พิมพ์หน้านี้ - Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.25 ☆ P.11 >> (25/03/59)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบ => ข้อความที่เริ่มโดย: รักเจ้าเอย ที่ 14-07-2015 20:04:19

หัวข้อ: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.25 ☆ P.11 >> (25/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 14-07-2015 20:04:19
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ

เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

===================================================================


#เอาเรื่องใหม่มาประเดิม ฝากเนื้อฝากตัวด้วยจ้า
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love ตอนที่ 1 : by Soleil
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 14-07-2015 20:08:59





อันดามัน...ซ่อนรัก
ตอนที่ 1







ร่างสวมส่วน ออกไปทางโปร่งบาง ผิวสีน้ำนมเดินมาหยุดหน้าร้านอาหารกึ่งผับแห่งหนึ่งในย่านธุรกิจ ก่อนจะล้วงผ้าเช็ดหน้าออกมาซับเหงื่อเล็กน้อยเพราะ วันนี้อากาศอบอ้าว แถมตัวเขาเองยังวิ่งกระหืดกระหอบออกมาเรียกแท็กซี่หน้าที่ทำงานเพื่อไปหาเพื่อนรักที่นัดกันไว้ตั้งแต่เมื่อคืนอีก พอขึ้นรถมาก็นึกว่าจะสบาย ลุงคนขับกลับบอกว่าแอร์เพิ่งเสีย ต้องขอโทษด้วย แล้วจะทำยังไงได้ล่ะในเมื่อมันเป็นเหตุสุดวิสัย แถมเราก็ขึ้นมาแล้วนิ ร่างโปร่งยกแขนขึ้นมาเพื่อดูนาฬิกา ปรากฏว่าตอนนี้ก็เลยเวลานัดมาครึ่งชั่วโมงแล้วด้วย เพื่อนรักของเขาต้องชะเง้อคอคอยแย่แล้วแน่เลย จะโทรศัพท์ไปบอกก็แบตหมด เพราะที่ชาร์ตมันชาร์ตไม่เข้า อยากจะด่าคนผลิตสายชาร์ตของโทรศัพท์ยี่ห้อนี้นัก แพงเสียเปล่าแต่สายชาร์จแบตพังบ่อยเหลือเกิน


"ขิงทางนี้!!" พอได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเอง ขิงก็รีบหันไปมอง แต่คนเยอะขนาดนี้จะหาเจอได้ยังไง?  ยังดีที่คีย์โบกมือให้อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล เลยไม่ต้องมองหา

"นั่งก่อนๆ เอาอะไรดี เดี๋ยวเราสั่งให้" คีย์ใช้มือตบลงเบาๆที่เก้าอี้ตัวข้างๆ แล้วเป็นธุระจัดการเรื่องเครื่องดื่มให้ ส่วนอาหารเจ้าตัวก็สั่งมารอไว้แล้ว แต่คงจะเย็นชืดไปหน่อยเพราะเขามาช้าไปเกือบชั่วโมงเลย

"เอาน้ำสัปปะรดปั่นก็ได้" ขิงไม่เรื่องมาก รีบตอบไปโดยไม่ต้องคิด เพราะเห็นมันขึ้นมาเป็นอันดับแรกในเมนูเครื่องดื่ม

"น้องๆ เอาน้ำสัปปะรดปั่นแก้วนึงครับ" คีย์โบกมือเรียกเด็กเสิร์ฟในร้าน แล้วสั่งเครื่องดื่มให้ จะว่าไปพนักงานที่นี่คงจะเป็นเด็กมหาลัยเป็นส่วนใหญ่เพราะเห็นหน้าตายังดูเด็กกันอยู่เลย ถึงบางคนจะดูตัวโตกว่าพวกเขาสองคน แต่ก็พอดูออกว่ายังเรียนอยู่ เพราะรุ่นน้องเขาเองก็เคยทำงานอยู่ที่นี่ก่อนจะลาออกแล้วกลับมาเรียนอย่างจริงจัง เพราะใกล้จบแล้ว

"กว่าจะมาได้" คีย์นั่งลงแล้วเอามือกอดอก ทำหน้าบู้อย่างงอนๆ รอให้เขาไปง้อ เป็นแบบนี้ประจำตั้งแต่รู้จักกันใหม่ๆ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เปลี่ยน แต่ดูๆคงไม่ได้โกรธอะไรมากหรอกแค่แกล้วงอนไปเท่านั้นแหละ เพราะคีย์เป็นคนที่ไม่ค่อยโกรธใครง่าย แต่ถ้าทำให้โกรธจริงๆ ก็ไม่ต้องพูดถึงกันเลยทีเดียว แม้แต่ชื่อก็ยังไม่อยากได้ยิน

"โทษทีพอดีเราทำงานเพลินไปหาหน่อย เผลอแป๊บเดียว เลยเวลาเลย" ผมส่งสายตาขอโทษไปให้ พยายามทำให้มันดูน่าเอ็นดูที่สุด เผื่อคนแถวนี้จะใจอ่อนแล้วไม่ต้องง้อนาน ผมไม่ได้เป็นพวกบ้างานนะ แต่เวลาได้ทำงานแล้วก็อยากทำให้มันเสร็จเป็นอย่างๆไป ไม่ชอบทำอะไรที่ครึ่งๆกลางๆ อย่างวันนี้ตอนแรกคิดว่าจะเคลียร์งานแค่อย่างเดียว แต่พอทำไปทำมากลับอยากทำให้มันเสร็จหมดเลย เลยกลายเป็นว่าลืมดูเวลา จนเลยเวลานัดเพื่อนไป คีย์เป็นเพื่อนของผมที่สนิทที่สุดเลยก็ว่าได้ เรียนคนละคณะแต่เป็นเพื่อนกันได้เพราะรู้จักกันตอนรับน้องปี1 มีอะไรก็ช่วยเหลือกันตลอด จนจบมหาลัยมาความสัมพันธ์ของเราก็ยังเหนียวแน่น ผมเรียนจบสหเวชศาสตร์ สาขากายภาพบำบัดมา แต่มาทำงานเป็นเลขาเพราะเงินเดือนที่เค้าเสนอมามันเยอะมาก ส่วนคีย์เรียนบริหาร เพราะต้องกลับไปช่วยงานที่บ้าน พอมันเรียนจบก็กลับไปช่วยงานครอบครัวจริงๆนั่นแหละ ไม่เหมือนผม จบมาแต่ทำงานไม่ตรงสาย

"ช่างเหอะ มาช้ายังดีกว่าไม่มา" คีย์ถอนหายใจออกแล้วแกล้งงอนอีกหน่อยแต่พองาม

"แล้วทำไมต้องนัดที่ร้านแบบนี้อะ เสียงดังจัง"

"ร้านแบบนี้แหละจอยที่สุดละ กินไปด้วยฟังเพลงไปด้วย ร้านนี่เค้าร้องเพลงสดเลยนะ" ก็ถือว่าดีอะนะ กึ่งผับกึ่งเรสโตรองท์ ดีกว่าผับที่ไปกันครั้งก่อน คนยั้วเยี้ยนเต็มไปหมด แถมเพลงก็ดังจนคุยกันไม่รู้เรื่องเลย สรุปคือครั้งที่แล้วมากินมาเที่ยว ไม่ได้คุยงานหรืออะไรเลย ความจริงผมเป็นค่อนข้างมีโรคส่วนตัวนิดนึง แต่ก็ไม่ถึงกับไม่คบค้าสมาคมกับใครนะ ถ้าเรียกให้ดูดีหน่อยคือค่อนข้างอยู่ติดห้อง ไม่ชอบออกไปเที่ยวอะไรสักเท่าไหร่ ถ้ายิ่งเป็นผับหรือที่ที่มันเสียงดังแล้วนั่งกินเหล้ากัน ผมก็ไม่ค่อยไปนะ ชอบอยู่ห้องอ่านหนังสือการ์ตูน เช่าหนังมาดูที่ห้อง หรือถ้าเที่ยวก็ชอบเที่ยวตามสถานที่ธรรมชาติมามากกว่า แต่ถ้ามันจำเป็นก็ไปนะ อย่างไปกินเลี้ยงกับเพื่อน ปาร์ตี้วันเกิด หรือตอนสมัยเรียนก็เลี้ยงสายรหัส


"แล้วงานเป็นไงบ้างอะ โดนเจ้านายโรคจิตลวนลามอีกป่ะ?" คีย์ยัดผัดเปรี้ยวหวานใส่ปากแล้วเอ่ยถาม สงสัยคงหิวเพราะรอมาตั้งนานแล้วนี่เนอะ

"เห้ออออ....ก็นะ" พูดถึงเรื่องนี้ทีไรก็สยองทุกที ทำงานวันแรกก็ว่าดีอยู่ เห็นเป็นคนขรึมๆ มาดก็ดี แถมแมนเต็มร้อย แต่พอทำๆไป กลับกลายร่างเป็นเสือไบซะได้ คนเรานี่รู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆนะผมว่า ความจริงผมทำงานที่นี่มาได้ระยะหนึ่งแล้วนะ แล้วใกล้จะผ่านโปรแล้วด้วย ใจหนึ่งก็อยากจะเตะผ่าหมากหรือต่อยมันไปซักหมัด แต่ก็กลัวว่าจะไม่ผ่านโปร งานสมัยนี้ยิ่งหายากอยู่

"ถอนหายใจแบบนี้เจอมาอีกแล้วอะดิ" ขิงถามแล้วเบ้ปากใส่

"เราบอกให้ลาออกๆ ก็ไม่เชื่อ"

"ไอ้ลาออกน่ะมันได้ แต่งานใหม่เราล่ะ จะให้ไปทำอะไร งานสมัยนี้ก็หายากอยู่" ผมตอบแล้วตักข้าวใส่ปากตามแล้วคิดตามที่คีย์บอก แต่ปัจจัยหลัก คืองานมันหายาก นักศึกษาป.ตรีจบใหม่ก็มีเยอะแยะนะ แต่คุณสมบัติของแต่ละบริษัทที่เค้ารับเข้าทำงานก็เยอะยิ่งกว่าอะไร บ้างที่ก็รับแค่ผู้หญิง บ้างที่ก็เจาะจงสาขาที่จบมา แล้วบ้างที่ก็ระบุสถาบันที่จบมาด้วย เลยทำให้บัณฑิตที่จบมาใหม่ไม่มีงานทำ เดินเตะฝุ่นไปมาอยู่บ้าน

"งั้นถ้าเราช่วยหางานใหม่ให้ จะออกไหม?" คิ้วเงยหน้าจากจานแล้วยักคิ้วถาม ปากก็เคี้ยวมุบมมับไปด้วย

"งานอะไรอะ?" ผมหยุดกินแล้วขมวดคิ้วถาม

"ก็นี่ไง เรื่องที่เรานัดออกมาวันนี้เพราะจะขอร้องให้ขิงไปเป็นนักกายภาพให้พี่ชายเราหน่อย นะๆ ไหว้ล่ะ" คีย์ยกมือไหว้ผงกๆจนตัวเขาเองต้องรีบยกมือขึ้นจับไว้ ทำเอาตกใจหมด เล่นอะไรก็ไม่รู้

"นะๆ ช่วยพี่ชายเราหน่อยนะ" คีย์ส่งสายตาอ้อนๆมาให้

"พี่ชายเหรอ? ไหนว่าคีย์บอกเราว่าเป็นลูกคนเดียวไง?" ผมขมวดคิ้วแล้วถามออกไปอย่างใจคิด ตอนนี้พวกเราสองคงหยุดกินกันก่อนเพราะ เนื้อหามันเริ่มซีเรียสขึ้นแล้ว

"ก็ลูกพี่ลูกน้องเราไง ชื่อคราม เค้าได้รับอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อสองสามเดือนก่อน เลยช่วยเหลือตัวเองไม่ค่อยได้ ป้าเราเลยอยากได้คนดูแล เราเลยคิดว่าขิงน่าจะทำได้ นะๆ จะได้ไปจากอีตาเจ้านายโรคจิตนั่นสักที" จำได้ล่ะ คีย์เคยพูดถึงเรื่องพี่ชายที่ชื่อครามให้ฟังอยู่ แต่ไม่เคยเจอ เห็นบอกว่าเป็นถึงนายหัวฟาร์มหอยมุกกับฟาร์มนกนางแอ่นด้วยนิ

"แต่..."

"นะๆ อย่าเพิ่งปฏิเสธดิ เงินเดือนดีด้วยนะ แค่ดูแลเรื่องอาหารการกินปกติ เข้าห้องน้ำกับทำกายภาพแค่นั้นเอง ไม่เหลือบ่ากว่าแรงขิงหรอก ไหนๆ ก็จบด้านนี้มาโดยเฉพาะแล้วนะ เอาวิชามาใช้หน่อย นะๆ ถือว่าช่วยเพื่อน"

"พอแล้ว ไม่ต้องมาส่งสายตาให้แบบนี้เลย" คีย์มันมักจะเป็นแบบนี้ตลอดเวลาจะอยากได้หรืออยากให้ช่วยอะไร มันก็จะอ้อนแบบนี้ตลอดแหละ แต่ก็นะ ไม่ค่อยมีใครจะจะปฏิเสธมันหรอก น้อยคนเท่านั้น โดยเฉพาะผม เพราะหนึ่งมันคือเพื่อนสนิทที่สุดของผม สองคือมันน่ารักนะเวลาอ้อน ผมเป็นลูกคนสุดท้อง มีทั้งพี่ชายแล้วก็พี่สาว เคยคิดว่าอยากมีน้องสักคน แต่ก็ไม่มีเพราะแม่ทำหมันแล้ว พอมาเจอมัน ตัวก็เล็กน่ารัก ทำให้รู้สึกเหมือนได้ทั้งเพื่อนแล้วก็น้องชายในคนๆเดียวกัน

"ไม่อยากให้ส่งสายตาให้ก็รับปากสิว่าจะทำให้?" คีย์เต๊ะท่าขึงขัง ทั้งๆที่ไม่ได้ดูขึงขังเลยสักนิด

"แต่เราเพิ่งเข้าไปทำงานที่นั่นได้สองเดือนกว่าเองนะ มาลาออกแบบนี้ เสียประวัติการทำงานหมด นี่ก็ใกล้ผ่านโปรแล้วด้วย" ผมตอบแล้วยกน้ำสับปะรดขึ้นดูด

"ช่างหัวมันประไรสิ ทำงานกับพี่ชายเราสบายกว่าตั้งเยอะ ไม่ต้องถูกลวนลาม โลมเลียทางสายตาอีกด้วย" คีย์พูดอย่างไม่สนใจเหตุผล แต่พูดอีกก็ถูกอีกนั่นแหละ แล้วถ้าทำกายภาพจบล่ะจะไปทำงานอะไรต่อ? งานมันไม่ได้ถาวรสักหน่อย

"เราขอคิดก่อนได้ไหมอะ?"

"โถ่ขิงอะ จะคิดอะไรอีก มันเป็นงานที่ขิงชอบไม่ใช่เหรอ อุตส่าห์เรียนมา ได้ทำงานตามสายที่ตัวเองเรียนมาน่าจะดีกว่านะ หรือว่าขิงติดใจเรื่องเงินเดือน ขิงต้องการเท่าไหร่ว่ามาเลย? เดี๋ยวเราไปคุยคุณป้าเราให้" คีย์ทำหน้ามุ้ยแล้วจับมือผมบีบเบาๆ อย่างเอาอกเอาใจก่อนจะร่ายมนต์ใส่อีกยาวเหยียด

"เปล่า มันไม่ใช่เรื่องเงินเดือน"

"เอ่อจริง ลูกพ่อเลี้ยงคำปัน พ่อค้าไม้รายใหญ่ของเชียงใหม่ เรื่องเงินคงไม่ใช่ปัญหา แล้วติดที่อะไรล่ะ?" เจ้าตัวพูดไปด้วยขมวดคิ้วตั้งคำถามไปด้วย เพราะอุตส่าห์ลงทุนนัด ลงทุนพูดชักแม่น้ำทั้งห้าแล้วแต่ผมก็ยังไม่ตกลงสักที เลยทำให้เจ้าตัวขมวดคิ้วใส่อย่างเซ็งๆแล้วล่ะ

"คีย์แน่ใจเหรอว่าเราจะเอาพี่นายไหว ครั้งที่แล้วก็อาละวาด จนต้องเปลี่ยนนักกายภาพ กับพยาบาลไปไม่ใช่เหรอ?" นี่แหละเหตุผลที่กลัว คุณครามพี่ชายคีย์ยิ่งเจ้าอารมณ์อยู่ ยิ่งเป็นแบบนี้ยิ่งฉุนเฉียวไปกันใหญ่ แค่ 2 เดือน เปลี่ยนนักกายภาพไปตั้ง 4 คน แล้วเราล่ะจะไหวไหม?

"เราเชื่อว่าขิงจะทำได้ ขิงเป็นคนใจเย็น ถ้าได้ตั้งใจทำอะไรก็จะทุ่มเทกับมันมาก ช่วยเรากับคุณป้าเถอะนะ เราไม่รู้จะไปเพิ่งใครแล้ว คุณป้าท่านเป็นห่วงพี่คราม ไหนจะงานที่บริษัทอีก เราสงสารพี่คราม สงสารคุณป้า ฮึกๆ เป็นเพราะผู้หญิงสารเลวคนนั้นคนเดียว ที่ทำให้พี่ครามเป็นแบบนี้ ฮึก!!"

"อย่าร้องนะคีย์ ปัญหาทุกอย่างมันทางแก้ โอ๋ๆๆ" ผมพยายามปลอบอย่างใจเย็น

"เราไม่รู้ ฮึก!! จะช่วยยังไงดี" ดูสิยิ่งปลอบก็ยิ่งร้อง จะทำยังไงดีเนี๊ยะ

"โอเคๆ อย่าร้องนะคีย์ เรารับปากว่าจะดูแลพี่ชายคีย์ให้ ดูสิคนเค้ามองกันใหญ่แล้ว อายเค้า ไม่ร้องๆนะ" ขิงขมวดคิ้วแล้วเม้มปากคิดนัก จะไหวไหมเนี๊ยะ??

"ขอบใจนะขิง"

"แล้วเราต้องทำยังไงอะ? พี่ชายคีย์รักษาตัวอยู่ที่ไหนตอนนี้?" ที่ผมถามออกไปเพราะผมไม่รู้อะไรเกี่ยวพี่ชายคีย์เลย รู้แค่ว่าประสบอุบัติเหตุแล้วเปลี่ยนคนดูแลย่อยแค่นั้นเอง

"พี่ครามรักษาตัวอยู่ที่กระบี่ ขิงคงต้องลงใต้ไปดูแลพี่ชายเราแล้วล่ะ"

"ไกลจัง" ผมยู่หน้าใส่คีย์บ้าน

"ก็ไหนว่าเบื่อกรุงเทพ เบื่อรถติด เบื่อควันรถไง" ผมเคยบ่นๆกับคีย์ไว้นานแล้วนะว่า ไม่ค่อยชอบกรุงเทพฯ รถเยอะควันก็เยอะ รถก็ติด จะไปไหนทีก็ต้องเผื่อเวลาไว้ก่อนเยอะๆ เผื่อรถติด เวลาน้ำท่วมทีก็เกิดปัญหาถ่ายเทน้ำไม่ทัน จนทำให้กรุงเทพนองไปด้วยน้ำเป็นเดือนเลย แล้วทีนี้จะทำไงล่ะ ก็ต้องเดินคีบอีแตะไปทำงาน แล้วค่อยเอากางเกง กับถุงเท้า รองเท้าไปเปลี่ยนที่ทำงานไงครับ บ้านไหนที่มีรถก็ต้องเอารถไปฝากในที่ที่น้ำท่วมไม่ถึง ไม่งั้นก็คงต้องเสียรถไปเป็นคันๆ แล้วก็ต้องซื้อใหม่ ผมเป็นคนเหนือมาเรียนที่กรุงเทพฯ จนตอนนี้ทำงานแล้ว หลายปีที่นี่ทำให้ผมรู้สึกว่าได้ผจญภัยอยู่ตลอดเวลา แล้วก็คิดว่าไม่มีที่ไหนดีและสุขใจเท่าบ้านเราแล้วล่ะ เพราะมันทั้งวุ่นวายสารพัด

"มันก็ใช่ แต่จู่ๆ จะให้ย้ายไปอยู่ที่อื่นเลยมันก็ใจหายนะ"

"เอาหน่าเดี๋ยวก็ปรับตัวได้เอง ท้องฟ้าสวย ทะเลใส ฝั่งอันดามันด้วยนะ ถือว่าทำงานไป พักผ่อนไง" มันก็ใช่อย่างที่คีย์ว่า ทะเลอันดามันคือสวรรค์ของนักเดินทาง ผมเคยมีความคิดนะว่าอยากมาหางานทำที่นี่ตอนจบใหม่ๆ แต่พอมีแฟนแล้ว ความฝันนั้นก็ต้องถูกโยนทิ้งไป เพราะผมค่อนข้างติดแฟนนะ ติดชนิดที่ว่าเพื่อนแอบบ่นอยู่บ่อยๆว่า ไม่มีเวลาให้ โดยเฉพาะคีย์ รายนี้บ่นประจำ แต่ก็บ่อยครั้งนะที่สามารถแยกผมแยกออกจากแฟนได้ แต่พอคบกันไปได้สักระยะหนึ่งเราก็ต้องปรับตัวเข้าหาคนอื่น จากคนที่ติดแฟนก็ค่อยๆ ลดลง เค้าก็ต้องมีเพื่อน มีสังคมของเค้าบ้าง จะให้มาอยู่กับเราตลอดเวลาคงไม่ได้ จนตอนนี้ผมว่าผมดีขึ้นมากแล้วนะ รู้จักแบ่งเวลาให้ทั้งเพื่อนแล้วก็แฟนอย่างลงตัว แล้วก็มีเหลือให้ตัวเองด้วย เช่น วันหยุดบางวันก็จะนอนอยู่ห้องอ่านหนังสือการ์ตูนเฉยๆบ้าง เหมือนเราได้มีสเปซเป็นของตัวเอง มีเวลาให้กับตัวเองบ้าง

"แล้วจะให้เราเริ่มงานเมื่อไหร่ล่ะ?"

"คงต้องเร็วที่สุดแหละ พี่ครามต้องการคนดูแล" นี่ก็อีกอย่างหนึ่งที่ผมไม่ค่อยชอบคือการที่ต้องทำอะไรปุ๊บปั๊บ ไม่ได้เตรียมการ วางแผนหรือเตรียมใจอะไรไว้เลย แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องทำอะนะ เพื่อนขอร้องมาซะขนาดนี้แล้วนิ แต่จะว่าไปที่ทำงานผมตอนนี้ก็ดีนะ พี่ๆที่ทำงาน ก็นิสัยดี เป็นกันเอง แล้วก็เฮฮา มันก็คงมีบ้างนิดหน่อยที่จะไม่อยากเปลี่ยนงาน


...................................................


ตอนนี้ผมกลับมาถึงห้องแล้วครับ เหนื่อยมาก รถก็ติด ฝนก็ตกอีก สรุปคือตอนนี้อยากอาบน้ำแล้วนอนเล่นเน็ตหรืออ่านหนังสือสักเล่มจนกว่าจะง่วง ส่วนเรื่องงานที่คุยกับคีย์เมื่อกี้ คือผมต้องลาออกจากงานที่ทำอยู่ตอนนี้แล้วไปดูแลพี่ชายของคีย์แทนในฐานะนักกายภาพบำบัด แอบหวั่นใจอยู่ลึกๆนะ เพราะผมไม่ค่อยชอบการเปลี่ยนแปลงสักเท่าไหร่ แล้วยิ่งอะไรที่มาปุ๊บปั๊บแบบไม่ทันได้ตั้งตัว ยิ่งไม่ชอบไปกันใหญ่ ส่วนคืนนี้ขอนอนหลับให้เต็มอิ่ม พรุ่งนี้ตื่นมาจะได้ไปยื่นใบลาออก แล้วก็เคลียร์งานทั้งหมด แค่คิดก็หัวหมุนแล้วว่าไหม๊?

"แกร๊ก!!"

"กลับมาแล้วเหรอขิง? ไปไหนมาอะ? เจมารอตั้งนาน"

"โทษทีๆ ขิงไปทานข้าวกับคีย์มา รอนานไหม? พอดีแบตขิงก็หมดเจเลยไม่รู้ว่าเจมารอ" ผมเอากระเป๋าสะพายวางไว้บนโต๊ะทำงานแล้วหันมาถาม ทุกคนคงสงสัยใช่ไหมครับว่าเจเป็นใคร? เจเป็นแฟนผมเองครับ เรารู้จักกันตอนปีหนึ่งแต่อยู่คนละคณะ ผมเรียนสหเวช กายภาพบำบัด ส่วนเจเรียนเศรษฐศาสตร์ มารู้จักกันได้เพราะงานรับน้องนี่แหละ พร้อมๆกับคีย์เลย แต่ผมจะสนิทกับคีย์ซะมากกว่าเพราะเจ้าตัวเค้าเข้ากับคนง่าย พูดเก่ง ส่วนเจก็พูดกันบ้างนะ แต่ก็ยังไม่ค่อยสนิทกัน เพราะเค้าก็มีเพื่อนที่มาจากโรงเรียนเดียวกันด้วยแหละ หลังจากนั้นก็จะเห็นเจบ่อยๆ ทั้งในมหาลัยแล้วก็นอกมหาลัย แถวๆหอก็ยังเห็นเลย ตอนนั้นยังไม่ได้เอ๊ะใจหรอก เพราะคิดว่าเจคงอยู่หอแถวนี้ หลังจากนั้นก็เจอกันบ่อยขึ้น มีทักทายกันบ้าง นั่งกินข้าวโต๊ะข้างๆกันบ้าง ขอนั่งกันด้วยบ้าง จนวันที่เจมาบอกว่าชอบนั่นแหละ ทีแรกก็อึ้งๆนะ ยังคิดเลยว่าเจล้อเล่น แต่พอมองตา มันไม่มีความล้อเล่นอยู่เลย เจบอกว่าไม่รู้ว่าชอบตั้งแต่ตอนไหน แต่ชอบแอบมองบ่อยๆเพราะยิ้มเก่ง น่ารัก พอเผลอแป๊บเดียวก็คอยมองหาไปแล้ว จนเพื่อนแซวแล้วแอบไปสืบตารางเรียนมาให้นั่นแหละ คิดแล้วก็เขินแหะ!! ยังแปลกใจอยู่เลยว่าคนที่หล่อ หุ่นดี อัธยาศัยดีแบบเจจะมาชอบเราได้ยังไง? ตัวก็ผอม หน้าตาก็ธรรมดา สูงแค่ 175 เซติเมตร จะดีหน่อยก็แค่ขาว กับลักยิ้มเท่านั้น แถมเจก็ไม่มีวี่แววว่าจะเป็นเกย์เลยสักนิด



"เอาเป็นว่าเจมารอขิงเกือบชั่วโมงกว่าแล้วล่ะ กะว่าจะชวนไปทานข้าว แต่ขิงทานกับเพื่อนมาแล้วก็ไม่เป็นไร เอาไว้ครั้งหน้าก็ได้" เจยิ้มให้น้อยๆ แล้วเดินมาหยิกแก้มผมเบาๆ ส่วนผมก็ยิ้มตอบแล้วลงมือแกะกระดุมแขนเสื้อตัวเอง

"มานี่สิเดี๋ยวเจถอดเนคไทให้ ฟ๊อด!! หอมจัง" ขิงยิ้มให้กับการเอาอกเอาใจเล็กน้อยๆของเจ ทั้งๆที่ตัวเองก็เพิ่งเลิกงานมาเหนื่อยๆเหมือนกัน แต่ก็ยังทำให้

"หอมอะไร มีแต่เหงื่อล่ะไม่ว่า ปากหวานนะเราอะ"

"ก็หอมจริงๆ ตัวขิงหอม ขนาดหมอนกับที่นอนยังมีกลิ่นหอมๆ ติดอยู่เลย" เจพูดแล้วทำท่ายักคิ้วใส่สองทีอย่างกวนๆ

"นี่ขิงมีแฟนเป็นโรคจิตใช่ไหมเนี๊ยะ? อิอิ" ผมเอ่ยแซวหลังจากที่เจแกะเนคไทออกให้

"พูดแบบนี้เดี๋ยวเหอะ จะโดนทำโทษ" อะโด่แกล้งทำหน้าโหดแต่ตัวเองยังยืนอมยิ้มอยู่ แล้วคนอื่นเค้าจะกลัวไม่ล่ะครับคุณเจษฏา

"ไม่กลัว!! แบร่!!! " แลบลิ้นปลิ้นตาใส่อย่างยั่วยวน แล้วก็กระโดดหนีสิ ใครจะอยู่เฉยๆให้เสือร้ายมาตะครุบกัน

"ทำแบบนี้ เดี๋ยวจะโดนมิใช่น้อยนะครับหนูขิง หึๆๆ"

"โอ๊ะ!! น่ากลัวจุง ฮ่าๆๆ" ผมเบี่ยงตัวไปทางซ้ายเจก็ไปซ้าย โดยที่มีโซฟาตัวเล็กกั้นอยู่ "อ๊ากกกกก ปล่อยนะไอ้โรคจิต ปล่อยยยย ฮ่าๆๆๆ" โซฟานี่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากเลย ทีแรกก็เหมือนจะช่วยกั้นไม่ให้เสือหิวกระโดดเข้ามาได้ แต่ลืมนึกไปว่ารายนั้นเค้าเร็ว

"จับได้แล้ว มาม๊ะ!! มาให้ป๋าลงโทษซะดีๆ"

"จะยอมดีๆไหม๊?" เจถามแล้วแกล้งทำหน้าโหดเหมือนโจรที่กำลังจะทำร้ายสาวน้อยใส่

"ไม่" เรื่องอะไรจะยอม ยอมง่ายๆก็ไม่สนุกดิ

"ได้ แบบนี้มันต้องโดนลงโทษซะให้เข็ด ฟ๊อดๆ" พอจับตัวได้ ก็ถูกฟัดแก้มไปแรงๆสองที กับจี้เอวจนหอบ หายใจแทบไม่ทัน

"ยอมแล้วววว หือๆ เหนื่อย!!" เสียงตอบกลับสลับกับเสียงหอบ พร้อมกับแก้มขาวๆ ที่ตอนนี้กลายเป็นสีแดงไปแล้วเพราะเหนื่อยแล้วก็ร้อน จนเจอดไม่ได้ที่จะลูบมันเบาๆ

"ก็ได้ครับ แต่ขอป๋าทำโทษอีกนิดนึงก่อนถึงจะปล่อยไป จุ๊บ!!" วินาทีนี้จะทำอะไรก็ทำเถอะ เหนื่อย ไม่ไหวแล้ว ยิ่งกว่าลงแข่งสิ่งซีเกมส์อีก

"ยี้!! น้ำลายเลอะแก้มคนอื่นด้วย" ผมทำสีหน้ารังเกียจแต่ก็ยิ้ม เพราะไม่ได้คิดรังเกียจตั้งแต่แรกแล้วเหอะ ขนาดจูบกันยังทำมาแล้วเลย นับประสาอะไรกับแค่น้ำลาเลยแก้มแค่นี้

"คนอื่นที่ไหน? หื้ม ฟ๊อดดดด"

"ฮ่าๆๆๆ พอก่อน ไม่เล่นแล้ว"

"แบบนี้ไม่เล่น แล้วจะเล่นอะไรดีน้าาา?" เจแกล้งทำเสียงหื่นๆใส่ แล้วส่งสายตาพราวระยับมาให้อย่างคนเล่นหูเล่นตา

"ไม่เล่นอะไรทั้งนั้นแหละ แต่มีข่าวดีมาบอก"

"ข่าวดีอะไร หื้ม?" เจหยุดแกล้งแล้วเอ่ยถามเสียงเบา แต่ตากลับมองขิงจนแทบจะกลืนกินไปทั้งตัวแล้ว เพราะตอนนี้ท่าของพวกเขามันชวนให้ทำอะไรมากกว่านี้จริงๆ คนหนึ่งคร่อมอยู่ด้านบน ส่วนอีกคนก็อยู่ด้านล่างเอามือยันหน้าอกคนตัวโตกว่าไว้

ขิงกลืนน้ำลายแล้วดันอกเจให้ลุกขึ้น ส่วนตัวเองก็ถอยมาอีกนิดนึงจะได้ดูไม่ล่อแหลมเกินไป "คือ....ขิงจะบอกว่า..." เสียงตอบสั่นๆ แกมประหม่าพราะมือเจเริ่มไม่อยู่สุข ทั้งจับมาดมบ้าง หอมบ้าง หนักสุดคงเป็นการลูบที่ทำให้สยิวกิ้วจนขนหนาวลุก

"ขิงได้งานใหม่แล้วนะ" ขิงรีบเอ่ยอย่างรวดเร็วเพราะตกใจที่จู่ๆ เจก็เอาปากมาเล็มที่นิ้วมือแล้วเลียเบาๆ

"โอเคๆ ไม่แกล้งละ ว่าแต่งานอะไรครับ?" เจถามแล้วเอามือลูบผมขิงเบาๆ เพราะรู้ว่าเจ้าตัวคงตกใจที่จู่ๆตัวเองก็รุกไปแบบนั้น แต่ตัวเองนี่สิแย่ ต้องข่มอารมณ์ไม่ให้จับคนตรงหน้านี้ปล้ำซะก่อน

"ก็นักกายภาพแหละ" ขิงตอบไปก็เหลือบมองเจไปด้วย เพราะใช่ว่าจะไม่รู้ว่าเจกำลังเป็นอะไร แค่ดูต่ก็รู้ละ

"ดีครับที่รัก จะได้ไม่ต้องทำงานกับเจ้านายบ้ากามอีก เจเป็นห่วง"

"เอาหน่า ไหนๆ ก็จะลาออกแล้ว อย่าไปพูดถึงมันอีกเลยนะ" ใช่ว่าเจจะรำคาญมันคนเดียว ผมก็รำคาญนะ ถ้าไม่ติดว่างานเลขาบริษัทนี้มันได้เงินเยอะนะ ผมไม่ยอมทนถึงขนาดนี้หรอก แต่ตอนนี้เรามีตัวลือกที่ดีกว่าแล้วนี่หน่า เรื่องอะไรจะทนอยู่ที่เดิมให้มาลูบๆคลำๆล่ะ ส่วนงานต่อไปหลังจากที่ทำงานให้กับพี่ชายคีย์เสร็จก็ค่อยว่ากันอีกที ไม่ไปสมัครเป็นนักกายภาพสักที ก็คงหางานทำแถวๆนี้ หรือไม่งั้นก็กลับไปช่วยงานที่บ้านดีกว่า

"แล้วเค้าให้เริ่มงานเมื่อไหร่ล่ะ?"

"วันพุธที่จะถึงนี้แล้ว"

"ก็ดีแล้วไง แล้วทำไมถึงทำหน้าเหมือนไม่ค่อยดีใจอย่างนั้นล่ะ หื้ม?" เจขยี้ผมเบาแล้วเอ่ยถามเสียงนุ่มทุ้ม

"ก็..ขิงต้องไปทำงานไกล ต้องลงไปใต้เลยนะ ใจนึงก็ไม่อยากไป แต่ใจนึงก็อยากไป" ขิงตอบแล้วเอ็นหัวพิงกับไหล่ของเจ

"งั้นก็ไปต้องไปสิ อยู่กับเจ เดี๋ยวเจหาเงินเลี้ยงเอง"  พูดน่ะมันง่าย แต่ไม่เอาด้วยหรอก จบมาตั้งสูงให้อยู่เฉยๆเบื่อจะตาย แถมมันฟังดูแปลกๆนะ เหมือสามีคุยกับภรรยาว่าให้อยู่บ้าน ดูแลลูกดีกว่า ส่วนหน้าที่หาเงินเลี้ยงครอบครัวเป็นของผมเอง

"ไม่พูดเล่นสิ ขิงจริงจังนะ"

"โอเคคราบบบ แล้วสรุปรับงานเค้าไปรึยังล่ะ?"

"อื้อ" ผมก็เล่าให้ฟังหมดแหละว่าที่รับงานนี้เพราะเค้าเป็นพี่ชายของคีย์ บลาๆ

"แล้วจะมาคิดอีกทำไม? คิดซะว่าได้ทำงานที่ตัวเองรักสิจะได้สบายใจ" เจปลอบ

"แต่มันตั้งกระบี่เลยนะ ไม่กลัวความไกลห่าง รักแท้แพ้ระยะทาง หรืออะไรแบบนี้บ้างเหรอ?"

"ก็กลัวอยู่ แต่จะให้เจทำอะไรได้ล่ะครับ นั่นมันก็อนาคตขิง คนที่เจรัก เจจะขัดขวางได้ยังไง" มันก็ถูกของเจนะ แต่มันอดคิดมากไม่ได้ กรุงเทพฯ กับกระบี่เลยนะ ถึงจะไม่ไกลไปมาสะดวก แต่เจทำสำนักงานใหญ่ เสาร์อาทิตย์บางครั้งก็แทบจะไม่ได้หยุดเลยด้วยซ้ำ

"อย่าคิดมากนะ ถ้าว่างๆ เดี๋ยวเจจะลงไปหา แฟนทั้งคนเจไม่ปล่อยให้อยู่ห่างหูห่างตานานๆหรอก เดี๋ยวคนอื่นมาแย่ง" เจแกล้งทำสีหน้าจริงจัง

"จะว่าไปเจก็ช่างอาภัพแฟนเนอะ กว่าจะได้มาเป็นแฟนก็ยากแสนยาก แถมยังต้องมาอยู่ไกลกันอีก เห้ออออ!!!" เจพูดปลอบแล้วแกล้งตัดพ้ออย่างไม่จริงจัง ออกแนวหยอกเสียมากกว่า

"อย่ามาทำเป็นพูดดี ไม่ใช่ว่าพอขิงไป เจก็แอบไปมีคนอื่นนะ ถ้าขิงรู้นะ จะจับตอนแล้วสับให้เป็ดกินเลยคอยดู" ขิงทำท่าตัดน้องชายเจทิ้งแล้วบุ้ยปากใส่

"โถ่ ไม่หรอกครับที่รัก ใครจะกล้า ขิงทั้งน่ารัก ทั้งแสนดีขนาดนี้ เจจะไปหาใครมาแทนได้อีกครับ หื้ม?"

"ให้มันแน่เถ๊อะ นี่ขิงพูดจริงนะ ถ้าเจนอกใจขิงเมื่อไหร่ วันนั้นเราก็จบกัน ขิงไม่ชอบคนเจ้าชู้ เจก็รู้" ผมไม่ชอบคนเจ้าชู้ อันนี้เจรู้ดี เพราะเราเคยคุยกันก่อนที่จะคบกัน ว่าแต่ละคนไม่ชอบอะไร ดังนั้นสิ่งที่ถือว่าเป็นกฏเหล็กของผมก็คือการไม่ซื่อสัตย์ต่อแฟน แล้วเจก็รับปากว่าจะไม่เป็นอย่างนั้นแน่

"สาบานเลยคราฟ เจจะรักขิงคนเดียว จะไม่นอกกาย จะไม่นอกใจ ถ้าผิดคำสัญญาขอหะ...อื้อ!!" ผมรีบเอามือปิดปากเจไว้เพราะไม่อยากให้เค้าพูดออกมา มันเหมือนเป็นการแช่งตัวเอง ถ้าเกิดวันข้างหน้าเค้าทำไม่ได้อย่างที่พูดไง เคยเห็นหลายคู่นะที่ตอนรักกันก็ไปสาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่พออีกฝ่ายทำไม่ได้ก็เลยต้องมานั่งถอนคำสาบาน ผมไม่รู้หรอกครับว่ามันจะเชื่อได้รึเปล่า แต่ผมเชื่อตัวเองมากกว่านะ ไม่ได้ลบลู่ด้วย ของแบบนี้มันพิสูจน์ไม่ได้จริงๆ นี่หน่า

"ไม่ต้องสัญญาหรอก ขิงเชื่อใจเจ ว่าเจจะไม่ทำให้ขิงเสียใจ"

"แน่นอนอยู่แล้วครับก็เจรักขิงมากนี่หน่า งั้นคืนนี้เราต้องฉลองกันสักหน่อยแล้วล่ะ" เจลุกขึ้นแล้วเดินไปเปิดตู้เย็น ที่อยู่ไม่ไกลจากตรงนั้นสักเท่าไหร่

"ฉลองเนื่องในโอกาสอะไร?"

"ก็เนื่องในโอกาสที่ขิงได้งานใหม่ หลุดพ้นจากไอ้หื่นกาม แล้วก็ได้ทำงานที่ตัวเองรักไง" ตลอดระยะเวลาที่คบกันมา เจก็ทำตัวน่ารักสม่ำเสมอดีนะ เราคบกันไปเรื่อยๆ ไม่หวือหวาอะไร เจเป็นคนอัธยาศัยดี ยิ้มง่าย เข้ากับคนอื่นง่าย ทำให้มีคนหลายคนมาชอบ แต่ก็มีหลายครั้งนะที่มีผู้หญิงเข้ามาหา แต่เจก็ไม่ได้นอกลู่นอกทาง ทำให้ผมไว้ใจเจได้ในระดับหนึ่ง อีกอย่างผมก็ไม่ใช่คนที่ต้องมาคอยกำกับแฟนหรือตามหึงหวงไปทั่วแบบนั้น"

"เอางั้นก็ได้ อิอิ" หัวเราะออกมาได้แต่ใช่ว่าใจจะไม่กังวลนะ มันรู้สึกโหวงๆบอกไม่ถูก

"ว้า...เสียดายจัง ในตู้เย็นไม่มีอะไรเลย นอกจากรูทเบียร์ งั้นเอาแค่นี้พอเนอะ เอาไว้พรุ่งนี้เจพาไปฉลองใหม่ จุ๊บ!!" เจก้มลงจูบเบาๆที่แก้มทีหนึ่ง แล้วนั่งข้างๆ จากนั้นก็จัดการเปิดกระป๋องรูทเบียร์ให้ เครื่องดื่มพวกนี้ผมเป็นคนซื้อมาเก็บไว้ให้เองแหละ เพราะเจชอบดื่มเป็นพิเศษ นอกจากนี้ก็มีชเวฟมะนาวโซดาอีกอย่างหนึ่งที่ชอบ

"อื้ม!!"


...




....................

มันเกินจำนวนตัวอักษรอะ ต่อข้างล่างเนอะ


......................................... TO BE CON
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | ตอนที่ 1 (ต่อ) : by Soleil
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 14-07-2015 20:12:49

[ต่อ]




"อะไรกัน จุ๊บแค่นี้ต้องเขินจนหน้าแดงด้วย แล้วถ้าเจทำมากกว่านี้ขิงไม่แดงไปทั้งตัวเลยเหรอ? หึๆๆๆ" เจแกล้งทำเสียหื่นๆใส่จนขิงฟาดมือลงที่ต้นแขนดังป๊าบ

"ทะลึ่ง!!"

"ทะลึ่งอะไรกัน คนเป็นแฟนกันมันก็ต้องมีบ้างสิ แล้วเมื่อไหร่ขิงจะให้เจแบบนั้นสักทีล่ะ? เจรอจนจะทนไม่ไหวแล้วนะครับ ไม่สงสารเจบ้างเหรอ? นะๆ เป็นขอเจสักทีนะ? เจสัญญาว่าจะรักขิงแค่คนเดียว จะไม่นอกกาย นอกใจเด็ดขาด" เจทำหน้าเหมือนหมาที่งุ้งงิ้กับเจ้าของมันเลย ไม่เข้ากับเจ้าตัวเลยแหะ ผู้ชายตัวโต น่าจะสูงประมาณ 185 เซนติเมตรได้มั้ง มาทำแบบนี้แล้วมันตลกดีนะ แต่เรื่องนี้ใช่ว่าผมไม่คิดนะ คิดมาตลอดว่าคนเป็นแฟนกันมันก็ต้องมีบ้างเป็นธรรมดา แต่ผมอยากให้มั่นใจอะไรสักนิดก่อนแค่นั้นเอง อีกอย่างคนกำลังจะห่างกัน อะไรมันก็ไม่แน่นอนหรอก

"เอ่อ...เจ...........คือว่า..........ขิงยังไม่พร้อมอะ เจเข้าใจขิงนะ ขิงกลัว" ที่บอกว่ากลัวก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง คือเข้าใจไหมว่าคนมันไม่เคย มันก็ต้องมีกลัวบ้าง ขนาดคนที่จะบริจาคเลือดหรือเจาะเลือดครั้งแรกยังกลัวเลย แล้วนับประสากับเรื่องนี้กันล่ะ

"เอาไว้เสร็จงานนี้แล้วค่อยว่ากันนะ นะเจ ขอให้ขิงทำใจก่อน" ผมอ้อนเต็มที่ ทั้งส่งสายตา ทั้งสกินชิพ อันไหนที่คีย์เคยทำผมงัดมาใช้หมด เผื่อจะช่วยได้

"ทำไมแฟนเจใจร้ายจัง ขิงไม่รักเจเหรอครับ? บอกให้รอแบบนี้มาตั้งนานแล้วนะที่รัก" เจอ้อนเสียงงุ้งงิ้ง

"รักสิ ขิงรักเจนะ แต่มันยังไม่พร้อม รออีกนิดนะ นะ "

".........."

"โกรธขิงเหรอ?"

".........."

"ขิงขอโทษ อย่าโกรธขิงเลยนะ ขอเวลาอีกนิด นิดเดียวจริงๆ ถ้าผ่านงานนี้ไป ขิงจะไม่ปฏิเสธอีกแล้ว  เชื่อขิงนะ สัญญา" ผมชูนิ้วก้อยเพื่อเป็นสัญญาระหว่างเรา

"ก็ได้ครับ ขิงสัญญากับเจแล้วนะ จำไว้ด้วย!! แต่ตอนนี้น้องชายเจมันพยศอะ ช่วยปราบมันหน่อยสิ นะๆขิง ขอนิดเดียวเอง ช่วยทำให้เจหน่อย แค่ใช้ปากเองนะครับ เจจะได้มีกำลังใจรอขิงไง ให้รอเฉยๆ คนรอมันท้อนะ ไม่สงสารมันบ้างเหรอ?"

"ตะ...แต่ขิงไม่เคยทำนะ ขิงกลัวว่ามันจะทำให้เจเจ็บ ชะ..ใช้มือแทนได้ไหมอะ?" เกิดจากท้องพ่อท้องแม่มายังไม่เคยทำให้ใคร เคยเห็นแต่ในคลิปวีดีโอหรือในหนังเอวี แล้วจะทำได้ไหมล่ะเนี๊ยะ? บอกตรงๆคือกล้าๆกลัวๆ บอกไม่ถูก ก็สงสารเจนะ ตั้งแต่คบกันมา อย่างมากก็แค่กอด กับจูบ แล้วก็มีช่วยตัวเองบ้าง ต่างฝ่ายต่างทำ ผมรู้ว่าเจต้องอดทนมากแค่ไหนเวลาอยู่ด้วยกัน ผมไม่ได้จะทดสอบความอดทนของแฟนตัวเองหรอกนะ แต่เรื่องแบบนี้ช้าเร็วมันก็ต้องเป็นของกันและกันไม่ใช่เหรอ? งั้นช่วยรออีกนิดคงไม่เป็นไรใช่ไหม? มีหลายคนคงคิดว่าผมเล่นตัว แต่คำตอบผมคือไม่ สิ่งเดียวที่ยังติดอยู่ในใจตอนนี้คือผมรอ รออะไรอยู่ก็ไม่รู้ อยากให้มั่นใจอีกนิด คงไม่ผิดใช่ไหมที่จะให้มันเป็นแบบนี้ไปก่อน

"ไม่เป็นไรหรอกหน่า ไม่ต้องกลัว เดี๋ยวเจสอนขิงเอง นะครับ?"

"ก็ได้ แต่ขิงไม่รับรองนะว่ามันจะออกมาดี"

"คราฟฟฟฟ" ไม่ต้องมายิ้ม!! >\\<


...



เครื่องลงจอดแล้ว กระเป๋าก็เอาแล้ว คีย์บอกว่าคุณป้าของคีย์จะส่งคนมารับ แล้วจะรู้ได้ไงว่าคนไหน?? อ่ะ!!นั่นไง มีคนถือป้ายรอรับที่ประตูทางออกแล้ว โล่งอกนึกว่าจะต้องหาทางไปเองซะแล้ว แล้วยิ่งไม่เคยมาที่นี่เลยด้วย

"สวัสดีครับ ผมขิง นักกายภาพที่จะมาดูแลคุณครามครับ"

"สวัสดีครับ ผมลุงแช่มครับ มาครับผมถือกระเป๋าให้ครับ"

"ไม่เป็นไรครับลุงแช่ม ผมถือเองได้ครับ ไม่ได้หนักอะไรมาก"

"ได้ครับ งั้นเชิญทางนี้ครับ รถของเราอยู่ทางด้านโน้นครับ" ลุงแช่มแกน่าจะเป็นคนขับรถหรืออะไรสักอย่างของบ้านคุณครามแน่ๆ แกดูเหมือนเป็นคนดุๆ ตามหน้าตาของแก แต่ความจริงแกใจดีไม่เบาเลยแหะ การพูดการจาก็ดี ไม่กระโชกโฮกฮากเสียงดัง ถึงจะติดสำเนียงทองแดงบ้างก็เหอะ ผมว่าถ้าปู่กับย่าหรือตากับยายผมยังอยู่ ท่านก็คงรุ่นราวคราวกับลุงแช่มเนี๊ยะมั้งครับ คงไม่ห่างกันไกลหรอก เห็นแบบนี้แล้วผมหลานรักนะครับ จำได้ว่าสมัยเด็กปู่กับย่าก็จะแย่งกันอุ้มตลอด ฝ่ายตากับยายก็เหมือนกัน แย่งกันเอาใจกันใหญ่ เพราะผมเป็นหลานชายแล้วก็เป็นหลานคนเล็กสุดด้วยมั้งครับในบรรดาญาติพี่น้อง เลยทำให้ทุกคนรุมกันโอ๋ขนาดนี้ แต่เห็นแบบนี้แล้วผมไม่ใช่ลูกคุณหนูหรือทำอะไรไม่เป็นนะครับ ครอบครัวผมก็เป็นครอบครัวธรรมดา ไม่ได้สปอยลูกหรือสอนลูกผิดๆ ยิ่งเป็นเรื่องการใช้เงินด้วยแล้ว ยิ่งถูกพูดกรอกหูอยู่บ่อยๆ จนผมกลายเป็นคนจะใช้จ่ายอะไรก็ต้องคิดก่อน เรียกว่าขี้เหนียวยังได้เลย เพราะพ่อกับแม่เคยพูดอยู่เสมอว่ากว่าครอบครัวเราจะมาถึงตอนนี้ได้ต้องลำบากมากขนาดไหน?


ระหว่างทางลุงแช่มก็ไม่ได้พูดหรือถามอะไร ส่วนผมก็ได้แต่มองวิวข้างๆทางแทน สวยดีนะ มีทั้งสวนยาพารา สวนปาล์ม แล้วก็วิวทะเล แต่ก็ร้อนมากเหมือนกัน มีทั้งไอแดด ไอทะเล


"ถึงแล้วครับคุณขิง เดี๋ยวผมยกกระเป๋าไปให้ครับ เชิญในบ้านเลยครับ" โอ้โหแหะ บ้านหรือว่าคฤหาสน์ ทำไมสวยย่างนี้ ทางเข้ามาก็ว่าสวยแล้วนะ มีแต่ต้นไม้ดอกไม้เต็มไปหมด ตัวบ้านเป็นปูนสีขาวสไตล์ยุโรป ทางที่รถผ่านมาก็มีรูปปั้นเทพนิยายกรีกเรียงยาวมาจนถึงน้ำพุหน้าบ้าน ทั้งรูปอีรอส และเทพีต่างๆ เจ้าของบ้านออกแบบตกแต่งได้สวยมีสไตล์ดีนะ ผมชอบนะ แต่ชอบน้อยกว่าบ้านทางเหนือ แล้วก็ยกใต้ถุนแบบบ้านผม ถึงแม้จะไม่ได้หรูหราแบบที่นี่ แต่ก็สวยในสไตล์ทางเหนือนะครับ แบบบ้านผมเค้าเรียกว่า กาแล มันคือชื่อส่วนประดับอยู่บนหลังคาเรือน มีลักษณะเป็นไม้แบบเหลี่ยมแกะสลักให้มีลวดลายเป็นส่วนที่ต่อจาก
ปลายบนของปั้นลมเหนือจั่วและอกไก่โดยติดในลักษณะไขว้กันมีหลายขนาด สั้นยาวหนาไม่เท่ากัน นอกจากนั้นกาแลยังมีการแกะสลักลวดลายอย่างสวยงาม ถือเป็นการตกแต่งให้เรือนกาแลงดงามยิ่งขี้น ดังนั้นจึงมีการยึดเอากาแลเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของการทำหลังคาบ้าน และเป็นสัญลักษณ์ประจำทางล้านนา

"บ้านสวยดีนะครับลุงแช่ม"

"ใช่ครับ นายหัวท่านออกแบบตกแต่งเองครับ ส่วนสวนพวกนี้ท่านก็ปลูกไว้ให้นายหญิงน่ะครับ"

"นายหญิงคือภรรยาของนายหัวใช่ไหมครับลุงแช่ม?"

"เอ่อ..ใช่ครับ"

"ทางด้านหลังตรงนั้นก็จะเป็นทางออกไปชายหาดนะครับคุณขิง เอากระเป๋าไปไว้แล้วค่อยออกมาเดินชมรอบๆ บ้านก็ได้ครับ ถ้าคุณขิงต้องการ"

"โอเคครับลุงแช่ม แล้วปกติใครดูแลคุณครามล่ะครับ ถ้าไม่มีพยาบาลหรือนักกายภาพ?"

"นายหญิง คุณแม่ของคุณครามเธอเป็นคนดูแลครับ แต่เธอก็มีงานที่ต้องดูแลอีกเยอะแยะ พวกเราเลยต้องช่วยๆ กันดูแลสลับสับเปลี่ยนกันไปน่ะครับ"

"เข้าไปข้างในกันเถอะครับนายหญิงใหญ่คงรออยู่" อะไรกันมีทั้งนายหญิง แล้วก็นายหญิงใหญ่ ชักเวียนหัวแล้วสิ

"ครับ"

"สวัสดีครับนายหญิง" ผมยกมือไหว้ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ทุกคนที่นี่เรียกว่านายหญิง หรือคุณแม่ของคุณคราม ตอนแรกนึกว่าจะดูมีอายุมากกว่านี้ แล้วออกดุๆ แบบคนใต้ซะอีก แต่พอมาเห็นตัวจริงกลับตรงกันข้ามเลย นายหญิงของที่นี่สวยมากแม้จะดูมีอายุบ้างตามกาลเวลา มีผมสีดอกเลาแซมอยู่บ้าง ใบหน้าแต้มไปด้วยรอยยิ้มบางๆ ดูเป็นคนใจดี เห็นแบบนี้แล้วทำให้คิดถึงแม่เลยแหะ

"สวัสดีจ๊ะ หนูขิงใช่ไหมลูก เรียกป้าก็ได้ลูก คนกันเอง ป้าต้องขอบใจมากนะลูกที่ตอบตกลงมาช่วยดูแลตาครามลูกชายของป้า มาๆ นั่งใกล้ๆ ป้านี่ลูก"

"ขอบคุณครับคุณ...ป้า" เขินแหะ บอกไม่ถูก ยิ่งท่านเอามือลูบหัวยิ่งเขิน

"หึๆๆ นุ้ยๆ เอาน้ำมาให้คุณขิงหน่อย" อ้อ!! พี่คนนี้ชื่อนุ้ย คงเป็นคนดูแลบ้าน เดี๋ยวว่างๆ ค่อยไปตีสนิท พี่นุ้ยก้มหัวให้นายหญิงแล้วเดินจ้ำเข้าไปอีกทางด้านหนึ่ง คิดว่าน่าจะเป็นห้องครัวแน่ๆ

"เดินทางเหนื่อยไหมลูก?"

"ไม่เหนื่อยครับคุณป้า"

"ป้าได้ยินตาคีย์บอกแล้วว่าหนูเป็นเพื่อนของเค้าเหรอลูก? ป้าต้องขอบใจหนูอีกครั้งนะที่ตอบตกลงมาดูแลลูกชายป้าให้ อยู่ที่นี่ก็ทำตัวตามสบายนะลูก คิดซะว่าเป็นบ้านของหนู"

"ขอบคุณครับ" ผมยกมือไหว้คุณป้าอีกครั้งแล้วหันไปดูรอบๆบ้าน ทั้งตู้โชว์ โซฟา ชั้นวางหนังสือ หรือแม้กระทั่งกรอบรูปที่ห้อยฝาผนัง

"นั่นตาครามลูกชายป้าเองจ๊ะ หล่อใช่ไหมล่ะ?" เธอคงเห็นผมมองรูปครอบครัวอันใหญ่ที่แขวนอยู่กลางบ้านอยู่นาน เลยเอ่ยแนะนำ ผมก็มองตามทีละคนๆในรูป มีทั้งนายหัวคนก่อนซึ่งก็คือพ่อของคุณคราม คุณป้า แล้วก็คุณครามที่ยืนอยู่อีกข้างของคุณป้า ท่านทั้งสองคนดูทั้งหล่อทั้งสวยสง่าจริงๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคุณครามถึงหล่อแล้วก็ดูดีได้ขนาดนี้

"แหะๆ ครับ" คุณครามหน้าตาหล่อเหลาเอาการเชียวล่ะ ใบหน้าคมคร้ามแดด คิ้วดกหนาแต่ไม่รกพาดอยู่เหนือดวงตาคม รับกับเคราบางๆ ที่ได้รับการโกนมาเป็นอย่างดี และปากบางที่ดูเป็นกระจับ แต่ดูดุไปหน่อย ไม่ว่ารูปไหนก็ไม่ยิ้มเลย อายุน่าจะประมาณ 32-33 ได้มั้ง

"ตาครามเค้าได้พ่อมาเยอะ ไม่ว่าจะเป็นเค้าโครงหน้าหรือแม่แต่นิสัย ก็ได้พ่อเค้ามาหมด ถ้าตอนนี้สามีป้ายังอยู่ก็คงเป็นห่วงลูกอยู่เหมือนกัน" นายหญิงของบ้านปาดน้ำตาออกจากหางตา เห็นแบบนี้แล้วก็อดสงสารแล้วก็อดนึกถึงแม่ไม่ได้

"คุณป้าอย่าเป็นกังวลเลยนะครับ เท่าที่คีย์เล่าให้ฟังคุณครามยังมีโอกาสหายเป็นปกติอยู่นะครับ ถ้าหมั่นทำกายภาพบำบัดบ่อยๆ ที่สำคัญคือกำลังใจนะครับคุณป้า คนป่วยท้อได้ แต่คนรอบข้างห้ามท้อนะครับ ไม่งั้นคนป่วยอาจจะท้อตามไปด้วย คุณป้าต้องคอยเป็นกำลังใจให้คุณครามนะครับ ผมเชื่อว่าอีกไม่นานคุณครามต้องกลับมาเดินได้อย่างปกติแน่นอนครับ"

"ขอบใจหนูขิงมากเลยนะลูกที่นั่งฟังคนแก่บ่นให้ฟัง แล้วยังช่วยเตือนสติป้าอีก"

"ไม่เป็นไรครับคุณป้า ผมยินดีช่วยครับ" ตอนนี้นายหญิงของบ้านกลับมายิ้มได้อย่างเข้มแข็งอีกครั้งแล้ว คงจะมีบ้างที่ผู้หญิงตัวคนเดียวต้องท้อบ้าง เพราะนอกเหนือจากลูกแล้วตอนนี้เธอก็ไม่มีใครที่จะสามารถยืดเหนี่ยวเอาไว้ได้เลยยามท้อ แต่คุณป้าท่านก็เข้มแข็งนะครับ ลุงชายเป็นถึงขนาดนี้คงขาดเสาหลักของบ้านไปเลย


"น้ำค่ะ"

"เดี๋ยวนุ้ย นี่คุณขิง เพื่อนคุณคีย์ เธอจะมาช่วยดูแลนายหัวของเราที่นี่ ถ้ายังไงฝากดูแลเธอด้วยนะ"

"ค่ะนายหญิง" พี่นุ้ยเป็นคนใต้ของแท้เลยล่ะ ทั้งหน้าตา สีผิว แล้วก็สำเนียงการพูด อายุน่าจะไม่ไกลจากผมมาก น่าจะสักประมาณ 29-30

"ฝากตัวด้วยนะครับพี่นุ้ย มีอะไรให้ผมช่วยก็บอกได้นะครับ" ผมยิ้มให้เธอ แล้วเธอก็ยิ้มโชว์ฟันขาวมาทั้ง 32 ซี่เลย ดูจริงใจดีนะ ทำงานที่นี่ก็คงไม่ได้แย่อย่างที่คิดแหะ

"แล้วคุณครามล่ะนุ้ยให้ทานยารึยัง?"

"ว๊ายยย....แกร๊ง!!เปรี้ยง!! เอาออกปายยย กูม้ายยกิน เอาเหล้ามา เหล้ากูอยู่หนายย? ไปเอาเหล้ามาให้กู" เสียงอะไร? เหมือนว่าจานหรือแก้วอะไรตกสักอย่าง แล้วเสียงคนอาละวาด หรือว่าจะเป็นคุณคราม!! โอ้ไม่นะ...ถ้าจะอาละวาดขนาดนี้แล้วเราจะรับมือไหมไหม ดูท่าจะงานใหญ่แล้วล่ะ คีย์นะคีย์ทำไมไม่บอกเราว่าพี่ชายคีย์?จะอาละวาดรุนแรงขนาดนี้

"นุ้ยรีบไปดูคุณครามเร็ว เดี๋ยวชั้นตามไป"

"หนูขิงรอป้าจ๊ะ เดี๋ยวป้าให้คนมาพาไปที่ห้องนะลูก ป้าขอไปดูพี่ครามก่อน ตาแช่มๆ มาพาคุณขิงไปที่ห้องหน่อย ถ้าขาดเหลืออะไรก็หาให้เธอด้วย"

"เชิญทางนี้ครับคุณขิง ห้องคุณขิงอยู่ชั้นบน แต่ไม่ได้ติดกับห้องคุณครามหรอกครับ ไม่ต้องทำหน้าซีดขนาดนั้นก็ได้ครับ เดี๋ยวอยู่ไปสักพักก็จะชินไปเองครับ"

"ลุงหมายความว่ายังไงครับ หมายความว่านายหัวของลุงเป็นแบบนี้ประจำเหรอครับ?" ตายๆๆ ชีวิตอันสงบสุขของไอ้ขิง จะรอดไหมเนี๊ยะ ความจริงผมเคยทำงานแบบนี้มาก่อนนะ แค่เคสแบบคุณครามนี้ผมไม่เคยเจอมาก่อน มีบางคนเค้าที่ประสบอุบัติเหตุแล้วเดินไม่ได้แบบนี้ เค้าก็แค่เศร้า หรือซึมไปบ้าง แต่ก็ไม่เคยมีใครอะลาวะจนบ้านแทบพังแบบนี้นะ ผู้ป่วยแบบนี้อาจมีบ้างที่สูญเสียกำลังใจ หรือท้อบ้าง คนรอบข้างและสภาพแวดล้อม รวมไปถึงกำลังใจเท่านั้นแหละครับที่จะช่วยเป็นภูมิคุ้มกันให้เค้าได้

"ครับ อยู่กับพวกเรานานนะครับคุณขิง พวกเราอยากให้นายหัวกลับมาเดินได้ แล้วก็กลับมาเป็นนายหัวคนเดิมสักที"

"แหะๆ คงจะพยายามครับลุงแช่ม ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรง หรือเหลืออดแล้วก็นะ"

"ต้องได้สิครับ ลุงเอาใจช่วย"

"ขอบคุณครับ"

"ถ้ามีอะไรขาดเหลือ หรือต้องการอะไรบอกลุงได้นะครับ"

"ขอบคุณครับลุงแช่ม เดี๋ยวผมจัดเสื้อผ้าใส่ตู้แล้วจะตามลงไปนะครับ ไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้างวันนี้"

"ครับ คงต้องรอนายหญิงบอกก่อนครับ"

"ครับลุง"



.............................................. TO BE CON >>>


หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | ตอนที่ 2 : by Soleil
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 14-07-2015 20:39:37

อันดามัน...ซ่อนรัก
ตอนที่ 2
[/b]



"ออกไป!! กูไม่กิน กูจะกินเหล้า เอาเหล้ากูมา!!"

"ครามลูก กินข้าวสักหน่อยนะลูก ฮึก!! จะได้หายเร็วๆ" คนเป็นแม่ร้องไห้ออกมาจนน้ำตาแทบเป็นสายเลือดเพราะลูกชายคนเดียวนอนเมามายไม่ได้สติอยู่บนเตียง ยกข้าวปลาอะไรมาให้ก็ไม่กิน แถมยังปัดทิ้งจนหกเลอะเทอะไปทั่วอีก

"ครายเรียกชื่อกู คราย?" คุณครามตอบเสียงยานคางจนไม่เป็นภาษา สองมือก็ปัดป่ายไปทั่วเหมือนที่คนเมาเค้าทำกันนั่นแหละ ถ้าภาษาบ้านผมคงเรียกว่า เมาเหมือนหมานั่นแหละครับ

"ตาครามกินข้าวสักหน่อยนะลูก ฮึก!! เดี๋ยวแม่ป้อน" มือข้างหนึ่งพยายามถือชามข้าว อีกมือหนึ่งก็ตักขึ้นป้อน น้ำตาก็ไหลไปด้วย คำแล้วคำเล่าแต่ก็ถูกปัดทิ้งจนหกเลอะเสื้อผ้าไปหมด ผมเห็นแล้วก็สงสารท่านนะ แต่เราเป็นคนนอก จะพูดอะไรออกไปก็คงไม่ดี

"ครายว่ะ? เสียงเหมือนแม่กูเลย" เป็นอีกครั้งที่เจ้าตัวพูดถ้อยคำหยาบคายออกมา ผมก็เข้าใจแหละนะว่าเหล้าคือน้ำเปลี่ยนนิสัย ขนาดแม่ตัวเองอยู่ตรงหน้ายังไม่รู้เลยว่าเป็นใคร แบบนี้ถ้าไม่ตกนรกก็ไม่รู้จะว่าไงละ ทำพ่อแม่น้ำตาตกขนาดนี้

"ครามลูก นี่แม่ไง ฮึก!! แม่ของครามไงลูก.....อย่ากินมันอีกเลยนะลูก มันไม่ดีต่อสุขภาพ ถ้าลูกกินแล้วเมื่อไหร่จะหาย" เสียงของผู้หญิงมีอายุพูดกับลูกชายปนสะอื้นอย่างไม่อายใคร

 "อย่าทำร้ายตัวเองแบบนี้เลยลูก แม่ทนไม่ได้ที่เห็นลูกเป็นแบบนี้ ฮื้อๆๆๆ" ผมเห็นท่านเอาผ้าเช็ดตามเนื้อตามตัวที่เปื้อนข้าวต้มให้คุณครามแล้วก็อดเวทนาไม่ได้ ยิ่งสองมือเหี่ยวๆ ค่อยๆ ประคองใบหน้าลูกชายไว้อย่างถนุถนอม ยิ่งทำให้พวกเราน้ำตาคลอ ผมกับพี่นุ้ยแอบปาดน้ำตาออกแล้วเบนหน้าไปทางอื่นเพราะทนเห็นไม่ได้

ผมเคยเห็นแม่ร้องไห้หนักแบบนี้ตอนที่พี่ชายของผมรถมอเตอร์ไซค์ล้ม จำได้อยู่ว่าตอนนั้นกำลังทานข้าวกันอยู่ ขาดแต่พี่ขุนคนเดียวเพราะติดเที่ยวกับเพื่อน คุยกันไปทานกันไปก็มีเสียงโทรศัพท์จากทางโรงพยาบาลโทรมาบอกว่าพี่ขุนรถล้ม แม่ก็แทบจะเป็นลมล้มทั้งยืน เพราะเป็นคนเดินไปรับสาย ดีนะทีพ่อรับไว้ทัน  ไม่งั้นคนที่เจ็บก็อาจเป็นแม่อีกคนก็ได้ พอถึงโรงพยาบาลหมอก็บอกว่าไม่เป็นอะไรมากแค่ขาหักต้องเข้าเฝือกไว้ก่อนสักสองสามเดือน แต่แม่ก็ยังร้องไห้ไม่หยุด จนพี่ขุนรู้สึกผิด พี่ขุนสมัยนั้นยังเป็นวัยรุ่นเที่ยวบ้างเรียนบ้างตามประสา แต่พอรู้ว่าแม่แทบเป็นลมล้มไปเมื่อรู้ข่าวก็ปรับปรุงตัว เลิกเที่ยว แล้วหันมาช่วยงานที่บ้าน จนเป็นผู้เป็นคนเหมือนอย่างทุกวันนี้แหละ

"คุณป้าครับเดี๋ยวผมช่วยป้อนให้เองครับ คุณป้าไปพักผ่อนนะครับ" สภาพท่านตอนนี้แทบไม่เหลือความเป็นนักธุรกิจหรือนายหญิงของบ้านเลยครับ ตาบวม สองแก้มเต็มไปด้วยคราบน้ำตา เครื่องสำอางที่บรรจงแต่งมาก็เลอะไปหมด บอกตรงๆนะครับ ถึงไม่ใช่แม่เรา แต่ก็อดสงสารไม่ได้จริงๆ

"ป้าฝากพี่เค้าด้วยนะลูก"

"ครับ" ผมตอบรับแล้วบีบมือท่านเบาๆเพื่อให้กำลังใจ

"พี่นุ้ยครับ เอาลงไปเก็บก่อนก็ได้ครับ ตอนนี้เค้าเมาไม่ได้สติขนาดนี้ คงยังทานอะไรไม่ได้หรอกครับ เอาไว้รอให้สร่างเมาก่อนค่อยเอามาให้ทานใหม่ แล้วผมรบกวนเอากะละมังใส่น้ำมาให้ด้วยนะครับ เดี๋ยวผมจะเช็ดตัวให้คุณคราม" ผมหันมามองสำรับข้าวที่ยกมาให้ใหม่หลังจากที่เอาเก่าถูกเก็บไปแล้ว คงไม่ต้องบอกใช่ไหมว่าทำไมถึงต้องยกมาใหม่ เพราะอันเก่าถูกปัดทิ้งจนหกเต็มถาดไปหมด แม้กระทั่งเตียงก็เต็มไปด้วยซากข้าวต้ม  ยิ่งเนื้อตัวเจ้าของห้องยิ่งแล้วไปใหญ่ ยิ่งกว่าสงครามอ๊วกอีก เละเทะไปหมด เหมือนจริงๆนะ

"ค่ะคุณขิง เดี๋ยวพี่จัดการให้ค่ะ"

"เป็นถึงขนาดนี้ แล้วใครเป็นคนเอาเหล้าพวกนี้ให้คุณครามกินอีกล่ะครับลุงแช่ม ไม่รู้รึไงว่ามันไม่ดีต่อสุขภาพคนป่วย?" ผมกวาดตามองข้างเตียงก็พบว่ามีขวดเหล้านอกยี่ห้อหนึ่งนอนอยู่ จนอดถามไม่ได้จริงๆว่าใครเป็นเอามาให้ เพราะเจ้าตัวก็ลุกไปเอาเองไม่ไหวอยู่แล้ว

"พวกเรานี่แหละครับคุณขิง เพราะถ้าไม่เอามาให้ นายหัวก็จะอาละวาด ไม่ยอมทานข้าวทานยาเลย พวกเราเลยจำใจต้องเอาให้ ขนาดนายหญิงร้องไห้ขอร้องให้หยุดกิน ก็ยังทำหยุดกินไม่ได้เลยครับ พวกเราก็เลยจนปัญญา" ลุงแช่มที่เป็นทั้งคนรถกับคนสวนตอบอย่างจนใจ คุณครามจะรู้ไหมนะว่าทำแม่ตัวเองต้องทุกข์ใจขนาดไหน รีบๆ รู้สึกตัวสักทีเถอะครับคุณคราม อย่าทำให้ท่านต้องเสียใจอีกเลย น้ำตาพ่อแม่ตก เท่ากับว่าตัวเองก็ต้องตกนรกด้วยนะครับ


"เห้อ!! เอาเถอะครับ ตอนนี้ผมขอสั่งห้ามเด็ดขาดเลยนะครับเรื่องนี้ ห้ามใครเอาเหล้าให้นายหัวของลูกแช่มกินอีกถ้าอยากให้เค้าหายเป็นปกติเหมือนเมื่อก่อน" ผมถอนหายใจเบาๆอย่างเหนื่อยหน่าย การที่คนในบ้านเอาเหล้ามาให้กินทุกวันแบบนี้ก็เท่ากับว่าทำร้ายกันทางอ้อมนะผมว่า แล้วเมื่อไหร่เค้าจะหายล่ะครับ วันๆก็เอาแต่กินเหล้าเมาจนไม่ดูแลตัวเอง กายภาพบำบัดก็ไม่ได้ทำ

"นี่ค่ะคุณขิง เดี๋ยวพี่ไปเตรียมเสื้อผ้านายหัวให้นะค่ะ" พี่นุ้ยที่ยกสำรับข้าวไปเก็บไว้กลับขึ้นมาพร้อมกับอุปกรณ์ทำความสะอาดแล้วก็จัดเสื้อผ้าใหม่ให้คนเมา งานหนักเหมือนกันนะผมว่า เพราะงานเก่ายังไม่เสร็จ กลับมีงานใหม่แทรกเข้ามาอีก จะไม่ทำก็ไม่ได้เพราะเราเป็นลูกจ้างเค้า

"ขอบคุณครับพี่นุ้ย" ผมเอ่ยขอบคุณแล้วยิ้มให้แก

"ลุงแช่มครับช่วยเอาเหล้าในบ้านนี้ไปซ่อนหรือเอาทิ้งเลยนะครับ ถ้านายหัวของลุงถามก็ให้บอกเลยนะครับว่าไม่มีแล้ว แล้วอย่าไปซื้อมาให้เค้าอีกนะครับลุงแช่ม ผมรบกวนลุงบอกคนอื่นๆด้วยนะครับ" ผมไหว้วานลุงแช่มแล้วหันมามองคนป่วยพ่วงด้วยคนเมาอีกครั้ง ความจริงทุกคนน่าจะรู้นะครับว่าอะไรควรทำ ไม่ควรทำ ถ้าเป็นผมนะ ถึงจะอาละวาดจนบ้านพังแค่ไหนก็ไม่เอามาให้กินหรอก

"ได้ครับคุณขิง" ลุงแช่มกล่าวแล้วเอาขวดเหล้าอันเก่าไปเก็บ

"พี่นุ้ยมีงานอื่นก็ไปทำเถอะครับ เดี๋ยวผมดูแลเค้าเองครับ" เมื่อกี้พี่นุ้ยกับลุงแช่มได้ช่วยกันเปลี่ยนผ้าปูที่นอนไปแล้ว ส่วนฟากที่ข้าวต้มคว่ำใส่ก็ต้องปล่อยไว้แบบนั้นก่อน รอให้แห้ง ไม่งั้นคงมีกลิ่นอับ ถึงแม้ว่าจะเอาน้ำยาซักผ้ามาขัดแล้วก็เช็ดแล้วก็เถอะ

"จะไหวเหรอค่ะคุณขิง? ขนาดพี่กับลุงแช่มยังแทบเอาไม่อยู่เลย"

"ไม่ไหวก็ต้องไหวครับ หนักกว่านี้ผมก็เจอมาแล้วครับ เพียงแต่ไม่เคยเจอคนเมาแบบนี้เท่านั้นเองครับ" จริงครับผมเคยเจอผู้ป่วยที่อาการใกล้เคียงนี้นะ แต่ไม่ได้อยู่ในสภาพเมามายแบบนี้ บางรายเป็นนักฟุตบอลหรือนักวิ่งที่ต้องผ่าตัดเอ็นร้อยหวาย หรือขาหักขณะฝึกซ้อม ถึงแม้พวกเค้าจะสูญเสียกำลังใจไปบ้าง แต่เราก็ต้องค่อยๆสร้างกำลังใจให้พวกเค้าใหม่ เพื่อให้กลับมาลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง เพราะนักกีฬาพวกนี้ การไปให้ถึงฝันเช่น โอลิมปิก หรือเอเชี่ยนเกมส์คือเป้าหมายสูงสุดอีกอย่างหนึ่งเหมือนกัน

"ดูสิกินแต่เหล้า ข้าวก็ไม่ยอมกิน ผมเผ้าก็ยุ่งรุงรัง หนวดเคราอีก ไม่เหลือสภาพนายหัวเลยสักนิด" ผมจับใบหน้าเค้าบิดไปมาแล้วส่ายหัวเบาๆกับสภาพตอนนี้ นอกจากสภาพที่บ่นออกไปก็ยังมีความหมองคล้ำบนใบหน้าอีก โดยเฉพาะตาที่ลึกโหลจนเป็นหมีแพนด้า แถมหนวดเคราขึ้นเป็นตออีก

"ในรูปก็หล่อดีอยู่หรอก สาวคงติดตรึม แต่ตอนนี้อย่าหวังแม้แต่สาวเลย แม่ม้ายก็คงจะไม่สนใจ กลิ่นละมุดหึ่งเชียว" เอ๊ะ!!ตั้งแต่มานี่ยังไม่เจอเมียของคุณครามเลยแหะ เธอน่าจะมาช่วยกันดูแลคุณครามบ้างนะ แต่กลับไม่เห็นเลย ขิงคิดในใจแล้วหันไปมองรอบๆห้อง แม้แต่กรอบรูปสักใบก็ไม่มีทั้งทีแต่งงานแล้ว ตอนแรกเดินขึ้นบันไดมาก็นึกว่าจะเห็นห้อยติดผนังตามทางเดินบ้าง แต่ก็ไม่มีเลย พอมาคิดอีกทีก็นึกได้ว่าเค้าโดนผู้หญิงทิ้งนี่หน่า เห็นคีย์บอกว่างั้น.......แบบนี้ก็น่าสงสารเหมือนกันนะ แต่ก็ไม่น่าจะปล่อยเนื้อปล่อยตัวแล้วทำร้ายตัวเองแบบนี้เลย

"อึ๊บ!! ตัวก็ใหญ่  พลิกตัวหน่อยคุณคราม จะได้ถอดเสื้อออกได้" ดีนะใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นมีกระดุม ไม่งั้นคงงานยักษ์เลยล่ะ

"ฟู่!! เหนื่อยเอาเรื่องเหมือนกันแหะ ทีนี้ก็เช็ดตัว ผมของสงวนสิทธิ์ส่วนตัวคุณกับผมไว้สักหน่อยนะครับคุณคราม ขอเช็ดแค่ท่อนบน กับท่อนล่าง แต่ท่อนกลางไม่เช็ด เย็นๆค่อยให้ลุงแช่มมาเช็ดให้นะครับ" เอาจริงๆคือพยาบาลหรือนักกายภาพต้องทำให้ได้ไม่มีข้อยกเว้น แต่ขอเวลาทำใจสักวันนะคุณคราม คือมันยังไม่ชินที่จะเห็นอะไรๆของคนอื่นอะ

"นอนดีๆ สิคุณคราม อย่าดิ้น ใกล้จะเสร็จแล้ว" เมาก็นอนดี แต่นี่ดิ้นไปดิ้นมายิ่งกว่าไส้เดือนถูกเสียมอีก ผมบ่นกับเจ้าตัวเบาๆ ถึงบ่นดังเจ้าตัวก็คงไม่ได้ยินหรอก

"แพร ๆ อย่าทิ้งผมไป อย่าไปนะแพร ครามไม่ให้แพรไป" เสียงแหบพูดขึ้นแล้วเอามือปัดป่ายไปทั่ว ปากก็เอาแต่เรียกชื่อผู้หญิงที่ชื่อแพร

"โอ๊ยยย จะบ้าตาย พงแพรอะไรอีกล่ะ ไม่รู้จัก นี่ขิงไม่ใช่แพร อยู่เฉยๆ สิคุณคราม อย่าดิ้น อ๊ะ!!" จะบ้าตาย...สมควรแล้วที่เค้าว่า อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมา ผมก็ไม่ว่าหรอกนะถ้าหากเค้าจะดึงเข้าไปกอดอย่างเดียว แต่นี่รัดจนจะเป็นงูเหลือมกินลูกวัวอยู่แล้ว คนมันหายใจไม่ออกนะเว้ย

"นี่คุณคราม ปล่อยผมได้แล้ว อึ๊บ!! ตัวก็ใหญ่ กอดคนอื่นเค้าขนาดนี้ ไม่คิดจะให้คนอื่นเค้าหายใจเลยรึไง อึ๊บ!!"

"ขนาดป่วยเดินไม่ได้นะเนี๊ยะ ยังแรงเยอะขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดถึงตอนสภาพดีๆ เลยว่าจะแรงเยอะขนาดไหน คงล้มควายได้เป็นตัวๆอะ" ขิงบ่นอย่างไม่จริงจัง

"อึ๊บบบบ!! ฮ้าๆ สงบสักทีนะคุณ ทีนี้ก็ทาแป้งตัวจะได้หอมๆ นะคุณคราม ตัวเหม็นแต่เหล้าแบบนี้ ผมไม่ดูแลนะจะบอกให้" ขิงจัดการทาแป้งให้ครามจนหอมฉุย ไม่เว้นแม้แต่ใบหน้าที่ตอนนี้ถูกละเลงจนเหมือนแมวไปเลย

"โอ๊ะ!! อีกแล้วนะคุณคราม ผมไม่ใช่หมอนข้างคุณนะ ปล่อย!! โอ๊ย!! อย่าสิคุณครามมันเจ็บ หนวดเคราคุณมันทิ่ม หื้ย!! ผมทนไม่ไหวแล้วนะ อึ๊บบบบ!!" ผมผลักตัวเขาออกแล้วกระโดดออกจากเตียง

"ที่โกนหนวดอยู่ไหนนะ?" บ่นอยู่คนเดียวแล้วเดินหาจนทั่วห้องแต่ก็ไม่เจอ ถ้าเจอนะพ่อจะโกนให้ไม่เหลือคราบนายหัวหฤตในจำเลยรักเลย

"ที่นี่ก็ไม่มี ๆ อ๊ะนี่ไงเจอแล้ว!! อาฟเตอร์เชฟด้วย" ลืมไป ปกติผู้ชายทุกคนต้องเก็บที่โกนหนวดไว้ในห้องน้ำนิเนอะ เวลาหยิบมาโกนจะได้สะดวก แอบบื้ออยู่ได้ตั้งนาน ปกติผมก็มีหนวดนะแต่ขึ้นหลอมแหลมมาก เลยใช้วิธีถอนเอา เคยโกนเพื่อให้มันขึ้นมาเยอะๆเหมือนกันนะ แต่ผลกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เพราะมันก็แค่ดำขึ้นแต่ไม่ได้ขึ้นเยอะขึ้นเลย แถมยังทุเรศอีกต่างหาก ขึ้นเป็นทีๆ

"นอนนิ่งๆ นะคุณคราม เดี๋ยวผมทำหล่อให้ ถ้าดิ้นผมไม่รับรองนะว่ามันจะบาดเนื้อคุณรึเปล่า ดังนั้นให้ความร่วมมือกันหน่อยนะ ขอร้อง!! เหนื่อยแล้ว"

"ขออนุญาตนะคุณคราม" ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยโกนหนวดให้ใครมาก่อนนอกจากตัวเอง แล้วก็ไม่คิดว่าจะได้โกนให้ใครด้วยนะ ขนาดเจเป็นแฟนกันก็ยังไม่เคย ตัดเล็บให้ก็ไม่เคย เพราะรายนั้นเนี๊ยบไปหมดทั้งตัว


...........................................

พอจัดการคุณครามเสร็จผมก็ทาแป้งให้อีกทีแล้วก็ปล่อยให้นอนต่อไป ตื่นมาค่อยว่ากันอีกที ส่วนตอนนี้ก็เป็นเวลาพักยกของผม เพราะเหนื่อยมาเยอะละวันนี้ เล่นเอาเหงื่อโซกเหมือนกันนะ นี่แหละนะเค้าเรียกว่า ถ้าเหงื่อไม่ออก ก็ไม่ได้เงิน

"ฮัลโหล ว่าไงคีย์?"

"ไม่ว่าไงอะ เป็นไงบ้าง? พอไหวไหมดูแลพี่ชายเรา?"

"ไม่รู้สินะ เพิ่งผ่านมาได้วันเดียวเอง แต่เหนื่อยเป็นบ้า ไม่เคยสู้รบกับผู้ป่วยที่กินเหล้าเมามายขนาดนี้มาก่อนเลย ทำไมคีย์ไม่บอกเราว่าพี่ชายนายเป็นถึงขนาดนี้ แค่ช่วงล่างเดินไม่ได้ยังไม่เท่าไหร่ แต่นี่กินเหล้าแล้วอาละวาดไปทั่ว แถมยังไม่ยอมกินข้าวกินปลาอีก" ผมอดบ่นกับคีย์ไม่ได้ ก็เจ้าตัวเล่นไม่บอกอะไรเลยสักอย่างนอกจากที่เล่าไปวันนั้น ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ผมไม่รับปากทำหรอก

"เราขอโทษ นะๆ ขอโทษนะขิง เราลืมบอกไป มัวแต่ดีใจไปหน่อยที่ขิงรับดูแลพี่ชายเรา" คีย์แก้ตัวเสียอ่อยๆ

"ลืมหรือตั้งใจไม่บอกกันแน่? นี่มันงานหินชัดๆนะ ถ้าเราทนไม่ไหวเราก็จะขอลาออกตามคนก่อนหน้านั้นไปเหมือนกันนะ บอกไว้ก่อน"

"โถ่ขิง อย่าเพิ่งตัดพ้อต่อว่ากันสิ ก็มันลืมจริงจริ๊งงงง ช่วยอดทนหน่อยนะ ถือว่าสงสารพี่คราม สงสารคุณป้าเราเถอะนะ นะ... คิดซะว่าเค้าเป็นพี่ชายขิงอีกคนสิ จะได้อดทนมากขึ้น" ผมล่ะอยากให้คีย์มาเห็นกับตาตัวเอง จะได้รู้ว่าพี่ชายตัวเองฤทธิ์มากแค่ไหน

"ไม่เอาหรอกพี่ชายขี้เมาอะ" นี่ถ้าพี่ขุนเมาหยำเปขนาดนี้ ผมคนหนึ่งแหละที่ไม่ขอเข้าใกล้ ไม่ขอดูแลอะไรทั้งนั้นแหละ เพราะแค่เห็นคุณครามก็ขยาดแล้ว แต่ดีที่พี่ขุนไม่ใช่คนกินแล้วไม่รู้ลิมิตตัวเอง ขืนเป็นแบบนั้นผมจะปล่อยให้นอนใต้ถุนบ้าน ไม่งั้นก็ชานบ้านแล้วปล่อยให้ยุงหามไปกินซะให้เข็ดเลย

"งั้นก็คิดซะว่าสงสารคุณป้า ขิงลองนึกถึงหัวอกคนเป็นแม่สิ ลูกทั้งคนนะขิง จะไม่ดูแล แล้วปล่อยให้เป็นอย่างนั้นก็ทำไม่ได้" เห้อออ!! ที่อดทนอยู่ก็เพราะสงสารคุณป้านี่แหละ ถ้าไม่มาเห็นกับตาเมื่อกี้ว่าคุณป้าถึงกับน้ำตานองเพราะลูกชายคนเดียวไม่สบาย ไม่ยอมทานข้าวทานปลา ผมคงจะไม่ยอมทนถึงขนาดนี้หรอก เอาวะถือว่าทำบุญไปด้วย

"โอเคๆ ไม่ต้องมาชักแม่น้ำทั้งห้า เราจะพยายามอดทนให้ถึงที่สุดละกัน" พอได้ระบายไปบ้างก็รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง เป็นแบบนี้แหละผม อะไรที่พอยอมได้ก็ยอมนะ แต่อะไรที่มันเกินลิมินก็ไม่ไหวเหมือนกัน คีย์ก็พอจะรู้จักผมดี

"ขอบใจมากจ๊ะขิง ขิงใจดีที่สุดเลย เอาไว้ว่างๆ เราจะลงไปเยี่ยมนะ"

"อื้ม งั้นแค่นี้นะ เราออกมานานละ ไม่รู้ว่าคุณครามตื่นรึยัง?"

"จ้า บายจ๊ะขิง ดูแลตัวเองด้วยนะ"

"บาย" พอคีย์โทรหาก็อดคิดถึงใครอีกคนที่อยู่ทางโน้นด้วยไม่ได้ ป่านนี้จะเป็นไงบ้างก็ไม่รู้? อยากโทรหาแต่นี่มันเวลางาน เลยต้องตัดใจ เอาไว้ตอนดึกๆค่อยโทรหารวดเดียวทั้งครอบครัวทั้งแฟนเลย


"นายเป็นใคร? มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?" พอคุยโทรศัพท์เสร็จผมก็เข้าไปดูคนป่วย ปรากฏว่าตื่นแล้ว แล้วก็คงจะแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่จู่ๆผมก็เข้ามาในห้องส่วนตัวของเค้า

"สวัสดีครับคุณคราม ผมขิงครับ เป็นคนดูแลคุณแล้วก็เป็นนักกายภาพด้วยครับ" แนะนำตัวกันพอเป็นพิธี แล้วตามด้วยรอยยิ้มนิดหน่อยเพื่อเป็นการผูกมิตร

"หึ!!" คือไม่ตอบอะไรสักคำผมไม่ว่านะ แต่ทำเสียงแบบนี้หมายความว่าไง?

"หิวรึยังครับ?" ผมทำใจเย็นแล้วเอ่ยถามอีกครั้ง คิดว่าเค้าคงแฮงค์เหล้าเลยแสดงสีหน้าแล้วก็ท่าทางแบบนั้นออกมา

"......" ครามไม่ตอบอะไรแต่กลับตวัดสายตามองตามขิงอย่างไม่พอใจ ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า แล้วมองย้อนกลับขึ้นไปใหม่

"โอเคผมว่าคุณคงหิวแล้ว งั้นเดี๋ยวผมไปเอาข้าวต้มมาให้นะครับ" เห็นสายตาแบบนั้นแล้วผมอึดอัด ทำตัวไม่ถูกเลยลุกไปเอาข้าวต้มที่เพิ่งอุ่นเสร็จมาให้ ผมว่าผมเข้ากับคนอื่นค่อนข้างยากแล้วนะ แต่คุณครามนี่ยิ่งกว่าอีก แล้วสายตาแบบนั้นจะฆ่ากันรึไง ผมไม่ได้เป็นคนร้ายหรือทำอะไรผิดสักหน่อย ทำไมต้องมองกันแบบนั้นด้วย


"คุณจะทานเองหรือจะให้ป้อนครับ?"

"......" ตั้งใจจะเล่นสงครามประสาทกันใช่ไหมเนี๊ยะ? ถามก็ไม่ตอบ ขิงแอบบ่นในใจ

"โอเค!! งั้นผมป้อนให้แล้วกัน เผื่อคุณยังไม่มีแรงถือช้อนตัก เพราะคงแฮงค์เหล้าหนักไปหน่อย" ความจริงผมไม่ใช่คนขี้ประชดประชันนะ แต่เห็นแบบนี้แล้วอดไม่ได้เหมือนกันนะ

"อ้ำ อ้าปากสิครับ"

"......"

"คุณครามครับ คุณต้องทานนะครับ จะได้มีแรงทำกายภาพบำบัด จะได้กลับเดินได้ไงครับ นะๆ อ้าปาก"

"......"

"ทานนะครับ ข้าวต้มกุ้งหอมน่าทาน กุ้งก็ตัวโต๊โต อ้าปากนะครับ"

"เอามันออกไป กูไม่กิน ไม่ต้องมาทำเหมือนกูเป็นเด็ก กูจะกินเหล้า เอาเหล้ามาให้กู" หยาบคายจริงๆผู้ชายคนนี้ เกิดมาไม่เคยเจอ เดี๋ยวก็เอายาเบื่อหนูผสมข้าวให้กินซะหรอก โอ๊ะลืมไปเราต้องมีจรรยาบรรณในอาชีพ ไม่ดีๆขิง

"ไม่ได้ครับ คุณป่วยอยู่ กินเหล้าไม่ได้ เอาไว้คุณหายก่อนแล้วค่อยกินนะครับ เดี๋ยวผมไปซื้อมาให้เลย" นี่ทั้งปลอบ ทั้งปะเหลาะยิ่งกว่าเด็กเลยนะ อะไรจะขนาดนั้นพ่อคูณ

"มึงมีสิทธิ์อะไรมาห้ามกู บังคับกู กูจะกินไม่กินอะไรมันก็เรื่องของกู ไปเอาเหล้ามา!!" เสียงที่แหบเมื่อกี้คงดีขึ้นเพราะเห็นเจ้าตัวเอื้อมไปหยิบเอาน้ำในแก้วมาดื่ม คิดว่าคงจะกระหายเพราะตั้งแต่เช้าก็ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย แต่คำพูดที่พูดออกมานี่สิ ขึ้นมึงขึ้นกูผมไม่ว่านะถ้าสนิทกัน กับเพื่อนบางคนผมก็พูด แต่ผมกับเค้าสนิทกันแล้วเหรอถึงพูดแบบนั้น? โคตรของโคตรหยาบคายเลยตั้งแต่เคยเจอมา ความจริงเพื่อนผมก็มีนะที่พูดแบบนี้แต่มันไม่ได้พูดกับทุกคนไง

"นี่คุณ ถึงผมจะเป็นลูกจ้างคุณ แต่ก็ใช่ว่าคุณจะสามารถพูดแบบนี้กับผมได้นะครับ"

"หึ!! ต้องพูดภาษาดอกไม้งั้นเหรอ? รับไม่ได้ก็ลาออกไปสิ มาทนอยู่ทำไม? ออกไป๊!!!!!!!" ถ้าไม่ใช่ญาติคีย์ กูจะไม่ทนนะเว้ย เกิดจากท้องพ่อท้องแม่มา ยังไม่เคยมีใครมาไล่เหมือนหมูเหมือนหมาอย่างนี้ นับ 1-10 ไว้ขิง แล้วทำใจให้เย็น นั่นมันคนป่วย คนป่วยย่อมมีอารมณ์หงุดหงิดบ้างเมื่อตกอยู่ในสภาพแบบนี้ นับ1 2 3 4 5

"คุณขิงค่ะ เป็นยังไงบ้างค่ะ?เสียงดังออกไปจนถึงข้างนอกเลย ให้พี่ช่วยไหมค่ะ?" พี่นุ้ยคงได้ยินเสียงเอ๊ะอะโวยวายดังไปถึงข้างล่างเลยขึ้นมาดู

"ไม่เป็นไรครับพี่นุ้ย ผมไหวอยู่ครับ แค่อารมณ์หงุดหงิดของคนป่วยน่ะครับ" พอพูดจบครามก็หันมาจ้องหน้าขิงทันที รู้แล้วว่าโกรธ ไม่ต้องจ้องขนาดนั้นก็ได้ จะดุไปไหน

"นุ้ย แพรอยู่ไหน? เมื่อกี้แพรมาหาชั้นใช่ไหมตอนชั้นหลับอยู่?" ครามเลิกสนใจขิงแล้วหันกลับมาถามนุ้ยแทน

"ไม่มีนะค่ะนายหัว คุณแพรเธอไม่ได้มาที่นี่ตั้งแต่วันนั้นแล้วนะคะ" นุ้ยตอบตามความจริงด้วยสีหน้าแหย่ๆ

"ไม่จริง เมื่อกี้ฉันยังกอดแพรอยู่ แพรอยู่ไหนนุ้ย ไปตามแพรมาให้ชั้นที" แพรที่ไหนจะมาให้กอดล่ะ มีแต่ขิงนี่แหละที่กอดไปเมื่อกี้ นี่แหละนะคนเมา ผมล่ะอยากรู้จริงๆ ว่าใครคือแพร แต่ถ้าให้เดา คงจะเป็นภรรยาของคุณครามล่ะมั้ง เห็นเพ้อหาได้แม้กระทั่งในฝันนี่หน่า

"ขอโทษด้วยค่ะนายหัว คะ..คือคุณแพรเธอไม่ได้มาที่นี่จริงๆ ค่ะ" พี่นุ้ยตอบ

"ไม่จริง ออกไป!! ออกไปให้หมด!!" อยู่ๆ จะอาละวาดก็อาละวาด ผมชักจะทนไม่ไหวเหมือนกันนะ

"ตุ๊บ!! โอ๊ย!!" เสียงหมอนที่ถูกขว้างมาโดนหน้าของขิงเข้าอย่างจังดังตุ๊บ จนเจ้าตัวต้องเอามือปัดป้องไว้ รวมถึงนุ้ยด้วย

"หยุดนะคุณคราม หยุดเดี๋ยวนี้ เป็นบ้าไปแล้วรึไง? คนอื่นเค้าก็เจ็บเป็นเหมือนกันนะ"

"นายหัวคะอย่าทำแบบนี้ค่ะ นายหัว..."

"ไปกันเถอะครับพี่นุ้ย ปล่อยให้เค้าสงบเอง เดี๋ยวเราค่อยมาใหม่" ผมดึงแขนพี่นุ้ยให้เดินออกมา รอให้พายุบ้าของเค้าสงบแล้วค่อยเข้าไป

......................










































.................................................... TO BE CON >>>



หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | ตอนที่ 3 : by Soleil
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 14-07-2015 20:44:43
(ต่อ)




"เป็นไงบ้างค่ะคุณขิง เจ็บตรงไหนไหมค่ะ?"

"ไม่ครับพี่นุ้ย แค่หมอนเฉยๆ เราไปทานข้าวกันก่อนดีกว่าครับ เดี๋ยวค่อยกลับไปดูเค้า ปล่อยให้เค้าอยู่กับตัวเองบ้าง เผื่อเค้าจะได้สงบลง"

"ค่ะคุณขิง" ผมกับพี่นุ้ยก็เดินตามกันเข้าไปในครัว พอนึกถึงข้าวก็รู้สึกหิวขึ้นมาทันที เพราะนี่ก็บ่ายโมงกว่าแล้วด้วย ถึงว่าท้องร้องเชียว

"แล้วคุณป้าไปไหนครับพี่นุ้ย?"

"นายหญิงออกไปบริษัทแล้วค่ะ เธอฝากบอกคุณขิงให้ช่วยดูแลนายหัวด้วยนะคะ"

"ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ถึงไม่บอกผมก็ดูแลให้อยู่แล้ว เพราะมันคือหน้าที่ของผม อีกอย่างสงสารคุณป้าท่านด้วย คุณครามมาป่วยแบบนี้คงจะเหนื่อยน่าดู ไหนจะงานบริษัทไหนจะลูกอีก"

"คุณขิงเป็นคนดีจังค่ะ ทั้งน่ารัก ทั้งมีน้ำใจ ใครได้ไปเป็นแฟนคงโชคดีแน่ๆเลย"

"มายอกันแบบนี้ผมก็เขินแย่สิครับพี่นุ้ย อิอิ"

"พี่ไม่ได้แกล้งยอนะค่ะ แต่คุณขิงน่ารักจริงๆนะค่ะ ไม่เชื่อเดี๋ยวทานข้าวเสร็จลองออกไปเดินที่ชายหาดตรงโน้นดูสิค่ะ รับรองหนุ่มๆสาวๆมองตรึม ทั้งขาว ทั้งน่ารักขนาดนี้ใครไม่มองก็แปลกแล้วค่ะ ถึงว่าเป็นเพื่อนคุณคีย์ได้ รายนั้นก็น่ารัก หน้าหวานเหมือนผู้หญิงเลย" อย่าเอาผมไปเปรียบกับคีย์เลยครับ มันคนละชั้นกัน คีย์มีมันน่ารัก หน้าหวานอย่างที่พี่นุ้ยว่านั่นแหละ แต่ผมเรียกว่าน่ารักคงไม่ได้หรอกครับ แต่มีหลายคนบอกว่า ผมเป็นคนที่ไม่ได้ดูน่ารักแบบคีย์ แต่เป็นคนที่น่ามองอะไรแบบนี้แหละครับ ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน

"แหะๆ"

"พี่ลืมบอกไป เดี๋ยวบ่ายสามคุณหมอคณินที่เป็นหมอประจำตัวนายหัวจะเข้ามาตรวจดูอาการนะค่ะ คุณขิงน่าจะอยู่ด้วย เผื่อจะได้สอบถามอาการจากคุณหมอ" พี่นุ้ยหันมาบอกขณะที่ตัวเองก็กำลังตักแกงนั่นแกงนี่ใส่ถ้วยอยู่ วันนี้มีทั้งแกงไตปลา ผัดสะตอ ไข่เจียว แล้วก็อะไรไม่รู้อีกอย่างที่ผมไม่รู้จัก แต่คิดว่าน่าจะอร่อยแหละ เพราะกลิ่นหอมเชียว

"โอเคครับพี่นุ้ย งั้นเราทานกันดีกว่าครับ เสร็จแล้วจะได้ไปช่วยกันจัดห้องให้คุณครามใหม่" 

"คุณขิงออกไปเดินเล่นแถวๆชายหาดนี่ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวพี่ไปจัดเอง มันไม่ได้กระจัดกระจายเท่าไหร่ เพราะเราเอาของที่อยู่ใกล้มือนายหัวออกหมดแล้วเหลือแต่หมอน อิอิ"

"คงโดนบ่อยจนรู้ทางหนีทีไล่ใช่ไหมครับ คิๆ" 

"พี่กับป้าน้อยโดนบ่อยจนชินแล้วค่ะ นี่ถ้าป้าน้อยแกอยู่คงจะเป็นลมเสียให้ได้ เพราะนายหัวของแกปาข้าวจนเกลื่อนห้องซะขนาดนั้น"

"ที่นี่อยู่กี่คนครับ ผมก็ลืมถามไปเลย?" ผมถามแล้วตักแกงไตปลาเข้าปาก ถึงแกงจะเผ็ดแต่ก็อร่อยนะ กินไปด้วยเช็ดเหงื่อไปด้วย ได้รสชาติดีออก

"ที่นี่ก็จะมี 6 คนค่ะ มีนายหัว นายหญิงใหญ่ นายหญิง ตาแช่ม ยายน้อย แล้วก็พี่จ๊ะ แต่ตอนนี้ป้าน้อยแกกลับไปเยี่ยมบ้านแกที่ต่างจังหวัด อีกสองสามวันถึงจะกลับค่ะ" พี่นุ้ยตอบยิ้มๆแล้วเทน้ำใส่แก้วให้ แก้วนี้เป็นแก้วที่สองแล้ว กินไปด้วยสูดปากไปด้วยจนพี่นุ้ยอดยิ้มออกมาไม่ได้

"แล้วที่บอกว่านายหญิง ทำไมถึงมีสองคนครับ เป็นใครกัน?"

"จุ๊ๆ อย่าเอ็ดไปนะค่ะ นายหญิงใหญ่เธอห้ามพูด เพราะกลัวว่านายหัวได้ยินแล้วจะอาละวาดอีก ความจริงที่นี่มีนายหญิงใหญ่ก็คือคุณแม่ของนายหัว แล้วก็นายหญิงที่เป็นคุณผู้หญิงเมียของนายหัวค่ะ แต่เธอไม่อยู่ที่นี่แล้ว"

"อ้าวทำไมเหรอครับ?" ถามแบบนี้เค้าจะหาว่าเรายุ่งเรื่องชาวบ้านไหม๊นะ??

"ก็เพราะนายหัวเธอจับได้ว่าเมียตัวเองแอบมีชู้ ซึ่งชู้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่ดันเป็นเพื่อนสนิทของนายหัวนั่นเอง รู้แล้วเหยียบไว้ให้มิดเลยนะค่ะคุณขิง" พี่นุ้ยพูดแล้วทำสีหน้าจริงจัง ส่วนผมก็อึ้ง คิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่หล่อเหลา เอาการเอางานอย่างคุณครามจะถูกผู้หญิงทำแบบนี้ ตอนแรกนึกว่าแค่ถูกทิ้งเฉยๆซะอีก

ผมพยักหน้ารับคำแล้วก็รวบช้อนไว้ด้านข้าง รู้สึกเหมือนอิ่มๆตื้อๆไงไม่รู้ สงสัยจะอิ่มน้ำเพราะกินข้าวคำน้ำคำ

"คือนายหัวเธอมีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่งที่ชอบไปมาหาสู่กันบ่อยๆ บ่อยจนชนิดที่ว่าเข้าออกบ้านนี้เป็นว่าเล่นเลยก็ว่าได้ค่ะ บางวันนายหัวอยู่ก็มาพูดคุยกินข้าว กินเหล้ากันปกติ แต่บางวันนายหัวไม่อยู่ก็มาคลุกอยู่ที่บ้านเป็นครึ่งค่อนวันแล้วก็กลับไป จนวันนึงนายหัวไม่อยู่ออกไปดูฟาร์มหอยมุก แล้วเพื่อนเธอก็มาหา แล้วทีนี้เหมือนสวรรค์เป็นใจอยากให้ความจริงปรากฏ นายหัวเกิดกลับบ้านเร็วเพราะลูกค้าขอเลื่อนนัดหรือว่าอะไรสักอย่างนี่แหละค่ะ เลยทำให้กลับบ้านเร็ว แต่พอมาถึงบ้านกลับพบว่าเมียตัวเองกำลังนอนอยู่กับชู้ซึ่งเป็นถึงเพื่อนสนิท ของตนเอง ความเลยแตก โป๊ะเชะพอดี" ฟังพี่นุ้ยเล่ามาถึงตอนนี้แล้วก็อดสงสารคุณครามขึ้นมาไม่ได้ คงไม่แปลกหรอกที่เค้าจะเอาเหล้าเป็นที่ตั้งของจิตใจขนาดนี้ แค่ผมฟังยังรู้สึกนอยด์ตามเลย แล้วเจ้าตัวเค้าล่ะจะขนาดไหน?

"คุณขิง...คุณขิงค่ะ ฟังพี่อยู่รึเปล่า?"

"คะ..ครับ ฟังอยู่ครับ พี่นุ้ยเล่าต่อเลยครับ"

ผมฟังพี่นุ้ยก็เล่าต่อบ้างไม่ฟังบ้างเพราะมัวแต่คิดตามไปเรื่อย ถ้าเป็นผมก็คงจะเสียใจจนชีวิตเป๋ไปเหมือนกันนั่นแหละ ตอนนี้พี่นุ้ยเล่าจบแล้วแต่ผมยังรู้สึกเหมือนหนังยังฉายไม่จบเลย จนกระทั่งได้ยินเสียงรถเข้ามาในบ้าน ผมจึงเดินตามพี่นุ้ยออกไปดูอย่างมึนๆงงๆ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าจะเดินตามออกมาทำไม เพราะถึงยังไงเค้าก็ต้องเดินเข้ามาในบ้านอยู่ดี



"สวัสดีค่ะคุณหมอ" คุณหมอคณินตัวสูงหนาแต่ไม่เท่าคุณคราม ขาวแล้วก็ตี๋ สวมแว่น ออกแนวเกาหลีๆ ตามสมัยนิยม แต่ดูจากสายตาแล้วคงเจ้าชู้ไม่เบา

"สวัสดีครับนุ้ย" คุณหมอทักทายพี่นุ้ยเล็กน้อยและปรายสายตามองผมยิ้มๆ "แล้วนั่นใครครับไม่แนะนำให้ผมรู้จักสักหน่อยเหรอ?"

"นี่นายหญิงคนใหม่ค่ะคุณหมอ ชื่อคุณขิง" ผมเพิ่งมาได้สติเต็มๆตอนที่พี่นุ้ยแนะนำผมกับคุณหมอว่าเป็นนายหญิงคนใหม่ของที่นี่นั่นแหละ จะเล่นอะไรไม่บอกกันเลยพี่นุ้ย นี่ถ้าผมหัวใจวายไปจะทำยังไง นายหญิงที่ไหนเป็นผู้ชาย ผมส่ายหัวเบากับคำตอบของพี่นุ้ย

"ฮั่นแหน่!! อย่ามาอำผมหน่อยเลย ไอ้ครามมันเพิ่งประสบอุบัติเหตุไปเมื่อสองเดือนก่อน มันคงจะมีแรงนอนกับใครหรอกครับ คึๆ" หมอคณินให้เหตุผลแล้วหันมายักคิ้วให้ผมสองที ผมก็ยิ้มให้เหลอหลาๆ

"โอเคค่ะ ไม่เล่นแล้วก็ได้ อุตส่าห์ว่าจะแกล้งอำสักหน่อย คุณหมอล่ะก็ ฉลาดเกิ๊น" พี่นุ้ยแกล้งงอนกระเง้ากระงอด

"แล้วสรุปใครครับ?"

"คุณขิงค่ะ เป็นคนดูแลคุณครามแล้วก็เป็นนักกายภาพคนใหม่"

"สวัสดีแล้วก็ยินดีที่ได้รู้จักครับน้องขิง"

"สวัสดีครับคุณหมอคณิน" ผมยกมือไหว้คุณหมอเพราะเค้าเป็นเพื่อนคุณคราม อายุก็น่าจะมากกว่าผม

"เสียงเพราะอะ!!! ....เนื้อคู่"  บอกตามตรงคือผมตั้งตัวไม่ทันกับการได้เจอคุณหมอที่ไม่เหมือนหมอเลยสักนิดแบบนี้ หมอคณินดูล้นๆ เกินๆยังไงก็ไม่รู้นะผมว่า

"เอ่อ...มาตรวจคุณครามใช่ไหมครับคุณหมอ งั้นเชิญทางนี้ดีกว่าครับ"

"ค่อยยังชั่วหน่อยที่ไม่ใช่เมียไอ้คราม เพราะไม่อย่างนั้นผมคงต้องอกหักอีกแน่ ครึๆ" หมอคณินพูดขณะที่เดินตามผมขึ้นบันไดมา

"ค่อยกระชุ่มกระชวยหัวใจขึ้นมาหน่อย ได้เห็นคนน่ารัก มาบ้านนี้ทีไรมีแต่หน้าเดิมๆ ไม่ชุ่มชื่นหัวใจเลย" ผมหันไปมองเห็นคุณหมอแกล้งทำหน้าห่อเหี่ยว จนผมแอบอมยิ้มตามด้วยไม่ได้

"ทำร้ายจิตใจสุภาพสตรีจังนะค่ะคุณหมอ นุ้ยไม่สวยบ้างก็ใหัมันรู้ไป ถ้าถูกหวยจะบินไปทำหน้าที่เกาหลี ชิส์!!" ได้ยินคำพูดนี้ก็เลยนึกถึงประโยคนี้ขึ้นมาได้ (ทำบุญสวยชาติหน้า ทำหน้าสวยชาตินี้ ฮ่าๆๆ)

"โอ๋ๆ ล้อเล่นครับนุ้ย ขำๆ หัวเราะบ่อยๆจะได้ไม่แก่เร็ว ครึๆ"


"เฮลโหลไอ้ครามเพื่อนยาก ยังไม่ตายใช่ไหมเอ่ย??" คุณหมอส่งเสียงทักทายเจ้าของห้องตั้งแต่หน้าประตู แล้วเดินเข้าไปหา ผมยังแปลกใจอยู่เลยว่านี่เค้าทักทายกันอย่างนี้เหรอ? ดูฮาร์ดคอร์ไปนะผมว่า

"ไอ้ห่าหมอ มึงมาก็ดีแล้ว เอาเหล้ามาให้กูหน่อย กูอยากกินเหล้า" เพิ่งจะสร่างไปหยกๆ ยังจะกินอีก อย่าหวังเลยคุณ ผมให้คนเอาไปทิ้งไปหมดแล้ว

"กูบอกมึงกี่ครั้งแล้วว่าไม่ให้กินเหล้า แล้วหันมาแดกข้าวซะบ้าง ไม่งั้นร่างกายมึงจะทรุด แล้วเป็นโรคกระเพาะ" คุณหมอดุเพื่อนตัวเอง แล้วก้มลงดูขาที่ดามเหล็กให้ ผมว่าดุบ่นไปก็เท่านั้นแหละครับ เจ้าตัวก็ไม่สนใจหรอก เข้าหูซ้ายทะลุออกหูขวาล่ะไม่ว่า คุณหมอเลยได้แต่ส่ายหัวแล้วถอนหายใจออกเบาๆ อย่างปลงๆ

"ไม่ต้องมาสั่งสอนกู ถ้ามึงเป็นเพื่อนกู มึงต้องเอาเหล้าไม่ให้กู ไม่งั้นกูจะตัดเพื่อนกับมึง"

"ช่างกล้านะมึง ไอ้นายหัวหย่ายจะมาตัดเพื่อนกับกู ถ้าไม่มีกูป่านนี้มึงตายเป็นผีเฝ้าข้างทางแล้วล่ะให้เพื่อนชั่ว ก่อนที่จะปากดี มึงลุกมาเดินให้ได้ก่อนเถอะ เร็วๆนะกูรออยู่ ถ้ามึงเดินได้เมื่อไหร่กูให้มึงเตะก้นกูสิบทีเลยอ่ะ"

"พูดมาก นี่มึงจะไม่เอาเหล้ามาให้กูใช่ไหม๊? ห๊ะ?"

"ก็เอ่อดิ แดกไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร มาๆกูจะตรวจดูขามึงให้ อย่ามัวมางุดหงิด จิตหงุดเงี้ยวไปหน่อยเลย ว่าแต่ขามึงแค่เดินไม่ได้แต่ยังรู้สึกเจ็บอยู่นี่หว่า แสดงว่ายังมีโอกาสหาย แล้วที่แน่ๆ.......... ลูกชายมึงยังอยู่ดีใช่ไหมวะ? หรือว่ามันตายไปแล้วตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว?? โอ้ไม่นะ!!" หมอคณิตแกล้งกระซิบแต่เสียงดังจนขิงที่นั่งอยู่อีกฟากหนึ่งยังได้ยิน

"ไอ้ห่าหมอ มันยังอยู่ดีเว้ย อย่ามาแช่งกูไอ้เหี้ย"

"งั้นก็ดีใจด้วยเว้ยพวก ที่มึงยังได้มีความสุขกับมันอีกนาน งั้นที่มึงหงุดหงิดนี่ไม่ได้เอาน้ำออกหรือว่าไม่ได้กินเหล้าวะพวก?"

"ยุ่ง!!! ตรวจเสร็จแล้วกลับไปเลยป่ะ แล้วก็ไม่ต้องมาบ้านกูบ่อย บ้านกูไม่ต้อนรับหมอบ้ากามแบบมึง" นั่นไงขนาดคุณครามยังว่าเลย ผมเห็นด้วยนะ สมแล้วล่ะพี่เค้าว่าคนเป็นหมอจะเซ็กส์จัด ท่าจะจริงอย่างที่เค้าว่าแหะ

"โวะๆๆไอ้นี่ คนอุตส่าห์มาเยี่ยม มาตรวจให้ กูบอกไว้เลยนะว่าต่อไปกูจะมาบ้านมึงบ่อยกว่าเดิมอีก หึๆๆ"

"มาทำไม?"

"เพราะบ้านมึงมีของดี หึๆๆ" หมอตั้นพูดแล้วปรายตามาทางขิงพร้อมกับเสียงหัวเราะในลำคอเบาๆ

"หึ!!"










อันดามัน...ซ่อนรัก
 ตอนที่ 3
[/b]




"นุ้ย!! ตาแช่ม!! มีใครอยู่แถวนี้ไหม? เอาเหล้ามาให้หน่อย" เสียงเอ๊ะอะโวยวายแบบนี้ไม่ต้องเดาหรอกครับว่าดังมาจากไหน ก็จากห้องของคุณครามเหมือนทุกวันนั่นแหละครับ เพราะเจ้าตัวช่างขยันส่งเสียงซะเหลือเกิน ตั้งแต่เรื่องเล็กเรื่องน้อย ไปจนถึงเรื่องใหญ่ แต่เรื่องที่ทำให้บ้านหลังนี้แทบแตกได้มากที่สุดคงจะเป็นเรื่องอยากกินเหล้าแล้วไม่มีคนเอามาให้นี่แหละ ตลอดหลายวันที่ผมอยู่ที่นี่ จะว่าเริ่มชินแล้วก็ไม่ใช่นะ มันเหมือนก่ำกึ่งมากกว่า ถึงแม้จะเห็น จะได้ยินทุกวัน แต่บางครั้งก็อดตกใจไม่ได้นะกับเสียงดังแบบนี้

"ค่ะนายหัว?" สงสารพี่นุ้ยนะ อุตส่าห์รีบวิ่งมาจากข้างล่าง กระหืดกระหอบเชียว

"เอาเหล้ามาให้ชั้นหน่อย" ขนาดเสียงทั้งแหบทั้งไอขนาดนี้ยังจะกินอยู่อีก ผมล่ะไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าจะทรมานตัวเองไปเพื่ออะไร

"คงไม่ได้ค่ะนายหัว คุณหมอสั่งห้ามไม่ให้ดื่ม ทานข้าวดีกว่านะค่ะเชื่อนุ้ย" ผมแอบฟังอยู่ข้างนอกนี้สักพักแล้วครับ แต่ยังไม่เข้าไป เพราะอยากรู้ว่าทั้งหมอทั้งผมสั่งห้ามขนาดนี้ ยังจะมีใครแอบเอาเหล้ามาให้คุณครามกินอยู่อีกไหม พี่นุ้ยน่ะไม่เท่าไหร่หรอก แต่ลุงแช่มนี่สิผมไม่มั่นใจ

"ไม่ได้ดั่งใจ ตาแช่ม ตาแช่มโว้ย ได้ยินไหมวะ? เอาเหล้ามาให้กูหน่อย!!"  พอไม่ได้ดั่งใจก็เป็นซะแบบเนี๊ยะ แล้วใครมันจะทนไหว ผมเข้าใจนักกายภาพกับพยาบาลคนก่อนเลยว่าทำไมเค้าถึงลาออกไปง่ายๆ ทั้งที่เงินเดือนก็ดีขนาดนี้

"ตาแช่มไม่อยู่ ออกไปดูสวนปาล์มค่ะนายหัว"

"เอ่อดี!! หายหัวกันไปหมด ไปเอาเหล้ามาได้ยินไหม?" ปกติถ้าพี่นุ้ยหรือลุงแช่มแกอยู่กับคุณครามก็จะพูดภาษาใต้กัน แต่ถ้ามีคนอื่นอยู่ด้วยก็จะพูดภาษากลาง อย่างเมื่อกี้นี่ก็เหมือนกัน ผมเพิ่งเคยได้ยินคุณครามแหล่งใต้ก็เมื่อกี้นี่แหละครับ ปกติจะได้ยินพูดภาษากลางตลอดเลย เสียงทุ้มๆห้าวๆติดแหบ ฟังไปฟังมาก็ดูมีเสน่ห์ดีเหมือนกันนะ แต่มันใช่เวลาไหมที่จะมาชมตอนนี้

"เอ่อ..นุ้ยเอามาให้ไม่ได้จริงค่ะนายหัว" พี่นุ้ยแหล่งใต้กับคุณคราม ถึงบางครั้งจะฟังไม่ค่อยออก แต่ผมว่าประโยคเมื่อกี้ผมเข้าใจนะ

"ทำไมถึงเอามาให้ไม่ได้? เอาเหล้ากูมา เอามาให้กูเดี๋ยวนี้ กูสั่งไม่ได้ยินกันรึไง? เดี๋ยวพ่อไล่ออกให้หมดเลยนิ"

"คุณขิง" พี่นุ้ยเหมือนจะดีใจมากที่เห็นผมเข้ามาช่วยไว้ได้ทันเวลาพอดี แต่ผมอยากบอกพี่นุ้ยเหลือเกินว่า ผมมาช่วยพี่ไว้ได้ทัน แต่ตัวผมนี่สิจะโดนอะไรบ้างก็ยังไม่รู้เลย

"ไปทำงานเถอะครับพี่นุ้ย เดี๋ยวผมจัดการเอง"

"ค่ะคุณขิง" พี่นุ้ยรีบคานเข่าออกไป ส่วนผมก็มองตามแล้วหันกลับมามองเจ้าของห้องที่กำลังจ้องอย่างเอาเป็นเอาตาย นี่ถ้าเป็นปลากัดคือท้องแล้วนะ แต่นี่ไม่ใช่ไง ผมเลยต้องทำใจดีสู้เสือ ฉีกยิ้มหวานๆให้ เผื่อมันจะช่วยได้ แต่ก็ไม่เลย..ยิ่งถูกจ้องหนักกว่าเดิมอีก

"เอาเหล้ามาให้หน่อย อยากกินเหล้า" น้ำเสียงอ่อนลงกว่าตะกี้แล้ว แต่สายตายังดุเหมือนเดิม

"กินข้าวดีกว่านะครับ จะได้มีแรงฝึกทำกายภาพ คุณครามไม่อยากเดินได้เหรอครับ?" สาบานเลยว่าไม่เคยทำเสียงแบบนี้กับใครเลย ถ้าพูดตรงๆคือน้ำเสียงหวานจนจะอ๊วก ขนาดพูดเองยังขนหนาวลุกเองเลย

"เดินได้แล้วยังไง? หึ!!" ผมไม่รู้หรอกครับว่าต้องตอบยังไง เพราะฟังจากน้ำเสียงที่เหมือนประชดตัวเองแล้วทำให้ผมเห็นใจเค้านะ เค้าคงคิดว่าถ้าหายแล้วเมียเค้าก็คงไม่กลับมาหรอก อย่างงี้มั้ง

"ไปเอาเหล้ามาให้หน่อย" เค้าเอ่ยออกมาหลังจากที่เราต่างคนต่างเงียบกันมานาน

"ผมให้คนเอาไปทิ้งแล้วครับ มันไม่ดีต่อสุขภาพ"

"ใครบอกให้มึงเอาเหล้ากูไปทิ้ง มึงมีสิทธิ์อะไร...ห๊ะ?" เข้าใจนะว่าโกรธแต่ก็ไม่ควรขึ้นมึงขึ้นกูแบบนี้นะ ถ้าเป็นที่บ้านผมคงโดนแม่หยิกแน่ๆ ขนาดพี่ขุนยังต้องเรียกตัวเองว่า "อ้าย" ซึ่งหมายถึงพี่ชายในภาษาเหนือเลย พี่ขิมเป็นผู้หญิงแม่ไม่ห่วง เพราะแม่สอนให้พูดเพราะอยู่แล้ว ส่วนผมก็ต้องเรียกพวกพี่ๆว่า "อ้าย" สำหรับพี่ขุน แล้วก็ "ปี้" สำหรับพี่ขิมที่เป็นพี่สาว ห้ามมีคำ"คิง" ที่หมายถึง "มึง" ในภาษากลาง หรือห้ามขึ้น "ไอ้" ด้วย

นอกจากนี้ยังต้องแทนตัวเองว่า "น้อง" หรือ "ขิง" เวลาพูดกับทุกคน แล้วคิดว่าผมเรียกตัวเองว่าอะไรล่ะ ถูกแล้วล่ะครับ ผมแทนตัวเองว่าน้องมาตั้งแต่เด็ก พอโตมาอยากเปลี่ยนแต่ก็ไม่ทันแล้ว เพราะมันเรียกจนติดปากไปแล้วไง มีครั้งหนึ่งเคยพาเพื่อนมาทำรายงานที่บ้านตอนสมัยมัธยม พอพวกมันได้ยินผมแทนตัวเองแบบนั้นก็หัวเราะเยาะกันใหญ่ จนผมอยากไล่พวกมันกลับไปซะตอนนั้นเลย แถมยังเอาไปล้อที่โรงเรียนต่ออีก

"ผมเป็นคนดูแลคุณ ถ้าคุณยังกินเหล้าอยู่แบบนี้ แล้วเมื่อไหร่คุณจะเดินได้ครับคุณคราม?"

"เมื่อไหร่ก็ช่างมัน เป็นตายยังไงก็ช่างมันไม่เกี่ยวกับมึง แล้วถ้าไม่เอาเหล้ามาให้ก็ออกไปซะ" ตอนแรกผมก็ว่าจะออกไปตามที่เค้าบอกนะ แต่มาคิดไปคิดมา ผมเป็นดูแลเค้านิ ถึงเค้าจะโมโหร้ายยังไงก็ต้องทน แต่มันไม่ดีตรงที่ พอผมไม่ออกไปตามคำสั่ง เค้าก็ขว้างปาข้าวของไปทั่วห้องนี่สิ เห็นแล้วอยากจะปรี๊ดใส่เหมือนกันนะ

"นี่คุณคราม หยุดอาละวาดสักทีได้ไหม ถึงคุณจะโวยวายยังไง เค้าก็ไม่เอาเหล้ามาให้คุณหรอก เสียแรงเปล่าๆ ถ้าแรงเยอะขนาดนี้ก็รีบเดินให้ได้แล้วมาทำหน้าที่นายหัวแล้วกับทำหน้าที่ลูกที่ดีซะ"

"ไม่ต้องมาสั่งสอนกู มึงไม่ใช่แม่กู ไม่ต้องอวดดีมาสั่งสอนกู ออกไป!!"

"ตุ๊บ!! ฟื๊บ!!" เสียงหมอนหนุน หมอนอิง แล้วก็หมอนข้างถูกปามาใส่

"โอ๊ย!! เจ็บนะคุณคราม หยุดอาละวาดสักทีได้ไหม๊ ไม่งั้นจะหาว่าผมไม่เตือนนะ"

"ทำไมมึงจะทำอะไรกู ออกไปจากห้องกูไอ้ตุ๊ด!!"

"คุณคราม!!!"

"ก็มึงมันตุ๊ดจริงๆนี่หว่า หรือว่าไม่ใช่?" น้ำเสียงแบบนี้กับคนแบบนี้ผมไม่อยากใส่ใจหรอก ถ้าเป็นสมัยก่อนผมคงจะโกรธมาก แต่ตอนนี้ไม่แล้วล่ะครับ โกรธพวกเค้าไปก็ไม่ได้อะไร ตัวเรานั่นแหละจะทุกข์ใจเองมากกว่า

"คุณจะเรียกยังไงก็เรื่องของคุณเถอะ แล้วแต่คุณ ทีนี้สงบได้รึยังครับ?" ภูมิต้านทานเรื่องนี้ผมมีมากพอแล้วครับ ไม่ดิ้นตามให้เหนื่อยหรอก

"เรื่องของกู"

"โอเคครับ เรื่องของคุณก็เรื่องของคุณ แต่ผมต้องดูแลคุณไงครับ ทานข้าวนะครับคุณคราม สักนิดก็ยังดี ถ้ามีแรงแล้วค่อยลุกมาด่าผมต่อก็ได้"

"แปร๊ง!!! กูไม่หิว ไม่กินโว้ย!!" เสียงจานข้าวถูกปัดลงกับพื้นห้อง ช้อนส้อมหรืออาหารกระเด็นเต็มไปหมด นึกแล้วก็เสียดายแทนคนที่เค้าไม่มีกินนะ เด็กในสลัม คนขอทาน หรือประเทศที่ยากจนไง บ้างก็กินมื้ออดมื้อ บางครั้งก็ต้องแย่งข้าวสารอาหารแห้งจากทหารที่มาควบคุมดูแลจนถูกลงโทษ ส่วนน้ำก็เหมือนกัน บางประเทศเห็นแล้วก็เวทนานะ ไม่มีแหล่งน้ำเหลืออยู่เลย ต้องคอยน้ำฝนที่นานๆทีจะตกลงมา แต่ถ้าฝนไม่ตกก็ต้องเอาขันไปตักเอาน้ำจากแอ่งเล็กๆข้างทางที่ออกสีขุ่นๆดำๆมากิน


"นี่คุณคราม คุณจะมาทำตัวเป็นเด็กแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่กัน ไม่สงสารตัวเองก็สงสารแม่คุณบ้าง อายุท่านก็ไม่ใช่น้อยๆแล้วนะ ยังต้องคอยมาวิ่งลอกดูแลคุณ ดูแลบริษัทอีก แล้วถ้าคุณยังทำตัวงี้เง้า อ่อนแออยู่แบบนี้ก็รอให้บริษัทคุณมันล้มละลาย ไม่มีบ้านอยู่ แล้วก็รอให้ผู้หญิงคนนั้นมาหัวเราะเยาะคุณล่ะกัน"


........................


เมื่อกี้หลังจากที่ผมออกจากห้องมาก็ปล่อยให้เค้าอยู่กับตัวเอง แต่ก็แอบคิดเหมือนกันว่าจะอาละวาดมากกว่าเดิมรึเปล่า แต่ก็ไม่เลย ผิดคาดแหะ พอเอาข้าวเข้าไปให้กินก็ไม่ปฏิเสธอะไร จนผมอดแปลกใจไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อครู่

"ชั้นชอบทานร้อนๆ" ก็แหงสิครับ เค้าทำไว้ให้ตั้งนานแล้ว รอแต่คุณมากินเท่านั่นแหละ ถ้าคุณไม่มัวเล่นตัวซะก่อน

"เดี๋ยวผมไปอุ่นมาให้ใหม่ก็ครับ" ผมลงไปห้องครัวแล้วก็เอาข้าวต้มอุ่นกับหม้อใบเดิม แค่นี้จิ๊บๆ แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกว่าเหมือนจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น เพราะตาขาวเริ่มกระตุกถี่ๆมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว

"ทีนี้ก็ทานได้แล้วนะครับ" 

"ยัง" อ้าวอะไรอีกล่ะ? ข้าวต้มก็อุ่นให้เสร็จแล้ว แล้วจะเอาอะไรอีก

"มีอะไรอีกเหรอครับ?"

"ไม่อยากกินข้าวต้ม เบื่อ!!" แล้วทำไมไม่ต้องตั้งแต่แรกล่ะเนี๊ยะ มาบอกตอนที่เค้ายกขึ้นมาให้แล้วเนี๊ยะนะ มองไปที่เจ้าของห้องก็ยังทำหน้าปกติอยู่ แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกว่ามันไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด แต่ก็นะเรามันลูกจ้างเค้านี่หน่า จะให้ขึ้นลงๆแบบนี้อีกสักสิบรอบก็ยังทำได้เลย

"แล้วคุณอยากทานอะไรครับ ผมจะได้บอกให้พี่นุ้ยทำให้" ผมเก็บสำรับข้าวต้มกลับมาแล้วพยายามคิดว่า เค้าคงเบื่อข้าวต้มจริงๆนั่นแหละ ขนาดเราทานแบบนี้ทุกวันยังเบื่อแย่เลย นับประสาอะไรกับคนป่วยแบบคุณคราม

"นายทำกับข้าวเป็นไหม?" ผมเงยหน้ามองคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ คงไม่ได้จะให้ผมไปทำกับข้าวมาให้กินหรอกนะ

"ทำเป็นบ้างนิดหน่อยครับ แต่ก็ไม่ค่อยถนัดครับ" ที่ตอบไปคือเรื่องจริงครับ ผมไม่ค่อยถนัดทำกับข้าวสักเท่าไหร่ เพราะไม่ค่อยมีเวลาทำด้วย อยู่ที่กรุงเทพฯก็ออกไปกินข้างนอกหรือซื้อเค้ามากินมากว่า อย่างมากสุดก็ไข่เจียวหมูสับ กับต้มมาม่านี่แหละครับเวลาขี้เกียจออกไปกินข้างนอก ไม่งั้นก็โทรสั่งพิซซ่า เคเอฟซีมากิน สะดวกดี

"งั้นนายทำให้หน่อย" 

"ห๊ะ!! ผมเหรอครับ?" ผมคงแสดงอาการตกใจมากไปหน่อย เลยเผลออุทานออกไปซะเสียงดังเลย จากนั้นก็เอามือชี้นิ้วเข้าหาตัวเองเพื่อเป็นการยืนยันว่าจะให้ผมเป็นผมทำจริงๆเหรอ?

"ทำไม ทำไม่ได้รึไง?"  เค้ายักคิ้วทั้งสองข้างแล้วถามออกมาเรียบๆ แต่ผมกลับฟังดูเหมือนเค้ากำลังเยาะเย้ยซะมากกว่านะ ชักไม่แน่ใจแล้วสิว่าเค้าอยากกินจริงๆ หรืออยากทำอะไรกันแน่ แววตามันบอกว่ามันต้องมีอะไรสักอย่างมากกว่านั้นแน่ๆ

"ได้ครับ คุณอยากทานอะไรล่ะครับ?"

"ง่ายๆ ข้าวผัดหมูก็ได้" ผมว่าเค้าเป็นคนกวนประสาทคนใช้ได้เลยทีเดียวนะ ทั้งน้ำเสียงทั้งอะไรต่างๆนานา ดูอย่างข้าวผัดนี่สิ จะว่าง่ายก็ไม่ง่าย จะว่ายากก็ไม่ยากนะ

"ครับ" แล้วจะยืนอยู่ทำไมล่ะครับ ก็ลงมาในครัวอีกรอบเพื่อทำข้าวผัดหมูให้เค้าสิครับ ชักช้าถ้าเกิดโมโหหิวแล้วอาละวาดอีกจะทำไง ยิ่งอารมณ์แปรปรวนอยู่








....................................................... TO BE CON >>>



[/size][/color]
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | ตอนที่ 3 : by Soleil
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 14-07-2015 20:49:50
(ต่อ)


"อ้าวทำไมเอากลับมาล่ะคะคุณขิง หรือนายหัวไม่ยอมทาน?" พี่นุ้ยคงเห็นว่าผมเพิ่งยกข้าวต้มขึ้นไปเมื่อกี่นาทีก่อนหน้านี้เอง เลยสงสัยว่ายกกลับลงมาทำไมอีก

"ยอมครับ แต่เค้าไม่อยากทานข้าวต้ม อยากทานข้าวผัดหมู" พี่นุ้ยคงจะแปลกใจเหมือนกับผมนั่นแหละครับ ถ้าอยากกินอย่างอื่นก็น่าจะบอกตั้งแต่แรก มาบอกทำไมตอนที่เค้าอุ่นแล้วยกขึ้นไปให้แล้วทำไม

"เดี๋ยวพี่ทำให้ค่ะ คุณขิงไปดูนายหัวเถอะ" พี่นุ้ยคงจะสงสารที่ผมขึ้นลงๆหลายครั้งแล้วเลยอาสาทำให้

"ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมทำเองดีกว่า นายหัวของพี่นุ้ยคงอยากทานฝีมือผมน่ะครับ" พอตอบออกไปแบบนั้นปุ๊บ พี่นุ้ยก็ทำท่าเหมือนถูกผีหลอกปั๊บ แบบว่าไม่น่าเชื่ออะไรประมาณนี้

"แปลก!! ปกตินายหัวจะไม่ยอมทานกับข้าวฝีมือใครง่ายๆ"

"อันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ" จริงครับ ผมจะไปรู้กับเจ้าตัวเค้าได้ยังไง? บอกมาตามนี้ ผมก็ทำตามนี้แหละครับ ขัดใจไปเดี๋ยวจะพาลอารมณ์เสียใส่อีก

"แล้วคุณขิงทำเป็นเหรอคะ?" พี่นุ้ยถามอย่างแปลกใจ แล้วก็เป็นห่วงว่าผมจะทำครัวไหม้มั้งครับ อิอิ

"คงเป็นอยู่มั้งครับ เคยลองทำกินอยู่ครั้งสองครั้งตอนอยู่ที่บ้านครับ" ไม่ต้องตกใจไปครับพี่นุ้ย เห็นไม่ได้เข้าครัวบ่อยแบบนี้ ผมมีพรสวรรค์อยู่นะ แต่ไม่ค่อยได้ใช้มันแค่นั้นเอง?????

"แน่ใจนะคะว่าทำได้ หรือจะให้พี่ทำ นายหัวไม่รู้หรอกค่ะ" นายหัวพี่นุ้ยไม่ใช่เด็กอนุบาลนะครับ ที่จะได้จำไม่ได้ว่าใครเป็นคนทำ เพราะรสมือมันไม่เหมือนกันสักหน่อย ขืนให้พี่นุ้ยทำ ผมน่ะสิที่จะถูกเหวี่ยงใส่

"นุ้ย!! มานี่หน่อย" เห็นไหม เสียงเรียกตามมาแล้วนั่น พูดยังไม่ทันขาดคำ

"ค่ะนายหัว"

"สงสัยคุณขิงคงต้องทำเองแล้วค่ะ พี่ไปหานายหัวก่อนนะคะ สู้ๆค่ะ" พี่นุ้ยชู่กำปั้นแล้วบอกว่าสู้ๆ

"ขอบคุณครับพี่นุ้ย" ผมเคยบอกแล้วใช่ไหมครับว่าผมเป็นลูกชาวบ้านธรรมดา ดังนั้นไม่ใช่ปัญหาหรอกครับเรื่องทำอาหาร ถึงไม่ได้ถนัดอะไรมากมาย แต่ก็ถือว่าไม่ได้เลวร้ายอะไรนะ เพราะสมัยมัธยมผมเคยขอแม่สอนอยู่บ่อยๆ เข้าไปช่วยแม่กับพี่ขิมบ้างเป็นบางครั้ง ทำให้พอได้วิชาติดตัวมาบ้าง แต่ไม่ได้ทำนานแล้วกลัววิชาที่ติดตัวมาสนิมมันจะขึ้นนะสิ

"ก่อนอื่นต้องหาวัตถุดิบก่อน หมูน่าจะอยู่ในช่องฟรีซในตู้เย็น แล้วก็ผักคะน้า" ผมเดินไปเปิดตู้เย็นขนาดใหญ่ในห้องครัว แล้วก็ก้มๆเงยๆหาวัตถุดิบที่ใช้ทำ นึกไปนึกมาชีวิตเราก็ค่อนข้างคล้ายอีเย็นเรื่องนางทาสเหมือนกันนะ คิดตลกๆเล่นๆจะได้ไม่เครียด จากนั้นก็เอามาวางบนโต๊ะแล้วหั่นใส่ถ้วยไว้ทีละอย่างๆ เริ่มตั้งแต่หั่นหมู ส่วนผักคะน้านั่นต้องเอาไปแช่เบคกิ้งโซดาไว้ก่อน สมัยนี้สารพิษมันเยอะ

ตอนนี้คะน้ากับหอมหัวใหญ่หั่นเสร็จแล้ว แต่กว่าจะเสร็จก็ได้ตั้งหลายแผลแหนะ คงห่างการเข้าครัวนานไปหน่อย เลยเงอะๆงะๆจนได้เลือดแบบนี้

"ว้ายคุณขิง ร้องไห้ทำไมคะ?"

"เปล่าครับพี่นุ้ย พอดีหั่นหอมหัวใหญ่แล้วมันแสบตาน่ะครับ" ผมเดินไปล้างมือแล้วหยิบทิชชู่มาเช็ดน้ำตา แต่เหมือนยิ่งเช็ดยิ่งแสบมาขึ้นนะ เพราะผมเผลอขยี้มันด้วย น้ำตาไหลพรากๆเลย

"พี่บอกเคล็ดลับให้เอาไหมคะ?"

"ครับ" ผมพยักหน้าเบาแล้วเอาทิชชู่เป็นที่เช็ดแล้วไปทิ้ง

"ก่อนหั่นเราต้องแบ่งมันออกเป็นสองส่วนก่อน แล้วเอาไปแช่ไว้ในน้ำเกลือสักพัก แล้วค่อยเอาไปล้าง มันจะช่วยไม่ให้แสบตาเวลาหั่นได้ค่ะ" พี่นุ้ยบอกช้าไปละครับ เหอะๆๆ

"ขอบคุณครับพี่นุ้ย ผมจะจำไว้ครับ เผื่อครั้งหน้าได้ทำอีก" ผมบอกไว้ก่อนเผื่อเจ้านายพี่นุ้ยนึกครื้มฟ้าครื้มฝนอยากทานฝีมือผมอีกไง

"นุ้ยบอกเค้าว่าชั้นหิวแล้ว เร็วๆ" แหมเร่งอยู่ได้ ไม่มาทำเองเลยล่ะ มีดก็ปาดมือ แสบตาก็แสบอีก

"ค่ะ!!"

"ปกติไม่เห็นนายหัวอยากทานข้าวอะไรแบบนี้เลย ทานแต่เหล้า วันนี้นึกครึ้มฟ้าครื้มฝนอะไรไม่รู้นะคะ อยากทานฝีมือคุณขิงด้วย"

"ดีแล้วล่ะครับพี่เค้ายอมทาน"

"ค่ะ พี่ว่ารีบๆ ทำเถอะค่ะ เดี๋ยวนายหัวเธอจะส่งเสียงเรียกอีก" ผมก็ว่างั้นแหละครับ

"แก๊สนี่เปิดยังไงครับพี่นุ้ย?" ผมหันไปถามพี่นุ้นเพราะแก๊สแบบนี้ผมใช้ไม่เป็น มีปุ่มอะไรไม่รู้เยอะแยะเต็มไปหมด สรุปคือมันไฮโซกว่าที่บ้านผมนั่นแหละครับ

"หมุนแบบนี้ค่ะ ให้มันมาอยู่ตรงกลางนี่ก็พอ ไฟจะได้ไม่แรงจนเกินไป" ผมก็พยักหน้าแล้วรีบเอามันใส่สมองทันที เผื่อวันดีคืนดีจะได้ใช้มันอีก

"โอเคครับ ทีนี้ก็ใส่กระเทียมก่อนใช่ไหมครับ?" เคยทำนะแต่นานมาแล้ว แล้วก็ไม่ได้ทำอีกเลย มันก็ต้องมีลืมกันบ้างสิเนอะ

"ค่ะ พอมันเหลืองแล้วก็เอาหอมหัวใหญ่ใส่ลงไปคั่วต่อได้เลยนะคะ" ผมพยักหน้างึกหงักแล้วทำตามคำสั่งพี่นุ้ย

"นุ้ยมานวดให้ชั้นหน่อย!!"

"พี่ไปก่อนนะคะ วันนี้ไม่รู้นายหัวเป็นอะไร เรียกใช้พี่บ๊อยบ่อย" จะเป็นอะไรล่ะครับพี่นุ้ย ก็คงอยากแกล้งผมนี่แหละครับ ที่เรียกไปแบบนี้คงไม่อยากให้มาช่วยผมอีกนั่นแหละ นิสัยเด็กจริงๆ นายหัวของพี่นุ้ย

กว่าจะออกมาเป็นข้าวผัดหมู เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกันนะสำหรับผม ทั้งมีดบาด ทั้งแสบตา ทั้งน้ำมันกระเด็นใส่ แต่ดีนะข้าวไม่ไหม้ ไม่งั้นคงโดนด่าแล้วเททิ้งถังขยะแน่ๆ สีสวย หน้าตาหน้าก็น่ากินอยู่นะ แต่รสชาติจะถูกปากคุณครามไหม อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เมื่อกี้ผมแอบชิมแล้วนะ อร่อยใช้ได้อยู่ ไม่เสียแรงที่ไปกวนแม่กับพี่ขิมในครัวบ่อยๆ อิอิ ต่อไปก็ตักใส่จาน แล้วหั่นแตงกว่ากับต้นหอมใส่เป็นเครื่องเคียงก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว



"หน้าตาน่ากินดีนิ" ได้ยินคำชมแบบนี้ค่อยมีกำลังใจขึ้นหน่อย แต่ยังแอบหวั่นว่ารสชาติจะถูกปากไหม ถ้าหน้าตาน่ากิน แต่รสชาติแย่ก็ไม่ไหวเหมือนกันนะผมว่า

"เพล้ง!!! / ว้าย!!" เสียงจานข้าวผัดตกลงบนพื้น พร้อมๆกับเสียงตกใจของพี่นุ้ย ส่วนผมก็ได้แต่อึ้งๆ พูดไม่ออก

"โทษที กล้ามเนื้อมันยังไม่ชิน" นี่ไงที่ผมบอกว่าตาขวากระตุก พูดออกมาได้ไงว่ากล้ามเนื้อมันยังไม่ชิน ผมว่าเค้าตั้งใจทำมากกว่า ถึงว่าบอกให้ผมทำกับข้าวให้กิน ทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่ชอบทานฝีมือคนอื่นอยู่แล้ว แถมตอนสั่งยังทำหน้าทำตาแปลกๆอีก ผมน่าจะเอ๊ะใจตั้งแต่แรกนะ แต่ใครจะรู้ล่ะว่าเค้าจะทำถึงขนาดนี้ เหนื่อยกับคนป่วยผมไม่ว่า แต่ถ้าทำแบบนี้อีก ผมก็ท้อเป็น เหนื่อยเป็น โมโหเป็นเหมือนกันนะ

"นี่คุณแกล้งผมใช่ไหมครับ?" ผมพยายามท่องขันติในใจแล้วถามออกไปอย่างใจเย็น ทั้งๆที่อยากจะระเบิดออกไปให้มันรู้แล้วรู้รอดเลย

"ใครว่าชั้นแกล้ง นายก็น่าจะเข้าใจว่ากล้ามเนื้อผู้ป่วยมันไม่ค่อยได้ใช้งาน มันอ่อนแรง" ผมมองหน้าเค้าอย่างระงับอารมณ์ ถึงปากเค้าจะบอกว่าขอโทษแต่น้ำเสียงกับสีหน้าเค้าไม่ได้บอกเลยว่าสำนึกผิด มันยิ่งทำให้ผมเสียความรู้สึกอย่างบอกไม่ถูกแหะ อุตส่าห์ตั้งใจทำจนเจ็บตัว แต่กลับทำแบบนี้

"คุณบาดเจ็บที่ขานะครับคุณคราม ไม่ใช่แขน แล้วอีกอย่างผมก็ยังเห็นคุณใช้มือหยิบจับได้ตามปกติ ไม่เห็นมีอาการอย่างที่คุณว่าเลยสักนิด" ผมมองเค้าอย่างเอาเรื่อง

"โอเค๊!! ชั้นแกล้งนายเอง จะทำไม? ไม่พอใจก็ลาออกไปสิ" อ้อที่ทำแบบนี้เพราะว่าต้องการบีบให้ผมลาออกงั้นเหรอ? ฝันไปเถอะ ถ้าผมจะลาออกก็ไม่ใช่เพราะวิธีเด็กเล่นแบบนี้ ผมพูดกับตัวเองในใจ

"คุณมันเป็นคนนิสัยเสีย นิสัยแย่ที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมา" ผมเดินออกจากห้องนั้นมาสงบสติอารมณ์ตัวเองข้างนอก ถ้าขืนอยู่ในนั้นผมต้องกลายเป็นผู้ร้ายฆ่าคนแน่ๆ

"คุณขิง คุณขิงคะ" ได้ยินเสียงพี่นุ้ยเรียกตามมาอยู่นะครับ แต่วินาทีนี้ผมไม่อยากจะสนใจอะไรอีกแล้วครับ เดินจ้ำมาถึงในห้องแล้วปิดประตูห้อง ไม่คิดเลยว่าคนที่โตแล้วอย่างคุณครามจะทำนิสัยเป็นเด็กแบบนี้ นี่คงเอาคืนที่ผมว่าไปเมื่อตอนเช้าสินะ



"ฮัลโหลครับ" ผมรับสายตามอารมณ์ที่กำลังร้อนอยู่ ไม่ได้ดูหรอกครับว่าใครโทรมา ปกติผมเป็นคนใจเย็นนะ แต่ไม่รู้ทำไมพออยู่ใกล้คนๆนี้ถึงได้อารมณ์ร้อนตามไปด้วยก็ไม่รู้

"ทำไมถึงทำเสียงแบบนั้นครับ?" ผมคงหงุดหงิดจนพาลใส่อารมณ์มากไปหน่อย คิดแล้วสงสารเจแหะ

"ขอโทษนะเจ แต่ไม่มีอะไรหรอก แค่เรื่องงานนิดหน่อยน่ะ" ใจจริงอยากบอกนะว่าเข้ากับเจ้านายคนใหม่ไม่ค่อยได้นะ แต่กลัวเจเป็นห่วง

"อื้ม มีอะไรก็บอกเจได้นะ เจเป็นห่วง" นั่นไงพึ่งคิดไปเมื่อกี้เอง ดีแล้วล่ะที่ไม่ได้บอก

"ครับ แล้วเจล่ะเป็นไงบ้าง สบายดีไหม?"

"ก็เรื่อยๆครับ ร่างกายสบายดี แต่หัวใจนี่สิไม่ดี คิดถึงขิงอยู่ตลอดเวลาเลย" ผมเผลอหลุดยิ้มออกมา ก็รู้นะว่าเจเป็นคนปากหวาน แต่มันก็เขินนะเวลาที่ได้ยินแบบนี้ ไม่ชินสักที

"ปากหวานเนอะ" ผมพูดแก้เขินออกไป

"ก็มันจริงนี่หน่า คิดถึงจนจะทนไม่ไหวแล้ว นี่ขิงเพิ่งไปอาทิตย์เดียวเอง แล้วต่อไปเจจะทนไหวไหมเนี๊ยะ?" เสียงเจงอแง

"ทนเอานะ ถ้าเค้าอาการดีขี้นแล้ว ขิงจะขอลากลับไปหาเจนะ" ใช่ว่าเจจะคิดถึงผมคนเดียว ผมก็คิดถึงเค้าเหมือนกัน คนมันเคยเจอ เคยไปไหนมาไหนด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน พอไม่ได้เจอกันแบบนี้มันก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึง

"ครับ......เห้ออออ อยากกอดขิงจัง" ใครที่ต้องอยู่ห่างแฟนแบบนี้คงเข้าใจดีว่ามันเป็นยังไง แม้ว่าจะได้ยินเสียงแต่ความรู้สึกมันไม่พอหรอกครับ เคยเป็นไหม?

"คิดถึงกันมากไหม?" ผมถามไปงั้นแหละ แต่ก็รู้ว่าต่างฝ่ายต่างคิดถึงกันมากแค่ไหน

"มากครับ แล้วขิงล่ะคิดถึงเจบ้างไหม?"

"คิดถึงสิ แฟนทั้งคน"

"ฮ้าาาา ชื่นใจ แฟนบอกคิดถึง มีแรงทำงานต่อแล้วเรา" ได้ยินเสียงเจก้องๆ คงออกมาเข้าห้องน้ำ ขนาดอยู่ในห้องน้ำยังมีอารมณ์อ้อนเนอะคนเรา

"เวอร์อะ หึๆๆๆ"

"หัวเราะได้แบบนี้ อารมณ์ดีขึ้นแล้วสิ" เจถาม

"อื้ม ขอบใจนะเจ" พอได้ยินเสียงเจแบบนี้แล้วค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย เห้ออออ เหนื่อย!!! จะอดทนได้อีกนานแค่ไหนเนี๊ยะขิง คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่ คิดถึงพี่ขุนพี่ขิม

"ยินดีครับ แล้วกับเจ้านายใหม่เป็นไงบ้าง?" ก็นี่แหละที่เป็นต้นเหตุทำให้อารมณ์เสียแบบนี้

"ก็....ดีมั้ง บอกไม่ถูก"

"แล้วเค้าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงล่ะ?" เจเป็นคนแบบนี้แหละครับ จะหวงทุกอย่างที่เป็นผม แต่ผมไม่ได้รู้สึกแย่หรืออึดอัดหรอกนะ เวลาจะออกไปไหนกับใครเจก็ถามแบบนี้ตลอด ขนาดบอกว่าไปกับพี่ๆที่ทำงานก็ยังไม่วายถามแบบนี้เลย

"ผู้ชาย"

"หนุ่มหรือแก่ครับ?"

"ยังหนุ่มอยู่ อายุน่าจะสักประมาณ 30 กว่าๆนี่แหละ" ผมตอบไปตามความจริง

"แล้วหล่อไหม หรือว่าเจหล่อกว่า?"

"อืมมมมมมม ถามทำไมเหรอ? หึงรึไง?" ผมแกล้งลากเสียงเหมือนกำลังคิดหนัก ทำให้คนปลายสายเริ่มฮึดฮัดเล็กน้อย

"หึงสิ หวงด้วย ไม่อยากให้เข้าใกล้ผู้ชายคนไหนเลยด้วยซ้ำถ้าเป็นไปได้" พอละไม่แกล้งแล้วครับ สงสารเจ ผมนี่ก็โรคจิตเนอะ รู้ว่าแฟนตัวเองขี้หึง ขี้หวงก็ยังชอบทำให้แฟนหึงแล้วก็หวงบ่อยๆ

"อย่าหึงเลย เค้าเป็นผู้ป่วย จะทำอะไรขิงได้" นอกจากเป็นผู้ป่วยทางกายแล้ว ยังเป็นผู้ป่วยทางจิตด้วย ผมแอบนินทาในใจ

"ไม่รู้สิ กลัวคนไข้ของขิงจะหล่อกว่าเจ แล้วขิงแอบปันใจให้พราะความใกล้ชิดไง ถ้าเป็นแบบนั้นเจคงแย่" ผมก็คิดแบบเดียวกับเจแหละครับ ความห่างไกลทำให้ใจห่าง พอเกิดเป็นช่องว่างก็ไม่ทันแล้ว

"ไม่เป็นแบบนั้นหรอกหน่า เชื่อใจขิงดิ อีกอย่างเค้าก็เป็นผู้ชายแท้ๆด้วย" ผมยืนยันกับเจ

"กลัวจะเป็นแมนๆ เตะบอลครัชน่ะสิ ขิงของเจยิ่งน่ารักน้อยเสียที่ไหน" เจชอบพูดแบบนี้ตลอด ถ้าน่ารักต้องแบบคีย์โน้น แต่เจก็ชอบบอกว่า คีย์น่ารักหวานๆ แต่ขิงน่ารักแบบเด็กผู้ชายไง ผมก็เลยหัวเราะกับคำอธิบายของเจไง ช่างสรรหาคำมาชมแฟนตัวเองได้ตลอด

"ก๊อกๆๆ คุณขิงคะ คุณครามให้มาตามค่ะ" เวลาของซินเดอเรล่าคงใกล้หมดลงแล้วครับ เพราะอสูรกำลังให้คนรับใช้มาตามแล้ว

"โอเคครับพี่นุ้ย เดี๋ยวผมลงไปครับ"

"งั้นขิงวางก่อนนะเจ เดี๋ยวคืนนี้ค่อยคุยกัน" ยังไม่อยากวางเลยอะ เพิ่งคุยกันได้แป๊บเดียวเอง แต่หน้าที่ต้องมาก่อน จะหลีกเหลี่ยงก็คงไม่ได้

"บายครับที่รัก"

"บายครับ" ผมวางสายจากเจแล้วเดินไปที่ห้องคุณคราม ไม่รู้ว่าตอนนี้พี่นุ้ยจะเก็บกวาดห้องเสร็จแล้วหรือยัง  เสียดายเนอะ ข้าวผัดหมูตั้งจานหนึ่ง วัตถุดิบก็ดีๆทั้งนั้น ถ้าให้คนที่เค้ารู้จักคุณค่าของมัน คงจะดีกว่านี้ แต่ก็นั่นแหละนะ คนที่มีโอกาสกับคนที่ไม่มีโอกาสได้รับสิ่งเหล่านี้มันไม่เหมือนกัน แล้วก็รู้คุณค่าไม่เหมือนกัน



...............








....................................................... TO BE CON >>>













หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | ตอนที่ 5 by Soleil (14/ก.ค./58)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 14-07-2015 21:51:48
ถ้าเพิ่มบทบรรยายเล็กๆน้อยๆระหว่างประโยคคำพูดน่าจะอ่านรื่นกว่านี้นะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ปล.ขิงมีแฟนอยู่แล้ว...ทีนี้จะทำยังไงล่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | ตอนที่ 5 by Soleil (14/ก.ค./58)
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 16-07-2015 13:48:03
อ่านแล้วสนุกดีค่ะ แต่ขอบรรยายประโยคเพิ่มตามเม้นแรกจะฟินมากค่ะ เป็นกำลังใจค่ะ  :L2:
รออ่านครามจะแกล้งอะไรน้องจิงอีกนะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | ตอนที่ 5 by Soleil (14/ก.ค./58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 16-07-2015 18:07:08



@sirin_chadada & PFlove  : บทบรรยายเล็กๆน้อยๆยังไงอะตัวเอง เค้าแต่งใหม่ยังไม่เข้าใจอะ?แต่ก็ขอบคุณตัวเองนะที่มาบอก ยังไงเค้าจะไปศึกษาแล้วก็เอาไปปรับปรุงเนอะขอบคุณจ้าที่มาติดตามแล้วก็ให้กำลังใจ
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | ตอนที่ 5 by Soleil (14/ก.ค./58)
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 17-07-2015 13:31:13
เขาก็แต่งไม่เก่งหรอก แต่มีบรรยายตรงคำพูดนิดหนึ่ง บรรยายกิริยาอาการ หรือบรรยายความรู้สึกที่พูดประโยคนั้นออกนั้น เราเข้าใจอย่างนั้นนะ โครงเรื่องน่าอ่านอยู่แล้วจร๊า เพิ่มอีกนิดเดียว  :z13:

รอติดตามตอนต่อไป  :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 6 by Soleil (20/ก.ค./58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 20-07-2015 13:24:45
เจก็ออกจะรักขิง

ที่จะแยกกันเพราะขิงดันรักครามไปแล้วหรือยังไง @ @
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 6 by Soleil (20/ก.ค./58)
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 20-07-2015 13:37:28
 :katai2-1:  เอ๊ะ ยังไง คีย์ชอบหมอตั้นใช่ไหม แต่หมอตั้นดูท่าจะเจ้าชู้นะ

อยู่ด้วยกันแบบนี้ ขิงคงหลงรักครามแน่ๆเลย  :mew2:
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 6 by Soleil (20/ก.ค./58)
เริ่มหัวข้อโดย: Satang_P ที่ 20-07-2015 14:59:22
 :mew3:
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 6 by Soleil (20/ก.ค./58)
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 20-07-2015 15:38:32
ว๊าวๆ มาลงนี้แล้วดีใจจัง รออ่านคะ :L2:
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 6 by Soleil (20/ก.ค./58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 20-07-2015 16:19:17

มาเมาท์กันเถอะ :)

@suikajang : แสดงว่าอ่านที่อื่นมาแล้วสินะ ขอบคุณครับที่มาติดตามที่นี่ด้วย ส่วนตอนนี้เค้า กำลังอยู่ในช่วงปรับปรุงแก้ไขบทอยู่อะตัวเอง ยังไงก็รอนิดนึงนะ จุ๊บๆ

@PFlove : เค้าไม่บอกตัวหรอก เดี๋ยวมันจะดูไม่น่าติดตาม นิยายสนุกมันต้องดูลึกลับซับซ้อนนะตะเอง พีเอฟเลิฟ

@BlueCherries : ติดตามต่อไปนะเชอรี่สีฟ้า เชื่อเค้าสิเฉลยตอนนี้ไม่หนุกหรอก สู้ปูเสื่อรออ่านต่อไปมันฟินกว่านะ 555555

@Satang_P : ขอบคุณนะพ่อคนรวยที่มาให้กำลังใจ (ชื่อสตางค์แสดงว่าเป็นคนมีเงิน :)


หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 7 by Soleil (21/ก.ค./58)
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 23-07-2015 03:47:24
ชื่อเรื่องแปลกดีค่ะ เนื้อเรื่องน่าสนใจ น่าลุ้นมากค่ะว่าจะรักกันยังไง o13
ส่วนนิยายภาษายังไม่ค่อยดีเท่าไหร่เนอะ แต่ของแบบนี้มันอยู่ที่การฝึกฝน เขียนต่อไปเรื่อยๆเดี๋ยวดีเอง หานิยายดีๆอ่านเยอะๆ จะช่วยได้เรื่องการหาถ้อยคำมาเลือกใช้อย่างเหมาะสม เพื่อให้ประโยคมันสละสลวยขึ้นค่ะ
คำผิดเยอะอยู่นะคะ เป็นสะกดผิดนะ ไม่ใช่พิมพ์ผิด อันนี้การอ่านเยอะๆก็ช่วยได้เหมือนกันค่ะ
"น่าเกลียด" "รังเกียจ" เขียนแบบนี้นะคะ ที่อ่านผ่านมามีผิดอยู่ จำไม่ได้ว่าบทไหน
สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ รออ่านตอนต่อไปค่ะ :bye2:
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 7 by Soleil (21/ก.ค./58)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 23-07-2015 19:14:23
ชอบค่ะ สู้ๆนะคนเขียน ติดตามอยู่นะคะ  :mew3:
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 7 by Soleil (21/ก.ค./58)
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 23-07-2015 19:24:36
 :3123: เข้ามาให้กำลังใจค่ะ น่าอ่านค่ะ น่ารักมากเลยขิมเขินครามได้น่ารักมากเลย  :mew4:

รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 7 by Soleil (21/ก.ค./58)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 23-07-2015 22:50:06
เข้ามาให้กำลังใจเรื่องนนี้หน้าอ่านมาก แต่ติดที่นายเอกดูมีพันธะอ่ะคงลำบากแน่
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 7 by Soleil (21/ก.ค./58)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 24-07-2015 20:44:27
รอคอยยย  :hao7:
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 7 by Soleil (21/ก.ค./58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 26-07-2015 23:02:50

เค้าขอลบตอนที่ 4-7 ออกก่อนนะตัวเอง จะเอากลับแก้ เพราะดูมันเว้าๆแหว่งๆยังไงไม่รู้ เหมือนที่ตัวเองว่า จริงๆแหละ  แต่จะรีบกลับมาพร้อมกับตอนที่ 8 นะจ๊ะ

จะพยายามปรับปรุงแก้ไขให้เต็มที่แต่ก็ไม่รู้จะดีรึเปล่านะ ? เป็นกำลังใจให้หน่อยน้า  (ยากเนอะแต่งนิยาย)
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 7 by Soleil (21/ก.ค./58)
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 30-07-2015 22:36:33
นายหัวนี่ดูท่าว่าจะระแวงคนอื่นๆไปซะหมดนะ
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 05-09-2015 16:14:04


อันดามัน...ซ่อนรัก
ตอนที่ 4


หลังจากเหตุการณ์วันนั้น ทั้งผมและเค้าก็ยังทำตัวตามปกติ เคยดูแลเค้ายังไงผมก็ทำอย่างนั้น ส่วนเค้าก็ดูเหมือนว่าจะทำตัวดีขึ้นนะ แต่บางครั้งก็กลับมาทำตัวร้ายๆเหมือนเดิม จะบอกว่าไงดี สรุปคือเค้าทำตัวดีขึ้นนั่นแหละครับ ส่วนวันนั้นที่ถูกเรียกเข้าไปก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ อย่าคิดว่าคนอย่างเค้าจะเอ่ยคำขอโทษออกมาเชียว ไปถึงก็เห็นหน้าทำหน้าตาปกติ เหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดอะขึ้น แล้วบอกว่าหิวข้าว ให้ไปเอาข้าวผัดแบบเมื่อกี้มาให้หน่อย ผมไม่เข้าใจเค้าเลยจริงๆว่าต้องการอะไรกันแน่ แต่ก็ยอมไปเอามาให้แหละนะ เพราะมันคือหน้าที่ ส่วนเรื่องขอโทษหรือไม่ขอโทษ ผมก็ไม่ได้เก็บมันมาใส่ใจแล้วล่ะครับ เพราะถึงยังไงเค้าก็เป็นพี่ชายคีย์ แถมยังเป็นเจ้านายอีก แล้วผมจะมีสิทธิ์อะไรไปโกรธเค้าล่ะ ในเมื่อเค้าทำตัวเป็นปกติ  ไม่ร้ายขึ้น ผมก็ว่าดีแล้วครับ

"ใครอยู่ข้างนอกบ้าง ชั้นจะเข้าห้องน้ำ มาช่วยพยุงหน่อย!!" เสียงทุ้มๆ ติดกระด้างตะโกนออกมาจากในห้อง

"คุณครามจะเข้าห้องน้ำเหรอครับ งั้นเดี๋ยวผมเรียกตาแช่มให้ช่วยก่อนนะครับ" ที่บอกไปแบบนั้นเพราะตัวเค้าใหญ่ขนาดนี้ แล้วคิดเหรอว่าผมจะแบกไหว กลัวพยุงไปพยุงมาแล้วพากันล้มจนบาดเจ็บขึ้นมาอีกน่ะสิ

"ไม่ต้องเรียก นายเป็นคนดูแลชั้น แค่นี้ก็ทำไม่ไหวรึไง?"

"ไหวครับ" ผมตอบแล้วพยายามพยุงเขาลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล ดูเหมือนเค้าจะรู้ว่าตัวเค้าเองหนักเกินไปสำหรับผม เลยไม่ได้ทิ้งน้ำหนักมาหมด แล้วช่วยพยุงตัวเองอีกแรง

"คุณหมอบอกว่า ขาของคุณก็ดีขึ้นบ้างแล้ว เพราะแผลเข้าที่ได้เร็ว ดังนั้นคุณก็ควรหัดใช้กำลังขาบ้างนะครับ จะได้ไม่เป็นกล้ามเนื้อลีบ" ผมพูดกับเค้าขณะที่พวกเราลุกขึ้นจากเตียงได้แล้ว แล้วก็กำลังจะเดินไปห้องน้ำ

"รู้จักไอ้หมอมันแล้วสินะ?"

"ครับ"

" ก็ดี!! แต่จะทำอะไรก็รักษาหน้าชั้นกับคุณแม่ไว้บ้างนะ" ผมจ้องหน้าเค้าอยู่ครู่หนึ่ง อยากรู้จริงๆว่าเค้าคิดยังไงกันแน่ เดี๋ยวก็ดี เดี๋ยวก็ร้าย

"หมายความว่ายังไงครับ?"

"ไม่น่าเชื่อนะว่าจะต้องแปลไทยเป็นไทยให้ฟัง"

"พูดมาตรงๆเถอะครับ ผมเองคิดไม่ออกจริงๆว่าคุณต้องการสื่ออะไร?

"หน้าที่นายตอนนี้คือดูแลชั้น เรื่องอื่นเอาไว้เสร็จงานแล้วค่อยทำ เพราะชั้นไม่อยากให้มีเรื่องชู้สาวเกิดขึ้นภายในบ้าน หวังว่านายคงเข้าใจ"

"ครับ ผมเข้าใจว่าหน้าที่ของผมคืออะไร ว่าแต่คุณเองเถอะครับรู้หน้าที่ของตัวเองรึเปล่าว่าต้องทำยังไงให้ตัวเองกลับมาเดินได้ตามปกติ ไม่ใช่เอาแต่กินเหล้าเมาแบบนี้"

"แล้วยังไง?" เค้ายักไหล่ไม่สะทกสะท้านกับคำพูดของผม

"ไม่ยังไงหรอกครับ ผมแค่นึกถึงคนงานอีกไม่รู้กี่ร้อยชีวิตของคุณ ที่อีกไม่นานก็คงอดตาย ถ้าเกิดว่าคุณยังเป็นนายหัวขี้เมาอยู่แบบ" ผมไม่คิดเลยครับว่าตัวเองจะพูดอะไรยาวๆแบบนี้เป็นกับเค้าด้วย แถมแต่ละคำยังแสบทรวงจนเค้าจ้องผมแล้วจ้องผมอีก แต่ก็ช่างเถอะครับ ทีเค้ายังว่าผมเรื่องคุณหมอได้เลย ทั้งที่มันไม่เป็นความจริงเลยสักนิด

"ดูเหมือนนายจะมั่นใจเหลือเกินนะว่าทำให้ชั้นกลับมาเดินได้" เค้าถามแล้วแสยะยิ้มมุมปาก

"แน่นอนครับ เป็นหนักกว่าคุณผมก็ช่วยทำให้กลับมาเดินได้แล้ว แต่มันก็ขึ้นอยู่กับคุณนะครับว่าให้ความร่วมมือดีแค่ไหน?" 

"ก็ดี..งั้นเรามาทำสัญญากันไว้ก่อนไหมล่ะ ถ้านายทำให้ชั้นเดินได้ภายในเวลาหกเดือนนี้ ชั้นจะให้เงินเดือนนายเพิ่มเป็นสองเท่า พร้อมเงินสดอีกล้านนึงสำหรับความพยายามของนาย แต่ถ้าไม่ได้ก็เชิญออกไปจากที่นี่ได้เลย ตกลงไหม?" เค้าคงจะมั่นใจว่าผมไม่มีทางทำได้อย่างที่พูดถึงยอมเสียเงินมากมายขนาดนี้ แต่ก็นะถ้าผมไม่มั่นใจผมคงไม่พูดออกไปแบบนั้นหรอก เชื่อผมสิ

"โอเคครับ งั้นเรามาเริ่มกันเลยไหมครับ?" ขี้เกียจต่อความยาวสาวความยืดแล้วครับ จะได้เริ่มกันสักที เพราะเราเสียเวลามาเยอะแล้ว

"ก็ดี ชั้นไม่ชอบคนที่ชอบคุยโว อวดอ้างสรรพคุณตัวเอง" ผมว่าทำงานกับคุณครามเหมือนได้ทำควิซทุกวันนะ เพราะแต่ละวันก็จะมีปัญหา มีการทดสอบหลายๆอย่างแตกต่างกันไป บางวันก็เป็นการทดสอบความอดทน ทดสอบความใจเย็น แต่ผมว่าอดทนและใจเย็นอย่างเดียวคงจะไม่พอหรอก คงต้องเย็นยิ่งกว่าน้ำแข็งขั้วโลกถึงจะพอ คนอะไรขยันหาเรื่องคนอื่นได้ทุกวัน

"เดี๋ยวผมให้คุณนั่งชักโครกนะครับ คุณจะได้จัดการธุระของคุณได้ตามสะดวก ถ้าเสร็จแล้วตะโกนเรียกผมนะครับ อื๊บ!!" หนัก!! บอกเลย

"โอ๊ะ!! ขอโทษครับ"

"ถ้าคิดจะอ่อยชั้น ขอบอกว่ามันไม่ได้ผล" แค่ล้มหน้ากระแทกอกเอง มันเป็นอุบัติเหตุ ไม่ได้ตั้งสักหน่อย ใครเค้าคิดจะอ่อยคุณกัน

"ผมก็ไม่คิดจะอ่อยคนแบบคุณหรอกครับ รับรองได้" 

"คนแบบชั้นมันทำไม?" เสียงถามสะบัดไม่พอใจ

"อย่าสนใจเลยครับ เอาเป็นว่าผมขอโทษที่ว่าคุณไปเมื่อกี้แล้วกันนะครับ คุณจะได้ทำธุระส่วนตัวของคุณให้เสร็จ แล้วเราจะได้เริ่มกันสักที" ผมเหนื่อยแล้วครับ เถียงกันไปก็เท่านั้น

"ไม่!! นายต้องบอกมาก่อนว่าคนอย่างชั้นมันทำไม ไม่งั้นก็ไม่ต้องออกไป" จะบ้ารึไง ให้มาเถียงกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องในห้องน้ำแบบนี้เนี๊ยะนะ ผมไม่เอาด้วยหรอก ผมกับเค้ามองหน้ากันครู่หนึ่ง ก่อนที่ผมเองนั่นแหละที่จะเป็นฝ่ายหลบสายตา แล้วเดินออกไปก่อน

"เดี๋ยว!! กลับมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน"

"คุณนี่มันชอบเอาแต่ใจตัวเองจริงๆนะครับ พอไม่ได้ดั่งใจก็เอ๊ะอะโวยวาย แบบนี้ไงครับคนแบบคุณ ได้คำตอบแล้วก็ทำธุระของคุณได้แล้วใช่ไหมครับ?"  ผมเห็นเค้ากัดเขี้ยวกัดฟัน คงจะโกรธผมน่าดู แต่ใครจะสนกัน ก็อยากฟังเองนี่หน่า

"อื้ม นายออกไปได้ละ แล้วก็ปิดประตูให้ชั้นด้วย" เห็นไหม๊พอพูดตรงๆออกไปก็ทำท่าไม่พอใจอีก เอาใจยากนะว่าไหม๊?



"นี่นาย เข้ามาได้แล้วชั้นทำธุระเสร็จแล้ว"

"คราวหลังก็เรียกชื่อผมนะครับ ผมจะได้รีบมา"

"อื้ม แล้วชื่ออะไร?"

"ขิงครับ" จำได้ว่าครั้งที่แล้วก็แนะนำตัวไป มัวแต่อาละวาดใส่คนอื่นน่ะสิเลยจำไม่ได้

"พยุงไปเกาะที่ราวข้างอ่างล้างหน้าหน่อย จะล้างหน้าแปรงฟัน"

"คุณ!! ช่วยอย่าทิ้งน้ำหนักลงมาทั้งหมดได้ไหมครับ ผมอยากให้คุณใช้กำลังขาคุณบ้าง ขาจะได้มีแรง ถ้าไม่ลองหัดเดิน หัดใช้กำลังขา แล้วเมื่อไหร่คุณจะเดินได้ครับ"

"อื้ม"

"จับราวให้แน่นๆนะครับ" ผมปล่อยให้เค้ายืนจับราวเอง โดยที่มีผมคอยพยุงไว้เล็กน้อย เค้าจะได้ลองรับน้ำหนักตัวเองดูว่าไหวไหม

"ใครโกนหนวดชั้น????" เค้าหันมาถามเสียงเย็น ดูก็รู้ว่าคงโกรธมากจริงๆ

"ผะ...ผมเองครับ" ผมตอบเสียงเบา เพราะรู้ว่าตัวเองคงหวังดีเกินไปเอง

"ยุ่ง!! ออกไปได้ละ ชั้นจะอาบน้ำ"

"แล้วคุณจะอาบยังไงครับ? หรือจะให้ลุงแช่มมาช่วยครับ?" ที่ถามก็เพราะลุงแช่มบอกว่าปกติถ้าเมาไม่มากก็จะแค่เช็ดตัว แต่ถ้าวันไหนทั้งเมาทั้งอ๊วกก็ต้องลากมาอาบกันอย่างทุลักทุเล

"ชั้นอาบได้ มันมีเก้าอี้อยู่ด้านนอก ไปหยิบมาสิ"

"แน่ใจนะครับ? หรือว่าจะให้ผมช่วย?"

"ไม่ต้อง ชั้นอาบเองได้"

"ครับ" ผมออกไปเอาเก้าอี้แบบพับที่อยู่ด้านนอกเข้ามา คิดไม่ออกจริงๆครับว่าเค้าจะอาบยังไงทั้งที่ขาก็ไม่ดีอย่างนี้ คนช่วยก็ไม่มี

"เอามาวางข้างอ่างอาบน้ำ ถ้าเสร็จแล้วจะเรียก" พอเข้าใจแล้วล่ะครับว่าเขาจะอาบยังไง เลยเข้าไปพยุงเค้ามานั่งที่เก้าอี้ เพราะอีกเดี๋ยวเค้าก็คงเปิดฝักบัวบังอาบเอง ส่วนครีมอาบน้ำก็วางอยู่ใกล้ๆอ่างเค้าคงหยิบเองได้






..................................

หลังจากโทรหาที่บ้านเสร็จ ผมก็คุยกับเจจนดึก แล้วก็แยกย้ายกันเข้านอน จนตอนนี้เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้วแต่ผมก็ยังข่มตานอนไม่ลง เพราะมัวคิดถึงแต่เรื่องเมื่อตอนบ่าย เป็นเพราะความหวังดีของผมเองแท้ๆ ทำให้เค้าโกรธจนไม่พูดกับผมอีกเลยหลังจากอาบน้ำเสร็จ ทานข้าวเย็นก็ไม่พูด กลับเป็นผมซะอีกที่พูดกับเค้าอยู่คนเดียว โดยที่เค้าไม่ตอบผมเลยสักคำ จากที่คิดว่าจะขอโทษ ก็เลยกลายเป็นไม่กล้าไปเลย ไม่คิดว่าเค้าจะโกรธขนาดนี้ ปกติเจอแต่โหมดเจ้าอารมณ์ แต่พอเจอโหมดนี้ไป ผมก็ไปไม่ถูกเหมือนกันนะ

"ตื่นเช้าเลยนะคะคุณขิง?" ใครบอกว่าตื่นเช้าครับ ผมยังไม่ได้นอนเลยต่างหาก มัวแต่คิดเรื่องไม่เป็นเรื่องจนนอนไม่หลับ จนต้องหาหนังสือมาอ่านจนถึงเช้านี่แหละ

"แหะๆ มันชินแล้วครับพี่นุ้ย ปกติกว่าจะอาบน้ำ ขับรถไปทำงานอีก ต้องใช้เวลานานครับกับการจราจรกรุงเทพฯ"

"อิอิ จริงด้วยค่ะ"

"คุณขิงรับอะไรดีคะ เช้านี้มีโจ๊กหมู แล้วก็ไส้กรอกกับเบคอนค่ะ?"

"ขอเป็นโจ๊กหมูดีกว่าครับเบาๆ ดี" ขืนทานอะไรหนักๆไป ยิ่งง่วงหนักไปอีกน่ะสิ

"เดี๋ยวพี่ไปตักมาให้ค่ะ รออยู่ที่โต๊ะเลย" ทั้งบ้านนี้ผมสนิทกับพี่นุ้ยที่สุดเพราะได้ช่วยงานแกบ่อย เลยได้คุยกับแกบ่อย ที่เหลือก็ไม่ค่อยได้เจออย่างเช่นลุงแช่มเพราะเห็นพี่นุ้ยบอกว่าออกไปสวนปาล์มบ่อยๆ แล้วก็มีป้าน้อย  คนนี้ยังไม่เคยเจอ

"ขอบคุณครับพี่นุ้ย" ผมเอามือป้องปากแล้วหาวออกมาชุดใหญ่ แทบจะกินดาวกินเดือนได้เลย

"ทานให้เยอะๆนะคะ จะได้มีแรงดูแลนายหัว" ไม่รู้ว่าวันนี้จะเจอแจ็คพ็อตอะไรอีก ถ้าเจอชุดใหญ่ผมคงสู้ไม่ได้แน่ๆเพราะไม่มีแรงแม้แต่จะเดินเลยตอนนี้ คิดถึงเตียงกับผ้าห่มที่สุด

"ครับ"

"ทานเยอะๆนะคะ พี่ดีใจที่อย่างน้อยทำกับข้าวแล้วยังมีคนกิน"

"อ้าว แล้วปกติไม่มีคนกินเหรอครับ?" ผมถามพาซื่อ

"ก็มีอยู่ค่ะ มีแต่พวกพี่นี่แหละค่ะที่กินกัน นายหัวก็ง่ายๆ กาแฟถ้วยนึงแล้วก็ขนมปัง ส่วนนายหญิงก็อยู่อีกหลังหนึ่ง ถ้านายหญิงเมียนายหัวยังอยู่ก็คงทานนิดเดียว เพราะเธอกลัวอ้วน" เป็นบ้านผมถ้าแม่ทำกับข้าวแล้วไม่มีใครกิน คงมีน้อยใจ ดราม่ากันบ้างแหละเพราะคงคิดว่าทุกคนคงเบื่อกับข้าวฝีมือตัวเองแล้ว แต่ถ้าวันไหนทุกคนฟาดเรียบจนไม่เหลือ วันนั้นคุณนายก็จะยิ้มแก้มปริเลยล่ะ แม่จะจำได้หมดว่าลูกคนไหนชอบทานอะไร ไม่ชอบทานอะไร อย่างพี่ขุนกินได้หมดเพราะพ่อสอนให้กินหมดทุกอย่างที่ขวางหน้ามาตั้งแต่เด็กๆ เลยทำให้พี่ขุนเป็นเด็กอ้วนเหมือนโฆษณาซีอิ้วขาวตราเด็กสมบูรณ์ ดีนะที่โตมาแล้วยืด แล้วก็หุ่นดี ได้พ่อมาเกือบทั้งหมดเลย ส่วนพี่ขิมไม่ชอบกินกระเทียมเจียว บอกว่ากินแล้วเหม็นติดปาก ก็นะผู้หญิงนิเนอะ ส่วนผมจะไม่ชอบกินผักชีที่สุดเลย ถ้ามีคนหั่นผักชีแล้วผมเดินผ่าน เชื่อไหมว่าผมก็จะได้กลิ่นจนต้องวิ่งไปอ๊วกเลยทีเดียว แม่บอกว่าจมูกดีเหมือนจมูกหมา พ่อเลยชอบเรียกผมว่าไอ้ลูกหมา ฮ่าๆๆ

"อ้อครับ แล้วปกตินายหัวของพี่นุ้ยเค้าตื่นกี่โมงครับ?" ผมก้มมองนาฬิกาที่ข้อมือแล้วถามพี่นุ้ย

"7 โมงก็ตื่นแล้วค่ะ ตื่นเสร็จก็จะอาบน้ำแต่งตัวครึ่งชั่วโมง แล้วก็ลงมาทานกาแฟขนมปังนิดหน่อย แล้วก็ออกไปทำงานในฟาร์มค่ะ" พี่นุ้ยถามแล้วทำท่าว่าจะตักข้าวต้มให้ผมอีก แต่ผมเบรคไว้ก่อน แกเลยยิ้มแล้วพยักหน้าให้

"แล้วถ้าไม่สบายแบบนี้ล่ะครับ?" ผมเคี้ยวข้าวต้มแล้วกลืนลงคอก่อนจะถามพี่นุ้ย

"ก็เวลาเดิมค่ะ สายสุดก็เจ็ดโมงครึ่ง" อีกสิบห้านาทีจะเจ็ดโมงต้องรีบกินแล้วรีบขึ้นไป ยังไงวันนี้ผมก็ต้องขอโทษเค้าให้ได้ เป็นแบบนี้ไม่ไหวมันอึดอัด ไม่สบายใจ

"งั้นผมขึ้นไปดูคุณครามก่อนนะครับ" เห็นไหมครับพออิ่มมันก็เลยง่วง นี่ขนาดไม่ได้จัดหนักนะ ปกติผมจะกินข้าวเช้าเยอะพอสมควรนะเพราะติดนิสัยตั้งแต่อยู่บ้านแล้ว แม่จะตื่นมานึ่งข้างเหนียวหรือหุงข้าวสวยให้แต่เช้ามืด แล้วทำกับข้าวง่ายๆให้ผมทานก่อนไปเรียนเสมอ เพราะแม่บอกว่าข้าวเช้าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

"ค่ะ เอาทิ้งไว้บนโต๊ะก็ได้ค่ะเดี๋ยวพี่เก็บเอง คุณขิงรีบขึ้นไปหานายหัวเถอะค่ะ เดี๋ยวเธอจะอารมณ์เสียอีก"

"ขอบคุณครับพี่นุ้ย" ความจริงผมแอบจินตนาการการนะว่าคุณครามตอนออกไปทำงานข้างนอกคงจะเท่ห์ไม่เบา เพราะเห็นรูปถ่ายที่ใส่กรอบโต๊ะทำงาน ไม่รู้เหมือนกันว่าถ่ายได้กี่ปีแล้ว แต่ก็ไม่ได้แตกต่างจากตอนนี้สักเท่าไหร่ ในรูปคุณครามใส่เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินออกยีสต์แต่เนื้อผ้าน่าจะบางกว่า ปลดกระดุมเสื้อเม็ดนึง ใส่กางเกงยีสต์สีเข้มกับรองเท้าบูทแบบหนังสีน้ำตาล แล้วเอามือเกาะระเบียงหน้าบ้านไว้ข้างนึง ถึงไม่ยิ้มเลย แต่ก็ดูดีนะผมว่า น้อยกว่าพี่ขุนพี่ชายผมนิดนึง พี่ชายผมทั้งหล่อแล้วก็เท่ห์ที่สุดเลยล่ะ ถึงไม่ได้ดูคมเข้มแบบคุณคราม แต่ก็ดูคมเข้มแบบคนเหนือ ไม่อยากจะบอกว่าพี่ชายผมก็เนื้อหอมมากเหมือนกันนะ  มีสาวๆมาส่องถึงบ้านบ่อยจนแม่แซวว่าเสน่ห์แรงจนหัวกระไดไม่แห้ง ส่วนพ่อก็ชมไม่ขาดปากว่าเลือดพ่อมันแรง เชื้อมันเลยไม่ทิ้งแถว ได้พ่อมาเต็มๆ ฮ่าๆๆ

"ตอนกลางวันอยากทานอะไรเป็นพิเศษรึเปล่าคะ? พี่จะได้ทำไว้ให้ หรือจะลองทานอาหารใต้แบบพี่ดู" พี่นุ้ยถามขณะที่ตัวเองกำลังทำนั่นทำนี่อยู่ คิดว่าน่าจะเป็นแกงอะไรสักอย่างของทางใต้

"ลองทานอาหารใต้ดีกว่าครับ ไหนๆ ก็มาอยู่ใต้ทั้งที" ผมเป็นกินง่ายอยู่ง่ายเหมือนกันนะ อาหารข้างทางหรืออะไรก็ได้ แต่ขอแค่ไม่มีผักชีก็พอ

"โอเคค่ะ วันนี้พี่จะทำแกงไตปลา รับรองอร่อยเด็ดแน่ นายหัวเธอก็ชอบทาน" ดูๆแล้วคนที่นี่เค้าก็รักคุณครามมากเลยนะ ทั้งที่รายนั่นเจ้าอารมณ์ซะขนาดนั้น

"ครับผม"

"ไปไหนมา สายป่านนี้แล้วเพิ่งขึ้นมา?" เช้ามาก็โดนเหวี่ยงละ ขิงส่ายหัวปลงๆ แต่ก็ไม่คิดจะแก้ตัวอะไร เพราะตัวเองยังมีความผิดอยู่

"ขอโทษครับ คราวหลังผมจะมาเร็วกว่านี้"

"ทำไมถึงมาช้า ตื่นสายรึไง?"

"เปล่าครับ ผมขึ้นมาดูคุณก่อนหน้าที่จะลงไปทำธุระข้างล่างแล้ว แต่คุณยังไม่ตื่น ผมเลยให้คุณนอนต่ออีกนิด แล้วค่อยขึ้นมาปลุก"

"คราวหลังก็ปลุกได้เลย ชั้นไม่อยากนอนตื่นสาย เดี๋ยวจะเคยตัว"

"ครับ"

"ยืนมองอะไร? ช่วยผยุงไปห้องน้ำหน่อย ปวดฉี่จะตายอยู่ล่ะ?" ปวดฉี่ก็ไม่บอก มัวแต่ว่าคนอื่นอยู่นั่นแหละ ถ้าบอกแบบนี้ตั้งแต่แรกก็ได้ฉี่ละ

"ความจริงถ้าคุณปวดฉี่ ก็ฉี่ใส่โถ่สำหรับผู้ป่วยได้เลยนะครับ เดี๋ยวผมเอาไปเทแล้วล้างเอง" ถามว่าทำงานแบบนี้เคยรังเกียจไหม บอกเลยว่าสมัยเรียน หรือสมัยฝึกงานแรกๆ ก็มีบ้างนิดหน่อย แต่พอคิดว่ามันคือกระบวนการทำงานหรือกลไกทางร่างกายของมนุษย์ ทุกคนก็เป็นเหมือนกันหมด เลยทำให้เฉยๆ ไปแล้วล่ะ

"ชั้นไม่ชอบฉี่ใส่โถแบบนั้น ไม่มีใครบอกนายเหรอ?" ครามมองหน้าขิงอย่างดุๆ ก็จริงแหละนะเป็นใครก็คงไม่ชอบฉี่ใส่โถฉี่แบบนี้ เพราะมันทำให้ดูเหมือนคนพิการหรือผู้เป็นทุพพลภาพ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ คุณครามเองก็คงเหมือนกัน ผมน่าจะฉุกคิดถึงข้อนี้ได้ก่อนหน้านี้นะ เค้าจะได้ไม่รู้สึกแย่แบบนี้

"ไม่ครับ เอาเป็นว่าผมขอโทษนะครับ คราวหน้าผมจะมาสแตนด์บายรอคุณแต่เช้าแล้วกันนะครับ คุณจะได้ไม่เป็นท่อปัสสาวะอักเสบ ถ้าผมมาช้าก็ให้คนไปเรียกนะครับ เพราะมันไม่ดีถ้าเกิดอั้นฉี่ไว้" ผมว่าตั้งแต่วันนี้ไปผมต้องใจเย็นให้มากขึ้น ถ้าอะไรที่ทำให้โมโหหรือหงุดหงิดก็ให้ท่องไว้ ขันติ ขันติ เพราะเมื่อวานก็ว่าเค้าไปเยอะเหมือนกัน แถมยังทำเค้าโกรธเพราะแอบโกนหนวดเค้าอีก รู้สึกเหมือนทำดีชดเชยความผิดเลย

"อื๊บ!! คุณครามครับ ผมบอกกี่ครั้งแล้วว่าให้คุณทำยังไง? อย่าทิ้งน้ำหนักตัวลงมาใส่ผมหมดแบบนี้สิ เพราะคุณต้องหัดช่วยเหลือตัวเองบ้าง" ผมดุแบบอย่างไม่จริงจัง เพราะหวังดีกับเค้าจริงๆ

"อย่าบ่นหน่า ก็มันไม่ชิน"

"ก็ต้องทำให้ชินสิครับ งั้นผมวางคุณลงที่เดิมนะครับ ถ้าฉี่เสร็จก็เรียกผม ผมจะได้เอาเก้าอี้มาให้ คุณจะได้อาบน้ำด้วย"

"อื้ม!!"



"ขิง เสร็จแล้ว เอาเก้าอี้เข้ามาได้เลย" เพิ่งเคยได้ยินเค้าเรียกชื่อผมแบบนี้ บอกตรงตรงๆฟังดูแล้วมันจั๊กกะจี้ยังไงไม่รู้แหะ บอกไม่ถูก ผมรีบสะบัดความคิดแบบนี้อกจากหัวแล้วเดินไปเอาเก้าอี้ตัวเดิมที่ใช้เมื่อวานเข้าไป

"ระวังลื่นด้วยนะครับ ห้ามลุก ถ้าเสร็จแล้วก็เรียกผมนะครับ" ต้องย้ำไว้ก่อน ถ้าพลาดมามันจะได้ไม่คุ้มเสีย

"อื้ม"

ผมออกมาอยู่ข้างนอกรอเค้าอาบน้ำ จนอ่านหนังสือพิมพ์จบไปหนึ่งเล่มแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าเค้าก็ยังไม่เรียกผมสักที หรือว่ายังอาบน้ำไม่เสร็จก็ไม่รู้ ผมยกมือขึ้นดูเวลา นี่ก็นานแล้ว ทำไมวันนี้อาบน้ำนานจัง ปกติแค่สิบถึงสิบห้านาทีก็เสร็จแล้ว มันผิดปกติ หรือว่าหกล้ม เป็นอะไรในห้องน้ำไปแล้วก็ไม่รู้


"คุณครามเสร็จรึยังครับ? ทำไมนานจัง ก๊อกๆๆ" เรียกก็ไม่ตอบหรือว่าเป็นอะไรในห้องน้ำไปแล้วจริงๆ ขิงเอาหูแนบกับประตูห้องน้ำฟัง

"ซี๊ดดดดด อ้าห์..... อ่าห์ อ้าห์!!"

"อาห์.......อย่าเพิ่งเข้ามา ใกล้เสร็จ..แล้วววว อื้มมมม!!!" คนบ้าไอ้เราก็นึกว่าเป็นลมหัวฟาดพื้นห้องน้ำไปแล้ว ที่ไหนได้.....

"ขิง!! เข้ามาได้" สูดหายใจเข้าลึกๆขิง มันเป็นเรื่องธรรมชาติของผู้ชาย

"เป็นอะไร หน้าแดง?"

"ปะ...เปล่าครับ"

"นึกว่าไม่สบาย มาทำงานได้ไม่กี่วันก็ป่วยซะแล้ว"

"ผมไม่ได้ป่วยง่ายขนาดนั้นครับ"

"ใครจะไปรู้ นึกว่าเป็นพวกผิวบาง กระหม่อมบาง" ครามยิ้มมุมปากแล้วมองขิงตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าอย่างแกล้งๆ เพราะคิดว่าขิงคงได้ยินเขาทำอะไรเมื่อกี้แน่

"ผมลูกชาวสวน ไม่ใช่ลูกคุณหนู กระหม่อมคงไม่บางหรอกครับ"

แถวๆบ้านผมมีแต่ทุ่งนา สวนลำไย แล้วก็สวนส้มเยอะมาก ทั้งสวนของเราแล้วก็ของคนอื่นเค้า โดยเฉพาะทุ่งนา สมัยเป็นเด็กผมก็ใช่ว่าจะเรียบร้อย ออกจะดื้อบ้างซนบ้างตามประสา ตากแดดตากลมตามเด็กแถวบ้านที่เป็นรุ่นเดียวกันไปเที่ยวเล่นไปเรื่อยแหละ ทั้งปีนต้นไม้ ตกปลา งมหาปลาในน้ำที่มันตื้นแล้วบ้างก็มี พอแม่รู้เข้าก็โดนฟาดด้วยก้านมะยม ด้วยแป้นมือบ้าง พอถูกสั่งห้ามก็กลับมาทำตัวติดพี่ขุนเหมือนเดิม พี่ขุนเล่นอะไรก็อยากเล่นด้วย  มาคิดมาคิดไปก็แอบสงสารพี่ขุนเหมือนกันนะ จะเล่นก็เล่นไม่สะดวก ต้องดูแลน้องไปด้วย แต่ส่วนมากพี่ขุนมักจะแอบออกไปเล่นกับเพื่อนคนเดียวมากกว่า พอไปฟ้องแม่ แม่ก็บอกว่าสงสารน้อง น้องเหงาให้พาน้องไปเล่นด้วย แต่ต้องดูแลน้องดีๆนะ ตั้งแต่นั้นมาพี่ขุนก็จะไม่ค่อยออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อน แต่มาขลุกอยู่กับผมซะมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นทำหนังสติ๊กให้แล้วสอนยิงกับกระป๋องนมตรามะลิที่เป็นอลูมิเนียม ปั้นดินจากทุ่งนาให้เป็นลูกหนังสติ๊ก ซื้อดินน้ำมันมาปั้นเล่นกัน แล้วก็อื่นๆอีก แต่พอผมโตขึ้นมาหน่อยก็รู้ตัวว่าทำให้พี่ขุนเหงาไม่มีเพื่อน เลยหัดอยู่บ้านเล่นคนเดียวบ้าง ออกไปเที่ยวบ้างนิดหน่อยจนติดนิสัยชอบอยู่กับตัวเองเหมือนทุกวันนี้

"ก็ดี"

"คุณหิวรึยังครับ ผมจะได้ไปเอาข้าวมาให้?" ผมถามขนาดที่คุณครามกำลังติดกระดุมเสื้อตัวเองอยู่

"ชั้นยังไม่หิว ไว้ค่อยกินสายๆ" นี่ก็สายแล้วนะ ผมเหลือบไปมองนาฬิกาที่แขวนติดผนังห้อง แปดโมงกว่าแล้ว

"ไปเรียกตาแช่มให้หน่อย" เขาพูดขึ้นมาหลังจากเสื้อผ้าเสร็จแล้ว

"ตาแช่มออกไปสวนปาล์มแต่เช้าแล้วครับ คุณจะใช้อะไรตาแช่มเหรอครับ? เผื่อผมทำแทนได้"

"เปล่า!!" เขาตอบแล้วรีบหลบสายตาผม

"คุณจะให้ตาแช่มไปซื้อเหล้าให้ใช่ไหมครับ? เพราะเมื่อคืนคุณใช้ให้ตาแช่มไปซื้อมาให้อีก"

"......."

"งั้นก็ไปทานข้าวกันครับ คุณยังป่วยอยู่ควรจะทานอาหารให้ครบทุกมื้อ ทุกหมู่ เพราะมันจะช่วยให้ร่างกายคุณฟื้นตัวได้เร็วขึ้น" ในเมื่อไม่ตอบผมก็ไม่คาดคั้นหรอกครับ คิดว่าเจ้าตัวเค้าน่าจะรู้ดีที่สุด

"คุณครามครับ เป็นอะไรรึเปล่า?" ผมก็ตกใจสิ อยู่เค้าก็ตัวสั่น มือสั่นเหมือนคนจับไข้ แถมสีหน้าก็ไม่ดีด้วย

"อย่ามายุ่ง!!" ครามตะวาดใส่จนขิงตกใจ เหงื่อก็แตกพลักๆตามไรไรผมและใบหน้า

"คุณอยากกินเหล้าเหรอครับ?" ผมก็เดาไปงั้นแหละครับ แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงคงแย่แน่ เพราะกว่าจะเลิกได้มันไม่ใช่ง่ายๆ พอๆกับเลิกบุหรี่นั่นแหละ

"หาให้หน่อยได้ไหม?" เขาพูดเสียงแหบพร่า

"คุณเป็นแอลกอฮอล์ลิซึ่มใช่ไหมครับ?" ถามว่าตกใจไหมก็ตกใจนะ แต่ตอนนี้ผมต้องใช้สมองคิดว่าจะทำยังไงดีกับสถานการณ์แบบนี้

"ไม่รู้ แต่ช่วยไปหามาให้หน่อยได้ไหม?" เสียงหอบสั่นเพราะอาการเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ

"ไม่ได้ครับ คุณต้องเลิกมันให้ได้ ไม่งั้นร่างกายคุณต้องแย่แน่ๆ" ผมพูดอย่างจริงจัง ถ้าไม่เลิกตอนนี้ต่อไปคงต้องแย่กว่านี้แน่ๆ ไหนจะไม่กินข้าวกินปลาอีก ผมต้องไปถามลุงแช่มว่าเค้ามีอาการแบบนี้นานแค่ไหนแล้วจะได้ช่วยถูก

"ก็คนมันติดไปแล้ว แล้วตอนนี้มันก็อยากโว้ย!! จะให้เลิกง่ายๆ ได้ไง" ครามโวยวายตอบ

"ได้สิครับ เดี๋ยวผมจะช่วยคุณเอง แล้วเรื่องนี้แม่คุณรู้รึเปล่าครับ?" ผมลองเรียบๆเคียงๆถาม แต่ถ้าให้เดาคงไม่มีใครรู้หรอก บางทีลุงแช่มก็อาจไม่รู้ด้วยก็ได้ เพราะเจ้าตัวเก็บอาการเก่ง แต่วันนี้อาการคงจะหนักขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่ได้กินเลยเก็บอาการไม่อยู่ ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผมไม่เอะใจทั้งที่ผมเป็นที่ดูแลเค้า เพราะเจ้าตัวคงจะฉีดสเปรย์ดับกลิ่นแน่ๆ ผมเห็นตั้งบนหัวเตียง อีกอย่างเค้าก็คงกำลังพยายามเลิกมันอยู่เหมือนกัน

"ไม่ อย่าบอกท่าน"

"ถ้าคุณไม่อยากให้ผมบอกท่าน คุณก็ต้องให้ความร่วมมือกับผมด้วย เลิกมันได้ไหมครับ?"

"มันทำได้ง่ายๆที่ไหนล่ะ? จิ๊!!"

"ครับมันไม่ง่าย แต่ผมว่าถ้าคุณพยายามคุณทำได้นะครับ คนอย่างคุณไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆ ใช่ไหมครับ?" สรุปตอนนี้มีหน้าที่เพิ่มมาอีกหนึ่งแล้วคือช่วยคนป่วยเลิกเหล้า เป็นทั้งนักกายภาพ แล้วก็นักจิตวิทยาด้วยสินะ

"อะไร?" เค้าถามผมงงๆเมื่อผมยื่นลูกโอมมายมิ้นท์ให้

"อมอันนี้ไปก่อนนะครับ เผื่อมันช่วยได้" เค้าไม่รับมันไป ผมเลยแกะให้ แล้วยื่นไปให้อีกครั้ง

"คิดว่ามันช่วยได้รึไง ลูกอมแบบนี้?"

"ไม่รู้ครับ แต่อมดูเผื่อมันช่วยลดอาการอยากเหล้าได้"



.................



"พี่นุ้ยครับ ลุงแช่มอยู่ไหนเหรอครับ?" ผมปล่อยให้เค้าสงบสติตัวเองอยู่บนห้องก่อน แล้วลงมาถามหาลุงแช่มนี่แหละครับ

"อยู่หลังบ้านค่ะ เดี๋ยวพี่ไปเรียกมาให้" พี่นุ้ยวางมือจากการเช็ดกระจกตู้เครื่องเรือนแล้วเดินออกไปตามลุงแช่มมาให้

"ขอบคุณครับ"

"มีอะไรให้ลุงรับใช้เหรอครับคุณขิง?" ลุงแช่มเดินเข้าบ้านมาพร้อมกับสภาพที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ คิดว่าน่าจะซ่อมอะไรอยู่หลังบ้านสักอย่างเพราะเห็นคราบน้ำมันยังติดอยู่ที่หน้าลุงแกอยู่เลย

"ไม่มีหรอกครับ เพียงแต่ผมจะคุยกับลุงเรื่องคุณครามนิดหน่อยน่ะครับ" ผมเหลือบไปเห็นพี่นุ้ยอยู่ใกล้ๆ เลยพยักหน้าบอกให้แกตามออกมาที่มุมรับแขกดีกว่า

"มีอะไรเกี่ยวกับนายหัวเหรอครับคุณขิง?"

"ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับลุง ผมแค่อยากจะขอลุงอย่างจริงจังนะครับว่า คราวหลังอย่าเอาเหล้าไปให้คุณครามอีก ไม่ว่านายหัวของลุงจะสั่งหรือจะขู่ยังไงก็ช่าง ห้ามเอามาให้อีกนะครับถ้าลุงรักนายหัวของลุงแล้วอยากให้เค้ากลับมาเป็นนายหัวคนเดิมได้เร็วๆ เพราะตอนนี้เค้าติดเหล้ามากจนเรียกได้ว่าเป็นแอลกอฮอล์ลิซึ่มไปแล้วนะครับ"

"จริงเหรอครับ?" ผมเห็นลุงแกเบิกตาขึ้นอย่างตกใจที่ได้ยินแล้วก็เปลี่ยนมาเป็นสลด คงเป็นเพราะสำนึกผิดต่อคุณครามกับคุณป้าแน่ๆ

"จริงครับ"

"โถ่นายหัวของลุง....ลุงขอโทษครับคุณขิง ลุงผิดไปแล้ว"

"ผมไม่ได้ว่าลุงหรอกครับเพราะผมรู้ว่าลุงทำไปเพราะไม่อยากขัดใจนายหัวของลุง ครั้งนี้ผมจะไม่บอกคุณป้านะครับ แต่ถ้ามีครั้งหน้าอีก ผมคงต้องบอก ลุงเข้าใจผมด้วยนะครับ" ความจริงผมแกล้งพูดไปงั้นแหละครับ ไม่ได้จะทำจริงๆหรอก ถ้าไม่บอกแบบนั้นเกรงว่าลุงแกจะใจอ่อนออกไปซื้อมาให้อีก

"ขอบคุณครับคุณขิง ลุงสัญญาว่าจะไม่ทำอีก" ลุงแช่มยกมือไหว้ จนผมต้องรีบยกมือไหว้แกตอบแทบไม่ทัน บอกไปตั้งแต่ครั้งที่แล้วว่าไม่ต้องยกมือไหว้ผม เพราะผมก็เป็นลูกจ้างเค้าเหมือนกัน แถมลุงแกก็อาวุธโสกว่าผมอีก

"ถ้าเค้าสั่งแล้วขัดไม่ได้ก็รับปากแล้วออกมานะครับ จะได้หลบเลี่ยงได้"

"ครับ"

"ไม่มีอะไรแล้วครับลุง ขอบคุณครับที่ให้ความร่วมมือกับผม" ผมยกมือไหว้ลุงแล้วเดินขึ้นไปดูคุณครามต่อ ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างแล้วก็ไม่รู้





หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 4 (5/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-09-2015 19:09:22
อ่านยาวเลย
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 4 (5/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 05-09-2015 20:49:47
นายครามดื้อกับขิงขนาดนี้ ..สงสารขิงจริงๆเลย  ไม่อยากหายหรือไงนะ  :hao3:
สู้ๆนะขิง .ว่าแต่ถ้าหลงรักนายครามขึ้นมาจริงๆ แล้วเจแฟนขิงละ ... :hao7:
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 5 (12/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 12-09-2015 15:50:52
อันดามัน...ซ่อนรัก
ตอนที่ 5
[/color][/size]



วันนี้ผมตื่นเช้ากว่าปกตินิดนึง จะได้มีเวลาทำนั้นทำนี่แล้วค่อยขึ้นไปปลุกคุณชาย ขืนไม่เผื่อเวลาแล้วไปปลุกสายสิ มีหวังโดนด่าเปิงอีก ความจริงก็ไม่ถึงกับด่าหรอก แค่ดุๆนิดหน่อยแค่นั้นเอง ปกติถ้าทำงานที่เดิม ผมคงต้องรีบจัดการธุระส่วนตัวอะไรให้เสร็จ แล้วขึ้นรถไฟฟ้าไปทำงาน ดีนะที่คอนโดอยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าเท่าไหร่ ไม่งั้นคงต้องตื่นตั้งแต่ไก่โห่โน่นแหละ แต่พอมาทำงานที่นี่เหมือนได้อยู่อีกโลกหนึ่ง ถึงแม้จะเป็นมนุษย์เงินเดือนเหมือนกัน แต่ชีวิตความเป็นอยู่กลับไม่เหมือนกันเลยสักนิด เอาง่ายๆคือ ไม่ต้องเร่งรีบทำอะไรเหมือนเดิม ตอนเช้าๆก็มีเวลาออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ริมทะเล ยืนดูพระอาทิตย์ที่กำลังโผล่ขึ้นมาจากน้ำบ้าง บางวันก็ไปช่วยลุงแช่มรดน้ำต้นไม้บ้าง ผมชอบชีวิตแบบนี้นะ ดูไม่เร่งรีบ ไม่ต้องแข่งขันกับคนอื่นเค้าดี นี่แหละมั้งที่เค้าเรียกว่าชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ ชีวิตที่ไม่ดูวุ่นวายเหมือนเมืองหลวง



"อรุณสวัสดิ์ครับพี่นุ้ย"

"อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณขิง เช้านี้ไปแย่งงานลุงแช่มทำอีกรึเปล่าคะ? อิอิ" ความจริงลุงแช่มแกก็ห้ามผมตลอดแหละ ห้ามทุกวันจนแกคงเบื่อที่จะห้ามไปแล้วมั้ง พอห้ามไม่ให้รดน้ำต้นไม้ ผมก็ย้ายไปถอนหญ้าแทน พอแกห้ามอีกผมก็เอาเสียมมาพรวนดินเลย จนแกยอมแพ้นั่นแหละ ผมถึงยิ้มแล้วไม่กวนแกอีก ส่วนงานประเภทจับจอบจับเสียมแกบอกว่าจะเป็นคนทำเอง ผมก็เออออกับแกไป ก็ยังดีกว่าอยู่เฉยๆไม่ได้ทำอะไร น่าเบื่อออก

"นิดหน่อยครับ ก็คนมันไม่มีอะไรทำนิหน่า"

"คุณขิงนี่ดื้อจริงๆนะคะ บอกว่าอย่าทำๆ ยังทำอีก" พี่นุ้ยบ่นอย่างไม่จริงจังเท่าไหร่

"ช่วยๆกัน ลุงแช่มจะได้มาทานข้าวเช้าเร็วๆไงครับ แล้วเช้านี้ทำอะไรทานครับพี่นุ้ย หิวจัง" ที่หิวเพราะใช้พลังงานไปเยอะ เช้านี้นอกจากรถน้ำต้นไม้แล้ว ยังช่วยลุงแกถอนหญ้ากับขนย้ายกระถางอีกด้วย ได้ออกกำลังกายเล็กน้อยๆตอนเช้าแบบนี้ดีจังแหะ ปกติถ้าทำงานที่เดิมคงไม่ได้ทำอย่างนี้หรอก เพราะทุกอย่างต้องเร่งรีบ ไม่งั้นคงไปทำงานไม่ทันกันพอดี

"เช้านี้พี่ไม่ได้เป็นคนทำค่ะ ป้าน้อยแกกลับจากต่างจังหวัดมาแล้วตั้งแต่ตอนเช้ามืด แกเลยเป็นคนทำค่ะ"

"อ้อครับ" ผมตอบรับคำสั้นๆ แล้วจินตนาการว่าป้าน้อยแกจะหน้าตาเป็นยังไง จะใจดีเหมือนพี่นุ้ยกับลุงแช่มรึเปล่าน๊า

"ตอนนี้แกอยู่ในครัวอยู่ค่ะ อีกเดี๋ยวคุณขิงคงได้เจอ คนนี้เนี๊ยบนะคะขอบอก"

"งะ!! พูดแบบนี้ผมก็ใจฟ่อกันพอดี"

"อิอิ พี่ล้อเล่นค่ะ ป้าน้อยแกเป็นคนปากร้ายแต่ใจดี ไม่เชื่อคุณขิงรอดูสิคะ"

"โอเคครับ งั้นผมขึ้นไปปลุกคุณครามก่อนนะครับ ได้เวลาแล้ว" ผมก้มดูนาฬิกาแล้วรีบขึ้นไปปลุกคุณคราม กว่าจะเดินขึ้นบันไดมาอีก หมดพลังงานไปตั้งเยอะ บันไดบ้านคนรวยเป็นแบบนี้กันทุกหลังเลยรึเปล่านะ ถึงจะสวยก็เหอะ ถ้าเป็นบ้านผมนะไม่โค้งขนาดนี้หรอก ถึงบ้านจะยกพื้นสูงยังไง บันไดก็เป็นแนวตรงขึ้นไปแบบนั้นแหละ จะมีโค้งก็ตรงหัวกระไดบ้านแค่นั้นเอง ที่สำคัญมีตุ่มเล็กๆเอาไว้ล้างเท้าตรงหัวบันไดด้วยนะ พูดแล้วคิดถึงบ้านจัง


"ก๊อกๆๆ" เคาะแล้วไม่มีเสียงตอบรับ ผมเลยถึงวิสาสะเปิดประตูเข้าไปเลย คิดไว้อยู่แล้วเชียวว่ายังไม่ตื่น พอมาปลุกเร็วตัวเองก็ยังไม่ตื่น พอมาปลุกช้าก็ว่าอีก เอาใจยากนะว่าไหม? ปลุกก็แล้วเขย่าตัวก็แล้ว แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่น จะว่าไปถ้าไม่ชอบทำหน้าดุ คิ้วชนกัน ก็ดูหล่อดีอยู่หรอกนะ คิ้วก็ดก หนาก็หนา ตาก็คม จมูกก็โด่ง ปากก็บางเป็นกระจับเชียว แต่สีคล้ำไปหน่อย คงจะสูบบุหรี่เยอะล่ะสิท่า มองโดยรวมถือว่าหล่อเลยทีเดียวล่ะ แบบนี้สาวๆคงกรี๊ดมากน่าดู

"โอ๊ะ!!"

"คิดจะลักหลับชั้นรึไง?" คนเสียงทุ้มติดแหบรี่ตาถาม

"ห๊ะ????"

"ชั้นถามว่านายคิดจะลวนลามชั้นรึไง?" เสียงยียวนกวนประสาทเริ่มต้นเช้าวันใหม่ได้ดีมาก ขิงคิดในใจ

"อะไรทำให้คุณคิดแบบนั้นกัน?"

"ก็หน้านายแทบจะติดหน้าชั้นขนาดนี้ คิดจะขโมยจูบชั้นล่ะสิ?"

"คะ..ใครเค้าทำแบบนั้นกัน ผมแค่ก้มลงดูว่าคุณแล้วรึยังต่างหาก แล้วก็ไม่ได้ใกล้อย่างที่คุณว่าด้วย" ไอ้เสียงบ้านี่ไม่รู้ว่าจะสั่นไปทำไม แล้วจะมาติดอ่างอะไรตอนนี้ พิโถ่!!

"อ้อเหรอ?" ครามรี่ตามองอีกครั้ง แล้วชันตัวเองพิงหัวเตียง

"ก็อย่างนั้นน่ะสิ!!" ขิงตอบอย่างกล้าๆเกร็งๆ

"แต่ชั้นรู้สึกเหมือนมีคนเอามือมาลูบๆตรงหน้านะ" ดูใช้คำพูดสิ ใครเค้าลูบกัน แค่จับๆดูเฉยๆต่างหาก พูดซะน่าเกลียดเชียว

"ก็....แค่เอามือปัดไล่ยุงให้แค่นั้นเอ๊ง เดี๋ยวจะเป็นไข้เลือดออก" ถูกจับได้แน่ๆถ้าเสียงจะสูงซะขนาดนี้ ทำไงดี ขิงเอ๊ยขิง

"หลงชอบชั้นแล้วล่ะสิ?" ครามถามเสียงทะเล้น

"คุณไปเอาความมั่นใจแบบนี้มาจากไหนกัน? ผมถามจริง"

"ใครๆ เค้าก็บอกแบบนั้น"

"บอกว่าไงครับ?" ขิงถาม แต่ก็ในใจก็แอบคิดอยู่เหมือนกันว่าที่เจ้าตัวพูดมามันก็จริงแหละ อายุแค่สามสิบกว่าเอง ได้เป็นถึงนายหัว แถมหน้าตาก็ห่างไกลจากคำว่าขี้เหร่มากโขเลยล่ะ โปรไฟล์ดีแต่เสียที่นิสัยนี่แหละ เจ้าอารมณ์เหลือเกิน

"ก็บอกว่าเป็นนายหัวตั้งแต่อายุยังน้อย แถมยังหล่ออีก นายไม่คิดงั้นรึไง?" ครามถามแล้วเขยิบหน้าเข้าใกล้  จนคนตัวเล็กกว่าต้องเอามือดันหน้าอกไว้

"หึๆๆ"

"ไม่อะ ไม่เลย แล้วก็ช่วยเอาหน้าคุณออกไปไกลๆเลยคุณคราม" ขิงเบ้ปาก แล้วทำเสียงแข็งดุคนตัวโตกว่า เล่นอะไรไม่รู้จักเล่น โตจนป่านนี้แล้ว

"จริงเหร๊อ?" ครามแกล้งทำเสียงยียวน

"จริงสิ"

"แต่ชั้นรู้สึกเหมือนว่านายจะแอบจับดั้งจมูกชั้นด้วยนะ หรือว่าไม่จริง?" ขิงทำสีหน้าไม่ถูก ถ้ารู้สึกตัวตั้งนานแล้วทำไมไม่ตื่นล่ะ ปล่อยให้คนอื่นเค้าปลุกอยู่ได้ ขิงแอบบ่นขมุบขมิบกับตัวเองเบาๆ

"ว่าไง?"

"กะ.....ก็แค่ลองจับดูว่าเป็นของจริงรึเปล่า" อึดอัดเว้ย อย่ามาจ้องกันแบบนี้นะ เสียมารยาท ขิงตอบเสียงอึกอัก

"แล้วคิดว่ามันเป็นของจริงไหม?"

"ไม่รู้!!!" เสียงตอบบ่งบอกเลยว่ากำลังอารมณ์เสีย ครามยิ้มกับหน้าตาของคนตรงหน้าที่ไม่ว่าจะคิดอะไรก็แสดงออกมาหมดเลย

"นี่ของจริง พ่อแม่ให้มา ไม่เชื่อลองจับดูอีกทีดิ" ครามเอ่ยถามแต่ขิงส่ายหน้าปฏิเสธ ใครมันจะกล้าทำแบบนั้นกัน แค่นี้ก็อายจะแย่แล้ว แอบแต๊ะอั้งเค้าตอนนอน อยากตีมือตัวเองนัก ไม่รู้ว่าตอนนั้นคิดอะไรอยู่ถึงกล้าทำ

"มองอะไรของคุณ? ตื่นแล้วก็ไปล้างหน้าแปรงฟันสิครับ สายแล้ว" พอถูกมองนานเข้าก็เริ่มเขิน เลยต้องรีบไล่ให้ไปจัดการธุระส่วนตัวให้เสร็จ แล้วจะได้ทานข้าว ทำกายภาพต่อ

"อื้ม มาผยุงชั้นสิ?" ครามดึงผ้าห่มออกจากตัว ความจริงคงจะเรียกห่มคงไม่ได้เพราะมันคลุมแค่ครึ่งตัวเฉยๆ แต่ไอ้ตาเจ้ากรรมดันไปเห็นสิ่งที่กำลังตุงดันกางเกงบ็อกเซอร์ออกมานี่สิ ให้ตายวันนี้ทำไมมีแต่เรื่องที่ทำให้ตกใจตลอดเลยแหะ

"เขินเหรอ? มันเป็นปกติของผู้ชายนะที่ต้องแข็งตัวตอนเช้า" ครามพูดหน้าตาเฉย แถมยังยักคิ้วใส่ขิงไปสองที

"น่าไม่อาย"

"อ้าว!! ก็มันจริงนี่ หรือว่าตอนเช้าของนายไม่เคารพธงชาติกัน?" ครามแกล้งตีหน้ามืนถาม อยากยิ้มแต่ยิ้มไม่ได้ เพราะกลัวจะไม่สมบทบาท

"หยุดพูดแบบนี้เถอะครับคุณคราม ผมยังหน้าบางอยู่ ไม่ได้หน้าหนาเหมือนคุณนะ" ถึงจะโดนว่า แต่ก็แค่แมวขู่เท่านั้น ใครจะกลัวกัน ครามคิดในใจ

"เขินสินะ ไม่เคยเห็นของคนอื่นมาก่อนเหรอ?" ถามแบบนี้หมายความว่าไง ขิงขมวดคิ้ว เท้าสะเอวใส่บอกว่าเริ่มยั๊วแล้วนะ

"โอ๋ๆๆ แค่หยอกเล่นเอง ทำเป็นจริงจังไปได้ หรือว่านายยังซิงอยู่?" นี่เป็นอีกคำถามเด็ดที่ทำให้ขิงอ้าปากพะงาบๆพูดไม่ออก จะบอกได้ไงว่าตัวเองยังซิงอยู่ รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่นเลยนะ

"ไม่เกี่ยวกับคุณ" ขิงขมวดคิ้วแล้วสะบัดหน้าหนี

"เห้ย!! ไม่จริงอะ นายยังไม่มีแฟนเหรอ?" ครามถามออกไปเพราะไม่น่าเชื่อว่าจะมีใครที่อายุขนาดนี้แล้วซิงอีก ขนาดตัวเขาเองยังมีอะไรกับผู้หญิงตั้งแต่อายุ 15 เลย

"ผมขอไม่ตอบนะครับเรื่องนี้" จะอยากรู้ทำไมนักหนาก็ไม่รู้ นี่มันเรื่องส่วนตัวนะเว๊ย ถามอย่างกับ "กินข้าวรึยังงั้นแหละ"

"ตอบหน่อยสิ มันข้องใจอะ"

"เป็นอะไรของคุณ ปกติไม่เห็นสนใจอะไร แล้วไม่หงุดหงิด โวยวายแล้วเหรอครับ?" ก็คนมันอดถามไม่ได้ ปกติเป็นอย่างนี้ซะที่ไหน

"ไม่รู้สิ คงโดนนายด่าบ่อยๆมั้ง เลยคิดได้"

"ด่าที่ไหน เค้าเรียกเหน็บแนมให้คิดต่างหาก"

"นายนี่ตลกดีเนอะ บางครั้งก็ดูจริงจังไปซะทุกอย่าง แต่บางครั้งก็ดูเหมือนไม่สนใจใคร แต่ก็เก็บรายละเอียดไปซะหมด"

"ผมไม่ใช่ตัวตลกของคุณนะครับคุณคราม"

"ใครว่านายเป็นอย่างนั้นกัน ชั้นพูดผิด แต่นายเป็นแบบนี้แหละดีแล้ว อยู่ด้วยแล้วสบายใจดี ส่วนเรื่องเมื่อกี้ชั้นแค่แกล้งนายเล่นเฉยๆ อย่าถือสาเลยนะ"

"ครับ แต่คราวหลังห้ามเล่นแบบนี้แล้วนะ"

"แกล้งนิดแกล้งหน่อยเอง หรือนายอยากให้ชั้นเป็นแบบเมื่อก่อน?" ใครเค้าจะอยากให้เป็นอย่างนั้นกัน คุณน่ะร้ายจะตาย ผมอดทนมาได้ขนาดนี้ก็ถือว่าบุญของตัวเองละ ไม่งั้นต้องลาออกแล้วกลับไปหางานใหม่อีก

"ไม่ดีกว่าครับ เอาล่ะครับหมดช่วงเวลาสนทนายามเช้าแล้ว ทีนี้คุณก็ลุกไปล้างหน้าแปรงฟันได้สักทีนะครับ" ขืนไม่หยุดสนทนาตอนนี้คิดว่าเช้านี้ก็คงไม่ได้ไปไหน แล้วก็ไม่ได้ทำอะไรอีก

"อื๊บ!! ขอบคุณครับที่คุณให้ความร่วมมือ ไม่ทิ้งหน้าหนักลงมาทั้งหมด ต้องการไม้เท้าไหมครับ?" ผมถามเค้าหลังจากที่เราสองคนลุกขึ้นยืนได้โดยที่ผมเป็นคนพยุงเค้าอยู่ข้างๆ

"อื้ม!!"

"รีบๆเข้าไปทำธุระส่วนตัวของคุณเถอะครับ เดี๋ยวจะเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ" ว่าจะไม่มองก็เผลอมองจนได้ จะบ้าตาย ช่วยจัดระเบียบมันหน่อยก็ไม่ได้

"ขอโทษที คือมันยังไม่เข้าทีอะ ต้องรออีกสักพักหนึ่งก่อน มันถึงจะลง" จะสุขภาพดีไปไหน??? ขิงคิดในใจ

"นายเป็นนี้ตลอดเลยรึไงเวลาเขิน?"

"ห๊ะ?? เป็นแบบนี้ แบบไหน?"

"ก็เวลาเขินแล้วชอบทำหน้าแดงแล้วกัดปากตัวเอง"

"หา?" ขิงทำตาโตตกใจ ขนาดตัวเองยังไม่รู้เลยว่าเวลาเขินแล้วเผลอทำอะไรแบบนั้นด้วย

"อื้มมมม แต่ก็ช่างมันเหอะ พยุงต่อสิ" ขิงพยักหน้ารับคำอย่างงงๆ ปรับอารมณ์ตามไม่ถูก แต่ก็ยอมทำตาม

"งั้นจับไม้เท้าให้ดีๆ นะครับ ค่อยๆเดิน" ความจริงร่างกายเค้าแข็งแรงมากนะ เพียงแต่ดื้อไม่ยอมทำกายภาพบำบัดแค่นั้นเอง เหมือนกับตอนนี้ถ้าได้ลงน้ำหนักที่ขาบ้าง จะได้ชินกับการรับน้ำหนักและการใช้ไม้เท้าด้วย

"จะแอบมองชั้นก็ไม่ว่าหรอกนะ ตามสบาย" แหนะยังจะเล่นอีก ขิงส่ายหัวไปมากับคนตรงหน้า แต่ก็โล่งอกที่ได้คุยกับเจ้านายแบบนี้ ต่อไปก็เหลือแต่การทำให้เค้ากลับมาเดินได้ปกติแค่นั้นเอง

"ใครแอบมองคุณกัน?"

"ก็นายไง ชั้นเห็นอยู่"

"ที่ผมมองเพราะผมต้องประคองคุณอยู่ แล้วก็ต้องดูด้วยว่าคุณเสร็จแล้วรึยัง? จะได้พาไปนั่งที่เดิม แล้วอาบน้ำ" ขิงแอบยิ้มกับความคิดของตัวเอง คิดว่าเมื่อคืนตัวเองเอายาผิดให้ครามกินรึเปล่า เช้านี้ถึงได้สมองกลับแบบนี้

"อ้อ งั้นเหรอ? สงสัยชั้นคงตาฝาดไปเอง" ครามถามอย่างล้อเลียน แล้วหัวเราะหึๆๆในลำคอ คนปกติเดินแป๊บเดียวก็คงถึงห้องน้ำแล้ว แต่ผู้ป่วยแบบคุณครามต้องใช้เวลานานหน่อยกว่าจะถึง เพราะสภาพร่างกายยังไม่เอื้ออำนวย ไหนจะไม้เท้านั่นอีก ถึงอย่างนั้นตัวเขาเองก็ไม่เคยเร่ง เพราะเข้าใจดีว่าเป็นยังไง

"นี่ถามหน่อยดิ ตอนชั้นเมา นายเป็นคนเช็ดตัวให้ชั้น แล้วยังไม่ชินอีกเหรอ เวลาเห็น....?"

"คุณคราม!!" ขิงเป่าลมออกจากปากอย่างเซ็งๆ ก็รู้อยู่ว่าคนอื่นเค้าเขินยังจะถามแบบนี้อีก

"ที่ถามนี่เพราะอยากรู้จริงๆ ไม่ใช่จะแซวอะไรนายนะ" ครามยกสามนิ้วขึ้นชูเพื่อยืนยัน

"ผมเช็ดตัวให้คุณก็จริงแต่ส่วนนั้นผมให้ลุงแช่มเป็นคนทำ" ทีแรกตอบชัดถ้อยชัดคำแต่พอปลายประโยคกลับเสียงแผ่ว ครามยิ้มมุมปากกับปฏิกิริยาของนักกายภาพบำบัดของตัวเอง ไม่คิดว่าจะขี้อายขนาดนี้

"อ้าว นายเป็นคนดูแลชั้นนะ ทำไมให้ลุงแช่มเป็นคนทำล่ะ?" ครามถามอย่างคนขี้สงสัย เพราะมันผิดวิสัยของพยาบาลหรือนักกายภาพ

"ก็มันยังไม่ชิน" เสียงแผ่วไปเรื่อยๆ ตรงกันข้ามกับแก้มที่แดงขึ้นเรื่อยๆ ตาก็มองแต่พื้นห้องอย่างเดียว

"แล้วคนที่นายไปดูแลก่อนหน้านี้ล่ะ ทำยังไง?"

"ก็ทำตามปกติ" ขิงตอบพาซื่อ

"เดี๋ยวก่อนนะปกติของนายคือยังไง? ดูแลเช็ดตัวให้ทุกส่วนน่ะเหรอ?" ครามหยุดเดินแล้วหันมาถาม

"อื้ม" ตอบก็ตอบไปแล้วเดินต่อสิพ่อคูณเอ๊ย จะได้อาบน้ำอาบท่า ทานข้าวแล้วทำกายภาพบำบัดต่อ

"แล้วทำไมกับชั้นนายไม่ทำแบบนั้นบ้างล่ะ?" ครามเอ่ยถามแล้วก้าวตามพร้อมกับมืออีกข้างที่จับไม้เท้าไว้

"ก็ไม่รู้เหมือนกันครับ คุณจะอาบน้ำเลยไหมครับ? ผมจะได้ไปเอาเก้าอี้มาให้" อยากจบบทสนทนานี้จะแย่ ยิ่งถามก็ยิ่งเหมือนตัวเองจะเสียเปรียบ อีกอย่างผมรู้ว่าตัวเองบกพร่องในหน้าที่จริงๆนั่นแหละ กับคนอื่นทำได้หมด แต่กับคนนี้ทำไมถึงไม่กล้ากันนะ

"เฮ้ นายอย่าเปลี่ยนประเด็นสิ!!" ถ้าไม่เปลี่ยนก็เข้าตัวเองสิ ถามได้ ผมคิดในใจ

"งั้นผมออกไปก่อนนะครับ เสร็จแล้วค่อยเรียก"

"เดี๋ยวก่อนสิ โกนหนวดให้หน่อย" ครามยอมแพ้ไม่ถามต่อ แต่กลับขอร้องให้ทำอย่างอื่นแทน รู้สึกเหมือนวันนี้จะขี้เกียจไงไม่รู้

"แล้วเมื่อกี้คุณทำไมไม่โกนครับ?" ขิงหันมาถาม

"ไม่รู้สิ มัวถามนายมั้ง โกนให้หน่อยนะ" ครามพูดเสียงอ้อนๆ จนขิงยังแปลกใจ แถมยังเผลอใจสั่นแปลกๆตามอีก บ้าหน่า ขิงสะบัดหน้าไล่ความคิดแปลกๆออกจากสมอง เผลอคิดว่าเค้าอ้อนตัวเองเนี๊ยะนะ เป็นไปไม่ได้อะ หูคงเพี้ยน ต้องไปหาหมอเช็คเครื่องรับสัญญาณใหม่

"ก็ได้ครับ หลายวันมานี้คุณก็ทำตัวดี ไม่อาละวาด ไม่โวยวาย ถือว่าให้รางวัลคุณก็แล้วกัน" ขิงเดินออกไปเอาเก้าอี้ข้างนอก แล้วปล่อยให้ครามยืนจับราวอยู่คนเดียว

"ทาอาฟเตอร์เชฟก่อนนะครับ" นิ้วเรียวๆมือขาวๆค่อยๆ ละเลงออฟเตอร์เชฟลงบนใบหน้าคม คร้ามแดดทีละส่วน รวมไปถึงเคราที่คางและตรงจอนด้วย

"คุณอย่าดิ้นสิครับ เดี๋ยวมันบาดเนื้อคุณ" แม้แต่แฟนก็ยังไม่เคยทำขนาดนี้ให้ ค่อยๆโกนที่ละส่วน เริ่มจากหนวดบนริมปีปากบน ลงมาจนถึงคาง แล้วก็เคราที่ใต้คางแล้วก็จอน เป็นมนุษย์ขนเยอะเหมือนกันนะเนี๊ยะ ยิ่งทำให้หน้าคมเข้าไปอีก แต่ถ้าเยอะเหมือนตอนแรกที่เจอกัน ก็เหมือนคนป่าไปนะ (ถ้านึกไม่ออกให้นึกถึงหนุ่มสเปน คิ้วดกๆหนาๆ ตาสวยๆนะครับ คนเขียนขอแนะนำ)

"คุณ!! อย่าจ้องแบบนั้นสิ มันทำไม่สะดวก" ขิงหยุดทำ แล้วเท้าสะเอวทำเสียงเข้มดุคนตัวโตกว่า แต่ก็ใช่ครามจะสำนึก ยังมองสำรวจนักกายภาพของตัวเองอยู่ จนขิงอดจิ๊ปากเบาๆไม่ได้

"ทำไม?" ครามถามหน้าตาย

"ไม่รู้ มันทำตัวไม่ถูก แล้วก็เกรงเวลามีคนจ้อง" ไม่รู้รึไงว่ามันเขิน จะจ้องทำไมนักหนาไม่เคยเห็นคนโกนหนวดรึไง

"แล้วจะให้มองอะไรล่ะ? ก็นายยู่ตรงหน้าชั้น" ตอบกำปั้นทุบดินมาก ขิงพูดในใจ

"มองอะไรก็แล้วแต่คุณเถอะ!!" ขิงตอบเสียงสะบัดๆคล้ายกับคนงอนแล้วลงมือโกนต่อ จนครามอดยิ้มมุมปากไม่ได้กับสีหน้าของขิงตอนนี้ นี่ก็คงจะไม่รู้ว่าตัวเองเผลอแสดงสีหน้าแบบนี้ออกมา

"งั้นชั้นก็มองนายเหมือนเดิมนี่แหละ" ครามตอบหน้าตายเหมือนเดิม จนทำให้ขิงหยุดชะงักแล้วก้มลงทำต่อ ใจก็ภาวนาให้มันเสร็จเร็วๆสักที จะได้ออกไปจากสถานการณ์บ้าๆนี่สักที



....................................




Kram's Part



"บ้าที่สุด!! ดันเผลอมีอารมณ์กับผู้ชายด้วยกันซะได้" มันจะกัดปากของมันทำไมวะ? ปากมันบาง สีส้มน่าจูบ เฮ้ย!! ห้ามคิดแบบนั้น ห้ามคิด นั่นมันผู้ชายนะเว้ยไอ้คราม

"ไอ้ห่านี่อีก มึงจะแข็งไปถึงไหน? แค่เช้านี้มึงแข็งมากี่ครั้งแล้ว? ขายหน้าเค้าจริงๆ" ครามคิดในใจ

"ไม่ทงไม่ทนมันแล้วโว้ย เรื่องปกติของผู้ชายนี่หว่า" แต่ไอ้ที่ไม่ปกติก็เพราะเผลอคิดแปลกๆกับเด็กนี่แหละ หรือเป็นเพราะเราไม่ค่อยได้เอาออกแน่ๆ ถึงได้มีอารมณ์กับผู้ชายด้วยกัน ครามคิดในใจ แล้วเริ่มสาวมือขึ้นลง พอถึงฝั่งฝันแล้วก็จัดการเปิดฝักบัว ถูสบู่อย่างรวดเร็ว เพราะเสียเวลามานานแล้ว เดี๋ยวคนข้างนอกจะสงสัย

"เสร็จแล้ว เข้ามาได้แล้วขิง"

"เอ่อ.....จัดปมผ้าเช็ดตัวให้แน่นๆ นะครับ" คงกลัวมันหลุดแล้วเห็นอนาคอนด้ายักษ์อะดิ หึๆๆ ครามขมวดปมผ้าแล้วเน็บกับเอว จากนั้นก็หันมายักคิ้วหลิ่วตาอย่างล้อๆใส่ขิง

"เกาะไว้ดีๆนะครับ ระวังพื้นลื่นด้วย" ขิงเม้มปากทำเป็นไม่สนใจ แต่ก็อดแก้มแดงด้วยไม่ได้ ในใจอยากแช่งชักหักกระดูกนักคนทะลึ่งแบบนี้ ระหว่างทางเขาแทบจะกลั้นหายใจไปด้วย เพราะกลัวผ้าเช็ดตัวนั่นหลุดกลางทาง

"เดี๋ยวผมวางคุณที่เตียงก่อนนะครับ แล้วจะไปเอาเสื้อผ้ามาให้" ถึงเตียงโดยสวัสดิภาพโดยที่ผ้าไม่หลุด แถมคนก็ไม่หกล้มด้วย ขิงถอนหายใจออกมาเบาๆ อย่างโล่งอก

"โอ๊ะ!!"

"เป็นอะไรไหมครับ?"

"ไม่เป็นไร ถามตัวนายเองเหอะ เอาตัวมารับชั้นไว้เจ็บไหม?"

"ไม่ครับ ไม่เจ็บ" ดีนะที่ล้มลงที่เตียง ไม่งั้นได้เจ็บตัวทั้งคู่แน่ ตัวก็บางกว่าเรา ไหนจะส่วนสูงอีก ยังดีที่แข็งแรงอยู่บ้าง ไม่ได้ดูอ่อนปวกเปียก ไม่งั้นคงดูแลผู้ป่วยลำบาก ครามคิดในใจ

"บอกว่าอย่ากัดปาก" ไอ้เด็กนี่ดื้อชะมัด บอกว่าอย่ากัดปากก็ไม่ฟัง แต่ตัวมันหอมดีนะ หอมแบบไม่ใช่กลิ่นน้ำหอม เหมือนกลิ่นแป้งเด็กอ่อนมากกว่า

"ครับ??" ยังมาทำตาใสใส่อีก

"ช่างมันเหอะ"

"คุณเท้าแขนขึ้นก่อนได้ไหมครับ ผมจะได้ลุกขึ้นได้ แล้วผยุงคุณลุกด้วย"

"อื้ม" เผลอจ้องปากมันอีกแล้ว เป็นบ้าแล้วกู ชิบหายมาก

"อื๊บ!!!"

"คุณจะใส่เสื้อตัวไหนครับ? ผมจะได้หยิบมาให้"

"ตัวไหนก็ได้หยิบมาเถอะ ชั้นใส่ได้หมดนั่นแหละ"

"งั้นตัวนี้แล้วกันนะครับ" มันหยิบเสื้อโปโลสีกรมท่า คอสีขาวกับตัวหนังสือบอกยี่ห้อสีกรมท่าเหมือนกันออกมาให้ คิดไว้อยู่พอดีว่าจะใส่ตัวนี้

"เอากางเกงในออกมาด้วย" แค่บอกให้กางเกงในมาให้แค่เนี๊ยะก็เขินซะละเด็กน้อย หึๆๆ

"ครับ"

"ออกไปก่อนสิ ชั้นจะได้เปลี่ยนผ้า หรือนายจะอยู่ดูด้วย?" ครามแกล้งหยอก

"ปะ...เปล่าครับ"

"หึๆๆๆ"






"วันนี้เรามาเริ่มทำกายภาพกันเลยไหมครับ? เท่าที่ทราบจากหมอตั้นมา เค้าบอกว่าคุณเองก็ทำกายภาพมาบ้างแล้ว แต่ไม่ค่อยให้ความร่วมมือสักเท่าไหร่ เลยทำให้คุณยังเดินไม่ได้เหมือนทุกวันนี้ ดังนั้นผมอยากให้คุณเชื่อ ว่าคุณสามารถกลับมาเดินได้อย่างปกติอีกครั้ง แต่คุณต้องให้ความร่วมมือกับผมด้วยนะครับ"

"อื้ม" ครามมองหน้าขาวๆ ปากบางๆสีส้มขยับพูด แล้วตอบรับทั้งที่ฟังบ้างไม่ฟังบ้างแต่พอรู้เรื่อง ถึงไม่ทั้งหมดก็เหอะ

"ขอบคุณครับ"

"แล้วเมื่อไหร่ชั้นจะหายเป็นปกติล่ะ?" ครามถามอย่างเป็นจริงเป็นจัง เพราะไม่อยากนอนอยู่เฉยๆบนเตียงไปวันๆแล้ว

"ส่วนใหญ่ หลังจากที่ทำการผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว ประมาณ 2 เดือน ก็น่าจะใช้งานได้เกือบปกติ อันนี้เป็นกรณีของกระดูกที่แขน ส่วนกระดูกต้นขาหรือหน้าแข้ง ต้องใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือน เพื่อให้กระดูกแข็งแรงพอที่จะยืนหรือเดินได้โดยไม่ต้องใช้ไม้เท้า เพราะขาหรือแข้งจะต้องรองรับน้ำหนักร่างกายของคุณไว้ทั้งหมด แต่จะแข็งแรง 100% ก็ประมาณปี ถึงปีครึ่งครับ"

"เร็วกว่านี้ไม่ได้เหรอ?"

"ขึ้นอยู่กับตัวคุณมากกว่าครับ ถ้าคุณไม่ขี้เกียจทำกายภาพมันก็อาจจะหายเร็วและกลับมาเดินได้เร็วขึ้นก็เป็นไปได้ แต่ก็ต้องรอคุณหมอเค้าอนุญาตก่อนว่าร่างกายคุณพร้อมแล้วรึเปล่า ผมเข้าใจว่าคุณอยากกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้เร็วๆ อยากกลับไปทำงานที่คุณรัก แต่ทุกอย่างมันต้องใช้เวลานะครับ"

"อื้ม"

"งั้นนั่งตรงเก้าอี้นี่นะครับ แล้วเราจะได้เริ่มท่าแรกกันเลย มีทั้งหมด 4-5 ท่า แต่ละท่าควรใช้เวลาในการบริการกล้ามเนื้อหรือทำกายภาพประมาณ 15-20 นาที ทำวันละสองครั้ง เช้าและเย็น หรือมากกว่านั้นก็ได้ครับแล้วแต่ความพร้อมของผู้ป่วย"

"ถ้าทำบ่อยๆแล้วก็นานขึ้นจะทำให้หายเร็วขึ้นรึเปล่า?"

"ทุกอย่างมันควรอยู่ความพอดีครับ ไม่ควรหักโหมมากจนเกินไป เอาไว้ค่อยว่ากันอีกทีแล้วกันนะครับว่าร่างกายคุณไหวรึเปล่า?"







== TO BE CON ====>
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 5 (12/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 12-09-2015 22:42:55
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 5 (12/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 13-09-2015 05:33:05
ครามที่ไม่เจ้าอารมณ์นี้ก็น่ารักดีนะ ยียวนกวนขิงนิดหน่อย  :mew4:
 :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 5 (12/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 13-09-2015 16:13:18
นี่แค่พักยกหรือครามจะคิดได้แล้ว
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 5 (12/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 13-09-2015 16:32:38
 ขิงอย่าลืมเรามีแฟนที่ดีรออยู่นะ
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 6 (27/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 27-10-2015 15:50:05



อันดามัน...ซ่อนรัก
ตอนที่ 6







     แสงแดดอ่อนๆยามเช้าที่ลอดผ่านม่านผืนบางเข้ามาในห้อง ทำให้คนที่กำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียงค่อยๆขยับตัว  ขนตาที่เรียงกันเป็นแพยาวค่อยๆพับขึ้นลงเพื่อปรับแสงรับเช้าวันใหม่อย่างอัตโนมัตโดยไม่ต้องมีเสียงนาฬิกาปลุก ไม่ว่านอนดึกแค่ไหนเขาก็ตื่นเวลานี้เสมอ เว้นเสียแต่ว่านอนเพลินหรือเพลียมากจริงๆถึงจะตื่นสายกับเค้าสักทีหนึ่ง ริมฝีปากบางสีส้มอ้าปากหาวพร้อมกับกางแขนบิดขี้เกียจก่อนจะลุกไปหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป

     หลังจากอาบน้ำเสร็จเขาก็ลงมาข้างล่างเพื่อทำนั่นทำนี่ช่วยคนอื่นเหมือนทุกวัน แต่ดูเหมือนว่าสภาพอากาศวันนี้จะไม่ค่อยเอื้ออำนวยสักเท่าไหร่ ตอนเช้าๆอากาศเย็นกำลังดี แต่พอสายมาหน่อยกลับร้อนอย่างกับช่วงเมษา ทั้งๆที่เป็นเดือนพฤศจิกาแท้ๆ นี่แหละนะชีวิตชายฝั่งทะเลเดี๋ยวก็พายุเดี๋ยวก็แดดร้อน ถ้าร้อนเฉยๆจะไม่ว่าสักคำ แต่นี่ดันหอบเอาไอทะเลมาด้วยยิ่งทำให้เหนียวเนื้อเหนียวตัวเข้าไปอีก ดังนั้นภารกิจการออกไปช่วยลุงแช่มในเวลานี้จึงถูกพับเก็บไป เพราะถ้าเกิดเหงื่อออกจนท่วมตัว แล้วต้องกลับขึ้นไปอาบใหม่อีกรอบคงจะเสียเวลาน่าดู เผลอๆอาจเลยเวลาขึ้นไปปลุกคนตัวโตข้างบนอีก ที่นี้แหละคงทำหน้าหงิกไปครึ่งค่อนวัน ดังนั้นการฆ่าเวลาได้ดีที่สุดในตอนนี้คือหาอะไรง่ายๆที่ไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อนทำ เช่น การให้อาหารปลาคราฟตัวโตหลังบ้าน

    เคยได้ยินลุงแช่มพูดเหมือนกันว่านอกจากสวนหน้าบ้านแล้ว ก็มีปลาคราฟนี่แหละที่คุณครามแกหวงยิ่งกว่าอะไร เป็นผมก็คงหวงเหมือนกันแหละเพราะตัวๆหนึ่งไม่ใช่จะถูกๆ แล้วกว่าจะเลี้ยงมาได้ขนาดนี้อีก จะหวงก็คงไม่แปลกหรอก ขนาดเปลี่ยนน้ำปลาแกยังลงมือเปลี่ยนเองเลย

 "ดูสิน้ำขุ่นไปหมดแล้วเพราะเจ้านายพวกแกไม่สบายแถมยังดื้อไม่ยอมกินยาอีก เลยไม่ได้มาเปลี่ยนให้สักที" ขิงบ่นให้ปลาคราฟฟังเบาๆ ทำอย่างกับว่ามันจะฟังรู้เรื่องงั้นแหละ เจ้าตัวหยิบกระปุกอาหารที่วางอยู่ใกล้ๆมาเปิดแล้วโปรยมันลงไปในบ่อหนึ่งกำมือ จากนั้นก็มองมันอ้าปากกิน ไม่กี่อึดใจพวกมันก็กินหมดแล้วก็ว่ายกลับมาขออีก ขิงยิ้มให้กับเจ้าตัวมีคริบสีสวย

 "พอละกินแค่นี้พอ กินเยอะเดี๋ยวท้องแตกตาย ฉันจะลำบากอีก ค่าตัวแกไม่ใช่จะถูกๆนะ บอกไว้ก่อน"


"จ๊ะเอ๋"

"คีย์!!" ขิงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ โล่งอกที่ไม่ตกลงไปในบ่อปลาสุดรักสุดหวงของคราม

"จ๋าาาาาาาา" คีย์ตอบเสียงใส ลอยหน้าลอยตา

"ตกใจหมด"

"โอ๋ๆๆ แค่หยอกเล่นเฉยๆ อย่าทำหน้าดุสิ"  คีย์โผเข้ามากอดแล้วลูบหลังบอก ขวัญเอ๋ยขวัญมา

"ปล่อยเราก่อน เดี๋ยวก็ตกลงไปกันทั้งคู่หรอก" ที่กลัวไม่ใช่แค่ตกลงไปหรอก กลัวปลาพวกนี้มันจะตายซะมากกว่า เพราะเจ้าปลาพวกนี้มันขี้โรคอย่างกะอะไรดี อะไรนิดอะไรหน่อยก็ไม่สบายเผลอๆอาจตายเพราะทั้งตัวเขาและคีย์มีแต่สารเคมีทั้งนั้น ตั้งแต่ครีมเอย โลชั่นเอย ไหนจะแป้งเด็กอีก ของคีย์นี่อาจมีน้ำหอมเพิ่มมาด้วย ทีนี้ไม่ตายก็ไม่รู้จะว่ายังไงละ

"มัวเหม่อคิดถึงใครอยู่ ถึงไม่รู้ว่ามีคนมาประชิดตัวแบบนี้  อิอิ?" คีย์ผละออกมาแล้วถามด้วยเสียงใสตามด้วยเสียงหัวเราะชอบใจที่ได้แกล้งคนอื่น แต่เชื่อเหอะถ้าถูกแกล้งคืนบ้างล่ะก็นะ คงทำหน้าเป็นตูดเชียวล่ะ

"ก็คิดอะไรไปเรื่อยนั่นแหละ แล้วมาได้ไงอะ?" ขิงตอบรวมๆ แล้วถามคีย์กลับเพราะไม่รู้จะตอบว่าไงดี ถ้าให้ตอบตามจริง ก็คิดอยู่หลายเรื่องเลยล่ะ คิดถึงบ้านบ้าง ไม่รู้ว่าป่านนี้พ่อกับแม่ พี่ขุนกับพี่ขิมจะทำอะไรกันอยู่ คิดถึงเจที่ป่านนี้คงเข้าทำงานแล้ว แล้วก็คิดถึงคนป่วยตอนนี้ ว่าจะทำยังไงให้เค้าเดินได้เร็วๆแล้วก็หายจากอาการติดเหล้าด้วย

"ก็ตั้งใจมาเซอร์ไพรส์ขิงไง ดีใจไหม?"

"อื้ม แล้วนี่ลางานมาเหรอ?"

"เปล่า ลาออกจากงานเลยต่างหากล่ะ" ขิงขมวดคิ้วสงสัยปนตกใจนิดๆ เพราะคุยด้วยกันครั้งล่าสุดยังบอกอยู่เลยว่าทำงานที่นี่สนุก บริษัทก็ใหญ่ ประสบการณ์ก็ดี ผู้รวมงานก็ดี เงินเดือนก็ดี  ไม่ต้องเครียดอะไรมากด้วย

"โอ๋ๆๆ อย่าเพิ่งทำหน้าเครียดแบบนี้สิ เราแค่คิดว่าจะกลับมาช่วยงานที่บ้านน่ะ พ่อก็อยากให้กลับมาอยู่แล้วด้วย อีกอย่างเราจะได้มาอยู่ใกล้ๆขิงไง อิอิ"

"แล้วพี่ชายเราอยู่ไหนอะ ตื่นรึยัง?" หลังจากเคลียร์กันเสร็จแล้ว คีย์ก็ถามถึงพี่ชายตัวเองบ้าง เพราะจุดประสงค์ของเขาอีกอย่างหนึ่งที่พุ่งตรงมาที่นี่เลยคือ มาเยี่ยมพี่ชาย แล้วก็มาดูให้เห็นกับตาว่าเพื่อนของตัวเองจะปราบพยศนายหัวแห่งเกาะไข่ได้อย่างที่คุณป้าว่ามาไหม รายนั้นเมาท์ใหญ่เลยว่า ถ้าไม่ได้ขิงพี่ครามก็คงจะดื้อไม่ยอมกินข้าวกินยา แล้วก็ไม่ยอมทำกายภาพง่ายๆแน่ แค่คิดก็สนุกแล้ว ชักอยากเห็นซะแล้วสิว่านายหัวจอมดื้อกับนักกายภาพเฮี้ยบเวลาอยู่ด้วยกันจะเป็นยังไง

"ตื่นแล้วมั้ง เดี๋ยวเราขึ้นไปดูก่อนนะได้เวลาปลุกแล้ว" ขิงยกนาฬิกาขึ้นดู แล้วรีบก้าวขาฉับๆขึ้นบันไดไป ในใจก็แอบบ่นตัวเองนิดหน่อยที่มัวแต่คุยเพลินจนลืมเวลา

"โอเค เดี๋ยวเราตามไป ขอไปฉี่ก่อน มาถึงก็นั่งรถมานี่เลย ปวดฉี่มาก" คีย์ลากเสียงยาวเพื่อบอกว่าปวดมากแค่ไหนแล้ววิ่งดุ๊กดิ๊กๆเข้าห้องน้ำไป






หลังจากขึ้นไปปลุกเสร็จ เขาก็พยุงคุณครามไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ แล้วตามด้วยการช่วยแต่งตัวเล็กๆน้อยๆเพราะเจ้าตัวยังขยับแข้งขยับขาไม่ถนัด

"ที่นี้ก็ได้เวลาทานยาก่อนอาหารแล้วนะครับ"

"เบื่อ ขอไม่กินได้ไหม?" ครามทำสีหน้าเบื่อโลก

"อีกนิดเดียวครับ มันใกล้หมดแล้วด้วย ถ้าหมดนี่คุณหมอคงไม่สั่งให้แล้วล่ะครับ" แอบสงสารคุณครามอยู่เหมือนกัน เป็นผมก็คงเบื่อเหมือนกันที่ต้องกินยาตั้งหลายเม็ดต่อมื้อ ดีนะเค้าให้กินแค่เช้ากับเย็นไม่งั้นคงมีเททิ้งกันบ้างแหละ แล้วก็ไม่ใช่แค่ยาหรอกนะที่ต้องกิน ยังมีแคลเซียมเสริมสร้างกระดูกอีก ไม่แปลกหรอกที่คนสุขภาพดี ไม่เคยเจ็บป่วยอะไรกับเค้าแบบคุณครามจะทำสีหน้าเบื่อโลกเวลาเห็นเจ้าเม็ดสีๆพวกนี้


"ถ้าเป็นอย่างนั้นได้ก็ดีสิ" ครามรับยามากินแล้วตามด้วยน้ำก่อนจะส่งแก้วคืนมาให้

"ก็น่าจะเป็นอย่างนั้นนะครับ เพราะร่างกายคุณก็แข็งแรงดีแล้ว เหลือแต่ทำกายภาพ แล้ววันนี้คุณยังมีอาการอยากเหล้าอยู่รึเปล่าครับ?" เขาวางแก้วน้ำบนถาดแล้วหันมาถาม พร้อมกับสังเกตอาการไปด้วย

"อื้ม"  ครามหยุดคิดนิดนึงก่อนจะตอบ

"แต่ก็ไม่เห็นคุณมีอาการอยากจนมือสั่น หรือหงุดหงิดเวลาไม่ได้กินนิครับ" เขายิ้มให้ครามเล็กน้อยเพื่อให้กำลังใจ

"คงงั้นมั้ง ก็นายบอกให้พยายามนิ" ตัวครามเองก็ยังอดแปลกอยู่เหมือนกันที่ตัวเองไม่มีอาการรุนแรงเหมือนก่อนหน้านั้น อาจมีบ้างที่อยากกินแต่ก็ยังอยู่ในระดับที่พออดทนได้

"เอางี้ไหมครับ ถ้าคุณอยากกินเหล้าเดี๋ยวผมลองหาชามะลิ หรือชาโสมอะไรมาให้ไหม? ถ้าอยากกินเหล้าก็จิบชาแทน ดีต่อสุขภาพด้วย"

"ก็แล้วแต่ ถ้าคิดว่ามันได้ผล"

"ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าได้ผลรึเป่า แต่ลองดูก็ไม่เสียหายไม่ใช่เหรอครับ" ผมคิดอย่างนั้นจริงๆนะ ลองดูไม่เสียหาย ถ้ามันช่วยได้ก็ดี แต่ถ้าช่วยไม่ได้ เราก็ไม่ต้องเสียอะไรไปสักหน่อย

"อื้ม"

"ไอ้ครามเพื่อนรัก หมอตั้นมาแล้วคราฟฟฟ" หมอตั้นเปิดประตูเข้ามา แล้วส่งเสียงทักทายเจ้าของห้องอย่างอารมณ์ดี

"มาทำไมไอ้หมอ? เข้าห้องเค้าประตูก็ไม่เคาะนะมึง" หมอตั้นยักไหล่แล้วเบ้ปากทำเป็นไม่สนใจ

"อ้าวไอ้นี่ถามแปลก เป็นหมอก็ต้องมาหาคนไข้สิ" หมอตั้นตอบกวนๆแล้วเดินมานั่งปลายเตียง

"เป็นไงบ้างครับคุณขิง สบายดีไหมครับ?" หมอตั้นถามพร้อมส่งสารตาวิบวับแบบคนขี้เล่นมาให้

"สบายดีครับคุณหมอ แล้วคุณหมอล่ะครับ?" ขิงถามกลับไปตามมารยาท

"สบายดีตามประสาหมอแหละครับ"  หมายความว่าไงล่ะนั่น ขิงพยักหน้ารับคำทั้งที่ไม่เข้าใจคำตอบสักเท่าไหร่

"จะตรวจก็รีบๆ แต่ถ้าจะจีบกันก็เชิญข้างนอก" เป็นอะไรขึ้นเค้าอีก เมื่อกี้ก็ยังดูเหมือนอารมณ์ปกติอยู่ ขิงหันไปมองคราม ก่อนจะยิ้มบางๆให้หมอตั้นเพื่อเป็นการขอโทษทั้งๆที่ในใจคิดว่าตัวเองกับหมอตั้นยังก็ไม่ทันได้ทำอะไรแบบนั้นสักหน่อย แค่ทักทายกันเฉยๆเอง

ส่วนหมอตั้นก็ทำปากขมุบขมิบล้อเลียนคราม จนขิงอดไม่ได้เผลอหลุดหัวเราะออกมา แล้วรีบหุบยิ้มทันทีเพราะเจ้าตัวกำลังจ้องเขม็งอยู่

"เอ่อ...เชิญคุณหมอนั่งก่อนครับ เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้" ทั้งๆที่พยายามเลี่ยงออกมา แต่ก็ยังไม่วายถูกจ้องอย่างไม่ลดละจากคนบนเตียงที่กำลังทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเป็นยักษ์อยู่

"เกือบลืมไป ที่คุณขิงบอกว่าแคลเซียมของไอ้ครามใกล้จะหมดแล้ว ผมหามาให้แล้วนะครับ แต่ลืมไว้ที่รถ เดี๋ยวผมค่อยไปเอาให้นะครับ"

"ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมตามไปเอาที่รถก็ได้ คุณหมอจะได้ไม่ต้องกลับเอามาให้อีก" ขิงยิ้มให้น้อยๆอย่างเกรงใจ

"เอางั้นก็ได้ครับ" หมอตั้นฉีกยิ้มให้อีกครั้ง จนเขาอดยิ้มตอบไม่ได้ ผมว่าถ้าลบภาพหมอตั้นที่พูดเรื่องลามกเมื่อครั้งก่อนออก แล้วแทนด้วยภาพของวันนี้แทน หมอตั้นก็ดูเป็นหมอที่น่าเชื่อถือขึ้นมาเหมือนกันนะ ถึงจะแอบทะเล้นบ้างก็เหอะ

"ขิง ไปทานข้าวกัน อ๊ะ!! ขอโทษครับ ไม่คิดว่าพี่ครามจะมีแขก ไม่ได้ยินเสียงรถเลย"  คีย์เบิกตาขึ้นอย่างตกใจแล้วปรับสีหน้าให้เป็นปกติเหมือนเดิม ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอกับคนๆนั้นที่นี่อีกครั้ง แต่จะแปลกอะไรในเมื่อเค้าเป็นเพื่อนของพี่ชายเราแถมยังเป็นหมออีก หมอก็ต้องมาดูคนไข้สิ แต่ทำไมเขาไม่รู้ว่าเค้าเป็นหมอเจ้าของไข้ของพี่คราม คีย์เผลอคิดถึงเรื่องราวในอดีตครู่นึงก่อนจะยิกแขนตัวเองเพื่อบอกตัวเองว่าให้เลิกสนใจ เจ็บแล้วให้จำ

"ไม่เป็นไร เข้ามาสิ" ครามเอ่ยอนุญาต คีย์เลยจำยอมต้องเดินเข้ามาโดยปฏิเสธเสียไม่ได้

"เพิ่งมาถึง ไม่เหนื่อยเหรอเรา?" คีย์ส่ายหัวบอกว่าไม่แล้วเดินมานั่งลงอีกฟากหนึ่งของเตียง ก่อนจะเหลือบมองแขกของพี่ชายก่อนครู่นึง

"แล้วได้เจอป้าน้อยรึยัง วันก่อนเห็นบ่นหาอยู่?"

"เจอมาแล้วครับ เลยแวะเมาท์กันนิดหน่อยก่อนจะขึ้นมานี่แหละ อิอิ" อาการกระสับกระส่ายแปลกๆของคีย์ถูกกลบด้วยเสียงใสๆแล้วตามด้วยเสียงหัวเราะร่าเริง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังรู้สึกว่าเพื่อนต้องมีอะไรสักอย่างแน่ๆ คีย์เพื่อนเขาไม่ใช่คนที่ประหม่าอะไรง่ายๆแบบนี้ แถมคนตรงหน้ายังเป็นหมอตั้นเพื่อนของคุณครามอีก ทั้งสองคนน่าจะรู้จักกันมาก่อนไม่ใช่เหรอ?

"อ้อ...เมาท์กับพวกป้าน้อยเรื่องพี่อะเหรอ?" ครามถามอย่างแซวๆ

"เปล่านะ คีย์ยังไม่ได้เมาท์เรื่องพี่ครามสักหน่อย เรื่องขิงต่างหาก" คีย์ปฏิเสธหน้าซื่อตาใสแล้วหันมามองขิง ไม่อยากหันไปมองอีกคนที่อยู่ตรงข้ามกัน ไม่อยากคิดถึงมันอีก ไม่ว่าเค้าจะเป็นยังไงมันก็ไม่เกี่ยวกับเราอีก คีย์บอกตัวเองอีกครั้งพร้อมกับเสียงโทรศัพท์ของตนเองที่ดังขึ้น เพลงเรียกเข้าเพลงนี้เขาเอาเข้าโปรแกรมตัดเองและใช้มันมาได้สี่ปีแล้วไม่เคยเปลี่ยน เขาชอบเนื้อหาของเพลงขีดเส้นใต้ ถึงแม้ว่ามันดูเศร้าแต่มันก็คือความจริงของความรักในอีกแง่มุมหนึ่ง

คีย์รีบกดปิดเสียงแล้วขอตัวออกมารับโทรศัพท์ข้างนอก เพียงครู่เดียวขิงก็ออกมาตาม เขารู้ว่าเพื่อนอยากถามอะไรสักอย่างซึ่งมันต้องเกี่ยวข้องกับคนในห้องนั้นแน่ๆ เขามองตาเพื่อนแป๊บเดียวก็รู้ว่ามันเป็นห่วงแต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ ขิงบีบมือคีย์เบาๆอย่างให้กำลังใจ

"ไหวไหม?" ขิงถามเพื่อน เพราะตั้งแต่คบกันมาสี่ปีพวกเขาไม่เคยมีเรื่องปิดบังกันเลย แม้แต่เรื่องรักแรกของคีย์กับเพลงๆนั้นที่คีย์ไม่เคยเปลี่ยน แม้ว่าจะมีเพลงใหม่ๆออกมามากมายแค่ไหน เพื่อนของเขาก็ยังใช้เพลงเดิม ทีแรกที่แนะนำให้เปลี่ยน คีย์ก็เปลี่ยนแต่ไม่กี่วันก็กลับมาใช้เพลงเดิมอีก จนเขาแอบเห็นโน๊ตเพลงๆนี้ที่ซ่อนอยู่ในหนังสือเล่มหนึ่งในห้องคีย์โดยบังเอิญ ทีแรกเข้าใจว่าคีย์แกะมาไว้เล่นกับกีตาร์โปร่งเฉยๆ แต่พออ่านด้านหลังแล้ว ถึงได้รู้ว่าทำไมคีย์ถึงชอบเพลงนี้ แล้วมันมีความหมายยังไงกับเจ้าตัว

"ไหว เข้าไปข้างในกันเถอะ"

"ไปตามกันถึงที่ไหนมาสองคน นึกว่าหายไปด้วยกันซะแล้ว" ครามถาม

"อิอิ ไม่ได้หายไปไหนมาสักหน่อย คีย์แค่คุยโทรศัพท์นานไปหน่อย ขิงเลยต้องรอ"

"เอ่อ ไอ้หมอนี่น้องชายกู ชื่อคีย์ ยังจำได้ไหม?" ครามเอ่ยถามเพื่อนของตัวเองที่นั่งเงียบมาตั้งนานแล้ว

"อ้อ!! จำได้ นึกว่าใครคุ้นๆหน้า ที่แท้ก็น้องคีย์คนสวยนั่นเอง ไม่เจอกันตั้งนาน ยิ่งโตยิ่งสวยขึ้นนะ" หมอตั้นเอ่ยแซวยิ้มๆ แต่คีย์กลับสะบัดหน้าใส่ ปกติต้องยิ้มรับไปแล้วถ้ามีคนชมแบบนี้ คีย์มันเป็นมนุษยสัมพันธ์ดี เข้ากับคนอื่นง่าย ไม่ว่าเค้าจะชมมันว่าสวยหรือน่ารักมันก็ยิ้มรับหมด

"แล้วคีย์ล่ะจำเพื่อนพี่ได้ไหม?"

"จำไม่ได้ แล้วก็ไม่อยากจำด้วยครับ" เจ็บไหมล่ะนั่น เป็นเขาคงจะเจ็บๆคันๆน่าดูก็เพื่อนเขาปากธรรมดาเสียที่ไหน แต่หมอตั้นยังยิ้มได้อยู่ นับถือเลย

"อะไรกันครับน้องคีย์ สมัยก่อนยังตามตูดพี่อยู่ต้อยๆๆ เรียกพี่ตั้นจ๊ะ พี่ตั้นจ๋าอยู่เลย มาตอนนี้กลับจำกันไม่ได้ซะละ มันน่าน้อยใจจัง" คีย์เม้มปากกำมือตัวเองแน่น เพราะทั้งหมดที่คนๆนั้นพูดมามันคือความจริง สมัยก่อนเขาติดผู้ชายคนนี้มากจริงๆ ติดยิ่งกว่าพี่ครามที่เป็นลูกพี่ลูกน้องแท้ๆกันซะอีก วันหยุดก็ร่ำร้องบอกพ่อว่าจะไปเล่นบ้านเค้า อยากให้เค้าไปรับกลับจากโรงเรียน ให้สอนการบ้านให้ทั้งๆที่เป็นแค่น้องชายเพื่อนเท่านั้น พอเข้ามัธยมต้นก็ยิ่งสนิทกันไปอีก เค้าเรียนอะไรเราก็เรียนตาม ทำตามไปซะทุกอย่างที่เค้าสนใจ เหมือนเป็นไอดอลคนหนึ่ง เคยคิดเหมือนกันว่าทำไมเราถึงติดเค้าขนาดนี้หรือเป็นเพราะเราเป็นลูกคนเดียวเค้าก็เป็นลูกคนเดียวล่ะมั้งถึงอยู่ด้วยกันได้ จนไม่รู้ว่ามันกลายเป็นความรู้สึกรักตั้งแต่เมื่อไหร่ ถ้ารู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ เขาขอไม่รู้จักกับคนๆนี้ซะดีกว่าหรือไม่ก็รู้สึกจักแค่ว่าเป็นเพื่อนของพี่ชายที่ไม่ค่อยสนิทกันก็พอ คีย์ยิ้มขืนๆให้ตัวเอง

"มึงก็อย่าแกล้งน้องกูให้มันมากนัก เพราะปากแบบนี้ไง คีย์มันเลยไม่ชอบมึง ทั้งๆที่เมื่อก่อนอะไรก็พี่ตั้นๆ แท้ๆ" ครามส่ายหัวไปมาอย่างปลงๆ แล้วเอ่ยปรามเพื่อนตัวเอง

"ก็นะ" หมอตั้นตอบรับคำแต่ก็ไม่วายยิ้มมุมปากอย่างคนเจ้าเล่ห์ส่งมาให้คีย์ เพราะอย่างน้อยเขาก็ไม่ถูกเมินเหมือนก่อนหน้านี้ คนตัวเล็กนั่นแทบจะไม่มองมาที่เขาเลย ทำเหมือนกับเขาเป็นอากาศธาตุอย่างนั้นแหละ


"พี่คราม คีย์ขอตัวขิงไปทานข้าวเป็นเพื่อนสักชั่วโมงนะ คิดถึง ไม่ได้เจอกันเกือบเดือนละ" เป็นคีย์ซะเองที่ทนสายตาของหมอตั้นไม่ได้ เลยเอ่ยปากขออนุญาตครามพาขิงออกมาข้างนอก

"ได้ แต่อย่าไปไกลล่ะ เพราะเค้าต้องดูแลพี่อยู่" ครามเอ่ยอนุญาต

"แล้วพี่ครามทานข้าวรึยัง? ไปทานกับพวกเราไหม?" คีย์เอ่ยถามพี่ชายโดยที่ไม่ปรายตาไปมองเพื่อนของพี่ชายที่อยู่ข้างๆกันอีกเลย

"ไม่ดีกว่า เอาไว้มื้อหน้าละกัน" ครามเอ่ยปฏิเสธเพราะคิดว่าถ้าลงไปตอนนี้คงจะลำบากคนอื่นอีก

"ชวนแต่ไอ้คราม ไม่ชวนพี่เหรอครับน้องคีย์?" หมอตั้นถามอย่างกวนๆ ตั้งใจจะแกล้งคนตัวเล็กกว่า

"ไม่!!" คีย์ปฏิเสธเสียงแข็งแล้วค้อนใส่หมอตั้นวงใหญ่

"ใจร้ายจัง" ส่วนหมอตั้นก็ใช่ว่าจะยอมแพ้ แกล้งตีหน้าเศร้าที่ดูยังไงมันก็ไม่ดูเศร้าเลยสักนิดในสายตาคีย์

"มึงก็ชอบแหย่น้องกูจัง รู้ทั้งรู้ว่ามันไม่ชอบ"

"ก็คนมันยั่วขึ้นนี่หว่า หึๆๆ"

"ไปกันเถอะขิง ไม่อยากอยู่ใกล้หมอปากเสีย" คีย์ตอบกลับไปอย่างแสบทรวง ในเมื่อเวลามันผ่านไปนานแล้วก็ขอให้มันผ่านเลย อย่าได้เอาความทรงจำเหล่านั้นมาทำร้ายตัวเองอีก คิดได้อย่างนั้นแล้วก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเศร้าอีก แค่เค้าไม่รัก ก็ไม่ได้ทำให้เราอยู่ไม่ได้สักหน่อย คีย์ให้กำลังใจตัวเอง

"สมน้ำหน้า เป็นไงโดนเด็กด่าซะเสียหมาเลย?" ครามถามเพื่อนที่ยังยิ้มไม่หุบตั้งแต่น้องชายตัวเองออกไป

"ก็ไม่เป็นไง ยังน่าแกล้งอยู่เหมือนเดิม หึๆๆ" หมอตั้นหัวเราะในลำคอจนครามส่งเสียงหึออกมาเบาๆ เพราะไม่รู้จะปรามเพื่อนตัวเองยังไงแล้ว ไอ้หมอนี่ถ้ามันรั้น มันก็จะรั้นจนถึงที่สุดเหมือนกัน ใครบอกหรือเตือนอะไรมันก็ไม่ฟังเหมือนกัน เขารู้ดี สมัยก่อนเขาทั้งอิจฉาที่มันทั้งเรียนเก่งกว่า น้องชายเขาติดมันมากกว่า แต่ไม่รู้ไปยังไงมายังไงจากที่เคยทำตัวเป็นพี่ชายที่แสนดี มันก็คอยทำตัวห่างเหินกับน้อง แถมยังแกล้งซะจนคีย์ไม่ชอบขี้หน้ามันมาจนถึงทุกวันนี้





(ต่อ)





หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 6 (27/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 27-10-2015 15:57:09


(ต่อ)








"ไปทานข้างนอกไหม เดี๋ยวมื้อนี้เราเลี้ยงเองในฐานะเจ้าบ้าน? อิอิ"  ออกมาจากห้องนั้นได้คีย์ก็ปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ แล้วบอกกับตัวเองว่าจะไม่มีวันกลับไปเป็นแบบเดิมอีก ต่างคนต่างอยู่แหละดีที่สุด

"ทานที่นี่แหละคีย์ เรายังอยู่ในเวลาทำงานอยู่เลย ทานเสร็จจะได้กลับไปดูคุณครามต่อเลย" เขาคิดอย่างนั้นจริงๆ ไม่อยากให้คนอื่นมาว่าได้ว่าตัวเองเบียดเบียนเวลางาน ถึงแม้ว่าเจ้านายจะอนุญาติก็เหอะ

"โหย ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ หมอปากหมานั่นยังอยู่ข้างบนอยู่เลย ก็ให้เค้าดูแลไปก่อนสิ" คีย์ตอบเสียงกระแหนะกระแหน

"เรียกแบบนั้น เดี๋ยวเค้ามาได้ยินจะว่าเอานะ" คีย์เบ้ปากไม่ยอมเห็นด้วย

"ว่าก็ช่างสิ มันคือความจริง ทีอิตาหมอนั้นยังว่าเราได้เลย" เถียงอย่างไม่ยอมลดละ เขาล่ะเชื่อเลย นี่แหละคีย์ตัวจริงเสียงจริง

"เค้าก็แค่หยอกเล่นเอง อย่าคิดมาก" ขิงพูดคลี่คลายสถานการณ์

"หยอกอะไรกันล่ะ เห็นปากแบบนี้มาตั้งนานแล้วเหอะ"

"จ้าๆ แล้วสรุปโอเครึยังตอนนี้?" ขิงถามอย่างเป็นห่วง

"ก็โอนะ แค่ตกใจน่ะไม่คิดว่าจะได้เจอเค้าที่นี่ ไม่คุยเรื่องนี้ละ เปลี่ยนเรื่องดีกว่า แล้วขิงอะเป็นไงบ้าง?"

"หมายถึงอะไรล่ะ? ชีวิตความเป็นอยู่ หรือการดูแลพี่ชายคีย์?" เขาถามกลับเพราะไม่รู้ว่าต้องตอบยังไงดี คำถามกว้างเกิน

"ก็ทั้งสองแหละหน่า"

"ความเป็นอยู่ที่นี่ก็ดีนะ ดีมากเลยล่ะ คุณป้าก็ใจดี พี่นุ้ยก็นิสัยดี ช่วยเหลือเราหลายๆอย่าง ลุงแช่มก็ดี เอาเป็นว่าทุกคนดีกับเรามากเลยล่ะ นึกว่ามาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองแบบนี้จะลำบากซะแล้ว" ความจริงตอนจะมาอยู่ที่นี่แรกๆ นึกว่าจะเข้ากับคนที่นี่ไม่ได้ซะอีก เพราะเราเป็นคนเข้าหาคนอื่นไม่เก่ง แต่ที่ไหนได้คนที่นี่น่ารัก ใจดีมากเลยล่ะ

"คนที่นี้เค้าใจดี ยิ่งถ้ารู้ว่าขิงเป็นเพื่อนเรา ก็ต้องยิ่งดีเป็นพิเศษอีก แล้วกับพี่ชายเราล่ะ?" คีย์ยิ้มแล้วก็ถามต่ออีก เพราะอยากรู้วีระกรรมของพี่ชายตัวเองระหว่างที่เพื่อนเขาดูแลอยู่

"ก็ดีขึ้นมั้ง!! ไม่รู้สิ บางครั้งก็ดูอารมณ์เสียง่าย ขึ้นๆลงๆ ขี้หงุดหงิด เอาแต่ใจ แต่บางครั้งก็ว่าง่าย เป็นผู้ใหญ่" เขาร่ายยาวบอกคีย์

"ไหวไหม?" คีย์ถามเพราะรู้ว่าพี่ชายตัวเองพยศแค่ไหน

"ถ้าไม่ไหว แล้วเรากลับได้เหรอ? สัญญาก็เซ็นต์ไปแล้ว?" ขิงถามทีเล่นทีจริง

"ห๊ะ??" คีย์ร้องออกมาอย่างตกใจ ปนงง

"เซ็นต์สัญญาไปแล้ว" เขาพูดช้าๆชัดๆให้ฟังอีกครั้งเผื่อเมื่อกี้คีย์ยังตกใจจนเบลอไป

"ทำไมถึงเซ็นต์ล่ะ? ปกติพี่ครามแทบจะไล่นักกายภาพหรือพยาบาลออกรายเดือนโดยไม่ต้องเซ็นต์สัญญาด้วยซ้ำ ยิ่งถ้าเป็นพยาบาลหรือนักกายภาพสาวๆ ที่จ้องพี่ครามตาเป็นมัน แล้วหวังจะจับล่ะก็นะ ไม่โดนแกล้งก็โดนไล่ตะเพิดจนเผ่นแนบไปไม่ทันเลยล่ะ แปลก!!" คีย์ขมวดคิ้วถามอย่างไม่น่าเชื่อ

"เค้าคงเห็นแก่ความพยายามของเรามั้ง  เพราะก็รับปากเค้าไว้แล้วว่าจะทำให้เค้ากลับมาเดินได้ปกติอีกครั้งมั้ง เค้าเลยให้เซ็นต์สัญญากันเราหนีนี่ไง อิอิ" ขิงตอบตามที่คิด

"อื้ม!! แล้วไม่สนใจพี่ชายเราจริงๆ เหรอ? พี่ชายเราหล่อนะ ทั้งคมเข้ม หุ่นก็ดี ดูมาดแมนอีกต่างหาก" ขิงขมวดคิ้วมุนใส่คีย์ แล้วมองตาหาคำตอบว่าเจ้าตัวกำลังคิดอะไรอยู่

"ไม่เอาดีกว่า เรายังอยากมีชีวิตการทำงานที่ดีอยู่ แล้วเราก็มีเจอยู่แล้วด้วย" พูดไปถึงเจก็คิดถึง ไม่รู้ว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่นะ

"แล้วถ้าไม่มีเจล่ะ เราอยากได้ขิงเป็นพี่สะใภ้เรานะ"

"ตลกละ พูดอย่างกับว่า ถ้าเราสนใจพี่ชายคีย์ขึ้นมาแล้วเค้าจะสนใจเรางั้นแหละ เค้าเป็นผู้ชายเต็มร้อยนะไม่ใช่เกย์สักหน่อย แล้วเราก็รักเดียวใจเดียวด้วยอย่าลืมสิ"

"จ้าพ่อคูณ รักเดียวใจเดียว ระวังไว้เหอะปล่อยนายเจอยู่กรุงเทพฯ คนเดียว ระวังมันจะไปป้อคนอื่นนะ อิอิ"  เคยมีคนบอกเหมือนกันนะว่าเจเป็นคนเจ้าชู้เงียบ แต่ตั้งแต่คบกันมายังไม่เคยเห็นเจนอกลู่นอกทางเลย หรืออาจจะมี แต่เราไม่รู้ เพราะเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมงสักหน่อย ขิงถอนหายใจเลิกคิดเรื่องนี้ เพราะยิ่งคิดยิ่งทำให้ตัวเองไม่สบายใจแล้วระแวงเปล่าๆ

"ถ้าเป็นแบบนั้นจริงก็ต้องปล่อยมันไป ถือซะว่าเป็นบททดสอบความรักละกัน" ขิงตอบอย่างปลงๆ ใจหนึ่งก็อดคิดไม่ได้ แต่อีกใจก็อยากปล่อยมันไปเพราะมันยังมาไม่ถึง เขาไม่อยากเป็นกังวลกับมันอะไรมันจะเกิดมันก็ต้องปล่อยให้มันเกิดนั่นแหละ

"เราขอโทษนะที่ปากไม่ดี จนขิงคิดมากเลย โอ๋ๆๆ อย่าซีเรียสนะ ป๊ะไปหาพี่นุ้ยกัน"

"อื้ม คีย์อยากทานอะไรอะ จะได้บอกให้พี่นุ้ยทำให้"

"ไม่ต้องบอกหรอก เมื้อกี้เราเห็นป้าน้อยทำแกงส้ม ชะอมไข่ ทานอันนั้นแหละ ไม่ได้ทานฝีมือป้าน้อยนานแล้ว พูดแล้วน้ำลายสอเลย อิอิ"

"งั้นเดี๋ยวรอตรงนี้ก่อนนะ เราไปบอกเค้าก่อนว่าให้ยกไปคุณคราม แล้วก็เอามาให้คีย์ด้วย" ขิงลุกเดินเข้าไปในครัวอย่างรวดเร็ว เพราะเกรงว่าถ้าคุยกันต่อเดี๋ยวจะเลยเวลาทานข้าวของคุณคราม แล้วมันจะดูน่าเกียจ เค้าจ้างมาทำงาน ไม่ได้จ้างให้มาอยู่สุขสบายเป็นเจ้าของบ้านสักหน่อย



"พี่นุ้ยครับ" ผมเรียกพี่นุ้ยที่กำลังง้วนอยู่กับหม้ออะไรสักอย่างที่ตั้งบนเตาแก๊สอยู่

"ว่าไงค่ะคุณขิง?" พี่นุ้ยเงยหน้าขึ้นมาตอบ

"เดี๋ยวรบกวนช่วยยกข้าวไปให้คุณครามหนึ่งสำรับนะครับ แล้วถามคุณหมอด้วยว่าจะทานด้วยรึเปล่า? จะได้ยกไปทานด้วยกันเลย"

"นี่คงจะเป็นนักกายภาพคนใหม่ที่เข้ามาดูแลนายหัวสินะ?" เขาเพิ่งสังเกตเห็นว่าในครัวมีใครอีกคนอยู่ด้วย เลยไม่ได้ยกมือไหว้แต่ทีแรก

"ครับ" ขิงยิ้มให้ป้าน้อย

"คุณขิงค่ะ นี่ป้าน้อยเป็นแม่นมของคุณคราม แล้วก็คนดูแลที่นี่ค่ะ" ตกใจไม่คิดว่าคุณครามจะมีคุณแม่นมกับเค้าด้วย อย่างกะในหนังเลยแหะ ขิงคิดในใจ

"สวัสดีครับ ป้าน้อย ผมขิงครับ เป็นนักกายภาพของคุณคราม ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ" ผมยกมือไหว้อย่างที่คิดว่าเคารพนอบน้อมที่สุดสำหรับผู้ใหญ่ แล้วก็ยิ้มให้แกไปด้วย

"นักกายภาพหุ่นบางแค่นี้จะดูแลนายหัวไหวเหรอ? ไม่ใช่ว่างานหนักหน่อยก็ทำไม่ไหวแล้วชิงลาออกไปก่อนนะ" ป้าน้อยแกมองขิงตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าแล้วก็มองจากปลายเท้าขึ้นไปใหม่ อะไรของป้าแกเนี๊ยะ ขิงเกาหัวงงๆ

"ไหวครับ งานหนักผมไม่กลัวหรอกครับ ผมจะดูแลนายหัวของป้าให้ดีที่สุดแน่นอนครับ " ผมยิ้มให้แกไปอีกครั้ง

"ก็ดี แล้วชั้นจะคอยดู แล้วทำไมต้องให้นุ้ยยกกับข้าวขึ้นไปให้ ทั้งๆ ที่มันหน้าที่ตัวเองที่ต้องดูแลนายหัวไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่ทำเองล่ะ?" แกถามพร้อมกับสายตาที่มองลอดแว่นออกมาอย่างตำหนิ เจองานยากละขิงเอ๊ย ขิงคิดในใจ

"เอ่อ...ป้าค่ะ ปกติคุณขิงเธอก็เป็นคนจัดการเองเสร็จสรรพอยู่แล้วค่ะ เพียงแต่ว่าเมื้อกี้คุณคีย์มา เธอคงขอยืมตัวคุณขิงมานั่งทานข้าวด้วยมั้งคะ" พี่นุ้ยเห็นว่าผมกำลังถูกจ้องอยู่เลยพยายามเข้ามาช่วย ซึ่งผมก็โล่งอกนะ ผมไม่อยากจะปะทะกับผู้ใหญ่สักเท่าไหร่ เพราะยังไงเสียแกก็คือผู้ใหญ่ แถมยังเป็นแม่นมของคุณครามอีก

"ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็ไปสิ แต่อย่าให้นานจนลืมเวลาดูแลนายหัวล่ะ" ป้าแกว่าแล้วสำทับมาก่อนที่จะหมุนตัวไปทำอย่างอื่นต่อ

"ครับ"

"คุณขิงเอาอะไรอีกไหมค่ะ เดี๋ยวพี่จะได้เอาให้?" พี่น้อยถามแล้วยิ้มให้ผมแหยๆ อย่างเข้าใจ ผมก็เข้าใจนะครับ แต่ไม่ทั้งหมด เข้าใจว่าแกคงเป็นห่วงนายหัวของแก แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมแกถึงทำตัวเหมือนมีอคติกับผมตั้งแต่วันแรกแบบนี้

"ไม่เป็นไรครับพี่นุ้ย ผมจัดการเองดีกว่าครับ พี่นุ้ยจะได้จัดสำหรับของนายหัวเลย เธอคงหิวแล้ว" ผมเอ่ยปฏิเสธเพราะแทนที่จะให้พี่นุ้ยทำให้ผม แต่ให้จัดให้คุณครามเลยดีกว่าจะได้ไม่ดูเป็นการรบกวนคนอื่นจนเกินไปด้วย

"ค่ะ งั้นมีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกได้นะคะ" ผมยิ้มแล้วก็ก้มหัวรับคำเพื่อเป็นการขอบคุณ จากนั้นก็ตักแกงส้มกับเครื่องเคียงใส่ถาด ส่วนข้าวก็ตักใส่โถไว้แล้วเรียบร้อย

"ขอบคุณครับ เอ่อ..พี่นุ้ยครับ ยาก่อนอาหารอีกตัวหนึ่งของคุณครามอยู่ที่โต๊ะหัวเตียงนะครับ ผมเตรียมไว้ให้แล้ว ส่วนยาหลังอาหารเดี๋ยวผมจัดการเองครับ จะได้ไม่รบกวนเวลาทำงานพี่นุ้ย" ดีนะที่ผมจัดการอะไรไว้แล้วก่อนที่จะลงมา ไม่งั้นคงดูเหมือนเป็นการทำงานที่ไร้ความรับผิดชอบเต็มที

"รบกวนอะไรกันคะ อยู่บ้านเดียวกัน ต้องช่วยๆกันค่ะ"

"ครับ งั้นผมเอาสำหรับนี้ไปทานกับคีย์ก่อนนะครับ เดี๋ยวตามไป" ผมยิ้มให้พี่นุ้ยนิดนึงแล้วยกสำรับออกไป

"ทำไมไปนานอะ?" คีย์ถามขึ้นมาทันทีที่ผมยังไม่ทันได้นั่งเก้าอี้เลย

"พอดีเจอป้าน้อย เลยพูดคุยทำความรู้จักกันหน่อยน่ะ เพิ่งได้เจอป้าเค้าวันนี้เอง" ผมก็ตอบไปตามความจริงแต่เหลืออีกส่วนที่โดยป้าน้อยแกฉะมาเล็กๆที่ไม่ได้บอก แล้วก็คิดว่าไม่จำเป็นต้องบอกด้วย เพราะบอกไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา มันดูน่าเกียจที่พูดถึงแกลับหลังแบบนั้น ยังไงแกก็เหมือนญาติผู้ใหญ่ของที่นี่

"อ๋อ แล้วเป็นไงอะ?"

"ก็ไม่เป็นไงอะ ทานเถอะ เดี๋ยวเย็นจะไม่อร่อย" ผมเลี่ยงที่จะตอบเลยบอกให้คีย์รีบๆทานตอนที่ยังร้อนอยู่

"นึกว่าโดนป้าแกว่ามา ความจริงป้าแกก็เป็นคนใจดีนะ แต่ติดจะหวงพี่ครามมากไปหน่อย เพราะแกเป็นคนเลี้ยงมาตั้งแต่ยังเล็กๆ คงจะหวงตามประสาแม่นมแหละ อีกอย่างคนดูแลคนก่อนๆ ก็ร้ายใช่เล่น คราวนี้เลยเปลี่ยนเป็นผู้ชายเลย" คีย์อธิบายให้ฟังก่อนจะใช้ช้อนตักแกงส้มเข้าปาก แล้วส่งสายตาวิบวับอย่างถูกใจ ผมเลยตักชิมบ้าง ปรากฏว่าฝีมือป้าแกอร่อยจริงๆนั่นแหละครับ สมคำร่ำรือทั้งคุณครามแล้วก็พี่นุ้ยเอ่ยชม

"อื้ม เราก็เข้าใจแหละ"

"พูดแบบนี้ แสดงว่าโดนว่ามาแล้วเรียบร้อยสิ นี่ขนาดนักกายภาพเป็นผู้ชายนะ ยังโดน ถ้าเป็นผู้หญิงจะโดนเท่าไหร่เนี๊ยะ เราไม่อยากจะคิดเลย เดี๋ยวอยู่ๆ ไปก็ดีเองแหละ ป้าแกคงชอบขิง เพราะขิงตั้งใจดูแลพี่ครามดี เรารู้ อิอิ" คีย์เคี้ยวงุบงับแล้วพูดให้กำลังใจ ผมเห็นแบบนี้ก็ยิ้มตาม เพราะคีย์ดูจะเอร็ดอร่อยกับอาหารมื้อนี้มาก ส่วนเรื่องป้าน้อยผมก็ไม่ได้เก็บมันมาใส่ใจหรอกครับ ฟังแบบนี้แล้วก็เข้าใจมากกว่า เพราะถ้าเป็นผมแม่ก็คงหวงแบบนี้เหมือนกัน

"อย่ามาคาดหวังในตัวเรานักเลย เรายังไม่รู้เลยว่าจะทำได้ดีไหม?" ถึงตอบไปแบบนั้นแต่ผมก็มั่นใจนะว่าคุณครามจะหายเป็นปกติได้ เอาเกียรติของนักกายภาพเป็นประกันเลย

"เอาหน่า เรารู้จักขิงดี ว่าขิงต้องทำได้ สู้ๆ" คีย์ชูกำปั้นขึ้นมาเพื่อให้กำลังใจ พร้อมฉีกยิ้มให้

"อื้อ!!"

"แล้วกลับมานี่ จะมาช่วยบริษัทคุณพ่อคีย์เลยเหรอ?"

"ยังหรอก ขอพักสักอาทิตย์สองอาทิตย์ก่อนค่อยเริ่ม" คีย์ยกน้ำขึ้นดื่มก่อนตอบ พูดถึงเรื่องช่วยงานที่บ้าน ก็คิดถึงที่บ้านเหมือนกันนะ ความจริงก็คิดอยู่ว่าเสร็จงานนี้จะกลับไปช่วยที่บ้านดีไหม? จะได้อยู่ดูแลพ่อแม่ด้วย ท่านก็แก่แล้ว ถึงจะมีพี่ขุน กับพี่ขิม ดูอยู่แล้วก็เหอะ แต่งานที่บ้านก็ไม่ใช่น้อยๆ เห้ออออ พ่อกับแม่จะเป็นยังไงบ้างนะ? ไม่ได้โทรหาเป็นอาทิตย์แล้ว

"ดีจังนะ เป็นลูกที่ดีกลับมาช่วยงานที่บ้าน เราก็คิดอยู่เหมือนกันว่าเสร็จงานนี้จะกลับไปช่วยงานที่บ้าน"

"ที่เชียงใหม่อะนะ ไกลอะ ถ้าเกิดกลับไปอยู่บ้าน แล้วนายเจล่ะ ไม่เฉาตายแย่เหรอ?" นี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ต้องคิด จะให้ไปอยู่ด้วยกันที่เชียงใหม่ เจก็คงไม่ไปแน่ เพราะบ้านเราไม่ได้อยู่ในตัวเมือง อยู่อำเภอรอบนอกเสียด้วยซ้ำ ถึงจะเป็นในตัวเมืองเชียงใหม่ เจก็คงไม่มาหรอก เพราะเจติดสังคมแบบกรุงเทพฯ ไหนจะเพื่อนฝูงอีก ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่

"ไม่รู้สิ เอาไว้ถึงตอนนั้นค่อยคิดดีกว่า ตอนนี้ยังต้องดูแลพี่ชายคีย์ไปอีกนานอยู่"

"นั่นสินะ ทำวันนี้ให้ดีที่สุดก่อนดีกว่าเนอะ"



......................


"ก๊อกๆๆ ทานข้าวเสร็จแล้วใช่ไหมครับ? เดี๋ยวอีกสักพักค่อยทานยาหลังอาหารนะครับ" หลังจากทานข้าวเสร็จผมก็กลับห้องไปแปรงฟัน ล้างหน้าแล้วกลับไปดูแลคุณครามต่อ ส่วนคีย์ก็กลับบ้านไปแล้ว เห็นบอกว่าพ่อโทรมาตาม แต่ก่อนกลับยังไม่วายแซวผมเรื่องคุณครามอีก หึๆๆ จะเป็นไปได้ไง เพ้อเจ้อไปใหญ่แล้วเพื่อนคนนนี้

"อื้ม" ครามตอบรับสั้นๆ

"แล้วหมอตั้นล่ะครับ ทานได้ไหมครับแกงส้ม?" ผมถามหมอตั้นเพราะคิดว่ามันคงดูน่าเกียจถ้าจะถามแค่คุณครามที่เป็นเจ้านายคนเดียว เพราะหมอก็อยู่ตรงนั้นด้วย

"ทานได้ครับ อร่อย!!" หมอยิ้มมาให้เพื่อเป็นการยืนยัน ผมเลยยิ้มตอบแล้วยกถาดสำรับออกไปตั้งไว้ข้างนอก เสร็จแล้วจะได้ยกลงไปล้าง

"ตรวจเสร็จก็กลับไปดิ ข้าวก็กินแล้ว หัดเกรงใจเจ้าของบ้านบ้างเหอะมึง" ครามมองเพื่อนตัวเองทีขิงทีแล้วขมวดคิ้วมุน ไล่หมอตั้นกลับบ้านอย่างไม่สบอารมณ์ ส่วนขิงได้ขมวดคิ้วไม่เข้าใจว่าโมโหอะไรอีกแล้ว เพราะข้าวก็กินแล้ว จะว่าโมโหหิวก็คงไม่ใช่

"เจ้าของบ้านเค้าไล่แล้วครับ งั้นผมคงต้องกลับแล้วครับคุณขิง ไว้มีโอกาสผมจะพาไปเที่ยวนะครับ ครึๆ" หมอตั้นแกล้งตัดพ้อเล่นๆ แล้วโบกมือบ๊ายบาย

"ไปนะเว้ยเพื่อนคราม แล้วจะหมั่นมาเยี่ยม"

"ไปสักทีโว้ย รำคาญ แล้วก็ไม่ต้องมาบ้านกูบ่อย เหม็นขี้หน้า เปลืองข้าวเปลืองน้ำ"

"ขี้เหนียวจริงนะครับนายหัว เลี้ยงเพื่อนแค่นี้ ขนหน้าแข้งไม่ล่วงหรอกครับ หึๆๆ" หมอตั้นแกล้งแซวแล้วหัวเราะหึๆตบท้าย

"กวนตีน!!" คุณครามยกขาขึ้นจะถีบหมอตั้นแต่ลืมไปว่าตัวเองยังใช้ขาได้ไม่ได้ปกติ จึงยกค้างไว้แล้วทำยู่หน้าเพราะเจ็บ ส่วนหมอตั้นก็ทำหน้าทำตาเยาะเย้ยแล้วชี้นิ้วลงไปที่ขาของคุณคราม จากนั้นก็ชี้หน้าคุณครามสลับกันไปอย่างกวนๆ จนผมอดยิ้มตามไม่ได้ที่นายหัวสุดโหดถูกคนอื่นแกล้งบ้าง

"ไปจริงๆ ล่ะครับคุณขิง คราวนี้คงอีกหลายอาทิตย์ กว่าจะได้มาเห็นรอยยิ้มหวานๆ ของคุณขิงอีก อย่าลืมคิดถึงผมบ้างนะครับ ครึๆ" หมอตั้นทำหน้าสลดแล้วเปลี่ยนเป็นยิ้มหวานอย่างอดอ้อนส่งมาให้ก่อนจะเดินออกห้องไป ผมไม่ถือสาคนอย่างหมอตั้นหรอกครับ ไม่ว่าเค้าจะเล่นอะไรมันก็ดูตลกเสียมากกว่า ทั้งการส่งสายตามาให้ การออดอ้อน หรือทำสีหน้าแกล้งสลด ผมว่าเค้าเป็นขี้เล่นดีนะครับ ทั้งที่รู้จักกันได้ไม่นานแท้ๆ แต่ยังเข้ากันได้ง่ายขนาดนี้ อยู่กับคนไหนก็ทำให้เค้ายิ้มไปด้วยเลย

"มองตามมันขนาดนั้น ไม่ตามมันไปเลยอะ" ขิงหันขวับมาตามเสียงประชดของครามที่ตอนนี้กำลังนั่งอยู่บนโซฟากลางห้องที่หมอตั้นเป็นคนพยุงมา

"ตามไปได้ด้วยเหรอครับ?" ขิงเอ่ยถามเล่นๆ แต่คุณดูเหมือนว่าครามคงไม่อยากเล่นเท่าไหร่ เลยหุบยิ้มทันที ส่วนอีกคนก็จ้องมาอย่างโหดๆ

"ไม่ได้ นายยังต้องดูแลชั้นอยู่" นั่นสิ ก็รู้อยู่แล้วนิว่าผมต้องดูแลคุณอยู่ ยังจะพูดแบบนั้นอยู่อีก ใจจริงก็อยากพูดแบบนี้นะ แต่ก็ไม่ได้พูดออกไปหรอก เดี๋ยวจะมีปัญหากับนายจ้างเปล่าๆ อดทนๆขิง

"ก็นั่นสิครับ"

"สนิทกับมันมากรึไง ถึงได้ชวนกันไปเที่ยว?" ขิงเงยขึ้นมามองหน้าครามอย่างไม่เข้าใจ เป็นคำถามปกติแต่น้ำเสียงไม่ปกติ ขิงเลยต้องคิดก่อนว่าจะตอบยังไงไม่ให้กระทบกับตัวเองมากที่สุด

"ก็ระดับหนึ่งครับ" มิตรภาพดีๆ เพื่อนดีๆ ก็ควรเก็บไว้ เพราะมีคนรัก ก็ยังดีกว่ามีคนเกลียด พ่อขิงบอกไว้

"เก่งไม่เบานะ ทั้งที่เพิ่งรู้จักกันแท้ๆ ทำยังไงล่ะถึงทำให้ไอ้หมอมันเพ้อได้ขนาดนี้?" ขิงขมวดคิ้วกับคำถามของคราม

"พูดอะไรของคุณ อารมณ์เสียอะไรก็อย่ามาพาลใส่ผมสิ" ขิงพูดออกมาอย่างไม่เข้าใจอารมณ์ของคนตรงหน้าแล้วก็ถอนหายใจอย่างปลงๆ

"อย่ายุ่งกับเพื่อนชั้น ไอ้หมอมันเป็นคนซื่อ คงตามเล่ห์ใครไม่ทัน" จนแล้วจนรอดก็ยังคงคิดว่าผมจะมาหลอกเพื่อนเค้าสินะ จะบ้ารึเปล่า? คนอย่างคุณหมอเนี๊ยะนะคนซื่อ ถ้าอย่างคุณเรียกซื่อ คนทั้งโลกคงเรียกว่ามนุษย์หินกินหญ้าแล้วล่ะ พูดมาได้

"คุณหมอเค้าโตแล้วนะครับ คงไม่ถึงกับไม่รู้ว่าใครเป็นยังไง? แล้วผมก็บริสุทธิ์ใจกับเค้าในฐานะเพื่อนจริงๆ" ขิงพยายามพูดให้ชัดเจนจะได้เคลียร์ให้มันจบๆ

"ขอให้มันแน่อย่างนั้นเถอะ"

"ครับ" ขิงตอบรับคำเพราะยังไงเสียมันก็คือความจริง มีแต่คนตรงหน้าเขาเท่านั้นแหละที่เข้าใจผิดอยู่ได้ตลอด

"จะอ่านหนังสือ หรือจะทำอะไรดีครับบ่ายนี้?" ขิงพูดกับครามดีๆ เพราะอย่างน้อยแรงกันไป แรงกันมาก็ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก ยิ่งกับคนอารมณ์ร้อนแบบครามแล้วด้วย

"ชั้นอยากเคลียร์งานที่ฟาร์มมากกว่า ช่วยไปเอามาให้หน่อยได้ไหม? ไม่ได้ตรวจดูนานแล้ว" เป็นอย่างที่คาดไว้ ถ้าเราเย็นเค้าก็จะเย็นตาม แต่ถ้าเค้าร้อนแล้วเราร้อนตามก็เหมือนกับยิ่งเติมเชื้อไฟให้ลุกเข้าไปอีก

"ได้ครับ แต่อย่าหักโหม จนร่างกายรับไม่ไหวนะครับ มันจะไม่ดีเอา" ก็ดีเหมือนกันนะ ถ้าอยู่เฉยๆ คงเบื่อแล้วก็เป็นห่วงงาน ถึงไม่ได้ออกไปดูฟาร์มข้างนอก แต่ตรวจรายรับรายจ่ายหรือรายละเอียดงานคงจะทำให้เจ้าตัวไม่รู้สึกเบื่อได้อยู่มั้ง ขิงลุกไปเอางานที่ห้องทำงานครามมาให้ แล้วนั่งอ่านหนังสืออยู่บนอาร์มแชร์อีกตัวหนึ่งที่มุมห้อง เผื่อว่าเค้าต้องการให้ช่วยอะไร






...................................... TO BE CON >>





หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 6 (27/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 27-10-2015 17:21:50
 o13  .....  :L1:  ให้คนแต่งค่ะ

พี่หมอตั้นนี้ก็แกล้งคีย์จังเลยนะ....  :mew4: 
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 6 (27/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 27-10-2015 17:28:49
 :laugh:

มา แล้วๆ
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 6 (27/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 27-10-2015 18:10:04



@PFlove    ขอบคุณครับสำหรับดอกไม้ให้กำลังใจ  เค้าจำตัวเองได้ ขอบคุณคราฟที่มาติดตามบ่อยๆ

@Cavalli  เค้ากลับมาแล้ว. อิอิ  ที่หายไปคือไปทำงานมา เหนื่อยมากไม่มีเวลาแต่งเลย  (งานเค้ามันต้องเดินทางแล้วติดต่อกับต่างชาติเลยทำให้วุ่นๆตลอด แต่ก็จะพยายามมาต่อให้นะได้พัก5วัน)
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 6 (27/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 27-10-2015 18:42:59
ชอบจ้า ติดตามนะๆ
เสียแต่ว่ายังมีคำผิดเยอะอยู่
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 6 (27/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 27-10-2015 20:24:02
สนุกๆๆๆกๆ อยากอ่านอีก
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 6 (27/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 27-10-2015 22:49:32
คุณครามเริ่มชอบขิงแล้วอ่ะดิ้~ มีแอบหวงนะเรา
ขิงดูจริงใจดี กลัวใจเจว่าจะแอบนอกใจตอนอยู่ห่างกัน แต่ก็ดีนะจะได้ให้คุณครามปลอบขิงซะเลย 5555
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 7 (03/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 03-11-2015 11:58:26

อันดามัน...ซ่อนรัก
ตอนที่ 7







"ก๊อกๆๆ"

"เฮ๊ย!!" ขวัญเอ๊ยขวัญมา หันหลังกลับแทบไม่ทัน คนอะไรตัวเองกำลังแก้ผ้าอยู่แท้ๆยังอนุญาติให้คนอื่นเข้ามาได้

"หึๆๆ ทำอย่างกับไม่เคยเห็นไปได้" ครามส่งเสียงหัวเราะชอบใจที่ทำให้นักกายภาพคนเก่งหลุดฟอร์มออกมาได้

"หมายความว่าไง?" ขิงถามทั้งที่ยังหันหลังให้อยู่

"เอ้า..เช็ดตัวให้ก็เคยมาแล้ว ยังจะเขินอีกทำไม?"

"มันเหมือนกันซะที่ไหนกันล่ะ" ขิงพูดกับตัวเองเบาๆ เพราะตอนเช็ดตัวเขาไม่ได้เช็ดท่อนล่างให้ไง ลุงแช่มต่างหากล่ะที่เป็นคนทำให้

"แล้วผมหันไปได้รึยังครับ?" ขิงถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

"ก็หันมาสิ ไม่ได้ห้ามนิ" ครามตอบเสียงกวนๆ

ผมหันไปทั้งๆที่ใจยังตุ้มๆต่อมๆอยู่ แต่รู้สึกโล่งอกที่คราวนี้ไม่เจอแบบเมื่อกี้อีก ไม่งั้นคงต้องหัวใจวายตายแน่  มันน่าตกใจน้อยเสียที่ไหน เปิดประตูเข้ามาก็เจอเจ้าของห้องกำลังยักแย่ยักยันกับกางเกงตัวเดียวอยู่บนเตียง แถมยังเปลือยท่อนบนอีก ผู้ชายตัวโตๆ อกเป็นอก กล้ามเป็นกล้าม ผิวสีแทนกำลังดึงกางเกงออก บรื้ย!! ติดตาชะมัด

"คุณ.. ถอดเสื้อผ้าออกทำไม?" ขิงถามเสียงสั่นๆ

"น้ำมันหกใส่ มาช่วยดึงกางเกงออกให้หน่อยสิ "  บนกางเกงผ้าเนื้อดีสีครีมมีรอยน้ำเป็นดวงใหญ่ๆอยู่ เขาไม่ได้ทะลึ่งลามกอะไรนะ แต่มันทำให้นึกถึงอย่างอื่นมากกว่าน้ำเปล่าจริงๆ ขิงรีบสะบัดหน้าไล่ความคิดบ้าๆนี้ออกไปแล้วเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวในตู้ออกมาก่อนที่จะเดินไปหยุดอยู่ตรงปลายเตียง เขินก็เขินแต่ต้องทำเพราะมันคือหน้าที่ ท่องเข้าไว้ขิง หน้าที่ๆ อย่าฟุ้งซ่าน

"เอามาทำไม?" ครามขมวดคิ้วถามอย่างแปลกใจ

"ก็เอามาคลุมท่อนล่างของคุณไว้ก่อนไง"

"ไม่จำเป็นหรอกมั้ง ชั้นใส่กางเกงในแล้ว หรือว่านายเขิน?" แหนะ!!ยังจะถามอีก ถามอย่างเดียวไม่ว่านะ แต่หรี่ตาด้วยนี่คือยังไง?

"ไม่ตอบ แสดงว่าจริง จะว่าไปนายก็มาถูกเวลาจริงๆนะ มาตอนชั้นต้องการความช่วยเหลือพอดีเลย" ครามแกล้งพูดทีเล่นทีจริง แล้วลงท้ายด้วยเสียงหัวเราะหึๆๆในลำคอ เขาล่ะไม่ชอบน้ำเสียงกระเซ้าเย้าแหย่แบบนี้จริงๆ แล้วก็ไม่ชินด้วย จากคนที่คอยจับผิด เจ้าอารมณ์มาเป็นคนแบบนี้เนี๊ยะ

"อย่าพูดเป็นเล่นสิคุณ ผมเป็นคนดูแลคุณ ก็ต้องอยู่ใกล้ตัวคุณตลอดเวลาเป็นปกติอยู่แล้ว ใครจะเลือกช่วงเวลาแบบนั้นได้กัน" ขิงเอ็ดคนตัวโตกว่า แล้วเอามือสอดเข้าไปใต้ผ้าขนหนูสีขาวเพื่อดึงกางเกงออกจากขาให้

"นั่นสิเนอะ งั้นนายก็ควรทำตัวให้ชินได้แล้วนะ เพราะนายคงต้องเห็นชั้นแก้ผ้าแบบนี้ไปอีกนานเลย อย่างน้อยก็จนกว่าชั้นจะทำอะไรเองได้สะดวกขึ้น" คิดซะว่าพูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง ดังนั้นขิงจึงไม่ได้ตอบอะไรไป

"ใส่กางเกงดีกว่าครับ เดี๋ยวจะไม่สบายเอา"

"ถอดเสื้อผ้าแค่นี้ไม่ทำให้ชั้นป่วยหรอกหน่า "

"ถึงอย่างนั่นก็เถอะครับ ควรระวังไว้ก่อน เกิดป่วยขึ้นมา คงไม่ได้ทำกายภาพบำบัดอีก" ขิงพยายามใจเย็นยกเหตุผลต่างๆขึ้นมาเพื่อให้อีกฝ่ายรีบๆใส่กางเกงสักที ขืนยังแก้ผ้าอยู่อย่างนี้ตัวเขาเองนั่นแหละที่หายใจไม่ทั่วท้อง ไม่รู้ว่าจะเจอแจ๊คพอตเมื่อไหร่

"ครับผม"

"นี่คุณ ผมพูดจริงจังนะ ยังจะมาทำเป็นเล่นอยู่อีก"  คนเค้าอุตส่าห์หวังดี กลัวว่าจะไม่สบาย ยังจะมาทำเป็นเล่นอีก เดี๋ยวก็ปล่อยให้ใส่เองซะหรอก

"นี่นายดุชั้นเหรอ?" ครามหยุดยิ้มแล้วเอ่ยถาม

"ครับ"

"แปลกดีนะ ปกติไม่เคยมีใครทำแบบนี้กับชั้นเลย?" ตอบเสร็จครามก็เอาขาสวมเข้าไปกางเกงขาสั้นผ้าเนื้อดีที่ขิงถืออยู่อย่างว่าง่าย ผิดกับตอนแรกที่ยังไงก็ยังไม่ยอมใส่

"แบบนี้แบบไหนครับ?" ขิงขมวดคิ้วถามอย่างไม่เข้าใจ

"ก็ดุชั้นแบบนายไง"

"นี่คุณจะบอกว่า ตั้งแต่เกิดมาก็ยังไม่เคยมีใครดุคุณเลยงั้นเหรอครับ?" ขิงถามต่ออย่างอึ้งๆ ไม่คิดว่าจะมีลูกคนไหนที่ไม่ถูกพ่อแม่ดุหรือตีบ้างเลย ขนาดตัวเขาเองยังถูกแม่ทั้งดุและตีบ่อยๆเลยตอนเด็กๆ พี่ขุนยิ่งแล้วใหญ่ถูกตีบ่อยกว่าเขาอีก เพราะเป็นคนพาน้องไปเล่นซนไปเรื่อย อันนี้แม่ว่า

"อื้ม พ่อชั้นเป็นคนเงียบๆ เรื่องในบ้านท่านจะให้คุณแม่เป็นคนจัดการเองทั้งหมด ส่วนแม่ชั้นก็คงรักชั้นมากมั้ง แม้แต่ตีท่านก็ยังไม่เคยเลย"

"เพราะแบบนี้สินะคุณถึงเป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง?" ขิงเผลอลืมตัวคิดเสียงดังไปหน่อย จนครามหันมาจ้อง

"นายว่าไงนะ?" ครามถามแล้วรี่ตามองอย่างจับผิด

"เปล่าๆ ครับ"

"งั้นเหรอ?" ครามถามอีกครั้งแล้วผลิกตัวเข้าหาขิงที่นั่งอยู่ใกล้กันเพื่อจับผิด ส่วนขิงที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว พอถูกเข้าใกล้แบบนี้ก็ตกใจ จนต้องผงะออก

"คะ...ครับ" ขิงตอบเสียงตะกุกตะกักแล้วรีบกลั้นหายใจ เพราะระยะห่างของพวกเขามันใกล้กันมาก จนคิดว่า ถ้าหายใจอีกฝ่ายคงรู้สึกถึงลมร้อนๆนั่นด้วยแน่ๆ

"ชั้นคิดว่านายนินทาชั้นซะอีก" ครามพูดจบก็ยิ้มร้ายๆใส่ขิงก่อนจะผละออกมา

"ใครจะกล้าทำแบบนั้นกับเจ้านายกัน" ขิงตอบแล้วยิ้มแหยๆให้ ส่วนครามก็แค่ปรายมองแล้วหัวเราะในลำคอ มองออกไปนอกหน้าต่าง

ขิงมองตามครามออกไปข้างนอก เห็นคนงานกำลังช่วยกันจัดแต่สวนที่เขารักอย่างขะมักเขม้น แต่สายตาของเค้าตอนนี้ช่างเศร้าเหลือเกิน ผู้หญิงคนนั้นไม่น่าจะทำแบบนี้กับเขาได้ลงคอเลย เป็นผมถ้าโดนแบบนี้คงเจ็บจนทุรนทุรายเหมือนกัน แต่ไม่แปลกหรอกที่เค้ายังไม่ลืมผู้หญิงคนนั้น แต่ตอนนี้คงจะทั้งรักทั้งเกลียดนั่นแหละ

"เอ่อ.....วันนี้แดดไม่แรง อยากลงไปเดินเล่นในสวนไหมครับ?" ขิงตกใจตัวเองอยู่เหมือนกัน ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงพูดแบบนั้นออกไป

"นายคิดจะทำอะไรกันแน่?" ครามถามกลับพร้อมสายตาที่ขิงอ่านไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ดวงตาคู่นั่นทั้งดุดันและมีอำนาจจนเขาหายใจแทบไม่ทั่วท้องเลย

"ผมแค่คิดว่า ถ้าได้ใช้ฝึกใช้ไม้เท้า ฝึกกำลังขาที่นั่นคงจะดีไม่น้อย เพราะร่างกายจะได้ผ่อนคลายไปด้วย เส้นก็จะได้ไม่ยึด" ขิงตอบทั้งที่ใจยังเต้นตุ๊บๆหายใจไม่ทั่วท้องอยู่เลย คุณครามตอนเช้ากับตอนนี้ไม่เหมือนกันเลยสักนิด ไม่มีความขี้เล่นหลงเหลืออยู่เลย มีแต่ความจริงจังและอึดอัดบอกไม่ถูก

"งั้นเหรอ?"

"ค..ครับ"

"งั้นตอบมาอีกคำถามสิว่าคนที่นี่เค้าไม่ได้บอกนายรึไงว่าทำไมชั้นถึงไม่ชอบลงไปข้างล่างนั่น? หื้อ?" ครามแสยะยิ้มให้กับตัวเองแล้วมองกลับมาที่ขิง

"ปะ..เปล่าครับ พวกเขาไม่ได้บอก"

"ไม่น่าเชื่อนะว่าพวกเค้าจะไม่บอกนายเลย" ครามพูดหนึ่งประโยคช้าๆแล้วเว้นไว้พูดอีกหนึ่งประโยคต่อ "ชั้นให้ตอบอีกครั้ง บอกไว้ก่อนนะ ชั้นไม่ชอบคนโกหก" เมื่อถูกกดดัน ขิงถึงกลับกลืนน้ำลายลงอย่างยากลำบาก

"เอ่อ...คือ.."

"ทำไมอ้ำอึ้งละครับ คุณนักกายภาพคนเก่ง ...ไหนล่ะครับคนที่ปากดีก่อนหน้านั้นหายไปไหนซะแล้ว?" ครามตอบแล้วกระชากมือขิงที่ยืนอยู่ใกล้เข้ามาหา

"ค..คุณ จะทำอะไรน่ะ?" ขิงตอบเสียงสะดุด

"อยากเป็นนักเหรอนายหญิงคนใหม่ของที่นี่?" ครามหรี่ตามอง

"ผมเปล่า"

"เปล่าแล้วทำไมถึงคิดเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้?"

"ผม........."

"ไม่มีคำตอบแล้วรึไง?" ครามแสยะยิ้มอีกครั้งอย่างน่ากลัว

"ถ้าอยากเป็นนายหญิงคนใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก ถึงชั้นไม่เคยมีอะไรกับผู้ชาย แต่ก็คิดว่ามันคงไม่ยากหรอก ว่าไหม?"

"พูดอะไรของคุณ ต่ำ!!"

"แล้วคนแบบไหนล่ะที่ว่าสูงส่ง คนแบบนายงั้นสิ? ตอบชั้นมานายมาที่นี้เพราะจุดประสงค์อะไร?" ครามคำรามอย่างดุดันจนขิงตกใจ

"ปล่อยผมก่อน ผมเจ็บ" ขิงนิ่วหน้าเพราะความเจ็บที่ข้อแขน

"อย่ามาสำออย ตอบชั้นมา นายทำงานนี้ให้ใคร ผู้หญิงคนนั้นกับชู้ของมันเหรอ?"

"โอ๊ย...!! ผมไม่ได้ทำงานให้ใคร ผมมาเพื่อดูแลคุณตามคำขอร้องของคีย์ น้องชายคุณ"

"หมดเวลาโกหกแล้วล่ะ"

"อุ๊ก!!" เสียงคนถูกเหวี่ยงลงกับโซฟาเบดตัวใหญ่ที่มุมห้อง ตามด้วยร่างกำยำของครามที่ก้าวเข้ามาหยุดอยู่ข้างๆ

"คุณ!!... ขาคุณไม่ได้..หัก" ขิงเบิกตาโตอย่างตกใจ

"เปล่า ชั้นขาหักจริง" ครามเริ่มนิ่วหน้าเล็กน้อยเพราะความเจ็บที่เผลอออกใช้กำลังขามากเกินไป ทั้งๆที่คุณหมอก็เตือนไว้แล้ว

"คุณทำแบบนี้เพื่ออะไร?" ขิงถามอย่างสับสน ไม่เข้าใจว่าทำไมครามถึงโกหก ปิดบังเรื่องนี้มาโดยตลอด แม้กระทั่งคนในครอบครัว

"ชั้นควรถามนายมากกว่าว่าเข้ามาที่นี่เพื่ออะไร จะยอมพูดดีๆหรือว่าจะให้ใช้วิธีอื่น?" ครามมองตามเนื้อตัวของขิงแล้วโน้มตัวลงมาใกล้จนได้ยินเสียงหัวใจของขิงเต้นชัดเจน

"อย่าทำอะไรบ้าๆนะ ไม่งั้นผมร้องให้คนช่วยจริงๆด้วย" แค่ปาก้ก่งไปงั้นแหละ ขิงสั่นจนเห็นได้ชัด

"ร้องสิ แต่ร้องไปก็เท่านั้นแหละ เพราะถ้าชั้นไม่ได้อนุญาต คนข้างนอกก็ไม่กล้าเข้ามาหรอก หึ!!"

"คุณ!!" ครามขยับเข้ามาใกล้อีกนิด จนขิงร้องขึ้นอย่างตกใจเข้าไปอีก

"ตอบมา นายต้องการอะไรจากคนที่นี่?" ครามนิ่วหน้าอีกครั้งเพราะเขาใช้เข่าคร่อมทับอีกคนเอาไว้

"ก็บอกแล้วไงว่าผมแค่มาดูแลคุณ ไม่ได้มาเพื่อจุดประสงค์ร้าย"

"งั้นเหรอ?"

"แล้วที่พยายามเข้ามาเปลี่ยนที่นี้เพราะอะไร?"

"ผมไม่ได้ต้องการเปลี่ยนอะไร แค่อยากช่วยให้คุณ.."

"ช่วยชั้นทำไม?"

"ช่วยให้คุณไม่ต้องเจ็บปวดเพราะความรู้สึกแบบนั้นอีกเท่านั้น อึก!!" ขิงร้องออกมาเพราะครามเผลอบีบต้นแขนของเขาแรงขึ้นอีก

"ชั้นไม่เชื่อ ตอบความจริงมา!!"

"โอ๊ย!! ปล่อย..มันเจ็บ" ขิงดิ้นขลุกขลักเอาตัวรอด แต่แรงเขาจะสู้คนตัวโตกว่าแบบครามได้ยังไง

"ถ้าไม่เชื่อ คุณก็ให้ผมออกไปจากที่นี่ได้เลย ผมพร้อมจะไปจากที่นี่ทันที"

"คิดว่าง่ายอย่างนั้นเหรอ?" ครามจ้องหน้าขิงแล้วถามกลับ

"ทำไมอีก?"

"สัญญาที่นายทำไว้กับชั้นล่ะ?"  ถ้าลาออกกลางคันก็เสียค่าปรับ ขิงลืมเรื่องนี้ไปสนิทเลย

ที่เขาพูดแบบนี้ออกไป ไม่ใช่เพราะเชื่อที่ขิงพูด แต่เพราะเขาไม่มีหลักฐานต่างหากว่าคนตรงหน้านี้เข้ามาที่นี่เพราะอะไร อย่างน้อยเก็บเอาไว้ใกล้ตัว ก็ยังดีกว่าปล่อยไปแล้วรอให้ความตายเดินเข้ามาหาตัวเอง  ครามครุ่นคิดแต่มือก็ยังไม่ปล่อยออกจากแขนของขิง เขาไม่รู้ว่าคนตรงหน้านี้จะมาดี หรือมาร้าย ถึงแม้ว่าจะเป็นเพื่อนสนิทของน้องชายเขาก็ตาม เขาเป็นนายหัวที่นี่มานานหลายปีแล้วตั้งแต่พ่อเสียชีวิตไปเพราะขัดผลประโยชน์ของผู้มีอิทธิพลที่นี่ ลำพังแม่ที่เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆคงไม่สามารถดูแลธุรกิจของครอบครัวเขาได้คนเดียวหรอก เพราะเขารู้ดีว่าธุรกิจและอำนาจที่นี้เป็นยังไง

"แล้วคุณจะเอายังไง?" ขิงเริ่มตามไม่ทัน ทั้งหงุดหงิดทั้งเจ็บตัวที่จู่ๆถูกทำแบบนี้ ทั้งที่ตัวเองอยากช่วยแท้ๆ กลับกลายเป็นว่าทำคุณบูชาโทษไปซะงั้น

"ง่ายๆ ชั้นจะไม่ปล่อยให้นายลาออกจนกว่าจะแน่ใจว่าไม่มีใครส่งนายมาเพราะทำลายชั้นหรือที่นี่เด็ดขาด"

"แต่ผมรู้ความลับของคุณแล้ว ไม่กลัวรึไงว่าผมจะเอาเรื่องนี้ไปบอกกับคนอื่นหรือศัตรูของคุณ?"

"ไม่ต้องห่วง ชั้นมีวิธีของชั้นก็แล้วกัน"

"ยังไง?"

"หึ!! บอกตอนนี้ก็ไม่สนุกสิ"










หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 7 (03/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 03-11-2015 13:32:36
กลับมาโหดอีกแล้วพระเอกเรา  :ling1:
อย่าทำอะไรน้องขิงนะเว้ย
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 7 (03/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 03-11-2015 15:05:54
 :angry2: :angry2: :angry2:  อย่าทำอะไรน้องขิงนะ
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 7 (03/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 03-11-2015 18:56:54
 :z13:

ค้างเลยยยยย
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 7 (03/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: HamsteR ที่ 03-11-2015 21:15:38
นี่มัน.... จำเลยรัก รึเปล่าเนี่ย
แต่ชอบอ่ะ  มาต่อบ่อยๆนะ มันค้างงงง

อย่าทำอะไรขิงนะคุณคราม ขิงยังซิง  :hao6:
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 8 (04/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 04-11-2015 10:24:40








อันดามัน...ซ่อนรัก
ตอนที่ 8









วันนี้ผมตื่นขึ้นเช้ามากเพราะได้ยินเสียงดังโวกเหวกอยู่นอกบ้าน เช้าขนาดนี้ใครมาทำอะไรกันกันนะ   ผมชโงกหน้าดูจากหน้าต่างห้อง เห็นลุงแช่มกับคนงานอีกหลายคนกำลังขนดินอยู่ บ้างก็กำลังตัดหญ้าแล้วก็รื้อถอนต้นไม้แถวนั้น แต่เอ๊ะนั่นเป็นสวนของคุณครามนิ เกิดอะไรขึ้น?


 ***************

**********

*****


"พี่นุ้ยครับ นั่นพวกเค้ามาทำอะไรกันครับ?"

"นายหัวเธอสั่งให้ลุงแช่มไปจ้างพวกชาวบ้านแถวนี้มาช่วยกันทำสวนใหม่ตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ พี่ก็ว่าแปลกนะคะ อยู่ดีๆนายหัวสั่งให้ทำแบบนั้น ทั้งๆที่แต่ก่อนรักและหวงสวนนี่ยิ่งกว่าอะไร" พี่นุ้ยพูดพร้อมกับทำหน้าตาครุ่นคิด ไม่ใช่แค่แกหรอกที่แปลกใจ ผมยังแปลกใจเลย

"นั่นสิครับพิลึกคน แล้วตอนนี้นายหัวของพี่นุ้ยอยู่ไหนครับ?"

"อยู่ข้างบนค่ะ" อ่อ..นึกว่าลงมาสั่งงานด้วยตนเองซะอีก ลืมไปยังต้องแสดงละครเป็นคนพิการอยู่นิ ขิงคิดแล้วก็เบ้ปาก เมื่อคืนก็สั่งให้เขาเก็บข้าวเก็บของย้ายมาอยู่ห้องติดกับตัวเอง ดีนะที่ไม่ใช่ห้องมีประตูเชื่อมเข้าออกหากันได้ ไม่งั้นเขาต้องประสาทกินแน่ๆ  อะไรจะระแวงขนาดนั้น

"งั้นผมขึ้นไปดูเค้าก่อนนะครับ"

**************

**********

*****

ไม่อยากเข้าไปเลย แต่ก็ต้องเข้า ขิงรวบรวมความกล้า "ก๊อกๆๆ"

"เข้ามาได้"

"อรุณสวัสดิ์ครับ" ขิงเอ่ยทักทายเจ้าของห้องที่ตอนนี้กำลังกึ่งนั่งกึ่งนอนอ่านหนังสืออยู่บนโซฟาเบดมุมห้อง

"อรุณสวัสดิ์" ครามกล่าวทักทายกลับด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วก้มอ่านหนังสือต่อ จนเป็นฝ่ายขิงเองซะอีกที่ไม่รู้จะทำยังไงดี เพราะปกติเคยเข้าห้องมาแล้วต้องพาไปทำธุระส่วนตัว อาบน้ำในห้องน้ำ เอายาก่อนอาหารให้กิน แล้วตามด้วยทำกายภาพนิดหน่อยก่อนจะทานมื้อเช้า เรียกได้ว่าทุกอย่างเขาต้องเป็นคนจัดการดูแลให้ในฐานะนักกายภาพตั้งแต่ตื่นนอนไปจนถึงเข้านอน แต่ตอนนี้เค้าไม่ได้เป็นอะไรแล้วจะให้ผมทำอะไรล่ะ ขิงยืนเคว้งมองซ้ายทีขวาทีแล้วลดตัวลงนั่งกับโซฟาตัวเล็กใกล้ๆกัน

"วันนี้คุณตื่นเช้าดีนะครับ" ขิงแอบกัดเล็กน้อย นึกถึงเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ เขาต้องขึ้นมาปลูกคนตัวโตนี่ทุกเช้า ขึ้นมาปลุกช้านิดช้าหน่อยก็โดนว่า ที่แท้ทั้งหมดเป็นแค่แผนตบตาคนอื่นรวมถึงตัวเขาเองด้วย ทั้งเรื่องติดเหล้า เรื่องเดินไม่ได้ ถึงแม้จะบอกว่าขาหักจริงแต่ก็เดินได้แล้วนิ คิดแล้วมันน่าเจ็บใจนัก ไอ้เราก็อุตส่าห์ดูแลซะดิบดี ยังไม่รวมถึงตอนโดนแกล้งสารพัดนะ

"ชั้นก็ตื่นเช้าปกติ นายต่างหากที่ตื่นสาย" สายที่ไหน เช้ากว่าปกติเหอะ ขิงเหลือบมองนาฬิกาที่แขวนติดผนังมุมห้อง

"มองอะไร?" ครามถามเพราะตอนนี้ขิงกำลังใช้สายตามองมาที่ตัวเองอยู่

"ก็แค่แปลกใจว่าทำไมคุณถึงทำสวนใหม่?"

"ไม่มีอะไร แค่เบื่อแล้วอยากทำใหม่แค่นั้น" เชื่อก็บ้าแล้ว ขิงคิดในใจ

"แล้วคุณจะให้ผมทำยังไงต่อ ในเมืองคุณเองก็เดินได้แล้ว?"

"ทำเหมือนเดิมนั่นแหละ"

"ทุกอย่างเลยเหรอครับ?"

"ไม่ต้องก็ได้ เรื่องส่วนตัวพวกอาบน้ำแต่งตัว ชั้นทำเองได้ แต่ตอนชั้นอาบน้ำนายต้องมาเฝ้าอยู่หน้าห้องด้วย" นั่นสินะ ถ้าไม่ทำแบบนั้นเดี๋ยวคนอื่นจะสงสัยอีก ลำบากเนอะ อาบน้ำก็ยังต้องมีคนมาเฝ้าเหมือนสาวน้อยอาบน้ำในสถานที่ไม่คุ้นเคยเลย

"พาลงไปข้างล่างหน่อยจะไปดูพวกนั้นทำงาน"

"ผมต้องไปเรียกลุงแช่มมาช่วยพยุงคุณใช่ไหมครับ?"

"หัวไวดีนิ" เค้าเรียกประชด เข้าใจไหม

"แล้ว..."

"มีอะไรอีก?" ทำเสียงเข้มอีกละ ถามนิดถามหน่อยก็ไม่ได้

"ปะ..เปล่าครับ" ขิงปฏิเสธเพราะแค่ได้ยินเสียงกับเห็นหน้าก็ไม่กล้าถามละ จะดุไปไหน

"งั้นผมไปตามลุงแช่มก่อนนะครับ"

"เดี๋ยว!!"

"เอาโทรศัพท์นายมา" ครามยืนขึ้นเต็มความสูงแล้วใช้สายตากดดัน

"เอาไปทำไมครับ" ขิงยังไม่ยอมยื่นให้

"เอามาให้ก่อนเหอะหน่า อย่าถามมาก" เอาอีกละ เอ๊ะอะอะไรก็ข่มขู่ อย่าคิดว่าตัวโตกว่าแล้วจะยอมนะ

"ไม่!!.....เห้ยๆคุณจะทำอะไรน่ะ" ขิงร้องเสียงหลง กระเถิบถอยออกห่างครามอย่างรวดเร็ว เพราะเขากำลังถูกครามจับนั่นจับนี่หาโทรศัพท์อยู่

"ถ้าไม่อยากให้ทำแบบนั้นก็ส่งมือถือนายมาสิ" ไม่เข้าใจว่ามันเกี่ยวตรงไหนกับการที่เขาตกเป็นผู้ต้องหาเนี๊ยะ ไม่ให้ยังไงก็ไม่ให้ ถ้าเอาไปแล้วเขาจะใช้อะไรอะ แบบนี้มันจำกัดสิทธิเสรีภาพกันชัดๆ

"หยุดอยู่ตรงนั้นเลยคุณ ห้ามเข้ามา" ครามส่งเสียงหึ!! แล้วก้าวเข้าไปอีก ไม่สนใจว่าขิงจะพูดว่ายังไง

"อ๊ะ..เอาไปสิ ไม่เห็นต้องทำแบบนั้นเลย" ขิงหน้าแดง

"ชั้นจะยืดของนายไว้ก่อน ถ้าพิสูจน์ได้ว่านายไม่ได้เข้ามาเพื่อหวังผลประโยชน์หรือทำลายที่นี่ ชั้นจะคืนให้"

"โห..นะ แล้วถ้าเกิดพ่อแม่หรือที่บ้านผมโทรมาล่ะคุณ?"

"แค่พ่อแม่เองเหรอที่โทรมา?" ครามถามเสียงเรียบ

"เปล่า ก็มีพี่ชายกับพี่สาวผมอีก แล้วก็..."

"แฟน" ครามตอบแทน ส่วนขิงก็พยักหน้าตอบว่าใช่

"เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง ถ้าพวกเขาโทรมาชั้นจะบอกนายเอง" สภาพเหมือนนักโทษชิบหาย ขิงคิดในใจ

"โถ่คุณ..ไม่ยืดได้ไหม ผมติดเกมส์ในมือถือ ต้องเข้าเล่นทุกวันเดี๋ยวพวกเพื่อนๆมันทำคะแนนนำ ...เอ่อพูดถึงเพื่อนๆ ถ้าพวกนั้นโทรมาล่ะคุณ ไหนจะคีย์อีก คุณจะให้ผมตอบว่าไง ยิ่งรายสุดท้ายยิ่งแล้วใหญ่ เคยยอมอะไรง่ายๆคุณก็รู้" เอาสิชักแม่น้ำทั้งห้าแล้วไม่ยอมอีกก็ให้มันรู้ไป แต่เรื่องเกมส์ผมโกหก ผมไม่ใช่คนติดเกมส์ขนาดนั้น ไม่เล่นก็ไม่ตาย คะแนนผมก็ไม่สนใจเพราะเอาแลกเงินก็ไม่เห็นจะได้

"มีอีกไหม?" ครามตะวัดสายตามอง ไม่คิดว่านักกายภาพคนเก่งของเขาจะมีนิสัยแบบนี้ เด็กจริงๆ

"มี" ขิงพูดขึ้นทันทีแบบไม่ต้องรอจังหวะ

"พ่อแม่ผมต้องเป็นห่วงแน่ๆ เพราะพวกท่านชอบโทรมาตอนกลางคืน ดึกๆ" เน้นย้ำว่าดึกๆ  "ถ้าโทรมาแล้วผมไม่ได้รับ ท่านต้องเป็นกังวลแน่ๆ ผมไม่อยากให้ท่านเป็นห่วง นะคุณนะอย่าเอาของผมไปเลย" นี่เขาอุตส่าห์ลงทุนอ้อนแล้วนะ ปกติจะใช้วิธีนี้กับคนในครอบครัวเท่านั้น

"พ่อแม่นายมักจะโทรมาตอนกี่โมง?" ครามหรี่ตาถาม

"เอ่อ..พวกเค้าโทรมาไม่เป็นเวลาหรอกคุณ" เชอะไม่ได้กินไอ้ขิงหรอก ขิงยิ้มมุมปากอย่างผู้มีชัยเหนือกว่า

"รหัสอะไร?" ครามถามแล้วยักคิ้วบอกว่า ไอ้มือถือเนี๊ยะ

"ถามทำไมคุณนั่นมันของส่วนตัวผมนะ" ขิงเดินเข้าไปแย่งกลับคืนมาเพราะไม่ชอบวิธีของคราม อีกอย่างเขาไม่ได้เต็มใจให้อยู่แล้ว คนบ้าอำนาจตรงหน้านี่ต่างหากที่บังคับขู่เอาไป

"รหัสอะไร?" ครามถามแล้วขยับเดินเข้าไปใกล้จนขิงต้องเป็นฝ่ายถอยหนีซะเอง

"ไม่บอก!!" ปากเก่งไปงั้นแหละทั้งๆที่รู้ว่าสู้ไม่ได้

"แน่ใจ๊?" ครามปรายตาถาม สายตาเจ้าเล่ห์ ส่วนขิงก็พยักหัวตอบรับงึกๆกล้าๆกลัวๆ

"เอ่อ......ขยับเข้ามาใกล้ไปแล้วนะคุณ ถอยไปหน่อยดิผมร้อน แหะๆ" ขิงใช้มือดันหน้าอกครามไว้แล้วเอ็นตัวไปด้านหลังจนเกือบจะหงายท้องลงไปบนโซฟา

"หึๆ" ครามหัวเราะในลำคอแล้วขยับหน้าเข้าไปใกล้อีกจนขิงชนโซฟาเบดล้มลงไป

"คุ๊ณณณ!!!" ขิงร้องเสียงหลงเสียงดังพร้อมเบิกตาขึ้นอย่างตื่นๆ เพราะตัวเองถูกครอมอยู่ แถมยังเอามือมากักเขาไว้เพื่อไม่ได้หนีได้อีก 

"รหัส" ครามพูดสั้นๆแต่ระยะห่างของเขาสองคนใกล้มากจนได้กลิ่นโคโลญผสมอาฟเตอร์เชฟที่เจ้าตัวใช้ประจำ

"ว..วันเกิดผม 22 เดือนหนึ่ง" ขิงตอบแล้วมองใบหน้าคมเข้ม ตาสวยคม คิ้วเข้ม เครากับหนวดตรงคางที่ถูกโกนเมื่อเช้านี้ยังเห็นเป็นตอลางๆสีเขียวอยู่ ขิงกลืนน้ำลายหัวใจเต้นแรง เขาไม่เคยรู้สึกกับใครแบบนี้เลยแม้แต่กับเจ ตึกๆ ๆๆ

"ก็แค่นั้น หึๆ" ครามผละออกพร้อมกับขิงที่ถอนหายใจออกอย่างโล่งอก ใช้มือดันตัวเองลุกขึ้นจากท่าล่อแหลมเมื่อครู่ ครามใช้มือกดรหัสทั้งสี่ตัวลงหน้าจอโทรศัพท์ยี่ห้อผลไม้ จากนั้นหน้าจอแสดงผลพร้อมรูปเจ้าของเครื่องที่กำลังยิ้มแป้นถ่ายเซล์ฟฟี่กับเจ้าหมาตัวไม่เล็กไม่ใหญ่ขนสามสี ตาสีฟ้า ครามยิ้มมุมปากเล็กน้อยกับภาพตรงหน้า ที่แท้นักกายภาพจอมเฮี๊ยบของเขาก็แกล้งทำเป็นเข้มไปงั้นนั่นเอง

"ยิ้มอะไร?" ขิงทำหน้าตูมที่ถูกครามยิ้มเยาะ นิ้วเรียวยาวกดดูข้อมูลการโทร

"ปกติพ่อแม่นายจะโทรมาช่วงสองทุ่มถึงสามทุ่ม งั้นก็ขึ้นมาหาชั้นที่ห้องเวลานี้แล้วกันนะ ส่วนคนอื่นถ้าโทรมาชั้นจะบอกให้นายโทรกลับเองตอนอยู่กับชั้น" ย้ำว่าตอนอยู่กับชั้น ชัดเจนจนขิงอ้าปากเหวอ "งั้นไปตามลุงแช่มมาได้ละ" ขิงเดินกระฟัดกระเฟียดออกไปตามคำสั่ง โดยไม่วายหันมามองครามก่อนออกห้องไปอย่างขัดใจ





***************

**********

*****

"พี่นุ้ยเห็นลุงแช่มอยู่ไหนครับคุณครามให้หา?" ขิงถามนุ้ยที่กำลังใช้ไม้ขนไก่ปัดเครื่องเรือนอยู่

"คุณขิงเป็นอะไรรึเปล่าคะหน้ายุ่งเชียว?" ก็จะอะไรอีกล่ะ นายหัวของพี่นุ้ยนั่นแหละนิสัยไม่ดี จอมโกหก เจ้าเล่ห์แล้วก็บ้าอำนาจที่สุด

"เอ่อ..เปล่าครับ สงสัยผมคงร้อนมั้งครับเลยทำหน้ายุ่งไปหน่อย พี่นุ้ยอย่าสนใจเลยครับอีกหน่อยคงปรับตัวได้เอง แหะๆ"

"แล้วนายหัวเธอเรียกหาลุงแช่มทำไหมเหรอคะ หรือว่าให้ไปซื้อเหล้าอีก?" ซื้อเหล้าเลิ่วอะไรกันครับพี่นุ้ย พวกเราโดยนายหัวของพี่หลอกแล้ว

"เปล่าครับ คุณครามบอกว่าอยากไปดูคนงานเค้าจัดสวนใหม่ ผมเลยจะขอแรงลุงแช่มขึ้นไปช่วยพยุงเค้าลงมาข้างล่างหน่อยครับ "

" ลุงแช่มแกคงอยู่แถวนี้แหละค่ะ เดี๋ยวพี่ไปตามให้"

"รบกวนด้วยครับพี่นุ้ย"

*
*
*

"ก๊อกๆๆ"

"เข้ามาเลย" ลุงแช่มเคาะห้องแล้วเปิดประตูเข้ามา ดูจากสีหน้าแล้วแกน่าจะไปขลุกอยู่กับต้นไม้ที่สวนหลังบ้านมาแน่ๆ เหงื่อออกเต็มเลย

"นายหัวมีอะไรให้ผมรับใช้เหรอครับ?" ลุงแช่มเช็ดเหงื่อแล้วเดินเข้าหยุดใกล้ๆ ดูท่าลุงแกเคารพคุณครามมากเลยนะเนี๊ยะ

"ผมจะลงไปข้างล่าง รบกวนลุงช่วยพยุงลงไปหน่อยครับ" ขี้เก๊ก ขิงพูดเบาๆ แต่ครามยังอุตส่าห์ได้ยินอยู่

"ครับ" ลุงแช่มรับคำแล้วเดินมาพยุงคุณครามขึ้นจากเตียง ขิงเบ้ปากใส่เพราะก่อนหน้าที่ลุงแช่มจะขึ้นมาเขายังถูกคนที่นอนอยู่บนเตียงนั่นแกล้งอยู่เลย

"มาช่วยพยุงชั้นด้วยสิ ลุงแช่มคนเดียวจะไหวได้ไง" ขิงกลอกตาขึ้นอย่างขัดใจแล้วเข้าไปพยุงตามคำสั่ง ........จะให้เขาช่วยอีกทำไม แค่ลุงแช่มคนเดียวก็ไหวอยู่แล้ว ไม่หกล้มไปหรอกเพราะแข้งขาตัวเองก็ดีแล้ว

"จับไม้เท้าแน่นๆ นะครับ" พลอยทำให้เราต้องแอคติ้งตามไปเลยเหอะๆ

"ค่อยๆ ก้าวนะครับ จากนั้นก็ค่อยๆ ทิ้งน้ำหนักลงที่ขา อย่างนั้นแหละครับ" ขิงบอกตามที่เคยบอกผู้ป่วยคนก่อนๆ

"รู้สึกยังไงบ้างครับ?" ผมเอ่ยถามระหว่างที่เค้าวางเท้าลงกับพื้นได้สำเร็จ ในใจก็คอยลุ้นไปด้วยทั้งที่เป็นแค่การแสดง

"เจ็บแปล๊บๆ นิดๆ แล้วก็ขัดๆ" ครามตอบแล้วนิ่วหน้านิดๆ ถึงแม้จะเดินได้เองแล้ว แต่ถ้าใช้กำลังขามากเกินไป ก็ทำให้รู้สึกเจ็บจิ๊ดๆขึ้นมาเหมือนกัน

"งั้นพอก่อนไหมครับ เดี๋ยวผมกับลุงแช่มพาลงไป?" ขิงประชด

"ไม่เป็นไร แค่รู้สึกเจ็บแปล๊บๆ ตอนทิ้งน้ำหนักเฉยๆ พอทนได้" ขิงเบ้ปากใส่อีกครั้งเพราะคิดว่านายหัวฟาร์มหอยมุกแสดงละครได้สมบทบาทจริงๆ ยิ่งกว่าดาราช่องน้อยสี มากสีบางคนซะอีก นี่ถ้าเขาไม่รู้คงจะคิดว่าเจ็บจริงนะนั่น

"งั้นก็ค่อยๆ ทิ้งน้ำหนักนะครับ ดีที่ภาคใต้ไม่หนาวเหมือนบ้านผม ไม่งั้นหน้าหนาวคงจะปวดแล้วก็ชาแน่ๆ" ที่พูดแบบนั้นออกไปเพราะครามกระซิบข้างหูว่าให้แสดงละครให้มากกว่านี้ เลยต้องแอคติ้งให้มากขึ้น ลำบากไปอีก

"ค่อยๆ ก้าว ไม่ต้องรีบนะครับ.....อ๊ะ!!" ขิงส่งเสียงร้องเบาๆอย่างตกใจเพราะรู้สึกถึงมือที่ย้ายจากบ่าลงมาที่เอวของตัวเอง แต่เจ้าตัวกลับทำหน้าตาเรียบเฉยจนขิงต้องใช้สายตาปรามบอกว่าให้เอามือออก

"อะไร?"

"เอามือออก" ขิงใช้สายตามองลงไปที่เอว

"หึๆ"

**********
*******
****

"ใกล้ถึงแล้วครับ อีกนิดเดียว"

"ชั้นอยากเดินได้เร็วๆ ไม่อยากเป็นภาระใคร"

" ไม่มีเห็นคุณเป็นภาระหรอก ทุกคนเค้าก็เต็มดูแลคุณกันทั้งนั้น เชื่อผมสิ ถ้าไม่เชื่อก็ถามลุงแช่มดูก็ได้ครับ" ผมพยักหน้าไปทางลุงแช่ม เปลี่ยนบทให้ลุงแช่มแกพูดบ้าง ขี้เกียจแสดงละคร ไม่ถนัด

"จริงครับ พวกเราไม่เคยคิดแบบนั้นกันเลยครับ พวกเรารักนายหัว อยากให้นายหัวกลับมาเดินได้เร็วๆ" ลุงแช่มยิ้มไปพูดไปเพื่อให้กำลังใจนายหัวของแก แต่หารู้ไม่ว่าพวกเราทุกคนถูกเค้าต้มซะเปื่อยเลย ไม่รู้ว่ากับคุณป้าแม่ของเค้าจะถูกต้มด้วยรึเปล่า ถ้าเป็นแบบนั้นจริง คงบาปมากเลยนะนั่นเพราะทำเอาคุณป้าร้องไห้เสียน้ำตาไปตั้งเยอะ

"แล้วนายล่ะ?" ครามหันมาถามขิง

"เกี่ยวอะไรกับผม? นี่มันคืองานของผมนะคุณ " งานของนักกายภาพรวมถึงแสดงละครบ้าๆนี้ด้วย

"แค่อยากรู้"

"ไม่มีคำตอบครับ" ขี้เกียจตอบ




พวกเรานั่งดูคนงานทำสวนที่ใต้ต้นเฟื่องฟ้าต้นใหญ่ กิ่งของมันแผ่ปกคลุมให้ร่มเงา ลมก็พัดเอื่อยๆพอคลายร้อน จากตอนเช้าที่กำลังเริ่มทำได้เป็นบางส่วน ตอนนี้ก็ใกล้เสร็จหมดแล้ว เหลือแต่ออกแบบแล้วก็ปลูกลงใหม่อีกครั้ง แอบเสียดายต้นไม้ดอกไม้บางต้นอยู่เหมือนกัน เพราะกว่าจะปลูกให้มันโตแล้วก็ออกดอกสวยขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยนะผมว่า

"นายหัวอยากได้ต้นอะไรเป็นพิเศษไหมครับ? ลุงจะได้หามาปลูกให้" ลุงแช่มถามเพราะแต่ก่อนทั้งสวนนี้แล้วก็บ้านหลังนี้ก็เป็นแนวคิดของคุณครามทั้งหมด เลยอยากถามก่อนที่จะลงมือทำ จะได้ไม่ต้องรื้อขึ้นมาอีก

"นายว่าต้นอะไรดี?" ครามหันมาถามคนข้างๆ

"นี่มันสวนของคุณนะ มาถามผมได้ยังไง?" ผมตอบตามที่คิด สวนก็ไม่ใช่ของผม จะให้มาออกความคิดเห็น ฟังดูแปลกๆยังไงไม่รู้

"ก็นายอยากให้ชั้นทิ้งสิ่งที่ทำให้รู้สึกไม่ดี แล้วสร้างมันขึ้นมาใหม่ ก็นี่ไง" ผมเข้าใจแล้วครับ เห้ออออนะ

"แล้วให้ผมเลือกจะดีเหรอครับ?" ผมถามซ้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ไม่ใช่ว่าพอผมออกความคิดเห็นไปปุ๊บ พอมันออกมาไม่สวย แล้วจะมาว่าผมนะ

"อื้ม ชั้นไม่ค่อยสันทัดเรื่องต้นไม้ดอกไม้เท่าไหร่ เอาแบบที่นายชอบเลย" จะเชื่อได้ไหมเนี๊ยะขนาดไม่สันทัดเท่าไหร่สวนนี่ยังออกมาสวยขนาดนี้เลย พูดไปแล้วก็เสียดายนะ เสียดายทั้งสวนแล้วก็เงินด้วย แต่ก็นะ...ไม่ใช่เงินเราสักหน่อย

"งั้นผมขออนุญาติแล้วกันนะครับ แต่ขอบอกไว้ก่อนนะครับ ถ้ามันออกมาไม่สวยอย่ามาว่ากันทีหลังนะครับ เพราะคุณให้ผมเลือกเอง"

"อื้ม"

"ผมชอบดอกมะลิ กับดอกชมนาด เพราะกลิ่นมันหอม ถึงดอกมันจะไม่สวยมาก แต่เพราะกลิ่นมันหอมนี่แหละครับผีเสื้อกับผึ้งถึงชอบบินมาตอมบ่อยๆ งั้นเอาต้นมะลิกับต้นชมนาดแล้วกันนะครับลุง" ผมคิดไปพูดไป ให้เจ้าของเค้าได้ยินด้วย เผื่อไม่ชอบส่วนไหนจะได้เปลี่ยน แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่แย้งสักคำ ผมเลยบอกกับลุงแช่มว่าเอาตามนี่แหละ "ต้นเก็ดถวา คุณรู้จักไหม? ไม่สวยแต่หอมอีกเหมือนกันนั่นแหละ"

"ไม่รู้จัก"

"ชื่อจริงมันคือมะลิซ้อน ทางเหนือเรียก เก็ดถวา กลิ่นคล้ายมะลิแต่หอมแรงกว่า ต้นนี้แม่ผมชอบมาก เอาไปวัดก็ได้ เด็ดมาวางไว้บนหัวเตียงก็ได้ หรือจะเอาใส่ในตู้เย็นไว้ลดกลิ่นก็ได้อยู่" ขิงเผลอเล่าที่บ้านออกไปตามความเคยชิน

"ดูเป็นตัวนายดีนะ กับดอกพวกนี้" ครามพูดแล้วหันมองขิง

"ยังไงครับ?"

"ก็ตามนั้นแหละ!! แล้วต้นชมนาดมันเป็นไงล่ะ ชั้นยังไม่เคยเห็น?"

"ก็เป็นไม้เถาน่ะครับ ต้องทำร้านให้มันพันขึ้นด้วย ส่วนดอกก็จะเล็กๆ สีขาวเป็นช่อๆ ดูเหมือนดอกมะเขือมากกว่านะผมว่า แต่ดอกมันหอมมาก หอมนวลเหมือนกลิ่นมะลิปนกับใบเตย ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ตอนกลางคืนกลิ่นมันก็จะยิ่งหอมขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่ได้ฉุนหรอกนะครับ ที่บ้านผมมีหนึ่งต้น ใกล้ๆกับหน้าต่างห้องผมเลย ตอนกลางคืนกลิ่นมันก็จะลอยตามลมมาพอดี ทำให้หลับสบายมากเลย" ขิงยิ้มเพราะคิดถึงต้นชมนาดที่บ้าน ต้นนี้เขากับพ่อเป็นคนช่วยกันปลูกเองกับมือ

"แหะๆ ขอโทษครับ เผลอเล่าไปซะไกล" ขิงเกาแก้มตัวเองเขินๆ

"ไม่เป็นไร น่าสนใจดี เล่าต่อสิ" ใครจะไปกล้าเล่าต่อ ก็เล่นจ้องซะขนาดนั้น ขิงคิดในใจ

"เอ่อ..จบแล้วครับ"

"งั้นเหรอ?" ครามเห็นคนขี้อายเขินจนแก้มแดงเลยแกล้งกระเซ้าไปอีกนิดหน่อย เพราะนานๆทีจะได้เห็นนักกายภาพคนเก่งหลุดฟอร์ม

"ใครจะเป็นอย่างนั้นกันเล่า ว่าไปเรื่อย" ขิงเกาแก้ม

"ผมไปเอาน้ำกับของว่างก่อนนะครับ" ขิงรีบแจ้นออกไป ใจก็เต้นตุ้มๆต่อมๆ ขืนอยู่ตรงนั้นต่อคงทำตัวไม่ถูกแน่

***************

**********

*****

"พี่นุ้ยเป็นอะไรครับ ร้องไห้ทำไม?"

"ฮึกๆ เห็นนายหัวยอมลงมาข้างล่าง แล้วน้ำตามันไหลค่ะ " ตกใจหมดนึกว่าใครเป็นอะไร โถ่ๆแม่คูณ แม่ขนุนหนัง อยู่ดีๆก็เป่าปี่ซะงั้น

"ตั้งแต่ประสบอุบัติเหตุครั้งก่อน นายหัวก็ไม่ยอมลงมาข้างล่างนี้เลย คุณขิงของพี่เก่งจังค่ะที่ทำให้นายหัวยอมเปลี่ยนใจลงมาได้" พี่นุ้ยปาดน้ำตาทิ้งแล้วฉีกยิ้มให้ผมราวกับคนละคนกับเมื่อกี้

"เอ่อ... ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยครับ แค่ดูแลเล็กๆน้อยๆเอง" เหมือนน้ำมันท่วมปาก จะพูดอะไรก็พูดไม่ได้

"นั่นแหละค่ะ พี่ดีใจนะค่ะที่คุณขิงมาดูแลนายหัว ทำให้นายหัวยอมทำกายภาพบำบัด จนเดินด้วยไม้เท้าได้แบบนี้ ถึงจะเดินไม่สะดวกเมื่อก่อน แต่ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีนะคะ"

"ขอบคุณครับพี่นุ้ย แหะๆ" รู้สึกละอายใจแหะ เพราะเราไม่ได้ทำให้เค้ากลับมาเดินได้เองสักหน่อย

"ขอบคุณอะไรกันคะ พวกพี่ต่างหากที่ต้องขอบคุณคุณขิง ส่วนเรื่องป้าน้อย คุณขิงไม่ต้องเป็นกังวลนะคะ แกก็เป็นของแกแบบนี้แหละ เดี๋ยวอยู่ไปก็ชิน .....แกอาจจะติดไม่ชอบใจพวกนักกายภาพคนเก่าที่ไม่ค่อยตั้งใจดูแลนายหัว วันๆเอาแต่แต่งหน้าทำสวย เพื่อจะอ่อยนายหัวไปวันๆ ป้าแกเลยพลอยมองคุณขิงเป็นแบบนั้นไปด้วยนะค่ะ"

"แต่ผมเป็นผู้ชายนะครับ" ผมรีบแย้งขึ้นทันทีเพราะเท่าที่พี่นุ้ยเล่ามันต้องเป็นกรณีที่นักกายภาพเป็นผู้หญิงสิ แต่นี่ผมเป็นผู้ชายนะ

"ก็ใครใช้ให้คุณขิงน่ารักแบบนี้กันล่ะคะ ป้าแกก็ต้องมีบ้างแหละที่จะรู้สึกแบบนั้น" ผมกลอกตาแล้วถอนหายใจ อย่างปลงๆ

"งั้นเหรอครับ"

"ค่ะ แล้วคุณขิงอยากได้อะไรรึเปล่าคะ? เดี๋ยวพี่หาให้"

"อ๊ะลืมไปเลย ผมว่าจะเอาผลไม้กับน้ำไปให้คุณครามน่ะครับ ไม่สบายแบบนี้ต้องทานอาหารให้ครบห้าหมู่ จะได้แข็งแรง เดินได้ปกติเร็วๆ" ผมประชดตัวเองแล้วหยิบแก้วออกมาสองใบพร้อมกับเหยือกใส่น้ำส้มคั้นที่ทำไว้ตั้งแต่เมื่อวาน

"ดีจังค่ะ ปกตินายหัวไม่ค่อยสนใจทานหรอกนะคะพวกผลไม้เนี๊ยะ"

"นายหัวของพี่นุ้ยนี่ก็กินยากเหมือนกันนะครับ เห็นตัวโตแบบนี้ไม่คิดว่าจะกินยากนะครับ" ผมถามพี่นุ้ย

"นายหัวเป็นคนกินง่าย อยู่ง่ายค่ะ แต่มักจะห่วงงานจนไม่ค่อยดูแลตัวเอง ข้าวปลาก็ทานไม่ค่อยตรงเวลา ผลไม้ก็มีแต่ก็ไม่ค่อยทาน เพราะทานข้าวเสร็จก็จะกระโดดเข้าใส่งานเลยทันที" ผมพยักหน้าหงึกงัก ปรับเปลี่ยนความเข้าใจใหม่ ที่ไม่กินเพราะมีเวลาแต่ห่วงงาน อดคิดไม่ได้ว่าบ้างานขนาดนี้รึเปล่า ภรรยาเค้าถึงทิ้งไป

"นี่ค่ะฝรั่งกับส้มจีน เดี๋ยวพี่เอามังคุดกับลิ้นจี่ไปให้ทีหลัง สองอย่างนี่นายหัวชอบเป็นพิเศษค่ะ" ชอบเหมือนกันเลยแหะ พูดถึงลิ้นจี่ก็นึกถึงสวนลิ้นจี่กับลำไยที่บ้าน ตอนนี้คงถึงฤดูเก็บลำไยแล้วล่ะ ไว้ว่างๆ ให้พ่อส่งมาให้ดีกว่า อยากกิน ปกติถ้าผมอยู่ที่บ้าน พอถึงหน้าลำไยทีไร คนงานในสวนก็จะเอาบันไดไม้ไผ่มาปีนแล้วเก็บใส่ตระกร้าหย่อนลงไปกับเชือกให้คนงานผู้หญิงเป็นคนเด็ดใบแล้วก็จัดแต่งพวงให้สวยๆ จากนั้นเอาใส่ตระกร้าส่งขาย ส่วนลูกที่มันหลุดออกจากพวง เราเรียกว่าลำไยร่วง ลำไยแบบนี้เราก็จะแยกใส่ตะกร้าไว้อีกที่หนึ่งแล้วเอาไปชั่งขายเป็นกิโลโดยต้องเอาไปเข้าเครื่องร่อนที่เป็นตะแกงเหล็กเป็นรูๆ ตามขนาดต่างๆ เพื่อคัดเกรด (ขนาดลูก) มีทั้งAA ที่ราคาสูงสุดเพราะลูกใหญ่สุด รองมาก็ A B แล้วก็ C ตามลำดับ ซึ่งแต่ละปีราคาก็จะไม่เท่ากัน ลำไยที่เข้าเครื่องร่อนแบบนี้โรงงานเค้าจะรับซื้อไว้ไปทำลำไยอบแห้งส่งออกไปจีน ส่วนลิ้นจี้ก็แค่ปีนไปเก็บแล้วจัดแต่งใส่ตระกร้าเพื่อนำไปขายสด อีกเกรดหนึ่งก็เอาทำลิ้นจี้กระป๋อง ง่ายกว่าลำไยเพราะไม่ต้องคัดแยกอะไร

"ขอบคุณครับพี่นุ้ย ลืมบอกไปว่าตอนกลางคืนรบกวนพี่นุ้ยอุ่นนมให้คุณครามด้วยนะครับ จะได้ช่วยเสริมสร้างกระดูก" ถึงเค้าจะเดินได้แล้ว แต่มันก็ยังจำเป็นอยู่ดีสำหรับผู้ป่วยที่เพิ่งหายใหม่หรือเพิ่งกลับมาเดินได้ใหม่เพราะกระดูกกำลังเชื่อมต่อกัน อาจไม่แข็งแรงเต็มที่ ในส่วนของคุณครามต้องรอให้คุณหมอมาตรวจดูอีกที แต่เรื่องนี้ผมว่าหมอตั้นเองก็น่าจะมีส่วนรู้เห็นด้วยเหมือนกัน เพราะเค้าเป็นเพื่อนกันนี่หน่า

"ได้ค่ะ"


...........................

...................


หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 8 (04/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 04-11-2015 13:07:50
คุณครามหลงขิงแล้วล่ะอีท่านี้
ลืมไปเลยว่าขิงมีแฟน555
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 8 (04/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 04-11-2015 13:38:58
มาอ่านสองตอนรวดเลย ตกใจนึกว่าน้องขิงเสร็จพี่ครามแน่แล้ว ...  :hao6:
เหมือนจะรักตบจุบแบบโสรญายังไงก็ไม่รู้ สงสารขิงอะ

แต่ถ้าขิงได้เป็นนายหญิงก็ดีนะซิ... :hao3:


หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 8 (04/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 04-11-2015 18:59:57

ก่อนอื่นเลยต้องขอขอบคุณทุกคนที่ติดตามและคอมเม้นต์เรื่องนี้ ผมจะนำคำตมนั้นไปแก้ไขในครั้งต่อไปแน่นอนคราฟฟฟ #นายหัวขี้เก๊ก #นักกายภาพจอมเฮี๊ยบ

@คุณ MukmaoY -  ขอภัยด้วยจ้าสำหรับคำผิด เค้าพิมพ์ในไอแพดมินิ เลยลำบากไปนิดนึงนะ ต่อไปจะพยายามตรวจคำผิดให้ละเอียดมากขึ้นครับ
                            - พระเอกเราโหด แต่ไม่มากหรอก มีมุมน่ารักอยู่นะเออ ^^
                            - เอายังไงดีกับแฟนของขิง ฆ่ามันทิ้งเลยดีไหม? อ่อย!!

@คุณ PFlove      - หมอตั้น กับคีย์เค้ามีซัมทิงกัน แล้วอีกอย่างเฮียแกก็ชอบเด็กดื้อด้วย เลยต้องปราบพยศ >> ติดตามๆ
                            -นายเอกเสร็จพระเอกง่ายก็ไม่หนุกดิ ขอเล่นตัวไปก่อนนะ บั๊ยยยยยย!!! อิอิ
                            - ทำยังไงให้ครามหลวรักขิงแล้วให้ขิงเป็นนายหญิงคนใหม่ดี???

@คุณ neverland  - ทีมพระเอกเชียร์เต็มที่เลย อิอิ

@คุณ Patchylove - ถ้าเค้าว่างจะมาต่อบ่อยๆนะตัวเอง เค้ามีงานหลักที่ต้องเดินทางไกลตลอดด้วยอะ รอเค้าหน่อยนะจ๊ะ ม๊วฟๆ

@คุณ cavalli       - เดี๋ยวเค้ามาต่อบ่อยๆนะ ค้างนานไม่ดีเนอะ ฝากให้กำลังใจขิงด้วยนะ จะได้มีกำลังใจสู้รบกับนายหัวคราม

@คุณ HamsteR   - จำเลยรักเลยเหรอ? อาพิศาลเป็นคนเทรนด์นายหัวเองเลยแหละ อิอิ ไม่ได้โหดขนาดนั้น

LOVE U คนอ่าน
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 8 (04/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: HamsteR ที่ 04-11-2015 19:54:25
คุณครามเหมือนว่าจะรู้สึกดีๆกับขิงโดยไม่รู้ตัว แต่คงจะยังไม่ยอมรับใจตัวเองง่ายๆแหะ ดูเป็นพวกดื้อและเอาแต่ใจพอสมควร เดาว่าจะต้องมีเหตุพิสูจน์หัวใจทั้งคู่แน่ๆ ส่วนตัวขิงเอง ตอนนี้ก็คงจะยังไม่ได้คิดอะไรกับคุณคราม เพราะตนมีแฟนอยู่แล้ว แต่จะว่าไป แฟนขิงก็เจ้าชู้เงียบนี่เนอะ พอจะเดาได้ลางๆแล้ว ระยะทางกับความใกล้ชิดมันน่ากลัวนะ หึหึ

ปล.บ่นซะยืดยาวเลย (ส่วนตัวชอบนิยายแนวนี้อ่ะ) สู้ ๆ ๆ ครับ คุณคนเขียน
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 8 (04/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: imvodka ที่ 04-11-2015 21:36:09
 :mew3: เนื่อเรื่องสนุกมาก ขออย่าให้มีดราม่า
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 8 (04/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 04-11-2015 21:47:52
คุณครามตีเนียนนะ เนียนมาก ขี้แกล้งด้วย   :ling1:
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 8 (04/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 05-11-2015 02:27:29
 :impress2:
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 8 (04/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ben ที่ 05-11-2015 16:24:02
ชอบอะ ต่อไวๆนะค่า
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 8 (04/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 06-11-2015 00:31:48
อ่านเพลินเลย แล้วมาต่ออีกนะ :pig4:
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 9 (08/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 08-11-2015 09:42:20



อันดามัน...ซ่อนรัก
ตอนที่ 9




วันที่สองแล้วที่ผมต้องรีบอาบน้ำแต่งตัว เข้ามารอโทรศัพท์ในห้องคุณคราม ความจริงจะโทรไปหาพ่อกับแม่ตอนไหนก็ได้ แต่ติดที่ว่าคุณนายเธอไม่ชอบพกโทรศัพท์ติดตัว เอาวางไว้ไปเรื่อยบ้างแล้วก็ลืมที่ ส่วนพ่อก็อยู่คุมคนงานในสวนจนถึงเย็น กว่าจะกลับมาก็ค่ำๆ บางวันก็กลับดึกเลยเพราะอยู่ก๊งเหล้าขาวกับเพื่อนต่อที่ไร่ ถ้าโทรหาพ่อแต่แม่ไม่ได้คุยก็จะน้อยใจอีก

"มองทำไมคุณ?" ขิงถามหลังจากที่เดินเข้ามาในห้อง

"คิดว่าจะเห็นนายใส่ชุดนอนลายหมีมาซะอีก?"

"น...นี่คุณแอบดูโทรศัพท์ผม?" ขิงเม้นปาก ทั้งโกรธแล้วก็อาย มีสิทธิ์อะไรมาค้นโทรศัพท์คนอื่นแบบนี้ รูปนี้แม้แต่คีย์ก็ยังไม่เคยเห็น ขิงนึกถึงตัวเองตอนใส่ชุดนอนลายหมีที่แม่ซื้อมาจากตลาดให้ ด้วยเหตุผลที่ว่ามันน่ารักดีแล้วก็ลดราคา ของถูกแบบนี้แหละคุณนายเธอชอบนัก แค่เห็นแวบแรกก็สยองแล้ว แต่เพราะกลัวคุณนายเสียใจ เลยต้องใส่มันบ้างนานๆที แต่คุณนายก็ชมแล้วชมอีกว่าน้องขิงใส่แล้วน่ารักอย่างงั้นอย่างงี้ แล้วก็ให้พี่ขิมถ่ายรูปเก็บไว้อะคิดดู แต่รูปนี้นานละนะ เกือบปีแล้วมั้ง

"เปล่านิ" ครามปฏิเสธ

"ไม่เชื่ออะ...คุณโกหก"

"มีความจำเป็นอะไรที่ชั้นต้องโกหก? หื้ม?" ครามยักคิ้วถาม

นั่นสินะ..มีความจำเป็นอะไรที่ต้องโกหก? แต่ถ้าไม่เปิดดูแล้วเห็นรูปนั้นได้ยังไงล่ะ?"

"อะนี่...แม่นายโทรมาพอดี" ครามยื่นมือถือให้ แต่ก่อนที่จะกดรับ รูปของตัวเองที่ถ่ายคู่กับแม่และใส่ชุดนอนตัวนั้นก็โชว์หราขึ้นมาพอดี ขิงเงยหน้ามองครามแล้วยิ้มแหยะๆให้ โอเคเขาผิดเอง ก็คนมันลืมนี่หว่า ใครจะไปจำได้ว่าตั้งมันเป็นรูปตอนแม่โทรมา ถึงจะเห็นทุกวันก็เหอะ

"คุยในนี้แหละ"

 ก็ได้วะ..ถือว่าเมื่อกี้เขาเป็นคนผิด จะยอมให้ครั้งนึง ขิงทำหน้ามุ้ยเดินกลับมานั่งที่เดิม

"สวัสดีครับแม่" อย่าเข้าใจผิดว่าผมพูดภาษากลางกับแม่นะครับ ผมพูดภาษาเหนือหรือกำเมืองนั่นแหละ คุยกับคนในครอบครัว จะพูดภาษาอื่นทำไม...จริงไหม?

"น้องขิงกิ๋นข้าวรึยังลูก?" แม่ถาม

"กิ๋นแล้วครับแม่ แล้วแม่ลอกิ๋นรึยัง?"

"กิ๋นเรียบร้อยแล้วลูก แก๋งปลีใส่แคบหมูของโปรดลูกเลย อิอิ" แม่ชอบเป็นแบบนี้ตลอด ถ้าวันไหนทำของโปรดผมเมื่อไหร่ คุณนายก็จะโทรมาอวดให้ฟังตลอด ทำให้คนฟังกลืนน้ำลายตามแทบไม่ทัน

"แม่อะขิงบ่ได้กิ๋น แม่เอามายั่วเยี๊ยะหยัง คนมันไค้อยาก..ฮู้ก่อ?" เริ่มอ้อนแม่ละ ครามมองตามตาพริบๆ จนขิงต้องเบาเสียงตัวเองลงอีกหน่อย

"ถ้าอยากกินก็รีบกลับมาหาแม่สิ เดี๋ยวแม่ทำให้กิน" (ขอเปลี่ยนเป็นภาษากลางแล้วกันนะครับ เพราะกลัวคนอื่นจะไม่เข้าใจ อิอิ)

"แม่อะ!! ถ้ากลับได้ก็กลับไปแล้ว รอเสร็จงานแล้วขิงจะรีบกลับไปอยู่กับแม่นานๆเลย แล้วห้ามเบื่อก็แล้วกัน คิๆ"

"กลัวว่าจะไม่มามากกว่า ไปติดสาวใต้อยู่โน้นแล้วมั้งลูกแม่?" แม่ก็แซวเรื่องนี้ตลอด

"ไม่มีเลย ทำงานอยู่แต่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหนเลยแม่ก็รู้"

"แล้วพี่ๆอยู่ไหนกันครับ?" ไม่ต้องถามหาพ่อหรอกเพราะเมื่อกี้ได้ยินเสียงอยู่ใกล้ๆกันนี่แหละ คงจะเปิดลำโพงคุย

"เจ้าขุนมันไปส่งแฟนมันกลับบ้าน ส่วนเจ้าขิมก็คงทำรายรับอยู่ในห้องโน่นแหละ" พี่ขิมจะขยันไปไหนเนี๊ยะ แต่เอ๊ะพี่ขุน!!

"พี่ขุนมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่? ทำไมขิงไม่รู้ ไม่เห็นบอกกันบ้างเลย.....ถึงว่าช่วงนี้ไม่ค่อยโทรมาหาน้องเลย" ขิงทำเสียงงอนนิดหน่อย ครามมองตามตาพริบๆอีกครั้งเพราะไม่เคยเห็นนักกายภาพคนเก่งของเขาเป็นแบบนี้เลยสักครั้ง มองจนขิงถลึงตาใส่ก็ยังทำเป็นเฉย ขิงเลยเลิกสนใจแล้วคุยกับแม่ต่อ

"ทีเรายังมี จะให้พี่เราเค้าอยู่เป็นโสดได้ยังไง..พ่อคนนี้" ขิงเดินออกมาคุยที่ระเบียงเพราะอายสายตาคนบางคน......เอาแต่มองอยู่นั่นแหละ ไม่เคยเห็นคนพูดภาษาเหนือรึไง?.....

"ขิงไม่ได้บอกสักหน่อยว่าห้ามมี แค่น้อยใจที่พี่ขุนไม่บอก แล้วพี่สะใภ้ขิงสวยไหมครับ?" ขิงเลิกงอนแล้วถามถึงแฟนของพี่ชาย

"สวย กิริยามารยาทก็น่ารัก เรียบร้อย สเปคพี่เรานั่นแหละ ทีแรกแม่จะแนะนำให้รู้จักก็บอกไม่เอา พอเจอเค้าจริงๆตอนไปส่งแม่ไปทำธุระถึงกับพูดไม่ออกเชียว อิอิ" แม่เผาพี่ขุนให้ฟัง พี่ชายผมเป็นแข็งๆ ทื่อๆ ออกห่ามๆ นิดๆ ถอดพ่อมาเดะ แต่พ่อบอกว่าแบบนี้แหละผู้หญิงชอบ

"เค้าเป็นลูกคนรู้จักแม่เหรอ?" ขิงถามแม่

"ใช่จ๊ะ หนูดาเค้าเป็นลูกสาวของเพื่อนแม่ ลูกพ่อเลี้ยงมานพกับแม่เลี้ยงทัศนีย์เจ้าของไร่องุ่นทัศนีย์ลูกเคยได้ยินไหม?" เหมือนจะเคยได้ยินแหะแต่จำไม่ได้

"แม่ๆงั้นขิงขอวางก่อนนะ พรุ่งนี้ขิงโทรหาใหม่ ฝากหอมแก้มพ่อด้วย คิๆ" ขิงบอกลาแม่แล้ววางสาย เพราะมีคนมาแอบฟังอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ทำทีเป็นเอาหนังสือออกมาอ่าน ทั้งๆที่ตรงโน้นก็นั่งอ่านได้


คุยกับแม่แป๊บเดียวก็ปาไปสามทุ่มกว่าจะสี่ทุ่มแล้ว เวลาเดินเร็วจริง...ทีอยากให้เดินเร็วกลับเดินช้า เหมือนตอนอยู่เฝ้าบางคนนั่นแหละ ครั้งก่อนแม่กับพ่อก็โทรมาถามว่าทำงานที่นั่นเป็นไงบ้าง? เจ้านายใหม่ใจดีไหม? อยากตอบเหลือเกินว่า เจ้านายโหดมาก ชอบแกล้งสารพัด แต่กลัวพวกท่านจะเป็นห่วง เลยตอบไปว่าเจ้านายใจดีมากแทน จากนั้นแม่ก็ถามเรื่องอื่นอีกเยอะแยะจนจำแทบไม่หมด ทั้งอากาศที่นี่เป็นไงบ้าง? อาหารการกินที่นี่อร่อยไหม? เพราะแม่กลัวว่ามันจะเผ็ดจนกินไม่ได้


หลังจากคุยกับแม่เสร็จผมก็ขอตัวกลับมานอน อีกอย่างเจ้าของห้องเค้าจะได้พักผ่อนด้วย แต่ความจริงยังไม่ถึงเวลานอนของผมหรอก แค่พูดให้ดูดีไปงั้นแหละ ดูสารคดีจนจบแล้ว แต่ยังไม่ง่วงเลยเอาโทรศัพท์ขึ้นมาออนเฟซบุ๊ค แต่เล่นไปสักพักก็เบื่อแล้วเหมือนกัน เพราะวันนี้คนช่างพูดอย่างคีย์ไม่ออนเเลย คงจะติดธุระหรือไม่ก็งั้นหลับแล้วมั้ง ได้ยินเจ้าตัวบอกเหมือนกันว่าเริ่มเข้าไปเรียนรู้งานกับทางบ้านแล้ว ส่วนเจตอนนี้หายเงียบไปเลย  มีแต่ข้อความบอกว่ากำลังจะได้เลื่อนตำแหน่ง ทำให้ไม่ว่างเพราะงานเยอะขึ้น ขิงถอนหายใจแล้วบอกลาเพื่อนๆ

ทีแรกว่าจะนอนเลย แต่เอาเข้าจริงๆหัวถึงหมอนแล้วแต่กลับนอนไม่หลับ เดินลงไปหานมอุ่นๆในครัวกิน เผื่อมันจะช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้นดีกว่า

"ไฟในห้องยังเปิดอยู่ ดึกป่านนี้ยังไม่นอนอีกเหรอ?" ขิงเทนมอุ่นใส่แก้วอีกใบหนึ่ง ตั้งใจว่าจะเอาไปเผื่ออีกคนด้วย



"ก๊อกๆ ๆ"

"ใคร?" ครามถาม

"ผมเองคุณ"

"เข้ามาสิ"

"ผมเอานมอุ่นมาให้ครับ เห็นไฟห้องคุณเปิดอยู่ คิดว่าคงยังไม่นอน" ขิงกวาดตามองบนโต๊ะทำงานมีแต่เอกสารอะไรไม่รู้เต็มไปหมด ไม่แปลกใจเลยครับว่าทำไมเขาถึงเป็นนายหัวได้ตั้งแต่อายุยังน้อย 

พ่อเคยบอกว่า "จะเป็นเจ้านายคนอื่นเค้าได้ ต้องขยันและทำได้มากกว่าที่ลูกน้องทำ"  ตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจหรอกว่าจะทำขนาดไปทำไม ลูกน้องเราก็มีตั้งเยอะแยะ ยิ่งพอเห็นพ่อทำงานจนดึก ทุ่มเททุกอย่างให้แล้วก็ยิ่งไม่เข้าใจ จนโตมานั่นแหละถึงจะเข้าใจว่าการที่เราจะเป็นเจ้านายเค้า...เราต้องเข้าใจ และทำทุกอย่างให้เป็น เพราะหากว่าเจ้านายยังทำไม่เป็น แล้วลูกน้องอย่างพวกเขาล่ะจะมีใครมาสอน เค้าจะเคารพเจ้านายที่ดีแต่สั่ง แต่ทำอะไรไม่เป็นสักอย่างเหรอ?

"เอามาให้ทำไม...... ชั้นไม่ใช่เด็กๆ จะได้กินนมแล้วนอน" ดูพูดเข้าสิ คนอุตส่าห์หวังดี รู้งี้ไม่เอามาให้ก็ดี

"ผมก็ไม่ได้ว่าคุณเป็นเด็กสักหน่อย แค่เอามาให้เพราะมันช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แค่เท่านั้นเอง"

"ไม่ชอบกิน" ครามตีหน้าเฉยแล้วก้มทำงานต่อ

"งั้นก็เลือกเอาครับ กินแคลเซียมที่หมอตั้นเอามา หรือจะกินนมแบบนี้?" ดื้อๆแบบนี้ต้องโดนบังคับซะบ้าง

"ยังจะให้ชั้นเลือกอีกเหรอ ในเมื่อนายก็บังคับให้กินมันทั้งสองอย่างเลยไม่ใช่รึไง?" ก็รู้อยู่แล้วไงจะถามทำไม?

"เอาหน่าคุณ มันดีต่อสุขภาพ" ขิงวางแก้วนมไว้บนโต๊ะ ยืนกดดันมันอย่างนี้แหละจนกว่าจะกิน

"จะให้ชั้นกินจนได้ใช่ไหม?" ครามเงยหน้าขึ้นมาถาม ขิงก็พงกหัวรับเบาๆ

"แลกกับอะไร?"

"ต้องแลกด้วยเหรอคุณ?"

"อื้ม" ครามตอบเสียงเรียบแต่แววตาแฝงด้วยความวิบวับที่ขิงไม่เห็น

"แล้วคุณอยากได้อะไรล่ะ?"

"ยังคิดไม่ออก ถ้าคิดได้แล้วจะบอกเอง" ครามหยิบนมมาดื่มจนหมดแก้วแล้ววางกลับที่เดิม

"ดึกแล้วคุณยังทำงานอยู่อีกเหรอครับ?"กองเอกสาร แฟ้มงานอะไรไม่รู้เยอะแยะมากมายเต็มไปหมด  คงไม่ใช่ว่าจะนั่งตรวจพวกนี้จนหมดภายในคืนนี้หรอกนะ

"อื้ม งานมันรอไม่ได้ ต้องพิจารณาก่อนเซ็นต์อนุมัติ"

"พักสักหน่อยพรุ่งนี้เช้าค่อยตื่นมาทำก็ได้นิครับ"

"ไม่ได้หรอก ขอทำต่ออีกนิดแล้วค่อยนอน งานค้างอยู่แบบนี้เห็นแล้วมันนอนไม่หลับ จะทิ้งให้นายชิตทั้งหมดก็ไม่ไว้ใจสักเท่าไหร่" ผมได้แต่พยักหน้าเพราะเข้าใจว่ามันเป็นยังไง

"นายชิตคือใครครับ ผมถามได้ไหมเอ่ย?" ครามหันมามองขิงแล้วหยุดคิด

"เป็นหัวหน้าคนงานที่ฟาร์ม" ผมพยักหน้าแล้วคิดตาม พยายามนึกภาพฟาร์มหอยมุกที่ว่า แต่ยังไงก็คิดไม่ออก

"งั้นให้ผมช่วยดูให้ไหมครับ? ถ้าไม่กลัวผมเอาความลับไปบอกคนอื่น"

"นายไม่ทำอย่างนั้นหรอก เพราะนี่คือธุรกิจของครอบครัวชั้นกับครอบครัวของเพื่อนนาย" ขิงพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วย

"เคยทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายรึเปล่า?"

"ถ้าเป็นพวกรายรับ-รายจ่ายปกติก็พอได้อยู่ครับ เคยทำให้ที่บ้านอยู่" ผมเคยช่วยพ่อทำอยู่นะพวกนี้ ถึงไม่บ่อย แต่ก็พอทำได้ สมัยก่อนพ่อกับแม่ช่วยกันทำ แต่พอพี่ขิมเรียนจบแล้วก็กลับมาช่วยที่บ้าน งานพวกนี้เลยตกเป็นหน้าที่ของพี่ขิมแทน เพราะพี่ขิมจบบัญชีมาโดยเฉพาะ

"งั้นเอานี่ไปทำแล้วกัน" ครามยื่นแฟ้มหนาๆให้

"คุณพักสายตาสักหน่อยก็ได้ครับ เดี๋ยวผมทำเสร็จจะปลุก" เห็นจ้องตัวหนังสือเยอะแบบนี้ตั้งนาน พักสายตาสักหน่อยน่าจะดี เกิดล้มหมอนนอนเสื่อมไปจะลำบาก

"อื้ม" ครามเอามือนวดตากับหัวคิ้วก่อนจะเอ็นหลังพิงพนักเก้าอี้

"นอนเอ็นบนเตียงดีกว่านะครับ เดี๋ยวจะปวดหลังเอา"

***************

**********

*****

"เวลานอนนี่เหมือนแมว ตอนตื่นขึ้นมาเหมือนเสือ" ขิงคิดในใจ แล้วแอบชโงกหน้าดูคนที่กำลังนอนอยู่ มองไปเรื่อยๆตั้งแต่คิ้ว ตา ไปถึงจมูกโด่งเป็นสัน แล้วลงมาที่ปาก "บางดีเนอะ ไม่ว่าส่วนไหนก็ดูลงตัวไปหมดแหะ"

"นายนี่ชอบแอบมองชั้นจริงๆนะ"

"โอ๊ะ!!!เห้ย!!!" ขิงตกใจจนล้มลงทับอีกคนที่นอนอยู่

"เอ่อ...คุณเจ็บตรงไหนรึเปล่า?"

"เปล่า"  เห้ออออ โล่งอก นึกว่าจะทับโดนขาที่หักแล้วซะอีก

"งั้น..งั้นปล่อยผมลงเถอะ แหะๆ" ขิงเกาแก้ม หน้าแดง เพราะท่ามันล่อแหลมมาก ยิ่งสบตาคมๆคิ้วเข้มๆแล้วยิ่งเขินจนทำอะไรไม่ถูก

"อื้ม.....แป๊บนึงนะ!!"

"คุณเจ็บขาเหรอ หรือว่าเจ็บตรงไหน?" ขิงตกใจ ดิ้นขลุกขลัก

"เปล่า!!" ครามตอบเบาๆแล้วถอนหายใจเสียงดัง

"อ๊ะ!!! หรือว่า....."  ขิงทำตาโต หน้าแดงลามมาจนถึงคอ  ไม่คิดว่าจะทับจุดยุทธศาสตร์ของครามอยู่

"อื้ม!! อย่าเพิ่งขยับนะ เดี๋ยวมัน....." ไม่ทันแล้ว ขิงขยับตัวลงอย่างรวดเร็ว  แต่เพราะถูกจับเอวไว้เลยยังดิ้นขลุกขลักอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน

"ซี๊ดดดดดด....." ครามส่งเสียงเบาๆอย่างอดทน

"คุณ........."

"เชื่อชั้นเถอะ แค่...แป๊บเดียว" ครามถอนหายใจยาวบอกขิงก่อนที่ตัวเองจะทนไม่ไหวแล้วทำอะไรบ้าๆลงไป

"แต่มัน......?"

"ขิง!!........." ครามคำรามเบาๆ

"ไม่เอาผมจะลง ปล่อยผมลงนะคุณ!!" ของดิ้นขลุกขลักกว่าเดิม

"บอกไม่ฟังเองนะ"

"อุ๊บ!!!..........." ไม่ทันได้ตั้งตัว ลิ้นอุ่นหนาก็สอดเข้ามาในปากแล้ว

"อื้มมมมมมมม " ครามส่งเสียงพอใจ มือข้างหนึ่งลูบสะโพกมน อีกข้างจับเอวไว้ พอรู้ว่าขิงหายใจไม่ทันก็ถอนปากออกแล้วตามกลับมาจูบอีก

ขิงถูกตะโบมจูบจนเคลิ้มอ่อนจนครามต้องพลิกกลับมาอยู่ด้านบนซะเอง ปากสีซีดไล่เลียมาจนถึงลำคอขาวและลาดไหล่ มือหนาสอดเข้าไปใต้เสื้อยืดตัวบาง  รู้ตัวไม่ใช่ไม่รู้..แต่มันหยุดไม่ได้

 "นี่เขาห่างเรื่องอย่างว่ามานานจนรู้สึกขนาดนี้เลยเหรอ??" แวบนึงที่ครามคิดในหัว

"อื้ออออ....อ่อย!! ปึกๆๆ (ปล่อย)" ขิงทุบกำปั้นลงที่อกหนา แล้วผลักครามออก ก่อนจะกระโดดลงจากเตียงอย่างรวดเร็วแล้วก้าวฉับๆออกห้องไป

"ขิง!! เดี๋ยวก่อน....."

"ปั่ง!!" ไม่ทันแล้ว เสียงประตูปิดลงอย่างดัง ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ติด แล้วก็ยับยั้งไม่ได้เช่นกัน ครามใช้สองมือลูบหน้าตัวเองแล้วพิงหัวเตียง

"บัดซบเอ๊ย!!!......" ครามสะบดออกมาเพื่อระบายอารมณ์ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าคิดอะไรอยู่ตอนนั้น




"เกิดอะไรขึ้นรึเปล่าคะคุณขิง?" ขิงเดินลงมาข้างล่างหวังว่าจะสงบสติตัวเอง ขืนอยู่ข้างบนต่อเขาเองนั่นแหละที่จะฟุ้งซ่านกว่าเดิมเพราะห้องอยู่ติดกัน ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ห้องเดียวกัน เพียงแต่มีกำแพงกั้นแค่นั้นเอง

"ปะ..เปล่าครับ ไม่มีอะไร?" ขิงรีบจัดเสื้อผ้าตัวเองให้เข้าที่

"แน่ใจเหรอคะ? แต่เมื่อกี้พี่เหมือนได้ยินเสียงดังมาจากห้องนายหัวนะคะ" ขิงสะอึกคำพูดของนุ้ย

"ผมไม่เห็นได้ยินเลยนะครับ"

"นั่นสิคะ พี่คงหูแว่วไปเอง" นุ้ยเกาหัว

"ครับ"

"งั้นพี่ไปนอนนะคะ คุณขิงก็นอนได้แล้วนะคะ ดึกแล้ว พรุ่งนี้มีตักบาตรเช้าด้วย เดี๋ยวจะตื่นไม่ทัน" จริงสินะพรุ่งนี้มีตักบาตรเช้า

"ครับ งั้นผมขอตัวไปนอนก่อนนะครับพี่นุ้ย ฝันดีครับ"

กลับมาถึงห้อง ขิงเดินเข้าไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ มือเรียวจับปากที่ถูกจูบจนบวมเจ่ออยู่หน้ากระจก ไล่มาจนถึงคอที่ตอนนี้ขึ้นเป็นรอยเม้มสีแดงเป็นจ้ำๆ ในหัวตอนนี้มีแต่คำถามร้อยพันเกิดขึ้นเต็มไปหมด ขิงถอนหายใจออกมายาวๆแล้วกวักน้ำล้างหน้าอีกครั้ง ตาสวยหลับลงช้าๆ ภาพเมื่อครู่ฉายซ้ำไปซ้ำมาในสมอง แม้บางช่วงจะขาดๆหายไปบ้างแต่เขากลับจำได้เสียงตอนนั้นได้แม่นยำ ขิงหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดหน้าแล้วล้มตัวลงนอนทั้งๆที่ยังไม่อยากนอนเลยสักนิด


***************


**********


*****






>>> ฉากนี้ละเอียดอ่อนมาก คนแต่งยังบริสุทธิ์อยู่เลยยังไม่ประสา???? ต้องขออภัยด้วยครับ อ่อยยยย!!!



หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 9 (08/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ben ที่ 08-11-2015 13:10:29
ว๊ายยย ขิงเกือบโดนเขมือบแล้ว ><
เจนี่ต้องมีคนอื่นแน่ๆ
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 9 (08/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 08-11-2015 13:18:08
 :hao6:
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 9 (08/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 08-11-2015 14:28:41
คุณครามมมมม ทำอย่างนี้กับน้องขิมได้ไง!

แต่เราจะได้เห็นคุณครามโหมดง้อใช่มั้ย คึคึ

แต่ขิมยังไม่เลิกกับแฟนอ่ะ รู้สึกผิดแทนขิมเลย...

 :mew2:
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 9 (08/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 08-11-2015 17:28:08
ขิงนี้น่ารักกับคุณครามทุกวันขนาดนี้ คุณครามตกหลุมรักขิงไปแล้วแน่ๆ .. :-[

แอบลุ้นจนหน้าติดจอ(จิตนาการภาพเอง)  :m25: .... เฮ้อ! ..ตั้งรอดูต่อไป..
คนแต่งใจร้ายอะมาให้จิ้นนิดเดียวเอง  :katai1:

แต่ก็แอบกังวลขิงยังมีแฟนอยู่นี่น่า...  :z3:   

อยากให้คุณครามอ้อนขิงแบบนี้บ่อยๆแต่ก็แอบลุ้นกลัวแฟนขิงรู้และคงมีเรื่องแน่(แบบไม่อยากกินมาม่า)  :ling3:
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 9 (08/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 08-11-2015 17:44:42
มันช่าง dilemmaยิ่งนัก
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 9 (08/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-11-2015 18:23:14
อยู่ยากแล้วอย่างนี้
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 9 (08/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 08-11-2015 18:51:14
>>> อย่าเพิ่งบ่น หรืองอนคนแต่งสิเจ้าคะ มาแล้วๆ มาต่อให้แล้วๆ เมื่อกี้แอบเจ้านายลง ตอนนี้ถึงบ้านแล้ว ลงต่อให้แล้วนะจ๊ะ ไม่ค้างละนะ อ่อยยยยย!!! ^^




===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||



อันดามัน...ซ่อนรัก
ตอนที่ 9.2





"ก๊อกๆๆ คุณขิงคะ คุณขิง"
 
"ครับพี่นุ้ย "
 
"ตื่นรึยังคะ?"
 
"ตื่นแล้วครับ เดี๋ยวผมลงไปครับ"
 
"โอเคค่ะ งั้นพี่ไปรอข้างล่างนะคะ"
 
สายขนาดนี้แล้วเหรอเนี๊ยะ เพิ่งงีบหลับไปตอนรุ่งเช้านี้เอง ขิงลุกขึ้นจากเตียงแล้วคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป แปรงฟันล้างหน้าล้างตาอย่างเดียวก็พอ เพราะไม่มีเวลาแล้ว
 
หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จเขาก็เปิดตู้เสื้อผ้าเลือกเสื้อเชิร์ตคอปกออกมาเพราะรอยตรงคอทำให้เขาต้องคิดหนัก กลัวคนอื่นจะเห็นเข้า ขิงถอนหายใจอีกครั้งอย่างปลงๆ
 
 
 
"อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณขิง"
 
"อรุณสวัสดิ์ครับพี่นุ้ย อรุณสวัสดิ์ครับป้าน้อย" รายแรกเขากล่าวทักทายแล้วยิ้มตอบ แต่รายหลังมองแล้วพยักหน้าอย่างเดียว
 
"วันนี้ตื่นสายเหรอค่ะ?" พี่นุ้ยถาม
 
"ครับ เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับนิดหน่อยครับ เลยไม่ได้ช่วยพี่นุ้ยกับป้าน้อยทำกับข้าวใส่บาตรด้วยเลย"
 
"เอาไว้คราวหน้าค่อยช่วยก็ได้ค่ะ วันพระไม่ได้มีหนเดียวสักหน่อย" อดคิดไม่ได้ว่าเป็นเป็นเพราะนายหัวของพี่นุ้ยนั่นแหละ ที่ทำให้ผมนอนไม่หลับ ต้องนอนพลิกไปพลิกมาตั้งนาน กว่าจะหลับได้ก็เกือบเช้าแล้ว
 
"แล้วนายหัวตื่นรึยังคะคุณขิง?"
 
"ลืมไปเลย งั้นผมไปพาคุณครามลงมาก่อนนะครับ" ผมก้มหัวให้พี่นุ้นและป้าน้อยก่อนจะเดินขึ้นไปบนชั้นสองของบ้าน
 
"ได้ค่ะ แต่รีบๆหน่อยก็ดีนะคะเดี๋ยวพระท่านใกล้จะมาแล้ว"
 
"ครับ"
 
 "แล้วไม่ต้องให้ลุงแช่มไปช่วยพยุงเหรอค่ะ?" พี่นุ้ยถามขณะที่กำลังจัดเตรียมของใส่บาตร
 
"ไม่ต้องก็ได้ครับ นายหัวของพี่นุ้ยแข็งแรงขึ้นมากแล้ว น่าจะพอเดินเองได้บ้างแล้ว ให้ลุงแช่มไปช่วยกลางโต๊ะเถอะครับ"
 
"โอเคค่ะ"
 
 
********************
 
**************
 
**********
 
"ก๊อกๆๆ" ขิงถอนหายใจเบาๆแล้วเคาะประตู
 
"พระใกล้จะมาแล้วครับ" ขิงก้มหน้าไม่สบตาเจ้าของห้อง
 
"อื้ม"
 
"งั้นไปกันเลยไหมครับ"
 
"พูดกับชั้นก็มองหน้าชั้นสิขิง!!" ครามพูดเสียงอ่อนเพราะรู้สึกผิด
 
"ผมว่าเราอย่าเพิ่งคุยกันเลยครับ พระท่านใกล้จะมาถึงแล้ว เดี๋ยวจะไม่ทัน"
 
 
***************
 
**********
 
*****
 
 
"นายหัวกับคุณขิงมาพอดี พระท่านกำลังมาถึงพอดีเลยค่ะ" พระสงฆ์จำนวนสามรูป พร้อมเณรน้อยอีกสองกำลังเดินมาถึงหน้าบ้าน
 
"นิมนต์ครับหลวงตา" ครามเอ่ยนมัสการ
 
"คุณขิงใส่บาตรพร้อมนายหัวสิคะ เดี๋ยวพี่ยื่นของให้"
 
"เอ่อ........." ขิงเงยหน้ามองครามก่อนจะทำตามที่นุ้ยว่า
 
 
"อะภิวาทะนะสีลิสสะ   นิจจัง   วุฒาปะจายิโน,
จัตตาโร   ธัมมาวัฑฒันติ  อายุ   วัณโณ   สุขัง   พลัง"
 
พวกเราทั้งหมดพนมมือขึ้นรับพรหลังจากที่ใส่บาตรเสร็จแล้ว
 
"ขาหายบ้างรึโยม?" หลวงตาเอ่ยถาม
 
"ครับหลวงตา ดีขึ้นมากแล้วขอครับ" ครามยกมือขึ้นประนมแนบอกตอบ
 
"เคราะห์ใหญ่ก็หมดไปแล้ว เหลือแต่วิบากกรรมเล็กๆน้อยๆ จากเจ้ากรรมนายเวร หมั่นทำบุญแผ่เมตตาให้พวกเค้าบ้างนะโยม เผื่อมันจะช่วยลดความอาฆาตพยาบาทลงไปบ้าง"
 
"ครับหลวงตา" ครามยกมือขึ้นจรดหน้าผาก
 
"ส่วนโยมก็เหมือนกันนะ ช่วยเหลือเกื้อกุลกันแล้วก็ช่วยกันต่อ เพราะคนเราเกิดมาคนละที่...แต่มีบุญวาสนาได้เจอกัน...นั่นก็เพราะบุพเพสันนิวาสและกรรมเก่าที่มีต่อกันเท่านั้นแหละ" ไม่ค่อยเข้าใจหรอกว่าหลวงตาท่านหมายถึงอะไร? เกื้อกูลใคร? ในหัวสมองตอนนี้ค่อนข้างเบลอเพราะนอนไม่พอ เช้านี้เลยเป็นอย่างที่เห็น
 
"ครับหลวงตา" ขิงยกมือจรดหน้าผาก
 
"หลวงลุงกลับมาจากธุดงค์แล้วเหรอเจ้าค่ะ? รู้อย่างนี้อิชั้นจะได้นำของไปถวายที่วัดตั้งหลายวันแล้ว" ป้าน้อยเอ่ยถามผู้ทรงศีล
 
"อาตมาก็เพิ่งกลับมาจากน่ะโยม แต่อย่าห่วงอาตมาเลย พระก็ควรมีอัถภาพตามพระ ไม่ต้องกังวลเรื่องความเป็นอยู่ของอาตมาหรอก ห่วงแต่ตัวโยมเถอะ การมีทิฐิเยอะโดยไม่คิดถึงความจริงมันก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาหรอก จำคำอาตมาไว้นะโยม"
 
"เจ้าค่ะหลวงลุง" ป้าน้อยยกมือพนมแล้วก้มหัวรับคำ
 
 
 
 
*********
 
*****
 
หลังจากตักบาตรเสร็จ พวกเราก็กลับเข้าบ้าน วันนี้ป้าน้อยทำมัสมั่นไก่ รวมถึงของโปรดคุณครามอีกหลายอย่าง ทั้งน้ำพริกลงเรือ ผัดสตอกุ้ง แล้วก็แกงจืดไข่ลูกลอก กับข้าวมื้อนี้เป็นมื้อที่อืมครืมไม่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมา เพราะคุณครามมัวแต่นั่งจ้องแล้วก็ตักอะไรต่อมิอะไรไม่รู้ใส่ในจานให้จนเต็ม ไปหมด จนป้าน้อยกับพี่นุ้ยมองกันใหญ่ที่นายหัวของบ้านดูแลลูกจ้างดีขนาดนี้ ยิ่งป้าน้อยคงไม่ต้องพูดถึง จ้องจนตาแทบถลนออกมาอยู่แล้ว ไอ้เราจะก้มหน้ากินต่อก็กระไรอยู่ เพราะมันพาลหมดอารมณ์กินตั้งแต่มีคนจ้องหน้าแล้วล่ะ เสร็จจากมื้อนี้คงโดนป้าน้อยมองในแง่ร้ายอีกตามเคย ยิ่งไม่เคยมองในดีอยู่ด้วย ขิงรวบช้อนแล้วดื่มน้ำตาม ถ้าเป็นไปได้อยากจะลืมเหตุการณ์บ้าๆเมื่อคืนให้หมด จะได้ไม่กระอักกระอ่วนกันแบบนี้
 
 
 
"หายโกรธชั้นรึยัง?" ครามถามครั้งนี้เป็นครั้งที่สิบแล้วตั้งแต่ตอนสายๆเป็นต้นมา
 
"....." ขิงส่ายหัวเบาๆ จนครามเริ่มท้อใจ เพราะเขาทำสาระพัดให้แล้วเพื่อเป็นการขอโทษ ตั้งแต่ขึ้นเงินเดือนให้ก็ไม่เอา พาไปเที่ยวก็ไม่เอา  บลาๆ
 
"งั้นสุดท้าย...ถ้าไม่เอาชั้นก็ไม่ง้อแล้วนะ" 
 
"ชั้นอนุญาตให้นายโทรหาที่บ้านได้สามครั้งไม่จำกัดเวลา"  ขิงส่ายหน้าปฏิเสธ ใครจะโทรไปบ่อยขนาดนั้น พ่อกับแม่ผมก็ต้องทำงานนะคุณ ใครจะมาว่างรับสายตลอดล่ะ
 
"ทำไมนายง้อยากง้อเย็นขนาดนี้ ยากยิ่งกว่าผู้หญิงซะอีก ชั้นเริ่มไม่ไหวแล้วนะ ถ้านายไม่หายงอน….. งั้นชั้นให้จูบคืนหลายๆทีเลยเอาไหม?" ครามทำตาเจ้าชู้ใส่ ขิงส่ายหัว แล้วถอนหายใจ คิดอยู่แล้วเชียวว่าคนแข็งๆทื่อๆแบบนี้ต้องง้อคนอื่นไม่เป็นแน่ๆ
 
"”ให้ทำรอยแบบนั้นด้วยก็ได้”  ครามยิ้มกริ่มแล้วชี้มาที่คอขิง

“ทะลึ่งแล้วคุณ”  ขิงเต๊ะท่าทำเสียงดุ

“ไม่รู้ล่ะ ชั้นใช้สิทธิ์ความเป็นเจ้านาย ห้ามนายโกรธหรืองอนเด็ดขาด เข้าใจไหม?”

“เอาสิ งั้นผมจะลาออกให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย แล้วเอาข้อมูลของบริษัทคุณไปขายให้บริษัทอื่น “

“นี่นายยอมรับแล้วใช่ไหมว่าเข้ามาที่นี่เพราะต้องการสืบข้อมูลบริษัทชั้น?”  ครามย่างเท้าเข้ามาหาแล้วมองหน้าเขม็ง

“ใช่ที่ไหนกันเล่า ผมประชดต่างหาก… เข้าใจไหม?”

“แล้วชั้นต้องเชื่อไหม?”

“ความจริงก็ไม่ แต่ผมพูดความจริงนะคุณ” อะไรกันเนี๊ยะเมื่อกี้เขายังเป็นต่ออยู่เลย ไหงตอนนี้เป้นแบบนี้ไปได้เนี๊ยะ

“แล้วทำยังไงคุณถึงจะเชื่อ?”

“แน่ใจนะว่านายจะยอมทำโดยไม่มีข้อแม้?”  ขิงพยักหน้าหงึกหงักรับคำ ทำไงได้ล่ะ ถ้าไม่ทำก็ถูกหาว่าเป็นผู้ต้องสงสัยอีก เผลอๆอาจถูกจับเข้าไปนอนในคุกอีก ขิงถอนหายใจ
>
>
“หายโกรธชั้นสิ” ครามพูดเสียงกวนๆ

“เกี่ยวอะไรกับที่ผมโกรธคุณด้วยเนี๊ยะ?” ขิงเริ่มงง

“ไม่รู้ สรุปคือนายต้องหายโกรธชั้นเท่านั้น  อ่อ..แล้วก็ห้ามงอนด้วย”

“คุณมันคนนิสัยเสีย เจ้าเล่ห์  ขี้โกง”  ขิงหน้างอ

“เดี๋ยว นั่นนายจะไหนน่ะ?”

“กลับห้อง ไม่อยากอยู่กับคนขี้โกง” ขิงหันมาตอบ

“แต่นายยังต้องดูแลชั้นอยู่นะ”

“ไม่สน  คุณเดินได้แล้วนิ”

“อย่างอนเป็นผู้หยิงหน่อยเลยหน่า ไม่หายงอนเดี๋ยวจับจูบอีกนะ” ครามแกล้งทำท่าจะกระโดดเข้าใส่

“มาสิ จูบอีกทีจะต่อยให้เลย” ขิงตั้งท่าวางมวย

“ดุเนอะ” ครามแซว แล้วยิ้มมุมปาก

“อื่ม”

“หึๆๆ โอเค  ชั้นยอมแพ้ แล้วก็ขอบโทษก็ได้ที่จูบนาย… พอใจยัง?”  ก็แค่เนี๊ยะแหละที่ต้องการ ขิงพยักหน้าหงักหงักอีกครั้ง

”แต่บอกไว้ก่อนนะ เรื่องของนาย นายยังตกเป็นผู้ต้องอยู่”

“แล้วแต่คุณเถอะ”  หมดเรื่องหมดราวสักที ไม่ชอบเลยบรรยากาศอึมครืม กระอักกระอ่วนแบบนั้น ส่วนเรื่องนั้นก็ช่างมันเถอะ เพราะมาคิดๆดูแล้ว เราเองก็ไม่ได้ขัดขืนจริงจังตั้งแต่ต้น  จะโทษเค้าฝ่ายเดียวก็ไม่ถูก 
 
 
 
 ===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||
 
(จบ)

อยากถามว่านายเอกดูปัญญาอ่อนไปไหมอะ แต่งมาแต่งไปรู้สึกว่าจะปัญญาอ่อนนิดๆ

ขอบคุณครับที่ติดตามแบะคอมเม้นต์ให้กำลังใจ

กำลังใจ !! จากใครหนอ ขอเป็นทานให้ฉันได้ไหมมมมมมมม 55555



 
 
 
 
 
 
 
***************
 
**********
 
*****
 
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 9.2 Up : (08/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 08-11-2015 19:01:18
ป้าน้อยนี่ท่าทางจะร้าย 555
หลวงพ่อพูดทักไว้ก่อนเลย :katai3:
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 9.2 Up : (08/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 08-11-2015 20:28:01


@คุณ MukmaoY : Dilemma??? ใช้ภาษาปะกิดเลย คนแต่งแทบมืนตืบ 5555 หนีเสือปะจระเข้

@คุณ B52  :mew1:

@คุณ patchylove : หลวงตาบอก ไม่บุพเพ ก็ กรรมเก่า 55555

@คุณ imvodka ปรบมือต้อนรับคนอ่านแล้วก็คนคอมเม้นต์คนใหม่ก่อน อิอิ // ดราม่ามีรึเปล่าต้องรอติดตามนะครับ

@คุณ neverland เห็นไหมพระเอกของเราไม่โหดนะ มีมุมน่ารักกรุบกริบอยู่เบาๆ

@คุณ Ben เกือบไปเนอะ แต่นายเอกถูกกินเราไม่น่าลุ้น รอไปก่อนนะคุณครามจ๋า

@คุณ tiew ไม่รู้ว่าโหมดงเอของนายหัวเราจะถูกใจคนอ่านรึเปล่า อิอิ

@คุณ PFlove เค้าแอบเจ้านายมาต่อให้พอหายคิดถึงอะ ยังไม่ทันจบงานเข้าซะก่อน เลยต้องทำเป็น 9.2 แทน ^^


ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นต์ ทุกกำลังใจครับผม ผิดพลาดยังไง ผมยินดีนำไปปรับปรุงต่อครับ ไปละ ไปเดินถนนคนเดินหาแรงบันดาลใจก่อน

หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 9.2 Up : (08/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 08-11-2015 20:57:52
ป้าน้อยเหมือนมาเป็นมารผจญความรัก
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 9.2 Up : (08/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 09-11-2015 00:17:24
 :laugh:


เคลียร์กับป้า แกดีล่ะ 55+
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 9.2 Up : (08/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 09-11-2015 18:13:16
เขาหมายถึงฉากจูบของคุณครามกับน้องขิงต่างหาก  :hao5: แต่ต่อไปขิงคงไม่ยอมง่ายๆแน่
และคุณครามนี้คงติดใจรสจูบของขิงแล้วแหละ...ลืมผู้หญิงได้เลย ฮิๆ  :hao3:

แต่ว่าคุณป้านี้..จะร้ายไปไหน?  คุณครามนะต้องเคลียร์คุณป้าให้น้องขิงนะถ้าอยากได้มาเป็นนายหญิง  :z2:
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 10 Up : (13/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 13-11-2015 16:54:25




อันดามัน...ซ่อนรัก
ตอนที่ 10




***************

**********

*****





เวลาผ่านไปเกือบอาทิตย์ สวนที่ถูกรื้ออกก็ถูกเนรมิตรขึ้นมาใหม่จนแทบไม่เหลือเค้าเดิมของมันเลย จากตอนแรกเป็นต้นไม้ดอกไม้ต้นเล็กๆ เป็นสีๆ ปลูกให้เป็นรูปเลขาคณิตซ้อนกันเป็นชั้นๆ ไป แล้วก็มีต้นใหญ่อยู่ตรงกลาง มีแปลงกุหลาบสีแดงติดกับตัวบ้าน สงสัยภรรยาเก่าของคุณครามเธอจะชอบดอกกุหลาบสีแดงแล้วก็ดอกไม้สีสดๆ แต่ตอนนี้มีแต่ดอกไม้สีขาว ดูอย่างตรงที่เป็นแปลงดอกกุหลาบก็กลายเป็นมะลิเต็มไปหมดเลย สวนดอกไม้หลากสีก็เป็นต้นดอกแก้ว ดอกพุด แต่ที่ผมชอบที่สุดคงเป็นที่ว่างติดกับซุ้มเฟื่องฟ้าที่ตอนนี้กลายเป็นต้นกล้วยไม้นานๆ ชนิดกับม่านน้ำตกเล็กๆไปแล้ว

"ลุงแช่มแกก็เข้าใจคิดนะครับ สร้างน้ำตกเล็กๆ ติดกำแพงฝั่งโน้น แล้วก็เอากล้วยไม้มาแขวนติดราวไว้ กลายเป็นเรือนกล้วยไม้ขนาดย่อมไปเลย" สวยดีนะผมชอบ ทำให้คิดถึงที่บ้านเลย แต่ที่บ้านผมไม่มีม่านน้ำตกแบบนี้หรอกนะ มันหรูหราแล้วก็ดูสิ้นเปลืองเกินไป แต่ที่นี่คงไม่เป็นไร เพราะนายหัวที่นี่เค้ารวย จะทำให้ใหญ่กว่านี้ หรูหรากว่านี้ก็ยังได้

"ใช่ความคิดลุงแช่มที่ไหนกัน" คุณครามแย้ง

" ถ้าไม่ใช่ความคิดลุงแช่ม แล้วความคิดใคร...หรือว่าคุณ?"

"อืม"

"จริงเหรอครับ? ไม่น่าเชื่อเลย ไหนคุณว่าไม่ค่อยมีหัวเรื่องต้นไม้ดอกไม้ไง?"

"ก็แค่อยากให้นายช่วยเลือกให้ดู เผื่อนายจะมีหัวทางด้านนี้" แบบนี้เค้าเรียกว่าแถรึเปล่า?

"แล้วคุณคิดยังไงถึงเลือกต้นกล้วยไม้ล่ะครับ?"  ที่ผมถามแบบนั้นเพราะ ภาคใต้มันร้อนมาก หากเอากล้วยไม้มาปลูกต้องดูแลดีๆ ไม่งั้นมันคงตายแน่ๆ

"แค่คิดว่าทางเหนือคงมีกล้วยไม้สวยๆ เยอะ เลยอยากลองทำบ้าง" แค่เนี๊ยะนะ??? ไม่อยากจะเชื่อเลยคุณคราม เลี้ยงกล้วยไม้มันไม่ใช่ของง่ายๆนะ  ไหนจะอุณหภูมิ ไหนจะปุ๋ยมันอีก แต่ก็เอาเหอะ ยังไงก็ยังมีลุงแช่มคอยดูแลให้อยู่ รอดไม่รอดก็อยู่ที่ลุงแช่มนี่แหละ

"เอาไว้ผมกลับบ้าน จะเอาเอื้องผึ้งมาให้ไหม? สวยนะครับ" แต่ต้องขอพ่อก่อน เพราะรายนั่นเค้าหวง พ่อผมชอบกล้วยไม้มาก ถ้าไม่ขลุกอยู่กับไก่ชน ก็จะมาอยู่กับกล้วยไม้นี่แหละ

"มันเป็นไง?" คุณครามถามเพราะคงไม่รู้จักกล้วยไม้สายพันธุ์นี้ ไอ้ผมก็ไม่รู้จักชื่อจริงๆหรือชื่อทางวิทยาศาสตร์มันด้วยสิ แต่ทางเหนือเค้าเรียกแบบนั้นกันนะ

"ต้นมันก็จะเล็กบ้าง ใหญ่บ้าง แล้วแต่สายพันธุ์ แต่ดอกมันจะเป็นสีเหลืองน้ำผึ้ง เล็กๆ เป็นช่อลงมา" ผมอธิบายไป เค้าก็ทำท่าคิดตามไป ผมว่ามุมนี้เค้าดูอบอุ่นดีนะ

"นายชอบพันธุ์นี้เหรอ?"

"ครับ ที่บ้านมีเยอะเลย มีคนบอกว่ามันเป็นเอกลักษณ์ของทางเหนือเลยนะครับ" ดูเหมือนว่าปีก่อนโน้นนางสงกรานต์จะทัดดอกเอื้องผึ้ง เป็นพญาดอกของปีด้วยนะ เพราะดอกปีบไม่มี เหตุที่ไม่มีเพราะไม่ใช่ฤดูของมัน ชาวบ้านเลยใช้ดอกเอื้องผึ้งแทน ถ้าจำไม่ผิด นางสงกรานต์แต่ละปีก็จะไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับปฏิทินว่าวันสงกรานต์จะตรงกับวันไหน ผลัดกันไป เครื่องทรงกับเครื่องเสวยก็จะไม่เหมือนกันด้วย นอกจากนั้นชาวบ้านยังใช้วันสงกรานต์และนางสงกรานต์ทำนายความอุดมสมบูรณ์ของบ้านเมืองอีกด้วย

"อื้ม ชักอยากเห็นแล้วสิ"

"หาดูในเน็ตสิครับ" จะให้ไปหาที่ไหนมาให้ดูตอนนี้ พูดแปลกๆ

"นั่นสินะ"

"แล้วคิดยังไงถึงทำน้ำตกตรงนี้ครับ? มันน่าจะใช้งบเยอะอยู่นะครับ"

"ลุงแช่มบอกว่า ดอกกล้วยไม้มันชอบที่ชื้นๆ เย็นๆ มีแดดร่มรำไร  เลยสร้างน้ำตกมันด้วยเลย เพราะตรงนั้นมีร่มไม้อยู่แล้วด้วย ไม่จำเป็นต้องทำหลังคาโรงกล้วยไม้ให้มันอีก" ลุงแช่มนี่ก็ขยันหาของเล่นมาให้นายหัวดีเนอะ

"ก็ดีนะครับ มันจะได้โดนน้ำค้าง โดนฝนบ้าง"

"อื้ม..... ชั้นว่าจะให้ลุงแช่มหาคนมาติดสายยางฉีดน้ำเล็กๆ แบบสปริงเกอร์ตรงราวด้วย นายว่าดีไหม?"

"ก็ดีครับ พ่อผมก็ทำแบบนั้นเหมือนกัน ประหยัดเวลาแล้วก็ไม่ลำบากด้วย"

"แล้วไม่สงสัยเหรอว่าต้นชมนาดของนายหายไปไหน?" ผมรู้สึกว่าตั้งแต่ครั้งก่อนคุณครามดูเหมือนมีอะไรแปลกๆไปนะ ดูยิ้มง่ายขึ้นนิดนึง แล้วก็ดูขี้เล่นมากขึ้นอีกด้วย

"ก็สงสัยครับ แต่คิดว่าคุณคงไม่ชอบ เลยไม่เอามาปลูก"

"ใช่ที่ไหนล่ะ ชั้นกำลังรอให้เค้าเอามาส่งอยู่ จะเอาไปปลูกตรงริมระเบียงห้องนายกับห้องชั้นต่างหาก"

"จริงเหรอครับ? คุณยังไม่เคยเห็นมันเลย แล้วจะรู้เหรอครับว่ามันสวยถูกใจคุณไหม๊? หรือจะชอบกลิ่นมันไหม๊?"

"ไม่ต้องห่วงหรอก ชั้นเชื่อใจนาย อีกอย่างชั้นลองไปหาจากอินเทอร์เน็ตมาแล้วล่ะ"

"แน่ใจเหรอครับ?"

"อื้ม"

"ขอบคุณครับ"

"ชดเชยกับเรื่องที่ทำไว้ครั้งก่อนได้ไหม๊?"

"ความจริงคุณไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้เลยนิครับ มันผ่านไปแล้ว แล้วผมก็ไม่ติดใจอะไรแล้วด้วย"

"แต่ชั้นยังติดใจ" จะติดใจอะไรอีก? ขนาดผมเป็นคนโดนกระทำยังไม่อะไรแล้วเลย แต่นี่คุณเป็นผู้กระทำนะ จะคิดมากไปทำไม?

"ตามใจคุณเถอะครับ เอาเป็นว่าผมชอบ แล้วก็ขอบคุณอีกครั้งครับ" แต่เอามาปลูกไว้ที่ระเบียงห้องผมทำไม? พอขาเค้าหายแล้ว ผมก็ต้องกลับบ้านของผม อีกอย่างปลูกตอนนี้มันก็ยังไม่ออกดอกหรอก ต้องรอให้มันโตเต็มที่โน้น

"อื้ม"

"ต้นชมนาดมันต้องมีร้านหรือซุ้ม ให้เถามันพันขึ้นไปด้วยนะครับ เพราะมันเป็นไม้เถา"

"อื้ม เดี๋ยวตอนเย็นเค้าคงเอามาส่ง พร้อมกับต้นมันนั่นแหละ" คุณครามตอบแล้วเดินนำไปที่ซุ้มเฟื่องฟ้า


"ตอนบ่ายชั้นจะไปที่ฟาร์ม นายอยากตามไปดูไหม?" คุณครามหันมาถาม

"ไปได้ด้วยเหรอครับ?"

"ได้สิ ยังไงนายก็ต้องตามมาดูแลชั้นอยู่แล้วนิ" เหมือนบอดี้การ์ดเจ้าพ่อยังไงอย่างงั้นเลยเนอะ

"ไปแต่งตัวสิ เสร็จแล้วจะได้มาทานข้าว แล้วค่อยไปกัน" ในที่สุดความฝันของผมก็กลายเป็นจริง จะได้เห็นฟาร์มหอยมุกกับเค้าสักที ตั้งแต่มาที่นี่ยังไม่ได้ออกไปไหนเลย นอกจากชายหาดหน้าบ้าน กับสวนหลังบ้าน

"ครับ งั้นกลับขึ้นข้างบนกันเถอะครับ คุณจะได้เตรียมตัวด้วย"

"อื้ม"



"นายไปเตรียมตัวเถอะ ชั้นจัดการเองได้" คุณครามบอกขณะที่เราขึ้นมาถึงห้องแล้ว

"ได้แน่เหรอครับ เมื่อกี้คุณยังบอกว่าเจ็บขาอยู่เลย" คงจะใช้กำลังขาเยอะไปหน่อยเพราะวันนี้เดินเกือบทั่วบ้านเลย

"อืม...มันเจ็บเป็นบางครั้งเท่านั้นแหละ" จะว่าไปนี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้วนะ ถ้ารวมกับช่วงที่นักกายภาพคนก่อนเค้าทำมาแล้วด้วย ขาคุณครามก็น่าจะหายเกือบสนิทแล้วสิ เหลือแต่รอผ่าตัดเอาเหล็กออกเท่านั้น คงต้องรอประมาณสองปีเป็นอย่างต่ำ แล้วแต่เคส แต่ทำไมคุณครามถึงยังเจ็บขาอยู่อีก? หมอตั้นมาตรวจก็บอกว่าขาเกือบหายเป็นปกติแล้วนะ

"งั้นผมจะรีบมานะครับ เผื่อคุณมีอะไรให้ช่วย" อาบน้ำเสร็จผมให้เค้ากินยาแก้กล้ามเนื้ออักเสบสักเม็ดดีกว่า จะได้ไม่ปวดตอนกลางคืน

"อื้ม"


********************

***************

**********


ผมใช้เวลาแต่งตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าไม่นานหรอก เพราะใช่คนเจ้าสำอางอะไร แค่ทาครีมกับกันแดดก็พอแล้ว ส่วนเสื้อผ้าก็โปโลสีแดงสด ยี่ห้อคนเล่นกีฬาชนิดหนึ่งบนหลังม้า กับกางเกงสามส่วนสีขาวยี่ห้อเดียวกันก็พอแล้ว

"ก๊อกๆๆ ผมขอเข้าไปนะครับ"

"แกร๊ก!! อ้าว!! หรือว่าลงไปแล้ว?" ในห้องน้ำก็ไม่มี ลงไปแล้วเหรอ?  แล้วไหนว่ายังเจ็บอยู่?

"คุณลงมาได้ยังไงครับ?"

"ก็ใช้ไม้เท้าลงมาไง" ผมพยักหน้าหงึกหงัก แล้วมองคนที่กำลังนั่งโซฟาอยู่

"แล้วไหนคุณว่ายังเจ็บแปล๊บๆที่ขา อยู่ไงครับ?"

"มันแค่เจ็บเป็นบางครั้ง เมื่อกี้มันไม่เจ็บเลยลงมาเอง" ชิลเนอะ แต่ถ้าเจ็บมาอย่ามาบ่นแล้วกัน

"คราวหน้าต้องบอกผมด้วยนะครับ ถ้าเกิดหกล้มไป คงแย่ กว่ากระดูกจะเชื่อมกันสนิท ถ้าเกิดมาหักอีก...คราวนี้คุณก็คงต้องพักรักษาตัวไปอีกนานเลยนะรู้ไหม"

"บ่นเก่งจริงๆ ยิ่งกว่าแม่กับนมซะอีก" ผมทำตาขวางใส่

"ถ้าเกิดคุณหกล้มขึ้นมาจริงๆ มันจะได้ไม่คุ้มเสียเอานะ อุตส่าห์ทำมาใกล้จะหายแล้ว เข้าใจไหม๊ครับ?"

"โอเค เข้าใจแล้ว ต่อไปชั้นจะให้นายอยู่ใกล้ตัวชั้นตลอด 24 ชั่วโมงเลย เอาไหม๊?" เค้าว่าให้ยังมายิ้มอีก ทำเป็นเล่นไปนะคุณคราม เกิดเป็นอะไรมา ผมโดนก็ทั้งขึ้นทั้งล่องน่ะสิ

"มันก็ไม่ถึงขนาดนั้นคุณ หยุดยิ้มได้แล้วคุณ นี่ผมจริงจังนะ" ซีเรียสๆน่ะเข้าใจไหม

"ชั้นชอบเวลาที่นายบ่นชั้นนะ"

"อะไรของคุณ?"

"ก็...เหมือนเค้าเป็นห่วงเราจริงๆ ไง" คุณครามพูดแล้วลุกขึ้นมาเต็มความสูง

"คุณนี่ก็พูดแปลกๆ ทุกคนเค้าก็เป็นห่วงคุณกันทั้งนั้นแหละ เพียงแต่การแสดงออกของแต่ละคนไม่เหมือนกันแค่นั้นเอง อย่างคนที่นี่  ป้าน้อย พี่นุ้ย หรือลุงแช่ม ทุกคนก็เป็นห่วงคุณหมด แต่เลือกที่จะไม่บ่นหรือว่าคุณ เพราะเค้าเป็นลูกจ้างคุณ แต่ผมเป็นดูแลคุณ ถึงจะกินเงินเดือนคุณ แต่ผมก็สามารถพูดหรือตักเตือนคุณได้ ถ้ามันทำให้คุณเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุกับตัวคุณอีก เข้าใจไหมครับ?"

"อื้ม พูดอีกสิ" คุณครามพูด แต่ผมส่ายหัว

"คุณเหมือนโรคจิตอ่อนๆเลย รู้ตัวไหม?"

"คงงั้นมั้ง แต่ก่อนชั้นไม่เป็นนะ เพิ่งมาเป็นตอนนายด่าชั้นครั้งแรกนั่นแหละ เชื่อไหม?" ผมไม่ค่อยชินเวลาเค้ามองแบบนี้เลยแหะ มันบอกไม่ถูก

"ไม่รู้สิครับ"

"ตักข้าวเลยไหมค่ะนายหัว?" พี่นุ้ยเดินมาถาม

"ตักเลยนุ้ย เดี๋ยวไปบอกลุงแช่มด้วยนะว่าให้เตรียมเรือ ชั้นจะออกไปดูฟาร์มมุก อ่อ!! จะเอาขิงไปด้วยนะ" คุณครามพูดแล้วเดินไปที่โต๊ะกินข้าว

"ค่ะนายหัว"

"มาอยู่นี่ตั้งหลายเดือนแล้ว ชินกับอากาศหรืออาหารใต้บ้างรึยัง? ว่าจะถามตั้งนานแล้ว แต่ลืม" ไม่ใช่ลืมหรอกแต่มัวแกล้งคนอื่นอยู่ต่างหาก ผมคิดในใจ

"เริ่มชินบ้างแล้วครับ ส่วนเรื่องอาหารก็อร่อยดีครับ มีรสจัดบ้างเพราะเครื่องเทศเยอะ แต่ผมก็ชอบนะ"

"ดีแล้วล่ะ เย็นนี้จะได้บอกให้นมทำคั่วกลิ้ง อยากทานอาหารรสจัดๆ" พูดถึงคั่วกลิ้มแล้วก็น้ำลายไหล ฝีมือป้าน้อยอร่อยจริงๆนั่นแหละ

"แต่กินเยอะก็ไม่ดีต่อกระเพาะนะครับ"

"สำหรับนายอาจจะใช่ แต่สำหรับชั้นชินแล้วล่ะ ไม่เผ็ดก็ไม่อร่อย"  สงสัยจะจริง


************************

********************

***************

*********

หลังจากทานข้าวเที่ยงเสร็จ คุณครามก็เดินนำมาที่ชายหาดหน้าบ้าน ไม่ยักรู้เลยแหะว่าเรือที่อยู่แถวนี้ก็เป็นของเค้าด้วย นึกว่าของชาวบ้านแถวนี้ซะอีก เห็นมีแต่บ้านคนรวยๆทั้งนั้น

"สวัสดีครับนายหัว"

"หวัดดีไอ้เท่ง" ลืมบอกไปว่าวันนี้คุณครามแต่งตัวแปลกไปจากปกตินิดหน่อย คงเป็นเพราะมาดูงานเลยต้องทะมัดทะแมงหน่อย ใส่เสื้อเชิ๊ตสีกรมท่า พับแขนเสื้อขึ้นจนถึงข้อศอก กับกางเกงผ้าเนื้อดีสีดำ แล้วก็ใส่เข้มขัดสีดำ ส่วนรองเท้าเป็นรองเท้าแตะ เพราะต้องลุยน้ำต้องลงเรือด้วย

"เรืออยู่ทางนี้ครับนายหัว" พี่เท่งพาพวกเราเดินมาจนถึงเรือลำสุดท้าย เป็นสปีดโบ๊ทลำสีขาว ตกแต่งลวดลายนิดหน่อยแต่พองาม ดูๆแล้วน่าจะเป็นลำใหม่สุด ขนาดพอดีกับนั่งสามสี่คนหรือมากกว่านั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน

"นายเมาเรือไหม๊?" คุณครามหันมาถามขณะที่เรากำลังนั่งบนเรือ

"คิดว่าไม่นะครับ ถ้ามันไม่โคลงเคลงจนเกินไป" ไม่อยากบอกเลยไม่เมา เพราะกลัวเสียหน้าถ้าเกิดเมาขึ้นมาจริงๆ

"...Andaman's Paradise..."  ผมอ่านชื่อเรือทุกลำ

"เป็นชื่อของฟาร์มหอยมุกน่ะ" เข้าใจตั้งแหะ

"ชื่อสวยดีนะครับ สวรรค์แห่งอันดามัน"

"อื้ม พ่อชั้นเป็นตั้ง"



"มาเท่งเดี๋ยวชั้นขับเอง ไม่ได้จับเรือนานแล้ว" เขาพูดกับพี่เท่งแล้วมองกลับมาเพราะผมมองอยู่ บอกด้วยสายตาว่าโอเค ไม่เป็นไร เขาขับได้ไม่ต้องห่วง









(ต่อด้านล่างครับ)





หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 10 Up : (13/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 13-11-2015 17:07:57





(ต่อ)


*************************


*******************


************




ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงเกาะ ตลอดเวลาที่เดินทางมา ผมยอมรับเลยว่าเขาดูดีมากเลยตอนขับเรือ  ดูสมาร์ท ใช้คำนี้น่าจะได้อยู่ ยิ่งใส่แว่นตากันแดดแล้วผมพัดไปตามลม ยิ่งทำให้เค้าดูเด็กลงอีกหลายปีเลย แต่ปกติก็ไม่ได้ดูแก่อะไรอยู่แล้ว


เรือจอดเทียบท่าแล้ว จะเรียกว่าท่าก็คงไม่ได้เพราะมันเป็นแค่ชายหาดแล้วให้เรากระโดดลงจากเรือเดินลุยน้ำเข้าไป ส่วนที่เลี้ยงหอยมุกน่าจะอยู่อีกฟากหนึ่งของเกาะ มองไกลๆเห็นบ้านพักแบบบังกาโลหลังเล็กๆหลายหลังเรียงกันอยู่อีกมุมหนึ่งด้วย คงจะเป็นบ้านพักของคนงานแล้วถ้าให้เดาบ้านพักของเค้าก็คงหลังนั้น หลังที่ใหญ่ที่สุดแล้วก็อยู่แยกออกมาจากหลังอื่นด้วย


"ถึงแล้วล่ะ ค่อยๆ ลงนะ"

"ห่วงตัวคุณเองเถอะครับ ขายังไม่ดี"

"ชั้นไหวหน่า..... ส่งมือมาสิ"

"อื๊บ!! ขอบคุณครับ" ลงเรือได้อย่างสวัสดิภาพ


พวกเราเดินเลาะไปตามชายหาด อ้อมไปอีกฟากหนึ่งของเกาะ ไม่นานก็ถึง จะบอกว่าไงดี มันเป็นเหมือนแพหรือกระชังเลี้ยงปลาปกติที่ลอยอยู่กลางทะเล มีไม้ไผ่หรือไม้แป้นทำเป็นสะพานข้ามไป จากกระชั่งหนึ่งไปอีกกระชังหนึ่ง


"นายหัวมาถึงแล้วเว้ยพวกมึง" เสียงคนงานคนหนึ่งในนั้นตะโกนบอก  ผมไม่รู้หรอกว่าพวกเขากำลังทำอะไร แต่ที่สังเกตคือผู้หญิงจะใส่หมวกแล้วก็ผ้าคลุมหน้า ซึ่งน่าจะเอาไว้กันแดดเพราะพวกเค้าทำงานกลางแดดกันทั้งวัน

"หวัดดีครับ/ค่ะ นายหัว" คนงานตะโกนสวัสดีกันใหญ่เลย

"อื้ม แล้วนายชิตไปไหน?" คุณครามถาม

"อยู่ด้านทางโน้นครับนายหัว กำลังคุมคนงานอยู่"

"อื้ม"

"นายหัวหายดีแล้วเหรอครับ?" คนงานอีกคนไม่รู้ว่าชื่ออะไรถาม น่าจะเป็นชาวบ้านแถวนี้แหละมั้ง จากที่ดูแล้ว

"ใกล้จะหายดีละ ลืมแนะนำ นี่คุณขิง คนดูแลชั้น" คุณครามหันมาแนะนำตัวผม

"สวัสดีครับทุกคน" ผมยกมือไหว้แทบไม่ทัน เพราะมัวดูนั่นดูนี่อยู่

"มองที่แรกนึกว่าแฟนนายหัว ขาวจังครับ" พี่คนงานอีกคนทัก มารู้ทีหลังว่าเค้าชื่อพี่โชค รูปร่างสูงใหญ่ ผิวสีดำแดงตามฉบับหนุ่มใต้

"แหะๆ" ผมได้แต่ยิ้มให้น้อยๆ ไม่กล้าตอบอะไร เพราะเขินด้วยแหละมีแต่คนมอง

"พามาออกแดดแบบนี้ผิวขาวๆ ไหม้แดดหมดครับนาย"

#%$¥¥$**#}><€€¥¥€€€>>%#$¥¥

#^€#%^*$*#*€¥$*##}{^*%^+

 แต่ละคน แต่ละคำถาม พอฟังออกบ้าง ไม่ออกบ้างเพราะมีแต่สำเนียงใต้ แถมบางครั้งคุณครามก็ตอบเป็นภาษาใต้กลับอีก

"เป็นคนที่ไหนค่ะคุณ แหล่งใต้ได้ไหม้?" คุณป้าที่นั่งอยู่ใกล้ๆถาม อันนี้ผมฟังออก

"เป็นคนเชียงใหม่ครับ แหล่งใต้ไม่ได้เลย แต่พอฟังรู้เรื่องบ้างครับคุณป้า" คนใต้น่ารักนะ ดูอย่างพี่ๆ หรือลุงป้าน้าอาพวกนี้สิ ยิ้มทีสีฟันนี่เด่นเลย ยิ้มเก่งแล้วก็อัธยาศัยก็ดีกันทุกคน

"รูปก็งาม นามก็เพราะ"

"$¥$^#%$¥?!฿&@&?! ???????" เสียงคุณลุงทางฟากโน้นตะโกนถามมา

"หา? อะไรนะครับ?"

"$¥$^#%$¥?!฿&@&?! ???????"

"หึๆๆ" ยังจะมาหัวเราะหึๆอยู่อีก ช่วยกันหน่อยก็ไม่ได้ ปล่อยให้เราโดนรุมอยู่คนเดียว

"สะบัดหน้าใส่ชั้นทำไม?" คุณครามหัวเราะเบาๆ

"ช่วยหน่อยครับ ผมฟังไม่รู้เรื่อง" ผมเขย่งเท้ากระซิบเบาๆ เพราะเค้าสูงกว่าผมเยอะเลย

"ห๊ะ? อะไรนะ ลมมันพัดแรง ไม่ค่อยได้ยิน" ไม่รู้ว่าแกล้งไม่ได้ยินหรือไม่ได้ยินจริงกันแน่

"ผมบอกว่า ช่วยหน่อยครับ ฟังพวกเค้าไม่ค่อยรู้เรื่อง" ผมขยับเข้าไปใกล้อีกแล้วเขย่งเท้ากระซิบ

"อ้อ!! หึๆๆ เค้าบอกว่านายน่ารักดีนะ คนใต้หาคนผิวแบบนี้ยาก" คุณครามบอก

"ขอบคุณครับ" ลุงเค้าอยู่ไกลเลยต้องตะโกนบอกขอบคุณเค้าไปอีก

"ชั้นมีอะไรจะบอกอีกอย่าง อย่ากลอกตาใส่ชั้นอีก ไม่งั้นชั้นจะจับนายตีก้น" อะไรกันมีกฏแบบนี้ด้วยเหรอ ขิงทำตาโตใส่

"ผมทันได้ทำเมื่อไหร่กันคุณ?" ผมถาม

"เมื่อกี้ตอนชั้นแกล้งไม่ได้ยินแล้วนายขอร้องให้ช่วยไง"

"นี่เมื่อกี้คุณแกล้งผมเหรอ? คุณนี่มันนิสัยไม่ดีจริงๆ เลย"

"ก็นายมันแกล้งสนุก ชอบแสดงออกทางสีหน้าโดยเฉพาะตา" คุณครามยิ้มหวานที่นานๆทีจะเห็น ปกติไม่ยิ้มมุมปาก ก็ยิ้มร้ายๆ เจ้าเล่ห์

"ยังไงครับ?"

"ตานายมันบอกหมดเลยว่า กำลังอยู่ในอารมณ์ไหน คิดอะไรอยู่ เคยมีคนบอกไหม?" ผมพยักหน้าหงึกหงัก

"ก็มีบ้างครับ..... หยุดจ้องคนอื่นแบบนี้ได้ไหมคุณ เห็นไหม? คนอื่นเค้ามองใหญ่แล้ว" ดูสิป้าๆ อาๆ เค้ามองกันใหญ่เลย

"ฮิ้วๆ นายหัว นี่คนดูแล หรือว่านายหญิงคนใหม่กันแน่ครับ? เห็นมองตากันหวานเชียว" ถึงเป็นสำเนียงใต้แต่ครั้งนี้ผมฟังออกหมดนะ

"ห้ามแซวเว้ย เดี๋ยวมึงโดนหักเงินเดือน" คุณครามขู่พี่โชคเล่นๆ แล้วมันมามองผมที่ตอนนี้แดงไปหมดทั้งตัวแล้วเพราะคำแซว

"โหยนาย แค่นี้ก็จะไม่พอเลี้ยงลูกเลี้ยงเมียอยู่แล้วครับ"  พี่โชคโอดครวญ

"ไม่พอใช้ เพราะมึงเอาไปลงขวดหมดน่ะสิ  กูรู้หรอก เมียมึงถึงมาบ่นกับกูอยู่บ่อยๆ" กล้าว่าเค้าเนอะ เมื่อก่อนคุณก็ใช่ย่อย กินจนหัวราน้ำเลยก็ว่าได้

"มันบ่นตลอดแหละครับนาย ผมชินแล้วครับ"

"มึงก็หัดลดมันบ้างสิวะ เมียมึงจะได้บ่นน้อยลง แล้วก็เอาเงินเก็บไว้ไปเป็นค่าเทอมลูก นี่มันก็ใกล้เข้าโรงเรียนแล้วไม่ใช่เหรอวะ? " คุณครามตบบ่าพี่โชค

"ครับนาย ก็ว่าจะเพลาๆ อยู่เหมือนกันครับ"

"ทำหน้าแบบนี้ กำลังนินทาชั้นอยู่ใช่ไหม?" คุณครามหันมาถาม

"ก็เปล๊า คุณคิดมากไปเองต่างหาก" ผมปฏิเสธ

"ตานายมันฟ้อง" จ้องแบบนี้อีกละ???

"ก็...คงงั้นมั้งครับ ตัวเองก็เคยกินยิ่งกว่านี้อีก" ผมอ้อมแอ้มตอบ

"ในมันเมื่อก่อนหรอก ตอนนี้ไม่แล้ว"

"ครับบบบบบบ นายหัว" ผมแกล้งลากเสียงยาว

"หึๆๆ.....ไปทางโน้นเถอะ เดี๋ยวชั้นจะพาดู" คุณครามเดินนำไปอีกกระชังหนึ่ง

"เลี้ยงยากไหมครับพวกหอยมุกพวกนี้?" ผมถามเค้า

"ก็ยากนะ ต้องให้การเอาใจใส่ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อมของมันด้วย เช่น สภาพแวดล้อมทางน้ำ ต้องไม่มีมลพิษ อุณหภูมิ แล้วก็ความอุดมสมบูรณ์ทางทะเล" ผมก็พยักหน้าหงึกหงักแล้วคิดตาม

"ถ้างั้นตอนเกิดสึนามิหลายปีก่อน ที่นี่ได้รับผลกระทบเยอะไหมครับ?" นึกถึงตอนนั้นแล้วก็สงสารพวกเค้า ต้องสูญเสียทั้งชีวิตแล้วก็ทรัพย์สินอีกมากมาย

"ก็พอสมควร นอกจากแถวนี้จะพังเป็นแถบๆแล้ว ชาวบ้านบางคนก็หวาดกลัวจนไม่กล้าทำงานอีกด้วย"

"น่าเสียดายนะครับ .....แล้วไข่มุกน้ำจืดกับน้ำเค็มอันไหนดีกว่ากันครับ?" เปลี่ยนเรื่องดีกว่าฟังแล้วหดหู่

"ไข่มุกน้ำเค็มสิ สวยที่สุด" เคยได้ยินเหมือนกันว่าไข่มุกที่สวยที่สุดคือไข่มุกอันดามันถ้าเป็นบ้านเรานะ

"ต้องใช้เวลานานไหมครับกว่าจะเลี้ยงจนได้ไข่มุกหนึ่งเม็ด?"

"เป็นคำถามที่ดีนะ ไข่มุกที่มีคุณภาพดีต้องมีอายุการเลี้ยงประมาณ 10 เดือน - 2 ปี ยิ่งนานไข่มุกยิ่งสวย สีก็จะแวววาวมากขึ้น เม็ดก็จะกลมไร้ที่ติ แต่ในตลาดมุก มุกที่ดีจะต้องมีอายุการเลี้ยงดู 2-5 ปี ขึ้นอยู่กับข้อจำกัดทางสภาพแวดล้อมของมันด้วย" ผมว่าเค้าดูมีเสน่ห์ที่สุดตอนจดจ่อกับการทำงานนี่แหละ มิน่าล่ะ พี่นุ้ยถึงบอกว่าสาวๆแถวนี้มักเอากับข้าวมาให้บ่อยๆ รวมถึงสาวแก่ แม่หม้ายด้วย ก็คงหลงมนต์เสน่ห์เข้าเหมือนกัน

"ขิง ฟังอยู่ไหม?"

"หา? ว่าอะไรนะครับ?" ไปอะไรไปเนี๊ยะเรา หรือว่าจะต้องมนต์เหมือนพวกสาวๆพวกนั้นอีกคน กลับมาๆขิง

"ไว้ว่างๆ จะพาไปดูโรงงานผลิตจิวเวอรี่

"เอ่อ...เครื่องประดับจากไข่มุกน่ะเหรอครับ?"

"อื้ม อยากดูไหมล่ะ?"

"อยากครับ" ผมรีบตอบเลยทันทีไม่ต้องคิด

"ดีใจขนาดนั้นเลย?" คุณครามถาม

"ก็นะคุณ ผมเป็นเด็กดอยนะ บ้านก็อยู่ไกลทะเล จะรู้สึกตื่นเต้นหรือชอบทะเลมากกว่าคนปกติที่บ้านอยู่ใกล้ทะเลก็ไม่แปลก"

"จริงสินะ หึๆๆ" วันนี้นอกจากเขายิ้มที่เรียกว่ายิ้มจริงๆแล้ว ยังหัวเราะเบาๆด้วย

"อยากดูใกล้ๆ ไหม?" ผมพยักหน้าตอบรับ

"เดินตามมาสิ ระวังด้วยนะมันเป็นสะพานไม้ไผ่" คุณครามหันมาเตือน แล้วเดินนำไปอีกที่หนึ่ง

"เค้าทำอะไรกันครับ?" เห็นคนกำลังนั่งตั่งเล็กๆ ดูก้อนอะไรสักอย่างอยู่ ดูๆไปก็เหมือนซากปะการังเหมือนกันนะ

"เค้ากำลังคัดหอยคุณภาพดี หรือหอยที่แข็งแรงเพื่อรอการฝังนิวเคลียสสำหรับการสร้างไข่มุกน่ะ"

"เพิ่งรู้นะครับเนี๊ยะว่าเค้าทำกันอย่างนี้"

"อื้ม... ถ้าหอยมุกตัวไหนกาบมันดีก็จะฝังนิวเคลียสข้างละอัน แต่ถ้าอันไหนเปลือกหอยไม่ค่อยสมบูรณ์ก็จะฝังอันเดียว"

"คุณเก่งจัง" ไม่แปลกใจว่าทำไมเขาถึงเป็นนายหัวได้ทั้งที่อายุแค่นี้

"ไม่หรอก พวกนี้พ่อกับแม่ชั้นสร้างไว้ให้แล้วต่างหาก ที่เหลือก็แค่พัฒนา แล้วก็ดูแลมันแค่นั้นเอง"

"ถึงอย่างนั้นก็เถอะครับ มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย"
 
"มาทางนี้สิ" คุณครามเดินนำเข้ามาในร่ม

"นายไม่ได้เอาหมวกติดมาด้วยใช่ไหม?" เขาถาม

"ครับ ผมลืม" ฟังเพลินจนลืมร้อนเลย รู้สึกเหมือนกันว่า ข้างหลังนี่เหงื่อเต็มเลย

"งั้นเอาของชั้นไป เดี๋ยวจะไม่สบาย" หมวกสานจากอะไรสักอย่างถูกวางลงบนหัว

"ไม่เป็นไรครับ นานๆ ทีได้ทำแบบนี้ คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง"

"อย่าดื้อ บอกให้ใส่ก็ใส่เถอะ นายยังไม่ชินกับสภาพอากาศที่นี่ เดี๋ยวจะไม่สบายเอาได้" คุณครามจ้องเขม็ง

"แล้วคุณล่ะครับ?"

"ไม่ต้องห่วง ชั้นชินแล้วล่ะ" นั่นสินะ ถึกขนาดนี้แดดคงทำอะไรไม่ได้หรอก

"แต่คุณยังไม่หายดีเลยนะครับ"

"เป็นห่วงชั้นเหรอ?" คุณครามยิ้มกริ่มยักคิ้วให้

"ก็นะ"

"ใส่ไปเหอะ ขอบใจนะที่เป็นห่วง" ก็ในฐานะเจ้านายกับลูกน้องนั่นแหละ

"ร้อนมากเลยเหรอ? แก้มแดงเลย" ก็ดูพระอาทิตย์สิจ่อหัวซะขนาดนี้ ไม่ร้อนก็แปลกแล้ว

"นิดหน่อยครับ ก็ตากแดดนี่หน่า"

"แต่ชั้นว่าเป็นเพราะอย่างอื่นด้วยนะ อย่าเกาแก้มสิ" ไอ้โน่นก็ไม่ได้ ไอ้นี่ก็ไม่ได้

"เพราะอะไรเหรอครับ?"

"เพราะนายกำลังเขินชั้นไงล่ะ? หึๆๆ" สายตาโคตรเจ้าชู้อะ แบบนี้เรียกว่ากรุ้มกริ่มได้ไหมนะ?

"ไม่จริงเหอะ คุณน่ะมั่วแล้ว"

"ไม่เชื่อก็ลองถามตัวนายเองสิ แล้วก็อย่ากัดปาก ถ้าไม่อยากโดนชั้นทำอย่างคราวก่อนอีก" ขิงทำตาโตนึกถึงตอนนั้น

"ก็คุณนั่นแหละแซวอยู่ได้" ผมบ่นเบาๆ

"โทษชั้นคนเดียวได้ไง ต้องโทษตัวนายด้วยสิ ที่ทำให้ชั้นแซวเอง"

"ดื้อ!! ถ้านายไม่หยุดกัดปาก ชั้นก็จะถือว่านายท้าทาย แล้วก็ยั่วให้ชั้นทำแบบนั้นกับนายอีกนะ?"

"ตรรกะอะไรของคุณ พูดไม่รู้เรื่อง" ผมเดินหนี

"หึๆๆๆ" เสียงหัวเราะตามหลังมา

"เดี๋ยว!! เดินไปตรงนั้นแล้วรู้เหรอว่า มันไปที่ไหน?" เอ่อจริง!!!

"....."

"กลับมานี่ ถ้าไม่อยากโดนคนงานฉุดไปปล้ำ" เสียงคุณครามเตือน

"คุณ!!" ผมกำมือแน่น หยุดอยู่ที่เดิม

"ไม่เชื่อก็ตามใจนะ ชั้นไปนะ" 

"เดี๋ยวก่อนสิคุณ รอด้วย"



"หอยพวกนั้นเค้ามัดมันแขวนไว้ทำไมครับ หรือว่ามันตายแล้ว?" ผมชี้แล้วถาม

"หึๆๆ เปล่าหรอก หลังจากคัดหอยที่แข็งแรงแล้ว เราก็จะต้องเอามาแขวนเพาะเลี้ยงไว้แบบนี้เพื่อที่ว่า จะได้เอามันขึ้นมาตรวจดูว่ามีศัตรูหอยอะไรมาเกาะรึเปล่า เช่น เพลียง หรือสัตว์น้ำชนิดอื่น" ผมพยักหน้ารับรู้

"แล้วเราจะต้องเอาขึ้นมาตรวจดูอาทิตย์ละกี่ครั้งหรือว่าเป็นเดือนครับ?" ขออีกนิดละกันไหนๆก็ถามละ

"เราจะเอาเปลือกมันมาทำความสะอาดเดือนละครั้งน่ะ"

"ที่นี่เรามีกรรมวิธีการเลี้ยงไข่มุกโดยอาศัยวิธีแอบอิงธรรมชาติของหอยด้วยนะ"

"อยากฟังไหม?"

"ครับ"

"เอาง่ายๆ คือ ถ้ามีสิ่งแปลกปลอมอะไรเข้าไปข้างในตัวหอยมุก   เซลของเนื้อเยื่อที่หุ้มหรือเกาะติดแน่นอยู่กับเปลือกหอยชั้นในก็จะแบ่งตัวออกมา แล้วเข้าไปเกาะตรงบริเวณที่มันทำให้ระคายเคืองจากนั้นเคลือบเป็นเม็ดเล็กๆ ขึ้นมา"

"เมื่อนานๆ เข้าก็จะทำให้เม็ดนั้นกลายเป็นเม็ดมุกสีสวยงาม เป็นสีขาว สีเงิน สีชมพู สีเหลือง สีเทา  และสีดำ พร้อมทั้งมีสีประกายรุ้งอยู่ในตัวจากธรรมชาติดังกล่าวนี้ ผู้เลี้ยงมุกจึงใช้วิธีเอาวัตถุใส่เข้าไปในเปลือกหอยมุกที่ยังมีชีวิตอยู่โดยวิธีนำเอาเปลือกหอยตัวอื่นๆ  มาเจียระไนให้เป็นเม็ดเล็กๆ แล้วนำไปติดที่เปลือกชั้นในของหอยเลี้ยง เพื่อให้เกิดระคายเคืองและงอกไข่มุก" ครามยิ้มมุมปากเล็กน้อย เหมือนตัวเองกำลังอธิบายให้นักเรียฟัง แล้วคนตรงหน้านี่ก็ตั้งใจฟังจนตาแป๋วเลย
         
"ยังฟังอยู่ไหม?"

"ฟังอยู่ครับ กำลังนึกภาพไปด้วยไง อธิบายต่อเลยครับ"

"หอยที่งอกเป็นไข่มุกได้สวยที่สุด  ได้แก่ หอยมุกจาน ซึ่งชอบอาศัยอยู่ตามทะเลที่มีอุณหภูมิอบอุ่น น้ำทะเลไหลไม่เชี่ยวนัก คลื่นลมไม่แรง น้ำทะเลใสสะอาด ไม่ขุ่น มีพื้นดินปนทราย ลึกประมาณ ๑๐-๓๐ เมตร ขนาดอุณหภูมิประมาณ ๑๔-๒๗ องศาเซลเซียส"

"แล้วไปเอาหอยมุกพวกนี้มาจากไหนครับ?"

"ส่วนใหญ่ก็จะว่าจ้างชาวเลที่เป็นชาวบ้านแถวนี้ นำเรือหางยาวออกไปดำหาหอยมุก  โดยใช้ถังออกซิเจนวางไว้บนเรือ  แล้วต่อท่อยางเข้ากับหน้ากาก  ให้คนดำลงไปงมเอาหอยมุกขึ้นมา"

"ชาวเลพวกนี้เก่งจังเลยนะครับ"

"คนพวกนี้จะดำน้ำได้นาน ๆ  และสามารถดำได้ลึกถึง ๑๐-๓๐ เมตร หอยที่จะหามาเลี้ยงจะต้องเป็นหอยมุกพันธุ์ที่ดีที่สุด ซึ่งจะงอกเม็ดมุกโต พันธุ์ที่รองลงมาคือ หอยมุกกัลปังหากาบสีดำ ซึ่งจะงอกเม็ดมุกไม่ค่อยโตหอยมุกที่จะนำมาเลี้ยงจะต้องเป็นหอยหนุ่มสาวด้วยนะ"

"จุกจิกเหมือนกันนะครับกว่าจะได้มาเม็ดๆ หนึ่ง" คุณครามพยักหน้า

"ชาวบ้านแถวนี้คงดำน้ำเก่งกันทุกคนใช่ไหมครับ?"

"อื้ม ลูกทะเลนี่หน่า ใครดำน้ำหรือว่ายน้ำไม่เป็นก็เสียชื่อลูกน้ำเค็มแย่สิ"

"ดีจัง"

"นายว่ายน้ำเป็นไหม?"

"ไม่เป็นครับ พี่ชายเคยหัดให้ แต่ก็สำลักน้ำ จนไม่กล้าหัดอีก"

"เอาไว้ชั้นหายดี จะสอนให้เอาไหม?"

"เอาไว้ถึงตอนนั้นค่อยว่ากันดีกว่าครับ" ตอนนี้ตัวเองยังเอาตัวแทบไม่รอดยังจะอาสาอีก

"อื้ม เข้าไปรอในร่มก่อนไหม ชั้นขอตรวจงานแล้วก็คุยกับหัวหน้าคนงานอีกหน่อยก่อน แล้วค่อยกลับกัน" ผมพยักหน้าแล้วเดินตามเขาเข้าไปในสำนักงาน วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่รู้สึกสบายใจและมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ต้องขอบคุณเขาแล้วล่ะที่พามา


















หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 10 Up : (13/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 13-11-2015 17:24:03
งือออ เขาพัฒนานะ คงหลงหัวปักหัวปำละตอนนี้
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 10 Up : (13/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 13-11-2015 19:53:20
ฟินมากเลยค่ะ คุณครามกับน้องขิง.... จากที่สวมบทพระเอกเฉลยรัก.....
ตอนนี้ดูแล้วคุณครามเท่มาก น้องขิงก็ใสซื่อน่ารักเหมือนเดิม  :z2:
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 10 Up : (13/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 13-11-2015 20:05:38
 :hao6: แหม พระเอกเราเจ้าชู้จิงๆเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 10 Up : (13/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 13-11-2015 21:46:26
นายหญิง


 :hao6:
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 10 Up : (13/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 13-11-2015 23:24:20
สู้นะครับรออ่านต่ออยู่ครับ
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 10 Up : (13/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 14-11-2015 00:13:33
นายหัววว อ่อยน้องขิงเราเกินไปแล้ว ฮ่าๆๆๆ ตอนนี้น่ารักก
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 10 Up : (13/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 14-11-2015 09:00:22
นายหัวอ่อยค่ะ อ่อยยยยยยน้องมากกกก เขินแทนเลย  :-[
มีการพัฒนาขึ้นนะสกิลการเจ้าเลห์เนี่ย!
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 10 Up : (13/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 14-11-2015 16:42:13
นายหัวเอาจริงใช่ป๊ะ? :ruready
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 10 Up : (13/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: aoraor ที่ 14-11-2015 20:48:23
น่ารักจังง เพิ่งมาเจอพลาดไปได้ไง ฮิๆ

 อ่านรวดเดียวเลย สนุกมากค่ะ นายหัวเริ่มหลงน้องขิงเเล้วใช่มั้ยยยย

แต่แบบ ขิงอ่าา มีแฟนแล้วนะลูกก ถึงแม้เราจะแช่งทุกบรรทัดที่ิอ่าน
เลยก็ตามว่า เลิกกันซะะะ  555555555555

รอตอนต่อไปค่าา :)
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ -11 Up(3/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 03-12-2015 14:29:48









อันดามัน...ซ่อนรัก
ตอนที่  11
 

 



 
 ช่วงนี้มรสุมลง ทะเลเลยไม่ค่อยสงบสักเท่าไหร่ คุณครามเลยต้องไปดูฟาร์มหอยมุกอยู่บ่อยๆ บางครั้งก็ต้องค้างคืน โดยที่มีผมคอยติดสอยห้อยตามไปด้วย ตอนนี้ผมเหมือนมีหน้าที่อื่นอีกนอกจากคนดูแลนายหัวนั่นก็คือ ผู้ช่วยส่วนตัว ความจริงเค้าก็ไปคนเดียวได้ แต่ที่ให้ผมไปด้วยเพราะไม่ไว้ใจ แล้วก็จะได้อยู่ในสายตาตลอด ทีแรกก็แอบดีใจนึกว่าจะรอดพ้นจากผู้ต้องสงสัยแล้วซะอีก ที่ไหนได้ยังระแวงอยู่ไม่เลิก

วันแรกที่รู้ว่าต้องตามคุณครามไปที่เกาะ คือไม่รู้ว่าต้องไปกี่วันเพราะมันฉุกละหุกมาก คนงานที่ฟาร์มโทรมาบอกว่ามรสุมซัดเข้าฝั่งทำให้ฟาร์มได้รับความเสียหายบางส่วน ยังดีที่ตอนนั้นพี่เท่งกับคนงานคนอื่นกำลังช่วยกันซ่อมแซมและขนหอยมุกไปรวมกันในกระชังที่ยังดีอยู่แล้ว ส่วนบ้านพักคนงานก็ต้องซ่อมแซมนิดหน่อยเพราะบางหลังใช้ไม้ทำ หลังโครงหลังคาเลยปลิวหลุดไปตามลมบ้าง ส่วนคนงานก็ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเพราะหลังคาตกใส่แต่ไม่กี่คนเท่านั้น ถือว่าโชคดีมากที่ไม่เป็นอะไรกันมากกว่านี้

ตอนแรกคุณครามจะเอาเรือออกตั้งแต่ตอนนั้นเลยด้วยซ้ำ ถ้าไม่ติดว่าป้าน้อยกับคนอื่นๆห้ามไว้ก่อน เพราะตอนนั้นบ้านเราก็มีคลื่นลมแรงอยู่เหมือนกัน เอาเรือออกตอนนี้ก็มีแต่เสี่ยงกับเสี่ยง รอจนถึงเช้า คลื่นลมสงบนั่นแหละ คุณครามก็เอาเรือออกทันที ส่วนผมก็ได้แต่ตามหลังไปต้อยๆในใจก็แอบกลัวด้วยเหมือนกันแหละ เพราะไม่รู้ว่าขับเรืออกไปแล้วจะต้องเจอกับอะไรบ้าง

ไปถึงเกาะช่วงพระอาทิตย์กำลังขึ้นจากขอบฟ้าพอดีเพราะเราออกเดินทางกันตั้งแต่ตอนรุ่งสาง ผมก็กระโดดลงเรือทันทีโดยไม่ต้องรอให้เค้ามาช่วย เพราะผมรู้ว่าเขาเองก็คงเป็นห่วงคนงาน เป็นห่วงที่นี่มาก คงอยากจะเข้าไปดูให้เร็วที่สุด ผมเลยไม่อยากเป็นตัวถ่วง อะไรที่พอทำได้ก็อยากทำ พอเขาเห็นอย่างนั้นเลยยิ้มให้ผมนิดนึงแล้วก้าวฉับๆตรงไปที่คนงานงานทันที

พวกเราอยู่ที่นี้ได้สามสี่วันแล้วหลังจากวันนั้น เอาง่ายๆคือผมไม่ได้ช่วยเค้าทำอะไรเลยนอกจากหยิบนั้นจับนี้ให้ลุงๆพี่ๆที่เค้ากำลังซ่อมบ้านพักแค่นั้นเอง นอกนั้นก็ยืนดูอยู่เฉยๆบ้าง เพราะกลัวเข้าไปช่วยแล้วเกะกะเค้า แต่พอหลังๆก็เลยเข้าไปช่วยป้าๆน้าๆคนอื่นในครัวดีกว่า เพิ่งรู้ว่าคนงานที่นี่เค้ามีอาหารสามมื้อให้ครบเลย นอกนั้นถ้าอยากกินอะไรก็ต้องฝากคนที่ขึ้นฝั่งไปซื้อมาอีกที ส่วนอาหารหรือวัตถุดิบที่ใช้อาทิตย์หนึ่งก็จะไปซื้อมาหนึ่งหรือสองครั้ง ขึ้นอยู่กับว่าจำนวนอาหารจะเหลือพออยู่ไหม ดูๆแล้วสวัสดิการที่นี่ก็ดีอยู่นะ อยู่กันแบบเป็นกันเอง เรียกง่ายๆว่าแบบครอบครัวนั่นแหละ แต่ที่นี่มีกฏว่ากินเหล้าได้ แต่อย่าให้กระทบกับงานหรือมีเรื่องทะเลาะวิวาท ส่วนเรื่องยาเสพย์ติดที่นี้คุณครามเค้าออกกฏเลยว่า ถ้ามีหรือรู้เมื่อไหร่จะถูกไล่ออกทันทีโดยไม่มีการให้โอกาสอีกเป็นครั้งที่สอง

อยู่ที่นี้อีกวันเดียวพรุ่งนี้ก็จะได้กลับขึ้นฝั่งแล้วครับ เพราะคุณครามเร่งเคลียร์ที่นี้จนเสร็จและกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว ส่วนบ้านพักคนงานหลังที่เป็นไม้ ตอนนี้คุณครามก็เปลี่ยนมาเป็นกึ่งไม้กึ่งปูนให้แล้ว หลังคาก็ถูกสั่งอย่างดีมาเลย ครั้งหน้าจะได้ไม่ต้องหลุดปลิวไปกับพายุอีก ส่วนหอยมุกก็ไม่ได้รับเสียหายอะไรมาก เพราะคนงานช่วยกันขนย้ายไว้ได้ทันอยู่ ตอนนี้ผมเห็นใบหน้าของคุณครามดูเหนื่อยล้ามากเพราะหลายวันมานี้เค้าทำงานหนักมาตลอด ไม่ใช่แค่สั่งแต่เค้าช่วยคนงานทำทุกอย่างเลยก็ว่าได้ มิน่าล่ะคนงานทุกคนที่นี่ถึงรักและเคารพเค้าขนาดนี้ ผมยิ้มให้กำลังใจเค้าเพราะรู้ว่าถึงห้ามเค้าก็ไม่ฟังหรอก อีกอย่างเค้าก็รู้แหละว่าเค้าทำอะไรได้แค่ไหน รู้ลิมิตร่างกายว่าควรพักตอนไหน ไม่หักโหมจนเกินไป

ตอนนี้พวกเรากลับถึงบ้านแล้วครับ ทุกคนถามกันใหญ่เลยว่าที่ฟาร์มเป็นไงบ้างผมเลยให้เค้าอยู่ตอบ ส่วนตัวเองก็เลี่ยงออกมาแล้วขึ้นไปเตรียมน้ำอุ่นให้เค้าอาบดีกว่า จะได้ผ่อนคลายแล้วก็หลับสบายมากขึ้นด้วย ส่วนข้าวเย็นพวกเราก็ทานมาจากที่เกาะแล้ว


 
"ก๊อกๆๆ"
 
"เข้ามาได้เลย" เสียงแบบนี้กำลังทำงานอยู่รึเปล่านะ
 
"ผมมารบกวนคุณรึเปล่าครับ?"
 
"เปล่า ชั้นยังไม่ได้นอน แต่ความจริงก็กำลังจะนอนแล้วล่ะ" ว่าแล้วไหมล่ะ  คนบ้างานอย่างนี้ไม่มีทางหรอกที่จะพักอยู่เฉยๆ ทั้งๆที่เพิ่งกลับจากเกาะมาแท้ๆ
 
"มีอะไรรึเปล่า?" เขาปิดแฟ้มอันสุดท้ายลงแล้วเงยหน้ามาถาม
 
"ผมจะมาขอลากลับกรุงเทพฯ สักสองสามวันครับ"
 
"ไปวันไหนล่ะ?" ผมดีใจนะที่เค้าไม่ถามเหตุผลว่ากลับไปทำไม เพราะเหตุผลของผมมันอาจฟังดูโง่ๆ  คือผมอยากไปเยี่ยมแฟน ไม่ได้เจอกันหลายเดือนแล้ว ไม่รู้ว่าตอนนี้เจจะเป็นยังไงบ้าง เห็นครั้งก่อนบอกว่ากำลังเข้ายิมฟิตหุ่น อยากมีกล้ามมากกว่านี้ ผมว่าแค่นี้ก็ดีแล้ว ตัวเองก็ใช่ว่าจะผอมแห้ง ออกจะมีกล้ามพอดีแล้วด้วยซ้ำ
 
"วันมะรืนครับ"
 
"วันมะรืนเหรอ? พอดีเลย หมอนัดชั้นวันศุกร์ จะได้ให้นายไปด้วยเลย" ผมขมวดคิ้วคิดตาม
 
"แต่วันศุกร์มันตั้งอีกหลายวันกว่าจะถึงนิครับ?"
 
"ก็ใช่ แต่ไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวบอกให้ไอ้หมอมันเลื่อนนัดก็ได้" เพิ่งรู้แหะว่าหมอตั้นทำงานที่โรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ ด้วย ที่บอกว่าสบายตามอัถภาพของหมอครั้งก่อน ก็คงเหนื่อยเพราะเข้าเวรออกเวรแล้วก็บินไปๆมาๆ แบบนี้สินะ
 
"ทำได้ด้วยเหรอครับ?" ผมถามขณะที่เค้ากำลังนั่งจ้องผมอยู่
 
"อื้ม ถ้าไม่ได้ก็อยู่ที่กรุงเทพฯ รอไปก่อนสักสองสามวันให้ถึงวันนัดก็ได้"
 
"แต่มันจะลำบากคุณเกินไปรึเปล่าครับ?"
ผมเป็นห่วงงานของเค้านั่นแหละเพราะหลังจากที่ไปอยู่ที่เกาะมาหลายวัน ทำให้รู้เลยว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยที่จะดูแลได้ทั้งหมด ไหนจะติดต่อกับบริษัทต่างประเทศที่ซื้อขายมุกด้วยกัน แล้วไหนจะบริษัทจิวเวอรี่อีก ไปหลายวันแบบนี้แล้วใครจะช่วยดูงานพวกนี้ให้ล่ะ
 
"ไม่ ถึงนายไม่ได้ลา ชั้นก็จะเอานายไปด้วยอยู่แล้ว ถือว่าไปเปลี่ยนบรรยากาศที่กรุงเทพฯ แล้วกัน จะได้ห่างงาน แบบที่นายว่าด้วยไง" ห่างงาน พูดซะอย่ากะห่างเมีย ผมล่ะยอมกับเหตุผลเค้าจริงๆ เพราะอีกใจหนึ่งก็อยากให้เค้าพักบ้าง วันสองวันก็น่าจะดี
 
"เอางั้นก็ได้ครับ  เดี๋ยวค่าตั๋วผมออกเองนะครับ เพราะมันเป็นธุระส่วนตัวของผมเอง"
 
"อื้ม" คุณครามยังคิ้วตอบตกลง
 
"งั้นผมไปนอนนะครับ คุณเองก็ควรนอนได้แล้วนะครับ" ผมกำชับกลัวว่าเค้าจะเอางานขึ้นมาทำอีก
 
"อื้ม" ยิ้มมุมปากแล้วตอบรับเบาๆ คิดว่าตัวเองหล่อนักรึไง เหอะ!! ไปนอนดีกว่า คนอะไรเก๊กได้เก๊กดี
 
"เดี๋ยวขิง"
 
"ครับ?"
 
"ฝันดีนะ" ผมชะงักนิดนึง ไม่คิดว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้จากปากเค้า
 
"ฝันดีเช่นกันครับ" อย่านะขิง เค้าแค่บอกฝันดีเอง แค่ประโยคธรรมดาอย่าคิดมาก ถึงจะบอกตัวเองอย่างนั้น แต่หัวใจเจ้ากรรม กลับเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำไงกับมันดี????
 
 
 
 
............................ จบ Khing's Part .................................,
 
 
 
"ฮัลโหล ว่าไงไอ้คราม?"
 
"ก็ไม่ไง"
 
"ไม่ไงแล้วมึงโทรมาหาพระแสงด้ามสั้นอะไรตอนนี้ครับ แหกตาดูบ้างว่าตอนมันกี่โมงแล้ว?"
 
"ตี1"
 
"เอ่อ ตี1 เวลาเค้าหลับเค้านอนเว้ย"
 
"อื่ม" หมอตั้นเอามือตบหน้าผากตัวเอง แล้วถอนหายใจเบาๆหลังจากได้ยินคำตอบ
 
"มีอะไรให้ช่วยอีก?"
 
"ช่วยเลื่อนนัดมาเป็นวันพุธแทนได้ไหม?"
 
"ทำไม?" หมอตั้นถาม
 
"กูมีธุระวันพุธพอดี ว่าจะไปรวดเดียวเลย ไม่อยากอยู่ที่นั่นหลายวัน"
 
"อื้ม เดี๋ยวพรุ่งนี้กูให้คำตอบละกัน ขอดูตารางนัดก่อน เผื่อกูติดเคสผ่าตัดด้วยไอ้เหี้ย มึงนี่มันเอาแต่ใจจริงๆ กูล่ะสงสารคุณขิงเค้าจริงๆ"
 
"สงสารทำไม ก็เลื่อนนัดเพราะเค้านั่นแหละ" ครามเผลอหลุดปา
 
"เดี๋ยวนะครับนายหัว ช่วยพูดใหม่อีกทีได้ไหมครับ พอดีเครื่องรับสัญญาณกูไม่ค่อยดี" หมอตั้นถามย้ำอีกที
 
"เปล่า ไม่มีอะไร"
 
"อย่ามึง เมื่อกี้กูได้ยินอยู่ แต่แค่ไม่มั่นใจ"
 
"อื้ม ตามนั้นแหละ งั้นแค่นี้นะกูจะไปนอนละ" ครามรีบชิงตัดสายวางไปก่อน เพราะรู้ว่าหมอตั้นจะถามอะไรต่อ เขาเองก็ยังไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกันว่าทำแบบนั้นไปทำไม ครามเอามือลูบหน้าตัวเองแล้วถอนหายใจออก
 

 
 
 
 
.................................จบ Kram's Part ....................................,
 
 
 



 
 
"เห้ย!! ขอโทษ!! เดี๋ยวชั้นมาใหม่" คนบ้าอะไรเข้าห้องคนอื่นไม่เคาะประตู คิดจะเปิดก็เปิดมันเข้ามาอย่างงั้นนั่นแหละ นี่ยังดีนะที่ใส่บ๊อกเซอร์แล้ว แต่เสื้อไม่ได้ใส่ ถึงอย่างนั้นก็เถอะ คุณครามนะคุณคราม มันน่าแช่งให้ตาเป็นกุ้งยิงซะให้เข็ด
 
 
"ก๊อกๆๆ" หลังจากแต่งตัวอะไรเสร็จผมก็เดินมาเคาะห้องข้างๆ
 
"อื้ม เข้ามาสิ"
 
"คุณ..... มีอะไรรึเปล่าครับ?" ที่ถามนี่ไม่ใช่ว่าไม่อายนะ แต่พยายามจะไม่คิดถึงมันมากกว่า ถึงยังไงก็ผู้ชายเหมือนกัน
 
"เปล่า? อ๋อ!! ลืมไป..ชั้นจะบอกว่า จองตั๋วเครื่องบินแล้วนะ" เพิ่งเคยเห็นคนอย่างคุณครามเขินก็คราวนี้แหละ ถึงจะไม่มากแต่ก็พอดูออก
 
"นี่อย่าบอกนะว่าที่คุณพรวดพราดเข้าไปห้องผมแต่เช้าเพราะเรื่องนี้?" ผมยักคิ้วถามแบบที่เค้าชอบทำประจำ
 
"อื้ม" แค่เนี๊ยะนะ จะบ้าตาย
 
"เอาไว้บอกตอนที่ผมมาดูแลคุณก็ได้นิครับ?" ผมล่ะอยากดิ้นตายมันซะตรงนี้เลย
 
"ก็วันนี้เห็นนายยังไม่มา เลยว่าจะไปดูสักหน่อย" เขาตอบแล้วทำท่าจิบกาแฟไปพรางๆ
 
"ผมว่าผมตื่นตามปกตินะ ไม่ได้สายด้วย" ผมเหล่ตามองที่นาฬิกาติดฝาผนัง
 
"เหรอ? งั้นนาฬิกาห้องชั้นคงเสียแล้วล่ะ เดี๋ยวค่อยให้ลุงแช่มมาเอาไปซ่อม" ผมล่ะหมั่นไส้ ชักแถเก่งขึ้นทุกวันแล้วนะคุณคราม
 
"แล้ว...คุณได้เห็นอะไรไหมครับเมื่อกี้?"
 
"อุ๊!!!! อะแค๊กๆ" สมน้ำหน้า สำลักให้ตายไปเลย

"ถามอะไรของนาย?" คุณครามหันมาถามหลังจากสำลักกาแฟหน้าดำหน้าแดง

"ไม่รู้แหละครับ สรุปคือเห็นหรือไม่เห็น?"

"ไม่เห็น"
 
"จริงเหรอครับ?" ผมส่งสายตาคาดคั้นไปให้
 
"อื้ม ไม่เห็นเลย แล้วก็ไม่คิดเลยว่าจะขาวขนาดนี้" คุณครามตอนนี้สายตาโคตรเจ้าเล่ห์ มิน่าล่ะถึงเป็นเพื่อนกันหมอตั้นได้
 
"คุณคราม!!"
 
"หืม?"  มาหงมาหืมอะไรเล่า ดูทำหน้าเข้า
 
"แล้วทำไมคุณไม่เคาะประตูห้องก่อนเล่า?"
 
"ก็ไม่คิดว่านายจะเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เลยไม่ได้เคาะ ปกติก็ไม่เคาะ" ติดนิสัยน่ะสิ คิดว่าเป็นบ้านตัวเองแล้วทำอะไรก็ได้รึไง
 
"ไม่รู้ล่ะ คราวหน้าต้องเคาะด้วยนะครับ ไม่งั้นผมจะแข่งให้คุณเป็นตากุ้งยิงจริงๆ ด้วย"
 
"นี่นายเขิน หรือว่า โกรธกันแน่?"
 
"......."
 
"จะอายทำไม? ทีของชั้นนายยังเห็นมาแล้วเลย" ยิ้มแบบนี้อีกละ
 
"พูดบ้าๆ ใครเห็นของคุณตอนไหนกัน?"
 
"ก็ตอนที่ชั้นเมาครั้งแรก แล้วก็ตอนมันเคารพธงชาติตอนเช้าไงนั้นไง"
 
"หยุดๆ คุณคราม พูดอยู่ได้หน้าไม่อาย"
 
"ก็มันจริง" >>>>>แนะ!! ยังมาพูดออกมาหน้าตาเฉยอีก
 
"แต่ยังไงเรื่องนี้คุณก็ผิด"
 
"โอเค ชั้นขอโทษละกัน" ครามยกมือขึ้นสองข้างบอกว่าขอยอมแพ้
 
"อะไร? ชั้นก็ขอโทษแล้วไง แถมชั้นก็ยังไม่ได้แตะต้องตัวนายอะไรเลยด้วยซ้ำ นอกจากวันนั้นที่ชั้นจู.....อื้อออ!!"  ขิงเอามือปิดปากไว้ก่อนที่ครามจะพูดให้ตัวเองอายมากกว่านี้ คนยิ่งเขินๆ ไม่อยากนึกถึงอยู่
 
"เอาเป็นว่า ผมไม่โกรธแล้ว โอเคไหม?"
 
"........" คุณครามผยักหน้ารับคำ
 
"ห้ามพูดแล้วนะ สัญญาสิครับ?"
 
"อื้อ!!" เสียงรับคำอู้อี้ ในระยะห่างกันแค่นี้ทำให้รู้สึกถึงลมหายใจของอีกฝ่ายเลย
 
"เจ็บไหมครับเมื่อกี้?"
 
"ไม่ แต่.....ขอจูบได้ไหม?"
 
"ห๊ะ?" ขิงถามเพราะยังจุนสมองตามไม่ทัน
 
"ขอจูบได้ไหม?" ครามถามเสียงนุ่ม มองขิงที่กำลังยืนนิ่งเม้มปากสับสนอยู่
 
"อ๊ะ!!" เสียงอุทานอย่างตกใจ พร้อมกับตาที่เบิกขึ้น นี่เป็นการจูบครั้งที่สอง ครั้งที่สองแล้วที่ผมจูบกับเค้า
 
"อ้าปากหน่อย" ไม่รู้ว่าทำตามที่เค้าบอกตอนไหน พอดึงสติกลับมาได้ก็ถูกจู่โจมไปแล้ว
 
"อื้ออออออออ" เวลาดำเนินไปเรื่อยๆ จนเริ่มหายใจไม่ทัน ครามถึงผละออกมา แล้วก็ประกบจูบใหม่อีกครั้ง แถมยังเร่าร้อนมากกว่าเดิมอีก
 
"อื้ออออ!! ปึกๆ"  ขิงใช้กำปั้นทุบประท้วงเพราะหายใจไม่ทัน จนครามยอมผละออกมา
 
"หยุดมองได้แล้ว!!"
 
"เอ่อ...อื้ม!!" พูดจบ ต่างคนต่างเงียบ อยู่ในความคิดของตัวเอง ไม่ใช่แค่ครามหรอกที่สับสน แต่ขิงก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงได้ยอมให้คนตรงหน้าทำแบบนั้น
 
"งั้น....ผมลงไปข้างล่างนะครับ?" พูดเสร็จก็หันหลังก้าวฉับๆออกไป
 
"อยากลงไปให้เค้าถามว่าปากไปโดนอะไรมาก็ตามใจ?" ผมชะงัก
 
"คุณ!!"
 
"ก็มันจริง ไม่เชื่อส่องกระจกสิ" เค้าบุ้ยปากไปทางห้องน้ำ
 
"......."
 
"ไม่โกรธชั้นใช่ไหม?" คุณครามเดินเข้ามาใกล้ๆแล้วถามเบาๆ
 
"....." ผมส่ายหน้าปฏิเสธ
 
"แล้วทำไมไม่มองหน้าชั้นล่ะ?"
 
"ก็...." จะให้บอกยังไงในเมื่อคุณไม่เคยเป็นแบบนี้ แล้วก็ไม่เคยใช้สายตาแบบนี้กับผมเลยนี่หน่า มันแปลกๆยังไงไม่รู้
 
"จะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ?"
 
"งั้น...ผมถามได้ไหม๊ว่า.....ทำไมถึงทำแบบนั้น?" ผมเงยหน้ามองเค้า
 
"ชั้นก็.......ไม่รู้เหมือนกัน รู้แค่ว่าอยากจูบนายแค่นั้น" นั่นสินะคุณเองก็ผู้ชายแท้ๆ จะมารู้สึกอะไรกับผู้ชายด้วยกัน คิดแล้วเจ็บบอกไม่ถูกแหะ รู้สึกผิดกับเจ แล้วก็รู้สึกเกลียดตัวเองจริงๆ
 
"งั้นเหรอครับ?"
 
"อื่ม" ครามตอบสั้นๆ ขนาดตัวยังให้คำตอบตัวเองไม่ได้เลย
 
"ผมเข้าใจครับ"  เข้าใจว่า คุณแค่เผลอไปเพราะความใกล้ชิดแค่นั้นเอง

"ชั้น....."
 
"งั้นผมกลับห้องนะครับ คุณคงไม่ว่าใช่ไหมครับถ้าผมจะขอลาหยุดสักสองสามชั่วโมง"

....................

..........

.....

 
 
.........................................
 
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 11 Up : (03/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 03-12-2015 14:35:29





(ต่อ)





"คุณขิงคะ?" เสียงพี่นุ้ยเรียกผม
 
"ครับ"
 
"เปล่าๆ ค่ะ ไม่มีอะไร?"
 
"มีอะไรก็พูดมาเถอะครับ คนกันเอง" เรียกมาซะขนาดนี้ แล้วสีหน้าท่าทางยังบ่งบอกขนาดนี้ บอกไม่มีอะไร ผมไม่เชื่อหรอกนะ
 
"คือ.....พี่จะถามว่า คุณขิงกับนายหัวทะเลาะกันเหรอค่ะ? หรือว่าคุณขิงโกรธอะไรนายหัว?"
 
"เปล่าหรอกครับ ทำไมพี่นุ้ยถึงคิดงั้นล่ะครับ?"
 
"ก็บรรยายกาศระหว่างคุณขิงกับนายหัวมันดูอึมครืมยังไงไม่รู้สิคะ พี่ก็บอกไม่ถูก" ช่างสังเกตุเกินไปแล้วนะพี่นุ้ย
 
"เปล่าครับ ไม่ได้ทะเลาะกัน เพียงแต่ผมมีอะไรให้คิดนิดหน่อยน่ะครับ เลยเงียบๆไปแค่นั้นเองครับ"
 
"เหรอคะ? งั้นพี่คงเข้าใจผิดไปเอง เห็นตอนเช้าก็ไม่ลงมาทานข้าวด้วยกันทั้งคู่"
 
"ครับ พอดีผมปวดหัวน่ะครับ เลยพานไม่หิวไปด้วย"
 
"นายหัวก็ตอบอย่างนี้เหมือนกันค่ะ อย่างกับลอกคำตอบกันมาเลยนะคะ" พี่นุ้ยยิ้มเหมือนไปรู้อะไรมา แต่ไม่หรอกหน่า จะรู้ได้ไงในเมื่อไม่ได้อยู่ตรงนั้นด้วยสักหน่อย
 
"อย่างนั้นเหรอครับ?" ผมถามเสียงเบา แล้วรีบสะบัดเอาความคิดแปลกๆนี้ออกจากสมอง
 
"ค่ะ แล้วคุณขิงทานยารึยังคะ? ถ้ายังพี่จะได้หาให้"
 
"เรียบร้อยแล้วครับ ขอบคุณครับ"
 
 
"งั้นคุณขิงจะทานข้าวเที่ยงเลยไหมคะ? ทานข้าวไม่ตรงเวลาเดี๋ยวจะเป็นโรคกระเพาะเอา"
 
"ครับ งั้นเดี๋ยวผมไปพานายหัวของพี่นุ้ยลงมาทานข้าวก่อนนะครับ"
 
"พี่เพิ่งขึ้นไปถามนายหัวมาเมื่อครู่นี้เองค่ะ แต่นายหัวบอกว่าไม่หิว ไม่อยากกินอะไร อาการท่าจะแย่นะคะ อิอิ" พี่นุ้ยหัวเราะแบบนี้อีกแล้ว มันชักจะยังไงๆแล้วนะ
 
"เดี๋ยวผมทานเสร็จค่อยเอาไปให้เค้าก็ได้ครับพี่นุ้ย เผื่อหิว" เป็นอะไรของคุณ? ผมต่างหากที่ต้องคิดมาก อาการแย่
 
"ค่ะ งั้นคุณขิงก็ต้องทานข้าวคนเดียวสิคะมื้อนี้?"
 
"ก็คงจะอย่างนั้นแหละครับ"
 
"ไปทานกับพวกพี่ไหมคะ?" พี่นุ้ยเงยหน้ามาถาม แล้วกลับไปสาละวนกับอาหารมื้อเที่ยงอยู่
 
"ได้เหรอครับ?"
 
"ได้ค่ะ ปกติก็ทานกับสองสามคนอยู่แล้ว เพิ่มคุณขิงมาอีกสักคนคงจะยิ่งอร่อย" พี่นุ้ยยิ้มกว้างโชว์ฟันขาวตัดกับสีผิว
 
"เกี่ยวกันด้วยเหรอครับ?" 
 
"เกี่ยวสิคะ ไม่ว่าจะอะไรถ้าทานคนเดียวมันไม่อร่อยหรอกค่ะ ต้องแย่งกันทานสิคะถึงจะอร่อย ไปค่ะ"
 
"ขอบคุณครับพี่นุ้ย" ผมยิ้มตามความคิดของพี่นุ้ย บ้านผมก็มีเหมือนกันนะความคิดแบบนี้ เค้าว่ายิ่งทานด้วยกันเยอะๆ แย่งกันกิน อาหารก็จะยิ่งอร่อย
 
"วันนี้มีน้ำพริกกุ้งเสียบด้วยนะคะ อันนี้เด็ดมาก แม่พี่ทำมาฝาก"
 
"ต้องลองชิมแล้วล่ะครับ" ผมยิ้มให้แล้วเดินตามพี่นุ้ยไปหลังบ้าน
 
"รับรองว่าแซบจนต้องสูดปากเลยค่ะ อิอิ"
 
"ผมขอทานข้าวด้วยคนนะครับ ป้าน้อย ลุงแช่ม" ผมเอ่ยถามผู้อาวุโสสองคนของบ้าน
 
"เอ้า เชิญเลยครับๆ คุณขิง กับข้าวมีแต่ของบ้านๆ พื้นเมืองนะครับ ไม่รู้ว่าจะทานได้รึเปล่า?" ลุงแช่มเอ่ยถาม
 
"ทานได้ครับ ผมชอบอาหารปักษ์ใต้ครับลุง" ความจริงอาหารใต้ก็ถือว่าอร่อยมากนะ ถ้าไม่เผ็ดจนเกินไป
 
"เดี๋ยวผมช่วยถือให้ครับป้า" ผมอาสาหยิบจาน ชามใส่แกงอะไรสักอย่างกับข้าวสวยร้อนๆ ที่ป้าน้อยแกกำลังตักจากหม้อมาวางที่โต๊ะหินอ่อนหลังบ้าน
 
"มัวยืนยิ้มอยู่ทำไม รีบเอาไปวางสิ จะได้มาเอาจานพวกนี้ไปต่อ" ที่ผมยิ้มเพราะป้าแกไม่ได้มีท่าทีกับผมเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แถมบางครั้งแกยังช่วยดูแลผมเล็กๆน้อยๆ อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น ตอนเช้าที่ผมบอกว่าปวดหัวไม่สบาย แกก็เป็นคนให้ลุงแช่มเอาแก้ปวดหัวมาให้ พร้อมกับของคุณคราม ทีแรกว่าจะฝากคำขอบคุณลุงแช่มไปให้แก แต่ผมว่ารอขอบคุณแกเองจะดีกว่า เราเป็นเด็ก แถมยังอยู่บ้านเดียวกัน ทำแบบนั้นคงไม่เหมาะสักเท่าไหร่
 
"ครับป้า"
 
"ยกไปเร็วๆ สิ จะได้รีบๆ กิน แล้วแยกย้ายกันไปทำงานใครงานมัน" ผมเลยต้องหุบยิ้มแล้วรีบยกไปไว้ จานข้าวถูกแจกให้จนครบทุกคน พร้อมช้อนและส้อม
 
"ลองชิมนี่สิคะคุณขิง เค้าเรียกว่า แกงหมูกับลูกเหรียง อร่อยนะคะ" พี่นุ้ยตักแกงที่ว่ามาให้ผม
 
"ขอบคุณครับ"
 
"เป็นไงบ้างคะ?"
 
"อร่อยดีครับ แล้วเม็ดสีเขียวๆ นี่คืออะไรคืออะไรครับ?"
 
"นี่แหละค่ะ ที่เค้าเรียกลูกเหรียง ตามชื่อแกงเลย ก่อนนำมากินเราต้องแกะเปลือกสีดำๆ มันออกก่อนถึงจะกินได้"
 
"อืม พอนึกภาพออกอยู่บ้างครับ" ผมจินตนาการลูกเหรียงสีเขียวแต่มีเปลือกสีดำๆหุ้มข้างนอกอีกชั้น
 
"ถ้าอยากเห็นของจริง ที่ตลาดก็มีค่ะ ถ้าเจอเดี๋ยวพี่จะชี้ให้ดู" พี่นุ้ยอาสา
 
"ขอบคุณครับ"
 
"ทานน้ำพริกกุ้งเสียบของแม่พริกแล้วเป็นไงบ้างคะ อร่อยถูกปากไหมเอ่ย?" พี่นุ้ยตื่นเต้นรอฟังคำตอบ ซึ่งผมก็ไม่ยอมตอบแกสักที ฮ่าๆๆ
 
"อร่อยเด็ดอย่างพี่นุ้ยว่าจริงๆ ครับ" ได้คำตอบแล้วแกยิ้มยิ่งกว่านางงามได้มงกุฏซะอีก
 
"จะลากลับกรุงเทพฯ พร้อมนายหัว แล้วจัดกระเป๋าไว้รึยังล่ะ?" ป้าน้อยถาม
 
"ยังเลยครับ กะว่าจะจัดตอนกลางคืนครับป้า ไปไม่กี่วันเอง"
 
"จัดเตรียมไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ สิ เผื่อลืมอะไรจะได้เอาใส่ไว้ทัน"
 
"ครับป้า" ผมว่าความจริงป้าแกเป็นคนปากร้ายแต่ใจดีนะครับ อาจจะติดหวงนายหัวบ้าง ตามประสาแม่นม แล้วถ้าจะให้แกมาพูดดีๆ กับผม หรือทำดีกับผมปุ๊บปั๊บเลย ก็คงแปลกนะครับ คงดูยังไงๆ อยู่
 
 
 
 
 
 
 
"เดี๋ยวผมเอาข้าวไปให้คุณครามก่อนนะครับ พี่นุ้ยล้างจานเสร็จแล้วก็ตามขึ้นไปนะครับ เดี๋ยวผมจะสอนวิธีทำกายภาพนายหัวให้ครับ เผื่อวันไหนผมไม่สบายหรือไม่อยู่ พี่นุ้ยจะได้ทำให้นายหัวของพี่นุ้ยได้"
 
"คุณขิงพูดอย่างกับจะไปไหนงั้นแหละค่ะ?"
 
"ก็ไม่แน่หรอกครับ เผื่อผมลากลับบ้านไงครับ จะได้มีคนทำให้นายหัวได้"
 
"อ๊อค่ะ พี่นึกว่าคุณขิงจะลาออกซะแล้ว"
 
"ไม่หรอกครับ งั้นผมขอตัวนะครับ คุณครามคงหิวแล้ว" ถึงไม่มีสัญญาที่ทำไว้ ผมก็ตั้งใจจะทำหน้าที่ของตัวเองให้เสร็จอยู่แล้ว
 
"ก๊อกๆๆ"
 
"ทานข้าวครับ" ผมยกสำรับที่อุ่นเสร็จแล้วขึ้นมาให้คนที่อ้างว่าป่วย ไม่ยอมลงมาทานข้าว
 
"ชั้นไม่หิว ยกไปเก็บเถอะ"
 
"ไม่หิวก็ต้องกินครับ จะได้มีแรงทำงาน"
 
"ก๊อกๆๆ ขออนุญาติค่ะ" พี่นุ้ยเคาะประตูแล้วเดินเข้ามาในห้อง
 
"มีอะไรนุ้ย?" คุณครามถาม
 
"เอ่อ...คือ..."
 
"คือผมให้พี่นุ้ยขึ้นมาเองครับ ว่าจะสอนการทำกายภาพให้ เผื่อว่าผมไม่อยู่หรือไม่สบายจะได้มีคนทำให้คุณได้"
 
"ไม่ต้อง ถ้าไม่อยากทำให้ขนาดนั้นก็ไม่ต้องให้ใครมาทำให้ ออกไปซะ"
 
"ออกไปก่อนก็ได้ครับพี่นุ้ย เดี๋ยวผมจัดการเองครับ"
 
"ค่ะ"
 
"คุณครามครับ มีเหตุผลหน่อยสิครับ ผมไม่ได้จะหลบเลี่ยงหน้าที่ของตัวเอง แต่หากมีกรณีฉุกเฉินหรือกรณีอื่นเหมือนอย่างตอนเช้านี้อีก คุณก็จะได้ไม่ขาดการทำกายภาพอีก ผมเลยคิดว่าถ้าหากให้พี่นุ้ยมาเรียนรู้ไว้ก็ดีเหมือนกัน ถ้าเกิดผมลากลับบ้านหรือไม่สบาย ก็ยังมีพี่นุ้ยที่สามารถทำให้คุณได้อยู่"
 
"แน่ใจเหรอว่านั่นคือเหตุผลจริงๆ ของนาย"
 
"ครับ" แล้วมันใช่เรื่องไหมที่ผมต้องมาง้อเนี๊ยะ ความผิดผมก็ไม่ใช่
 
"ตอบชั้นก็มองตาชั้นด้วยสิขิง"
 
"......"
 
"นายไม่กล้ามองตาชั้น เพราะกลัวว่าชั้นจะรู้ว่านั่นคือข้ออ้างของนาย ชั้นเข้าใจถูกไหม?"
 
"ไม่ครับ ผมรู้ว่าหน้าที่ของผมคืออะไร ผมไม่หลีกเลี่ยงหน้าที่ของผมหรอกครับ แต่ที่ผมทำอย่างนั้นเพราะผมคิดดีแล้วว่า ถ้าวันไหนที่ผมลากลับไปเยี่ยมบ้าน คุณจะได้มีคนทำแทนให้ แค่นั้นจริงๆ ครับ"
 
"ขิง..... โกรธจนไม่อยากดูแลชั้นขนาดนั้นเลยเหรอ?"
 
"ผมไม่ได้โกรธจริงๆครับ ผมเข้าใจแล้วก็อยากให้คุณเข้าใจผมด้วยเหมือนกันนะครับ"
 
"ขิง ชั้นขอโทษ แต่..."
 
"ไม่เป็นไรครับ อย่าพูดถึงมันอีกเลย"
 
"เอาล่ะครับ ทานข้าวได้แล้ว เดี๋ยวผมจะได้ไปตามพี่นุ้ยมาดูตอนทำกายภาพให้คุณ" ถึงจะเดินได้แล้วแต่ผมยังเห็นเค้านิ่วหน้าอยู่บ่อยครั้งตอนทำงานที่เกาะ ไม่แปลกหรอกครับเพราะมันยังไม่หายดีสักหน่อย ยังคงต้องดูแลรักษากันต่อไปเรื่อยๆ
 
 
 
.............................................
 
 
 
 
"เดินทางปลอดภัยนะนายหัว คุณขิง"
 
"ขอบคุณครับพี่นุ้ย" ตอนนี้ทุกคนกำลังออกมายืนส่งพวกเราที่หน้าบ้าน โดยมีบุงแช่มขับรถพาพวกเราไปส่งที่สนามบิน
 
"ไม่ต้องห่วงนะครับ ป้าน้อย พี่นุ้ย เดี๋ยวผมดูแลนายหัวให้เองครับ" ที่ต้องไปตรวจที่กรุงเทพฯ เพราะที่นั่นเครื่องไม้เครื่องมือมีมากกว่า แล้วตอนประสบอุบัติเหตุแม่ของคุณครามท่านก็ส่งตัวคุณครามไปรักษาที่กรุงเทพฯ ด้วย ไปครั้งนี้ก็กะว่าจะได้ตรวจร่างกายทั้งหมดเลย แม้กระทั่งระบบสมองด้วย เพราะหมอตั้นบอกว่าตอนที่คุณครามประสบอุบัติเหตุรถคว่ำ ทำให้ศรีษะได้รับบาดเจ็บด้วยนิดหน่อย ถึงไม่ได้รับการกระทบกระเทือนมาก แต่ก็ยังต้องตรวจไว้ก่อนเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง  ส่วนขาก็ต้องไปตรวจว่ากระดูกที่งอกออกมามันดีรึเปล่า? หรือจะไปทับส่วนที่เป็นเหล็กรึเปล่า? ไม่งั้นตอนผ่าตัดเอาเหล็กออกคงทำให้ไม่ได้
 
"โชคดีนะคะ"
 
 
 
 
ดีนะผมเอากระเป๋าเป้ไปแค่ใบเล็กๆ เอง เพราะมีเสื้อผ้าอยู่ที่คอนโดอยู่แล้ว ส่วนของคุณครามก็มีแค่กระเป๋าเดินทางใบเล็กๆ ที่มีล้อลากใบเดียว ของไม่เยอะจะได้ไม่ลำบากตอนเดินทาง ตอนนี้เราขึ้นเครื่องมาแล้ว คุณครามบอกว่า พอถึงกรุงเทพฯ จะมีคนมารับ เป็นคนของหมอตั้นที่เตรียมไว้ให้โดยเฉพาะ เผื่ออยากจะไปไหนจะได้สะดวก ส่วนที่พัก คุณครามก็บอกว่าจองโรงแรมไว้แล้วสองห้อง ส่วนระหว่างที่ผมไปทำธุระส่วนตัวสองสามวันนี้ ก็จ้างพยาบาลพิเศษมาไว้แล้วด้วย
 
 
 
"ถ้าถึงแล้วจะให้ชั้นไปส่งนายที่ไหน?"
 
"ขอบคุณครับ แต่คงไม่รบกวนคุณดีกว่าครับ ผมไปเองน่าจะสะดวกกว่า คุณจะได้กลับไปพักผ่อนด้วยเลย"
 
"ไม่เป็นไร ชั้นไปส่งดีกว่า จะลำบากไปเองทำไม?" เอาเป็นว่าตามใจคุณแล้วกันครับ ผมเองก็ไม่อยากจะเถียงอะไรมาก ที่ปฏิเสธเพราะเกรงใจ แล้วก็อยากให้เค้ากลับไปพักผ่อนแค่นั้นเอง
 
"ครับ งั้นรบกวนคุณด้วยนะครับ"
 
"อื้ม"
 
เครื่องลงแล้ว กระเป๋าก็เอาแล้ว คนที่มารับพวกเราก็มารอรับที่เกตตามที่ได้นัดกันไว้แล้ว มีเพื่อนแบบหมอตั้นนี่ก็สบายไปหลายอย่างเลยนะ เป็นทั้งหมอรักษา ส่งคนมารับ จัดพยาบาลพิเศษให้ ไม่นับก่อนหน้านั้นที่เป็นคนหาพยาบาลกับนักกายภาพมาให้อีก
 
"เดี๋ยวไปส่งคุณขิงที่หอก่อนนะนายพัฒน์" น้าพัฒน์นี่แหละครับที่เป็นมารับพวกเราที่สนามบิน รวมถึงยกกระเป๋าแล้วก็สัมภาระของพวกผมด้วย

"ครับคุณคราม"  ระหว่างทางน้าพัฒน์แกเล่าให้ฟังแล้วล่ะครับว่า ทำงานกับหมอตั้นมานานแล้ว เพราะเป็นคนของที่บ้านหมอตั้น
 
"คุณขิงพักอยู่แถวไหนครับ?"
 
"ไปส่งผมที่คอนโด xxx แถว xxxx ก็ได้ครับผมจะแวะไปหาเพื่อน"
 
"ได้ครับ"
 
 
 
 
"ขอบคุณครับน้าพัฒน์ ขอบคุณครับคุณคราม วันพรุ่งนี้เจอกันนะครับ" ที่บอกว่าพรุ่งนี้เจอกันเพราะผมเป็นคนบอกเองว่าจะไปส่งคุณครามตรวจด้วยตัวเอง เพราะมันคือหน้าที่ของผม ส่วนเจก็ไปทำงาน เสร็จงานค่อยเจอกันก็ได้ ถ้าถามเรื่องความรู้สึกที่มีต่อคุณครามตอนนี้ก็แค่ต้องปล่อยมันไป เพราะมันเป็นแค่ความหวั่นไหวเล็กๆ น้อยๆ ของเราเองแค่นั้น จะทำอะไรได้ล่ะ? ส่วนผมก็มีเจอยู่แล้ว คุณครามก็อยู่ส่วนคุณคราม เค้าก็ยังคงเป็นเจ้านายของเราเหมือนเดิมแค่นั้นเอง
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
....................................... TO BE CON .................................
 
 
 
เอาเรื่อยไปเรียงๆก่อนเนอะ  อยากให้ขิงจัดการกับความสัมพันธ์ของตัวเองกับเจให้จบๆไปก่อน ไม่อยากให้มันดูเหมือนนายเอกคบซ้อน
 
ส่วนความสัมพันธ์ของขิงกับครามก็อยากให้มันค่อยๆแทรกซึม เพราะมันไม่ง่ายเลยที่ผู้ชายแมนๆคนนึงจะมีความรู้สึกดีๆให้ผู้ชายด้วยกัน เราอยากให้ครามได้คิดอะไรก่อนนิดหน่อย
 
เรื่องคนแต่งอยากให้มันเป็นเหมือนเรื่องของคนธรรมดาคนหนึ่ง ที่เล่าออกมาให้ใกล้เคียงกับความจริงมากที่สุดนะ (จะพยายามนะ)
 
ขอบคุณคนอ่านทุกคนที่มาติดตามเป็นกำลังใจให้ความรักของนายหัวกับหนูขิงของเรานะครับ :)
 

หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 11 Up : (03/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 03-12-2015 15:32:46
ฮือออ กลับมาแล้ว
ครามท่าทางจะชอบขิงมากๆ ไม่ห่างตัวเลย
แต่ขิงเป็นคนดีจริงๆ  จัดการตัวเองได้ดี แต่อีตาครามทำตัวเหมือนเด็ก555
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 11 Up : (03/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 03-12-2015 15:47:41
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:  คุณครามคงสับสนตัวเองอยู่ มั๊ง ???
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 11 Up : (03/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 03-12-2015 16:39:11
สนุกดีค่ะ ตามอ่านรวดเดียวเลย จะรอตอนต่อไปนะคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 11 Up : (03/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 03-12-2015 17:06:08
ดีใจจังเรื่องที่รออยากอ่านมาแล้ว  :hao7:  มาให้อ่านได้จุใจหายคิดถึงนิดนึง

นายหัวนี้เริ่มจะขี้อ่อนเก่งขึ้นทุกวันแล้วนะ...แบบนี้ชอบ..ชอบ..
หาเรื่องไม่อยากห่างจากขิงแต่ถ้าไปแล้วไปเจอแฟนของขิงขึ้นมาละ...กลัวนายหัวจะกลับมาเล่นบทโหดกับน้องขิงนะซิ
อย่ามีดราม่านะ...กำลังหวานได้ที่  :mew1:

มาต่ออีนะค่ะ   :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 11 Up : (03/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 03-12-2015 19:22:07
ดีๆๆๆๆ ให้เคลียร์เรื่องเจก่อน นี่จะฟินก็ฟินไม่สุด ยังไงขิงก็ยังมีแฟนอยู่ กับนายหัวค่อยๆพัฒนาแหละดีแล้วว ดีใจมากที่เห็นอัพ 5555 ขอบคุณค่าา
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 11 Up : (03/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 04-12-2015 08:21:53
ฮือออ กลับมาแล้ว
ครามท่าทางจะชอบขิงมากๆ ไม่ห่างตัวเลย
แต่ขิงเป็นคนดีจริงๆ  จัดการตัวเองได้ดี แต่อีตาครามทำตัวเหมือนเด็ก555



ขอบโทษคราฟฟฟฟ เค้ากลับมาแล้ว เร่งเคลียร์งาน เสร็จแล้ว ร่างจะแตกเหนื่อยมาก พอพักอีกสองวันแล้วจะมาต่อให้ใหม่นะครับ

หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 11 Up : (03/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 04-12-2015 08:25:30
 :katai4:
สนุกดีค่ะ ตามอ่านรวดเดียวเลย จะรอตอนต่อไปนะคะ :mew1:

ขอบคุณครับที่มาให้กำลังใจคนแต่ง จะพยายามทำให้ดีขึ้นครับ ขอพักอีกสองวันเดี๋ยวจะมาต่อให้นะครับ
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 11 Up : (03/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 04-12-2015 08:30:42
:katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:  คุณครามคงสับสนตัวเองอยู่ มั๊ง ???


อยู่ในช่วงสับสน แม้ว่าจะรู้อยู่ในใจบ้างแล้วแต่ก็ไม่กล้ายอมรับตัวเอง ทนเอาหน่อยนะครับคุณ Patchylove พระเอกเราโง่อยู่ไม่กี่ตอนหรอก555555555
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 11 Up : (03/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 04-12-2015 08:36:17
ดีใจจังเรื่องที่รออยากอ่านมาแล้ว  :hao7:  มาให้อ่านได้จุใจหายคิดถึงนิดนึง

นายหัวนี้เริ่มจะขี้อ่อนเก่งขึ้นทุกวันแล้วนะ...แบบนี้ชอบ..ชอบ..
หาเรื่องไม่อยากห่างจากขิงแต่ถ้าไปแล้วไปเจอแฟนของขิงขึ้นมาละ...กลัวนายหัวจะกลับมาเล่นบทโหดกับน้องขิงนะซิ
อย่ามีดราม่านะ...กำลังหวานได้ที่  :mew1:

มาต่ออีนะค่ะ   :pig4: :pig4: :pig4:


อ่านแล้วชื่นใจ รับรองจะมาต่อให้อีกในเร็ววันครับ ขอพักซ่อมร่างกายสักสองวันนะ เสร็จงานก็มาลงให้เ ยังไม่ได้พักลย

ดราม่ามีนิดนึงเหอะนะ แก้เลี่ยนแต่ไม่มากหรอก 555 (ตามดูต่อไปนะ พระเอกนายเอกเรื่องนี้มีหลายมุม)  ขอบคุณครับที่มาติดตามให้กำลังใจคนแต่ง
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 11 Up : (03/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 04-12-2015 08:39:51
ดีๆๆๆๆ ให้เคลียร์เรื่องเจก่อน นี่จะฟินก็ฟินไม่สุด ยังไงขิงก็ยังมีแฟนอยู่ กับนายหัวค่อยๆพัฒนาแหละดีแล้วว ดีใจมากที่เห็นอัพ 5555 ขอบคุณค่าา


ใกล้เคลียร์ละนะ รอฟินให้ปรอทแตกได้เลย
แล้วก็ขอบคุณครับที่รอติดตามกัน เห็นคอมเม้นท์แล้วมีกำลังใจขึ้นเยอะเลย ^^
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 11 Up : (03/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 04-12-2015 14:37:46
 :z13:
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 12 Up : (05/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 05-12-2015 12:06:27




อันดามัน...ซ่อนรัก
ตอนที่ 12



ลงจากรถที่คุณครามและน้าพัฒน์มาส่ง ผมก็ใช้คีย์การ์ดผ่านประตูขึ้นมาข้างบน ห้อง 1703 นี่แหละที่ผมตั้งใจจะมาเซอร์ไพร์ซเจ้าของเค้า สงสัยกันใช่ไหมว่าทำการ์ดหรือพี่ยามหน้าคอนโดถึงปล่อยให้ผมเข้ามาได้ง่ายๆ เพราะเค้าคงคุ้นหน้าผมดี รวมถึงนิติบุคลของที่นี่ด้วย คีย์การ์ดนี่เจก็เป็นคนให้ไว้ตั้งแต่คบกันแรกๆ

มาถึงนี่ก็ห้าโมงกว่าพอดี หกโมงโน้นแหละกว่าเจจะกลับมา คอนโดเจดูเป็นระเบียบเรียบร้อยเหมือนเจ้าของมันนั่นแหละ อีกอย่างเจจ้างแม่บ้านมาดูแลอาทิตย์ละครั้งด้วย อยู่ๆไม่รู้ว่าความคิดบ้าๆนี้ผุดเข้ามาในสมองได้ไง ความคิดที่ว่าเจจะแอบพาใครมานอนที่นี่รึเปล่า ยังไม่ทันได้คิดต่อ สองขาก็พาตัวเองเดินมาจนถึงห้องนอนของเจซะแล้ว มองดูทั่วไปก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกตินะ แม้แต่ตู้เสื้อผ้าก็ไม่มีเสื้อผ้าของคนอื่นเลย อาจมีบ้างสามสี่ชุด สงสัยเจจะซื้อมาใหม่เพราะรายนั้นแต่งตัวเก่ง ผมส่ายหัวกับความคิดบ้าๆพวกนี้แล้วเดินออกไปรอเจที่ห้องนั่งเล่น ไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะขี้ระแวงเหมือนกัน ผมถอนหายใจแล้วลุกไปล้างหน้าเผื่อจะช่วยลดความฟุ้งซ่านออกไปบ้าง

ตอนนี้สามทุ่มกว่าแล้ว แต่เจยังไม่กลับ จะว่าไปทำงานธนาคารก็ไม่น่าจะเลิกดึกขนาดนี้ หรือว่ามีเลี้ยงฉลองกับเพื่อนที่ทำงาน รออีกหน่อยก็ได้ ไหนๆก็รอมาตั้งนานละ กับข้าวก็โทรสั่งมาแล้ว ไว้จะทานค่อยเอามาอุ่นอีกที แต่ถ้าเจทานข้างนอกมาแล้วล่ะ กับข้าวพวกนี้ก็เป็นหมันน่ะสิ ทำไงดี ลองโทรถามดีไหม๊จะได้เตรียมตัวทัน

"ฮัลโหลเจ"

"ครับขิง โทรมาได้เวลาพอดี เจกำลังคิดถึงอยู่พอดี" คุยกันปกติไม่เห็นตื่นเต้นเลย แต่ทำไมวันนี้ถึงตื่นเต้นขนาดนี้ก็ไม่รู้

"คิดถึงจริงเปล่า?"

"จริงดิ ถ้าอยู่ใกล้จะฟัดแล้วนะเนี๊ยะ ทำเสียงแบบนี้"

"แล้วเจอยู่ไหนตอนนี้ ทานข้าวรึยัง?"

"ทานแล้วครับ กำลังจะกลับคอนโด"

"กลับดึกนะเนี๊ยะ" ผมแกล้งหยอกไป

"ออกไปกินข้าวกับเพื่อนนิดหน่อย ถึงคอนโดแล้วเนี๊ยะ งั้นเจวางก่อนนะ อาบน้ำเสร็จแล้วจะโทรหา"

"ครับ" ตื่นเต้นจัง คนที่ห่างแฟน แล้วกำลังจะได้เจอกันครั้งแรกในรอบหลายเดือน มันรู้สึกอย่างนี้เอง

"แกร๊ก!!" เสียงประตูเปิด ผมอดอมยิ้มไม่ได้ เราจะได้เจอกันแล้ว

"อื้ออออ เจ!! อย่าเพิ่งสิ อาบน้ำก่อน" เสียงใคร? ผมก้าวเท้าออกจากมุมหนึ่งของห้อง แม้ว่ายังไม่เปิดไฟแต่ก็ยังเห็น เห็นคนสองคนกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันตั้งแต่ประตูห้องมาจนถึงห้องนั่งเล่น จูบกันจนเสื้อผ้าหลุดหรุ้ย จนแทบไม่เหลืออะไรติดตัว สภาพตอนนี้คิดว่าเป็นเพื่อนกันธรรมดาคงไม่ได้แล้วล่ะ ใจเหมือนจะขาดเลยแหะ บอกไม่ถู

" ไม่ไหวแล้วขอเจเหอะครับที่รัก" >>>ที่รักงั้นเหรอ? มีที่รักเยอะจังเนอะ ผมประชดตัวเองในใจ

"แต่มันเหม็นเหงื่อนะเจ"

"ใครว่า หอมจะตาย จุ๊บ!!"

"อื้อออ จั๊กจี้.....!!"

 "เจขอนะครับ ให้รางวัลเจนะครับ วันนี้เจพามาร์คไปกินข้าว ไม่ดื้อแล้วก็ไม่ซนด้วย" มาร์คงั้นเหรอจะบังเอิญไปหน่อยมั้ง ผมคิดในใจแต่พอได้เห็นหน้าจริงๆตอนที่ทั้งคู่พลิกตัว ผมกลับคิดว่าบางทีโชคชะตามันก็เล่นตลกกับคนเราดีนะ ถ้าเป็นคนอื่นผมคงไม่เจ็บเป็นร้อยเท่าขนาดนี้ ไม่น่าเชื่อเนอะว่าเพื่อนกันจะทำกันถึงได้

"อื้ม!!!"

"ขอบคุณครับ มาร์คน่ารักที่สุดเลย จุ๊บ!!"

"อื้อออออ!! ๆ เจ........!!!" จะร้องทำไมนะ ทั้งๆทีก็เห็นว่าผมยืนดูอยู่ข้างหลังตั้งนานแล้ว

"เห้ย!! ขิง / อ๊ะ!!" เสียงเจผลักเขาออก

"อื้ม ขิงเอง" ผมตอบแล้วเช็ดน้ำตาออก เจ็บเนอะว่าไหมที่ถูกทั้งแฟนทั้งเพื่อนทรยศหักหลังแบบนี้

"ขิงฟังเจก่อนนะ คือว่า.."

"ขิงว่าไม่ต้องอธิบายแล้วเนอะ !! มันทั้งเห็นแล้วก็ได้ยินชัดเจนขนาดนี้แล้ว"

"ฟังหน่อยนะขิง ฟังเจก่อน เจขอโทษคนดี" เจคุกเข่าขอโทษ มือก็ฉุดรั้งผมไว้ จะว่าไปความจริงวันนี้ผมตั้งใจจะมาเซอร์ไพร์ซวันเกิดเจด้วยแหละ เซอร์ไพร์ซล่วงหน้าเพราะวันเกิดจริงๆวันวันพรุ่งนี้ แต่ไม่คิดว่าจะถูกเซอร์ไพร์ซซะเอง ตลกไหม?

"นี่คือเหตุผลที่เจไม่ค่อยโทรหา โทรไปก็ตอบว่าไม่ว่าง ติดงานใช่ไหม?" พูดไปก็เหมือนตอกย้ำตัวเองเนอะ ใครใช้ให้มึงไปทำงานอยู่ไกลล่ะ

"เจมันไม่ดีเอง เจมันนอกใจ นอกกายขิง แต่ได้โปรด..ขิงอย่าร้องไห้เลยนะ" ผมใช้หลังมือปาดน้ำตา แล้วสะบัดแขนเจออก ส่วนอีกคนน่ะเหรอก็ยืนมองเหมือนผู้ชนะไง ก็ดีต่อไปจะได้รู้ว่าใครเป็นยังไง ผมสะบัดเจออกอีกครั้งแล้วเดินออกมา

"ขิงอย่าไป เจขอโทษ ยกโทษให้เจนะ ขอร้อง"

"กลับไปหาเค้าเถอะเจ เรื่องของเราถือว่าจบลงตรงนี้เถอะ ขิงรับไม่ได้ที่แฟนตัวเองไปมีคนอื่น ขิงไม่ใช่คนดีอะไร แล้วก็ไม่ใช่คนใจกว้างด้วย ขิงก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่อยากให้แฟนตัวเองมีเราแค่คนเดียว รักเราแค่คนเดียวเท่านั้น ปล่อย!!" ผมปาดน้ำตาออก แล้วมองหน้าเจทั้งน้ำตาสลับกับอีกคนที่ยืนเกาะแขนอยู่ไม่ห่าง

"ไม่เอาเจไม่เลิก เจรักขิง รักขิงคนเดียว" รักบ้าอะไรทำแบบนี้ คนรักกันที่ไหนเค้าทำร้ายกันแบบนี้

"ตลกไปไหม รักหลอกลวงน่ะสิไม่ว่า ถอยอย่ามาจับ"

"เจขอโทษครับ ขอโทษ ได้โปรดให้อภัยเจสักครั้งนะครับ ได้โปรด" จะมาเสียใจตอนนี้มันก็สายไปแล้วล่ะ ไม่มีค่าอะไรหรอก กฏเหล็กของผมมีอยู่ขอเดียว ข้อเดียวจริงๆนั่นก็คือ ห้ามนอกกาย ห้ามนอกใจ ผมสบัดแขนแล้วผลักเจออก ส่วนตัวเองก็เดินออกมาเงียบๆ เจก็คงตามออกมาไม่ได้ตอนนี้เพราะเหลือแต่บ็อกเซอร์ตัวเดียว ถ้ากล้าเดินออกมาก็เกินไปแล้วล่ะ


"ไปโรงแรม xxxx ครับลุง" ผมโบกรถแท็กซี่แถวนั้น

"ขิงๆ ก๊อกๆ อย่าเพิ่งไป ฟังเจก่อน ปึกๆๆ" เสียงเจใช้มือทุบกระจกรถ

"ไม่ลงไปคุยกันให้เข้าใจก่อนอะพ่อหนุ่ม?"

"ไม่ดีกว่าครับ ไปเลยครับลุง"

"ทะเลาะกันมาเหรอพ่อหนุ่ม?" ผมไม่ตอบ

"ถ้ามันไม่หนักมากก็ลองให้อภัยเค้าดู แต่ถ้ามันหนักจนให้อภัยไม่ได้ก็ตัดใจซะ ถึงมันทำยาก แต่ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้นะ ความรักมันก็มีแค่นี้ ความสุขกับความทุกข์ ทุกอย่างเราเลือกให้ตัวเราเองได้"

"ขอบคุณครับลุง"

"งั้นลุงขอเปิดวิทยุนะ"

"ครับ"

"คลับฟรายเดย์วันนี้ฝากไว้กับประโยคนี้ค่ะ #อ้างว่ารักมาก #ไม่อยากเสียเราไป #รักเราแค่ไหนเชียว #มีเราคนเดียวยังไม่ได้เลย" จริงสินะ พี่อ้อยพูดถูก รักเรายังไง ถึงทำแบบนี้กับเราได้

"อ้าวจบซะละ ไม่ทันได้ฟังเลย"


ตลอดทางเหมือนเวลามันหมุนไปอย่างช้าๆ ให้เราได้ย้อนคิด ก่อนหน้าที่จะคบกันมีแต่คนบอกว่าเจเจ้าชู้มาก แต่เราก็ยังคบ ความรักทำให้เรามองทุกอย่างให้เป็นเรื่องเล็กได้ แม้แต่เรื่องความเจ้าชู้ เป็นเรื่องที่เรายอมรับมันเอง แม้แต่เฟซบุ๊คหรือไอจีเค้า เราก็ไม่เคยเข้าไปยุ่ง โทรศัพท์มือถือเค้าเราก็ไม่เคยขอดู เพราะถือว่ามันเป็นของส่วนตัว เป็นคนไม่ชอบคนเจ้าชู้ แต่ดูเหมือนว่า ยิ่งเกลียดอย่างไหน ก็ได้อย่างนั้น


ตอนนี้หัวสมองมีแต่ภาพที่เห็นเมื่อกี้ แล้วก็เสียงของเจที่ก้องอยู่ในหูเต็มไปหมด กว่าจะถึงโรงแรมก็ไม่รู้ว่ากี่ทุ่มเข้าไปแล้ว ไม่ได้สนใจ พอถึงห้องปุ๊บก็ไม่อยากทำอะไรแล้ว แม้แต่น้ำก็ไม่อยากอาบ ส่วนข้าวเย็นก็เลิกพูดถึงไปได้เลย กะว่าจะได้กินกับแฟน แต่ก็นะ ช่างมันเถอะ อย่าไปคิดถึงมันอีก บอกกับตัวเองแบบนั้น แต่ใจมันกลับดื้อด้านไม่ยอมฟัง ยิ่งหาวิธีจะลืมมัน กลับเหมือนหาวิธีจำมันอย่างนั้นแหละ

"หลับซะขิง พรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว"




.........................



"เมื่อคืนนอนไม่หลับรึไง? ตาคล้ำเชียว"

"ครับ สงสัยคงแปลกทีมั้งครับ"

"ยังโกหกไม่เก่งเหมือนเดิมเลยนะ"

"......"

"รู้ไหม๊สายตานายมันไม่เคยโกหก เหมือนอย่างที่เจ้าของมันกำลังทำตอนนี้หรอก" ผมเงียบไม่รู้จะตอบว่าไง

"ไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร งั้นก็ไปกันเถอะ นายพัฒน์มารอแล้ว"


ใช่เวลาไม่นานก็มาถึงโรงพยาบาลเพราะวันนี้รถไม่ติดเท่าไหร่ ทำให้มาถึงก่อนเวลานัดนิดหน่อย ทั้งผมและคุณครามเลยเดินไปที่ห้องตรวจตามหมอนัดได้เลยทันที เพิ่งรู้ว่าคุณพ่อของหมอตั้นเป็นเจ้าของโรงพยาบาลนี้ด้วย ถึงว่าสามารถเปลี่ยนตารางนัดหมอได้ด้วย แถมคนที่ทำการผ่าตัดคุณครามก็เป็นคุณพ่อของหมอตั้นด้วย รวมหมอตั้นด้วยก็สองคน

"ขิง"

"เจ มาทำไมที่นี่?" ผมหยุดชะงักไปแป๊บนึง ไม่คิดว่าเจจะตามมาถึงที่นี่ได้

"เจมาหาขิง"

"แล้วรู้ได้ไงว่าขิงอยู่ที่นี่?"

"เจโบกแท็กซี่ตามขิงไปที่โรงแรมนั่นตั้งแต่เมื่อคืน ขิง...เจขอโทษ ให้อภัยกันสักครั้งได้ไหม" เมื่อคืนผมปิดเสียงไว้ เห็นแล้วล่ะว่าเจโทรมา แต่ก็ไม่อยากรับ ไม่คิดว่าเจจะตามมา แล้วก็อยู่เฝ้าจนถึงเช้าขนาดนี้ สงสารอยู่นะ ดูจากหน้าตาคงจะไม่ได้นอนทั้งคืน แถมเสื้อผ้ายังเป็นชุดเก่าเมื่อวานอยู่เลย

"เจมีเรื่องจะพูดกับเราแค่เนี๊ยะเหรอ?" เจมองผมอย่างตัดพ้อ เพราะผมเปลี่ยนมาใช้สรรพนามแทนตัวเองว่าเรา เหมือนตอนรู้จักกันใหม่ๆ เหมือนตอนที่ไม่สนิทกัน

"เจแค่อยากมาขอโทษ แล้วก็ขอโอกาสกับขิง"

"เราไม่มีโอกาสให้เจหรอก ถึงเราให้โอกาสไป แต่ใจเรา ความรู้สึกของเรามันก็ไม่เหมือนเดิมหรอก    เราไม่อยากคบกันไป แล้วต้องคอยระแวงกันไป ว่าวันไหนเจจะนอกใจเราอีก พูดตรงๆ คือเราไม่สามารถเชื่อใจเจได้อีก กลับไปเถอะ"

"แต่เจรักขิง รักขิงคนเดียว ถึงเจอาจจะเผลอใจกับคนอื่นไปบ้าง แต่เจก็ไม่เคยจริงจัง ได้โปรดเถอะครับขิง ให้โอกาสเจเถอะ อย่าทิ้งเจไปเลย เจไม่ได้รักเค้า เจรักขิง ได้ยินไหม?" ผมว่าจะไม่ร้องอีกแล้วหลังจากที่ร้องไปจนหมดเมื่อคืน

"คนรักกันเค้าไม่กันแบบนี้หรอกเจ แล้วก็อย่ามาพูดง่ายๆ แบบนั้นอีก รักเค้าหรือไม่รักเค้า แต่เจก็นอกใจเราไปแล้ว เข้าใจไหม? ถ้าเรายอมกลับไป แล้วจะเอาไรมายืนยันว่าเจจะไม่ทำอีก? ก็ไม่มีใช่ไหมล่ะ?"

"ทำไมล่ะขิง ขิงรักเจไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงให้อภัยเจสักครั้งไม่ได้?" เจเริ่มเสียงดังจนผู้ป่วย นางพยาบาล หรือญาติผู้ป่วยแถวนั้นหันมามอง

"อย่าเสียงดังสิเจ ที่นี่มันโรงพยาบาลนะ"

"เจไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแหละ ขอให้ขิงให้อภัยเจก็พอ"

"งั้นเจก็อยู่ให้เค้ามองเจไปเถอะนะ เราไปละ"

"นี่ปล่อยนะเจ ปล่อยเรา จะลากเราไปไหน?"

"ไปหาที่คุยกัน แล้วเราก็ต้องคุยกันให้รู้เรื่องด้วย"

"เราไม่ไป ปล่อยเดี๋ยวนี้ เราเจ็บได้ยินไหม๊?"

"นี่คุณนี่มันโรงพยาบาลนะคะ กรุณาอย่าเสียงดัง แต่ถ้าจะทะเลาะกัน ก็ช่วยไปทะเลาะกันที่อื่นด้วย มันรบกวนผู้ป่วยค่ะ"

"ขอโทษครับ พอดีแฟนผมงอน งั้นขอตัวนะครับ" เจพูดเสร็จก็ลากผมออกมาจากตรงนั้น

"เจ อย่าทำแบบนี้ เจทำให้เรากลัวนะรู้ไหม๊?"

"กลัวเจทำไม เจรักขิงออกจะตาย เจไม่ทำร้ายขิงหรอกครับ หึๆๆๆ" ยิ่งเจหัวเราะแบบนี้ ยิ่งน่ากลัว โรงจอดรถของโรง'บาล แม้จะมีกล้องวงจรปิด แต่ก็แค่กล้อง ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา กว่าคนจะมาช่วย คงไม่ทันแล้วล่ะ

"เจใจเย็นๆนะ ฟังขิง ถึงเลิกกันไปแล้ว แต่เรายังเป็นเพื่อนกันได้ เหมือนเมื่อก่อนไง" ผมพยายามเกลี้ยกล่อม

"เจไม่อยากเป็นเพื่อนกับขิง รู้ไหมกว่าเจจะได้ขิงเป็นแฟนมันยากแค่ไหน? แถมเป็นแฟนกันแม้แต่มีอะไรกันก็ยังไม่เคย แล้วจะให้เจปล่อยขิงไปเนี๊ยะนะ" หมายความว่าไง? ที่เจยังอยู่เพราะเรื่องนี้เองเหรอ?

"เจ...."

"ตามมาดีๆ เถอะขิง เจสัญญาว่าจะไม่ทำอะไร? ขอเพียงแค่ขิงยอมกลับไปกับเจ แล้วก็ยอมยกโทษให้เจ"

"ขิงยอมยกโทษให้เจ ไม่ติดใจอะไรอีกแล้ว แต่จะให้กลับไปคบกันเหมือนเดิมคงไม่ได้ เชื่อขิงนะ เรายังเป็นเพื่อนกันได้" ผมกลับไปใช้สรรพนามเหมือนตอนที่คบกันเพื่อนให้เจรู้สึกว่าผมหายโกรธแล้ว

"เพื่อนงั้นเหรอ? เจไม่อยากเป็น เจอยากเป็นคนที่ขิงรัก" ถามว่าตอนนี้ยังรักไหม? บอกเลยว่ายังรัก แต่มันเหมือนรักไม่สุด หรือทั้งรักทั้งกลัว ทั้งระแวง ถ้าเป็นแบบนี้เราจะไปกันรอดได้ไง สู้จบกันตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่า อย่างน้อยก็ยังเหลือความเป็นเพื่อนไว้อยู่


"ขิง!!"

"คุณคราม!!" ผมดีใจจริงๆที่เห็นเค้าตอนนี้

"มาอยู่ที่นี่เอง ตามหาซะทั่ว" เค้าพูดแล้วเหลือบมองเจ

"มีอะไรรึเปล่าครับ?" ผมพยายามทำเสียงไม่ให้สั่นแล้วตอบเค้าไป

"ก็นายต้องดูแลชั้นตอนตรวจ แต่นี่นายกลับบอกว่าจะไปเข้าห้องน้ำ แล้วก็หายไปเลย ชั้นก็เลยออกมาตาม" ครามส่งสายตามบอกให้ขิงเข้าใจว่า ให้เออออตามน้ำไปก่อน

"ผมขอโทษครับ พอดีเจอเพื่อน เลยออกมาคุยกันนิดหน่อย"

"งั้นก็ไปได้แล้ว หมอรอตรวจอยู่" คุณครามพูดโดยไม่ได้สนใจเจที่กำลังจับแขนผมอยู่

"ครับ"

"ครับก็มาพยุงชั้นสิ"

"ไม่ได้ คิดว่าใช้มุขนี้แล้วผมจะโง่ดูไม่ออกงั้นเหรอ?" เจเริ่มขึ้นเสียง

"หมายความว่าไง?" คุณครามถาม

"ผมดูขิงอยู่ตั้งนานจนคุณเข้าไป ถ้าคุณต้องการให้ขิงเข้าด้วยจริง ก็คงให้เข้าไปตั้งแต่แรกแล้ว ดังนั้นอย่ามายุ่งเรื่องของแฟนเค้าทะเลาะกัน"

"คงไม่ยุ่งไม่ได้ เพราะนี่คือคนของชั้นเหมือนกัน"

"หมายความว่าไง คนของคุณ?" เจเริ่มเสียงดังตามอารมณ์ขึ้นเรื่อยๆ

"เค้าทำงานให้ชั้น มากับชั้น ถ้าเกิดเค้าเป็นอะไรไป ชั้นก็ต้องรับผิดชอบ นายนั่นแหละกลับไปซะ ก่อนที่ชั้นจะให้ รปภ มาลากตัวนายไป"

"ผมไม่ใช่ผู้ร้าย แค่มาคุยกับแฟน คุณนั่นแหละเป็นแค่เจ้านาย อย่ามายุ่งดีกว่า" เจเริ่มโมโหจนหน้าดำหน้าแดง

"แฟนงั้นเหรอ? เท่าที่แอบได้ยินมา เค้าเลิกกับนายแล้วนิ"

"คุณคราม!!" ผมอุทานออกมา

"มึงไม่ต้องมาเสือกเรื่องของพวกกู ถ้ายังตามมาอีก ระวังจะเป๋ไปตลอดชีวิต ไม่เชื่อก็ลองดู" เจพูดแล้วเหลือบมองไม้เท้าที่คุณครามถือมาด้วย

"ตุ๊บ!! / เฮ้ย!! / โอ๊ย!!" เสียงคุณครามเหวี่ยงไม้เท้าใส่เจจนหัวแตก อีกเสียงเป็นเสียงผมกับเจร้องขึ้นพร้อมกัน เจใช้สองมือกุมหัวที่แตกเลือดไหลออกมา ผมกำลังจะเข้าไปดูแต่คุณครามจับแขนไว้ไม่ให้ไป

"เป็นไงฤทธิ์ไอ้เป๋อย่างชั้น ขอบอกอีกครั้งนะ ถ้าไม่อยากโดนเรียกตำรวจมาจับก็รีบไสหัวไป"

"ไอ้เหี้ยเอ๊ย!! มึงทำกูเลือดไหล มึง!!"

"ผลั๊วะ!!"

"คุณคราม!!" ดีที่ผมรับตัวเค้าไว้ได้ทันไม่งั้นถ้าล้มขึ้นมาคงหนักกว่าคนธรรมดาเค้าเป็นสองเท่าแน่ๆ

"เจหยุด!! อย่าทำเค้า ถ้าจะทำให้เค้าบาดเจ็บละก็ แม้แต่คำว่าเพื่อนขิงก็จะไม่มีให้นะ คิดดูว่าจะเอาแบบไหน?" ผมจ้องตาเจไม่ลดละ ส่วนคุณครามก็เอามือเช็ดเลือดที่มุมปากตัวเอง แล้วถุยน้ำลายที่ปนเลือดออกมา

"นี่ขิงปกป้องมันงั้นเหรอ? เป็นอะไรกับมันล่ะ? หรือว่าตลอดเวลาที่ไปอยู่ที่โน้นมา เสียตัวให้มันแล้ว พอมาเจอเจทำบ้าง ก็เลยจะหาเรื่องเลิกพอดีงั้นเหรอ? ฝันไปเถอะ!!" นี่เหรอคำพูดของคนที่รักกัน ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะได้ยินคำพวกนี้หลุดออกจากปากเจมา

"เป็นบ้าไปแล้ว ขิงเป็นยังไงเจก็น่าจะรู้ดี อย่าต้องให้พูดเลย ตลอดเวลาที่คบกันมาตั้งหลายปี เจน่าจะรู้จักตัวขิงดีที่สุด พอเถอะ!! ทุกอย่างเจเป็นคนเลือกมันเอง ถ้าจะโทษใครก็ต้องโทษตัวเจนั่นแหละ ส่วนเรื่องขิงกับเค้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เค้าเป็นเจ้านายขิง"

"เจ้านายห่าอะไรจะมองคนอาณัติตัวเองด้วยสายตาอย่างนั้น มองแป๊บเดียวก็รู้ว่ามันก็คิดจะยังไง ไม่เชื่อลองมองตามันสิ"

"ไม่จริงหรอกเจ เค้าเป็นผู้ชายจะมาสนใจอะไรเกย์อย่างขิง อย่าพาลเจ ขิงขอร้อง แล้วก็ช่วยกลับไปทำแผลซะ ก่อนที่เลือดมันจะไหลออกมาหมด" ใช่ว่าผมจะเชื่อเจ แต่ผมเชื่อตัวเองมากกว่า ตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันมาหลายเดือนนี้ มันทำให้ผมรู้ว่ามันไม่ใช่ ยังไงก็ไม่ใช่ไง

"หึ!! รู้น้อยไปสิ จำได้ไหม๊ว่าแต่ก่อนเจก็เป็นผู้ชายเหมือนกับมัน แต่ยังมารักขิงได้ แล้วทำไมไอ้หมอนี่มันจะเป็นไปไม่ได้ ห๊ะ?"

"เป็นไง? ตอบไม่ได้ล่ะสิ"

"คุณครามครับ เป็นอะไรรึเปล่าครับ?" น้าพัฒน์มาพร้อมกับ รปภ.อีกสองสามคน

"ไม่มีอะไรมาก ไปกันเถอะ"

"ขิงอย่าไป!! กลับมาคุยกันก่อน ปั๊ดโธ่เว้ย ปล่อยกู!!" ผมหันหลังก้าวเดิน แต่ยังไม่เคยได้ยินเสียงเจตามหลังมา รปภ.พวกนั้นคงกันตัวเจไว้ไม่ให้ตามมา

"จำไว้นะว่าเจไม่ยอมหยุดแค่นี้แน่ๆ ยังไงขิงก็ต้องเป็นของเจ" ผมถอนหายใจกับวันที่วุ่นวายแบบนี้ ไม่คิดเลยว่าเจจะเป็นแบบนี้







หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 12 Up : (05/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 05-12-2015 13:17:40
เจนี่เลวจริงๆ. รักภาษาอะไรถึงทำแบบนี้ เผยด้านมืดออกมาแล้วสินะ :fire: :fire:
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 12 Up : (05/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 05-12-2015 14:29:32
เจนี่เลวจริงๆ. รักภาษาอะไรถึงทำแบบนี้ เผยด้านมืดออกมาแล้วสินะ :fire: :fire:


ตอนแรกว่าจะแต่งให้จบดีกว่านี้แหละ แต่เดี๋ยวมันจะง่ายเกินไป ไม่หนุก แอบสงสารเจนิดนึง ความห่างไกลทำร้าย แต่ก็ต้องโทษตัวเองที่อ่อนไหวไปกับคนอื่นเอง
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 12 Up : (05/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 05-12-2015 17:21:29
เย้ กลับมาต่อแล้ว  :mc4:
เราไม่สงสารเจเลยนะ เราสงสารขิงมากกว่า คนที่ทำผิดแล้วได้รับการลงโทษสมควรได้รับความสงสารด้วยหรอ? เจหน้าด้านมากนะ  :z6:
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 12 Up : (05/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 05-12-2015 18:07:55
สงสารขิงอ่ะ  T_T
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 12 Up : (05/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 05-12-2015 20:00:26
เย้ กลับมาต่อแล้ว  :mc4:
เราไม่สงสารเจเลยนะ เราสงสารขิงมากกว่า คนที่ทำผิดแล้วได้รับการลงโทษสมควรได้รับความสงสารด้วยหรอ? เจหน้าด้านมากนะ  :z6:

แรง นิยามความเป็นตัวเจได้ถึงพริกถึงขิงมาก ฮ่าๆๆ #ขอบคุณครับที่มาให้กำลังใจกันตลอด อย่าทิ้งกันไปไหนนะ^^
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 12 Up : (05/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 05-12-2015 20:03:14
สงสารขิงอ่ะ  T_T

นั่นแหละ ขิงน่าสงสารนะ พระเอกของเราก็ยังไม่แน่ใจตัวเองสักที ยักแย่ยักยันอยู่นั่นแหละเนอะ. 55555
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 12 Up : (05/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 05-12-2015 20:38:24
อ่านตอนนี้แล้วอยากบอกว่าคุณครามเท่มากค่ะ...เอาใจไปเลย   o13
ส่วนเจเอา....  :z6: ห้าสิบทีปฏิบัติจร๊า ... ไม่สงสารหรือเห็นใจอะไรทั้งนั้น .. 
ต่อให้ห่างกันถ้าใจมั่นแกจะทำแบบนี้เหรอ   :beat: :beat: 
สงสารเจ....  :mew6:  คุณครามคงทำให้เจเขึ้นได้  เชียร์ขาดใจ คุผณครามน้องเจ  :mc4:
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 12 Up : (05/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 05-12-2015 21:57:34
 :z6:
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 12 Up : (05/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 05-12-2015 22:29:58
 :fire:


เรื้อนนนมากกก
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 12 Up : (05/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: aoraor ที่ 06-12-2015 04:44:51
ไม่มีความรู้สึกสงสารเจอยู่เลยซักนิด 5555555

คงเพราะตอนที่เจหลุดปากพูดว่า ยังไม่เคยได้ขิงเลยซักครั้ง  ล่ะมั้ง
เขาว่าคำพูดตอนโกรธมักออกมาจากใจ

อีกอย่าง เกลียดการนอกใจมาก ตอนให้พลั้งเผลอไปก็ตาม
จะบอกครั้งแรกก็มักง่าย ในเมื่อได้ทำแล้ว คิดเหรอว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์นั้นอีก

อีมาร์คไรนั้นก็อีก เบะปากแรงมาก ผีเน่ากับโลงผุ  ชัดๆ อยากได้นักเอาไปเลย//เดี๋ยวๆ ได้ข่าวว่าแฟน(เก่า)ขิง
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 12 Up : (05/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 06-12-2015 07:08:16
บางคนอาจจะให้โอกาสได้แต่บางคนการที่นอกใจแบบนี้มันให้ความเชื่อใจหมดไป ก็อย่างที่ขิงบอกนั่นแหล่ะว่าก็ยังรักแต่ถ้าอยู่กับความหวาดระแวงว่าเค้าจะทำอีกมั้ย มันก็คงจะไปไม่รอดแล้ว เพราะความรักมันต้องมากับความเชื่อใจด้วย และอย่างคนเจ้าชู้แบบเจถ้ามีครั้งแรกย่อมมีครั้งต่อไปแน่ๆ เลิกตอนนี้ย่อมดีสำหรับขิงแน่นอนอยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 12 Up : (05/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 06-12-2015 07:20:58
อ่านตอนนี้แล้วอยากบอกว่าคุณครามเท่มากค่ะ...เอาใจไปเลย   o13
ส่วนเจเอา....  :z6: ห้าสิบทีปฏิบัติจร๊า ... ไม่สงสารหรือเห็นใจอะไรทั้งนั้น .. 
ต่อให้ห่างกันถ้าใจมั่นแกจะทำแบบนี้เหรอ   :beat: :beat: 
สงสารเจ....  :mew6:  คุณครามคงทำให้เจเขึ้นได้  เชียร์ขาดใจ คุผณครามน้องเจ  :mc4:

เดี๋ยวๆนะครับ คุณ PFlove เชียร์คุณครามกับเจ แล้วเอานายเอกของเราไปไว้ไหนอะ ^^
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 12 Up : (05/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 06-12-2015 07:24:40
ไม่มีความรู้สึกสงสารเจอยู่เลยซักนิด 5555555

คงเพราะตอนที่เจหลุดปากพูดว่า ยังไม่เคยได้ขิงเลยซักครั้ง  ล่ะมั้ง
เขาว่าคำพูดตอนโกรธมักออกมาจากใจ

อีกอย่าง เกลียดการนอกใจมาก ตอนให้พลั้งเผลอไปก็ตาม
จะบอกครั้งแรกก็มักง่าย ในเมื่อได้ทำแล้ว คิดเหรอว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์นั้นอีก


คุณAoraor  จัดเต็มเจมาก อย่ามาจัดเต็มคนแต่งแบบนี้นะคุณอ้อ คนแต่งจะร้องไห้ให้ดูเลย

อีมาร์คไรนั้นก็อีก เบะปากแรงมาก ผีเน่ากับโลงผุ  ชัดๆ อยากได้นักเอาไปเลย//เดี๋ยวๆ ได้ข่าวว่าแฟน(เก่า)ขิง
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 12 Up : (05/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 06-12-2015 07:29:33
บางคนอาจจะให้โอกาสได้แต่บางคนการที่นอกใจแบบนี้มันให้ความเชื่อใจหมดไป ก็อย่างที่ขิงบอกนั่นแหล่ะว่าก็ยังรักแต่ถ้าอยู่กับความหวาดระแวงว่าเค้าจะทำอีกมั้ย มันก็คงจะไปไม่รอดแล้ว เพราะความรักมันต้องมากับความเชื่อใจด้วย และอย่างคนเจ้าชู้แบบเจถ้ามีครั้งแรกย่อมมีครั้งต่อไปแน่ๆ เลิกตอนนี้ย่อมดีสำหรับขิงแน่นอนอยู่แล้ว


งั้นตอนนี้เราก็ต้องคอยลุ้น คอยให้กำลังใจคุณครามให้จีบขิงสักทีแล้วล่ะ ^^ ส่วนเจก็ปล่อยมันไปตามทางมันเหอะ
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 12 Up : (05/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 06-12-2015 09:56:02
อ่านตอนนี้แล้วอยากบอกว่าคุณครามเท่มากค่ะ...เอาใจไปเลย   o13
ส่วนเจเอา....  :z6: ห้าสิบทีปฏิบัติจร๊า ... ไม่สงสารหรือเห็นใจอะไรทั้งนั้น .. 
ต่อให้ห่างกันถ้าใจมั่นแกจะทำแบบนี้เหรอ   :beat: :beat: 
สงสารเจ....  :mew6:  คุณครามคงทำให้เจเขึ้นได้  เชียร์ขาดใจ คุผณครามน้องเจ  :mc4:

เดี๋ยวๆนะครับ คุณ PFlove เชียร์คุณครามกับเจ แล้วเอานายเอกของเราไปไว้ไหนอะ ^^
Omg!   มัวแต่อินในความเลวของอีเจเลยพิมนางเอกผิดเลยกำ! เชียร์ขิงกับครามซิค่ะ...อายจังหลับไปร้องไห้หนักมาแพร๊บ!  :o8:
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 12 Up : (05/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-12-2015 11:54:31
นี้ถ้าเคยได้แล้วคงจะทิ้งๆขว้างๆไปนานแล้วละสิ
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 12 Up : (05/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 06-12-2015 12:44:28
คนประเภทนี้มันเลวจริงๆเขาถึงว่า"คนมันจะเลวมันก็เลวจากกมลสันดารน่ะแหละ เปลือกนอกฉาบฉวยอ่ะฉาบสันดานจริง
ไม่ได้หรอก" นอกใจก็ไม่ดีแล้วนีทีไม่เลิกเพราะยังไม่ได้กันชั่วจริงๆแบบนี้มันต่ำเกินกว่าคนล่ะจริงๆถ้าไม่รู้จักสำนึก
ผิดชอบชั่วดีแบบนี้
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 12 Up : (05/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 06-12-2015 13:26:34
คนประเภทนี้มันเลวจริงๆเขาถึงว่า"คนมันจะเลวมันก็เลวจากกมลสันดารน่ะแหละ เปลือกนอกฉาบฉวยอ่ะฉาบสันดานจริง
ไม่ได้หรอก" นอกใจก็ไม่ดีแล้วนีทีไม่เลิกเพราะยังไม่ได้กันชั่วจริงๆแบบนี้มันต่ำเกินกว่าคนล่ะจริงๆถ้าไม่รู้จักสำนึก
ผิดชอบชั่วดีแบบนี้


แต่ละคนมาเต็ม มาแรงกันทั้งนั้น อิเจเป็นตัวโกงเลยรับไปเต็มๆ 55555 คุณบูมเบสถ้าเคืองคนแต่ง ก็ห้ามว่าเค้าแบบนี้นะ เค้าจิตใจบอกบางรับม้ายด้ายยยย ^^
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 12 Up : (05/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 06-12-2015 13:29:00
นี้ถ้าเคยได้แล้วคงจะทิ้งๆขว้างๆไปนานแล้วละสิ

อ่านแล้วขึ้นเลยใช่ไหมคุณ B52. อิอิ ฆ่ามานนนนน ฝากฆ่ามาร์คด้วยคนนะ.
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 13 Up : (06/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 06-12-2015 13:32:45







อันดามัน...ซ่อนรัก
 ตอนที่ 13


ตอนนี้ผมกลับมาทำงานได้หลายวันแล้ว ส่วนมือถือก็ได้คืนจากคุณครามตั้งแต่ตอนไปกรุงเทพฯแล้วด้วย หลังจากวันนั้นเจก็ยังโทรมาหาเรื่อยๆ จนผมรำคาญ เลยปิดเครื่องแล้วเอายัดใส่ในลิ้นชักไว้นั่นแหละ

ชีวิตผมกลับเข้าสู่โหมดปกติอีกครั้ง แต่ที่แน่ๆ คือการมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างมีสติ สุดท้ายไม่ว่าผลจะออกมายังไงเราก็ต้องตั้งรับมันให้ได้ และใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ผมคิดนะครับว่าไม่ว่าจะคู่ชายหญิง คู่ชาย-ชาย หรือคู่หญิง-หญิงก็ตาม เมื่อทางรักของเรามันจบลง สิ่งหนึ่งที่ไม่เกี่ยวเลยคือเวลา ต่อให้คบกันมาเป็นสิบปี สุดท้ายเมื่ออีกฝ่ายยังไม่เลิกเสาะแสวงหา ก็ทำให้คำว่ารักมันยุติลง แต่อย่างน้อยก็ยังเหลือความทรงจำดีๆ ในวันเก่าให้เราได้มองย้อนกลับไปได้อยู่


ผมเคยคิดนะว่าอยากใช้ชีวิตธรรมดาๆ อยู่ที่บ้าน หรือที่ไหนสักแห่งกับคนที่รัก ออกบ้านไปทำงานของใครของมัน แล้วกลับมาอยู่ด้วยกัน ทานข้าว ดูหนัง ดูทีวีด้วยกัน บอกกู๊ดไนท์ เข้านอนพร้อมกัน แล้วก็ลืมตาตื่นขึ้นมาเห็นคนที่เรารักนอนอยู่ข้างๆ ถ้าเป็นแบบนั้นชีวิตคงมีความสุข แต่ในเมื่อตอนนี้มันไม่มีสิ่งเหล่านั้นแล้ว เราก็แค่พับมันเก็บไว้ในใจแค่นั้นเอง แล้วก็ค่อยๆ ถอยหลังกลับไปสู่ความเป็นจริงตอนนี้ ทำวันนี้ตอนนี้ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แค่นั้นเอง


ไม่อยากจะบอกเลยว่าที่ผมเข้มแข็งได้ขนาดนี้เพราะความคิดของพี่ต้นหอม ที่เพิ่งเลิกกับพี่แทคไป ผมว่าเธอมีสติกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับความรักตรงนี้ดีนะครับ ถึงแม้จะร้องไห้ แต่ก็ไม่ได้คร่ำครวญจนเสียสติไป แล้วก็พยายามอยู่กับปัจจุบัน


ถามว่าผมเข้มแข็งได้อย่างพี่ต้นหอมไหม๊? ต้องตอบเลยว่าไม่ แต่ก็ใช่ว่าเราจะทำไม่ได้เลย พอได้มีเวลาคิด ผมกลับมองว่าความความรักมันไม่มีอะไรแน่นอนหรอกเนอะ ความรักจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่กับใครก็ไม่รู้? แล้วจะจบลงเมื่อไหร่ก็ไม่รู้เช่นกัน แล้วอีกอย่างหนึ่ง...ในช่วงที่เรายังมีความรักนั้นอยู่กับตัวเรานั้น เราก็ต้องรักษามันไว้ให้ดี เพราะไม่แน่ว่าอาจจะมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันบุกมาเซอร์ไพรส์เราถึงหน้าบ้านเลยก็เป็นไปได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ทุกอย่างเราก็ต้องมีสติกับมันและทำมันให้ดีที่สุด เผื่อวันหนึ่งที่เสียมันไปแล้ว จะได้ไม่ต้องมารู้สึกเสียใจว่าตอนนั้นทำไมไม่ทำ?


 หลังจากวันนั้นที่เจบอกว่าจะไม่ยอมหยุดอยู่แค่นั้น ผมก็แอบหวั่นใจอยู่เหมือนกันนะ แต่คิดในทางที่ดี ผมอยู่ไกลถึงกระบี่ขนาดนี้ เจคงตามหาไม่เจอหรอก

วันนี้คุณครามออกไปดูฟาร์ม แต่ไม่เอาผมไปด้วย ก็ดีเหมือนกันแหะ เมื่อเช้าพี่นุ้ยมาชวนออกไปตลาดนัดแถวๆนี้ ผมเลยตอบตกลงไปกับพี่นุ้ยซะเลย เพราะอยู่บ้านก็ไม่มีอะไรทำ ฟุ้งซ่านเปล่าๆ ตลาดนัดที่ว่าอยู่ห่างจากบ้านเราไม่ถึงกิโลเอง เดินไปก็ได้ แค่เลาะชายหาดนี้ไปก็ถึงแล้ว จะว่าไปผมก็ไม่ได้มาเดินเที่ยวแบบนี้นานเหมือนกันแล้วนะ ตั้งแต่มาทำงานกับคุณคราม

หลังจากที่เดินจนทั่ว ผมก็ได้ของกินมาเต็มสองมือเลย ส่วนพี่นุ้ยก็ได้เสื้อผ้ากับเครื่องสำอางผู้หญิงนั่นแหละ เราสองคนเดินกลับไปทางเดิม เดินกันไปคุยกันไป ทะเลตอนเย็นสวยดีนะครับ แต่กลับดูเหงาๆยังไงไม่รู้ ถ้าให้เลือก ผมคงเลือกทะเลตอนพระอาทิตย์ขึ้นมากกว่า สวยเหมือนกัน แต่ให้ความรู้สึกไม่เหมือนกัน ในความคิดผมเหมือนมันมีกลิ่นอายของการเริ่มใหม่อยู่ ผมกับพี่นุ้ยเดินเลาะมาจนถึงชายหาดหน้าบ้านแล้ว แต่ที่ยังไม่เข้าไปเพราะเจอคนที่ไม่คิดว่าจะได้เจออีก คนที่ว่านั่นก็คือเจนั่นแหละครับ อุตส่าห์อยู่ถึงกระบี่ยังอุตส่าห์ตามหาเจอจนได้ ยอมรับว่าตกใจ แล้วก็หวั่นๆด้วย

"มาทำไม?"

"เจบอกแล้วไงครับ ว่ายังไงเจก็ไม่ยอมปล่อยขิงไปกับไอ้หมอนั่นหรอก" ผมถอนหายใจเหนื่อยหน่าย

"แล้วรู้ได้ไงว่าขิงอยู่ที่นี่?" ผมไม่เคยบอกเลยนะว่าอยู่ที่ไหน บอกแค่ว่ามาทำงานที่กระบี่

"อย่าลืมสิว่าพ่อเจเป็นใคร?"

"นั่นสินะ" ลืมคิดไปเลยว่าเจเป็นลูกชายนักการเมือง แค่ตามหาคนแค่นี้คงไม่ยาก ผมเบ้ปากแล้วเหลือบมองคนที่เพิ่งวิ่งตามมาเกาะแขนเจ ไม่นึกนะว่าจะตามกันมาถึงขนาดนี้ จากที่คิดว่าวันนี้คือวันสบายๆชิลๆ คงไม่ชิลแล้วล่ะ

"สวัสดีขิง สบายดีไหม คือเราอยากจะบอกว่าขอโทษ เราไม่ได้ตั้งใจ"

"ทุกอย่างเรารู้ว่าเราผิด ขิงจะโกรธเราก็ไม่ว่า แต่ช่วยให้โอกาสเจหน่อยได้ไหม?"

"หยุดทำท่าทางแบบนั้นสักทีเถอะ ถ้าเป็นนักแสดง คนดูเค้าก็คงไม่อินหรอก มันไม่สมบทบาท...แล้วถามจริงเหอะ..ที่บอกว่าอยากให้เราให้โอกาสเจน่ะ กลั้นใจพูดนานไหม?"

"ไม่นะขิง เราอยากให้มันเป็นแบบนั้นจริงๆ เรารู้ว่ามันคือความผิดพลาด ยากให้อภัย แต่เราก็...."

"มีแค่นี้ใช่ไหมที่อยากจะบอก" ผมพูดตัดบท ขืนถ้ายืนฟังนานกว่านี้คงจะเอียน

"ไปกันเถอะครับพี่นุ้ย" ผมยืนฟังสองคนนั่นจนลืมไปเลยว่ามากับพี่นุ้ย ซึ่งแกยืนมองดูสถานการณ์ตาพริบๆ คงไม่คิดว่าจะเห็นฉากละครน้ำเน่าที่เผอิญมีคนเอามาใช้ในชีวิตจริง

"เดี๋ยวก่อนสิขิง" ผมหันมามองเจ

"ถึงขิงจะบอกว่าเราเลิกกัน แต่ยังไงเจก็ไม่ยอมปล่อยขิงไปกันมันหรอกนะ"

"เจ..แล้วมาร์คล่ะ เจเอามาร์คไปไว้ที่ไหน มาร์คเป็นแฟนเจนะ" นั่นไงหางโผล่ออกมาละ ไม่รู้ว่าผมทนคบมาได้ยังไงนะตั้งสี่ห้าปีเพื่อนแบบนี้ ผมเดินออกมาจากตรงนั้นแล้วปล่อยให้เค้าเคลียร์กันเอง

"หื้ย...ปล่อย" ได้ยินเสียงสองคนนั่นเถียงกันตามหลังมา ไม่อยากได้ยินหรอกแต่มันเข้าหูมาเอง แอบสะใจนิดๆนะที่เห็นเพื่อนรักโดนแบบนี้ หรือว่าเรากลายเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นไปแล้ว


หลังจากที่มาถึงบ้านแล้ว ผมกับพี่นุ้ยก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ใครหน้าที่มัน เรื่องนี้ผมคิดว่าพี่นุ้ยคงจะปะติปะต่อเรื่องเอาเองได้เลยไม่ถามอะไร เพราะที่เห็นมันก็มาจากพ็อตละครหลังข่าวที่พี่นุ้ยชอบดูทั้งนั้น

"ปากร้ายไม่เบานะ หึๆๆ"

"คุณ!!" อยู่ก็โผล่มาเงียบๆ

"ไม่คิดเลยนะว่านายจะมีมุมแบบนี้กับเค้าด้วย" คุณครามพูดแล้วยิ้มมุมปาก

"ถ้าจะมากวนกัน ผมขอตัวนะครับ ไม่มีอารมณ์"

"ไม่เป็นไร เดี๋ยวชั้นปลุกอารมณ์ให้ก็ได้"

"ไม่เป็นไรครับ ตอนนี้ผมก็ชักเริ่มมีอารมณ์แล้วเหมือนกัน.....อารมณ์อยากฆ่าคนน่ะ" ผมจ้องหน้าแต่อีกฝ่ายกลับไม่สะทกสะท้านเลย กลับยิ้มออกมาซะอีก

"หึๆๆ ดุจังนะ ตัวแค่นี้"

"นี่คุณ ผมบอกแล้วไงว่ากำลังอารมณ์ไม่ดี ถ้าจะมากวนก็ไปเหอะ"

"อ้าว จะให้ชั้นไปไหน นี่มันบ้านชั้นนะ ถ้านายจะลืม" ผมว่าจะระงับสติอารมณ์แล้วนะ แต่มาเจอคนกวนอารมณ์แบบนี้ จะให้มันระงับอยู่ได้ยังไง

"ไปเองก็ได้วะ" บอกเลยว่าตอนนี้อารมณ์ไม่ดี แล้วก็ไม่ดีมากๆด้วย

"แหนะ!! พูดไม่เพราะ มันโว้งมาวะกับผู้ใหญ่" เหอะ!! ห่างกันแค่ 7-8 ปีเอง

"จะทำไม ก็ผู้ใหญ่มันไม่น่าเคารพนิ" พูดจบผมก็กลับหลังหันเดินหนีออกมา

"เดี๋ยวคิดว่า ว่ากันขนาดนี้แล้วจะปล่อยให้เดินหนีไปง่ายๆงั้นเหรอ?"

"โอ๊ย!! ปล่อยนะคุณ"  คนป่วยอะไรจะแรงเยอะขนาดนี้

"ขอโทษชั้นก่อน แล้วชั้นจะปล่อย"

"ไม่ คุณนั่นแหละที่มากวนผมเอง"

"นับ 1-3 ถ้าไม่ทำ ชั้นจับปล้ำนะ" 

"เหอะ!! ผู้ชายแท้ๆอย่างคุณคงไม่กล้าทำหรอก ปล่อย!!"

"ก็ลองดู หนึ่ง!!" ครามเริ่มนับ ขิงก็ยิ่งทำหน้างอ

"สอง!!"

"จะยอมรึยัง?"

"ไม่ โอ๊ยยยย..คนบ้า!!อย่ารัดคนอื่นเค้าแรงแบบนี้สิ อย่าคิดว่าตัวโตแล้วจะรังแกคนอื่นได้ง่ายๆรึไง"

"สาม!! "

"อื้อออออ....." ขิงเม้มปากโดยอัตโนมัติไม่ยอมปล่อยให้ครามส่งลิ้นเข้ามา แต่ครามก็ไม่ยอม กัดเบาๆที่ริมฝีปากขิง จนเจ้าตัวร้องออกมา จากนั้นก็ได้โอกาสสอดลิ้นเข้าไป ยิ่งหลบครามก็ยิ่งชอบ ยิ่งอยากไล่ต้อนให้จนมุมเข้าไปอีก สองมือที่คอยผลักไสตอนนี้กลับกลายเป็นเกาะไหล่หนาไว้อย่างหมดแรง

"ยังจะปากดีอยู่อีกไหม? ยอมขอโทษรึยัง?" ถามไปงั้นแหละ แต่ในใจกลับคิดว่า ยิ่งเห็นหน้างอๆของคนบางคนตอนนี้ ตัวเองยิ่งอารมณ์ดี อยากแกล้งเข้าไปอีก

"..........." ขิงไม่ตอบอะไรๆ เงยหน้าขึ้นมามองครามแป๊บนึง เม้มปากอย่างคนพ่ายแพ้แล้วสะบัดหน้าหนี ใครจะว่าตัวเองงอนเป็นตุ๊ดยังไงก็ช่าง ก็มันน่างอนไม่ล่ะ...เอ๊ะอะอะไรก็จูบคนอื่นตลอด ทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่คิดอะไร คนนิสัยเสีย

"นิ่งแบบนี้หมายความว่าไง หรือยังอยากโดนอีก?"

"ไม่ๆ ปล่อยนะคุณ ผมยอมแล้ว"

"หึๆๆ แล้วไหนล่ะคำขอโทษ?"

"ขอโทษ ....นี่คุณขอโทษแล้วก็ปล่อยสิ จับไว้อีกทำไม"

"ก็มันนิ่ม แล้วก็หอม"

"คุณ!!" ผมมองหน้าคนที่กำลังยิ้มกรุ้มกริ่ม ไม่เข้าใจเลยว่าเขาทำแบบนี้ทำไม




........................................

.............................
....................

เช้าวันต่อมา ผมเข้ามาทำธุระในเมืองกับคุณคราม เห็นเค้ายังทำตัวตามปกติ ผมเลยอดหงุดหงิดไม่ได้ กลับเป็นผมซะอีกที่คิดมาก เป็นบ้าเป็นหลังอยู่คนเดียว นอนก็ไม่ได้นอน แต่อีกคนยังทำหน้าแป้นแล้นยิ้มให้สาวอยู่ได้

"เป็นอะไร? ทำหน้าอย่างกับผู้หญิงประจำเดือนไม่มา" มาทำคนอื่นเค้าเป็นแบบนี้แล้วยังมาว่าอีกนิสัยเสีย นิสัยแย่ๆๆๆๆๆ

"ถ้าร้อนก็รออยู่ตรงนี้ หิวก็สั่งอะไรกินก่อนได้เลย" ครามแอบยิ้มที่เห็นอีกคนกำลังทำหน้างอ แต่ก็ยังแกล้งอยู่

ร้านที่คุณครามนัดคุยธุรกิจเป็นร้านไม่เล็กไม่ใหญ่ชายทะเล บรรยากาศดี ตกแต่งมีสไตล์ ผมถอนหายใจออกแล้วสั่งน้ำมะพร้าวสดเป็นลูกมากินแก้กระหาย ไม่รู้ว่าจะเอาผมมาด้วยทำไมทั้งๆที่ตัวเองก็มีเลขาอยู่แล้ว เอาผมมาด้วยก็ไม่ได้ช่วยอะไรนอกจากนั่งรออยู่เฉยๆ

"โอ๊ะ!! ไม่คิดว่าจะได้เจอเพื่อนรักที่นี่ มาคนเดียวเหรอ?" อุตส่าห์ว่ามาที่แบบนี้แล้วไม่ได้เจอ แต่ก็ยังเจอ สงสัยคงยังไม่หมดเวรหมดกรรมกันล่ะมั้ง ผมถอนหายใจอย่างปลงๆ

"จะมากี่คนแล้วมันเกี่ยวอะไรด้วย?"

"อย่าเพิ่งอารมณ์เสียสิขิง เพื่อนอุตส่าห์มาคุยด้วยเห็นว่าอยู่คนเดียวหรอก"

"ไม่จำเป็น" ผมตัดบทเพราะขี้เกียจจะคุย

"นักเลงจังเนอะตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ ไม่น่าเชื่อเนอะ..คนที่แสนดี เรียบร้อยในสายตาคนอื่นจะเป็นแบบนี้ไปซะได้"

"เบื่อจัง มายื่นเห่าหอนอยู่ได้ ที่บ้านมีปัญหา หรือว่าเจมันไม่เอาล่ะ ถีงมาระรานคนอื่นแบบนี้" ผมชักเริ่มทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน จะมาตอแยอะไรนักหนา อยากได้เจก็ได้ไปแล้วนิ จะเอาอะไรอีก

เมื่อคืนเจโทรมาหาเกือบห้าสิบสาย สุดท้ายผมเลยกดรับ ได้ยินเสียงเพลงดังสนั่นกับเสียงเจ้าตัวที่กำลังเมาได้ที่เลย ผมเลยไล่ให้กลับห้องไปนอน เพราะออกมาดื่มข้างนอนดึกๆดื่นๆแบบนี้คนเดียว แล้วก็ไม่ใช่ถิ่นตัวเองอีก มีแต่เสี่ยงกับเสี่ยง ผมรู้ว่าคนเมามีหลายประเภท แต่คนเมาแบบเจนี่แหละปากดีที่สุด กลัวจะจะโดนรุมกระทืบเอาน่ะสิ ลูกนักการเมืองก็นักการเมืองเถอะ ตอนคนมันหน้ามืดขึ้นม เค้าสนซะที่ไหนล่ะ



"มีอะไรรึเปล่าขิง?" คุณครามเดินออกมาถาม

"เปล่า ไม่มีอะไรครับ"

"แล้วสั่งอะไรมากินรึยัง สั่งเผื่อชั้นด้วยนะเดี๋ยวกลับมากินด้วย" จังหวะเดียวกันกับที่คุณครามกำลังจะเดินออกไป

"ใครกันเหรอขิง ไม่แนะนำให้เพื่อนฝูงรู้จักบ้างเลย"

"ผมครามครับ ยินดีที่ได้รู้จัก" คุณครามส่งมือไปทักทาย

"ผมมาร์คครับ เป็นเพื่อนสนิทของขิง ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ" ผมอดส่งเสียงหึ!! ออกไปไม่ได้ แต่เจ้าตัวยังฉีกยิ้มอยู่ได้ ผมล่ะนับถือจริงๆ

"ว่าแต่เป็นอะไรกับขิงครับถึงมาด้วยกันได้ อิอิ?" ถึงจะเป็นคำถามแซว ที่คนอื่นได้ยินคงไม่เอ๊ะใจ แต่เชื่อผมเถอะว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น

"ความลับครับ หึๆๆ" คุณครามตอบคำถามแล้วหันมายักคิ้วใส่ผม

"งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ออกมานานแล้วจะเสียมารยาท"

"จำได้ใช่ไหมว่าชั้นชอบกินอะไร?" ผมพยักหน้าตอบ

"ดีมาก กลับไปเดี๋ยวให้รางวัล" คุณครามตอบแล้วเอามือมาขยี้หัวผมจนผมต้องปัดออกเบาๆ เพราะกลัวผมยุ่ง อีกอย่างเค้าไม่เคยทำแบบนี้ด้วย ผมเลยมือเร็วไปหน่อย

คุณครามเดินออกไปแล้วเหลือแต่ผมกับไอ้เพื่อนทรยศที่มองตามหลังคุณครามไป

"ดีเนอะ...อกหักปุ๊บก็มีคนมาดามอกให้ปั๊บเลย แต่จะรวยสู้เจได้รึเปล่าเหร๊อ?" 

"ก็ไม่รู้สิ คุณครามเค้าก็ไม่รวยมากอะนะ แค่นายหัวฟาร์มหอยมุกจนๆแค่นั้นเอง"

"ไปทำยังไงถึงจับเค้ามาได้ล่ะ เก่งไม่เบาเนอะ"

"ขอไม่ตอบคำถามแล้วกันนะ ไร้สาระ เสียเวลา .....น้องครับพี่ขอเมนูอาหารด้วยครับ" บริกรเอาเมนูอาหารมาให้ ผมเลยเปิดดู ถือว่าเป็นการไล่ทางอ้อมด้วย แต่ถ้ายังไม่ไปก็ไม่รู้จะทำยังไงละ

"ฝากไว้ก่อนเหอะ แล้วก็เฝ้าไว้ให้ดีๆล่ะ เดี๋ยวจะถูกคาบไปกินอีก หึๆๆ"

"ใช้คำกริยาได้ถูกดีนะ คำว่าคาบมันเหมาะกับสัตว์สี่ขาดีนะ คุ้นๆไหม?" ได้ยินแบบนี้มันก็เดินกระฟัดกระเฟียดออกจากร้านไป ดีละที่ไม่อยู่ต่อ ขี้เกียจฟัง หนวกหู แล้วก็ขี้เกียจต่อปากต่อคำ

เหนื่อยนะที่ต้องสู้รบปรบมือกับคนอื่นแบบนี้ ผมถอนหายใจแล้วยกมือเรียกบริกรอีกครั้ง เพราะเมื่อกี้ผมเป็นคนส่งซิกให้น้องเค้าออกไปก่อนเอง ขืนมายืนรับรู้เรื่องบ้าบอพวกนี้คงน่าอายแย่



........................................

.............................
....................
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 13 Up : (06/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 06-12-2015 13:40:45




อันดามัน...ซ่อนรัก
(Andaman In Love)
ตอนที่ 14







ผมลืมบอกไปว่าวันนี้แม่ของคุณครามกลับมาจากต่างประเทศแล้ว คงจะถึงแล้วมั้งไม่แน่ใจเพราะเห็นลุงแช่มเตรียมรถไปรับตั้งแต่ก่อนเที่ยงแล้ว ช่วงที่คุณครามยังพักรักษาตัวอยู่ ก็ได้คุณป้าเนี๊ยะแหละที่เป็นคนดูแลกิจการให้ทั้งหมด หลายเดือนมานี้เลยไม่ค่อยได้อยู่บ้านเลย แต่ถ้าว่างเมื่อไหร่ก็โทรมาถามข่าวคราวลูกชายตลอด อันนี้ฟังพี่นุ้ยเค้าเล่ามาอีกที

"คุณแม่สวัสดีครับ" คุณครามยกมือไหว้แม่

"สวัสดีจ๊ะลูก......แม่ดีใจเหลือเกินที่ลูกของแม่กลับมาเป็นคนเดิมได้สักที" คุณป้ากอดคุณครามแน่นแล้วปาดน้ำตาออก แกคงจะดีใจเพราะไม่ได้เห็นหน้ากันมาตั้งหลายเดือน ไปครั้งก่อนคุณครามยังอาละวาดจนบ้านแทบพังอยู่เลย กลับมาตอนนี้ทุกอย่างดีขึ้น ไม่อาละวาด แถมยังลุกเดินได้เองแล้วด้วย จะไม่ให้ท่านร้องไห้ได้ยังไงล่ะ

"สวัสดีครับคุณป้า"

"สวัสดีจ้าหนูขิง มาให้ป้ากอดที่เร็วลูก"

"ขอบใจมากนะลูกที่ทำให้ลูกของป้ากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง ถ้าไม่ได้หนู ป้าก็ไม่รู้ว่าครอบครัวของป้าจะเป็นยังไงบ้าง ขอบใจอีกครั้งนะลูก" ผมละอายใจจริงๆ เพราะไม่ได้ดูแลอะไรเค้ามากมายเลย อย่างเก่งก็ทำกายภาพให้ปกติเพราะเค้าเดินได้ก่อนที่ผมจะมาอยู่ที่นี่ซะอีก

"ยินดีครับคุณป้า" ผมตอบรับอ้อมแอ้มไม่เต็มปาก

"ยินดีต้อนรับกลับค่ะนายหญิง" ป้าน้อยกับพี่นุ้ยก็ยิ้มแก้มปริกับภาพสองแม่ลูกเค้ากอดกัน ขนาดผมเห็นยังรู้สึกอบอุ่นหัวใจไปด้วยเลย นี่แหละนะเค้าเรียกว่าครอบครัว

"เดินทางมาเหนื่อยๆ ขึ้นไปพักก่อนไหม๊ครับคุณแม่"

"ก็ดีเหมือนกันจ๊ะ ไว้ตอนเย็นค่อยมาทานข้าวด้วยกันนะลูก"

"ครับ" คุณป้าคงจะดีใจมากที่ลูกชายคนเดียวของท่านเกือบหายเป็นปกติแล้ว ก่อนเดินขึ้นห้องไปยังเดินกลับมากอดคุณครามอีกครั้ง แล้วก็ให้ลุงแช่มยกกระเป๋าขึ้นไปไว้บนห้องเลย


"วันนี้จะทำเมนูอะไรต้อนรับนายหญิงกันดีคะป้า?"

"ว่าจะทำปลานึ่งมะนาว ของโปรดนายหญิง อยู่ที่โน้นคงไม่ได้กินนานแล้ว" ที่โน้นคงหมายถึงต่างประเทศนั่นแหละเพราะคุณป้าไปติดต่อลูกค้าแทนคุณครามหมดเลยนี่หน่า

"แต่ปลาเราหมดแล้วนิจ๊ะ"

"เอ่อจริงของเอง"

"งั้นเดี๋ยวผมกับพี่นุ้ยเอารถมอไซค์ออกไปซื้อที่ตลาดให้ก็ได้ครับ" ผมรีบอาสาเพราะไม่ได้ขี่มอไซด์นานละ เห็นสกู๊ปปี้ไอสีฟ้าขาวจอดอยู่ในโรงจอดรถตั้งนานแล้วด้วย แต่ไม่มีคนเอาไปใช้

"จริงจ๊ะป้า ของใช้ส่วนตัวชั้นหมดพอดี จะได้ออกไปซื้อด้วยเลย" ไม่ใช่แค่ผมหรอกที่อยากออกไปขี่รถเล่น พี่นุ้ยก็เหมือนกัน เห็นไหมผมมนวว

"อื่ม งั้นก็แล้วแต่พวกเอง รีบไปรีบกลับล่ะ"

"จ๊ะ/ครับ"

"งั้นผมขอไปหยิบกระเป๋าตังค์ก่อนนะครับพี่นุ้ย"







"ก๊อกๆๆ"

"เข้ามา"

"ผมมาขออนุญาติคุณไปตลาดกับพี่นุ้ยครับ?"

"ไปทำไม?"

"ไปซื้อปลามาทำกับข้าว ส่วนพี่นุ้ยก็จะไปซื้อของใช้ส่วนตัวครับ"

"ไปสิ เดี๋ยวชั้นไปด้วย รอแป๊บนึง"

"เอ่อ.....งั้นผมลงไปรอข้างล่างนะครับ" ฝันสลาย ไม่รู้ว่าคุณครามจะไปด้วยทำไมกัน แต่ก็นะคงอยากไปซื้อของอะไรสักอย่าง ไม่งั้นก็อยากออกไปนอกบ้านบ้าง เพราะอยู่แต่บ้านก็อุดอู้ ยิ่งเดินได้แล้วแบบนี้ด้วย ลืมบอกไปว่าครั้งก่อนที่หมอนัด คุณหมอบอกว่าอาการของคุณครามดีขึ้นมากแล้ว เรียกได้ว่าดีเกือบสมบูรณ์เลยก็ว่าได้ ที่เหลือก็แค่หมั่นทำกายภาพ หมั่นลุกเดินบ้างตามปกติ แล้วก็อย่าให้หกล้มหรืออะไรที่จะทำให้บาดเจ็บซ้ำที่เดิมอีก จากนั้นก็รอผ่าเอาเหล็กออกแค่นั้นเอง คุณหมอพ่อของหมอตั้นยังแซวอีกว่า เพราะเป็นคนหนุ่ม ร่างกายเลยหายเร็ว ถ้าเป็นคนแก่อย่างคุณลุงหมอ (ท่านให้เรียกแบบนี้) คงหายช้ากว่านี้อีกนานเลย แถมยังสำทับอีกว่า หายเร็วแบบนี้ก็ดี จะได้รีบๆ หาเมียมาดูแลสักที ยังหนุ่มยังแน่นแบบนี้ รีบๆมีเมียจะได้มีลูกได้ทันใช้ เกิดล่วงพ้นวัยไปแล้วจะได้ไม่เสียดายเวลาตอนหนุ่มๆ ไม่นึกเลยว่าพ่อของหมอตั้นจะเป็นคนอารมณ์ดีแบบนี้ ถึงว่าหมอตั้นอารมณ์ดีจนล้นเชียว

"อ้าว นายหัวก็จะไปเหรอคะ?"

"อื้ม"

"จะซื้ออะไรรึเปล่าคะ ฝากนุ้ยซื้อก็ได้นะคะ"

"ไม่ได้จะซื้ออะไร แค่จะออกไปด้วยเฉยๆ" พี่นุ้ยทำหน้าเหวอ คงจะแปลกใจพอๆกับผมตอนแรกๆนั่นแหละ

"อ๋อค่ะ" พี่นุ้ยรับคำงงๆ  แล้วเดินตามออกมา

"ไปสะพานปลานะลุงแช่ม ตอนนี้น่าจะยังพอมีเรือหาปลาขึ้นฝั่งมาอยู่"

"ครับ" ในเมื่อมากันสี่คนแบบนี้ แน่ล่ะว่าผมก็ต้องนั่งข้างหลังกับคุณคราม ส่วนพี่นุ้ยก็นั่งข้างหน้ากับลุงแช่ม วันนี้คุณครามใส่เสื้อเชิ๊ตแขนสั้นสีน้ำเงิน กับกางเกงขาสั้นเหนือเข่าสีครีมอ่อน รองเท้าแตะ ส่วนผมก็ใส่เสื้อโปโลสีเปลือกมังคุด กับกางเกงสามส่วนสีขาว รองเท้าแตะเหมือนกัน






"อยากไปเที่ยวไหนไหม๊? ตั้งแต่มาอยู่นี่นายยังไม่ได้ไปไหนเลยนิ"

"ครับ?" ผมถามกลับเพราะไม่ทันได้ฟัง มัวแต่มองวิวข้างนอก

"อยากไปเที่ยวไหนรึเปล่า? เผื่อวันหลังชั้นจะได้พาไป"

"ไม่เป็นไรครับ รอเสร็จงานค่อยเที่ยวทีเดียวเลยก็ได้ครับ เผื่อจะได้ซื้อของฝากกลับบ้านเลย"

"หมายความว่าไง?" แล้วทำเสียงเข้มทำไม? พูดแค่นี้เอง

"ก็...หมายความว่า พอคุณหายดีแล้ว ผมค่อยหาเวลาเที่ยวก่อนกลับก็ได้ไงครับ จะได้ไม่รบกวนเวลางานด้วย"

"แล้วนายคิดว่าชั้นหายดีแล้วงั้นเหรอ? ถึงได้เตรียมแผนเที่ยวไว้แล้ว" ถามแบบนี้หมายความว่าไงอีกล่ะเนี๊ยะ? เดาใจไม่ถูก

"ความจริงก็ยังไม่ได้เตรียมหรอกครับ แค่คิดๆ ไว้เฉยๆครับ ส่วนเรื่องอาการของคุณก็ดีขึ้นมากแล้วนิครับ แทบไม่ต้องให้ผมช่วยอะไรเลยด้วยซ้ำ คิดว่าอีกเดือนสองเดือนก็คงเดินได้ตามปกติแล้ว"

"ไปดูปลากันเถอะครับ" จะว่าผมหลบเลี่ยงการสนทนากับคุณครามตอนนี้ก็คงใช่แหละ ใครจะไปอยากคุยกับคนที่กำลังทำหน้าเป็นยักษ์ล่ะ

ผมค่อนข้างชอบวิถีชีวิตชาวเลนะ อาจเป็นเพราะมันดูแตกต่างจากที่บ้านผมที่มีแต่ดอย หรือที่กรุงเทพฯที่มีแต่ตึกกับอาคารมั้งครับ ผมชอบดูอะไรที่มันเป็นวิถีชีวิตแบบนี้ เพราะมันทำให้เรารู้ว่าแต่ละที่เค้าเลี้ยงปากเลี้ยงท้องกันยังไง เหมือนอย่างสะพานปลาตรงนี้ก็ทำให้เราเห็นการออกเรือไปหาปลาของชาวเล แล้วกลับขึ้นมาพร้อมกุ้งหอยปูปลา ทำแบบนี้ทุกวันเพื่อเลี้ยงชีวิตเลี้ยงครอบครัว ผมเคยได้ยินนะครับว่าชาวเลเค้าดูดาวเป็นด้วย เพราะเค้าจะใช้ดาวแทนเข็มทิศในการเดินเรือ ดูคลื่นลมท้องฟ้าเป็นว่าวันนี้จะมีพายุรึเปล่า? เพราะถ้าเกิดมีพายุ พวกเค้าก็จะไม่ออกเรือหาปลากัน เพราะมันเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ยิ่งถ้าเป็นหน้ามรสุมก็จะยิ่งลำบาก

"คุณขิงอยากทานปลาอะไรเป็นพิเศษไหม๊คะ? พี่จะได้ซื้อไปเลย"

"ผมทานได้หมดครับ ถ้าเป็นเมนูปลา พี่นุ้ยเลือกเลยครับ" มาอยู่บ้านท่านจะมาเลือกกินเป็นเจ้าของบ้านคงจะไม่ได้ เดี๋ยวจะโดนว่าเหมือนครั้งก่อนอีก

"แล้วอยากทานปูไหมคะ?"

"ครับ เอาปูก็ได้ครับ กำลังอยากกินปูผัดผมกะหรี่อยู่พอดี" ถ้าไม่เลือกเอาสักอย่างพี่นุ้ยคงจะไม่หยุดถาม ผมเลยเลือกเอาปูนี่แหละ

"เดี๋ยวพี่ถามก่อนนะคะ"

"ลุงคะมีปูไหม๊คะ?"

"มีอิหนู เอากี่โล?"

"2 โลก็ได้จ๊ะ"

"นายหัวเป็นอะไรอีกเหรอคะ?" เสียงพี่นุ้ยกระซิบถาม

"เป็นอะไรเหรอครับ?" ผมแกล้งทำเป็นไม่รู้

"ก็ดูสิคะ หน้าหงิกเชียว ตอนออกมายังดีอยู่เลย หงุดหงิดอะไรรึเปล่าก็ไม่รู้?" ผมเหลือบไปมองตามที่พี่นุ้ยบอกนิดนึงแล้วหันกลับ

"ปล่อยเค้าไปก่อนเถอะครับ เดี๋ยวก็คงหาย อาจหงุดหงิดเพราะอากาศร้อนก็ได้ครับ"

"ไม่มีทางหรอกค่ะที่นายหัวจะหงุดหวิดกับอากาศร้อน ออกจะชินเสียด้วยซ้ำ เพราะบางวันก็ต้องออกไปดูฟาร์ม นั่นก็ร้อนใช่เล่นเหมือนกันนะคะ"

"งั้นก็ไม่รู้แล้วล่ะ คงต้องรอถามนายหัวของพี่นุ้ยเองแล้วล่ะครับ" ผมแกล้งหยอกพี่นุ้ย

"ใครจะไปกล้าถามกันล่ะค่ะ  คุณขิงล่ะก็ ...งั้นพี่จ่ายเงินแล้วเรากลับกันเถอะค่ะ"

"ก็ดีเหมือนกันครับ เผื่อคุณครามอยากพัก"

"เท่าไหร่จ๊ะลุง?"

"xxx บาท"



กลับมาถึงบ้านพี่นุ้ยก็แยกเอาของทะเลสดไปเก็บไว้ในครัว ส่วนผมกับคุณครามก็กลับห้องใครห้องมัน ออกไปข้างนอกแป๊บเดียวเอง ไม่ถึงชั่วโมง แต่เหงื่อนี่ออกเต็มเลย ยิ่งกว่าไปวิ่งออกกำลังกายมาซะอีก ผมเลยต้องอาบน้ำใหม่อีกครั้ง คุณครามก็คงเหมือนกัน รายนั้นเหงื่อออกเยอะยิ่งกว่าผมอีก ผมใช้เวลาอาบนำ้ประมาณ 10 นาที ก็แต่งตัวแล้วรีบเข้าไปหาคุณครามเค้าเผื่อมีอะไรให้ช่วย


"คุณจะทำงานใช่ไหมครับ งั้นผมลงไปช่วยพี่นุ้ยทำกับข้าวนะครับ" ผมถามคุณครามหลังจากเดินมาส่งเค้าที่ห้องเสร็จ ถ้าถามว่าหลังจากวันที่เจอเจครั้งแรก ผมกับคุณครามเป็นไงบ้าง? คงต้องบอกเลยว่า เหมือนเดิมครับ ผมยังดูแลเค้าตามปกติ แต่หลีกเลี่ยงอะไรที่จะทำให้เกิดเหตุการณ์เหมือนครั้งก่อนอีกแค่นั้นเอง จะว่าไปก็ตลกดีนะครับ หลังเหตุการณ์ของผมกับเจ ผมก็ทำใจได้เร็วมาก ถึงจะบอกว่าเป็นเพราะความคิดของพี่ต้นหอม แต่ลึกๆ แล้วผมก็อาจจะมีใจให้คุณครามเหมือนอย่างที่เจว่าจริงๆ ก็ได้ครับ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นไปไม่ได้หรอก เพราะเค้าไม่ได้คิดเหมือนกับเรา สักหน่อย เค้าเป็นผู้ชาย ไม่ใช่เกย์ ถึงเจจะบอกว่าผู้ชายเต็มร้อยแบบเจ ทำไมถึงยังมารักผมได้ล่ะ? อันนี้ผมก็ไม่รู้หรอก เจอาจเป็นไบเซ็กซวลแต่ไม่รู้ตัวเองก็ได้ ใครจะไปรู้

"ไปช่วยทำไม?"

"แค่อยากช่วยเฉยๆ ครับ ไม่มีอะไรทำ"

"งั้นก็ไปดูแลต้นชมนาดของนายสิ เดี๋ยวมันก็ตายหรอก" น้ำเสียงดีขึ้นกว่าตอนที่อยู่สะพานปลา

"ลุงแช่มเพิ่งรดน้ำไปตอนเช้านี้เองครับ ผมก็ไปดูมาแล้ว" จริงนะผมไปดูมาเมื่อตอนเช้านี้เอง ใบเก่าร่วงหมดแล้ว ส่วนใบเล็กๆกำลังแตกหน่ออกมา ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีว่ามันยังไม่ตาย

"งั้นผมไปช่วยในครัวนะครับ" ผมถามอีกครั้ง

"ถ้าอยากทำงานมากก็มาช่วยชั้นสิ"

"ไม่ดีหรอกครับ ครั้งก่อนผมเกือบทำบัญชีตกหล่น กว่าจะเสร็จก็ต้องตรวจทานไปตั้งหลายครั้ง ช่วยในครัวน่าจะดีกว่า"

"ไหนบอกว่าช่วยที่บ้านทำบ่อยๆ ส่วนครั้งที่แล้วก็ทำออกมาได้ดีนิ ไม่เห็นผิดตรงไหน"

"ก็......"

"ช่างมันเถอะ ไม่อยากทำชั้นก็ไม่ว่า งั้นมานั่งคุยกันหน่อย"

"คุยอะไรครับ?"

"เรื่องที่นายบอกจะกลับบ้านเมื่อชั้นหายไง" อ๋อเรื่องนี้เอง ผมพยักหน้าหงึกหงักแล้วเดินไปนั่งเกาอี้ตรงข้าม

"เข้าเรื่องเลยล่ะกัน แล้วถ้าชั้นยังไม่หายล่ะ นายก็จะอยู่ต่อใช่ไหม๊?"

"จะเป็นไปได้ไง ในเมื่อคุณก็ใกล้หายแล้วนิครับ"

"กลับไปแล้วจะไปทำอะไรต่อ?" คุณครามถามต่อ

"คงช่วยงานที่บ้านมั้งครับ" ผมตอบไปอย่างนั้น  ความจริงผมยังไม่ได้คิดจริงๆจังๆด้วยซ้ำว่าจะทำอะไรต่อ

"แล้วถ้าชั้นจ้างให้ทำงานกับชั้นต่อล่ะ?"

"ตำแหน่งอะไรครับ?"

"ไม่รู้สิ เลขามั้ง คิดว่าไง?"

"ขอบคุณครับ แต่ผมคิดไว้แล้วครับว่าจะกลับไปช่วยงานที่บ้านดีกว่าครับ" อันนี้โกหกเพิ่งคิดได้ปุ๊บปั๊บเมื่อกี้นี่แหละ ผมว่าอยู่ใกล้กันเกินไปคงไม่ดีต่อตัวผมหรอก ผมกลัวใจตัวเอง

"อื้ม" คุณครามตอบเสียงหนักแน่น แต่ฟังดูน่าสงสารยังไงไม่รู้ ผมหันมามองหน้าเค้าอีกครั้ง เรามองหน้ากันแต่ผมก็ไม่เข้าใจเค้าเลยสักนิดว่าต้องการอะไรจากคนอย่างผมกันแน่

"งั้นผมขอลงไปช่วยข้างล่างนะครับ ถ้าเสร็จแล้วจะขึ้นมาตามนะครับ"

"อื้ม"



.....................................................



"เฮลโหลลลล เพื่อนครามมมม!!" เสียงมาก่อนตัวอีก ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นใคร

"มาทำไมไอ้หมอ?" จากหน้ายิ้มๆ คุณครามเบรคหมอตั้นด้วยคำพูดแรงๆตลอด น่าสงสารเหมือนกันนะนั่น

"คำถามนี้อีกละ ไม่เบื่อบ้างรึไง?" หมอตั้นยักคิ้วใส่เพื่อนรักของเค้า

"ไม่เบื่อ"

"คนอะไรเพื่อนมาเยี่ยมทั้งที กลับชอบขับไล่ไสส่ง" หมอตั้นแกล้งตัดพ้อแล้วเบ้ปากใส่

"เอ่อ!! แล้วมาไม?"

"ได้ยินข่าวว่าคุณป้ากลับมาถึงแล้วเลยแวะมาเยี่ยม"

"อื้ม"

"แล้วท่านอยู่ไหนวะ?" หมอตั้นนั่งลงที่โซฟาข้างๆคุณคราม

"แม่กูไปสปากับเพื่อน เย็นๆคงกลับ"

"โอ๊ะ!! คุณขิง สวัสดีครับ" หมอตั้นหันมาทักทายผมที่นั่งอยู่ข้างๆ คุณครามแต่เป็นอีกฟากหนึ่ง

"สวัสดีครับคุณหมอ"

"ตอนนี้ไม่ได้อยู่ในหน้าที่หมอ เรียกพี่ตั้นเฉยๆ ก็พอมั้งครับ อิอิ"

"ครับคุณตั้นเฉยๆ"

"ฮ่าๆๆๆๆ คุณขิงนี่ก็กวนใช่เล่นเหมือนกันนะครับ" หมอตั้นหัวเราะลั่น

"รับน้ำอะไรดีครับ เดี๋ยวผมไปเอามาให้" ผมลุกไปเอาน้ำมาให้เพราะจะได้ให้คุณครามคุยธุระกับหมอตั้นด้วย

"ไม่ต้อง เดี๋ยวมันก็กลับแล้ว" คุณครามตัดบทหน้าตาย

"ใครบอก กูจะอยู่กินข้าวเย็นด้วยต่างหาก"

"ไปกินบ้านมึงโน้น บ้านกูไม่ใช่โรงทาน" หยอกเพื่อนแรงตลอด ผมเป็นหมอตั้นคงกระอักเลือดบ้างแหละ ไม่รู้ว่าคบกันมาถึงขนาดนี้ได้ไง

"งั้นกูยืมคุณขิงออกไปทานข้าวด้วยได้ไหม๊ นะครับคุณขิง" หมอตั้นทำตาพริบๆ ออดอ้อน แต่ดูยังไงก็ไม่ได้น่าสงสารเลยนะ ดูน่าเตะมากกว่า ผมหันไปมองคุณครามว่าจะเอายังไงดี

"แล้วแต่เจ้าตัวเค้าสิ" ใจจริงผมก็ไม่อยากไปหรอกนะ แต่ในเมื่อเค้าสนับสนุนเพื่อนเค้าขนาดนี้ผมจะไปขัดเค้าทำไมล่ะ เจ็บลึกๆแหะ

"นะครับคุณขิง พลีส.....ผมไม่อยากทานข้าวคนเดียว มันเหงา นะครับ"

"ครับ" ผมตอบตกลงโดยที่ไม่หันไปมองเค้าอีก แต่ได้ยินเสียง "หึ!!" คำเดียวตามหลังมา


"ปั่ง!!!!"

"คนอะไรไร้มารยาท ปิดประตูใส่แขกเสียงดังเชียว" หมอตันบ่นกระปอดกระแปด หน้ายู้

"คุณหมอแคร์ด้วยเหรอครับ? ผมคิดว่าคุณหมอชินแล้วซะอีก"

"ก็ชินแล้วล่ะครับ หึๆๆๆ"

"งั้นผมขอตัวไปแต่งตัวสักครู่นะครับ"

"ตามสบายเลยครับ"



ใช้เวลา 15 นาทีไม่ขาดไม่เกิน ผมก็แต่งตัวเสร็จ ปกติเร็วกว่านี้อีกแต่มัวลังเลเพราะไม่รู้ว่าหมอตั้นจะพาไปกินข้าวร้านแบบไหน สุดท้ายเลยเอาแบบง่ายๆที่ผมเป็นนั่นแหละ ขืนมัวเลือกนานกว่านี้ก็เกรงใจหมอตั้น ไม่รู้ว่าตอนนี้นั่งรอจนหลับไปแล้วรึยัง หรือหิวจนไส้กิ่วไปแล้วก็ไม่รู้


"รอนานไหม๊ครับ?"

"ไม่นานหรอกครับ นานกว่านี้ก็รอได้"

"งั้นเดี๋ยวผมไปบอกพี่นุ้ยก่อนนะครับว่าวันนี้ไม่ทานข้าวเย็นที่บ้าน" ตอนแรกนัดกับคุณป้าไว้ แต่ตอนนี้คุณป้ามีนัดแล้ว เพิ่งโทรมาบอกเมื่อกี้ พวกเราเลยไม่ต้องอยู่รอทานข้าว

"ครับ"


"ไปกันเถอะครับ"

"เดี๋ยว!!"

"มีอะไรไอ้คราม?" ผมกับหมอตั้นหันไปหาต้นเสียง

"กูจะไปด้วย"

"ห๊ะ!!! / หึๆๆ" อันแรกน่ะเสียงผมเองครับ ส่วนหมอตั้นอันหลัง

"หัวเราะอะไรของมึง?"

"เปล๊า!!" หมอตั้นตอบเสียงกวนๆ

"แล้วนี่มองทำไม?" มองก็ไม่ได้ ก็คนมันแปลกใจ อยู่ๆ ก็จะไปด้วย ทั้งทีเมื่อกี้ไม่เห็นว่าอะไร

"ก็เปล่าครับ"

"นึกว่าอยากไปกับไอ้หมอสองคน?" อะไรกัน ก็คุณเองไม่ใช่รึไงที่สนับสนุนเพื่อนตัวเอง

"............."

"ไปกันเถอะครับคุณขิง ไม่ต้องไปสนใจเด็กโข่งเลยครับ"

"ครับ" ผมรับคำแล้วเดินไปนั่งข้างหลัง ปล่อยให้สองเพื่อนซี้เค้านั่งด้วยกันไป หวังว่าคงไม่ตีกันกลางทางหรอกนะ 

"ผมบอกรึยังครับว่าวันนี้คุณขิง แต่งตัวน่ารัก" วันนี้ผมใส่เสื้อสีขาว สลับดำแบบทีมรักบี้ ส่วนกางเกงก็เข้าชุดกันเลย มีแอคเซสเซอรี่แค่หมวกสีเดียวกันกับชุดกับแว่นตากันแดดแค่นั้นเอง ส่วนรองเท้าก็คีบอีแตะเหมือนเดิมสะดวกดี

"หมายความว่า ปกติไม่น่ารักอย่างงั้นเหรอครับ?" เรื่องอะไรผมจะปล่อยให้ตัวเองเขินแล้วถูกโจมตีอยู่ฝ่ายเดียวกันล่ะ

"โถ่...ผมจะหมายความอย่างนั้นได้ไงกันล่ะครับ ผมหมายความว่าน่ารักเป็นพิเศษต่างหากล่ะครับ" ถ้าผมเป็นสาวๆคงเขินแล้วก็ตกหลุมรักหมอตั้นแล้วล่ะครับ แต่เผอิญผมมีภูมิต้านทานตอนอยู่มหา'ลัยเลยไม่รู้สึกอะไร กลับดูขำๆเสียมากกว่า

"คุณหมอพูดอย่างกับเห็นผมทุกวันงั้นแหละครับ"

"จริงด้วยสิ แต่ผมเดาเอาว่าต้องน่ารักเหมือนทุกวันนั่นแหละครับ อิอิ" ผมยิ้มไม่ตอบอะไรต่อ

"หึ!!" เสียงคุณครามดังขึ้นมา ผมที่นั่งอยู่ข้างหลังเลยเงยหน้าขึ้นมองกระจกหลัง เห็นเค้ากำลังมองมาพอดี แต่ผมก็ไม่ได้หลบนะเพราะไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย

"อะไรไอ้คราม กูพูดความจริง"


พอถึงร้าน คุณหมอก็บอกชื่อไป แล้วพนักงานก็พาไปที่โต๊ะ ไม่น่าเชื่อนะครับว่าคุณหมอจะพามาทานร้านแบบนี้  ต้องบอกเลยว่าสวยมากเลยครับ เป็นร้านอาหารริมทะเล มีต้นมะพร้าวอยู่หน้าร้านสองต้น ประดับไปด้วยไฟกระพริบติดรอบๆ โคนต้น แล้วก็ธงชาติไทยเล็กๆ ร้อยจากต้นหนึ่งไปยังอีกต้นหนึ่ง  ข้างๆ ร้านก็จะมีต้นอะไรสักอย่างกับเปลยวนที่ผูกติดอยู่ ตามทางขึ้นไปยังตัวร้านก็จะมีกังหันลมที่ทำจากกระป๋องเบียร์ แล้วก็กังหันลมที่ทำจากกะลามะพร้าวหมุนอยู่ ตัวร้านเป็นกึ่งไม้กึ่งปูนสีขาว แบ่งแยกส่วนบาร์เครื่องดื่มกับแคชเชียร์อยู่ติดตัวร้านเลย จากนั้นก็มีระเบียงเทอเรซตรงข้ามกับบาร์เครื่องดื่ม มีโคมไฟเล็กๆ สีนวลติดตามหัวเสารอบๆ ระเบียง ส่วนโต๊ะของพวกเราเป็นโต๊ะที่อยู่ตรงระเบียงสุดติดกับทะเลเลยครับ ทำให้ได้ยินเสียงคลื่นกับเสียงเพลงคลอเบาๆไปด้วย ส่วนเพลงก็มีทั้งเปิดแผ่นแล้วก็ร้องสดแล้วแต่วัน อันนี้เห็นเขียนติดอยู่ตรงหน้าร้าน

"ทานอะไรดีครับ" คุณหมอถามหลังจากพนักงานเอาเมนูให้

"คุณขิงชอบกินกุ้งไม่ใช่เหรอครับ? ผมจำได้อยู่"

"ครับ" ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ผมเคยคุยกับคุณหมอทางเฟซบุ๊ค เรื่องทะเลกับดอย เพราะผมเป็นเด็กดอยเลยชอบทะเล ชอบอาหารทะเล โดยเฉพาะกุ้ง

"งั้นลองกุ้งเผาราดน้ำจิ้มซีฟู๊ดไหมครับ? กุ้งเผาร้านนี้ตัวโตนะครับ แถมยังสดด้วย"

"งั้นเอาอันนี้ก็ได้ครับ" คุณหมอเห็นผมยิ้มตาวาว เลยทำหน้าแซวๆที่ได้กินของถูกใจ สำหรับผมเรื่องกินคือเรื่องใหญ่นะครับ ไม่เหมือนคีย์ รายนั้นต้องเสื้อผ้ากับแฟชั่นครับเท่านั้นที่เป็นเรื่องสำคัญที่สุด

"เลือกอีกสิครับ นานๆ ทีผมจะได้ทานข้าวกับคุณขิงสักที"

"ให้คุณหมอเลือกบ้างดีกว่าครับ ทานด้วยกัน ต้องช่วยกันเลือกสิครับ" ขืนให้ผมเลือกเองหมดก็น่าเกลียดสิ มาด้วยกันตั้งหลายคน แต่ผมกับเลือกอยู่คนเดียวตามใจชอบ

"งั้นผมเอาผัดปูนิ่มแล้วกันครับ"

">\\<"

"ทำไมเหรอครับ หรือว่าคุณขิงไม่ชอบทานปูนิ่ม?"

"เปล่าครับ ผมทานได้ครับ อร่อยดี แต่มันน่าสงสารนะครับ..."

"สงสารทำไมเหรอครับ?"

"ผมได้ยินว่า...กว่าเค้าจะเอามันขึ้นมาต้องเลือกตัวที่เพิ่งลอกคราบใหม่ๆ แต่ถ้าเป็นปูที่เค้าเลี้ยงในกระชังก็จะจับมันมาดึงกระดองออก เพื่อรอกระดองมันขึ้นมาใหม่ถึงจะเอามาทำเป็นปูนิ่มได้ใช่ไหมครับ?"

"โถ่คุณขิงครับ มันเป็นของเลี้ยงโลกนะครับ ขี้สงสารจริง งั้นผมเปลี่ยนก็ได้ครับ หึๆๆ"

"เปลี่ยนเป็นหมึกไข่ทอดกระเทียมแล้วกันนะครับ หวังว่าอันนี้ไม่สงสารมันอีกนะครับ" คุณหมอยิ้มมุมปากให้ ผมก็เลยก้มหัวแล้วยิ้มแหยๆให้เพื่อเป็นการขอบคุณที่ไม่สั่งมันมาทาน เพราะถ้ายิ่งมีคนสั่งกินเยอะ มันก็ยิ่งถูกจับมาเยอะใช่ไหมล่ะ? ถ้าเป็นปูปกติผมก็ยังโอเคอยู่ เพราะไม่ต้องมาดึงกระดองมันออก แล้วรอให้มันมีกระดองนิ่มๆ ขึ้นมา สงสารมันนะครับ คงจะเจ็บน่าดู ทีแรกผมก็ชอบกินมันมากเลยล่ะครับ แต่พออ่านเจอในเน็ตก็เลยหยุดกินเลย สงสารมัน

"แล้วมึงล่ะไอ้คราม?"

"............"

"ถามไม่ตอบ งั้นเราสั่งกันเถอะครับคุณขิง" ผมเหลือบมองคนที่นั่งตรงข้ามนิดหน่อยแล้วก้มดูเมนูต่อ

"เอาเอาปลานึ่งบ๊วยไหม๊ครับ อันนี้ก็เมนูเด็ดของร้านนะครับ" ผมพยักหน้าให้หมอตั้น เพราะกำลังอยากกินอยู่พอดี

"เครื่องดื่มล่ะครับ?"

"เอาสับปะรดปั่นก็ได้ครับ"

"ผมเอาไฮเนเก้นแล้วกันครับ แล้วมึงล่ะไอ้คราม?" หมอตั้นหันมาถามเพื่อนตัวเองที่นั่งเงียบมาตั้งแต่ในรถแล้ว

"จินโทนิก"

"ไม่ได้นะครับ คุณยังกินเหล้าไม่ได้นะ" ผมตกใจเผลอพูดเสียดังไปเลย ก็ใครใช้ให้คนป่วยอย่างเค้าดื่มแอลกอฮอล์กันเล่า

"เกี่ยวอะไร"

"เกี่ยวสิครับ เพราะผมเป็นคนดูแลคุณอยู่ ขอห้ามไม่ให้คุณกิน" ไม่รู้ล่ะผมห้าม มันไม่ดีต่อสุขภาพคนป่วย

"เป็นห่วงรึไง?" คุณครามกระซิบข้างๆหู

"ห๊ะ??......" ไม่ใช่ว่าไม่ได้ยิน แต่ตกใจ ไม่คิดว่าเค้าจะถามแบบนี้ ใกล้ๆแบบนี้ แล้วก็ต่อหน้าหมอตั้นเลยด้วย

"หึ!!" ในที่สุดผมก็ได้เห็นเค้ายิ้มสักทีถึงจะเป็นยิ้มร้ายๆก็เหอะ

"น้องงั้นเอาเบียร์แบบพี่มาอีกขวดละกัน" เป็นหมอตั้นเองที่สั่งเบียร์มาให้อีกขวดแทนเหล้านั่น ส่วนเจ้าตัวก็มองหน้าผมไม่หยุดเลย ในหัวผมตอนนี้มีแต่คำว่า "เป็นห่วงรึไง?" รีเพลย์เป็นร้อยๆรอบเต็มไปหมด

"ครับ" น้องพนักงานเดินออกไปพร้อมกับรายการอาหาร ส่วนใครอีกคนก็กำลังหน้านิ่งอยู่เหมือนเดิม





"ชอบไหม๊ครับร้านนี้?" หมอตั้นถาม

"ชอบครับ สวยดี"

"คุณหมอรู้จักร้านนี้ได้ไงครับ?"

"แหนะ!! ยังจะเรียกคุณหมออยู่อีก เรียกตั้นสิครับ บอกตั้งหลายครั้งแล้ว" หมอตั้นทำตาหวานใส่

"เอ่อ...."

"ผมมีช้อยส์ให้คุณขิงสองข้อ ข้อหนึ่ง เรียกชื่อผมเฉยๆ เหมือนที่เรียกไอ้คราม ส่วนข้อสอง...เรียกผมว่าพี่ตั้น เลือกเอาครับ"

"แกร๊ง!!" ไม่รู้ว่าเสียงช้อนหรือส้อมตก ผมกับหมอตั้นรีบหันไปมองต้นเสียงทันที แต่เจ้าตัวกลับทำหน้านิ่งไม่สะทกสะท้าน มองพวกผมกลับอีก

"ยังไม่ทันเมาก็ทำของตกเลยนะไอ้คราม  มีสติหน่อยสิครับ"

"เลือกข้อไหนดีเอ่ย?" หมอตั้นหันกลับมาพูดกับผมต่อ

"ข้อหนึ่งก็ได้ครับ แหะๆๆ" ใครจะไปกล้าเรียกพี่ตั้นกัน ฟังดูแปลกๆ

"ว้าาา เสียดายจัง นึกว่าคุณขิงจะเลือกข้อสองซะแล้ว ฟังดูน่ารักดีนะครับถ้าคุณขิงเรียกผมแบบนั้น ครึๆ"

"ขออนุญาติเสิร์ฟอาหาร มีทั้งหมดสามรายการนะครับ....."

"ทานเลยครับคุณขิง มื้อนี้ผมเลี้ยงเอง"

"ในโอกาสอะไรครับ?"

"เนื่องในโอกาสอะไรดีนะ เอาเป็นว่า...แด่ความสัมพันธ์ของเราเป็นไงครับ?"

"อะแค๊กๆ" พูดประโยคเดียวสำลักได้ตั้งสองคนเลย ผมสำลักข้าว ส่วนคุณครามสำลักเบียร์

"ทิชชู่ครับ"

"มึงก็อีกคนสำลักทำไม?" หมอตั้นยักคิ้วถามเพื่อน

"เรื่องของกู"

"ทานต่อเลยครับคุณขิง ลองทานนี่ดู ปลานึ่งที่นี่เค้าเด็ดจริงๆนะครับ" หมอตั้นตักปลานึ่งมาใส่ในจานผมให้

"ขอบคุณครับ"

"ทานสิครับเพื่อนคราม อย่ามัวแต่ทำหน้าหงิกโว้ย"


อาหารมื้อนี้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว อร่อยแต่ก็กดดัน ฟังดูแปลกๆไหมครับ ตอนนี้ผมกับคุณครามมาถึงบ้านแล้ว โดยที่หมอตั้นเป็นคนขับรถมาส่ง


"ฝันดีเว้ยไอ้คราม แล้วก็กู๊ดไนท์ครับคุณขิง "

"กู๊ดไนท์เช่นกันครับ ขับรถกลับดีๆนะครับ"

"ครับ ถ้าถึงแล้วผมจะส่งไลน์มาหานะครับ หรือว่าเฟซดี?" หมอตั้นถาม

"อะไรก็ได้ครับ" วันนี้คุณหมอดื่มพอสมควร ดีที่ยังพอขับรถไหว ถึงไม่เมามากแต่ผมก็อยากรู้ว่าถึงบ้านอย่างปลอดภัย ไม่เอารถไปจนอะไรก็โอเคละ หมอตั้นโบกมือให้แล้วขับรถออกไป




"ดีนิ เลิกกับแฟนไม่ถึงอาทิตย์ก็มีคนมาปลอบใจแล้ว"

"คุณหมายถึงใครครับ?" ผมรู้ว่าเค้าหมายถึงผม แต่เรื่องอะไรผมจะยอมรับล่ะ

"อย่าทำเป็นไม่รู้หน่อยเลย"

"ถ้าคุณหมายถึงคุณหมอตั้น ผมก็ขอยืนยันคำเดิมที่เคยพูดไว้ครับ" พูดจบผมก็หันหลังเดินออกไป

"แล้วไปแลกเฟซ ส่งไลน์หากันตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะ?" ผมมีไลน์คุณหมอตั้งนานแล้ว เพราะมันขึ้นมาอัตโนมัติตามเบอร์ในเครื่อง แล้วก็ไม่ค่อยได้คุยกันด้วย ส่วนเฟซคุณหมอเพิ่งขอไปเมื่อวันที่พาคุณครามไปตรวจที่กรุงเทพฯเอง จะแปลกอะไรถ้าเพื่อนจะมีเฟซกับไลน์เพื่อน คนมีอคติเท่านั้นแหละคิดแบบนั้น

"ผมไม่จำเป็นต้องตอบคนพาลครับ ขอตัว"

"โอ๊ย!!!" ผมถูกลาก มาที่สวนหน้าบ้าน คุณครามคงกลัวคนอื่นได้ยินเพราะมันค่อนข้างดึกแล้ว

"คุณคราม ถ้าคุณจะยังพูดไม่รู้เรื่องแบบนี้ ผมจะโกรธคุณแล้วนะ"

"โกรธสิ โกรธเลย เค้าชวนออกไปทานข้าวนิดเดียวก็ทำหน้าบานเชียว แล้วไหนใครบอกว่าจะไม่ยุ่งกับมันล่ะ?"

"ผมเคยบอกไปแล้วว่า ผมจะไม่ปฏิเสธมิตรภาพที่ดี แต่ถ้าคุณไม่เชื่อ ผมก็ไม่รู้จะพูดว่าไงครับ" ผมสะบัดแขนออกแล้วเดินออกมา

"เดี๋ยว!!"

"อย่ายุ่งกับมัน" คุณครามพูดนิ่งๆ จ้องหน้าผม

"ทำไมครับ ผมขอเหตุผลดีๆ สักข้อ ถ้าคุณมีเหตุผลพอ ผมจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับคุณหมออีก แต่ถ้าไม่มี คำตอบผมก็คือไม่เช่นกันครับ" ผมจ้องหน้าเค้าตอบ

"ไม่มี..............."

"งั้นคำตอบของผมก็ไม่ครับ" ผมแกะข้อมือของตัวเองออกจากการจับกุม










หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 14 Up : (06/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 06-12-2015 14:13:04
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 14 Up : (06/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: aoraor ที่ 06-12-2015 15:59:58
อิมาร์ค อิมาร์ค อิมาร์คคคคคคคคคค  :angry2:

คิดจะจับนายหัวเหรอ  :beat: :beat:
กลับไปหาอิเจไป๊ แล้วม้วนหางกลับกรุงเทพไปเลย ทั้งสองคนน่ะ !!

แล้วก็นายหัวจ๋า อย่าซึนอย่าคิดไปเองนะะ เอาแต่ฟึดฟัดคนเดียว น้องเขาไม่่รู้ตัวหรอกค่าา
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 14 Up : (06/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 06-12-2015 16:23:38
นายหัวนี่นะ จะจีบน้องขิงก็แสดงตัวสักทีสิ
มัวแต่หวงก้างอยู่ได้  :katai4:
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 14 Up : (06/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 06-12-2015 17:47:56
ทำไมมาร์คถึงเป็นคนที่น่ารำคาญแบบนี้เนี่ย ขิงก็บอกอยู่ว่าจะไม่ยุ่งกับเจแล้ว แล้วยังจะมากระแหนะกระแหน่อยู่นั่นแหล่ะ ขิงรีบๆตัดเพื่อนไปเลยคนแบบนี้เนี่ย ส่วนคุณครามก็รีบๆ รู้ใจตัวเองและกล้าๆ สารภาพกับขิงเร็วๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 14 Up : (06/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 06-12-2015 17:59:17
ครามไม่ใจเลย
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 14 Up : (06/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 06-12-2015 18:25:33
อิมาร์ค อิมาร์ค อิมาร์คคคคคคคคคค  :angry2:

คิดจะจับนายหัวเหรอ  :beat: :beat:
กลับไปหาอิเจไป๊ แล้วม้วนหางกลับกรุงเทพไปเลย ทั้งสองคนน่ะ !!

แล้วก็นายหัวจ๋า อย่าซึนอย่าคิดไปเองนะะ เอาแต่ฟึดฟัดคนเดียว น้องเขาไม่่รู้ตัวหรอกค่าา


อิมาร์ค ถ้ามันไม่ม้วนหัว ม้วนหาง กลับเมืองกรุงไป คนแต่งขอแนะนำให้เอามันไปคั่ว แล้วเอาไปทำน้ำพริกค่ะ 55555

ส่วนคุณคราม ถ้าขืนยังซืนอีก เดี๋ยวเค้าจะแก้บทให้อิหนูขิงของเราจับปล้ำเอง ง่ายดี 5555
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 14 Up : (06/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 06-12-2015 18:28:58
นายหัวนี่นะ จะจีบน้องขิงก็แสดงตัวสักทีสิ
มัวแต่หวงก้างอยู่ได้  :katai4:

เค้าว่าต้องรอให้ มคปด ก่อนนายหัวของเราถึงจะรู้ตัว ซืนๆแล้วหวงก้างแบบนี้มันน่าจับกล้ำนัก. 55555
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 14 Up : (06/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 06-12-2015 18:34:26
ทำไมมาร์คถึงเป็นคนที่น่ารำคาญแบบนี้เนี่ย ขิงก็บอกอยู่ว่าจะไม่ยุ่งกับเจแล้ว แล้วยังจะมากระแหนะกระแหน่อยู่นั่นแหล่ะ ขิงรีบๆตัดเพื่อนไปเลยคนแบบนี้เนี่ย ส่วนคุณครามก็รีบๆ รู้ใจตัวเองและกล้าๆ สารภาพกับขิงเร็วๆ นะคะ


คนอย่างอิมาร์คต้องมัดรวมกับเจแล้วเอาไปขายชายแดน ไม่ก็ปอยเปรต จะได้เข็ดหลาบ ส่วนนายหัวของเรายังมิมีความกล้า ต้องรอลุ้นกันต่อไปเจ้าค่ะ 55555
หัวข้อ: Re: | อันดามัน...ซ่อนรัก | Andaman in Love | ตอนที่ 14 Up : (06/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 06-12-2015 18:38:00
ครามไม่ใจเลย

เห็นใจเถิดคุณขา นายหัวของเราเพิ่งโดนเมียทิ้งมา. แต่ถ้ายังซืนอีก เค้าจะแก้บทแล้วยกขิงให้หมอตั้นซะเลยดีไหม 55555
หัวข้อ: Re: Andaman in Love | อันดามัน...ซ่อนรัก | Ch.14 (06/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 06-12-2015 18:51:07
มาร์คคะ เราให้...  :z6:  :z6:  :z6:  :z6:  :z6:
นายหัวคะ ถ้าหึงขิงก็จีบเค้าสิค้าาาา  :katai1: อย่ารอให้มันนานแลลล   :z3: จีบค่ะ จีบไม่ได้ให้จูบแล้วจับกดเลยค่ะ!  :hao7:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love | อันดามัน...ซ่อนรัก | Ch.14 (06/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 06-12-2015 19:03:11
มาร์คคะ เราให้...  :z6:  :z6:  :z6:  :z6:  :z6:
นายหัวคะ ถ้าหึงขิงก็จีบเค้าสิค้าาาา  :katai1: อย่ารอให้มันนานแลลล   :z3: จีบค่ะ จีบไม่ได้ให้จูบแล้วจับกดเลยค่ะ!  :hao7:

ถูกจายยยย ประโยคสุดท้ายจุง ต้องให้นายหัวไปเทรนกับอาพิศาลก่อน คริๆ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.14 ☆ (06/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 07-12-2015 00:59:33
เจ กับ ทาร์ค คืออะไร ????


หายไปปปปปปปป เดี๋ยวนี้
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.14 ☆ (06/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 07-12-2015 05:16:20
ผีเน่ากับโลงผุนี้ก็ไม่เลิกมาตอแยขิงซะที  แถมยังจะมาทำท่าทีสนใจคุณคราม ขิงสู้ๆ
สงสัยจะรอให้ มคปด คาบขิงไปซะก่อน  ทำไมยังไม่รู้ใจกันอีก...อึดอัดแทนนะรู้ไหม)))))))))  :katai1:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.14 ☆ (06/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 07-12-2015 07:31:02
เจ กับ ทาร์ค คืออะไร ????


หายไปปปปปปปป เดี๋ยวนี้

บอกให้เซเลอร์มูนมาจัดการมันโหน่ย >>ตัวแทนแห่งดวงจันทร์จัลงทัณฑ์มันเอง
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.14 ☆ (06/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 07-12-2015 07:34:17
ผีเน่ากับโลงผุนี้ก็ไม่เลิกมาตอแยขิงซะที  แถมยังจะมาทำท่าทีสนใจคุณคราม ขิงสู้ๆ
สงสัยจะรอให้ มคปด คาบขิงไปซะก่อน  ทำไมยังไม่รู้ใจกันอีก...อึดอัดแทนนะรู้ไหม)))))))))  :katai1:

เค้าก็อึดอัดใจ รออีกโค้งเดียว ใกล้ละ อิอิ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.14 ☆ (06/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 07-12-2015 08:10:30
ขิงได้รู้ความจริงกันซะที
หนีมาอยู่ฟาร์มมุกตลอดไปก็ได้นะ
 มีคนจ้องจะเลี้ยงแต่ว่าทำฟอร์มเยอะเหลือเกิน 555
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.14 ☆ (06/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 07-12-2015 08:53:37
มาร์คเธอนี่หน้าด้านนะคือยังมีหน้าเรียกคนที่แกแย่งแฟนว่าเพื่อนสนิทเจกับมาร์ค  2 คนนี้คือคนประเภท
เดียวกันจริงๆนะเหมาะสมราวกับผีเน่ากับโลงผุ
ปล.คนเขียนน่ารักมากเลยลงทีเดียว 2 ตอนเลยเราจะร อ่านไปเรื่อยๆนะ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.14 ☆ (06/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 07-12-2015 15:34:25
ขิงได้รู้ความจริงกันซะที
หนีมาอยู่ฟาร์มมุกตลอดไปก็ได้นะ
 มีคนจ้องจะเลี้ยงแต่ว่าทำฟอร์มเยอะเหลือเกิน 555


คนเขียนก็รำคาญนายหัวแล้วเนี๊ยะ มาดเยอะเหลือเกิน
เดี๋ยวปั๊ดเชียร์ให้ขิงเปลี่ยนใจไปรักกับหมอตั้นเลยนิ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.14 ☆ (06/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 07-12-2015 15:37:57
มาร์คเธอนี่หน้าด้านนะคือยังมีหน้าเรียกคนที่แกแย่งแฟนว่าเพื่อนสนิทเจกับมาร์ค  2 คนนี้คือคนประเภท
เดียวกันจริงๆนะเหมาะสมราวกับผีเน่ากับโลงผุ
ปล.คนเขียนน่ารักมากเลยลงทีเดียว 2 ตอนเลยเราจะร อ่านไปเรื่อยๆนะ

ช่วงนี้เค้าได้วันหยุดยาวนิดนึง เลยอยากอับให้ แต่ถ้าทำงานแล้วก็ไม่มีเวลามาต่อหรอกนะตัว
ขอบคุณจ้าที่ติดตามเป็นกำลังใจให้
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.15 ☆ (07/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 07-12-2015 15:48:20



อันดามัน...ซ่อนรัก
(Andaman In Love)
ตอนที่ 15






เช้านี้ได้ยินพี่นุ้ยบอกว่านายหัวอารมณ์ไม่ค่อยดี ขลุกอยู่กับกองเอกสาร ตั้งแต่ตอนสายๆแล้ว เอาอะไรไปให้ก็ไม่ทาน แม้แต่น้ำก็แทบจะไม่แตะเลยด้วยซ้ำ ใครเข้าไปหาก็ทำแต่หน้านิ่วคิ้วขมวดใส่จนทุกคนพากันเข้าหน้าไม่ติด แม้แต่คุณป้าไปหาก็บอกว่าอยากอยู่คนเดียว ผมเลยไม่กล้าเสี่ยงที่จะเข้าไป กลัวจะโดนลูกหลงอีก รู้ๆฤทธิ์กันอยู่

"สวัสดีครับคุณแม่"

"สวัสดีจ๊ะหมอตั้น เข้ามาก่อนลูก แล้วนั่นถืออะไรมาเยอะแยะกัน?"

"อ๋อ เมื่อวานตั้นมาหาคุณแม่แล้วไม่เจอ พอดีคุณพ่อท่านฝากโสมมาให้คุณแม่น่ะครับ" หมอตั้นยกกระเช้าเครื่องโสมยื่นให้พี่นุ้ยเอาไปเก็บ

"ฝากขอบคุณคุณพ่อด้วยนะลูก"

"ครับ" หมอตั้นตอบแล้วหันมายิ้มให้ผมที่ยืนอยู่ข้างๆคุณป้า

"แล้วตั้นหยุดงานเหรอลูกถึงมาเยี่ยมแม่ได้?"

"ครับ ช่วงนี้ตั้นลาพักร้อนสองอาทิตย์ครับ เลยมาพักผ่อนแล้วแวะเยี่ยมไอ้ครามด้วยครับ"

"พอดีเลยงั้นอยู่ทานข้าวกับแม่ก่อนนะลูก แม่ทำต้มข่าไก่ กับพะแนงหมูไว้"

"ครับ"

"นุ้ยๆ ไปตามคุณครามมา บอกว่าหมอตั้นมาเยี่ยม แล้วก็บอกให้น้อยตั้งโต๊ะเลย"

"ค่ะนายหญิง" พี่นุ้ยรับคำแล้วเดินออกไป ส่วนพวกเราก็เดินมานั่งรอที่ห้องนั่งเล่น ไม่นานคุณครามก็เดินลงมาสมทบข้างล่าง

ผมรู้แล้วล่ะครับว่ามีคนมอง แต่ทำเฉยๆไม่สนใจแค่นั้นเอง นึกถึงเมื่อคืนผมก็รู้สึกน้อยใจขึ้นมาหน่อยๆ ทำเหมือนหวงแต่ตัวเองก็ไม่อะไร ผมถอนหายใจเบาๆแล้วก้มมองมือตัวเอง

"ไหนบอกป้าหน่อยสิว่าอาการของเพื่อนเราเป็นไงบ้างหมอตั้น?"

"เท่าที่คุณป้าเห็นเลยครับ สามารถเดินเหินได้ตามปกติแล้ว แต่พยายามอย่าให้เกิดอุบัติเหตุกับส่วนดังกล่าวอีกแค่นั้นครับ หลังจากนั้นก็รอผ่าเอาเหล็กออกอย่างเดียวครับ"

"แล้วมีอาการอื่นอีกไหมลูก?"

"สุขภาพโดยรวมถือว่าแข็งแรงดีเลยนะครับ กระดูกก็เชื่อมต่อเร็วมากเลยครับ"

"ป้าดีใจมากที่ตาครามจะหายเป็นปกติสักที ขอบใจมากนะลูก"

"ยินดีครับคุณป้า ผมแค่หมอผ่าตัด แต่ถ้าไม่ได้นักกายภาพเก่งๆ อย่างคุณขิงมา เชื่อเถอะครับ ยังไงมันก็ยังเดินไม่ได้หรอกครับ" ผมหันไปหาหมอนั้นท็อป อันนี้ก็พูดซดเกิน

"ขอบใจมากนะลูกขิง"

"หมอตั้นก็พูดชมเกินไปครับ ถ้าไม่ได้หมอรักษา แล้วส่งต่อมาให้ผมดูแล มันจะเป็นไปได้ไงล่ะครับ"

"เอ้าชมกันไปชมกันมาอีกละ เอาเป็นว่าแม่ขอบใจทั้งสองคนนั่นแหละ"

"ครับ/ครับ" ผมกับหมอตั้นยิ้มรับ

"งั้นอีกไม่นานหนูขิงก็ต้องกลับบ้านแล้วใช่ไหมลูก? ป้าไม่อยากให้กลับเลย อยากให้อยู่ด้วยกันซะที่นี่เลย"

"ผมเสนอให้มาเป็นเลขาแล้วครับ แต่ก็ไม่เอา" ผมหันไปมองอีกคนที่กำลังพูดอยู่

"ทำไมล่ะลูก มาเป็นเลขาพี่เค้า ป้าจะได้วางใจ ได้หนูมาช่วยดูแลพี่เค้า ป้าคงโล่งใจไปอีกเปราะ" อยากจะบอกคุณป้าเหลือเกินว่าลูกชายคุณป้าเค้าโตขนาดนี้แล้ว อีกอย่างก็หายดีแล้ว คงไม่จำเป็นต้องให้ใครมาดูแลแล้วล่ะครับ

"คือว่า...."

"หรือว่าหนูกลัวคนอื่นเค้าจะว่าเราเรื่องใช้เส้นใช้สาย ไม่ต้องห่วงนะลูก แม่จะบอกทุกคนเองว่าหนูเป็นลูกแม่อีกคน หนูจะได้สบายใจ" คุณป้าไม่เว้นช่องให้ผมพูดเลย ส่งสัญญาให้คุณครามก็ทำเป็นไม่สนใจ

"ว่าแต่หนู มาเป็นลูกแม่อีกคนไหมลูก ตาครามล่ะว่าไง ถ้าแม่จะรับน้องเค้าเป็นลูกด้วยอีกคน?" ผมตกใจ อยู่ๆคุณป้าก็ถามแบบนี้

"ผมไม่มีปัญหาหรอกครับ อะไรที่เป็นความสุขของคุณแม่ ผมไม่ขัดหรอกครับ"

"ขอบใจนะลูกที่เข้าใจแม่ ความจริงแม่อยากมีน้องให้ครามมาตั้งนานแล้ว แต่ติดที่แม่ไม่สบายเลย มีน้องให้ครามไม่ได้ ทั้งที่ครามก็รบเร้าพ่อกับแม่ตลอดตอนเด็กๆ"
ฟังอย่างนี้แล้วผมไม่กล้าปฏิเสธเลย กลัวคุณป้าจะเสียใจ แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกเจ็บแปลบๆ ไม่น่าคิดไปเองตั้งไกลเลย การที่เค้าทำแบบนั้นไม่ได้หมายความว่าเค้าจะคิดแบบเดียวกับเราสักหน่อยนี่เนอะ

"แล้วขิงล่ะลูกว่าไง อยากมาเป็นครอบครัวเดียวกับแม่ไหมลูก?" ผมเงยหน้ามองคุณป้าสลับกับคุณคราม ตอนนี้ทุกคนรอฟังคำตอบจากผมอยู่ รวมถึงป้าน้อย พี่นุ้ย แล้วก็หมอตั้นด้วย

"เอ่อ....ถ้าคุณป้าไม่รังเกียจ ผมก็ยินดีครับ"

"แม่จะรังเกียจหนูทำไม ออกจะดีใจด้วยซ้ำ รู้สึกถูกชะตากับหนูตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นเลยก็ว่าได้ มานี่สิลูก..มาให้แม่กอดหน่อย"

"แล้วตั้งแต่มาอยู่ที่นี่หนูได้ไปเที่ยวไหนมาบ้างรึยัง?" คุณป้าถาม

"ยังเลยครับ"

"นั่นสินะ คงมัวแต่ดูแลคนป่วยจนไม่มีเวลา งั้นว่างๆ ก็ให้พี่เค้าพาไปนะลูก"

"ผมก็กำลังจะขออนุญาติคุณป้าอยู่พอดีเลยครับ" หมอตั้นถาม

"ไม่ให้" คุณครามตอบมาอย่างรวดเร็ว

"อ้าว ตาคราม ไหงเป็นงั้นล่ะลูก น้องมาดูแลเราตั้งนานแล้ว แต่ยังไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย ไม่สงสารน้องบ้างรึไง?" คุณป้าหันมาดุคุณคราม

"ถ้าว่างผมจะพาไปเองครับ" ผมแอบหันไปมองเค้าแว๊บหนึ่ง แล้วหันกลับมองที่หมอตั้นและคุณป้า

"เอางั้นเหรอ?" คุณป้าถามเพื่อความแน่ใจ

"ครับ"

"งั้นก็ไปด้วยกันหมดนี่ก็ได้ครับ หลายๆคนสนุกดี" หมอตั้นตอบแล้วยักคิ้วให้เพื่อน

"งั้นแม่ฝากด้วยนะตั้น ถ้าตั้นไปด้วยแม่ก็หมดห่วง ตาครามก็เพิ่งจะหายดี ส่วนหนูขิงก็คนต่างถิ่น"

"ครับ"

"แม่ได้ข่าวว่าตาคีย์กลับมาช่วยงานพ่อเค้าแล้วเหรอ?" คุณป้าหันมาถาม

"ครับ กลับมาได้เกือบเดือนแล้วเหมือนกันครับ ครั้งก่อนก็มาเยี่ยมอยู่ ตอนนี้คงจะกำลังหัวหมุนกับการเรียนรู้งานจากคุณอาอยู่ครับ" คุณครามตอบ

"แม่ก็นึกว่าหลงแสงสีเมืองกรุงแล้วซะอีก งั้นก็ชวนน้องไปด้วยสิลูก ขืนรู้ว่าไปเที่ยวแล้วไม่ชวน จะมางอนอีก" ก็ดีเหมือนกันมีคีย์ไปด้วยผมจะได้มีเพื่อน

"ครับ"

คุยกับคุณป้าเสร็จ หมอตั้นก็ขอตัวกลับ เห็นบอกว่ามีธุระต่อ เมื่อคืนหมอตั้นส่งไลน์มาบอกว่าถึงบ้านแล้ว แล้วก็คุยกันนิดหน่อยก่อนจะบอกฝันดีแล้วแยกย้ายกันไปนอน ผมเลยเข้าไปอาบน้ำแต่พอออกมาอีกทีก็เห็นคุณครามกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์ผมก็อยู่ที่เตียง เพราะรหัสผมก็ยังไม่ได้เปลี่ยนเลยตั้งแต่ได้โทรศัพท์คืนมาจากที่หงุดหงิดอยู่แล้วยิ่งหงุดหงิดเข้าไปอีก ผมเลยไปขอคืน แล้วต่อว่าเค้าไปนิดหน่อย สรุปคือออกมาอย่างที่เห็นตอนเช้านั่นแหละ เค้าอ่านไลน์ที่หมอตั้นส่งมาแล้วคิดว่าหมอตั้นกำลังจีบผมอยู่ บ้ารึเปล่า ไม่เห็นมีสักข้อความที่บอกอย่างนั้นเลยสักนิด

"ยังไม่หายโกรธชั้นอีกรึไง?" คุณครามพูดขึ้นมาหลังจากที่ทุกคนแยกย้ายกันเสร็จแล้ว

"หายแล้วครับ"

"ถ้าหายแล้วก็ต้องไม่ทำหน้าตูมแบบนี้สิ"

"ใครทำหน้าตูม พูดให้มันดีๆเลยนะคุณ" ผมชักเริ่มยั๊วขึ้นมาแล้วนะตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว

"ก็นายไง ไม่เชื่อไปส่องกระจกดูสิ" คุณครามบุ้ยปากไปทางห้องน้ำ

"นี่คุณ!!" ผมยกมือขึ้นมาแล้วก็ต้องเอาลง เพราะนี่มันบ้านเค้า อีกอย่างก็เป็นเจ้านายด้วย เป็นคนอื่นผมบีบคอไปนานละ

"เอาหน่า ชั้นขอโทษที่แอบค้นโทรศัพท์นาย แล้วก็หยุดทำหน้าแบบนั้นได้แล้วนะ"

"พูดเสร็จแล้วใช่ไหมครับ ผมจะได้ไปเอายามาให้" ขอหลบไปสงบสติอารมณ์ตัวเองก่อนที่ตัวเองจะฆ่าคนตาย

"อ๊ะ!!"

"เอาอีกแล้วนะคุณ ทำไมถึงชอบทำแบบนี้กับคนอื่นนักนะ แล้วปล่อยได้แล้วเดี๋ยวคนอื่นมาเห็น" ผมทำหน้าดุ

"เห็นก็ช่างประไร พี่ชายกอดน้องชายผิดตรงไหน??"

"ผมไม่ใช่น้องคุณ แล้วผมก็มีพี่ชายอยู่แล้วด้วย ไม่จำเป็นต้องมีเพิ่ม"

"ดื้อจริงนะ แบบนี้ต้องโดนลงโทษ"

"ฟ๊อด!!"

"คุณ!!"

"ครับ"

"คุณไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้กับผมนะ" ผมพูดช้าๆชัดถ้อยชัดคำ

"ทำไมจะทำไม่ได้ คนเป็นพี่น้องกัน จะกอดหรือหอมกันก็ได้ไม่แปลกสักหน่อย อีกอย่างนายตอบตกลงแม่ชั้นไปแล้ว ดังนั้นยอมรับซะเถอะว่าชั้นเป็นพี่นาย"

"คนบ้า..กลับไปทบทวนตัวเองก่อนไป๊ว่าคิดยังไงกันแน่ มากอดๆหอมๆคนอื่นแบบนี้ นิสัยไม่ดี" ผมว่าแล้วเดินขึ้นไปข้างบน ไม่อยากเห็นหน้าคนบางคน อยู่ด้วยก็ประสาทเสีย วันๆหนึ่งเปลี่ยนได้เป็นร้อยอารมณ์



..........................................

ตอนเย็นทานข้าวด้วยกัน คุณป้าคงเห็นผมกับคุณครามไม่คุยกันเลยเป็นเรื่องเลย คุณป้าถามว่างอนอะไรพี่เค้า ผมจะปฏิเสธอยู่แล้วเชียวถ้าคุณครามไม่พูดออกมาก่อนว่าผมงอน อุตส่าห์ทั้งส่งสายตาทั้งจ้องหน้าว่าห้ามบอก สุดท้ายได้ยินเสียงหึๆ แล้วตอบว่าตัวเองเป็นคนแกล้งผมเอง สรุปคุณป้าเลยตีไปทีหนึ่ง ไม่เจ็บหรอก น่าจะเอาไม้เรียวนั่นแหละตี

คุณป้าบอกว่าพี่เค้าไม่เคยมีน้องอาจจะขี้แกล้งไปบ้าง อย่าโกรธพี่เค้าเลยนะลูก สุดท้ายผมเลยต้องหายโกรธอย่างที่คุณป้าว่านั่นแหละ เพราะงอนไปก็แค่นั้น คุณครามเคยเข้าใจคนอื่นซะที่ไหน เอาแต่ตัวเองเป็นที่ตั้งทั้งนั้น

........................................
.............................
.....................

"ดื่มนมก่อนนอนสักหน่อยนะครับ จะได้หลับสบาย"

"เอาวางไว้ตรงนั้นก่อนก็ได้ รอเสร็จนี่ก่อนค่อยกิน"

"ขืนรอคุณทำงานเสร็จก็คงเย็น เสียรสชาติพอดี ทานให้หมดก่อนนะครับ แล้วค่อยทำต่อ"

"อื้ม"

"พรืบ!!" อยู่ดีๆ ไฟก็ดับ พายุก็ไม่มี หรือว่ากระแสไฟตกก็ไม่รู้

"นายอยู่ตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวชั้นจะไปหาไฟฉายกับเทียนมา" ผมยืนอยู่ที่เดิม มองไม่เห็นคุณครามเพราะสายตายังปรับไม่ได้

"เดี๋ยวผมไปเองดีกว่าครับ ขืนคุณไปแล้วเกิดหกล้มมาจะแย่เอา"

"แล้วนายรู้รึไงว่ามันอยู่ตรงไหน?" ผมส่ายหัว

"คุณก็บอกสิครับว่ามันอยู่ตรงไหน?"

"ชั้นก็ไม่แน่ใจ ปกติไฟไม่ค่อยดับ ถึงดับก็มีคนเอาเทียนมาให้" แต่วันนี้มันไม่มีใครอยู่ไงครับ พี่นุ้ยก็กลับไปเยี่ยมบ้าน พรุ่งนี้เช้าถึงจะกลับมา ส่วนป้าน้อยก็คงหลับไปตั้งนานแล้วเพราะมันดึกแล้ว  ส่วนลุงแช่มก็ขับรถไปงานสโมสรกับคุณป้า แต่ดึกป่านนี้แล้วยังไม่กลับมากันเลยครับ

"งั้นผมจะลงไปหาแถวๆ ห้องครัว ก็คงมีอยู่มั้งครับ" ผมเดาเอา

"ไฟก็ไม่มีจะลงไปได้ยังไง เกิดหกล้มตกบันไดไปจะทำไง?" คุณครามท้วง

"เอามือถือส่องไปคงได้อยู่มั้งครับ" ผมเอามือถือขึ้นมาเปิด ถึงสว่างไม่มากแต่ก็คงไม่ทำให้ตกบันไดแบบที่คุณครามว่าหรอก

"คิดว่ามันพอรึไง ไม่ต้องไปเลย อยู่รอมันแบบนี้แหละ" ผมจนคำตอบ เลยเดินไปเปิดหน้าต่างห้องให้ลมมันเข้าดีกว่า เพราะไม่มีไฟ แอร์ก็เลยไม่ทำงาน

"นั่นคุณจะไปไหนครับ?" ผมหันมาถาม

"ชั้นจะไปนั่งที่โซฟา ไฟดับแบบนี้คงทำงานต่อไม่ได้แล้ว"

"งั้นผมช่วยครับ" ที่ช่วยเพราะกลัวเดินชนอะไรล้มแล้วจะแย่เอา

"ไม่เป็นไรชั้นเดินเองได้แล้ว"

"อย่าดื้อสิครับ เกิดชนอะไรเจ็บมา มันจะไม่คุ้มเอา"

"อื้ม"

"ชั้นชอบจริงๆ นะเวลานายทำเสียงเป็นห่วงแบบนั้น"

"ผมกำลังเอ็ดคุณอยู่ต่างหากเล่า ยังจะหัวเราะอารมณ์ดีอยู่ได้"

"ค่อยๆ เดินนะครับ" ยังดีที่คืนนี้เป็นคืนเดือนหงาย ทำให้มีแสงลอดหน้าต่างมาบ้าง ไม่งั้นคงมองไม่เห็นแน่ๆ

"แล้วนายจะไปไหน?"

"ผมก็จะกลับห้องสิครับ ไหนๆ ไฟก็ดับแล้ว เข้านอนเลยดีกว่า แล้วคุณไม่เข้านอนเลยล่ะครับ?"

"ชั้นยังไม่ง่วง"

"งั้นผมขอตัวไปนอนนะครับ"

"จะบ้ารึไง มืดขนาดนี้ยังจะดื้อคลำทางไปอีก อยู่นี่แหละ รอไฟมาก่อนค่อยไป ถ้านายง่วงนอนก็ขึ้นไปนอนบนเตียงชั้นก่อนเลยก็ได้ ไฟมาแล้วจะปลุก" ตลกละห้องก็อยู่ติดกันแค่นี้จะกลัวอะไร

"ไม่เป็นไรครับ ผมก็ยังไม่ง่วงเหมือนกัน" ที่บอกว่าไม่ง่วงน่ะไม่จริงหรอกครับ ดึกป่านนี้แล้วไม่ง่วงได้ไง ยิ่งตอนเย็นไปช่วยลุงแช่มทำสวนมา ยิ่งเพลีย เอาวะนั่งรอที่โซฟาก็ได้ ขอให้ไฟมาเร็วๆ ทีเถอะ


"ขิง!!"

"ครับ??" อยู่ดีๆ ก็เรียก ตกใจหมด ยิ่งมืดๆอยู่

"ตกใจเหรอ? โทษที"

"ไม่เป็นไรครับ แล้วคุณมีอะไรรึเปล่าครับ?"

"เปล่า!! เพียงแค่ไม่ชอบ มันเงียบเกินไป นายเล่าเรื่องที่บ้านนายให้ฟังหน่อยสิ"

"เรื่องที่บ้านผม?"

"อื้ม เรื่องอะไรก็ได้"

"อยู่ๆ ให้มาเล่าแบบนี้ผมคิดไม่ออกหรอกครับ เปลี่ยนคุณเล่าบ้างสิครับ"

"เรื่องชั้นไม่มีอะไรน่าสนใจหรอก"

"ต้องมีบ้างสิครับ เรื่องที่ทำงาน เรื่องครอบครัว หรือตอนเป็นเด็กก็ได้ ผลัดกันเล่านะครับ แต่คุณต้องเล่าก่อน"

"อื้ม........ตอนชั้นเป็นเด็ก ชั้นเคยฝันอยากมีน้องกับเค้าสักคนหนึ่ง เอาไว้เล่นด้วย จะน้องผู้หญิงหรือผู้ชายก็ได้ ถ้าเป็นน้องผู้หญิงชั้นก็จะยอมเล่นตุ๊กตาบาร์บี้เป็นเพื่อน เพราะคิดว่าน้องผู้หญิงต้องน่ารักมากแน่ๆเวลาเรียกชั้นว่าพี่ แต่ถ้าเป็นน้องผู้ชายก็ดี โตมาจะได้เล่นหุ่นยนต์ เตะบอลกัน ปีนต้นไม้กันก็ได้ เล่นแรงๆ ก็ได้"

"แล้วไงต่ออีกครับ"

"เวลาไปเรียนแล้วเห็นเพื่อนจุงแขนน้องไปซื้อขนม ซื้อไอติมให้บ้าง ก็มองตามตลอด มีวันหนึ่งชั้นกำลังนั่งเล่นกับเพื่อนที่โรงเรียน ก็มีเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ น่ารักคนหนึ่งวิ่งร้องไห้มาหาเพื่อนชั้นแล้วบอกว่ามีคนแกล้ง เพื่อนชั้นก็ยืนปลอบแล้วบอกว่าเดี๋ยวจะไปจัดการมันให้ ตัวเล็กนั่นก็พยักหน้างึกๆ สะอึกสะอื้น มันจูงแขนน้องเข้าไปหาไอ้ตัวยักษ์นั่น แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย เด็กอ้วนนั่นก็ร้องไห้จ้าแล้วก็วิ่งออกไปเลย ส่วนน้องชายมันก็ยิ้มแป้น ชมว่าพี่ชายมันเก่งอย่างนั้นอย่างนี้ ตอนนั้นยิ่งทำชั้นอิจฉา อยากมีน้องเข้าไปอีก เป็นน้องผู้ชายได้ยิ่งดี เพราะชั้นอยากเป็นฮีโร่แบบนั้นบ้าง อยากให้น้องชมว่าพี่เก่ง"

"นี่หลับรึยัง?"

"ยังครับ เล่าต่อสิ" กำลังเพลินเลย เรื่องเล่าของเด็กชายคราม

"พอกลับมาถึงบ้านชั้นก็ไปอ้อนพ่อกับแม่ว่าอยากมีน้อง แม่ก็ลูบหัวเบาๆ ไม่ตอบอะไร ส่วนชั้นก็เริ่ม
งอแงใส่ จนพ่อบอกว่าแม่มีน้องให้ไม่ได้เพราะแม่ไม่แข็งแรง ตอนนั้นชั้นก็ไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมถึงมีให้ไม่ได้  ทำไมไม่แข็งแรง เลยงอแงลั่นบ้านเลย  แล้วก็ซึมๆไปตั้งหลายวัน จนนมมาอธิบายให้ฟังว่า ถ้าแม่มีน้องให้ แม่ก็จะต้องตาย คุณครามไม่รักคุณแม่เหรอคะ? นมถามแบบนี้ ชั้นเลยคิดว่าถ้าต้องทำให้แม่ตาย ชั้นไม่มีน้องก็ได้ ถึงจะรู้สึกเหงาบ้าง แต่ก็ไม่เป็นไร วันเสาร์อาทิตย์ หรือตอนเย็นก็เล่นคนเดียวก็ได้ ส่วนวันไปโรงเรียนค่อยเล่นกับเพื่อน" คุณครามวัยเด็กก็น่ารักกับเค้าเหมือนกันนะเนี๊ยะ ไม่เหมือนตอนโตขึ้นมาเลย ร้ายจะตาย

"อยากเห็นรูปคุณตอนเด็กจัง" คงจะน่ารัก ขนาดตอนนี้ยังหล่อ ตอนเด็กก็คงไม่แตกต่างเท่าไหร่หรอกมั้ง

"ไว้จะเอามาให้ดู"

"สัญญาแล้วนะครับ"

"อื้ม"

"แล้วสรุปคุณทำยังไงต่อครับ? ฮ้าวววว!!" ง่วงนอนอะ แต่นอนที่นี่ไม่ได้

"คุณพ่อสงสารที่เห็นชั้นต้องนั่งเล่นคนเดียว เลยไปซื้อลูกหมามาให้เลี้ยง ชั้นรักมันนะ ติดมันมาก คิดว่ามันเป็นเพื่อนรักเลยล่ะ ชนิดที่ว่าอยากเอามันไปนอนบนเตียงเลยด้วยซ้ำ ถ้าไม่ติดว่าพ่อกับแม่ห้าม เลี้ยงจนมันโตขึ้นมาอีกนิด มันก็จากชั้นไป เพราะโรคลำไส้อักเสบ ชั้นเอาขนมให้มันกินเองแหละ หลังจากนั้นมาชั้นก็เลยไม่อยากมีเพื่อนเล่นอีก เพราะกลัวมันตายเหมือนอย่างลูกหมานั่น เลยพยายามเล่นคนเดียวจนมาเจอกับไอ้หมอนี่แหละ"

"นี่!! หลับแล้วเหรอ?"

"อุตส่าห์เล่าให้ฟัง มาหลับแบบนี้ได้ไง? หืม?? หึๆๆ"
.
.
.

"จุ๊บ!! ขอโทษนะ ชั้นอดใจไม่ได้อีกแล้วล่ะ ถือว่าเป็นค่าเล่าเรื่องวัยเด็กของชั้นก็แล้วกันนะ"  สัมผัสเย็นๆที่ริมฝีปากทำให้ผมใจเต้นแรง แต่ก็ไม่เข้าใจคำพูดของเค้าเมื่อกี้อยู่ดี พี่น้องกันเค้าคงไม่จูบกันหรอก ถึงจะเป็นจูบที่ไม่ได้รุกล้ำก็ตาม

"อื๊บ!! ไปนอนบนเตียงเถอะ ที่นี่คงนอนไม่ค่อยสบายหรอก" คุณครามอุ้มผมมานอนที่เตียง แล้วห่มผ้า ผมรู้สึกตัวตลอด แต่ก็ไม่กล้าลืมตา เพราะกลัวเขาจะรู้ว่าผมยังไม่หลับกลัว

"บางทีชั้นก็สับสนนะว่าชั้นรู้สึกกับนายยังไงกันแน่? มันไม่ง่ายเลยที่จะยอมรับมัน ขอเวลาชั้นอีกหน่อยนะ จุ๊บ!! ฝันดีนะ" ปากบางๆชื้นแตะลงที่บนหน้าผากของขิงเบาๆ แล้วเจ้าตัวก็ล้มตัวลงนอนบ้าง

ขณะที่เขาหลับตามผมก็แอบลืมตามองเขาในความมืด "ขอโทษนะครับที่ทำให้สับสน แล้วก็รู้ใจตัวเองเร็วๆนะครับ เพราะผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าคุณรู้สึกยังไงกับผมกันแน่ ไม่ใช่คิดอยากจูบก็จูบ อยากทำอะไรก็ทำแบบนี้"



..............................................
....................................
...........................

หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.14 ☆ (06/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 07-12-2015 15:56:01





(ต่อ)





"ตื่นเช้าจังค่ะคุณขิง" ผมตกใจแทบแย่ ก็อยู่พี่นุ้ยก็โผล่มา

"..เมื่อคืนนอนเร็วน่ะครับ เลยตื่นเช้า แหะๆ"

"จริงด้วยค่ะ เมื่อคืนบ้านพี่ไฟฟ้าดับ ที่ก็คงดับด้วยใช่ไหม๊คะ?"

"ครับ"

"แล้วหาเทียนหรือไฟฉายเจอกันไหม๊คะ?"

"เออะ....ผมเข้านอนเลยน่ะครับ เลยไม่ได้ลงไปหา ส่วนคุณครามก็คงเหมือนกันมั้งครับ ไม่รู้เหมือนกัน"

"อ๋อค่ะ" พูดจบผมกับพี่นุ้ยเดินคุยกันมาจนถึงห้องครัวพอดี

"เช้านี้ทำอะไรทานครับป้า?" พี่นุ้ยทำท่าเหมือนจะถามอะไรต่อ ผมเลยเลี่ยงมาดูป้าน้อยก่อนที่จะมีคำถามแปลกๆมาอีก

"ข้าวต้มปลาทู เคยกินไหม๊?" ป้าน้อยถามขณะที่กำลังคนหม้อข้ามต้มอยู่

"ไม่เคยครับ" ผมตอบแล้วชะงกหน้าไปดูในหม้อ เห็นข้าวต้มกำลังเดือดปุดๆอยู่

"อร่อยค่ะ พี่รับประกัน" พี่นุ้ยยิ้มยิงฟันขาวทั้งสามสิบสองซี่ยืนยันว่าอร่อยเด็ด

"งั้นเดี๋ยวผมไปดูคุณครามก่อนนะครับว่าตื่นรึยัง? จะได้ลงมาทานข้าว"

"คงไม่ต้องไปดูแล้วค่ะ มาโน้นแล้ว" พี่นุ้ยบุ้ยปากไปข้างนอก ผมเลยเดินออกไปรอที่โต๊ะอาหารเลยจะได้ไม่เกะกะป้าน้อยกับพี่นุ้ยด้วย

"นั่งเลยค่ะ เดี๋ยวพี่ตักให้"

"ขอบคุณครับ"

"วันนี้มีข้าวต้มปลาทู นายหัวรับไหม๊คะ หรือว่าจะเอากาแฟดีคะ?"

"ข้าวต้มก็ได้ ไม่ได้กินนานแล้ว" ผมหันมามองคุณครามสลับกับถ้วยข้ามต้ม รู้สึกประดักประเดิดตัวเองที่ตื่นมาในห้องคนอื่น แถมเจ้าของห้องยังไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้อีก ไม่ใช่ว่าทนเห็นผมนอนหลับท่าอุบาตไม่ได้หรอกนะ

"คุณแม่ออกไปแล้วเหรอ?" คุณครามถามพี่นุ้ย

"ค่ะ วันนี้นายหญิงออกไปบริษัทจิวฯ ตั้งแต่เช้าแล้วค่ะนายหัว" บริษัทจิวที่ว่า หมายถึง จิวเวอรี่น่ะครับ เค้าเรียกสั้นๆว่าอย่างนั้น

"ออกจากห้องมาตั้งแต่ตอนไหน?"

"อุ๊!! อะแค๊กๆ" กำลังกินอยู่ดีๆ ก็ถามขึ้นมา แล้วใครใช้ให้ถามแบบนี้ต่อหน้าคนอื่นกัน เดี๋ยวเค้าก็เข้าใจผิดว่าผมแอบย่องไปนอนกับคุณหรอก ผมค้อนใส่ยังมายิ้มอยู่อีก

"ค่อยๆ กินสิ"

"ก็คำถามคุณ....อะแค๊กๆ...." ผมทั้งตอบทั้งไอเพราะสำลักข้าวต้มไม่หาย เหลือบไปมองพี่นุ้ยกับป้าน้อย กลัวว่าพวกเค้าจะสงสัย แต่มาคิดไปคิดมาอีกที คำถามของคุณครามก็ไม่ได้ล่อแหลมชวนคิดลึกอะไรสักนิด เป็นตัวเราเองนั่นแหละที่คิดไปเอง นี่แหละนะเค้าเรียกวัวสันหลังหวะ

"อ๋อ เข้าใจละ หึๆๆๆ" มีความสุขดีเนอะ หัวเราะอยู่ได้ ขนาดผมถลึงตาใส่ก็ไม่หยุด

"อร่อยไหม๊?" ผมกินต่อแต่ต้องหยุดแล้วเคี้ยวๆกลืนเพราะคุณครามถามนี่แหละ

"อร่อยครับ" ผมตอบแล้วตักใส่ปากต่อ อาหารถูกปากผมเลยเจริญอาหารกว่าปกติ

"งั้นก็กินเยอะๆ"

"แล้วเคยกินข้าวต้มปลาทูแบบนี้รึเปล่า?"

"ไม่เคยครับ เพิ่งเคยทานครั้งแรก" ผมเคี้ยวตุ่ยๆ

"ปกติถ้าคนอื่นทำชั้นก็ไม่กินนะ เพราะมันจะติดคาว แต่นมทำแล้วไม่คาว"

"เติมอีกชามสิ"

"ครับ" พี่นุ้ยยกหม้อมาเติมให้

"เตรียมตัวไว้นะ เดี๋ยวสายๆ ชั้นนัดกับไอ้หมอจะพานายไปเที่ยว" ผมเงยหน้าจากถ้วยข้ามต้มมามองอีกคน

"ทำไมกระทันหันจังครับ"

"ชั้นว่างวันนี้ พรุ่งนี้จะไปดูฟาร์มมุก"

"ความจริงถ้าคุณไม่ว่าง ผมไปกับหมอตั้นกับคีย์ก็ได้นะครับ จะได้ไม่รบกวนเวลาทำงานของคุณด้วย"

"ไม่ได้!! ชั้นจะไปด้วย นายเป็นคนของชั้น ถ้านายไปเที่ยวแล้วใครจะมาดูแลชั้น? คิดบ้างสิ" โหแนะ..แค่นี้ก็ต้องดุด้วย ความจริงตัวเองก็หายแล้วเหอะ เมื่อคืนยังอุ้มคนอื่นมานอนได้เลย

"ครับ" ผมเลยต้องตอบตกลงไปตามนั้น ไม่งั้นก็ไม่จบสักที เสียบรรยากาศกินข้าวหมด

"ชั้นโทรไปบอกมันเมื่อเช้าละ อีกเดี๋ยวก็คงมา รีบๆ กินเถอะ"

"ผมอิ่มแล้วครับ" ผมวางช้อนลงแล้วเอาน้ำมากิน

"กินให้หมด เสียดายของ คนไม่มีกินยังต้องอดมื้อกินมื้อเลย เข้าใจไหม๊?" ใครจะไปกินลง ก็เพิ่งโดนดุไปหยกๆ

"ครับ"

"คงมากันแล้วค่ะ เสียงรถมาแล้ว" พี่นุ้ยบอก

"พี่ครามหวัดดีครับ"

"อื้ม แล้วมาพร้อมกันได้ยังไง?" ผมก็สงสัยเหมือนกับคุณครามเลย ปกติเห็นชอบทะเลาะกันจะตาย ทำไมวันนี้ถึงมาด้วยกันได้

"ก็เพื่อนพี่นะสิบังคับเอาตัวคีย์มาจากบ้าน" คีย์ตอบหน้างอ คงทะเลาะกันมาตลอดทางแหละถ้าเป็นแบบนี้

"แล้วมึงล่ะ คิดยังไงถึงไปรับน้องกูถึงบ้านเลย"

"ก็ทางผ่านอะ เลยรับมาด้วยเลย" หมอตั้นยักไหล่แล้วตอบ

"เหอะ!! ใครอยากมาด้วยกัน" คีย์สบดแล้วเบ้ปาก

"ถ้ารู้ว่าปากอย่างนี้ รู้งี้เอาปล่อยไว้กลางทางก็ดี" ผมถอนหายใจเบาๆ คิดว่าทริปนี้คงเป็นอย่างที่เห็นนี่แหละ

"ชิส์" คีย์สบัดหน้าใส่หมอตั้น ส่วนอีกคนก็ใช่จะสะทกสะท้าน ยังทำหน้าแป้นแล้นไม่สนใจต่อ

"กัดกันเสร็จรึยัง?" คุณครามถามเสียงเข้ม

"ก็เพื่อนพี่...."

"คีย์!!"

"ก็ได้" คีย์ทำหน้างอใส่คุณครามอีกคน

"ขิงกินเสร็จรึยัง จะได้ไปแต่งตัว" อ้าวผมอยู่ของผมเฉยๆนะ มาทำเสียงแบบนี้ใส่ผมไมอะ



"คุณขิงหวัดดีครับ"

"หวัดดีครับคุณหมอ ผมขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะครับ เดี๋ยวลงมา"

"ป๊ะไปห้องขิงกัน อย่ามัวเสียเวลาคุยกับคนอื่นเลย" คีย์แลบลิ้นใส่หมอตั้นแล้วลากแขนผมขึ้นมาบนห้อง

"กัดกันอย่างนี้ระวังจะได้กันเข้าสักวันนะคีย์" เห็นมาหลายคู่ละ แต่ก่อนกัดกันจะเป็นจะตาย แต่เอาไปเอามากลับได้กันซะงั้น

"โหยขิง ไม่เอาหรอก ปากก็เสียอย่างงั้น ไม่รู้จะเอาไปทำไม นอกจากเฝ้าบ้านเท่านั้นแหละ"

"ปากบอกไม่เอา แล้วทำไมถึงหน้าแดงล่ะ?" ผมเอ่ยแซวๆ

"โกรธจนหน้าดำหน้าแดงต่างหากเล่า" คีย์ค้อนใส่

"จ้าๆ ไม่เถียงละ" ผมเดินไปหยิบเสื้อผ้ามาเปลี่ยน

"ขิงจะใส่ชุดนี้ไปเหรอ?"

"อื้ม ทำไมเหรอ?" ปกติก็ใส่อย่างนี้ เสื้อยืด กางเกงยีนส์ โปโลบ้างสลับกันไป แค่ไปเที่ยวแถวนี้เองไม่ใช่รึไง? ผมมองเสื้อผ้าตัวเอง วันนี้ผมใส่เสื้อยืดสีดำ ลายกราฟหิคเท่ห์ๆ กับกางเกงยีนส์สีซีด

"ก็ไม่ทำไมหรอก แต่คีย์อยากให้ขิงใส่แบบเดียวกัน นะๆ ใส่เหมือนกันนะ เราเตรียมมาให้แล้ว" คีย์เอาเสื้อผ้าที่เตรียมมาออกจากกระเป๋าสะพาย

"ชุดเนี๊ยะนะ ไม่เอาหรอก เราว่ามันแบ๊วไป ไม่เหมาะกับเราหรอก" เสื้อยืดสีชมพู กับกางเกงขาสั้นสีขาว ผมใส่คงจะเหมือนตัวอะไรสักอย่าง แค่คิดก็สยองละ ถ้าน่ารักอย่างคีย์ก็ว่าไปอย่าง บรื่ยยย!!

"เหมาะสิ คนขาวใส่อะไรก็เหมาะ ขิงใส่แล้วจะต้องดูดีแน่ๆ เชื่อเราสิ" อย่ามารบเร้าซะให้ยากเลย ไม่เชื่อหรอก

"กางเกงมันไม่สั้นไปเหรอ?" ผมมองหน้าคีย์สลับกับกางเกงนั่น

"ไม่เลย ขาเราออกจะสวย มีของดีต้องโชว์กันหน่อย"

"โชว์ใคร?"

"ก็ไม่รู้สิ โชว์ไปเรื่อยแหละ อิอิ" ผมไม่ได้มีความมั่นใจอย่างคีย์สักหน่อย แล้วก็ไม่ได้แฟชั่นจ๋าขนาดนั้นด้วย เสื้อผ้าที่ซื้อใส่มีแต่คำว่าใส่ตามความชอบของตัวเองทั้งนั้น

"เอางี้ไหม๊ เราขอใส่แต่กางเกง ส่วนเสื้อขอใส่ตัวเดิมได้ไหม๊อะ?" จะบอกยังไงดี คือเสื้อมันแบ๊วมากอะ สีชมพู หวานหยดเลย ถึงจะมีสีขาวสลับลายทางก็เหอะ  ยังไงรับไม่ได้อย่างแรง ตั้งแต่โตมา ซื้อเสื้อผ้าเอง สีเดียวที่ไม่เคยซื้อเลยก็คือสีชมพูนี่แหละ

"ก็ได้ๆ ถือว่าหยวนๆให้" ผมทำหน้าปุเลี่ยนๆใส่

"เข้าไปเปลี่ยนสิ เดี๋ยวพี่ครามรอ"

"จ้า" ผมหยิบกางเกงขาสั้นสีขาวนั่นเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำ ส่องกระจกดูก็ถือว่าดีหน้อยไม่ได้ดูน่าเกลียดจนเกินไป ฟู่ววว!! ผมถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

"เห็นม่ะ ไม่เห็นน่าเกลียดเลย ออกจะน่ารัก เจมันไม่รู้หรอก ถ้ามันว่าเดี๋ยวเราออกรับเอง อิอิ"

"ไม่เป็นไรหรอกคีย์ คือ....เรา เลิกกับเจแล้วล่ะ"

"ห๊ะ!! อะไรนะ" คีย์ทำหน้าตกใจ

"เราเลิกกับเจแล้วล่ะ" ผมพูดซ้ำอีกที

"ตั้งแต่เมื่อไหร่อะ ทำไมเราไม่รู้เลย?"

"ก็อาทิตย์กว่าแล้วล่ะ แล้วที่ไม่บอกเพราะเห็นคีย์กำลังยุ่งกับงาน ขอโทษนะ" คีย์พยักหน้า

"แล้วทำไมถึงเลิกล่ะ ถามได้ไหม?"

"เพราะความห่างไกลมั้ง เรากับเจเลยห่างกันจนเกิดความรู้สึกว่าอยากเป็นเพื่อนกันมากกว่า" ขอโทษนะคีย์ที่ต้องโกหก แต่ถ้าบอกความจริงไป กลัวว่าคีย์กะพาลโกรธเจอีก แล้วเรื่องจะไปกันหญ่กว่าเดิม

"เหรอ? งั้นก็ช่างมันเหอะเนาะ" คีย์เดินเข้ามากอดปลอบ

"อื้ม งั้นก็ไปกันเถอะ เดี๋ยวจะโดนด่า"

"อื้ม" เอาจริงๆ นะ คือไม่ค่อยมั่นใจเลยใส่ขาสั้นขนาดนี้ ปกติสั้นสุดก็สามส่วนทั้งนั้น ไม่งั้นก็ขายาวไปเลย

"เร็วๆ สิขิง"

"คือมันเขินอะ ไม่ชินด้วย"

"หัดใส่ไว้บ้าง จะได้ตามแฟชั่นทัน หมดยุคมืดของเจแล้วนะที่ห้ามแฟนใส่ขาสั้นออกไปข้างนอกน่ะไปกันเหอะ สองคนนั่นคงรอจนเหงือกแห้งแล้วมั้ง"


"ว้าว น่ารักจังครับคุณขิง"

"เออะ....ขอบคุณครับ" ผมเกาแกมเขินๆ

"ทำไมแต่งตัวแบบนี้?" คุณครามมองอยู่ก่อนแล้วครู่หนึ่งถึงถาม

"ก็..."

"คีย์บังคับขิงใส่เองแหละพี่คราม น่ารักไหม๊?"

"เฉยๆ ออกน่าเกลียดเสียด้วยซ้ำ"

"อะไรกัน ออกจะน่ารัก พี่ครามตาถั่ว!!"

"จริงด้วยสิไอ้คราม ออกจะน่ารัก มึงมันพวกหัวโบราณคร่ำครึ ช่างมันเถอะครับคุณขิง ใครว่าไม่น่ารัก ก็ช่างมัน แต่ผมว่าน่ารักสุดๆ ไปเลยครับ อย่าไปสนใจเลย"

"กูไม่ชอบ!!" คุณครามจ้องเขม็ง

"เอ้าไอ้นี่ ไม่ชอบแล้วเกี่ยวอะไรกับคุณมึงครับ ขาก็ขาเค้า เสื้อผ้าเอยมึงก็ไม่ได้ซื้อให้ ใส่เถอะครับคุณขิง น่ามองออก ขาก็สวย ขาวก็ขาว น็อตก็ไม่มี"

"ไปกันเถอะครับ สายกว่านี้เดี๋ยวแดดจะแรง"

"แล้วเราจะไปไหนกันครับวันนี้" ผมถามขณะที่กำลังเดินหมอตั้นและทุกคนมา

"ไปสระมรกตครับ เคยได้ยินบ้างไหม๊ครับ?"

"ครับ เคยเห็นในเน็ตอยู่ ของจริงท่าจะสวยนะครับ"

"เอาไว้ไปดูเองดีกว่านะครับ ของแบบนี้มันต้องมาเห็นด้วยตาถึงจะบอกได้ว่าสวยรึเปล่า?" หมอตั้นขยิบตาให้อย่างทะเล้น

"ขึ้นรถสิ จะไปไหม๊สองคนนั่นน่ะ" คุณครามนั่งอยู่ก่อนแล้ว แต่เป็นด้านหลัง

"คุณขิงนั่งข้างหน้ากับผมนะครับ"

"เอางั้นเหรอครับ?" ผมหันไปมองทั้งหมอตั้น คุณคราม แล้วก็เพื่อนตัวเองเพื่อถามความคิดเห็น เผื่อใครอยากจะนั่งข้างหน้าจะได้ไม่ต้องแย่งกัน ปรากฏว่าหมอตั้นก็เอาแต่ยิ้มอย่างเดียว ส่วนคุณครามก็ทำหน้านิ่ง คีย์ก็ขมวดคิ้วจ้องหมอตั้นแปลกๆ แต่ก็ไม่พูดอะไรออกมา สรุปเอาเอาไงล่ะทีนี้

"ดีสิครับ ขึ้นมาเลย ให้สองคนนั่นนั่งข้างหลังสะดวกกว่า" วันนี้หมอตั้นเป็นคนอาสาขับรถให้ ส่วนรถเป็นรถแวนขนาดครอบครัวของคุณคราม ข้างในกว้างเหมาะสำหรับไปเที่ยวหลายๆคน แล้วก็ใส่ของก็ได้เยอะด้วย ลืมบอกไปว่าวันนี้คุณหมอใส่เสื้อกล้ามสีขาวข้างในพอดีตัว ข้างนอกเป็นเสื้อเชิ๊ตแขนสั้นสีม่วง ลายดอกสีแดง กางเกงสีครีมขาสั้น แล้วก็แว่นกันแดดเรย์แบนสีชา กับรองเท้าแตะแบบหนังสีน้ำตาล

ส่วนคุณครามก็จะเป็นเสื้อกล้ามสีขาวเหมือนกัน แต่เสื้อข้างนอกเป็นเชิ๊ตสีครามน้ำทะเลแขนสั้น ส่วนกางเกงก็เป็นสีเทาอ่อนขาสั้น กับรองเท้าแตะและแว่นกันแดดสีดำ สองคนนี้เดินไปไหนคงจะมีแต่สาวๆมองกันแน่ เพราะขนาดแต่งตัวธรรมดา ยังดูเหมือนดาราได้ขนาดนี้ เพียงแต่บุคลิกจะแตกต่างกันเท่านั้นเอง คุณหมอจะดูขาวตี๋ ยิ้มง่าย ดูอัธยาศัยดี ส่วนคุณครามก็จะดูนิ่งๆ ผิวสีแทน ทำให้ยิ่งดูแมนแล้วก็น่าค้นหา

ส่วนเพื่อนรักผม วันนี้คีย์ใส่เสื้อยืดสีขาวกับสีเขียวมิ้นท์เป็นลายทางสลับกันในแนวขวาง กับเกงเกงขาสั้นสีครีมคล้ายของผมเลย แว่นกันแดดสีชาอันใหญ่นิดนึง แล้วก็หมวกสานจากใบมะพร้าว กับรองเท้าแตะ ส่วนผมไม่มีอะไรมากหรอก เหมือนที่บอกไปแล้ว เสื้อยืดสีดำกราฟิคเท่ห์ กางเกงขาสั้นสีขาวของคีย์ หมวกแก๊ปลายหมากรุกใบหนึ่ง กับแว่นตากันแดดสีชา

ยังไม่ทันถึงไหนคีย์ก็แกะขนมที่แวะเมื่อกี้ออกมากิน เลยถูกหมอตั้นแซวว่า เอาแต่กินแต่ขนมแบบนี้ตัวถึงได้ไม่โตกับเค้าสักที เหมือนหมากระเป๋า คีย์เลยแวดๆใส่ แล้วทุบที่ไหล่ไปหนึ่งที จากนั้นก็ก้มกินต่อไม่สนสายตาหมอตั้นที่ล้อๆในกระจกหลัง

ใช้เวลาไม่นานพวกเราก็มาถึง อาจเป็นเพราะผมมัวแต่มองวิวด้านนอกเลยไม่ได้นึกถึงเวลา แต่คีย์นี่สิ บ่นแล้วบ่นอีกว่าหมอตั้นขับรถห่วย ทำตัวเองจะอ๊วกมาหลายทีแล้ว หมอตั้นเลยตอบกลับว่า เพราะกินเยอะน่ะสิ ไม่หยุดปากเลยถึงได้เป็นแบบนี้ คีย์เลยทำหน้าตูมใส่หมอตั้น


"ว้าว ไม่ได้มาตั้งนานแล้ว ยังสวยเหมือนเดิมเลยนะเนี๊ยะ" คีย์ที่ลงรถเป็นคนแรก ตื่นเต้นกว่าผมที่เพิ่งมาเป็นครั้งแรกอีก การเดินทางอาจต้องเดินเข้าไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ไกลอะไรมาก

"ขิง ถ่ายรูปกัน จะอัพลงไอจี"

"เอาดิ" จะว่าไปผมก็ไม่ได้อัพอะไรลงเฟซกับไอจีตั้งนานแล้วนะ มีแต่ไปกดไลค์เค้า เพราะมัวทำงาน แล้วก็ไม่ได้ออกไปไหนเลยด้วย จะให้ลงรูปตอนอยู่บ้านก็ไม่มีอะไรทำสักหน่อย นอกจากดูแลคุณคราม ช่วยพี่นุ้ยกับป้าน้อยในครัว ออกไปช่วยลุงแช่มทำสวนบ้างตามประสา ครั้งที่แล้วไปดูฟาร์มมุกของคุณครามก็ลืมเอากล้องหรือมือถือไปด้วย เลยอดถ่ายรูป ผมเป็นชอบถ่ายรูปนะ แต่ก็ไม่ค่อยชอบถ่ายรูปตัวเองสักเท่าไหร่ นานๆทีถึงถ่ายกับเพื่อนบ้าง ส่วนใหญ่จะถ่ายวิว ถ่ายผู้คนที่เดินผ่านไปมา ถ่ายของกินนี่บ่อยสุด ในไอจีเลยมีแต่ของกินกับรูปถ่ายไปเรื่อยตามอารมณ์ซะมากกว่า

"นับนะ 1 2 3" ถ่ายไปสี่ห้ารูปแล้วก็เอามาดู คีย์นี่เป็นเจ้าพ่อเจ้าแม่โซเชี่ยลเลยนะ อัพไอจีกับเฟซบุ๊คตลอด นี่ไม่รวมทวิตเตอร์ด้วยนะ ส่วนผมมีแค่ไอจีกับเฟซบุ๊คก็พอแล้วล่ะ ขี้เกียจเล่น

"รูปนี้สวยๆ เห็นสระมรกตข้างหลังด้วย งั้นเอารูปนี้ลงไอจีนะ"

"อื้ม"

"แท็กไปให้แล้วนะ" ผมไม่ค่อยสนใจยอดคนติดตามหรอก เพราะเล่นบ้างไม่เล่นบ้าง แต่ก็มีคนติดตามพอสมควรนะ เห็นแล้วยังแปลกใจเลย ว่าทำไมถึงมาติดตามเราเยอะขนาดนั้น ถ้าน่ารักอย่างคีย์จะไม่ว่าเลย














หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.15 ☆ (07/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 07-12-2015 17:47:53
 :katai3: น้องขิงขาสวยล่ะสิคุณคราม
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.15 ☆ (07/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 07-12-2015 18:18:05
เกิดอาการหึงขิงขึ้นมาแล้วละซิคุณคราม..ดังนั้นต้องรีบถามหัวใจตัวเองเร็วๆนะ...ว่าอยากได้น้องชายหรือคนรักกันแน่อิ อิไม่ได้กดดัน...  :katai3: 
จริงอย่างที่ขิงบอกนะคีย์ว่ากัดกันไปกัดกันมาลงเอยกันมาหลายคู่แล้วเน้อ...ลุ้นๆ คู่นี้
ชอบคู่หมอตั้นกับน้องคีย์ที่สุดน่ารักน่าหยิกดี..  :z2:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.15 ☆ (07/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 07-12-2015 18:23:11
คุณครามเส้นเลือดจะแตกยังคะ
มีตอนไหนบ้างที่พี่แกไม่หึง
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.15 ☆ (07/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 07-12-2015 18:24:56
:katai3: น้องขิงขาสวยล่ะสิคุณคราม

เห็นแล้วคงหวงนั่นแหละเจ้าค่ะ แต่ก็ได้แค่หวง ยังไม่ได้เป็นเจ้าของ อิอิ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.15 ☆ (07/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-12-2015 18:53:26
กับเจสี่ ห้า ปียังไม่ได้กินกับครามก็อย่าให้เร็วนักเลยนะขิง
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.15 ☆ (07/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 07-12-2015 19:18:20
เกิดอาการหึงขิงขึ้นมาแล้วละซิคุณคราม..ดังนั้นต้องรีบถามหัวใจตัวเองเร็วๆนะ...ว่าอยากได้น้องชายหรือคนรักกันแน่อิ อิไม่ได้กดดัน...  :katai3: 
จริงอย่างที่ขิงบอกนะคีย์ว่ากัดกันไปกัดกันมาลงเอยกันมาหลายคู่แล้วเน้อ...ลุ้นๆ คู่นี้
ชอบคู่หมอตั้นกับน้องคีย์ที่สุดน่ารักน่าหยิกดี..  :z2:

อย่าเพิ่งทิ้งนายหัว กับหนูขิงของเราสิคะคุณขา อยู่เป็นกำลังใจกันก่อน ^^
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.15 ☆ (07/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 07-12-2015 19:22:03
คุณครามเส้นเลือดจะแตกยังคะ
มีตอนไหนบ้างที่พี่แกไม่หึง

ใกล้ละ ใกล้บ้าแล้ว คงจะหึงจนเส้นเลือดแตกเข้าสักวันถ้ายังซืนอยู่แบบนี้
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.15 ☆ (07/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 07-12-2015 19:24:43
กับเจสี่ ห้า ปียังไม่ได้กินกับครามก็อย่าให้เร็วนักเลยนะขิง

เอางั้นเหรอ? 55555 สงสารนายหัวคงแห้งเหี่ยวไปอีกนาน
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.15 ☆ (07/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ammie_mn ที่ 07-12-2015 19:53:09
 :-[ ง่อวววววว ขี้หวงใช่ย่อยนะนายหัว รู้ใจตัวเองเร็วๆนะจ๊ะเดี๋ยวหนูขิงจะโดนคาบไป.....
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.15 ☆ (07/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 07-12-2015 20:19:24
ขิงน่ารักอ่ะดิแต่ไม่ค่อยรู้ตัว นายหัวจะอกแตกตายอยู่แล้วววว 55555555555  :m20:
ขอให้รู้ใจตัวเองเร็วๆนะนายหัวว
ส่วนหมอกับคีย์ ถ้าคีย์ท้องได้เราว่าในอนาคตต้องลูกดกแน่ๆ 55555  :hao7:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.15 ☆ (07/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 07-12-2015 21:52:46
หวังว่านายหัวจะรู้ใจตัวเองเร็วๆ นะ ตอนหน้าคงมีเหตุการณ์อะไรๆ ให้นายหัวของเราหึงขิงแน่ๆ เลย
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.15 ☆ (07/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 07-12-2015 22:17:55
นายหัวช้าแบบนี้ระวังโดนคาบไปกินก่อนนะ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.15 ☆ (07/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 07-12-2015 23:58:21
2 คู่ ชูชื่น


 :hao6:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.15 ☆ (07/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 08-12-2015 00:17:09
คุณครามน่าตีปากจริงๆ ขิงน่ารักเกินไปก็พูดดด  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.15 ☆ (07/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 08-12-2015 07:51:18
:-[ ง่อวววววว ขี้หวงใช่ย่อยนะนายหัว รู้ใจตัวเองเร็วๆนะจ๊ะเดี๋ยวหนูขิงจะโดนคาบไป.....


ไหนๆใครจะมาคาบหนูขิงไป ไม่กลัวลูกปืนนายหัวรึไง 55555
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.15 ☆ (07/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 08-12-2015 07:54:13
ขิงน่ารักอ่ะดิแต่ไม่ค่อยรู้ตัว นายหัวจะอกแตกตายอยู่แล้วววว 55555555555  :m20:
ขอให้รู้ใจตัวเองเร็วๆนะนายหัวว
ส่วนหมอกับคีย์ ถ้าคีย์ท้องได้เราว่าในอนาคตต้องลูกดกแน่ๆ 55555  :hao7:


คิดเหมือนกันเลยจ้า หมอตั้นก็กวน ส่วนคีย์ก็ยุขึ้น ขี้งอน หัวปีท้ายปีแน่ 5555
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.15 ☆ (07/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 08-12-2015 07:56:37
หวังว่านายหัวจะรู้ใจตัวเองเร็วๆ นะ ตอนหน้าคงมีเหตุการณ์อะไรๆ ให้นายหัวของเราหึงขิงแน่ๆ เลย


จริงขนาดหึงจนควันออกหูขนาดนี้ ยังไม่ยอมรับใจตัวเองอีก แบบนี้มันน่าตีจริงๆ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.15 ☆ (07/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 08-12-2015 07:59:00
นายหัวช้าแบบนี้ระวังโดนคาบไปกินก่อนนะ


ใครจะใจกล้ากับผู้มีอิทธิพลภาคใต้ขนาดน้านนนนน แต่อย่าได้ใจไปเนอะ!!
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.15 ☆ (07/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 08-12-2015 08:01:28
2 คู่ ชูชื่น


 :hao6:


คู่หมอตั้นกับคีย์ยังไม่แต่งนะ รอให้เสร็จเป็นคู่ๆไปก่อน อิหนูคีย์ร้ายนะบอกไว้ก่อน
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.15 ☆ (07/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 08-12-2015 08:03:57
คุณครามน่าตีปากจริงๆ ขิงน่ารักเกินไปก็พูดดด  :katai2-1:

ฝากตีด้วย 2 ที หรือไม่งั้นเค้าตีเองก็ได้ เอาไม้ตีหัว แล้วลากเข้าป่าไปเลย อร๊ายยยยย
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.15 ☆ (07/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: aoraor ที่ 08-12-2015 21:35:02
อุ้ยๆ ขาสวยๆของหนูขิง 55555  นายหัวมัวแต่ปากแข็งระวัง มคปด. นะค่าา

หนูขิงอ่อยให้หนักเลยค่ะ นายหัวจะได้รู้ตัวไวๆ  เอาให้ตบะแตกไปเลย  :hao7: //ไม่ได้หวังอะไรนะจริงๆเชื่อเราสิ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.15 ☆ (07/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 08-12-2015 21:52:15
อุ้ยๆ ขาสวยๆของหนูขิง 55555  นายหัวมัวแต่ปากแข็งระวัง มคปด. นะค่าา

หนูขิงอ่อยให้หนักเลยค่ะ นายหัวจะได้รู้ตัวไวๆ  เอาให้ตบะแตกไปเลย  :hao7: //ไม่ได้หวังอะไรนะจริงๆเชื่อเราสิ

ค่ะ เชื่อเจ้าค่ะว่าไม่ได้หวังอะไรเลย ใสๆ แต่บอกหนูขิงให้อ่อยให้หนัก??? อะไรคือความดีงาม 55555
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.16 ☆ (09/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 09-12-2015 10:52:00




อันดามัน...ซ่อนรัก
(Andaman In Love)
ตอนที่ 16









ระหว่างทางหมอตั้นก็ทำหน้าที่เป็นไกด์ได้ดีมากเลย อธิบายให้ฟังว่าสระมรกตเนี๊ยะ กำเนิดจากธารน้ำอุ่น ในผืนป่าที่ราบต่ำภาคใต้ มีอุณหภูมิประมาณ 30-50 องศาเซลเซียส มีลักษณะเป็นสระน้ำใสสีเขียวอมฟ้ากลางใจป่า สีของน้ำในสระจะเปลี่ยนไปได้ตามวันเวลาและสภาพอากาศ มีทั้งหมด 3 สระ ได้แก่ สระแก้ว สระมรกต และ สระน้ำผุด


ความจริงทางเหนือก็มีสระมรกตเหมือนกันนะ แต่ชื่อจริงๆ เค้าเรียกว่า "หล่มภูเขียว" ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท มีลักษณะเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่อยู่บนภูเขาคล้ายปล่องภูเขาไฟ น้ำในแอ่งลึกมากจนมองเห็นเป็นสีเขียว มีปลาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เนื่องจากตั้งอยู่กลางป่า เลยทำให้เป็นสถานที่ที่เงียบสงบ น้ำใสๆ นิ่งๆ มองเห็นตัวปลาว่ายวนไปมา ไม่น่าเชื่อนะครับว่าจะมีสถานที่สวยงามแบบนี้ซ่อนอยู่กลางธรรมชาติแบบนี้ ถึงการเดินทางเข้าไปสู่หล่มภูเขียว อาจดูยากลำบากไปบ้าง แต่เชื่อเถอะครับว่ามันก็คุ้มค่ากับการที่ได้มาเห็นจริงๆ สำหรับใครที่ไม่ชอบเดินทางไกลก็ไม่ขอแนะนำสักเท่าไหร่นะครับ เพราะมันเหมาะกับคนที่ชอบเดินป่าหรือชอบดูธรรมชาติจริงๆ ข้อแนะนำอีกอย่างนะครับ คือไม่ควรลงไปว่ายน้ำเล่นในสระ เพราะมันอันตราย เนื่องจากมันมีลักษณะเหมือนกับหลุมลึก บนปล่องภูเขาไฟ ซึ่งเราไม่รู้ว่ามันลึกแค่ไหนนะสิ


กลับมาที่สระมรกตของเรากันดีกว่า จากที่จอดรถเราต้องเดินทางเท้าเข้ามาอีกประมาณ 800 เมตร จนถึงตัวสระมรกต หรือจะไปอีกทางที่เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่มีระยะทางประมาณ 2.7 กิโลเมตร แต่ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็จะมาบรรจบกันที่สระมรกตที่เดียวกัน ขอแนะนำว่าตอนเดินเข้าไป ให้ใช้เส้นทางปกติ ส่วนขากลับนั้นก็กลับมาเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เดินเป็นลักษณะวงรอบ เส้นทางศึกษาธรรมชาติเป็นป่าเขียวครึ้ม ร่มรื่นด้วยพรรณไม้ที่น่าสนใจเป็นแหล่งชมนกหายาก เช่น นกแต้วแร้วท้องดำ นกกระเต็นสร้อยคำสีน้ำตาล นกเงือกดำ ฯลฯ ระหว่างเดินไปก็จะพบสายน้ำไหล และสระใหญ่ สระเล็กไปตลอดทาง สวยงามมากครับ ส่วนพวกเราเลือกเส้นทางที่ง่ายที่สุด นั่นก็คือเส้นทางปกติ แล้วก็กลับทางปกติครับ เพราะอะไรไปติดตามกันเลยครับ

หลังจากที่เดินชมสระมรกตเสร็จ ก็ไปชมบ่อน้ำผุด ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของสระมรกต ลักษณะเป็นแอ่งน้ำสีฟ้าอมน้ำเงิน เป็นสระน้ำแร่ธรรมชาติ ด้วยความมีแร่ธาติอยู่มาก และได้สะท้อนแสงอย่างที่เห็น นอกจากนั้นยังมีฟองอากาศที่ผุดขึ้นมาเหนือน้ำตลอดเวลา สันนิษฐานว่า เกิดจากน้ำที่ซึมออกมาจากใต้ดิน ทำให้ที่แห่งนี้มีน้ำตลอดปี และไหลเป็นลำธารสู่ที่ต่างๆ ด้วย

"ขิงๆ เล่นน้ำกันเถอะ ไหนๆก็มาแล้ว" คีย์วิ่งมาชวนหลังจากที่ถ่ายรูปเสร็จแล้ว

"แต่เราไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามาเปลี่ยนนะ"

"ไม่เป็นไร เราเตรียมมาเผื่อละ คิดไว้แล้วว่าขิงต้องไม่ได้เอามา"

"คุณหมอเล่นไหม๊ครับ? หรือว่าจะอยู่ข้างบนกับคุณครามดีครับ?"

"ผมลงไปเล่นด้วยดีกว่าครับ มึงอยู่ข้างบนคนเดียวไปก่อนนะเพื่อน กูขอไปเล่นน้ำก่อนล่ะ หึๆๆๆ" หมอตั้นยักคิ้วกวนๆใส่คุณคราม แล้วถอดเสื้อออก ผมเลยต้องแกล้งหันไปชมนกชมไม้ทางอื่นซะ จะได้ไม่เขิน ส่วนคีย์ลงน้ำปุ๊บก็ว่ายไปจนทั่ว ไม่สนใจใคร 

"ไปทางโน้นกันเถอะครับคุณขิง?" หมอตั้นชวน

"ครับ"

"กางเกงเปียกหมดขนาดนี้ แล้วขากลับคุณหมอจะเอาที่ไหนเปลี่ยนครับเนี๊ยะ?" ผมหันมาตอบ เลยได้เห็นมองท่อนบนหมอตั้นเต็มๆอย่างเลี่ยงไม่ได้ หมอตั้นเป็นคนดูแลตัวเองดีเหมือนกันแหะ ขนาดไม่ค่อยมีเวลายังได้ขนาดนี้เลยนะเนี๊ยะ มัดกล้ามลีนๆ สาวๆเห็นคงละลาย ผมละสายตาเพราะรู้สึกว่าตัวเองทำตัวน่าเกียจเกินไปแล้ว หน้าเลยเห่อร้อนขึ้นมาทันที จนหมอตั้นหัวเราะขึ้นมาเบาๆ ผมเลยยิ่งเขินเข้าไปอีก ถูกหมอตั้นจับได้ว่าแอบมองหุ่นเค้า

"กลับทั้งอย่างนี้ก็ได้ครับ ไม่ใช่ปัญหา" ผมว่าหมอตั้นนี่ก็ยิ้มพร่ำเพรื่อไปนะ คนนั้นคนนี้ยิ้มให้ ก็ยิ้มตอบเค้าไปหมด ชนิดที่ว่าผู้หญิงพวกนั้นเขินกันไปตามๆกันเลย แบบนี้เค้าเรียกว่าคนขี้อ่อยรึเปล่า?

"เดี๋ยวจะไม่สบายเอานะครับ"

"ผมแข็งแรงครับคุณขิง ไม่ต้องห่วง" ผมพยักหน้าให้หมอตั้น

"ขิงๆ ไปทางโน้นสิ น้ำอุ่นกว่าตรงนี้อีก" คีย์ชี้ไปอีกฟากหนึ่งที่มีเด็กวัยรุ่นเล่นอยู่ แล้วปรายตามองหมอตั้น หน้าแดงลามมาจนถึงคอเลย

"ไปด้วยกันไหม๊ครับคุณหมอ?"

"จะชวนเค้าทำไม เราชวนขิงคนเดียวนะ" คีย์อ้อมแอ้มตอบ จนหมอตั้นแอบยิ้มมุมปากที่ทำให้คนปากร้ายอย่างคีย์เขินได้

"เอ้า คุณหมอเค้าก็มากับเรา จะทิ้งให้เค้าเล่นคนเดียวได้ยังไงล่ะ" คีย์ทำหน้างอ แล้วเบ้ปากใส่คุณหมอทั้งๆที่ตัวเองก็กำลังหน้าแดงอยู่

"ไม่รู้ล่ะ" พูดเสร็จก็ลากแขนผมออกไป ปล่อยให้หมอตั้นยิ้มแล้วมองตาม สงสัยคู่นี้คงจะมีลุ้นแน่ๆ

"เราแอบสังเกตมาหลายครั้งแล้วนะ ว่าหมอตั้นมาก้อล่อก้อติกขิงอยู่บ่อยๆ เค้าจีบขิงใช่ไหม๊?"

"ว่าไปนั่น เพื่อนกัน เหมือนขิงกับคีย์นั่นแหละ อย่าคิดมาก" ผมไขข้องข้องใจกับคีย์ เพราะกลัวว่าจะมีปัญหาตามมาทีหลัง

"ขิงน่ะสิคิดน้อยเกินไป เรารู้จักอีตาหมอนี่ดี เจ้าชู้จะตาย ดูอย่างขาเดินเข้ามาสิ ยิ้มให้เค้าซะทั่วอย่างกะนางงามสามแผ่นดิน" คีย์เบ้ปากใส่อย่างหมั่นไส้

"บอกว่ารู้จักผมดี แล้วรู้จักดีแค่ไหนกันล่ะครับ น้องคีย์? หึๆๆๆ"

"เห้ย!!" ผมกับคีย์ร้องขึ้นพร้อมกัน ตกใจที่จู่ๆ หมอตั้นก็โผล่มา พวกเราที่หันหลังคุยกันอยู่ เลยไม่ได้สังเกตเห็น

"ตกใจกันเหรอครับ?" หมอตั้นยังยิ้มให้อยู่ ไม่ยักโกรธอะไร

"ก็ตกใจน่ะสิ อยู่ดีๆก็โผล่มาอย่างกะผี เสียมารยาท"

"ใครกันแน่ที่เสียมารยาท แอบนินทาคนอื่นเค้าลับหลัง หื้อ?" หมอตั้นยักคิ้วให้คีย์ ส่วนผมน่ะเหรอก็หน้าม้านน่ะสิ แอบนินทาเค้าในระยะเผาขน แถมเค้ายังจับได้อีก

"ใครว่านินทา เค้าเรียกว่าไถ่ถามเพื่อนแต่ไม่ให้คนอื่นรู้ต่างหาก" พอเถอะคีย์ ยิ่งแถยิ่งเลือดออก

"แถเก่งจริงเนอะคนแถวนี้"

"นี่คุณว่าอะไรนะ?"

"เปล๊า!!!!"

"แล้วไป งั้นอีกคำถามหนึ่ง ตอบมาเลยนะว่าหมอจีบเพื่อนผมรึเปล่า?" คีย์ถามสีหน้าจริงจัง

"ถ้าพี่จีบล่ะครับ น้องคีย์จะว่ายังไง? หื้ม?" หมอตั้นก้มหน้าลงมาใกล้จนแทบติดกัน

"กะ..ก็จะขัดขวางให้ถึงที่สุดน่ะสิ" พูดเสร็จก็ผลักหน้าหมอตั้นออกไป ส่วนตัวเองก็ยืนเม้มบางหน้าแดงให้หมอตั้นล้อเลียนอยู่

"ขิงมันไม่เหมาะกับคนเจ้าชู้แบบคุณหรอก ไปหาคนอื่นเลยไป๊!!" คีย์แวดๆใส่ตอนท้ายเพราะทนเห็นหมอตั้นทำหน้าเป็นใส่ไม่ได้

"อ้าว แล้วคนแบบไหนล่ะครับที่เหมาะกับพี่? แบบน้องคีย์รึเปล่า? หึๆๆๆ" หมอตั้นทำหน้ากรุ้มกริ่ม

"นี่คุณอย่ามาพูดไปเรื่อยนะ กลับไปอยู่กับพี่ครามเลยไป๊ ไม่ต้องมายุ่งด้วย แล้วก็อย่าหวังว่าจะได้จีบเพื่อนผมด้วย คอยดู!!"

"ไปกันเถอะขิง เล่นไม่สนุกแล้ว มีมารมาผจญ" คีย์สะบัดหน้าใส่แล้วจูงแขนผมเดินออกมา

"เดี๋ยวก่อนๆคีย์ เดินช้าๆหน่อย นี่มันในน้ำนะ มันเดินลำบาก"

"คุณหมอ งั้นผมขึ้นก่อนนะครับ โอ๊ยคีย์เดินช้าๆ" ผมตะโกนบอกหมอตั้นแล้วยิ้มแหยๆเป็นการขอโทษแทนคีย์ด้วย

"นี่ก็อีกคน จะไปอะไรกับเค้านักหนา ไม่ต้องหันกลับไปมองเลยนะ" โดนเหวี่ยงอีกคนแล้วสิเรา ฮ่าๆ

"เกิดอะไรขึ้นคีย์?" คุณครามถามน้องชาย เพราะคงเห็นเจ้าตัวทำหน้ามุ้ยเดินมาแต่ไกล

"ก็เพื่อนพี่ครามน่ะสิ บอกว่าจะจีบขิง"

"เห้ย!! ไม่ใช่นะคีย์" ผมรีบปฏิเสธ เพราะหมอตั้นไม่ได้บอกแบบนั้นสักหน่อย

"จะไม่ใช่ได้ไง ก็ได้ยินบอกเมื่อกี้อะ" ผมกำลังจะอ้าปากตอบอยู่แล้วเชียวถ้าคุณครามไม่ถามขึ้นมาก่อน

"จริงรึเปล่า?"

"มะ..."

"จริงไม่จริงแล้วเกี่ยวอะไรกับแกวะไอ้คราม เกี่ยวกับชั้นนี่ งั้นขอตัวคุณขิงแป๊บนึงนะ เดี๋ยวมา" นี่ก็อีกคนทำไมถึงชอบแย่งคนอื่นเค้าตอบนักนะ หมอตั้นยักคิ้วให้คุณคราม แล้วจูงแขนผมเดินออกมา ไม่สนใจว่าคีย์อ้าปากพะงาบๆ ส่วนคุณครามก็กำลังทำหน้าดุอยู่

"คุณหมอมีอะไรรึเปล่าครับ?" ลากมาซะไกลเชียว

"มีครับ แต่ไม่ต้องทำหน้ากังวลขนาดนั้นก็ได้ครับ หึๆๆ ผมไม่ได้จะบอกรักคุณขิงหรอกครับ สบายใจได้" โล่งอก นึกว่าจะเสียเพื่อนดีๆ อย่างหมอตั้นไปแล้วซะอีก

"แล้วคุณหมอลากผมออกมาทำไมครับ?"

"แค่อยากแกล้งคนนิดหน่อยครับ" หมอตั้นขยิบตาให้

"แกล้งคน แกล้งใครครับ?"

"ก็คนแถวนี้แหละครับ ยิงปืนนัดเดียวได้นกตั้งสองตัวแหนะ"

"ครับ???"

"หึๆๆ อยากรู้ไหมครับว่าผมหมายถึงอะไร?" หมอตั้นทำเสียเจ้าเล่ห์

"...." ผมพยักหน้า

"งั้นเดี๋ยวผมกระซิบบอก แต่คุณขิงต้องหลับตาด้วยนะครับ"

"ทำไมต้องหลับตาครับ?"

"เอาหน่า เชื่อผม แล้วจะดีเองครับ" ผมพยักหน้าตอบอีกครั้ง รอหมอตั้นกระซิบบอก

"จุ๊บ!! / เห้ย!!" หมอตั้นจูบผม

"พลั๊วะ!! โอ๊ะ!!"

"คุณหมอ!!" ผมตกใจ ในหัวก็ตื้อไปหมด รู้ตัวอีกทีคุณหมอล้มกองอยู่กับพื้นแล้ว พร้อมกับคนทำที่ยืนทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ใกล้ๆ

"คุณคราม!! ทำบ้าอะไรของคุณเนี๊ยะ?"

"ซี๊ด!!"

"เป็นงั้นบ้างครับคุณหมอ?" ผมรีบเข้าไปประคองหมอตั้นขึ้นมา ดูสิเลือดกลบปากเลย

"เจ็บครับ ซี๊ดดด!!"

"ออกมาจากมันเลยนะ ก่อนที่ชั้นจะทนไม่ไหวแล้วซัดมันอีกหมัด" ผมหันหน้าไปมองเค้าอย่างรวดเร็ว ตัวเองเป็นคนทำเพื่อนเจ็บ ยังไม่คิดจะขอโทษแล้วยังจะทำเค้าอีก

"คุณมันคนเจ้าอารมณ์ ใช้แต่กำลัง หมอตั้นไปทำอะไรให้คุณ คุณถึงต่อยเค้าแบบนั้นห๊ะ?"

"โอ๊ย....แสบชิบ!! ซี๊ดดดด" หมอตั้นเอามือแตะเบาๆตรงมุมปาก ผมว่าพรุ่งนี้คงเขียวช้ำน่าดู

"อย่ามาสำออย แล้วก็เลิกแตะต้องคนของกูเดี๋ยวนี้!!" คนของกู?? หมายความว่าไง? ผมหันไปมองคุณคราม

"ทำไมกูต้องทำตามที่มึงบอกด้วย ไปกันเถอะครับคุณขิงอย่าไปยุ่งกับคนอันธพาลเลย ซี๊ด!!"

"ขิง..มานี่!!" คุณครามยืนนิ่งๆ พูดเสียงเข้ม

"มึงเป็นแค่เจ้านายเค้า ไม่ได้เป็นเจ้าชีวิตเค้าสักหน่อย ทำไมเค้าต้องเชื่อฟังมึงด้วย?" ปากเนี๊ยะนะหมอตั้น ถ้าถูกซัดอีกหมัด ผมจะไม่ห้ามแล้วนะ

"เพราะกู.......กู ปั๊ดโถ่เว้ย!! มานี่เลย"

"เดี๋ยวคุณคราม จะลากผมไปไหน แล้วหมอตั้น" ผมหันไปมองมองตั้นที่ยืนอยู่ที่เดิม มองมาทางนี้

"จะสนใจมันทำไมนักหนาห๊ะ? ชอบมันรึไง?" ครามตะคอกเสียงดัง

"อะไรของคุณ แล้วนั่นก็เพื่อนคุณนะ" ผมชักไม่ไหวแล้วเหมือนกันนะ แล้วกี้ก็พูดอะไรไม่รู้เรื่อง ไม่เห็นเข้าใจเลยสักอย่าง

"นายชอบมันรึไง?" คุณครามถอนหายใจออกมาแรงๆ แล้วถามออกมา

"เปล่าครับ" ผมคิดว่าผมตอบคำถามแบบนี้หลายครั้งแล้วนะ ไม่คิดว่าจะถามอย่างอื่นบ้างรึไง

"แล้วยืนให้มันจูบอยู่ทำไม ห๊ะ???"

"ห๊ะ?"

"ไม่ต้องมาห๊ะ ตอบชั้นมา ให้มันจูบทำไม?"

"ผมไม่ดะ....อื้ออออออ.............." ผมไม่เข้าใจ มันเกี่ยวอะไรกับที่หมอตั้นจูบแล้วมาจูบผมอีกทำไม

"อย่าให้ใครทำแบบนั้นกับนายอีก ชั้นไม่ชอบ"

"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณกันเล่า?" ผมพูดเสียงเบา

"ก็ชั้น...ปั๊ดโถ่โว๊ย..เข้าใจอะไรยากจริง.!!"

"อื้ออออออ!!!"

"ที่นี้เข้าใจรึยัง?" ผมทั้งมืนทั้งงง ส่ายหัวบอกว่าไม่เข้าใจ

"นายนี่มันบื้อ ไม่รู้เรื่องอะไรเลยสักอย่าง"

"คุณนั่นแหละบ้า ไม่รู้เรื่องอะไรเลยสักอย่าง บื้อๆ ๆๆๆๆๆ" ผมทนไม่ไหวทุบกำปั้นลงที่อกหลายครั้ง

"โอ๊ยยย เจ็บ ทุบทำไมเนี๊ยะ"

"ทุบให้คุณรู้สึกตัวสักทีไง ทั้งโง่ทั้งบื้อ"

"ว่าชั้นทำไม นายนั่นแหละผิด เดี๋ยวจะโดน!!"

"ก็คุณมันบื้อ เอ๊ะอะก็เอาแต่จูบคนอื่นเค้า โดยที่ไม่บอกว่ารู้สึกยังไง คุณมันแย่ที่สุด" ผมสะบัดแขนแล้วเดินหนีออกมา

"เดี๋ยวอย่าเพิ่งไป" เสียงคุณครามตามหลังมา แต่ผมไม่สนใจหันกลับไปมอง จะว่าน้อยใจก็ได้ แต่ผมทนความรู้สึกแบบนี้ไม่ไหวแล้วจริงๆ

"หยุดแล้วฟังชั้น!!" ผมหยุดเดินแต่ไม่หันกลับไปมอง กลัวตัวเองจะใจอ่อน

"ชั้นชอบนาย พอใจรึยัง?"

"คะ...คุณ!!" ผมหันกลับไปอย่างรวดเร็วแต่พูดไม่ออก

"เอ่อ!! ได้ยินแล้วนิ ขอบอกไว้ก่อนนะ ห้ามเข้าใกล้มันอีก ชั้นเป็นคนขี้หึง แล้วก็ขี้หึงมาก ถ้าไม่อยากถูกจูบต่อหน้าคนอื่นก็ห้ามทำอีก"

"ป๊ะไปกันเถอะ ชั้นอยากกลับแล้ว" เหอะ!!ไม่โรแมนติกเลยสักนิด แต่ก็ยังดีแหละที่ได้ยิน

"แล้วหมอตั้นล่ะครับ?"

"ยังจะห่วงมันอีก"

"แต่นั่นเพื่อนคุณนะครับ"

"มันคงไม่โง่เดินเข้าป่าไปหรอก ป่านนี้คงไปรอที่รถแล้วมั้ง"

.............................
......................
...............

"ไปไหนกันมาครับคุณขิง?"

"แถวนี้แหละ ไม่ต้องมายุ่ง ต่อไปนี้ก็ห้ามมายุ่ง" คุณครามพูดช้าๆชัดๆ

"ทำไม?"

"ปกติมึงก็ไม่ได้โง่นะ หาคำตอบเอาเองสิ"

"แล้วนี่ก็อีกคน มองหน้าพี่ทำไม?"

"ก็แค่สงสัย พี่ครามหายไปกับเพื่อนคีย์ตั้งนาน แล้วกลับมาก็พูดกำกวมแบบนี้อีก ใครจะเข้าใจ บอกคีย์มาเดี๋ยวนี้นะ ขิงบอกมาเดี๋ยวนี้นะ!!!"

"อยากรู้อะไรก็ถามไอ้หมอสิ" คุณครามพยักหน้าไปทางหมอตั้น ส่วนผมก็ปิดปากเงียบจนคีย์กระฟัดกระเฟียดใส่

"ไม่ถามหรอก คุยกับหมา เดี๋ยวหมาเลียปาก" คีย์เบ้ปากแล้วสะบัดหน้าหนีสายตาหมอตั้นที่กำลังมองอยู่

"นี่ทะเลาะกันอีกแล้วเหรอสองคนนี้?" คุณครามถาม

"เปล่า" ทั้งหมอตั้นทั้งคีย์ตอบพร้อมกัน อย่างกะนัดกันมาแหนะ

"งั้นก็ขึ้นรถ จะได้กลับบ้าน ส่วนผ้าก็ไม่ต้องเปลี่ยนแล้ว กลับไปเปลี่ยนบ้านเลยดีกว่า ไม่ไกลหรอก" เผด็จการ!!  ก็ตัวเองไม่ได้เปียกนิ ก็พูดงั้นได้สิ

"ขิง มานั่งข้างหลังกับชั้นสิ" คุณครามสั่ง

"อ้าวไหงงั้นอะพี่คราม? งั้นคีย์ก็ได้นั่งหน้ากับหมอนี่อะดิ ไม่เอาด้วยหรอก" คีย์แย้ง

"รังเกียจกันนักรึไง? ทีตอนจู.....อุ๊บ!!" หมอตั้นพูดไม่ออกเพราะโดยคีย์ตุ่ยท้อง คงจะจุกหน้าดู

"หยุดพูดเลยนะ ถ้าไม่อยากโดนอีก" คีย์ชูกำปั้นใส่หมอตั้น

"ขิง..มานั่งนี่สิ" สั่งอีกละ ขนาดบอกชอบคนอื่นไปแล้วก็ยังวางมาด ออกคำสั่งอยู่ได้ ไม่แตกต่างกันเลยกับก่อนหน้านี้ เคยเป็นยังไงก็เป็นอย่างงั้น

"........"

"ส่วนมึงออกรถได้ละไอ้หมอ"

"แผลที่ปากคุณหมอเป็นไงบ้างครับ?" ผมเห็นหมอตั้นใช้ลิ้นดุนๆตอนสตาร์ทรถ เห็นแล้วเจ็บแทนเลย เวลากินข้าวคงลำบากน่าดู

"ก็ยังเจ็บๆ ซี๊ดๆ อยู่เลยครับ สงสัยคืนนี้ต้องกินยาแก้ปวดกันไว้ก่อนแล้วล่ะครับ คนอะไรหมัดหนักชะมัด" หมอตั้นบ่นไม่จริงจัง

"อย่าสำออย"

"นั่งดีๆ ไม่ต้องไปสนใจมันให้มาก เดี๋ยวจะโดน" ผมเขยิบมานั่งผิงเบาะ ไม่อยากให้ท้าทายกับอำนาจมืด

"ขี้หวงเป็นบ้า" หมอตั้นพูดเบาๆ แต่ได้ยินทั่วรถ คุณครามเลยจ้องเขม็ง





หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.16 ☆ (09/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 09-12-2015 11:39:54
อ่านไปลุ้นไปว่าเมื่อไหร่ประโยครักจะออกมาจากปากนายหัวครามซะที ...ลุ้นจนต้องจับจ่องทุกตัวอักษรเลย :katai4:
แต่ก็ยังดี ที่บอกว่าชอบ ..รู้ใจตัวเองซะที ..แอบสงสารพีี่หมอของน้องคีย์...ลงทุนไปไหม๊..เจ็บตัวเลยคีย์ไปดูแลด่วนฮาๆ
ไม่ได้ลำเอียงนะ...แต่คู่นี้มันน่าร๊ากอะ...  :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.16 ☆ (09/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 09-12-2015 12:01:50
เถียง-จูบ! 55555 ขิงเปลืองตัวมากกก แต่ดีแล้วที่คุณครามเลิกโง่  :hao7:

ปล.คนเขียนน่ารักจังค่ะ มีตอบเม้นด้วย  :-[
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.16 ☆ (09/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 09-12-2015 12:31:06
แนวตบจูบปลื้มมาก
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.16 ☆ (09/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 09-12-2015 13:19:15
 :-[ :-[ :-[ :-[  คุณครามบอกชอบขิงทั้งที ทำอะไรที่มันให้ขิงมั่นใจหน่อยสิ แหม ๆๆๆ   :hao3: :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.16 ☆ (09/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: MENTA ที่ 09-12-2015 13:34:21
มาต่ออีกกกก ชอบมากๆ  :z1:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.16 ☆ (09/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: aoraor ที่ 09-12-2015 13:38:03
โธ่ เอะอะจูบ เอะอะจูบเลยนะคะนายหัว แหม่ๆเป็นไรกะเค้ายังเถอะ มาทำแบบนี้ื55555

บอกชอบแล้วไงต่อคะ เร็วๆสิเร็วววววว
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.16 ☆ (09/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 09-12-2015 14:35:15
พี่หมอลงทุนนะคะ เอาตัวเข้าเสี่ยงแบบนี้ เป็นไงค่ะเจ็บตัวจนได้แต่ก็คงคุ้มนะคะได้จูบกับน้องนายหัวไปแล้วนี่
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.16 ☆ (09/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 09-12-2015 15:12:59
อ่านไปลุ้นไปว่าเมื่อไหร่ประโยครักจะออกมาจากปากนายหัวครามซะที ...ลุ้นจนต้องจับจ่องทุกตัวอักษรเลย :katai4:
แต่ก็ยังดี ที่บอกว่าชอบ ..รู้ใจตัวเองซะที ..แอบสงสารพีี่หมอของน้องคีย์...ลงทุนไปไหม๊..เจ็บตัวเลยคีย์ไปดูแลด่วนฮาๆ
ไม่ได้ลำเอียงนะ...แต่คู่นี้มันน่าร๊ากอะ...  :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

สงสารหมอตั้นทำไม เจ้าเล่ห์จะตาย
สารคีย์มากกว่าเหอะ จะถูกหมาป่าจับกินเมื่อไหร่ก็ยังไม่รู้เลย
#ลำเอียงๆๆ สงสารนายหัวกับหนูขิง
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.16 ☆ (09/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 09-12-2015 15:16:42
เถียง-จูบ! 55555 ขิงเปลืองตัวมากกก แต่ดีแล้วที่คุณครามเลิกโง่  :hao7:

ปล.คนเขียนน่ารักจังค่ะ มีตอบเม้นด้วย  :-[

บ้า!'
ตัวจริงก็น่ารัก 55555

อย่าบอกนะว่าไม่ชอบที่ขิงเปลืองตัว งั้นตอนหน้าจะได้แต่งให้ธรรมมะ ธรรมโมหน่อย 55555
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.16 ☆ (09/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 09-12-2015 15:18:55
แนวตบจูบปลื้มมาก

เค้าคนที่ชอบแนวนี้มักเป็นคน #ซาดิสม์ 55555
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.16 ☆ (09/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 09-12-2015 15:21:48
:-[ :-[ :-[ :-[  คุณครามบอกชอบขิงทั้งที ทำอะไรที่มันให้ขิงมั่นใจหน่อยสิ แหม ๆๆๆ   :hao3: :hao3: :hao3: :hao3:


เขินแทนขิง อยากได้ซะมีแบบคุณคราม 5555
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.16 ☆ (09/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 09-12-2015 15:23:55
มาต่ออีกกกก ชอบมากๆ  :z1:


ขอบคุณครับที่มาเป็นกำลังใจให้ แล้วก็ยินดีต้อนรับคนอ่านคนใหม่นะครับ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.16 ☆ (09/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 09-12-2015 15:27:26
โธ่ เอะอะจูบ เอะอะจูบเลยนะคะนายหัว แหม่ๆเป็นไรกะเค้ายังเถอะ มาทำแบบนี้ื55555

บอกชอบแล้วไงต่อคะ เร็วๆสิเร็วววววว

คุณอ้อใจร้อนยิ่งกว่านายหัวอีก รายนั้นเย็นยิ่งกว่าภูเขาน้ำแข็งขั้วโลกอีก
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.16 ☆ (09/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 09-12-2015 15:29:56
พี่หมอลงทุนนะคะ เอาตัวเข้าเสี่ยงแบบนี้ เป็นไงค่ะเจ็บตัวจนได้แต่ก็คงคุ้มนะคะได้จูบกับน้องนายหัวไปแล้วนี่


ทำหวังผล คือการลงทุนที่มีแต่ได้กับได้สำหรับหมอตั้น. 55555
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.16 ☆ (09/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 09-12-2015 16:24:45
 :laugh:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.16 ☆ (09/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 09-12-2015 19:14:09
หมอตั้นยอดเยี่ยมกระเทียมดองไปเลยเจ้าค่ะ
เสียสละแก้มให้เพื่อนได้ขนาดนี้
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.16 ☆ (09/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 09-12-2015 21:33:07
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.16 ☆ (09/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 09-12-2015 21:49:40
โถนายหัวววววววววววจะบอกรักเค้าช่างอ่อนหัดยิ่งนัก :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.16 ☆ (09/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ben ที่ 10-12-2015 11:33:46
ขิงลืมไปหรือเปล่า ว่าตัวเองมีแฟนอยู่แล้วนะ ??? ถ้าจะขนาดนี้ ทำให้ตัวเองโสดก่อนไหม ถึงเราจะมั่นใจก็เถอะว่าแฟนขิงเองก็คงไม่ใช่คนดี รักเดียวใจเดียว แต่คนที่มีแฟนอยู่แล้วแบบขิงนี่ ไม่รู้สึกผิดเลยหรอ ครามก็เหมือนกัน คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าชีวิตขิงหรอ คิดจะสั่งก็สั่ง บังคับตลอด

ปล.ชอบคู่หมอตั๋นกับคีย์ ทายว่าสองคนนี้ใจตรงกันมานานล่ะแน่ๆ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.16 ☆ (09/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 10-12-2015 15:55:49
ขิงลืมไปหรือเปล่า ว่าตัวเองมีแฟนอยู่แล้วนะ ??? ถ้าจะขนาดนี้ ทำให้ตัวเองโสดก่อนไหม ถึงเราจะมั่นใจก็เถอะว่าแฟนขิงเองก็คงไม่ใช่คนดี รักเดียวใจเดียว แต่คนที่มีแฟนอยู่แล้วแบบขิงนี่ ไม่รู้สึกผิดเลยหรอ ครามก็เหมือนกัน คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าชีวิตขิงหรอ คิดจะสั่งก็สั่ง บังคับตลอด

ปล.ชอบคู่หมอตั๋นกับคีย์ ทายว่าสองคนนี้ใจตรงกันมานานล่ะแน่ๆ

ขอบคุณครับที่มาแสดงความคิดเห็น ไม่รู้ว่าคุณben งง หรือผมแต่งไม่เคลียร์เอง  คือตอนนี้ขิงโสดแล้วนะครับเพราะเจมันนอกใจแล้วจัดได้คาหนังคาเขา ถึงเจจะไม่ยอม ตื้ออยู่นั่น แต่ขิงก็บอกไปแล้วนะว่าเลิก ดังนั้นก็สามารถเริ่มต้นกับคนอื่นได้แล้วนะ เพราะถึงยังไงอิเจก็มีอิมาร์คเป็นเมียไปแล้ว แล้วจะให้ขิงอยู่ในฐานะอะไร คงไม่ใช่เมียหลวงหรอกนะครับ

หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.16 ☆ (09/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 10-12-2015 16:01:39
โถนายหัวววววววววววจะบอกรักเค้าช่างอ่อนหัดยิ่งนัก :z2: :z2:

คนแสดงออกไม่เป็น ประมาณนี้นะคะคุณขา ^^
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.16 ☆ (09/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 10-12-2015 16:05:42
หมอตั้นยอดเยี่ยมกระเทียมดองไปเลยเจ้าค่ะ
เสียสละแก้มให้เพื่อนได้ขนาดนี้


หมอตั้นเป็นเพื่อนที่ดีใช่ไหมคะ? 55555 กลัวว่าถ้านายหัวยังความรู้สึกช้าอยู่แบบนี้ ยังไงก็ไม่ได้กินหนูขิงหรอก เลยต้องลงมือจัดการเอง ขอบคุณครับคุฯMukmaoY ที่ติดตามมาตั้งแต่บอร์ดโน้นแล้ว
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.17 ☆ (10/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 10-12-2015 20:31:06




อันดามัน...ซ่อนรัก
(Andaman In Love)
ตอนที่ 17






ระยะทางจากสระมรกตมาถึงบ้าน จะว่าไกลก็ไม่ใช่ จะว่าใกล้ก็ไม่เชิงอีกนั่นแหละ กว่าจะมาถึง ผมกับคีย์เลยนั่งปากสั่นมาตลอดทาง ขนาดว่าปิดแอร์แล้วเปิดกระจกแล้วนะ ดีที่คีย์เอาผ้าเช็ดตัวมาด้วย เลยได้ใช้มันเช็ดหัว ไม่งั้นคงมีป่วยกันบ้างแหละ ต้องโทษคนแถวนี้แหละใจร้ายจะแกล้งหมอตั้น แต่ผมกับคีย์เลยโดนหางเลขด้วยน่ะสิ

 พอถึงบ้านแทนที่จะได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเลย แต่กลับไม่ใช่อย่างนั้นน่ะสิ เพราะหมอตั้นอาสาไปส่งคีย์ที่บ้าน แต่เจ้าตัวดันดื้อแพ่ง ปฏิเสธลูกเดียวว่าไม่ยอมกลับด้วย กว่าจะตกลงกันได้ก็เถียงกันอยู่อีกนานเหมือนกัน  จะทำไงได้ล่ะเพราะขามาหมอตั้นก็เป็นคนไปรับนี่หน่า สรุปคุณครามเลยให้กลับกับหมอตั้นนั่นแหละ จะได้ไม่เปลืองน้ำมันไปกลับ คีย์เลยทำหน้างอ กระฟัดกระเฟียดเดินขึ้นรถไปเสียไม่ได้


"อาบน้ำแล้วมาหาที่ห้องด้วยนะ" คุณครามบอกแล้วเดินขึ้นห้องไป ส่วนผมก็แยกกลับมาที่ห้องของตัวเอง อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าไม่นาน รอผมแห้งเลยมานั่งดูรูปที่ถ่ายวันนี้ เพราะผมเอากล้องโปรฯไปด้วย นั่งแต่งรูปในโฟโตช็อปนิดหน่อยแล้วเอาลงเฟซบุ๊ค กับเพจของตัวเอง นี่แหละครับกิจกรรมยามว่างของผม 

"ก๊อกๆ"

"เข้ามาสิ" ผมมองคนที่เดินมาเปิดประตูให้ คุณครามอาบน้ำเสร็จแล้วเหมือนกัน แต่อยู่ในชุดเสื้อกล้ามกับกางเกงเล ดูแปลกตาไปอีกแบบ ผมเดินไปนั่งที่โซฟาตัวเดิมแล้วเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของห้องอีกครั้ง

"มองแบบนั้นเหมือนนายลวนลามชั้นทางสายตาเลยรู้ไหม?" ผมทำหน้าเหวอ

"ทะลึ่ง!! ใครเค้าคิดแบบนั้นกัน"

"ไม่ได้คิดแล้วทำไมต้องหน้าแดง หืม?" คุณครามเดินเข้ามาใกล้

"นี่คุณเขยิบออกไปเลยนะ ที่ก็มีตั้งเยอะ จะมาเบียดกันทำไมเล่า?"

"ชั้นรู้สึกว่าตัวเองจะไม่สบาย" เกี่ยวกันตรงไหน??? น้ำก็ไม่ได้ลงเล่นกับเค้า ผมรี่ตามองนิดหน่อย

"ไม่เชื่อจับดูสิ" ผมส่ายหัว

"เอาหน่าชั้นไม่ทำอะไรนายหรอก จะได้รู้ว่าชั้นไม่ได้โกหก" ผมเอามือจับดูที่หน้าผาก

"ตัวคุณรุมๆ งั้นเดี๋ยวผมไปบอกพี่นุ้ยทำข้าวต้มให้นะครับ จะได้กินยา"

"เดี๋ยวอย่าเพิ่งไป ขออยู่แบบนี้สักพัก" คุณครามกอดผมไว้แล้วเอาคางเกยไหล่

"คืนนี้คุณแม่กับทุกคนไม่อยู่นะ ถูกลากไปช่วยจัดงานที่สมาคม" ถึงว่ากลับมาไม่เห็นใครเลย ได้ยินคุณป้าพูดเหมือนกันว่า ใกล้จะถึงวันงานแล้ว คงจะยุ่งน่าดู เป็นงานเลี้ยงขอบคุณนายกสมาคมผู้ค้าแล้วก็ส่งออกไข่มุก แล้วก็เลี้ยงอำลาตำแหน่งด้วยเลยทีเดียว

"แล้วยังไงครับ?" ผมผละออกมา

"ก็นายต้องทำกับข้าวไง" นึกถึงตอนทำข้าวผัดหมูให้คุณครามกินตอนแรกแล้วถูกแกล้งปัดทิ้ง

"แน่ใจเหรอครับว่าผมทำให้กินแล้วไม่แกล้งปัดทิ้งอีก?"

"อื่ม" ถ้ารู้ว่าไม่สบายแล้วจะเชื่องขนาดนี้ ทำให้ป่วยบ่อยๆก็ดีหรอก

"แล้วคุณอยากกินอะไรครับ?"

"อยากกินอาหารเหนือ"

"จะกินได้เหรอครับ" ที่ผมถามแบบนั้น เพราะเป็นห่วงกลัวจะกินไม่ได้ อาหารเหนือเป็นอาหารที่ค่อนข้างกินยาก กลัวคนไม่เคยกินอย่างคุณครามจะกินไม่ได้น่ะสิ

"ไม่รู้ ฝึกเอา"

"จะฝึกไปทำไมครับ? เดี๋ยวผมทำกับข้าวง่ายๆให้กินดีกว่า"

"เพราะแฟนเป็นเหนือไง เลยต้องฝึกไว้ ไปอยู่ที่โน้นจะได้ไม่ลำบาก" อะนะ...เพิ่งบอกว่าชอบผมเมื่อตอนบ่ายนี้เอง ตอนนี้จะไปเที่ยวบ้านผมซะแล้ว คงไม่ง่ายหรอก พ่อกับแม่ผมยังไม่รู้เลยว่าเลิกกับเจแล้ว

"เขินเหรอ?" คุณครามยิ้มล้อเลียน

"ใครเขิน? ไม่มี๊!!"

"น่ารัก!!" พูดแบบนี้ผมก็แย่ดิ คนป่วยอะไรยิ้มหน้าบานขนาดนี้


หลังจากตกลงว่าจะกินอาหารเหนือ ผมกับคุณครามก็เลยต้องออกมาซื้อวัตถุดิบ ตอนแรกผมว่าจะเอามอไซค์ออกมาซื้อเองก็ไม่ยอม ทั้งที่ตัวเองก็ไม่สบายอยู่..แต่ก็ยังดื้อออกมาด้วยจนได้ ไปกี่ตลาดก็ไม่มีพวกเครื่องเทศอย่าง มะแขว่น ดีปลี หรือพริกลาบเลย สุดท้ายเลยตัดสินใจว่าจะทำอาหารง่ายๆกินกันดีกว่า ส่วนอาหารเหนือค่อยกินครั้งหน้าถ้ามีโอกาส ผมจะได้ให้แม่ส่งพวกเครื่องเทศที่ว่านั่นมาให้ ส่วนเมนูเย็นนี้คือ ต้มยำกุ้งน้ำข้น ยำถั่วพลู แล้วก็ไข่เจียวปู ต้มยำกุ้งน่ะผมเป็นคนอยากกิน ส่วนยำถั่วพลูคุณครามอยากกิน

ตอนนี้ผมเตรียมของเสร็จหมดแล้ว ที่เหลือก็แค่ลงมือทำเอง ส่วนคุณครามหลังจากมาถึงบ้านก็ขึ้นไปทำงานต่อบนห้องแล้ว บอกให้พักก็ไม่ยอม ก็ดีถ้าป่วยหนักขึ้นมาจะไม่ดูเลย ดื้อดีนัก

........................................
.................................
..........................

...................
...........


เมื่อกี้ผมแอบโทรไปถามแม่ด้วยแหละ ว่ายำถั่วพลูเค้าทำกันยังไง? เลยโดนแม่แซวนิดหน่อยว่าจะเอาไปทำให้ใครกิน ปกติลูกแม่ไม่ค่อยเข้าครัวทำกับข้าวนี่หน่า โด่พูดซะเสียหายเลย ความจริงก็เข้าอยู่เหอะ ทำเป็นหลายอย่างแล้วด้วย แต่ที่แม่ไม่รู้เพราะไม่เคยทำกินเองที่บ้านเหอะ

ตอนนี้ทำต้มยำกุ้งใกล้จะเสร็จแล้วเหลือแต่ใส่กะทิ แล้วก็รอให้สุก ระหว่างนี้คงต้องทำน้ำยำถั่วพลู จะได้ไม่เสียเวลา

"โอ๊ะ!! ตกใจหมด มาตั้งแต่ตอนไหนเนี๊ยะ?"

"ตั้งแต่นายทำตอนแรกแล้ว ดูคล่องดีเนอะ"

"แน่นอน แม่สอนมาดี" ผมยักคิ้วให้ทีหนึ่งแบบที่เค้าชอบทำ

"สงสัยจะจริง แต่ต้องรอดูว่าจะอร่อยสมราคาคุยรึเปล่า?" เหอะ!! ได้ชิมแล้วจะติดใจ

"คุณไปรออยู่ที่ห้องนั่งเล่นสิ มาอยู่ทำไมตรงนี้?" อย่าหาว่าผมไล่เจ้าของบ้านเลยนะ แต่คนป่วยต้องพักผ่อนซะบ้าง ไม่ใช่เดินไปมาๆแบบนี้

"เอ้า ชั้นไม่ได้ไปเกะกะนายสักหน่อย" ถึงอย่างนั้นก็เหอะ ผมไม่ชอบเวลามีคนมาจ้องแบบนี้ มันประหม่า ทำอะไรไม่ถูก

"ไม่เอาคุณ ออกไปอยู่ข้างนอกเลย ทำผมเสียสมาธิ" ผมดันหลังเค้าออกมาข้างนอก

"ทำไมถึงอยู่ดูด้วยไม่ได้ เขินงั้นเหรอ?"

"นี่คุณชักจะพูดมากเกินไปแล้วนะ จะกินไหมน่ะ ถ้ากินก็ออกไปรอข้างนอกเลย" ผมแกล้งดุ

"อื่ม"

ผมเอากะทิใส่หม้อต้มยำกุ้งแล้วปิดแก๊ส ตอนนี้เหลือแค่ทำน้ำยำ พริกก็โขลกเสร็จแล้ว ผมเลยตักมาใส่ในถ้วยเล็กแล้วบีบมะนาว ใส่น้ำปลา น้ำตาล แล้วก็ผงอุมามิลงไปแค่นั้นเอง เป็นอันเสร็จพิธี ส่วนใครไม่ชอบกินผงชูรสก็ไม่ต้องใส่ก็ได้นะครับ บางคนบอกกินเยอะแล้วหัวจะล้าน อันนี้ไม่รู้ว่าจริงรึเปล่า?

ส่วนถั่วพลูผมก็เด็ดเอาใยแข็งๆด้านข้างมันออกหมดแล้ว ถ้าเหม็นเขียวก็เอาไปลวกแป๊บนึงแล้วก็เอาขึ้นมาแช่ในน้ำเย็น แม่บอกว่าต้องระวังเพราะถ้าน้ำร้อนไป หรือลวกนานเกินไปจะทำให้ถั่วพลูช้ำ แล้วกลายเป็นสีดำ ผมเลยต้องกะให้พอดี เหนื่อยเหมือนกันแหะทำกับข้าวแค่นี้ ผมยกหลังมือขึ้นมาเช็ดเหงื่อที่ขมับ

ตอนนี้เหลือแค่หั่นถั่วพูให้เป็นอันเล็กๆ 2-3 มิลลิเมตร แล้วเอามาคลุกกับน้ำยำสามรส และหมูบดที่สุกแล้ว จากนั้นก็ใส่ถั่วลิสงคั่วเป็นอันเสร็จสมบูรณ์

ผมตักข้าวใส่โถแล้วถยอยยกออกไป ส่วนคุณครามตอนนี้หายไปไหนก็ไม่รู้ น่าจะอยู่บนห้อง หรือไม่ก็แปลงกล้วยไม้ ป่านนี้คงหิวแล้วมั้งน่ะ

สรุปคือมื้อนี้ก็ผ่านไปด้วยดี ผมลุ้นแทบตายตอนคุณครามตักชิมครั้งแรก เพราะกลัวจะไม่อร่อยเหมือนแม่ทำ รู้ไหมว่าผมใจแทบแป้วตอนคุณครามบอกว่ารสชาติก็งั้นๆ พอกินได้ แต่คนที่บอกว่ารสชาติงั้นๆ เติมข้าวตั้งสองครั้งแหนะ

 หลังจากกินเสร็จคุณครามก็อาสาเป็นคนล้างจานเอง ผมว่าคงจะไม่ดีเท่าไหร่ที่มาให้เจ้าของบ้าน พ่วงด้วยเจ้านายเป็นคนล้างจานให้ อีกอย่างคนอย่างคุณครามจะเคยล้างจานรึเปล่าเหอะ? ไม่ใช่ว่าล้างไปเปียกไป เผลอๆอาจทำจานตกแตกด้วยซ้ำ ดังนั้นไล่ไปอาบน้ำแต่งตัวนั่นแหละถูกแล้ว


........................................

..............................

....................


หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ผมก็โทรไปหาที่บ้าน ได้ข่าวดีว่าพี่ขุนกำลังจะแต่งงาน พ่อกับแม่เลยดีใจกันใหญ่ที่พี่ขุนเป็นฝั่งเป็นฝาสักที อายุก็ปาไปสามสิบกว่าแล้ว มัวแต่ลอยไปลอยมาให้ลูกแม่ค้าแถวตลาดแซวอยู่ได้ทุกวี่ทุกวัน เกิดได้พี่สะใภ้แบบพวกนั้น ผมล่ะแย่แน่เลย ตอนนี้ก็คงสมใจพ่อกับแม่แล้ว..เห็นบ่นว่าอยากอุ้มหลานมาตั้งนานแล้วนิ คุยกันเกือบชั่วโมงก็วางสาย ผมนอนพลิกไปพลิกมา..คิดนั่นคิดนี่ไปเรื่อย น่าแปลกที่ผมกลับรู้สึกใจคอไม่ดียังไงไม่รู้ มันสังหรณ์ใจแปลกๆ บอกไม่ถูกเหมือนกัน  ผมลุกไปแปรงฟันแล้วกะว่าเข้าไปดูคุณครามสักหน่อย ก็มันหน้าที่ผมนี่หน่า

"ก๊อกๆๆ ผมเข้าไปนะครับ" ไม่ได้ยินเสียงตอบรับ แต่ไฟยังเปิดอยู่ เพราะคุณครามกำลังเคร่งเครียดอยู่กับกองเอกสารบนโต๊ะนั่นเอง

"งานยุ่งเหรอครับช่วงนี้?"  ผมถามแล้วเดินมานั่งที่โซฟา ตั้งแต่เดินเข้ามายังไม่เห็นเค้าละสายตาจากพวกเอกสารนั่นเลย คงจะยุ่งอย่างที่ว่าจริงๆนั่นแหละ

"อื่ม แต่เดี๋ยวก็ว่าจะพักแล้วล่ะ พรุ่งนี้ค่อยทำต่อ"

"อยากได้ชาหรือว่านมอุ่นๆไหมครับ ผมจะไปเอามาให้?"

"ไม่เป็นไร ใกล้เสร็จแล้วล่ะ มานี่สิ!!" ผมเดินเข้าไปหา

 "เข้ามาใกล้อีกนิด กลัวชั้นทำอะไรรึไง?" ผมส่ายหัว

"ไม่กลัวก็เขยิบเข้ามา" คุณครามตอบเสียงเรียบ แล้วรวบตัวผมเข้ามากอดทั้งที่ตัวเองก็กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ ...คิ้วเค้าขมวดเป็นปมเชียว คงจะเครียดเรื่องงาน ผมเอามือแตะเบาๆระหว่างคิ้ว แล้วนวดเบาๆที่ขมับ

"อย่าเครียดมากสิครับ.....รู้ไหมว่าเครียดมากมันไม่ดี....." ผมยิ้มให้เล็กน้อย แล้วพูดต่อ "ถ้าอยากให้ผมช่วยก็บอกนะครับ"

"หัดพูดแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ หื่ม?"

"ยังไงครับ?"

"ก็แบบเมื่อกี้นั่นแหละ"

"ทำไมครับ พูดไม่ได้เหรอ?"

"ไม่ใช่ไม่ได้ แต่มันทำให้รู้สึกดีมากๆเลยล่ะ... เหมือนคนที่เค้าเป็นสามีภรรยากันจริงๆ" คำพูดแค่เนี๊ยะอะนะ? ผมไม่เห็นรู้เลย

"ไม่ใช่สักหน่อย" ผมปฏิเสธ

"ตอนนี้ไม่ใช่ แต่ต่อไปได้เป็นแน่ ให้เวลาเตรียมใจไว้เลย"

"ไม่พูดเรื่องนี้ พูดเรื่องอื่นดีกว่า" ผมเขิน

"หึๆ เอาเป็นว่าตามนั้นแหละ รอชั้นหายดีอีกสักนิดก่อนละกัน" ผมไม่ตอบ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ จะว่าไปผมก็เตรียมใจไว้ตั้งแต่ตอนคบเจกับแล้ว แต่คุณครามจะกล้าทำเหรอ? ผมเป็นผู้ชายนะ? นี่แหละคือสิ่งที่ผมกลัว กลัวว่าถ้าเกิดทำขึ้นมาจริงๆ แล้วเค้าไม่ชอบขึ้นมา แล้วผมจะเป็นยังไงล่ะ? บอกตรงๆผมยังไม่มั่นใจตัวเค้าเต็มร้อยหรอก อาจเป็นเพราะเค้าเป็นผู้ชาย ไม่ใช่เกย์ มันยากนะเรื่องแบบนี้

"ดูหนังกันไหม?" เขาปล่อยเอวผมออก แล้วเงยหน้าขึ้นมาถาม

"ดูก็ได้ครับ ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว" หวังว่าการใช้เวลาเล็กน้อยๆด้วยกันแบบนี้ จะช่วยให้เราสองคนมีช่องว่างน้อยลง ผมคิดในใจ

"ชอบหนังประเภทไหน?" คุณครามลุกไปเอาผ้าห่มมาปูที่หน้าทีวีโฮมเทียร์เตอร์ แล้วก็ปิดไฟ

"ดูได้ทุกอย่างครับ แต่ถ้าชอบที่สุดคงเป็นแฟนตาซี กับผจญภัย"

"งั้นดู Hunger Game 3 ไหม? หรือจะดู Fifty Shades ดี?" นึกถึงหนังเรื่อง Fifty Shades of Grey ที่คีย์ชวนไปดูครั้งก่อน มีแต่ฉากอิโรติก 22+ ถึงว่าเค้าระบุอายุผู้เข้าชมด้วย แถมยังฉายแค่รอบดึกอีก

"ชั้นว่าดูอันหลังดีกว่าเนอะ ยังไม่ได้ดูเลย? นายว่าดีไหม?"

"ไม่ดี" ผมส่ายหน้าปฏิเสธ ยังไงก็ไม่ดี ขืนดูหนังนั่นตอนนี้ผมต้องแย่แน่เลย

"ไม่ดียังไง?" คุณครามถามแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่

"ก็มัน....... ช่างเถอะคุณอยากดูก็ดู แต่ผมจะกลับห้องนะ" เอาสิ ถ้าดูจริงผมก็จะกลับจริงนั่นแหละ รู้หรอกว่าจะแกล้ง

"หึๆๆ แกล้งนิดเดียวก็งอนละ งอนบ่อยๆนะชั้นชอบ" คุณครามลุกไปเปิดเครื่องเล่นแล้วก็หยิบหมอนกับผ้าห่มมา แต่เอามาแค่ใบเดียวนี่สิ แล้วผมอะ?

"ไม่ต้องมองอย่างนั้น นายก็นั่งกับชั้นแบบนี้ไง"

"เห้ย!!" คุณครามยกผมมาวางไว้กลางหว่างขาเค้าอย่างรวดเร็ว

"หึๆๆ ตัวแข็งเชียว" เค้ากอดผมจากด้านหลัง แล้วให้ตัวผมผิงอยู่กับหน้าอกเค้า บอกเลยว่าทำแบบนี้ผมดูหนังไม่รู้เรื่องหรอกนะ

"อย่าดิ้นสิ หนังมาแล้ว"

"ก็คุณ..../ ชู้ววววววว!!"

"หนาวไหม?" เขากระซิบถาม ก็จะไม่ให้หนาวได้ไงอะ ก็เล่นเปิดแอร์เย็นยิ่งกว่าขั้วโลกขนาดนี้

"อื้ม" ผมตอบเบาๆ ตาก็จ้องหน้าจอพลาสม่าทีวีตรงหน้า เค้าคงไม่เห็นหรอกว่าผมหน้าแดงขนาดไหน

"งั้นชั้นกอดแน่นอีกนิดนะจะได้อุ่น" นี่ยังไม่แน่นอีกเหรอ? ผมคิดในใจ

เราดูหนังอยู่ท่านั้นจนหนังจบแผ่นแรก คุณครามเลยถามว่าจะดูต่ออีกไหม? ผมเลยส่ายหน้าปฏิเสธ เพราะมันดึกแล้ว พรุ่งนี้ยังมีอะไรที่ต้องทำอีกเยอะโดยเฉพาะคุณคราม

"งั้นผมไปนอนนะครับ ฝันดีครับ"

"อื้ม ฝันดี"
....................
.................
.............

"เดี๋ยวขิง...นอนที่นี่ด้วยกันไหม?"




...............................................

....................................

...........................

................








หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.17 ☆ (10/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 10-12-2015 20:40:41
น่อวววว เนียนมากอ่ะคุณคราม เดี๋ยวตอดเดี๋ยวจับ มือเป็นปลาหมึกเชียวว  :z2:

ปล.คุณคนเขียนพิมพ์ผิดนิดนึงนะคะ 'ทะลึ่ง' ค่ะ ไม่ใช่ 'ละทึ่ง'
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.17 ☆ (10/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 10-12-2015 21:01:39
น่อวววว เนียนมากอ่ะคุณคราม เดี๋ยวตอดเดี๋ยวจับ มือเป็นปลาหมึกเชียวว  :z2:

ปล.คุณคนเขียนพิมพ์ผิดนิดนึงนะคะ 'ทะลึ่ง' ค่ะ ไม่ใช่ 'ละทึ่ง'


ขอบคุณครับ พิมพ์ในไอแพดมันเด้งตัวสะกดเองบ่อยมาก แต่มันก็ช่วยเราสะกดได้ไง ^^  Thank you  krab
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.17 ☆ (10/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 10-12-2015 21:13:24
เราทำงานเครียดๆได้มาอ่านแล้วดีมากเลยอ่ะ ขิงเอาใจใส่ดูแลขนาดนี้นายหัวจะไม่รักไม่หลงได้ไง
คนรักกันดูแลกันนะถูกต้องแล้ว มันดูเหมือนคู่สามีภรรยากันจริงๆนั้นแหละสามีทำงานนอก ภรรยาทำงานบ้านสุดยอด
ปล.ชอบตอนนี้จังบวกเป็ดครับ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.17 ☆ (10/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 10-12-2015 21:15:07
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.17 ☆ (10/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 10-12-2015 22:34:34
พอพี่แกรุก ก็รุกหนักจริงๆ  :ling3:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.17 ☆ (10/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 11-12-2015 00:20:14
 :hao6:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.17 ☆ (10/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 11-12-2015 00:31:51
ร้ายนะคะคุณครามมม แต่เราชอบ  :hao6:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.17 ☆ (10/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 11-12-2015 03:11:26
อืัอหือออออออคุณครามตั้งแต่บอกรักนี่หยุบหยับๆตลอดเลยนะคะ :hao7: :hao7:

ยังไม่ทันจะคบกันข้ามวันคิดจะไปพบพ่อแม่ซะละ ดีงามมากกกกกกก :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.17 ☆ (10/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 11-12-2015 08:13:12
เราทำงานเครียดๆได้มาอ่านแล้วดีมากเลยอ่ะ ขิงเอาใจใส่ดูแลขนาดนี้นายหัวจะไม่รักไม่หลงได้ไง
คนรักกันดูแลกันนะถูกต้องแล้ว มันดูเหมือนคู่สามีภรรยากันจริงๆนั้นแหละสามีทำงานนอก ภรรยาทำงานบ้านสุดยอด
ปล.ชอบตอนนี้จังบวกเป็ดครับ

ขอบคุณครับ ปล.ที่บ้านเค้าหนาวมาก 14-15 องศา ป่วยเลยสิครัช ตอนนี้แต่งอย่างมืน
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.17 ☆ (10/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 11-12-2015 08:15:57
พอพี่แกรุก ก็รุกหนักจริงๆ  :ling3:

พี่แกคงจะถือคติ...อายครูไม่รู้วิชา อายภรรยาไม่มีบุตร 555555
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.17 ☆ (10/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 11-12-2015 08:18:22
ร้ายนะคะคุณครามมม แต่เราชอบ  :hao6:


สายหื่นล่ะสิ!!! 555555 NC สำคัญไหมอะคนอ่าน อันนี้ถามจริงนะ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.17 ☆ (10/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 11-12-2015 08:22:00
อืัอหือออออออคุณครามตั้งแต่บอกรักนี่หยุบหยับๆตลอดเลยนะคะ :hao7: :hao7:

ยังไม่ทันจะคบกันข้ามวันคิดจะไปพบพ่อแม่ซะละ ดีงามมากกกกกกก :katai2-1: :katai2-1:


คือห่างเมียไปนานค่ะคุณขา ไหนจะเดี้ยง  ไหนจะเมา ไหนจะงานอีก  คงไม่มีเวลาไปหาสาวหรอกเพราะช้ำรัก  พอมาเจองี้ก็ต้องมีบ้างคริๆ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.17 ☆ (10/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 11-12-2015 10:15:04
ไม่อยากจะเชื่อว่านายหัวที่มีท่าทีเย็นชา เหมือนคนถือตัวแถม แถมชอบหน้าดุใส่ขิงจะมีโมเม้นแบบนี้กับเขาด้วย  :o8: :-[ :-[ :-[ :-[ โอ้ยเขินแทนขิง..แต่มันค้างนะค่ะ..ไม่รู้ว่าขิงตอบตกลงไหม...ฟินมาเลยตอนนี้
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: คนแต่ง ...แต่งได้น่ารักดีค่ะ ..ชอบ ชอบ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.17 ☆ (10/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 11-12-2015 11:04:03
ไม่อยากจะเชื่อว่านายหัวที่มีท่าทีเย็นชา เหมือนคนถือตัวแถม แถมชอบหน้าดุใส่ขิงจะมีโมเม้นแบบนี้กับเขาด้วย  :o8: :-[ :-[ :-[ :-[ โอ้ยเขินแทนขิง..แต่มันค้างนะค่ะ..ไม่รู้ว่าขิงตอบตกลงไหม...ฟินมาเลยตอนนี้
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: คนแต่ง ...แต่งได้น่ารักดีค่ะ ..ชอบ ชอบ

ตอนแต่งเค้าก็แต่งไปเขินไปเหมือนกัน ขอบคุณครับคุณPFlove เรียกเค้าภูก็ได้จ้า
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.17 ☆ (10/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 11-12-2015 11:23:39
ตอดนิด ตอดหน่อย ก็เอานะคุณคราม  :hao7:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.17 ☆ (10/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 11-12-2015 14:27:21
 :ling3:
ตอดนิด ตอดหน่อย ก็เอานะคุณคราม  :hao7:


เป็นใครก็เอานะ นิดๆหน่อยๆก็ยังดีกว่าไม่ได้ สงสัยนายหัวเราจะคิดแบบนี้55555
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.17 ☆ (10/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: aoraor ที่ 11-12-2015 16:38:20
เดี๋ยวๆ อู้ย หัวใจจิวาย ทำไมจู่ๆนายหัวอ่อยหนักขนาดนี้ 5555555

"เพราะแฟนเป็นเหนือไง เลยต้องฝึกไว้ ไปอยู่ที่โน้นจะได้ไม่ลำบาก"  <--- หัดพูดแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ แหม่ๆแล้วให้เราบ่นตั้งนาน
เสือซุ่มเหรอคะ นายหัวขาาา :hao6:

ปล.เราไม่ได้ใจร้อนนะจริงจริ๊ง ไม่ได้รอฉากอะไรเลยด้วย เชื่อเราสิ//ทำหน้าใสซื่อ 55555555
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.17 ☆ (10/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 11-12-2015 17:15:09
ไม่อยากจะเชื่อว่านายหัวที่มีท่าทีเย็นชา เหมือนคนถือตัวแถม แถมชอบหน้าดุใส่ขิงจะมีโมเม้นแบบนี้กับเขาด้วย  :o8: :-[ :-[ :-[ :-[ โอ้ยเขินแทนขิง..แต่มันค้างนะค่ะ..ไม่รู้ว่าขิงตอบตกลงไหม...ฟินมาเลยตอนนี้
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: คนแต่ง ...แต่งได้น่ารักดีค่ะ ..ชอบ ชอบ

ตอนแต่งเค้าก็แต่งไปเขินไปเหมือนกัน ขอบคุณครับคุณPFlove เรียกเค้าภูก็ได้จ้า


ยินดีที่รักจักค่ะคุณภู .. เราเป็นสาววายชอบอ่านนิยายวายอ่านมาหลายปีแล้วแหละและหยุดอ่านไปสักพักเพราะว่าติดภาระหน้าที่
นิยายคุณภูสนุกดี..แต่งได้ดีมากค่ะ... o13  อ่านแล้วยิ้มมีความสุขค่ะ ..รอติดตามตอนต่อไปนะค่ะ
ปล.ต่อไปคงมีpartของน้องคีย์กับหมอตั้นนะค่ะ ..ชอบนิสัยพระเอกขี้เล่นแบบหมอตั้นและนายเอกฤทธิ์เยอะแบบคีย์ค่ะ.. :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.17 ☆ (10/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 11-12-2015 22:31:01
เดี๋ยวๆ อู้ย หัวใจจิวาย ทำไมจู่ๆนายหัวอ่อยหนักขนาดนี้ 5555555

"เพราะแฟนเป็นเหนือไง เลยต้องฝึกไว้ ไปอยู่ที่โน้นจะได้ไม่ลำบาก"  <--- หัดพูดแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ แหม่ๆแล้วให้เราบ่นตั้งนาน
เสือซุ่มเหรอคะ นายหัวขาาา :hao6:

ปล.เราไม่ได้ใจร้อนนะจริงจริ๊ง ไม่ได้รอฉากอะไรเลยด้วย เชื่อเราสิ//ทำหน้าใสซื่อ 55555555


อย่าแซวนายหัวสิคะคุณอ้อ เดี๋ยวโดนฆ่าถ่วงน้ำนะจะบอกให้ ^^ รู้จักไหมผู้มีอิทธิพลภาคใต้น่ะ

ปล_เชื่อค่ะว่าคุณอ้อใสจริงๆ งั้นไม่เอานะคะNC มันจะเสียภาพพจน์ 5555
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.17 ☆ (10/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 11-12-2015 22:34:10
ไม่อยากจะเชื่อว่านายหัวที่มีท่าทีเย็นชา เหมือนคนถือตัวแถม แถมชอบหน้าดุใส่ขิงจะมีโมเม้นแบบนี้กับเขาด้วย  :o8: :-[ :-[ :-[ :-[ โอ้ยเขินแทนขิง..แต่มันค้างนะค่ะ..ไม่รู้ว่าขิงตอบตกลงไหม...ฟินมาเลยตอนนี้
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: คนแต่ง ...แต่งได้น่ารักดีค่ะ ..ชอบ ชอบ




ตอนแต่งเค้าก็แต่งไปเขินไปเหมือนกัน ขอบคุณครับคุณPFlove เรียกเค้าภูก็ได้จ้า


ยินดีที่รักจักค่ะคุณภู .. เราเป็นสาววายชอบอ่านนิยายวายอ่านมาหลายปีแล้วแหละและหยุดอ่านไปสักพักเพราะว่าติดภาระหน้าที่
นิยายคุณภูสนุกดี..แต่งได้ดีมากค่ะ... o13  อ่านแล้วยิ้มมีความสุขค่ะ ..รอติดตามตอนต่อไปนะค่ะ
ปล.ต่อไปคงมีpartของน้องคีย์กับหมอตั้นนะค่ะ ..ชอบนิสัยพระเอกขี้เล่นแบบหมอตั้นและนายเอกฤทธิ์เยอะแบบคีย์ค่ะ.. :L2: :L2:

ขอบคุณครับ อ่านแล้วชื่นใจ มีกำลังใจแต่งต่อ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.18 ☆ (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 11-12-2015 22:38:26




อันดามัน...ซ่อนรัก
(Andaman In Love)
ตอนที่ 18





น่าแปลกนะครับทั้งที่ดึกขนาดนี้แล้ว แต่เราสองคนยังนอนลืมตากันอยู่เลย ความมืดแล้วกับความเงียบทำให้เราได้คิดอะไรมากขึ้น แต่ไม่ใช่กับผมตอนนี้ เรานอนอยู่บนเตียงเดียวกัน ห่างกันไม่ถึงคืบแต่ก็ไม่คิดที่จะขยับตัวไปไหน มีแค่มือเท่านั้นที่ยังจับกันอยู่

"นอนไม่หลับเหรอ?" คุณครามถาม

"ครับ.....คุณก็เหมือนกันเหรอ?"

"อื่ม คิดอะไรนิดหน่อยน่ะ"

"คิดอะไรเหรอครับ  บอกผมได้ไหม?"

"ก็หลายเรื่อง รวมทั้งเรื่องของเราด้วย" ผมฟังเงียบๆ ไม่กล้าถามต่อว่าเป็นยังไง รอให้เขาเป็นคนพูดขึ้นมาเองจะดีกว่า

"ชั้นไม่เคยคิดจะรักใครอีกเลย...หลังจากผู้หญิงคนนั้นจากไป จนมาเจอนาย ตอนแรกที่เจอรู้สึกไม่ชอบหน้าเลยสักนิด แต่พอนานวันเข้า นายกลับทำให้ชั้นค่อยๆหันกลับมามองนายทีละนิด จากความสนใจก็กลายเป็นว่าชั้นชอบทุกอย่างที่นายทำ หวงแม้กระทั่งรอยยิ้มของนายกับคนอื่น ไม่ชอบให้อยู่ใกล้ใคร"

"สับสนว่าทำไมถึงต้องเป็นอย่างนั้น แต่อีกใจก็คิดอยู่เหมือนกันว่านี่เราชอบเค้าไปแล้วงั้นเหรอ? ชั้นพยายามห้ามตัวเองอยู่หลายครั้งไม่ให้ชอบนาย แต่ห้ามเท่าไหร่ก็เหมือนยิ่งยุ ตอนที่คุณแม่ขอนายเป็นลูกชั้นก็ดีใจนะ..ที่ได้นายมาเป็นน้อง แต่พอนายบอกว่าพี่น้องเค้าไม่ทำกันแบบนั้น ชั้นก็คิดนะว่ามันก็จริง แต่ก็ยังไม่อยากยอมรับหรอกว่าตัวเองชอบนายไปแล้วจริงๆ เหมือนคนหลอกตัวเองน่ะว่าไหม?"

"ขอโทษนะที่ทำให้สับสน ขอโทษที่ไม่เคยชัดเจน แต่อยากให้รู้ไว้นะ...ว่าตอนนี้ชั้นรักนายจริงๆ ชั้นอาจไม่ได้อ่อนโยนหรือโรแมนติกแบบใคร แต่ชั้นจะไม่ทำให้นายเสียใจอีกแน่ ชั้นสัญญา"

"ขอบคุณครับ...ผมก็จะไม่ทำให้คุณเสียใจอีกเหมือนกัน งั้นเรามาเดินไปด้วยกันนะครับ" ผมพูดแล้ว ผมพลิกตัวมองหน้าเค้า

.....................................
...............................
..........................


"ขอกอดได้ไหม?" ผมพยักหน้า แล้วขยับตัวเข้าหา เค้าก็เหมือนกัน


.....................................
...............................
..........................

ผมตื่นแล้วครับ แต่คุณครามยังหลับอยู่ ผมชอบเค้าเวลานี้จัง ดูน่ามอง น่าค้นหา แล้วก็ดูอบอุ่นไปด้วยกัน แต่จะมัวมานอนมองเค้าแบบนี้คงไม่ได้ เพราะถ้าสายไปกว่านี้ คนอื่นเค้ามาเห็นจะแย่เอา

วันนี้คุณครามบอกว่าจะพาไปดูบริษัทจิวเวอรี่ แต่ต้องแวะไปดูฟาร์มมุกก่อน ครั้งนี้ผมไม่ลืมพกกล้องถ่ายรูปไปด้วยอีกแน่ ไปอยู่ที่เกาะครั้งก่อนทำให้ผมรู้จักกับพี่ๆ ลุง ป้า น้า อา ที่นั้นอีกตั้งหลายคน พวกเค้าสอนผมพูดภาษาใต้ คิดว่ากลับไปครั้งนี้คงได้ใช่บ้างแหละ ไม่ประโยคก็สองประโยค

"สวัสดีครับคุณขิง มาอีกแล้วนะครับ ไม่รู้ว่าติดใจอะไรที่นี่รึเปล่าครับ?" พี่เท่งแซว

"ไม่มีหรอกครับ ก็ตามนายหัวของพี่เท่งมานั่นแหละ"

"นั่นสิครับ ผมก็ว่าใครจะกล้ามาจีบคุณขิงกัน ก็นายหัวเล่นมองหาตลอดเวลาขนาดนี้"

"เห้ย!! ไม่จริงนะครับ ผมกับคุณครามไม่ได้..."

"ไม่ต้องห่วงหรอกครับ คนที่นี่เค้ารักนายหัว ถ้านายหัวรักใครพวกเราก็รักครับ"

"งั้นผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ เดี๋ยวจะโดนหักเงินเดือน หึๆๆๆ"

นี่ผมกับคุณครามแสดงออกขนาดนั้นเลยเหรอ ผมยังตกใจไม่หายเลยนะ กลัวคนที่นี่จะรับไม่ได้ แต่พอรู้อย่างนี้แล้วก็โล่งอก จะว่าไปก็แอบเขินอยู่เหมือนกันที่ได้ยินแบบนั้น ถึงเค้าจะงานยุ่งอยู่ตลอดตอนอยู่ที่นี่ แต่เวลาหันไปทีไรก็เห็นเค้ามองมาตลอด เหมือนตอนนี้เลย

"เหนื่อยไหมครับ?" ผมเดินไปหาคุณครามที่เดินดูคนงานกำลังฝังตัวนิวเคลียสใส่ในตัวหอย

"ร้อนมากกว่า" ผมหยิบน้ำติดมือมาแล้วยื่นให้เค้า เขาก็เลยยกดื่มมันซะตรงนั้นเลย ผมเบนสายตามองทางอื่น เพราะตอนเขากำลังยกน้ำขึ้นดื่มมันเซ็กซี่มาก ยิ่งตอนลูกกระเดือกเลื่อนขึ้นลงอีก

"อ้าวนายหัวกินน้ำแล้วเหรอครับ พวกผมกะว่าจะเอาน้ำตะไคร้มาให้ แต่ไม่ทันซะแล้ว" พี่โชคถาม

"ป๊าบ!!"

"อะไรวะไอ้เท่ง..มึงตบหัวกูทำไม?" พี่โชคโวยวาย เอามือลูบหัวตัวเองปอยๆ ยิ่งตัดสกินเฮดด้วยเสียงดังป๊าบเลย

"มึงมันโง่ ไม่รู้เรื่อง นายหัวเค้าไม่กินน้ำตะไคร้แล้ว" พี่เท่งทำหน้าจริงจัง

"ทำไม?" พี่โชคขมวดคิ้วถาม

"ก็นายหัวเค้าหันมากินน้ำขิงแล้วมึงไม่รู้ไง แล้วดูว่าจะชอบมากด้วย ติดไม่ยอมห่างเลย เอ้ย!! กินไม่ยอมปล่อยเลย ฮ่าๆๆๆ"

"อ้อ ฮ่าๆๆ ข้าก็ว่างั้น" ได้แบบนี้ผมก็เขินจนทำตัวไม่ถูกน่ะสิ ยิ่งสองคนนี่รวมตัวกัน ยิ่งเสียงดังเข้าไปอีก ปกติก็เสียงกันอยู่แล้ว

"จริงไหมครับนายหัว?" พี่เท่งถามแล้วยักคิ้วล้อเลียนผม

"อื่ม!!" คุณครามตอบแล้วหันมามองผม

"โห่....ฮิ้ววววว นายหัวของเราเจ๋งจริงๆ มียอมรับด้วย" พี่เท่งโห่...พี่โชคฮิ้ว เข้ากันดีจริงเนอะ

"กิ้วๆ คุณขิง ดูแลนายหัวของพวกผมให้ดีนะครับ เพราะนายหัวของผมเป็นโรคหัวใจ...หัวใจเดาะ แต่ตอนนี้มีคนมาดามแล้ว ไอ้เท่งก็ดีใจๆ"

"คืนนี้ฉลอง มันต้องมีฉลองกันสักหน่อยแล้วเว้ย" พี่โชคพูดเสียงดัง

"พวกมึงไม่ต้องมาเอากูมาอ้าง จะกินก็กินเดี๋ยวให้ห้องครัวทำกับแกล้มให้"

"ขอบคุณครับนายหัว ฮิๆๆ" สองคนนั่นยิ้มแล้วยกมือไหว้ขอบคุณ

"ไปกันเถอะ ยืนตรงนี้นานเดี๋ยวไม่สบาย" คุณครามทำท่าว่าจะจูงมือผมไป แต่ผมชะงักไว้

"อะไร?" คุณครามหันมาถาม

"ผมเดินเองได้ครับ ไม่ต้องจูง"

"ทำไม?"

"ก็....." ผมหันไปมองทั้งพี่เท่ง แล้วก็พี่โชคที่กำลังดูอยู่ ไม่ต้องบอกเลยว่าพวกเค้าจ้องทำไม เพราะคุณครามประคองผมอย่างกะคนท้องขนาดนี้...ไม่มองก็แปลกแล้ว!! ผมเลยไม่อยากให้จูง เพราะแค่นี้ก็ส่งสายตามาแซวจะแย่ ไหนจะคนอื่นอีก

"อ้อ!!...อื่ม.....ถ้าไม่ทำให้ชินตอนนี้ เดี๋ยวพวกมันก็แซวอีกนั่นแหละ ทำใจเหอะ ถ้าพวกมันเบื่อเมื่อไหร่..ก็คงหยุดแซวเองแหละ" พูดง่าย แต่กว่าจะหยุดแซวผมไม่เขินจนตัวแดงหมดอะ

ตอนกลางวันพวกเราก็นั่งกินข้าวกับพวกคนงานนี่แหละ ไม่มีการแบ่งหรอกว่าลูกน้องกินไหน นายหัวกินไหน ความจริงเค้าก็จัดโต๊ะไว้สำหรับนายหัวอยู่แหละ แต่คุณครามไม่ชอบนั่งกินข้าวคนเดียว เลยยกมากินกับทุกคนตั้งแต่มาทำงานที่นี่วันแรกแล้ว ดังนั้นวันนี้พวกเราเลยมาสุมหัวนั่งกินข้าวกันเป็นวงๆ ใครมีกับข้าวอะไรพิเศษก็จะเอามาแบ่งกัน ผมว่าแบบนี้ก็เจริญอาหารไปอีกแบบนะ

คุณครามเล่าว่าตอนมาทำงานที่นี่แรกๆแทนคุณพ่อของเขา ตอนนั้นยังใหม่อยู่ ยังไม่รู้อะไรพวกนี้เลย ก็ได้พี่เท่ง พี่โชคนี่แหละที่เป็นคนช่วย ส่วนอันไหนไม่เข้าใจก็ต้องศึกษาเองบ้าง ถามคุณป้าบ้างหรือบางครั้งก็ต้องถามพวกคนงานบ้างว่าคิดเห็นยังไงกับเรื่องพวกนี้ เพราะพวกเค้าอยู่ที่นี่ ทำงานที่นี่มาก่อน

ฟาร์มหอยมุกที่นี้มีหลายเจ้า แต่ของเราเน้นอยู่กันแบบครอบครัว มีปัญหาอะไรก็ปรึกษากันได้ทุกเรื่อง แล้วค่าแรงที่นี่ก็ดีกว่าที่อื่นด้วย ดังนั้นชาวบ้านเลยพอใจที่จะอยู่ที่นี่ บางคนทำมาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ พอรุ่นลูกก็มาทำต่อที่นี่ด้วย แต่ว่ารุ่นลูกนี่คงจะอายุพอๆกับคุณคราวนี่ล่ะมั้ง

"ป้าดีครับ ของผมไม่ต้องใส่ผักชีนะครับ ขิงเค้าไม่กินผักชี" ป้าดีแกทำครัวด้วย ทำงานเหมือนคนอื่นนั่นด้วย ดังนั้นเรื่องอาหารการกินป้าแกจะเป็นคนดูแลเองทั้งหมด มีผู้ช่วยอีกสองคน คือป้าศรี กับน้าพร

ทานข้าวเสร็จแล้วทุกคนก็กลับมาทำงานกันต่อ แต่ระหว่างนั้นลุงชัย พ่อพี่โชคก็วิ่งมาบอกว่า คนงานได้รับบาดเจ็บเพราะปีนขึ้นไปซ่อมหลอดไฟบนเสาแล้วพลัดตกลงมา คุณครามเลยให้เอาเรือออกไปโรงพยาบาล เพราะกลัวว่าจะเป็นอะไรมาก

"งั้นคืนนี้เราคงได้นอนที่นี้แล้วล่ะ" คุณครามหันมาบอก

"แต่เราไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามาเลยนะครับ"

"ไม่เป็นไร ใส่ของชั้นก่อนก็ได้ เดี๋ยวให้ป้าพรเอาไปสักให้ จะได้ใส่กลับพรุ่งนี้ได้" ผมก็พยักหน้า เพราะมันเหตุสุดวิสัยนี่เนอะ


บ่ายคล้อยแล้ว ตะวันกำลังจะตกดิน นกทะเลพวกนี้ก็กำลังบินกลับรัง พี่คนที่ตกลงมาเมื่อกี้ก็กลับมาแล้ว คุณครามเลยอนุญาตให้พักจนกว่าเท้าจะหาย ดีนะที่ไม่เป็นอะไรมาก แค่เอ็นพลิกเฉยๆ พักสองสามวันก็คงอาการดีขึ้น

แสงพระอาทิตย์หมดแล้ว พระจันทร์กำลังมาแทนที่ ตอนนี้คนงานผู้ชายกับผู้หญิงบาง
ส่วนกำลังตั้งวงกินเหล้ากัน โดยมีแกนนำคือพี่เท่งกับพี่โชคนั่นแหละ ได้ยินข่าวมาว่าพี่เท่งก็กำลังจะแต่งงาน ส่วนเจ้าสาวเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน แถมยังทำงานด้วยกันที่นี่อีก

"นายหัวครับ ดื่มด้วยกันสักหน่อยนะครับ ถือว่าเป็นปาร์ตี้สละโสดให้กับไอ้เท่งมันนะครับ" คุณครามหันมามองหน้าผม ว่ากินได้ไหม? ผมเลยพยักหน้าตอบรับไปแล้วกำชับว่าอย่ากินเยอะ
ทีแรกคุณครามว่าจะไม่กินแล้ว แต่พอถูกขยั้นขยันมากเข้า ก็อดไม่ได้ ลูกน้องคนสนิทจะแต่งงานทั้งที ผมเห็นแฟนพี่เท่งแล้วล่ะ เพราะพี่เท่งพามาแนะนำ เธอชื่อพี่สร้อย สวยตาคม จมูกโด่งตามฉบับสาวใต้เลย เพียงแต่ผิวไม่ได้คล้ำ ออกแทนๆ ผมหยักโศกนิดหน่อย ส่วนคนที่นั่งข้างพี่สร้อยเป็นเพื่อนพี่เค้า ชื่อพี่สา คนนี้สวยหวานกว่านิดหน่อย ตาก็หวานปนคม ผิวเหลือง โดยรวมถือว่าสองสาวนี้สวยทีเดียวเลยล่ะ
 
"นายหัวคะ ลองดื่มเหล้าดองยาของพ่อสาดูไหมคะ เผื่อนายหัวจะชอบ" ยังไม่ทันได้ตอบอะไรพี่สาก็เทเหล้าใส่ให้คุณครามไปแล้ว เลยจำใจต้องดื่มนั่นแหละ ไม่รู้ว่าเหล้าดองยาที่ว่านั่นจะเหมือนกับที่บ้านผมรึเปล่า เพราะแถวบ้านผมเค้าจะใส่ตัวสมุนไพรเป็นสิบชนิด ทั้งช้างกระทืบโรง กำลังเสือโคร่ง   บลาๆ แต่เห็นบางที่ก็เอาเหล้าดองกับงู แมงป่อง หรือกระเจี๊ยวเสือก็ยังมีเลย คุณครามยกดื่มแล้วเอากับแกล้มตาม คงจะแรงน่าดู สังเกตได้จากสีหน้าตอนดื่ม

"เอาอีกนิดไหมคะนายหัว" พี่สาถาม

"พอแล้วล่ะ" คุณครามปฏิเสธ เพราะนี่ก็หลายแก้วแล้ว ผมเห็นเธอแอบเติมให้เรื่อยๆ ส่วนคุณครามก็มัวคุยกับคนงานไปเรื่อย จะว่าไปตอนนี้หน้าของเค้าก็แดงมากแล้วนะ ลามมาจนถึงคอเลย ดูจากสภาพตอนนี้แล้วคงเริ่มกรึ่มๆแล้วล่ะ แต่ที่ไม่โอเคผมว่าคงจะเป็นพี่สาที่เริ่มเกาะแกะคุณครามนี่แหละ ผมไม่ได้ว่าเธอนะ แต่วันนี้เธอใส่ชุดได้ยั่วยวนมาก ถ้าจิ๊กโก๋แถวบ้านผมเห็น คงมีแซวแล้วลากเข้าโพงหญ้าบ้างอะ

แรกๆก็ไม่เท่าไหร่หรอกเพราะมีพี่เท่ง กับพี่โชคดูให้ แต่ตอนนี้สองคนนั่นยังเอาตัวไม่รอดเลย จะดูแลคุณครามได้ยังไง ผมไม่อยากเห็นเลยลุกไปเข้าห้องน้ำเสีย อยากโกรธก็โกรธไม่ลงเพราะนั่นมันงานฉลอง คงจะบังคับได้ยาก

ผมไม่ใช่คนกินเหล้าเหมือนพวกเค้า อยู่ที่นั่นเดี๋ยวจะพาวงกร่อยเปล่าๆเลยเลี่ยงออกมาในสวน รับลมสักหน่อยจะดีกว่า

"นี่ไอ้จ่อยไหนล่ะของที่แกว่า รีบๆเอามาเดี๋ยวจะไม่ทันการ...นายหัวเข้านอนไปซะก่อน" ว่ายังไงนะ เกี่ยวอะไรกับคุณคราม ผมได้ยินเสียงผู้หญิงพูดขึ้นมา

"ใจเย็นก่อนอีสา ข้ากำลังหาอยู่ แล้วไหนล่ะเงิน?" พี่สางั้นเหรอ? เมื่อกี้ยังอยู่ที่วงเหล้าอยู่เลยหรือว่าที่นี่มีคนชื่อสาหลายคน ผมแอบอยู่ในพุ่มไม้มองอยู่ แต่มันมืดเกินไปก็เลยไม่เห็น

"อะนี่เอาไป แล้วเองก็ปิดปากเงียบด้วยนะ" ผมว่าเสียงคุ้นๆ แต่ยังไม่มั่นใจ อยากเห็นหน้าแต่กลัวชะเง้อออกมาดูแล้วจะถูกจับได้

"แล้วจะเชื่อได้ยังไงว่ามันได้ผลจริง?" ผู้หญิงคนนั้นถาม

"ข้าเอาหัวเป็นประกันเลย รับรองว่าคืนนี้ทั้งคืนนายหัวสนุกกับเองได้ทั้งคืน หึๆๆ" เลวมาก!! ไม่น่าเชื่อว่า..ขนาดอยู่บนเกาะขนาดนี้ยังมีคนสรรหามาได้อยู่

"ดี...งั้นชั้นไปล่ะ"

"เอ่อ!! ถ้าได้ดีเป็นนายหญิงแล้วอย่าลืมข้าล่ะ"

"เอ่อหน่า ไม่ลืมหรอก" ตอนนี้ผมค่อนข้างแน่ใจแล้วล่ะว่าเป็นพี่สาเพื่อนพี่สร้อย เพราะถึงไม่เห็นหน้าแต่ผมจำเสื้อผ้าชุดสีแดงเพลิงของเธอได้ พอพี่สากับผู้ชายคนนั้นเดินออกไปแล้ว ผมเลยออกจากพุ่มไม้ตรงนั้นมา ไม่คิดเลยว่าจะมาเจอเรื่องแบบนี้ เคยเห็นแต่ในหนัง ไม่คิดว่านอกจอก็เอามาใช้ด้วยเหมือนกัน แล้วจะทำยังไงดี คิดๆสิขิง

"นายหัวคะ ดื่มนี่อีกแก้วนะคะ แล้วค่อยกลับ"

"อึกๆๆ" ผมมาไม่ทันแล้วล่ะ คุณครามดื่มแก้วที่พี่สาเทให้ไปแล้ว

"อ้าวขิง..ไปไหนมา ชั้นกำลังว่าจะไปตามอยู่พอดี" คุณครามถาม ดีนะที่ไม่เมาขนพูดไม่รู้เรื่องแบบสองคนนั่น ไม่งั้นผมคงแย่ คุยกับคนเมาไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยนะ

"ผมไปเข้าห้องน้ำมาครับ"

"ง่วงรึยัง?" คุณครามจับมือ ลูบเบาๆ ทำให้พี่สามองอย่างไม่พอใจ

"ครับ งั้นเรากลับกันเลยไหมครับ?"

"อื่ม"

"มาครับ..เดี๋ยวผมช่วยพยุง" กินเหล้าแรงขนาดนี้ผมนึกถึงตอนแรกๆที่มาทำงานที่นี่เลย ตอนนั้นคุณครามก็เมาแบบนี้แหละ อาละวาดจนบ้านแทบพังแหนะ

"อ้าว นายหัวจะกลับแล้วเหรอคะ ไม่อยู่ต่ออีกสักหน่อยเหรอคะ?" พี่สายังมีหน้ามาถามอีกนะ ถ้าไม่กลับก็ถูกพี่กินน่ะสิ คุณครามนี่ก็อีกคนไม่ระวังตัวเลย

"คุณครามเมาแล้วครับ พรุ่งนี้ก็มีงานอีก ขืนอยู่พรุ่งนี้คงไม่ได้ทำงานกันพอดีครับ งั้นผมขอพานายหัวไปนอนแล้วนะครับ ฝันดีครับพี่สา" ผมรีบพยุงคุณครามออกมา

"อื้มมม...ขิง โกรธไหมที่ชั้นดื่มขนาดนี้" มีหน้ามาถามอยู่อีกนะ ไหนเมื่อกี้ใครรับปากว่าจะไม่ดื่มเยอะไง

"ชั้นไม่ได้ตั้งใจนะ แต่พวกมันก็เติมให้เรื่อยๆ บอกว่าแก้วสุดท้ายแล้วก็ไม่ฟังกัน"

"คุณครามอยู่เฉยๆสิครับ อย่าเลื้อยแบบนี้ ผมหากุญแจไม่เจอ"

"อ๊ะเจอละ" ผมล่วงเอากุญแจที่กระเป๋ากางเกงเค้า แต่กว่าจะเอาออกมาได้ คนเมาเป็นแบบนี้ทุกคนเลยรึเปล่าเนี๊ยะ?

"คุณครามปล่อยผมก่อนครับ อย่าทำแบบนี้ เดี๋ยวคนอื่นมาเห็น" ผมแกะมือปลาไหลออกแล้วพาเข้ามาในห้อง

"ขิง....ชั้นไม่ไหวแล้ว ชั้นอยากจูบนาย ชั้นควบคุมตัวเองไม่ได้" ก็แหงอะดิ เล่นซัดยาดองซะขนาดนั้นแถมยังมียานั่นผสมด้วย

"คุณ.....อื้อออออออออออ อ่อย!!"

"ก๊อกๆๆ นายหัวคะ หลับรึยังคะ?" เสียงพี่สานิ ผมรีบผลักคุณครามออกแล้วตะโกนตอบไป

"นายหัวหลับไปแล้วครับพี่สา ถ้ามีอะไรค่อยมาหาพะ......อ๊ะ!! อยู่เฉยๆสิครับคุณคราม" ผมเอ็ดเค้าเบาๆ แต่ก็ยังไม่วายซุกซนไม่เลิกอีก

"อื้อออออออออออออ" 

"อ๊ะ!! คุณ....... อึก!! คุณอย่ากัด ผมเจ็บ" ถ้าเกิดเป็นรอยมาพรุ่งนี้โดนแน่ คอยดู

"เดี๋ยวก่อนครับคุณคราม ตั้งสติก่อน"

"ไม่ไหวแล้วขิง ชั้นรู้สึกมากเกินไปจนกลั้นไว้ไม่อยู่แล้ว นะ!!!!!!!!!" อย่าทำเสียงแบบนี้สิ ผมสงสารนะ แล้วก็รู้ด้วยว่ามันทรมาน แต่จะให้ทำยังไงดี

"ไม่อย่านะคุณคราม อย่าเพิ่ง....อ้าห์....." ผมถูกดึงกางเกงผ้าขายาวออกจนหมดอย่างง่ายดาย ส่วนเสื้อก็หายไปตั้งนานแล้ว

"เดี๋ยวก่อนคุณคราม ฮ้า..ฮ้า" เสียงผมหอบหายใจ

"คุณฟังผมให้ดีนะ คุณแน่ใจเหรอว่าทำได้ ผมเป็นผู้ชายนะ คุณทำได้เหรอ?"

"หื้มมมมฮ้าาาา...ทำไมจะไม่ได้ ในเมื่อชั้นถามตัวเองก่อนที่จะยอมรับว่าชอบนายซะอีก" คุณครามเริ่มมีสติขึ้นมาบ้างแล้ว

"แล้วคุณรู้ไหมว่าทำไมตัวเองถึงเป็นแบบนี้ ผมไม่อยากให้เราต้องมาเสียใจทีหลังนะ" ผมถามย้ำอีกครั้ง พี่สานะพี่สาทำไมทำแบบนี้ ผู้หญิงสมัยนี้ร้ายชะมัด

"ชั้นจะไม่เสียใจ เชื่อชั้นสิขิง นะ?" คุณครามกัดฟันข่มความรู้สึกของตัวเองตอนนี้ แล้วผมล่ะ..จะเอายังไงดี??


..........................................

.................................

......................

...........

หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.18 ☆ (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tahpahtarnrop ที่ 11-12-2015 23:06:04
 :z3: จิ้มคนเขียน ตัดแค่ตรงนี้จริงๆใช่ไหมมมม
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.18 ☆ (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 11-12-2015 23:18:55
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.18 ☆ (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 11-12-2015 23:26:02
ใจร้ายตัดบทกันดื้อๆเลย T-T
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.18 ☆ (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 11-12-2015 23:36:56
คนเรามักใหญ่ใฝ่สูงโลภมากจนน่ากลัว  :serius2: ดีที่ขิงเห็นและได้ยินก่อน
คุณภูอย่าตัดค้างค่ะ ใจจะขาดนะ 555555 เค้าจะเปิดซิงกันไหมมม เปิดซิงหรือเปล่าาา  :hao7:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.18 ☆ (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: wwss2220 ที่ 11-12-2015 23:43:40
 :ling1:ปล่อยให้อยากแล้วจากไป...ชริ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.18 ☆ (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 11-12-2015 23:43:50
เอายังไงคะ เอายังง้ายยย
อิชั้นไม่รู้เรื่องเลย อิชั้นอยากรู้ว่าตกลงเอายังไงคะ!!!
 :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.18 ☆ (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 12-12-2015 00:51:22
 :z3:


ทำไมถึงทำแบบนี้ ทำกันได้ลงคอ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.18 ☆ (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 12-12-2015 02:08:28
เดี๋ยวนะ :a5: เดี๋ยวนะ :a5: เดี๋ยวนะ :a5:
ตบคนเขียนรัวๆๆๆๆ :beat: :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.18 ☆ (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 12-12-2015 02:59:07
ตัดจบแบบนี้ ทำร้ายกันชัดๆ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.18 ☆ (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: aoraor ที่ 12-12-2015 03:14:14
เอาจริงๆมั้ยคะ....คำแรกที่โผล่มาตอนอ่านจบคือ  "เฮ้ย!"

ไม่ได้ตกใจที่หนูขิงต้องเสียตัว แต่......มันายไปไหนนี่สิ!!!! :ling1: :katai1:
เราจะงอนแล้วนะะะ คราวก่อนเค้าพูดเล่น อย่านะอย่านะ 55555

ปล.เราเรียกคุณรักเจ้าเอยว่าอะไรได้บ้างหรือคะ แบบว่าจะพิมพ์คุณคนแต่งก็ห่างเหิ๊นห่างเหิน 555
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.18 ☆ (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 12-12-2015 10:25:13
:z3: จิ้มคนเขียน ตัดแค่ตรงนี้จริงๆใช่ไหมมมม


ต้องขออภัยจริงๆเจ้าค่ะ กำลังชั่งใจอยู่ว่าจะเอาNC  เต็ม หรือจะเอาแบบละมุนดี
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.18 ☆ (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 12-12-2015 10:29:04
ใจร้ายตัดบทกันดื้อๆเลย T-T

ฮ่าๆๆๆ เพิ่งรู้คุณบูมเบสรอฉากอัศจรรย์ ขอโทษค่ะ หญิงไม่ได้ตั้งใจให้คุณอารมณ์ค้าง (ทำหน้าสำนึกผิด)
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.18 ☆ (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 12-12-2015 10:36:34
คนเรามักใหญ่ใฝ่สูงโลภมากจนน่ากลัว  :serius2: ดีที่ขิงเห็นและได้ยินก่อน
คุณภูอย่าตัดค้างค่ะ ใจจะขาดนะ 555555 เค้าจะเปิดซิงกันไหมมม เปิดซิงหรือเปล่าาา  :hao7:


เรื่องใหญ่สินะคะเรื่อง  เปิดซิงไม่เปิดซิงเนี๊ยะ ถ้าอิชั้นเป็นหนูขิงคงจะเขินน่าดู เพราะมีคนตั้งตารอชมขนาดนี้   ปูเสื่อรอแป๊บ อร๊ายยยยยเขิน
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.18 ☆ (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 12-12-2015 10:41:56
เอายังไงคะ เอายังง้ายยย
อิชั้นไม่รู้เรื่องเลย อิชั้นอยากรู้ว่าตกลงเอายังไงคะ!!!
 :katai4: :katai4:


โอ๊ะ!! ต๊กกะใจ (เอามือกุมอกตัวเอง) ไม่บอกไม่รู้นะคะเนี๊ยะว่าคุณMukmaoY  จะเป็นสายหื่น..เริด!!
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.18 ☆ (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 12-12-2015 10:45:36
:ling1:ปล่อยให้อยากแล้วจากไป...ชริ


สายหื่นโผล่นี่อีกคน อร๊ายยย ไปบอกนายหัวแพร๊พว่าจะเอายังไงดีกับฉากต่อไป อิอิ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.18 ☆ (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 12-12-2015 10:50:58
เอาจริงๆมั้ยคะ....คำแรกที่โผล่มาตอนอ่านจบคือ  "เฮ้ย!"

ไม่ได้ตกใจที่หนูขิงต้องเสียตัว แต่......มันายไปไหนนี่สิ!!!! :ling1: :katai1:
เราจะงอนแล้วนะะะ คราวก่อนเค้าพูดเล่น อย่านะอย่านะ 55555

ปล.เราเรียกคุณรักเจ้าเอยว่าอะไรได้บ้างหรือคะ แบบว่าจะพิมพ์คุณคนแต่งก็ห่างเหิ๊นห่างเหิน 555


ว๊ายตาเถร..ตกใต้ถุน อกอีแป้นจะแตก หลงเข้าใจตั้งนานว่าเรื่องนี้แต่งใสๆ "คนอ่านก็ต้องใสกันแน่" กลายเป็นว่าเข้าใจผิดไปหมดเลย >> ใช่ไหมคะคุณอ้อขาาาา? ตอบให้หญิงหายสงสัยหน่อย 555



ป.ล.เรียกภูก็ได้ค่ะคุณอ้อขาาาา หรือจะเรียกหญิงพู่ก็ไม่ว่ากันค่ะ เพราะหน้าคล้ายชมพู่อยู่เบาๆ ???????อิอิ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.18 ☆ (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 12-12-2015 10:57:02
เดี๋ยวนะ :a5: เดี๋ยวนะ :a5: เดี๋ยวนะ :a5:
ตบคนเขียนรัวๆๆๆๆ :beat: :beat: :beat:


โหดร้ายจริง ๆ ทำไมใจร้ายกับหญิงแบบนี้ ถึงขั้นตบตีกันแบบนี้ หญิงจะไม่ทน หญิงจะไปฟ้องพี่ชายรุจ  555   (บัดบ๊อบแรงๆ)
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.18 ☆ (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 12-12-2015 11:04:04
ขอตบยายชะนีสา ...  :beat: :beat: :beat: :beat: :beat: พร้อมกับ..กระโดดถีบหน้า.. :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6:
ยังดีนะที่หนูขิงดูละครมาก่อน ฮาๆ .... เกือบได้กินมาม่าแล้วซิแต่..ทำไมใจร้ายปล่อยให้ค้างแบบนี้ละค่ะ.. :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: เขาไม่ยอมนะเพราะว่านั้นคือฉากที่รอคอย..พลาดมาหลายเพลาแหละ.. :impress3: :impress3:..pleas!! 
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.18 ☆ (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 12-12-2015 11:06:11
ฮากับการตอบคอมเม้นท ของคุณหญิง (เป็นชื่อที่เรียกแล้วดูไฮโซขึ้นมาทันที )
คือเป็นคนหนึ่งเหมือนกันที่อ่านเมื่อคือ แล้วพยายาม refresh page หลายรอบว่า ไม่ได้คิดไปเองใช่ไหมว่ามันถูกตัดจบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.18 ☆ (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 12-12-2015 11:07:45
:z3:


ทำไมถึงทำแบบนี้ ทำกันได้ลงคอ


โอ๊ะ!! ทุกทีจะเห็นคุณcavalli ส่งแต่การ์ตูนมามาให้กำลังใจ แต่ตอนนี้ถึงกับตะบะแตกทนไม่ไหว คงจะร้ายแรงจริงๆค่ะ อิอิ  จิ้นกันไปเองก่อนนะคะเดี๋ยวคืนนี้มาต่อให้ สั่งนิยายของคนอื่นมาเหมือนกัน บานเลยที่ยังมิได้อ่าน แม่ด่าหูชาเบาๆ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.18 ☆ (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 12-12-2015 11:14:04
ตัดจบแบบนี้ ทำร้ายกันชัดๆ

เก็บอาการค่ะคุณseaz เก็บอาการค่ะ เดี๋ยวคนอื่นเค้ามาเห็นจะตกใจ เราเป็นหญิงต้องเรียบร้อย แสดงออกมากไปมันไม่ดี 55555
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.18 ☆ (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 12-12-2015 11:26:08
ขอตบยายชะนีสา ...  :beat: :beat: :beat: :beat: :beat: พร้อมกับ..กระโดดถีบหน้า.. :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6:
ยังดีนะที่หนูขิงดูละครมาก่อน ฮาๆ .... เกือบได้กินมาม่าแล้วซิแต่..ทำไมใจร้ายปล่อยให้ค้างแบบนี้ละค่ะ.. :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: เขาไม่ยอมนะเพราะว่านั้นคือฉากที่รอคอย..พลาดมาหลายเพลาแหละ.. :impress3: :impress3:..pleas!!


หญิงก็เกลียดแม่คนนี้เหมือนกันค่ะ แบบนี้มันต้องโดนเครื่องประหารหัวสุนัข เอาเป็นว่าหญิงจะพยายามไม่ให้มีมาม่านะคะเพราะหญิงก็ไม่ชอบเหมือนกันค่ะ มันบีบคั้นหัวใจเวอร์ๆหญิงใจจะขาด

ป.ล.คุณPFlove เป็นสายหื่นผสมสายโหดเหรอค่ะ?? คอมเม้นต์ได้ดุดันปนหื่นดีแท้ 55555
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.18 ☆ (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 12-12-2015 11:30:03
ขอตบยายชะนีสา ...  :beat: :beat: :beat: :beat: :beat: พร้อมกับ..กระโดดถีบหน้า.. :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6:
ยังดีนะที่หนูขิงดูละครมาก่อน ฮาๆ .... เกือบได้กินมาม่าแล้วซิแต่..ทำไมใจร้ายปล่อยให้ค้างแบบนี้ละค่ะ.. :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: เขาไม่ยอมนะเพราะว่านั้นคือฉากที่รอคอย..พลาดมาหลายเพลาแหละ.. :impress3: :impress3:..pleas!!
อ่านนิยายมาเยอะแยะแต่พอมาอ่านนิยายวายทีไหร่..อินทุกที..พยายามหายาลดมโนอยูู่ค่ะคุณภู...555
และความโหดมันจะขึ้นปรี้ดทุกฉากที่มี มีที่สาม..สี.ห้า..เข้ามาก่อกวน...  (อาการหนักค่ะรู้ตัว..ฮาๆ)

หญิงก็เกลียดแม่คนนี้เหมือนกันค่ะ แบบนี้มันต้องโดนเครื่องประหารหัวสุนัข เอาเป็นว่าหญิงจะพยายามไม่ให้มีมาม่านะคะเพราะหญิงก็ไม่ชอบเหมือนกันค่ะ มันบีบคั้นหัวใจเวอร์ๆหญิงใจจะขาด

ป.ล.คุณPFlove เป็นสายหื่นผสมสายโหดเหรอค่ะ?? คอมเม้นต์ได้ดุดันปนหื่นดีแท้ 55555
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.18 ☆ (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 12-12-2015 11:33:49
ฮากับการตอบคอมเม้นท ของคุณหญิง (เป็นชื่อที่เรียกแล้วดูไฮโซขึ้นมาทันที )
คือเป็นคนหนึ่งเหมือนกันที่อ่านเมื่อคือ แล้วพยายาม refresh page หลายรอบว่า ไม่ได้คิดไปเองใช่ไหมว่ามันถูกตัดจบบบบบบบบบบ


คุณBillie ไม่รู้อะไรซะแล้ว ความจริงหญิงเป็นราชนิฯ นะคะ ?????

แล้วก็เข้าใจถูกแล้วค่ะ หญิงแค่อยากรู้ปฏิกิริยาของคนอ่านนิดหน่อยว่าจะชอบNCไหม ผลออกมาคือ สายหื่นแสดงตัวกันให้ควักเลย

นี่หญิงก็ยังตกใจไม่หายอยู่เลยนะคะเนี๊ยะ ^^
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.18 ☆ (11/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 12-12-2015 11:40:33


@คุณPFlove หญิงก็เป็นอยู่ค่ะโรคนี้ กินยาเท่าไหร่ก็ไม่หาย แต่คุณหมอบอกว่า "โรคนี้เป็นเฉพาะคนสวยนะคะ"

หญิงเลยเบาใจ งั้นก็ไม่ต้องรักษา 5555
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.19 ☆ (12/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 12-12-2015 23:23:58

วันนี้มาลงดึกหน่อย มีใครยังไม่นอนเหมือนหญิงบ้างคะเนี๊ยะ? อิอิ Good night kha


..................................................


..................................................




อันดามัน ...ซ่อนรัก
Andaman In Love
ตอนที่ 19


"แล้วคุณรู้ไหมว่าทำไมตัวเองถึงเป็นแบบนี้ ผมไม่อยากให้เราต้องมาเสียทีหลังนะ"

"ชั้นจะไม่เสียใจ เชื่อชั้นสิขิง นะ?" คุณครามกัดฟันข่มความรู้สึกของตัวเองตอนนี้

"นะ????" อย่าทำเสียงแบบนั้นสิคุณคราม ผมเข้าใจแต่ผมกลัว ถึงจะเตรียมใจไว้แล้วก็เหอะ

"เดี๋ยวอย่าเพิ่ง!!" คุณครามเริ่มลอกคราบตัวเองแล้ว เหลือแต่บ็อกเซอร์

"ไม่ไหวแล้วขิง ไม่ให้ก็จะปล้ำแล้วนะ"

"อย่านะคุณ คนเค้ามีพ่อมีแม่นะ"

"เห้ย!!!!!! อื้อออออออ" คุณครามจูบอย่างรวดเร็ว จูบครั้งนี้ไม่เหมือนกันครั้งก่อน ครั้งนี้มันมากกว่านั้น ดุดันมากกว่าจนผมกลัว คุณครามผละออกแล้วเลื่อนมาไซร้ที่ซอกคอ

"อึก!!...ค..คุณ...ผมกลัว"  เสียงผมสั่น ใครไม่สั่นก็บ้าแล้ว นี่ครั้งแรกของผมเลยนะ

"ชั้นจะอ่อนโยนกับนาย เชื่อชั้นนะ" คุณครามหอบหายใจอย่างแรง มองหน้าผม

"อื่ม!! ถ้าได้ผมแล้วทิ้งล่ะน่าดู!!"

"ไม่ต้องมายิ้มเลย นี่ผมเพิ่งคบกันคุณได้ไม่กี่วันเองนะ ถ้าไม่เป็นเพราะไอ้ยานี่ ผมไม่ยอมหรอกนะ โอ๊ย!! คุณ!!"


.....................................................................


"โอ๊ย!!" ผมขยับตัว แต่เหมือนร่างกายจะไม่เอื้ออำนวย มันปวดไปหมด ปวดเนื้อปวดตัว แล้วก็ตรงนั้นด้วย ผมว่าแล้วเชียว ว่าทำไมถึงรู้สึกสังหรณ์ใจแปลก เพราะตัวเองกำลังจะถูกกินนี่เอง แต่นอกเหนือสิ่งอื่นใด คือคุณครามถูกวางยานั่นแหละ

คุณครามไปไหนไม่รู้ ในห้องก็ไม่อยู่ เดินหาจนทั่วแล้วก็ไม่เจอ ผมค่อยๆพาตัวเองไปห้องน้ำ นึกถึงเรื่องเมื่อคืนแล้วบอกไม่ถูก ไม่เสียใจหรอกนะที่ทำ แต่ก็แอบน้อยใจนิดๆที่ตื่นมาแล้วไม่เจอ เหมือนถูกฟันแล้วทิ้งยังไงไม่รู้ ผมถอนหายใจแล้วลงมืออาบน้ำ ล้างหน้าล้างตาตัวเอง ดีที่เมื่อคืนคุณครามทำความสะอาดให้บ้างแล้ว แต่ไม่ดีอยู่อย่างหนึ่งคือ เค้าไม่ใส่ถุง "เหอะ!! จะรีบอะไรขนาดนั้นนะ"

"ขิง... อยู่ไหน? อยู่ในห้องน้ำรึเปล่า?" ผมออกมาพร้อมเสื้อคลุมอาบน้ำ คุณครามขมวดคิ้วแปลกใจที่ผมเดินมาอาบน้ำเองได้ ก็ผมไม่ได้เป็นอะไรมากนิ แค่เดินแล้วรู้สึกขัดๆ แสบๆ แค่นั้นเอง

"อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ ชั้นไม่ได้หายไปไหน แค่ไปหายาแก้อักเสบกับลดไข้มาให้" คุณครามชูให้ดู ไม่ต้องมาทำหน้าอย่านั้นเลย ผมยังน้อยใจอยู่

"ผมไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย ทำไมต้องกินยา"

"กันไว้ก่อน ชั้นอ่านเจอในเน็ตมา"

"เป็นไงบ้าง เดินไหวไหม?" ผมพยักหน้า ไหวไม่ไหวก็พาตัวเองมาถึงห้องน้ำได้แล้วเหอะ คุณครามพยุงผมมาจนถึงเตียง

"ฟ๊อด!!!" เสียงหอมแก้มดังฟ๊อด แล้วทำหน้ากรุ่มกริ่มใส่ เหอะ!! ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนี้เลย หื่นหลบใน ที่ทำเป็นขรึมนี่คือแกล้งแสดงละครใช่ไหม?

"คุณหันไปทางโน้นก่อนได้ไหม? ผมจะเปลี่ยนเสื้อผ้า"

"อายทำไม เห็นจนทั่วทุกมุมแล้ว"

"คุณ!!" ผมถลึงตาใส่

"ก็จริง มีส่วนไหนบ้างที่ชั้นยังไม่ได้แตะบ้าง? เอาหน่า..ชั้นจะได้ช่วยแต่งตัวให้" ชุดคลุมอาบน้ำค่อยๆถูกแกะออกทีละนิด ยิ่งทำให้ดูยั่วยวนในสายตาอีกคนที่กำลังมองอยู่

ตาคมไล่มองตั้งแต่คอขาว มาจนถึง ลาดไหล่ แล้วก็หน้าอกที่ตอนนี้มีแต่รอยจูบที่ตัวเองทำไว้เมื่อคืน ครามกลืนน้ำลายตัวเองดังอึก

"หยุดมองได้แล้ว"

"ก็มันน่ามอง"

"คุณคราม" ผมหยิบหมอนที่อยู่ใกล้เขวี้ยงใส่

"..ซี๊ดดดด!!!" เสียงซี๊ดปากเบาๆ พร้อมกับนิ่วหน้า เพราะเผลอขยับตัวเร็วเกินไป

"เจ็บมากไหม?"

"ก็...พอทนได้ครับ" ผมตอบเพื่อให้อีกคนสบายใจเท่านั้นแหละ ความจริงตอนนี้ก็ยังระบมไม่หาย แต่ส่วนที่เจ็บไม่แพ้กันเลยคือเอว ไม่รู้ว่าจะจัดหนักจัดเต็มอะไรกันนักหนา ก่อนหน้านี้เคยแอบคิดเหมือนกันนะว่า...ที่เมียเก่าเค้าหนีไปอาจเป็นเพราะมัวแต่ทำงานจนไม่ยอมทำการ์บ้านรึเปล่า หรือว่าเซ็กส์ห่วย ตอนนี้ผมได้คำตอบแล้วว่าไม่ใช่ทั้งสอง แต่เป็นเพราะอะไรดูจากสภาพผมนี่สิ ภาพเมื่อคืนค่อยๆฉายซ้ำขึ้นมาทีละนิดจนทำให้หน้าเห่อแดงไปหมด

"กินข้าวต้มก่อน จะได้กินยา" ผมพยักหน้า เพราะเริ่มง่วงๆขึ้นมาอีกแล้ว

"ให้ป้อนไหม?" ครามยิ้มละมุน จับมือขิงมาหอมเบาๆ

"ไม่เอา" แค่นี้ก็เขินจะแย่ ให้มาป้อนข้าวอีกคงกินไม่ลง

"งั้นก็รีบกินตอนมันยังร้อนๆอยู่" ผมเป่าข้าวต้มนิดหน่อยแล้วตกใส่ปาก

"เราคงต้องนอนที่นี่ต่ออีกสักคืนแล้วล่ะ" ผมไม่ชินกับสายตาแบบนี้ของเค้าเลยจริงๆ มันหวานเชื่อมจนไม่คิดว่าเวลาเพียงไม่กี่วันหลังจากนั้น เค้าจะเปลี่ยนไปถึงขนาดนี้ แล้วอิใจเจ้ากรรมนี่ก็ขยันเต้นแรงซะเหลือเกิน แค่เค้าทำแค่นี้ให้ก็อ่อนยวบยับละ

"ก๊อกๆๆ นายหัวครับ จะไปตรวจงานที่กระชังA อยู่ไหมครับ ได้เวลาแล้วนะครับ" เสียงพี่เท่งเรียกจากหน้าประตู

"คุณไปเถอะ ผมดูแลตัวเองได้" ขืนมาอยู่เฝ้าทั้งวันแบบนี้ คนงานทั้งฟาร์มจะได้นินทาเอาน่ะสิ

"งั้นชั้นไปก่อนนะ ตอนกลางวันจะมาหา" ผมพยักหน้ารับ

"ฟ๊อด...ฟ๊อด!! อย่าดื้อล่ะ"

"เคยดื้อที่ไหนกันเล่า"

"หึๆ..."


............................................................
....................................................
..............................................

ผมนอนอยู่ในห้องจนเบื่อแล้ว เลยออกมาสูดอากาศข้างนอก อยู่แต่ในห้องก็อุดอู้เปล่าๆ อีกอย่างตอนนี้อาการผมก็ดีขึ้นมากแล้ว ถึงจะยังขัดๆอยู่บ้างเวลาเดินแต่ก็ยังดีกว่าตอนเช้า ผมตกใจตอนเอาน้ำไอ้นั่นออกจากตัว เพราะมีเลือดปนออกมาด้วย มิน่าล่ะถึงเจ็บขนาดนี้ ถ้าเป็นในนิยายพระเอกคงจะทำความสะอาดส่วนนั้นให้นายเอกไปแล้ว แต่อย่าลืมนะว่านี่คือคุณคราม ไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อนในชีวิต แค่ยอมรับตัวเองได้..ผมก็ว่าอเมซซิ่งแล้ว

"คุณขิงไม่สบายเหรอครับ? ผมเห็นนายออกมาเอายาตั้งแต่ตอนเช้า"  พี่ชิตถาม พี่ชิตหรือนายชิต เป็นเป็นหัวหน้าคนงานของที่นี่ แต่เมื่อคืนเขากินเหล้าอยู่อีกวงหนึ่ง เลยไม่ค่อยได้คุยกัน

"ครับ"

"ดูแลตัวเองด้วยนะครับ อากาศช่วงนี้ค่อนข้างแปรปรวน" ไม่รู้ว่าผมรู้สึกไปเองรึเปล่าว่าสายตาเค้าดูแปลกๆ เหมือนมีอะไร

"ขิง!!" ผมยังไม่ทันตอบพี่ชิต คุณครามก็เรียกซะก่อน พี่ชิตเลยก้มหัวให้แล้วเดินออกไป

"ทำไมมาอยู่ที่นี่ ชั้นไปหาที่ห้องไม่เจอ" คุณครามถามดุๆ

"ผมเบื่อนอนแล้วครับ เลยออกมาเดินเล่น"

"แล้วไม่สบายหายแล้วรึไงถึงออกมาเดินแบบนี้?" คุณครามเอามือมาแตะแก้มผมแล้วถามเสียงเบาลง

"ดีขึ้นมากแล้วครับ"

"ชั้นมารับไปทานข้าว หรือว่าจะทานที่ห้องดี?"

"ทานกับพวกพี่เท่ง พี่โชคก็ได้ครับ ทานกันเยอะๆจะได้เจริญอาหาร" ผมยิ้มให้

"จุ๊บ!!"

"คุณ!!" ผมร้องเสียงดังเพราะตกใจ ไม่คิดว่าเค้าจะกล้าทำอะไรแบบนี้ในที่กลางแจ้ง

"ทำไม?" แนะ!! ยังมาตีมืน ทำเป็นไม่รู้อีก

"เดี๋ยวคนอื่นมาเห็น มันจะดูไม่ดี"

"ไม่ดีตรงไหน แค่จูบเมียเอง" ผมหมดคำพูด เถียงไม่ออกกับคำว่าเมียของเค้า ผมเป็นผู้ชาย พอได้ยินแบบนี้แล้วรู้สึกจั๊กเดียมแปลกๆ

"คุณไม่อายรึไง?"

"อายทำไม ชั้นไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย" โอเค..จบ

"เอาเหอะ คราวหน้าห้ามทำนะถ้าอยู่ข้างนอก" เขาพยักหน้ารับคำ ผมไม่คาดหวังหรอกว่าเค้าจะเปลี่ยนพฤติกรรมไปแบบไหน เพราะยังไงเค้าก็คือเค้า แค่ที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็เซอร์ไพรส์มากพอแล้ว

"ทำหน้าแบบนั้นทำไม? มีอะไรไม่สบาย หื้อ?" คุณครามลูบแก้มผมเบาๆ

"คุณคิดว่าเรื่องของเรามันเร็วเกินไปรึเปล่า?"

"ไม่มีอะไรเป็นตัวกำหนดหรอกว่าจะช้า หรือเร็ว มันอยู่ที่ตัวเรา" เขาจับมือผมไว้

"คนที่เค้าคบกันมานาน ดูใจกันมานาน มันก็ไม่ได้หมายความเวลาเหล่านั้นจะทำให้พวกเค้ารักกันได้นาน เข้าใจไหม? อย่าคิดมาก" คุณครามขยี้หัวผมเบาๆ แล้วจูงมือไปที่โรงอาหาร

"นายหัวมาแล้ว คุณขิงด้วย ตักให้นายหัวด้วยจ๊ะป้า" พี่โชคบอกป้าดี

"ฮั่นแหน่...เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นเหรอครับ ทำไมวันนี้นายหัวของเราถึงมีออร่าแปลกๆ หึๆ" พี่เท่งเริ่มแล้ว

"มึงก็รู้สึกเหรอวะไอ้เท่ง? กูก็นึกว่ากูคิดไปคนเดียวนะเนี๊ยะ" พี่โชคสำทับ เอาเข้าไป!!

"อื้ม เห็นตั้งแต่เดินมาแล้ว แล้วคุณขิงล่ะครับทำไมวันนี้ถึงยอมให้นายหัวจูงแขนมาได้ล่ะครับ ฮิๆ!!" ผมเม้มปากไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน เพราะบรรยากาศมันพาไปเลยลืม

"อย่าแซว กินไปเลยพวกมึงน่ะ" คุณครามปาถั่วฝักยาวนึ่งใส่พี่เท่งกับพี่ยอดคนอัน

"คราฟฟฟฟฟ" สองคนนั่นก็รับคำพร้อมกันสมกับเป็นลูกคู่กันเชียว

"มื้อนี้มีแต่ของเผ็ด เลยให้ป้าดีทำแกงจืดไข่น้ำไว้ให้ ไว้หายดีก่อนค่อยกินนะ"กับข้าวมื้อนี้มี น้ำพริกลงเรือ ผักลวก , แกงเผ็ดปักษ์ใต้ แล้วก็แกงเหลือง ผมแอบกลืนน้ำลายถ้าไม่ติดว่าไม่สบายอยู่คงกินแล้วล่ะ ผมรับจานข้าวกับถ้วยไข่น้ำมากิน

"คุณขิงไม่สบายหายแล้วเหรอครับ?" พี่เท่งถาม

"ค่อยยังชั่วแล้วครับ" ผมยิ้มตอบ

"กินข้าว" คุณครามดุ ส่วนพี่เท่งก็หัวเราะหึๆๆ

"นายหัวเค้าหึงน่ะครับ เดี๋ยวก็ชิน" พี่เท่งกระซิบบอก แล้วตักข้าวใส่ปากต่อ

"แกร๊ง!!" เสียงวางช้อนใส่จานดังจนคนแถวนั้นหันมามอง

"โอ๊ย...นายหัว ทำผมทำไมครับ" คุณครามตบหัวพี่เท่งดังป๊าบ แล้วทำหน้าเคร่งไม่ตอบอะไร

"ผมแค่หยอกเล่นเองครับ ไม่คิดยุ่งของนายหัวหรอกครับ จริงจริ๊ง!!" พี่เท่งยกมือชูสามนิ้ว ผมมองตาพริบๆ ไม่คิดว่าเค้าจะขี้หึงขนาดนี้ กับลูกน้องก็ไม่เว้น

"คุณ......" คุณครามไม่หันมามอง

"คุณครามครับ ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนะ แล้วพี่เท่งเค้าก็แค่แหย่เล่นเอง อย่าโกรธสิครับ" ผมวางมือบนหน้าตักเค้าแล้วลูบเบาๆ

"นายหัวครับ อย่าโกรธคุณขิงเลยครับ ถ้าจะโกรธก็โกรธไอ้โชคแทนก็ได้ สงสารคุณขิง"

"อ้าว!! เกี่ยวอะไรกับกูครับไอ้เท่ง? กูอยู่ของกูดีๆ อย่าหาเรื่องมาให้กูสิครับ"

"หึๆๆ" ผมหัวเราะตามพี่โชค กับพี่เท่ง แต่ต้องหุบยิ้มเพราะคุณครามจ้องเขม็งอีกแล้ว

"นายหัวครับจัดมันหนักๆเลยครับ ต่อไปมันจะได้ไม่กล้าหื้ออีก" พี่โชคยุ แต่พี่เท่งกลับยักไหล่ใส่

"กูจะฟ้องสร้อยว่ามึงแอบบนอกใจ!!" พี่โชคขู่ พี่เท่งทำหน้าเหวอ

"เห้ย!! ไอ้นี่เล่นของสูง อย่าเชียวนะมึง อย่ามาใส่ร้ายกู" ผมเลิกสนใจสองคนนั่น แล้วหันมามองคนที่นั่งทำหน้าบึ้งอยู่ข้างๆ

"คุณอะ หยุดงอนได้แล้วนะ หัวก็ไม่ได้ล้านทำไมขี้ใจน้อยจัง" ผมเอามือเขามาลูบเบาๆ ไม่สนใจว่าใครจะมองแล้วตอนนี้

"ถ้าไม่หายงอน งั้นผมไม่ง้อแล้วนะ คนอะไรขี้งอนชิบ!!" พูดจบแล้วคุณครามหันมามอง

"กลับไปนายต้องโดนทำโทษ!!" คุณครามก้มมากระซิบข้างหูผมเบาๆ เอาล่ะ...งานงอกอีกแล้วสิ


เย็นแล้ว พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า หลังจากทานอาหารมื้อค่ำเสร็จแล้ว เราก็มาเดินเล่นที่ริมชายหาดหน้าบ้านพักนิดหน่อย ความจริงเป็นผมเองแหละที่ดื้ออยากเดินเอง เพราะยังหัวค่ำอยู่เลย กลับไปที่ห้องก็ไม่มีอะไรทำ ผมชอบทะเลที่นี่จัง ชอบบรรยากาศที่นี่ ชอบเวลาตอนนี้ ถึงจะไม่พูดอะไรแค่จับมือกันเดินเฉยๆ ก็รู้สึกดีแล้ว

กลับมาถึงห้องผมก็จัดการอาบน้ำแต่งตัว แล้วนอนอ่านหนังสือของคุณคราม ส่วนเจ้าของเค้าก็กำลังอาบน้ำอยู่ ผมเพิ่งสังเกตุเห็นขนหน้าอกเค้าว่ามันเส้นหนาขึ้นอีกแล้วเหรอ ครั้งก่อนที่เช็ดตัวให้มันก็ยังรำไรอยู่เลยนะ หรือผมไม่ทันได้สังเกตเอง คุณครามเดินเปลือยท่อนบนออกมาจากห้องน้ำ ผมว่าตั้งแต่เมื่อคืนเค้าดูแสดงออกกับผมมากขึ้นนะ ดูอย่างตอนนี้สิ

"เช็ดผมให้หน่อย" เขาเดินมานั่งลงข้างๆ แล้วยื่นผ้าขนหนูให้

"นี่คือคำขอร้อง หรือคำสั่งกันแน่ครับ บอกก่อน" ผมเงยหน้าถาม

"ขอร้อง"

"ถ้าขอร้องต้องพูดเพราะๆกว่านี้ งั้นไม่ทำให้" ผมยิ้มกริ่ม

"เช็ดผมให้หน่อย"

"ก็เหมือนเดิม ต้องมีครับด้วยนะครับ รู้ไหม?" นานทีผมจะได้แกล้งเค้าคืนบ้าง

"กล้าทำแบบนี้ชั้นเหรอ?" คุณครามรี่ตามอง

"เปล๊า..ใครจะไปกล้าแกล้งนายหัวแห่งเกาะไข่ได้ล่ะครับ" ผมหัวเราะเบาๆ

"ก็ดี งั้นก็เช็ดให้หน่อยสิ"

"ไม่เอาขี้เกียจละ ง่วงด้วย" ผมแกล้งหาว แล้วล้มตัวลงนอน

"ไม่เช็ดงั้นปล้ำนะ!!!" ผมรีบเด้งตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

"หึๆๆ" เสียงหัวเราะของผู้ชนะ "จะกลัวไปทำไม ใช่ว่าจะไม่เคย หึๆๆ" ผมหน้าแดง คว้าผ้าขนหนูสีขาวที่อยู่ข้างๆมาไว้ในมือ

"จะไปไหน?" ผมลุกไปเอาไดร์เป่าผมในลิ้นชักข้างๆ แล้วชูให้เค้าดู

"คุณลงไปนั่งที่พรมสิ จะสะดวก" เขาก็ลงไปนั่งกับพื้นอย่างว่าง่าย

"เสร็จแล้ว" ผมจับผมเค้าดู เทียบดูจากหลายเดือนก่อน ผมเค้าดูยาวขึ้นมากเลยนะ

"ผมคุณยาวแล้ว ไม่คิดจะตัดอีกเหรอครับ?" ผมถามแล้วกระโดดลงจากเตียงเอาไดร์ไปเก็บ ไม่เจียมตัวเองอีกละ เลยเสียดเบาๆ

"ยัง...ตัดทำไมบ่อยเปลืองเงิน" แนะ!! ยังจะขี้งกอีก

"แต่มันยาวมากแล้วนะครับ เดี๋ยวจะเหมือนนายหัวหฤษฏ์...จำเลยรัก"

"แล้วไม่หล่อรึไง?"

"งึ......" ผมส่ายหัว

"ก็ดีเป็นนายหัวนั่นก็ดี จะได้ลากนางเอกมาปล้ำง่ายๆหน่อย ลองไหม?" ทำหน้าแบบนี้อีกละ คนหื่น!!

"ไปนอนดีกว่า" ผมไม่ตอบ เลี่ยงไปนอนซะ

"หึๆๆ เจ้าเล่ห์"

"ไม่แพ้คุณหรอก" ผมแลบลิ้นใส่ คุณครามเลยจะเข้ามางับแต่ก็ไม่ทัน

"เอ้......คืนนี้นายหัวหฤษฏ์จะเล่นบทไหนกับโสรยาดีนะ?" คุณครามแกล้งลากเสียงยาว

"ที่นี่ไม่มีโสรยา เสียใจด้วยนะครับนายหัว ฮ่าๆๆ"

"ไม่เป็นไร เอาคนนี้แทนก็ได้ ฟ๊อด!!"

"เห้ย!!!" ผมถูกครอมตัวไว้

"หอม!!" ก็กลิ่นเดียวกัน มาโหงหอมอะไรกันเล่า ....ครามเลื่อนจากแก้มนวลใส มาจูบเบาๆ แล้วก็หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ

"คุณ.......ยังไม่ทำวันนี้ได้ไหม คือผม...ยังไม่หายเจ็บเลย แล้วพรุ่งนี้ก็ต้องเดินทางกลับอีก นะ??" ผมลองอ้อนบ้างเผื่อจะได้ผล

"เดี๋ยวนี้ชักเก่งขึ้นอีกแล้วนะ" คุณครามยิ้มแล้วมองตา

"งั้นนอนเหอะ กอดเฉยๆก็ได้" ไม่ผิดใช่ไหมถ้าผมจะหอมเค้าคืนบ้าง

"ฝันดีครับ"

"ฝันดีครับนายหญิง" เขากระซิบที่ข้างหู แล้วนอนลงข้างๆ





























หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.19 ☆ (12/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 12-12-2015 23:39:00
 :hao7:


หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.19 ☆ (12/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 13-12-2015 00:01:14
ในที่สุด ในที่สุด สองคนก็ลงเอยกัน หุหุ
(แอบ) หวังว่าจะไม่มีดราม่าตอนต่อไปนะครับ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.19 ☆ (12/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: aoraor ที่ 13-12-2015 00:16:22
หลังจากอ่านคอมเมนท์คนอื่นแล้ว

ร้ายกาจมาก นี่เป็นแผนล่อเสือออกจากถ้ำหรือคะ!!  o22
แต่แบบ ดีแล้วค่ะไม่มีnc ถ้ามีคนใสๆแบบอ้อต้องทนอ่านไม่ได้แน่ๆ //กัดฟัน

ส่วนพี่ชิตอะไรนี่ยังไง คิดจะเต๊าะหนูขิงเหรอ เสียใจค่ะ เขาโดนนายหัวกินหมดแล้ว 55555555
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.19 ☆ (12/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 13-12-2015 00:48:03
 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.19 ☆ (12/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 13-12-2015 01:13:40
ฉากนั้นที่รอคอย...  :a5:  o22
มันหายปัยยย...  :hao5:
555555555555555555555555555 *ในเลขห้ามีน้ำตาซ่อนอยู่* 55555555555555555555555555555555
ช่างเต๊อะะ (หรา) ยังไงเค้าก็โซเดมาคอมบรึ่บบรั่บ(?) กันแล้ว หยวนๆไปก็ได้  :z3:
แต่เจ้าชิตอะไรนั่นอย่ามาแหยมกับนายหัวนะ เดี๋ยวเจออำนาจมืดละจะหนาว~  :katai3:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.19 ☆ (12/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 13-12-2015 03:47:40
ครั้้งแรกที่เห็นตอนนี้  :hao7: :hao7: :hao6: :hao6:

พอกดเข้าไปอ่าน :a5: :a5:

หึๆๆๆ โอเค้ :beat: :beat: :beat:


โดนแซวกันใหญ่เลยนายหัวนี่ก็ปล่อยให้แซวเมียดีงามมมมม5555
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.19 ☆ (12/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 13-12-2015 07:45:07
 :oo1: อะไรยังไง 
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.19 ☆ (12/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 13-12-2015 08:57:53
นายหัวเรานี่หื่นใช่ย่อย นี่กะไม่ให้น้องพักเลยเหรอค่ะนายหัว
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.19 ☆ (12/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 13-12-2015 10:02:54
ความสุขมากตอนนี้แต่ยังไม่สุดกลัวมีดราม่าเพราะเหมือนนังตัวปัญหานั้นยังไม่ถูกกำจัด
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.19 ☆ (12/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 13-12-2015 10:25:39
ครั้งแรกก็ติดใจงี้แหละ
ถึงเราจะไม่รู้ว่าทำยังไงถึงติดใจก็เถอะ  :o12:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.19 ☆ (12/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 13-12-2015 13:11:02
เรียบร้อยโรงเรียนนายหัวสินะ คึคึ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.19 ☆ (12/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 13-12-2015 13:27:20
ลุ้น..มาหลายฉากแล้ว...คุณภูนะแกล้งคนอ่าน ฮาๆ .. สุขสมใจคุณครามซะที...
คุณครามช่วงหลังๆนี้พัฒนาการเร็วขึ้นนะ...เริ่มมีหยอดขิง..เรียกเมียซะด้วยนะ
ดีใจจัง..ขิงได้เป็นนายหญิงแล้ว... :mew1: :mew1:

ภาวนะอย่าให้ยายสามาระรานเลยนะ...บอกนายหัวไล่ออกไปไกลๆเลยกลัวจัง...แบบว่าหวงแทนขิงอะนะ อิ อิ  :hao6:

ขอบคุณคุณภูที่นำเสนอนิยายดีให้อ่าน กอดสองที  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.19 ☆ (12/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: MENTA ที่ 13-12-2015 18:41:29
เขิน  :o8:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.19 ☆ (12/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 13-12-2015 19:06:51
ในที่สุด ในที่สุด สองคนก็ลงเอยกัน หุหุ
(แอบ) หวังว่าจะไม่มีดราม่าตอนต่อไปนะครับ


ไม่สปอยนะคะ หญิงจะไม่สปอย คุณseaz อย่ามาหลอกถามหญิงให้ยากเลย หญิงสวยแล้วก็ฉลาดนะคะ. อิอิ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.19 ☆ (12/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 13-12-2015 19:13:51
หลังจากอ่านคอมเมนท์คนอื่นแล้ว

ร้ายกาจมาก นี่เป็นแผนล่อเสือออกจากถ้ำหรือคะ!!  o22
แต่แบบ ดีแล้วค่ะไม่มีnc ถ้ามีคนใสๆแบบอ้อต้องทนอ่านไม่ได้แน่ๆ //กัดฟัน

ส่วนพี่ชิตอะไรนี่ยังไง คิดจะเต๊าะหนูขิงเหรอ เสียใจค่ะ เขาโดนนายหัวกินหมดแล้ว 55555555


ค่ะ!! คุณอ้อ หญิงจินตนาการไม่ออกนะคะว่าคุณอ้อใสแบบไหน? โอ๊ะๆๆ เช็ดน้ำหมาก เอ๊ย!! กำเดาค่ะ 555
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.19 ☆ (12/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 13-12-2015 19:22:24
ฉากนั้นที่รอคอย...  :a5:  o22
มันหายปัยยย...  :hao5:
555555555555555555555555555 *ในเลขห้ามีน้ำตาซ่อนอยู่* 55555555555555555555555555555555
ช่างเต๊อะะ (หรา) ยังไงเค้าก็โซเดมาคอมบรึ่บบรั่บ(?) กันแล้ว หยวนๆไปก็ได้  :z3:
แต่เจ้าชิตอะไรนั่นอย่ามาแหยมกับนายหัวนะ เดี๋ยวเจออำนาจมืดละจะหนาว~  :katai3:



คุณneverlandมีชื่อเล่นไหมคะ?  เรามาสนิทกันๆ

หญิงตลก อันนี้ >>>555555555555555555555555555 *ในเลขห้ามีน้ำตาซ่อนอยู่* 55555555555555555555555555555555


แล้วหญิงก็ไม่ค่อยเข้าใจอิโซเดมาคอมบรึ่บบรั่บ สักเท่าไหร่ค่ะ หญิงใสๆ   จินตนาการไม่ออกว่าต้องคราง เอ๊ย!!พูดว่ายังไง  55555
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.19 ☆ (12/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 13-12-2015 19:27:47
ครั้้งแรกที่เห็นตอนนี้  :hao7: :hao7: :hao6: :hao6:

พอกดเข้าไปอ่าน :a5: :a5:

หึๆๆๆ โอเค้ :beat: :beat: :beat:


โดนแซวกันใหญ่เลยนายหัวนี่ก็ปล่อยให้แซวเมียดีงามมมมม5555


คุณammchun ตบหญิงทำไม หญิงแค่สวยกว่า สาวกว่าก็ผิดเหรอคะ?? (ไม่เกี่ยวแระ ตื่นๆๆ)

ป.ล.นายหัวชอบตอนเมียเขินมั้งคะ อิอิ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.19 ☆ (12/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 13-12-2015 19:31:04
นายหัวเรานี่หื่นใช่ย่อย นี่กะไม่ให้น้องพักเลยเหรอค่ะนายหัว


ถ้าพระเอกเราแข็งทื่อก็ไม่สนุกสิคะ หญิงคนหนึ่งแหละค่ะที่ไม่เอาเป็นสาฯ (เค้าเอาคุณหญิงเหรอนั่น???)
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.19 ☆ (12/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 13-12-2015 19:33:45
ความสุขมากตอนนี้แต่ยังไม่สุดกลัวมีดราม่าเพราะเหมือนนังตัวปัญหานั้นยังไม่ถูกกำจัด


คุณบูมเบสน่ารักจริงกังวลแทนหนูขิงด้วย ถ้ามีจริงหญิงให้คุณบูมเบสเป็นทัพหน้านะคะ ฆ่ามานนนนนน 555555
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.19 ☆ (12/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 13-12-2015 19:40:52
ครั้งแรกก็ติดใจงี้แหละ
ถึงเราจะไม่รู้ว่าทำยังไงถึงติดใจก็เถอะ  :o12:


หญิงไม่รู้จริงๆค่ะคุณมุกขา หญิงยังเวอร์จิ่นอยู่. เลยไม่รู้ว่าจะทำให้ให้ติดใจ แต่หญิงแนะนำให้ผสมรากราคะให้กินด้วยค่ะ จะได้หลงมากกว่านี้ 55555
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.19 ☆ (12/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 13-12-2015 19:44:13
เรียบร้อยโรงเรียนนายหัวสินะ คึคึ


ไม่อิ่มหรอกค่ะนายหัวเป็นชูชก กินจุค่ะ 55555
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.19 ☆ (12/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 13-12-2015 19:54:41
ลุ้น..มาหลายฉากแล้ว...คุณภูนะแกล้งคนอ่าน ฮาๆ .. สุขสมใจคุณครามซะที...
คุณครามช่วงหลังๆนี้พัฒนาการเร็วขึ้นนะ...เริ่มมีหยอดขิง..เรียกเมียซะด้วยนะ
ดีใจจัง..ขิงได้เป็นนายหญิงแล้ว... :mew1: :mew1:

ภาวนะอย่าให้ยายสามาระรานเลยนะ...บอกนายหัวไล่ออกไปไกลๆเลยกลัวจัง...แบบว่าหวงแทนขิงอะนะ อิ อิ  :hao6:

ขอบคุณคุณภูที่นำเสนอนิยายดีให้อ่าน กอดสองที  :กอด1: :กอด1:


หญิงไม่ได้แกล้งนะคะ ความจริงหญิงแต่งฉากอัศจรรย์แล้ว แต่กลัวมันจะไม่เหมาะกับบท หญิงวางไว้ว่าอยากให้มันละมุนน่ะค่ะ


หญิงก็ต้องขอขอบคุณหลายๆคอมเมนท์หลายๆกำลังใจ ถ้าไม่มีคนอ่านหญิงก็คงไม่มีกำลังใจมาต่อ



ปล_คุณPFlove ชื่อเล่นว่าไงคะ เรามาสนิทๆกันเนอะ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.19 ☆ (12/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 13-12-2015 20:06:10
 :pig4:
เขิน  :o8:

หญิงแต่งไปก็เขินไปเหมือนกันค่ะ  อยากได้ทั้งนายหัวทั้งหมอตั้นมาเป็นสา แอบอิจฉาขิงกับคีย์เบาๆ5555
หัวข้อ: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.19 ☆ (12/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 14-12-2015 07:17:06
ลุ้น..มาหลายฉากแล้ว...คุณภูนะแกล้งคนอ่าน ฮาๆ .. สุขสมใจคุณครามซะที...
คุณครามช่วงหลังๆนี้พัฒนาการเร็วขึ้นนะ...เริ่มมีหยอดขิง..เรียกเมียซะด้วยนะ
ดีใจจัง..ขิงได้เป็นนายหญิงแล้ว... :mew1: :mew1:

ภาวนะอย่าให้ยายสามาระรานเลยนะ...บอกนายหัวไล่ออกไปไกลๆเลยกลัวจัง...แบบว่าหวงแทนขิงอะนะ อิ อิ  :hao6:

ขอบคุณคุณภูที่นำเสนอนิยายดีให้อ่าน กอดสองที  :กอด1: :กอด1:


หญิงไม่ได้แกล้งนะคะ ความจริงหญิงแต่งฉากอัศจรรย์แล้ว แต่กลัวมันจะไม่เหมาะกับบท หญิงวางไว้ว่าอยากให้มันละมุนน่ะค่ะ


หญิงก็ต้องขอขอบคุณหลายๆคอมเมนท์หลายๆกำลังใจ ถ้าไม่มีคนอ่านหญิงก็คงไม่มีกำลังใจมาต่อ



ปล_คุณPFlove ชื่อเล่นว่าไงคะ เรามาสนิทๆกันเนอะ

ยินดีมากมาย เราชื่อ Pinny จร๊า   :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.19 ☆ (12/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 14-12-2015 10:52:39
อุ้ย เค้าได้กันแล้ว น่ารักกกก  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.19 ☆ (12/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 14-12-2015 18:23:14
ในที่สุด ในที่สุด สองคนก็ลงเอยกัน หุหุ
(แอบ) หวังว่าจะไม่มีดราม่าตอนต่อไปนะครับ


ไม่สปอยนะคะ หญิงจะไม่สปอย คุณseaz อย่ามาหลอกถามหญิงให้ยากเลย หญิงสวยแล้วก็ฉลาดนะคะ. อิอิ

โห ... แบบนี้แสดงว่าตอนหน้านี่ ดราม่าจัดหนักหรือเปล่าครับเนี่ย (ต้องเตรียมผ้าเช็ดหน้า กระดาษทิชชู สินะครับ)
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.19 ☆ (12/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 15-12-2015 16:52:38
อ่านจบซะขนาดนี้ก็ต้องติดตามสิครับจะเหลือหรอ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.20 ☆ (16/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 16-12-2015 14:58:43





อันดามัน ...ซ่อนรัก
Andaman In Love
Ch. 20






กว่าจะออกมาจากเกาะก็สายมากแล้ว เพราะวันนี้มีคนเกเร ไม่ยอมตื่น ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมลุก พอบอกว่าจะให้รางวัลเท่านั้นแหละ รีบลุกเชียว เหอะ!! เดี๋ยวนี้ชักจะลวดลายเยอะขึ้นทุกวัน ทุกครั้งที่มาเกาะไข่ ผมจะได้รูปเค้ากลับไป ไม่รูปก็สองรูปนี่แหละ ท่านั่งบ้าง ยืนบ้าง สบายๆก็ยังมี แต่อันหลังนี้หายากหน่อย ส่วนมากผมจะถ่ายตอนเผลอ หรือตอนทำงานซะมากกว่า บางครั้งก็เหมือนเค้าจะรู้ตัวนะ แต่ก็ไม่ว่าอะไร มีอยู่รูปหนึ่งเค้าหันมามองกล้องด้วย ผมว่ารูปนี้เขาดูอบอุ่นแล้วก็มีเสน่ห์ดี ชักไม่อยากเอาลงเพจแล้วสิ

พวกเราถึงบ้านตอนสิบโมงพอดี ไปอยู่เกาะมาสองวัน ผมไม่ได้รับโทรศัพท์ใครเลย เพราะเอาเก็บไว้ในกระเป๋าตลอด เห็นรถคีย์จอดอยู่หน้าบ้านแบบนี้ต้องโดนวีนใส่แน่ๆ เพราะมิสคอลของคีย์มีเกือบยี่สิบสายแหนะ ของคุณครามก็มีเหมือนกันแล้วก็ยังไม่ได้โทรกลับด้วย ผมว่าเราสองคนโดนแน่ๆ


"พี่คราม ขิง!!" คีย์ทำหน้างอเดินมาหา

"ว่าไง มาตั้งแต่เมื่อไหร่?" คุณครามถาม

"มาตั้งแต่เมื่อกี้ เมื่อวานก็มา แต่ไม่เจอ พี่นุ้ยบอกว่าพี่ครามพาเพื่อนของคีย์ไปเกาะไข่" เห็นหน้างอ ปากยื่นขนาดนี้แต่คุณครามก็ยังแกล้งทำเป็นไม่สนใจ น่าสงสารเนอะมีพี่ชายแบบนี้

"แล้วมานี่มีอะไรรึเปล่าเรา?"

"มี"

"อิตาหมอบอกว่าพี่ครามคบกับขิงจริงเหรอ? ไปทันจีบกันตอนไหน ทำไมคีย์ไม่รู้?" ผมรู้สาเหตุของมิสคอลเกือบยี่สิบสายนั่นละ

"บอกมาเลยนะขิง เดี๋ยวนี้มีอะไรไม่บอกเพื่อนนะ!!"

"เห้ยไม่ใช่...คือจะว่าไงดีอะ คุณช่วยหน่อยสิ" ผมหันไปสะกิดคุณคราม

"คุณ!!" อะไรอะ ทำไมไม่ช่วยกันเลย ผมเลยลากคีย์ขึ้นมาข้างบน ไม่อยากพูดแถวนั้นเดี๋ยวคนอื่นได้ยิน เพราะที่บ้านนี้ยังไม่มีใครรู้เรื่องผมกับคุณครามเลย ยังคิดอยู่ว่าจะบอกคุณป้ายังไง แล้วท่านจะรู้สึกยังไงที่ลูกชายคนเดียวมีแฟนเป็นผู้ชายแบบนี้

"ไปคุยกันที่ห้องนะ" ผมลากคีย์ที่ทำหน้าบึ้งเข้าไปในห้องคุณคราม ส่วนเจ้าของห้องตอนนี้เข้าไปอาบน้ำแล้ว คนขี้ร้อนก็งี้ เหงื่อออกเต็มเลย ผมเลยใช้ช่วงเวลานี้เล่าให้คีย์ฟัง แต่ไม่ได้เล่าหมดนะ เอาย่อๆไม่ลงรายละเอียดก็พอ

ตอนนี้คุณครามออกมาแล้ว คีย์เลยมองหน้าผมกับคุณครามสลับกันไปมา

"เห็นไหม..บอกแล้วว่าให้มาเป็นพี่สะใภ้เราตั้งแต่แรกก็ไม่เชื่อ!!" เอาเป็นว่าตอนนี้เราสองคนเคลียร์กันจบแล้ว แล้วก็เป็นอย่างที่เห็นนั่นแหละ

"พอแล้วห้ามถามอีก"

"อีกคำถามเดียว แล้วจะไม่ถามอีก"

"อื้ม"

"ได้กันรึยัง? อิอิ"

"เป็นเด็กเป็นเล็ก อย่าทะลึ่ง!!" คุณครามว่า

"เด็กที่ไหน เท่าขิงเหอะ ถ้าคีย์เด็ก งั้นขิงก็ต้องเด็ก พี่ครามพรากผู้เยาว์นะรู้ตัวไหม? อิอิ"

"หึ!! แล้วไอ้หมอมันไปไหน? ไม่เห็นหน้า"

"ถามคีย์ทำไม ไม่ได้เกี่ยวข้องกันสักหน่อย ใครจะไปรู้"

"ก็เห็นเคยสนิทกัน นึกว่าจะกลับมาดีกันแล้วซะอีก"

"ไม่มีทาง"

"โกรธอะไรมันนักหนา หื้อ?" คุณครามจ้องเอาคำตอบ เรื่องนี้ผมไม่รู้ด้วยนะ เคลียร์กันเอง

"ก็......ช่างมันเหอะ!! พี่ครามอย่าสนใจเลย รู้ไว้ก็พอ...ว่าเพื่อนพี่อะมันแย่มาก"

"แล้วนี่คุณป้ารู้รึยังเรื่องนี้?" คีย์ถาม ผมเลยหันไปมองคุณครามแล้วก็ส่ายหน้า ยังไม่รู้ว่าจะบอกยังไงดีเหมือนกัน กลัวท่านรู้แล้วเสียใจ กลัวบอกให้เลิกคบกัน กลัวนั่นกลัวนี่ไปหมด

"อย่าเครียด เดี๋ยวชั้นจัดการเองเรื่องนี้" คุณครามขยี้หัวเบาๆ ผมเลยยิ้มให้ แต่ก็ยังกังวลอยู่ดีนั่นแหละ ใครไม่มาเจอแบบนี้ไม่รู้หรอก

"ให้คีย์ช่วยไหม?"

"จะช่วยยังไง?" ผมถาม

...............................

เสียงรถคุณป้ามาแล้ว แต่ผมยังไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจเลย  จะเอายังไงดี? คีย์บอกว่าทำใจเย็นๆ ทำตัวตามปกติ แต่ลองมาเป็นผมสิจะรู้ว่าเป็นยังไง?

"คุณป้ากลับมาแล้ว สวัสดีครับ" คีย์เอ่ยทักทายเป็นคนแรก พร้อมกับเดินเข้าไปช่วยถือของ ผมก็ยกมือไหว้ท่านพร้อมกับคุณคราม

"ว่าไงเราได้เจอแล้วสินะ เพื่อนเราน่ะ? ทีนี้คงไม่ทำหน้ามุ้ยออกบ้านไปอีกแล้วนะ" คุณป้าหัวเราะเบาๆ

"ก็....คุณป้าอะ ไม่ได้ทำแบบนั้นสักหน่อย ก็ใครใช้ให้พี่ครามขโมยเพื่อนคีย์ไปกันล่ะ" คีย์เถียงง้อแง้ง

"พี่เค้าแค่พาไปทำงานด้วยเอง แล้วรู้รึยังว่าป้ารับเพื่อนเราเป็นลูกอีกคนหนึ่งแล้วนะ" คีย์หันมากรอกตามองผมกับคุณคราม แล้วทำหน้าแปลกใจ เหมือนกับจะถามว่าตั้งแต่ตอนไหน ทำไมไม่รู้ อะไรประมาณนี้

"ยังเลยครับ"

"แล้วพี่ครามเค้ายอมเหรอครับคุณป้า คีย์ว่าเดี๋ยวขิงก็คงได้กลับบ้านแล้วนะครับ คงไม่ได้อยู่กับคุณป้าหรอก"

"นี่ไงป้าถึงอยากให้มาเป็นลูกอีกคน ปะไปนั่งคุยกันดีกว่า" คุณป้ายื่นกระเป๋าให้พี่นุ้ยเอาไปเก็บ

"แล้วทานอะไรกันมารึยังลูก?"

"ทานแล้วครับ" คีย์ตอบก่อนคนอื่นเค้าเลย คุณป้าก็เลยยิ้ม เพราะความจริงตั้งใจจะถามผมกับคุณครามด้วย

"แล้วเราสองคนล่ะทานรึยังลูก? มานี่สิมาให้แม่กอดที ไม่ได้เห็นหน้าตั้งหลายวัน" คุณป้ากางแขน..ให้ผมเข้าไปกอด

"ทานจากที่โน้นมาแล้วครับ" ผมกับคุณครามตอบขึ้นพร้อมกัน คุณป้าเลยยิ้มใหญ่ คงคิดว่าลูกชายสองคนช่างเข้ากันได้ดี ขนาดตอบยังตอบพร้อมกันเลย

เสียงหอมดังฟ๊อด ดีนะแม่ผมไม่ทำแบบนี้ เพราะผมห้ามไว้ตั้งแต่ขึ้นม.1 แล้ว อายเพื่อนมัน

"แล้วที่โน้นเป็นไงบ้างลูก?" คุณป้าปล่อยผมออกมาแล้วหันไปถามคุณคราม

"ก็ดีครับคุณแม่ ตอนนี้กลับมาเป็นปกติแล้วครับ" คุณป้าถามถึงการซ่อมแซม-ทำงานหลังจากที่โดนพายุไปเมื่อครั้งก่อน

"แล้วเราล่ะ..เข้าไปช่วยพ่อทำงานเป็นไงบ้าง?" คุณป้าหันมาถามคีย์ที่นั่งอยู่ข้างๆ

"ก็เริ่มเข้าที่เข้าทางบ้างแล้วครับ แรกอาจดูขลุกขลักไปนิดหน่อย"

"อื้มดีละ แล้วเมื่อไหร่จะพาแฟนมาให้ป้ารู้จักบ้าง หืม? ไปอยู่เมืองกรุงตั้งนานน่าจะมีแล้วมั้งน่ะ ถึงไม่ยอมกลับมาสักที ว่าไงเรา?"

"โหย...คุณป้าก็ว่าไปนั่น ใครจะมาเอาคีย์ ว่าแต่คีย์ รอพี่ครามมีพี่สะใภ้ให้คีย์ก่อนนี่แหละ คีย์ถึงค่อยหา อิอิ" คีย์ขยิบตาให้ บอกว่า พูดสิ..เปิดช่องให้แล้วเนี๊ยะ

"ก็กำลังดูๆอยู่" คุณครามตอบเสียงเรียบ แต่ผมใจเต้นๆตึกตักๆ มือก็เย็นไปหมด จนคุณครามต้องจับมือไว้ แต่ผมแกะออก เพราะกลัวคุณป้าเห็น

"ห๊ะ..จริงเหรอตาคราม เป็นใครที่ไหนกัน พามาให้แม่รู้จักบ้างนะลูก แม่ดีใจจังที่ลูกของแม่เข้มแข็งขึ้น แล้วก็เดินไปข้างหน้าได้สักที" เห็นคุณป้ายิ้มแบบนี้แล้ว ผมยิ่งไม่กล้าทำลายความหวังของท่านเลย

"ไว้พร้อมก่อนนะครับ" คุณครามตอบแบ่งรับแบ่งสู้

"จ้า แล้วคบกันมานานรึยังลูก? แม่เห็นทำแต่งานก็นึกว่าจะไม่สนใจสาวๆแล้วซะอีก" ผมกลืนน้ำลาย เพราะคำว่าสาวๆของคุณป้า

"เพิ่งคบกันครับ แต่ดูๆกันมาได้สักพักแล้วครับ"

"ดีแล้วล่ะ ค่อยๆเป็นค่อยไปก็ได้ลูก" คุณป้าคงจะหมายถึงให้ดูกันไปนานๆ จะได้ไม่เหมือนภรรยาคนก่อนของคุณคราม

"ครับ"

"ว้าว แบบนี้มันต้องฉลองนะเนี๊ยะ คีย์จะได้พี่สะใภ้กับเค้าแล้ว .... แล้วคุณป้าอยากได้ลูกสะใภ้แบบไหนครับ?"

"แบบไหนก็ได้ที่ทำให้ลูกชายแม่มีความสุข แม่ก็ชอบทั้งนั้นแหละ ไม่ต้องรวย หรือสวยมาก แต่รักลูกของแม่มากก็พอ" คุณป้ายิ้มให้พวกเรา

"คุณป้าน่ารักที่สุดเลย เป็นแม่ที่ประเสิร์ฐที่สุดไปเลยครับ" คีย์เข้าไปกอดคุณป้า จะว่าประจบก็ใช่อีกนั่นแหละ สมบทบาทที่สุด

"ความจริงคีย์ก็มีเพื่อนคนหนึ่งนะครับ พ่อแม่เค้าก็น่ารักแล้วก็เข้าใจลูกมากเลย ขนาดว่าลูกมีแฟนเป็นผู้ชายก็ยังรับได้เลย ขอแค่ลูกมีความสุข เรื่องอื่นไม่สำคัญอะไรเลย คุณป้าคิดว่าไงครับสมมุติถ้าพี่ครามมีแฟนเป็นผู้ชายขึ้นมา?" ผมกับคุณครามหันมามองหน้ากันแล้วรอดูปฏิกิริยาของท่าน

"อื่ม....มันก็พูดยากนะเรื่องแบบนี้ ป้าคงคิดหนักอยู่เหมือนกัน แต่พี่ชายเราไม่ได้เป็นแบบนั้นนิ ยังแมนแล้วก็มีแฟนแล้วด้วย ป้าให้คำตอบไม่ได้หรอก ว่าแต่ทำไมเราถึงถามแบบนี้กับป้าขึ้นมาล่ะ หืม?"

"ก็........คุณป้ารักพี่ครามขนาดนี้ คีย์เลยอยากรู้ว่าถ้าเกิดพี่ครามเป็นแบบนั้นขึ้นมาจริงๆ คุณป้าจะว่ายังไงไงครับ"

"อื่ม ....เอาล่ะ แม่ขอตัวไปพักผ่อนก่อนดีกว่า เอาไว้ตอนกลางวันค่อยลงมาทานข้าวด้วยกันนะลูก แล้วเราล่ะจะอยู่ทานข้าวกับป้าด้วยรึเปล่า?"

"ไม่ดีกว่าครับ เดี๋ยวคีย์จะกลับไปทานกับคุณพ่อ ปล่อยให้ทานคนเดียวเดี๋ยวจะน้อยใจอีก อิอิ"



พอป่วนคนอื่นเค้าจนพอใจแล้วคีย์กลับ ผมกับคุณครามเลยแยกตัวออกมา คิดหนักเหมือนกันนะเรื่องแบบนี้ เพราะมันค่อนข้างเซนซิทีฟ ไม่ใช่พ่อแม่ทุกคนหรอกที่จะยอมรับได้ ส่วนเรื่องที่คีย์เล่าเมื่อกี้ ไม่ใช่เรื่องจริงหรอก ผมแอบถามแล้วว่าเพื่อนคนไหนเหรอที่เป็นแบบนั้น คีย์เลยบอกว่าไม่มีหรอก ด้นกันสดๆตอนนั้นเลย อึ้งไปเล็กน้อย แต่ก็ต้องขอบใจคีย์อีกนั่นแหละที่ช่วย ถึงจะยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนจากคุณป้าก็เหอะ

"อย่าเครียด" ครามจูบเบาๆที่หัวคิ้ว

"คุณก็เหมือนกันนะครับ อย่าเครียด ค่อยๆคิดก็ได้ หรือจะปิดไว้แบบนี้ก็ได้ ผมก็โอเคดี"

"ไม่ได้หรอก ...ถ้าคบกัน..ชั้นก็อยากให้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายรับรู้มากกว่า แล้วพ่อแม่นายล่ะ..จะว่าอะไรไหม?"

"ผมว่าไม่ว่าหรอกมั้งครับ ท่านเป็นคนหัวสมัยใหม่"

"ดีแล้วล่ะ ชั้นจะได้ไปของ่ายๆหน่อย" ครามเริ่มเข้ามาคลอเคลีย แล้วจูบเบาๆที่ปากบาง ค่อยๆหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ

"ขอได้ไหม?" ผมพยักหน้าแล้วหลับตารับจูบเขาต่อ จูบครั้งนี้ช่างเอาแต่ใจแล้วก็เรียกร้องเหลือเกิน ผมเข้าใจนะ...เค้าเป็นแบบนี้คงเพราะกังวลกับเรื่องของเรา ผมก็เหมือนกัน ที่ยอมให้เค้าเรียกร้องจนหมดแบบนี้ก็เพราะต้องการเค้าเหมือนกัน ความรู้สึกมันบอกว่า ขอแค่เวลานี้ที่เรามีความสุขก็พอ ส่วนเรื่องอื่นยังไม่เกิด ก็ยังไม่อยากคิด

...............................................


"ยังเจ็บอยู่ไหม?" เขาถามเสียงอ่อนโยน แล้วจูบที่หน้าผาก

"ก็..นิดหน่อยครับ" ความจริงมันก็ไม่ค่อยเจ็บเหมือนครั้งแรกแล้ว แต่แต่ก็ยังเจ็บอยู่นิดหน่อย

"เดี๋ยวบ่ายออกไปข้างนอกกัน ไปเที่ยว แล้วก็แวะไปซื้อตัวช่วยด้วย" คุณครามยิ้มมีเลศนัย

"ตัวช่วยอะไรครับ?"

"ก็ตัวช่วยไม่ให้นายเจ็บไง" ก็ยังดีที่รู้ว่าผมเจ็บ

"ก็ได้ครับ จะได้ไปซื้อถุงด้วย"

"ถึงขนาดนี้แล้วยังจะใส่อยู่อีกเหรอ?" ถามแบบนี้หมายความว่าไง

"ไม่รู้ล่ะ..!! ต้องใส่..คุณนั่นแหละเกเรไม่ยอมใช้มัน" ผมจ้องตา อย่าคิดนะว่าผมไม่รู้ ผมเห็นในลิ้นชักหัวเตียง

"ชั้นไม่ชอบใส่ มันรัด" ไม่ต้องมายู้หน้าเลย

"เชื่อใจชั้นนะ....ชั้นใช่คนแบบนั้นหรอก" ผมเชื่อนะ..ว่าเค้าไม่ใช่คนแบบนั้น เพราะถ้าเค้าคิดจะเจ้าชู้จริง คงไม่ถูกเมียทิ้งแบบนี้หรอก ผู้หญิงสวยๆที่เกาะนั่นก็มี แต่เค้าก็ไม่เคยยุ่ง บอกว่าไม่ชอบกินไก่วัด เดี๋ยวจะเสียระบบ แต่ผมว่าก็น่าจะใช่ส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่งคือเค้ายังปิดกั้นตัวเองอยู่ล่ะมั้งตอนนั้น จะว่าไปผมก็เป็นไก่วัดที่ถูกกินเมือนกันนะ เหอะ!!

"มองแบบนั้นหมายความว่าไง?"

"ก็ครั้งก่อนคุณบอกว่า ที่ไม่ไปยุ่งกับพวกสาวๆที่ฟาร์มเพราะ ตัวเองไม่ใช่สมภารที่ชอบกินไก่วัด แล้วก็กลัวจะเสียระบบ แต่ผมก็เป็นไก่วัดเหมือนกันนะอย่าลืมสิ"

"นายมันเป็นกรณียกเว้น เป็นเด็กเส้นคุณแม่ แถมยังไม่ได้ทำงานที่เกาะด้วย เข้าใจไหม?" เขาผลักหัวผมเบาๆ

"ขี้โม้ แถ"

"เดี๋ยวนี้ปากเก่งจังนะ หึๆๆ" ครามก้มลงจูบอีกครั้ง อย่างมันเขี้ยว

"พอแล้วคุณ ฮ่าๆๆ" ผมเป็นคนบ้าจี้ ถ้าทำเบาๆจะจั๊กเดียมขึ้นมาทันที แล้วยิ่งถูกลิ้นแตะเบาๆที่คอจะยิ่งทำให้ขนหนาวลุกเกรียวขึ้นมาทันทีเลย ข้อนี้คุณครามก็เพิ่งรู้ แต่ก็ยังชอบทำอยู่

"พอแล้วคุณ ผมไม่ไหวแล้ว ฮ่าๆๆ" น้ำตาเล็ด

"ชั้นยังไม่ได้ทำอะไรเลย ก็ไม่ไหวแล้ว?"

"ทะลึ่ง!! ไม่คิดเลยนะว่าคุณจะเป็นคนแบบนี้" คุณครามยักคิ้วใส่ ว่าแบบนี้แบบไหน

"ลามก หื่น แล้วก็เจ้าเล่ห์ที่สุด ....นิสัยหมาป่าชัดๆ" ผมปากเก่งไปงั้นแหละ เอาเข้าจริงๆ ก็เสร็จเขาอยู่ดี ชั่วโมงบินต่างกันซะขนาดนี้

"งั้นคืนนี้ลูกแกะถูกกินอีกแน่ๆ เตรียมตัวไว้ได้เลย หึๆๆ" ผมชอบเวลาเค้าปล่อยตัวสบายๆแบบนี้จัง ชอบยิ้มหวานๆแบบนี้ แต่ขรึมๆก็ดูน่าค้นหาดี

"ไปแต่งตัวกันเถอะครับ เดี๋ยวตอนเย็นจะได้กลับมาทานข้าวกับคุณป้า"

"คุณป้าอะไร เรียกแม่สิ" ผมสะบัดหน้าหนี ไม่อยากเห็นสายตาล้อเลียนแบบนั้น ยิ่งเห็นก็ยิ่งเขิน ใครจะไปกล้าเรียกกัน







....................................

>>>ต่อข้างล่างจ้า  เกินจำนวนตัวอักษร
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.20 ☆ (16/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 16-12-2015 15:04:52





(ต่อจ้า)






เราออกมากินข้าวที่ห้าง แล้วก็แวะซื้อของกันที่นั่นเลย จะได้ไม่เสียเวลา ไม่คิดว่าเค้าจะมีโมเมนต์แบบนี้เหมือนกัน เข็นรถเข็น ส่วนผมก็เดินอยู่ข้างๆ ......เราเดินไปสักพัก ซื้อนั่นซื้อนี่จนเต็มไปหมด แต่ไม่ทำไมผมถึงรู้สึกเหมือนมีคนตาม พอหันกลับไปก็ไม่มีใครเลย หรือเรารู้สึกไปเอง ผมเลิกคิดแล้วเดินดูของต่อ

"คุณจะเข้าไปซื้อจริงดิ งั้นผมขอรออยู่ข้างนอกได้ไหมอะ?" คือเข้าไปคนเดียวยังพอว่านะ แต่ถ้าเข้าไปสองคน ผู้ชายทั้งสอง แถมยังซื้ออะไรแบบนั้นอีก ผมว่ายิ่งทำให้คนมองไปใหญ่

"ไม่ได้ ใช้ด้วยกันก็ต้องไปด้วยกัน"

"งั้นไม่ต้องใช้ก็ได้" ก็คนมันเขินนี่หน่า

"ไม่งั้นนายจะเจ็บนะบอกไว้ก่อน" ผมรู้ แล้วก็เจอมากับตัวแล้ว แค่โลชั่นพวกน้นมันช่วยได้ไม่เท่าไหร่หรอก

"สั่งเอาทางเน็ตก็ได้ นะคุณ?" ผมร้องขอ

"แล้วคืนนี้ล่ะ?"

"ไม่ให้ ก็คุณเพิ่ง.... หึ!!" ผมงอน จะหื่นอะไรนักหนา แล้วตอนที่ยังไม่ได้เป็นแฟนกัน เอาไปเก็บไว้ที่ไหน หรือระบายยังไง? อยากถามนัก

"ก็นั่นมันเมื่อกี้ แต่นี่สำหรับตอนกลางคืน"

"แต่คุณเพิ่งทำไปนะครับ สองวันครั้งไม่ได้เหรอ?" ผมต่อรอง

"ขี้งก!!"

"คุณนั่นแหละขี้หื่น" ผมพูดเบาๆให้ได้ยินกันแค่สองคน

"ช่วยไม่ได้ก็นายมันน่ากินนิ" ตายไปเลยสิเจอประโยคนี้ ยังมีอะไรที่เซอร์ไพรส์ผมกว่านี้อีกไหมเนี๊ยะ หัวใจจะวาย จากคนที่ทื่อๆเหมือนท่อนไม้ บางครั้งก็ร้อยอารมณ์จนตามไม่ทัน กลับกลายมาเป็นแบบนี้ บอกเลยผมตั้งหลักไม่ไหว ดาเมจรุนแรงเกินไปละ ฟิตตี้เฉด ออฟ คราม :)

วันเว้นวัน" เขาต่อรอง แต่ทำไมเราต้องมายืนทำอะไรแบบนี้กันที่นี่ด้วยเนี๊ยะ ผมไม่เข้าใจ เรามาถึงจุดนี้กันได้ยังไง?? จะบ้าตาย

"ก็ได้" ก็ยังดีกว่าทุกวันล่ะวะ

"งั้นกลับกัน สัญญานี้เริ่มพรุ่งนี้นะ" ผมหันมาอย่างรวดเร็ว อ้าปากพะงาบๆ จะด่าก็ด่าไม่ออก เพราะสายตากรุ้มกริ่มแบบนี้ ทำให้พูดอะไรไม่ออก

"เป็นอันว่าตกลง งั้นกลับกัน" รู้สึกพ่ายแพ้อย่างย่อยยับ

"อิขิงงงงงง" ใครมาเรียก ผมหันไปก็เจอผู้หญิงตัวโตคนหนึ่ง กำลังเดินเข้ามาหา แถมยิ้มให้ยิ่งกว่านางงามซะอีก

"เรียกผมเหรอครับ?" ตอนนี้คือมืน แล้วก็งงมาก ผมคิดว่าเราไม่น่าจะเคยรู้จักนะ ส่วนคุณครามก็กำลังยืนมองอยู่เหมือนกัน

"ก็เออน่ะสิ" ตอบเสียงห้าวขนาดนี้ ไม่ใช่ผู้หญิงแล้วล่ะครับ

"เออ..ขอโทษนะครับ เราเคยรู้จักกันด้วยเหรอครับ?" ไม่ว่าจะมุมไหน ผมว่า..ผมไม่น่าจะเคยรู้จักเธอนะ

"เคยสิยะ..ชั้นไง แพรรี่"

"แพรรี่ไหน?" ในชีวิตนี้รู้จักแค่ แพรรี่ พาย คนเดียวเท่านั้นแหละ แพรรี่แบบนี้ไม่เคยนะ ผมมองเธอ แล้วเธอก็มองผม

"อ่อลืมไป..นั่นชื่อใหม่ แกคงไม่ได้เข้าไลน์กลุ่ม เพื่อนตอนสมัยมัธยม ชั้นไงพนัสพงศ์ ห้องม.6/2 ชั้นเป็นเพื่อนห้องเดียวกับแกตอนสมัยมอปลายไง แถมยังอยู่ข้างบ้านยายแกด้วย" ในหัวมีภาพเพื่อนผู้ชายคนหนึ่งที่ชอบอยู่กับกลุ่มเพื่อนผู้หญิง ตัวดำๆ แห้งๆ หัวเกรียนๆคนหนึ่ง

"พนัสเหรอ?" มันพยักหน้าแล้วยิ้มหวาน "เห้ย!! ไม่น่าเชื่ออะ" พูดไม่ออก นะจุดนี้บอกเลยว่าจำมันไม่ได้จริงๆ คือมันเปลี่ยนไปมาก ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นผู้หญิงแล้ว สูงยาว ผิวขาวขึ้น เรียกว่าสีน้ำผึ้งน่าจะถูกกว่า แล้วก็มีหน้าอก ผมมองตาม แล้วมันก็ยิ้มให้จนเห็นฟันครบสามสิบสองซี่

"เป็นไง สวยล่ะสิ" ผมพยักหน้าหงึกหงัก

"นึกว่าจะจำไม่ได้ จนต้องให้เล่าถึงวีรกรรมของชั้นตอนแอบลวมลามแกตอนไปเข้าค่ายลูกเสือ อิอิ" คุณครามขมวดคิ้ว ไม่มีอะไรมากหรอกครับแค่มันแอบจับของผมตอนอาบน้ำเสร็จเฉยๆ

"เห้ยไม่ต้องๆ จำได้แล้ว ว่าแต่สวยเนอะ"

"แน่นอนย่ะ ตลึงล่ะสิ" มันสบัดผมยาวเป็นลอนใส่

"แล้วนี่แกมาซื้ออะไร ชั้นมีเรื่องจะคุยกับแกเยอะเลย งั้นไปหาที่นั่งคุยกันไหม แกกินข้าวยัง?" ผมหันไปมองคุณคราม เค้าก็พยักหน้าตอบตกลง

"ได้ๆ เราก็ยังไม่ได้กินอะไรเลย"

"มาโรงมาเรา พูดกูเหมือนเดิมเถอะค่ะ กูขนหนาวลุก" มันทำหน้าสยอง ผมเลยพยักหน้าใส่ ก็ไม่เจอกันมาตั้ง 6-7 แล้ว มันก็ต้องรู้สึกเขินๆกันบ้างสิ

"แล้วพ่อสุดหล่อที่ยืนข้างๆแกใครอะ เพื่อนเหรอ? หรือว่ารุ่นพี่?" ถ้าจะกระซิบเสียงดังขนาดนี้ พูดออกมาเลยเหอะ มันบุ้ยปากไปทางคุณคราม แล้วเขยิบเข้ามากระซิบผม สายตานี้ไม่บ่งบอกเลยนะว่าถูกใจ ส่วนคุณครามก็เก๊กขรึมไม่สนใจ แต่ก็ไม่ได้เขยิบหนีไปไหน

"เราว่า....ไปหาที่นั่งคุยกันก่อนไหม เริ่มปวดขาแล้วอะ คนก็เริ่มมองแล้วด้วย แหะๆ"

"ได้เลย ตามแพรรี่มาค่ะเพื่อนขิง" ผมหันไปมองคุณครามแล้วก็จูงแขนเดินตามมันไป เรามานั่งกินข้าวที่ซิสเลอร์ มันบอกว่าอยากกิน แต่ไม่มีเพื่อน มาเจอพอดี..เลยสรุปว่ากินอันที่มันอยากกินนี่แหละ เอ่อดีเนอะ..!!

"เอ้ากินสิคะ มองชั้นแล้วมันไม่ได้ช่วยให้อิ่มหรอกนะ ชั้นรู้ว่าสวย แต่แกมันไม่ใช่สเป็คชั้นหรอก บอกไว้ก่อน" โอ้..แม่คุณมั่นจริงๆ ขนาดว่าไม่ใช่สเป็ค ตอนมอปลายผมโดนมีลวมลามตั้งหลายครั้งแหนะ  จะว่าไปผู้ชายในห้องก็โดนหมดแหละ ต้องผ่านมือมนัสหมดทุกคน คิดแล้วสยองปนตลก

"อยากชิมสเต็กปลาแซลมอน" ผมหันไปมองคนข้างๆ แล้วก้มมองจานตัวเอง ก็ได้..แบ่งให้นิดหน่อย ก็ได้ คุณครามยิ้มกริ่มแล้วตักสเต็กปลาแซลม่อนเข้าปาก ส่วนมนัสหรือแพรรี่ก็มองตาไม่กระพริบ

"นี่ขิง สรุปแกอะไรกับพ่อรูปหล่อคนนี้ ตอบชั้นมาเดี๋ยวนี้นะ?"  ผมกำลังจะเอาสเต็กเข้าปาก ถึงกับชะงัก

"นี่..คุณคราม เจ้านายเราเอง"

"เหรอ? เจ้านายแล้วทำไมต้องตักนั่นตักนี่ให้กันกินด้วย ชั้นสังเกตตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ ตอบความจริงมาเดี๋ยวนี้นะ" มนัสชี้ส้อมมาข้างหน้า อะไรเนี๊ยะวันนี้มันวันอะไรกัน ต้องมีให้ลุ้นได้ตลอดเลย

"ก็...ตามที่มึงสงสัยนั่นแหละ" ผมสารภาพ ปิดไปก็แค่นั้น ว่าแต่นี่มันดูออกขนาดนั้นเลยเหรอวะ??

"ก็แค่เนี๊ยะ ตอบตั้งแต่ตอนแรกก็จบ ตักข้าวจนแทบป้อนกันอยู่แล้ว ยังจะกล้าตอบเจ้านายอยู่อีก"

"ก็นะ" ตอบได้แค่นี้แหละ โดนตอกมาแต่ละประโยคแรงๆทั้งนั้น

"ความจริงชั้นก็เห็นแววแกมาตั้งแต่ ม.ปลายแล้วแหละ ว่าแกอะ..ไม่เหมาะกับการมีเมียหรอก เป็นเมียเค้าอะเหมาะกว่า" ผมทำหน้าเหวอ ส่วนคุณครามได้แต่ยิ้มมุมปากนิดหน่อย คงจะชอบใจล่ะสิ เหอะ!!

"แล้วเป็นไง ชอบล่ะสิ? ชั้นบอกให้แกลองตั้งแต่มอปลายแล้วก็ไม่เชื่อ" แพรรี่เบ้ปากใส่ ส่วนผมก็นั่งเงียบ โต๊ะนี้ก็มีแต่คุณเธอนั่นแหละที่พูดเยอะที่สุด

"ชั้นไม่ถามหรอกนะว่าใครรุก-ใครรับ เพราะดูแค่นี้ก็รู้แล้วว่าแกอะอยู่ข้างล่างให้เค้ากดแน่!!" คุณครามยิ้มกริ่ม ผมเลยถลึงตาใส่

"แล้วมนัสล่ะมาทำอะไรที่กระบี่?"

"อร๊ายยย!! อีนี่นิ ถ้าไม่เกรงใจว่าผัวแกอยู่นี่ชั้นจะตบปากแล้วนะ ทำไมพูดจาทำร้ายจิตใจสุภาพสตรีอย่างนี้" มันค้อนใส่ ...ก็เคยเรียกแบบนี้นิ จะให้เรียกแพรรี่ก็ไม่ชินอีก

"ขอโทษๆ มันติดปาก"

"ชั้นมาอยู่ที่นี่ได้เกือบ 2 ปีแล้ว เป็น ผจก ส่วนหน้าของโรงแรมxxx อะ"

"เป็นยามเหรอ?"

"อิบ้าขิง!! แหกตาดูก่อน สวยขนาดนี้ หุ่นขนาดนี้จะทำงานเป็นยาม" มันปรี๊ดใส่...ก็ไม่รู้นี่หว่า

"ขอโทษๆ แล้วทำอะไรอะ?"

"ทำฟร้อนท์ หรือรีเซฟชั่นอะ ออกจากที่เชียงใหม่ก็มาที่นี่นี่แหละ ที่นั่นเงินเดือนน้อย ที่นี่ให้เยอะกว่าแล้วก็แต่งหญิงได้ด้วย"

"แล้วไม่คิดถึงบ้านเหรอ มาทำงานที่นี่" เพราะมันเรียนที่ มช. ทำงานก็ที่นั่นเลย ไม่ได้มาเรียนตั้งแต่ปี1 แบบผม

"คิดถึงบ้างค่ะ แต่จะทำไงได้ อยู่ที่โน้นก็ดักดานไม่มีอนาคตสิคะ แถมพวกงี้เง้าก็เยอะ อยู่นี่มีโอกาสหาผัวฝรั่งกลับไปฝากพ่อกับแม่ด้วย ดีจะตาย" จบประโยคนี้แพรรี่ก็สาธยายชีวิตให้ฟังตั้งแต่อยู่เชียงใหม่ กรุงเทพฯ มาจนถึงที่นี่ว่าเป็นยังไงบ้าง? ชีวิตรักก็เช่นกัน บ่นว่ามีผัวไทยแล้วเลว

"ดูแลตั้งแต่เช้ายันเข้านอนยังไม่พอ มันดันด็อดไปเอากับชะนีเฉยเลย ชั้นล่ะเจ็บแค้นใจ เลยหนีมาอยู่ที่นี่แหละ" สรุปคือตอนนี้มันมีสามีเป็นฝรั่งเป็นชาวออสซี่ ชื่ออดัม เป็นกุ๊กอยู่โรงแรมเดียวกัน ถึงว่ามาเจอกันได้ ตอนนี้ชีวิตก็ราบรื่น มีความสุขดี อยู่ๆก็มีประโยคนี้ผลุดขึ้นมาในหัว "ดีแล้วทุนหัว..ที่มีผัวเป็นฝรั่ง" ผมว่ามันเหมาะกับสามีฝรั่งมากกว่านะ ทั้งลุคแล้วก็ไลฟ์สไตล์

"แล้วแกอะ มีผัวแบบนี้พ่อแม่แกรู้รึยังน่ะ?" วกกลับมาที่ผมอีกละ ไม่ชอบเลยอิคำที่มันใช้เนี๊ยะ จะอะไรนักหนา คำก็ผัว สองคำก็ผัว มันเป็นคำต้องห้ามนะรู้ไหม?

"เออๆก็ได้ ไม่เรียกแบบนั้นก็ได้"

"แล้วสรุปมีแฟนแบบนี้ พ่อกับแม่แกรู้ยัง?"

"ยัง แต่แม่ก็ถามนะ มีแซวบ้าง"

"แล้วแกตอบว่าไงอะ?"

"ก็ไม่ไงอะ บอกว่ายังไม่มี"

"ชั้นว่าถ้าพ่อแม่แกรู้ ..ไม่อยากนึกภาพเลย สงสารแฟนแก พ่อเลี้ยงคำปันดุอย่างกะเสือ"

"ว่าไป..พ่อกูไม่ได้ดุขนาดนั้น มึงก็พูดเวอร์" ผมพูดแล้วหันไปมองคุณคราม

"ว๊ายตาเถร..ตกใต้ถุน สองโมงกว่าแล้ว ชั้นต้องรีบไปรับอดัมแล้ว เค้าเลิกงานพอดี ไปนะจ๊ะ ม๊วฟๆ"

"ไปนะคะคุณคราม ถ้ามันดื้อจัดให้หนักเลยนะค่ะ อิอิ" ผมเบ้ปากใส่ ส่วนมันก็รีบเดินออกจากร้านไปอย่างรวดเร็ว มาเร็ว เคลมเร็ว ผมหันกลับมามองคุณคราม

"ยิ้มแบบนี้หมายความว่าไงครับ?"

"เพื่อนนายตลกดีนะ" ผมพยักหน้า "ชั้นไม่เคยเห็นนายพูดแบบนี้เลยสักครั้ง ดูแปลกดี"

"ผมเลือกคนพูดครับ กับเพื่อนผู้ชาย หรือกับผู้หญิงห้าวๆเท่านั้น ส่วนคนน่ารักๆ เรียบร้อยก็พูดดี" นึกถึงสมัยเรียนผมมีเพื่อนทุกประเภทเลย ทั้งน่ารักเรียบร้อยแบบคีย์ ไปจนถึงหัวโจก เกเร อันนี้เพื่อนสมัยมัธยม เพื่อนแถวบ้าน

"ได้ข่าวว่าพ่อดุเหรอ หือ?"

"ก็ไม่ได้ดุขนาดนั้น แค่ดูเป็นคนเสียงดัง โผงผางแค่นั้นเอง"

"นึกว่าดุ จะได้วางแผนพาหนี ถ้าไปขอแล้วไม่ยกให้"

"ตลกละ"

"หึๆๆ"

"กลับกันเถอะครับ"

.................................................
....................................

กลับมาถึงบ้าน คุณป้ากับพี่นุ้ยกำลังเข้าครัวอยู่พอดี ออกไปนอกบ้านก็เหมือนจะลืมความตึงเครียดไปได้บ้าง แต่พอกลับบ้านมาผมก็ยังกังวลอยู่เหมือนเดิม ยิ่งเห็นคุณป้ายิ้มให้มากเท่าไหร่ ทำดีกับเรามากเท่าไหร่ก็ยิ่งคิดมาก

"นั่นไงมากันแล้ว ได้อะไรมาเยอะแยะเลยลูก? แอบหนีไปเที่ยวกันไม่ชวนแม่บ้างเลย" ผมยิ้มให้ท่านแต่ดูเหมือนจะเป็นหน้าชื่นอกตรมเสียมากกว่า

"ได้ของใช้ส่วนตัว แล้วก็ขนมเด็กน้อยนิดหน่อยครับ" คุณครามยิ้มแซว ขนมเด็กน้อยก็ขนมผมนี่แหละ

"แค่สองอย่างเอง ทำเป็นบ่น" ผมชอบกินสแน็คแจ็ค กับทาโร่เลยซื้อตุนไว้ในห้อง แล้วเอามากินตอนดูทีวี เล่นเน็ต คุณป้าหัวเราะเบาๆ

"น้องก็ยังเด็กอยู่นิ ห่างจากเราตั้งหลายปี" นึกถึงประโยคที่คีย์แซวเมื่อตอนสายเลย

"ยิ้มแบบนี้แอบว่าชั้นกินเด็กล่ะสิ?" คุณครามกระซิบ

"ก็มันจริง"

"ทำไงได้ก็เด็กมันน่ากินนิ" คุณครามกระซิบต่อแล้วยักคิ้วให้สองที

"อะไรกันพี่น้องคู่นี้ กระซิบกระซาบอะไรกัน หืม?"

"ขิงเค้าบอกอยากช่วยคุณแม่ทำกับข้าวน่ะครับ" ทำทำหน้าเหวอ!!

"อ้าวเหรอจ๊ะ? มาสิลูก แม่กำลังต้องการลูกมืออยู่พอดี"

"ครับ งั้นผมขอตัวเอาของไปเก็บแล้วมาช่วยนะครับ" กลืนไม่เข้าคายไม่ออก จำเป็นต้องรับปากนั่นแหละ

"จ้าลูก" คุณป้าตอบรับแล้วเอามือมาลูบหัวผม

"งั้นผมก็ขอตัวด้วยนะครับ จะเข้าไปเช็คอีเมล์ลูกค้าสักหน่อย"

"จ้าลูก ถ้ากับข้าวเสร็จเดี๋ยวแม่ไปตาม" ผมกับคุณครามขึ้นมาข้างบน

"เอาหน่า ทำตัวให้เป็นปกติ อย่ากังวล" คุณครามขยี้หัวเบาๆ แล้วเดินเข้าห้องไป ส่วนผมเอาของเก็บ ล้างหน้าล้างตา แล้วก็ลงมาข้างล่าง

วันนี้เราทำแกงเลียง ปลาทอดราดพริก ไก่ผัดพริกไทยดำ แล่วก็แกงจืดตำลึง ส่วนมากคุณป้าเป็นคนทำ ผมกับพี่นุ้ยยืนเป็นลูกมือ คอยหยิบนั่นหยิบนี่ให้  หั่นผักบ้าง แล้วก็ชิม กับข้าวฝีมือคุณป้าก็อร่อยเด็ดเหมือนกันแหะ คุณป้าบอกว่าไม่ค่อยมีเวลาเข้าครัว แต่ถ้าว่างเมื่อไหร่ก็จะทำให้คุณครามทานตลอด ช่วงเวลานี้คิดถึงคุณนายที่บ้านจัง คิดถึงกับข้าวฝีมือคุณนายด้วย



<< ...................................................................... >>



หลังจากทานข้าวเย็นกันพร้อมหน้าแล้ว คุณป้าก็ขึ้นไปอาบน้ำ บอกกับพี่นุ้ยจะลงมาดูละครด้วย เพิ่งรู้แหะว่าคุณป้าก็คอละครหลังข่าวกับเค้าเหมือนกัน ไม่แตกต่างจากคุณนายที่บ้านเลย รายนั้นอินยิ่งกว่านางเอกอีก บางครั้งนางเอกมันเจ้าน้ำตาแล้วก็โง่ ถูกตัวโกงทำร้ายสารพัด ด่าเค้าแต่ก็ยังดูอยู่ พี่ก็ไม่เข้าใจเลยจริงๆ

คุณครามก็กลับห้องเค้า ส่วนผมก็กลับมาห้องผมสิ อาบน้ำเสร็จแล้วผมก็เอารูปมารีทัชนิดหน่อยแล้วก็อัพลงเพจ จะรูปใครอีกล่ะ ก็รูปนายหัวเกาะไข่นั่นแหละ ปกติผมไม่ค่อยถ่ายรูปคนหรอก ไม่ค่อยถนัดด้วย แต่ก็ไม่ได้ดูเลวร้ายอะไร ออกจะดูดีด้วยซ้ำ เพราะสถานที่สวย หรือเพราะนายแบบหล่อก็ไม่รู้ ลงไปแป๊บเดียวก็มีคนมากดไลค์ตั้วเกือบสองพันคนแล้ว เร็วเหมือนกันแหะ

ลงรูปเสร็จก็นอนเล่น ไม่มีอะไรทำ จะว่าไปมาคิดถึงเรื่องพี่สา คุณครามบอกว่า เราไม่มีหลักฐานอะไรว่าเค้าเป็นคนทำจริงๆ ถึงมันจะจริงอย่างที่ผมว่าก็เหอะ เลยต้องปล่อยไป ผมเลยกำชับคุณครามให้ระวังตัวให้มากขึ้น ไม่ใช่ว่าผู้หญิงตัวเล็กๆแบบนั้นจะทำอะไรเราไม่ได้ แล้วถ้าพลาดไปคือย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วนะ คุณครามก็รับปากว่าจะระวังตัวให้มากขึ้น

"ก๊อกๆๆ"

"ทำไมไม่เข้าไปหาชั้นที่ห้อง?"

"ผมเพิ่งเอารูปลง คุณอยากดูไหมครับ?"  ผมเอาโน๊ตบุ๊คมาเล่นบนเตียง คุณครามเลยพยักหน้าแล้วเดินมานั่งลงข้างๆ

"Godfather??" ใช่ครับผมตั้งชื่อโฟลเดอร์แบบนั้น

"ทำไมต้องก็อดฟาเทอร์?" เค้าถาม

"ก็มันเหมาะกับลุคคุณ" มาเฟียภาคใต้ ฮ่าๆๆๆ

"หึ..แต่เจ้าพ่อมีเมียเยอะนะ ไม่กลัวชั้นจะกลายเป็นแบบนั้นเหรอ?" ช่างกล้าถาม

"ถ้าเป็นแบบนั้นจริงผมไม่รอให้คุณทำร้ายผมหรอก ผมก็จะมีบ้าง ยุติธรรมดี" เอาสิ๊??

"เก่งจังเมียเจ้าพ่อเนี๊ยะ"

"คุณ..." เรียกแบบนี้อีกละ เมื่อคืนยังไม่ได้ว่าเลยนะที่เรียกแบบนั้น นายหญิง ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าต้องเป็นผู้หญิง จะใช้เรียกผู้ชายได้ไง ประสาท

"ก็ได้ๆ" คุณครามยกมือยอมแพ้

"ดูเสร็จแล้วกลับไปห้องคุณไปเลยนะ ผมก็จะนอนแล้วเหมือนกัน"

"ไม่เอาจะนอนนี่"

"ไม่ได้นะ เดี๋ยวคนอื่นมาเห็น"

"ทำไมนายทำเหมือนชั้นเป็นเมียเก็บจัง" ผมยิ้ม ดูเป็นคำตัดพ้อที่น่ารักนะสำหรับผม

"ก็ผมกลัวทุกคนมาเห็นแล้วกลายเป็นเรื่องใหญ่ ตอนนี้ไม่ได้มีแค่เรานะครับที่นอนอยู่ข้างบนนี่ มีแม่คุณอีกด้วยนะ"

"ไม่เป็นไร ตอนเข้ามาชั้นเห็นห้องคุณแม่ปิดไฟแล้ว ข้างล่างก็เหมือนกัน" ให้มันได้อย่างนี้สิ อะไรก็ดูเป็นใจไปหมด

"นะ???" คุณครามหันมาอ้อน อัพเวลแบบนี้ ...ผมก็แย่สิ



................................................................................

.................................................................

........................................











หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.20 ☆ (16/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 16-12-2015 15:46:09
ไหนบอกวันเว้นวันไงคุณครามมมม
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.20 ☆ (16/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 16-12-2015 16:13:31
เรียกแพทก็ได้ค่ะ หรือจะเป็นแพตตี้ก็ดีนะคะ กร๊ากกกก 5555555555  :hao7: อย่ามาทำสัยสัยนะเราไม่เชื่อเราเรียนมา  :laugh:

ตอนนี้เรื่อยๆโน๊ะ คุณครามหื่นจริงๆ ขิงดูกังวลมากกับการยอมรับของคุณหญิงแม่
ปล.อยากอ่านอีกกก แค่นี้ไม่พอ ฮอลลล
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.20 ☆ (16/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 16-12-2015 16:52:51
คุณครามเป็นแฟนที่น่ารักจัง เอาอกเอาใจสุดๆ
แต่กลัวคุณแม่จัง จะมีดราม่าหรือเปล่า
เสียดายที่เราไม่มีลูกเป็นเกย์ เพราะถ้ามี เราจะฟินมาก ยอมรับตั้งแต่ลูกยังไม่มีแฟน ก้ากๆๆ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.20 ☆ (16/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 16-12-2015 16:56:22
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.20 ☆ (16/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 16-12-2015 19:22:53
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.20 ☆ (16/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 16-12-2015 19:32:07
หวังว่าคุณแม่จะโอเคไม่ใช่บอกว่าลูกรักใครแม่ก็รักด้วยแต่พอลูกเปิดตัวมาจริงๆ
แม่นี่แทบจะเขี้ยวงอกมากินหัวลูกสะใภ้

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.20 ☆ (16/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 16-12-2015 19:43:29
ไหนบอกวันเว้นวันไงคุณครามมมม

หญิงอยากลากคอคุณครามมาตอบเหมือนกันค่ะ  อยากอธิบายอิตารงนี้แทนหนูขิงเหมือนกัน แต่มันจะดูไม่ดี งั้นให้คุณlizzii ไปถามในเพจ เกย์รับนะคะว่าดีไม่ดีกับการทำทุกวันกับการทำวันเว้นวัน 555555 เขินจุง พิมพ์จินตนาการไป  เพจนี้ฮาดีค่ะ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.20 ☆ (16/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 16-12-2015 19:51:24
เรียกแพทก็ได้ค่ะ หรือจะเป็นแพตตี้ก็ดีนะคะ กร๊ากกกก 5555555555  :hao7: อย่ามาทำสัยสัยนะเราไม่เชื่อเราเรียนมา  :laugh:

ตอนนี้เรื่อยๆโน๊ะ คุณครามหื่นจริงๆ ขิงดูกังวลมากกับการยอมรับของคุณหญิงแม่
ปล.อยากอ่านอีกกก แค่นี้ไม่พอ ฮอลลล


โอเคค่ะ คุณแพตตี้ ^^ หญิงว้าหญิงเนียนแล้วนะคะยังมีคนจับได้อยู่อีก ยอมค่ะ!!

แหมก็เข้าหาแม่สามีทั้งที ใครไม่กลัวบ้าง? ตอนหญิงเฝ้าหม่อมแม่พี่ชายรุจ ก็สั่นเป็นเจ้าเข้าเลยค่ะ (หญิงพูดผิด ตอนนั้นหญิงเป็นลมชัก 55555)

ปล. พรุ่งนี้นะตัวเอง เค้าเอาน้องหมามาเลี้ยง ช่วงนี้กำลังเห่อ 5555 แต่งยังไม่เสร็จ สั่งนิยายมา 3 กล่อง วายทั้งนั้น ตกใจตอนกลับถึงบ้าน แม่ถามว่านี่กล่องอะไร? พี่ไปรฯ นี่ก็ช่างเอามาส่งพร้อมกันดีแท้ หูชาเบาๆ

หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.20 ☆ (16/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 16-12-2015 20:00:36
คุณครามเป็นแฟนที่น่ารักจัง เอาอกเอาใจสุดๆ
แต่กลัวคุณแม่จัง จะมีดราม่าหรือเปล่า
เสียดายที่เราไม่มีลูกเป็นเกย์ เพราะถ้ามี เราจะฟินมาก ยอมรับตั้งแต่ลูกยังไม่มีแฟน ก้ากๆๆ

คุณมุกเป็นแม่ที่ประเสิร์ฐมากค่ะ ว่าแต่ถ้าเป็นลูกชาย ยกให้หญิงก็ได้ค่ะ หญิงพร้อม 5555 (ล้อเล่นนะคะ อิอิ)
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.20 ☆ (16/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 16-12-2015 20:04:03
หวังว่าคุณแม่จะโอเคไม่ใช่บอกว่าลูกรักใครแม่ก็รักด้วยแต่พอลูกเปิดตัวมาจริงๆ
แม่นี่แทบจะเขี้ยวงอกมากินหัวลูกสะใภ้

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


เอาไงดี งั้นหญิงไปแก้บทได้ ฆ่าแม่ผัวทิ้งก่อนนะคะ จะได้ไม่ดราม่า เรื่องความรักถูกขัดขวาง แต่มาดราม่าเรื่องแม่ผัวตายแทน 5555
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.20 ☆ (16/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 16-12-2015 20:32:14
อืม...ดราม่าหนักมาก (ดูท่าแล้วน่าจะเป็นแบบนั้นนะ) เครียดแทนขิงเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.20 ☆ (16/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 16-12-2015 20:41:13
คุณครามนี้พอได้หนึ่งก็จะเอาสองสามสีห้า..... อันนี้ที่บ้านเรียกหื่นค่ะ..เอิ้กๆ  :hao6:
แอบกังวลแทนขิงแต่เราเชื่อนะว่าหญิงแม่รับได้...หญิงแม่เอาอยู่....(แค่ลูกสะใภ้ไม่ใช่ผู้หญิงก็แค่นั้นเอง)
ขอให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีนะ  :call: :call: :call: :call: :call:
ปล..ถ้าจะมีมาม่าบอกก่อนล่วงหน้าจะได้เตรียมน้ำร้อนไว้รอ ฮาๆ

มาได้ไวทันใจนะช่วงนี้คุณภู...ชอบ ชอบ มาอีกนะอยากอ่านทุกวัน  :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.20 ☆ (16/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: MENTA ที่ 16-12-2015 20:47:06
สู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.20 ☆ (16/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 16-12-2015 21:14:55
อืม...ดราม่าหนักมาก (ดูท่าแล้วน่าจะเป็นแบบนั้นนะ) เครียดแทนขิงเลยอ่ะ

ยังค่ะคุณseaz ยังค่ะ 55555 อย่าเพิ่งเครียดตอนนี้ เพราะมันอาจชิลๆก็ได้ ใครจะรู้ โดยส่วนตัวไม่ใช่คนกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปด้วย. อิอิ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.20 ☆ (16/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Jupiter(Zeus) ที่ 16-12-2015 21:19:28
เค้าได้กันอีกแล้วววว ฮ่าๆๆๆๆๆ :hao6:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.20 ☆ (16/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 16-12-2015 21:22:50
คุณครามนี้พอได้หนึ่งก็จะเอาสองสามสีห้า..... อันนี้ที่บ้านเรียกหื่นค่ะ..เอิ้กๆ  :hao6:
แอบกังวลแทนขิงแต่เราเชื่อนะว่าหญิงแม่รับได้...หญิงแม่เอาอยู่....(แค่ลูกสะใภ้ไม่ใช่ผู้หญิงก็แค่นั้นเอง)
ขอให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีนะ  :call: :call: :call: :call: :call:
ปล..ถ้าจะมีมาม่าบอกก่อนล่วงหน้าจะได้เตรียมน้ำร้อนไว้รอ ฮาๆ

มาได้ไวทันใจนะช่วงนี้คุณภู...ชอบ ชอบ มาอีกนะอยากอ่านทุกวัน  :z2: :z2:


ไม่ถึงขนาดน้านนนนหรอกค่ะ เวอร์วังได้อีก 5555 ดราม่ากึ่งๆไม่เต็มสูบ คือจะบอกว่าแตกดราม่าไม่เก่ง เลิฟซีนก็ไม่เก่ง 55555


ช่วงนี้ได้วันหยุดพักร้อนจ้า แต่หลังวันที่ 21 นี้ไปก็งานยาวแล้วค่ะ แต่จะหาเงลามาต่อให้นะคะ หญิงเอาเกียรติของท่านหญิงเป็นประกันเลย ^^
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.20 ☆ (16/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 16-12-2015 21:24:33
ดูตาครามจะคล่องเรื่องอย่างว่าแบบเกย์พึ่งเป็นนะค่ะหนูหญิง ป้าว่ามันเกินจริตชายไปนิดหนึ่งค่ะ แต่ป้าชอบการแต่งของหนูนะค่ะ มันลื่นไหลดี

อยากให้ตอนปะทะพ่อตาเป็นแบบคาบอยสปาเก็ตตี้จังเลยค่ะ ตีรันฟันแทงกันมันๆอะค่ะ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.20 ☆ (16/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 16-12-2015 21:25:53
สู้ๆนะ


ขอบคุณคราฟฟฟ มีกำลังใจแระ อิอิ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.20 ☆ (16/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 16-12-2015 21:28:54
เค้าได้กันอีกแล้วววว ฮ่าๆๆๆๆๆ :hao6:


ฮ่าๆๆเรื่องนี้เรื่องใหญ่สินะ ขอบคุณครับที่มาติดตาม แล้วก็ให้กำลังใจ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.20 ☆ (16/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 16-12-2015 23:00:36
พูดถึงพ่อตาแล้วจะมีใครตายอ่ะเปล่า
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.20 ☆ (16/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 17-12-2015 00:11:02
 :katai1:


สิ่งที่หาย มันจะกลับมาใช่ไหม
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.20 ☆ (16/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: aoraor ที่ 17-12-2015 00:37:21
โน้วววววววววว  ไม่เอามาม่า อิ่มเเล้วยังไม่สิ้นเดือนด้วย  :katai1:

นายหัวนี่ก็ถนอมน้องหน่อยสิคะ 
จากสายซึนมาเป็น สายหื่นแทนเหรอคะ 555555 แหม่ๆ

แล้วแบบอิสานี่ไม่จัดการเหรอคะ หรือจัดไปแล้วลับหลังน้องหรือนายหัวไม่รู้  คันไม้คันมืออยากเห็นชะนีโดนจัดการ
ปล.เราเป็นคนใสๆ ใสแบบน้ำเย็นเห็นตัวปลา คิคิคิ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.20 ☆ (16/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 17-12-2015 11:30:08
 o18 o18 o18 o18 o18 o18
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.20 ☆ (16/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ben ที่ 17-12-2015 14:00:09
สงสัยอ่านข้ามตอนขิงเลิกกับแฟน เหอะๆ   ขอคู่หมอตั๋นกับคีย์ด้วยจิ คู่หลักเค้าเรียบร้อยกันแล้ว
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.20 ☆ (16/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 17-12-2015 15:08:40
ดูตาครามจะคล่องเรื่องอย่างว่าแบบเกย์พึ่งเป็นนะค่ะหนูหญิง ป้าว่ามันเกินจริตชายไปนิดหนึ่งค่ะ แต่ป้าชอบการแต่งของหนูนะค่ะ มันลื่นไหลดี

อยากให้ตอนปะทะพ่อตาเป็นแบบคาบอยสปาเก็ตตี้จังเลยค่ะ ตีรันฟันแทงกันมันๆอะค่ะ


ขอบคุณ คุณป้านะครับที่มาให้คำชี้แนะ ผมจะได้เอาไปปรับปรุงนะครับ ^^

เรื่องพ่อตาต้องรอติดตามกันต่อไป แต่ผมมีพลอตในใจไว้แล้ว อิอิ

ป.ล.หญิงเรียกหม่อมป้าได้ไหมเจ้าค่ะ??
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.20 ☆ (16/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 17-12-2015 15:10:28
พูดถึงพ่อตาแล้วจะมีใครตายอ่ะเปล่า

คุณบูมเบสมาสายโหดอีกละ 555555 ติดตามค่ะๆ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.20 ☆ (16/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 17-12-2015 15:12:28
:katai1:


สิ่งที่หาย มันจะกลับมาใช่ไหม


ไม่รู้ไม่ชี้ 555555 หญิงว่าลุ้นดีออก
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.20 ☆ (16/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 17-12-2015 15:18:08
โน้วววววววววว  ไม่เอามาม่า อิ่มเเล้วยังไม่สิ้นเดือนด้วย  :katai1:

นายหัวนี่ก็ถนอมน้องหน่อยสิคะ 
จากสายซึนมาเป็น สายหื่นแทนเหรอคะ 555555 แหม่ๆ

แล้วแบบอิสานี่ไม่จัดการเหรอคะ หรือจัดไปแล้วลับหลังน้องหรือนายหัวไม่รู้  คันไม้คันมืออยากเห็นชะนีโดนจัดการ
ปล.เราเป็นคนใสๆ ใสแบบน้ำเย็นเห็นตัวปลา คิคิคิ


อ้าว!! คุณอ้อไม่รู้เหรอคะ ว่านายหัวเค้าย้ายมาอยู่สายเดียวกับคุณอ้อ

ตายๆ น้ำเย็น เห็นคนหื่น เอ๊ย!!เห็นตัวปลา

เรื่องชะนีสา นายหัวบอกไว้ตอนที่เท่าไหร่นะ ว่าเราไม่มีหลักฐานเลยต้องปล่อยนางไปก่อน

ป.ล.ไม่ถึงสิ้นเดือน ก็กินได้ค่ะ มาม่าหญิงรสชาติเบาๆ เหมือนหมี่น้ำใส หรือหมูสับ ไม่ใช่ต้มยำกุ้ง
 หรือต้มโคล้งที่แซบสะเด็ดหรอกค่ะ #หญิงไม่ถนัด

หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.20 ☆ (16/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 17-12-2015 15:22:25
สงสัยอ่านข้ามตอนขิงเลิกกับแฟน เหอะๆ   ขอคู่หมอตั๋นกับคีย์ด้วยจิ คู่หลักเค้าเรียบร้อยกันแล้ว


อันนี้ก็อยากเห็นอีกคู่เค้า เอาเสาลงหลุมจริงจริ๊ง. 555

รอคู่หลักลงล็อคอีกนิดนะคะ ตอนนี้มรสุมกำลังจะมา
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.21 ☆ (17/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 17-12-2015 15:32:50


อันดามัน...ซ่อนรัก
Andaman In Love
Ch.21








เมื่อเช้าพ่อโทรมาบอกว่าส้มที่สวนกำลังจะเก็บแล้วนะ รออีกไม่เกินอาทิตย์คงพร้อมแล้วล่ะ แต่เสียดายที่ราคาปีนี้ไม่ค่อยแพง ขึ้นอยู่กับขนาดด้วย อย่างเบอร์ 4 ปีนี้ กิโลละ 22-23 บาท ส่วนอีกรุ่นหนึ่งก็คงต้องรอเก็บก่อนตรุษจีน ตอนนั้นราคาคงจะสูงขึ้น เพราะมันขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทานเหมือนกัน อธิบายอยากแหะ เอาภาษาบ้านเลยคือ ช่วงตรุษจีนครอบครัวไทยเชื้อสายจีนก็ต้องมีพิธีไหว้เจ้าหรือไหว้บรรพบุรุษ พวกหมูเห็ด เป็ดไก่ก็เลยราคาแพงขึ้นไปด้วย นอกจากนี้ก็จะมีผลไม้ที่เค้าใช้ไหว้กัน เช่นส้มชนิดต่างๆ


"ก๊อกๆๆ" เสียงเคาะประตูดังขึ้น

"เข้ามาได้"

"ขอโทษค่ะนายหัว คือนุ้ยจะมาถามคุณขิงว่าจะไปตลาดด้วยกันไหมค่ะ" ผมหันไปมองนาฬิกาที่แขวนติดผนัง นี่เกือบจะ 4 โมงแล้วเหรอเนี๊ยะที่ผมอยู่ช่วยเขาทำรายรับรายจ่ายอยู่ในห้อง

"ผมขอไปตลาดกับพี่นุ้ยครับ?" ผมหันไปถาม

"ไปสิ แล้วก็รีบๆกลับมานะ"

"ขอบคุณครับ" ผมกับพี่นุ้ยเดินลงบันไดมา

"แล้วใครไปบ้างครับพี่นุ้ย หรือว่ามีแค่เราสองคนครับ?" ผมหันมาถามพี่นุ้ย

"มีป้าน้อยอีกคนค่ะ"

"เอาผมไปด้วย จะไม่เกะกะป้าน้อยเหรอครับ?"

"ไม่หรอกค่ะ ดีซะอีก จะได้มีคนช่วยแกถือของด้วย อิอิ" อ๋อ!! ที่มาชวนผมเพราะอย่างนี้นี่เอง ผมพยักหน้ารับคำ

"โอเค งั้นไปกันเถอะครับ"



ระหว่างทางก็ถามพี่นุ้ยว่าจะตลาดที่จะไปมันอยู่ตรงไหน เพราะครั้งก่อนที่ไปมา คุณครามพาไปซื้อตั้งในเมืองแหนะ บอกว่าของเยอะ แต่สุดท้ายก็ไม่มีเครื่องเทศทางเหนือเลย พี่นุ้ยบอกว่าตลาดอยู่ห่างจากบ้านเราไปประมาณ 2-3 กิโลเอง เป็นตลาดชาวบ้าน นึกถึงตลาดแถวบ้านผมก็จะมีของขายเยอะแยะเลย ไม่รู้ว่าที่นี่จะเป็นเหมือนกันรึเปล่า แต่ที่บ้านผมจะมีของป่าด้วย ขึ้นอยู่กับฤดูกาล เช่น

เห็ดถอบ ในภาษาเหนือ ภาษากลางก็เรียกเห็ดเผาะ เป็นเห็ดลูดกลมๆรีๆ ใหญ่บ้างเล็กบ้าง ต้องขึ้นดอยไปหา มันจะอยู่ใต้ดิน พ่อเล่าให้ฟังว่าเวลาไปหามันต้องตาดีๆ เพราะเราต้องดูว่าดินตรงไหนมีรอยแตกก็ให้ใช้ส้อมพรวนดินขุดหรือแซะเอามันออกมา ส่วนมากมันจะอยู่ตามแพะ หรือภาษากลางเรียกว่าป่าดิบแล้ง ถ้าลูกไหนแก่ข้างในมันก็จะเป็นสีดำ เนื้อร่วนๆหน่อย ถ้าลูกไหนหนุ่ม ข้างในมันก็จะเป็นสีขาวนุ่มๆเหมือนไข่ตุ๋นนะถ้าต้มเสร็จ ข้างนอกมันก็จะแข็งหยืดๆหน่อย คนเหนือเค้าก็จะซื้อแล้วเอามาล้าง ต้มใส่เกลือแล้วกินกับน้ำพริกข่าบ้าง หรือเอาแกงกับยอดมะขาม อันนี้ก็อร่อยเด็ด

อีกอย่างคือเห็ดไข่ห่านไข่เหลือง กับเห็ดโคนป่า เห็ดไข่ห่านไข่เหลืองจะออกตอนช่วงหน้าฝน ลักษณะเหมือนเห็ดปกติแหละแต่ดอกเห็ดมันจะกลมๆ รีๆ สีเหลือง หรือสีขาว เราเลยเรียกมันว่าเห็ดไข่ห่าน ไข่เหลือง เห็ดนี่เอาปรุงหมกกับใบตอง เอาแกงเหมือนเห็ดเผาะได้ด้วย แต่รสชาติคนละอย่างกันเลย

ส่วนเห็ดโคนป่าไม่รู้แหะว่าออกช่วงหน้าไหน แถวบ้านผมจะมีคนที่ชำนาญการหาของป่า แล้วเอามาขายที่ตลาดเช่น ฟาน กระจง ไข่ผึ่งป่า ไข่ต่อที่มันทำรังเป็นโพรงอยู่ใต้ดินบ้าง ตามต้นไม้บ้าง แล้วก็หมูป่า เท่าที่นึกได้มีแค่นี้แหละ อ้อลืมไปอีกอย่างมีผักหวานป่าด้วย แต่จะออกตอนหน้าร้อน ดังนั้นช่วงหน้าร้อนชาวบ้านหรือชาวเขาจะจุดไฟเผาป่าให้ผักหวานมันผลุดยอดอ่อนออกมา แล้วพวกเขาก็จะเก็บยอดมันนี่แหละไปขาย เล่าไปเล่ามาดูเหมือนบ้านผมจะบ้านน๊อกบ้านนอกเนอะ ฮ่าๆๆ



"ถึงแล้วค่ะ ตลาดที่นี่คงเหมือนๆ กับที่บ้านคุณขิงนั่นแหละค่ะ จะแตกต่างก็ตรงที่พ่อค้าแม่ค้าจะพูดภาษาใต้กัน แล้วกับข้าวกับปลาที่นี่ก็จะเป็นอาหารใต้ซะส่วนใหญ่ มีอาหารฮาลาลด้วยนะคะ" นี่แหละผมอยากดู ความเป็นอยู่หรือวิถีชีวิตพวกเค้า มันมีเสน่ห์ในตัวมันนะ

"คนก็เยอะดีนะครับ เดี๋ยวผมถือตระกร้าให้ครับป้าน้อย จะได้ไม่หนัก ป้าจะได้เลือกของได้สะดวกด้วย" ทีแรกนึกว่าแกจะไม่ให้ช่วยถือตะกร้าให้แล้วนะ แต่แกก็ไม่ว่าอะไร แถมเหมือนจะยิ้มๆ นิดด้วย ก่อนที่จะหันไปคุยกับแม่ค้าต่อ

"ไหนลองเลือกไก่ให้ชั้นดูหน่อยสิ จะดูหน่อยว่าเด็กสมัยนี้เลือกเป็นกันไหม? ไม่ใช่สักแต่ว่าหยิบๆ แล้วก็เอามาทำกิน"  ดีนะที่คุณนายที่บ้านชอบลากไปตลาดด้วยบ่อยๆ เพราะอยากมีเพื่อนเดินซื้อของ แล้วก็ถือโอกาสพาลูกชายคนเล็กมาโชว์ตัวด้วย ยิ่งมีคนชมลูกชายตัวเองว่าหล่อ น่าตาดี คุณนายเธอก็ยิ่งชอบใจใหญ่ ยิ้มรับหน้าบานเลย

"ป้าจะเอากี่ตัวครับ?"

"ตัวเดียวก็พอ จะทำไก่อบให้นายหัวทาน"

"ครับ"

"ไหนบอกสิว่าทำไมถึงเลือกตัวนี้?"

"เพราะไก่สด ตาจะใส ผิวเต็มไม่เหี่ยวย่น ไม่มีจ้ำๆเขียว สีไม่ซีด แล้วก็ดมดูไม่มีกลิ่น"

"ดี งั้นเลือกเนื้อหมูต่อสิ" แพงขายเนื้อหมูกับเนื้อไก่อยู่ข้างๆกัน ผมวางเนื้อไก่ไว้บนกิโล แล้วก็กระเถิบมาเลือกเนื้อหมูต่อ

ต้องขอบคุณคุณนายแล้วก็ยกความดีความชอบให้ เพราะมาตลาดกับคุณเธอเมื่อไหร่ก็จะสอนว่าเลือกอะไรยังไงตลอด ตอนแรกก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง แต่หลังๆ มาโดนยิกที่ไม่ตั้งใจฟัง หลังๆเลยจำได้เองจนขึ้นใจเลย คุณเธอรู้คงจะภูมิใจที่ลูกชายเอาความรู้ที่สอนมาใช้ได้อย่างครบถ้วน ยกเว้นเรื่องการเข้าครัว ทำกับข้าว คงต้องฝึกอีกเยอะ ฝีมือถึงจะอร่อยเหมือนแม่กับพี่ขิม พูดถึงคุณนาย แล้วก็คิดถึง เอาไว้ตอนกลางคืนค่อยโทรหาดีกว่า

"อธิบายสิว่าเลือกแบบไหนยังไง?" เหมือนกำลังทำรายการทีวีแชมป์เปี้ยนเลย อธิบายตั้งแต่วิธีการเลือกไปยังวิธีทำ

"เนื้อหมูที่ดี ต้องเนื้อละเอียด สีชมพู มันสีขาว ถ้ามันเหลืองแสดงว่าหมูแก่, เนื้อสัน ควรจะมีสีชมพูอ่อนๆ เนื้อไม่แน่น หรือแข็งจนเกินไป ให้ใช้นิ้วกดดูจะยืดหยุ่นได้ดี แบบนี้ไงครับ ดึ้งๆ อิอิแล้วก็ไม่มีรอยบุ๋ม ส่วนซี่โครงหมู ต้องไม่ติดกันแน่นครับ" ใช่เปล่าวะ? มันไม่ได้เข้าตลาดมาเลือกของนานแล้ว  เลยลืม

"อื้ม เอาแค่ไก่นะแม่ค้า ส่วนหมูนี่เอาไว้วันอื่นค่อยมาอุดหนุนนะ อยากรู้ว่าเด็กมันเลือกเป็นไหมน่ะ" ผมทำหน้าเหวอ แล้วยิ้มแหยๆให้แม่ค้า ดีนะที่สนิทกัน ไม่งั้นมีด่าแน่ มายืนเลือกเนื้อหมูเขาแล้วไม่ซื้อ

"คุณขิงเก่งจังค่ะ เลือกของแบบนี้เป็นด้วย สมัยพี่มาทำงานป้าน้อยแกแรกๆ โดนเขี้ยวโดนเข็ญตั้งนานกว่าจะจำ"

"ผมไปเดินตลาดกับแม่บ่อยครับ ท่านเลยสอนมาบ้าง ลืมบ้างจำบ้างเหมือนกันครับ"

"โห นี่ขนาดลืมนะคะ ยังเลือกได้ขนาดนี้ ป้าน้อยแกไม่ว่าอะไรสักคำเลย" ประโยคหลังๆ นี้แอบกระซิบกันสองคน กลัวโดนป้าน้อยเก็บแต้มกลางตลาด

"นี่ลูกหลานใครกันจ๊ะป้าน้อย หน้าตาผิวพรรณดี๊ดี เหมือนไม่ใช่คนแถวนี้เลย?"

"หลานชั้นเองจ๊ะ มาช่วยดูแลนายหัวเธอได้หลายเดือนแล้ว" ผมหันมามองป้าน้อย แกก็ยิ้มตอบคนขาย ... โอเคครับ หลานก็หลาน

"อ๋อ หน้าตาน่ารัก แถมยังเลือกของเป็นด้วย" ป้าน้อยแกแอบยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่เชียว

"จ๊ะ"

"เอาของไปไว้ที่รถเถอะ แล้วอยากไปเดินดูอะไรก็ไป ชั้นจะเดินไปซื้อผักอีกสักหน่อย"

"เอาของไปไว้กันค่ะ เดี๋ยวเราค่อยมาเดินดูให้ทั่ว" พี่นุ้ยจะแบ่งของที่ในมือผม แต่ผมไม่ให้ เพราะมันไม่ได้หนักอะไรมาก มีแค่ไม่กี่อย่างเอง

"โอเคครับ"

"ลุงแช่มครับ ผมเอาของมาไว้ครับ ให้เอาไว้ที่ไหนดีเอ่ย?"

"เอามาให้ลุงก่อนก็ได้ครับ เดี๋ยวลุงจัดการเอง" ผมยื่นของพวกนั้นให้ลุงแช่มเอาไปถือ

"ขอบคุณครับลุง ลุงอยากได้อะไรไหมครับ? เดี๋ยวผมซื้อมาฝาก"

"ไม่ล่ะครับ ขอบคุณครับคุณขิง ลุงขอรอทานข้าวเย็นเลยดีกว่าครับ"

"งั้นผมไปเดินตลาดต่อนะครับ"


"ลองทานขนมพื้นบ้านภาคใต้สิค่ะคุณขิง"

"เอาสิครับ" ผมตอบแล้วเดินตามพี่นุ้ยไป

"มีขนมลา ขนมไข่ปลา ขนมโค ขนมจู้จุ่น แล้วก็อีกหลายอย่างเลยค่ะ"

"แล้วนี่ขนมอะไรครับ? หน้าตาน่าทานจังครับ"

"อ๋อ!! ขนมกอแหละค่ะ"

"ชื่อเหมือนเรือกอแหละเลยนะครับ" ผมตอบไปเรื่อยแหละ

"ค่ะ อร่อยด้วยนะคะ คุณขิงอยากลองชิมไหมคะ เดี๋ยวพี่เลี้ยง?"

"งั้นผมไม่เกรงใจนะครับ? พี่นุ้ยเลี้ยงทั้งที"

"ตามสบายคะ อิอิ"

"เอายี่สิบจ้าป้าสวย"

"จ้า แล้วเองพาใครมาด้วยกันล่ะ เลี้ยงต้อยเหรอเอง?" ผมหันไปมองป้าแกอย่างไว

"ใช่ที่ไหนกันเล่าป้า นี่คุณขิง นักกายภาพ หรือเรียกง่ายๆ ว่าคนดูแลนายหัวนั่นแหละจ๊ะ อย่างชั้นจะไปหาแฟนหน้าตาดีๆ แบบนี้มาจากไหนกัน ถ้าเป็นฝรั่งก็ว่าไปอย่าง" พี่นุ้ยตอบ

"แล้วทำไมเองไม่เอาผัวฝรั่งกันล่ะ มันชอบนักผิวอย่างแกเนี๊ยะ"

"ไอ้อยากได้มันก็อยากได้อยู่แหละป้า แต่ติดที่พูดภาษาอังกฤษกับเค้าไม่ค่อยเป็น กลัวจะคุยกันไม่รู้เรื่อง แต่อยู่กับนายหัวแบบนี้ก็ดีนะจ๊ะ นายหัวเธอใจดี เงินเดือนก็ไม่ใช่น้อยๆด้วย งานก็ไม่ลำบาก"

"เอ่อดี นายหัวเองเค้าน้ำใจงามอยู่แล้ว ชาวบ้านที่นี่ก็รักเค้า นี่ถ้าไม่ได้นายหัวเอง หลานชายป้าก็คงป่วยไม่หายหรอก ฝากขอบคุณนายหัวเองอีกครั้งด้วยนะ" ฟังแล้วรู้สึกปลื้มใจแทนแหะ ไม่คิดว่าคนที่นี่จะรักแล้วก็เคารพคุณครามขนาดนี้

"จ้าป้า" พี่นุ้ยตอบรีบคำ แล้วหันมาถาม

"อร่อยไหมค่ะ?"

"ครับ"

"มันทำจากอะไรบ้างครับขนมนี่?" เสียดายไม่ได้เอากล้องถ่ายรูป หรือมือถือมาด้วย ไม่งั้นคงได้รูปสวยๆแล้วล่ะ เอาไว้ครั้งหน้าละกัน

"ทำจากแป้งข้าวเจ้ากวนกับกะทิและเกลือ เทใส่ถาด โรยต้นหอม ตัดเป็นชิ้นๆ โรยหน้าด้วย มะพร้าวขูดคั่ว กุ้งแห้งป่น และน้ำตาลทรายอย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ"

"แล้วนี่ขนมถ้วยฟูใช่ไหมครับ?"

"ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ เราเรียกมันว่า ขนมฮวดโก้ย (หวดโก้ย) คล้ายๆ ขนมถ้วยฟูแต่เนื้อแน่นกว่า ใช้ในพิธีไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษค่ะ" ผมพยักหน้าหงึกหงัก

"ชื่อเรียกยากจังนะครับ"

"อยากชิมไหมค่ะ?"

"ไม่ดีกว่าครับ ขนมกอแหละยังไม่หมดเลย ซื้อมาเยอะเสียดายมัน เสียดายเงินด้วย เอาไว้ครั้งหน้ามาอีก ค่อยมาชิมก็ได้ครับ" ผมถือถุงขนมเดินตามพี่นุ้ยไปต่อ

"มีแกงพื้นบ้านหลายอย่างด้วยนะคะ ไปดูกันค่ะ เดี๋ยววันนี้พี่เป็นไกด์พาทัวร์เอง"

"ขอบคุณครับ"

หลังจากเดินดูจนทั่ว ชิมนั่นชิมนี่จนคิดว่าคงทานข้าวเย็นได้นิดเดียวแน่ๆ พวกเราก็กลับ ลุงแช่มเอาของทั้งหมดยัดใส่กระโปรงรถ วันนี้ผมสนุกจัง แต่ยังสนุกไม่สุด เพราะเหมือนมีลางสังหรณ์อะไรไม่รู้บอกว่า จะเกิดอะไรขึ้นสักอย่างงั้นแหละ ภาวนาขอให้อย่าเป็นอย่างที่คิด หรืออย่าให้ร้ายแรงเลย



"กลับมาแล้วเหรอ? สนุกไหม?"

"สนุกครับ ได้เห็นวิถีชีวิตที่แตกต่างไปจากของเราบ้างก็สนุกดี" ความจริงผมว่าวิถีชีวิตหรือขนบธรรมเนียม ประเพณีของแต่ละท้องถิ่น แต่ละภาคมันมีเอกลักษณ์ของมันนะ สำหรับผมมันมากกว่าสวยงาม หรือคำว่ามีเสน่ห์นะ ดูอย่างภาษาพูด ประเพณีงานบุญ อาหารการกิน การแต่งกาย หรือแม้ความเชื่อท้องถิ่นก็เป็นสิ่งที่ดึงดูดใจให้คนมาเที่ยว มาเยี่ยมชมกันทั้งนั้น




...



 
(ต่อข้างล่างนะคะ เกินจำนวนตัวอักษรอีกแระ ^^
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.20 ☆ (16/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 17-12-2015 15:34:48




(ต่อ)








เมื่อตอนเช้าผมออกมาดูต้นชมนาดที่ปลูกไว้ ต้นมันยังไม่โตขึ้นเลย แต่ตอนนี้มันกำลังออกดอก หอมเชียวล่ะ  ส่วนต้นที่ปลูกริมระเบียงห้องคุณครามก็กำลังแตกดอก ตูมอยู่เลย ผมเลยได้โอกาสเอาปุ๋ยมาใส่ แล้วก็รดน้ำพรวนดินให้ มันจะได้โตไวๆ

"นุ้ยนั่นรถใครมา ไปดูสิ" วันนี้คุณป้าไม่ได้ออกไปไหน สมาคมก็ไม่ได้ไป

"เอ่อ..นายหญิงคะ" พี่นุ้ยกลับเข้ามาทำหน้าตาแปลกประหลาด อย่างกะเจอผี

"ว่าไง? ใครมานุ้ย?" คุณป้าถามย้ำอีกที

"สวัสดีค่ะคุณแม่" คุณป้าทำถ้วยน้ำขิงตกลงกับพื้น เพียงเพราะเห็นผู้หญิงคนนี้เดินเข้ามา

"เธอมาทำไม ที่นี่ไม่ต้อนรับเธอกลับไปซะ" ผมเพิ่งเคยเห็นคุณป้าโกรธใครเป็นใครแรก

"งั้นเหรอคะ แล้วถ้าเด็กคนนี้ล่ะคะ คุณแม่ยังจะต้อนรับเค้ารึเปล่าค่ะ?"

"ส่งตาหนูมา แก้ว" เธออุ้มเด็กผู้ชายไม่รู้ว่าอายุเท่าไหร่มาจากผู้หญิงอีกคน คิดว่าน่าจะเป็นพี่เลี้ยงเด็ก

"โอ๋ๆ ไม่ร้องลูก ไหนธุจ้าคุณย่าก่อนสิคะ" เด็กน้อยเบ้ปากร้องไห้โยเย ช่างน่ารักน่าเอ็นดู แต่ผมก็แอบหวั่นใจนิดๆ กลัวจะเป็นอย่างที่ผมกำลังคิดไว้น่ะสิ

"ด..เด็กคนนี้ ...ป..เป็นลูกใคร?" คุณป้าถามตะกุกตะกัก

"เห็นขนาดนี้..แพรว่าคุณแม่ไม่น่าถามนะคะ ถอดพ่อเค้าออกมาขนาดนี้" ผมเหมือนโดนค้อนทุบหัวเข้าอย่างจัง ผู้หญิงคนนี้ชื่อแพร ที่ครั้งหนึ่งคุณครามเคยเพ้อหาตอนเมาไม่ได้สติ

"นี่เธอจะบอกว่านี่คือลูกตาคราม เป็นหลานชั้นงั้นเหรอ?" คุณป้าหน้าซีด จนผมต้องเข้าไปประคองไว้

"ค่ะ แล้วเค้าไปไหนล่ะคะ หรือว่ามัวทำแต่งานเหมือนเดิมอีก?"

"รถใครมาครับคุณแม่?" คุณครามที่ออกไปทำธุระข้างนอกเพิ่งกลับมาถาม

"แพร........" คุณครามเรียกชื่อเธอเสียงแผ่ว ผิดกับผมที่รู้สึกเหมือนร่างกายไร้เรี่ยวแรงไปเฉยๆเลย

"ค่ะแพรเอง คุณสบายดีนะคะคราม?" เธอยิ้มให้คุณคราม

"ก็สบายดี เรื่อยๆ มาหาที่นี่มีอะไรรึเปล่า ถ้าไม่มีจะได้บอกให้นุ้ยส่งแขก เพราะวันนี้วันครอบครัว ไม่อยากให้มีคนนอกสักเท่าไหร่" คุณครามยิ้มตอบเสียงเย็น

"จุ๊ๆๆ อย่าเพิ่งใจร้ายขนาดนั้นสิคะ ถ้าคุณบอกว่าวันนี้วันครอบครัว แพรก็ยิ่งต้องอยู่ด้วย" คุณครามขมวดคิ้วจ้องเขม็ง แล้วมองมาที่ผมแว๊บนึง

"ทำไม?"

"เพราะอะไรคุณก็ดูเอาเองสิคะ" เธอเบียงตัวให้ให้เด็กน้อยคนนั้นที่เธอบอกว่าเป็นลูกของคุณคราม

"เป็นไงคะ? สำเนาถูกต้องใช่ไหม?" ทั้งคิ้ว ตา จมูก ปาก ล้วนเหมือนคุณครามไปหมดทุกส่วนจริงๆ

"หึ!! แล้วไง? แค่เอาเด็กมา แล้วชั้นต้องยอมรับด้วยเหรอว่าเป็นลูกชั้น ถามจริงลูกชู้เธอรึเปล่า?" วาจาส่อเสียดจนผู้หญิงคนนั้นหน้าม้านไปเลย ส่วนเด็กก็ร้องไห้ไม่หยุด อาจเป็นเพราะได้ยินผู้ใหญ่พูดเสียงดัง

"ถ้าคุณไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรค่ะ แต่แพรยืนยันว่านี้คือลูกของคุณ เลือดเนื้อเชื้อไขของคุณที่ติดท้องแพรไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ตลกดีนะคะ นึกว่าจะหมดเวรหมดกรรมกันไปแล้วซะอีก" เธอพูดเสียงเย้ยหยัน ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้จัง กลืนน้ำลายก็เหนียวไปหมด

"นั่นสินะ ถ้าอยากให้หมดเวรหมดกรรมกันจริงๆจะกลับมาที่นี่อีกทำไม? ทำไมไม่ไปแล้วไปลับมันซะเลยล่ะ?" คุณครามถามเสียงเหี้ยม

"เพราะแพรสงสารลูก อยากให้เค้ามีพ่อ"

"แล้วไอ้หมอนั่นแหละ ชู้เธอน่ะ มันหายไปไหนแล้วล่ะ?"

"ฟังให้ดีนะ..ยังไงชั้นก็ไม่เชื่อหรอกว่าไอ้เด็กนี่คือลูกชั้น เอากลับไปซะ แล้วก็อย่ากลับมาที่นี่อีก" คุณครามพูดหนักแน่นชัดเจน

"ตาคราม ค่อยๆใจเย็นๆลูก แม่ขอร้อง เห็นแก่หลาน" คุณป้าที่เงียบฟังมาตั้งนานพูด

"หึ!! คุณแม่อย่าเพิ่งเรียกว่าหลานเลยครับ บางทีพ่อเด็กอาจจะเป็นใครที่ไหนยังไม่รู้ด้วยซ้ำ" คุณครามตอบแล้วหันไปสบตาผู้หญิงคนนั้น

"หยุดร้องสักทีได้ไหม พามาหาพ่อแกแล้วก็หยุดร้องสักที" เธอตะวาขนเด็กร้องไห้จ้ากว่าเดิมอีก ดูจากตัวน่าจะสักประมาณ 7-8  เดือนได้

"นี่!! หยุดตะคอกใส่ลูกแบบนั้นสักที เด็กมันไม่รู้เรื่องอะไร อย่าพาลอารมณ์เสียใส่เค้า เอามานี่..ส่งให้ชั้นมา แล้วเอานมมาด้วยไหมน่ะ?" คุณป้าถาม ส่วนคุณครามก็จ้องเด็กนั่นตาไม่กระพริบ

"มีค่ะ" พี่เลี้ยงเด็กก็โง่ แทนที่จะมารับไปแล้วเอาไปกล่อมให้หยุดร้องไห้ก็ไม่ทำ เธอส่งเด็กให้คุณป้าแล้วยื่นขวดนมให้ พอเอาขวดนมจ่อปาก เด็กก็เอาปากกัดแล้วดูดเบาๆ สักพักก็หยุดร้องไห้ เห็นแล้วก็สงสาร เพราะกินไปสะอื้นไป

"สรุปจะเอากันยังไงก็ไปคุยกันซะ อย่ามาคุยกันตรงนี้ แม่ขอร้อง มันไม่ดีต่อเด็ก สงสารเค้าที่ต้องมารับรู้เรื่องพวกนี้ด้วย" คุณป้าเอามือเช็ดน้ำตาที่ติดตามแก้ม แล้วก็หางตาให้

"ตามมาสิ" คุณครามเดินออกไปที่มุมสวน ผมก็ได้แต่มองตามเท่านั้นแหละ เพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเค้า ถามว่าตอนนี้รู้สึกยังไง คงต้องบอกว่าเจ็บแล้วก็รู้สึกจุกจนพูดอะไรไม่ออก เหมือนที่นี่มันไม่ใช่ที่ของเรา แล้วตอนนี้เค้ากำลังจะมาทวงของๆเค้าคืนแล้ว

"เป็นอะไรลูก..ขิง"

"เปล่าครับคุณแม่"

"น่ารัก น่าชังดีนะครับ"

"จ๊ะ.. เหมือนตาครามตอนเล็กๆ" ยิ่งได้ยินแบบนี้ ยิ่งบีบหัวใจ หน้าชื่นอกตรม


ผ่านไปครู่ใหญ่ สองคนนั้นก็กลับเข้ามา ผมไม่รู้หรอกว่าเค้านไปคุยอะไรกันมา แต่ดูจากหน้าตาคุณครามคงจะเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ผมอยากไปให้กำลังใจนะ แต่ไม่กล้า แม้แต่จะมองหน้าเค้า ผมยังไม่กล้าเลยตอนนี้ ผมกลัวตัวเองร้องไห้ เพราะตอนนี้ขอบตามันก็เริ่มๆร้อนแล้ว

"นุ้ย ไปจัดห้องรับแขกให้ที เค้าจะนอนที่นี่" สำหรับผมเหมือนฟ้าผ่ากลางอกลงมาเป็นครั้งที่สองเมื่อได้ยินประโยคเมื่อกี้ ผมไม่กล้าตัดพ้อเค้าหรอก เพราะมันก็ไม่ใช่ความผิดเค้า ไม่ใช่ความผิดของเด็กคนนั้น ถ้าจะผิดคือ ผิดที่ผมเข้ามาอยู่ผิดที่เอง

"ทำไมต้องจัดห้องรับแขก ให้แพรนอนห้องเดียวกับคุณสิคะ ลูกจะได้อยู่ด้วย"

"อย่าให้มันมากไป มีที่นอนก็ถือว่าดีแล้ว เมียเก่านะ ไม่ใช่เมียปัจจุบัน คงให้นอนด้วยไม่ได้" เค้าหันมามองผม แต่ผมหลบสายตา ไม่อยากมองหน้าเค้าตอนนี้ ขอเวลาให้ผมทำใจก่อนสักนิด

"ผมขอตัวนะครับ จะไปช่วยพี่นุ้ยจัดห้อง"

"เดี๋ยวขิง!!" ผมไม่สนใจหรอกว่าใครจะมองว่ายังไง ตอนนี้ผมไม่อยากยืนอยู่ตรงนั้นแม้แต่วินาทีเดียว ผมทนไม่ไหวหรอกที่จะต้องมารับรู้เรื่องของพวกเค้าตอนนี้

"คุณขิงคะ เป็นอะไรรึเปล่าคะ?" พี่นุ้ยถาม

"เปล่าครับพี่นุ้ย ผมคงตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้นิดหน่อยน่ะครับ ไม่เคยเจอภรรยาเก่าของคุณครามด้วย เธอสวยมากเลยนะครับ"

"ค่ะ สวยมาก ใครๆก็พูดแบบนั้น แต่ก็เหมือนดอกไม้พิษเหมือนกันนะคะ เพราะเธอร้ายมากเลย" ผมเข้าใจความหมายนั้นนะ แต่ตอนนี้มันไม่ได้อยู่ที่ร้ายหรือว่าอะไร มันอยู่ที่ว่าเขากลับมาอยู่พร้อมหน้ากันแล้ว พ่อ แม่ ลูก




ผมช่วยพี่นุ้ยจัดห้องเสร็จก็พาตัวเองออกมาจากห้องนั้น แล้วกลับไปที่ห้องของตัวเอง จะว่าไปผมคงไม่มีดวงเรื่องความรักหรอก เพราะรักใครก็เสียใจตลอด สงสัยจะทำกับเค้าไว้เยอะ ชาตินี้เลยต้องมาชดใช้ให้ แต่แปลกนะ..ถึงอยากร้องไห้แค่ไหน..แต่ผมกลับไม่มีน้ำตาเลยสักนิด ..."บางทีคนที่ทำเป็นนิ่ง ไม่รู้สึกอะไร แต่ข้างในอาจกำลังร้องไห้อยู่ก็ได้"




"ก๊อกๆๆ"

"ใครครับ?" ผมตะโกนถาม

"ชั้นเอง เปิดให้หน่อย"

"คุณมีอะไรรึเปล่าครับ ผมกำลังแต่งตัวอยู่ ยังไม่สะดวกตอนนี้"

"ชั้นรู้ว่านายไม่ได้กำลังแต่งตัว มาเปิดให้ชั้นเดียวนี้ ก่อนที่ชั้นจะพังประตูเข้าไป"

"คุณกลับไปก่อนเถอะครับ ไว้เราค่อยคุยกัน ตอนนี้ผมยังไม่พร้อมจริงๆ"

"ขิง...อย่าดื้อ ชั้นนับ 1-3 ถ้าไม่มาเปิด ชั้นจะพังเข้าไปแน่ .....1......."

"......2......." เสียงนับมาถึงเลขสอแล้วแต่ผมยังไม่พร้อม ให้เวลาผมสักนิดได้ไหม?

".......3......ตุ๊บ" เสียงดังที่หน้าห้องเพราะเขากำลังพังประตูเข้ามา

"ตาครามเป็นอะไร ทำไมต้องพังประตูห้องน้องแบบนี้ด้วย?" ผมได้ยินเสียงคุณป้าอยู่หน้าประตู

"ก็ลูกชายคนใหม่ของคุณแม่น่ะสิครับ" คุณครามตอบเสียงฉุนๆ

"น้องทำไม?"

"ไม่มีอะไรครับ ผมทำให้งอนเองครับ เอาไว้ผมค่อยมาง้อใหม่ก็ได้ครับ"

"จ๊ะ ค่อยๆคุยกันนะลูก เป็นพี่น้องกัน" เสียงคุณป้าหายไปแล้ว แต่ผมว่าเค้ายังคงอยู่หน้าห้องอยู่

"อย่าให้ชั้นเข้าไปได้นะขิง" ผมไม่ตอบอะไร จนเสียงข้างนอกก็เงียบไปแล้ว ผมควรทำยังไงต่อดี? ถ้าจะให้ผมอยู่ แล้วอยู่ในฐานะอะไร? ในเมื่อผู้หญิงคนนั้นเค้ากลับมาแล้ว พร้อมกับลูก


.............................................................

.....................................................

...........................................

...............................

........................



"ไปเชิญคุณแพรมาทานข้าวสินุ้ย" นายหญิงของบ้านบอก

"แล้วคุณขิงล่ะ?"

"คุณขิงเธอบอกว่าปวดหัวค่ะ อยากนอนพัก ถ้าหิวเดี๋ยวค่อยหาอะไรทานเองค่ะ" ครามขมวดคิ้วไม่พอใจที่ขิงจงใจหลบหน้าเขา

"อ่ะนั่นมาแล้วไม่ต้องไปตามแล้ว" แพรไหมเดินลงมาจากห้องพอดี

"แล้วลูกล่ะหลับรึยัง?"

"กินนมแล้วก็หลับไปแล้วค่ะคุณแม่" แพรไหมเหลือบมองคราม ที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ตรงกันข้าม

"งั้นก็ทานกันเถอะ ตักข้าวได้นุ้ย"

"ตักแค่นิดเดียวพอ ชั้นลดความอ้วน"

"เป็นอะไรค่ะคราม ทำหน้าเหมือนไม่พอใจที่แพรมาร่วมโต๊ะด้วยเลย?" ครามหันมามอง

"ผมขอตัวนะครับ ทานไม่ค่อยลง"



เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า อาจเป็นเพราะเวลาที่เราเป็นทุกข์มักจะดูยาวนานกว่าเสมอ เพราะเราจมจ่อมอยู่กับมัน

"หึ!! ลงมากินข้าวได้แล้วเหรอ?" ผมตกใจจนเกือบทำจานใส่ซีเรียลตก ดีที่ยังมีสติอยู่

"ก็ดี ไม่ตอบก็ดี อยากรู้เหมือนกันว่าจะเงียบได้สักกี่น้ำ" ครามเดินเข้าไปหาขิงเรื่อยๆ ส่วนขิงก็ถอยหลังเรื่อยจนชนโต๊ะบาร์ในห้องครัว

"กลัวรึไง?" ขิงเมินหน้าหนี เอาถ้วยไปไว้ในซิง

"พรืบ!!" มือหนาเข้ามากอดเอวจนแน่น

"ทำอะไรของคุณ ปล่อย!!" ขิงหันมาแวดใส่เบาๆ เพรากลัวคนในบ้านได้ยิน

"อื้อออออออออ" ครามไม่ตอบแต่จูบอย่างรวดเร็ว

"เพี๊ยะ!!" เสียงฝ่ามือกระทบกับหน้าคม แรงพอจนเกิดเป็นรอยห้านิ้ว

"แรงใช้ได้นิ ตบอีกสิ" ขิงเม้มปาก

"ปล่อยผมได้แล้ว ผมจะกลับห้อง" ขิงพยายามผลักออกแต่ก็ไม่เป็นผล

"ดื้อนักใช่ไหม? บอกให้คุยก็ไม่คุยใช่ไหม?" ครามขู่

"อื้ออออออ ..... " ครามจูบสั่งสอนเด็กดื้อจนพอใจ แล้วถอนปากออก จากนั้นก็ตามงับที่คอ จุดอ่อนที่แรก จนขิงต้องเบี่ยงคอหนี

"อย่านะคุณ!! อึก!!" ขิงส่งเสียงร้องเบาๆเพราะถูกเขี่ยเบาๆ ที่หน้าอกจนขนลุกซู่  จุดอ่อนที่สองที่ไม่อยากให้ใครโดน เขาเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว ครามเองก็รู้สึก จากนั้นก็ถูกจัดการถอดเสื้อออกอย่างรวดเร็วแล้วยกขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะบาร์ ครามกัดและเลียเบาๆทุกที่ที่ทำให้ขิงอ่อนระทวย

"ร้องเสียงดังๆสิ ให้คนทั้งบ้านเค้ารู้กันเลยว่าเราเป็นอะไรกัน หึ!!"

"ม..ไม่นะคุณ อ๊ะ...อย่าทำแบบนี้" ครามไล่จูบจนทั่วทุกส่วน กางเกงชุดนอนถูกดึงถอดออกอย่างรวดเร็ว

"แบบนี้ก็ดีไปอีกอย่าง เปลี่ยนบรรยากาศ" ครามยิ้มร้าย

"ไม่เอานะคุณ...อ๊ะ!! ม..ไม่เอาตรงนี้"

"ไม่ทันแล้วล่ะขิง นายพร้อมซะขนาดนี้ แล้วชั้นก็ไม่ไหวแล้ว"


....................................


"นุ้ยจัดโต๊ะเลย แล้วนั่นเสียงตาหนูร้อง แล้วแม่เค้าอยู่ไหน ทำไมไม่ดูลูก?"

"คุณแพรออกไปว่ายน้ำค่ะ ไม่อยู่ตรงนั้น"

"งั้นตั้งโต๊ะเลย เดี๋ยวชั้นจะขึ้นไปดูตาหนูก่อน"

"โอ๋ๆหลานย่า นิ่งซะนะ อย่าร้อง คงจะหิวใช่ไหม หืม? เดี๋ยวย่าชงนมให้กิน เนอะ?"

.
.
.
"ดูสินุ้ยคงจะหิวมาก ดูดกินใหญ่เลย ว่าไงมองย่าทำไมลูก หืม? อร่อยใช่ไหม?" คุณป้าดูมีความสุขมากที่มีหลานตัวน้อยๆมาอยู่ด้วย

"เหมือนพี่เราไหมลูก?" คุณป้าหันมาถามผม

"เหมือนครับ เหมือนทุกส่วนเลย" ผมตอบแล้วหันไปมองคุณคราม ซึ่งเค้าก็มองผมอยู่ก่อนแล้ว

"อะนั่นแม่เค้ามาพอดี จะว่ายน้ำชั้นไม่ได้ห้ามหรอกนะ แต่เธอควรห่วงลูกของเธอมากกว่า ห่วงสวยนะแม่แพร"

"ก็แหมคุณแม่คะ ตาหนูยังหลับอยู่นิค่ะ แพรเลยออกมาว่ายน้ำดูแลตัวเองบ้าง ใครจะไปรู้ล่ะคะว่าจะตื่นเร็วขนาดนี้"

"งั้นก็ไปเปลี่ยนผ้าจะได้มาทานข้าว นุ้ยตักข้าวได้"

"แล้วสรุปจะเอายังไงกับเรื่องนี้ตาครามลูก?"

"ผมว่าจะตรวจ DNA ครับ ถ้าใช่ลูกผม ผมก็จะรับ แต่ถ้าไม่ใช่ก็ให้ออกจากบ้านไปทั้งแม่ทั้งลูกนั่นแหละครับ"

"อะไรกันคะ แพรได้ยินว่าจะตรวจดีเอ็นเอ ตรวจดีเอ็นเอตาหนูน่ะเหรอคะ? ตรวจให้เปลืองเงินไปทำไมอีก หลักฐานคลานออกมาเป็นตัวตนขนาดนี้ แต่เอาเถอะค่ะเพื่อความสบายใจของคุณก็ทำเถอะค่ะ แพรไม่ว่า"

"แล้วนี่ใครกันคะ แพรเห็นตั้งแต่เมื่อวานแล้วแต่ไม่ได้ถาม ต้องขอโทษจริงๆค่ะ"

"ผมเป็น....." เป็นอะไรดี ผมไม่รู้ว่าต้องตอบว่ายังไงดี

"คนนี้เป็นลูกชายของแม่อีกคน ชื่อขิง หนูขิงจ๊ะนี่ พี่แพร ...แม่ของตาหนู" ผมยกมือไหว้เพราะเค้าอายุมากกว่า ตอนแรกคุณป้าคงจะแนะนำว่าเป็นภรรยาของคุณคราม แต่ชุกคิดขึ้นได้ก่อนเลยแนะนำว่าเป็นแค่แม่ของเด็กแทน

"ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการนะคะน้องขิง ยังไงก็ครอบครัวเดียวกัน พี่ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ" ผมว่าเธอไม่ได้ยินดีรู้จักอะไรผมหรอก เพราะดูจากสายตาเธอแล้ว มีแต่คำว่าดูถูกอยู่ในนั้น

"แล้วจะตั้งชื่อลูกว่าไง โตมาจนป่านนี้แล้วยังไม่มีชื่อให้ลูกอีก?" คุณป้าถาม

"ไม่ต้องรีบก็ได้ค่ะคุณแม่ แพรรอพ่อเค้าตั้งให้ ใช่ไหมค่ะคราม?" เธอถามแต่คุณครามไม่ตอบ

"งั้นก็ทานกันเถอะ เดี๋ยวจะเย็นชืดไปซะหมด" คุณป้าคงเห็นสถานการณ์กลืนไม่เข้าคลายไม่ออก กับสายตาคุณครามเลยตัดบท ชวนทุกคนกินข้าวซะ

"ว่าแต่คุณแม่ไปรับน้องขิงมาเป็นลูกบุญธรรมได้ไงคะ? แพรไม่อยู่ตั้งนานเลยไม่รู้" คนอื่นมองยังไงผมไม่รู้หรอกแต่สำหรับผม เธอว่าน้องแค่ตอนนี้เท่านั้นแหละ ลับหลังเธอคงจะเรียกอย่างอื่น

"น้องเค้าเป็นคนดูแลตาครามตอนที่ยังเดินไม่ได้ แม่เห็นแล้วเอ็นดู ถูกชะตาเลยรับเป็นลูก"

"คนดูแล หมายถึง นักกายภาพน่ะเหรอคะ?"

"ใช่"

"ถึงว่าสนิทกันเร็วดีจังนะค่ะ" เธอแสยะยิ้มมาให้

"ครับ" ผมตอบรับเบาๆ

"กินข้าวเยอะๆ" คุณครามตักผัดบล็อกโคลี่กุ้งมาให้ แล้วสบตาผม แต่ผมไม่รู้หรอกว่าเขาหมายถึงอะไร เลยก้มหน้าทานต่อไม่ตอบอะไรกลับ

"จัดการอะไรให้เสร็จก่อน 9 โมง ชั้นจะพาไปโรงพยาบาล"

"ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา" เหมือนเธอมั่นใจมากกับเรื่องนี้




หลังจากทานข้าวกันเสร็จแล้ว ผมก็อาสาช่วยพี่นุ้ยกับป้าน้อยเก็บของ แล้วก็ล้างจาน จะว่าไปก็ไม่ได้ทำหรอกครับ แค่ยกไปให้เฉยๆ แล้วถูกไล่ออกมา ผมเลยกะว่าจะขึ้นไปพักบนห้องดีกว่า



"เก่งนะ เป็นแค่นักกายภาพ แต่สามารถกระโดดข้ามขั้นมาเป็นถึงลูกบุญธรรมของคุณแม่ได้ ชั้นคงต้องมองนายใหม่แล้วล่ะ" เธอมาขวางทางผมไว้แล้วยังมาพูดจาแบบนี้ใส่อีก

"คุณต้องการอะไร? ถ้าไม่มีผมขอตัวก่อนนะครับ เพราะไม่ได้มีเวลาว่างมาทำเรื่องไร้สาระสักเท่าไหร่"

"ปากเก่งใช้ได้นิ แล้วก็คงเก่งน่าดู ไม่งั้นครามคงไม่ทำท่าทางปกป้องนายซะขนาดนั้นหรอกใช่ไหม?" เธอมองผมตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า

"คุณหมายความว่าไง?" แพรไหมขยับเข้ามาใกล้แล้วกระซิบข้างหูผม

"อย่าคิดนะว่าชั้นไม่รู้ ว่าเมื่อคืนพวกนายทำอะไรกันที่ห้องครัว หึ!!" ขิงหน้าซีด ไม่คิดว่าจะมีคนเห็น

"ถ้าคุณแม่รู้เข้าจะเป็นยังไงนะ........ คงจะสนุกพิลึกนะว่าไหม?" พูดจบเธอก็เดินจากไป ทิ้งผมยืนหน้าซีดอยู่ตรงนั้นจนคุณครามเดินเข้ามาทัก

"เป็นอะไร ทำไมหน้าซีดๆ"

"ป..เปล่า"

"งั้นก็ดี ชั้นมาบอกว่าจะออกไปข้างนอกนะ แล้วตอนกลางวันจะกลับมาทานข้าวด้วยนะ" ไม่ตอบแล้วก็ไม่ปฏิเสธ ในหัวตอนนี้มีแต่คำพูดของผู้หญิงคนนั้นเต็มไปหมด คุณครามก้มลงมาหอมแก้มอย่างรวดเร็วแล้วเดินออกไป


....................................



ตอนนี้บ่ายสองโมง เลยเวลาเที่ยงมาตั้งนานแล้ว แต่เขายังไม่กลับมา นี่ผมจะทรมานตัวเองไปทำไมกัน ในเมื่อเขายังไม่กลับมา เราก็ไม่จำเป็นต้องรอ ตอนกลางวันคุณป้าทำก๋วยเตี๋ยวราดหน้า แต่ผมบอกท่านว่ายังไม่หิว เพื่อที่จะได้รอทานพร้อมคนที่บอกว่าจะกลับมากินด้วย มาถึงตอนนี้ผมคิดว่ามันช่างไร้ค่าเหลือเกินการรอคอยของผม

"อ้าวคุณขิง หิวแล้วเหรอคะ มาค่ะเดี๋ยวพี่อุ่นให้ คุณขิงไปรอที่โต๊ะอาหารเลยก็ได้ค่ะ แป๊บเดียว" ผมพยักหน้าแล้วเดินออกมารอข้างนอก

"กลับมาแล้วเหรอตาคราม แล้วตาหนูล่ะอยู่ไหน?" ผมไม่ได้หันไปมองแม้จะรู้ว่ากำลังมีคนมองอยู่

"กำลังมาครับ"

"แล้วจะรู้ผลเมื่อไหร่ลูก?"

"อีกสองวันรู้แน่นอนครับคุณแม่" ครามตอบแล้วยังไม่เลิกจ้องขิงไม่เลิก

"แล้วนี่ยังไม่ได้กินข้าวเหรอ?"

"น้องบอกว่าไม่หิว แม่เลยเก็บก๋วยเตี๋ยวราดหน้าไว้ให้ นี่ก็เพิ่งลงมากิน นั่นไงนุ้ยเอามาให้พอดี รีบๆกินนะลูกเลยเวลาไปมากแล้ว เดี๋ยวจะเป็นโรคกระเพาะเอา" ต่อให้หิวแทบตาย ตอนนี้ผมก็ทานไม่ลงหรอก

"ครับ" ผมตอบไปแค่นั้นจริงๆ

"แล้วลูกล่ะกินมารึยัง?" คุณป้าถามคุณคราม

"ผมกินแล้วครับ"

"ค่ะเราทานมาจากข้างนอกด้วยกันแล้วค่ะคุณแม่ แล้วก็แวะพาตาหนูไปซื้อเสื้อผ้าด้วย อันเก่าใส่ไม่ได้หมดแล้ว" ผมกลืนน้ำลายลงอย่างยากเย็น ไม่รู้สึกถึงรสชาติของอาหารเลยแม้แต่นิด ช่างดีจังครอบครัวสุขสันต์ พาลูกไปซื้อเสื้อผ้า ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงยังโง่งมงาย รออะไรอยู่ไม่รู้

"ผมขอตัวไปเติมเครื่องปรุงก่อนนะครับ"




"คุณขิง......!!!"

"ครับพี่นุ้ย" ผมรีบเช็ดน้ำตาลวกๆแล้วยิ้มให้พี่นุ้ย

"เอ่อ...คุณขิงเป็นอะไรรึเปล่าคะ ดูสีหน้าไม่ค่อยดีเลย"

"เปล่าครับ เมื่อกี้ผมรีบกินไปหน่อยเลยเผลอกัดใส่ลิ้น เจ็บมากเลยครับ เจ็บมากจริงๆ"

"งั้นรีบไปหายาทานะคะ เดี๋ยวจะกลายเป็นแผลร้อนใน"

"ขอบคุณครับ" ผมวางชามก๋วยเตี๋ยวลงที่ซิงค์

"ไม่ต้องล้างนะคะ เดี๋ยวพี่ล้างเอง"

"ขอบคุณครับพี่นุ้ย งั้นพอขอตัวขึ้นไปข้างบนนะครับ"

ผมจะอดทนไปได้ถึงเมื่อไหร่กันกับความรักครั้งนี้ ดูท่าแล้วผมคงต้องกลับไปอยู่จุดเดิมนั่นแหละดีแล้ว เย็นแล้วกลิ่นดอกชมนาดก็กำลังลอยตามลมมา คิดถึงบ้านจัง คิดถึงพ่อกับแม่ คิดถึงพี่ขุนกับพี่ขิม อยากได้ยินเสียง แต่ก็ไม่อยากเอาความทุกข์ไปให้พวกท่านรับรู้ด้วย มันถึงเวลาแล้วหรือยังนะที่ผมต้องกลับบ้าน




......................................................................

..................................................

................................

.................

............

..........

......





ออกตัวนิดนึงนะครับ เค้าแต่งดราม่ากับเลิฟซีนไม่เป็น จบปิ๊ง!!



.....................................................................

หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.21 ☆ P.10 >> (17/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Jupiter(Zeus) ที่ 17-12-2015 16:16:07
โอ๊ยย ดราม่ามาแล้ว สงสารขิงอ่า หนีกลับบ้านเลยครามจะได้ตามไปง้อที่โน้น  แต่อย่าดราม่านานน๊าา มันใจไม่ดี  :hao5:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.21 ☆ P.10 >> (17/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 17-12-2015 16:20:37
โธ่ขิง  อุปสรรคความรักมีตลอดเลย สู้ต่อไปนะ กลับบ้านก่อน ให้ตาครามไปง้อที่เหนือ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.21 ☆ P.10 >> (17/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 17-12-2015 16:37:59
ถึงจะไม่รู้ว่าครามจะเอายังไงเรื่องแพรกับลูก แต่เราอยากให้ขิงถอยออกมาก่อน
รอให้ครามเคลียร์เรื่องเด็กให้จบ ขิงจะได้รู้ว่าตัวเองจะทำยังไงต่อไป
อยู่แล้วเจอคำว่าครอบครัวที่มีพ่อแม่ลูกซึ่งไม่รู้ว่าใช่จริงไหม มันกระแทกใส่หน้ามันเจ็บนะ
ไหนจะแม่ของครามอีก ถ้ารู้เรื่องขิงกับครามดีไม่ดีจะสนับสนุนแพรแทนก็ได้
กำจัดขิงก่อนเด็กจะใช่หรือไม่ใช่ลูกครามค่อยว่ากันอีกที

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.21 ☆ P.10 >> (17/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 17-12-2015 16:53:30
เด็กคนนี้น่าสงสารจริงๆขิงเอามาเลยถ้าแม่เขาไม่เอาก็ช่างมันไป ว่าแต่นังแพเนี่ยหน้าด้านจังเลยนะ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.21 ☆ P.10 >> (17/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Malila ที่ 17-12-2015 16:55:26
 :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.21 ☆ P.10 >> (17/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 17-12-2015 17:25:19
 :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.21 ☆ P.10 >> (17/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 17-12-2015 17:57:20
ยัยแพรนี่หน้าด้านนะที่กลับมาเนี่ย แต่ถ้าเด็กนั่นเป็นลูกก็อีกเรื่อง ครามรับแค่ลูกมาเลี้ยงก็พอมั้ง

เพราะคนที่ทิ้งไปก่อนก็คือยัยแพรนี่ จะมารีเทิรน์ตอนนี้มันไม่สายไปเหรอ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.21 ☆ P.10 >> (17/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 17-12-2015 18:57:06
ได้กินมาม่าจนได้ค่ะ.. ตอนนี้อยากจะตบ  :beat: :beat: แพร นางด้านได้อีก เป็นแม่ได้แค่หน้าที่แต่จิตใจซิ ไม่มีเลย แม่อะไรทิ้งลูกไปนั้นไปนี่
และทำไมไม่มาแสดงตั้งแต่ท้องละย๊ะหลอน .... เฮ้อ ..สงสารหนูขิง..จะทำอะไรจะแสดงอะไรก็ไม่ได้เพราะนางถือไพ่เหนือกว่าตรงที่มีลูกนี้้แหละ .. คุณครามเคลียร์เรื่องนี้ด่วนที่สุด  :katai1: :katai1: :katai1:

เชียร์ขิง เชียร์ขิง  :mc4:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.21 ☆ P.10 >> (17/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 17-12-2015 19:25:53
ดูตาครามจะคล่องเรื่องอย่างว่าแบบเกย์พึ่งเป็นนะค่ะหนูหญิง ป้าว่ามันเกินจริตชายไปนิดหนึ่งค่ะ แต่ป้าชอบการแต่งของหนูนะค่ะ มันลื่นไหลดี

อยากให้ตอนปะทะพ่อตาเป็นแบบคาบอยสปาเก็ตตี้จังเลยค่ะ ตีรันฟันแทงกันมันๆอะค่ะ


ขอบคุณ คุณป้านะครับที่มาให้คำชี้แนะ ผมจะได้เอาไปปรับปรุงนะครับ ^^

เรื่องพ่อตาต้องรอติดตามกันต่อไป แต่ผมมีพลอตในใจไว้แล้ว อิอิ

ป.ล.หญิงเรียกหม่อมป้าได้ไหมเจ้าค่ะ??


ได้ค่ะเอาที่หญิงสบายใจค่ะ ///กางพัดลูกไม้สีดำ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.21 ☆ P.10 >> (17/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 17-12-2015 19:38:07
แต่งดราม่าไม่เป็น. แต่แต่งตัวร้ายได้อินเนอร์แรงร้ายแบบนี้ ป้าว่า ถ้าหนูหญิงจะแต่งเลิฟซีนปาจิงโกะ. คงจะอลังวังเวอร์18ปราการนะค่ะ

ปล การตรวจดีเอ็นเอต้องขอหมายศาลนะค่ะถ้าจะให้ได้รับการรับรองอย่างถูกต้องตามกฤหมาย
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.21 ☆ P.10 >> (17/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 17-12-2015 19:47:43
อูยยย มาม่าชามโตๆ  :katai1:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.21 ☆ P.10 >> (17/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 18-12-2015 02:53:09
เอ่อมมมมม อืดเลย
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.21 ☆ P.10 >> (17/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 18-12-2015 08:27:29
มาม่าาาา
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.21 ☆ P.10 >> (17/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 18-12-2015 08:48:15
โอ้ว ... น้องขิงร้องไห้เพราะเมีย(เก่า) พี่คราม
ยังไงก็จัดการให้เรียบร้อยซะนะ ยัยอสรพิษนั่น ร้ายนัก จับตบเลย!!!
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.21 ☆ P.10 >> (17/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: angelnan ที่ 18-12-2015 09:24:03
ถอยออกมาเถอะขิง กลับบ้านเรา ให้ไอ้คราม มันอยู่กลับเมียมันไป ไม่ต้องทน แล้ว ไม่ต้องเกรงใจแม่มันด้วย
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.21 ☆ P.10 >> (17/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lovenadd ที่ 18-12-2015 21:42:43
กำลังเมามันเลยครับ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.21 ☆ P.10 >> (17/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 18-12-2015 22:48:18
คุณขาาา ตอนที่แล้วยังกุ๊งกิ้งกันอยู่เลย มาม่าต้มยำซะแล้ว  :hao5:
อ่านแล้วหน้าชาแทนขิงเลย  :o12: ขิงอย่าอยู่เลยกลับบ้านไปพักใจเถอะ ฮือออ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.21 ☆ P.10 >> (17/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: aoraor ที่ 19-12-2015 01:24:18
โอ้มายก็อด ยังไม่ได้อ่านหรอกแต่จากเม้นคนอื่นแล้ว.....เอาไว้ก่อนแล้วกัน

บรัยยยยยยย
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.21 ☆ P.10 >> (17/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 19-12-2015 01:40:27
 :z6:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.21 ☆ P.10 >> (17/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 23-12-2015 22:07:47
 :z13:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.21 ☆ P.10 >> (17/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lovenadd ที่ 30-12-2015 12:18:22
รออยู่คร้าบ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.21 ☆ P.10 >> (17/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lovenadd ที่ 09-01-2016 23:29:17
ขิงเป็นไงบ้างครับ ตัดสินใจยังไงดี
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.21 ☆ P.10 >> (17/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 10-01-2016 17:52:50
 :z13:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.21 ☆ P.10 >> (17/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lovenadd ที่ 14-01-2016 21:05:36
ขิงกลับเหนือแล้วหรือยัง
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.22 ☆ P.10 >> (17/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 23-03-2016 13:54:07





 

 

 

 

 

อันดามัน...ซ่อนรัก

Andaman in Love

ตอนที่ 22

 

 

 

 

 

 

 

"ยังโกรธชั้นอยู่อีกเหรอ?"

 

"เปล่าครับ"

 

"ชั้นไม่ได้ตั้งใจจะลืมนัด แต่ตาหนูไม่สบาย อ๊วกตลอดทาง ชั้นเลยต้องขับรถพาไปหาหมอ จนเลยเวลานัด"

 

"แล้วที่บอกว่าแวะทานข้าวด้วยกันแล้วล่ะครับ?" ความจริงไม่อยากจะมาซักถามแบบนี้เลยจริงๆ แต่ปากมันดันไวกว่าสมองสั่งซะนี่

 

"ตาหนูอ๊วกจนเลอะเสื้อผ้า ส่วนเสื้อผ้าที่เตรียมไปด้วยก็เปลี่ยนหมดแล้ว เลยต้องแวะซื้อที่ห้าง แล้วก็แวะกินที่นั่นนั่นแหละ"

 

"ถ้าตาหนูไม่ป่วยชั้นคงรีบกลับมาหานายแล้ว อย่าน้อยใจเลยนะ ชั้นสัญญาจะไม่ผิดนัดอีก"

 

"เอาเถอะครับ มันเป็นเหตุสุดวิสัย แล้วน้องเป็นอะไรมากไหมครับ?"

 

"ก็ไม่เป็นอะไรมากหรอก แค่น้ำที่ใช้ชงนมมันไม่สุก พอเอามาเด็กกินเลยปวดท้อง แล้วก็อ๊วกออกมา แต่ตอนนี้คุณหมอบอกว่าไม่น่าเป็นห่วงแล้วล่ะ เพราะอ๊วกออกมาหมดแล้ว แต่ก็ยังต้องกินยาแก้ปวดท้อง"

 

สงสารจัง ตัวแค่นั้นเวลาป่วยคงจะบอกอะไรไม่ได้ คงจะได้แต่ร้องจนอ๊วกออกมานั่นแหละ ดูท่าพี่เลี้ยงก็คงจะมือใหม่ เพราะเหมือนทำอะไรไม่ค่อยเป็นด้วย

 

"สงสารน้องจังนะครับ คงจะร้องไห้งอแงเลยสิท่า"

 

"ก็ร้องตามประสานั่นแหละ เห้ออออ พักเรื่องลูก แล้วมาคุยกันเรื่องของเราก่อนเหอะ" ผมเงยหน้ามอง

 

"ว่ามาสิครับ" ผมขัดสมาธิอยู่บนเตียง รอว่าเขจะพูดอะไร แต่เวลาผ่านไปนับนาที คุณครามก็ยังกุมมือจ้องหน้าไม่พูดจาอยู่เหมือนเดิม

 

"โอเค ผมเข้าใจละ"

 

"เห้ย!! อย่าเพิ่งสิ กำลังเรียบเรียงคำพูดอยู่ ใจร้อนนะเราน่ะ" ไม่ต้องมาบิดจมูกคนอื่นเลย เป็นแบบนี้ตลอดแหละ มันจะยากอะไร แค่พูดตามที่ตัวเองคิดแค่นั้นเอง

 

"ก็คุณช้า มัวแต่นั่งจ้องอยู่นั่นแหละ" คนอื่นเค้าก็เขินเป็นนะเว้ย

 

"รออีกนิดได้ไหม ชั้นขอเวลาจัดการเรื่องพวกนี้ให้เสร็จก่อน ส่วนเรื่องผู้หญิงคนนั้นนายอย่าเป็นกังวลเลย อะไรที่มันจบไปแล้ว สำหรับชั้นมันก็คือจบ นายเข้าใจใช่ไหม?" ผมพยักหน้า

 

"แล้วคุณมั่นใจใช่ไหมครับว่าน้องคือลูกของคุณ?"

 

"ก็มั่นใจเกินครึ่ง เพราะตาหนูหน้าเหมือนชั้นตอนเด็กๆมาก แต่ถึงอย่างไงก็ต้องรอผลตรวจดีเอ็นเอจากทางโรงพยาบาลอยู่ดี ส่วนเรื่องกฏหมายชั้นให้เพื่อนที่เป็นทนายความยื่นขอหมายศาลแล้ว ผลจะออกมายังไงก็ค่อยว่ากันอีกที"

 

"เหนื่อยไหมครับ?"

 

"อื่ม แต่ได้เห็นหน้าเมียก็หายเหนื่อยแล้วล่ะ ฟ๊อด!!"

 

"คุณ!!" ดูเค้าเรียกขนาดนี้แล้วยังมายักคิ้วหลิ่วตาใส่อีก

 

"แล้วก็ไปโกนหนวดออกด้วยนะ มันเจ็บ"

 

"อ้าวชั้นนึกว่านายชอบแบบนี้ซะอีก?"

 

"ชอบที่ไหนกัน อย่างกะโจรห้าร้อย"

 

"ปากดีแบบนี้ต้องโดนทำโทษ"

 

"อุ๊ย!! ขอโทษค่ะที่เสียมารยาทเข้ามาโดยพลการ พอดีมันเคยชิน นึกว่าเป็นห้องของตัวเองที่เคยอยู่แต่ก่อน"

 

"มีอะไร?"

 

"พอดีแพรจะมาเรียกคุณไปดูตาหนูหน่อย แกตื่นมาแล้วก็ร้องไห้โยเยตลอดเลย ใครเข้าไปอุ้มก็ไม่ยอมหยุด แพรเลยคิดว่าแกน่าจะติดคุณเข้าแล้วล่ะค่ะ นี่ขนาดอยู่ด้วยกันแค่ไม่ถึงวันเองนะคะเนี๊ยะ นี่แหละนะเค้าเรียกสายใยพ่อลูก"

 

"คุณไปเถอะ สงสารน้อง คงจะร้องคิดถึงคุณจริงๆนั่นแหละ"

 

"งั้นชั้นไปดูตาหนูก่อนนะ เดี๋ยวจะกลับมาจัดการ" ประโยคหลังกระซิบให้ได้ยินกันแค่สองคน

 

"ครามคะไปเถอะค่ะ ลูกรอ" เธอดึงแขนครามไปแล้วหันมาแสยะยิ้มใส่อย่างผู้ชนะ

 

 

 

...............................................................

 

 

 

ผ่านไปสามวัน ชีวิตของผมยังราบรื่นดี ถึงจะถูกผู้หญิงคนนั้นมายุ่งวายบางครั้งก็เหอะ แต่ก็นับว่ายังโชคดีที่ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนมากมาย เมื่อวานหมอตั้นเอาเอกสารผลตรวจดีเอ็นเอมาให้ดูแล้ว ผลปรากฏว่าน้องเป็นลูกของคุณครามจริงๆนั่นแหละ ส่วนคุณป้าก็ดีใจใหญ่ที่ได้อุ้มหลานกับเค้าสักที ก็จะมีแต่ผมนี่แหละที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกิน

 

"แต่งตัวเสร็จแล้วใช่ไหม? จะได้ไปกัน" ผมพยักหน้า วันนี้คุณครามจะพาน้องคุณไปวัด เพื่อขอหลวงตาท่านตั้งชื่อจริงให้ ส่วนชื่อเล่นคุณครามกับคุณป้าตั้งให้เมื่อวานแล้ว

 

"แล้วคุณป้าไปด้วยไหมครับ?"

 

"คุณแม่เข้าบริษัท เพราะมีประชุมผู้บริหาร"

 

"ทำไมทำหน้านอย่างนั้น หือ?" คุณครามโยกหัวผมไปมา

 

"ให้ผมไปด้วยมันจะดีเหรอคุณ?" ผมเอามือเค้าออกแล้วเงยหน้ามอง

 

"ทำไมจะไม่ดีล่ะ?"

 

"เปล่า...."

 

"อย่าคิดมาก ชั้นรักนาย จำเอาไว้แค่นี้ก็พอ"

 

"อื่ม"

 

"ยิ้มหน่อยสิ ชั้นชอบเวลานายยิ้มมากกว่าตอนทำหน้าแบบนี้ซะอีก" ก็ไม่รู้สินะ ความรู้สึกผมตอนนี้เหมือนตัวเองเป็นตัวทำลายครอบครัวคนอื่นเค้า ครอบครัวที่มีพ่อแม่ แล้วก็ลูกอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน

 

"ยิ้มหน่อยนะ อย่างน้อยยิ้มให้ชั้นก็ยังดี" เขาเอามือลูบแก้มเบาๆ อยากร้องไห้ยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก มันอึดอัดอยู่ข้างใน

 

"แบบนี้สิถึงจะเป็นนายหน่อย"  ผมฝืนยิ้มให้ แล้วจุงมือเค้าออกมา แต่พอถึงตรงประตูห้องเราก็ต้องปล่อยมือกัน ทำเหมือนเป็นนายจ้างกับลูกจ้าง พี่ชายกับน้องชายกันตามปกติ เหมือนเป็นพวกลักกินขโมยกินเลยใช่ไหมล่ะ

 

เราเดินมาจนถึงรถ ส่วนผู้หญิงคนนั้นก็รออยู่ก่อนแล้วพร้อมพี่เลี้ยงเด็กที่ชื่อแก้ว แล้วก็น้องคุณที่กำลังคาบสร้อยทองที่คุณป้าซื้อมารับขวัญให้เมื่อวาน พอน้องเห็นพ่อก็ทำไม้ทำมืออยากเข้ามาหา ร้องอ้อแอ้ๆ ยิ้มใส่

 

"ว่าไงครับคนเก่งของพ่อ วันนี้แต่งตัวหล่อจัง ไหนมาให้พ่อหอมทีเร๊ว!!" คุณครามรับตัวน้องคุณมาจากแม่เค้า แบ้วก็ก้มลงหอมแก้มทั้งสองข้าง

 

"ลูกพ่อหอมจังเลย" เขาว่าแล้วจับเท้าน้อยๆสองข้างมาดม

 

"ทำไมลูกเขียวเป็นจ้ำๆแบบนี้ เมื่อวานยังไม่เห็นเลย"

 

"แกคงจะนอนดิ้น แล้วก็เล่นซนจนเขียวแบบนี้รึเปล่าคะ แพรก็ไม่ทันได้สังเกต"

 

"งั้นไปกันเถอะ เดี๋ยวสายกว่านี้จะร้อน" คุณครามตัดบท

 

"ขิง มานั่งข้างหน้าสิ" ผมหันมองเจ้าของเสียง เพราะทีแรกตั้งใจว่าจะนั่งข้างหลัง จะได้ไม่มีปัญหา

 

"เดี๋ยวสิคะคราม คุณก็น่าจะรู้ว่าแพรจะเวียนหัว นั่งข้างหลังไม่ได้ ยังไงแพรขอนั่งข้างหน้าไหมคะ นะคะน้องขิง?" เธอหันมาพูดกับผม ด้วยสายตาน่าสงสาร แต่ก็อย่างว่านั่นแหละ ทำตัวให้น่าสงสารไปงั้นแหละ เพราะอะไรก็น่าจะรู้ๆกันอยู่

 

"แง้..............หื้อออออออออออออออ" อยู่ดีๆ น้องคุณก็ร้องขึ้นมาเฉยเลย พวกเราเลยหยุดคุยกันแล้วหันมาสนใจน้องคุณก่อน เพราะก่อนหน้านี้แกยังคาบลูกเป็ดยางอย่างมันเขี้ยวอยู่เลย

 

"โอ๋ๆลูกอย่างร้อง คุณแม่ก็นั่งกับคุณพ่อนี่แล้วไงคะ ไม่ร้องนะคะ นั่นไงคุณพ่อของหนู" เด็กน้อยที่ถูกปลอบยังร้องไห้สะอึกสะอื้น แต่ก็ไม่ได้มากเหมือนเมื่อกี้แล้ว

 

"สงสัยลูกอยากนั่งใกล้ๆคุณ แกเลยร้องขึ้นมาน่ะค่ะ เอาแต่ใจน่าดูเลย เหมือนใครกันเนี๊ยะ?" เธออุ้มน้องคุณแล้วเดินผ่านเข้าไปนั่งตรงเบาะหน้าเลย ผมเลยต้องนับ 1-10 แล้วเดินกลับมานั่งด้านหลังเหมือนเดิม

 

"งั้นก็ไปกันได้แล้ว เสียเวลากันมามากแล้ว เดี๋ยวสายกว่านี้หลวงตาจะไม่อยู่"

 

 พวกเราออกเดินทางมาจนถึงวัด ดีที่วันนี้ไม่ร้อนมาก เพร่ะขนาดผู้ใหญ่ยังบอกว่าร้อน แล้วเด็กน้อยอย่างน้องคุณจะขนาดไหน ดูอย่างตอนนี้เหงื่อน้องออกแต่คนเป็นแม่ยังไม่แม้แต่หาอะไรมาพัดให้ลูกเลย

 

"เอาหมวกแก๊ปผมพัดให้น้องก่อนนะครับ แกคงร้อน" คุณครามที่นั่งอยู่ใกล้ๆหันมายิ้มให้แล้วหยิบเอาหมวกไปพัดให้ลูกที่อุ้มให้นั่งอยู่บนตัก ดูท่าทางคุณครามก็เก้ๆกังๆอยู่เหมือนกันเวลาอุ้มลูกแบบนี้ ส่วนแม่เค้าก็นั่งอยู่ข้างแล้วเอาพัดพัดให้ตัวเอง เป็นผมคงทำให้ลูกก่อน ดีที่น้องไม่งอแงเลย ให้กินนมก็กิน พอง่วงก็นอน

 

"หลวงตามาแล้ว ธุจ้าหลวงตาก่อนครับลูก" คุณครามจับมือลูกพนมมือไหว้หลวงตา

 

"อื้ม เป็นไงมาไงล่ะโยม สบายดีกันใช่ไหม?"

 

"ครับ แล้วหลวงตาล่ะครับสบายดีรึเปล่าครับ?" ผมหันมองเด็กน้อยที่กำลังมองหลวงตา ตาแป๋วเชียว

 

"ก็สบายดีตามอัตภาพและสังขารนั่นแหละโยมเอ๊ย แล้ววันนี้มีอะไรกันถึงหอบกันมาถึงที่นี่ได้? แล้วเด็กนี่ใคร? ลูกโยมรึ?"

 

"ครับหลวงตา ลูกชายผมเองครับ"

 

"อื่ม หน้าตาได้พ่อมาเยอะขนาดนี้คงไม่ต้องถามว่าลูกใคร แล้วมาที่นี่อยากให้อาตมาช่วยอะไรกันล่ะ หืม?"

 

"ผมอยากให้หลวงตาช่วยตั้งชื่อให้แกหน่อยครับ"

 

"ไหนเขียนวันเดือนปีเกิดของเจ้าหนู่นี่มาให้หลวงตาหน่อยสิ แล้วจะให้ตั้งชื่อเล่นด้วยเลยไหม?"

 

"ชื่อเล่นผมตั้งให้แกแล้วครับหลวงตา เหลือแต่ชื่อจริง"

 

"ชื่อว่าอะไรกันล่ะ?"

 

"ชื่อน้องคุณครับ แล้วก็นี่ครับหลวงตา" คุณครามยื่นกระดาษที่เขียนวันเดือนปีเกิดให้หลวงตา

 

"แล้วอยากได้ชื่อคล้องจองกับพ่อกับแม่ด้วยรึเปล่าล่ะ?" หลวงตาพูดจบก็หยิบกระดานชนวนจับช็อกมาขีดๆเขียนๆ

 

"ไม่ต้องก็ได้ครับหลวงตา"

 

"งั้นเอาชื่อนี้เป็นไงล่ะ ชื่อเล่นคุณ ชื่อจริงชื่อ คุณากร หมายถึง บ่อเกิดแห่งความดีงาม"

 

"ขอบคุณครับหลวงตา"

 

"อื่ม ถ้าไม่มีอะไรแล้ว งั้นหลวงตาขอตัวไปนั่งสมาธิต่อนะโยม โยมเองก็คงมีกิจที่จะต้องไปทำ งั้นก็กลับไปจัดการให้เสร็จๆไปเสียเถิด อย่าปล่อยให้มันคาราคาซังแบบนี้ มันไม่ดี"

 

"ครับหลวงตา" พวกเราพนมมือกราบหลวงตา แล้วก็ค่อยๆถวอยกันออกมาจากศาลา

 

 

....................................................

 

 

"กลับมากันแล้วเหรอลูก เป็นไงบ้าง? หลวงตาท่านสบายดีรึเปล่า?" คุณป้าถามทันทีที่เข้าบ้านมา

 

"หลวงตาท่านสบายดีครับ"

 

"แล้วท่านตั้งชื่อให้หลานแม่ว่ายังไง?"

 

"หลวงตาท่านตั้งให้ว่า เด็กชายคุณากร หมายถึง บ่อเกิดแห่งความดีงามครับ จะได้คล้องกับชื่อเล่น"

 

"ถ้าไม่มีอะไรแล้วแพรขอตัวนะคะ เหงื่อออกจนเหนียวเนื้อเหนียวตัว เหม็นไปหมด"

 

"แล้วลูกล่ะแม่แพร จะให้แม่เป็นคนป้อนข้าวให้ หรือจะป้อนเอง?"

 

"ให้คุณแม่ป้อนเถอะค่ะ แพรร้อน ขอไปว่ายน้ำเล่นให้เนื้อสบายตัวก่อนดีกว่า" จบคำพูดเธอก็ก้าวเท้าอาดๆเดินขึ้นบันไดไป ทิ้งให้คนแก่กว่าส่ายหัวไปมากับความไม่สนอกสนใจลูกในไส้ของตัวเอง

 

"ไปกันลูกเดี๋ยวย่าจะป้อนข้าวให้นะ วันนี้กินข้าวกับกล้วยบดกับซีลีแลคแล้วกันเนอะ" 

 

 

...........................................................................

 

 

"พี่นุ้ยครับเห็นคุณครามรึเปล่าครับ?"

 

"เห็นค่ะ เมื่ออยู่ในห้องหนังสือนะคะ แต่ไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่รึเปล่า คุณขิงไปดูมารึยังคะ?"

 

"ยังเลยครับ งั้นเดี๋ยวผมไปดูก่อนนะครับ"

 

"เจอรึเปล่าคะคุณขิง?"

 

"ไม่เจอครับ"

 

"งั้นเหรอค่ะ คุณขิงไม่ลองไปหาที่ห้องคุณแพรดูล่ะค่ะ เผื่อนายหัวเธอจะเข้าไปหาคุณหนู"

 

"ไม่ดีกว่าครับพี่นุ้ย ธุระของผมไม่ได้รีบร้อนอะไร ไว้คุยตอนพรุ่งนี้เช้าก็ได้ครับ"

 

"โอเคค่ะ งั้นพี่ปิดไฟตรงนี้แล้วนะคะถ้าคุณขิงไม่ต้องการอะไรแล้ว?"

 

"เออ...ครับ ผมก็จะไปนอนแล้วเหมือนกัน"

 

"

"

"

"

"

 

ถามว่าเมื่อคืนนอนหลับไหม ก็หลับๆตื่นๆ ในหัวมันคิดอะไรไม่รู้อยู่เต็มไปหมด เช้านี้เลยออกมาอย่างที่เห็น แต่ถ้าได้กาแฟสักแก้วก็คงจะดีขึ้น กาเฟอีนคงจะช่วยให้ร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่าขึ้น

 

 

 

"ตามหาครามเค้าอยู่เหรอ?"

 

"มันก็ไม่เกี่ยวกับคุณ" ผมเบี่ยงตัวหลบมาด้านขวา เธอก็ตามมาขวางไว้ พอหลบไปทางซ้ายก็ตามมาอีก

 

"หลบไป"

 

"หึ!! จะรีบไปไหนล่ะ จะว่าไปที่นายพูดมันก็เกี่ยวกับชั้นอยู่นะ...."

 

"ยังไง?"

 

"เพราะเรากำลังใช้สามีคนเดียว ถึงคนอื่นไม่รู้ แต่นายก็ควรรู้ไว้อะนะ จะได้ไม่ตกใจ หรือทะเลาะกันกับเค้า" เธอยิ้มเยาะ

 

"ไม่จริง.."

 

"เห้ออออ!! ชั้นคิดไว้อยู่แล้วเชียวว่านายจะต้องไม่เชื่อ อะ.. เอานี่ไปดูสิ" ผมหยิบโทรศัพท์ที่เธอยื่นให้มาดู มันก็เหมือนอีกฉากหนึ่งในหนัง ที่พระเอกนอนเปือยให้เห็นแค่ช่วงบน ข้างๆมีผู้หญิงนอนอยู่ด้วย ส่วนด้านล่างผมไม่รู้หรอกว่ามีอะไรหลงเหลืออยู่ไหม เพราะมันไม่ได้ถ่ายให้เห็น

 

"ไม่ต้องสงสัยนะว่าทำไม เมื่อคืนเค้าถึงไม่ไปหานาย เพราะเค้านอนอยู่กับชั้นแล้วก็ลูกของเราอยู่ไงล่ะ"

 

"ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ มันจะแปลกตรงไหนล่ะ..ถ้าเค้าจะยังรักชั้นอยู่ ครามน่ะ..เป็นคนปากแข็ง นายก็น่าจะรู้จักเค้าดีไม่ใช่เหรอ ว่าเค้าเป็นคนยังไง? อีกอย่างตอนที่ชั้นจากเค้าไป ถึงเราจะจากกันไม่ดีสักเท่าไหร่ ซึ่งมันก็เป็นความผิดของชั้นเอง ชั้นยอมรับ แต่ก็อย่างว่านั่นแหละนะ ชั้นทิ้งเค้ามาทั้งที่เค้ายังรักชั้นอยู่ ถึงตอนนี้เค้าจะมีนาย แต่แน่ใจเหรอว่าเค้ารักนายจริง ไม่ใช่เป็นเพราะเผลอไผลหรือความใกล้ชิด"

 

"พูดจบรึยัง?"

 

"จุ๊ๆๆ จะรีบไปไหน ให้เมียหลวงได้คุยกับเมียน้อย ตามประสาเมียๆบ้างสิ ใช่ไหม?" ผมไม่ตอบ

 

"นายชอบตรงไหนของเค้ากันล่ะ หน้าตา ฐานะ หรือว่ารสรักของเค้า?" ผมชักสีหน้า ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงที่ดูเพียบพร้อม แล้วก็เคยเป็นนายหญิงเมียของคุณครามจะกล้าพูดเรื่องแบบนี้

 

"โอเค๊!! ไม่ตอบก็ไม่เป็นไร แต่สำหรับชั้น ครามเค้าดีไปหมดทุกอย่างนั่นแหละ แต่ที่ชั้นชอบที่สุดคงเป็นรสรักของเค้า ไม่ว่าจะเมื่อก่อนหรือตอนนี้..ก็ยังเร้าร้อนอยู่เหมือนเดิม..ไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ ยิ่งได้สัมผัสมันมากับตัวเองเมื่อคืน ก็ยิ่งทำให้ทำให้ชั้นมั่นใจเลยนะว่า เค้ายังต้องการชั้นอยู่จริงๆ เพราะขนาดลูกนอนอยู่ข้างๆ เค้ายังไม่สนใจเลย นายล่ะคิดเหมือนชั้นไหมล่ะ?"

 

พูดจบเธอก็เดินออกไป แล้วแสยะยิ้มให้อย่างผู้ชนะเป็นการส่งท้าย

 

 

 

 

 

||====||====||===||====||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===

 

 เค้ากลับมาแล้ว เพิ่งเสร็จงาน ช้าไปนิดหน่อย ถึงปานกลาง อย่าเพิ่งน้อยใจกันน้าาาา
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.23 ☆ P.10 >> (17/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 23-03-2016 14:03:49





 

 

 

 

 

อันดามัน...ซ่อนรัก

Andaman in Love

ตอนที่ 23


 

 

 

 

 

 

ตอนนี้ผมคงต้องหนักแน่นให้มากใช่ไหม พยายามบอกกับตัวเองว่าอย่าคิดมาก แต่ในความเป็นจริงมันเป็นไปไม่ได้หรอก ยิ่งพยายามบอกกับตัวเองว่าไม่เป็นไร  ไม่มีอะไร แต่สมองมันกลับย้ำคิดย้ำทำ คิดไปต่างๆนาๆ ว่าเค้าทำอะไรอยู่ในห้องนั้น จะกลับมานอนที่ห้องรึเปล่า กระทั่งตอนเช้านี้ตื่นมาก็ยังไม่เห็นเค้าเลย สุดท้ายนี้เราก็ได้แต่เฝ้าถามตัวเองว่า ถ้าเค้าจะนอนที่นั่น ทำไมเค้าถึงไม่เดินมาบอกเราสักคำล่ะว่าจะขอนอนเฝ้าลูกหรือเหตุผลอะไรก็ได้ที่ทำให้มั่นใจในตัวเค้า ไม่ใช่ตื่นมาตั้งแต่เช้ายังไม่เห็นตัว แล้วทิ้งให้เรามาคิดมากอยู่คนเดียวแบบนี้

 

 

 

"คุณขิงคะ คุณขิง!!"

 

"มีอะไรรึเปล่าคะ? เห็นเหม่อลอยแล้วก็ทำหน้ายุ่งตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว"

 

"เออ..เปล่าครับ พอดีเมื่อคืนผมดูรายการทีวีดึกไปหน่อย สมองเลยเบลอๆน่ะครับ แล้วเมื่อกี้พี่นุ้ยว่าอะไรนะครับ?"

 

"เอ่อจริง พี่ก็ลืมไปเลย จะมาบอกว่าหมอตั้นมาหาค่ะ"

 

"มาหาผมเหรอครับ?"

 

"ค่ะ มาหาคุณขิงของพี่นั่นแหละค่ะ วาแต่ช่วงนี้คุณหมอเค้ามาบ้านเราบ่อยจังนะคะ ไม่รู้ว่ามีธุระหรือติดใจคนหรืออะไรแถวนี้รึเปล่า อิอิ"

 

"ไม่รู้สิครับ งั้นผมขอตัวไปหาคุณหมอก่อนนะครับ เดี๋ยวเค้าจะรอนาน"

 

 

 

"สวัสดีครับคุณหมอ ลมอะไรเหาะพามาถึงนี้กันครับ"

 

"สวัสดีครับคุณขิง คงเป็นลมแห่งความเป็นห่วงล่ะมั้งครับ" หมอตั้นก็ยังเป็นหมอตั้น ผมยิ้มให้แล้วเดินนำมาที่ห้องรับแขก

 

"วันนี้คุณหมอมาเสียเที่ยวเพราะคุณครามไม่อยู่ ออกไปฟาร์มตั้งแต่เช้า แล้วก็ไม่รู้ว่าจะกลับเมื่อไหร่ด้วยสิครับ"

 

"ผมนึกว่ามันเห่อลูกจนไม่ไปทำงานซะอีกครับ"

 

"ขอโทษครับ ผมปากไวไปหน่อย" คุณหมอรีบเอามืออุ๊บปากตัวเองไว้ แต่ก็ไม่ทันแล้วล่ะครับ

 

"ไม่เป็นไรครับ นั่นลูกเค้า..จะเห่อสักหน่อยก็คงไม่แปลกอะไรหรอกครับ แล้วคุณหมอทานอะไรมารึยังครับ?"

 

"ยังเลยครับ ว่าจะมาขอฝากท้องที่นี่สักมื้อได้ไหมครับ?"

 

"คงได้อยู่มั้งครับ พอดีผมไม่ใช่เจ้าของบ้านซะด้วยสิ"

 

 

"

"

"

"

"

 

"ไหวไหมครับคุณขิง?"

 

"ไหวครับ หม้อใบนิดเดียว สบายมากครับ"

 

"ผมไม่ได้หมายถึงหม้อครับ ผมหมายถึง ตัวคุณขิงนั่นแหละ ตอนนี้ยังโอเคอยู่ไหมครับ?"

 

"ก็..โอเคอยู่มั้งครับ"

 

"ต้องการกอดของเพื่อนคนนี้ไหมครับ? คิดว่าผมเป็นพี่ชายของคุณก็ได้นะ" ผมส่ายหัวแล้วยิ้มให้หมอตั้น แต่หมอตั้นคงรู้ว่าผมอึดอัดกับเรื่องพวกนี้มากแค่ไหน เลยเดินเข้ามากอดผมแล้วก็ลูบหัวเบาๆแบบที่พี่ขุนเคยทำ

 

"ถ้าอยากร้อง ก็ร้องออกมาได้นะครับ ผมรู้ว่าคุณขิงรู้ว่าจะทำยังไงกับความรู้สึกตอนนี้ แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆก็นึกถึงผมนะครับ ผมจะมาหา" ผมพยักหน้ากับอกหมอตั้น

 

"ตุ๊บ!! โอ๊ะ" แขนถูกกระฉากออก หันไปอีกทีก็เห็นหมอตั้นล้มไปกองกับพื้นแล้ว

 

"ปล่อยคุณหมอเดี๋ยวนี้นะคุณคราม ทำบ้าอะไรของคุณ"

 

"ก็ทำบ้าน่ะสิ เห็นเมียตัวเองกอดกับเพื่อนแบบนี้ จะให้ยืนดูเฉยๆรึไง?"

 

"คุณมันบ้าไปแล้วจริงๆ"

 

"เอ่อก็ใช่นะสิ แล้วจะบ้ายิ่งกว่านี้อีก มานี่!!!"

 

"ผมเจ็บนะคุณ ปล่อยผมเดี๋ยวนี้"

 

"มึงปล่อยคุณขิงก่อนไอ้คราม มีอะไรก็ค่อยพูดกันดีกว่า"

 

"มึงหุบปากไปเลยไอ้เหี้ย ก่อนที่กูจะกระทืบมึงอีก"

 

"คุณครามปล่อย!! คุณไม่มีสิทธิ์มาทำนิสัยแบบเถื่อนแบบนี้กับคนอื่นนะ" ผมสะบัดแขนออกเท่าไหร่ก็ไม่หลุด

 

"ทำไมจะไม่มีสิทธิ์ในเมื่อมันกำลังกอดเมียชั้นอยู่ มึงมันเป็นไอ้หัวขโมย เป็นเพื่อนอยู่ดีๆ ริจะมาเป็นชู้"  ครามชี้หน้าหมอตั้น

 

"กูจะเป็นชู้ได้ไง ในเมื่อคุณขิงเค้าก็ยังไม่ได้มีพันธะอะไร ส่วนที่มึงบอกว่าเมียมึง กูว่ามึงเข้าใจผิดแล้วว่ะเมียมึงอยู่โน้น!!" หมอตั้นชี้ไปที่ผู้หญิงคนนั้นที่ยืนดูอยู่ตั้งแต่ต้น

 

"ช่วยบอกชั้นหน่อยได้ไหม ว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น? ตาคราม? หมอตั้น? หนูขิง?" เหมือนโลกของผมสลายไปตรงหน้า ผมไม่รู้ว่าคุณป้าได้ยินที่คุณคราม หรือหมอตั้นพูดเมื่อกี้หรือเปล่า ภาวนาขอให้อย่าเป็นอย่าที่ผมกำลังกลัวเลย

 

"ผมว่าคุณแม่ได้ยินชัดทุกอย่างแล้วนะครับ ดังนั้นผมไม่ขอตอบอะไรอีก มานี่!!" คุณครามลากผมออกไปต่อหน้าต่อตาทุกคน สะบัดแขนยังไงก็ไม่ออก

 

"นายหญิง!! ช่วยด้วยค่ะๆนายหญิงเป็นลม" 

 

'คุณแม่!! /คุณป้า"

 

 

.....................................

 

 

คุณป้าฟื้นแล้ว พวกเราที่ยืนล้อมหน้าล้อมหลังเฝ้ากันอยู่ก็เลยเบาใจขึ้นได้บ้าง หมอตั้นบอกว่าคุณป้ามีอาการเครียดสะสมเล็กน้อย มาเจอเรื่องแบบนี้อีก เลยทำให้เป็นลมไป

 

"นายหญิงคะ ยาหอมค่ะ" พี่นุ้ยยื่นยาหอมที่ผสมกับน้ำอุ่นให้คุณป้า

 

"ตาคราม ไหนบอกแม่สิว่ามันเกิดอะไรขึ้น? บอกแม่หน่อยว่าที่แม่ได้ยินมันไม่ใช่ความจริงใช่ไหม?" คุณป้าถาม แล้วมองกลับมาที่ผม กับคุณคราม

 

"ผมขอโทษครับคุณแม่" ผมพูดไม่ออก ไม่กล้าแม้แต่จะสบตาท่าน ส่วนผู้หญิงคนนั้นก็นั่งอยู่ข้างๆคุณป้า แล้วก็ส่งสายตาของผู้ชนะมาให้ แต่ตอนนี้ผมไม่สนใจหรอกครับ อะไรก็ไม่สำคัญเท่าความรู้สึกของคุณป้าอีกแล้ว

 

"จริงเหรอหนูขิง?" คุณป้ายังใจดีกับผมเหมือนเดิม อย่างน้อยถ้าท่านโกรธผมสักนิด ผมคงไม่รู้สึกผิดขนาดนี้ ผมเช็ดน้ำตาแล้วก้มลงกราบที่ตักท่าน

 

"ผมขอโทษครับคุณป้า"

 

"นี่มันเกิดเรื่องอะไรกับลูกของชั้นกันเนี๊ยะ?" คุณป้าร้องไห้

 

.

.

.

 

 

"แล้วหมอตั้นมาเกี่ยวอะไรด้วย ไหนบอกป้าหน่อยสิ?" คุณป้าเช็ดน้ำตาแล้วหันมาถามหมอตั้น

 

"ผมยืนยันกับคุณป้าแล้วก็ทุกคนตรงนี้เลยนะครับว่า ผมกับคุณขิงเป็นเพื่อนกันจริงๆ ไม่เคยคิดเป็นอย่างอื่นเลยครับ"

 

"แต่มึงกอดเมียกู!! ไอ้....." คุณครามชี้หน้าหมอตั้น

 

"ตาครามใจเย็นๆ" คุณป้าหยิบยาดมขึ้นมาดม เพราะทำท่าเหมือนจะลมจับอีกครั้ง พี่นุ้ยเลยออกแรงพัดให้แรงกว่าเดิมอีก

 

"แล้วหมอตั้นทำอย่างที่ตาครามว่าจริงๆรึเปล่า?"

 

"จริงครับ แต่ผมแค่ปลอบให้กำลังใจเฉยๆครับ ไม่ได้คิดอกุศลเหมือนที่ใครบางคนแถวนี้คิดหรอกครับ" คุณครากัดฟันข่มตัวเองไม่ให้กระโดดไปต่อยหมอตั้นอีกครั้ง

 

"สรุปหมอตั้นไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับลูกชายป้าใช่ไหม?"

 

"ครับ"

 

"งั้นเรื่องนี้จบนะ อย่ามาผิดใจกันเลยนะลูก เพื่อนดีๆมีไม่กี่คนหรอกที่จะรักและหวังดีกับเราจริงๆ  ส่วนเรื่องของทั้งสองคน...แม่ขอเวลาหน่อย เข้าใจแม่หน่อยนะเพราะมันค่อนข้างเร็วเกินไปที่จะยอมรับได้ ปะนุ้ย..พาชั้นขึ้นไปข้างบนที่ ชั้นอยากพักแล้ว"

 

"แล้วเรื่องแพรกับลูกล่ะคะคุณแม่?"

 

"เอาไว้ค่อยคุยกัน ตอนนี้ชั้นปวดหัวไปหมดแล้ว" คุณป้าขึ้นไปพักข้างบนแล้วเหลือแต่พวกเราอยู่

 

"นายมันตัวซวยชัดๆ เข้ามาทำให้ครอบครัวเค้าแตกแยก รู้ไว้ซะด้วย"

 

"คุณไปดูแม่คุณก่อนเถอะครับ ผมอยากอยู่คนเดียว" คุณครามออกจากห้องไปตามที่ผมขอ ผมว่าคงเป็นอย่างที่ผู้หญิงคนนั้นพูดนั่นแหละ ผมเข้ามาทำให้ครอบครัวเค้าแตกแยกจริงๆ

 

 

.............................................................................

 

 

ผ่านไปอีกวัน ทุกคนที่นี่ยังดีกับปมเหมือนเดิม แม้กระทั่งป้าน้อย ตอนแรกผมคิดว่าแกจะเกลียดผมไปแล้วซะอีกที่ทำให้คุณครามเป็นแบบนี้ แต่แกกลับยังทำดีกับผมยิ่งกว่าเดิมอีก วันนี้ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาป่วนสมองผมอีกแล้ว เริ่มจากตอนเช้า เธอเดินเข้ามาบอกว่าขอชงกาแฟให้หน่อยเพราะเมื่อคืนตาหนูไม่สบาย คุณครามเลยอยู่เฝ้าที่ห้องทั้งคืน ผมไม่ทำให้หรอกนะ อยากกินก็ชงกันเองทั้งสองคน ผมเลี่ยงออกมาช่วยลุงแช่มดูแลกล้วยไม้ จะว่าไปก็ทำให้คิดถึงบ้านขึ้นมาอีกแล้วสิ

 

"ทำงานสวนก็เป็นกับเค้าด้วย ก็ดีนะ เผื่อลุงแช่มทำไม่ไหวจะได้ช่วยทำได้" ผมทำเป็นมองไม่เห็นเธอแล้วก็ไม่อยากได้ยินด้วย แค่นี้ผมก็ปวดหัวจะแย่แล้ว ให้มาต่อล้อต่อเถียงอีก ผมไม่เอาด้วยหรอก

 

"นี่ชั้นพูดกับนายได้ยินไหม?"

 

"ได้ยินครับแต่ไม่อยากตอบ มีอะไรไหม?"

 

"หึ!! อย่าคิดนะว่าครามลดตัวมาเอาแกแล้วแกจะชูคอแบบนี้ได้ เค้าก็แค่หลงของแปลกของใหม่ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้นแหละ ดูตัวนายเองสิ มีอะไรดีบ้าง เค้าเป็นผู้ชาย ยังไงลูกก็ต้องสำคัญกว่าอยู่แล้ว แล้วดูนายสิ มีลูกให้เค้าเหมือนชั้นได้รึเปล่าเหอะ " ผมเงียบฟังว่าเธอจะพูดอะไรอีก จบแล้วผมจะได้ไปสักที

 

"ถึงตอนนี้เค้าจะยังโกรธชั้นอยู่ แต่เชื่อเหอะว่าเค้ายังมีใจให้ชั้น คนเคยเป็นผัวเมียกัน ตัดยังไงมันก็ไม่ขาดหรอก แล้วยิ่งมีโซ่ทองมาคลองใจไว้ด้วยอีก เค้าคงไม่โง่ที่จะเลือกนายหรอกว่าไหม?"

 

ผมเดินออกมา ไม่สนใจเสียงเธอตะโกนตามมาหรอก ต่อให้แหกปากด่าผมมากกว่านี้ ผมก็ไม่ระคายหรอก ผมคงด้านช้าแล้วมั้ง ตั้งแต่เรื่องของเจ มาจนถึงเรื่องนี้

 

ตอนเย็นก่อนทานข้าว ผมเห็นเค้ายืนอุ้มลูกอยู่ ผมก็เลยเลี่ยงออกมาซะ ส่วนผู้หญิงคนนั้นจะทำท่าเยาะเย้ยยังไงก็ช่างเขาเถอะ ผมเหนื่อยแล้วที่ต้องสู้รบปรบมือกับคนอื่นแบบนี้ แค่นี้ปัญหาก็มีมากพออยู่แล้ว

 

"ดีใจจังที่ขิงรับสายเจ ตอนนี้เจอยู่กระบี่ เจมาหาขิง กลับมาหาเจเถอะนะคนดี เจผิดไปแล้ว ส่วนคนนั้นเจก็ไม่ได้ติดต่อแล้ว เจสัญญาว่าจะไม่ทำให้ขิงเสียใจอีก กลับมาหาเจนะ" ตายยากจริงๆ พับผ่า เพิ่งคิดอยู่ในใจเมื่อกี้ ตอนนี้โทรมาแล้ว

 

"ขิง ขิงได้ยินเจรึเปล่า?"

 

"ได้ยิน" ผมตอบเสียงเหนือยๆ

 

"ค่อยยังชั่วนึกว่าวางสายไปแล้วซะอีก ตอนนี้ขิงอยู่ไหนครับ?"

 

"อยู่บ้าน แล้วก็ไม่ต้องมาหานะ ไม่อยากเจอ" ผมไม่ได้พูดกระโชกโฮกฮากใส่เจหรอก เพราะอย่างน้อยก็ยังเคยเป็นเพื่อนกัน เคยคบกัน แต่ให้กลับไปเป็นเพื่อนหรืออะไรตอนนี้ ยังรับไม่ได้จริงๆนั่นแหละ ผมวางสายแล้วเดินกลับขึ้นไปบนห้อง

 

 

..............................

......................

..........

 

 

"ก๊อกๆๆ"

 

"ใครครับ?"

 

"พี่เองค่ะ คุณขิง" เสียงพี่นุ้ยตอบ ผมเลยเดินไปเปิดประตู

 

"พอดีมีผู้ชายคนหนึ่งเค้าบอกว่าอยากพบคุณขิงค่ะ บอกว่าจะรออยู่หน้าบ้าน"

 

"ใครเหรอครับ?"

 

"ไม่ทราบค่ะ แต่งตัวดีๆ หน้าตาหล่อๆบอกว่าจากจากกรุงเทพฯ" ผมถอนหายใจเบาๆ พี่นุ้ยบอกแค่นี้ผมก็รู้แล้วครับว่าเป็นใคร ขนาดบอกว่าไม่ต้องมา ไม่อยากเจอ ก็ยังมาจนได้

 

"ขอบคุณครับพี่นุ้ยเดี๋ยวผมออกไปดูครับ" ผมใส่รองเท้าแตะแล้วเดินออกไปที่ชายหาดหน้าบ้าน

 

"ขิง!!"

 

"มาหาถึงที่นี่มีอะไรอีกรึเปล่าเจ แต่ถ้าจะมาคุยเรื่องเก่า เราก็ยังยืนยันเหมือนเดิมนะ แก้วที่มันแตกละเอียด ต่อยังไงมันกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้หรอก"

 

"ทำไมขิงใจแข็งกับเจจัง"

 

"ถามหน่อยเหอะเจ ที่ยังตามตื้อขิงเพราะยังไม่ได้ขิงรึเปล่า?" บางครั้งคนอย่างเจก็ต้องพูดตรงๆแบบนี้

 

"เปล่าๆ วันนั้นเจแค่โมโหเลยปากเสียไปหน่อย เจขอโทษ"

 

"แล้วมาตามตื้ออีกทำไมเจ ถ้าอยากให้ขิงกลับไป ขิงอาจกลับไปนะ แต่ขิงไม่เหมือนเดิมแล้ว เจรับได้เหรอ?"

 

"ขิงหมายความว่าไง?"

 

"ใจขิงไม่เหมือนเดิม ตัวด้วย ยังรับได้อยู่เหรอ ขิงนอนกับคนอื่นไปแล้วนะ?" ผมถามเจแล้วก็ประชดตัวเองไปด้วย

 

"ทำไมขิงทำแบบนั้น ขิงนอนกับมันทำไม?" เจดูจะโมโห

 

"อ้าว!! ไหนว่าไม่ได้สนใจเรื่องนี้ไง ถ้ารักกันจริงก็ต้องรับได้สิ?"

 

"งั้นก็ได้ ขิงกลับมาสิ กลับไปกลับเจ ไปอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพฯ เหมือนเดิม"

 

"เสียใจนะเจ แค่นี้ขิงก็รู้แล้วว่าเจคิดอะไรอยู่ ไปตายซะเถอะ แล้วอย่ามาให้เห็นหน้าอีก" เจเพียงแค่อยากเอาชนะเท่านั้นแหละ

 

"ปล่อย!!" ผมมองที่แขนตัวเอง เจกำมันไว้แน่น

 

"ไม่ปล่อย" ผมสะบัดอย่างแรงแล้วก็ผลักเค้าออก

 

"อื้อออ!" ผมเกลียดคนแบบนี้ที่สุด ทำไมผมถึงต้องเจอกับคนที่ชอบใช้กำลังบังคับตลอด

 

"เพี๊ยะ!!"

 

"อย่านะ ถ้าเข้ามาอีก ขิงเอาให้สูญพันธุ์แน่ อย่าคิดว่าพ่อเจใหญ่แล้วจะรังแกคนอื่นแบบนี้นะ อย่าลืมว่าพ่อขิงก็ไม่ได้แพ้พ่อเจหรอก ลองดูสิ"

 

"กลับไปเถอะเจ อย่ามายุ่งกันอีกเลย ขิงอโหสิให้ทุกอย่าง" ผมพูดจบก็เดินออกมา

 

..................

............

......

 

"ถ้าจะนัดพบชู้กับหัดดูสถานที่บ้าง ไม่ใช่ที่ไหนก็ได้หมด"

 

"พูดอะไรของคุณ ถอย!! ผมจะเข้าไปช่วยพี่นุ้ย" ตอนนี้ทุกคนในบ้านรู้แล้ว คุณครามยิ่งไม่คิดจะเกรงใจใคร

 

"เดี๋ยววววว!!"

 

"ปล่อย!! คุณมันหยาบคาย ชอบใช้แต่อารมณ์ นิสัย...อื้อออออ!!"

 

"เพี๊ยะ!! คุณมันก็เหมาะกับผู้หญิงคนนั้นแล้วล่ะ อย่ามายุ่งกับผม"

 

ผมเลี่ยงที่จะเจอเค้า ข้าวเย็นก็ไม่กิน แล้วก็จะไม่มีวันลงไปกินตอนดึกเหมือนวันนั้นอีกแล้วด้วย

 

 

"โอเคงั้นแค่นี้ก่อนนะ ขิงคิดถึงพี่ขุนที่สุดเลย ไว้เจอกันครับ" ผมบอกลาพี่ขุน เพราะครั้งนี้พี่แกเป็นคนโทรมาแจ้งข่าวดีว่ากำลังแต่งงานแล้ว ตอนสิ้นเดือน เลยถามว่าน้องลามาได้ไหม?

 

"คุณ!! เข้ามาในนี้ได้ไง?" ครามโชว์กุญแจในมือให้ดู

 

"มีธุระอะไร?"

 

"เดี๋ยวนี้ผัวมีธุระกับเมีย ก็ต้องแจ้งให้ทราบด้วยเหรอ? "

 

"ผมไม่ใช่เมียคุณ เมียคุณอยู่อีกห้องหนึ่งต่างหาก ถ้าเข้าใจถูกแล้วก็ช่วยออกไปด้วยนะครับ ผมจะนอนแล้ว เชิญครับ!!"

 

"หึ!! ตั้งแต่ออกไปพบกับชู้มารู้สึกว่าจะปากกล้าขึ้นมากนะ นอกจากไอ้หมอ ไอ้แฟนเก่าคนนั้น...แล้วยังมีใครอีกล่ะ หรือไอ้คนที่นายเพิ่งบอกคิดถึงเมื่อกี้รึเปล่า? รวมชั้นก็สี่คนพอดี ทำไมไม่เอาให้มันคบ 7 ล่ะ จะได้ครบอาทิตย์หนึ่งพอดี"

 

"หยาบคาย สกปรกที่สุด"

 

"ที่สกปรกยิ่งกว่าชั้นก็คือนายนั่นแหละ อย่าคิดนะว่าชั้นไม่เห็นตอนที่นายจูบกับมันที่ชายหาดน่ะ ทุเรศสิ้นดี อยากมากนักรึไง? ความจริงบอกชั้นก็ได้นะเรื่องแบบนี้ ของมันเคยๆจริงไหม?" ขิงเม้มปากจนเจ็บ ไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดแบบนั้นออกจากปากเค้า

 

"ถ้ามันสกปรกก็อย่ามาอยู่ใกล้เลยครับ กลับไปหาคนดีของคุณเถอะ"

 

"ไม่เป็นไรชั้นสงเคราะห์ วันนี้เมียชั้นอยู่กับลูก คงทำหน้าที่ไม่ได้ ต้องรบกวนนายแล้วล่ะ"

 

"สารเลว!! ผมไม่น่ามาเจอคนอย่างคุณเลย ออกไปเดี๋ยว......อื้อออออออออ" ครามถาโถมเข้าใส่ แล้วตะโบมจูบอย่างรวดเร็ว

 

"อึก!!.........ปล่อยยยย.....อื้อออออออ"

 

"อย่าทะ....มนะคุณ อ้าห์......!!!" ครามจูบลงที่คอ แล้วกระฉากเสื้อชุดนอนออกจนกระดุมกระเด็นกระดอนออกไปไกล จากนั้นก็จูบไล่มาจนถึงลาดไล่ ทิ้งรอยไว้ทั้งขบทั้งกัดแล้วตวัดปลายลิ้นเลียเม็ดสีส้มอมแดงระหว่างอก จนขิงร้องออกมาอย่างทนไม่ไหว ส่วนไหนที่เป็นจุดอ่อนของเขาผู้ชายคนนี้รู้หมด เขาเกลียดตัวเองนักที่ขัดขืนไม่ได้เลย

 

"แค่นี้ก็อ่อนระทวยแล้ว นายนี่มันสุดๆจริงๆนะ" ครามกลับมาปรนเปรอให้อีกคนขิงแทบสำลัก กางเกงนอนขาสั้นหลุดออกไปอย่างง่ายดาย

 

"คุณ....อย่าทำแบบนี้เลย ถ้าผมไม่ดีแล้วก็ปล่อยผมไปเหอะ อย่าทำร้ายกันแบบนี้เลย" เสียงอ้อนวอน

 

"อึก........อ้าาาาา ม..มันเจ็บ.....เอามันออกไป......!" ข้อมือที่ถูกตรึงไว้ทำให้ดิ้นไปไหนก็ไม่ได้ ได้แต่นอนให้เขาส่งสิ่งแปลกปลอมนั้นเข้ามาอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้เตรียมความพร้อมเลยสักนิด

 

"อ้าาาาาา แน่นสุดๆ" ครามข่มอารมณ์ รอให้อีกฝ่ายปรับตัว แล้วค่อยๆขยับๆเบาๆ

 

น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าให้ออกมา แต่เขาก็ยังทำอยู่ ขิงหลับตาลงแล้วปล่อยให้เขาทำจนพอใจ แล้วต่อแต่นี้ไปก็ถือว่าหมดเวรหมดกรรมกันสักที

 

ตื่นขึ้นมาตอนรุ่งสาง เห็นอีกคนยังนอนหลับอยู่ข้างๆ เขาจึงพาตัวเองเข้าไปทำความสะอาดตัวเองเบาๆ แล้วคว้าสัมภาระสำคัญยัดใส่กระเป๋าออกมา พยายามก้าวลงจากบ้านไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากร่างกายไม่เอื้ออำนวยสักเท่าไหร่ อีกทั้งเหมือนตัวเองจะไม่สบายอีกด้วย เขาก็เดินเลาะชายหาดออกไป แต่เวลานี้จะหารถที่ไหนไปที่ บ.ข.ส.ได้ จะไว้ใจคนไปเรื่อยก็ไม่ได้อีก

 

"คุณหมอ.....อยู่ไหนครับ?" เสียงพูดเริ่มแหบ เพราะเมื่อคืนร้องไห้ไปเยอะ ไหนจะป่วยอีก

 

"ผมอยู่ที่บ้านครับ เพิ่งออกเวร คุณขิงมีอะไรรึเปล่าครับ? ทำไมโทรมาตอนนี้?"

 

"ช่วยมารับผมที่ 7-11 แถวบ้านได้ไหมครับ ผมไม่รู้จะหาใครแล้วจริงๆ"

 

"โอเค ได้ครับ เดี๋ยวผมจะรีบไปนะครับ" หมอตั้นรีบบึ่งรถมาหาทันที กลัวว่าถ้าไปช้าจะเจอจิ๊กโก๋พวกนั้นทำอะไรเอา แถวนั้นตอนกลางคืนขี้เมาเยอะ คนปกติธรรมดาเค้าไม่ออกมาเดินเผ่นพ่านกันหรอก เพราะมันจะไม่ปลอดภัย

 

"คุณขิง...!!" หมอตั้นเห็นสภาพของขิงแล้วไม่อยากคิดเลยว่าไปเจออะไรมา

 

"ขึ้นรถก่อนเถอะครับ...ไหวไหม?" ผมยิ้ม ดีใจที่คุณหมอมา เพราะอย่างน้อยตอนนี้ก็ยังมีที่พึ่ง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===

 

หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.23 ☆ P.11 >> (23/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 23-03-2016 14:26:04
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.23 ☆ P.11 >> (23/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 23-03-2016 15:48:40
เฮ้อออ อีครามนี้อารมณ์ร้อนจริงๆ ขืงหนีไปไกลๆเลยไม่ต้องกลับมาอีกแล้ว ให้มันอยู่พ่อแม่ลูกสมใจ :m16: :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.23 ☆ P.11 >> (23/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 23-03-2016 16:02:07
โอ๊ยยยยบักครามบักวู่วามบักง่าวว หืออออ ทำไมชอลทำให้มีปัญหาอยู่เรื่อยเคยคิดจะถามอะไรขิงบ้างเปล่า ใช้ความคิดตัวเองเป็นใหญ่ หึ๊
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.23 ☆ P.11 >> (23/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 23-03-2016 17:59:59
น้ำตาจะไหล ทั้งกดดัน ทั้งอดทนไม่พูดมาตั้งนาน
แล้วยังถูกทำแบบนี้อีก  :ling2:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.23 ☆ P.11 >> (23/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: chaweewong19841 ที่ 23-03-2016 19:00:56
อยากอ่านต่อแล้ว
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.23 ☆ P.11 >> (23/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 23-03-2016 20:55:40
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.23 ☆ P.11 >> (23/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: wwss2220 ที่ 23-03-2016 22:58:57
อะไรค่ะ.....กำลังอิน.........ตัดจบไปซะอย่นั้น!!!   ขอร้องละค่ะมาต่อเร็วนะค่ะสนุกมาก :z3: :hao7:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.23 ☆ P.11 >> (23/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 23-03-2016 23:08:26
มาต่อเร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.23 ☆ P.11 >> (23/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 23-03-2016 23:38:19
ครามใจร้อนเกินไปแล้ว ละเลยขิงแล้วยังพาลอีก กลับไปกกเมียเก่าเลยไป๊ ! :katai1:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.23 ☆ P.11 >> (23/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MENTA ที่ 24-03-2016 00:04:20
ขิงสู้ๆนะลูก
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.23 ☆ P.11 >> (23/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 24-03-2016 00:13:17
คุณครามนี่หมาบ้าชัดๆ อยู่กะผู้หญิงแบบนั้นก็เหมาะแล้ว
สงสารขิงจัง
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.23 ☆ P.11 >> (23/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 24-03-2016 00:16:29
 :z3:


เละเทะ !!
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.24 ☆ P.11 >> (24/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 24-03-2016 11:43:10




อันดามัน...ซ่อนรัก

Andaman in Love

ตอนที่ 24

 

 

 

 

 

ผมขอบคุณคุณหมอจริงๆที่ไม่ถามอะไรผมตอนนี้

 

"คุณขิงครับ ตื่นก่อนครับ เดี๋ยวค่อยไปนอนต่อข้างบน" ผมขยับเล็กน้อย แต่ดูเหมือนว่ามันจะปวดไปทั้งเนื้อทั้งตัวไปหมด จนต้องนิ่วหน้า

 

"ให้ผมช่วยพยุงไหมครับ?" ผมพยักหน้า

 

คุณหมอช่วยพยุงไปได้ไม่เท่าไหร่ แต่ดูเหมือนยิ่งพยุงยิ่งทุลักทุเล คุณหมอเลยขออนุญาตอุ้มแทน

 

"โอ๊ะ!! ให้พี่ช่วยอะไรไหมคะคุณหนู?"

 

"ช่วยไปเปิดประตูห้องผมด้วยครับ" ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นภาระคนอื่นอีกแล้ว ไหนจะคุณหมอแล้วก็คนที่บ้านเค้าอีก

 

"คุณขิงรอสักแป๊บนะครับ เดี๋ยวผมไปเอายามาให้ จะได้สบายตัว" หมอตั้นเอามือมาจับตรงหน้าผาก  ส่วนผมก็พยักหน้ารับ

 

หมอตั้นหายไปไม่ถึงสองนาที ก็กลับมาพร้อมผ้าขนหนูชุบน้ำหมาดๆ แล้วก็ยาอีกสองสามเม็ด พร้อมน้ำหนึ่งแก้ว

 

"ทานยาก่อนครับ จะได้เช็ดหน้า เช็ดตัว" ผมหยิบยามากินแล้วดื่มน้ำตาม

 

"ให้ผมช่วยเช็ดให้ไหมครับ?" ผมส่ายหน้า แค่นี้ก็รบกวนคุณหมอจะแย่แล้ว เลิกเวรดึกๆน่าจะได้พักแต่ยังต้องมาอดหลับอดนอนเพราะผมอีก

 

"แล้วคุณหมอนอนไหนครับ?" เสียงผมเริ่มจะแหบไปเรื่อยๆแล้ว

 

"นอน....." คุณหมอหยุดพูดแล้วหันไปมองพี่คนเมื่อกี้ที่ช่วยเปิดประตูให้

 

"ไม่มีอะไรแล้วครับพี่จำเนียน พี่ไปพักเถอะครับ ถ้ามีอะไรเดี๋ยวผมจัดการเองครับ" หลังจากพูดจบพี่เค้าก็พยักหน้าแล้วก็เดินออกไป

 

"เดี๋ยวผมนอนที่โซฟาตัวนั้นก็ได้ครับ ไม่ต้องเป็นห่วง" คุณหมอชี้ไปที่โซฟาตัวไม่เล็กแต่ก็ไม่ใหญ่พอสำหรับคนตัวโตๆแบบคุณหมอที่อยู่ติดกับผนังอีกด้านหนึ่งของห้อง

 

"ถ้าคุณหมอไม่รังเกียจจะนอนด้วยกันก็ได้นะครับ"

 

"ผมต้องเป็นฝ่ายถามคุณขิงมากกว่าว่าจะโอเคไหมถ้าผมจะนอนด้วย แต่ความจริงผมนอนตรงนั้นก็ได้นะครับ เพราะอาชีพหมอนอนไปนก็ได้ทั้งนั้น เห็นอย่างนี้ผมเคยไปเป็นแพทย์อาสาชนบทมาก่อนนะครับ" คุณหมอยิ้มให้

 

"เอาล่ะผมไม่กวนคุณขิงดีกว่า คุณขิงจะได้พัก เดี๋ยวจะไม่หายป่วยถ้าขืนเรายังพูดกันแบบนี้" คุณหมอก้าวลงจากเตียงแล้วเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป ส่วนผมตาก็ใกล้จะปิดแล้วเหมือนกัน ภาวนาให้ทุกสิ่งทุกอย่างดีขึ้นในวันพรุ่งนี้ทีเถิด เพราะผมเหนื่อย เหนื่อยมากแล้วจริงๆ

 

เมื่อคืนผมฝันถึงใครคนนั้นตอนที่เราไปทำงานที่เกาะด้วยกัน มันช่างเป็นความทรงจำที่สวยงามจริงๆ แต่พอตื่นมามันก็พลันหายไป นี่สินะที่เค้าเรียกความฝัน

 

ผมค่อยๆพยุงตัวเดินมาเข้าห้องน้ำ จัดการทำธุระส่วนตัวให้เสร็จ จะได้ลงไปช่วยข้างล่าง เพราะแค่นี้ก็ลำบากคนอื่นไปมากแล้ว ถ้าให้ยกข้าวยกน้ำมาให้ทานบนห้องอีก ก็คงเกินไปแล้วล่ะ

 

ผมมองตัวเองหน้ากระจก มีแต่ร่องรอยที่เค้าทำไว้เมื่อคืน ทำให้นึกถึงคำพูดของเค้าเมื่อคืนที่บอกว่า เมียเค้าอยู่กับลูก ไม่ว่างเลยต้องมาใช้บริการผมแทน คิดแล้วมันก็น่าสมเพชตัวเองนะ สุดท้ายเค้าก็เห็นเราเป็นแค่ที่ระบายความใคร่ชั่วคราวแค่นั้นเอง

 

ผมรีบอาบน้ำแล้วเดินออกมา แต่เสื้อผ้าไม่มี คงต้องใส่ชุดเดิมไปก่อน ก็ยังดีกว่าไม่มีให้ใส่แหละนะ

 

"อ้าวคุณขิงตื่นแล้วเหรอครับ ผมกำลังจะขึ้นไปดูอยู่พอดี มาทานข้าวกันดีกว่าครับ แม่บ้านบ้านผมทำอร่อยไม่แพ้ป้าน้อยเลยนะครับ" คุณหมอรู้ว่าพูดให้ผมคิดถึงบ้านหลังนั้นอีกแล้ว เลยหยุดพูดแล้วยกเก้าอี้ให้ผมนั่งแทน

 

"นี่พี่จำเนียนนะครับ คุณขิงเจอเมื่อคืนแล้ว เป็นแม่บ้านที่นี่ ถ้ามีอะไรก็บอกแกได้เลยนะครับเวลาผมไม่อยู่" ผมยกมือไหว้แล้วยิ้มให้ เห็นพี่จำเนียนแล้วก็นึกถึงพี่นุ้ย ป่านนี้บ้านหลังนั้นคงวุ่นวายกันไปหมดแน่ๆ เพราะผมหายตัวออกมาไม่ได้บอกใครแบบนี้

 

"ส่วนคนอื่นๆ เดี๋ยวผมค่อยพาไปแนะนำนะครับ" ผมพยักหน้าให้คุณหมอ

 

"อ่อ!  ผมสั่งทุกคนแล้วนะครับว่าห้ามบอกใครเรื่องที่คุณขิงอยู่ที่นี่" หมอตั้นยิ้มให้

 

"ขอบคุณครับคุณหมอ" เสียงผมเหมือนเป็ดเลย ทั้งแหบแล้วก็ฟังดูอุบาทว์ที่สุดด้วย

 

"หึๆๆ เสียงคุณขิงเซ็กซี่มากครับ งั้นเดี๋ยวทานข้าวเสร็จเดี๋ยวผมไปจัดยาให้อีกตัวแล้วกันนะครับ จะได้หายเร็วๆ แล้วก็ชุ่มคอด้วย"

 

อาหารเช้ามื้อนี้เป็นโจ๊กหมู ใส่ปลาหมึกเป็นเส้นๆด้วย คุณก็ยังเป็นคุณหมอ ตักนั่นตักนี่ให้ทานอยู่ตลอด สงสัยคงจะติดนิสัยชอบดูแลคนอื่นมานั่นแหละ

 

"พอแล้วล่ะครับ มันเยอะแล้ว คุณหมอทานของคุณหมอเถอะครับ ผมดูแลตัวเองได้ครับ" หมอตั้นพยักหน้าแล้วตักโจ๊กใส่ปากตัวเองเป็นคำแรก

 

"ป่านนี้บ้านโน้นคงจะวุ่นตามหาตัวคุณขิงกันให้ควักแล้วล่ะครับ โดยเฉพาะไอ้หมอนั่น" คุณหมอหันมามองหน้าผมก่อนจะพูดต่อ

 

"มันคงทำไปเพราะความขี้หึงขี้หวงของมันนั่นแหละครับ ถ้าคุณขิงจะโกรธผมก็ไม่ว่านะครับ แต่อย่าโกรธมันนานเลย คุณก็รู้ว่านิสัยมันเป็นยังไง ตั้งแต่มันเจอกับคุณขิง ผมรับมัดมันมาตั้งสองสามทีแล้วนะครับเพราะความขี้หึงเนี๊ยะ"

 

ถ้าคุณหมอได้ยินเค้าพูดกับผมเมื่อคืน คุณหมอจะรู้ว่าที่จริงแล้วเค้าเลือกอะไรไว้ในใจอยู่แล้ว ซึ่งไม่ว่าผมหรือคุณหมอก็เปลี่บนแปลงมันไปไม่ได้หรอก ผมเงียบไม่ตอบอะไรไป เพราะไม่อยากพูดถึงมันแล้วล่ะครับ มันผ่านไปแล้ว ก็ให้มันผ่านไป ครั้งก่อนเจอกับเรื่องของเจ ผมยังผ่านมันมาได้ ครั้งนี้ก็คงเหมือนกัน ผมต้องผ่านมันไปให้ได้สิหน่า

 

"เดี๋ยวตอนสายๆ ผมจะออกไปโรงพยาบาลนะครับ คุณคิดก็พักผ่อนได้ตามสบายเลย คิดซะว่าเป็นบ้านตัวเองเลยก็ได้นะครับ"

 

 

 

.....................................................

 

 

ผมพักอยู่ที่บ้านคุณหมอได้สองสามวัน จนร่างกายหายเป็นปกติแล้ว คิดว่าพรุ่งนี้ค่อยโทรหาคุณป้าแล้วขอลาท่านกลับบ้านเลยดีกว่า ความจริงอยากเข้าไปลาเค้ากับตัว แต่ติดที่อะไรหลายๆอย่าง คิดว่าโทรไปนั่นแหละดีที่สุด

 

"คุณขิงคะ วันนี้พี่จะไปตลาด คุณอยากได้อะไรเป็นพิเศษรึเปล่าคะ? พี่จะได้ไปซื้อมาให้" ผมรีบพยักหน้า เพราะกางเกงในที่หมอตั้นซื้อมาก็เล็กเกินไป ไม่ใช่ไซส์ผม เล็กเสียจนคิดว่าเป็นของเด็กงั้นแหละ

 

"ผมขอไปด้วยได้ไหมครับ จะไปซื้อของใช้ส่วนตัวสักหน่อย" ตอนนี้กางเกงยี่ห้อไหนผมก็ใช้ได้ทั้งนั้นแหละ ก็ยังดีกว่าไม่ได้ใส่ แล้วปล่อยให้มันโล่งแบบนั้น

 

"แล้วคุณหมอมาไม่เจอจะไม่ว่าเอาเหรอคะ?" หลายวันมานี้ทุกคนในบ้านเข้าใจว่าผมเป็นแฟนของคุณหมอ ทั้งๆที่ผมก็บอกไปแล้วว่าไม่ใช่ แค่เพื่อนกันเท่านั้น แต่ก็ยังไม่เชื่อกันเพราะบอกว่า คุณหมอไม่เคยพาใครมาพักที่บ้านเลย ผมนี่แหละเป็นคนแรก แถมยังคอยดูแลดีซะขนาดนี้ พวกเขาพูดแบบนี้แล้ว ผมเลยขี้เกียจอธิบายต่อ เอาเป็นว่าผมได้บอกพวกเค้าไปแล้วว่าเป็นแค่เพื่อนของคุณหมอแค่นั้น ส่วนเค้าจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่พวกเค้าแล้วล่ะครับ

 

"ไม่ว่าหรอกครับ หมอตั้นใจดี ไปแป๊บเดียวเดี๋ยวก็กลับแล้วนิครับ เผลอๆกลับก่อนคุณหมอด้วยซ้ำ"

 

ลุงคำเป็นคนเหนือที่แต่งงานกับภรรยาที่เป็นคนที่นี่ ครอบครัวก็เลยย้ายมาอยู่ที่นี่ได้ยี่สิบกว่าปีแล้ว ส่วนลูกกับเมียก็อยู่บ้านละแวกใกล้ๆบ้านคุณหมอนี่เอง เลยไปมาๆได้สะดวก แกบอกว่าทำงานเป็นคนสวนแล้วก็คนขับรถของที่นี่ได้เกือบสิบปีแล้ว คุยกันไปๆมาๆสนุกดีครับ เพราะแกเป็นคนแพร่ เลยพูดคำเมืองได้ แกบอกว่าไม่ได้พูดเหนือนานจนจะลืมไปแล้ว เพราะญาติที่โน้นก็ไม่มีแล้ว ที่ทางที่โน้นก็ขายให้บ้านใกล้เรือนเคียงหมดแล้วด้วยเหมือนกัน เลยไม่ได้กลับไปตั้งนานแล้ว

 

ส่วนตอนนี้เราก็ได้ลุงแกนี่แหละที่ขับรถพามาตลาด แต่เป็นตลาดคนละที่กับที่เคยมาครั้งก่อน บรรยากาศก็คล้ายๆกันเพราะมีข้าวปลาอาหาร ของหวานแล้วก็กลิ่นอายความเป็นภาคใต้เหมือนเดิม

 

"คุณเดินคนเดียวได้ใช่ไหมคะ เดี๋ยวพี่จะไปจ่ายตลาด ถ้าเสร็จแล้วค่อยมาเจอกันตรงหัวุมร้านตรงนี้ก็ได้ค่ะ" พี่จำเนียนพูดจบก็แยกไปซื้อของ ผมก็แยกมาซื้อของใช่ส่วนตัวของตัวเอง

 

มะรืนนี้แล้วสินะจะได้กลับบ้าน คิดถึงพ่อกับแม่ คิดถึงพี่ขุนกับพี่ขิม กลับตอนนี้เลยก็ดีเหมือนกัน จะได้ทันงานแต่งพี่ขุนด้วย ผมซื้อของใช้ของตัวเองเสร็จแล้ว ไม่เยอะหรอก ก็จะมีแค่โฟมล้างหน้า โคโลญ กางเกงใน แล้วก็บ็อกเซอร์แค่นั้นเอง

 

"โอ๊ะ!! ขอโทษครับ" มัวแต่นับเงินที่เค้าทอนให้ จนเดินชนเค้า

 

"คุณ!!"

 

"ครับ ว่าไงครับเมีย" หัวใจผมตกลงไปตรงตาตุ่ม ไม่คิดว่าจะเจอเค้าที่นี่

 

"ถึงกับตกใจเลยรึไงที่เห็นผัวตัวเองมายืนตรงหน้าแบบนี้?" เขาแสยะยิ้ม

 

"หึ!! ไม่พูด แล้วนี่ไอ้หมอมันปล่อยออกมาแล้วงั้นเหรอ? อย่าคิดนะว่าชั้นไม่รู้ว่านายไปอยู่กับมันมา ชั้นไม่ใช่คนโง่ ที่พอบอกว่าไม่รู้ไม่เห็นแล้วจะได้เชื่อตามนั้นจริงๆ "

 

"ตามมา ถ้าไม่อยากให้คนที่นี่เค้าแตกตื่น แล้วขายขี้หน้าเค้า" ผมยอมเดินตามเค้ามา โดยที่ยังถูกจับที่ต้นแขนอยู่ ผมต้องหนี อาศัยจังหวะที่เค้าเผลอกระทืบเท้าใส่ แล้ววิ่งออกมา

 

ตลาดแถวนี้เป็นย่านชุมชนแล้วก็มีตรอกเล็กๆ ซอยไหนเป็นซอยไหนก็ไม่รู้ที่ผมวิ่งเข้ามา ผมหันไปมองข้างหลัง โล่งอกที่เค้ายังตามมาไม่ทัน  แต่โคตรเหนื่อยเลย

 

"อ๊ะ!!"

 

"หมดทางหนีแล้วล่ะ ในเมื่อให้ไปดีๆแล้วไม่ชอบ ก็คงต้องใช้ตัวช่วยแล้วล่ะ"

 

"ปล่อยผมนะ คุณจะทำอะไรน่ะ อื้อออ!!" แล้วภาพข้างหน้าก็หายไป

 

 

 

..............................................

 

ผมตื่นขึ้นมาในที่ที่ไม่คุ้นเอาเสียเลย เป็นกระท่อมไม้เก่าๆ ได้ยินเสียงหวีดของลมพัด แล้วตอนนี้ก็มืดแล้วด้วย

 

"คุณหมอ!!" ผมตกใจ ลืมคิดไปว่าถูกจับตัวมา แล้วหมอตั้นล่ะจะเป็นยังไงบ้าง จะออกตามหาผมรึเปล่า

 

"พอฟื้นขึ้นมาก็ถามหาชู้เลยนะครับเมีย" เขาเปิดประตูเข้ามา

 

"ที่นี่ที่ไหน แล้วคุณจับตัวผมมาทำไมคุณคราม ปล่อยผม ผมจะกลับ"

 

"ปล่อยทำไมให้โง่ กว่าจะจับตัวมาได้ต้องลำบากแค่ไหน" คนนิสัยเสีย เลว

 

"คุณ.... ปล่อยผมกลับไปเถอะนะ เดี๋ยวคนอื่นเค้าจะเป็นห่วงเราเปล่าๆ นะ!!"

 

"คนอื่นที่นายว่า หมายถึงไอ้เพื่อนชั่วของชั้นงั้นเหรอ หึ!! ป่านนี้มันคงวิ่งวุ่นตามหานายแล้วล่ะ"

 

"เป็นไงบ้างล่ะไปอยู่เป็นคุณนายคุณหมอ คงจะสุขสบายกว่าเป็นนายหญิงฟาร์มหอยมุกใช่ไหมล่ะ?" เขาประชด

 

"คุณนายหมองั้นเหรอ? ก็คงใช่นั่นแหละ สะดวกสบายดี แต่นายหญิงอะไรนี่ไม่รู้นะ เพราะไม่เคยเป็น เคยเป็นแค่นักกายภาพให้นายหัวบ้าๆ โง่ๆ ขี้โมโหแล้วก็เจ้าอารมณ์เท่านั้นแหละ"

 

"ห่างกันไปไม่กี่วันก็ลืมผัวซะละ สงสัยไอ้หมอมันจะลีลาดี ถึงจำรสรักของผัวคนนี้ไม่ได้ สงสัยต้องทบทวนกันสักหน่อยแล้วมั้ง??" เขาจ้องตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าแล้วยิ้มมุมปาก

 

"อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นผมสู้จริงๆด้วย"

 

"จะเอาอะไรมาสู้ล่ะ?" ผมกวาดตามองในห้องมีแต่เทียนไขเล่มเดียว กับโต๊ะเตี้ยๆไม่รู้เอาไว้ใช้ทำอะไร นอกนั้นก็ไม่มีอะไรเลย

 

เขาย่างสามขุมเข้ามา ส่วนผมก็ได้แต่ถอยมาเรื่อยๆ จนติดฝาผนัง เขาถอดเสื้ออกแล้วเขวี้ยงไปกับพื้น ตามด้วยกางเกงยีนส์ที่กำลังปลดเข็ดขัดอยู่

 

"ปล่อยผมนะไอ้คนบ้า ไอ้คนชั่ว ไอ้ลามก หื่นกาม ปล่อย!!" ผมทั้งถีบ ทั้งข่วน ทั้งผลักเขาออก แต่แรงเท่ามดอย่างผมจะไปสู้แรงเขาได้เหรอ

 

"โอ๊ยยยยยย" ในเมื่อสู้ไม่ได้ผมก็กัดสิ ใครจะยอมให้ทำแบบนั้นกัน

 

เขาเปิดดูรอยกัดตรงบ่า แล้วหันมาจ้องเขม็ง

 

"อยากโดนดีรึไงถึงทำชั้นเลือดตกยางออกแบบนี้ ห๊ะ?"

 

"ก็ใครใช้ให้คุณใช้กำลังข่มเหงคนอื่นแบบนั้นกันเล่า" แอบรู้สึกผิดที่ทำเค้าเจ็บ

 

"ก๊อกๆๆ นายหัวครับ ผมเอากับข้าวมาส่งครับ" มีคนเอากับข้าวมาส่งก็แสดงว่ามีหมู่บ้านชาวบ้านอยู่ละแวกใกล้ๆแถวนี้สิ

 

"เอาวางไว้บนโต๊ะด้านนอกนั่นแหละ เดี๋ยวออกไปกิน"

 

"งั้นผมลาแล้วนะครับนายหัว มีอะไรก็เรียกใช้ผมได้นะครับ"

 

"ไม่มีบ้านคนแถวนี้หรอก อย่าฝันไปเลย มีแต่เกาะร้าง กับป่า ไกลจากชายฝั่งตั้งหลายสิบกิโล คงมีคนมาอาศัยอยู่หรอก"

 

"ไม่จริง แล้วพี่คนเมื่อกี้เค้ามาได้ยังไง?" จะมาหลอกให้ผมกลัว ฝันไปเถอะ ลูกพ่อเลี้ยงคำปัน นอนอยู่ในป่า กลางปางไม้ก็เคยมาแล้วเหอะ

 

"หึ เถียงเก่งขึ้นเยอะเลยนะเมีย ตั้งแต่ไปอยู่กับมันมา คงสอนอะไรเยอะเลยสิท่า!!"

 

"ไม่เกี่ยวกับคุณหมอ เค้าดีกว่าคุณเยอะ อย่าเอาเค้ามาแปดเปื้อนด้วยเลย"

 

"หึ!! แตะไม่ได้เลยนะ มันคงจะถึงใจล่ะสิท่า ถึงได้ปกป้องกันขนาดนี้"

 

"ต่ำ!! เค้าไม่เคยทำแบบที่คุณทำหรอก อย่าเอาตัวเองมาเป็นบรรทัดฐานวัดคนอื่นเค้า"

 

"อื้อออออออ อ่อย!!!" ผมใช้กำปั้นทุบหลังเค้า

 

"ไอ้คนบ้า คนเลว" พอเถียงไม่ได้ แทงใจดำเข้าหน่อยก็ปล้ำจูบคนอื่น เขาแสยะยิ้มแล้วก้มมองที่หว่างขาตัวเอง

 

"ลามก ถ้าอยากมากก็กลับไปหาเมียคุณที่บ้านโน้น ผมไม่ใช่ที่ระบายความใคร่ของคุณ"

 

"ไม่มีหรอกเมียที่บ้าน มีแต่เมียคนนี้แหละ" หมายความว่าไง แล้วที่พูดเมื่อวันก่อนนั่นล่ะคืออะไร

ผมเงียบไม่ตอบอะไรทั้งนั้น

 

"ลุกขึ้นสิ ไม่หิวข้าวรึไง?" เขายื่นมาให้ผมจับแล้วลุกขึ้น อย่าหวังเลย ผมปัดแขนเค้าออกแล้วลุกขึ้นเองได้ พอเห็นผมลุกขึ้นได้ เขาก็เดินนำออกมาด้านนอก บนโต๊ะเก่าๆ กับเก้าอี้ไม้ที่ไม่รู้ว่าจะพังเมื่อไหร่ มีกับข้าวสองสามอย่าง มีน้ำพริก ไม่แน่ใจว่าจะใช่น้ำพริกปลาร้ารึเปล่า กับผักลวก มีต้มปลาอะไรสักอย่าง แล้วก็ไข่เจียว ที่อยู่ในถาดกระเบื้องลายดอกสีแดง ขาว แล้วมีฝาชีสีน้ำเงินปิดกันแมลงวันไว้

 

พอเห็นกับข้าว หน้าตาหน้ากินท้องมันก็เริ่มทำงานขึ้นมาแล้วสิ ยิ่งตอนกลางวันผมทานไปนิดเดียวเอง เพราะตั้งใจจะเก็บท้องไว้กินผัดหอยลาย กับต้มแป๊ะซะทะเลกับคุณหมอ นึกแล้วก็เสียดายเหมือนกันแหะ เป็นคนบ้านี่แหละที่ลักพาตัวคนอื่นมา

 

"เป็นไงหิวล่ะสิ" ท้องบ้านี่ก็ทำให้เจ้าของมันอับอายขายหน้าซะจริง

 

"หิวก็นั่งลง จะได้กินกันสักที แต่ถ้าไม่หิว ไม่อยากกินอาหารพื้นๆแบบนี้ก็ไม่เป็นไร งั้นก็หากินเอาเองละกันเพราะที่นี่ไม่มีเตาแก๊ส" คิดว่าผมจะกินอาหารแบบนี้ไม่เป็นรึไง ดูถูกผมเกินไปละ สมัยเรียนผมเคยไปออกค่ายอาสามา ลำบากกว่านี้ก็เคยเจอมาแล้วเหอะ นับประสาอะไรกับการกินอยู่แบบนี้

 

ผมนั่งลง แล้วตักข้าวใส่จานกระเบื้องสีขาว ขอบน้ำเงินที่เค้าเตรียมมาให้นั่นแหละ มีช้อนสั้นกับถ้วยตราไก่ด้วยอีกใบด้วย คงเตรียมเผื่อนั่นแหละ

 

"นี่ตั้งใจจะตักกินคนเดียวเลยรึไง" เขามองจานข้าวที่ผมถืออยู่ อยากกินทำไมไม่ตักเองล่ะ มือก็มีไม่ได้เป็นง่อยสักหน่อย ผมไม่สนใจตักต้มปลาแล้วซด ไม่สนใจรังสีอำมหิตที่แผ่ออกมาข้างๆนี้หรอก

 

"แล้งน้ำใจ!!" เขาตักข้าวใส่จาน แล้วหันมาจ้อง

 

"ค่อยๆกิน เดี๋ยวก้างคิดคอ" เขาว่าแล้วแกะก้างใส่จานให้ ตามด้วยไข่เจียว ผมเงยหน้ามองคนที่เดี๋ยวก็ทำดีด้วย เดี๋ยวก็ร้ายใส่ แล้วก็ปากจัดเป็นที่หนึ่ง

 

"คุณก็กินสิ ผมแกะเองได้" เขายิ้มแล้วส่ายหัวไปมา เหอะ!! ไม่ได้เป็นห่วงหรอก แต่แค่ไม่อยากเพิ่งพาต่างหาก

 

"พรุ่งนี้ตื่นมาทำกับข้าวด้วยนะ"

 

"ทำยังไง วัตถุอะไรก็ไม่มี?" ผมหยุดกินแล้วหันไปถาม

 

"ให้นายเคี้ยมซื้อมาเก็บไว้ให้แล้ว" เขาตอบแล้วแกะปลาใส่จานให้อีก

 

"แล้วไหนคุณว่าไม่มีแก๊สไง?"

 

"อื่ม ไม่มีแก๊ส แต่มีเตาอั้งโล่กับฟืน ถ้าก่อไฟไม่เป็นบอก จะได้ทำให้"

 

"ทำไมจะไม่เป็น!!"  เคยเรียนลูกเสือ แค่ก่อไฟแค่เนี๊ยะ ทำไมจะทำไม่ได้

 

"ก็ดี งั้นพรุ่งนี้จะรอดู"

 

ผมไม่ตอบ ตักข้าวกับต้มปลาทานต่อ รสชาติของน้ำซุปกำลังดีเลย ไม่เปรี้ยวหรือเค็มเกิน ได้กลิ่นตะไคร้ ใบมะกรูดแล้วก็มะนาวชัดเจนดี ทานข้าวเสร็จผมก็ยกไปเก็บไว้ที่ด้านข้าง เพราะไม่รู้ว่าที่นี่เค้าล้างจานกันที่ไหน ใช้น้ำอะไรล้าง จากนั้นก็กลับมานั่งที่แคร่ใต้ต้นไม้ด้านนอก สักพักหนึ่งเขาก็เดินออกมานั่งข้างๆ เราสองคนก็นั่งอยู่แบบนั้น ต่างคนต่างมองออกไปข้างนอก ได้ยินเสียงคลื่นกระทบฝั่ง ทะเลตอนกลางคืนทั้งน่ากลัวแล้วก็สวยดีนะ ยิ่งมันกระทบกับแสงจันทร์ยิ่งดูสวยและมีเสน่ห์ เรานั่งอยู่อย่างนั้น ต่างคนต่างเงียบอยู่ในความคิดของตัวเอง กับตะเกียงเจ้าพายุแค่อันเดียวที่เขาหยิบมาด้วยเมื่อกี้

 

"เมื่อไหร่คุณถึงจะปล่อยผมกลับไปครับ อีก 3  วัน หนึ่งอาทิตย์ หรือหนึ่งเดือน?" ผมถามทั้งที่ไม่ได้หันมามอง

 

"จนกว่าชั้นจะจัดการอะไรเสร็จ นายต้องรออยู่ที่นี่ แล้วชั้นจะกลับมารับ"

 

"แล้วเกี่ยวอะไรกับผมไม่ทราบ คุณไปจัดการธุระของคุณ ส่วนผมคุณก็ปล่อยผมกลับสิ" ผมหันมาถามตรงๆ

 

"เกี่ยว เกี่ยวกับนายโดยตรงเลยล่ะ เพราะเรื่องที่ชั้นไปจัดการมันเกี่ยวกับน้องคุณ ผู้หญิงคนนั้นแล้วก็เรา ชั้นถึงบอกให้นายรอไง" อย่าเพิ่งใจอ่อนสิขิง เค้าทำเราเสียใจมาตั้งเท่าไหร่ แล้วก่อนหน้านั้นก็ไม่ชัดเจน

 

"แล้วทำไมไม่ให้ผมกลับไปรอบนฝั่ง แทนที่จะรออยู่ที่นี่ล่ะ?"

 

"ชั้นไม่ไว้ใจมัน"

 

"ใครคือมันของคุณ?"

 

"ก็ไอ้เพื่อนชั่วที่ชอบมาเตาะเมียคนอื่นเค้าไง"

 

"คุณหมอเค้าไม่เคยทำแบบนั้น เค้าเป็นคนดี แล้วเราก็ไม่เคยคิดมากกว่าเพื่อนกันด้วย มีแต่คุณนั่นแหละที่ขี้หึง หึงจนไม่ดูตาม้าตาเรืออะไรทั้งนั้นแหละ "

 

"ก็รู้นิว่าชั้นขี้หึง ที่ทำอะไรลงไปก็เพราะหึงนายนั่นแหละ รู้เอาไว้ด้วย"

 

"จะยิ้มก็ยิ้มมาเถอะ ไม่ต้องหันไปทางอื่นแล้วแอบยิ้มแบบนั้น"

 

"ไม่ได้ยิ้ม ไม่เคยเขินเลยเหอะ"

 

"หึ!! สรุปว่าตามนี้ แล้วชั้นจะมาหา ให้นายเคี้ยมกับนายชัยเฝ้านายไว้ก่อน มีอะไรก็บอกสองคนนั่นล่ะ"

 

"เหอะ!!" ผมส่งเสียงไม่พอใจ ผมไม่ใช่นักโทษแล้วก็ไม่ใช่โสรยาของคุณ ทำไมต้องให้คนมาเฝ้าแบบนี้ด้วย

 

 

 

 

 

 

 

===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===

 

ไม่เอามาม่าเยอะเนอะ คนแต่งเครียดแทน 
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.24 ☆ P.11 >> (24/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 24-03-2016 11:54:01
 :z6: :z6: :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.24 ☆ P.11 >> (24/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 24-03-2016 11:56:08
ให้เมียกลับบ้านกลับช่องมั่งไป๊
ดูละครมากไปป่ะตอนขาไม่ดีน่ะ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.24 ☆ P.11 >> (24/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 24-03-2016 12:02:52
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.24 ☆ P.11 >> (24/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 24-03-2016 12:10:16
อย่าหายไปนานๆอีกนะอยากอ่านจนจบ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.24 ☆ P.11 >> (24/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 24-03-2016 20:15:22
ทำร้ายจิตใจและร่างกายกันแล้วยังพามาคุมตัวเอาไว้เหมือนเป็นนักโทษ
น่าจะหนีกลับบ้านไปซะเลยไม่น่าอยู่ให้ตามจับตัวกลับมาได้

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.24 ☆ P.11 >> (24/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 24-03-2016 23:43:19
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.24 ☆ P.11 >> (24/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 25-03-2016 00:13:55
จำเลยรักมากเลยอ่ะ สงสารขิงจริงๆ เจ็บทั้งตัว เจ็บทั้งใจ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.24 ☆ P.11 >> (24/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 25-03-2016 00:21:24
 :katai1:


สโรยา จำเลยรัก ไปแล้ว
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.24 ☆ P.11 >> (24/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 25-03-2016 00:29:17
เหอะๆๆๆๆ นายหัวคิดว่าเป็นพระเอกแล้วจะทำอะไรก็ได้หราาาาาาา
เดี๋ยวยุให้ขิงไปคบคุณหมอซะเลยนี่
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.24 ☆ P.11 >> (24/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 25-03-2016 01:07:50
เกือบเป็นจำเลยรักซะแล้ว 5555
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.24 ☆ P.11 >> (24/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: wwss2220 ที่ 25-03-2016 01:38:15
 :katai2-1:ปรบมือสิค่ะรออะไร... :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:..อิตาคุณครามค่ะช่วยจัดการให้มันเร็วๆหน่อยค่ะ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.24 ☆ P.11 >> (24/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: รักเจ้าเอย ที่ 25-03-2016 08:44:42

อันดามัน...ซ่อนรัก

Andaman in Love

ตอนที่ 25

 

 

 

 

 

 

 

 

ผมล่ะเชื่อเค้าเลย เมื่อคืนบอกว่าจะยอมนอนข้างนอกเอง ให้ผมนอนในมุ้งข้างในเลย แต่ที่ไหนได้ ตื่นมากลับถูกอีกคนกอดรัดไว้ซะแน่นเลย คนโกหก

 

 

"นี่ยังหน้างอไม่หายอีกเหรอ? แค่ชั้นนอนกอดเนี๊ยะนะ? มากกว่านี้ยังเคยทำมาแล้วเลย จะหวงอะไรกะอิแค่กอด"

 

 

"ก็คุณบอกว่าจะออกไปนอนข้างนอกแล้วให้ผมนอนข้างในไง?"

 

 

"ความจริงไม่ได้อยากกอดสักเท่าไหร่หรอก แต่จะให้นอนข้างนอก มุ้งก็ไม่มี ที่นอนก็ไม่มี ฟากก็แข็ง ยุงเยอะจะตาย ชั้นก็กลัวเป็นไข้เลือดออกเหมือนกันนะ แถมอากาศยังเย็นอีก"

 

 

"พอๆๆ ไม่ต้องร่ายแล้ว คุณเป็นคนพูดมากแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?"

 

 

"ก็ตั้งแต่มีเมียเด็กนั่นแหละ" เขายักคิ้วกรุ้มกริ้มให้

 

 

"แล้วเช้านี้จะกินอะไร บอกไว้ก่อนเลยนะ ถ้าสั่งเมนูพิศดาร ผมจะให้คุณมาทำเองเลยคอยดู"

 

 

"ไม่สั่งแบบนั้นหรอกหน่า ชั้นเป็นคนกินง่ายอยู่ง่าย เมียทำอะไรให้กิน ก็กินทั้งนั้นแหละ"

 

 

ผมไม่สนใจสีหน้าท่าทางที่เค้ายิ้มกะลิ้มกะเหลี่ยแบบนั้นหรอก ตัวเองทำเค้าเจ็บสารพัด ไหนจะคำพูดจำจาร้ายๆนั่นอีก จะมาทำดี พูดจาดีแค่ประเดี๋ยวประด๋าวมันทดแทนกันไม่ได้หรอก ผมเดินเลาะไปหลังบ้านมีครัวอยู่ มองหาเตาอั้งโล่แป๊บเดียวก็เจอ

 

 

"มันจะยากแค่ไหนเชียวแค่ก่อไฟกับเตาอั้งโล่" พูดกับตัวเองเบาๆ เพราะแต่งก่อน สมัยเด็กก็ยังเคยเล่นขายของจริงๆกับพี่ขิม คือนางบังคับให้เล่นเองแหละ เพราะเด็กผู้หญิงแถวบ้านไม่ค่อยมี จะมีก็รุ่นห่างกันแล้ว ขนาดพี่ขุนยังถูกบังคับให้เล่นเป็นเพื่อนนางเลย นางก็จะเอาเตาอั้งโล่เล็กๆที่แม่ซื้อมาให้กับชุดขนมครกของนางมาตั้ง เอาเศษไม้มาสุมๆ แล้วเอาไฟจุด แรกๆก็จุดไม่เป็นหรอก ก็ได้พี่ขุนนั่นแหละจุดให้ พอหลังๆเราก็จุดกันเองถ้าพี่ขุนไม่อยู่ หรือแอบหนีไปเล่นกับเพื่อน แต่พอแม่รู้เข้าเท่านั้นแหละ ก็โดนก้านมะยมกันคนละ 2-3 ที แม้แต่พี่ขิมก็ยังโดน แต่พี่ขุนโดนเยอะสุดเพราะสอนน้องไม่ดี ปล่อยให้น้องเล่นฟืนเล่นไฟ ดีที่บ้านไม่ไหม้ ยิ่งทำจากไม้สักทั้งหลังอยู่

 

 

ผมเอาเศษไม้เล็กๆใส่ก่อน แล้วค่อยตามด้วยฟืน จากนั้นก็เอาซีกไม้สนมาจุดไฟ แค่เนี๊ยะ!! ถ้าไฟไม่ติดก็ให้หาอะไรมาพัดให้มันลุก

 

ร้อนอะ!! อากาศก็ร้อนอยู่แล้ว แล้วต้องมาอยู่กับไฟอีก ดูสิเข้ามาแป๊บเดียวเหงื่อออกท่วมตัวไปหมดแล้ว

 

ผมเสยผมที่ปกหน้าขึ้น เพราะผมยาวขึ้นด้วยแหละ มันเลยทำให้ร้อนขึ้น เหงื่อก็ไหลมาตรงจอนกับหูหมด

 

 

"ไหนดูสิว่าก่อไฟเป็นรึเปล่า?"

 

"เป็นเหอะ"

 

"หึๆๆๆๆ"

 

 

"หัวเราะอะไรของคุณ?"

 

 

"ชั้นว่าชั้นเจอแมวยักษ์ แล้วคิดว่าจะจับมันกินคืนนี้ล่ะ"

 

 

"แมวป่ากินได้ด้วยเหรอคุณ หยื้ยยย!!ผมไม่กินด้วยหรอกนะ เชิญคุณกินคนเดียวเหอะ"

 

 

"มันก็แน่อยู่แล้ว งั้นสรุปชั้นกินแมวนั่นได้แน่นะ?" ผมพยักหน้า มาคิดอีกทีหรือว่าจะเป็นเสือปลา หรือตัวอะไรสักอย่างแต่คุณครามมองผิด

 

 

"ก็กินสิ ตัวคุณนิ ไม่เกี่ยวอะไรกับผมสักหน่อย" แค่คิดก็จะอ๊วกละ คนอะไรกินแมว อาหารก็มีอยู่เต็ม ก็ไม่กิน

 

 

"แล้วคุณไปเจอมันที่ไหนอะ? คุณเอาอะไรจับมันเหรอ?"

 

 

"เจอใกล้ๆ แถวนี้แหละ จับมันไม่ยากหรอก แค่นายอนุญาตก็จับมันได้แล้ว"

 

 

"แถวนี้ ใกล้ๆบ้านพักเราเนี๊ยะเหรอ? แล้วทำไมผมต้องอนุญาตด้วยล่ะ?"

 

 

"อื้ม..... เพราะแมวตัวนี้มันพิเศษ พูดภาษาคนได้ ทำอาหารก็เป็น แล้วก็..."

 

 

"เดี๋ยวๆ ผมว่าไม่ใช่แมวแล้วล่ะ" ต้องเบรคไว้ก่อน เพราะจากที่ฟังดู มันไม่น่าจะใช่ แมวพูดได้ ทำกับข้าวเป็นก็โดราเอม่อนแล้วล่ะ

 

 

"ใช่สิ ไม่เชื่อดู" เขาหยิบมือถือขึ้นมากดโหมดเซลฟี่ แล้วเอามาจ่อตรงหน้าผม

 

 

"ตลกละ นี่มันคน ถึงจะมอมแมมเพราะหมิ่นหม้อแล้วก็เตานี่ก็เหอะ"

 

 

"โอเค คนก็คน แต่นายอนุญาตให้ชั้นกินมันแล้วนะคืนนี้ อย่าลืมล่ะ" เขายิ้มแล้วยักคิ้วใส่

 

 

"คนเจ้าเล่ห์" ผมกำลังหันแล้วพูดกับตัวเองเบาๆ

 

 

"ออกไปรอข้างนอกเลย เกะกะคนอื่นเค้าจะทำครัว" ครัวก็เล็กนิดเดียว แถมอีกคนก็ยังตัวโต จนหัวเกือบติดหลังคาแล้ว ต้องก้มเอานะขอบอก

 

 

"ทำให้อร่อยนะครับเมีย เดี๋ยวผัวรออยู่ข้างนอก" เขาหันมาพูดแล้วยิ้มเดินออกไป หลังๆมานี่รู้สึกเหมือนจะพูดอะไรแบบนี้บ่อย จนผมรู้สึกแปลกๆกับการเปลี่ยนไปของเค้าจริงๆ บทจะปากร้ายก็ร้ายซะ บทจะหวานก็เป็นอย่างที่เห็นนี่แหละ

 

 

กว่าหุงข้าวเสร็จก็ปาไปเป็นชั่วโมงแล้ว หุงข้าวแบบไม่มีหม้อหุงไฟฟ้านี่ลำบากเหมือนกันแหะ ต้องขอบคุณคนคิดค้นหม้อหุงข้าวแบบนี้ ที่ทำให้เราสะดวกสบายมากขึ้น แค่เอาข้าวกับน้ำใส่ รอมันสุกแค่นั้นเอง

 

 

ส่วนกับข้าวก็ไม่มีอะไรมาก บนเกาะแบบนี้ก็มีกุ้งหอยปูปลา แล้วก็ไข่กับผักไม่กี่อย่างที่เค้าซื้อมาเก็บไว้ให้นั่นแหละ

 

 

ผมเลยจัดการทอดปลาทูสองตัว ผัดกะหล่ำดอก แล้วก็แกงจืดตำลึงหมูสับ ดีนะที่พี่เค้าเอาน้ำแข็งใส่มาด้วยไม่งั้นอาหารสดพวกนี้เน่าแน่ ส่วนตำลึงถ้าไม่จัดการมันซะตอนนี้คงช้ำเพราะแดดจนกินไม่ได้แน่ๆ แค่นี้ใบมันก็เหี่ยวจนมองไม่ออกว่าเคยเป็นตัวตำลึงแล้วล่ะ

 

 

ที่เหลือก็แค่ตักใส่ถ้วย ส่วนข้าวก็คงต้องยกไปทั้งหม้อแบบนี้แหละ แล้วค่อยหาอะไรรองก้นมัน ไม่งั้นหมิ่นหม้อคนติดตามแคร่แน่ๆ

 

 

"ส่งมาเดี๋ยวชั้นช่วยยกไปให้" มาได้เวลาพอดี นึกว่าจะรอกินเป็นอย่างเดียวซะอีก ผมส่งหม้อให้เค้าแล้วหยิบซากหนังสือพิมพ์ที่เหน็บอยู่ข้างฝาติดมาด้วย

 

 

"เดี๋ยวก่อนสิคุณ เอากระดาษหนังสือพิมพ์นี่รองก้นหม้อก่อน พื้นจะได้ไม่ดำ" ผมยื่นให้ เค้าก็ยิ้มแล้วก็ทำตาม ส่วนยกปลาทูทอดกับผัดกะหล่ำดอกนั่นผมก็มาแล้วล่ะ เหลือแค่ถ้วยต้มจืด ซึ่งเขากำลังยกตามมา

 

 

"หอม น่ากิน" เขายกหม้อต้มจืดขึ้นมาดม

 

 

เรานั่งขัดสมาธิกินกันบทแคร่ เพิ่งรู้ว่ามันคือต้นกันเกราที่ยั่งต้นให้เราใช้ร่มเงาของมันกันแดดกันฝน ผมตักผัดผักชิม ไม่สุกเกิน แล้วก็ไม่เค็มเกิน รสชาติใช้ได้นะเนี๊ยะ ถึงจะไม่อร่อยมาก แต่รสชาติก็ไม่ได้ดูแย่จนกินไม่ได้ นี่ขนาดว่าขาดเครื่องปรุงตั้งหลายอย่างนะเนี๊ยะ

 

 

"ตาปลาทู อร่อย ชั้นให้" ของชอบแบบนี้ คิดเหรอว่าผมจะปฏิเสธ ฝันไปซะเถอะ

 

 

"แล้วนี่ก็ไข่มัน"

 

 

"คุณก็กินสิ ไม่ต้องแกะมันให้หรอก ผมแกะเองได้"

 

 

"ชั้นรู้ว่านายแกะเป็น แต่นายชอบไม่ระวัง เดี๋ยวก้างมันจะติดคอ" ทำเป็นรู้ดี

 

 

"คุณมาอยู่ที่นี่แล้วไม่คิดถึงลูกคุณเหรอ?"

 

 

"ไม่ต้องห่วง คุณแม่ท่านดูให้อยู่ ง้อนายเสร็จแล้วชั้นค่อยกลับก็ได้" ผมเคี้ยวๆๆข้าว แล้วเบ้ปากใส่

 

 

"แล้วคุณจะให้ผมรอที่นี่อีกนานแค่ไหน?" ผมถามดูเพราะจะต้องกลับบ้านไปงานแต่งพี่ขุนด้วย

 

 

"คงอีกไม่นานหรอก ตอนนี้แค่รอหลักฐานแค่นั้นเอง"

 

 

"หลักฐานอะไรครับ?"

 

 

"ไว้ค่อยบอก แต่ก่อนที่ชั้นจะบอก นายต้องตอบชั้นมาก่อนว่า นายรับได้ไหมถ้าชั้นจะขอให้เป็นผู้ปกครองอีกคนของน้องคุณ?" ผมขมวดคิ้ว วางจานข้าวลง

 

"ว่าไง?"

 

 

"หมายความว่ายังไง ผมไม่เข้าใจ?"

 

 

"ถ้าแม่เค้าไม่อยู่แล้ว นานจะช่วยชั้นเลี้ยงดูเค้าได้ไหม?" ไอ้ได้มันก็ได้อยู่หรอก แต่ติดที่แม่เค้าจะยอมเหรอ?

 

"แล้วแม่เค้าจะไปไหนครับ ทำไมไม่อยู่กับลูก?"

 

 

"แม่ที่รักแต่ตัวเอง ไม่รักลูกแบบนั้นไม่สมควรจะเป็นแม่คนด้วยซ้ำ"

 

 

"เค้าทำอะไรเหรอครับ?"

 

 

สรุปก็คือ ผู้หญิงคนนั้นหยิก ตีลูกจนเนื้อเขียวเพื่อเรียกร้องความสนใจจากคุณคราม ผมว่ามันดูโง่แล้วก็บ้ามากเลยนะ ลูกตัวเองไม่รัก กลับทำร้าย จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ไม่ว่าน้องจะงอแงไม่ยอมหลับยอมนอน กินนมเยอะจนอ๊วกออกมา หรือจะอะไรก็แล้วแต่ แต่น้องยังเด็ก จะมาถือสาหาความกับเด็กตัวเล็กๆแบเบาะแบบนี้ได้ยังไงกัน ไม่มีความเป็นแม่เอาเสียเลย ทำร้ายลูกในไส้ได้ลงคอ

ถึงว่าอยู่ดีๆ ตอนนั้นน้องก็ร้องขึ้นมาเฉยเลย แถมคุณครามยังทักเรื่องรอยเขียวๆจ้ำๆตามตัวน้องอีก

 

"แล้วคุณแน่ใจใช่ไหมครับว่าเค้าเป็นคนทำ ไม่ใช่น้องซนจนเจ็บตัวเองนะ?"

 

"ชั้นมั่นใจ เพราะให้คุณแม่ นมแล้วก็นุ้ยแอบดูให้อยู่" ใจหนึ่งก็แอบคิดว่าแม่ที่ไหนจะกล้าทำร้ายลูกตัวเองขนาดนั้น หรือว่าจะเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่แอบทำร้ายน้อง แต่ในเมื่อมันเป็นแบบนั้นก็ต้องหาทางจัดการแล้วล่ะ สงสารเด็กตัวน้อยๆ แขนเป็นปล้องๆขวาๆแบบนั้นต้องเป็นรอยเขียวๆจ้ำๆเพราะถูกแม่ตัวเองทำร้าย

 

"แล้วทีนี้คุณบอกได้รึยังครับ ว่าทำไมคืนนั้นคุณถึงไม่กลับมานอนที่ห้อง?" เขาพยักหน้านิดหน่อย

 

"ที่ชั้นไม่กลับมานอนที่ห้อง เพราะชั้นแอบเห็นเค้าก็หยิกจนลูกร้อง แล้วบอกว่าลูกงอแงหา ทั้งๆที่ลูกเองก็ป่วย แต่ก็ยังกล้าทำแบบนั้น ชั้นเลยต้องอยู่นอนเฝ้า เพราะกลัวเค้าทำร้ายแกอีก ตอนกลางดึกว่าจะแอบออกมา แต่น้องคุณกินนมจนอ๊วกใส่ ชั้นเลยต้องถอดเสื้อตัวนั้นออก พอดีมันง่วงๆ เลยเผลอหลับไปจนถึงเช้า แล้วที่ฟาร์มโทรมาบอกว่ามีปัญหา ชั้นเลยต้องรีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วนั่งเรือออกไปดู"

 

"โอเคครั้งนี้ผมยกผลประโยชน์ให้จำเลย แต่ครั้งหน้าผมไม่ให้แล้วนะครับ เพราะอย่างน้อยคุณน่าจะเดินมาบอกผม หรือโทรบอกกันสักนิดก็ได้ ไม่ใช่ปล่อยให้ผมรออยู่แบบนั้น"

 

"ชั้นขอโทษ ต่อไปจะไม่ทำอีกแล้วครับ" เขาชูสามนิ้วให้สัญญา ผมเลยได้แต่ถอนหายใจ แล้วก็รู้สึกโล่งอกที่เค้าไม่เป็นอย่างที่ผู้หญิงคนนั้นพูด ว่าแต่เรื่องรูปนั่นล่ะ เกือบลืมไปเลย

 

"คุณไม่เคยรู้อะไรหรอก จะว่าไปก็เหมือนผมเป็นคนขี้ฟ้อง แต่ผมยังข้องใจ"

 

"เรื่องอะไรอีก หืม ไหนว่ามาสิ?" ไม่ต้องมาทำเสียแบบนี้เลย

 

"ก็เช้าวันที่คุณออกไปฟาร์ม ผู้หญิงคนนั้นเค้าเอารูปที่มีคุณนอนถอดเสื้ออยู่บนเตียงกับเค้ามาให้ผมดู แล้วบอกว่า.........ว่า........เออช่างมันเหอะ ผมไม่อยากรู้แล้ว!!" บางครั้งก็รู้สึกเบื่อตัวเองที่จุกจิกจู้จี้ขึ้น แล้วก็ทำตัวเหมือนคุณแม่บ้านหึงหวงคุณพ่อบ้านยังไงอย่างงั้นแหละ

 

"ว่าอะไรบอกมาสิ ไม่บอกแล้วชั้นจะรู้ ส่วนนายจะหายข้องใจไหมล่ะ?" เขานั่งเงียบ รอให้ผมพูดออกมา แต่เอาวะ!! ไหนๆก็มีโอกาสเคลียร์กันแล้วก็ขอให้มันเคลียร์กันจบๆไปเลยเหอะ

 

 

 

"เค้าบอกว่าคุณยังรักเค้าอยู่ แล้วก็ไม่คิดจริงจังกับผมหรอก ที่อยู่ด้วยทุกวันนี้ก็เพราะ..."

 

"เพราะ???" วู้ววววจ้องอยู่ได้ คนยิ่งไม่กล้าพูดอยู่ มันกระดากปาก แล้วอีกคนก็เหมือนจะตั้งใจฟังเกินไปไหม??

 

"เพราะคุณแค่หลงของแปลก แล้วก็ขอใหม่แค่นั้นแหละ พอใจรึยังเล่า??" พูดจบผมก็หันหน้าหนีไปอีกทาง ไม่กล้าสบตาอีกคน

 

"ก็หลงจริงๆ นั่นแหละ"

 

"คุณ!!!" ผมหันมาตีเค้าแรงๆ ที่ต้นแขน

 

"โอ๊ย!! หยุดก่อนๆ ชั้นหมายถึง หลงรักหรอก ไม่ใช่หลงแบบที่ผู้หญิงคนนั้นว่า"

 

"หึๆๆๆๆ เมียชั้นตอนหึงนี่ก็น่ารักเหมือนกันเนอะ" เขาขยับเข้ามากอดแล้วโยกตัวผมไปมา

 

"สรุปเคลียร์กันหมดแล้วนะ?"

 

"อื้ม!! แต่คราวหลังคุณจะไปไหนทำอะไรก็ขอให้บอกผมบ้างนะครับ เพราะเห็นอย่างนี้ผมก็คิดมากเป็นเหมือนกันนะ"

 

 

"อื้ม"

 

 

"แล้วคุณจะเอาหลักฐานที่ไหนมาเอาผิดผู้หญิงคนนั้นล่ะ?"

 

 

"ชั้นสั่งให้ช่างมาติดกล้องวงจรปิดที่ห้องแล้วตอนที่เค้าไม่อยู่ ทีนี้เราจะได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าสามคนพ่อแม่ลูกสักที"

 

 

"ตลกละ ผมไม่ใช่ผู้หญิงจะเรียกแบบนั้นได้ยังไง?"

 

 

"แล้วจะให้เรียกว่ายังไง?" ผมล่ะเกลียดสายตาแบบนี้ของเค้าจริงๆ มันทำให้รู้สึกร้อนๆหนาวๆแปลกๆไงไม่รู้

 

 

"เรียกอาก็ได้นิ เดี๋ยวน้องโตมาจะสับสน"

 

 

"อาก็คือน้องพ่อ แต่ทำไมคุณอานอนกับคุณพ่อ เดี๋ยวลูกจะสงสัยเอานะชั้นว่า"

 

 

"ไม่หรอกหน่า เอาไว้ถึงตอนนั้นค่อยว่าเหอะหน่า"

 

 

 

 

 ===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===






หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.25 ☆ P.11 >> (25/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 25-03-2016 09:01:19
 o13 o13 o13  เรื่องนี้พระเอกเราไม่กินหญ้านะ เก่งมาก ๆๆ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.25 ☆ P.11 >> (25/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 25-03-2016 09:24:43
จ้าาา พ่อคนมีเมียเด็ก 555555
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.25 ☆ P.11 >> (25/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 25-03-2016 10:02:25
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
นึกว่าจะได้หาพระเอกใหม่ซะแล้ว

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.25 ☆ P.11 >> (25/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-03-2016 12:29:03
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.25 ☆ P.11 >> (25/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 25-03-2016 13:00:40
เคลียร์กันได้ด้วยดี เย้แฮปปี้ เจ๊นังเมียนี่ก็เหลือเกิ๊นนนน ทำร้ายได้แม้แต่เด็กตัวเล็กๆ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.25 ☆ P.11 >> (25/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 25-03-2016 13:12:43
ตอนนี้ฟินจิกหมอนมากเลย
ส่วนแม่แบบนั้นรักแต่ตัวเองส่งเข้าไปกินจ้างฟรีในคุกเถอะ :z6: ทำร้ายแม้กระทั้งลูกในไส้ตัวเอง
ขอให้คุณคราม น้องขิงหมดเรื่องร้ายซะทีนะ ต่อไปนี้มีแต่รักหวานชื้น
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.25 ☆ P.11 >> (25/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Hortensia ที่ 25-03-2016 13:49:57


:try2: :try2: :try2:


หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.25 ☆ P.11 >> (25/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 25-03-2016 14:13:07
ไม่น่าเชื่อว่าครามเคยหลงรักนางมารนั่น
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.25 ☆ P.11 >> (25/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 25-03-2016 16:52:36
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.25 ☆ P.11 >> (25/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 25-03-2016 21:20:20
เคลียร์ให้ดีนะคุณคราม ยัยนั่นดูร้ายใช่ย่อยนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.25 ☆ P.11 >> (25/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Shxtaop ที่ 11-04-2016 00:47:10
มาต่อเถอะนะคะ รอนะนะนะ :L3:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.25 ☆ P.11 >> (25/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: natsikijang ที่ 11-04-2016 17:57:01
ตอนที่25 นี่เยี่ยมเลยค่ะ  สบายใจแล้ว พี่ครามไม่โง่ รำคาญแพรตัวร้ายมานานแล้ว เอาคืนบ้าง อยากเอาลูกแต่ไม่เอาแม่  ให้น้องขิงเป็นแม่ นี่อ่ะถูกต้องที่สุด
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.25 ☆ P.11 >> (25/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Shxtaop ที่ 26-04-2016 21:30:27
รอนะคะ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.25 ☆ P.11 >> (25/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 26-04-2016 21:55:27
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.25 ☆ P.11 >> (25/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 27-04-2016 00:40:14
ยังไม่มาอีกเหรอ
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.25 ☆ P.11 >> (25/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Shxtaop ที่ 19-05-2016 22:15:24
งื้อออออกลับมาได้ไหมมกลับมาหากันนนน ไหนบอกว่าจะมาในนี้ไงงง เรารอตามอยู่ตลอดนะ หวังว่าจะไม่หลอกกกกัน
 :m15: :m15: :mew2:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.25 ☆ P.11 >> (25/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 19-05-2016 22:48:39
รอๆค่าา
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.25 ☆ P.11 >> (25/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Shxtaop ที่ 04-06-2016 10:15:47
รอคอยยน๊าา :mew2:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.25 ☆ P.11 >> (25/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: cinnsin ที่ 22-06-2016 23:19:07
มีความจำเลยรัก -0- อยากให้นายหัวโดนขิงเล่นงานบ้าง จะได้เข็ด -^-
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.25 ☆ P.11 >> (25/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 26-01-2018 16:11:06
รออยู้นะจ้ะ  :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: Andaman in Love |♬ ☆ อันดามัน...ซ่อนรัก ☆ ♬ | Ch.25 ☆ P.11 >> (25/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Moonoii ที่ 28-09-2019 00:52:08
กลับมาแต่งต่อเถอะค่ะะะะ พลีสสส ใกล้จะจบแล้วเชียว ก่อนนิยายจะถูกลบ แงงง