ้าเป็นแบบนั้นจริงก็ต้องปล่อยมันไป ถือซะว่าเป็นบททดสอบความรักละกัน" ขิงตอบอย่างปลงๆ ใจหนึ่งก็อดคิดไม่ได้ แต่อีกใจก็อยากปล่อยมันไปเพราะมันยังมาไม่ถึง เขาไม่อยากเป็นกังวลกับมันอะไรมันจะเกิดมันก็ต้องปล่อยให้มันเกิดนั่นแหละ

"เราขอโทษนะที่ปากไม่ดี จนขิงคิดมากเลย โอ๋ๆๆ อย่าซีเรียสนะ ป๊ะไปหาพี่นุ้ยกัน"

"อื้ม คีย์อยากทานอะไรอะ จะได้บอกให้พี่นุ้ยทำให้"

"ไม่ต้องบอกหรอก เมื้อกี้เราเห็นป้าน้อยทำแกงส้ม ชะอมไข่ ทานอันนั้นแหละ ไม่ได้ทานฝีมือป้าน้อยนานแล้ว พูดแล้วน้ำลายสอเลย อิอิ"

"งั้นเดี๋ยวรอตรงนี้ก่อนนะ เราไปบอกเค้าก่อนว่าให้ยกไปคุณคราม แล้วก็เอามาให้คีย์ด้วย" ขิงลุกเดินเข้าไปในครัวอย่างรวดเร็ว เพราะเกรงว่าถ้าคุยกันต่อเดี๋ยวจะเลยเวลาทานข้าวของคุณคราม แล้วมันจะดูน่าเกียจ เค้าจ้างมาทำงาน ไม่ได้จ้างให้มาอยู่สุขสบายเป็นเจ้าของบ้านสักหน่อย



"พี่นุ้ยครับ" ผมเรียกพี่นุ้ยที่กำลังง้วนอยู่กับหม้ออะไรสักอย่างที่ตั้งบนเตาแก๊สอยู่

"ว่าไงค่ะคุณขิง?" พี่นุ้ยเงยหน้าขึ้นมาตอบ

"เดี๋ยวรบกวนช่วยยกข้าวไปให้คุณครามหนึ่งสำรับนะครับ แล้วถามคุณหมอด้วยว่าจะทานด้วยรึเปล่า? จะได้ยกไปทานด้วยกันเลย"

"นี่คงจะเป็นนักกายภาพคนใหม่ที่เข้ามาดูแลนายหัวสินะ?" เขาเพิ่งสังเกตเห็นว่าในครัวมีใครอีกคนอยู่ด้วย เลยไม่ได้ยกมือไหว้แต่ทีแรก

"ครับ" ขิงยิ้มให้ป้าน้อย

"คุณขิงค่ะ นี่ป้าน้อยเป็นแม่นมของคุณคราม แล้วก็คนดูแลที่นี่ค่ะ" ตกใจไม่คิดว่าคุณครามจะมีคุณแม่นมกับเค้าด้วย อย่างกะในหนังเลยแหะ ขิงคิดในใจ

"สวัสดีครับ ป้าน้อย ผมขิงครับ เป็นนักกายภาพของคุณคราม ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ" ผมยกมือไหว้อย่างที่คิดว่าเคารพนอบน้อมที่สุดสำหรับผู้ใหญ่ แล้วก็ยิ้มให้แกไปด้วย

"นักกายภาพหุ่นบางแค่นี้จะดูแลนายหัวไหวเหรอ? ไม่ใช่ว่างานหนักหน่อยก็ทำไม่ไหวแล้วชิงลาออกไปก่อนนะ" ป้าน้อยแกมองขิงตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าแล้วก็มองจากปลายเท้าขึ้นไปใหม่ อะไรของป้าแกเนี๊ยะ ขิงเกาหัวงงๆ

"ไหวครับ งานหนักผมไม่กลัวหรอกครับ ผมจะดูแลนายหัวของป้าให้ดีที่สุดแน่นอนครับ " ผมยิ้มให้แกไปอีกครั้ง

"ก็ดี แล้วชั้นจะคอยดู แล้วทำไมต้องให้นุ้ยยกกับข้าวขึ้นไปให้ ทั้งๆ ที่มันหน้าที่ตัวเองที่ต้องดูแลนายหัวไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่ทำเองล่ะ?" แกถามพร้อมกับสายตาที่มองลอดแว่นออกมาอย่างตำหนิ เจองานยากละขิงเอ๊ย ขิงคิดในใจ

"เอ่อ...ป้าค่ะ ปกติคุณขิงเธอก็เป็นคนจัดการเองเสร็จสรรพอยู่แล้วค่ะ เพียงแต่ว่าเมื้อกี้คุณคีย์มา เธอคงขอยืมตัวคุณขิงมานั่งทานข้าวด้วยมั้งคะ" พี่นุ้ยเห็นว่าผมกำลังถูกจ้องอยู่เลยพยายามเข้ามาช่วย ซึ่งผมก็โล่งอกนะ ผมไม่อยากจะปะทะกับผู้ใหญ่สักเท่าไหร่ เพราะยังไงเสียแกก็คือผู้ใหญ่ แถมยังเป็นแม่นมของคุณครามอีก

"ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็ไปสิ แต่อย่าให้นานจนลืมเวลาดูแลนายหัวล่ะ" ป้าแกว่าแล้วสำทับมาก่อนที่จะหมุนตัวไปทำอย่างอื่นต่อ

"ครับ"

"คุณขิงเอาอะไรอีกไหมค่ะ เดี๋ยวพี่จะได้เอาให้?" พี่น้อยถามแล้วยิ้มให้ผมแหยๆ อย่างเข้าใจ ผมก็เข้าใจนะครับ แต่ไม่ทั้งหมด เข้าใจว่าแกคงเป็นห่วงนายหัวของแก แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมแกถึงทำตัวเหมือนมีอคติกับผมตั้งแต่วันแรกแบบนี้

"ไม่เป็นไรครับพี่นุ้ย ผมจัดการเองดีกว่าครับ พี่นุ้ยจะได้จัดสำหรับของนายหัวเลย เธอคงหิวแล้ว" ผมเอ่ยปฏิเสธเพราะแทนที่จะให้พี่นุ้ยทำให้ผม แต่ให้จัดให้คุณครามเลยดีกว่าจะได้ไม่ดูเป็นการรบกวนคนอื่นจนเกินไปด้วย

"ค่ะ งั้นมีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกได้นะคะ" ผมยิ้มแล้วก็ก้มหัวรับคำเพื่อเป็นการขอบคุณ จากนั้นก็ตักแกงส้มกับเครื่องเคียงใส่ถาด ส่วนข้าวก็ตักใส่โถไว้แล้วเรียบร้อย

"ขอบคุณครับ เอ่อ..พี่นุ้ยครับ ยาก่อนอาหารอีกตัวหนึ่งของคุณครามอยู่ที่โต๊ะหัวเตียงนะครับ ผมเตรียมไว้ให้แล้ว ส่วนยาหลังอาหารเดี๋ยวผมจัดการเองครับ จะได้ไม่รบกวนเวลาทำงานพี่นุ้ย" ดีนะที่ผมจัดการอะไรไว้แล้วก่อนที่จะลงมา ไม่งั้นคงดูเหมือนเป็นการทำงานที่ไร้ความรับผิดชอบเต็มที

"รบกวนอะไรกันคะ อยู่บ้านเดียวกัน ต้องช่วยๆกันค่ะ"

"ครับ งั้นผมเอาสำหรับนี้ไปทานกับคีย์ก่อนนะครับ เดี๋ยวตามไป" ผมยิ้มให้พี่นุ้ยนิดนึงแล้วยกสำรับออกไป

"ทำไมไปนานอะ?" คีย์ถามขึ้นมาทันทีที่ผมยังไม่ทันได้นั่งเก้าอี้เลย

"พอดีเจอป้าน้อย เลยพูดคุยทำความรู้จักกันหน่อยน่ะ เพิ่งได้เจอป้าเค้าวันนี้เอง" ผมก็ตอบไปตามความจริงแต่เหลืออีกส่วนที่โดยป้าน้อยแกฉะมาเล็กๆที่ไม่ได้บอก แล้วก็คิดว่าไม่จำเป็นต้องบอกด้วย เพราะบอกไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา มันดูน่าเกียจที่พูดถึงแกลับหลังแบบนั้น ยังไงแกก็เหมือนญาติผู้ใหญ่ของที่นี่

"อ๋อ แล้วเป็นไงอะ?"

"ก็ไม่เป็นไงอะ ทานเถอะ เดี๋ยวเย็นจะไม่อร่อย" ผมเลี่ยงที่จะตอบเลยบอกให้คีย์รีบๆทานตอนที่ยังร้อนอยู่

"นึกว่าโดนป้าแกว่ามา ความจริงป้าแกก็เป็นคนใจดีนะ แต่ติดจะหวงพี่ครามมากไปหน่อย เพราะแกเป็นคนเลี้ยงมาตั้งแต่ยังเล็กๆ คงจะหวงตามประสาแม่นมแหละ อีกอย่างคนดูแลคนก่อนๆ ก็ร้ายใช่เล่น คราวนี้เลยเปลี่ยนเป็นผู้ชายเลย" คีย์อธิบายให้ฟังก่อนจะใช้ช้อนตักแกงส้มเข้าปาก แล้วส่งสายตาวิบวับอย่างถูกใจ ผมเลยตักชิมบ้าง ปรากฏว่าฝีมือป้าแกอร่อยจริงๆนั่นแหละครับ สมคำร่ำรือทั้งคุณครามแล้วก็พี่นุ้ยเอ่ยชม

"อื้ม เราก็เข้าใจแหละ"

"พูดแบบนี้ แสดงว่าโดนว่ามาแล้วเรียบร้อยสิ นี่ขนาดนักกายภาพเป็นผู้ชายนะ ยังโดน ถ้าเป็นผู้หญิงจะโดนเท่าไหร่เนี๊ยะ เราไม่อยากจะคิดเลย เดี๋ยวอยู่ๆ ไปก็ดีเองแหละ ป้าแกคงชอบขิง เพราะขิงตั้งใจดูแลพี่ครามดี เรารู้ อิอิ" คีย์เคี้ยวงุบงับแล้วพูดให้กำลังใจ ผมเห็นแบบนี้ก็ยิ้มตาม เพราะคีย์ดูจะเอร็ดอร่อยกับอาหารมื้อนี้มาก ส่วนเรื่องป้าน้อยผมก็ไม่ได้เก็บมันมาใส่ใจหรอกครับ ฟังแบบนี้แล้วก็เข้าใจมากกว่า เพราะถ้าเป็นผมแม่ก็คงหวงแบบนี้เหมือนกัน

"อย่ามาคาดหวังในตัวเรานักเลย เรายังไม่รู้เลยว่าจะทำได้ดีไหม?" ถึงตอบไปแบบนั้นแต่ผมก็มั่นใจนะว่าคุณครามจะหายเป็นปกติได้ เอาเกียรติของนักกายภาพเป็นประกันเลย

"เอาหน่า เรารู้จักขิงดี ว่าขิงต้องทำได้ สู้ๆ" คีย์ชูกำปั้นขึ้นมาเพื่อให้กำลังใจ พร้อมฉีกยิ้มให้

"อื้อ!!"

"แล้วกลับมานี่ จะมาช่วยบริษัทคุณพ่อคีย์เลยเหรอ?"

"ยังหรอก ขอพักสักอาทิตย์สองอาทิตย์ก่อนค่อยเริ่ม" คีย์ยกน้ำขึ้นดื่มก่อนตอบ พูดถึงเรื่องช่วยงานที่บ้าน ก็คิดถึงที่บ้านเหมือนกันนะ ความจริงก็คิดอยู่ว่าเสร็จงานนี้จะกลับไปช่วยที่บ้านดีไหม? จะได้อยู่ดูแลพ่อแม่ด้วย ท่านก็แก่แล้ว ถึงจะมีพี่ขุน กับพี่ขิม ดูอยู่แล้วก็เหอะ แต่งานที่บ้านก็ไม่ใช่น้อยๆ เห้ออออ พ่อกับแม่จะเป็นยังไงบ้างนะ? ไม่ได้โทรหาเป็นอาทิตย์แล้ว

"ดีจังนะ เป็นลูกที่ดีกลับมาช่วยงานที่บ้าน เราก็คิดอยู่เหมือนกันว่าเสร็จงานนี้จะกลับไปช่วยงานที่บ้าน"

"ที่เชียงใหม่อะนะ ไกลอะ ถ้าเกิดกลับไปอยู่บ้าน แล้วนายเจล่ะ ไม่เฉาตายแย่เหรอ?" นี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ต้องคิด จะให้ไปอยู่ด้วยกันที่เชียงใหม่ เจก็คงไม่ไปแน่ เพราะบ้านเราไม่ได้อยู่ในตัวเมือง อยู่อำเภอรอบนอกเสียด้วยซ้ำ ถึงจะเป็นในตัวเมืองเชียงใหม่ เจก็คงไม่มาหรอก เพราะเจติดสังคมแบบกรุงเทพฯ ไหนจะเพื่อนฝูงอีก ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่

"ไม่รู้สิ เอาไว้ถึงตอนนั้นค่อยคิดดีกว่า ตอนนี้ยังต้องดูแลพี่ชายคีย์ไปอีกนานอยู่"

"นั่นสินะ ทำวันนี้ให้ดีที่สุดก่อนดีกว่าเนอะ"



......................


"ก๊อกๆๆ ทานข้าวเสร็จแล้วใช่ไหมครับ? เดี๋ยวอีกสักพักค่อยทานยาหลังอาหารนะครับ" หลังจากทานข้าวเสร็จผมก็กลับห้องไปแปรงฟัน ล้างหน้าแล้วกลับไปดูแลคุณครามต่อ ส่วนคีย์ก็กลับบ้านไปแล้ว เห็นบอกว่าพ่อโทรมาตาม แต่ก่อนกลับยังไม่วายแซวผมเรื่องคุณครามอีก หึๆๆ จะเป็นไปได้ไง เพ้อเจ้อไปใหญ่แล้วเพื่อนคนนนี้

"อื้ม" ครามตอบรับสั้นๆ

"แล้วหมอตั้นล่ะครับ ทานได้ไหมครับแกงส้ม?" ผมถามหมอตั้นเพราะคิดว่ามันคงดูน่าเกียจถ้าจะถามแค่คุณครามที่เป็นเจ้านายคนเดียว เพราะหมอก็อยู่ตรงนั้นด้วย

"ทานได้ครับ อร่อย!!" หมอยิ้มมาให้เพื่อเป็นการยืนยัน ผมเลยยิ้มตอบแล้วยกถาดสำรับออกไปตั้งไว้ข้างนอก เสร็จแล้วจะได้ยกลงไปล้าง

"ตรวจเสร็จก็กลับไปดิ ข้าวก็กินแล้ว หัดเกรงใจเจ้าของบ้านบ้างเหอะมึง" ครามมองเพื่อนตัวเองทีขิงทีแล้วขมวดคิ้วมุน ไล่หมอตั้นกลับบ้านอย่างไม่สบอารมณ์ ส่วนขิงได้ขมวดคิ้วไม่เข้าใจว่าโมโหอะไรอีกแล้ว เพราะข้าวก็กินแล้ว จะว่าโมโหหิวก็คงไม่ใช่

"เจ้าของบ้านเค้าไล่แล้วครับ งั้นผมคงต้องกลับแล้วครับคุณขิง ไว้มีโอกาสผมจะพาไปเที่ยวนะครับ ครึๆ" หมอตั้นแกล้งตัดพ้อเล่นๆ แล้วโบกมือบ๊ายบาย

"ไปนะเว้ยเพื่อนคราม แล้วจะหมั่นมาเยี่ยม"

"ไปสักทีโว้ย รำคาญ แล้วก็ไม่ต้องมาบ้านกูบ่อย เหม็นขี้หน้า เปลืองข้าวเปลืองน้ำ"

"ขี้เหนียวจริงนะครับนายหัว เลี้ยงเพื่อนแค่นี้ ขนหน้าแข้งไม่ล่วงหรอกครับ หึๆๆ" หมอตั้นแกล้งแซวแล้วหัวเราะหึๆตบท้าย

"กวนตีน!!" คุณครามยกขาขึ้นจะถีบหมอตั้นแต่ลืมไปว่าตัวเองยังใช้ขาได้ไม่ได้ปกติ จึงยกค้างไว้แล้วทำยู่หน้าเพราะเจ็บ ส่วนหมอตั้นก็ทำหน้าทำตาเยาะเย้ยแล้วชี้นิ้วลงไปที่ขาของคุณคราม จากนั้นก็ชี้หน้าคุณครามสลับกันไปอย่างกวนๆ จนผมอดยิ้มตามไม่ได้ที่นายหัวสุดโหดถูกคนอื่นแกล้งบ้าง

"ไปจริงๆ ล่ะครับคุณขิง คราวนี้คงอีกหลายอาทิตย์ กว่าจะได้มาเห็นรอยยิ้มหวานๆ ของคุณขิงอีก อย่าลืมคิดถึงผมบ้างนะครับ ครึๆ" หมอตั้นทำหน้าสลดแล้วเปลี่ยนเป็นยิ้มหวานอย่างอดอ้อนส่งมาให้ก่อนจะเดินออกห้องไป ผมไม่ถือสาคนอย่างหมอตั้นหรอกครับ ไม่ว่าเค้าจะเล่นอะไรมันก็ดูตลกเสียมากกว่า ทั้งการส่งสายตามาให้ การออดอ้อน หรือทำสีหน้าแกล้งสลด ผมว่าเค้าเป็นขี้เล่นดีนะครับ ทั้งที่รู้จักกันได้ไม่นานแท้ๆ แต่ยังเข้ากันได้ง่ายขนาดนี้ อยู่กับคนไหนก็ทำให้เค้ายิ้มไปด้วยเลย

"มองตามมันขนาดนั้น ไม่ตามมันไปเลยอะ" ขิงหันขวับมาตามเสียงประชดของครามที่ตอนนี้กำลังนั่งอยู่บนโซฟากลางห้องที่หมอตั้นเป็นคนพยุงมา

"ตามไปได้ด้วยเหรอครับ?" ขิงเอ่ยถามเล่นๆ แต่คุณดูเหมือนว่าครามคงไม่อยากเล่นเท่าไหร่ เลยหุบยิ้มทันที ส่วนอีกคนก็จ้องมาอย่างโหดๆ

"ไม่ได้ นายยังต้องดูแลชั้นอยู่" นั่นสิ ก็รู้อยู่แล้วนิว่าผมต้องดูแลคุณอยู่ ยังจะพูดแบบนั้นอยู่อีก ใจจริงก็อยากพูดแบบนี้นะ แต่ก็ไม่ได้พูดออกไปหรอก เดี๋ยวจะมีปัญหากับนายจ้างเปล่าๆ อดทนๆขิง

"ก็นั่นสิครับ"

"สนิทกับมันมากรึไง ถึงได้ชวนกันไปเที่ยว?" ขิงเงยขึ้นมามองหน้าครามอย่างไม่เข้าใจ เป็นคำถามปกติแต่น้ำเสียงไม่ปกติ ขิงเลยต้องคิดก่อนว่าจะตอบยังไงไม่ให้กระทบกับตัวเองมากที่สุด

"ก็ระดับหนึ่งครับ" มิตรภาพดีๆ เพื่อนดีๆ ก็ควรเก็บไว้ เพราะมีคนรัก ก็ยังดีกว่ามีคนเกลียด พ่อขิงบอกไว้

"เก่งไม่เบานะ ทั้งที่เพิ่งรู้จักกันแท้ๆ ทำยังไงล่ะถึงทำให้ไอ้หมอมันเพ้อได้ขนาดนี้?" ขิงขมวดคิ้วกับคำถามของคราม

"พูดอะไรของคุณ อารมณ์เสียอะไรก็อย่ามาพาลใส่ผมสิ" ขิงพูดออกมาอย่างไม่เข้าใจอารมณ์ของคนตรงหน้าแล้วก็ถอนหายใจอย่างปลงๆ

"อย่ายุ่งกับเพื่อนชั้น ไอ้หมอมันเป็นคนซื่อ คงตามเล่ห์ใครไม่ทัน" จนแล้วจนรอดก็ยังคงคิดว่าผมจะมาหลอกเพื่อนเค้าสินะ จะบ้ารึเปล่า? คนอย่างคุณหมอเนี๊ยะนะคนซื่อ ถ้าอย่างคุณเรียกซื่อ คนทั้งโลกคงเรียกว่ามนุษย์หินกินหญ้าแล้วล่ะ พูดมาได้

"คุณหมอเค้าโตแล้วนะครับ คงไม่ถึงกับไม่รู้ว่าใครเป็นยังไง? แล้วผมก็บริสุทธิ์ใจกับเค้าในฐานะเพื่อนจริงๆ" ขิงพยายามพูดให้ชัดเจนจะได้เคลียร์ให้มันจบๆ

"ขอให้มันแน่อย่างนั้นเถอะ"

"ครับ" ขิงตอบรับคำเพราะยังไงเสียมันก็คือความจริง มีแต่คนตรงหน้าเขาเท่านั้นแหละที่เข้าใจผิดอยู่ได้ตลอด

"จะอ่านหนังสือ หรือจะทำอะไรดีครับบ่ายนี้?" ขิงพูดกับครามดีๆ เพราะอย่างน้อยแรงกันไป แรงกันมาก็ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก ยิ่งกับคนอารมณ์ร้อนแบบครามแล้วด้วย

"ชั้นอยากเคลียร์งานที่ฟาร์มมากกว่า ช่วยไปเอามาให้หน่อยได้ไหม? ไม่ได้ตรวจดูนานแล้ว" เป็นอย่างที่คาดไว้ ถ้าเราเย็นเค้าก็จะเย็นตาม แต่ถ้าเค้าร้อนแล้วเราร้อนตามก็เหมือนกับยิ่งเติมเชื้อไฟให้ลุกเข้าไปอีก

"ได้ครับ แต่อย่าหักโหม จนร่างกายรับไม่ไหวนะครับ มันจะไม่ดีเอา" ก็ดีเหมือนกันนะ ถ้าอยู่เฉยๆ คงเบื่อแล้วก็เป็นห่วงงาน ถึงไม่ได้ออกไปดูฟาร์มข้างนอก แต่ตรวจรายรับรายจ่ายหรือรายละเอียดงานคงจะทำให้เจ้าตัวไม่รู้สึกเบื่อได้อยู่มั้ง ขิงลุกไปเอางานที่ห้องทำงานครามมาให้ แล้วนั่งอ่านหนังสืออยู่บนอาร์มแชร์อีกตัวหนึ่งที่มุมห้อง เผื่อว่าเค้าต้องการให้ช่วยอะไร






...................................... TO BE CON >>





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-11-2015 12:13:46 โดย รักเจ้าเอย »

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
 o13  .....  :L1:  ให้คนแต่งค่ะ

พี่หมอตั้นนี้ก็แกล้งคีย์จังเลยนะ....  :mew4: 

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :laugh:

มา แล้วๆ

ออฟไลน์ รักเจ้าเอย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1



@PFlove    ขอบคุณครับสำหรับดอกไม้ให้กำลังใจ  เค้าจำตัวเองได้ ขอบคุณคราฟที่มาติดตามบ่อยๆ

@Cavalli  เค้ากลับมาแล้ว. อิอิ  ที่หายไปคือไปทำงานมา เหนื่อยมากไม่มีเวลาแต่งเลย  (งานเค้ามันต้องเดินทางแล้วติดต่อกับต่างชาติเลยทำให้วุ่นๆตลอด แต่ก็จะพยายามมาต่อให้นะได้พัก5วัน)

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
ชอบจ้า ติดตามนะๆ
เสียแต่ว่ายังมีคำผิดเยอะอยู่

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
สนุกๆๆๆกๆ อยากอ่านอีก

ออฟไลน์ neverland

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
คุณครามเริ่มชอบขิงแล้วอ่ะดิ้~ มีแอบหวงนะเรา
ขิงดูจริงใจดี กลัวใจเจว่าจะแอบนอกใจตอนอยู่ห่างกัน แต่ก็ดีนะจะได้ให้คุณครามปลอบขิงซะเลย 5555

ออฟไลน์ รักเจ้าเอย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1

อันดามัน...ซ่อนรัก
ตอนที่ 7







"ก๊อกๆๆ"

"เฮ๊ย!!" ขวัญเอ๊ยขวัญมา หันหลังกลับแทบไม่ทัน คนอะไรตัวเองกำลังแก้ผ้าอยู่แท้ๆยังอนุญาติให้คนอื่นเข้ามาได้

"หึๆๆ ทำอย่างกับไม่เคยเห็นไปได้" ครามส่งเสียงหัวเราะชอบใจที่ทำให้นักกายภาพคนเก่งหลุดฟอร์มออกมาได้

"หมายความว่าไง?" ขิงถามทั้งที่ยังหันหลังให้อยู่

"เอ้า..เช็ดตัวให้ก็เคยมาแล้ว ยังจะเขินอีกทำไม?"

"มันเหมือนกันซะที่ไหนกันล่ะ" ขิงพูดกับตัวเองเบาๆ เพราะตอนเช็ดตัวเขาไม่ได้เช็ดท่อนล่างให้ไง ลุงแช่มต่างหากล่ะที่เป็นคนทำให้

"แล้วผมหันไปได้รึยังครับ?" ขิงถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

"ก็หันมาสิ ไม่ได้ห้ามนิ" ครามตอบเสียงกวนๆ

ผมหันไปทั้งๆที่ใจยังตุ้มๆต่อมๆอยู่ แต่รู้สึกโล่งอกที่คราวนี้ไม่เจอแบบเมื่อกี้อีก ไม่งั้นคงต้องหัวใจวายตายแน่  มันน่าตกใจน้อยเสียที่ไหน เปิดประตูเข้ามาก็เจอเจ้าของห้องกำลังยักแย่ยักยันกับกางเกงตัวเดียวอยู่บนเตียง แถมยังเปลือยท่อนบนอีก ผู้ชายตัวโตๆ อกเป็นอก กล้ามเป็นกล้าม ผิวสีแทนกำลังดึงกางเกงออก บรื้ย!! ติดตาชะมัด

"คุณ.. ถอดเสื้อผ้าออกทำไม?" ขิงถามเสียงสั่นๆ

"น้ำมันหกใส่ มาช่วยดึงกางเกงออกให้หน่อยสิ "  บนกางเกงผ้าเนื้อดีสีครีมมีรอยน้ำเป็นดวงใหญ่ๆอยู่ เขาไม่ได้ทะลึ่งลามกอะไรนะ แต่มันทำให้นึกถึงอย่างอื่นมากกว่าน้ำเปล่าจริงๆ ขิงรีบสะบัดหน้าไล่ความคิดบ้าๆนี้ออกไปแล้วเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวในตู้ออกมาก่อนที่จะเดินไปหยุดอยู่ตรงปลายเตียง เขินก็เขินแต่ต้องทำเพราะมันคือหน้าที่ ท่องเข้าไว้ขิง หน้าที่ๆ อย่าฟุ้งซ่าน

"เอามาทำไม?" ครามขมวดคิ้วถามอย่างแปลกใจ

"ก็เอามาคลุมท่อนล่างของคุณไว้ก่อนไง"

"ไม่จำเป็นหรอกมั้ง ชั้นใส่กางเกงในแล้ว หรือว่านายเขิน?" แหนะ!!ยังจะถามอีก ถามอย่างเดียวไม่ว่านะ แต่หรี่ตาด้วยนี่คือยังไง?

"ไม่ตอบ แสดงว่าจริง จะว่าไปนายก็มาถูกเวลาจริงๆนะ มาตอนชั้นต้องการความช่วยเหลือพอดีเลย" ครามแกล้งพูดทีเล่นทีจริง แล้วลงท้ายด้วยเสียงหัวเราะหึๆๆในลำคอ เขาล่ะไม่ชอบน้ำเสียงกระเซ้าเย้าแหย่แบบนี้จริงๆ แล้วก็ไม่ชินด้วย จากคนที่คอยจับผิด เจ้าอารมณ์มาเป็นคนแบบนี้เนี๊ยะ

"อย่าพูดเป็นเล่นสิคุณ ผมเป็นคนดูแลคุณ ก็ต้องอยู่ใกล้ตัวคุณตลอดเวลาเป็นปกติอยู่แล้ว ใครจะเลือกช่วงเวลาแบบนั้นได้กัน" ขิงเอ็ดคนตัวโตกว่า แล้วเอามือสอดเข้าไปใต้ผ้าขนหนูสีขาวเพื่อดึงกางเกงออกจากขาให้

"นั่นสิเนอะ งั้นนายก็ควรทำตัวให้ชินได้แล้วนะ เพราะนายคงต้องเห็นชั้นแก้ผ้าแบบนี้ไปอีกนานเลย อย่างน้อยก็จนกว่าชั้นจะทำอะไรเองได้สะดวกขึ้น" คิดซะว่าพูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง ดังนั้นขิงจึงไม่ได้ตอบอะไรไป

"ใส่กางเกงดีกว่าครับ เดี๋ยวจะไม่สบายเอา"

"ถอดเสื้อผ้าแค่นี้ไม่ทำให้ชั้นป่วยหรอกหน่า "

"ถึงอย่างนั่นก็เถอะครับ ควรระวังไว้ก่อน เกิดป่วยขึ้นมา คงไม่ได้ทำกายภาพบำบัดอีก" ขิงพยายามใจเย็นยกเหตุผลต่างๆขึ้นมาเพื่อให้อีกฝ่ายรีบๆใส่กางเกงสักที ขืนยังแก้ผ้าอยู่อย่างนี้ตัวเขาเองนั่นแหละที่หายใจไม่ทั่วท้อง ไม่รู้ว่าจะเจอแจ๊คพอตเมื่อไหร่

"ครับผม"

"นี่คุณ ผมพูดจริงจังนะ ยังจะมาทำเป็นเล่นอยู่อีก"  คนเค้าอุตส่าห์หวังดี กลัวว่าจะไม่สบาย ยังจะมาทำเป็นเล่นอีก เดี๋ยวก็ปล่อยให้ใส่เองซะหรอก

"นี่นายดุชั้นเหรอ?" ครามหยุดยิ้มแล้วเอ่ยถาม

"ครับ"

"แปลกดีนะ ปกติไม่เคยมีใครทำแบบนี้กับชั้นเลย?" ตอบเสร็จครามก็เอาขาสวมเข้าไปกางเกงขาสั้นผ้าเนื้อดีที่ขิงถืออยู่อย่างว่าง่าย ผิดกับตอนแรกที่ยังไงก็ยังไม่ยอมใส่

"แบบนี้แบบไหนครับ?" ขิงขมวดคิ้วถามอย่างไม่เข้าใจ

"ก็ดุชั้นแบบนายไง"

"นี่คุณจะบอกว่า ตั้งแต่เกิดมาก็ยังไม่เคยมีใครดุคุณเลยงั้นเหรอครับ?" ขิงถามต่ออย่างอึ้งๆ ไม่คิดว่าจะมีลูกคนไหนที่ไม่ถูกพ่อแม่ดุหรือตีบ้างเลย ขนาดตัวเขาเองยังถูกแม่ทั้งดุและตีบ่อยๆเลยตอนเด็กๆ พี่ขุนยิ่งแล้วใหญ่ถูกตีบ่อยกว่าเขาอีก เพราะเป็นคนพาน้องไปเล่นซนไปเรื่อย อันนี้แม่ว่า

"อื้ม พ่อชั้นเป็นคนเงียบๆ เรื่องในบ้านท่านจะให้คุณแม่เป็นคนจัดการเองทั้งหมด ส่วนแม่ชั้นก็คงรักชั้นมากมั้ง แม้แต่ตีท่านก็ยังไม่เคยเลย"

"เพราะแบบนี้สินะคุณถึงเป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง?" ขิงเผลอลืมตัวคิดเสียงดังไปหน่อย จนครามหันมาจ้อง

"นายว่าไงนะ?" ครามถามแล้วรี่ตามองอย่างจับผิด

"เปล่าๆ ครับ"

"งั้นเหรอ?" ครามถามอีกครั้งแล้วผลิกตัวเข้าหาขิงที่นั่งอยู่ใกล้กันเพื่อจับผิด ส่วนขิงที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว พอถูกเข้าใกล้แบบนี้ก็ตกใจ จนต้องผงะออก

"คะ...ครับ" ขิงตอบเสียงตะกุกตะกักแล้วรีบกลั้นหายใจ เพราะระยะห่างของพวกเขามันใกล้กันมาก จนคิดว่า ถ้าหายใจอีกฝ่ายคงรู้สึกถึงลมร้อนๆนั่นด้วยแน่ๆ

"ชั้นคิดว่านายนินทาชั้นซะอีก" ครามพูดจบก็ยิ้มร้ายๆใส่ขิงก่อนจะผละออกมา

"ใครจะกล้าทำแบบนั้นกับเจ้านายกัน" ขิงตอบแล้วยิ้มแหยๆให้ ส่วนครามก็แค่ปรายมองแล้วหัวเราะในลำคอ มองออกไปนอกหน้าต่าง

ขิงมองตามครามออกไปข้างนอก เห็นคนงานกำลังช่วยกันจัดแต่สวนที่เขารักอย่างขะมักเขม้น แต่สายตาของเค้าตอนนี้ช่างเศร้าเหลือเกิน ผู้หญิงคนนั้นไม่น่าจะทำแบบนี้กับเขาได้ลงคอเลย เป็นผมถ้าโดนแบบนี้คงเจ็บจนทุรนทุรายเหมือนกัน แต่ไม่แปลกหรอกที่เค้ายังไม่ลืมผู้หญิงคนนั้น แต่ตอนนี้คงจะทั้งรักทั้งเกลียดนั่นแหละ

"เอ่อ.....วันนี้แดดไม่แรง อยากลงไปเดินเล่นในสวนไหมครับ?" ขิงตกใจตัวเองอยู่เหมือนกัน ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงพูดแบบนั้นออกไป

"นายคิดจะทำอะไรกันแน่?" ครามถามกลับพร้อมสายตาที่ขิงอ่านไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ดวงตาคู่นั่นทั้งดุดันและมีอำนาจจนเขาหายใจแทบไม่ทั่วท้องเลย

"ผมแค่คิดว่า ถ้าได้ใช้ฝึกใช้ไม้เท้า ฝึกกำลังขาที่นั่นคงจะดีไม่น้อย เพราะร่างกายจะได้ผ่อนคลายไปด้วย เส้นก็จะได้ไม่ยึด" ขิงตอบทั้งที่ใจยังเต้นตุ๊บๆหายใจไม่ทั่วท้องอยู่เลย คุณครามตอนเช้ากับตอนนี้ไม่เหมือนกันเลยสักนิด ไม่มีความขี้เล่นหลงเหลืออยู่เลย มีแต่ความจริงจังและอึดอัดบอกไม่ถูก

"งั้นเหรอ?"

"ค..ครับ"

"งั้นตอบมาอีกคำถามสิว่าคนที่นี่เค้าไม่ได้บอกนายรึไงว่าทำไมชั้นถึงไม่ชอบลงไปข้างล่างนั่น? หื้อ?" ครามแสยะยิ้มให้กับตัวเองแล้วมองกลับมาที่ขิง

"ปะ..เปล่าครับ พวกเขาไม่ได้บอก"

"ไม่น่าเชื่อนะว่าพวกเค้าจะไม่บอกนายเลย" ครามพูดหนึ่งประโยคช้าๆแล้วเว้นไว้พูดอีกหนึ่งประโยคต่อ "ชั้นให้ตอบอีกครั้ง บอกไว้ก่อนนะ ชั้นไม่ชอบคนโกหก" เมื่อถูกกดดัน ขิงถึงกลับกลืนน้ำลายลงอย่างยากลำบาก

"เอ่อ...คือ.."

"ทำไมอ้ำอึ้งละครับ คุณนักกายภาพคนเก่ง ...ไหนล่ะครับคนที่ปากดีก่อนหน้านั้นหายไปไหนซะแล้ว?" ครามตอบแล้วกระชากมือขิงที่ยืนอยู่ใกล้เข้ามาหา

"ค..คุณ จะทำอะไรน่ะ?" ขิงตอบเสียงสะดุด

"อยากเป็นนักเหรอนายหญิงคนใหม่ของที่นี่?" ครามหรี่ตามอง

"ผมเปล่า"

"เปล่าแล้วทำไมถึงคิดเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้?"

"ผม........."

"ไม่มีคำตอบแล้วรึไง?" ครามแสยะยิ้มอีกครั้งอย่างน่ากลัว

"ถ้าอยากเป็นนายหญิงคนใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก ถึงชั้นไม่เคยมีอะไรกับผู้ชาย แต่ก็คิดว่ามันคงไม่ยากหรอก ว่าไหม?"

"พูดอะไรของคุณ ต่ำ!!"

"แล้วคนแบบไหนล่ะที่ว่าสูงส่ง คนแบบนายงั้นสิ? ตอบชั้นมานายมาที่นี้เพราะจุดประสงค์อะไร?" ครามคำรามอย่างดุดันจนขิงตกใจ

"ปล่อยผมก่อน ผมเจ็บ" ขิงนิ่วหน้าเพราะความเจ็บที่ข้อแขน

"อย่ามาสำออย ตอบชั้นมา นายทำงานนี้ให้ใคร ผู้หญิงคนนั้นกับชู้ของมันเหรอ?"

"โอ๊ย...!! ผมไม่ได้ทำงานให้ใคร ผมมาเพื่อดูแลคุณตามคำขอร้องของคีย์ น้องชายคุณ"

"หมดเวลาโกหกแล้วล่ะ"

"อุ๊ก!!" เสียงคนถูกเหวี่ยงลงกับโซฟาเบดตัวใหญ่ที่มุมห้อง ตามด้วยร่างกำยำของครามที่ก้าวเข้ามาหยุดอยู่ข้างๆ

"คุณ!!... ขาคุณไม่ได้..หัก" ขิงเบิกตาโตอย่างตกใจ

"เปล่า ชั้นขาหักจริง" ครามเริ่มนิ่วหน้าเล็กน้อยเพราะความเจ็บที่เผลอออกใช้กำลังขามากเกินไป ทั้งๆที่คุณหมอก็เตือนไว้แล้ว

"คุณทำแบบนี้เพื่ออะไร?" ขิงถามอย่างสับสน ไม่เข้าใจว่าทำไมครามถึงโกหก ปิดบังเรื่องนี้มาโดยตลอด แม้กระทั่งคนในครอบครัว

"ชั้นควรถามนายมากกว่าว่าเข้ามาที่นี่เพื่ออะไร จะยอมพูดดีๆหรือว่าจะให้ใช้วิธีอื่น?" ครามมองตามเนื้อตัวของขิงแล้วโน้มตัวลงมาใกล้จนได้ยินเสียงหัวใจของขิงเต้นชัดเจน

"อย่าทำอะไรบ้าๆนะ ไม่งั้นผมร้องให้คนช่วยจริงๆด้วย" แค่ปาก้ก่งไปงั้นแหละ ขิงสั่นจนเห็นได้ชัด

"ร้องสิ แต่ร้องไปก็เท่านั้นแหละ เพราะถ้าชั้นไม่ได้อนุญาต คนข้างนอกก็ไม่กล้าเข้ามาหรอก หึ!!"

"คุณ!!" ครามขยับเข้ามาใกล้อีกนิด จนขิงร้องขึ้นอย่างตกใจเข้าไปอีก

"ตอบมา นายต้องการอะไรจากคนที่นี่?" ครามนิ่วหน้าอีกครั้งเพราะเขาใช้เข่าคร่อมทับอีกคนเอาไว้

"ก็บอกแล้วไงว่าผมแค่มาดูแลคุณ ไม่ได้มาเพื่อจุดประสงค์ร้าย"

"งั้นเหรอ?"

"แล้วที่พยายามเข้ามาเปลี่ยนที่นี้เพราะอะไร?"

"ผมไม่ได้ต้องการเปลี่ยนอะไร แค่อยากช่วยให้คุณ.."

"ช่วยชั้นทำไม?"

"ช่วยให้คุณไม่ต้องเจ็บปวดเพราะความรู้สึกแบบนั้นอีกเท่านั้น อึก!!" ขิงร้องออกมาเพราะครามเผลอบีบต้นแขนของเขาแรงขึ้นอีก

"ชั้นไม่เชื่อ ตอบความจริงมา!!"

"โอ๊ย!! ปล่อย..มันเจ็บ" ขิงดิ้นขลุกขลักเอาตัวรอด แต่แรงเขาจะสู้คนตัวโตกว่าแบบครามได้ยังไง

"ถ้าไม่เชื่อ คุณก็ให้ผมออกไปจากที่นี่ได้เลย ผมพร้อมจะไปจากที่นี่ทันที"

"คิดว่าง่ายอย่างนั้นเหรอ?" ครามจ้องหน้าขิงแล้วถามกลับ

"ทำไมอีก?"

"สัญญาที่นายทำไว้กับชั้นล่ะ?"  ถ้าลาออกกลางคันก็เสียค่าปรับ ขิงลืมเรื่องนี้ไปสนิทเลย

ที่เขาพูดแบบนี้ออกไป ไม่ใช่เพราะเชื่อที่ขิงพูด แต่เพราะเขาไม่มีหลักฐานต่างหากว่าคนตรงหน้านี้เข้ามาที่นี่เพราะอะไร อย่างน้อยเก็บเอาไว้ใกล้ตัว ก็ยังดีกว่าปล่อยไปแล้วรอให้ความตายเดินเข้ามาหาตัวเอง  ครามครุ่นคิดแต่มือก็ยังไม่ปล่อยออกจากแขนของขิง เขาไม่รู้ว่าคนตรงหน้านี้จะมาดี หรือมาร้าย ถึงแม้ว่าจะเป็นเพื่อนสนิทของน้องชายเขาก็ตาม เขาเป็นนายหัวที่นี่มานานหลายปีแล้วตั้งแต่พ่อเสียชีวิตไปเพราะขัดผลประโยชน์ของผู้มีอิทธิพลที่นี่ ลำพังแม่ที่เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆคงไม่สามารถดูแลธุรกิจของครอบครัวเขาได้คนเดียวหรอก เพราะเขารู้ดีว่าธุรกิจและอำนาจที่นี้เป็นยังไง

"แล้วคุณจะเอายังไง?" ขิงเริ่มตามไม่ทัน ทั้งหงุดหงิดทั้งเจ็บตัวที่จู่ๆถูกทำแบบนี้ ทั้งที่ตัวเองอยากช่วยแท้ๆ กลับกลายเป็นว่าทำคุณบูชาโทษไปซะงั้น

"ง่ายๆ ชั้นจะไม่ปล่อยให้นายลาออกจนกว่าจะแน่ใจว่าไม่มีใครส่งนายมาเพราะทำลายชั้นหรือที่นี่เด็ดขาด"

"แต่ผมรู้ความลับของคุณแล้ว ไม่กลัวรึไงว่าผมจะเอาเรื่องนี้ไปบอกกับคนอื่นหรือศัตรูของคุณ?"

"ไม่ต้องห่วง ชั้นมีวิธีของชั้นก็แล้วกัน"

"ยังไง?"

"หึ!! บอกตอนนี้ก็ไม่สนุกสิ"










« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-11-2015 12:20:32 โดย รักเจ้าเอย »

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
กลับมาโหดอีกแล้วพระเอกเรา  :ling1:
อย่าทำอะไรน้องขิงนะเว้ย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
 :angry2: :angry2: :angry2:  อย่าทำอะไรน้องขิงนะ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :z13:

ค้างเลยยยยย

ออฟไลน์ HamsteR

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
นี่มัน.... จำเลยรัก รึเปล่าเนี่ย
แต่ชอบอ่ะ  มาต่อบ่อยๆนะ มันค้างงงง

อย่าทำอะไรขิงนะคุณคราม ขิงยังซิง  :hao6:

ออฟไลน์ รักเจ้าเอย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1








อันดามัน...ซ่อนรัก
ตอนที่ 8









วันนี้ผมตื่นขึ้นเช้ามากเพราะได้ยินเสียงดังโวกเหวกอยู่นอกบ้าน เช้าขนาดนี้ใครมาทำอะไรกันกันนะ   ผมชโงกหน้าดูจากหน้าต่างห้อง เห็นลุงแช่มกับคนงานอีกหลายคนกำลังขนดินอยู่ บ้างก็กำลังตัดหญ้าแล้วก็รื้อถอนต้นไม้แถวนั้น แต่เอ๊ะนั่นเป็นสวนของคุณครามนิ เกิดอะไรขึ้น?


 ***************

**********

*****


"พี่นุ้ยครับ นั่นพวกเค้ามาทำอะไรกันครับ?"

"นายหัวเธอสั่งให้ลุงแช่มไปจ้างพวกชาวบ้านแถวนี้มาช่วยกันทำสวนใหม่ตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ พี่ก็ว่าแปลกนะคะ อยู่ดีๆนายหัวสั่งให้ทำแบบนั้น ทั้งๆที่แต่ก่อนรักและหวงสวนนี่ยิ่งกว่าอะไร" พี่นุ้ยพูดพร้อมกับทำหน้าตาครุ่นคิด ไม่ใช่แค่แกหรอกที่แปลกใจ ผมยังแปลกใจเลย

"นั่นสิครับพิลึกคน แล้วตอนนี้นายหัวของพี่นุ้ยอยู่ไหนครับ?"

"อยู่ข้างบนค่ะ" อ่อ..นึกว่าลงมาสั่งงานด้วยตนเองซะอีก ลืมไปยังต้องแสดงละครเป็นคนพิการอยู่นิ ขิงคิดแล้วก็เบ้ปาก เมื่อคืนก็สั่งให้เขาเก็บข้าวเก็บของย้ายมาอยู่ห้องติดกับตัวเอง ดีนะที่ไม่ใช่ห้องมีประตูเชื่อมเข้าออกหากันได้ ไม่งั้นเขาต้องประสาทกินแน่ๆ  อะไรจะระแวงขนาดนั้น

"งั้นผมขึ้นไปดูเค้าก่อนนะครับ"

**************

**********

*****

ไม่อยากเข้าไปเลย แต่ก็ต้องเข้า ขิงรวบรวมความกล้า "ก๊อกๆๆ"

"เข้ามาได้"

"อรุณสวัสดิ์ครับ" ขิงเอ่ยทักทายเจ้าของห้องที่ตอนนี้กำลังกึ่งนั่งกึ่งนอนอ่านหนังสืออยู่บนโซฟาเบดมุมห้อง

"อรุณสวัสดิ์" ครามกล่าวทักทายกลับด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วก้มอ่านหนังสือต่อ จนเป็นฝ่ายขิงเองซะอีกที่ไม่รู้จะทำยังไงดี เพราะปกติเคยเข้าห้องมาแล้วต้องพาไปทำธุระส่วนตัว อาบน้ำในห้องน้ำ เอายาก่อนอาหารให้กิน แล้วตามด้วยทำกายภาพนิดหน่อยก่อนจะทานมื้อเช้า เรียกได้ว่าทุกอย่างเขาต้องเป็นคนจัดการดูแลให้ในฐานะนักกายภาพตั้งแต่ตื่นนอนไปจนถึงเข้านอน แต่ตอนนี้เค้าไม่ได้เป็นอะไรแล้วจะให้ผมทำอะไรล่ะ ขิงยืนเคว้งมองซ้ายทีขวาทีแล้วลดตัวลงนั่งกับโซฟาตัวเล็กใกล้ๆกัน

"วันนี้คุณตื่นเช้าดีนะครับ" ขิงแอบกัดเล็กน้อย นึกถึงเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ เขาต้องขึ้นมาปลูกคนตัวโตนี่ทุกเช้า ขึ้นมาปลุกช้านิดช้าหน่อยก็โดนว่า ที่แท้ทั้งหมดเป็นแค่แผนตบตาคนอื่นรวมถึงตัวเขาเองด้วย ทั้งเรื่องติดเหล้า เรื่องเดินไม่ได้ ถึงแม้จะบอกว่าขาหักจริงแต่ก็เดินได้แล้วนิ คิดแล้วมันน่าเจ็บใจนัก ไอ้เราก็อุตส่าห์ดูแลซะดิบดี ยังไม่รวมถึงตอนโดนแกล้งสารพัดนะ

"ชั้นก็ตื่นเช้าปกติ นายต่างหากที่ตื่นสาย" สายที่ไหน เช้ากว่าปกติเหอะ ขิงเหลือบมองนาฬิกาที่แขวนติดผนังมุมห้อง

"มองอะไร?" ครามถามเพราะตอนนี้ขิงกำลังใช้สายตามองมาที่ตัวเองอยู่

"ก็แค่แปลกใจว่าทำไมคุณถึงทำสวนใหม่?"

"ไม่มีอะไร แค่เบื่อแล้วอยากทำใหม่แค่นั้น" เชื่อก็บ้าแล้ว ขิงคิดในใจ

"แล้วคุณจะให้ผมทำยังไงต่อ ในเมืองคุณเองก็เดินได้แล้ว?"

"ทำเหมือนเดิมนั่นแหละ"

"ทุกอย่างเลยเหรอครับ?"

"ไม่ต้องก็ได้ เรื่องส่วนตัวพวกอาบน้ำแต่งตัว ชั้นทำเองได้ แต่ตอนชั้นอาบน้ำนายต้องมาเฝ้าอยู่หน้าห้องด้วย" นั่นสินะ ถ้าไม่ทำแบบนั้นเดี๋ยวคนอื่นจะสงสัยอีก ลำบากเนอะ อาบน้ำก็ยังต้องมีคนมาเฝ้าเหมือนสาวน้อยอาบน้ำในสถานที่ไม่คุ้นเคยเลย

"พาลงไปข้างล่างหน่อยจะไปดูพวกนั้นทำงาน"

"ผมต้องไปเรียกลุงแช่มมาช่วยพยุงคุณใช่ไหมครับ?"

"หัวไวดีนิ" เค้าเรียกประชด เข้าใจไหม

"แล้ว..."

"มีอะไรอีก?" ทำเสียงเข้มอีกละ ถามนิดถามหน่อยก็ไม่ได้

"ปะ..เปล่าครับ" ขิงปฏิเสธเพราะแค่ได้ยินเสียงกับเห็นหน้าก็ไม่กล้าถามละ จะดุไปไหน

"งั้นผมไปตามลุงแช่มก่อนนะครับ"

"เดี๋ยว!!"

"เอาโทรศัพท์นายมา" ครามยืนขึ้นเต็มความสูงแล้วใช้สายตากดดัน

"เอาไปทำไมครับ" ขิงยังไม่ยอมยื่นให้

"เอามาให้ก่อนเหอะหน่า อย่าถามมาก" เอาอีกละ เอ๊ะอะอะไรก็ข่มขู่ อย่าคิดว่าตัวโตกว่าแล้วจะยอมนะ

"ไม่!!.....เห้ยๆคุณจะทำอะไรน่ะ" ขิงร้องเสียงหลง กระเถิบถอยออกห่างครามอย่างรวดเร็ว เพราะเขากำลังถูกครามจับนั่นจับนี่หาโทรศัพท์อยู่

"ถ้าไม่อยากให้ทำแบบนั้นก็ส่งมือถือนายมาสิ" ไม่เข้าใจว่ามันเกี่ยวตรงไหนกับการที่เขาตกเป็นผู้ต้องหาเนี๊ยะ ไม่ให้ยังไงก็ไม่ให้ ถ้าเอาไปแล้วเขาจะใช้อะไรอะ แบบนี้มันจำกัดสิทธิเสรีภาพกันชัดๆ

"หยุดอยู่ตรงนั้นเลยคุณ ห้ามเข้ามา" ครามส่งเสียงหึ!! แล้วก้าวเข้าไปอีก ไม่สนใจว่าขิงจะพูดว่ายังไง

"อ๊ะ..เอาไปสิ ไม่เห็นต้องทำแบบนั้นเลย" ขิงหน้าแดง

"ชั้นจะยืดของนายไว้ก่อน ถ้าพิสูจน์ได้ว่านายไม่ได้เข้ามาเพื่อหวังผลประโยชน์หรือทำลายที่นี่ ชั้นจะคืนให้"

"โห..นะ แล้วถ้าเกิดพ่อแม่หรือที่บ้านผมโทรมาล่ะคุณ?"

"แค่พ่อแม่เองเหรอที่โทรมา?" ครามถามเสียงเรียบ

"เปล่า ก็มีพี่ชายกับพี่สาวผมอีก แล้วก็..."

"แฟน" ครามตอบแทน ส่วนขิงก็พยักหน้าตอบว่าใช่

"เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง ถ้าพวกเขาโทรมาชั้นจะบอกนายเอง" สภาพเหมือนนักโทษชิบหาย ขิงคิดในใจ

"โถ่คุณ..ไม่ยืดได้ไหม ผมติดเกมส์ในมือถือ ต้องเข้าเล่นทุกวันเดี๋ยวพวกเพื่อนๆมันทำคะแนนนำ ...เอ่อพูดถึงเพื่อนๆ ถ้าพวกนั้นโทรมาล่ะคุณ ไหนจะคีย์อีก คุณจะให้ผมตอบว่าไง ยิ่งรายสุดท้ายยิ่งแล้วใหญ่ เคยยอมอะไรง่ายๆคุณก็รู้" เอาสิชักแม่น้ำทั้งห้าแล้วไม่ยอมอีกก็ให้มันรู้ไป แต่เรื่องเกมส์ผมโกหก ผมไม่ใช่คนติดเกมส์ขนาดนั้น ไม่เล่นก็ไม่ตาย คะแนนผมก็ไม่สนใจเพราะเอาแลกเงินก็ไม่เห็นจะได้

"มีอีกไหม?" ครามตะวัดสายตามอง ไม่คิดว่านักกายภาพคนเก่งของเขาจะมีนิสัยแบบนี้ เด็กจริงๆ

"มี" ขิงพูดขึ้นทันทีแบบไม่ต้องรอจังหวะ

"พ่อแม่ผมต้องเป็นห่วงแน่ๆ เพราะพวกท่านชอบโทรมาตอนกลางคืน ดึกๆ" เน้นย้ำว่าดึกๆ  "ถ้าโทรมาแล้วผมไม่ได้รับ ท่านต้องเป็นกังวลแน่ๆ ผมไม่อยากให้ท่านเป็นห่วง นะคุณนะอย่าเอาของผมไปเลย" นี่เขาอุตส่าห์ลงทุนอ้อนแล้วนะ ปกติจะใช้วิธีนี้กับคนในครอบครัวเท่านั้น

"พ่อแม่นายมักจะโทรมาตอนกี่โมง?" ครามหรี่ตาถาม

"เอ่อ..พวกเค้าโทรมาไม่เป็นเวลาหรอกคุณ" เชอะไม่ได้กินไอ้ขิงหรอก ขิงยิ้มมุมปากอย่างผู้มีชัยเหนือกว่า

"รหัสอะไร?" ครามถามแล้วยักคิ้วบอกว่า ไอ้มือถือเนี๊ยะ

"ถามทำไมคุณนั่นมันของส่วนตัวผมนะ" ขิงเดินเข้าไปแย่งกลับคืนมาเพราะไม่ชอบวิธีของคราม อีกอย่างเขาไม่ได้เต็มใจให้อยู่แล้ว คนบ้าอำนาจตรงหน้านี่ต่างหากที่บังคับขู่เอาไป

"รหัสอะไร?" ครามถามแล้วขยับเดินเข้าไปใกล้จนขิงต้องเป็นฝ่ายถอยหนีซะเอง

"ไม่บอก!!" ปากเก่งไปงั้นแหละทั้งๆที่รู้ว่าสู้ไม่ได้

"แน่ใจ๊?" ครามปรายตาถาม สายตาเจ้าเล่ห์ ส่วนขิงก็พยักหัวตอบรับงึกๆกล้าๆกลัวๆ

"เอ่อ......ขยับเข้ามาใกล้ไปแล้วนะคุณ ถอยไปหน่อยดิผมร้อน แหะๆ" ขิงใช้มือดันหน้าอกครามไว้แล้วเอ็นตัวไปด้านหลังจนเกือบจะหงายท้องลงไปบนโซฟา

"หึๆ" ครามหัวเราะในลำคอแล้วขยับหน้าเข้าไปใกล้อีกจนขิงชนโซฟาเบดล้มลงไป

"คุ๊ณณณ!!!" ขิงร้องเสียงหลงเสียงดังพร้อมเบิกตาขึ้นอย่างตื่นๆ เพราะตัวเองถูกครอมอยู่ แถมยังเอามือมากักเขาไว้เพื่อไม่ได้หนีได้อีก 

"รหัส" ครามพูดสั้นๆแต่ระยะห่างของเขาสองคนใกล้มากจนได้กลิ่นโคโลญผสมอาฟเตอร์เชฟที่เจ้าตัวใช้ประจำ

"ว..วันเกิดผม 22 เดือนหนึ่ง" ขิงตอบแล้วมองใบหน้าคมเข้ม ตาสวยคม คิ้วเข้ม เครากับหนวดตรงคางที่ถูกโกนเมื่อเช้านี้ยังเห็นเป็นตอลางๆสีเขียวอยู่ ขิงกลืนน้ำลายหัวใจเต้นแรง เขาไม่เคยรู้สึกกับใครแบบนี้เลยแม้แต่กับเจ ตึกๆ ๆๆ

"ก็แค่นั้น หึๆ" ครามผละออกพร้อมกับขิงที่ถอนหายใจออกอย่างโล่งอก ใช้มือดันตัวเองลุกขึ้นจากท่าล่อแหลมเมื่อครู่ ครามใช้มือกดรหัสทั้งสี่ตัวลงหน้าจอโทรศัพท์ยี่ห้อผลไม้ จากนั้นหน้าจอแสดงผลพร้อมรูปเจ้าของเครื่องที่กำลังยิ้มแป้นถ่ายเซล์ฟฟี่กับเจ้าหมาตัวไม่เล็กไม่ใหญ่ขนสามสี ตาสีฟ้า ครามยิ้มมุมปากเล็กน้อยกับภาพตรงหน้า ที่แท้นักกายภาพจอมเฮี๊ยบของเขาก็แกล้งทำเป็นเข้มไปงั้นนั่นเอง

"ยิ้มอะไร?" ขิงทำหน้าตูมที่ถูกครามยิ้มเยาะ นิ้วเรียวยาวกดดูข้อมูลการโทร

"ปกติพ่อแม่นายจะโทรมาช่วงสองทุ่มถึงสามทุ่ม งั้นก็ขึ้นมาหาชั้นที่ห้องเวลานี้แล้วกันนะ ส่วนคนอื่นถ้าโทรมาชั้นจะบอกให้นายโทรกลับเองตอนอยู่กับชั้น" ย้ำว่าตอนอยู่กับชั้น ชัดเจนจนขิงอ้าปากเหวอ "งั้นไปตามลุงแช่มมาได้ละ" ขิงเดินกระฟัดกระเฟียดออกไปตามคำสั่ง โดยไม่วายหันมามองครามก่อนออกห้องไปอย่างขัดใจ





***************

**********

*****

"พี่นุ้ยเห็นลุงแช่มอยู่ไหนครับคุณครามให้หา?" ขิงถามนุ้ยที่กำลังใช้ไม้ขนไก่ปัดเครื่องเรือนอยู่

"คุณขิงเป็นอะไรรึเปล่าคะหน้ายุ่งเชียว?" ก็จะอะไรอีกล่ะ นายหัวของพี่นุ้ยนั่นแหละนิสัยไม่ดี จอมโกหก เจ้าเล่ห์แล้วก็บ้าอำนาจที่สุด

"เอ่อ..เปล่าครับ สงสัยผมคงร้อนมั้งครับเลยทำหน้ายุ่งไปหน่อย พี่นุ้ยอย่าสนใจเลยครับอีกหน่อยคงปรับตัวได้เอง แหะๆ"

"แล้วนายหัวเธอเรียกหาลุงแช่มทำไหมเหรอคะ หรือว่าให้ไปซื้อเหล้าอีก?" ซื้อเหล้าเลิ่วอะไรกันครับพี่นุ้ย พวกเราโดยนายหัวของพี่หลอกแล้ว

"เปล่าครับ คุณครามบอกว่าอยากไปดูคนงานเค้าจัดสวนใหม่ ผมเลยจะขอแรงลุงแช่มขึ้นไปช่วยพยุงเค้าลงมาข้างล่างหน่อยครับ "

" ลุงแช่มแกคงอยู่แถวนี้แหละค่ะ เดี๋ยวพี่ไปตามให้"

"รบกวนด้วยครับพี่นุ้ย"

*
*
*

"ก๊อกๆๆ"

"เข้ามาเลย" ลุงแช่มเคาะห้องแล้วเปิดประตูเข้ามา ดูจากสีหน้าแล้วแกน่าจะไปขลุกอยู่กับต้นไม้ที่สวนหลังบ้านมาแน่ๆ เหงื่อออกเต็มเลย

"นายหัวมีอะไรให้ผมรับใช้เหรอครับ?" ลุงแช่มเช็ดเหงื่อแล้วเดินเข้าหยุดใกล้ๆ ดูท่าลุงแกเคารพคุณครามมากเลยนะเนี๊ยะ

"ผมจะลงไปข้างล่าง รบกวนลุงช่วยพยุงลงไปหน่อยครับ" ขี้เก๊ก ขิงพูดเบาๆ แต่ครามยังอุตส่าห์ได้ยินอยู่

"ครับ" ลุงแช่มรับคำแล้วเดินมาพยุงคุณครามขึ้นจากเตียง ขิงเบ้ปากใส่เพราะก่อนหน้าที่ลุงแช่มจะขึ้นมาเขายังถูกคนที่นอนอยู่บนเตียงนั่นแกล้งอยู่เลย

"มาช่วยพยุงชั้นด้วยสิ ลุงแช่มคนเดียวจะไหวได้ไง" ขิงกลอกตาขึ้นอย่างขัดใจแล้วเข้าไปพยุงตามคำสั่ง ........จะให้เขาช่วยอีกทำไม แค่ลุงแช่มคนเดียวก็ไหวอยู่แล้ว ไม่หกล้มไปหรอกเพราะแข้งขาตัวเองก็ดีแล้ว

"จับไม้เท้าแน่นๆ นะครับ" พลอยทำให้เราต้องแอคติ้งตามไปเลยเหอะๆ

"ค่อยๆ ก้าวนะครับ จากนั้นก็ค่อยๆ ทิ้งน้ำหนักลงที่ขา อย่างนั้นแหละครับ" ขิงบอกตามที่เคยบอกผู้ป่วยคนก่อนๆ

"รู้สึกยังไงบ้างครับ?" ผมเอ่ยถามระหว่างที่เค้าวางเท้าลงกับพื้นได้สำเร็จ ในใจก็คอยลุ้นไปด้วยทั้งที่เป็นแค่การแสดง

"เจ็บแปล๊บๆ นิดๆ แล้วก็ขัดๆ" ครามตอบแล้วนิ่วหน้านิดๆ ถึงแม้จะเดินได้เองแล้ว แต่ถ้าใช้กำลังขามากเกินไป ก็ทำให้รู้สึกเจ็บจิ๊ดๆขึ้นมาเหมือนกัน

"งั้นพอก่อนไหมครับ เดี๋ยวผมกับลุงแช่มพาลงไป?" ขิงประชด

"ไม่เป็นไร แค่รู้สึกเจ็บแปล๊บๆ ตอนทิ้งน้ำหนักเฉยๆ พอทนได้" ขิงเบ้ปากใส่อีกครั้งเพราะคิดว่านายหัวฟาร์มหอยมุกแสดงละครได้สมบทบาทจริงๆ ยิ่งกว่าดาราช่องน้อยสี มากสีบางคนซะอีก นี่ถ้าเขาไม่รู้คงจะคิดว่าเจ็บจริงนะนั่น

"งั้นก็ค่อยๆ ทิ้งน้ำหนักนะครับ ดีที่ภาคใต้ไม่หนาวเหมือนบ้านผม ไม่งั้นหน้าหนาวคงจะปวดแล้วก็ชาแน่ๆ" ที่พูดแบบนั้นออกไปเพราะครามกระซิบข้างหูว่าให้แสดงละครให้มากกว่านี้ เลยต้องแอคติ้งให้มากขึ้น ลำบากไปอีก

"ค่อยๆ ก้าว ไม่ต้องรีบนะครับ.....อ๊ะ!!" ขิงส่งเสียงร้องเบาๆอย่างตกใจเพราะรู้สึกถึงมือที่ย้ายจากบ่าลงมาที่เอวของตัวเอง แต่เจ้าตัวกลับทำหน้าตาเรียบเฉยจนขิงต้องใช้สายตาปรามบอกว่าให้เอามือออก

"อะไร?"

"เอามือออก" ขิงใช้สายตามองลงไปที่เอว

"หึๆ"

**********
*******
****

"ใกล้ถึงแล้วครับ อีกนิดเดียว"

"ชั้นอยากเดินได้เร็วๆ ไม่อยากเป็นภาระใคร"

" ไม่มีเห็นคุณเป็นภาระหรอก ทุกคนเค้าก็เต็มดูแลคุณกันทั้งนั้น เชื่อผมสิ ถ้าไม่เชื่อก็ถามลุงแช่มดูก็ได้ครับ" ผมพยักหน้าไปทางลุงแช่ม เปลี่ยนบทให้ลุงแช่มแกพูดบ้าง ขี้เกียจแสดงละคร ไม่ถนัด

"จริงครับ พวกเราไม่เคยคิดแบบนั้นกันเลยครับ พวกเรารักนายหัว อยากให้นายหัวกลับมาเดินได้เร็วๆ" ลุงแช่มยิ้มไปพูดไปเพื่อให้กำลังใจนายหัวของแก แต่หารู้ไม่ว่าพวกเราทุกคนถูกเค้าต้มซะเปื่อยเลย ไม่รู้ว่ากับคุณป้าแม่ของเค้าจะถูกต้มด้วยรึเปล่า ถ้าเป็นแบบนั้นจริง คงบาปมากเลยนะนั่นเพราะทำเอาคุณป้าร้องไห้เสียน้ำตาไปตั้งเยอะ

"แล้วนายล่ะ?" ครามหันมาถามขิง

"เกี่ยวอะไรกับผม? นี่มันคืองานของผมนะคุณ " งานของนักกายภาพรวมถึงแสดงละครบ้าๆนี้ด้วย

"แค่อยากรู้"

"ไม่มีคำตอบครับ" ขี้เกียจตอบ




พวกเรานั่งดูคนงานทำสวนที่ใต้ต้นเฟื่องฟ้าต้นใหญ่ กิ่งของมันแผ่ปกคลุมให้ร่มเงา ลมก็พัดเอื่อยๆพอคลายร้อน จากตอนเช้าที่กำลังเริ่มทำได้เป็นบางส่วน ตอนนี้ก็ใกล้เสร็จหมดแล้ว เหลือแต่ออกแบบแล้วก็ปลูกลงใหม่อีกครั้ง แอบเสียดายต้นไม้ดอกไม้บางต้นอยู่เหมือนกัน เพราะกว่าจะปลูกให้มันโตแล้วก็ออกดอกสวยขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยนะผมว่า

"นายหัวอยากได้ต้นอะไรเป็นพิเศษไหมครับ? ลุงจะได้หามาปลูกให้" ลุงแช่มถามเพราะแต่ก่อนทั้งสวนนี้แล้วก็บ้านหลังนี้ก็เป็นแนวคิดของคุณครามทั้งหมด เลยอยากถามก่อนที่จะลงมือทำ จะได้ไม่ต้องรื้อขึ้นมาอีก

"นายว่าต้นอะไรดี?" ครามหันมาถามคนข้างๆ

"นี่มันสวนของคุณนะ มาถามผมได้ยังไง?" ผมตอบตามที่คิด สวนก็ไม่ใช่ของผม จะให้มาออกความคิดเห็น ฟังดูแปลกๆยังไงไม่รู้

"ก็นายอยากให้ชั้นทิ้งสิ่งที่ทำให้รู้สึกไม่ดี แล้วสร้างมันขึ้นมาใหม่ ก็นี่ไง" ผมเข้าใจแล้วครับ เห้ออออนะ

"แล้วให้ผมเลือกจะดีเหรอครับ?" ผมถามซ้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ไม่ใช่ว่าพอผมออกความคิดเห็นไปปุ๊บ พอมันออกมาไม่สวย แล้วจะมาว่าผมนะ

"อื้ม ชั้นไม่ค่อยสันทัดเรื่องต้นไม้ดอกไม้เท่าไหร่ เอาแบบที่นายชอบเลย" จะเชื่อได้ไหมเนี๊ยะขนาดไม่สันทัดเท่าไหร่สวนนี่ยังออกมาสวยขนาดนี้เลย พูดไปแล้วก็เสียดายนะ เสียดายทั้งสวนแล้วก็เงินด้วย แต่ก็นะ...ไม่ใช่เงินเราสักหน่อย

"งั้นผมขออนุญาติแล้วกันนะครับ แต่ขอบอกไว้ก่อนนะครับ ถ้ามันออกมาไม่สวยอย่ามาว่ากันทีหลังนะครับ เพราะคุณให้ผมเลือกเอง"

"อื้ม"

"ผมชอบดอกมะลิ กับดอกชมนาด เพราะกลิ่นมันหอม ถึงดอกมันจะไม่สวยมาก แต่เพราะกลิ่นมันหอมนี่แหละครับผีเสื้อกับผึ้งถึงชอบบินมาตอมบ่อยๆ งั้นเอาต้นมะลิกับต้นชมนาดแล้วกันนะครับลุง" ผมคิดไปพูดไป ให้เจ้าของเค้าได้ยินด้วย เผื่อไม่ชอบส่วนไหนจะได้เปลี่ยน แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่แย้งสักคำ ผมเลยบอกกับลุงแช่มว่าเอาตามนี่แหละ "ต้นเก็ดถวา คุณรู้จักไหม? ไม่สวยแต่หอมอีกเหมือนกันนั่นแหละ"

"ไม่รู้จัก"

"ชื่อจริงมันคือมะลิซ้อน ทางเหนือเรียก เก็ดถวา กลิ่นคล้ายมะลิแต่หอมแรงกว่า ต้นนี้แม่ผมชอบมาก เอาไปวัดก็ได้ เด็ดมาวางไว้บนหัวเตียงก็ได้ หรือจะเอาใส่ในตู้เย็นไว้ลดกลิ่นก็ได้อยู่" ขิงเผลอเล่าที่บ้านออกไปตามความเคยชิน

"ดูเป็นตัวนายดีนะ กับดอกพวกนี้" ครามพูดแล้วหันมองขิง

"ยังไงครับ?"

"ก็ตามนั้นแหละ!! แล้วต้นชมนาดมันเป็นไงล่ะ ชั้นยังไม่เคยเห็น?"

"ก็เป็นไม้เถาน่ะครับ ต้องทำร้านให้มันพันขึ้นด้วย ส่วนดอกก็จะเล็กๆ สีขาวเป็นช่อๆ ดูเหมือนดอกมะเขือมากกว่านะผมว่า แต่ดอกมันหอมมาก หอมนวลเหมือนกลิ่นมะลิปนกับใบเตย ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ตอนกลางคืนกลิ่นมันก็จะยิ่งหอมขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่ได้ฉุนหรอกนะครับ ที่บ้านผมมีหนึ่งต้น ใกล้ๆกับหน้าต่างห้องผมเลย ตอนกลางคืนกลิ่นมันก็จะลอยตามลมมาพอดี ทำให้หลับสบายมากเลย" ขิงยิ้มเพราะคิดถึงต้นชมนาดที่บ้าน ต้นนี้เขากับพ่อเป็นคนช่วยกันปลูกเองกับมือ

"แหะๆ ขอโทษครับ เผลอเล่าไปซะไกล" ขิงเกาแก้มตัวเองเขินๆ

"ไม่เป็นไร น่าสนใจดี เล่าต่อสิ" ใครจะไปกล้าเล่าต่อ ก็เล่นจ้องซะขนาดนั้น ขิงคิดในใจ

"เอ่อ..จบแล้วครับ"

"งั้นเหรอ?" ครามเห็นคนขี้อายเขินจนแก้มแดงเลยแกล้งกระเซ้าไปอีกนิดหน่อย เพราะนานๆทีจะได้เห็นนักกายภาพคนเก่งหลุดฟอร์ม

"ใครจะเป็นอย่างนั้นกันเล่า ว่าไปเรื่อย" ขิงเกาแก้ม

"ผมไปเอาน้ำกับของว่างก่อนนะครับ" ขิงรีบแจ้นออกไป ใจก็เต้นตุ้มๆต่อมๆ ขืนอยู่ตรงนั้นต่อคงทำตัวไม่ถูกแน่

***************

**********

*****

"พี่นุ้ยเป็นอะไรครับ ร้องไห้ทำไม?"

"ฮึกๆ เห็นนายหัวยอมลงมาข้างล่าง แล้วน้ำตามันไหลค่ะ " ตกใจหมดนึกว่าใครเป็นอะไร โถ่ๆแม่คูณ แม่ขนุนหนัง อยู่ดีๆก็เป่าปี่ซะงั้น

"ตั้งแต่ประสบอุบัติเหตุครั้งก่อน นายหัวก็ไม่ยอมลงมาข้างล่างนี้เลย คุณขิงของพี่เก่งจังค่ะที่ทำให้นายหัวยอมเปลี่ยนใจลงมาได้" พี่นุ้ยปาดน้ำตาทิ้งแล้วฉีกยิ้มให้ผมราวกับคนละคนกับเมื่อกี้

"เอ่อ... ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยครับ แค่ดูแลเล็กๆน้อยๆเอง" เหมือนน้ำมันท่วมปาก จะพูดอะไรก็พูดไม่ได้

"นั่นแหละค่ะ พี่ดีใจนะค่ะที่คุณขิงมาดูแลนายหัว ทำให้นายหัวยอมทำกายภาพบำบัด จนเดินด้วยไม้เท้าได้แบบนี้ ถึงจะเดินไม่สะดวกเมื่อก่อน แต่ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีนะคะ"

"ขอบคุณครับพี่นุ้ย แหะๆ" รู้สึกละอายใจแหะ เพราะเราไม่ได้ทำให้เค้ากลับมาเดินได้เองสักหน่อย

"ขอบคุณอะไรกันคะ พวกพี่ต่างหากที่ต้องขอบคุณคุณขิง ส่วนเรื่องป้าน้อย คุณขิงไม่ต้องเป็นกังวลนะคะ แกก็เป็นของแกแบบนี้แหละ เดี๋ยวอยู่ไปก็ชิน .....แกอาจจะติดไม่ชอบใจพวกนักกายภาพคนเก่าที่ไม่ค่อยตั้งใจดูแลนายหัว วันๆเอาแต่แต่งหน้าทำสวย เพื่อจะอ่อยนายหัวไปวันๆ ป้าแกเลยพลอยมองคุณขิงเป็นแบบนั้นไปด้วยนะค่ะ"

"แต่ผมเป็นผู้ชายนะครับ" ผมรีบแย้งขึ้นทันทีเพราะเท่าที่พี่นุ้ยเล่ามันต้องเป็นกรณีที่นักกายภาพเป็นผู้หญิงสิ แต่นี่ผมเป็นผู้ชายนะ

"ก็ใครใช้ให้คุณขิงน่ารักแบบนี้กันล่ะคะ ป้าแกก็ต้องมีบ้างแหละที่จะรู้สึกแบบนั้น" ผมกลอกตาแล้วถอนหายใจ อย่างปลงๆ

"งั้นเหรอครับ"

"ค่ะ แล้วคุณขิงอยากได้อะไรรึเปล่าคะ? เดี๋ยวพี่หาให้"

"อ๊ะลืมไปเลย ผมว่าจะเอาผลไม้กับน้ำไปให้คุณครามน่ะครับ ไม่สบายแบบนี้ต้องทานอาหารให้ครบห้าหมู่ จะได้แข็งแรง เดินได้ปกติเร็วๆ" ผมประชดตัวเองแล้วหยิบแก้วออกมาสองใบพร้อมกับเหยือกใส่น้ำส้มคั้นที่ทำไว้ตั้งแต่เมื่อวาน

"ดีจังค่ะ ปกตินายหัวไม่ค่อยสนใจทานหรอกนะคะพวกผลไม้เนี๊ยะ"

"นายหัวของพี่นุ้ยนี่ก็กินยากเหมือนกันนะครับ เห็นตัวโตแบบนี้ไม่คิดว่าจะกินยากนะครับ" ผมถามพี่นุ้ย

"นายหัวเป็นคนกินง่าย อยู่ง่ายค่ะ แต่มักจะห่วงงานจนไม่ค่อยดูแลตัวเอง ข้าวปลาก็ทานไม่ค่อยตรงเวลา ผลไม้ก็มีแต่ก็ไม่ค่อยทาน เพราะทานข้าวเสร็จก็จะกระโดดเข้าใส่งานเลยทันที" ผมพยักหน้าหงึกงัก ปรับเปลี่ยนความเข้าใจใหม่ ที่ไม่กินเพราะมีเวลาแต่ห่วงงาน อดคิดไม่ได้ว่าบ้างานขนาดนี้รึเปล่า ภรรยาเค้าถึงทิ้งไป

"นี่ค่ะฝรั่งกับส้มจีน เดี๋ยวพี่เอามังคุดกับลิ้นจี่ไปให้ทีหลัง สองอย่างนี่นายหัวชอบเป็นพิเศษค่ะ" ชอบเหมือนกันเลยแหะ พูดถึงลิ้นจี่ก็นึกถึงสวนลิ้นจี่กับลำไยที่บ้าน ตอนนี้คงถึงฤดูเก็บลำไยแล้วล่ะ ไว้ว่างๆ ให้พ่อส่งมาให้ดีกว่า อยากกิน ปกติถ้าผมอยู่ที่บ้าน พอถึงหน้าลำไยทีไร คนงานในสวนก็จะเอาบันไดไม้ไผ่มาปีนแล้วเก็บใส่ตระกร้าหย่อนลงไปกับเชือกให้คนงานผู้หญิงเป็นคนเด็ดใบแล้วก็จัดแต่งพวงให้สวยๆ จากนั้นเอาใส่ตระกร้าส่งขาย ส่วนลูกที่มันหลุดออกจากพวง เราเรียกว่าลำไยร่วง ลำไยแบบนี้เราก็จะแยกใส่ตะกร้าไว้อีกที่หนึ่งแล้วเอาไปชั่งขายเป็นกิโลโดยต้องเอาไปเข้าเครื่องร่อนที่เป็นตะแกงเหล็กเป็นรูๆ ตามขนาดต่างๆ เพื่อคัดเกรด (ขนาดลูก) มีทั้งAA ที่ราคาสูงสุดเพราะลูกใหญ่สุด รองมาก็ A B แล้วก็ C ตามลำดับ ซึ่งแต่ละปีราคาก็จะไม่เท่ากัน ลำไยที่เข้าเครื่องร่อนแบบนี้โรงงานเค้าจะรับซื้อไว้ไปทำลำไยอบแห้งส่งออกไปจีน ส่วนลิ้นจี้ก็แค่ปีนไปเก็บแล้วจัดแต่งใส่ตระกร้าเพื่อนำไปขายสด อีกเกรดหนึ่งก็เอาทำลิ้นจี้กระป๋อง ง่ายกว่าลำไยเพราะไม่ต้องคัดแยกอะไร

"ขอบคุณครับพี่นุ้ย ลืมบอกไปว่าตอนกลางคืนรบกวนพี่นุ้ยอุ่นนมให้คุณครามด้วยนะครับ จะได้ช่วยเสริมสร้างกระดูก" ถึงเค้าจะเดินได้แล้ว แต่มันก็ยังจำเป็นอยู่ดีสำหรับผู้ป่วยที่เพิ่งหายใหม่หรือเพิ่งกลับมาเดินได้ใหม่เพราะกระดูกกำลังเชื่อมต่อกัน อาจไม่แข็งแรงเต็มที่ ในส่วนของคุณครามต้องรอให้คุณหมอมาตรวจดูอีกที แต่เรื่องนี้ผมว่าหมอตั้นเองก็น่าจะมีส่วนรู้เห็นด้วยเหมือนกัน เพราะเค้าเป็นเพื่อนกันนี่หน่า

"ได้ค่ะ"


...........................

...................



ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
คุณครามหลงขิงแล้วล่ะอีท่านี้
ลืมไปเลยว่าขิงมีแฟน555

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
มาอ่านสองตอนรวดเลย ตกใจนึกว่าน้องขิงเสร็จพี่ครามแน่แล้ว ...  :hao6:
เหมือนจะรักตบจุบแบบโสรญายังไงก็ไม่รู้ สงสารขิงอะ

แต่ถ้าขิงได้เป็นนายหญิงก็ดีนะซิ... :hao3:



ออฟไลน์ รักเจ้าเอย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1

ก่อนอื่นเลยต้องขอขอบคุณทุกคนที่ติดตามและคอมเม้นต์เรื่องนี้ ผมจะนำคำตมนั้นไปแก้ไขในครั้งต่อไปแน่นอนคราฟฟฟ #นายหัวขี้เก๊ก #นักกายภาพจอมเฮี๊ยบ

@คุณ MukmaoY -  ขอภัยด้วยจ้าสำหรับคำผิด เค้าพิมพ์ในไอแพดมินิ เลยลำบากไปนิดนึงนะ ต่อไปจะพยายามตรวจคำผิดให้ละเอียดมากขึ้นครับ
                            - พระเอกเราโหด แต่ไม่มากหรอก มีมุมน่ารักอยู่นะเออ ^^
                            - เอายังไงดีกับแฟนของขิง ฆ่ามันทิ้งเลยดีไหม? อ่อย!!

@คุณ PFlove      - หมอตั้น กับคีย์เค้ามีซัมทิงกัน แล้วอีกอย่างเฮียแกก็ชอบเด็กดื้อด้วย เลยต้องปราบพยศ >> ติดตามๆ
                            -นายเอกเสร็จพระเอกง่ายก็ไม่หนุกดิ ขอเล่นตัวไปก่อนนะ บั๊ยยยยยย!!! อิอิ
                            - ทำยังไงให้ครามหลวรักขิงแล้วให้ขิงเป็นนายหญิงคนใหม่ดี???

@คุณ neverland  - ทีมพระเอกเชียร์เต็มที่เลย อิอิ

@คุณ Patchylove - ถ้าเค้าว่างจะมาต่อบ่อยๆนะตัวเอง เค้ามีงานหลักที่ต้องเดินทางไกลตลอดด้วยอะ รอเค้าหน่อยนะจ๊ะ ม๊วฟๆ

@คุณ cavalli       - เดี๋ยวเค้ามาต่อบ่อยๆนะ ค้างนานไม่ดีเนอะ ฝากให้กำลังใจขิงด้วยนะ จะได้มีกำลังใจสู้รบกับนายหัวคราม

@คุณ HamsteR   - จำเลยรักเลยเหรอ? อาพิศาลเป็นคนเทรนด์นายหัวเองเลยแหละ อิอิ ไม่ได้โหดขนาดนั้น

LOVE U คนอ่าน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-11-2015 07:45:48 โดย รักเจ้าเอย »

ออฟไลน์ HamsteR

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
คุณครามเหมือนว่าจะรู้สึกดีๆกับขิงโดยไม่รู้ตัว แต่คงจะยังไม่ยอมรับใจตัวเองง่ายๆแหะ ดูเป็นพวกดื้อและเอาแต่ใจพอสมควร เดาว่าจะต้องมีเหตุพิสูจน์หัวใจทั้งคู่แน่ๆ ส่วนตัวขิงเอง ตอนนี้ก็คงจะยังไม่ได้คิดอะไรกับคุณคราม เพราะตนมีแฟนอยู่แล้ว แต่จะว่าไป แฟนขิงก็เจ้าชู้เงียบนี่เนอะ พอจะเดาได้ลางๆแล้ว ระยะทางกับความใกล้ชิดมันน่ากลัวนะ หึหึ

ปล.บ่นซะยืดยาวเลย (ส่วนตัวชอบนิยายแนวนี้อ่ะ) สู้ ๆ ๆ ครับ คุณคนเขียน

ออฟไลน์ imvodka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-4
 :mew3: เนื่อเรื่องสนุกมาก ขออย่าให้มีดราม่า

ออฟไลน์ neverland

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
คุณครามตีเนียนนะ เนียนมาก ขี้แกล้งด้วย   :ling1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ ben

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-3
ชอบอะ ต่อไวๆนะค่า

ออฟไลน์ iamtsubame

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
อ่านเพลินเลย แล้วมาต่ออีกนะ :pig4:

ออฟไลน์ รักเจ้าเอย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1



อันดามัน...ซ่อนรัก
ตอนที่ 9




วันที่สองแล้วที่ผมต้องรีบอาบน้ำแต่งตัว เข้ามารอโทรศัพท์ในห้องคุณคราม ความจริงจะโทรไปหาพ่อกับแม่ตอนไหนก็ได้ แต่ติดที่ว่าคุณนายเธอไม่ชอบพกโทรศัพท์ติดตัว เอาวางไว้ไปเรื่อยบ้างแล้วก็ลืมที่ ส่วนพ่อก็อยู่คุมคนงานในสวนจนถึงเย็น กว่าจะกลับมาก็ค่ำๆ บางวันก็กลับดึกเลยเพราะอยู่ก๊งเหล้าขาวกับเพื่อนต่อที่ไร่ ถ้าโทรหาพ่อแต่แม่ไม่ได้คุยก็จะน้อยใจอีก

"มองทำไมคุณ?" ขิงถามหลังจากที่เดินเข้ามาในห้อง

"คิดว่าจะเห็นนายใส่ชุดนอนลายหมีมาซะอีก?"

"น...นี่คุณแอบดูโทรศัพท์ผม?" ขิงเม้นปาก ทั้งโกรธแล้วก็อาย มีสิทธิ์อะไรมาค้นโทรศัพท์คนอื่นแบบนี้ รูปนี้แม้แต่คีย์ก็ยังไม่เคยเห็น ขิงนึกถึงตัวเองตอนใส่ชุดนอนลายหมีที่แม่ซื้อมาจากตลาดให้ ด้วยเหตุผลที่ว่ามันน่ารักดีแล้วก็ลดราคา ของถูกแบบนี้แหละคุณนายเธอชอบนัก แค่เห็นแวบแรกก็สยองแล้ว แต่เพราะกลัวคุณนายเสียใจ เลยต้องใส่มันบ้างนานๆที แต่คุณนายก็ชมแล้วชมอีกว่าน้องขิงใส่แล้วน่ารักอย่างงั้นอย่างงี้ แล้วก็ให้พี่ขิมถ่ายรูปเก็บไว้อะคิดดู แต่รูปนี้นานละนะ เกือบปีแล้วมั้ง

"เปล่านิ" ครามปฏิเสธ

"ไม่เชื่ออะ...คุณโกหก"

"มีความจำเป็นอะไรที่ชั้นต้องโกหก? หื้ม?" ครามยักคิ้วถาม

นั่นสินะ..มีความจำเป็นอะไรที่ต้องโกหก? แต่ถ้าไม่เปิดดูแล้วเห็นรูปนั้นได้ยังไงล่ะ?"

"อะนี่...แม่นายโทรมาพอดี" ครามยื่นมือถือให้ แต่ก่อนที่จะกดรับ รูปของตัวเองที่ถ่ายคู่กับแม่และใส่ชุดนอนตัวนั้นก็โชว์หราขึ้นมาพอดี ขิงเงยหน้ามองครามแล้วยิ้มแหยะๆให้ โอเคเขาผิดเอง ก็คนมันลืมนี่หว่า ใครจะไปจำได้ว่าตั้งมันเป็นรูปตอนแม่โทรมา ถึงจะเห็นทุกวันก็เหอะ

"คุยในนี้แหละ"

 ก็ได้วะ..ถือว่าเมื่อกี้เขาเป็นคนผิด จะยอมให้ครั้งนึง ขิงทำหน้ามุ้ยเดินกลับมานั่งที่เดิม

"สวัสดีครับแม่" อย่าเข้าใจผิดว่าผมพูดภาษากลางกับแม่นะครับ ผมพูดภาษาเหนือหรือกำเมืองนั่นแหละ คุยกับคนในครอบครัว จะพูดภาษาอื่นทำไม...จริงไหม?

"น้องขิงกิ๋นข้าวรึยังลูก?" แม่ถาม

"กิ๋นแล้วครับแม่ แล้วแม่ลอกิ๋นรึยัง?"

"กิ๋นเรียบร้อยแล้วลูก แก๋งปลีใส่แคบหมูของโปรดลูกเลย อิอิ" แม่ชอบเป็นแบบนี้ตลอด ถ้าวันไหนทำของโปรดผมเมื่อไหร่ คุณนายก็จะโทรมาอวดให้ฟังตลอด ทำให้คนฟังกลืนน้ำลายตามแทบไม่ทัน

"แม่อะขิงบ่ได้กิ๋น แม่เอามายั่วเยี๊ยะหยัง คนมันไค้อยาก..ฮู้ก่อ?" เริ่มอ้อนแม่ละ ครามมองตามตาพริบๆ จนขิงต้องเบาเสียงตัวเองลงอีกหน่อย

"ถ้าอยากกินก็รีบกลับมาหาแม่สิ เดี๋ยวแม่ทำให้กิน" (ขอเปลี่ยนเป็นภาษากลางแล้วกันนะครับ เพราะกลัวคนอื่นจะไม่เข้าใจ อิอิ)

"แม่อะ!! ถ้ากลับได้ก็กลับไปแล้ว รอเสร็จงานแล้วขิงจะรีบกลับไปอยู่กับแม่นานๆเลย แล้วห้ามเบื่อก็แล้วกัน คิๆ"

"กลัวว่าจะไม่มามากกว่า ไปติดสาวใต้อยู่โน้นแล้วมั้งลูกแม่?" แม่ก็แซวเรื่องนี้ตลอด

"ไม่มีเลย ทำงานอยู่แต่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหนเลยแม่ก็รู้"

"แล้วพี่ๆอยู่ไหนกันครับ?" ไม่ต้องถามหาพ่อหรอกเพราะเมื่อกี้ได้ยินเสียงอยู่ใกล้ๆกันนี่แหละ คงจะเปิดลำโพงคุย

"เจ้าขุนมันไปส่งแฟนมันกลับบ้าน ส่วนเจ้าขิมก็คงทำรายรับอยู่ในห้องโน่นแหละ" พี่ขิมจะขยันไปไหนเนี๊ยะ แต่เอ๊ะพี่ขุน!!

"พี่ขุนมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่? ทำไมขิงไม่รู้ ไม่เห็นบอกกันบ้างเลย.....ถึงว่าช่วงนี้ไม่ค่อยโทรมาหาน้องเลย" ขิงทำเสียงงอนนิดหน่อย ครามมองตามตาพริบๆอีกครั้งเพราะไม่เคยเห็นนักกายภาพคนเก่งของเขาเป็นแบบนี้เลยสักครั้ง มองจนขิงถลึงตาใส่ก็ยังทำเป็นเฉย ขิงเลยเลิกสนใจแล้วคุยกับแม่ต่อ

"ทีเรายังมี จะให้พี่เราเค้าอยู่เป็นโสดได้ยังไง..พ่อคนนี้" ขิงเดินออกมาคุยที่ระเบียงเพราะอายสายตาคนบางคน......เอาแต่มองอยู่นั่นแหละ ไม่เคยเห็นคนพูดภาษาเหนือรึไง?.....

"ขิงไม่ได้บอกสักหน่อยว่าห้ามมี แค่น้อยใจที่พี่ขุนไม่บอก แล้วพี่สะใภ้ขิงสวยไหมครับ?" ขิงเลิกงอนแล้วถามถึงแฟนของพี่ชาย

"สวย กิริยามารยาทก็น่ารัก เรียบร้อย สเปคพี่เรานั่นแหละ ทีแรกแม่จะแนะนำให้รู้จักก็บอกไม่เอา พอเจอเค้าจริงๆตอนไปส่งแม่ไปทำธุระถึงกับพูดไม่ออกเชียว อิอิ" แม่เผาพี่ขุนให้ฟัง พี่ชายผมเป็นแข็งๆ ทื่อๆ ออกห่ามๆ นิดๆ ถอดพ่อมาเดะ แต่พ่อบอกว่าแบบนี้แหละผู้หญิงชอบ

"เค้าเป็นลูกคนรู้จักแม่เหรอ?" ขิงถามแม่

"ใช่จ๊ะ หนูดาเค้าเป็นลูกสาวของเพื่อนแม่ ลูกพ่อเลี้ยงมานพกับแม่เลี้ยงทัศนีย์เจ้าของไร่องุ่นทัศนีย์ลูกเคยได้ยินไหม?" เหมือนจะเคยได้ยินแหะแต่จำไม่ได้

"แม่ๆงั้นขิงขอวางก่อนนะ พรุ่งนี้ขิงโทรหาใหม่ ฝากหอมแก้มพ่อด้วย คิๆ" ขิงบอกลาแม่แล้ววางสาย เพราะมีคนมาแอบฟังอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ทำทีเป็นเอาหนังสือออกมาอ่าน ทั้งๆที่ตรงโน้นก็นั่งอ่านได้


คุยกับแม่แป๊บเดียวก็ปาไปสามทุ่มกว่าจะสี่ทุ่มแล้ว เวลาเดินเร็วจริง...ทีอยากให้เดินเร็วกลับเดินช้า เหมือนตอนอยู่เฝ้าบางคนนั่นแหละ ครั้งก่อนแม่กับพ่อก็โทรมาถามว่าทำงานที่นั่นเป็นไงบ้าง? เจ้านายใหม่ใจดีไหม? อยากตอบเหลือเกินว่า เจ้านายโหดมาก ชอบแกล้งสารพัด แต่กลัวพวกท่านจะเป็นห่วง เลยตอบไปว่าเจ้านายใจดีมากแทน จากนั้นแม่ก็ถามเรื่องอื่นอีกเยอะแยะจนจำแทบไม่หมด ทั้งอากาศที่นี่เป็นไงบ้าง? อาหารการกินที่นี่อร่อยไหม? เพราะแม่กลัวว่ามันจะเผ็ดจนกินไม่ได้


หลังจากคุยกับแม่เสร็จผมก็ขอตัวกลับมานอน อีกอย่างเจ้าของห้องเค้าจะได้พักผ่อนด้วย แต่ความจริงยังไม่ถึงเวลานอนของผมหรอก แค่พูดให้ดูดีไปงั้นแหละ ดูสารคดีจนจบแล้ว แต่ยังไม่ง่วงเลยเอาโทรศัพท์ขึ้นมาออนเฟซบุ๊ค แต่เล่นไปสักพักก็เบื่อแล้วเหมือนกัน เพราะวันนี้คนช่างพูดอย่างคีย์ไม่ออนเเลย คงจะติดธุระหรือไม่ก็งั้นหลับแล้วมั้ง ได้ยินเจ้าตัวบอกเหมือนกันว่าเริ่มเข้าไปเรียนรู้งานกับทางบ้านแล้ว ส่วนเจตอนนี้หายเงียบไปเลย  มีแต่ข้อความบอกว่ากำลังจะได้เลื่อนตำแหน่ง ทำให้ไม่ว่างเพราะงานเยอะขึ้น ขิงถอนหายใจแล้วบอกลาเพื่อนๆ

ทีแรกว่าจะนอนเลย แต่เอาเข้าจริงๆหัวถึงหมอนแล้วแต่กลับนอนไม่หลับ เดินลงไปหานมอุ่นๆในครัวกิน เผื่อมันจะช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้นดีกว่า

"ไฟในห้องยังเปิดอยู่ ดึกป่านนี้ยังไม่นอนอีกเหรอ?" ขิงเทนมอุ่นใส่แก้วอีกใบหนึ่ง ตั้งใจว่าจะเอาไปเผื่ออีกคนด้วย



"ก๊อกๆ ๆ"

"ใคร?" ครามถาม

"ผมเองคุณ"

"เข้ามาสิ"

"ผมเอานมอุ่นมาให้ครับ เห็นไฟห้องคุณเปิดอยู่ คิดว่าคงยังไม่นอน" ขิงกวาดตามองบนโต๊ะทำงานมีแต่เอกสารอะไรไม่รู้เต็มไปหมด ไม่แปลกใจเลยครับว่าทำไมเขาถึงเป็นนายหัวได้ตั้งแต่อายุยังน้อย 

พ่อเคยบอกว่า "จะเป็นเจ้านายคนอื่นเค้าได้ ต้องขยันและทำได้มากกว่าที่ลูกน้องทำ"  ตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจหรอกว่าจะทำขนาดไปทำไม ลูกน้องเราก็มีตั้งเยอะแยะ ยิ่งพอเห็นพ่อทำงานจนดึก ทุ่มเททุกอย่างให้แล้วก็ยิ่งไม่เข้าใจ จนโตมานั่นแหละถึงจะเข้าใจว่าการที่เราจะเป็นเจ้านายเค้า...เราต้องเข้าใจ และทำทุกอย่างให้เป็น เพราะหากว่าเจ้านายยังทำไม่เป็น แล้วลูกน้องอย่างพวกเขาล่ะจะมีใครมาสอน เค้าจะเคารพเจ้านายที่ดีแต่สั่ง แต่ทำอะไรไม่เป็นสักอย่างเหรอ?

"เอามาให้ทำไม...... ชั้นไม่ใช่เด็กๆ จะได้กินนมแล้วนอน" ดูพูดเข้าสิ คนอุตส่าห์หวังดี รู้งี้ไม่เอามาให้ก็ดี

"ผมก็ไม่ได้ว่าคุณเป็นเด็กสักหน่อย แค่เอามาให้เพราะมันช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แค่เท่านั้นเอง"

"ไม่ชอบกิน" ครามตีหน้าเฉยแล้วก้มทำงานต่อ

"งั้นก็เลือกเอาครับ กินแคลเซียมที่หมอตั้นเอามา หรือจะกินนมแบบนี้?" ดื้อๆแบบนี้ต้องโดนบังคับซะบ้าง

"ยังจะให้ชั้นเลือกอีกเหรอ ในเมื่อนายก็บังคับให้กินมันทั้งสองอย่างเลยไม่ใช่รึไง?" ก็รู้อยู่แล้วไงจะถามทำไม?

"เอาหน่าคุณ มันดีต่อสุขภาพ" ขิงวางแก้วนมไว้บนโต๊ะ ยืนกดดันมันอย่างนี้แหละจนกว่าจะกิน

"จะให้ชั้นกินจนได้ใช่ไหม?" ครามเงยหน้าขึ้นมาถาม ขิงก็พงกหัวรับเบาๆ

"แลกกับอะไร?"

"ต้องแลกด้วยเหรอคุณ?"

"อื้ม" ครามตอบเสียงเรียบแต่แววตาแฝงด้วยความวิบวับที่ขิงไม่เห็น

"แล้วคุณอยากได้อะไรล่ะ?"

"ยังคิดไม่ออก ถ้าคิดได้แล้วจะบอกเอง" ครามหยิบนมมาดื่มจนหมดแก้วแล้ววางกลับที่เดิม

"ดึกแล้วคุณยังทำงานอยู่อีกเหรอครับ?"กองเอกสาร แฟ้มงานอะไรไม่รู้เยอะแยะมากมายเต็มไปหมด  คงไม่ใช่ว่าจะนั่งตรวจพวกนี้จนหมดภายในคืนนี้หรอกนะ

"อื้ม งานมันรอไม่ได้ ต้องพิจารณาก่อนเซ็นต์อนุมัติ"

"พักสักหน่อยพรุ่งนี้เช้าค่อยตื่นมาทำก็ได้นิครับ"

"ไม่ได้หรอก ขอทำต่ออีกนิดแล้วค่อยนอน งานค้างอยู่แบบนี้เห็นแล้วมันนอนไม่หลับ จะทิ้งให้นายชิตทั้งหมดก็ไม่ไว้ใจสักเท่าไหร่" ผมได้แต่พยักหน้าเพราะเข้าใจว่ามันเป็นยังไง

"นายชิตคือใครครับ ผมถามได้ไหมเอ่ย?" ครามหันมามองขิงแล้วหยุดคิด

"เป็นหัวหน้าคนงานที่ฟาร์ม" ผมพยักหน้าแล้วคิดตาม พยายามนึกภาพฟาร์มหอยมุกที่ว่า แต่ยังไงก็คิดไม่ออก

"งั้นให้ผมช่วยดูให้ไหมครับ? ถ้าไม่กลัวผมเอาความลับไปบอกคนอื่น"

"นายไม่ทำอย่างนั้นหรอก เพราะนี่คือธุรกิจของครอบครัวชั้นกับครอบครัวของเพื่อนนาย" ขิงพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วย

"เคยทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายรึเปล่า?"

"ถ้าเป็นพวกรายรับ-รายจ่ายปกติก็พอได้อยู่ครับ เคยทำให้ที่บ้านอยู่" ผมเคยช่วยพ่อทำอยู่นะพวกนี้ ถึงไม่บ่อย แต่ก็พอทำได้ สมัยก่อนพ่อกับแม่ช่วยกันทำ แต่พอพี่ขิมเรียนจบแล้วก็กลับมาช่วยที่บ้าน งานพวกนี้เลยตกเป็นหน้าที่ของพี่ขิมแทน เพราะพี่ขิมจบบัญชีมาโดยเฉพาะ

"งั้นเอานี่ไปทำแล้วกัน" ครามยื่นแฟ้มหนาๆให้

"คุณพักสายตาสักหน่อยก็ได้ครับ เดี๋ยวผมทำเสร็จจะปลุก" เห็นจ้องตัวหนังสือเยอะแบบนี้ตั้งนาน พักสายตาสักหน่อยน่าจะดี เกิดล้มหมอนนอนเสื่อมไปจะลำบาก

"อื้ม" ครามเอามือนวดตากับหัวคิ้วก่อนจะเอ็นหลังพิงพนักเก้าอี้

"นอนเอ็นบนเตียงดีกว่านะครับ เดี๋ยวจะปวดหลังเอา"

***************

**********

*****

"เวลานอนนี่เหมือนแมว ตอนตื่นขึ้นมาเหมือนเสือ" ขิงคิดในใจ แล้วแอบชโงกหน้าดูคนที่กำลังนอนอยู่ มองไปเรื่อยๆตั้งแต่คิ้ว ตา ไปถึงจมูกโด่งเป็นสัน แล้วลงมาที่ปาก "บางดีเนอะ ไม่ว่าส่วนไหนก็ดูลงตัวไปหมดแหะ"

"นายนี่ชอบแอบมองชั้นจริงๆนะ"

"โอ๊ะ!!!เห้ย!!!" ขิงตกใจจนล้มลงทับอีกคนที่นอนอยู่

"เอ่อ...คุณเจ็บตรงไหนรึเปล่า?"

"เปล่า"  เห้ออออ โล่งอก นึกว่าจะทับโดนขาที่หักแล้วซะอีก

"งั้น..งั้นปล่อยผมลงเถอะ แหะๆ" ขิงเกาแก้ม หน้าแดง เพราะท่ามันล่อแหลมมาก ยิ่งสบตาคมๆคิ้วเข้มๆแล้วยิ่งเขินจนทำอะไรไม่ถูก

"อื้ม.....แป๊บนึงนะ!!"

"คุณเจ็บขาเหรอ หรือว่าเจ็บตรงไหน?" ขิงตกใจ ดิ้นขลุกขลัก

"เปล่า!!" ครามตอบเบาๆแล้วถอนหายใจเสียงดัง

"อ๊ะ!!! หรือว่า....."  ขิงทำตาโต หน้าแดงลามมาจนถึงคอ  ไม่คิดว่าจะทับจุดยุทธศาสตร์ของครามอยู่

"อื้ม!! อย่าเพิ่งขยับนะ เดี๋ยวมัน....." ไม่ทันแล้ว ขิงขยับตัวลงอย่างรวดเร็ว  แต่เพราะถูกจับเอวไว้เลยยังดิ้นขลุกขลักอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน

"ซี๊ดดดดดด....." ครามส่งเสียงเบาๆอย่างอดทน

"คุณ........."

"เชื่อชั้นเถอะ แค่...แป๊บเดียว" ครามถอนหายใจยาวบอกขิงก่อนที่ตัวเองจะทนไม่ไหวแล้วทำอะไรบ้าๆลงไป

"แต่มัน......?"

"ขิง!!........." ครามคำรามเบาๆ

"ไม่เอาผมจะลง ปล่อยผมลงนะคุณ!!" ของดิ้นขลุกขลักกว่าเดิม

"บอกไม่ฟังเองนะ"

"อุ๊บ!!!..........." ไม่ทันได้ตั้งตัว ลิ้นอุ่นหนาก็สอดเข้ามาในปากแล้ว

"อื้มมมมมมมม " ครามส่งเสียงพอใจ มือข้างหนึ่งลูบสะโพกมน อีกข้างจับเอวไว้ พอรู้ว่าขิงหายใจไม่ทันก็ถอนปากออกแล้วตามกลับมาจูบอีก

ขิงถูกตะโบมจูบจนเคลิ้มอ่อนจนครามต้องพลิกกลับมาอยู่ด้านบนซะเอง ปากสีซีดไล่เลียมาจนถึงลำคอขาวและลาดไหล่ มือหนาสอดเข้าไปใต้เสื้อยืดตัวบาง  รู้ตัวไม่ใช่ไม่รู้..แต่มันหยุดไม่ได้

 "นี่เขาห่างเรื่องอย่างว่ามานานจนรู้สึกขนาดนี้เลยเหรอ??" แวบนึงที่ครามคิดในหัว

"อื้ออออ....อ่อย!! ปึกๆๆ (ปล่อย)" ขิงทุบกำปั้นลงที่อกหนา แล้วผลักครามออก ก่อนจะกระโดดลงจากเตียงอย่างรวดเร็วแล้วก้าวฉับๆออกห้องไป

"ขิง!! เดี๋ยวก่อน....."

"ปั่ง!!" ไม่ทันแล้ว เสียงประตูปิดลงอย่างดัง ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ติด แล้วก็ยับยั้งไม่ได้เช่นกัน ครามใช้สองมือลูบหน้าตัวเองแล้วพิงหัวเตียง

"บัดซบเอ๊ย!!!......" ครามสะบดออกมาเพื่อระบายอารมณ์ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าคิดอะไรอยู่ตอนนั้น




"เกิดอะไรขึ้นรึเปล่าคะคุณขิง?" ขิงเดินลงมาข้างล่างหวังว่าจะสงบสติตัวเอง ขืนอยู่ข้างบนต่อเขาเองนั่นแหละที่จะฟุ้งซ่านกว่าเดิมเพราะห้องอยู่ติดกัน ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ห้องเดียวกัน เพียงแต่มีกำแพงกั้นแค่นั้นเอง

"ปะ..เปล่าครับ ไม่มีอะไร?" ขิงรีบจัดเสื้อผ้าตัวเองให้เข้าที่

"แน่ใจเหรอคะ? แต่เมื่อกี้พี่เหมือนได้ยินเสียงดังมาจากห้องนายหัวนะคะ" ขิงสะอึกคำพูดของนุ้ย

"ผมไม่เห็นได้ยินเลยนะครับ"

"นั่นสิคะ พี่คงหูแว่วไปเอง" นุ้ยเกาหัว

"ครับ"

"งั้นพี่ไปนอนนะคะ คุณขิงก็นอนได้แล้วนะคะ ดึกแล้ว พรุ่งนี้มีตักบาตรเช้าด้วย เดี๋ยวจะตื่นไม่ทัน" จริงสินะพรุ่งนี้มีตักบาตรเช้า

"ครับ งั้นผมขอตัวไปนอนก่อนนะครับพี่นุ้ย ฝันดีครับ"

กลับมาถึงห้อง ขิงเดินเข้าไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ มือเรียวจับปากที่ถูกจูบจนบวมเจ่ออยู่หน้ากระจก ไล่มาจนถึงคอที่ตอนนี้ขึ้นเป็นรอยเม้มสีแดงเป็นจ้ำๆ ในหัวตอนนี้มีแต่คำถามร้อยพันเกิดขึ้นเต็มไปหมด ขิงถอนหายใจออกมายาวๆแล้วกวักน้ำล้างหน้าอีกครั้ง ตาสวยหลับลงช้าๆ ภาพเมื่อครู่ฉายซ้ำไปซ้ำมาในสมอง แม้บางช่วงจะขาดๆหายไปบ้างแต่เขากลับจำได้เสียงตอนนั้นได้แม่นยำ ขิงหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดหน้าแล้วล้มตัวลงนอนทั้งๆที่ยังไม่อยากนอนเลยสักนิด


***************


**********


*****






>>> ฉากนี้ละเอียดอ่อนมาก คนแต่งยังบริสุทธิ์อยู่เลยยังไม่ประสา???? ต้องขออภัยด้วยครับ อ่อยยยย!!!



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-11-2015 10:10:13 โดย รักเจ้าเอย »

ออฟไลน์ ben

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-3
ว๊ายยย ขิงเกือบโดนเขมือบแล้ว ><
เจนี่ต้องมีคนอื่นแน่ๆ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
คุณครามมมมม ทำอย่างนี้กับน้องขิมได้ไง!

แต่เราจะได้เห็นคุณครามโหมดง้อใช่มั้ย คึคึ

แต่ขิมยังไม่เลิกกับแฟนอ่ะ รู้สึกผิดแทนขิมเลย...

 :mew2:

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
ขิงนี้น่ารักกับคุณครามทุกวันขนาดนี้ คุณครามตกหลุมรักขิงไปแล้วแน่ๆ .. :-[

แอบลุ้นจนหน้าติดจอ(จิตนาการภาพเอง)  :m25: .... เฮ้อ! ..ตั้งรอดูต่อไป..
คนแต่งใจร้ายอะมาให้จิ้นนิดเดียวเอง  :katai1:

แต่ก็แอบกังวลขิงยังมีแฟนอยู่นี่น่า...  :z3:   

อยากให้คุณครามอ้อนขิงแบบนี้บ่อยๆแต่ก็แอบลุ้นกลัวแฟนขิงรู้และคงมีเรื่องแน่(แบบไม่อยากกินมาม่า)  :ling3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-11-2015 17:47:37 โดย PFlove »

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
มันช่าง dilemmaยิ่งนัก

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
อยู่ยากแล้วอย่างนี้

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด