Forbidden dashuria ตอนพิเศษ2<30/11/58><p 4> จบแล้วค่าย้ายได้
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Forbidden dashuria ตอนพิเศษ2<30/11/58><p 4> จบแล้วค่าย้ายได้  (อ่าน 26222 ครั้ง)

ออฟไลน์ schommanee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
โดยส่วนตัวชอบการบรรยาย การใช้ภาษา และ คำผิดที่น้อยมากของนักเขียนคะ บางตอนอ่านแล้วเราหน่วงๆในใจชอบกล งานโดยรวมเราว่าเนื้อเรื่องมันก็ไม่ใช่ว่ามาม่า ปลากระป๋อง น้ำตานองอะไร แต่ไม่รู้ซิ เนื้อเรื่องมันหน่วงเหมือนติดค้างอยู่ในใจชอบกล เป็นงานที่อ่านได้เรื่อยๆ ชวนติดตามคะ

เข้ามาคอมเม้นท์เป็นกำลังใจให้นักเขียน เขียนต่อไปนะคะ เรารออ่าน และ ตามอยู่คะ :)

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่ 14

ข่าวลือหนาหูทำให้เอลียาห์แทบไม่มีความสุข ตลอดหนึ่งเดือนที่เหลือ เด็กหนุ่มนับวันรอการกลับมาของแดริลอยู่ทุกวันคล้าบกับกำลังนับวันที่ตนเองจะต้องเข้าสู่หลักประหาร

ข่าวคราวที่ได้ยินมาล้วนแล้วแต่ทำให้เอลียาห์หวาดวิตก บ้างก็ว่าจะให้ปลดเขาออกจากตำแหน่งรัชทายาทแล้วแทนที่โดยแดริล บ้างก็ว่าจะให้อับหมัดเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ไม่ว่าเรื่องไหนๆก็ทำให้ปวดเศียรปวดกระเพราะได้พอพอกัน

ทุกวันนี้ เด็กหนุ่มถูกความเครียดเล่นงานจนแทบจะกลืนอาหารลงคอไม่ได้ ร่างกายผ่ายผอมลงไปทุกวัน ทั้งอย่างนั้นผู้คนรอบตัว กลับชื่นชม ในความงามตราตรึงที่มากับความเศร้าโศกของเขาโดยไม่คิดจะเข้าใจที่มาที่ไปเลยซักนิด

“งดงามอะไรกัน อมโรคสิไม่ว่า”

เอลียาห์ที่นั่งเท้าคางอยู่ริมหน้าต่างถอนหายใจอย่างหงุดหงิด ในตอนนั้นเสียงแตรอันเป็นสัญญาณทางทหารก็ดังกังวาลไปทั่วบริเวณ

เด็กหนุ่มผุดลุกขึ้นยืนด้วยความสงสัย ขณะที่ก้าวเดินตามเสียงแตรไปยังพระราชวังซึ่งเป็นที่พำนักของพระราชบิดา ก็พบกับขุนนางและข้ารับใช้มากมาย คนเหล่านั้นถึงจะแสดงความเคารพนบนอบ แต่ก็มองด้วยสายตาสอดรู้และเวทนาอย่างเห็นได้ชัด

เอลียาห์กังวลและหดหู่จนแทบนึกไม่ออกว่าตนเองไล่ตามเสียงแตรมาเพื่ออะไร ไม่นานนัก เมื่อมาถึงที่หมาย เด็กหนุ่มเห็นทหารจำนวนมากถือธงอันมีสัญลักษณ์ไม่คุ้นตาเดินแถวเข้ามา ธงที่ปลิวไสวจำนวนมากมีรูปเทวทูตซึ่งแยกเพศไม่ได้ประดับอยู่ เขาเหม่อมองดูรูปบนธงด้วยความเผลอไผล จนพบกับแดริลซึ่งขี่ม้าผ่านหน้าไปอย่างเย็นชา

‘แดริลจะเห็นเขาหรือเปล่านะ’

ส่ายหน้ากับความคิดของตนไปมา ขณะเริ่มรู้สึกดีที่อีกฝ่ายไม่เข้ามาทักทายตามที่ใจต้องการแต่แรก

‘เจอหน้ากันตอนนี้ก็ไม่รู้จะทำหน้าอย่างไร’

เหยียดยิ้มขมขื่นพร้อมกับครุ่นคิดเรื่องที่ทำไมถึงไม่รู้หมายกำหนดการกลับล่วงหน้าของแดริล ในเมื่อตนเองอยู่ในตำแหน่งที่น่าจะรู้เรื่องนี้เป็นอันดับต้นๆ

‘มีใครสั่งให้ปิดบังเขาอย่างนั้นหรือเปล่า’

เอลียาห์คิดว่าคนที่ทำเช่นนั้นได้มีแต่กษัตริย์บาดี แต่จะทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไร ยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจ พอตัดสินใจได้ก็หมุนตัวกลับ ตั้งใจจะไปพบพระราชบิดา ทว่ามหาดเล็กประจำตัวของกษัตริย์ก็นำคำสั่งเรียกตัวมาแจ้งให้ทราบเสียก่อน เด็กหนุ่มดีใจมากที่ได้เข้าพบโดยไม่ต้องหาข้ออ้างให้มากความ

“สบายดีหรือครับท่านพ่อ”

กษัตริย์บาดีพยักหน้าตอบเอลียาห์ซึ่งตอนนี้ยืนอยู่ข้างเตียง ก่อนจะหันหน้าไปพูดคุยกับพวกขุนนาง ช่วงเวลาแห่งการรอคอยนั้นยาวนานพอพอกับที่ต้องทนรับสายตาของขุนนางผู้ใหญ่ซึ่งยืนรายล้อม พระราชบิดาที่นอนสั่งงานบนเตียง

‘มองแบบนี้ทำไมกันนะ’

เอลียาห์พยายามปั้นหน้าให้เป็นปกติ หากทว่าม่ามารถห้ามความรู้สึกลบของตนออกไปได้เสียที ยิ่งเวลาผ่านไป เด็กหนุ่มยิ่งอึดอัดกับสายตาทุกคู่ที่มองมา จนสุดท้ายกลายเป็นความหวั่นกลัวจนแทบอยากร้องตะโกนอย่างคนเสียสติ ในตอนนั้น มหาดเล็กของพระราชบิดาก็เอ่ยขานชื่อแดริลผู้มาขอพบต่อหน้าเหล่าขุนนาง

“ให้เข้ามาได้”

ท่าทางกระตือรือร้นของกษัตริย์บาดีทำให้เอลียาห์ริษยาจนแทบบ้า ตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก เด็กหนุ่มเข้าใจดีถึงลักษณะนิสัยของพระราชบิดา

กษัตริย์บาดีชื่นชอบคนมีความสามารถ บ่อยครั้งที่มักเข้มงวดกับการศึกษาและทักษะของเขาจนเรียกได้ว่าจับจด นอกจากนั้นมีหลายครั้ง ที่มักพูดเปรยว่าเขามีจิตใจเมตตาแต่กลับอ่อนแอ คงเป็นเรื่องยากที่จะปกครองผู้คนท่ามกลางเล่ห์กลของราชสำนัก

เอลียาห์คิดค้านคำปรามาสของพระราชบิดาอย่างสุดกำลัง ในขณะที่ถูกบอกให้ลองทำตามที่คิดดูให้ถึงที่สุด กษัตริย์บาดีก็เอาแต่ยิ้มเศร้าๆไปด้วย

ด้วยคำพูดเช่นนั้น ทำให้เอลียาห์พยายามและยึดติดอย่างมากที่จะทำให้ได้เป็นที่ยอมรับ แน่นอนกษัตริย์บาดีมีรอยยิ้มยินดีทุกครั้งกับการที่เขาคืบหน้าเข้าหาความสมบูรณ์พร้อม หากแต่พอแดริลปรากฏตัวพระราชบิดาก็ผิดแผกไปอย่างเห็นได้ชัด

‘สิ้นหวังกับเขาเพราะมีตัวเลือกที่ดีกว่าอย่างนั้นหรือ? ท่านพ่อใจร้ายกับเราถึงเพียงนั้นเชียว’

เอลียาห์มีสีหน้าสลดลงเมื่อเห็ร่างสูงสง่ากำยำตรงเข้ามายืนข้างๆตนตามเสียงเรียกของกษัตริย์บาดี

“ไม่ได้พบกันเสียนานนะท่านเอ…เอ่อ..น้องเอลียาห์”

ยิ้มเจื่อนกับคำทักทายของแดริล ท่าทางของชายหนุ่มที่ประหม่าเล็กน้อยขณะพยายามแก้ไขประโยคคำพูด เด็กหนุ่มชื่นชมในความภักดีของคนเคยเป็นข้ารับใช้ ก่อนจะอึดอัดใจเล็กๆเมื่อเห็นแววตาและรอยยิ้มซึ่งแสดงถึงความเหนือกว่าของพี่ชายต่างมารดาที่คล้ายว่าจะมีให้แก่เขา

“เอ่อ…สบายดีหรือครับท่านพี่”

เอ่ยถามอึกอัก วินาทีนั้นแดริลมีสีหน้าตกตะลึงเล็กน้อยแล้วยิ้มกว้างอย่างผู้มีชัย จนเอลียาห์กัวลไปพร้อมๆกับไม่ชอบใจในรอยยิ้มที่ช่างยโสของคนตรงหน้า

“เราสบายดีน้องเอลียาห์”

แดริลโปรยยิ้มทรงเสน่ห์มาให้ หากเป็นเมื่อก่อน เอลียาห์คงใจเต้นตึกตัก แต่เมื่อผ่านไปถึงสี่ปี บวกกับภาพลักษณ์อันแสนโอหังเมื่อครู่ทำให้เขามองอีกฝ่ายในลักษณะติดลบ

“ทักทายกันพอแล้ว”

เอลียาห์กับแดริลยืนตัวตรงรับคำสั่งของพระราชบิดาซึ่งแย้มยิ้มไม่หุบ อารมณ์อันเบิกบานของกษัตริย์ เอลียาห์ผู้เป็นบุตรดีใจที่ได้เห็นหากแต่ก็น้อยใจพอพอกัน เมื่อรู้ว่าผู้เป็นพระราชบิดาดีใจเพราะเหตุใด

“เข้ามาใกล้ๆทั้งสองคน”

เอลียาห์กับแดริลขยับเข้าไปใกล้ เสียงหัวเราะน้อยๆของพระราชบิดา เด็กหนุ่มมีความสุขตามไปด้วยจนลืมเลือนความริษยาที่มีต่อแดริล

“ดีมาก เจ้าทำหน้าที่ได้ตามข้าหวังเอาไว้ได้ดีมากแดริล”

เอลียาห์ขมวดคิ้วเมื่อพระราชบิดาคว้ามือของแดริลไปกุมแล้วลูบเบาๆ ทันที่ที่กษัตริย์ปล่อยมือของคนที่ตนอิจฉา เด็กหนุ่มก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกอย่างลืมตัว โชคยังดีที่ไม่มีใครในนั้นสนใจเขาเลยซักคน

“ทุกคนฟัง”
กษัตริย์บาดีพูดด้วยเสียงดังที่สุดเท่าที่ร่างกายจะอำนวย

“นับจากนี้เราจะให้แดริลบุตรชายคนโตของเราเป็นผู้สืบทอดและเตรียมเข้าสู่พิธีครองราชย์ ระหว่างที่ข้ายังไม่ตาย ขอให้ขุนนาง
ทั้งหมดป่าวประกาศออกไปและเตรียมงานพิธีให้พร้อม”
เอลียาห์ตกใจจนแข็งค้าง หลังสิ้นคำพูดของกษัตริย์ ขุนนางรอบตัวก็คัดค้านแทบจะในทันที

“เงียบ”

เอลียาห์และทุกคนในห้องยกเว้นกษัตริย์กับแดริลสะดุ้งตกใจ อับหมัดผู้ออกคำสั่งกวาดมองดูเหล่าขุนนางด้วยแววตาคมกริบก่อนจะเอ่ยต่อไปด้วยเสียงนุ่มนวล

“นี่เป็นเรื่องที่ข้ากับท่านพี่เห็นพ้องต้องกัน พวกเจ้าทำตามคำสั่งก็พอแล้ว”

เมื่อเสาหลักอีกต้นของอาณาจักรเอ่ยสั่ง เหล่าขุนนางจึงได้แต่ก้มหน้ายอมรับ หากมีแค่เอลียาห์เท่านั้นที่ไม่ยอมเข้าใจเรื่องซึ่งเกิดขึ้นอย่างกระทันหันนี้ง่ายๆ

“มันเรื่องอะไรกันครับท่านพ่อ”
เอลียาห์เค้นเสียงถาม กษัตริย์บาดีออกปากไล่พวกขุนนางให้กลับไปแล้วหันมาสบตากับผู้เป็นบุตรด้วยท่าทีเคร่งขรึม

“เจ้ามีเมตตาต่อประชาชนก็จริงนั่นเป็นข้อดี”
เอลียาห์สูดลมหายใจเข้าลึก เขาอัดอั้นตันใจระหว่างที่รอคอยให้พระราชบิดาเอ่ยคำพูดต่อ

“แต่เจ้าไร้เดียงสาเกินกว่าจะปกครองผู้คนที่ต่างคนต่างก็มีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว ในจุดนั้นแดริลเหมาะกว่าเจ้ามาก”
กษัตริย์บาดีเว้นระยะคำพูด ดวงตาคมสังเกตเห็นมือสองข้างที่กำเข้าหากันแน่นของเอลียาห์

“เราอยากให้เจ้ามีความสุขนะ”

เอลียาห์หลั่งน้ำตาออกมาในทันทีที่ได้ยินคำพูดประโยคนั้น

‘พระราชบิดาอยากให้เขามีความสุข’

เอลียาห์รู้ดี การปกครองคนไม่ใช่เรื่องง่าย การได้เป็นเชื้อพระวงศ์ธรรมดา ใช้ชีวิตเหนือผู้คนโดยไม่ต้องรับผิดชอบมากมายนัก อาจเป็นความสุขอย่างแท้จริง ทว่าความต้องการสูงสุดของเขาคือการเป็นที่ยอมรับจากพระราชบิดา
ดังนั้นการถูกปฏิเสธและเลือกแดริลมาแทนที่ จึงทำให้ทุกข์ทรมาณเสียจนไม่แน่ใจว่าน้ำตาที่หลั่งออกมาเป็นน้ำตาแห่งความสุขหรือความผิดหวังกันแน่

“คอยช่วยเหลือเคียงข้างแดริลที่ครองราชย์รับเรื่องลำบากแทนเจ้าเถอะนะ”

กษัตริย์บาดีคว้ามือเอลียาห์ที่กำแน่นมาลูบปลอบโยน เด็กหนุ่มถึงแม้จะผงกหัวยอมรับว่าง่าย แต่ในใจก็ปฏิเสธไม่ได้เรื่องที่นึกชิงชังแดริลอยู่ในส่วนลึก

“อยู่ช่วยงานแดริลนะเอลียาห์”

“เข้าใจแล้วครับท่านพ่อ”
เอลียาห์ปาดน้ำตาบนใบหน้าก่อนจะมองดูพระราชบิดาฝากฝั่งตัวเขาเอาไว้กับแดริล

“ปกครองบ้านเมืองให้ดีแล้วดูแลน้องอย่าให้ลำบาก”

“ข้าให้คำมั่นสัญญาครับ ข้าจะดูแลน้องเอลียาห์อย่างดี”

ท้ายประโยคคำพูดแดริลหันมายิ้มให้เอลียาห์ เป็นครั้งแรกที่เด็กหนุ่มเกิดความคิดร้ายๆ อย่างเช่นอยากจะเล่นงานคนตรงหน้าให้เผยอยิ้มไม่ออก แต่ในความเป็นจริงก็ไม่ได้ลงมือทำ

เอลียาห์เมื่อรอจนพระราชบิดานอนหลับก็ขอตัวกลับไปยังที่พักของตนหากแต่ถูกแดริลเรียกเอาไว้เสียก่อนตรงหน้าห้องหลังจากที่ชายหนุ่มเดินไล่หลังมา

“มีอะไรหรือครับ”
เอลียาห์ที่ถูกเรียกยืนประจันหน้ากับแดริลซึ่งส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้

“แค่อยากดูหน้าน้องเอลียาห์ให้ชัดๆเท่านั้น”

“เห็นชัดพอหรือยังครับ เราจะกลับที่พัก”
เอลียาห์หมุนตัวกลับโดยไม่รอให้อีกฝ่ายตอบ ทันใดนั้นข้อมือของเขาก็ถูกกระตุก ร่างทั้งร่างถูกจับหมุนให้เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของแดริล

“ทำอะไรน่ะ? เราไม่ชอบนะ”

เอ็ดไปด้วยท่าทางลนลาน แต่ทั้งที่ถูกมองด้วยแววตาไม่ไว้วางใจถึงเพียงนี้ แดริลก็หาได้สนใจ เอลียาห์ถูกร่างสูงใหญ่ใช้มือเชยคางให้เงยหน้าขึ้น

“เจ้ายังงดงามเหมือนที่ข้าจำได้”
คนถูกชมหน้าแดงซ่าน ในตอนนั้นมหาดเล็กของพระราชบิดาก็เรียกตัวให้แดริลไปพบกับอับหมัดที่ยังไม่ออกมาจากห้อง

“เข้าใจแล้ว”

แดริลเอ่ยกับมหาดเล็ก มือใหญ่ยังคงลูบไล้แก้มเนียนของเอลียาห์อย่างไม่ยอมเลิกง่ายๆ จนเมื่อเด็กหนุ่มทนไม่ไหวก็เอ่ยตักเตือนชายหนุ่มให้รีบไป แดริลจึงค่อยๆผละกายจากลาด้วยรอยยิ้มอันงดงามจนเขาแทบใจเต้น

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

อ่าหายไปหลายวัน

อย่างที่บอกนิยายช่วงหลังเราไม่เน้นดราม่านะคะ

เราเน้นไปที่การสานสัมพันธ์ระหว่างแดริลกับเอลียาห์ค่ะ

ถ้ายังไงก็เม้นเรากันบ้างนะคะ

คนเขียนอยากได้เม้นใจแทบขาด :hao5:

รักคนอ่านค่ะ ถึงจะไม่สนุกไม่อยากเม้นแต่ติดตามอ่านนิยายเราไปจนจบทีนะคะ

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
อยากรู้ว่าแดริลคิดจะทำอะไรกันแน่...
รอตอนต่อไปน้า

ออฟไลน์ Shock_n2n

  • Deep cute...
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
คือชอบเรื่องนี้มากอ่ะเป็นกำลังใจ. มาต่อเร็วๆนะ :L2:

ออฟไลน์ Kamidere

  • บรรยายมันออกมา ทุกสิ่งที่อยู่ในใจ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2
ใครบอกไม่ดร่าม่าคะคนเขียนนนนนนน เราเครียดจะแย่แล่ววววว

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่ 15

ผ่านไปอีกถึงสองสัปดาห์ เพราะถูกกษัตริย์บาดีกับอับหมัดเร่งวันเร่งคืนทำให้อีกไม่กี่วันพิธีครองราชย์ของแดริลจะถูกจัดขึ้น ระหว่างนั้นเอลียาห์ก็บังเอิญได้พบหน้าของว่าที่กษัตริย์ไปเสียทุกที่จนเกิดความระแวงสงสัย

เอลียาห์อึดอัดใจทุกครั้งที่เจอหน้าแดริล แต่ในเมื่ออีกฝ่ายเข้าหาด้วยไมตรีจิต การแสดงตัวเป็นพี่น้องรักใคร่กลมเกลียวของชายหนุ่ม ร่างบางจึงจำเป็นต้องปั้นหน้าแย้มยิ้มยามที่ได้เจอกันตลอดเวลา

วันนี้ก็เช่นกัน เพราะถูกพระราชบิดาออกคำสั่ง จึงต้องมาร่วมซ้อมพิธีขึ้นครองราชกับแดริล ทั้งที่ในความเป็นจริง ตัวเขาก็แค่ยืนเฉยๆในตอนที่ชายหนุ่มประกอบพิธี แต่ใช่ว่าจุดนั้นจะเอามาอ้างกับกษัตริย์บาดี เด็กหนุ่มได้แต่ทำใจยอมตามคำสั่ง ตั้งแต่เช้ามาจนถึงเวลาบ่ายแก่ๆของวัน

“น้องเอลียาห์ดื่มชานี่เสียหน่อยเถอะ”

หลังพิธีซักซ้อมสิ้นสุด แดริลก็ยื่นถ้วยชาอุ่นร้อนซึ่งชายหนุ่มชงกับมือมาให้ เอลียาห์กระพริบตาปริบๆมองดูพี่ชายต่างมารดา ด้วยไม่เข้าใจว่าทำไม ต้องลงมือชงชาด้วยตัวเอง ถึงจะคิดเช่นนั้น แต่ในใจส่วนลึก ก็อดชื่นชมกับความละเอียดอ่อนและถ่อมตนของคนที่ก่อนหน้านี้ยิ้มยโสให้เขาไปเสียได้

ขอบคุณครับ”

เอลียาห์สูดกลิ่นใบชาอันหอมกรุ่นอยู่ชั่วครู่ อุณหภูมิที่พอเหมาะพอเจาะ ส่งผลให้เด็กหนุ่มดื่มด่ำไปกับกลิ่นและรสชาติจนรู้สึกผ่อนคลายเหมือนกับได้ขึ่นสวรรค์

‘อาจจะเป็นเพราะเขาเหนื่อยมาทั้งวัน’

เอลียาห์แก้ตัวให้กับความพอใจที่เกิดขึ้นของตน ทว่าไม่อาจปฏิเสธความจริงเรื่องฝีมือการชงชาอันล้ำเลิศของแดริลซึ่งผ่านไปสี่ปี แต่ฝีมือไม่ตกลงเลยจนเอลียาห์ตกตะลึง ในทางกลับกัน นั่นหมายความว่า อีกฝ่าย ยังคงชงชาด้วยตัวเองอย่างสม่ำเสมอไม่ได้หยุดเลยแม้สักวันเดียว

“ท่านพี่ยังชงชาด้วยตัวเองอีกหรือครับ”

“ก็ไม่มีใครชงได้ถูกใจเท่ากับทำเองนี่นะ”

แดริลตอบคำถามด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข เอลียาห์ซึ่งเหม่อมองดูใบหน้าเปี่ยมสุข บางครั้งก็ไม่เข้าใจทั้งแดริลและตัวเอง ไม่เข้าใจแดริลเรื่องที่บ่อยครั้งอีกฝ่ายมักจะยิ้มหรือทำท่าทางโอหังเวลาอยู่ต่อหน้าเขา และไม่เข้าใจตนเอง ที่บางครั้งก็เกลียดบางครั้งก็พอใจยามได้เห็นหน้าของคนที่กำลังส่งยิ้มมาให้

“ท่านทำอะไรมาบ้างระหว่างไปปราบกบฏที่ชายแดน”

ถามด้วยความอยากรู้ที่มีแค่ครึ่ง อีกครึ่งหนึ่ง เขาไม่อยากจะเสียเวลาเสวนากับแดริลให้มากความ แต่เอลียาห์ได้เอ่ยถามออกไปแล้ว ดังนั้นจึงต้องนั่งฟังเรื่องราวของแดริลเสียยืดยาวจนกษัตริย์บาดีเข้ามาร่วมวงพร้อมกับท่านอาอับหมัด

“เจ้าตัดสินใจได้ดีทีเดียว”

กษัตริย์บาดีเอ่ยชมแดริลหลังจากฟังเรื่องราวการปราบกบฏ เอลียาห์ที่นั่งฟังพระราชบิดากับท่านอาผลัดกันชมชายหนุ่ม รู้สึกเหมือนกินยาขม เด็กหนุ่มถึงจะรู้ว่าสิ่งที่คิดอยู่ในใจนั้นช่างจองหอง แต่ก็ไม่ปฏิเสธเรื่องที่เขาเองก็มั่นใจในแผนการปรากบฏของตนซึ่งดีไม่แพ้ผู้เป็นพี่ชายอย่างแน่นอน

จากนั้นเพราะพระราชบิดารู้สึกตัวกับความริษยาของเขาที่มีต่อแดริลหรือเปล่าก็ไม่ทราบได้ ตลอดเวลาที่แดริลเอ่ยถึงกลยุทธที่ใช้ กษัตริย์บาดีจะหันมาถามความเห็นกับวิธีการในแบบของเขาอยู่ตลอด จนในที่สุดเด็กหนุ่มก็รู้ข้อเสียในการจัดการกองทัพของเขาอย่างชัดแจ้ง

“ถึงเวลาลงโทษก็ต้องทำให้ชัดเจน จะมัวแต่คิดถึงคุณงามความดีแต่ครั้งก่อนไม่ได้”

กษัตริย์บาดีเอ่ยสั่งสองเอลียาห์ในขณะเดียวกันท่านอาอับหมัดก็ขานรับแล้วกล่าวตักเตือนเพิ่มเติมจนเด็กหนุ่มต้องเม้มปากก้มหน้าด้วยความสลด

“น้องเอลียาห์ยังเด็กอยู่ครับท่านพ่อท่านอาอย่าเข้มงวดนักเลย”
แทนที่จะดีใจที่ถูกแดริลช่วยแก้ต่างให้ เอลียาห์กลับตวัดสายตากรุ่นโกรธเข้าใส่ผู้เป็นพี่ชายซึ่งไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขากำลังโกรธ

“ความจริงก็คือความจริง จะอ้างว่าเป็นเด็กอยู่ตลอดเวลาไม่ได้”
กษัตริย์บาดีเอ่ยกับแดริลพร้อมปลายมองมายังเอลียาห์

“แต่น้องไม่จำเป็นต้องวุ่นวายเรื่องพวกนี้ครับ เพราะคนที่ครองราชย์คือข้า ดังนั้นการที่เขาจะไม่รู้ความก็ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหน”

เอลียาห์กำมือเข้ามากันแน่น พร้อมกับก่นด่าแดริลในใจนับครั้งไม่ถ้วน

ไม่รู้ความอะไรกัน

ไม่ต้องจัดการกับผีนะสิ

เขาเองก็เป็นเชื้อพระวงศ์คนหนึ่งเหมือนกัน จะให้นั่งงอมือแบบคนไม่มีมือมีเท้าเขาทำได้เสียที่ไหน สนุกนักหรือที่เห็นเขาเป็นคนโง่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร

“จริงอย่างที่เจ้าว่า เอลียาห์ยังอ่อนประสบการณ์ ให้เขาเที่ยวเล่นใช้ชีวิตอย่างสดชื่นโดยไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับการเมืองจะดีกว่า”

คำพูดของกษัตริย์เป็นดั่งคมมีดที่กรีดดวงใจของเขาจนยับเยิน เอลียาห์หลับตาลง พยายามสะกัดกั้นน้ำตาที่ทำท่าจะไหลออกมาก่อนจะลืมตาขึ้นเมื่อถูกแดริลเรียกชื่อ

“เป็นอะไรหรือเปล่าน้องเอลียาห์”

แดริลที่แสดงออกชัดว่าเป็นห่วง ไม่ได้ทำให้เอลียาห์ดีใจหรือตื้นตันแต่อย่างใด

‘เพราะเจ้านั่นแหละที่ทำให้เราดูน่าสมเพช’

คิดเช่นนั้นก็ผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างกะทันหัน เอลียาห์ขอตัวกับกษัตริย์บาดีแล้วเดินหนีไปจากที่ตรงนั้น

“น้องเอลียาห์”

ข้อมือของเอลียาห์ถูกคนเรียกกระตุกกลับจนหันกลับไปเผชิญหน้า ที่บริเวณส่วนหน้าของพระราชวังซึ่งไร้ผู้คน แดริลที่มีสีหน้าตื่นตกใจคลายมือออกจาการจับกุมเอลียาห์เมื่อเห็นใบหน้างดงามดั่งเทวทูตบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด

“ท่านพี่ต้องการอะไรกันแน่ครับ”
เอลียาห์ลูบข้อมือของตนไปมา ความร้อนวูบวาบบริเวณที่ถูกจับยังไม่จางหายไป

“พี่แค่เป็นห่วงน้องเอลียาห์เท่านั้น”

ดวงตาที่มองสบมาบอกชัดถึงความปวดร้าวและสับสน เอลียาห์ไม่เข้าใจว่าแดริลต้องการอะไร ถึงแม้จะเข้าใจเรื่องที่อีกฝ่ายกำลังเจ็บปวด แต่มันไม่ใช่เรื่องที่จะต้องใส่ใจ ก็ในเมื่อเขาต่างหากที่ทั้งเจ็บใจทั้งอดสูจนเกินจะกลั้น

“ท่านพี่ไม่ต้องมาเป็นห่วงหรอกเราสบายดี”

“ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แบบนี้นี่นะ”

แดริลมีสีหน้าเข้มขึ้น ดูเหมือนชายหนุ่มจะอารมณ์เสียขึ้นมาบ้างแล้ว หากแต่เอลียาห์ก็ยังทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ทั้งสองพี่น้องต่างแผ่คลื่นความโกรธเข้าหากันจนบรรยากาศรอบตัวขมุกขมัว

“เราจะร้องไห้มันก็เป็นเรื่องของเรา ท่านพี่โปรดอย่าใส่ใจ”

เอลียาห์เชิดหน้ายโสอย่างไม่เคยทำมาก่อน เด็กหนุ่มพอรู้ว่าคนตรงหน้ากำลังเป็นห่วง ก็เกิดความรู้สึกเหนือกว่าและอยากจะกลั่นแกล้งให้แดริลไม่สบายใจ

“นิสัยไม่ดีเลยนะ ทำไมถึงเปลี่ยนไปในทางที่แย่ลง ข้าไม่เคยจำได้ว่าสอนเจ้าให้เป็นคนไม่รักษาน้ำใจคนอื่นแบบนี้”

“เรื่องนั้น…”

เอลียาห์สะอึกเมื่อถูกต่อว่า ในใจนึกอยากเถียง แต่ด้วยยางอายที่มีอยู่ ทำให้ไม่สามารถเปล่งคำพูดโต้ตอบแดริลได้อย่างที่ใจคิด  ในตอนนั้นเองเสียงตะโกนเรียกของซาฟิลก็ดังขึ้นทางด้านหลัง ไม่นานนักเจ้าของเสียงก็มายืนร่วงวงโดยมีชาคาติดตามเป็นเงา

“อะไรกัน นี่ว่าที่กษัตริย์ว่างขนาดนี้เลยหรือ”

ซาฟิลทักทายแดริลด้วยใบหน้าหยามหยัน ถึงเอลียาห์จะไม่ชอบใจเท่าไหร่ แต่ก็พอใจที่ลูกพี่ลูกน้องพูดในสิ่งที่ตรงใจเข้าออกมา เด็กหนุ่มเห็นด้วยกับคำพูดของซาฟิลทุกประการ

“อ้อ หรือกำลังผ่อนคลายก่อนจะถูกงานราชการทับถม นี่ถ้าอยากทำอย่างนั้นก็ไปหาผู้หญิงขายตัวสิ หรือไม่ก็สร้างฮาเร็มของตัวเองดูเป็นไง”

‘ฮาเร็ม’

คำคำนี้ทำให้เอลียาห์ปวดแปลบในอก เด็กหนุ่มไม่สบายใจมี่ตนเองรู้สึกเจ็บกับคำพูดเพียงแค่นี้ หากแต่ไม่สามารถสั่งร่างกายให้ทำตามได้

‘หรือว่าเขาจะยังชอบคนคนนี้อยู่ ไม่สิแค่ความไม่ชอบใจเล็กๆอย่าเอามาเป็นเรื่องใหญ่สิ ‘

เอลียาห์พยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ในตอนนั้นแดริลที่รื่รรมย์อย่างมากก็เปิดฉากโต้เถียงกับซาฟิลด้วยท่าทางนิ่มนวล

“ข้าไม่ว่างเท่าท่านหรอก ได้ข่าวจากท่านอาอับหมัดกำลังพยายามผลักดันท่านให้รับตำแหน่งเสนาบดีประจำกระทรวงยุติธรรมแต่ท่านก็มาปฏิเสธ ยังไงดีล่ะ เราคิดว่า การที่ท่านปฏิเสธเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุด”
แดริลระบายยิ้มน้อยๆเว้นจังหวะคำพูด ในทางกลับกันเอลียาห์รู้สึกได้ถึงอารมณ์เดือดดาลของซาฟิลและความตึงเครียดของชาคาที่ยืนอยู่ด้านหลังผู้เป็นนาย
“แม้แต่ตัวท่านเองยังปฏิบัติตัวให้ถูกทำนองครองธรรมหรือกฎราชสำนักไม่ได้ ให้ไปเป็นเสนาบดีกระทรวงยุติธรรม มีแต่จะทำให้ท่านอาขายหน้าแถมท่านเองคงลำบากใจน่าดู”

แดริลหัวเราะหึหึด้วยสีหน้าสนุกสนาน ดวงตาคมกริบมองดูซาฟิลฮึดฮัด หากแต่ถูกชาคายึดตัวเอาไว้แน่นหนาไม่ให้กระโจนเข้ามาเล่นงานอย่างใจคิด

เอลียาห์เม้มปากเข้าหากีนแน่น ฉวยจังหวะที่ไม่มีใครตั้งตัวลากจูงลูกพี่ลูกน้องที่โกรธจนหน้าดำทะมึนไปให้พ้นจากที่ตรงนั้น โดยมีชาคาของโทษแทนผู้เป็นนายกับแดริลอย่างนอบน้อม

“น้องเอลียาห์ปล่อยข้านะ”
เอลียาห์ปล่อยมือจากร่างสูงโปร่งซึ่งโวยวายมาตลอดทางด้วยอารมณ์ที่ดีขึ้นจนยิ้มแก้มปริ

“ทำไมน้องเอลียาห์ต้องมาขัดขวางด้วย ข้าเห็นมันลามปามเจ้าอยู่นานตั้งใจว่าจะแก้แค้นให้เสียหน่อย”

“ท่านทำให้เราแล้ว อีกอย่างแน่ใจเหรอว่าทนฟังคำพูดทิ่มแทงนั่นต่อไปได้”

“ทำไมต้องทน ข้าจะชกหน้ามันอยู่รอมร่อแล้ว”

เอลียาห์ระบายยิ้ม สำหรับเขาถึงแม้ว่าซาฟิลจะอารมณ์ร้อนบุ่มบ่ามไปหน่อย แต่ถ้าเป็นเรื่องของคนที่ลูกพี่ลูกน้องผู้นี้พึงใจ คนตรงหน้าจะต้องช่วยเหลืออย่างสุดกำลังทุกครั้ง ถึงวิธีช่วยจะไม่ถูกต้องและเจ้าเล่ห์เจ้ากลอยู่มากก็ตาม

“ท่านพี่ไม่ควรมีเรื่องกับแดริลนะ”
เอลียาห๋ตีหน้าขรึม แต่นอกจากจะไม่สนใจซาฟิลยังมีสีหน้าบูดบึ้ง พูดจากระเง้ากระงอดใส่ผู้เป็นน้องด้วยความไม่พอใจ

“อะไรกันเจ้าจะบอกว่าข้าสู้เจ้าสวะ…เอ้ย แดริลมันไม่ได้หรือ น้องเอลียาห์ดูถูกพี่เกินไปแล้วนะ”

“ท่านเอลียาห์พูดถูกแล้วนี่ครับ”
ชาคาซึ่งคอยโอกาสมานานเอ่ยตำหนิ

“ถ้าท่านจะเล่นงานใครก็ควรใช้สมองคิดเสียบ้างว่าคนคนนั้นเป็นว่าที่กษัตริย์องค์ต่อไปหรือเปล่า”

“เจ้าด่าข้าว่าโง่หรือชาคา”

ซาฟิลผู้เดือดปุดๆออกหมัดตรงไปยังชาคา เอลียาห์หัวเราะคิกคักที่ลูกพี่ลูกน้อง เดือดผล่านหนักกว่าเก่า เมื่อคนรับใช้ปัดหมัดออกได้อย่างไม่ยี่หระแถมยังกล่าววาจาดูกถูกกลับมาเสียด้วย

“ท่านอ่อนซ้อมขนาดนี้คิดว่าอีกสิบปีคงชกข้าไม่โดน”
ชาคาเหยียดยิ้ม

“ก็เจ้าแก่กว่าข้านะโว้ย”

ซาฟิลเริ่มใช้คำหยาบคาย เอลียาห์เมื่อเห็นเหตุการณ์ชักจะบานปลายจึงเสนอตัวเข้าหยุดความขัดแย้งด้วยการชวนนายบ่าวไปดื่มชาที่พระราชวังอันเป็นที่พำนักของตน

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

หายไปหลายวันอีกแล้ว

อยากจะลงให้ได้เร็วๆกว่าเดิม แต่ก็ไม่ค่อยมีเวลาพิม

งานหลักงานพิเศษรัดตัวจนมือเป็นระวิงเลยค่ะ

มาถึงตอนนี้ ก็ปาเข้าไปครึ่งเรื่องแล้ว

นิยายเรื่องนี้เราวางไว้ว่าจะเขียนประมาณยี่สิบถึงยี่สามตอนค่ะ

ก็ใกล้จะจบแล้วล่ะค่ะ[หัวเราะแฮะๆ]

เม้นกันบ้างนะคะ ไม่เม้นก็ไม่ว่าแต่ถ้าเข้ามาอ่านแล้วก็ช่วยตามจนจบด้วยนะคะ

ออฟไลน์ Glitterycandy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
พึ่งเข้ามาอ่าน สนุกดีฮะ แต่แอบขัดใจแดริลเบาๆ

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
อยากให้ซาฟิลเป็นเคะให้ชาคา กรั่กๆ 55555
รอตอนหน้าา

ออฟไลน์ oumpatta

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-43
บรรยายดี ดูเข้ากับแนวพวกราชวงศ์
แต่ตัวละครในเรื่องนี่ไม่ชอบซักคน
คนในวังนี่ดูทุเรศทุกคนอ่ะ ไม่เว้นแม้กระทั่งตัวละครหลัก
เอลียาห์ นี่ไม่ชอบตั้งแต่เด็ก ส่วนอีพระเอกเหมือนเข้มแข็งแต่ไม่อ่ะ
ใช้ภาษาบรรยายดี แต่เนื้อเรื่องกับตัวละครดูยังไงไม่รู้
ขอผ่านจ้า โดยเฉพาะพ่อ คือแบบ??
ตอนหลังๆนี่อ่านผ่านๆก็เดาออก
 จะโดนว่ามั้ย? ข้ามเม้นเราไปเถอะ

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ไม่เป็นไรค่ะ

ดีซะอีกที่มาเม้น

เราจะได้รู้ว่าคนอ่านคิดยังไงบ้าง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่ 16

บนกำแพงพระราชวัง เอลียาห์เข้าร่วมพิธีครองราชย์ของแดริลด้วยใจอันปวดร้าว มองดูว่าที่กษัตริย์ที่ส่งกลิ่นไอแห่งอำนาจสลับกับมองดูประชาชนซึ่งแห่แหนกันมาร่วมงานพิธีอย่างคับคั่ง

หลังจากที่การส่งมอบตำแหน่งสิ้นสุด เสียงโห่ร้องของประชาชนก็ดังกึกก้อง เสียงโห่ร้องนั้นทำให้เอลียาห์กระอักกระอ่วนใจ ด้วยคิดไม่ตก ควรจะยินดีหรืออิจฉาให้กับความปลาบปลื้มของประชาชนที่มีต่อแดริล

เอลียาห์ห้ามใจไม่ให้นึกเปรียบเทียบตัวเขากับพี่ชายต่างมารดาไม่ได้เลยแม้สักวินาทีเดียว นับตั้งแต่ก่อนงานพิธีจวบไปจนถึงงานเฉลิมฉลองที่มีขึ้นในพระราชวัง

“งามสง่าเข้มแข็งจนท่านเอลียาห์ดูกลายเป็นอิสตรีไปเลยทีเดียว”
พอตวัดสายตาเขม่นไปยังขุนนางที่หลุดความในใจออกมาเป็นคำพูด ขุนนางอีกคนที่ยืนเคียงข้างก็เอ็ดเบาๆจนขุนนางปากเสียรู้ตัวว่าถูกเอลียาห์มองด้วยแววตาไม่ค่อยจะชอบใจ

จากนั้น ไม่รู้ว่าตั้งใจดีพอหรือไม่ ถึงพวกขุนนางจะพยายามแอบซุบซิบเปรียบเทียบเขากับแดริล แต่เด็กหนุ่มก็บังเอิญได้ยินคำพูดเหล่านั้นไปเสียทุกครั้ง

บ้าที่สุด

ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันแน่น เอลียาห์เดินหลบไปยังมุมห้อง แอบซ่อนตัวจากผู้คนรอบข้างอย่างโดดเดี่ยว โชคดีที่ไม่มีขุนนางคนไหนเข้ามารบกวนสักนิด ดูเหมือนคนเหล่านั้นจะสนุกสนานกับการสังเกตุท่าทางของเขาไปพร้อมกับนินทากาเลมากกว่าจะเอ่ยถามว่าเขาคิดเห็นอย่างไรกับการครองราชของแดริล

ท่านพ่อดูมีความสุขเหลือเกิน

เอลียาห์ส่งสายตาละห้อยไปยังอดีตกษัตริย์ที่ยืนเคียงข้างกษัตริย์องค์ใหม่แล้วให้รู้สึกเหมือนมีหนามแหลมทิ้มแทงในใจ ใบหน้าอันชื่นมื่นยินดีของพระราชบิดา รอยยิ้มกว้างเช่นนั้น เด็กหนุ่มไม่ได้เห็นมานานนับตั้งแต่พระราชมารดาตั้งครรภ์บุตรคนที่สอง หากทว่ากลับเสียชีวิตไปในขณะคลอดพร้อมกับบุตรตัวเล็กๆในท้องอย่างน่าเศร้าเกินกว่าจะเอ่ย

พระราชบิดาผิดหวังที่ไม่ได้บุตรคนใหม่มาแทนที่คนไม่ได้เรื่องอย่างเขาหรือเปล่านะ ถ้าไม่อย่างนั้นพอแดริลปรากฏตัวถึงได้แย้มยิ้มพึงพอใจถึงเพียงนั้น การมีเขาเป็นบุตรมันน่าผิดหวังตรงไหนอย่างไรนะ

ถึงจะคิดน้อยใจแต่แทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองบกพร่องที่ตรงไหน แต่เมื่อมองเปรียบเทียบด้วยตัวเองไปพร้อมๆกับรับฟังเสียงนินทา ก็เริ่มเข้าใจในข้อด้อยของตนมากขึ้นเรื่อยๆทั้งที่ใจไม่ยาก

เอลียาห์เข้าใจว่าไม่ใช่สติปัญญาของเขาที่มีปัญหา ประสบการณ์อันแต่งต่างนั่นต่างหากที่ทำให้เขาเสียเปรียบแดริลหลายขุม ไหนจะแง่คิดและแนวทางที่แสนจะโดดเด่นของชายหนุ่มอีก รูปกายอันงามสง่าล่ำสันและฝีมือการสู้รบนั่นก็ทำให้เขากลายเป็นเจ้าชายด้อยค่าไปโดยปริยาย

เอลียาห์หดหู่เกินกว่าจะรื่นเริงยินดีไปกับความสำเร็จของผู้อื่นอย่างที่เคยเป็น เขาในตอนนี้เอาแต่คิดในแง่ร้ายด้วยน้อยเนื้อต่ำใจในความรักและเมตตาที่พระราชบิดามีให้บุตรชายอย่างไม่เท่าเทียมกัน

ไม่สิ เขาควรจะทำใจให้ได้ ควรจะลุกขึ้นก้าวเดินแล้วเลิกอิจฉาผู้อื่นไปได้เสียที

คิดพร้อมกับสูดลมหายใจปลุกปลอบตัวเอง ขณะที่ตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาดว่าจะไม่อิจฉาแดริลอีก มหาดเล็กของพระราชบิดาก็เข้ามาเชิญเขาให้ร่วมวงสนทนากับญาติมิตรและกษัตริย์องค์ใหม่
“อะไรนะครับ”
เอลียาห์เอ่ยเสียงดังหลังจากได้ยินคำประกาศของพระราชบิดาต่อหน้าบรรดาเชื้อพระวงศ์

“เราบอกว่าจะเดินทางไปพักรักษาตัวในพระราชวังฤดูร้อนที่นอกเมือง เจ้ามีอะไรไม่เข้าใจหรือเอลียาห์”
อดีตกษัตริย์ตีหน้าขรึม เอลียาห์ที่ตื่นตกใจไม่หายได้แต่ระร่ำระรักขอติดตามพระราชบิดาไปเสียด้วยกันที่นั่นหากแต่ถูกปฏิเสธ

“ท่านพ่อทำไมถึงไม่ให้เราไปด้วย”

“เจ้าอยู่ช่วยงานแดริลเถอะ ปล่อยคนแก่อย่างเราให้พักผ่อนอย่างสบายใจดีกว่า หากว่ามีบุตรขี้ตกตื่นอย่างเจ้าไปด้วยเราก็ไม่ได้ผักผ่อนกันพอดี”

ใบหน้างดงามดั่งเทวทูตซีดเผือดด้วยนึกไม่ถึงว่าจะถูกบอกปัดอย่างเด็ดขาด ในอกปวดหนึบกว่าเก่าทั้งที่ก่อนหน้านั้นยังไม่หายจากอาการน้อยเนื้อต่ำใจดี ยิ่งตอนนี้ยิ่งพอกพูนความอัดอั้นมากขึ้นไปอีก

เหตุใดพระราชบิดาต้องผลักไสกันด้วย บอกว่าเราน่ารำคาญหมายความว่า ถ้าเป็นแดริลก็จะอนุญาตให้ไปด้วยได้อย่างนั้นหรือ เย็นชาเหลือเกิน

หลังจากพระราชบิดาปลีกตัวไปอย่างเงียบๆ เอลียาห์ที่ทุกทรมานใจก็เอาแต่ร่ำสุราจนแดริลซึ่งคอยสังเกตการณ์อยู่ตลอดห้ามปราม เด็กหนุ่มนอกจากจะไม่สนใจยังเดินหนีไปเสียดื้อๆ โชคดีที่พวกขุนนางยื้อตัวกษัตริย์องค์ใหม่เอาไว้เสียก่อนจึงไม่มีใครมาต่อว่าการดื่มสุราอย่างไม่บันยะบันยัง

“เอลียาห์ดื่มมากไปแล้วนะ”
ซาฟิลพอผละจากบรรดาลูกสาวขุนนางได้ก็ตรงเข้ามาตำหนิเอลียาห์ที่ทำตัวผิดแผกไปจากเดิม

“เราไม่เห็นว่าจะดื่มมากไปตรงไหน ท่านพี่ซาฟิลมีธิดาขุนนางรออยู่อีกมากท่านไปหาพวกนางเถอะ”
เอลียาห์พูดก่อนจะเรียกข้ารับใช้ให้เทสุราเติมลงแก้มจนเต็ม ซาฟิลอดรนทนไม่ได้จึงถือวิสาสะพาคนที่เริ่มเมาเต็มที่ไปนั่งพักยังห้องข้างๆห้องโถงซึ่งจัดงานฉลอง

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่”
เอลียาห์นิ่งเงียบเฉยเมินคำถามของซาฟิล ถึงแม้จะถูกถามอีกสักกี่หนเขาก็ไม่ยอมตอบอะไรออกไปเลยแม้สักคำเดียว

“อย่าทำให้เป็นห่วงนักสิ สำรับข้าเจ้าเป็นน้องชายคนสำคัญนะ”
เอลียาห์ช้อนตามองผู้พูดอย่างปวดร้าว ดวงตากลมบัดนนี้เอคลอด้วยหยาดน้ำ เด็กหนุ่มตื้นตันกับความอาทรที่ซาฟิลมีให้จนโผเข้ากอดคนที่นั่งอยู่ข้างๆ
“ท่านพ่อไม่ยอมให้เราไปดูแลอาการป่วยที่พระราชวังฤดูร้อน”

“อ้าว เสียใจเรื่องแค่นี้หรือ ทำไมล่ะไม่ให้ไปอยู่ด้วยกันไม่ได้หมายความว่าไม่ให้ไปเยี่ยมเสียหน่อยนี่”
คนที่ร้องไห้จนตัวโยนนิ่งอึ้ง หลังจากคิดทบทวนถี่ถ้วน เอลียาห์ก็ตระหนักในข้อเท็จจริงอย่างมีสติ

“ท่านพี่พูดถูก”
เด็กหนุ่มคลายอ้อมกอดจากซาฟิล น้ำตาที่ไหลนองหน้าถูกลูกพี่ลูกน้องใช้มือช่วยปาดเช็ดอย่างเบามือ ในตอนนั้นแดริลก็เปิดประตูเข้ามาเห็นภาพซาฟิลช่วยปลอบโยนเอลียาห์เต็มสองตา

“ทำอะไรกันอยู่”
เอลียาห์ไม่แม้แต่จะหันไปมองคนถาม น้ำเสียงเย็นเยียบของแดริลถึงจะทำให้วิตกกังวลแต่ไม่ได้หมายความว่าจะยอมทำตามอย่างว่าง่าย

“ข้าถามว่าพวกเจ้าทำอะไรกันอยู่”
ถูกถามอีกครั้งด้วยเสียงกดต่ำ คราวนี้ซาฟิลสบถเสียงประชดประชันใส่แดริลด้วยอารมณ์ขึ้งโกรธ

“ก็ปลอบน้องเอลียาห์ที่กำลังเสียใจไง เจ้าไม่มีตาหรือ”

“แล้วหลังจากนั้นตั้งใจจะทำอะไร”

“อะไรน่ะหรือ ก็พาน้องเอลียาห์ไปส่งที่ห้องนอนไงถามาได้”
สิ้นคำพูดของซาฟิล เอลียาห์ก็ถูกแดริลกระชากให้ยืนขึ้น ดวงตากลมโตปะเข้ากับดวงตาของแดริลที่ลุกเป็นไฟราวกับจะเผาผลาญตนเองให้เป็นจุณ

“ทำบ้าอะไรของแกวะแดริล”
ซาฟิลผวาเข้าหาแดริลซึ่งยึดจับเอลียาห์เอาไว้ ทว่าชาคาที่โผล่มาก็ฉุดรั้งเอาไว้จนขยับกายไม่ได้ เอลียาห์ที่นิ่วหน้าด้วยความเจ็บจากการถูกบีบจับมองดูลูกพี่ลูกน้องของตนอาละวาดในอ้อมแขนของชาคาอย่างเกรี้ยวกราด

“อย่าให้มารบกวนข้ากับเอลียาห์อีก”
แดริลออกคำสั่งกับชาคาก่อนจะลากเอลียาห์ให้เดินตามหลังไป

“ปล่อยเรานะใครก็ได้ช่วยเราที”
เด็กหนุ่มร้องตะโกนให้คนช่วย จังหวะที่ผลั้งเผลอ เขาก็ถูกแดริลช้อนตัวแบกบนบ่า ถึงแม้ว่าจะตะโกนโวยวายอย่างบ้าคลั่งหากแต่พอผู้พบเห็นปะเข้ากับสายตาคมประดุจคมดาบของชายหนุ่ม ผู้คนทั้งหมดก็พร้อมใจกันทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เอลียาห์ที่ต่อต้านไม่ได้ถูกพามาจนถึงห้องส่วนตัวของกษัตริย์

“ตุบ”
ร่างบางถูกโยนลงบนเตียงกว้าง เอลียาห์พอตั้งตัวได้ก็ขยับกายกระเสือกกระสน แต่กลับถูกแดริลซึ่งไวกว่ามากกระชากกลับมากองอยู่บนเตียงอีกครั้ง

“ทำอะไรของเจ้ากันหา”
เด็กหนุ่มตะคอกสุดเสียงอย่างไม่เคยมีมาก่อน ดวงตากลมวาวโรจน์คล้ายดวงตาของแมวในยามค่ำคืน

“ข้าต่างหากที่อยากถามว่าเจ้าทำอะไรกับเจ้าสวะนั่น”
แดริลแผ่รัศมีคุกคาม เอลียาห์ไม่เข้าใจว่าแดริลต้องการอะไร นอกจากจะไม่ตอบคำถามยังร้องด่าด้วยความไม่พอใจที่ชายหนุ่มเรียกขานลูกพี่ลูกน้องคนสนิทเป็นพวกสวะ

“เจ้าไม่มีสิทธิมาว่าท่านพี่ซาฟิลเจ้าต่างหากที่ชาติกำเนิดต่ำตมไม่ต่างจากพวกที่อาศัยอยู่ในดิน”

“โฮ่”
แดริลร้องออกมาอย่างสบใจ เด็กหนุ่มเห็นคนตรงหน้าเหยียดยิ้ม แต่รอยยิ้มที่วาดแต่งช่างดูร้ายกาจเสียจนเขาเกิดความหวั่นเกรง

“เจ้าว่าข้าเป็นสวะอย่างนั้นหรือ”

“ป…เปล่า ข้าแค่ว่าเจ้าเป็นหนอนเท่านั้น”
เอลียาห์เอ่ยแก้ตัวอย่างมึนงงผสมกับลนลานก่อนจะนึกต่อว่าความตระหนกจนเกินงามจนไร้สาระของตนในใจด้วยความหงุดหงิด

“อ้อ ถ้าเช่นนั้นหนอนในดินตัวนี้จะสอนสั่งสิ่งที่ควรรู้ให้ท่านผู้สูงศักดิ์จดจำให้แล้วกัน”

“อะ อะไร”
เอลียาห์ปากคอสั่น บรรยากาศคุกคามที่แผ่ออกมาจากร่างสูงใหญ่ทำเอาเด็กหนุ่มตื่นกลัวจนขยับตัวไม่ได้ เขาไม่เคยเห็นแดริลมีท่าทางเช่นนี้มาก่อนคงจะโกรธที่ถูกต่อว่าอย่างรุนแรงสินะ

“ข้าจะสอนเจ้าให้รู้ว่าการอยู่ตามลำพังกับชายอื่นจะต้องโดนทำอะไรบ้าง เรียนรู้เสียแล้วจำให้ขึ้นใจ”
พริบตานั้นก็ถูกจู่โจมด้วยการจูบ แดริลตรึงร่างของเอลียาห์แน่นหนาจนขยับต่อต้านไม่ได้

“จะทำอะไร”

คนถูกยึดจับตะโกนต่อว่าทันที่ที่แดริลถอนจูบ ทว่ายังไม่ทันจะพูดจบประโยคก็ถูกแนบริมฝีปากอีกครั้ง คราวนี้ถูกสำรวจโพรงปากด้วยปลายลิ้นเสียเป็นนาน แถมยังถูกดูดลิ้นจนเกิดเสียงดังจ๊วบจ๊าบอย่างน่าละอาย เด็กหนุ่มแทนที่จะต่อต้านการกระทำอันจาบจ้วงกลับเผลอไผลไปกับรสสัมผัสอันเต็มไปด้วยราคะด้วยไม่อาจปฏิเสธ

“อื้อ”
เอลียาห์ครางเบาๆเมื่อคนที่ผละออกซุกไซ้ซอกคอของตน พอขยับดิ้นรนขัดขืน มือใหญ่ที่มีแรงมหาศาลก็ออกรงบีบจับรวบข้อมือมากยิ่งขึ้น

“อย่า”
ร้องห้ามเสียงแหบพร่าเมื่อถูกถลกเสื้อขึ้นเผยให้เห็นเนินอกสีหวาน โดยไม่รอช้า แดริลใช้ลิ้นและปากดูดไล้โลมเลียจนยอดอกทั้งสองข้างเปียกแฉะ เอลียาห์รู้สึกถึงความตึงแน่นตรงบริเวณซึ่งถูกโลมเลียอย่างต่อเนื่อง

“ทำแบบนี้ทำไม”
เอลียาห์เอ่ยถามทั้งน้ำตา แทนที่จะได้รับคำตอบกางเกงผ้าเนื้อดีที่ติดกายกลับถูกกระชากลง เด็กหนุ่มถูกจับแยกขาออกกว้าง แดริลไม่ปล่อยโอกาสใช้ปากครอบครองเครื่องเพศที่เริ่มตื่นตัว ปรนเปรอให้จนส่วนนั้นชูชันเพราะถูกกระตุ้นอย่างเต็มที่

“อึก…อ้า”
ถึงแม้จะถูกปล่อยให้เป็นอิสระแล้ว แต่เพราะถูกเล้าโลมด้วยความช่ำช่องจากริมฝีปากอุ่นร้อน มือทั้งสองข้างของเอลียาห์กลับยึดจับศีรษะของแดริล ทั้งผลักออกทั้งกดลง เด็กหนุ่มคุ้มคลั่งอย่างหฤหรรษ์จนยากจะอธิบายออกมาเป็นคำพูด

“อา…อื้อ”
ไม่นานนักเขาก็ปลดปล่อยออกมาเมื่อถึงจุด ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อแดริลกลืนกินหยาดน้ำขาวขุ่นซึ่งอยู่ภายในกายของเขาไปจนหมด

“บทเรียนมันยังไม่จบหรอกนะท่านเอลียาห์”

เป็นดั่งที่แดริลพูด ชายหนุ่มใช้ลิ้นไล้เลียอวัยวะเพศของเอลียาห์อีกครั้ง คราวนี้เนิบนาบและใช้เวลาสำรวจทุกตารางนิ้วมากกว่าครั้งก่อน เด็กหนุ่มถูกทำให้ปลดปล่อยอีกถึงสามครั้งจนในที่สุดก็นอนสลบไปด้วยความเหน็ดเหนื่อยและอ่อนแรง

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

เอามาลงโดยยังไม่ได้ตรวจคำผิดเลยค่ะ

ช่วงนี้เหงาๆเบื่อๆ แต่ก็ปั่นนิยายเรื่องนี้จนจบแล้วนะคะ

ถ้ามีเวลาว่างมากจะลงให้ถี่กว่าอาทิตย์ละครั้งค่ะ

แต่งานหลวงงานพิเศษเราเยอะอาจจะลงได้แค่อาทิตย์ละครั้งเหมือนเดิมทั้งที่เขียนนิยายในสมุดจนจบแล้ว

ต้องขออภัยท่านที่ยังรออ่านอยู่นะคะ

แต่ลงทุกอาทิตย์แน่นอนค่ะไม่หายไปไหน

รักคนอ่านค่ะ

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
Re: Forbidden dashuria ตอนที่ 16<13/9/58><p 3>
«ตอบ #72 เมื่อ14-09-2015 19:49:51 »

 :katai2-1:

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
Re: Forbidden dashuria ตอนที่ 16<13/9/58><p 3>
«ตอบ #73 เมื่อ14-09-2015 23:40:08 »

อยากอ่านต่อไวๆ แล้วอ่ะ
รออยู่น้า
เราลุ้นให้ซาฟิลถูกชาคากด กรั่กๆ

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
Re: Forbidden dashuria ตอนที่ 16<13/9/58><p 3>
«ตอบ #74 เมื่อ15-09-2015 09:03:58 »



เหอะ เรื่องมันมาขนาดนี้ได้ยังไงกันนะ


พูดกันดีๆแต่แรกก็จบป่ะ  :ling2:

ออฟไลน์ kirara147

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: Forbidden dashuria ตอนที่ 16<13/9/58><p 3>
«ตอบ #75 เมื่อ20-09-2015 21:13:07 »

ตามอ่านเรื่องเก่าเพิ่งจบไปก็มาอ่านเรื่องใหม่ต่อ สนุกมากเลย รอตอนต่อไปนะคะ :mew1:

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
Re: Forbidden dashuria ตอนที่ 16<13/9/58><p 3>
«ตอบ #76 เมื่อ23-09-2015 12:40:40 »

ตอนที่ 17
   ดวงตากลมโตกระพริบถี่ๆ ขณะมองดูเพดานของเตียงสี่เสา  ที่ไม่น่าจะเป็นเตียงนอนในห้องนอนของตนเพราะลักษณะและสีสันแตกต่างกันอย่างมาก

   “ที่นี่ที่ไหน” เด็กหนุ่มพึมพำพร้อมกับขยับกายลุกขึ้นนั่ง อาการมึนนิดๆ จากการที่ดื่มสุราเข้าไปอย่างไม่บันยะบันยังเมื่อวานยังคงเหลืออยู่นิดหน่อย เอลิยาห์ถึงจะดื่มไปมากแต่ก็ไม่ได้เกิดอาการเมาค้างมากอย่างที่คิด เขารู้แจ้งแก่ใจดีมานานแล้วว่าตัวเองนั้นคอแข็งมากกว่าคนปกติทั่วไปอยู่หลายเท่า
   
“ตื่นแล้วหรือครับ” ดวงตากลมโตตวัดมองไปยังข้ารับใช้ชายแปลกหน้าที่เปิดประตูเข้ามา ชายผู้นั้นถือถาดที่มีทั้งอาหารและน้ำดื่มตรงเข้ามาหาเขาซึ่งยังนั่งงงอยู่บนเตียง

   “ที่นี่ที่ไหน ไม่สิเจ้าเป็นใครกัน” ข้ารับใช้ยิ้มนิดๆให้กับอาการสับสนงงงวยของเอลิยาห์ก่อนจะเปิดปากตอบคำถามด้วยน้ำเสียงเนิบนาบ

   “ที่นี่เป็นฮาเร็มเก่าที่อดีตกษัตริย์ปล่อยร้างไว้ครับ แต่ท่านเอลิยาห์ไม่ต้องห่วง ตลอดหลายปีมีผู้ทำความสะอาดดูแลอยู่ ท่านสามารถใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ได้อย่างไม่มีปัญหาแน่นอน”

   ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่อย่างนั้นหรือ
   
เอลิยาห์ทวนคำในใจ เด็กหนุ่มไม่ใช่คนโง่จึงตีความคำพูดของคนตรงหน้าได้ทันที

   “เราจะกลับพระราชวังของเรา” เด็กหนุ่มผลุนผันลุกออกจากเตียงก่อนจะก่อนเท้าฉับๆ ไปยังประตูห้องโดยมีข้ารับใช้แปลกหน้าตามมาห้ามเอาไว้
   
“อย่ามายุ่งกับเรา” เอ็ดไปด้วยใบหน้ากรุ่นโกรธก่อนจะเปิดประตูห้องแล้วเดินออกไปยังด้านนอก เอลิยาห์ก้าวเท้าออกไปได้ไม่เท่าไหร่ก็ถูกทหารยามเข้ามายืนขวางไม่ให้เดินต่อไปได้อย่างอิสระ

   “หลักทางให้เรา” รู้สึกหงุดหงิดแต่ก็คร้านที่จะต่อว่า พวกทหารยามตรงหน้า เมื่อเอลิยาห์ไม่ออกปากดุด่าจึงค่อยๆ ตีวงเข้าหากดดันให้เด็กหนุ่มถอยกลับเข้าไปในห้อง

   “ทำอย่างนี้หมายความว่าอย่างไร”

   “เป็นคำสั่งของฝ่าบาทแดริลครับ” ยังไม่ทันจะเอ่ยปากถามถึงที่มาที่ไปก็ถูกบังคับให้กลับเข้าไปในห้องแล้วปิดประตู เวลานี้เอลิยาห์อยู่ในห้องเพียงลำพัง ร่างกายและจิตใจของเขาปั่นป่วนด้วยความสับสนและขุ่นข้องจนสงบลงไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

   “โอ้...” เสียงครางของข้ารับใช้แปลกหน้าดังขึ้นทันทีที่เปิดประตูยกอาหารเย็นมาให้ เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยที่เอลิยาห์อาละวาดจนข้าวของในห้องกระจุยกระจาย

   “สงสัยว่าต้องให้คนมาช่วยทำความสะอาด” ข้ารับใช้คนเดิมพึมพำก่อนจะเรียกให้ทหารยามเข้ามาคุมตัวเด็กหนุ่มที่อาละวาดจนเละเทะไปหมดไปยังอีกห้องที่ใหญ่โตและหรูหรากว่าเดิม

   “ปล่อยเรานะ พวกเจ้าไม่มีสิทธิ์มาทำกับเรากับเราแบบนี้” เอลิยาห์โวยวายทันทีที่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ทหารยามว่างถาดอาหารและน้ำเอาไว้บนโต๊ะเล็กๆ ภายในห้องก่อนจะล่าถอยออกไป ปล่อยให้คนที่กำลังโกรธขึ้งอยู่กับตัวเองตามลำพัง
   
“บ้าที่สุด”

เขาหงุดหงิดจนอยากจะขวางปาอีกครั้ง มือเรียวฉวยจับเอาจานอาหารหมายจะขวางปาให้สาแก่ใจ ทว่าพอคิดได้ว่าอีกเดี๋ยวคงถูกย้ายห้องใหม่อีก นอกจากนั้นยังละอายแก่ใจที่จะทิ้งขวางอาหารจึงทำได้แต่นั่งรับประทานอาหารในจานไปอย่างเงียบๆ เอลิยาห์รอคอยแดริลที่เป็นต้นเหตุของเรื่องเลวร้ายนี้มาอธิบายให้เข้าใจด้วยอารมณ์ที่เยือกเย็นขึ้น
   
กี่วันแล้วนะที่มาอยู่ที่นี่

   เอลิยาห์นอนนับวันบนเตียงสี่เสาแล้วถอนหายใจ เกือบสองอาทิตย์แล้วที่ถูกกักขังเอาไว้ในห้องของฮาเร็มอย่างโดดเดี่ยว เด็กหนุ่มผ่านการร้องไห้อยู่สองสามวัน เวลานี้ถึงจะเริ่มทำใจได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ชิงชังแดริลผู้ซึ่งเป็นคนออกคำสั่งจองจำเขาเอาไว้อย่างนักโทษ
   
จะบอกว่าโกรธเรื่องที่เขาสุงสิงอยู่กับท่านพี่ซาฟิลอย่างนั้นหรือ เป็นไปไม่ได้

   เด็กหนุ่มส่ายหน้าไปมาช้าๆ ขอสรุปอันโน้มเอียงไปในทางชู้สาวถึงแม้จะทำให้ดวงใจที่เหี่ยวเฉาแย้มบาน หากเมื่อนึกถึงข้อเท็จจริงแดริลกับเขาเป็นพี่น้องกัน อีกอย่างชายคนนั้นไม่เคยบอกรักเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว

   เอลิยาห์นึกถึงสัมพันธ์สวาทอันเกินเลยถึงสามครั้งระหว่างตนกับแดริล ครั้งแรกอีกฝ่ายทำไปเพราะถูกกดดัน ส่วนครั้งที่สองเพราะร่างกายที่เต็มไปด้วยราคะทำให้พี่ชายทนดูเฉยไม่ได้ และครั้งสุดท้ายคงทำไปเพราะสั่งสอนให้รู้สำนึกถึงความโง่เขลาของเขาเพียงเท่านั้น

   เรายังรักคนๆ นั้นอยู่ หยาดน้ำใสหลั่งรินรดใบหน้า เอลิยาห์กดใบหน้าซุกลงบนหมอนขนนกอันนุ่มนิ่ม

   ทำไมคนๆ นั้นต้องเป็นพี่ชายด้วย ทำไมไม่เป็นแดริลคนสนิทของเขาอย่างที่ควรเป็น

    ขณะที่สะอื้นอย่างไร้เสียง เสียงโครมครามโวยวายจากการกระแทกประตูก็ทำให้เอลิยาห์ขยับกายลุกขึ้นนั่ง ที่ตรงหน้าซาฟิลกับชาคาและทหารจำนวนหนึ่งเดินตรงเข้ามาหาเขาที่น้ำตายังไม่เหือดหาย

   “ไอ้เลวแดริล” ซาฟิลโอบกอดศีรษะของคนที่นั่งอยู่บนเตียงเอาไว้แนบแน่น เอลิยาห์เมื่อถูกมอบความห่วงใยให้แถมยังแสดงอาการโกรธเคืองแทนก็เริ่มร้องไห้อีกครั้ง

   “หยุดร้องก่อนน้องเอลิยาห์ เราต้องรีบออกไปจากที่นี่” เอลิยาห์ผละจากอ้อมแขนของซาฟิล ชั่วแวบหนึ่งเขาสังเกตเห็นสีหน้ายุ่งยากใจของชาคาที่อยู่ด้านหลังของลูกพี่ลูกน้อง

   “แดริลเป็นกษัตริย์ ทำแบบนี้ท่านพี่ซาฟิลจะเดือดร้อน”

   “ช่างหัวมันปะไร เจ้าเป็นน้องที่ข้ารักที่สุด แล้วก็... เอ่อ...ข้า....” ซาฟิลลังเลใจที่จะพูด ดวงตาคมสวยตวัดมองชาคาซึ่งตีหน้ากังวลใจ

   “ถ้าท่านจะบอกว่าท่านหลงรักท่านเอลิยาห์มานานแล้ว ข้าก็เข้าใจอยู่ แต่ยังไงข้าอยากให้ท่านปรึกษาหารือกับข้าก่อนที่จะเข้ามาช่วยท่านเอลิยาห์อย่างโง่ๆ” ชาคาแสยะยิ้มอย่างเสือร้าย เอลิยาห์เขาใจในทันที ในเรื่องที่ชายผู้หล่อเหลาคนนี้กำลังไม่พอใจ ใครๆ ก็ไม่อยากให้คนที่ตัวเองรักห่วงใยคนอื่นเกินกว่าตัวเองทั้งนั้น

   “ท่านพี่ซาฟิลออกไปเถอะ เดี๋ยวท่านจะเดือดร้อน”
   “จะได้ยังไง ข้ามาถึงที่นี่แล้ว ยังไงเจ้าก็ต้องไปกับข้า” ซาฟิลคว้าจับมือ บังคับให้เอลิยาห์ที่ต่อต้านการช่วยเหลือและฉุดกระชากไปตามทาง

   “ท่านปล่อยข้าไว้ที่นี่เถอะท่านพี่” เอลิยาห์ต่อต้านไปพร้อมกับร้องขอ ด้วยกลัวแดริลจะพบเข้าเสียก่อนแล้วลงโทษซาฟิลเพราะรู้ดีว่าทั้งสองไม่ถูกกันมาตั้งแต่ยังเยาว์วัย

   “อย่าชักช้าเลยครับ ยิ่งท่านลังเลยิ่งอาจถูกพบได้โดยง่าย” ทันทีที่ชาคาเอ่ยตำหนิ เอลิยาห์ก็เลิกโวยวาย ที่ด้านนอกทหารองครักษ์ของซาฟิลเล่นงานทหารยามจนหมอบและถูกจับมัดเอาไว้

   “นี่มันอะไรกัน” เสียงอันทรงอำนาจตวาดก้อง เอลิยาห์ ซาฟิลและชาคากับทหารจำนวนหนึ่งซึ่งเดินตามหยุดชะงักบนทางเดินด้านนอก

   “ก่อกบฏอย่างนั้นเหรอซาฟิล” แดริลกดเสียงต่ำ ที่ด้านลังมีองครักษ์จำนวนมากกับข้ารับใช้แปลกหน้าซึ่งคอยรับใช้เอลิยาห์อยู่ตลอดนับตั้งแต่ถูกจับมาขังเอาไว้

   “ฝ่าบาทเกิดอะไรขึ้นหรือคะ” สตรีที่ยืนอยู่ด้านข้าง เอลิยาห์จำได้ว่าหล่อนคือจัสมิน ที่ข้างของหญิงสาวมีเด็กชายวันสามถึงสี่ขวบยืนอยู่ข้างๆ เด็กชายผู้นั้นมีดวงตาสีเดียวกับแดริล

   “โอโหแฮะ ขึ้นเป็นกษัตริย์แค่ไม่กี่วันก็พาผู้หญิงเข้าฮาเร็มแล้วอย่างนั้นหรือ แถมยังเป็นสตรีที่มีลูกติดเสียด้วย ไม่สิเหมือนเจ้าออกขนาดนี้ลูกชายเจ้าสินะ” ซาฟิลประชดประชันแดริลที่ยืนตีหน้านิ่ง

   เอลิยาห์เมื่อประมวลผลได้ ในอกก็เหมือนถูกมีดคว้าน ลูกของแดริลอย่างนั้นหรือ ดวงตากลมมองสลับเปรียบแทบเด็กชายกับแดริล ทั้งสองเหมือนกันจนแทบแยกไม่ออก เอลิยาห์เจ็บปวดมากยิ่งกว่าตอนที่รู้ว่าแดริลซุกซ่อนหญิงสาวเอาไว้ในห้องเสียอีก เด็กหนุ่มปลายตามองดูจัสมิน หญิงสาวคนนี้คงเป็นผู้หญิงของแดริลเมื่อหลายปีก่อน นับว่าพี่ชายของเขาเป็นคนที่รักมั่นยิ่งนักที่รับตัวหล่อนมาไว้ในฮาเร็มพร้อมกับบุตรชาย

   “พาจัสมินกับลูกไปที่ห้องก่อน” แดริลเอ่ยคำสั่งกับข้ารับใช้ หลังจากที่จัสมินและลูกถูกพาไปกษัตริย์องค์ใหม่ก็ตวัดสายตากร้าวสาดใส่ซาฟิลกับเอลิยาห์

   “ออกไปแล้วจะไปกบดานพลอดรักที่ไหนกันอย่างนั้นหรือ”

   “โอย เจ้านะโง่นะ ถ้าอยากพลอดรักที่ไหนก็ทำได้ เจ้าเองก็เคยทำกับแม่สาวคนนั้นจนข้าเห็นมาแล้ว” ซาฟิลพูด
   แดริลแผ่รังสีคุกคามดวงตาคมดั่งดาบปลายมองมายังเอลิยาห์ เด็กหนุ่มเข้าใจเรื่องที่กำลังถูกถามด้วยดวงตาแต่ความรวดร้าวซึ่งฉายชัดในแววตาคู่นั้นเขาไม่เข้าใจว่ามันหมายความว่าอย่างไร

   “เอลิยาห์ต้องการให้ซาฟิลถูกลงโทษเช่นไร” คำพูดของแดริลทำเอาคนที่ถูกถามหลุดจากภวังค์ รอยยิ้มมาดร้ายซึ่งถูกวาดลงบนใบหน้ายิ่งร้ายกาจมากขึ้นไปทุกขณะ เมื่อเอลิยาห์แสดงอาการตกตื่นด้วยความกลัว
   
“กบฏต้องถูกลงโทษอย่างไรนะ” เสียงขานรับบอกบทลงโทษจากทหารองครักษ์ดังไปทั่วบริเวณต่ซาฟิลหาได้กลัวไม่ ร่างโปร่งยืนกรานจะพาเอลิยาห์ไปหาอดีตกษัตริย์ให้ช่วยตัดสินให้จงได้แต่ผู้ได้รับความช่วยเหลือกลับผลักไสลูกพี่ลูกน้องให้ไปให้พ้นจากที่ตรงนั้นจนซาฟิลต้องจากไปอย่างไม่ค่อยจะชอบใจ

   “เจ้าเป็นอะไรไปน้องเอลิยาห์”ซาฟิลที่ทั้งโกรธทั้งสับสนถูกชาคาสั่งให้ทหารองครักษ์บัคับพากลับตะโกนเสียงดังไปตลอดทางเดินที่ห่างออกไป

   “รู้ตัวหรือเปล่าว่าทำไมถูกสั่งกักบริเวณ”

   “เราไม่รู้” เอลิยาห์เขม่นมองสบสายตาอันเย็นเยียบ แต่ซ่อนเปลวเพลิงร้อนแรงเอาไว้ภายใน ในทางกลับกันแววตาของเขาก็แข็งขืนกรุ่นโกรธไม่แพ้กันเด็กหนุ่มไม่เข้าใจว่าแดริลกำลังโกรธอะไร หากทว่าพริบตาต่อมาก็ถูกบังคับพากลับไปยังห้องอย่างไม่อาจต่อต้าน
   
“สรุปว่าตั้งใจจะหนีไปพลอดรักกับเจ้าสวะนั่นจริงๆ สินะ” เอลิยาห์ซึ่งยืนประจันหน้ากับแดริลโกรธจนปรอทแทบแตก เขาไม่ชอบใจที่ถูกเหมารวมว่ามีพฤติกรรมแบบเดียวกับคนที่ประณามเขาจนเผลอตะคอกเสียงดังออกไป

   “เจ้าต่างหาก ที่พาผู้หญิงเก่ามาพลอดรักในฮาเร็ม เจ้านั่นแหล่ะที่ทำผิดซ้ำซากนับครั้งไม่ถ้วนไม่มีสิทธิ์มาว่าเราเลยแม้แต่นิด เจ้าไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของเราเลยแม้แต่นิดเดียว” เอลิยาห์หอบจนตัวโยนเพราะต่อว่าออกไปเป็นชุด ในตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดใบหน้าอันขุ่นเคืองของแดริลกกลับมีรอยยิ้มพร่างพราวจนทำให้คนตรงหน้าสดใสหล่อเหลามากขึ้นอีกหลายเท่า แดริลคว้าร่างบางเข้าไปกอดรัดแล้วประทับจูบอ่อนหวานเนินนานจนคนถูกมอบความรักใจเต้นจนแทบระเบิดออกมาจากอก

   “เจ้าทำอะไร” เอลิยาห์ใช้หลังมือเช็ดน้ำลายที่เปรอะเปื้อนริมฝีปาก ใบหน้าของเขาแดงก่ำ หัวใจดวงน้อยๆ เต้นระส่ำจนหยุดเอไว้ไม่ได้

   “ปลอบโยนคนที่กำลังอารมณ์เสียอยู่อย่างไรเล่า”
   
“บ้าชัดๆ พี่น้องกันเขาไม่ปลอบโยนด้วยจูบแบบนี้”
   
“ไม่เคยคิดว่าเจ้าเป็นน้องชายเลยแม้แต่สักครั้งเดียว” แดริลยิ้มหวานหยดย้อยก่อนจะผละจากไป เอลิยาห์ถึงแม้จะถูกปล่อยเอาไว้ตามลำพังก็ยังใจเต้นกับรอยยิ้มอันน่าตื่นตาจนควบคุมร่างกายและจิตใจให้กลับเป็นปกติไม่ได้

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

มาลงช้ากว่าปกติ แต่พรุ่งนี้จะลงให้อีกตอนนะคะ



ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
Re: Forbidden dashuria ตอนที่ 17<23/9/58><p 3>
«ตอบ #77 เมื่อ23-09-2015 21:07:52 »

 :L1: :pig4:

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
Re: Forbidden dashuria ตอนที่ 17<23/9/58><p 3>
«ตอบ #78 เมื่อ24-09-2015 04:12:30 »

เด็กที่ไหนโผล่มาอีกละเนี่ย!? อย่าบอกว่าเป็นลูกแดริลจริงๆ นะ!
แต่แดริลก็ดีใจที่เอลิยาห์หึงสินะ -..- จับมาจูบเลย ร้ายนี่หว่า

ออฟไลน์ Kamidere

  • บรรยายมันออกมา ทุกสิ่งที่อยู่ในใจ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2
Re: Forbidden dashuria ตอนที่ 17<23/9/58><p 3>
«ตอบ #79 เมื่อ24-09-2015 19:34:16 »

เรารอน้าาาาา รออยู่นะะะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Forbidden dashuria ตอนที่ 17<23/9/58><p 3>
« ตอบ #79 เมื่อ: 24-09-2015 19:34:16 »





ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
Re: Forbidden dashuria ตอนที่ 17<23/9/58><p 3>
«ตอบ #80 เมื่อ24-09-2015 22:28:27 »

เป็นเรื่องที่ดำเนินได้ว่องไวสุดๆ
อ่านแล้วทั้งเข้าใจ และไม่เข้าใจในตัวแดริลจิงๆ
(ดูขัดแย้งในความคิดตัวเองมากอ่ะ 5555)
คือเข้าใจที่แดริลทำตอนเป็นผู้ดูแลนะ โดนคนที่รัดเมินก้ออยากเรียกร้องความสนใจ (แต่ติดจะคุกคาทไปนิดนะ นั่นเอลียาห์ตอนสิบกง่ขวบเองนะ!!)
แต่พอมาเปนราชา ก้อผยองปนห่วงใย คือหมั่นไส้อ่ะนะว่ากันตรงๆ 55555555
ส่วนอาลียาห์อารมณ์เหมือนผู้หญิงตอนมีปนะจำเดือน ขึ่นๆลงๆสุดๆ 55555

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
Re: Forbidden dashuria ตอนที่ 17<23/9/58><p 3>
«ตอบ #81 เมื่อ24-09-2015 23:09:44 »

ตอนที่18

“ท่านเอลียาห์”

ฟาติมาโผเข้ากอดไปพร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นจนคนโดนกอดตื้นตันใจมากเกินกว่าจะกล่าว นอกจากนั้นซาลามซึ้งถูกพามาด้วยกันก็ยังร้องไห้ด้วยเช่นกัน ทำให้เอลียาห์ที่คาดไม่ถึงดีใจจนยิ้มแก้มปริ

ไม่คิดมาก่อนว่าทั้งสองคนจะห่วงใยตนถึงเพียงนี้

เอลียาห์คิดขณะตอบคำถามสารทุกข์สุกดิบที่ฟาติมาเป็นคนป้อนไม่หยุด ขณะเดียวกันซาลามซึ่งรู้งานก็ปรณนิบัติรับใช้โดยการชงชามาให้แถมยังมีน้ำใจชงเผื่อฟาติมาเสียด้วย

“ดื่มชาก่อนเถอะ ซาลามก็ชงให้ตัวเองด้วยนะ”
ซาลามรับคำสั่งเอลียาห์ก่อนจะชงชาให้ตนเอง

“ฝ่าบาทแดริลไม่น่าทำแบบนี้เลย ทำไมถึงได้เปลี่ยนไป” ฟาติมารำพึงรำพัน

“คนเราเมื่อเติบโตขึ้นก็ต้องเปลี่ยนไปบ้างนั่นล่ะพี่ฟาติมา”
เอลียาห์ปลอบโยนพลางใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาให้ฟาติมา

“พี่ฟาติมารู้เรื่องของจัสมินกับแดริลบ้างหรือไม่”
ฟาติมาส่ายหน้า ในตอนนั้นซาลามซึ่งนั่งเงียบอยู่นานก็ขานรับคำถามของเอลียาห์

“เจ้ารู้หรือซาลาม”

“รู้ดีเลยล่ะครับ จัสมินเป็นเพื่อนสมัยเด็กของข้า”

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าช่วยเล่าให้ฟังทีสิ”

“ครับ”

เอลียาห์นั่งฟังอย่างกระตือรือร้น ซามลามเริ่มเล่าตั้งแต่พื้นฐานนิสัยอันทะเยอทะยานของจัสมิน ถึงแม้ว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของแดริลแต่เด็กหนุ่มก็ยังนิ่งฟัง

จัสมินนอกจากจะรูปสวย ความจริงแล้วเจ้าหล่อนไม่จำเป็นต้องเข้ามาเป็นข้ารับใช้เสียด้วยซ้ำ ทว่าเธอต้องการเข้าหาเอลียาห์ซึ่งเป็นเจ้าชาย ความฝันของเธอคือการได้สมรสกับชนชั้นสูง

แน่นอนคนในครอบครัวก็สนับสนุน ดังนั้นหน้าที่ตำแหน่งในพระราชวังของหล่อนจึงก้าวหน้าอย่างรวดเร็วด้วยเงินทองสินบนที่พ่อแม่ยัดเยียดให้ขุนนาง

เอลียาห์ตกใจจนเผลอกำมือเข้าหากันแน่น เมื่อรู้ว่าเป้าหมายจริงๆแล้วคือตนเอง ถึงแม้เธอจะอายุมากกว่าแต่ถ้าพึงใจขึ้นมา ไม่มีใครกล้าขัดขวางความต้องการของเขาแน่ๆ

แล้วทำไมเธอถึงไปวุ่นวายกับแดริล

เด็กหนุ่มตั้งคำถามนี้กับซาลาม

“จัสมินบอกว่าเธอมองคนไม่ผิด ฝ่าบาทแดริลทั้งรูปงามเฉลียวฉลาด นอกจากนั้นแม้แต่ข้าน้อยยังรู้สึกว่าท่านผู้นั้นมีสง่าราศีไม่เหมือนคนธรรมดา”

“เช่นนี้นางถึงตกลงปลงใจกับฝ่าบาทรึ นางไม่ธรรมดาจริงๆ”
ฟาติมาพูดขณะยกมือขึ้นทาบอก

“จัสมินประสบผลสำเร็จกับการลงทุนกับแดริลเสียด้วย นางมีลูกของแดริล”

ฟาติมาอุทานดังเอ๊ะ เธอลนลานพูดว่า เธอไม่รู้มาก่อนว่าเป็นลูกของแดริล เธอเข้าใจเพียงแค่จัสมินท้องก่อนแต่งและใช้เงินจำนวนมากยัดเยียดขุนนางให้ปกปิดแล้วกลับบ้านเกิดไป

“นางรอคอยเวลาอย่างเชื่อมั่นครับ นางมั่นใจว่าฝ่าบาทแดริลต้องไม่เมินเฉยต่อทายาทของตนเอง”

“นางมั่นใจได้อย่างไรกัน”
ฟาติมาทักท้วงซาลาม

“นางพูดว่าฝ่าบาทแดริลมีแผลในใจที่รักษาไม่หาย ท่านผู้นั้นจะไม่ทอดทิ้งบุตรชายของตน ถึงแม้ว่าจะไม่ตั้งใจให้กำเนิด สำหรับนางต่อให้ไม่ได้รับความรักจากฝ่าบาทอย่างแท้จริงแต่ซาอิดไม่สิเจ้าชายซาอิดมีคุณค่าที่จะช่วยให้นางได้สิ่งที่ต้องประสงค์”

“นางช่างร้ายกาจ นางไม่ได้รักลูกของนางเลยหรือ”

“รักสิ แต่คนทะเยอทะยานอย่างนางความรักไม่ใช่สิ่งสำคัญนัก”

เอลียาห์สูดลมหายใจเข้าปอดโดยแรง ขาบอกตนเองซ้ำไปซ้ำมาให้อย่าไปยุ่งเรื่องระหว่างแดริลกับจัสมิน คนสองคนจะรักกันหรือไม่ไม่เกี่ยวกับเขา หากแต่นึกถึงใบหน้าอันน่ารักหล่อเหลาตั้งแต่ยังเยาว์ของซาอิดเด็กหนุ่มก็นึกสงสารจับใจ
เด็กคนนั้นจะถูกพ่อกับแม่ใช้งานอะไรอีกเสียเท่าไหร่ จะทนรับเรื่องเลวร้ายที่พ่อแม่ยัดเยียดให้ได้หรือเปล่านะ

หลังจากนั้นไม่ว่าจะพยายามสักเท่าไหร่ก็สลัดภาพเด็กชายตัวน้อยออกไปไม่ได้ ดังนั้นเอลียาห์จึงตัดสินใจออกไปเดินเล่น เมื่อถูกบอกกล่าวจากข้ารับใช้ของแดริลเรื่องที่ได้รับอนุญาตให้ออกมาเดินด้านนอกได้อย่างอิสระ

“อ๊ะ”
เอลียาห์อุทานเบาๆเมื่อถูกชนด้วยอะไรบางอย่างพอหันไปมองก็พบกับเด็กชายตัวน้อยซึ่งน่าจะเป็นซาอิด

“ไปหลบไปหลบเร็ว”
ถึงแม้จะพูดไม่ชัดเท่าไหร่นักแต่ก็ดูฉลาดเฉลียว ซาอิดกระตุกมือเอลียาห์ให้เดินตามไปหลบอยู่ในพุ่มไม้

“ชู่ชู่”
ซาอิดเอานิ้วชีจรดริมฝีปากแล้วส่งเสียงเตือนให้เงียบ เอลียาห์ซึ่งเข้ามาหลบในพุ่มไม้หนาเพ่งมองหญิงรับใช้ร่างท้วมที่มีท่าทางกรุ่นโกรธสาละวนค้นหาซาอิดไปพร้อมกับก่นด่า

“เจ้าเด็กบ้า”
หญิงร่างท้วมสบถ เมื่อหาไม่เจอ เจ้าหล่อนก็เดินไปค้นหาต่อยังที่อื่น

“นางปีศาจไปแล้ว”
ซาอิดยิ้มกว้างก่อนจะจูงมือของเอลียาห์ให้ออกไปนอกพุ่มไม้รก

“ทำไมเรียกเธอว่านางปีศาจ นางเป็นพี่เลี้ยงของเจ้าใช่หรือไม่”

“นางปีศาจนั่นน่ารำคาญ นางบอกว่าเราสู่รู้เกินเด็ก”
เอลียาห์ร้องอ้อ แล้วเริ่มซักถามต้นเหตุทั้งหมดจากซาอิดอย่างจริงจัง ซาอิดเริ่มเล่าถึงความไม่เอาใจใส่และไร้ระเบียบของนาดา

“นาดาหงุดหงิดง่าย อาจเป็นเพราะหาสามีไม่ได้สักที ท่านแม่บอกว่าทั้งชีวิตนางก็หาใครมาแต่งงานด้วยได้ยาก พอเราโมโหที่นางแกล้งเอาน้ำขมขมมาให้เราทานเราก็เลยว่านางไปแล้วก็โกรธจนอาละวาดใส่ทุบตีเราตอนท่านแม่ไม่ว่าง”

“แล้วทำไมไม่บอกท่านแม่ นาดาทำกับเจ้าอย่างนี้บ่อยไหม”
ซาอิดมีสีหน้าสลดเมื่อถูกถาม เด็กน้อยนิ่งเงียบไปสักพักก่อนจะตอบ

“ท่านแม่มีเรื่องมากมายต้องทำ ท่านจะมาหาเราแค่ตอนให้การศึกษาและฝึกมารยาทเท่านั้น วันหนึ่งเราพบหน้าท่านแม่ห้าถึงหกชัวโมงได้”

“ท่านแม่สอนเองหรือ”

“ไม่ ท่านแม่มาดูเรานั่งเรียนกับท่านครู”
เอลียาห์พยักหน้าเข้าอกเข้าใจ

“งั้นวันนี้ไม่เรียนหนังสือหรือ”

“เรียนพอแล้ว ท่านแม่ออกไปทำธุระข้างนอกจึงปล่อยให้เราอยู่กับนาดาเหมือนทุกวัน”

“ถ้าอย่างนั้นไปกินขนมกันดีกว่าไหม”

เอลียาห์ชักชวนด้วยรอยยิ้ม เพราะอะไรไม่ทราบท่าทางอันเฉลียวฉลาดและใบหน้าน่ารักคมคายทำให้เขาเกิดความเอ็นดูจนอยากจะนั่งพูดคุยเรื่องของซาอิดอีกสักหน่อย

เมื่อซาอิดตอบรับเด็กหนุ่มจึงพากลับไปยังห้องส่วนตัวของเขาหลังจากซักถามจนแน่ใจแล้ว ซาอิดบอกว่า ไม่มีปัญหาและสามารถไปกับเขาได้

“อะไรกันนี่อ่านหนังสือได้แล้วหรือ”
เอลียาห์แปลกใจมากเมื่อพบว่าซาอิดสามารถอ่านหนังสือที่ตนอ่านค้างไว้ได้

“เข้าใจหรือเปล่าที่อ่านออกมา”

“เข้าใจบ้างแค่บางอย่าง” ซาอิดตอบ

“แล้วเขียนตัวอักษรได้ไหม”
เอลียาห์สั่งให้ซาลามนำกระดาษกับดินสอมาให้เด็กหนุ่มยื่นส่งให้ซาอิด

“นี่ไง”
ซาอิดเขียนชื่อตนเองลงไปในม้วนกระดาษ ตัวอักษรของเด็กน้อยสวยงามจนเอลียาห์ยังถอดถอนหายใจ

“เก่งเหลือเกิน”
เมื่อได้รับคำชมซาอิดก็มีสีหน้าเศร้าสร้อยอย่างเห็นได้ชัดจนเอลียาห์เห็นว่าผิดท่า

“ไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า”

“เราไม่อยากเก่งเลย”
เด็กน้อยก้มหน้าลง ความไม่สบายใจของซาอิดเอลียาห์รับรู้ได้โดยไม่ต้องสังเกตให้มากนัก

“มีเรื่องอะไรหรือบอกอามาเถอะ”
เด็กหนุ่มอุ้มซาอิดขึ้นมานั่งบนตักก่อนจะใช้มือลูบศีรษะเล็กไปมาปลอบโยน

“ท่านแม่ยิ่งชมว่าเราฉลาดก็ยิ่งเข้มงวดกับเรามาก ท่านแม่เอาแต่บอกว่าทั้งหมดเพื่อตัวเรา การเรียนมีเพื่อตัวเรา แต่ไม่เคยบอกว่าเราตั้งใจเรียนขนาดนี้จะมีความสุขที่ตรงไหน ท่านแม่เอาแต่บอกซ้ำๆและเข้มงวดจนเราแทบไม่มีเวลาไปเล่นสนุกกับใครเลย”

“อยากไปเล่นกับเด็กคนอื่นหรือ”
เอลียาห์ยิ้มเศร้าๆ เขาอดเปรียบเทียบเด็กน้อยกับตนเองในวัยเด็กไม่ได้

“ไม่มีใครเล่นกับเราหรอกทุกคนกลัวท่านแม่เอาเรื่อง”

อิดตอบด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยไม่แพ้กัน ตอนนี้ดวงตาเด็กน้อยชุ่มฉ่ำด้วยหยาดน้ำ เอลียาห์หวนนึกถึงวัยเด็กของตนที่พยายามให้พระราชบิดาปลาบปลื้มและยินดีอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แต่เขาโกหกตัวเองทุกครั้งที่ทำพลาดแล้วเห็นสีหน้าเศร้าๆของบาดี เด็กหนุ่มในตอนนั้นต้องแอบไปร้องไห้เพราะกลัวพระราชบิดาจะผิดหวังทุกครั้งไป

“รังเกียจการเรียนหรือเปล่า”

“ไม่เลย”
ซาอิดส่ายหน้าไปมา เอลียาห์ชื่นชอบเด็กน้อยมากยิ่งขึ้นไปอีก จนอดไม่ได้ที่จะฉีกยิ้มจนซาลามและฟาติมายังตกใจ

“ถ้าอย่างนั้นก็ตั้งใจต่อไปเพื่อตัวเองนะ อาเชื่อว่าท่านแม่ของซาอิดจะต้องมีความสุขไปด้วยแน่ๆ”

“จริงๆนะหรืออย่างนี้ดีจริงๆนะหรือ”
ซาอิดถามอย่างลังเล

“แน่นอนเชื่ออาสิ”

เมื่อถูกให้ความมั่นใจซาอิดที่ปลาบปลื้มอย่างที่สุดก็ฉีกยิ้มกว้าง จากนั้นเด็กน้อยก็อยู่เรียนหนังสือกับทานอาหารร่วมกับเอลียาห์ก่อนจะลากลับไปหลังจากนั้นอีกสองสามชั่วโมง

“เป็นเด็กดีจริงๆนะคะ”
ฟาติมาเอ่ยชม

“ไปส่งให้ถึงมือคนรับใช้ที่ชื่อนาดาหรือเปล่า”

“เปล่าค่ะ”
ฟาติมาส่ายหน้า

“ท่านซาอิดบอกไม่ต้องการให้ใครรู้ค่ะ ข้าแค่ไปส่งให้ถึงในสวนเท่านั้น อ้อท่านซิดยังบอกอีกด้วยในวันพรุ่งนี้เวลาเดิมจะมาหาท่านเอลียาห์อีกค่ะ”

เอลียาห์กับฟาติมายิ้มให้กัน ท่าทางมีความสุขของคนทั้งคู่ทำเอาซาลามหวาดวิตก ผู้เป็นนายอย่างเอลียาห์ลืมนึกถึงจัสมินไปเสียสนิทเรื่องที่อาจทำให้นางไม่พอใจที่ไปยุ่งวุ่นวายกับบุตรชายเพียงคนเดียว

“มีอะไรหรือซาลาม”

“เปล่าครับข้าคิดว่าจะชงชาให้ท่านอีกซักถ้วย”
เอลียาห์พยักหน้าจากนั้นเขาก็นั่งดื่มชาด้วยอารมณ์แช่มชื่น เด็กหนุ่มรอคอยให้วันพรุ่งนี้มาถึงอย่างใจจดใจจ่อ

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

มาลงต่อแล้วค่ะดึกไปหน่อยแฮะ

เราขำมากที่คนอ่านบอกเอลียาห์นางเหมือนผู้หญิงมีประจำเดือน

คือตอนเราเขียนขอสารภาพเรานึกถึงแต่สตรีสูงศักดิ์ง่ะ

เอลียาห์เลยออกมาเป็นเช่นนี้ ค่ะ

เป็นความผิดเราเอง คือไม่รู้ทำไมอยากเขียนอุเคะแนวนี้จริงๆให้ดิ้นตาย

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเม้นนะคะ

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
Re: Forbidden dashuria ตอนที่ 18<25/9/58><p 3>
«ตอบ #82 เมื่อ25-09-2015 07:09:26 »

เด็กน้อยน่ารักจิงเชียว
เหมือนเห็นอาลียาห์ ผสมกับแดริล เบาๆ ^^

ปล. ที่บอกว่าอาลียาห์เหมือน ผญ มีประจำเดือน นี่เราไม่ได้ว่านะ น่ารักดี เราก้อชอบ 555555

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
Re: Forbidden dashuria ตอนที่ 18<25/9/58><p 3>
«ตอบ #83 เมื่อ25-09-2015 07:26:37 »

อยากให้ซาอิดเป็นลูกเอลียาห์กะแดริลจัง T^T เด็กน่ารักไม่เห็นเหมือนแม่เลย
แดริลคิดอะไรอยู่กันแน่เนี่ย

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
Re: Forbidden dashuria ตอนที่ 18<25/9/58><p 3>
«ตอบ #84 เมื่อ02-10-2015 08:15:25 »

19

เป็นเวลาถึงสองวันติดกันที่ซาอิดแอบหนีมาพบกับเอลียาห์ วันนี้ก็เหมือนทุกวัน เด็กหนุ่มสอนซาอิดเล่นฌาตตรัญจ์
เป็นเวลาเกือบถึงสองชั่วโมงที่ถูกรบเร้าให้เล่นด้วยซ้ำไปซ้ำมาอย่างไม่รู้เบื่อ

“ซักวันเราต้องชนะท่านอาให้ได้”
ซาอิดหมายมาดหลังจากที่ถูกพิชิตเป็นครั้งที่ห้าของวัน

“แต่อาว่าซาอิดเล่นเก่งมากนะ”
เอลียาห์พูดความจริง ซาอิดใช้เวลาเรียนรู้ฌาตตรัญจ์แค่สองวันเท่านั้นก็สามารถทำให้เขาเดินหมากได้ยากลำบาก และต้องวางกลยุทธในการเดินตั้งแต่ต้นในครั้งต่อต่อมา เด็กน้อยพัฒนาการรวดเร็ว จนในหัวของเอลียาห์มีคำว่า อัจฉริยะผุดขึ้น

“เคยมีใครชมว่าซาอิดเก่งหรือเปล่า”

“อาจารย์ชมบ่อย แม้แต่ท่านพ่อที่ฉลาดมากๆยังเอ่ยชมเราเลย”

“แดริลนะหรือ เขาชมเจ้าว่าอย่างไร”

“ท่านพ่อบอกว่าเราฉลาดแล้วก็ดีใจจริงๆที่มีเราเป็นบุตร”

ดีใจที่ได้ซาอิดเป็นบุตรอย่างนั้นหรือ

แดริลคงปลาบปลื้มกับลูกชายคนแรกผู้นี้มาก

ปวดในอกเหลือเกิน

เอลียาห์กุมมือที่หน้าอกแน่นก่อนจะสะบัดหน้าไปมา เด็กหนุ่มพยายามออกคำสั่งกับตัวเองให้อย่าอิจฉาแม้กระทั่งเด็กตัวน้อยๆ

เรากลายเป็นคนใจแคบอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ

เด็กหนุ่มเล่นฌาตตรัญจ์ต่ออย่างใจลอย เผลอแผลบเดียวก็ถูกซาอิตพิชิตเกมส์กระดานเข้าจนได้

“เย้ชนะท่านอาแล้ว”
ซาอิดชูมือทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะพร้อมกับโห่ร้อง

“ท่านอาใจลอยแบบนี้บ่อยๆเราคงชนะได้หลายตา”
เอลียาห์ยิ้มเจื่อนก่อนจะพลุ่งพล่านขึ้นเมื่อเห็นรอยยิ้มทะเล้นของซาอิด เด็กหนุ่มฮึกเหิมอยากจะเอาชนะจนถลกแขนเสื้อทั้งสองข้างไปพลางยิ้มไปพลาง

“คราวนี้เดี๋ยวรู้กันอาไม่ยอมแพ้แน่ๆ”
ฟาติมากับซาลามที่ยืนคอยรับใช้หัวเราะกับท่าทางอันน่าสนุกสนานของอาหลาน ในตอนนั้นเสียงหวานๆของจัสมินก็ดังที่หน้าประตู เอลียาห์สั่งให้ซาลามเชิญหล่อนเข้ามาในทันที

“ต้องขอบคุณท่านเอลียาห์จริงๆที่ช่วยดูแลบุตรชายของข้าค่ะ”
จัสมินนั่งเผชิญหน้ากับเขาพูดพลางใช้มือลูบศีรษะของซาอิด

“เพราะกลัวว่าจะเป็นการอัดความรู้มากเกินไปข้าก็เลยยังไม่เรียกท่านครูมาสอน ต้องขอบคุณอีกหลายๆครั้ง หากรู้ว่าซาอิดชอบถึงเพียงนี้จะหาท่านครูมาสอนให้และคงรบกวนท่านเอลียาห์แบบนี้ไม่ได้อีก”

เอลียาห์เตรียมตัวเอ่ยค้าน เขาอยากเจอหน้าซาอิดอีกหลายๆครั้ง การมาของเด็กน้อยช่วยให้ชีวิตที่ถูกกักบริเวณอย่างไร้เหตุผลมีสีสันและทำให้เขามีความสุข หากแต่ยังไม่ทันได้เอ่ยปาก ซาอิดก็ร้องโวยวายขึ้นมา

“เราไม่เอาอาจารย์คนใหม่ เราจะให้ท่านอสอนเรานะท่านแม่”

ใบหน้าสวยงามของจัสมินปรากฎความไม่พอใจชั่วแวบก่อนจะแย้มยิ้มให้บุตรชาย

“ไม่ดีเลยนะซาอิด รบกวนคนอื่นแบบนี้อย่าลืมสิท่านเอลียาห์เป็นคนอื่น”

“คนอื่นเสียที่ไหนท่านแม่ ท่านอาเป็นน้องชายของท่านพ่อ เป็นญาติของเรา ทำไมเราจะสนิทสนมกับท่านอาไม่ได้”

“ซาอิด”
จัสมินเสียงกร้าวจนซาอิดมีสีหน้าตื่นตระหนก พอรู้สึกถึงสายตาของคนในห้องหญิงสาวก็เปลี่ยนท่าทีเป็นอ่อนโยนมากยิ่งขึ้น

“เอาเถอะ ถ้าลูกอยากจะเอาอย่างนั้นก็ตามใจ”
ซาอิดยิ้มกว้างในขณะที่จัสมินหันมาพูดกับเอลียาห์

“ข้าต้องรบกวนท่านเอลียาห์นะคะ อีกอย่างระหว่างที่ซาอิดมาที่นี่ ข้าจะขอมานั่งดูแลลูกชายของข้านะคะ”
เอลียาห์ยิ้มฝืดเฝื่อน ดีใจที่ได้เจอซาอิดทุกวัน แต่หากมีจัสมินมาด้วยเขาคงอึดอัดแย่ ทว่าพอหันไปสบดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวังของหลานตัวน้อย เด็กหนุ่มก็ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด

“เราอนุญาต เราเข้าใจว่าเจ้าเป็นห่วงซาอิด”
จากนั้นผ่านไปอีกสามวัน ทุกทุกวันซาอิดจะมานั่งเล่นฌาตตรัญจ์และเรียนรู้เรื่องต่างๆกับเอลียาห์โดยมีจัสมินคอยนั่งสังเกตการณ์

“ท่านเอลียาห์คิดว่าซาอิดมีคุณสมบัติจะได้ครองราชย์ต่อจากฝ่าบาทหรือไม่คะ”
จัสมินเปิดประเด็นในขณะที่ซาอิดถูกฟาติมาพาไปอาบน้ำ

“เรื่องนั้น”
เอลียาห์อึกอัก ขณะที่พยายามครุ่นคิดก็ถูกจัสมินเอ่ยถามประโยคต่อไปโดยไม่ยอมเปิดโอกาสให้เขาคิดหรือตอบ

“ข้าเข้าใจว่าอีกหน่อย ฝ่าบาทจะต้องมีนางสนมหรือหญิงในฮาเร็มอีกมากมาย การที่ให้ข้ารับใช้เปิดฮาเร็มแบบนี้ยืนยันเรื่องนั้นได้ชัดเจน”

“เจ้ากลัวซาอิดมีคู่แข่งอย่างนั้นหรือ”
จัสมินแย้มยิ้มออกมาอย่างเปิดเผย

“ข้าหวังว่าท่านเอลียาห์จะสนับสนุนซาอิด บางที่การทีท่านเอ็นดูลูกของข้า อาจทำให้เขากลายเป็นคนโปรดอันดับหนึ่งของฝ่าบาท”

“ทำไมคิดเช่นนั้น”
เอลียาห์ไม่เข้าใจสิ่งที่จัสมินพูด เด็กหนุ่มไม่รู้ว่าการพึงพอใจของเขา จะทำให้ซาอิดได้รับความเมตตาจากแดริลมากกว่าใครๆได้อย่างไร

“ตลอดเวลาหลายปีที่ข้าคบหากับฝ่าบาท ท่านเอลียาห์ได้รับความรักความภักดีจากฝ่าบาทอย่างมากถึงข้าจะอิจฉาแต่แน่ใจว่าหากน้องชายที่ฝาบาทรักใคร่อย่างท่านสนับสนุน บัลลังค์กษัตริย์คงอยู่ไม่ไกลเกินซาอิดเอื้อม”

“ซาอิดเป็นเด็กฉลาด แดริลไม่มีทางมองข้ามอยู่แล้ว”

“ท่านไม่เข้าใจ อีกหน่อยจะมีหญิงงามมากมายคอยให้การสนับสนุนบุตรคนอื่นๆ แต่ว่าตัวข้า”
จัสมินหยุดชะงักครุ่นคิดแล้วเหยียดยิ้มออกมา การที่หล่อนไม่ยอมพูดให้จบประโยค ทำเอลียาห์กระวนกระวายใจมากกว่าที่คิด

“ท่านอาท่านแม่”

ซาอิดที่อาบน้ำจนหอมกรุ่นวิ่งเข้ามาโดยมีฟาติมากับซาลามเดินตามหลัง ในตอนนั้นจัสมินตัดสินว่าเป็นเวลาเย็นมากแล้ว เจ้าหล่อนก็ขอตัวลากลับ ขณะที่ลุกขึ้นยืน ร่างระหงเสล้มจนเอลียาห์ต้องโผเข้าไปรับ

“เป็นอะไรหรือเปล่า”
ใบหน้าของเอลียาห์ห่างจากจัสมินแค่เล็กน้อยจนแทบจะรู้สึกถึงลมหายใจ ระหว่างนั้นเสียงอันเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองก็ดังอยู่ที่ด้านหลัง ทั้งคู่หันไปมอง

“มาขัดจังหวะหรือเปล่า”
แดริลซึ่งยืนอยู่ที่หน้าประตูเอ่ยถามในมือของชายหนุ่มมีช่อดอกไม้กับกล่องใบหนึ่งอยู่ด้วย

“ท่านพ่อ”
ซาอิดยิ้มกว้างแล้ววิ่งเข้าไปคลอเคลียแดริลที่ก้าวเข้ามายืนเบื้องหน้าเอลียาห์และจัสมิน

“จะแยกจากกันได้หรือยัง”
ทั้งสองคนแยกออกจากกันแทบไม่ทัน เอลียาห์ดูตื่นตระหนก แต่จัสมินกลับไม่ยี่หระเท่าไหร่ เธอยังแย้มยิ้มได้อยู่

“ฝ่าบาทเอาอะไรมาหรือคะ”
จัสมินถามพลางใช้สายตาจ้องดูดอกแบล็คไอริสกับกล่องที่มีลวดลายสวยงาม

“แบล็คไอริสกับขนม”
แดริลเอ่ยเสียงขรึม ดวงตาคมที่มองมาอย่างแฝงความหมาย เอลียาห์ไม่เข้าใจว่ากำลังจะบอกอะไร แต่ทว่าถ้าแดริลเข้ามาในห้อง ย่อมหมายถึงต้องการนำของเหล่านี้มากำนัลให้เขา

“ขนมนี้คงจะนำมามอบให้ซาอิดใช่ไหมคะ”
เอลียาห์หันกลับไปมองดูแดริลที่ยังคงเขม่นมองตนเอง ดวงตาสีฟ้าบอกชัดถึงความไม่พอใจ

“ท่านเอลียาห์โตแล้วคงไม่ทานขนมละมั้งคะ”
จัสมินถามความเห็นเอลียาห์ด้วยรอยยิ้มกว้าง เด็กหนุ่มมองสลับไปมาระว่างคนที่ฉีกยิ้มและคนที่กรุ่นโกรธ ด้วยไม่รู้จะตอบออกไปเช่นไรดี จังหวะนั้นรอยยิ้มท้าทายจุดขึ้นบนริมฝีปากของแดริล

“นั่นสิ เอลียาห์โตแล้วคงไม่ทานขนมหรอกมั้ง”

ใจความประโยคบอกอยู่กลายๆเรื่องที่อีกฝ่ายต้องการนำของเหล่านั้นมาให้เขา สำหรับเอลียาห์ถึงแม้จะต้องสละขนมให้ซาอิดก็ไม่รู้สึกเสียดายอะไร หากแต่ช่อดอกไม้แดริลก็มอบมันให้จัสมินด้วย

“ตายจริงฝ่าบาทให้ข้าหรือนี่”
จัสมินหัวเราะพลางปลายมองเอลียาห์ แววตาที่สนุกสนาน ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า เจ้าหล่อนกำลังยินดีที่ได้แย่งของไปจากเขา อึดอัดใจจนแทบระเบิด

“เจ้ารับมันไปเถอะ”
แดริลถึงจะสนทนากับจัสมินแต่ก็ใช้ดวงตาจ้องมองมายังเอลียาห์อยู่ตลอดเวลา แววตาเย้ยหยันเช่นนั้นสร้างความผิดหวังจนอยากจะไล่แดริลและจัสมินออกไปให้พ้น

“ว้าวอร่อยจัง”
ซาอิดที่รับกล่องขนมไปแล้วหยิบกินเอ่ยชมเสียงดัง
จากนั้นเด็กน้อยก็วิ่งเข้ามาหาเอลียาห์ก่อนจะร้องเรียกให้ร่างบางกินขนมจากมือของตน

“อ้ำๆ”
ซาอิดเร่งเร้าเอลียาห์ เด็กหนุ่มดีใจจนหน้าแดง โน้มตัวลงไปทานขนมจากมือหลานชาย

“อร่อยใช่ไหม”

“อื้ม”
เอลียาห์พยักหน้าถี่รัว ในอกอุ่นซ่านด้วยความปลื้มปิติที่ได้รับความรักและรอยยิ้มจากซาอิด

“ซาอิดมารบกวนเจ้าตั้งแต่เมื่อไหร่”

เอลียาห์เงยหน้ามองแดริลขณะที่ถูกซาอิดป้อนขนมเป็นชิ้นที่สอง แต่ยังไม่ทันได้ตอบ จัสมินก็เอ่ยชวนให้คนตรงหน้าไปดื่มชาที่ห้องของตัวเองเสียก่อน คนถูกชวนดูรำคาญคำเชิญอย่างเปิดเผย

“ท่านพ่อไปเถอะ เรามีภาพวาดที่วาดต่อหน้าท่านครูให้ท่านพอชม”
ซาอิดยื่นกล่องขนมให้เอลียาห์แล้ววิ่งวนไปรอบๆแดริล เด็กน้อยคาดหวังเอาไว้สูงและไม่คิดที่จะได้ยินคำปฏิเสธจากผู้เป็นพ่อ

“ท่านพี่แดริลไปกับซาอิดเถอะครับข้าจะผักผ่อน”

เอลียาห์พูดกับแดริลก่อนจะหันไปขยิบตาให้ซาอิดซึ่งโห่ร้องชอบใจ จากนั้นเมื่อทุกคนพากันจากไป ถึงจะเจ็บปวดจากการถูกประชดประชันแต่คำสัญญาของซาอิดก็ทำให้แช่มชื่นในอก เด็กหนุ่มรอคอยการมาของหลานชายในวันพรุ่งนี้อย่างใจจดใจจ่อ

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

อีกสองสามวันจะเอาตอนต่อไปมาลงนะคะ

หายไปยาวอีกแล้ว งานเยอะมากเลยจนไม่มีเวลาพิมส์เลยล่ะคะ

ตอนนี้กำลังเขียนเรื่องใหม่อยู่

คงต้องรอให้หลายๆตอนหน่อยถึงจะเอาลงน่ะคะ

รักคนอ่านค่ะ :mew1:

ออฟไลน์ Kamidere

  • บรรยายมันออกมา ทุกสิ่งที่อยู่ในใจ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2
Re: Forbidden dashuria ตอนที่ 19<2/10/58><p 3>
«ตอบ #85 เมื่อ02-10-2015 08:36:10 »

เรารู้สึกว่าแดริลไม่ทำตัวให้ชัดเจนและไม่แมนเอาเสียเลย การกระทำกำกวม นี่รักกันแน่หรอ เราก็เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่ามันจะยังไงต่อไป อ่านแล้วรู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
Re: Forbidden dashuria ตอนที่ 19<2/10/58><p 3>
«ตอบ #86 เมื่อ02-10-2015 08:55:47 »

แง่ง เป็นคนซับซ้อนแต่เด็กพอโตมายิ่งอาการหนักมาก

จริงๆ ก็พอกันทั้งสองคน แถมยังมีตัวแปรแบบจัสมินที่แซะได้จังหวะตลอด - -"
ไหนจะซาอิด


ท่าทางจะอีกไกลกว่าจะลงเอย

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
Re: Forbidden dashuria ตอนที่ 19<2/10/58><p 3>
«ตอบ #87 เมื่อ02-10-2015 12:40:06 »

เบื่อจัสมิน  -_-" ที่เซๆ นี่เป็นโรคอะไรเปล่าเนี่ย
แต่ซาอิดน่ารักมากก
รอตอนหน้าน้า

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
Re: Forbidden dashuria ตอนที่ 19<2/10/58><p 3>
«ตอบ #88 เมื่อ02-10-2015 16:18:48 »

งงแดริลเป็นอันมาก กำกวมตลอดอ่ะ

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
Re: Forbidden dashuria ตอนที่ 19<2/10/58><p 3>
«ตอบ #89 เมื่อ05-10-2015 23:31:21 »

20

“ขนมของท่านแม่อร่อยใช่ไหมท่านอา”
ซาอิดซึ่งก่ายเกยบนหน้าตักของเอลียาห์ที่นั่งขัดสมาธิฉีกยิ้มหวาน วันนี้หลังจากสอนอะไรหลายๆอย่างให้หลานชาย เด็กหนุ่มก็ถูกจัสมินชักชวนให้ทานขนมที่เธอทำด้วยตัวเอง

“อร่อยมากๆ” เอลียาห์เอ่ยชม

“ดีใจที่ท่านเอลียาห์ชอบค่ะ ข้ามักจะตระเวนนำอาหารที่ทำเองไปแจกจ่ายเพื่อนและสามีของเพื่อนอยู่เสมอ ตอนนี้นับว่าโชคดีที่ท่านคอยช่วยชิมให้ก่อนที่จะนำไปให้ผู้อื่นทาน”

“เรื่องเล็กน้อย เราชอบทานขนมหวานมากอยู่แล้ว”

“ยังไงก็ต้องขอบคุณท่านเอลียาห์ค่ะที่อุตส่าห์มา”
ถึงจะเรียกว่ามาเยี่ยมเยียนแต่อันที่จริงก็แค่พบปะทานขนมกันที่ห้องโถงซึ่งมีผู้คนผ่านไปมาได้ตลอดเวลา ที่เป็นเช่นนั้นเพราะกฎจารีต ชายหญิงไม่สามารถอยู่ในที่รโหฐานตามลำพังได้

“ท่านจัสมินเจ้าคะ”
หญิงรับใช้เข้ามากระซิบยังข้างหูของผู้เป็นนาย จัสมินยิ้มแย้มเมื่อได้ฟังคำรายงาน

“ข้ามีแขกมาหาค่ะท่านเอลียาห์ เป็นเพื่อนสาวของข้าเอง”

“ถ้าอย่างนั้นเราคงต้องกลับแล้วสินะ” เอลียาห์ผุดลุกขึ้น

“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ คือมันอย่างนี้ ที่จริงแล้วข้าขอสารภาพว่าเพราะไม่รู้ที่ต่ำที่สูง ข้าก็เลยเอาเรื่องที่ได้มีโอกาสสนิทสนมกับท่านไปเล่าให้อามีร่าฟัง นางกับข้าค่อนข้างไม่ถูกกัน นางจึงเย้ยหยันหาว่าข้าโกหก ก็เลยใช้อุบายล่อหลอกท่านให้มาพบหน้านางเพื่อตัวเองซักครั้งค่ะ”

“ทำอย่างนี้ไม่ดีเลยนะ”
เอลียาห์ตำหนิ ถึงจะยุ่งยากใจเพียงไหนแต่เป็นกังวลแทนจัสมินที่อาจถูกต่อว่าทั้งที่ไม่ใช่เรื่องของเขาเองอยู่บ้างเหมือนกัน

“ได้โปรดเถอะค่ะท่านเอลียาห์แค่อยู่ทานน้ำชากับขนมสักพัก นางพบกับข้าไม่นานหรอกค่ะ”
เด็กหนุ่มลังเลใจอยู่นาน พอได้ยินคำขอร้องของซาอิด เด็กน้อยเล่าถึงนิสัยสุดจะแย่ของอามีร่าให้ฟังหลายอย่าง เพราะสงสารหลานชายที่กลัวมารดาถูกรังแกเขาจึงตกปากรับคำไป

“ขอบพระคุณจริงๆค่ะท่านเอลียาห์ ซาอิดไปเดินเล่นกับท่านอาซาลามก่อนเถอะนะ”
ซาอิดร้องประท้วงคำตัดสินของแม่ แต่เมื่อไม่ได้รับความสนใจ เด็กน้อยก็ผละจากไปโดยไม่ลืมกล่าววาจาเป็นห่วงเป็นใยกับเอลียาห์

น่าเอ็นดูเหลือเกิน

เอลียาห์ยิ้มน้อยๆให้ซาอิดที่หันมาโบกมือไม้ไม่เลิก จากนั้นอามีร่าและสาวใช้ก็เข้ามาพบปะกับพวกเขาในเวลาถัดมา
อามีร่าเป็นหญิงสาวผู้มีรูปโฉมงดงามสูสีกับจัสมินเพียงได้พบกันครั้งแรก เด็กหนุ่มก็อดชมเชยในใจไม่ได้
อามีร่าเมื่อพบหน้าเอลียาห์ก็หยุดตะลึงงัน จนเขาขบขัน เจ้าหล่อนแสดงท่าทางกระตือรือล้นที่จะเสวณากับเขามากเป็นพิเศษ

“ท่านเอลียาห์รู้ไหมคะว่าตอนที่อยู่ในหมู่บ้านข้ากับจัสมินแข่งขันกันเสียทุกเรื่อง”

“เจ้าอย่าพูดเรื่องน่าอายของเราเลย”
จัสมินหัวเราะพร้อมกับขยิบตาให้เอลียาห์อย่างหยอกเย้า

“เราผลัดกันแพ้ชนะกันไปทุกๆเรื่อง แต่ว่าวันนี้นางถึงกับพาข้ามาพบปะเจ้าชายได้ ทั้งที่ข้าซึ่งเป็นภรรยาเอกของขุนนางผู้ใหญ่ยังแทบไม่มีโอกาส ยอมรับว่าข้าตกใจมากจริงๆ”

“สามีของเจ้าคือใครกันหรือ”
เอลียาห์พยายามปั้นยิ้ม ลึกๆแล้วเขารู้สึกได้ถึงความเป็นปรปักษ์อย่างชัดแจ้งที่อามีร่ามีต่อจัสมิน ในทางกลับกันเพื่อนสาวคู่แข่งกลับยิ้มแย้มสดใสทั้งที่ถูกเหน็บอยู่ตลอดได้จนเขานึกชื่นชม

“โอ้ เป็นเสนาบดีเฒ่าที่กำลังจะเกษียณนะคะท่านเอลียาห์”
อามีร่าหน้าเสียทันทีที่จัสมินชิงตอบคำถามพร้อมกับหัวเราะโฮะโฮะ เอลียาห์ถึงจะรู้ว่ามารดาของซาอิดจงใจตีกระทบ แต่ไม่ได้ตำหนิหล่อน กลับยังเอาใจช่วยอยู่ในใจแล้วเอ่ยปากถามคำถามก่อนที่คนถูกกระทบจะออกอาการจนห้ามไม่ได้

“ใช่ท่านชูกูรที่กำลังจะเกษียณหรือเปล่า ตอนนี้เสนาบดีที่กำลังเกษียณมีแต่ท่านชูกูรกับท่านนะบีล”

“ถูกแล้วค่ะท่านชูกูรคือสามีของข้า” อามีร่ายิ้ม

“ท่านชูกูรมีทายาทที่จะมารับตำแหน่งคือท่านรุสลัน คนผู้นี้เป็นบุตรชายที่เฉลียวฉลาดเหมาะสมกับตำแหน่งอย่างมาก”
พอเอ่ยถึงรุสลันอามีร่าก็ถลึงตามองจัสมินที่กระตุกยิ้ม เอลียาห์ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางเท่าไหร่นัก แต่ก็เลือกที่จะเมินเฉยต่อมัน เขาไม่อยากเข้าไปยุ่งกับความบาดหมางของเหล่าสตรีไปมากกว่านี้

“อุ๊ยตาย ลืมไปเลยว่าข้านำใบชาจากตะวันตกมาฝาก ละตีฟะฮ์นำมันไปชงมาให้พวกเราที”
อามีร่ายื่นห่อใบชาให้สาวใช้ส่วนตัวไม่นานนัก ชาซึ่งหอมกรุ่นก็ถูกนำมาวางยังตรงหน้า เอลียาห์สูดกลิ่นหอมแล้วให้รู้สึกพึงพอใจ

“นี่คือชาที่ได้มาจากทางตะวันตกหรือ”

“ใช่ค่ะ”
อามีร่าพูดกับเอลียาห์ เจ้าหล่อนดูพออกพอใจในตนเอง

“อ้าวดื่มเสียสิจัสมินข้าอุตส่าห์เอาของดีมาให้เชียวนะ”
จัสมินยังไม่ตอบคำ เจ้าหล่อนหมกมุ่นอยู่กับการสูดดมกลิ่นด้วยใบหน้าบูดเบี้ยว เอลียาห์เดาว่าชาถ้วยนี้คงไม่ถูกรสนิยมของเจ้าหล่อน

“ข้าดมแล้วรู้สึกคลื่นไส้ คงจะดื่มชาลงไปไม่ได้แน่ๆ”

“อะไรกัน”
อามีร่าหัวเสียจนเกินกว่าเหตุ หญิงสาวทั้งขู่ทั้งปลอบให้จัสมินดื่มชาถ้วยนั้น แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรเจ้าของถ้วยชาก็ไม่ยอมดื่ม

“เอาล่ะ เราจะดื่มแทนเองแล้วกัน”
เอลียาห์ขยับกายคว้าเอาถ้วยชาเจ้าปัญหาขึ้นยกดื่ม รสชาติถึงแม้จะขมกว่าถ้วยของเขานิดๆแต่กลิ่นหอมยังทำให้รื่นรมย์ได้เหมือนเดิม อามีร่าอ้าปากค้างจนเด็กหนุ่มนึกอยากหัวเราะเมื่อสังเกตเห็นอาการของเธอ

“ข ข้าว่าจะขอตัวกลับก่อนดีกว่าค่ะ”
อามีร่าเอ่ยตะกุกตะกัก หากแต่จัสมินที่ชงชาถ้วยใหม่ให้หล่อนกลับเอ่ยถ้วงไม่ให้อีกฝ่ายปลีกตัวไปโดยง่าย

“เจ้ายังไม่ได้ทานขนมของข้าเลย” จัสมินยิ้มหวาน

“จริงด้วยเป็นขนมชนิดใหม่ แน่นอนว่าไม่เคยได้กินที่ไหนแถมยังอร่อยมากอยู่ทานก่อนแล้วค่อยไปเถอะ” เอลียาห์สนับสนุน

“เอ่อ….คือ”
อามีร่าตกปากรับคำด้วยท่าทางหวั่นวิตกเพราะถูกเอลียาห์แกมบังคับ เจ้าหล่อนซดชาที่จัสมินชงให้เฮือกใหญ่ก่อนจะหน้าซีดตัวแข็งมองดูเพื่อนสาวขอตัวไปยกขนมมาให้

“เป็นอะไรหรือ”
เอลียาห์ถามด้วยความเป็นห่วง อามีร่าตกตื่นอยู่ตลอดเวลาเหมือนคนเห็นผี ในตอนนั้นจู่ๆเด็กหนุ่มก็รู้สึกวูบวาบร้อนเห่อไปทั้งร่าง

“อะ…..”
เด็กหนุ่มนั่งงอตัวด้วยความเสียวปลาบจากท้องน้อยไปจนถึงปลายเท้า ความร้อนรุ่มที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันทำเอาสับสนจนต้องช้อนมองตั้งคำถามกับอามีร่าซึ่งสบตามา

“ข ข้าไม่ได้ทำนะคะ ตายแล้ว”
อามีร่าเอ่ยปฏิเสธตะกุกตะกัก ขณะที่ทำท่าจะวิ่งหนีไป พอเห็นเอลียาห์คู้กายด้วยความทรมาน เจ้าหล่อนก็รี่เข้ามาดูอาการอย่างงกงกเงิ่นเงิ่น

“ข้า รู้สึก”
เอลียาห์ใช้ดวงตาฉ่ำเยิ้มมองดูอามีร่า เจ้าหล่อนถึงแม้จะตกประหม่า แต่เมื่อถูกมองด้วยแววตากระหายใคร่จากเจ้าชายที่ทั้งสูงศักดิ์และรูปงามหล่อนก็ถูกด้านมืดของตนเข้าครอบงำในชั่วพริบตา

“เอ่อ ท่านถูกยาปลุกกำหนัดน่ะค่ะ ข้าไม่ได้ตั้งใจเล่นงานท่าน ข้าอยากแกล้งจัสมินเท่านั้น เอาอย่างนี้ให้ข้าช่วยท่านนะคะท่านเอลียาห์”

“ทำผิดมากถึงขนาดนั้นแล้วยังไม่พออีกหรือ”

น้ำเสียงทรงอำนาจดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏกายของแดริล กษัตริย์ผู้แผ่รังสีคุกคามก้าวฉับๆมายังเอลียาห์แล้วใช้มือปัดอามีร่าให้ออกไปให้พ้นจากรัศมีของเขาและเด็กหนุ่ม

“แดริล…เรา……อึก…..”
คนในอ้อมแขนบิดกายไปมา แดริลรูดีหากปล่อยไปไม่ช้า เอลียาห์คงต้องล้มป่วยเพราะฤทธิ์ยากระตุ้นกำหนัด

“เจ้าวางยากับเชื้อพระวงศ์ คงเตรียมใจรับโทษทัณแล้วสินะ”
ดวงตาคมกร้าวตวัดมองอามีร่าที่หน้าซีดตัวสั่น จังหวะนั้น หญิงสาวก็คู้กายด้วยความปั่นป่วนของร่างกาย

“อุ…อุ้ย…”

แดริลเลิกคิ้วให้กับอาการป่วยฉับพลันของผู้ต่ำศักดิ์กว่า หากว่าเจ้าหล่อนไม่วิ่งแจ้นออกไปพร้อมกับผายลมไปตลอดทาง กษัตริย์หนุ่มคงไม่พ้นจับสตรีอุกอาจผู้นี้แก้ผ้าแห่ประจาน ทว่าท่าทางอันวุ่นวายชวนสังเวช แดริลตัดสินใจจะหาวิธีลงโทษหล่อนในภายหลัง

“ได้โปรดปล่อยเราไว้เพียงลำพัง”
เอลียาห์อ้อนวอนคนที่ช้อนอุ้ม ในขณะอดกลั้นต่อราคะซึ่งกำลังพุ่งสูง

“เงียบซะ ถ้าไม่ปลดปล่อยเจ้าจะแย่เอา”

อยากจะทุ่มเถียงกับคนที่ตีหน้าขรึมใจแทบขาด กระนั้นก็ไม่สามารถทำได้ เพราะร่างกายและจิตใจไม่อยู่กับเนื้อตัว เอลียาห์รู้สึกวูบหวิวร้อนผ่าวในจุดซึ่งแนบชิดกับแดริลไปทุกอณูสัมผัส

เมื่อมาถึงห้องส่วนตัวทันทีที่ถูกวางลงบนเตียง เอลียาห์ก็คลานหนีไปซุกตัวอยู่ตรงหัวเตียง เด็กหนุ่มพยายามคุมสติไม่ให้โผเข้าหาชายหนุ่มด้วยไฟอารมณ์ซึ่งเผาผลาญสติจนแทบไม่เหลือ

“เอลียาห์ น้องเอลียาห์”
แดริลคลานเข่าเข้าหาร่างบาง น้ำเสียงยั่วยวนกวนราคะ เอลียาห์ฟังแล้วเกิดเสียวซ่านจนแทบจะปลดปล่อยในวินาทีนั้น

“อ้า…”

เอลียาห์ปลดปล่อยออกมาจริงๆทันทีที่ถูกโอบกอด ถึงจะอับอายจนแทบอยากตาย แต่กางเกงผ้าเนื้อดีที่เปรอะเปื้อนยังถูกดุนดันจากอวัยวะเพศซึ่งไม่ยอมสงบลงง่ายๆ

“จะปล่อยให้เป็นอย่างนี้ไปทั้งคืนหรือ จะนอนทรมานรอให้ปลดปล่อยเองอยู่แบบนี้โดยไม่ทำอะไรหรือไง”
ผู้โอบกอดกระซิบเสียงหวาน

“จะ…จะทำด้วยตัวเอง”
เอลียาห์สลัดตัวออกจากแดริล เด็กหนุ่มรีบถอดกางเกงไปให้พ้นตัว แล้วใช้มือจับเครื่องเพศชักรูดขึ้นลง

“ทำอย่างนี้จะถึงฝั่งฝันได้หรือ”
เสียงหัวเราะน้อยๆของแดริลช่างบาดจิตนัก ถึงอย่างนั้นเอลียาห์ก็ปฏิเสธความจริงไม่ได้ เรื่องที่เขาไม่มีแรงหรือสติพอจะช่วยตัวเองอย่างที่ใจปรารถนา

“อึก”
มือไม้ที่สั่นพยายามขยับรูดแต่มันมุถึงใจพอ ความร้อนรุ่มทรมาน เมื่อไม่ได้รับการปลดปล่อย เอลียาห์หลั่งน้ำตาสะอื้นไห้อย่างหมดหนทาง

“ได้โปรดช่วยที”
คนถูกขอร้องคลี่ยิ้มอ่อนโยน แดริลขยับกายเข้าช่วย

“ไม่ต้องกลัวนะ”
เอลียาห์ถูกจับนั่งลงบนตักของแดริลโดยหันหลังให้ มือใหญ่ร้อนผะผ่าวคว้าจับเครื่องเพศของร่างบางแล้วขยับปรนเปรอเป็นจังหวะเชื่องช้าก่อนจะเริ่มเคลื่อนไหวเร็วขึ้นเรื่อยๆ

“อุ…อึก..”

“อย่ากลั้นเสียงสิน้องเอลียาห์ มันจะทำให้เจ้าทรมานมากขึ้นไปอีกนะ”
คนถูกเสี้ยมสอนค่อยส่งเสียงหวานออกมาทีละนิด ถึงแม้ว่าตอนแรกจะยังขัดเขิน แต่ไม่นานนักเด็กหนุ่มก็ทำเหมือนเป็นเรื่องปกติ

“น้องเอลียาห์ยังคงครางเสียงแผ่วเหมือนลูกแมวยามออดอ้อนเช่นเดิม น่ารัก ถึงข้าอยากให้เจ้าครางเสียงดังให้มากกว่านี้  แต่เจ้าที่ทำเสียงครางเครือทำให้ข้าอดใจแทบไม่ไหว”

“อื้อ”
เอลียาห์ปลดปล่อยแทบจะในทันทีที่อีกฝ่ายพูดจบประโยค เครื่องเพศของเด็กหนุ่มยังคงสู้มือดุจดั่งเดิม

“เอลียาห์…น้องเอลียาห์สงสัยว่าข้าคงต้องช่วยเจ้าให้จริงจังยิ่งกว่านี้”
เอลียาห์ถูกจัดแจงให้นอนหงายลงบนเตียงกว้าง เขาบิดร่างกายด้วยความเสียวซ่านไปมา ถึงจะตื่นกลัวต่อสิ่งที่เดาได้ว่าอาจจะเกิดขึ้น แต่ดวงตาคมซึ่งเต็มไปด้วยความหลงใหลของแดริลทำให้เด็กหนุ่มแย้มยิ้มโดยไม่รู้ตัว

“บางครั้งข้าก็คิดว่าเจ้าเป็นปีศาจร้ายมากกว่าเทวทูต”
คนตำหนิจรดริมฝีปากลงบนเครื่องเพศซึ่งชูชันยั่วตา เอลียาห์ถูกแดริลประทับจูบลงที่ตรงนั้นเน้นย้ำหลายครั้งก่อนจะดูดกลืน

“อื้อ…”
โพรงปากอุ่นร้อนทำให้รู้สึกดี จนร่างกายเหยียดเกร็ง ถึงแม้ความผิดชอบชั่วดีจะยังย้ำเตือนอยู่บ้าง แต่ราคะอันร้อนแรงซึ่งได้สัมผัส เอลียาห์พร้อมใจจะลืมเลือนเรื่องที่คนตรงหน้ามีฐานะเป็นพี่ชายต่างมารดา

“ดี ดีเหลือเกิน”
ครางอย่างสุขสมและจมอยู่กับความสุขทางกาย เอลียาห์พึงใจจนไม่แม้แต่ปฏิเสธคำขอร่วมรักแบบคนเพศเดียวกันของแดริล

“ได้จริงนะหรือน้องเอลียาห์”
แดริลถามขณะขยับมือปรนเปรอไม่หยุด เด็กหนุ่มทั้งส่ายหน้าและผงกหัว กษัตริย์หนุ่มจึงตีความเข้าข้างตัวเองด้วยไม่อาจอดทนไปได้มากกว่านี้

“ข้าจะไม่ทำให้เจ้าเจ็บ”
เอลียาห์ที่รู้สึกดีจนเคลิบเคลิ้มถึงจะรู้ว่าแดริลตะโกนเรียกผู้อื่นเข้ามาในห้อง แต่ก็ไม่มีสติพอจะเอ่ยต่อว่า ดวงตากลมมองดูผู้เป็นพี่ชายรับน้ำมันหอมจากข้ารับใช้มาก่อนจะเทลงบนฝ่ามือชโลมมันลงมายังช่องทางเร้นลับของตน

“อึก…อ้า…”
ปลายนิ้วเรียวยาวถูกดันเข้ามาสำรวจในช่องทางคับแคบ ถึงจะอึดอัด แต่พอนานเข้า เอลียาห์ก็รู้สึกดีจนแทบคลั่ง

“อื้อ…ทำไมถึงดีอย่างนี้นะ”

เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน มันเป็นความรู้สึกที่ดีเสียยิ่งกว่าการถูกใช้มือกับเครื่องเพศซึ่งแดริลทำให้เขาเสียอีก เอลียาห์พอรู้มาบ้างว่าการร่วมรักเป็นเช่นไรทั้งแบบปกติและแบบคนรักเพศเดียวกัน แต่เขายังไม่เคยลองกับผู้หญิงซักครั้ง จึงสงสัยขึ้นมาครามครัน มันจะดีเท่ากับที่โดนทำอยู่ตอนนี้หรือไม่
ไม่อย่างนี้มันผิด แดริลนอกจากจะเป็นผู้ชายเหมือนเขา ยังเป็นพี่ชายร่วมสายเลือด ทำแบบนี้ไม่ถูกต้องเลย

“อ…อย่า…”
ถึงจะห้ามก็สายไปเสียแล้ว แดริลฝังกายจมเข้ามาในร่างจนมิดด้าม แถมยังขยับสอดประสานเนิบนาบทันทีที่เข้าไปจนหมดในเวลาต่อมา

“อ้า…หยุด…”

“หยุดไม่ได้แล้วน้องเอลียาห์ ถ้าให้หยุดตอนนี้ ให้ข้าตายเสียยังดีกว่า”

แดริลกระซิบเสียงแหบพร่า เอลียาห์ร้องไห้ออกมาระหว่างการทำรักอันเร่าร้อน เด็กหนุ่มไม่แน่ใจแล้วว่า น้ำตาซึ่งไหลออกมา มันมาจากความสุขสมที่ถูกอัดจนล้นปรี่ หรือมาจากความเสียใจในความผิดบาปของตนกับแดริลกันแน่

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

มีต่อค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด