Forbidden dashuria ตอนพิเศษ2<30/11/58><p 4> จบแล้วค่าย้ายได้
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Forbidden dashuria ตอนพิเศษ2<30/11/58><p 4> จบแล้วค่าย้ายได้  (อ่าน 27778 ครั้ง)

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ด กรุณาอ่านทุกคน
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วย

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

คุยกันสักนิด

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สองที่ลงในเล่าเป็ดค่ะ

นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องสมมุติทั้งหมด

อาจมีบางอย่างที่นำมาจากเรื่องจริงบ้างเล็กน้อย

เราไม่ใช้คำราชาศัพย์ในเรื่องเพราะไม่ถนัด

และคิดว่าอาจจะอ่านยาก

เรื่องนี้ชื่อเรื่องแปลว่ารักต้องห้าม

จะต้องห้ามแบบไหนขออุบไว้ก่อน

ตามอ่านตามเม้นด้วยนะคะ

รักคนอ่านค่ะ

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46572.0

อันนี้นิยายอีกเรื่องของเรา amante del diablo แวะไปอ่านได้นะคะ
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-12-2015 18:48:53 โดย Silvan »

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
Forbidden  dashuria รักต้องห้าม

ตอนที่1

บ้าเอ้ยจะจบแค่นี้อย่างนั้นเหรอ?

ถึงจะหนีจากพ่อค้าทาสได้

แต่ทั้งเจ็บทั้งหิวเพราะหนีหัวซุกหัวซุนแบบไม่หลับไม่นอนถึงสี่วัน

ถึงตอนนี้จะนั่งพักอยู่ก็จริงแต่สภาพร่างกายของเขาก็ถึงขีดจำกัด

จะหลับไปทั้งอย่างนี้เลยดีไหมนะ?

แดริลเด็กชายวัยเก้าขวบคิดขณะปรือตามองท้องฟ้าอย่างอ่อนล้า เขานั่งพิงกำแพงในสภาพเปรอะเปื้อนด้วยโคลนสกปรก แถมไม่มีส่วนไหนเลยที่จะปราศจากรอยเปื้อนสีดำ

ดวงตาพร่าเลื่อนเหม่อมองเบื้องบนโดยไม่ได้สนใจเหล่าผู้คนจำนวนมากซึ่งคุกเข่าลงแสดงความเคารพกษัตริย์และทหารจำนวนมากที่เคลื่อนขบวนผ่าน

ต่อให้กษัตริย์สิ้นชีวิตตรงหน้ามันก็ไม่ใช่เรื่องของเขา

พริบตาที่คิดแบบนั้นดวงตาซึ่งใกล้ปิดก็มองเห็นเทวทูตตัวเล็กๆยื่นผ้าเช็ดหน้าขาวสะอาดเช็ดคราบโคลนออกจากใบหน้าของเขาก่อนที่จะสลบไปทั้งอย่างนั้น

ท่านแม่

แดริลยิ้ม เด็กชายรู้ตัวว่ากำลังอยู่ในความฝัน  ภาพแม่ซึ่งกำลังเย็บเสื้อผ้าให้ เป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้ว
แต่ถึงเป็นแค่ฝันก็ยังดี เพราะในความเป็นจริง เขาไม่อาจสัมผัสกับความอบอุ่นของแม่เช่นนี้ได้อีกในโลกของความเป็นจริง
ขณะที่แดริลนั่งมองดูแม่อย่างมีความสุข จู่จู่ก็รู้สึกเหมือนมีมือของใครกำลังวุ่นวายกับเส้นผมของเขา ยิ่งรู้สึกถึงมือซึ่งไร้ตัวตนชัดเจนเท่าไหร่ ภาพของแม่อันเป็นที่รักก็ค่อยๆห่างไกลออกไปในความมืด

บ้าเอ้ย

แดริลตะโกนอย่างไร้เสียง เด็กชายคว้าเอามือที่มองไม่เห็นแล้วลืมตาตื่นขึ้น พอกลับมาในโลกแห่งความจริง เด็กชายก็บีบมือซึ่งตนจับอยู่แน่นแล้วพรวดพราดลุกขึ้น มองดูเจ้าคนเลวที่ทำให้เขาต้องตื่นในเวลาที่กำลังฝันดี

“เจ็บนะเบาเบาหน่อยสิ”

เด็กชายอายุน้อยกว่า ผู้มีเส้นผมและนัยน์ตาสีรัตติกาล ใบหน้าที่ทั้งน่ารักงดงาม และผิวอันขาวผุดผาดผิดรูปลักษณ์คนในอาณาจักรบาดียา ชวนให้นึกถึงเทวทูตตามตำนานในอาณาจักรทางตะวันตก ใบหน้านี้คลับคล้ายว่าเห็นครั้งสุดท้ายก่อนสลบไป
หลังจากตัดสินใจละสายตาจากใบหน้าที่ชื่นชอบได้ แดริลมองไปรอบห้องซึ่งแม้ไม่ใหญ่โตมากแต่ของทุกชิ้นในห้องล้วนบอกถึงระดับฐานะ

“ที่นี่ที่ไหน”

แดริลถามเสียงกร้าว แต่ต้องผงะเมื่อเด็กชายอายุน้อยกว่าตะกายขึ้นมานั่งบนเตียงแล้วใช้มืออีกข้างซึ่งไม่ได้ถูกเขาจับ ลูบไล้เส้นผมของเขาอย่างชื่นชมและถนุถนอม

“สีทองเป็นประกายสวยจริงๆ ตอนเจอกันครั้งแรกถูกโคลนย้อมจนดูไม่ออก ดีจังเลยที่แอบหนี้ท่านครูมาเยี่ยมเจ้า”
คนถูกชมหรี่ตามองเทวทูตพูดไปยิ้มไปเล่นผมของตัวเองไปด้วยอารมณ์ขุ่นมัว พอถูกชมด้วยคำว่า’สวย’ก็อดนึกถึงอดีตอันน่าสะอิดสะเอียนไม่ได้

เสียงพวกผู้ชายชั้นต่ำซึ่งเป็นแขกของแม่พร่ำชมเส้นผมอันงดงามขณะทำเรื่องอย่างว่า รวมถึงสายตาของหญิงแพศยาในสลัมที่มองเขาด้วยสายตาสื่อความใน

“ตาเป็นสีฟ้าใสด้วย”
เทวทูตยื่นหน้าเข้ามาประชิดเพื่อจะดูดวงตาของแดริล

“ที่ชมนี่เพราะเห็นเป็นของแปลกสินะ”
แดริลเอ่ยเสียงเย็นชา ใบหน้าที่หล่อเหลาแต่เด็กจนแทบละสายตาไม่ได้ส่อเค้าอันตรายหากแต่เทวทูตตัวน้อยกลับไม่ใส่ใจ

“อืมใช่ เจ้าแปลกตาจริงๆนั้นแหละ”
คนถูกหาว่าแปลกดวงตาวาวโรจน์ เด็กชายตั้งใจจะทำอะไรซักอย่างกับเทวทูตตรงหน้าเพื่อระบายความหงุดหงิดในใจ หากถ้าอีกฝ่ายไม่พูดคำนั้นออกมาเสียก่อนด้วยรอยยิ้มอันบริสุทธิ์

“ทั้งเส้นผมสีทองดั่งดวงตะวัน ตาสีฟ้าใสราวกับแม่น้ำในทะเลสาบ เพราะว่าเจ้าแตกต่างอย่างน่าอัศจรรย์ข้าถึงได้ชมว่าเจ้าสวยยังไงล่ะ”

“พูดจาไร้สาระ”

แดริลปล่อยมือของเทวทูตที่จับอยู่แล้วเมินหนี คำพูดอันคล้ายคลึงกับคำพูดของมารดา ทำให้เขาปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกดีกับเทวทูตตรงหน้ามากกว่าจะแค่ชื่นชอบใบหน้าและรูปลักษณ์ของอีกฝ่ายเฉยๆ

เพราะลูกของแม่ช่างแตกต่างอย่างน่าอัศจรรย์ คนรอบตัวถึงได้หลงใหลในตัวลูก จะในทางดีทางร้าย นั่นหมายถึงลูกของแม่เป็นคนพิเศษยังไงล่ะ

แดริลแค่นยิ้มเมื่อนึกเปรียบเทียบคำพูดของแม่กับเทวทูต

“บอกไว้ก่อนนะ สีผมกับตาของข้า ถ้าเป็นดินแดนทางตะวันตกถือเป็นเรื่องปกติ”

“อืม…เรารู้อยู่แล้ว เพราะท่านแม่เองก็มีสีตากับเส้นผมสีเดียวกับเจ้านี่แหละ ท่านแม่เป็นลูกขุนนางจากดินแดนตะวันตก ท่านเล่าเรื่องบ้านเกิดของท่านให้เราฟังบ่อยๆ”

อย่างนี้นี่เอง

ถึงว่าผิวพรรณรูปร่างหน้าตาถึงแต่งต่างจากคนในอาณาจักร

แดริลคิดแล้วก็ถอนหายใจ เทวทูตยังวุ่นวายกับเส้นผมบนหัวเขาอย่างไม่รู้เบื่อ

“ถ้าเจ้าบอกว่าข้าผมสีเดียวกับแม่ของเจ้า ทำไมเจ้าไม่ไปหาแม่แล้วชื่นชมความงามเสียล่ะ มาวุ่นวายกับข้าทำไม”

ฉีกยิ้มกว้าง แดริลดีใจที่สามารถหาข้ออ้างให้คนอายุน้อยกว่าเลิกยุ่งกับตนได้เสียที ในหัวเริ่มวางแผนเรื่องจะหนีไปโดยเอาของติดตัวไปด้วยดีหรือจะรอให้ผู้ใหญ่เข้ามาแล้วปั้นหน้าแสร้งร้องไห้ของานทำแทน ขณะกำลังครุ่นคิดตาเจ้ากรรมก็ลอบมองดูเทวทูตที่น่ารักไปด้วย พอเห็นเด็กน้อยก้มหน้านิ่งนานจนผิดสังเกต แดริลก็ยุ่งยากใจอย่างหาคำอธิบายไม่ได้

“เป็นอะไรไปล่ะ”
แดริลถามพลางใช้มือแตะไปยังแผ่นหลังของเด็กตรงหน้า ทันทีที่สัมผัสถูก ร่างเล็กก็สั่นเทาด้วยแรงสะอื้น

“เป็นอะไรของเจ้า”
หงุดหงิดจนน้ำเสียงกร้าวนิดๆ แดริลใช้มือประคองหน้าของเทวทูตให้เงยขึ้นมองตนเอง หยาดน้ำใสไหลจากดวงตากลมโต

“ร้องไห้ทำไมหยุดเดี๋ยวนี้นะ”
แดริลออกคำสั่ง เทวทูตเมื่อถูกเอ็ดด้วยใบหน้าดุดันก็สะดุ้งเฮือกและร้องไห้หนักกว่าเก่าจนเขาทำอะไรไม่ถูก สุดท้ายจึงตัดสินใจโอบกอดคนอายุน้อยกว่า ใช้มือลูบหลัง ปลอบโยนจนอีกฝ่ายจนหยุดสะอื้น

“จะบอกได้หรือยังว่าร้องไห้ทำไม” แดริลใช้ผ้าห่มขาวสะอาดซับน้ำตาให้เทวทูต

“เราคิดถึงท่านแม่”

“คิดถึงก็ไปหาสิ”
คนโต้ตอบยิ้มอ่อนใจ หากแต่ฉุกคิดได้ในทันทีพร้อมกับที่เทวทูตเอ่ยประโยคถัดไป

“ท่านแม่เสียชีวิตแล้วเมื่อสามวันก่อน”

“แย่จังนะ”
แดริลตีหน้าขรึม เด็กชายพยายามไม่นึกถึงความเจ็บปวดตอนที่เห็นแม่ของเขาค่อยๆตายไปเพราะโรคร้าย

“แต่ก็ไม่แย่เท่าไหร่นะ เรามีเจ้าเป็นตัวแทนแล้ว ทั้งสีผมทั้งสีตาเหมือนท่านแม่เลย”
เทวทูตยิ้มน้อยๆ

“อย่ามาตลกถึงจะสีผมสีตาเหมือนกัน ใช่ว่าข้าจะต้องอยู่กับเจ้าเสียหน่อย”
ปฏิเสธอย่างเย็นชาแต่ก็อดยิ้มด้วยความพึงพอใจไม่ได้เมื่อเห็นเทวทูตหน้าเผือดสีแถมยังลนลาน

“ทำไมล่ะก็ท่านพ่ออนุญาตให้เจ้าเป็นผู้ติดตามของเรา คำสั่งกษัตริย์ขัดไม่ได้นะ”

แดริลแทบจะไม่ได้ฟังประโยคสุดท้าย เพราะก่อนหน้านั้นเล็กน้อย เด็กชายใช้มือคลำหาสร้อยคอที่มีแหวนทองคล้องเอาไว้ไม่เจอ สิ่งนั้นแม่ของแดริลให้เขาติดตัวตั้งแต่เด็กเป็นของสำคัญดูต่างหน้า

“หายไปไหน”

แดริลร้องถามขณะที่เลือดขึ้นหน้าและใจหายวาบไปพร้อมกัน เ ด็กชายกระโจนออกจากเตียงแล้วรื้อค้นไปทั่วห้องจนรก พอหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ ความโกรธและไม่สบายใจทำให้เขาเดินไปกระชากคอเสื้อเทวทูต

“สร้อยคอกับแหวนของข้าไปไหน”
เทวทูตกระพริบตาปริบๆ เด็กน้อยไม่เข้าใจเรื่องที่แดริลกำลังโกรธ มือเล็กๆค่อยๆล้วงเอาของซึ่งอีกฝ่ายถามออกมาจากกระเป๋าที่คาดเอว

“เราตั้งใจจะคืนให้เจ้าตอนตื่นแต่ มัวสนใจกับสีผมสีตาของเจ้าจนลืม”
แดริลปล่อยมือจากคอเสื้อ แล้วคว้าเอาสิ่งสำคัญของตนจากมือเล็ก เด็กชายสำรวจตัวแหวนทองอย่างถี่ถ้วน

“ ด้านในมีอักษรสลักไว้ด้วยนะ เอ….อ่านว่าอะไรนะ แด่…”

“แด่ผู้หญิงของซามาน” แดริลเอ่ยเสียงเย็นชา

“เก่งจังอ่านออกด้วย สมกับที่เป็นคนอายุมากกว่า” เทวทูตชม

“แม่ของข้าสอนให้ จะตื่นเต้นทำไม”
แดริลพูดขณะสวมสร้อยแล้วซ่อนมันเอาไว้ใต้เสื้อ

“ท่านแม่ของเจ้าคงจะเป็นบุตรขุนนางสินะ”

“ทำไมคิดอย่างนั้น”

“ก็ท่านครูบอกข้า หญิงสาวที่อ่านออกเขียนได้มีน้อย ดังนั้นเราเลยคิดว่าท่านแม่ของเจ้าคงเป็นบุตรขุนนางหรือไม่ก็คหบดีร่ำรวย”

เทวทูตฉีกยิ้มมั่นใจ รอยยิ้มใสซื่อบริสุทธ์กวนเอาความโกรธอันขุ่นมัวจนอัดแน่น แดริลหายใจไม่ออก อยากจะอาละวาด อยากร้องตะโกนให้รู้  เรื่องเกี่ยวกับแม่ของเขามันไม่ได้สวยงามอย่างที่คนตรงหน้าคิด แต่ไม่รู้ว่าตัวเองนั้นได้แสดงสีหน้าออกไปเช่นไร เทวทูตถึงได้มองดูเขาด้วยแววตาเจ็บปวดไม่ใช่สงสาร

“เจ็บตรงไหนหรือเปล่า เจ้าทำสีหน้าเจ็บปวดเหมือนจะร้องไห้ เราเรียกหมอให้เจ้าได้นะ”

เทวทูตเข้ามาสำรวจลูบคลำแดริลก่อนจะใช้มือทาบลงบนหน้าผากของเขา เด็กชายรู้สึกอุ่นวาบในใจอย่างไม่มีเหตุผล
ในระหว่างนั้นพวกผู้ใหญ่หลายคนก็เดินเข้ามาในห้อง ตอนนี้เองถึงได้รู้ฐานะที่แท้จริงอันสูงส่งของเทวทูต  แดริลที่จู่ๆก็ถูกดึงออกมาสู่แสงสว่าง ความหวาดระแวงต่อคนมากมายถูกฝ่ามือเล็กที่เกาะกุมมือของเขาปัดเป่าออกไป

“ไม่เป็นไรนะ”

คำพูดและรอยยิ้มของเทวทูตทำให้แดริลตัดสินใจทำสิ่งที่เปลี่ยนชีวิตวิถีของเขาไปอย่างสิ้นเชิง


 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

เม้นกันบ้างน้า



ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
 :katai2-1: มาตามเรื่องใหม่จ้า

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
Forbidden  dashuria รักต้องห้าม

ตอนที่2

หลังจากถูกยัดเยียดให้รับตำแหน่งผู้ติดตามของเอลียาห์ องค์รัชทายาทผู้มีรูปลักษณ์ดั่งเทวทูต แดริลที่ไม่อาจปฏิเสธก็ถูกกำหนดให้เรียนรู้มารยาทในวังมาตลอดจนถึงปัจจุบันเป็นเวลาสามเดือน

 ท่านครูที่มาสอน เป็นอดีตผู้ติดตามกษัตริย์องค์ปัจจุบันซึ่งชราภาพแล้ว และถึงแม้จะเกษียนไปอยู่นอกพระราชวัง ก็ยังสามารถเข้าออกพระราชวังได้ตามใจชอบ แถมได้รับพระราชทานเงินทองมากมายจากกษัตริย์บาดี

อนึ่ง ท่านครูชราภาพหรือท่านมูอัน นอกจากจะฉลาดและเต็มไปด้วยความยุติธรรม การที่อีกฝ่ายให้ความเมตตาเอ็นดูเขา ทำให้แดริลค่อนข้างชื่นชอบท่านครูชราคนนี้ หากแต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะชื่นชอบคนอื่นๆภายในพระราชวัง  ในทางกลับกันคนในพระราชวังจำนวนไม่น้อยก็ไม่ชอบหน้าเขาอย่างชัดแจ้ง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหัวหน้ามหาดเล็กประจำพระราชวังคาดิล ซึ่งเป็นพระราชวังหลังอันเป็นที่พำนักของเจ้าชายเอลียาห์ หลายครั้งที่แดริลรู้สึกถึงการมาเยือนของอีกฝ่ายขณะที่เขาเล่าเรียนมารยาทในวัง และถูกมองด้วยสายตาไม่เป็นมิตร

แดริลรู้ดีถึงความหมายของแววตานั้น  ริษยา ดูถูก ชิงชัง ถึงเขาจะอายุเพียงเก้าขวบ แต่ชีวิตในสลัมทำให้ต้องเจอผู้คนหลากหลายรูปแบบ ดังนั้นจึงไม่ยี่หระกับแววตาของหัวหน้ามหาดเล็ก
ไอ้กระเทยแก่

แดริลลอบยิ้ม หลังจากเข้ามาอาศัยในพระราชวัง  สามเดือนมานี้ ได้เรียนรู้มารยาทและหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบทุกอย่าง พระราชวังคาดิลเคยเป็นของราชินีมารียาห์ พระราชมารดาของเอลียาห์มาก่อน พอสิ้นใจไปสถานที่นี้และข้ารับใช้จึงกลายเป็นของเจ้าชายโดยปริยาย

ดังนั้นข้ารับใช้ชายหรือมหาดเล็กในวังนี้ทั้งหมดจึงถูกตอน ไม่เว้นแม้แต่ทหารองค์รักษ์ จะมีก็แต่พวกที่เข้ามาทำงานแบบไปกลับหรือพวกที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในพระราชวังหลังเท่านั้นจึงเป็นชายสมบูรณ์
กฎข้อนี้ ถูกกำหนดให้ต้องทำในพระราชวังของเหล่าพระสนม และเจ้าหญิง ส่วนพระราชวังของกษัตริย์และเจ้าชายพวกเขาเหล่านั้นจะได้รับการยกเว้น ดูเหมือนว่าจะเข้มงวดกับสถานที่อยู่ของพวกผู้หญิงมากเป็นพิเศษ
นี่คงเป็นสาเหตุหนึ่งซึ่งทำให้หัวหน้ามหาดเล็กและเหล่าชายที่ไม่เป็นชายอีกหลายคนไม่ชอบหน้าเขา นั่นเพราะหากเขาเข้ามารับตำแหน่งในตอนที่ราชินีมารีย่าห์ยังมีชีวิตอยู่ เห็นทีคงไม่พ้นต้องถูกตอนเช่นกัน

เขาคงไม่มีวันเข้าใจความอิจฉาอันวิปลาสของคนเหล่านั้น หากแต่รู้ดี เพศชายยามหมกมุ่นในกามตัณหานั้นเป็นอย่างไร เขาได้เห็นมามาก ชายเหล่านั้นปฏิบัติกับหญิงโสเภณีในสลัมอย่างไร ทว่า สาเหตุที่ทำให้เขาเข้ากันไม่ได้กับคนจำนวนมากในวังไม่ได้มีแค่เพียงเรื่องเดียว

อาจเป็นเพราะการเอ่ยปากเพียงคำเดียวของเอลียาห์  ผู้ติดตามคนเก่าซึ่งรับหน้าที่เพียงไม่กี่เดือนจึงต้องออกจากตำแหน่ง เด็กหนุ่มอายุสิบหกคนนั้นบังเอิญเป็นหลานชายของหัวหน้ามหาดเล็ก หลานชายผู้โชคร้ายจำเป็นต้องตอนตัวเองเพื่อความก้าวหน้า เพราะรัชทายาทนายเหนือหัวยังเด็กและยังอาศัยอยู่ในพระราชวังของพระราชมารดาในเวลาที่ยังมีชีวิตอยู่นอกจากจะถูกแย่งตำแหน่งจากเด็กไม่รู้หัวนอนปลายเท้า ความเป็นชายอันแสนภาคภูมิยังสูญสิ้นไปอย่างไร้ประโยชน์

เป็นเรื่องที่น่าเศร้าอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องสงสาร เพราะถึงสงสารอีกฝ่ายก็ใช่ว่าจะทำดีกับเขาเสียเมื่อไหร่
เมื่อตัวตั้งตัวตีเป็นหัวหน้ามหาดเล็กและอดีตคนสนิทของเจ้าชายเอลียาห์ พวกมหาดเล็กส่วนใหญ่จึงตั้งตนเป็นศัตรูกับเขาไม่เว้นแม้แต่หญิงรับใช้

จริงๆแล้วอาจเป็นเรื่องน่าหดหู่อยู่สักหน่อย เพราะหญิงรับใช้ในพระราชวังเมื่อถูกเกณเข้ามาจะต้องอยู่ทำงานให้นายเหนือหัวไปจนกว่าจะตาย มีบางครั้งถ้าแต่งงานอาจได้รับอนุญาตให้กลับไปใช้ชีวิตข้างนอกด้วยทรัพย์สินตามความเมตตา หรือต่อให้แต่งงานมีลูกก็อาจจะยังต้องอยู่ในพระราชวังต่อไป

ทว่าหญิงรับใช้เหล่านี้ต้องอุดอู้รับใช้นายเหนือหัวตลอดเวลา น้อยครั้งที่จะได้รับอนุญาตให้ออกไปด้านนอกไปเยี่ยมครอบครัว เพราะเหตุนั้นหญิงรับใช้จำนวนมากจึงตกลงปลงใจกับทหารองค์รักษ์ หากแต่ไม่ใช่กับหญิงรับใช้ประจำพระราชวังที่เหล่าสตรีผู้สูงศักดิ์อาศัยอยู่

หญิงรับใช้ในพระราชวังเหล่านี้ถูกวางกฎอย่างเข้มงวดกว่าหลายเท่า เหล่าหญิงสาวในวัยเจริญพันธ์จะระบายออกทางเพศอย่างไรกับชายซึ่งไม่ใช่ชาย น่าแปลกที่นั่นไม่ใช่ปัญหาเลยซักนิด ต่อให้ไม่มีความเป็นชาย พวกกระเทยเหล่านั้นยังคงมีลิ้นและมือคอยสนองตัณหาของอิสตรีได้

ดังนั้นมหาดเล็ก ทหารองครักษ์ที่ล้วนถูกตอน จึงจับคู่กับหญิงรับใช้เป็นคู่ผัวตัวเมียกระทำเรื่องบัดสีลับหลังผู้เป็นนายราวกับเป็นค่านิยมที่พึงกระทำ และดำดิ่งลงสู่ความหยาบช้าด้วยตัณหาอันวิปริตซึ่งมากกว่าชายหญิงปกติหลายเท่า
เมื่อชายไม่ใช่ชายผู้เป็นสามีรังเกียจเขา หญิงรับใช้ผู้เป็นภรรยาจึงพลอยไม่ชอบหน้าเขาไปด้วย

เจ้าพวกน่าสมเพช

แดริลคิดดูถูก รอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏบนใบหน้าของเขาก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นว่างเปล่าเย็นชาเมื่อนึกถึงภาพพวกชายชั้นต่ำบางคนที่ลูบหัวเขาอย่างเอ็นดูบ้าง พูดจาดูถูกบ้าง บางครั้งหัวเราะเยาะเย้ย หลังจากได้ครอบครองเรือนร่างแม่ของเขาแล้วออกมาพบแดริลซึ่งรออยู่ด้านนอก

ออกจากบ่อโคลนมาได้ก็เจอบ่อโคลนอันใหม่สินะ

คิดพลางแสดงความเคารพแล้วเอ่ยคำลาท่านครู รู้สึกหิวตั้งใจจะไปหาอะไรกินในครัวเสียหน่อย แต่ก็ถูกเรียกด้วยเสียงเจื้อยแจ้วจากด้านหลัง

“แดริล”
แดริลหันกลับไปมองเจ้าของเสียงซึ่งวิ่งมาหยุดยืนตรงหน้าเขาแล้วหอบแฮ่ก

“มีอะไรหรือพี่ฟาติมา”

แดริลเอ่ยเสียงอ่อนโยน เขามองดูเด็กสาวอายุสิบสองขวบหัวเราะแฮะๆ ฟาติมาคนนี้เป็นคนคนเดียวที่นับได้ว่าเป็นมิตรตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่ ฟาติมาเป็นเด็กสาวซึ่งถูกเกณเข้ามาเป็นหญิงรับใช้ตอนอายุสิบเอ็ด ถูกอบรมอย่างเข้มงวดเป็นเวลาหนึ่งปีก่อนจะส่งมาให้ทำงานใกล้ชิดคู่กับเขาเพื่อรับใช้เอลียาห์

เธอเป็นคนเปิดเผยและเป็นมิตร นอกจากนั้นแล้วการที่เขากับฟาติมาสนิทกันได้อย่างรวดเร็ว เพราะเขาทั้งคู่ยังเป็นเด็กที่อายุไม่ต่างกันมากนัก

“ฝ่าบาทเอลียาห์ไปรอเจ้าที่ห้องแล้วนะ”

อีกแล้วเรอะ

แดริลเลิกคิ้ว อยากจะเดาะลิ้นด้วยความหงุดหงิดเสียเหลือเกิน

เด็กชายเดินนำฟาติมาซึ่งพูดไม่หยุด ในหัวของเขาคิดภาพตัวเองดุด่าเอลียาห์ซึ่งทำให้เขาเดือดร้อน

กี่ครั้งแล้วนะที่อีกฝ่ายแอบลอบเข้ามาในห้องของเขาแล้วชวนเล่นไร้สาระ เสียงแหลมแหลมนั้นทำเอาเขาทั้งปวดหัวและรำคาญ

นี่ถ้าหากว่าการเรียนมารยาทของเขาสิ้นสุดลง เมื่อได้รับตำแหน่งเป็นทางการ เขาจะต้องย้ายไปอยู่ข้างห้องของเอลียาห์
ขนาดห้องของเขาอยู่หากจากเจ้านั่นถึงเพียงนี้ยังแอบเข้ามาวุ่นวาย ไม่อยากจะคิดถ้าย้ายไปอยู่ใกล้ๆจะต้องปวดหัวถึงขนาดไหน แต่น่าแปลกทั้งๆที่หงุดหงิดมาก แต่กลับไม่เคยเอ่ยปากไล่เจ้าชายที่น่าปวดหัวซักครั้ง

“อารมณ์ดีอะไรเหรอจ๊ะ”

“เอ๊ะ” แดริลอุทานอย่างแปลกใจ

“มีเรื่องดีดีอะไรอยู่สินะยิ้มไม่หุบเลย”

“ไม่มีอะไรนี่”

“อ้าวปั้นหน้าขรึมซะละ คิดมานานแล้วล่ะ แดริลเป็นคนขี้อายสินะ”

ฟาติมาหัวเราะร่วน แดริลที่ทั้งขายหน้าและสับสน เดาะลิ้นอย่างหัวเสีย แต่ไม่คิดจะแก้ตัวหรือตอบโต้ เด็กชายเปิดประตูเข้าไปในห้องโดยมีฟาติมาเดินตามเข้ามา ในห้อง บนเตียงของเขา เอลียาห์ผู้มีรูปลักษณ์ประดุจเทวทูต นั่งรออยู่บนเตียงโดยมีกล่องไม้สลักซึ่งทำมาอย่างปราณีตอยู่ในมือ

“เจ้ามาได้ซักที”
เอลียาห์ลงจากเตียง วิ่งเข้ามาหาแล้วเปิดกล่องไม้ออก ภายในมีขนมรูปร่างแปลกตาอยู่ในนั้น

“นี่คือ เลบคุกเค่น<lebkuchen> เป็นขนมทางตะวันตกที่คนครัวของท่านพ่อที่มาจากตะวันตกปรุงขึ้นมา เรายังไม่ได้ทานหรอก แต่คิดว่าน่าจะอร่อย ฟาติมายังไม่เคยได้กิน และเราคิดว่า แดริลเป็นคนทางตะวันตกอาจจะชอบ”

นี่หรือเลบคุกเค่น?

แดริลมองขนมในกล่องไม้ด้วยอารมณ์หลากหลาย ในบรรดาขนมจากตะวันตกที่แม่ของเขาเล่าให้ฟัง เลบคุกเค่นเป็นขนมที่เขาอยากเห็นเป็นที่สุด

สมัยเป็นเด็กพอถึงวันขอบคุณพระเจ้า ถึงบ้านคุณตาคุณยายจะไม่รวยนัก ท่านก็จะทำเลบคุกเค่นให้แม่ทาน เพราะว่าไม่ได้ทานบ่อย แม่ถึงเฝ้ารอวันเฉลิมฉลองอย่างใจจดใจจ่อ

ช่วงเวลาที่แม่พูดถึงขนมชนิดนี้และหวนนึกถึงอดีต แม่มีสีหน้าเป็นสุขมากกว่าปกติหลายเท่า จนเขาอดปลาบปลื้มกับขนมชนิดนี้ไม่ได้

เป็นอย่างนี้เองหรือเจ้าขนมนี่

แดริลหยิบขนมชึ้นมาพินิศก่อนจะค่อยๆกัดชิมรส หลังจากรสหวานแผ่ซ่านในปาก แดริลก็ไม่รอช้าที่จะกัดคำต่อไป เขาหยิบขนมชิ้นใหม่มากินทันทีหลังจากชิ้นแรกหมด เอลียาห์เห็นแบบนั้นจึงชักชวนฟาติมาให้กิน ทั้งสามคนร่วมกันทานขนมอย่างเอร็ดอร่อย ถึงในสายตาเอลียาห์และฟาติมา แดริลดูจะหมกมุ่นในการกินอย่างแปลกๆ

บังเอิญสินะ

แดริลลอบมองหน้าเอลียาห์ขณะกัดกินขนม

แน่ล่ะต้องบังเอิญ ก็เขาไม่เคยเล่าอะไรเกี่ยวกับตัวเองให้ฟังเสียหน่อยนี่นา

“อร่อยไหม” เอลียาห์ส่งยิ้มกว้างมาให้เมื่อรู้สึกว่าถูกมอง

“ก็…อร่อยมั้ง ก็กำลังหิวอยู่นี่ครับ”

แดริลตอบด้วยเสียงเย็นชาพร้อมกับมองเมินไปอีกทาง คำว่า’ขอบคุณ’ผุดขึ้นในความคิดของแดริลอย่างไม่อาจปฏิเสธ ดวงตาสีฟ้าใสจ้องดูเอลียาห์ซึ่งพูดคุยและหัวเราะกับฟาติมา

ความรู้สึกนี้มันอะไรกัน

รู้สึกเหมือนมีจุดแสงเล็กๆสว่างอยู่ภายในใจที่เต็มไปด้วยความมืด

ไม่ ไม่ใช่หรอก แค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น
จะคิดว่าอีกฝ่ายทำกับเขาเหมือนเป็นคนพิเศษไม่ได้

ทั้งเรื่องที่เก็บเขามา ทั้งเรื่องที่ทำดีด้วย

เป็นเพราะ เขามีเส้นผมกับสีตาเหมือนแม่ของอีกฝ่ายเท่านั้น

ต่อให้เอลียาห์จะเป็นเทวทูตที่ใจดีงดงามแค่ไหน สำหรับคนซึ่งอยู่สูงกว่า ความใจดีที่มีให้เขาคงไม่ต่างจากการโปรยอาหารให้สุนัขข้างถนน

หนึ่งเดือนหลังจากนั้น

แดริลที่ได้รับการรับรองจากท่านครู ก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นทางการต่อหน้าเหล่าข้ารับใช้ในพระราชวัง ไม่ใช่จะมีการมอบตราสารหรืออะไร แต่แค่เป็นการแจ้งในตำแหน่งให้รู้ทั่วกัน

แดริลมองไปยังผู้คนซึ่งรวมตัวกัน ผู้คนที่มองมาด้วยความริษยา ผู้คนที่เฉยเมย เขาไม่สนใจตราบเท่าที่ไม่มีใครลงมือทำร้ายหรือรังแก จะนินทาว่าร้ายยังไงก็ช่าง ในบรรดาคนทั้งหมดนั้น ยูซูฟหัวหน้ามหาดเล็กและซาลามหลานชายคนที่เขาแย่งตำแหน่ง มองดูมาประหนึ่งเขาเป็นศัตรูที่ต้องกำจัด

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ตอนที่สองแล้วนะคะ

ไม่มีคนเม้นเลย อยากร้องไห้

เม้นกันบ้างน้า :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Chise

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
น่าติดตามมากกค่ะ เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
ตอนแรกเราเฉยๆ แต่ตอน2 ชอบมากกกกกกกกกกกก

เจ๋งอ่ะ เริ่มขมวดปมชีวิตในวังแล้ว รอว่าชีวิตจะเป็นยังไงต่อนะคะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เคลียด

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
อยู่ในวัง ชีวิตมันไม่ง่ายแน่ๆ

ออฟไลน์ Shock_n2n

  • Deep cute...
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
ภาาษาดีนะคะ รออ่านค่ะ เป็นกำลังใจนะ ;>


ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่3

หลังจากเริ่มทำหน้าที่ในฐานะผู้ติดตามประจำตัว แดริลก็ย้ายมาอยู่ข้างห้องของเอลียาห์ เด็กชายคอยรับใช้เทวทูตทุกอย่างโดยมีฟาติมาคอยช่วย ตั้งแต่อาบน้ำแต่งตัว ไปจนถึงเรื่องเล็กๆน้อยๆ  เขาตามติด แม้กระทั่งในเวลาเรียนก็ยังต้องคอยนั่งอยู่ใกล้ๆ วันแล้ววันเล่าผ่านไปนับเดือน การใช้ชีวิตซ้ำซากทำให้เบื่ออยู่บ้าง แต่เฉพาะตอนที่ไปนั่งเฝ้าเอลียาห์ศึกษาความรู้กับท่านครูเท่านั้นที่ทำให้กระตือรือร้น  สำหรับแดริล ถึงแม้จะไม่ได้ถูกสอนโดยตรง เขากลับซึมซับความรู้ที่ได้ฟังและได้เห็นอย่างรวดเร็ว

“ทำยังไงดีเราปวดหัวจัง”

แดริลปลายมองเทวทูตใช้มือขยี้หัวตัวเองไปมา เอลียาห์นั้นได้รับการบ้านจากท่านครูก่อนที่ท่านจะออกไปแล้วทิ้งท้ายว่าจะกลับมาเอาคำตอบ

“แดริลช่วยเราคิดหน่อยสิ”
เอลียาห์แสร้งทำน้ำตาไหล บางครั้งเอลียาห์ที่ใสซื่อก็จะแสดงความเจ้าเล่ห์แบบเด็กเกเรออกมา

“จะดีหรือครับให้ข้าทำหากถูกจับได้ล่ะ”
แดริลพูดขู่ แทนที่เอลียาห์จะสำนึกกลับส่ายหน้ารัวๆ ยืนยันแล้วบอกว่า’ หากเขาไม่พูด ตนเองไม่พูด ยังไงก็ไม่มีใครรู้’

“เถอะนะ แดริลช่วยคิดหน่อย เดี๋ยวเราเขียนด้วยลายมือของเราเอง ไม่มีทางมีใครรู้แน่ๆ”

“แค่ช่วยคิดนะครับ”

ตอบตกลงพร้อมกับรับม้วนกระดาษจากเอลียาห์ไปเริ่มอ่านโจทย์ แดริลขมวดคิ้วกับคำถามแล้วใช้เวลาครุ่นคิดอยู่หลายนาทีก่อนจะเริ่มพูดให้เอลียาห์จดคำตอบลงในม้วนกระดาษ จากนั้นเมื่อเวลาครบหนึ่งชั่วโมงท่านครูก็กลับเข้ามาในห้อง เอลียาห์ยื่นม้วนกระดาษคำตอบให้ท่านครู

รู้สึกตื่นเต้นแบบแปลกๆ รู้อยู่มันไม่ใช่คำถามที่มีไว้เพื่อเขา แต่ในเมื่อได้เป็นคนตอบ จึงใช้ประสบการณ์ที่พอจะมีอยู่บ้างกับความรู้ที่ได้ยินได้ฟังมาตลอดเวลายามนั่งเฝ้าในชั่วโมงเรียนของเอลียาห์

“ใครเป็นคนตอบคำถามนี้ท่านเอลียาห์”
ท่านครูชราเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มพร้อมลูบคลำหนวดสีขาวไปมา

“ก็ต้องเราสิท่านครู”
เอลียาห์ยืนยันด้วยใบหน้าอันใสซื่อบริสุทธิ์ ถ้าแดริลไม่ได้รู้มาก่อนและไม่ได้เป็นคนร่วมทำผิด คงเชื่อในมารยาของเทวทูตอย่างสนิทใจ

“ไม่ท่านเอลียาห์ไม่น่าตอบได้ ถึงข้าจะเคยสอนเรื่องพื้นฐานไปบ้าง แต่ด้วยอายุก็ไม่น่าจะตอบคำถามนี้ได้ อันที่จริงข้าไม่ได้คิดจะได้คำตอบจากท่านตั้งแต่แรก เพราะถ้าไม่สอนอย่างละเอียดท่านจะตอบคำถามนี้ได้อย่างไร”

“อ้าว อย่างนั้นท่านครูตั้งคำถามที่เราตอบไม่ได้ทำไม ท่านครูใจร้าย”
เอลียาห์ทำหน้ากระเง้ากระงอด แต่ท่านครูหาได้ใส่ใจ

“ที่สำคัญกว่าใครเป็นคนตอบคำถามนี้”
ถึงจะตั้งคำถาม หากแต่สายตาของท่านที่ครูมองมายังแดริล ทำให้เด็กชายรู้ตัวในทันทีเรื่องที่อีกฝ่ายคงรู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นคนตอบคำถาม

“ข้าเองครับ”
แดริลยอมรับผิดง่ายๆ เมื่ออีกฝ่ายรู้ตัวแล้ว จะดึงดันโกหกต่อไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา

“คำถามนี้ข้าถามถึงการปกครองบริหารชนชั้นต่างๆของอาณาจักรในเชิงปฏิบัติ คำตอบของผู้ติดตามน้อย ถ้าให้พูด ยังไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องและดีเยี่ยม แต่ที่น่าสนใจเป็นพิเศษ คือการปฏิบัติกับพวกทาส น่าสนใจมาก ข้าไม่เคยคิดถึงการล้มระบอบทาสมาก่อน จุดนี้แหละที่ทำให้รู้ว่าท่านเอลียาห์ไม่น่าจะใช่คนตอบคำถาม”

“ทำไมล่ะก็แค่เรื่องของพวกทาสเอง เราก็รู้จักนะ”
เอลียาห์ท้วงติง ดูจากท่าทาง เจ้าตัวมั่นอกมั่นใจและรู้ลึกในเรื่องเกี่ยวกับพวกทาสน่าดู

“อย่างนั้นท่านเอลียาห์คิดว่าทาสน่าสงสารไหม”
ท่านครูชราถามด้วยรอยยิ้ม เอลียาห์นิ่งคิดหลายนาที

“ไม่เลย พวกเขาทำงานแลกอาหารแลกที่อยู่ไม่ใช่เหรอ”

“นี่แหละนี่แหละ เพราะท่านเอลียาห์ยังเล็กและถูกเลี้ยงดูมาแบบชนชั้นสูง จึงไม่มีทางมีมุมมองเหมือนอย่างผู้ติดตาม”
ท่านครูหัวเราะเสียงกังวานก่อนจะตวัดสายตาดุดันไปยังแดริล

“เจ้าคิดจริงๆหรือว่ายกเลิกระบบทาสเป็นสิ่งที่ดี”
แดริลนิ่งคิด สำหรับกับเขาที่เห็นความทุกข์และน่าเวทนาของพวกทาสมามาก ไม่เคยคิดเป็นอย่างอื่นเลย และยิ่งเมื่อตนเองมีประสบการณ์ถูกไล่ล่าจากพ่อค้าทาสด้วย แดริลมองตอบประสานสายตาอันวาวโรจน์ของท่านครูแล้วตอบคำถามอย่างหนักแน่น

“ครับ”

“แล้วเจ้ารู้ไหม การเลิกระบบทาสจะส่งผลกระทบอะไรกับชนชั้นและระบบเศรษฐกิจของอาณาจักรบ้าง”

“ไม่ทราบครับ”
แดริลตอบคำถามโดยไม่กล้าสบตา

เขาจะรู้ได้ยังไงล่ะ ก็ในเมื่อเพิ่งจะเคยเรียนเรื่องพวกนี้อย่างจริงจังแค่สองเดือน แถมยังเป็นแบบครูพักลักจำ

โลกนี้ช่างไม่ยุติธรรม

แดริลรู้สึกถึงด้านลบในใจตัวเองไปพร้อมๆกับคิดอยากเรียนรู้ให้มากกว่านี้’ การได้ยืนอยู่เหนือผู้คนมันเป็นความรู้สึกแบบไหนกัน’ เขาก็ได้แต่ตั้งคำถามแบบนี้อยู่ในใจ

“น่าเสียดายจริงๆ  หากเจ้าเป็นบุตรขุนนางหรือชนชั้นสูงคงจะได้เรียนรู้เรื่องพวกนี้ การจินตนาการว่าเจ้าจะตอบคำถามแบบไหน
เมื่อเรียนรู้อย่างช่ำชองและเป็นระบบ มันทำให้ข้าตื่นเต้น…เสียดาย…เสียดาย”

เด็กชายกำหมัดแน่น คำพูดในเชิงผิดหวังเห็นใจทำเอาเดือดพล่าน อยากจะตะโกนตอบโต้กลับไปอย่างหยาบคาย’ เขาไม่ต้องการความเห็นใจและสงสาร’ แต่ทว่าน้ำเสียงร่าเริงไร้เดียงสาของเอลียาห์ทำให้ความคิดด้านลบที่รวมตัวกันอยู่ กระจัดกระจายกลับมาแจ่มใสอีกครั้ง แดริลมองดูเทวทูตอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา

“ท่านว่าอย่างไรนะท่านเอลียาห์”
ท่านครูชราถามพลางขยับแว่นตา

“เราบอกว่าเราจะไปขอท่านพ่อให้แดริลมาเรียนเป็นเพื่อนเรา”
กล่าวจบมือเล็กก็คว้ามือแดริลยื้อยุดให้ลุกขึ้น

“จะทำอะไรน่ะครับท่านเอลียาห์”
แดริลตื่นตกใจกับการกระทำอันฉุกละหุก เขางงไปหมดในการตัดสินใจอย่างกะทันหัน แต่กระนั้นก็ยังมีสติไม่ให้เอลียาห์ชักจูงความคิดไปได้ง่ายๆ

“เราจะพาเจ้าไปหาท่านพ่อด้วยกัน”

“เรื่องแบบนั้น…”

แดริลเอ่ยอย่างตื่นตระหนก ภายในใจกำลังพลุ่งพล่านด้วยความคาดหวัง ยินดี ปนเปสับสนไปหมด

เรื่องแบบนี้เป็นไปได้เหรอ

มันเป็นไปได้จริงๆนะเหรอ

คนที่อาศัยอยู่ในบ่อโคลนอย่างเขาแค่มีที่ซุกหัวนอนมีอาหารให้กินก็รู้สึกขอบคุณแล้ว

แต่ลึกลงไปในใจ แดริลมีความกระหายอยากไม่สิ้นสุด ฝั่งรากลึกรอวันปลดปล่อย แต่ก็ยังมีความเจียมตัวอยู่บ้าง หากแม้ว่าไม่ได้ร่วมเรียนหนังสือกับเอลียาห์ เขาก็ไม่ได้สูญเสียอะไรไป แต่ถ้าได้สิ่งที่คาดหวังมา มันก็ราวกับจะได้รับการเติมเต็มอะไรบางอย่าง

แดริลคล้ายกับได้มองเห็นแสงสว่าง  ในแสงนั้น มีภาพของท่านแม่ ท่านแม่ที่ตั้งใจสอนภาษาการเขียนการอ่าน แดริลนั้น โดยที่ไม่
มีใครรู้ เขาอ่านออกเขียนได้ถึงสามภาษา ภาษาของประเทศนี้  ภาษาทางตะวันตก และ ภาษาของพวกทาส

ถึงแม้ว่าลูกจะไม่ได้เรียนหนังสืออย่างที่แม่หวัง แต่แค่การอ่านเขียนแม่ก็สอนลูกได้ แม่ขอโทษจริงๆที่มอบสิ่งดีดีให้ลูกได้แค่นี้

แดริลหวนนึกถึงอดีต เหตุการณ์ในคืนนั้น ท่านแม่ยิ้มอย่างเศร้าสร้อย แต่เพียงครู่เดียวรอยยิ้มของแม่ก็ดูเจิดจ้า ส่องสว่างราวแสงตะวัน ภาพของแม่ในแสงสว่างอันพร่าตา ถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มของเทวทูตตรงหน้า เทวทูตที่ประทานพรศักดิ์สิทธิ์ให้เขาสมหวังทั้งๆที่ไม่ได้ขอ

“ไม่ต้องกลัว ท่านพ่อต้องอนุญาตแน่นอน แดริลฉลาดจะตาย ท่านพ่อต้องเห็นด้วยที่เจ้าจะมาเรียนเป็นเพื่อนเรา”

หลังจากนั้นก็ถูกลากให้วิ่งตามโดยมีทั้งมหาดเล็กและหญิงรับใช้เดินตามอย่างแตกตื่น คนเหล่านั้นพอทราบเรื่องต่างก็มีสีหน้าจืดเจื่อน หัวหน้ามหาดเล็กผู้จงเกลียดจงชังเขา ชักแม่น้ำทั้งห้าให้เอลียาห์เปลี่ยนใจ แต่กลับไม่ได้ผล เอลียาห์เมื่อรู้ว่ากษัตริย์บาดีกำลังอยู่กับพระสนมในสวน ก็พาเขาและคนกลุ่มใหญ่ เข้าพบซึ่งได้รับอนุญาตอย่างง่ายดาย

“เจ้าเงยหน้าขึ้นมาสิ”

กษัตริย์บาดีออกคำสั่งหลังจากฟังคำขอของราชบุตร แดริลซึ่งคุกเข่าก้มหน้าโดยตลอดด้วยความตื่นเต้นและสับสน พอถูกสั่ง จิตใจที่กระวนการะวายกลับสงบลงอย่างน่าประหลาด เขาเงยหน้าขึ้น พอกษัตริย์เห็นใบหน้าของเขาก็มีสีหน้าขมึงทึงจนทุกคนตกใจ

“เป็นอะไรไปคะฝ่าบาท”
พระสนมซึ่งนั่งอยู่เคียงข้างเอ่ยถาม กษัตริย์บาดีนอกจากไม่ตอบคำยังซบหน้าลงกับฝ่ามือคล้ายกับต้องการปกปิดไม่ให้ใครเห็นสีหน้าในยามนี้

“เจ้ามีส่วนคล้ายกับคนที่เรารู้จักมาก”
กษัตริย์บาดีเอ่ยหลังจากควบคุมอารมณ์ได้

“เราอนุญาตให้เจ้าเรียนรู้ทุกอย่างร่วมกับบุตรของเราได้”
เอลียาห์ยิ้มแก้มปริเด็กน้อยจับมือแดริลเขย่าขึ้นลงเป็นจังหวะเดียวกับที่กษัตริย์บาดีลุกขึ้นยืน

“ฝ่าบาทจะกลับแล้วหรือคะ”
พระสนมถามด้วยความเสียดาย กษัตริย์ที่รักเพิ่งมาอยู่กับนางได้แค่สองชั่วโมงเท่านั้น

“จริงสิแดริลถ้ามีเวลาว่างเราอาจจะให้บุตรชายเราพาเจ้ามาสนทนาเรื่องครอบครัวของเจ้า”
กษัตริย์เอ่ยอย่างเลื่อนลอยก่อนจะเดินจากไป

เมื่อได้สมหวัง เอลียาห์ที่อารมณ์ดีสุดๆ เดินจูงมือแดริลไปฮัมเพลงไป

คิดไปเองหรือเปล่านะ เขาเองก็กำลังยิ้มอยู่

แดริลไม่อยากจะเชื่อ ในระยะไม่กี่เดือน เรื่องดีดีจะเกิดขึ้นกับเขามากจนแทบไม่คาดฝัน ราวกับถูกอำนวยพรด้วยเทวทูต
แดริลถูกเอลียาห์ผู้มีรูปลักษณ์ประดุจเทวทูตพาวิ่งไป เด็กชายวิ่งตามหลังไปด้วยสีหน้าแช่มชื่น

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

พรุ่งนี้จะเอาตอนใหม่มาลงนะคะ

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเม้นมากเลยค่ะ

ตอนหน้าจะมีตัวละครสำคัญตัวใหม่โผล่แล้วนะคะ

อย่าลืมเม้นกันด้วยน้า

เค้าขอร้อง :hao5:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
กษัตริย์ต้องรู้จักแม่แน่เลย  :katai3:

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
 :-[ น่ารักจัง มาต่อเร็วๆ น้า

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
ขนลุกวาบๆ ตอนกษัตริย์เห็นหน้าแดริลเลย
สังเห่าสังหอนไม่ดีโคตรๆ

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่4

ผ่านมาหนึ่งปีแล้วนับตั้งแต่รับหน้าที่เป็นผู้ติดตามของเอลียาห์ แดริลดูแลความเป็นอยู่ของเอลียาห์ไปพร้อมๆกับเรียนรู้ ภาษาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และการปกครอง เรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนกับเอลียาห์ทั้งหมด รวมไปถึงศิลปะการต่อสู้ การใช้อาวุธ เรียกได้ว่าทุกวันเขายุ่งจนแทบไม่มีเวลาทำตัวไร้สาระ

หนึ่งปีที่ผ่านมาเขาผูกพันกับเอลียาห์จนบางครั้งอดคิดอย่างหยิ่งผยองไม่ได้ว่าตนเองเป็นเสมือนเพื่อนและพี่ชายของเทวทูตตัวน้อยที่เขาดูแล และคิดไปเองในเรื่องที่สามารถทำอะไรได้ตามใจชอบประหนึ่งสัตว์ป่าซึ่งอยู่ในโลกกว้างก่อนจะถูกทำให้สำนึกตัวเกี่ยวกับความเป็นจริง

“ท่านพี่ซาฟิล”
เอลียาห์โผเข้ากอดเด็กชายวัยสิบขวบ ซาฟิลมีใบหน้าดูดีพูดได้ว่าเติบโตขึ้นไปต้องเป็นคนที่หน้าตาหล่อเหลามากคนหนึ่ง

“ไม่ได้เจอกันตั้งนานคิดถึงท่านพี่ที่สุด เราอยากฟังเรื่องของอาณาจักรทางตะวันตกที่ท่านอาพาท่านพี่ไป เล่าให้เราฟังนะ”

ซาฟิลเป็นบุตรของอับหมัดน้องชายของกษัตริย์บาดี หนึ่งปีก่อนหน้านั้นได้เดินทางตามอับหมัดซึ่งเป็นทูตไปยังดินแดนตะวันตก ท่าทางสนิทสนมออดอ้อนที่เอลียาห์มีต่อซาฟิล แดริลเห็นแล้วอยู่ในอารมณ์ขุ่นมัว เด็กชายไม่รู้ซักนิด ทำไมตนเองถึงคิดแบบนั้น กระนั้นก็อดตัดพ้อเอลียาห์ในใจ เรื่องที่ก่อนหน้านั้นเอาแต่ตามเขาไปทุกๆที่ พอเจอซาฟิลอยู่ๆก็ทำเหมือนเขาไม่มีตัวตน

ซาฟิลมาหาเอลียาห์ทุกวัน ระหว่างที่ลูกพี่ลูกน้องคนนี้มา เขาจะถูกปล่อยให้เป็นอิสระ จะทำอะไรก็ได้ ด้วยซาฟิลอยากจะใช้เวลากับเอลียาห์เล่นสนุกกันโดยไม่มีคนอื่นมายุ่งวุ่นวาย และพูดในทำนองว่าแดริลยังเป็นแค่เด็กตัวกระเปี๊ยกจะดูแลตอบสนองอะไรคงไม่ทันใจไม่จำเป็นต้องมานั่งเฝ้าให้เสียเวลา

อายุสิบขวบเท่ากันแท้ๆ

ถ้าเขายังเด็ก ฝ่ายนั้นก็เด็กเหมือนกัน

ไม่สิต่างกันแน่ เพราะเขาเชื่อ ตัวเขาเองนั้น ทำอะไรได้มากกว่าที่อีกฝ่ายทำได้อย่างแน่นอน

ทุกครั้งหลังจากซาฟิลกลับไปเมื่ออยู่กับเอลียาห์ เทวทูตจะเล่าสิ่งที่ซาฟิลเล่าหรือเรื่องสนุกซึ่งไปทำกันมาให้เขาฟัง
หงุดหงิดจนต้องเบือนหน้าหนี ทั้งที่มีเวลาว่างส่วนตัว กลับไม่มีกะใจจะทำอะไรสนุกๆ แถมบางครั้งยังเผลอระบายความขุ่นข้องใส่พี่ฟาติมาจนเธอยิ้มแหยๆ

“นั่งสิ”

ซาฟิลสั่งแดริลให้นั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามด้วยท่าทางเขื่องโขเกินวัย เขานั่งลงตามคำสั่งพร้อมกับประหลาดใจ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ได้รับอนุญาตให้มาอยู่ด้วยยามที่ซาฟิลเล่นสนุกกับเอลียาห์ แดริลปลายมองเทวทูตซึ่งนั่งบนเก้าอีข้างๆ เอลียาห์ยิ้มกว้างให้เขา

“เราเล่นฌาตรัญจ์ <shatranj หมากรุกอาหรับ> แพ้เจ้าพี่ซาฟิลตลอด เราเลยคิดจะให้แดริลล้างแค้นให้เรา”

เอลียาห์วัยเจ็ดขวบส่งสายตาวิบวับมาให้ แดริลพอจะเข้าใจสถานการณ์ แต่พอคิดถึงเรื่องที่ตนเองถูกทิ้งให้เหงาเป็นเวลานาน เด็กชายก็กระหยิ่มในใจ

จะแกล้งแพ้ซะ

การที่ได้เห็นเอลียาห์ผิดหวังซักครั้งอาจทำให้อารมณ์ขุ่นคลักจากหายไป

“เอลียาห์บอกว่าเจ้าเล่นฌาตรัญจ์เก่ง เราก็อยากรู้เหมือนกัน แค่ผู้ติดตามจะเล่นได้ซักแค่ไหน”
ซาฟิลเริ่มเรียงหมากของตนไปพร้อมๆกับแดริล

“เจ้าเดินก่อนได้เลย”
ซาฟิลเสนอด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แดริลเดินปิยาดา<ทหารเท้า> เป็นการเปิดกระดาน

“เราได้รู้จากเอลียาห์เรื่องเจ้าได้รับอนุญาตให้เรียนหนังสือแล้วก็อะไรหลายๆอย่างแบบเดียวกับเอลียาห์”

“ครับ”
ระหว่างตอบคำถามฟาราส<faras ตัวม้า>ของซาฟิลก็คร่าชีวิตตัวปิยาดาของแดริลไปสองตัว

“บางทีเราก็คิดนะ พวกคนรับใช้นี่ควรจะได้รับการอบรมให้เจียมเนื้อเจียมตัวบ้าง เห็นด้วยไหมชาคา”

ซาฟิลขอความเห็นผู้ติดตามวัยเยาว์ของตนเอง ขณะคร่าชีวิตปิยาดาของแดริลไปอีกหนึ่งตัว พอแดริลเสียปิยาดาไปถึงสามตัว เอลียาห์ก็กระวนกระวายจนนั่งไม่ติดที่ หากแต่ไม่ได้ร้องโวยวายออกมา

“แม่ของเจ้าเป็นโสเภณีในสลัมสินะ”
ซาฟิลยิ้มขณะที่เอลียาห์อุทานอย่างตกใจ

“น้องเอลียาห์ไม่รู้สินะว่าหญิงโสเภณีคืออะไร เป็นอาชีพที่สำคัญในอาณาจักรเชียวนา ไม่เชื่อน้องลองถามแดริลดูสิ”

“ท่านพี่รู้ได้อย่างไรเรื่องแม่ของแดริล”
เอลียาห์ขมวดคิ้วถาม

“หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง  พอเห็นน้องเอลียาห์สนใจ แค่เราออกปาก ก็จะมีคนสืบหาความจริงให้เราเยอะแยะ”

พูดพลางขยับวาเซียร์<wazir ปุโรหิต>ไปประชิดปิยาดาของแดริลอีกตัว หารู้ไม่ว่า แดริลที่ทำหน้าไม่ยินดียินร้าย
 กำลังคุกรุ่นด้วยไฟแค้นซึ่งแต่แรกตั้งใจจะแกล้งแพ้ แต่ตัดสินใจแล้ว

 ถึงเป็นแค่เรื่องฌาตรัญจ์เขาจะต้องชนะให้ได้

อีกฝ่ายจะทำหน้าแบบไหนกันนะหากพ่ายแพ้ให้กับข้ารับใช้ลูกโสเภณี

จากนั้นไม่ว่าจะถูกพูดจาร้ายๆเรื่องกำพืดหรือเหยียดหยามยังไง แดริลก็ไม่สะทกสะท้าน  ตัวหมากของทั้งคู่ลดลงไปเรื่อยๆ ต่างคนต่างผลัดกันคร่าชีวิตตัวหมากของกันและกัน แดริลเข้าใจว่าซาฟิลไม่ได้ดีแต่ปาก

ทำไมนะ ทำไมเทพเจ้าต้องประทานฐานะและความฉลาดให้กับคนใจสกปรกพวกนี้ด้วย

ขณะที่คิดเช่นนั้นวาเซียของแดริลก็พิชิต ชา<shah พระราชา.>ของฝ่ายตรงข้าม เอลียาห์ปรบมือโห่ร้องด้วยความดีใจ ซาฟิลถึงกับรับไม่ได้ เด็กชายผู้สูงศักดิ์กัดฟันกรอด ดวงตาเรียวรีมองดูรอยยิ้มยะเยือกของแดริลที่เจ้าตัวตั้งใจจะให้เห็น โดยไม่คาดคิดผู้สูงศักดิ์อาละวาดล้มโต๊ะแล้วโผเข้าหาผู้ชนะอย่างเอาเรื่อง

“แก…ไอ้ลูกโสเภณีชั้นต่ำ ไอ้เด็กร้อยพ่อ ข้าจะสั่งสอนแกหากกล้าหือกับเชื้อพระวงศ์จะต้องโดนยังไง”

ทั้งเอลียาห์ทั้งชาคาตกใจจนทำอะไรไม่ถูก รู้ตัวอีกทีซาฟิลก็ถูกแดริลเหวี่ยงกลิ้งลงไปกองกับพื้น คนถูกเหวี่ยงถึงกับตาเหลือกค้าง พอตั้งสติได้ก็ตะโกนร้องโวยวาย

“ชาคาจับมันลงโทษที่ทำให้เราต้องเสื่อมเสีย”
ชาคาเดินเข้าหาคนผิดตามคำสั่ง ในตอนนั้นประกายไฟในดวงตาของแดริลลุกโชน เขาในตอนนี้ก็เลือดขึ้นหน้าไม่ต่างกัน

“หยุดนะ”
เอลียาห์ตวาดเสียงดัง ชาคาและแดริลหันไปมองผู้มีรูปลักษณ์ดั่งเทวทูต

“ท่านพี่ซาฟิลแพ้แล้วไม่ใช่หรือ แถมเจ้าท่านพี่ยังเป็นคนผิด แพ้แล้วอาละวาดทำร้ายแดริลก่อน”
เอลียาห์พูดโดยไม่ยอมมองหน้าใครเห็นได้ชัดว่ากำลังลำบากใจ

“แต่มันทำร้ายเชื้อพระวงศ์นะครับท่านเอลียาห์”
ชาคาท้วงติงอย่างนอบน้อม

“ใช่มันทำร้ายข้า ข้าจะให้มันถูกกุดหัว”
ซาฟิลโวยวายทั้งยังนั่งกองอยู่บนพื้น ท่าทางอย่างนั้น ทำเอาแดริลอยากจะเดินเข้าไปกระทืบซ้ำให้อีกฝ่ายหุบปาก

“เราจะให้ท่านพ่อตัดสินเรื่องนี้”
เอลียาห์พูดโดยไม่เงยหน้าขึ้นมองใคร

“อะไรนะ”
ซาฟิลร้องตะโกนเสียงดัง หากแต่พอชาคากระซิบอะไรบางอย่างที่ข้างหู แดริลรู้สึกเหมือนเชื้อพระวงศ์ตัวร้ายมองมาที่เขาอย่างพินิจพิเคราะห์

“ช่างเถอะๆ” ซาฟิลลุกขึ้นยืนโดยมีชาคาช่วยพยุง

“เราไม่อยากให้เรื่องราวมันลุกลามใหญ่โตเห็นแก่หน้าน้องเอลียาห์ แต่ว่า…”
ซาฟิลเว้นระยะคำพร้อมกับกวาดดูแดริลที่ยังกรุ่นโกรธขึ้นลงแล้วเหยียดยิ้มเย้ยหยัน รอยยิ้มนั้นยิ่งกระตุ้นและขับไล่เหตุผลไปจากสมองของแดริล

เป็นรอยยิ้มแบบเดียวกับลูกค้าของท่านแม่ในสลัม

แดริลกำหมัดแน่น

“เราจะให้อภัยก็ได้ ถ้าเจ้าข้ารับใช้ยอมก้มลงกราบขอโทษเรา น้องเอลียาห์ว่ายังไง”

“แค่ก้มกราบเองครับ ท่านเอลียาห์ดีกว่าถูกลงโทษเฆี่ยนตีนะครับ”

ชาคาเอ่ยสนับสนุนความคิดของซาฟิล
แดริลกัดฟันกรอด เขามองดูเอลียาห์นิ่งคิด ในใจที่คุกรุ่น ไม่มีทางยอมก้มกราบไอ้สารเลวนี้เด็ดขาดและคิดอยู่ลึกๆว่าเอลียาห์น่าจะเข้าใจ

“แดริลเราขอสั่งให้เจ้ากราบขอโทษท่านพี่ซาฟิล”

เหมือนถูกฟ้าผ่าลงบนกลางศีรษะ แดริลกำหมัดแน่น  เขาโกรธจนตัวสั่น ความเสียใจน้อยใจพลุ่งพล่านออกมาจนทำลายความมีเหตุผลทั้งหมด

“ไม่ครับ”แดริลเมินหน้าหนีจากเอลียาห์

“ข้ายอมโดนเฆี่ยนตีดีกว่าจะก้มกราบ”

“อะไรนะ” ซาฟิลที่รอคอยการกราบอย่างยิ้มย่องยังอดตกใจในความดื้อรั้นของแดริลไม่ได้

“งั้นแกก็ต้องถูกเฆี่ยน”
ซาฟิลชักเลือดขึ้นหน้า ในขณะที่คำสั่งเฆี่ยนดูจะไปกระตุ้นเอลียาห์ให้หวาดวิตก เทวทูตเริ่มออกคำสั่งกับแดริลอย่างขาดสติ

“ก้มกราบสิแดริลเราสั่งเจ้าอยู่นะ”

“ไม่ครับ”

“ก้มลงกราบ”

ไม่ครับและก้มลงกราบ แดริลกับเอลียาห์ทุ่มเถียงกัน อีกฝ่ายเดือดดาลดื้อแพ่ง ส่วนอีกคนหวาดหวั่นและเสียใจ เอลียาห์นั้นถึงกับร้องไห้เมื่อไม่สามารถสั่งให้คนที่ดื้อด้านอย่างแดริลทำตามได้เลย

“ไม่อยากก้มกราบข้านักใช่ไหม”
ซาฟิลแสยะยิ้มร้ายอย่างไม่สมกับเป็นเด็ก

“ทหารใครก็ได้ช่วยจับมันกดลงกราบขอขมาข้าที”
ในตอนนั้นทหารมากมายก็พากันเข้ามาจับแดริลที่อาลาวาดก้มลงกราบซาฟิลกับพื้น
แดริลไม่ร้องไห้ แต่ศักดิ์ศรีถูกทำลายจนบอบช้ำ ซาฟิลเมื่อสมปรารถนาก็พาชาคาจากไปทิ้งให้เอลียาห์อยู่กับเขาตามลำพัง

“ลุกขึ้นเถอะ”
เอลียาห์ยื่นมือมาให้จับทั้งน้ำตา

“ไม่เป็นไรครับข้ายืนเองได้”

แดริลยืนขึ้นโดยไม่สนใจจะจับมือของเทวทูตเป็นครั้งแรกที่เขาแสร้งยิ้มประจบประแจงเอลียาห์ แวบหนึ่งเขาเห็นผู้เป็นนายทำสีหน้าเจ็บปวด

ทำไมนะสัตว์ร้ายในตัวเขาหวีดร้องด้วยความยินดี

“ข้าขอตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะครับ”
แดริลกล่าวลาก่อนจะเดินหนีโดยที่เอลียาห์ก็ไม่ได้เดินตามหลังมาแต่อย่างใด

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ตอนนี้เราต้องเริ่มทำงานพิเศษแล้วค่ะ

วันที่21หรือ22จะเอาตอนต่อไปมาลงนะคะ

ถ้าหากคิดว่านิยายเราใช้ได้ก็เม้นกันบ้างนะคะ

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
เฮ้อ อ่านแล้วปวดใจ สงสารเซฟิล

เชื้อพระวงศ์นิสัยเสีย

ออฟไลน์ Altasia

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
อ่านแล้วตื่นเต้นมากอะ แบบมีอารมณ์ร่วมไปกับแดริลมาก อยากรู้ว่าแดริลจะทำอะไรต่อไป

ออฟไลน์ netthip

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
อยากให้แดริลหนีออกจากบ้าน(?)เป็นการประชด

ออฟไลน์ Altasia

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
อัพเร็วๆนะคะ อยากอ่านต่อมากๆเลย

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่5

“แดริล…เรา”

“อะไรครับ”
แดริลเงยหน้าขึ้นมองเอลียาห์ขณะช่วยแต่งตัวให้อีกฝ่าย เด็กชายส่งยิ้มให้เทวทูต รอยยิ้มซึ่งดูกลวงโบ๋และเสแสร้ง เขาใช้สิ่งนี้ปกป้องตัวเองมาตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา

“เรา”
มือเล็กๆของเทวทูตกำชายเสื้อของเจ้าตัวแน่น ถึงแม้แดริลจะรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังเจ็บปวด เขาก็ทำเป็นไม่เห็นไม่รับรู้

เขาไม่ยอมให้อภัยง่ายๆหรอก

ไม่สิ เพราะถูกทำให้ตื่นจากความฝันแล้วมากกว่า

เขาเป็นแค่สัตว์เลี้ยงของเอลียาห์ การที่ฝ่ายนั้นจะเอ็นดูก็ไม่แปลก

ถ้าให้เลือกระหว่างสัตว์เลี้ยงกับญาติสนิทซึ่งเป็นคนเหมือนกัน

เอลียาห์แสดงให้เห็นแล้วว่าได้เลือกใคร

แน่นอน สัตว์เลี้ยงที่ไม่ได้รับการโปรดปราณจากเจ้าของแล้วย่อมถูกรังแก เขาโดนเยาะเย้ยถากถางจากผู้คนในพระราชวัง แต่ไม่สนใจซักนิด ไม่สนใจเลย ไม่สนแม้กระทั่ง อนาคตต่อไปจะเป็นอย่างไร
ยังไงก็แค่สัตว์เลี้ยง จะถูกเจ้าของทำอะไรยังไง หรือโดนโยนทิ้งไป ก็ไม่สามารถเลือกได้

ผ่านไปอีกหนึ่งเดือน เขากับเอลียาห์แทบไม่มองหน้ากัน อยู่ด้วยกันก็ทำประหนึ่งเหมือนอีกฝ่ายไม่มีตัวตน ในที่สุดทั้งคู่ก็ต่างหลบหน้า เพราะมั่วแต่หมกมุ่นด้วยความแค้นอย่างคนเห็นแก่ตัวจนลืมนึกถึงฟาติมา ในวันหนึ่งเมื่อบังเอิญไปเจอเหตุการณ์นั้นเข้าแดริลจึงเกลียดชังตัวเองยิ่งนัก

“ได้โปรดปล่อยข้าไปเถอะ”
ฟาติมาอ้อนวอนซาลามที่พยายามแนบจูบซุกไซร้ไปบนลำคอขาวผ่องของเธอ แดริลซึ่งบังเอิญมาพบ ถึงแม้จะเคยเจอเรื่องแบบนี้มามากในสลัม แต่พอเป็นพี่สาวที่สนิทกับตัวเองโดนทำก็ยังอดตกใจจนยืนแข็งค้างทำอะไรไม่ถูก

“เจ้าเองก็โตจนเกือบจะเป็นสาวแล้ว อายุสิบสามแล้วนะ คราวก่อนข้าก็บอกแล้ว จะช่วยทำให้เจ้าเป็นผู้หญิงเต็มตัว”
ซาลามพูดไปซุกไซ้ฟาติมาไป เด็กหญิงร้องไห้คร่ำครวญขอความเมตตา

ไอ้กระเทยระยำนี่

แดริลกำหมัด

มันกล้าทำทั้งที่ตรงนี้เป็นบริเวณใกล้กับห้องส่วนตัวของเอลียาห์แถมยังหน้าห้องนอนของเขา
เจ็บใจตัวเอง เขาลืมสังเกตท่าทีอันแปลกไปของฟาติมา รู้ทั้งรู้ เธอดูไม่ร่าเริงเหมือนเคย บางครั้งทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เวลาเจอหน้าเขา บางครั้งอยากจะพูดแต่ไม่กล้าพูด

ไม่สิ ไม่ใช่ไม่ได้สังเกต แต่เขามันนึกถึงแต่ตัวเอง จึงเมินเฉยความทุกข์ที่ฉายชัดบนใบหน้าของพี่สาวแสนดี
โดนลวนลามแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่นะ นานแค่ไหนที่เธอต้องทนทรมาน

โกรธ เกลียด เสียใจ รู้สึกผิด
ความคิดอันสับสนปนเปบวกกับความเยาว์ส่งผลให้แดริลขาดสติ เด็กชายคว้าแจกันใกล้มือแล้ว เดินตรงเข้าหาซาลามจากด้านหลังด้วยฝีเท้าเบากริบ ไม่มีความคิดลังเลหรือรู้สึกผิดแม้แต่น้อย แดริลใช้แจกันฟาดหัวคนเลว 
แจกันไม่ได้แตก ซาลามที่ถูกทำร้ายร้องด้วยความเจ็บปวดและผละจากฟาติมาหันมามองดูผู้ลงมือทำ ฟาติมานั่งตัวสั่นงันงก เธอสะอึกสะอื้นกอดตัวเองที่ตรงบริเวณกำแพง

แดริลมองภาพนี้ด้วยความเวทนา สภาพนั้นของพี่สาวที่ดีกับเขามาโดยตลอด จุดเพลิงอำมหิตในใจ แจกันที่ถึงแม้จะใช้ฟาดหัวอีกฝ่ายไปครั้งหนึ่งแต่ยังไม่แตก

ดีเลย จะได้ไม่ต้องหาอาวุธใหม่

ขณะเงื้อแจกันจะทุบลงไปบนตัวซาลามที่ตกใจ จู่จู่ก็ถูกตะครุบด้วยคนสองคน แดริลต้อสู้ดิ้นรนจนสุดท้ายก็หมดแรง เขาถูกหมาดเล็กสองคนกดให้หมอบลงกับพื้น

“หวาดเสียวจริงๆ”
เสียงยูซุฟหัวหน้ามหาดเล็กดังบนเหนือศีรษะ แดริลเงยหน้าขึ้นมองทั้งถูกกดให้หมอบต่ำ

“ท่านอา…ท่านอา”
ซาลามร้องครวญคราง เด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ดคลานเข้าหายูซุฟแล้วกอดเข่าผู้เป็นอาด้วยความตกใจผสมกับดีใจ

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น”
ยูซุฟตะคอกถามฟาติมา ถลึงตาราวกับจะฆ่าคนได้ เด็กสาวสะดุ้งด้วยความกลัวแล้วเริ่มร้องไห้ เธอชี้นิ้วไปยังซาลาม ปากสั่นระริกจนไม่อาจเปล่งคำพูดออกมาเป็นคำ

ยูซุฟมองดูอาการฟาติมาสลับกับซาลามหลานของตนที่กอดรัดขาตนพูดพร่ำราวกับคำสาปว่าตนไม่ผิดด้วยใบหน้าเคร่งขรึม รอยยิ้มร้ายผุดขึ้นหลังจากนั้นไม่กี่นาที

“เอาล่ะ เอาล่ะ ไม่รู้หรอกนะว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็เห็นๆกันอยู่แล้ว ใครเป็นคนทำร้ายใคร ข้าเห็นเองกับตา พวกเจ้าก็ด้วยใช่ไหม”
ยูซุฟขอความเห็นจากมหาดเล็กอีกสองคนซึ่งจับแดริลไว้

“แต่…แต่ว่า”
ฟาติมาพูด เธอพยายามสงบใจพูดให้เป็นคำ สำหรับเด็กสาวนอกจากจะถูกล่วงเกิน การที่ได้เห็นน้อยชายคนสนิทกระทำเรื่องโหดร้าย มันทำให้เธอหวาดกลัว โดยเฉพาะแววตาของแดริลที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน เธอกลัวมันจับใจ

“หุบปาก” ยูซุฟตะคอกฟาติมา

“ปกป้องคนผิดก็ต้องโดนลงโทษด้วย แถมต้องโดนลงโทษหนักกว่า”
ยูซุฟพูดด้วยเสียงยะเยือก

“โทษฐานของการพยายามฆ่าโทษเท่าฆ่าคนจะเป็นเด็กก็ไม่เว้น จะให้ลงโทษใช้ไม่โบยตีจนตาย”

“จะตีใครให้ตายกัน”
สายตาทุกคู่มองไปยังเอลียาห์ผู้ตั้งคำถาม ด้านหลังของเทวทูต มีซาฟิลยืนยิ้มอย่างสบใจ

“ปล่อยแดริลซะ”

คำประกาศิตของเอลียาห์ ทำให้ดวงตาของแดริลเบิกกว้าง ทั้งดีใจและแปลกใจ หากแต่ถ้าเอลียาห์ไม่ออกอาการลังเลเสียก่อนเมื่อยูซุฟและมหาดเล็กรวมถึงซาลาม เริ่มต้นเล่าเหตุการณ์บิดเบือน ถึงแม้ว่าความจริง เขาจะลงมือทำร้ายซาลามกับมือ แต่เพราะอีกฝ่ายมันสารเลว ทว่ายิ่งฟังคนพวกนี้เล่าความเท็จ แดริลก็เริ่มเดือดดาล เอลียาห์ซึ่งนิ่งฟังคนพูดกรอกหูซ้ายทีขวาทียิ่งฟังยิ่งมีสีหน้าลังเลจนคนถูกใส่ร้ายทนไม่ไหวอีกต่อไป

“ข้าไม่ได้ผิด ท่านเชื่อข้าสิ”
แดริลตะโกนเสียงแตกพร่า ดวงตาสีฟ้ามองประสานสายตาเอลียาห์อย่างดุดัน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเว้าวอนวิงวอนขอให้เชื่ออย่างน่าสงสาร

เชื่อข้าสิได้โปรด

“ท่านจะลำเอียงเพราะมันเป็นข้ารับใช้คนสนิทไม่ได้นะครับ”
ยูซุฟพูด เอลียาห์ละสายตาจากแดริลไปมองยูซุฟ

อย่าละสายตาไปมองดูข้าสิ เชื่อถือข้าเข้าข้างข้าสิ

 “ฝ่าบาทเอ็นดูก็ส่วนเอ็นดู การไม่ลงโทษคนผิดอาจทำให้เป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดีนะครับ”
หนึ่งในมหาดเล็กซึ่งจับแดริลพูด เอลียาห์ละสายตาจากยูซุฟไปยังมหาดเล็กผู้พูด

มองข้าสิ ได้โปรดขอร้องล่ะ อย่าทำให้ข้าผิดหวังไปมากกว่านี้เลย

แดริลร่ำร้องภายในใจอย่างบ้าคลั่ง ทุกครั้งที่เอลียาห์มองไปทางอื่น เขาปวดใจเหมือนถูกเข็มทิ่ม

“ข้าโดนทำร้ายจริงๆนะครับ ดูเลือดบนหัวข้าสิครับ”

ซาลามเปิดเผยให้เห็นบาดแผล เทวทูตหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นบาดแผลกับท่าทางหวาดกลัวของซาลาม

ขอร้องล่ะ เข้าข้างข้า แล้วข้าจะให้อภัยท่านเรื่องที่ข้าเคยโกรธ แล้วจากนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ต่อให้ท่านทำข้าเจ็บแค่ไหนข้าก็จะให้อภัย

แดริลร้องตะโกนในใจ ดวงตาสีฟ้าจ้องมองเอลียาห์เพียงผู้เดียวอย่างไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตา

“เด็กจากสลัมที่มีแม่เป็นโสเภณีก็อย่างนี้แหละเลี้ยงไม่เชื่อง”

เอลียาห์หันไปมองซาฟิลที่กระหยิ่มยิ้มย่อง พอหันกลับมาสบตากลับแดริล แววตาของเทวทูตเต็มไปด้วยความสับสนและคลางแคลงใจ แดริลรู้สึกคล้ายกับพื้นที่ตนหมอบอยู่พังทลาย ตัวเขากำลังล่วงหล่นลงสู่หุบเหวแห่งความมืดอันไร้แสง

“ท่านเอลียาห์ถ้าตัดใจลงโทษตามกฎที่แท้จริงไม่ได้ อย่างนั้นลงโทษมันเบาะๆ โบยมันร้อยทีด้วยไม้ยังดีกว่าไม่ลงโทษมันนะ” ยูซุฟเสนอ

“ข้าผิดเองแหละครับ”

แดริลที่ซ่อนใบหน้าด้วยการก้มลงพูดเสียงแผ่ว เขาในตอนนี้แทบจะสิ้นหวังและไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว ถึงแม้เอลียาห์จะเรียกชื่อด้วยเสียงเศร้าร้อย เขาก็ไม่รับรู้

เด็กชายถูกลากไปยังลานกว้างแล้วถูกโบยต่อหน้าผู้คนในพระราชวัง ดวงตาเลื่อนลอยลอบมองดูใบหน้าผู้คนรอบตัวที่มีทั้งสะใจ สงสาร รวมทั้งสมเพช ในบรรดาคนทั้งหมด เขาไม่เห็นเทวทูตอยู่ในกลุ่ม

ถึงเขาจะโดยตีจนตายอีกฝ่ายก็คงจะไม่ใส่ใจสินะ

แดริลกัดฟันกรอดทุกครั้งที่ถูกโบย เด็กชายไม่ยอมปริปากร้องซักแอะ พอครบร้อยครั้ง ฟาติมาที่บ่อน้ำตาแตกก็โผเข้าหาเขา แดริลหมดสติไปด้วยไม่อาจทนต่อความเจ็บปวด

แม่

แดริลร้องเรียกสตรีผู้ยืนอยู่เบื้องหน้า เด็กชายรู้ตัวว่ากำลังฝัน ตรงหน้าของเขาแม่ผู้งดงามและใจดีส่งยิ้มเศร้าสร้อยมาให้
เขาร้องไห้ พรั่งพรูความอยุติธรรมที่ได้รับ พรั่งพรูความน้อยใจที่มีต่อเอลียาห์ ขณะร้องสะอึกสะอื้นนั้นไม่รู้เป็นความจริงหรือฝัน เขาถูกลูบหัวด้วยฝ่ามืออันอบอุ่น ยิ่งเขาระบายความอัดอั้นไปเท่าไหร่ เสียงอันไพเราะประหนึ่งพระวจนะของพระเจ้า ก็เอ่ยปลอบโยน ทั้งตอบรับ ขอโทษ สะอื้นไห้

เมื่อเงยหน้าขึ้นมองหาคนที่กำลังปลอบโยน เขาเห็นท่านแม่กำลังร้องไห้ขณะลูบหัวเขา เบื้องหลังของแม่มีรัศมีแห่งแสงเรืองรอง ใบหน้าของแม่ถูกแทนที่ด้วยเอลียาห์ เทวทูตที่มอบทุกสิ่งทุกอย่างให้เขา ชีวิตใหม่และความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับใคร เทวทูตลูบหัวเขาพร้อมกับร้องไห้ ปากพร่ำพูดคำขอโทษ

เจ็บไปทั้งตัว เขากำลังนอนอยู่เหรอ? ขยับตัวไม่ได้เลย

แดริลหลับตาลง จิตใจสงบขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
 
แปลกแม้แต่ในความฝันเขาก็ยังหลับ แต่สัมผัสมืออันอบอุ่นกับน้ำตาของเทวทูต เขาคงไม่มีวันลืมไปได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นของจริงหรือความฝัน

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

เอามาลงให้อีกตอนค่ะ

จะหายไปอีกถึงวันที่23นะคะ

ต้องเอาเวลาไปปั่นงานพิเศษบ้างแล้ว

คนอ่านช่วยเม้นกันหน่อนนะคะหากว่าถูกใจ :hao5:

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
อึดอัดมากค่ะ อ่านแล้วกลั้นหายใจเลย
มองแนวแล้วรู้สึกทุเรศทุรังแทนแดริล จะรังเกียจคนรอบๆ ตัวก็ไม่แปลกใจเลย
แดริลฉลาดมากแต่ก็ยังเด็กมากเกินกว่าจะทันเล่ห์ของคนรอบตัวๆ
ตอนนี้เราเกลียดเอลียาห์นะ รู้สึกเป็นเด็กงี่เง่าเหลือจะเอ่ย ถึงจะรู้ว่าก็แค่เด็กไม่มีความสามารถอะไรจะตัดสินเรื่องได้ถูกต้อง
แต่จะวิ่งเล่นในทุ่งดอกไม้อีกนานป่ะ -*- โตได้แล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Forbidden dashuria <รักต้องห้าม> ตอนที่ 5<18/7/58>
« ตอบ #19 เมื่อ: 18-07-2015 08:55:05 »





ออฟไลน์ Altasia

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
อยากให้แดริล...แบบแค้นเอลียาห์และทุกคนไรเงี่ย แล้วแบบ...หนีไป แล้วกลับมาล้างแค้นทุกคน จับเอลียาห์มาเป็นทาสบำเรอ ว่ะฮ่าฮ่า :laugh:

 :hao6:

อยากรู้มากว่าจะเป็นไงต่อไป แดริลจะยิ่งเจ็บแค้นเอลียาห์ หรือเพราะความฝ่ามืออันอบอุ่นในความฝันนั้น จะทำให้แดริลอภัยให้เอลียาห์

แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน เราก็เชียร์แดริลนะ สู้ๆแดริล #fcแดริล

 o13

ออฟไลน์ Shock_n2n

  • Deep cute...
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
เนื้อเรื่องเดินดีมากค่ะ.  ลงเลื่อยๆเลยนะคะ
 :L2:

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
เพิ่งตามมาอ่าน
สงสารแดนเนี่ยลมากอาาาาา
เอลียาร์ก็เข้าใจว่าเด็ก ช่วยอะไรมากไม่ได้ แต่ก็อานะ :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
เพิ่งเข้ามาอ่าน สนุกดีอ่ะ ชอบๆ
สงสารแดริล TT แต่ตอนแรกสุดเลย เรานึกว่าเป็นเคะ พอเจอเอลียาห์เราก็บรรลุ อ่อออ

ก็รู้นะว่าเอลียาห์ยังเด็ก แต่มันก็อดขัดใจไม่ได้ อย่าหูเบานักเลย! หัดเชื่อคนของตัวเองบ้างดิ วู้ว! -_-^
ที่บอกว่ารักต้องห้ามนี่ คงไม่ใช่ว่าทั้งสองเป็นลูกคนละแม่อะไรเทือกนั้นหรอกนะ =O=; แล้วซามานนี่ใคร? น่าจะเป็นพ่อของแดริลนะ จะใช่กษัตริย์บาดีรึเปล่าน้อ?
รอๆ

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
 :katai3: มาต่อเร็วๆน้าาา กะลังลื่นไหลเลย

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
เพิ่งจะได้อ่าน ก็ทำเราติดใจซะแล้ว
รอลุ้นต่อไปว่าต้องห้ามเพราะอะไร
เพราะเพศ ชนชั้น หรือสายเลือด

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3

ตอนที่6

แดริลลุกขึ้นนั่งบนเตียงเมื่อลืมตาตื่นขึ้น  เด็กชายยังคงเจ็บบริเวณที่ถูกตีอยู่จนร้าวไปทั้งตัว รวมทั้งปวดหนึบบริเวณศีรษะ เหมือนมีใครเอาไม้มาทุบ หลังจากสงบใจได้และเริ่มชินกับอาการปวดร้าว แดริลก็สำรวจร่างกายของตนก่อนจะเหลียวมองไปยังโต๊ะข้างเตียงแล้วเอื้อมมือไปเปิดลิ้นชัก ปรากฏว่าแหวนที่ห้อยเอาไว้กับสร้อยคอของดูต่างหน้าของแม่ยังคงนอนนิ่งอยู่ในนั้น เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก เป็นจังหวะเดียวกับที่ฟาติมาเปิดประตูเข้ามา

“ในที่สุดก็ตื่นได้ซักที”
ฟาติมายิ้มทั้งน้ำตา ในมือของเธอถือถาดอาหาร เธอสาวเท้ารัวเร็วมายังหัวเตียง วางถาดอาหารลง เด็กสาวเตรียมจะโผเข้ากอดแดริลแต่ต้องชะงักเมื่อเห็นรอยแดงตามเนื้อตัวของน้องชายคนโปรด

“ท่านอาหารเสียหน่อยนะ”
เธอลากเก้าอี้มานั่งลงข้างเตียง ยกถาดมาวางบนตักก่อนจะบรรจงป้อนอาหารให้แดริล เด็กชายอ้าปากกินอย่างว่าง่ายพอเคี้ยวแล้วกลืนจนหมด แดริลยิ้มแล้วเอ่ยปากขอทานด้วยตัวเอง ฟาติมายื่นถาดอาหารให้ด้วยรอยยิ้มกว้าง

“ดีใจจริงที่เจ้ายอมทาน…ข้า…คิดว่า…”
เธออ้ำอึ้งน้ำตาคลอก่อนจะใช้นิ้วปาดน้ำตา พยายามสกัดกั้นอารมณ์สะเทือนใจ

“เจ้าอาจจะเกลียดข้าที่เป็นต้นเหตุให้เจ้าเจ็บตัวแถมยังไม่ช่วยพูดแก้ต่างให้เจ้าอีก มันกลัวไปหมด”
ฟาติมาก้มหน้านิ่ง ยิ่งแดริลเอาแต่ตักอาหารกินโดยไม่พูดเธอยิ่งรู้สึกผิด

“พี่ฟาติมาไม่ผิดหรอกทั้งพี่และข้าต่างยังเด็ก จะทำอะไรสู้กับพวกผู้ใหญ่ได้”
ใช่ พวกเขายังเด็ก อันที่จริงเอลียาห์ก็ยังเด็ก การที่ฝ่ายนั้นจะลังเลไม่เข้าข้างเขาหรือตัดสินใจไม่ได้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
ความจริงคือต่อให้เอลียาห์มีฐานะใหญ่โตแค่ไหนอีกฝ่ายก็ปกป้องเขาไม่ได้

“หึหึ”
แดริลหัวเราะ

เขาเกลียดตัวเองจริงๆที่นึกอยากให้เอลียาห์ปกป้อง แต่ไหนแต่ไรเขาต้องปกป้องตัวเองมาโดยตลอด เอลียาห์ไม่ใช่แม่ของเขาทำไมฝ่ายนั้นจะต้องมาปกป้องเขาด้วย

“เอ่อ…คือ…” ฟาติมากล่าวอึกอัก แดริลเงยหน้าขึ้นมองฟาติมา

“เจ้าสลบไปสามวันระหว่างนั้นท่านเอลียาห์มาเฝ้าเจ้าทุกวันเลยนะ”

แดริลเบิกตากว้าง ภาพของเอลียาห์ซึ่งมีรัศมีเรืองรองและปลอบโยนเขาทั้งน้ำตาผุดวาบ

ภาพที่ได้เห็นเป็นความจริงเหรอ?

ไม่ไม่มีทาง เอลียาห์จะร้องไห้เพื่อเขาทำไม ขนาดจะเข้าข้างเขายังทำไม่ได้เลย

“เอ๊ะ”
แดริลอุทาน เด็กชายมองหน้าฟาติมาที่เล่าด้วยท่าทางไม่สบายใจ

“ท่านเอลียาห์เสียใจมาก ท่านเป็นห่วงเจ้าถึงขั้นไปขอยาขี้ผึ้งที่หายากมากจากฝ่าบาทบาดีเชียวนะ กับเราที่เป็นข้ารับใช้ได้รับเมตตาถึงขนาดนี้…”

“ข้าอยากไปอาบน้ำพี่ฟาติมา”

แดริลผุดลุกจากเตียง เขาปวดแปล๊บอยู่บ้างแต่ก็ปฏิเสธฟาติมาที่อาสาช่วยพยุง พอฝืนตัวมาถึงห้องอาบน้ำรวม แดริลก็คิดว่าตัวเองยังดวงดีอยู่ ในห้องอาบน้ำไม่มีใครอยู่เลยซักคน เด็กชายเริ่มต้นชำระล้างสิ่งสกปรกอย่างเหม่อลอย เขานึกถึงช่วงเวลาที่สนุกสนานกับเอลียาห์

หากอย่างมีชีวิตอยู่ก็ต้องเข้มแข็ง

เขาคิดแบบนี้มาโดยตลอดนับตั้งแต่ท่านแม่ตาย คิดจนกระทั่งหนีพ่อค้าทาสหัวซุกหัวซุน แต่เขาในตอนนี้กลับรู้สึกว่าแท้ที่จริงแล้วตนเองช่างเปราะบางเหลือเกิน

สิ่งที่เรียกว่าความรักความไว้ใจ เมื่อได้รับมาจนเคยชินแล้ว ก็อยากจะได้รับไปเรื่อยๆ และอยากได้มากขึ้น เพราะแบบนี้ถึงได้รู้สึกผิดหวังกับการกระทำของเทวทูต

“หายไปไหน”

แดริลคำรามเมื่อของดูต่างหน้าที่แอบเอาไว้ในลิ้นชักหายไป เขาค้นหาเสียทั่วจนห้องมีสภาพเละเทะแล้วก็ยังหาไม่เจอ

ขโมยเหรอ ไม่น่าใช่ เขาไม่เคยให้ใครเห็นสิ่งนั้นมาก่อนนอกจากเอลียาห์กับฟาติมา

บัดซบ ถ้าจับได้ว่าใครขโมยไปล่ะก็เขาจะฆ่ามัน  ของเพียงอย่างเดียวที่แม่เหลือเอาไว้ให้ ของสำคัญของเขา

“แดริล”
ฟาติมาที่เปิดประตูเข้ามาพอเห็นสภาพห้องซึ่งเละเทะก็อุทานด้วยความแปลกใจ แดริลพุ่งเข้าหาเด็กสาวคว้าข้อมือเธอกุมเอาไว้แน่นจนเธอเจ็บแล้วหวีดร้องออกมา

“แหวนทองคล้องสร้อยอยู่ที่ไหน”
แดริลถามอย่างดุดัน ดวงตาวาวโรจน์เหมือนสัตว์ป่าทำเอาฟาติมาหวาดกลัวจนตัวสั่น

“มันไม่ได้อยู่ที่เดิมหรือ…อ๊ะ…”

“มันหายไป” แดริลกดเสียงต่ำ

“ไม่จริงน่า…หรือว่า…”  ฟาติมาครางออกมาเมื่อนึกอะไรบางอย่างได้

“อะไร” แดริลถามเสียงกร้าวนึกหงุดหงิดกับท่าทางอึกอักของฟาติมา

“ก่อนหน้านี้เล็กน้อยข้าตั้งใจจะทำความสะอาดห้องให้เจ้า แต่จู่จู่พี่ทาน่าก็บอกว่าหัวหน้ามหาดเล็กเรียก ก่อนจะไปนางอาสากับข้าจะทำความสะอาดแทน ตอนแรกข้าลังเลแต่พี่ทาน่าเคยดีกับข้า ข้าไม่นึกว่านางจะ…นางจะเข้ามาขโมยของ”

พอสรุปได้แดริลก็หมดความสนใจในตัวฟาติมา เขาเปิดประตูออกไปนอกห้องโดยมีเด็กสาวตามติด ที่เบื้องหน้า ทหารองครักษ์หลายคนเข้ามาล้อมจับทันที่ที่เด็กชายก้าวเท้าออกจากห้อง

“ไปกับเราแต่โดยดีเถอะท่านผู้ติดตาม”
หนึ่งในทหารองครักษ์พูด แดริลจำต้องเดินไปอย่างไม่อาจขัดขืน

“หมอบลง”
แดริลถูกสั่งให้หมอบลงต่อหน้าคนจำนวนหนึ่ง คนพวกนั้นประกอบด้วยหัวหน้ามหาดเล็กยูซุฟ หัวหน้าหญิงรับใช้ผู้ชรา
เซาะบาร์กับมหาดเล็กและหญิงรับใช้อีกสี่ห้าคน

“ไม่ทราบว่าจับข้ามาทำไมครับ”
แดริลถามเสียงเย็นชาทั้งยังไม่ยอมหมอบตามคำสั่งของยูซุฟ

“ยังมีหน้ามาถามอีกนะเจ้าขโมย ทำให้มันคุกเข่าลง กับพวกขโมยไม่ต้องปฏิบัติกับมันเหมือนมนุษย์”
ทหารองครักษ์สองคนช่วยกันกดแดริลซึ่งแข็งขืนให้คุกเข่า เด็กชายกัดฟันกรอด เขาพยายามสะกดกลั้นความโกรธแล้วพูดกับยูซุฟด้วยเสียงกดต่ำ

“ท่านมีสิทธิอะไรมากล่าวหาข้าเป็นขโมย”

“สิทธินะหรือ…หลักฐานมันเห็นกันอยู่ชัดๆ ทาน่าเจ้าบอกมันสิว่าเจ้าเจออะไรในห้องของมัน”
หญิงรับใช้ทาน่าที่ยืนข้างหลังยูซุฟก้าวออกมา แดริลหรี่ตามองดูหญิงผู้นั้นด้วยแววตาประสงค์ร้าย

“อย่ามามองข้าแบบนั้นนะเจ้าขโมย”
ทาน่าตะคอกแดริล ทั้งที่เจ้าหล่อนหวาดกลัวสายตาคู่นั้น

แต่มันถูกจับอยู่จะทำไรเธอได้

“ข้าพบแหวนทองในห้องของมันค่ะ ข้าพบเพราะข้าอาสาช่วยน้องฟาติมาทำความสะอาดห้องให้มัน”

“แหวนทองนี่สินะที่มันขโมย”
ยูซุฟหยิบแหวนที่คล้องอยู่กับสร้อยคอออกมาแสดงให้เห็นทั่วกัน แดริลเมื่อเห็นสิ่งนั้น ร่างทั้งร่างก็ประหนึ่งถูกเผาผลาญด้วยไฟแห่งความโกรธ

“นั่นมันของของข้า” แดริลตวาด

“ของของเจ้าหรือ เจ้าสวะ ลูกโสเภณีอย่างแกจะมีแหวนทองได้อย่างไร ตั้งแต่เจ้าเข้ามาไม่เห็นเคยได้ยินว่ามีเชื่อพระวงศ์ที่ไหนประทานของมีค่าเช่นนี้ให้แก่เจ้า”
ยูซุฟพูดพลางส่งหลักฐานให้หัวหน้าหญิงรับใช้เซาะบาร์ดู

“เจ้ารู้ไหมเด็กน้อยทำไมข้าถึงเชื่อว่าเจ้าขโมย”
เซาะบาร์สำรวจดูแหวนอย่างละเอียด

“พระนามที่ถูกสลักที่แหวนเป็นนามลับที่มีข้ากับคนจำนวนไม่มากในวังซึ่งอยู่มานานเท่านั้นที่จะรู้ ถึงไม่สามารถเฉลยเบื้องลึกของสิ่งนี้ได้ แต่มั่นใจว่าเจ้าต้องขโมยมาจากท่านเอลียาห์

บ้าไปกันใหญ่แล้ว

นอกจากบ้าแล้วพวกมันยังพูดอะไรไม่รู้เรื่อง

ไร้เหตุผล ไร้เหตุผลสิ้นดี สิ่งนั้นมันเป็นของเขาชัดๆ

โกรธจนพูดอะไรไม่ออก ถ้าทำได้อยากจะฆ่าพวกมันเสียให้หมด

“ท่าเซาะบาร์เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ก็จริง แต่แค่ขโมย โดยปกติเราตัดสินพวกขี้ข้าที่ชอบขโมยกันแค่พวกเราสองคนย่อมได้อยู่แล้ว ท่านจะเอายังไงครับ”
ยูซุฟถามหัวหน้าหญิงรับใช้ที่มองดูแดริลด้วยแววตาเวทนา

“เฮ้อ…ข้าจะเกษียนไปอยู่กับหลานวันนี้แล้วแท้ๆ เด็กนี้อายุเท่าหลานข้าเลยนะ ตัดสินลงโทษแบบนี้ข้ารู้สึกไม่ดีเลย”

“แต่ก็ต้องลงโทษครับ”
ยูซุฟทำหน้าประหนึ่งเข้าใจความรู้สึกของเซาะบาร์ก่อนจะเปลี่ยนเป็นขึงขังจริงจังเมื่อพูดจบประโยค

“ทำตามกฎของพระราชสำนักเถอะ”
เซาะบาร์พูด ยูซุฟยิ้มกว้างในทันที หัวหน้ามหาดเล็กผู้นี้อารมณ์ดีราวกับมีงานเฉลิมฉลอง

“ตามกฎพระราชสำนักขโมยต้องตัดมือแล้วขับไล่ออกไป”

ยูซุฟประกาศ หัวหน้ามหาดเล็กหวังจะเห็นสีหน้าหวาดกลัวและเสียงร่ำไห้ของแดริล ทว่าเด็กชายวัยสิบขวบกลับหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง จนคนในห้องตกตะลึงด้วยไม่เข้าใจการกระทำของแดริล ในที่สุดเสียงหัวเราะก็เงียบไป เด็กชายก้มหน้ามองพื้น เขาไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามองใครอีกเลย

มาได้แค่นี้เองหรือ

ช่างเถอะถูกตัดมือแล้วเป็นไง อย่างน้อยก็ยังไม่ถึงกับตาย ก็แค่กลับไปใช้ชีวิตอย่างหมาข้างถนน

บ้าเอ้ย นี่เขาต้องกลายเป็นคนพิการหรือนี่

คิดอย่างเลื่อนลอยขณะถูกบังคับให้ยื่นมือไปข้างหน้าข้างหนึ่ง

พอกันที ช่างมัน

“หยุดนะ”
เสียงห้ามของเอลียาห์ดังขึ้นหลังจากเสียงเปิดประตู แดริลกระตุกไหล่เล็กน้อย แต่นอกจากจะไม่หันไปมอง ดวงตาว่างเปล่ายังจับจ้องไปบนพื้นอย่างไม่ยินดียินร้าย

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น ฟาติมาไปตามเรามา บอกเหตุผลมาหน่อยสิว่าทำไมจับแดริลที่นี่”

เอลียาห์พูดด้วยน้ำเสียงนิ่มนวล ท่าทางสง่าและสงบกว่าทุกครั้ง ทำเอาข้ารับใช้รู้สึกว่าคนตรงหน้าไม่ใช่แค่เด็กเจ็ดขวบหากแต่เป็นเจ้าชีวิตที่ต้องเคารพและนอบน้อม มีเพียงแค่แดริลซึ่งก้มหน้าไม่ยินดียินร้ายเท่านั้นที่ไม่สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลง เด็กชายจมอยู่กับความคิดด้านลบของตนจนปฏิเสธการรับรู้ทุกสิ่ง แต่กระนั้นก็ยังเข้าใจที่คนรอบข้างพูดคุยกันอยู่

“เราจับได้ว่าผู้ติดตามขโมยครับท่านเอลียาห์ เราตัดสินใจกันเรียบร้อยแล้ว ตามกฎพระราชสำนักคือตัดมือแล้วเนรเทศออกนอกวัง”

“เราไม่เชื่อว่าแดริลขโมย”

ดวงตาของแดริลวูบไหวเมื่อได้ยินคำพูดของเอลียาห์ แปลกใจว่าทำไมครั้งนี้อีกฝ่ายถึงเข้าข้างเขา

ต้องการแก้ตัวอย่างนั้นเหรอ หรือว่าแค่ทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น

แดริลยิ้มหยันโดยที่ยังก้มหน้านิ่ง

“น้องเอลียาห์พี่พูดตรงๆนะ มันทำผิดเป็นครั้งที่สาม ยังไงดีล่ะ พี่เชื่อนะว่ามันขโมย มันเป็นลูกโสเภณีในสลัมนะจะเป็นคนดีได้ยังไง”

ซาฟิลเอ่ยอย่างอ่อนโยน แดริลอดหัวเราะเยาะตัวเองไม่ได้
ถึงแม้จะเอ่ยปากเชื่อเขา แต่อีกเดี๋ยวพอถูกโน้มน้าวเอลียาห์ก็จะทอดทิ้งไปอีก

“ท่านพี่ซาฟิล”
เอลียาห์เรียกชื่อญาติผู้พี่อย่างนิ่มนวล เทวทูตเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะพูดกับอีกฝ่ายด้วยเสียงที่เข้มงวดเย็นชา

“เราถามท่านพ่อแล้วว่าโสเภณีหมายถึงอะไร ท่านพ่ออธิบายให้เราเข้าใจ และท่านยังบอกอีกว่าเพราะท่านพี่ยังเด็กจึงพูดจาออกมาแบบไม่คิด ถึงครั้งนี้เราจะให้อภัย แต่ครั้งหน้าหากยังดูหมิ่นแดริลอีกเราจะไม่พูดกับท่านอีกเลย”
แดริลได้ยินเต็มสองหู เด็กชายค่อยๆเงยหน้ามองดูเทวทูต

“ถ้าทุกคนยังยืนยันว่าแดริลเป็นขโมยเราจะขอดูหลักฐาน”
เอลียาห์ประกาศด้วยเสียงทรงอำนาจ แดริลมองดูเอลียาห์ด้วยสายตาประหนึ่งเหมือนเพิ่งรู้จักกันเป็นครั้งแรก

“น..นี่ครับ” ยุซุฟยื่นส่งของให้อย่างนอบน้อม

“มันขโมยแน่ๆสวะ..เอ้ยข้ารับใช้อย่างเราถึงได้เงินเดือน ก็ไม่ได้หมายความว่าจะซื้อแหวนทองได้ง่ายๆ”

จะจำได้หรือเปล่านะว่าสิ่งนั้นคือของของเขา

แดริลมองดูเอลียาห์ ดวงตาสีฟ้าวูบไหวด้วยความกลัวและกังวล

ถ้าจำไม่ได้ ถ้าจำไม่ได้แล้วล่ะก็ อีกฝ่ายจะทอดทิ้งไปอีก ถึงตอนนั้นเขาคง

“นี่เป็นของแดริล” เอลียาห์ตอบทั้งรอยยิ้มเมื่อได้หลักฐานไปอยู่ในมือ

“จะเป็นไปได้ยังไงนี่มันแหวนทองนะ” ซาฟิลโวยวาย

“ใช่ครับมันเพิ่งเข้ามาในวังแค่ปีเดียวไม่น่ามีเงินถึงขนาดซื้อแหวนทองได้”ยุซุฟก็โวยวายเช่นกัน

“เราเป็นคนให้แดริลด้วยตัวเองเจ้าสิ่งนี้เราให้เขากับมือ พวกเจ้าได้ยินแล้วนะ”
เอลียาห์กล่าวหนักแน่นชัดถ้อยชัดคำ

“ฝ่าบาทเอลียาห์ไม่ได้นะครับต่อให้ท่านเอ็นดูมันแค่ไหนแต่ถึงกับโกหก ท่านจะถูกข้ารับใช้มองยังไง ท่านยังเด็ก อย่าให้ความชอบแบบเด็กๆมาบดบังความจริงสิครับ”

ยูซุฟหว่านล้อมหากแต่เอลียาห์ไม่มีท่าทีลังเลใดใด ท่ามกลางเสียงคัดค้านการกระทำของเอลียาห์ เทวทูตที่เคยถูกชักจูงได้ง่ายในสายตาของแดริล ตอนนี้กลับดูเข้มแข็งและมั่นคงยิ่งนัก

“ยูซุฟเราได้ฟังฟาติมาเล่าหมดแล้ว เราไม่อยากปรักปรำใคร แต่เราถามหญิงรับใช้กับมหาดเล็กอื่นๆถึงได้รู้ว่าก่อนหน้านั้นซาลามไล่ตื้อฟาติมาอย่างชัดแจ้งมาโดยตลอดดังนั้นเราจึงเชื่อที่ฟาติมาพูด”

“ฝ..ฝ่าบาท”
ยุซุฟเหงื่อแตก ตอนนี้หัวหน้ามหาดเล็กยืนตัวเกร็งพูดไม่เป็นภาษา

“สำหรับเรื่องที่เจ้าทำตัวไม่เป็นธรรม เรื่องจะลงโทษยังไงเราปรึกษาท่านพ่อแล้ว แต่ว่า…สำหรับเราตอนนี้…”
เอลียาห์นิ่งครุ่นคิด

“ทุกคนฟังให้ดี นอกจากฟังคนที่นี่ยังต้องบอกเรื่องที่เราพูดให้คนในพระราชวังได้รู้ทั่วกัน ท่านพ่อบอกเราว่ามันเป็นเรื่องปกติที่ผู้คนต้องกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่เรารู้สึกถึงความเกลียดชังที่มีต่อแดริลมากเป็นพิเศษ”
เอลียาห์เว้นระยะคำพูด เทวทูตกวาดมองผู้คนในห้องก่อนจะหยุดสายตาที่แดริล แดริลประสานสายตากับเอลียาห๋ เทวทูตส่งยิ้มให้ รอยยิ้มบริสุทธิ์ที่เขาได้เห็นมาตลอดยามได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน

“แดริลเป็นคนของเราเ ป็นของของเรา นับจากนี้ไปใครกล้ารังแกหรือใส่ร้ายเขาอีกเราจะไม่ไห้อภัย”

“ฝ่าบาทพูดจาแบบนี้มัน”
ผุ้คนในพระราชวังต่างพยายามห้ามปรามและแสดงท่าทางกังวลหากแต่เอลียาห์ไม่สนใจ แดริลมองดูเทวทูตเดินตรงเข้ามาหาเขา เอลียาห์ออกคำสั่งให้องครักษ์ปล่อยตัวให้เขาเป็นอิสระ

“ลุกขึ้นไหวไหม?”
แดริลมองดูมือเล็กๆที่ยื่นมาตรงหน้า รู้สึกได้ถึงความร้อนระอุในอก ทั้งดีใจ ปลาบปลื้ม และคาดไม่ถึงไปพร้อมๆกัน ที่เบื้องหน้าเทวทูตมองมาที่เขาด้วยใบหน้าเหมือนจะร้องไห้

อา….

เขาก็ร้องไห้เหมือนกัน

เทวทูตใช้มือเช็ดน้ำตาให้เขา ใบหน้าที่ช่างแสนอ่อนโยนคล้ายกับใบหน้าของท่านแม่ในความฝัน

อย่างนี้นี่เองมันไม่ใช่ความฝัน

คนเลวร้าย ทรยศ และเย็นชาอย่างร้ายกาจ ก็คือเขาเอง เขาเองเป็นคนทอดทิ้งเทวทูต

“ไปจากที่นี่กันเถอะ”
เอลียาห์พูด หลังจากที่แดริลยื่นมือไปจับมือเล็กๆ ทั้งคู่พากันเดินออกไปจากที่ตรงนั้นโดยมีฟาติมาที่อยู่ร่วมเหตุการณ์อยู่ตลอดวิ่งตามหลังไป

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ตอนหน้าอาจจะอีกสักห้าหกวันจะเอามาลงนะคะ

กำลังรีบปั่นงานพิเศษอยู่

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
จิ้มมม
มันต้องยังงี้สิเอลียาห์!
พวกมหาดเล็กกะคนรับใช้นี่น่ากระทืบจริงๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-07-2015 19:51:11 โดย boboman »

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
เป็นการปรับเปลี่ยนแบบก้าวกระโดดมากเลย เอลียาห์


ปรบมือๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
มาต่อเร็วๆน้าาา  :hao5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด