องค์กรลวงจิต Explicit Content [จบ] ตอนพิเศษ เต้าหู้นมสด [7] 15/01/17
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: องค์กรลวงจิต Explicit Content [จบ] ตอนพิเศษ เต้าหู้นมสด [7] 15/01/17  (อ่าน 193020 ครั้ง)

ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

องค์กรลวงจิต Explicit Content
ตอนพิเศษ เต้าหู้นมสด [3]

มิลค์กลับไปเรียนด้วยความสบายใจมากขึ้น ถึงอาร์ตจะมีรสนิยมไปในทางที่ชอบทรมานคู่นอนแต่ก็ดูจะมีเหตุผลและเป็นห่วงพ่อเขาจากใจจริง คืนนั้นทั้งคืนเด็กหนุ่มแทบไม่ได้นอนเพราะมัวแต่หาข้อมูลทางการแพทย์เกี่ยวกับการเล่นซาดิสม์อย่างปลอดภัย  มิลค์เขียนสรุปเป็นคู่มือที่กระชับเข้าใจง่ายส่งให้กับอาร์ตในตอนเช้าพร้อมกำชับให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เขายังทิ้งท้ายก่อนกลับว่าถ้าจะเล่นอะไรใหม่ๆ ที่ไม่ได้เขียนอยู่ในนั้นให้โทรมาปรึกษาก่อน เอ็กซ์ได้ยินแล้วก็ทำหน้าประหลาดเพราะรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กอนุบาลที่ถูกผู้ปกครองพาไปฝากฝังไว้กับคุณครูพี่เลี้ยง

เมื่อมิลค์มาถึงคณะในตอนเช้าก็พบว่าเต้าหู้มาดักรออยู่แล้ว เขามองเด็กหนุ่มหน้าจืดในชุดนักศึกษาเชยๆ อย่างไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่เมื่อนึกถึงความสอดรู้สอดเห็นของอีกฝ่ายเมื่อวาน

“หวัดดีมิลค์ วันนี้เราขอรบกวนไปกับนายอีกนะเรายังไม่รู้จักคนอื่นเลย”

เต้าหู้ทักและขอร้องอย่างกล้าๆ กลัวๆ

“เราไม่ได้คิดอย่างนั้นนะ แค่เรารู้สึกแปลกๆ เพราะไม่ชินเท่านั้น ก็อย่างว่าเรามาจากต่างจังหวัดมุมมองคงจะแคบไปบ้าง แต่พอมานึกๆ ดู เราว่าที่นี่ดีจังนะที่พยายามสอนจากของจริง ที่นายไปช่วยอาจารย์เนี่ยเป็นงานพิเศษเหรอ เห็นรุ่นพี่รู้จักนายเยอะแสดงว่าทำมาตั้งแต่ก่อนขึ้นมหาลัยอีกสิ ดีจังนะ เด็กต่างจังหวัดอย่างเราไม่รู้จักใครเลย”

“ที่นายมาตีสนิทกับเรานี่ก็แค่เพราะไม่รู้จักใครแค่นั้นละสิ”

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะ เราไม่เถียงว่าเราอยากมีเพื่อน แต่ที่เราอยากรู้จักนายเพราะนายดูเท่จริงๆ แล้วก็กว้างขวางรู้จักรุ่นพี่เยอะแยะ เราอยากเป็นอย่างนี้บ้าง”

มิลค์นึกถึงเรื่องสนกๆ ที่เคยคิดไว้แล้วก็ซ่อนยิ้มขณะตอบกลับไปว่า

“ถ้าแค่นั้นก็ไม่เห็นจะเป็นไร ถ้านายจะเป็นเพื่อนกับชั้นก็ได้ แค่อย่าขัดความเห็นกันบ่อยๆ ก็แล้วกัน ชั้นไม่ชอบ”

“จริงๆ นะมิลค์ โอย เราดีใจ เวลานายกลับไปอยู่กับเพื่อนที่มาจากโรงเรียนเดียวกัน นายก็อย่าลืมเรานะ”

เต้าหู้ขอความมั่นใจ ท่าทางอย่างมิลค์คงจะมาจากโรงเรียนดังๆ ที่มีคนติดหมอที่นี่หลายคนแน่

“ไม่มีหรอก ชั้นซิ่วมา เพื่อนๆ ในคณะนี้ก็อยู่ปีสองกันแล้ว และก็ไม่ได้สนิทด้วย”

“งั้นเราต้องเรียกพี่ไหม”

“ไม่ต้อง เพื่อนกัน จริงๆ น่าจะพูดกูมึงกันได้แล้วนะ”

“เราขอไม่พูดได้เปล่า แม่เราไม่ชอบให้พูดหยาบคาย แต่นายจะพูดกับเราก็ได้นะ เราไม่ถือ”

เพื่อนใหม่ดูเอ๋อไม่น้อย แต่ถ้าพูดอยู่คนเดียวกูก็ดูสถุลสิวะ ช่างมัน มิลค์คิดอยู่ในใจ

“มึงบอกว่าที่มาคบกับกูเพราะมึงอยากดังใช่ไหม”

“ไม่ใช่ เราแค่อยากให้เพื่อนรู้จัก เราไม่อยากถูกมองข้ามอีกแล้ว สมัยมัธยม ถ้าไม่เพราะเราเรียนเก่ง คงไม่มีใครรู้จักเรา แต่ที่นี่ทุกคนเก่งกันหมด เราเลยอยากเป็นเพื่อนกับนาย เวลาทุกคนมองมาที่นาย ก็คงเห็นเราไปด้วย”

“มึงมันพิลึก เหมือนกันแหละ ถ้าไม่อยากถูกมองข้าม มึงก็ต้องทำตัวให้โดดเด่น ถ้ามึงเชื่อกู มึงจะเป็นที่จดจำของเพื่อนๆ ไปตลอด”

“ในด้านดีนะ”

“เรื่องนี้มันก็ขึ้นอยู่กับว่ามึงมีอะไรดีๆ อยู่ในตัวบ้าง ไว้ค่อยว่ากัน ก่อนอื่น เอาตังค์มาให้กูห้าพัน”

“นายจะเอาไปทำอะไร นายเดือดร้อนเรื่องเงินเหรอ จะยืมเราใช่เปล่า”

“กูเป็นเพื่อนออกปากขอ มึงจะให้ไม่ให้ก็ตามใจ แต่บอกไว้ก่อนว่าห้าพันนี้มึงไม่ได้คืนแน่ๆ”

“ได้สิ นายเป็นเพื่อนเรา เราให้ได้ แต่ครั้งหน้าเราต้องรู้สาเหตุด้วยนะ”

มิลค์รับเงินมาโดยไม่ตอบอะไร เต้าหู้กังวลอยู่บ้างที่อยู่ๆ ก็ถูกขอเงินทั้งๆ ที่เพิ่งรู้จักกัน  ถึงจะเป็นคนซื่อแต่เต้าหู้ก็ไม่ได้โง่ที่จะยกเงินจำนวนขนาดนี้ให้คนอื่นโดยไม่มีที่มาที่ไป เขาเพียงแค่อยากลองเชื่อใจเพื่อนใหม่ดูและหวังว่าคงตัดสินใจไม่ผิด ฝ่ายมิลค์ก็รู้สึกแปลกใจที่เพื่อนคนนี้ว่าง่ายกว่าที่คิดไว้ตอนแรกซะอีก เขาแกล้งขอไปอย่างนั้นทั้งๆ ไม่คิดว่าจะได้ ท่าทางเขาจะได้วัตถุดิบดีๆ ในการทำอะไรสนุกขึ้นมาแล้ว ตั้งแต่เด็กเขาชอบเล่นเฉพาะของเล่นที่ต้องลงมือทำด้วยตัวเอง อะไรที่สำเร็จรูปมาอย่างพวกหุ่นยนต์หรือรถเขาจะไม่ชอบเลย มิลค์ในวัยเด็กจะเล่นแต่พวกตัวต่อเลโก้หรือแป้งโดว์หรืออะไรก็ตามที่เขาสามารถสร้างสรรค์ปั้นแต่งได้อย่างใจนึกเท่านั้น

.............

สัปดาห์แรกของการเปิดเทอมผ่านไป มิลค์รักษาสัญญาที่บอกว่าจะเป็นเพื่อนสนิทให้เป็นอย่างดี แต่ถึงจะตัวติดกันกับคนที่เด่นขนาดนี้ คนหน้าจืดๆ อย่างเต้าหู้ก็ไม่เป็นที่สนใจของเพื่อนๆ อยู่ดี

“อ่ะ มึงใช้ครีมอันนี้ กูเพิ่งมีเวลาไปเอา”

มิลค์ส่งถุงกระดาษใบเล็กๆ แต่ดูเรียบหรูให้กับเต้าหู้เมื่อเจอกันในเช้าวันแรกของสัปดาห์ที่สอง

“อะไรนี่”

“ครีมทาหน้า สิวมึงจะได้หายซะที รับรองอีกไม่นานหน้าเนียนใส ของศูนย์นุจภาพหมอพฤกษ์ แพงโคตรๆ นี่ขนาดกูรู้จักคนข้างในซื้อได้ราคาสมาชิกแล้วนะ เงินที่เอาจากมึงไปยังเกือบไม่พอเลย”

“ใช่ที่เป็นคลีนิคไฮโซใช่เปล่า ทำไมมิลค์ถึงรู้จักได้”

“กูเคยไปเข้าคอร์สที่นั่น เจ้านายกูส่งไป ไม่มีปัญญาไปเองหรอก”

“ว้าว ว่าแล้วทำไมนายถึงได้ดูดีนัก เจ้านายที่ว่านี่คือคนที่ไปทำงานพิเศษด้วยใช่เปล่า งานอะไรนายยังไม่บอกเราซะที”

“มึงยังไม่ต้องรู้หรอก แล้วนี่ชุดนักศึกษาตอนกูเรียนวิศวะ มีหลายตัว มึงเอาตัวนึงไปเปลี่ยนตอนนี้เลย จะได้เป็นผู้เป็นคนกับเขาบ้าง”

มิลค์บอกแถมจัดการเสร็จสรรพโดยการคว้ามืออีกคนเข้าห้องน้ำทันที

“กางเกงมันคับไปอ่ะ รูดซิปไม่ขึ้น นี่นายตัวเล็กกว่าเราเหรอ เห็นสูงพอๆ กัน”

“ก็มึงมันสายกล้ามนี่ ขึ้นเป็นลูกขนาดนั้น รู้แล้ว ก็มึงเล่นใส่ทั้งบ๊อกเซอร์ทั้งกางเกงในนี่ แถมเป็นแบบผ้าหนาด้วย”

“ถ้าไม่ใส่แบบนี้ บางทีของเรามันเห็นเป็นลำน่าเกลียดจะตาย”

เต้าหู้พูดอายๆ

“งั้นใส่แค่ตัวเดียว ไม่สิไม่ต้องใส่เลยดีกว่า เอ้าถอดออกให้หมดทั้งบ๊อกเซอร์ทั้งกางเกงใน”

“ไม่เอา กางเกงฟิตขนาดนี้ มันก็ยิ่งเห็นสิ”

“ไม่ต้องห่วง กางเกงเก่ามึงมันหลวมขนาดนั้น มันก็มีที่ให้แกว่งไปแกว่งมาคนก็รู้หมด แต่ถ้าเป็นสกินนี่แบบนี้มันจะรัดแน่นอยู่กับที่ คนก็นึกว่าเป็นรอยผ้า ไม่มีใครมานั่งสนใจสังเกตหรอก”

“จริงเหรอ”

“เพื่อนเต้าหู้ครับ เชื่อเพื่อนมิลค์สิครับ มึงต้องปรับบุคลิคโดยเร็ว ปล่อยนานไปเพื่อนๆ เขาจะสนิทกันเองหมด ไม่มาสนใจมึง จะโทษกูไม่ได้นะ กูอุตส่าห์เอาชุดมาให้ มึงจะมาคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องหยุมหยิมแบบนี้ ผู้ชายเขาไม่เป็นกันหรอก”

คิดไปคิดมาเต้าหู้ก็เห็นจริงตามเพื่อน มิลค์อุตส่าห์ช่วยขนาดนี้เขายังเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาทำให้เพื่อนเสียน้ำใจอีก เขาถอดกางเกงออกจนหมดเพราะอีกฝ่ายยืนยันว่าจะไม่ออกไปจนกว่าเขาจะแต่งตัวเสร็จ เขาลอบสังเกตอาการของมิลค์แล้วก็สบายใจ เพื่อนเขาไม่มีท่าทีสนใจจะมองของสงวนของเขาเลย เอาแต่ก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์มือถือ ที่เคยระแวงหน่อยๆ ว่ามิลค์จะเป็นเกย์ก็ตกไป

พอลองกางเกงอีกทีก็รูดซิปขึ้นจนสุดได้จริงๆ แต่กางเกงฟิตมากแถมยังเอวต่ำจนเขาไม่รู้จะจัดน้องชายให้อยู่ท่าไหนดี

“ให้พาดไปด้านข้างอย่างนั้นแหละดีแล้ว กูว่าเหมือนแนวพองของผ้าไม่น่าเกลียดหรอก”

มิลค์เสนอแนะ ในใจก็อดขำไม่ได้ ขึ้นเป็นลำอวบขนาดนั้นแถมมีรูปร่างเหมือนหัวเห็ด ใครคิดว่าเป็นรอยผ้าก็บ้าแล้ว แต่ก็ยังมีคนเชื่ออยู่คนนึง

“พอนายบอกอย่างงั้น เราว่าดูๆ มันเป็นผ้าแหละ”

เต้าหู้บอกพร้อมกับถอดเสื้อออก มิลค์มองหุ่นของเพื่อนด้วยความชื่นชม นอกจากจะขาวจั๊วหัวนมชมพูแล้ว กล้ามล่ำๆ ที่เป็นมัดพวกนี้ก็ดูดีจนถ้าใครได้เห็นคงหลงไหลจนลืมใส่ใจกับหน้าตาจืดๆ ของเจ้าของไปเลย ไม่นับของดีที่เผยให้เห็นแค่รูปร่างผ่านกางเกงรัดติ้วตัวนี้อีก เขาจะค่อยๆ เจียระไนให้เพื่อนคนนี้โด่งดังสมใจภายใต้การบงการของเขาเอง

“เสื้อมันแน่นมากเลย เรารู้สึกเหมือนขยับตัวไม่สะดวก กลัวขาด”

“มึงแค่ไม่ชินเท่านั้นแหละ ใส่แต่เสื้อลุงๆ มาตลอดเลยนี่นา คนอื่นก็ใส่พอดีตัวกันแบบนี้ทั้งนั้น ยิ่งพวกผู้หญิงด้วยแล้ว”

มิลค์มองดูเพื่อนในเสื้อเชิร์ตแสนสั้นอย่างพอใจ มันพอดีจนเห็นหัวนมของเต้าหู้ผ่านเนื้อผ้าบางๆ ได้อย่างชัดเจน

“แต่ชายเสื้อมันสั้นมากนะ กางเกงก็เอวต่ำ เรากลัวขอบกางเกงในจะโผล่”

“กูรับรองพันล้านเปอร์เซ็นต์ว่าขอบกางเกงในมึงไม่โผล่แน่นอน”

มิลค์ให้ความมั่นใจแล้วก็ลากเพื่อนออกมาจากห้องน้ำทั้งๆ ที่ยังงงๆ อยู่ ก่อนจะออกเขาก็แอบทิ้งชุดเก่าและกางเกงชั้นในลงถังขยะไป

เต้าหู้เดินตามมิลค์เข้ามาในคลาสด้วยความไม่มั่นใจ เขารู้สึกอึดอัดกับชุดที่ใส่อยู่ ทั้งความพอดีเกินไปของมันและสายตาของเพื่อนที่มองมิลค์แล้วมาหยุดอยู่ที่เขาแทนที่จะมองผ่านเลยไปเหมือนทุกที

“นายๆ ชื่ออะไรอ่ะ เราชื่อเคี้ยง”

เพื่อนร่วมชั้นหน้าตี๋ที่นั่งติดกันเป็นฝ่ายทักขึ้นมาก่อน

“เต้าหู้ เราชื่อเต้าหู้”

“ชื่อแปลกดีนะ นายเล่นฟิตเนสที่ไหนอ่ะ หุ่นงี้สุดยอด เผื่อไว้ไปเล่นด้วยกัน”

“หมายถึงออกกำลังกายเหรอ เราออกที่บ้าน หมายถึงที่ต่างจังหวัดน่ะ แต่ตั้งแต่มาอยู่กรุงเทพ ไม่ได้ออกเลย ได้แต่ไปวิ่ง”

“งั้นทีหลังไปลองเล่นที่สวนสุขภาพข้างๆ สระว่ายน้ำสิ พวกเด็กวิทย์กีฬากับเด็กวิศวะเขาช่วยกันทำอุปกรณ์ฟิตเนสไว้ แบบง่ายๆ เล่นกันกลางแจ้ง”

วันนั้นทั้งวันมีคนมาทักเขาอีกสองสามราย ทั้งๆ ที่ปกติมีแต่พยายามเข้าหามิลค์ไม่สนใจเขาเลย อย่างดีก็พยักหน้าให้นิดนึง ทั้งสัปดาห์นั้น เต้าหู้รู้สึกว่าเขาเป็นที่สนใจของเพื่อนๆ มากขึ้น แต่ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าว่าคนที่มาคุยกับเขาจะไม่ค่อยมองหน้า ไม่มองหน้าอก ก็มองต่ำลงไปกว่านั้น เริ่มเห็นว่าวิธีการของมิลค์ได้ผลจริงๆ เขาตั้งใจว่าจะไม่สงสัยอะไรแล้วถ้ามิลค์จะให้เขาทำอะไร

แต่พอเจอคำแนะนำใหม่จากมิลค์จริงๆ ในข่วงเย็น เขาก็อดถามไม่ได้

“นายจะให้เราถอดเสื้อลองตรงกลางใต้ถุนคณะเลยนี่นะ ไม่ดีหรอก คนเยอะแยะ มีผู้หญิงด้วย ไหนจะพวกรุ่นพี่อีก เราว่ามันจะดูไม่สุภาพเอานะ”

เต้าหู้เอ่ยปากค้าน ตอนนี้พวกรุ่นพี่สโมฯ กำลังเอาเสื้อยืดเฟรชชี่มาให้น้องๆ ลองขนาดกันอย่างวุ่นวายอยู่ที่ใต้ตึก ส่วนใหญ่ก็เอามาทาบๆ วัดๆ แล้วเลือกกันเลยเพราะยังไงก็แค่เสื้อยืดคอกลม จะหลวมจะคับไปบ้างนิดหน่อยก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร บางคนก็ลองสวมทับเสื้อนักศึกษาไปเลยก็ดูเป็นสไตล์แฟชั่นแบบเท่ๆ นักศึกษาหญิงที่จุกจิกหน่อยก็ขอยืมรุ่นพี่ไปลองในห้องน้ำกันเป็นกลุ่มใหญ่

“จะคิดมากอะไรนักหนา ก็บอกแล้วไงว่ามึงควรจะถอดเสื้อให้บ่อยที่สุด จะได้โชว์กล้ามให้คนอื่นเห็น นี่โอกาสมาถึงตรงหน้าแล้วแท้ๆ คนเยอะแยะแบบนี้จะมีอีกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้”

“แต่มันจะเน้นรูปลักษณ์ภายนอกเกินไปหน่อยไหม เราอยากให้เพื่อนจดจำเราในเชิงอื่นมากกว่า”

“มึงไม่เข้าใจ อย่างน้อยๆ การมีรูปร่างดี ก็แสดงว่าเป็นคนสุขภาพดีร่างกายแข็งแรง แล้วการที่เพาะบ่มกล้ามได้ขนาดนี้ก็แสดงให้เห็นว่าเป็นคนมุ่งมั่นมีวินัย ถ้ามีต้องจับกลุ่มทำงานอะไร คนจะได้มาชวนมึงไง ไม่นับว่าเป็นคนแข็งแรงก็ดูน่าคบ แบบว่าสามารถดูแลพวกผู้หญิง หรือช่วยทำงานหนักๆ แทนเพื่อนที่ไม่ค่อยมีแรงได้”

เต้าหู้รู้สึกทึ่ง เขาคิดตื้นไปจริงๆ นึกอยู่แล้วว่ามิลค์ต้องมีเหตุผลดีๆ เขาเดินกลับไปที่ใต้ถุนคณะที่กำลังลงชื่อเลือกขนาดเสื้อกันอย่างวุ่นวายแล้วก็ปลดกระดุมถอดเสื้อเชิร์ตที่สวมอยู่ออกอย่างช้าๆ ตามที่มิลค์แนะนำ ทันทีที่ความขาวล่ำปรากฏให้เห็นต่อสาธารณะ  สายตาทุกคู่ในบริเวณนั้นก็มองมาที่ร่างกายท่อนบนของเด็กหนุ่มพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย กล้ามเนื้อที่ชัดเจนสมส่วนราวกับนักเพาะกายมืออาชีพที่เน้นความงามมากกว่าขนาด ไหล่เป็นไหล่ อกเป็นอก ซิกส์แพ็คเป็นซิกส์แพ็ค แม้จะมีเชื้อสายตะวันตกอยู่บ้าง แต่เต้าหู้ไม่ได้เป็นคนขนดกแต่อย่างใด  ตรงกันข้ามเด็กหนุ่มกับมีแค่ไรขนอ่อนสีจางขึ้นบางๆ ตามแนวสะดือหรือแม้แต่จุดใต้รักแร้เอง นั่นยิ่งเน้นผิวที่ขาวใสและกล้ามเนื้อหนั่นหนาให้ยิ่งโดดเด่นมากขึ้น ที่เรียกสายตาไม่แพ้กันก็คือหัวนมเม็ดงามสีชมพูที่พบเห็นไม่ได้ง่ายนักในหมู่คนเอเซีย หลายคนซุบซิบถามกันเพราะนึกไม่ออกว่ามีคนรูปร่างแบบนี้อยู่ในชั้นปีเดียวกันด้วย

มิลค์พาเต้าหู้แหวกกลุ่มคนเข้าไปถึงตัวกลุ่มรุ่นพี่ที่มีเสื้อหลายขนาดวางเรียงกันอยู่ตรงหน้า หลายคนในนั้นคุ้นเคยกับเขาเป็นอย่างดี

“พี่ๆ ครับ ขอเพื่อนผมลองเสื้อหน่อย มันชื่อเต้าหู้ นี่พวกพี่ที่สโมคณะเรา”

เต้าหู้ยกมือไหว้อย่างนอบน้อม รุ่นพี่รับไหว้โดยที่ไม่ได้มองหน้าน้องสักนิดเพราะสายตามัวแต่จดจ้องอยู่กับซิกส์แพ็คงามๆ

“ว๊าย ชื่อเต้าหู้สมตัวมากค่า ขาวๆ แน่นๆ แบบนี้ เอ ทำไมวันปฐมนิเทศพี่ถึงไม่เห็นน้องนะ ไม่ได้มาเหรอละสิ ไม่งั้นหุ่นแบบนี้พี่ต้องจำได้แน่นอน  มาๆ พี่จัดเสื้อให้ ล่ำๆ แบบนี้ต้องเอาเบอร์แอล นี่คะ ลองใส่ดูเลย”

รุ่นพี่สาวๆ ทั้งแท้และเทียมต่างเข้าไปมะรุมมะตุ้มกับรุ่นน้องหุ่นแซบท่ามกลางความยินดีของเจ้าตัวที่ได้รับความสนใจอย่างที่ฝัน เขาลองเสื้อที่รุ่นพี่ส่งให้แล้วก็รู้สึกว่ามันพอดีอย่างที่ว่า จริงๆ เขาชอบใส่ให้มันหลวมกว่านี้แต่กลัวมิลค์จะว่าเอาอีก

“เบอร์แอลนี่พอดีแล้วครับ ขอบคุณพี่มาก”

เต้าหู้ถอดเสื้อส่งคืนแล้วหยิบเสื้อของตัวเองเตรียมจะสวมกลับ

“อย่าเพิ่ง พี่ครับขอเบอร์เอสให้เพื่อนผมลองดีกว่า”

มิลค์แย้งขึ้นมาท่ามกลางความไม่เข้าใจของรุ่นพี่ เบอร์เอสนี่มีแต่น้องผู้หญิงหรือไม่ก็น้องผู้ชายตัวเล็กน่ารักเขาใส่กัน ยังไงพ่อหมีขาวหุ่นล่ำน่าปล้ำคนนี้ไม่มีทางยัดลงแน่

มิลค์ขี้เกียจรอเลยถือวิสาสะหยิบเสื้อเบอร์เอสส่งให้เต้าหู้ไปลองอย่างงงๆ พอเห็นสายตาดุๆ มองมา หนุ่มเหนือคนซื่อก็จำใจยัดร่างกายกำยำลงไปในเสื้อตัวจิ๋วอย่างยากลำบาก ด้วยความที่เป็นผ้ายืด ในที่สุดเขาก็สวมได้สำเร็จแต่ก็รู้สึกแน่นไปทั้งตัว

“แบบนี้ค่อยดูโอเคหน่อย”

มิลค์มองเพื่อนในเสื้อยืดที่รัดแน่นโชว์กล้ามราวกับเป็นเครื่องแบบของซุปเปอร์ฮีโร่อย่างพอใจ

“เราว่ามันรัดแน่นมากเลย เหมือนจะขยับตัวไม่ได้”

เต้าหู้อุธรณ์ท่ามกลางความใจของพี่ๆ เพื่อนๆ ที่รายล้อมอยู่ แต่ทุกคนก็อดคิดไม่ได้ว่าแบบนี้มันดูดีกว่าจริงๆ

“เหลวไหลน่า ไหนมึงลองชูแขนขึ้นแล้วเขย่งให้สูงสุดตัวเลยดูว่าเป็นยังไง”

เต้าหู้ไม่กล้าแย้งเพื่อน เขาชูแขนและเขย่งตามที่สั่งจนชายเสื้อเลิกขึ้นสูงเหนือสะดือเห็นซิกส์แพ็คแน่นๆ และวีเชพที่โผล่พ้นมาจากสแล็คเอวต่ำ เช่นเดียวกันกลับไรขนบางๆ ส่วนบนของขนในที่ลับมองเห็นชัดตัดกับผิวขาวๆ สิ่งนี้เองเป็นจุดนำสายตาที่พาให้หลายคนมองตามลงต่ำไปเจอกับความอวบใหญ่ที่ดันเนื้อผ้ากางเกงออกมาเห็นเป็นรูปร่างชัดเจน

“เห็นไหม ก็ชูแขนได้ปกติ ทีนี้ลองก้มเอามือแตะปลายเท้าดูสิว่าไหวไหม”

เต้าหู้ไม่อยากจะมาเถียงกันเองต่อหน้าคนเยอะๆ เลยทำตามให้มันจบๆ ไป ท่านี้อาจจะเป็นปัญหากับคนตัวหนาทั่วไปแต่ไม่ใช่สำหรับเต้าหู้ซึ่งล่ำเพราะกล้ามเนื้อไม่ใช่เพราะพุง ที่จริงเอวของเขาออกจะคอดน้อยๆ คล้ายนักว่ายน้ำด้วยซ้ำ เต้าหู้ยืดแขนไปข้างหน้าแล้วก้มตัวลงแตะหัวแม่เท้ารวดเดียวโดยไม่ยากเย็นอะไร เขารู้สึกว่าชายเสื้อด้านหลังถูกรั้งขึ้นมาถึงกลางหลังจนลมเย็นช่วงใกล้ค่ำพัดมาชวนขนลุกไปหมด ที่เต้าหู้ไม่รู้คือพอเขาก้มตัวมากขนาดนี้โดยไม่นุ่งกางเกงในมันทำให้กางเกงเอวต่ำร่นลงมาจนเห็นร่องก้นได้ชัดเจนถนัดตา คนที่มุงอยู่ด้านหลังต่างชี้ชวนให้เพื่อนดูกันจนคนที่อยู่อีกฝั่งเดาได้จึงค่อยๆ ย้ายที่มาร่วมสังเกตการณ์  มิลค์บอกให้เพื่อนค้างอยู่ในท่านั้นอีกพักใหญ่เพื่อให้เห็นทั่วๆ กัน เขาออกจะชื่นชมกับร่องก้นที่ขาวเนียนไม่มีรอยดำคล้ำแม้แต่น้อยของเต้าหู้ เสียดายที่ไม่ได้โชว์เต็มๆ ทั้งก้นแต่นั่นยังอาจจะเร็วไป

สุดท้ายเต้าหู้ก็ถูกยัดเยียดให้จองเสื้อเบอร์เอสไปทั้งๆ ที่เจ้าตัวยืนยันว่ามันตัวเล็กจนอึดอัด แต่ในเมื่อรุ่นพี่ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่ามันเหมาะกับเขาแล้วเต้าหู้ก็ปล่อยเลยตามเลย ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าแต่เต้าหู้รู้สึกว่ารุ่นพี่และเพื่อนๆ จำเขาได้มากขึ้น เด็กหนุ่มมั่นใจว่าการที่เขาพยายามจนได้มาเป็นเพื่อนกับมิลค์เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุด

ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

หลังจากจองเสื้อเรียบร้อยแล้วมิลค์ก็ชวนเต้าหู้ไปกินข้าวที่ตลาดหลังมอ แต่ก่อนที่จะออกไปพ้นคณะก็มีเสียงเรียกไว้ซะก่อน

“พัตเตอร์ นายจะไปไหน”

เต้าหู้หันไปตามเสียงก็พบกับนักศึกษาแพทย์หน้าตาดีที่เขาจำได้ว่าเดือนคณะปีสอง เจ้าของเสียงเรียกกำลังเดินมาที่เขาสองคน  เต้าหู้ไม่รู้ว่าพัตเตอร์คือใครถึงจะรู้สึกคุ้นๆ กับชื่อนี้อยู่เหมือนกัน แต่ดูท่าทางแล้วรุ่นพี่คนนี้น่าจะมีธุระกับมิลค์มากกว่า

“มึงมีอะไร ต่างคนต่างอยู่ไม่ได้เหรอ”

เต้าหู้ได้ยินที่เพื่อนตอบกลับไปแล้วก็ตกใจ เขากระซิบถามมิลค์เบาๆ

“นั่นมันรุ่นพี่ไม่ใช่เหรอ นายไปขึ้นมึงใส่เขาจะดีเหรอ”

เดือนหนุ่มหล่อเหมือนจะได้ยิน เขาหันมายิ้มให้เต้าหู้อย่างน่ามอง

“ไม่เป็นไรครับน้อง พี่กับพัตเตอร์เคยเป็นเพื่อนกันตอนอยู่ปีหนึ่งก่อนเขาจะซิ่วมาอยู่รุ่นเดียวกับน้อง”

“ใครเป็นเพื่อนมึง”

มิลค์สวนกลับอย่างไม่สบอารมณ์ คำว่าเพื่อนดูจะกล่าวอ้างเกินจริงไปเยอะ เขากับมันเรียกว่าเป็นอริที่เขม่นกันน่าจะเหมาะสมกว่า

“เอาน่า อย่างน้อยก็อยู่กลุ่มเดียวกันมาตอนรับน้องรวม แล้วก็มีแต่นายที่ไม่ชอบหน้าเรา เรายังไม่ได้ทำอะไรให้เลย แค่ชอบมองบ่อยๆ”

“ก็มึงมองกวนตีนนี่หว่า แล้วเรื่องในคลาสอานาโตมีเมื่ออาทิตย์ก่อนอีก มึงจงใจแกล้งกูใช่ไหม”

พอฟังมาถึงตรงนี้เต้าหู้ก็นึกออกพอดีว่าเดือนแพทย์หน้าหล่อเป็นคนที่ไปช่วยสาธิตเรื่องกระบวนแข็งตัวของอวัยวะเพศกับมิลค์

“อย่ามองเราในแง่ร้ายอย่างนั้นสิ เราแค่อยากทำอะไรร่วมกับเพื่อนเก่าบ้างก็เท่านั้น แล้วนี่จะไปไหนกันล่ะ  ไปกินข้าวด้วยกันไหม เราเลี้ยงเอง ฉลองที่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง แล้วก็เลี้ยงต้อนรับน้อง....”

เดือนแพทย์หันมามองทางเต้าหู้แล้วเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม

“ผมชื่อเต้าหู้ครับ”

“ครับน้องเต้าหู้ ไปทานข้าวด้วยกันนะครับ จิบเบียร์ไป คุยกับเพื่อนเก่าไป ฟินนะ ว่าเปล่าพัตเตอร์ หรือจะให้ ‘พี่’ เรียกว่าน้องมิลค์ก็ยังได้”

“กูไม่ไป”

“แต่รุ่นพี่เขาอุตส่าห์ชวนนะมิลค์”

เต้าหู้ลังเล ถ้าเป็นไปได้เขาก็อยากจะผูกมิตรกับคนอื่นให้ได้มากที่สุด

“มึงอยากไปมึงก็ไปเอง กูจะกลับหอแล้ว”

เต้าหู้เหวอนิดๆ ถ้ามิลค์ไม่ไปด้วยเขาก็ไม่รู้จะคุยอะไรกับรุ่นพี่ที่ดูโคตรเท่คนนี้หรอก คงเป็นไอน่าเบื่อสุดๆ อย่างทุกที

“นายไม่ไปเราก็ไม่ไป ขอโทษทีนะครับพี่”

เต้าหู้หันไปตอบปฏิเสธฝ่ายที่ชวนอย่างสุภาพ

“อย่าเพิ่งตัดรอนอย่างนั้นสิน้องมิลค์ ลองดูนี่ก่อน เพื่อนเก่าที่วิศวะของนายเคยเห็นกันหรือยังนะ”

เดือนหน้าหล่อเอาโทรศัพท์มาเปิดรูปเปลือยของมิลค์ที่ถ่ายไว้ในคลาสอานาโตมีมาเปิดให้เจ้าตัวดู มีทั้งที่ถ่ายอวัยวะเป็นส่วนๆ ถ่ายทั้งตัวติดหน้า และถ่ายบรรยากาศในห้องว่าเขายืนแก้ผ้าต่อหน้านักศึกษาหลายสิบคน ลายเพ้นท์กล้ามเนื้อตามตัวคงทำให้คนนอกดูว่าเขาโรคจิตมากกว่าจะเข้าใจว่าเป็นการเรียนการสอน มิลค์ไม่ได้อายหรอกถ้าไอไส้เดือนตรงหน้าจะเอาไปให้ใครในคณะแพทย์ดู อันที่จริงต้องบอกว่าไม่ได้อายไปมากกว่าเดิม แต่เขากังวลคือเรื่องที่จะหลุดไปคณะวิศวะ เด็กที่นั่นมันห่ามจะตาย ไอเรื่องที่จะมีสามัญสำนึกเหมือนเด็กหมอคงไม่มี  ไหนจะพวกที่ไม่ชอบหน้าเขาตอนปีหนึ่งอีกล่ะ ไม่รู้ว่าเคสแบบนี้องค์กรจะช่วยปกป้องทาสขนาดไหน แต่เขาคงไม่ขอเสี่ยงดีกว่า อีกแค่ปีกว่าก็จะพ้นโทษแล้ว เขาอยากจบแบบสวยๆ ยังต้องเรียนที่มหาลัยนี้ต่อไปอีกตั้งหลายปี

“แล้วมึงจะเอายังไง”

“ก็แค่ไปกินเบียร์กัน พี่ไม่ทำอะไรน้องหรอก มีเพื่อนไปด้วย”

พูดยังกะว่าถ้าไอเต้าหู้ไม่ไปด้วยมันคิดจะทำอะไรเขาอย่างนั้นแหละ มิลค์คิด

“เอางั้นก็ได้ เต้าหู้  มึงไปกับกูด้วย ว่าแต่มึงอายุเข้าร้านเหล้าได้แล้วใช่ไหม”

มิลค์ถามเพื่อความมั่นใจ เห็นไอนี่มันตัวใหญ่ก็จริงแต่บางเรื่องมันก็ดูเป็นเด็กกระเปี๊ยกเกิน ในฐานะทาสเขาไม่อยากเสี่ยงทำอะไรผิดกฎให้ถูกเจ้านายลงโทษ

“เอ่อ เราจะครบสิบแปดเดือนหน้านี้”

เต้าหู้หน้าเสีย เขาอยากไปเปิดหูเปิดตาบ้างแต่ท่าทางจะอด

“ไม่เป็นไร งั้นซื้อเบียร์กับกับแกล้มไปกินที่คอนโดพี่ก็ได้ อยู่ใกล้ๆ นี่เอง”

เดือนปีสองเสนอทางออก มิลค์เกือบจะปฏิเสธในทีแรกเพราะไม่อยากเข้าไปในถิ่นศัตรูแต่แล้วก็เปลี่ยนใจเมื่อนึกถึงบางเรื่องขึ้นมาได้ นั่นทำให้เขากับเต้าหู้เข้ามานั่งดวลเบียร์กับไอไส้เดือนในคอนโดหรูอยู่ตอนนี้  อันที่จริงต้องบอกว่าเหลือแค่เขาที่ยังทำหน้าที่ฟาดฟันกับรุ่นพี่อยู่เพราะกอลิล่าเผือกเพื่อนเขาน็อคไปตั้งแต่สามทุ่มจนตอนนี้เกือบเที่ยงคืนแล้ว มิลค์ลอบมองหน้าคู่ต่อสู้ที่ยังดูแค่กรึ่มๆ  นี่มันผิดแผนไปมาก เห็นว่าหน้าใสๆ เรียนหมอ ไม่คิดว่าจะคอทองแดงขนาดนี้

“มึงยอมแพ้เหอะ ท่าทางจะไม่ไหวแล้วนั่น”

มิลค์ส่งเสียงข่มขวัญคู่ต่อสู้ทั้งๆ ที่ตัวเองก็เริ่มแย่แล้ว

“เอ้า น้องมิลค์ ก็บอกให้เรียกพี่ ไม่สุภาพเลยนะ เดี๋ยวพี่ก็ส่งภาพเด็ดๆ ไปให้เพื่อนเก่าน้องดูหรอก”

อีกฝ่ายตอบกลับอย่างถือไพ่เหนือกว่า

“ถ้าจะต่อ งั้น ‘พี่’ ก็ช่วยไปเอาเบียร์ในตู้เย็นมาให้น้องมิลค์หน่อยสิครับ”

มิลค์ประชดแต่เดือนแพทย์กลับหัวเราะหึๆ อย่างถูกใจแล้วเดินไปหยิบเบียร์แพ็คใหม่ตามคำขอ มิลค์เห็นเป็นโอกาสเหมาะจึงรีบใส่ยานอนหลับลงไปในกระป๋องเบียร์ที่ยังเหลืออยู่กว่าครึ่งของอีกฝ่ายแล้วรีบปกปิดพิรุธโดยการทำหน้าเรียบเฉยเหม็นเบื่อเหมือนเดิม หนุ่มหล่อปีสองเอาแพ็คเบียร์มาวางแล้วกินต่อโดยไม่รู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นกับตน หลังเบียร์กระป๋องดังกล่าวหมดไปไม่นานยาก็เริ่มออกฤทธิ์จนเดือนแพทย์นอนหลับสลบไสลไปกับโซฟาที่นั่งอยู่ มิลค์รออยู่ครู่หนึ่งแล้วก็ไปเขย่าตัวคนนอนหลับแรงๆ แต่อีกฝ่ายก็ไม่รู้สึกตัวแต่อย่างใด เด็กหนุ่มยกยิ้มมุมปากที่แผนการที่คิดขึ้นอย่างฉุกละหุกของเขาเป็นไปได้ด้วยดี เขาไม่เชิงว่าอยากจะทำอย่างนี้กับอีกฝ่ายแต่ใครจะยอมตกเป็นเบี้ยล่างคนแบบนี้ไปตลอด เขาแค่อยากจะได้อะไรไว้แบล็คเมล์คืน

เดือนแพทย์นอนหลับตาพริ้มปากสีชมพูอมส้มรูปสามเหลี่ยมเผยอนิดๆ เห็นไรฟันขาวสะอาด พอไม่ทำหน้ากวนตีนอย่างนี้มิลค์ต้องยอมรับว่าอีกฝ่ายหล่อและมีเสน่ห์จริง เขาหยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูปใบหน้ายามหลับของคู่อริหนุ่มไว้แล้วเริ่มดำเนินการขั้นต่อไป  เขาปลดกระดุมเสื้อของเดือนหน้าหล่อออกเผยให้เห็นแผงอกที่มีกล้ามเนื้อแน่นๆ สมตัว เสียดายที่หัวนมเม็ดเล็กไปหน่อยไม่งั้นเขาอาจจะแอบเจาะใส่หมุดให้ตื่นมาแล้วตกใจเล่น ยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้นจนน้องชายแข็งตัวขึ้นมา มิลค์แหวกเสื้อออกโชว์ให้เห็นหน้าท้องแกร่งที่มีไรขนขึ้นเป็นแนวจากสะดือหายลับลงไปในกางเกงก่อนจะเก็บภาพมุมต่างๆ ไปเรื่อยๆ อย่างใจเย็น พอเป็นที่พอใจแล้วเขาก็เดินหน้าต่อด้วยการถอดเข็มขัดปลดตะขอรูดซิปกางเกงของหนุ่มหล่อที่สลบไสลออก ห่อหมก ในใจแอบลุ้นว่าหน้าตาส่วนนั้นจะหล่อเหมือนเจ้าของหรือเปล่า ทันทีที่หนอนตัวอวบเป็นอิสระจากกางเกงในมิลค์ก็แทบจะหัวเราะออกมา ใครจะไปคิดว่าหนุ่มหล่อหน้าใสเจ้าของตำแหน่งเดือนคณะแพทย์จะจู๋ดำอย่างนี้ โอเคว่ามันไม่ได้ดำสนิทเหมือนของพวกนิโกรแต่ก็เข้มกว่าสีผิวปกติอยู่มากโข จริงๆ เขาก็ตะหงิดใจอยู่แล้วตั้งแต่ที่เห็นหัวนมสีเข้มกว่าปกติ แล้วของที่เหลือจะดำด้วยหรือเปล่า มิลค์เก็บความสงสัยไม่ไหวเลยรูดกางเกงทั้งข้างในข้างนอกลงจนมากองที่พื้นจนได้คำตอบสมใจว่าไม่ได้ดำแต่จู๋แต่ไข่ก็ดำด้วย ทั้งใหญ่ทั้งดำจนนึกถึงไข่เยี่ยวม้า  เขารีบเก็บภาพรัวๆ ไว้เป็นหลักฐานโดยเน้นให้ติดหน้าเจ้าของด้วย

สุดท้ายที่มิลค์ตั้งใจไว้คือจะเก็บภาพตอนแข็งตัวไว้ด้วยจะได้เพิ่มความน่าอับอายให้สูสีกับรูปของเขาที่อีกฝ่ายมี เด็กหนุ่มเอามือช้อนหนอนตัวอวบที่นอนสงบนิ่งมากำไว้ในมือ มันอุ่นๆ นิ่มๆ หยุ่นๆ น่าขยำให้มันมือจริงๆ เขารูดไปรูดมาอยู่หลายทีแต่หนอนก็ยังไม่ยอมกลายร่างเป็นมังกร  มิลค์ขมวดคิ้วเพราะรู้สึกว่ามันผิดวิสัยของหนุ่มวัยนี้จนเกินไป หรือจะดื่มเบียร์มากจนนกเขาไม่ขัน มิลค์ไม่อยากรามือง่ายๆ เพราะถ้าไม่ได้ภาพตอนแข็งตัวด้วยมันก็จะกลายเป็นภาพคนถูกเพื่อนมอมเหล้าทั่วไป ไม่น่าอายเท่าที่ควร เขาเลยพยายามปลุกปล้ำต่ออีกพักใหญ่แต่ก็ไม่เป็นผล มิลค์ชั่งใจอยู่นาน เขาไม่เคยทำแบบนี้และก็ไม่อยากทำด้วย แต่ความอยากเอาชนะกับอาการมึนเบียร์ทำให้เขาตัดสินเอาปากครอบลงไปบนท่อนลำอวบเข้มทันทีเพื่อหวังจะปลุกอารมณ์ให้ได้ กลิ่นเพราะตัวของเพศผู้ฉุนเข้าลำคอจนเขาด่าตัวเองว่าทำไมถึงไม่เอาผ้าชุบน้ำเช็ดเสียก่อน แต่ถึงขั้นนี้แล้วก็ต้องเลยตามเลย เขาเม้มปากแล้วรูดขึ้นลงจนสุดความยาวสลับกับการเอาลิ้นไล่เล็มไปตามคอหยัก ถึงจะยังไม่แข็งแต่ความอวบใหญ่ก็แน่นปากไปหมด  มิลค์ทำอยู่พักใหญ่จนเมื่อยปากแต่ท่อนเนื้ออ่อนปวกเปียกก็ไม่พัฒนาขึ้นแต่อย่างไร เขาไม่รู้วิธีการอมที่ถูกเป็นยังไง แต่มั่นใจว่าต่อให้ทำไม่ถูกผู้ชายปกติน่าจะแข็งได้ไม่ยาก จนสุดท้ายต้องลงความเห็นว่าอริเขาคนนี้มีปัญหาสุขภาพเพศชายแน่ๆ

มิลค์มองใบหน้าหล่อด้วยความเห็นใจ นี่คงจะมีปมด้อยเรื่องนี้สินะถึงได้เก็บกดจนมาหาเรื่องเขาซึ่งเปี่ยมล้นไปด้วยพลังทางเพศ การที่เขาแข็งตัวได้อย่างง่ายดายเวลาสาธิตที่หน้าห้องคงทำให้อีกฝ่ายอิจฉาอย่างที่สุด  ถ้าเรื่องมันเป็นแบบนี้เขาจะอโหสิให้ก็ได้ แต่คงต้องขอเก็บรูปไข่ดำๆ นี่ไว้ต่อรองหากจะเอารูปที่อีกฝ่ายมีมาบังคับอะไรเขาอีก ตอนนี้เขาง่วงเต็มทีจึงหาที่ทางเอนตัวลงโดยตั้งใจว่าจะงีบแค่ซักครู่แล้วค่อยลุกขึ้นมาจัดการอะไรให้เรียบร้อยทีหลัง

..........................

“มิลค์ๆ  ตื่นๆ”

มิลค์รู้สึกตัวตื่นขึ้นตามเสียงปลุก เขาลืมตาขึ้นมาเห็นหน้าจืดๆ ที่มีท่าทางตกใจของเต้าหู้ เด็กหนุ่มรู้สึกมึนๆ จากอาการเมาค้างอยู่ไม่น้อยแต่ก็พอเรียกขึ้นมาได้

“เช้าแล้วเหรอ”

มิลค์ไม่แน่ใจกับเวลาในตอนนี้เพราะไฟในห้องยังสว่างโร่เพราะไม่มีใครปิดตั้งแต่เมื่อคืน

“ตีห้าสี่สิบแล้ว  เราตื่นเวลานี้ประจำ นี่เราสองคนหลับกันในห้องรุ่นพี่เหรอนี่ เกรงใจชะมัดไม่ได้ขอพี่เขาก่อนด้วย”

“จะต้องเกรงใจอะไร  ก็มันเป็นคนชวนกูกับมึงมาเอง”

“ก็ ก็มันไม่เป็นส่วนตัวกับพี่เขาไง นายดูเอาเองเถอะ”

เต้าหู้ท่าทางประหม่าหน้าแดงขณะชี้ไปที่อีกทาง มิลค์มองตามก็เห็นเดือนแพทย์หน้าหล่อนอนอยู่ในชุดเดิมที่เขาทิ้งไว้ก่อนจะหลับไป  ร่างกายท่อนบนมีเสื้อนักศึกษาสีขาวที่ถูกปลดกระดุมออกหมดสาบเสื้อแหวกออกเห็นแผงอกล่ำ  ร่างกายท่อนล่างเปลือยเปล่าขาข้างนึงพาดกับที่ท้าวแขวนอีกข้างห้อยลงเกือบถึงพื้นเผยให้เห็นช่วงกลางลำตัวอย่างอะหล่างฉ่าง ที่ต่าง ออกไปคือท่อนเนื้อที่เคยนอนปวกเปียกเมื่อคืนตอนนี้กลับชูคอผงาดง้ำโชว์ความอวบใหญ่อย่างสมศักดิ์ศรีรูปร่างหน้าตาเจ้าของเป็นที่สุด  มิลค์คะเนเปรียบเทียบคร่าวๆ  ด้วยสายตาแล้วคิดว่าอาจจะใหญ่กว่าของตัวเองอยู่นิดหน่อยด้วยซ้ำ สีของท่อนลำที่ดูดำคล้ำยามหดตัวกลับดูเข้มพอดีแบบเท่ๆ เวลาขยายตัวเต็มที่แล้ว ลำอวบตรงสวยได้สัดส่วนกับส่วนปลายสีสดที่บานออกเล็กน้อยทำให้มิลค์ต้องนึกในใจว่าคนอะไรจะเพอร์เฟคไปหมดขนาดนี้

มิลค์กลับไปสงสัยว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น ทั้งที่เขาลงทุนอมดุ้นดำๆ นั้นเข้าไปในปากแต่ไม่เกิดอะไรขึ้นเลย ทั้งดูดทั้งเลียจนนึกว่ากามตายด้านไปแล้ว เขาหยิบกระเป๋ามาควานหายานอนหลับที่เหลือจากเมื่อคืนมาดู จริงๆ  เขาไม่ได้ตั้งใจเตรียมการมาเพื่องานนี้หรอก มันเป็นยาที่อาร์ตได้แถมมาจากการสั่งซื้อเซ็กส์ทอยจำนวนมากจากร้านออนไลน์ เขาไปเจอเข้าเลยยึดมาเพราะไม่อยากให้อาร์ตใช้กับพ่อตัวเอง มิลค์ลองค้นหาชื่อตัวยาดังกล่าวด้วยมือถือแล้วพบว่านอกจากจะเป็นยานอนหลับแล้วยังมีฤทธิ์ในการคลายกล้ามเนื้อ มิน่านกเขาถึงไม่ขันในตอนนั้น รู้แล้วก็เจ็บใจตัวเองที่โง่จนไม่หาข้อมูลก่อน ทำให้ต้องอมดุ้นผู้ชายด้วยกันไปฟรีๆ

“เราหาผ้าห่มไปคลุมให้หน่อยดีกว่า เดี๋ยวพี่เขาตื่นมาจะอาย”

เต้าหู้ออกความเห็นทั้งๆ  ที่ตัวเองก็ยังไม่ละสายตาจากความแข็งขันยามเช้าของรุ่นพี่

“เฮ้ย  ไม่ต้อง เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องธรรมดาของเด็กหมอ  เขาไม่อายกันหรอก”

“จริงเหรอ เราว่าไม่น่าเกี่ยวกับเรียนอะไรนะ ยังไงคนไทยเราก็ไม่เปิดเผยกันเท่าไหร่ หรือว่าไม่ใช่”

เต้าหู้แย้งอย่างลังเล หรือว่ามันเปลี่ยนไปแล้วสำหรับคนในเมืองอาจรับวัฒนธรรมต่างชาติเข้ามามาก

“เกี่ยวสิ ต่อไปเราจะทำงานในวงการแพทย์ เรื่องการเปิดเผยร่างกายเพื่อการรักษามันเป็นเรื่องปกติ ไหนจะตอนตรวจคนไข้ ตอนผ่าตัด ตอนเช็ดตัว ถ้าบุคลากรทางการแพทย์มีทัศนคติว่ามันเป็นเรื่องน่าอายชวนปกปิด คนไข้จะรู้สึกได้และจะยิ่งอายเข้าไปใหญ่ แต่ถ้าเรารู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติ คนไข้จะอายน้อยลงแล้วให้ความร่วมมือกับการตรวจรักษามากขึ้น”

“โห ขนาดอยู่ปีหนึ่งเหมือนกันแต่นายรู้เยอะมากเลย”

“ก็เพราะกูไปช่วยงานอาจารย์เยอะไง วันนั้นมึงก็แอบเข้าไปเห็นไม่ใช่เหรอ ขนาดยืนแก้ผ้าหน้าห้องกูยังไม่อายเลย คนอื่นๆ  ก็มองว่ามันเป็นเรื่องปกติ”

มิลค์โกหก จริงๆ  เขาโคตรอายเลย และมันก็ไม่ได้เป็นเรื่องปกติด้วยไม่ว่าจะในวงการไหนถ้าไม่จำเป็นจริงๆ แต่ท่าทางเต้าหู้ก็ดูจะพยายามยอมรับค่านิยมใหม่ที่เขาอุปโลกน์ขึ้น

“งั้นเรากลับกันเลยไหม จะได้รีบไปอาบน้ำแต่งตัว ไม่ต้องรบกวนพี่เขามากกว่านี้ด้วย”

“เดี๋ยว กูขอทำธุระนิดนึง”

ว่าแล้วมิลค์ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเดือนแพทย์หน้าหล่อพร้อมอวัยวะเพศที่แข็งตัวอย่างที่ตั้งใจไว้เมื่อคืน พยายามถ่ายจ่อให้ทั้งหน้าและทั้งลำอยู่ในเฟรมเดียวกัน เต้าหู้ตกใจจนหน้าซีดละล่ำละลักพูดว่า

“นายถ่ายรูปเลยเหรอ ไม่ดีมั๊ง เดี๋ยวพี่เขารู้พวกเราโดนซ่อมแน่”

ต่อให้นักเรียนแพทย์มีทัศนคติเปิดกว้างในเรื่องนี้จริงอย่างมิลค์ว่า แต่เต้าหู้ก็ไม่คิดว่าการแอบถ่ายรูปเปลือยของคนอื่นจะเป็นเรื่องเหมาะสม

“ไม่เป็นไร เราขอมันไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่ดันเมาหลับกันไปซะก่อน มึงก็มาดูใกล้ๆ สิ ถือเป็นการศึกษาเหมือนกัน”

มิลค์โกหกอย่างไม่กระดากปาก เต้าหู้ยังลังเลแต่ก็คิดว่าอาจเป็นไปได้เพราะสองคนนี้เหมือนจะเป็นเพื่อนเก่ากัน เขาเข้าไปดูท่อนลำที่มีน้ำเยิ้มส่วนปลายนิดๆ  อย่างชื่นชม

“พี่เขาโคตรเท่เลยนะ หล่อขนาดเป็นเดือนด้วย จู๋ก็สวยเข้มดูดี ไม่ซีดๆ เทอะทะ”

เป็นคำชมที่ออกจะทะแม่งในความรู้สึกของมิลค์แต่เขาก็ถ่ายรูปต่อไปเรื่อยๆ  จนเป็นที่พอใจ หลังจากนั้นก็เปลี่ยนโหมดเป็นการถ่ายวิดีโอแล้วเอามืออีกข้างรูดท่อนลำสีเข้มของคนที่กำลังนอนหลับอยู่จนเต้าหู้ต้องอ้าปากค้าง

“เฮ้ย เราว่ามันไม่ใช่แล้วนะมิลค์ นี่มันเข้าข่ายการล่วงเกินทางเพศหรือเปล่า”

มิลค์ไม่หยุดมือขณะที่ตอบเหตุผลพกลมไปอย่างลื่นไหล

“เมื่อคืนกูสัญญาว่าจะว่าวคืนให้พี่เขา ตอบแทนที่เขาช่วยอาจารย์สาธิตว่าวให้กูในห้องไง ทีนี้ดันหลับกันซะก่อนกูเลยมาทำเช้านี้แทน ถ่ายคลิปไว้ให้แม่งดูเป็นหลักฐานจะได้ไม่มาทวงกันอีก งั้นมึงช่วยถ่ายแล้วกัน กูจะได้ทำถนัดๆ”

เต้าหู้รับโทรศัพท์ไปถ่ายต่ออย่างงงๆ พฤติกรรมคนกรุงเทพนี่มันแปลกจนคาดไม่ถึง แต่มิลค์ก็บอกเองว่ามันเป็นเรื่องปกติของนักเรียนแพทย์แถมยังไปแก้ผ้าน้ำแตกอยู่หน้าห้องได้อย่างหน้าตาเฉย ตัวพี่เดือนแพทย์เองก็ดูจะไม่แคร์จริงๆ  ถึงได้นอนแก้ผ้าทั้งๆ  ที่มีรุ่นน้องที่เพิ่งรู้จักกันอย่างเขาอยู่ด้วย เต้าหู้คิดว่าตัวเองก็ต้องพยายามเปิดรับความคิดใหม่ๆ เหมือนกัน

มิลค์ตั้งหน้าตั้งตารีดพิษของคู่อริต่อ แท่งเอ็นอุ่นๆ ในที่ถูกชักขึ้นชักลงทำให้เขามันมือไม่น้อย มันทำให้มิลค์คิดถึงการช่วยตัวเองที่แต่ก่อนต้องทำเป็นประจำ แต่ด้วยโปรแกรมควบคุมจิตพื้นฐานของคนเป็นทาส ทำให้เขาไม่สามารถไปมีอะไรกับคนอื่นหรือแม้แต่ช่วยตัวเองได้อย่างจงใจถ้าเจ้านายไม่อนุญาต ถ้าเป็นทาสคนอื่น คงได้มีโอกาสปลดปล่อยอยู่เรื่อยๆ เวลาเจ้านายเรียกใช้บริการ ดูอย่างพ่อเขาเป็นต้น แต่อาจารย์ประมูลเขามาเพื่อใช้เป็นอุปกรณ์ประกอบการเรียนการสอนจริงๆ ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวทางเพศกับเขาเลย เขาจึงมีเพียงการปลดปล่อยตามธรรมชาติยามนอนหลับหรือการสาธิตหน้าห้องเรียนนานๆ  ครั้งเท่านั้น

มิลค์เพิ่มความเร็วและความแรงในการชัก อารมณ์ดิบเถื่อนที่พลุ่งพล่านโดยไม่มีทางระบายทำให้เขาอยากทำแรงๆ ให้สะใจจนหนังหุ้มปริเหมือนที่เขาเคยทรมานน้องเลี้ยงเล่น แต่พอเดือนแพทย์เริ่มครางและขยับตัวแรงๆ มิลค์ก็หยุดมือทันทีทั้งๆ  ที่อยากจะเก็บภาพน้ำแตกด้วยเพราะกลัวอีกฝ่ายจะตื่นขึ้นมาเสียก่อน เขาไม่ได้กลัวการเผชิญหน้าแต่อยากจะเก็บเรื่องนี้ไว้ไม่ให้อีกคู่อริรู้ตัว แบบนั้นมันจะสนุกกว่า

มิลค์เอาโทรศัพท์จากเพื่อนหน้าเอ๋อมาดูความเรียบร้อยแต่ต้องหงุดหงิดเล็กน้อยที่เต้าหู้ถ่ายคลิปชักว่าวโดยติดหน้าเขาแบบเต็มๆ ไม่เป็นไรเดี๋ยวค่อยไปครอปออกหรือไม่ก็เบลอหน้าทีหลัง มิลค์คิดในใจขณะกดอัพโหลดภาพและคลิปไปเก็บไว้บนบริการฝากไฟล์เจ้าประจำเพื่อความปลอดภัย เขาใส่เสื้อผ้าให้คนที่ยังหลับอยู่อย่างระมัดระวังแล้วชวนเต้าหู้กลับทันที

ออฟไลน์ kawoat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
หวา ชักสงสารเต้าหู้นะ โถ่เอ๋ย โดนใช้ร่างกายเปลืิองจริงๆ พ่อคุณ
ไม่ให้ใส่แม้กระทั่ง กกน. อันนี้ก็เกินไปหรือเปล่ามิลลลลล
อย่างน้อยให้ใส่ กกน. แต่กางเกงฟิตก็ยังดีนะ ทำไมเล่นแรงจัง เต้าหู้ผู้น่าสงสารรร  :sad4:

งงนิดหน่อยนะ ตอนอยู่ในห้องน้ำสรุปจะใส่ กกน. หรือไม่ใส่แน่เพราะกางเกงเอวต่ำ
แต่เต้าหู้บอกกลัวขอบ กกน. โผล่ อ่าว กลัวทำไมในเมื่อไม่ได้ใส่?
ตอนลองชุดที่ให้ก้มก็บอกว่าเห็นร่องเพราะไม่ใส่ สรุปไม่ได้ใส่ใช่ไหม ช่วยเช็คด้วยจ้า

ขอบคุณที่มาต่อนะ  :impress2:

ออฟไลน์ HypnosisDreams

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เต้าหู้เริ่มถูกปรุงให้อร่อยขึ้นเรื่อยๆ

ออฟไลน์ Raina

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
อ่านเรื่องเต้าหู้แล้วคิดถึง หนุ่มช่างคนซื่อของพิช กับ น้องแดนคนซื่อของเม พวกใสๆซื่อๆเนี่ย น่าดูเอ็นจริงๆเชียว เจ๊หมั่นเขี้ยวววว  :-[

เดือนแพทย์...สีคล้ำ เต้าหู้...ขาวอมชมพู แต่ใหญ่ทั้งคู่ แถมดูแล้วน่าจะรุกทั้งคู่ งืมๆ 3P รึเปล่าน้าาาา  :hao6:

ออฟไลน์ Bb nale

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
อยากให้ 3P แท้ 555

ออฟไลน์ funland

  • https://www.facebook.com/pew.pal
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
    • pew.pure

ออฟไลน์ HypnosisDreams

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สงสัยว่าระบบไอทีขององค์กรไม่ปกป้องนักโทษแล้วเหรอ ทำไมมิลล์โดนถ่ายรูปแล้ว ไม่มีไวรัสไปลบ

ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
ขอบคุณคนอ่านมากครับ เห็นเม้นท์ของคนที่ติดตามประจำก็ดีใจเหมือนเจอเพื่อนมาทักทาย เห็นเม้นท์ของท่านใหม่ก็ดีใจที่มีคนชอบอ่านแนวเดียวกันเพิ่มขึ้นอีก ยังไงซีรีส์เต้าหู้นมสดนี่คงขอต่อไปอีกซักสามสี่ตอนนะครับ อย่าเพิ่งเบื่อกันก่อน ส่วน 3P หรือเปล่านี่ยังไม่ได้คิดครับ เขียนไปมันคงออกมาเอง แต่ตัวละครชายในเรื่องนี้มีเยอะมาก จับมา 4P 5P ก็ยังไหว (ล้อเล่นนะครับ ท่าทางจะแต่งยาก)

หวา ชักสงสารเต้าหู้นะ โถ่เอ๋ย โดนใช้ร่างกายเปลืองจริงๆ พ่อคุณ
ไม่ให้ใส่แม้กระทั่ง กกน. อันนี้ก็เกินไปหรือเปล่ามิลลลลล
อย่างน้อยให้ใส่ กกน. แต่กางเกงฟิตก็ยังดีนะ ทำไมเล่นแรงจัง เต้าหู้ผู้น่าสงสารรร  :sad4:

งงนิดหน่อยนะ ตอนอยู่ในห้องน้ำสรุปจะใส่ กกน. หรือไม่ใส่แน่เพราะกางเกงเอวต่ำ
แต่เต้าหู้บอกกลัวขอบ กกน. โผล่ อ่าว กลัวทำไมในเมื่อไม่ได้ใส่?
ตอนลองชุดที่ให้ก้มก็บอกว่าเห็นร่องเพราะไม่ใส่ สรุปไม่ได้ใส่ใช่ไหม ช่วยเช็คด้วยจ้า

ขอบคุณที่มาต่อนะ  :impress2:

ไม่ได้ใส่กางเกงในครับ โดนมิลค์ไซโคให้ถอด บอกว่ากางเกงฟิตมาก ถ้าใส่กางเกงในจะแน่นจนสวมกางเกงไม่เข้า แต่ที่เต้าหู้ห่วงว่าขอบกางเกงในจะโผล่นี่เขาลืมครับว่าไม่ได้นุ่งแล้ว ผมใส่มาเป็นมุก แต่ถ้างงหรือคิดว่าไม่น่าลืมเรื่องแบบนี้ได้ เดี๋ยวจะลองปรับดูครับ

สงสารเต้าหู้เหรอครับ ผมก็สงสาร แต่มิลค์ฝากบอกว่าเก็บไว้สงสารตอนหลังๆ  ดีกว่า 555

สงสัยว่าระบบไอทีขององค์กรไม่ปกป้องนักโทษแล้วเหรอ ทำไมมิลล์โดนถ่ายรูปแล้ว ไม่มีไวรัสไปลบ

ระบบไอทีขององค์กรจะคอยดักตรวจสอบอยู่บนอินเทอร์เน็ตครับ เดือนแพทย์ถ่ายรูปมิลค์เก็บไว้ในเครื่องเฉยๆ ไม่ได้ส่งออกทางโซเชี่ยลหรือเปิดระบบสำรองไฟล์อัตโนมัติไว้ ระบบเลยไม่รู้ครับ ระบบไม่ได้เจาะโทรศัพท์ของคนทั่วไปยกเว้นคนที่โป๊ปสั่งเพื่อสืบเรื่องอะไรบางอย่าง

ส่วนตอนที่มิลค์ถ่ายรูปเดือนแพทย์มิลค์สั่งสำรองไฟล์ไปเก็บไว้บนอินเตอร์เน็ต ระบบขององค์กรที่คอยติดตามพฤติกรรมของนักโทษอยู่เลยแจ้งเตือนขึ้นมาว่านักโทษคนนี้มีการกระทำที่ไม่เหมาะสม โป๊ปเลยติดต่อเจ้านายให้ทำโทษทาสของตัวเองซะ

ดีใจจังครับที่จำระบบองค์กรได้และถามมา เรื่องระบบและการทำงานขององค์กรนี่ผมตั้งใจออกแบบมากว่าทำไงให้สมจริงถึงจะคาดว่าโดนฉากหื่นกลบหมด 555

ออฟไลน์ reverofjs

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เต้าหู้ช่างซื่ออะไรเยี่ยงนี้  :m25:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
องค์กรลวงจิต Explicit Content

ตอนพิเศษ เต้าหู้นมสด [4]

หลังเหตุการณ์วันนั้นเกือบสัปดาห์ มิลค์ถูกเจ้านายเรียกพบโดยไม่ได้บอกว่าเรื่องอะไร ปกติถ้าเป็นการมอบหมายงานสาธิตการเรียนการสอนของนักศึกษาแพทย์ อาจารย์จะแจ้งหัวข้อเรื่องมาก่อนซึ่งเขาจะต้องไปศึกษาหาความรู้ในเรื่องนั้นๆ  ด้วยตัวเองก่อน เวลาไปพบอาจารย์จะสรุปประเด็นสำคัญทางการแพทย์และบทบาทหรือวิธีการสาธิตให้เขาอีกครั้ง การเรียกพบโดยไม่บอกหัวข้อก่อนจึงทำให้มิลค์แปลกใจอยู่บ้าง

“นั่งลงสิ”

อาจารย์หนุ่มใหญ่พูดขึ้นด้วยสีหน้าที่ดูดุกว่าทุกที มิลค์เห็นแล้วก็หงอทันทีทั้งที่ตัวเองมีนิสัยสู้คนไม่กลัวใคร ขนาดพ่อตัวเองหรือเจ้านายของพ่ออย่างอาร์ตเขายังไม่กลัว แต่ที่เขาเจอมาและยอมให้จริงๆ มีอยู่แค่สามคน สองคนแรกคือขาโหดบอสโป๊ปแห่งองค์กร ส่วนคนที่สามก็คือคนตรงหน้าที่เป็นทั้งอาจารย์และเจ้านาย อย่าว่าแต่เด็กปีหนึ่งอย่างเขาเลย ขนาดรุ่นพี่เรสซิเด้นท์จิตแข็งๆ ยังโดนดุซะน้ำตาแตก เขาเห็นเป็นประจำเวลาไปช่วยงานที่โรงพยาบาล

“อาจารย์มีอะไรให้ผมทำครับ”

“ก่อนจะคุยเรื่องงาน ผมอยากจะให้ตอบก่อนว่าที่ผ่านมาคุณไปทำตัวเหลวไหลอะไรมา”

มิลค์ใจหายวาบทั้งๆ  ที่ยังนึกไม่ออกว่าตัวเองไปทำความผิดอะไรไว้ แผนที่ตั้งใจว่าจะเล่นสนุกกับเต้าหู้ยังไม่ได้เริ่มอะไรเท่าไหร่ หรือต่อให้ทำไปแล้วจริงๆ  มันก็จะเป็นความสมัครใจของเจ้าตัวที่เขาไม่เกี่ยวอะไรด้วยนอกจากเป็นคนชี้ทาง หรือจะเป็นเรื่องที่เขาไปแข็งข้อกับอาร์ต แต่นั่นก็ไม่น่าจะผิดอะไรเพราะเขาทำไปอย่างมีเหตุผลและอาร์ตก็ไม่ได้เป็นเจ้านายของเขาด้วย อีกอย่างมิลค์ก็มั่นใจว่า ถึงจะเป็นสมาชิกองค์กรทั้งคู่  แต่อาร์ตกับอาจารย์ของเขาไม่รู้จักกันแน่ๆ ไม่งั้นอาร์ตคงรู้ไปแล้วว่าเขาก็เป็นทาสเหมือนกัน

“ผมไม่ได้ทำอะไรครับ”

“ไม่ได้ทำอะไรแล้วทำไมองค์กรถึงรายงานความประพฤติของคุณมาให้ผมรู้ แถมยังทำกับรุ่นพี่ร่วมคณะอีกนะ รู้เปล่าว่าผมขายหน้าองค์กรขนาดไหนว่าดูแลทั้งทาสและลูกศิษย์ไม่ดี”

อาจารย์ทุบโต๊ะด้วยความโมโหจนมิลค์เหมือนจะหัวใจหยุดเต้น เขาไม่อยากเชื่อว่าองค์กรจะรู้เรื่องนี้ด้วย

“เขาทราบได้ยังไงครับ ผมไม่ได้เผยแพร่รูปนั้นไปที่ไหนเลย”

“ผมไม่รู้ ผมรู้แค่ว่าคุณทำมันจริงๆ  แค่แอบถ่ายก็มีความผิดมากอยู่แล้ว แต่ในฐานะว่าที่หมอ คุณยังมีความผิดอีกกะทง คุณเอายาอะไรให้รุ่นพี่คุณกิน”

มิลค์บอกชื่อยาที่เขาเคยค้นข้อมูลไปอย่างตะกุกตะกัก

“หึ ยานอนหลับ คุณไม่รู้เหรอว่ายานอนหลับเป็นยาอันตราย จะใช้ได้ต่อเมื่อแพทย์สั่ง คุณเอาไปให้คนอื่นกินสุ่มสี่สุ่มห้า นี่คือการกระทำของคนที่จะเป็นหมอในอนาคตงั้นรึ”

“แต่ยาตัวนั้นเป็นยานอนหลับที่ใช้กันทั่วไปนะครับ และผลข้างเคียงมันก็น้อยมาก”

มิลค์อดเถียงไม่ได้ ทั้งๆ ที่จริงๆ ตอนให้กินเขายังไม่รู้เลยว่าเป็นยาอะไร เพิ่งจะมาเสิร์ชข้อมูลทีหลังเพราะสงสัยว่าทำไมอวัยวะเพศของคนที่โดนวางยาถึงไม่แข็งตัว

“แล้วคุณจะมั่นใจได้ยังไงว่าคนที่คุณวางยาเขาไม่ได้แพ้ยากลุ่มนี้ หรือว่าเขาไม่ได้กินยาตัวอื่นอยู่ที่อาจทำให้ผลของยาตัวนี้รุนแรงขึ้น คุณจะบอกว่าได้ซักประวัติคนที่คุณจะวางยาอย่างละเอียดแล้วก่อนลงมืองั้นสิ”

อาจารย์ถามกลับอย่างประชดประชัน

“ผมคิดไม่ถึงจริงๆ ครับ เห็นในนิยายในละครเขาก็ทำกันบ่อยๆ”

เด็กหนุ่มหน้าซีดขณะตอบคำถาม

“นี่ควรจะเป็นความคิดของนักศึกษาแพทย์งั้นเหรอ โชคดีที่ไม่เกิดอะไรร้ายแรงขึ้น แต่จริงๆ คือคุณเอาชีวิตคนไปเสี่ยงโดยเขาไม่ได้มีโอกาสรับรู้เลย เพื่ออะไร เพื่อสนองความคึกคะนองของคุณ นี่มันผิดจริยธรรมแพทย์อย่างชัดเจน บอกตรงๆ ผมชักเสียใจที่อนุญาตให้คุณมาสอบเข้าคณะนี้แทนที่จะเรียนวิศวะต่อ”

มิลค์ขาอ่อนจนแทบทรุด การถูกตัดสินว่าไม่มีจิตสำนึกของการเป็นแพทย์ที่ดีอาจทำให้ต้องออกจากการเป็นนักศึกษาแพทย์ได้

“ผมสำนึกผิดแล้วจริงๆ  ครับอาจารย์ ต่อไปผมจะมีสติไตร่ตรองให้มากขึ้น ผมรักการเป็นหมอและผมอยากรักษาคนจริงๆ”

“ประวัติความผิดของคุณที่ทำให้กลายมาเป็นทาสมันก็ดูไม่เหมาะเลยสำหรับคนเป็นหมอ งานมันหนักมากนะ ต้องมีความมุ่งมั่นในการช่วยเหลือผู้คนจริงๆ ถึงจะมีความสุขกับมัน คุณควรลองถือโอกาสนี้พิจารณาทบทวนใหม่ว่าตัวเองอาจจะเหมาะกับอาชีพอื่นมากกว่า”

“ไม่ครับ ผมมั่นใจ ผมจะเป็นนักเรียนที่ดี มีจรรยาบรรณแพทย์ และจบออกมาเป็นหมอที่มหาลัยภูมิใจ ผมสัญญา”

มิลค์เชื่ออย่างนั้นจริงๆ ถึงตอนนี้เขาอาจจะไม่ได้เป็นคนดีนัก แต่จากหลายเดือนที่ผ่านมาที่ได้ไปคลุกคลีกับนักศึกษาแพทย์และบุคลากรในโรงพยาบาล เขาก็ได้ซึมซับจิตวิญญาณความเป็นหมอมาไม่น้อย เพราะฉะนั้นอีกหกปีที่เหลือในโรงเรียนแพทย์แห่งนี้ เขาต้องเป็นหมอที่ดีได้แน่ๆ

“ดี งั้นผมจะเก็บหลักฐานพวกนี้ไว้ก่อน และเฝ้าดูคุณไปตลอดแม้คุณพ้นจากความเป็นทาสของผมแล้ว  ถ้าคุณทำไม่ได้อย่างที่พูด ต่อให้ตอนนั้นคุณจะจบปีหกอยู่แล้ว ผมก็จะเอาคุณออก”

“ขอบคุณอาจารย์มากครับ”

“อย่าเพิ่งขอบคุณผม ยังไงคุณก็ต้องรับโทษกับความผิดที่ไปถ่ายรูปอนาจารคนอื่นตอนนอนหลับ”

“เรื่องการใช้ยาผมรับว่าผิดจริงๆ  ครับ แต่เรื่องถ่ายรูปนี่ผมทำเพื่อป้องกันตัวที่โดนเขาแบล็คเมล์ก่อน”

“ที่เขาถ่ายรูปคุณไปนะเหรอ รุ่นพี่คุณเขามาขออนุญาตผมก่อนหน้านั้นแล้ว มันเป็นหน้าที่ของคุณในฐานะนักโทษนะที่ต้องอุทิศร่างกายเพื่อการศึกษา เขาเป็นสมาชิกเครือข่าย S.E.O. เลยนะ ไม่มีทางทำอะไรไม่ดีแน่ๆ คงจะหยอกเล่นมากกว่า”

นี่เป็นครั้งแรกที่มิลค์ได้ยินชื่อเครือข่ายที่ว่า

“เครือข่ายอะไรนะครับ แล้วไว้ใจได้แน่เหรอ ทำไมอาจารย์ถึงมั่นใจขนาดนั้น”

“เครือข่าย S.E.O. คุณโป๊ปเขาตั้งขึ้นเพื่อคุณบอส ตอนนี้สมาชิกขององค์กรเกือบทั้งหมดก็ทะยอยเข้าร่วมไปแล้ว ผมเองถ้าเคลียร์งานยุ่งๆ นี่ได้ก็ว่าจะตอบรับคำเชิญเหมือนกัน เห็นว่าเราจะได้ลงมือทำให้สังคมดีขึ้นด้วยตัวเองจริงๆ ไม่ใช่แค่การสนับสนุนเงินอย่างเดียว ต้องขอบคุณสองคนนั้นนะสำหรับทุกอย่างที่เขาทำ”

อาจารย์หนุ่มใหญ่มาดขรึมยกมุมปากนิดนึงซึ่งมิลค์สาบานเป็นใบหน้าที่ใกล้เคียงยิ้มมากที่สุดแล้วเท่าที่รู้จักอาจารย์มา ถ้าเครือข่ายอะไรที่ว่าเป็นฝีมือของสองคนนั้น เขาคงไม่มีอะไรโต้แย้งและไม่อยากยุ่งเกี่ยวด้วย มิลค์คิดอย่างขยาด

“เดี๋ยวคุณต้องไปรับงานโชว์สาธิตประกอบการสัมมนาพิเศษที่จะจัดขึ้นช่วงเย็นนี้ ขอบอกก่อนว่านี่จะไม่ได้ง่ายอย่างที่ผ่านมา คนเข้าร่วมจะเป็นบุคลากรทางการแพทย์ชั้นนำในวงการรวมถึงนักศึกษาคณะเราที่สนใจด้วย และถ้าคุณเจออะไรที่ชวนอึดอัดใจในนั้นก็ขอให้อดทนและระลึกว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของการลงโทษ คุณไปเตรียมตัวได้แล้ว พอถึงเวลาผมจะให้คนไปตาม”

มิลค์ออกจากห้องทำงานของอาจารย์ไปด้วยความโล่งอก ขอแค่ไม่โดนทำทัณฑ์บนหรืออะไรคล้ายๆ กันนั้นจากทางคณะ    อย่างอื่นเขารับได้อยู่แล้ว ยังไงเขาเป็นทาสต้องทำเรื่องแบบนี้เป็นประจำ ทนอายเอาหน่อยไม่เห็นมีอะไร ครั้งนี้คงแค่มีคนเยอะขึ้นเท่านั้นเอง

มิลค์นุ่งเพียงแค่เสื้อคลุมอาบน้ำนั่งรออยู่ในห้องพักข้างห้องประชุมใหญ่ของคณะอย่างไม่กดดันอะไร เขาอาบน้ำทำความสะอาดทุกส่วนมาอย่างดีเพราะไม่รู้ว่าต้องเจอการสาธิตแบบไหนบ้าง ก่อนจะได้เวลาประมาณยี่สิบนาทีก็มีคนเปิดประตูเข้ามาพร้อมเสียงพูดคุยกันเอง

“เขิญทางนี้ครับคุณหมอ ทางเราเตรียมนายแบบไว้แล้ว คุณคงได้ศึกษาจากรูปถ่ายที่ส่งไปให้”

“ครับ ผมดูมาแล้ว แต่ก็อยากเจอตัวจริงก่อนเริ่มงานด้วย นายแบบจะได้ไม่เกร็ง”

มิลค์มองตามเสียงพูดคุยแล้วก็พบผู้ชายท่าทางสง่าภูมิฐานเดินคู่มากับอาจารย์ของเขา ที่เดินตามหลังมาติดๆ เป็นชายหนุ่มหล่อมีออร่าจนต้องตะลึงแต่พอดูดีๆ ก็เป็นคนคุ้นหน้าคุ้นตาที่เขาเคยเจออยู่หลายครั้ง

“พี่ธนัท”

มิลค์พึมพำชื่อออกมาเบาๆ พี่ธนัทเป็นทาสที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยส่วนตัวของนายแพทย์นักธุรกิจชื่อดัง ถ้าอย่างนั้นคนที่เดินคู่มากับอาจารย์เขาก็คงเป็นหมอพฤกษ์เจ้านายของพี่ธนัท ตัวจริงดูหนุ่มกว่าที่เขาคิดไว้มากทั้งๆ ที่น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับพ่อเขาหรืออ่อนกว่าไม่มาก แต่ก็นั่นแหละ ขนาดพี่ธนัทเป็นแค่ทาส ยังถูกจับเข้าคอร์สจนดูเด็กกว่าอายุจริงเป็นสิบปีเลย

ธนัทยิ้มทักทายเด็กหนุ่มแล้วไปกระซิบบอกเจ้านายตัวเองเบาๆ หมอพฤกษ์มองมิลค์อย่างพอใจแล้วพูดว่า

“นี่คือนายแบบของวันนี้ละสิ หน้าตาดีมากเลยนะครับ เป็นทาสของอาจารย์ใช่ไหม เห็นธนัทบอกว่าเคยเจอตอนที่องค์กรส่งไปใช้บริการที่คลีนิคของผม”

“เป็นทั้งทาสทั้งลูกศิษย์เลยครับ เพิ่งย้ายจากวิศวะมาเรียนหมอปีนี้”

อาจารย์หมอตอบ ถ้ามิลค์ไม่ได้เข้าข้างตัวเองเกินไป เขารู้สึกเหมือนว่าจะเป็นซุ่มเสียงที่แสดงความภูมิใจในตัวเขาอยู่ไม่น้อย เขายกมือไหว้ทั้งหมอพฤกษ์และธนัทอย่างนอบน้อม

“อืมๆ เรียนเก่งด้วยสิ หวัดดีๆ ถอดเสื้อผ้าออกเลย ขอหมอดูของจริงนิดนึงเทียบกับที่หมอไปทำการบ้านจากรูปถ่ายมา”

มิลค์ถอดเสื้อคลุมออกจนเหลือร่างกายเปลือยเปล่า ที่จริงก็น่าจะชินแล้วแต่สายตาของหมอพฤกษ์ที่จ้องราวกับจะทะลุทะลวงร่างกายทำให้เขาอายอย่างบอกไม่ถูก หมอนักธุรกิจชื่อดังสำรวจร่างกายและอวัยวะส่วนต่างๆ ของเขาราวกับกำลังตีมูลค่าสินค้าชั้นสูง เขาค่อยๆ  ผ่อนลมหายใจเมื่อหมอพฤกษ์โดนธนัทพาไปอีกห้องด้วยเหตุผลว่าต้องไปพบนายแบบอีกคนก่อนที่จะเริ่มสัมมนา อาจารย์สั่งให้เขารออยู่ในห้องพักจนกว่าหมอพฤกษ์จะจบการบรรยายในช่วงแรกแล้วจะต่อตัวการสาธิตตัวอย่างซึ่งเป็นหน้าที่ของเขา

มิลค์นั่งรอด้วยความตื่นเต้นที่จะได้ร่วมงานกับคนดังจนถึงเวลาที่ถูกพาไปขึ้นเวที เขามองบรรยากาศในงานด้วยความสนใจ เริ่มจากป้ายแสดงหัวข้องาน  ‘การนำเทคนิคการพยากรณ์ทางพันธุกรรมมาใช้กับเวชศาสตร์ความงาม’ พอมองไปทางคนฟังก็พบว่าส่วนใหญ่น่าจะเป็นแพทย์เต็มตัวแล้วมีนักศึกษาแพทย์แค่ประปราย แต่ที่ทำให้เขาสงสัยคือเดือนแพทย์โจทก์ของบทลงโทษครั้งนี้กับนั่งติดกับเต้าหู้ เด็กปีหนึ่งปีสองไม่น่าจะมาสนใจมาฟังสัมมนาอะไรของผู้ใหญ่อย่างนี้ มิลค์สงสัยและคาดโทษเต้าหู้ไว้ในใจว่าน่าจะเป็นคนเอาเรื่องนี้ไปฟ้องเดือนแพทย์ไม่งั้นอีกฝ่ายไม่น่าจะรู้ตัวได้

หมอพฤกษ์กำลังยืนบรรยายอยู่บนเวทีท่ามกลางความสนใจของผู้ชม พอเขาเห็นมิลค์มายืนประจำที่เรียบร้อยแล้วก็พูดต่อทันที

“เรามาลองดูของจริงกันบ้าง ตัวอย่างของเราเป็นเด็กหนุ่มอายุสิบเก้าปี ร่างกายได้พัฒนาตามกรรมพันธุ์จนเกือบจะสมบูรณ์แล้วแต่ก็ยังอาจมีการพัฒนาต่อช้าๆ อีกจนกว่าจะอายุยี่สิบห้าปี”

พอพูดมาถึงตรงนี้ ธนัทซึ่งคอยอำนวยความสะดวกอยู่บนเวทีก็เข้ามาช่วยมิลค์ปลดเสื้อคลุมออกเหลือแต่ร่างกายเปลือยเปล่าต่อหน้าคนเต็มห้องประชุม เสียงฮือฮาอย่างชื่นชมในการสาธิตที่สมจริงไม่ยึดติดกับข้อจำกัดทางบริบทของสังคม แถมยังใช้นายแบบหนุ่มหล่อที่เป็นอาหารตาอย่างนี้อีก

“อย่างที่ผมอธิบายในตอนต้น การสืบทอดทางพันธุกรรมมีผลอย่างมากต่อลักษณะภายนอกของคนเราในอวัยวะส่วนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นขนาด รูปร่าง สี หรือผลสืบเนื่องอย่างท่าทาง เสียง  กลิ่น เป็นต้น อย่างตัวอย่างของเราในวันนี้มีจมูกที่โด่งเป็นสันและได้รูปแต่ส่วนปลายจมูกจะรั้นนิดๆ ในทางการแพทย์ถือว่าเป็นเรื่องปกติไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำการรักษาแต่อย่างใด แต่ในสาขาเวชศาสตร์ความงาม มันมีเรื่องสุนทรียศาสตร์หรือรสนิยมเข้ามาเกี่ยวข้อง บางคนอาจชอบปลายจมูกที่รั้นนิดๆ  อย่างนี้เพราะดูเด็กๆ น่ารักดี แต่บางคนอาจจะอยากให้ปลายจมูกแหลมและกดลงมากกว่านี้อีกนิดจะได้ดีหล่อคม สิ่งที่ไม่ได้เป็นปัญหาทางการแพทย์อาจกลายเป็นปัญหาในเชิงเวชศาสตร์ความงามก็เป็นได้”

หมอพฤกษ์บรรยายจนมิลค์เริ่มไม่มั่นใจว่ายังโอเคกับรูปร่างจมูกตัวเองอยู่หรือเปล่า

“ถ้าเป็นในปัจจุบันนี้ การแก้ปัญหาก็คงเป็นการทำศัลยกรรมพลาสติก แต่อย่างที่ทราบว่าบางครั้งทำออกมาอาจจะดูไม่เป็นธรรมชาติ หรือแย่กว่านั้น การเอาสิ่งแปลกปลอมเข้าร่างกายก็อาจเกิดการต่อต้านจนปัญหาความงามกลายมาเป็นปัญหาสุขภาพขึ้นมาจริงๆ วิธีการที่ผมกำลังศึกษาอยู่นั้น จะใช้การหลักการของกายภาพบำบัด เช่นการนวด การออกกำลังกล้ามเนื้อเฉพาะส่วน ร่วมกับการออกแบบโภชนาการ และการใช้สมุนไพรธรรมชาติเพื่อแก้ไขปัญหาด้านความงามต่างๆ  วิธีการนี้ในบางกรณีสามารถเห็นผลได้ทันที เช่นงานวิจัยเรื่องการเปลี่ยนสีหัวนมและอวัยวะเพศด้วยสารสกัดธรรมชาติของผมที่ได้รับการตีพิมพ์ไปเมื่อปีที่แล้ว แต่การบำบัดแบบนี้ส่วนใหญ่ต้องใช้ระยะเวลาเป็นปีๆ และควรเริ่มทำตั้งแต่ยังเด็กหรือวัยรุ่น”

มิลค์คิดว่าอาจารย์ออกจะลงโทษรุนแรงไปหน่อยที่สั่งให้เขาต้องมายืนแก้ผ้าในงานสัมมนาที่มีคนนอกคณะมาฟังด้วยอย่างนี้ จริงๆ ด้วยชื่อเสียงและเนื้อหาที่หมอพฤกษ์เอามาพูดไม่จำเป็นต้องมีเขาเป็นตัวดึงดูดความสนใจเลย เขาพยายามจะไม่สนใจสายตาโลมเลียที่มองมา แต่พอเห็นเป็นหมอหนุ่มสาวหน้าตาดีๆ เขาก็อดตื่นเต้นไม่ได้

“ปัญหาใหญ่ของเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่เวลา พ่อแม่จำนวนมากพร้อมที่จะใช้วิธีธรรมชาติบำบัดอย่างที่กล่าวมากับลูกของตัวเองต่อเนื่องเป็นปีๆ เพื่อให้มั่นใจว่าเวลาโตมาเป็นหนุ่มสาวแล้วจะมีรูปร่างหน้าตาที่สมบูรณ์เป็นใบเบิกทางในสังคมต่อไป แต่อย่างที่ทราบว่าร่างกายของเด็กและวัยรุ่นมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เราจะต้องทราบซะก่อนว่าจุดบกพร่องในยามที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่อยู่ตรงไหนเพื่อที่เราจะได้เริ่มแก้ตั้งแต่วันนี้ พูดไปอาจจะยังไม่เห็นภาพ ขอสาธิตกับนายแบบของเราแล้วกันนะครับ ธนัทช่วยหน่อย”

ธนัทเข้ามาสาวท่อนลำของมิลค์ให้แข็งตัวตามคำสั่งที่เตรียมกันมา ซึ่งก็แทบจะไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลย แค่รูดสองสามทีท่อนเอ็นของมิลค์ก็แข็งปั๋งต่อหน้าผู้ชมนับร้อยตามประสาหนุ่มกลัดมันที่ไม่มีโอกาสได้ปลดปล่อย คนในห้องประชุมต่างส่งเสียงฮือฮาอีกครั้งในความน่าดูของแก่นกายเด็กหนุ่มหน้าห้อง

“ดูเผินๆ ก็เป็นท่อนลำปกติที่ออกจะน่าดูชมนะครับ แต่นั่นเป็นในเชิงการแพทย์ทั่วไป  แต่ในทางเวชศาสตร์ความงาม ถ้าเราเอาไม้บรรทัดมาวัดตรงๆ แบบนี้ จะเห็นว่ามันเอียงซ้ายนิดๆ นิดเดียวจริงๆ ครับ กล้องช่วยซูมมาหน่อย เมื่อเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว มันอาจเอียงกว่านี้ได้อีก ในทางเวชศาสตร์ความงามที่ต้องการความสมบูรณ์แบบอาจจะไม่พอใจ วิธีบำบัดเราสามารถใช้การนวดน้ำมันและการบริหารกล้ามเนื้อเฉพาะจุดช่วยได้ แต่ต้องใช้เวลาและควรเริ่มทำตั้งแต่เด็กกว่านี้ คราวนี้ลองนึกถึงตอนที่นายแบบของเราอายุน้อยกว่านี้สิครับ อวัยวะส่วนนี้ยังไม่พัฒนา มันจะยิ่งดูยากเข้าไปอีกว่าจะเอียงแค่ไหนเมื่อเป็นผู้ใหญ่ หากทำการบำบัดในระดับที่มากเกินไป จากเอียงซ้ายจะกลายเป็นเอียงขวาแทนได้”

ขณะที่กำลังบรรยายไป หมอพฤกษ์เอาไม้บรรทัดมาทาบท่อนลำที่กำลังแข็งตัวของมิลค์เพื่อให้กล้องถ่ายซูมขึ้นโปรเจกเตอร์เพื่อให้เห็นการสาธิตได้อย่างขัดเจน ผู้ชมในห้องแทบไม่มีใครสนใจกับความโค้งเอียงเล็กน้อยอย่างที่หมอพฤกษ์ตั้งข้อสังเกตเพราะมัวแต่ตะลึงกับความขาวใสของท่อนลำขนาดเขื่องและหัวสีชมพูสวยที่ใสเหมือนไม่ได้ถูกใช้งานมาก่อน ถึงแม้ว่ามิลค์อายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี แต่ความตื่นเต้นจากการถูกจ้องมองทำให้น้ำหล่อลื่นเหนียวใสเริ่มเอ่อซึมออกมาจากส่วนปลายจนเห็นได้ชัด

“นั่นคือสิ่งที่เทคนิคการพยากรณ์ทางพันธุกรรมจะช่วยได้ เราจะใช้คอมพิวเตอร์จำลองภาพสามมิติของผู้ใช้บริการมาจับคู่กับข้อมูลของญาติร่วมพันธุกรรมเดียวกันที่อายุมากกว่า จะเป็นพ่อลุงน้าอาหรือพี่ชายที่อายุห่างกันเยอะๆ ก็ได้ ทั้งนี้เพื่อทำนายรูปร่างหน้าตาในอนาคตของผู้ใช้บริการ นอกจากนี้เราจะใส่ข้อมูลทางพันธุกรรมของลักษณะยีนเด่นยีนด้อยของญาติแต่ละคนลงไปอีกเพื่อประเมินความน่าจะเป็นให้ถูกต้องมากขึ้น พอเราทราบรูปร่างหน้าตาในอนาคตของผู้รับบริการแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะออกแบบการบำบัดเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องในอนาคตต่อไป”

มิลค์ที่กำลังฟังตามอย่างตั้งใจเพื่อให้ลืมความอายก็ต้องตกใจเมื่อเห็นอาร์ตเดินเข้ามานั่งฟังตรงที่นั่งด้านหน้า อาอาร์ตเป็นนักบัญชีมาทำอะไรในงานสัมมนาทางการแพทย์ คงไม่ใช่ว่า.....

“เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น ขอตัวอย่างเปรียบเทียบด้วยครับ”

ผู้ชายคนหนึ่งในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำก้าวขึ้นมาบนเวทีและเดินมายืนข้างๆ มิลค์แค่ชำเลียงด้วยหางตาก็จำคนๆ นี้ได้ทันทีถึงจะดูเปลี่ยนไปบ้าง พ่อของเขาไปทำอะไรมาไม่รู้แต่ดูดีและหนุ่มขึ้นไปอีก ที่แน่ๆ ไปตัดผมสั้นทรงวัยรุ่นและย้อมผมสีอ่อนมา พอพ่อเปลื้องเสื้อคลุมออกก็เผยหุ่นล่ำที่ดูดีกว่าเขาจนสาวๆ ที่นั่งฟังอยู่กรี๊ดออกมาอย่างชื่นชมอย่างเก็บอาการไม่อยู่ทั้งๆ ที่เป็นงานสัมมนาทางวิชาการ ธนัทช่วยรูดท่อนลำของคนพ่อตามหน้าที่จนแข็งปั๋งไม่ต่างจากคนลูก

มิลค์ตกใจจนดุ้นเนื้ออ่อนตัวลง เขาเหลือบมองไปรอบๆ ห้องอย่างระแวงว่าจะมีใครรู้บ้างว่าตัวอย่างอีกคนคือพ่อของเขาเอง หลังจากนี้เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน พ่อลูกต้องมายืนโชว์อะหล่างฉ่างพร้อมกันบนเวที อาจารย์ต้องรู้แน่ๆ และคงเป็นคนติดต่อให้อาอาร์ตสั่งพ่อเขามาด้วยซ้ำ แต่นั่นไม่ยังน่ากลัวเท่ากับคนอื่นในคณะ ไอเต้าหู้ที่นั่งตาโตอยู่ข้างเดือนแพทย์เป็นคนเดียวที่เคยเห็นหน้าพ่อเขา เขาจะขู่ฆ่ามันถ้าเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร ที่สำคัญไอเดือนแพทย์มันรู้หรือยัง เห็นสายตายิ้มๆ ที่มองมามันอาจจะรู้แล้วก็ได้ แต่ที่เขากังวลที่สุดคือผู้ฟังในห้องน่าจะเดาได้เองไม่ยาก พ่อกับเขาหน้าเหมือนกันซะขนาดนี้จะไม่รู้ได้ยังไง

หมอพฤกษ์ที่กำลังบรรยายอยู่เลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจเมื่อเห็นท่อนลำที่หมดสภาพจนคอตกของมิลค์ เขาบุ้ยปากให้ธนัทเข้าไปจัดการปลุกอารมณ์ของคนลูกใหม่เพื่อจะใช้เปรียบเทียบต่อ

“ตัวอย่างที่สองเป็นญาติที่อายุมากกว่าของตัวอย่างที่หนึ่ง จะเห็นว่าพอเอาไม้บรรทัดวัดจะพบความเอียงซ้ายที่มากกว่าตัวอย่างที่หนึ่งแต่เป็นในลักษณะที่โก่งขึ้นด้วย จากข้อมูลนี้ร่วมกับการตรวจสอบยีนเด่นยีนด้อย เราจะสามารถทำนายลักษณะอวัยวะเพศในอนาคตของตัวอย่างที่หนึ่งได้อย่างแม่นยำตั้งแต่ยังเด็กและออกแบบการบำบัดได้อย่างถูกต้อง ตัวอย่างที่หนึ่งช่วยเอาอวัยวะเพศมาเปรียบเทียบกับตัวอย่างที่สองด้วยครับ”

เสียงฮือฮาดังขึ้นขณะที่กล้องซูมเข้าไปที่อวัยวะเพศชายคู่แฝดที่น่าดูไม่ต่างกัน

“จะเห็นว่าด้วยความเป็นญาติร่วมพันธุกรรมเดียวกัน ขนาดสีสรรและรูปร่างของอวัยวะเพศของทั้งคู่จะใกล้เคียงกันมาก ถือเป็นตัวอย่างที่ค่อนข้างสมบูรณ์จริงๆ  แต่ถึงจะเป็นกรณีทั่วไปที่มีการเบี่ยงเบนออกไปบ้างตามธรรมชาติ วิธีการทำนายที่ผมพัฒนาขึ้นก็จะครอบคลุมเผื่อไว้แล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ในส่วนการบรรยายที่ผมเตรียมมาก็จบลงเพียงเท่านี้ ต่อไปจะเป็นช่วงตอบคำถาม ไม่ทราบว่า.... อ้า เชิญคุณผู้หญิงด้านโน้นครับ”

“ตัวอย่างที่หนึ่งกับตัวอย่างที่สองเป็นอะไรกันคะ”

“แหม นึกว่าจะถามงานวิจัยของผม อย่างที่เรียนไปครับ ว่าเป็นญาติที่อายุมากกว่าก็ใช้ได้หมด จะเป็นพ่อ เป็นน้า เป็นอา หรือพี่ชายที่อายุห่างกัน ยิ่งมีหลายตัวอย่างยิ่งดี ตัวอย่างที่สองก็เป็นญาติหนึ่งในนั้นล่ะครับ เก็บไว้ลองทายกันดีกว่า อันนี้เรื่องส่วนตัวของนายแบบเขา ผมคงตอบไม่ได้ ขอคำถามถัดไปครับ”

“ดิฉันเห็นอย่างที่คุณหมอพฤกษ์ว่าละค่ะว่าอวัยวะเพศของตัวอย่างที่หนึ่งกับตัวอย่างที่สองใกล้เคียงกันมากสมกัยที่เป็นญาติกัน เลยมาสะดุดตรงที่ส่วนหัวของทั้งคู่ว่าทำไมสีถึงต่างกันค่อนข้างชัด อันนี้เป็นผลจากยีนเด่นยีนด้อยหรือการกลายพันธุ์หรือเปล่าคะ”

หมอพฤกษ์ซ่อนยิ้มไว้ภายใต้สีหน้าเป็นการเป็นงาน เขาแอบหวังว่าจะมีคนถามคำถามนี้ขึ้นมาแล้วก็สมหวัง นายแพทย์นักธุรกิจบอกให้สองพ่อลูกรูดหนังหุ้มปลายลงจนสุดแล้วเอาส่วนหัวของอวัยวะเพศมาแนบกันเพื่อให้กล้องได้จับภาพความแตกต่าง มิลค์ขนลุกไปทั้งตัวทันทีที่เนื้อส่วนอ่อนไหวสัมผัสกัน  ต่อให้เขากับพ่อสนิทกันแค่ไหน แต่นี่มันดูไม่เหมาะสมจริงๆ

“เป็นคำถามที่น่าสนใจมากครับ มาดูกันชัดๆ แบบนี้จะเห็นว่าส่วนหัวของนายแบบคนที่สองจะดูหมองคล้ำไม่ได้เป็นสีชมพูใสอย่างของตัวอย่างที่หนึ่งทั้งที่มีสานพันธุกรรมเดียวกัน อันนี้มีสาเหตุอยู่สองสามประการครับ อันดับแรกด้วยวัยครับ เห็นหนุ่มๆ อย่างนี้แต่ตัวอย่างที่สองก็มีอายุห่างจากตัวอย่างที่หนึ่งอยู่พอสมควร ด้วยวัยที่เพิ่มขึ้นความเต่งตึงของผิวหนังในทุกส่วนก็ลดลงเป็นธรรมดา เรื่องที่สอง อันนี้ผมไม่ทราบแน่นะครับ แต่พอจะอนุมานได้จากสภาพที่เห็นอยู่ว่าตัวอย่างที่สองมีการใช้งานอวัยวะส่วนนี้อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอมาเป็นเวลานาน พูดภาษาชาวบ้านก็คือใช้งานหนักนั่นแหละครับ ผิวหนังโดนเสียดสีบ่อยๆ มันย่อมคล้ำและหยาบลงเป็นธรรมดา ในขณะที่ตัวอย่างที่หนึ่งดูแล้วผ่านการใช้งานมาน้อยมาก”

ทั้งเอ็กซ์และมิลค์ก้มหน้างุดด้วยความอายที่อยู่ๆ ก็เหมือนถูกเอาพฤติกรรมทางเพศมาเปิดเผยต่อหน้าธารกำนัล

“ส่วนสาเหตุที่สาม จริงๆ ผมไม่ค่อยอยากพูดถึงสักเท่าไหร่ เพราะเหมือนเป็นการประชาสัมพันธ์ธุรกิจของตัวเอง แต่ขอยืนยันไว้ตรงนี้ครับว่ ไม่ได้เตี้ยมมาแน่นอน ขอให้มองเป็นเรื่องวิชาการนะครับ คือบังเอิญว่าตัวอย่างที่หนึ่ง เมื่อหลายเดือนก่อน น่าจะเป็นครึ่งปีแล้ว ได้ไปรับบริการคอร์สความงามสำหรับสุภาพบุรุษที่คอมเพล็กสุขภาพของผมแล้วก็ทำการเปลี่ยนสีส่วนหัวอวัยวะเพศให้เป็นสีชมพูมาครับ เลยอาจจะต่างกับพื้นฐานทางกรรมพันธุ์ไปบ้าง อย่างตัวอย่างที่สองนี่ถ้าได้ไปเข้าคอร์สเดียวกัน ออกมาก็จะชมพูใสๆ เหมือนของใหม่เลยครับ คุณหมอผู้ชายในห้องนี้ ถ้าสนใจเทคนิคที่ว่า ก็ลองไปพูดคุยหรือทดลองด้วยตัวเองที่คอมเพล็กซ์สุขภาพของผมได้”

หมอพฤกษ์ถือโอกาสโฆษณาแฝงอย่างเนียนๆ หมอผู้ชายในห้องนี้กำลังซื้อสูงจะตาย กลุ่มเป้าหมายของเขาชัดๆ

“มีคำถามอื่นอีกไหมครับ”

“ตัวอย่างที่สองอายุเท่าไหร่ฮะ”

“ตัวอย่างที่สองยังโสดอยู่เปล่าคะ

“ผู้ช่วยคุณหมอชื่ออะไรครับ”

“อยากขอถ่ายภาพตัวอย่างที่หนึ่งกับตัวอย่างที่สองคู่กันได้ไหมครับ”

หมอพฤกษ์ส่ายหัวกับความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ไม่อยากเชื่อว่าที่ๆ มาฟังกันนี่เป็นหมอซะเป็นส่วนใหญ่ นี่ขนาดเขาเปลี่ยนใจมาใช้สองพ่อลูกนี่ตามที่อาจารย์ขอนะ ถ้าใช้ธนัทมาเป็นตัวอย่างจริงตามที่วางแผนไว้ทีแรก ห้องประชุมคงได้ระเบิดกันบ้าง

“ถ้าไม่เกี่ยวกับงานที่ผมเสนอไปงั้นขอข้ามไปที่ช่วงสุดท้ายเลยนะครับ อันนี้เป็นเวิร์คช็อปสนุกๆ  อยากให้ในห้องนี้โหวตเลือกลักษณะทางกายภาพของตัวอย่างที่หนึ่งและตัวอย่างที่สองที่น่าจะมีความเหมือนกันทางพันธุกรรมมาหนึ่งอย่าง เดี๋ยวเราจะทำการวัดจริง ถ้าได้ผลใกล้เคียงกันจริง ผมจะมีของที่ระลึกจากศูนย์สุขภาพของผมแจกให้ทุกคนก่อนกลับ ยกเว้นเรื่องขนาดของอวัยวะเพศไว้เรื่องนึงนะครับ เพราะเมื่อกี๊เราเปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆ ไปแล้ว”

หมอพฤกษ์ตั้งใจให้เป็นกิจกรรมง่ายๆ ที่ทุกคนมีส่วนร่วมได้ คำตอบมันชัดเจนอยู่แล้ว ง่ายสุดเลยก็ความสูงซึ่งเป็นเรื่องทางพันธุกรรม แถมพ่อลูกคู่นี้ก็สูงใกล้เคียงกันซึ่งทุกคนในห้องก็เห็นอยู่แล้ว คงไม่มีใครโหวตเรื่องน้ำหนักเพราะมันมีปัจจัยอื่นที่ส่งผลมากกว่า เช่นพฤติกรรมการบริโภค นอกนั้นจะตอบอะไรก็คงจะถูกเกือบทั้งนั้น  ยังไงกิจกรรมนี้เขาก็ตั้งใจมาแจกของตั้งแต่แรกแล้ว

“งั้นขอซักสามตัวเลือกแล้วกันนะครับ แล้วค่อยยกมือโหวตกัน ขอตัวเลือกแรกครับใครจะเสนออะไร ความสูง โอเคครับ ตัวเลือกที่หนึ่ง ความสูง ขอตัวเลือกที่สองครับ เบอร์รองเท้า? เอาจริงเหรอครับ ก็ได้ครับ ข้อสุดท้ายแล้ว หา อะไรนะครับ ปริมาณน้ำอสุจิ? อย่าล้อเล่นสิครับ ไม่มีใครโหวตหรอก ก็ได้ครับ ลองดูก็ได้”

คนที่เสนอตัวเลือกพิศดารอันหลังสุดกลับเป็นเด็กที่ดูสุภาพเรียบร้อยอย่างเต้าหู้ มิลค์รู้สึกเหมือนถูกหักหลัง ถึงเขาจะไม่ได้ยินดียินร้ายกับเพื่อนใหม่คนนี้นักแต่เพื่อนกันไม่น่าทำแบบนี้ ยิ่งรู้ก็รู้ว่าอีกคนบนเวทีคือพ่อของเขาเอง ที่ผ่านมาเขาก็ดีกับมันอยู่บ้าง ถ้าคนเสนอเรื่องนี้เป็นไอเดือนแพทย์เขาจะยังเจ็บใจไม่เท่านี้เลย

ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
สุดท้ายการโหวตก็เทคะแนนถล่มทลายให้กับหัวข้อที่สาม ไม่น่าเชื่อว่าคนที่มีความรู้ทางการแพทย์อย่างผู้ฟังในห้องจะเลือกคำตอบนี้สำหรับโจทย์ที่กำหนด ปริมาณน้ำอสุจิมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องมากมายที่ไม่เกี่ยวข้องกับกรรมพันธุ์โดยเฉพาะเรื่องความถี่ในการหลั่งก่อนหน้า  แต่ถึงอย่างนั้นทุกคนในห้องก็ใจจดจ่ออยู่กับการเปรียบเทียบทางพันธุกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น หมอพฤกษ์คิดอย่างเพลียใจที่คนดูเลือกตอบเอามันแทนที่จะพยายามตอบให้ถูกต้อง ดูท่าจะไม่สนใจอยากได้ของที่ระลึกที่เขาเตรียมมาเลย กระบอกวัดปริมาตรสองอันถูกหยิบยืมจากห้องแลบได้อย่างทันใจ สองพ่อลูกยืนเปลือยกายเคียงกันอยู่บนเวที ผู้ช่วยของหมอพฤกษ์รับบทหนักที่ต้องชักว่าวให้ตัวอย่างทั้งสองคนไปพร้อมๆ  กัน แต่เขาก็ทำได้อย่างชำนิชำนาญ ก็อย่างว่า เรื่องนี้มันเป็นสกิลมาตรฐานของผู้ชายอยู่แล้ว

ผู้ชมในห้องประชุมต่างมองภาพตรงหน้าอย่างแทบลืมหายใจ หนุ่มหล่อต่างวัยยืนเคียงคู่กันให้หนุ่มหล่อมากอีกคนจับท่อนลำขนาดเขื่องรูดไปมาพร้อมๆ กัน บอกไม่ถูกว่าต้นเหตุของความน่ามองอยู่ที่ไหนกันแน่ อาจเป็นความหล่อใสและร่างกายที่เยาว์วัยชวนมองของมิลค์ หรือจะเป็นความสง่าแกร่งกำยำมีเสน่ห์ในแบบผู้ใหญ่ของเอ็กซ์ ที่แน่ๆ ความคล้ายคลึงทางสายเลือดของผู้ชายต่างวัยมันน่าค้นหาจริงๆ  ใบหน้าที่ตั้งใจราวกับกำลังทำงานสำคัญของหนุ่มโคตรหล่ออย่างธนัทก็มีส่วนช่วยทำให้เหตุการณ์บนเวทีสมบูรณ์แบบมากขึ้น

ถึงจะอับอายและกังวลแต่ความหนุ่มแน่นของอาวุธประจำกายของมิลค์ก็ทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ เขารู้ดีว่าการที่ร่างกายแทบไม่ได้มีโอกาสปลดปล่อยเลยคงทำให้เขาเสร็จก่อนพ่อแน่ๆ เขาพยายามอดกลั้นให้ได้มากที่สุดเพราะไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นนกกระจอกกินน้ำต่อหน้าคนกลุ่มใหญ่ แต่มือใหญ่อุ่นนุ่มของพี่ธนัทก็ทำให้รู้สึกดีเหลือเกิน เขาไม่ได้มีโอกาสแบบนี้ตั้งแต่ที่เดือนแพทย์แกล้งเขาในคลาสอานาโตมีซึ่งก็เป็นอาทิตย์แล้ว

มิลค์เริ่มครางเสียงดังด้วยความเสียว เขาลืมไปแล้วว่ากำลังอยู่ต่อหน้าคนเป็นร้อย มือข้างนึงเขาถือกระบอกตวงไว้เพื่อรอรับปริมาณน้ำอสุจิที่คงจะมาในไม่ช้า มิลค์เอามืออีกข้างที่ว่างมาเขี่ยหมุดที่หัวนมอย่างลืมตัว นั่นเรียกคะแนนสายตาจากคนที่กำลังลังเลว่าจะโฟกัสไปที่หนุ่มน้อยหรือหนุ่มใหญ่ดีได้อีกเยอะ ไม่นานมิลค์ก็กระตุกปลดปล่อยน้ำขาวขุ่นข้นคลั่กออกมาใส่กระบอกตวงอย่างแม่นยำระลอกแล้วระลอกเล่าเป็นสิบครั้งจนคนดูต้องทึ่งไปตามๆ กัน เขารีดไปตามท่อนลำเพื่อไล่น้ำเชื้อที่ค้างลำกล้องอยู่ลงไปในกระบอกตวงไม่ให้พลาดซักหยดตามด้วยการสะบัดปลายส่งหยดสุดท้ายลงไป

พออารมณ์เงี่ยนได้รับการปลดปล่อยไปมิลค์ก็กลับมากระอักกระอ่วนกับพ่อของตัวเองที่ยังยืนแอ่นให้ธนัทสาวดุ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย ดูท่าทางแล้วพ่อคงจะไม่แตกง่ายๆ นี่มันแย่จริงๆ เขาไม่อยากยืนแก้ผ้าดูพ่อตัวเองถูกจับชักว่าวต่อหน้าคนเป็นร้อยไปอีกเป็นชั่วโมง หมอพฤกษ์ก็ดูจะไม่อยากเสียเวลาเท่าไหร่ถึงได้หยิบหลอดยาเล็กๆ ขึ้นมาส่งให้กับธนัท หนุ่มหล่อราวกับดารารับไปแล้วบีบเนื้อยาชโลมทั่วท่อนลำอวบใหญ่ของเอ็กซ์จนแวววับน่ามองแล้วลงมือสาวต่อ อีกไม่ถึงนาที เอ็กซ์ก็กระฉูดน้ำเชื้อออกมาเยอะไม่แพ้หนุ่มๆ แต่พอเอามาเทียบกับของมิลค์ที่ออกมามากจนผิดปกติก็ยังน้อยกว่ากันแบบครึ่งๆ

“สรุปว่าหัวข้อที่ทุกคนโหวตเป็นคำตอบที่ไม่ถูกต้องนะครับ เสียใจจริงๆ ที่วันนี้ไม่ได้มีโอกาสแจกของที่ระลึกที่เตรียมมา”

หมอพฤกษ์ประกาศท่ามกลางความไม่เสียดายของผู้ชมที่ได้เห็นอะไรที่มันอิ่มตามากกว่านั้นแล้ว จริงๆ หมอหนุ่มนักธุรกิจอยากแจกใจแทบขาดเพราะถือเป็นการโปรโมทสินค้ากับคนที่อยู่ในวงการแพทย์ด้านความงามโดยตรง แต่ในเมื่อผลมันออกมาเป็นแบบนี้ ถ้าให้ไปมันจะดูยัดเยียดจนเสียภาพลักษณ์ของแบรนด์ไป

หลังงานสัมมนาเลิก คุณหมอสาวๆ สวยๆ สมกับที่อยู่วงการเวชศาสตร์ความงามหลายคนก็ปรี่เข้าไปหาเอ็กซ์ทั้งๆ ที่อีกฝ่ายยังไม่ได้มีโอกาสแต่งตัวให้เรียบร้อยเลย

“คุณตัวอย่างหมายเลขสองคะ ขอสอบถามหน่อยค่ะ ถ้าอยากเชิญไปเป็นตัวอย่างที่คลีนิคของดิฉันบ้างจะสะดวกไหมคะ”

“ทางนี้ก็อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยค่ะ ดิฉันเป็นแพทย์ผิวหนัง พอจะบอกได้จากจุดสังเกตเล็กๆ  น้อยๆ ว่าคุณก็น่าจะอายุเกินสามสิบห้าแล้ว แต่ในภาพรวมยังดูหนุ่มมาก ไม่ทราบว่าได้ผ่านการบำบัดแบบที่หมอพฤกษ์นำเสนอมาหรือเปล่า อยากจะขอนามบัตรไว้ติดต่อพูดคุยกันทีหลังค่ะ”

“พี่เป็นพี่ชายของน้องมิลค์ใช่เปล่าคะ หนูเรียนอยู่ปีสี่ค่ะ สนิทกับน้องมิลค์ม๊ากมาก อยากแลกเบอร์แลกไลน์ไว้เผื่อพี่จะฝากให้ช่วยดูแลน้องมิลค์น่ะค่ะ”

มิลค์มองดูพ่อตัวเองยืนเปลือยถูกมะรุมมะตุ้มจากสาวๆ มากหน้าหลายตา ยิ่งเห็นอาร์ตมองมาตาเขียวปั๊ดก็ยิ่งร้อนใจแทนแต่ไม่รู้จะช่วยยังไง ตัวเองยังถูกรุมจากหมอๆ ผู้ชายทั้งแนวหัวงูทั้งแนวออกสาวอยู่แหวกวงล้อมออกไปไม่ได้ พวกนี้ยิ่งปากว่ามือถึงกว่าด้วย แก้ผ้าอย่างนี้ป้องกันตัวเองไม่ถูกเลย ไม่รู้จะระวังหน้าหรือระวังหลังดี

หลังจากชุลมุนอยู่ครู่ใหญ่ ปรากฎว่าเป็นเต้าหู้ที่ปราดเข้ามาเอาตัวหมีๆ กันมิลค์ออกมาจากกลุ่มคนได้ หนุ่มหน้าจืดไม่พูดไม่จารีบพาร่างเปลือยของมิลค์กลับเข้าไปที่ห้องพักโดยมีเดือนแพทย์เดินระวังหลังให้ ที่นั่นอยู่ครบกันทั้งหมอพฤกษ์ ธนัท อาจารย์ เอ็กซ์ และอาร์ต

“นึกว่าลูกจะไม่รอดแล้วซะอีก”

เอ็กซ์ในสภาพเปลือยแซวลูกชายอย่างขำๆ มิลค์หันขวับไปมองเดือนแพทย์อย่างระแวง พ่อเล่นเรียกเขาแบบนี้มันก็รู้หมดสิ หวังว่ามันจะได้ยินไม่ถนัดนะ แต่แล้วหมอพฤกษ์ก็ดับความหวังของเขาด้วยคำพูดตอกย้ำเข้าไปอีก

“เสน่ห์แรงทั้งพ่อทั้งลูกเลยแฮะ ยังไงวันนี้ก็ต้องขอบคุณมากทั้งคุณเอ็กซ์และน้องมิลค์เลย เป็นตัวอย่างที่ดีจริงๆ ออกจะดึงดูดผู้ชมเกินไปด้วยซ้ำ ขอบคุณคุณอาร์ตด้วยที่ให้ยืมตัวคุณเอ็กซ์มาวันนี้  เดี๋ยวผมคงต้องขอตัวก่อนไปคุยธุระกับอาจารย์ก่อนกลับ ส่วนครีมบำรุงผิวที่ผมเตรียมมาเป็นของแจกผู้เข้าสัมมนาแต่เล่นเกมไม่ผ่าน ผมขอแจกในห้องนี้แล้วกันครับ ที่เหลือขอมอบให้คุณเอ็กซ์และน้องมิลค์ในฐานะที่ได้ร่วมงานกัน”

หมอพฤกษ์บอกอย่างใจดี มิลค์ตาโต ถึงเขาจะไม่ใช่ผู้ชายสำอางค์อะไรมากแต่ก็ไปใช้บริการคลีนิคหมอพฤกษ์อยู่บ้างเลยได้ยินถึงคนพูดถึงครีมที่ว่าอยู่ไม่น้อยทั้งในด้านสรรพคุณและราคา ถึงครีมที่หมอพฤกษ์เอามาจะเป็นไซส์เล็กแต่ก็มีจำนวนน่าจะเกือบสองร้อยกระปุก แบ่งกันแล้วก็คงทาทั้งตัวได้เป็นปีๆ

“งั้นผมขอไปลองซักสองกระปุกนะครับ ถ้าดีผมค่อยไปซื้อเอง”

เดือนแพทย์บอกด้วยความสนใจ มิลค์ปราดเข้าไปใกล้แล้วกัดฟันพูดเบาๆ ใส่หูอีกฝ่ายด้วยความแค้น

“เอาไปทาไข่ดำๆ ของมึงเหรอ กูให้ห้ากระปุกเลย มันคงขาวขึ้นหรอก”

เดือนแพทย์หน้าตึงที่ถูกล้อปมด้อย เขากวาดสายตาลงต่ำไปที่หว่างขาของมิลค์แล้วพูดลอยๆ  ออกมาว่า

“ใครจะไข่ขาวตั้งแต่พ่อยันลูกเหมือนบ้านมึงล่ะ สำเนาถูกต้องเชียวนะ”

“อะไรกันคุณสองคน เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันแทนที่จะรักใคร่ปรองดองกัน มิลค์ ผมหวังว่าคุณคงรักษาสัญญานะ บทลงโทษวันนี้คงทำให้คุณพอคิดได้ว่าเวลาคุณทำตัวไม่ดีมันจะเดือดร้อนถึงพ่อแม่ผู้ปกครองด้วย”

อาจารย์หมอออกปากเตือน มันเป็นบทลงโทษที่เจ็บปวดจริงๆ สำหรับมิลค์ ที่ความคึกคะนองของตัวเองทำให้พ่อต้องมาอับอายไปด้วยอย่างนี้

“เดี๋ยวคุณไปส่งหมอพฤกษ์กับผม ผมจะคุยธุระกับเขาและมีงานจะมอบหมายคุณเพิ่มเติมด้วย”

มิลค์หน้าจ๋อยเดินตามอาจารย์หมอไปต้อยๆ โดยยังไม่มีโอกาสใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย โชคดีที่รถคันหรูของหมอพฤกษ์จอดอยู่ตรงที่จอดรถวีไอพีติดกับด้านข้างหอประชุมที่ไม่มีคนเดินผ่านไปมาสักเท่าไหร่

“วันนี้ขอบคุณคุณหมอมากครับ ส่วนเรื่องความร่วมมือด้านงานวิจัยที่คุณหมอขอ ผมตกลงครับ เดี๋ยวให้นายมิลค์นี่แหละเป็นทั้งหนึ่งในตัวอย่างทดลองแล้วก็ช่วยวิเคราะห์ผลการวิจัยด้วย”

“ขอบคุณอาจารย์มากเลยครับ ไอผมเองก็ยุ่งกับธุรกิจจนไม่มีเวลาทั้งๆ  ที่ชอบทำวิจัยเองมากกว่า อย่างเมื่อก่อนที่หามรุ่งหามค่ำจนได้ตัวสารสะกัดสมุนไพรเปลี่ยนสีหัวอวัยวะเพศมา วันนี้ผมเลยได้หน้าเลยว่าน้องมิลค์ทำมากว่าครึ่งปีแล้วแต่สียังสวยอยู่เลย”

หมอพฤกษ์ถือวิสาสะคว้าอวัยวะช่วงล่างของมิลค์ทันที เจ้าของท่อนลำผงะด้วยความตกใจแต่ก็ไม่กล้าต่อต้านด้วยความเกรงใจ ได้แต่ปล่อยให้หมอพฤกษ์จับถอกหัวปลิ้นไปปลิ้นมาอย่างชื่นชมในผลงานของตัวเอง

“แต่นี่มันดูใหม่ไปแล้ว คงไม่ได้ใช้งานเลยละสิ แต่อย่างน้อยน่าจะได้ช่วยตัวเองอยู่บ้างนะ”

หมอพฤกษ์ออกความเห็นหลังจากดูจนหนำใจแล้ว

“ผมไม่ให้ทำทั้งนั้นแหละครับ จะช่วยตัวเองหรืออะไร เด็กที่เคยมีประวัติไม่ดีในเรื่องอย่างนี้ ผมว่าโฟกัสไปที่เรื่องเรียนอย่างเดียวจะดีกว่า”

อาจารย์หมอบอก

“น่าสงสารนะ เด็กวัยกลัดมันอย่างนี้ วันนี้เลยโล่งตัวเลยสิ มิน่าถึงได้ออกมาเยอะขนาดนั้น หมอยังตกใจเลย แทบจะเยอะที่สุดที่หมอเคยเห็นมา ดีๆ งั้นเหมาะแล้วที่จะมาเป็นตัวอย่างงานวิจัย”

“ผมต้องทำอะไรบ้างครับ”

“ไม่มีอะไรมาก ทำตัวเหมือนปกติ แค่กินอาหารเสริมที่หมอจะจัดให้วันละครั้งกับห้ามสูบบุหรี่ แล้วก็เก็บตัวอย่างส่งอาทิตย์ละครั้งพร้อมทั้งรายงานอาหารที่ทานมาตลอดสัปดาห์ หมอจะให้เมสเซนเจอร์มารับตัวอย่างทุกวันศุกร์”

มิลค์ดูๆ แล้วก็ไม่มีอะไรยาก เขาไม่สูบบุหรี่อยู่แล้ว

“ตัวอย่างอะไรครับ ต้องเจาะเลือดอะไรพวกนี้หรือเปล่า”

“ตัวอย่างน้ำอสุจิ ใส่หลอดเก็บตัวอย่างแช่น้ำแข็งไว้ห้ามเกินสามชั่วโมง”

“อาจารย์ครับ ผมเป็นทาส ช่วยตัวเองไม่ได้ กรณีนี้ให้ทำยังไงครับเวลาเก็บตัวอย่าง”

“อาจารย์ก็อนุญาตให้เด็กเขาช่วยตัวเองได้ไปเลยสิ เจ้านายสามารถสั่งเพิ่มเติมได้อยู่แล้วถ้าไม่ผิดกฎพื้นฐาน”

หมอพฤกษ์ออกความเห็น

“ไม่เอาดีกว่า องค์กรเขาตั้งโปรแกรมควบคุมจิตไว้ดีอยู่แล้ว ถ้าผมไปสั่งแก้ไขแล้วไม่รัดกุมขึ้นมามันจะกลายเป็นช่องให้นายมิลค์ไปหมกมุ่นกับการช่วยตัวเองได้ เอางี้แล้วกัน อย่างน้อยก็ไม่ให้เขาทำได้ด้วยตัวเอง ผมให้เพื่อนเขาช่วยดีกว่า เพื่อนคุณชื่ออะไรนะ ที่ตัวใหญ่ๆ ขาวๆ น่ะ”

“เต้าหู้ครับ”

“เออนั่นแหละ ผมอนุญาตให้คุณและนายเต้าหู้สามารถช่วยตัวเอง เอิ่ม ไม่ใช่สิ ให้คนอื่นทำให้มันจะไปเรียกว่าช่วยตัวเองได้ยังไง ต้องใช้คำว่าอะไรดี เอางี้แล้วกัน เป็นกลางๆ ไปก่อน ผมอนุญาตให้คุณและนายเต้าหู้สามารถมีกิจกรรมทางเพศกันได้  แล้วเดี๋ยวผมจะไปบอกกับนายเต้าหู้เองว่าให้มาช่วยคุณเก็บตัวอย่างน้ำอสุจิเพื่องานวิจัยนี้ เขาจะได้ไม่ตกใจ”

มิลค์สลดลงเล็กน้อยที่ไม่ได้รับอิสระให้ช่วยตัวเองได้อย่างที่หมอพฤกษ์เสนอ แต่ว่าได้เอาน้ำออกบ้างอาทิตย์ละครั้งก็ยังดี ไม่งั้นต้องรอฝันเปียกหรือโดนจับสาธิตในห้องเรียนอย่างเดียว ธนัทตบบ่ามิลค์อย่างให้กำลังใจก่อนจะกลับไปพร้อมกับหมอพฤกษ์ อาจารย์หมอบอกมิลค์ว่าหมดภารกิจสำหรับวันนี้แล้วให้กลับไปแต่งตัวได้ เด็กหนุ่มกลับไปเอาเสื้อผ้าที่ห้องพักพร้อมกับอาจารย์แล้วพบว่าเอ็กซ์ อาร์ต เต้าหู้ และเดือนแพทย์ยังรอเขาอยู่

“พ่อครับ ผมขอโทษที่ทำให้พ่อโดนไปด้วย”

มิลค์ยกมือไหว้เอ็กซ์ด้วยความเสียใจ คนเป็นพ่อยิ้มอย่างให้กำลังใจ เขาไม่เคยถือโทษโกรธลูกชายเลย จะว่าไปการที่ลูกต้องมาตกเป็นทาสแบบนี้ก็มีสาเหตุมาจากเขา นี่ถ้าเขาต้องถูกดำเนินคดีเรื่องโกงบริษัทลูกคงต้องถูกตราหน้าว่ามีพ่อขี้คุกขึ้นมาอีก จะว่าไปก็ดีเหมือนกันที่ถูกองค์กรเขาตัวมาทำโทษแบบนี้ จะหนักจะทรมานแค่ไหนก็ยังดีกว่ามีผลกระทบไปที่ลูก

“ผมต้องขอบคุณอาจารย์มากที่ดูแลอบรมสั่งสอนมิลค์เป็นอย่างดี ผมฝากลูกชายด้วยนะครับ”

เอ็กซ์ยกมือไหว้อาจารย์ด้วยสายตาขอร้อง เขาอยากจะพูดอะไรมากกว่านี้กับคนที่เป็นทั้งอาจารย์และเจ้านายของลูกหากไม่ติดว่ามีคนนอกอยู่ด้วย แต่แค่นี้เขาก็คิดว่าอาจารย์คงจะเข้าใจ

“ถ้าเสร็จเรื่องแล้วผมกับพี่เอ็กซ์ขอลาก่อนนะครับ”

อาร์ตไม่อยากให้บรรยากาศมันอึดอัดไปมากกว่านี้จึงคิดปลีกตัวออกมา อาจารย์หมอพยักหน้าพร้อมมองดูเอ็กซ์อย่างเสียดาย เขาลดเสียงที่พูดกับอาร์ตลงเพื่อไม่ให้เด็กๆ  ได้ยิน

“ขอบคุณคุณอาร์ตมากเลยครับที่ให้ความร่วมมือ คุณเอ็กซ์เป็นนายแบบที่ดีจริงๆ ถ้าคุณอยากแกล้งเขาอีกผมก็มีคลาสที่อยากให้มาช่วยอีกเยอะ เป็นประโยชน์ทางการศึกษาด้วยนะครับ”

“แห่ะๆ คงไม่แล้วครับอาจารย์ ผมตั้งใจจะแกล้งพี่เอ็กซ์จริง แต่เสน่ห์แรงจนสาวๆ เข้าหาแบบนี้ก็ไม่ไหว ของๆ ผมผมหวงนะครับ จะให้ไปสู้รบกับนักศึกษาสาวๆ ผมไม่เสี่ยงดีกว่า”

อาร์ตตอบซึ่งอาจารย์ก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ จริงๆ เรื่องวันนี้อาร์ตทำไปเพราะหมั่นไส้มิลค์มากกว่าที่ดูจะกีดกันเขากับพ่อตัวเองเกินไป นึกไม่ถึงว่าของจะเข้าตัว เขาก็ลืมไปว่าพี่เอ็กซ์ออกจะหล่อล่ำขนาดนี้ ยิ่งเมื่อวานไปเข้าคอร์สเร่งรัดความหล่อสำหรับสุภาพบุรุษที่เป็นอภินันทนาการจากหมอพฤกษ์มาด้วยยิ่งทั้งหล่อทั้งเด็กเข้าไปใหญ่ เห็นพี่เอ็กซ์ต้องมาโดนจับชักว่าวพร้อมลูกชายต่อหน้าคนทั้งห้องประชุมมันก็สะใจดี แต่ไม่คุ้มกันเลยกับการมีสาวๆ ตอมหึ่งแบบนั้น ใครจะรู้ว่านี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่พี่เอ็กซ์เอาไปสานต่อหลังพ้นโทษ คุณหมอสาวๆ สวยๆ  ทั้งนั้น อาร์ตนึกถึงตรงนี้แล้วก็หงุดหงิดจนอยากจะรีบพาเอ็กซ์กลับบ้านเพื่อลงโทษที่หล่อเกินไป

เมื่อผู้ใหญ่แยกย้ายกันออกจากห้องไปหมด  มิลค์ก็หันไปเล่นงานเดือนแพทย์ทันที

“มึงเป็นคนเอาเรื่องนี้ไปฟ้องอาจารย์ใช่ไหม มึงรู้ได้ยังไง หรือไอเต้าหู้มันไปปากโป้งบอก”

“ใจเย็นสิ กูไม่รู้เรื่องอะไรเลย มึงเล่นวางยาจนกูหลับซะแบบนั้น เพิ่งตอนอาจารย์เรียกกูมาถามนั่นแหละถึงรู้ว่าถูกมึงกระทำชำเราตอนหลับไปแล้ว”

เดือนแพทย์ตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยดูไม่ออกว่าโกรธกับการกระทำนั้นหรือเปล่า

“งั้นก็มึงสิเต้าหู้ที่ไปบอกอาจารย์ ทำเอากูโดนลงโทษซะขนาดนี้”

มิลค์ใช้สายตาดุดันมองไปทางเต้าหู้จนเจ้าตัวสะดุ้ง

“เราไม่รู้เรื่องจริงๆ อยู่ๆ อาจารย์ก็เรียกไปถาม เราก็เล่าเหตุการณ์ไปตามจริงว่าเป็นเรื่องที่นายตกลงกับพี่เขาไว้ อาจารย์เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่ขอบใจและชวนเรามาฟังสัมมนานี้ ตกลงที่นายไปเป็นตัวอย่างบนเวทีนี่คือโดนลงโทษเหรอ เห็นนายบอกว่าคนคณะเรามองว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปกติเราเลยนึกว่าเป็นงานพิเศษของนายซะอีก”

เต้าหู้ถามด้วยความสงสัยขณะที่หนุ่มหล่อผู้ถูกล่วงเกินส่งสายตาอย่างรู้ทันมาที่มิลค์

“เอ่อ อ๋อ กูหมายถึงว่าโดนอาจารย์ลงโทษหักค่าแรงน่ะ”

“ตกลงนายช่วยอาจารย์สอนเป็นงานพิเศษจริงๆ สินะ  มิน่านายถึงสนิทกับอาจารย์แล้วก็พวกรุ่นพี่มาก  พ่อนายก็สุดยอดเลย อุตส่าห์มาช่วยลูกชายทำงานให้คณะแบบนี้ บ้านนายคงหัวสมัยใหม่ทั้งบ้านสินะ อยากมีพ่อเท่ๆ  อย่างนี้บ้างจัง ถ้าเป็นพ่อเราคงไม่กล้ามาทำแบบนี้หรอก หน้าบางจะตาย ขนาดเป็นลูกครึ่งนะ เราถึงได้ขี้อายทั้งบ้าน”

เดือนแพทย์ฟังรุ่นน้องปีหนึ่งคุยกันแล้วก็ตะหงิดใจ นี่ไอน้องล่ำบึกมันคิดจริงๆ เหรอว่าเรื่องแบบนี้มันปกติ เขาเดาว่ามิลค์น่าจะมีข้อตกลงอะไรกับอาจารย์ถึงได้มาช่วยงานแบบนี้เรื่อยๆ ตามที่รุ่นพี่เล่าให้ฟัง แต่ผู้ใหญ่ท่าทางภูมิฐานอย่างพ่อของมิลค์มีเหตุผลความจำเป็นอะไรจะต้องมาช่วยลูกถึงขนาดนี้ จะว่าเป็นการลงโทษไปถึงพ่อมันก็ประหลาดเกินไป เขาบอกอาจารย์ไปแล้วว่าไม่ได้ติดใจเอาความอะไร

“มึงสองคนห้ามบอกใครเด็ดขาดว่านั่นพ่อกู”

“ทำไมล่ะ พ่อนายทั้งหล่อทั้งเท่ หุ่นดีมากด้วย ถ้าเป็นเราคงอยากอวดเพื่อนๆ ด้วยซ้ำ หรือว่าจริงๆ ในคณะยังมีคนใจแคบไม่ยอมรับอะไรที่นายกับพ่อมาทำอะไรที่เปิดเผยแบบนี้”

เต้าหู้ถามกลับอย่างสงสัย

“เอาน่า กูไม่อยากให้คนอื่นมาถามเรื่องพ่อ น่ารำคาญ ถ้าใครมาถามก็บอกว่าเป็นญาติเป็นพี่ชายอะไรก็ได้”

มิลค์ชักไม่แน่ใจว่าเต้าหู้ซื่อขนาดนี้จริงๆ หรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ ไอเดียเรื่องการเปรียบเทียบเทียบปริมาณน้ำอสุจิของมันนี่แสบจริงๆ ทำให้เขากับพ่อต้องโดนชักว่าวโชว์ต่อหน้าคนเป็นร้อยๆ เขาต้องหาทางเอาคืนให้สาสมให้ได้ ส่วนเดือนแพทย์ถ้าไม่มายุ่งอะไรกับเขาอีกคงจะขอเลิกแล้วต่อกัน เด็กหนุ่มขยาดกับการลงโทษแบบวันนี้มากจริงๆ

หลังจากวันนั้นข่าวลือเกี่ยวกับพี่ชายสุดแซ่บของน้องมิลค์ก็แพร่กระจายออกไป รุ่นพี่สาวๆ ก็เข้ามารุมล้อมมากขึ้นเพราะอยากใช้มิลค์เป็นสะพานไปถึงพี่สุดหล่อ เต้าหู้ที่เอาตัวเข้าไปติดสอยห้อยตามมิลค์ไปทุกที่คันปากอยากจะตอบแทนเป็นที่สุดแต่ก็ไม่กล้าบอกใครว่าสาวๆ พวกนั้นกำลังจะเล่นรุ่นพ่อ

ออฟไลน์ opariso

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ขอบคุณค่ะ :katai2-1: :katai2-1:

แล้วเต้าหู้จะโดนมิลค์เอาคืนยังไงหว่า  :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ darkside8

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตอนพิเศษมาอีกแล้ว....

 :hao6: :z2: :z2: :z2:

ออฟไลน์ Raina

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
อร๊ายยยย ตอนนี้ตัวละครเพียบเลย  :hao6:  พ่อเอ็กซ์ลูกมิลค์ แรงดีไม่มีตก // ฉากต่อไปรีดน้ำมิลค์ใช่ไหมเอ่ย? ลุ้นจุงเบย แวว 3P เริ่มมาหน่อยๆแล้น 555

ออฟไลน์ HypnosisDreams

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รู้สึกว่าตอนนี้สั้นไปนะ เพิ่มหน่อยนะ :mew2:

ออฟไลน์ Bb nale

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
อาจารย์มีกิจกรรมทางเพศนี่มันเกินคำว่าให้ช่วยทำของเพื่อนนะ~~

ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
เพิ่งได้อ่าน อื้อหือออ มากๆ 555555

ออฟไลน์ rsmrypngpth

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อยากอ่านพิชยะ

ออฟไลน์ vincent_311

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
โทษนะครับ 3P คืออะไรครับ ผู้รู้ตอบให้ผมได้รู้แจ้งทีครับผม
จาก...หนุ่มน้อยมาโซ ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Raina

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
โทษนะครับ 3P คืออะไรครับ ผู้รู้ตอบให้ผมได้รู้แจ้งทีครับผม
จาก...หนุ่มน้อยมาโซ ^^

ความสัมพันธ์ระหว่าง 3 คนจ้า (ไม่แน่ใจว่า P มาจาก People หรือ Players)
3P ที่จิ้นอยู่คือ มิลค์ เต้าหู้ เดือนแพทย์ แต่คนเขียนยังไม่ได้คอนเฟิร์มนะ 555

ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
วันคนโสด ขอมาต่ออีกนิด
ส่วนคนที่เบื่อคู่นี้แล้ว ขออีกสักสองตอนนะครับ จะจบแล้ว
-------------------------------------------

องค์กรลวงจิต Explicit Content
ตอนพิเศษ เต้าหู้นมสด [5]

มหาลัยเปิดเรียนมาได้หลายสัปดาห์แล้ว หลายๆ คณะรวมถึงคณะแพทย์ได้ผ่านช่วงประชุมเชียร์และรับน้องเป็นที่เรียบร้อย ตอนนี้ความสนใจของเหล่าเฟรชชี่คณะแพทย์อยู่ที่การคัดเลือกดาวเดือนของคณะเพื่อเป็นตัวแทนไปแข่งในระดับมหาลัย แน่นอนว่าหนุ่มหล่อคนดังอย่างมิลค์ก็เป็นคนหนึ่งที่ถูกทาบทามจากรุ่นพี่ให้เข้าร่วมการคัดเลือกเป็นเดือนคณะแต่เจ้าตัวกลับปฏิเสธไปอย่างไม่ใยดี เต้าหู้ซึ่งสถาปนาตัวเองขึ้นเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของมิลค์รู้สึกเสียดายแทนอย่างบอกไม่ถูก ในใจเขาแอบคิดว่าถ้ามีคนมาชวนเขาบ้างก็คงดี ถึงไม่ได้ตำแหน่งอะไรแต่ก็คงจะมีคนรู้จักเขามากขึ้น ไม่ได้เป็นแค่คนหน้าจืดๆ เพื่อนมิลค์ที่เขาแอบได้ยินคนเรียกลับหลัง เต้าหู้ถึงกับคิดว่าต่อให้ขึ้นไปประกวดแล้วเป็นตัวตลกก็ยังดีกว่าอยู่แบบไม่มีคนรู้จักอย่างนี้

ถึงจะเป็นคนที่ไม่มีใครสนใจที่ถูกบดบังอยู่ใต้เงาความโด่งดังของมิลค์ แต่เต้าหู้ก็รู้สึกโชคดีที่ตัดสินใจเข้าหามิลค์ในตอนนั้นจนกลายมาเป็นเพื่อนสนิทกัน ถ้าไม่ได้มิลค์เขาคงจะเคว้งคว้างกับชีวิตในมหาลัย อย่างน้อยคนที่ไม่เคยมีเพื่อนสนิทเลยก็มีคนให้ปรึกษา เขาเองไม่เข้าใจการกระทำของมิลค์ในหลายๆ อย่าง ปกติก็ดูไม่ค่อยใส่ใจความรู้สึกของเขาเท่าไหร่ แต่ในบางเรื่องกลับดูสนใจเป็นห่วงเป็นใยเขามากจนน่าแปลกใจ

“มึงทายาสิวที่กูซื้อให้ทุกคืนหรือเปล่า”

มิลค์มองหน้าเต้าหู้อย่างจับผิดเมื่อเห็นสิวเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นตรงหน้าผากของเต้าหู้

“ทะ ทาสิ แล้วครีมแจกฟรีที่คุณหมอพฤกษ์ให้มา เราก็ทาทั้งตัวหลังอาบน้ำตามที่นายสั่ง เอ่อ แต่ยกเว้นบางคืนนายให้เราเล่นฟิตเนสหนักมากจนอาบเสร็จเราเผลอหลับไปซะก่อน”

เต้าหู้ละล่ำละลักตอบด้วยกลัวเพื่อนโกรธ นึกถึงหลายอย่างที่มิลค์ช่วยเหลือแล้วก็รู้สึกเกรงใจ พอเปลี่ยนมาใส่ชุดคับๆ อย่างที่บอกก็มีคนทักทายเขาขึ้นมาบ้าง ถึงจะไม่กี่คนและส่วนใหญ่เป็นพวกชอบฟิตกล้ามก็เถอะ

มิลค์กอดอกปั้นหน้าสีหน้าเย็นชาแล้วหรี่ตามองแสดงความหงุดหงิดใส่อย่างจงใจ

“มึงขอให้กูช่วยทำให้มึงเป็นที่สนใจของเพื่อนๆ กูก็หาทางแก้ไขข้อบกพร่องให้ ไม่อยากเป็นคนที่ถูกลืม กูก็พยายามสร้างโอกาสให้มึงได้โดดเด่นขึ้นมา อะไรที่กูบอกให้มึงทำ ก็เพื่อตัวมึงเองทั้งนั้น แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรล่ะ ถ้ามึงขี้เกียจไม่ทำตามที่กูบอกอย่างนี้ จะเลิกก็ได้นะ กูก็เบื่อกับคนที่ไม่มีความมุ่งมั่นอย่างมึงเหมือนกัน”

“เราขอโทษจริงๆ นะมิลค์ เราจะไม่ทำตัวเหลวไหลอีกแล้ว เราจะทำตามที่นายบอกทุกอย่าง ทั้งเรื่องเล่นกล้าม รักษาหน้า ทาครีม อย่าทิ้งเราไปเลยนะ”

“มึงลืมเรื่องการแต่งตัวไปอีกเรื่อง ไหนยืนขึ้นสิ กูจะตรวจหน่อย”

เต้าหู้ลุกขึ้นยืนอย่างว่าง่าย เขาไม่อยากเสี่ยงที่จะเสียเพื่อนคนเดียวในคณะไป มิลค์หงุดหงิดง่ายก็จริงแต่ก็ให้ความสนใจในตัวเขาอย่างที่ไม่เคยได้รับจากเพื่อนคนอื่น

มิลค์มองหนุ่มเหนือผิวขาวใสหุ่นล่ำในเสื้อแขนสั้นสีขาวที่ฟิตเปรี๊ยะจนเห็นกล้ามแน่นๆ อย่างพอใจ กางเกงขายาวสีดำที่เต้าหู้สวมอยู่ก็เข้ารูปแนบไปกับต้นขาและสะโพกแกร่งดีอย่างที่เขาสั่ง แต่ความอวบอูมตรงเป้าก็ยังเป็นจุดเด่นแต่รูปร่างท่อนลำกลับไม่ชัดเจนอย่างเคย

“ทำไมมันดูแปลกๆ ตรงเป้า ไหนมานี่ซิ”

ถึงจะสั่งให้อีกฝ่ายมาหาแต่มิลค์ก็ไม่ยอมอดทนรอกับท่าทางอึกอักของเต้าหู้ เขาลุกขึ้นไปประชิดตัวถลกชายเสื้อเพื่อนออกอย่างไม่ปราณีปราศัยแล้วล้วงมือเข้าไปในขอบกางเกงสแล็คของเต้าหู้ควานไปมาเพื่อทำการตรวจสอบทันที กางเกงที่หนุ่มเหนือหน้าจืดสวมอยู่แน่นมากจนมิลค์ล้วงลงไปได้แค่ด้านบนตื้นๆ เมื่อพบแต่สัมผัสผ้าเนื้อดีด้านในแทนที่จะเป็นกลุ่มขนหยาบมืออย่างที่เคย มิลค์ก็มองหน้าเพื่อนอย่างเอาเรื่องทันที

“กูบอกแล้วใช่ไหมว่าพอเปลี่ยนมาใส่กางเกงเข้ารูปอย่างนี้แล้วให้เลิกใส่ทั้งบ๊อกเซอร์ทั้งกางเกงในหนาๆ เชยๆ ของมึง แม่งพองออกมาน่าเกลียด”

“อย่าเพิ่งโกรธสิ ฟังเราก่อน คือเราพยายามทำตามอย่างที่นายบอกมาตลอดแต่ทนไม่ไหวจริงๆ เวลาเดินไปมาเนื้อผ้ามันสีกับของๆ เราโดยตรงแล้วเราก็ เอ่อ ค่อนข้างอ่อนไหวง่าย นิดๆ หน่อยๆ มันก็นูนน่าเกลียดแล้ว อย่าให้เราโดนล้อเหมือนที่โรงเรียนเก่าเลยนะ เราไม่อยากเป็นตัวประหลาด จริงๆ เราก็พยายามแก้ปัญหาแบบเอากระเป๋ามาบังอะไรงี้ แต่วันไหนเดินเปลี่ยนห้องบ่อยๆ เสียดสีมากๆ เข้า น้ำตรงนั้นมันซึมออกมาเป็นดวงเลย ไม่รู้เราระแวงไปเองเปล่าแต่รู้สึกว่ามันมีกลิ่นด้วย เราว่ามันไม่ถูกอนามัยนะเลยไปซื้อกางเกงในใหม่มา แต่เราเลือกแบบที่ผ้าบางที่สุด รับรองไม่พองจนดูเชยอย่างที่นายว่าแน่”

มิลค์เอานิ้วโป้งสอดเข้าไปด้านในกางเกงในเพื่อดูความหนา กางเกงในที่เต้าหู้ใส่เป็นผ้าบางลื่นๆ ดูเหมือนจะยืดได้คล้ายกับผ้าที่ทำถุงน่อง นิ้วที่สอดอยู่ด้านในสัมผัสได้ถึงขนหยาบๆ ผสมกับความอุ่นของเอ็นเนื้อส่วนโคน นิ้วโป้งเพียงนิ้วเดียวบอกอะไรไม่ได้นักแต่ก็ยืนยันได้คร่าวๆ ว่าเพื่อนหน้าจืดคนนี้มีดีที่ความอวบหนาแน่ๆ ซึ่งไม่น่าแปลกอะไรเพราะก็เดาได้เวลาเห็นจากภายนอกอยู่แล้ว

“แล้วมึงก็ไปเปลี่ยนแปลงเอาเองโดยไม่ถามกูซักคำนี่นะ งั้นทีหลังก็ไม่ต้องมาขอให้กูช่วยก็ได้ มึงคิดเองได้แล้วนิ”

มิลค์แกล้งขู่

“ไม่ใช่นะ เราต้องพึ่งนายจริงๆ เราขอแค่เรื่องนี้นะ เรื่องอื่นเราจะทำตามนายหมดเลยเราสัญญา”

เต้าหู้ส่งสายตาอ้อนวอนซื่อๆ เหมือนลูกหมาให้ มิลค์ทำทีไม่สนใจเอามือที่ซุกในกางเกงในเต้าหู้ออกมาดมว่ามีกลิ่นติดมือหรือเปล่าแต่ก็ได้เพียงกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่จำได้ว่าเป็นกลิ่นครีมบำรุงผิวของหมอพฤกษ์ เขารู้สึกพอใจที่เต้าหู้ทาครีมที่ว่าทั้งตัวจริงๆ อย่างที่สั่งแต่ไม่วายพูดจาสำทับไปอีกรอบ

“มึงพูดแล้วนะ เอางั้นก็ได้ แต่ต่อไปกูจะไม่ใจดีอย่างนี้อีกแล้วนะ ถ้ากูอ่อนให้เมื่อไหร่มึงจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ซะที ที่กูทำทุกอย่างนี่ก็เพราะมึงขอร้อง ไหนๆ ช่วยแล้วก็ต้องช่วยให้สุด”

มิลค์พูดเอาดีเข้าตัวทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วทำไปเพื่อความสนุกเท่านั้น

“เราฟังนายทุกเรื่องอยู่แล้ว เอ วันนี้วันศุกร์แล้ว เดี๋ยวนายต้องส่งตัวอย่างไม่ใช่เหรอ คราวนี้ให้เราช่วยอีกเปล่า”

เต้าหู้รีบเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากโดนดุอีก อาทิตย์ที่แล้วเขาตกใจมากเหมือนกันที่อยู่ๆ โดนเพื่อนให้ช่วยชักว่าวเก็บน้ำอสุจิสำหรับงานวิจัยของอาจารย์ มิลค์บอกว่าถ้าให้ชักเองตอนแตกจะอารมณ์พีคจนเล็งไม่ลงหลอดเก็บตัวอย่างได้ ทีแรกเต้าหู้ก็ตะขิดตะขวงใจอยู่บ้างที่ต้องมาทำอะไรอย่างนี้กับผู้ชายด้วยกัน แต่เพราะคำพูดของมิลค์ที่บอกว่าไว้ใจให้เพื่อนสนิททำเท่านั้นทำให้เขาช่วยไปเต็มที่ด้วยความดีใจ พอเอาเข้าจริงก็ไม่ได้แย่อะไร ท่อนเอ็นอุ่นๆ ของมิลค์ก็จับถนัดมือดี ปฏิกิริยาของมิลค์เวลาถึงจุดก็ดูน่าสนใจ ที่สำคัญหลังจากนั้นมิลค์จะอารมณ์ดีไปอีกพักใหญ่ ไม่ดุเท่าปกติแถมยังยอมตามใจเขาขึ้นมาบ้าง

ในขณะที่คนส่วนใหญ่ในมหาลัยกำลังตื่นเต้นกับการประกวดดาวเดือนที่จะมีขึ้น คนอีกกลุ่มนึงก็กำลังเตรียมการประกวดลับๆ อีกงานอย่างขะมักเขม้นไม่แพ้กัน Too Big Too Long Contest เป็นประเพณีใต้ดินของมหาลัยที่สืบทอดกันมาแบบขำๆ แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความจริงจังในการวัดศักดิ์ศรีลูกผู้ชายระหว่างคณะ ไม่มีใครทราบที่มาอย่างแน่ชัด มีแต่เสียงเล่าลือว่าเกิดจากการท้าทายกันในวงเหล้าระหว่างคณะวิศวะ เกษตร และสถาปัตย์ เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน เหตุการณ์ในครั้งนั้นได้สืบต่อกันมาและขยายไปยังคณะอื่นๆ จนกลายเป็นประเพณีใต้ดินที่ทุกคณะเข้าร่วมด้วยอย่างลับๆ

ถ้าจะอธิบายง่ายๆ การประกวดนี้คือการตัดเกรดระหว่างคณะนั่นเอง ตัวแทนเฟรชชี่ของคณะต่างๆ จะมาวัดกัน ใครที่ใหญ่ยาวที่สุดก็จะได้รางวัลชนะเลิศไปครอบครอง ความสนุกเริ่มตั้งแต่การเฟ้นหาตัวแทนคณะ ประเพณีนี้มีกฎอยู่ว่าห้ามรุ่นพี่ป่าวประกาศหาคนลงสมัครอย่างเอิกเกริกหรือบังคับเอาน้องๆ มาวัดทีละคน แต่จะต้องค่อยๆ แอบสืบเอาด้วยวิธีต่างๆ แล้วทาบทามคนที่คิดว่าอลังการที่สุดของปีหนึ่งไปเป็นตัวแทนด้วยความสมัครใจโดยห้ามบังคับเด็ดขาด ความลำบากจึงตกอยู่ที่ทีมงานแมวมองซึ่งนำโดยประธานสโมสรนักศึกษาของแต่ละคณะที่ต้องงัดกลเม็ดมาสืบความลับส่วนตัวของน้องๆ  ปีหนึ่ง ขั้นตอนนี้เรียกว่าการเฟ้นหาช้างเผือก บางคณะก็ใช้วิธีพื้นๆ  อย่างการกระจายรุ่นพี่ไปแอบแหล่น้องเอาตามโถฉี่ ไฮเทคขึ้นมาหน่อยก็ซ่อนกล้องเอาไว้เลย บ้างก็ใช้วิธีสืบเอาจากรุ่นน้องโรงเรียนหรือน้องที่สนิทกันว่าในหมู่เพื่อนๆ มีใครมีข่าวลือว่าเป็นยอดขุนพลบ้าง หรือหนักข้อเข้าก็ใช้วิธีส่งพี่เนียนเข้าไปสืบเลย แต่ละคณะจะทุ่มเทช่วงนี้กันเต็มที่เพราะส่งน้องที่ใหญ่ที่สุดไปแข่งแล้วแพ้ยังไม่เจ็บใจเท่ามีน้องที่ใหญ่กว่านั้นแต่หาตัวไม่เจอ ยิ่งคณะที่เป็นตัวเต็งอย่างคณะวิศวะ คณะเกษตร คณะวนศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา และคณะสถาปัตย์ ถึงแม้ว่าสรีระแห่งบุรุษเพศไม่น่าจะขึ้นกับคณะที่เรียนแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้ครองตำแหน่งที่หนึ่งถึงที่สามในแต่ละปีก็วนเวียนอยู่แต่ในคณะเหล่านี้

เมื่อหาตัวแทนคณะที่คิดว่าใหญ่ยาวที่สุดในบรรดาปีหนึ่งได้ ความยากอันดับสองของทีมแมวมองคือการพยายามหว่านล้อมให้น้องยอมเข้าประกวดด้วยความสมัครใจ คนไทยส่วนใหญ่จะขี้อายและไม่ค่อยเปิดเผยกับเรื่องแบบนี้ คณะตัวเต็งสี่ห้าคณะที่ว่าไม่ค่อยเป็นปัญหาเพราะโดนฝังหัวเรื่องศักดิ์ศรีคณะมาตั้งแต่เริ่มรับน้อง แต่บรรดาคณะที่ประกวดไปก็แพ้นี่หาคนสมัครใจไปอยากหน่อย อย่างคณะในสายสุขภาพทั้งหมดที่เป็นผู้หญิงซะครึ่งค่อนคณะ คณะพยาบาลกับคณะเภสัชนี่รุ่นพี่แทบจะลงไปกราบน้องผู้ชายที่มีกันอยู่ไม่กี่คนถึงจะหาคนมาประกวดได้

เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของน้อง ชื่อของตัวแทนคณะที่สมัครใจจะประกวดจะถูกเก็บเป็นความลับที่ทราบเฉพาะทีมงานเท่านั้น รุ่นน้องจะถูกเรียกขานด้วยฉายาอันทรงเกียรติของแต่ละคณะ ที่ขับเคี่ยวชิงดำกันทุกปีได้แก่ ปั้นจั่นเหล็กแห่งคณะวิศวะ จงอางดงแห่งคณะวนศาสตร์ อาชาพ่อพันธ์แห่งคณะเกษตร แก่นทะลวงไส้แห่งคณะวิทย์กีฬา และเสาหินโรมันแห่งคณะสถาปัตย์ ตัวแทนคณะที่เหลือแทบจะมาเป็นไม้ประดับในการประกวดเท่านั้น

ใกล้วันประกวดเข้ามา แต่คณะแพทย์ก็ยังหารุ่นน้องที่จะมารับตำแหน่ง ‘ไซริงค์ยักษ์แห่งคณะแพทย์’ ไม่ได้ ไม่เหมือนตำแหน่งดาวเดือนที่มีเด็กหนุ่มสาวหน้าตาดีๆ ให้เลือกหลายคนไม่ต้องเสียเวลาไปสืบอะไรกันอีก บรรดาแมวมองคณะแพทย์แทบจะประจำอยู่ในห้องน้ำเหล่มองแล้วเหล่มองอีกเหม็นฉี่จนแทบเป็นลมก็ยังหาคนที่พอจะไปสู้กับพวกคณะตัวเต็งไม่ได้ เจอที่เข้าท่าเข้าทางหน่อยก็ปฏิเสธกันแทบจะทันทีเมื่อรู้ว่าต้องไปทำอะไร ไทน์นักศึกษาแพทย์ปีหกผู้ดำรงตำแหน่งประธานสโมฯ กลุ้มใจกับเรื่องนี้มาก ประกวดแล้วแพ้ยังไม่เสียศักดิ์ศรีอะไรเพราะไม่มีใครคาดหวังกับคณะแพทย์อยู่แล้ว แต่ไม่ส่งประกวดเลยนี่สิเรื่องใหญ่จนอาจถูกเหน็บแนมได้ว่าเป็นคณะหญิงล้วนเหมือนที่คณะเภสัชโดนเยาะเย้ยเมื่อสามปีก่อน

“มิลค์ พี่ขอร้องเถอะ ช่วยเป็นตัวแทนคณะให้ที”

ในเมื่อหาใครไม่ได้ ประธานสโมฯ อย่างไทน์จึงต้องมาขอร้องบุคคลที่เป็นที่ประจักษ์ชัดแทบจะทั้งคณะว่ามีความใหญ่ยาวเกินเกณฑพอจะเข้าประกวดแก้ขัดได้

“ไม่เอาหรอกพี่ เห็นผมโชว์อยู่บ่อยๆ แต่ก็ไม่ใช่ผมชอบนะ ถ้าไม่ใช่เพื่อการศึกษาผมไม่ทำหรอก”

“อันนี้ก็ทำเพื่อศักดิ์ศรีคณะเหมือนกันนะ”

ไทน์พยายามพูดจูงใจ

“ผมว่ามันเป็นการเล่นทะลึ่งของพวกรุ่นพี่มากกว่า เห็นว่ามีการพนันกันด้วยไม่ใช่หรอ อีกอย่างส่งผมไปก็ไม่ชนะหรอก ปีที่แล้วก่อนซิ่วมาผมก็อยู่วิศวะ บอกเลยว่า ‘ปั้นจั่นเหล็ก’ ของปีนั้นเหนือกว่าผมเยอะ ปีนี้ก็คงไม่ต่างกัน ผู้ชายคณะวิศวะเยอะจะตาย ยังไงก็มีคนเด็ดๆ มาลงแข่งได้ทุกปี”

“แต่ปีนี้ไม่มีใครจริงๆ นะ พี่ลองสืบพวกตัวเด่นๆ  แล้วไม่น่าไหว เหลือแต่ที่เนิร์ดๆ  ปีหน้าพี่ก็จะไม่อยู่แล้ว พี่อยากให้คณะเราติดหนึ่งในห้าบ้างสักครั้งก็ยังดี”

“พวกเนิร์ดๆ ก็อาจมีอะไรดีๆ ก็ได้นะ เอางี้ ลองดูเพื่อนผมไหม ยังไม่รู้ชัดๆ ว่าแค่ไหน แต่ใหญ่กว่าผมแน่นอน ผมจะพามาให้พี่ดูตัวถ้าใช้ได้พี่กล่อมมันเอาเองนะ”

“จะลองดูก็ได้ แต่พี่ว่าในบรรดาปีหนึ่ง ไม่น่ามีใครใหญ่กว่าเราแล้วนะ พี่ไม่มีเวลาแล้วด้วย พี่ขอแบบนี้แล้วกัน ถ้าคนที่เราพามาไม่ใช้ไม่ได้ เราต้องลงแทนนะ”

“ถ้าจะให้การันตีกันขนาดนั้น ผมขอสรุปโน๊ตย่อของทุกวิชาที่พี่เรียนมาเป็นของตอบแทน”

“เฮ้ย ได้ไง พี่ไม่ได้หวงหรอกนะ แต่พี่ว่าไปอ่านหนังสือแล้วสรุปเองจะจำได้ดีกว่า ขนาดน้องรหัสพี่ยังไม่ให้เลย เอางี้ได้เปล่า  ถ้าเพื่อนน้องใช้ได้ พี่จะให้สรุปย่อของปีหนึ่งกับปีสอง แต่ของที่เหลือขอให้คณะเราติดหนึ่งในห้า เอ้ย หนึ่งในสามก่อน ถึงจะให้”





จริงๆ เรื่องที่จะส่งเด็กปั้นของตัวเองเข้าประกวดงานนี้มิลค์ก็คิดๆ ไว้สักพักแล้ว ยิ่งประธานสโมฯ เอ่ยปากเองอย่างนี้ยิ่งเข้าทาง เต้าหู้ตื่นเต้นมากเมื่อมิลค์บอกว่าจะพาไปรู้จักกับประธานสโมฯ ถึงจะเพิ่งเข้าคณะนี้มาได้ไม่นาน แต่เขาก็ได้ยินถึงกิตติศัพท์ความเรียนเก่งขั้นเทพของพี่ปีหกคนนี้มาเป็นอย่างดี นี่ถ้าไม่ได้เป็นเพื่อนกับมิลค์ เด็กปีหนึ่งธรรมดาอย่างเขาคงไม่มีโอกาสได้เจอกับรุ่นพี่คนดังที่แสนยุ่งทั้งเรื่องเรียนเรื่องกิจกรรมอย่างนี้แน่

“พี่ไทน์ นี่เพื่อนผม เต้าหู้ ผมพามาให้พี่ดูตัว”

มิลค์แนะนำเมื่อเข้ามาในห้องสโมฯ ที่มีรุ่นพี่ปีหกรออยู่ก่อนแล้ว เต้าหู้แปร่งหูกับคำว่าดูตัวเล็กน้อย แต่ก็รีบยกมือไหว้ประธานสโมฯ  ทันที ราศีคนดังระดับว่าที่เกียรตินิยมเหรียญทองแผ่ออกมาจนเขาตัวลีบไปหมด

ไทน์มองเต้าหู้ทั้งตัวแล้วส่ายหน้าเล็กน้อย

“จะไหวเหรอวะมิลค์ พี่ว่าเราเข้าประกวดเองน่ะดีแล้ว ตัวโตมีกล้ามแบบนี้ พี่เห็นมาเยอะ ส่วนใหญ่เล็กทั้งนั้น เอ่อ ขอโทษทีนะ น้องเต้าหู้ใช่ไหม พี่ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เรารู้สึกไม่ดีหรอกนะ แต่นี่มันเป็นเรื่องศักดิ์ศรีคณะจริงๆ เอาไว้เราค่อยมาช่วยงานคณะเรื่องอื่น หรือจะมาช่วยพวกงานวิชาการก็ได้”

ประโยคหลังไทน์หันมาพูดกับเต้าหู้เพราะกลัวน้องเสียน้ำใจ แต่เขาเชื่อว่าส่งมิลค์เข้าประกวดน่าจะดีกว่า

“อย่าเพิ่งตัดสินคนจากภายนอกสิพี่ ไหนๆ เต้าหู้มันก็มาถึงนี่แล้ว ลองจับดูสักหน่อยคงไม่เสียหายอะไร”

ไทน์ถอนใจแล้วก็เอามือตะบบลงไปบนเป้ากางเกงของเต้าหู้อย่างเสียไม่ได้ ทันทีที่เขาสัมผัสกับความหยุ่นหนาผ่านกางเกงสแล็คประธานสโมฯ คนดังก็เลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ ความอวบนูนที่เขาคิดว่าเป็นความหนาของกางเกงทั้งชั้นในชั้นนอกกลับเกิดจากท่อนเนื้อที่อ่อนนุ่มเพียวๆ ถ้าสงบยังขนาดนี้แล้วเวลาผงาดขึ้นจะขนาดไหน ชายหนุ่มรีบหยิบสายวัดที่ติดตัวไว้ตลอดในช่วงฤดูกาลล่าช้างเผือกแบบนี้ขึ้นมาเพื่อจะวัดขนาดอวัยวะที่อาจจะเป็นความหวังของคณะแพทย์ในรอบยี่สิบปี

“อ๊ะ อย่าเพิ่งครับ เพื่อนผมยังไม่ได้สมัครใจจะเข้าประกวดเลย พี่เองก็ยังไม่ได้ยอมรับในตัวมัน”

มิลค์แย้งขึ้น

“ถ้าพี่ไม่วัดจะรู้ได้ยังไงว่าน้องเขาเหมาะสมหรือเปล่า”

“ผมว่าแค่นี้พี่ก็น่าจะรู้แล้วนะว่าคงไม่มีใครในคณะสู้ได้รวมทั้งผมด้วย”

ไทน์คลึงเคล้นเป้าอวบนูนของเต้าหู้อีกครั้งเพื่อความมั่นใจ

“ถ้าไอที่พี่จับอยู่ไม่ใช่ไส้เลื่อนก็คงจริงอย่างเราว่า”

“ใช่ไหมล่ะ เอาอย่างนี้ดีกว่า เรายังไม่ต้องวัดหรอก ผมเองก็ยังไม่รู้ของมันชัดๆ เหมือนกัน เอาไปลุ้นกันตอนประกวดเลยว่าจะสู้พวกคณะอื่นได้แค่ไหน”

“เก็บเอาไว้ลุ้นงั้นเหรอ ก็ดีเหมือนกัน ถ้าพี่รู้ตอนนี้เลยคงจะอดใจเอาไปอวดคณะอื่นไม่ได้ เก็บไว้เป็นม้ามืดก็ดีเหมือนกัน”

ไทน์ยอมรับข้อเสนอ เพราะถึงยังไงเหลือเวลาอีกแค่สองสามวันเขาคงไปหาคนอื่นไม่ทันอยู่ดี

“งั้นตกลงตามนี้ พี่อย่าลืมเอาสรุปย่อของปีหนึ่งปีสองมาให้ผมด้วย แล้วก็เกลี้ยกล่อมมันเองนะ มันยังไม่รู้เรื่องนี้เลย”

มิลค์หันไปตบไหล่เต้าหู้แล้วก็เดินออกจากห้องไปทิ้งเพื่อนให้งงเป็นไก่ตาแตกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาไม่เข้าใจว่าสองคนนี้พูดเรื่องอะไรกันแล้วทำไมอยู่ดีๆ ประธานสโมฯ ถึงได้มาจับเป้าเขาเล่นแบบนี้

“งั้นพี่คงต้องเล่าเรื่อง Too Big Too Long Contest ให้เราฟังก่อนแล้วกัน คือว่ามหาลัยของเรา......”

เรื่องราวของการประกวดแสนทะลึ่งแต่กลับจริงจังในศักดิ์ศรีถูกถ่ายถอดไปยังรุ่นน้องหน้าจืดและจบลงด้วยการยัดเยียดตำแหน่ง ‘ไซริงค์ยักษ์แห่งคณะแพทย์’ ซึ่งเป็นฉายาที่สื่อถึงความใหญ่ยาวราวกับกระบอกฉีดยาไซส์จัมโบ้ให้

“ไม่เอาหรอกพี่ ผมไม่กล้า จะให้ไปแก้ผ้าต่อหน้าคนเยอะแยะ ของผมมันน่าเกลียด ผมไม่อยากถูกเพื่อนล้อเหมือนตอนมัธยมอีกแล้ว”

เต้าหู้รีบปฏิเสธทันทีที่ฟังจบ

“เฮ้ย เป็นผู้ชายจะมาคิดมากอะไรวะ ไม่ได้ประกวดความสวยงามสักหน่อย จะเอียง จะดำ จะเส้นเลือดปูด เขาก็มาประกวดกัน อีกอย่างตอนที่ประกวดจะไม่มีการบอกชื่อจริงเด็ดขาด เรียกกันด้วยฉายาเท่านั้น แล้วก็จะให้ใส่หน้ากากด้วย สบายใจได้เลยว่านอกจากทีมงานของคณะแล้วจะไม่มีใครรู้ตัวจริงของน้องแน่ๆ อ้อ ยกเว้นคนที่เข้าประกวดด้วยกันนะ เพราะจะมีช่วงให้ทำความรู้จักสร้างสัมพันธ์ระหว่างคณะกันเอง เราก็จะได้เจอเพื่อนใหม่ด้วยไง แต่ถึงจะรู้ก็ไม่มีใครล้อหรอก อย่างคณะวิศวะนี่เขาเหมือนจะประกาศตัวกลายๆ เลยนะ เพราะใครที่ได้เป็นตัวแทน จะเปลี่ยนชื่อเล่นเป็นปั้นจั่นไปเลย ที่นั่นเลยมีคนชื่อปั้นจั่นชั้นปีละคน เพื่อนพี่บอกว่ามีแต่คนชื่นชมแถมหญิงตรึมอีกต่างหาก”

เต้าหู้เริ่มลังเล แต่ไหนแต่ไรเขาไม่เคยเป็นที่สนใจหรือได้ตำแหน่งอะไรมาก่อน นี่อยู่ๆ จะได้เป็นตัวแทนคณะในฐานะ ‘ไซริงค์ยักษ์แห่งคณะแพทย์’ มันก็ฟังดูครึ้มใจดีไม่หยอก แต่พอมานึกว่าต้องไปแก้ผ้าต่อหน้าคนมากมายแล้วเขาก็อายจนทนไม่ไหว ถ้าเขาเก่งอย่างมิลค์ก็คงจะดี แต่ในเมื่อไม่ใช่คงต้องปฏิเสธไป

“ผมคงทำไม่ได้ครับ ผมไม่กล้าจริงๆ ขอโทษพี่ด้วย”

ไทน์รู้สึกเหมือนความหวังดับวูบไป ต่อให้กฎไม่ได้ห้ามไว้เขาคงไม่บังคับใจน้องให้ทำสิ่งที่ฝืนความรู้สึกหรอก แต่บางทีเขาอาจจะเปลี่ยนใจเต้าหู้ได้

ไทน์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดรูปที่เขาซ่อนไว้ส่งให้รุ่นน้องดู เป็นรูปของเด็กหนุ่มหน้าตาดีมากคนหนึ่งยืนเปลือยหันข้างให้กับกล้องอยู่บนท่าริมแม่น้ำ ผมที่ไม่ยาวมากนักปลิวไปตามแรงลม แขนข้างนึงยกขึ้นไปจับที่ท้ายทอยเอียงตัวนิดๆ อย่างเท่ อวัยวะเพศขนาดใหญ่ชูชันชี้ไปด้านหน้า มีแบ็คกราวด์เป็นเรือเร็วที่ขับผ่านเฉียดตลิ่งไป คนที่นั่งเต็มเรือหันมามองด้วยความประหลาดใจ มันเป็นรูปที่สวยงามชวนให้คิดต่อว่าเกิดอะไรขึ้นกับเด็กหนุ่มคนนี้

“พี่ให้ผมดูรูปนี้ทำไมครับ หรือว่าเป็นรูปของพี่สมัยก่อน”

เต้าหู้ถามด้วยความไม่เข้าใจ สิ่งเดียวที่เขาสังเกตได้คือเด็กหนุ่มในภาพมีหน้าตาที่ละม้ายกับรุ่นพี่คนเก่งตรงหน้าอยู่พอสมควร

“ฮ่าๆ พี่ไม่หล่อขนาดนั้นหรอก นี่เป็นรูปของพี่เทมส์พี่ชายพี่ที่ถ่ายไว้ตั้งแต่สมัยเรียนอยู่มอหก เราคิดว่ายังไง เด็กมัธยมคนนึงทำไมถึงต้องมาทำเรื่องอะไรแบบนี้”

“พี่เขาคงมีความจำเป็นบางอย่าง ไม่รู้สิครับ ไม่ได้จะดูถูกนะครับ เช่น อาจจะร้อนเงินอะไรอย่างนี้เปล่าครับ”

“อืม พี่เองก็ไม่รู้รายละเอียดแน่ชัดหรอกนะ รู้แค่ว่าพี่ชายพี่ทำไปเพื่อปกป้องพี่จากเรื่องบางอย่าง ลองนึกดูสิว่าเด็กมัธยมคนหนึ่งมาทำเรื่องแบบนี้มันต้องใช้ความกล้าขนาดไหน น่าชื่นชมไหมล่ะ”

เต้าหู้พยักหน้าอย่างคล้อยตาม ไทน์ได้ทีรีบพูดต่อ

“แล้วเรารู้เรื่องที่มิลค์เขาไปช่วยงานอาจารย์โดยอาสาเป็นนายแบบหรือคนไข้สาธิตบ้างไหมล่ะ เราคิดว่ามันน่าเกลียดหรือน่าอายเหรอ”

“ไม่ครับ ผมเคยเข้าไปดูด้วยสองครั้ง ผมว่ามิลค์เขาเท่มากๆ พ่อ เอ้ย พี่ชายเขาก็ด้วย”

“นั่นไง  แล้วเราคงเคยดูข่าวดอกเตอร์ก้องฟ้ามาบ้างนะ คนระดับนั้นเขายังแก้ผ้าเพื่ออุดมการณ์ พี่ว่าเขาเป็นฮีโร่เลยล่ะ ถ้าเรามีเหตุผลที่น่าชื่นชม ก็ไม่เห็นต้องอายใคร และการทำเพื่อศักดิ์ศรีคณะ ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่น่าชื่นชมในความคิดของพี่ เราก็เห็นเหมือนกันใช่ไหม”

“เอ่อ ผมว่ามันก็น่าจะใช่ครับ”

“งั้นเราก็เห็นตรงกัน ตกลงเต้าหู้จะให้เกียรติรับตำแหน่งไซริงค์แล้วใช่ไหม”

“เอ่อ คือ อ่า ขอคิดดูก่อนได้ไหมครับ”

เต้าหู้รับคำเสียงอ่อยด้วยความเกรงใจ

“ไม่รู้ล่ะ พี่ตัดสินใจแล้วว่าจะเป็นเต้าหู้ ถ้าเราไม่เอาพี่ก็ไม่บังคับ  แต่ปีนี้คณะแพทย์คงไม่มีตัวแทนไปประกวด ก็แค่ขายหน้าคณะอื่นนิดหน่อย ลองไปคิดดูแล้วกัน พี่จะให้มิลค์เป็นพี่เลี้ยงไปพลางๆ ก่อน”

ไทน์ทิ้งท้าย ลึกๆ แล้วเขารู้ว่าเด็กหัวอ่อนอย่างเต้าหู้จะต้องยอม ทีนี้ล่ะฉายาไซริงค์หรือหลอดฉีดยายักษ์จะได้ผงาดสมชื่อซะที ก่อนหน้านี้ชอบโดนพวกคณะตัวเต็งล้อว่าเป็นแค่หลอดยาคูลท์แห่งคณะแพทย์ แต่การติดหนึ่งในสามก็เป็นเรื่องที่สาหัสจริงๆ เพราะนั่นหมายถึงการต้องโค่นตัวเต็งลงให้ได้อย่างน้อยสามคณะ วิศวะกับเกษตรนี่ไม่ต้องพูดถึงผู้ชายเยอะย่อมได้เปรียบอยู่แล้ว คณะวนศาสตร์ก็มีดีตรงอัตราการสแกนร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะยังคงประเพณีตัดเกรดรับน้องไว้ได้อย่างเข้มข้น คณะวิทย์กีฬาที่มีการอาบน้ำร่วมกันหลังเรียนภาคปฏิบัติอยู่เป็นปกติก็เป็นการง่ายสำหรับแมวมองที่จะเฟ้นหายอดขุนพล สถาปัตย์อาจเป็นเพียงคณะตัวเต็งเดียวที่มีหวังจะโค่นลงได้ถ้าเต้าหู้มีดีจริง

ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
เต้าหู้มีเวลาเตรียมตัวเพียงไม่กี่วันก่อนการประกวด มิลค์ซึ่งเป็นพี่เลี้ยงก็ไม่ได้สนใจจะติวอะไรเป็นพิเศษให้จนเต้าหู้ต้องเอ่ยปากถาม แต่มิลค์ก็ไม่ได้ตื่นเต้นตามไปด้วย

“มึงจะต้องไปเตรียมตัวอะไร ไม่ใช่ประกวดดาวเดือนนี่หว่าจะได้ต้องเตรียมการแสดงหรือตอบคำถาม แค่ปั่นจนแข็งแล้วให้กรรมการวัดแค่นี้ก็จบ หรือว่ามึงทำไม่เป็น เห็นตอนเก็บตัวอย่างให้กูทำซะคล่องเชียว”

เต้าหู้หน้าแดงด้วยความอาย

“ก็ทำเป็น แต่เรากลัวถ้าคนเยอะๆ แล้วเราไม่แข็งจะทำยังไง ทีนี้โดนล้อแย่เลย”

“กลัวอะไรไม่เข้าเรื่อง มึงขึ้นง่ายจะตาย แค่นุ่งกางเกงฟิตแล้วผ้าเสียดสีเวลาเดินมึงก็แข็งแล้ว แต่ถ้ามึงอยากเตรียมตัวจริงๆ มึงแค่ปรับทัศนคติก็พอ เอางี้  กูจะพาไปพบคนๆ นึง แล้วมึงจะรู้ว่าระดับมืออาชีพเป็นยังไง”

มิลค์ยกโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายคุยกับใครสักคนอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็หันมาบอกเต้าหู้ว่า

“พอดีเลย มันกำลังมีงานที่ตรงอ่างเก็บน้ำคณะเกษตร เราไปกันเลยตอนนี้น่าจะทันคุยกับมันก่อนเริ่มงาน”

มิลค์พาเต้าหู้ขึ้นรถเมลเล็กของมหาลัยแล้วเดินต่อไปยังแปลงทดลองของคณะเกษตรที่อยู่ติดกับอ่างเก็บน้ำซึ่งเป็นจุดหมาย หนุ่มเหนือมองบรรยากาศโดยรอบด้วยความสนใจ เขาไม่เคยมาแถวนี้มาก่อน ต้นไม้และแปลงผักเขียวๆ ทำให้รู้สึกสดชื่นเหมือนอยู่ต่างจังหวัด มีคนไม่พลุกพล่านมากนัก ถ้าไม่นับนักศึกษากลุ่มใหญ่ที่มิลค์กำลังเดินตรงไปหา ก็มีแค่ เด็กเกษตรที่ดูแลรดน้ำแปลงผักอยู่ประปรายและคนนั่งเล่นริมอ่างอีกแค่ไม่กี่คน

“ไอมุก กูพาน้องมาคุยด้วย มึงมีเวลาเปล่า ยังไม่เริ่มงานใช่มะ”

มิลค์ตะโกนชายหนุ่มผิวขาวหุ่นดีที่ยืนอยู่อย่างโดดเด่นท่ามกลางนักศึกษาคนอื่นที่จัดแจงอุปกรณ์อย่างวุ่นวาย คนที่ถูกเรียกหันกลับมามองเผยให้เห็นใบหน้าขาวใสเท่แบบแบ๊ดบอยที่เต้าหู้รู้สึกว่าหล่อสูสีกับมิลค์เลยทีเดียว

“ได้สิ พอมีเวลาสักสิบกว่านาทีก่อนเขาจะเริ่มถ่ายกัน นึกยังไงถึงโทรหาวะ ร้อยวันพันปีไม่เห็นค่อยจะอยากเจอกู”

“ก็กูกับมึงซี้กันขนาดนั้นที่ไหนล่ะ ก็แค่เพื่อนร่วมชะตากรรม นี่เพื่อนกูอยู่ปีหนึ่งชื่อเต้าหู้ ไอหล่อนี่ชื่อมุก อยู่ปีสองอินเตอร์เต้าหู้มันจะเป็นตัวแทนคณะไปประกวด Too Big Too Long กูเลยให้มาคุยกับมึงเปิดหูเปิดตาซะหน่อย เอ้า เต้าหู้ มึงมีอะไรอัดอั้นในเรื่องที่จะทำก็ปรึกษาพี่เขาได้”

เต้าหู้รีบยกมือไหว้ทันทีที่รู้ว่ามุกอยู่ปีสอง แต่อยู่ๆ จะให้เขาถามอะไรมันนึกไม่ออก แต่เมื่อมิลค์โยนมาขนาดนี้แล้ว คงต้องพูดอะไรออกไปบ้างไม่งั้นคงดูเสียมรรยาท

“เอ่อ สวัสดีครับ ชื่อพี่แปลกดีนะครับ  ไม่เคยเห็นผู้ชายชื่อนี้มาก่อน คงไม่ได้มาจากไข่มุกมั๊งครับ หรือว่าหมายถึงมุกตลก”

ใบหน้ามีเสน่ห์ราวกับนายแบบทำท่าเบื่อๆ กับคำถามของเต้าหู้จนคนถามเองตกใจ ไม่น่าปากพล่อยเลยเรา ใครจะไปชอบให้คนมาวิจารณ์ชื่อตัวเองกันล่ะ เต้าหู้คิดในใจ แต่มุกไม่ได้เอาเรื่องอย่างที่คิด หนุ่มมาดนายแบบปลดเข็มขัดและตะขอกางเกงออกแล้วรูดซิปลงเพื่องัดท่อนลำขาวเนียนนุ่มนิ่มออกมารูดเล่นราวกับเป็นเรื่องปกติ เพียงอึดใจเดียวสิ่งนั้นก็ผงาดง้ำโชว์ความแกร่งอยู่ในกำมือผู้เป็นเจ้าของ เต้าหู้ซ็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ก็อดสำรวจสิ่งที่รุ่นพี่งัดออกมาให้ชมไม่ได้ เขาสะดุดตาตรงที่ท่อนลำยาวตรงสวยกลับมีผิวหนังปูดโปนขึ้นมาเป็นเม็ด นักศึกษาแพทย์ปีหนึ่งอย่างเขาไม่มีความรู้พอจะบอกได้ว่านั่นเป็นความผิดปกติประเภทไหน

“เอ่อ ตรงนั้น พี่เป็นหูดหรือซีสต์หรือเปล่าครับ ลองไปหาหมอดีไหมเผื่ออักเสบลุกลามขึ้นมาจะแย่”

เด็กหนุ่มถามด้วยความห่วงใย แต่ทั้งมุกและมิลค์กลับหัวเราะใส่อย่างขบขัน

“โอ๊ย ไอมิลค์ เพื่อนมึงนี่ ไปเก็บมาจากไหนวะ นี่ ไอน้อง ก็เห็นอยากรู้ไม่ใช่เหรอว่าทำไมพี่ถึงชื่อมุก ก็เอาไอที่ฝังมุกให้ดูแล้วไง”

“ฝังมุก”

เต้าหู้อุทานด้วยความแปลกใจ เขาไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดจะไม่รู้จัก แค่ไม่เคยเห็นของจริงมาก่อนว่าหน้าตาเป็นแบบนี้ จะว่าน่าเกลียดก็ไม่เชิง ดูๆ ไปมันก็เป็นสไตล์ที่แปลกๆ ดี นึกว่ามีแต่คนในคุกที่ทำกันซะอีก ไม่คิดว่านักศึกษามหาลัยหล่อๆ อย่างพี่คนนี้ก็เอาด้วย

“ก็ฝังมุกไง อย่าบอกนะว่าไม่รู้จัก นี่แค่เม็ดเดียวนะ ถ้าไม่ติดว่าต้องทำงานเป็นนายแบบพี่ก็ว่าจะไปฝังเพิ่มอีกซักหน่อย พอดีพวกตากล้องเขาคอมเมนท์มาว่ามีหลายเม็ดมันจะดึงดูดความสนใจไปตรงนั้นซะหมด คนจะไม่สนใจอารมณ์ภาพกันพอดี ไม่เคยเห็นล่ะสิ ลองจับดูไหม มุกนี่ถ้าทำดีๆ แบบของพี่ มันจะกลิ้งได้ด้วยนะ”

หนุ่มรุ่นพี่เชิญชวนพร้อมทั้งเอานิ้วกลิ้งมุกไปรอบๆ ท่อนลำเพื่อเป็นการสาธิต ถ้าเป็นเมื่อก่อนเต้าหู้คงไม่กล้า แต่หลังจากได้ช่วยมิลค์เก็บตัวอย่างน้ำอสุจิอยู่สองสัปดาห์ เขาก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่จะจับส่วนนั้นของผู้ชายด้วยกัน เต้าหู้ช้อนอวัยวะเพศของหนุ่มรุ่นพี่มากุมไว้ในมือ ขนาดใกล้เคียงกับของมิลค์เลยแฮะ เขาว่ามันกำลังพอดีไม่น่าเกลียดเหมือนของตัวเอง เต้าหู้กลิ้งเม็ดมุกไปมาในช่วงสั้นๆ เพราะกลัวเจ้าของมันเจ็บ แต่เมื่อมุกพยักหน้าเป็นเชิงให้เล่นได้เต็มที่เขาก็เริ่มสนุกขึ้นมา ไม่น่าเชื่อว่ามุกที่ฝังอยู่ใต้ผิวหนังมันจะกลิ้งไปได้ทั่วจริงๆ เด็กหนุ่มกลิ้งมุกไปมาตลอดความยาวของท่อนลำอย่างนึกสนุก เขาใช้สองมือทดลองรีดมุกไปให้ใกล้ส่วนหัวชมพูสวยแต่ก็ไปติดหนังหุ้มปลายที่ร่นลงมาซะก่อน เต้าหู้เลยรีดกลับไปด้านโคนเพื่อดูว่ามันจะลงไปได้ถึงถุงอัณฑะหรือเปล่า

“เฮ้ย พอๆ ให้เล่นหน่อยเดียวเอาใหญ่เลยนะ น้ำเกือบแตก จริงๆ คงไม่ต้องคุยอะไรหรอก ก็อย่างที่เห็น การแก้ผ้าเป็นเรื่องธรรมชาติ อย่างพี่นี่เจ้านายให้รับงานเป็นนายแบบ มันก็เป็นหน้าที่ ไม่เห็นต้องอายใคร เราได้เป็นตัวแทนคณะ ก็คงมีดีพอตัว โชว์แม่งไปเลย จะหาเวทีไหนมีโอกาสดีๆ แบบนี้ได้อีก เดี๋ยวพี่ต้องไปทำงานแล้ว เราจะอยู่ดูก่อนก็ได้ว่ามืออาชีพเขาทำกันยังไง”

มุกแนะนำรุ่นน้องแล้วก็เดินส่ายอาดๆ ไปทางกองถ่ายของนักศึกษาโดยไม่ได้เก็บอะไรต่อมิอะไรที่เอาออกมาโชว์ก่อนหน้านี้ให้เรียบร้อย เต้าหู้ร้องเรียกแต่รุ่นพี่นายแบบไม่สนใจ

“มิลค์ ทำไงดี พี่เขาเดินไปโน่นแล้ว เอ่อ ยังไม่รูดซิปขึ้นเลย”

“ไอมุกมันจะเก็บทำไม เสียเวลา มึงลองดูสิ”

มิลค์พาเต้าหู้เดินตามไปที่กองถ่ายซึ่งมุกกำลังถอดเสื้อผ้าออกจนเหลือแต่ตัวเปล่าเปลือยแล้วออกไปยืนที่ริมน้ำ ทีมงานยกรีแฟล็กซ์สะท้อนแสงใส่ร่างขาวเนียนดูโดดเด่น กล้องนับสิบถูกยกขึ้นมาเล็งไปที่ตัวนายแบบใช้ขาตั้งกล้องบ้างไม่ใช้บ้าง มิลค์อธิบายงานของเพื่อนให้เต้าหู้ฟัง

“จริงๆ ก็ไม่ได้ถ่ายแบบจริงจังอะไรหรอก เป็นเหมือนเวิร์คชอปที่เป็นส่วนหนึ่งของวิชาศิลปะการถ่ายภาพมากกว่า ไอนี่มันเป็นนายแบบประจำ เพราะอาจารย์วิชานี้ชอบให้มันมาช่วย มันเองก็ชอบด้วย บอกว่าอยากเป็นนายแบบอาชีพจริงๆ”

เต้าหู้มองไปก็รู้สึกว่ามุกมีความสุขกับงานที่ทำจริงๆ ยิ่งพอโพสต์ท่าหน้ากล้องก็ยิ่งดูมีออร่าความเป็นนายแบบอย่างบอกไม่ถูก แม้จะเริ่มมีคนมามุงดูกันเยอะทั้งจากเด็กเกษตรที่มาลงแปลงและคนที่มานั่งเล่นริมอ่าง แต่มุกก็ไม่เขินอายหรือเสียสมาธิแต่อย่างไรแถมยังตะโกนคุยกับบรรดาตากล้องอย่างเป็นกันเอง

“ไอมุก ของมึงแข็งไปเปล่า กูหลบมุมกล้องจนไม่รู้จะหลบยังไงแล้ว รูปศิลป์กูได้กลายเป็นรูปอนาจารกันพอดี”

นักศึกษาปีสามหนึ่งในบรรดาตากล้องบ่น

“อีกซักพักเฮีย เมื่อกี๊ปั่นโชว์มุกให้น้องมันดู เจ้านายสั่งไว้ถ้าใครถามเรื่องชื่อก็ให้ดูที่มาไปเลย ขึ้นแล้วลงยาก พี่ก็ถ่ายตูด เอ้ยถ่ายด้านหลังผมไปก่อนสิ เดี๋ยวผมเปลี่ยนท่าให้ นี่ถ้าถ่ายกันในห้องนะ ผมว่าวเอาน้ำออกไปแล้วจะได้ไม่เสียเวลา แต่มาเอ้าท์ดอร์แบบนี้คนดูเยอะแยะ ไม่เอาดีกว่า”

“อย่างมึงอายเป็นด้วยเหรอ”

“ผมไม่อายหรอก กลัวแต่คนดูจะอาย”

เต้าหู้ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วรุ่นพี่รูปหล่อได้เอาน้ำออกหรือเปล่าเพราะโดนมิลค์เร่งให้กลับมาที่หอก่อน พอถึงมิลค์ก็ไม่พูดพล่ามทำเพลงแก้ผ้าออกอย่างไม่อายพร้อมกับออกคำสั่งกับเต้าหู้ทันที

“ไม่ไหวแล้ว เห็นไอมุกแก้ผ้าถ่ายแบบให้คนมามุงดูแล้วแข็งเลยว่ะ เต้าหู้ มึงมาช่วยกูเอาน้ำออกหน่อยสิ”

“นี่ยังไม่ถึงวันศุกร์เลย นายยังไม่ต้องเก็บตัวอย่างส่งไม่ใช่เหรอ”

“รอวันศุกร์ไม่ไหวแล้ว ช่วยกูหน่อยนะ”

“ไม่เอาหรอก ถ้าไม่ต้องเก็บตัวอย่าง นายก็ทำเองไปแล้วกัน มันพิลึกไปหน่อยถ้าจะให้เราชักให้”

“กูชักเองไม่ได้ เอ๊ย หมายถึงกูอยากให้มึงทำให้มากกว่าเพราะมึงเป็นเพื่อนสนิทกู”

พอโดนอ้างความเป็นเพื่อนสนิท เต้าหู้ก็ใจอ่อน เขามองใบหน้าหล่อๆของมิลค์ ที่นอนหลับตาพริ้มรอการบริการด้วยความอิจฉาปนชื่นชม เกิดเป็นคนหล่อไปทั้งตัวอย่างมิลค์นี่มันดีจริงๆ นะ เต้าหู้เอามือลูบไล้ไปทั่วใบหน้าเรียบเนียน คิ้วเข้มๆ และจมูกโด่งเป็นสัน ทำให้ใบหน้าที่น่าจะหล่อหวานดูคมเข้มขึ้น หูที่เจาะใส่จิวไว้พอเห็นทุกวันจนชินตากลับรู้สึกว่าเท่มากๆ พอนึกถึงการเจาะร่างกายก็อดมองหมุดที่หัวนมไม่ได้ ทีแรกก็ไม่คุ้นแต่มองๆ ไปมันกลายเป็นเสน่ห์ประจำตัวของมิลค์ขึ้นมา เต้าหู้ดึงหมุดที่หัวนมเล่นแล้วลูบไล้ไปทั่วแผ่นอกที่มีกล้ามเนื้อพอดีๆ ของเพื่อนพลางนึกอย่างครึ้มใจว่าถ้าสาวๆ และเกย์หนุ่มๆ มาเห็นจะอิจฉาเขาขนาดไหน นี่คืออภิสิทธิ์สำหรับเพื่อนสนิทเท่านั้น

เต้าหู้ใช้มือปรนเปรอเพื่อนไปเรื่อยๆ พร้อมกับชวนคุยไปด้วยเพื่อไม่ให้รู้สึกเขินเกินไป มิลค์ตอบมั่งครางมั่งตามอารมณ์ เต้าหู้นึกขึ้นได้ว่าวันนี้มีงานจึงถามเพื่อจะนัดแนะเวลากัน

“เดี๋ยวเสร็จแล้วจะไปงานเฟรชชี่ไนท์กันกี่โมงดี เราจะได้กลับไปอาบน้ำแต่งตัว”

“ไม่ไปหรอกขี้เกียจ กูซิ่วมานะ ปีที่แล้วก็ไป มึงอยากไปก็ไปคนเดียว”

การได้ชักว่าวฟินๆ อย่างอิสระในที่ส่วนตัวไม่ต้องบากหน้ากับสายตานับร้อยเป็นสิ่งที่มิลค์ถวิลหาที่สุด โชคดีที่คำสั่งของอาจารย์มันหละหลวมพอให้เขาบงการเพื่อนหัวอ่อนคนนี้ได้ พอน้ำแตกตัวเบาแล้วจะออกไปงานคนเยอะๆ ก็ขี้เกียจ แต่มิลค์ก็ไปไม่ถึงฝั่งฝันเมื่อเต้าหู้หยุดมือลงฉับพลัน

“เฮ้ย หยุดไมวะ กูยังไม่แตกเลย”

มิลค์โวยวาย

“ก็นายไม่ไปเป็นเพื่อนเรานี่ เราอยากไปดูประกวดดาวเดือน อยากรู้ว่าคนที่ได้จะหล่อสู้นายได้เปล่า งั้นเราไปแล้ว นายก็จัดการต่อเอาเองแล้วกัน”

“อีกนิดนะเพื่อน กูเกือบแตกแล้ว ช่วยกันแค่นี้ไม่ได้เหรอ”

มิลค์ปวดหนึบไปทั้งลำจนยอมออกปากขอร้อง

“ไม่อ่ะ ทีนายยังไม่ไปเป็นเพื่อนเราเลย”

“ไป กูไป เดี๋ยวเลี้ยงข้าวด้วย เร็วๆ เลย เขี่ยนมให้กูด้วยนะจะได้เสร็จไวๆ”

เต้าหู้ยิ้มอย่างดีใจที่เห็นอีกฝ่ายยอมอ่อนข้อให้ เพื่อนกันมันต้องแบบนี้ เขาเร่งจังหวะเพื่อบริการมิลค์อย่างเต็มที่ อีกมือก็คลึงเคล้นหัวนมที่ถูกเจาะของเพื่อนไปมา มิลค์หลับตาพริ้มสูดปากอย่างสุขสม อยู่ๆ เต้าหู้ก็เสียวซ่านขึ้นมาด้วยความรู้สึกแปลกๆ ที่เห็นคนหล่อเก่งอย่างมิลค์นอนระทวยอยู่ด้วยฝีมือตัวเอง หัวบานๆ แดงๆ ที่ผลุบโผล่อยู่ในอุ้งมือทำให้คล้ายกับเขาได้ครอบครองความสมบูรณ์แบบของคนตรงหน้าซะเอง

“อ๊ะ อ๊ะ อ้า”

มิลค์ครางเสียงดัง น้ำขาวข้นปริมาณมหาศาลถูกฉีดออกมาเป็นระลอก มันเต็มอุ้งมือของเต้าหู้ไปหมดและกำลังจะย้อยลงมาอย่างหนืดๆ เด็กหนุ่มกลัวจะหยดเลอะผ้าปูที่นอนเลยรีบวางมือลงไปพักไว้ก่อนบนหน้าท้องขึ้นลอนพองามของมิลค์ ไรขนอ่อนๆ ที่บริเวณนั้นผสมกับความลื่นแฉะของน้ำว่าวทำให้เต้าหู้เผลอละเลงมือไปทั่ว ยิ่งทำก็ยิ่งเพลินมือวนไปมาโดยไม่รู้ตัว ได้สติอีกทีทั้งตัวของมิลค์ก็มันวาวไปด้วยน้ำของตัวเอง น่าแปลกที่เต้าหู้ไม่ได้รังเกียจแต่กับรู้สึกว่ามันสมใจอย่างบอกไม่ถูก

เต้าหู้ไม่รู้ว่าเขาเอาความคิดนี้มาจากไหน จากสิ่งที่มิลค์ทำกับเดือนแพทย์ปีสอง เรื่องของพี่ชายที่ประธานสโมฯ เล่าให้ฟัง  หรือการไปดูพี่มุกถ่ายแบบวันนี้ จะอันไหนก็ตาม แต่ตอนนี้เขาถือโอกาสที่มิลค์ยังหลับตานอนแผ่อยู่บนเตียงแอบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเก็บภาพตรงหน้าไว้ ทันทีที่ภาพร่างกายเปลือยเปล่าเลอะไปด้วยน้ำว่าวของมิลค์ถูกบันทึกลงโทรศัพท์ความเต็มตื้นแปลกๆ ก็เกิดกับตัวเต้าหู้อีก เขารีบเก็บโทรศัพท์แล้วตะโกนบอกมิลค์ว่าจะกลับไปอาบน้ำแต่งตัวที่คอนโดเพื่อไปงานเฟรชชี่ไนท์คืนนี้

ระหว่างที่นั่งรถเมล์ของมหาลัยจากหอในของมิลค์ไปที่ประตูใหญ่ เต้าหู้ก็พยายามสลัดความรู้สึกแปลกๆ ที่เกิดขึ้นด้วยการคิดถึงงานเฟรชชี่ไนท์ ไฮไลต์ของงานคือการประกวดดาวเดือนมหาลัยที่น่าลุ้นไม่น้อยสำหรับคณะแพทย์ เต้าหู้ไม่แน่ใจว่าเขาจะสนุกไปกับงานคืนนี้หรือเปล่าเพราะเริ่มกังวลกับการประกวดลับที่จะมีขึ้นในคืนถัดไป แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องน่าอายมากอย่างที่เคยคิด จะว่าไปการแก้ผ้าให้คนอื่นดูก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ทั้งมิลค์ คุณพ่อของมิลค์ พี่ชายของพี่ไทน์ และพี่มุกทำกันเป็นปกติ ไหนจะไฮโซก้องฟ้าอีก คนเหล่านี้ไม่เห็นมีอะไรเชื่อมโยงกัน แสดงว่าใครๆ ก็ทำกัน เขาว่าเขาน่าจะทำได้เหมือนกัน

-------------------------------------

มีแขกรับเชิญจากตอนเก่าๆ  จำกันได้เปล่าครับ

ออฟไลน์ Bb nale

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
เต้าหู้เริ่มคล้อยตามและติดใจ  555

ออฟไลน์ Raina

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
ตอนนี้มาเร็ว แถมตัวละครเพียบอีกแล้ว เย้  :hao6:  //  เต้าหู้ หนูใกล้โตแล้วนะลูก คนอ่านปลื้มปริ่ม (ซับน้ำตา)  //  มิลค์น่ารักดี ออร่าฝ่ายรับรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ (จิ้น 555)  //  แอบสงสัย มุกไม่อาย ชอบเป็นนายแบบ เอาน้ำออกเองได้ แล้วมันเป็นการลงโทษยังไงอ่ะคะ?  //  เดือนแพทย์ค่าตัวแพ๊งแพง 555

ออฟไลน์ opariso

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เต้าหู้น่ารักขึ้นทุกตอนเลย :hao7: :hao7: :hao7:

ใกล้จบแล้วขอสองตอนรวดเลยได้มั้ย :-[ :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ HypnosisDreams

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
"คนเหล่านี้ไม่เห็นมีอะไรเชื่อมโยงกัน " โถน้องเต้าหู้ผู้ไม่รู้ความจริงของโลก

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ opariso

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ลุ้นตอนต่อไป อยากรู้เต้าหู้จะชนะการประกวดมั้ย ลุ้นๆๆๆ  :impress2: :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ Raina

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
ยังรออยู่น้าาาา  :call:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด